1 ภาพถ่ายสะท้อนความจริงของ “อนาคตหมีขั้วโลก” กับความเปลี่ยนแปลงอันน่าใจหาย

ลองย้อนกลับไปในอดีต เราจะเห็นภาพที่เต็มไปด้วยความสุข และความอุดมสมบูรณ์ของทั้งคน และสัตว์ แต่ในปัจจุบันโลกของเราได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าใจหาย จนทำให้สัตว์บางชนิดถึงกับขาดแหล่งหากิน และแหล่งที่อยู่อาศัย เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมากจริงๆ

และนี่ก็คือภาพถ่ายสะท้อนความจริง ที่จะมาทำให้ผู้คนได้เห็นว่าโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน โดยภาพดังกล่าวเป็นผลงานของ Kerstin Langenberger ช่างภาพแนวธรรมชาติ ผู้ที่ได้บันทึกภาพของเจ้าหมีขั้วโลกตัวหนึ่ง ณ บริเวณชายฝั่งสวาลบาร์ด ประเทศนอร์เวย์

 

 

จากภาพเราจะเห็นได้ว่าเจ้าหมีขั้วโลกตัวดังกล่าวไม่ได้มีรูปร่างที่อ้วนท้วน และสมบูรณ์เหมือนกับหมีขั้วโลกที่เราเคยเห็น แต่มันกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตที่ต้องเอาตัวรอด จนสภาพร่างกายของมันผอมแห้งอย่างน่าตกใจ มันช่างเป็นภาพที่ดูแล้วรู้สึกสะเทือนใจเหลือเกิน

ทางด้าน Kerstin ได้เผยว่า “มีไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่ผมเห็นแม่หมีขั้วโลกกับลูกๆ ของมัน มีสภาพอ้วนท้วนสมบูรณ์ ส่วนมากผมจะเห็นแต่หมีที่มีสภาพร่างกายซูบผอมจนดูน่ากลัว และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหมีตัวเมีย”

 

 

ปัจจุบัน หมีขั้วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์อันน่ากลัวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในพื้นที่บริเวณขั้วโลกเหนือ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้บริเวณขั้วโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกเกิดการละลาย และที่อยู่ของมันก็ลดน้อยลง

ในขณะที่แมวน้ำ ซึ่งเป็นอาหารของหมีขั้วโลก ก็พากันอพยพไปอาศัยอยู่ในแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าหมีไม่มีอาหารกินนั่นเอง

 

 

เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป ทำให้หมีขั้วโลกต้องออกหากินบนพื้นดิน แทนที่จะหากินบนพื้นน้ำแข็งอย่างที่ควรจะเป็น จึงทำให้มันต้องล่ากวางแคริบู หรือห่านหิมะ ไปเป็นอาหาร

และแน่นอนว่ามันไม่เพียงพอต่อความต้องการของเจ้าหมีซึ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่ ในที่สุดพวกมันจึงหิวโหย และผอมแห้งเหมือนดังภาพ

 

 

ในปัจจุบัน มีหมีขั้วโลกอาศัยอยู่ในสวาลบาร์ดประมาณ 3,000 ตัว และมีอยู่ทั่วโลกอีกประมาณ 20,000 – 25,000 ตัว ซึ่งทางนักวิทยาศาสตร์ก็ได้เผยว่า แม้ว่าตอนนี้จำนวนหมีขั้วโลกจะเริ่มคงที่ แต่ในอนาคตมันอาจจะลดลงก็เป็นได้

ภาพทั้งหมดนี้มันทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า หากสภาพของโลกในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป จนส่งกระทบต่อสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่มากขนาดนี้ แล้วอนาคตข้างหน้าละ…จะเป็นอย่างไรกัน!?

ที่มา : thedodo

Comments

Leave a Reply