Category: สัตว์โลกน่ารัก

แมวนี่มันพยายามเข้าไปอยู่ในทุกส่วนของชีวิตมนุษย์จริงๆ นอกจากจะหลอกเราให้ตกเป็นทาสจนต้องรับใช้มันทั้งวันแล้ว เวลาเราจะส่องหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อหนีมันไปนอกข้างนอกบ้าน ก็ยังจะมีแมวตามมาหลอกหลอนอีก!! เมื่อไม่นานมานี้มีทวีตอันหนึ่งของ @TastyTK ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่ชาวเน็ต ซึ่งเป็นคลิปที่เขากำลังใช้ ‘กูเกิ้ลแมพ’ หรือก็คือโปรแกรมแผนที่ของกูเกิ้ลในส่วนของกูเกิลสตรีทวิวที่สามารถดูภาพเหมือนเรายืนอยู่ในสถานที่จริงๆ ได้ โดยที่ที่ @TastyTK กำลังส่องดูอยู่ก็คือจัตุรัสโบราณ Largo di Torre Argentina ซึ่งอยู่ในประเทศอาร์เจนตินานั่นเอง แต่แทนที่เขาจะได้ดูบรรยากาศรอบๆ จัตุรัสอย่างเดียว เขากลับพบกับ…หน้าแมวเต็มๆ จอ!?   เอ้อ จัตุรัสโบราณสวยงาม น่าเที่ยวจริงๆ ไหนขอลองส่องอีกมุมหนึ่งบ้างซิ…   เฮ้ย!? อยู่ๆ ก็โผล่มา ตกใจหมดเลย!!   คลิปวิดีโอที่เขาทวีตเอาไว้ So I found this on Google Maps pic.twitter.com/dz7PWaiOrF — TastyTK (@TastyTK) January 14, 2019   แถมเจ้าแมวไม่ได้มาตัวเดียวนะ ชาวเน็ตที่เห็นคลิปยังชี้แจงเพิ่มอีกว่า นอกจากเจอเจ้าแมวโผล่หน้ามาอย่างกับรอต้อนรับแล้ว มันยังมากับเพื่อนอีกตัวหนึ่งด้วย   อ้าว มีอีกตัวด้วยเหรอ!? ตกลงนี่สถานที่ท่องเที่ยวหรือแหล่งกบดานแมว?? https://twitter.com/themilfhunterz/status/1085399667771392000…

สัตว์ขนปุยมักจะทำให้ใจเราละลายได้เสมอ โดยเฉพาะตัวที่ขนหนา ขนฟู บวกกับหุ่นที่กลมๆ ยิ่งทำให้เราตกหลุมรักหนัก จนอยากเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงซะให้เข็ด ถ้าคุณเป็นคนแพ้สัตว์อ้วนขนปุย คุณมาถูกทางแล้ว เพราะข้างล่างนี้คือสัตว์ตัวกลมที่มาพร้อมขนปุกปุย อื้มมม มาให้พี่ขย้ำทีสิจ๊ะน้องจ๋า   1. เอิ่มม พี่จะขยำแก้มหนูอีกนาน ตั้งแต่เช้าละนะ   2. เทพแห่งความปุกปุย ต้องยกให้พี่เค้าเลย แมวพัลลัส   3. วันนี้คุณกอดไก่ของคุณหรือยัง (อ่านดีๆ นะ ไก่ ไม่ใช่ไข่)   4. อะไรเนี่ย ก้อนกลมๆ มีขนฟูๆ   5. สาบานว่านี่คือกระต่ายตัวจริง จะกลมไปไหนน้อง   6. นี่แค่ลูกหมานะ ยังโตไม่สุด   7. ทั้งขาว ทั้งขนปุย อื้มม มันต้องเป็นอะไรที่นุ่มมากแน่ๆ   8. นี่คือ Samson เหมียววัย 11 เดือน นางกำลังประท้วงว่านางไม่ได้อ้วน นางแค่ขนหนา  …

ทาสแมวตัวจริงจะต้องมีไอเทมเสริมความน่ารักให้เจ้านายแสนรักเสมอ ซึ่งส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเสื้อผ้าสีสันสดใส และหมวกน่ารักๆ นั่นเอง ล่าสุดตอนนี้ก็มีหมวกแมวแบบใหม่ออกมาอีกแล้ว โดยเซ็ตนี้จะเป็นหมวกคอสเพลย์การ์ตูนเรื่อง โปเกมอน ที่ไม่ว่าจะเป็นตัวไหนก็ดูน่ารักไปหมดเลย และคนที่เป็นแฟนคลับการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ควรจะพลาดด้วย     หมวกคอสเพลย์โปเกมอนสำหรับแมวคราวนี้ เป็นตู้กาชาปอง (ตู้ไข่หมุนแบบสุ่ม) จาก Kitan Club ซึ่งเป็นผู้ผลิตหมวกแมวเหมียว โดยประกาศว่าจะปล่อยหมวกเซ็ตนี้มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2018 แล้ว และตอนนี้หมวกเซ็ตนี้ก็ได้ออกมาให้ทาสแมว และแฟนคลับโปเกมอนทั้งหลายล่ามาสะสมกันอย่างเป็นทางการ โดยมีทั้งหมด 6 แบบ 6 ตัวละครด้วยกัน   ใบแรกแน่นอนว่าต้องเป็นเจ้า ปิกาจู หนูสายฟ้าที่เป็นตัวเอกยอดนิยมของเรื่อง   แบบต่อมาเป็นเจ้า อีวุย ซึ่งกำลังจะได้เป็นตัวเอกในเกมโปเกมอนภาคใหม่   ถ้าแมวของใครขี้เซา ต้องเหมาะกับหมวก คาบิกอน แน่เลย เพราะพวกมันขี้เซาเป็นที่สุด   ส่วนแมวที่น่ารักอ่อนหวาน ต้องชอบหมวก พูริน ที่ดูนุ่มนิ่มน่ากอดนี้แน่นอน   เจ้า เนียร์ธ แมวจอมป่วนจากแก็งร็อกเก็ตเองก็มาด้วย น่าจะเหมาะกับเจ้าแมวที่ชอบทำเรื่องยุ่งให้คุณไม่เว้นแต่ละวัน   และแบบสุดท้ายเป็นหมวกเจ้า โรคอน ที่ทั้งดูเท่และน่ารักในเวลาเดียวกัน   หลังจากที่หมวกออกวางขาย…

แม้จะเพิ่งเริ่มต้นปี 2019 ได้ไม่นาน แต่ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Spokane Humane Society ก็เจอเจ้าของเอาสุนัขชิสุมาทิ้งด้วยกัน 3 ตัวซะแล้ว แถมเธอยังขอให้การุณยฆาตพวกมันด้วย เนื่องจากมันชอบกัดเธอ ทว่าพอได้เห็นสภาพที่ขนรุงรังและเล็บยาวเฟื้อยจากการถูกละเลยแล้ว เจ้าหน้าที่ในนั้นคิดว่ามันน่าจะกัดคนเพราะความเครียดมากกว่า พวกมันไม่น่าจะดุร้ายอย่างที่เจ้าของบอก เขาคิดว่าหมาทั้ง 3 ยังควรได้รับโอกาสอยู่ จึงโน้มน้าวให้เจ้าของหมาไม่การุณยฆาตพวกมัน แล้วให้ศูนย์พักพิงสัตว์ดูแลต่อให้แทน     หลังจากที่โน้นน้าวไม่ให้ฆ่าเจ้าหมาได้สำเร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาหมาชิสุทั้ง 3 ตัวไปตัดขนและเล็บซะใหม่ จนพวกมันทุกตัวดูดีขึ้นเยอะเลย แถมพอพวกมันได้รับการดูแลจนรู้สึกสบายตัวแล้ว หมาชิสุทั้ง 3 ตัวซึ่งไม่เครียดแล้วก็แสดงความขี้เล่นออกมาให้เจ้าหน้าที่เห็นกันชัดเลย   หล่อแล้วนะ   ขนสั้นแล้วรู้สึกสบายใจ อยากอ้อนมนุษย์แล้ว   นอกจากนี้ทางศูนย์พักพิงสัตว์ยังได้เปิดรับบริจาคเงินให้พวกมันด้วย เนื่องจากพวกมันต้องการค่ารักษาสำหรับฟันที่ไม่ได้รับการดูแลมานานอีกเช่นกัน ซึ่งก็มีคนเห็นใจพวกมันหลังจากได้รู้เรื่องราว และส่งเงินเข้ามาช่วยรวมกว่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 100,000 บาท) เลยทีเดียว     ทางศูนย์พักพิงสัตว์เล่าว่า “พวกเรารู้แล้วว่าใต้ขนที่รุงรังนั้นมีปัญหาสุขภาพรออยู่มากมาย แต่พวกเราก็ได้พบว่าพวกมันเป็นหมาหน้าหล่อทั้ง 3 ตัวเลยด้วย ถึงจะอ้วนไปนิดหน่อยก็เถอะ พวกมันทุกตัวมีดวงตาสีน้ำตาลที่กลมโต…

แม่แมวและลูกน้อยถูกอาสาสมัครช่วยพาเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ได้ทันเวลาช่วงหน้าหนาวพอดี ทว่าที่ศูนย์พักพิงก็ไม่ได้มีระบบทำความอบอุ่นที่ดี แถมบรรยากาศที่เสียงดังในนั้นก็ทำให้แม่แมวเครียดจนไม่อยากดูแลลูกด้วย โชคดีที่ Tracy Pitisci ที่อยู่ใกล้เคียงรู้เข้าว่าศูนย์พักพิงสัตว์ต้องการคนช่วยรับอุปถัมภ์พวกมัน และเธอเองก็สะดวก แม่แมวเลยมีที่ที่เงียบสงบและอุ่นไว้เลี้ยงลูก ทว่าพอได้ดูแลลูกแมวอย่างใกล้ชิดแล้ว Pitisci ก็พบว่าลูกแมวตัวหนึ่งมีร่างกายผิดปกติ ขาหลังของมันพับงออย่างไม่เป็นธรรมชาติเลย     เธอตั้งชื่อลูกแมวตัวนั้นว่า Aries เธอรู้ตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่ามันต้องลำบากแน่ถ้ารอดชีวิตช่วงเด็กมาได้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็อยากจะให้มันได้ลองสู้ชีวิตดู ไม่นานนักเจ้าแมวขาเบี้ยวก็เติบโตผ่านช่วงเด็กมาได้อย่างที่เธอคาดไว้ มันซนมากไม่แพ้พี่น้องที่ปกติตัวอื่นเลย ทว่าในขณะที่พี่น้องของพวกมันเริ่มหัดเดิน มันกลับต้องคลานตามอย่างยากลำบาก และมันก็ปีนที่สูงไม่ได้ด้วย     สัตวแพทย์แนะนำให้พวกเขาเอาเทปยาพันขาทั้ง 2 ข้างของมันเอาไว้ เพื่อไม่ให้ขาของมันถ่างออกอีกเวลาฝึกเดิน ซึ่งก็ดูจะช่วยมันได้พอสมควรเลย     ยิ่ง Pitisci เลี้ยง Aries นานยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ขาของเจ้าแมวก็ยิ่งดูแปลกตามากเท่านั้น ตอนที่มันโตเกือบเต็มวัยแล้วขาของมันก็บิดมาอยู่ที่บริเวณลำตัว ทำให้ดูผ่านๆ แล้วเจ้าแมวเหมือนแมงมุมน้อยน่ารักเลย     มุมนี้ยิ่งดูเหมือนแมงมุม   ปัจจุบัน Aries ชินกับการมีขาที่ไม่ปกติแล้ว มันสามารถพาตัวเองเดินไปที่ต่างๆ ได้เหมือนแมวปกติ ถึงจะช้ากว่าแต่มันก็ไปถึงที่หมายเสมอ นอกจากนี้ถึงมันจะกระโดดไม่ได้ แต่มันก็ไม่เคยละความพยายามในการขึ้นไปที่สูงๆ เลย เวลาที่เจ้าแมวอยากขึ้นที่สูง มันจะพยายามทุกวิถีทางทั้งปีนทั้งเกาะ บางครั้งมันก็สามารถขึ้นไปได้ในที่สุด…

เราเชื่อว่าเพื่อนๆ แทบทุกคนที่อยู่ตรงนี้น่าจะเคยเล่นซ่อนหากันมาแล้ว และก็น่าจะมีหลายคนที่เล่นบ่อยจนซ่อนและหาเพื่อนเก่งเป็นพิเศษด้วย แต่ดูท่าทางแล้วเจ้าหมาพวกนี้คงจะไม่ได้เล่นซ่อนหากับเพื่อนบ่อยเหมือนเรา สกิลการเล่นซ่อนหาของพวกมันก็เลยต่ำมากๆ ในใจของพวกมันคงจะคิดว่าการซ่อนของพวกมันนั้นแนบเนียนไร้ที่ติ ไม่มีทางที่มนุษย์จะหาเจอแล้ว ทว่าในสายตาของเรา พวกมันนั้นซ่อนได้ไม่เก่งในแบบที่น่ารักน่าขำเหลือเกิน   รีบซ่อนก่อน เดี๋ยวมนุษย์รู้ว่าเราแอบมากินน้ำในส้วม   สงสัยน้องลืมนึกไปว่าผ้ามันไม่ได้ยาวพอคลุมตัว   เก็บตูดให้หมดสิเจ้าคอร์กี้   เกือบจะเนียนละ ถ้าไม่เอาหัวโผล่ออกมา   เปิดลิ้นชักแล้วโดดเข้าไปได้ แต่ไม่รู้จะปิดยังไง   เอิ่ม…แกเข้าไปทำอะไรในนั้น??   เอ่อ…ผมแค่อยากเซอร์ไพรส์นายน่ะ ไม่ได้ตั้งใจพังชั้นวางนะ   ก็ข้างนอกมันร้อน เลยแอบเข้ามาข้างในนี้   เหมือนจะเนียนนะ แต่ก็ยังดีไม่พอ   แค่นี้มนุษย์ก็ไม่เห็นเราแล้ว เรานี่เก่งจริงๆ   โถ่วน้อง ตรงนั้นมันมีกระจกอยู่นะ!!   ถ้าเรามองไม่เห็นเขา เขาก็ต้องไม่เห็นเราเหมือนกัน   เหมือนจะมีตุ๊กตาเกินมาตัวหนึ่งนะ   นี่พวกแกไปเรียนวิชาซ่อนตัวจากที่เดียวกันมาใช่ไหม ไม่เนียนทั้งคู่เลย   ซ่อนไม่เนียนก็ดีแล้ว ถ้าเนียนเกินเดี๋ยวเผลอเหยียบละยุ่งเลย   แกคิดว่าตัวเองเหมือนตุ๊กตามากขนาดนั้นเลยเหรอ??   อยากอาบน้ำก็ไม่บอก ไม่ต้องแอบไปรอให้คนซักก็ได้…

เจ้าแมวกับเจ้าหมาที่บ้านของคุณดูไม่ค่อยถูกกันรึเปล่า? พวกมันอาจจะทำแบบนั้นต่อหน้าคุณ แล้วญาติดีกันลับหลังก็ได้นะ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนคุณไม่อยู่บ้านพวกมันจะทำอะไรกัน…นอกจากจะพึ่งพากล้องวงจรปิด เจ้าแมวเหมียวสีส้ม Kevin และเจ้าหมา Joule เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน โดยมีวิศวกรหญิงคอยดูแลอยู่   https://www.instagram.com/p/BrNu_D0AFTO/   Joule เป็นหมาจรจัดที่เธอช่วยเหลือมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ ตอนแรกมันมีนิสัยขี้กลัวมากๆ กว่ามันจะหายกลัวและชินกับบรรยากาศในบ้านได้เหมือนทุกวันนี้ก็ต้องใช้เวลานานเลยทีเดียว ส่วนเจ้าแมว Kevin นั้นเป็นแมวที่อยู่บ้านมาก่อนแล้ว แม้ว่าทั้งคู่จะอายุ 4 ขวบเท่ากัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามนุษย์พวกมันก็ไม่ได้ดูสนิทกันเท่าไหร่เลย   นอนอาบแดดคนละมุมไปนะ https://www.instagram.com/p/BrI-dhCgGqE/   เมื่อไม่นานมานี้หญิงสาวซื้อกล้องวงจรปิดไปติดไว้ที่บ้าน เนื่องจากเธออยากรู้ความเป็นไปของสัตว์เลี้ยงเวลาที่เธอออกไปทำงาน โดยเธอเลือกติดตั้งมันไว้หน้าโซฟาที่เจ้าหมาชอบไปนอนเล่น หลังจากติดกล้องได้ไม่นาน เธอก็ได้เห็นว่าตอนที่เธอไม่อยู่บ้าน เจ้าแมวกับเจ้าหมามันนอนกอดกันกลมบนโซฟาทั้งวันเลย   https://www.instagram.com/p/Bsnor1cAj7j/   เธอเล่าว่า “ในช่วงเวลาที่ฉันกำลังทำงาน พวกมันเอาแต่นอนกอดกันและหลับด้วยกันตลอดเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน พวกมันแทบไม่ทำแบบนี้เวลาที่เราอยู่ในบ้านเลย เดี๋ยวนี้ฉันก็เลยเปิดไลฟ์สตรีมทิ้งเอาไว้ที่ขอบจอคอมฯ อันที่ 2 ตอนทำงานเสมอ ฉันจะได้เห็นพวกมันมุ้งมิ้งด้วยกันได้”   https://www.instagram.com/p/BrK8GVDA9dx/   ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าเวลาที่เราอยู่บ้านกับไม่อยู่บ้าน พวกสัตว์เลี้ยงจะทำตัวไม่เหมือนกัน ถ้าคุณลองติดกล้องวงจรปิดไว้ดูสัตว์เลี้ยงบ้าง อาจจะได้เห็นมุมแปลกๆ ของพวกมันที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้ ที่มา: Ginger cat…

คงมีไม่กี่คนหรอกที่เห็นค่าของแมวจรจัด ถึงขนาดที่ยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อรักษาชีวิตของมันไว้ แม้ว่าเธออาจจะไม่ได้เลี้ยงมันก็ตาม Claudia Mustafa กำลังขับรถไปส่งแม่ของจากรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ไปยังรัฐนิวเจอร์ซี ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอเลือกขับผ่านมาในเส้นทางที่น่าจะมีรถติดมาก ระหว่างทางนั่นเองเธอและแม่ก็สังเกตเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่กลางถนน เมื่อเพ่งสายตาดูดีๆ ก็พบว่ามันเป็นแมวจรจัดที่กำลังนั่งขดตัวด้วยความกลัวอยู่     เจ้าแมวมันกระดิกหูให้เธอเห็น และก็กะพริบตาปริบๆ ทุกครั้งที่มีรถผ่านมันไปด้วยความเร็ว เมื่อเห็นว่ามันยังมีชีวิตอยู่แบบนั้นเธอจึงรีบเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อชะลอและหยุดรถช่วยมันทันที ถนนเส้นที่เธอขับรถอยู่นั้นเป็นเส้นที่คนมักจะขับรถเร็ว ทำให้ตอนนั้นมีรถบีบแตรไล่เธอหลายคันเลยทีเดียว แต่เธอก็ไม่สนใจและรีบช่วยเจ้าแมวที่นั่งรอความช่วยเหลืออยู่ ตอนแรกเธอก็กลัวเหมือนกันว่ามันจะวิ่งหนีเธอ ซึ่งอาจทำให้มันถูกรถคันอื่นทับได้ แต่เจ้าแมวก็นั่งรอให้เธอช่วยอยู่กับที่ เธอจึงอุ้มมันขึ้นมาได้โดยง่ายดายแล้วพามันขึ้นรถไปกับเธอด้วย     Mustafa พาเจ้าแมวกลับมาพักที่บ้านก่อน ตอนที่เธออุ้มมันออกมาจากรถเจ้าแมวก็ร้องเหมียวๆ พร้อมทำท่าทีอ้อนเธอใหญ่เลย เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นแมวบ้านมาก่อน เนื่องจากมันเชื่องมากๆ เธอตั้งชื่อมันว่า Bruckner พอได้พามันมาอยู่ในที่สว่างๆ เธอถึงเพิ่งเห็นว่าขาหลังของเจ้าแมวบิดไปอีกด้านหนึ่งแบบผิดธรรมชาติ เธอเลยรีบพามันไปหาสัตวแพทย์ต่อ     หลังตรวจดูเจ้าแมวแล้ว สัตวแพทย์บอกว่าขาของมันสามารถรักษาให้หายได้ แต่ต้องใช้เงิน 5,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 175,000 บาท) เลยทีเดียว สำหรับ Mustafa ที่เกษียณจากการทำงานแล้วและยังเป็นผู้พิการอีก เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เงินน้อยๆ ที่เธอพอจะมีเผื่อเอาไว้เลย  …

สุนัขที่ถูกทิ้งหรือถูกทำร้าย มักจะมีแววตาที่เศร้าและเจ็บปวดจนเราหลายๆ คน โดยเฉพาะคนรักสัตว์ ก็รู้สึกเศร้าไปกับมันด้วย และความรู้สึกเหล่านี้ ได้แสดงผ่านใบหน้าของน้องหมาที่มีชื่อว่า Diesel  Diesel มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์ในช่วงเวลาที่มันถูกล่ามไว้ข้างนอก ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นของยูคอน ในประเทศแคนาดา     เป็นเวลาหลายปีที่ Diesel ถูกล่ามไว้อย่างนั้น ทั้งกลางวันและกลางคืน และไม่ว่าอุณหภูมิข้างนอกจะเป็นยังไง มันไม่เคยได้รับความสนใจเลย หลายครั้งที่มันถูกสุนัขตัวอื่นเข้ามาทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ที่ร้ายแรงที่สุดคือ มันเคยโดนม้าเตะหัวที่หัวโดยที่มันไม่สามารถหนีหรือปกป้องตัวเองได้เลย ซึ่งอาการบาดเจ็บเหล่านี้ส่งผลให้ฟันของมันเสียหายและมีเลือดแข็งตัวติดอยู่ตามขนหนาๆ ของมัน     โชคดีที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์จาก Animal Advocates เข้ามาปลดปล่อย Diesel จากการถูกทารุณกรรมนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป Diesel ถูกส่งตัวไปยังศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพสัตว์ ที่นั่นมันได้รับการรักษาโดยสัตวแพทย์และมีโอกาสได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ จากผู้ดูแล     ตลอดเวลาที่อยู่ในสถานฟื้นฟู Diesel ถูกเลี้ยงด้วยความรักและการเอาใจใส่ ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ และเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสมกับการเป็นหมาบ้าน หลังจากที่ Diesel ได้รับการฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกายและจิตใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการหาบ้านใหม่ ซึ่งทุกคนเชื่อว่ามันจะได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ     Diesel อาจจะเคยถูกทำร้ายมาเกือบตลอดทั้งชีวิต ไม่เคยได้สัมผัสความรัก ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้ามันจะไม่ไว้ใจมนุษย์ และมีพฤติกรรมก้าวร้าว แต่ปรากฏว่า Diesel ไม่ได้เป็นแบบนั้น…

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ครอบครัวแมว 6 ตัว ถูกพาไปยัง PAWS (Progressive Animal Welfare Society) ลีนวูด รัฐวอชิงตัน โดยลูกแมวต่างพากันโดดดึ๋งๆ เหมือนจิงโจ้ด้วยอุ้งเท้าบานๆ ของพวกมัน ที่บอกว่าลูกแมวมีอุ้งเท้าบาน เนื่องจากพวกมันเกิดมาพร้อม Radial Hypoplasia ซึ่งเป็นภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้ขาหน้าของพวกมันสั้นและบิด     ต่อมา เมื่อ Ashley Morrison อาสาสมัครของ PAWS เข้ามาในศูนย์พักพิง เธอถูกเหล่าแมวน้อยหว่านเสน่ห์ใส่ พวกมันเดินเข้ามาทักทาย ราวกับจะบอกว่าพร้อมจะกลับบ้านกับเธอ เธอที่ Ashley กำลังคิดว่าจะรับอุปถัมภ์เจ้ามิ้วน้อยพวกนี้ดีมั้ย… พวกมันก็พากันมองหน้าตาเธอด้วยสายออดอ้อนสุดๆ ทำเอาเธอพูดไม่ออกเลย     Ashley บอกว่า “พวกมันทุกตัวมีนิ้วเท้าที่พิเศษ (แม่แมวก็เช่นกัน) บางตัวเท้าหลังมี 6 นิ้ว แต่ดูเหมือนพวกมันไม่ได้สังเกตถึงความแตกต่างนี้ และเล่นสนุกเหมือนตัวอื่นๆ” แมวน้อยทั้ง 5 ตัว ประกอบด้วยตัวผู้ 4 ตัว คือ Roo, Skippy, Joey และ…

เมื่อครอบครัวของน้องกระต่าย Beau รับเลี้ยงมันตอนที่มันอายุ 4 เดือน ดูเหมือนว่ามันจะทำตัวคล้ายสุนัขมากกว่ากระต่ายซะอีก มันชอบตามครอบครัวไปทั่วบ้าน ชอบนอนกอดกับพวกเขาบนโซฟา และใช้เวลากับพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่า ครอบครัวเองก็ตกหลุมรักมันหนักมาก และมีความสุขกับการมีมันในครอบครัว     หลายเดือนต่อมา ครอบครัวของ Beau ตัดสินใจรับเจ้าเหมียว Ninji เข้ามาอยู่ในบ้าน ตอนแรก Scarlett Darby แม่ของ Beau กังวลว่าเจ้ากระต่ายจะเข้ากับแมวตัวใหม่ไม่ได้ แต่เมื่อ พาทั้งคู่มาเจอกัน ความกังวลทั้งหมดที่มีก็หายไปทันที นับตั้งแต่วินาทีแรกที่พบกัน พวกมันก็กลายเป็นเพื่อนรักที่ชอบวิ่งเล่นด้วยกันทั่วบ้าน     Darby รู้สึกตื่นเต้นมากที่เห็นพวกมันเข้ากันได้ดีแบบนี้ แต่เธอไม่รู้เลยว่าพวกมันรักกันมากแค่ไหน จนกระทั่งเห็น Ninji อยู่ในกรงของ Beau Darby เล่าว่า “ฉันเปิดประตูกรงของ Beau เพื่อเทอาหารให้มัน จังหวะนั้นเอง Ninji กระโดดเข้าไปในกรงกระต่าย และไม่ยอมออกมา ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าเหมียวจะสนใจกรงกระต่ายมากกว่าเจ้าของซะอีก”     Beau ไม่รู้สึกหวงกรงตัวเองเลยสักนิด ตรงกันข้าม ดูเหมือนมันจะมีความสุขที่ Ninji เข้ามาอยู่ในกรงของมันมากกว่า ต่อมาครอบครัวรับเลี้ยงแมวอีกตัวชื่อ Nibbler มันเริ่มเลียนแบบ Ninji และเข้าไปอยู่ในกรงของ Beau เหมือนกัน สุดท้าย…

สุนัขเป็นสัตว์ที่สอนบทเรียนให้เราหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น การรักอย่างไม่มีเงื่อนไข และความซื่อสัตย์ ที่สำคัญ พวกมันไม่เคยทิ้งเจ้าของ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม อย่างไรก็ตาม มนุษย์บางคนไม่ได้คิดแบบนี้ พวกเขาไม่คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนจะตัดสินใจทิ้งหรือส่งพวกมันไปการุณยฆาต!! และนี่คือเรื่องราวสะเทือนใจของชายคนหนึ่งในรัฐอินเดียน่า เขาได้ส่งสุนัขแก่ 2 ตัว ของเขาคือ Cosmo และ Sam ไปคลินิกสัตว์ เพื่อการุณยฆาต     น้องหมาทั้ง 2 ตัว มีสุขภาพดีและมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข พวกมันอยู่กับชายหนุ่มคนนี้มานานถึง 10 ปี แต่ตอนนี้ เขากำลังจะทิ้งพวกมัน เหตุผลของชายหนุ่มคือ แฟนสาวของเขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วย และเธอแพ้ขนหมา แทนที่จะส่งสุนัขไปศูนย์พักพิง ชายหนุ่มคิดว่าการการุณยฆาตพวกมันเป็นทางเลือกที่ดีกว่า     ปกติแล้ว สัตว์ที่ถูกส่งไปการุณยฆาตนั้นจะมีปัญหาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่น ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ พิการ แก่จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เป็นต้น แต่สำหรับ Cosmo กับ Sam พวกมันไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย มันถูกส่งไปการุณยฆาต เพียงเพราะการเปลี่ยนแปลงของชีวิตเจ้าของเท่านั้น     Penny Emerson ประธานศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Begin Again…

ทุกๆ การช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ช่วยคนหรือสัตว์ ย่อมให้ผลที่คุ้มค่าเสมอ เหมือนกับ Andrijana Gjeorgieva ได้ประสบกับตัวเอง Andrijana เป็นช่างภาพสาวที่บังเอิญไปเจอลูกหมา 2 ตัวตอนที่พวกมันกำลังต้องการใครสักคน ซึ่งขณะนั้น หญิงสาวเองก็ต้องการกำลังใจจากใครสักคนเหมือนกัน     ลูกหมาทั้ง 2 ตัว ถูกทิ้งในสวนสาธารณะ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น เห็นได้ชัดว่าคนที่นำน้องมาทิ้ง มีเจตนาให้พวกมันหนาวตาย โชคดีที่ Andrijana ผ่านมาเห็นพวกมันซะก่อน เธอจึงได้ช่วยเหลือพวกมันเอาไว้ และตั้งชื่อให้น้องหมาว่า Luna (ตัวสีน้ำตาลเข้ม) และ Lana (ตัวสีส้ม)     Andrijana เล่าว่า “วันแรกที่ฉันเจอพวกมัน Luna ดูท้อแท้และหมดหวังที่จะได้รับการช่วยเหลือ ในขณะที่ Lana ร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียง” เพราะเสียงน้อยๆ ของ Lana นี่แหละ ที่ทำให้ทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลือในวันนั้น     ตอนที่ถูกพบ ทั้งคู่มีอายุแค่ 1 เดือนหรือน้อยกว่านั้น Andrijana จึงรับพวกมันมาอยู่ในการดูแล และคอยเฝ้าดูสองพี่น้องเติบโตขึ้น     นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผ่านมาแล้ว 1…

สัตว์เลี้ยงไม่เพียงแต่จะเป็นเพื่อนที่ดีและมีน้ำใจ แต่พวกมันยังแสดงให้เห็นถึงความหมายของความรักและความภักดีที่แท้จริง พวกมันสามารถสอนเราเกี่ยวกับความรับผิดชอบ ความไว้ใจ ความเห็นอกเห็นใจ และทำให้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมอีกนิด โดยเฉพาะครอบครัวที่เลี้ยงลูกกับสัตว์เลี้ยง   ให้เฝ้าน้องทีไร เป็นแบบนี้ทุ๊กที   นี่ไม่ใช่แค่อู้ แต่ชอบขโมยขนมน้องกินด้วย พุงเลยโตแบบนี้   คุณแม่โล่งใจ ในที่สุดลูกๆ ก็หลับสักที   เด็กน้อยโชคดี เกิดมาก็มีเพื่อนซี้เลย   นั่นลูกฉันสอนอะไรเจ้าหมาอีกละ ปล่อยให้อยู่ด้วยกันทีไร หาเรื่องกลับมาให้ทุ๊กที   ดูนั่นสนามหญ้าเขียวนั่นสิ ถ้าเราออกไปวิ่งเล่นด้วยกัน ต้องสนุกมากแน่ๆ   มนุษย์เด็ก แกจะมาแย่งที่ฉันไม่ได้   อยากมีคนพาไปเดินเล่นจัง เดินได้สักทีเถอะไอ้หนู   ใครจะเป็นคนพาเดินกันแน่   หวงน้องหนักมาก ไม่ยอมให้ใครแตะ ไม่เว้นแม้แต่แม่แท้ๆ ของน้อง   ให้ทาย โตขึ้น 2 คนนี้ใครจะซนกว่า   พี่เหมียว น้องจะพาพี่ไปหาหมอเอง   มีพี่เลี้ยงดี หนูไม่เอาอะไรแล้ว   เลี้ยงไซบีเรียนกับลูกน้อย…

ลองจินตนาการดูว่าหากคุณต้องนอนบนพื้นคอนกรีตแข็งๆ เย็นๆ ตลอดทั้งชีวิต และไม่เคยรู้ว่าหมอน ผ้าห่ม หรือเตียงหน้าเป็นยังไง เมื่อถึงเวลานอน คุณต้องห่อตัวเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นที่สุดบนพื้นคอนกรีต… แต่แล้ววันหนึ่ง มีคนเชิญคุณเข้าไปในบ้าน ที่นั่นคุณได้เห็นเตียงและมีโอกาสขึ้นไปนอนบนนั้นครั้งแรก ลองนึกภาพดูว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร แน่นอน มันเป็นความรู้สึกที่ยากเกินจะบรรยาย     นั่นคือความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับ Millie น้องหมาบูลล์เทอร์เรียร์ที่ได้มีโอกาสขึ้นเตียงครั้งแรกในวัย 7 ขวบ และปฏิกิริยาของมันเต็มไปด้วยความสุขอย่างที่ไม่สามารถวัดค่าได้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน Millie ถูกพาเข้ามาในศูนย์พักพิงสัตว์ Pibbles and More Animal Rescue เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนัก แต่รู้แค่ว่ามันเคยมีลูกแล้วหลายครอกและไม่ได้รับการดูแลอย่างเพียงพอ     ผู้ช่วยเหลือรวมทั้งแม่บุญธรรมอย่าง Jill Stafford เชื่อว่า Millie อาจจะไม่เคยได้สัมผัสการใช้ชีวิตในบ้านมาก่อน หรืออาจจะไม่เคยได้นอนบนเตียงจริงๆ เลยด้วยซ้ำ ดังนั้น Jill จึงตัดสินใจพา Millie กลับไปดูแลที่บ้าน จากนั้นก็เปิดโอกาสให้มันได้สัมผัสกับเตียงครั้งแรก น้องหมาดีใจมาก มันกระโดดขึ้นลงบนเตียงและกลิ้งไปมาอย่างมีความสุข     ดูมันสิ อะไรจะตื่นเต้นขนาดน้านนน   นอกจากเตียงแล้ว คุณแม่บุญธรรมบอกว่ากระดูกยังเป็นสิ่งใหม่สำหรับ Millie ด้วย ตอนที่แม่ซื้อกระดูกชิ้นแรกให้ นางถึงกับงงว่าต้องทำอย่างไรกับของเล่นชิ้นนี้…

เมื่อ Katie Buckman ผู้ช่วยเหลือแมวจาก Sanford รัฐนอร์ทแคโรไลนา เข้าไปในศูนย์พักพิง เพื่อรับลูกแมว 2 ตัวไปดูแล แต่ทันใดนั้น เธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากในกรง เมื่อเธอหันหลังกลับไป ก็พบว่าเป็นลูกแมวตาบอดตัวน้อยที่กำลังพยายามเรียกร้องความสนใจ Katie บอกว่า “มิ้วน้อยตาบอดตัวนี้เป็นแมวจรจัดที่ถูกพามานี่ ตอนนั้นฉันต้องพาแมวน้อยอีก 2 ตัวกลับบ้าน แต่ในขณะเดียวกันฉันไม่สามารถทิ้งลูกแมวที่กำลังร้องไห้ในกรงตัวนี้ได้”     เมื่อ Katie เดินเข้าไปใกล้ มิ้วน้อยตาบอดก็ยิ่งร้องดังขึ้น สุดท้าย หญิงสาวจึงพาลูกแมวออกจากศูนย์พักพิง 3 ตัว และพาพวกมันไปหาสัตวแพทย์     แมวน้อยดูเหนื่อยมากและไม่ตอบสนองอะไรเลย นอกจากอาหาร เมื่อถึงบ้าน Katie ก็ห่อมิ้วน้อยด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆ โดยมี Burt สุนัขของเธออาสาเข้ามาช่วยทำให้มิ้วน้อยอุ่นใจ และคอยอยู่เป็นเพื่อนมันตลอดเวลา เช้าวันรุ่งขึ้น มิ้วน้อยดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มันเริ่มเล่นกับของเล่น เลียหน้า Katie มันกลายเป็นลูกแมวขี้เล่นอย่างไม่น่าเชื่อ     สำหรับการที่มิ้วน้อยตาบอดนั้น เป็นผลมาจาก Microphthalmia (ต้อกระจกลูกตาเล็ก) ซึ่งเป็นความผิดปกติตั้งแต่เกิด แต่ดูเหมือนไม่มีอะไรที่ทำให้มิ้วน้อยหวาดกลัวเลย Katie รู้ว่าแมวน้อยต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เธอจึงติดต่อไปยัง Odd Cat Sanctuary เพื่อขอความช่วยเหลือ…

หลายครั้งเราจะได้เห็นข่าวว่ามีสุนัขที่ซื่อสัตย์ เข้าไปนอนอยู่ข้างหลุมศพของเจ้าของ เพราะมันรักและคิดถึงเจ้าของที่ตายจากไป เมื่อหญิงสาวเห็นเจ้าหมาในสุสาน เธอจึงคิดว่ามันทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่เจ้าหมาตัวนี้ไม่ได้เข้าไปในสุสานด้วยจุดประสงค์นั้นเลย มันเข้าไปเพื่อหวังจะหาที่หลบภัยให้กับครอบครัวเท่านั้น     วันหนึงเมื่อ Dimitra เดินผ่านสุสานในเมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย เธอได้ยินเสียงหมาตัวหนึ่งวิ่งไปในสุสาน และทำเสียงดังแปลกๆ เธอจึงตามมันไปดูด้วยความสงสัย พอเธอเห็นว่ามันอยู่ข้างหลุมศพ ตอนแรกเธอจึงคิดว่ามันมาไว้อาลัยให้เจ้าของ ทว่าพอเข้าไปใกล้อีกหน่อยเธอก็เห็นว่ามันขุดหลุมศพไว้จนเป็นโพรงเล็กๆ และเข้าไปนอนในนั้นเลย     เธอมองดูมันต่อด้วยความสงสัย เนื่องจากตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่ามันไม่ได้ไว้อาลัยเจ้าของแน่ๆ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงมาขุดหลุมอยู่ตรงนี้ เจ้าหมาเองเห็นเธอมองนานๆ มันก็เริ่มสนใจเธอเหมือนกัน สักพักมันจึงลุกออกมาจากหลุมและวิ่งมาขอขนมจากเธอกิน     ขอขนมกินหน่อยนะมนุษย์   ตอนนั้นเอง Dimitra ก็ได้เห็นว่าข้างในถ้ำเล็กๆ นั้นไม่ได้มีแค่เจ้าหมาเท่านั้นที่นอนอยู่ แต่ข้างในยังมีลูกหมาอีกหลายตัวเลยทีเดียว เธอเล่าว่า “คุณจะเห็นว่ามันสร้างถ้ำเล็กๆ ที่แข็งแรงเอาไว้ ถึงมันจะไม่ใช่สถานที่ที่ดีเท่าไหร่ก็ตาม แต่นั่นก็เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่แม่หมาจะเอาไว้ปกป้องลูกหมาได้แล้ว”   อย่างไรก็ตามลูกหมาที่เธอเจอก็อ่อนแอมาก บางตัวนอนสั่นเทาด้วยความหนาว เธอเห็นแล้วก็กลัวว่าพวกมันอาจจะเอาชีวิตรอดกันเองไม่ได้ เธอจึงโทรติดต่อหา Vesna Mihajloski ซึ่งเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือสัตว์ให้มาพาพวกมันไปดูแล แล้วเธอก็ตกลงจะพาลูกหมาไปหาสัตวแพทย์ให้ทุกตัวเลย แน่นอนว่าแม่หมาก็ถูกช่วยไปด้วย     หลังจากที่พาพวกหมาไปหาสัตวแพทย์มาแล้ว พวกมันก็ได้รับยาจากคุณหมอ และก็ยังได้กินอาหารจาก Mihajloski…

ความสัมพันธ์ของคนเราเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ คนที่เคยสนิทกันเมื่อตอนเด็ก ตอนโตอาจจะไม่สนิทกันเลยก็ได้ ทว่าสำหรับสัตว์นั้นต่างออกไป ส่วนใหญ่ถ้ามันได้สนิทกับเพื่อนอีกตัวหนึ่ง พวกมันก็จะเป็นเพื่อนสนิทกันตลอดไป ถึงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ถ้าไม่เชื่อลองไปดูเหล่าคู่หูสัตว์ที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กพวกนี้ดู แม้แต่ตอนที่โตแล้วพวกมันก็ยังสนิทกันทุกคู่ น่ารักสุดๆ ไปเลย   ยิ่งอยู่ใกล้กัน ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น   เจ้าแมวตัวโตเท่าเจ้าหมาแล้ว   นั่นเจ้าหมูจะจูงเพื่อนหมาออกไปเดินเล่นเหรอ!?   โตแล้วก็ยังจะนอนเบียดกันอีก รักกันเกินไปแล้ว   คู่นี้รักกันแบบไม่เปลี่ยนแปลง   ตอนเด็กนอนดมก้นกัน ตอนโตนอนจุ๊บกัน   ยังชอบนอนกอดกันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย   ยังคงเป็นคู่หูขาวดำที่ขาดกันไม่ได้   นอนเบียดกับเจ้าหมาอุ่นล่ะสิ โตแล้วก็ยังไม่เลิกเบียดเลย   หน้าตาหล่อเข้มขึ้นทั้ง 3 ตัวเลยจ้า   พอโตมาด้วยกันก็ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น   คู่หูแมวหน้าเอ๋อ ตอนเด็กเอ๋อกันยังไงตอนโตก็เอ๋อแบบนั้น   ตอนเด็กตัวกอดเค้า งั้นตอนนี้เค้ากอดเตงบ้าง   เจ้าหมาเจ้าหมู คู่หูยิ้มแฉ่ง   โตมาเหมือนเจ้าเป็ดจะสนิทกับพี่หมาจนไม่เกรงใจกันแล้ว   ที่บ้านของเพื่อนๆ มีคู่หูสัตว์ที่สนิทกันตั้งแต่เด็กยันโตบ้างรึเปล่า หรือจะเป็นคู่หูแถวบ้านก็ได้นะ ถ้ามีอยู่ล่ะก็อย่าลืมมาโพสต์อวดความน่ารักกันในช่องคอมเมนต์ล่ะ…

ความรักของมนุษย์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน นอกจากเราจะหาคู่รักที่เข้ากันดีได้ยากแล้ว ยังต้องมานั่งกังวลอีกว่าจะไปกันได้ตลอดรอดฝั่งรึเปล่า สัตว์บางชนิดถือว่าโชคดีกว่ามนุษย์มาก หลังจากผ่านขั้นตอนการหาคู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกมันก็จะรักกันไปตลอด โดยไม่ต้องห่วงเรื่องที่อีกฝ่ายจะนอกใจตัวเอง ส่วนจะมีสัตว์อะไรบ้างที่รักเดียวใจเดียวแบบนี้ เดี๋ยวเราลองไปรู้จักมันพร้อมๆ กันเลย 1. Macaroni Penguin   มีนกมากมายที่รักเดียวใจเดียวเหมือนกัน แต่ไม่มีตัวไหนที่เกี้ยวพาราสีกันได้โรแมนติกเหมือนนกเพนกวินชนิดนี้หรอก เวลาที่พวกมันเจอกัน มันจะทำท่าเต้นโดยการทำให้อกพองโต ส่ายตัวไปมา และส่งเสียงร้องไปด้วย ดูเหมือนพวกมันกำลังเต้นรำคู่กันอยู่   2. นกกระเรียนเนินทราย   นกกระเรียนเนินทรายเองก็รักเดียวไม่เปลี่ยนแปลง และยังมีวิธีเกี้ยวกันที่ไม่เหมือนใครเช่นกัน โดยพวกมันจะส่งเสียงร้องประสานเสียงกัน ทำให้ตัวอื่นรู้ว่าพวกเราเป็นคู่กันจริงๆ นะ ขนาดร้องเพลงยังเข้ากันได้ดีเลย   3. ม้าน้ำ   แม้ม้าน้ำจะไม่ต้องกังวลเรื่องแฟนนอกใจ แต่บางครั้งมันก็ต้องแย่งกันจีบตัวเมียกว่าจะได้คู่มา ซึ่งวิธีที่มันใช้จีบกันก็คือการเกี่ยวหางเข้าด้วยกันแล้วหมุนไปรอบๆ เหมือนเต้นรำนั่นเอง   4. หมาป่าสีเทา   หมาป่าสีเทาตัวเมียนั้นมีสิทธิพิเศษอย่างหนึ่ง คือนอกจากจะไม่ต้องกลัวถูกนอกใจแล้ว มันยังมีสิทธิในการปกครองฝูงเหมือนสามีด้วย เพราะหมาป่าในฝูงถือว่ามันเองก็มีพลังเท่ากับสามี เจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะ   5. นกแสก   นกแสกนั้นจีบกันโดยการให้ของขวัญเหมือนมนุษย์เลย โดยสิ่งที่ตัวผู้มักจะใช้จีบตัวเมียก็คือหนูซึ่งเป็นเหยื่อของพวกมันนั่นเอง และถ้าตัวเมียร้องตอบรับกลับ…

เจ้าเหมียว Nino อยู่กับมนุษย์ครอบครัวเดียวกันมาตลอดทั้งชีวิต กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ คุณแม่ตกงาน ก่อนจะเสียบ้านในเวลาต่อมา คุณแม่พยายามอย่างหนักในการหาบ้านใหม่ให้ Nino วัย 16 ปี แต่โชคร้าย ทั้งครอบครัวและเพื่อนฝูง ไม่มีใครสนใจมันเลย สุดท้ายคุณแม่จึงต้องจำใจเอาเจ้าเหมียวไปทิ้งในศูนย์พักพิงสัตว์ Chicago Animal Care and Control (CACC) ตอนที่คุณแม่นำเหมียวมาไว้ในศูนย์ Jennifer Burke หนึ่งในอาสาสมัครก็อยู่ที่นั่นด้วย เธอเห็นแววตาแห่งความเสียใจของมัน และเห็นตอนที่แม่บอกลาเพื่อนรักขนปุยครั้งสุดท้าย จนเธอรู้สึกเศร้าไปด้วย     Burke บอกว่า “แววตาของเธอดูเศร้ามาก เธอจำเป็นต้องบอกลาเพื่อนรักที่อยู่ด้วยกันมา 16 ปี เธอร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ฉันเข้าใจเลยว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยากมากสำหรับเธอ” เนื่องจาก Nino อายุมากแล้ว ดังนั้นมันจึงอ่อนไหวง่ายและสภาพแวดล้อมในศูนย์พักพิงอาจทำให้มันป่วยได้ ดังนั้น มันจึงต้องย้ายไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์โดยเร็วที่สุด พนักงานทุกคนทำงานกันอย่างหนักในการหาบ้านอุปถัมภ์ให้เจ้าเหมียว พวกเขาติดต่อทุกคนที่นึกขึ้นได้ แต่สุดท้าย คืนนั้น Nino ยังต้องอยู่ในศูนย์พักพิงต่อไป     ขณะที่ Burke กลับบ้านไปพร้อมกับความรู้สึกผิดหวัง และขณะที่เธอทิ้งตัวลงบนเตียง เธอไม่สามารถหยุดคิดถึง Nino ได้เลย Burke เล่าว่า “ฉันไม่สามารถหยุดคิดได้ว่าคืนนั้น…

เราทุกคนรู้ว่าสุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกมันรักและพร้อมจะปกป้องเราทุกสถานการณ์ ดังนั้น ไม่ว่าเงินจะมากมายแค่ไหน ก็ซื้อเพื่อนแบบนี้ไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Sasha Smajic ผู้เป็นเจ้าของสุนัขจึงยอมทุ่มเงินกว่า 160,000 บาท เพื่อจัดงานศพสุดหรูให้สุนัขของเธอที่ล่วงลับไป     Sasha เล่าว่า “ฉันกินอะไรไม่ลงเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เมื่อ Captain สุนัขวัย 11 ปี ของฉันจากไปด้วยโรคหัวใจวายบนเตียงผ่าตัดในช่วงวันคริสต์มาส” แน่นอนว่าหญิงสาวไม่สามารถทำใจได้ เพราะ Captain เป็นทุกอย่างสำหรับเธอ Sasha จึงตัดสินใจจัดงานศพสุดหรูให้มัน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่มันสมควรได้รับเช่นเดียวสมาชิกคนอื่นๆ ของครอบครัวที่ล่วงลับไป     Sasha ใช้เงินประมาณ 25,000 บาท สำหรับจัดดอกไม้ รวมถึงทำรูปปั้นของ Captain และทำดอกไม้เป็นชื่อของมันด้วย เธอยังใช้เงินอีกมากกว่า 120,000 สำหรับจ่ายค่าบริการและการฝังศพ Captain เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ปี 2018 นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายสำหรับปล่อยนกพิราบขาวเพื่อให้ไปส่งเพื่อน 4 ขา อีกเกือบ 10,000 บาท รวมค่าจัดงานศพให้ Captain ทั้งหมด…

เมื่อนุ้งแมวขาสั้นถูกส่งตัวไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ใน Jacksonville รัฐฟลอริด้า เจ้าหน้าที่พบว่ามันมีขนาดตัวเท่ามันฝรั่งเท่านั้น Kaitlyn สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ประจำแผนกอุปถัมภ์ของศูนย์พักพิง ได้มาพบกับลูกแมวตัวน้อย ตอนที่มันต้องการเธอมากที่สุด ซึ่งเวลามาเจอแมวลักษณะแบบนี้ เธอมักจะลงเอยด้วยการพาพวกมันกลับบ้าน     แมวน้อยทักซิโด ซึ่งต่อมามีชื่อว่า Humpty-Dumpty ถูกพบที่ไหนสักแห่ง ก่อนจะถูกพามาที่นี่ แต่ดูเหมือนมันจะต้องโดดเดี่ยวไปอีกนาน เพราะไม่มีใครสนใจมันเลย Humpty-Dumpty อายุประมาณ 6 สัปดาห์ มันมีปัญหาสุขภาพเล็กน้อย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง Kaitlyn จึงตัดสินใจพามันกลับบ้าน เพื่อให้โอกาสมิ้วน้อยได้สู้ต่อไป     Kaitlyn เริ่มเรียกมิ้วน้อยว่า Potato จนกลายเป็นชื่อที่เรียกติดปาก ตั้งแต่นั้นมา เธอก็พาแมวน้อยไปด้วยทุกที่ และให้มันอยู่ข้างกายตลอดเวลา เธอพามิ้วน้อยไปทำงานด้วย เพื่อที่จะได้ดูแลมันอย่างใกล้ชิดจนกว่ามันจะกลับมันจะมีสุขภาพแข็งแรง     เนื่องจากปัญหาสุขภาพของ Potato ยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง ดังนั้นมันจึงเจ้าออกคลินิกสัตว์เพื่อรับการรักษาเป็นจำเป็น ขณะที่ Kaitlyn เชื่อว่ามันจะดีขึ้น แม้ว่าสถานการณ์ของมันค่อนข้างมีความท้าทาย ในระหว่างนี้ Potato ทำตัวน่ารักและขี้อ้อนมากๆ Kaitlyn หรือผู้ดูแลคนอื่นๆ นั่งที่ไหน มันจะไปนั่งข้างๆ พวกเขาเสมอ     นอกจากขาเล็กๆ อ้วนๆ…

ในโลกนี้มียังมีสุนัขอีกหลายสายพันธุ์ที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยนัก หนึ่งในนั้นคือไอริช วูล์ฟฮาวด์ สุนัขขนาดยักษ์ที่มาพร้อมกับขนรกรุงรัง ไอริช วูล์ฟฮาวด์เพศผู้จะหนักประมาณ 54-70 กิโลกรัม สูง 80 เซนติเมตร ในขณะที่ตัวเมียหนัก 47-61 กิโลกรัม และสูง 76 เซนติเมตร   นี่คือระบบกันขโมยประจำบ้าน ใครกล้าก็เข้ามาสิ๊   นอกจากความสูงและใหญ่แล้ว ไอริช วูล์ฟฮาวด์ ยังมีความทนทาน คล่องแคล่ว มีความสามารถในการล่าและการฆ่าสัตว์ขนาดใหญ่   หลังจากที่แม่จากไป 17 วัน เจ้าหมาขนยุ่งตัวนี้ก็ตายตามเธอไป   ไอริช วูล์ฟฮาวด์ มีหัวใจขนาดใหญ่เหมือนส่วนอื่นๆในร่างกายของมัน แต่พวกมันมีความอ่อนโยน สง่า อ่อนไหวและผ่อนคลายเมื่ออยู่ในบ้าน ดังนั้น พวกมันจึงเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่องมากๆ แต่อาจจะไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าไหร่ เพราะพวกมันมีความเป็นเป็นตัวของตัวเองสูง อย่างไรก็ตาม ภาพจากเหล่าเจ้าของไอริช วูล์ฟฮาวด์เหล่านี้ แสดงให้เห็นว่ามันคุ้มค่ากับการมีสุนัขพันธุ์นี้ในบ้าน   วันนี้แม่จะพาไปดูคอนเสิร์ต ต้องจัดเต็มหน่อย   สีหน้าน้องหมาเมื่อพ่อไม่เลี้ยวเข้าไปในสวนสุนัข   อยากให้น้องได้นอนสบาย พี่ตัวโตเลยเสียสละให้…

เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่ชื่อว่า Mason ต้องการสัตว์เลี้ยงมากกว่าสิ่งในโลก ตอนแรกเขาอยากได้เฮดจ์ฮอก (สัตว์ที่มีขนแหลมคล้ายเม่น) แต่ตอนหลังเขาอยากได้สุนัขแทน เด็กชายเริ่มเข้าไปดูในเว็บไซต์ศูนย์พักพิงต่างๆ และพยายามหาลูกหมาที่เหมาะกับครอบครัวของเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เจอสุนัขที่ถูกใจ จนกระทั่งไปเจอลูกหมาตัวหนึ่งที่มีดวงตากลมและดูเศร้าในเวลาเดียวกัน     Mason กับครอบครัวจึงไปหาลูกหมาตัวนั้น และเมื่อมาถึง พวกเขาก็ได้ทราบเบื้องหลังสุดเศร้าของมัน เจ้าหน้าที่บอกว่าหมาน้อยตัวนี้ต้องใช้ชีวิตในช่วงสองสามเดือนแรกอยู่ข้างนอก โดยถูกผูกติดกับต้นไม้ มันแทบจะไม่ได้รับความรักและการดูแลเลย ด้วยเหตุนี้มันจึงกลัวทุกคนและทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว… Mason ตัดสินใจรับเลี้ยงน้องหมาผู้น่าสงสารตัวนี้ และตั้งใจจะมอบความรักตามที่มันสมควรได้รับ หนุ่มน้อยตั้งชื่อให้น้องหมาว่า Hedgie     เมื่อ Hedgie มาถึงบ้านของ Mason ครั้งแรก มันดูหวาดกลัวมาก และเอาแต่หลบอยู่ใต้โต๊ะตลอดทั้งวัน มันกลัวเกินกว่าจะมีปฏิสัมพันธ์กับ Mason รวมทั้งพ่อแม่ของเขา แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในคืนแรก… Mason พา Hedgie ขึ้นไปชั้นบนพร้อมเขา จากนั้นก็ให้น้องหมานอนข้างเขาบนเตียง พอรุ่งขึ้น ทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนที่แยกจากกันไม่ได้     นับตั้งแต่คืนแรก Mason กับ Hedgie ได้แบ่งปันความเป็นมิตรให้กันและมีความผูกพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ น้องหมาอยู่ข้างเด็กหนุ่มตลอดเวลา และนอนบนเตียงกับเขาทุกคืน แม่ของ Mason รู้สึกประหลาดในมากที่เห็นว่าพวกเขารักกันมากแค่ไหน นอกจากนี้ Mason ยังได้สอนให้น้องหมาทำตามคำสั่งต่างๆ มากมาย ซึ่ง Hedgie…

ลูกแมวกำพร้าตัวน้อยถูกพาไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ในท้องถิ่น หลังจากที่มันถูกพบขณะเดินไปตามข้างถนนเพียงลำพัง ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะรับมันมาอยู่ในการดูแล และเปลี่ยนชีวิตมันไปตลอดกาล มิ้วน้อยตัวนี้ถูกพบโดยพลเมืองดีในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา… ในวัย 3 สัปดาห์ มันจำเป็นต้องการได้รับการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งทางศูนย์พักพิงไม่สามารถดูแลมันได้ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ที่จะช่วยมันเช่นกัน     ทางศูนย์พักพิงได้ติดต่อไปยังกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chatons Orphelins Montréal ก่อนที่ Danielle หนึ่งในอาสาสมัครของศูนย์ดังกล่าวจะรีบไปรับมิ้วน้อยทันที เมื่อ Danielle เจอมิ้วน้อยครั้งแรก เจ้าเหมียวได้เดินเข้าไปหาเธอ ก่อนจะคลานขึ้นตักและเริ่มกอดเธอ หญิงสาวจึงตั้งชื่อให้มันว่า Spirou     Spirou เป็นมิ้วน้อยช่างพูดและเป็นนักคลอเคลียตัวยง มันเดินตาม Danielle ไปทั่วบ้าน และไม่หยุดร้องเมี๊ยวจนกว่าเธอจะอุ้มมันไว้ในอ้อมแขน Celine Crom จาก Chatons Orphelins Montréal บอกว่า “มันต้องการเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา และจะร้องเมี๊ยวๆ จนกว่าแม่จะอุ้มมันขึ้นมา”     Spirou เรียนรู้ที่จะกินอาหาร เริ่มขี้เล่น และชอบร้องโวยวาย พร้อมๆ กับร่างกายของมันที่กำลังเติบโตขึ้น มันไม่เคยอยู่ห่างจากแม่บุญธรรม และชอบกระโดดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของแม่เพื่อร้องขอทุกอย่างที่ต้องการ     เมื่ออายุได้…

นี่เป็นเรื่องราวของ Batman เจ้าเหมียวในศูนย์พักพิงที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติชนิดที่หาได้ยาก ส่งผลให้มันมีหูถึง 2 คู่ หรือ 4 หูนั่นเอง เจ้าของนำ Batman มาทิ้งในศูนย์พักพิงสัตว์ Western Pennsylvania Humane Society ตอนที่มันอายุประมาณ 3 ขวบ โดยอ้างว่าไม่สามารถเลี้ยงดูมันได้อีกต่อไป     สำหรับความผิดปกติของ Batman นั้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามันน่าจะจากทั้งพ่อและแม่ โดยได้รับยีนส์ด้อยของทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีหู 4 หู แต่มันไม่ได้มีหู 2 ชุด อย่างที่เห็น กล่าวคือ Batman ไม่ได้มีความสามารถในการได้ยินมากกว่าแมวทั่วไปถึง 2 เท่า แต่แค่มันมีใบหู 4 หู เท่านั้นเอง โดย 2 หูข้างหน้า มีขนาดปกติ และ 2 หูด้านหลังมีขนาดเล็กกว่า     แม้จะเป็นแมวดำที่หลายคนไม่สนใจ แถมยังมีความผิดปกติอีก แต่ถึงอย่างนั้น Batman ก็เป็นขวัญใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ทุกคนในศูนย์พักพิง…

ชีวิตสุนัขที่มีครอบครัวกับสุนัขจรจัดหรือที่อยู่ในศูนย์พักพิง แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สุนัขในบ้านมีคนให้อ้อน มีคนพาไปเดินเล่น มีคนเล่นด้วย มีคนกอด และมีให้มันนั่งรอกลับบ้านทุกวัน แต่ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่สุนัขจรจัดหรือสุนัขในศูนย์พักพิงไม่มี… นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมน้องหมาที่เพิ่งถูกรับเลี้ยงตัวนี้รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มีโอกาสต้อนรับเจ้าของกลับบ้าน     ชีวิตของเจ้าหมาตัวนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่วันที่ถูกรับเลี้ยง และคงไม่มีอะไรทำให้มันมีความสุขมากกว่าชีวิตในบ้านหลังใหม่นี้อีกแล้ว เจ้าหมาเองก็ไม่ทำให้ครอบครัวใหม่ผิดหวัง โดยเฉพาะปฏิกิริยาล่าสุดที่มันแสดงออกต่อครอบครัว… วันนั้นเจ้าหมานั่งรอการกลับมาของพ่ออย่างใจจดใจจ่อ เมื่อพ่อกลับมาถึง เขาก็เดินผ่านสนามหน้าบ้านเพื่อมาทักทายน้องหมาที่หน้าประตู แต่น้องหมาไม่รอให้พ่อมาถึง มันรีบวิ่งไปรอที่หน้าประตูก่อน พร้อมกับแกว่งหางตลอดเวลา     อาการของเจ้าหมานั้นดูตื่นเต้นมา ราวกับว่าไม่ได้เจอพ่อมานาน ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วพวกเขาเจอกันทุกวัน แต่ที่น้องหมาดีใจขนาดนี้ เพราะพ่อคนนี้แหละที่เป็นคนพามันออกจากศูนย์พักพิงสัตว์ และมอบชีวิตที่สุขสบายให้มัน นี่อาจจะเป็นโมเมนต์ทั่วไปที่คนเลี้ยงสุนัขทุกคนเคยเจอ แต่สำหรับครอบครัวนี้และสำหรับตัวน้องหมาเอง มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะน้องได้แสดงความขอบคุณต่อครอบครัว ในขณะที่ครอบครัวเองก็เหมือนได้รับของขวัญสุดพิเศษจากมันเช่นกัน     นี่อาจจะเป็นโมเมนต์ทั่วไปที่คนเลี้ยงสุนัขทุกคนเคยเจอ แต่สำหรับครอบครัวนี้และสำหรับตัวน้องหมาเอง มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก น้องหมาได้แสดงความขอบคุณต่อครอบครัวที่มอบชีวิตใหม่ให้ ในขณะที่ครอบครัวเองก็เหมือนได้รับของขวัญสุดพิเศษจากมันเช่นกัน     ที่มา weloveanimals

แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์อย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าผู้คนมากมายยอมตกเป็นทาสมันด้วยความเต็มใจ ทั้งยังคอยจัดหาทุกอย่างที่พวกมันต้องการด้วย บ้าไปแล้ว… มนุษย์ทำให้ขนาดนี้ แทนที่พวกเหมียวจะสำนึกบ้าง แต่พวกมันกลับทำทุกอย่างตามใจตัวเองโดยไม่สนกฎใดๆ ทั้งนั้น ถึงอย่างนั้นก็เถอะ มนุษย์ก็ยังมีความสุขกับการมีแมวมาป้วนเปี้ยนในชีวิตอยู่ดี จริงมั้ย?   จะซื้อของก็ซื้อไปสิ จะมากวนฉันทำไม จะนอน   ผู้ที่จะมาทดสอบสุนัขตำรวจในวันนี้คือ… เหมียวผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง   กล่องแค่นี้อะเหรอ ซ่อนฉันไม่ได้หรอก   มนุษย์ ทำไมต้องนอนด้วย ทำมายยยยย   เมื่อเหมียวได้ยินแม่เปิดตู้เย็น… พุ่งแบบพี่ตูนไปเล้ย   ที่วางโทรศัพท์รุ่นเหมียวจ้า น่ารักไปอีก   มิติใหม่ของการนั่งชมนก   สบายจริงจริ๊ง มีน้ำ มีอ่างให้แล้ว ยังต้องมีคนทำสปาน้ำให้ด้วย   เมื่อทุกคนเพลิดเพลินกับปาร์ตี้ แต่คุณง่วงนอนสุดๆ   น้องจะขี่อะไรก็ได้ แต่จะขี่เต่าไม่ได้เด้อ   พอทีว่านี่คือแมวที่เราเลี้ยงไว้จริงๆ   บอกว่าให้หยุดทำงานได้แล้วววว ถ้าไม่ฟัง โน๊ตบุ๊กแกพังแน่   ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่สนุกกับการเล่นแบบนี้หนะ   ค่าน้ำไม่เคยช่วยจ่าย…

นี่เป็นเรื่องราวของเด็กชายผู้มีใจเมตตา เนื่องจากเขาทำบางอย่างให้ลูกแมวที่มีความต้องการพิเศษ จนทำให้สามารถเดินได้อีกครั้ง João เด็กชายผู้รักสัตว์วัย 9 ขวบ จากประเทศบราซิล เมื่อเขารู้ทราบเรื่องราวของลูกแมวจากเพื่อนบ้าน เขาตื่นเต้นมากที่จะได้พบมัน เขาก็ได้พบกันมิ้วน้อยในไม่กี่วันถัดมา และได้ตกหลุมรักมันทันที     มีคนบอกเด็กชายว่าลูกแมวตัวนี้ไม่เหมือนลูกแมวทั่วไป มันไม่ใช่สามารถใช้ขาหลังได้ และมีปัญหาในการเดิน ภาพที่ João เห็นคือ มิ้วน้อยนั่งอยู่ลำพัง ในขณะที่มิ้วน้อยตัวอื่นวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน Rogéria Bello Corazza แม่ของ João บอกว่า “ลูกชายของฉันรู้สึกเศร้ามาก ขณะมองดูลูกแมวที่ไม่สามารถเล่นได้”     เด็กชายต้องการเปลี่ยนชะตาชีวิตให้มิ้วน้อย ดังนั้น หลังจากกลับบ้าน เขาก็เริ่มคิดที่จะลงมือทำบางอย่างเพื่อช่วยให้ลูกแมวเดินได้อีกครั้ง เด็กชายเริ่มใช้ความคิดในการรถเข็นสำหรับแมวน้อย เขาต้องการให้มันเดินได้ด้วยอุ้งเท้าตัวเองและวิ่งเล่นได้เหมือนแมวตัวอื่นๆ     João ได้นำเอาชิ้นส่วนของเล่นมาประกอบกัน โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนๆ เขาพยายามหาวัสดุที่พอดีกับมิ้วน้อย เพื่อให้แน่ใจว่ารถเข็นอันนี้จะทำให้แมวน้อยได้รับความสะดวกสบาย หลังจากทำรถเข็นเสร็จ เด็กชายก็เอาไปให้มิ้วน้อยลอง ปรากฏว่ามิ้วน้อยเริ่มเดินได้ในไม่กี่นาทีต่อมา แม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์แปลกใหม่ แต่มิ้วน้อยก็พยายามที่จะใช้มันตั้งแต่แรก     เพื่อนบ้านต่างพากันตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกแมวตัวน้อยวิ่งได้และออกสำรวจรอบๆ บ้าน เหมือนลูกแมวทั่วไป ขณะเดียวกัน João ดูมีความสุขมากจนหุบยิ้มไม่ได้…

หมาทั่วๆ ไปมักจะระแวงคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหมาตัวนี้ต่างออกไป มันเป็นมิตรกับทุกคนที่เข้ามาเจอ และมันก็พร้อมต้อนรับพวกเขาด้วยของเล่นชิ้นโปรดของตัวเอง     เจ้า Atlas สุนัขลาบราดอร์อายุ 6 ขวบของ Kyla Pearce เป็นหมาที่เป็นมิตรมากๆ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ทำให้มันไม่เคยมีปัญหากับแขกคนไหนที่มาเยือนบ้านเลย เจ้าของเล่าว่า “มันเป็นหมาที่ใจเย็นและเชื่องมาก แม้แต่คนที่ไม่ชอบสุนัขก็มักจะถูกใจเจ้า Atlas เพราะมันไม่ทำตัวกวนใจพวกเขา”     นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษที่สุดสำหรับเจ้าหมาก็คือ มันมักจะคาบเอาของเล่นของตัวเอง มารอต้อนรับแขกที่หน้าประตูเสมอ ทำให้คนที่เจอเจ้าหมาต่างก็หลงรักมัน Kyla บอกว่ามันเริ่มคาบของเล่นมาต้อนรับแขกตั้งแต่ตอนอายุได้ขวบครึ่ง พอมันเห็นว่าคนชอบที่มันทำแบบนั้น ต่อมามันก็ทำแบบนั้นตลอดเลย นอกจากนี้ถ้าเกิดมันไม่ทันรู้ตัวว่ามีคนมาหา และเจอหน้าแขกแบบกะทันหัน มันจะทำท่าทางสับสนว่าควรจะต้อนรับพวกเขาก่อน หรือวิ่งไปคาบของเล่นมาดี…ซึ่งหลังจากยืนงงสักพักมันก็จะเลือกทำอย่างหลังทุกรอบ     บางคนอาจจะบอกว่าการที่ Atlas คาบของเล่นมาให้แปลว่ามันอยากจะให้แขกเล่นกับมัน แต่เจ้าของยืนยันว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เจ้าหมาจะคาบของเล่นมาเพื่อรอต้อนรับเท่านั้น และถ้าใครยื่นมือเข้าไปเอาของเล่นล่ะก็ มันจะเอียงหัวหนีเป็นเชิงบอกว่า ‘ผมแค่เอามาอวดเฉยๆ หรอก อย่าเอาของเล่นผมไปนะ’     พฤติกรรมสุดน่ารักและนิสัยเป็นมิตรของมัน ทำให้ทุกคนที่ได้เจอมีความสุขที่ได้เจอเจ้าหมา โดยเฉพาะกับ Pearce ที่เป็นเจ้าของก็ชอบที่ได้เห็นมันแสดงความอ่อนโยนต่อทุกคนด้วย     ที่มา:…

