Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
ปฏิกิริยาของภรรยาหูหนวก ได้ยินเสียงของ “สามี” เป็นครั้งแรก หลังเธอได้รับการผ่าตัด
สำหรับคนที่บกพร่องทางการได้ยินนั้น คงไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาปรารถนาไปกว่าการกลับมาได้ยิน “เสียง” อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งต้องขอบคุณความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน ที่หลายๆ เคส พวกเขาสามารถรักษาผู้ที่บกพร่องทางการได้ยินเหล่านี้ให้กลับมาได้ยินเสียงอีกครั้ง อย่างเช่นเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ เธอมีชื่อว่า Cora Lutes จากเมืองนอร์ฟอร์ก รัฐเวอร์จิเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเริ่มสูญเสียการได้ยินเสียงไปตั้งแต่อายุ 2 ปี ช่วงแรกเธอยังพอได้ยินเสียงอยู่บ้าง แต่พอนานวันเข้า อาการของเธอก็แย่ลงเรื่อยๆ จนในที่สุด เธอก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกต่อไป หมอบอกว่ามีทางเดียวที่จะรักษาอาการป่วยนี้ของเธอได้นั่นก็คือการผ่าตัด ด้วยเหตุนี้ James Lutes สามีของเธอจึงพาเธอเข้ารับการผ่าตัดประสาทหูเทียมในทันที “ตอนที่เราพบกันครั้งแรก เธอยังพอได้ยินเสียงอยู่บ้าง แต่หลังจากที่ผมสมัครเข้ากองทัพเรือ อาการของเธอก็แย่ลงเรื่อยๆ จนในที่สุดเธอก็สูญเสียการได้ยินโดยสมบูรณ์ หมอบอกว่าทางเดียวที่จะรักษาเธอได้คือการผ่าตัดปลูกประสาทหูเทียมลงไป” James กล่าว ต่อมาเธอได้เข้ารับการผ่าตัดปลูกประสาทหูเทียม ซึ่งหลังจากการพักฟื้น เธอก็ได้มานั่งทดสอบประสาทการได้ยินเสียง ว่าจะกลับมาได้ยินอีกครั้งหรือไม่… และนั่นคือครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงสามีของเธอ ลองชมคลิปดูสิ แล้วคุณจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน… ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เธอมีความสุขกับการได้ยินครั้งนี้ขนาดไหน น่ารักมากเลยเนอะ หวังว่าทั้งสองจะรักกันไปนานๆ นะฮะ ที่มา…
-
นักธุรกิจอเมริกัน เตะพนักงานสาวมุสลิม และตะโกน “ทรัมป์จะจัดการพวกแกทั้งหมด” อาจโดนคุก 4 ปี
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2017 ที่ผ่านมา อัยการรัฐบาลกลางแห่งควีนส์ เปิดเผยว่า โรบิน โรดส์ นักธุรกิจวัย 57 ปี ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ราบีย่า ข่าน พนักงานสาวมุสลิมของสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ ที่สนามบินเจเอฟเค พร้อมตะโกนว่า “ทรัมป์จะจัดการพวกแกทั้งหมด” โดยเหตุเกิดขึ้นที่อาหารผู้โดยสาร 2 เมื่อนายโรบินเดินทางกลับมาจากเกาะอารุบา และได้พักเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเจเอฟเค ในนิวยอร์ค เพื่อจะเดินทางต่อไปยังรัฐแมสซาชูเซตส์ ระหว่างที่รอเปลี่ยนเครื่องนั้น เขาก็ได้ไปรอที่ห้องรับรองของสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ เมื่อเขาเข้าไปถึง เขาก็พบข่านกำลังนั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์พนักงานสวมผ้าคลุมฮิญาบแบบมุสลิมอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปเตะขาของเธอ พร้อมถามว่า “แกกำลังหลับเหรอ? หรือกำลังสวดภาวนา? ทำอะไรห๊ะ?” ด้วยความตกใจ ข่านจึงถามกลับไปว่า เธอไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่า โรบินตอบกลับมาว่า “แกไม่ได้ทำอะไร แต่ข้าจะเตะแก” จนพนักงานคนอื่นๆ พยายามเข้ามาห้ามนายโรบิน ข่านจึงอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีออกมา ซึ่งนายโรบินก็วิ่งตามมา พร้อมทำท่าล้อเลียนการละหมาดของชาวมุสลิมและตะโกนว่า “ทรัมป์จะจัดการพวกแกทั้งหมด แกลองถามชาวเยอรมัน เบลเยี่ยม ฝรั่งเศสดูได้ ว่าพวกเขาต้องเจอะไรบ้าง!” ภายหลังทางอัยการเปิดเผยว่าราบีย่า…
-
“โสเภณีสูงวัย” เปิดใจสาวขายบริการอายุ 78 ปี สะท้อนปัญหาความยากจนของคนชราใน “เกาหลีใต้”
กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเจริญมากที่สุดเมืองหนึ่งในทวีปเอเชีย ตึกสูงระฟ้ามากมายและระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย แต่ใครจะรู้กันเล่า ว่าที่ใจกลางเมืองหลวงแห่งนี้ กลับมีเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจซ่อนอยู่ ในวัย 78 ปี มาดามปาร์ค (ชื่อสมมุติ) ควรอยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่นและรายล้อมไปด้วยลูกหลานผู้แสนน่ารัก แต่ในความเป็นจริงเธอกลับต้องมายืนอยู่ข้างถนนในกรุงโซล เพื่อหาเงินมาเลี้ยงตนเอง ด้วยอาชีพ “ขายบริการทางเพศ” “เพื่อความอยู่รอด ฉันต้องยอมหลับตาข้างหนึ่งและอดทนทำต่อไป ถ้าวันไหนโชคดีหน่อย ก็จะได้ลูกค้าประมาณ 3-4 คน รวมๆ รายได้ก็ประมาณ 100,000 วอน (3,000 บาท)” มาดามปาร์คกล่าว ทุกๆ เดือน เธอต้องหาเงินประมาณ 8,700 บาท เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคปวดตามข้อของเธอ ซึ่งตอนนี้อาการค่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ จนเธอแทบไม่สามารถเดินได้แล้ว เธอเล่าว่าเธอแต่งงานตั้งแต่อายุ 19 ปีกับชายคนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี เขาก็ทิ้งเธอไปให้เลี้ยงดูลูกตามลำพัง เธอต้องทำงานอย่างหนักเป็นผู้ช่วยกุ๊กในร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่รายได้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะส่งลูกๆ เรียนหนังสือ ด้ วยเหตุนั้นเอง ทุกวันนี้ลูกๆ ของเธอจึงไม่สามารถหางานดีๆ เพื่อเลี้ยงดูเธอได้…
-
หนูน้อยวัย 4 ขวบ โชว์ร้องเพลง “Toy Story” กับคุณพ่ออย่างน่ารัก เอาซะเราใจละลาย…
เมื่อต้นปีที่แล้ว สื่อต่างประเทศหลายสำนักได้เผยแพร่คลิปวีดีโอสุดน่ารักของ Claire Ryann เด็กหญิงชาวอเมริกันวัยเพียง 3 ขวบ ในคลิปนั้น เธอออกมาโชว์ร้องเพลง “Part of your World” จากการ์ตูนดิสนีย์เรื่อง “The Little Mermaid” ได้อย่างไพเราะ และน่ารักสุดๆ จนทำให้มีผู้คนเข้ามารับชมคลิปของหนูน้อยมากกว่า 12 ล้านวิว ลองไปชมความน่ารักของหนูน้อยกัน และล่าสุดทางเว็บไซต์ Distractify ก็ได้ออกมาเผยแพร่คลิปวีดีโอของเด็กหญิง Claire กันอีกครั้ง แถมยังกลับมาพร้อมกับการโชว์ร้องเพลงสุดคลาสสิคอย่าง “You’ve Got A Friend In Me” จากการ์ตูนเรื่อง “Toy Story” ที่ร้องโดย Randy Newman กับคู่กับคุณพ่อของเธอ เรียกได้ว่าหลังจากที่คลิปวีดีโอความน่ารักของพ่อลูกคู่นี้ ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ก็ทำให้ชาวเน็ตเข้ามารับชมกันอย่างมากมาย ซึ่งในตอนนี้ก็มียอดวิวสูงถึง 6.7 ล้านวิวแล้วจ้า มาดูคลิปกันเลย…
-
iCigarette!? เมื่อมีข่าวว่า Apple อาจผลิต “บุหรี่ไฟฟ้าอัจฉริยะ” หวังตีตลาดในอนาคต
นอกจากการทำโทรศัพท์มือถืออย่าง iPhone หรือกระทั่งคอมพิวเตอร์อย่างเครื่อง Macbook แล้ว เราจะสังเกตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Apple พยายามเปลี่ยนโลกด้วยเทคโนโลยีต่างๆ แข่งกับหลายบริษัทอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นทีวี (Apple TV) หรือระบบเก็บข้อมูลบนกลุ่มเมฆ (iCloud) หรือกระทั่งรถยนต์อัจฉริยะตามที่มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง และมันคงจะไม่แปลกอะไร ถ้าวันหนึ่งพวกเขาจะผลิตบุหรี่ไฟฟ้าอัจฉริยะขึ้นมา (iVaporizer)!?!? Apple กับสิทธิบัตรชิ้นใหม่!? ล่าสุดมีชาวเน็ตบังเอิญพบว่า บริษัท Apple ได้จดสิทธิบัตร “เครื่องให้กำเนิดไอน้ำอัจฉริยะ” กับสำนักงานสิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกา (U.S. Patent and Trademark Office ) เป็นที่เรียบร้อย มาทำความรู้จักกับมันสักนิด รายละเอียดของเจ้าเครื่องนี้สามารถสร้างไอน้ำด้วยอัตราที่คงที่และสูญเสียพลังงานน้อยกว่าปกติ แต่ในสิทธิบัตรไม่ได้บอกว่าทาง Apple จะใส่สารอะไรเข้าไปในเครื่องให้กำเนิดไอน้ำนี้ เมื่อได้เห็นข้อมูลเบื้องต้น ทำให้หลายคนคาดการณ์ว่า มันอาจจะเป็นบุหรี่ไฟฟ้าหรือกัญชาสกัดก็เป็นได้ เพราะปัจจุบันธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้ากำลังมาแรงเป็นอย่างมาก ขณะที่ธุรกิจกัญชาในสหรัฐอเมริกาก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย หลังเปิดเสรีกัญชาในหลายๆ รัฐเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บุหรี่ไฟฟ้าได้กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มาแรงในยุคนี้ โดยในปี 2015 มีมูลค่าโดยรวมถึง 6,000 ล้านดอลลาร์…
-
อุทาหรณ์สอนใจ… หนุ่มขับรถพร้อม “ดูหนังโป๊ & สไลด์หนอน” จนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
อุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แถมในปัจจุบันก็เกิดขึ้นได้ง่ายและบ่อยมากๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะด้วยความประมาทของเรา พื้นถนน สภาพอากาศ หรือคู่กรณีที่มาชนเราก็ตามซึ่งใครๆ ก็คงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นแน่นอน แต่ว่าเรื่องที่จะมาพูดถึงกันในวันนี้เป็นข่าวอุบัติเหตุที่ #เหมียวมู่ทู่ บังเอิญไปเจอมาพอดี แน่นอนว่ามันไม่ใช่ข่าวอุบัติเหตุทั่วๆ ไปที่เกิดขึ้นได้บ่อยแน่นอน เรื่องมันมีอยู่ว่านาย Clifford Ray Jones วัย 58 จากเมืองมิชิแกน ได้เกิดอุบติเหตุรถพลิกคว่ำในตอนรุ่งเช้าวันอาทิตย์ หลังจากที่ตำรวจได้รับทราบข่าวก็รีบไปยังที่เกิดเหตุทันที และเมื่อตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ตำรวจถึงกับต้องกุมขมับเลยทีเดียวเพราะจากหลักฐานหลายๆ อย่างตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุการตายเขามาจากการดูหนังโป๊และช่วยตัวเอง!? จากหลักฐานในที่เกิดเหตุพบว่านาย Clifford ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยแต่อย่างใด ทำให้เมื่อรถพลิกคว่ำตัวเขากระเด็นออกมาจากรถนั่นเอง แต่ที่สำคัญศพของเขาไม่ได้สวมกางเกงอยู่ด้วยพร้อมมือถือที่มีหลักฐานวิดีโอโป๊ ตำรวจจึงสันนิษฐานสาเหตุการตายของเขาน่าจะมาจากการที่เขากำลังดูหนังโป๊ในมือถือขณะขับรถ พร้อมกับช่วยตัวเองไปด้วย จากการสัมภาษณ์ของสำนักข่าว ดีทรอยต์ ที่ได้สัมภาษณ์ Mike Shaw ร้อยโทของกรมตำรวจเมืองมิชิแกน ที่พูดถึงสาเหตุการตายส่วนมากบนท้องถนนว่า “จากสาเหตุการตายที่พวกเราเจอบ่อยๆ มักจะมาจากการไม่มีสมาธิขณะขับรถไม่ว่าจะมาจาก ปัญหาสุขภาพ อ่านหนังสือ แต่งหน้า รวมทั้งในยุคนี้ เทคโนยีสามารถเข้าถึงได้ง่ายดายจึงทำให้คนไปจดจ่อกับสิ่งอื่นมากกว่าที่จะมีสถาธิอยู่กับการขับรถ” สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะยังเราก็ควรจะมีสติตลอดเวลาในขณะที่กำลังขับรถ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุไปนอกจากตัวเราที่จะบาดเจ็บแล้ว ทั้งคนรอบข้างรวมถึงคนอื่นที่ใช้ถนนร่วมกับเรา อาจจะได้รับผลกระทบด้วยนะ ยังไงซะก็ควรตั้งสติกับการขับรถให้ดีเป็นอันดับแรก อุบัติเหตุจะได้ไม่เกิดบนท้องถนนอีก…
-
จีนเผยกระบวนการสร้าง “ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ยักษ์” แรงที่สุดในโลก เกือบจะเสร็จแล้ว!!
ว่ากันด้วยเรื่องของเทคโนโลยีในยุคสมัยปัจจุบันที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดแตกต่างจากในอดีตมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วในระดับผู้ใช้งานนั้น ทางบริษัทไอทีต่างก็พัฒนาสินค้าให้ออกมาในรูปแบบที่กะทัดรัด มีประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย และพกพาได้สะดวก แต่สำหรับในกรณีของคอมพิวเตอร์ที่จะนำไปใช้ในการประมวลผลระดับใหญ่นั้น จะถูกนำมาใช้ในองค์กรระดับประเทศ โดยที่ผ่านมาก็มีการนำเสนอในเรื่องของซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ของประเทศจีน ที่ลือกันหนาหูว่ากำลังซุ่มสร้างอยู่ มีประสิทธิภาพในการประมวลผลไวมากด้วยการคำนวน 1,000,000,000,000,000,000 (1 ล้านล้านล้าน) ครั้งภายใน 1 วินาที สุดยอดคอมพิวเตอร์ที่ว่ากันว่าเป็นต้นแบบซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ขนาด Exacale เครื่องแรกของโลก โดยทาง National Supercomputer Centre ของประเทศจีนได้ประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ว่า กระบวนการสร้างทั้งหมดใกล้จะสำเร็จแล้ว พวกเขาคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2017 ไม่ถึงปี 2018 แน่นอน หากเป็นไปตามแผนการสร้างที่วางเอาไว้ การสร้างซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ชุดนี้ จะต้องใช้เวลาในการพัฒนาชุดโปรแกรมไปอีกประมาณ 1 – 2 ปี จนจะได้ออกมาเป็นซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งถ้าหากเป็นไปตามที่คาดการณ์นี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การรอคอยมากๆ Zhang Ting จาก National Supercomputer Centre ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว…
-
บริษัทไฮนซ์ ให้พนักงาน 42,000 คนไปพักร้อน แทนที่จะจ่ายค่าโฆษณามูลค่าร้อยล้านบาท
กลายเป็นข่าวดังเลยทีเดียว หลังจากบริษัทผู้ผลิคซอสชื่อดัง Kraft Heinz ผู้ผลิตซอส ไฮนซ์ (Heinz) ที่เรารู้จักกันดี ประกาศเพิ่มวันหยุดพักร้อนให้กับพนักงานกว่า 42,000 คนทันที หลังจากตัดสินใจไม่จ่ายเงินซื้อโฆษณามูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 160 ล้านบาท อย่างที่ทราบกันดีกว่าหนึ่งในรายการทีวีที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก คงจะหนีไม่พ้นรายการการแข่งขันชิงแชมป์อเมริกันฟุตบอลอาชีพประจำปีของเอ็นเอฟแอลหรือที่เรียกกันว่า “ซุปเปอร์โบว์ล” ซึ่งจากการเก็บสถิติเรตติ้งแล้ว การแข่งขันซุปเปอร์โบว์ลนี้ มีผู้ชมกว่า 100 ล้านคนทั้งจากในอเมริกาเหนือและทั่วโลก มันเลยกลายเป็นโอกาสสำหรับหลายๆ ธุรกิจ ด้วยผู้ชมจำนวนมากขนาดนี้ ทำให้หลายๆ บริษัทต่างยิมยอนจ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อประมูลแข่งราคาซื้อสล็อตเวลาโฆษณาระหว่างพักครึ่ง และในการแข่งขันซุปเปอร์โบว์ลที่กำลังจะมาถึงนี้ ค่าโฆษณาได้พุ่งสูงไปถึง 5 ล้านดอลลาร์ต่อ 30 วินาที เลยทีเดียว ด้วยค่าโฆษณาที่สูงขนาดนี้ ทำให้บริษัท Kraft Heinz ตัดสินล้มเลิกแผนที่จะซื้อโฆษณาช่วงพักครึ่งซุปเปอร์โบว์ล และประกาศเพิ่มวันหยุดให้กับพนักงานของบริษัทกว่า 42,000…
-
แม้ “ทรัมป์” จะมีคำสั่งแบนผู้อพยพ แต่ Google เตรียมต่อต้านด้วยการบริจาค 140 ล้านให้ผู้ลี้ภัย
กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเลยทีเดียว สำหรับนโยบายของประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา โดนัดล์ ทรัมป์ เมื่อเขาได้ลงนามคำสั่งห้ามผู้อพยพเข้าประเทศชั่วคราว รวมทั้งแบนไม่ให้ชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐอเมริกา แม้พวกเขาเหล่านั้นจะมีกรีนการ์ดก็ตาม โดยช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาทรัมป์ได้ลงออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้อพยพเข้าสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาอย่างน้อย 120 วัน และในอีกสามเดือนข้างหน้า พวกเขาจะแบนวีซ่าจาก 7 ประเทศมุสลิม ประเทศในลิสต์ได้แก่ อิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน เพื่อคัดกรองและลดความเสี่ยงที่จะมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามาในประเทศ คำสั่งดังกล่างสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะคำสั่งแบนผู้อพยพดูจะขัดกับอุดมการณ์ของสหรัฐอเมริกาที่เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ รวมทั้งการแบนวีซ่า 7 ประเทศมุสลิมไม่เพียงส่งผลเฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ผู้ที่เข้ามาพักอาศัยและทำงานในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าทำงานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ล่าสุด ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของบริษัท Google คนปัจจุบัน เตรียมบริจาคเงินกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพ และเขาเชื่อว่าพนักงานของบริษัท ก็จะช่วยบริจาคกันอีกราวๆ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พิชัยได้กล่าวอีกว่าจะมีพนักงานของ Google ราวๆ 200 คน ได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนวีซ่ามุสลิมครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาได้สั่งให้พนักงานเหล่านั้น กลับมาในสหรัฐอเมริกาทันทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
-
ย้อนประวัติศาสตร์… 15 ภาพเล่าเรื่องจาก “ค่ายกักกัน” อันโหดร้าย สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ถ้าพูดถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ รับรองได้ว่าชื่อของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีและผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวจะต้องเป็นชื่อแรกๆ ที่ลอยเข้ามาในหัวอย่างแน่นอน การฆ่าล้างเผา่พันธุ์ชา่วยิวในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ได้คร่าชีวิตชาวยิวมากกว่า 6 ล้านคน ซึ่งชาวยิวจากทั่วยุโรปจะถูกนำไปยังค่ายกักกัน จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ถูกนำไปรมแก๊สพิษจนตาย ค่ายกักกันที่แรกก็คือ ค่ายกันกันเบวเชตซ์ ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองลูบลิน ในประเทศโปแลนด์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1942 และนอกจากค่ายกักกันเบวเชตซ์ ยังมีค่ายกักกันอื่นๆ อีกถึง 5 ค่ายเลยทีเดียว แต่ค่ายที่ใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ ภาพของค่ายกักกันเอาชวิทซ์ ที่ถูกปลดปล่อยเมื่อ 72 ปีที่แล้ว เพียงแค่ค่ายกักกันเอาชวิทซ์เพียงแห่งเดียว ก็พรากชีวิตผู้คนไปถึง 1.1 ล้านคน และเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมาก็เป็นวันรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นั่นเอง เราเลยจะมาย้อนดูภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้กัน ภาพเดินสวนสนามของเหล่าทหาร ที่ถือคบเพลิงไปด้วยด้านนอกประตูบรันเดนบูร์ก ในเบอร์ลิน เพื่อเฉลิมฉลองที่ฮิตเลอร์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี ภาพของทหารชุทซ์ชทัฟเฟิลที่ลำเลียงชาวยิวไปยังค่ายกักกัน ผ่านถนนในเบอร์ลินในปี ค.ศ. 1934 ภาพของชาวโปแลนด์ ที่ถูกสังหารโดยทหารเยอรมัน ในปี…
-
ยาเสพติดร้ายแรง “Krokodil” นิยมในรัสเซีย เปลี่ยนจากคนให้กลายเป็นซอมบี้!!
เมื่อกล่าวถึงยาเสพติดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนๆ ก็ตาม ต่างก็มีมาตรการต่อต้านยาเสพติดอย่างรุนแรง อาจจะมีการผ่อนปรนตัวยาบางชนิดเพื่อใช้เฉพาะการเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วขึ้นชื่อว่าเป็นยาเสพติดมันก็ไม่ได้มีข้อดีเลยซักนิดเดียว!! อย่างในบ้านเราก็ยังคงมีการระบาดของยาบ้าอยู่ตลอด และไม่มีทีท่าว่าจะหายไปจากประเทศเสียที เช่นเดียวกันกับประเทศรัสเซียที่ประสบปัญหาของการระบาดของเฮโรอีน จนปัจจุบันนี้ก็มียาตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมมาแทนที่อย่างช้าๆ ยาตัวดังกล่าวนั้นมีชื่อ Desomorphine หรือเรียกเป็นฉายาสั้นๆ ว่า Krokodil กำลังได้รับความนิยมในประเทศรัสเซีย อันเนื่องมาจากสามารถทำเองได้ง่าย เพียงแค่มียาแก้ปวดหัวเท่านั้น ที่สำคัญก็คือมันมีราคาที่ถูกมากๆ ช่างภาพ Emanuele Satolli ได้เดินทางไปยังเมือง Yekaterinburg หนึ่งในสี่เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นแหล่งเสื่อมโทรมที่เต็มไปด้วยยาเสพติด ซึ่งเขาเองก็ได้เดินทางมายังเมืองนี้ 3 ครั้งแล้ว เพื่อทำการถ่ายภาพผลจากการใช้ยาเสพติดชนิดดังกล่าวมาเผยแพร่เป็นสารคดี จุดกำเนิดของยา Krokodil นี้เริ่มต้นมาจากหลังที่เจ้าหน้าที่รัฐทำการปราบปรามเฮโรอีนในรัสเซียอย่างหนัก ผู้เสพติดเฮโรอีนจึงหันมาทำตัวยาทดแทน ด้วยการใช้ยาแก้ปวดหัวเป็นส่วนผสมหลัก จนกลายมาเป็นตัวยาดังกล่าว ด้วยเหตุที่ว่าเป็นยาเสพติดที่คิดค้นกันเองแบบบ้านๆ ผลข้างเคียงของมันจึงร้ายแรงยิ่งกว่า อันเนื่องมาจากส่วนผสมของทินเนอร์และฟอสฟอรัส ส่งผลทำให้ผิวของผู้เสพเป็นขุย หยาบกร้าน ลักษณะคล้ายกับผิวหนังของจระเข้ จึงเป็นที่มาของชื่อยาตัวนี้ อีกทั้งบริเวณผิวหนังที่ถูกเข็มฉีดยาเข้าไปนั้น จะเกิดอาการเน่าและติดเชื้อทันที…
-
หนุ่มเป็นอัมพาตมา 2 ปี ตัดสินใจ “ขอแฟนสาวแต่งงาน” ก่อนถอดเครื่องช่วยหายใจและตายจากไป
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ เพียงแต่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งนั้น เพราะอุบัติเหตุล้วนพามาแต่เรื่องเศร้าสลดอยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่ากับหนุ่มชาวอังกฤษคนนี้ก็เช่นกัน Tony Cowan หนุ่มชาวอังกฤษวัย 31 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ในปี 2014 ที่ผ่านมา ทำให้เขาบาดเจ็ยสาหัสบริเวณคอไปจนถึงกระดูกสันหลัง ทำให้เขากลายเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงไป ซึ่งแพทย์ที่ดูแลเขาอยู่บอกว่า เขามีโอกาสที่จะไม่รอดสูงมาก Tony เป็นคนอังกฤษแถบเดอร์แฮม ที่นั้นเขาได้พบกับแฟนสาวของเขา Karen Dawson ซึ่งทั้งคู่ก็ได้สู้ชีวิตและคบหากันมานานแล้วถึง 12 ปี ตัวเขาเองก็มีความฝันที่อยากจะขอแฟนสาวแต่งงานมาตลอด แต่เขาก็กลัวว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ จะทำให้เขาไม่รอดไปจนถึงวันที่ความฝันของเขาเป็นจริง ภาพถ่ายของ Tony และ Karen ก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุ แม้ช่วงเวลา 12 ปีที่คบกันมาของพวกเขาก็ต้องจบลง แต่มันก็เป็นภาพความทรงจำที่เต็มไปด้วยความสุข ของทั้งคู่ จนล่าสุดเมื่อช่วงคริสมาสต์ที่ผ่านมา Tony ก็ได้ตัดสินใจที่จะปิดเครื่องช่วยหายใจของเขาลง เขาคิดว่าทั้งแม่และแฟนสาวดูแลเขามามากพอแล้ว เขาไม่อยากจะเป็นภาระมากเกินไปอีก แต่ก่อนที่เขาจะทำอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ลืมความฝันของเขา เขาได้ขอ Karen แต่งงาน 4 วันก่อนที่เขาจะสิ้นลม ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาได้จากไปอย่างสงบนั่นเอง “เขาขอฉันแต่งงาน 4 วันก่อนที่เขาจะสิ้นใจลงอย่างสงบในโรงพยาบาล”…
-
หนุ่มชาวจีนปีนเข้าไปในกรงเสือ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องจำใจ ปลิดชีพเสือเพื่อช่วยคน…
คำเตือน: เนื้อหานี้มีรูปภาพที่รุนแรง อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้อ่านบางท่าน ควรหลีกเลี่ยง เหตุการณ์ที่มีคนกระโดดหรือพลัดตกเข้าไปในกรงสัตว์นั้น มีให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้งเลยทีเดียว และจุดจบส่วนมากของเหตุการณ์เหล่านี้ มักจะจบลงที่สัตว์ถูกยิงตาย (ยกตัวอย่างได้ง่ายๆ ในกรณีของ Harambe เจ้ากอลิล่าที่เป็นข่าวดังนั่นเอง) ซึ่งในครั้งนี้เป็นคราวของสวนสัตว์หย่าเกอเอ่อ ที่อยู่ในเมืองจีน เมื่อมีรายงานว่าในวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่จู่ๆ ก็ได้เดินเข้าไปในกรงเสือโคร่ง ที่มีเสือสามตัวอยู่ใกล้ๆ ก็ได้เจ้าโจมตีเขาทันที รายงานข่าวระบุว่า หนุ่มแซ่จาง ไปเที่ยวสวนสัตว์กับนายลี่ และภรรยาของนายลี่ แต่ในขณะที่นางลี่และลูกๆ ซื้อตั๋วอย่างถูกต้อง นายจางกลับนายลี่ กลับพยายามปีนลักลอบเข้าสวนสัตว์ ทั้งสองอาจจะทราบหรือไม่ทราบก็ตามว่านั่นคือกรงเสือ แต่มีป้ายเดือนอยู่และกำแพงสูงกว่า 3 เมตร นายจางปีนเข้าไปแต่นายลี่ไม่ยอมตามเพื่อนของเขาเข้าไปด้วย และเขาก็เจอเสือจู่โจมเข้า ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะทำการไล่เสือโคร่งทั้งสามด้วยประทัดแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีเสือโคร่งตัวหนึ่งที่ยังขย้ำชายคนนั้นไม่ปล่อย จนท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ของส่วนสัตว์ก็ได้ทำการยิงปลิดชีวิตของเสือตัวนั้นลง ท้ายที่สุดทีมแพทย์ก็ได้นำตัวชายคนนี้ไปส่งโรงพยาบาล แต่ว่าด้วยบาดแผลที่มีมากจนเกินไปทำให้เขาเสียชีวิตลงในที่สุด นอกจากนี้ ยังมีคำสัมภาษณ์จากพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งบอกกับทางสำนักข่าว South China Morning Post ว่า “ฉันเห็นเสือขย้ำคนๆ นั้นอยู่ หน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด…
-
McDonald’s ญี่ปุ่นผลิตเมนูเฟรนช์ฟรายคดเลี้ยวเคี้ยวง่าย ดูๆ ไปก็คล้าย “แคบหมู” นี่หน่า
นับว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีของสายกินกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรักเฟรนช์ฟรายจะต้องชอบแน่ๆ ซึ่งปกติแล้วเมนูเฟรนช์ฟรายที่เรารู้จักก็จะเป็นแบบแท่งๆ หยิบจับเข้าปากรับประทานได้โดยง่าย แต่ล่าสุดนี้ทาง McDonald’s ประเทศญี่ปุ่นได้สร้างสรรค์เมนูเฟรนช์ฟรายให้ล้ำไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวเมนู Curly Fries มันฝรั่งทอดสายโค้งหยิกหยักงอ ดูหน้าตาแล้วน่ารับประทานกว่าเฟรนช์ฟรายธรรมดาหลายเท่าตัว!! เมนูเฟรนช์ฟรายใหม่ล่าสุดจาก McDonald’s ญี่ปุ่น เฟรนช์ฟรายคดเลี้ยวเคี้ยวง่าย!! ภาพนี้ตกแต่งเพื่อการโฆษณาชัดๆ แต่มันน่าโดนนัก!! แท่น แท๊นนนน หน้าตากล่องดูสวยงามจริงๆ!! รายละเอียดของเฟรนช์ฟรายสายโค้งตัวนี้ ราคาจะอยู่ที่ 320 เยน (ราวๆ 100 บาท) มีขายเฉพาะที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งเป็นการนำเมนูนี้กลับมาขายใหม่ตั้งแต่ที่เคยขายในปี 2015 เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน และในรอบนี้ก็จะมีขายไปจนถึงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ เฟรนช์ฟรายสายโค้ง พร้อมรับประทาน เอาเป็นว่าหากใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ ลองแวะไปลิ้มชิมรสชาติกันได้เลย อย่าลืมมาอวดด้วยล่ะว่าแตกต่างจากเฟรนช์ฟรายธรรมดามากแค่ไหนกันหนอ? ดูสีเหลืองโค้งงอนั่นสิ มันช่างยั่วยวนเหลือเกิน!! ผ่างงงงงงง!! หน้าตาดูดีใช้ได้เลยทีเดียว แต่ไปๆ…
-
ช่างภาพแอบถ่ายช่วงเวลาพักผ่อนของ “แท็กซี่ญี่ปุ่น” หลังเมื่อยล้าจากการขับรถทั้งวัน…
การขับรถยนต์เป็นระยะทางไกลๆ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใช้แรงอะไรมากมายแต่จริงๆ แล้วมันเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆ ถ้าใครเคยขับรถข้ามจังหวัดก็คงจะทราบดี ดังนั้นอาชีพที่ต้องขับรถตลอดเวลา ก็ต้องการการพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายตื่นตัวอยู่เสมอ บางคนอาจจะใช้กาแฟหรือเครื่องดื่มชูกำลังช่วย หรือบางคนอาจจะงีบสักพักให้ร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนที่จะออกเดินทางต่อ ช่างภาพ William Green จากประเทศอังกฤษก็เป็นคนหนึ่งที่ได้เห็นวิธีพักผ่อนของแท็กซี่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยที่เขาได้บันทึกภาพของคนขับแท็กซี่ที่กำลังนอนพักอยู่ในรถ หลังจากขับรถรับส่งผู้โดยสารมาแทบจะทั้งวันแล้ว “ผมมาญี่ปุ่นเพื่อทำโปรเจกต์อื่นอยู่ แต่แล้วก็ไปสะดุดภาพของแท็กซี่ขณะเดินอยู่บนทางเท้า” ตอนแรกที่เขาได้เห็นก็รู้สึกประหลาดใจ แต่พออยู่ไปนานๆ ก็ได้รู้ว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับญี่ปุ่นที่จะได้เห็นคนแอบงีบในที่สาธารณะแบบนี้ มันเหมือนเป็นสัญญาณของความขยันและการทำงานหนัก ตอนนี้เขารู้สึกว่ากำลังตื่นเต้นกับการได้เห็นปรากฏการณ์ที่แสนธรรมดา มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ อย่างหนึ่งเลยถ้าเราได้มีช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัวในที่สาธารณะได้ ที่มา sobadsogood
-
หนุ่มแคนาดา ทำโปรเจ็ค “ขออาบน้ำบ้านคนแปลกหน้า” แล้วเก็บภาพมาให้ชาวโลกได้ชมกัน…
เคยมั้ย เข้าไปอาบน้ำในบ้านคนแปลกหน้า? มันคงจะฟังดูแปลกๆ นะ คนไม่เคยรู้จักกันเลย แต่ดันเข้าไปอาบน้ำในบ้านเค้า เพราะถ้าคนปกติทั่วไปที่เป็นคนต่างถิ่นก็จะเลือกไปอาบน้ำตามโรงแรม หรือไม่ก็คงไปอาบในห้องน้ำสาธารณะแทน แต่สำหรับ Ken Ferguson เลือกที่จะไปอาบน้ำในบ้านคนแปลกหน้า เพื่อเก็บภาพห้องน้ำของแต่ละบ้านมาให้ผู้คนได้รู้กัน และคนแปลกหน้าเหล่านั้นก็ให้เขาเข้ามาใช้ห้องน้ำแบบง่ายๆ ซะด้วยสิ (อะไรจะไว้ใจกันขนาดนั้น!?) Ferguson เป็นนักแสดงจากเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา เขาได้ตั้งเป้าหมายว่าจะเข้าไปอาบน้ำในบ้านคนแปลกหน้าทุกวัน เป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยเริ่มต้นที่ชุมชน Bunz มันอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่สำหรับชาว Bunz แล้วพวกเขาเป็นสังคมที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดังนั้นการเปิดประตูต้อนรับคนแปลกหน้าจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ไม่ใช่แค่เพียงแต่การอาบน้ำ เรื่องอื่นๆ ที่ช่วยกันได้พวกเขาก็ทำเช่นกัน เมื่อปีที่ผ่านมา Ferguson ได้เข้าไปในบ้านของผู้หญิงคนหนึ่งใน Bunz พวกเขาได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดหลายอย่าง จนสุดท้ายเขาก็ได้อาบน้ำในบ้านของเธอ Ferguson บอกว่า “ตอนที่ขออาบน้ำบ้านผู้หญิงคนนั้น ผมพูดติดตลกว่า ‘ที่บ้านมีแค่ฝักบัว’ จึงได้ขออาบน้ำที่บ้านเธอ และนั่นคือแรงบันดาลใจที่ผมตัดสินใจทำแบบนี้” เขายังบอกอีกว่า “ผมชอบทำเรื่องสนุกๆ น่าตื่นเต้น ผมไม่กลัวที่จะทำอะไรแบบนี้และไม่กลัวด้วยว่าใครจะมองว่าเพี้ยน ผมยังคงมุ่งมั่นที่จะทำต่อไป” เขาได้เข้าไปอาบน้ำในบ้านที่มีห้องน้ำลักษณะแตกต่างกันไป และเขาจะถ่ายรูปขำๆ ไว้ด้วยทุกครั้ง ที่สำคัญแต่ละบ้านไม่เคยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอะไรจากเขาเลย…
-
ตำรวจจีนสกัดจับการขนจระเข้นับ 100 ตัว ที่ถูกลักลอบ นำไปทำเป็นกระเป๋าและรองเท้า…
เมื่อพูดถึงจระเข้แล้ว บางคนคงนึกถึงแต่ความโหดร้ายของพวกมันจนไม่อยากเข้าใกล้ แต่ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่จับจระเข้มาทำอาหาร และดัดแปลงเป็นสินค้าซึ่งมีทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายปะปนกันไป และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานว่า ตำรวจระเวนชายแดนในประเทศจีนได้พบรถบรรทุกคันหนึ่งที่ลักลอบขนจระเข้จำนวนมากในบริเวณใกล้กับชายแดนเวียดนาม เมื่อตำรวจได้ทำการตรวจสอบภายในตู้รถบรรทุก ปรากฏว่าพบจระเข้ถูกแช่แข็งจำนวน 70 ตัว หางจระเข้ 88 ชิ้น รวมแล้วมีการฆ่าจระเข้ทั้งหมด 158 ตัว ที่สำคัญคือ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่จระเข้ทั่วไป แต่มันคือจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์หนึ่งที่อยู่ในลิสต์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ และอยู่ในกลุ่มที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างเข้มงวด โดยคาดว่าการขนย้ายจระเข้เหล่านี้ พวกมันจะถูกนำไปทำเป็นกระเป๋าและรองเท้า… ทางด้าน Gary Stokes ผู้อำนวยการ Southeast Asia director of Sea Shepherd Conservation Society กล่าวว่า “มันเป็นภาพที่สะเทือนใจและน่าเศร้ามาก ที่ภาพเช่นนี้กลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับสังคมไปแล้ว” นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าพรมแดนจีน-เวียดนาม ขึ้นชื่อในเรื่องการลักลอบนำเข้าสัตว์ผิดกฎหมายสู่ประเทศจีน… Stokes เสริมว่า “นอกจากจระเข้น้ำจืดแล้ว ยังมีงาช้างและนอแรดที่ถูกลักลอบนำเข้าสู่การตลาดอย่างผิดกฎหมายเช่นกัน” แม้จะมีการลักลอบฆ่าจระเข้มากขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่รู้ต้นตอที่แท้จริงว่าพวกเขาเอามาจากไหน ทางด้าน DJ Schubert นักชีววิทยาสัตว์ป่า จาก Animal Welfare…
-
ยกย่องฮีโร่รัสเซีย ยอมถอดเสื้อวิ่งเท้าเปล่า เข้าไปช่วยสุนัขที่ตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง!!
ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ เราทุกคนก็คงสวมเสื้อผ้าหนาๆ เพื่อให้ความอบอุ่นกับตัวเอง ยิ่งประเทศที่มีหิมะตก พวกเขาก็คงอยากใส่เสื้อกันหนาวไว้ทั้งวันจนไม่อยากถอดออกเลย ถึงแม้จะหนาวแค่ไหน ก็ยังมีบางเหตุการณ์ที่ทำให้มนุษย์ต้องยอมทนหนาวเหมือนกับชายคนนี้ ที่ยอมถอดเสื้อ ถอดรองเท้าแล้ววิ่งด้วยเท้าเปล่า เพื่อเข้าไปช่วยชีวิตสุนัขตัวหนึ่ง คลิปวิดีโอสุดประทับใจนี้ถ่ายบันทึกได้โดย Alexander Levoshov แสดงให้เห็นภาพสุนัขตัวหนึ่งที่ตกลงไปในบ่อน้ำแข็งท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด มีคนผ่านไปผ่านมามากมาย แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปช่วยมันเลย จนกระทั่งชายชาวรัสเซียคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็น เขาไม่รอช้า รีบถอดเสื้อกับรองเท้าออกและวิ่งไปหาสุนัขตัวนั้นทันที มันแสดงให้เห็นว่าเขาตั้งใจจะช่วยสุนัขตัวนั้นจริงๆ เพราะทันทีที่ไปถึงเขาได้นอนราบลงกับพื้นน้ำแข็งเพื่อดึงหมาผู้น่าสงสารขึ้นมา แต่สุนัขไม่เข้าใจเจตนา จึงได้กัดมือของชายคนนั้นที่เข้ามาช่วย ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ในที่สุดเขาก็สามารถช่วยน้องหมาที่ตกบ่อน้ำแข็งออกมาได้อย่างปลอดภัย แม้จะถูกกัด แต่ชายคนนี้กลับเดินกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และรู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยสุนัขตัวนั้นไว้ได้ ต่อมามีการรายงานว่า หลังจากสุนัขตัวนี้ถูกช่วยออกมาแล้ว ชายคนดังกล่าวในคลิปวิดีโอก็ไปรักษาแผล ในขณะที่สุนัขตัวนั้นก็ถูกส่งกลับบ้านแล้วเช่นกัน และเมื่อวิดีโอนี้เผยแพร่ไป ชายคนดังกล่าวก็กลายเป็นฮีโร่ของทุกคน รวมทั้งเราด้วยเช่นกัน… ยังมีผู้คนจิตใจดีอยู่อีกมากมาย แบบนี้ต้องยกย่องให้เป็นฮีโร่เลย!! ที่มา relayhero l Alexander Levashov
-
5 ประเทศที่มีเงื่อนไข ‘การขอสัญชาติ’ ได้ง่ายๆ สำหรับคนที่อยากใช้ชีวิตในต่างแดน…
มีใครอยากย้ายสัญชาติบ้างหรือเปล่า แล้วเพื่อนๆ อยากย้ายไปที่ไหนกันบ้าง? เพราะบางคนอาจมีความจำเป็นที่จะต้องย้ายไปใช้ชีวิตในต่างแดน หากยังมีสัญชาติเดิมจะทำให้ไม่ค่อยได้รับสวัสดิการต่างๆ ดังนั้นการขอย้ายสัญญาติจึงน่าจะสะดวกกว่า แต่ประเทศส่วนใหญ่นั้นก็มักมีเงื่อนไขการให้สัญชาติที่ค่อนข้างเข้มงวด เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดตามมา อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางประเทศที่สามารถขอได้ไม่ยาก คุณเองก็ทำได้เช่นกัน 1. ประเทศโดมินิกา โดมินิกาขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่น่าท่องเที่ยวที่สุดของโลก เพราะมีภูมิประเทศที่สวยงามจนหลายคนอยากย้ายไปอยู่ที่นั่นซะเลย และการขอสัญญาตินั้นไม่ยากอย่างที่คิดเลย เพียงแค่คุณฝากเงินกับธนาคารภายในประเทศโดมินิกาเป็นจำนวนประมาณ 3,500,000 บาทขึ้นไป ผ่านการสัมภาษณ์อีกนิดหน่อย แค่นี้ก็ได้สัญญาติมาแล้ว 2. ประเทศปารากวัย ประเทศอันสงบสุขที่เปี่ยมไปด้วยความงดงามแห่งนี้ สามารถขอสัญญาติได้โดยการมีเงินฝากภายในประเทศ 175,000 บาท และต้องพำนักอยู่ในปารากวัยไม่ต่ำกว่า 3 ปี 3. ประเทศบราซิล สำหรับประเทศบราซิลนั้นมีหลายช่องทางในการขอสัญชาติ คือ ต้องอยู่ในบราซิลไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือหากคุณแต่งงานกับชาวบราซิล คุณจะได้สัญชาติหลังจากแต่งงาน 1 ปี ส่วนเด็กที่เกิดในประเทศบราซิลก็จะได้สัญชาติบราซิลอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษสำหรับนักวิทยาศาสตร์และศิลปินชั้นสูง หากอยู่ในประเทศเกิน 2 ปีพวกเขาก็จะได้สัญชาติทันที โดยไม่จำเป็นที่จะต้องผ่านเงื่อนไขอื่น 4. ประเทศอุรุกวัย อุรุกวัยคือประเทศที่ประชากรมีคุณภาพสูงสุดในทวีปอเมริกาใต้ ดังนั้นจึงไม่แปลกหากใครอยากไปใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เงื่อนไขของการได้สัญชาติคือ…
-
ชาวเน็ตช่วยกันรวม 12 ภาพที่จะช่วยให้ความรู้สึกดีๆ เพื่อเพิ่มกำลังใจในวันที่เราย่ำแย่
หลายครั้งที่เราจะเจอกับเรื่องแย่ๆ มากมายในแต่ละวัน ไม่ว่าจะมาจากการทำงาน เพื่อนฝูง หรือเรื่องทุกอย่างรอบข้าง บางครั้งคนเราเมื่อมีความรู้สึกด้านลบ เราก็อยากที่จะหาอะไรที่เป็นพลังงานด้านบวกเพื่อที่อย่างน้อยให้เราได้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างก็ยังดี ในคราวนี้ชาวเน็ตก็เลยช่วยกันรวบรวมภาพที่จะช่วยให้คุณอมยิ้ม มีความสุข หรือรู้สึกดีขึ้นมาได้ เพื่อมาประชันกันว่าภาพไหนจะถูกใจคนอื่นๆ มากที่สุด (ใช้การเกริ่นแบบนี้ดีกว่า) และคาดว่าคนที่ได้ดูก็คงจะรู้สึกดีขึ้น รวมถึงสามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานด้านบวกจากรูปพวกนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย เอาเป็นว่าเรามาดูทวิตพวกนี้กันเลยดีกว่า วัวใครไม่รู้มานอนทับขาเฉย แต่ดูหน้ามันก็มีความสุขดีนะ ทำให้ผมขยับไม่ได้เลยเพราะกลัวว่าจะปลุกมันตื่นจากฝันหวานนี่สิ!? ภาพนี้เป็นภาพของคุณปู่ที่เก็บหมวกของมหาลัยต่างๆ ที่ลูกหลานของเขาได้ไปเข้าเรียน และวันนี้ก็เป็นคิวของเจ้าของภาพที่จะมอบหมวกนี้ให้คุณปู่ของเขา ดูผีเสื้อจะชอบเจ้าปั๊กตัวนี้นะ ใครที่คิดว่าวันนี้มันเป็นวันที่เลวร้ายที่สุด ก็ให้ดูภาพเจ้าหมาตัวนี้เสียก่อน มันคงคิดว่าขบวนพาเหรดนี้จัดให้มันอย่างแน่นอน ตอนแรกก็คิดพี่แกว่าเอามือบังอะไร ที่ไหนได้…. ฝูงนกเขาพวกนี้มารุมล้อมเจ้าม้า กะว่าจะได้กินอาหารที่อยู่ในถัง เจ้าม้าเห็นแบบนั้นเลยเตะถังให้พวกนกเขาได้กินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย พ่อแม่ของเจ้าของภาพกลับไปเรียนใหม่ด้วยกัน และวันนี้ก็เป็นวันที่ทั้งคู่เรียนจบ ดูรอยยิ้มนั้นสิ คงมีความสุขน่าดู ภาพนี้เป็นภาพของพี่สาวเจ้าของทวิตที่กำลังขอแต่งงานแฟนสาวของเธอ แล้วดูหน้าป้าข้างหลังนั้นสิ ยังไงก็แสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะ เมื่อเจ้าหมาเห็นเจ้านายของมันเศร้า มันก็พยามปลอบใจด้วยการไปหาลูกสนมาให้เป็นของขวัญ ดูหน้าเจ้าหมานั้นสิ ภาพของลูกหมาที่พึ่งเกิด พร้อมกับพ่อหมาที่ดูจะดีใจมากๆ เลยนะเนี่ย …
-
ในที่สุดก็มีคนคิดค้น “เบียร์โอริโอ้” ให้คุณได้ดื่มด่ำเบียร์ พร้อมรสชาติหอมหวานวัยเด็ก
เคยรู้สึกไหมที่อยากจะกินอะไรบางอย่างเช่น นม หรือคุกกี้ แต่เป็นเวอร์ชั่นที่สำหรับผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ว่ามันก็ดันหาอะไรที่ตอบโจทย์ยากเหลือเกิน ล่าสุดมีบริษัทผลิตเบียร์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า The Veil Brewing Company ใน รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถที่จะตอบโจทย์นี้ได้แล้วโดยการผลิต เบียร์โอริโอ้ ขึ้นมานั่นเอง แน่นอนว่ายิ่งถ้าใครชอบโอริโอ้เป็นทุนเดิม แถมยังเป็นนักดื่มเบียร์ตัวยง ฉะนั้นเบียร์โอริโอ้นี้รับรองได้ว่าตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน ส่วนประกอบของเบียร์จะประกอบไปด้วย Hornswoggler Chocolate Milk 7% และโอริโอ้ ปริมาณแบบจัดเต็มด้วยจำนวนส่วนผสมของโอริโอ้ก็คงการันตีได้เลยว่าตอบโจทย์ได้ขนาดไหน บรรยากาศในร้านของ The Veil Brewing Company ที่ผู้คนต่างก็มารอกันที่จะได้ชิมเบียร์ตัวนี้กันเต็มร้าน ใครที่กลัวว่าถ้าดื่มๆ ไปแล้วเกิดเมาขึ้นมา รสชาติของตัวโอริโอ้จะเสียหมด ไม่ต้องกลัวไป ส่วนผสมโอริโอ้หนักขนาดนั้นเมายังไงก็ยังรสชาติเดิมแน่นอน ล่าสุดเห็นว่าเจ้าเบียร์ชนิดนี้ขายจนหมดสต๊อกเป็นที่เรียบร้อย แถมยังหมดในเวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น!! นอกจากเบียร์โอริโอ้แล้วบริษัทนี้เขายังมีเบียร์รสชาติอื่นด้วยนะ แถมดีไซน์กระป๋องก็สวยใช้ได้เลยทีเดียว ใครที่สนใจเจ้าเบียร์โอริโอ้นี้อยู่ละก็คงต้องควานหากันหน่อยแล้วล่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีใครนำเข้ามาหรือเปล่า ถ้าใครเจอหาเจอแล้วได้ลองชิมก็อย่าลืมมาบอกด้วยน่ะ ว่ารสชาติดีสมคำร่ำลือไหม ที่มา distractify
-
ช่างภาพตามถ่าย “หิมะตกในซาฮาร่า” เมื่อความหนาวมาเยือน ในจุดที่ได้ชื่อว่าร้อนสุดๆ
เมื่อพูดถึงหิมะ หลายคนอาจจะเข้าใจว่ามันตกเฉพาะในแถบยอดเขาหรือในซีกโลกที่หนาวจัดเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าในพื้นที่อันได้ชื่อว่าร้อนระอุที่สุดในโลก เมื่อมีสภาพอากาศเหมาะสมแล้ว มันก็สามารถเกิดหิมะตกได้เช่นกัน… และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่เคยมีหิมะตกมาแล้วหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ก็เช่นกัน… เมื่อวันที่ 21 มกราคม ปี 2017 ที่ผ่านมา ก็ได้มีฝนตกที่เมือง Ain Sefra ประเทศแอลจีเรีย สำหรับในครั้งนี้มีความพิเศษกว่าทุกครั้ง คือหิมะตกหนักกว่าครั้งก่อนที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ในช่วงปี 2016 เพิ่งมีรายงานอุณหภูมิร้อนที่สุดที่วัดได้ในทะเลทรายซาฮาร่า ว่าร้อนที่สุดในโลกอีก สำหรับภาพที่เราได้เห็นนี้ถ่ายโดยช่างภาพ Geoff Robinson โดยหิมะได้เริ่มตกตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 21 จนถึง 5 โมงเย็น นั่นหมายความว่าในช่วงกลางวันมีหิมะตกในบางส่วนที่ลึกที่สุดของเมือง Ain Sefra ด้วย นั่นคือ “The Gateway to the Desert” หรือประตูสู่ทะเลทราย แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น จึงยังบอกไม่ได้ว่าในอนาคตจะมีหิมะตกที่ซาฮาร่าในทุกๆ ฤดูหนาวหรือเปล่า (แต่โดยปกติแล้วในช่วงเวลากลางคืนของทะเลทรายจะมีอากาศหนาวมากเช่นกัน) และสิ่งที่ทำให้เรารู้อีกอย่างหนึ่งคือโลกนี้เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ดังนั้นเราเองก็ควรเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ด้วย…
-
ญี่ปุ่นออกไอเดียสเวตเตอร์ “Virgin Killer” โชว์ความหวิวในฤดูหนาว ให้คุณเซ็กซี่ยิ่งขึ้น
หน้าหนาวแบบนี้ หลายคนคงหาซื้อเสื้อกันหนาวกันรัวๆ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบแต่งตัวตามแฟชั่น ดังนั้นแม้จะหนาวแค่ไหน ก็ขอแต่งตัวสวยๆ ไว้ก่อน หนึ่งในนั้นก็คงจะหนีไม่พ้นผ้าไหมพรม ที่ไม่ว่าจะปีไหนๆ ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ แต่บางทีเสื้อกันหนาวก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดทุกส่วนเสมอไปนะ อย่างเช่นเสื้อไหมพรมตัวนี้ที่มีเอกลักษณ์แบบหาจากที่ไหนไม่ได้แล้ว โดยออกแบบให้เป็นชุดไหมพรมที่สวมใส่ได้ทั้งฤดูหนาวและฤดูร้อน เสื้อไหมพรมทูอินวันนี้คือ Virgin-Killing Sweater (เรียกไทยๆ ว่าเสื้อไหมพรมเสียสาว) ออกแบบโดยศิลปินชาวญี่ปุ่น ที่ทำด้านหน้าให้ปกปิดมิดชิดตั้งแต่ส่วนคอยันต้นขา เข้ากับฤดูหนาวสุดๆ แต่ก็อย่างที่บอกแหละว่า มันออกแบบมาเพื่อฤดูร้อนด้วย ดังนั้นด้านหลังจึงมีการทำให้แหวกตั้งแต่ท้ายทอยลงไปจนเกือบส่วนก้นเหมือนกัน เซ็กซี่เร่าร้อนไปอีก ทีนี้ก็อยู่ที่สาวๆ แล้วว่าอยากใส่ให้ออกมาดูแบบไหน บางคนเน้นเซ๋กซี่ บางคนก็เน้นอบอุ่นไว้ก่อนแต่ก็อยากโชว์นิดนึง แต่ไม่ว่ายังไง ถ้าหนุ่มๆ ได้มาเห็นผู้หญิงใส่แบบนี้ละก็คงต้องน้ำลายหกแน่ๆ ตอนนี้ชุดไหมพรมสุดเซ็กซี่ได้รับความนิยมอย่างมากในสังคมญี่ปุ่น และเปิดขายผ่านในเว็บไซต์ taobao ในราคาตัวละ 440 บาท ใครไม่อยากตกกระแสก็จัดกันไปได้เลย ตัวอย่างเสื้อพร้อมกับนางแบบ หูยยยยย นี่ก็จะเซ็กซี่ไปไหน กระแสของชุดนี้มาแรงมาก ถึงกับขนาดมีแฟนอาร์ตออกตามมาติดๆ ตัวการ์ตูนใส่อะไรก็ดูสวย…
-
พ่อแม่พาลูก 3 ขวบเที่ยวรอบโลก โดยไม่ต้องลาออกจากงาน เพียงแค่ “วางแผน” ให้ดีที่สุด!!
บ่อยแค่ไหนที่เราจะได้ยินเรื่องของคนที่ลาออกจากงานประจำเพื่อที่จะได้ทำอะไรหลายๆ อย่างที่พวกเขาอยากจะทำ โดยส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะออกไปเที่ยวไปดูโลกกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเกิดคำถามตามมาทันทีว่า “แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากลาออก?” “ลาออกแล้วจะมีเงินพอเหรอ?” “มันจะยุ่งยากเกินไปไหม?” Taita Hills, Kenya เรื่องที่กำลังจะพูดถึงนี้เป็นเรื่องของ Łajka กับ Wadyń และลูกสาววัย 3 ขวบของพวกเขา Zazu เดิมทีทั้ง สองทำงานประจำอยู่แล้ว แต่ทั้งคู่ก็เป็นคนที่ชอบเที่ยวเป็นทุนเดิม นั่นจึงทำให้พวกเขาคอยจัดแจงเวลาเพื่อให้พอที่พวกเขาจะได้พาลูกไปเที่ยวที่ต่างๆ อยู่เสมอ พวกเขาเป็นครอบครัวที่จะกำหนดแผนการเดินทางล่วงหน้าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นแผนสำหรับตอนเย็น แผนสำหรับสุดสัปดาห์ แผนของเดือนหน้า หรือแม้แต่สำหรับครึ่งปีหน้า พวกเขาก็วางแผนไว้ล่วงหน้าเช่นกัน Tonle Sap, Cambodia ซึ่งแน่นอนว่าแผนที่วางไว้ก็เป็นไปได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นไปเจอครอบครัว ไปช็อปปิ้ง ไปเจอเพื่อนฝูง และแน่นอนว่าบ่อยครั้งก็จะเป็นแผนเพื่อไปเที่ยวนั่นเอง ในช่วงเวลา 10 เดือนพวกเขาเดินทางไป 39 สถานที่ใน 9 ประเทศ 3 ทวีป ซึ่งมันเยอะมากๆ เลยทีเดียว เอาเป็นว่ามาดูตัวอย่างกันดีกว่า ว่าพวกเขาไปไหนมาบ้าง Athens, Greece…
-
ญี่ปุ่นคิดค้น “ข้าวแกงกะหรี่ช็อคโกแลต” เพื่อหนุ่มสาวที่ต้องการความแปลกใหม่ ในวาเลนไทน์นี้!?
เมื่อใกล้ถึงเทศกาลวันวาเลนไทน์ทีไร หนุ่มสาวก็มักจะหาซื้อช็อคโกแลตมาให้กับคู่รักของพวกเขาได้กินกันแม้จะกินทุกปีจนเบื่อแล้วก็ตาม ด้วยความซ้ำซากของช็อคโกแลตรูปแบบต่างๆ #เหมียวฟิ้นก็เลยอยากจะแนะนำอะไรที่มันแปลกแหวกแนวไปบ้าง…. ภาพที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นี้คือผลิตภัณฑ์ใหม่จากร้านค้าที่ชื่อว่า Village Vanguard ในประเทศญี่ปุ่น มันคือ “ข้าวแกงกะหรี่ช็อคโกแลต” เมนูนี้คือการผสมผสานระหว่างแกงกะหรี่และช็อคโกแลตหอมละมุนเอาไว้ได้อย่างลงตัว ส่วนผสมหลักของมันก็คือช็อคโกแลต น้ำตาล ผงกะหรี่ พริกป่นเพื่อความเผ็ด มีกลิ่นของกล้วยติดมานิดหน่อย และมีหัวหอมผัดอยู่ในช็อคโกแลตด้วย…ให้รสชาติที่หวานและเผ็ด (ดูจะซับซ้อนทีเดียว) วิธีกินก็ง่ายๆ เพียงแค่คุณนำเอาช็อคโกแลตไปอุ่นให้เหลว จากนั้นก็ราดลงไปบนข้าวสวยร้อนๆ จากนั้นก็พร้อมตักเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยได้เลย ดูเป็นอาหารมื้อเย็นที่ทั้งเร็วและง่ายมากๆ ถ้าคุณอยากลองมอบของขวัญวันวาเลนไทน์แบบไม่ซ้ำใครให้กับคนรักล่ะก็ ลอง “ข้าวแกงกะหรี่ช็อคโกแลต” ไหมล่ะ? สนนราคาอยู่ที่ 540 เยน หรือประมาณ 165 บาท ลิ้งสั่งซื้อสำหรับคนที่อยากได้แบบจริงจัง: vvstore.jp (กดแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อความง่ายในการสั่งซื้อ) ที่มา rocketnews24
-
คุณตาวัย 70 กลับไปเรียนมหาวิทยาลัยหลังดรอปไป 51 ปี พร้อมเข้ารับน้องกับเพื่อนต่างวัย!!
เคยได้ยินมั้ยว่า “ไม่มีใครแก่เกินเรียน” เพราะหากเราเป็นคนรักในการเรียนรู้ ต่อให้อายุจะมากแค่ไหนก็ตาม เรายังสามารถเรียนรู้ได้เสมอ ที่สำคัญในโลกนี้ยังมีอะไรให้รู้อีกมากมายอย่างไม่จำกัด และคุณตาวัย 70 ปีคนนี้ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า อายุไม่ใช่อุปสรรคของการเรียน เขาจึงตัดสินใจลงเรียนใหม่อีกครั้งและทำกิจกรรมทุกอย่างเหมือนนักศึกษาคนอื่นๆ ด้วย หลังจากที่คุณตา Gary Fryer วัย 70 ปี ดรอปเรียนไปเมื่อปี 1965 ตอนนี้เขาตัดสินใจกลับเข้ามาเรียนอีกครั้งที่มหาวิทยาลัย Arkansas Tech University ในปี 2016 อย่างที่เรารู้กันว่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะมากมาย ซึ่งส่วนมากก็จะมีแต่วัยรุ่น สำหรับคุณตา Fryer เองก็ไม่พลาดที่จะเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านั้นเหมือนกัน รวมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องใหม่ด้วย แม้จะอายุห่างจากนักศึกษาคนอื่นเกือบครึ่งศตวรรษ แต่เขาก็วางตัวเป็นกันเองกับทุกคนในฐานะเพื่อน โดยเพื่อนๆ ต่างเรียกเขาว่า ‘พี่ใหญ่’ Fryer บอกว่า “ผมมีกลุ่มเพื่อนชายที่สนิทกันเหมือนเพื่อนจริงๆ พวกเขาไม่กลัวที่จะตบหลังผม หรือโอบไหล่ผม พวกเขาบอกว่า การมีผมเป็นเพื่อนนับเป็นเรื่องดี เพราะผมสามารถให้คำแนะนำกับพวกเขาในบางเรื่องได้” “แต่ผมบอกพวกเขาว่า ‘ผมไม่คงไม่มีคำแนะนำอะไรให้ นอกจากแบ่งปันประสบการณ์ทั้งหมดที่มีให้กับทุกคน แล้วสักวันหนึ่งคุณก็จะได้เจอกับสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน…
-
ชายชราตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองหน้าหลุมศพภรรยา เพราะไม่อาจทำใจอยู่อย่างทรมานได้…
ความรักนั้นมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละคนก็คงให้ความหมายกับคำว่ารักที่แตกต่างกันออกไป บางคนรักมากจนยอมตายแทนกันได้ บางคนรักมากจนไม่อยากแยกจากกัน เหมือนกับชายชราวัย 83 ปีคนนี้ที่สูญเสียภรรยาผู้เป็นที่รักไป จนไม่สามารถทำใจได้ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะยิงตัวตายเพื่อไปอยู่กับภรรยา เรื่องนี้เกิดขึ้นที่สุสาน St. John’s Cemetery ในย่าน Middle Village เขตการปกครอง Queens รัฐนิวยอร์ก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีชายชราคนหนึ่งได้ตัดสินใจยิงศีรษะตัวเองหน้าหลุมศพภรรยา เพราะเขาคิดว่าคงอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าไม่มีภรรยา ตามการรายงานข่าวของ New York Daily News แต่โชคดีที่มีพนักงานเฝ้าสุสานผ่านมาเห็นเขาก่อนจะสิ้นลมหายใจ จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Elmhurst Hospital Center ทันที ทางด้านตำรวจบอกว่า “ในที่เกิดเหตุนั้น พบปืนขนาด 22 มม. ตกอยู่ข้างหลุมศพภรรยาของชายชราคนดังกล่าว แต่ตอนนี้เรายังไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของเขาได้” ใขณะที่พนักงานเฝ้าสุสานหลายคนก็รู้จักชายคนนี้ดี พวกเขาบอกว่า “ชายคนนี้มักจะมาเยี่ยมภรรยาที่หลุมศพบ่อยๆ และในวันที่เกิดเหตุนั้นเขาก็เข้ามาเหมือนปกติทุกวัน” พวกเขายังบอกอีกว่า “ตอนนี้เราทุกคนต่างรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเราจึงสวดภาวนาให้เขาและครอบครัวปลอดภัยจากขีดอันตราย” หากคนที่เรารักจากไปมันก็ยากที่จะทำใจนะ โดยเฉพาะในวัยชราแบบนี้ ลูกหลานควรจะดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะว่าพวกเขาอาจจะถูกความเหงาบดบังจนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้…
-
นิยาม ‘ความสวยงาม’ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศทั่วโลก จะเรียกว่าแปลกดีมั้ยล่ะเนี่ย!?
บนโลกของเรานั้นล้วนเต็มไปด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรม ผู้คนที่อาศัยอยู่แต่ละพื้นที่ก็จะมีวิถีชีวิต หรือแม้แต่รูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันออกไป ทางเว็บไซต์ Bright Side ได้ทำการตั้งฉายาโดยใช้รสนิยมความงามของแต่ละประเทศจากรอบโลก ที่มีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว แบบว่าเรามองยังไงก็ไม่สวย แต่ทว่าในผู้คนในพื้นที่นั้นๆ กลับมามองว่าสวยจริงอะไรจริง จะมีอะไรบ้างเราลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. ฟันเก : ประเทศญี่ปุ่น ในประเทศทางฝั่งยุโรปนั้นการที่มีฟันเรียงสวยจะเป็นลักษณะของการยิ้มสวย แต่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นกลับกัน พวกเขาคิดว่าการมีฟันเกแบบที่เห็นในภาพนั้น หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า ‘Yaeba’ นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความน่ารัก หากใครมีฟันเกก็จะถูกมองว่าเป็นคนน่ารักกว่าคนที่มีฟันเรียงสวยเสียอีก 2. รอยแผลเป็น : ทางตะวันตกของประเทศแอฟริกา, เกาะนิวกินี ชนเผ่าและประชากรที่อาศัยอยู่ในเกาะนิวกินี และหลายๆ พื้นที่ในประเทศแอฟริกานั้นจะมีการตกต่างร่างกายด้วยรอยแผลเป็นเป็นรูปแบบต่างๆ ซึ่งแต่ละรอยก็จะถูก ‘สัก’ ในพิธีกรรม สำหรับผู้หญิงที่มีรอยสักจะถูกมองว่าเป็นคนที่มีความงดงามมากๆ 3. หน้ารูปหัวใจ : ประเทศเกาหลีใต้ ในประเทศเกาหลีใต้นั้นการทำศัลยกรรมถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติและได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวาง และการที่มีใบหน้าเรียวเหมือนกับรูปหัวใจก็เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้หญิงสาวดูสวยงามอีกด้วย 4. น้ำหนักเกิน : ประเทศมอริเตเนีย สำหรับชาวมอริเตเนียนั้นผู้หญิงจะไม่สามารถดึงดูดผู้ชายได้เลยหากเธอไม่มีน้ำมีนวลที่มากพอ เพื่อให้แน่ใจว่าสาวๆ จะเป็นที่หมายปองของเหล่าหนุ่มๆ…
-
ลุงตีเนียนแบกทีวี ไปขอเงินคืนทั้งๆ ที่ไม่ได้ซื้อ แล้วก็ได้เงินออกไปจากร้านหน้าตาเฉย…
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเว็บเหมียวของเราได้นำเสนอเรื่องราวของ Frank Abagnale นักต้มตุ๋นในตำนาน กันไปแล้ว ซึ่งก็อย่างที่รู้กันว่าวิธีการของเขานั้นก็คือการตีเนียนไปทำอาชีพต่างๆ จนหลอกเอาเงินไปใช้จนร่ำรวย และในวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวของนักต้มตุ๋นที่คาดว่าน่าจะมีไอดอลเป็น Frank Abagnale มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง จะเป็นอย่างไรลองไปติดตามชมกันได้ที่ข้างล่างเลยจ้า… สำนักข่าว Daily Mail ของอังกฤษได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เผยภาพจากกล้องวงจรปิดของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง ชายคนดังกล่าวเดินเข้าไปยกกล่องสมาร์ททีวี Bauhn ขนาด 49 นิ้ว ที่มีราคาประมาณ 15,000 บาทจากในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต Aldi ไปที่เค้าน์เตอร์แคชเชียร์ แต่ไม่ได้ยกไปถามราคาหรือเพื่อซื้อแต่อย่างใด แต่เขาขอเรียกเงินคืนซะงั้น!? ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ซื้อทีวีเครื่องนี้กลับไปเปิดที่บ้านเลย แน่นอนว่าสิ่งแรกที่พนักงานแคชเชียร์ถามก็คือใบเสร็จรับเงินเพื่อเป็นหลักฐานในการมอบเงินคืนให้ แต่ชายคนดังกล่าวกลบเกลื่อนด้วยอาการโมโห พร้อมกับโชว์กร่างตะโกนโหวกเหวกโวยวายเสียงดังเรียกผู้จัดการร้านเข้ามาคุย ด้วยความที่ไม่อยากให้เกิดปัญหาพนักงานก็เลยตัดสินใจที่จะมอบเงินคืนเป็นจำนวน 15,000 บาทให้กับเขา เขาค่อยๆ เดินออกไปจากร้านพร้อมกับถือเงินจำนวนนั้นออกไป ทุกคนในร้านต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ซักพักใหญ่ๆ ถึงจะรู้ตัวว่าถูกหลอกซะแล้ว!! ภายหลังจึงได้ทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเร็วไว ฝั่งโฆษกของซุปเปอร์มาเก็ต Aldi ได้ปฏิเสธที่จะออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าตำรวจ Lincolnshire…
-
เจ้าหมารอดพ้นมาจากฟาร์มทำเนื้อ กลับมารักษาแผลใจและมีเตียงเป็นของตัวเองครั้งแรก…
ที่ผ่านมาเราคงเคยได้ยินข่าวการจับสุนัขไปทำเนื้อมาแล้วบ้าง ซึ่งหลายคนแทบจะไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนกล้าทำเช่นนั้น เพราะปกติแล้ว สุนัขไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงแต่มันยังเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์กับมนุษย์ด้วย และเรื่องที่เราจะนำเสนอในวันนี้ อาจจะสะเทือนใจใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคนรักหมา แต่อย่างไรก็ตามก็อยากให้ทุกคนได้อ่าน เพราะจะเป็นการย้ำเตือนให้เราช่วยกันปกป้องน้องหมากันมากขึ้น เรื่องราวชีวิตของ Harriet หมาที่ถูกจับตัวเพื่อนำไปทำเนื้อ แต่โชคดีที่มันได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และจากการรอดพ้นมาจากฟาร์มเนื้อในครั้งนี้ ทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสุนัขพันธ์ Korean Jindo วัย 3 ขวบถูกจับขังไว้ในกรงแคบๆ และมีสุนัขอีกประมาณ 200 ตัวอยู่ที่ฟาร์มเนื้อสุนัขในเมือง Wonju ประเทศเกาหลีใต้ Nash McCutchen ผู้ประสานงานของ Humane Society of Tampa Bay (HSI) บอกว่า “พวกมันถูกนำตัวไปขังในกรงกลางแจ้ง ไม่ที่กำบัง ไม่มีความอบอุ่นที่นั่น มีแต่ความสกปรก ดังนั้นเมื่อหิมะตก ลมพัดมา พวกมันก็ต้องทนอยู่ในสภาพนั้นอย่างน่าสงสาร” สุนัขทุกตัวรวมทั้ง Harriet จะถูกนำไปฆ่าเพื่อแปรรูปเป็นเนื้อ “มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมากๆ หากปล่อยให้พวกมันอยู่ในนั้นตอนไป เพราะพวกมันจะต้องตายอย่างทรมาน” McCutchen กล่าว แต่โชคดีสำหรับ Harriet ที่มันได้รับการช่วยเหลือโดยทีม Humane Society International…
-
‘หุ่นยนต์ตู้ปลาเคลื่อนที่’ อุปกรณ์พาปลาไปเดินเล่นด้วยตัวเอง ว่ายไปทางไหนก็ไปทางนั้น
สำหรับคนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวคงได้พาพวกมันออกไปเดินเล่นนอกบ้านเป็นบางครั้ง หรือบางคนก็อาจจะปล่อยให้มันได้ท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ที่อยากไป แล้วถ้าเราเลี้ยงปลาล่ะ? แน่นอนว่าเราไม่สามารถจูงมันออกไปเดินเล่นเหมือนหมาหรือแมวได้ ดังนั้นน้องปลาจึงต้องอยู่แต่ในตู้ปลาจุดเดิมๆ กับสิ่งแวดล้อมเดิมๆ พวกมันอาจจะเกิดอาการเบื่อขึ้นมา แต่ไม่ต้องห่วง เพราะต่อไปนี้ปลาสามารถออกไปเที่ยวลั้ลลาได้แล้ว ด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างขึ้นโดยกลุ่ม Build18 ที่นำเข้าประกวดในเทศกาลวิศวกรรมประจำปี จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon University สิ่งประะดิษฐ์ดังกล่าวนี้คือ หุ่นยนต์ตู้ปลาเคลื่อนที่ ควบคุมการเคลื่อนที่ได้ด้วยการเคลื่อนไหวของปลา ไม่ว่ามันจะว่ายไปทิศทางไหน ทำให้พวกมันสามารถไปไหนก็ได้ตามต้องการ และเป็นการออกกำลังกายสำหรับปลาด้วย Zachary Newman หนึ่งในผู้สร้างสิ่งประดิษฐ์นี้บอกว่า “หุ่นยนต์ตู้ปลานี้ได้รับแรงบัลดาลจากการที่เห็นปลาที่อยู่ในบ้าน ต้องอยู่บ้านเพียงลำพังในขณะที่เราออกไปเที่ยว ดังนั้นมันคงจะดีถ้าเราสามารถพามันไปเที่ยวด้วย” จากนั้นพวกเขาจึงออกแบบตู้ปลาที่สามารถเคลื่อนตัวได้ด้วยการเคลื่อนไหวของปลา โดยใช้วัสดุที่มาคุณภาพสูงจากบริษัท Intel แม้จะใช้เวลาวางแผนเป็นระยะเวลานาน แต่เชื่อมั้ยว่าพวกเขาสามารถสร้างหุ่นยนต์ตู้ปลานี้เสร็จภายใน 3 วันเท่านั้น และได้ผลลัพท์ที่มีประสิทธิภาพด้วย แค่นี้น้องปลาก็ได้ลั๊ลลาแล้ว ถ้าเอามาใช้จริงๆ แนะนำให้ล่ามโซ่ด้วยนะเดี๋ยวมันจะพากันเที่ยวเพลินจนหลง ที่มา boredpanda l Reddit
-
10 นางแบบผู้ประสบความสำเร็จ พิสูจน์ว่าทุกคนก็เป็นนางแบบได้ แค่เป็นตัวของตัวเอง!!
