นักธุรกิจอเมริกัน เตะพนักงานสาวมุสลิม และตะโกน “ทรัมป์จะจัดการพวกแกทั้งหมด” อาจโดนคุก 4 ปี

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2017 ที่ผ่านมา อัยการรัฐบาลกลางแห่งควีนส์ เปิดเผยว่า โรบิน โรดส์ นักธุรกิจวัย 57 ปี ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ราบีย่า ข่าน พนักงานสาวมุสลิมของสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ ที่สนามบินเจเอฟเค พร้อมตะโกนว่า “ทรัมป์จะจัดการพวกแกทั้งหมด”

 

 

โดยเหตุเกิดขึ้นที่อาหารผู้โดยสาร 2 เมื่อนายโรบินเดินทางกลับมาจากเกาะอารุบา และได้พักเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเจเอฟเค ในนิวยอร์ค เพื่อจะเดินทางต่อไปยังรัฐแมสซาชูเซตส์

ระหว่างที่รอเปลี่ยนเครื่องนั้น เขาก็ได้ไปรอที่ห้องรับรองของสายการบินเดลต้าแอร์ไลน์

เมื่อเขาเข้าไปถึง เขาก็พบข่านกำลังนั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์พนักงานสวมผ้าคลุมฮิญาบแบบมุสลิมอยู่ เขาจึงเดินเข้าไปเตะขาของเธอ พร้อมถามว่า “แกกำลังหลับเหรอ? หรือกำลังสวดภาวนา? ทำอะไรห๊ะ?”

 

 

ด้วยความตกใจ ข่านจึงถามกลับไปว่า เธอไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือเปล่า โรบินตอบกลับมาว่า “แกไม่ได้ทำอะไร แต่ข้าจะเตะแก” จนพนักงานคนอื่นๆ พยายามเข้ามาห้ามนายโรบิน

ข่านจึงอาศัยจังหวะนั้นวิ่งหนีออกมา ซึ่งนายโรบินก็วิ่งตามมา พร้อมทำท่าล้อเลียนการละหมาดของชาวมุสลิมและตะโกนว่า “ทรัมป์จะจัดการพวกแกทั้งหมด แกลองถามชาวเยอรมัน เบลเยี่ยม ฝรั่งเศสดูได้ ว่าพวกเขาต้องเจอะไรบ้าง!”

 

ภายหลังทางอัยการเปิดเผยว่าราบีย่า ข่าน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนนายโรดส์ถูกตั้ง 9 กระทงทั้งทำร้ายร่างกาย,อาชญากรรมเกิดจากความเกลียดชังและอื่นๆ หากพบว่ามีความผิดจริง จะได้รับโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี และได้ตั้งวงเงินประกันตัวไว้ที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (1.7 ล้านบาท) พร้อมนัดมาไต่สวนอีกครั้งในช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์

ริชาร์ด บราวน์ อัยการเขตควีนส์กล่าวว่า “ผู้ที่ก่ออาชญากรรมความเกลียดชัง ไม่ควรมีที่ยืนในสังคมที่พัฒนาแล้วเช่นนนี้”

 

สำนักข่าวได้รายงานอีกว่า นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จำนวนของอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังก็เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และเหยื่อส่วนมากคือชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา

 

 

 

ที่มา nbcnewyork ผ่านทาง: postjung

Comments

Leave a Reply