เมื่อไม่นานมานี้ในเมืองแวดส์เวิร์ด รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชาวบ้านในละแวกนั้นเจอแมวจรจัดตัวหนึ่ง มีคนมุงดูให้ความสนใจมันมากมาย แต่ก็ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของมันเลย ชายที่เจอมันคนแรกจึงโทรเรียกให้ตำรวจมารับตัวมันไป เผื่อว่ามันจะเป็นแมวที่หายไปของใครสักคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าดูลักษณะแล้วมันน่าจะเป็นแมวจรจัดมากกว่าก็ตาม     ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจ Vivian Feke ก็มาถึงที่เกิดเหตุ เธอรับตัวเจ้าแมวน้อยขึ้นรถไปด้วยกัน และตั้งใจว่าจะให้ศูนย์พักพิงสัตว์มารับตัวเจ้าแมวไป ทว่าหลังจากติดต่อศูนย์พักพิงสัตว์ในเมืองแล้ว กลับไม่มีใครสะดวกออกมารับตัวมันไปในตอนนั้นเลย เธอจึงพามันกลับไปที่สถานีตำรวจด้วยเพื่อดูแลมันชั่วคราวก่อนแทน     ไปที่สถานีกับคุณตำรวจก่อนนะ   ในตอนแรกที่เธอไปรับเจ้าแมวน้อยมา มันดูสับสนและตื่นคนมากเนื่องจากถูกคนมุงดู แต่พอมันมาเจอ Feke เจ้าแมวก็ร้องเรียกให้เธอเล่นด้วยอย่างเดียวตลอดทางไปสถานีตำรวจเลย พอถึงที่สถานีตำรวจแล้วเธอจึงป้อนข้าวป้อนน้ำให้มัน และเล่นกับมันเต็มที่จนเจ้าแมวพอใจเลย แถมยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ มาเล่นกับมันเพิ่มด้วย เจ้าแมวดูมีความสุขมากๆ เลยล่ะ มันวิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความตื่นเต้น และบางครั้งก็กลับเข้ามาอ้อนให้คุณตำรวจลูบมันต่อ     แผนการหาทาสเป็นตำรวจดำเนินไปได้ด้วยดี   หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นความขี้เล่นและความน่ารักของเจ้าแมวแล้ว พวกเขาก็ไม่อยากให้ Zeke เอาตัวมันไปส่งที่ศูนย์พักพิงสัตว์เลย เพื่อนตำรวจของ Zeke จึงอาสารับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนั้นในทันที มันจะได้กลับไปที่บ้านกับเธอและไม่ต้องไปศูนย์พักพิงสัตว์อีก     Zeke เล่าว่า “ครอบครัวของตำรวจที่รับเลี้ยงมันไปตั้งชื่อเจ้าแมวว่า Bella พวกเราคิดว่าในอนาคตมันคงจะเป็นแมวตำรวจที่ดีได้แน่นอน”    …

หากถามว่าแม่หมาจะมีลูกเป็นอะไร แทบทุกคนจะต้องตอบว่าเป็นหมาแน่นอน เพราะมันคงไม่มีทางคลอดลูกออกมาเป็นสัตว์ตัวอื่นได้หรอก แต่รู้รึเปล่าว่ามีสัตว์ส่วนหนึ่งที่มีลูกคนละสายพันธุ์กัน พวกมันยอมเป็นแม่จำเป็นให้กับลูกสัตว์กำพร้าตัวอื่น ทำให้พวกมันได้มีโอกาสได้รับความรักและการดูแลจากคุณแม่ คุณอาจจะนึกภาพไม่ออก และคิดว่าสัตว์คนละสายพันธุ์จะรักกันเหมือนครอบครัวได้จริงเหรอ?…ถ้าอย่างนั้นไปดูภาพของคุณแม่จำเป็นกับลูกๆ ตัวน้อยที่มันรับเลี้ยงดูกันแทนคำตอบดีกว่า แล้วคุณจะรู้ว่าความรักไม่มีขีดจำกัดหรือการแบ่งแยกเลย   แม่หมาอยู่กับลูกแมวแล้วสุขใจจนยิ้มกว้างเลย   เอ้าไอ้เสือ อย่าแย่งนมน้องกินสิ ค่อยๆ ดื่ม   แม่เสือก็เลี้ยงลูกหมูได้นะ   แถมยังเล่นกับพวกมันได้ด้วย   ถึงเวลาอาบน้ำแล้ว มาหาคุณแม่แมวเร็วเข้า   อยู่กับคุณแม่หมาตัวโตแล้วรู้สึกอุ่นมากเลย   ลูกๆ เว้นที่ให้เจ้าหมาดูดนมบ้างสิ ถึงจะลายไม่เหมือนกัน แต่เราก็รักแม่คนนี้แหละ   มนุษย์มองอะไร นี่ลูกเราเอง   เดี๋ยวแม่ป้อนนมจากขวดให้นะคะ   ดีใจจังเลยที่เห็นลูกๆ อิ่มท้อง   เลี้ยงทั้งหมา เลี้ยงทั้งแมว คุณแม่เลยทำหน้าเหนื่อยหน่อย   จะหมาหรือเสือ อยู่ด้วยกันก็เป็นพี่น้องกันได้   ลูกเจี๊ยบกินหนอนไม่ใช่เหรอ ทำไมมาดูดนมอยู่ตรงนี้!?   อยากเรียกลูกว่าไอ้เสือมาตั้งนานแล้ว   แม่เสือเลี้ยงลูกหมูได้ งั้นแม่หมูก็เลี้ยงเสือได้เช่นกัน  …

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีเจ้าของหมาที่ใจร้ายแบบนี้อยู่ เขาไม่ต้องการเจ้าหมาแล้ว ก็เลยเอามันไปปล่อยทิ้งไว้แบบไม่ดูดำดูดี และไม่ให้โอกาสมันได้เอาชีวิตรอดเลย เจ้าหมา Dice ถูกเจ้าของเก่าเอาไปปล่อยทิ้งไว้ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยเอาใส่กรงที่ปิดเอาไว้ ทำให้มันไม่สามารถออกไปข้างนอกกรงเพื่อหาของกินหรือขับถ่ายได้ กว่าจะมีคนไปเจอเจ้าหมา มันก็ผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว คุณสามารถมองเห็นโครงกระดูกของมันได้อย่างชัดเจนแม้จะมองจากไกลๆ มันอยู่ในสภาพที่น่าสงสารมาก     น้องหมาผอมมากๆ เหมือนโครงกระดูกเดินได้   จากการสอบถามคนแถวนั้นที่ผ่านไปมา พวกเขาบอกว่ามีคนเห็นเจ้าหมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว แต่อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Feeling Fine Rescue คิดว่าสภาพมันดูเหมือนจะถูกทิ้งไว้นานกว่านั้นอีก การที่มันสามารถรอดชีวิตมาได้นานขนาดนี้ และยังไม่ตายทั้งที่ผอมจนหนังติดกระดูก ก็เหมือนกับปาฏิหาริย์แล้วจริงๆ     แม้แต่ตอนที่พามันไปหาสัตวแพทย์ Dice ก็ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้นานนัก และก็เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มแล้ว เป็นเพราะมันไม่ได้กินอะไรมานานจนไม่มีแรงนั่นเอง ถึงมันจะถูกทิ้งไว้จนโทรม แต่ก็น่าดีใจที่มันยังเป็นมิตรกับมนุษย์อยู่ หมาตัวอื่นคงรู้สึกกลัวและขยาดมนุษย์ไปแล้ว หลังถูกเจ้าของเก่าทิ้งไว้แบบนั้น     เจ้าหมายังไว้ใจมนุษย์ทั้งที่ถูกทิ้งจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด   อาสาสมัครดูแลเจ้าหมาอย่างดีที่สุด ภายในเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์มันก็กลับมามีน้ำหนักปกติ และดูสุขภาพดีกว่าเดิมเยอะเลย ทำให้พวกเขาไม่เป็นห่วงมันมากเหมือนเก่าแล้ว นอกจากนี้ก็น่าดีใจกับเจ้าหมาด้วยที่มันมีคนมาขอรับเลี้ยงอย่างรวดเร็ว ทำให้มันได้กลับไปสัมผัสความรักจากการเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง     มาอยู่แป๊บเดียวก็มีคนรับไปเลี้ยงแล้ว   Tracey Godin ติดตามดูมันตั้งแต่ถูกช่วยมาตอนแรกแล้ว…

การที่เราเป็นคนรักและช่วยเหลือหมา ไม่ได้หมายความว่าเราสามารถช่วยหมาทุกตัวได้ บางครั้งเราก็ช่วยพวกมันได้เท่าที่แรงของพวกมันจะมี แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่เหล่าอาสาสมัครมักจะรับหมามาดูแลเกินกว่าที่ตัวเองจะทำได้ เพราะพวกเขารู้ว่าถ้าไม่รับมันเอาไว้ พวกมันจะถูกเอาไปทิ้งในที่ที่อาจเป็นอันตรายต่อพวกมัน     Tamara Johnston เป็นคนต่างประเทศที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย และเธอก็เป็นคนก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Thai Street Paws Rescue ด้วย ถึงเธอจะเป็นคนก่อตั้งกลุ่ม แต่คนที่มาช่วยดูแลเจ้าหมาก็ไม่ได้มีมากนัก เธอจึงมักจะออกไปให้อาหารหมาจรจัดข้างถนนเป็นประจำ     ครั้งหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังให้อาหารสุนัขอยู่ที่จังหวัดสงขลา จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งตะโกนเรียกเธอมาแต่ไกล เขาถือตะกร้าใบหนึ่งมาด้วย ซึ่งข้างในนั้นมีลูกหมาอยู่ 3 ตัว เขาบอกว่าอยากให้เธอเอาลูกหมาพวกนี้ไปเลี้ยงดูให้หน่อย เนื่องจากไม่มีใครต้องการมัน และถ้าเธอไม่ยอมรับพวกมันไปเลี้ยง เขาก็คงจะต้องทิ้งพวกมันไว้ข้างถนนสักแห่ง     ลูกหมาน้อยดูน่าเอ็นดูมากๆ   Johnston รู้สึกลำบากใจมากที่ถูกขอร้องแบบนั้น ถึงเธอจะอยากช่วยพวกมัน แต่ตอนนี้เธอก็มีหมาจรจัดให้ดูแลเป็น 100 ตัว โดยที่มีคนช่วยเพียงไม่กี่คน การรับหมามาเพิ่มอีกจึงเป็นภาระไม่ใช่น้อย แต่เธอก็ตัดสินใจยอมรับพวกมันไว้ เนื่องจากเธอไม่สามารถปล่อยให้พวกมันถูกทิ้งขว้าง แล้วไปเผชิญชะตากรรมข้างถนนโดยไม่มีแม่ดูแล     เธอเล่าให้ฟังว่า “ลูกหมาพวกนี้ดูตื่นกลัว และมองมาที่ฉันเหมือนกับขอความช่วยเหลืออยู่…ถ้าฉันไม่ช่วย พวกมันก็ถูกชายคนนั้นเอาไปทิ้ง และอาจถูกรถทับด้วย พวกมันมีโอกาสรอดไม่มากนักหรอก” เธอรับลูกหมาพวกนั้นไว้และเอากลับไปดูแลที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ของตัวเอง โดยเอาอาหารให้กินและอาบน้ำให้ จากนั้นเธอก็หวังว่าจะหาเจ้าของให้พวกมันได้โดยไว…

ลิงเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีสถิปัญญาและความสามารถในการเรียนรู้ดีเยี่ยม พวกมันมักจะพบวิธีเจ๋งๆ ที่ช่วยทำให้ชีวิตของพวกมันสะดวกสบายขึ้น เหมือนอย่างครั้งนี้ที่พวกมันใช้ความสามารถในการปีนป่าย ปีนขึ้นที่สูงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองต้องรู้สึกหนาวเวลาเดินเหยียบหิมะด้านล่าง     คลิปวิดีโอของฝูงลิงฝูงนี้ถูกถ่ายได้ที่เมืองมุตสึ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว บริเวณนั้นจึงมีหิมะตกปกคลุมอยู่เต็มไปหมด สำหรับฝูงลิงที่ไม่มีรองเท้าใส่เหมือนมนุษย์ พวกมันจำเป็นต้องเดินลุยหิมะเพื่อไปยังที่ต่างๆ แต่นั่นก็ทำให้พวกมันต้องรับรู้ถึงความหนาวจากหิมะทุกย่างก้าวที่เดินไป แต่ฝูงลิงฝูงนี้ใช้ความชาญฉลาดที่มีค้นพบวิธีหลีกเลี่ยงความหนาวจนได้ แทนที่พวกมันจะเดิน พวกมันก็พากันไต่สายไฟฟ้าที่อยู่ด้านบนแทน แบบนี้พวกมันก็สามารถไปถึงที่หมายอีกด้านได้ โดยไม่ต้องรู้สึกเย็นเท้าเลยด้วย     ภาพของลิงทั้งฝูงที่ไต่บนสายไฟฟ้าตามกันเป็นแนวยาวจนสุดสายตานั้น เป็นภาพที่แปลกตาจริงๆ และก็คงหาดูกันไม่ได้ง่ายๆ ด้วย พอได้เห็นพวกมันทำแบบนี้แล้ว ก็อดชื่นชมในสติปัญญาและความแสนรู้ของพวกมันไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าการไต่ไปตามสายไฟจะดูไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่ก็ตาม      นอกจากนี้พวกมันก็ไม่ได้ไต่สายไฟแบบชาญฉลาดโดยบังเอิญหรอกนะ 2 วันหลังจากที่ชาวบ้านเห็นพวกมันทำแบบนั้นครั้งแรก ฝูงลิงก็กลับมาไต่สายไฟเดินทางอีกเหมือนเดิม อย่างกับว่าการไต่สายไฟกลายเป็นทางลัดในการเดินทางช่วงหน้าหนาวของลิงกลุ่มนี้ไปซะแล้ว และดูจากอากาศที่หนาวยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงนี้แล้ว มันก็คงจะใช้ทางเส้นนี้ไปจนหมดหน้าหนาวนั่นแหละ…   ที่มา: Daily Mail, Video Break

คุณเชื่อรึเปล่าว่าในโลกนี้อาจจะมีฝาแฝดของเราอยู่ก็ได้? สัตว์พวกนี้มันก็คงไม่เชื่อเรื่องนี้หรอก จนพวกกระทั่งพวกมันได้เจอกับตัวนี่แหละ แถมยังเป็นคนละสายพันธุ์ด้วย ถึงพวกมันจะไม่ใช่สัตว์ประเภทเดียวกัน แต่พอดูเรื่องความคล้ายคลึงกันของทั้งคู่แล้ว ก็ดูเหมือนกับพวกมันเป็นพี่น้องที่คลานตามกันออกมาเลยล่ะ   ฝาแฝดต่างไซส์ของผมเอง https://www.instagram.com/p/BrGm82EB_Y_/   กระต่ายกับพี่ไซเป็นญาติห่างๆ กันสินะ https://www.instagram.com/p/Bm_KekpnhT6/   เห็นแก่ว่าเราเป็นฝาแฝดกัน ฉันจะไม่กินแกนะเจ้าหนู https://www.instagram.com/p/BUVzulmj7Zf/   เกือบจะเป็นฝาแฝดกันจริงๆแล้ว ขาดแค่ความยาวของหูเท่านั้นเอง https://www.instagram.com/p/Br1btEVgi24/   เจอน้องที่พลัดพราดกันไปหอมแก้ม รู้สึกชื่นใจมากเลยงับ (โดนหลอกให้เป็นทาสไม่รู้ตัว) https://www.instagram.com/p/Bkhhn-mFnHE/   ไหนบอกซิว่าใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง https://www.instagram.com/p/76qzdDzZ5_/   สีเราก็เหมือนกัน มี 4 ขาเหมือนกันอีก ฝาแฝดกันชัะวร์ https://www.instagram.com/p/BrXxJPZn13m/   หมูกับหมาก็เป็นฝาแฝดกันได้เด้อ https://www.instagram.com/p/BHqbrp1B1Px/   คู่นี้สิคล้ายทั้งสีและหน้าตาเลย https://www.instagram.com/p/BiV5FyTHrN3/   ดูเหมือนตัวซ้ายจะอิจฉาตัวขวาที่ดูคล้ายกันแต่น่ารักกว่า https://www.instagram.com/p/vlkSppQcYT/   น้องหมากำลังงง นึกว่าส่องกระจกอยู่   คู่แฝดขนยุ่ง ที่ชอบทำหน้าง่วงเป็นประจำ https://www.instagram.com/p/BirD4CTANGz/   ถ้าผมโตขึ้นผมจะสูงเหมือนพี่ไหมฮะ?…

เหตุการณ์นี้อาจจะเป็นเรื่องที่สะเทือนใจเใครหลายๆ คน แต่เราหลีกเลี่ยงที่จะไม่นำเสนอไม่ได้จริงๆ เพราะอยากให้ว่าโลกนี้มี 2 ด้านเสมอ เรื่องมีอยู่ว่ากลุ่มนักปั่นกลุ่มหนึ่ง บังเอิญผ่านไปเจอสุนัขที่ถูกผูกไว้กับต้นไม้ในบ้านป่าอย่างโหดเหี้ยม เห็นได้ชัดว่าคนที่ทำแบบนี้ต้องการทิ้งให้สุนัขตาย     คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ถูกโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊กของ Asociación Animalista Libera ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสัตว์ในสเปน คอของสุนัขผู้น่าสงสารถูกมัดด้วยเชือกติดกับต้นไม้ คนที่มัดมันไม่ไว้ไม่มีความเมตตาเลยสักนิด เพราะเชือกนั้นสั้นจนเจ้าหมาต้องอยู่ท่าเดิม มันไม่สามารถหมอบหรือนอนลงได้     ยิ่งไปกว่านั้น น้องหมาต้องทรมานจากความหิวโหยจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ตอนที่นักปั่นไปเจอ มันทั้งสับสนและอ่อนแรง มันไม่มีแรงแม้แต่จะเห่าหรือร้องขอความช่วยเหลือ ไม่มีใครรู้ว่าสุนัขตัวนี้ถูกปล่อยไว้ในป่านี้นานแค่ไหนแล้ว แต่ดูจากร่างกายของมันที่เหลือแต่กระดูกและความเหนื่อยล้าของมันแล้ว รู้เลยไม่ได้อยู่ที่นี่แค่วันหรือสองวันแน่ๆ มีความเป็นได้สูงที่มันจะอยู่ที่นี่มาหลายสัปดาห์แล้ว     หากไม่มีใครมาเจอ สุนัขผู้น่าสงสารอาจจะต้องตายอย่างเดียวดายในป่า และโชคดีที่คนที่ผ่านมาเห็นคือนักปั่นกลุ่มนี้ พวกเขาจึงได้หยุดช่วยมัน บังเอิญว่านักปั่นคนหนึ่งพกเครื่องมือตัดสิ่่งของในกระเป๋าด้วย พวกเขาจึงสามารถตัดเชือกให้เจ้าหมาได้สำเร็จ ในขณะที่คนอื่นๆ ก็พากันปลอบโยนเจ้าหมา พวกเขาลูบมันเบาๆ เพื่อทำให้มันสงบลง     นักปั่นได้เอาอาหาร ขนมที่ติดตัวมาแบ่งให้เจ้าหมากิน และด้วยความหิว น้องหมาก็รับไปอย่างไม่ลังเล จากนั้น คาดว่าพวกเขาได้พาสุนัขไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ ให้น้ำ ให้อาหาร ที่พักพิงที่ปลอดภัย พร้อมทั้งหาบ้านใหม่ให้มันด้วย คลิปวิดีโอตอนที่นักปั่่นช่วยสุนัขผู้น่าสงสาร…

ทันทีที่คุณได้เป็นแม่ ลืมความสบายไปได้เลย โดยเฉพาะคุณแม่ลูกอ่อน เพราะเวลาทั้งหมดของคุณจะเสียไปกับการดูแลลูก ให้นมลูก จนแทบไม่มีเวลาเพื่อตัวเอง ไม่ใช่แค่มนุษย์เราเท่านั้น สัตว์ก็เช่นกัน อย่างกรณีของลูกหมา ถึงพวกมันจะตัวเล็ก แต่พวกมันกินเก่ง ขี้เล่น และมีพลังเหลือเฟือ คือ ตราบใดที่ยังไม่เหนื่อย อย่าหวังพวกมันจะนิ่งง่ายๆ     ดังนั้น ในฐานะแม่ แม่สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดตัวนี้จึงปิ้งไอเดียสุดสร้างสรรค์ในการจัดการกับลูกๆ เพื่อที่ตัวเองจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง แม่หมารู้อยู่แล้วว่าลูกๆ ตัวมีพลังงานเยอะมาก ถ้าปล่อยให้พวกมันเล่นจนเหนื่อย คงจะอีกนานอะ แล้วมันเองก็ต้องการพักผ่อนด้วย ดังนั้น มันจึงหาวิธีที่จะทำให้ลูกๆ เหนื่อยเร็วขึ้น     สิ่งที่แม่หมาทำคือ มันวิ่งไปรอบๆ สนามหญ้า แล้วหลอกล่อให้ลูกๆ วิ่งไล่จับมัน ปรากฏว่าแผนนี้ได้ผลจริงๆ ด้วย เพราะเมื่อมันออกวิ่ง ลูกๆ ก็พากันวิ่งตามเป็นพรวนเลย แม่วิ่งไปซ้าย ลูกก็วิ่งตาม วิ่งไปขวาลูกก็ไล่ตาม ด้วยความเป็นเด็ก เชพเพิร์ดน้อยคงไม่รู้หรอกว่าพวกมันกำลังโดนหลอกให้หมดแรง พวกมันคิดแค่ว่าแม่กำลังเล่นวิ่งไล่จับด้วย     ในตอนท้ายของคลิปจะเห็นได้ว่าลูกๆ เริ่มเหนื่อย จนวิ่งไล่ตามแม่ไม่ไหวแล้ว แผนของแม่หมาช่างยอดเยี่ยมซะจริงๆ แม้มันเองก็เหนื่อยไม่แพ้กันก็ตาม…

ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์คนหนึ่ง บังเอิญเลี้ยวรถผิดทาง แต่ในความผิดพลาดนั้น เขาสังเกตเห็นบางอย่างถูกทิ้งข้างถนน ซึ่งมีลักษณะเหมือนก้อนดิน แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ามันคือสุนัขที่ยังหายใจอยู่ ตัวแทนขายอสังหาฯ คนนั้นคือ Casey Lawrence เขาพบสุนัขพิตบูลล์ถูกทิ้งในป่าข้างทาง เห็นได้ชัดว่ามันเคยถูกใช้เป็นเหยื่อในสนามต่อสู้สุนัข ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย และน่าจะถูกทิ้งเพราะไม่มีประโยชน์แล้ว      Casey รีบพาเจ้าพิตบูลล์ที่ตอนนี้มีชื่อว่า Rambo ไปโรงพยาบาลสัตว์ นอกจากลำตัวที่เต็มไปด้วยรอยกัดจากสุนัขตัวอื่นแล้ว คุณหมอยังพบว่าขาของมันติดเชื้ออย่างรุนแรง ขณะเดียวกัน พนักงานในคลินิกทุกคนพร้อมที่จะช่วยมันอย่างเต็มที่ พวกเขาล้างแผลให้มันอย่างอ่อนโยนและให้ยาปฏิชีวนะกับมัน พร้อมทั้งเฝ้าดูอาการมันอย่างใกล้ชิด     สองวันผ่านไป อาการของ Rambo ก็ดีขึ้นและมันเริ่มกระดิกหางเล็กน้อย นอกจากนี้มันยังแสดงให้เห็นว่ามันสนใจอาหาร น่าเสียดายที่คุณหมอไม่สามารถรักษาขาหลังของมันไว้ จึงต้องตัดออกในที่สุด จากนั้น Rambo ก็ถูกย้ายไปยัง Charlotte Animal Referral & Emergency (CARE) เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเพิ่มเติม ทาง CARE บอกว่า “มันเข้ามาพร้อมอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังกระดิกหาง และพยายามจุ๊บทุกคนเพื่อแสดงความขอบคุณ”     Every Life Matters…

ขอแนะนำให้รู้จักกับ Bruno เจ้าเหมียวที่เอาชนะใจมนุษย์ด้วยความน่ารักในแบบฉบับของมัน แถมยังชอบยืนเหมือนมนุษย์ด้วย ที่สำคัญ การลดน้ำหนักของมันผ่านมาครึ่งทางแล้ว ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Bruno ถูกนำมาทิ้งใน Wright-Way Rescue ที่มอร์ตันโกรฟ รัฐอิลลินอยส์ เมื่อที่แล้ว เพราะมันไม่น่ารักสำหรับครอบครัวเดิม     เจ้าเหมียวเข้ามาในศูนย์พักพิงพร้อมกับน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์และรู้สึกสับสนกับความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันที่มันกำลังเผชิญอยู่ ตอนนั้น น้ำหนัก Bruno อยู่ที่ 11 กิโลกรัม ซึ่งมันต้องลดให้ได้อย่างน้อย 4 กิโลกรัม ทางทีมงานจึงช่วยหาครอบครัวใหม่ให้มัน เพื่อที่จะช่วยมันลดน้ำหนักและกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง     ช่วงเวลาที่อยู่ในศูนย์พักพิง เจ้าหน้าที่ได้เห็นบุคลิกที่น่ารักของเจ้าเหมีมว คือ แม้จะถูกครอบครัวทิ้งแต่มันกลับดูมีความสุขมาก ที่สำคัญ มันชอบยืนเหมือนมนุษย์ด้วย Bruno ไม่ใช่แค่แมวที่รักมนุษย์ แต่มันยังรักการเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ด้วย มันยืนด้วยขาหลัง 2 ข้าง และเดินสำรวจศูนย์พักพิง ราวกับเป็นหัวหน้าที่กำลังเดินตรวจงาน     Jacoby จาก Wright-Way Rescue บอกว่า “มันชอบนั่งบนหลังเท้าแล้วขออาหาร บางครั้งมันจะยืน 2 ขา และอยู่อย่างนั้นนาน 20 นาที บุคลิกของมันสร้างความสุขให้เราได้ดีมากเลยล่ะ”…

เคยได้ยินมาบ้างว่าบางครั้งมีคนเข้าใจผิด คิดว่ารูปปั้นสัตว์เป็นสัตว์จริงๆ เนื่องจากมันดูเหมือนจริงมาก แต่เพิ่งเคยได้ยินวันนี้แหละว่ามีหมาจริงที่เหมือนรูปปั้นจนคนพากันเข้าใจผิดกันเพียบด้วย เมื่อไม่นานมานี้มีภาพของหมาตัวหนึ่งถูกแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ ซึ่งเจ้าหมาสีดำตัวนี้ดูคล้ายรูปปั้นมากๆ ชาวเน็ตที่ได้เห็นรูปต่างก็ไม่แน่ใจกันว่าตกลงมันเป็นรูปปั้นหมา หรือเป็นหมาที่มีชิวิตจริงๆ   รูปนี้แหละที่ทำให้คนงง มันดูคล้ายรูปปั้นมากๆ เลย   ทว่าเจ้าหมาตัวนี้ไม่ใช่รูปปั้นแต่อย่างใด มันคือเจ้า Piper เป็นสุนัขสายพันธุ์เม็กซิกันไร้ขน หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ Xoloitzcuintli  พอได้รู้ว่ามันเป็นสุนัขของจริง ชาวเน็ตบางคนก็พากันชื่นชมเจ้าหมาว่ามันเป็นเหมือนผลงานศิลปะที่มีชีวิตเชียวล่ะ เพราะมันดูคล้ายรูปปั้นมากเหลือเกิน   https://www.instagram.com/p/BjmhpmyjO_D/?utm_source=ig_embed   ส่วน Sandra ที่เป็นเจ้าของของเจ้าหมานั้นก็ไม่คิดเลยว่าผู้คนจะพากันเข้าใจผิด และเถียงกันจริงจังขนาดนี้ว่ามันเป็นหมาหรือรูปปั้นกันแน่ เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกตลกมากที่มีคนมากมายมาถามว่าจริงๆ Piper เป็นหมาหรือรูปปั้น ตอนแรกฉันคิดว่าพวกเขาทักเอาฮาด้วยซ้ำ แต่สักพักฉันก็เข้าใจว่าพวกเขาจริงจังเรื่องนี้อยู่ และก็ไม่อยากจะเชื่อด้วยว่ามันเป็นหมาของจริง ฉันคงจะเห็นมันมานานจนชิน ก็เลยไม่เคยคิดว่ามันคล้ายรูปปั้นเลย แต่พอฉันลองถามคนในครอบครัวและเพื่อนรอบตัวดู พวกเขาก็บอกว่าเข้าใจนะที่คนทั่วไปเข้าใจผิดเรื่องนั้น”     แหม่ก็รูปของเจ้าหมามันดูแล้วชวนเข้าใจผิดว่าเป็นรูปปั้นจริงๆ นี่นา ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามันขนโล้น ผิวเลยดูมันวาวเหมือนรูปปั้นด้วยก็ได้ ถ้าใครรู้สึกถูกใจ Piper และคิดว่าเจ้าหมาตัวนี้มันดูน่ารัก ก็สามารถติดตามเจ้าหมาเพิ่มเติมได้ในอินสตาแกรม Piper & Riley เลย   ส่วนคนที่ยังไม่เชื่อว่ามันเป็นหมา ไปดูวิดีโอของมันให้หายข้องใจก็แล้วกัน    ที่มา:…

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณบ่นว่าวันนี้เป็นวันที่แย่เสียจริงๆ ให้จำไว้ว่าสัตว์ก็มีวันแย่ๆ เช่นกัน และแน่นอนว่าความรู้สึกของพวกมันไม่ได้ต่างจากคุณเลย แต่สิ่งที่ทำให้วันพังๆ ของสัตว์แตกต่างจากเราคือ พวกมันสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้เราได้ ไม่เชื่อก็ลองดูกรณีตัวอย่างด้านล่างนี่สิ   1. เมื่อบอกช่างว่า ‘ตัดออกนิดเดียวนะ’ และนี่คือสิ่งที่ได้   2. บอกแล้วว่าข้างนอกมันหนาว ก็บังคับให้ออกมาเล่นอยู่นั่นแหละ เป็นไงล่ะ   3. ถ้ายังยืนยันจะพาเราไปหาหมอฟัน เราจะโดดจริงนะ เตือนแล้วนะ   4. ไม่ได้ทำเท่ใดๆ ทั้งนั้น เค้าลงไม่ได้ ขึ้นยิ่งไม่ได้… ช่วยด้วยยยยย   5. เลิกเอาฉันไปเปรียบกับเจ้านั่นสักที มันเป็นสิงโต และฉันก็เป็นแมวโว้ยยย   6. ใครก็ได้ เอาหญ้าออกจากเขาฉันที   7. เมื่อน้องชายตัวโตอยากกอดคุณ แต่ไม่ได้นึกถึงขนาดตัวคุณเล้ยยย   8. เดี๋ยว!! นี่ฉันต้องเล่นบทตุ๊กตาบาร์บี้ให้นังมนุษย์เด็กอีกแล้วหรอ?   9. อยู่ต่อหน้าแม่โชว์เหนือ เดี๋ยว… รอแม่ออกไปก่อน แกได้เจอดีแน่เจ้าหมา   10.…

นับตั้งแต่วันแรกที่สุนัขก้าวเข้ามาอยู่กับครอบครัวมนุษย์ พวกมันจะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆ จนลืมคิดไปว่าความโชคดีนี้อาจจะไม่ได้อยู่กับพวกมันตลอดไป เช่นเดียวกับสุนัข Shirley กับ Laverne พวกมันสูญเสียครอบครัวและบ้านเพียงหลังเดียวที่มีทั้งชีวิต และแน่นอน พวกมันรู้สึกเสียใจมาก     เมื่อครอบครัวไม่ได้ต้องการพวกมันอีกต่อไป พวกเขาจึงนำทั้งคู่ไปทิ้งที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน Corpus Christi รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้คนนิยมนำหมาไปทิ้ง แม้จะสูญเสียทั้งครอบครัวและบ้าน แต่สิ่งหนึ่งที่ Shirley กับ Laverne ยังเหลือคือ พวกมันมีกันและกัน ขณะเดียวกัน มีหญิงในท้องถิ่นคนหนึ่งที่มาเยี่ยมสุนัขถูกทิ้งที่นี่เป็นประจำ เพื่อเอาอาหารมาให้พวกมัน และแล้วเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน เธอก็สังเกตเห็น Shirley กับ Laverne และคาดเดาว่าพวกมันน่าจะเป็นแม่ลูกกัน     หญิงคนนั้นอยากช่วยพวกมัน แต่เมื่อเธอเข้าไปใกล้ พวกกลับถอยหนีทันที อย่างไรก็ตาม หญิงสาวไม่ยอมแพ้ เธอพยายามเข้าหาน้องหมาทั้ง 2 ทุกวัน จนกระทั่ง 1 เดือนต่อมา พวกมันก็เริ่มไว้ใจเธอ นั่นทำให้หญิงสาวสามารถคว้าปลอกคอของมันไว้ได้ ก่อนจะพาทั้งคู่ขึ้นรถของเธอ Leslie Ysuhuaylas หนึ่งในผู้ช่วยเหลือบอกว่า “พวกมันรู้สึกกระวนกระวายและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะตัวสีน้ำตาล มันกลัวมากๆ ตอนถูกอุ้มขึ้นรถ…

การเป็นคนไร้บ้านไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่มีหัวใจ ถึงแม้ว่า Luiz จะไร้บ้านแต่เขาก็มีครอบครัว 4 ขาเล็กๆ ที่รักเขาอยู่ด้วย คืนหนึ่ง Luiz มีอาการชัก คนที่เห็นจึงโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับตัวเขาไปรักษา ส่วนหมาทุกตัวของเขาแม้จะไม่ได้ขึ้นรถพยาบาลไปด้วย แต่พวกมันก็รักและเป็นห่วงเขามาก จึงวิ่งตามรถพยาบาลไปจนถึงที่หมายเลย     แน่นอนว่าถึงพวกมันจะวิ่งตามมาถึงโรงพยาบาลแล้ว แต่พวกมันก็ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ สิ่งที่พวกมันเลือกทำจึงเป็นการปักหลักนอนรอ Luiz อยู่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล และไม่ยอมขยับไปไหนเลย พยาบาลที่ได้เห็นพวกมันต่างก็รู้สึกประทับใจกับความรักที่พวกมันมีต่อเจ้านาย แต่ก็เป็นห่วงพวกมันด้วย เขาจึงโทรติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Amigos de Patas Cianorte ให้ส่งอาสาสมัครมาช่วยดูแลพวกมันระหว่างรอเจ้าของหน่อย     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์เล่าว่าคนที่อาศัยอยู่แถวถนน Cianorte ในประเทศบราซิล คงเคยเห็น Luiz กับพวกหมาบ่อยแล้ว เขาอยู่ข้างถนนมากว่า 20 ปี และแม้จะมีคนพยายามหาบ้านให้ เขาก็ปฏิเสธไปเพราะอยากอยู่กับพวกหมาที่เขารัก ถึงจะไม่มีเงินมาก เขาก็แบ่งปันทุกอย่างที่มีกับพวกมัน นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมหมาพวกนี้จึงรักเขามาก และไม่ยอมทิ้งเขาในยามที่เขาเดือดร้อน     เช้าวันต่อมา Luiz ก็มีอาการคงที่และได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ แต่เขาถูกพาออกไปทางประตูอีกด้านหนึ่ง พวกสุนัขเลยยังรอเขาที่ประตูด้านหน้าเหมือนเดิม พวกมันรออยู่นานมากจนพยาบาลต้องส่งคนไปรับตัว Luiz ที่บ้านพี่ชายให้ออกมาพบพวกมัน เจ้าหมาถึงจะยอมเดินออกมาพร้อมกับเขาด้วยท่าทางดีใจที่ได้พบมนุษย์คนโปรดสักที  …

หญิงสาวรักหมาของตัวเองมาก แต่มันก็อยู่กับเธอมานานและแก่ตัวมากแล้ว สุขภาพของมันทรุดโทรมลงไปเรื่อยๆ เธอจึงอยากทำให้วันสุดท้ายในชีวิตของมันมีความสุขที่สุดก่อนที่จะต้องจากไป Kira เลี้ยงเจ้าหมา Gizmo มาตั้งแต่เธอยังเด็ก มันกับเธอเติบโตไปด้วยกัน มันจึงกลายเป็นเพื่อนคนสำคัญของเธอที่ไม่มีใครแทนได้     เป็นเพื่อนซี้สุดๆ ใส่ชุดสีเข้าคู่กันซะด้วย   ปัจจุบัน Gizmo อยู่กับ Kira มานาน 18 ปีแล้ว พอเจ้าหมาเริ่มแก่ตัวลง ปัญหาด้านสุขภาพของมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มจากการสูญเสียการได้ยิน ตามมาด้วยประสาทการมองเห็นที่พร่ามัว เนื่องจากตาของมันเป็นต้อกระจก แถมขาของมันยังมีอาการท่ออักเสบจนเดินได้ลำบากอีกต่างหาก     Kira รู้ว่าตอนนี้การมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ Gizmo ทรมานจากการต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ที่มี และถึงแม้เธอจะอยากอยู่กับมันต่อ เธอก็ตัดสินใจว่าควรจะการุณยฆาตให้มันพ้นทุกข์ดีกว่าปล่อยให้มันทรมานมากกว่านี้ หลังจากวางแผนการุณยฆาตแล้ว Kira ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่ามันมีความสุขที่สุด และเมื่อถึงวันสุดท้ายของเจ้าหมา เธอก็ยังพามันขับรถออกไปกินของโปรด และเดินเล่นด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายด้วย     หญิงสาวเล่าว่า “มันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา ฉันอยากมั่นใจว่าวันสุดท้ายในชีวิตของมันจะเต็มไปด้วยความรักและขนมที่มันชอบ อันที่จริงแล้วฉันรู้สึกดีใจมากที่ฉันว่างอยู่กับเจ้าหมาในวันสุดท้าย ฉันเลยอยากทำให้มันเป็นวันที่พิเศษสำหรับมัน เพื่อให้เพื่อนคนสำคัญตลอดหลายปีของฉันอย่าง Gizmo ได้รับวันที่ดีที่สุดอย่างที่มันสมควรได้รับ”   …

เด็กหญิงตัวน้อยเคยผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวตั้งแต่เด็ก ซึ่งประสบการณ์นั้นทำให้เธอรู้สึกกลัวจนนอนไม่หลับ แต่เธอก็มีพี่หมาที่คอยอยู่ข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจและนอนได้โดยไม่กลัวอีก ตั้งแต่เกิดมาเด็กหญิง Adalynn ก็รายล้อมไปด้วยความรัก ทั้งความรักจากคุณพ่อคุณแม่ และความรักจากพี่หมาลาบราดอร์ Fury ด้วย เธอดูมีความสุขและสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่กับเจ้าหมา ส่วนเจ้าหมาก็ชอบเอาใจและคอยอยู่เคียงข้างเพื่อดูแลเด็กสาวตัวน้อยเช่นกัน     เมื่อหลายเดือนที่ประเทศอลาสก้าเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงมาก ซึ่งบ้านของ Adalynn ก็อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุด้วย ส่งผลให้บ้านของเธอสั่นไหวจนข้าวของร่วงลงมาเละเทะไปหมด แถมยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายระลอกอีกต่างหาก น่ายินดีที่อย่างน้อยน้อง Adalynn และครอบครัวไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวเลย แต่เด็กหญิงก็รู้สึกหวาดกลัวและนอนหลับยากหลังจากผ่านเรื่องน่ากลัวแบบนั้นมา     คุณพ่อ Kyle Leary เล่าว่าตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนั้น ก็มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาเรื่อยๆ และทำให้เด็กหญิงมีปัญหาในการนอน สิ่งที่พอจะช่วยให้ Adalynn หลับสนิทได้ก็คือเจ้า Fury เนื่องจากทุกครั้งที่เธอลงไปนอนกอดกับมันบนพื้น คุณพ่อคุณแม่จะเห็นชัดเลยว่าเธอรู้สึกสบายใจมากๆ เหมือนเจ้าหมาทำให้ความกลัวของเธอหายไปได้ในทันใด และนอกจากจะนอนกอดกันในตอนกลางวันแล้ว เร็วๆ นี้คุณพ่อคุณแม่ก็เห็นผ่านกล้องวงจรปิด ว่าเด็กหญิงเริ่มชวนเจ้าหมามานอนบนเตียงกับเธอในตอนกลางคืนแล้ว เป็นภาพที่น่ารักมากๆ เลย     นอกจากเธอจะอาศัยไออุ่นและกำลังใจจากเจ้าหมา เธอก็ยังรู้สึกรักและเป็นห่วงมันด้วย ในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าเธอยังพยายามห่มผ้าให้มันเพื่อให้มันหลับสบายอยู่เลย แม้ความกลัวแผ่นดินไหวของ Adalynn จะยังไม่หายสนิทดี แต่เราก็คิดว่าถ้าเจ้าหมายังอยู่เป็นกำลังใจให้น้องต่อไปแบบนี้ ในอนาคตน้องก็คงจะหายกลัวเป็นปลิดทิ้งได้สักวัน  …

ตลอดเวลาการทำงานช่วยเหลือสัตว์หลายปีของ Jen Deane เธอมักจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอและดูแลลูกหมากลุ่มใหม่ทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้เจ้าหมาที่เจอทำให้เธอถึงกับใจละลายเลยทีเดียว เนื่องจากมันมีหูที่ม้วนเป็นเกลียดแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ทำให้ดูน่ารักจนอดใจไม่ไหว     Deane เป็นประธานของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Pit Sisters เมื่อไม่นานมานี้อาสาสมัครก็เพิ่งช่วยเหลือลูกหมาชุดใหม่มา และเธอก็กำลังรอเจอพวกมันอยู่ ทันทีที่ได้เจอหน้าพวกมันเธอก็ตกหลุมรักลูกหมาตัวหนึ่งทันที เนื่องจากมันมีหูที่ม้วนเป็นเกลียวดูโดดเด่น ไม่เหมือนหมาหูชี้ตัวอื่นๆ ที่เคยเห็นมา     พี่น้องตัวอื่นหูชี้กันหมด มาแปลกอยู่ตัวเดียว   Deane จึงตั้งชื่อมันว่า Cinnamon เนื่องจากหูของมันกลมดูคล้ายกับขนมซินนามอนโรลนั่นเอง ซึ่งอาสาสมัครก็คิดว่าเข้ากับมันดีมากๆ อาสาสมัครในกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ต่างก็พากันตกหลุมรักเจ้าหมากันใหญ่เลย เพราะว่านอกจากหน้าตาและหูของมันจะน่ารักแล้ว นิสัยของมันก็ยังเป็นขี้อ้อนด้วย เป็นมิตรกับคนที่สุดเลย     แถมไม่ได้มีแค่คนในกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่เทใจให้มันด้วยนะ พอ Deane เอารูปของ Cinnamon ไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก ชาวเน็ตก็พากันตกหลุมรักมันเหมือนกัน มีแต่คนบอกว่ามันน่ารักน่ากอด และก็มีอีหลายคนด้วยที่อยากจะรับเอามันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเลย เป็นหมาน่ารักก็มีคนแย่งตัวเยอะแบบนี้แหละ     น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้รับเลี้ยงมันหรอก เนื่องจาก Deane ตั้งใจจะรับเลี้ยงเจ้า Cinnamon ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้มันจึงได้มาอยู่บ้านกับเธอ และก็มีพี่หมาอีก 3 ตัวคอยอยู่ดูแลมันด้วย ตอนนี้เจ้า Cinnamon…

เจ้าหมาจรจัดได้รับความเมตตาจากคนในปั๊มน้ำมัน และถูกพวกเขาเลี้ยงดูไว้ที่นั่น เมื่อถึงคราวที่พวกเขาเดือดร้อน มันจึงตอบแทนพระคุณโดยการปกป้องพวกเขา เมื่อ 2 ปีก่อนมีหมาตัวหนึ่งเดินหลงเข้ามาในปั๊มน้ำมันที่รัฐตาเมาลีปัส ประเทศเม็กซิโก มันน่าจะเป็นหมาที่ถูกคนเอามาทิ้งไว้ มันจึงดูหวาดกลัวคน     ทว่าพนักงานในปั๊มก็ไม่ได้ไล่มันออกไป หรือเมินเฉยมัน พวกเขาเลือกที่จะให้อาหารมันและทำให้มันไว้ใจ จนในที่สุดมันก็เป็นมิตรกับพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไปมันก็เลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของปั๊มแห่งนี้ และกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวพนักงานไปโดยปริยาย พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Randy ทุกคนที่ทำงานที่นั่นดูแลมันอย่างดี โดยไม่ได้หวังเลยว่าวันหนึ่งมันจะตอบแทนบุญคุณพวกเขาได้ในแบบที่ไม่คาดคิด     เมื่อไม่นานมานี้ในเวลาค่ำวันหนึ่ง ในช่วงที่มีพนักงานเฝ้าปั๊มอยู่ตามลำพัง จู่ๆ ก็มีโจร 2 คนพร้อมอาวุธเข้ามาปล้นปั๊ม เมื่อพวกเขาทั้งคู่เห็นว่าพนักงานมีท่าทีต่อต้าน พวกเขาก็เลยรุมทำร้ายพนักงานคนนั้น หวังจะทำให้เขายอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี ตอนนั้นเองเจ้า Randy ที่หลับอยู่ในห้องเก็บของก็ได้ยินเสียงข้างนอกจนตื่นขึ้นมา มันจึงรีบวิ่งเขาไปช่วยพนักงานปั๊มไล่โจร 2 คนนั้นออกไปได้ทันท่วงที   ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันนั้น   วันนั้นเจ้าหมากลายเป็นฮีโร่ของปั๊มไปเลย Gerardo Aguilar ซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มเล่าว่า “พวกเราก็แปลกใจเหมือนกันที่เห็นมันรีบออกมาช่วยแบบนั้น พวกเราภูมิใจในตัวมันมากเลย ถ้าหากวันนั้นไม่ได้เจ้า Randy เข้ามาช่วย เหตุการณ์อาจจะไม่จบดีแบบวันนั้นก็ได้ พวกเรารู้สึกขอบคุณและดีใจมากที่มีมันอยู่ด้วยกัน”     นอกจากจะช่วยดูแลความปลอดภัยและรักษาความสงบในปั๊มแล้ว Randy ยังช่วยเรียกลูกค้ามาใช้บริการที่ปั๊มแห่งนี้ด้วย…

ชีวิตของแมวจรจัดตัวหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้มากสักแค่ไหนถ้าถูกเก็บมาเลี้ยง? นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่ามันโชคดีได้ไปเจอคนที่เลี้ยงดูมันดีรึเปล่า ถ้าเกิดมันได้เจอทาสที่ดี ชีวิตของมันจะมีความสุขขึ้นมาก หากคุณนึกภาพไม่ออก เราลองไปดูตัวอย่างจากเจ้า ‘วันเพ็ญ‘ แมวเหมียวจากเพจ เฮงเฮง แมวเทพ ที่พลิกชีวิตจากแมวจรจัดมาเป็นแมวที่มีครอบครัวแสนอบอุ่น โดยเจ้าแมวถูกเอามาทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทาง ทั้งที่มันยังเล็กอยู่และดูแลตัวเองไม่ได้ แต่ก็โชคดีที่ทาสคนปัจจุบันมาเจอมันทันเวลา   . . . . . . .   แน่นอนว่าแมวจรจัดที่เพิ่งถูกทิ้งก็มักจะกลัวคนแปลกหน้า การจับมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทว่าทาสของมันก็มีผู้ช่วยในการล่อให้เจ้าแมวออกมาหา นั่นคือแมวเหมียว พี่หางยาว ที่เธอเลี้ยงไว้นั่นเอง   . . . . . . . .   และเนื่องจากเจ้าแมวน้อยถูกจับได้ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงพอดี ทาสจึงตั้งชื่อให้มันว่า ‘วันเพ็ญ’   .   หลังจากที่วันเพ็ญถูกช่วยมาแล้ว ทาสของมันก็พามันมาพบกับครอบครัวใหม่ ซึ่งนอกจากจะมีมนุษย์แล้ว ก็ยังมีพี่แมวเหมียวอีก 14 ตัวคอยอยู่ดูแลมันด้วย และมันก็ได้รับการดูแลอย่างดี   .…

คงไม่มีเด็กดีคนไหนช่วยงานคุณพ่อได้ดีเท่าตัวนี้อีกแล้ว ในขณะที่หมาตัวอื่นอาจก่อกวนเวลาที่เจ้าของทำงาน เจ้าหมาตัวนี้เป็นกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้เจ้าของทำงานต่อไปได้ Michael Reeg เป็นคุณพ่อที่ทำงานอยู่ที่บ้านของตัวเอง โดยในออฟฟิศของเขามีพนักงานอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น ได้แก่เขาเอง เจ้าหมา Meeka และเจ้าหมา Kya     โดยคนที่ทำงานทั้งหมดในออฟฟิศก็คือ Michael ส่วนเจ้าหมาอีก 2 ตัวส่วนใหญ่ก็จะงีบหลับอยู่ในนั้นด้วย เพื่อไม่ให้เขารู้สึกเหงา Michael เล่าว่าการต้องทำงานตามลำพังนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากบรรยากาศทุกอย่างเงียบสงัด เขาต้องพยายามหาแรงบัลดาลใจเพื่อให้ทำงานต่อไปได้เสมอ และคนที่มาช่วยเติมเต็มสิ่งนั้นให้ก็คือ Meeka     เขาเล่าว่า “บางครั้งเวลาที่ผมทำงานอยู่ ผมก็จะเล่าปัญหาหรือแผนผังงานของลูกค้าให้มันฟัง และผมก็ลองฝึกเสนองานขายให้ลูกค้าต่อหน้ามันด้วย เจ้าหมามันตั้งใจฟังผมมาก ถึงแม้สิ่งที่มันได้ยินจะเป็น ‘บลาๆๆ บลาๆๆ นะ Meeka’ แต่มันก็ชอบฟังเสียงผมและให้ความสนใจผมเสมอ การมีมันอยู่ด้วยทั้งวันจึงช่วยผมได้มากเลยทีเดียว” ส่วนเจ้า Kya นั้นจะมานั่งๆ นอนๆ อยู่ด้วยแค่ตอนภรรยาของเขาไม่อยู่เท่านั้น เพราะเดิมทีมันก็เป็นหมาของเธอ มันจึงไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการทำงานเท่าไหร่     ในเมื่อ Meeka เป็นหนึ่งในหัวใจหลักที่ทำให้เขาทำงานได้โดยไม่มีสะดุด เขาจึงอยากมอบบางอย่างที่พิเศษให้กับมัน และสิ่งที่เขาพอจะทำให้มันได้ก็คือ การมอบตำแหน่ง…

โรคมะเร็งนั้นน่ากลัวเนื่องจากคนส่วนใหญ่รู้ตัวหลังจากที่มะเร็งลุกลามไปมากแล้ว ทำให้การรักษาเป็นไปอย่างยากลำบาก ทว่าหญิงคนนี้สามารถตรวจเจอมะเร็งได้อย่างรวดเร็ว เพราะเธอมีเจ้าหมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่ช่วยเตือนถึงเนื้อร้ายในตัวเธออยู่ด้วย     Stephanie Herfel รับเลี้ยงเจ้าหมาไซบีเรียนฮัสกี้ Sierra ต่อจากลูกชายของเธอในปี 2011 ถึงเธอจะไม่ได้เลี้ยงมันเป็นคนแรก แต่มันก็รักเธอเหมือนแม่จริงๆ เลย มันคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ และเป็นสมาชิกครอบครัวตัวสำคัญที่ทำให้ชีวิตของ Stephanie ไม่เงียบเหงา แถมมันยังรับรู้ได้เวลาที่ร่างกายของเธอมีความผิดปกติด้วย     หลังจากเลี้ยง Sierra ได้ 2 ปี Stephanie ก็เริ่มมีอาการเจ็บบริเวณท้อง…ตอนที่เธอไปหาหมอ เขาก็ให้ยาแก้ปวดมากิน และพบว่าเธอมีถุงน้ำรังไข่เท่านั้น ไม่มีอะไรน่าห่วง ทว่า Sierra รับรู้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ได้ Stephanie เล่าว่า “เจ้าหมาเอาจมูกมาดมที่ท้องช่วงล่างของฉันแบบจดจ่อ จากนั้นมันก็ทำแบบนั้นซ้ำอีกเรื่อยๆ แล้วก็วิ่งหนีไปหลบหลังตู้เสื้อผ้า”     การกระทำของเจ้าหมานั้นเป็นสิ่งที่แปลกมาก ตั้งแต่เธออยู่กับมันมา Sierra ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย เธอจึงเอะใจว่ามันต้องมีบางอย่างผิดปกติ หลายสัปดาห์ต่อมาผลตรวจอย่างละเอียดของเธอก็ระบุว่าเธอเป็นมะเร็งมดลูกจริงๆ แต่เธอก็เข้ารับการรักษาและสามารถระงับการลุกลามของมะเร็งได้ทัน     เท่านั้นยังไม่พอ 2 ปีหลังจากตรวจพบมะเร็งครั้งแรก Sierra ก็กลับมาดมช่วงท้องของ Stephanie…

เคยได้ยินกันบ้างไหมว่าถ้าสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของอยู่ด้วยกันไปนานๆ จะดูเหมือนกัน…เรื่องหน้าตาน่ะอาจจะไม่ใช่หรอก  เพราะเจ้าหมาคงจะไม่สามารถซึมซับกรรมพันธุ์ของมนุษย์ไปอยู่บนใบหน้าของพวกมันได้ แต่เรื่องนิสัยนี่เห็นกันได้ชัดเจนเลย เนื่องจากพอสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของได้ใช้เวลาร่วมกันแล้ว มันก็จะติดนิสัยบางอย่างจากเจ้าของ บางตัวถึงขั้นสามารถทำท่าเลียนแบบได้เหมือนไม่มีผิดเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อก็มาดูภาพของคู่หูสัตว์เลี้ยงละมนุษย์เหล่านี้ดู แล้วคุณจะต้องยอมรับว่ามันสามารถเลียนแบบมนุษย์ได้เหมือนเปี๊ยบอย่างกับกด Ctrl+C แล้ว Ctrl+V เลย   ยิ้มเหมือนทาสเป๊ะ   ทาสชอบนั่งไขว้ขา เราเลยติดนิสัยด้วยเลย   ทำสายตาดูถูกแบบ x2   แหม่ลิ้นยาวเหมือนกันทั้งคู่ สมเป็นคู่หูกันจริงๆ   คล้ายกันทั้งหน้าทั้งหุ่น   ทำท่าซาบซึ้งกับธรรมชาติตามมนุษย์แป๊บ https://www.instagram.com/p/BlhWiBggJXW/   แมวปกติเขานั่งเท้าชี้แบบนี้กันด้วยเหรอ?? https://www.instagram.com/p/BXakST6BGKb/   มายิงฟันแข่งกัน ดูว่าของใครสวยกว่า https://www.instagram.com/p/Br94p3BF38O/   อันนี้น้องน่าจะเลียนแบบท่านอนเจ้าหมานะ… https://www.instagram.com/p/BmsSt3VAlwQ/   สงสัยเมื่อคืนนอนดึกกันทั้งคู่ https://www.instagram.com/p/Bg1IVJdBWYx/   ขอนอนอาบแดดด้วยสิมนุษย์ เดี๋ยวผิวเราไม่แทนเขาจะหาว่าไม่ได้มาเที่ยวด้วยกัน https://www.instagram.com/p/BRelfHShnGt/   ตัวนี้ทำหน้าไม่เหมือนเจ้าของ แต่ดีใจที่ได้ไปเที่ยวเหมือนกัน https://www.instagram.com/p/0I_wKAG6jy/   บอกไม่ถูกเลยว่าคนหรือแมวเท่กว่ากัน https://www.instagram.com/p/BqhvmHvHkgP/   ขอยืดเส้นด้วยคนนะฮับ…

ว่ากันว่าลิงเป็นสัตว์ที่มีความคล้ายคลึงมนุษย์มากที่สุด ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่การมีสังคมและนิสัยของพวกมันก็คล้ายเราด้วย หลังจากเราได้เห็นแม่ลิงที่ต้องแยกจากลูก รีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวลูกลิงเข้ามากอดไว้ โดยไม่รอให้มันกลับมาหาเธอเอง เราก็ต้องยอมรับเลยว่าความรักลูกของพวกมันไม่ต่างจากคนจริงๆ     ครั้งหนึ่งศูนย์ช่วยเหลือลิง Umsizi Umkomaas Vervet Rescue Centre ได้รับการติดต่อให้ไปช่วย ‘ลิงไข่ฟ้า’ ซึ่งมันเป็นลิงจากแอฟริกาและยุโรปที่อยู่กันเป็นสังคม หากตัวหนึ่งเดือดร้อน ทั้งฝูงจะมาช่วยกันทันที เมื่ออาสามัครต้องแยกลูกลิง Pearce ซึ่งบาดเจ็บออกมาจากฝูง มันจึงไม่ใช่งานง่ายๆ เลย แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องแยกตัวมันออกมาเพื่อรักษาโดยด่วน     ลูกลิงบาดเจ็บ เลยต้องถูกแยกตัวออกมารักษา   กว่าจะได้ตัว Pearce มาพวกเขาต้องถูกฝูงลิงของมันขู่ใส่ และเสี่ยงที่จะโดนทำร้าย ทว่าพวกเขาก็โชคดีที่สามารถแยกลูกลิงออกมาได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ     หลังจากที่รักษาลูกลิงจนหายดีแล้ว อาสาสมัครจึงวางแผนจะเอามันไปคืนฝูงที่เดิม โดยการวางกรงของมันเปิดทิ้งไว้ แล้วให้ลูกลิงปีนขึ้นไปหาฝูงเอง อาสาสมัครจะได้ไม่เสี่ยงถูกลิงตัวอื่นในฝูงทำร้าย ทว่าแทนที่ฝูงลิงจะระแวงมนุษย์ที่อยู่ด้านล่าง ลิงตัวหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นแม่ของ Pearce ก็รีบวิ่งเข้ามาคว้าตัวลูกที่กำลังปีนขึ้นไปหามันอย่างรวดเร็ว แล้วก็กอดมันเอาไว้แน่น เป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ เลย      การที่เราได้เห็นแม่ลิงรีบคว้าตัวลูกลิงเข้าไปกอดแบบนี้นี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าพวกลิงก็มีความรู้สึกเหมือนกับเราเลย โดยเฉพาะความรักของแม่ที่มีต่อลูกที่เราเห็นได้ชัดเจนจากคลิปวิดีโอนี้…

คาเฟ่สัตว์เคยเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับเรามาก่อน ทว่าในปัจจุบันมีคาเฟ่สัตว์เปิดให้บริการมากมายจนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว นั่นคือในกรณีที่เราพูดถึงคาเฟ่หมา หรือคาเฟ่แมวเท่านั้น…ถ้าหากเพื่อนๆ ได้รู้ว่ามีคาเฟ่สัตว์เลื้อยคลานอยู่บนโลกนี้ล่ะก็ รับรองใครก็ตามที่ได้ยินก็ต้องคิดว่าแปลกแน่นอน     ในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟนากาโนะ จะมีถนนเส้นหนึ่งที่ชื่อว่า Renga Zaka ซึ่งในโซนนี้จะมีร้านอาหารและบาร์อยู่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือบาร์ Bar Yatonokami ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วย แต่ที่ร้านนี้มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครก็คือ ภายในร้านจะมีสัตว์เลื้อยคลานนอนเรียงรายอยู่ในตู้ รอต้อนรับลูกค้าอยู่นั่นเอง   ถนน Renga Zaka   ร้าน Bar Yatonokami   ความเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้ มีให้เห็นตั้งแต่ทางเดินเข้าไปในบาร์เลยทีเดียว โดยปกติบาร์ทั่วไปจะติดโปสเตอร์โฆษณา หรือนายแบบนางแบบเอาไว้ ทว่าบาร์แห่งนี้กลับมีโปสเตอร์รูปสัตว์เลื้อยคลานมากมายหลายชนิด ติดเรียงรายไว้ให้ลูกค้าได้ชมกันแบบละลานตาเลยทีเดียยว   บันไดทางเข้าร้าน   มีรูปสัตว์เลื้อยคลานเต็มไปหมด   ติดไว้เยอะมากจนถึงเพดานเชียว   เมื่อลูกค้าเข้ามาในบาร์ สิ่งแรกที่จะสังเกตเห็นได้ทางซ้ายมือก็คือตู้สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิ้งก่า เต่า กบ หรืองู สัตว์พวกนี้ไม่ได้คอยต้อนรับคุณเพียงอย่างเดียวนะ ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบพวกมันละก็ คุณก็สามารถขออนุญาตเจ้าของร้านเพื่อพาพวกมันออกมาอุ้มเล่นได้ด้วย     ยินดีต้อนรับสู่บาร์ของเรานะมนุษย์  …

เพียงไม่นานหลังจากที่ครอบครัวหนึ่งย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ พวกเขาเริ่มได้ยินเสียงแมวมาร้องเมี๊ยวๆ ที่ประตูหน้าบ้านอยู่บ่อยๆ ครอบครัวจึงเปิดประตูออกไป แล้วก็พบมันเป็นแมวตัวผอมๆ ที่กำลังอยู่ในอาการสับสนอย่างมาก พวกเขาคิดว่ามันน่าจะเป็นแมวของครอบครัวที่เคยอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่เมื่อย้ายออกไป พวกเขาไม่ได้พามันไปด้วย ต่อมา พวกเขารู้ว่ามันชื่อ Honey… เจ้าของบ้านปัจจุบันจึงโทรแจ้งไปยังกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA เพื่อให้ช่วยเหลือมันเท่าที่จะทำได้     ทาง RSPCA ยินดีรับเหมียวมาอยู่ในการดูแล ก่อนจะส่งมันไปยังศูนย์พักพิง Stourbridge and District พร้อมกับตรวจสุขภาพให้มัน จากการตรวจพบว่า Honey กำลังทรมานจากโรค Hyperthyroidism ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มันผอม คุณหมอจึงรักษาให้ จนมันหายเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Honey ต้องการมากที่สุดคือ ครอบครัว     ตั้งแต่ Honey เข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิง ไม่มีใครสนใจมันเลยเพราะมันเป็นแมวถูกทิ้ง Heather Cain ประธาน Stourbridge and District บอกว่า “Honey อยู่ในการดูแลของเรามา 200 วันแล้ว” “มันเห็นแมวตัวแล้วตัวเล่าถูกรับเลี้ยงและไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ มันเลยสงสัยว่าทำไมไม่มีใครรับมันไปอยู่ด้วยสักที จนมันเริ่มรู้สึกเครียดและเบื่อ อาการเหล่านี้เริ่มส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจของมัน”     Honey อายุ…

สัตว์เลี้ยงหายเป็นเรื่องปกติที่เราพบเจอได้ทุกวัน โดยส่วนมากตัวที่ประกาศตามหากันก็จะเป็นหมาหรือแมว ซึ่งเป็นสัตว์ที่คนส่วนใหญ่เลี้ยงกัน แต่ถ้าคุณได้ลองไปใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยขอนแก่น คุณจะพบว่าการเจอสัตว์หายแต่ละที เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะมันมีแต่สัตว์แปลกๆ ทั้งนั้น     โดยจากการที่คุณ Mancharee Sangmueang ได้เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในช่วงเวลาแค่ 1 ปีเธอได้เห็นประกาศตามหาสัตว์หายมากมายจากกลุ่มเฟซบุ๊ก KKU Group อันที่ประกาศตามหาหมาหรือแมวมันก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอก ทว่าบางตัวที่ตามหากันนั้นเป็นสัตว์ที่คาดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันง่ายๆ ทั้งนั้นเลย แถมพวกมันยังถูกเจอในที่ที่มีคนอยู่เยอะด้วย จนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยหรือสวนสัตว์ย่อมๆ กันแน่…มีตัวอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย   ห๊ะ!! วัวหลุดมาถึง eve and boy เลยเหรอ!?   เอ่อ…ปกติหมูป่ามันเจอกันง่ายๆ ขนาดนี้เชียวเหรอ?   ตัวที่หาในป่ายังไม่ค่อยเจออย่างชูการ์ไกลเดอร์ก็มา   น้องลูซี่ชื่อน่ารักดีนะ แต่หน้าตาน่ากลัวจังเลย   เจอน้องแล้ว รีบกลับไปหาเจ้าของเถอะ   ถ้าไปเดินเล่นที่สนาม มข. เราอาจจะเจอเม่นบ้างก็ได้นะ   ชักไม่แน่ใจจริงๆ แล้วสิว่าที่นี่เป็นสวนสัตว์ในคราบมหาวิทยาลัยรึเปล่า   เจองูกันถี่จริงๆ นะเนี่ย   อีกแล้ว!? แปลว่าต้องเจอเจ้าลิงกันบ่อยมากๆ…

วันที่ 2 เดือนมกราคม ปี 2019 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใน Delaware Humane Association เจอสุนัขถูกทิ้งเดินไปเดินอยู่นอกศูนย์พักพิงของพวกเขา วันนั้นพนักงานได้พาสุนัขในศูนย์ออกไปเดินเล่น แต่อยู่ดีๆ น้องหมาก็เห่าเหมือนมันเห็นบางอย่าง เมื่อพนักงานตามไปดู พวกเขาก็ได้พบกับสุนัขตัวหนึ่งที่เดินวนเวียนอยู่แถวนั้น     เจ้าหมาตัวนั้นผอมมาก แต่มีโน้ตที่เสียบกับสายปลอกคอของมัน ระบุว่า “โปรดช่วยดูแล Sky มันอายุ 6 ขวบ มันเป็นมิตรมากๆ ฉันไม่สามารถดูแลมันได้ เพราะฉันได้กลายเป็นคนไร้บ้านแล้วและไม่สามารถหาอาหารให้มันได้ มันไม่ได้ป่วย แต่แค่หิว ได้โปรด หาบ้านให้มันด้วย”     พนักงานจึงพา Sky เข้าไปในศูนย์และเอาอาหารให้มันกิน และเมื่อสัตวแพทย์ได้ตรวจร่างกายของมัน ก็พบว่ามันอายุ 5-6 ปี ตามที่เขียนไว้ในโน้ต Kerry Flanagan Bruni ผู้อำนวยการของ Delaware Humane Association บอกว่า “ดูเหมือนว่ามันไม่ได้กินอาหารในปริมาณที่เหมาะสมมานาน”     นอกจากจะมีน้ำหนักน้อยและมีหมัดเล็กน้อยแล้ว Sky ไม่มีปัญหาสุขภาพอย่างอื่น มันแข็งแรงดี ชอบเข้าสังคม และชอบให้ผู้คนมากมายอยู่รอบตัว…