เมื่อพูดถึงนางแบบแล้ว หลายคนคงคิดว่าจะต้องมีผิวขาว หุ่นบาง ผอม สูง เท่านั้นถึงจะเป็นได้ จนทำให้สาวๆ หลายคนพยายามทำหุ่นให้ได้เหมือนนางแบบเหล่านั้น แต่สำหรับบางคนแล้ว พวกเขาสามารถเป็นนางแบบที่ดีได้โดยไม่ต้องมีหุ่นเป็นไปตามที่ใครๆ คาดหวังตามสมัยนิยม พวกเขาแค่ดูแลสุขภาพ มีความมั่นใจและเป็นตัวของตัวเอง 1. Chloe Marshall หญิงสาวผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวที Miss Surrey 2008 และได้เข้ารอบสุดท้ายของเวที Miss England ซึ่งเป็นการประกวดสาวร่างอวบที่เปลี่ยนแปลงชีวิต Chloe เพราะมีคนมากมายชอบหุ่นของเธอ ตั้งแต่นั้นมาเธอจึงตัดสินใจเข้าสู่วงการนางแบบจนได้เป็นนางแบบอาชีพในทุกวันนี้ เธอมีสโลแกนประจำตัวว่า “คุณสวยได้โดยไม่ต้องมีหุ่นผอม สูง” 2. Stefania Ferrario ปัจจุบัน Stefania เป็นนางแบบชุดชั้นในของ Dita Von Teese ซึ่งเธอโด่งดังจากการรณรงค์ไม่ใช้คำว่า “นางแบบร่างอวบ” มันทำให้รู้สึกแย่ เพราะหุ่นนางแบบที่ดีนั้นไม่มีความตายตัว นอกจากนี้ในอินสตาแกรมของเธอยังติดแฮชแท็ก #DropTheSize เพื่อต้องการบอกว่าเธอเป็นนางแบบจริงๆ โดยไม่ต้องมีคำตามหลังใดๆ ทั้งสิ้น 3. Felicity Hayward Felicity ได้ก้าวสู่วงการนางแบบเมื่อช่างภาพคนหนึ่งสังเกตเห็นแววนางแบบของเธอ ขณะที่เต้นรำอยู่ที่สโมสรเยาวชน จึงได้เชิญเธอมาถ่ายแบบ ซึ่งเธอก็พิสูจน์ให้เห็นว่าหุ่นอย่างเธอก็เป็นนางแบบได้เหมือนกัน 4. Jada Sezer Jada ทำงานกับแบรนด์ต่างๆ มากมาย ได้เป็นนางแบบโฆษณาชุดว่ายน้ำและชุดชั้นในสำหรับผู้หญิง ซึ่งสิ่งที่ทำให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบอาชีพได้…
-
22 ภาพน่ารำคาญใจ ที่ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิต แต่ทำให้รู้สึกหงุดหงิดจนต้องบ่นงึมงัม…
เคยเป็นมั้ยเวลาเจออะไรที่มันผิดปกติแล้วรู้สึกหงุดหงิด ทั้งๆ ที่มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตของเรามากมาย แต่สำหรับคนเจ้าระเบียบ ที่ไม่ว่าอะไรจะต้องเป๊ะตลอดเวลา ก็มักจะมีอาการแบบนี้อยู่บ่อยๆ เหมือนอย่างภาพต่อไปนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาผิดแบบ หรือแปลกไปจากที่มันควรจะเป็น มันเลยทำให้เรารู้สึกอยากทำอะไรกับมันสักอย่าง ไม่เชื่อคุณลองดูภาพด้านล่างนี้โดยไม่บ่นสักคำสิ 1. เคยเห็นมั้ย ลิฟท์สามเหลี่ยม เข้าได้กี่คนละเนี่ย 2. จัดระเบียบไฟล์หน่อยมั้ย รกจนไม่มีที่จะวางงานต่อไปแล้ว 3. ที่จอดรถในโรมาเนีย ตีเส้นให้แล้วแต่ดันจอดสวนทางกับเส้นหมด 4. อยู่มา 5 ปี เพิ่งสังเกตเห็นความไม่เป๊ะของขอบที่ไม่ตรงกันจนอยากย้ายออกทันที 5. ประตูบานหนึ่งทางตอนเหนือของลอนดอน เห็นก็อยากเข้าไปขยับให้มันตรง 6. เคยมั้ย เหลาดินสอแล้วออกมาเป็นแบบนี้ 7. ทอดแล้วไม่ติดกระทะแน่นอน… หึ แต่ตรูหงุดหงิดตั้งแต่ลอกสติกเกอร์แล้ว 8. ทำที่วางแก้วแบบนี้ ฝาเปิดเมื่อไหร่รู้กัน!! 9. แน่ใจนะว่าผ้าปิดปากแบบนี้จะทำให้หายกลัวหมอได้ 10. จะตักกินแบบนี้มันก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่มันไม่โอเคอะ 11.…
-
คุณยายวัย 80 ปี ผู้รับทำความสะอาดดวงตา ด้วยการ “เลียให้สะอาด” คนแห่ใช้ตรึม
Hava Celebic หรือที่รู้จักกันในชื่อ Nana Hava หญิงชราชาวบอสเนีย เธอคนนี้คือผู้ที่บอกว่าเธอสามารถรักษาดวงตาของคนอื่นได้ด้วยการใช้ลิ้นของเธอเอง!! คุณยายวัย 80 คนนี้จะค่อยๆใช้ลิ้นของเธอช่วยขจัดเศษตะกั๋ว เหล็ก ฝุ่นผงต่างๆออกจากดวงตาของคนที่มารักษาหลังจากที่เธอทำความสะอาดภายในปากของเธอด้วยแอลกอฮอล์ นี่คือภาพของการรักษา คุณยายเฮน่าค่อยๆเลียบนลูกตาของลูกค้าอย่างเบาๆและตั้งใจ คุณยาย Heva แกอาศัยอยู่ในชนบทบอสเนียและเฮอร์เซโกว่า แถมคุณยายยังบอกอีกว่าเธอเป็นคนเดียวบนโลกที่สามารถรักษาดวงตาของผู้คนด้วยการเลีย “คุณยายเฮว่าเล่าว่า ‘ฉันเรียนรู้วิชานี้มาจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า เฮว่า เหมือนกับฉัน แต่ยังไงก็ตามฉันไม่สามารถที่จะส่งต่อวิชานี้ให้คนรุ่นต่อไปได้ เพราะพวกเขารู้สึกรังเกียจที่จะเลียดวงตาให้คนแปลกหน้า แถมพวกเขายังบอกว่าจะตัดลิ้นของฉันไปรักษาคนอื่นต่อหลังจากที่ฉันตายอีกด้วย’” นอกจากนี้คุณยายยังบอกว่าเธอรักษาดวงตามาแล้วมากกว่า 5,000 คน แถมยังหลากหลายเชื่อชาติตั้งแต่คนอเมริกันไปจนถึงคนรัสเซีย ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะกลับมาให้เธอรักษาซ้ำแบบเดิมเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่าการรักษาดวงตาด้วยลิ้นของคุณยาย เฮน่า จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นจริงๆหรือเปล่า ่แต่ว่าดูแล้วคนส่วนใหญ่ก็กลับมาและติดใจการรักษาของเธอ แถมบางคนก็ยังบอกว่า การรักษาจากโรงพยาบาลหรือการรักษาแบบปกติก็ไม่ช่วยให้หาย แต่การรักษาของคุณยายกลับได้ผลจริง!! ใครที่สนใจอยากให้คุณยายเฮน่ารักษาก็เตรียมเงินไว้กันคนละ 10 ยูโรได้เลย เพราะนี้เป็นราคาค่ารักษาที่คุณยายแกกำหนดไว้ แต่ถ้าไม่มีรายได้ประจำคุณยายแกก็รักษาให้ฟรีด้วยนะเอ่อ สำหรับใครที่อยากจะเห็นการรักษาแบบภาพเคลื่อนไหว ลองชมวิดีโอของทางแชแนล Caters Clips กันด้านล่างเลยครับ… ไหนใครสนใจอยากให้แมวเหมียวเลียตาให้บ้างไหม!? ที่มา Dailymail
-
เจ้า Blue เส้นทางชีวิตจากหมาจรจัดสู่หมานักบำบัด คอยมอบความสุขให้กับเหล่าผู้ป่วย!!
เรื่องราวของเจ้า Blue สุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่บนโลกภายนอกมาอย่างยาวนาน ในที่สุดก็ถูกช่วยเหลือจนได้มีบ้านใหม่ และผันตัวกลายเป็นสุนัขนักบำบัดคอยช่วยเหลือเหล่าผู้ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา คุณ Valia Orfanidou สาวชาวกรีซ ได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังเมืองเล็กๆ ติดชายทะเลในช่วงวันหยุด โดยปกติแล้วเธอเป็นคนรักสัตว์มากเธอเล่าว่าเคยเห็นสุนัขจรจัดมาแล้วมากมาย แต่สำหรับเจ้า Blue นั้นเป็นอะไรที่แตกต่างออกไป ในครั้งแรกที่เจอกันมันเดินเข้ามาใกล้ๆ คุณ Orfanidou จากนั้นก็หงายท้องพร้อมกับมองมา ราวกับกำลังบอกว่าเกาพุงให้หน่อยสิ อะไรทำนองนั้นเลย ทำให้คุณ Orfanidou ตัดสินใจทันทีว่าจะช่วยหาบ้านใหม่ให้กับมัน ระหว่างที่อยู่ในช่วงวันหยุดฤดูร้อนในเมืองดังกล่าว เธอก็แวะเวียนมาดูแลเจ้า Blue เป็นประจำ และคอยคิดหาทางช่วยเหลือมันอยู่ตลอดเวลา ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจพามันขึ้นรถกลับไปด้วย พร้อมกับตั้งชื่อให้มันว่า Blue เพราะสถานที่ที่ได้พบมันครั้งแรกก็คือท้องทะเลสีฟ้าแห่งนี้ คุณ Orphanidu พามันไปอยู่ที่บ้านด้วย และอุปถัมภ์ดูแลมัน แต่ถึงอย่างนั้นเจ้า Blue ก็ยังคงต้องการบ้านใหม่อยู่ดี… ขณะเดียวกันที่ประเทศ Holland ครอบครัวหนึ่งได้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปเป็นเจ้าหมาที่ชื่อว่า Abbaio เมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา ทิ้งให้เจ้า Rincewind คู่หูอีกตัวให้อยู่เพียงลำพัง…
-
ชาวเน็ตจีนชื่นชมฮีโร่นักดับเพลิงย่องเบา เข้าโอบข้างหลังจนสามารถช่วยคนคิดสั้นได้สำเร็จ!!
ปัญหาการฆ่าตัวตายนั้นนับเป็นปัญหาที่พบได้เกือบทุกสังคม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นจึงมีคนจำนวนหนึ่งที่จะต้องทำหน้าที่คอยช่วยเหลือคนคิดสั้นเหล่านั้น เช่นเดียวกับนักดับเพลิงที่ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ดับไฟเท่านั้น แต่พวกเขายังคอยช่วยเหลือทุกคนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ขับขัน รวมทั้งการช่วยเหลือคนที่จะฆ่าตัวตายด้วย ล่าสุดทางสื่อจีนก็ได้มีการเผยแพร่วิดีโอของนักดับเพลิงคนหนึ่ง ที่ย่องเข้าไปช่วยเหลือชายคนที่กำลังจะฆ่าตัวตาย ได้สำเร็จ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ดาดฟ้าของตึก โดยมีชายคนหนึ่งนุ่งเพียงกางเกงในตัวเดียวนั่งห้อยขาอยู่ที่ขอบตึกในท่าทางหวาดเสียว ลักษณะพร้อมที่จะกระโดดลงไปได้ทุกเมื่อ มีหลายคนที่พยายามห้ามชายคนดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทั้งวิธีการปลอบ ทั้งพูดเกลี้ยกล่อมสารพัด แต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะฟังแต่อย่างใด นักดับเพลิงคนหนึ่งจึงใช้แผนที่แตกต่างออกไป วิธีการที่ว่านั้นก็คือการย่องเข้าไปข้างหลัง โดยไม่มีเสียงพูดใดๆ ที่สำคัญคือเขาย่องได้เบามาก จนชายที่กำลังจะฆ่าตัวตายไม่อาจรู้ได้เลยว่ามีกำลังมีคนเดินมาจากข้างหลัง ในที่สุดนักดับก็เข้าไปคว้าตัวชายที่กำลังจะฆ่าตัวตายเอาไว้ได้สำเร็จ สำหรับนักดับเพลิงคนได้กลายเป็นฮีโร่ที่สร้างความประทับใจให้ชาวจีนเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงได้สืบหาประวัติว่าเขาคือใคร มาจากไหน? จนได้รู้ว่า นอกจากเป็นนักดับเพลิงแล้วเขายังเป็นนักเทควันโดอีกด้วย โดยมีทักษะการป้องกันตัวและการเคลื่อนไหวที่ว่องไวมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาสามารถช่วยคนที่จะคิดฆ่าตัวตายได้ด้วยทักษะการเคลื่อนไหวของเขา และนี่คือวินาทีที่นักดับเพลิงคนเก่งได้ย่องเข้าไปช่วยคนที่จะฆ่าตัวตาย ย่องเบาจนนึกว่าเป็นนินจาแหน่ะ ที่มา shanghaiist
-
ชมภาพบรรยากาศ “สวนน้ำร้าง” ในประเทศเวียดนาม ถึงสวยก็ดูแล้วน่าขนลุกไม่น้อย..
Ho Thuy Tien เป็นชื่อของสวนน้ำที่ตั้งอยู่ในประเทศเวียดนาม ดูจากภายนอกแล้วสวนน้ำแห่งนี้มีขนาดที่กว้างใหญ่ และอลังการงานสร้างเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่ต้องหยุดก่อสร้างไปในช่วงปี 2004 จึงทำให้สวนน้ำแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างไปในที่สุด ในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคน ไปเที่ยมชมภาพบรรยากาศอันเงียบสงบ และชวนหลอนของสวนน้ำ Ho Thuy Tien ที่ถูกถ่ายขึ้นมาโดยช่างภาพนามว่า Nathan Peauril และแน่นอนว่าคุณจะได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการ จนบางครั้งก็แอบคิดเสียดายที่สวนน้ำแห่งนี้ได้ปิดตัวลง เพราะถ้าหากมันยังอยู่ ที่แห่งนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีโลเคชั่นดีไม่น้อยเลยทีเดียว Ho Thuy Tien ตั้งอยู่ในเมือง Huong Thuy ประเทศเวียดนาม มันเปิดตัวในปี 2004 ทั้งๆ ที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ 100% แล้วไม่ได้รับความนิยมมากนัก รวมถึงปัญหาสายป่านเงินที่ไม่ยาวพอจะแบกรับการขาดทุนตอนแรก มันถูกปิดลงอีกไม่กี่ปีต่อมา ส่วนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างก็ลงทุนไปแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท!! สถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของแบ็คแพ็คเกอร์หลายๆ คน ที่ชอบค้นหาความตื่นเต้นท้าทาย แม้จะไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีคนแวะเวียนมาชมอยู่ตลอด หลายๆ คนรู้จักสถานที่แห่งนี้ เพราะได้รับฟังจากผู้ที่ได้เดินทางมายัง Ho Thuy Tien สิ่งแรกที่จะได้เห็นเมื่อเดินทางเข้าไปยังสวนน้ำก็คือ…
-
วินาทีแห่งความซาบซึ้ง เมื่อหนุ่มพิการสายตา ได้เห็นหน้าภรรยาและลูก เป็นครั้งแรกในชีวิต!!
ลองจินตนาการดูสิว่า เราจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรถ้าหากว่าอยู่ดีๆ วันหนึ่งดวงตาของเรามันไม่ทำหน้าที่คอยเป็นกล้องส่องทางให้กับร่างกายเราอีกต่อไป แค่คิดก็รู้สึกได้ว่าต้องเป็นอะไรที่ลำบากมากแน่ๆเลยว่ามั้ย? Gene Purdie หนุ่มอเมริกันชน จากรัฐโคโลราโด ผู้ต้องเผชิญกับปัญหาอาการผิดปกติทางสายตาที่เรียกว่า ‘โรคสตาร์การ์ดท์’ ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับการมองเห็นทางสายตา ทำให้เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งอย่างเป็นเพียงแค่ภาพเลือนลางเท่านั้น ภาพถ่ายของ ‘Gene Purdie’ และครอบครัวที่เขาไม่เคยเห็นหน้าแบบชัดเจนเลยซักครั้ง ลองจินตนาการดูสิว่าเราจะรู้สึกอย่างไร ถ้าหากว่าเราได้เป็นพ่อคน มีลูกน้อยน่ารัก มีภรรยาผู้รู้ใจ แต่เรากลับไม่เคยเห็นหน้าของพวกเขาเลยซักครั้ง? และนั่นคือปัญเดียวที่เขาต้องเผชิญมานานหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่ง ‘จอย’ ภรรยาของเขาได้ดูรายการ ‘เรเชล เรย์ โชว์’ ซึ่งเป็นตอนเกี่ยวกับเครื่อง ‘eSight’ เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้ผู้พิการทางสายตา กลับมามองเห็นได้อีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจเขียนจดหมายไปหารายการทันที ด้วยความหวังที่ว่าสามีของเธออาจได้เป็นผู้โชคดีบ้าง และในที่สุดความหวังของทั้งคู่ก็กลายเป็นจริง พวกเขาถูกเชิญให้เข้าร่วมรายการที่นิวยอร์กทันที ทางรายการได้จัดแจงนำเครื่อง ‘eSight’ มาให้เขาสวมใส่ แต่ว่าจะได้ผลกับกรณีของเขารึเปล่าก็ไม่มีใครบอกได้… ในขณะที่ทุกคนในห้องส่งกำลังลุ้นกับปฏิกริยาของเขา ว่าแว่นนี้จะได้ผลหรือไม่ ยีนได้หันไปมองที่ภรรยาของเขา พร้อมกับพูดออกมาเพียงคำสั้นๆว่า ‘She’s Pretty’ แปลไทยก็ได้ประมาณว่า เธอช่างสวยงามเหลือเกิน ช่วงเวลาที่เขาได้เห็นหน้าภรรยา และลูกชายสุดที่รักเป็นครั้งแรกในชีวิต นอกจากนั้นแล้วทางบริษัทผู้ผลิตนวัตกรรมแว่นดังกล่าว…
-
ชายหนุ่มพลาด ต้องทิ้ง “ของที่ระลึกครอบครัว” ตอนขึ้นเครื่องบิน แต่มีคู่รักช่วยเก็บส่งคืนให้!!
บางทีในชีวิตคนเรา ก็มีของบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถกลั้นใจทิ้งได้ลง ถึงแม้ว่าของชิ้นนั้นจะไม่ได้มีประโยชน์ใช้สอยอะไร แต่ถ้าหากว่ามันเป็นเรื่องราวความทรงจำของคนที่เรารัก มันก็คุ้มค่าที่จะเก็บรักษามันไว้ตราบนานเท่านาน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สนามบินแห่งเมือง St.Pete เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งต้องขึ้นเครื่องกลับไปยังเมืองโอไฮโอ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ หากแต่ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบิน ไม่อนุญาติให้เขานำสิ่งของบางอย่างขึ้นไปบนเครื่องด้วยได้ เนื่องจากเขาเองก็ต้องปฏิบัติตามกฎ เพราะมันบรรจุของเหลวเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ เขาจึงจำเป็นที่จะต้องทิ้งมันไปทั้งน้ำตา เพราะมันคือสิ่งของที่มีค่าทางจิตใจมากกว่าจะประเมินราคาได้ Amarri Hernandez และแฟนหนุ่มของเธอ ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งคู่จึงเข้าไปเก็บวัตถุชิ้นดังกล่าวจากถังขยะ ก่อนจะพยายามติดต่อเพื่อส่งคืนให้เจ้าของตัวจริงต่อไป ทั้งคู่นำเอาสิ่งของดังกล่าวกับมาดู พบว่ามันคือ ของที่ระลึกอย่างหนึ่งที่มีภาพของคนในครอบครัวอยู่ด้านใน นอกจากนั้นยังมีข้อความที่เขียนไว้ว่า “เรารักเธอเคธี่ จากนาน่า และป๊ะป๋า” ซึ่งเป็นของขวัญที่คุณแม่ของชายคนดังกล่าวมอบให้ เพื่อฉลองครบ 5 ปี กับการได้รับอุปการะเคธี่มาเลี้ยงดู จากเหตุการณ์ที่สนามบิน หลังจากที่เขายอมทิ้งของที่ระลึกชิ้นนี้ Hernandez ได้ตะโกนบอกเขาว่า ‘ไม่ต้องห่วง คุณจะต้องได้มันคืนแน่นอน’ โดยที่พวกเขาไม่รู้จักกันมาก่อนเลย หลังจากที่พวกเขามาถึงที่บ้าน ทั้งคู่ได้ทำการโพสต์เรื่องราวดังกล่าว โดยหวังว่าจะให้มีคนแชร์ออกไปจนถึงมือของชายผู้เป็นเจ้าของสิ่งนี้จริงๆ และด้วยพลังของโซเชียลมีเดีย ทำให้ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้ง ทางด้านของ Hernandez ได้เดินทางไปไกลหลายร้อยกิโลฯ เพื่อที่จะได้นำสิ่งของดังกล่าวกลับคืนสู่เจ้าของ…
-
ด้วยความคิดถึง… หนุ่มญี่ปุ่นตั้ง ‘ตู้โทรศัพท์’ เพื่อโทรหาคนรักที่จากไปผ่านสายลม…
เชื่อว่าแทบจะทุกคนล้วนเกลียดการจากลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้านั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน มันช่างยากเหลือเกินกับการต้องยอมรับความเป็นจริงที่ว่า วันพรุ่งนี้ไม่มีเธออีกแล้ว… ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 เกิดเหตุแผ่นดินไหว และสึนามิครั้งใหญ่ขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น มากกว่า 16,000 คน ที่เสียชีวิตและยังมีผู้สูญหายอีกเป็นจำนวนมากที่ทุกวันนี้ไม่สามารถค้นพบได้ ‘Otsuchi’ ก็เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับผลกระทบครั้งใหญ่จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ประชาชนมากกว่า 10% ในท้องถิ่นหายสาบสูญ และเสียชีวิต ภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้น ณ เมืองแห่งนี้ แต่ทว่า 1 ปีก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ ‘Itaru Sasaki’ หนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งได้นำตู้โทรศัพท์สาธารณะมาตั้งไว้ในสวนหลังบ้านของตัวเอง เพียงเพราะเขารู้สึกคิดถึงญาติที่จากไปก่อนหน้านี้ “เพราะความคิดของผมที่มีต่อคนที่จากไป มันไม่สามารถส่งผ่านสายเครือข่ายโทรศัพท์แบบปกติได้ แต่ผมอยากจะส่งทุกความรู้สึกไปให้ถึงผู้ที่จากไปผ่านสายลม โดยมีตู้โทรศัพท์ตู้นี้เป็นสื่อกลาง” Itaru ให้สัมภาษณ์ 3 ปีให้หลังจากภัยพิบัติครั้งนั้น ตู้โทรศัพท์แห่งนี้ถูกชาวบ้านในละแวกนั้นเรียกว่า ‘โทรศัพท์แห่งสายลม’ มีผู้เข้ามาแวะเวียนใช้ตู้โทรศัพท์แห่งนี้มากกว่า 10,000 คน ซึ่งอันที่จริงแล้วโทรศัพท์ในตู้นี้ไม่ได้มีการต่อสายสัญญาณแต่อย่างใด จะว่าไปแล้วมันก็มีแค่ตู้และโทรศัพท์เก่าๆ นั่นแหละ แต่ชาวเมืองที่นี่เขาเลือกที่จะใช้มันเพื่อโทรหาคนรักที่จากโลกนี้ไปแล้ว แม้ว่ามันจะไม่มีเสียงตอบรับจากปลายทาง หรือพนักงานคอลเซ็นเตอร์ แต่ด้วยเสียงจากสายลมที่พัดผ่านเข้ามา พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าคนรักที่จากโลกนี้ไปแล้ว ต้องรู้สึกได้ถึงความคิดถึงเป็นแน่แท้ ปัจจุบันตู้โทรศัพท์แห่งนี้กลายเป็นจุดสนใจจากชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศ…
-
นักท่องเที่ยวรุมถ่ายเซลฟี่ “ลูกปลาโลมา” จนเสียชีวิต ชาวเน็ตร่วมออกแคมเปญรณรงค์!!
ยังจำกันได้มั้ยว่าเมื่อประมาณปีสองปีก่อน เคยมีข่าวที่ว่านักท่องเที่ยวริมชายหาดกลุ่มหนึ่ง ไปพบเจอกับ ‘ลูกปลาโลมา’ ตัวน้อยที่เผลอเกยตื้นขึ้นมา และแทนที่พวกเขาจะช่วยมันกลับลงน้ำทะเล แต่กลายเป็นว่านักท่องเที่ยวรุมแห่ถ่ายภาพกับมัน จนท้ายสุดลูกปลาโลมาก็ได้เสียชีวิตจากการขาดออกซิเจน ช่างน่าเศร้าใจนัก ที่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยสอนใจคนเราได้เลย เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่เพิ่งผ่านมา เว็บไซต์ TheDodo ได้ลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์น่าเศร้า ณ ชายหาดแห่งหนึ่งในเมือง San Bernando ประเทศอาร์เจนติน่า อ้างอิงจากข้อมูลของสื่อท้องถิ่น La Nacion ได้ระบุว่า ลูกปลาโลมาตัวดังกล่าวได้เข้ามาเกยตื้นบริเวณริมชายหาด แต่แทนที่ชาวเมืองในละแวกนั้นจะช่วยกันพามันกลับคืนสู่น่านน้ำ พวกเขากลับช่วยกันยื้อมันไว้เพื่อที่จะได้ถ่ายรูปเซลฟี่กับมัน ในช่วงเวลานั้นเองที่ลูกปลาโลมาผู้น่าสงสารได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ “พวกเขาปล่อยให้มันตาย แทนที่พวกเขาจะปล่อยมันคืนสู่น้ำทะเล แต่ทุกคนดันเลือกที่จะจับมันไว้เพื่อถ่ายรูปสวยๆงามๆ จนในที่สุดมันก็ต้องจากโลกนี้ไปเพราะขาดออกซิเจน” พยานในเหตุการณ์คนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น วิดีโอจริงจากในเหตุการณ์ จะเห็นได้ว่ามีคนมามุงเยอะมาก!! ไม่มีใครทราบอย่างแน่ชัดว่าก่อนหน้านี้ ลูกปลาโลมา ตัวดังกล่าวมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายของมันหรือไม่อย่างไร แต่หลายฝ่ายก็เชื่อว่าการที่มันเสียชีวิตไปนั้น มาจากการโดนมนุษย์จับไว้และไม่ยอมปล่อยให้มันกลับลงไปในถิ่นน้ำลึกอย่างแน่นอน จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีการออกมารณรงค์ และตั้งแคมเปญเพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงเรื่องนี้กันมากยิ่งขึ้นในอาร์เจนติน่า เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันกับลูกปลาโลมา 2 ชีวิต ภาพใบปิดโครงการดังกล่าว โดยหวังว่าจะมีคนเข้าใจ…
-
รู้จักกับ ‘Kevin Briggs’ ลุงจ่าไม่เฉยสุดแกร่ง ผู้ช่วยคนที่จะฆ่าตัวตายมาแล้วนับไม่ถ้วน!!
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักสะพาน ‘Golden Gate Bridge’ แลนด์มาร์กสำคัญของเมือง San Francisco กันเป็นอย่างดี (ก็แหงล่ะสิ…เล่นปรากฏมาในหนังแทบจะทุกเรื่องแล้วมั้งเนี่ย!?) แล้วรู้กันรึเปล่าว่าแลนด์มาร์กแห่งนี้ อีกด้านหนึ่งมันเป็นสถานที่ยอดฮิตของคนที่คิดจะฆ่าตัวตายเหมือนกันนะ ซึ่งนับตั้งแต่วันเปิดทำการเมื่อปี 1937 จวบจนปัจจุบัน ก็มีคนใช้สะพานแห่งนี้เป็นประตูสู่โลกหน้ามาแล้วหลายพันคน มุมยอดฮิตที่กลายเป็นประตูสู่ภพภูมิหน้า… แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงแค่เกริ่นนำเท่านั้น เพราะวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับผู้พิทักษ์แห่งสะพาน จ่า ‘Kevin Briggs’ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เพิ่งเกษียณจากการประจำการที่ ‘California Highway Patrol’ ก่อนจะผันตัวมาเป็น ‘ผู้พิทักษ์แห่งสะพาน Golden Gate’ อย่างเต็มตัว ถ่ายรูปหล่อๆ คู่กับสะพานแห่งนี้ซักหน่อย วีรกรรมที่อดีตนายตำรวจคนนี้ทำก็นับว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เพราะทุกๆ วันเขาจะคอยออกตรวจตราสะพานแห่งนี้ และถ้าพบเห็นว่ามีใครจะเข้ามาทำการฆ่าตัวตายที่นี่ละก็ เขาพร้อมที่จะให้คำปรึกษา และให้กำลังใจ ด้วยประโยคเด็ดที่มักจะใช้พูดกับคนทุกคนเหมือนกันว่า “เธอมาที่นี่เพื่อจะทำร้ายชีวิตของตัวเองจริงๆเหรอ?” ทั้งหมดนั้นเริ่มมาจากช่วงแรกที่เขาเข้ารับราชการตำรวจในพื้นที่แห่งนี้ เขาได้พบว่าทุกเดือนจะมีคนมากระโดดสะพานเพื่อมุ่งสู่โลกหน้ามากถึงเดือนละ 2 ครั้ง!! หลังจากเกษียณแล้ว เขาก็ได้นำเรื่องราวทั้งหมดที่เคยพบเจอ มาเล่าต่อผ่านปลายปากกา จนกลายเป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ได้เสียงตอบรับค่อนข้างดีจากหลายสำนักพิมพ์ และด้วยความที่เขาไม่อยากให้ใครคิดสั้น…
-
25 ภาพบุคคลธรรมดาๆ ที่มีหน้าตาคล้ายกับเหล่าเซเล็บคนดัง จนชาวเน็ตนำมาบอกต่อ…
รู้หรือไม่ว่าบนโลกของเรา มีจำนวนประชากรมากถึง 7 พันล้านคนเลยนะ และแน่นอนว่าเมื่อประชากรบนโลกหนาแน่นขนาดนี้ มันก็จะต้องมีคนที่มีใบหน้าเหมือนกันเป็นธรรมดา ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้เป็นญาติ พ่อแม่ หรือพี่น้องกันเลย เหมือนดังเช่นเซเล็บคนดังเหล่านี้ ถึงพวกเขาจะมีชื่อเสียง และกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ยังมีผู้คนที่หน้าตาเหมือนกับพวกเขาอยู่ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ บางคนก็เหมือนดาราดังเป๊ะซะจนโด่งดังไปชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว ว่าแต่จะมีใครบ้างนั้น มารับชมไปพร้อมๆ กันเลยจ้า 1.George Clooney จากตุรกี 2. Danny DeVito จากบราซิล 3. ชายชาวเม็กซิกันที่ดูคล้าย Morgan Freeman เหลือเกิน 4. Barrack Obama จากอินโดนีเซีย 5. หนุ่มชาวสวีเดนที่หน้าตาเหมือนกับนักแสดงดัง Leonardo Di Caprio 6. Hugh Laurie จากรัสเซีย 7. Matt Damon เวอร์ชั่นผิวสี…
-
Shelby หมาที่ถูกเจ้าของทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง 2 ปี ถูกช่วยไว้และกลับมาไว้ใจมนุษย์อีกครั้ง
นี่คือเรื่องราวของเจ้าหมาที่อาศัยอยู่เพียงลำพังในป่าเป็นเวลากว่า 2 ปี… ผู้คนที่อาศัยอยู่ในตึกสำนักงานออฟฟิศในเขตเมือง Kennesaw รัฐ Georgia ได้ทำการให้น้ำให้อาหาร รวมไปถึงของเล่นกับมันมาตลอดในช่วงระยะเวลาสองปีนี้ และพวกเขาก็ตั้งชื่อให้มันว่า Shelby คุณ Jason Flatt ผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือ Friends to the Forlorn Pitbull Rescue เล่าว่าพวกเขาพยายามที่จะช่วยเหลือมันด้วยการพามันออกไปจากป่านี้ แต่ผ่านไป 2 ปี ก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้มันออกมาได้ ผู้คนที่อาศัยอยู่แถวนั้นเล่าว่าเจ้า Shelby นั้นเคยอาศัยอยู่กับครอบครัวที่อพาร์ตเม้นต์ใกล้ๆ นี้ แต่พอเจ้าของของมันย้ายออกไปก็ไม่ได้พามันไปด้วย จึงทำให้มันต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว และไม่ไว้ใจมนุษย์คนไหนอีกเลย… ในทุกๆ วันเจ้า Shelby จะออกมานั่งอยู่บริเวณสนามหญ้าใกล้ๆ ชายป่าพร้อมกับจ้องมองไปยังอพาร์ตเม้นต์ที่มันเคยอยู่ ราวกับรอคอยให้เจ้านายของมันกลับมารับไปอยู่ด้วยอีกครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มา ในที่สุดก็มีคนแจ้งไปยัง Friends to the Forlorn Pitbull Rescue เพื่อช่วยเหลือเพราะว่าพื้นที่ป่าแห่งนั้นกำลังจะถูกรื้อไปทำเป็นอพาร์ตเม้นท์แห่งใหม่แล้ว แน่นอนว่าคุณ Jason เองก็ไม่ปฏิเสธ รีบตรงดิ่งมายังป่าที่เจ้า Shelby อาศัยอยู่ …
-
ศิลปินเปลี่ยนแผ่นซีดีเก่าๆ ให้กลายเป็น “งานศิลปะรีไซเคิล” สุดเก๋ที่ต้องยกนิ้วให้
ด้วยการมาถึงของอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง การเคลื่อนย้ายส่งไฟล์ขนาดใหญ่ๆ ไม่ต้องใช้เวลานานอีกต่อไป แฟลชไดรฟ์หรือคลาวด์ไดร์ฟ กลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ในการใช้งาน ด้วยเหตุนี้เองแผ่นซีดีจึงกลายเป็นเทคโนโลยีที่ล้าหลังไปแล้ว ล่าสุด Sean Avery ศิลปินหนุ่มชาวออสเตรเลีย ที่มีเชื้อสายแอฟริกัน จึงได้นำแผ่นซีดีเก่าๆ เหล่านั้น มาเปลี่ยนเป็นงานศิลปะรีไซเคิลระดับเทพ แบบที่คุณเองก็อาจจะนึกไม่ออกเลยว่ามันทำมาจากแผ่นกลมๆ ที่เราเคยใช้กันจริงๆ หรือนั่น “งานของผมส่วนมากสร้างมาจากวัสดุรีไซเคิล บางทีก็เป็นแผ่นซีดีเก่าๆ ฮาร์ดดิสคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย ผมเรียกงานของผมว่าเป็นงานศิลปะแบบยั่งยืน ตอนทำก็สนุกดีนะ แต่ใช้เวลามากหน่อย ดังนั้นผมเลยไม่ได้ทำเยอะเท่าไหร่” Sean Avery กล่าว พญานก เจ้าหมาน้อย เหมือนสิ่งมีชีวิตในโลกกระจก งานละเอียดดีจริงๆ หมีโคอาล่าก็มา หนู หมีแพนด้า ไปชมผลงานอื่นๆ ของเขากันดีกว่า สุดยอดจริงๆ ใครชื่นชอบผลงานของเขา ก็ไปติดตามได้ที่เว็บไซต์ส่วนตัวของเขาที่ seaneavery.com นะฮะ ที่มา boredpanda , seaneavery
-
คุณยายวัย 75 ปีรอดพายุทอร์นาโด เพราะจำจากในหนัง ว่าต้องลงไปนอนในอ่างอาบน้ำ!!
ภัยธรรมชาติมักจะมาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัวมาก่อน ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำคือ อยู่ด้วยความระมัดระวังตัวอยู่เสมอ และคอยฟังการรายงานข่าวพยากรณ์อากาศ ซึ่งมันก็อาจจะช่วยได้ส่วนหนึ่งเหมือนกัน พายุทอร์นาโดเป็นภัยธรรมชาติที่มักจะสร้างความเสียwหายอย่างมหาศาล เพราะนอกจากบ้านเรือนแล้ว ยังทำให้ผู้คนสูญหายและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้ง ส่วนวิธีการเอาตัวรอดจากพายุทอร์นาโดนั้นก็ได้มีผู้รู้ออกมาให้คำแนะนำกันมากมาย รวมทั้งมีการนำเอาไปใช้ในภาพยนต์ต่างๆ ด้วย ส่วนจะใช้ได้จริงหรือไม่นั้นก็คงจะขึ้นอยู่กับขนาดของพายุ รวมถึงลักษณะของบ้านและการจัดวางข้าวของต่างๆ อีกที แต่สำหรับคุณยาย Charletta Williams วัย 75 ปีคนนี้ เธอโชคดีที่สามารถเอาตัวรอดได้จากพายุทอร์นาโดด้วยเทคนิคที่เธอจำมาจากการดูหนัง ในวันที่เกิดเหตุนั้น คุณยาย Charletta ได้นั่งดูทีวีอยู่ในบ้านกับลูกชาย แล้วมีข่าวพยากรณ์อากาศแจ้งเตือนว่า จะมีพายุทอร์นาโดเกิดขึ้นแถวบ้านของเธอ ในวินาทีนั้น เทคนิคจากหนังก็ผุดขึ้นมาในหัวของคุณยายทันที และเธอก็ไม่รอช้าที่จะทำตาม เธอรีบหลบไปนอนในอ่างอาบน้ำพร้อมกับลูกชาย และเมื่อพายุมาถึง มันก็พัดเอาทุกอย่างในบ้าน จนกระทั่งหลังคาบ้านเปิดออก รวมทั้งอ่างที่เธอกับลูกชายลงไปนอนนั้นก็ถูกพัดลอยขึ้นสู่อากาศด้วย หลังจากอ่างดังกล่าวนี้ก็หมุนอยู่กลางอากาศสักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ร่วงลงสู่พี้นตามแรงหมุนของพายุ เมื่อทุกอย่างสงบลงแล้ว ทั้งคู่จึงพบว่าตัวเองถูกพัดเข้ามาในป่าแห่งหนึ่ง แต่โชคดีที่ทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย นี่คือฉากในหนังเรื่อง Indiana Jones and The Crystal Skull ที่คุณยายจำมาใช้…
-
28 ถุงหิ้วสุดครีเอท สื่อภาพโฆษณาบนถุงแทนคำพูด มันเจ๋งมากจนไม่อยากจะทิ้งเลย!!
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการขายสินค้านั่นก็คือการโฆษณา โดยจะมีช่องทางการโฆษณาที่หลากหลายและสร้างสรรค์อย่างไม่มีขีดจำกัด และหนึ่งในนั้นคือ ถุงสำหรับใส่สินค้านั้นๆ เพราะเป็นสิ่งที่เห็นชัดที่สุด เพราะเวลาคนมองมา เขาก็จะเห็นสิ่งที่เราถือ และยิ่งถุงใบนั้นมีความน่าดึงดูดมาเท่าไร สิ่งของที่อยู่ข้างในก็จะน่าดึงดูดตามไปด้วย 1. ถุง ASPE 2. ถุง Ann Summers 3. ถุง Shumensko อย่างกับหิ้วเบียร์มาทั้งลังแหน่ะ 4. ถุงรถยนต์ Golf GTI นึกว่าห้อยประตูรถมา 5. ถุง Meralco 6. ถุงของ Greenpeace กับการรณรงค์รักษ์โลก 7. ถุงของศูนย์ออทิสติกในดูไบ 8. ถุง Stop’n grow: Nailbiter สนับสนุนไม่ให้กัดเล็บ 9. ถุง Panadol Extra ยาแก้ปวดหัว 10. ถุง Daihatsu มาในรูปแบบพวงมาลัยรถยนต์ 11. ถุงของสภากาชาด…
-
ย้อนชมวิถีนักรบซามูไรในอดีต กับการคว้านท้องต่อหน้าผู้คน เกียรติยศที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต!!
เมื่อพูดถึงซามูไรแล้วเราคงจะนึกถึงญี่ปุ่น เพราะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จนมีการนำไปในประเทศอื่นๆ ในปัจจุบัน ซึ่งอาจทำให้รูปแบบต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปบ้าง และนี่คือชุดภาพที่น่าสนใจของชนเผ่านักรบซามูไร โดยเป็นภาพเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวซามูไรในอดีตเมื่อ 150 ปีที่แล้ว นอกจากวิถีชีวิตทั่วไปแล้ว ประเพณีที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ การฆ่าตัวตายของเหล่านักรบด้วยการคว้านท้องตัวเอง – เซ็ปปุกุ (ญี่ปุ่น: 切腹 seppuku) หรือ ฮาราคีรี (ญี่ปุ่น: 腹切り harakiri ฮะระกิริ) การคว้านท้องถูกนำมาใช้โดยสมัครใจที่จะตายกับซามูไรที่มีเกียรติแทนที่จะต้องตายภายใต้เงื้อมมือศัตรู (ในกรณีที่ถูกจับโดยข้าศึก) อีกทั้งยังเป็นรูปแบบของโทษประหารชีวิตสำหรับซามูไรที่มีการกระทำผิดร้ายแรงอันนำความอัปยศมาสู่ชาวซามูไร สำหรับการฆ่าตัวตายโดยการจำยอม ถือเป็นพิธีซึ่งโดยปกติจะเป็นพิธีกรรมที่มีความซับซ้อนหลายขั้นตอน และหากเป็นการดำเนินการเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจว่าต้องการรักษาเกียรติของตัวเอง ก็จะต้องมีผู้คนมาชมขณะทำการดังกล่าวด้วยด้วย สำหรับต้นกำเนิดของซามูไร คาดว่าเกิดขึ้นในยุค Heian หรือช่วงปี 710 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนพื้นเมือง Emirishi ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค Tohuku ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ Honshu ในอดีตนั้นชนเผ่าซามูไรเป็นผู้กุมอำนาจมานานหลายศตวรรษ และถือเป็นผู้ปกครองประเทศที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขากลายเป็นนักรบขุนนางของญี่ปุ่น ที่มีอำนาจอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 12-19 ต่อมาในยุคของขงจื้อ กฏหมายเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้เหล่าซามูไรเป็นที่รู้จักในฐานะบูชิโดหรือวิถีแห่งนักรบซามูไร แต่ในยุคนี้ยังไม่ได้เน้นศิลปะการต่อสู้และการให้เกียรติแก่ความตายมากนัก แต่จะเน้นในเรื่องความกล้าหาญ…
-
‘คลาสออกกำลังเปลือย’ แห่งแรกในอังกฤษ ให้คุณเคลื่อนไหวอย่างอิสระ ไร้เสื้อผ้ารบกวน
สำหรับนักกีฬาหรือคนที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำคงรู้ดีว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นควรมีความกระชับ ไม่รุ่มร่าม เพื่อให้ร่างกายขับได้สะดวกสบายนั่นเอง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกีฬาแต่ประเภทด้วย แต่เราเคยคิดมั้ยว่า ถ้าออกกำลังโดยไม่ใส่เสื้อผ้าเลยจะเป็นยังไง? จะสบายตัวมากแค่ไหนกันหนอ? ใครที่คิดไม่ออก เราจะพาไปดูคลาสออกกำลังกายแห่งแรกในอังกฤษ ที่ให้คุณได้ออกกำลังกายแบบเปลือยเปล่า ไร้เสื้อผ้ารบกวนกระบวนท่า!! นี่เป็นคลาสออกกำลังกายที่เปิดสอนโดย Helen Smith วัย 35 ปี จะให้ลูกค้าเข้ามาออกกำลังกายในทุกๆ คืนวันเสาร์ โดยมีข้อกำหนดที่ว่าทั้งครูฝึกและผู้ที่มาเข้าคอร์สจะออกกำลังกายโดยไม่ใส่เสื้อผ้าเลยแม้แต่ชิ้นเดียว Helen จะทำหน้าที่เป็นผู้นำออกกำลังกายในแต่ละครั้ง มีท่าต่างๆ ที่ไม่ต่างจากคลาสออกกำลังกายทั่วไป แต่ที่พิเศษกว่าก็คือเป็นคลาสที่ต้องแก้ผ้าทุกคน ไม่มีความเขินอาย เพราะเธอจะสอนด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง ส่วนค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 300 บาทต่อชั่วโมง โดยคลาสแรกที่เปิดสอนนั้นได้มีผู้เข้าร่วมอายุตั้งแต่ 30-70 ปี ซึ่งเธอก็ยินดีต้อนรับคนทุกเพศทุกวัย เพราะท่าออกกำลังกายของเธอก็ออกแบบมาเพื่อทุกคนอยู่แล้ว Helen ให้เหตุผลในการเปิดคลาสเปลือยว่า “การออกำลังกายโดยไม่ใส่เสื้อผ้านั้นจะทำให้คุณเห็นท่าต่างๆ จากผู้สอนได้ชัดเจน ซึ่งต่างกับการใส่เสื้อผ้า เพราะมันจะบดบังบางส่วนจนทำให้คุณทำท่าผิดไปได้” “นอกจากนี้คุณก็ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับการซักผ้าหลังออกกำลังด้วย มันเป็นวิธีที่ดีสำหรับการปล่อยร่างกายให้เป็นอิสระโดยไม่ต้องกังวล” แม้จะเป็นคลาสเปลือย แต่ผู้หญิงสามารถสวมใส่ยกทรงได้ หรือคุณจะสวมอะไรก็ได้ถ้าทำให้การออกกำลังกายของคุณมีความสะดวกได้มากยิ่งขึ้น เธอยังบอกอีกว่า “ผู้เข้าร่วมทุกคนต้องลงทะเบียนล่วงหน้าโดยส่งอีเมลล์มาให้ฉันเพื่อรับรหัสสมาชิก…
-
นักแสดงหนุ่ม ชวนคุณยายวัย 89 มาอยู่ด้วยที่บ้าน เพราะเห็นว่าเธอไม่มีใครดูแลเลย…
ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นบ่อยนัก ที่เราจะได้เห็นหนุ่มวัย 31 ปีที่จะมาเป็นเพื่อนซี้กับคุณยายวัย 89 ได้แต่เรื่องนี้มันได้เกิดขึ้นแล้วกับชายหนุ่มนายหนึ่งที่มีนามว่า Chris Salvatore กับคุณยาย Norma Cook เรื่องมันเริ่มจากทั้งสองคนนั้นเป็นเพื่อนบ้านมาระยะเวลากว่า 1 ปี และเมื่อเจอหน้ากันคุณยายก็มักจะเรียกพ่อหนุ่มว่า “หลานชาย” อยู่เสมอ เพราะเธอไม่เคยมีหลาย และเขาก็ยินดีที่จะถูกเรียกแบบนั้น เรื่องราวดำเนินมาอย่างปกติ จนกระทั่งคุณยาย Norma แกป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลไปด้วยอาการแทรกซ้อนจากโรคลูคีเมีย คุณยายแกมีปัญหาเรื่องการหายใจจากโรคปอดบวม แน่นอนว่าคุณยายรู้ตัวว่าตัวเองจะอยู่ได้อีกไม่นานแน่นอน ฉะนั้นทั้งคู่จึงตัดสนใจที่จะใช้เวลาที่เหลือด้วยกันให้ได้มากที่สุด ซึ่งหลังจากที่ออกโรงพยาบาลมาได้ไม่นานตัวคุณยายจำเป็นจะต้องได้รับการดูแล 24 ชั่วโมง ด้วยเหตุผลนี้การที่เขาจึงรับคุณยายมาอยู่ด้วย ก็เพื่อที่เขาจะได้ดูแลคุณยายได้นั่นเอง แน่นอนว่าหลังจากที่รับคุณยายมาอยู่ด้วยกันแถมยังต้องดูแล 24 ชั่วโมงเขาจึงเริ่มเปิดแคมเปญบนเว็ป GoFundMe เพื่อนำมาช่วยในการดูแลคุณยาย โดยเขาระดมทุนได้ถึง 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.6 ล้านบาทเลยทีเดียว “ทางอื่นที่เหลือทางเลือกเดียวของคุณยายก็คือต้องไปอยู่สถานดูแล ซึ่งผมให้เป็นแบบนั้นเกิดคุณกับคนที่เหมือนคุณยายแท้ๆ ของผมไม่ได้หรอก” “Chris เป็นคนที่ดีมากๆเลยล่ะ แล้วถ้า Chris ไม่ได้เป็นนักแสดงฉันว่าเขาสามารถไปเป็นเชฟได้เลยนะ” คุณยายพูดถึงหนุ่ม Chris พร้อมบอกอีกว่าเธอชอบอาหารที่เขาทำมากๆ…
-
ร้านอาหารสเปนเสิร์ฟอาหารบนร่างเปลือยเปล่า สร้างฟีลโรแมนติกและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ
ปัจจุบันนี้ร้านอาหารหลายๆ แห่งไม่ได้มีแค่อาหารเท่านั้น แต่พวกเขามักจะมีลูกเล่นอื่นๆ เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้า จนบางทีลูกเล่นเหล่านั้นก็เรียกลูกค้าได้ดีกว่ารสชาติอาหารซะอีก ล่าสุดที่ประเทศสเปนก็มีร้านอาหารเปิดใหม่ ที่ให้ลูกค้ารับประทานอาหารบนเรือนร่างของพนักงานโดยตรง ที่น่าตื่นเต้นคือพนักงานในร่างเปลือยนะคะคุณขาาา Innato Tenerife คือร้านอาหารที่เพิ่งเปิดในสัปดาห์นี้ จุดดึงดูดลูกค้าก็คือ การให้ลูกค้าไม่ว่าจะชายหรือหญิงได้รับประทานอาหารบนเรือนร่างของพนักงานเสิร์ฟได้อย่างใกล้ชิดแทบจะแนบเนื้อกันเลย และไม่ต้องกลัวว่าใครจแอบถ่ายรูปคุณแล้วนำไปเผยแพร่ต่อนะ เพราะร้านอาหารนี้มีกฏว่า ห้ามนำโทรศัพท์หรือกล้องถ่ายรูปเข้าไป (แต่ก็เป็นจุดที่ต้องระวังอยู่ดี) โดยก่อนเข้าไปนั้นทุกคนจะถูกตรวจอย่างเคร่งครัด จากนั้นก็ต้องเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำแทน และเมื่อเข้าไปนั่งที่โต๊ะ ลูกค้าก็ต้องถอดเสื้อคลุมนั้นออก เหลือเพียงแต่เรือนร่างเปลือยเพื่อดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดโรแมนติกที่เป็นกันเองสุดๆ เพราะทุกคนที่มาในร้านนี้ก็คงมีความชอบแบบเดียวกันนั่นเอง ร้าน Innato Tenerife ถูกปิดกั้นอย่างมิดชิด โดยชั้นในสุดนั้นได้ทำล้อมด้วยไม้ไผ่เพื่อให้แน่ใจว่าคนภายนอกจะไม่สามารถมองเห็นได้ และยังเป็นการสร้างบรรยากาศให้ลูกค้าได้รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ด้วย สำหรับความพิเศษของร้านนี้ก็คือ ‘เมนูเปลือย’ โดยจะให้พนักงานหนุ่มสาวทำหน้าที่เป็นจาน นอนลงบนโต๊ะอาหาร แล้วมีไม้เลื้อยปกปิดอยู่เล็กน้อยเพื่อให้เกิดความเร้าใจยิ่งขึ้น และเมนูที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ ‘Happy Endings’ คือจะมีพนักงานทั้งหลายและหญิงนอนลงบนโต๊ะเช่นเดิม แต่เมนูนี้จะทำการราดซอสช็อคโกแลตบนตัวพนักงาน จากนั้นลูกค้าจะนำสตรอว์เบอร์รีมาจิ้มจุ่มหรือจะเลียโดยตรงเลยก็ได้ แล้วแต่จะสะดวกเลยจ้าาาาา ส่วนเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจก็จะเริ่มต้นที่ 5,600 บาท ในจานนี้ประกอบด้วยสิ่งที่เรียกว่า Pulp Fiction คือจะมีปลาหมึก มันฝรั่ง และพริกขี้หนู อีกจากหนึ่งคือ Olindo…
-
นักศึกษาสาวสร้างผลงาน “ศิลปะจากการถูกลวนลาม” ระบายความอัดอั้นในใจแทนคำพูด
ปัญหาการถูกลวนลามทางเพศนั้นมีให้เห็นในทุกสังคม ส่วนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อมักจะเป็นผู้หญิง และด้วยจุดนี้เองที่ทำให้เหยื่อหลายคนกลายเป็นคนที่หมดหวังในชีวิตและตัดสินใจทำอะไรผิดๆ ไป แต่สำหรับ Emma Krenzer แล้ว ไม่คิดเช่นนั้น แต่เธอเลือกที่จะนำเรื่องราวการถูกลวนลามทางเพศนั้นมาสร้างเป็นผลงานภาพเพราะมันเป็นสิ่งที่สะท้อนปัญหาได้ดีกว่าคำพูด Emma วัย 19 ปี เป็นนักศึกษาศิลปะจากมหาวิทยาลัย Nebraska Wesleyan University และที่แห่งนี้เองที่ทำเธอได้ระบายความในใจผ่านภาพศิลปะของเธอ ผลงานของหญิงสาวนั้น เป็นภาพผู้หญิงเปลือยที่มีสีต่างๆ แปดเปื้อนอยู่บนร่างกาย ซึ่งเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการข่มขืนได้ชัดเจน ส่วนแบบในภาพนี้คือเพื่อนของ Emma โดยหลังจากที่ถ่ายรูปแล้วเธอก็นำไปปริ้นท์ให้มีขนาดเท่าคนจริง แล้วนำสีมาปาดตามส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วยมือ แต่ละสีนั้นมีความหมายที่แตกต่างกันไป ซึ่งเธอก็ทำแผนภาพสีไว้ด้านล่าง เพื่อบอกให้รู้ว่าแต่ละสีนั้นหมายถึงใครและเธอถูกคนพวกนั้นลวนลามในส่วนไหนบ้าง ภาพดังกล่าวนี้ถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์เมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีคนกดไลค์ถึง 300,000 คนและถูกแชร์ต่ออีก 120,000 ครั้ง นี่ไม่ใช่ภาพศิลปะเพื่อความสวยงาม แต่มันคือการนำเสนอความในใจที่มีประสิทธิภาพ เพราะบางทีการที่จะพูดเรื่องแบบนี้ให้ใครสักคนฟังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นภาพศิลปะน่าจะเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีที่สุด Emma บอกว่า “มันคือความจริงที่เกิดขึ้นกับตัวฉันเอง และฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นความจริงที่เกิดขึ้นกับหลายๆ คนด้วย ดังนั้นฉันจึงทำแผนภาพสีกำกับไว้ เพราะฉันเชื่อว่าทุกคนคงเคยถูกสัมผัสจากบุคคลเหล่านี้…
-
ชาวเน็ตชื่นชม “ระบบจราจรการบินสุดเทพ” สนามบินลอนดอน ที่ขึ้นลงแทบจะจี้ตูดแล้ว
ปัจจุบันการผู้คนมักนิยมเดินทางด้วยเครื่องบิน แม้ค่าตั๋วที่นั่งจะค่อนข้างสูง แต่ผู้คนก็ยังจองกันไม่เว้นแต่ละวัน อันเนื่องมาจากความสะดวกสบายและระยะเวลาในการเดินทาง ซึ่งในปัจจุบันตามสนามบินต่างๆ ก็มักจะเต็มไปด้วยผู้คน จนบางแห่งไม่อาจรองรับผู้โดยสารจำนวนมากได้ London’s Heathrow Airport เป็นหนึ่งในสนามบินที่มีผู้โดยสารมากที่สุดในโลก ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าเวลามองขึ้นไปบนฟ้าจึงเห็นเครื่องบินทยอยลงจอดและทะยานสู่ฟากฟ้าเรียงกันเต็มไปหมด บรรยากาศน่านฟ้าเหนือสนามบิน London’s Heathrow ที่มีเครื่องบินเตรียมร่อนลงจอดอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากสนามบินแห่งนี้เป็นทั้งปลายทางและจุดเปลี่ยนเครื่องไปยังจุดหมายอื่นๆ หลายเส้นทาง ดังนั้นจึงมีเครื่องร่อนลงจอดสนามบินแห่งนี้แทบทุกๆ นาที ติดกันเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้าจะเป็นช่วงเวลาที่สนามบินวุ่นวายมากที่สุด หลายคนมองว่าการที่เครื่องบินออกร่อนลงจอดในเวลาไล่เลี่ยกันเช่นนี้ อาจเกิดอันตรายได้หากเครื่องบินลำใดลำหนึ่งบินช้า หรือเร็วเกินไป อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่ทางสนามบิน Heathrow ได้สร้างความเชื่อมั่นในผู้โดยสารว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะไม่เกิดขึ้น เพราะพวกเขาได้จัดระเบียบการจราจรทางอากาศอย่างดีทุกครั้งก่อนนำเครื่องลงจอด และพนักงานหอควบคุมก็ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ทางสนามบินก็ยังมีระบบควบคุมความปลอดภัยที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือสูง ที่สำคัญการลงจอดในเวลาไล่เลี่ยกันนี้เป็นวิธีการที่ปฏิบัติมานานแล้วแต่ก็ยังไม่เคยมีเหตุการณ์เครื่องบินชนกันเลยสักครั้ง วิดีโอจาก TopFelya ที่แสดงให้เห็นถึงการร่อนลงจอดของเครื่องบินในระยะเวลา 30 นาที เมื่อเห็นแบบนี้แล้วทำให้รู้ได้เลยว่า สนามบินแห่งนี้มีเครื่องบินลงจอดไล่เลี่ยกันเกือบแทบจะทุกนาทีในช่วงเวลาเช้าเลย ย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นภาพจริงไม่ได้ตัดต่อ เพียงแต่ทำการย่นระยะเวลาภายในคลิปให้สั้นลง และการที่มีเครื่องบินลงจอดไล่เลี่ยกันเป็นเรื่องปกติสำหรับสนามบินแห่งนี้ด้วย ที่มา sploid.gizmodo l TopFelya
-
เบื่อปีนหน้าผาธรรมดาไหม มานี่เลย “หน้าผาอวัยวะเพศ” ให้การปีนกระตู้ววู้วขึ้นกว่าเดิม!!
กีฬาปีผาจัดว่าเป็นกีฬาเอ็กซ์จตรีมอย่างหนึ่งที่หลายๆคนคงจะชอบไปเล่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้มันก็เป็นกีฬาปกติที่ไม่แปลกอะไรอีกต่อไป ล่าสุดก็ได้มีบริษัทออกแบบที่มีชื่อว่า Bompas & Parr ได้เปิดตัวผาแบบใหม่ที่มีรูปร่างหน้าตาล่อแหลมพอสมควรเลยล่ะ หน้าผาจำลองนี้มีชื่อว่า “Grope Mountain” โดยตัวผาจะมีรูปร่าวหน้าตาประกอบไปด้วย อวัยะเพศชายหญิง เต้านม ก้น รวมถึงใบหน้าก็มีเช่นกัน ตัวอวัยวะที่แปะติดอยู่กับกำแพงจะมีสีสันที่สดใส แถมตัวอวัยวะพวกนี้ยังทำมาจากพลาสติกชั้นดี ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องความทนทานพร้อมที่จะให้พวกเราได้ปีนขึ้นไปถึงจุดสุดยอดกัน (หมายถึงจุดสุดยอด จุดสูงสุดของหน้าผานะ!!) ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกสนใจเจ้า Grope Mountain ผาอวัยวะนี้ขึ้นมาแล้ วอยากจะบอกไปปีนดูก็คงต้องลงทุนออกค่าตั๋วเครื่องบินแพงสักหน่อย(แพงสักหน่อย) เพราะว่าเจ้าผา Grope Mountain นี้จะจัดแสดงที่เมืองลอนดอน และลิเวอร์พูลเท่านั้น” งานจะจัดขึ้นวันที่ 11-13 ในลอนดอนและ 14 กุมภาพันธ์ ในลิเวอร์พูล แน่นอนว่ามันตรงกับวันวาเลนไทน์นั่นเอง ใครที่กำลังหาที่ออกเดทใหม่ๆอยู่เจ้า Grope Mountain นี้ก็เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยนะเออ สุดท้ายแล้วถ้าใครที่อยากไปแต่ว่า 14 วาเลนไทน์มันกระชั้นชิดเกินไปก็สามารถไปเยี่ยมเยียนเจ้ากำแพงนี้ได้ที่ “Museum of Sex” ซึ่งอยู่ในนิวยอร์คหลังจากงานในอังกฤษสิ้นสุดแล้วนั่นเอง ฉะนั้นก็เก็บกระเป๋าแล้วเตรียมไปปีนให้ถึงจุดสุดยอดกันได้เลย!! ที่มา Metro
-
หนุ่มจีนปั่นจักรยานกลับบ้านตรุษจีน นานนับเดือนกว่า 530 กิโล แต่โดนตำรวจทักว่า “มาผิดทาง!!”
มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะขี้เหนียวหรืออยากจะประหยัดเงินด้วยการลดค่าใช้จ่ายด้วยการปั่นจักรยานไปไหนมาไหน ซึ่งหนุ่มชาวจีนคนนี้ก็เช่นกัน แต่มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยถ้าเขาไม่ปั่นจักรยานไกลถึง 531 กิโลเมตร แถมยังปั่นกลับบ้านผิดทางอีกตะหาก!! ภาพของเขาจากกล้องวงจรปิด รายงานข่าวจากทาง People’s Daily Online ระบุว่าหนุ่มชาวจีนคนนี้มาทำงานต่างถิ่น แต่ทว่าเมื่อถึงช่วงเทศกาลเขากลับไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่าตั๋วรถไฟเพื่อเดินทางกลับบ้าน ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยตัวเอง แต่ทว่าในขณะที่เขาปั่นจักรยานอยู่บนทางหลวง เขาก็ถูกตำรวจหยุดไว้และถามว่าจะไปที่ไหน จนท้ายที่สุดเขาก็ได้รู้ว่า ตัวเองปั่นมาผิดทางตลอดทางจริงๆ ที่เขาต้องปั่นไปคือขึ้นไปทางเหนือ แต่เขากลับปั่นมาทิศใต้ซะงั้น แถมปั่นมาแล้ว 531 กิโลเมตร อีกตะหาก!! ตำรวจเรียกตัวเขาให้หยุดตรวจ จนกระทั่งบอกเขาว่ามาผิดทาง ปั่นมาแล้วกว่า 531 กิโลเมตร ต้องเรียกว่าความอดทนของเขาสูงมาก จากรายงานของตำรวจบอกว่านายคนนี้เขาอ่านตัวหนังสือบนป้ายบอกทางไม่ออก ฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะหลงทางจนปั่นผิดทิศมาได้ขนาดนี้ ซึ่งเขากะปั่นจากเมืองรี่เฉา ไปยังเมืองฉีฉีฮา ที่เป็นบ้านของเขาซึ่งคิดระยะทางยาวกว่า 1,738 กิโลเมตร หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นทางตำรวจกับเจ้าหน้าที่ทางหลวงได้สมทบทุนให้กับเขาเพื่อให้เขาได้ซื้อตั๋วกลับบ้านกลับไปเฉลิมฉลองกับที่บ้านเป็นที่เรียบร้อย ส่วนใครที่กำลังจะเดินทางไปไหนก็อย่าลืมศึกษาเส้นทางหรือสังเกตุป้ายบอกทางให้ดีละ พลาดหลงไปไกลเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!! ที่มา: dailymail
-
เราอยู่ร่วมกันได้… ญี่ปุ่นไม่ตัดต้นไม้อายุ 700 ปี สร้างสถานีรถไฟใหม่ครอบทับแทน
สถานีรถไฟที่ตั้งอยู่ชานเมืองของโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น แสดงให้ว่าธรรมชาติที่แสนยิ่งใหญ่กับการปรับปรุงและพัฒนาของเทคโนโลยีสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต้องทำลายอย่างใดอย่างหนึ่งทิ้งไป นี่คือเรื่องราวของมนุษย์ที่อยากอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน… ต้นการบูร ต้นใหญ่ยักษ์ต้นนี้มีอายุมากกว่า 700 ปี ตั้งตระหง่านอยู่คู่กับประวัติศาสตร์ของชาวโอซาก้าและชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานตราบจนปัจจุบัน แน่นอนว่ามันต้องมีคุณค่าทางจิตใจกับประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่แถบนั้นเป็นอย่างมาก แต่การพัฒนาก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี้ยงไม่ได้ สถานีรถไฟ Kayashima ตั้งอยู่ถัดจากต้นการบูรนี้เมื่อปี 1910 หลังจากผ่านไปเป็นเวลา 60 ปี จำนวนประชากรของจังหวัดโอซาก้าก็เพิ่มขึ้น และสถานีรถไฟเองก็ต้องมีการปรับปรุงเพื่อรองรับผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น ทำให้ทางการตัดสินใจที่จะตัดต้นไม้ทิ้งไป แต่ตามตำนานได้เล่าเอาไว้ว่าใครก็ตามที่พยายามจะตัดต้นการบูรนี้ล้วนแล้วแต่ถูกสาปทุกคน ไม่วาจะพยายามเผา หรือใช้เลื่อยตัด ก็มักจะประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ประสบอุบัติเหตุ บ้างก็ป่วย บ้างก็เสียชีวิต… แต่เมื่อชาวบ้านได้ทราบข่าวว่ามีการตัดต้นไม้อันเป็นที่รักนี้ ก็ได้ออกมาต่อต้านอย่างรุนแรง จนในที่สุดทางการก็ยอมและได้ทำการออกแบบรูปแบบสถานีที่จะคงไว้ซึ่งต้นการบูรที่มีอายุมากกว่า 700 ปี ต้นนี้เอาไว้ได้ เมื่อทางการเห็นการกดดันจากชาวบ้านในละแวกนั้น จึงยอมถอยเรื่องการตัดต้นไม้ และปรับปรุงแผนพัฒนาพื้นที่ รวมถึงออกแบบสถานีรถไฟแบบใหม่ให้ “ครอบ” ลงไปบนต้นไม้แทน การก่อสร้างเริ่มต้นเมื่อปี 1973 และเสร็จสิ้นเมื่อปี 1980 จนถึงปัจจุบันนี้ต้นการบูรก็ยังคงเติบโตไปเรื่อยๆ พร้อมกับความภาคภูมิใจ และความทรงจำดีๆ ของชาวเมืองที่หมุนเวียนผ่านไปแต่ละรุ่น……
-
สุนัขสูญเสียเจ้าของผู้เป็นที่รัก แต่มันยังคงไปเยี่ยมเขาที่หลุมศพในทุกๆ เช้า…
หากเราได้เลี้ยงหมาไว้สักตัวเราก็จะเกิดความรักความผูกพันกับมันและไม่อยากจากมันไหน ในขณะที่สุนัขก็รู้สึกเช่นเดียวกัน มันมีความรักให้เจ้าของเสมอแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หมาน้อย Cesur ที่อยู่กับเจ้าของที่รักมานาน แต่แล้วเจ้าของก็ได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน ทำให้สุนัขที่น่าสงสารต้องอยู่กับความคิดถึงและความจงรักภักดีที่ไม่เคยจางหาย Mehmet วัย 79 ปี เจ้าของของ Cesur เขาเป็นป่วยอัมพาตมานานหลายปีแล้ว และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาก็ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลใกล้บ้านใน Bursa ประเทศตุรกี Cesur เคยอยู่กับเจ้าของคนนี้เป็นเวลากว่า 2 ปี ทั้งคู่มีความทรงจำดีๆ ร่วมกันมากมาย แต่เมื่อ Mehmet ป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ทั้งคู่ไม่สามารถเล่นด้วยกันเหมือนอย่างที่เคยเพราะเจ้าของเป็นอัมพาต นั่นทำให้เจ้าหมาต้องเศร้าสุดหัวใจ Ali ลูกชายของ Mehmet เล่าว่า “ช่วงที่พ่อนอนอยู่ในโรงพยาบาลและใช่เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต ทุกคนในครอบครัวต่างเศร้าโศกเสียใจ โดยเฉพาะเจ้าหมาตัวนี้ มันไม่ยอมกินอะไรอะไรเลย” หลังจากที่ Mehmet เสียชีวิตลง ศพของเขาก็ถูกนำมาไว้ที่บ้านก่อนที่จะมีขบวนนำศพไปยังมัสยิดในท้องถิ่น โดยมีเจ้า Cesur เป็นตัวนำขบวน ในระหว่างที่ทำพิธี Cesur ก็นั่งข้างๆ ศพด้วยอาการโศกเศร้าทำให้ผู้คนที่อยู่ในงานต่างพากันสงสารจับใจ และมันก็ยังคงเป็นแบบนั้นจนถึงทุกวันนี้ มันคอยมองเจ้าของที่รักอย่างอาลัยจนวินาทีสุดท้ายที่ศพถูกนำไปฝัง… และมันก็จำใจอำลาเจ้าของตรงหลุมฝังศพเป็นครั้งสุดท้าย ปัจจุบันสุนัขผู้ซื่อสัตย์ตัวนี้อาศัยอยู่กับ Ali ที่บ้าน…
-
สื่อจีนรายงาน “ประเทศไทย” เป้าหมายอันดับหนึ่ง ชาวจีนกว่า 6 ล้านคนมาเที่ยวช่วงตรุษจีน
ก็อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่มีความน่าดึงดูด ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว วัฒนธรรม วิถีชีวิตของผู้คน จึงไม่แปลกเลยที่จะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเข้ามาเที่ยวในประเทศของเรา โดยเฉพาะชาวจีนทั้งหลายที่จะดูเยอะเป็นพิเศษ และจากข้อมูลล่าสุดจากทางเว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยว่า ในช่วงตรุษจีนที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยมากขึ้นไปอีก!! ในช่วงตรุษจีนที่เป็นช่วงปีใหม่ของชาวจีนนั้นจะมีการเฉลิมฉลองกันด้วยการเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าในช่วงตรุษจีนปี 2017 ที่จะถึงนี้กว่า 172 ประเทศทั่วโลกจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนไปเยือนอย่างแน่นอน โดยมีประเทศไทยก็เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง!! ซึ่งแต่ละทริปนั้นก็จะเฉลี่ยเป็นระยะประมาณ 9.2 วัน โดยทั้งหมดทั้งมวลพวกเขาจะใช้เงินไปทั้งสิ้นกว่า 513,000 ล้านบาท เลยทีเดียว เมื่อปีที่ผ่านมาที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนมากกว่า 6 ล้านคนเดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศในช่วงวันตรุษจีนและใช้เงินจับจ่ายใช้สอยไปมากมายทั้งสินค้าและบริการ ในขณะที่อันดับที่สองเป็นประเทศญี่ปุ่น แต่ประเทศเกาหลีใต้ที่เคยอยู่ในอันดับที่ 4 ก็ตกไปอยู่ในอันดับที่ 7 สำหรับในปีนี้ กลับกันกับประเทศออสเตรเลียที่กระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5 แทน จากที่เมื่อปีก่อนอยู่ในอันดับที่ 10 คาดว่าน่าจะเป็นเพราะการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำ Visa ขณะเดียวกันประเทศอเมริกาเป็นประเทศเดียวที่ไม่ได้อยู่ในทวีปเอเชียแต่ก็ได้ถึงอันดับที่ 4 ที่เป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวชาวจีนเลยทีเดียว ประเทศใต้หวัน ฮ่องกง และอินโดนีเซีย นั้นตกอันดับไปจากปีที่แล้ว แต่ก็มีประเทศใหม่ๆ แซงขึ้นมาอย่างเช่น อินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ แสดงให้เห็นถึงจุดหมายปลายทางที่แตกต่างออกไปจากเดิม…
-
ชายหนุ่มป่วยหัวใจพิการ อยากเล่นเกม Zelda เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย Nintendo เลยจัดให้
เรื่องราวอันน่าประทับใจเกิดขึ้นเมื่อแฟนเกมของ Nintendo คนหนึ่งป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษา และเหลือเวลาใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกไม่นาน และความใฝ่ฝันสุดท้ายของเขาก็คือการได้เล่นเกม Legend of Zelda เกมสุดโปรด ซึ่งภาคล่าสุด Breath of the Wild กำลังจะทำการวางขายในเดือนมีนาคมปี 2560 ที่จะถึงนี้ เกม Legend of Zelda นั้นเป็นเกมแนวแอคชั่นผจญภัยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องของภาพฉาก ตัวละคร และเนื้อเรื่องที่มีแฟนเกมติดตามนับล้านทั่วโลก หนึ่งในนั้นเองก็คือหนุ่ม Gabe วัย 26 ปี ที่เติบโตมากับเครื่องเล่นเกมของ Nintendo และเกมที่เขาชื่นชอบเป็นพิเศษจนมีโปสเตอร์ติดอยู่ในห้องนอนก็คือ Legend of Zelda แต่หนุ่ม Gabe นั้นประสบกับปัญหาหัวใจพิการตั้งแต่กำเนิด โดยมีห้องหัวใจเพียงแค่สองห้องเท่านั้น ทำให้คุณหมอต้องสอดท่อเข้าไปในหัวใจเพื่อช่วยลำเลียงเลือด แต่ตอนนี้มันเกิดรั่วขึ้นมาและทำให้เขาต้องประสบกับความเสี่ยงกับอาการหัวใจล้มเหลว ในแต่ละวันที่เขาหลับไป ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเช้าวันต่อมาจะลืมตาตื่นขึ้นมาอีกหรือไม่ คุณหมอบอกว่า Gabe จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 15 ปี แต่ปัจจุบันก็ล่วงเลยมาจนถึง 26 ปีแล้ว…. ทุกอย่างเหมือนจะไปได้สวยเพราะเหมือนกับว่าสิ่งที่คุณหมอพูดเอาไว้มันผิดไปหมดเลย…
-
#Saltbae วางแผนขยายสาขา เปิดร้านสเต็กที่ London และ New York ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า!!
ต้องขอบอกเลยว่านาทีนี้ไม่มีหนุ่มคนไหนจะฮ็อตไปกว่าเชฟสเต็กชื่อดังอย่าง #Saltbae ที่ได้ชื่อว่าเป็นเชฟที่เซ็กซี่มากที่สุดในโลกในเวลานี้อีกแล้ว!! #Saltbae มีชื่อจริงๆ ว่า Nusret Gökçe เป็นเชฟชาวตุรกีและมีดีกรีเป็นถึงเจ้าของร้านสเต็กชื่อดัง Nusr-Et ตั้งอยู่ในเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้วยท่าทางการโรยเกลือที่เป็นซิกเนเจอร์ และท่าทางการหั่นสเต็กอันแสนเซ็กซี่ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วโลก และตอนนี้ก็มีผู้ติดตามให้ความสนใจมากมาย จนตอนนี้มียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 2.6 ล้านคนแล้ว!! ล่าสุดเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Hurriyet Daily News ว่ากำลังวางแผนที่จะเปิดร้านสเต็กในมหานครนิวยอร์คและกรุงลอนดอน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ นอกจากนี้เขายังให้สัมภาษณ์อีกว่า ตัวเองนั้นไม่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ แต่เขาจะใช้ ‘เนื้อ’ ในการติดต่อสื่อสารกับผู้คนทั่วโลกแทน “ผู้คนอาจจะมองผมว่าแปลก ผมเป็นลูกชายของคนงานในเหมือง พ่อกับแม่ของผมไม่ค่อยมีความสามารถในการอ่านออกเขียนได้ซักเท่าไหร่ ผมไม่ได้ไปโรงเรียนเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ เนื่องจากปัญหาสภาพทางการเงินของครอบครัว ผมเริ่มชีวิตการทำงานโดยการเป็นเด็กฝึกหัดที่ร้านขายเนื้อเมื่ออายุได้ 14 ปี และ ‘เนื้อ’ ก็กลายเป็นสิ่งที่ผมหลงใหล” เขายังกล่าวถึงท่าทางการโรยเกลือของเขาอีกว่า “จริงๆ แล้วท่าทางการโรยเกลือและวิธีการปฏิบัติต่อเนื้อของผมนั้นมันเป็นการกระทำที่ทำโดยอัตโนมัติ ผมไม่ได้ทำมันเพื่อโชว์เอาดีเอาเด่นแต่อย่างใด มันเป็นเหมือนซิกเนเจอร์ของผม คุณอาจจะคิดซะว่ามันก็เปรียบเสมือนงานศิลปะอย่างหนึ่ง ที่ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองลงบนผืนผ้าใบ แต่ผมสร้างสรรค์ผลงานลงบนเนื้อสเต็ก” ไหนๆ ก็ไปที่ยุโรปแล้ว อย่าลืมมาเปิดร้านทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้างนะ เก๊าก็อยากกินสเต็กฝีมือนายบ้างง่ะ อิอิ…
-
หนุ่มเจอกระเป๋าปริศนาในถังขยะ บรรจุแผนที่โลก – แปลนจานบิน – รูปสัตว์ประหลาด และอื่นๆ เพียบ?!?
