ไม่ขำ!! คุณครูญี่ปุ่นขู่จะเขียนชื่อนักเรียนลงบนสมุด “Death Note” สร้างความหวาดกลัวให้เด็กๆ

เมื่อกล่าวถึงการ์ตูนเรื่อง ‘Death Note’ แล้ว คงเป็นเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน เพราะเป็นการ์ตูนแนวสืบสวนที่มีเนื้อหาน่าติดตาม

และสิ่งที่ผู้คนมักจะพูดถึงกันมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือสมุด Death Note สมุดมรณะที่ตัวเอกของเรื่องใช้เป็นอุปกรณ์ในการสังหารคน เพียงแค่เขียนชื่อพร้อมกับระบุรายละเอียดการตายก็จะทำให้คนที่ถูกเขียนชื่อลงไปเสียชีวิตในทันที

 

 

จนทำให้มีการนำเรื่องนี้ไปใช้ในเหตุการณ์จริงในทางที่ผิดกัน อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้

เรื่องมีอยู่ว่าคุณครูวัย 30 ปี จากโรงเรียนในจังหวัด Fukushima ได้ออกมากล่าวคำขอโทษต่อสื่อ หลังทำการขู่นักเรียนของตัวเองว่าจะเขียนชื่อของเขาลงไปในสมุด Death Note

 

 

จากรายงานของเว็บไซต์ The Fukushima Minyu Shimbun เมื่อวันที่ 12 เดือนมกราคมที่ผ่านมา เล่าว่าคุณครูได้ทำการแสดงให้นักเรียนชั้นประถม 4 คนดูว่าตนเองนั้นมีแอพฯ Death Note อยู่ในแท็บเล็ต พร้อมพูดกับนักเรียนว่า “ฉันจะเขียนชื่อของพวกเธอทั้งหมดลงไปบน Death Note นี้”

ตามรายงานไม่ได้ระบุถึงสาเหตุที่คุณครูท่านนี้ใช้ในการลงโทษเด็กๆ แต่เมื่อทางโรงเรียนทราบเรื่องดังกล่าวก็ได้มีการจัดแถลงการณ์ขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คุณครูแสดงความรับผิดชอบด้วยการกล่าวขอโทษในที่ประชุม และทางผู้ปกครองเองก็ได้กล่าวว่าวิธีการเตือนเด็กๆ ของคุณครูนั้นมัน ‘ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง’ เพราะเป็นการสร้างความกลัวให้กับเด็กๆ

 

 

นอกจากนี้จากข้อมูลของเว็บไซต์ Comicbook ได้บอกไว้ว่าการนำความน่ากลัวของ Death Note มาใช้ในทางที่ผิดนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

ย้อนกลับไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 นักเรียนชั้นป.5 ในเมือง Pittsburg รัฐ Pennsylvania ถูกคุณครูขู่ว่าจะลงโทษด้วยการเขียนชื่อลงบนสมุด Death Note

และในช่วงเดือนเดียวกันในรัฐ Kentucky เองก็มีการตรวจสอบพบว่ามีนักเรียนคนหนึ่งเขียนชื่อคนที่เขาต้องการให้เสียชีวิตลงบนสมุด Death Note ด้วยเช่นกัน

 

 

แสดงให้เห็นว่าได้มีการนำเนื้อหาในการ์ตูนมาใช้ในวิธีที่ผิด จนส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวแก่นักเรียนคนอื่นๆ ซึ่งตรงนี้เองก็ต้องมีการอธิบายและสร้างความเข้าใจแก่นักเรียน จึงจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง

 

ไม่คิดเหมือนกันนะว่าเรื่องราวการ์ตูนจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการข่มขู่ได้น่ากลัวถึงขนาดนี้ และแน่นอนว่ามันจะต้องส่งผลเสียมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นไม่ควรเอาเป็นแบบอย่างนะจ๊ะ

ที่มา : kotaku, comicbook

Comments

Leave a Reply