นุ้งแมวจรจัดวัย 6 สัปดาห์ตัวหนึ่ง ถูกพาเข้าไปในศูนย์พักพิงสัตว์ท้องถิ่น ด้วยสภาพขาที่ยาวผิดปกติข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นความผิดปกติตั้งแต่เกิด ต่อมาเมื่อ Tara Kay ผู้ก่อตั้ง The Odd Cat Sanctuary ในเซเลม รัฐแมสซาชูเซตส์ ได้รู้จักมิ้วน้อยตัวนี้ เธอจึงติดต่อไปยังศูนย์พักพิงดังกล่าว และเสนอรับมิ้วน้อยมาอยู่ในการดูแล     Tara บอกว่า “มันอายุ 6 สัปดาห์ มันเกิดมาพร้อมขาหลังที่พิการ ขาหลังข้างหนึ่งของมันจึงยาวผิดปกติ และอีกข้างไม่มีนิ้วเท้าเลย มีแต่ตอ” Joelene หนึ่งในอาสาสมัครของ The Odd Cat Sanctuary ได้ไปรับมิ้วน้อยจากศูนย์พักพิง และพามันไปยังบ้านหลังใหม่ ซึ่งตลอดการเดินทาง มิ้วน้อยซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอและเพอร์เสียงดังมาก     พวกเขาตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่า Millie แม้ขาหลังจะผิดปกติทั้ง 2 ข้าง แต่เจ้าเหมียวไม่ยอมให้อะไรมาหยุดยั้งมัน และเลือกที่จะใช้ชีวิตเหมือนแมวปกติ     เมื่อมาถึง Odd Cat Sanctuary มิ้วน้อยเริ่มสำรวจรอบๆ ห้อง ก่อนจะปีนขึ้นบนไหล่ของ Tara เพื่อคลอเคลีย แน่นอนว่าไม่มีใครต้านทานลูกแมวขี้อ้อนตัวนี้ได้…

เมื่อไหร่ก็ตามที่ Jordan Ireland นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Concordia University Wisconsin กลับบ้านที่โคโรลาโด เธอมักจะใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงที่บ้านเสมอ แต่เมื่อเธอกลับบ้านในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เธอเห็นพฤติกรรมของสองพี่น้องขนปุย Pumpkin กับ Maggie เปลี่ยนไปเล็กน้อย     Maggie เป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดูเดิ้ลขนาดเล็ก มันเข้ามาอยู่ในบ้านตอนที่ Ireland จบมัธยม ซึ่งตั้งแต่มันเข้ามา เจ้าเหมียว Pumpkin ก็เปลี่ยนไป ตอนแรก Maggie กับ Pumpkin เกลียดกันมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากกว่าเพื่อน และชอบเล่นสนุกด้วยกันเสมอ     แม้จะรู้ว่าทั้งคู่สร้างความสนิทสนมในช่วงที่เธอไม่อยู่บ้าน แต่ Ireland ไม่รู้เลยว่าพวกมันสนิทกันมากแค่ไหน จนกระทั่งล่าสุด หญิงสาวบังเอิญเดินเข้าไปเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของพวกมัน แน่นอน เธอไม่พลาดที่จะบันทึกช่วงเวลานั้นเอาไว้ด้วย และได้โพสต์ในทวิเตอร์ว่า “นี่หมาฉันลูบแมวหรอ? แล้วแมวฉันกอดหมาด้วยหรอ?”       จากคลิปข้างบนที่ Ireland แอบถ่ายไว้จะเห็นว่า Maggie เอามือไปลูบหลังน้องเหมียว และแทนที่ Pumpkin จะเคืองเหมือนแมวทั่วไปเวลาโดนรบกวน แต่มันกลับลุกขึ้นและใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดเพื่อนหมาอย่างอบอุ่น เพียงแค่สัปดาห์เดียวมีผู้เข้าชมคลิปดังกล่าวกว่า 1 ล้านครั้ง และถูกแชร์ในสื่อโซเชียลต่างๆ หลายพันครั้ง…

หมีที่ชื่อ Otto ได้รู้จักกับความสุขที่แท้จริงหลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือออกมาจากกรงคอนกรีตโดย Four Paws International เมื่อปี 2016 และได้ย้ายไปอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่เยอรมนี     ทันทีที่ Otto ไปถึง Bear Sanctuary Müritz ท่าทางที่แสดงออกอย่างธรรมชาติของมันบ่งบอกว่ามันรู้ว่าได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว     ที่บ้านใหม่นี้ Otto ไม่ได้อยู่ลำพัง แต่มันมีเพื่อนอีกตัวชื่อ Mascha ทั้งคู่เคยถูกขังในกรงเดียวกัน และได้รับการช่วยเหลือออกมาพร้อมกัน ตอนนี้พวกมันกำลังสำรวจบ้านใหม่และแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน     เวลาผ่านไป Otto จะเริ่มชินกับสิ่งแวดล้อมใหม่ แต่แล้วเมื่อฤดูหนาวแรกนับตั้งแต่มันถูกช่วยออกมามาถึง เจ้าหมีดูสับสนอย่างเห็นได้ชัด อย่างที่รู้กันว่าหมีที่ถูกขังเป็นเวลานาน พวกมันมักจะสูญเสียสัญชาตญาณธรรมชาติไป มันเลยไม่รู้จะตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอย่างไร     ดังนั้น เมื่อถึงฤดูหนาวและหิมะตก Otto จึงพยายามอย่างดีที่สุดในการเรียนรู้ที่จะผ่านฤดูหนาวนี้ไป เช่นเดียวกันพวกเขาทุกคน และวิธีปรับตัวเข้ากับฤดูหนาวของ Otto คือ การนอนราบลงไปบนหิมะ ภายใต้แสงแดดอ่อนๆ นี่เป็นวิธีการที่มันคิดค้นด้วยตัวเอง และดูมันมีความสุขมากซะด้วยสิ     ทาง Four Paws บอกว่า “มันกำลังทำเตีียงแสนสบาย เพื่อเพลิดเพลินกับแสงอาทิตย์ในหน้าหนาวที่หาได้ยาก” นับตั้งแต่นั้นมา Otto ก็ได้เรียนรู้การจำศีลในฤดูหนาวอย่างที่หมีทั่วไปควรทำ แม้ว่าการได้สัมผัสหิมะจะเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับ Otto แต่มันเรียนรู้ที่จะปรับตัวได้เป็นอย่างดี ทำเอาผู้ที่ช่วยมันไว้รู้สึกอุ่นใจไปด้วย…

วันนี้เหมียวพาเพื่อนๆ ไปดูความน่ารักของสัตว์โลกที่มีชื่อว่าอัลปาก้า พวกมันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอูฐ แต่พวกมันมีขนาดเล็กกว่า ขนฟูกว่า และถ่ายรูปขึ้นกว่าสัตว์ในตระกูลเดียวกันด้วยนะ สำหรับอัลปาก้านี้ พวกมันมีถิ่นกำเนิดในประเทศเปรู มีดวงตากลมโตและมีรอยยิ้มอันแสนหวานที่ทำให้ใจคุณละลายได้ และน่ารักน่ากอดจนทำให้วันแย่ๆ ของคุณกลายเป็นวันที่สดใสได้   1. เฮ้!! เจ้าพวกลามะ ออกไปจากถิ่นพวกตรูเลย อย่ามาตีเนียน   2. มาจ่ะ เข้ามาเลยจ่ะ พร้อมจุ๊บทุกคนแล้ว   3. เซลฟี่เก่ง แย่งซีนเก่งกว่า   4. คือจะถ่ายหมู ไม่ได้จะถ่ายแกเล้ยย เจ้าอัลปาก้า   5. นี่คือนุ้ง Simona เองจ้า นางยิ้มเก่งเด้อ   6. ใครคิดจะแอบถ่ายรูปอัลปาก้าตอนเผลอ บอกเลยไม่ได้ผลหรอก…   7. ของจริงไม่พูดมาก เจ็บคอ   8. ดูหน้าแม่สิ นางภูมิใจมากที่มีลูกให้พ่อแม่ได้   9. วันนี้น้องติดโบว์จ้ะ เพราะต้องถ่ายรูปครอบครัว   10. เนี่ย…

แมวเหมียว Rascal ใช้เวลาแทบทั้งชีวิตอยู่กับครอบครัวเพียงครอบครัวเดียว จนกระทั่งมันแก่เจ้าเหมียวก็ยังสุขภาพดี จะมีก็เพียงแค่หูที่หนวกไปแล้วเท่านั้น ทว่าปัญหาของมันก็เริ่มขึ้นเมื่อทาสคนเก่าของมันย้ายบ้าน ทำให้เจ้าแมวที่เคยชินกับบ้านหลังเก่าปรับตัวไม่ทัน และมักมีอุบัติเหตุในบ้านใหม่เสมอ     สุดท้ายเจ้าแมวก็ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ ด้วยเหตุผลว่า “มันแก่เกินไปและชอบมีอุบัติเหตุในบ้านเป็นประจำ” ทำให้เจ้าแมวลำบากหนักขึ้นไปอีก Rascal ดูสับสนมากเมื่อถูกเจ้าของทิ้งไว้ คนที่นั่นเข้าใจเจ้าแมวดี เนื่องจากลำพังแค่บ้านใหม่มันก็ปรับตัวไม่ได้แล้ว นี่เล่นพามันมาที่ใหม่โดยที่ไม่มีคนที่มันคุ้นเคยอยู่เลย มันจึงงงหนักเข้าไปอีก     เมื่อเจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิงได้รู้ว่ามันอายุตั้ง 20 ปีแล้ว พวกเขาก็ร้อนใจใหญ่เลยที่แมวแก่ขนาดนี้ถูกทิ้ง เนื่องจากมันน่าจะเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกไม่นานแล้ว และพวกเขาก็ไม่อยากให้เวลาอันน้อยนิดของมันต้องจบลงที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันหาบ้านใหม่ให้มันในทันที โดยโพสต์เรื่องของมันในเพจเฟซบุ๊กว่า “Rascal เป็นแมวแก่ที่อยู่กับครอบครัวมาเกือบทั้งชีวิต เราจึงเข้าใจว่าทำไมมันรู้สึกสับสน เราหวังว่าคุณจะช่วยกันแชร์โพสต์นี้ต่อไป เพื่อที่ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกและคืนสุดท้ายที่มันจะได้อยู่ในศูนย์พักพิง”     โชคดีที่โพสต์ของพวกเขาช่วยเจ้าแมวได้สำเร็จจริงๆ คลิปวิดีโอที่พวกเขาโพสต์ให้มันถูกแชร์ต่อไป และมีคนเข้าชมกว่า 200,000 ครั้ง ทำให้มีคนมากมายรับรู้เรื่องของมัน ในวันต่อมา Meredith Bauer ที่ได้เห็นคลิปของมันก็มารับมันไปเลี้ยง ทำให้เจ้าเหมียวไม่ต้องทนใช้ชีวิตตามลำพังในศูนย์พักพิงนาน     ครั้งนี้ Rascal สามารถปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้เป็นอย่างดี มันไม่สร้างเรื่องที่บ้านใหม่เลย และก็ยังเข้ากับคนในครอบครัวใหม่ได้ดีมากด้วย ใช้เวลาเพียงนิดหน่อยมันก็ยอมกอดกับ Bauer…

สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคน พวกมันไม่ใช่แค่เพื่อนแก้เหงา แต่เปรียบเสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว ดังนั้นถึงจะต้องลำบาก หญิงสาวก็ไม่ลังเลที่จะต้องช่วยชีวิตมัน Elizabeth Ann Entenman สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างจากเจ้า Pearl หมาลาบราดอร์สีดำของเธอ มันคือชิ้นเนื้อเล็กๆ สีแดงที่โผล่ขึ้นมาในปากของเจ้าหมาโดยไม่มีที่มาที่ไป เธอสังหรณ์ใจไม่ดีตั้งแต่เห็นมันครั้งแรกแล้ว แต่ก็พยายามทำเป็นไม่สนใจระหว่างที่รอผลตรวจจากสัตวแพทย์อยู่ ทว่าต่อมาเธอก็ได้รับแจ้งว่ามันเป็นมะเร็งจริงๆ     Elizabeth จึงจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ว่าเธอจะพยายามยืดชีวิตมันโดยการพาเจ้าหมาไปรักษา หรือว่าจะเลี้ยงมันให้มีความสุขที่สุดในเวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด…แต่ด้วยความที่เธอรักมันมาก เธอจึงเลือกรักษามัน Pearl เข้ามาในชีวิตของเธอตั้งแต่ปี 2010 ตอนนั้นแม่ของเธอเองก็กำลังป่วยเป็นมะเร็งปอด และเธอก็มีเจ้าหมาที่คอยอยู่เป็นกำลังใจให้ นอกจากเรื่องการจากไปของแม่แล้ว ตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา มันก็คอยเติมเต็มเธอเสมอ เธอดีใจมากที่รับมันมาจากเจ้าของเก่าที่บอกว่ามันบ้าพลังและขี้อ้อนเกินไป เพราะสำหรับเธอแล้วมันเป็นคู่หูที่เข้ากันได้อย่างลงตัว     อย่างไรก็ตาม ถึง Elizabeth ตัดสินใจจะช่วยมัน แต่เธอก็ไม่ได้มีเงินเก็บมากมายที่จะใช้รักษาเจ้าหมา เธอจึงต้องยอมเป็นหนี้บัตรเครดิตเพื่อให้เจ้าหมาหายดี ค่ารักษาของมันก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย เธอต้องจ่ายค่าตรวจ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่ารับคำปรึกษา และค่าอื่นๆ อีกมากมาย ถึงค่าใช้จ่ายบางอย่างจะไม่แพง แต่เมื่อต้องเข้ารักษาหลายต่อหลายครั้ง รวมแล้วก็แพงจนเธอท้อใจ เธอจ่ายค่ารักษาให้มันไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันเธอมีหนี้รวมเกือบ 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ…

แมวน้อยถูกทิ้งโชคดีมากที่มีทาสคนใหม่รับเลี้ยงต่อแทบจะในทันที และยังได้ไปเจอเพื่อนแมวอีกตัวในบ้านหลังใหม่ด้วย พวกมันทั้ง 2 ตักลายเป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่แรกเจอเลย     มิ้วน้อยตัวนี้ถูกเอามาทิ้งไว้ในสถานดูแลเด็กที่ Cathy Blouin ทำงานอยู่ เธอรู้เรื่องมันจากคนที่มารับลูก จากนั้นจึงตามเสียงมันไปจนเจอตัวอยู่ในลานจอดรถ มันร้องดังมากเพราะไม่รู้ต้องทำตัวยังไง และแน่นอนว่ามันพยายามจะวิ่งหนีเธอด้วย แต่ Blouin ก็ไวพอจะคว้าตัวมันไว้ได้ และพามันกลับไปเลี้ยงไว้ที่บ้านด้วย     เธอตั้งชื่อมันว่า Whippet ในตอนแรกเจ้าแมวส่งเสียงขู่เธอไม่หยุดเลย แต่พอผ่านไปสักพักมันคงเห็นว่าเธอไม่เป็นอันตรายต่อมัน มันจึงไม่ระแวงเธออีก พอเธอเอาข้าวเอาน้ำให้มันกิน และอาบน้ำให้มันแล้ว เจ้าแมวน้อยก็เปิดใจให้ครอบครัวใหม่เต็มที่ มันสบายใจจนหลับปุ๋ยไปบนไหล่ของเธอเลย     แม้ว่าการได้บ้านใหม่ทันทีจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับมัน แต่ดูเหมือนเจ้า Whippet จะยินดีกว่าที่มันได้เจอพี่แมวขาวดำ Oreo อยู่ในบ้านด้วย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน Whippet ก็เข้าเอาหน้าไปถูไถ Oreo ก่อนเลย ส่วนพี่แมวเองก็คงเห็นน้องเป็นมิตรดี มันจึงช่วยดูแลโดยการเลียขนให้น้องเช่นกัน     ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Whippet ก็ตาม Oreo เหมือนเป็นเงาเลยทีเดียว มันจะตามพี่แมวไปทุกที่ และพยายามมีส่วนร่วมกับทุกสิ่งที่พี่แมวทำ เจ้า Oreo เองก็ดูจะชอบที่มันทำแบบนั้น แถมมันยังช่วยสอนวิถีแมวให้กับน้องเล็กด้วย…

การที่แมวไม่ได้อยู่หน้าประตูทุกวันเพื่อรอคุณกลับบ้านหรือไม่ได้ส่ายหาง ไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่รักคุณ แต่อาจเป็นเพราะพวกมันไม่รู้แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่อคุณอย่างไร อย่างไรก็ตาม Finn ไม่เหมือนแมวทั่วไป เมื่อเจ้าของของมันต้องไปเกณฑ์ทหารและจากบ้านไปนาน มันคิดถึงเขามากๆ มันรอเขากลับมาทุกวัน และมันไม่อายที่แสดงความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของ     Finn รักและผูกพันกับเจ้าของมากๆ ถึงขนาดที่ว่าวันที่เจ้าของกลับมา มันเริ่มร้องเมี๊ยวๆ และสนใจประตูมากเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่มันยังไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงเจ้าของด้วยซ้ำ เจ้าเหมียวดูตื่นเต้นมากๆ มันร้องเมี๊ยวๆ พร้อมกับเดินวนเวียนอยู่ที่ประตูตลอดเวลา ขณะเดียวกัน หญิงสาวที่ถ่ายคลิปก็ถามมันซ้ำๆ ว่า “รู้หรอว่าเขาจะกลับมา?”     สักพักหญิงสาวถามเจ้าเหมียวอีกว่า “ลูกได้ยินเสียงพ่อมั้ย? ใคร ใครมาบ้านกันนะ?” เท่านั้นหและ Finn วิ่งไปที่ประตู แล้วยืน 2 เท่า พร้อมกับพยายามใช้อุ้งเท้าเปิดประตู แต่ก็นั่นแหละ มันเปิดประตูไม่ได้ สุดท้ายมันกลับถอยออกมานั่งรถเหมือนเดิม… และแล้วไม่กี่นาทีหลังจากหน้า ประตูก็ถูกเปิดออก พร้อมการปรากฏตัวของมนุษย์คนโปรดของเจ้าเหมียว     นี่คงเป็นการเซอร์ไพรส์ที่พิเศษที่สุดสำหรับ Finn มันเดินวนอยู่ที่เท้าของพ่อ และพยายามจะบอกพ่อว่ามันคิดถึงพ่อมากแค่ไหน     หลังจากที่พ่อวางของเสร็จ เขาก็หันไปหา Finn แล้วอ้าแขนออกพร้อมถามเจ้าเหมียวว่า “ว่าไงเพื่อน” เท่านั้นแหละ…

การดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดีเป็นความรับผิดชอบที่เจ้าของทุกคนควรมี แม้ว่าคุณจะบอกว่าคนทุกคนมีวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงในแบบของตัวเอง แต่คนรอบข้างก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยตัดสินได้ว่าคุณเลี้ยงดูพวกมันดีจริงหรือไม่ ในประเทศไทยเราอาจทำได้แค่ช่วยให้คำแนะนำเจ้าของที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ดี แต่ถ้าเป็นในต่างประเทศ การดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ดีอาจทำให้คุณถูกเชิญขึ้นศาล และไม่ได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงอีก เหมือนอย่างนาย Martin Harrison จากเขตดอร์เซต ประเทศอังกฤษ เขาเป็นเจ้าของของ Brucie และ Lucy ซึ่งอยู่ด้วยกันมา 2 ปีแล้ว     คนในท้องที่ที่เคยเห็นเขากับเจ้าหมา แจ้งไปยังกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ว่าเขาดูแลเจ้าหมาได้ไม่ดี เพราะมันอ้วนเหมือนกับถังน้ำเลย ทำให้มันสุขภาพย่ำแย่และเหนื่อยง่ายมาก เมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่าเจ้าหมาทั้ง 2 ตัวอ้วนตั๊บอย่างที่ได้ยินจริงๆ จึงทำการตักเตือนเขาไปพร้อมแนะนำวิธีลดน้ำหนักพวกให้   เจ้า Brucie   กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ชี้แจงว่าก่อนที่พวกมันจะไปอยู่กับ Harrison พวกมันน้ำหนักแค่ประมาณ 21 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งเป็นน้ำหนักที่ดีสำหรับสุนัขสตัฟฟอร์ดชายร์บูลล์เทอร์เรีย แต่ตอนที่พวกเธอได้รับแจ้งไปไปตรวจสุขภาพเจ้าหมาอีกที พวกมันก็น้ำหนักเกินเกณฑ์ไปจนถึงประมาณ 33.5 กิโลกรัมแน่ะ   อ้วนเกินไปจนน่าเป็นห่วง   Harrison ให้เหตุผลที่พวกมันอ้วนว่าแม่ของเขาที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ชอบให้ข้าวพวกมันกินเยอะ รวมทั้งของที่ทำให้พวกมันอ้วนอย่างชีสและพุดดิ้งข้าวด้วย แม้ว่าเขาจะพยายามซ่อนอาหารหมาจากเธอแล้วก็ตาม แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หลังจากที่ RSPCA มาตรวจสอบเขาดูซ้ำอีก 2 ครั้งในรอบหลายเดือนต่อมา เจ้า Brucie…

ถ้าคุณมีลูกแฝดหรือลูกที่อยู่ในวัยไล่เลี่ย ควรมั่นใจว่าให้ความรักกับพวกเขาเท่าเทียมกัน ไม่รักใครคนใดคนหนึ่งมากกว่า หรือสนใจแค่ใครคนใดคนหนึ่ง เพราะจะทำให้อีกคนน้อยใจเอาได้ พี่น้องในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่มนุษย์เท่านั้น แต่สัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขเอง พวกมันก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกคนหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นพ่อแม่รักลูกยังไง มันก็หวังที่จะได้รับความรักแบบนั้นด้วยเหมือนกัน     และนี่คือคลิปน่ารักๆ เมื่อคุณพ่อคนหนึ่งเล่นกับลูกน้อย โดยการอุ้มลูกโยนขึ้นกลางอากาศ เด็กน้อยดูจะชอบมาก หัวเราะใหญ่เลย เดี๋ยว… อย่าลืมว่าในบ้านนี้ไม่ได้มีลูกน้อยแค่คนเดียวนะ แต่มีลูกอีกตัวซึ่งมี 4 ขา และมีขนปุย มันเฝ้ามองพ่อเล่นกับน้อง มันเห็นน้องมีความสุขตอนที่ลอยอยู่กลางอากาศ เท่านั้นแหละ มันเกิดความรู้สึกอิจฉาจนอยากให้พ่อทำกับมันแบบนั้นบ้าง เจ้าหมาเลยยืนขึ้นแล้วยื่นมือขึ้นไปหาพ่อ ราวกับจะบอกว่า “ตาหนูบ้าง ตาหนูบ้าง”   อุ้มหนูด้วยพ่อ หนูอยากลอยได้เหมือนน้อง   นี่ก็ลูกเหมือนกัน พ่อจึงไม่ปฏิเสธ และได้อุ้มลูกน้อย 4 ขา จับโยนเหมือนลูกคนเล็กเมื่อกี้ ทำเอาเจ้าตูบมีความสุขใหญ่เลย ไม่รู้ว่าแฮปปี้ที่พ่ออุ้มโยน หรือแฮปปี้ที่ได้เท่าเทียมน้องกันแน่ แหม่ ถือว่าเป็นหมาที่อยู่เป็นนะเนี่ย น้องได้อะไร มันต้องได้ด้วย พ่อรักน้องยังไง พ่อต้องรักมันแบบนั้นด้วย เอิ่มม แล้วก็หวังว่าแกจะเป็นพี่ที่รักน้องด้วยนะ เจ้าตูบ   วู้วว…

ชาวเกษตรกรทั่วโลกสามารถบอกได้ว่าสัตว์ในฟาร์มนั้นสร้างความบันเทิงได้มากกว่าที่คิด เพราะพวกมันเป็นสัตว์ตลก ซึ่งส่วนใหญ่ยอมรับว่าไม่มีสัตว์ชนิดไหนที่ฮาได้เหมือนแพะ อย่างคลิปวิดีโอข้างล่างนี้ เผยให้เห็นลูกแพะน้อย 3 ตัว กำลังไปรบกวนพี่ม้าที่กำลังพักผ่อนอยู่     เมื่อเจ้าของเห็นความซุกซนของเหล่าแพะน้อย เขาแทบจะกลั้นหัวเราะไม่ได้ และไม่อยากเข้าไปห้ามด้วย เลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายช่วงเวลาสุดน่ารักนั้นเอาไว้ เพื่อเอามาเผยแพร่ให้เราได้ดูกันนี่แหละ ม้าที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้คือ Mr. G มันกำลังนอนลงเพื่อพักผ่อนระหว่างวัน     แต่ดูเหมือนว่าลูกแพะน้อยที่อยู่ข้างๆ จะมีแผนการที่ต่างออกไป พวกมันกระโดดไปมารอบๆ ตัวพี่ม้า แถมเตะฝุ่นจนคลุ้งไปหมด เท่านั้นยังไม่พอ พวกมันยังพยายามปีนขึ้นหลังพี่ม้าด้วย แต่ตอนนั้น Mr. G กำลังง่วงไงและมันไม่คิดถือสาเด็กๆ ด้วย เลยนอนนิ่งให้ลูกแพะเล่นบนตัวตามใจชอบ     น่าจะเป็นเพราะพฤติกรรมที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงนี่แหละ ที่ทำให้คลิปนี้เป็นคลิปที่ตลกมากๆ พี่ม้านิ่งแบบนิ่งเกิ๊น ขณะที่ลูกแพะก็ซนเกิ๊น พอเห็นว่า Mr. G ไม่บ่น น้องๆ เลยเล่นกันใหญ่เลย เกรงใจสักนิดก็ไม่มี แม้แพะน้อยจะขึ้นไปวิ่งเล่นบนตัว Mr. G ก็ไม่มีท่าทีตอบสนองใดๆ หรือบางทีมันอาจจะกำลังรู้สึกดีที่แพะเหยียบหลัง เพราะรู้สึกเหมือนกำลังถูกนวดเบาๆ     หลังจากคลิปน่ารักๆ นี้ถูกอัปโหลดใน Rumble ปรากฏว่ามีคนเข้าไปดูมากกว่า…

ทุกๆ วัน Will Zweigart ผู้ก่อตั้ง Flatbush Cats ศูนย์จับแมวไปทำหมันในบรู๊คลิน นิวยอร์ก กับอาสาสมัครจะไปให้อาหารแมวจรจัดและแมวที่พวกเขาทำหมันแล้ว เพื่อติดตามและดูแลพวกมัน ถ้าวันไหนเจอแมวที่เป็นมิตร พวกเขาก็จะพามันออกจากชีวิตข้างถนนและหาบ้านที่แสนอบอุ่นให้พวกมัน ล่าสุด แมวเฟรนด์ลี่ตัวหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นในย่านที่พวกเขาไปให้อาหาร     ทันทีที่พวกเขาไปถึง เจ้าเหมียวตัวนั้นก็วิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นมันก็ร้องเมี๊ยวๆ พร้อมยื่นหัวเข้าไปหามือผู้ช่วยเหลือเพื่ออ้อนขอความรักและความสนใจ Will บอกว่า “ผมเห็นขนของมันสกปรกมาก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะอย่างที่รู้ว่าแมวที่ถูกทิ้งจะมีความเครียดสูง จนละเลยการทำงานความสะอาดตัวเอง”     เจ้าเหมียวไม่มีปลอกคอและกำลังหิวโหย ที่สำคัญตอนนั้นสภาพอากาศในนิวยอร์กค่อนข้างเย็น ดังนั้น Will จึงอยากพามันออกจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ ขณะเดียวกัน เพื่อบ้านในละแวกนั้นบอกว่าเจ้าเหมียวตัวนี้อยู่ข้างนอกมาหลายสัปดาห์แล้ว มันต้องเผชิญกับความหนาว ไม่มีอาหาร และไม่มีที่พักที่ปลอดภัย จริงๆ แล้ว ต่อให้อากาศไม่หนาว Will ก็จะช่วยมัน เพราะที่มันวิ่งมาหาเพราะมันต้องการความช่วยเหลือ เมื่อมันอ้อนขอขนาดนี้ มันก็สมควรได้ในสิ่งที่ต้องการ     Will ตัดสินใจวางกับดักให้เจ้าเหมียวเหมือนที่ทำกับแมวตัวอื่นๆ คือปกติแล้ว แมวจะไม่ยอมเข้ามาในกรงง่ายๆ เพราะพวกมันกลัว แต่สำหรับเจ้าเหมียวเฟรนด์ลี่ตัวนี้ มันวิ่งเข้ามาหา Will และอาสาสมัครด้วยตัวเอง ดังนั้น เมื่อมันเห็นกับดัก…

Kayleen Campbell ต้องเผชิญหน้ากับวันที่ยากลำบากเป็นประจำในฐานะสัตวแพทย์ในห้องฉุกเฉิน แต่เธอมีความสุขในการทำงานเสมอเพราะเหล่าคนไข้ขนปุยทั้งหลาย สุนัขหรือแมวที่ Campbell เจอ ส่วนใหญ่อยู่ในภาวะเสี่ยง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกมันไม่ต้องการความรักหรือความสนใจ     ล่าสุด Campbell ต้องเจาะเลือดให้หมาชราตัวหนึ่ง เธอเล่าว่า “เราต้องระงับการไหลของเลือดจากหลอดเลือดดำหลังจากทำการเจาะเลือด” “แต่เจ้าหมาแก่ผู้น่ารักตัวนี้คิดว่าฉันมาหามันเพื่อกอด มันเลยดูไม่กลัวและตื่นเต้นเมื่อฉันเดินเข้าไปหา นี่คือเหตุผลที่ทำไมฉันถึงรักงานของฉัน”     Campbell อธิบายเพิ่มเติมว่า “เส้นเลือดที่อยู่ในส่วนคอเป็นบริเวณที่เราสามารถเจาะเลือดได้อย่างรวดเร็วและแน่นอน” “อย่างไรก็ตาม ตอนที่ฉันเข้าไปจับคอของเจ้าหมาวัย 12-13 ปีตัวนี้ มันไม่เข้าว่าฉันทำแบบนั้นเพื่อปิดหลอดเลือด มันเลยเอนหลังมาพิงฉัน เพื่ออ้อนขอความรักและความสนใจ ซึ่งฉันเองก็ยินดีจะให้สิ่งที่มันต้องการด้วยความเต็มใจ”     นี่ไม่ใช่พฤติกรรมที่พบได้บ่อย เพราะอย่างที่เรารู้ว่าสัตว์เลี้ยงไม่ชอบไปโรงพยาบาล ยิ่งถ้าได้อยู่ในมือหมอแล้ว มันจะไม่ยอมอยู่นิ่งๆ แน่นอน จริงๆ แล้ว นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ Campbell กอดสัตว์ระหว่างทำงาน แต่เพื่อนร่วมงานได้แอบถ่ายรูปขณะที่เธอทำแบบนั้นกับคนไข้ทุกเกือบทุกตัว เพื่อนๆ บอกว่าเธอมักจะมีความสุขกับการกอดสัตว์เสมอ และเหล่าสัตว์เองก็ต้องการอ้อมกอดของเธอเหมือนกัน     Campbell  “สัตว์ที่มาโรงพยาบาลมักจะมาพร้อมกับความหวาดกลัว ดังนั้น ฉันจึงให้ในสิ่งที่พวกมันต้องการเท่าที่จะให้ได้ โดยหนึ่งในสิ่งที่พวกมันต้องการคือการกอดเพื่อปลอบใจ” “แม้ว่าตอนแรกฉันแค่จะกอดปลอบใจ แต่เวลาเห็นพวกมันมีความนสุข…

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ทำให้เราประหลาดใจได้เสมอ ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม อย่าง Kazou เหมียวที่ตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง แต่มันกลับมีพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับสภาพร่างกายอย่างสิ่้นเชิง Kazou ถูกพบตอนที่เป็นเพียงลูกแมวตัวน้อย ในสภาพที่ตาติดเชื้ออย่างรุนแรงจากโรคไข้หวัดแมว น่าเศร้าที่คุณหมอไม่สามารถรักษาตามันไว้ได้ เลยต้องผ่าตัดตาออกทั้ง 2 ข้าง     การเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่มีตาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ Kazou แต่มันไม่ยอมให้ความบกพร่องนี้มาหยุดมันได้ มันเลือกที่จะก้าวข้ามทุกอุปสรรคและใช้ชีวิตเหมือนแมวปกติทุกอย่าง     Kazou เป็นแมวที่มีความมั่นใจ ขี้สงสัย และกล้าหาญมาก นอกจากชอบไล่ล่าผึ้งแล้ว มันยังชอบออกไปนอนแผ่พุงในสนามหญ้า และสัมผัสแดดอ่อนๆ ที่ส่องลงบนท้องของมัน     Kazou ใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่มีปัญหาอะไรเลย แม้จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่รอบตัว แต่มันรับทุกอย่างได้ผ่านความรู้สึกและการสัมผัส     ทุกคนที่ได้พบ Kazou ต่างรู้สึกทึ่งกับพฤติกรรมของมัน ในขณะที่ครอบครัวเจ้าเหมียวเองก็ปฏิบัติกับมันเหมือนเหมียวทั่วไป เพื่อไม่ให้มันรู้สึกถึงความแตกต่าง     การที่เหมียวตาบอกได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกวันนี้ ต้องขอบคุณครอบครัวของน้องที่ให้โอกาสมันในวันนั้น และเลี้ยงมันด้วยความเข้าใจ เพื่อนๆ สามารถติดตามชีวิตนุ้งแมวไร้ตาตัวนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก Kazou – das Blindkatzi   .   ดอกไม้โปรดของพี่เค้าเลยล่ะ…

แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังและได้รับความนิยมมาก จึงไม่แปลกเลยที่คุณจะมีแฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์อยู่แทบทุกที่ แต่รับรองว่าคุณต้องยังไม่เคยเจอแฟนคลับที่เป็นหมาแน่ๆ เจ้าหมาที่ว่าก็คือเจ้า Remus หมาที่สามารถเข้าใจคาถาต่างๆ จากหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ และสามารถทำตามได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งฉลาดและน่ารักเลยล่ะ   นี่คือเจ้า Remus เปิดตัวมาคู่กับไม้กายสิทธิ์เลยทีเดียว https://www.instagram.com/p/Bir1yZ9BP4D/?utm_source=ig_embed   อันที่จริงแล้ว Remus ไม่ได้เริ่มชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วยตัวเองหรอก Anna Brisbin เจ้าของของมันต่างหากที่เป็นแฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์ตัวยง และมีของสะสมมากมาย พอมาอยู่กับเธอแล้ว เจ้าหมาก็เลยได้รับการฝึกสอนให้ทำตามคำสั่งเป็นคาถาแฮร์รี่ พอตเตอร์แทน แถมดูมันจะชอบซะด้วย เพราะมันทำตามคำสั่งอย่างคล่องแคล่วเชียวล่ะ   ผมเป็นหมาบ้านกริฟฟินดอร์ครับ https://www.instagram.com/p/BsMEYG_gsr8/?utm_source=ig_embed   เวลาร่ายคาถา Avada Kedavra ซึ่งเป็นคาถาแห่งความตายใส่ เจ้าหมาจะแกล้งตายทันที   หากร่ายค่า Engorgio ซึ่งทำให้ตัวของคนที่ถูกคาถาพองใหญ่ขึ้น Remus ก็จะกินข้าวจนพุงกาง   ถ้าลองร่ายคาถา Relashio ที่ใช้ผลักของออกไป เจ้าหมาจะวิ่งหนีโดยไม่หันหลังกลับมามองเลย   และถ้าร่ายคาถา Lumos ซึ่งสร้างแสงไฟที่ไม้กายสิทธิ…

ต้องบอกเลยว่าเจ้าแมวเหมียวตัวนี้เกิดมาเพื่อปกครองมนุษย์จริงๆ ใช้เวลาไม่นานมันก็เลื่อนขั้นตัวเองด้วยการมัดใจมนุษย์ จนกลายเป็นผู้ปกครองปราสาทโบราณไปซะแล้ว     เจ้าแมวเหมียว Sanjuro เดิมทีเป็นแมวของ Megumi Namba ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองทากาฮาชิ จังหวัดโอกายาม่า ประเทศญี่ปุ่น แต่มันพลัดหลงออกมาจากบ้านเธอตอนที่เกิดเหตุน่ำท่วมและดินถล่มเมื่อกลางปี 2018 คนที่ทำงานดูแลปราสาท Bitchu Matsuyama ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ ไปเจอตัวมันเข้าและเก็บมาดูแล จากนั้นไม่นานเจ้าแมวก็โปรยเสน่ห์ใส่คนที่ทำงานในประสาททุกคน ลามไปจนถึง Hideo Aihara ผู้อำนวยการสมาคมท่องเที่ยวที่มีอำนาจดูแลปราสาทสูงสุดเลยทีเดียว ต่อมาเขาจึงแต่งตั้งให้มันเป็นผู้ปกครองปราสาทแห่งนี้   เจ้าแมวมัดใจทุกคนรวมไปถึงผู้มีอำนาจดูแลสูงสุดจนอยู่หมัด   มนุษย์จึงมอบตำแหน่งผู้ปกครองปราสาทให้กับมัน   ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Sanjuro ก็สามารถเดินไปได้ทุกซอกทุกมุมของปราสาท ตั้งแต่ลานด้านหน้าจนถึงชั้นสูงสุดตามใจชอบ และยังมีคนคอยตามดูแลเกือบตลอดด้วย แต่มันก็ไม่ได้มานั่งกินนอนกินฟรีๆ หรอกนะ หลังจากที่มันได้รับตำแหน่ง ทางปราสาทก็ทำพิธีมอบตำแหน่งให้มันอย่างเป็นทางการ และแนะนำมันให้คนที่มาท่องเที่ยวรู้จักด้วย     ตอนนี้เจ้าแมวจึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายของปราสาท Bitchu Matsuyama ซึ่งช่วยเรียกนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี บางทีก็มีนักท่องเที่ยวที่แวะมาเพื่อเจอมันโดยเฉพาะด้วยนะ มันเป็นที่นิยมมากๆ จนพอลองเทียบรายรับช่วงก่อนที่มันเป็นผู้ปกครองปราสาท กับหลังจากมันมาช่วยเรียกแขกแล้ว มีกำไรสูงกว่ากันลิบลับเลยทีเดียว     มาเพื่อเจอเจ้าแมวเลยสินะหนุ่มน้อย   แน่นอนว่าการที่ Sanjuro ดังแบบนี้ ทำให้ Namba ซึ่งเป็นทาสคนเก่าที่กำลังตามหามันอยู่…

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ถูกโพสต์โดย Erin Crowley ที่เว็บไซต์ The Animal Rescue ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่บทเรียนเกี่ยวกับชีวิตให้เราว่า ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ทุกชีวิตคุ้มค่ากับการช่วยเหลือเสมอ นี่เป็นเรื่องราวลูกแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง มันแทบจะไม่มีโอกาสรอด แต่มันได้รับโอกาสให้เอาชนะทุกความท้าทาย จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมนุษย์และอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นอย่างเป็นมิตร     ย้อนกลับไปในเดินสิงหาคม วันที่อากาศร้อนอบอ้าว ลูกแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งถูกพบโดย Erin ในสภาพป่วยหนัก ไม่ลืมตา และแทบจะไม่หายใจ ร่างกายเล็กๆ ของมันถูกปกคลุมด้วยเห็บหมัดเกือบทุกส่วน Erin และสามีคิดว่ามันอาจจะไม่รอดจนถึงพรุ่งนี้เช้า อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้มันตายโดยไม่ลงมือทำอะไร     Erin ห่อหุ้มมิ้วน้อยด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ และพามันกลับบ้าน โดยวางมันไว้ในกระถางต้นไม้ จากนั้นพวกเขาก็เฝ้าดูว่าปาฏิหาริย์จะช่วยมันได้หรือไม่ Erin เฝ้ามิ้วน้อยตลอดทั้งคืน ป้อนอาหารให้มัน และพยายามทำให้ร่างกายของมันแข็งแรงขึ้น กระทั่ง 7 โมงเช้า พวกเขาพบว่ามิ้วน้อยยังมีชีวิตอยู่ จึงได้รีบพามันไปหาสัตวแพทย์ที่ใกล้เคียงทันที     เมื่ออยู่ในการดูแลของสัตวแพทย์ มิ้วน้อยได้รับยาปฏิชีวนะทั้งที่ตาและปอดตามเวลาที่กำหนด พ่นไอน้ำวันละ 3-4 เพื่อช่วยทำความสะอาดทางเดินหายใจ โอกาสรอดของมิ้วน้อยยังต่ำมาก แต่ Erin กับสามีคิดไว้แล้วว่ายังไงลูกแมวตัวนี้ก็ต้องมีชีวิตรอดให้ได้…

วันแรกที่ Hallee Fuqua ไปเป็นอาสาสมัครในศูนย์พักพิงสัตว์ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า เธอได้พบกับสุนัขผู้น่ารักและขี้เล่นที่ชื่อ Rambo Fuqua บอกว่า “ฉันชอบออกไปเที่ยวกับมัน”      การได้พาสุนัขเดินเล่นถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ Fuqua แล้ว เพราะทุกๆ ปี เธอได้ขอพ่อแม่เลี้ยงสุนัข แต่พวกเขาปฏิเสธตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยบอกว่าจะให้เลี้ยงต่อเมื่อเธอจบการศึกษาในวิทยาลัยแล้ว ต่อมาในปลายปี 2018 ที่ผ่าน Lance พ่อของ Fuqua ได้แอบติดต่อกับทางศูนย์พักพิงเกี่ยวกับการรับเลี้ยง Rambo ให้ลูกสาว ทางด้านศูนย์พักพิงเองก็เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะรู้ว่าพ่อจะเซอร์ไพรส์ลูก     กระทั่งวันที่ 16 ธันวาคม ปี 2018 Lance พา Rambo กลับบ้าน โดยสวมหูกวางให้เจ้าหมาด้วย จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งรออยู่ที่หน้าประตูบ้าน     เหตุการณ์ต่อจากนี้บันทึกเป็นคลิปวิดีโอ ซึ่งเป็นตอนที่ Fuqua เปิดประตูออกมา แล้วก็พบว่า Rambo มารออยู่ที่หน้าบ้าน     และนี่คือปฏิกิริยาของ Fuqua   หญิงสาวเล่าว่า “ตอนที่เปิดประตูออกมา ฉันรู้สึกสับสนมาก แต่ฉันรู้ทันทีว่านั่นคือ Rambo แล้วฉันก็รู้ด้วยว่ามันถูกรับเลี้ยง จากนั้นฉันก็เดินไปหามันแล้วนั่งกอดมันด้วยความดีใจจนไม่รู้จะพูดคำไหนออกมา นอกจากร้องไห้” Rambo…

ปกติเมื่อพูดถึงสัตว์น่ารัก เหมียวจะนึกแมวน้อยหรือไม่ก็ลูกหมา แต่หลังจากลูกวัวน้อยที่ชื่อ Lil’ Bill ปรากฏตัวขึ้นและโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล ความคิดเหมียวก็เปลี่ยนไป ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้ คู่รักนักเพาะพันธุ์โคพันธุ์ซิมเมนทอล ผ่านไปเห็นลูกวัวตัวน้อยนอนอ่อนแรงอยู่ในทุ่งหญ้า พวกเขาจึงช่วยมันเอาไว้     หลังจากดูแลลูกวัยน้อยได้ 2-3 วัน พวกเขาก็พามันไปยัง Mississippi State University College of Veterinary Medicine (MSU-CVM) เพื่อรับการรักษาขั้นต่อไป สิ่งที่ทาง MSU-CVM ตรวจพบคือ Lil’ Bill คลอดก่อนกำหนดประมาณ 1 เดือน มันจึงมีปัญหาในการหายใจ เพราะปอดของมันยังไม่ทำงานไม่สมบูรณ์     แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Lil’ Bill เป็นลูกวัวที่พิเศษมากๆ นั่นก็คือ มันมีน้ำหนักแค่ 3.5 กิโลกรัม พูดง่ายๆ คือ มันเป็นวัวที่ตัวเล็กที่สุดในโลก สัตวแพทย์ได้ทำการทดสอบ เพื่อตรวจดูว่ามันเป็นวัวแคระหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าพวกเขาหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมมันถึงตัวเล็ก     นอกจากเรื่องระบบทางเดินหายใจแล้ว อย่างอื่นดูเหมือน Lil’ Bill จะไม่มีปัญหาอะไร มันชอบนอนหลับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับสัตว์ชนิดนี้…

เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงลูกแมวร้องดังมาจากกองขยะที่สูง 2 เมตร เขาตัดสินใจพามันออกมายังที่ปลอดภัย แม้ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงก็ตาม เขาบอกว่า “เราไม่ยอมปล่อยลูกแมวไว้ที่นั่นลำพัง เพราะเรารู้ว่าถ้าทำแบบนั้น ชะตาชีวิตมันจะจบอย่างไร” ชายคนที่ว่านี้คือสามีของ Nikki Martinez ทั้งคู่เป็นผู้อุปถัมภ์และผู้ช่วยเหลือในลาสเวกัส     Nikki เจอลูกแมวตัวเล็กๆ อยู่ท่ามกลางลูกแมว 3 ตัวที่ตายแล้ว แต่เขาไม่สามารถเข้าถึงตัวมิ้วน้อยตัวนั้นได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ทุ่มสุดตัวเพื่อพาเหมียวออกมาได้ แม้ต้องคลานขึ้นกองขยะสูง 2 เมตรก็ตาม หลังจากพยายามมาหลายชั่วโมง ในที่สุด เขาก็สามารถไปถึงที่เหมียวอยู่ มันไม่ใช่แค่เนื้อตัวสกปรกมอมแมม แต่มันยังผอมมากๆ ด้วย     ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พวกเขาได้ตั้งชื่อมิ้วน้อยว่า Jolly มันไม่โตขึ้นเลย ในขณะที่ลูกแมวตัวอื่นๆ ที่ถูกช่วยในเวลาเดียวกัน โตขึ้นถึง 2 เท่าตัว เมื่อพาไปหาสัตวแพทย์ 2 คนแรกบอกว่ามันมีสุขภาพดี แต่หลังจากพาไปหาสัตวแพทย์คนที่ 3 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษในด้านการดูแลแมวกลับพูดต่างออกไป     คุณหมอบอกว่าการเจริญเติบโตของ Jolly มีปัญหาก่อนที่มันจะได้รับการช่วยเหลือ เนื่องจากมันถูกทิ้งในสิ่งแวดล้อมที่น่ากลัวและขาดสารอาหารอย่างรุนแรงในช่วงที่ร่างกายต้องการอาหารมากที่สุด ตอนนี้ร่างกายของ Jolly จึงไม่ดูดซับอาหารที่กินเข้าไป สัตวแพทย์จึงให้มิ้วน้อยกินเอนไซม์และวิตามินทุกวัน…

เมื่อ Ryann Sadler เห็นกระต่ายน้อย 2 ตัว ถูกทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิง SPCA of Texas ในเดือนธันวาคม ปี 2017 เธอรีบไปหาพวกมันทันที สำหรับ Sadler นั้น เธอเป็นอาสาสมัครในศูนย์พักพิงและเป็นแม่บุญธรรมให้กระต่ายมานานแล้ว ดังนั้น เธอจึงรู้สึกแย่มากเมื่อไปเห็นภาพของกระต่ายน้อยที่เพิ่งถูกพาเข้ามา เพราะพวกมันตัวเล็กและเล็บยาวมาก     Sadler จึงอุ้มกระต่ายน้อยตัวผู้ขึ้นมา และเริ่มตัดเล็บให้มัน แต่แล้วเธอก็รู้สึกเซอร์ไพรส์ เมื่อเจ้ากระต่ายน้อยเริ่มจุ๊บเธอด้วยลิ้นน้อยๆ ของมัน     แม้จะดูแลกระต่ายมามากแล้ว แต่ Sadler ไม่เคยรู้เลยว่ากระต่ายก็ชอบจุ๊บด้วยเหมือนกัน ขนาดเจ้า Pepper กระต่ายของเธอเอง มันยังไม่เคยทำแบบนี้กับเธอเลย Sadler แทบจะละลายไปกับความเป็นมิตรและความอ่อนโยนของกระต่ายน้อยตัวนี้     แน่นอนว่า Sadler ตกหลุมรักเจ้ากระต่ายน้อยทันที และเมื่อเธอได้ทราบเหตุผลที่มันถูกนำมาทิ้งที่นี่ เธอก็ตัดสินใจรับเลี้ยงมันอย่างเป็นทางการและพามันกลับบ้าน พร้อมทั้งตั้งชื่อให้มันว่า Peter  หญิงสาวบอกว่า “เจ้าของเก่าบอกว่า Peter น่ารักและต้องการความสนใจมากเกินไป ซึ่งฉันก็คิดแบบนี้ แต่มันเป็นกระต่ายที่น่ารักที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา ฉันจึงไม่คิดว่าจะมีใครทิ้งมันได้ลง”     แม้ว่าทางครอบครัวไม่ได้ต้องการกระต่ายเพิ่ม แต่ Sadler กับ…

รอบๆ ตัวเรามีสุนัขจรจัดมากมาย บางตัวนอนหน้าเซเว่น บางตัวนอนข้างถนน และผู้คนส่วนใหญ่ก็เดินผ่านสุนัขเหล่านี้ ราวกับไม่เห็นพวกมัน แต่นั่นไม่ใช่สำหรับหญิงสาวคนนี้ โดยขณะที่เดินผ่านประตู เธอสังเกตเห็นสุนัขจรจัดตัวหนึ่งนอนขดตัวอยู่บนพื้น ในเมือง Zonguldak ประเทศตุรกี     แทนที่หญิงสาวจะเดินสุนัขจรจัดตัวนี้ไปเหมือนคนอื่นๆ แต่เธอกลับตัดสินใจให้ความอบอุ่นมันด้วยการถอดผ้าพันคอตัวเอง แล้วห่มให้เจ้าหมา     ในขณะที่เจ้าหมาเองคงไม่คิดว่าจะได้รับความเมตตาจากคนแปลกหน้า เมื่อหญิงสาวคลุมผ้าให้มัน มันตื่นมาด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่มันก็รับไว้ด้วยความซาบซึ้งใจ หญิงสาวแค่ทำในสิ่งที่สมควรทำ โดยไม่ได้หวังให้ใครเห็นหรือมาชื่นชม และเธอไม่รู้ด้วยว่าจุดที่เธออยู่นั้น มีกล้องวงจรปิด และสิ่งที่เธอทำให้สุนัขจรจัดตัวนั้น ก็ถูกบันทึกไว้ทั้งหมด      หลังจากคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไป มีชาวเน็ตมากมายแห่ชื่นชมหญิงสาวคนนี้ จนต่อมาได้ทราบว่าเธอคนนั้นคือ Duygu Elma Elma ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าการกระทำของฉันจะได้รับความสนใจ ตอนนั้นอากาศหนาวมาก ฉันเห็นเจ้าหมานอนสั่นอยู่ และฉันไม่สามารถเดินผ่านมันไปได้ ถ้าไม่ทำอะไรเลย”     หวังว่าความเมตตาที่มีต่อสัตว์ของ Elma จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายๆ คนทำแบบเธอนะคะ เพราะสุนัขจรจัดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่มันคือเพื่อนร่วมโลกและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์   ที่มา thedodo

ว่ากันว่าฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดของปี ซึ่งไม่ใช่สำหรับมนุษย์เราเท่านั้น สัตว์โลกเองก็ชอบฤดูนี้เช่นกัน เพราะนอกจากเทศกาลในฤดูนี้แล้ว พวกมันยังได้สนุกกับการเล่นหิมะด้วย ด้วยความที่สัตว์เลี้ยงมีอายุขัยสั้นกว่าเราไง จึงไม่บ่อยนักที่พวกมันจะได้เห็นและได้สัมผัสหิมะ ดังนั้น ทุกครั้งที่ได้เห็นหิมะ พวกมันจะมีปฏิกิริยาที่น่ารักสุดๆ จะเป็นยังไงกันบ้าง ไปดูกัน   1. ช่วงเวลาอันแสนสุขของ Bruno เมื่อมันเห็นหิมะครั้งแรก   2. เดี๋ยวนะ ที่นี่ไม่ใช่ทะเลทรายหรอกหรอ ทำไมหนาวๆ   3. หิมะตกหรอ ยอดไปเล้ยย ชอบ ชอบจริงจริ๊ง (เช็กหน้าตรูด้วย…)   4. เก็บอาการหน่อยลูก เรามันชาวหิมะอยู่แล้ว อย่าทำเหมือนไม่เคยเห็นสิ   5. เอาเลยหิมะ คลุมฉันเลย คลุมให้มิด ฉันชอบบ   6. นี่ถ้าใครแตกแถว คือหลงเลยนะ   7. นี่เป็นครั้งแรกที่น้องได้สัมผัสหิมะ ดูเหมือนมันจะชอบนะ   8. ดันอีกๆ เพื่อน ฉันเกือบขึ้นได้แล้ว   9. เมื่อคืนนอนอยู่ดีๆ…

สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข พวกมันสามารถทำตามคำสั่งเราได้ทุกอย่าง ขอแค่ฝึกมันเถอะ นอกจากคำสั่งแล้ว พวกมันยังสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง จนมีพฤติกรรมบางอย่างที่ดูฉลาดอย่างน่าทึ่ง และบางทีก็ดูแปลกในเวลาเดียวกัน เหมือนกับ Watson เจ้าหมาบ๊อกเซอร์ที่มีความสามารถไม่เหมือนใคร ซึ่งมันอาจจะดูเป็นพฤติกรรมโง่ๆ สำหรับบางคน แต่จริงๆ มันยอดเยี่ยมมากเลยแหละ     ความฉลาดของ Watson ถูกบันทึกไว้ในคลิปสั้นๆ ด้านล่างนี้ โดยตอนแรกของคลิป เจ้าหมานั่งอยู่หน้ารองเท้าคู่หนึ่ง จนกระทั่งคุณแม่สั่งให้ก้าวออกมา 1 ก้าว แล้วสไลด์อุ้งเท้าเข้าไปในรองเท้าครอส      สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Watson สไลด์อุ้งเท้าเข้าไปในรองเท้า จากนั้นก็เดินใส่รองเท้าคู่นั้นออกมาหาแม่ที่อยู่ข้างหน้ามัน ดูเหมือนจะจดจ่อกับการใส่รองเท้านี้มาก เพราะตอนที่เดินไปหาแม่ มันเอาแต่ก้มดูเท้าตัวเองตลอดเวลา จนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าแม่     คือ ปกติแล้วหมาไม่ชอบใส่รองเท้าหรอก หรือแม้แต่ถุงเท้าพวกมันก็ไม่ชอบ ลองให้ใส่ดูสิ ท่าเดินของพวกมันจะแปลกไปทันที แต่สำหรับ Watson แล้ว มันเดินใส่รองเท้า ดูเป็นธรรมชาติมากๆ นั่นเป็นเพราะครอบครัวฝึกให้มันทำแบบนี้ ส่วนรองเท้าที่มันใส่นั้น ตอนแรกก็เป็นรองเท้าเจ้าของนี่แหละ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่ามันชอบ เลยยกให้มัน     แม้น้องหมาจะชอบใส่รองเท้ามากแค่ไหน มันก็ไม่เคยใส่ตามใจตัวเอง…

ไม่มีใครรู้ว่าแมวน้อยตัวนี้จะผ่านคืนแรกไปได้ หลังจากที่มันถูกพบเพียงลำพัง และสถานการณ์ของมันค่อนข้างมีความท้าทาย แต่แมวน้อยเลือกที่จะสู้สุดความสามารถ เรื่องนี้เริ่มเมื่อหญิงจากมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เห็นลูกแมวตัวเล็กตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่บนทางเท้า เมื่อเธอเข้าไปเช็คเจ้าเหมียว ก็พบว่ามันยังเคลื่อนไหวได้เล็กน้อยและหายใจแผ่วเบามาก     Celine Crom จาก Chatons Orphelins Montréal บอกว่า “หญิงคนนั้นไม่สามารถทิ้งแมวน้อยไว้ที่นั่นลำพังได้ เธอจึงพามันไปยังคลินิกสัตว์ในท้องถิ่นทันที” เมื่อไปถึง คุณหมอพบว่ามิ้วน้อยมีแค่กระดูกและผิวหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น ร่างกายมันเย็นมากและเต็มไปด้วยเห็บหมัด มันจึงต้องได้รับการความอบอุ่น เพื่อมีชีวิตรอด นอกจากนี้ มันอายุ 4 สัปดาห์แล้ว แต่มีน้ำหนักแค่ 300 กรัมเท่านั้น     แต่ด้วยความช่วยเหลือของสัตวแพทย์ ในที่สุด อุณหภูมิของมิ้วน้อยก็กลับมาอยู่ในภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังต้องให้ยาเพื่อรักษาแผลของมัน ร่างกายมิ้วน้อยบอบบางและอ่อนแอมาก แต่มันยังรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีร้องเมี๊ยวๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจเมื่อมีคนเข้าไปใกล้มัน     ต่อมา Nathalie หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของคลินิก ได้ติดต่อไปยัง Chatons Orphelins Montréal และขอให้ช่วยหาบ้านอุปถัมภ์ให้แมวน้อย Celine บอกว่า “เธอทำทุกอย่างเพื่อช่วยแมวน้อยตัวนั้น แถมยังพามิ้วน้อยไปส่งยังบ้านอุปถัมภ์ในช่วงกลางดึกด้วย มิ้วน้อยจึงมีที่พักที่ปลอดภัยในคืนนั้น”    …

เมื่อไม่นานมานี้ Jason Smith เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก North Kansas City Police Department ในรัฐมิสซูรี่ ได้รับแจ้งเกี่ยวกับลูกแมวที่อยู่ข้างทาง เขาจึงรีบไปยังที่นั่นทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขับรถไปตามที่ได้รับแจ้ง เขาเห็นแมวเหมียวตัวหนึ่งกำลังยืนอยู่บนขอบที่กั้นทาง โดยมีถุงมือยางอยู่ข้างๆ     หลังจากจอดรถ Jason กับเจ้าหน้าที่อีกคนจึงพยายามเข้าหาเจ้าเหมียวอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ทำให้มันตกใจและวิ่งหนีไป จากนั้น Jason ก็เรียกเจ้าเหมียวเหมือนกับที่เขาเรียกแมวตัวเอง “มานี่มา เมี๊ยว เมี๊ยว เมี๊ยว เฮ้ เมี๊ยว” เขาใช้เสียงที่อ่อนนุ่มคุยกับมัน     เมื่อได้ยินเสียงมนุษย์เรียก หางเจ้าเหมียวก็ชี้ตั้งกลางอากาศ จากนั้นมันก็เริ่มร้องเมี๊ยวตอบกลับ ราวกับจะบอกว่ามันพร้อมที่จะให้พาตัวไปที่สักแห่งที่ปลอดภัย ใสที่สุด Jason ก็สามารถเข้าไปอุ้มเจ้าเหมียวมาได้ ก่อนจะไปกลับยังรถสายตรวจของเขา เมื่อเข้ามานั่งในรถ เจ้าเหมียวรู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่มาก มันจึงทำเสียงเพอร์และโอบกอดรอบคอของ Jason เพื่อขอบคุณ     แม้รถจะเคลื่อนออกไปแล้ว เจ้าเหมียวก็ยังยืนกรานจะนัวเนียเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป Jason  จึงอุ้มมันไปนั่งบนเบาะหลัง แต่เจ้าเหมียวได้กระโดดกลับมานั่งที่ตักของเขาและกอดเขาอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่ Jason รู้สึกตกหลุมรักเจ้าเหมียวตัวนี้ และรู้สึกผูกพันกับมันอย่างบอกไม่ถูก ที่แน่ๆ เขาก็พามันกลับบ้านและให้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว  …

ขณะที่กำลังเดินผ่านถนนเส้นหนึ่งในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกีอยู่ Sarper Duman ซึ่งเป็นนักเปียโนหนุ่มและนักช่วยเหลือแมว ก็เจอเข้ากับลูกแมวน้อยเข้า มันกำลังใช้ขาหน้าลากร่างของตัวเองไปตามทาง และร้องเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือ เขาจึงพาตัวมันไปหาสัตวแพทย์ด้วยตัวเอง     เขาตั้งชื่อลูกแมวน้อยว่า Piti หลังจากตรวจดูแล้วสัตวแพทย์บอกเขาว่ามันถูกรถทับมา ขาหลังทั้ง 2 ข้างของมันกระดูกแตก และขาหน้าก็หักไปข้างหนึ่ง เหลือขาที่ใช้ได้เพียงข้างเดียวเท่านั้น ที่น่าเป็นห่วงกว่าก็คือร่างกายของมันในตอนนี้ยังอ่อนแอมาก ไม่สามารถจะให้รับการผ่าตัดในสภาพนี้ได้ พวกเขาจึงได้แต่หวังว่ามันจะอาการดีขึ้นโดยเร็ว     แต่ระหว่างที่คุณหมอและ Duman กำลังเป็นห่วงสุขภาพของมัน สิ่งที่ Piti โหยหาไม่ใช่การรักษาเลย มันต้องการความรักจากพวกเขา มิ้วน้อยเอาแต่ส่งเสียงร้องอ้อนให้นักเปียโนหนุ่มเล่นด้วยตลอดเลย โดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองกำลังเจ็บอยู่ แค่มีคนสนใจให้ความรักมัน เจ้าแมวก็พอใจแล้ว     เจ็บช่างมันก่อน ขอแค่มีคนเล่นด้วยก็พอ   สัตวแพทย์ให้ Piti อยู่ที่คลินิกไปก่อนเพื่อรอดูอาการมันต่อไป เพราะการที่ขายังใช้การไม่ได้เลยนั้นน่าเป็นห่วงมาก แต่ก็โชคดีที่กำลังใจเจ้าเหมียวดีไม่มีตก ใช้เวลาแค่ 5 วันมันก็แข็งแรงพอจะเข้ารับการผ่าตัดได้แล้ว หลังจากรับการผ่าตัดเสร็จ Duman ก็ไปเยี่ยมมันเหมือนที่ทำทุกวัน และเจ้าเหมียวก็ยังคงให้ความสำคัญกับการอ้อนให้เขาเล่นด้วยเหมือนเคย     แม้ว่าตอนแรกขาของ Piti จะฟื้นตัวได้ไม่ดีตามที่พวกเขาคาดไว้ แต่ไม่นานนักเจ้าแมวก็อาการดีขึ้นอย่างช้าๆ…

ไม่ได้มีแต่เฉพาะในประเทศไทยเราเท่านั้นที่มีคนเคยเอาช้างมาใช้แรงงานเพื่อหาเงิน ที่ประเทศอื่นก็มีช้างถูกเอาเปรียบแบบเดียวกันด้วย แต่เรื่องที่น่ายินดีก็คือมีช้างตัวหนึ่งที่ทนลำบากมานานได้รับอิสระแล้ว Gajraj เป็นช้างจากประเทศอินเดีย ซึ่งเคยถูกเจ้าของจับล่ามโซ่ไว้กับที่ แล้วให้มันมอบความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยวโดยการให้ขี่หลังหรือถ่ายรูป ซ้ำมันยังเคยถูกทำร้ายและตัดงาออกไปด้วย     มันถูกใช้งานมานานกว่า 50 ปีที่วัด Yamai Devi และพิพิธภัณฑ์ Shri Bhavani Museum ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมในรัฐ Aundh จนเมื่อปี 2017 ก็มีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เข้าไปช่วยนำตัวมันออกมา และพามันไปใช้ชีวิตอย่างอิสระในพื้นที่อนุรักษ์ขององค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่า NGO Wildlife SOS     ในบ้านใหม่หลังนี้ Gajraj ได้ใช้ชีวิตทุกวันไปกับการเดินเล่นในพื้นที่ป่า มีอาหารให้กินทุกเมื่อที่ต้องการ และจะนอนหลับพักผ่อนเท่าไหร่ก็ได้ สบายผิดกับชีวิตที่ถูกทารุณมาก่อนหน้านี้ลิบลับเลย     เมื่อสิ้นปี 2018 ที่ผ่านมาก็เป็นเวลาครบรอบ 1 ปีที่เจ้าช้างได้รับอิสระ จึงมีคนมากมายที่พยายามช่วยเหลือมันมานาน ร่วมกันแสดงความยินดีกับชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นของมัน นอกจากนี้ Gajraj ก็ได้รับเกียรติให้เป็นลูกค้ารายแรกของโรงพยาบาลช้าง Wildlife SOS Elephant Hospital ที่เพิ่งเปิดตัวด้วย เนื่องจากพวกเขาคิดว่ามันสมควรได้รับการรักษาที่สุด     ตอนนี้นอกจากจะมีอิสระแล้ว มันจึงได้รับการตรวจและรักษาที่ทันสมัย ที่จะช่วยเยียวยาร่างกายของมันซึ่งถูกใช้งานมานานโดยไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าของเก่าเลย…

ตอนนี้ก็วนมาถึงปี 2019 แล้ว ถึงเวลาที่แต่ละบ้านจะต้องเปลี่ยนเอาปฏิทินอันเก่าทิ้งออกไป และหาอันใหม่มาให้พร้อมรับกับปีใหม่ที่มาถึงสักที แต่ไหนๆ เราก็จะเปลี่ยนปฏิทินทั้งที ในฐานะทาสแมวเราลองมาใช้ปฏิทินที่มีเจ้าแมวน่ารักๆ ให้เราพลิกดูกันทั้งปีดีกว่า อย่างเช่นปฏิทิน Social Justice Kittens แบบนี้ไง     ปฏิทิน Social Justice Kittens เป็นปฏิทินที่รวมเอาแมวน้อยกว่า 20 ตัวไว้ เพื่อให้ทาสแมวได้เพลิดเพลินไปกับความน่ารักของพวกมันเวลาพลิกเปลี่ยนหน้าปฏิทินแต่ละเดือน นอกจากนี้แต่ละรูปก็มีข้อความคำคมติดมาให้เราอ่านด้วย โดยแต่ละอันจะเป็นข้อความเกี่ยวกับแนวคิดความเป็นธรรมทางสังคม ที่คนส่วนมากต้องพบเจอนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นปฏิทินที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและความน่ารักเลย   เพศไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดแปลกอะไร รสนิยมของคนต่างหากที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมทางสังคมที่กีดกันเพศ   การแสดงความแมนแบบผิดๆ ทำลายบรรยากาศเสมอ   ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรุนแรงแบบไม่มีเหตุผล’ ต่อพวกฟาสซิสต์หรอก ทุกอย่างนับเป็นการป้องกันตัวทั้งนั้นแหละ   เอาทุนนิยมออกไปไกลๆ เลย   ฉันไม่คุยกับพวกฟาสซิสต์หรอก ถ้าเจอจะข่วนให้เละเลย   ร่างกายเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น   ความโกรธของเธอเกิดจากความกลัวและความเกลียดชัง แต่ความโกรธของเราเกิดจากความรักทั้งนั้น   ‘ความเห็น’ ของคุณเป็นแนวคิดอันตรายที่ทำร้ายฉันได้   ถึงจะคุยกันแล้ว…