กลายเป็นเรื่องที่โด่งดังบนอินเตอร์เน็ตไปเลยทีเดียว หลังจากผู้ใช้งานเว็บไซต์ Reddit ท่านหนึ่งชื่อว่า TramStopDan บังเอิญเจอกระเป๋าสุดประหลาดในถังขยะ และเมื่อเขาเปิดดูในนั้นมีสิ่งของแปลกๆ มากมาย จนเขาขนานนามว่า “กล่องแห่งความบ้าบอ” หรือ “Box of Crazy” นี่คือกล่องแห่งความบ้าบอ มีขนาดประมาณ 29 * 38 นิ้ว ดูแล้วเหมือนเป็นกล่องสายลับอะไรซักอย่าง กระดาษส่วนมากข้างในมีขนาดประมาณ 20*30 นิ้ว ส่วนจำนวนนั้นเขาไม่ได้นับ เพราะมันเยอะมาก นี่คือข้อความบนกระดาษ เยอะเหมือนงานวิจัยอะไรซักอย่าง มีตารางธาตุที่เขียนด้วยมืออย่างปราณีต มีข้อความและภาพวาดสเก็ตของอะไรบางอย่าง ที่เขียนมาอย่างละเอียดและงดงาม กลไกของอะไรสักอย่าง ที่วาดสวยงามมาก ฝีมือการวาดไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย มีแผนที่เส้นทางการบินโลก แล้วก็มีแผนที่ทวีปต่างๆ ซึ่งมีการแต้มจุดบริเวณต่างๆ เอาไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง นี่ก็แผนที่โลกอีกอัน แต่หน้าตาประหลาดหน่อย มีจดหมายเขียนว่า “ฉันทำอะไรไม่ได้มาก” จดหมายจ่าหน้าด้วยภาษาเดนมาร์ก …
-
หญิงสาวอธิบายความต่าง “การข่มขืน” และ “สมยอม” ให้เข้าใจใน 5 ประโยค จนคนถูกใจล้นหลาม
ภาพหน้าปกจาก: กลุ่มนักเรียนถ่ายภาพสุดสะเทือนใจ สะท้อนปัญหา “นักโทษข่มขืน” ที่ถูกปล่อยตัวเร็วเกินไป!! หลายๆ คนยังคงแยกความแตกต่างกันระหว่างคำว่า “ข่มขืน” กับ “การสมยอม” ไม่ออก ผู้ชายหลายๆ คนยังคงเข้าใจว่ามันก็เป็นเพียงการมีเพศสัมพันธ์เหมือนกันมันไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน แต่วันนี้เราจะมาอธิบายความแตกต่างของมันให้เข้าใจกัน โดยเมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอกับทวิตเตอร์ของหญิงสาวนางหนึ่งที่มียูสเซอร์เนมว่า @thatxxv โดยเธอได้อธิบายถึงความแตกต่างของสองคำนี้ได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว เราลองไปอ่านข้อความของเธอกันเลย “ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมการข่มขืนมันดูเข้าใจยากสำหรับผู้ชายบางคน แต่ถ้าเอาตัวอย่างพวกนี้ให้ดูพวกเขาจะเข้าใจได้ทันทีเลยล่ะ” “ถ้าคุณมาขอเงินฉัน 5 ดอลลาร์ และฉันเมาเกินกว่าที่จะตอบตกลงหรือปฏิเสธ แต่คุณก็ยังถือวิสาสะเอาเงินฉันอีก เพียงเพราะว่าแค่ฉันไม่ได้ปฏิเสธงั้นเหรอ!?” “ถ้าคุณเอาปืนมาจ่อหัวฉันแล้วบอกให้ฉันเอาเงินให้คุณ 5เหรียญ คุณก็ยังถือว่าขโมยเงินอยู่ดี ถึงแม้ฉันจะยื่นเงินให้คุณเองก็ตาม” “ถ้าฉันให้คุณยืมเงิน 5 เหรียญ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเพื่อนคุณจะมีสิทธิ์มาหยิบเงิน 5เหรียญไปจากกระเป๋าเงินของฉัน” โดยบอกว่า ‘ก็คุณให้เขาแล้วทำไมผมจะขอบ้างไม่ได้!?’ “ “ถ้าคุณมาขโมยเงินฉัน 5 เหรียญ และฉันไม่สามารถพิสูจน์ได้ในศาลก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ได้ขโมยเงิน 5 เหรียญ ปจากฉัน” “เพียงแค่เมื่อก่อนฉันเคยให้เงินคุณ 5 เหรียญ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะให้ 5 เหรียญกับคุณอีกในอนาคต”…
-
เปิดใจภรรยา แม้จะดูเป็นครอบครัวอบอุ่น แต่เธอแอบขายบริการ-หลับนอนกับหนุ่มกว่า 1,000 คน
ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันแล้ว พื้นที่ส่วนตัวก็คงน้อยลง นั่นหมายความว่าคุณอาจจะมีความลับกับคนรักของคุณน้อยลงด้วย และเพราะความรักอาจทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะเปิดใจคุยกันมากกว่าที่จะเก็บไว้คนเดียว แต่ก็ไม่เสมอไป อย่างสองสามีภรรยาคู่นี้ที่แม้จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมานาน แต่พวกเขาก็ยังมีความลับต่อกัน และความลับที่ว่านี้ทำเอาสามีถึงกับช็อกเลยทีเดียว เว็บไซต์มิเรอร์ นำเสนอเรื่องราวของ Mercedes วัย 24 ปี แต่งงานกับอดีตทหาร Andrew เป็นเวลากว่า 6 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คนแล้ว… พวกเขาดูเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ โดยอาศัยอยู่ในบ้านที่มีห้องนอนถึง 7 ห้อง แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนเมื่อ Mercedes เริ่มตัดสินใจทำบางอย่างที่ผิดพลาด หากใครที่ติดตามเธอในเฟสบุ๊ค จะเห็นว่าชีวิตเธอดี๊ดีจนน่าอิจฉา เพราะเธอแทบจะไม่ได้ทำงานเลย เลยทำหน้าที่เป็นแม่บ้านคอยดูแลความเรียบร้อยในบ้านรวมทั้งดูแลสามีและลูกๆ ด้วย เรียกได้ว่าเป็นชีวิตในฝันของใครหลายๆ คนเลยล่ะ แต่ Mercedes กลับบอกว่า “ฉันเบื่อชีวิตคู่ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ฉันเหนื่อยที่ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ และสามีฉันก็ดูไม่มั่นคงด้วย” ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอมักจะออกจากบ้านบ่อยๆ และเริ่มห่างเหินจากลูกๆ ทั้งสองคน โดยจุดประสงค์ของการออกไปนอกบ้านนั้นคือการไปหาคู่นอนหรือเป็นโสเภณีนั่นเอง ในช่วงแรกๆ เธอก็ทำไม่บ่อยเพราะกลัวสามีและลูกจะสงสัย แต่หลังๆ มาอาการเธอเริ่มหนักขึ้น ทำให้เธอออกไปหาคู่นอนราว…
-
นี่คือ 20 คุณพ่อที่ไม่ชอบสุนัขที่สุด กลายเป็นคนรักหมา เมื่อลูกพาเจ้าตูบเข้ามาในชีวิต…
การนำสัตว์สักตัวมาเลี้ยงในบ้าน บางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมันต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันทั้งครอบครัว และส่วนใหญ่มักจะถูกห้ามโดยผู้เป็นพ่อนี่แหละ และก็อย่างที่รู้แหละว่า คนที่ไม่ชอบสัตว์ก็มักจะเอาเหตุผลนับร้อยมาอ้างได้เสมอ แต่ก็มีหลายคนที่ดื้อด้านนำมาเลี้ยง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนความคิดพ่อไปตลอดกาล เหมือนอย่างคุณพ่อเหล่านี้ ที่ชาวเน็ตๆ ลูก พากันมาแฉพวกพ่อๆ ของพวกเขาว่าไม่เคยอยากให้มีสุนัขเข้ามาในบ้าน แต่เมื่อพวกเขาได้สัมผัสกับความน่ารักของเหล่าเพื่อนสี่ขา คุณพ่อก็กลายเป็นคนอ่อนโยนและเป็นคนรักหมามากกว่าทุกคนในบ้านซะอีก 1. พ่อที่ย้ำนักย้ำหนาว่ายังไงก็ไม่ต้องการสุนัข แล้วเป็นไงล่ะ ตัวติดกันอย่างปาท่องโก๋ 2. หลังจากที่พ่อสั่งทุกคนว่า “ห้ามให้หมาขึ้นโซฟานะ!!” 3. พ่อที่ไม่ยอมให้นำสุนัขมาเลี้ยง แล้วดูรูปที่เขาแอบซ่อนไว้ในห้องสิ แหมๆ 4. ปากก็บอกไม่อยากได้สุนัข แต่ดูการกระทำแล้วมันขัดๆ นะพ่อ 5. พ่อบอกไม่อยากได้ iPad และไม่อยากได้สุนัข เป็นไงล่ะ ควบสองเลย 6. คนที่ไม่อยากได้สุนัข วันนี้กลายเป็นคนแบ่งที่นอนให้มันซะงั้น 7. เขามักจะบอกว่าไม่ชอบสุนัข แต่ดูรูปที่อยู่ในโทรศัพท์สิ 8. ผู้คัดค้านการเลี้ยงหมา วันนี้กลายเป็นคนที่รักหมาที่สุด 9.…
-
พ่อนำ “ภาพวาดของลูก” มาวาดใหม่อีกครั้ง เติมเต็มจินตนาการให้สวยงามมากยิ่งขึ้น!!
ในวัยเด็กนั้นมีเรื่องให้เราได้ลองเล่น ลองทำมากมาย หนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นการวาดรูป ส่วนภาพผลงานของเรานั้นแม้ผู้ใหญ่อาจจะดูว่ามันไม่สวยแต่มันก็สวยที่สุดสำหรับเราแล้ว จริงไหม? แต่รู้ไหมว่า ภาพวาดธรรมดาๆ ของเด็กๆ ที่ผู้ใหญ่มองว่าไม่สวยเหล่านี้หากนำไปต่อยอดโดยใส่รายละเอียดเพิ่มขึ้นอีกสักนิด มันก็กลายเป็นผลงานชั้นเลิศได้เลยหล่ะ เช่นเดียวกับ Thomas Romain ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว ทำเขาทำงานให้กับอนิเมะต่างๆ เช่น Symphogear Space Dandy Aria และ Basquash แต่กว่าจะมาถึงจุดๆ นี้ได้นั้นเขาได้มีการฝึกฝนไปพร้อมๆ กับลูกของเขาเอง ลูกชายของ Thomas เป็นคนชอบวาดรูปเหมือนเด็กๆ ทั่วไป แต่รูปภาพของลูกชายไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะผู้เป็นพ่อได้นำภาพของลูกมาวาดใหม่ให้สวยงาม สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แน่นอนว่าในวัยเด็กนั้นมักจะเต็มไปด้วยจินตนาการที่หลากหลายและมีความแปลกไปจากความคิดของผู้ใหญ่ ดังนั้นลูกชายของ Thomas จึงมักจะวาดภาพมนุษย์ต่างดาวบ้าง ภาพหุ่นยนต์บ้าง รวมทั้งภาพอัศวินและปีศาจ ดังนั้นเมื่อภาพเหล่านั้นถูกนำมาวาดใหม่โดยใช้คอนเซ็ปเดิมของลูก มันจึงกลายเป็นภาพที่มีเอกลักษณ์และสวยงามไม่ซ้ำใคร แต่ภาพสวยงามเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดการร่วมมือกันระหว่างพ่อลูกคู่นี้ และพวกเขาทั้งคู่ก็ได้เป็นเจ้าของผลงานร่วมกันด้วย เห็นไหมล่ะว่าจินตนาการของเด็กๆ สำคัญแค่ไหน ดังนั้นอย่ามองข้ามในสิ่งในเด็กทำแต่ควรสนับสนุนพวกเขาจะดีกว่า แล้ววันหนึ่งคุณอาจจะประสบความสำเร็จเหมือนกับพ่อลูกคู่นี้ก็ได้ เพื่อนๆ สามารถติดตามผลงานของ Thomas ได้ที่ทวิตเตอร์ ThomasRomain ロマン・トマ ปรบมือให้คุณพ่อเลยที่ไม่มองข้ามฝีมือของลูกเนอะ!! ที่มา boredpanda l en.rocketnews24
-
ชายหนุ่มคนหนึ่ง ถ่ายรูปโพลารอยด์ทุกวันตลอด 18 ปี แม้แต่วันสุดท้ายของชีวิตเขาเอง
‘ภาพถ่าย’ เปรียบเสมือนกับเครื่องบันทึกความทรงจำ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่ แต่เมื่อได้กลับมาเปิดอัลบั้มภาพเก่า มันก็อดคิดถึงช่วงเวลาในอดีตไม่ได้จริงๆ เช่นเดียวกับ ‘Jamie Livingston’ เขาได้เริ่มโปรเจคถ่ายภาพของตัวเองเป็นประจำทุกวัน นับตั้งแต่ปี 1979 ยาวนานมาตลอด 18 ปี จวบจนกระทั่งวันสุดท้ายในชีวิตของเขาที่ต้องจากไปด้วยโรคมะเร็ง เราไปชมภาพถ่ายโพลารอยด์บันทึกเรื่องราวความทรงจำของคนๆหนึ่งกันบ้างดีกว่า ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนเด่นคนดังระดับโลก และไม่มีใครรู้จัก แต่เรื่องราวที่ถูกเล่าผ่านภาพโพลารอยด์ทั้งหมดนี้ อาจทำให้เราย้อนกลับมาคิดถึงช่วงเวลาในชีวิตของเราทั้งหมดที่เคยผ่านมา ภาพถ่ายใบแรกสุดของเจ้าตัว ในช่วงเวลาเดียวกัน กับการแอบถ่ายภาพเพื่อนคนสนิทของเขา 27 พฤษภาคม 1979 Jamie ถ่ายภาพกับเพื่อนๆในวันรับปริญญา รูปหลายๆใบถูกถ่ายในนิวยอร์ค และนี่คือหนึ่งในนั้น เขาคือชาวนิวยอร์กเกอร์ตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ บางทีก็แอบถ่ายมุมที่เพื่อนไม่ค่อยอยากให้ถ่ายเท่าไหร่ นอกจากจะเป็นคนทำหนังแล้ว เจ้าตัวยังเป็นตัวตลกในคณะละครสัตว์อีกด้วย 7 มีนาคม 1982 กับเครื่องเล่นบางอย่างที่ดูล้ำสมัยสุดๆในยุคนั้น 18 กรกฏาคม 1982 ภาพถ่ายจากทริปไปเที่ยวที่ยุโรป 22 กรกฏาคม 1982 ภาพนี้ถ่ายที่ประเทศฝรั่งเศส …
-
รัฐบาลญี่ปุ่น แจกทัวร์ฟรีให้ผู้คนเที่ยวตามรอยการ์ตูน Your Name โอกาสนี้ห้ามพลาด!!
ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมาภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Your Name ก็กลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก และจนถึงตอนนี้ก็กลายเป็นอนิเมะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ และอย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีไอเดียในการโปรโมทการท่องเที่ยวที่เจ๋งมาก โดยการใช้อนิเมะดังๆ เรียกนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศ สังเกตได้จากฉากในอนิเมะต่างๆ ที่หยิบยกสถานที่จริงๆ มาใส่ในการ์ตูน จนถึงกับขนาดที่ว่ามีองค์กรที่รับผิดชอบในเรื่องของการท่องเที่ยวตามรอยอนิเมะโดยเฉพาะ ชื่อว่า Anime Tourism Association และล่าสุดก็ได้ทำการเปิดเผยโปรเจคล่าสุด “Cool Japan Collaborative Demonstration Project” โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างทัวร์ให้กับแฟนๆ การ์ตูน ขณะเดียวกันเทศบาลเมือง Hida และองค์กรการท่อง้ที่ยว H.I.S. ก็ได้ทำการสร้างโปรแกรมทัวร์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมความงดงามของสถานที่จริงๆ ในจังหวัด Gifu และ Tokyo ที่ใช้เป็นฉากของเรื่อง Your Name แน่นอนว่าพอประชาชนและเหล่านักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนของการ์ตูนเรื่อง Your Name ได้ทราบข่าวนี้ ก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งทางผู้จัดก็จะทำการคัดเลือกผู้โชคดีเป็นจำนวน 30 คนมาเข้าร่วมทริปที่มีระยะเวลาประมาณ 5-6 วัน ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่มีข้อแม้ว่าเหล่านักท่องเที่ยวผู้โชคดีทั้งหลายจะต้องตอบแบบสอบถามในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสัญจร ระบบขนส่งสาธารณะ อาหารระหว่างทัวร์ และโรงแรมต่างๆ ที่รวมอยู่ในทริป…
-
ความโหดร้ายของสงครามกลางเมืองโซมาเลีย ผ่านเลนส์ของช่างภาพ ในใจกลางสนามรบ…
นักถ่ายภาพสามารถเปลี่ยนโลกได้ไหม? นี่คือชะตากรรมอันโหดร้ายของประเทศและผู้คนในโซมาเลีย ผ่านเลนส์ของช่างภาพ Jean-Claude Coutausse ในช่วงของสงครามและภัยธรรมชาตินั้น มักมีช่างภาพกล้าหาญหลายคนที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ เพื่อถ่ายทอดความยากลำบากในสถานการณ์นั้นๆ ให้ผู้คนได้เห็น ภาพของความโหดร้ายที่เกิดขึ้น ‘ภาพเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้หลายสิ่ง’ Jonathan Klein กล่าว ในปี 1992 โครงการ Restore Hope โดยสหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือชาวโซมาเลียระหว่างสงครามกลางเมืองของสองชนเผ่าที่เคยโค่นล้มประธานาธิบดี Said Baare และภาพเหล่านี้คือภาพของสถานการณ์ในตอนนั้น ทางตอนเหนือของเคนย่า หนึ่งในผู้ลี้ภัยชาวโซมาเลียกำลังเดินข้ามทุ่งแห่งหนึ่ง ความอดอยาก และการช่วยเหลือจากทาง U.N. ที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำในตอนนั้น สุดท้ายถึงแม้ U.N. จะสามารถทำได้สำเร็จ และทำให้โซมาเลียกลายเป็นเหมือนกับแสงแห่งความหวังในแอฟริกา แต่ภาพความโหดร้ายในตอนนั้นก็ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนที่เคยผ่านเหตุการณ์นั้นมา… …
-
นักโบราณคดีพบพระพุทธรูปโบราณ อายุกว่า 600 ปี โผล่ขึ้นมาให้เห็นหลังระดับน้ำในเขื่อนลดลง
จากการเก็บข้อมูลของทาง Pew Research Center ประเทศจีนนั้นมีชาวพุทธอยู่ถึง 245 ล้านคนด้วยกัน นับเป็นเกือบร้อยละ 20 ของประชากรเลยล่ะ ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชาวพุทธอยู่มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ถึงแม้จะมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี แต่การปฏิวัติประเทศในช่วงปี 1960 นั้น วัตถุทางศาสนานับล้านๆ ชิ้นถูกทำลายเพราะกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในตอนนั้นพยายามทำให้ผู้คนเลิกศรัทธาสิ่งต่างๆ และพุ่งไปในด้านการพัฒนาชาติตามแนวคิดอย่างเดียว แต่ทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างไม่ได้ถูกทำลายไปซะหมด เพราะอย่างน้อยก็ยังมีอยู่ที่หนึ่งในมณฑลเจียงซี เมื่อระดับน้ำของเขื่อน Hongmen ลดลง กลับมีพระพุทธรูปโบราณที่จมอยู่ในน้ำ อายุราวๆ กว่า 600 ปี โผล่ขึ้นมา พระพุทธรูปในเขื่อน Hongmen มณฑลเจียงซี หลังจากระดับน้ำลดลง 10 เมตร พอนักโบราณคดีเข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าพระพุทธรูปดังกล่าว ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 หรือราวๆ 600 ปีก่อน สามารถรอดพ้นจากการสั่งให้ทำลายรูปปั้นทุกอย่างของเหมา เจ๋อ ตุง ในช่วงปี 1966-1976 มาได้เพราะจมอยู่ใต้น้ำมาตลอด นอกจากพระพุทธรูปแล้ว ยังเจอวัดที่ซ่อนอยู่ที่ฐานของพระพุทธรูปด้วย …
-
เว็บต่างประเทศทดลองเอา ‘หมาปลอม’ ใส่ในถุงดำแล้วทำร้าย เพื่อดูว่าจะมีคนยื่นมือมาช่วยไหม
ในทุกๆ ปีประเทศอังกฤษจะมีคำร้องเรียนเรื่องการกระทำความรุนแรงกับสัตว์เลี้ยงมากกว่า 140,000 ครั้ง และมีสัตว์เลี้ยงที่ถูกช่วยเหลือมากกว่า 120,000 ตัว และเจ้าหมาเองก็เป็นสัตว์ที่ถูกทารุณกรรมมากที่สุดในประเทศอังกฤษ มีสถิติที่น่าตกใจเมื่อปี 2015 องค์กรช่วยเหลือต่างๆ ได้รับโทรศัพท์รายงานว่ามีการทำร้ายเหล่ามะหมามากกว่า 81,146 ครั้ง คิดเป็น 72% เลยทีเดียว ทางสำนักข่าว DailyMail ของอังกฤษได้ทำการทดลองอะไรบางอย่าง โดยให้พนักงานชายคนหนึ่งแกล้งถือถุงดำที่บรรจุตุ๊กตาสัตว์พร้อมกับเครื่องเล่นเสียงร้องครวญครางของหมาน้อยเอาไว้ในนั้น เขาลงมือกระทืบถุงนั้นอย่างรุนแรง ท่ามกลางสถานที่ที่มีผู้คนเดินผ่านไปมาพลุกพล่าน เป็นเวลากว่า 4 ชั่วโมง เพื่อดูว่ามีใครสนใจ และมีท่าทีอย่างไรกับการกระทำของเขาบ้าง? ผลปรากฏว่ามีหลายคนหยุดและมองดู จากนั้นก็เดินเข้ามาเผชิญหน้ากับเขา บางคนถึงกับพูดกับเขาว่า “มีหมาอยู่ในถุงนั่นนะ!!” แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะเดินจากไปเฉยๆ โดยที่ไม่ทำอะไรเลย ในที่สุดก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาขอถุงนั้นจากพนักงานของพวกเขา และเธอเป็นเพียงคนเดียวที่ทำแบบนั้น หลังจากที่เธอทราบแล้วว่านี่เป็นการทดลอง เธอก็เล่าให้ฟังว่า “จริงๆ ฉันอยากจะทำมากกว่านี้นะ แต่ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ดูท่าทางรุนแรง ก็เลยเลือกที่จะเดินหนีไปและแจ้งตำรวจ” นั่นแสดงให้เห็นว่าบางครั้งการที่เหล่าน้องหมาถูกทำร้าย แต่หลายๆ คนไม่อยากเข้าไปยุ่ง ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับเหตุการณ์ที่อาจก่อความรุนแรง และอันตรายกับชีวิตของพวกเขา คลิปวิดีโอการทดลองแบบเต็มๆ ที่พวกเขาบันทึกเอาไว้…
-
พนักงานตั๋วสวนสาธารณะญี่ปุ่น ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าฟรีกว่า 160,000 ราย เพราะสื่อสารกันไม่ได้
ท่ามกลางกรุงโตเกียวนั้นจะมีสวนสาธารณะชินจูกุเกียวเอน อันเป็นที่นิยมสำหรับทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมแทบจะทุกฤดูและทุกเวลา การจะเข้าไปเยี่ยมชมนั้นไม่ใช่ว่าจะสามารถเข้าได้ฟรี จะต้องจ่ายค่าตั๋วเพื่อเข้าชมอยู่ที่ 200 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 50 เยน สำหรับเด็ก ซึ่งก็ไม่ได้มีราคาแพงเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับธรรมชาติภายในสวนใจกลางเมืองใหญ่แบบนี้ แต่ทว่าเรื่องราวการสูญเสียรายรับจากค่าตั๋วของสวนสาธารณะแห่งนี้เพิ่งจะได้รับการเปิดเผย โดยจุดเริ่มต้นนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 2014 มีการยกเว้นค่าธรรมเนียมตั๋วเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวมาจนถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวไทยบางรายอาจจะได้รับการยกเว้นค่าตั๋วไปด้วยในช่วงดังกล่าวด้วย การยกเว้นค่าตั๋วเข้าชมนี้ ไม่ได้เป็นโปรโมชั่นสำหรับการท่องเที่ยวแต่อย่างใด แต่มันเกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดของพนักงานบูธขายตั๋วเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2014 พนักงานคนดังกล่าวปล่อยให้นักท่องเที่ยวต่าชาติเข้าชมสวนสาธารณะแห่งนี้ได้ โดยไม่ต้องเสียค่าตั๋วเลย จนกระทั่งเดือนธันวาคม ปี 2016 เมื่อพนักงานอีกคนพบว่าเขาได้ปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวนได้โดยที่ไม่ต้องซื้อตั๋ว เรื่องดังกล่าวจึงถูกรายงานไปถึงฝ่ายจัดการทันที และทำการตรวจสอบเบื้องต้นก็พบว่าเขายกเว้นค่าตั๋วไปแล้วกว่า 160,000 ใบ ในช่วงตลอด 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งแทนที่เขาจะช่วยในเรื่องของการจ่ายค่าเข้าและมอบตั๋ว เขากลับยกเลิกการขายตั๋วและปล่อยให้นักท่องเที่ยวผ่านประตูอัตโนมัติไป ทางด้านกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่น อันเป็นหน่วยงานดูแลสวนสาธารณะแห่งนี้ ได้สืบหาสาเหตุของข้อผิดพลาดจากพนักงานขายตั๋ววัย 71 ปีผู้นี้ และได้ตั้งข้อหายักยอกค่าเข้าชมสวนสาธารณะกับเขา ซึ่งตัวพนักงานวัย…
-
19 ความล้ำของนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ พิสูจน์แล้วว่ามนุษย์นี่แหละ โคตรฉลาดเลย!!
มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถดัดแปลงสิ่งของต่างๆ เพื่อมาอำนวยความสะดวกแก่ตนเองได้ และที่ผ่านๆ มาเราก็ได้เห็นไปแล้วว่ามันเจ๋งขนาดไหน ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นเลยขอรวบรวมเอาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมเจ๋งๆ ที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยมนุษย์มาให้ทุกๆ คนได้ดูกัน ลองดูกันซิว่ามีชิ้นไหนบ้างที่คุณไม่เคยเห็นจนต้องร้องว๊าวกันบ้าง? 1. ปุ่มกดลิฟท์ที่ติดตั้งไว้ด้านล่าง สำหรับคนที่ถือข้าวของเยอะจนไม่สามารถกดปุ่มได้ (ใช้เท้ากดนั่นเอง) 2. ป้ายแสดงโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างที่เสียหายไปแล้ว เพื่อให้คนเห็นว่าเมื่อก่อนมันเคยมีหน้าตาเป็นยังไง 3. ตะกร้าของร้านขายเครื่องสำอางในเกาหลีใต้ ที่ติดป้ายสีเขียวและส้ม เพื่อแสดงให้พนักงานเห็นว่าต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาหรือไม่ 4. ปกหนัง DVD ที่สามารถมองได้ทั้ง 2 ด้าน 5. ช้อนที่เป็นส้อมและมีไม้จิ้มฟันในเวลาเดียวกัน 6. กีต้าร์ที่ทำเป็นออดประตู 7. เปลี่ยนประตูหน้าบ้านให้กลายเป็นแอมป์กีตาร์ 8. เก้าอี้ที่สามารถพับให้กลายเป็นโต๊ะได้ 9. ป้ายเตือนในเมืองแห่งหนึ่งเขียนว่า “ถ้าคุณชนป้ายนี้ คุณก็จะชนสะพานข้างหน้าด้วย” เพื่อเพิ่มความระมัดระวังแก่คนใช้รถใช้ถนน 10. โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ นำโปสเตอร์ลายชั้นวางหนังสือมาแปะไว้ที่ประตูทางออกฉุกเฉิน เพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้โรคอัลไซเมอร์เปิดประตูนั้นออกไป 11. โต๊ะสาธารณะที่ออกแบบมาให้เด็กเล็กสามารถนั่งด้วยได้โดยที่ไม่ต้องปีนขึ้นมานั่งที่สูงๆ…
-
สาวจ้ำม่ำผู้มุ่งมั่น กับการเต้นบัลเล่ต์ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนอีกมากมาย!!
ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าปัจจุบันผู้หญิงเกือบทั่วโลก มีค่านิยมความสวยงามยึดติดอยู่กับความผอมเพรียวเป็นหลัก บางคนถึงขนาดวิตกกังวลจนกลายเป็นโรคอนาร็อกเซียเลยก็มี กลายเป็นว่าต้องเสียเงินรักษาตัวเองให้ยุ่งยากไปกว่าเดิมอีก แต่ความจริงแล้วคุณค่าของมนุษย์ทุกคนไม่ได้ขึ้นอยู่กับผิวสี น้ำหนักร่างกาย หรือหน้าตาแต่อย่างใด เช่นเดียวกับ ‘Lizzy Howell’ สาวน้อยจ้ำม่ำวัย 15 ปี จากรัฐเดลาแวร์ กับความชื่นชอบการเต้นบัลเล่ต์เป็นชีวิตจิตใจ ถึงแม้ว่าหลายคนจะบอกว่าน้ำหนักตัวเธอไม่เหมาะกับกิจกรรมชนิดนี้ แต่วิดีโอของเธอได้สร้างแรงบันดาลใจมากมาย ให้ผู้คนได้ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ใจรัก วิดีโอตัวอย่างการเต้นบัลเล่ต์ของเธอ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้าตั้งใจจะทำอะไรแล้ว มันย่อมเป็นไปได้แน่นอน show ?? out?? and ?? have ?? these??girls??shook?? pic.twitter.com/yPJZPGCgPw — harlotrious hussy (@sailorfemme) January 15, 2017 ซึ่งอันที่จริงเธอหลงใหลในการเต้นบัลเล่ต์มาตั้งแต่ช่วงวัยประถมแล้วล่ะ และเธอยังคงฝึกซ้อมอย่างพากเพียรเป็นประจำทุกวัน โดยส่วนใหญ่แล้วเธอมักจะถ่ายภาพการทำกิจกรรมที่เธอรัก และอัพโหลดลงอินสตาแกรม (@lizzy.dances) อยู่บ่อยๆ ซึ่งจากวิดีโอดังกล่าวทำให้เธอได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เข้ามาติดตามแอคเคาท์ของเธอมากถึง 40,000 คนเข้าให้แล้ว เธอยังบอกอีกด้วยว่า การเต้นบัลเล่ต์ช่วยทำให้เธอหลุดพ้นจากความวิตกกังวล และอาการภาวะความดันในโพรงกระโหลกศรีษะสูง ที่เป็นอาการผิดปกติตั้งแต่วัยเด็ก…
-
19 ประติมากรรมน้ำพุสุดอลังการจากรอบโลก สายน้ำแห่งความสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัด
เมื่อพูดถึงน้ำพุแล้ว เราคงนึกถึงภาพน้ำที่ออกมาจากใต้ดินและพุ่งขึ้นสู่ฟ้า แต่ทุกวันนี้ได้มีนำน้ำพุมาดัดแปลงให้มีความเก๋ไก๋ด้วยรูปทรงต่างๆ ซึ่งก็มีตั้งแต่สมัยโบราณแล้วเหมือนกัน ย้อนกลับไปในอดีต การทำน้ำพุส่วนใหญ่ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทำเพื่อเป็นแหล่งน้ำดื่มที่สะอาด รวมทั้งเพื่อการอาบน้ำที่สะดวกมากขึ้นด้วย ต่อมาชาวโรมันก็ได้สร้างสรรค์ให้มีความสวยงามยิ่งขึ้นด้วยการทำเป็นรูปทรงต่างๆ เหมาะกับในยุคนั้นเป็นยุคที่ศิลปะค่อนข้างรุ่งเรือง ดังนั้นน้ำพุที่ถูกทำขึ้นมานั้นจึงงดงามไม่แพ้ปัจจุบันเลย ปัจจุบันนี้น้ำพุถูกตกแต่งให้มีความสวยงาม เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นโดยอาศัยทักษะทางด้านประติมากรรมและองค์ประกอบที่มีความเป็นศิลปะ โดยในบรรดาองค์ประกอบทั้งหมดนี้ น้ำจะเป็นจุดเด่นที่สุด น้ำพุรูปเรืออันสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีการสร้างสิ่งของธรรมดาให้มีรูปร่างขนาดใหญ่เพื่อเป็นจุดเด่นของสถานที่นั้นๆ ด้วย สังเกตได้จากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มักจะมีน้ำพุอยู่เสมอ น้ำพุทรงก๊อกน้ำ และเพื่อให้มีความน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น ศิลปินยังได้สร้างสรรค์ผลงานที่ดูแปลกตาด้วย เช่น น้ำพุที่เป็นเหมือนการเปิดน้ำก๊อกลงอ่าง ราวกับว่ามีใครลืมปิดก๊อกน้ำยังไงอย่างนั้น ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความงามของน้ำที่สามารถนำมาสร้างสรรค์ให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น และยังเป็นการแสดงให้เห็นความสามารถของมนุษย์ที่ไม่มีจุดสิ้นสุด น้ำพุปิรามิด ในชื่อ Magic Water Circuit ตั้งอยู่ที่ประเทศเปรู น้ำพุจูลี่ เปโรเซ น้ำพุ 9 ผลงานโดยอิซามุ โนกุชิ น้ำพุ Vaillancourt ในซาน ฟรานซิสโก …
-
เมื่อพ่อจากไป หญิงสาวรับสุนัขของพ่อมาเลี้ยงต่อ แม้ว่ามันจะมีชีวิตอีกเพียงแค่เดือนเดียว…
หากเราเป็นคนที่มีสัตว์เลี้ยง เราจะรู้สึกว่ามันเป็นหนึ่งในสมิกของครอบครัว ดังนั้นเจ้าของสัตว์ส่วนใหญ่จึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พวกมันมีความสุข โดยเฉพาะในยามป่วยไข้ที่พวกมันต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับครอบครัวนี้ที่รับเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่งหลังสูญเสียคุณพ่อไป พวกเขารักสุนัขตัวนี้เหมือนคนในครอบครัว และไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้… วันที่สุนัขเกิดป่วยหนักขึ้นมา เจ้า Max และคุณพ่อ ผู้ใช้จากเว็บไซต์ Imgur ชื่อว่า KingKizer เผยเรื่องราวในครอบครัวอันน่าเศร้า โดยหลังจากที่เสียคุณพ่อไปแล้ว น้องสาวของเขาก็ตัดสินใจรับเจ้า Max สุนัขของพ่อมาเลี้ยงต่อ ตอนแรกที่รับมาเลี้ยงนั้น Max มีอายุประมาณ 2 ปีครึ่ง แต่เมื่อไม่นานนี้ มันเกิดป่วยหนักขึ้นมา พวกเขาจึงพามันไปหาสัตวแพทย์แล้วก็ได้พบกับคำตอบที่ยากจะทำใจ หมอบอกว่า Max เป็นโรคตับแข็งและมันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน… เมื่อครอบครัวได้ฟังเช่นนี้ พวกเขาต่างก็มีอาการกลุ้มใจและไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทางด้านน้องสาวจึงยอมจ่ายเงินกว่า 500,000 บาทเพื่อรักษา Max ให้หายเป็นปกติ เงินจำนวนนี้นับว่าเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย แต่เธอบอกว่านี่เป็นสิ่งที่ครอบครัวควรจะทำ ตอนนี้ Max อายุได้ 3 ปีครึ่งแล้ว และโรคตับแข็งที่เคยรักษาไปนั้นก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง คุณแม่จึงได้บอกกับทางครอบครัวว่า มันเหลือเวลาอีกเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น แม้ทุกคนรู้สึกเสียใจที่มันจะต้องจากไปในไม่ช้านี้ แต่ทุกคนก็ทำเต็มที่แล้ว…
-
สุนัขกินศพเจ้าของถูกตัดสินประหารชีวิต องค์กรสิทธิสัตว์ยื่นอุทธรณ์ ขอพิจารณาลดโทษ
ตามสัญชาตญาณของเราแล้ว เราพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด โดยเพราะเป็นที่อดอยาก เราสามารถกินทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด แม้แต่เนื้อของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน!! ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นแต่สัตว์ก็เช่นเดียวกัน พวกมันก็เป็นสัตว์ที่จำเป็นต้องกินอาหารเพื่อความอยู่รอด ดังนั้นหลายครั้งที่เราเห็นว่าพวกมันออกล่าเหยื่อแล้วกินแบบดิบๆ เช่นเดียวกับสุนัขตัวนี้ที่ไม่ได้กินอาหารมาเป็นเวลานาน ในที่สุดมันจึงตัดสินใจกินเนื้อเจ้าของตัวเอง ก่อนที่จะกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่เกิดการถกเถียงในวงกว้าง เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 2014 เมื่อ Butch สุนัขพันธุ์สแตฟเฟอร์ดไชร์ บูล เทอร์เรียร์ อายุ 10 ปี ถูกพบขณะที่มันกำลังกินศพเจ้าของตัวเองภายในบ้านที่วอเตอร์ลู ลิเวอร์พูล เนื่องจากมันขาดน้ำและอาหารมานานกว่า 4 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Merseyside Police บอกว่า “ตอนที่เราเข้าไปพบ Butch ในบ้าน มันทำท่าทางก้าวร้าวใส่เราทันทีและไม่ยอมให้เข้าใกล้ แต่ในที่สุดเราก็จับมันใส่กรงจนได้” แต่เมื่อปีที่ผ่านมานี้ได้มีคำสั่งให้ประหารชีวิตเจ้า Butch ในฐานความผิดอันร้ายแรงและเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ซึ่งตำรวจบอกว่าครอบครัวของเจ้าของสุนัขก็สนับสนุนให้ทำเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ทางด้านกลุ่มที่รณรงค์เพื่อสิทธิสัตว์ได้ออกมาต่อต้านและขอมีการพิจารณาถึงบทลงโทษที่เหมาะสม โดยให้เหตุผลว่า การที่สุนัขกินเนื้อของเจ้าของนั้นเป็นธรรมชาติของสัตว์ และด้วยเหตุผลที่ว่ามันขาดอาหารและน้ำมานานแล้ว Kate Lee ผู้ดูแลองค์กร The Senior Staffy Club บอกว่า “Butch ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังโดยมีน้ำและอาหาร และมันไม่รู้ด้วยว่าใครจะเข้ามาช่วยมันได้บ้าง…
-
แมวน้อย Roo ขาพิการ ต้องกระโดดเหมือนจิงโจ้ กลายเป็นเสน่ห์สัตว์สองชนิดในร่างเดียว!!
เรารู้กันอยู่แล้วว่าคนที่เกิดมาพิการนั้นจะมีความสามารถในบางเรื่องที่ด้อยกว่าคนปกติ ดังนั้นบางครั้งพวกเขาจึงจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพื่อให้การใช้ชีวิตที่สะดวกมากขึ้น ไม่ใช่แค่มนุษย์เราเท่านั้น พวกสัตว์เองก็เช่นเดียวกัน ลำพังนั้นสัตว์อาจจะอยู่ด้วยตัวเองได้ แต่ถ้าพวกมันเกิดมาพิการพวกมันก็จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ และส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะไม่มีพ่อแม่หรือญาติคอยดูแลเหมือนมนุษย์ เช่นเดียวกับน้องแมวตัวนี้ที่มีความผิดปกติกับขาหน้าทั้ง 2 ข้างตั้งแต่เกิด ทำให้มันเดินได้ด้วยสองขาหลังเท่านั้น ทำให้ท่าเดินของมันไม่ต่างจากจิงโจ้เลย แมวตัวนี้คือ Roo มันถูกพบขณะที่มันกำลังกระโดดอยู่ในลานกลางแจ้ง มันจึงถูกนำตัวมาส่งในศูนย์พักพิง เจ้าหน้าที่ทำการเอกซเรย์เพื่อตรวจความผิดของขาหน้าของมัน แล้วก็ได้รู้ว่ากระดูกขาหน้าทั้งสองข้างนั้นงอ ทำให้มันไม่สามารถเยียดขาเพื่อเดินได้ สิ่งที่พอจะทำให้เคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้ก็คือการกระโดด ตอนนี้ผู้ดูแลได้ให้อาหารให้น้ำกับมันทุกวัน แต่นอกจากนี้พวกเขาลงความเห็นว่า Roo จำเป็นต้องการรับการรักษาทางการแพทย์และจำเป็นต้องมีคนรับไปเลี้ยง Roo เป็นแมวที่ค่อนข้างตกใจง่าย แต่จริงๆ แล้วมันเป็นมิตรกับทุกคน Kim Womack เจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงบอกว่า “มันเป็นแมวที่เป็นมิตรมากๆ มันชอบอยู่กับเพื่อนที่ชื่อ Marigold ฉันคิดว่า ถ้าจะรับไปเลี้ยงก็ควรเอาไปทั้งสองตัวเลยเพราะพวกมันคงไม่อยากแยกจากกันแน่ๆ” แม้จะมีความผิดกับขาหน้าแต่ Roo ก็ชอบที่จะออกไปผจญภัยรอบๆ ด้วยขาหลังของมัน ตอนนี้คาดว่ามันน่าจะมีอายุ 2 ปีแล้ว แต่ตัวของมันเล็กกว่าที่ควรจะเป็นมาก Kim บอกว่า “มันมีนิสัยขี้เล่นและให้ความสนใจกับทุกสิ่ง มันกินอาหารได้ตามปกติและโต้ตอบกับเราเสมอ” ต่อมา Zeus และ Kitty Cats…
-
คนสนิท 10 เซเลปคนดัง เผยตัวตนสมัยมัธยม ที่ทำให้รู้ว่าพวกเขาเป็นคนอย่างไร??
ในช่วงวัยเรียนโดยเพาะสมัยที่อยู่มัธยมมันช่างเป็นช่วงที่วิเศษสำหรับใครหลายๆ คนว่ามั้ย เพราะในวัยนี้คุณจะได้รู้จักกับเพื่อนสนิท รู้จักกับรักแรก และยังมีเรื่องสนุกอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ใช่แค่เราเท่านั้น เหล่าดารา คนดังเองก็คงประสบการณ์ที่หลากหลาย่ในวัยนี้เหมือนกัน และวันนี้เราจะรู้ว่า ตอนอยู่โรงเรียนนั้นพวกเขาเป็นยังไงบ้าง จะเป็นเหมือนที่เราเห็นบนหน้าจอทีวีหรือเปล่านะ?? 1. Blake Lively Blake Lively ได้เดินพรมแดงครั้งแรกเมื่อปี 2005 ด้วยวัย 17 ปี แต่รู้ไหมว่าไม่มีใครคิดเลยว่าเธอจะกลายเป็นคนดังเหมือนทุกวันนี้ Seraphus หนึ่งในคนที่เคยเรียนกับ Lively เล่าว่า “ฉันเคยเรียนกับเธอตลอด 3 ปี เธอเป็นหญิงสาวน่ารักคนหนึ่ง และเรามักจะนั่งข้างกันเสมอ การที่เธอกลายเป็นดาราดังนั้นมันค่อนข้างเป็นเรื่องตลก เพราะเมื่อก่อนเธอเป็นคนบ้านๆ แทบจะไม่มีอะไรโดดเด่นเลยด้วยซ้ำ” 2. Ariana Grande Ashley Scared เล่าว่า “Ariana มักจะเลือกอยู่กับเพื่อนที่ด้อยกว่า” ในขณะที่มีอีกคนออกมาบอกว่า “เธอค่อนข้างนิสัยแย่ เพราะเธอชอบรังแกเพื่อนบางคนบนรถบัสโรงเรียน” แต่ก่อนหน้านี้ Ariana ได้ออกมาเล่าผ่านรายการต่างๆ ว่า “ฉันเป็นคนเดียวที่ถูกเพื่อนๆ รังแก ฉันอยู่กับคนทุกกลุ่ม ฉันค่อนข้างจะดูเป็นคนโง่ด้วยซ้ำ” อ้าว พูดไม่ตรงกันซะแล้ว…
-
รวม 25 ชื่อแมวยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น เผื่อคุณจะเอาไว้ไปตั้งชื่อแมวของตัวเองบ้าง!?
ใครเลี้ยงแมวบ้าง? แล้วแมวของเพื่อนๆ ชื่ออะไรกันบ้างเอ่ย? จริงๆ แล้วเวลาเลี้ยงแมวมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนการเลี้ยงลูกนั่นแหละ ดังนั้นการตั้งชื่อให้พวกมันก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน สำหรับใครที่เพิ่งมีแมวตัวใหม่ และยังไม่รู้จะตั้งชื่อยังไง วันนี้เรามีชื่อแมวจากประเทศญี่ปุ่นมาแนะนำด้วยแหละ เรียกได้ว่าเป็นชื่อสุดฮิตเลยก็ว่าได้ อย่างเวลาเรียกแมว เรามักจะใช้คำว่า “เมี๊ยว” หรือ “เหมียว” แต่ญี่ปุ่นกลับเรียก “แง๊ว หรือ หง่าว” นอกจากนี้ญี่ปุ่นมักจะดีไซน์คำใหม่ๆ มาตั้งชื่อแมวเสมอด้วย ล่าสุดเว็บไซต์ Iris Pet ก็ได้รวบรวม 25 ชื่อแมวที่ฮิตที่สุดในญี่ปุ่น โดยสำรวจจากผู้เป็นเจ้าของแมว 839 คน และจำนวนแมวรวมทั้งสิ้น 1,694 ตัว มาดูกันว่าจะมีชื่ออะไรบ้าง? อันดับ 25. Yuki แปลว่าหิมะ ที่มาของชื่อนี้มีที่มาจาก แมวบางตัวนั้นมีขนสีขาวสวยงามราวกับหิมะ ดังนั้นชื่อนำชื่อที่ใกล้เคียงกับลักษณะมาตั้งให้นั่นเอง อันดับ 25. Minto แปลว่ามิ้นต์ หรือพืชจำพวกสะระแหน่ ชื่อนี้ไม่ได้มาจากการที่แมวมีสีเขียวเหมือนใบมิ้นต์ แต่ตั้งตามอาหารที่ชอบต่างหาก อันดับ 25. Miruku หรือ นม อันดับ 25. Haru หรือแปลว่า…
-
เด็กชายมีปัญหาการพูด จนกระทั่งแม่ล้มหัวฟาดพื้น เขากลับโทรแจ้งตำรวจมาช่วยอย่างไม่ลังเล!!
ลองย้อนกลับไปเมื่อตอนเราอายุ 4 ขวบ เราทำอะไรได้บ้าง แน่นอนว่ามันเป็นวัยที่เดินได้พูดได้แล้ว และมันเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้มากมาย สำหรับ Jacob Onions เด็กชายวัย 4 คนนี้ เขามีพัฒนาการทางด้านการพูดช้ากว่าปกติ เพราะเขาพูดได้เพียงไม่กี่คำทั้งๆ ที่เด็กในวัยเดียวกันนำเขาไปมากแล้ว แต่ใครจะไปคิดว่าเด็กที่มีปัญหากับการพูดคนนี้จะกลายเป็นคนช่วยชีวิตแม่ตัวเองด้วยวิธีการพูดเนี่ยแหละ จนทำให้แม่ได้กลับมาอยู่ข้างเขาในทุกวันนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณแม่ Gemma วัย 33 ปี ในวันนั้นเธอล้มหัวฟาดพื้นอยู่ในห้องครัวและไม่สามารถขยับตัวได้ จนกระทั่งเธอหมดสติไป ต่อมา Jacob ได้เข้ามาเห็นแม่ที่กำลังหมดสติ เขาพยายามเข้าไปปลุกแม่ให้ตื่นแต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ เลย แล้วเด็กชายวัย 4 ขวบคนนี้ก็ทำให้สิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง Jacob ตัดสินใจโทรไปที่หมายเลข 999 (เบอร์ฉุกเฉินของประเทศอังกฤษ) แล้วพูดกับปลายสายว่า “แม่นอนอยู่บนพื้น แม่ได้รับบาดเจ็บและเธอพูดอะไรไม่ได้เลยฮะ” Kelly Morgan ผู้เป็นเจ้าหน้าที่ที่รับสายของเด็กชายบอกว่า “หลังจากได้ยินเช่นนี้ ฉันไม่ได้ถามอะไรต่อไปเลย ฉันรีบวางสายและไปยังจุดหมายปลายทางทันที” เมื่อไปถึง พวกเขาได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ Gemma จนกระทั่งเธอฟื้นขึ้นมา และบอกว่า “ฉันจำได้ว่าตัวเองหกล้ม หัวฟาดพื้นแล้วขาฉันก็ขยับไม่ได้เลย” ไม่นานหลังจากนั้นรถพยาบาลก็มาถึงบ้านของเธอ และนำตัวส่งโรงพยาบาล Princess Royal…
-
สัตว์แพทย์อุทิศตัวช่วยเหลือสัตว์ ตั้งแต่สัตว์เล็กยันสัตว์ใหญ่ เพราะทุกชีวิตมีความหมาย…
ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยการแข่งขันเช่นนี้ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะทำทุกอย่างเพื่อตัวเองและกอบโกยผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะหาคนที่ยอมเสียสละทำเพื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง และนี่คือเรื่องราวของสัตวแพทย์คนหนึ่งที่ยอมอุทิศตัวเองเพื่อช่วยเหลือสัตว์ เธอไม่เคยเกี่ยงว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหน แต่ถ้าพวกมันต้องการความช่วยเหลือเธอพร้อมที่จะอยู่ข้างพวกมันทันที Natalia Strokowska สัตวแพยทย์สาวผู้มีจิตใจแห่งการให้ เธอจบปริญญาเอกจากประเทศโปแลนด์ โดยในขณะที่ทำวิทยานิพนธ์ เธอก็ทำงานช่วยเหลือสัตว์ป่าควบคู่ไปด้วย Natalia ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการรักษาสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ตาม และการทำงานของเธอไม่ได้อยู่แค่ในประเทศเท่านั้น แต่เคยไปมาแล้ว 5 ทวีป กว่า 70 ประเทศทั่วโลก โดยได้แบ่งเรื่องราวการผจญภัยเหล่านี้ลงในอินสตาแกรมของตัวเองด้วย นอกจากการช่วยเหลือสัตว์แล้ว เธอยังไม่มีความหลงไหลเกี่ยวการสอนนักเรียนด้วย แต่การสอนของเธอนั้นแตกต่างไปจากครูทั่วไป เพราะเธอจะสอนโดยการลงมือทำให้เห็น แล้วให้นักเรียนเรียนรู้จากการกระทำของเธอมากกว่า หญิงสาวเชื่อว่า การได้ช่วยเหลือสัตว์ของเธอนั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ หันมาให้ความสนใจและให้การช่วยเหลือสัตว์เช่นเดียวกับเธอ Natalia อยากให้ทุกคนมีจิตใจแห่งการให้โดยเฉพาะกับสัตว์ เพราะพวกมันไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองในบางสถานการณ์ ดังนั้นทุกครั้งที่เธอช่วยเหลือสัตว์ เธอจะนำมาแบ่งปันในโลกโซเชียลเพื่อแสดงให้เห็นว่า ทุกการช่วยเหลือมันคุ้มค่าเสมอ และทุกคนก็ควรทำเช่นเดียวกัน อย่างที่บอกว่าเธอไม่ได้ทำงานเพื่อสัตว์เพียงอย่างเดียว แต่เธอยังทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วย… ในระหว่างที่เรียนหนังสืออยู่ เธอเคยเป็นนางแบบช่วยรณรงค์ให้มนุษย์รู้สึกภูมิใจในความเป็นธรรมชาติของตัวเอง ทุกวันนี้การทำศัลยกรรมนั้นแทบจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว มันอาจจะช่วยเสริมความมั่นใจและเป็นการทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นและที่สุดคือมันอาจทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตก็ได้ แต่ Natalia ได้ทำให้เห็นแล้ว เราสามารถมีความมั่นใจได้โดยไม่จำเป็นต้องศัลยกรรมเลย…
-
ร้ายกาจ!! ‘Yvonne Dowlen’ ยายวัย 90 กับลีลาการเล่นไอซ์สเก็ต วัยรุ่นเห็นเป็นต้องยอม
ปกติแล้วถ้าพูดถึงผู้เฒ่าผู้แก่แถวบ้านเราในช่วงวัย 90 ปี คงไม่มีใครออกมาทำกิจกรรมผาดโผนกันอีกแล้วใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะด้วยเรื่องปัญหาด้านสุขภาพที่ไม่ฟิตปั๋งเหมือนสมัยวัยหนุ่มสาว หรืออาจจะเป็นเพราะลูกหลานเป็นห่วงก็ตาม แต่สำหรับคุณยายวัย 90 ปี ‘Yvonne Dowlen’ คนนี้ เธอกลับมีช่วงบั้นปลายชีวิตที่ช่างแตกต่างจากคนอื่น เพราะเธอได้เลือกที่จะเข้าร่วมการแข่งขันไอซ์สเก็ตมากมายหลายรายการ เพื่อพิสูจน์ให้คนหนุ่มสาวทั้งหลายได้เห็นว่า ถึงเธอจะแก่ แต่ความเก๋าเธอเพียบ!! เมื่อเธอได้โลดแล่นอยู่ในลานน้ำแข็ง เธอก็พบว่านี่แหละคือความสุขที่สุดของชีวิต อันที่จริงแล้วเธอได้เป็นนักเต้นระบำไอซ์สเก็ตมาตั้งแต่ช่วงอายุประมาณ 20 ปี แล้วล่ะ แต่ทว่าเมื่อช่วงอายุ 80 ปี เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งแม้แต่คุณหมอเองก็วินิจฉัยแล้วว่า เธอคงไม่สามารถกลับมาโลดแล่นบนพื้นน้ำแข็งได้อีก แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งความชอบของเธอที่มีต่อสิ่งที่ทำมาทั้งชีวิตได้ หลังพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ เธอเลือกที่จะลุกขึ้นมา และฝึกซ้อมอย่างหนัก จนกระทั่งเธอได้ไฟเขียวให้สามารถกลับมาร่วมการแข่งขันได้อีกครั้ง คุณยายเคยกล่าวไว้ว่า “สำหรับฉันแล้ว การได้อยู่บนลานน้ำแข็งคือทุกสิ่งอย่าง และมันก็สำคัญกับฉันมากจริงๆ” นอกจากนั้นแล้วเธอยังเป็นสมาชิกของ ‘สถาบันไอซ์สเก็ต’ แห่งประเทศสหรัฐฯ อีกด้วย ซึ่งมีเด็กๆจำนวนมาก ที่เคยได้ร่ำเรียนวิชามาจากเธอ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ร่วมโลกกับเราแล้ว เธอได้จากไปเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2016 ในระหว่างที่กำลังโชว์ไอซ์สเก็ตอยู่ที่โคโลราโด ซึ่งสาเหตุนั้นไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ…
-
ไบเกอร์รถเสียกลางทางด่วน คนขับรถบรรทุกฮีโร่ จึงช่วยบังเข้าข้างทางอย่างปลอดภัย!!
เคยรู้สึกกันไหมว่า ทำไมเราถึงได้เห็นแต่ข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุ การสูญเสีย หรือแม้แต่การทะเลาะเบาะแว้งอันเกิดจากความใจร้อน หรือการอยากเอาชนะกันบนท้องถนน อยู่เป็นประจำ จะว่าไปแล้วถ้าเรามัวแต่เสพข่าวที่มันดาร์คๆ ก็ยิ่งพลอยทำให้สุขภาพจิตของเราในแต่ละวันเสื่อมเสียไปด้วย ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงขอนำเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องถนนจากสำนักข่าว New York Post มาเล่าสู่กันฟังบ้าง เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนซุเปอร์ไฮเวย์ I-90 ทางหลวงมุ่งตรงเข้าสู่เมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐฯ แน่นอนว่าบนเส้นถนนซุเปอร์ไฮเวย์ มักจะเต็มไปด้วยรถรามากมายที่ขับมาด้วยความเร็วสูง ทว่าในระหวา่งที่รถบรรทุกคันหนึ่งกำลังขับอยู่บนท้องถนน มอเตอร์ไซค์คันข้างหน้าของเขา ได้เกิดเหตุขัดข้องบางอย่างทำให้รถดับอยู่กลางถนนใหญ่เป็นเวลานาน ทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวา เต็มไปด้วยรถยนตร์จำนวนมากที่เร่งมาด้วยความเร็วอย่างสูง ภาพจากกล้องวิดีโอในรถบรรทุก เห็นได้ว่าจู่ๆรถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าว ก็ดับลงไปอย่างดื้อๆ ในสถานการณ์ดังกล่าว คนทั่วไปอาจเลือกที่จะแซงออกด้านข้าง และรีบมุ่งตรงไปยังจุดหมาย แต่สำหรับชายคนขับรถบรรทุกคนนี้ เขาเลือกที่จะค่อยๆเคลื่อนรถเข้าฝั่งขวามือ ช่วยบังทางให้มอเตอร์ไซค์ได้จอดข้างทางอย่างปลอดภัย เอ้าา ค่อยๆตามมานะ เดี๋ยวช่วยบังทางให้ เพราะรถข้างบนนี้ขับกันเร็วมากๆ ฮีโร่ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และฮีโร่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีพลังวิเศษ ในที่สุดมอเตอร์ไซค์คันนี้ก็ได้เข้าจอดข้างทางอย่างปลอดภัย จากการช่วยเหลือของคนขับรถบรรทุก เพราะด้วยความที่เขารู้ดีว่า มันจะอันตรายมากขนาดไหน ถ้าหากปล่อยให้มอเตอร์ไซค์คันนี้เข็นรถเข้าข้างทางด้วยตัวเอง ในที่สุดก็เข้ามาจอดข้างทางอย่างปลอดภัยได้แล้วนะ วิดีโอจากกล้องหน้ารถบรรทุกตัวเต็ม …
-
ชาวแคลิฟอร์เนียรวมตัวผลักดันกฎหมาย ให้ Apple ออกฟีเจอร์ ‘ห้ามแชท ระหว่างขับรถ’
ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆว่าเทคโนโลยี สมาร์ทโฟน ได้เข้ามามีบทบาทต่อพวกเราทุกคนในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าเราจะไปสถานที่ใด หรือหันไปทางไหน เราก็มักจะได้เห็นภาพของคนกำลังก้มเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างจริงจังอยู่เสมอ จะว่าไปแล้วการที่ใครซักคนเล่นโทรศัพท์มือถือ มันไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรหรอก หากแต่ว่าบางคนอาจจะติดมือถือมากเกินไปหน่อย จนเผลอเล่นตอนขับรถ ซึ่งอาจส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ชาวเมืองแคลิฟอร์เนีย หลายคนออกมารวมตัวช่วยกันผลักดันกฏหมาย ให้บริษัท ‘Apple‘ ใส่ฟีเจอร์ ‘ห้ามแชท ระหว่างขับรถ’ ลงไป ข้อมูลจาก ‘MLG Automotive Law’ ได้ระบุว่า บริษัท ‘Apple‘ คิดค้นระบบฟีเจอร์ดังกล่าวได้ตั้งแต่ปี 2008 แล้ว แต่เหตุผลที่ทางผู้ผลิตไม่ใส่ระบบนี้เข้ามา อาจจะเป็นเพราะเหตุผลทางการค้า หรือเป็นการสร้างลักษณะนิสัยต่อกลุ่มผู้บริโภค นอกจากนั้นแล้วยังมีข้อมูลจาก ‘DOT’ และกรมทางหลวงของสหรัฐฯ ได้ชี้แจงเช่นเดียวกันว่า ปัจจุบันมีผู้คนที่ขับรถไปด้วยและเล่นมือถือไปด้วย มากถึง 1.5 ล้านคนต่อวัน ซึ่งอัตราเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ จะสูงกว่าเดิมมากถึง 6 เท่า โดยสถิติจากรัฐแคลิฟอร์เนียพบว่า ในช่วงปีที่ผ่านมามีผู้ประสบอุบัติเหตุจากการใช้มือถือระหว่างขับรถสูงถึง 52,000 คัน และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 312 คน งานนี้กลุ่มผู้เรียกร้องได้ออกมารวมตัวกัน…
-
หนุ่มใหญ่ปลอบใจสาวคนแปลกหน้า หลังพบว่าเธอร้องไห้โฮ เพราะทำตั๋วรถไฟหาย!?
ก่อนจะออกเดินทางไปยังสถานที่ใดก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญก็คือการเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะตั๋วรถไฟ รถทัวร์ หรือตั๋วเครื่องบิน เพราะถ้าเราเผลอลืมไว้ล่ะก็ บอกได้เลยว่าอาจจะต้องเสียเงินเพิ่ม และไปถึงจุดหมายปลายทางเลทกว่าเดิมอีก เหตุการณ์อันน่าประทับใจในครั้งนี้เกิดขึ้นที่สถานีรถไฟในกรุงลอนดอน เมื่อหนุ่มใหญ่วัย 45 ปี ‘Martin Gallagher’ ชาวเมืองลิเวอร์พูล ได้เหลือบไปเห็นภาพของหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง ที่กำลังร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ก่อนที่เขาตัดสินใจจะเข้าไปช่วยเหลือเธอ ‘Martin Gallagher’ บุรุษพยาบาลผู้ใจดี เรื่องมันมีอยู่ว่า ‘Grace’ หญิงสาวนักศึกษาวัย 21 ปี ได้ทำตั๋วรถไฟเดินทางจากลอนดอน สู่เมืองลิเวอร์พูลหาย และเจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธที่จะออกตั๋วใบใหม่ให้กับเธอ แต่ทว่าเงินทั้งหมดที่เธอมีกลับไม่พอ ด้วยความที่เธอกลัวว่าตัวเองจะถูกทิ้งไว้ที่ลอนดอน เธอจึงรู้สึกเครียด และกังวล จนถึงขั้นร้องไห้ออกมา ทันใดสุภาพบุรุษผู้ใจดี ได้เสนอซื้อตั๋วใบใหม่ให้เธอฟรีๆ เป็นจำนวนเงิน £159 (ประมาณ 7,000 บาท) หลังจากนั้นเธอก็ได้ทวีตเรื่องราวดังกล่าว ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอทันที “ฉันไม่อยากจะได้ยินถ้ามีใครมาบอกว่า คนลิเวอร์พูลนิสัยไม่ดี เพราะวันนี้ฉันทำตั๋วรถไฟหาย และเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะปริ้นท์ตั๋วใหม่ให้ แต่แล้วก็มีสุภาพบุรุษคนหนึ่งเห็นฉันยื่นร้องไห้อยู่ เขาเลือกที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน” Grace โพสต์ผ่านทวิตเตอร์…
-
นักท่องเที่ยวเผยคลิป ‘หมีหมาผอมซูบ’ อ้อนขออาหารผู้ชม หน่วยงานกำลังเร่งช่วย..
ปกติแล้วถ้าเราจะไปเที่ยวสวนสัตว์ เราก็หวังที่จะได้เห็นภาพของเหล่าสัตว์ป่าหายาก ที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ใช่ไหมล่ะ? แต่ทว่าที่สวนสัตว์ในเมือง Bandung ประเทศอินโดนีเซีย แห่งนี้กลับแตกต่างออกไป เมื่อองค์กร ‘Scorpion Wildlife Trade Monitoring Group’ ได้เข้าไปสำรวจในที่แห่งนี้ กลับพบว่า หมีที่นี่มีร่างกายที่ผอมแห้งเกินไป จนคล้ายกับสุนัข!! พวกมันพยายามที่จะร้องขออาหารจากนักท่องเที่ยว โดยกลุ่มดังกล่าว เป็นกลุ่มที่คอยดูแลเรื่องการเป็นอยู่ของสัตว์ป่า ตามสวนสัตว์ทั่วประเทศอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาบันทึกภาพวิดีโอนี้นานหลายเดือน และยิ่งทำให้พวกเขามั่นใจว่า สวนสัตว์แห่งนี้ไม่ได้มีการดูแลสัตว์ป่าดีเท่าที่ควร เราจะเห็นได้ว่าหมีหมา (Sun Bear) ของที่นี่ มีร่างกายที่ผอมซูบผิดปกติ และมีอาการหิวโหยอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจากคลิปวิดีโอเราจะเห็นได้ว่าพวกมันต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ๆ ค่อนข้างจะจำกัดมาก ตัวอย่างวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ถ่ายออกมาให้เราได้เห็นถึงความจริงของที่แห่งนี้ “พวกเราได้เข้าไปร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์ ดูแลพวกมันให้ดีกว่าเดิม หรือนำเอาอาหารมาให้มันเพิ่ม แต่พวกเขากลับไม่สนใจ และเลือกที่จะเพิกเฉยแทน” เจ้าหน้าที่จาก Scorpion เล่า อีกหนึ่งวิดีโอตั้งแต่เดือน พฤษภาคม สะท้อนให้เห็นถึงความอดอยากของพวกมัน ด้วยปัญหาเกี่ยวกับกฏหมายคุ้มครองสัตว์ป่าของอินโดนีเซีย ไม่ได้รับความสนใจจากภาครัฐเท่าที่ควร ทำให้ปัจจุบันสัตว์ป่าในอินโดนีเซีย ต้องเผชิญกับปัญหาการค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฏหมาย รวมถึงการล่าสัตว์อนุรักษ์เพื่อขายทอดสู่ตลอดมืด…
-
ศิลปินตัดต่อภาพเตือนสตินักท่องเที่ยว ควรให้ความเคารพกับสวนรำลึกการสังหารหมู่…
สงครามมีแต่เรื่องราวที่เศร้าสลดและโหดร้าย โดยเฉพาะในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในประเทศเยอรมนีเกิดขึ้นโดยพรรคนาซีเยอรมัน ความโหดเหี้ยมในครั้งนั้น ก่อเกิดเป็น Holocaust Memorial หรือสวนรำลึกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกรุงเบอร์ลิน เพื่อให้คนตระหนักถึงเหตุการณ์อันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติ… Holocaust Memorial ด้วยความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ จึงทำให้มีคนมากมายเข้าไปถ่ายเซลฟี่ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือการถ่ายเซลฟี่ในเชิงที่ไม่ให้ความเคารพกับสถานที่ Shahak Shapira ศิลปินชาวยิว จึงคิดค้นแคมเปญ “Yolocaust” ขึ้น เพื่อเตือนสติเหล่านักท่องเที่ยวที่ไม่เคารพสถานที่ ว่าไม่ควรทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม หรือถ่ายรูปในเชิงที่ไม่ให้ความเคารพกับสถานที่แห่งนี้ การตัดต่อภาพเพื่อเตือนสติของเขา ‘ราวๆ ปีก่อน มีกระแสการเข้าไปถ่ายภาพเซลฟี่กันมากขึ้นใน Holocaust Memorial ผมเลยนำภาพที่แท้จริงของสถานที่แห่งนี้มาใส่ในรูปของพวกเขา การฆ่าล้างผ่าพันธุ์ชาวยิวที่เกิดขึ้นในอดีต และจุดมุ่งหมายในการรำลึกของสถานที่แห่งนี้’ Shahak Shapira กล่าว ‘บางครั้งถึงกับมีสเตตัสที่ไม่ให้ความเคารพสถานที่อย่างที่สุด เช่น ‘กำลังเล่นโยคะอยู่บนหลุมศพของยิว’ เลยทีเดียว และหลงลืมความโหดร้ายในครั้งอดีตไปเสียสิ้น’ ศิลปินกล่าวปิด สุดท้ายแล้วก็หวังว่าการกระทำของเขาจะช่วยเพิ่มความเคารพในสถานที่แห่งนี้ให้กับเหล่านักท่องเที่ยว และผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนสวนแห่งนี้นะจ๊ะ…
-
ออสเตรเลียเผยคลิป “วิธีการลาดยางที่รวดเร็วที่สุด” เหมือนวางแผ่นถนนสำเร็จรูป แป๊บเดียวเสร็จ!?
ถนนลาดยางเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเราใช้สัญจรอยู่ทุกวัน และเราคงจะเคยเห็นวิธีการลาดยางถนนมาแล้วว่า กว่าจะออกมาเป็นถนนให้เราใช้ทุกวันนี้ มันต้องใช้เวลาเวลาค่อนข้างนานทีเดียวเลยล่ะ แต่เมื่อไม่นานนี้ มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการทำถนนลาดยางในพื้นที่ห่างไกลของออสเตรเลีย โดยวิดีโอนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จนทำให้มีผู้เข้าชมกว่า 40 ล้านครั้งแล้ว Moora เป็นอำเภอเล็กๆ ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย มีประชากรเพียง 2,800 คนเท่านั้น ชาวบ้านจะประกอบอาชีพเกษตกรเป็นส่วนใหญ่ ที่นี่จึงอุดมไปด้วยพื้นที่เกษตรกรรมและถนนส่วนมากยังคงเป็นดินแดง เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ก็ต้องมีการทำถนนหนทางที่ดีด้วย สำหรับคลิปดังกล่าวนี้ เป็นภาพขณะที่มีการลาดยางถนน และที่มันได้รับความสนใจเพราะการสร้างและลาดยางถนนในคลิปนี้ไม่เหมือนที่เราเคยเห็นมาก่อน วิธีการก็คือใช้รถลาดยางมะตอยหนึ่งคันลาดไปข้างหน้าด้วยความเร็วระดับหนึ่ง แล้วก็ตามด้วยการใช้รถถอยหลังเทคอนกรีตลงเป็นแนวกว้างให้เท่ากับพื้นที่ถนนอีกสามคันใน ซึ่งเป็นการทำงานที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไล่เลี่ยกันเพียงไม่กี่วินาที และเมื่อดูจากโดรนมุมสูงแล้ว ราวกับว่าเป็นการนำถนนสำเร็จรูปมาวางยังไงอย่างงั้นเลย!! ทางด้าน Alan Leeson ผู้นำของอำเภอนี้บอกว่า “จริงๆ แล้ว วิดีโอนี้มีความยาว 5 นาที แต่ถูกตัดออกให้เหลือเพียง 3 นาทีเท่านั้น และกว่าเราจะรู้ตัว ก็มีคนเข้าไปดูกว่า 360,000 ครั้งแล้ว” นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้วิดีโอนี้ได้รับความสนใจจากทั่วโลก และได้มีการนำไปแปลเป็นภาษาต่างๆ ด้วย จนมีหลายคนเข้ามาคอมเม้นเกี่ยวกับวิธีการทำถนนนี้ว่า…
-
“ไอศกรีมดอกไม้” สุดโด่งดังในต่างแดน รังสรรค์ด้วยฝีมือคนไทย จนใครๆ ก็อยากลิ้มลอง!!
ไอศกรีมและดอกไม้ ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้เลย เพราะอย่างหนึ่งเป็นขนมหวาน อีกอย่างเป็นพืช แต่ถ้ามองในแง่ความรู้สึกแล้ว ทั้งสองอย่างนี้มักจะมีความหมายที่ดี แล้วถ้านำทั้งสองอย่างมารวมร่างกันเป็นหนึ่งเดียวล่ะ จะออกมาเป็นอะไรนะ?? ตอนนี้ทางผู้ทำไอศกรีมที่ร้าน i Creamy ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้นำทั้งสองมารวมกัน ออกมาเป็นไอศกรีมที่สวยที่สุด ชนิดที่ต้องร้องว้าวเลยล่ะ โดยปกติแล้ว การตักไอศกรีมใส่โคนนั้น มักจะตักออกมาเป็นก้อนกลมๆ แล้วแต่งด้วยท็อปปิ้งต่างๆ แต่สำหรับไอศกรีมดอกไม้ ได้มีการแต่งไอศกรีมให้เป็นทรงดอกไม้ ราวกับว่านำดอกไม้มาวางบนโคนยังไงอย่างนั้น แล้ววมันก็ออกมาน่ารักจนกินไม่ลงซะด้วยสิ เห็นแบบนี้แล้ว หลายคนสงสัย ทำยังไงให้ไอศกรีมออกมาเป็นดอกกุหลาบแบบนี้นะ?? เจ้าของร้าน i Creamy บอกว่า “เราใช้ไม้พาย ทำให้ไอศกรีมออกมาเป็นกลีบ จากนั้นเราก็แค่จัดให้มันเป็นรูปดอกไม้เหมือนที่เห็นนี่แหละค่ะ” อาจจะฟังดูง่ายเพราะใช้ที่ตักแบบแบน แต่จริงๆ แล้วคุณจำเป็นต้องมีทักษะเฉพาะตัวด้วย จึงจะทำให้ไอศกรีมออกมาเป็นรูปทรงที่สวยงามแบบนี้ได้ นี่ไม่ใช่แค่ไอศกรีมที่มีหน้าตาสวยเท่านั้น แต่รสชาติของมันก็อร่อยสมกับหน้าตาของมันด้วย… และที่สำคัญคือ เจ้าของร้านเป็นคนไทยด้วย เธอมีชื่อว่าคุณ พิชาภรณ์ ทรัพย์สิทธิพร คุณพิชาภรณ์ บอกว่า “ทุกคนในร้านนี้เป็นคนไทยทั้งหมด…
-
แจกไอจี 25 หนุ่มหน้าเอเชียสุดฮอต ทั้งโอปป้าและเข้มอินเดีย จะต้องการอะไรไปมากกว่านี้!?