พ่อแม่มือใหม่ส่วนใหญ่มักจะให้ลูกอยู่ห่างจากสัตว์ เพราะห่วงความปลอดภัยของลูก แต่คุณจะไม่รู้เลยว่าเด็กกับสัตว์เลี้ยงเข้ากันได้ดีแค่ไหน จนกว่าคุณจะปล่อยให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน คุณพ่อและคุณแม่ของน้องกัปตันเป็นหนึ่งในพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกมากับแมวเหมียว และพวกเขาก็ได้แชร์เรื่องราวของลูกน้อยกับเจ้าเหมียวลงในโซเชียล เพื่อให้เห็นว่ามันเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าแค่ไหน     เรื่องราวของครอบครัวนี้น่าประทับใจตั้งแต่เริ่มเลยละค่ะ โดยก่อนที่พ่อแม่จะแต่งงานกันและมีน้องกัปตัน คุณแม่สิริพร ศิริลักษณ์ ได้พบกับแมวเหมียวตัวหนึ่งที่ถูกทิ้งที่บันไดหนีไฟของคอนโดที่พวกเขาอยู่ คุณสิริพรเห็นแม่บ้านเอาอาหารไปให้เจ้าเหมียวตัวนั้น จึงได้สอบถามแม่บ้านว่ามันเป็นแมวใคร มาจากไหน? จนได้ทราบว่าเจ้าเหมียวเป็นของคนที่เคยอยู่ในคอนโดนี้ แต่พอเจ้าของย้ายออกไป พวกเขาไม่ได้เอามันไปด้วย     คุณสิริพรรู้สึกสงสารเจ้าเหมียวมาก จึงได้ตัดสินใจรับมาเลี้ยง และตั้งชื่อให้มันว่า ชาคริต… ชาคริตเป็นแมวตัวแรกที่เธอเลี้ยง หลังจากที่ไปรับเจ้าเหมียวมา คุณสิริพรก็อาบน้ำให้มัน และพาไปฉีดยา… เนื่องจากคุณสิริพรทำธุรกิจด้านความงาม เธอจึงพาเจ้าชาคริตไปอยู่ที่ร้านด้วย เพียงไม่นานมันก็กลายเป็นขวัญใจสาวๆ ที่มาใช้บริการ     พี่ชาคริตอยู่กับคุณสิริพรจนกระทั่งเธอแต่งงานกับคุณพ่อน้องกัปตันคือคุณธนวิชช ยายี และทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกันใน 2 ปีต่อมา นั่นก็คือ น้องกัปตันนั่นเอง ในช่วงระหว่างตั้งท้องน้องกัปตัน คุณแม่เล่าว่าเธอได้อุ้มเจ้าชาคริตมาแนบท้อง และพูดกับมันว่า “พี่ชาคริตจะมีน้องแล้วนะ ชื่อพี่กัปตันนะลูก พี่ชาคริตต้องรักน้อง อย่าแกล้งน้องนะ ยอมน้องนะลูก” คุณแม่พูดแบบนี้ทุกวันและทุกครั้งที่อุ้มพี่ชาคริต ที่สำคัญ แม้ว่าแม่จะมีลูกน้อย แต่เธอไม่เคยให้ความสำคัญกับเจ้าเหมียวน้อยลงเลย…

ภายในโลกที่สัตว์มีสีสันสวยงามในแบบของตัวเองอยู่มากมาย นก ‘สปิกซ์มาคอว์’ ก็ยังโดดเด่นในสายตาของคนที่ได้เห็นเสมอ ด้วยสีสันสีน้ำเงิน-ฟ้าสดใสไม่มีใครเหมือน แต่พวกมันเกือบจะไม่เหลือให้เราเห็นแล้ว เจ้าสปิกซ์มาคอว์ หรือนกมาคอว์สีน้ำเงิน ถูกค้นพบครั้งแรกในแถบประเทศบราซิล ตั้งแต่ตอนที่พวกมันถูกค้นพบ พวกมันก็เป็นสัตว์ที่มีจำนวนเหลือน้อยแล้ว จึงมีคนพบเห็นพวกมันไม่มาก   https://www.instagram.com/p/BfMSZ75nzTT/?utm_source=ig_embed   พวกมันเพิ่งเป็นที่รู้จักมากในปี 2011 เนื่องจากถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบสำหรับตัวละครในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Rio ซึ่งได้รับความนิยมจากคนดูพอสมควร ถึงพวกมันจะเริ่มได้รับความสนใจจากคนมากขึ้น แต่จำนวนของพวกมันก็ยังคงมีน้อยเหมือนเดิม และดูเหมือนจะลดลงไปเรื่อยๆ     ตั้งแต่ช่วงปี 2,000 เป็นต้นมา นักอนุรักษ์ก็เริ่มสงสัยว่านกมาคอว์สีน้ำเงินในธรรมชาตินั้นสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากนานมากแล้วที่ไม่มีคนเห็นพวกมันเลย จนเมื่อปี 2018 องค์กรที่เฝ้าดูแลสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่านกสปิกซ์มาคอว์ตามธรรมชาติ ถูกจัดว่าสูญพันธุ์ไปเรียบร้อยแล้ว   https://www.instagram.com/p/Bh-CkMTADee/?utm_source=ig_embed   ปัจจุบันนกมาคอว์สีน้ำเงินหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว และอยู่ในความดูแลของนักอนุรักษ์สัตว์เท่านั้น โดยพวกเขาหวังว่าจะสามารถขยายพันธุ์มันได้สำเร็จ และนำพวกมันกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อให้ขยายพันธุ์ต่อไปอีก ดังนั้นนกชนิดนี้จึงถือเป็นนกที่หาดูได้ยากมากๆ ใครที่เคยเห็นพวกมันตัวเป็นๆ ตามธรรมชาติถือว่าโชคดีมากๆ เลยล่ะ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ามนุษย์ช่วยดูแลและขยายพันธุ์พวกมันสำเร็จจริงๆ เราอาจจะได้เห็นพวกมันอยู่ตามธรรมชาติอีกครั้งก็ได้     ที่มา: BRIGHT SIDE, Act-Parrot, Al…

ในขณะที่หมีในป่าได้ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ และมีอิสระที่จะใช้ชีวิตตามวิถีของหมี มีหมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกคนจับไปฝึกเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ตัวเอง พวกมันส่วนมากโดนทรมาน เพื่อบังคับให้พวกมันทำการแสดงตามที่เจ้าของต้องการ บางตัวก็ถูกถอนเขี้ยวเล็บออกเพื่อไม่ให้ทำอันตรายคนได้     Raju ก็เป็นหนึ่งในหมีจำนวนนั้นเช่นกัน ตั้งแต่เด็กมันก็ถูกคนฝึกให้ทำท่าเต้นอยู่ข้างถนนของประเทศอินเดีย เพื่อให้คนที่ผ่านไปมามอบเงินให้คนที่ดูแลมัน และหากไม่ทำตาม คนที่ฝึกมันก็จะดึงเชือกที่ผูกกับตัวมันอยู่ ทำให้เจ้าหมีรู้สึกเจ็บจนต้องยอมเต้นต่อไป มันถูกใช้เหมือนเป็นเครื่องมือหาเงินที่แสดงความต้องการของตัวเองไม่ได้     แน่นอนว่ามีคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากพวกหมีแล้ว ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการช่วยพวกมันให้เป็นอิสระเช่นกัน พวกเขาเป็นกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ที่พยายามช่วยเหลือหมีไปเรื่อยๆ แต่ก็ทำได้อย่างมีข้อจำกัด กว่าที่พวกเขาจะมาเจอ Raju ในปี 2009 มันก็ถูกบังคับให้เต้นมานาน 7 ปีแล้ว แต่พอมันถูกพบโดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Wildlife SOS มันก็ได้รับอิสระและไม่ถูกบังคับให้เต้นอีก     Raju เป็นหมีสลอธที่หายากและใกล้สูญพันธุ์แล้ว เมื่ออาสาสมัครไปพบจึงอยากดูแลมันให้ดีที่สุด เจ้าหมีจึงถูกส่งตัวไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งเป็นผืนป่าที่มันจะได้รับอิสระ แต่ก็มีมนุษย์คอยช่วยดูแลอีกแรงหนึ่งด้วย ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมา การฝึกของมนุษย์จะสร้างแผลเป็นไว้บนร่างกายมันหลายแห่ง แต่ตอนนี้เจ้าหมีก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีรอยแผลเพิ่มแล้ว แถมยังได้ใช้ชีวิตตามใจชอบในนั้นด้วย     ไม่ต้องโดนบังคับทำงานอีกต่อไปแล้ว   ปัจจุบัน Raju ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์มานาน 9 ปีแล้ว ชีวิตประจำวันของมันมีแค่ตื่นมาเล่นกับเพื่อน เดินเล่นในป่า และเล่นซนกับเพื่อนๆ…

ถ้าคุณเห็นเจ้าแมวเจ้าหมาที่บ้านมันนอนสบายทั้งวันแล้วรู้สึกว่ามันขี้เกียจล่ะก็ เราขอบอกคุณว่ามีสัตว์ที่ขี้เกียจกว่ามันเยอะเลย สัตว์พวกนี้นอกจากจะนอนเก่งแล้ว มันยังไม่ใช้พลังงานเปลืองแบบเจ้าหมาเจ้าแมวด้วย จะมีตัวอะไรบ้างลองไปดูกันเลย   10. กิ้งก่าปิ๊กมี่ลิ้นน้ำเงิน   ความขี้เกียจของเจ้ากิ้งก่าตัวนี้ ก็คือมันแทบไม่ออกไปทำอะไรข้างนอกหลุมของตัวเองเลย มันจะอ้าปากรออยู่ที่ปากหลุมรอให้เหยื่อผู้โชคร้ายสักตัวตกลงมาในปากเอง และก็จะรอกินน้ำจากหยาดน้ำและน้ำฝนด้วยวิธีเดียวกัน   9. นกกาเหว่า   ความขี้เกียจของนกกาเหว่านั้นหลายคนเคยได้ยินกันมาแล้ว นั่นก็คือการที่พวกมันแอบไปฟักไข่ไว้ในรังของนกอื่น แล้วให้พวกมันเลี้ยงลูกแทนนั่นเอง   8. ปลาฉลามพยาบาล   ในขณะที่ฉลามตัวอื่นๆ ต้องว่ายน้ำเพื่อหายใจและล่าเหยื่อ ฉลามพยายามนั้นต่างออกไปโดยสิ้นเชิง พวกมันใช้เวลาแทบทั้งวันนอนอยู่กับที่ แล้วดูดเหยื่อตัวเล็กเข้ามาในปากเพื่อกิน   7. แพนด้ายักษ์   เจ้าแพนด้าตัวโตพวกนี้นอนหลับวันละประมาณ 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว แล้วก็นอนที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น พอตื่นมาก็จะเอาแต่กิน กินเสร็จก็นอน ใช้ชีวิตสไตล์ขี้เกียจโดยแท้   6. ตัวกินมดหนาม   เจ้าตัวกินมดสายพันธุ์นี้นอนหลับประมาณวันละ 12 ชั่วโมง หรือก็คือนอนหลับตลอดช่วงที่มีแสงแดดเลยทีเดียว และจะออกมาใช้ชีวิตแค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น   5. งูหลาม   งูหลามนั้นทั้งเคลื่อนที่เชื่องช้า แถมยังนอนเยอะถึงวันละ…

เจ้าของสัตว์เลี้ยงบางคนอาจจะเคยมีช่วงที่คิดว่าตัวเองนั้นเดียวดาย ไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้างเลย แต่ก็มองข้ามไปว่าจริงๆ แล้วถึงจะไม่มีคนอยู่ด้วย สัตว์เลี้ยง 4 ขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างคุณเสมอ แม้แต่เจ้าแมวเหมียวที่เขาบอกกันว่าชอบเมินทาส ลึกๆ แล้วมันก็รักเรานั่นแหละ วันนี้เราได้รวบรวมรูปภาพของสัตว์เลี้ยงและมนุษย์หลายคู่มาให้คุณดู แล้วคุณจะรู้ว่าพวกมันไม่เคยทิ้งเราเลย   เจ้าพวกแมวตามติดภรรยาผมตลอดเวลา มันคงห่วงเธอกับลูกที่อยู่ในท้อง   พี่ทหารอุ่นใจเพราะมีเจ้าหมายิ้มให้ทุกวัน https://www.instagram.com/p/pFw4jYDeiY/   เจ้าเหมียวพยายามปลอบทาส เพราะเธอเพิ่งเลิกกับแฟนมา   มาคอยเติมกำลังใจให้คุณแม่ระหว่างวิ่งมาราธอนซะด้วย https://www.instagram.com/p/BoXJwW6gZ-Q/   คุณแม่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด เจ้าหมาแมวเลยยกพวกกันมาเติมกำลังใจให้   ไม่ต้องห่วงว่าจะเหงาตอนฝึก เพราะคู่หูจะลำบากไปพร้อมกันเสมอ https://www.instagram.com/p/uEKlYJjeoY/   เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกไม่สบาย พวกมันจะมองดูคุณอยู่ไม่ห่าง   ผู้ช่วยคนดีของฉัน ช่วยให้ทั้งฉันและผู้ป่วยรู้สึกดีกว่าเดิม https://www.instagram.com/p/BrVyFAznhcZ/   เจ้าหมาอยากเล่นกับน้องตั้งแต่น้องยังไม่เกิด   เราจะคอยเดินอยู่ข้างๆ เธอเอง ไม่ต้องห่วง https://www.instagram.com/p/BreOO2mnek2/   ไม่ต้องเศร้านะมนุษย์ เราอยู่ตรงนี้แล้ว   ไม่ต้องกังวลนะมนุษย์ เดี๋ยวสักแป๊บก็หายดีแล้ว ค่อยมาวิ่งเล่นกัน https://www.instagram.com/p/BrceybFnfbz/   ที่เจ้านายมักไม่เห็น…

ในสถานการณ์ที่บีบบังคับและไม่มีใครสามารถช่วยได้ หญิงสาวต้องพยายามป้องกันตัวเองจากชายที่กำลังคุกคามเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าหมาของเขาจะปกป้องเธอแทนที่จะเข้าข้างเจ้านายตัวเอง หญิงสาวคนหนึ่งอยากเผยประสบการณ์รอดจากการถูกลวนลามของหัวหน้าอย่างฉิวเฉียดให้พวกเราได้ฟังกัน โดยเธอบอกว่าถ้าไม่ได้เจ้าหมาเข้ามาช่วย เธอต้องแย่แน่ๆ     หญิงสาวเล่าว่าเธอเพิ่งจะร่วมงานกับชายคนหนึ่งไม่นาน พ่อของเธอซึ่งถูกเขาจ้างงานบ่อยๆ เป็นคนแนะนำงานให้ งานนี้มีสวัสดิการที่ดีและได้เงินดี รวมถึงเวลาที่เธอเจอเขาตอนที่มีพ่ออยู่ด้วย เขาก็ดูไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร โดยงานของเธอหลักๆ แล้วจะเป็นการดูแลเจ้าหมาสายพันธุ์เคนคอร์โซ่ของเขา ระหว่างที่เขากำลังทำงาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่บ้านของเขา แต่เธอก็มีความสุขเนื่องจากเธอรักหมาและมันก็ดูจะชอบเธอมากเช่นกัน     หลังจากเริ่มงานได้ไม่นาน เธอสังเกตว่าเจ้านายของเธอชอบทักทายทุกคนที่เจอด้วยการกอด ตอนแรกเธอจึงไม่ได้คิดอะไร แต่สักพักเธอก็รู้สึกได้ว่าเขาเริ่มจับเนื้อต้องตัวเธอมากขึ้น หรือบางครั้งเวลาที่กอดเขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ แม้ว่าเธอจะปฏิเสธไปแล้วก็ตาม     วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่กับเจ้าหมาบนโซฟา จู่ๆ หัวหน้าของเธอก็เข้ามาจับเอวเธอจากทางด้านหลัง เธอจึงรีบขยับตัวหนีและบอกเขาว่าเธอไม่ชอบทันที แต่เขาก็วนมาหาเธอทางด้านหน้าแทน ทำท่าทีว่าจะจักจี้เธอเล่นๆ แต่เธอรู้สึกว่าท่าทางจะไม่ดีซะแล้ว เลยเรียกเจ้าหมาให้ช่วย เผื่อว่ามันจะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเขาได้ และทำให้เธอรอดจากสถานการณ์นี้     ทว่าสิ่งที่เธอไม่คาดคิดเลยก็คือ เจ้าหมาลุกเข้ามาปกป้องเธอจริงๆ มันทั้งเห่าและขู่เจ้าของของตัวเอง แล้วก็เอาตัวเข้ามาคั่นกลางระหว่างพวกเขาไว้ เธอจำเป็นต้องบอกให้มันนั่งลง มันถึงจะหยุดเห่าชายคนนั้น แต่เจ้าหมาก็ยังนั่งอยู่ข้างๆ เธอเพื่อปกป้องอยู่ดี วันนั้นเธอรอดจากการถูกลวนลามมาได้เพราะมันแท้ๆ เลย     หญิงสาวเล่าว่า “ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์…

ในสถานการณ์ที่ครอบครัวตกอยู่ในอันตราย หมาน้อยพยายามจะช่วยชีวิตเจ้านายของมัน แต่น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นมันเองที่ตายในอุบัติเหตุ     ครอบครัว Farrant เป็นครอบครัวอบอุ่นที่ประกอบไปด้วย คุณพ่อ Dan คุณแม่ Cara และลูกๆ ตัวน้อยของพวกเขาอีก 4 คน นอกจากสมาชิกที่เป็นมนุษย์แล้ว ครอบครัวของเขายังมีเจ้าหมาชิวาว่า Coco อีกตัวด้วย คนในครอบครัวรักเจ้าหมามาก และเจ้าหมาเองก็รักครอบครัวเช่นกัน Dan เล่าว่า “เจ้า Coco เป็นกาวที่ยึดครอบครัวของเราเอาไว้ด้วยกัน ถ้าเกิดมีใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวกำลังเศร้าหรือป่วย มันจะไปให้กำลังใจคนคนนั้นเสมอ”     ในวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา ทั้งครอบครัวตัดสินใจขับรถไปเที่ยวด้วยกัน โดยมีจุดหมายปลายทางคือประเทศสกอตแลนด์ แต่ระหว่างที่กำลังเดินทางกันอยู จู่ๆ เครื่องยนต์ของพวกเขาก็ลุกเป็นไฟ และไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรถคันหนึ่งที่อยู่แถวนั้นพอดีจอดลงมาเพื่อช่วยพวกเขา Dan พาลูกๆ 3 คนหนีออกมาได้ แต่ก่อนที่ Cara กับลูกสาวที่ชื่อ Thea และ Coco จะหนีออกมาได้ ประตูรถก็โดนความร้อนหลอมจนเปิดไม่ออกแล้ว Cara โยน Coco ออกมาทางหน้าต่างก่อนเป็นตัวแรก จากนั้นเธอและลูกสาวก็พยายามหาทางออกจากรถโดยใช้ทางอีกด้านหนึ่งโดยที่มีสามีช่วยอยู่    …

ต้องยอมรับจริงๆ นะว่าการเรียนบางวิชามันแน่นไปด้วยเนื้อหาจนดูน่าเบื่อจริงๆ วิชากฎหมายก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน นักเรียนกฎหมายคนหนึ่งจึงมีวิธีกันไม่ให้ตัวเองเบื่อโดยการ พาน้องหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกัน เขาจะได้มีเพื่อนระหว่างอ่านหนังสือ แล้วก็เผื่อว่ามันจะรู้กฎหมายไปด้วยกันซะเลย คุณ กิตติศักดิ์ ภาโว เป็นทหารที่รักสุนัข บางครั้งเขาก็ไปให้อาหารและช่วยเหลือสุนัขอื่นๆ ที่เจอ และก็ยังมีสุนัขที่เลี้ยงเองไว้หลายตัวด้วย     นอกจากจะเป็นทหารแล้ว ตอนนี้เขากำลังศึกษาเนติบัณฑิตไทยอยู่ด้วย และก็ต้องอ่านหนังสือคนเดียวบ่อยครั้ง ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาแน่นๆ คนเดียวมันน่าเบื่อจริงๆ ทว่าเขาก็มีวิธีแก้ปัญหาในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือการพาเจ้าหมาที่เลี้ยงไว้มานั่งอยู่ด้วยเวลาเขาอ่านหนังสือ โดยส่วนมากเจ้าตัวที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาก็จะเป็น น้องครีม    ผมชื่อน้องครีมฮะ   ซึ่งพอมีเจ้าหมามานั่งอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ทำให้เขาหายเหงาและอ่านหนังสือได้คล่องขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ถึงแม้ว่าบางทีน้องครีมจะดูง่วงกับเนื้อหาไปด้วยก็ตาม     อ้าว น้องครีม อย่าเพิ่งสัปหงกสิครับ เดี๋ยวเจ้าของง่วงตามนะ   น้องครีมไม่ใช่สุนัขตัวเดียวที่มานั่งอยู่เป็นเพื่อนคุณกิตติศักดิ์ ในบางครั้ง พี่ด่าง ก็จะมานั่งเป็นเพื่อนเพิ่มอีกตัวหนึ่งด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความน่าเบื่อของเนื้อหาที่คุณกิตติศักดิ์อ่าน บางทีแม้แต่เจ้าหมาทั้งหลายก็ถ่างตาฟังต่อไม่ไหว แล้วหลับไปก่อนก็มี   พี่ด่างทำหน้าหงอยทำไม นึกว่าโดนพิจารณาคดีอยู่เหรอ??   บางทีเจ้าหมาก็อยู่เป็นเพื่อนไม่ไหวแล้ว ขอหลับก่อนละกัน ปล่อยพ่ออ่านหนังสือสอบต่อไป   การเอาเจ้าหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกันแบบคุณกิตติศักดิ์ ก็ดูเป็นเทคนิคแก้เบื่อในการอ่านหนังสือที่ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ นอกจากนี้ถ้าเขาอ่านหนังสือให้น้องครีมกับพี่ด่างฟังบ่อยๆ อีกหน่อยพวกมันอาจจะเป็นหมาที่รู้กฎหมายไปด้วยเลยก็ได้…

ลูกโคอาล่าเป็นสัตว์น้อยที่บอบบาง ปกติมันจะซุกตัวอยู่ในถุงหน้าท้องของแม่ตลอด แม่ของมันจะได้ปกป้องมันจากภัยอันตรายได้ แต่ถ้ามันเกิดพลัดหลงกับแม่ขึ้นมา ก็คงจะปกป้องตัวเองไม่ได้เลย โชคดีที่ลูกโคอาล่าหลงทางตัวนี้ไปเจอพี่หมาโกลเด้น มันเลยรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด     ลูกโคอาล่าตัวน้อยตัวนี้ถูกพบอยู่กับเจ้าหมาโกลเด่นรีทรีฟเวอร์ Asha โดยคาดว่ามันน่าจะหล่นจากถุงหน้าท้องของแม่ในตอนกลางคืน พอเจ้าหมาไปเจอมันเข้า มันก็เลยเกาะติดเจ้าหมาเหมือนกับที่มันเคยเกาะแม่ Kerry McKinnon ซึ่งเป็นเจ้าของของเจ้าหมาไปเจอพวกมันนอนกอดกันในช่วงเช้า ตอนที่เธอกำลังจะออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าน     McKinnon เล่าว่าลูกโคอาล่าโชคดีมากที่เจอเจ้าหมาทันเวลา เนื่องจากคืนนั้นอากาศหนาวเย็นจนอุณภูมิต่ำถึง 5 องศาเซลเซียส หากมันไม่ได้ไออุ่นจาก Asha มันก็คงจะหนาวตายไปแล้ว หรือถึงมันจะรอดจากอากาศหนาวเหน็บมาได้ มันก็น่าจะถูกสัตว์ป่าอื่นอย่างสุนัขจิ้งจอกทำร้ายเพราะไม่มีคนคอยปกป้องอยู่ดี     เธอบอกว่า “Asha ช่วยชีวิตเจ้าโคอาล่าเอาไว้ได้โดยการมอบความอบอุ่นจากร่างกายให้มัน ถ้ามันถูกทิ้งไว้ตามลำพังทั้งคืนมันคงตายไปแล้วแน่ๆ” แถมดูเหมือนว่าลูกโคอาล่าจะรู้สึกชอบเจ้า Asha เอามากๆ เลยล่ะ ตอนที่เธอพยายามอุ้มมันออกมาจากตัวเจ้าหมา มันเอาแต่เกาะขนเจ้าหมาแน่น แล้วส่งเสียงขู่เธอตลอดทางเลย     อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดเธอก็แยกลูกโคอาล่าออกมาจากเจ้าหมาได้ และส่งมันไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์อย่าง RSPCA ดูแลต่อ เพื่อที่พอมันแข็งแรงมากพอแล้ว พวกเขาจะได้ช่วยปล่อยมันกลับไปอยู่ตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น   ที่มา: 9gag

ในโลกนี้ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ ไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบหรือมีพร้อมทุกอย่าง เราจึงต้องการใครสักคนหรืออะไรสักอย่างมาเติมเต็มที่ส่วนที่ขาด เช่นเดียวกับ Zissou มิ้วน้อยที่ได้รับการช่วยเหลือโดยครูอาสาสมัครสอนภาษาอังกฤษใน El Javillar สาธารณรัฐโดมินิกัน เมื่อไม่กี่เดือนก่อน     ครูอาสาสมัครพบลูกแมวเพราะเสียงร้องของมันพาพวกเขาหาตัวมันจนเจอ จากนั้นพวกเขาก็พามันไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่ก็ยังไม่สามารถหาที่พักพิงให้มันได้อยู่ดี มิ้วน้อยอายุแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น สภาพของมันดูแย่มากๆ และสิ่งที่มันต้องการมากที่สุดในตอนนั้นคือ บ้าน ขณะเดียวกัน Kach Howe และสามีของเธอ Jonathan คู่รักที่ออกเดินทางรอบโลกด้วยเรือใบ ได้ทราบเกี่ยวกับชะตากรรมของมิ้วน้อย และบังเอิญมิ้วน้อยดันคล้าย Captain Ahab แมวเหมียวของพวกเขา     เมื่อไม่มีใครสนใจรับเลี้ยงมิ้วน้อยตัวนี้ คู่รักจึงรู้ได้ทันทีว่านี่อาจเป็นโชคชะตาของพวกเขา เพราะตอนนั้นพวกเขากำลังคิดที่จะหาแมวอีกตัวมาอยู่เป็นเพื่อน Captain Ahab พอดี Kach บอกว่า “ตอนที่ฉันไปรับมันมา มันน่ารักมากๆ และต้องการความสนใจจากมนุษย์ตลอดเวลา แต่มันเล็กและกำลังป่วยหนัก”     คู่รักได้ดูแลมิ้วให้กลับมามีสุขภาพดีและตั้งชื่อให้มันว่า Zissou… Zissou ต้องอาบน้ำหลายรอบและรักษาหลายขั้นตอน แต่มันอยู่นิ่งและไม่บ่นสักคำ ราวกับรู้ว่ามนุษย์กำลังช่วยเหลือมัน และเมื่อมิ้วน้อยได้พบกับพี่ชายเหมียว Captain Ahab มันก็กลายเป็นแฟนคลับตัวยงของพี่เหมียวทันที มันเอาแต่ตามพี่ไปทุกที่และพยายามจะเอาชนะใจพี่ชายให้ได้     ตอนแรก Captain Ahab ดูสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับเพื่อนตัวน้อย มันไม่รู้จะรับมืออย่างไรเมื่อเจ้าตัวเล็กต้องการความสนใจ และไม่รู้จะตอบสนองความรักเล็กๆ…

ช่างภาพสัตว์ป่ามักจะถูกโฟโต้บอมพ์โดยสัตว์ป่าเสมอ ซึ่งบางครั้งมันก็ดูน่ากลัวจนเสียวแทน แต่บางทีมันก็ออกมาน่ารักจนอยากผันตัวเป็นช่างภาพบ้าง และนี่คือเหล่าช่างภาพสัตว์ป่าที่ถูกคุกคามโดยสัตว์มากมายหลายชนิด ทั้งสัตว์น่ารักและจนถึงสัตว์อันตราย แต่ดูเหมือนเหล่าช่างภาพจะไม่กลัวเลยสักนิด กลับรู้สึกชอบซะด้วยซ้ำ   เสือชีตาร์ตัวน้อยเดินเข้าไปหาช่างภาพ Stu Porter แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนไหล่เขา ราวกับว่าเขาเป็นแค่ก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น   ช่างภาพ Dave Riggs ถือกล้องให้อยู่หน้าขากรรไกรฉลามที่กำลังอ้าปาก เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ   Christophe Vasselin มุ่งมั่นที่จะถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบ แม้จะถูกกอริลลาน้อยผลัก แต่ก็ยังไม่ถ่ายรูปต่อ   Russell Mclaughlin กับเสือดาวใกล้ชิดกันมากราวกับรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ขณะอยู่ที่ Tshukudu Game Reserve ในแอฟริกาใต้   เหล่าลีเมอร์ผู้น่ารักในมาดากัสการ์ แอฟริกา กำลังทักทายช่างภาพสาวแบบถึงเนื้อถึงตัว   ช่างภาพ Petr Bambousek กำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ภาพลิงที่สมบูรณ์ แม้จะโดนรบกวนไม่หยุดก็ตาม   Roman Rusin เข้าไปถ่ายรูปเจ้ากวางในระยะใกล้ แต่ดูเหมือนเจ้ากวางอยากเล่นกับเขามากกว่านะ   เหมือนเจ้าอุ๋งๆ จะบอกว่า “เดี๋ยวสิเพื่อน เดี๋ยวค่อยถ่าย ไม่ได้เจอกันนาน เรามาคุยกันก่อนดิ”    Richard Schneider…

คุณเคยเห็นฉากที่ตัวเอกถูกบีบบังคับให้ต้องเลือกโดดลงรถเพื่อเสี่ยงตาย หรืออยู่นิ่งๆ ต่อไปเพื่อรอคอยความตายบ้างไหม? เจ้าวัวตัวนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน…และมันเลือกที่จะโดดลงจากรถ เมื่อกลางดึกวันหนึ่งขณะที่รถขนวัวกำลังพาพวกวัวไปยังโรงฆ่าสัตว์ มีวัวตัวหนึ่งตัดสินใจโดดจากชั้น 2 ของรถ ลงมาสู่ถนนข้างล่าง มันอาจกำลังคิดว่ายอมเสี่ยงดีกว่าต้องรอความตายข้างหน้า     โชคดีที่มันรอดชีวิตมาได้ แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัยดีนักเนื่องจากมันยังอยู่บนถนนที่มีรถวิ่งด้วยความเร็วสูงอยู่ ตำรวจจึงพากันออกมาควบคุมตัวเจ้าวัวไว้ มันจะได้ไปสร้างความปั่นป่วนให้กับคนใช้ถนนคนอื่น และก็เป็นโชคดีของมันอีกเช่นกัน ที่มันไม่ถูกจับไปส่งคืนให้โรงฆ่าสัตว์หรือเจ้าของเก่า แต่มันถูก Mike Stura ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Skylands Animal Sanctuary and Rescue พาไปอยู่ด้วยแทน มันจึงได้ใช้ชีวิตต่อสมใจ     คลิปวิดีโอตอนที่ตำรวจและ Mike ไปจับเจ้าวัวบนถนน   Mike ตั้งชื่อเจ้าวัวว่า Brianna เขาพามันไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในฟาร์ม โดยให้มันเดินเล่นไปมาได้ตามใจทั้งวัน และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกส่งไปโรงฆ่าสัตว์อีกเลย     แม้จะเพิ่งโดดลงรถมา แต่มันก็ดูไม่เจ็บอะไรมาก และมีความสุขดี   หลังจากที่ Brianna มาอยู่ในฟาร์มของ Mike ได้ไม่นาน มันก็เซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยการคลอดลูกตัวน้อยออกมา ทั้งที่ตอนแรกไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่ามันท้อง นั่นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า จริงๆ แล้วมันอาจไม่ได้ตัดสินใจโดดจากรถเพื่อช่วยชีวิตตัวเองอย่างเดียว แต่เพื่อทำให้ลูกตัวน้อยได้มีโอกาสลืมตาดูโลกด้วย    …

คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นต้องเจอสิ่งอันตรายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับคนร้าย และการควบคุมความไม่สงบที่เกิดขึ้นในชุมชน พวกเขาจึงนับได้ว่าเป็นคนที่มีความกล้าหาญมาก ทว่าบางครั้งก็มีสิ่งที่ทำให้พวกเขากลัวได้เหมือนกัน แม้ว่าเราจะไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ว่านั้นจะเป็นแค่กระรอกตัวเล็กๆ ดูไม่มีพิษไม่มีภัยตัวหนึ่ง…   ภาพสเก็ตช์คร่าวๆ ของคนร้ายขนปุย   เมื่อไม่นานมานี้ที่สถานีตำรวจในเมืองแม็คเฮนรี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีกระรอกน้อยตัวหนึ่งบุกเข้ามาหน้าประตูทางเข้าโรงพัก ตอนที่มีนายตำรวจกำลังจะเปิดประตูออกไปเพื่อกลับบ้าน แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ยังไง แต่นายตำรวจหลายคนในคลิปวิดีโอมีท่าทีชัดเจนเลยว่าพวกเขาเกรงกลัวมัน ราวกับว่ากระรอกน้อยตัวนี้เป็นอันตรายมากๆ นายตำรวจเล่าว่า “เจ้ากระรอกตัวนี้มันวนเวียนอยู่แถวนี้เป็นประจำแหละ มันไม่ค่อยกลัวอะไรหรอก ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของเรากำลังจะออกจากสถานี มันยังเข้ามาทำให้เขากลัวแทนเลย”     เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามช่วยกันอย่างหนัก เพื่อที่จะไล่ให้มันออกไปข้างนอกเหมือนเดิม คนที่กลัวมันจะได้เดินเข้าออกได้ตามปกติ ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากเจ้ากระรอกติดอยู่ระหว่างประตูทางเข้าชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ซึ่งประตูทั้ง 2 บานนี้มีกลไกเปิดและปิดพร้อมๆ กัน นั่นหมายความว่าถ้าจะเปิดประตูให้เจ้ากระรอกออกไป ก็ต้องเสี่ยงให้มันวิ่งเข้ามาด้วยนั่นเอง งานนี้การไล่เจ้ากระรอกออกไปจึงดูเครียดมากๆ ราวกับการต้อนผู้ร้ายเลยทีเดียว   สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สามารถไล่เจ้ากระรอกน้อยออกไปได้สำเร็จ แต่ตำรวจสาวที่ถ่ายคลิปวิดีโออยู่กลัวเจ้ากระรอกจนไม่สามารถถ่ายคลิปถึงตอนนั้นได้ และทำให้เราไม่ได้เห็นว่าพวกเขาทำให้มันออกไปได้โดยไม่มีตำรวจร้องไห้รึเปล่า ถึงจะเห็นว่ากระรอกตัวเล็กแค่นี้ แต่ดูจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละคนระแวงมันมากแล้ว คาดว่ามันน่าจะเคยก่อเรื่องไว้เยอะพอควรเลย ถือว่ามันเจ๋งมากที่กล้าหือกับตำรวจทั้งสถานี   ที่มา: the dodo, McHenry Police Department

ในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ มักจะมีภาพอะไรแปลกๆ ออกมาให้เราได้เห็นเสมอ และครั้งนี้ก็มีภาพความสัมพันธ์สุดประหลาดของงูและคางคก จากประเทศออสเตรเลียหลุดออกมาสู่สายตาชาวเน็ตเช่นกัน ภาพนี้ถูกถ่ายไว้โดยนาย Paul Mock ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Kununurra ประเทศออสเตรเลีย เขาเล่าว่าเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2018 มีฝนตกหนักบริเวณบ้านของเขา ซึ่งตกหนักมากจนอาจเกิดน้ำท่วมย่อมๆ ได้เลย และเมื่อเขาเปิดประตูออกไปดูใกล้ๆ บ้าน เขาก็ประหลาดใจมากเมื่อพบกับงูหลามยาวกว่า 3.5 เมตร ที่มีคางคกพิษจำนวนมากเกาะอยู่บนหลังด้วย เหมือนเจ้างูกำลังช่วยพวกคางคกให้อพยพหนีฝนได้เร็วขึ้นยังไงยังงั้น   https://twitter.com/MrMeMock/status/1079448894981828608   แน่นอนว่า Mock ไม่พลาดโอกาสที่จะถ่ายรูปสุดหายากนี้ไว้ ต่อมาภาพของเจ้างูและพวกคางคกจึงถูกนำมาเผยแพร่ลงบนทวิตเตอร์ของน้องชายเขา โดยน้องชายเขาเขียนแคปชั่นไว้ว่า “ฝน 68mm เพิ่งตกถล่มที่ Kununurra เมื่อชั่วโมงที่แล้ว มันพัดเอาคางคกอ้อยในเขื่อนของพี่ชายผมออกมา พวกมันบางตัวเจอวิธีหนีที่สะดวกสบาย นั่นคือการโดดขึ้นไปขี่หลังงูหลามยาว 3.5 เมตร”   A WA snake has become a global sensation after video emerged…

เหตุการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่สุดในบ้านเราตอนนี้ คงหนีไม่พ้น “พายุปาบึก” โดยมีผู้คนจำนวนต้องอพยพออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และไม่รู้ว่าภัยพิบัตินี้จะผ่านพ้นไปเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความหวาดกลัวนี้ ยังมีภาพที่ทำให้เห็นว่าต่อให้สถานการณ์จะเป็นอย่างไรเพื่อนแท้ย่อมไม่ทิ้งกัน แม้จะเป็นเพื่อนต่างสายพันธุ์ก็ตาม โดยคุณเล็ก หรือ ฝันเด่น หนึ่งในผู้ที่ลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้บันทึกภาพความประทับใจเอาไว้มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ภาพเจ้าของที่พาสัตว์เลี้ยงคู่ใจอพยพไปด้วยกัน     คุณเล็กได้โพสต์ภาพชุดคุณตาท่านนี้ ที่ห่อหุ้มเจ้าเหมียวด้วยผ้าขาวม้าและกอดมันไว้ในอ้อมแขน พร้อมแคปชั่นสั้นๆ ว่า “เราจะไม่ทิ้งกัน ความรัก ความผูกพัน ณ.ศูนย์อพยพปากพนัง”     ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าคุณตามีแค่กระเป๋าใบเล็กๆ ที่ห้อยแขนไว้เท่านั้น เพราะมือทั้งสองข้างต้องใช้อุ้มเจ้าเหมียว จึงไม่สามารถนำอะไรติดตัวมาได้มากกว่านี้ นี่คงจะเป็นภาพที่พูดแทนทุกความรู้สึกเกี่ยวกับมิตรภาพ ความรัก และความผูกพันระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยง แม้ว่าเราจะไม่ทราบเรื่องราวของคุณตาท่านนี้ แต่เราก็พอเดาออกว่าเจ้าเหมียวตัวนี้สำคัญกับคุณตามากแค่ไหน     นอกจากคุณตาท่านนี้แล้ว ยังมีคนอื่นๆ อีกหลายคนที่สัตว์เลี้ยงคู่ใจหนีมาด้วย อย่างคุณน้องท่านนี้ เธอก็ได้พาเจ้าเหมียวอพยพมาด้วย โดยอุ้มมันไว้ในเสื้อของเธอ     แม้สถานการณ์จะตึงเครียด แต่พวกเขายังมีรอยยิ้มแห่งความสุข เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็ยังได้อยู่พร้อมหน้าทั้งครอบครัว รวมทั้งเจ้าเหมียวด้วย     ส่วนเจ้าเหมียวเอง มันอาจจะสับสนเล็กน้อย…

เมื่อคืนวันที่ 15 เดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา Kim Fryer ต้องรีบลุกจากเตียงเมื่อมีเสียงตะโกนดังจากชั้นล่าง ทันทีที่ลงไปถึง เธอก็พบว่าลูกสาวของเธอกำลังเผชิญหน้ากับแขกไม่ได้รับเชิญที่มานอนชิลล์บนไมโครเวฟ แขกแปลกหน้าตัวนั้นมีขนาดและรูปร่างคล้ายแมวหนึ่งในห้าของ Fryer แต่มันมีขนเป็นแดงและมีขนหางที่ฟูฟ่องเป็นพวงอย่างเห็นได้ชัด     Fryer เล่าว่า “ฉันลงมาและเห็นสุนัขจิ้งจอกนอกขดตัวอยู่บนไมโครเวฟ ฉันเลี้ยงแมว 5 ตัว และสุนัขอีกตัว ดังนั้น ฉันคิดว่ามันน่าจะเข้ามาทางประตูแมว” ดูเหมือนเจ้าหมาจิ้งจอกจะเข้ามาในบ้านและหาจุดที่อุ่นที่สุดเพื่อที่มันจะได้งีบอย่างสบาย แต่ทางเจ้าของบ้านเป็นห่วงเรื่องปลอดภัย เลยปล่อยให้มันนอนแบบนั้นต่อไปไม่ได้      ต้นไม้ 2 ต้นของ Fryer ถูกถอนออกจากกระถางและพื้นก็เปื้อนไปด้วยโคลน เมื่อลูกสาวของเธอเปิดไฟ พวกเขาพบว่าตาเจ้าหมาจิ้งจอกเปิดอยู่ข้างเดียว และมันไม่ขยับตัวเลย Fryer จึงคิดว่าน่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับมัน Fryer จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ RSPCA แล้วพวกเขาก็รีบมารับเจ้าหมาจิ้งจอก ก่อนจะพามันไปส่งโรงพยาบาลสัตว์เพื่อเช็คอาการ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งชื่อให้เจ้าหมาจิ้งจอกว่า Mr. Fox… มันดูเซื่องซึมจนน่าเป็นห่วง และเมื่อมาถึงโรงพยาบาล มันรีบเข้าไปหลบอยู่ที่มุมห้องทันที     เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลบอกว่า “มันดูมีความสุขมากที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ แต่มันไม่ค่อยพอใจที่ต้องอยู่ในกรง โชคดีที่สุขภาพมันดีทุกอย่างและมันยังมีขนที่สวยงามเช่นเดิม” หลังจากที่เจ้าหน้าที่เช็คอาการและร่างกายของ Mr. Fox แล้ว พบว่ามันไม่เป็นอะไร พวกเขาจึงพามันไปปล่อยในป่าที่ใกล้กับบ้านของ Fryer…

เรารู้กันอยู่แล้วว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีความอยากรู้อยากเห็นสูงมาก จนหลายๆ ตัวต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่นเดียวกับเจ้าเหมียว Henry แม้ความอยากรู้จะไม่ทำให้มันถึงตาย แต่มันก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสังเวชเล็กน้อย เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ Katherine Fogg เจ้าของของ Henry สั่งพิซซ่ามาที่บ้าน ช่วงเวลานั้นเองที่เจ้าเหมียวมองเห็นโอกาสที่มันจะแอบหนีออกจากบ้านได้     ขณะที่ Fogg กำลังจ่ายเงินให้คนส่งพิซซ่าที่หน้าประตู Henry ก็ได้พุ่งตัวออกไปทันทีโดยไม่มีใครทันสังเกต แต่เจ้าเหมียวไม่รู้ตัวหรอกว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมาก เพราะหลังจากที่มันออกไปได้สักพัก ปรากฏว่าอยู่ดีๆ ฝนก็ตกและอากาศข้างนอกก็หนาวมากๆ แถมรอบตัวมีแต่ความมืด มองไปทางไหนก็ดูน่ากลัวไปหมด     สิ่งที่ Henry ต้องทำคือการกลับเข้าบ้านให้เร็วที่สุด แต่มันทำผิดและตัวมันเองก็รู้ดี ดังนั้น เจ้าเหมียวจึงค่อยๆ ย่องเข้าบ้านช้าๆ โดยมีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้     เจ้าเหมียวพยายามหาทางเข้าบ้าน แต่ทั้งประตูและหน้าต่างดันถูกล็อกหมดทุกทาง มันจะเดินวนเวียนรอบบ้านๆ พร้อมร้องเรียกให้แม่มาเปิดประตูให้     แต่ตอนนั้นด้วยเสียงฝนที่เทมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ครอบครัวที่อยู่ข้างในไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย Henry เลยต้องทนหนาวอยู่ข้างนอกหลายชั่วโมง     อย่างไรก็ตาม เมื่อแม่เริ่มตระหนักได้ว่า Henry ไม่อยู่บ้าน เธอจึงรู้ว่ามันคงแอบออกไปข้างนอก นั่นเธอยิ่งเป็นห่วงมันมากขึ้น เพราะตอนนี้ฝนตกและเจ้าเหมียวคงไม่มีที่ไปแน่ สุดท้ายเธอจึงตัดสินออกไปตามหาเจ้าเหมียว แต่โชคดีตอนที่เปิดประตูออกไป…

ปีใหม่นี้ หลายคนคงอยากเริ่มต้นชีวิตด้วยเรื่องดีๆ เรื่องที่ทำให้ใจเบิกบาน เจ้าม้าตัวนี้ก็เช่นกัน แต่บังเอิญว่ามันดันก้าวพลาดไปนิด เลยซวยตั้งแต่ต้นปีเลย เรื่องนี้เกิดขึ้นในบ้านของชายคนหนึ่งใน Kent ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่เขากำลังทำกิจวัตรประจำวันอยู่นั้น เขาเหลือบไปเห็นบางอย่างนอกหน้าต่าง บางอย่างที่ว่านั้นคือ ม้าผู้น่าสงสารกำลังติดอยู่ในสระน้ำของเขา และมันไม่สามารถขึ้นมาเองได้     เจ้าม้าพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายมันก็ลื่นไถลไปอยู่ที่ก้นสระ ชายเจ้าของเริ่มเป็นห่วงเจ้าม้า เพราะบางทีมันอาจจะอยู่ที่นั่นมาแล้วทั้งคืน เขาโทรไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA เพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาผู้ตรวจการ Rosie Russon และเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ Brian Milligan จึงรีบไปยังบ้านของชายคนนั้น เพื่อประเมินสถานการณ์และหาทางช่วยพาเจ้าม้าออกมา     เมื่อไปถึง Russon บอกว่า “เห็นได้ชัดว่ามันหนาวมาก แม้น้ำจะลึกเพียง 1 เมตร ซึ่งอยู่ในระดับท้องของเจ้าม้า แต่มันไม่สามารถขึ้นจากสระเองได้ ตอนนั้นผมกังวลว่าอุณหภูมิร่างกายมันจะอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง” น่าเสียดายที่ทั้ง Russon และ Milligan ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอที่จะช่วยพาเจ้าม้าขึ้นมา พวกเขาจึงติดต่อไปยัง Kent Fire & Rescue Service     เมื่อทีมจาก Kent Fire & Rescue…

ตอนที่แม่ลูกคู่หนึ่งไปเจอลูกหมาน้อยอยู่ข้างถนน พวกเธอไม่รู้เลยว่าทำไมถึงมีคนเอาลูกหมาน่ารักอย่างมันมาทิ้งไว้ จนเมื่อพามันไปรักษาตัวถึงได้รู้ว่ามันมีความผิดปกติบางอย่างอยู่ หมาน้อย Petey ถูกพบอยู่ในสภาพที่สกปรกและมีเห็บหมัดทั่วตัว มันนอนขดอยู่บนผ้าห่มผืนหนึ่งที่วางไว้ข้างทางกับพี่น้องอีกตัวหนึ่ง แม่ลูกที่เจอมันจึงพามันไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ SPCA ในท้องที่     แต่กว่าจะถึงมือหมอ ลูกหมาอีกตัวหนึ่งก็ตายจากไปแล้ว เหลือเพียง Petey เท่านั้นที่ได้รับการดูแลและการรักษาได้ทันท่วงที ทว่าพวกเขาก็พบว่า Petey มีความผิดปกติทางสมองที่เรียกว่า cerebellar hypoplasia ซึ่งทำให้เจ้าหมายืนไม่ค่อยอยู่ เดินเซ และมีปัญหาในการกินอาหารด้วย ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่คนเอามันมาทิ้งนั่นเอง     เจ้าหมาใช้ชีวิตลำบากมากเนื่องจากมันเดินได้เชื่องช้า แถมเซล้มบ่อยอีกต่างหาก และก็ต้องมีคนคอยช่วยเวลามันกินข้าวอยู่เสมอเลย แต่อาสาสมัครที่ดูแลมันก็ไม่ได้ยอมแพ้ พวกเขาคิดว่าน่าจะช่วยมันได้ จึงเริ่มพามันไปทำกายภาพบำบัดเป็นประจำทุกวัน เผื่อว่าอาการของมันจะดีขึ้นบ้าง     หลังจากที่ Petey ได้รับการทำกายภาพบำบัด อาการของมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน จากตอนแรกที่มันยืนไม่ค่อยอยู่ มันก็ทรงตัวได้ดีมากขึ้นเยอะแล้ว นอกจากนี้เจ้าหมายังสามารถกินอาหารเองได้แล้วด้วย ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่น่าชื่นใจมากเลย อย่างน้อยๆ มันก็จะไม่ลำบากเวลาต้องกินข้าวอีก     เป็นหมาที่ยืนไม่ค่อยอยู่ แต่ซนเอาเรื่อง    หลังจากที่ Petey อาการดีขึ้นมากแล้ว…

ว่ากันว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าของสุนัขหลายคนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปไว เพราะทุกเวลาที่มันอยู่กับคุณ มันทำให้คุณรู้สึกสุขใจขึ้นเสมอ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วหรอก อีกอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นก็เพราะว่าเจ้าหมามันโตเร็วมากจริงๆ ต่างหาก ถ้าไม่เชื่อก็ลองมาดูบันทึกการเปลี่ยนแปลงของเจ้าหมาในตอนเด็กจนถึงตอนโตกันดีกว่า บางรูปนั้นเวลาผ่านไปไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง รับรองว่าคุณต้องทั้งทึ่งและรู้สึกอบอุ่นใจกับการเติบโตของพวกมันแน่ๆ   ทั้งเจ้าของและเจ้าหมาต่างก็โตไปด้วยกัน   นี่มันหมาหรือตุ๊กตาสูบลม โตไวจริงๆ   เจ้าของดูไม่เปลี่ยนเลย แต่เจ้าหมาโตเต็มที่ซะแล้ว   ลูกหมาในวันนั้น เป็นหมาตัวโตในวันนี้   ไม่ว่าจะโตแค่ไหน พ่อก็ยังอยากอุ้ม   ตอนแรกตัวเท่าแขนแม่เอง ไม่ทันไรตัวเท่ากันแล้ว   พี่หมาของน้อง อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะ   ตัวใหญ่จนบังพ่อมิดเลยจ้า   กินอะไรถึงได้โตไวขนาดนี้นะ   ปีเดียวจริงๆ ครับ โตไวเหมือนโกหก https://www.instagram.com/p/BH7Bp8YD8bL/?utm_source=ig_embed   นี่น้องหมาตัวเดิมไง แค่ตัวโตขึ้นนิดเดียว (?) เอง ทำเป็นจำไม่ได้ https://www.instagram.com/p/BHZcLRajo4J/?utm_source=ig_embed   ดูจากกล่องเอาละกันว่ามันสูงขึ้นขนาดไหน   โตเป็นหมีแล้วยังอยากนั่งชิงช้าอีกนะลูก https://www.instagram.com/p/BM6iUGRgiAp/?utm_source=ig_embed   เผลอแป๊บเดียว แม่อุ้มเจ้าหมาไม่ไหวแล้ว…

นี่เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ของแมวเหมียวตัวหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของคนรักสุนัขคนหนึ่งเปลี่ยนไปตลอดกาล ตั้งแต่พวกเขาพบกันครั้งแรก พบกับ Izzy เหมียวที่เปลี่ยนทัศนคติของชายคนหนึ่งที่มีต่อแมว… ชายคนนี้เติบโตมากับสุนัขโกลเด้น รีทริฟเวอร์ เขาไม่เคยข้องเกี่ยวกับแมวจนกระทั่งแฟนสาวพาแมวของเธอมาแนะนำให้รู้จัก     แฟนสาวของชายหนุ่มคนนี้เป็นคนรักแมวมากและเธอเป็นทาสแมว ดังนั้น ตั้งแต่ชายหนุ่มได้รู้จักกับแฟนสาว เขาต้องพยายามอย่างมากในการเรียนรู้ที่อยู่ร่วมกับแมวของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกหลงใหลแมวเลยก็ตาม กระทั่งคืนหนึ่ง แฟนสาวถามเขาว่า สนใจรับเลี้ยงแมวของครอบครัวเพื่อนมั้ย? มันเป็นคำถามที่ง่ายแต่ตอบยากมาก จะตอบว่าไม่ก็ไม่ได้ เดี๋ยวแฟนจะรู้ว่าที่ผ่านมาเขาแค่แกล้งชอบแมว เขาเลยจำเป็นต้องตอบว่า โอเคเลย!!     หลังจากชายหนุ่มตอบไปแบบนั้น วันต่อมาแฟนสาวก็พาเจ้าเหมียว Izzy เข้ามาอยู่ในบ้าน ประเด็นคือ Izzy พยายามเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์ตลอดเวลา ดังนั้น แค่ชายหนุ่มรับมันมาอยู่ร่วมบ้านคงไม่พอ แต่เขาต้องใช้เวลากับมันด้วย     ก่อนพบกับ Izzy เจ้าหมาตัวนี้เคยเกลียดแมวมาก่อน แต่ดูมันตอนนี้สิ มันดูมีความสุขกับได้งีบหลับข้างๆ เจ้าเหมียว Izzy     Izzy ไม่เคยปล่อยให้ทาสเข้าไปห้องน้ำลำพัง เหมือนมันคิดว่าในห้องน้ำเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่กำลังซ่อนตัวอยู่ ดังนั้น มันจึงเข้าไปกับทาส เพื่อคอยสอดส่องและตรวจความเรียบร้อยให้     Izzy ไม่ได้เป็นแค่แมวเจ้าเสน่ห์ แต่มันเป็นแมวที่ฉลาดและฮาด้วย เวลาเจ้าของทำอะไร มันจะเสนอหน้าเข้าไปช่วยทำทุกอย่าง…

หากแม่แมวต้องดูแลลูกน้อยอยู่ข่าวถนน คงทำให้ชีวิตของพวกมันลำบากพอดูเลย โชคดีที่แม่แมวตัวนี้ถูกมนุษย์เก็บมาได้ทันเวลา มันและลูกๆ จึงได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของมนุษย์ช่วงปีใหม่พอดี แม่แมว Molly ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์พามาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ของเมืองลาสเวกัสเมื่อสิ้นปี 2018 ซึ่งทันเวลาก่อนที่มันจะคลอดลูกพอดิบพอดี     มีลูกๆ ติดมาด้วย   ถึงแม้ว่ามันจะได้คลอดลูกในที่ที่พ้นจากอากาศหนาวข้างนอกแล้ว แต่ศูนย์พักพิงสัตว์ที่หนาแน่นก็ยังไม่เหมาะจะเป็นที่ที่ใช้ดูแลลูกสักเท่าไหร่ คนที่อยากช่วยมันออกไปจึงติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังอาสาสมัคร และกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในพื้นที่ เผื่อว่าจะยังมีใครมีที่ว่างเหลือให้พวกมันอยู่     Hearts Alive Village Las Vegas ที่ได้รับเรื่องก็เลยพยายามหาบ้านให้กับพวกมัน แล้วส่งครอบครัวแมวเหมียวไปอยู่กับ Kymmi ที่บ้านของเธอ Kymmi เล่าว่าแม่แมว Molly เป็นแม่ที่รักลูกมากๆ แม้แต่ตอนที่เธอพาพวกมันขึ้นรถไปที่บ้าน มันก็ยังเลียขนและดูแลลูกๆ อยู่ในกรงเลย     ดูแลลูกตลอด 24 ชั่วโมง สมกับเป็นคุณแม่   หลังจากที่แม่แมวเข้ามาพักกับ Kymmi เธอก็จะตื่นมาเจอกับเสียงร้องเมี๊ยวๆ ของลูกแมว และเสียงครางอย่างมีความสุขของพวกมันทุกเช้า เธอเองก็ดีใจมากที่เธอได้ช่วยแม่แมวและลูกให้อยู่ในบ้านที่อบอุ่น ซึ่งถือเป็นของขวัญวันปีใหม่และการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของพวกมันด้วย     แย่งกันกินนมแม่ใหญ่เลย แบบนี้คงจะโตเร็วน่าดู https://www.instagram.com/p/BsCTqqDApEy/  …

ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ Carr Park ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาต้องหยุดหลังสังเกตเห็นห่านแคนาดาตัวหนึ่งนอนหงายเอาเท้าชี้ฟ้าอยู่ อาการของมันดูแย่มาก มันนอนนิ่งไม่ยอมขยับตัวเลย ท่าทางของมันดูเหมือนมันตายไปแล้วด้วยซ้ำ แถมข้างๆ กันนั้นยังมีนกอีกตัวหนึ่งนอนล้มอยู่ในลักษณะคล้ายๆ กันด้วย     เมื่อมองไปบริเวณข้างๆ เขาก็เห็นต้นเหตุที่ทำให้พวกมันนอนแอ้งแม้งอยู่แบบนี้ มันคือยาหลากหลายประเภทที่มีคนเอามาโยนทิ้งไว้นี่เอง เจ้าห่านกับนกคงจะเผลอกินเข้าไปจนทำให้ร่างกายมันผิดปกติ เขาจึงรีบโทรแจ้งทีมกู้ภัยจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Wetlands & Wildlife Care Center ทันทีเพื่อช่วยชีวิตพวกมันทั้ง 2 ตัว     คนที่มาช่วยพวกมันทั้ง 2 ตัวเล่าว่า “ยาที่เจออยู่บนพื้นเป็นยาโรคหัวใจ ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาแก้เครียด และก็ยานอนหลับ มันก็พูดยากเหมือนกันว่าพวกมันจะตายรึเปล่าหากเราไม่มาช่วย แต่ดูแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะถึงพวกมันจะไม่ตายเพราะยา ศัตรูทางธรรมชาติก็คงจะทำร้ายพวกมันซึ่งไม่อยู่ในสภาพที่จะป้องกันตัวได้เลย”   เจ้าห่านที่เมายา   และเจ้านกที่มีชะตากรรมเดียวกัน   โชคดีที่พวกเขาช่วยพวกมันได้ก่อนจะสายเกินไป ทั้งเจ้าห่านและเจ้านกจึงปลอดภัยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด และให้ยามันเพื่อให้ทั้งคู่ถ่ายยาแปลกปลอมที่กินเข้าไปทั้งหมดออกจากร่างกายด้วย   ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว เดินได้สบายมาก   เจ้านกเองก็อาการดีขึ้นไม่แพ้กัน   ไม่กี่วันหลังจากนั้นเจ้าห่านก็สุขภาพดีมากพอจนเจ้าหน้าที่คิดว่าปล่อยมันไปได้แล้ว พวกเขาจึงพามันไปปล่อยพร้อมกับเพื่อนห่านอีกตัวหนึ่งที่ถูกรักษาอยู่ในศูนย์เดียวกัน  …

ในโลกนี้มีศิลปินอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่มีอยู่หนึ่งตัวที่ไม่เหมือนใครแน่นอน ไม่ใช่เพราะแนววาดรูปของมันเป็นเอกลักษณ์ แต่เป็นเพราะมันเป็นมะหมา 4 ขา Kenny Au และ Denise จากประเทศแคนาดาก็เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่มีสุนัขอยู่ด้วย มันคือเจ้า Hunter หมาชิบะซึ่งเป็นเสมือนลูกรักของพวกเขานั่นเอง     อย่างไรก็ตามนอกจากการใช้ชีวิตเล่นสนุกตามประสาหมาทั่วไปแล้ว เจ้า Hunter ยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่มีหมาตัวไหนเหมือน ก็คือมันเป็นศิลปินนักวาดภาพแนวแอ็บสแตรคด้วย     ต้องมีหัวศิลป์นิดนึงถึงจะเข้าใจเจ้าหมาได้   Au เล่าว่า “เนื่องจาก Hunter เป็นหมาที่ใจเย็น รอบคอบ และชอบโต้ตอบกับเรา ภรรยาของผมเลยคิดว่ามันน่าจะเรียนรู้การวาดรูปด้วยพู่กันได้ ตอนแรกเรากะจะเอาผลงานของมันเก็บไว้ดูเป็นของต่างหน้า แต่พอมันวาดรูปออกมาจริงๆ เราเองยังทึ่งในผลงานของมันเลย”     สวยใช่ไหมล่ะ   หลังจากที่ Hunter ได้วาดรูปครั้งแรกแล้ว มันก็อยากวาดทุกวันเลย แต่เจ้าของของมันก็ไม่ลืมที่จะให้มันเล่นและทำอย่างอื่นกับพวกเขาบ้าง เพราะถ้าให้มันวาดรูปอย่างเดียวทุกวัน พวกเขาก็กลัวว่าเจ้าหมาจะเบื่อจนไม่อยากวาดรูปอีก     ผลงานของผมเองฮะ   แถมเจ้าหมายังไม่ได้วาดรูปเป็นงานอดิเรกไปวันๆ ด้วย รูปที่มันวาดมีคนไม่น้อยมาติดต่อขอซื้อ กลายเป็นรายได้อีกทางหนึ่งให้เจ้าของไปด้วยเลย โดยปัจจุบันรูปของเจ้าหมามีราคาอยู่ที่ประมาณใบละ 38 ดอลลาร์สหรัฐ…

หนุ่มตั้งใจรับเลี้ยงแมวเหมียวมาแค่ตัวเดียว เขาคิดว่ามันตัวอ้วนมาก แต่เขาไม่คิดเลยว่ามันกำลังมีลูกน้อยอยู่ เมื่อแม่แมวคลอดลูกแถมออกมาให้ เขาจึงแปลกใจมาก creative1232 จากเว็บไซต์ Reddit เล่าว่าตอนที่เขารับเลี้ยงแมวเหมียวสีส้มมา เขารับเลี้ยงมันด้วยความรู้สึกถูกชะตา และไม่ได้ตั้งใจจะรับแมวมาเยอะเลย     ถึงมันจะตัวอ้วนมาก แต่คนที่ศูนย์พักพิงสัตว์ก็บอกกับเขาว่ามันไม่เคยออกไปเจอแมวอื่นข้างนอกเลย เขาเลยคิดว่ามันน่าจะอ้วนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเขาให้อาหารมันเยอะมาก เขาจึงรู้สึกตกใจจนรับมือไม่ถูก เมื่อต่อมาเจ้าแมวคลอดลูกมาเพิ่มให้เขา แถมไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ซะด้วย มันมีลูกเพิ่มมาอีกตั้ง 7 ตัวแน่ะ     ถึง creative1232 จะตกใจจนรับมือไม่ถูก แต่ยังดีที่คู่หมั้นของเขาเตรียมพร้อมดูแลลูกแมวอยู่แล้ว เขาเล่าว่า “คู่หมั้นของผมน่าจะมีสัญชาตญาณของผู้หญิง ทำให้รู้ว่ามาตลอดว่าแม่แมวมันท้องอยู่แล้ว“ จากนั้นทั้งคู่จึงช่วยแม่แมวดูแลมิ้วน้อยอย่างดีที่สุด พวกเขาช่วยกันเลี้ยงดูจนทุกตัวเติบโตมาอย่างแข็งแรง แล้วก็พาพวกมันทั้งหมดไปทำหมันให้ด้วย     เนื่องจากตอนแรก creative1232 ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงแมวเยอะขนาดนี้ เขาจึงไม่พร้อมจะดูแลพวกมัน ต่อมาเขาจึงเริ่มหาบ้านให้ลูกแมวทั้ง 7 ตัวแทน ตอนนี้ถึงลูกแมวแต่ละตัวจะไม่ได้อยู่กับแม่แล้ว แตพวกมันก็มีทาสเป็นของตัวเอง จึงไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะใช้ชีวิตลำบากเลย ส่วนชายหนุ่มก็ยังดูแลแม่แมวตัวนั้นเหมือนเดิมตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก โดยหวังว่ามันจะไม่เซอร์ไพรส์พาลูกแมวมาให้เขาเป็นรอบที่ 2 อีกนะ     ที่มา: Love Meow

เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว Tunie เหมียววัย 14 ปีของ Jessica Ryan ได้จากไป แน่นอนว่า Jessica เสียใจหนักมาก กระทั่งหลายวันผ่านไป เธอกลับมาบ้านพร้อมกับการเซอร์ไพรส์จากคู่หมั้น คู่หมั้นได้พาลูกแมวตัวน้อยที่ชื่อว่า Sprout เข้ามาอยู่ในบ้าน ทันทีที่ Jessica เห็นหน้ากลมๆ และขนสีเทาของมัน เธอถึงนึก Tunie จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่     เมื่อแมวน้อยที่กำลังต้องการบ้านมาพบกับ Jessica ที่กำลังต้องการแมวสักตัวมาเติมเต็ม ทั้งคู่จึงตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็ว โดยแมวน้อยได้นำความสุขเข้ามาในชีวิตหญิงสาวและทำให้หัวใจเธอชุ่มฉ่ำอีกครั้ง จากนั้น เจ้าของก็ได้พาแมวน้อยไปทำความรู้จักกับแมวอีก 2 ตัว คือ Evin กับ Minnie ซึ่งตอนแรกทั้ง 2 ตัวไม่ชอบแมวใหม่เท่าไหร่ แต่ Sprout พยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจพี่ๆ     Jessica เล่าว่า “Sprout รักพี่ๆ ทั้ง 2 ตัว มันตามเหมียวทั้งสองไปทั่วบ้าน มันคอยดูและสอดส่องว่าพี่ๆ ทำอะไร ยังไง จากนั้น…

แม้จะมีคนบอกว่าหมาแมวอยู่ด้วยกันไม่ได้ เจอกันที่ไหนเป็นต้องทะเลาะกัน แต่หลายคนก็ยังเลือกที่จะเลี้ยงหมากับแมวไว้ด้วยกัน คือจริงๆ แล้ว เวลาหมาแมวอยู่ด้วยกัน มันไม่ได้มีแค่มุมที่ทะเลาะกันไง พวกมันมีทั้งรักกัน เกลียดกัน เล่นสนุกด้วยกัน เป็นห่วงเป็นใยกัน ที่สำคัญ ความสัมพันธ์หลากหลายเหล่านี้แหละที่สร้างรอยยิ้มให้เรา   1. ตูอยู่เฉยๆ อย่ามาทำให้ตูดูแย่ เจ้าหมาโง่   2. โอ้วววตายแล้ว ไหนบอกว่าจะกลับดึกไง   3. นี่ก็รักตูจัง อะไรนักหนาห๊ะ   4. ที่เล่นมีเยอะแยะ ก็มาเล่นในมือตูเนี๊ยะ   5. ฉันว่าเราควรให้เจ้าหมาขึ้นมานอนบนเตียงของมันนะ// อย่าสนใจเลยโจ เรามันคนละชั้นกับหมา   6. และนี่คือภาพที่เจ้าของชอบมองผ่าน ชอบไม่ได้เห็น   7. ฉันกำลังอบรมเจ้าหมา มนุษย์ทาสอย่ามายุ่ง   8. คิดจะขึ้นไปฟ้องแม่หรอ ผ่านฉันไปให้ได้ก่อนสิ๊   9. กอดซะตูไปไหนไม่ได้เลย นี่ถ้าปวดฉี่ขึ้นมา เปียกทั้งคู่นะ บอกเลย   10.…

สุนัขเกือบทุกตัวชอบให้เราชมด้วยคำว่า “เด็กดี” บางตัวต่อให้โมโหแค่ไหน หรือกำลังโกรธอะไรมาก็ตาม ถ้ามีใครชมมันว่าเด็กดี สีหน้าและอารมณ์ของมันจะเปลี่ยนไปทันที และนี่คือเหล่าน้องหมาที่แสดงสีหน้าได้อย่างชัดเจนว่าพวกมันชอบคำชม “เด็กดี” มากแค่ไหน คือเรียกได้ว่าเป็นคำคำเดียวที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของพวกมันได้เลย   1. จากน้องหมาผู้ก้าวร้าวกลายเป็นนุ้งหมาแสนอ่อนหวาน วันนั้นน้องหมาตัวนี้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่มันกลับมาอยู่ในภาวะปกติและอ่อนหวานมากๆ เมื่อเจ้าของชมมันด้วยคำว่า “เด็กดี” นางดูมีความสุขจนแทบลืมความหงุดหงิดก่อนหน้านี้เลย   2. น้องหมาตอบสนองคำชมด้วยรอยยิ้มหวานๆ เจ้าหมาตัวนี้ไม่ได้โมโหหรือหงุดหงิดอะไรหรอก แต่คำว่า “เด็กดี” จากเจ้าของ ทำให้โลกของมันสนใจมากขึ้น จนอดยิ้มไม่ได้   3. คำคำเดียวแต่ทำให้น้องหมายิ้มกว้างได้ขนาดนี้ น้องหมายิ้มกว้างหลังถูกชมว่า “เด็กดี” แล้วดูขนสีขาวนุ่มๆ ของมันสิ ข้ากับรอยยิ้มสวยๆ ของมันสุดๆ   4. ยิ้มค่อยๆ แต่น่ารักมากมาย น้องกำลังอยู่ในอารมณ์หม่นๆ แต่เมื่อมีชมว่า “เด็กดี” นางก็แล็บลิ้นน้อยๆ ออกมา เพื่อบ่งบอกว่าชอบเด้อ พูดอีกๆ   5. ยิ่งชมยิ่งเขิน พอถูกชมว่าเด็กดีเท่านั้นแหละ ตื่นเต้นอย่างกับได้กินขนมหวานแหน่ และไม่ใช่แค่ยิ้มกว้างนะ หูนางตั้งแล้วตั้งอีก  …

สัตว์เลี้ยงหลายตัวถูกครอบครัวทิ้งอย่างไม่ไยดีเมื่อพวกเขาไม่ต้องการมันแล้ว ทำให้พวกมันต้องกลายเป็นสัตว์เร่ร่อน เอาตัวรอดไปวันๆ เลยห่างไกลจากความรัก แต่โชคดีที่เรื่องราวของสุนัขถูกทิ้งตัวนี้ลงเอยด้วยความอบอุ่น ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีที่แล้ว กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Hope for Paws ในลอสแอนเจลิสได้รับแจ้งเกี่ยวกับสุนัขที่ดิ้นรนเอาตัวรอดบนถนน พวกเขาจึงรีบไปหามันทันที     เมื่อไปถึงพวกเขาก็พบสุนัขพันธุ์นิวฟาวด์แลนด์ สีดำ กำลังเดินบนถนนที่ร้อนระอุด้วยความเหนื่อยล้า Loreta Frankonyte หนึ่งในผู้ช่วยเหลือจึงเอาชีสเบอร์เกอร์ให้มันกิน เพื่อทำให้มันไว้ใจ แม้ว่าน้องหมาจะตื่นตระหนกตอนที่มีคนเอาเชือกไปคล้องคอมัน และมันก็สงบลงอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา จากนั้น ผู้ช่วยเหลือได้ตั้งชื่อให้มันว่า Everest      เมื่อพา Everest มาถึงศูนย์พักพิงและเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมมันได้แล้ว พวกเขาก็ได้อาบน้ำให้มันเป็นอย่างแรก จากนั้น Loreta ก็กอดมันไว้ตลอดทั้งคืน ในไม่ช้าทุกคนก็ได้รู้ว่า Everest เป็นสุนัขตัวโตแสนหวานที่เข้ากับทุกคนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่มันมีปัญหาเล็กๆ อย่างหนึ่ง ซึ่ง Loreta ได้อธิบายไว้ในอินสตาแกรมว่า     “เราอาบน้ำให้มัน ตรวจสุขภาพให้มัน และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมันก็สบายดีทุกอย่าง แต่มันดูไม่มีความสุขเลย มันไม่แสดงอารมณ์ใดๆ จนเรากังวลว่ามันจะมีความผิดปกติ”  ถ้าเจ้าหมามีความสุขกว่านี้ ร่าเริงกว่านี้ จะทำให้คนอยากรับเลี้ยงมันมากขึ้นและมันจะเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวด้วย     หลังจากที่ประกาศหาบ้านให้น้องหมายักษ์ ไม่นาน Loreta…

เมื่อคู่รักคู่หนึ่งออกไปปั่นจักรยานด้วยกัน พวกเขาได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากข้างถนน เมื่อลองไปตามเสียงนั้นไป ก็พบว่าเป็นลูกแมวตัวน้อยที่ถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง ทั้งคู่คือ Céline (@tartemadame) และสามีของเธอ Daniel (@cycling.dan) วันนั้นพวกเขาไปปั่นจักรยานในเขตชนบทของ Brittany ประเทศฝรั่งเศส     Céline เล่าว่า “วันนั้นเรากำลังปั่นอยู่บนถนนที่เงียบสงบและผ่านเขตป่าที่ไม่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียง และแล้วเราก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างถนน”  “ตอนแรกเราคิดว่าเป็นเสียงนก เราเลยหยุดเพื่อฟังว่าเสียงนั้นมาจากไหน แต่แล้วก็พบว่าเสียงนั่นเป็นเสียงลูกแมว มันกำลังร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว”      แมวน้อยกังวลมากและไม่อยากเข้าใกล้คู่รัก Céline จึงนอนลงข้างๆ มัน และค่อยๆ คุยกับมันด้วยเสียงที่แผ่วเบา เพื่อทำให้มันเชื่อใจ เมื่อแมวน้อยรู้แล้วว่าทั้งคู่ไม่ได้เข้ามาทำอันตรายมัน มันจึงเดินเข้าไปหา Céline และต้องการอ้อมกอดจากเธอ จากนั้นมันก็ไม่ยอมอยู่ห่างเธอเลย มิ้วน้อยใช้กรงเล็บปีนขึ้นไปบนตัว Céline และเริ่มร้องไห้ ตอนนั้นเองที่คู่รักรู้ว่าพวกเขาต้องพามันกลับบ้านด้วย     จากจุดที่คู่รักพบแมวห่างจากบ้านพวกเขาค่อนข้างไกล และทั้งคู่ไม่มีกระเป๋าสำหรับเก็บแมว พวกเขาจึงอุ้มแมวน้อยไว้ในเสื้อ ขณะที่แมวน้อยเองก็เคลื่อนไหวตลอดเวลา เพราะกลัวตก ทั้งคู่ไม่มีทางเลือก พวกเขาตัดสินใจกลับบ้านไปเอารถยนต์ โดยซ่อนมิ้วน้อยเอาไว้ และหวังว่ามันจะไปหนีไปไหนจนกว่าพวกเขาจะกลับมา     เมื่อถึงบ้านพวกเขาก็คว้ากล่องแมวและรีบกลับไปหาแมวน้อยอย่างรวดเร็วที่สุด ทันทีที่ลงจากรถ Céline เรียกหาแมวน้อย เมี๊ยวๆ สักพักแมวน้อยก็ออกจากที่ซ่อนและวิ่งมาหาเธอ…

เขาว่ากันว่าในการถ่ายรูปแต่ละครั้ง จะมีแค่ไม่กี่รูปจากหลายพันใบเท่านั้นที่ดูดีและลงตัวที่สุด การจะหารูปดีๆ สักใบจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทว่าวันนี้เราไปไปหารวบรวมภาพถ่ายของเหล่าสัตว์ ที่ถูกถ่ายอย่างตรงจังหวะพอดีมาให้แล้ว มันจะเป็นภาพที่ฮาและน่ารักมากขนาดไหนลองไปชมกันดูนะ   นี่ไงแว่นกับทรงผมใหม่ของผม   ไม่อยากแบ่งใช่ไหม? งั้นก็กินให้หมดอย่าให้เหลือล่ะ!!   ว้าว ทุกตัวมองกล้องพร้อมกันหมดเลย   ไหนดูซิเช้านี้มีข่าวอะไรน่าสนใจบ้าง?   ถ่ายตอนเลียจมูกไว้ได้พอดิบพอดี https://www.instagram.com/p/BqBpyPWHUvS/?utm_source=ig_embed   แมวตัวนี้ขายาวจัง   แม้แต่ในเงา เจ้าแมวก็มีตานะ   เจ้าของกับเจ้าม้ายิ้มพร้อมกันพอดี ท่าจะซี้กันมากนะเนี่ย https://www.instagram.com/p/BqvXUC5BMqP/?utm_source=ig_embed   มุมนี้ดูเหมือนเจ้าหมามีแค่ส่วนหัวเลย   มันไม่อร่อยหรอกน้องหมา รีบคายออกมาเถอะ   อุ๊ย ลื่น ขอโทษนะเพื่อน   คู่นี้สวีทกันอะไรขนาดนั้นคะ คนโสดล่ะอิจฉา https://www.instagram.com/p/Bn6dVuQFkA_/?utm_source=ig_embed   ขาสวยนะเราอะ เหมือนขานางแบบ   เราเป็นหมายักษ์ งาบรถได้ทั้งคันเลยทีเดียว   ดูเหมือนเจ้าเหมียวจะได้เพื่อนใหม่แสนสวยนะ   จะเสิร์ฟแล้วนะ เตรียมรับดีๆ ล่ะ  …

คุณเคยรู้สึกบ้างไหม ว่าถึงคุณจะเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้าง หรือแปลกมากแค่ไหน คุณก็ยังคิดว่าตรรกะของแมวมันแปลกอยู่ดี แม้แต่ทาสแมวที่อยู่กับพวกมันทั้งวันทั้งคืน ก็ดูจะทำความเข้าใจเจ้านายของพวกเขาไม่ได้เลย…เพราะแมวมันชอบทำอะไรที่แปลก ดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย (ในสายตามนุษย์) ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนที่เข้าใจตรรกะแมวๆ ได้ล่ะก็ ลองดูพฤติกรรมประหลาดของพวกมันดูสิ มันเข้าใจได้ยากจริงๆ นะ   ชามข้าวของตัวเองก็มี จะแย่งกันกินของเพื่อนทำไม??   ตรงไหนนอนสบายแมวก็จะนอน ลำบากคนอื่นช่างมัน   ทำยังไงก็ได้ ให้ท่ากินน้ำดูยากลำบากมากที่สุด   เรื่องกวนทีนมนุษย์นี่ งานถนัดนักขอให้บอก   ชักไม่แน่ใจแล้วว่าพวกมันเป็นญาติกับค้างคาวรึเปล่า   ที่หลบภัยแบบนี้มันน่าปลอดภัยตรงไหนกัน…   มนุษย์เข้าห้องน้ำทีไรต้องมานั่งเฝ้าทุกที…หรือว่ามันเป็นพวกถ้ำมอง!?   ถ้าเราไม่เห็นเขา ก็ถือว่าเขาต้องไม่เห็นเรา (ใช่เหรอ!?)   ตอนประตูปิดก็ไม่ยอมใช้ประตูเล็ก แต่ตอนประตูเปิดอยู่นี่ขยันใช้จัง   แกจะกินและนอนในที่เดียวกันแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าเหมียว   ตีเนียนว่าช่วยแม่แต่งต้นคริสต์มาส แต่จริงๆ วางแผนร้ายอยู่   ซื้อเตียงให้กี่เตียง มันก็เหมาเป็นของตัวเองหมด ไม่มีน้ำใจแบ่งเพื่อนเลย   ของแพงๆ ไม่ชอบ ขอแค่กล่องกระดาษก็พอแล้ว   ที่มีให้นั่งตั้งเยอะ ทำไมถึงเลือกตรงนี้นะ???…

สำหรับเด็กๆ แล้ว คงไม่แปลกถ้าพวกเขาอยากจะรู้ว่าซานต้าที่ให้ของขวัญพวกเขาทุกปีหน้าตาเป็นยังไง? เป็นเหมือนที่พวกเขาคิดเอาไว้รึเปล่า? เด็กหลายคนได้แต่คิดจินตนาการถึงเรื่องพวกนี้ ส่วนเด็กชายขี้สงสัยคนนี้ตัดสินใจจะค้นหาคำตอบด้วยตัวเองเลย โดยการตั้งกล้องวิดีโอแอบถ่ายซานต้าไว้…ทว่าสิ่งที่เขาเจอกลับไม่ใช่ซานต้าเลย เขาเจอความแสบของเจ้าหมาแทน     น้องชายของ @lntolisa เกิดอยากเห็นหน้าซานต้าขึ้นมา และปีนี้เขาก็ปิ๊งไอเดียว่าหากใช้ไอแพดตั้งบันทึกวิดีโอทิ้งไว้ก็น่าจะถ่ายติดซานต้าด้วย เขาจึงแอบเอาไอแพดเสียบชาร์จแบตไว้ และตั้งถ่ายวิดีโอไว้ที่ใต้ต้นคริสต์มาสทั้งคืน แบบนี้เขาก็จะได้เห็นซานต้าตอนที่เขาเอาของขวัญมาวาง   https://twitter.com/lntolisa/status/1077395206654357504?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1077395206654357504&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.dailymail.co.uk%2Ffemail%2Farticle-6530133%2FLittle-boy-leaves-iPad-Christmas-tree-catch-Santa-discovers-unusual.html   แล้ว @lntolisa ก็เอาวิดีโอที่น้องชายถ่ายมาอัปโหลดลงทวีตด้วย โดยเขียนอธิบายว่า “น้องชายของฉันใช้ไอแพดถ่ายวิดีโอทิ้งไว้ใต้ต้นคริสต์มาสเพื่อจับซานต้า แต่ดูสิว่าเขาเจออะไร” อย่างไรก็ตาม ในวิดีโอก็ไม่มีซานต้าอยู่เลย แต่เขาก็เจอเรื่องไม่คาดคิดในคืนนั้นเหมือนกัน โดยตัวก่อเรื่องก็คือเจ้าหมาน้อยสัตว์เลี้ยงในบ้านนั่นเอง     เจ้าหมาแอบย่องเข้ามาที่ใต้ต้นคริสต์มาสตอนที่ทุกคนในบ้านหลับหมดแล้ว และมันก็ดูจะสนใจตรงใต้ต้นคริสต์มาสมากๆ เลย มันไม่ได้สนใจของขวัญที่วางอยู่ตรงนั้นหรอกนะ มันกำลังหาที่อึ๊อยู่ต่างหาก แถมยังมาปล่อยระเบิดไว้ด้านหน้ากล้องวิดีโอซะอีก บางทีมันอาจจะอยากให้ครอบครัวรู้ว่ามันเองก็ทิ้งของขวัญไว้ให้ด้วย     แต่แน่นอนว่าไม่มีใครอยากได้ของแบบนั้นหรอก พอเด็กชายตื่นเช้าลงมาดูวิดีโอที่ถ่ายไว้ นอกจากจะผิดหวังที่ไม่ได้เจอซานต้าแล้ว ยังต้องมาเจอกองระเบิดของเจ้าหมาอีก ช่างเป็นเช้าที่ไม่สดใสเอาซะเลย   อี๋ เจ้าหมาอึ๊ไม่เป็นที่เลย   ส่วนชาวเน็ตที่ได้เห็นวิดีโอบางคนก็ปลอบเขาว่า น่าดีใจนะที่เจ้าหมามันอยากให้ของขวัญกับเขา แต่ไม่มีอย่างอื่นจะให้เท่านั้นเอง บางคนก็คอมเมนต์บอกว่านี่อาจเป็นบทลงโทษสำหรับเด็กที่สอดรู้เรื่องของซานต้าก็ได้ แต่เราว่าเจ้าหมากับซานต้าไม่น่าจะได้เตี๊ยมกันมาก่อนหรอก   https://twitter.com/lntolisa/status/1077434918379159552  …

เจ้าหมาน้อยปลุกคุณแม่ขึ้นมากลางดึกด้วยเสียงเห่า เธอรู้สึกรำคาญมันเพราะต้องการพักผ่อน แต่ก็เป็นโชคดีของเธอที่เธอเอะใจตามไปดูว่ามันเห่าอะไร เธอและครอบครัวจึงมีเวลามากพอให้หนีออกมาได้อย่างปลอดภัย     Angela Fullmer เป็นคุณแม่ลูกเก้าที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านเต็มตัว โดยลูกของเธอมีตั้งแต่เด็กวัยทารกไปจนถึงเด็กโตวัย 11 ขวบเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพไปด้วย เธอจึงต้องเหนื่อยกับการดูแลลูกและเรียนไปพร้อมๆ กัน     ลูกน้อยทั้ง 9 คนของ Angela   ส่วนสามี Isacc ทำงานเป็นคนขับรถบรรทุกอยู่ไกลบ้านเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว เขาจึงไม่ได้กลับมาบ้านบ่อยนัก แต่เพื่อหาค่าเลี้ยงดูให้ลูกๆ จึงต้องยอมสละเวลาที่ได้อยู่กับลูกไป     Isaac เป็นคนช่วยเจ้าหมาน้อย Capone เอาไว้และพามาเลี้ยงไว้ที่บ้าน โดยเขาเจอมันอยู่ข้างทางด่วนตอนขับรถอยู่ แล้วแวะจอดช่วยมันเพราะเห็นว่าไม่มีใครสนใจมันเลย เขาพาเจ้าน้อยไปอยู่กับครอบครัว เนื่องจากคิดว่ามันน่าจะเป็นเพื่อนกับเด็กๆ ได้ และจะได้ทำให้บรรยากาศในบ้านดูร่าเริงมากขึ้นทั้งสำหรับคุณแม่และลูกๆ ด้วย     ปกติแล้ว Angela จะขับรถไปส่งลูกๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า และกลับมาดูแลลูกที่ยังเล็กอยู่ที่บ้าน จากนั้นก็จะไปรับลูกกลับจากโรงเรียน และก็เรียนทางไกลไปด้วย ส่วนตอนกลางคืนเธอก็ต้องส่งลูกๆ ทั้ง 9 คนเข้านอน กว่าเธอจะส่งลูกเข้านอนได้ครบหมด เธอก็หมดแรงและอยากพักผ่อนเต็มทนแล้ว…

ดูเหมือนว่าสมัยนี้จะไม่ได้มีแค่น้องๆ หนูๆ ที่ชอบเล่นเกมมือถือและแท็บเล็ตซะแล้ว แม้แต่เจ้าแมวเหมียวเองก็ติดแท็บเล็ตไปกับเขาด้วยอีกคน แถมยังเล่นเกมเก่งกว่าทาสซะอีก เพื่อนๆ ยังจำเกม Ninja Fruit กันได้ไหม? มันเป็นเกมมือถือและแท็บเล็ตที่เราต้องฟันผลไม้ให้ได้แต้มมากที่สุด โดยใช้นิ้วประหนึ่งดาบนั่นเอง ช่วงก่อนหน้านี้เกมนี้เคยได้รับความนิยมมากเลยล่ะ และตอนนี้ก็มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งกำลังติดเกมนี้อยู่เช่นกัน แถมมันยังเล่นเก่งไม่เบาเลยด้วย เห็นแล้วก็น่าทึ่งที่มันสามารถเล่นเกมแท็บเล็ตแบบนี้ได้ และก็น่าขำที่มันเล่นจริงจังมากเหลือเกิน     เจ้าแมวที่ว่าก็คือ Mao Mao แมวเหมียวจากประเทศจีน ที่แอบเอาแท็บเล็ตของทาสไปเล่นเกมฟันผลไม้ตอนที่เธอกำลังเผลอ ทาสของมันเล่าว่าเจ้าแมวแอบมองดูเธออยู่ตอนเธอเล่นเกม พอเธอพักเบรกแล้ววางแท็บเล็ตทิ้งไว้บนโต๊ะ กลับมาอีกทีเธอก็เห็นมันกำลังใช้อุ้งเท้าฟันผลไม้แบบแหลกลาญแล้ว     แถมเจ้าเหมียวยังไม่ทำร้ายแท็บเล็ตของเธอด้วย เนื่องจากเธอเห็นแล้วว่าตอน Mao Mao เล่นเกม มันเก็บเล็บเอาไว้และใช้อุ้งเท้าถูจอเฉยๆ เท่านั้น ไม่ได้ทำให้หน้าจอเป็นรอยเลย (แต่เธอก็ติดฟิล์มกันเหนี่ยวเอาไว้แล้ว หายห่วงได้) ที่น่าทึ่งอีกอย่างก็คือทาสของมันยังบอกอีกว่า เจ้าแมว Mao Mao มันเล่นเก่งจนทำคะแนนได้สูงกว่าที่เธอเล่นอีกแน่ะ…ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเล่นไม่เก่ง เจ้าเหมียวมันก็คงจะเป็นเซียนเกมจริงๆ นะเนี่ย     เกมและวิดีโอในแท็บเล็ตนั้นสนุกถูกใจทั้งคนและแมวจริงๆ และมันก็ใช้เป็นสื่อบันเทิงทำให้เจ้าเหมียวไม่รู้สึกเบื่อได้ด้วย แต่ก็ลืมหาเวลาเล่นกับมันบ้างล่ะ เพราะการได้สานสัมพันธ์กับเจ้าเหมียวด้วยตัวเอง ดีกว่าการเลี้ยงมันด้วยแท็บเล็ตเยอะเลย แถมมันจะได้รักเรามากขึ้นด้วย     …

แม้ว่าเรื่องราวนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่คนที่เคยได้ฟังเรื่องของแม่แมวผู้กล้าหาญซึ่งช่วยลูกๆ ออกมาจากเหตุไฟไหม้ ก็คงไม่มีทางลืมมันได้ง่ายๆ เมื่อหลายปีก่อนในเหตุไฟไหม้ครั้งหนึ่ง นักดับเพลิงกำลังเร่งรีบเข้าไปควบคุมไฟในที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ไฟไหม้ลุกลามไปกว่าเดิม     ตอนที่พวกเขาไปถึงที่เกิดเหตุแล้วกำลังช่วยดับไฟและอพยพคนนั้น พวกเขาก็ต้องทึ่งเมื่อได้เห็นแม่แมว Scarlett วิ่งเข้าและออกจากกองไฟหลายรอบ พร้อมกับคาบลูกออกมาทีละตัว นักดับเพลิงเห็นเลยว่าแม่แมวเองก็มีแผลตามตัวไม่น้อย ตามตัวของมันบางจุดไม่มีขนเหลือแล้ว อุ้งเท้าและหูของมันก็มีแผลไหม้เช่นกัน แถมมันยังรู้สึกร้อนจนแทบลืมตาไม่ขึ้น     แต่ถึงมันจะเจ็บปวดแค่ไหน แม่แมวก็ไม่หวั่นเกรงไฟที่กำลังลุกโชนอยู่เลย มันยังคงกระโดดเข้าออกกองไฟอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมันคาบลูกออกมาได้ครบ 5 ตัวและมั่นใจว่าลูกปลอดภัย มันถึงล้มตัวลงและสลบไป นักดับเพลิงคนหนึ่งรีบพาพวกมันทั้งครอบครัวไปหาสัตวแพทย์ น่าเสียดายที่มีลูกแมวตัวหนึ่งได้รับแผลไหม้จนตายไป แต่ก็น่าชื่นชมมากเลยที่แม่แมวช่วยลูกแมวที่เหลือเอาไว้ได้     พอเรื่องของเจ้า Scarlett ได้รู้ไปถึงหูชาวเน็ตแล้ว ก็มีแต่คนชื่นชมมันไม่ขาดปากเลย แถมยังมีคนสนใจจะรับเลี้ยงพวกมันมากมายด้วย ทำให้แมวเหมียวทั้งครอบครัวมีมนุษย์ดูแลครบหมดแล้ว และต่อมาในปี 2008 หลังที่แม่แมวได้อยู่กับทาสอย่างมีความสุข มันก็จากโลกนี้ไปตามอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของมัน     อย่างไรก็ตามถึงแม่แมวจะตายจากไปแล้ว ผู้คนก็ยังจำความเสียสละและความรักที่มันมีต่อลูกๆ ได้ขึ้นใจ และในปีต่อมาองค์กร North Shore Animal League ก็ได้มอบรางวัลสัตว์ผู้กล้าหาญให้กับ Scarlett ให้สมกับความดีที่มันเคยทำ   ที่มา:…

มันน่าเศร้าที่รู้ว่าสุนัขไม่ได้มีชีวิตที่ดีทุกตัว หนึ่งในนั้นคือ Maisy พิตบูลล์ที่ต้องอยู่ในกรงนอกบ้านมานานถึง 3 ปี แต่ชีวิตมันเปลี่ยนไปเมื่อได้รับการช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้ Maisy อยู่กับครอบครัวที่เลี้ยงมันไว้เพื่อผสมพันธุ์ขายเท่านั้น แต่ปรากฏว่าเจ้าหมากลับไม่เป็นอย่างที่พวกเขาต้องการ สุดท้ายมันเลยถูกนำไปทิ้งนอกบ้าน ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ และมีชีวิตที่ลำบากมากๆ     โชคดีที่เพื่อนของเจ้าของแนะนำให้พาเจ้าหมาไปยังศูนย์พักพิง และเมื่อทางศูนย์พักพิงโพสต์รูปมันในโซเชียลเพื่อหาบ้านให้มัน Marisa Elbert ก็เข้ามาเห็นพอดี สำหรับ Elbert นั้น เธอเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนกัน เธอสูญเสียทั้งพ่อ แม่ รวมทั้งสุนัขที่เธอรักมาก เพื่อนคนหนึ่งจึงแท็กเธอในรูปของ Maisy หวังให้เธอมีเพื่อนใหม่ที่เข้ามาเยียวยาจิตใจ ตั้งแต่นั้นมา Maisy ก็กลายเป็นเพื่อนตัวใหม่ของ Elbert และมันทำมากกว่าที่หญิงสาวคาดหวังไว้     Elbert บอกว่า “Maisy เป็นหมาชอบพูด มันมีความสุขกับการทำเสียง woo-ing เพื่อพูดคุยกับฉัน และเพราะเสียงนี้แหละ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฉันตัดสินใจรับเลี้ยงมัน” “มันจะทำเสียง woo-ing เมื่อมันมีความสุขหรือตื่นเต้นมากๆ มันเป็นหมาช่างพูด พูดเก่ง และเรามักจะเมาท์มอยกันบ่อยๆ”     Maisy ต้องการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทุกอย่างที่มันเห็น และเจ้าของเองก็พูดคุยกับมันราวกับว่าพวกเขาเข้าใจกันและกันจริงๆ Elbert บอกว่า “เราคุยกันเกือบตลอดทั้งวัน…

ผู้คนมากมายเดินผ่านแมวจรจัดจนกลายเป็นความเคยชิน แต่สำหรับหญิงสาวที่ชื่อ Melissa ตัดสินใจหยุดรถขณะขับผ่านเมือง Belize City ประเทศเบลีซ เมื่อเธอเห็นลูกแมวตัวหนึ่งเดินเขยกอยู่ข้างทางหลวง เมื่อ Melissa เข้าไปใกล้แมวตัวนั้นมากขึ้น เธอก็สังเกตเห็นว่ามันได้รับบาดเจ็บสาหัส กรามของมันหักและกระดูกก็ยื่นออกเข้าไปในปากมัน     เพราะแบบนี้ เจ้าเหมียวจึงไม่สามารถกินอาหารได้ มันเลยผอมและอ่อนแอมาก มันเหมือนตัวละคร Sméagol ใน Lord of the Rings หญิงสาวจึงตั้งชื่อให้มันตามตัวละครนั้น Melissa อุ้ม Sméagol ขึ้นมาในรถ และพามันไปหาสัตวแพทย์ แต่ขณะที่นั่งรถไปนั้น เจ้าเหมียวเริ่มทำเสียงเพอร์ จนทำให้ใจของหญิงสาวแทบละลาย     เมื่อมาถึงคลินิกสัตว์ คุณหมอบอกกับ Melissa ว่าไม่มีหมุดขนาดเล็กพอที่จะยืดกรามของ Sméagol ได้ นั่นหมายความว่าจะเหมียวจะไม่สามารถกินได้และทางเดียวที่ทำให้มันไม่ต้องทรมานคือ การุณยฆาตมัน อย่างไรก็ตาม Melissa ไม่ยอมแพ้ที่จะช่วย Sméagol เพราะเธอรักมันไปแล้ว     Melissa บอกว่า “ฉันถามหมอว่าถ้าเราปล่อยให้มันหายเองจะเป็นอะไรมั้ย คุณหมอตอบว่าแล้วมันจะกินยังไงล่ะ ตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงพกอาหารแมวมาในกระเป๋าด้วย ฉันเลยเปิดให้มันกิน” “ปรากฏว่า Sméagol จุ่มหัวลงใบในถ้วยและแสดงให้เราเห็นว่ามันสามารถกินได้ และกินได้ดีด้วย”     คุณหมอจึงเอายาปฏิชีวนะให้ Melissa…

มันยากที่เราจะทำเหมือนไม่สนใจแมวนะ เพราะแมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ของมนุษย์อย่างเรามากๆ โดยเฉพาะเหล่าทาสแมวทั้งหลาย เพราะแบบนี้ แมวจึงสามารถเรียกร้องสิ่งที่ต้องการได้เสมอ ถ้าคุณคิดว่าที่กล่าวมานี้ไม่เป็นความจริง ลองดูภาพข้างล่างนี้แล้วจะเข้าใจ คือไม่ว่าพวกมันจะทำอะไร ก็ดูน่ารักไปซะหมด แล้วแบบนี้ใครมันจะปฏิเสธได้ลง   1. บอกให้ดูแลน้อง ก็พาน้องทำพฤติกรรมแปลกๆ อยู่เรื่อยเลย   2. แม่จ๋า หนูกินมื้อเย็นแม่ไปหมดแล้วจ้า   3. ไม่มีอะไรทำ ก็มาเล่นเพลินๆ กับแมวนี่แหละ   4. แมวจะเป็นใหญ่ในโลกนี้ ใครไม่ใช่แมวออกไป๊   5. เหย แกรรรร ชั้นได้ที่นอนใหม่แล้วว่ะ   6. ในเมื่อทาสลืมให้อาหารฉัน งั้นฉันก็คงต้องช่วยตัวเองแล้วล่ะ   7. แบ๊วสุดไรสุด   8. ว่าไงนะ จะรับเลี้ยงหมา? นี่แกใช้อะไรคิด!!   9. นอนเถอะทาส ถ่ายตั้งแต่เช้าละ นี่ยังไม่ได้รูปดีๆ สักใบ   10. เราไม่น่าตามมนุษย์เข้ามาเล้ยยย  …

ลูกแมวกำพร้าตั้งแต่เกิด ยิ้มได้อีกครั้ง หลังจากมีคนช่วยดูแลจนมันมีสุขภาพแข็งแรง นี่เป็นเรื่องราวของแมวน้อยตัวหนึ่ง มันถูกพบตอนที่เพิ่งเกิดได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนจะถูกพาไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ในแคลิฟอร์เนีย Chris นักช่วยเหลือสัตว์ที่ทำงานในศูนย์พักพิงดังกล่าว จึงเริ่มให้ความอบอุ่นมิ้วน้อย ไม่นาน ร่างกายของมันก็ค่อยๆ อุ่นขึ้น จนพ้นขีดอันตราย     แมวน้อยต้องการใครสักคนที่สามารถดูแลมันตลอดเวลาได้ Chris จึงติดต่อไปหา Hannah Shaw ผู้ก่อตั้ง Orphan Kitten Club สักพักต่อมา Hannah ก็ขับรถไปรับแมวน้อยทันที Hannah บอกว่า “มิ้วน้อยไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายตัวเองได้ เพราะมันยังเด็กเกินไป สิ่งเดียวที่ลูกแมววัยนี้สามารถทำได้คือ การพยายามเคลื่อนที่ไปหาความร้อน” ต่อมา พวกเขาตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่า Rosalita หรือ Rosa      แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่ใจของ Rosalita แข็งแรงมาก มันทำให้ทุกคนเห็นว่ามันเป็นนักสู้ที่พร้อมจะเอาชนะทุกความท้าทาย คืนนั้น Rosalita ได้นอนในตู้อบ โดยมีคนคอยเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ขณะที่ Hannah ก็คอยชั่งน้ำหนักมันบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะเติบโต     ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก สถานการณ์ไม่ค่อยดีนัก เพราะลูกแมวต้องได้กินอาหารผ่านท่อทุกๆ 2 ชั่วโมง เพียงไม่นาน Rosa ก็ดูแข็งแรงขึ้น มันสามารถกินอาหารจากหลอดฉีดยาและดูดด้วยตัวเองได้…

มันเป็นสิ่งที่ดีเสมอเมื่อมนุษย์รับเลี้ยงสัตว์และให้การดูแลพวกมันตามที่ควรจะเป็น แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่สัตว์รับเลี้ยงสัตว์ด้วยกัน นั่นถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก อย่างกรณีของ Faith สุนัขวัย 11 ปี ที่เคยได้รับการช่วยเหลือ มันจึงกลายเป็นรุ่นพี่คอยดูแลเพื่อนสัตว์ต่างชนิดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกแมวและลูกแกะ     แต่ล่าสุด Faith ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในเส้นทางการรับเลี้ยง เมื่อลูกหมาจิ้งจอกที่ชื่อ Fergie ปรากฏตัวขึ้น… เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ มีคนไปพบ Fergie ในพุ่มไม้แห่งหนึ่งในออสเตรเลีย ตอนที่มันยังเป็นเพียงลูกหมาตัวน้อยๆ เท่านั้น จากนั้น มันก็ถูกพาไปหา Rachel Parker สัตวแพทย์และผู้ก่อตั้ง Greener Pastures Sanctuary ซึ่งเขายังเป็นคนที่หาบ้านอุปถัมภ์พร้อมกับเพื่อนให้ Fergie ด้วย     แต่เมื่อเวลาผ่านไป บ้านหลังที่ Fergie อยู่ ไม่สามารถดูแลมันต่อไปได้ เพราะพวกเขามีพื้นที่ไม่เพียงพอ Parker จึงยื่นมือให้การช่วยเหลือเจ้าหมาจิ้งจอกอีกครั้ง Parker เล่าว่า “หลังจากได้รับอนุญาตจากผู้ใหญ่ของท้องถิ่นให้เลี้ยงมันได้ เราก็ได้สร้างกรงขนาดใหญ่ เพื่อเป็นบ้านให้กับ Fergie”     ที่นี่ทำให้ Fergie กับ Faith ได้พบกันครั้งแรก ที่น่าทึ่งคือ พวกมันเข้ากันได้เป็นอย่างดี และดูเหมือน Faith จะกลายเป็นแม่บุญธรรมให้ลูกหมาจิ้งจอก…

ปี 2018 นี้เป็นปีที่อาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Teckels Animal Sanctuaries พากันยินดีเป็นพิเศษ เนื่องจากเจ้าหมาที่อยู่ที่นั่นมา 8 ปีมีคนพากลับไปอยู่บ้านในปีนี้แล้ว เจ้าหมา Roxy พันธุ์สตัฟฟอร์ดชายร์ได้เข้ามาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ตั้งแต่มันอายุ 2 ขวบ มันเป็นหมาที่ฉลาดมากๆ ไม่ว่าอาสาสมัครจะเอาเกมพิเศษสำหรับหมาแบบไหนมา มันก็แก้ปัญหาได้หมด     พวกเขาหวังว่าหมาแสนรู้แบบมันจะหาบ้านได้ในเวลาไม่นาน ทว่าในความเป็นจริงแล้วไม่มีคนสนใจมันเลย จนกระทั่ง 8 ปีผ่านไปเจ้าหมาก็ยังอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์อยู่ ทว่าพอมาถึงปี 2018 เจ้า Roxy ก็ไปสะดุดตา Leanne Wenban และแฟนหนุ่ม Samm Watkins-Little เข้า พวกเขาจึงอยากลองรู้จักมันมากขึ้น และเริ่มให้โอกาสกับมันดู     เห็นเจ้าหมาแล้วรักเลย   Wenban เล่าว่า “พวกเราเห็นมันบนเว็บไซต์ของ Teckles แล้วก็เห็นว่ามันอยู่ที่นั่นมานานมากๆ แล้ว เราเลยอยากลองดูว่ามันจะเข้ากับเราได้ไหม…เราใช้เวลานาน 6 เดือนเลยทีเดียวกว่าเราจะไว้ใจกันและกัน ตอนแรกที่ได้เจอกันมันเมินเฉยใส่พวกเรา แต่เราก็ไปเที่ยวหามันทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ เราเริ่มจากนั่งเป็นเพื่อนมันอยู่ในกรง จนกระทั่งมันยอมให้เรากอดเล่นและพามันไปเดินเล่นได้”   ทั้งคู่ไปเยี่ยมเจ้าหมาที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ทุกอาทิตย์   จนเจ้าหมาไว้ใจพวกเขา  …

หากวันนี้คุณยังรู้สึกไม่ตื่นตัว ไม่สดใส ไม่มีพลังในการใช้ชีวิต วันนี้เรามาชาร์ตพลังเพิ่มด้วยการเสพรูปน้องหมาตัวน้อยกันดีกว่า เห็นพวกมันตัวเล็กนิดเดียวแบบนี้ แต่พวกมันมาพร้อมกับความน่ารักแบบไม่มีขีดจำกัด พร้อมเติมพลังให้เพื่อนๆ อารมณ์ดีได้ทั้งวันกันเลยทีเดียว   ผมไม่ได้ใส่หน้ากากอยู่นะงับ แม่แค่สีหมดระหว่างคลอด https://www.instagram.com/p/BgsWJOPgcOz/?utm_source=ig_embed   หลับบนตักเจ้านายมันสบายแท้ https://www.instagram.com/p/BZeDtudlnJA/?utm_source=ig_embed   พ่อดูสิ พี่แกล้งหนูอีกแล้ว   เลี้ยงลูกยังไงให้เชื่องขนาดนี้ ยืนเรียงแถวถ่ายรูปเรียบร้อยมาก   เป็นครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรัก   ไหนพ่อบอกไม่ชอบหมา กลับบ้านมานอนกอดคือไร   ขอเหมาทั้งตะกร้าเลยฮะ https://www.instagram.com/p/BiwZHUzg7TG/   ต้องออกลาดตระเวน แต่ยังวิ่งไม่ทันเพราะตัวเล็ก พี่ตำรวจเลยเอามาเหน็บเอว   พร้อมออกไปเที่ยวกับลูกแล้วจ้า https://www.instagram.com/p/BrqXSI1AdBx/?utm_source=ig_embed   ลูกหมาอะไรตุ้ยนุ้ยจัง โตมาต้องตัวใหญ่มากแน่เลย https://www.instagram.com/p/BrYvHScn-t3/   https://www.instagram.com/p/BhidgO5FJmw/   น้องจะหลับทั้งๆ ที่ใส่แว่นอยู่ไม่ได้นะ https://www.instagram.com/p/BnrmdmYlHrQ/   ยินดีที่รู้จักนะคู่หูตัวน้อย https://www.instagram.com/p/Bru4P4pgEA1/?utm_source=ig_embed   วันที่คุณอาบน้ำให้น้องหมาทีไร ก็จะต้องเจอเรื่องแบบนี้ทุกที https://www.instagram.com/p/BneLxUfAoip/?utm_source=ig_embed   เหตุผลว่าทำไมไม่ให้ลูกออกไปเล่นหิมะ…เดี๋ยวหาไม่เจอ…

บนพื้นน้ำแข็งที่ทั้งเย็นและเปราะบาง ไม่มีใครกล้าเสี่ยงอันตรายเข้าไปช่วยเจ้าหมาเลย ถ้าไม่ได้นักกู้ภัยช่วยมันไว้ เจ้าหมาอาจจหนาวตายก่อนได้กลับขึ้นฝั่งก็ได้ ตอนที่เจ้า Hardy สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์กำลังออกไปเดินเล่นกับ Pat ในเขตนอร์ทัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ เป็นช่วงที่อากาศเย็นมากจนผิวลำธารกลายเป็นแผ่นน้ำแข็ง และระหว่างที่เดินเล่นกันอยู่นั่นเอง เจ้าหมาก็ได้หลุดรอดจากสายตาของ Pat ไป กว่าเขาจะเจอมันอีกทีก็พบว่ามันวิ่งไปกลางแม่น้ำ และตกลงไปในน้ำที่เย็นยะเยือกแล้ว     เจ้าหมาไม่สามารถขึ้นมาเองได้ มันทำได้แค่เกาะอยู่ตรงขอบแผ่นน้ำแข็งเพื่อไม่ให้ตัวเองจมหรือลอยไปทางอื่น ส่วน Miller ก็ไม่กล้าลงไปช่วยเช่นกัน เนื่องจากเขาเองก็กลัวว่าน้ำแข็งจะแตกแล้วตกลงไปอีกคนด้วย เขาจึงรีบติดต่อนักกู้ภัยให้มาช่วย ไม่นานนัก Jaqui Miller ก็มาถึงและรีบตรงเข้าไปช่วยมันทันทีที่ผูกเชือกนิรภัยไว้กับต้นไม้เสร็จ Miller บอกว่าถึงสถานการณ์จะบีบคั้น แต่เขาต้องใจเย็นและเตรียมพร้อมก่อนลงไปช่วยเจ้าหมา เพราะถ้ายังไม่มั่นใจว่าตัวเองปลอดภัย เขาอาจพลาดและต้องให้คนอื่นมาช่วยเขาเพิ่มอีก     ถึงแม้ว่าเขาจะเคยผ่านการช่วยเหลือมาหลายครั้งหลาย แต่การว่ายน้ำเย็นๆ ลงไปช่วยมันก็ต้องใช้ความกล้าและความอดทนมากทีเดียว แต่เขาก็ยอมเสี่ยงเพื่อช่วยมันให้ได้ ในที่สุดหลังจากเขาคลานอย่างระมัดระวังไปถึงตัวมัน และดันตัวมันขึ้นมาจากน้ำได้ เจ้าหมาก็ได้กลับขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย และไปหานักกู้ภัยคนอื่นที่รอดูแลมันต่อบนฝั่งต่อ     ชมคลิปวิดีโอการช่วยเจ้าหมาของนักกู้ภัย    Jacqui เล่าว่า “ถ้าผมไปถึงที่นั่นช้ากว่านั้นสักหน่อย สถานการณ์อาจย่ำแย่มาก เนื่องจากเจ้าหมาเกาะอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงแล้ว อุณหภูมิร่างกายของเจ้าหมาคงจะลดต่ำลงจนถึงจุดอันตรายลยทีเดียว ผมดีใจเหลือเกินที่ไปถึงทันเวลา” ส่วน Pat…

หมาแต่ละตัวมีนิสัยเฉพาะของตัวเอง ดังนั้นพวกมันจึงมีสิ่งที่ถนัดแตกต่างกันไป ถ้าจะถามว่าสิ่งที่ถนัดนั้นคืออะไรก็คงตอบไม่ได้ทันทีหรอก แต่สำหรับเจ้าหมาตัวนี้ เรารู้ได้ทันทีเลยว่าการเป็นหมาบริการไม่ใช่ทางของมัน น้องหมาเยอรมันเชพเพิร์ด Ryker เคยได้รับการดูแลจากศูนย์ฝึกสุนัขบริการ Double H Canine Training Academy อย่างไรก็ตามมันมีพลังที่ล้นหลาม และมีนิสัยขี้เล่นเอามากๆ ซึ่งพอเอา 2 ข้อนี้ไปใช้ในการสอบเป็นหมาบริการแล้ว ทำให้มันสอบตกชนิดที่ได้ F รัวๆ กันเลยทีเดียว ส่วนจะสอบตกยังไงนั้นไปลองดูกัน     การฝึกอย่างแรกของเจ้า Ryker คือการไปคาบขวดน้ำที่อยู่ไกลมาให้เจ้านาย ซึ่งเจ้าหมาก็แสนรู้พอที่จะไปคาบขวดน้ำมาได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าน่าชื่นชมเลย ทว่าถึงมันจะเอาขวดน้ำมาได้ก็ตาม แต่ขวดน้ำที่มันคาบกลับมานั้นไม่มีน้ำเหลืออยู่เลย เนื่องจากมันกัดขวดน้ำแรงเกินไปจนขวดรั่ว ทำให้น้ำไหลออกจากขวดไปหมดแล้วระหว่างที่มันวิ่งกลับมาหาเจ้าของ     เก๊าแรงเยอะไปหน่อย ขวดแตกเลย   ต่อมาคือการฝึกให้มันเดินคู่กับคนที่ต้องใช้ของจำพวกไม้เท้าในการช่วยเดิน ตอนอยู่เฉยๆ กับเจ้าของมันก็เรียบร้อยดีอยู่หรอก แต่พอลองเดินไปข้างหน้าปั๊บ เจ้าหมาก็คิดว่าเจ้าของเล่นด้วย วิ่งไล่งับไม้เท้าจนเจ้าของไม่ได้ใช้เลย     การทดสอบอีกอย่างหนึ่งก็คือลองเปิดตู้เย็นเพื่อช่วยหยิบของให้เจ้าของ แน่นอนว่าข้อนี้ดูง่ายมากๆ เนื่องจากตู้เย็นมีเชือกที่ให้มันใช้ดึงผูกติดไว้อยู่แล้ว แต่ Ryker ก็ทำได้ดีจนเกินไปอีกเช่นเคย เนื่องจากมันออกแรงทั้งหมดในการดึง แทนที่จะทำให้ฝาตู้เย็นเปิดออกอย่างเดียว ก็เลยกลายเป็นว่ามันลากตู้เย็นไปกับมันด้วยซะงั้น    …

การเป็นพ่อแม่มือใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เพราะต้องคอยดูแลลูกน้อยตลอด 24 ชั่วโมง จนไม่มีเวลาได้พัก หรือจะได้พักก็ต่อเมื่อลูกหลับนั่นแหละ นี่เป็นความจริงสำหรับพ่อแม่ทุกคน และไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้น สัตว์โลกก็ไม่ต่างกัน อย่างวิดีโอข้างล่างนี้ แม้ว่าแม่หมาจะเหนื่อยและง่วงแค่ไหนก็นอนไม่ได้ เพราะลูกน้อยที่ชือ Kali ยังเพลิดเพลินกับการเล่นอยู่เลย     สำหรับเจ้าหมาน้อย Kali แล้ว ทุกอย่างรอบตัวจึงดูน่าตื่นเต้นไปหมด และมันก็มีพลังงานเหลือเฟือสำหรับเล่นสนุก ดังนั้น การอยู่นิ่งๆ หรืองีบหลับในช่วงบ่ายคงเป็นไปได้ยากสำหรับมัน Kali สนุกกับการเล่นของเล่น โดยมีแม่เฝ้าดูอยู่ใกล้ๆ ในภาพที่เหนื่อยล้าและอยากพักเต็มที สักพัก หมาน้อยก็วิ่งไปเล่นที่อื่น ซึ่งไม่ได้อยู่ในสายตาแม่     เมื่อแม่หมาไม่เห็นลูกอยู่ในสายตา มันจึงตามไปเพื่อดูว่าลูกน้อยไปเล่นซนที่ไหน และเมื่อเห็นลูก มันก็พากลับมาที่เตียงแล้วก็พยายามทำให้ลูกอยู่นิ่งๆ     ไม่รู้ว่าแม่หมาคุยกับลูกยังไง แต่หลังจากยุกยิกกับลูกสักพัก ดูเหมือน Kali จะยอมนอนแต่โดยดี นั่นทำให้แม่หมาได้มีเวลาพักผ่อนด้วย     โชคดีที่จริงๆ ที่ช่วงเวลานั้นถูกบันทึกเอาไว้ทั้งหมด เพราะมันคงจะน่าเสียดายน่าดู ถ้าโลกไม่ได้เห็นความรักและการเสียสละของแม่ที่มีต่อลูกแบบนี้     ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ เจ้าของบอกว่าแม่หมาตัวนี้ไม่ได้คลอดหมาน้อยตัวนี้ด้วยตัวเองหรอก แต่เมื่อมันเข้ามาอยู่ในบ้านนี้…

หากคุณมีเพื่อนแท้ก็ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะเมื่อคุณต้องต่อสู้กับอะไรสักอย่าง คุณจะไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง แต่จะมีเพื่อนพร้อมบวก เฮ้ย!! พร้อมสู้เคียงข้างคุณเสมอ เรื่องแบบนี้ แมวตัวนี้น่าจะรู้ดีที่สุด…เรื่องมีอยู่ว่า ขณะที่เจ้าเหมียว (เหมียว 1) กำลังยืนอยู่ใต้เก้าอี้ อยู่ดีๆ ก็มีสุนัขขาว-ดำที่ไหนก็ไม่รู้โผล่มา และกำลังจะเข้ามาทำร้ายมัน     ตอนนั้น เพื่อนสนิทของเหมียว 1 คือเหมียว 2 ที่อยู่บนเก้าอี้ กำลังยุ่งอยู่กับการทำความรู้จักกับสุนัขอีกตัว อย่างไรก็ตาม เหมียว 2 ไม่ได้ทิ้งให้เพื่อนเผชิญหน้ากับศรัตรูลำพัง     เมื่อหมาขาว-ดำ เข้ามาใกล้เหมียว 1 มากขึ้น เหมียว 2 ก็ลุกขึ้นเตรียมสู้ทันที แต่ตอนนั้นดูเหมือนเจ้าหมาขาว-ดำจะเห็นแค่เหมียว 1 ไง มันเลยเข้ามาหาอย่างไม่เกรงกลัว     และเมื่อเจ้าหมาเข้ามาแหย่เหมียว 1 เท่านั้นแหละ เหมียว 2 ก็กระโดดลงจากเก้าอี้ฟัดกับเจ้าหมาสุดกำลัง เพื่อปกป้องเพื่อนรัก     จังหวะนั้น เจ้าหมาขาว-ดำ รู้แล้วว่านี่เป็นการสู้กับเจ้านายของมนุษย์ถึง…

สุนัขมีพลังพิเศษที่ทำให้เราสงบและทำให้เราสบายใจแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด พวกมันเปรียบเสมือนลูกน้อยขนยาวของเรา เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา และเติมเต็มใจของเราด้วยความสุข และวิดีโอด้านล่างนี้เป็นโมเมนต์ที่น่ารักน่าเอ็นดูของ Luna น้องหมาโกลเด้นที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก     นุ้งหมาอยู่ในอ้อมแขนของแม่ ขณะที่แม่เล่นเปียโนให้ฟัง เมื่อคุณแม่เริ่มบรรเลงเพลงดังประกอบหนังเรื่อง ไททานิก สีหน้าของ Luna ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด     ดูเหมือนว่า Luna จะเคยดูเรื่องไทนานิกมาก่อน ดังนั้น เมื่อเพลงเริ่มบรรเลง มันจึงนึกถึงฉากสุดเศร้าในหนัง โดยเฉพาะตอนที่คู่รักตายายกอดกันตายบนเรือที่จมลงสู่ก้นทะเล ด้วยความไร้เดียงสาแบบเด็กๆ Luna ไม่สามารถเก็บอาการได้ สายตาของมันเศร้าหนักขึ้นๆ ตามเพลงที่คุณแม่บรรเลง โถๆ เด็กหนอเด็ก     นั่นเป็นตอนที่ Lina ยังเป็นเด็ก ส่วนตอนมันโตขึ้นแล้วนะ แต่ในเรื่องความน่ารักและความน่าเอ็นดูนั้น ยังมีเหมือนเดิม ที่สำคัญ แม้จะโตแค่ไหนมันยังเป็นลูกน้อยของแม่อยู่เสมอ     ดูสิ อยู่เฉยๆ ก็น่ารักอะ   แค่ได้ดูโมเมนต์เล็กๆ ของสุนัข ก็ทำให้หัวใจของหลายๆ คนพองโตขึ้นมา แล้วคิดดูว่าคนที่ได้อยู่กับน้องหมา และเห็นความน่ารักของมันบ่อยๆ จะรู้สึกฟินแค่ไหน ใครไม่อยากพลาดความน่าเอ็นดูแบบนี้ สามารถติดตาม Luna ได้ที่อิสตาแกรม lunaticthegolden…

ทุกๆ ครั้งที่เรานำเสนอเรื่องราวของสัตว์เลี้ยง พวกมันมักจะมีสิ่งที่น่าสนใจ น่าประทับ และน่าทึ่ง ล่าสุด ครอบครัวหนึ่งในรัสเซียก็ได้แชร์เรื่องราวน่าทึ่งเกี่ยวกับแมวของพวกเขาที่ชื่อ Simina เรื่องมีอยู่ว่า Dasha ลูกสาวของครอบครัวดังกล่าวอยากได้แมวมากๆ เมื่อเธอรู้ว่าผู้ดูแมวคนหนึ่งมีแมว 2 ตัวที่ต้องการบ้าน เธอกับแม่จึงตัดสินใจไปหาคนนั้นทันที     เมื่อไปถึง หญิงสาวได้เลือกแมวตัวที่น่ารักกว่า แต่คุณแม่เสนอให้เลือกอีกตัวหนึ่ง ที่น่ารักน้อยกว่า มันดูแปลกๆ เล็กน้อย แต่สุดท้าย Dasha ก็เลือกแมวที่แม่เสนอและพามันกลับบ้าน ครอบครัวของ Dasha ได้ตั้งชื่อแมวน้อยตัวนั้นว่า Simina มันเป็นแมวที่น่ารักมากๆ แต่เมื่อมันเริ่มโตขึ้น… มันกลับดูไม่เหมือนแมวบ้านธรรมดา     Simina เริ่มมีลักษณะแปลกๆ อย่างที่ครอบครัวไม่เคยเห็นมาก่อน ใขณะที่คนอื่นๆ ก็ถามว่ามันเป็นแมวที่มาจากเชอร์โนบีลหรือเปล่า (เป็นอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ขั้นร้ายแรงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 1986) ยิ่งโต Simina ก็ยิ่งดูประหลาด โดยเฉพาะขนของมัน ขนของมันอยู่แค่ส่วนใต้ท้อง แต่ส่วนอื่นๆ กลับไม่มีขนเลย นอกจากนี้ มันยังมีนิสัยแปลกๆ ที่ครอบครัวไม่สามารถอธิบายได้     ครอบครัวยกตัวอย่างนิสัยแปลกๆ ของ Simina เช่น มันชอบกินไอศกรีมมากๆ ทั้งๆ ทุกครั้งที่มันกินมันจะปวดท้อง…

เมื่อลูกแมวสีเทา 2 ตัว ถูกพาไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Saving Grace Rescue อาการพวกมันน่าเป็นห่วงมากๆ แต่ Stan ตัวที่เป็นพี่ พยายามปกป้องน้องสาว Doris เอาและทำให้มันรู้สึกสบาย พวกมันต้องต่อสู้กับภาวะขาดสารอาหารและติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน อาสาสมัครคนหนึ่งจึงได้พาลูกแมวทั้ง 2 กลับไปดูแลที่บ้าน เพื่อเริ่มรักษาและดูแลพวกมันอย่างใกล้ชิด     แม้จะป่วยหนักและร่างกายผอมแห้ง แต่ Stan ไม่เคยหยุดดูแลน้องสาวเลย และไม่เคยอยู่ห่างจากน้องด้วย ขณะที่ Doris นั้น ไม่สามารถต้านทานปัญหาสุขภาพที่รุมเร้าได้ มันจึงจากไปอย่างน่าเศร้า การสูญเสียครั้งนี้ ทำให้ Stan พบว่าตัวเองต้องอยู่โดยไม่มีน้อง คุณแม่บุญธรรมจึงคิดที่จะหาเพื่อนให้มัน เพื่อไม่ให้มันรู้สึกโดดเดี่ยว     สัปดาห์ต่อมา กลุ่มช่วยเหลือได้รับแมวมาดูแลอีกตัว ชื่อ Laverne มันเป็นแมวที่อ่อนโยนมาก แถมยังยอมรับ Stan ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ Amber Rose ผู้ก่อตั้ง Saving Grace Rescue บอกว่า “เราไม่รู้ว่า Laverne อ่อนโยนขนาดนี้ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มันอยู่โดดเดี่ยวมานาน”     วันแรกที่เข้ามาในบ้านอุปถัมภ์ Laverne…

ถ้าคุณเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง แน่นอนคุณต้องเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับพฤติกรรมแปลกๆ ของสัตว์เลี้ยงในบางครั้ง บางทีพวกมันทำตัวเหมือนมนุษย์ บางครั้งก็ทำตัวเหมือนสัตว์ต่างดาว จนเดาไม่ถูกว่าพวกมันคิดอะไรอยู่ แต่รู้แน่ๆ คือ เพื่อน 4 ขาเหล่านี้ มีความสามารถพิเศษในการทำให้เราหัวเราะได้โดยไม่ต้องพยายามเลย   1. “โด่เอ้ย อย่างเอ็งน่ะ เข้าไปในช่องนั้นไม่ได้หรอก ดูนี่ จะทำให้ดู…”   2. นี่คงจะเป็นแฟนคลับที่น่ารักที่สุดในโลก   3. พลาดแล้วกรู เอาไงต่อดี เดินหน้าไม่ได้ ถอยก็ไม่ได้   4. โคมไฟธรรมดามันไม่สวย ต้องหาไรเติมสักหน่อย   5. ไหน ใครหาย ไม่เห็นรู้เรื่องเลย   6. โลกของหมาที่มนุษย์ไม่มีวันเข้าใจ   7. ใครบอกเจ้านี่เหมือนเรา ไม่เห็นเหมือนเลย   8. ขอไปปิคนิคนะแม่ ไม่นานหรอก จริงจริ๊ง   9. ทีน้ำในบ้านทำเป็นกลัว พอออกมาเจอน้ำข้างนอก นอนแช่สบายเลย  …

สัตว์เลี้ยงกับอาหารเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้กันไม่ได้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่สัตว์เลี้ยงเห็นอาหารหน้าต่างน่ากิน หรือได้กลิ่นหอมๆ มันจะพุ่งเข้าใส่ทันที โดยไม่สนใจว่าอาหารเหล่านั้น สัตว์กินได้หรือไม่ และเพราะความตะกละของสัตว์เลี้ยงนี่แหละ ที่ทำให้ครั้งหนึ่ง Lucie Coffey วัย 33 ปี เกือบสูญเสียเจ้าหมาดัชชุนจอมตะกละ Beatrice ไปตลอดกาล เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่ Coffey เปิดประตูออกไปข้างนอก โดยไม่รู้ว่า Beatrice ได้กระโดดขึ้นบนหิ้ง และกำลังกินขนมคริสต์มาสที่ครอบครัวได้จัดเอาไว้     เมื่อหญิงสาวกลับเข้ามา เธอเห็น Beatrice นั่งอยู่บนโซฟา โดยมีเศษฟอยล์กระจัดกระจายอยู่บนพื้น แสดงว่าเจ้าหมากินพายที่ห่อไว้เข้าไป Coffey รู้ทันทีว่าเธอต้องรีบพา Beatrice ไปหาหมอให้เร็วที่สุด เมื่อไปถึงคุณหมอก็ได้ฉีดสารกระตุ้นให้เจ้าหมาอาเจียนออกมา เพื่อยับยั้งไม่ให้ร่างกายดูซับสารพิษไปมากกว่านี้ สุดท้าย Beatrice ก็พ้นขีดอันตราย แต่คุณหมอบอกว่าถ้ามันมาช้ากว่านี้อีกนิด มันอาจตายได้     สำหรับสาเหตุที่ Beatrice เกือบตายเพียงเพราะกินพายเข้าไปนั้น จริงๆ แล้วเจ้าของบอกว่าในพายมีลูกเกดอยู่ ซึ่งเป็นอาหารแสลงสำหรับสุนัขและแมว ถ้ากินเข้าไปจะมีอันตรายถึงชีวิต แต่โชคดีที่ Beatrice รอดมาได้อย่างหวุดหวิด หวังว่าเรื่องนี้จะเตือนใจเพื่อนๆ ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้นะคะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลหรือวันที่มีปาร์ตี้ ถ้ามีอาหารหน้าตาน่ากิน อย่าเผลอวางไว้ให้เจ้าตูบเห็นละ ไม่งั้นโดนกวาดเรียบแน่  …

ตอนนี้ก็ใกล้ถึงช่วงสิ้นปี 2018 แล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายคนตั้งตารอคอยก็คือการได้รับของขวัญจากพื่อน แฟน หรือครอบครัวนั่นเอง สำหรับมนุษย์อย่างเรา คงจะดีใจถ้าได้รับของที่มีมูลค่ามากอย่างคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ แต่สำหรับเจ้าหมาแล้ว ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับมันในปีนี้ก็คือเพื่อนใหม่ตัวน้อยที่จะคอยอยู่เคียงข้าง     เจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ Minnie จากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาป่วยเป็นโรควิตกกังวล มันจึงหวาดกลัวง่ายและไม่มีความมั่นใจเลย Nicolette Hall หญิงซึ่งเป็นเจ้าของของมันเล่าว่า มันขี้กังวลและกลัวสิ่งรอบตัวอย่างแรง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันขาดความมั่นใจและไม่มีเพื่อนมากนัก ในวันคริสต์มาสปีนี้ เธอจึงวางแผนจะหาเพื่อนหมาน้อยตัวใหม่มาเป็นของขวัญให้กับมัน ซึ่งดูแล้วมันชอบใจที่ได้มีน้องใหม่มากเลยทีเดียว   นี่มันลูกหมานี่นา   ตอนที่เธอกำลังจะพา Minnie ไปเจอเจ้า Parker ซึ่งเป็นน้องใหม่ของมัน เจ้าหมาดูตื่นเต้นตั้งแต่ได้กลิ่นน้องซึ่งอยู่ในกล่องแล้ว พอเธอเปิดกล่องให้น้องออกมาเจอหน้ามัน เจ้าหมาถึงกับเก็บอาหารตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ มันส่ายหางไปมาเร็วมาก และวิ่งวนด้วยความตื่นเต้นจนเราเห็นแล้วต้องยิ้มเชียวล่ะ   พามาเป็นเพื่อนใหม่ให้ผมเหรอ? ขอบคุณนะเจ้านาย!!   ดีใจจังเลยมีเพื่อนแล้ว   ส่วนเจ้า Parker เองก็ดูดีใจเหมือนกับที่ได้เจอกับ Minnie และได้มีบ้านใหม่ด้วย พอออกมาจากกล่องพี่หมาก็เข้าไปเล่นกับน้องหมาไม่ยอมหยุดเลย Nicolette หวังว่าการมีน้องใหม่อยู่ด้วย จะทำให้ Lola มีความมั่นใจมากขึ้น และกล้าเผชิญสิ่งใหม่ๆ…

คนเราทุกคนล้วนมีชีวิตหลายด้าน เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเราอาจจะเป็นคนขี้อาย แต่ถ้าได้อยู่กับครอบครัวอาจจะพูดมากก็ได้ เพราะบรรยากาศที่ต่างกันไป เราก็เลยทำตัวต่างกัน สัตว์เลี้ยงเองก็ด้วย คุณคงเคยเห็นพวกมันเวลามันอยู่กับคุณเท่านั้น คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นเด็กดีตลอดเวลาเหมือนตอนอยู่กับคุณ แต่คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนคุณไม่อยู่พวกมันทำอะไรบ้าง ลองมาดูภาพจากเจ้าของที่บังเอิญเจอชีวิตลับๆ ของพวกสัตว์เลี้ยงที่คิดว่าเจ้านายไม่เห็นกันบ้างดีกว่า มันจะฮาและแซบซ่าขนาดไหนไปชมกันเลย   นี่พวกแกแอบประชุมแผนลับอะไรกันอีกล่ะ   นึกว่าเป็นเด็กเรียบร้อยไม่เที่ยว ที่แท้มีเพื่อนมาหาถึงบ้าน   นี่ไม่ใช่ที่นอนนะเจ้าเหมียว   ปลดปล่อยความเป็นนักดนตรีในตัวคุณ   ทาสก็เทน้ำใส่ถ้วยไว้ให้แล้ว ทำไมต้องมาต่อคิวกินน้ำกันตรงนี้??   แหม ทีตอนจับอาบน้ำทำไม่ชอบ พอทาสไม่อยู่มาว่ายเล่นเฉย   นึกว่าจะช่วยเฝ้าบ้านให้ ที่ไหนได้ ชิลเกิ๊น   ไม่ทำบ้านรกสักวันไม่ได้เหรอ…   ไม่ได้มองแป๊บเดียว แอบไปไล่กวางจนโดนคุณตำรวจจับเลย   เห้ย แกเปิดฝากล่องขนมกินเองได้ไง!?   มีแมวบางตัวแอบเข้าครัวตอนฉันเผลอ   เจ้านกแก้วชอบสั่งของจาก Amazon ตอนเจ้านายไม่อยู่ห้อง   ถ้าฉันมาเห็นช้ากว่านี้ อาจมีแมวตายก็ได้   เจ้านายไม่อยู่ ขอสิงโซฟาเลยละกัน   เห็นปกติชอบทำท่าหยิ่งๆ ตอนอยู่ตัวเดียวทำไมดูเครียดกับชีวิตจัง…

แมวเหมียวมักทำอะไรที่ผิดความคาดหมายของทาสเสมอ ครั้งนี้ที่ทาสตั้งใจซื้อของขวัญสุดพิเศษให้เพราะอยากให้มันดีใจกับของที่เธอเลือก แต่มันก็เมินของขวัญของเธอซะอย่างนั้น @usagi_drive เป็นทาสแมวชาวญี่ปุ่นจากทวิตเตอร์ เธอมีแมวอ้วนสีขาวน้ำตาลอยู่ด้วยตัวหนึ่ง แน่นอนว่าเธอให้ความสำคัญกับมันมากๆ     พอเข้าหน้าหนาวแล้ว เธอจึงอยากมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับเจ้าเหมียว โดยเธอได้เลือก ‘โต๊ะอุ่นขา (Kotatsu)’ ซึ่งเป็นโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆ ที่มีเครื่องทำความร้อนติดมาด้วยให้มัน อันที่เธอเลือกให้มันเป็นรุ่นที่ทำมาขนาดพอเหมาะกับแมวพอดี เธอคิดว่าแมวที่ชอบที่อุ่นๆ คงจะถูกใจกับโต๊ะอุ่นขาที่เธอเลือกให้น่าดู แต่พอเธอลองแกะกล่องเอาโต๊ะให้มันดูเท่านั้นแหละ เจ้าแมวก็ดูดีใจนะที่เธอซื้อของมาให้ แต่สิ่งที่มันสนใจกลับไม่ใช่โต๊ะอุ่นขาเลย…มันดีใจที่ได้กล่องใส่โต๊ะแทน   ดูเหมือนเจ้าแมวจะชอบโต๊ะอุ่นขาที่ฉันซื้อให้นะ (น้ำเสียงประชด) 猫のコタツ買いました！気に入って貰えたようでなによりです！ pic.twitter.com/GOnMzUEvyn — にぼしん (@usagi_drive) December 19, 2018   ถึงจะดีใจที่เจ้าแมวมันมีความสุข แต่การที่มันไม่สนใจของขวัญที่เธอเอาให้เลย ก็ทำให้เธอรู้สึกหน่ายใจกับเจ้านายขนปุยซะจริงๆ นอกจากจะไม่สนใจแล้ว หลังจากเธอซื้อโต๊ะอุ่นขามา มันก็ไม่สนใจที่จะใช้เลยแม้แต่ครั้งเดียวด้วย สุดท้ายเธอเลยต้องหาประโยชน์ให้โต๊ะตัวนั้นโดยการใช้มันเป็นที่อุ่นขาแทน   โต๊ะก็ตัวเล็ก ใช้เป็นที่อุ่นขาแทนละกัน フットウォーマー買いました！暖かくて冷え性の方におすすめです！ pic.twitter.com/4WMFTjIY3G — にぼしん (@usagi_drive) December 19, 2018   ชาวเน็ตคนอื่นๆ ต่างก็พากันมาคอมเมนต์ในทวีตของเธอ บางคนก็เห็นอกเห็นใจเพราะว่ามีเจ้านายประเภทเดียวกัน…