หากพูดถึงหนุ่มในสเปคของสาวๆ แล้ว แต่ละคนก็คงมีความชอบที่ต่างกัน บางคนชอบผู้ชายหุ่นเซ็กซี่ บางคนชอบผู้ชายอบอุ่น หรือหลายคนอาจชอบหนุ่มมาดนิ่งก็ได้ แต่ไม่ว่าสาวๆ จะชอบแบบไหนหรือลุคไหนก็ตาม สำหรับหนุ่มๆ ต่อไปนี้ ขึ้นชื่อว่า เป็นหนุ่มฮอตที่สุดในเอเชีย และเป็นผู้ชายในฝันของใครหลายๆ คนเลยล่ะ ที่สำคัญเรามีไอจีของพวกเขามาแจกด้วยนะ เยอะแยะมากมาย ตามสะดวกและสไตล์ของแต่ละคนเลยนะจ๊ะ 1. Dorothea Carney หนุ่มมาดเข้ม ยิ่งมองยิ่งหลง 2. David Lim หนุ่มหล่อ มีลักยิ้ม ซิกแพคแน่น ควรค่าแก่การลูบไล้ 3. Harry Shum Jr ผู้ชายลุคอบอุ่นที่สาวๆ อยากซบอกมากที่สุด 4. Dev Patel หนุ่มมาดเซอร์ ที่ยิ่งโตยิ่งหล่ออะ 5. Vincent Rodriguez III หนุ่มหุ่นล่ำกับรอยยิ้มที่ทำให้สาวๆ ใจละลาย 6. Sendhil Ramamurthy นายแบบและนักแสดงผิวเข้ม กล้ามเป็นกล้ามค่ะคุณขาาา 7. John Cho…
-
พบกับ “มาร์ชแมลโลว์แมวเกาะ” จากญี่ปุ่น เพิ่มความน่ารักและรสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้น…
เมื่อพูดถึงมาร์ชแมลโลว์แล้ว เราคงจะนึกก้อนนุ่มๆ ทรงกลมหรือเหลี่ยมหรือเป็นแท่งยาวๆ ที่สำคัญคือมีรสชาติหวานนุ่ม และกลายเป็นขนมโปรดของใครหลายๆ คนไปแล้ว สำหรับตอนนี้ ได้มีการผลิตมาร์ชแมลโลว์โฉมใหม่แล้ว ซึ่งดูน่ารักขึ้นมาอีกขั้น จนอาจทำให้คุณไม่กล้ากินเลยก็ได้ โดยเฉพาะคนรักแมวทั้งหลาย เพราะมันคือมาร์ชแมลโลว์แมวเกาะนั่นเอง มาร์ชแมลโลว์หน้าแมวนี้มีขายที่ร้าน Yawahada ซึ่งเป็นร้านขายของหวานในประเทศญี่ปุ่น ราคาชุดละ 265 บาท โดยใจหนึ่งเซตจะมีหัวและอุ้งเท้าของแมว สำหรับราคานี้ บางคนอาจจะมองว่าแพงไปหน่อย แต่ดูก่อนสิ เริ่มตั้งแต่แพคเกจที่มีการออกแบบด้วยสีอ่อนหวาน มีคุณภาพ เช่นเดียวตัวมาร์ชแมลโลว์ที่บรรจุอยู่ข้างใน ในส่วนของรสชาตินั้น คุณจะได้รับสองรสในหนึ่งชุด ประกอบไปด้วยช็อคโกแลตที่นำมาแต่งลายส่วนหัวแมว และรสวานิลลาที่มาพิมพ์ลายในส่วนอุ้งเท้านั่นเอง กินอย่างไรให้ฟิน?… จริงๆ กินธรรมดาก็อร่อยแล้วนะ แต่ถ้าจะให้ฟินยิ่งขึ้นไปอีกคือ การนำไปใส่ในเครื่องดื่มช็อคโกแลตร้อน ชาร้อน รวมไปถึงนมถั่วเหลือร้อนด้วย และตอนนี้มีข่าวลือแว่วมาว่า Yawahada กำลังจะทำมาร์ชแมลโลว์อุ้งเท้าแมวรสชาเขียวในเร็วๆ นี้ด้วยนะ เพราะชาเขียวถือเป็นรสชาติที่ได้รับความสนใจและมีหลายคนโปรดปรานเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่อยากซื้อมาร์ชแมลโลว์น่ารักชุดนี้ สามารถเข้าไปสั่งได้ที่เว็บไซต์ sanpasta เลยจ้า น่ารักอ๊ะ!! มอบเป็นของขวัญให้คนพิเศษในช่วงวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ได้เลยนะเนี่ย ที่มา sobadsogood
-
จากคำพูด ‘ช่วยไปก็ไม่คุ้ม’ เธอจึงทุ่มพลังใจ ทำทุกอย่างเพื่อช่วยชีวิตเจ้าเหมียวให้รอดตาย…
หากเราเป็นคนเลี้ยงสัตว์แล้ว เราก็คงมีความผูกพันกับพวกมัน และอยากให้สัตว์เลี้ยงเหล่านี้ได้รับแต่สิ่งดีๆ เหมือนลูกคนหนึ่ง ที่สำคัญเวลาที่มันป่วยเราเองก็คงที่จะอดเป็นห่วงไม่ได้ เจ้าเหมียว Jon Snow ป่วยและทรุดหนักจนใครๆ ก็บอกว่ามันคงไม่รอดแล้วแน่ๆ ดังนั้น ควรปล่อยให้มันตายอย่างสงบ มีใครบางคนที่ไม่ได้คิดเช่นนั้น เหมียว Jon Snow ถูกพบเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2016 ในซอยแคบๆ แห่งหนึ่ง มันถึงถูกนำตัวรักษาในประเทศเกาหลีใต้ และไม่นานหลังจากนั้น เรื่องราวของมันก็ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์โดยมีข้อความที่ว่า เจ้าแมวตัวนี้ป่วยและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ในขณะเดียวกัน Rachel Brown ก็ได้เห็นเรื่องราวของ Snow ผ่านเว็บไซต์ดังกล่าว เธอหลงรักมันตั้งแต่แรกเจอ และเชื่อว่ามันจะต้องรอด เธอจึงตัดสินใจที่จะไปรับมันมาอยู่ก่อนที่จะสายเกินไป ตอนนั้น Rachel เป็นคนเดียวที่เชื่อว่า จะช่วยเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ ในขณะที่คนต่างแนะนำว่า ‘อย่ามาเลย ช่วยมันยังไงก็ไม่คุ้มหรอก ดูสภาพสิ อยู่ได้ไม่นานหรอก’ อย่างไรก็ตามเธอก็ไปรับมันมาจนได้ หลังจากไปรับมาแล้ว Rachel กับแฟนก็พาเจ้าเหมียว Snow ไปหาหมอในเช้าวันต่อมา คุณหมอได้บอกกับเธอว่า “แมวตัวนี้ป่วยหนักมาก และอาการมันค่อนข้างแย่” คุณหมอยังได้บอกว่าอีกว่า “ถ้าจะรักษามัน ต้องมีค่าใช้จ่ายที่แพงมาก และมันไม่คุ้มค่ากับผลที่จะได้รับแน่นอน”…
-
หนุ่มมะกันสร้าง “Trump Singles” เว็บไซต์หาคู่เดทสำหรับคนที่สนับสนุนทรัมป์โดยเฉพาะ!!
นับเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองที่สั่นสะเทือนโลกอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ สำหรับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ จึงก่อให้เกิดเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้คนในอเมริกาที่สนับสนุน “โดนัลด์ ทรัมป์” และ “ฮิลลารี่ คลินตัน” ได้แบ่งฝักฝ่ายทางด้านความคิดออกมาอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ในเรื่องความคิดด้านการเมือง หรือในด้านเศรษฐกิจสังคมต่างๆ รวมถึงยังส่งผลกระทบในด้านการหาคู่ครองของชาวอเมริกันอีกด้วย ทางด้าน David Goss หนุ่มวัย 35 จากรัฐแคลิฟอร์เนีย หนึ่งในผู้ที่สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ จึงได้ทำการก่อตั้งเว็บไซต์ Trump Singles ขึ้นมา เพื่อให้ชาวอเมริกันที่สนับสนุนทรัมป์ได้หาคู่เดทของพวกเขา เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้เห็นเว็บไซต์หาคู่เดทจากผู้ที่สนับสนุนนางฮิลลารี ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรค Democrats ดังนั้น จึงทำให้ David ได้ทำการก่อตั้งเว็บไซต์หาคู่เดทที่สนับสนุนทรัมป์ขึ้นมาบ้างนั่นเอง สำหรับ Trump Singles ได้เปิดตัวขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2559 ซึ่งมันก็ทำให้ David รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาพบว่ามีผู้คนมาลงทะเบียนมากถึง 6,000…
-
ชื่นชมคุณครูชาวอินเดีย ผู้อุทิศตน “สอนหนังสือใต้สะพาน” ให้เด็กๆ ในสลัมได้เรียนฟรี
ขึ้นชื่อว่าเป็นครูแล้ว ต่อให้ไม่ได้อยู่ในโรงเรียน หรือไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แต่ครูก็ยังเป็นครูอยู่วันยันค่ำ แม้จะไม่ได้สอนในโรงเรียนหรือสถานศึกษาก็ตาม Rajesh Sharma วัย 45 ปี อดีตอาจารย์วิทยาลัยที่ต้องออกจากการสอนเพราะด้วยปัญหาทางด้านการเงิน แต่ทว่าความเป็นครูของเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ แม้คุณครู Rajesh จะไม่ได้สอนหนังสือในวิทยาลัยแล้ว แต่เขายังคงทำในสิ่งที่ตัวเองรักต่อไป ด้วยการสอนหนังสือเด็กๆ ในชุมชนแออัดของประเทศอินเดีย แม้ต้องกลายเป็นผู้ตกงาน แต่เขาก็ไม่คิดที่จะเรียกร้องเงินจากการสอนหนังสือให้กับเด็กๆ เหล่านี้ เพราะคุณครู Rajesh เปิดสอนหนังสือฟรีให้กับนักเรียนกว่า 200 คน!! โรงเรียนแห่งนี้ ไม่มีระฆัง ไม่มีห้อง ไม่มีโต๊ะ ไม่มีเก้าอี้ เพราะเขาใช้บริเวณใต้สะพานเป็นห้องเรียน อาจฟังดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่รู้ไหมว่า โรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนมาได้ถึง 7 ปี แล้ว ในทุกๆ วัน ครู Rajesh จะเริ่มสอนเวลา 9 โมงเช้า และเลิกเรียนในเวลาบ่าย 2 โมงตรง นักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กด้อยโอกาส ที่พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียนในระบบการศึกษาของประเทศ แต่ก็มีนักเรียนหลายคนที่จบจากที่นี่แล้วไปเรียนต่อในโรงเรียนของรัฐได้ คุณครูบอกว่า “ผมรู้สึกว่า ตัวเองและนักเรียนเหล่านี้ถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน…
-
ทำความรู้จัก Kodo Nishimura พระที่เก๋ที่สุดในญี่ปุ่น เพราะเขาเป็นช่างแต่งหน้าด้วย!?
ชาวไทยหลายๆ คนน่าจะพอรู้มาบ้างแล้วว่าที่ประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าจะนับถือศาสนาพุทธเหมือนกับเรา แต่ก็มีการแตกแขนงแยกย่อยออกไปอีกหลายนิกายมากๆ ฉะนั้นกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับของนักบวชจึงแตกต่างจากบ้านเรา พระที่ญี่ปุ่นถือเป็นอีกอาชีพหนึ่งเลย สามารถแต่งงานมีลูกมีเมียได้ สามารถกลับบ้านได้ ไม่ต้องจำวัดเสมอไป หรือแม้แต่เล่นดนตรีก็ยังทำได้ และในบทความนี้เอง#เหมียวฟิ้นเองก็จะพาทุกคนไปเปิดหูเปิดตาเพื่อรู้จักวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่ต่างจากบ้านเราอีกครั้งหนึ่ง ภาพที่ทุกคนเห็นอยู่นี้คือพระชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ Kodo Nishimura อายุ 26 ปี จากกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น คุณ Nishimura ได้เข้าฝึกอบรมและกลายเป็นพระในปี 2015 และดำเนินหน้าที่ทางศาสนานับตั้งแต่นั้นมา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากจะทำเพียงอย่างเดียว เพราะเขายังมีความฝันอยากจะเป็นศิลปินช่างแต่งหน้าด้วย คุณ Nishimura เล่าว่าครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยเพื่อนแต่งหน้า และเห็นว่าเพื่อนของเขามีความสุขมากขนาดไหน นั่นจึงเป็นสิ่งที่ช่วยจุดประกายให้เขาอยากเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ และฝึกฝนตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ จนมีความเชี่ยวชาญ ถึงขนาดที่ว่าเคยมีนางงามจากเวที Miss Universe มาให้เขาแต่งหน้าด้วย อันที่จริงแล้วพระในญี่ปุ่นเองก็ถูกสอนมาให้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสมถะ ฉะนั้นการที่คุณ Nishimura ออกมาทำแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเป็นช่างแต่งหน้าและเป็นพระในเวลาเดียวกัน แต่พระอาจารย์ของเขากลับสนับสนุนและบอกกับเขาว่า “มันไม่ผิดหรอกหากมันช่วยให้คุณนำคำสอนไปสู่ผู้คนได้” ชื่อเสียงของคุณ Nishimura เริ่มกลายเป็นที่พูดถึงในวงการแฟชั่นอย่างกว้างขวาง จนถูกเชิญไปถ่ายแบบในธีม Out In Japan…
-
หนุ่มหรรมส์ใหญ่ที่สุดในโลก ปฏิเสธศัลยกรรมลดขนาด บอกชอบโด่งดังมากกว่าการมีเซ็กส์!!
เมื่อไหร่ที่กลุ่มเพื่อนชายได้มารวมตัวกัน ผสมกับปริมาณแอลกอฮอล์ที่ทำให้ปากกล้า ใจกล้า ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่พ้นบทสนทนาเกี่ยวกับการโอ้อวดสรรพคุณความใหญ่ ความยาว ของน้องชายตัวเอง (หรือไม่จริง?) ใครจะโม้เท่าไหร่ก็โม้กันไป เพราะคราวนี้ #เหมียวบ็อบ ไปเจอกับเรื่องราวของชายหนุ่มที่ ‘หรรมใหญ่ที่สุดในโลก’ เห็นแล้วก็อดไม่ไหวที่จะต้องเอามาเกทับให้รู้แล้วรู้รอดกันไป ว่าของพี่ชายคนนี้เค้าใหญ่จริงไม่ต้องเพิ่งคำโม้ หรือน้ำมันจิ้งเหลนนะจ๊ะ ฮ่าๆา **คำเตือน: รูปภาพในคอนเท้นท์นี้ติดเรต ฉ เพราะบางภาพอาจจะไม่น่าดูชมซักเท่าไหร่** Roberto Esquivel Cabrera หนุ่มใหญ่ชาวละติน กับเจ้าโลกที่เอามาพาดบ่าได้จริง!! เจ้าตัวได้ทำการวัดขนาดน้องชายของเขาแล้วพบว่ามันมีขนาดยาวถึง 48.26 เซนติเมตร!! ซึ่งดูผิวเผินแล้วมันเหมือนงวงช้างมากกว่าซะอีก เพราะแม้แต่ตอนใส่กางเกง มันก็มักห้อยโตงเตงลงมายาวถึงหัวเข่า “ผมรู้สึกมีความสุขสุดๆ ผมรู้ว่าบนโลกนี้คงไม่มีใครใหญ่ได้เท่านี้อีกแล้ว ผมอยากจะถูกบันทึกลงในสถิติของกินเนสบุ๊ค ในวัฒนธรรมละตินของผม ถ้าผู้ชายยิ่งหรรมใหญ่ แปลว่าคนนั้นยิ่งมีความเป็นชายสูง” เจ้าตัวให้สัมภาษณ์ แต่ทว่าด้วยขนาดที่ใหญ่เกินไป ทำให้เขาไม่สามารถที่จะมีเพศสัมพันธ์กับใครได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีคุณหมอยื่นมือเข้ามา อาสาขอผ่าตัดศัลยกรรมให้หรรมของเขามีขนาดเท่าคนทั่วไป แต่เจ้ากลับปฏิเสธ และยังคงยืนยันว่า สิ่งนี้แหละที่ทำให้เขาพิเศษกว่าคนอื่น ถึงแม้ว่ามันจะเอาไปใช้งานจริงไม่ได้ก็ตาม จะไปไหนมาไหน ‘หรรม’ ของเขาต้องพันด้วยผ้าเพื่อความปลอดภัยอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวยืนยันที่จะเก็บขาข้างที่ 3 ไว้…
-
“Gravity Cat” เจ้าเหมียวน้อยผู้ต้านทานแรงโน้มถ่วง จากเกมดังสู่การไล่ล่าสุดมันส์
นี่คือคลิป Gravity Cat ซึ่งเป็นคลิปโปรโมทของเกมชื่อดังที่กำลังจะปล่อยออกมาให้เล่น นั่นก็คือเกม Gravity Rush โดยในคลิปนี้เราจะได้เห็นเจ้าเหมียวประหลาดที่สามารถไต่กำแพงและเพดานราวกับว่าโลกนี้ไม่มีแรงโน้มถ่วงอยํ่เลย ทำเอาเจ้าของอึ้งไปตามๆ กัน โดยทางผู้ผลิตพยายามจะดึงจุดเด่นของเกมนี้เอามาประกอบกับแมวผู้น่ารักเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นที่หลากหลายยิ่งขึ้น เพราะใครๆ ก็ไม่สามารถต้านทานความน่ารักของเจ้าเหมียวได้ และจุดเด่นของเกมนี้ก็คือพลัง’แรงโน้มถ่วง’ ซึ่งเป็นพลังพิเศษของตัวเอก โดยตัวเอกจะสามารถควบคุมแรงโน้มตลอดการผจญภัยในเกม ตอนนี้ Gravity Rush ได้ออกภาค 2 มาแล้ว ซึ่งมีความน่าตื่นเต้นและเข้มข้นไม่แพ้ภาคแรกแน่นอน… Gravity Rush 2 เริ่มต้นที่ตัวเอกของเกมคือ แคทถูกพัดอยู่ในอาณานิคมเหมืองแร่ลอยฟ้า เธอกลายเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพลังพิเศษ ทุกๆ วันเธอจะทำงานเพื่อแลกกับอาหาร ความน่าสนใจของภาค 2 นี่คือ ทุกอย่างจะดูสมจริงมากยิ่งขึ้น เพราะตัวเอกของเรื่องต้องเจอกับการผจญภัยที่หลากหลาย มีการใส่อารมณ์ ความรู้สึกในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เจอด้วย ที่สำคัญการผจญภัยส่วนใหญ่มักจะอยู่กลางอากาศซะมากกว่า เอาเป็นว่า ตอนนี้พักเรื่องรายละเอียดเกมก่อนดีกว่า เพราะสิ่งที่เราจะนำเสนอคือ คลิปวิดีโอที่อยู่ด้านล่างนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในคลิปที่ทำออกมาเพื่อโปรโมท Gravity Rush 2 วิดีโอดังกล่าวนี้ จะมีสองสาวที่วิ่งตามจับแมวตัวหนึ่ง แล้วอยู่ๆ แรงโน้มถ่วงของโลกก็เกิดพลิกผัน สาวสองคนนี้กลายเป็นคนที่ควบคุมแรงโน้มถ่วงได้… ความสนุกมันอยู่ตรงนี้แหละ…
-
บทวิเคราะห์ท่าทางของ “โอบามา ฮิลลารี่ และทรัมป์” ในพิธีสาบานตน โดยผู้เชี่ยวชาญภาษากาย
เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ที่ประเทศสหรัฐฯ ก็ได้มีพิธีสาบานตนเพื่อต้อนรับผู้ที่จะเข้ามารับวาระดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ พร้อมทั้งอำลาคนเก่า ที่ได้ทุ่มเทตลอดระยะเวลาหลายปี เพื่อประเทศชาติของพวกเขาเอง และเฉกเช่นเดียวกับทุกครั้ง เมื่อเหล่านักการเมืองชื่อดังทั้งหลาย ได้มาออกสื่อพร้อมกันต่อหน้าสาธารณะชนกว่าหลายแสนชีวิต ‘แพตตี้ วูด’ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากาย ก็อดไม่ได้ที่จะออกมาวิเคราะห์ท่าทางของพวกเขาผ่านสำนักข่าว The Dailymail ซึ่งเชื่อว่าสามารถสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึก และความคิดเบื้องลึกในจิตใจ ณ ห่วงขณะนั้นได้ เริ่มที่ลักษณะท่าทางของ ‘ฮิลารี่ คลินตัน’ กันก่อน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า หากมองจากลักษณะภายนอกแล้ว ‘ฮิลารี่’ ดูค่อนข้างจะตื่นกลัวมากเป็นพิเศษ ก่อนจะเข้าสู่พิธี ซึ่งสังเกตุได้จากท่าทางของเธอที่ค่อนข้างจะดูแข็งตื้อมากกว่าปกติ และเมื่อเธอออกมาพบกับฝูงชนจำนวนมาก จะเห็นได้ว่าเธอพยายามที่จะยิ้มออกมาให้ดูเป็นมิตร และดูปกติมากที่สุด ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์เช่นกันว่า ทั้งหมดที่เห็นนั้น มันคือการแสดงอย่างหนึ่งนั่นแหละ “แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังดูสดใส และเปี่ยมไปด้วยพลังงานอย่างมาก ซึ่งเราคงไม่เจอแบบนี้บ่อยๆในนักการเมืองวัย 69 ปี” วูด กล่าว คู่ต่อไปเป็นคืออดีตประธานาธิบดี ‘บารัค โอบามา’ และภรรยาสุดที่รักของเขา ‘มิเชล โอบามา’ …
-
พบกับ “The 7th Room” โรงแรมบ้านต้นไม้ ภายใต้แสงเหนือท่ามกลางบรรยากาศสุดฟิน
เมื่อพูดถึงโรงแรมแล้ว เราคงจะนึกถึงภาพตึกสูงที่อยู่ท่ามกลางสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้าง ร้านสะดวกซื้อ หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่ ณ จุดจุดนี้ อยากให้เพื่อนๆ ลบภาพพวกนั้นออกไปก่อนนะคะ เพราะโรงแรมที่เราจะพาไปดูต่อไปนี้ ไม่เหมือนโรงแรมที่เราคุ้นตากัน ลักษณะดูคล้ายเป็นบ้านต้นไม้แทน แต่สำหรับความฟินนั้นมีมากยิ่งกว่านั้นอีกค่ะคุณขาาาา The 7th Room เป็นโรงแรมสุดหรูที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสนทางภาคเหนือของสวีเดน ใกล้ๆ กับแถบอาร์กติก ซึ่งออกแบบโดยบริษัท Snøhetta สำหรับโรงแรมนี้มีลักษณะเป็นบ้านต้นไม้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในบ้านต้นไม้ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดของโลก โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างขึ้นมาเพื่อลดช่องว่างระหว่างมนุษย์กับธรรมชาตินั่นเอง ส่วนโครงสร้างภายในและการตกแต่งนั้น ได้ออกแบบให้มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของยุโรป และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โรงแรมนี้อยู่สูงเหนือพื้นดิน 10 เมตร มีหน้าต่างบานใหญ่ เพื่อให้ผู้คนได้มองเห็นความงามของธรรมชาติได้อย่างชัดเจน และมีการติดตั้งไฟตามมุมต่างๆ ที่ให้บรรยากาศสบายยิ่งมากขึ้น แค่นั้นยังไม่พอค่ะ จุดเด่นของโรงแรมอยู่ที่ระเบียงกลางแจ้ง ที่ส่วนพื้นนั้นทำด้วยตาข่าย เป็นมุมที่ให้ลูกค้าได้นอนชมแสงเหนือนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่กว่า 55 ตารางเมตร ที่ทำเป็นห้องนั่งเล่น ห้องสังสรรค์ ห้องน้ำ และห้องนอน ส่วนการขึ้นไปยังโรงแรมแห่งนี้มีสองช่องทางคือ ทางบันไดและลิฟท์ขนาดเล็กที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 5 คนเชียวละ…
-
เรื่องราวประทับใจ เมื่อคุณลุงกวาดถนนทำเงินเดือนหาย ชาวบ้านจึงระดมเงินมอบให้แทน
หัวใจของการอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นก็คงจะเป็นความมีน้ำใจให้กันและกัน แต่หลายคนมองว่า มันเป็นสิ่งที่เป็นได้ยากในสังคมยุคปัจจุบันนี้ เพราะคนส่วนใหญ่ก็ทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ กลายเป็นเรื่องที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก เมื่อคุณลุงกวาดถนนทำเงินเดือนหาย ชาวบ้านจึงได้ระดมเงินเพื่อมอบให้กับเขา เรื่องราวเรียกรอยยิ้มนี้เกิดขึ้นที่เมือง Binzhou มณฑลซานตง เมื่อคุณลุง Cheng Yanxin วัย 70 ปี ทำอาชีพเป็นคนกวาดถนนโดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 5,600 บาทต่อเดือน ในวันที่เกิดเหตุนั้น Cheng เพิ่งได้รับเงินเดือน 3 เดือน รวมแล้วก็ประมาณ 16,800 บาท และหลังจากเลิกงาน เขากำลังจะเดินทางกลับบ้านเหมือนปกติ แต่กลับพบว่าซองเงินเดือนนั้นได้หายไป คุณลุงจึงพยายามตามหาซองเงินเดือนนั้นในทุกๆ ที่บนถนนที่เขาไปทำงานในวันนี้ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก เพราะนั่นเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับคนยากจนเช่นเขา แต่ในความโชคร้ายนี้ก็ยังมีความโชคดีอยู่เมื่อ Zhao Ping พนักงานร้านอาหารในท้องถิ่น ได้เดินผ่านมาพอดี เมื่อเห็นคุณลุงกำลังหาบางสิ่ง เธอจึงเดินเข้าไปถามจนได้รู้ว่า คุณลุงได้ทำเงินเดือนหายไป หลังจากได้ฟังสิ่งที่คุณลุงกำลังเผชิญแล้วคุณ Zhao ไม่ได้นิ่งเฉย แต่เธอได้หาวิธีการที่จะทำให้คุณลุงได้รับเงินเดือนนั้นกลับคืนมา Zhao ได้โพสต์รูปภาพของคุณลุงลงในแอพ WeChat พร้อมกับสถานการณ์ของเขาตอนนี้ว่า เขาทำเงินหายเป็นจำนวนเท่าไร และรู้มั้ยว่า โพสต์นี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มีคนมากมายพยายามติดต่อเจ้าของโพสต์ เพื่อสอบถามช่องทางที่จะสามารถช่วยคุณลุง Cheng…
-
ศิลปินชาวรัสเซียประดิษฐ์ “เข็มกลัดเกล็ดมังกร” จนกลายเป็นสินค้าสุดสร้างสรรค์และเลอค่า!!
หากเรามีความสนใจในศิลปะหรือหัวไปทางศิลปะ แน่นอนว่า เราจะมีความสุขกับการสร้างสรรค์ผลงาน บางทีงานชิ้นนั้นไม่จำเป็นต้องการอลังการงานสร้าง และสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับงานธรรมดาๆ ได้ ใครชอบติดเข็มกลัดบ้างเอ่ย? อยากรู้จังว่าเพื่อนๆ ชอบติดเข็มกลัดแบบไหนกันบ้าง จริงๆ แล้วทุกวันนี้ก็มีเข็มกลัดลายต่างๆ ให้เลือกกันมากมาย แต่ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือเปล่า ลองนี่หน่อยมะ เข็มกลัดรูปมังกร เครื่องประดับที่จะทำให้คุณดูโดดเด่นยิ่งขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่มังกรธรรมดา แต่ถูกทำด้วยวัตถุระยิบระยับดูมีมิติและไม่ซ้ำใครแน่นอน เข็มกลัดรูปมังกรทำขึ้นโดย Alyona Lytvin นักศึกษาปริญญาโท สาขาเย็บปักถักร้อย จากกรุงมอสโก ประเทสรัสเซีย ที่ได้ทำให้มังกรกลายเป็นสินค้ามุ้งมิ้ง ให้คุณมาติดบนตัวได้แบบเก๋ๆ นี่ไม่ใช่งานอดิเรกในยามว่างเท่านั้น แต่ Alyona ได้เปิดเป็นร้านค้าภายใต้ชื่อ reserve ภายในร้านไม่ได้มีแค่มังกรอย่างเดียว แต่มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ อีกมากมายที่เธอได้นำมาดัดแปลงเป็นสินค้าที่น่าหลงไหล สำหรับวัสดุที่นำมาทำเป็นเข็มกลัดมังกรนี้ Alyona ได้นำเอาไข่มุก ทอง เงิน ด้ายผ้าไหม ผ้ากำมะหยี่ เครื่องหนัง และวัสดุอื่นๆ อีกมากมาย นำมาบวกกับทักษะความสามารถของเธอ จึงได้เกิดเป็นสินค้าขนาดเล็กแต่คุณภาพไม่เล็กนะจ๊ะ ปกติ #เหมียวขี้ส่อง ไม่ติดเข็มกลัดนะ แต่เห็นแบบนี้ อยากหันมาติดขึ้นมาซะอย่างงั้น ส่วนใครที่สนใจ ก็สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ livemaster นี่ไม่ใช่แค่สินค้าหรือผลงานที่ไกลตัวอะไรเลย…
-
ตู้กาชาปองญี่ปุ่น ให้คุณลุ้น ‘กางเกงในสำหรับขวดน้ำ’ ใส่เท่แปลกตา แถมป้องกันโต๊ะเปียก
กาชาปอง นั้นนับเป็นของเล่นที่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น และยังฮิตมากๆ ในปัจจุบันนี้ด้วย เพราะเป็นของเล่นที่ทำให้เราได้ลุ้นว่าจะได้อะไรในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะหลังๆ นี้ที่มีเริ่มมีการนำของเล่นแปลกๆ มาใส่ตู้เพื่อเพิ่มความหลากหลายมากขึ้น เริ่มต้นปีใหม่นี้ ก็ได้มีการเปิดตัวกาชาปองรูปแบบใหม่เช่นกัน นั่นคือกาชาปองกางเกงใน ที่ผลิตโดย Kitan Club ซึ่งเป็นบริษัทผลิตของเล่นที่ยกระดับตัวเองมาร่วมแจมวงการชุดชั้นในด้วย!! สำหรับวัตถุประสงค์ที่ทำกาชาปองกางเกงในนี้ ทางบริษัทไม่ได้หวังเอากำไรอย่างจริงจัง แต่เพื่อให้ลูกค้าได้มีความเพลิดเพลินในการเสี่ยงโชคกับตัวสินค้ามากยิ่งขึ้น และสำหรับสินค้ากางเกงในตัวน้อยเหล่านี้ ไม่ได้ออกแบบมาให้มนุษย์สวมใส่ แต่เป็นกางเกงในสำหรับขวดน้ำพลาสติกโดยเฉพาะต่างหาก เพิ่มความเซ็กซี่และกุ๊กกิ๊กน่ารักให้ขวดน้ำมากยิ่งขึ้น!? กางเกงในขวดน้ำเหล่านี้ทำมาจากผ้าไหมอย่างหนาและนุ่ม มีจุดประสงค์ในการช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์จากความชื้น เพราะมันจะช่วยดูดซับความชื้นได้ โต๊ะจะได้แห้งอยู่ตลอดเวลา ไม่เปียกแฉะจากขวดน้ำเย็นๆ ทางบริษัทได้ออกแบบลายของกางเกงในขวดน้ำไว้ทั้งหมด 7 ลายด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นลายสีธรรมดา ลายลูกไม้ ยันไปจนถึงลายเสือก็มี!! ส่วนราคากาชาปองกางเกงในอยู่ที่ตัวละ 60 บาท (200 เยน) โดยได้มีการติดตั้งตู้กาชาปองกางเกงในไว้ตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น รับรองว่า คนที่เสี่ยงดวงไปแล้ว ต้องกลับมาหยอดตู้เป็นครั้งที่สอง สาม แน่ๆ หากใครมีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นก็ลองไปเล่นกันดูนะคะ ระวังจะติดใจเข้าล่ะ ฮร่าาาา …
-
สายการบินเอมิเรตส์เริ่มแจก “ชุดนอนมอยเจอร์ไรเซอร์” ให้ผู้โดยสารเฟิร์สคลาส หลับสบายยิ่งขึ้น
การได้เป็นผู้โดยสารระดับเฟิร์สคลาสของสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ เรียกได้ว่ามันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสุดๆ เพราะนอกจากคุณจะได้รับการบริการที่สุดแสนประทับใจแล้ว คุณยังจะได้ชุดนอนมอยเจอร์ไรเซอร์สุดพิเศษจากสายการบินนี้อีกด้วย เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า สายการบินเอมิเรตส์ได้เริ่มแจก “ชุดเครื่องนอนบำรุงผิว” ชุดแรกในโลกบนท้องฟ้าให้กับผู้โดยสารแล้วจ้า สำหรับชุดเครื่องนอนดังกล่าว เป็นชุดนอนใหม่ล่าสุดสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง (เฟิร์สคลาส) ที่เดินทางด้วยเที่ยวบินกลางคืน เป็นชุดนอนสุดพิเศษที่จะช่วยดูแลผิวในขณะนอนหลับ อีกทั้งยังช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยชุดเครื่องนอนบำรุงผิวนี้ ใช้เทคโนโลยี Hydra Active Microcapsule ที่จะช่วยรักษาผิวให้เนียนนุ่มในขณะที่กำลังบินอยู่บนฟากฟ้า ส่วนในการทำงานนั้น หากคุณลองขยับตัว เนื้อผ้าจะค่อยๆ ปล่อยสารสกัดจากสาหร่ายใต้ทะเล ที่อุดมไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติออกมา เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง และช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือด ในส่วนของผ้าห่มขนแกะ ยังช่วยให้ผู้โดยสารพักผ่อนได้สบายมากขึ้น ซึ่งจะมาเป็นชุดพร้อมกับรองเท้าแตะ ผ้าปิดตาและถุงใส่ของ โดยจะให้บริการเฉพาะลูกค้าผู้โดยสารระดับเฟิร์สคลาสเท่านั้น นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถนำของทั้งหมดกลับบ้านได้ด้วย เนื่องจากเทคโนโลยี Microcapsule สามารถเก็บครีมบำรุงผิวไว้ข้างใน เพราะฉะนั้นมันสามารถนำไปซักและนำมาใส่ได้อีก และที่สำคัญทางสายการบินยังมีชุดผลิตภัณฑ์น้ำหอมและโลชั่นจาก Bvlgari และผลิตภัณฑ์สำหรับความงามมาให้ด้วย เพื่อให้ผู้โดยสารใช้ในห้องสปาบนเครื่องบินสำหรับการเดินทางในเที่ยวบินระยะไกล เท่านั้นยังไม่พอคุณยังจะได้รับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Voya ที่ทำมาจากสาหร่ายออร์แกนิค…
-
ตากล้องถ่ายภาพ “บันได” ในกรุงบูดาเปสต์ เหมือนดั่งประตูพิศวง ดึงดูดเข้าไปอีกมิติหนึ่ง…
เพื่อนๆ เคยหรือไม่เวลาเรามองบันไดจากชั้นบนลงมาจากชั้นล่าง หลายๆ ครั้งก็เกิดความรู้สึกว่า มันช่างน่าประหลาดใจจริงๆ หรือว่ามันอาจเป็นเส้นทางที่เชื่อต่อไปยังอีกมิติหนึ่ง เมื่อเร็วๆ นี้ ตากล้องชาวฮังการี Balint Alovits ได้ทำโปรเจคภาพสุดพิเศษออกมาในชื่อว่า The Time Machine โดยเขาได้ถ่ายภาพ “บันได” ในตึกสูงหลายๆ แห่งในกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เพื่อนำเสนอความซับซ้อนในความเรียบง่าย รวมทั้งความน่าพิศวง ราวกับได้หลุดไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง เห็นแล้วบางทีก็สงสัยว่า นี่เป็นประตูมิติรึเปล่า หากเรากระโดดลงไป เราใช่ไปโผล่อีกมิติหนึ่งหรือไม่? แต่อย่าลองจะดีกว่าเนอะ (ฮาาา) ใครชื่นชอบผลงานของเขา ก็ลองไปชมได้ที่เว็บไซต์ส่วนตัวของเขา balint alovits ได้เลยนะฮะ ยังมีผลงานเจ๋งๆ อีกเพียบให้ชมแน่นอน ที่มา boredpanda
-
19 ภาพความบังเอิญของอากาศหนาวจัด ที่สรรสร้างศิลปะขึ้นมาได้โดยเราไม่รู้ตัว…
สำหรับประเทศไทยของเรานั้น อากาศหนาวจัดอาจไม่ใช่เรื่องที่หลายคนคุ้นเคยซักเท่าไหร่ แต่สำหรับหลายๆ ประเทศ การเจอหิมะตกจนทั่วทั้งเมืองกลายเป็นน้ำแข็ง แทบจะเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเจอกันเป็นประจำ (หลายๆ ที่หนาวชนิดที่ว่าเปลี่ยนน้ำร้อนให้กลายเป็นน้ำแข็งได้ภายในวินาทีเดียว) และเชื่อหรือไม่ว่าหลายๆ ครั้ง อากาศหนาวเย็นจัดๆ นั้น ก็สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะสุดเทพขึ้นโดยที่เราไม่ทันได้รู้ตัว อย่างเช่น 19 ภาพที่เรานำมาให้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ ต้องตะลึงในความมหัศจรรย์ของอากาศหนาวอย่างแน่นอน เชิญทัศนากันได้เลย! จาร์กัวกลายเป็นเสือน้ำแข็งเลย ไม่บอกก็รู้ว่าจอดนานมาก ใยแมงมุมก็ไม่รอด ดูไปก็สวยดีนะเนี่ย นึกว่าโมเดลรถ เอ๊ะ ทำยังไงให้เป็นแบบนี้ เหมือนรถในหนัง Mad Max มีหนานด้วย อลังกาลดีจริงๆ ถ้าต้นงิ้วในนรกมีจริง ก็คงหน้าตาแบบนี้แหละ เหมือนเพิ่งซ้อนมอเตอร์ไซค์มาด้วยความเร็วสูง มันม้วนได้ยังไงเนี่ย หนาวชนิดที่ว่า ฟองอากาศยังแตกไม่ทัน รอยพญานาคแน่ๆ สาธุ เหมือนงานศิลปะอะไรซักอย่าง …
-
ผอมกันล่ะทีนี้ เมื่อร้านอาหารแนวใหม่ ไม่รับเงิน แต่ให้คุณจ่ายโดยการ “ออกกำลังกาย” แทน!!
ลืมไปเลยว่าการไปทานอาหารแล้วจะอ้วน เพราะตอนนี้มีร้านอาหารที่จะทำให้คุณไปกินแล้ว ‘ผอม’ กันได้แล้วล่ะ!!! คาเฟ่แห่งนี้ชื่อว่า Run For Your Bun ตั้งอยู่ในศูนย์ออกกำลังกาย David Lloyd แห่งประเทศอังกฤษ ซึ่งก็เหมือนคาเฟ่ทั่วไปที่จะเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้า แต่พอตอนจ่ายเงินค่าอาหารนี่แหละที่พีค เพราะทางร้านไม่รับเงิน แต่จะรับเป็น ‘แคลอรี่’ ของคุณ!! ข้อเสนอจากทางคาเฟ่ก็คือเพื่อแลกกับอาหาร 1 มื้อ คุณจะต้องออกกำลังกายตามคอร์สของทางยิม ภายในระยะเวลาแค่ 6 นาทีเท่านั้น ย้ำ…6 นาทีเท่านั้น!!! ออกกำลังกายแลกค่าอาหาร โปรแกรมออกกำลังกายเข้มข้นของทางยิมก็คือ การเล่นเครื่องพายเรือ การปั่นจักรยานแบบหนัก วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า สคว็อช ออกกำลังกายท่า Leg Lunges และทั้งหมดต้องทำต่อเนื่องกันอย่างละ 1 นาที ฟังดูแล้วเป็นคอร์สที่ไม่ค่อยหนักเท่าไหร่นะเนี่ย ดูแล้วไม่น่าจะเบิร์นอาหารที่ทานไปออกหมดนะ แต่จุดประสงค์ของทางยิมที่ต้องการทำแบบนี้ก็เพราะว่าต้องการเตือนและให้แง่คิดต่อกลุ่มผู้ที่มาเล่นว่าการออกกำลังกายที่ดีไม่ควรอดอาหารนั่นเอง ทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนสของศูนย์แห่งนี้ คุณ Elaine Denton ก็ออกมาบอกว่า “อ้างอิงจากการวิจัยของเรา พนักงานออฟฟิศอังกฤษนั้นใช้เวลา 90% ไปกับการนั่งทำงานเฉยๆ กระทั่งนั่งกินข้าวอยู่บนโต๊ะทำงานตัวเองด้วยซ้ำ” “เราต้องการย้ำเตือนให้เหล่าคนทำงานเห็นความสำคัญของการแอคทีฟอยู่ตลอดเวลา และรู้จักการขยับทำนู่นทำนี่บ้าง…
-
เมื่อนำผลงานช่างภาพชื่อดังมาใส่ “สัดส่วนทองคำ” เพื่ออธิบายความสมบูรณ์แบบของภาพ
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเวลาเราถ่ายรูปภาพมันออกมาไม่สมบูรณ์แบบเหมือนผลงานของช่างภาพท่านอื่น ทั้งๆ ที่เราก็ถ่ายสถานที่เดียวกันและมุมเดียวกัน?? จริงๆ แล้วการถ่ายรูปให้ออกมาสวยนั้น ไม่ใช่ว่าจะถ่ายแบบไหนก็ได้ แต่เราจำเป็นต้องรู้โครงสร้างและสัดส่วนต่างๆ ภาพด้วย แล้วโครงสร้างที่ว่านั้นคืออะไรล่ะ ลองมาดูภาพของศิลปินต่อไปนี้ ที่ถูกอธิบายตามสัดส่วนทองคำ ว่าทำไมช่างภาพผู้มากฝีมือสามารถถ่ายรูปออกมาสวยกว่าคนทั่วไป Ansel Adams เป็นหนึ่งในช่างภาพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงศตวรรษที่ 20 ทำให้หลายคนให้ความสนใจงานของเขา และอยากรู้เทคนิคในการถ่ายรูปของเขาให้มากขึ้น Elliot McGucken หนึ่งในช่างภาพที่ชื่นชอบผลงานของ Adams ที่เผยแพร่ออกมา และได้ค้นพบว่าภาพเหล่านั้นมีสัดส่วนทองคำเป็นองค์ประกอบนั่นเอง McGucken อธิบายว่า “ศิลปินที่ยิ่งใหญ่เช่น Ansel Adams มักจะใช้สัดส่วนทองคำเป็นองค์ประกอบของภาพ ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมกันมากในปัจจุบัน” แต่ในสมัยของ Adams เชื่อว่า สัดส่วนทองคำน่าจะยังไม่เป็นที่รู้จัก แต่เมื่อลองนำสัดส่วนทองคำไปใส่ในผลงานของเขา ทุกอย่างกลับดูลงตัว ไม่ว่า Adams จะใช้เทคนิคอะไรก็ตาม แต่การถ่ายภาพเขานั้นได้แสดงให้เห็นถึงความสมดุล เสริมความงามคลาสสิก จนกลายเป็นผลงานที่ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมจนถึงปัจจุบันนี้ McGucken ยังบอกอีกว่า “นอกจากสัดส่วนทองคำแล้ว ในโลกเรานี้ยังพลังของคณิตศาสตร์ ที่ทำให้มนุษย์สามารถถ่ายภาพออกมาเกินความเป็นธรรมชาติ หรือบางทีภาพของ Adams อาจใช้โครงสร้างทางธรรมชาติก็ได้ เพราะเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ”…
-
สาวเบลเยี่ยมลงทุนบินไปซิลิคอนวัลเลย์ เพื่อให้สำนักงานใหญ่เฟสบุ๊กช่วยแก้ไขปัญหาเพจ…
ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนี้สื่อโซเชียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊ค อินสตาแกรมและอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้แทบจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตใครหลายๆ คนไปแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น บางคนถึงขั้นขาดไม่ได้เลยก็มี ในเมื่อมันกลายเป็นปัจจัยสำคัญไปแล้ว ถ้ามันมีปัญหาล่ะ บางคนอาจจะเปลี่ยนไปเล่นแอพอื่นหรือช่องทางอื่น แต่สำหรับบางคนที่รักเดียวใจเดียว ต่อให้แอพที่เล่นนั้นมีปัญหาแค่ไหน เขาก็จะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อได้กลับมาเล่นอย่างปกติ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า จะมีคนลงทุนขนาดนี้… Jamilla Baidou เน็ตไอดอลสาววัย 23 ปีจากประเทศเบลเยียม ที่มักจะโพสต์ความสามารถด้านดนตรีของตัวเองลงเฟสบุ๊คเป็นประจำ จนทำให้มีคนติดตามเพียบ แต่แล้ววันหนึ่ง เธอก็ตื่นมาพบว่า หน้าเพจเฟสบุ๊คของเธอมีความขัดข้องบางอย่าง หญิงสาวจึงรายงานปัญหานี้ไปยังหน่วยให้ความช่วยเหลือของเฟสบุ๊ค แต่ไม่มีข้อความตอบกลับใดๆ เลย ด้วยความเป็นเจ้าแห่งโซเชียล Jamilla รอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ทำยังไงล่ะ ก็ไปหาคนที่จแก้ปัญหานี้ได้สิ ว่าแล้วเธอก็นั่งเครื่องไปยังซานฟรานซิสโกเพื่อไปหาคนที่จะช่วยเธอได้ บางคนอาจจะคิดว่า หญิงสาวเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่า กับแค่เพจเฟสบุ๊คมีปัญหา… เรื่องของเรื่องคือ Jamilla เคยไปออกรายการทีวีมาแล้ว แต่หลังจากเธอออกจากรายนั้นปุ๊บ เธอก็อยากสานต่อกิจกรรมที่เคยทำ Jamilla จึงได้โพสต์วิดีโอของเธอบนเครือข่ายสังคมเช่น เฟสบุ๊ค และ ยูทูป และทำมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเดือนธันวาคม ปี 2016 ก็มีผู้ติดตามเธอกว่า 157,000 รายและมีคนเข้าชมวิดีโอมากกว่าหนึ่งล้านครั้ง …
-
นาทีประทับใจ!! คุณหมอปลอบคนไข้ที่คลั่ง ด้วยการกอดอย่างอบอุ่นจนทำให้เขาสงบลงได้
การเป็นหมอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือวัยทำงานล้วนต้องเจองานหนักทั้งนั้น เพราะหมอไม่รู้เลยว่า ต้องเจอคนไข้แบบไหน แต่สิ่งเดียวที่พวกเขาคิดเสมอคือ ต้องช่วยทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยไม่สนว่าคนไข้คนนั้นจะเป็นใคร อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายคนที่กลัวหมอ จนไม่อยากไปโรงพยาบาลในยามที่ป่วยไข้ แต่สำหรับคุณหมอคนนี้ ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก และอาจจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อหมอไปเลยก็ได้ เมื่อไม่มีนานนี้ สำนักข่าว China Xinhua News ได้นำเสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศจีน ในเครือมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ มีคนไข้คนหนึ่งจากแผนกศัลยแพทย์เกิดโวยวายอย่างบ้าคลั่ง พร้อมดึงสายน้ำเกลือออก ในตอนแรกนั้น ทั้งพยาบาลและหมอหลายคนพยายามเข้าไปควบคุมสถานการณ์ แต่คนไข้ก็ไม่มีทีท่าที่จะสงบลงเลย ต่อมาคนไข้คนดังกล่าวได้วิ่งออกมาจากห้อง และยังคงโวยวายไม่หยุด ตอนนนี้ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด เพราะไม่มีใครหยุดเขา หลายคนออกมามุงดูแต่ไม่มีใครทำอะไรได้เลย ในที่สุด นายแพทย์หูเหอเจีย ซึ่งเป็นหมอเจ้าของไข้ชายที่โวยวายคนนี้ ได้เข้าไปกอดเขา ซึ่งไม่ใช่การกอดเพื่อรัดตัวแต่เป็นกอดที่ส่งมอบความอบอุ่นให้ จนทำให้ชายคนนั้นสงบลงทันทีอย่างไม่น่าเชื่อ โมเม้นต์นี้ทำเอาทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์รู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วย และยังได้มีการนำภาพวินาทีนั้นโพสต์ลงในโซเชียลจนกลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกด้วย สำหรับคุณหมอหูเหอเจียคนนี้ ปัจจุบันอายุ 33 ปี เขาเป็นคนที่มีจิตใจดี มีเมตตา ซึ่งคนในโรงพยาบาลนี้จะรู้จักกันเป็นอย่างดี และมักจะเป็นที่รักของทุกคนเสมอ ที่สำคัญคือ เขาจะดูแลคนไข้เหมือนคนในครอบครัวของตัวเองเสมอ ภาพหมอกอดคนไข้ด้วยความรักเช่นนี้ ไม่ใช่ภาพที่เราจะเห็นกันง่ายๆ บางคนไม่กล้าไปหาหมอเพราะกลัวโดนดุด้วยซ้ำไป นี่จึงเป็นตัวอย่างดีๆ สำหรับแพทย์ทุกคน และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวงการแพทย์ด้วย…
-
ตำนานคืนชีพ!! ทดสอบความแกร่งของ Nokia 6 ทั้งโยน ทิ้งดิ่ง และทุบเปลือกวอลนัต!?
อย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าโทรศัพท์โนเกียนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นโทรศัพท์ที่มีความทนทานมาก โดยรุ่นที่มักเป็นที่พูดถึงคือ 3310 ถึงขนาดเอาไปพูดติดตลกว่า “ปาหัวหมายังแตก” หมายถึงหัวหมานะที่แตก… แต่แม้จะแข็งแรงแค่ไหนความนิยมก็ตกไป เพราะมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งโนเกียเองไม่ยอมปรับตัวตาม แถมแบรนด์อื่นๆ ยังตอบโจทย์มากกว่าด้วย จนในที่สุดโนเกียก็ถูกไมโครซอฟท์ซื้อไป แต่ก็ใช่ว่าโนเกียจะหยุดอยู่แค่นั้น เพราะเจ้าของบริษัท HMD ในฟินแลนด์ซึ่งเป็นมีผู้บริหารเป็นอดีตพนักงานของโนเกียได้เห็นว่า แม้จะมีโทรศัพท์รุ่นใหม่ออกมาแต่ก็ยังไม่มีรุ่นไหนที่จะทำลายสถิติความแข็งแกร่งของโนเกียได้ ดังนั้น HDM จึงต่อยอดชื่อเสียงของโนเกียวด้วยการผลิตโทรศัพท์ Nokia 6 ในรูปแบบของสมาร์ทโฟน โดยเปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนมกราคม 2017 นี้เอง ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากสาวกแบบถล่มทลาย บางคนอาจนึกภาพไม่ออกว่า มันจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว ดังนั้นจึงได้มีการเผยแพร่วิดีโอการทดสอบ Nokia 6 ให้เราได้เห็นกันจะๆ ด้วยว่ามันคือสุดยอดแห่งโนเกียจริงๆ โดยในวิดีดังกล่าวนี้ ได้มีการนำ Nokia 6 ไปทุบของแข็งแล้วปรากฏว่ามันไม่มีรอยเลย นอกจากนี้ยังมีการโยนลงมาจากที่สูงแล้วยังเปิดใช้งานได้ตามปกติ เอิ่มม มันทำจากอะไรแว๊? แบบนี้อะ แข็งแรงพอมมั้ย? ใครที่ชอบทำโทรศัพท์แตกบ่อยๆ นี่คงรุ่นจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียวเลยละ สาบานว่านี่คือโทรศัพท์!? ที่มา C L Gadget
-
เผยภาพบรรยากาศงานแต่ง “เรน-คิมแตฮี” อบอุ่นเรียบง่าย ใช้งบราวๆ 4 หมื่นบาทเท่านั้น!?
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา #เหมียวขี้อ้อน ได้นำเสนอเรื่องราวของนักร้องหนุ่มสุดฮอตอย่าง “เรน” ที่ออกมาประกาศแต่งงานกับดาราสาวสวย “คิมแตฮี” อย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข่าวของทั่งคู่ก็ได้รับกระแสตอบรับจากบรรดาแฟนๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งหลายคนก็เข้ามาแสดงความยินดีกันอย่างมากมาย และล่าสุดทางเว็บไซต์ Koreaboo ก็ได้ออกมาเผยภาพสุดหวานของหนุ่มเรน และคิมแตฮี คู่รักซุปตาร์แดนกิมจิ ขณะควงคู่กันเข้างานพิธีวิวาห์ที่วิหาร Gahoe-dong ในกรุงโซล เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าถึงไม่ได้เป็นการจัดงานที่หวือหวา และใหญ่โตอะไร แต่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนหวาน และโรแมนติก ภาพบรรยากาศในงานแต่งที่แสนเรียบง่าย และอบอุ่น มีเพียงครอบครัว และเพื่อนสนิทที่พวกเขาได้เชิญมาร่วมงานเพียงเท่านั้น ด้านนักแสดงสาวสวยคิมแทฮี ยังได้ได้เผยจดหมายถึงบรรดาแฟนๆ ผ่านทางต้นสังกัดของเธอโดยมีข้อความว่า… “สวัสดีค่ะ นี่คือคิมแทฮี ส่วนแรกฉันอยากจะขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุน และแสดงความยินดีกับเรา แม้ว่าจะเป็นข่าวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน วันนี้ถือเป็นวันแรกของการเดินทางที่ยาวนานของเรา และฉันก็ต้องการที่จะแบ่งปันก้าวแรกกับแฟนๆ ที่รักและดูแลพวกเรา เราจะเคารพ ดูแลกัน และทำอย่างดีที่สุด ผู้ชายที่จะเข้ามาเป็นคู่ชีวิตของฉัน ฉันจะคอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน และมอบความเข้มแข็งให้กัน ฉันหวังว่าไม่มีใครป่วยในสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ และฉันขอให้ทุกคนมีสุขภาพี่ดี…
-
อินตาแกรมบันทึกชีวิต “หมาเศร้า” เพราะต้องรอเจ้านายหน้าร้านค้าเป็นเวลาน๊านนาน…
ใครที่เลี้ยงน้องหมา คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันเป็นสัตว์ที่ไม่ได้มีแต่ความน่ารักเพียงอย่างเดียว แต่สุนัขยังกล้าหาญชาญชัย และมีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก ในบางครั้งเวลาที่เจ้าของไปช้อปปิ้งแล้วพาน้องหมาไปด้วย พวกเขาก็มักจะผูกมันไว้กับเสา และให้มันนั่งรออยู่ตรงนั้น ซึ่งนี่อาจจะเป็นบททดสอบที่ทำให้เห็นว่า ถึงเราจะหายไปเป็นเวลานาน แต่เจ้าหมาแสนรักก็ยังคงนั่งรอเราอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน!! และในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มารับชมภาพน่ารักๆ ของเจ้าหมาจากทั่วโลก ที่กำลังนั่งทำหน้าตาน่าสงสารหลังถูกเจ้าของทิ้งให้อยู่เพียงลำพังชั่วคราว โถๆ น่าสงสาร และภาพทั้งหมดก็มาจากโปรเจค “Sad Dogs Outside Shops” ที่ Andy ผู้รักหมาจากประเทศออสเตรเลียได้สร้างขึ้นมา เพื่อให้เราได้เห็นถึงความน่ารัก น่าเอ็นดูของพวกมันยังไงละ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาได้เริ่มแชร์ภาพถ่ายของน้องหมาที่ทำหน้าตาเศร้าสร้อยอย่างน่าสงสาร ขณะที่กำลังนั่งรอเจ้านายของพวกมันอยู่หน้าร้านค้าอย่างอดทน อีกทั้งยังได้ส่งเสริมให้ผู้คนส่งภาพเจ้าหมากำลังทำหน้าตาเศร้าสร้อยขณะรอเจ้าของอยู่หน้าร้านค้า แล้วนำมาแบ่งปันให้ผู้คนในเฟจบุคแฟนเพจ และอินสตาแกรมที่เขาสร้างขึ้นได้รับชมอีกด้วย สำหรับโปรเจคดังกล่าว ได้เริ่มขึ้นหลังจากที่เขาได้ย้ายจากไอร์แลนด์ไปยังประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเขาได้เผยว่า “สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็น เมื่อผมได้ย้ายไปออสเตรเลียคือ มีหมาจำนวนมากที่เจ้าของผูกติดกับสิ่งต่างๆ ไว้หน้าร้านค้า… ผมรักสุนัข และชอบเลี้ยงพวกมัน เพื่ออยากให้พวกมันสนุกสนาน ดังนั้นเมื่อผมเห็นพวกมัน ผมคิดว่าผู้คนบนโลกออนไลน์ก็คงอยากจะเห็นด้วย” และหลังจากนั้นผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา, แคนาดา, สเปน, ไอร์แลนด์,…
-
เซเล็บสาวโปแลนด์ สร้างรายได้โดยไม่ต้องโชว์หวิวหรือแม้แต่ใบหน้า แต่มีคนตามนับแสน!?
ถ้าหากจะนึกถึงเหล่าเน็ตไอดอลสาวๆ ที่มีผู้ติดตามนับพันนับหมื่นในโลกออนไลน์นั้น ก็คงจะนึกถึงภาพสาวๆ ที่โชว์วาบหวิวหรือเนื้อหนังมังสากัน แต่วันนี้เราจะพาไปพบกับสาวน้อยเซเลปแหวกแนว ที่ไม่ต้องโชว์เนื้อหนัง วาบวิว หรือแม้กระทั่ง ‘ใบหน้า’ ของตัวเองเสียด้วยซ้ำ ก็ยังมีผู้ติดตามมากมายได้!? Natalia Gutkiewicz สาวน้อยวัย 20 จาก Warsaw ประเทศโปแลนด์ ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 รายในอินสตาแกรมของเธอ gutkaa โดยมีการถ่ายภาพที่เป็นซิกเนเจอร์ของเธอเลยก็คือถ่ายภาพให้ออกมายังไงก็ได้ ให้ ‘ไม่เห็น’ ใบหน้าของเธอ!! Natalia Gutkiewicz เซเล็บสาวน้อยวัย 20 ปี และไม่ว่ายังไง คุณก็จะไม่มีทางได้เห็น ‘ใบหน้า’ ที่แท้จริงของเธอเป็นอันขาด!! ‘ผู้คนเริ่มเข้ามาติดตามและใช้เวลากับอินสตาแกรมของฉันมากขึ้น เพื่อจะหาว่าหน้าตาที่แท้จริงของฉันเป็นอย่างไร ฉันค่อนข้างระมัดระวังตัวด้วยเช่นกันในการเปิดเผยหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในที่สาธารณะ เพราะฉะนั้นไม่มีผู้ติดตามคนไหนเลยที่รู้ตัวจริงของฉันหรือเคยเห็นฉัน’ Natalia Gutkiewicz กล่าว และไม่เหมือนเซเล็บอินสตาแกรมคนอื่นๆ เธอมักจะมีรูปหลุดๆ ไม่สวยเป๊ะออกมาบ้าง ‘ฉันไม่ใช่คนที่จะถ่ายภาพอาหาร 250 ภาพ แล้วเลือกเอาภาพที่ดีที่สุดมาโพสต์ เพราะฉะนั้นเกือบทุกภาพที่ฉันโพสต์นั้นคือการถ่ายภาพเพียงครั้งเดียว’ และถึงเธอจะไม่ค่อยคล้อยตามเท่าไหร่ในเรื่องที่ว่าเธอได้กลายมาเป็นเซเล็บคนดัง แต่ตอนนี้รายได้ส่วนใหญ่ทั้งหมดของเธอล้วนแต่มาจากอินสตาแกรมทั้งสิ้นจากการโฆษณาต่างๆ และทำให้เธอกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดียไปโดยปริยาย เห็นไม่ล่ะ ไม่ต้องโชว์ก็ดังได้…
-
ปู๊น ปู๊นนน!! นั่งรถไฟไป “Houtong” หมู่บ้านเหมียวไต้หวัน ดินแดนแห่งสวรรค์ของเหล่าทาสแมว
การเดินทางเพียงระยะเวลาสั้นๆ จากญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้าลงไปยังหมู่บ้าน Houtong ในไต้หวัน บอกเลยว่ามันจะต้องเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ และประทับใจให้กับคุณแน่นอน เพราะนี่ไม่ใช่หมู่บ้านธรรมดาๆ แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของไต้หวัน และยังเป็นหมู่บ้านของบรรดา “แมวเหมียว” อีกด้วย ว้าวววว!! ฟังดูน่าตื่นเต้นจังเลย ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ “Houtong” หมู่บ้านแมวบนเกาะไต้หวัน Houtong เป็นที่รู้จักในนามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไต้หวัน โดยในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ที่สามารถผลิตถ่านหินได้ปีละกว่า 2 แสนตัน จนกระทั่งกิจการถ่านเริ่มซบเซา ทำให้ผู้คนต้องย้ายออกไปทำงานที่อื่น จนทำให้เหมืองแห่งนี้ต้องปิดตัวลง และกลายเป็นเหมืองร้างไปในที่สุด เรารอพวกเธอมาหาอยู่ตรงนี้นะ ที่ Houtong มีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 6,000 แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีแมวเหมียวอยู่เป็นจำนวนมาก และดูเหมือนจำนวนของมันก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่องๆ ซะด้วยสิ สำหรับหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมืองไทเป ประมาณ 60 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือน สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 – 50 นาทีเท่านั้น เมื่อคุณเดินทางมาถึงก็จะพบกับบรรดาน้องเหมียวมากมาย…
-
Ed Sheeran เผยลดน้ำหนักแบบง๊ายง่าย 19 กิโลกรัม แค่ไม่ขาดออกกำลังกายก็เอาอยู่!!
ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่แฟนเพลงทั่วโลกรอคอยผลงานใหม่กันอย่างใจจดใจจ่อ สำหรับนักร้องหนุ่มวัย 25 ปี อย่าง “Ed Sheeran” ที่เมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ของตัวเองมาตั้งแต่ต้นปีกันเลยทีเดียว ทำเอาบรรดาแฟนๆ ดีอกดีใจกันใหญ่ แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ บังเอิ๊ญบังเอิญมีชาวเน็ตตาดีได้สังเกตเห็นว่าหนุ่ม Ed นั้น รู้สึกจะดูดีขึ้น แถมยังผอมลงแบบเห็นได้ชัด งานนี้เลยทำให้บรรดาแฟนๆ แอบสงสัยว่าเขาไปทำอะไรมาน้า ถึงได้ผอมลง!! รายงานจากเว็บไซต์ต่างประเทศระบุว่า หลังจากที่เขาได้ปล่องซิงเกิ้ลใหม่ออกมา นักร้องหนุ่มวัย 25 ดูเหมือนจะผอมลงเป็นอย่างมาก โดยน้ำหนักของเขาลดลงถึง 19 กิโลกรัม ซึ่งก่อนหน้านี้เขาหนัก 95 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันน้ำหนักของเขาก็เหลืออยู่ที่ 76 กิโลกรัมเท่านั้น และที่สำคัญบรรดาแฟนๆ ยังพากันแซวว่า น้ำหนักตัวของเขาลดลงเหมือนกับชื่ออัลบั้ม + × และ ÷ ที่ปล่อยออกมาตามลำดับเป๊ะเลย งานนี้ทางเจ้าตัวก็เลยออกมาเฉลยเคล็ดลับในการลดน้ำหนักสักหน่อย โดยหนุ่ม Ed ได้ออกมาเผยว่า “ผมสาบานได้เลยว่าผมออกกำลังกายวันละแค่ 10 นาทีเท่านั้น ผมไม่ได้ตระหนักเลยว่าพยายามแอคทีพตัวเองขนาดไหนตอนไปทัวร์…. อาหารไดเอทของผมคือพิซซ่า และเบียร์…
-
สาววัย 31 ถูกแฟนทิ้ง ทั้งที่ใกล้ถึงงานแต่งแค่ 3 เดือน งั้นไปฮันนีมูนรอบโลกคนเดียวก็ได้ว้อยยย!!
การแต่งงานและได้ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รัก ถือเป็นความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวหลายๆ คน แต่จริงๆ แล้วเมื่อแต่งงานไปใช่ว่าทุกคู่จะมีความสุขเหมือนดังที่หวังเอาไว้ บางคู่ก็เลิกรากันไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานก็มี เหมือนดังเช่นเรื่องราวของ Katy Collins สาววัย 31 ปีคนนี้ ที่มีแผนจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มอีก 3 เดือนข้างหน้า แต่หัวใจของเธอกลับแตกสลาย เพราะสุดท้ายเธอกลับโดนแฟนหนุ่มทิ้งไป และต้องยกเลิกงานแต่งทั้งหมด เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากจริงๆ แต่ทว่าเรื่องราวการเลิกราของเธอกับแฟนหนุ่ม ดูเหมือนจะทำให้ Katy เศร้าได้ไม่นาน เพราะในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจที่จะออกไปหาความสุขให้กับตัวเอง โดยการเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วโลก!! หลังจากที่ได้เริ่มออกเดินทาง Katy ก็ค้นพบจุดมุ่งหมายในการใช้ชีวิตมากขึ้น งานนี้เธอจึงได้เริ่มเขียนซีรีย์หนังสือ “The Lonely Hearts Travel Club” ขึ้นมา จนได้รับรางวัลอีกด้วย Katy เพิ่งเขียนหนังสือเล่มที่ 4 เสร็จ หลังจากที่เธอได้เซนต์สัญญากับ Harper Collins ซึ่งเขาเป็นแรงบันดาลใจในตอนที่เธอได้เดินทางไปท่องเที่ยวรอบโลกนั่นเอง Taj Mahal ในประเทศอินเดีย …
-
บาทหลวงหูเหล็ก ผู้เผยแพร่คำสอน และบทสวด ผ่านดนตรี ‘เมทัล’ อ๊ากก ว๊ากก จ๊ากก!!
เคยมีตำนานกล่าวไว้ว่า ‘ดนตรีเมทัล’ คือดนตรีที่ถูกบรรเลงขึ้นเพื่อเป็นการสรรเสริญ ‘ซาตาน’ นั่นก็คือสิ่งที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับ ‘พระเจ้า’ ตามหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นั่นเอง แต่ทว่าที่โบสถ์ ‘Crush Church‘ ในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิลแห่งนี้ เขาไม่ได้เชิดชูบูชา ‘ซาตาน’ ตัวแทนแห่งความชั่วร้ายหรอกนะ เพราะชาวคริสตศาสนิกชนที่นี่ ยังคงเลื่อมใสในคำสอนของพระเจ้าอยู่เสมอ เพียงแต่พวกเขาปรับเปลี่ยนการเข้าโบสถ์ให้เข้ากับรสนิยมการฟังเพลง ด้วยการใช้ดนตรีที่หนักหน่วง มีจังหวะชวนโยกหัว พร้อมกับชูมือแบบชาวร็อคไปด้วย \m/ ‘Antônio Carlos Batista’ บาทหลวงผู้ฉีกทุกกฏเกณฑ์ของการเป็นผู้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ปกติแล้วเราจะเห็นภาพของบาทหลวง แต่งตัวสุภาพเรียบร้อยใช่มั้ยล่ะ? แต่คราวนี้บาทหลวง ‘Batista’ ได้พิสูจน์ตัวเองให้โลกเห็นแล้วว่า คนเราสวยงามที่จิตใจ หาใช่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะสักทั้งตัว เจาะนู้นนี่นั่นเต็มไปหมด แต่เขาก็ทำหน้าที่เป็นผู้เผยแพร่หลักคำสอนประจำโบสถ์แห่งนี้ มาตั้งแต่ปี 1998 แล้วล่ะ ซึ่งวิธีการเผยแพร่คำสอนตามหลักไบเบิ้ลของเขานั้นสร้างสรรค์สุดๆ โดยบาทหลวงจะทำหน้าที่เป็นนักร้องนำประจำวงดนตรีเมทัลที่ใช้ชื่อว่า ‘Antidemon’ และทุกๆวันนัดหมาย วงเมทัลของบาทหลวงจะทำการขึ้นแสดงดนตรีแบบเมามันส์ เร่าร้อน โดยใช้คำสอนในไบเบิ้ล มาดัดแปลงให้เข้ากับจังหวะของเพลง เหล่าคริสต์ศาสนิกชน ที่มาโบสถ์แห่งนี้ ต่างดูซาบซึ้งกับบทสวดแนวใหม่เอามากๆ บางคนถึงขนาดทำสิ่งที่เรียกว่า ‘มอชพิท’…
-
สาวท้องแก่ต้องเดินไปโรงพยาบาล 3 ชั่วโมง เพราะหิมะปิดถนนหมด ตำรวจขอแบกไปส่งจนถึงที่…
เหตุการณ์อันน่าประทับใจในครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมือง ‘Shimla’ ประเทศอินเดีย หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับเมืองนี้เท่าไหร่นัก ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของอินเดีย และมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างจะหนาวมากๆ ในช่วงฤดูหนาว 9 มกราคมที่ผ่านมา เป็นคืนที่อุณหภูมิลดเหลือเพียง 0 องศา ชาวเมืองต้องเผชิญกับหิมะที่ตกลงมาไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุด ถนนหลายๆเส้นในเมืองถูกตัดขาดจากหิมะ รวมถึงระบบไฟฟ้าของชาวบ้านในละแวกนั้น ก็ล้วนโดนตัดด้วยเช่นกัน ทว่าท่ามกลางความเงียบสงัดภายในเมือง มีหญิงสาววัย 23 ปี คนหนึ่งที่กำลังตั้งครรภ์ และจะได้เป็นคุณแม่เต็มตัวในอีกไม่ช้า เธอรู้สึกว่าตัวเองมีอาการเจ็บท้องคลอดมาตั้งแต่ช่วงเย็น และอาการก็ทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงกลางดึก หญิงสาวชาวอินเดียคนนี้เธอมีชื่อว่า ‘Kamini’ ด้วยความเจ็บปวดที่ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอได้ทำการโทรศัพท์หารถพยาบาลให้มารับ แต่ทว่ารถพยาบาลไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากเส้นทางระหว่างบ้าน และโรงพยาบาลนั้น ถูกหิมะปิดถนนไปเรียบร้อยแล้ว ณ วินาทีนั้น เธออาจจะรู้สึกว่าหมดหนทางการขอความช่วยเหลือ สิ่งเดียวที่เธอพอจะทำได้ก็คือการช่วยเหลือตัวเอง แม้จะอยู่ในสภาพที่ลำบากสุดๆ เธอตั้งมั่นที่จะเดินเท้าด้วยท่ามกลางความหนาวเหน็บ เพื่อไปให้ถึงโรงพยาบาลให้ได้ แต่แล้วเรื่องราวอันน่าประทับใจก็ได้เกิดขึ้น เมื่อเธอออกจากบริเวณที่อยู่อาศัยมาได้ไม่นาน เธอก็พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 คน พวกเขาช่วยกันจัดแจงให้เธอได้นั่งเก้าอี้ หาผ้าห่มหนาๆมาคลุมให้ และช่วยกันพยุงเธอไว้บนบ่า ก่อนจะเดินไปส่งที่โรงพยาบาล นานถึง 3 ชั่วโมง …
-
‘Western Village’ สวนสนุกร้างสุดหลอนในแถบโตเกียว ราวกับโลกตะวันตกหลังวันโลกาวินาศ
ถ้านึกถึงสวนสนุกแล้วล่ะก็ เพื่อนๆ อาจจะคิดถึงสถานที่แห่งความสนุกสนาน แต่คงไม่มีใครนึกไปถึงเรื่อง ‘หลอนๆ’ กันหรอกใช่มั้ยล่ะ!! สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการขับรถราวๆ 2-3 ชั่วโมง คุณก็จะสามารถเข้าไปยังสถานที่สุดหลอนแห่งนี้ ช่างภาพ Lee Chapman จากโตเกียวก็ได้ทำการเดินทางไปยังสถานที่แห่งนี้ และถ่ายภาพสุดสยองและบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้มา สวนสนุกแห่งนี้เคยเปิดทำการในปี 1970 โดยใช้ชื่อว่า Kinugawa Family Ranch ต่อมามันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Western Village แต่สุดท้ายในปี 2006 และในตอนนี้สวนสนุกตีมโลกตะวันตกแห่งนี้ก็ถูกทิ้งร้าง ราวกับว่าเป็นภาพบรรยากาศของโลกตะวันตกในซีรีย์ Westworld หลังเกิดการล่มสลายของโลกใบนี้ก็มิปาน และนี่คือซีรีย์ภาพหลอนๆ ที่เขาถ่ายมาได้!! สวัสดีครับ คืนนี้จะเข้าพักห้องไหนดี… ภายในร้านเหล้า สถานที่ยอดฮิตของเหล่าคาวบอยแห่งตะวันตก เจอตอนกลางคืนหรือมืดๆ ล่ะก็ หลอนสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย -*- ชมภาพบรรยากาศกันต่อได้เลย สำหรับใครที่อยากติดตามภาพผลงานของเขาเต็มๆ ก็สามารถเข้าไปดูกันได้ที่ Leechapman หรือ Facebook และ Instagram ของเขากันได้ที่นี่เลยน้า …
-
หญิงสาว “เสพติดการกิน-ติดเหล้า” ตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง สุดท้ายก็สามารถทำได้สำเร็จ!!
หลังจากที่เธอเคยประสบปัญหาติดแอลกอฮอล์ เสพติดการกินอาหารมากๆ และโรคซึมเศร้า ตอนนี้เธอเปลี่ยนเป็นคนใหม่ มีชีวิตที่ดีขึ้น และที่สำคัญที่สุด ผู้คนต่างก็เคารพในความเป็นตัวของตัวเองของเธอ!! Courtney Maguire สาวชาวสหรัฐอเมริกาวัย 30 ปีที่ติดแอลกอฮอล์ และเป็นโรคอ้วนมานานปีหลังจากที่เรียนจบในระดับมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัย แต่ที่แปลกที่สุดก็คือเธอมีความเชื่อที่ออกจะแหวกแนวหน่อยที่ว่าเธอคิดว่าผู้ชายชอบเข้ามาหาเพราะความอ้วนของเธอ ซึ่งผู้ชายเหล่านั้นมักจะชอบรูปร่างที่อวบอั๋นของเธอเป็นอย่างมาก(น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ชอบอยู่แล้ว) และจะยับยั้งการลดน้ำหนักของเธออยู่เสมอ แต่แล้วเธอก็เริ่มมีปัญหาสุขภาพมากขึ้นเนื่องจากความอ้วนของเธอเอง จนทำให้ช่วงพีคๆ น้ำหนักของเธอเพิ่มสูงขึ้นถึง 140 กิโลกรัม ทำให้เธอตระหนักขึ้นได้ว่าต้องเปลี่ยนตัวเองซักที!! Courtney ช่วงน้ำหนักสูงสุด ในปี 2014 เธอเข้ารับการผ่าตัดลดความอ้วน ทำให้ความอ้วนของเธอลดไปกว่า 65 กิโลกรัม สำหรับตอนนี้เธอก็ทำงานด้านศัลยกรรมและความงาม เธอกล่าวว่า ‘ตลอดเวลาฉันมักจะหลีกเลี่ยงความคิดที่ว่าฉันอ้วนอยู่เสมอๆ ฉันจะไม่มองเข้าไปในกระจก จะไม่ชั่งน้ำหนัก จะไม่ทำอะไรที่จะทำให้ตัวเองรู้ถึงความอ้วนเด็ดขาด’ ‘การได้คบกับใครซักคนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะผู้ชายส่วนมากจะไม่ชอบฉัน อีกทั้งเวลามีใครสักคนที่ชอบ ก็จะให้ฉันกินต่อเพื่อเพิ่มน้ำหนักเรื่อยๆ เพราะพวกเขาชอบที่ฉันเป็นหญิงอ้วนมากๆ แบบนั้น บางครั้งฉันรู้สึกไร้ค่าเหมือนกับไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสิ่งของที่ทำให้พวกเขาพึงพอใจเท่านั้น’ เธอกล่าวต่อ พฤติกรรมการติดเหล้าและการเสพติดการทานอาหารมากๆ ที่เธอได้รับมาจากครั้งมหาวิทยาลัยคือสิ่งที่ทำให้เธอต้องพบกับชะตากรรมแบบนี้ เธอจะออกไปสังสรรค์ทั้งคืน และก่อนกลับจะแวะร้านฟาสต์ฟู๊ดส์ เพื่อสั่งอาหารราวๆ 5…
-
ชายหนุ่มยอมตัดชุด “เจ้าหญิงเบลล์” เพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน พร้อมฉากตอนจบที่สุดแฮปปี้!!