เด็กหญิงรักเจ้าหมาที่อยู่กับเธอตอนเด็กมาก ถึงเธอกับมันจะต้องแยกกัน เธอก็ยังเก็บมันไว้ในหัวใจเสมอ พอเธอโตขึ้นเธอจึงอยากให้ลูกได้อยู่กับหมาเหมือนกับที่เธอเคยเป็น แต่เธอไม่คิดเลยว่าจะได้เจอหมาตัวเดิมอีก     Nicole Grimes เคยเลี้ยงหมาตัวหนึ่งเมื่อตอนที่เธออายุ 10 ขวบ เธอตั้งชื่อให้มันว่า Chloe มันเป็นหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียนผสมพุดเดิ้ลที่ชอบกอดกับเธอเป็นที่สุด ถึงแม้ทั้งคู่จะสนิทกันมาก แต่พ่อของเธอก็บังคับให้เธอทิ้งมันไปเมื่ออายุได้ 14 ปี เนื่องจากพ่อเธอเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน และคิดว่าเจ้าหมารบกวนการทำงานของเขาเกินไป     Grimes ไม่มีทางเลือกอื่นในตอนนั้น เธอจึงทำได้แต่เก็บมันไว้ในหัวใจเรื่อยมา และหวังว่ามันจะยังสบายดีเหมือนกับเธอ เธอมักจะนึกถึงเจ้าหมาอยู่บ่อยๆ แต่ถึงเธอจะสงสัยว่ามันเป็นยังไงบ้าง เธอก็ไม่มีทางรู้ได้เลย เธอเคยโทรไปถามศูนย์พักพิงสัตว์ที่เอามันไปทิ้งไว้เหมือนกัน แต่ตอนนี้พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหนแล้ว     8 ปีหลังจากที่ Grimes ต้องแยกกับ Chloe เธอก็แต่งงานและมีลูกคนแรก เธออยากจะหาหมามาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนลูกเหมือนกัน เนื่องจากเธออยากให้ลูกได้สัมผัสประสบการณ์ที่อบอุ่นเหมือนที่เธอเคยเจอบ้าง     ตอนแรกเธอกะว่าจะรับเลี้ยงลูกหมา แต่ระหว่างหาหมาอยู่เธอก็บังเอิญไปเจอโพสต์หาบ้านให้หมาแก่ตัวหนึ่งเข้า…มันเป็นหมาที่คล้ายกับ Chloe เลย แถมยังมีชื่อเหมือนกันเปี๊ยบ ถึงเธอจะคิดว่ามันคงไม่บังเอิญเป็นหมาตัวที่เธอเคยเลี้ยง เธอก็ตัดสินใจว่าจะรับเจ้าตัวนี้มาอยู่กับลูก เนื่องจากมันทำให้เธอนึกถึงเจ้าหมาตัวเก่า ในวันที่เธอไปรับตัวมันมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ เจ้าหมาวิ่งเข้ามาหาเธอด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่ามันเป็นหมาในวัยเด็ก    …

เวลาจะขอคนที่เรารักแต่งงาน บรรยากาศเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือของขวัญซึ่งเป็นของที่อีกฝ่ายชอบด้วย ในเมื่อฝ่ายชายรู้ว่าฝ่ายหญิงรักหมามากๆ เขาจึงพาเจ้าหมาไปเซอร์ไพรซ์เธอตอนที่ขอแต่งงานด้วย แล้วก็ไม่ได้พาไปแค่ตัวเดียวนะ แต่พาพวกหมาไปอ้อนเธอเป็นโขยงเลย     Maurice Goldstein อยากจะขอแฟนสาว Laura Stampler แต่งงานแบบโรแมนติกที่สุด เขาจึงพยายามจัดฉากพาเธอไปบนยอดเขา พร้อมกับเซอร์ไพรส์เธอด้วยเจ้าหมา 16 ตัวที่ล้วนน่ารักหมดเลย โดยตอนแรกฝ่ายชายหลอกชวนฝ่ายสาวไปปีนเขาด้วยกัน โดยที่ฝ่ายหญิงก็คิดว่าเขาคงแค่ไปปีนเขาตามปกติ แล้วตามเขาไปโดยไม่ได้คิดอะไร จนเมื่อปีนขึ้นไปได้สักพักหนึ่ง เธอก็เห็นเส้นทางด้านหน้าที่โรยเอาไว้ด้วยดอกกุหลาบ ถึงได้เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังจะมีอะไรพิเศษเกิดขึ้นแน่ๆ     ถึงพวกเขาเดินกันไปจนสิ้นสุดเส้นทางซึ่งโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ Goldstein ก็คุกเข่าขอ Stampler แต่งงานอย่างโรแมนติกที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ มันทำให้เธอดีใจมากเลยทีเดียว แล้วพอเธอตอบตกลง เธอกต้องทึ่งยิ่งกว่าเดิมเมื่อจู่ๆ ก็มีเจ้าหมาตัวโตแสนเป็นมิตรจำนวน 16 ตัวเข้ามารุมล้อม ทำให้เธอประทับใจจนอธิบายไม่ได้เลย     แล้วก็ไม่ต้องกลัวหรอกว่าหมาเหล่านี้จะไม่ถูกกับคนแปลกหน้า เพราะพวกมันเป็นหมานักบำบัดจากกลุ่ม Pack of Hearts จึงเป็นมิตรกับทุกคนแน่นอน     Rebecca Yale ซึ่งเป็นช่างภาพที่ถ่ายรูปทั้งคู่เล่าว่า ” เธอ (Stampler) ทำให้การขอแต่งงานครั้งนี้แทบจะล่มเลยล่ะ เริ่มตั้งแต่มากินข้าวกลางวันสาย 1 ชั่วโมง…

เจ้าหมาตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเคร่งครัด มันต่อสู้กับผู้ร้ายเพื่อปกป้องประชาชนและคู่หู แม้ว่ามันจะต้องตายจากไป ทุกคนก็ยังคงคิดถึงและยกย่องในความดีของมัน เจ้าหมาตำรวจ Cigo สายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด ได้เข้าไปช่วยเมื่อเกิดเหตุยิงปืนกันขึ้นในห้างสรรพสินค้าทางโซนใต้ของรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มันช่วยวิ่งไล่มือปืนให้ออกห่างจากประชาชนที่หมอบหลบกระสุนอยู่ และก็ช่วยคู่หูในการจับตัวคนร้ายด้วย…การเข้าปะทะของมันทำให้คู่หูสามารถจับตัวคนร้ายเอาไว้ได้   มันใช้ชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องผู้อื่น มันเป็นเด็กดีและจะไม่มีวันถูกลืมเลือน ขอให้พักผ่อนอย่างสงบ #K9Cigo He gave his life to save others. He’s a good boy and he will never be forgotten. Rest In Peace #K9Cigo pic.twitter.com/7Snb2LvVFt — PBSO (@PBCountySheriff) December 25, 2018   Sheriff Ric Bradshaw นายอำเภอของเขตนั้นเล่าว่าการสูญเสียเจ้าหมาไป สร้างความเศร้าเสียใจให้กับเจ้าหน้าที่มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่หูที่ทำงานร่วมกับมัน คู่หูของมันเศร้ามากจนเจ้าหน้าที่ที่มารวมตัวกันในวันคริสต์มาสอีฟ พากันเรียงแถวกอดเขาเพื่อปลอบใจที่เพื่อน 4 ขาต้องจากไปอย่างกะทันหัน  …

สัตว์ต่างสายพันธุ์ไม่เพียงแค่อยู่ร่วมกันได้ แต่บางตัวสามารถกลายเป็นเพื่อนรักกันและอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน โดยไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง อย่างกรณีของ Navaro ลูกสิงโตขาววัย 3 สัปดาห์ตัวนี้ มันกลายเป็นเพื่อนกับ Nola น้องหมาวัย 8 สัปดาห์ หลังจากถูกแม่ทิ้งและทางสวนสัตว์แอฟริกาได้จับมันเลี้ยงแยก     ที่ Navaro กับ Nola สามารถเป็นเพื่อนกันได้อย่างกลมกลืนเช่นนี้ เพราะสุนัขเป็นสัตว์ที่เป็นมิตรและสามารถผูกสัมพันธ์กับสัตว์หลากหลายชนิด นอกจาก Nola แล้ว ยังมีสุนัขตัวอื่นๆ ที่เข้ามาเล่นกับ Navaro อย่างเป็นมิตร จนสิงโตน้อยรู้สึกเป็นพวกเดียวกับสุนัข และไม่คิดว่าตัวเองแตกต่าง     Navaro มีินิสัยเหมือนเด็กน้อยทั่วไปที่ต้องการความรัก ความอบอุ่น บางครั้งมันจึงเกาะขาผู้ดูแลและทำท่าเหมือนกำลังดูดนมยังไงอย่างนั้น     ตอนนี้ Navaro มีความสุขกับการได้อยู่กับผู้ดูแลและเพื่อนๆ หมาในสวนสัตว์ เมื่อโตขึ้นและช่วยเหลือตัวอื่นได้ มันจะถูกส่งกลับไปอยู่กับสิงโตขาวตัวอื่นๆ ในธรรมชาติ แต่เมื่อถึงเวลานั้น อาจจะมีความเศร้าเกิดขึ้น เพราะเจ้าสิงโตต้องจากเพื่อนรักอย่าง Nola ไป และในป่ามันคงหาเพื่อนที่เป็นมิตรแบบนี้ไม่ได้อีกแแล้ว     ไหนสิงโต หมาทั้งน้านนน   ไม่ได้มีความเป็นเจ้าป่าเล้ยยย   เป็นสิงโตน้อยที่น่ารักจนพี่หมาอดใจไม่ไหว ขอหยอกหน่อยเถอะ…

เจ้าแมวน้อยทั้งกำพร้าและจรจัด แต่ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง มันก็ถูกพาออกมาจากชีวิตข้างถนนแล้วได้ไปอยู่ในบ้านที่อบอุ่นแทน นี่คงจะเป็นองขวัญวันคริสต์มาสของมัน     แมวน้อย Lola ถูกพบอยู่ตามลำพังโดยไม่มีแม่ เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์จากศูนย์พักพิงเก็บมันเอาไว้ เนื่องจากพวกเขารู้ว่ามันจะหนาวตายหากใช้ชีวิตในหน้าหนาวตามลำพัง ถึงจะช่วยเก็บมันมา แต่พวกเขาก็ไม่มีความพร้อมในการดูแลลูกแมวเช่นกัน มันจึงถูกส่งต่อไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chatons Orphelins Montréal ซึ่งพร้อมดูแลมิ้วน้อย     ใช้เวลาไม่ถึงวันกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็สามารถติดต่อหาคนที่พร้อมรับมันไปอยู่ในบ้านได้ และส่งตัวมันไปอยู่กับเธอในทันที คนที่ช่วยมันเล่าว่า “ด้วยน้ำหนักตัวที่น้อยขนาดนี้ และยังไม่มีแม่ดูแลอีก มันมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก แต่ตอนนี้มันได้ไปอยู่กับคนดูแลที่มีประสบการณ์แล้ว เราจึงสบายใจได้”     คนดูแลช่วยดูแลให้ Lola กลับมาแข็งแรงในเวลาไม่นาน จากตอนแรกที่มันตัวเล็กมากๆ ตอนนี้มันมีพัฒนาการที่รวดเร็วจนคนดูแลเองก็แทบไม่อยากเชื่อเลย ลูกแมวน้อยลืมตาได้เต็มที่แล้ว และมันก็ได้เผยความซุกซนที่ซ่อนไว้ออกมา ตอนนี้มันกลายเป็นแมวที่ขี้เล่นที่สุดตัวหนึ่งที่เธอดูแลอยู่เลย     ถึง Lola จะยังตัวเล็กและเด็กมาก แต่มันก็มีความกล้าที่จะเข้าไปเล่นกับแมวที่โตกว่าโดยไม่เกรงกลัวเลย ดูเหมือนแมวรุ่นพี่จะตามใจมันด้วยซ้ำ คนดูแลเจ้าแมวเล่าว่า “มันเป็นแมวที่แรงเยอะและขี้สงสัย แถมยังชอบทำเรื่องวุ่นๆ ด้วยตั้งแต่ตอนที่มันยังเด็กมากแล้ว แถมยังเล่นกับแมวตัวโตได้โดยที่ไม่กลัวพวกมันอีก”     นอกจากด้านที่ซุกซนแล้ว แมวน้อยก็ยังมีความขี้อ้อนที่ไม่แพ้ใครเช่นกัน มันชอบเดินตามคนดูแลเพื่อเรียกคะแนนจากเธอ และก็มารอต้อนรับตอนที่เธอกลับบ้านมาด้วย เธอเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัว Lola…

เป็นใครก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ จิงโจ้จากไหนไม่รู้มาว่ายน้ำเล่นในสระว่ายน้ำหลังบ้าน คือจิงโจ้ไม่ใช้หมาหรือแมวที่พบได้ทั่วไปตามละแวกบ้านไง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับ Jen Harlow วัย 28 ปี จากเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเธอกลับบ้านในเวลาประมาณ 11 โมงเช้า แล้วเห็นจิงโจ้ตัวเบ้อเริ่มนอนแช่อยู่ในสระว่ายน้ำหลังบ้านของเธอ     จริงๆ เมื่อเดือนที่แล้ว ครอบครัวของ Harlow เคยเห็นจิงโจ้มาด้อมๆ มองๆ แถวสระว่ายน้ำพวกเขา และครั้งนี้มันคงรวบรวมความกล้าและแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่บ้าน มันเลยลงไปเล่นน้ำอย่างสบายใจ ยิ่งไปกว่านั้น จิงโจ้ตัวนี้ไม่ใช่จิงโจ้ธรรมดา แต่มันตัวใหญ่และสูงมาก จนสามารถยืนในสระได้สบายๆ ดูมันชิลมาก ดังนั้น การกล่อมให้มันขึ้นมาคงเป็นได้ยาก     อย่างไรก็ตาม Harlow พยายามกล่อมมันขึ้นมาด้วยการเอาหญ้ามาล่อมัน ซึ่งเจ้าจิงโจ้ก็กินนะ แต่มันไม่ยอมขึ้น ดูเหมือนมันจะคิดว่านี่เป็นบริการพิเศษจากเจ้าของบ้านมากกว่า หลังจากแผนนี้ไม่สำเร็จ หญิงสาวจึงโทรแจ้งผู้เชี่ยวชาญให้มาช่วย ในที่สุด จิงโจ้ตัวเบิ้มก็ถูกรถยกขึ้นจากสระน้ำอย่างปลอดภัยและถูกปล่อยกลับเข้าป่า     เจ้าของบ้านได้แต่หวังว่าเจ้าจิงโจ้จะไม่กลับมาอีก แต่ไม่รู้ว่าจิงโจ้จะคิดแบบนั้นหรือเปล่า เพราะดูเหมือนมันชอบการนั่งชิลในสระว่ายน้ำมากทีเดียว   ที่มา dailymail

เมื่อลูกแมวกำพร้า 5 ตัวที่ต้องการแม่ได้พบกับแม่แมวที่สูญเสียลูก พวกมันจึงกลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ… ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ลูกแมวครอกหนึ่งถูกทิ้งนอกหอสมุดใน Kernersville รัฐนอร์ทแคโรไลนา พวกมันร้องไห้ไม่หยุด และแม่แมวก็ไม่อยู่แถวนั้นด้วย     พลเมืองดีที่เจอแมวน้อยจึงพาทั้งหมดไปยังสถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อไปยังกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Juliet’s House Animal Rescue เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ทางกลุ่มช่วยเหลือไปรับลูกแมวจากสถานีตำรวจ พวกเขาก็พาพวกมันไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ที่ปลอดภัย โดย Casaundra Maimone อาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือ เป็นคนพามิ้วน้อยทั้งหมดกลับมาที่บ้านของเธอ     มิ้วน้อยทั้ง 5 ตัวต่างหิวโหยและพยายามจะร้องขออาหาร Maimone จึงเริ่มป้อนนมขวดให้ลูกแมวทั้ง 5 ตัว คืนนั้น แมวน้อยจึงได้นอนบนเตียงที่แสนอบอุ่นพร้อมอาหารเต็มท้อง อย่างไรก็ตาม แมวน้อยคิดถึงแม่มากๆ พวกมันพยายามซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มและเข้าหา Winnie สุนัขของ Maimone เพื่อความสะดวกสบาย ลูกแมวน้อยพากันคลานไปหาแม่บุญธรรมและไม่หยุดร้องไห้จนกว่าจะถูกกอด     ขณะเดียวกัน ช่วงวันสุดสัปดาห์ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Juliet’s House ได้รับโทรศัพท์จากศูนย์พักพิง Davidson County Animal Shelter เกี่ยวกับแม่แมวที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ แม่แมวเพิ่งสูญเสียลูกน้อย มันกำลังสับสนและเสียใจมาก ร่างกายของมันยังผลิตน้ำนมอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีลูกแมวที่จะกินนมมันอีกแล้ว    …

เมื่อเห็นคนทะเลาะกัน หลายคนมักจะพูดว่า “ตีกันอย่างกับหมาแมว” นั่นเป็นเพราะพวกอาจจะเคยเห็นแต่หมาแมวที่ทะเลาะกันเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว พวกมันไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกตัวหรอกนะ ถ้าคุณไม่เชื่อว่าหมาแมวสามารถอยู่ด้วยกัน ลองดูภาพต่อไปนี้ พวกมันไม่ใช่แค่อยู่ด้วยกันได้ธรรมดา แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันด้วย เห็นแล้วอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก   1. ไปนั่งพักผ่อนชิลๆ ริมทะลกับเพื่อนรัก   2. นุ้งแมวขอมานอนเตียงเพื่อนหมา เพื่อแชร์ความอบอุ่นให้กันและกัน   3. มา มาให้กอดหน้าหน่อย จะได้รู้ว่าเค้ารักตะเองมากแค่ไหน   4. เอ่อ อะไรหรอ? เราไม่ได้ทำอะไรกันเล้ยยย   5. หลังจากที่เล่นไล่จับกันทั้งวันจนเพลีย พวกมันก็มาอยู่ในสภาพนี้   6. ก่อนออกไปเล่น มาให้จุ๊บทีนะพี่จ๋า   7. น้องทั้งสองกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกหนังสือเล่มไหนอ่านก่อนนอนดีนะ   8. การนอนจะสบายมากขึ้นถ้ามีใครสักคนให้กอด   9. คืนนี้จมูกเจ้าหมาจะอุ่นตลอดคืนแน่นอน… ถ้าเหมียวไม่ปล่อยมือนะ   10. อยู่ด้วยกันได้ เพราะอ้อนเก่งทั้งคู่ ไม่มีใครให้อ้อน ก็อ้อนกันเอง  …

ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘สุนัขบริการ’ หลายคนมักจะเข้าใจว่าสามารถจับหรือเล่นกับพวกมันได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเจอที่ไหน หรือเมื่อไหร่ แต่จริงๆ แล้ว มันคงไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกตัว อย่างกรณีของ Megan Stoff ที่ตัดสินใจโพสต์คลิปคุณแม่ท่านหนึ่งที่แสดงท่าทีไม่พอใจ หลังเธอบอกคุณแม่ท่านนั้นว่าไม่สามารถเล่นกับสุนัขบริการของเธอได้     เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นในห้างที่พิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อคุณแม่ท่านหนึ่งเดินมากับลูกน้อย และเมื่อเธอเห็นสุนัขบริการของ Megan เธอก็ขอเจ้าของว่าของลูบน้องหมาหน่อย แต่ Megan ตอบว่า “ไม่ได้ค่ะ” โดยให้เหตุผลว่าสุนัขบริการของเธอกำลังอยู่ระหว่างทำงาน… แน่นอนว่าหลายคนอาจจะงงว่าแค่จะขอลูบหมา ทำไมทำไม่ได้ ที่สำคัญ มันเป็นหมาบริการด้วย ซึ่งมันเข้ากับทุกคนได้อยู่แล้ว     ทั้งนี้ข้อมูลอ้างอิงจาก Anything Pawsable ระบุว่า ไม่ควรเล่นกับสุนัขบริการขณะที่พวกมันกำลังทำงาน เพราะพวกมันต้องใช้สมาธิ ถ้ามีใครหันเหความสนใจของสุนัขบริการ เจ้าของอาจจะได้รับบาดเจ็บหรือสุนัขอาจจะเสียสมาธิในการทำงานได้ ทั้งนี้ ตอนที่สุนัขบริการได้รับการฝึกฝน พวกมันถูกฝึกให้หลีกเลี่ยงการถูกรบกวนระหว่างทำงานด้วย     ข้อเท็จจริงที่กล่าวมาข้างต้น ดูเหมือนหลายคนจะไม่ทราบ รวมถึงคุณแม่ที่ปรากฏในคลิปของ Megan ด้วย เธอโมโหมากที่ไม่สามารถลูบสุนัขบริการได้ แถมต่อว่าเธอว่าทำไมไม่ติดป้ายบอกไว้ซะล่ะ (ซึ่งความจริงบนเสื้อของน้องหมาก็มีตัวหนังสือติดไว้ทุกด้านว่า ห้ามเล่นกับสุนัข) Megan ในฐานะเจ้าของสุนัขบริการและถูกคนแปลกหน้าด่ากลางห้าง เธอเองก็รู้สึกไม่พอใจ เธอจึงโพสต์คลิปที่ถ่ายเอาไว้ลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า…  …

สิ่งที่เรารู้ดีเกี่ยวกับช้าง ก็คือพวกมันนั้นตัวใหญ่มาก และสติปัญญาของพวกมันก็ดีมากๆ ด้วย มันขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดที่สุดชนิดหนึ่งในโลกเลยล่ะ แต่เคยรู้กันรึเปล่าว่านอกจากมันจะฉลาดแล้ว ช้างยังมีด้านที่เป็นมิตรและด้านที่ขี้เล่นซ่อนอยู่ด้วย เราจะพาทุกคนไปดูความขี้เล่นของมันผ่านคลิปวิดีโอกัน     คลิปวิดีโอนี้เป็นคลิปจากเฟซบุ๊กของ Khunseuk Danz เขาเป็นควาญช้างซึ่งทำงานอยู่ที่ปางช้างแม่สา อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยตอนที่เขากำลังทาสีคอกช้างใหม่อยู่นั้น ช้างน้อย เจ้าขุนศึก ก็อยากเล่นกับเขาขึ้นมา มันก็เลยใช้งวงสะกิดชายหนุ่ม จนเขาต้องพักงานมาเล่นกับมันเลย   เราทาสีอยู่นะ สะกิดเราให้เล่นด้วยทำไม   เห็นสะกิดเฉยๆ ไม่สนใจ ปีนรั้วมาเล่นด้วยซะเลย   ถ้าแกทำถึงขนาดนี้ ต้องเล่นด้วยหน่อยแล้วล่ะ   ชมคลิปวิดีโอสุดน่ารักของเจ้าขุนศึกกัน   เห็นไหมว่าเจ้าช้างน้อยเนี่ยโคตรจะขี้อ้อนเลย อยากจะเล่นกับมนุษย์จนต้องขอกวนเวลาทำงานกันเลยทีเดียว เห็นแบบนี้แล้วใครจะไม่อยากเล่นด้วย แต่ที่เจ้าขุนศึกอยากเล่นกับคุณ Khunseuk Danz ขนาดนี้ก็คงไม่แปลกหรอก เพราะจากคลิปวิดีโออีกอันหนึ่งที่พวกเขาเล่นวิ่งไล่จับกัน เราจะเห็นได้ว่ามันกับเขาสนิทกันมากเลย     แน่จริงก็จับเราให้ได้สิ   คลิปวิดีโอเจ้าขุนศึกวิ่งไล่จับกับควาญช้างหนุ่ม   เห็นแล้วอยากเล่นกับช้างบ้างจังเลย ถ้าหากใครอยากไปสัมผัสความน่ารักของเจ้าขุนศึกกันแบบใกล้ชิด ลองแวะไปทักทายมันที่ปางช้างแม่สา จังหวัดเชียงใหม่กันดูนะ     ที่มา: Khunseuk Danz, Nuttanun…

บางครอบครัวมักจะกันลูกออกห่างจากสัตว์เลี้ยง เพราะห่วงความปลอดภัยของลูก แต่เรื่องราวของหนูน้อยและตูบเพื่อนรักคู่นี้ จะทำให้หลายคนเปลี่ยนความคิดไปเลย   น่าจิ้มแก้มทั้งคู่เล้ยยย   เด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนนี้คือ Eisleigh ส่วนเจ้าตูบน้อยที่นอนอยู่ข้างๆ คือ Clyde มันไม่ใช่สุนัขธรรมดา แต่มันคือพิตบูลล์ที่ใครๆ ก็หาว่าอันตราย   กอดไหนจะอุ่นเท่ากอดของเพื่อนรัก   ทั้งคู่เกิดในเวลาไล่เลี่ยกันและโตมาในบ้านหลังเดียวกัน พวกเขากลายเป็นสนิทกัน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกัน นั่นเป็นเพราะว่ามิตรภาพของพวกเขาไม่จำเป็นต้องมีคำพูดเป็นสื่อกลาง   เพราะขี้เซาเหมือนกันไง เลยเข้ากันได้   ทั้งคู่มักจะกอดกันเพื่อรักษามิตรภาพอันงดงามของพวกเขา Eisleigh อยู่ที่ไหน Clyde จะอยู่กับเธอด้วยเสมอ ไม่ว่าจะนอน กิน หรือเล่น   ถ่ายรูปคู่หน่อยจ้าเพื่อนรัก   Brandi คุณแม่ของทั้งคู่เป็นผู้สนับสนุนพิตบูลล์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรับพิตบูลล์น้อยมาอยู่กับลูก เธอได้บันทึกมิตรภาพระหว่างลูกน้อยกับเจ้าหมาตั้งแต่เล็กจนโต โดยหวังว่าจะช่วยให้ผู้คนลดอคติที่มีต่อพิตบูลล์   เห้ย!! อย่าทำตัวเด่นคนเดียวสิ   เด็กน้อยมักจะยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้อยู่กับเพื่อนรัก Clyde ตอนนี้แม้ว่าเจ้าพิตบูลล์จะโตเร็วกว่าเด็กหญิงเล็กน้อย แต่นั่นไม่ได้ส่งผลต่อมิตรภาพของพวกเขาเลย ต่อให้เวลาเปลี่ยน ต่างฝ่ายต่างโตขึ้น ร่างกายไม่เหมือนเดิม แต่ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันอยู่เสมอ และพวกเขาก็รักกันมากจนไม่สามารถแยกจากกันได้   ที่มา creepy

นี่เป็นเรื่องราวของ Agatha แมวขี้เซาวัย 14 ปี ที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง ทุกคนรวมทั้งตัวเจ้าเหมียวเองต่างคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้บ้านเหมือนแมวตัวอื่นๆ เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รับเลี้ยงแมวแก่ Agatha เป็นแมวที่รักสงบ ชอบเก็บตัว และไม่ได้มีพฤติกรรมที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากพอ ดังนั้น มันจึงอยู่ในศูนย์พักพิงอย่างไร้ความหวัง     กระทั่งวันหนึ่ง เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในศูนย์พักพิงเพื่อรับเลี้ยงลูกแมว แต่เธอบังเอิญได้เจอกับ Agatha ก่อน และได้ตกหลุมรักมันทันที หญิงสาวบอกว่ามันเป็นแมวที่ใช่สำหรับเธอ และจะเป็นแมวพิเศษของเธอด้วย     อายุของ Agatha ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับหญิงสาว เพราะเธอมีแมวอีกตัวที่แก่กว่ามัน 1 ปี ยิ่งกว่านั้น Agatha มีหัวใจที่เป็นเด็ก และมีพฤติกรรมไม่ต่างจากลูกแมวเลย หลังจากถูกรับเลี้ยงและทันทีที่ก้าวเข้าไปในบ้านหลังใหม่ Agatha ก็เปลี่ยนเป็นแมวคนละตัวอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่แมวชอบเก็บตัวอีกต่อไป แต่มันชอบอยู่กับแม่ใหม่และอ้อนขอความรักจากเธอตลอดเวลา     ตอนนี้ชีวิตของ Agatha ถูกเติมเต็มด้วยความรักและมีทุกอย่างที่ต้องการ มันอาจจะได้อยู่ในบ้านแสนอบอุ่นนี้ได้อีกไม่นาน แต่อย่างน้อยบ้านหลังนี้ก็ทำให้ความทรงจำในช่วงสุดท้ายของชีวิตเต็มไปด้วยความสุข     ที่มา creepy

นี่คือผู้หญิงที่ออกตัวว่าเป็นคนบ้าแมวมากๆ และอาการหนักด้วย ล่าสุด เธอได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังความชอบนี้ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เริ่มจากปี 1992 พ่อของ Lynea Lattanzio ได้ขอให้เธอช่วยเลือกแมวสองสามตัว เพื่อมาแทนที่่แมวเหมียว 2 ตัวที่จากไป     เมื่อ Lattanzio เข้าไปในศูนย์พักพิงสัตว์ เธอรู้สึกตื่นมากๆ เพราะที่นั่นมีแมวน่ารักมากมาย และแล้วตอนนั้น เธอก็ลงเอยด้วยการพาลูกแมว 15 ตัว กลับมาที่บ้าน ยังไม่จบเพียงเท่านั้น ก่อนที่จะถึงสิ้นปี Lattanzio ได้ให้การช่วยเหลือแมวอีก 96 ตัว ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก รู้ตัวอีกที เธอก็หันหลังกลับไม่ได้ซะแล้ว     Lattanzio บอกว่า “ฉันชอบแมวมากๆ เพราะพวกมันดูอิสระ ดูสง่างาม และฉันมีความสุขที่ได้ดูพวกมัน” แต่เมื่อแมวมากขึ้น เธอเริ่มรู้สึกว่าการรับมือกับแมวมากมายขนาดนี้ มันเกิดขีดความสามารถของเธอ แต่จะให้ทิ้งแมวก็คงทำได้ยาก Lattanzio จึงควักเงินจากกระเป๋าตัวเองตลอด 7 ปี ใช้เงินเกษียณ ขายรถ ขายแหวนแต่งงาน และเธอไม่เคยคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด     นอกเหนือจากค่าอาหารประจำวันของแมวเหมียว…

เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับแจ้งว่ามีวัวติดอยู่ในหลุม ซึ่งมีความลึกประมาณ 6 เมตร แน่นอนว่ามันไม่สามารถขึ้นมาเองได้ มันจึงร้องขอความช่วยเหลือ จนมีคนมาเห็นและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง และเห็นสถานการณ์ของเจ้าวัวตัวนั้น พวกเขารู้ทันทีว่าการช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และมันยากจนพวกเขาอาจจะไม่สามารถจัดการเองได้     พวกเขาจึงโทรหาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากอีกแห่งหนึ่ง พร้อมขอกำลังเสริมและอุปกรณ์พิเศษ เพื่อพาวัวผู้น่าสงสารออกมาจากหลุมลึก เมื่อเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ทีมมาพร้อมแล้ว พวกเขาได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกัน จากนั้นก็วางที่จะพาวัวออกมาอย่างปลอดภัย     ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างกระบวนการช่วยเหลือ เจ้าวัวทั้งสับสน กลัว ก่อนจะใจเย็นลงในเวลาต่อมา เหมือนมันรู้ว่าเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือมัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ขุดเปิดหลุมไปได้สักพัก พวกเขาก็ตัดสินใจสายรัดยกเจ้าวัวออกมา เพราะหากขุดมากไปกว่านี้ ดินอาจจะถล่มก่อนเจ้าวัวจะออกมาได้     เมื่อยกวัวออกมาจากหลุมได้ เจ้าหน้าที่ก็ค่อยๆ วางมันลงช้าๆ ตอนแรกมันเดินเซเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นมันก็ยืนได้อย่างมั่นคง ที่สำคัญ มันดูไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ เมื่อเจ้าวัวปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ค้นหาวัวตัวอื่นๆ แต่โชคดีที่ที่นั่นไม่มีวัวตัวอื่นอีก     การช่วยเหลือในครั้งนี้ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก 3 แห่ง…

สัตว์เลี้ยงที่เข้ามาอยู่ในครอบครัวมนุษย์ มักจะมีเรื่องราวที่น่าทึ่งอยู่เสมอ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ พวกมันทำให้ครอบครัวมนุษย์รู้สึกโชคดีที่สุดที่มีพวกมันในชีวิต นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ถึงได้แชร์เรื่องราวน่าประทับใจของสัตว์เลี้ยงพวกเขา และเป็นการแสดงให้เห็นว่าการมีสัตว์เลี้ยงในชีวิตเป็นสิ่งที่คุ้มค่าจริงๆ   นี่คือ Grunyasha สุนัขวัย 10 ปี เราได้พบกับมันตอนมันเป็นลูกหมาตัวน้อย จนถึงตอนนี้มันยังกลัวที่ต้องอยู่คนเดียว มันจะเห่าเมื่อเราออกจากบ้าน   นุ้งแมว Bucks เดินตามลูกชายของเราจากโรงเรียน มันไม่กลัวที่จะมายังบ้านของเรา ทั้งๆ ที่ตอนนั้นมันอายุแค่ 2 เดือนเท่านั้น ตอนนี้มันอยู่กับเราได้ 3 ปีแล้ว   เพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของฉันจากไปเมื่อปีที่แล้ว เรามีความสัมพันธ์ที่พิเศษต่อกัน มันเข้าใจความรู้สึกฉันมากกว่าใคร เวลาไปที่อื่น ฉันจะคิดถึงมันเสมอ ตอนนี้ฉันหวังว่ามันจะมีความสุขอยู่ที่ไหนสักแห่ง   Nucki กับ Martina ถูกพบในสภาพใกล้ตาย ตอนนี้เรารักพวกมันมาก และพวกมันก็รักเราเหมือนกัน   เราเจอเจ้าเหมียว Besya ในคลินิกสัตว์ ลูกชายฉันขอให้รับเลี้ยงมัน แต่ตอนนั้นสามีฉันไม่เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าเหมียวกลายเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน   เจ้าเหมียวตายเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ผมคิดถึงมันมากๆ มันเลือกผมให้เป็นสามีของมัน มันอนุญาตให้ผมรับเลี้ยงสุนัข และเมื่อมันแน่ใจว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว มันก็จากไปอย่างสงบ   นี่คือ Susy,…

ในโลกเรานี้เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิต เพราะสิ่งมีชีวิตบางชนิดเราแทบคาดไม่ถึงว่ามันมีอยู่ในโลกจริงๆ หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งเหล่านั้นคือ เออร์มิน (Ermine)… เออร์มินเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยและถูกจัดอยู่ในสัตว์จำพวกเพียงพอน     ถิ่นกำเนิดเดิมของเออร์มินอยู่ในทวีปยูเรเชีย และอเมริกาเหนือ เห็นพวกมันน่ารัก บ้องแบ๊วแบบนี้ ในธรรมชาติแล้ว พวกมันถือเป็นสัตว์นักล่า โดยจะล่าสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นนักล่า พวกมันก็ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน เนื่องจากขนสวยๆ ของพวกมันเป็นต้องตาต้องใจบรรดานักล่าสัตว์ รวมไปถึงคนในวงการแฟชั่น ส่งผลให้พวกมันถูกฆ่าเพื่อนำหนังและขนไปทำเป็นเสื้อขนสัตว์     สำหรับสีขนของเออร์มินนั้น ปกติจะเป็นสีน้ำตาลที่บริเวณหลัง ส่วนบริเวณใต้คอลงไปจนถึงหน้าท้องจะเป็นสีขาว และเมื่อถึงช่วงฤดูหนาวขนของพวกมันจะเปลี่ยนเป็นสีขาวล้วนอย่างที่เห็น ทั้งนี้ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียหลายเท่าตัว ตัวเมียจะผสมพันธุ์ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน และจะตั้งท้องนาน 8-11 เดือน และออกลูกปีละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 6-13 ตัว     เออร์มินจะอาศัยอยู่กระจัดกระจายตามหาดทรายและพื้นที่สูง โดยส่วนใหญ่แล้ว พวกมันจะชอบอยู่ในถิ่นกำเนิดเดิม เช่น ป่าละเมาะ เนินทราย และพุ่มหญ้า อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าเออร์มินเป็นสัตว์นักล่า พวกมันจึงมีความว่องไวสูง แถมกินไม่เลือก จนทำให้นกบางชนิดถึงกับเกิดความเสียหายอย่างหนัก เพราะนอกจากจะล่าตัวนกแล้ว พวกมันยังกินไข่นกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสัตว์รังควานชนิดหนึ่งเลยล่ะ  …

ว่ากันว่าแมวเป็นสัตว์ที่มีพลังทำลายล้างสูง เพราะพวกมันสามารถหันเหความสนใจของคุณได้ ทำให้คุณเปลี่ยนเป้าหมายได้ แม้จะแน่วแน่แค่ไหนก็ตาม อย่างคู่รักคู่นี้ ที่ตั้งใจจะรับเลี้ยงลูกแมวตัวน้อย แต่สุดท้ายกลับถูกเจ้าเหมียวเฟรนด์ลี่เลือกให้เป็นทาส ทั้งคู่ทำอะไรไม่ได้ นอกจากพามันกลับบ้านด้วย     เรื่องของเรื่องคือ หลังจาก Stephanie กับแฟนหนุ่มสูญเสีย Oliver แมววัย 7 ขวบเมื่อ 2 เดือนก่อน พวกเขาก็ได้เข้าไปในศูนย์พักพิงสัตว์ DGI Paws (Dog Gone Inn) ใน Manlius นิวยอร์ก เพื่อรับเลี้ยงลูกแมว ที่ต้องเป็นลูกแมว เพราะพวกเขามีเหมียว Toby อยู่ในบ้านแล้วตัวหนึ่ง มันยังอายุน้อยและสนิทกับ Oliver แต่หลังจาก Oliver จากไป คู่รักกลัวว่ามันจะเหงา เลยจะหาเพื่อนตัวน้อยมาอยู่ด้วย     ตอนที่คู่รักเข้าไปดูแมวใน DGI Paws พวกเขาเห็นลูกแมวและแมวมากมายอยู่ในนั้น แฟนหนุ่มของ Stephanie จึงเดินเข้าไปใกล้อีกนิด เพื่อดูว่าจะมีแมวตัวไหนที่โผล่มาต้อนรับเขาหรือเปล่า และแล้วเจ้าเหมียวตัวโตสีขาวตัวหนึ่ง ก็เริ่มแสดงความรักต่อเขา มันปีนขึ้นไปบนไหล่ของ กอดเขา มันทำเสียงเพอร์ และไม่ยอมลงมาเลย แน่นอนว่ามันเป็นโมเมนต์ที่น่ารักมากๆ Stephanie จึงได้บันทึกภาพเหล่านั้นเอาไว้…

การรับแมวเข้ามาในชีวิตถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก เพราะคุณได้รับความบันเทิงจากพวกมันไม่เว้นแต่ละวัน และด้วยนิสัยเฉพาะของพวกมัน ทำให้คุณตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างเจ้าเหมียวส้ม Taoyuan มันชอบอาหารมากๆ และจะตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า “กิน” ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนพูดคำว่ากิน มันจะวิ่งไปหาคนนั้นทันที   มาแล้วจ้ะแม่จ๋า ไหนอาหารของหนู??   มีครั้งหนึ่ง คุณแม่ตะโกนเรียกจากระยะไกลว่า “อยากกินข้าวมั้ย?” ซึ่งก็ไม่ได้พูดเสียงดังมากนัก แต่ Taoyuan กลับได้ยินชัดเจน มันจึงตอบรับ “จ้าาา” พร้อมกับวิ่งมาหาเธออย่างรวดเร็ว แม้คุณแม่จะเจอกับความน่ารักของเจ้าเหมียวแบบนี้บ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่มันตอบรับ “จ้าาา” และวิ่งมาหา เธอแทบใจละลายทุกครั้ง     I-lin Chiu คุณแม่น้องแมวได้แชร์คลิปน่ารักๆ นี้ในเพจเฟซบุ๊ก 喵嗚小餅乾&原味小布丁 พร้อมกับบอกว่า “แมวทั่วไปมักจะร้องเมี๊ยว แต่เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน Taoyuan เริ่ิมพูดคำว่า ‘ว้าว’ คือมันคงตั้งใจพูดคำว่า ‘จ้าาา’ นั่นแหละ” แต่ไม่ว่ามันจะพูดอะไรก็ตาม เมื่อคุณแม่เรียกกินข้าว มันจะตอบกลับมา 2 คำ คือ “จ้าาา” กับคำว่า “แม่”      อธิษฐานสิเพื่อน จะได้มีอาหารในชามของเรา…

การอยู่คนเดียวหรือทำงานคนเดียว อาจทำให้รู้สึกเหงาบ้างในบางครั้ง เหมือนกับ Paul Robertson คนขับรถบรรทุก ที่ต้องขับรถลำพังบนถนนมาหลายปี แต่เขารักงานนี้มากเลยไม่คิดจะลาออก การถูกครอบงำโดยความเหงานานๆ เข้าก็คงมีหวั่นไหวบ้าง และเนื่องจาก Robertson เป็นคนรักแมว ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจรับเลี้ยงแมวเหมียวชื่อ Howie ในที่สุด     เป็นเวลากว่าหลายปีที่ Howie อยู่เคียงข้าง Robertson และเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับเขาทุกที่ แต่แล้วเจ้าเหมียวก็ได้จากไปในปี 2017 แน่นอนว่าชายคนขับรถเสียใจหนักมาก Robertson ทนกับความสูญเสียนี้ไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจรับเลี้ยงแมวอีกตัว ว่าแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ เพื่อหาเพื่อนร่วมเดินทางตัวใหม่     เมื่อไปถึง ทางศูนย์พักพิงแนะนำให้ชายหนุ่มรู้จักกับแมวส้ม Percy และทันทีที่เห็นแมวส้มตัวนี้ เขาก็รู้เลยว่ามันเป็นแมวที่ใช่สำหรับเขา เจ้าหน้าที่ได้บอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับว่า Percy มันผ่านช่วงชีวิตที่ยากลำบากมากๆ มันเคยอยู่บนถนน ผ่านการต่อสู้กับแมวตัวอื่นจนมีรอยแผลเป็น และเขี้ยวมันหายไปข้างหนึ่ง     แม้ Percy จะผ่านเรื่องเลวร้ายมา แต่มันยังคงเป็นแมวที่หวานแหวว มันรัก Robertson ทันทีที่เห็น นั่นทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจรับเลี้ยงมันอย่างไม่ลังเล หลังจากรับเลี้ยง Percy ชายหนุ่มก็พามันไปนั่งรถเป็นเพื่อนเขา ปรากฏว่าเจ้าเหมียวชอบนั่งรถบรรทุกมากๆ มันชอบมองทุกอย่างที่เจ้าของขับผ่าน ก่อนจะหลับไปตลอดทาง     ในช่วงสองสัปดาห์แรกที่…

เมื่อศูนย์ช่วยเหลือ Barking Mad Dog Rescue ได้รับการติดต่อชุมชนในท้องถิ่นโรมาเนีย ให้ไปช่วยเหลือสุนัขที่ถูกล่ามโซ่ไว้ที่ลานหน้าโบสถ์ พวกเขาก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสถานการณ์ทันที เมื่อไปถึงลานหน้าโบสถ์ พวกเขาเห็นสุนัขผอมแห้งกว่า 18 ตัว ถูกล่ามโซ่ไว้ตามเสาต่างๆ ซึ่งโซ่ที่ใช้ล่ามส่วนใหญ่ก็สั้นจนบางตัวแทบนั่งไม่ได้ด้วยซ้ำ ที่สำคัญ พวกมันไม่มีอาหารและน้ำดื่ม     แม้ว่าสุนัขเหล่านี้จะถูกทารุณกรรมอย่างโหดร้าย แต่เมื่อหญิงสองคนจากกลุ่มช่วยเหลือเข้ามา แววตาของพวกมันเปล่งประกายด้วยความหวังมันที พวกมันดูตื่นเต้นที่มากที่ในที่สุดก็มีคนหน้าเป็นมิตรเข้ามาหา     Gea ทีมงานจาก Barking Mad Dog Rescue บอกว่า “เมื่อพวกมันเห็นเรา พวกมันดูอยากกอดเรามากๆ”  ต่อมาทราบความจริงว่าบาทหลวงในโบสถ์แห่งนี้ ได้ช่วยเหลือสุนัขทั้ง 18 ตัวนี้จากข้างถนน แต่พวกเขาไม่รู้วิธีดูแลสุนัขอย่างถูกต้อง     เมื่อเจ้าหน้าที่ถามพวกเขาว่าได้ให้อาหารสุนัขหรือไม่ พวกเขาตอบ ได้ให้อาหารพวกมันทุกๆ วันจันทร์และวันพฤหัสบดี… แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่ค่อนข้างอึ้งกับคำตอบนั้น หมาทั้ง 18 ตัว หิวโหยมาก พวกมันดูหมดหวังที่จะได้รับความรักและการเอาใจใส่ ทางเจ้าหน้าที่จึงอยากช่วยพวกมันทั้งหมดให้ออกจากที่นั่น     แต่เนื่องจากศูนย์พักพิงของพวกเขาเต็มแล้ว จึงไม่แน่ใจว่าจะช่วยพวกมันทั้ง 18 ตัวได้หรือเปล่า อย่างไรก็ตาม…

เมื่อถึงฤดูหิมะตก หลายๆ บ้านคงจะปล่อยให้สัตว์เลี้ยงออกไปเล่นนอกบ้านอย่างอิสระ และคอยดูพวกมันเพลิดเพลินกับหิมะอย่างมีความสุข แต่ดูเหมือนนั่นจะไม่ใช่สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างแมวเหมียว เพราะพวกมันบางตัวชอบความอบอุ่นในบ้านมากกว่า และเมื่อพวกมันถูกบังคับให้ออกไปเล่นหิมะ มันเลยเกิดอาการแบบนี้   1. อู้วววว อุ้งเท้าเค้าเย็นจี๋เลยอะ แข็งไปหมดแล้วมั้งเนี่ย   2. นุดดดดด พาฉันเข้าข้างในเดี๋ยวนี้!!   3. ทำไมมันเย็นงี้อะ   4. พาตูออกมาข้างนอก ขุดหลุมให้ตูพร้อม เคยถามตูสักคำมั้ยว่าชอบหรือเปล่า   5. หวังว่ามนุษย์จะไม่พาเราออกไปอยู่กลางหิมะนั่นนะ   6. อยากให้เราเล่นหิมะนักใช่มั้ย ได้ จัดไป   7. โอ้ววไม่ อะไรก็ไม่รู้ตกลงมาจากฟ้า กระแทกหน้ารัวๆ   8. ให้ตายเถอะ นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ฉันจะเหยียบหิมะ   9. เมื่อพาแมวอ้วน 1 ตัว กับแมวผอม 2 ตัวไปเล่นหิมะ   10. นี่มันอะไรกัน มรึงก็รู้ตูไม่ชอบอะไรเย็นๆ   11.…

Casey Church รับเลี้ยงเจ้าหมามาตั้งแต่มันยังตัวเล็กๆ อยู่เลย และเขาก็เลี้ยงมันด้วยความรักและเอ็นดูจนมันตัวโต เขาคิดว่ามันเป็นเหมือนลูกแท้ๆ ของเขาเลย ทว่าอยู่มาวันหนึ่ง เขากับมันก็ถูกพรากจากกัน เนื่องจากมีคนมาขโมยเจ้าหมาไปจากสวนหลังบ้านของเขาในตอนที่ไม่มีใครอยู่     เขาพยายามตามหามันเท่าที่จะทำได้แล้ว ทั้งแจ้งตำรวจ แจ้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ และติดประกาศตามหา แต่เขาก็ไม่เจอตัวหรือเบาะแสของมันเลย Church ยังคงไม่ยอมแพ้ เขายังรักและคิดถึงเจ้าหมาอยู่ แต่ในเมื่อไม่รู้จะไปหามันได้ที่ไหน เขาจึงทำได้แค่ตามหามันต่อไปเรื่อยๆ เท่านั้น     จนเมื่อผ่านไป 6 ปี วันหนึ่งเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ The Friends of the New Castle Animal Shelter บอกว่าพวกเขาเจอเจ้าหมาของ Church แล้ว เขากับมันจึงได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง หลังจากที่รอเจอกันมานาน เขาเล่าว่า “ผมได้ลูกชายคืนมาแล้ว มันเริ่มมีขนสีเทา แล้วก็เริ่มแก่ บางครั้งมันก็เดินเซเล็กน้อย แต่มันยังเป็นเจ้าหมาตัวเดิมของผม”     ตอนที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ไปเจอมันนั้น พวกเขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อตามหาเจ้าของให้มัน เนื่องจากถึงมันจะมีไมโครชิป แต่ไมโครชิปอันนั้นไม่ได้ลงทะเบียนข้อมูลเอาไว้ พวกเขาจึงต้องพยายามติดต่อไปหาบริษัทผลิตไมโครชิป และคลินิกสัตว์ที่ฝังไมโครชิปให้กับมันเอง แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้ข้อมูลติดต่อ…

แมวเหมียว 2 ตัวถูกช่วยมาจากข้างถนน พวกมันใกล้จะพ้นจากการเป็นแมวจรจัดแล้ว ขอแค่มีทาสมารับไปอยู่บ้านเท่านั้น แต่การรอของพวกมันก็ยาวนานนับปีเลยทีเดียว     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ CatRescue 901 ช่วยลูกแมว 2 ตัวเอาไว้หลังจากที่มีคนไปเจอพวกมันอยู่ด้วยกัน พอรู้ว่ามันป่วยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็ไม่อยากเมินมัน แล้วรีบยื่นมือเข้าช่วย แมวเหมียวทั้ง 2 ตัวติดเชื้อที่ดวงตา พวกมันต้องได้รับการรักษาโดยด่วน โชคดีที่พวกเขาเตรียมบ้านให้มันอยู่และเตรียมคนดูแลไว้ให้แล้ว เจ้าแมวจึงได้รับการรักษาและมีที่นอนอุ่นๆ ทันที     แมวทั้ง 2 ตัวตาติดเชื้อเหมือนกันเลย   เจ้าเหมียว Daniel และ Deverson ได้รับการดูแลอย่างดีจนอาการติดเชื้อหาย แต่ว่าเจ้า Deverson ที่อาการหนักกว่าต้องผ่าตัดเอาตาข้างหนึ่งออกไป เพื่อไม่ให้การติดเชื้อลุกลาม ตอนนี้แมวทั้ง 2 ตัวหายดีแล้ว ถึงจะยังดูเหมือนตาของพวกมันขุ่นมัวอยู่ แต่สัตวแพทย์ก็ยืนยันว่าทั้งคู่สามารถมองเห็นได้ตามปกติ     แมวเหมียว 2 ตัวนี้ไม่เคยอยู่ห่างกันเลย ตั้งแต่ตอนที่เก็บมันมาพวกมันก็ดูแลกันและกันเป็นอย่างดี พอให้ยาเสร็จอีกตัวก็จะมาเลียขนเป็นกำลังใจให้ หลังจากที่หายดีแล้วพวกมันก็ยังคงใช้เวลาร่วมกันแทบทั้งวัน ส่วนมากพวกมันจะนอนกลางวันอยู่ข้างๆ กัน แล้วก็มากินข้าวด้วยกัน     ตัวติดกันเป็นตังเมเชียว…

สัตว์เลี้ยงที่อยู่กับมนุษย์ ก็มีหลายตัวที่ทำตัวเป็นเด็กดี เรียบร้อยน่ารัก ว่านอนสอนง่าย เห็นแล้วน่าอยู่กับพวกมันทั้งวันจริงๆ ในขณะเดียวกันก็ยังมีสัตว์อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้เชื่อฟังมนุษย์สักเท่าไหร่ พวกมันมักจะกวนทีนมนุษย์อยู่เสมอ และจะทำทุกอย่างให้มนุษย์รู้ว่า ‘กฎของพวกแกน่ะ ใช้กับพวกเราไม่ได้หรอก’ ซึ่งมันก็คือสัตว์พวกนี้ยังไงล่ะ…   ห้ามว่ายน้ำใช่ไหม งั้นเรานั่งในน้ำก็พอ   ก็ติดป้ายบอกว่าไม่มีสัตว์ แล้วเป็ดมายังไง   เจ้านายไล่มานอกร้านเพราะมันขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ แต่มันก็ยังนั่งบนโต๊ะนอกร้านอยู่ดี   ลูกต้องรู้จักแหกกฎซะบ้าง นี่คือวิถีของแมว   ไม่ชอบอาหารใหม่ที่มนุษย์ซื้อให้ ต้องทำแบบนี้เลยเหรอ   ห้ามหมาเข้าได้ไง ไม่ยุติธรรม ดึงป้ายออกแม่ม   นี่มันตะกร้าผ้าขาว แกไปนั่งในตะกร้าผ้าดำโน่นไป๊   เอิ่ม…เปิดประตูเองก็เปิดแล้ว ทำไมยังต้องเข้าประตูเล็กอีก งงมันจริงๆ   ห้ามกันเหรอ ฉี่ใส่เลย ไม่แคร์   ไหนที่บอกว่าหมาห้ามเข้า มนุษย์มั่วละ   นอกจากแมวแล้ว แกก็ไม่ยอมนอนในบ้านเหมือนกันสินะ   แหกกฎหน่อยดีกว่า ขี้เกียจโดด   มนุษย์มาขวางความสุขแมว แบบนี้มันต้องเอาป้ายเตือนออก   ไม่ชอบเดินตามทางที่ใครขีดไว้…

คนที่เคยเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นหมาหรือเป็นแมว น่าจะเคยถูกมันพังข้าวของในบ้านมาแล้วไม่มากก็น้อย มันเป็นปัญหาที่คนเลี้ยงสัตว์แทบทุกคนเคยเจอ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีป้องกันไม่ให้ข้าวของในบ้านพัง วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับบางอย่างกับเพื่อนๆ เผื่อว่ามันจะเอาไปใช้กับสัตว์เลี้ยงที่บ้าน ไม่ให้พวกมันทำลายของเพิ่มได้   1. วางน้ำหอมไว้ในจุดที่ต้องการให้พวกมันอยู่ห่าง   สัตว์แทบทุกชนิดมีสัมผัสกลิ่นที่ดี ดังนั้นพวกมันจึงอ่อนไหวกับกลิ่นที่รุนแรง การเอากลิ่นบางอย่างที่พวกมันเกลียด (ซึ่งเจ้าของน่าจะรู้ดีว่าพวกมันไม่ชอบอะไร) ไปวางไว้ในที่ที่เราต้องการให้พวกมันอยู่ห่าง อย่างเช่นบนชั้นวาง บนโต๊ะอาหาร หรือใกล้กับของที่พวกมันชอบทำลาย จะทำให้พวกมันแทบไม่เฉียดเข้าไปใกล้กับบริเวณที่มีน้ำหอมเลย   2. หาที่ฝนเล็บมาวางไว้ใกล้ของที่มันชอบพัง   การหาที่ฝนเล็บเข้ามาไว้ในบ้าน จะช่วยลดความต้องการทำลายโซฟาและของในบ้านลงได้ แต่ถ้าจะให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ควรเอาไปวางไว้ใกล้กับจุดที่มันชอบทำลายของเลย เวลามันจะไปข่วนเฟอร์นิเจอร์ มันจะได้เห็นที่ฝนเล็บก่อน แล้วเล็งเป้าหมายไปยังที่ฝนเล็บแทน   3. วางแผ่นรองที่พักแขนทิ้งไว้   แผ่นรองที่พักแขนที่เราเอาไว้ใช้วางรองของร้อนหรืออาหาร เพื่อไม่ให้โซฟาเลอะ ก็สามารถวางไว้เพื่อใช้กันไม่ให้สัตว์เลี้ยงข่วนที่พักแขนเป็นรอยได้เช่นกัน   4. ใช้ปืนฉีดน้ำสั่งสอน   การตะโกนดุเจ้าหมาเจ้าแมวให้จำมันก็ดีอยู่หรอก แต่หากใช้ปืนฉีดน้ำยิงใส่พวกมันเวลาที่พวกมันทำอะไรไม่ดี จะทำให้พวกมันจำขึ้นใจกว่าเยอะเลย แต่อย่าใช้ปืนฉีดน้ำใหญ่ๆ แรงๆ ที่เอาไว้เล่นสงกรานต์ล่ะ เดี๋ยวพวกมันเจ็บตัวไม่รู้ด้วยนะ   5. ฉีดสเปรย์กันสัตว์เลี้ยง  …

เจ้าหมาอยู่เป็นเพื่อนหญิงสาวมานานกว่า 10 ปี มันเป็นกำลังใจให้เธอในทุกสถานการณ์ และแม้ว่ามันจะจากเธอไปแล้ว เธอก็ยังคงเก็บมันไว้ในหัวใจเสมอ ไม่มีวันลืมเลือน Melissa del Vico รับเลี้ยงเจ้าหมา Lola มาตั้งแต่มันยังเล็กๆ มันเป็นสุนัขพันธุ์ชิวาว่าพันธุ์สีน้ำตาลที่น่ารักมาก ที่สำคัญคือมันให้ความสำคัญกับเธอมากเช่นกัน     น่ารักตั้งแต่เด็กเชียว   Melissa เล่าว่าเธอเป็นคนที่เข้าสังคมไม่เก่ง และเป็นคนอ่อนไหวง่าย แต่เธอก็ผ่านการเข้าสังคมแต่ละวันมาได้ เพราะมีเจ้าหมาคอยอยู่ให้กำลังใจเธอเสมอ   กำลังใจคนสำคัญของเจ้านายก็หนูนี่แหละ   มันอยู่กับเธอในวันที่เธอตกหลุมรักกับแฟน แต่งงานกันและตั้งท้อง จนกระทั่งพวกเขาเลิกรากัน Melissa ก็ยังคงได้กำลังใจจาก Lola ทำให้เดินต่อไปได้เสมอ นอกจากนี้ เจ้าหมาก็ไม่ได้เป็นกำลังใจให้กับเธอเพียงคนเดียว มันก็ยังเป็นเพื่อนคนสำคัญให้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของเธออีกด้วย     โตมาด้วยกันเลย   เป็นเพื่อนสนิทของทั้งคุณแม่คุณลูก   เป็นเพื่อนเล่นให้น้อง   พวกเธอสนิทกันมากๆ   แล้วก็เข้านอนด้วยกันเสมอ   ไม่ว่าเด็กหญิงจะโตขึ้นแค่ไหนก็ตาม ก็ยังนอนด้วยกัน   เจ้าหมาเป็นเหมือนสมาชิกครอบครัวของเธออีกคน   มันสำคัญกับพวกเธอมาก  …

May และแฟนหนุ่มเป็นคนรักสัตว์ พวกเขาอยากจะลองเป็นอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือสัตว์จรจัดที่ลำบากบ้าง พวกเขาจึงเลือกไปช่วยงานที่ศูนย์พักพิงสัตว์  Charleston Animal Society ที่นั่นมีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งชื่อว่า Charlie ลูกแมวน้อยตัวนี้เพิ่งมาถึงศูนย์พักพิงสัตว์ได้ไม่นาน ก่อนหน้าที่จะมาอยู่ที่นี่ มันไปอยู่บ้านกับคนดูแลมาก่อน     เมื่อคนดูแลเห็นว่ามันแข็งแรงดีแล้ว เธอก็เลยส่งมันมาที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เพื่อให้มันมีโอกาสพบว่าที่ทาสของมัน และโน้มน้าวใจพวกเขาให้พามันกลับบ้านด้วย ซึ่งวันที่มันมาถึงนั้นก็เป็นวันเดียวกับวันที่ May เริ่มต้นเป็นอาสาสมัครที่นั่นพอดี พอเจ้าแมวเห็นเธอเดินผ่านกรง มันก็กวักมือแล้วร้องเรียกเธอใหญ่เลย     เธอเล่าว่า “เจ้าแมวนอนห้อยขาออกมาจากกรง แล้วก็กวักมือเรียกร้องความสนใจจากฉันที่กำลังเดินผ่านไป พวกเราตกหลุมรักมันตั้งแต่ตอนนั้นเลย เรารู้ทันทีเลยว่ามันเลือกเราเป็นทาสแล้ว เราก็เลยทำเรื่องรับเลี้ยงมันตั้งแต่กะแรกที่ไปทำงานเป็นอาสาสมัครที่ Charleston Animal Society”   อยู่ศูนย์พักพิงสัตว์ไม่ถึงวันก็ได้ออกมาแล้ว ไม่เบานะเนี่ย   ถึงจะดูเหมือน May และแฟนหนุ่มถูกมันหลอกให้เป็นทาส แต่ก็ถือว่าพวกเธอโชคดีมากเลยที่ได้เจ้า Charlie มาอยู่ด้วย เนื่องจากเจ้ามิ้วน้อยตัวนี้มันขี้อ้อนและรักทาสเอามากๆ พอมาถึงบ้านปุ๊บมันก็นอนกอดกับทาส แล้วใช้อุ้งเท้าทำท่านวดอย่างมีความสุข     หลังจากที่รับมันมาเลี้ยง สิ่งที่ May กับแฟนตื่นมาเจอเป็นสิ่งแรกในยามเช้าก็คือเจ้าเหมียวที่ต้องการความสนใจ และสิ่งที่พวกเธอเจอเมื่อกลับถึงบ้านก็คือเจ้าแมวที่รอพวกเธอกลับมาเล่นด้วยอยู่ เธอเล่าว่า “Charlie จะอ้อนให้เรากอดทันทีที่เราเปิดประตูเข้าบ้านมาเลย…

เจ้าเสือตัวนี้เคยอาศัยอยู่ในสวนสัตว์ที่ไม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสัตว์เลย เพื่อนของมันหลายตัวต้องตายจากไปเพราะไม่ได้รับการดูแลที่ดีพอ แต่มันโชคดีที่รอดและได้ออกมาจากที่นั่น เจ้าเสือหนุ่ม Laziz เคยอาศัยอยู่ที่สวนสัตว์ Khan Younis ในเมืองกาซา ประเทศปาเลสไตน์ แต่ถึงจะอยู่ในสวนสัตว์มันก็ไม่ได้รับการดูแลที่ดีเลย สวนสัตว์แห่งนี้ให้สัตว์แต่ละตัวอยู่ในกรงที่แคบเกินกว่าที่ควรจะเป็น แถมยังให้อาหารพวกมันแค่พออยู่ท้องด้วย สัตว์แทบทุกตัวจึงดูไม่ร่าเริง บางตัวแทบไม่ขยับด้วยซ้ำ     หลังจากที่มีคนมาเห็นสภาพของพวกมันในสวนสัตว์ จึงเริ่มมีหลายคนเรียกร้องให้สวนสัตว์ดูแลพวกมันให้ดีกว่าเดิม หรือไม่ก็ปิดตัวไปเลย พอเกิดเรื่องขึ้นพนักงานก็เริ่มลาออกเพื่อหนีปัญหา ส่งผลให้ไม่มีคนให้อาหารสัตว์ ทำให้สัตว์หลายตัวรวมถึงเพื่อนๆ ของ Laziz ล้มตายด้วยความหิว ถึงจะเกิดเรื่องขนาดนี้ทางสวนสัตว์ก็ยังไม่ออกมาจัดการปัญหา และไม่หาคนมาดูแลเพิ่มด้วย สัตว์ที่ตายอยู่ในกรงจึงถูกทิ้งไว้กลายเป็นซากแข็งๆ อยู่กับสัตว์ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่แบบนั้นเลย     โชคดีที่ในที่สุดกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ LionsRock Sanctuary ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยได้สำเร็จ ทำพวกเขาพาตัว Laziz ที่อดอาหารอยู่นานเกือบ 2 ตัวรอดตายออกมาได้ นอกจากนี้ปัจจุบันสวนสัตว์แห่งนั้นก็ถูกปิดไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีสัตว์ตัวอื่นได้รับความเดือดร้อนในลักษณะนี้อีก ส่วน Laziz นั้นพวกอาสาสมัครพาตัวมันไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ของประเทศเซาท์แอฟริกา ตอนนี้มันจึงมีที่ให้วิ่งเล่นกว้างกว่าบ้านหลังเก่าเป็นพันเท่าเลยทีเดียว     นอกจากนี้มันก็ยังได้อยู่รวมกับเสือตัวอื่นๆ ที่นั่นด้วย จึงน่าจะทำให้มันรู้สึกเหมือนได้กลับไปอยู่ตามธรรมชาติอีกครั้งหนึ่ง คนที่ดูแล Laziz อยู่บอกว่าตอนนี้มันปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้แล้ว ถึงแม้มันจะยังมีความกลัวจากการผ่านประสบการณ์เลวร้ายที่สวนสัตว์มาบ้าง แต่อาการของมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนน่าอุ่นใจ…

เจ้า Lola เพิ่งจะมีชีวิตได้ไม่ถึงปี แต่มันก็ผ่านการถูกทิ้งมาแล้วถึง 2 ครั้ง จนตอนนี้มันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะมีใครให้โอกาสมันอีกรึเปล่า ครั้งแรกที่ Lola มีเจ้าของ มันถูกซื้อไปโดยเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง แต่สักพักหนึ่งเมื่อเธอเบื่อมัน เธอก็ทิ้งมันไว้กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์  Second Chance Rescue     ต่อมาก็มีคนรับเลี้ยงมันไปอีกครั้งหนึ่ง แต่พวกเขาเพิ่งเคยรับเลี้ยงหมาเป็นครั้งแรก และไม่รู้ว่าต้องรับมือกับความบ้าพลังของมันยังไง พวกเขาจึงส่งตัวมันคืนมาอีก ในตอนที่ Lola ดูเหมือนจะสิ้นหวังแล้วนั่นเอง Cristina Antonucci ก็เดินเข้ามาหามัน และมอบโอกาสให้มันอีกครั้งหนึ่ง     Antonucci รู้จัก Lola หลังจากได้เห็นรูปของมันบนอินเตอร์เน็ต เธอรู้สึกว่ามันดึงดูดเธอ จึงลองเดินทางมาหามันที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ด้วยตัวเอง พอได้เจอเจ้าหมาครั้งแรก มันก็นั่งนิ่งแล้วมองหน้าเธออย่างมีความหวัง ทำให้เธอตกหลุมรักและตัดสินใจรับมันกลับไปที่บ้านด้วยทันที     Lola เป็นหมาที่น่ารักถูกใจ Antonucci มาก ในวันแรกที่มันมาถึงบ้าน มันก็แสดงความอ่อนหวานโดยการนอนกอดกับเธอนานหลายชั่วโมงเลย ทว่าอีกด้านหนึ่งมันก็มีนิสัยเสียติดมาหลายอย่างด้วย อย่างเช่นว่ามันชอบขุดหลุมในสวนหลังบ้าน แล้วก็ชอบขุดหลุมใต้รั้วเพื่อหนีออกไปเล่นกับหมาข้างบ้าน ซึ่งสร้างปัญหาให้เธออยู่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เธอได้รู้เรื่องการถูกทิ้งครั้งก่อนๆ ของมันมาจากคนดูแลแล้ว และเธอก็เตรียมใจที่จะรับมือกับเจ้าหมามาแล้วด้วย เธอจึงไม่ได้รู้สึกไม่ดีกับมัน     Antonucci…

คนที่ชอบสัตว์ตัวเล็กน่ารัก และอยากลองหา ‘หมูแคระ’ มาเลี้ยงเพราะความตัวจิ๋วของมันอย่างเดียว เราแนะนำว่าอย่าดีกว่า เนื่องจากหมูแคระนั้นไม่ได้ตัวเล็กตลอดไปอย่างที่เข้าใจกัน เดี๋ยวจะเป็นเหมือนครอบครัวนี้     ครอบครัวที่พาเจ้าหมูแคระ Amy อยากจะมีสัตว์เลี้ยงตัวเล็กน่ารักอยู่ด้วย พวกเขาจึงไปซื้อเจ้าหมูมาจากคนขายสัตว์เลี้ยง และเริ่มเลี้ยงมันไว้ในบ้าน ตอนแรกมันก็ตัวเล็กดีอยู่หรอก แต่พอเลี้ยงไปสักพัก ขนาดตัวของเจ้าหมูก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากหมูแคระตัวเล็กในตอนแรก ไม่ทันไรมันก็มีน้ำหนักกว่า 90 กิโลกรัมซะแล้ว     เมื่อมันตัวใหญ่ขึ้นมาก และเจ้าของของมันดูแลหมูตัวใหญ่ไม่ไหว ท้ายที่สุดพวกเขาก็เลยทิ้งมันไว้กับองค์กรช่วยเหลือสัตว์ Massachusetts Society for the Prevention of Cruelty to Animals Mike Keiley ผู้อำนวยการขององค์กรบอกว่า “พวกเขาคิดว่า Amy จะตัวเล็กเท่าหมาขนาดเล็กไปเรื่อยๆ แต่นั่นเป็นแค่ความฝันลมๆ แล้งๆ เท่านั้น หมูที่ตัวเล็กตลอดไปไม่มีอยู่จริงหรอก”     เขายังบอกอีกว่าหมูแคระที่ทุกคนเข้าใจกันจะตัวเล็กแค่ตอนมันเด็กเท่านั้นแหละ พอมันโตแล้วน้ำหนักก็จะทะลุ 40 กิโลกรัมแทบทุกตัว (ซึ่งหมูแคระตัวเต็มวัยนั้นก็ถือว่าน้ำหนักตัวน้อยกว่าหมูปกตินะ แต่มันก็ยังตัวใหญ่มากๆ อยู่ดีแหละ) คนขายที่ชอบทำให้เจ้าของเข้าใจผิดในลักษณะนี้ ทำให้มีคนมากมายซื้อหมูแคระไปแล้วตัดสินใจทิ้งพวกมันทีหลัง กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ของเขาเองก็เจอเรื่องแบบนี้บ่อยเหมือนกัน    …

ถ้าพูดถึงความแสนรู้ของสุนัข จะให้นั่งสาธายายถึงสิ่งที่มันทำได้ ให้พูดทั้งวันก็คงไม่พอจริงๆ ดูอย่างเจ้าหมาตัวนี้สิ มันรู้ว่าเมื่อตัวเองลำบากควรจะไปขอความช่วยเหลือที่ไหน มันจึงไปหาตำรวจที่สถานีด้วยตัวเอง     ในค่ำวันหนึ่งตำรวจเจอหมาตัวน้อยนั่งอยู่ที่หน้าสถานีตำรวจ Sanchalu จากเมืองฟู่หยาง มณฑลอันหุย ประเทศจีนตามลำพัง ดูจากที่มันใส่เสื้ออยู่ จึงพอตีความได้ว่ามันเคยอยู่กับมนุษย์มาแล้ว ไม่แน่ว่าเจ้าของอาจจะเอามันมาทิ้งไว้ที่หน้าสถานีตำรวจก็ได้ แต่พอพวกเขาเปิดดูกล้องวงจรปิดบริเวณที่เจ้าหมาเข้ามา พวกเขาก็พบว่ามันเป็นหมาหลงทาง ที่เดินตรงเข้ามาถึงสถานีตำรวจด้วยตัวเอง ราวกับว่ามันรู้ว่าถ้าลำบากต้องมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจเลย     ภาพจากกล้องวงจรปิดบ่งบอกว่าเจ้าหมามาเองแน่นอน   ทางตำรวจก็เลยตั้งใจว่าจะช่วยตามหาเจ้าของ เพื่อพาเจ้าหมาน้อยกลับไปอยู่บ้านให้ได้ แต่ตอนที่เจอมันก็เป็นเวลาค่ำแล้ว พวกเขาจึงเอาผ้ามาปูให้มันนอนข้างในสถานีตำรวจซะเลย ที่น่าชื่นชมอีกอย่างก็คือเจ้าหมาแทบจะไม่เห่าเลย แถมยังเข้ากับคนที่อยู่ในสถานีตำรวจได้ดีอีกต่างหาก มันน่าจะแสนรู้พอที่จะรู้ว่าไม่ควรรบกวนคุณตำรวจตอนทำงานมากนัก     เป็นหมาหลงที่เข้ากับตำรวจได้ดีมาก   อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามตามหาเจ้าของให้มันแล้ว แต่ก็สืบไม่เจอสักทีว่าใครที่เป็นเจ้าของมันกันแน่ พวกเขาก็เลยไม่รู้ว่าจะพามันไปส่งคืนได้ที่ไหน ต่อมาเมื่อเห็นว่าไม่เจอตัวเจ้าของสักที แถมเจ้าหมานิสัยน่ารัก เข้ากับนายตำรวจได้ และยังช่วยทำให้ที่ทำงานครึกครื้นขึ้นด้วย พวกเขาก็เลยตัดสินใจรับมันไว้เลี้ยงที่สถานีตำรวจนั่นซะเลย     พอมาถึงจุดนี้แล้ว #เหมียวอาตี๋ ก็ชักไม่แน่ใจว่ามันเป็นหมาหลงทางที่มาขอความช่วยเหลือได้ถูกที่ หรือเป็นหมาจรจัดที่เนียนอยากมีบ้านเป็นสถานีตำรวจกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ต้องยอมรับเลยว่ามันแสนรู้จริงๆ     ชมคลิปเรื่องราวของเจ้าหมาได้ที่นี่  …

สัตว์แสนรู้อย่างหมามีเรื่องให้เราทึ่งกับความสามารถของมันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการดมกลิ่นที่สุดยอด และความสามารถในการช่วยเหลือเจ้าของในเรื่องต่างๆ ด้วย แต่ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งมีครั้งนี้แหละที่เราเห็นหมาเล่นสเก็ตบอร์ดได้ มันไม่ได้ขึ้นไปนั่งแล้วให้เจ้าของเข็นเหมือนที่เราเคยเห็นมาหรอก เจ้าตัวนี้สามารถขึ้นไปเล่นสเก็ตบอร์ดด้วยตัวเองได้เหมือนมนุษย์เลย เจ้าหมาที่ว่าก็คือ Daniu (ต้าหนิว) สุนัขสายพันธุ์บูลล์ด็อกจากเมืองอี้หวู่ มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน มันเป็นสัตว์เลี้ยงของหนุ่ม Po     เจ้าหมาตัวนี้สามารถเล่นสเก็ตบอร์ดได้ด้วยตัวเอง โดยการขึ้นไปบนสเก็ตบอร์ดแล้วใช้ขาหน้าและหลังข้างหนึ่งถีบเร่งความเร็ว แถมยังสามารถควบคุมให้เลี้ยวได้ และหากสเก็ตบอร์ดจะชนพุ่มหญ้ามันก็โดดลงได้ทันเวลาด้วย Po ผู้เป็นเจ้าของของ Daniu บอกว่าเจ้าหมาเล่นสเก็ตบอร์ดเป็นตั้งแต่ขวบกว่าๆ แล้ว โดยที่เขาชอบเล่นสเก็ตบอร์ด ก็เลยเอาไปเล่นด้วยเวลาพามันไปเดินเล่นเป็นประจำ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจฝึกให้มันเล่นสเก็ตบอร์ด แต่พอเขาจับมันขึ้นสเก็ตบอร์ดไปด้วยกัน แล้วให้มันได้ลองเล่นบ่อยๆ มันก็เล่นเป็นของมันเอง ส่วนหนึ่งมันก็คงจะเลียนแบบท่าทางการเล่นของเขานั่นแหละ   บรื้นๆ หลบทางให้หมาซิ่งหน่อย   ปัจจุบันเวลาที่เขาไปข้างนอกกับมัน มันก็จะเล่นสเก็ตบอร์ดไปกับเขาด้วยเป็นประจำ แถมยังเร่งสปีดด้วยแรงเท้าหมาจนเร็วปรื๋อเชียว แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของคนอื่นหรอกนะ Po รู้ดีว่าถึง Daniu จะเลี้ยวเป็น มันก็ไม่ได้ควบคุมสเก็ตบอร์ดได้คล่องเหมือนคนหรอก เขาจึงมักจะหาพื้นที่ที่กว้างขวางและโล่งก่อนให้มันเล่นเสมอ เวลาที่เจ้าหมาเล่นสเก็ตบอร์ดมันจะได้ไม่ไปชนคนอื่นเข้า แล้วเขาก็จะจับตาดูอยู่ข้างมันเสมอด้วย     ลองมาเล่นสเก็ตบอร์ดแข่งกันดูไหมล่ะ…แต่แพ้หมาแล้วอย่าร้องไห้นะ ที่มา: China Xinhua News,…

ในวันคริสต์มาสซึ่งเป็นวันของครอบครัว หนุ่มน้อยไม่ขออะไรไปมากกว่าการได้เจ้าแมวที่หายไปกลับมาอยู่ด้วยอีกครั้ง และคุณพ่อก็ช่วยให้คำขอของเขาเป็นจริงได้ เด็กชาย Tyson เคยได้อยู่กับพ่อแม่และแมวเหมียว Optimus กับ Bumblebee จนกระทั่งเมื่อหลายเดือนก่อนที่มีเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย พวกเขาหนีไฟไหม้มาได้ แต่แมวทั้ง 2 ตัวได้หายตัวไป     เมื่อใกล้ถึงวันคริสต์มาส Joe และ Candice พ่อและแม่ของ Tyson จึงให้เขาเขียนการ์ดถึงซานต้า จะได้รู้ว่าเด็กชายอยากได้อะไรเป็นของขวัญ แล้วหามาให้เขาได้ ทว่าสิ่งเด็กชายขอนั้นกลับเป็นสายจูงและปลอกคอสำหรับแมวเหมียว เพื่อที่เมื่อเจอพวกมันอีกครั้ง มันจะได้ไม่หลงทางหายไปอีก…เขายังอยากเจอเจ้าแมวอยู่   Tyson ขอปลอกคอและสายรัดสำหรับแมว และหุ่นยนต์ Bumblebee ตัวโตจากเรื่อง Transformers   เมื่อรู้แบบนั้น Joe จึงสัญญากับตัวเองว่าจะพาพวกแมวกลับไปเจอลูกให้ได้ โดยเขาเริ่มติดต่อกับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ FieldHaven เพื่อให้พวกเขาช่วยตามหาพวกมันให้ อาสาสมัครจึงวางกรงแมวทิ้งไว้แถบที่มันหายไป เผื่อว่าพวกมันจะยังอยู่แถวนั้น แล้วพาตัวกลับมาหาครอบครัวได้ หลายสัปดาห์ต่อมากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็เจอแมวดำตัวหนึ่ง Joe จึงรีบเข้ามาดูตามลำพังโดยไม่พาลูกมาด้วย เผื่อว่าเจ้าแมวไม่ใช่ตัวที่ตามหา ลูกชายจะได้ไม่เสียใจที่ไม่เจอมัน…แต่วันนั้นเขาก็ได้เจอ Optimus จริงๆ     ทันทีที่เขาพา Optimus กลับมาหา Tyson ที่บ้าน…

ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงวันคริสต์มาสกันเต็มทีแล้ว เจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคนคงกำลังรอฉลองกับเจ้าหมาเจ้าแมวอยู่ แล้วก็อยากจะแต่งชุดให้มันเข้ากับเทศกาลด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าสัตว์ทุกตัวจะอินกับเทศกาลคริสต์มาสเหมือนกับคนซะหมดนะ บางตัวนี่แค่มองหน้าปุ๊บ เราก็บอกได้เลยว่าพวกมันอยากจะนอนรอให้คริสต์มาสจบเร็วๆ ซะมากกว่า   เจ้าหมาดูเต็มใจแต่งตัวนะ แต่งให้มันแค่ตัวเดียวได้มะ?   อยากได้กวางก็ไปหากวางมาเลี้ยงไป๊   อะไรที่ขวางทางข้า ข้าก็ไม่ชอบหมดแหละ   สุขสันต์วันคริสต์มาสจากแมวหน้าบึ้ง https://www.instagram.com/p/BcX6yArFkiR/?utm_source=ig_embed   งานปาร์ตี้ไรไม่เห็นสนุกเลย ง่วง   เจ้านายอินขนาดนั้นเลยเหรอ   ชุดนี้มันคับไปอะแม่ ไม่อยากใส่แล้ว https://www.instagram.com/p/BqaTcxABx1P/?utm_source=ig_embed   สงสัยเจ้าแมวจะไม่ชอบคริสต์มาสจริงๆ พังมันทั้งต้นเลย   อูยยย มองแรงมาก   รอกินแค่ไก่งวงอย่างเดียว อย่างอื่นไม่สน   ดูเหมือนซานต้าน้อยจะอารมณ์ไม่ดีนะ https://www.instagram.com/p/_ncAQIJs-2/?utm_source=ig_embed   แกะกล่องเดี๋ยวนี้นะมนุษย์ ข้าจะเล่นกล่อง!!   แลบลิ้นให้แม่แบบนี้ แปลว่าไม่ปลื้ม   ก็แม่มัวแต่แต่งบ้าน ไม่ยอมสนใจหนูอะ   บังคับเราแต่งตัวแบบนี้ เผลอเมื่อไหร่โซฟาเป็นรอยแน่ https://www.instagram.com/p/BOaYQG_BM-e/?utm_source=ig_embed   ต้นคริสต์มาสบ้านนี้เกือบจะโดนถล่มแล้ว ดีนะจับตัวผู้ร้ายได้ก่อน…

แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าชีวิตจะต้องเจอกับอะไรบ้างในอนาคต แต่สำหรับไก่กลุ่มหนึ่ง ชีวิตของพวกมันถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ฟักออกมาจากเปลือกไข่แล้ว เจ้าไก่และเพื่อนอีก 20 กว่าตัวจะถูกเลี้ยงโดยเด็กมัธยม จากนั้นเมื่อพวกมันทั้งหมดโตได้ที่ ก็จะถูกส่งไปโรงฆ่าสัตว์เพื่อขายเป็นอาหารต่อไป     อย่างไรก็ตามเด็กชาย Porter ที่ได้เลี้ยงเจ้าไก่และรู้ชะตากรรมของพวกมัน ก็อยากให้มันมีชีวิตที่ดีกว่านั้น เขาจึงพยายามติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์  Black Goat Farm and Sanctuary เพื่อให้พยายามช่วยพวกมันออกไป Megan Mostacci ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ แล้วติดต่อเพื่อช่วยชีวิตพวกไก่เอาไว้  และแม้จะไม่สามารถช่วยพวกมันทั้งหมดได้ แต่เธอก็ได้ต่อชีวิตให้ไก่ 2 ตัวได้มีชีวิตต่อ     Mostacci ตั้งชื่อไก่ทั้ง 2 ตัวว่า Lucy และ Frieda หลังจากที่ช่วยมันมา เธอก็รับพวกมันไว้เลี้ยงในฟาร์มของเธอเอง นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าไก่ 2 ตัวนี้จะรู้ซะด้วยว่าหญิงสาวเป็นผู้มีพระคุณของพวกมัน เนื่องจากทั้งคู่สามารถจำ Mostacci ได้     Mostacci บอกว่าสิ่งที่เธอคิดว่าน่ารักมากๆ เลย ก็คือ Lucy กับ Frieda จะวิ่งมาหาเธอทุกครั้งที่เรียก ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจที่ได้เป็นคนพิเศษของพวกมัน ทั้งคู่ให้ความรู้สึกเหมือนกับหมาที่ซื่อสัตย์ตามบ้านเลย ต่างกันก็แค่พวกมันมีแค่…

เจ้าตัวนิ่มตัวหนึ่งหลงจากถิ่นที่อยู่อาศัย เข้าไปอยู่ในสวนของมนุษย์ ถ้าคนที่ไปเจอมันเป็นคนใจร้าย มันอาจจะถูกต้มกินไปแล้วก็ได้ แต่ดีที่คนที่เจอมันเป็นคนใจดีมันจึงได้กลับไปอยู่ในป่า ชาวสวนที่เป็นเจ้าของสวนปาล์มไปเจอมันอยู่บนยอดต้นไม้ ตอนที่ถูกเจอมันกำลังขดตัวกลมเพื่อหลบจากสายตาของมนุษย์อยู่เลย     เมื่อเพื่อนของชาวสวนรู้ว่าเขาเจอตัวนิ่ม เขาก็เสนอจะซื้อตัวมันเพื่อนำไปประกอบอาหารกินทันที เพราะถือว่าเป็นสัตว์ที่หายาก อย่างไรก็ตามชาวสวนคนนั้นก็ปฏิเสธเพื่อนไป เขาตัดสินใจว่าจะช่วยชีวิตมัน แล้วเลือกนำมันไปส่งให้กับ มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า แทน แถมยังขับรถเอามันไปส่งด้วยตัวเองด้วย     ตอนที่เขาขับรถเอามันไปส่งให้มูลนิธิ ตัวนิ่มก็ยังม้วนตัวหลบด้วยความกลัวอยู่เลย เขาจึงเอามันวางไว้ในช่องใส่แก้ว เพราะคิดว่าอาจจะทำให้มันอุ่นใจมากขึ้นเล็กน้อยที่ได้อยู่ในที่ปิด ทางมูลนิธิประทับใจมากเลยที่เขาตัดสินใจช่วยชีวิต และไม่หาผลประโยชน์จากมัน หากเป็นคนอื่นไปเจออาจจะเห็นแก่เงินแล้วขายมันไปแล้วก็ได้   ตอนเอาไปส่งก็ยังหลบอยู่ในช่องวางแก้วอยู่เลย น่ารัก   ชาวสวนที่เจอขับรถไปส่งมันเองถึงที่   พอได้ตัวมันมาแล้ว ทางมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าก็จะจัดหาวิธีส่งมันกลับไปอยู่ตามธรรมชาติต่อไป โดยพื้นที่ที่พวกเขาเลือกจะพามันไปปล่อยก็คืออุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่พวกเขาเลือกอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เนื่องจากที่นั่นเป็นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะเป็นแหล่งอาศัยของตัวนิ่มนั่นเอง     Tom Taylor ผู้ช่วยผู้อำนวยการของมูลนิธิเล่าว่า “ตอนที่เอาตัวนิ่มไปปล่อย มันยังงัวเงียจากการนอนหลับอยู่เลย แล้วพอมันได้สำรวจรอบๆ บ้านใหม่สักพัก มันก็ขดตัวหลับไปในพงหญ้า” เขายังบอกอีกว่า “มันเป็นสัตว์ที่โชคดีมาก เราช่วยให้มันได้กลับเข้าไปในป่าลึก ห่างจากชุมชนของมนุษย์ได้ และเราก็หวังว่ามันจะได้ใช้ชีวิตที่ยืนยาวที่นั่น”    …

ชีวิตของแมวน้อยเริ่มต้นพร้อมกับอุปสรรคหลายอย่าง ถึงมันจะพ้นจากการเป็นแมวจรจัดที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดเองแล้ว มันก็ยังต้องต่อสู้กับโรคที่เป็นมาตั้งแต่เกิดด้วย แต่มันก็ผ่านพ้นไปด้วยดีเพราะมีคนให้กอดจนอุ่นใจทุกวัน     แมวน้อย Tate ถูกพบอยู่ข้างถนนตามลำพัง และเก็บไปให้กับศูนย์พักพิงสัตว์ในเขต ทว่าพวกเขาไม่สามารถดูแลลูกแมวเด็กขนาดนี้ได้ จึงส่งต่อมันให้กับกลุ่มช่วยเหลือแมว Kitkat Playroom เจ้าเหมียวจึงได้มาอยู่บ้านกับ Jen Mack ผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ การมีเธออยู่ดูแลเรื่องอาหารและที่อยู่ให้มัน น่าจะทำให้ชีวิตของมันสบายขึ้นมากเลยทีเดียว     ทว่า Mack ก็พบว่า Tate ยังต้องเผชิญปัญหาอีกอย่างตอนที่พามันไปหาสัตวแพทย์ พวกเขาตรวจเจอส่วนที่นุ่มนิ่มตรงหัวของมัน จึงได้รู้ว่าเจ้าแมวเกิดมาพร้อมกับภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ซึ่งทำให้มันมีน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังในโพรงสมองมากเกินไป และอาจเป็นอันตรายต่อสมองได้     ในตอนแรก Mack พาแมวน้อยไปเข้ารับการรักษาเพื่อให้อาการดีขึ้นเท่านั้น แต่มันก็มีอาการเดิมกลับมาอีก ไม่มีทีท่าว่าจะหายเลย เธอและสัตวแพทย์จึงตัดสิใจให้มันเข้ารับการผ่าตัดรักษา เพื่อฝังอุปกรณ์แม่เหล็กที่ช่วยควบคุมสมดุลของเหลว แม้ว่ามันจะยังอายุน้อยมากก็ตาม     โชคดีที่การผ่าตัดสำเร็จไปได้ด้วยดี และอาการของแมวน้อยก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มกินอาหารมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วิ่งเล่นมากกว่าปกติ และไม่มีปัญหาเรื่องของเหลวในโพรงสมองแล้ว จึงไม่ต้องห่วงเรื่องร่างกายมันอีกต่อไป     ส่วนด้านกำลังใจนั้นก็ยิ่งไม่ต้องห่วง เนื่องจากเจ้าแมวชอบมาเติมพลังใจโดยการขอกอดมนุษย์อยู่เสมอ แถม Mack เองก็ยอมสละเวลานอนกอดกับมันทุกวันด้วย     แมวขี้อ้อน…

บ๊อบแคตเป็นแมวป่าที่น่ารักน่ากอดมากๆ ยิ่งมองใกล้ๆ ก็ยิ่งหลงรัก แต่อยู่ห่างๆ พวกมันไว้จะดีกว่า เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คนแปลกหน้าเข้าใกล้ พวกมันพร้อมโจมตีเสมอ อย่างกรณีที่ทาง Utah Division of Wildlife Resources (DWR) ได้เผยแพร่คลิปของบ๊อบแคตตัวหนึ่งที่บังเอิญถูกพบในแหล่งชุมชนเมื่อเดือนที่แล้ว     ในคลิปนั้นจะได้ยินเสียงของบ๊อบแคตอย่างชัดเจน ซึ่งเสียงของมันค่อนข้างน่ากลัว ตรงข้ามกับใบหน้าและรูปร่างน่ารักๆ ของมันเลยล่ะ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คลิปดังกล่าวนี้ถูกเผยออกไป บ๊อบแคตน้อยก็สามารถขโมยหัวใจชาวเน็ตได้ทั้งโซเชียล เพราะทุกคนต่างประทับใจความกล้าหาญของมัน มันขู่เจ้าหน้าที่อย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด     ทางเจ้าหน้าที่ของ DWR เล่าว่าได้ตั้งชื่อเล่นให้บ๊อบแคตตัวนั้นว่า Mr. Murderbritches มันถูกพบใกล้กับ Kanarraville รัฐยูทาห์ ในเดือนพฤศจิกายน และพวกเขาต้องย้ายมันไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกลผู้คน เจ้าหน้าที่ได้จับบ๊อบแคตน้อยใส่กรงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีปัญหาอะไร แต่ตอนที่จะเอามันไปปล่อยป่าเนี่ยสิ มันแสดงท่าทางเกรี้ยวกราดมาก และทำเสียงขู่ทุกคนที่เข้าใกล้     โดยทั่วไปแล้ว บ๊อบแคตเป็นสัตว์ที่ขี้อายมากๆ และมักจะหลีกเลี่ยงมนุษย์ ไม่ว่ากรณีไหนก็ตาม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Mr.Murderbritches จึงโกรธเจ้าหน้าที่มากๆ ที่เข้ามายุ่งกับมัน เจ้าหน้าที่บอกว่าการที่บ๊อบแคตตอบสนองเช่นนั้นแสดงว่ามันมีสุขภาพดี ที่สำคัญสิ่งที่มันทำเป็นสิ่งที่บ๊อบแคตทุกตัวควรทำเมื่อเห็นมนุษย์ ดังนั้นการที่มันเกรี้ยวกราดได้แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี     การที่บ๊อบแคตมีความน่ารัก…

เราเคยเห็นสัตว์ถูกเจ้าของทิ้งมานักต่อนักแล้ว และเราก็รู้เช่นกันว่าบางคนมีเหตุให้ต้องทิ้งพวกมันจริงๆ แต่ครั้งนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นการเอาสัตว์มาทิ้งที่ไร้ความรับผิดชอบมากๆ เมื่อไม่นานมากนี้ที่ในเขตแคมพ์เบลเคาท์ตี้ รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีคนเอาแมว 12 ตัวใส่กรงใหญ่รวมกันแล้วเอามาทิ้งไว้กลางทุ่งหิมะที่ขาวโพลน ไม่รู้ว่าเรียกว่าโชคดีได้รึเปล่า แต่กรงของพวกมันค่อนข้างโดดเด่นเมื่ออยู่กลางทุ่งหิมะสีขาว ถึงแถวนั้นจะไม่มีบ้านของผู้คนเลย ก็ยังมีคนสังเกตเห็นพวกมันทันก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดินพอดี     กรงที่พวกมันถูกใส่ทิ้งไว้เป็นแค่กรงซี่กว้างโล่งๆ ที่ไม่มีผ้าห่มหรืออะไรก็ตามที่สามารถให้ความอบอุ่นกับพวกแมวได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะไม่ใส่ใจ เจ้าของเก่าของพวกมันก็คงตั้งใจทิ้งให้พวกมันหนาวตายที่นี่ ที่แย่กว่าแมว 6 ตัวซึ่งกำลังหนาวสั่นอยู่ในกรง ก็คือลูกแมวอีก 6 ตัวที่สามารถลอดซี่กรงออกมาได้ แล้วต้องเผชิญความหนาวเย็นที่มากกว่าบนพื้นหิมะ พวกมันหนาวจนนอนแน่นิ่งไปเลย     เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์และอาสาสมัครที่เจอมันจึงรีบพาตัวพวกมันทั้งหมดกลับไป พร้อมกับโทรแจ้งให้เพื่อนร่วมงานให้เตรียมไว้ที่อุ่นๆ ไว้ให้พวกมันอยู่โดยด่วน แม้ว่าพวกเขาจะพยายามทำให้ตัวของพวกมันแห้งอย่างเร็วที่สุดแล้ว แต่ในตอนแรกลูกแมวที่นอนนิ่งไปก็ยังไม่ขยับตัวเลย     โชคดีที่พอพวกเขาทำให้ตัวพวกมันอุ่นสักพักหนึ่ง ลูกแมวเหล่านั้นก็เริ่มขยับตัวและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นี่ถ้าไม่มีคนไปเจอก่อนพระอาทิตย์ตกดินพวกมันคงแย่แล้ว ตอนนี้แมวทุกตัวส่งเสียงครางอย่างสุขใจเพราะได้มาอยู่ในที่อุ่นๆ พวกมันดูมีความสุขมาก ถ้าไม่ได้เห็นพวกมันตอนกำลังหนาวสั่น คงไม่มีใครรู้เลยว่าพวกมันไปเผชิญลมเย็นกลางหิมะมา     หลังจากถูกช่วยมาไม่นาน แมวบางตัวก็มีคนรับไปอยู่บ้านเรียบร้อยแล้ว ส่วนลูกแมวบางตัวก็ยังต้องได้รับการดูแลอยู่ เพราะร่างกายพวกมันค่อนข้างอ่อนแอ อาสาสมัครคิดว่าพวกเขาควรดูแลมันต่ออีกหน่อยก่อนจะเริ่มหาบ้านให้ แม้พวกมันจะยังไม่พ้นจากชีวิตแมวจรจัด แต่อย่างน้อยตอนนี้พวกมันก็มีชีวิตรอดมาแล้ว ให้เวลาอีกหน่อยพวกมันก็คงจะเจอทาสที่รักพวกมันเอง    …

วันแต่งงานถือเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตสำหรับผู้หญิงหลายๆ ซึ่งกว่าจะถือวันนั้น บางคนใช้เวลาเตรียมงานกันเป็นปีเลยเดียว เพื่อให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่เจ้าสาว Carla Reilly Moore กลับวิ่งหนีไปกลางงานแต่งตัวเอง ท่ามกลางความตกใจของแขก และต่างคิดไปต่างๆ นานาว่าคงมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ๆ งานแต่งของ Moore จัดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2015 และแน่นอน เธอพร้อมที่จะกล่าวคำสาบานกับว่าที่สามีในอนาคตอีกไม่กี่นาทีนี้     ก่อนจะเข้าเรื่อง ขอเล่าย้อนไปนิดหนึ่ง…Moore เคยฝันที่จะมีศูนย์ช่วยเหลือสำหรับสัตว์ในฟาร์ม จนในที่สุดเธอก็ก่อตั้ง Happy Tails Farm Sanctuary ในเมือง Kingston รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ตั้งแต่นั้นมา Moore กับคู่หมั้นก็ช่วยกันดูแลสัตว์มากมายในฟาร์ม กระทั่งปี 2015 ทั้งคู่ได้วางแผนเรื่องแต่งงาน และจะแต่งในฟาร์มนี่แหละ แต่แล้วในปีเดียวกันนี้ Moore ประสบอุบัติเหตุและต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานมาก ในช่วงเวลานี้ เธอได้ใช้เวลากับเหล่าสัตว์เลี้ยงหลายชั่วโมงต่อวัน และพวกมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้เธอฟื้นตัวได้เร็วขึ้น     เมื่อวันแต่งงานมาถึง Moore แข็งแรงขึ้นมาก เธอจึงอยากให้เหล่าสัตว์เลี้ยงเป็นส่วนสำคัญของงานนี้ด้วย หญิงสาวบอกว่า “เราคงหาสถานที่แต่งงานที่ดีกว่าศูนย์ช่วยเหลือของเราไม่ได้แล้ว” “ที่นี่ทำให้ฉันอุ่นใจและหายจากการบาดเจ็บ และเป็นที่ที่เราช่วยดูแลชีวิตอื่นๆ ด้วย เราต้องการถูกล้อมรอบด้วยทุกสิ่งที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ครอบครัว และแน่นอน…

เจ้าเหมียวหายตัวไปจากบ้านนานเป็นปี ทาสที่บ้านรู้สึกเป็นห่วงมันมาก แต่เธอหารู้ไม่ว่าเจ้าแมวของเธอกำลังเสพสุขอยู่ในโรงงานอาหารแมวโน่น แมวเหมียว Clive อาศัยอยู่กับ Tanya และ Jonathan Irons มันเป็นแมวที่ซน บางครั้งก็ชอบแอบออกไปข้างนอก แต่มันไม่เคยหนีออกจากบ้านเลย     จนอยู่มาวันหนึ่ง Clive ก็ได้หายออกไปจากบ้านแล้วไม่กลับมาอีกเลย มันหายตัวไปนานมาก แม้ว่า Tanya จะตามหามันทุกทาง ทั้งไปหาด้วยตัวเอง โพสต์ตามหาบนเฟซบุ๊ก และติดใบปลิว เธอก็ไม่เจอวี่แววของมัน เธอเล่าว่า “เจ้าแมวมันค่อนข้างซน แล้วมันก็ออกไปข้างนอกบ่อย เราเลยคิดว่าคงมีใครสักคนเก็บมันไปเลี้ยงแทนแล้ว เพราะเห็นว่ามันนิสัยน่ารักมาก”     กว่า Tanya จะได้ข่าวของ Clive อีกทีหนึ่งก็ผ่านไปนาน 14 เดือนแล้ว โดยคนที่โทรมาบอกเธอว่าเจอเจ้าแมวแล้วก็คือ Diane Gaskill ผู้ดูแลการผลิตของร้านอาหารสัตว์ Kennelgate Pet Superstore เธอเล่าว่าในโรงงานผลิตอาหารแมวมีอาหารหายไปอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งพนักงานก็เจออึแมวกองอยู่ และบางครั้งก็มีคนเห็นเจ้าแมวด้วย แต่ไม่มีใครสามารถจับตัวมันได้เลย จนกระทั่ง Diane ต้องการจับมันอย่างจริงจังขึ้นมา เธอจึงใช้อาหารแมวล่อให้มันเข้าไปในกรงแล้วจับตัวไว้ได้ในที่สุด จากนั้นเมื่อเธอพามันไปหาสัตวแพทย์ถึงได้รู้ว่ามันเป็นแมวของ Tanya และติดต่อไปหา…

นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับคนรักษาสัตว์ โดยเฉพาะทาสแมว เมื่อไอจี  bailey_no_ordinary_cat ได้โพสต์คลิปหนูน้อยร้องเพลงให้แมวฟัง พร้อมแคปชั่น ‘Bailey จากไปใน 3 ชั่วโมงต่อมา….’     ในคลิปจะเห็นว่าเด็กหญิงคนหนึ่งได้ร้องเพลงแมวเหมียวฟัง ในขณะที่เจ้าเหมียวเองก็ตั้งใจฟังเพลงที่ทาสตัวน้อยร้องให้ฟัง ทั้งๆ ที่มันอ่อนแรงลงทุกที สำหรับเจ้าเหมียว Bailey นั้น มันเป็นแมวแก่วัย 14 ปี โดยก่อนหน้านี้มันป่วยหนักด้วยโรคชรา และต้องไปอยู่ในโรงพยาบาลสัตว์     อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ ทางโรงพยาบาลได้โทรแจ้งครอบครัวให้มารับ Bailey เพราะดูเหมือนมันกำลังจะจากไปในเร็วๆ นี้แล้ว แน่นอนว่าทางครอบครัวไม่สามารถช่วยอะไร Bailey ได้แล้ว ดังนั้น คุณแม่จึงให้ลูกสาว Abby ร้องเพลงให้เหมียวฟังในช่วงไม่กี่ชั่วโมงสุดท้ายที่เหลืออยู่     ตอนที่ร้องเพลงให้เหมียวฟัง Abby ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นการร้องเพลงให้พี่เหมียวฟังเป็นครั้งสุดท้าย เธอรู้แค่ว่า Bailey  กำลังป่วยหนัก     หลังจากได้ฟังเพลงที่เพราะที่สุดจากทาสตัวน้อย Bailey ก็จากไปอย่างสงบใน 3 ชั่วโมงต่อมา ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะ Abby     ความผูกพันระหว่าง Abby…

หลายปีที่ผ่านมา ช่างภาพ Britney Logan เคยฝันที่อยากรับสุนัขเข้ามาในครอบครัว แต่เนื่องจากเธอมีลูกน้อย และเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ดังนั้นความฝันที่จะเป็นเจ้าของสุนัขจึงถูกเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตาม เมื่อ Laurel ลูกสาวของเธอย่างเข้า 3 ขวบ Logan รู้ว่าถึงเป็นเวลาที่ครอบครัวต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว ในที่สุด เธอก็รับ Wren สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดเข้ามาในครอบครัวเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว     ตอนแรกเธอกังวลว่าลูกน้อยจะปรับตัวเข้ากับสุนัขไม่ได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อ Wren เข้ามาอยู่ในบ้าน ทั้งคู่กลับเข้ากันได้เป็นอย่างดี และไม่มีอะไรที่คุณแม่ต้องห่วง ตั้งแต่นั้นมา นุ้งหมากับเด็กน้อยแทบจะตัวติดกันตลอดเวลา และทำทุกอย่างด้วยกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาออกไปเดินเล่นข้างนอก เด็กน้อยจะบอกกับทุกคนที่เจอว่า Wren เป็นสุนัขอ่อนโยนและมันยอดเยี่ยมมากๆ     ล่าสุด Logan ได้แชร์มิตรภาพของทั้งคู่ว่างดงามแค่ไหน นั่นคือตอนที่เธอแอบถ่ายสิ่งที่ลูกสาวทำให้น้องหมาในช่วงเวลาก่อนนอน คุณแม่เล่าว่า “ก่อนนอนคืนนั้น ฉันนั่งทำงานกับแล็ปท็อป แล้วอยู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียกระซิบของ Laurel เมื่อฉันเงยหน้าขึ้น ก็เห็นลูกสาวเอากระดูกของเล่นให้ Wren”     คุณแม่เล่าต่อว่า “จากนั้นเธอก็เอาผ้าห่มคลุมตัวให้ Wren แล้วพูดกับมันเบาๆ ว่า ‘โอเค แกนอนได้แล้ว ชูววว ฉันจะอยู่นี่แหละ’ ในขณะที่ Wren ก็ทำตามที่ Laurel…

สุนัขบูลล์ด็อกมีไม่กี่ชนิดหรอก และแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างเช่น อิงลิช บูลล์ด็อก จะว่ายน้ำได้ไม่ค่อยดี ในขณะที่ออสเตรเลียน บูลล์ด็อก ว่ายน้ำเก่งจนเรียกว่าเป็นนักว่ายน้ำได้เลยล่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถนิยามบูลล์ด็อกทุกชนิดได้คือ พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารักสมบูรณ์แบบ และเป็นความสมบูรณ์แบบที่ไม่ซ้ำใคร   1. เราแฮปปี้มากเลยใช่มั้ยเพื่อน? / โอ้ ใช่เลยเพื่อน   2. ขอบคุณที่เป็นหมอนให้ผมนะ พี่ชาย   3. คำก็แบ๊ว สองคำก็แบ๊ว เดี๋ยวรอผมโตก่อน จะเห็นดีกันแน่   4. ฉันจะสะกดจิตหล่อน จนกว่าหล่อจะเอาสเต๊กให้ฉันกิน   5. เมื่อความง่วงเข้าครอบงำ ท่าไหนก็นอนได้อะ บอกเลย   6. ชีวิตดี๊ดี โดยเฉพาะชีวิตบูลล์ด็อกเนี่ยแหละ   7. ไม่เป็นไรนะเพื่อน เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง   8. ผมว่าแบบนี้ทำให้ผมดูหล่อนะ ว่ามั้ย?   9. เมื่อบูลล์ด็อกต้องเป็นแม่…   10. อย่าด่าหนูเลย…

ในบ้านเราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับสุนัขบริการ แต่ที่ต่างประเทศ จะมีสุนัขบางตัวที่ถูกฝึกให้เป็นสุนัขบริการ เพื่อช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นคนป่วย คนพิการ เด็ก และคนชรา Brittany Hawley วัย 25 ปี เป็นหนึ่งในผู้ที่มีสุนัขบริการอยู่เคียงข้างตลอดเวลา เนื่องจากเธอเป็นผู้พิการที่ต้องใช้รถเข็น เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเข้าเรียน เจ้าหมา Griffin จะเข้าเรียนกับเธอด้วย ถ้าเธอต้องการใช้โทรศัพท์ Griffin เป็นคนคาบมาให้เธอ แม้กระทั่งตอนที่เธอฝึกงานเป็นผู้ช่วยผู้ป่วย เจ้าหมาก็อยู่ที่นั่นเพื่อคอยช่วยเธอด้วยเหมือนกัน     ล่าสุด Hawley ได้เข้ารับปริญญาบัตรระดับปริญญาโท ด้านอาชีวบำบัดจากมหาวิทยาลัย Clarkson University ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แน่นอนว่า Griffin อยู่เคียงข้างเธอเหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้นอกจากจะไปในฐานะสุนัขบริการแล้ว มันยังไปในฐานะผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ด้วย Hawley เล่าว่า “ฉันอยากให้มันได้รับปริญญาตั้งแต่วันแรก เพราะมันทำทุกอย่างเหมือนที่ฉันทำ และที่มันได้รับปริญญาในครั้งนี้ ทางมหาลัยบอกว่า ‘Griffin ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพยายามในการช่วยเหลือ Hawley ให้สำเร็จการศึกษา’“     Hawley ยังบอกอีกว่า “Griffin ทำงานหลายอย่างให้ฉัน มันเปิดประตูให้ ปิดไฟให้ และช่วยหยิบของที่ฉันหยิบไม่ถึงให้” นอกจากนี้เจ้าหมายังทำให้หญิงสาวรู้สึกอุ่นใจอยู่เสมอ เนื่องจากอาการปวดเรื้อรังทำให้ Hawley…

ความขี้สงสัยของแมวได้พาพวกมันไปตกอยู่ในสถานการณ์แปลกๆ มานักต่อนักแล้ว ครั้งนี้ตวามขี้สงสัยของมันได้พามันเดินทางไกลโดยไม่ได้ตั้งใจกว่า 1,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว Jacqueline Lake จากรัฐโนวาสโเชีย ประเทศแคนาดา เล่าว่าเธอมีแมวเหมียวตัวหนึ่งชื่อว่า Baloo มันซนและอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่ไม่รู้มากๆ     ครั้งนี้ตอนที่เธอกำลังจะส่งพัสดุไปยังเมืองมอนทรีออล รัฐควิเบก เจ้า Baloo ก็แอบปีนเข้าไปสำรวจดูในกล่องพัสดุโดยที่เธอไม่ทันได้สังเกต แล้วปีนลอดของข้างในเข้าไปอยู่ในกล่องซะลึกเลย พอเธอหันกลับมาปิดกล่องพัสดุเพื่อส่งของ เธอจึงไม่ทันสังเกตเห็นมัน เจ้าแมวก็เลยถูกส่งไปเดินทางไกลโดยที่ทั้งเจ้าของและเจ้าแมวไม่ทันได้ตั้งตัว     แม้แต่ตอนที่เธอเอาพัสดุไปส่ง หรือตอนที่พนักงงานไปรษณีย์มารับของขึ้นรถ เจ้าเหมียวก็ไม่ส่งเสียงร้องอะไรเลย จึงไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ในกล่องนั้น กว่าจะมีคนรู้ว่า Baloo อยู่ในกล่อง มันก็เดินทางไกล 700 ไมล์ (ประมาณ 1,100 กิโลเมตร) โดยใช้เวลา 17 ชั่วโมงจนไปถึงเมืองมอนทรีออลเรียบร้อยแล้ว พนักงานส่งของเจอมันเนื่องจากเขาเห็นว่ามีคราบฉี่เลอะอยู่บนรถส่งของ หลังจากเปิดดูกล่องพัสดุจึงเจอเจ้าแมวที่ไม่หือไม่อือนอนอยู่ข้างในนั่นเอง     ส่วนทางด้าน Jacqueline นั้นก็ตามหาเจ้าแมวซะทั่วบ้าน แถมยังไปเคาะประตูเพื่อนบ้านถามหามัน แล้วออกไปตามหามันในป่ารอบๆ อีก แต่ก็ยังไม่เจอตัวมัน พอเธอได้รู้ว่าเจ้าแมวหายไปกับกล่องพัสดุที่เธอส่งไป เธอก็ตกใจและเป็นห่วงมันมากเลย โชคดีที่เจ้าแมวไม่เป็นอะไร และมีเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ช่วยเอาตัวมันมาส่งกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย  …

ไม่ว่าวันนี้คุณจะเจอเรื่องแย่ๆ หรือรู้สึกว่าวันนี้ไม่ใช่วันของคุณเลยก็ตาม ถ้าคุณได้เห็นคลิปวิดีโอของหมาน้อยกับอาสาสมัครแล้ว รับรองคุณจะต้องยิ้มไปกับความน่ารักของพวกมัน คลิปวิดีโอที่ว่านี้ถูกแชร์มาจากทวิตเตอร์ของ @Animal_Viral โดยมีพระเอกเป็นหนุ่มอาสาสมัครของศูนย์พักพิงสัตว์ 2 คน และลูกหมาน้อยอีก 4 ตัว     ดูเหมือนว่าอาสาสมัครหนุ่มทั้ง 2 คนกำลังดูแลลูกหมาพวกนี้อยู่ แต่พวกเขาไม่มีของเล่นอะไรจะให้พวกมันเล่นด้วยเลยสักชิ้น ทั้งคู่ก็เลยปิ๊งไอเดีย เปลี่ยนส่วนที่เรียบของบันไดเตี้ยๆ ที่ตัวเองนั่งอยู่ ให้กลายเป็นสไลเดอร์เล็กๆ ให้น้องหมาได้ไถลเล่นกันเพลินเลย โดยการจับลูกหมาน้อยไปวางไว้ที่ด้านบนของบันได แล้วให้พวกมันไถลลงไปทางด้านล่างนั่นเอง ลูกหมาตัวอื่นๆ เห็นเพื่อนของมันได้เล่นแล้วก็อยากจะเล่นกันใหญ่เชียวล่ะ     เท่านั้นยังไม่พอนะ พอพวกมันได้เล่นสไลเดอร์กันแล้ว ลูกหมาน้อยก็รู้สึกสนุกจนอยากเล่นอีก แล้วส่ายหางดุ๊กดิ๊กวิ่งขึ้นบันไดมาหาหนุ่มทั้ง 2 ใหญ่เลย แบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกมันถูกใจสไลเดอร์เล็กๆ อันนี้ขนาดไหน อาสาสมัครเห็นมันชอบแบบนี้แล้ว พวกเขาก็เลยจับมันเล่นสไลเดอร์ไปเรื่อยๆ จนกว่าพวกมันจะพอใจ   เอ้า ไม่ต้องแย่งกันนะ ทีละตัว   ฟิ้วววววว สนุกจังเล้ยยย   พอได้เห็นอาสาสมัครนิสัยน่ารัก กับเจ้าหมาน้อยไร้เดียงสาที่กำลังมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ แบบนี้แล้ว คนที่ดูก็พลอยมีความสุขตามพวกมันไปด้วยเลย แถมคลิปวิดีโอนี้ยังดูเพลินมากๆ ดูได้ทั้งวันไม่มีเบื่อด้วย   ดูคลิปวิดีโอเต็มๆ ได้ที่นี่เลย…

ในขณะที่เพื่อนแพะตัวอื่นๆ ที่โตมาด้วยกันถูกส่งไปโรงฆ่าสัตว์หมดแล้ว เจ้าแพะตัวนี้กลับกลายเป็นสัตว์เลี้ยงชื่อดัง เพราะมันตะกละแย่งของมนุษย์กินทุกครั้ง ดูแล้วน่ารักซะไม่มี     เจ้าแพะจากมณฑลชานซี ประเทศจีนตัวนี้เป็นแพะของนาย Li Fu ซึ่งเป็นคนเลี้ยงสัตว์ ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงมันและแพะตัวอื่นๆ เพื่อขายเป็นเงินเท่านั้น แต่เจ้าแพะตัวนี้ก็มีนิสัยที่ไม่เหมือนใครเพื่อน คือมันชอบมาแย่งอาหารของเขากินทุกครั้งที่เขากินอาหารใกล้ๆ มัน โดยไม่สนใจเลยว่าอาหารจานนั้นจะเป็นอะไร     Li เคยเอาคลิปิวดีโอที่ถ่ายตอนมันแย่งขนมเขากินไปโพสต์ลงบน Kuaishou ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียของประเทศจีน จากนั้นมันก็ดังกลายเป็นกระแสไวรัล และมีผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความดัง ตะกละ และน่ารักไม่เหมือนใครของมัน ทำให้ Li ตัดสินใจไม่ขายเจ้าแพะตัวนี้เอาไว้และเก็บมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยง ส่วนเพื่อนๆ ตัวอื่นของมันเขาขายทิ้งไปหมดแล้ว     ทุกวันนี้เขาก็ยังคงอัปโหลดคลิปวิดีโอตอนที่เขาโดนมันแย่งกันกินอาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันก็ทั้งฮาและน่าดูถูกใจชาวเน็ตในประเทศจีนเหลือเกิน ปัจจุบันความน่ารักเจ้าแพะและ Li ก็ทำให้มีคนเข้ามาติดตามพวกเขาใน Kuaishou มากถึง 300,000 คนเรียบร้อยแล้ว     ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าความตะกละของแพะตัวหนึ่ง จะช่วยชีวิตมันไว้ได้เหมือนกัน ปัจจุบันมันเลยกลายเป็นเซเลบ แถมยังได้กินของน่ากินๆ ทุกวันเลยล่ะ      ที่มา: Next Shark, Shanghaiist

สิ่งที่สัตว์จรจัดหรือสัตว์ในศูนย์พักพิงต้องการมากที่สุดคือ การมีครอบครัวเป็นของตัวเอง และหากคุณรับเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการให้โอกาสพวกมัน แต่พวกมันเองก็จะตอบแทนคุณเกินกว่าที่คาดหวังเอาไว้ และนี่คือเหล่าสัตว์เลี้ยงที่เคยเป็นสัตว์จรจัดมาก่อน พวกมันกลายเป็นความสุขของครอบครัว เป็นศูนย์รวมความสนใจของบ้าน และทำให้เจ้าของรู้สึกโชคดีที่มีพวกมันอยู่ในชีวิต   1. “ตอนที่เราไปเจอหมาตัวนี้ครั้งแรกในศูนย์พักพิง ลูกสาวของฉันเข้าไปกระซิบที่ข้างหูมันว่า “เธอจะไม่เป็นไรแล้วนะ เราจะพาเธอกลับบ้าน ให้อยู่ในที่ปลอดภัย เรารักเธอเข้าแล้วนะ”   2. เมื่อเข้าไปในศูนย์พักพิงแล้วถามว่า แมวตัวไหนที่อยู่ในนี้นานที่สุด? สุดท้ายเลยได้แมวแก่หูหนวก ไม่มีฟัน แต่มีหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักตัวนี้กลับบ้าน   3. “ฉันเจอแมวตัวนี้ครั้งแรกในถังขยะ เลยเก็บมันมาเลี้ยง คืนแรกมันนอนหลับปุ๋ยบนตัวของฉัน ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 6 ปี มันก็ยังชอบนอนบนที่โปรดของมัน”   4. กระต่ายน้อย Violet เคยอยู่ในกรงแคบๆ ไม่มีใครสนใจมัน แต่ตอนนี้มันเป็นอิสระจากกรงและได้นอนบนเตียงกับเจ้าของทุกคืน   5. “วันนั้นนางอ้อนฉันให้พากลับบ้าน ตอนนี้นางไม่ยอมปล่อยฉันไปไหนแล้ว”   6. น้องหมาเคยถูกขังในห้องใต้ดิน รูปซ้ายคือวันแรกที่มันได้รับการช่วยเหลือ รูปขวาคืนตอนที่มันมีบ้านใหม่แล้ว   7. ตอนนั่งรถไปศูนย์พักพิง กับ ตอนนั่งรถกลับบ้าน   8. เมื่อน้องรู้ว่ากำลังจะไปบ้านใหม่กับแม่…

หมาแมวมักจะถูกมองว่าเป็นคู่กัดกัน เจอกันที่ไหนเป็นต้องมีเรื่องทุกที แต่จริงๆ แล้ว พวกมันไม่เกลียดกันขนาดนั้นหรอกนะ โดยเฉพาะตอนที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกำลังลำบาก และนี่คือคลิปที่สร้างความประทับใจไปทั่วโลกออนไลน์ เมื่อเจ้าหมาตัวหนึ่ง มุ่งมั่นช่วยแมวเหมียวที่ตกน้ำ แม้ตัวเองต้องเจ็บตัวก็ตาม     ในช่วงแรกของคลิป เจ้าหมาน้อยเห็นแมวตกน้ำและขึ้นมาเองไม่ได้ มันดูเป็นห่วงเหมียวมาก เลยเดินวนไปวนมาเพื่อหาทางช่วยเหลือ เมื่อมันยื่นหน้าเข้าไปใกล้เจ้าเหมียว มันก็โดนข่วนหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่นั่นไม่ได้ทำให้เจ้าหมายอมแพ้ เพราะมันเข้าใจดีว่าเจ้าเหมียวกำลังอยู่ในอาการหวาดกลัว     ในที่สุด เจ้าหมาก็ตัดสินใจกระโดดลงไปในน้ำ และเจ้าเหมียวก็พุ่งเกาะหลังมันทันที จากนั้น เจ้าหมาก็ว่ายเกาะขอบบ่อน้ำ เพื่อส่งเพื่อนเหมียวขึ้นฝั่ง     แน่นอนว่าการขึ้นฝั่งไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอุ้งเท้าเจ้าหมาเปียก เมื่อสัมผัสกับขอบสระ มันเลยลื่น แต่เห็นได้ชัดว่ามันพยายามจะส่งเหมียวขึ้นฝั่งให้ได้ โดยไม่สนใจตัวเอง     อีกนิดเดียวนะเหมียว จะขึ้นได้แล้ว   และแล้ว เหมียวก็ขึ้นบกได้อย่างปลอดภัย ในขณะที่เจ้าหมาร่วงลงน้ำไปอีกรอบ แต่ดูเหมือนมันจะรู้สึกโล่งที่สามารถส่งเหมียวขึ้นบกได้แล้ว     สำหรับเจ้าเหมียวนั้น หลังจากที่ขึ้นฝั่งได้ มันก็ไม่หันกลับมามองอีกเลย อาจเป็นเพราะมันยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ในขณะที่เจ้าหมายังต้องตะเกียกตะกายสักพัก กว่าจะขึ้นมาได้    …

แมว 2 ตัวไม่ได้ตัวติดกัน แต่มันทั้งคู่ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันกันราวกับเป็นแฝดสยาม เราจะไม่มีทางได้เห็นพวกมันแยกจากกันแน่นอน แม้แต่ตอนมีบ้านแล้วก็ยังไปอยู่บ้านหลังเดียวกันเลย     แมวเหมียว Violet และ Panda ถูกกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Alley Cat Rescue ช่วยเก็บมาดูแลด้วยกันพร้อมกับแมวตัวอื่นๆ ในแถบเดียวกัน ทั้งคู่เป็นโรค MPS (feline mucopolysaccharidosis) ซึ่งทำให้พวกมันย่อยน้ำตาลบางตัวไม่ได้ ถ้ามีน้ำตาลชนิดนั้นสะสมในร่างกายมากจะทำให้ร่างกายมีปัญหา     ตั้งแต่ตอนที่เก็บมาก็ดูเหมือนว่าโรคจะส่งผลกับพวกมันแล้ว เนื่องจากร่างกายของพวกมันทั้งเล็กและก็อ่อนแอมากทีเดียวเมื่อเทียบกับแมวอายุเท่ากัน อาสาสมัครพาตัวพวกมันมาด้วย เพราะหากมันยังป่วยแบบนี้อยู่แล้วปล่อยให้ใช้ชีวิตข้างนอกเอง พวกมันน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน     Panda กับ Violet ตัวติดกันมาตั้งแต่ก่อนช่วยเหลือมาแล้ว พวกมันเป็นคู่หูที่แยกจากกันไม่ได้เลย ตอนที่อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ พวกมันก็จะทำทุกอย่างด้วยกันตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าจนตะวันตกดินเชียวล่ะ คนที่ดูแลมันเล่าว่า “แม้ว่าพวกมันจะไม่ร้องเหมียว ไม่ปีนป่ายหรือโดดเล่น แต่พวกมันจะวิ่งเล่นไปมาอย่างมีความสุข พวกมันรักการเล่นด้วยกัน และก็กินข้าวจุกว่าแมวตัวเท่ากันเป็นสิบเท่าเลย“     นอกจากนี้แล้วพวกมันทั้งคู่ก็ไม่เคยสนใจสัตว์ตัวอื่นเลย มันเมินเพื่อนแมวอีก 4 ตัว และเพื่อนหมาอีก 2 ตัวโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าโลกทั้งใบของมันมีกันและกันเท่านั้น  …

ถึงศูนย์พักพิงสัตว์หลายแห่งจะไม่สนใจสัตว์ที่มาอยู่สักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกที่นะ ยังมีศูนย์พักพิงสัตว์ที่พยายามช่วยเจ้าหมาหาเจ้าของ และมอบความสุขให้พวกมันไปพร้อมๆ กันด้วย อย่างเช่นศูนย์พักพิงสัตว์ Town of Hempstead Animal Shelter ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่พยายามช่วยพวกมันหาบ้าน ผ่านการเล่นสนุกของเจ้าหมาอยู่ ทางศูนย์พักพิงสัตว์ได้จ้างนักมายากลหนุ่ม John Stessel มาสร้างความสุขให้กับเจ้าหมา โดยการเล่นกลเสกขนมหายไปให้พวกมันดู     การเล่นกลให้เจ้าหมาดูนอกจากจะทำให้พวกมันได้แปลกใจเล่นแล้ว ยังทำให้เราได้เห็นมุมน่ารักและขี้เล่นของหมาแต่ละตัวด้วย ซึ่งทางศูนย์พักพิงก็จะใช้ความขี้เล่นของพวกมัน เพื่อทำให้ชาวเน็ตตกหลุมรักกับเจ้าหมา และทำให้พวกมันมีโอกาสถูกรับเลี้ยงมากขึ้นนั่นเอง แต่ถึงจะไม่ถูกรับเลี้ยงก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะอย่างน้อยๆ เราก็ได้เห็นแล้วว่าการที่ Stessel มาเยี่ยมพวกมันทำให้พวกมันยิ้มออกจริงๆ   นายเอาขนมไปซ่อนไว้ที่ไหน เอามาให้เราเดี๋ยวนี้   ไม่มีขนมแล้วก็ช่างเถอะ เล่นอันนี้แทนดีกว่า   เจ้าตูบถึงกับงงแล้วหนีออกห่างไปเลย   ขนมหรือกลเราก็ไม่สน ขอแค่ได้อ้อนก็พอ   เชิญชมความน่ารักของหมาแต่ละตัว ในคลิปวิดีโอเต็มๆ ได้ทางนี้   นักมายากลหนุ่มบอกว่า “ผมชอบการเล่นกลกับหมามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ท่าทางตอบรับของพวกมันช่างวิเศษมากจริงๆ แล้วพวกมันก็น่ารักมากๆ ด้วย…หมาพวกนี้ก็แค่ต้องการความรักเท่านั้น พวกมันทุกตัวเหมาะจะไปอยู่บ้านกับคุณ“   ที่มา: the dodo, TBS Network

เมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่คนงาน 2 คน ลงจากรถเพื่อทำหน้าที่ซ่อมบำรุงบนถนนในเมือง Sadieville รัฐเคนตักกี้ แต่แล้วพวกเขาก็เห็นถุงขยะลักษณะแปลกๆ ลอยอยู่ในลำธารใต้ถนน มันคือลูกหมาที่กำลังพยายามอย่างหนักในการยกหัวให้อยู่ในเหนือน้ำที่เยือกเย็น… คนงานหนึ่งในสองคนจึงทิ้งทุกอย่างในมือ แล้วกระโดดลงน้ำทันที     Sherry Bishop ผู้ช่วยผู้อำนวยการ Scott County Animal Shelter เล่าว่า “ชายคนนั้นว่ายไปหาลูกหมาแล้วก็ช่วยมันเอาไว้ เมื่อเปิดถุงขยะใบหน้าออกมา เขาพบว่ามีถุงพลาสติกอีกใบ ซึ่งบรรจุก้อนหินประมาณ 4 กิโลกรัม” เห็นได้ชัดว่าใครบางคนจงใจจับน้องหมาถ่วงน้ำ แต่เนื่องจากพวกเขามัดปากถุงไม่มิด น้องหมาเลยมีโอกาสยื่นหัวออกจากช่องเล็กๆ ที่เปิดอยู่     สภาพน้องหมาดูแย่มากๆ มันทั้งเปียกและทรมานจากภาวะอุณหภูมิต่ำหลังจากอยู่ในน้ำเย็นเป็นเวลานาน ชายคนนั้นจึงพามันไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ Scott County Animal Shelter บอกว่า “ทันทีที่ลูกหมาถูกพาเข้ามา เราก็นำไดร์เป่าผมมาเป่าให้มัน มันสั่นไปทั้งตัว และแทบจะบังคับตัวเองไม่ได้ มันน่าสงสารมากๆ” จากนั้น พนักงานก็พามันไปหาหมอเพื่อรับการรักษา แต่คุณหมอเองก็บอกไม่ได้ว่ามันจะรอดหรือไม่     บอกว่า “ตอนที่ถึงมือหมอ อุณหภูมิร่างกายของมันต่ำมาก มันทั้งกลัวและสับสน แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2…

เรารู้กันอยู่แล้วว่าฮัสกี้เป็นสุนัขจอมซนที่ดื้อมากๆ พวกมันชอบสร้างเรื่องปวดหัวให้พ่อแม่เป็นประจำ และบางครั้งพวกมันก็ซนจนทำให้ตัวเองเดือดร้อน อย่างเจ้าฮัสกี้ Jasper แม้จะอายุ 10 ขวบแล้ว แต่ความซนของมันไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย ล่าสุดเพื่อนบ้านใน Wells รัฐเมน พบมันติดอยู่บนหลังคา และต้องการใครสักคนมาช่วยพามันลงไป     สัญนิษฐานว่า Jasper น่าจะปีนขึ้นหลังคาผ่านหน้าต่าง และพอจะเข้าไปข้างในเนี่ยสิ ดันเข้าไม่ได้ เพราะหน้าต่างมันปิด และน่าจะไม่มีใครอยู่บ้านด้วย เพื่่อนบ้านที่เห็น Jasper รู้สึกเป็นห่วงมัน พวกเขาจึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจส่งนักดับเพลิงจาก Wells Professional Firefighters Association ไปหาเจ้าฮัสกี้ทันที     เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่พบว่าเจ้าฮัสกี้ไม่ได้แสดงอาการกังวลใดๆ มันดูผ่อนคลายและพอใจที่จะอยู่บนนั้น Jeff Nawfel หัวหน้านักดับเพลิงบอกว่า “ตอนแรกผมคิดว่าสุนัขติดอยู่บนหลังคารถซะอีก” “แต่เมื่อมาเห็นสถานการณ์จริงๆ ผมงงเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ผมกับนักดับเพลิงคนอื่นๆ จึงตัดสินใจพาดบันไดขึ้น โดยผมอาสาขึ้นไปด้วยตัวเอง เพื่อพาเจ้าฮัสกี้เข้าไปข้างใน”     เมื่อ Nawfel ปีนขึ้นไปถึงบนหลังคา เขาก็จัดการเปิดหน้าต่างให้เจ้าฮัสกี้ แต่แทนที่ Jasper จะเข้าไปข้างใน มันกลับเดินอ้อยอิ่งอยุ่บนหลังคา เหมือนไม่อยากเข้าบ้าน จริงๆ แล้ว มันไม่ได้ลีลาหรอก…

นี่คือน้องหมี Riku มันมาถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ที่นี่มันจะต้องปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากก่อนหน้านี้ Riku ถูกขังในกรงแคบๆ ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของชายคนหนึ่งในประเทศแอลเบเนีย และเป็นได้ว่ามันอยู่ที่นั่นตั้งแต่เด็ก     ตอนนั้น Riku อายุได้ 2 ขวบ และมันก็ตัวใหญ่เกินกว่าเจ้าของจะรับมือได้ มันจึงถูกขังอยู่ในกรงทั้งกลางวันและกลางคืน มันไม่เคยสัมผัสแสงแดด และไม่เคยได้เดินบนหญ้าสด เจ้าหน้าที่จาก Four Paws International ได้มาถึงบ้านหลังดังกล่าวในปี 2017 เพื่อช่วยเหลือ Riku และพามันไปยัง Dancing Bears Park Belitsa ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือหมีจากการถูกทารุณกรรม     หลังจากได้อยู่ในที่ปลอดภัย Riku จึงมีโอกาสเดินเตรดเตร่อย่างอิสระเป็นครั้งแรกในชีวิต และสูดอากาศบริสุทธิ์ และได้พบปะกับหมีตัวอื่นๆ เจ้าหมีต้องการเวลาในการปรับตัวเพื่อกลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาตินานพอสมควร เพราะเคยมันอยู่ในที่แคบๆ และสกปรกตั้งแต่เด็ก ในขณะที่ที่แห่งใหม่นี้ ตรงข้ามกับที่เดิมอย่างสิ้นเชิง     สิ่งหนึ่งที่ยากที่สุดสำหรับหมีที่ถูกขังเป็นเวลานานอย่าง Riku คือ มันไม่มีโอกาสได้ขุดถ้ำสำหรับจำศีล นั่นหมายความว่าหมีที่เพิ่งได้รับการช่ว่ยเหลือ อาจจะต้องยอมเสียโอกาสเล่นสนุกในช่วงฤดูหนาว เพื่อที่จะได้จำศีล     สำหรับ Riku เจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจว่ามันจะเรียนรู้ที่จะทำตามสัญชาตญาณธรรมชาติของหมีหรือไม่ นั่นคือ การนอนหลับในช่วงฤดูหนาว เจ้าหน้าที่บอกว่า “การได้ดูมันเพลิดเพลินในสิ่งแวดล้อมใหม่เป็นเรื่องยอดเยี่ยมสำหรับพวกเราทุกคน มันดูผ่อนคลายและสงบมากๆ”  …

ปกติแล้ว ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Langley Animal Protection Society (LAPS) มักจะรับสุนัขหรือแมวที่มีขนาดใกล้เคียงกัน แต่เมื่อได้แจ้งเกี่ยวกับหมูที่หนักกว่า 360 กิโลกรัม พวกเขาไม่อาจปฏิเสธมันได้ หมูตัวนั้นมีชื่อว่า Theodore มันถูกพบขณะวิ่งผ่านถนน Langley ในรัฐบริติชโคลัมเบียเพียงลำพัง และไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน     ถนนที่มันเดินผ่านอยู่นั้น มีการจราจรที่วุ่นวาย ดังนั้น เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปช่วยมันอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้มันตกใจจนเป็นเหตุให้มันตกอยู่ในอันตราย ในที่สุด พวกเขาก็สามารถช่วย Theodore แม้การดูแลสัตว์ใหญ่แบบนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผู้ช่วยเหลือไม่สามารถปล่อยให้มันเผชิญชีวิตตามลำพังได้ พวกเขาจึงพามันไปกลับอยู่ใน LAPS     Jayne Nelson ผู้อำนวยการ LAPS บอกว่า “แม้ว่ามันจะไม่เต็มใจขึ้นรถมากับเรา แต่เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือมัน และเรายังต้องใช้เวลาอีก 2 ชั่วโมง กว่าจะกล่อมมันลงจากรถได้สำเร็จ”  หลังจากมาอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ผู้ช่วยเหลือก็เริ่มตามหาเจ้าของ Theodore แต่สุดท้ายก็เจอแต่ความว่างเปล่า และยิ่งหลังจากมันทำหมันแล้ว การหาครอบครัวใหม่ให้มันก็ยิ่งมีโอกาสเป็นไปได้น้อย     สำหรับ Theodore แม้ขนาดตัวมันจะใหญ่มาก แต่มีบุคลิกที่น่ารักมากๆ เหมือนลูกหมูตัวน้อย มันต้องการการเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง และต้องการความรักจากคนที่คอยดูแลมัน หากเจ้าหมูมีครอบครัว…

ตอนที่อายุได้ 8 สัปดาห์ แมวน้อยตัวนี้มีน้ำหนักเท่ากับแมวอายุ 4 สัปดาห์เท่านั้น อย่างไรตาม ผู้หญิงคนหนึ่งได้ช่วยมันจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ในขณะที่คนอื่นๆ มองว่ายังไงก็ไม่มีใครรับเลี้ยงมันอยู่ดี ย้อนไปก่อนหน้านี้ Tara Kay ผู้ก่อตั้ง The Odd Cat Sanctuary ในซาเลม แมสซาชูเซต ได้รับการติดต่อเกี่ยวกับแมวน้อยที่ชื่อ Lucille มันเกิดมาพร้อมโรคขาบิด และกำลังจะถูกการุณยฆาต     อาสาสมัครในศูนย์พักพิงอยากให้แมวน้อยมีโอกาสได้สู้และมีชีวิตตามที่ควรจะเป็น พวกเขาจึงส่งเรื่องไปให้ Tara และ Tara ก็ยินดีที่จะช่วย Lucille ตัวเล็กว่าอายุของมันมาก มันอายุ 8 สัปดาห์แล้ว แต่น้ำหนักมันแค่ 400 กรัมเท่านั้น     อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมของ Lucille ใหญ่กว่าขนาดตัวมาก มันร้องเมี๊ยวเสียงดังเพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนที่เจอมันครั้งแรก Tara เล่าว่า “ตอนที่ฉันเจอมัน มันร้องเสียงดังเพื่อขอให้ฉันอุ้ม พอฉันอุ้มมันขึ้นมา มันก็ตั้งหลักปักฐานอยู่ในอ้อมแขนฉัน แล้วก็ทำเสียงเพอร์”      ระหว่างทางที่ Tara พามิ้วน้อยกลับไปยังศูนย์ดูแลสัตว์ของเธอ Lucille อ้อนให้กอดตลอดเวลา และมันไม่ยอมให้เธอปฏิเสธด้วย     เมื่อมาถึงบ้านใหม่…

บางอย่าง เมื่อเราเจอหรือประสบมาหลายๆ ครั้ง เราจะเกิดความเคยชิน แต่สำหรับการสูญเสียคนที่รัก ต่อให้กี่คนต่อกี่คน นอกจากจะทำใจให้ชินไม่ได้ มันยังทำให้เราเศร้าหนักกว่าเดิมด้วย เจ้าเหมียว Samara เป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่สูญเสียคนที่รักมากที่สุด และไม่ใช่แค่ครึ่งเดียว แต่ถึง 2 ครั้งด้วยกัน     ในปี 2016 Samara ต้องพบกับจุดที่น่าเศร้าที่สุดของชีวิต เมื่อเจ้าของที่มันรักมากที่สุดจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา แล้วมันก็ถูกคนในครอบครัวนำไปทิ้งในศูนย์พักพิงที่แออัดในรัฐมิชิแกน Sasha Oza กรรมการบริหารของ Michigan Cat Rescue บอกว่า “ไม่ค่อยมีผู้ช่วยเหลือเข้ามาที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้ ดังนั้น สัตว์จึงมีอัตราการการุณยฆาตสูงมาก”      อย่างไรก็ตาม Nancy Hutchinson ประธานของ Michigan Cat Rescue จะเข้ามาเมื่อเธอสามารถพาแมวออกจากที่นี่ได้ และครั้งนี้เธอก็บังเอิญไปสบตากับ Samara Oza บอกว่า “Samara อายุแค่ 8 เดือนเท่านั้น แต่มันถูกจัดให้กลุ่มในกลุ่มรอการุณยฆาตแล้ว ดังนั้น เราจึงพามันออกมาจากที่นั่น” หลังจากออกมาได้ มันก็อยู่ในการดูแลของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ไม่นานมันก็ได้เจ้าของใหม่ที่เป็นคนดีและรักมัน    …