หนุ่มหลายคนอาจจะมีวิธีขอแฟนสาวแต่งงานในแบบที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็มีแอบจัดงานเซอร์ไพรส์ให้แฟนสาวได้งง และตกใจไปตามๆ กันเหมือนดังเช่นผู้ใช้ที่ชื่อว่า jel2930 จากเว็บไซต์ต่างประเทศคนนี้… ที่ได้นำภาพพร้อมเรื่องราวการขอแต่งงานแฟนสาวอันสุดแสนประทับใจมาเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ และนั่นก็ทำให้ผู้คนที่ได้เข้ามารับชมต่างก็พากันยิ้มไปตามๆ กัน เขาได้เผยว่า แฟนสาวเป็นคนที่ชื่นชอบการ์ตูนดิสนีย์เป็นอย่างมาก ดังนั้น เขาจึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดโดยการเนรมิตชุดของเจ้าหญิงเบลล์ จาก Beauty And The Beast ให้กับเธอซะเลย ซึ่งมันจะต้องทำให้เธอรู้สึกประทับใจ และไม่มีวันลืมแน่นอน เขาได้เริ่มตัดเย็บชุดเจ้าหญิงให้กับเธอแล้ว นี่มันเป็นความฝันของผู้หญิงหลายๆ คนที่จะใส่ชุดแบบนี้เลยนะเนี่ย แน่นอนว่าเขาศึกษา ฝึกฝน และลงมือตัดชุดนี้ด้วยตัวเองด้วย เธอได้ลองสวมใส่มันแล้ว และคงรู้สึกภูมิใจในตัวของแฟนหนุ่มมากๆ เลยละ และเมื่อเขาได้พบกับเธอ เขาให้เธอใส่ชุดเจ้าหญิง จากนั้นชายหนุ่มก็นั่งคุกเข่า และนำแหวนในมือออกมาเพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน และแน่นอน…เธอตอบตกลง ขอแสดงความยินดีด้วยน้า เรียกได้ว่ามันเป็นฉากตอนจบที่สวยงาม และแฮปปี้มากๆ ราวกับหลุดออกมาจากโลกในนิยายเลย และเธอเหมือนเจ้าหญิงมาก แน่นอนว่าเรื่องราวอันชวนยิ้มแบบนี้ ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาชมเรื่องราวของเขากว่า 600,000 คน…
-
ศิลปินนำเสนอภาพวาดเสียดสีสังคม “โลกสมัยใหม่” ที่ตรงกับความเป็นจริงซะเหลือเกิน!!
Tomer Hanuka และ Asaf Hanuka สองฝาแฝดนักวาดการ์ตูนจากประเทศอิสราเอล ได้ปิ๊งไอเดียในการนำเสนอ “โลกยุคปัจจุบัน” โดยสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะที่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้คนในยุคปัจจุบัน ที่ตรงกับความเป็นจริงในตอนนี้ซะเหลือเกิน ซึ่งเราก็ลองตีความกันว่ามันหมายถึงอะไรบ้าง (โดยทาง #เหมียวขี้อ้อน ก็ขอตีความในแบบของตัวเอง ซึ่งแต่ละคนอาจจะคิดต่างไปก็ได้) 1. การมองคนที่ภายนอก โดยไม่รู้คุณค่าภายใน 2. ความเป็นส่วนตัวจะหมดไปทันที เมื่อเข้าสู่โหมดออนไลน์ 3. ชีวิตเสพติด Like 4. ตีแผ่ชีวิตครอบครัวยุคใหม่ 5. หน้าอย่างใจอย่าง 5. การศัลยกรรมให้คุณเลือกหน้าใหม่ได้เสมอ 6. อีกด้านหนึ่งของโลก อาจไม่สวยงามเสมอไป 7. ชีวิตที่สองในโลกสมมุติ 11. เมื่อครอบครัวห่างเหินกันมากขึ้น 10. ชีวิตยุคใหม่ในแนวสตรีทปาร์ตี้ 11. ความใส่ใจคนใกล้ตัวที่น้อยลงไป 12. หน้าไหว้หลังหลอก …
-
ครอบครัวหนึ่งช่วยเหลือ ‘3 แมวพี่น้อง’ ขี้กลัวและถูกแม่ทิ้ง แต่ 2 ปีต่อมา พวกมันน่ารักสุดสุ๊ดด
ปัจจุบันยังคงมี ‘แมว’ เร่ร่อนอีกเป็นจำนวนมาก และทาสมนุษย์อย่างเราๆไม่มีวันรู้ได้เลยว่า สำหรับลูกแมวที่ไม่มีครอบครัว หรือไม่มีคนดูแลเอาใจใส่ ในแต่ละวันพวกมันจะต้องเผชิญกับความลำบากมากขนาดไหน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ ลูกแมวทั้ง 3 ชีวิต ที่ถูกนำเอามาเล่าบนเว็บไซต์ LoveMeow เหมือนกัน เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่อากาศภายนอกหนาวเย็นสุดๆ ชายคนหนึ่งได้ยินเสียงลูกแมวกำลังส่งเสียงโอดครวญ เขาจึงเดินตามเสียงนั้นไป แล้วได้พบกับลูกแมว 3 ตัว ที่กำลังดูตื่นกลัว และหิวโหยสุดๆ แมวน้อย 3 ชีวิต ที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ไปเจอเข้า “คุณพ่อของฉันเห็นพวกมันซ่อนตัวอยู่บนทางเดิน ตอนแรกสุดที่เราไปเจอพวกมันมีอายุเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น พวกมันต่างรู้สึกกลัวมนุษย์ ร่างกายสกปรกมอมแมม และหิวโหยอย่างมาก” Zosia Fąfara ลูกสาวเล่า หลังจากนั้นทางครอบครัวจึงได้พาเจ้าเหมียวทั้ง 3 มาอาศัยอยู่ในบ้านเพื่อมอบความอบอุ่น และอาหารให้กับมัน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้ออกตามหาแม่ของพวกมันด้วย แต่ไม่ว่าจะพยายามหาเท่าไหร่ ก็หาไม่เจอซักที “เราคิดว่าต้องมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับแม่ของพวกมัน เราสังเกตเห็นว่าแมวน้อยทั้ง 3 พยายามจะเรียกร้องหาแม่ และอาหารอยู่ตลอด บางทีมันอาจจะเฝ้ารอให้แม่กลับมา…
-
ชาวเน็ตแห่แชร์ ส่วนผสม ‘นูเทลล่า’ ที่อยู่ภายใน เกินกว่าครึ่งขวดโหลอุดมไปด้วยน้ำตาล!!
เรียกได้ว่าเป็นของโปรดของใครหลายๆ คนเลยก็ว่าได้สำหรับ Nutella แยมเนยถั่วที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่ล่าสุดเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศก็ได้ออกมาเฉลยเกี่ยวกับส่วนผสมของนูเทลล่านี้ จนอาจทำให้เพื่อนๆ ต้องช็อคกันไปข้างนึงเลยทีเดียวล่ะ!! จากปกติที่เราเห็นเป็นแยมช็อคโกแลตและฮาเซลนัท แต่ภาพที่ถูกนำมาเผยแพร่ล้วนแล้วเป็นแต่วัตถุดิบ 5 ชนิดที่ถูกใช้ในการผลิตนูเทลล่าที่แท้จริง นั่นก็คือ น้ำมันปาล์ม โกโก้ ฮาเซลนัท ผงนม และน้ำตาล ซึ่งเห็นแล้วรู้สึกแปลกๆ จริงๆ ส่วนประกอบที่แท้จริงของนูเทลล่า ทุกๆ ชั้นที่ถูกแสดงให้เห็นภายในโหลของนูเทลล่านั้นคือปริมาณที่แท้จริงของวัตถุดิบที่ใช้ผลิต กล่าวคือ กว่าครึ่งเลยล่ะที่เป็นน้ำตาล!!! และภาพนี้ก็ถูกแชร์ไปมากมายในสังคมออนไลน์ กว่า 28,700 ครั้งเฉพาะใน Reddit เว็บไซต์ไวรัลต่างประเทศ (และตอนนี้ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ) และยิ่งช่วงนี้หลังจากมีการประกาศจากทาง European Food Safety Authority (EFSA) ว่าน้ำมันปาล์มมีสารก่อมะเร็งมากกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ และที่สำคัญก็คือน้ำมันปาล์มคือส่วนผสมที่เป็นวัตถุดิบหลักของนูเทลล่า แต่เบื้องต้นทางนูเทลล่าก็ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาใช้เฉพาะน้ำมันปาล์มที่มีคุณภาพสูงที่สุดเท่านั้น ทำให้ปลอดภัยต่อการบริโภค นูเทลล่า แต่สำหรับตอนนี้ทางนูเทลล่าก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับภาพที่ถูกแชร์ดังกล่าว เพราะทางบริษัทเก็บความลับเรื่องสูตรการผลิตของตัวเองเป็นอย่างดี และทางโฆษกของบริษัทก็ได้ออกมากล่าวว่า ‘เราไม่ได้ระบุว่าส่วนผสมที่แท้จริงของนูเทลล่านั้นมีอะไรบ้าง สูตรของเรานั้นไม่เหมือนใคร และเราอยากให้มันเป็นความลับ’ ‘ความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคนั้นคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างที่สุด’ ทางโฆษกกล่าวปิด สำหรับเรื่องนี้ก็ต้องรอข้อสรุปกันต่อไป แต่ที่รู้แน่ๆ…
-
ญี่ปุ่นเตรียมมอบ ‘วีซ่าถาวร’ ให้กับชาวต่างชาติ ลดเงื่อนไข อยู่ให้ครบเพียง 1 ปีเท่านั้น!!
สำหรับประเทศญี่ปุ่นนอกจากเป็นประเทศที่เหล่านักท่องเที่ยวบ้านเราหมายตาไปเที่ยวกันบ่อยๆ แล้ว ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนต่างอยากเข้าไปทำงานกัน แม้การทำงานจะมีข่าวว่าเต็มไปด้วยความเครียด แต่อาจจะเพราะระบบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และที่มองข้ามไม่ได้ก็คือคุณภาพชีวิตของผู้คนที่นี่ ที่พูดได้เลยว่าไม่แพ้ประเทศใดๆ ในโลก!! และล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ที่ดูแลงานทางด้านดูแลคนเข้าเมืองก็ได้คลอดกฎหมายใหม่มาสดๆ ร้อนๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เกี่ยวกับการได้สิทธิ์ ‘วีซ่าถาวร’ ของชาวต่างชาติ หลังจากใช้ชีวิตเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้นในประเทศญี่ปุ่น สำหรับกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงใหม่นี้ก็มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะดึงดูดบุคลากรคุณภาพสูงจากประเทศต่างๆ เข้ามาอาศัยและอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเริ่มใช้ราวๆ เดือนมีนาคม 2560 ที่กำลังจะถึงนี้เลย ตัวอย่างวีซ่าถาวรของประเทศญี่ปุ่น โดยปกติชาวต่างชาติจะได้รับวีซ่าถาวรเมื่ออาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีขึ้นไป แต่ในปี 2012 ได้มีการพยายามผ่านร่างกฎหมายที่จะทำให้ระยะเวลาการอยู่อาศัยนั้นสั้นลง เพื่อลดระยะเวลาการรอคอยของเหล่าแรงงานที่มีฝีมือสูง ทั้งทางด้านวิชาการ เทคนิค และธุรกิจ และจะมีคะแนนพิเศษให้สำหรับการได้รับวีซ่า โดยปกติแล้วแรงงานมีฝีมือเหล่านี้ต้องทำคะแนนได้ดีมาก ทำให้พวกเขาได้รับวีซ่าถาวรในระยะเวลาเร็วกว่าปกติ เหลือเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น แต่ด้วยกฎใหม่นี้คนที่สามารถทำคะแนนได้มากกว่า 70 คะแนนจะลดระยะเวลาเหลือเพียง 3 ปี และหากได้มากกว่า 80 คะแนนล่ะก็ จะเหลือเพียง 1 ปีเท่านั้น!!…
-
ชายวัย 64 รอดตายจากอากาศหนาวเหน็บ เพราะ “เจ้าหมา” นอนทับให้ความอบอุ่นตลอดเวลา
เมื่อถามว่าเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณคือใคร หลายคนอาจจะตอบว่า “สุนัข” เพราะนอกจากมันจะเป็นเพื่อนเล่นของเราได้ตลอดเวลาแล้ว น้องหมายังเป็นสัตว์ที่กล้าหาญชาญชัย และสามารถปกป้องเราได้จากอันตรายอีกด้วย และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าน้องหมาเป็นเพื่อนที่ดีมากขนาดไหน ดังนั้น เราจึงได้นำเรื่องราวสุดประทับใจของมันมาฝากอีกเรื่องหนึ่ง นี่คือภาพของ Kelsey น้องหมาพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ และ Bob เจ้านายแสนรักของมัน ทั้งคู่ดูรักกันมากๆ เลย เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2556 ทางเว็บไซต์ Odditycentral ได้เผยว่า ในวันส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมากคุณ Bob (นามสมมุติ) ในวัย 64 ปี จากรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เกิดอุบัติเหตุขณะที่เขาได้ตัดสินใจเดินออกไปนอกบ้าน เพื่อไปเอาฝืนมาเติมในเตาผิง ซึ่งในขณะนั้นเขาสวมเพียงแค่กางเกงขายาว เสื้อธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง และรองเท้าแตะเพียงเท่านั้น ในระหว่างที่กำลังเดินไปหยิบฝืน เขาก็เกิดลื่นล้ม และไม่สามารถขยับตัวได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Bob ต้องส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ทว่าเพื่อนบ้านของเขากลับอยู่ไกลออกไปถึง 4 ไมล์ อีกทั้งยังไม่มีอยู่รอบๆ บริเวณนั้นเลย แต่ก็โชคดีที่เขายังมีเจ้า Kelsey วัย…
-
พาส่อง “ทะเลสาบไบคาล” ที่แปรสภาพเป็น “น้ำแข็ง” ในฤดูหนาว ยิ่งใหญ่งดงามสุดลูกตา
ถ้าพูดถึงทะเลสาบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง ทะเลสาบไบคาล เป็นสถานที่แรกอย่างแน่นอน และยิ่งเป็นช่วงฤดูหนาวแบบนี้แล้ว ทะเลสาบอันกว้างสุดลูกหูลูกตานี้ ก็ได้แปลสภาพเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดมหึมา ที่ใครเห็นแล้วก็ต้องตกตะลึงในความงดงามของสถานที่แห่งนี้แน่นอน ทะเลสาบไบคาลตั้งอยู่ในเขตไซบีเรีย ของประเทศรัสเซีย มีความกว้างประมาณ 80 กิโลเมตร ยาว 600 กิโลเมตร ส่วนที่ลึกที่สุดอยู่ที่ 1,642 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในโลก และมีพื้นที่รวมทั้งหมดราว 31,722 ตารางกิโลเมตร ด้วยความที่ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตไซบีเรีย ทำให้เมื่อถึงช่วงฤดูหนาว ผืนน้ำทั้งหมดจะกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ ซึ่งมีความหนา 1-3 เมตร จนทำให้นักท่องเที่ยวสามารถนำสเก็ตหรือจักรยาน ลงไปเล่นบนทะเลสาบได้ โดยน้ำแข็งเหล่านี้จะอยู่จนถึงช่วงเดือนพฤษภาคม แต่พอถึงช่วงเดือนเมษายน น้ำแข็งก็จะเริ่มละลายแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถลงไปเล่นบนแผ่นน้ำแข็งได้อีกแล้ว ช่างภาพสาวชาวรัสเซีย Kristina Makeeva ผู้หลงใหลในความงดงามของทะเลสาบแห่งนี้ เธอได้ตระเวณเก็บภาพอันงดงามของทะเลสาบไบคาลในช่วงฤดูหนาว ที่แสนงดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย โดยคุณสามารถติดตามผลงานของเธอได้ที่เว็บไวต์ ipai.ru และอินสตาแกรม hobopeeba ส่วนด้านล่างก็คือผลงานของเธอที่นำมาโชว์ให้เราเห็นในครั้งนี้… สวยงามอลังการน่าไปเยือนจริงๆ เลยเนอะเพื่อนๆ ที่มา boredpanda
-
พ่อตระเวนขายลูกน้อยวัย 5 เดือน อยู่ข้างถนน เพื่อแลกเงิน 4 แสน เอาไปซื้อรถให้ภรรยา
กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกอินเตอร์เน็ตของชาวจีนไปเลยทีเดียว หลังจากมีภาพคุณพ่อคนหนึ่งออกมาประกาศขายลูกชายวัย 5 เดือนเป็นจำนวนเงิน 4 แสนบาท เพื่อนำเงินจำนวนนั้นไปซื้อรถให้กับภรรยา ก่อนที่พวกเขาจะหย่ากัน เหตุการณ์ดังกล่าวรายงานโดยสำนักข่าว Huanqiu เมื่อตำรวจสังเกตุเห็นชายคนหนึ่งกำลังอุ้มเด็กทารก ยืนทำท่าทีมีพิรุธอยู่ข้างถนนนานกว่า 10 นาที ขณะที่เด็กชายซึ่งอยู่ท่ามกลางอากาศหนาว และไม่มีเสื้อผ้าให้ความอบอุ่นเพียงพอ ก็เริ่มที่จะส่งเสียงร้องไห้ จนไปเตะตากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บังเอิญอยู่แถวนั้นพอดี ทางตำรวจเห็นดังนั้นพบว่าไม่ใช่เรื่องปกติ และกลัวว่าเขาอาจจะมีพฤติกรรมทำร้ายเด็กทารกคนดังกล่าว พวกเขาจึงเข้าไปแสดงตัว และควบคุมตัวชายคนดังกล่าวไปยังโรงพักทันที ภายหลังการสอบสวน ชายคนดังกล่าวรับสารภาพว่า ตนเองได้ประกาศขายลูกชายวัย 5 เดือนบนอินเตอร์เน็ตเป็นจำนวนเงิน 80,000 หยวนหรือราว 400,000 บาท และได้นัดส่งมอบลูกชายให้กับผู้ซื้อบริเวณนั้น แต่โชคร้ายตำรวจมาเห็นเหตุการณ์เสียก่อน เขาเล่าว่าสาเหตุที่เขาต้องขายลูกชาย เป็นเพราะเขาต้องการหย่ากับภรรยา แต่ภรรยายื่นเงื่อนไขว่า ต้องซื้อรถให้เธอก่อน เธอจึงจะยินยอมหย่าโดยดี ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจประกาศขายลูกชาย เพื่อนำเงินมาซื้อรถคันดังกล่าว นอกจากนี้เขายังอ้างว่า “เมื่อหย่ากันแล้วชีวิตของเขาคงยากลำบากมาก ดังนั้นจึงประกาศหาครอบครัวใหม่ให้กับลูกชาย เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ตอนนี้คุณพ่อคนดังกล่าวถูกตำรวจตั้งข้อหาค้ามนุษย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะทำการสืบสวนต่อไปว่า มีใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้หรือไม่ ในขณะที่ชาวจีนคนอื่นๆ ซึ่งพอรู้ข่าวนี้ก็มีท่าทีโกรธเคืองและรับไม่ได้กับพฤติกรรมขายลูกกินนี้เช่นกัน ยกตัวอย่างคอมเม้นท์บนโลกออนไลน์ซึ่งระบุว่า ‘น่าสงสารเด็กชายที่มีพ่อแบบนี้จริงๆ ถึงครั้งนี้จะขายไม่สำเร็จ…
-
Airbus เตรียมพัฒนาเทคโนโลยี “รถยนต์บินได้” เพื่อช่วยแก้ปัญหารถติดในเมือง
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า มนุษย์ได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีเจ๋งๆ ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายเหมือนมนุษย์ได้ หรือจะเป็นการพัฒนาระบบ AI ขับเครื่องบินรบ ที่สามารถเอาชนะมนุษย์ยอดนักบินกองทัพ ก็มีมาแล้วเช่นกัน และล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ทางบริษัทผู้ผลิตอากาศยานและเฮลิคอปเตอร์พาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่าง Airbus ได้มีแผนที่จะทดความยานต้นแบบของ “รถยนต์บินได้” ในปลายปี 2560 นี้ โดยทางบริษัทเชื่อว่าจะสามารถช่วยลดความแออัดบนถนน ช่วยประหยัดเวลา และประหยัดเงินของประชนชนได้ ทางด้าน Tom Enders หัวหน้าผู้บริหารสูงสุดของ Airbus ได้ออกมาเผยในที่ประชุมสุดยอดเทคโนโลยี ณ ประเทศเยอรมนีว่า “จะมีการวางแผนทดสอบรถต้นแบบขนาดเล็กภายในสิ้นปีนี้ โดยในปีที่ผ่านมาทาง Airbus ได้ทำการจัดตั้งแผนกที่เรียกว่า “Urban Mobility” ขึ้นมา หน้าที่ของมันก็เพื่อช่วยตรวจสอบแนวความคิดในการสร้างรถยนต์รับส่งส่วนบุคคลชนิดบินได้ หรือที่ลักษณะคล้ายกับเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งจะสามารถรับผู้โดยสารได้หลายคน อีกทั้งผู้โดยสารยังสามารถจองการใช้บริการผ่านทางแอพพลิเคชั่น ได้เหมือนกับรถแท็กซี่อีกด้วย” จากการรายงานระบุว่า ขณะนี้ทาง Airbus กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีการนำรถยนต์ขึ้นและลงในแนวดิ่ง เพื่อที่จะนำมาใช้ในการรับส่งผู้โดยสารที่อาศัยอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ซึ่งคาดว่าการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตในปี 2021 …
-
1 ภาพถ่ายสะท้อนความจริงของ “อนาคตหมีขั้วโลก” กับความเปลี่ยนแปลงอันน่าใจหาย
ลองย้อนกลับไปในอดีต เราจะเห็นภาพที่เต็มไปด้วยความสุข และความอุดมสมบูรณ์ของทั้งคน และสัตว์ แต่ในปัจจุบันโลกของเราได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าใจหาย จนทำให้สัตว์บางชนิดถึงกับขาดแหล่งหากิน และแหล่งที่อยู่อาศัย เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมากจริงๆ และนี่ก็คือภาพถ่ายสะท้อนความจริง ที่จะมาทำให้ผู้คนได้เห็นว่าโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน โดยภาพดังกล่าวเป็นผลงานของ Kerstin Langenberger ช่างภาพแนวธรรมชาติ ผู้ที่ได้บันทึกภาพของเจ้าหมีขั้วโลกตัวหนึ่ง ณ บริเวณชายฝั่งสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์ จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเจ้าหมีขั้วโลกตัวดังกล่าวไม่ได้มีรูปร่างที่อ้วนท้วน และสมบูรณ์เหมือนกับหมีขั้วโลกที่เราเคยเห็น แต่มันกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตที่ต้องเอาตัวรอด จนสภาพร่างกายของมันผอมแห้งอย่างน่าตกใจ มันช่างเป็นภาพที่ดูแล้วรู้สึกสะเทือนใจเหลือเกิน ทางด้าน Kerstin ได้เผยว่า “มีไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่ผมเห็นแม่หมีขั้วโลกกับลูกๆ ของมัน มีสภาพอ้วนท้วนสมบูรณ์ ส่วนมากผมจะเห็นแต่หมีที่มีสภาพร่างกายซูบผอมจนดูน่ากลัว และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหมีตัวเมีย” ปัจจุบัน หมีขั้วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์อันน่ากลัวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในพื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้บริเวณขั้วโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกเกิดการละลาย และที่อยู่ของมันก็ลดน้อยลง ในขณะที่แมวน้ำ ซึ่งเป็นอาหารของหมีขั้วโลก ก็พากันอพยพไปอาศัยอยู่ในแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าหมีไม่มีอาหารกินนั่นเอง เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป ทำให้หมีขั้วโลกต้องออกหากินบนพื้นดิน แทนที่จะหากินบนพื้นน้ำแข็งอย่างที่ควรจะเป็น จึงทำให้มันต้องล่ากวางแคริบู หรือห่านหิมะ ไปเป็นอาหาร และแน่นอนว่ามันไม่เพียงพอต่อความต้องการของเจ้าหมีซึ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่ ในที่สุดพวกมันจึงหิวโหย และผอมแห้งเหมือนดังภาพ…
-
เรื่องราวของ Frank Abagnale นักต้มตุ๋นในตำนาน จนถูกนำไปสร้างหนัง Catch me if you can
เรื่องราวของ Frank Abagnale ที่เป็นต้นแบบของภาพยนตร์เรื่อง Catch me if you can นำแสดงโดยดารานักแสดงชื่อดังอย่างป๋า Leonardo DiCaprio และ Tom Hank ที่การันตีความสามารถด้วยรางวัลออสการ์มาแล้วทั้ง 2 คน Frank William Abagnale Junior เกิดในเมือง New York เมื่อวันที่ 27 เมษายน ปี 1948 เรื่องราวในชีวิตวัยเด็กนั้นเขาก็เป็นเหมือนเด็กๆ ปกติทั่วไป จนถึงวัย 16 ปี เขาได้ตัดสินใจหนีออกจากบ้านพร้อมกับมีเงินติดตัวอยู่ 7,000 บาท แน่นอนว่าเงินจำนวนนี้ไม่พอใช้อย่างแน่นอน และก้าวแรกของชีวิตนักต้มตุ๋นของเขาเริ่มจากตรงนี้ Frank ได้เซ็นเช็คปลอมไปใช้จ่ายไม่อั้นจนโดนเด้งไปหลายครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหันมาจับตามอง ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในเมือง New York นั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากยิ่งขึ้น จึงต้องผันตัวเองไปทำอะไรซักอย่างเพื่อเอาตัวรอด และสิ่งที่เขาคิดได้ก็คือการชุบตัวเอง เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือขึ้นและสามารถใช้เช็คเงินสดได้โดยไม่ถูกสงสัย เริ่มต้นด้วยการปลอมตัวเป็นนักบินของสายการบิน…
-
รู้จักตัวจริง ‘อูวู้โวยวั่ยวอย โอเยทเทนเย่วัย อุวิมมุวิม โอซาซ’ ชายผู้ดังเพราะชื่อเรียกยากที่สุดในโลก!!
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับบุคคลที่กลายเป็นที่รู้จักผ่านกระแสไวรัลในช่วงปี 2017 ไปแล้วคนหนึ่ง ซึ่งก็คือ #Saltbae เชฟชาวตุรกีกับท่าโรยเกลือสุดแหวกแนว จนทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียล และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับบุคคลอีกคนหนึ่ง ที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างแร่หลายอยู่ในโลกโซเชียลขณะนี้ จะเป็นใครไปไม่ได้เลย เขาก็คือ…Ovuvuevuevue Enyetuenwuevue Ugbemugbem Osas ชายที่ถูกขนานนามว่ามีชื่อที่เรียกยากมากที่สุดในโลกจากชาวเน็ตต่างชาตินั่นเอง ฮร่า คลิปที่ทำให้พ่อหนุ่มคนนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก… หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเฮ้ย!! คนบ้าอะไรมันจะไปมีชื่อแปลกขนาดนั้นฟร๊ะ!?…. ชายที่เรารู้จักกันในชื่อ Ovuvuevuevue Enyetuenwuevue Ugbemugbem Osas มีชื่อจริงๆ ว่า David Igwe เขาเป็นดาราตลกและยูทูบเบอร์ชาวไนจีเรีย เขาบอกว่าชื่อยาวๆ นั่น ส่วนหนึ่งเป็นชื่อแอฟริกันของเขา ซึ่งเป็นชื่อทางปู่ (ในประเทศไนจีเรีย มีภาษาถิ่นที่ใช้กันมากถึง 500 ภาษา) ส่วนชื่อ David ก็คือชื่อที่ใช้ในทางการ เป็นภาษาอังกฤษ ในการติดต่ออะไรต่างๆ ผลงานคลิปตลกๆ ของเขามีมากมายอยู่ในแชแนลยูทูบ หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปติดตามและชมผลงานคลิปเพิ่มเติมได้ที่ Osas/congo comedy skitz นอกจากนี้เพื่อนๆ…
-
บทเรียนการใช้ “บุหรี่ไฟฟ้า” ชายหนุ่มเอาไปซ่อมที่ร้านทั่วไป ระเบิดใส่หน้าระหว่างใช้งาน!!
เนื้อหานี้อาจจะมีภาพของบาดแผลและเลือด แต่ไม่ได้รุนแรงมากนัก สำหรับเพื่อนๆ หลายคนที่ติดตามเรื่องข่าวสารเรื่อง ‘บุหรี่ไฟฟ้า’ กันอยู่ จากงานวิจัยต่างๆ ของต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจากองค์กรสาธารณสุขตามประเทศต่างๆ ที่ออกมาให้การสนับสนุนว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นช่วยให้สามารถเลิกบุหรี่จริงๆ ได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเองในส่วนของความปลอดภัยของตัวเครื่องบุหรี่ไฟฟ้านั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับ มาตรฐานความปลอดภัยของบริษัทที่ทำการผลิตและการควบคุมขององค์กรที่เกี่ยวข้องด้วย ถ้าหากเราใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีปัญหาในการใช้งานเช่นใช้หม้อแปลงของปลอม มีส่วนรั่วซึม รอยแตก แต่ก็ยังดั้นด้นใช้งานต่อไป หรือใช้งานบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง ก็อาจทำให้เราพบกับความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้ เช่นเดียวกันกับหนุ่ม Andrew Hall ที่ถูกบุหรี่ไฟฟ้าระเบิดใส่หน้าขณะที่กำลังใช้งานอยู่ ทำให้มีอาการบาดเจ็บ เป็นรอยแผลไหม้ที่ใบหน้า และแผลฉกรรจ์ที่บริเวณริมฝีปากรวมไปถึงในปากด้วย ก็อย่างที่เห็นจากในรูป จะเห็นได้ว่าอาการของเขาหนักหนาสาหัสพอดูเลยทีเดียว มีเศษชิ้นส่วนจากพลาสติกติดอยู่ที่ใบหน้า แถมแผลไฟไหม้ของเขายังอยู่ในระดับที่ 2 นอกจากนี้ฟันบางส่วนยังหลุดกระเด็นออกไปเนื่องจากแรงระเบิดอีกด้วย หนุ่ม Andrew ได้ทำการถ่ายภาพของตัวเองพร้อมกับโพสต์ลงบนเฟซบุ๊คเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆ คน โดยเล่าว่าเครื่องบุหรี่ไฟฟ้าของเขานั้นมีปัญหาจึงส่งไปซ่อมที่ร้าน และพอได้กลับมามันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น พร้อมกันนี้เขาบรรยายว่า “ผมเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้ามาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว และขอรับประกันเลยว่าผมไม่ได้ทำแปลกๆ แผลงๆ กับบุหรี่ไฟฟ้าของผมเลย แต่มันดันระเบิดใส่หน้าของผมอย่างจัง ทำให้สูญเสียฟันไป ถึง 7 ซี่…
-
สาวออสซี่โดนจิงโจ้ทำร้ายร่างกาย จนบาดเจ็บหนัก สุดท้ายต้องแกล้งตายเพื่อให้มันเลิกสนใจ
เราอาจคิดว่าจิงโจ้เป็นสัตว์ที่น่ารักและท่าทางไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ถ้าใครได้ติดตามข่าวในช่วงปีที่ผ่านมาดีๆ เราจะพบว่ามีข่าวผู้คนถูกจิงโจ้ทำร้ายมากมาย และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เจ้าจิงโจ้แผลงฤทธิ์ จนเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายต้องแกล้งตายเพื่อเอาชีวิตรอด เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ Debbie Urquhart วัย 54 ปี จากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เธอเล่าว่าเธอได้ออกไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าอย่างที่ทำเป็นประจำ แต่ขณะที่เธอวิ่งอยู่นั้นเอง ปรากฎว่ามีจิงโจ้ตัวหนึ่งขนาดประมาณสองเมตร ได้วิ่งเข้ามาทำร้ายเธอด้วยการระดมเตะอย่างรุนแรง จนเธอกระเด็นกระดอนไม่ต่างจากตุ๊กตาล้มลุกเลยทีเดียว “มันแทบฉีกฉันเป็นชิ้นๆ ฉันโดนมันเตะจนกลิ้งไปบนพื้น ฉันพยายามคลานหนี แต่มันก็ไม่ยอมจากไปซักที สุดท้ายฉันจึงแกล้งตาย หลังจากนั้นมันค่อยจากไป” Urquhart กล่าว เมื่อเธอแน่ใจว่ามันจากไปแล้ว เธอจึงลุกขึ้นมาและวิ่งกลับบ้าน เมื่อสามีเธอเห็นสภาพของเธอเขาแทบช็อคไปเลย เพราะร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่มากมาย เขาจึงนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลในทันที สภาพของเธอตอนอยู่ในโรงพยาบาล สุดท้ายเธอได้แผล 35 แห่งบนแขน หัวไหล่ และสะโพก ซึ่งหลายๆ แห่งนั้นก็เป็นบาดแผลขนาดใหญ่ที่น่าขนพองเป็นอย่างยิ่ง “ตอนนี้ทุกครั้งที๋ฉันหลับตา ฉันก็ยังเห็นภาพเหตุการณ์อย่างชัดเชน บอกได้คำเดียวว่ามันน่ากลัวมาก” เธอกล่าว สุดท้ายเธอก็ออกจากโรงพยาบาลและเดินได้ตามปกติ นับว่าเป็นโชคดีที่อาการบาดเจ็บครั้งนี้ไม่สาหัสจนต้องนอนโรงพยาบาลนับเดือน หรือถึงแก่ชีวิต และหากใครยังจำกันได้ ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้ว…
-
Oxfam เผย 8 มหาเศรษฐีชั้นนำของโลก มีทรัพย์สินมากกว่าคนจน “ครึ่งโลก” รวมกัน
ทุกวันโลกเราแม้จะพัฒนาขึ้นไปมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีความเหลื่อมล้ำทางฐานะระหว่างคนที่รวยกับคนที่จนอยู่เป็นจำนวนมาก และยิ่งพิจารณาจากรายงานล่าสุดของ Oxfam แล้ว หลายคนจะยิ่งตกใจในความเหลื่อมล้ำของสังคมปัจจุบันเลยล่ะ ในงานประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาฟอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทาง Oxfam องค์กรการกุศลนานาชาติที่มุ่งเน้นด้านการบรรเทาความยากจนได้รายงานว่า 8 มหาเศรษฐีระดับโลกมีทรัพย์สินย์มากกว่าคนจน 3,700 ล้านคนทั่วโลกรวมกันเสียอีก เศรษฐีทั้ง 8 คน ประกอบไปด้วย – Bill Gates จาก Microsoft – Amancio Ortega เจ้าของแบรนด์ Zara – Warren Buffett นักลงทุนชื่อดัง – Carlos Slim Helo เจ้าของกลุ่มทุน Grupo Carso – Jeff Bezos ผู้ก่อตั้งเว็บ Amazon – Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook – Larry Ellison ผู้ร่วมก่อตั้ง Oracle – นักธุรกิจ Michael Bloomberg…
-
ญี่ปุ่นออกเครื่องหมาย “สัญลักษณ์โถส้วมใหม่” ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจง่าย สบายยิ่งขึ้น!!
เชื่อว่าหลายๆ คนที่เดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ต้องประสบปัญหาในการเข้าห้องน้ำ เพราะส้วมที่ญี่ปุ่นส่วนมากนั้น จะเป็นส้วมอัตโนมัติสุดไฮเทค ซึ่งไม่ว่าใครได้ลองใช้ครั้งแรก ต้องงงเป็นไก่ตาแตกว่ามันทำยังไง และที่ปวดใจยิ่งกว่าคือ ปุ่มต่างๆ นับสิบบนส้วมเหล่านั้น ไม่มีภาษาอังกฤษกำกับว่าแต่ละปุ่มใช้ทำอะไรบ้าง งานนี้เลยอาจจะมีน้ำร้อนลวกไข่กันได้ (บางที่ไม่มีภาษาอังกฤษไม่พอ ไม่มีรูปประกอบอีกต่างหาก) แต่ล่าสุด ทางสมาคมผู้ผลิตสุขภัณฑ์แห่งญี่ปุ่นได้เปิดตัวสัญลักษณ์บนส้วมใหม่ เพื่อให้ชาวต่างชาติ สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น เนื่องจากปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าไปยังประเทศญี่ปุ่นจำนวนมาก และการพัฒนาเรื่องนี้ ยังถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะมาร่วมงานโอลิมปิกปี 2020 โดยสาเหตุที่พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนสัญลักษณ์ ต้องย้อนกลับไปในปี 2014 มีการสำรวจนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกว่า 600 คน แล้วพบว่า พวกเขาไม่เข้าใจสัญลักษณ์ที่ติดอยู่บนส้วมจนหลายๆ คนกดปุ่มผิด จนการเข้าห้องน้ำหมดสนุกเลยทีเดียว เรียงจากซ้ายไปขวา “เปิดฝาชักโครก”/ “เปิดที่รองนั่ง” / “กดน้ำถ่ายหนัก” / “กดน้ำถ่ายเบา” “ฉีดก้น” / “ฉีดสำหรับสตรี” / “เป่าลม” / “หยุด” มาโดกะ…
-
ดราม่าเบาๆ ‘พรีเซ็นเตอร์เมย์เบลลีน’ โดนชาวเน็ตโพสต์เชิงเหยียดเพศ คุณพ่อออกโรงแทนซะเลย!!
ก่อนหน้านี้ไม่นาน #เหมียวบ็อบ เพิ่งนำเสนอเรื่องราวของนางแบบพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ของสินค้า ‘เมย์เบลลีน’ ที่ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเป็นชาย แต่ความสามารถในการแต่งหน้า และการนำเสนอนั้น โดดเด่นไม่แพ้นางแบบชั้นแนวหน้าของโลกเลยล่ะ ข่าวเก่า: แบรนด์ดัง ‘เมย์เบลลีน’ เปิดตัวโฉมหน้า นาย เอ๊ย นางแบบ คนใหม่ สั่นสะเทือนทั้งวงการ!! Manny Gutierrez พรีเซ็นเตอร์คนใหม่ ที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาเพราะฝีมือล้วนๆ แต่ทว่าล่าสุด ได้เกิดเหตุการณ์ดราม่าแบบเบาๆขึ้นบนโลกอินเตอร์เน็ต เมื่อจู่ๆมีชาวเน็ตผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า ‘Matt Walsh’ ออกตัวแรงไปคอมเม้นท์ให้กับรูปของ Manny ในเชิงดูหมิ่นเหยียดหยาม ด้วยเนื้อหาข้อความที่ว่ามีดังนี้ “ฝากถึงคุณพ่อ นี่แหละคือเหตุผลที่คุณควรจะอยู่เลี้ยงลูกให้เป็นผู้ชาย!!” ถึงกับอ้างอิงไปทางฝั่งคุณพ่อของ Manny งานนี้คุณพ่อไม่ขออยู่เฉยๆ เจ้าตัวจึงได้พิมพ์ข้อความตอบกลับส่งมาให้ Manny เพื่อที่จะได้เอาไปโพสต์ให้กับชาวเน็ตหัวโบราณคนนี้อีกทีนึง และนี่คือเนื้อหาในข้อความที่คุณพ่อส่งมา “ถึงคุณ Walsh ผมคือพ่อของ Manny เอง ก่อนอื่นต้องขอแจ้งก่อนเลยว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมอยู่ดูแลเคียงข้างลูกชายคนนี้มาตลอด ผมไม่ได้แค่ภูมิใจกับหน้าที่การงานของเขาเท่านั้น แต่ยังภูมิใจในตัวตนของเขา ที่เขาเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม ผมเข้าใจดีว่าสิ่งที่คุณพูดออกมา มันสะท้อนให้เห็นถึงความรู้ที่มีต่อเรื่องพวกนี้อย่างน้อยนิด…
-
ผ่านมาเกือบ 3 ปี เครื่องบิน MH370 ยังคงไร้คำตอบ แม้จะสูญเงินค่าค้นหาไปกว่า 5,500 ล้านบาท
หากย้อนกลับไปเมื่อเกือบสามปีก่อน เพื่อนๆ หลายคนคงจำเหตุการณ์เที่ยวบินที่ MH370 หายไปจากน่านฟ้าอย่างสาบสูญ และจนถึงตอนนี้ตำแหน่งของ้ครื่องบินลำดังกล่าวก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีปฏิบัติการออกตามหาอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าจะดำลงไปหาที่ใต้มหาสมุทรอินเดีย แต่ก็ยังไร้ร่องรอยของเครื่องบิน Boeing 777 ที่หายไปตั้งแต่วันที่ 8 เดือนมีนาคม ปี 2014 พร้อมกับลูกเรืออีก 239 คน แน่นอนว่าปฏิบัติการออกตามหาเที่ยวบิน MH370 นั้นเองก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงไม่เบาเลยล่ะ เพราะต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆ จนทำให้การค้นหาในครั้งนี้เป็นอะไรที่ยุ่งยากและซับซ้อนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีผู้สนับสนุนต้องการให้เหล่าผู้เกี่ยวข้องกับผู้สูญเสียได้รู้ถึงชะตากรรมของคนในครอบครัวแม้จะผ่านไปแล้วเกือบ 3 ปี ก็ยังคงไม่หยุดค้นหา แต่เมื่อไม่นานมานี้หน่วยงานที่ร่วมงานกันในประเทศออสเตรเลีย (Joint Agency Coordination Centre) ที่ได้ให้การช่วยเหลือหาเงินเป็นจำนวนมากกว่า 5,500 ล้านบาท เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการค้นหาบริเวณน่านน้ำทางตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย เป็นวงกว้างถึง 120,000 ตารางกิโลเมตร “แม้จะพยายามทุกวิถีทาง ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ทุดอย่างที่มีอยู่ ร่วมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่ค้นหา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สามารถระบุตำแหน่งของเครื่องบิน Boeing 777 ได้” โฆษกของ Joint Agency Coordination…
-
สาวกโอปป้าอกหัก “เรน” ประกาศแต่งงานกับดาราสาว “คิมแตฮี” อย่างเป็นทางการแล้วจ้าา
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาอย่างหนาหูว่านักร้องหนุ่มสุดฮอตจากแดนโสมอย่าง “เรน” และนักแสดงสาวเกาหลีเจ้าเสน่ห์อย่าง “คิมแตฮี” กำลังวางแผนที่จะแต่งงานกัน แต่ทว่าทั้งคู่ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ปฏิเสธถึงข่าวการแต่งงานว่าเป็นข่าวที่ไม่มีมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และล่าสุดวันที่ 17 มกราคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่าหนุ่มเรนและสาวคิมแตฮีได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการทางแล้ว ซึ่งทั้งคู่มีแผนที่จะแต่งงานกันในเร็วๆ นี้ โดยทางหนุ่มเรนได้เขียนจดหมายยืนยันการแต่งงานในครั้งนี้ด้วยลายมือของตัวเอง พร้อมนำไปโพสต์ให้บรรดาแฟนๆ ได้ทราบกันอย่างทั่วถึงผ่านทางอินสตาแกรมของเขา และนี่คือข้อความบางส่วนจากจดหมาย “ผมกำลังจะได้กลายเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นสามีของเธอ เราได้ตัดสินใจที่จะแต่งงานกัน งานแต่งของเราค่อนข้างที่จะเป็นส่วน ซึ่งได้จัดขึ้นในเกาหลี ผมต้องขอขอบคุณช่วงเวลา 16 ปีที่ผ่านมาสำหรับความรักจากทุกๆ คน จากนี้ผมจะแสดงให้คุณเห็นในด้านของความรับผิดชอบมากขึ้น และเธอก็คือของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับผม” เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่น่ายินดีเป็นอย่างมากสำหรับแฟนๆ หลายคน ที่อยากจะให้ทั้งคู่แต่งงาน และมีเบบี๋ตัวน้อยๆ มาเป็นโซ่ทองคล้องใจ ถึงอย่างไรทางเราก็ขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยน้า ทั้งนี้ นักร้องหนุ่มเรนและนักแสดงสาวคิมแต่ฮีได้เริ่มออกเดทกันตั้งแต่ปี 2556 และก็ได้ออกมายืนยันถึงสถานะความสัมพันธ์ของพวกเขาในเดือนมกราคม ปี 2557 ที่มา : interest, allkpop, asianjunkie
-
Daliyah Arana เด็กหญิงที่อ่านหนังสือมาแล้วกว่า 1,000 เล่ม ด้วยวัยเพียง 4 ขวบเท่านั้น!!
ทุกวันนี้คุณอ่านหนังสือกี่เล่ม? บางคนอาจอ่านวันละเล่ม บางคนอาจเดือนละเล่ม บางคนหลายปีต่อหนึ่งเล่ม แล้วแต่ความชอบและความถนัดของแต่ละคน แต่สำหรับเด็กหญิงคนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าการอ่านหนังสือจะเป็นสิ่งที่เธอชอบเป็นอย่างมาก เพราะแม้เธอจะมีอายุเพียง 4 ขวบ แต่เธอก็อ่านหนังสือไปแล้วกว่า 1,000 เล่ม!! เยอะกว่าจำนวนที่คนบางคนอ่านทั้งชีวิตเสียอีก เด็กหญิงคนนี้มีชื่อว่า Daliyah Arana จากเมือง Gainesville รัฐ Georgia ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเป็นนักอ่านตัวยงซึ่งคุณแม่ของเธอบอกว่าเธอเธออ่านหนังสือมาแล้วกว่า 1,000 เล่ม ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงห้าขวบ Miguel พ่อของเธอเล่าว่าเธอเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบ นั่นก็คือหนังสือ Ann’s Big Muffin เมื่อ Haleema แม่ของเธอเห็นดังนั้น เธอจึงสมัครเข้าร่วมโปรแกรมหนังสือ 1,000 เล่มสำหรับเด็กอนุบาล พร้อมทั้งนับว่าเธออ่านไปแล้วกี่เล่ม จนถึงตอนนี้เธออ่านหนังสือทั้ง 1,000 เล่มจบหมดแล้ว แม่ของเธอจึงตัดสินใจส่งจดหมายไปยังห้องสมุดสภาคองเกรส ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเล่าเรื่องราวของลูกสาวของเธอที่ชอบอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก เมื่อห้องสมุดสภาคองเกรสได้รับทราบถึงความรักการอ่านของเธอ พวกเขาจึงเชิญ Daliyah เข้าไปเยี่ยมชมภายในห้องสมุดสภาคอสเกรสเป็นการพิเศษในทันที!! ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นสิ่งที่ทำให้ Daliyah ประทับใจมากๆ และเธอก็ได้พบกับ Dr.…
-
ช่างภาพพาเที่ยว “ดินแดนพญามังกร” ในยุค 80 ที่คลาสสิกและงดงาม เหมือนดูเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า ประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าแทบทุกเมืองใหญ่ต่างเต็มไปด้วยตึกสูงและสิ่งปลูกสร้างสุดอลังการมากมาย แต่ย้อนกลับไปในช่วงยุค 80 ตอนนั้นพญามังกรตัวนี้ ยังเป็นเพียงมังกรตัวเล็กๆ ที่กำลังสะสมกำลังเพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ในอีกสองทศวรรษถัดมา และบ้านเมืองของพวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยความงดงามและคลาสสิกที่ใครเห็นแล้วต้องรู้สึกแปลกตา ไม่เชื่อลองไปชมภาพถ่ายของ Alex Ng ตากล้องชาวฮ่องกงคนนี้ถ่ายไว้เมื่อสามสิบปีก่อนสิ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกรำลึกความหลังอย่างแน่นอน หอระฆัง เมืองซีอาน ปี 1984 ฮูฮอต ในมองโกเลีย ปี 1984 ปักกิ่ง ปี 1985 พระราชวังฤดูร้อน ในปักกิ่ง ปี 1985 หน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติปักกิ่ง ปี 1987 สุสานราชวงศ์ซ่ง ปี 1984 ทะเลสาบตะวันตก ในนครหางโจว ปี 1984 สถานีรถไฟจี่หนาน ปี 1984 รถรางในเมืองต้าเหลียนในปี 1985 สร้างมาตั้งแต่ช่วงท้ายของราชวงศ์ชิง …
-
ถ้าคุณมี 26 สินค้าจากดิสนีย์เหล่านี้ วันนี้คุณอาจกลายเป็นเศรษฐีโดยไม่รู้ตัว!!
ในตอนเด็กๆ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยมีของเล่นชิ้นโปรดจากการ์ตูนดิสนีย์กันบ้างละ ซึ่งคุณคงคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่า ของเล่นในตอนเด็กแต่ละชิ้นจะมีมูลค่ามหาศาลในปัจจุบันเป็นอย่างมาก นั่นอาจเป็นเพราะของเล่น หรือสินค้าเหล่านั้นมันกลับกลายเป็นของหายาก และเป็นที่ต้องการของนักสะสมหลายๆ คน ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ มารับชม 26 สินค้าดิสนีย์ที่เคยโด่งดังมากในอดีต และถูกนำมาวางขายบนเว็บไซต์ในราคาที่แพงขึ้น จนบางชิ้นก็แพงขึ้นมากเลย… 1.ตุ๊กตา Simba และ Nala ราคา 3,500 บาท 2.ชุดกาน้ำชาจาก Beauty And The Beast ราคา 4,000 บาท 3.101 Dalmatians Giga Pet ราคา 2,100 บาท 4.ตุ๊กตา Genie ราคา 35,000 บาท 5.เครื่องเล่นวีดีโอเทป Beauty and the Beast ราคา 17,000…
-
ตุ๊กตาหมีมันธรรมดาไป ต้องเจอ “ฟิกเกอร์หมีเสมือนจริง” เป็นเจ้าของได้ในราคา 4 ล้านบาท
เมื่อได้เห็นภาพของเจ้าหมีขั้วโลกเหล่านี้ หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นหมีตัวจริงเสียงจริง แต่ทว่าถ้าหากคุณคิดแบบนั้นละก็ คิดผิดแล้ว!! เพราะนี่ไม่ใช่หมีที่มีชีวิตหรอกนะ แต่มันคือ “ฟิกเกอร์หมีขั้วโลก” ที่สร้างขึ้นมาได้เหมือนจริงมากๆ ต่างหากละ หลายๆ คนคงใฝ่ฝันเอาไว้ว่าอยากจะได้หมีขั้วโลกมาเป็นสัตว์เลี้ยง แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย เพราะหมีเป็นสัตว์ขนาดใหญ่และดุร้าย ดังนั้น มันจึงไม่เหมาะเท่าไหร่ที่จะนำมันมาเป็นสัตว์เลี้ยงสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น จึงได้ปิ๊งเดียสุดบรรเจิดโดยการเอาใจคนรักน้องหมี สร้างสรรค์ฟิกเกอร์หมีขั้วโลกเหมือนจริงขึ้นมาแล้ว… และนี่คือ “ฟิกเกอร์หมีขั้วโลก” ที่ทางบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นได้เนรมิตขึ้น ซึ่งมันจะทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าได้ใช้ชีวิตร่วมกับแม่หมี และลูกหมีจริงๆ บอกเลยว่ามันงดงามมาก สำหรับฟิกเกอร์หมีขั้วโลกนี้ ได้สร้างขึ้นมาด้วยวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์อย่างแน่นอน ส่วนขนที่ดูเหมือนจริงก็ถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุเดียวกันกับที่ใช้สร้างพวกฟิกเกอร์จากหนังฝั่งฮอลลีวู้ด ฟันของมันดูน่ากลัว และเหมือนจริงมาก และที่สำคัญฟิกเกอร์หมีเหล่านี้ ก็ถูกสร้างขึ้นมาจากผู้เชี่ยวชาญในด้านการทำฟิกเกอร์มามากกว่า 30 ปี โดยผลงานเด่นๆ ของพวกเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง Mega Monster Battle: Ultra Galaxy และ Godzilla vs. King Kong ดูขนาดตัวของแม่หมีสิ…ใหญ่มากๆ แถมยังมีน้ำหนักมากถึง…
-
Boneyard สุสานเครื่องบินปลดระวางสหรัฐฯ อบอวลไปด้วยความยิ่งใหญ่จากครั้งอดีต…
คำว่า ‘Boneyard’ ในภาษาอังกฤษนั้นหมายความว่า ‘สุสาน’ แต่วันนี้ #จ่าสิบเหมียว จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับ ‘Air Force boneyards’ ซึ่งไม่ได้เป็นสุสานไว้ฝังศพแต่อย่างใด แต่เป็นสุสานสำหรับปลดระวางเครื่องบินที่ไม่ใช้แล้วของกองทัพสหรัฐอเมริกากัน!! หลายๆ คนอาจจะเคยสงสัยกันว่า เครื่องบินถ้าปลดระวางแล้วไปไหนกัน? คำตอบก็คือสุสานเครื่องบินนี่แหละ สถานที่แห่งนี้คือที่พักสุดท้ายของเครื่องบินที่ตกรุ่น หรือเสียหายยากแก่การซ่อมแซม แต่กลับเป็นขวัญใจของเหล่าเด็กๆ จนพ่อแม่ต้องพาไปชมไปเยี่ยมอยู่บ่อยๆ และถึงเด็กๆ จะชื่นชอบเครื่องบินเก่าเหล่านี้มากๆ แต่คนที่มีความรู้สึกรุนแรงต่อเครื่องเก่าๆ เหล่านี้ที่สุดก็คงไม่พ้นเหล่า ‘นักบิน’ ผู้เคยขับเคลื่อนมันล่องลอยไปบนท้องนภาในอดีต ที่หลายยกๆ คนมักมาเยี่ยมเยือนเหล่าเครื่องที่พวกเขาเคยขับอยู่เสมอๆ … Andrew Lee ผู้เคยทำงานในกองทัพอากาศสหรัฐฯ มาพบกับเครื่องที่เขาเคยขับในอดีตอีกครั้ง นายพล Bill Hosmer ซึ่งตอนนั้นเขาเคยดำรงยศจ่าสิบตรีและขับเครื่อง F-86 Sabre อยู่ได้กลับมาเจอกับเครื่องบินที่เขาเคยขับอีกครั้ง เขาเดินวนไปรอบๆ ตัวเครื่องด้วยสายตาที่ราวกับว่าเห็นเพื่อนเก่าแก่คนหนึ่งของเขามายืนอยู่ตรงหน้า เขาเงียบสงัดไปช่วงเวลาหนึ่ง จมดิ่งลงไปในความทรงจำที่พรั่งพรูขึ้นมาจากครั้งอดีตที่มีกับเครื่องลำนั้น ‘จะว่าไปผมก็ไม่ได้อยู่ใกล้เจ้าเครื่องนี้มานานหลายปีแล้วนะเนี่ย มันเคยมีสภาพดีกว่านี้นะ’ อดีตนายพลกล่าวอย่างติดตลก และนี่คือภาพบรรยากาศของ 309th Aerospace Maintenance and Regeneration Group หรือที่เรียกกันง่ายๆ…
-
เกมโชว์สุดแปลกในจีน ให้ “พ่อแม่” มานั่งเลือก “เจ้าสาว” ให้กับลูกชายของตนเอง
ในประเทศไทยเราก็มีรายการแนวออกเดทอย่าง Take Me Out ที่ให้หนุ่มหรือสาวที่สนใจ เข้ามาหาคู่เดทในรายการ ด้วยตนเอง แต่นั่นคงเทียบไม่ได้กับรายการนี้จากประเทศจีน เพราะพวกเขาให้ “พ่อแม่” เข้ามาเลือก “ภรรยา” ให้กับ “ลูกชาย” ของตนเอง!! รายการนี้มีชื่อว่า Chinese Dating กติกาของรายการก็ง่ายๆ เพียงแค่ให้หญิงสาวที่เข้าร่วมรายการ ออกมาพรีเซนต์ตัวเองให้กับ “พ่อแม่” ของชายหนุ่ม (ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 คู่) และพ่อแม่ของชายหนุ่มเหล่านั้น ก็มีสิทธิ์ที่จะถามคำถามต่างๆ กลับเช่นกัน เพื่อเช็คว่าผู้หญิงคนนี้เหมาะกับลูกชายของตนหรือไม่ โดยคำถามที่พวกเธอถูกถาม ก็จะมีตั้งแต่ “ทำงานบ้านเป็นรึเปล่า” “เคยผ่านการศัลยกรรมมาหรือไม่” “โอเคหรือเปล่าที่ฝ่ายชายมีรายได้น้อยกว่า” และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งฝ่ายชายทำได้เพียงแค่นั่งดูจากหลังเวทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลายคนได้วิจารณ์ว่ารายการนี้ถือว่าเป็นการส่งเสริมค่านิยมเก่าๆ หรือเปล่า ที่พ่อแม่จะเป็นคนเลือกคู่ครองให้กับลูกชาย รวมทั้งยังมีการปะทะกันของค่านิยมเก่ากับค่านิยมยุคใหม่ ที่พ่อแม่จะปฏิเสธหญิงสาวที่เคยแต่งงานแล้วและอายุเกิน 40 ปีอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ยังมีคำวิจารณ์ว่า รายการนี้อาจมีการกำหนดสคริปต์จากทางผู้จัดแต่แรก เพื่อเรียกเรตติ้งให้กับรายการ ซึ่งเมื่อนักข่าวพยายามสอบถามไปยังผู้จัด พวกเขาก็พยายามหลีกเลี่ยงการสัมภาษณ์มาโดยตลอด จึงยังไม่มีคำตอบของเรื่องนี้แต่อย่างใด……
-
บุรุษไปรษณีย์เห็นสุนัขแก่เดินขึ้นบันไดบ้านไม่ได้ เขาจึงนำ “ทางเดิน” มาให้มันซะเลย!!
หลายคนคิดว่า “บุรุษไปรษณีย์” กับ “หมา” เป็นของที่ไม่ถูกกัน.. แต่คงไม่ใช่สำหรับกรณีนี้ ในภาพที่เราคิดไว้ บุรุษไปรษณีย์มีหน้าที่แค่ส่งพัสดุและจดหมาย เสร็จแล้วก็แยกย้ายจากไป แต่นั่นไม่ใช่กับคุณลุงบุรุษไปรษณีย์ท่านนี้ เพราะนอกจากส่งจดหมายแล้ว เขายังทำความดีอันน่าชื่นชมอีกด้วย บุรุษไปรษณีย์คนนี้มีชื่อว่า Jeff Kramer จากรัฐโคโลราโด้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทุกวันที่เขาไปส่งจดหมาย เขาสังเกตเห็นว่าหนึ่งในลูกค้าของเขามีสุนัขแก่ตัวหนึ่ง ด้วยอายุที่มากของสุนัขตัวนี้ ทำให้ทุกครั้งที่มันออกจากบ้าน เจ้าของของมันจะเป็นคนอุ้มลงบันได ซึ่งการทำอย่างนั้นทำให้หลังของเขามีอาการเจ็บปวด นี่คือคุณ Jeff Kramer และนี่คือเจ้าหมาแก่ที่อาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งที่ Jeff มักไปส่งของ มันแก่มากจนแทบไม่มีแรงปีนขึ้นบันไดหน้าบ้าน จนเจ้าของบ้านต้องอุ้มมันขึ้นลงอยู่บ่อยๆ เมื่อเห็นดังนั้น เขาจึงนำทางลาดมาให้กับบ้านหลังนี้ เพื่อช่วยให้ชีวิตของเจ้าสุนัขแก่ตัวนั้นสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเขาเล่าว่าเขาเคยมีสุนัขแก่ๆ แบบนี้ตัวหนึ่งที่บ้าน ทุกครั้งมันก็ประสบปัญหาการเดินขึ้นบันไดแบบนี้ เขาจึงสร้างทางลาดขึ้นมา เพื่อให้มันสามารถเดินขึ้นได้ง่ายๆ แต่โชคร้าย ตอนนี้มันเสียชีวิตไปแล้ว ทางลาดอันนั้นจึงไม่ได้ใช้ประโยชน์ เขาจึงนำมามอบให้กับบ้านหลังนี้ ซึ่งทาง Jeff ก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นเรื่องพิเศษแต่อย่างใด เขาเพียงแค่ช่วยในสิ่งที่เขาช่วยได้เท่านั้น ทางด้านคุณเจ้าของหมาบอกว่า “เขาน่ารักมาก เขาทำให้หมาของเราสามารถเดินขั้นบ้านได้เองอีกครั้ง และทำให้เราไม่ต้องเสี่ยงกับอาการปวดหลังด้วย” …
-
อียูเตรียมออกกฎหมาย หุ่นยนต์ต้องมีปุ่มปิดการทำงานทันที และอาจมีสถานภาพเสมือนคนจริงๆ
ทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จนดูเหมือนว่าโลกแห่งหุ่นยนต์กำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ ในอีกไม่นานนี้ และด้วยความกลัวนั้น ทำให้ตอนนี้หลายๆ ประเทศเริ่มมีการผลักดัน “กฎหมายหุ่นยนต์” ขึ้นมาเพื่อรับมือกับโลกแห่งหุ่นยนต์ในอนาคต กฎหมายเกี่ยวกับศีลธรรมเบื้องต้นของหุ่นยนต์ ?? อย่างล่าสุดในการประชุมรัฐสภาสหภาพยุโรปในช่วงเดือนหน้านี้ มีการส่งร่างกฎหมายหุ่นยนต์ต่อคณะกรรมการร่างกฎหมายเป็นที่เรียนร้อยแล้ว ว่าจะมีทิศทางในการจัดการกับหุ่นยนต์ในอนาคตอย่างไร โดยร่างกฎหมายดังกล่าวนำเสนอโดย Mady Delvaux-Stehres จากประเทศลักเซมเบิร์ก เขาบอกว่ากฎหมายปัจจุบันไม่สามารถตาม “การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีได้” และควรจะออก “กฎหมายจริยธรรมเบื้องต้นของหุ่นยนต์” ได้แล้ว เพื่อป้องกัน “เหตุไม่คาดคิด” อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์อินดิเพนเด้นท์ ระบุเอาไว้ว่า “ทุกวันนี้หุ่นยนต์ได้มีบทบาทสำคัญในเห็นได้ชัดว่าทุกวันนี้กฎที่เราไม่มีเพียงพอแต่การจัดการกับเครื่องจักร ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนเป็นอย่างมาก ว่าหุ่นยนต์ควรจะได้รับสิทธิทางกฎหมายหรือไม่” “และเพื่อที่จะแน่ใจว่าหุ่นยนต์จะรับใช้มนุษย์อย่างเดียว เราจึงควรสร้างกฎหมายหุ่นยนต์ของยุโรปโดยเร็วที่สุด” Kill Switch ปุ่มหยุดหุ่นยนต์ฉุกเฉิน ถึงแม้ว่ากฎหมายเรื่องจริยธรรมของหุ่นยนต์จะผ่านหรือไม่ แต่ความกังวลในเรื่องของโลกอนาคตที่อาจจะถูกยึดครองโดยหุ่นยนต์ (ดังที่เราเห็นจากภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง) ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้หลายคนคิดไปถึงเรื่องการทำปุ่มหยุดฉุกเฉิน เพื่อที่มนุษย์จะสามารถสั่งให้หุ่นทุกตัวหยุดการทำงานได้ทันที หากมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น ข้อมูลจากบีบีซี ระบุว่า ในกฎหมายจริยธรรมเบื้องต้นในการใช้หุ่นยนต์ที่จะมีการพิจารณาในรัฐสภายุโรปเดือนหน้านี้ หนึ่งในข้อบังคับคือต้องมีการติดตั้งปุ่มหยุดการทำงานของหุ่นยนต์อย่างฉับพลันบนหุ่นยนต์ทุกตัว เพื่อป้องการกระทำอันไม่เหมาะสมต่างๆ ของหุ่นยนต์ในอนาคต แม้จะดูเร็วไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญของมนุษยชาติเลยทีเดียว แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง…
-
การทานอาหารกลางวันแบบมีคุณภาพ ของเด็กญี่ปุ่น ฝึกให้รับผิดชอบตัวเองแต่เนิ่นๆ
ลองนึกย้อนกลับไปในสมัยที่ทุกๆ คนอยู่โรงเรียนประถมกันดู ในตอนนั้นพวกคุณได้กินอาหารกลางวันแบบไหนกันบ้าง? ตอนที่#เหมียวฟิ้นเด็กๆ ที่โรงเรียนไม่ค่อยจะมีของดีๆ กินเท่าไหร่นะ ไก่ทอดน่องเล๊กเล็ก ไข่พะโล้ที่แทบจะมีแต่ไข่กับน้ำอะไรแบบนี้… แต่หากคุณได้รู้ว่าโรงเรียนในญี่ปุ่นให้เด็กๆ พวกเขากินอาหารกลางวันแบบไหนล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกอิจฉาก็เป็นได้ เพราะที่นั่นเขาพยายามให้เด็กๆ ของตัวเองกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แถมยังมีแต่ของน่ากินๆ ทั้งนั้นเลยด้วย เมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอสารคดีที่น่าสนใจจากช่องยูทูบ CafCu Media ที่บอกเล่าเรื่องราวของเด็กในโรงเรียนประถมและโรงเรียนมัธยม โดยเหล่านักเรียนจะผลัดเปลี่ยนเวรกันเพื่อมาตักอาหารให้เพื่อนๆ ในชั้น โดยใครก็ตามที่ทำหน้าที่นี้จะต้องใส่ชุดสีขาวและหน้ากากอนามัยตามที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้ เพื่อเป็นการฝึกความมีวินัย และได้เรียนรู้เรื่องความปลอดภัยในอาหารและความรับผิดชอบในตัวเอง ทางโรงเรียนจะจัดอาหารเอาไว้ให้เด็กนักเรียนเหมือนๆ กัน และทางโรงเรียนจะไม่มีตู้หยอดเหรียญเพื่อซื้อข้าวกล่องหรือขนม ฉะนั้นเด็กทุกคนจะได้กินอาหารที่มีประโยชน์เหมือนกันหมด เด็กๆ ทุกคนจะนั่งกินอาหารภายในห้องเรียน ไม่มีโรงอาหารแยกต่างหาก แต่น่าแปลกที่ห้องเรียนของพวกเขาจะไม่สกปรกเลย เพราะทุกๆ คนจะถูกปลูกฝังให้รักษาความสะอาด เมื่อทานเสร็จแล้วจะต้องเก็บให้เรียบร้อย และหากเลอะเทอะก็ต้องช่วยกันทำความสะอาด ก่อนที่เด็กๆ จะเสิร์ฟอาหารให้กับเพื่อนๆ หรือนั่งรับประทานอาหารกัน พวกเขาจะต้องทำความสะอาดมือด้วยเจลก่อน เพราะสุขอนามัยของเด็กๆ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เด็กๆ ที่รับประทานอาหารก็ต้องใส่ชุดกันเปื้อนรวมถึงหมวกด้วยนะ ก่อนรับประทานอาหาร คุณครูประจำชั้นจะเป็นผู้สรุปว่าวันนี้เราได้อะไรมาจากไหนบ้าง อย่างในวันนี้ก็จะเป็นมันฝรั่งจากฟาร์มของโรงเรียน ปลาจากตลาดในท้องถิ่น…
-
รูปของสองท่านผู้นำ สัญลักษณ์แห่งเกาหลีเหนือ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ก็ต้องมีประดับไว้เสมอ
หนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความเป็นผู้นำเผด็จการของประเทศเกาหลีเหนือก็คือ ไม่ว่าจะไปที่ไหน คุณจะเห็นภาพของท่านผู้นำอันเป็นที่รักอยู่เสมอๆ Eric Lafforgue ช่างภาพของสำนักข่าว Daily Mail รายงานว่า ‘ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ที่โรงงาน ที่โรงเรียน หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาล เรียกได้ว่ามีให้เห็นกันไม่ขาดตา ไล่ไปตั้งแต่รูปของ Kim Il-Sung ผู้ก่อตั้ง ‘สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี’ (เกาหลีเหนือ) และลูกชายของเขาที่สืบทอดอำนาจ Kim Jong-Il’ และปัจจุบัน ตำแหน่งผู้นำของประเทศสืบทอดมาถึง Kim Jong-Un ลูกชายของ Kim Jong-Il และถึงแม้จะขึ้นสู่ตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2011 ในปัจจุบัน ภาพของเขาก็ยังมีให้เห็นไม่เยอะเท่ากับปู่และตาของเขา ภาพที่มีทุกๆ บ้าน ทุกๆ อาคาร ภาพของผู้นำทั้งสอง เวอร์ชั่นในช่วงปี 1980 นั้นจะดูเคร่งเครียดและจริงจังเป็นอย่างมาก แต่เวอร์ชั่นหลังปี 1990 เป็นต้นมานั้นจะดูยิ้มแย้มและเป็นมิตรมากกว่า ชาวเกาหลีเหนือจะมองไปที่รูปของพวกเขาด้วยความซาบซึ้ง เหมือนดั่งตัวแทนของความศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว ในโรงเรียนอนุบาล ที่คุณครูกำลังสอนเด็กๆ อยู่ ในวาระมงคลสมรสของคู่บ่าวสาว พวกเขาจะได้รับของขวัญจากรัฐบาลของประเทศคือรูปภาพพร้อมกรอบของท่านผู้นำทั้งสองเพื่อนำไปประดับและเคารพภายในที่พักอาศัย รูปของพวกเขาสามารถเห็นได้ตามโรงแรมเช่นกัน แต่จะไม่ติดตั้งในห้องพักที่เปิดให้ชาวต่างชาติเข้าพัก…
-
ศูนย์สอบเอนทรานซ์ญี่ปุ่นเผย ปีนี้มีคนโกงข้อสอบมากสุดในรอบ 12 ปี จำนวน 12 คน!!
เมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงที่นักเรียนมัธยมปลายของญี่ปุ่นกว่า 500,000 คน ได้เข้าร่วมการสอบเอนทรานซ์กลางเพื่อนำคะแนนมายื่นเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ตนเองใฝ่ฝัน ซึ่งหากว่ากันตรงๆ แล้ว การสอบครั้งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดตัดสินชะตาชีวิตของพวกเขาเลยทีเดียว ทำให้หลายๆ คนต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อให้สอบได้คะแนนเยอะๆ และหนึ่งในทางเลือกนั้นก็คือการโกงข้อสอบ ล่าสุดทางศูนย์การสอบเอนทรานซ์กลางของญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า ในการสอบที่ผ่านมา มีการจับการโกงข้อสอบได้มากที่สุดในรอบ 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2006 ด้วยจำนวนทั้งหมด 12 ราย!! โดยทางศูนย์กล่าวว่า มีการตรวจพบผู้เข้าสอบใช้สมาร์ทโฟนระหว่างการสอบวิชาประวัติศาสตร์ มีการแอบใช้ไม้บรรทัดที่เขียนสูตรคำนวนไว้ ในวิชาคณิตศาสตร์ และการมีการใช้เครื่องคิดเลขในวิชาบัญชี ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดในศูนย์สอบหลายๆ เมืองทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่โกงข้อสอบทั้ง 12 ราย จะถูกลงโทษด้วยการตัดสิทธิ์การสอบในครั้งนี้ และจะไม่มีการตรวจคะแนนให้ในทุกวิชา นี่ขนาดเยอะแล้วนะเนี่ย ยังแค่ 12 คน!!! ที่มา nicovide, โอตาคุบริโภคมาม่า
-
ยอดคุณแม่และลูกๆ ทั้ง 4 ร่วมช่วยกันสร้างบ้านทั้งหลัง ด้วยการดูคลิปจาก Youtube!?
ว่ากันว่าคลิปวิดีโอในเว็บไซต์ยูทูบนั้นมีเป็นล้านๆ คลิปวิดีโอ แม้คุณจะใช้เวลาทั้งชีวิตของคุณนั่งดูมันตลอดเวลา แต่คุณก็ไม่สามารถดูมันได้หมด เพราะมันเยอะม๊าก!! ซึ่งนอกจากคลิปบันเทิงๆ แล้วยังมีคลิปที่เป็นสาระอีกมากมาย มีกระทั่งคลิปสอนสร้างบ้านสร้างเรือนเลยก็มี ด้วยเหตุนี้เองเลยทำให้คุณแม่ลูก 4 อย่าง Cara Brookins ตัดสินใจเปิดคลิปจากยูทูบเพื่อสร้างบ้านให้กับลูกๆ ของเธอได้อยู่ โดยที่ไม่ต้องไปซื้อบ้านใหม่หรือเช่าเขาอยู่นั่นเอง Cara เล่าผ่านเว็บไซต์ Buzzfeed ว่าเธอนั้นเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งมันไม่ได้โอเคกับเธอเลย เพราะสามีทั้ง 2 คนที่ผ่านมาใช้ความรุนแรงกับเธอ และเธอคิดว่ายังมีอะไรดีๆ รออยู่ข้างหน้า เธอจึงหย่ากับสามีมาอยู่กับลูกๆ แทน เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความรุนแรง และเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีพ่อก็ตาม เธอจึงตัดสินใจสร้างบ้านด้วยตัวเอง เพื่อให้มันกลายเป็นสถานที่อันอบอุ่นที่เธอและลูกๆ จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ในปี 2007 Cara และลูกๆ Roman, Jada, Hope, และ Drew ขับรถมาตามถนนแล้วสังเกตเห็นบ้านหลังหนึ่งเสียหายหนักเพราะโดนพายุทอร์นาโด เหลือเพียงแค่ฐานของบ้านเท่านั้น มันเลยทำให้เธอคิดขึ้นมาได้ว่าอยากจะลองสร้างบ้านสักหลังดู เมื่อบอกไอเดียนี้ให้ลูกๆ ทั้ง 4…
-
วิศวกรคอมพิวเตอร์คิดค้น “ช่อดอกไม้เนื้อแดดเดียว” มอบความรู้สึกให้คนไข้ ที่ไม่เหมือนใคร
เวลาที่เราจะไปเยี่ยมคนป่วยในโรงพยาบาลสักคน สิ่งของที่เราจะหาซื้อเพื่อนำไปเยี่ยมพวกเขาก็คือช่อดอกไม้ แต่หากคุณเป็นผู้ชายแล้วคนที่คุณกำลังจะไปเยี่ยมก็เป็นผู้ชายด้วย การซื้อช่อดอกไม้ไปเยี่ยมก็ดูจะเป็นเรื่องที่ชวนให้รู้สึก…แปลกๆ สักหน่อย ด้วยความรู้สึกนี้เองจึงทำให้มีคนหัวใส คิดเปลี่ยนช่อดอกไม้ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นช่อดอกไม้เนื้อแดดเดียว ที่ทั้งสวยงามและอร่อยด้วย เพื่อให้หนุ่มๆ ไม่ต้องรู้สึกเคอะเขินเวลาไปเยี่ยมเพื่อนด้วยกันยังไงล่ะ ไอเดียวนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อราวๆ ปีก่อน มีวิศวกรคอมพิวเตอร์หนุ่มคนหนึ่งอยากจะไปเยี่ยมเพื่อนที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ด้วยความที่เพื่อนเป็นผู้ชายเลยรู้สึกเขินๆ ที่จะซื้อช่อดอกไม้ไปให้ เขานั่งครุ่นคิดอยู่นานแล้วก็เหลือบไปเห็นเนื้อแดดเดียว (Beef Jerky) ในถุงหิ้วของใครสักคน เขาก็เลยปิ๊งไอเดีย ไปซื้อเนื้อแดดเดียวจากร้านค้ามาพันเป็นช่อดอกไม้แล้วเอาไปเยี่ยมเพื่อนซะเลย หลังจากนั้น 1 ปี เขาก็หาคนทำเว็บไซต์ หาช่างภาพ และนักออกแบบ มาช่วยกันคิดสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ จนเกิดเป็นแบรนด์ที่ชื่อว่า Say It with Beef ไม่ว่าคุณจะมีความรู้สึกอะไรอยู่ในใจ ให้ช่อดอกไม้เนื้อแดดเดียวพูดแทนสิ… สินค้า 2 แบบแรกที่เขาคิดค้นขึ้นมาคือช่อดอกกุหลาบและช่อดอกเดซี่ แถมมีบริการส่งถึงที่ด้วยนะ ให้คนไข้ของคุณเอาไปเคี้ยวเล่นเพลินๆ ระหว่างนอนพักฟื้น รับรองว่าเขาจะจดจำดอกไม้ของคุณไปอีกนาน …
-
‘หนูรักแม่นะคะ…’ เด็กสาวร่ำไห้บอกลาแม่ที่เลี้ยงมา 18 ปี ที่จริงแล้วคือคนลักพาตัวเธอ..
เรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยาย ของเด็กสาวอายุ 18 ปีที่อยู่ๆ ก็มาพบว่า แม่ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กๆ นั้น ไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเธอ แถมยังอาจเป็นคนที่ ‘ลักพาตัว’ เธอมาจากพ่อแม่จริงๆ ของเธอด้วย!!? Alexis Manigo สาวน้อยวัย 18 ที่พึ่งมารู้ความจริงเมื่อไม่นานมานี้ว่า ชื่อจริงของเธอคือ Kamiyah Mobley เธอถูกแม่ที่เลี้ยงดูมาของเธอ Gloria Williams ลักพาตัวมาจากโรงพยาบาลในฟลอริด้า เมื่อ 18 ปีก่อน ตั้งแต่ในวันแรกที่เธอลืมตาขึ้นมาดูโลก… Alexis หรือ Kamiyah และ Gloria ผู้ลักพาตัวเธอ ภาพของ Kamiyah Mobley เมื่อ 18 ปีก่อน และภาพสเก็ตช์คนร้ายที่ลักพาตัวเธอ Gloria Williams ที่ปลอมตัวเป็นนางพยาบาล ไม่มีใครรู้ว่าเด็กหญิงทราบได้อย่างไรว่าเธอถูกลักพาตัวมา แต่เรื่องนี้ก็ไปถึงยังหูของตำรวจ และได้ทำการจับกุม Gloria Williams เอาไว้ที่สถานีตำรวจ และเมื่อเด็กสาวไปเยี่ยมแม่(ผู้ลักพาตัวเธอมา) ก็เกิดเป็นภาพสุดสะเทือนใจต่อผู้พบเห็นอย่างยิ่งภาพนี้ขึ้น… ภาพเด็กสาวกำลังพูดคุยกับแม่ผู้ลักพาตัวเธอมาผ่านลูกกรง ‘หนูรักแม่นะคะ’ Kamiyah…
-
อดีตนักดับเพลิง ออกโรงปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือแมวที่ถูกน้ำมันราด จากพ่อหนุ่มวัยรุ่น!!
#เหมียวบ็อบ อยากจะดำดิ่งเข้าไปในสมองของคนที่ชอบทำร้ายสัตว์โลก ที่ไม่ค่อยรู้อิโหน่อิเหน่ ว่าทำไมพวกเขาถึงโหดร้าย และกล้าทำทารุณกรรมกับเหล่าสัตว์ตัวน้อยผู้น่ารักกันนักนะ? เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ได้รายงานเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมือง Crawfordsville จากรัฐอินเดียนา ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวผู้น่าสงสาร ที่จู่ๆก็ถูกหนุ่มใจร้ายวัย 19 ปี เอาน้ำมันก๊าซมาราด ก่อนที่จะทำการจุดไฟเผาทั้งเป็น Noah Riley หนุ่มวัย 19 ปี ที่ต่อมาถูกจับในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้มีตอนจบที่โหดร้าย เพราะช่วงที่หนุ่ม Riley พยายามที่จะเผาเจ้าเหมียวทั้งเป็น อดีตเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมือฉมังที่ได้เกษียณอายุแล้ว ‘Steve Wright’ ดันเหลือบไปเห็นกลุ่มควันไฟที่พวยพุ่งออกมาจากสวนหลังบ้านของเขาเอง “ผมเหลือบไปเห็นกลุ่มควันไฟพุ่งขึ้นมา จึงรีบเข้าไปตรวจสอบ แล้วก็ได้เจอกับแมวตัวน้อยที่ถูกมัดติดกับเสาไว้ ร่างกายของมันเปียกโชกไปด้วยน้ำมันก๊าส และประทัดที่พร้อมจะเผามันทั้งเป็น ผมจึงรีบเอาตัวมันไปจุ่มกับน้ำโคลนในบริเวณนั้น เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะหยุดไฟที่กำลังจะลามได้” Steve เล่า Steve Wright คุณลุงผู้เป็นฮีโร่สำหรับเจ้าเหมียว บริเวณน้ำโคลนที่เขาต้องรีบพาเจ้าเหมียวไปจุ่มลง เพื่อดับไฟที่กำลังจะลามเข้ามา ในส่วนของ Noah Riley…
-
สุนัขญี่ปุ่น “ซัจจัง” อ้วนขึ้นจนเจ้าของแปลกใจ เลยให้รายการทีวีตามสืบชีวิตมันจนพบความจริง
ถ้าที่บ้านของคุณมีสัตว์เลี้ยงหลายตัว คุณเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมตัวหนึ่งมันถึงได้อ้วนเอาๆ ทั้งๆ ที่คุณเองก็ให้อาหารพวกมันในปริมาณที่ปกติ!? เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาคาใจมากๆ ของหญิงสาวชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง จนถึงขั้นเขียนจดหมายเข้าไปยังรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งเพื่อให้พวกเขาช่วยแก้ปัญหานี้ให้เธอเลย นี่เป็นเรื่องราวของคุณฮามาดะ เคย์โกะ วัย 35 ปี อาชีพแม่บ้าน จากจังหวัดวะกะยะมะ ประเทศญี่ปุ่น เธอเล่าผ่านจดหมายว่าที่บ้านของเธอมีสุนัขด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว คือซัจจัง ยชจัง และ อิชจัง เธอบอกว่าในตอนแรกเธอได้รับสุนัขที่ชื่อซัจจังมาจากช่างไฟฟ้าคนหนึ่ง แต่นานวันเข้าตัวของมันก็ค่อยๆ บวมขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สุนัขอีก 2 ตัวของเธอกลับไม่ได้อ้วนขึ้นเลย คุณฮามาดะเริ่มสงสัยว่าในแต่ละวันมันหายไปไหนบ้างเธอเลยไปถามเพื่อนบ้านบางคน พวกเขาบอกว่าเห็นเจ้าซัจจังเดินไปตามสถานนีรถไฟหรือตามบ้านคนอื่นๆ มีบางคนซื้อขนมให้กินบ้าง หรือให้อาหารบ้าง เธอเลยขอให้ทางรายการออกติดตามดูพฤติกรรมของซัจจังว่ามันไปกินอะไรที่ไหนกันแน่? ทางทีมงานจึงส่งพิธีกรภาคสนาม คุณเอจิเซ็น โฮวตะไปตามติดชีวิตของมันว่าในแต่ละวัน เจ้าซัจจังไปที่ไหน เจอใคร และกินอะไรเข้าไปบ้าง? นี่คือเจ้าซัจจังที่เราพูดถึงล่ะ ร่างกายของมันดูตุ้ยนุ้นจนแทบจะกลายเป็นหมูอยู่แล้ว… นายเอจิเซ็นเริ่มตามดูซัจจังไปเรื่อยๆ จนมาเจอบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของมันเท่าไหร่ เขาได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านแล้วพบว่าซัจจังสามารถเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้อย่างสบายๆ และเคยเข้าไปอาบน้ำกับเจ้าของบ้านมาแล้ว!? ต่อมาซัจจังเริ่มเดินไกลออกไปเรื่อยๆ มันเดินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่บ้านอีกหลังหนึ่ง คราวนี้นายเอจิเซ็นสังเกตเห็นว่าซัจจังเข้าไปในบ้านที่มีสุนัขสีขาว นั่นคือชิบิจัง…
-
‘แจ็คแดเนียล’ เปิดตัวสินค้าใหม่ ‘กาแฟวิสกี้’ เอาใจคนขี้เซา เข้มข้นสมชื่อแบรนด์!!
ตื่นนอนตอนเช้ามาทำงานทีไร กลับรู้สึกว่าหลับไม่เคยเต็มอิ่มซ๊ากกวัน ทางแก้ปัญหาทางเดียวที่พอจะทำได้ก็คงหนีไม่พ้น ‘กาแฟ’ กับสารคาเฟอีนที่จะช่วยทำให้เช้าวันใหม่ของเรา ปึ๋งปั๋งขึ้นมาอีกครั้ง ล่าสุดบริษัทเครื่องดื่มวิสกี้ชั้นนำของโลก ที่เรามักจะเห็นเหล่าศิลปินร็อคสตาร์เอามาดื่มโชว์กันอยู่บ่อยๆอย่าง ‘Jack Daniel’s’ ได้เปิดตัวสินค้าตัวใหม่ กับผลิตภัณฑ์กาแฟสูตรเข้มข้น ที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ได้ดี ไม่ต่างจากเหล้าเลยล่ะ ถ่ะแด๊มม!! โฉมหน้ากาแฟจาก Jack Daniel’s สีดำเข้มดูดุดันมากจริงๆ กาแฟที่ดูคมเข้ม ราวกับว่าดื่มแล้วจะไม่ได้หลับอีกเลยนี้ ทำมาจากเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 100% นำมาคั่วด้วยความร้อนระดับปานกลาง เพื่อคงความหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟ ซึ่งผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้เป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่างบริษัทวิสกี้ชื่อดัง และบริษัทกาแฟ ‘World of Coffee’ โดย Charlie Newman ผู้ก่อตั้งบริษัทกาแฟดังได้ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเราเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดในโลก พร้อมกับผสมกลิ่น และรสชาติ อันโดดเด่นของแจ็คแดเนียลลงไป” แต่บอกไว้ก่อนว่า กาแฟไม่ได้มีการใส่แอลกอฮอลงไป เขาแค่เพิ่มกลิ่นจากวิสกี้เท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วกินเท่าไหร่ก็คงไม่เมานะจ๊ะ ไม่ใช่แค่กาแฟแบบเข้มข้นที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นวิสกี้เท่านั้นที่ได้ผลิตออกมา แต่ยังมีกาแฟสูตรไม่มีคาเฟอีนออกมาด้วยเช่นกัน สนนราคาสำหรับกระป๋อง 8.8 ออนซ์ อยู่ที่ประมาณ 800 บาท ส่วนแบบถุง 1.5 ออนซ์…
-
คุณปู่เกมเมอร์วัย 74 เศร้าใจ หลังเกมที่เล่นมานาน 18 ปี เตรียมปิดตัวลงในสิ้นเดือนนี้!!
สำหรับเกมเมอร์ทั้งหลายแล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้เรารู้สึกติด และผูกพันธ์กับเกมนั้นๆ คงเป็นเรื่องของมิตรภาพ เรื่องราวการเดินทางที่เกิดขึ้นในเกม และการได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ที่พร้อมจะเก็บเลเวล และไปต่อสู้กับบอสด้วยกัน ไม่ใช่แค่เด็กรุ่นใหม่เท่านั้น ที่ผูกพันธ์กับเกมที่ชอบเล่น แต่คุณปู่เกมเมอร์วัย 74 ปีผู้ไม่ประสงค์ออกนามคนนี้ เขาก็ผูกพันธ์กับเกม ‘Asheron’s Call’ ที่เล่นมาตลอด 18 ปี ไม่แพ้กัน ไม่ค่อยจะชื่นชอบเท่าไหร่เล๊ยยย ถึงกับเล่นหลายหน้าจอในเวลาเดียวกัน ซึ่งเกมดังกล่าวเขาเล่นมาตั้งแต่ปี 1999 แล้ว ซึ่งภายในเกมมันมีระบบปาร์ตี้ ระบบแต่งงาน ระบบงานศพ ใกล้เคียงกับชีวิตจริงเอามาๆ “จากเกมนี้ทำให้ผมได้รู้จักกับเพื่อนทั่วโลก ทั้งจากอังกฤษ และรัฐต่างๆ ทั่วอเมริกา” คุณปู่เล่า แต่ช่างน่าเศร้าใจสำหรับคุณปู่ เพราะเกมที่เขาเล่นมาตลอด 18 ปี กลับประกาศที่จะปิดตัวลงในสิ้นเดือนมกราคม ปี 2017 ที่จะถึงนี้ ซึ่งยังพอเหลือเวลาอีกนิดหน่อย ให้คุณปู่ได้อำลาเกมสุดโปรดในดวงใจของเขาตลอดกาล “เกมได้เปิดให้บริการมานานมากแล้ว และผมก็สนุกมากๆกับการได้เล่นมัน นับว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในชีวิต” คุณปู่เล่าเสริม และตอนนี้เจ้าตัวก็กำลังค้นหาเกมใหม่ๆ มาเล่นต่อไป หลังจากที่เกมนี้จะปิดตัวลง…
-
ครอบครัวหมา 4 ตัว และเหมียวอีก 1 ตัว ต้อนรับ “เจ้านายตัวน้อย” ราวกับรักตั้งแต่แรกเห็น
Roxy, Edith, Rosie, Jake เจ้าหมา 4 ตัว และ Mia เจ้าเหมียวอีก 1 ตัว เป็นครอบครัวที่มีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น พี่น้องทั้ง 5 นั้นรักกันมาก และก็รักเจ้านายของพวกมันด้วยเช่นกัน จนมาวันหนึ่งการมาถึงของสมาชิกใหม่ก็เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่รับสัตว์ตัวใหม่เข้ามาเลี้ยงนะ เป็นลูกของเจ้านายที่กำลังจะลืมตาตื่นขึ้นมาดูโลกในเร็ววันนี้ คุณ Kasey Boggs และสามีพบว่าพวกเขากำลังจะมีลูกด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างก็ตื่นเต้นที่จะได้ให้การต้อนรับสมาชิกคนใหม่ รวมไปถึง 5 พี่น้องหมาแมวด้วย และวันนั้นก็มาถึงหนูน้อย Sonny ลืมตาตื่นขึ้นมาดูโลก และในที่สุดเจ้านายคนใหม่ของบรรดาพี่น้องหมาแมวก็ได้ย้ายจากโรงพยาบาลมาอยู่ที่บ้าน ในตอนแรกนั้นคุณ Kasey และสามี ก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าเหล่าหมาแมวนั้นจะมีท่าทีอย่างไรบ้าง แต่ทุกอย่างมันง่ายอย่างน่าใจหาย พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลบ “ในตอนแรกนั้นพวกเราก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่เหมือนกัน และหวังว่าพวกมันน่าจะเข้ากันได้กับสมาชิกใหม่ได้โดยเร็ว พอ Sonny มาถึงที่บ้าน เหล่าหมาแมวทั้งหลายต่างก็กรูกันเข้ามาดมที่เปลของสมาชิกใหม่ด้วยความสงสัย หลังจากนั้นไม่นานพวกมันก็ยอมรับ และแสดงความรักต่อสมาชิกใหม่อย่างรวดเร็ว” คุณ Kasey เล่า ดูสิกอดกันกลมเชียว แต่ดูเหมือนว่าเจ้า…
-
คุณตาอยู่ในอาการโคม่า “เริ่มตอบสนอง” หลังแพทย์ให้เจ้าหมาตัวโปรดเข้าเยี่ยม…
เมื่อเดือนที่ผ่านมาในประเทศอิตาลี ชายแก่ชื่อว่า Giovanni ต้องประสบกับอาการหัวใจวายขณะที่ออกไปเดินเล่นกับเจ้าหมาของเขาชื่อว่า Nancy เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบเข้ามาทำความช่วยเหลือคุณปู่วัย 73 ปี และสามารถช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน แต่หลังจากที่พามาถึงโรงพยาบาล คุณปู่ได้อยู่ในอาการโคม่าซะแล้ว เจ้า Nancy ที่มองดูรถพยาบาลขับไปพร้อมกับค่อยๆ นำพาชีวิตของเจ้านายสุดที่รักของมันห่างออกไปด้วย ด้วยหัวใจที่แตกสลาย หลังจากนั้นไม่กี่วัน Deborah ลูกสาวของคุณปู่ Giovanni ได้พาเจ้า Nancy ไปเยี่ยมที่ห้อง ICU ด้วย แต่ก็ได้แต่นั่งอยู่หน้าห้องเพราะที่โรงพยาบาลไม่อนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงเข้าไปเยี่ยมคนไข้ เธอก็เลยติดต่อไปยังองค์กรที่ให้การช่วยเหลือสามารถสัตว์เลี้ยงเข้าเยี่ยมผู้ป่วยได้ นั่นทำให้เจ้า Nancy สามารถเข้าเยี่ยมเจ้านายอันเป็นที่รักได้อีกครั้ง เมื่อเจ้า Nancy เข้ามาในห้องและถูกอุ้มมาวางไว้ข้างๆ กับคุณปู่ Giovanni จากนั้นคุณปู่ก็เหมือนจะมีอาการขยับเบาๆ หลังจากที่ไม่รู้สึกตัวใดๆ เลยตั้งแต่อยู่ในช่วงโคม่า ขณะเดียวกันกับเจ้า Nancy ที่ส่ายหางดุ๊กดิ๊กไปมา “มันอยู่ใกล้ๆ และจุ๊บกับพ่อของฉัน ถ้าเขายังรู้สึกตัวก็ต้องพูดว่า ‘ไงเจ้าตัวเล็ก ตอนนี้เราก็สามารถลาจากกันได้ซักทีนะ’” คุณ Deborah เล่า และนี่ก็คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่เจ้า Nancy ไปเยี่ยมคุณตา…
-
ประมวลภาพมหันตภัยฤดูหนาว หลายประเทศในยุโรปเ จออุณภูมิเย็นจัดจนติดลบ!!
ขณะนี้ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่กับความหนาวเหน็บของฤดูหนาว จนทำให้หลายๆ พื้นที่ต้งประสบกับปัญหาอย่างหนัก ที่มีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป โดยเฉพาะประเทศทางแถบยุโรป เช่นเยอรมันนี รัสเซีย หรือประเทศอังกฤษ เป็นต้น และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางฝั่งยุโรป เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องประสบกับปัญหาความหนาวอย่างยากลำบากแค่ไหน ลองไปชมกันได้เลย… เจ้าหมาจิ้งจอกตกลงไปในแม่น้ำ Danube เมือง Baden-Württemberg ประเทศเยอรมนีเป็นเวลากว่า 4 วัน จนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งแบบที่เห็นในภาพ ลมที่พัดแรงจนทำให้หลังคาบ้านในเมือง Hanau ประเทศเยอรมนีถึงกับปลิวเป็นกระดาษ รถบรรทุกที่ลื่นตกลงไปในคูข้างถนน บนนถนนไฮเวย์หมายเลข A14 ใกล้กับเมือง Mecklenburg-West Pomerania ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมัน หิมะที่ตกลงมาทับถมทุกสิ่งทุกอย่างจนต้องมีพนักงานใช้เครื่องดูดหิมะ ที่เมือง Winterberg ประเทศเยอรมนี รถกวาดหิมะที่ต้องนำมาใช้งานบนถนนไฮเวย์หมายเลข A27 ใกล้กับเมือง Achim ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมนี กระแสคลื่นลมแรงที่ก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่พัดเข้าชนกับตอม่อ Seaham ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ หมอกควันที่หนาแน่นส่งผลให้รถบรรทุกพลิกคว่ำบนถนนไฮเวย์หมายเลข A90 ที่เมือง Castleton ประเทศอังกฤษ…
-
สาวอังกฤษตัดสินใจ “นัดเจอกันที่สเปน” หลังพบว่าตั๋วเครื่องบิน ถูกกว่าตั๋วรถไฟข้ามเมืองซะอีก!??
ถึงในหลายๆ ประเทศจะมีรถไฟความเร็วสูงใช้กัน ก็ยังมีข้อจำกัดในด้านราคากันอยู่ที่ค่อนข้างจะ ‘แพง’ กันไปซักหน่อย และด้วยความแพงนี่แหละคือที่มาของทริปสุดแฮปปี้ของสาวๆ ทั้งสองคนนี้ล่ะ!! Lucy Walker สาววัย 27 ปีจากเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ ได้มีแผนที่จะไปพบกับเพื่อนของเธอ Zara Quli วัย 26 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองเบอร์มิงแฮม แต่ติดอยู่เรื่องหนึ่งก็คือตั๋วรถไฟขากลับของเธอ ที่ราคาพุ่งขึ้นสูงกว่า 105 ปอนด์ หรือราวๆ 4,500 บาท!! Zara Quli (ซ้าย) และ Lucy Walker (ขวา) สิ่งที่ทั้งสองคนทำก็คือ ลองค้นหาตั๋วเส้นทางที่ถูกๆ ดู แล้ว Lucy ก็ไปเจอตั๋วจาก Ryan Air เข้าให้ โดยเธอสามารถเดินทางไป-กลับ จากเมือง Newcastle ประเทศอังกฤษ ไปยัง Malaga ประเทศสเปน ในราคาเพียง 20 ปอนด์ หรือราวๆ 860…
-
ไม่ขำ!! คุณครูญี่ปุ่นขู่จะเขียนชื่อนักเรียนลงบนสมุด “Death Note” สร้างความหวาดกลัวให้เด็กๆ
เมื่อกล่าวถึงการ์ตูนเรื่อง ‘Death Note’ แล้ว คงเป็นเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน เพราะเป็นการ์ตูนแนวสืบสวนที่มีเนื้อหาน่าติดตาม และสิ่งที่ผู้คนมักจะพูดถึงกันมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือสมุด Death Note สมุดมรณะที่ตัวเอกของเรื่องใช้เป็นอุปกรณ์ในการสังหารคน เพียงแค่เขียนชื่อพร้อมกับระบุรายละเอียดการตายก็จะทำให้คนที่ถูกเขียนชื่อลงไปเสียชีวิตในทันที จนทำให้มีการนำเรื่องนี้ไปใช้ในเหตุการณ์จริงในทางที่ผิดกัน อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ เรื่องมีอยู่ว่าคุณครูวัย 30 ปี จากโรงเรียนในจังหวัด Fukushima ได้ออกมากล่าวคำขอโทษต่อสื่อ หลังทำการขู่นักเรียนของตัวเองว่าจะเขียนชื่อของเขาลงไปในสมุด Death Note จากรายงานของเว็บไซต์ The Fukushima Minyu Shimbun เมื่อวันที่ 12 เดือนมกราคมที่ผ่านมา เล่าว่าคุณครูได้ทำการแสดงให้นักเรียนชั้นประถม 4 คนดูว่าตนเองนั้นมีแอพฯ Death Note อยู่ในแท็บเล็ต พร้อมพูดกับนักเรียนว่า “ฉันจะเขียนชื่อของพวกเธอทั้งหมดลงไปบน Death Note นี้” ตามรายงานไม่ได้ระบุถึงสาเหตุที่คุณครูท่านนี้ใช้ในการลงโทษเด็กๆ แต่เมื่อทางโรงเรียนทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้มีการจัดแถลงการณ์ขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คุณครูแสดงความรับผิดชอบด้วยการกล่าวขอโทษในที่ประชุม และทางผู้ปกครองเองก็ได้กล่าวว่าวิธีการเตือนเด็กๆ ของคุณครูนั้นมัน ‘ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง’ เพราะเป็นการสร้างความกลัวให้กับเด็กๆ …
-
ศิลปินออกแบบเสื้อแจ็คเก็ตลาย “หนังมนุษย์” จะมีใครกล้าซื้อมาใส่เดินเล่นรึเปล่าเนี่ย!?
ใครกำลังมองหาแฟชั่นเก๋ๆ จ๊าบๆ เจ๋งๆ ไม่ซ้ำใคร เตรียมตัวไว้ให้ดี เรากำลังจะพาท่านไปพบกับเสื้อแจ็คเก็ตที่จะมาเปลี่ยนวงการแฟชั่นโลก ที่ใครเห็นก็เป็นอันต้องสยึมกึ๋ยอย่างแน่นอน กับเสื้อ “Ed Gein Serial Killer” ตัวนี้!! เสื้อแจ็คเก็ตตัวนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Kayla Arena และ Toby Barron ที่ออกแบบเสื้อมาให้คล้ายกับผิวหนังมนุษย์ ซึ่งคล้ายกับพฤติกรรมของ Ed Gein ฆาตกรโรคจิตที่เอาผิวหนังของเหยื่อมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งฆาตกรดังกล่าวได้กลายต้นแบบให้กับฆาตกรโรคจิตในหนังอย่าง Psycho, The Texas Chainsaw Massacre, และ The Silence of the Lambs อีกด้วย ถึงจะดูเหมือนหนังมนุษย์ แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะจริงๆ แล้วมันทำมาจากน้ำยางและซิลิโคนเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาทำประมาณ 8-10 สัปดาห์ ใครที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้จากเว็บไซต์ Etsy สนนราคาที่ตัวละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 35,000 บาท แลกกับความสวยเก๋ไม่เหมือนใคร #เหมียวอ๊อดโด้ ว่าคุ้มค่านะ อิอิ …
-
เจ้าหนูเอาปืนจี้เพื่อนสาวแย่ง ‘นักเก็ตไก่’ เจอเธอกระแทกปืนหลุดจากมือ พร้อมว๊ากใส่เข้าให้!!
สำหรับเรื่องนี้ อย่างกับออกมาจากคดีเด็ดแน่ะ #จ่าสิบเหมียว ขอตั้งชื่อให้ว่า ‘นักเก็ตไก่เป็นเหตุ…’ แล้วกันเนาะ ฮร่าาาาา กรมตำรวจนิวยอร์กได้รายงานว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน Manhattan นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเด็กหนุ่มวัย 12 ขวบ ชักปืนขึ้นมาข่มขู่เพื่อนสาวในชั้นเรียน โดยมีจุดประสงค์เพื่อแย่งนักเก็ตไก่ของเธอ นักเก็ตไก่ เจ้าหนูเห็นเด็กสาวซื้อนักเก็ตไก่จาก McDonald’s บนถนนที่ Lexington Avenue พอเห็นดังนั้นเขาก็เลยเข้าไปขอนักเก็ตไก่ที่เธอพึ่งซื้อมาทันที แน่นอนว่าเธอปฏิเสธเขา McDonald สาขาที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นเธอจึงเดินลงไปในสถานีรถไฟใต้ดินใกล้เคียงเพื่อเดินทางไปโรงเรียน เด็กหนุ่มก็ได้แอบตามเธอมา พอสบโอกาสเขาก็เข้ามาขู่เอานักเก็ตไก่อีกครั้งทันที แต่คราวนี้สาวน้อยเกิดฉุนขาดกว่า กระแทกปืนของเด็กชายซะกระเด็นแล้วตะโกนใส่เขาด้วยเสียงอันดังว่า ‘เลิกมาวอแวกับฉันเสียที!’ หลังจากนั้นเธอก็ขึ้นรถไฟใต้ดินโดยไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด แต่สาวน้อยยังเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นเอาปืนไปจี้เด็กรายอื่นๆ เพื่อข่มขู่เอาสิ่งของที่เขาต้องการอยู่ เธอจึงตัดสินใจรายงานเรื่องนี้ให้คุณครูที่โรงเรียนของเธอทราบ ทางเดินสู่สถานีรถไฟ สถานที่เกิดเหตุ ตอนนี้เด็กชายคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวไว้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะถูกส่งให้ศาลเยาวชนต่อไปในข้อหาพยายามปล้น ซึ่งในที่นี้เป็นคดีของเยาวชน จึงไม่ได้มีการเปิดเผยภาพถ่ายหรือชื่อของเด็กๆ ทั้งคู่แต่อย่างใด… ดูคลิปการายงานข่าวแบบไม่มีภาพของเด็กได้ที่เว็บไซต์ Pix11 นับว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากๆ เลยนะเนี่ย ขนาดเด็กๆ ยังทำได้ขนาดนี้ ถ้าไม่อบรมดีๆ โตขึ้นมาล่ะก็มีเฮแน่นอน T^T …
-
สองพี่น้องอเมริกัน ตามหาคุณแม่คนไทย ที่ไม่ได้พบหน้า 40 ปี ด้วย “ภาพถ่ายใบเดียว”
ความรักระหว่าง แม่-ลูก เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ยังไงแล้วลึกๆในใจของทั้งสองฝ่าย ต้องมีความคิดถึง หรือรู้สึกเป็นห่วงกันและกันไม่มากก็น้อย ‘Jeanie Toomay’ และ ‘Starla Medlock‘ สองพี่น้องชาวอเมริกันลูกครึ่งไทย ในช่วงวัยเด็กครอบครัวของพวกเขาต้องพบประสบปัญหาบางอย่าง และลามไปถึงการหย่าร้าง ต่อมาทั้งคู่ต้องย้ายไปอาศัยอยู่กับคุณพ่อ ทำให้ไม่ได้กลับมาเจอกับคุณแม่ผู้ให้กำเนิดอีกเลย ตลอดเวลา 40 ปีที่ผ่านมา Jeanie Toomay และ Starla Medlock ด้วยความที่พ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่สมัยที่พวกเธอยังเป็นเด็กเล็ก ทั้งคู่รู้เพียงแค่ว่า แม่ผู้ให้กำเนิดเธอมีชื่อว่า ‘Lani’ เป็นคนไทย และหลังจากหย่าร้างทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย “ก่อนที่พ่อจะจากเราไปเมื่อ 6 ปีก่อน เขาเล่าให้เราฟังเพียงแค่ว่า แม่ของเราไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เป็นคนไทย และสาเหตุที่พ่อเลือกที่จะเอาเรามาอยู่ด้วย เพราะท่านคิดว่าสามารถดูแล และคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าได้” ภาพถ่ายเพียงภาพเดียว ที่สองพี่น้อง และคุณแม่ ต่างมีเก็บไว้คนละ 1 ใบ “เราทั้งคู่ต่างต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ ถ้าหากว่าเราไม่ได้กลับไปพบเจอกับเธออีก ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านมานานหลายสิบปีแล้วก็ตาม” 30 ธันวาคม 2016…
-
ชาวเน็ตช่วย นักศึกษาสาวระดมทุนหาเงินเรียน หลังพ่อแม่ตัดขาด เพราะเธอคบแฟนผิวสี!?
เรื่องของความรัก มันเป็นเรื่องของหัวใจ และความรู้สึกที่มีให้กันระหว่างคนสองคน มันไม่สำคัญว่าเขาคนนั้นจะเป็นเพศไหน เชื้อชาติใด เพราะยังไง ‘ความรัก’ เป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ (เขียนให้ดูดีไปงั้นแหละ) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ได้รายงานเรื่องราวของหญิงสาวชาวเมืองเทนเนสซี ‘Allie Dowdle’ ที่เพิ่งจบไฮสคูล และกำลังจะก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย แต่ทว่าค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อทั้งหมด เธอจำเป็นที่จะต้องหาด้วยตัวเอง ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า พ่อแม่ของเธอรับไม่ได้ที่เธอคบกับชายหนุ่มชาวแอฟริกัน-อเมริกัน Allie Dowdle และแฟนหนุ่มของเธอ Michael “พ่อแม่เลือกที่จะเลิกให้การสนับสนุนฉันในทุกๆด้าน และยึดทุกอย่างที่พวกเขาเคยให้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นเงินออมส่วนตัวของฉัน รถ โทรศัพท์มือถือ และรวมไปถึงด้านการศึกษาในมหาวิทยาลัย” Allie เล่า ซึ่งจากการตัดสินใจดังกล่าวของผู้ปกครอง ทำให้เธอต้องเปิดขอระดมเงินทุนผ่านเว็บไซต์ GoFundMe ด้วยตนเอง โดยเป้าหมายที่เธอต้องการเพื่อใช้เป็นค่าเทอมการศึกษาต่อ อยู่ที่ประมาณ 10,000 เหรียญ หรือราวๆ 350,000 บาท แถมเธอยังเล่าต่ออีกด้วยว่า ทั้งคู่ต้องคบหากันแบบลับๆมาโดยตลอด หลังจากที่พ่อแม่รู้ว่าเธอคบกับชายคนนี้อยู่ เธอพยายามที่จะพาแฟนหนุ่มไปพูดคุยด้วย และเข้าหา ในช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา แต่ทุกอย่างกลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม …
-
แบบนี้ก็มี!? หมอดูชาวอังกฤษ ผู้เคลมว่าสามารถทำนายอนาคตได้โดยใช้ ‘หน่อไม้ฝรั่ง’!!
จะว่าไปแล้วเรื่องของการทำนายอนาคต ดูดวงโชคชะตา เป็นอะไรที่ฝังลึกอยู่ในวัฒนธรรมของคนไทยเรามาอย่างยาวนาน คงเป็นเพราะใครๆต่างก็อยากจะรู้อนาคตของตัวเองกันทั้งนั้นแหละมั้ง? เรื่องราวแบบนี้ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเราเท่านั้นนะ เพราะที่อังกฤษก็ได้มีหมอดูหญิงคนหนึ่ง ผู้ประกาศตนออกมาว่า เธอสามารถทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ ผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘หน่อไม้ฝรั่ง’ Jemima Packington หมอดูชาวเมือง Bath จากประเทศอังกฤษ ซึ่งอันที่จริงแล้วเธอมีความสนใจในด้านโหราศาสตร์มาตั้งแต่วัยเด็ก เธอเริ่มฝึกฝนการดูดวงมาตลอดนับตั้งแต่อายุ 8 ขวบ โดยแรงบันดาลใจเริ่มมาจากการที่เธอเห็นคุณย่าของเธอเอง สามารถดูดวงผ่านใบชาได้ จากแรงบันดาลใจของคนในครอบครัว ทำให้เธอคิดที่อยากจะทำนายอนาคตให้ผู้อื่นด้วยสิ่งของที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นบร็อคโคลี่ หรือผักชนิดอื่นๆ แต่เธอก็ได้ค้นพบว่า ไม่มีผักชนิดไหนที่จะได้ผลดีเท่ากับหน่อไม้ฝรั่งอีกแล้ว “ฉันเป็นคนแรกที่ทำนายเอาไว้ว่า Gordon Brown อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษ จะลาออกจากตำแหน่งก่อนคนอื่นเป็นเวลา 12 เดือน และปีที่แล้วคำทำนายของฉันมันก็เป็นจริงถึง 99%” หมอดูวัย 61 ปี ให้สัมภาษณ์ อีกหนึ่งตัวอย่างที่เธอเคยทำนายไว้เมื่อปี 2014 มีอยู่ว่า การเมืองทางตะวันออกกลางจะประสบปัญหารุนแรง และสร้างความหวั่นใจไปทั่วโลก และจากเหตุการณ์ดังกล่าว จะนำมาซึ่งความวุ่นวาย และความไม่สงบแก่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวปัจจุบันมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ!! ส่วนวิธีการทำนายของเธอนั้นเรียบง่ายมาก โดยเธอมักจะทำนายเหตุการณ์รอบโลก…
-
20 การพบเจอ “ฝาแฝด” โดยบังเอิญของเหล่า “คนแปลกหน้า” ที่ไม่ได้นัดกันมาก่อน
ว่ากันว่า พวกเราทุกคนล้วนมี “ฝาแฝด” หรือ “ด็อบเปลเกงเกอร์” ที่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดใช้ชีวิตอยู่ไม่มุมใดก็มุมหนึ่งบนโลก แน่นอนด้วยระยะทางที่ห่างไกลกัน ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้เจอกัน แต่หลายๆ ครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกด้วยการนำพา “ฝาแฝด” ที่อยู่กันคนละมุมโลกมาพบเจอกัน จนเกิดเป็นเหตุการณ์อันน่ามหัศจรรย์เหล่านี้ เจอฝาแฝดบนเครื่องบิน แถมไปบังเอิญเจอที่โรงแรมต่ออีก พอไปกินเบียร์ ก็เจอที่ผับอีก หญิงสาวที่บังเอิญเจอกัน อะไรจะเหมือนขนาดนี้ ไปงานแต่งงานของลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่ง เจอคนหน้าเหมือนที่เป็นญาติของสามีของลูกพี่ลูกน้องคนนั้น แน่นอนว่าไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆ ทั้งสิ้น คุณลุง Neil Richardson ย้ายบ้านเมืองเอสเซ็ก แต่พอไปถึงทุกคนเรียกเขาว่า John เพราะที่นั่นมีคนหน้าเหมือนเขาอยู่แล้ว ชายคนนี้เจอฝาแฝดขณะไปเที่ยวเมื่อคืน เจอฝาแฝดในงานปาร์ตี้ อันนี้ก็เจอในงานปาร์ตี้ เจอฝาแฝดในงานเทศกาลดนตรี ขนาดใช้แอปสลับหน้า คุณยังดูไม่ออกเลยใช่มั้ยล่ะ เจอฝาแฝดขณะไปเที่ยว จนคนในครอบครัวทักผิดหมด เหมือนจนน่ากลัวจริงๆ คุณพ่อของฉันเจอฝาแฝดในที่ทำงาน ไปโรงเรียนวันแรก เจอแต่คนเรียกว่า “ไบรอั้น” ทั้งๆ…
-
หมายอดฮีโร่ ดมกลิ่นจนไปเจอ ‘ลูกหมาสามตัว’ นอนหนาวใกล้ตายอยู่ในถังขยะ จนช่วยไว้ได้ทัน
เจ้าหมาน้อยสามตัวที่ถูกทิ้งลงในถังขยะรีไซเคิล ตอนนี้ถูกช่วยเหลือให้รอดชีวิต ถูกดูแลรักษาจนร่างกายแข็งแรงพร้อมสำหรับการไปอยู่บ้านหลังใหม่แล้ว ต้องขอขอบคุณเจ้าหมาฮีโร่ที่ได้กลิ่นพวกมันจนตามไปเจอ ขณะที่กำลังออกเดินไปเดินเล่นในตอนเช้ากับเจ้านาย เจ้าลูกหมาพันธ์ทางจำนวน 3 ตัวถูกทิ้งไว้ในถังขยะรีไซเคิลที่ป่า Failand Woods เมือง Bristol ประเทศอังกฤษ โชคดีที่จู่ๆ ก็มีเจ้าหมาตัวหนึ่งเดินผ่านมาและได้กลิ่นแปลกๆ จึงเดินมาหยุดอยู่ที่ถังขยะพร้อมเห่าส่งสัญญาณให้เจ้าของของมันรับรู้ว่าพบกับสิ่งแปลกปลอมเข้าแล้ว เมื่อเจ้าของเดินเข้ามาดูก็พบว่ามีลูกหมาตัวน้อยกำลังนอนขดอยู่ในถังขยะ ในตอนแรกเขาคิดว่ามันไม่น่าจะรอดจากอากาศที่เย็นจัดในตอนกลางคืน แต่พอมองดูดีๆ แล้วก็พบว่าพวกมันยังหายใจอยู่ เหล่าหมาน้อยทั้งสามตัวถูกพาตัวไปยังศูนย์อนุรักษ์สัตว์ Holly Hedge Animal Sanctuary ที่มีทั้งเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมให้การช่วยเหลือดูแลพวกมันจนรอดชีวิต “ลูกสุนัขทั้งหมดอยู่ในความดูแลของคุณหมอ และตอนนี้มันก็แข็งแรงดีแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ต้องการความอบอุ่นเป็นอย่างมาก” คุณ Sarah จาก Holly Hedge เล่า แก๊งหมาน้อยถูกตั้งชื่อว่า Tosca, Mabel, และ Carlos ขณะนี้มันถูกย้ายมาอยู่ที่บ้านอุปภัมป์เพื่อรอเจ้านายคนใหม่มารับไปเลี้ยง ก็หวังว่าจะมีเจ้านายคนใหม่ใจดีมารับมันไปเลี้ยงและพวกเขาจะไม่เอาพวกมันไปทิ้งอีก ยินดีด้วยนะเจ้าหมา ^^ ก็ต้องขอชื่นชมเจ้าหมาฮีโร่ที่ดมดลิ่นตามไปจนเจอ ทำให้เจ้าหมาน้อยทั้งสามรอดชีวิต ทุกคนกล่าวพร้อมกันสามครั้ง…
-
รถไฟเดินทางล่าช้าเพราะมี ‘หงส์’ เดินขวางอยู่ ลดความเร็วๆ ขับตามมาเรื่อยๆ กว่า 3 กิโลฯ
ในยามเช้าอากาศสดใส รถไฟให้บริการ South West Trains ต้นทางจากสถานี Teddington ไปยังปลายทางสถานี Kingston ต้องเดินทางอย่างล่าช้า เพราะถูกเจ้าหงส์ตัวหนึ่งขวางทางอยู่ทำให้รถไฟต้องชะลอความเร็วเป็นระยะทางกว่า 3.2 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Metro ของอังกฤษได้รายงานว่ามีภาพของเจ้าหงส์ตัวหนึ่งกำลังเดินทอดน่องอย่างชิวๆ บนรางรถไฟ นำหน้าขบวนรถไฟที่อยู่ห่างจากข้างหลังไม่ถึงเมตร ทำให้รถไฟต้องเดินทางด้วยความเร็วช้ามาก เพราะหากวิ่งเร็วก็เกรงว่าจะทำอันตรายให้กับมัน ทำให้ต้องค่อยๆ ขับช้าๆ ตามตูดเจ้าหงส์ต้อยๆ จนมาถึงที่สถานีด้วยความเร็วที่ต่ำแบบสุดๆ Bee Whitaker นักษึกษาวัย 20 ปีผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า “รถไฟค่อยๆ เคลื่อนเข้าสู่สถานี ด้วยความเร็วประมาณ 3.2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง” “ผู้คนที่ต้องอาศัยรถไฟไปทำงานต่างก็รู้สึกผิดหวังที่ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว บางคนถึงกับแสดงท่าทีหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด และพยายามที่จะปรี่เข้าไปกระทำการรุนแรงกับเจ้าหงส์” แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอีกหลายคนที่พอได้เห็นสาเหตุที่ทำให้รถไฟล่าช้าก็หัวเราะออกมา พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพความน่ารักที่เกิดขึ้น ทางด้านบริษัท South West Trains ก็ได้ทำการโพสต์รูปภาพของเจ้าหงส์ตัวดังกล่าวขณะที่มันถูกนำไปปล่อยในแหล่งน้ำ พร้อมกับแคปชั้นแบบฮาๆ ว่า “หงส์ที่อยู่ในเมือง Kingston ถูกปล่อยไปแล้วอย่างมีความสุข และปลอดภัยดี แถมมันยังฝากขอโทษมาด้วยที่ทำให้เกิดปัญหาความล่าช้า” ทางด้านโฆษกของการรถไฟก็ได้ออกมาประกาศว่าตอนนี้เหตุการณ์ได้กลับมาสู่ปกติแล้ว “มีหงส์ตัวหนึ่งอยู่บนทางรถไฟใกล้ๆ…
-
หนุ่มถูกตั้งข้อหา “เหยียด” หลังส่งข้อความให้พ่อบุญธรรมที่นับถืออิสลามว่า ‘ไปกินเบคอนซะ!!’
เรื่องศาสนาและการเมืองนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะทั้งสองนั้นมีพื้นฐานมากจาก ‘ความเชื่อถือ’ ล้วนๆ เลยก็ว่าได้ และกรณีนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ให้เราทุกๆ คนได้ระวังเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน… เหตุการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศสกอตแลนด์เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา หลังจากชายหนุ่มคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาเหยียดชาติพันธุ์และศาสนา เพราะเขาบอกให้พ่อบุญธรรมที่พึ่งเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามใหม่ๆ ของเขา ‘ไปกินเบคอนซะ!!’ Dean McAndrew วัย 28 ปีเข้ารับการพิพากษาที่ศาลใน Forfar Sheriff หลังจากส่งข้อความขำๆ ไปให้กับพ่อบุญธรรมของเขา Christopher McAndrew ชายผิวสีที่กำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม และกำลังจะทำการเปลี่ยนชื่อของเขาให้เป็นชื่อของชาวมุสลิมเพื่อเข้าศาสนา “ไปกินเบคอนซะ!!” สำหรับการเปลี่ยนศาสนาของ Christopher McAndrew นั้นกำลังจะเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์ โดยเหลือแค่กระบวนการทางเอกสารเท่านั้น ซึ่งคาดว่าเรื่องดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับ Dean ลูกบุญธรรมของเขาอย่างมาก ขั้นต้นนั้นทางลูกบุญธรรมก็ได้ออกมายอมรับข้อหาแต่โดยดี แต่ทาง Christopher พ่อบุญธรรมของเขานั้นก็ไม่ได้มีความต้องการที่จะดำเนินคดีกับลูกชายของเขา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบสวนหลักฐานเพิ่มเติม และเปลี่ยนสำนวนเพื่อไม่ให้เขาต้องรับโทษในคดีที่มีข้อหารุนแรงมากนัก ศาลใน Forfar Sheriff “ผมจะทำการสืบสวนและค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมและเปลี่ยนสำนวนฟ้องใหม่ให้กับเขา และถึงแม้โทษของคดีนี้จะเบาลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นเรื่องเล่นๆ และที่สำคัญที่สุด มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ตลกเลยแม้แต่น้อย…” เจ้าหน้าที่ Murray กล่าว สำหรับตอนนี้ทาง Christopher ก็ได้ทำการประกันตัวลูกชายของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้ หรือติดต่อกับพ่อบุญธรรมของเขาเด็ดขาด โดยจะมีกำหนดการฟังคำตัดสินในวันที่…
-
ครอบครัวประกาศหาพี่เลี้ยงเด็ก เพื่อเดินทางเที่ยวรอบโลก คนแห่สมัคร 19,000 คน!!!
M’Kenzie และ Derek Tillotson สองสามีภรรยาจากยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังจะมีการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต โดยพวกเขาจะทำการขายบ้านในยูทาห์ แล้วนำเงินที่ได้มานั้น พาลูกๆ ทั้งสามออกเดินทางรอบโลก แต่แน่นอนว่าการเดินทางรอบโลกอาจทำให้พวกเขาไม่สามารถดูแลลูกๆ ได้อย่างเต็มที่ พวกเขาจึงประกาศรับสมัครพี่เลี้ยงเด็กเพื่อเดินทางรอบโลกไปกับพวกเขา ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตทั่วโลกอย่างล้นหลามเลยล่ะ!! พวกเขาจะเริ่มเดินทางจากยูทาห์ไปนิวยอร์ค จากนั้นก็จะเดินทางไปยุโรป ฮาวาย นิวซีแลนด์ และเอเชียตามลำดับ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณสองปี ซึ่งเขาได้อัพโหลดวีดีโอเชิญชวนผู้สมัครบนเฟสบุ๊กส่วนตัวของเขา ใจความว่า “พวกเรากำลังมองหาคนที่จะรักลูกๆ ของเราเหมือนที่เรารัก คุณจะเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของเรา และเราจะปฏิบัติต่อคุณด้วยความเคารพและคุณมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ งานหลักๆ ของคุณคือการดูแลการเรียนของลูกชายทั้งสองของพวกเรา รวมทั้งดูลูกสาวคนเล็ก และการทำความสะอาดและทำอาหารอีกเล็กน้อย” “เราเองก็บอกไม่ได้ว่าคุณต้องทำงานวันละกี่ชั่วโมง เพราะคุณต้องอยู่กับเราทั้งวัน แต่เราจะมีวันหยุดสองวันต่อสัปดาห์ให้คุณ ซึ่งช่วงนั้นคุณจะได้ท่องเที่ยวตามใจของคุณเอง ส่วนเงินเดือนก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,200 เหรียญ (42,000 บาท) ถึง 1,500 เหรียญ (52,000 บาท) รวมค่าเดินทางและค่าครองชีพ” M’Kenzie กล่าวผ่านวีดีโอ เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้สนใจส่งอีเมลล์เข้ามาสมัครกว่า 19,000 รายเลยทีเดียว จนทำให้พวกเขาต้องปิดรับสมัครเร็วกว่าเดิมจากวันที่ 17 มกราคม…
-
คุณพ่อป่วยหนัก ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต หาครอบครัวใหม่ให้ลูกชาย ก่อนตัวเขาจากไป…
คุณพ่อที่กำลังป่วยหนักชาวอังกฤษใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิต ตามหาครอบครัวใหม่ให้กับลูกชาย ก่อนที่เขาจะสิ้นลมไปอย่างสงบ เรื่องราวสุดสะเทือนใจดังกล่าวเป็นของ นิค โรส คุณพ่อวัย 40 ปี เขาเพิ่งเสียชีวิตไปช่วงสัปดาห์ก่อน หลังจากต่อสู่กับโรคมะเร็งมากว่า 9 เดือน แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะต้องเข้ารับการรักษาโดยตลอด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โลแกน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา ซึ่งจะต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเมื่อเขาจากไป และถ้าไม่มีคนดูแลเขาจะอยู่อย่างไร!? เป็นคนจรจัด!? เป็นเด็กมีปัญหางั้นหรือ!? เขาคงจะทนแบบนั้นไม่ได้ จึงพยายามหาบ้านใหม่ให้ลูกโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับพ่อที่จะตัดสินใจให้ลูกตัวเองไปอยู่กับคนอื่น แต่สำหรับเขาแล้ว ความสุขของลูกมันสำคัญที่สุด คุณภาพชีวิตของลูกคือสิ่งที่เขาต้องนึกถึง และช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเขานั้น เขาต้องใช้มันอย่างคุ้มค่าเท่าที่จะทำได้ แอรอน วัย 24 ปี เพื่อนสนิทของนิคเล่าว่า “สำหรับนิคแล้ว ไม่มีอะไรสำคัญกว่าโลแกน แม้ว่าเขาจะต้องทุกข์ทรมาณกับโรคร้ายขนาดไหนก็ตาม” เอมี่ น้องสาวของแอรอนเล่าว่า “เขาพยายามจะเข็มแข็งที่สุดเท่าที่ทำได้ และเขาได้จัดหาบ้านหลังใหม่ให้กับโลแกนในวันที่เขาไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว” ในช่วงเดือนสุดท้ายของชีวิต นิคได้พยายามตามหาครอบครัวใหม่ที่ดีที่สุดให้กับลูกชายของเขา เพื่อเขาจะได้แน่ใจว่า หลังจากที่เขาจากโลกนี้ไป โลแกนจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และสุดท้ายเขาก็สามารถพบกับครอบครัวหนึ่งในมณฑลเดวอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเต็มใจจะรับลูกชายของนิคไปดูแล พวกเขามองว่าเด็กคนนี้ควรจะได้บ้านที่ดี และพวกเขานั่นแหละจะทำให้นิคหายห่วงได้อย่างแน่นอน …
-
ศิลปินเปลี่ยน “พาเลทไม้เก่าๆ” ใส่ไอเดียให้เป็นของแต่งบ้านสุดชิค ที่ดูสวยขึ้นมาเยอะ
ใครที่กำลังมองหาไอเดียของตกแต่งบ้านเจ๋งๆ วันนี้สำนักข่าวแมวเหมียวของเรามีไอเดียดีๆ กับการเปลี่ยนพาเลทไม้ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นของตกแต่งบ้านสุดเก๋ได้ ผลงานการออกแบบชิ้นนี้เป็นของศิลปินท่านหนึ่งที่มีชื่อว่า Kone Mei เธอได้เปลี่ยนพาเลทไม้ธรรมดาๆ ให้กลายเป็นของแต่งบ้านสุดเจ๋ง อย่างเช่นอันนี้เธอนำเครื่องเล่นเกม NES แผ่นเกม, Super Mario 3, และเครื่อง Game Boy มาจัดเรียงและตกแต่งในธีม Mario สุดเก๋ นอกจากพาเลทมาริโอ้แล้ว เธอยังทำบาร์ขนาดจิ๋วสำหรับปาร์ตี้ขึ้นมาอีกด้วย มีการติดตั้งนาฬิกา USB สวยๆ รวมทั้งที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย หรือจะเปลี่ยนพาเลทเก่าๆ ให้กลายเป็นลำโพงบลูทูธเก๋ๆ ก็ทำได้ โดยเธอได้ซื้อวิทยุเก่าๆ มาแล้วเปลี่ยนเอาลำโพงบลูทูธเข้าไปใส่ข้างในแทน จากนั้นก็ตกแต่งด้วยหลอดไฟสีส้ม เรียกว่าสวยเก๋ไม่เหมือนใคร นี่คือผลงานของเธอทั้งหมด สวยๆ ทั้งนั้นเลยใช่มั้ยล่ะ ใครสนใจลองเข้าไปดูที่เพจของเธอได้ที่ Kone Mei เผื่อจะได้ไอเดียดีๆ ไปตกแต่งบ้านนะฮะ ที่มา boredpanda
-
สาวพาแฟนแหกคุก ให้เข้าไปนอนในกระเป๋าเดินทาง แต่ถูกจับพิรุธได้ แผนแตกดังโป๊ะ!!
โลกของเรามีเรื่องราวชวนให้ประหลาดใจอยู่ไม่เว้นแต่ละวันจริงๆ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Antonieta Robles Souda หญิงชาวเวเนซุเอลาวัย 25 ปี ถูกจับได้ หลังจากที่พยายามพาแฟนหนุ่มซึ่งเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งหนึ่งของเมืองบาร์เซโล หลบหนี ซึ่งสาวรายนี้ ได้ทำการวางแผนเป็นอย่างดีเพื่อพาแฟนของตัวเองแหกคุก โดยการนำตัวของเขายัดใส่ลงไปในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ แต่ทว่าดันทำตัวน่าสงสัยจึงถูกเจ้าหน้าที่ในเรือนจำจับได้ซะก่อน เลยทำให้ทั่งคู่ไม่สามารถหนีรอดไปได้ ด้านเว็บไซต์ต่างประเทศได้เปิดเผยว่า Antonieta Robles Souda ได้พาลูกสาววัย 6 ขวบ เข้ามาเยี่ยม José Antonio Anzoátegui แฟนหนุ่มที่ต้องโทษจำคุก 9 ปี 8 เดือน ในข้อหาโจรกรรม ซึ่งเธอได้นำกระเป๋าเดินทางสีชมพูขนาดใหญ่มาด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับเรือนจำในประเทศแถบอเมริกาใต้ ที่สมาชิกในครอบครัวของนักโทษจะสามารถเข้ามาพักค้างคืนในเรือนจำได้ แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่าทั้งคู่จะวางแผนออกจากคุกด้วยกันในวันถัดไป แผนการของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับสังเกตได้หลังจากที่ Antonieta พยายามนำกระเป๋าออกจากห้องขัง และดูเหมือนว่าขณะที่เธอกำลังลากกระเป๋ามันดูค่อนข้างลำบากเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่สงสัย และทำให้พวกเขาได้เดินเข้าขอตรวจค้น งานนี้เลยทำให้ Antonieta…
-
ยลโฉม “Jia Jia” หุ่นยนต์สาวจากจีน งดงามเหมือนคนจริง จนได้ฉายา “เทพธิดาหุ่นยนต์” !!
จีน ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นแท่นมหาอำนาจในด้านการผลิตหุ่นยนต์ เพราะจากที่ผ่านๆ มาเราจะเห็นว่า มีการเปิดตัวหุ่นยนต์สุดอัจฉริยะหลายต่อหลายครั้ง แถมยังมีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในด้านหุ่นยนต์อยู่ตลอด จนทำให้ประเทศจีนได้กลายเป็นตลาดอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ประเทศอื่นๆ เลยก็ว่าได้ และล่าสุด เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เปิดเผยโฉมหน้าของ Jia Jia หุ่นยนต์สาวสวยที่ร้อนแรงที่สุดในประเทศจีน ในการจัดการประชุมทางเศรษฐกิจที่เซี่ยงไฮ้ เมื่อวันจันทร์ ที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เรียกได้ว่าการปรากฏตัวของเธอในครั้งนี้ ทำเอาผู้ชมถึงกับตะลึงไปตามๆ กัน เพราะนอกจากความงดงามแล้ว เธอยังเป็นหุ่นยนต์สาวที่เหมือนกับผู้หญิงจริงๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งก็ทำให้ผู้ชมพากันจับจ้องเธอในแบบไม่ละสายตาเลยทีเดียว สำหรับ Jia Jia เป็นหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ ที่เคยถูกเปิดตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ทำให้เธอได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะสามารถตอบโต้ และทักทายผู้คนได้เหมือนมนุษย์แล้ว ยังเป็นหุ่นยนต์สาวที่มีทั้งรูปร่างหน้าตาที่สมจริงมาก จนได้รับฉายาว่าเป็น “เทพธิดาหุ่นยนต์” นอกจากนี้ บรรดาหนุ่มๆ ที่ได้เข้ามาร่วมการประชมยังเข้ามาพูดคุย และทักทายกับเธอ ซึ่งทาง Jia Jia…
-
มหาวิทยาลัยจีนติดตั้ง “โถปัสสาวะ” สำหรับ “ผู้หญิง” หวังช่วยประหยัดน้ำยิ่งกว่าเดิม
ช่วงนี้หลายคนอาจได้ยินข่าวว่า ประเทศจีนกำลังประสบปัญหาเรื่องการจัดการทรัพยากรน้ำ จนทำให้เกิดปัญหาน้ำขาดแคลนในหลายๆ พื้นที่ แต่ใครมันจะไปนึกว่าพวกเขาจะประสบปัญหาหนักหน่วงขนาดนี้ เพราะล่าสุด พวกเขาได้เปิดตัว “โถปัสสาวะ” สำหรับ “ผู้หญิง” หวังช่วยประหยัดน้ำ โดยโถปัสสาวะดังกล่าวถูกติดตั้งในมหาวิทยาลัยซีอาน ในมณฑลซานซี ประเทศจีน โดยลักษณะเหมือนกับโถฉี่ที่เราพบเห็นได้ในห้องน้ำชายนั่น ส่วนวิธีการใช้งานก็ขอให้เพื่อนๆ จินตนาการเอาเอง (ฮา) ทางมหาลัยเคลมว่า โถ่ปัสสาวะดังกล่าวจะช่วยประหยัดน้ำได้วันละ 160 ตันเลยทีเดียว หลายคนอาจสงสัยว่า วิธีการปัสสาวะของผู้หญิงนั้นแตกต่างจากผู้ชาย แล้วมันจะปัสสาวะลงโถได้ยังไง แน่นอนว่าวิศวกรผู้ออกแบบก็คำนึกถึงปัญหานี้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงประดิษฐ์อุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นมา นั่นก็คือ “กระดาษลำเลียงปัสสาวะ!!!” ผ่าง… แน่นอนว่าผลตอบรับของทั้งชาวเน็ตจีนและชาวเน็ตต่างชาติก็ต่างกันออกไป เช่น “มันประหยัดน้ำได้จริงนะ แต่มันจะเปลืองกระดาษรึเปล่า!?” แล้วเพื่อนๆ ล่ะ คิดเห็นอย่างไรกับข่าวนี้บ้าง ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะ ที่มา shanghaiist
-
หนูน้อยวัย 5 ขวบเป็นโรคผมร่วง ถูกครูบังคับให้ถอดวิกผมออก เพราะผิดกฎโรงเรียน
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยเรื่องราวของ Apryl Corbett หนูน้อยวัย 5 ขวบ ที่เป็นโรค อาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ (Areata alopcia) ถูกคุณครูที่โรงเรียน Broad Oak Community Primary ในเซนต์เฮเลนส์ ประเทศอังกฤษ บังคับให้ถอดวิกผม ด้วยสาเหตุที่ว่าเป็นการละเมิดกฎระเบียบของโรงเรียน และอาจจะเป็นอันตรายต่อเพื่อร่วมชั้นได้ ทางด้าน Lianne Corbett ผู้เป็นแม่ เมื่อได้ทราบเรื่องราวของลูกสาว เธอก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่ได้ซื้อวิกผมให้กับลูกสาว หนูน้อย Apryl ก็เริ่มถูกเยาะเย้ย และถูกรังแก เพราะว่าเธอหัวล้าน “ฉันรู้สึกโกรธในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก พวกเขากำลังพยายามจะบอกว่า Apryl น่าจะมีความสุขมากกว่าถ้าหากถอดวิกออก แต่เมื่อมาถึงบ้านเธอกลับเศร้า เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นผมของเธอ และเธอก็ชอบที่จะใส่วิกผมมากกว่า” ผู้เป็นแม่กล่าว สำหรับ Areata alopcia เป็นโรคอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ซึ่งจะมีลักษณะการร่วงเป็นวงกลมเดียว หรือหลายวงกลม จะเกิดได้จากความเครียด…
-
เมื่อเด็กหญิงพิเศษได้รับความรัก จากเจ้าเหมียวที่ไม่มีใครต้องการ ทำให้เธอมีรอยยิ้มมาทันที
แมวเหมียว มักจะถูกกล่าวหาว่าชอบทำตัวป่วนประสาทให้มนุษย์ได้กุมขมับอยู่ตลอด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เจ้าเหมียวทั้งหลายก็มีด้านดีเหมือนกัน ไม่เชื่อก็ลองเปิดใจ และทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นสิ รับรองว่ามันจะทำให้คุณมีความสุขขึ้นอย่างแน่นอน เหมือนกับเรื่องราวของสาวน้อย กับแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะทั้งคู่เป็นตัวแทนของความรัก และความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ เมื่อคุณได้อ่านเรื่องราวของพวกเขา คุณจะต้องยิ้มไม่หุบเลยละ นี่คือ Laura สาวน้อยวัย 14 จากประเทศสเปน ที่มีความน่ารักเหมือนเด็กสาววัยรุ่นทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้เธอดูแตกต่างก็คือ เธอมีความผิดปกติทางพันธุกรรมที่หายาก ส่งผลต่อการพัฒนาระบบประสาทและร่างกายของเธอนั่นเอง ทางด้าน Isa Gonzalez Asensio ผู้เป็นแม่ของ Laura ได้ตัดสินใจที่จะหาสัตว์เลี้ยง เพื่อมาทำหน้าที่เป็นสหายบำบัดโรคให้กับลูกสาว ซึ่งเธอได้ไปรับเจ้าเหมียวน้อยตัวจากศูนย์พักพิงสัตว์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวน่ารักๆ นั่นเอง เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Lou มันเป็นแมวจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่ไม่มีใครต้องการ และหลังจากที่แม่ของ Laura รับมันมาเลี้ยง เจ้าเหมียวก็กลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก และเป็นเพื่อนที่แสนดีให้กับเธอ ซึ่งก่อนที่จะไปรับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงสัตว์ได้เผยว่า “เจ้าเหมียวมักจะมีปัญหาในการหาบ้านตลอด เราไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่มีใครมารับไปเลี้ยงสักที และตอนนี้เราเข้าใจทุกอย่างแล้ว มันอาจจะกำลังรอคอยเด็กสาวคนนี้อยู่ก็เป็นได้” และนี่คือคลิปวีดีโอวินาทีที่ทั้งคู่ได้พบกันเป็นครั้งแรก ซึ่งเมื่อคุณได้ลองคลิกเข้าไปรับชม…
-
สถานสงเคราะห์สัตว์ Santa Fe กับอุดมการณ์ช่วยเหมียวจรจัด 442 ตัว ให้มีคุณภาพชีวิตดียิ่งขึ้น
เรื่องราวการช่วยเหลือเจ้าเหมียวจรจัดเป็นจำนวนนับพันตัว ให้มีบ้านอยู่ และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีโดยไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในโลกภายนอกอีกต่อไป ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีสีตว์จรจัดมากกว่า 7.6 ล้านตัว (กว่า 3.9 ล้านตัวเป็นหมา และอีก 3.7 ล้านตัวเป็นแมว) พวกมันต้องอาศัยอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ไม่มีอาหารครบทุกมื้อ และสถานที่อยู่อาศัย สถานสงเคราะห์สัตว์ Santa Fe ได้ตัดสินใจที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ อยากจะช่วยลดจำนวนประชากรเหล่าเหมียวจรจัดให้ลดน้อยลงแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา สถานสงเคราะห์สัตว์แห่งนี้ได้รับเจ้าเหมียวที่ต้องการความช่วยเหลือมาดูแลมากกว่า 4,790 ตัว 2,851 ตัวได้รับบ้านใหม่ อีก 1,149 ตัว ถูกส่งกลับไปยังบ้านเก่าของพวกมัน 476 ตัวไถูกรับไปเลี้ยงที่สถานสงเคราะห์อื่น และอีก 422 ตัวถูกรักษาให้หายจากการเป็นอัมพาต เมื่อช่วงเดือนเมษายนในปี 2016 ที่ผ่านมาพวกเขาได้ทำการช่วยเหลือเหล่ามิ้วน้อยกำพร้าแม่เพิ่มมาดอีก และแน่นอนว่าพวกมันได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ไม่ว่าจะเป็นการป้อนอาหารเหลวตลอดเวลา และการให้ความอบอุ่น คุณ Peter หนึ่งในเจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์ก็เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการให้การช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียวจรจัดทั้งหลาย พร้อมกับเสนอรับเหล่ามิ้วน้อยที่มีอายุเพียง 2…
-
สถาปนิกอาจโดนแย่งงาน!? ต่างชาติเผยงาน ‘ฮอลคอนเสิร์ต’ ที่ระบบ AI คิดสร้างขึ้นมาเอง!!
งานด้าน ‘สถาปนิก’ จัดว่าเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งความสามารถด้านการคิดคำนวณ และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ผลงานออกมามีรูปแบบที่สวยงาม ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า แต่ทว่าข่าวจากเว็บไซต์ Wired อาจจะทำให้วงการสถาปนิกถึงกับสั่นคลอนได้เลยทีเดียว เพราะล่าสุดที่เมืองฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี ได้มีการเปิดตัวฮอลคอนเสิร์ต ‘Elbphilharmonie’ ที่ทั้งหมดถูกออกแบบโดยระบบอัลกอริทึ่มที่สร้างขึ้นมา!! ฮอลคอนเสิร์ตมูลค่า 2,900 ล้าน สถานที่แห่งนี้มีห้องที่ใช้จัดแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ถึง 3 ห้องด้วยกัน ซึ่งเป็นผลงานของบริษัทสถาปนิกชื่อดัง ‘Herzog and De Meuron’ แต่ทว่างานนี้เขาไม่ได้ทำการออกแบบด้วยตัวเอง แต่เลือกที่จะใช้ระบบอัลกอริทึ่มจากคอมพิวเตอร์ ให้มันออกแบบสถานที่นี้ขึ้นม ฮอลคอนเสิร์ตแห่งนี้ยังประกอบไปด้วยแผ่นอคูสติกบอร์ดที่ทำมาจากยิปซั่มไฟเบอร์ เพื่อรองรับการทำงานของคลื่นเสียง มากกว่า 10,000 แผ่น ซึ่งทีมงานต้นสังกัดก็ได้กล่าวไว้ว่า ระบบคำนวณมาแล้วว่าทุกยิปซั่มไฟเบอร์ทุกแผ่นที่ติดไปนั้น มีความหมายต่อการชมคอนเสิร์ต ไม่ได้ติดเอามั่วๆแต่อย่างใด รูปแบบภายนอกอาคาร Koren หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างง่ายดาย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งผมเป็นคนออกแบบ และควบคุมระบบอัลกอริทึ่มนี้เองทั้งหมด และพอได้เห็นผลของมันแล้ว เรียกได้ว่าผมแทบจะไม่ต้องเข้าไปยุ่งอะไรเลย” จากกรณีดังกล่าวยิ่งทำให้เราเห็นว่า ในอนาคตงานหลายๆด้าน อาจจะถูกแทนที่ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมกลไกการทำงานอยู่ ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าการเข้ามามีบทบาทของคอมพิวเตอร์…
-
ตำรวจรุดเข้าช่วยชีวิต คุณยายวัย 92 ถูกลูกขังไว้ใน “กรง” นานหลายปี จนร่างกายซูบผอม
ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าประชากรของประเทศจีนนั้นมักจะมีพฤติกรรมแปลกๆ จนทำให้เกิดเรื่องราวที่ไม่คาดฝันได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้… รูปภาพน่าสลดใจของคุณยายวัย 92 ปี ที่ถูกขังให้ใช้ชีวิตอยู่ในห้องกรงนานหลายปีโดยลูกชายกับลูกสะใภ้ เมื่อวันที่ 11 เดือนมกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าว People’s Daily Online รายงานว่า เธอถูกขังไว้ในห้องขังเป็นเวลาหลายปีโดยที่ไม่ได้รับน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ และสภาพของห้องขังที่คุณยายอาศัยอยู่นั้นต้องขอบอกเลยว่าแย่มาก ไม่มีข้าวของเครื่องใช้อำนวยความสะดวกสบาย ไม่มีแม้แต่เตียง และห้องส้วม เธอถูกบังคับให้นอนบนขอนไม้เล็กๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นแทนผ้าห่ม ส่วนประตูกรงเหล็กก็ใส่กุญแจล็อคไว้ไม่ให้ออกไปไหน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตการบริหาร Fengshan ได้ทำการลงพื้นที่ไปสอบถามลูกชายและลูกสะใภ้ และก็พบว่าพวกเขานั้นมีทัศนคติที่ไม่ดี และไม่ยอมฟังอะไรเลย พอเจ้าหน้าที่รับเรื่องแล้วก็รีบรายงานไปยังหน่วยงานของรัฐโดยเร็วไว เพื่อทำเรื่องลงไปตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของคุณยายและให้การช่วยเหลือ พอไปถึงก็พบว่าคุณยายอาศัยอยู่ในห้องที่มีขนาดประมาณ 10 ตารางฟุตบอล คู่แต่งงานดังกล่าวจึงถูกตำรวจสั่งให้ปล่อยคุณยายในทันที หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ได้พาคุณยายไปอาบน้ำและทำความสะอาดร่างกาย พร้อมกับหาเสื้อผ้าใหม่มาให้สวม พร้อมกับส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด และทำการเยียวยารักษาสภาพร่างกาย หลังจากที่สภาพร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนเป็นปกติแล้วก็จะเข้าสู่กรรมวิธีทางกฎหมายต่อไป แน่นอนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ มีชาวเน็ตในเว็บไซต์ Weibo พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งหลายๆ คนก็ประณามการกระทำอันแสนโหดร้ายของคู่รักคู่นี้ บ้างก็สงสัยถึงสาเหตุที่ทำแบบนี้ ทำไปเพื่ออะไร ทำไปแล้วได้อะไรกัน?? เป็นเรื่องราวที่อ่านแล้วก็รู้สึกหดหู่…
-
พ่อแม่ถ่ายภาพ “ลูกคู่แฝด” เก็บเป็นความทรงจำสุดท้าย ก่อนที่หนึ่งคนต้องจากไปตลอดกาล
บางครั้งความสุขก็เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แล้วก็หายไป แต่อย่างน้อยมันจะยังคงอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป… คุณ Lyndsay และคุณ Matthew Brentlinger คู่รักจากเมือง Toledo รัฐ Ohio ทั้งคู่พยายามกันอย่างหนักเพื่อที่จะมีลูกมาหลายปีแล้ว และในที่สุดความหวังของพวกเขาก็กลายเป็นความจริง เมื่อวันที่ 17 เดือนธันวาคมปี 2016 ที่ผ่านมาคุณ Lyndsay ได้ให้กำเนิดทารกน้อยแฝดสองชื่อว่าหนูน้อย William และหนูน้อย Reagan แต่เรื่องราวไม่ได้สวยงามแบบที่วาดฝันไว้เพราะหนึ่งในนั้นจะมีชีวิตรอดอยู่ได้เพียงอีกไม่กี่วันเท่านั้น… เจ้าหนู William นั้นเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติในร่างกายที่แปลกประหลาด หัวใจซีกขวาทำงานแค่ซีกเดียว คู่สามีภรรยาเล่าว่า เมื่ออายุครรภ์ได้ 5 เดือนพวกเขาก็รู้แล้วว่าลูกชายของเขาก็จะเกิดมาลืมตาดูโลกได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่เขาจะมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพียง 11 วันเท่านั้นก่อนที่จะหมดลมหายใจลงอย่างน่าเศร้า “และมันจะเป็น 11 วันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของผม” คุณ Matthew ผู้เป็นสามีกล่าว ทั้งคู่ก็เลยอยากถ่ายรูปหนูน้อย William และคู่แฝดของเขาเอาไว้…
-
สาวต้องตัดขาเพราะมะเร็ง แต่ก็ไม่ลืมพาขาข้างนั้นไปเที่ยวด้วย พร้อมอินสตาแกรมส่วนตัว!!
จะว่าไปแล้ว ‘มะเร็ง’ คงเปรียบเสมือนกับฝันร้ายของมนุษย์เรา เพราะทันทีที่เรารู้ตัวว่าป่วยเป็นมะเร็ง เราอาจจะต้องทุ่มทั้งเงิน และเวลา ไปกับการรักษา อีกทั้งยังต้องการกำลังใจจากคนรอบข้างอีกด้วย เช่นเดียวกับสาวสวยวัย 25 ปี จากรัฐโอคลาโฮมา ‘Kristi Loyall’ เธอพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งหายากชนิดหนึ่ง และทางเดียวที่จะสามารถรักษาได้ คือการที่เธอต้องยอมเสียสละผ่าตัดขาหนึ่งข้างออก Kristi Loyall และขาคู่ใจของเธอ ที่เคยพาเธอไปไหนมาไหนด้วยตลอด และด้วยความที่เธอต้องเฝ้าดูอาการจากคุณหมออย่างใกล้ชิด ทำให้เธอไม่สามารถกลับไปทำงานตามปกติได้ เธอจึงปิ๊งไอเดียสร้างแอคเคาท์อินสตาแกรมที่ชื่อว่า ‘@onefootwander‘ เพื่อบันทึกเรื่องราวการเดินทางของเธอ และขาคู่ใจที่วันนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว หลังจากที่เธอผ่าตัดขาคู่ใจออกมาแล้ว เธอทำการส่งกระดูกขาของเธอไปที่บริษัท ‘Skulls Unlimited’ เพื่อทำการฟอกขาว และเอากระดูกมาต่อกันให้สมบูรณ์ดังเดิม นอกจากต้องการที่จะนำเสนอเรื่องราวการเดินทางของขาคู่ใจแล้ว เธอยังต้องการที่จะระดมทุนเพื่อใช้สำหรับค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิตของเธอ ในระหว่างที่เธอไม่ได้ทำงาน ตอนนี้เธอก็สามารถระดมได้ทั้งหมด $1,000 จากเป้าหมายของเธอ $10,000 แล้วล่ะ ไม่ว่าจะไปไหน ขาคู่นี้ก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเธอไปด้วยกันเสมอ อาการป่วยของเธอ กินระยะเวลามาอย่างยาวนานถึง 4 ปี เธอไปหาหมอมาแล้วหลายต่อหลายคน …
-
เด็กนับร้อยยืนเรียงแถว อำลาคุณครูผู้เกษียณ ไม่ต้องจัดพิธีใหญ่โต และไม่มีใครบังคับ!!
ตลอดช่วงชีวิตของการเป็นนักเรียนของทุกคน เราจะได้พบเจอกับคุณครูใจร้าย ที่มักจะคอยลงโทษเราเมื่อทำผิดระเบียบ และคุณครูใจดี ที่ให้ความรู้สึกเหมือน พ่อ-แม่ อีกหนึ่งคนที่เราสามารถปรึกษาได้อย่างเปิดอก ซึ่งทั้งสองต่างก็เป็นบุคคลที่น่าจดจำไปตลอดชีวิตของเรานั่นแหละ แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยม Paul Fort ประเทศฝรั่งเศส เมื่อคุณครูสอนวิชาพละ Alain Donnat วัย 63 ปี ผู้ทุ่มเทไปกับการสอนมาตลอด 38 ปี วันนี้ก็ได้ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องเกษียณอายุตนเอง และออกไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข Alain Donnat ครูพละใจดี ผู้เป็นขวัญใจของเด็กนักเรียนมาหลายรุ่น และเราเชื่อว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้จะเป็นที่ติดตราตรึงใจคุณครูคนนี้ตลอดไป โดยวันศุกร์สุดท้ายของการสอน นักเรียนทุกคนในโรงเรียนต่างร่วมใจกันทำเซอไพรส์เล็กๆ บางอย่างให้คุณครูคนนี้… นับตั้งแต่ที่เขาเดินออกมาจากห้องพักครู ก็พบว่ามีเด็กนักเรียนจำนวนมาก ยืนต่อแถวเป็นทางเดินให้เขาอยู่ ทุกคนพร้อมใจกันปรบมือเพื่อเป็นเกียรติแก่การทำงานตลอดเวลา 38 ปีให้กับเขา แม้แต่เพื่อนร่วมงานด้วยกัน ต่างก็มาร่วมกันอำลา มีนักเรียนมากกว่า 700 ชีวิต ที่ช่วยกันเติมเต็มทางเดินของเขา จากห้องพักครู สู่ประตูโรงเรียน ให้เขาได้เดินออกไปอย่างสมเกียรติจากการทำงานที่ผ่านมา นักเรียนทุกคนตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า Donnat! Donnat! Donnat! …
-
เพราะอากาศอันหนาวเหน็บ ชาวอิสตันบูล ช่วยมอบความอบอุ่น ให้หมาจรจัดยามค่ำคืน
ในตลอดเวลาหนึ่งวัน เราทุกคนต่างล้วนต้องเจอทั้งเรื่องดี และเรื่องแย่ๆ ที่ชวนทำให้เสียสุขภาพจิตไปทั้งวัน แต่อะไรที่แย่ๆ เราสามารถรักษามันได้ด้วยเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์โลกของเรา ล่าสุดเว็บไซต์ TheDodo ได้รายงานเหตุการณ์น่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้ ชาวเมืองอิสตันบูลต่างเผชิญกับปัญหาหิมะตก แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือความหนาวสุดขั้วหัวใจในยามค่ำคืน ช่างเป็นอะไรที่ทรมาณสำหรับคนที่ไม่มีที่พักอาศัย เพื่อมอบความอบอุ่นให้กับตัวเอง แต่ทว่าในความหนาวเย็น ที่มาพร้อมกับความเหงา ยังมีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้น เมื่อชาวเมืองหลายคน ต่างให้ความสนใจช่วยเหลือเหล่าสุนัขจรจัด ที่ต้องต่อสู้กับความหนาวเหน็บยามค่ำคืน หลายๆคนได้ช่วยบริจาคผ้าห่ม เพื่อให้พวกมันได้สัมผัสกับความอบอุ่น Ali Celik ชายผู้ทำงานในบริเวณนั้นเป็นประจำ ได้เล่ากับ The Dodo ว่า “หน้าที่ของผมคือต้องจัดการกับกองหิมะที่กองอยู่เต็มตามถนน และคืนวันหนึ่งผมได้ไปเห็นคนแปลกหน้า 3-4 คน พยายามช่วยกันเอากล่องเปล่ามาทำเป็นที่นอน และเอาผ้าห่มมาปกคลุมร่างกาย ให้พวกมันได้นอนหลับอย่างอบอุ่น มันเป็นภาพที่ประทับใจมากครับ” บางคนก็เอากล่องมาทำเป็นที่หลบความหนาวชั่วคราวให้พวกมัน นอกจากนั้นแล้วห้างสรรพสินค้าบางแห่งในเมืองอิสตันบูล ก็ได้ใจดีสุดๆ อย่างเช่นที่ห้างขายเสื้อผ้า ‘Penti’ ได้เปิดประตูให้เหล่าสุนัขจรจัด เข้ามาพักพิงยามค่ำคืนได้ พวกมันจะได้ไม่ต้องทนกับความหนาวอีกต่อไป เห็นไหมว่าพวกมันหลับสบายกันขนาดไหน ไม่ต้องกลัวว่าจะหนาวจนตัวสั่น …
-
หนุ่มรีบเอารองเท้าบู๊ทไปคืน หลังพบ สัญลักษณ์ ‘สวัสดิกะ’ ติดรอยเท้าเขาไปในทุกที่!!
สิ่งหนึ่งที่ทั่วโลกพยายามที่จะบอยคอต และไม่ให้ความสำคัญกับมัน ก็คือ ‘ลัทธินาซี’ ซึ่งผลพวงก็มาจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในยุคสมัยก่อนนั่นเอง เราจะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ที่ไทยเราเองก็ถูกสื่อต่างชาติเอาไปวิพากษ์วิจารณ์อยู่เหมือนกัน กับการนำเอาสัญลักษณ์ของลัทธินาซี หรือเรื่องราวของฮิตเลอร์ มาใช้ ถึงแม้ว่าจะเป็นไปในเชิงเพื่อความสนุกสนานก็ตาม และเรื่องราวนี้ก็ได้เกิดขึ้นกับชาวเน็ตจากเว็บไซต์ Reddit รายหนึ่ง ผู้ใช้ยูเซอร์เนมว่า ‘FRSHSHFCKR‘ (จะยากไปไหน?) ที่บังเอิญไปซื้อรองเท้าบู๊ทมาคู่นึงเพื่อใช้สำหรับการทำงาน และเจ้าตัวก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าตลอดระยะเวลาที่เขาเดินทางไปนั่นมานี่ รอยเท้าบนทางเดินของเขามันได้ฝากสัญลักษณ์ ‘สวัสดิกะ’ ไปด้วยแทบจะทุกที่!! รองเท้าบู๊ทเจ้าปัญหา พอเหยียบไปบนพื้นแล้ว มันเป็นสัญลักษณ์ที่ว่าจริงๆด้วย แต่ก็นับว่าโชคดีที่เจ้าตัวรู้ทันก่อนที่จะโดนชาวบ้านคนอื่นโวยวายซะก่อน ซึ่งรองเท้าดังกล่าวเป็นของยี่ห้อ ‘Polar Fox’ และเจ้าตัวก็เพิ่งมารู้ทีหลังเนี่ยแหละ ว่าจริงๆแล้วคู่นี้มันถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับทหาร (ว่าแต่จะมีทหารที่ไหนกล้าใส่ไหมเนี่ย?) ลักษณะรองเท้าคู่ดังกล่าว ถ้าไม่ติดที่พื้นเป็นสัญลักษณ์อย่างว่า มันก็เป็นรองเท้าที่สวยงามใช้ได้เลยล่ะ แน่นอนว่างานนี้ชาวเน็ตทั้งหลายไม่รอช้า ออกมาแซวกันให้เพียบ ฮ่าๆๆ “น่าจะใส่เดินขบวนไปที่โปแลนด์นะ” แหม..ถ้าใส่ไปมีหวังไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ “อย่าเผลอเอาไปใส่ในรัสเซียช่วงหน้าหนาวละกัน” “มั่นใจว่ารองเท้านี้ต้องทำออกมาให้กลุ่มลูกค้าที่ชอบใส่บู๊ททหาร และชอบตัดผมสั้นเกรียนแน่นอน” ก็นับว่าโชคดีที่เจ้าตัวรู้ทันซะก่อน ไม่อย่างนั้นมีหวังโดนชาวบ้านโวยวายใส่บ้างแหละ เกือบไปแล้วไหมล่ะ!! ที่มา: Boredpanda
-
คุณลุงเปิดร้านต้อนรับเหมียวจรจัดทุกตัว ให้เข้ามาหลบภัยหนาว พร้อมดูแลเป็นอย่างดี…
เรื่องราวการช่วยเหลือนั้นสามารถสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี ชี้ให้เราเห็นถึงความมีเมตตาและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนกับคน คนกับแมว หรือคนกับหมา เป็นต้น และเรื่องราวสุดประทับใจที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในัวนนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณลุงจากเมืองอิสตันบูลประเทศตุรกีได้เปิดร้านของตัวเองต้อนรับเหล่าเหมียวจรจัดทั้งหลาย ให้กลายเป็นแหล่งพักพิงจากภัยหนาว คุณลุง Selcuk Bayal เจ้าของร้านขายเครื่องเขียนเล็กๆ ได้ทำดูแลเหล่าแมวเหมียวจรจัด โดยได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้านมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ภายหลังอุณหภูมิลดลงจนอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายกับเหล่าแมวเหมียว เขาก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนร้านของตัวเองให้กลายเป็นสถานที่หลบภัยของเหล่าแมวเหมียวทั้งหลาย เขาให้อาหารกับพวกมัน และคอยทำความสะอาดภายในร้านอยู่เป็นประจำเพื่อสุขอนามัยที่ดี “เมื่อพวกมันหนาว ก็สามารถเข้ามาหลบภัยในนี้ได้เลย ร้านของเราเป็นสถานที่เดียวที่ทำแบบนั้น” ลุง Bayal กล่าว ชาวเมืองคนอื่นๆ ต่างก็ชื่นชมในความใจดีของเขา ที่ให้การช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตร่วมโลก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่ไม่เห็นด้วยอยู่ดีเพราะไม่อยากใช้บริการในร้านที่มีแมวอยู่ กลับกันคุณลุง Bayal ได้ทำการติดป้ายไว้ที่หน้าร้านอีกต่างหากเพื่อบอกลูกค้าว่า “หากใครที่รู้สึกไม่สบายใจที่จะอยู่ใกล้ชิดกับแมวก็ขอแนะนำให้ไปใช้บริการที่ร้านอื่น” ลุง Bayal เล่าว่าเขาไม่สามารถทนเห็นเหล่าแมวเหมียวทนอยู่อย่างลำบากในสภาพอากาศที่แสนโหดร้ายได้ และเขาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่พวกมันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและปลอดภัย “หลายๆ คนบอกว่าเหล่าแมวเหมียวทั้งหลายนั้นเป็นสัตว์ที่สามารถเอาตัวรอดได้ในอากาศหนาว ซึ่งมันไม่จริงเลย ถ้าหาน้ำดื่มไม่ได้พวกมันจะต้องตายอย่างแน่นอน” คุณลุง Bayla กล่าว ลูกค้าหลายคนสนับสนุนกับความคิดของเขา และแวะเวียนมาที่ร้านเพื่อเล่นกับเหล่าแมวเหมียว …
-
คุณแม่เคยแท้งลูกมากว่า 17 ครั้ง ได้กลายเป็นแม่ลูก 4 ในระยะเวลาเพียง 9 เดือน!!
เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2559 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยเรื่องราวของ Lytina Kaur คุณแม่สู้วัย 32 ปี จากเมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ ที่กว่าเธอจะกลายมาเป็นคุณแม่ที่มีลูกๆ ที่น่ารักทั้ง 4 คน คุณรู้หรือไม่ว่าเธอเคยแท้งมาแล้วกว่า 17 ครั้ง!! ย้อนกลับไปในตอนที่เธออายุได้เพียง 17 ปี ทางแพทย์ได้บอกว่า Lytina อาจจะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ เนื่องจากเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันนั่นเอง หนึ่งปีต่อมา อาการป่วยของ Lytina กลับกำเริบขึ้น เธอต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกจากพี่ชายของเธอ “เมื่อฉันได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถมีลูกได้ เพราะโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่เป็นอยู่ ซึ่งในตอนแรกฉันไม่ได้คิดมากอะไรเลย แต่ฉันมาเริ่มกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อตอนที่กำลังเดินข้ามสะพาน และเมื่อฉันได้แต่งงานตอนอายุ 23 มันก็ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจมากที่ไม่สามารถมีลูกได้” เธอกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Lytina ได้แต่งงานในปี 2007 เธอก็พยายามที่จะตั้งครรภ์ แต่นั่นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะตลอดระยะเวลา 5…
-
เจ้าหมาเฝ้าร้านหลับเป็นประจำ จนคนถล่มถามว่าเป็น “หมาจริง” รึเปล่า ให้ป้ายบอกแทนละกัน!!
เจ้า Chester สุนัขพันธุ์ German Spitz ที่มักจะมาทำงานกับเจ้าของของมันที่ร้านหนังสือ Drama Book Shop ที่ตั้งอยู่ในเมือง New York City ในทุกๆ วัน เป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว และทุกๆ ครั้งที่เวลามีคนเดินเข้ามาใช้บริการที่ร้านหนังสือนี้ก็มักจะเห็นมันนอนหลับอยู่ที่หน้าเค้าเตอร์ตลอดเวลาจนทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิดกันอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นตุ๊กตา คุณ Marcus Colleran เจ้าของของเจ้า Chester เล่าให้ฟังว่ามีพนักงานและลูกค้าหลายคนมากที่เอ่ยถามว่าเจ้า Chester น่ะมันเป็นหมาจริงหรือหมาปลอมกันแน่ จนในที่สุดพวกเขาก็เลยคิดไอเดียเจ๋งๆ เพื่อคลายความสงสัยให้กับทุกคน ด้วยการเขียนป้ายติดตรงบริเวณที่เจ้า Chester นอนซะเลย เนื้อหาในป้ายก็จะบอกว่า “สวัสดีมนุษย์ ตรูชื่อว่า Chester เป็นหมาสายพันธุ์ German Spitz แต่หลายๆ คนชอบคิดว่าตรูเป็นหมาปอมเปอเรเนียน และก็ชอบคิดว่าตรูเป็นหมาปลอมๆ จริงๆ แล้วตรูก็แค่ชอบนอนเฉยๆ ว้อยยย เจ้านายบอกว่าเอ็งจะมาเล่นกับตรูก็ได้นะ และตรูก็ไม่ถือด้วยเช่นกัน หรือจะถ่ายรูปเอาไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียก็ได้ไม่ว่ากัน” …
-
ตำรวจรับแจ้งเหตุ แต่ไปปฏิบัติหน้าที่ผิดบ้าน จนพบต้นคริสต์มาสสดุดีตำรวจผู้ล่วงลับ…
ช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมานั้นมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวใหญ่ต่างก็ได้กลับมาพบปะ ร่วมสังสรรค์ด้วยกันอีกครั้งหลังจากที่แยกย้ายกันออกไปใช้ชีวิตครอบครัวของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นในวันคริสต์มาสก็ยังมีเรื่องราวที่ทำให้ชาวเน็ตถึงกับน้ำตาซึมด้วยเช่นกัน เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ และพวกเขาก็รีบตรงดิ่งมายังบ้านหลังที่เกิดเหตุทันที แต่ก็พบว่าพวกเขาดันไปผิดบ้านซะงั้น!? ซึ่งพอเข้าไปในบ้านเจ้าหน้าที่ก็ต้องพบกับเรื่องราวที่ทำให้แปลกใจ เพราะมีต้นคริสต์มาสต้นหนึ่งถูกประดับประดาไปด้วยหลอดไฟสีน้ำเงิน พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วก็ต้องพบว่ามันมีตำหนังสือเขียนเอาไว้ด้วย ตัวหนังสือที่อยู่บนหลอดไฟแต่ละดวงนั้นก็คือชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสุนัขตำรวจที่เสียชีวิตในหน้าที่ ตลอดช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนได้เห็นดังนั้นแล้วก็รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ทำการถ่ายรูปแล้วเอาไปอัพลงเฟซบุ๊กพร้อมกับแคปชั่นว่า “เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมาผมและเจ้าหน้าที่คู่หูของผมได้บังเอิญไปปฏิบัติหน้าที่ที่บ้านผิดหลัง และก็ได้พบเจอกับต้นไม้แสนงดงามนี้ เจ้าของของมันใช้เวลาในการเขียนชื่อของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในช่วงปีที่ผ่านมาลงบนหลอดไฟสีน้ำเงิน และนำมันไปประดับบนต้นคริสต์มาส และเธอไม่ได้ทำกับเฉพาะแค่เจ้าหน้าที่เท่านั้น เหล่าสุนัขตำรวจเองก็ถูกเขียนชื่อติดไว้บนนั้นด้วย เธอตั้งชื่อให้กับต้นไม้นี้ว่า ‘ต้นไม้แห่งเกียรติยศ’ มันช่างเป็นอะไรที่มีความหมายกับพวกเรามาก เป็นการสรรเสริญที่งดงามจริงๆ” ทำให้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอยา่งมากเข้ามากดไลค์ 160,000 ครั้งและแชร์ไปกว่า 74,000 ครั้งเลยทีเดียว เรื่องราวแสนประทับใจที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญนี้น่าจะช่วยสร้างกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เป็นอย่างดี พวกเขาก็ต้องทำงานที่เสี่ยงอันตราย และไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องเจอกับเหตุการณ์ร้ายแรงตอนไหน เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะไม่ชอบเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่หลายๆ คนที่ทำงานอย่างสุดความสามารถ จึงทำให้ประชาชนอีกหลายคนที่ยังคงมีความเชื่อมั่น และทำอะไรบางอย่างเพื่อสดุดีต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ก็ได้ ความสูญเสียเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น และเหล่าเจ้าหน้าที่ที่เสียสละชีวิตตัวเองก็สมควรแล้วที่จะได้รับการยกย่อง ที่มา…
-
ผศ. ทำหนังสือหาย ก็เลยสั่งเล่มใหม่มา แต่ทว่าดันได้เล่มเดิมที่หายไป กลับมาซะงั้น!?
กลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้จริง แต่มันก็ดันเกิดขึ้นแล้ว กับกรณีที่ว่าของหายไปแล้ว แต่ดันได้คืนมาเป็นชิ้นเดิมที่ทำหายไป ซึ่งถ้าในกรณีปกติทั่วๆ ไปเลยก็คือ การสั่งของใหม่มาแทนอันเก่าก็มักจะเป็นของใหม่ไปเลย… อาจจะฟังดูงงๆ แต่กรณีนี้เกิดขึ้นกับ Gena Zuroski ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาขาภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมศึกษา จากมหาวิทยาลัย McMaster ที่ทำหนังสือเล่มหนึ่งของเธอหายไปจากบนชั้นในห้องทำงานของตัวเอง ในเมื่อมันหายไปแล้ว เธอก็เลยทำการสั่งหนังสือเล่มเดิมมาใหม่เพื่อมาแทนเล่มเก่า แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อหนังสือที่สั่งไปมาส่งถึงมือเธอ เพราะมันก็คือเล่มเดิมที่หายไปนั่นเอง!! Gena Zuroski กับหนังสือที่หายไป เธอให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed News ไว้ว่าเธอซื้อหนังสือเล่มนี้จากร้าน Brown Bookstore ในระหว่างที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาเอก และเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้บนชั้นหนังสือในห้องทำงานของเธอ เพื่อให้นักศึกษาได้ยืมไปอ่าน ‘หนังสือเล่มนี้เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ ฉันใช้งานมันอย่างหนักในระหว่างการทำงานวิจัยวิทยานิพนธ์ แล้วมาถึงจุดหนึ่งที่ฉันให้นักศึกษายืมไปใช้ และไม่ได้คืนกลับมาเลย ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มักจะเกิดเป็นประจำซะด้วย’ ‘มันเป็นหนังสือที่ฉันมักจะแนะนำให้นักศึกษานำไปใช้อยู่บ่อยๆ จนกลายมาเป็นต้นเหตุที่ทำให้มันหายไป และก่อนช่วงคริสต์มาส ฉันก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่แย่มาก ที่ไม่มีเล่มสำรองเก็บไว้ในห้องทำงาน ก็เลยตัดสินใจสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ผ่านเว็บไซต์อเมซอน โดยเลือกเล่มมือสองที่มีราคาถูกที่สุดมา’ จนกระทั่งหนังสือเล่มที่เธอสั่งเอาไว้ มาส่งถึงมือ… เธอรู้สึกว่าคงจะแปลกๆ ถ้าได้อ่านหนังสือที่ผ่านการไฮไลท์เนื้อหาของคนอื่นมาแล้ว …
-
ชาวจีนเนื้อเต้น สามารถผลิตหัวปากกาลูกลื่น เกรดเทียบเท่าระดับโลกได้สำเร็จ เป็นครั้งแรก!!
เครื่องเขียนที่คู่กับมนุษย์มาช้านานอย่าง ‘ปากกาลูกลื่น’ นั้น เราก็คงจะไม่คิดอะไรมากเท่าไหร่ มันก็เป็นเพียงแค่ปากกาที่ไว้ใช้ขีดเขียน จดบันทึกต่างๆ แต่ทว่าถ้าหากคนที่ต้องใช้ปากกาเป็นประจำ จะรู้ดีว่าการเขียนที่ไม่ตะกุกตะกักลื่นปรื้ดนั้นมันดีแค่ไหน หัวปากกาลูกลื่นที่ผลิตในประเทศจีน สืบเนื่องมาจากปากกาลูกลื่นที่ดี จะทำให้การเขียนคล่องแคล่ว แต่ด้วยราคาต่อแท่งที่สูงมากๆ ก็ไม่อาจทำให้ซื้อมาใช้งานบ่อยๆ ได้ ทางเลือกที่เหลือก็คือการซื้อปากกาลูกลื่นเกรดธรรมดาทั่วไปแทน จนสุดท้ายก็มาหงุดหงิดกับการเขียนที่ไม่ได้ดั่งใจ จีนเป็นฐานการผลิตปากกาลูกลื่นรายใหญ่ แต่ยังด้อยคุณภาพเมื่อเทียบกับต่างประเทศ สำหรับประเทศจีน แม้เราจะรู้กันดีว่าประเทศจีนเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมที่ส่งออกไปทั่วโลกก็ตาม และจีนเองก็เป็นผู้ผลิตปากการายใหญ่ สามารถผลิตได้มากถึง 38 พันล้านหน่วยต่อปี แต่ประสบกับปัญหาในการผลิตหัวปากกาลูกลื่นที่ไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควร อาจจะฟังเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่สำหรับนายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง ได้เล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว และให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ‘ปากกาที่ผลิตในจีน ให้ความรู้สึกที่ ‘หยาบ’ เมื่อเทียบกับปากกาที่ทำมาจากประเทศญี่ปุ่น เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ โดยส่วนใหญ่แล้วหัวปากกาก็ถูกนำเข้ามาจากประเทศเหล่านี้ เป็นจำนวนร้อยละ 90 คิดเป็นมูลค่า 533 ล้านบาทต่อปี’ จนกระทั่งล่าสุดนี้ สำนักข่าวซินหัวได้รายงานว่า บริษัท Taiyuan Iron…
-
รัสเซียออกกฎหมาย ห้ามขายบุหรี่ให้คนเกิดหลังปี 2015 หวังแก้ปัญหาคนติดบุหรี่ในระยะยาว
ในทุกๆ ปี ประชากรในประเทศรัสเซียจะเสียชีวิตจากโรคที่มีสาเหจตุมาจากบุหรี่ประมาณ 400,000 คน แต่ภายหลังนั้นตัวเลขของผู้สูบบุหรี่นั้นลดลงจาก 41 % เป็น 31 % เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากรายงานของสำนักข่าว Tass แต่ถึงอย่างนั้นผู้นำของรัสเซียอย่างประธานาธิบดี Vladimir Putin ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ทำการออกกฎหมายห้ามเด็กที่เกิดหลังปี 2015 เป็นต้นไปทำการซื้อขายบุหรี่ กลายเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายในการห้ามซื้อขายบุหรี่ โดยเขาให้เหตุผลว่าบุหรี่นี้นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแล้ว ยังส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจอีกด้วย จึงวางแผนนโยบายระยะยาวในการระงับการซื้อขายบุหรี่ออกมา วัฒนธรรมการสูบบุหรี่ในประเทศรัสเซียนั้นกลายเป็นที่นิยมกันเป็นจำนวนมากตั้งแต่ในช่วงที่ยังรวมเป็นสหภาพโซเวียตอยู่ ซึ่งยาสูบทั้งหลายนั้นถูกนำเข้ามาจากประเทศ คิวบา จอร์เจีย และประเทศทางแถบเอเชียกลาง หลังจากที่เล็งเห็นปัญหานี้แล้ว ทางด้านประธานาธิบดีและเหล่าที่ปรึกษาก็เห็นพ้องต้องกันว่าควรที่จะหามาตรการในการลดปัญหาที่เกิดจากบุหรี่นี้ซักที Nikolai Gerasimenko คณะกรรมการสุขภาพของรัฐสภารัสเซีย ก็ได้ให้ความเห็นกับการออกกฎหมายในครั้งนี้ว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นอุดมการณ์ที่ถูกต้องอย่างแท้จริง” แต่ถึงอย่างนั้นบางส่วนก็ยังออกมาเสนอบอกว่าการสั่งห้ามนี้ควรจะมีการถกเกียงกันอย่างจริงจังก่อนที่จะทำการประกาศออกมาใช้เป็นกฎหมายจริงๆ เมื่อช่วงปี 2015 ที่ผ่านมาทางรัฐสภาของรัสเซียก็เพิ่งจะประกาศแบนการซื้อขายบุหรี่ให้กับผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีไปแล้ว และข้อเสนอกฎหมายดังกล่าวนั้นสามารถแก้ไขปัญหาได้ในระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งในรอบนี้พวกเขามองถึงหนทางที่ยาวไกลออกไป ซึ่งการแบนการซื้อบุหรี่สำหรับเด็กๆ ในยุคต่อไปนั้นจะทำให้พวกเขาไม่สามารถเรียนรู้หรือรับรู้ถึงความเคยชินจากการสูบบุหรี่ได้เลย ปัจจุบันมีประชากรประมาณ…
-
คนละรุ่นไอ้หนู!! โจรหนุ่มเข้ามาปล้นร้านปืน เจอลุงเจ้าของร้านใจเด็ด ควักอาวุธยิงสวนทันควัน
ไม่รู้จะเรียกว่าโชคร้ายหรือกรรมตามสนองดี เมื่อโจรสองคนใจเด็ดเข้าปล้นร้านขายปืนแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา แต่สุดท้ายกลับโดนเจ้าของร้านวัยเก๋า ชักปืนขึ้นมายิงสวนจนหนึ่งในโจรมอดม้วยคาที่ เรื่องราวเกิดขึ้นที่ร้านขายปืน Dixie Gun and Pawn ในเมืองมาเบิลตั้น รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อโจรสวมหน้ากากสกีพร้อมอาวุธปืนบุกเข้าปล้นกลางยามวิกาล โดยหนึ่งในโจรได้จ่อปืนไปที่พนักงานคนหนึ่งของร้าน และบังคับให้พนักงานในร้านส่งเงินมาให้ ทันใดนั้นเอง คุณลุงจิมมี่ กรูฟเวอร์ เจ้าของร้าน ก็หยิบปืนที่ซ่อนอยู่ขึ้นมา แล้วบรรจงยิงไปที่หนึ่งในโจรที่ถือปืนจมล้มตึงไปในทันที ท่ายิงปืนของลุงเท่มาก แถมยิงนัดเดียวเอาอยู่เลย เมื่อโจรอีกคนเห็นเพื่อนถูกยิง เขาก็รีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตทันที กรูฟเวอร์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว 13WMAZ ว่า เขาไม่ได้ฆ่าหรือทำร้ายใคร แต่ตอนนั้นเขาไม่มีทางเลือกอย่างอื่น “ผมไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ผมไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้เลย ผมทำธุรกิจมาสามสิบปี ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น แต่ผมก็อยากกลับบ้านไปกอดลูกๆ ของผมเหมือนกัน” กรูฟเวอร์กล่าว ไปชมภาพจากกล้องวงจรปิดกันเถอะ บอกเลยคุณลุงไม่ธรรมดาจริงๆ (แอบเตือนว่าภาพอาจรุนแรงนิดนึง) สุดท้ายทางตำรวจก็ไม่ได้ตั้งข้อหากับกรูฟเวอร์แต่อย่างใด เพราะแม้จะมีผู้เสียชีวิต แต่ก็เป็นกระทำไปเพื่อป้องกันตัว ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานว่าทางตำรวจสามารถจับตัวคนร้านอีกคนได้แล้วหรือไม่ ที่มา dailymail
-
คุณพ่อทหารไม่ได้กลับบ้าน 8 เดือน ปลอมตัวเป็นซานตาคลอส ไปเซอร์ไพรส์ลูกชายถึงโรงเรียน!!
เรื่องราวความน่ารักของเด็กชาย Jackson Rescott ที่มีความใฝ่ฝันในวันคริสต์มาสที่อยากได้เครื่องเล่นเกม Xbox One และได้พบเจอกับพ่อของเขาที่เป็นทหารออกไปประจำการที่สนามรบ พ่อของหนุ่มน้อย Jackson นั้นเป็นเจ้าหน้าที่ทหารเรือ Sgt. David Rescott ที่ออกไปประจำการที่ประเทศคูเวตเป็นเวลากว่า 8 เดือนแล้ว หนุ่มน้อย Jackson เชื่อว่าพ่อของเขาจะกลับบ้านมาในเร็ววันนี้ แต่ครอบครัวคนอื่นๆ กลับบอกว่าคุณพ่อจะกลับมาในวันที่ 8 เดือนมกราคม ซึ่งตอนนั้นเป็นวันคริสต์มาสอยู่และต้องรอไปอีกกว่า 2 สัปดาห์เลยทีเดียว แต่ในวันคริสต์มาสก็ถือเป็นโชคดีของหนุ่มน้อย Jackson เพราะมีคุณลุงซานต้ามามอบของขวัญให้ถึงในชั้นเรียน!! ในชั้นเรียนช่วงก่อนคริสต์มาสประมาณ 1 สัปดาห์ ที่โรงเรียน Widewater Elementary School ในเมือง Stafford รัฐ Virginia ได้มีการเซอร์ไพรส์จากคุณลุงซานต้า มาถามเด็กๆ ในชั้นเรียนแต่ละคนว่าอยากได้ของขวัญอะไรในวันคริสต์มาสบ้าง พอมาถึงคิวของหนุ่มน้อย Jackson เขาก็ได้บอกถึงความต้องการของตัวเอง ว่าจริงๆ แล้วเขาอยากให้คุณพ่อกลับมาอยู่กับเขาในช่วงวันหยุดยาวนี้ จากนั้นคุณลุงซานต้าก็บอกกับหนุ่มน้อยว่า “ฉันคิดว่าฉันมีเวทมนตร์ที่จะเสกเป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้กับเธอ” จากนั้นคุณลุงซานต้าก็ค่อยๆ ถอดหมวก…
-
หญิงสาวโดนแฟนหนุ่มแย่งกิน ‘มันฝรั่งทอด’ จนหมด โมโหหยิบมีดทำครัวจ้วงเข้าให้ โดนสั่งจำคุก 6 เดือน
สำหรับคู่รักหลายๆ คน จะรู้กันดีกว่าชีวิตคู่นั้นบางครั้งมันก็อาจจะมีเรื่องราวที่ต้องกระทบกระทั่งกันบ้างถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถนำมาทำให้กลายเป็นประเด็นทะเลาะที่ใหญ่โตได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้… Dianne Margaret Clayton หญิงวัย 34 ปีอาศัยอยู่ในเมือง Blackburn ประเทศอังกฤษ ร่วมกันกับแฟนหนุ่มของเขา Simon Hill แต่เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นไม่ธรรมดาเอาซะเลย เรื่องมีอยู่ว่าในวันหนึ่งขณะที่ Dianne อยากทานมันฝรั่งทอดเป็นอย่างมาก แต่พอรู้ว่าแฟนหนุ่มของเขาแย่งกินซะหมดเลย จึงเกิดความโมโหเธอจึงหยิบมีดทำครัวแทงเข้าไปที่บริเวณไหล่ของนาย Simon จนได้รับบาดเจ็บ Dianne ถูกผู้พิพากษาตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่ศาล Blackburn Court ทางด้านอัยการ คุณ Parveen Akhtar ได้กล่าวว่า “เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาหลังจากที่คู่รักได้ออกไปปาร์ตี้สังสรรค์ที่บ้านของเพื่อน ซึ่งแน่นอนว่าในงานเลี้ยงนั้นก็มีมันฝรั่งทอดเสิร์ฟเป็นกับแกล้มด้วย แต่กลับกลายเป็นว่านาย Simon นั้นรับประทานซะเรียบเลย นั่นทำให้ Dianne เกิดบันดาลโทสะ และทำการตบเข้าไปที่ใบหน้าของเขาอย่างจังก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับมีดทำครัว แล้วก็จ้วงเข้าไปที่บริเวณไหล่ของเขา…
-
มารู้จักกับเชฟหั่นสเต็ก กับ “ท่าโรยเกลือ” สุดแปลก ผู้โด่งดังในโลกโซเชียล ณ ตอนนี้!!
นาทีนี้คงไม่มีใครที่จะฮ็อตไปกว่าพ่อหนุ่มคนนี้อีกแล้ว!! ฃ และเขาก็คือ…นาย Nusret Gökçe ยอดเชฟจากตุรกีหรือที่รู้จักกันในนาม #SaltBae ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ หลายๆ คนอาจจะนึกไม่ออก เพราะพี่แกโด่งดังมาจากคลิปการหั่นสเต็กที่มีท่าทางในการหั่นแบบเร้าใจสุดๆ และท่าโรยเกลือที่เป็นซิกเนเจอออออออร์ สำหรับหลายๆ คนอาจจะคิดว่าพี่แกทำเอาฮา หรือเล่นตลกแต่ขอบอกเลยว่าไม่ใช่แบบนั้นอย่างแน่นอน เพราะอีตา Gökçe เนี่ยเป็นเจ้าของร้านสเต็ก Nusr-Et ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกร้านหนึ่งในเมืองดูไบเลยทีเดียว ท่าทางการปฏิบัติต่อเนื้ออย่างนุ่มนวลนั้นทำให้เห็นว่าเขาใส่ใจในรายละเอียดกับการทำสเต็กแต่ละเมนูมากเพียงใด เข้าไปชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่ลิงค์นี้ได้เลยนะจ๊ะ และเท่านั้นยังไม่พอพี่แกก็ไม่ได้เป็นเชฟธรรมดาๆ ทั่วไปนะเออ เพราะจากการตามเข้าไปส่องในอินสตาแกรมของแกแล้วก็พบว่ามีคนดังในวงการฟุตบอลหลายคนต่างก็ไปใช้บริการที่ร้านของแกมาแล้ว และเท่านั้นยังไม่พอมีผู้ติดตามเป็นล้านคนเลยทีเดียว!! Mesut Ozil ยอดกองกลางแห่งสโมสรปืนโต และทีมชาติเยอรมัน Manuel Neuer ผู้รักษาประตูที่ได้ชื่อว่าหนึบที่สุดในโลก ณ ตอนนี้ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยท่าทางการโรยเกลือที่สุดจะแปลกของพี่แกก็กลายเป็นมีมที่ชาวเน็ตเอาไปเล่นกันซะสนุกสนานเฮฮาในโลกออนไลน์ “เมื่อคุณแต่งหน้าใกล้จะเสร็จแล้ว แต่ยังต้องเติมส่วนไฮไลท์ที่ทำให้หน้าของคุณดูเด่นยิ่งขึ้น” บางคนก็เอาท่าทางการโรยเกลือสุดจ๊าบยของเขาไปเปรียบเทียบกับการโรยเกลือแบบธรรมดาๆ เออมันต่างกันเยอะแฮะ – -* ถึงกับมีแฟนคลับมาวาดภาพแฟนอาร์ตให้เลยทีเดียว…
-
หนุ่มทำใจไม่ได้ แอบพาหมาไปอยู่มหาลัยด้วย สุดท้ายแผนแตกโดนแม่จับได้ ต้องพากลับ!!
หนุ่มนักศึกษาทำใจไม่ได้ที่จะต้องจากเจ้าหมาสุดที่รักออกไปร่ำเรียนที่มหาวิทยาลัย จึงได้ทำการวางแผนแอบลักพาตัวมันไปอยู่ด้วย แต่สุดท้ายถูกจับได้แผนแตกซะก่อน ชีวิตช่วงมหาวิทยาลัยนั้น นักศึกษาจะต้องออกจากบ้านเพื่อไปร่ำเรียนในมหาวิทยาลัย และไปอยู่ที่หอพัก ทำให้หนุ่ม Sean ต้องจำใจลาจากเจ้าหมา Willy เพื่อนรักที่อยู่ด้วยกันมาตลอด แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ หนุ่ม Sean กลับคิดไอเดียแผลงๆ พาเจ้า Willy ขึ้นรถไปอยู่ที่หอพักในมหาวิทยาลัยด้วย เหมือนกับว่าเรื่องราวชีวิตของที่ต้องเผชิญโลกกว้างของทั้งคู่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น มิตรภาพระหว่างคนกับหมาตราบชั่วกาลนาน…แต่เรื่องราวทั้งหมดก็ต้องกลายเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น เพราะดันโดนแม่จับได้ซะก่อน ขณะกำลังขับรถออกไปจากบ้านชิลๆ ร่วมกันกับเจ้า Willy ที่นั่งไปด้วยกัน จู่ๆ ก็พบว่าคุณแม่ส่งข้อความมาหา และดูเหมือนกับว่าเธอจะไม่ค่อยแฮปปี้กับการกระทำในครั้งนี้เท่าไหร่ “Willy อยู่ไหน??” “มันกำลังจะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัย Corvallis เข้ารับการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวของมันในอนาคต” “พอแค่นั้นแหละ!!” หนุ่ม Sean ได้ทำการแคปรูปภาพการสนทนากับแม่ของตัวเองลงบนทวิตเตอร์พร้อมกับใส่แคปชั่นว่า “การลักลอบพาหมาไปยังมหาวิทยาลัย” เรื่องราวความฮานี้กลายเป็นเรื่งอที่โด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์โดยมีคนเข้ามากดไลค์ถึง 270,000 ครั้ง และรีทวิตไปอีก 97,000 ครั้งเลยทีเดียว หลายๆ คนที่ได้เห็นเรื่องราวนี้แล้วก็เกิดแรงบันดาลใจอยากพาเจ้าหมาของตัวเองไปอยู่ที่หอพักบ้าง นี่มันตรูชัดๆ ถือเป็นเรื่องที่ดี…
-
อุทาหรณ์พ่อบ้านเดือดจัด ชักปืนยิงภรรยา เพราะเธอแอบชิมแซนด์วิชของเขา… -*-
เคยได้ยินตำนานเรื่องที่ว่า ‘กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่’ หรือไม่? จะว่าไปแล้วเวลาคนเราเหนื่อยจากการทำงานหนักๆ ต่างก็ต้องการอาหารอร่อยๆ มาเป็นรางวัลให้กับตัวเองซักหน่อย แต่ถ้าหากมาพบทีหลังว่าอาหารที่เราอุตส่าห์เตรียมไว้ และตั้งใจจะกินหลังเสร็จงาน ถูกคนอื่นแอบกินไปจนหมด มันช่างเป็นอะไรที่น่าโมโหสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะ? เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2560 สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานเรื่องของสามีภรรยา จากเมืองบอลทิมอร์ รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐฯ ‘Daniel Brian Blackwell’ พ่อบ้านวัย 55 ปี ได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ หลังเจ้าตัวโมโหร้าย กระหน่ำปืนยิงใส่ภรรยาของตัวเอง เมื่อพบว่าเธอลองชิมแซนด์วิชของเขาเพียงแค่ 1 คำ!! ‘Daniel Brian Blackwell’ เหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนวันหนึ่ง หลังจากที่ฝ่ายพ่อบ้านกลับบ้านมา แล้วพบว่าภรรยาของเขากำลังทำอาหารสำหรับมื้อเย็นให้แก่ทุกคนในครอบครัวอยู่ หลังภรรยาได้ทำเมนูที่เรียกว่า ‘กริลชีส’ เสร็จ เธอจึงลองชิมจากส่วนของสามีเพียงแค่ 1 คำ แต่ทว่านั่นกลับสร้างความน่าโมโหให้เขาสุดๆ ฝ่ายสามีจึงไปหยิบปืนมายิงใส่เธอซะงั้น แต่นับว่าโชคดีที่งานนี้ไม่มีใครบาดเจ็บ ภรรยา และลูกๆ ทั้ง 3 คน…
-
ร้านอาหารใจบุญ ฉายา ‘โรบินฮู๊ด’ นำกำไรในแต่ละวันแบ่งปันเป็นมื้อเย็น ให้คนไร้บ้านทานฟรี!!
หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องตำนานของโจรชื่อดัง ‘โรบินฮู๊ด’ ที่คอยดักปล้นเงินจากคนรวย แล้วนำมาแจกจ่ายให้กลุ่มคนยากจนกันมาบ้างแล้ว แต่คราวนี้เหตุการณ์ก็คล้ายๆ กับเรื่องราวในตำนาน เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ไปปล้น หรือทำร้ายใคร ที่ประเทศสเปน มีร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า ‘โรบินฮู๊ด’ ดูผิวเผินก็เหมือนจะเป็นร้านอาหารธรรมดาทั่วไป แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่ ทุกเย็นหลังขายอาหารรอบเช้า ร้านจะทำนำกำไรทั้งหมด มาทำอาหารและแจกจ่ายให้ผู้ที่ประสบปัญหาไร้ที่อยู่ เข้ามารับประทานกันได้ฟรี!! ร้านอาหารแห่งนี้เป็นของบาทหลวง Ángel García Rodríguez วัย 79 ปี ผู้ทุ่มเทเวลาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เพื่อทำการช่วยเหลือกลุ่มคนยากไร้ในสังคม หรือในนาม ‘นักลงทุนผู้ไม่แสวงหากำไร’ ซึ่งก่อนหน้านี้ผลงานของเขาเคยเปลี่ยนโบสถ์ร้างให้กลายเป็นศูนย์พักพิงอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน ที่มีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น อาหาร ที่นอน อินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ‘โรบินฮู๊ด’ คืออีกหนึ่งผลงานล่าสุดของเขา ในช่วงเวลาทำการปกติตอนเช้า ที่นี่จะขายอาหารในราคาที่ไม่แพงมากนัก และในช่วงตอนเย็น ร้านอาหารแห่งนี้ยินดีต้อนรับกลุ่มคนไร้บ้านทุกคน ให้เข้ามาทานอาหารกันได้ฟรีๆ อีกทั้งยังได้รับการบริการจากพนักงานทุกคนเป็นอย่างดีอีกด้วย “การที่ทำให้พวกเขาได้ทานอาหารในร้านที่มีพนักงานเสิร์ฟใส่ยูนิฟอร์มที่ดูดี ได้ทานอาหารดีๆ แทนที่จะเป็นการใช้ช้อนส้อมพลาสติก ผมคิดว่านี่เป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันทางสังคมอย่างหนึ่ง” เจ้าของให้สัมภาษณ์กับ NY Times Giani Parlafes…
-
หญิงวัย 59 ถูกปล่อยตัว หลังโดนขังคุก 17 ปี ในความผิดที่เธอไม่ได้เป็นคนทำ…
จากเรื่องราวของคุณครูที่ถูกตัดสินให้จำคุกข้อหาขับรถชนจนทำให้มีคนเสียชีวิต เป็นเวลากว่า 1 ปีครึ่ง และตอนนี้ก็ถูกปล่อยตัวแล้วเพราะมาทราบทีหลังว่าเธอไม่ได้กระทำความผิดจนกลายเป็นกระแสโด่งดังทั่วโลกออนไลน์ หากย้อนกลับไปในปี 2014 ทางต่างประเทศเองก็มีเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองไปรับชมพร้อมๆ กัน.. คุณ Susan Marie Mellen วัย 59 ปี ถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตข้อหาฆาตกรรมชายไร้บ้าน หลังจากที่ถูกจำคุกไปเป็นเวลากว่า 17 ปี เธอก็ถูกปล่อยตัวในช่วงเดือนตุลาคมปี 2014 หลังพิสูจน์ได้แล้วว่าเธอไม่ได้เป็นคนกระทำความผิด ย้อนกลับไปในอดีต เธอถูกพยานให้การว่าเธอเป็นคนลงมือสังหารชายจรจัดชื่อว่า Richard Daly และถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตแบบไม่ได้รับการลดโทษ ตามรายงานของสำนักข่าว Associated Press หลังจากติดคุกเป็นเวลานานกว่า 17 ปี ในที่สุดผู้พิพากษาศาลฎีกา Mark Arnold ก็ได้ทำการชุบชีวิตเธอขึ้นมา พร้อมกับกล่าวตำหนิถึงระบบความยุติธรรมว่าล้มเหลว และทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งกลายเป็นแพะ อีกทั้งทนายความของเธอก็ไม่มีความสามารถที่ทำให้เธอรอดพ้นจากภาวะการถูกปรักปรำ ซึ่งหลังจากการสืบสวนภายหลังก็พบว่าพยานที่ให้การในวันนั้นแท้จริงแล้วเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรม “ขี้โกหกจนเป็นนิสัย” “ผมเชื่อว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผมคิดว่าคดีดังกล่าวนี้เป็นตัวชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของความยุติธรรม” ผู้พิพากษาสูงสุดศาลฎีกา Mark Arnold…
-
‘ต้นไม้อุโมงค์’ เก่าแก่อายุกว่า 1,000 ปี ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกพายุเฮอร์ริเคนโค่นลงในที่สุด
ในรัฐแคลิฟอร์เนียนั้นมีต้นไม้ต้นหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันในนามของ The Pioneer Cabin Tree ที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี หรือเป็นที่รู้จักกันในนามของ ‘ต้นไม้อุโมงค์’ตั้งตระหง่านอยู่ในอุทยาน Calaveras Big Trees State Park รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเจ้าต้นไม้ชนิดนี้คือต้น Giant Sequoias มีหลากหลายสายพันธู์ด้วยกัน แต่สายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดก็คือพันธุ์ Genaeral Sherman เมื่อโตเต็มที่สามารถมีลำต้นสูงถึง 99.06 เมตร และหนักได้ถึง 6,000 ตันเลยทีเดียว!! และต้นที่ใหญ่ที่สุดนั้นถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ ของต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลกเลยล่ะ (ต้นใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ใน Sequoia National Park สูง 83.8 เมตร) ลักษณะเด่นของมันก็คือมีช่องเสมือนเป็นถ้ำอยู่ส่วนล่างของต้นให้ผู้คนสามารถเดินลอดผ่านไปมาได้ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่มีชื่อเสียงของรัฐแคลิฟอร์เนียเลยทีเดียว แต่เนื่องจากว่าช่วงที่ผ่านมาพายุได้โหมกระหน่ำพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้บ้านเรือน สถานที่สำคัญต่างๆ ได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวง เช่นเดียวกันเจ้าต้นไม้อุโมงค์ ที่ไม่อาจทัดทานความรุนแรงของพายุจนโค่นล้มลงมา คุณ Jim Allday เจ้าหน้าที่อาสาสมัครที่เป็นคนพบเห็นเหตุการณ์เล่าว่า “ตอนที่ผมออกไปดูที่เกิดเหตุ พบว่าทางเดินนั้นเต็มไปด้วยน้ำเชี่ยวที่ไหลอย่างรุนแรง จากนั้นมองไปเรื่อยๆ…
-
หญิงวัย 50 อาศัยอยู่ในสนามบินเป็นเวลา 8 ปี หลังเผชิญวิกฤตการเงินอย่างหนักในปี 2008
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2559 ทางเว็บไซต์ Odditycentral มีรายงานเกี่ยวกับเรื่องราวของหญิงวัย 50 รายหนึ่ง ที่ได้อาศัยอยู่ในท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงีเป็นเวลานานกว่า 8 ปี หลังจากที่เธอต้องเผชิญวิกฤตการเงินอย่างหนักในปี 2008 ด้านหญิงผู้ไม่ประสงค์ออกนามรายนี้ได้ออกมาเผยกับทางหนังสือพิมพ์ Lianhe Wanbao ของสิงคโปร์ว่า เธอได้ตัดสินใจย้ายเข้าไปอาศัยอยู่ในสนามบินตั้งแต่ปี 2008 หลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงิน ในตอนแรกเธอกลัวการใช้ชีวิตในสนามบิน แต่ทว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เธอจึงตัดสินใจปล่อยอพาทเม้นท์ 3 ห้องให้คนเช่า และจะอาศัยอยู่สนามบินเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น จนในที่สุดเธอก็เรียนรู้การเอาตัวรอดกับสภาพแวดล้อมรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเธอสามารถปรับตัวให้เข้ากับบ้านหลังใหม่ (สนามบิน) ได้เป็นอย่างดี จากความตั้งใจในตอนแรกที่จะอาศัยอยู่เพียงแค่ไม่กี่คืน แต่ ณ ตอนนี้ เธอได้อาศัยอยู่ในสนามบินมานานกว่า 8 ปีแล้ว นอกจากนี้เธอยังได้บอกอีกว่า เธอไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเสื้อผ้า หรืออาหารการกินเลย เพราะเธอมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 35,000 บาท จากการปล่อยอพาทเม้นท์ให้คนอื่นเช่า อีกทั้งภายในสนามบินก็มีทั้งศูนย์อาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้องอาบน้ำ และยังมี Wi-Fi ฟรีให้เล่นอีกด้วย…
-
ประทับใจ!! ชายหนุ่มรีบเข้าไปช่วยเหลือลูกม้าหลงกลางถนน อุ้มข้ามรั้วกั้นเพื่อเจอกับแม่อีกครั้ง
ไม่ใช่ทุกวันที่คุณขับรถไปตามท้องถนนแล้วจะพบกับ “ลูกม้า” ที่กำลังพยายามขอความช่วยเหลือ หลังจากที่มันได้พลัดพรากกับผู้เป็นแม่ ซึ่งถ้าหากได้เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะรีบเข้าไปช่วยเหลือมันทันทีแน่นอน เหมือนดังเช่นชายหนุ่มคนนี้ ที่กำลังขับรถไปตามถนน แล้วจู่ๆ เขาก็เห็นลูกม้าตัวหนึ่งกำลังวิ่งอยู่กลางถนนอย่างโดดเดี่ยว และดูเหมือนว่ามันกำลังพยายามกลับไปหาครอบครัว ในขณะที่เขาค่อยเคลื่อนๆ รถเข้าไปใกล้มันนั้น เจ้าลูกม้าก็รีบวิ่งเข้าไปหาม้าอีกตัวหนึ่ง ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นแม่ของมัน… แต่ทว่าแม่ม้ากลับอยู่อีกด้านหนึ่งของราวเหล็กกันถนน จึงทำให้ลูกม้าพยายามกระโดดเพื่อข้ามราวเหล็กด้วยตัวของมันเอง แต่กลับไม่สามารถข้ามฝั่งไปหาแม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินออกมาจากรถ เพื่อเดินเข้าไปหามัน และแล้วภาพที่แสนประทับใจก็เกิดขึ้น เขาพยายามอุ้มเจ้าม้าให้ข้ามฝั่งไปหาครอบครัว ซึ่งในตอนแรกเขาพยายามจับตัวของมัน แต่ดูเหมือนเจ้าม้าจะตกใจกลัว ทำให้มันพยายามวิ่งหนี จนในที่สุดชายหนุ่มคนดังกล่าวก็สามารถจับตัวของมันได้ และอุ้มมันข้ามราวเหล็กไปหาแม่ได้ในที่สุด รับชมคลิปวีดีโอกันได้เลย เย้ๆๆ เจ้าม้าได้กลับไปอยู่กับครอบครัวของมันอีกครั้งแล้ว ช่างเป็นภาพที่อบอุ่นเหลือเกิน… ที่มา : shareably
-
ชายหนุ่มช่วยชีวิตเจ้านกกระจอกน้อย ที่ติดรั้วเหล็กเย็นเฉียบ ด้วยลมหายใจอุ่นๆ ของเขา
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็อยากได้รับการช่วยเหลือเมื่อได้รับความเดือดร้อนกันทั้งนั้น ก็เหมือนกับเจ้านกกระจอกน้อยตัวนี้ ที่นิ้วเท้าของมันดันไปติดอยู่กับน้ำแข็งบนเหล็กที่มันเกาะ แต่โชคดีที่มันสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะการช่วยเหลือของชายคนหนึ่ง… เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2560 ทางเว็บ Boredpanda ได้เผยภาพว่า Nelson Miller หนุ่มจากรัฐไอดาโฮ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พบกับนกกระจอกตัวน้อยที่กำลังเกาะนิ่งๆ อยู่บนน้ำแข็ง จนทำให้มันไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้เลย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เรารีบเข้าไปช่วยชีวิตมันทันที “ในเช้าของวันปีใหม่ ผมสังเกตเห็นนกกระจอกที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวตัวหนึ่ง เกาะอยู่บนรั้วเหล็กใกล้กับถังน้ำ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับนกที่จะดื่มน้ำจากถังน้ำอุ่น และเห็นได้ชัดเลยว่าเจ้านกตัวนี้โชคร้าย เพราะเท้าของมันเปียก และถูกแช่แข็งติดกับรั้วเหล็ก” Nelson กล่าว ในตอนแรกเขาพยายามที่จะทำให้เท้าของมันอุ่น แต่เจ้านกดันตกใจกลัว แต่ Nelson ก็ได้พยายามทำให้ที่ที่มันเกาะอยู่อุ่นขึ้นด้วยลมหายใจของเขา จนในที่สุดน้ำแข็งก็ค่อยๆ ละลาย และทำให้เท้าของมันหลุดออกจากที่บริเวณนั้น เจ้านกได้กลายเป็นอิสระ และสามารถบินกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง และเรื่องราวนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่า หนึ่งชีวิตเล็กๆ มีค่าเสมอ มาชมคลิปวีดีโอวินาทีขณะช่วยชีวิตเจ้านกน้อยกันเลย งานนี้ต้องขอยกนิ้วให้กับชายใจดีเลยนะเนี่ย ที่ช่วยชีวิตเจ้านกน้อยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นป่านนี้ไม่รู้ว่ามันต้องเผชิญชะตากรรมอะไรบ้าง…
-
หนูน้อยกับแมวเหมียว นอนด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโต ผูกพันมากจนตัวไม่เคยห่างกันเลย
เมื่อได้เห็นมิตรภาพน่ารักๆ ระหว่างเด็กน้อย กับแมวเหมียว มันช่างเป็นอะไรที่เพลินหูเพลินตาซะเหลือเกิน และในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคน มาชมภาพถ่ายของหนูน้อยกับเจ้าเหมียวที่ดูเหมือนทั้งคู่จะสนิท และรักมากๆ ถึงขั้นนอนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโตเลยละ ทางด้านพ่อแม่ของหนูน้อยได้เล่าว่า หลังจากที่เธอได้พบกับเจ้าเหมียวเป็นครั้งแรก ทั้งสองก็แยกออกจากกันไม่ได้เลย แถมเธอยังรักเจ้าเหมียวตัวนี้มาก ส่วนเจ้าเหมียวก็รักเธอมากเหมือนกัน และเธอก็คือหนึ่งในผู้มีความสามารถพิเศษที่ทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกสบายไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เรียกได้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะต้องน่ารักฟรุ้งฟริ้งมากแน่นอน ว่าแล้วก็มารับชมภาพของพวกเขากันเลย ผู้เป็นพ่อแม่ได้เริ่มต้นเก็บภาพถ่ายความทรงจำดีๆ ของลูกน้อยกับเจ้าเหมียวแสนรักมาตั้งแต่ยังเล็กๆ พวกเขาเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่มิตรภาพอันสวยงามก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ตั้งแต่ที่ได้พบหนูน้อย เจ้าเหมียวก็แยกออกจากเธอไม่ได้เลย ทั้งคู่นอนเคียงข้างกันมาตั้งแต่ที่หนูน้อยยังเป็นเพียงแค่เด็กทารก หนูน้อยรักแมวของเธอ และดูเหมือนว่ามันจะรักเธอมากๆ เช่นกัน ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันมากๆ เลยละ น่าอิจฉาจริงๆ โตแล้วก็ยังนอนด้วยกัน เพราะเราคือเพื่อนแท้ วันแรกเป็นอย่างไร ปัจจุบันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ มิตรภาพน่ารักๆ แบบนี้ ทำเอาคนดูยิ้มตามไปด้วยเลย…มีความสุขจัง ที่มา : boredpanda
-
เจ้าของร้านของชำโวยหนัก โดนกระรอกแสบขโมยช็อคโกแลตแทบทุกวัน ทำไงดีล่ะเนี่ย!?
คนทำมาค้าขายต่างรู้ดีว่า สินค้าที่เราลงทุนไปรับมาขายต่อนั้น ถ้ามีคนมาแอบขโมยไปแบบฟรีๆ คงเป็นอะไรที่ไม่น่าพึงพอใจเอามากๆ เช่นเดียวกับ Paul Kim เจ้าของร้านขายของชำ ‘Luke’s Grocery’ จากเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ได้ออกมาโวยผ่านสื่อ พร้อมทั้งขอคำแนะนำว่าควรจะทำอย่างไรดี เพราทุกวันที่เปิดร้าน มักจะมีหัวขโมยจอมแสบเป็นเจ้ากระรอกจิ๋ว แอบเนียนเข้ามาเอาช็อคโกแลตได้ทุกวี่วัน ดู ดู๊วว ดู ดูมันทำ!! Paul Kim เจ้าของร้านได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ Metro ว่า “ผมสังเกตมาหลายวันแล้ว มันมีกระรอกสองตัวที่ชอบมาขโมยของ ตัวนึงสีดำ และอีกตัวสีน้ำตาลอ่อน พวกมันเลือกที่จะขโมยขนมช็อคโกแลตจากชั้นล่างสุด ก่อนที่จะรีบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว” “พวกมันน่ะวิ่งช้าลง ตอนที่ต้องคาบช็อคโกแลตในปาก เราพยายามจะวิ่งไล่จับแล้ว แต่ก็ไม่เคยทันเลย พวกมันวิ่งเร็วมากไปจริงๆ บางทีก็มีลูกค้ามาช่วยเราไล่จับพวกมันเหมือนกันนะ แต่พอมันกระโดดขึ้นต้นไม้ได้เท่านั้นแหละ เหมือนเกมโอเว่อร์ทันที” เจ้าของร้านกล่าวเสริม คลิปเหตุการณ์ของเจ้าหัวขโมยตัวน้อย ทำเป็นเนียนเลยนะเอ็ง ตอนแรกทำเป็นเนียนเดินเข้ามาแบบ งงๆ ที่ไหนได้เป็นโจรซะงั้น!! ก่อนหน้านี้ทางเจ้าของร้านได้โทรไปติดต่อขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์มาแล้วเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถช่วยแก้ไขกรณีนี้ได้ “มีบางคนแนะนำให้เราหาพริกไทยร้อนๆ มาทาบริเวณช็อคโกแลต…
-
ศิลปินสร้างศิลปะ ‘กระจกร้าว’ ร่วม 9 ปี ยัดกระจกลงพัสดุ ส่งผ่านบริษัทขนส่ง แบบนี้ก็ได้ด้วย!?
‘Walead Beshty’ ศิลปินผู้รังสรรค์งานศิลปะ และนักเขียน จากลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐฯ ได้ปิ๊งไอเดียที่จะสร้างผลงานศิลปะรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ก่อนจะนำไปโชว์ในนิทรรศการของตนเอง ตัวอย่างผลงานศิลปะดังกล่าว ซึ่งงานนี้เจ้าตัวได้คิดที่จะนำเสนอผลงานศิลปะ ด้วยกระจกที่แตกร้าว วิธีการสร้างผลงานในครั้งนี้ก็แสนจะง่ายดาย เจ้าตัวทำการแพ็คกระจกรูปแบบต่างๆ ใส่ลงในกล่องพัสดุ เมื่อบรรจุผลงานเสร็จแล้วก็ทำการส่งออกไปยังสถานที่ๆ จะจัดแสดงนิทรรศการ แบบชั้นประหยัด ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่เจ้าตัวคาดไว้ เมื่อเปิดกล่องออกมาก็พบว่า กระจกทุกบานมีรอยแตกร้าว ก็แหงล่ะ ก็เล่นใส่ไปเพียวๆ ไม่มีการกันแรงกระแทกใดๆ ทั้งสิ้น ตามที่พี่แกตั้งใจตั้งแต่แรก “สิ่งหนึ่งที่ต้องการอยากจะสื่อ ก็คืองานศิลปะที่สะท้อนสภาพการจราจรระหว่างการขนส่ง จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง” เจ้าของผลงานกล่าว เราไปชมงานศิลปะกระจกร้าว กันเลยดีกว่า… งานนี้เจ้าตัวก็ไม่ได้จงใจดิสเครดิตหรอกนะ แต่เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า การขนส่งกระจกลงในกล่องที่มีขนาดเท่าวัตถุ ด้วยรถบรรทุก ยังไงมันก็ต้องแตกเป็นธรรมด๊าาา ที่มา: boredpanda, Thisiscolossal
-
นักท่องเที่ยวทำกระเป๋าเงินหายในญี่ปุ่น สุดท้ายได้คืนที่สถานีตำรวจ เงินครบ ไม่หายซักแดง!?
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจเลยทีเดียว สำหรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียคนหนึ่งที่ได้ไปท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น แล้วบังเอิญทำกระเป๋าเงินตกหาย ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็คงจะได้แต่ทำใจว่า ไม่ได้คืนแล้วแน่ๆ โชคดีที่มีพลเมืองดีเก็บมาคืนสถานีตำรวจ และเงินในนั้นจำนวนกว่า 48,000 บาท ก็ยังอยู่ครบไม่หายไปไหนเลยแม้แต่แดงเดียว!! นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียทำกระเป๋าเงินหายที่ญี่ปุ่น เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น เมื่อนักท่องเที่ยวชาวมาลาเซียรายนี้เดินทางไปยังเมืองเกียวโต เมื่อถึงที่หมายแล้ว เขาก็เดินท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จนกระทั่งสองชั่วโมงต่อมา เขาก็เพิ่งจะรู้ตัวว่ากระเป๋าเงินของเขาหายไป และด้วยความตกใจ เขาจึงรีบไปที่สถานีตำรวจในทัน เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ทำการตรวจสอบระบบข้อมูลของหาย เมื่อถึงสถานีตำรวจ เขาทำการแจ้งความกับตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำการตรวจสอบรายละเอียดแล้วก็พบว่ามีพลเมืองดีเก็บกระเป๋าเงินของเขานำมาส่งให้กับสถานีตำรวจอีกแห่งเป็นที่เรียบร้อย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังกังวลว่าเงินในกระเป๋ากว่า 50,000 บาท จะหายไปหรือเปล่า เงินจำนวน 113,000 เยน และ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทันทีที่เขาได้กระเป๋าเงินกลับมา เขาก็ทำการตรวจเช็คทันที พบว่าเงิน 113,000 เยน และอีก 400 ดอลลาร์สหรัฐ รวมมูลค่ากว่า 48,000 บาท ยังคงอยู่ครบ ไม่หายไปแม้แต่สลึงเดียว!! เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกตื้นตันเป็นอย่างมาก…
-
หนุ่มบังคลาเทศ ‘มนุษย์ต้นไม้’ ผู้ป่วยโรคประหลาด ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จนเกือบหายดีแล้ว!!
ถ้าใครจำได้ ช่วงต้นปี 2016 ที่ผ่านมา สำนักข่าวแคทดั้มเคยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ Abul Bajandar หนุ่มบังคลาเทศผู้ป่วยเป็นโรคประหลาด Epidermodysplasia Verruciformis ที่ร่างกายค่อยๆ มีสิ่งแปลกปลอมคล้ายกับรากไม้งอกออกมาจากมือและเท้าของเขา (ย้อนอ่าน : สะพรึงมาก!! หนุ่มบังคลาเทศป่วยเป็นโรคประหลาด ค่อยๆ กลายร่างเป็นต้นไม้!?) ล่าสุด เขาได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล Dhaka Medical College Hospital หลังจากแพทย์ได้ทำการผ่าตัดกว่า 16 ครั้ง ตอนนี้ดูเหมือนว่ามือเท้าของเขาเริ่มกลับมาเหมือนคนปกติแล้ว!! “การรักษามือของ Bajandar ให้กลับมาเป็นปกติจะกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการวิทยาศาสต์ทางการแพทย์ เราได้ทำการผ่าตัดมือและเท้าของเขากว่า 16 ครั้ง และจะมีการนัดผ่าตัดเพื่อตกแต่งแผลอีกครั้งในอีก 30 วันข้างหน้า” Samanta Lal Sen แพทย์หัวหน้าทีมผ่าตัดกล่าว สำหรับ Bajandar แล้ว การได้เห็นมือเท้าของตนเองกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ถือว่าเป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนในชีวิต “ผมไม่คิดเลยว่าผมจะได้โอบกอดลูกชายด้วยมือของผมอีกครั้ง ตอนนี้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก ผมสามารถดึงลูกเข้ามากอดและเล่นกับลูกๆ ได้ ผมอดใจรอกลับบ้านแทบไม่ไหวแล้ว” Bajandar กล่าว Bajandar วางแผนเอาไว้ว่า เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วเขาจะกลับไปประกอบธุรกิจเล็กๆ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว…
-
เปิดตัว Nokia Thailand หรือนี่คือสัญญาณการกลับมา ของอดีตราชามือถือผู้ยิ่งใหญ่!?
เชื่อว่าคนยุคนี้คงจะเคยรู้จักกับแบรนด์มือถือระดับตำนานอย่าง Nokia ที่เคยเป็นจ้าวแห่งวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ก่อนยุคของ Apple หรือ Samsung แต่ด้วยการบริหารอันผิดพลาดก็ตาม การตามตลาดไม่ทันก็ตาม รวมถึงอีกหลายสาเหตุที่ทำให้แบรนด์ยักษ์นี้มีอันต้องล่มไป จนหลายคนคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้ใช้มันอีกแล้ว แต่ถ้าตามข่าวกันดีๆ จะพบว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน มีข่าวคราวของการเปิดตัว Nokia 6 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของทางค่ายที่จะหันมาใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (มาใช้กับเขาได้สักที) จึงทำให้หลายๆ คนกลับมาสนใจมันอีกครั้ง อ่านข่าว: กลับมาแล้ว!! เปิดตัว “Nokia 6” สมาร์ทโฟนพร้อมระบบแอนดรอยด์ เตรียมวางจำหน่ายในจีนเร็วๆ นี้ ข้อมูลโดยจำเพาะ จากข้อมูลตามเว็บไซต์ Phonearena บอกว่าเจ้า Nokia 6 จะมาพร้อมกับกระจก Gorilla Glass 3 ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วแบบ Full HD มีการแสดงผลแบบ 2.5D ส่วน CPU เป็นแบบ octa-core (8 คอร์) Snapdragon 430 มีระบบ Android 7.0…
-
พาชมโรงเรียนสอนแอร์โฮสเตสในจีน เส้นทางสู่การเป็นนางฟ้าสายการบิน ที่ไม่ได้เป็นกันง่ายๆ
พูดถึงอาชีพแอร์โฮสเตสแล้ว สำหรับสาวๆ ในประเทศโลกที่สองหรือโลกที่สาม ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แอร์โฮสเตสคืออาชีพในฝันของพวกเธอเลยทีเดียว เพราะด้วยค่าตอบแทนที่สูงหากเทียบกับอาชีพอื่นๆ และด้วยการวางตัวของสายอาชีพนี้ที่มีความสง่างามอยู่เสมอ เหมือนดั่งนางฟ้าที่มีตัวตนจริงๆ จึงทำให้หลายๆ คน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของอาชีพนี้ให้ได้ และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมโรงเรียนสอนแอร์โฮสเตสแห่งหนึ่งในประเทศจีน เพื่อเรียนรู้ทักษะที่สำคัญก่อนจะไปสอบคัดเลือก และกว่าจะไปถึงจุดนั้นของชีวิต เส้นทางของพวกเธอไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนสอนสำหรับการเป็นแอร์โฮสเตสในเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน โดยจะสอนทักษะ เทคนิค กิริยามารยาท และการวางตัวสำหรับการเป็นแอร์โฮสเตส โดยทางโรงเรียนจะสอนทั้งการยืน การเดิน การยิ้ม และปรับบุคลิกภาพของผู้เรียนให้เหมาะสมกับการเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ทักษะการเดินถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของผู้ที่จะประกอบอาชีพนี้ จะต้องมีท่าการเดินที่ดูสง่า การจับมืออย่างไรให้มีความสวยงาม เรียนรู้จัดท่าทางการนั่ง การย่อตัวเพื่อเก็บของ ก็เป็นสิ่งที่แอร์โฮสเตสต้องทำเป็นประจำ แน่นอน ท่าย่อของพวกเธอก็ต้องสง่างามอย่างมีระดับเช่นกัน ส่วนวิธีการฝึกยิ้มของสถาบันแห่งนี้ จะให้ผู้เข้าเรียนคาบหลอดเอาไว้ อื้อหือ ไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับการจะเป็นแอร์โฮสเตสได้ แต่ด้วยค่าตอบแทนที่สูงขนาดนี้ ก็เชื่อว่ายังมีสาวๆ อีกหลายคน ยอมลำบาก เพื่อทำตามฝันของพวกเธออย่างแน่นอน…
-
เมื่อ ISIS ทำคลิปโฆษณาตัวเอง กับการสอนเด็กชาย สังหารนักโทษด้วยอาวุธปืน…
เนื้อหาต่อไปนี้ มีความรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หากพูดถึงกลุ่มก่อการร้ายไอซิส เชื่อว่าหลายๆ คนต้องนึกถึงความโหดเหี้ยมของวิธีการจัดการกับเหยื่อหรือนักโทษของฝ่ายตรงข้ามจนกลายเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก ล่าสุดพวกเขาปล่อยคลิปอันใหม่ออกมา รับรองว่าเพื่อนๆ ต้องสะเทือนใจอย่างแน่นอน เพราะพวกเขาได้ใช้ “เด็ก” ที่อายุไม่เกินห้าปี เป็นเพชฌฆาตในการประหารนักโทษ คลิปดังกล่าวถูกอัพโหลดลงทวิตเตอร์ @Raqqa_SL ในช่วงที่กองกำลังพันธมิตรกำลังบุกโจมตีฐานที่มั่นสุดท้ายของอิรักของกลุ่มไอซิส ในเมืองโมซุล ประเทศอิรัก และสามารถยึดทางด้านตะวันตกของเมืองได้แล้ว โดยคลิปเราจะได้เห็นเด็กชายคนหนึ่งเดินเข้ามาภายในลานลูกบอลเด็กเล่นที่ถูกทิ้งร้างแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีชายชุดดำยื่นปืนสั้นพร้อมขึ้นลำให้กับเด็กชายคนนั้น เมื่อเด็กชายได้รับปืนมา เขาก็ทำท่าเล็งไปที่นักโทษที่ถูกมัดไว้อยู่ข้างหน้า โดยไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อย ก่อนที่ลั่นไกไปหนึ่งนัด และร่างของนักโทษมีอาการกระตุกตอบสนอง และคลิปก็ถูกตัดจบลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นการจัดฉากประหารหรือเป็นการประหารจริงๆ หรือไม่… (ลิงค์คลิป) อย่างไรก็ตาม กองกำลังไอซิสในอิรักดูเหมือนว่าใกล้จะถึงจุดจบแล้ว เพราะ ตลอดปีที่ผ่านมา กองกำลังผสมที่มีทั้งทหารอิรัก ชาวเคิร์ด ทหารอิสลามนิกายชีอะห์ รวมทั้งกองกำลังของสหรัฐอเมริกา ได้ค่อยๆ ยึดเมืองที่เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มไอซิสมาได้ทีละเมืองๆ จนตอนนี้เหลือเพียงเมืองโมซุลทางตอนเหนือของอิรักเท่านั้น และตอนนี้กองกำลังผสมของอิรักและสหรัฐได้ปิดล้อมเมืองดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แผนการต่อไปคือปลดแอกเมืองโมซุลออกจากการยึดครองของไอซิส และสร้างช่องทางหลบหนีให้กับประชาชนผู้บริสุทธิภายในเมืองอีกด้วย ที่มา dailymail, thesun
-
หัวขโมยต่อเนื่อง จากการถูกจับเพราะขโมย “รีโมททีวี” นำไปสู่การถูกตัดสินจำคุก 22 ปี
เรื่องราวสุดซวยของหัวขโมยต่อเนื่องคนหนึ่งที่ก่อเหตุมาแล้วกว่า 35 ครั้งแต่ก็รอดการจับกุมของตำรวจมาได้ จนกระทั่งวันหนึ่งก็หนีเงื้อมมือของกฎหมายไม่พ้น เพราะดันไปทิ้งหลักฐานดีเอ็นเอไว้ในที่เกิดเหตุขณะที่ขโมย “รีโมททีวี” ?!?! เรื่องราวเกิดขึ้นใน เมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อทางตำรวจได้รับแจ้งว่าอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งถูกค้นร้ายบุกเข้าไปและขโมย “รีโมททีวี” ออกมาโดยที่ไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินย์อย่างอื่น โดยทางตำรวจเดินทางมายังที่เกิดเหตุและทำการตรวจสอบ พวกเขาพบกับถุงมือของโจรที่ก่อเหตุตกอยู่ เมื่อนำไปตรวจหาดีเอ็นเอพวกเขาก็พบว่าถุงมือดังกล่าวเป็นของ นายอีริก แบรมเวลล์ วัย 35 ปี เมื่อทำตำรวจทำการสอบสวนเพิ่มเติม ก็พบว่านายอีริกก่อเหตุมาแล้วกว่า 35 ครั้งในอพาร์ทเมนต์แห่งอื่นๆ ในเมืองชิคาโก้ แต่ก็หลบหนีการจับกุมมาได้โดยตลอด เมื่อทางคณะผู้พิพากษาเห็นดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินให้นายอีริกต้องจำคุกถึง 30 ปี!! “นายอีริกได้ก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และมีเจตนาที่จะหลบหนีการจับกุมมาโดยตลอด แต่แน่นอนว่านั่นไม่สำเร็จ และตอนนี้เขาต้องรับผลที่เขาก่อไว้แล้ว” ผู้พิพากษากล่าว แหม่ เพราะรีโมททีวีเป็นเหตุโดยแท้ ถึงกับต้องลงเอยขึ้นโรงขึ้นศาล ติดคุกติดตารางกันเลยทีเดียว ที่มา dailymail
-
ทฤษฎีวันสิ้่นโลก เมื่อมนุษย์สูญพันธุ์จนหมดสิ้น โลกที่เราเคยรู้จัก จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป!!