แมวส้มตัวใหญ่อ้วนกลม ดูน่ารักและอบอุ่น แถมยังขี้อ้อนชอบปีนมานั่งตัก คงเป็นแมวในฝันของคนจำนวนมากเลย แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าในชีวิตจริงจะมีคนที่ไม่ต้องการแมวแบบนี้     เจ้า Jake เป็นแมวสีส้มตัวใหญ่ มันมีรูปร่างกลมดิ๊กเพราะว่าอ้วน สิ่งที่มันชอบทำเป็นประจำคือการปีนขึ้นไปนั่งตักทาส แล้วอ้อนให้ทาสลูบมันนานๆ ถึงจะฟังดูเป็นสิ่งที่ทาสแมวน่าจะชอบ แต่ทาสคนเก่าของมันทิ้งมันเพราะความขี้อ้อนของมันนี่แหละ เธอไม่ชอบให้มันมาอ้อนเธอแบบนั้น อาจเป็นเพราะเธอไม่พร้อมให้เวลากับมันมากขนาดนั้นก็ได้     พออยู่กับมันมาได้ 1 ปีเธอก็เลยเอามันมาทิ้งไว้กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Michigan Cat Rescue เพื่อให้คนอื่นดูแลมันต่อแทน เมื่อเจ้า Jake ถูกทิ้งแบบกะทันหัน มันเองก็งงมากเลย แต่เมื่อมันปรับตัวได้มันก็อ้อนอาสาสมัครที่นั่นต่อทันที ทำให้ทุกคนรู้ว่ามันขี้อ้อนเอามากๆ     หลังจากนั้นพวกเขาก็โพสต์หาบ้านให้ Jake ต่อทางเฟซบุ๊ก พร้อมกับเล่าเรื่องราวของมันให้ชาวเน็ตฟัง ชาวเน็ตได้อ่านแล้วแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีคนไม่ต้องการแมวน่ารักขนาดนี้ ชาวเน็ตต่างก็คอมเมนต์ให้กำลังใจมัน และก็แย่งตัวมันไปเลี้ยงกันใหญ่เลย เนื่องจากแมวน่ากอดและขี้อ้อนอย่างมันเป็นความฝันของทาสแมวจำนวนไม่น้อย     โพสต์หาบ้านของ Jake เพียงแค่ตัวเดียวมีคนเข้ามาคอมเมนต์กว่า 1,200 ครั้ง และมีคนกดไลก์ให้มันตั้ง 2,600 ครั้งเชียวนะ หลังจากที่ชาวเน็ตพากันส่งคำขอรับเลี้ยงมันเข้ามา ในที่สุด Jake ก็ได้ทาสคนใหม่เป็นคู่รักร่างท้วมที่เข้ากับมันได้ดี  …

ที่เราเคยเห็นกันทั่วไปนั้น ม้าเป็นสัตว์ที่ฉลาดและดูสง่างาม พวกมันหัวไวชนิดที่ว่าคนที่เลี้ยงพามันไปฝึกได้เลยทีเดียว เหมือนกับที่เราเห็นกันตามงานแข่งม้า ทว่า Tango ซึ่งเป็นม้าของ @mckellogs ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย เธอยังบอกเองเลยว่ามันดูโง๊โง่  มันน่าประหลาดจนเธอไม่อยากเก็บความโง่ของมันไว้ดูคนเดียว ขอแชร์ต่อให้คนอื่นได้ฮาด้วยดีกว่า     Tango เป็นม้าที่บ้านของ @mckellogs เลี้ยงเอาไว้ มันค่อนข้างทำอะไรไม่เหมือนม้าตัวอื่น…หรือถ้าพูดให้ชัดกว่านี้ก็คือมันทำอะไรไม่ฉลาดเหมือนม้าตัวอื่นสักเท่าไหร่ โดยสิ่งที่แรกที่สังเกตเห็นได้เลยก็คือ ท่านอนของมัน…ปกติม้าทั่วไปจะนอนในท่ายืน แม้จะมีบางครั้งที่พวกมันล้มตัวลงนอนเพื่อความสบาย แต่มันก็น้อยมากจนคนเราแทบไม่เห็นช่วงนั้นเลย     ทว่า Tango มันมักจะล้มตัวนอนเสมอ เหตุผลนั้น @mckellogs อธิบายว่าเป็นเพราะความขี้เกียจเกินกว่าจะยืนหลับของมันนั่นเอง ซึ่งท่านอนแบบนี้ของมันทำให้เพื่อนบ้านที่ผ่านมาเห็นเข้าใจว่ามันตายแล้วเสมอ เลยทำให้มีคนมาเคาะประตูบ้านเธอเรื่องมันอยู่บ่อยพอสมควรเลย จึงทำให้เธอและพ่อต้องทำป้ายอธิบายเรื่องนอนของมันให้คนที่ผ่านมาได้รู้     รำคาญ มีคนมาเคาะบ้านบ่อย ติดป้ายให้รู้ไปเลยว่ามันแค่นอนหลับ ไม่ได้ตาย “แค่เหนื่อยและหน้าตาน่าเกลียด ปล่อยให้ข้าหลับเหอะ”   นอกจากเรื่องท่านอนของมันแล้ว ก็ยังมีเรื่องการเล่นโยนของกับเจ้า Tango ด้วย โดยเจ้าม้าตัวนี้ก็มีปัญญาพอจะเล่นเก็บของได้บ้าง แต่ของที่โยนไปกับของที่เก็บมานั้น มักจะไม่ใช่ของชิ้นเดียวกัน…   โยนจานบินไป วิ่งไปคาบเอาจานข้าวมา…หรือมันหิว??   จานบินหายไปไหนคะน้อง ไปไงมาไงถึงไปได้กิ่งไม้มาแทน!?   นอกจากนี้ทุกคนก็ไม่ต้องไปตามดูท่านอนล้มตัวของมันถึงที่บ้านของ @mckellogs ด้วย เพราะว่าใน…

พวกสัตว์มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนคนเลย คือพวกมันมีความซื่อสัตย์และจริงใจ คิดยังไงก็แสดงออกยังงั้น ไม่เหมือนคนที่ชอบใส่หน้ากากเข้าหากัน ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าพวกมันไม่มีหน้ากากหรอกนะ สัตว์บางตัวเกิดมาพร้อมกับหน้ากากในแบบของตัวเองด้วยซ้ำ ซึ่งก็คือลายหรือสีของพวกมันนี่แหละ หน้ากากเหล่านี้ทำให้พวกมันมีเอกลักษณ์น่ามองมากๆ เลย โดยเฉพาะบางตัวนี่ยิ่งดูแล้วเท่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ   เจ้าหมาเหมือนกำลังใส่ชุดสายลับสีขาว   ผมไม่ใช่โจรนะฮับ อย่าจับผมเลย   ไม่ต้องวัดสายตาก็มีแว่นใสตั้งแต่เด็ก   หน้ากากที่สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นคุณทวด   เจ้าหมาตัวนี้เป็นผู้ร้าย เพราะมันใส่หน้ากากโจ๊กเกอร์   น้องไม่ได้ทำหน้าดุ ลายน้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว   สงสัยน้องจะเหนื่อย หน้ามืดเชียว   หน้ากากกระต่ายหนวดมาแว้ว https://www.instagram.com/p/-cYpepB-5a/?utm_source=ig_embed   เป็นเจ้าหมา แต่ใส่หน้ากากลายเสือ เท่ไหมเล่า   เหมือนเจ้าแมวกำลังใส่เสื้อขนสัตว์กับหน้ากากสีดำอยู่เลย   ผมต้องใส่หน้ากากไว้ตลอด ไม่งั้นความหล่อจะมากเกินไป   ใครก็ได้บอกน้องให้เปลี่ยนเบอร์รองพื้นที https://www.instagram.com/p/BjqE-8uHBur/?utm_source=ig_embed   นี่มันหมาหรือหมีแพนด้า ขอบตานี่เด่นมาแต่ไกล   ใครก็ทำสโม้กกี้อายสู้ฉันไม่ได้ ไม่ต้องตื่นมาทาทุกวัน   เจ้ามนุษย์โกหก ไหนบอกว่าหน้าข้าเลอะไง ไม่เห็นเลอะสักหน่อย  …

ถ้าใครได้เจอกับแมวเหมียวตัวนี้ รับร้องว่าต้องคิดว่ามันแปลกแน่นอน มันชอบทำหน้าประหลาด แถมยังต้องการการดูแลที่ต่างจากแมวตัวอื่นเป็นพิเศษด้วย แต่ความน่ารักของมันก็ทำให้มันน่าเอ็นดูไม่แพ้แมวตัวอื่นเลย แมวเหมียว Wolfie เป็นแมวจรจัดมาก่อน ตอนที่มันถูกช่วยมาพวกเขาพบว่าหลอดอาหารของมันเบี้ยวผิดปกติ ทำให้ต้องได้รับอาหารเหลวอย่างเดียวเท่านั้น แต่ถึงจะดูแลมันยากสักหน่อย Jacqueline Santiago ก็ไม่ลังเลที่จะรับมันไปเลี้ยงเลย เพราะเธอชอบที่มันทำหน้าแปลกๆ และก็หลงเสน่ห์ของมัน     เธอบอกว่า “ให้ตายสิ มันช่างดูตลกจริงๆ มันนิสัยใจกล้า แล้วก็ชอบทำหน้าซื่อบื้อ มันเป็นแมวตัวโปรดของฉันเลย แล้วมันก็ชอบเล่นกับแมวและคนทุกคนด้วย” ตอนนี้นอกจากมันจะมีเธอคอยดูแลแล้ว มันก็ใช้ชีวิตอยู่กับพี่น้องแมวตัวอื่นๆ อีก 4 ตัวด้วย มันมักจะหาโอกาสเล่นกับเพื่อนแมวทุกเวลา Santiago เห็นว่า Wolfie เข้ากับเพื่อนแมวได้ดีและชอบเล่นด้วยกันตลอด เธอจึงอยากจะหาของขวัญบางอย่างให้พวกมันไว้เล่นด้วยกัน แล้วก็ตัดสินใจว่าจะหาต้นไม้แมวมาให้มันสักต้น     แต่ต้นไม้แมวทั่วไปนั้นเล็กเกินไปสำหรับแมว 5 ตัว หลังจากตามหาต้นไม้แมวอยู่นานก็ไม่เจอสิ่งที่ต้องการสักที สุดท้ายเธอก็เลยสั่งทำมันซะเลย เธอเล่าว่า “ฉันและเพื่อนร่วมห้องเริ่มค้นคว้าเรื่องต้นไม้แมว เพราะของที่เราเจอมันเล็กเกินไปสำหรับเจ้าแมวและเพื่อนอีก 4 ตัว เราอยากได้แบบที่เพียงพอสำหรับพวกมันทุกตัว”     โดยทั้งคู่จ้างบริษัท Hollywood Kitty Company ให้สั่งทำต้นไม้แมวให้ และก็ช่วยกันกับทางบริษัทออกแบบต้นไม้แมวที่ต้องการด้วยตัวเอง Santago บอกว่า “ตอไม้เฉาๆ…

ระหว่างที่แม่แรด Makosi และแรดน้อย Maarifa กำลังเดินเล่นด้วยกันในพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่าของประเทศเคนยา ลูกแรดก็บังเอิญเข้าไปติดในบ่อโคลนลึก ดิ้นออกมาเองไม่ได้ แม่แรดเองก็พยายามช่วยมันแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถช่วยลูกน้อยได้เช่นกัน มันจึงดูเครียดและกระวนกระวายอยู่รอบๆ ลูกน้อยท่าเดียว     เจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าที่ลาดตระเวนอยู่ผ่านมาเห็นพวกมันเข้า พวกเขาจึงวางอาวุธและเดินลุยโคลนเข้าไปหาแรดน้อย หวังช่วยให้มันกลับไปอยู่กลับแม่ให้ได้ ทว่าหลังจากที่พวกเขาช่วยลูกแรดออกมาได้แล้ว แม่แรดที่เครียดอยู่ก็ตื่นกลัวคน มันจึงวิ่งกลับเข้าไปอยู่กับฝูงโดยทิ้งลูกเอาไว้ตรงนั้น     เจ้าหน้าที่พยายามหลบเข้าไปในหญ้า เพื่อให้แม่แรดใจเย็นลงและกลับมารับลูกน้อยไป ทว่าแม้จะรอหลายชั่วโมงมันก็ไม่กลับมาเลย หนำซ้ำลูกแรดก็ไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ด้วย แทนที่มันจะอยู่ห่างจกามนุษย์แล้วร้องเรียกหาแม่ มันกลับเข้ามาเล่นกับมนุษย์ที่ซ่อนตัวอยู่แทน ทำให้พวกเขาทิ้งมันไว้ตามลำพังไม่ได้สักที     พวกเขาเล่าว่า “เมื่อแรดน้อยเป็นอิสระ แม้มันจะยังเลอะโคลนอยู่ มันก็วิ่งเข้ามาเล่นกับพวกเขา แล้วก็หมุนตัวตามหลังพวกเรามาเรื่อยๆ เลย ซึ่งเป็นปัญหาสำหรับพวกเราที่พยายามซ่อนตัวจากแม่ของมันมากเลยล่ะ” ท้ายที่สุดพวกเขาก็เลยต้องเป็นคนพาตัวลูกแรดกลับไปดูแลต่อเอง เพราะไม่สามารถปล่อยมันไว้ตามลำพังโดยไม่มีแม่ดูแลได้     ในวันถัดมาและหลายวันต่อจากนั้น พวกเขาก็ยังไม่ละความพยายามที่จะพา Maarifa กลับไปอยู่กับ Makosi แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ พวกเขาจึงตัดสินใจพามันไปอาศัยอยู่ในศูนย์อนุรักษ์ช้างกำพร้า มันจะได้มีคนดูแลตลอด แล้วก็มีที่นอนที่เหมาะสมสำหรับมันด้วย     ถึงจะต้องแยกกับแม่มาอยู่กับคนดูแลใหม่ แต่ Maarifa ก็เข้ากับคนดูแลได้ดีมาก…

ไม่รู้ว่าจะบอกว่าเจ้าแมวตัวนี้โชคดีหรือโชคร้ายดี มันได้เจอทาสที่รักมันมากตั้ง 2 คน แต่ทั้งคู่ก็ตายจากไปและทิ้งให้มันต้องอยู่ตัวเดียว     แมวเหมียว Samara อยู่กับทาสคนแรกของมันจนถึงปี 2016 และจำเป็นต้องแยกจากกัน เนื่องจากเธอตายจากมันไปก่อน จากนั้นญาติของหญิงคนนั้นก็ส่งมันไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เพราะไม่มีใครต้องการเลี้ยงมันต่อ แถมยังเป็นศูนย์พักพิงสัตว์ที่ไม่ค่อยมีคนมารับเลี้ยงสัตว์ซะด้วย     Samara เองก็ไม่ได้โชคดีกว่าสัตว์ตัวอื่นเลย มันก็ไม่มีคนมารับเลี้ยงทั้งที่อยู่มานาน จนโดนขึ้นบัญชีต่อคิวการุณยฆาตเช่นกัน โชคดีที่มีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์  Michigan Cat Rescue คอยช่วยชีวิตแมวที่นั่นอยู่ มันจึงรอดชีวิตออกมาแล้วมีโอกาสได้ไปอยู่กับทาสคนใหม่     คนที่รับเลี้ยงมันไว้ชื่อว่า Joyce เธอเป็นหญิงที่บริจาคเงินและติดตามกลุ่มช่วยเหลือสัตว์มานานแล้ว พอเธอเห็นเจ้าแมวไม่มีคนเลี้ยงเธอก็เลยรับเลี้ยงมัน แล้วเทความรักให้หมดใจ Sasha Oza ผู้อำนวยการของกลุ่มชวยเหลือสัตว์เล่าว่า “เธอรักแมวตัวนั้นมากจริงๆ ฉันเห็นหลายรูปบนเฟซบุ๊กของเธอ ที่เขียนแคปชั่นว่า ‘เจ้าแมวคือรักแท้ของฉัน’”     ทว่าหลังจากอยู่กับ Joyce ได้เพียงแค่ 3 สัปดาห์ เธอก็เสียชีวิตไปอย่างกะทันหันเช่นกัน ทำให้ Samara เกือบได้กลับไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์อีกครั้งหนึ่ง โชคดีที่ Oza เข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปตรวจบ้านได้ทัน เธอจึงพาเจ้าแมวกลับมาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ได้สำเร็จ    …

เมื่อเดือนที่แล้วใน North Fort Myers รัฐฟลอริด้า แรคคูนผู้มีความอยากรู้อยากเห็นตัวหนึ่งคิดว่าตัวเองเจอแจ็คพ็อต เมื่อมันสะดุดเข้ากับกระป๋องซึ่งมีเศษซุปเหลืออยู่ในนั้น เจ้าแรคคูนตื่นเต้นมาก มันเลยเอาหัวมุดเข้าไปในกระป๋อง หวังจะฟาดซุปที่เหลือให้เรียบ แล้วมันก็ได้กินสมใจ แต่หลังจากนั้น… มันพบว่าตัวเองไม่สามารถถึงหัวออกจากประป๋องได้     โชคดีที่ชาวบ้านคนหนึ่งผ่านมาเห็น เขาจึงพามันไปคลินิกสัตว์ Clinic for the Rehabilitation of Wildlife (CROW) เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อไปถึงคุณหมอ Dr. Robin Bast ต้องใช้ที่เปิดกระป๋องในการช่วยเจ้าแรคคูนเป็นอิสระ โดยมีเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ช่วยจับเจ้าตัวซนเอาไว้ เพื่อให้ง่ายต่อการทำงาน     เมื่อแรคคูนสงบลง ทีมช่วยเหลือก็สามารถถอดกระป๋องออกจากหัวมันได้อย่างรวดเร็ว และพวกเขาก็ดีใจที่กระป๋องไม่ได้บาดคอหรือคางมันแม้แต่น้อย     นับว่าเป็นความโชคดีของเจ้าแรคคูนตัวนี้ที่ได้รับการช่วยเหลือทันเวลา แต่ไม่ใช่สัตว์ทุกตัวที่โชคดีแบบนี้ ดังนั้น เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ เราในฐานะมนุษย์ควรตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งว่ากระป๋องหรือถังถูกปิดฝาแล้ว ก่อนจะนำไปทิ้ง     หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าเจ้าแรคคูนผู้มีความอยากรู้อยากเห็นตัวนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการส่งมันกลับเข้าป่า โดยคุณหมอได้กำชับมันว่าอย่าเข้าใกล้ถังขยะอีกนะ…     ที่มา thedodo

ลูกหมาหลายตัวถูกทิ้งตั้งแต่เกิด ทั้งๆ ที่พวกมันยังไม่ทันได้เรียนรู้โลกด้วยซ้ำ และในปัจจุบันนี้ มีน้อยคนที่จะช่วยสุนัขที่อยู่ข้างทาง แต่ในความมืดย่อมมีความสว่างอยู่เสมอ เพราะในโลกนี้ยังมีหลายคนที่ไม่มองข้ามสุนัขที่ต้องการความช่วยเหลือ เหมือนกับนักปั่นกลุ่มนี้ บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่นักปั่นจักรยานกลุ่มหนึ่ง ออกไปปั่นจักรยานท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ ของประเทศกรีซ Vicky หญิงหนึ่งในกลุ่มได้พบลูกหมาถูกทิ้งโดยบังเอิญ     ที่นั่นไม่มีใคร นอกจากพวกเขา Vicky กับเพื่อนๆ จึงทำตามสัญชาตญาณ นั่นคือการรีบเข้าไปหาลูกหมาตัวนั้น และเอาน้ำกับอาหารที่ติดตัวให้มันกิน หลังจากนั้น หนึ่งในนักปั่นคนหนึ่ง ได้อาสารับเลี้ยงลูกหมาตัวนั้น นั่นทำให้ Vicky โล่งใจมาก เพราะเธอกำลังคิดอยู่ว่าถ้าปล่อยหมาน้อยไว้ที่นี่ มันจะเอาตัวรอดยังไง     Vicky บอกว่า “มันเป็นความโชคดีของลูกหมาตัวนั้นที่ถูกพบตอนที่เราออกไปปั่นจักรยานพอดี แถมยังถูกรับเลี้ยงโดยนักปั่นคนหนึ่งที่พร้อมจะมอบความสุขให้มัน” เธอบอกว่าอีกว่า “ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นพันธุ์อะไร แต่มันคือสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าสร้างมา มันจึงไม่สมควรที่จะถูกทิ้งเหมือนขยะที่ไร้ค่า”   ที่มา weloveanimals

Chris กับ Mariesa เป็นคู่รักที่ช่วยและทำหน้าที่พ่อแม่ให้กับสุนัขพิตบูลล์นับ 10 ตัว ล่าสุดพวกเขาได้เข้าไปในศูนย์พักพิงสัตว์ Pibbles & More Animal Rescue หรือ PMAR เพื่อรับเลี้ยงสุนัขอีกตัว สุนัขใน PMAR ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พิตบูลล์ ซึ่งเป็นพันธุ์คู่รักชอบอยู่แล้ว ปัญหาคือ ทุกตัวหน้าตาเป็นมิตรหมด จน Mariesa อยากพาทุกตัวกลับบ้านด้วย แต่เธอกับแฟนหนุ่มตกลงกันก่อนแล้วว่าจะรับเลี้ยงแค่ตัวเดียว     และแล้ว Mariesa ก็พบกับพิตบูลล์ตัวเมียตัวหนึ่ง เธอรู้สึกผูกพันกับมันตั้งแต่แรกเห็น มันกำลังตั้งท้อง และสายตาของมันก็กำลังขอร้องให้เธอพามันกลับบ้านด้วย แน่นอน หญิงสาวไม่อาจต้านทานได้     เมื่อหญิงสาวตกลงที่จะรับเจ้าหมาตัวนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงจึงได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้เธอทราบ โดยบอกว่าพิตบูลล์นี้ชื่อ Storie มันถูกเจ้าของเดิมทิ้ง เพราะรู้ว่ามันท้อง     อีกอย่างหนึ่งที่ Mariesa สังเกตเห็นด้วยตัวเองคือ Storie พร้อมจะคลอดแล้ว แต่มีเหตุผลบางที่มันไม่ยอมคลอด และอุ้มท้องอยู่อย่างนั้น     ในที่สุด Mariesa กับ Chris ก็ตัดสินใจพา Storie กลับบ้าน เพียงไม่นานมันก็คลอดลูกน้อยออกมามากถึง…

สุนัขเป็นสัตว์ที่ฉลาด ซื่อสัตย์ ภักดี มีใจเมตตาต่อเพื่อร่วมโลก และมักสร้างความประหลาดใจให้กับเราอยู่เสมอ เหมือนกับ Storm โกลเด้นของ Mark  Storm เป็นสุนัขที่ไม่ชอบน้ำแม้แต่นิดเดียว แต่อยู่ดีๆ วันหนึ่ง มันก็กระโดดลงทะเลท่ามกลางคลื่นสูง ทำเอา Mark ตกใจหนักมาก เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เมื่อ น้องหมาขึ้นมาบนฝั่ง Mark จึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น…     ก่อนอื่น ขอเล่าเรื่องของ Mark นิดหนึ่ง… Mark เป็นคนที่ชอบเก็บตัวมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนเรียนเก่ง เมื่อเรียนจบก็มีหน้าที่การงานที่มั่นคง แต่ด้วยความที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร เขาจึงรู้สึกโดดเดี่ยวมาก เพื่อกำจัดความรู้สึกเหงา Mark จึงเริ่มติดต่อ ผูกมิตรกับคนอื่น จนเขามีเพื่อนหลากหลาย แต่สุดเท้า เขากลับพบว่าตัวเองยังรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่ดี ในขณะที่หน้าที่การงานเขาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการเงินและฐานะของเขามั่นคงจนไม่มีอะไรที่ต้องการแล้ว แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำลายความเหงาในใจเขาได้เลย     จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ Mark นั่งรอของมาส่งอยู่ที่บันได เขาเห็นชายคนหนึ่งเดินผ่านมาพร้อมตะกร้าที่ลูกหมาน่ารักๆ อยู่ และแล้ว เขาก็ตัดสินใจพาลูกหมาตัวหนึ่งกลับบ้านในวันนั้น การมีลูกหมาก็เหมือนมีลูก คุณจะต้องใช้ความอดทน ให้ความสนใจ และใช้กำลังมหาศาลในการรับมือกับพวกมัน แน่นอนว่า Mark พร้อมที่จะทำแบบนั้น เพราะเขามีเวลาเหลือมากมายและสามารถจัดหาทุกอย่างที่ลูกหมาต้องการ    …

คุณเคยพยายามจะถ่ายรูปสัตว์เลี้ยงมั้ย แน่นอนว่าหลายคนต้องเคย แต่ภาพที่ออกมามักจะไม่ได้ตามความต้องการหรอก เพราะเหล่าสัตว์เลี้ยงไม่ค่อยให้ความร่วมมือ แต่นั่นก็ไม่ใช่กับทุกคนหรอกนะ เพราะบางคนสามารถควบคุมสัตว์เลี้ยงได้ ราวกับมีคาถาวิเศษ เหมือนกับ Cara Raphael เจ้าของและผู้ก่อตั้ง My Little Doghouse ที่รับดูแลสุนัขในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์     ดูจากภาพข้างบนแล้ว หลายคนคงสงสัยว่า Raphael ทำยังไงถึงได้ภาพสัตว์เลี้ยงที่เพอร์เฟกต์แบบนั้น ทั้งเสื้อผ้า ท่าโพสต์ เธอคุมพวกมันอยู่ได้ยังไง?? Raphael เล่าให้ฟังว่า “ฉันเคยเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินค่ะ แต่ฉันคิดถึงบ้านและอยากทำงานกับสัตว์ ดังนั้น ฉันจึงเปิดบ้านรับเลี้ยงสัตว์ในปี 2016 แล้วก็เริ่มถ่ายรูปหมู่ของสัตว์ทุกตัว ตอนนี้มันกลายเป็นสิ่งที่ฉันรักไปแล้วค่ะ”     ตอนแรกที่เริ่มถ่ายภาพ Raphael ถ่ายเพื่อส่งให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเห็นว่าลูกๆ พวกเขาเป็นอย่างไร ทำอะไรบ้าง ตอนอยู่กับเธอ ในที่สุด เธอก็เริ่มรู้สึกกับการถ่ายรูปสัตว์เลี้ยงมากขึ้นๆ โดยเฉพาะช่วงวันหยุด     อย่างฮาโลวีนในปีนี้ หญิงสาวได้ถ่ายรูปสัตว์ในช่วงวินาทีสุดท้าย เพราะเธอลืม ดังนั้น เธอจึงรีบตัดเศษผ้าเป็นผ้าคลุมหน้า โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ถ่ายรูปพวกมันจนได้ออกมาเป็นภาพด้านล่างนี่แหละ     สำหรับวิธีการที่ทำให้สัตว์เลี้ยงโพสต์ท่าได้ดีนั้น Raphael…

ใครจะไปคิดการบริจาคเพียงเล็กน้อย จะทำให้บางชีวิตได้รับของขวัญพิเศษที่พวกมันไม่มีวันลืม…โดยเฉพาะการบริจาคของผู้เข้าชมสวนสัตว์ The San Diego Zoo เนื่องจากการบริจาคของผู้เข้าชมหลายๆ ท่าน ทำให้ทางสวนสัตว์ The San Diego Zoo สามารถจัดดินแดนหิมะให้กับหมีขั้วโลกที่อาศัยอยู่ในนั้นได้     โดยปกติแล้ว หมีขั้วโลกจะอยู่ท่ามกลางหิมะ ดังนั้น การเล่นหิมะจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สำหรับหมีขั้วโลกที่อาศัยอยู่ใน The San Diego Zoo บางตัวห่างหายจากการเล่นหิมะมานาน บางตัวไม่เคยสัมผัสหิมะด้วยซ้ำ ดังนั้น ผู้ดูแลสวนสัตว์จึงล่ารายชื่อเพื่อที่จะสามารถยื่นเสนอรับบริจาคเงินเพื่อนำเงินที่ได้สร้างความสุขให้กับเหล่าหมีขั้วโลก โดยการสร้างดินแดนหิมะให้พวกมัน     หลังจากประกาศขอรับบริจาค มีผู้คนประมาณ 100 คน บริจาคเข้ามา โดยมียอดประมาณ 160,000 บาท ในที่สุด ทางสวนสัตว์ก็สามารถซื้อหิมะขาวสะอาด 26,000 กิโลกรัมให้กับหมีขั้วโลกได้     ต่อมาในเช้าวันที่มีแสงแดดอ่อนๆ รอบตัวเหล่าหมีขั้วโลกใน The San Diego Zoo ถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ทำให้หมีขั้วโลกที่ชื่อ Kalluk, Tatqiq และ Chinook กลิ้งตัวไปมาบนหิมะอย่างสนุกสนาน    …

ในบรรดาพันธุ์สุนัขทั้งหมด เยอรมัน เชพเพิร์ดถูกยกให้เป็นพันธุ์ที่ฉลาดที่สุด แต่หลายคนคิดว่าพวกมันไม่เหมาะที่จะอยู่กับเด็กๆ เพราะกลัวว่ามันอาจจะดุร้าย ไม่เชื่อฟัง และเป็นอันตรายต่อเด็กได้ แต่วิดีโอด้านล่างนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด     นี่คือ Pernille Thane Larsen เด็กหญิงวัย 5 ขวบ จากประเทศนอร์เวย์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้รู้ใจสัตว์ตัวยง เธอเล่นสนุกสนานท่ามกลางสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดถึง 14 ตัว และดูพวกเขามีความสุขมากจนอยากเข้าไปร่วมวงด้วย     สำหรับน้องหมาเยอรมัน เชพเพิร์ดเหล่านี้ เป็นของ Kennel Finika พวกมันได้รับการฝึกมาอย่างดีแล้วในการอยู่ร่วมกับเด็กๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเด็กหญิง Pernille จึงแฮปปี้กับการได้เล่นกับพี่หมาถึง 14 ตัว     ในคลิปจะเห็นว่าเด็กหญิงได้จับหญ้าโยนขึ้นกลางอากาศ โดยมีเหล่าพี่หมาคอยกระโดดคาบ Pernille รักพี่หมามากพอๆ กับที่เหล่าพี่หมารักเธอ     สำหรับคนรักสุนัขอย่างเหมียวขี้ส่อง นี่มันเหมือนสวรรค์ในฝันชัดๆ ได้วิ่งเล่นกับเหล่าเพื่อนๆ 4 ขา ในทุ่งหญ้าสีเขียว มีเสียงหัวเราะปนสีเห่า อื้มมม แค่คิดก็ฟินแล้ว     มีเพื่อนมากมายขนาดนี้ ไม่มีใครกล้าแกล้งแน่ๆ ที่มา weloveanimals

น้องหมาหลายตัวถูกทอดทิ้งตั้งแต่เด็ก พวกมันจึงต้องเผชิญชีวิตที่มีแต่ความทุกข์และเอาตัวรอดอย่างยากลำบาก เหมือนกับน้องหมา Chunkie Chunkie เป็นหนึ่งในลูกหมาถูกเจ้าของทอดทิ้ง แน่นอนว่าการมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับมันเลย แต่โชคดีที่นักผจญเพลิง Mike Thawley เข้ามาเปลี่ยนชะตาชีวิตมัน     ตอนนั้น Mike เดินไปเจอลูกหมาที่ถูกมัดติดกับเสา ไม่มีใครสนใจมัน มันต้องอยู่ท่ามกลางสายฝนที่เทลงมาอย่างหนัก เขาเลยมั่นใจว่ามันถูกทิ้ง อย่างไรก็ตาม Mike รออยู่ที่นั่นสักพักและพยายามหาเจ้าของน้องหมา แต่เมื่อไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ เขาจึงตัดสิใจพามันกลับไปยัง Sacramento Fire Department ซึ่งเป็นสถานีดับเพลิงที่เขาทำงานอยู่ จากนั้นเขาก็ทำความสะอาดตัวให้น้องหมาและทำให้แน่ใจว่ามันจะไม่เป็นไร     ต่อมาเมื่อน้องหมาตัวนั้นรู้สึกดีขึ้นแล้ว Mike ก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Chunkie จากนั้นก็พามันไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ในท้องถิ่น โดยหวังว่ามันจะได้บ้านใหม่ที่เต็มไปด้วยความรัก     อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่ใครอื่นจะรับเลี้ยง Chunkie ทั้งคู่ก็ได้เจอกันอีกครั้ง เพราะ Mike ได้กลับไปยังศูนย์พักพิงในวันรุ่งขึ้น เพื่อไปทักทายน้องหมา     ดูเหมือนการกลับมาเจอกันในวันรุ่งขึ้นจะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทว่าความเป็นจริงมันค่อนข้างเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เพราะตอนที่ Chunkie รู้ว่าฮีโร่ของมันกลับมาเยี่ยม เป็นโมเมนต์ที่ยากจะบรรยายเป็นคำพูด     และนี่คือโมเมนต์ที่น้องหมาเห็นผู้ช่วยชีวิตกลับมาเยี่ยม   น่ารักและกตัญญูขนาดนี้ หวังว่าน้องจะได้บ้านในเร็วๆ นี้นะ…

สุนัขแก่มักจะไม่เป็นที่ต้องการของผู้คน แม้แต่ครอบครัวที่เคยเลี้ยงมันมาตั้งแต่เด็กก็ยังทิ้งมันได้ลง เหมือนกับ Sam ที่ถูกครอบครัวทิ้งโดยอ้างว่ามีเหตุจำเป็น Sam เป็นสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ด สีขาว อายุ 13 ปี หลังจากถูกครอบครัวทิ้ง มันก็รู้สึกโดดเดี่ยวและหวาดกลัวมาก เพราะมันเสี่ยงต่อการถูการุณยฆาต     เจ้าหมาอยู่กับครอบครัวมานาน แต่หลังจากที่เจ้าของต้องไปรับใช้ชาติร่วมกับกองทัพเรือ มันก็กลายเป็นหมาไร้บ้าน ก่อนจะลงเอยด้วยการไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ ทุกๆ วัน Sam รอให้สักคนมารับเลี้ยง แต่ผู้คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาในศูนย์พักพิง ต่างสนใจสุนัขหนุ่มหรือลูกหมามากกว่า ไม่มีใครต้องการหมาแก่ จนในที่สุด ทางศูนย์พักพิงตัดสินใจที่จะการุณยฆาตมัน     แต่ไม่กี่วันก่อนที่ Sam จะถูกการุณยฆาต ชะตาของมันก็เปลี่ยนไป เนื่องจากทาง German Shepherd Rescue of Orange County  เพิ่งได้รับแจ้งว่ามีชายชราคนหนึ่งอยากรับเลี้ยงสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดสีขาว ชายชราคนนั้นคือ George Johnson เป็นอดีตทหารเรืออายุ 93 ปี เขาเพิ่งสูญเสียสุนัขเยอรมัน เชพเพิร์ดไปเมื่อไม่นานนี้ เขาจึงมองหาเพื่อนใหม่ที่ทำให้ไม่รู้สึกเหงาในช่วงบั้นปลายชีวิต     ตอนแรก German Shepherd Rescue…

ขณะที่ Mary อยู่ในลานจอดรถของร้านแห่งหนึ่งในเมืองเล็กๆ ใกล้กับเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส เธอได้ยินเสียงลูกแมวร้องดังมาจากไหนสักแห่ง หญิงสาวจึงเดินตามเสียงนั้นไป แล้วก็ได้พบลูกแมวสีดำตัวหนึ่งคลานอยู่ใต้ท้องรถ และมันกำลังพยายามพาตัวเองออกจากตรงนั้น แต่ขาของมันไปติดอยู่ในสายไฟและแท่งเหล็กที่อยู่หลังพวงมาลัย เลยออกมาไม่ได้     Mary บอกว่า “หู อุ้งเท้า และจมูกของมัน ไหม้จากความร้อนของโลหะของเครื่องยนต์ ฉันไม่รู้ว่ามันอยู่ที่นั่นมานานแค่ไหน แต่ฉันรู้อย่างเดียวคือ ต้องพามันออกมาจากที่นั่น” หลังจากที่ช่วยแมวน้อยออกมาได้สำเร็จ Mary ก็กอดมันไว้ในอ้อมแขนและพามันกลับไปที่รถของเธอ เพื่อประเมินสถานการณ์ของมัน     หญิงสาวห่อหุ้มมันด้วยแจ๊คเก็ตของเธอและให้เวลามันฟื้นตัว หลังจากนั้นประมาณ 15 นาที มิ้วน้อยก็เริ่มตระหนักได้ว่ามันได้รับการช่วยเหลือแล้ว มันจึงหยุดร้องและผ่อนคลายอยู่ในมือของ Mary ต่อมาหญิงสาวได้ตั้งชื่อให้มิ้วน้อยตัวนั้นว่า Kesto แต่สภาพของมันยังน่าเป็นห่วง เพราะร่างกายของมันขาดน้ำและอาหารอย่างรุนแรง     ร่างกายของ Kesto อ่อนแอมาก ในช่วงสองสามวันแรก มันยืนด้วยตัวเองแทบไม่ได้ด้วยซ้ำ Aaron สามีของ Mary ไม่แน่ใจว่ามันจะรอดหรือเปล่า แต่ Mary บอกว่า “ฉันมั่นใจว่ามันต้องทำได้”      Mary เฝ้ามิ้วน้อยตลอดทั้งคืน เพื่อติดตามอาการของมันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาและคอยปลอบโยนมัน เมื่อมันรู้สึกกลัวหรือกังวล กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น อาการของ…

เมื่อผู้ช่วยเหลือจาก Refuge RR ได้รับแจ้งเกี่ยวกับแมวที่ชื่อ Sylvester และรู้ว่ามันอยู่ในที่ที่สิ่งมีชีวิตไม่ควรอยู่ พวกเขาจึงรีบไปหามันทันที Rob Boisvert หนึ่งในผู้ช่วยเหลือ ถึงกับตกใจมาก เมื่อไปถึงแล้วพบว่าเจ้าเหมียวอยู่ใต้บันไดพร้อมโน๊ตใบหนึ่งแปะอยู่ตรงนั้น โดยระบุข้อความว่า “กรุณาปล่อยแมวไว้ที่นี่ เพราะมีเหตุผลให้อยู่ที่นี่ ขอบคุณ”     แม้จะมีข้อความเขียนไว้อย่างนั้น แต่ Rob ไม่สามารถปล่อย Sylvester ไว้ที่นั่นได้ เพราะลำตัวมันเต็มไปด้วยหมัดและแผลพุพองที่เกิดสภาพอากาศที่หนาวจัด ต่อมา ผู้ช่วยเหลือทราบมาว่าที่เจ้าของบ้านให้มันอยู่ที่นี่ เพราะจะให้มันไล่หนูนั่นเอง แต่สภาพของ Sylvester ดูแย่มาก มันแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้ ที่สำคัญไม่น้ำหรืออาหารเพียงพอสำหรับมัน มันจึงจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ     ผู้ช่วยเหลือตัดสินใจพา Sylvester ไปยังศูนย์พักพิง เห็นได้ชัดว่าเจ้าเหมียวรู้ว่ากำลังเกิดอะไรกับมัน มันรู้ผู้คนที่อยู่รอบตัวตอนนี้ กำลังดูแลมันเป็นอย่างดี มันจึงไม่ยอมขยับไปไหน ราวกับว่ามันอยากอยู่ในศูนย์พักพิงแห่งนี้     หลังจากที่เจ้าเหมียวพ้นขีดอันตราย เจ้าหน้าที่ก็ได้ช่วยกำจัดเห็บหมัดให้ ทั้งให้น้ำ ให้อาหาร และให้ความสนใจมากมายกับมัน     หลังจากนั้น พนักงานศูนย์พักพิงก็ได้โพสต์เรื่องราวของ Sylvester บนเฟซบุ๊ก ปรากฏว่าโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และคนจำนวนมากที่อยากช่วยเจ้าเหมียว Sylvester ได้รับของขวัญมากมายจากคนที่มันไม่เคยรู้จัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของเล่นแมวและมันก็ชอบของเล่นพวกนั้นมาก…

น้องหมาผู้น่าสงสาร Rose ได้ผ่านเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากมายในชีวิต และเมื่อไม่นานมานี้ มันต้องใช้เวลามากกว่า 4 ปี ในการมีชีวิตที่อยู่บนขอบความตาย แม้ว่า Rose จะไม่เคยทำให้ใครได้รับบาดเจ็บ ไม่อันตรายและไม่ก้าวร้าว แต่มันจะต้องถูกการุณยฆาต เพียงเพราะว่ามันหยาบคายและอุบาทว์ สถานการณ์ของมันไม่ค่อยดีนัก แต่โชคดีที่ยังมีคนต่อสู้เพื่อมัน     เรื่องราวของ Rose เริ่มขึ้นในปี 2013 เมื่อมันถูกรับเลี้ยงโดย Glorianne Lagnese ผ่านการช่วยเหลือจากเพื่อนที่เป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Rose ไม่ค่อยได้รับการฝึก เพราะมันเป็นลูกหมาสีดำ (หมาดำมีโอกาสน้อยมากที่จะหาบ้านหรือถูกรับเลี้ยง) นั่นทำให้กลุ่มเพื่อนของ Glorianne กลัวว่ามันจะถูกการุณยฆาต อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มเพื่อนพา Rose ออกมาจากศูนย์พักพิงได้ พวกเขารู้สึกว่าไม่มีเวลามากพอที่จะให้ความสนใจกับมัน เพราะพวกเขามีลูกหมาอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องดูแล     นั่นเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มดังกล่าวคิดว่า Rose เหมาะที่จะไปอยู่กับ Glorianne เพื่อให้เธอช่วยปรับนิสัยให้มัน เพราะเธอเป็นคนที่สามารถดูแลสุนัขได้ดีอยู่แล้ว แม้ว่าตอนนั้น Glorianne มีสุนัขที่บ้านอยู่แล้วหลายตัว แต่เธอก็รับ Rose มาดูแล เพียงไม่กี่คืนต่อมา เจ้าหมาก็สามารถปรับตัวกับเพื่อนใหม่และบ้านใหม่ได้ดี Glorianne  บอกว่า “เนื่องจากเจ้าหมาดำผ่านการฝึกมาน้อยมาก ดังนั้น แม้มันจะปรับตัวได้ดีแต่มันยังคงขี้อายและหวาดกลัวอยู่”   …

สัตว์เลี้ยงเป็นตัวสร้างสีสันให้กับชีวิตได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แค่คุณมีสัตว์เลี้ยงสักตัว ชีวิตของคุณก็จะไม่น่าเบื่อแล้ว เพราะพวกมันมักจะหาอะไรมาให้คุณรู้สึกแปลกใจได้ไม่เว้นวัน รับรองเลยว่าความป่วนของพวกมันจะสร้างรอยยิ้มให้กับคุณ จนคุณตั้งตารอดูความป่วนครั้งต่อไปของพวกมันทุกวันเลยล่ะ ถ้าอยากรู้ว่าความป่วนที่เราพูดถึงเป็นแบบไหน ลองไปดูวีรกรรมที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจากทั่วโลกเก็บมาฝากกัน   เจ้าหมารู้แค่ว่ามันมีหน้าที่ออกไปเดินเล่น ส่วนเรื่องเดินกลับบ้านมันไม่สนใจหรอก   พอมีสัตว์เลี้ยงแล้ว รูปของคุณจะไม่เหมือนใครอีกเลย   เมื่อลูกสาวคิดว่าสัตว์เลี้ยง ไม่ควรหยุดสวย   ท่ากินน้ำก็แปลก แถมน้ำก็ยังไม่เข้าปากอีกต่างหาก ปั๊ดโถ้ว   เอ่อ…ถ้าง่วงขนาดนั้นไม่ต้องตื่นมาส่งเข้าห้องน้ำก็ได้นะ   เป็นนกฮูกประสาอะไรกลัวนกฮูกปลอมด้วย   หมาพิตบูลล์ของผมชอบคิดว่าตัวเองตัวใหญ่ที่สุดในสวนสำหรับหมา   ฉันไม่อยากให้กางเกงเปียกตอนอาบน้ำให้แมว เลยถอดทิ้งไว้ แต่พอมันอาบน้ำเสร็จกางเกงฉันก็เปียกอยู่ดี   อ๋อ หมาของผมโตมากับแมวน่ะ   เจ้าแมวไม่ยอมหยุดร้องสักที จนกว่าฉันจะวางแก้วชาอุ่นๆ ไว้ใกล้มัน   นอกจากจะมีสัตว์เลี้ยงเพิ่มแล้ว บ้านเรายังมีนักดนตรีเพิ่มด้วย   รู้ว่ารัก แต่อ่างมันแคบลงได้ทีละคนว้อยยย     ถ้าเมื่อไหร่บนโต๊ะอาหารมีกุ้งอยู่ ฉันต้องเฝ้าเจ้าแมวไว้เสมอ ไม่งั้นมันจะขโมยของแขกกิน   ไม่ว่าที่ไหน ไม่ว่าเมื่อไหร่ ถ้าผมจะกินอาหารเจ้าหมาก็จะโผล่มาเสมอ   ฉันว่าเจ้าแมวเริ่มอ้วนแล้วนะ……

หมาทุกตัวล้วนต้องการความรัก ไม่ว่ามันจะขี้กลัวขนาดไหน ลึกๆ แล้วมันก็ยังอยากมีคนที่เข้าใจเข้ามาเติมเต็มให้มัน พอมีคนหันมารักมันบ้างหลังไม่ได้รับความรักมานาน เจ้าหมาก็เลยกอดมนุษย์ไว้แน่นด้วยความอุ่นใจ น้องหมา Harper เป็นหนึ่งในหมาจรจัดกว่า 100 ตัวที่อยู่ในชุมชนเรดแลนส์ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนชอบเอาหมาไปทิ้งรวมกันไว้     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Furever Bully Love Rescue ซึ่งช่วยเหลือมันเป็นคนดูแลหมาพวกนี้อยู่ ถึงพวกเขาจะไม่สามารถรับทุกตัวไปได้ แต่ก็ยังกลับมาให้อาหารพวกมันเป็นประจำ แล้วพวกเขาก็เจอ Harper ตอนมาให้อาหารพวกหมา เจ้าหมาออกมากินอาหารร่วมกับครอบครัวหมาสีดำที่อยู่ที่นั่นอยู่แล้ว ด้วยความที่มันเป็นหมาหน้าใหม่และสีไม่เหมือนพวก อาสาสมัครจึงสังเกตเห็นมันได้ชัดเจน     สงสัยพวกหมาสีดำรับมันเข้าฝูงด้วย   พวกเขาเห็นว่า Harper มีบาดแผลเต็มตัวไปหมด ถ้าไม่ได้ถูกหมาแถวนี้ข่มขู่ มันก็อาจจะถูกมนุษย์ทำร้ายมาก่อนจะมาปล่อยทิ้งไว้ ตอนที่อาสาสมัครพยายามจะเข้าไปดูแผลของมัน เจ้าหมาหมอบลงต่ำกับพื้นด้วยความกลัวทันที ทุกคนต่างก็สงสารมันมาก จึงตัดสินใจว่าต้องพามันกลับไปรักษาและหาบ้านให้     มันน่าสงสารมาก อาสาสมัครเลยพาตัวมันกลับมาด้วย   เจ้าหมาถูกพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อรักษาบาดแผลและโรคที่มันมีอยู่ ถึงมันจะมีแผลหลายแห่งตามตัว แต่ไม่นานก็รักษาให้หายได้ สิ่งที่รักษายากกว่าคือสภาพจิตใจของมันต่างหาก ดูเหมือนว่ามันจะกลัวมนุษย์ไปแล้ว คงต้องให้เวลากับมันสักหน่อยกว่ามันจะไว้ใจมนุษย์อีก     ยังกลัวมนุษย์อยู่…

ลูกแมวน้อยเป็นอัมพาตช่วงล่าง มันจึงไม่สามารถใช้ขาหลังเดินได้ แล้วก็ไม่รู้สึกอะไรที่ขาเลยด้วย มนุษย์ที่ดูแลมันไม่อยากเห็นมันใช้ชีวิตแบบนั้นต่อไป พวกเขาจึงช่วยมันเท่าที่จะทำได้ แมวน้อย Oats ถูกรับเข้ามาอยู่ในกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Humane Rescue Alliance หลังจากที่มีคนไปเจอมันได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่ตอนที่มาถึงที่นั่นขาของมันไร้ความรู้สึกไปแล้ว     Ellen Carozza สัตวแพทย์ที่รักษามันเล่าว่า “กระดูกสันหลังของมันเสียหาย เพราะถูกประตูหนักๆ ทับใส่ จากนั้นมันก็ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด แล้วก็นั่งหรือยืนไม่ได้ด้วย” ครอบครัวที่รับมันไปดูแลต้องหมั่นทำความสะอาดให้มันบ่อยๆ เพราะพอมันไม่มีความรู้สึกแล้ว มันก็ขับถ่ายเลอะเทอะโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน     จะนั่งจะยืนก็ทำได้ไม่ดี เพราะขยับขาเองไม่ได้   อย่างไรก็ตาม Oats ก็ไม่เคยทำท่าทางต่อต้านคนดูแลเลย มันทำตัวเป็นเด็กดีและให้ความร่วมมือกับพวกเขาทุกอย่าง พวกเขาจึงอยากลองช่วยรักษามันดู พวกเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะหายไหม แต่ถ้าอย่างน้อยขามันดีขึ้นบ้าง ก็น่าจะทำให้มันใช้ชีวิตได้สะดวกโดยไม่ต้องพึ่งคนอื่น     โดยวิธีการรักษาที่พวกเขาทำให้มัน ก็คือการฝังเข็มแล้วกระตุ้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาทด้วยกระแสไฟฟ้า ครั้งแรกที่ไปทำมันก็ยังไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่พอพวกเขาทำการรักษาให้มันอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเท้าของมันก็เริ่มขยับได้ และกลับมามีความรู้สึกอีกครั้งหนึ่ง จะเห็นได้ว่าตอนที่คุณหมอจับเท้าของมัน มันยังดิ้นตอบรับอยู่เลย     เท้ามีความรู้สึกแล้ว    หลังจากที่ความรู้สึกของมันกลับมา อาการของเจ้า Oats ก็ดีมากขึ้นเรื่อยๆ…

เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่าสัตว์เลี้ยงที่บ้านมันจะฉลาดได้สักแค่ไหนเชียว… Gnostic28 จากเว็บไซต์ Reddit ก็สงสัยเรื่องนี้เช่นกัน เขาจึงลองโพสต์ถามเพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ดูว่าสัตว์เลี้ยงเคยทำอะไรฉลาดๆ ให้คุณได้เห็นบ้าง และพอเขาได้เห็นคำตอบของแต่ละคน ก็ต้องยอมรับเลยว่าพวกมันฉลาดเกินกว่าที่เราคิดเยอะ   1. เจ้าหมานักจับผิด putin_my_ass เล่าว่า “แมวของเราชอบโดดขึ้นไปบนเคาน์เตอร์ และหมาของเราก็อยากหาอะไรทำ มันเลยสังเกตจนรู้ว่าเราด่าเจ้าแมวและจับมันลงทุกครั้งที่มันทำแบบนั้น ทุกวันนี้เจ้าหมาจะจับตาดูตั้งแต่ตอนเจ้าแมวเตรียมตัวกระโดดไปบนเคาน์เตอร์เลยล่ะ แล้วก็จะห้ามมันไม่ให้ปีนขึ้นไปได้ และถ้าเจ้าแมวปีนขึ้นไปข้างบนแล้ว มันก็จะมาตามเราให้ไปจับเจ้าแมวลงมา” 2. หมาเจ้าเล่ห์ darkblue-eyes เล่าว่า “หมาของผมบางครั้งก็วิ่งไล่เจ้าแมว พอผมจับได้มันก็จะแกล้งทำเป็นเจ็บเท้า จะได้ไม่โดนด่า ผมตกใจมากเลยตอนที่เห็นมันทำท่าเจ็บ แล้วพอมันเห็นผมเป็นห่วง มันก็จะทำท่าทางดีใจ แล้วยกขาอีกข้างขึ้นมาให้ดูเหมือนว่ามันเจ็บข้างนั้นด้วย ผมรู้ว่ามันแกล้งก็ตอนที่เห็นมันเอาขาที่เจ็บอยู่ข้างแรกรับน้ำหนักตัวแทน” 3. แมวแผนสูง   SuzQP เล่าว่า “แมวของฉันแกะถุงอาหารเองไม่ได้ มันก็เลยผลักถุงอาหารให้ตกลงไปบนพื้น รอให้เจ้าหมามาฉีกถุงให้ แล้วมันก็ค่อยลงไปกินอย่างสบายใจ” 4. แมวเหมียวหัวไว   pro_ajumma เล่าว่า “แมวของเราชอบเปิดตู้ชั้นวางในห้องครัว เพื่อเข้าไปนั่งในกระทะ สามีของฉันเลยซื้อล็อกกันทารกเปิดมาติด แต่ตอนที่สามีของฉันติดตั้งล็อกแล้วทดลองใช้มันอยู่ เจ้าแมวก็มองอยู่ด้วย จากนั้นมันก็สามารถเปิดล็อกอันใหม่ได้ภายในครั้งแรกเลย” 5. หนูขี้อ้อน   caffieneandsarcasm เล่าว่า “หนูที่เราเลี้ยงไว้ตัวหนึ่งชื่อว่า Ramona มันฉลาดมาก…

หมาจรจัดตัวหนึ่งเป็นเรื้อนจนดูน่าเกลียด มันดูสกปรกและไม่น่าเข้าใกล้ แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าพอมีคนดูแลแล้ว มันเปลี่ยนไปราวกับเป็นหมาคนละตัวเลย หมาขี้เรื้อนตัวนี้มีคนเจออยู่ในรัฐเท็กซัส โดยคนที่เห็นมันเป็นคนแรกก็คือคู่รักซึ่งอาศัยอยู่ในเขตเดียวกับมัน แค่ได้เห็นสภาพของมันพวกเขาก็สงสารจนอยากช่วยแล้ว     ทว่าเจ้าหมาก็ไม่ยอมเข้าใกล้คน มันหนีคู่รักอยู่หลายครั้งทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสได้ช่วยมันสักที แล้วถึงพวกเขาจะตามหามันก็ไม่เจอตัวมันเลยด้วย กว่าพวกเขาจะจับตัวมันได้เวลาก็ผ่านไปร่วมเดือนแล้ว ผิวหนังของมันเป็นเรื้อนหนักกว่าที่เจอตอนแรกซะอีก พวกเขาไม่รู้จะช่วยมันยังไงจึงติดต่อให้ Leslie Ysuhuaylas ซึ่งเป็นอาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์มารับตัวมันไป     Ysuhuaylas เล่าถึงอาการของเจ้าหมาว่า “มันเป็นเรื้อนขั้นร้ายแรง จนตอนนี้มันไม่มีขนขึ้นแล้ว คุณไม่มีทางรู้เลยว่ามันเป็นหมาพันธุ์อะไร ที่เราพอจะรู้ก็แค่ว่ามันไม่มีคนใส่ใจดูแลเลยถึงได้เป็นแบบนี้” พวกเขาตั้งชื่อเจ้าหมาว่า Ana ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์พยายามช่วยเหลือมันให้ดีที่สุด แต่หลังเห็นสภาพของมันแล้ว ก็ไม่มีใครมั่นใจว่ามันจะมีชีวิตรอดได้นานไหม บางคนก็ถอดใจไปแล้วเพราะคิดว่ามันคงไม่รอด     เป็นเรื้อนรุนแรงจนทุกคนคิดว่ามันไม่รอดแล้ว   Stacey Silverstein ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์บอกว่า “พวกเราเจอกรณีหนักๆ มาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ฉันคิดจริงๆ ว่ามันคงจะตาย ฉันมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์เชียวล่ะ เพราะโรคเรื้อนของมันรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย” อย่างไรก็ตามพวกเขาและเจ้าหมาก็ร่วมกันสู้กับอาการเรื้อนของมัน และ Ana ก็มีอาการดีขึ้นรวดเร็วจนคนที่ดูแลมันยังแทบไม่อยากเชื่อ ไม่นานนักขนสีทองของมันก็กลับมาขึ้นให้เห็นกันแล้ว   ตอนแรกเรื้อนชนิดที่ว่าขนโล้น   พอมีคนช่วยแล้วหล่อขึ้นผิดหูผิดตา   หลังจากที่ขนมันขึ้นอาสาสมัครจึงได้รู้ว่ามันเป็นสุนัขสายพันธุ์ลาบราดอร์ และนอกจากขนจะกลับมาขึ้นสวยแล้ว…

สุนัขเป็นสัตว์ที่น่าชื่นชมมาก นอกจากมันจะซื่อสัตย์และรักมนุษย์ที่เป็นเจ้าของแล้ว บางครั้งมันก็ยังแสดงให้เราเห็นว่ามันห่วงเพื่อนหมามากกว่าตัวมันเองด้วย กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Dallas DogRRR เคยพยายามจับสุนัขสีดำตัวหนึ่งที่ภายหลังถูกตั้งชื่อว่า Hero มันถูกเจ้าของเก่าทิ้งไว้ในสวน แล้วมันใช้ชีวิตในนั้นโดยไม่ยอมให้ใครจับมันได้เลย แล้วมันก็ไม่หลงมาติดกรงของอาสาสมัครด้วย     พวกเขาพยายามจับมันมาดูแลอยู่นาน จนอยู่มาคืนหนึ่งจู่ๆ เจ้า Hero ก็เดินมาหาอาสาสมัครที่รอจับมัน มันไม่ได้เดินเข้ามาจนพวกเขาจับตัวได้ แต่มันก็ทิ้งระยะเล็กน้อยและเห่ามาทางพวกเขา John Miller ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ที่อยู่กับอาสาสมัครในวันนั้นเล่าว่า “ผมบอกเธอว่ามันพยายามให้เราตามมันไปอยู่ ทุกครั้งที่เราเข้าใกล้มัน มันจะถอยห่างไปอีกหน่อยแล้วเห่าตามมา เหมือนกับบอกว่า ‘ตามมาทางนี้สิ’” หลังจากที่พวกเขาตามมันไปจนถึงที่ที่มันต้องการ พวกเขาก็จับตัวมันไม่ได้อยู่ดี แต่เจ้า Hero พาพวกเขาไปเจอกับครอบครัวของแม่หมาและลูกที่เกิดใหม่ 10 กว่าตัวแทน พวกเขาจึงพาพวกมันไปดูแลที่ศูนย์พักพิงสัตว์ของตัวเองได้     Marina Tarashevska ซึ่งเป็นอาสาสมัครที่ช่วยมันเล่าว่า “พวกมันหลบอยู่ในซอกของต้นไม้แห้งๆ ข้างบ่อโคลน โดยมีแค่แม่หมากับลูกหมาเท่านั้น มันมืดมากถ้าเราตามหาพวกมันเองคงยากที่จะเจอ” ด้วยการนำทางของ Hero แม่หมาและลูกหมาที่อ่อนแอจึงได้มาอยู่กับมนุษย์อย่างปลอดภัย และนี่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าหมาถูกตั้งชื่อว่า Hero ด้วย     ที่น่ายินดีกว่าการที่พวกเขาช่วยแม่หมาและลูกหมาไว้ได้ก็คือ พอพวกเขาดูแลลูกหมาทั้งหมดจนมันโตมากพอ พวกมันทั้งครอบครัวก็มีคนรับไปอยู่บ้านทุกตัวเลย ตอนนี้จึงไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีคนดูแลพวกมันแล้ว หลังจากนั้นไม่นานอาสาสมัครก็จับตัว Hero กลับมาได้…

แมวมีส่วนที่น่ารักอยู่หลายส่วน (หรืออาจจะทุกส่วน) แต่ถ้าเพื่อนๆ รู้จักเจ้าแมว Puss in Boots จะเห็นได้ชัดเลยว่าความน่ารักที่สุดของมันคือตอนที่มันทำตาโตใสแป๋วเพื่อสะกดใจมนุษย์     บางคนที่ได้เห็นอาจจะคิดว่ามันทำตาโตน่ารักได้ขนาดนี้ เป็นเพราะว่ามันเป็นตัวการ์ตูน แต่จริงๆ แล้วในชีวิตจริงของเราเจ้าเหมียวก็ทำตาโตน่ารักแบบนี้ได้เหมือนกันนะ เพียงแต่พวกมันไม่ค่อยทำตาโตแบบนี้ใส่เราเท่านั้นเอง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันทำตาโต รับรองได้เลยว่าคุณจะหลงใหลพวกมันยิ่งกว่าโดนสะกดจิตซะอีก     มนุษย์จงมองตาข้า   แล้วให้สิ่งที่ข้าต้องการมาซะ   ที่นอนแบบนี้มันธรรมดาไปนะทาส อยากได้เตียงใหม่นุ่มๆ จัง   หิวแล้ว ทาสช่วยเทข้าวเพิ่มให้หน่อยนะ…นะๆๆๆๆๆ   วันนี้อยากกินปลาทู ทาสออกไปซื้อได้ไหม?   ลองได้มองตามันตรงๆ ยังไงก็รัก   ตาเก๊ากับเจ้าหมาของใครน่ารักกว่ากัน?   มนุษย์มาเล่นกับเราเดี๋ยวนี้!!   ชุดนี้ถูกใจเราจังเลย จะเอาชุดใหม่เพิ่มอีก   ช่วงนี้ทาสงานยุ่งจัง ลางานมาอยู่กับเราบ้างนะ   ตื่นเถอะมนุษย์ เราหิวข้าวแล้ว   อยากอยู่ในนี้ต่อ อย่าเพิ่งเอาเราออกไปเลย   เก๊าไม่ได้ทำของพังนะ ไม่เชื่อมองตาใสซื่อบริสุทธิ์นี่ดูสิ   อู้วหูว…

บางคนอาจชอบแมวมากกว่าหมา บางคนอาจชอบหมามากกว่าแมว หรือบางคนอาจชอบนก (หมายถึงสัตว์ปีกอ่ะนะ) แต่ #เหมียวตะปู อ่ะชอบ “บูลล์ด็อก” ม๊ากกกกกกก (มันก็คือหมานี่หว่า….) คือจริงๆ เราก็ชอบทั้งหมาและแมวน่ะแหละ แต่ถ้าเป็นสุนัขแล้ว นอกจาก “ปั๊ก” เราก็ให้ “บูลล์ด็อก” นี่แหละที่เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ในดวงใจ เคยคิดไว้ว่าถ้าแต่งงานมีลูกเมื่อไหร่ก็จะตั้งชื่อลูกว่าน้อง “บูลล์ด็อก” ไปเลย (ดีป่าวหว่า??) และความน่ารักที่ทำให้ #เหมียวตะปู ต้องตกหลุมรักนั้น เพื่อนๆ ก็คงต้องใช้โอกาสนี้ไปสัมผัสจากภาพด้านล่างกันเอาเองแล้วล่ะ   ราวกับพี่น้องฝาแฝดคลานตามกันมา   เนียนเลยนะเรา   อยากขึ้นไปง่ะ พาเก๊าขึ้นไปหน่อยจิ   งอนแล้วนะ มาง้อเดี๋ยวนี้เลย   เจ้าตัวเล๊กกกกก   ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจเบิกบาน ชะเอิงเอย   ไม่เป็นไรเพื่อน เดี๋ยวเรื่องร้ายๆ มันก็จะผ่านไป   ยิ้มกระชากใจสาว   หน่มน้มแม่ยานหมดแล้วนะลูกๆ จ๋าาาา   วันนี้รู้สึกเซ็งๆ ยังไงก็ไม่รู้…

ปกติถ้าหากเราให้เจ้าหมาใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ มันจะยังไม่ชินในทันที แล้วก็พยายามถอดชุดออกเนื่องจากรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว คนเป็นเจ้าของเห็นแบบนั้นก็คงไม่อยากบังคับมันใส่หรอก แต่ถ้าหากเสื้อผ้าที่เราเอาให้มันไม่ได้เอาไว้ใส่สวยๆ เท่านั้น แต่มันจำเป็นสำหรับเจ้าหมา เราก็คงต้องช่วยให้มันรู้สึกเคยชินกับชุดใหม่ได้ไวๆ เหมือนกับที่นายตำรวจทำให้กับหมาตำรวจจากประเทศสหรัฐอเมริกาตัวนี้ คลิปวิดีโอนี้เป็นคลิปจากทวิตเตอร์ของตำรวจในเมืองเรพิดซิตี้ รัฐเซาท์ดาโกต้า โดยเป็นคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ตอนพวกเขามอบรองเท้าคู่ใหม่ให้กับเจ้าหมาตำรวจ     ที่จำเป็นต้องหารองเท้ามาใส่ให้มัน ก็เป็นเพราะอากาศในเมืองเริ่มหนาวมากจนหิมะตกแล้ว ถ้าเจ้าหมาไม่ใส่รองเท้าก็จะรู้สึกเย็นเท้าจนออกไปข้างนอกไม่ได้ ส่งผลให้ทำหน้าที่สุนัขตำรวจไม่ได้นั่นเอง แต่แน่นอนว่าเจ้าหมาตำรวจที่เพิ่งเคยใส่รองเท้า ย่อมไม่ชินกับวัตถุแปลกปลอมที่มันเพิ่งได้รับอยู่แล้ว มันก็เลยพยายามถอดออกใหญ่เลย พอเห็นว่าถอดออกไม่ได้ก็ยืนนิ่งไปเหมือนกับเครื่องเออเร่อเลยด้วย   ใส่ไม่สบายตัวเลยอะ เอาออกได้ไหม?   พอถอดรองเท้าไม่ออก ก็มาค้างอยู่ท่านี้ เพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อดี   พอเป็นแบบนี้คู่หูของมันก็ไม่ได้ใจร้ายปล่อยให้เจ้าหมาหาทางออกอยู่ตัวเดียวหรอกนะ เขาออกตัวมาวิ่งเล่นกับมัน แล้วก็เอาของเล่นชิ้นโปรดมาเล่นโยนของกับมันด้วย มันจะได้ทำความคุ้นชินได้ไวๆ ความน่ารักของเจ้าหมาที่ได้รองเท้าใหม่ กับความน่าอุ่นใจและเป็นห่วงที่นายตำรวจมีให้กับเจ้าหมา จึงทำให้คนที่ได้ดูคลิปนี้ยิ้มออกมาได้ทันที   มาวิ่งเล่นกันเถอะ นายจะได้ชินไวๆ นะ   แม้ว่าตอนจบคลิปวิดีโอ เจ้าหมาก็ยังไม่ชินกับรองเท้าอยู่ดี แต่ถ้ามีคู่หูมาคอยช่วยเป็นกำลังใจให้แบบนี้ อีกไม่กี่วันเจ้าหมาก็คงจะวิ่งในรองเท้าคู่ใหม่ได้คล่องตัวแล้ว อดทนหน่อยนะเจ้าหมา เพราะถ้าไม่มีรองเท้าแกจะออกไปวิ่งข้างนอกไม่ได้ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้แกทำหน้าที่สุนัขตำรวจได้อย่างเต็มที่ ไม่มีหวั่นแม้วันหิมะตกมากยังไงล่ะ   ดูคลิปวิดีโอตัวเต็มทางนี้ When it's cold…