คุณเชื่อหรือไม่ว่าโลกของเรามีอายุมานานกว่า 4.5 พันล้านปีแล้วนะ ในขณะที่มนุษย์อาศัยอยู่บนโลกใบนี้มาเป็นเวลาเพียง 200,000 ปีเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้เราได้เห็นถึงสภาพความเปลี่ยนแปลงของโลกไปมากเลยทีเดียว แม้ว่าในปัจจุบันอัตราจำนวนประชากรโลกจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่า ถ้าหากวันใดวันหนึ่งโลกของเราปราศจากมนุษย์ เรียกง่ายๆ คือมนุษย์สูญพันธุ์ไปจนหมดสิ้น มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง… คลิปจากรายการ BBC Earth Unplugged โดยทฤษฎีและบทวิเคราะห์ดังกล่าวนั้น จะถูกสรุปใจความมาจากสารคดีของ BBC จากรายการ Earth Unplugged ซึ่งในแต่ละข้อจะเกิดขึ้นตามผลพวงที่มีความต่อเนื่องกันอย่างสมเหตุสมผล และมีความเป็นไปได้อยู่พอสมควร จะมีอะไรบ้างตามมาอ่านกันได้เลย หลังจากไม่กี่ชั่วโมง เมื่อมนุษย์สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้ ผลที่จะตามมาคือการเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตกใจในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะพลังงานจากทั่วโลกจะหยุดลง โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าของมนุษย์จะส่งผลทำให้โลกมืดมิด ส่วนพลังงานที่สร้างขึ้นมาจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้จากดวงอาทิตย์ รวมถึงกังหันลม ยังคงใช้งานได้เหมือนเดิม หลังจากไม่กี่วัน หลังจาก 48 ชั่วโมงผ่านไป แผงโซลาร์เซลล์จากแสงอาทิตย์ และกังหันลมจะหยุดทำงาน สัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านจะอดน้ำและอาหารตาย เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าของ และที่สำคัญน้ำก็จะเริ่มท่วมสถานีรถไฟใต้ดิน หลังจากไม่กี่สัปดาห์ อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์จะหาทางหลบหนีออกมา และทำให้มันกลายเป็นนักล่าอีกครั้ง สัตว์ป่าจะต่อสู้เพื่อความอยู่รอด และจะตายในไม่ช้า ส่วนสุนัขตัวใหญ่จะเริ่มล่าสัตว์ที่ตัวเล็กเพื่อความอยู่รอด…
-
หนุ่มถูกจับเข้าคุกแบบงงๆ เพราะตำรวจพบ ‘ยาไอซ์’ ในรถ แต่จริงๆ คือทรายแมวแบบคริสตัล!?
ในวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวที่เป็นอุทธาหรณ์สำหรับเหล่าทาสแมวทั้งหลายมาเล่าให้ฟัง ว่าการพกเจ้าทรายแมวแบบคริสตัลไปไหนมาไหนด้วยนั้นก็ควรจะทำให้มันรอบคอบและระมัดระวังหน่อยล่ะ เพราะอาจทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดจนชีวิตเปลี่ยนเลยทีเดียว Ross Lebeau วัย 24 ปี อาศัยอยู่ในรัฐเท็กซัส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและส่งตัวเข้าคุกในข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครอง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตรวจค้นรถของนาย Ross ที่ข้างทางในเขต Harris County และเจ้าหน้าที่ก็ได้พบกับสิ่งของต้องสงสัยว่าจะเป็นยาบ้า อัดอยู่ในถุงเท้าที่มีน้ำหนักประมาณ 200 กรัม “พวกเขาคิดว่าได้เจอกับหลักฐานมัดตัวชิ้นสำคัญเข้าแล้ว และนี่คงเป็นผลงานชิ้นใหญ่ที่สุดในปีนี้ของพวกเขา” Ross ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Eyewitness News แต่จริงๆ แล้วมันก็คือทรายแมวแบบคริสตัลธรรมด๊าธรรมดา ที่พ่อของเขาใส่ไว้ในถุงเท้าแล้วเก็บไว้ในรถของเขาและพี่สาวเพื่อกันไม่ให้เกิดปัญหาหมอกเกาะกับกระจกรถจนมองไม่เห็นทาง นาย Ross ถูกส่งตัวเข้าห้องขังเป็นเวลาถึง 3 วัน ก่อนที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบหลักฐานและพบว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ยาเสพติดแต่อย่างใด “ผมอยากได้รับคำขอโทษอย่างเป็นทางการจากการถูกกล่าวหา” Ross ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC เพราะการกล่าวหาในครั้งนี้ทำให้เขาต้องถูกไล่ออกจากงาน และสร้างความลำบากใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก “ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีความผิดอะไร และผมจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ ร่วมกับครอบครัวและผู้สนับสนุนเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าตัวของผมนั้นไร้มลทิน” เขากล่าวเสริม ทางด้านสำนักงานที่ว่าการอำเภอของ Harris County ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและสรุปมาได้คร่าวๆ ว่า…
-
19 การช่วยสุนัขแห่งปี ที่อยากจะให้ทุกคนได้รับรู้ และยกย่องในความดีของคนเหล่านี้
ในยามที่เราตกทุกข์ได้ยาก สิ่งที่เราต้องการมากที่สุดก็คงเป็นการรอคอยใครสักคนที่จะดึงเราออกจากจุดจุดนั้น และไม่ใช่เรามนุษย์เราเท่านั้น บรรดาสัตว์เลี้ยงเองก็เช่นเดียวกัน ทุกวันนี้ แม้จะมีศูนย์ให้การช่วยเหลือสัตว์ มีคนเลี้ยงสัตว์มากมาย แต่หากมองไปรอบๆ ยังมีสัตว์อีกมากมายที่ถูกละเลย โดยเฉพาะสุนัข อาจเป็นเพราะพวกมันเป็นโรค หรือมีรูปร่างไม่ตรงตามความต้องการ ทำให้พวกมันถูกทิ้งบ้าง ถูกมองข้ามบ้าง แต่ถ้าหากเราตัดสินใจที่เข้าไปช่วยเหลือ จะพบว่าสัตว์เหล่านี้ก็น่ารักไม่แพ้สัตว์เลี้ยงในบ้านเลย ที่สำคัญพวกมันจะตอบแทนคนที่ช่วยเหลืออย่างคุ้มค่าแน่นอน 1. สุนัขที่เกือบตายเพราะอดอาหาร แต่หลังจากได้รับการช่วยเหลือเพียง 7 สัปดาห์ ก็กลับมาดูสง่างามราวกับเป็นคนละตัว 2. หมาน้อยที่ร่างกายถูกเผาไปเกือบ 75% ได้รับการช่วยเหลือโดยนักดับเพลิง หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว มันจึงตัดสินใจที่จะเป็นหนึ่งในนักดับเพลิงเช่นกัน เพื่อจะช่วยเหลือคนอื่นๆ รวมทั้งสุนัขอย่างมันด้วย 3. ใครจะคิดว่า สุนัขที่ดูอ่อนแรงตัวนี้ จะกลับมาดูน่ารักได้ขนาดนี้ 4. พิทบูลที่ถูกทิ้งให้ทรมานเพราะมันเป็นโรคเรื้อนแถมยังติดเชื้อที่ตา ดูมันตอนนี้สิ สายตาออดอ้อนเชียว 5. เช่นเดียวกับตัวนี้ ซึ่งเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละตัว 6. สุนัขที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ตอนนี้กลายเป็นเหมาที่ใครๆ ก็อยากกอดที่สุด 7. สุนัขที่อยู่กับกองขยะ ได้รับการช่วยเหลือจนกลายเป็นน้องหมาสุดคิ้วท์…
-
เจ้าของร้านอาหารในแคนาดา เปิดให้คนยากไร้เข้ากินฟรี สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วโลก
ในสังคมปัจจุบัน ต้องยอมรับหลายคนแทบจะไม่ได้ทำอาหารเอง แต่เลือกที่จะซื้อทานมากกว่า ทำให้มีร้านอาหารเกิดขึ้นมากมาย และมีหลายระดับ ตั้งราคาปกติที่ใครๆ ก็เข้าไปทานได้ และร้านอาหารสุดหรูที่ราคาโคตรแพงเช่นกัน ดังนั้นการจะเข้าร้านอาหารได้ไม่ว่าจะร้านเล็กหรือร้านใหญ่ สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ “เงิน” แต่สำหรับร้านอาหาร Marché Restaurant Ferdous ไม่ใช่เฉพาะคนมีเงินเท่านั้นที่เข้าไปทานได้ คนยากจนที่ไม่มีเงิน ถ้าคุณหิวก็สามารถเข้าไปทานได้แบบฟรีๆ เลย ใครจะไปคิดว่าในยุคที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ ยังมีคนที่เปิดร้านอาหารให้คนเข้าไปทานฟรีได้ด้วย แน่นอนว่า มีไม่กี่คนหรอกที่กล้าทำอะไรแบบนี้ สำหรับเจ้าของร้านใจดีคนนี้คือ Yahya Hashemi ซึ่งได้เปิดร้านอาหาร Marché Restaurant Ferdous ร่วมกับเพื่อนของเขา ภายใต้สโลแกน “ทุกคนควรได้กินโดยไม่ต้องมีคำถาม” Yahya บอกว่า “บางครั้งมีคนยากจนเข้ามาในร้าน แต่พวกเขาอายที่จะขออาหารจากเรา เราเองก็อดที่จะสงสารพวกเขาไม่ได้ ดังนั้นเราจึงบอกว่ากับพ่อครัวว่า ‘อย่าถามอะไรพวกเขา อย่าตัดสินพวกเขา’ ถ้าพวกเขาเข้ามาขออาหาร ก็เอาให้เลย นั่นคือทั้งหมดที่พวกเขาต้องการ” ไอเดียนี้เกิดขึ้นในเดือนที่ผ่านมา เมื่อจ้าของร้านสังเกตว่า มีคนไร้บ้านจำนวนมากที่ต้องการที่อยู่ที่อบอุ่น และต้องการอาหารเพื่อความอยู่รอด สำหรับอาหารที่เจ้าของให้บริการกับคนยากจนนั้น มีหลากหลายเมนู เช่น…
-
คุณพ่อเสี่ยงชีวิต ‘ต่อสู้กับจิงโจ้’ เพื่อไม่ให้เข้ามาทำร้ายลูกๆ จนหูตัวเองเกือบจะขาด!!
ภายนอกจิงโจ้อาจจะเป็นสัตว์ที่ดูน่ารัก แต่ทว่าลึกๆ แล้วมันมีความแข็งแรงมาก เนื่องจากตัวของมันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อซะส่วนใหญ่ ส่วนนิสัยของมันก็คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย เพราะมันก็อาจจะเป็นมิตรกับมนุษย์ และบางทีมันก็มีความก้าวร้าวเช่นกัน เมื่อวันคริสต์มาสอีฟของปีที่ผ่านมา Matthew Chenhall และครอบครัวได้ไปตั้งแคมป์กันที่โรงแรมของพ่อตาที่ทะเลสาบ Conjola ใน NSW South Coast แต่ดูเหมือนทริปครั้งนี้จะไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อพวกเขาได้เจอกับจิ้งโจ้หนุ่มตัวหนึ่งที่พยายามเข้ามาทำร้ายลูกๆ ทันใดนั้น ผู้เป็นพ่อจึงเข้าปกป้องจนเกือบจะเสียหูไปข้างหนึ่ง Matthew มีลูกสาวสองคนคือ Holly วัย 11 ขวบและ Amelia วัย 9 ขวบ… ในวันที่เกิดเหตุ เขาได้เดินตามลูกสาวเพื่อลงไปยังริมแม่น้ำ แต่แล้วพวกเขาก็เจอกับจิ้งโจ้สีเทาตัวหนึ่ง สูงประมาณ 2 เมตรได้ คุณพ่อเล่าว่า “Amelia ตกใจมาก เธอจึงโยนแซนวิชที่อยู่ในมือใส่จิงโจ้ตัวนั้น แต่เจ้ามันก็ไม่มีทีท่าว่าจะหนีหรือขยับไปไหน” นอกจากจะไม่ไปไหนแล้ว กลับกลายเป็นว่าทำให้มันโกรธมากและทำเสียงคำราม พร้อมที่จะโจมตีใส่เด็กสาวทั้งสองคน คุณพ่อเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเข้าไปปกป้องลูกๆ ทันที คุณพ่อและลูกสาวทั้งสองคน แต่ยังไม่ทันเข้าถึงตัวมัน เจ้าจิงโจ้เข้าทำร้าย Matthew ซะก่อน มันใช้ขาของมันข้างหนึ่งตบไปที่หูของเขา…
-
ทรงผมสุดอลัง ที่เข้ารอบสุดท้าย British Hair Awards 2016 แรงบันดาลใจจากแอฟริกัน!!
ในวงการแฟชั่นนั้น นอกจากเสื้อผ้าแล้ว ทรงผมยังเป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้คนให้ความสนใจ ดังนั้นในทุกๆ ปี ก็จะมีการจัดประกวดทรงผมในวงการช่างตัดผมทั้งหลายด้วย และสำหรับ British Hair Awards 2016 ก็เป็นอีกหนึ่งเวทีประกวดทรงผมที่ถูกจับตามองมากที่สุด เพราะนอกจากทรงผมแล้ว ช่างตัดผมยังได้แฝงความหมายในแต่ละทรงด้วย สำหรับปีนี้ Lisa Farrall ช่างผมผู้มากความสามารถกับผลงานทรงผมชุด Armour ได้ชนะการประกวดถึง 3 ประเภทในบนเวที The Black Hair Awards และเป็นผู้ผ่านเข้ารอบชิงเพื่อรับรางวัลอันทรงเกียรติจาก British Hair Awards 2016 ด้วย คอลเล็กชั่นนี้ได้ใช้นางแบบผิวสีทั้งหมด เพราะ Lisa อยากสื่อให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวแอฟริกัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีความงดงามและความแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน Lisa ได้ทำงานร่วมกับช่างแต่งหน้า Suhyun Kang-Emeryshot และช่างภาพ Luke Nugent ซึ่งทุกคนได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อทรงผมเหล่านี้มาประกอบกับนางแบบผิวสี บวกกับการแต่งหน้าและการแต่งกาย ทำให้ทุกอย่างดูลงตัว กลายเป็นความงามที่ไร้ติ และด้วยเหตุผลทั้งหมด ก็สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมเธอจึงชนะการประกวดในครั้งนี้ ตอนนี้ เราอาจจะคิดว่า…
-
ชีวิตเบื้องหลังของ “The Rock” ผู้ไม่เคยลืมบุญคุณของผู้ผลักดัน ให้เขาประสบความสำเร็จ…
หากพูดถึง ‘The Rock’ แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นนักมวยปล้ำมากฝีมือแล้ว ยังเป็นนักแสดงขวัญใจของใครหลายๆ คนด้วย แต่กว่าจะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ เขาต้องผ่านอะไรมามากมาย ที่สำคัญเขาไม่ได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเองเพียงลำพัง แต่ได้รับการผลักดันจากบุคคลในครอบครัวผู้อยู่เบื้องหลังด้วย Dwayne Douglas Johnson คือชื่อเต็มของเขา แต่เรามักจะรู้จักในนาม The Rock นอกจากจะเป็นคนเก่งแล้ว เขายังเป็นคนมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และล่าสุดเขาก็ไม่ลืมที่จะตอบผู้ที่ทำให้เขามีวันนี้ เมื่อปีที่ผ่านมามีเว็บไซต์หลากหลายแห่งกล่าวถึงคุณลุง Tonga ผู้เป็นอดีตนักมวยปล้ำ และเป็นผู้ที่เคยให้ Johnson ยืมเงินเพื่อซื้อกางเกงมวยปล้ำเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เนื่องจากตอนนั้นเขาไม่มีเงินพอที่ซื้อเองได้ Johnson และคุณลุง Tonga Johnson ได้ตอบแทนคุณลุงด้วยการซื้อรถยนต์คันใหม่ให้ และได้แชร์เรื่องราวลงในอินสตาแกรมของเขาว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาสนะลุง ขอให้มีความสุขกับรถคันใหม่นะครับ” เขาได้เล่าถึงคุณลุงว่า “เมื่อตอนผมอายุ 5 ขวบ ปู่ของผมได้ฝึกซ้อมให้กับคุณลุง Tonga จนทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำที่ประสบความสำเร็จในยุค 70 ตลอดระยะเวลาที่เขาเป็นนักมวยปล้ำมืออาชีพนั้น เขาได้เปลี่ยนชื่อเป็น King Haku และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ WWE” ในขณะเดียวกันเมื่อ Johnson เริ่มโตเป็นหนุ่ม เขาก็มีความสนใจในกีฬามวยปล้ำเช่นกัน แต่ตอนนั้นเขายากจนมาก…
-
ศาลสั่งจำคุก สองชาวจีนเปิด “ธนาคารปลอม” หอบเงินไปกว่าพันล้าน จากผู้เสียหายนับร้อย!!
สำหรับปัจจุบันนี้ ธนาคารกลายเป็นแหล่งที่มากกว่าการฝากเงินเสียแล้ว เพราะธนาคารมักจะมีข้อเสนอทางการเงินให้เราอยู่เสมอเวลาที่เราไปทำธุรกรรม บางอย่างก็ดูน่าลองและบางอย่างก็ไม่น่าเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การเลือกธนาคารสำหรับฝากเงินนั้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะมีทั้งธนาคารเอกชนและรัฐบาลให้เลือก ดังนั้น และก่อนจะฝากเงินหรือทำธุรกรรมกับธนาคารใดธนาคารหนึ่ง ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีซะก่อน ไม่งั้นอาจจะเจอเหมือนกับผู้เสียหายในประเทศจีน เมื่อไม่นานนี้ทางการศาลเมืองหนานจิงได้ตัดสินจำคุกชายสองคน ในข้อหาโกงเงินลูกค้าที่มาเงินฝากออมทรัพย์ จากการเปิดธนาคารปลอม!! ผู้ต้องหาคือนาย Zeng และนาย He ทั้งสองได้ยักยอกเงินกว่า 1,900 ล้านบาท จากผู้เสียหาย 400 คน (ผู้เสียหายจำนวนแค่บางส่วนเท่านั้น) ศาลจึงตัดสินให้พวกเขาทั้งสอง จำคุก 9 ปี และ 9 ปีครึ่งตามลำดับ วิธีการหลอกลวงของพวกเขาก็คือ จูงใจเหยื่อที่มาเปิดบัญชี ด้วยการอ้างว่าจะได้ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 2 ต่อสัปดาห์ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอัตราที่ให้มากกว่าธนาคารทั่วไป จนทำให้นักธุรกิจคนหนึ่งตัดสินใจนำเงินมาฝากกับธนาคารปลอมแห่งนี้ จำนวน 50 ล้านบาท แต่กลับไม่ได้รับดอกเบี้ยตามเงื่อนไข เขาจึงตัดสินใจแจ้งความทันที จากการสอบสวนพบกว่า ธนาคารนี้เปิดโดยไม่มีใบอนุญาต และไม่ได้ดำเนินการเหมือนกับธนาคารจริงๆ แค่ตกแต่งทุกอย่างให้ดูเหมือนธนาคารเท่านั้นเอง ส่วนพนักงานก็ไม่ใช่นักบัญชี หรือพนักงานธนาคาร แต่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยกันนั่นเอง …
-
หญิงสาวลงทุนขับรถฝ่าฝน 2 ชั่วโมง เพียงเพราะต้องการไปช่วยเหลือหมาปอมแก่ๆ แค่ตัวเดียว…
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราได้ติดต่อกันได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น และยังมีเรื่องราวดีๆ มากมายที่เกิดขึ้นผ่านโซเชียลด้วย เช่นเดียวกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องราวของสุนัขปอมเมอเรเนียนที่ชื่อ Jaripo อายุ 18 ปีที่ถูกแชร์ไปในโลกอินเตอร์เน็ต จนได้รับความสนใจจากผู้คนมากมาย ก่อนจะจบลงความประทับใจที่ไม่อาจลืมได้เลย การทวีตขอความกรุณาผู้ใจดี รับเจ้าปอมแก่ๆ ไปเลี้ยง เจ้าของเดิมของ Jaripo บอกว่า “มันกำลังป่วยอย่างหนัก และดูเหมือนมันจะแย่ลงเรื่อยๆ ด้วย ดังนั้นมันจึงจำเป็นต้องรับการช่วยเหลือโดยด่วน” แต่ทว่าเธอไม่สามารถดูแลมันต่อไปได้อีก จึงจำเป็นที่จะต้องปล่อยมันไปอยู่ในศูนย์พักพิง ทางศูนย์พักพิงจึงตัดสินใจโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านทางโซเชียล และเนื่องจากในสื่อออนไลน์มีเรื่องราวของสุนัขอีกมากมายที่รอคอยความช่วยเหลือเช่นกัน จึงทำให้เจ้า Jaripo ที่แก่กว่าต้องรอการช่วยเหลือเป็นเวลานาน เจ้าปอม Jaripo อายุ 18 ปี Christina Morgan ผู้ก่อตั้ง Paw Works ในเขต Ventura County รัฐแคลิฟอเนีย ซึ่งเป็นหน่วยงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือสัตว์ ได้เห็นการแชร์เรื่องราวของเจ้าสุนัขตัวนี้มากมายในโลกออนไลน์ แต่ทว่าไม่มีใครยืนมือเข้ามาช่วยมันเลยแม้แต่คนเดียว เธอบอกว่า “มีคนแท็กฉันให้ช่วยเหลือสุนัขจำนวนมาก แต่สำหรับหมาแก่ตัวนี้ มันได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ มีคนมากมายอยากช่วย แต่ไม่มีใครช่วยมันจริงๆ สักคน อาจเป็นเพราะมันแก่แล้วเลยไม่มีใครอยากได้ไปเลี้ยง” …
-
สื่อจีนจัดอันดับ 10 เรื่องราวสุดโหดของจีน ที่เกิดขึ้นตลอดปี 2016 ดูแล้วเพลียจิตจริงๆ !!
มาถึงต้นปีแบบนี้ เรื่องที่เราอยากรู้ก็คงจะเป็นเรื่องสุดยอดของปีที่ผ่านมาสินะ มีทั้งเรื่องดีบ้าง เรื่องแย่บ้าง และเมื่อไม่กี่วันก่อน เราได้นำเสนอเรื่องราวประหลาดแห่งปีของจีนไปแล้วเหมือนกัน คราวนี้มาดูเรื่องราวสุดโหดจากจีนกันบ้างดีกว่า ซึ่งทั้งหมดนี้ได้จัดอันดับโดยสื่อจีนเช่นกัน จะเป็นเรื่องอะไรกันบ้าง ตามไปดูเลย 10. แอร์จีนถูกผู้โดยสารสาดน้ำใส่ เนื่องจากไม่ขอโทษ เรื่องนี้เกิดขึ้นในเที่ยวบิน China Southern Airlines ที่บินไปยังปักกิ่ง ขณะที่แอร์สาวกำลังเสิร์ฟน้ำ เครื่องบินเกิดตกหลุมอากาศ ทำให้น้ำหกใส่ผู้โดยสารแต่เธอกลับไม่ขอโทษสักคำ จนได้มีผู้คนเรียกร้องให้เขียนคำขอโทษ แต่เธอก็ไม่ทำ ผู้โดยสารท่านนั้นจึงแก้แค้นด้วยการสาดน้ำใส่เธอ 9. หนุ่มฉายา “หน้าเอเลี่ยน” เกลียดสังคมที่ไม่มีชนชั้น หนุ่มที่โด่งดังจากการแต่งรูปจนเกินจริง เท่านั้นยังไม่พอ ครั้งหนึ่งเมื่อเขาไปยังสิงคโปร์ เขาได้เขียนถึงชาวสิงคโปร์ว่า “ฉันเกลียดสังคมที่ไม่มีชนชั้นที่สุด” และยังบอกอีกว่า “อย่าคิดว่าคุณดีกว่าฉันเพียงแค่พูดภาษาอังกฤษได้ เพราะถึงฉันจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ฉันก็อยู่ในชนชั้นที่สูงกว่าพวกคุณ” ทำเอาคนสิงค์โปร์เดือดและไล่เขาออกจากประเทศและไม่ให้กลับมาอีก 8. คนจีนทำร้ายคนใส่รองเท้า Nike หลังจากมีการพิจารณาคดีเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ ชาวจีนเริ่มแสดงความก้าวร้าวเพื่อแสดงถึงความรักชาติ ด้วยรูปแบบต่างๆ อย่างเช่นการทำลาย iPhone อันเป็นผลผลิตจากอเมริกัน รวมทั้งการทำร้ายร่างกายผู้ที่สวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์อเมริกันด้วย 7. พนักงาน Dunkin’ Donuts เยาะเย้ยสำเนียงชาวอเมริกันเชื้อสายจีน คุณแม่ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนได้เข้าไปในร้าน Dunkin’ Donuts ที่…
-
นักเรียนญี่ปุ่นเห็น กระดาษปลิวว่อนนับร้อยแผ่น ค่อยๆ รอไฟแดง และทยอยเก็บจนหมดทุกแผ่น!!
การทำความดีเพื่อสังคมนั้น ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาบอกให้ทำหรือไม่จำเป็นต้องประกาศให้โลกรู้ เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่ใจของเราเองว่าจริงๆ แล้วเราทำไปเพื่ออะไร และนี่คือตัวอย่างดีๆ จาก Yumoto Risaki เด็กนักเรียนหญิงจากโรงเรียน Konosu High School ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำความดีด้วยการเก็บกระดาษหนังสือพิมพ์ที่กระจายอยู่ทั่วถนน จนได้รับประกาศนียบัตรเป็นการตอบแทน เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมา ณ ถนนบริเวณสถานี Konosu ในจังหวัดไซตามะ เมืองเกียวดะ มีกระดาษหนังสือพิมพ์จำนวนมากกระจายอยู่เต็มถนน และมีผู้คนมากมายเดินผ่านไปผ่านโดยไม่มีใครสนใจ ขณะเดียวกัน Yumoto เองกำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน และต้องผ่านถนนสายนี้ เมื่อเธอมาถึงและเห็นว่ามีกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าปลิวว่อนอยู่ เธอจึงตัดสินใจที่จะจอดจักรยานและลงไปเก็บทันที แม้จะมีผู้คนมากมายอยู่ตรงนั้น แต่มีเด็กสาวเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ก้มเก็บกระดาษเหล่านั้นอย่างตั้งใจ และเธอไม่แคร์ด้วยว่าใครจะมองยังไง เพราะเธอรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ในตอนแรก Yumoto ตั้งใจจะเก็บกระดาษพวกนี้ใส่ตะกร้ารถจักรยานของเธอ แต่พอเก็บไปสักพักก็พบว่า กระดาษมีมากเกินไป ตะกร้าของเธอคงใส่ไม่พอแน่ๆ เธอจึงตัดสินใจวิ่งไปซื้อถุงเพื่อมาใส่กระดาษพวกนี้ แต่ร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่สุดนั้นอยู่ห่างออกไปประมาณ 500 เมตร บวกกับมีผู้คนหนาแน่นบนท้องถนน ทำให้ทุกอย่างล่าช้าไปบ้าง แต่เธอก็ตั้งใจที่จะเก็บให้หมด กระดาษหลายแผ่นปลิวไปอยู่กลางถนน เธอก็รอจนกว่าไฟจะแดงขึ้น แล้วก็ค่อยๆ วิ่งไปเก็บ และทำเช่นนี้เรื่อยๆ จนกระทั่งเก็บหมดทุกแผ่น!! จากการกระทำของเธอ ก็มีผู้พบเห็นและนำไปบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “ฉันเห็นกระดาษกระจายเต็มถนนและมีเด็กนักเรียนนั่งเก็บอยู่คนเดียว…
-
รถไฟญี่ปุ่นช่วงหนาวเหน็บ กับน้ำใจอบอุ่นของคนแปลกหน้า ที่ฝากช่วยปลุกเมื่อถึงสถานี…
ว่ากันว่าในยุคสมัยที่คนเรามักจะมองหาแต่ความสุขของตัวเอง จนลืมที่จะหยิบยืนความช่วยเหลือให้กับผู้อื่น แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นหลายๆ คนแล้ว แม้จะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยแค่ไหน ก็ไม่อาจจะมองข้ามไปได้เลย เรื่องราวที่ #เหมียวเลเซอร์ กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ @ameni1952 ทำการโดยสารรถไฟเพื่อไปทำงานตามปกติ ซึ่งในช่วงเช้าตรู่ขนาดนั้น ก็ยังไม่ตื่นเต็มที่ ยังคงมีอาการง่วงอยู่บ้าง ในระหว่างที่ใกล้จะหลับใหล เพราะยังไม่ถึงสถานีปลายทาง Kikuna ในเมืองโยโกฮามา เขาเว้าวอนให้ชายแปลกหน้าคนข้างๆ ช่วยปลุกหน่อย ถ้าหากว่ารถไฟถึสถานีปลายทางของเขาแล้ว เมื่อฝากให้ช่วยปลุกเรียบร้อย เขาก็ผลอยหลับไป Kikuna Station หนึ่งในสถานีรถไฟของเมืองโยโกฮามา หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เขาก็ถูกปลุกให้ตื่นจากคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่ทว่าบุคคลดังกล่าวไม่ใช่คนที่เคยขอร้องช่วยปลุกไว้ ซึ่งอาจจะเกิดจากเหตุการณ์ที่ว่าคนที่เขาเคยขอช่วยปลุกไว้ในตอนแรก มีความจำเป็นที่จะต้องลงสถานีก่อนหน้านั้น และฝากหน้าที่ช่วยปลุกให้กับคนอื่นแทน สภาพของหัวขบวนรถไฟที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ในช่วงปลายปี 2016 แม้จะไม่มีการยืนยันจากชายแปลกหน้าคนนั้นว่าเขาได้ฝากหน้าที่ช่วยปลุกให้กับคนอื่นหรือไม่ แต่ก็ถือว่าเขาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเลย สิ่งเดียวที่ทำให้คุณ @ameni1952 รู้สึกไม่ดีก็คือเขาไม่สามารถกล่าวขอบคุณกับชายคนนั้นได้ด้วยตัวเอง และหลังจากที่เรื่องดังกล่าวเริ่มแพร่กระจายออกไป ชาวเน็ตญี่ปุ่นก็ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่คล้ายๆ กัน…
-
‘ขมิบ’ เพื่อผ่านด่าน… Perifit อุปกรณ์เพื่อคุณแม่หลังคลอด บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานให้แกร่ง!!
การดูแลสุขภาพร่างกายของคนเรานั้น ไม่ใช่เพียงแค่ในช่วงอายุหนึ่งเท่านั้น แต่จะต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใดๆ ของชีวิต อาจจะไม่ถึงกับขั้นที่ว่าเฟอร์เฟ็กต์ทุกสัดส่วนขนาดนั้น แต่หมายถึงหมั่นเอาใจใส่ดูแลให้มีสุขภาพดีเสมอๆ ดั่งเช่นในเรื่องของกล้ามเนื้อที่มักจะหย่อน ย้วย ยาน ไปตามกาลเวลา นั่นก็เป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ ถ้าหากเราดูแลดีๆ มันก็กลับมาอยู่กับเราได้ตลอด แต่ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ มันก็จะย้วยไปอย่างนั้น กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน เมื่อกล่าวถึงกล้ามเนื้อแล้ว ผู้คนส่วนมากมักจะนึกถึงกล้ามแขน กล้ามหน้าท้อง เหล่ากล้ามที่จะเห็นเด่นชัดได้จากภายนอก แต่ #เหมียวเลเซอร์ ขอบอกเลยว่า กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ของผู้หญิงก็สำคัญไม่แพ้กันเลยนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณแม่ที่กำลังจะคลอดและคลอดลูกไปเรียบร้อยแล้ว หนึ่งในท่ากายบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ด้วยการยืนและย่อพิงกับกำแพง ทำไมกล้ามเนื้อส่วนนี้ถึงสำคัญ? นั่นก็เพราะว่ากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน มีหน้าที่ควบคุมการกลั้นปัสสาวะ อุจาระ และเป็นกล้ามเนื้อเกี่ยวกับการคลอดบุตร และหลังจากการคลอดบุตรแล้ว จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้เกิดอาการอ่อนแรงนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในภายหลัง จากเหตุดังกล่าว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงได้แนะนำวิธีการบริหารกล้ามเนื้อส่วนนี้ด้วยการ ‘ขมิบ’ ในการฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อหลังจากการคลอดลูก เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ รวมไปถึงเป็นการฟื้นฟูจากการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะหรือไตด้วย Perifit อุปกรณ์ช่วยฝึกการขมิบ ที่จะทำให้การขมิบของคุณไม่รู้สึกน่าเบื่ออีกต่อไป ปัญหาที่ตามมาก็คือผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะต้องขมิบอย่างไรให้ถูกต้อง หรือจะต้องขมิบบ่อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสม เพราะฉะนั้นแล้วเจ้าอุปกรณ์ Perifit…
-
กลับมาแล้ว!! เปิดตัว “Nokia 6” สมาร์ทโฟนพร้อมระบบแอนดรอยด์ เตรียมวางจำหน่ายในจีนเร็วๆ นี้
หลังจากที่ Nokia ประกาศขายแผนกมือถือให้กับ Micorsoft ไปเมื่อปี 2014 จากนั้นก็ไม่มีมือถือรุ่นใหม่ๆ ออกมาจากแบรนด์นี้ให้เห็นอีกเลย แต่กลายเป็นมือถือยี่ห้อ Microsoft แบบเต็มๆ ไปแทน แม้จะมีการวางขายฟีเวอร์โฟน (มือถือที่ไม่มีระบบปฏิบัติการณ์) อยู่บ้าง แต่แฟนๆ หลายคนก็ยังคงบ่นอุบว่าเมื่อไหร่แบรนด์ในตำนานอย่าง Nokia จะกลับมาทำสมาร์ทโฟนให้เหล่าสาวกใช้กันสักที? และก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 ที่ผ่านมาทางผู้บริหารระดับสูงอย่าง Rajeev Suri ได้ออกมาบอกว่า Nokia เตรียมที่จะส่งมือถือรุ่นใหม่ออกมาให้เราได้ชมกันภายในปี 2016 แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีมีวี่แวว (อ่านข่าว Nokia ได้ที่นี่เลย) แต่ตอนนี้แฟนๆ เตรียมเฮได้แล้ว เพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เว็บไซต์ต่างประเทศหลายๆ แห่งได้มีการปล่อยคลิปเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Nokia โดยครั้งนี้มาในชื่อรุ่นว่า Nokia 6 จากข้อมูลตามเว็บไซต์ Phonearena บอกว่าเจ้า Nokia 6 จะมาพร้อมกับกระจก Gorilla Glass 3 ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วแบบ Full…
-
ศาลถึงมึนตึ๊บ ยายวัย 79 ปี เสพยา+ขโมยของนับครั้งไม่ถ้วน เพียงเพราะเบื่อชีวิตเดิมๆ…
เคยมั้ย อารมณ์แบบว่า เบื่อ เซ็ง จะทำอะไรก็น่าเบื่อไปหมด? ก็หาวิธีแก้เบื่อสิ เช่น ออกไปดูหนัง ออกไปเล่นกีฬา ไปเม้ามอยกับเพื่อน หรืออะไรก็ได้ที่ทำแล้วชอบอะ แต่ถ้าทำหมดแล้ว ยังไม่หายเบื่ออีก ก็หาอะไรทำที่มันน่าตื่นเต้นดูมั้ยล่ะ? อย่างคุณยายคนนี้ ที่รู้สึกเบื่อกับชีวิตจำเจแบบเดิมๆ เลยหาเรื่องแก้เบื่อที่หลายคนถึงกับเห็นด้วยว่าหายเบื่อแต่ไม่กล้าทำกันหรอก นี่เป็นเรื่องราวของคุณยาย June Humphreys วัย 79 ปี ที่กลายเป็นผู้เสพเฮโรอีนและมีประวัติอาชญากรรมมาแล้วกว่า 5 ปี ด้วยสาเหตุที่ว่า เบื่อ เลยอยากหาอะไรทำที่มันน่าตื่นเต้นสักหน่อย ความเบื่อคุณยายเริมขึ้นเมื่อตอนที่เธออายุ 70 กว่า เธอเริ่มด้วยการเข็นรถเข็นเล็กๆ ของเธอและเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้า จากนั้นก็แอบขโมยของใส่รถเข็นโดยไม่มีใครรู้ แต่ความลับไม่มีในโลก ในที่สุดเธอก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจับได้ ขณะที่คุณยายขโมยของจากร้านค้า 2 แห่งใน Stafford เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ของปี 2016 ที่ผ่านมา เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ซักถามเกี่ยวกับสาเหตุการทำเช่นนี้ คุณยายบอกว่า “ฉันแค่รู้สึกเบื่อ เลยอยากออกจากอะไรที่มันซ้ำซาก จำเจ” พวกเขาจึงได้พาคุณยายพร้อมของกลางในรถเข็นของเธอไปหาตำรวจเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป… ในที่สุดเธอก็ได้ขึ้นศาล Cannock Magistrates Court ด้วยข้อหาการโจรกรรม…
-
แบรนด์ดัง ‘เมย์เบลลีน’ เปิดตัวโฉมหน้า นาย เอ๊ย นางแบบ คนใหม่ สั่นสะเทือนทั้งวงการ!!
เพราะผู้หญิง และความสวยงาม เป็นของคู่กัน ล่าสุดบริษัทผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ดังที่หลายคนต่างรู้จักกันดีอย่าง ‘Maybelline’ ที่คอยตอบโจทย์ความต้องการด้านความสวยงามของสาวยุคใหม่ ได้เปิดตัวนางแบบคนล่าสุดอย่างเป็นทางการ ซึ่งการเปิดตัวนางแบบคนใหม่ของแบรนด์ดังระดับโลกนี้ เรียกได้ว่า สั่นสะเทือนวงการโฆษณาเครื่องสำอางค์ไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เราไปทำความรู้จักกับแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่กันเลย ถะแด๊ม!!! นี่คือโฉมหน้าสาวงามผู้เป็นพรีเซ็นเตอร์ประจำแบรนด์คนใหม่ ไฉไลไม่เหมือนใคร ภาพตัวอย่างการวิ๊งค์ขนตา ของหล่อน ทำได้ดีไม่แพ้นางแบบมืออาชีพที่ผ่านๆมาเลยล่ะ เธอคนนี้มีชื่อว่า ‘Manny Gutierrez’ เดิมทีนางแบบวัย 25 ปี คนนี้ได้รับฉายาจากชาวเน็ตว่า ‘บิวตี้บอย’ ชายหนุ่มรูปงามที่มักจะสอนการแต่งหน้าผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว (@mannymua733) โดยมีผู้ติดตามมากถึง 3 ล้านคนเลยทีเดียว!! “สมัยตอนที่เป็นเด็กๆ ฉันชอบนั่งมองคุณแม่แต่งหน้าก่อนออกไปทำงานทุกเช้า นานหลายชั่วโมงได้อย่างไม่เบื่อเลย” Manny เล่า “พอเริ่มโตขึ้นมาหน่อย ฉันจึงเริ่มทดลองแต่งหน้าตัวเองเป็นประจำ และพบว่านี่แหละคือสิ่งที่เรารัก ทุกครั้งที่แต่งหน้าฉันจะรู้สึกได้ถึงความสุข” ด้วยยอดผู้ติดตามนับล้าน และฝีมือการแต่งหน้าของเธอราวกับศิลปินวาดภาพบนผืนผ้าใบ ไม่แปลกใจเลยที่ ‘เมย์เบลลีน’ จะเลือกเธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนต่อไป… แต่เมื่อไหร่ที่เธอลบเครื่องสำอางค์ออก เรียกได้ว่าความหล่อ อาจทำให้สาวๆหลายคนกรี๊ดกร๊าดกันได้เลยทีเดียว…
-
ภาพสินค้า ‘อาหารอเมริกัน’ จากร้านค้าทั่วโลก กับวิถีชีวิตอเมริกัน ในมุมมองของชาวต่างชาติ!?
จัดว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะเราต่างก็อยากจะรู้กันทั้งนั้นแหละ ว่าจริงๆแล้ว คนประเทศอื่น มีท่าทีการมอง หรือทัศนคติต่อประเทศเราอย่างไร และการพิสูจน์ผ่านชั้นวางของจากสินค้าที่ส่งออกไป คราวนี้เราจะพาไปชมสินค้าที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘อาหารอเมริกัน’ ที่นำไปวางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วโลก จะว่าไปแล้วของกินของใช้พวกนี้นี่แหละ ที่สามารถสะท้อนภาพวิถีชีวิต การเป็นอยู่ของชาวอเมริกันได้ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว ชั้นขายของจากอเมริกา ในประเทศอังกฤษ จากนิวซีแลนด์ ส่วนมากจะเป็นซีเรียล และขนมหวาน ชั้นขายอาหารนำเข้าจากอเมริกา ที่ประกอบไปด้วย ขนมป็อปทาร์ต น้ำเชื่อม ผงทำเค้ก ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวก่อเบาหวานทั้งนั้น ชั้นวางของนำเข้าจากอเมริกา ในประเทศฝรั่งเศส ส่วนนี่ก็จากประเทศเบลเยียม น้ำอัดลมเต็มไปหมดเลยแฮะ ชั้นวางของจากอเมริกาเล็กๆ ในห้างประเทศโคลัมเบีย สินค้าก็จะมีในรูปแบบเดิมๆ นั่นแหละ ชั้นวางของจากร้านสะดวกซื้อนอกเมืองในประเทศฝรั่งเศส ส่วนนี่ก็เป็นสินค้าจากอเมริกา ที่นำไปวางขายในออสเตรเลีย ในอังกฤษเช่นเดิม เต็มไปด้วยของที่มีรสชาติหวานทั้งนั้นเลยนะเนี่ย จากห้างสะดวกซื้อในเยอรมนี จากประเทศเดนมาร์ก ว่ากันว่าชั้นวางของจากอเมริกาในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย จะมีสินค้าคล้ายๆกันแบบนี้แหละ ส่วนนี่ก็จากอัมสเตอร์ดัม…
-
ชุดเครื่องแบบจนท. ดูแลศาลเจ้าญี่ปุ่น ช่วงปีใหม่ เหมือนหลุดมาจากอนิเมะ เท่ได้อีกก!!
ว่ากันว่า ‘ญี่ปุ่น’ เป็นประเทศที่ไปเที่ยวได้อย่างไม่มีวันเบื่อ ใครที่ได้ไปแล้วก็มักจะติดใจ อยากจะไปอีกหลายๆรอบ เพราะมันช่างเต็มไปด้วยสีสันจากผู้คน ความสวยงามจากธรรมชาติ และเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมานี้เอง ‘ศาลเจ้าสึรุงะโอะกะ ฮะจิมัง’ ถือว่าเป็นอีกสถานที่ๆ ได้รับความนิยมจากทั้งคนญี่ปุ่นเอง และนักท่องเที่ยว ที่ต่างเดินทางมาเพื่อสวดมนต์ขอพรต้อนรับปีใหม่ ‘ศาลเจ้าสึรุงะโอะกะ ฮะจิมัง’ อายุมากกว่า 900 ปี แต่ความพิเศษอย่างหนึ่งที่ทางศาลเจ้าแห่งนี้ได้จัดขึ้น เพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนทุกคนในช่วงที่ผ่านมา ก็คือชุดเครื่องแบบของเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความเรียบร้อยนั่นเอง เห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ช่างเป็นการผสานวัฒนธรรมยุคเก่า และยุคใหม่ ได้ลงตัวดีจริงๆ หล่อเท่ซะยิ่งกว่าชุดของที่ไหนๆ เหมือนมีเจ้าหน้าที่จากการ์ตูนมาคอยดูแลเลย ไม่ว่าจะเด็ก สตรีมีครรภ์ หรือผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่จะคอยดูแลรักษาความเรียบร้อยให้อย่างดี ส่วนเหตุผลที่ได้เลือกใช้ชุดรูปแบบนี้ก็เพราะว่ามีสีแดงที่สะดุดตา และการออกแบบชุดของเจ้าหน้าที่ให้อารมณ์เหมือนหน่วยงานในการ์ตูน ที่พร้อมจะกำจัดเหล่าวายร้ายที่ออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นที่สะดุดตาต่อนักท่องเที่ยว เข้ามาขอความช่วยเหลือได้ทันที และยังช่วยให้การควบคุมประชาชนที่หลั่งไหลกันเข้ามาเป็นจำนวนมากได้ง่ายอีกด้วย ไม่ใช่มีแค่ผู้ชายเท่านั้น เจ้าหน้าที่หญิงก็มีเหมือนกัน แถมยังแต่งตัวออกมาได้ดูน่ารัก น่าเชื่อฟังสุดๆ อร๊ายย >< นอกจากจะดูเท่ไม่ซ้ำใครแล้ว…
-
ชาวเกาะ Foula อันห่างไกล ฉลองคริสต์มาสช้ากว่าชาวโลก 2 สัปดาห์ ตามปฏิทินเก่าแก่…
ประชาชนผู้อาศัยอยู่บนเกาะ Foula เป็นหนึ่งในหมู่เกาะ Shetland ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขตสกอตแลนด์ มีประชากรทั้งหมดประมาณ 30 คน และพวกเขากำลังจะฉลองวันคริสต์มาสกันในวันที่ 6 มกราคม ตามวันเวลาท้องถิ่น และงานเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ ก็จะถูกจัดขึ้นในอาทิตย์ถัดไปซึ่งก็คือวันที่ 13 มกราคมนั่นเอง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าประชาชนของที่นี่นั้นยึดวันที่ตามปฏิทินเก่าแก่จูเลียนเป็นหลัก โดยจะจัดงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสต์ (Yule) ในวันที่ 6 และวันปีใหม่ (Newerday) ในวันที่ 13 ของเดือนมกราคมในทุกๆ ปี โดยชุมชนนี้มีความเชื่อและปฏิบัติตามวัฒนธรรมของชาว Norse อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นงานเทศกาลต่างๆ ดนตรี และในด้านคติชน (ตำนาน นิทาน นิยายประจำถิ่น เพลง สำนวนภาษิต คำพังเพย ยาพื้นบ้าน อาหารการกิน ประเพณี และพิธีกรรม) พวกเขาจะทำการกำหนดบ้านไว้ 1 หลัง เพื่อที่จะใช้จัดงานเฉลิมฉลอง และชาวบ้านทุกคนก็จะไปร่วมงานกันที่นั่น มีทั้งการแลกของขวัญกันในตอนกลางวันจากนั้นก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อไปเปิดของขวัญที่ได้มา พอตกดึกก็จะมีงานเลี้ยงที่บ้านหลังเดิม …
-
ญี่ปุ่นถอน ปิกาจูกับมาริโอ้ ออกจากมาสคอตโอลิมปิก 2020 ดันโกคู ลูฟี่ ฯลฯ ขึ้นมาแทน!!
หลังจากการโปรโมทโอลิมปิกครั้งต่อไปของประเทศญี่ปุ่น ในงานพิธีปิดที่ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ต้องขอบอกเลยว่าสร้างความประทับใจให้กับทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะทางญี่ปุ่นได้นำเหล่าตัวการ์ตูนที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็น มาริโอ้ ปิกาจู และโดราเอมอน มาใช้เป็นตัวมาสคอตในการนำเสนอความเป็นญี่ปุ่น จนสร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลก หากใครจำได้เลือนลาง ชมคลิปพิธีปิดที่ผ่านมากันก่อน… อย่างที่รู้กันดีว่าการที่พวกเขาเลือกใช้ตัวการ์ตูนอย่าง มาริโอ้ หรือปิกาจู ที่เป็นตัวละครแนวหน้าของ Nintendo ในการโปรโมทนั้น ก็เพราะว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง หลายๆ คนก็คาดเดาไว้ว่าตัวละครสองตัวนี้จะเป็นตัวหลักในการจัดงานโอลิมปิกที่ญี่ปุ่นในปี 2020 ที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน และล่าสุดนี้ ทางเว็บไซต์สินค้าอย่างเป็นทางการของโอลิมปิก Tokyo 2020 Official Online Shop ก็เริ่มเปิดให้จองสินค้าที่ระลึกกันแล้ว สินค้าของที่ระลึก ประกอบไปด้วยเสื้อ หมวก และผ้าพันคอ ที่มีลายตัวการ์ตูนอยู่หลากหลายตัวอย่างเช่น เจ้าหนูปรมาณู, เซเลอร์มูน, ลูฟี่, นารูโตะ, ซุน โกคู, พริตตี้เคียว, และชินจัง แต่กลับไร้วี่แววของตัวหลักอย่างปิกาจู และมาริโอ้ …
-
สาวบังเอิญพบคนหน้าเหมือน ถ่ายรูปลงโซเชียล แล้วก็เจอร่างแยก โผล่ในเน็ตตามมาอีกเพียบ!!
บางครั้งการพบเจอคนที่หน้าตาเหมือนกันโดยบังเอิญนั้นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับสาวคนนี้ดันมีหน้าตาที่ละม้ายคล้ายคลึงกันกับหลายคนซะเหลือเกิน… ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Santana Guitierrez วัย 17 ปี อาศัยอยู่ใน Las Vegas และตอนนี้ย้ายมาอยู่ในเมือง La Jolla รัฐ California เพราะต้องมาเรียนที่มหาวิทยาลัย University of California San Diego เรื่องราวของสาว Santana นั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เธอได้บังเอิญไปพบกับสาวคนหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าในเมือง San Diego ที่ไม่เพียงหน้าตาเหมือนกันเท่านั้นทั้งทรงผม และรูปร่างก็คล้ายกันแบบสุดๆ Santana เล่าว่าสาวคนนั้นมีชื่อว่า Isobel และเธอทำงานให้กับองค์กร Save the Children ที่ช่วยเรี่ยไรหาเงินไปช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ หลังจากที่พบปะกันแล้วเธอก็ได้ขอถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก พร้อมกับนำมันมาโพสต์ลงทวิตเตอร์ โดยใส่แคปชั่นว่า “จู่ๆ ก็ได้พบกับคนที่มีหน้าตาเหมือนกันสุดๆ WTF” เรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มต้นจากตรงนี้แหละ เพราะหลังจากที่โพสต์ลงไปแล้วก็ทำให้มีชาวเน็ตมากมายให้ความสนใจจนมีคนเข้ามากดไลค์กว่า 35,600 ไลค์ และรีทวิตกว่า 20,800…
-
เด็กชาย 10 ขวบ ไว้ผมยาวกว่า 2 ปี เพื่อทำวิกผมให้เพื่อนหญิงที่ผมร่วงจากการเป็นโรค
นอกจากการแต่งหน้าแต่งตาเพื่อเพิ่มความมั่นใจแล้ว ทรงผมก็มีส่วนสำคัญที่ทำหลายๆ คนมีความมั่นใจเช่นกัน โดยเฉพาะผู้หญิง แต่น่าเสียดายสำหรับบางคนแล้ว พวกเขาไม่มีโอกาสได้ทำทรงผมที่ต้องการ เนื่องจากการป่วยเป็นโรคต่างๆ จนทำให้สูญเสียเส้นผมไป ดังนั้นมันยากที่จะบอกว่า ‘ผู้หญิงสามารถมั่นใจได้โดยไม่มีผม’ ไม่ใช่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่จะเข้าใจเรื่องแบบนี้ แม้แต่เด็กชายวัย 10 เองก็เข้าใจว่า ผมนั้นสำคัญกับผู้หญิงมากแค่ไหน… Tyler Boone เด็กชายวัย 10 ขวบ จากแอตแลนตา จากรัฐจอร์เจีย มีเพื่อนชื่อ Gabby Ruiz วัย 12 ปี จากรุยซ์ริเวอร์ รัฐฟลอริด้า ทาง Gabby นั้นป่วยเป็นโรคผิวหนัง และเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง จนทำให้เธอค่อยๆ สูญเสียเส้นผมไปตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น เด็กสาวจึงต้องใส่หมวกตลอดเวลา เพราะว่าวิกผมมีราคาแพงเกินกว่าที่ครอบครัวจะซื้อให้ได้ แต่ทว่าการใส่หมวกนานๆ ก็ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดเช่นกัน ดังนั้นหลายต่อหลายครั้งเธอจึงออกไปไหนมาไหนโดยไม่ใส่หมวกเลย Emilia Ruiz แม่ของเด็กสาวบอกว่า “เราปล่อยให้เธอทำในสิ่งที่ต้องการ เพราะไม่อยากให้เธอต้องอึดอัด” Tyler และ Gabby พบกันครั้งแรกเมื่อ…
-
19 ผลงานที่เกิดจากความผิดพลาดของพนักงาน ชนิดที่ว่า เออ มันไม่น่าให้อภัยจริงๆ!!
หลายคนคงเคยเห็นความผิดพลาดจากสินค้าหรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ จนอดคิดไม่ได้ว่า ตอนที่ทำอยู่นั้น พนักงานกำลังคิดอะไรอยู่นะ? เช่นเดียวภาพต่อไปนี้ ที่เป็นความพลาดชนิดที่ให้อภัยไม่ได้เลยจริงๆ และก็ไม่รู้ว่า พนักงานเจ้าของผลงานนี้จะเจออะไรบ้างจากเจ้าหาย โถๆๆ แต่มันก็ฮาดีเหมือนกันนะ 1. ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือผิดพลาด แต่ชาร์จแบตมาเต็มซะด้วย 2. สีแดงสี่คู่นี้มาจากไหน 3. ใช่แล้ว มันคือที่ใส่สบู่แต่… มันเอาไว้ใส่สบู่เหลวไม่ใช่ก้อนเฟ้ยยย 4. ทำแบบนี้ เอาไว้ดูเล่นที่บ้านเถอะ 5. คืออะไร แบ่งให้อีกห้องครึ่งหนึ่งงี้หรอ 6. ทำประตูแบบนี้ ไม่ต้องมีดีกว่ามั้ง ส้วมกลางแจ้งไปเล้ยยย 7. เอาคำว่า YIELD มาเขียนไว้บนถนน เพื่อ? 8. พนักงานทำลูกศรกับคนเขียนตัวหนังคงเป็นคนละชุดกันสินะ 9. เฮ้ย!! หมากลายพันธุ์เป็นแมวหรอ 10. ตั้งใจทำแค่นี้ หรือลืมใส่รายละเอียดกันแน่ 11. ห๊า!! อะไรหมดนะ เอาดีๆ…
-
หนุ่มตั้งใจออกไปจับมิว จนกระทั่งได้จับ ‘มิวน้อย’ มาแทน และรับมันมาเลี้ยงเป็นเพื่อน!!
กระแสโปเกมอนโก อาจจะเริ่มจางหายไปแล้ว แต่สำหรับเรื่องดีๆ ที่เกิดจากเกมโปเกมอนโกนั้น ยังมีให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ และสร้างความประทับใจไม่รู้จบ เช่นเดียวกับกรณีนี้ เมื่อผู้เล่นโปเกมอนโกรายหนึ่ง ตั้งใจออกไปจับมิวในเกม แต่ในระหว่างนั้น เขาก็ได้พบกับเจ้ามิวน้อยตัวเป็นๆ ก่อนจะจบลงด้วยการช่วยเหลือเพื่อนตัวน้อยออกมาจากความทรมาน เรื่องราวนี้ถูกโพสต์ในเว็บไซต์ Imgur โดยผู้ใช้ที่ชื่อ joelalmeidaptg เขาเล่าว่า วันนั้น ระหว่างที่เขาเดินไปจับโปเกมอน เขาก็ได้ยินเสียงน้อยๆ ร้องอยู่หลังตู้ใบหนึ่งที่ตั้งอยู่ข้างถนน ในตอนแรกเขาคิดว่า เป็นเสียงนก แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า อากาศร้อนขนาดนี้ นกคงไม่บินลงมาอยู่ข้างล่างแบบนี้หรอก เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วก็พบว่ามันคือ เจ้ามิวน้อยนั่นเอง ลูกแมวตัวนี้กำลังติดอยู่หลังตู้ ในลักษณะที่ห้อยโตงเตง ไม่สามารถขยับไปไหนได้ มันจึงร้องขอความช่วยเหลือ และไม่รู้ว่ามันร้องมานานแค่ไหนแล้ว แต่เสียงของมันแผ่วเบา และดูอ่อนแรงมาก หนุ่มผู้เล่นโปเกมอนจึงเรียกพ่อแม่ให้มาช่วยแต่ก็ไม่สามารถช่วยได้ พวกเขาจึงโทรเรียกหน่วยกู้ภัยมา แต่การช่วยเหลือครั้งนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะที่ที่ลูกแมวติดอยู่นั้นค่อนข้างแคบ เจ้าหน้าที่พยายามทำทุกวิถีทางมัน ไม่ว่าจะเป็นการเอาไม้กวาดเขี่ย การใช้น้ำมันหยอด ในขณะที่ลูกแมวก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด พวกเขาพยายามจะเอียงตู้แต่ก็ไม่สามารถขยับได้ หน่วยกู้ภัยจึงจะอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อย้ายตู้ดังกล่าวนี้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะเกรงว่าตู้นี้จะระเบิดและอาจเป็นอันตรายกับลูกแมวได้ ต่อมาหน่วยกู้ภัยจึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามา…
-
เปิดใจ… คู่รักชาวญี่ปุ่น กลับมาคุยกันครั้งแรก หลังจากที่สามีไม่ยอมพูดกับภรรยาตลอด 20 ปี!!
สำหรับคนสองคน ที่ได้ตัดสินใจเข้าสู่ชีวิตคู่แล้ว เชื่อว่ามันไม่ได้มีนอกจากความรักเท่านั้น ที่จะช่วยทำให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ แต่มันยังรวมถึงความเข้าใจ การดูแลเอาใจใส่ และการยอมรับซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าบางครั้งอาจจะมีทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่ทว่าชีวิตคู่ของคุณพ่อ คุณแม่ จากครอบครัวนี้มันช่างแตกต่างออกไป เพราะฝ่ายคุณพ่อไม่ยอมพูดคุยกับภรรยาของเขาเลยแม้แต่คำเดียวมาโดยตลอด 20 ปี มีเพียงแค่การทำเสียงฮึดฮัดใส่กัน หรือทำหน้าเหวี่ยงใส่กันเท่านั้น จนกระทั่ง ‘โยชิกิ’ ลูกชายวัย 18 ปีเพียงคนเดียวของทั้งคู่ รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด จึงได้เขียนจดหมายไปขอร้องรายการทีวีแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยหวังว่าจะช่วยทำให้ทั้งคู่กลับมาพูดคุยกันได้อีกครั้ง ‘คาตายาม่า’ และ ‘ยูมิ’ สามีภรรยาที่อยู่ใต้ชายคาเดียวกันมาโดยตลอด โดยเนื้อหาในจดหมายจากลูกชายได้ระบุไว้ว่า “คุณพ่อของผมกำลังจะเกษียณอายุในอีกไม่ช้านี้ และผมก็กลัวว่าความสัมพันธ์อันแสนจะกล้ำกลืนฝืนทนของพ่อแม่ ต้องลงเอยด้วยการหย่าร้าง ผมรู้มาโดยตลอดว่ามีอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ด้วยความเย็นชาของคุณพ่อ ทำให้ผมไม่สามารถที่จะเข้าไปแก้ไขจุดนี้ได้เลย” ทางรายการจึงได้จัดแจงให้ทั้งคู่ได้มีเวลาส่วนตัวกันบ้าง โดยให้ลูกเฝ้ารออยู่ห่างๆ และในที่สุด ‘คาตายาม่า’ ก็ได้ปริปากพูดกับภรรยาออกมาเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี คลิปวิดีโอจากรายการ เมื่อทั้งคู่ได้นั่งคุยกันอย่างเปิดอกอีกครั้ง บทสนทนาแรกที่ทั้งคู่กลับมาคุยกัน มีดังนี้… “ยูมิ ฉันรู้ดีว่ามันนานมาแล้วที่เราไม่ได้คุยกันแบบนี้ ที่ผ่านมาเธอคือคนที่คอยดูแล และเป็นห่วงลูกๆมาโดยตลอด…
-
อนาคตยุคปัจจุบัน!! บริษัทประกันภัยญี่ปุ่นปลดพนักงานกว่า 30 คน แล้วนำ AI เข้ามาทำงานแทน
อนาคตที่เหล่าแรงงานจากมนุษย์จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรกำลังจะใกล้ความจริงขึ้นไปทุกทีแล้ว… เมื่อบริษัทประกันภัยในประเทศญี่ปุ่นได้ทำการปลดพนักงานกว่า 30 คน และนำระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ที่สามารถคำนวณการจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้ถือกรมธรรม์ได้เข้ามาแทนที่ บริษัท Fukoku Mutual Life Insurance เชื่อมั่นว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้นถึง 30% และคาดว่าจะได้กำไรคืนจากการลงทุนในครั้งนี้คืนภายในสองปี ทางบริษัทได้กล่าวเอาไว้ว่าพวกเขาจะประหยัดเงินทุนได้มากกว่า 43 ล้านบาท และหลังจากใช้ไป 1 ปีก็จะประหยัดลงไปอีก 61 ล้านบาท โดยระบบ AI นั้นจะถูกติดตั้งในเดือนนี้และจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาประมาณ 4.3 ล้านบาทต่อปี แน่นอนว่าการทำแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อพนักงานที่จะต้องถูกปลดออกไปในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ เป็นจำนวน 34 คนเท่าไหร่นัก โดยระบบดังกล่าวนี้เป็นฐานข้อมูลจากบริษัท IBM (ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และให้บริการด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ รายใหญ่ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา) ปัจจุบันนี้พวกเขาได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีองค์ความรู้ และมีความคิดความอ่านเหมือนกันกับมนุษย์ได้แล้ว มันสามารถวิเคราะห์และตีความข้อมูลต่างๆ อันประกอบไปด้วยข้อความ รูปภาพ ไฟล์เสียง และไฟล์วิดีโอ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการนำมันมาใช้กับบริษัทประกันภัย จะทำให้เจ้า AI…
-
ฮอนด้าเผยต้นแบบ รถมอเตอร์ไซค์อัจฉริยะ “ทรงตัวได้เอง” พร้อมระบบขับอัตโนมัติ ปรับองศาได้
จากนี้ไปปัญหาคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นจะหมดไปแล้ว เมื่อล่าสุดในงาน CES 2017 ที่จัดขึ้นที่ เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางบริษัทฮอนด้าได้เปิดตัวต้นแบบรถมอเตอร์ไซค์อัจฉริยะที่ติดตั้งระบบช่วยทรงตัวพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยีการทรงตัวของหุ่นยนต์อาซิโม แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ทำให้รถของคุณตั้งสองล้อได้ตลอดกาลอย่างที่เข้าใจ แต่มันจะช่วยทรงตัวในช่วงจังหวะความเร็วต่ำ อย่างในช่วงความเร็วระดับ 6-7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยระบบจะช่วยรักษาสมดุลไม่ให้การล้มเกิดขึ้น ซึ่งทาง คุณมาโคโตะ อารากิ วิศวกรของฮอนด้าบอกว่า เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในสถานการณ์คับขัน นอกจากนี้ฮอนด้ายังเปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอีกด้วย ทำให้รถสามารถเคลื่อนที่มาหาผู้ขับขี่ได้โดยไม่ต้องขึ้นควบเอง เพียงแค่แตะ มันก็จะไหลตามคุณต้อยๆ เลยทีเดียว (ลักษณะคล้ายกับสัตว์เลี้ยงเชื่องตัวหนึ่งกันเลย) และอีกเทคโนโลยีที่เจ๋งมากๆ ที่ฮอนด้านำมาเปิดตัวคือระบบการปรับองศาการนั่ง ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับสรีระของผู้ขับขี่ เราลองไปชมคลิปเปิดตัวกันเลยดีกว่า บอกเลยว่านี่มันฝันที่เป็นจริงชัดๆ อย่างไรก็ตามทางฮอนด้าบอกว่าเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบเท่านั้น และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันจะสามารถนำมาใช้ได้จริงเมื่อไหร่ แต่สำหรับเทคโนโลยีชุดนี้ นับว่าน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว ที่มา techcrunch
-
สุดยอดเลย!! หนุ่มน้อยวัย 7 ขวบ ของานทำเพื่อจะนำเงินที่ได้ ไปซื้อของเล่นให้กับเด็กคนอื่นๆ
สิ่งที่เด็กๆ อยากจะได้รับก็คือ “ของขวัญ” และแน่นอนว่าไม่ใช่เด็กทุกคนบนโลกใบนี้ที่จะได้รับสิ่งที่พวกเขาอยากได้ เพราะยังมีเด็กๆ อีกมากมายที่เกิดมาในครอบครัวยากจน ทำให้พ่อแม่ไม่มีเงินที่จะซื้อของขวัญให้ และนั่นก็ทำให้ Trenton หนุ่มน้อยวัย 7 ขวบจาก Bicknell รัฐอินดีแอนา ได้ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายๆ คนต้องยกนิ้วให้ นั่นก็คือ เขาได้เข้าทำงานในร้านแมคโดนัลด์ และเก็บเงินเพื่อนำไปซื้อของเล่นให้กับเด็กคนอื่นๆ นั่นเอง ทางด้านผู้จัดการร้านอย่าง Rhonda Butler ได้ออกมาเผยว่า “เขาเข้ามาถามหางาน ซึ่งเราก็บอกเขาไปว่าเธอยังเด็กเกินไป และนั่นก็ทำให้เรารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก… เขาเป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียร ทุกๆ ครั้งที่เขาได้มาที่นี่ เขามักจะพูดว่า ผมจะต้องถูกจ้าง ผมจะได้รับงาน และผมเริ่มทำงานได้หรือยัง” แม้จะถูกปฏิเสธ แต่ Trenton ก็พาพยายามกลับไปที่ร้านทุกวัน เพื่อขอให้พวกเขารับตนเข้าทำงาน จนในที่สุดหนูน้อย ก็ได้ทำในสิ่งที่ตนเองตั้งใจเอาไว้ นั่นก็คือการได้เข้าทำงานเป็นพนักงานในร้านแมคโดนัลด์ เขาได้รับทั้งหมวก ผ้ากันเปื้อน พร้อมกับป้ายชื่อ เรียกได้ว่าตอนนี้หนุ่มน้อย Trenton ได้กลายเป็นพนักงานอย่างเต็มตัวแล้วสินะ ส่วนหน้าที่ในการทำงานของเขาก็คือ การเป็นพนักงานเช็ดโต๊ะนั่นเอง…
-
สถิติเผย ทุกๆ สัปดาห์ในอเมริกา จะมี 1 คนถูกยิงเสียชีวิต ด้วยน้ำมือของเด็กทารกเสมอ!!
ถ้าถามว่าประเทศไหนที่ประชาชนสามารถซื้อหาปืนได้อย่างอิสระ เชื่อว่า สหรัฐอเมริกา ต้องเป็นประเทศแรกๆ ที่เรานึกถึงอย่างแน่นอน แถมตอนนี้ในบางรัฐ ประชาชนสามารถพกปืนออกนอกบ้านได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ การที่สามารถหาซื้อปืนได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ บางครั้งก็ก่อให้เกิดเหตุการณ์และสถิติอันน่าตกใจเช่นกัน อย่างเช่นล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ในทุกๆ สัปดาห์ จะมีคนอย่างน้อยๆ 1 คนถูกยิงจนเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเด็กทารก โดยสถิติเผยว่า ในปี 2015 มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากถูกเด็กทารกยิงด้วยอาวุธปืน 58 ราย และอีก 51 รายภายในปี 2016 สาเหตุหลักๆ มาจากการที่ผู้ปกครองเก็บอาวุธปืนไม่มิดชิดพอ ทำให้เด็กทารกสามารถหยิบมาเล่นได้ ก่อนจะลั่นใส่ตนเองหรือผู้อื่นจนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีสถิติบอกว่า 1 ใน 3 ของบ้านที่มีเด็กและมีปืนอยู่ในครอบครอง เด็กในจำนวนประมาณ 1.7 คน สามารถเข้าถึงอาวุธปืนได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้เอง ทาง Brady Campaign จึงได้ทำแคมเปญรณรงค์ให้เห็นถึงอันตรายของปืนและเด็กทารก ลองไปชมคลิปกันดีกว่า แม้การที่ประชาชนสามารถหาซื้อปืนได้อย่างอิสระจะมีข้อดีหลายๆ อย่าง แต่ดูเหมือนว่าก็มีข้อเสียเช่นกัน แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามานะเหมียววว …
-
ฝรั่งเศสบังคับใช้กฎหมาย ให้ประชาชนทุกคน “บริจาคอวัยวะ” แบบอัตโนมัติ หลังจากเสียชีวิตลง
โดยปกติแล้ว การบริจาคอวัยวะเป็นสิ่งที่ผู้ให้เต็มใจที่จะมอบอวัยวะของตนให้กับผู้อื่นอย่างแท้จริง แต่ในตอนนี้พลเมืองของประเทศฝรั่งเศสทุกคน ได้กลายเป็นผู้ที่ต้องบริจาคอวัยวะให้กับสาธารณประโยชน์แบบอัตโนมัติ หลังจากที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยกฎระเบียบนี้ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 ผ่านมา และนอกจากประเทศฝรั่งเศสแล้ว ยังมีประเทศสเปน และประเทศออสเตรเลีย ที่บังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอีกด้วย ในขณะที่ประชาชนผู้ใดที่ไม่ประสงค์จะบริจาคอวัยวะของตน ต้องไปลงทะเบียนในเว็บไซต์ National Rejection Register เพื่อให้ทางทีมแพทย์ได้ตรวจสอบอวัยวะ หรือเนื้อเยื่อ เพื่อใช้เป็นข้อมูลหลังจากที่มีการเสียชีวิตลง ซึ่งล่าสุดก็มีผู้ไม่ประสงค์จะบริจาคอวัยวะ ได้เข้ามาลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวแล้วกว่า 150,000 คน แต่ถ้าหากใครที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ ก็สามารถจัดทำเอกสารไม่ประสงค์บริจาคอวัยวะ พร้อมกับลงนามและวันที่ และนำไปฝากให้กับทางญาติของตนเองได้ และเมื่อผู้ฝากได้เสียชีวิตลง ทางญาติก็จะต้องนำข้อมูลเหล่านั้นมาแสดงให้กับทีมแพทย์ สำหรับกฎหมายดังกล่าวที่ได้มีการบังคับใช้ในประเทศฝรั่งเศส กลับทำให้ประเทศอังกฤษมองว่า น่าจะมีการรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงการบริจาคอวัยวะมากกว่าการบังคับแบบนี้ แล้วคุณละมีความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างไรบ้าง? ที่มา : independent, theguardian
-
สุดเศร้า!! เจ้าม้าที่เคยสดใส มีอาการเสียใจหนัก หลังรู้ว่าเจ้านายผู้เป็นที่รัก ได้จากโลกนี้ไปซะแล้ว
ช่วงเวลาที่ทำให้หลายคนรู้สึกเศร้า และเสียใจมากที่สุดในชีวิต คงจะเป็นช่วงเวลาที่คนที่คุณรักจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ และนอกจากมนุษย์แล้ว สัตว์โลกอย่างเจ้าม้า ก็มีความรู้สึกแบบนี้เช่นกัน และนี่ภาพของ Sereno ม้าที่กำลังอยู่ในช่วงเศร้าโศก หลังจากที่รู้ว่าเจ้าของได้จากไปอย่างกะทันหัน งานนี้จึงทำให้เจ้าม้าที่เคยสดใส มีอาการเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยภาพของเจ้า Sereno ม้าที่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีโดยเจ้าของชาวบราซิลเลี่ยนวัย 34 ปี ในรัฐปาราอีบา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศบราซิล สำหรับ Sereno กับเจ้านายของมัน ทั้งคู่รัก และสนิทกันมาก จนกระทั่งในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา เจ้า Sereno ก็ได้รับข่าวร้ายว่าเจ้านายได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับเนื่องจากประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ และนั่นก็ทำให้มันรู้สึกเศร้า และเสียใจมากที่สุดในชีวิต หลังจากที่เจ้านายได้เสียชีวิตลง Sereno ก็ได้มีโอกาสไปบอกลาเจ้านายของมันเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งภาพที่เห็นก็คือ มันได้วางหัวของมันเพื่อไว้อาลัยลงบนโลงศพ และถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้าโศก เรื่องราวของ Sereno ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว และนั่นก็ทำให้ชาวเน็ตหลายต่อหลายคนรู้สึกสงสาร และเห็นใจเจ้าม้าเป็นอย่างมาก ทางด้านคนสนิทของทางครอบครัวเจ้านายของ Sereno ได้ออกมาเผยว่า…
-
เว็บไซต์จีนจัดอันดับ 10 เรื่องราวประหลาดแห่งปี 2016 และมันก็ ‘ว็อดดาฟัก’ จริงๆ ซะด้วยสิ
ในแต่ละปีนั้นมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแปลก เรื่องดี เรื่องเศร้า หรือเรื่องประทับใจ แต่สำหรับประเทศที่มักจะทำให้ทั่วโลกต้องอึ้งอยู่บ่อยๆ นั่นคือประเทศจีนนั้นเอง และนี่คือ 10 อันดับเรื่องราวของจีนที่เรียกได้ว่า ‘จีนโอลลี่’ ที่จัดอันดับโดยเว็บไวต์ของจีน และคุณจะไม่สามารถเห็นอะไรแบบนี้ได้ที่ไหนอีกแล้วนอกจากจีนเนี่ยแหละ อันดับ 10 สมาคมบำบัดด้วยการดื่มปัสสาวะ คนจีนกว่า 4,000 คน เข้าร่วมสมาคมการบำบัดด้วยการดื่มปัสสาวะ จนรัฐบาลต้องออกมาสั่งห้าม โดยคนในสมาคมเชื่อว่า ปัสสาวะจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงมากกกว่าการพึ่งพาการแพทย์ทางตะวันตก มันอาจจะฟังดูเป็นเรื่องบ้าบอ แต่เชื่อมั้ยว่า คนในสมาคมคมนี้ดื่มน้ำปัสสาวะแบบหมดแก้วราวกับเป็นน้ำเปล่าเลยล่ะ อันดับ 9 หญิงสาวกินทุเรียน 5 กิโลกรัมจนเลือดกำเดาไหล หญิงสาวรายหนึ่งต้องกินทุเรียนทีเดียวกว่า 5 กิโลกรัม จนเลือดกำเดาไหล เหตุเพราะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตให้เธอนำผลไม้ที่มีกลิ่นแรงขึ้นบนรถไฟ อันดับ 8 หนุ่มจีนช่วยตัวเองในงานมอเตอร์โชว์ อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าในงานมอเตอร์โชว์นั้น ไม่ได้มีแค่รถเท่านั้น แต่ยังมีสาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อยที่ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมงานโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชาย ด้วยเหตุนี้ หนุ่มจีนคนหนึ่งถึงกับอดใจไม่ไหวเลยช่วยตัวเองกลางงานซะงั้น นอกจากชายคนนี้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีใครกล้าทำอะไรแบบนี้อีกมั้ย อันดับ 7 หญิงสาวแก้แค้นอดีตแฟนด้วยการมอบสบู่จากไขมันของเธอ หญิงสาวคนหนึ่งถูกแฟนทิ้งถูกแฟนทิ้งเพราะน้ำหนักตัวเธอมากเกินไป เธอจึงแก้แค้นด้วยการไปดูดไขมันออก…