Category: สัตว์โลกน่ารัก

ลูกหมาน้อยถูกทหารหนุ่มช่วยชีวิตเอาไว้ ทั้งคู่เริ่มใช้ชีวิตด้วยกันจนผูกพันกันมาก เมื่อมีเหตุบังเอิญให้ทั้งคู่ต้องจากกันไกล ทหารหนุ่มจึงพยายามทุกทางเพื่อให้พวกเขาได้กลับมาอยู่ด้วยกัน Sean Laidlaw ทหารหนุ่มชาวอังกฤษเคยถูกส่งไปประจำการในหน่วยกู้ระเบิดที่ประเทศซีเรียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 และระหว่างที่เขากำลังตรวจค้นโรงเรียนที่ถูกระเบิดอยู่ เขาก็เจอกับเจ้าหมาน้อย Barrie     Barrie ถูกฝังอยู่ใต้เศษหิน ใกล้ๆ ตัวมันมีลูกหมาตัวอื่นอีก 4 ตัว แต่มันเป็นตัวเดียวที่ยังมีชีวิตรอด หลังจากเขาช่วยมันออกมาเขาก็เป็นคนดูแลมันเอง เขาให้มันอยู่กับเขาที่เต็นท์ของตัวเอง แล้วก็เริ่มฝึกมันและเล่นกับมันในเวลาว่าง รู้ตัวอีกทีทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันตลอดเวลาซะแล้ว แม้แต่เวลาออกไปทำงานก็ด้วย     Sean เล่าว่า “ถึงแม้ตามจริงแล้วผมจะช่วยชีวิตมันไว้ แต่ในทางหนึ่งมันก็ช่วยชีวิตผมเอาไว้เช่นกัน…คุณคงนึกออกนะว่าสภาพในซีเรียย่ำแย่แค่ไหน การได้กลับมาที่แคมป์แล้วเจอมัน ได้ใช้เวลาฝึกและพามันไปเดินเล่น การที่มันคอยอยู่เคียงข้างผม ทำให้ผมลืมความเลวร้ายที่นั่นไปได้เยอะ และทำให้ผมไม่เป็นบ้าไปซะก่อน“ พอฝึกได้สักระยะหนึ่งเจ้าหมาก็ตามเขาไปตรวจตราพื้นที่ด้วย แม้จะต้องนั่งรถไปที่ไกลๆ มันก็จะนั่งไปเป็นเพื่อนเขา แล้วเขาก็ทำเสื้อกันกระสุนให้มันใส่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มันเช่นกัน     หลังจากที่ Sean ไปประจำที่ซีเรียได้ 4 เดือนเขาก็ได้บินกลับบ้านมาพักระยะหนึ่ง แต่ระหว่างที่พักอยู่ก็มีคำสั่งมาว่าสัญญาถูกยกเลิกกะทันหัน ทำให้เขาไม่ได้กลับไปหา Barrie ที่ซีเรีย ทันทีที่เขารู้ว่าเขากับมันจะต้องแยกจากกันไกล เขารีบหาทางติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในซีเรียที่จะช่วยพาเจ้า Barrie กลับมาหาเขาที่บ้านได้โดยไม่รอช้าเลย เขาเล่าว่า “ผมอาจจะเป็นคนเดียวที่รู้สึกเศร้าเพราะไม่ได้กลับไปซีเรียก็ได้…การจากกันมันทำให้ผมเศร้ามาก…

เช้าวันหนึ่ง Summer Hooke หญิงจากประเทศอลาสกาตื่นมาพบว่าหน้าบ้านของเธอถูกบุกรุก กระถางต้นไม้ที่เธอวางประดับไว้ก็ตกลงมาแตก แถมยังมีรอยเท้าชัดเลยว่ามีคนเหยียบหิมะเข้ามาข้างใน แน่นอนว่าลักษณะนี้ใครก็สงสัยว่าเป็นโจรทั้งนั้นแหละ ดีที่ Hooke ติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้หน้าบ้านด้วย เธอจึงดูย้อนหลังได้ว่าใครมาบุกรุกบ้านของเธอ แต่พอลองย้อนดูกล้องวงจรปิดแล้ว เธอกลับไม่เห็นโจรแม้แต่คนเดียว…สิ่งที่มาเยือนบ้านเธอมันคือเจ้ากวางมูสจอมป่วนต่างหาก     ตอนที่เจ้ามูสมันบุกเข้ามาที่หน้าบ้านของเธอเป็นเวลาประมาณตี 3 มันไม่ได้มาพังข้าวของอะไรมากมายหรอก มันแค่เข้ามาเคี้ยวต้นไม้ในกระถางที่เธอปลูกเอาไว้แค่นั้นเอง แต่ระหว่างที่มันกำลังกินต้นไม้ในกระถางอยู่ มันก็ดันปัดกระถางตกลงมาด้วยจนเลอะเทอะไปหมดเลย ลำบากเธอต้องมาเก็บกวาดทีหลัง     เท่านั้นยังไม่พอนะ เจ้ากวางมูสตัวเดิมยังกลับมาบุกกินต้นไม้ของเธออีกรอบด้วย แถมครั้งนี้ไม่ได้มาตัวเดียว ยังพาเพื่อนมาเพิ่มด้วยอีกต่างหาก Hooke เล่าว่า “พวกเราเห็นมันเข้ามาในสวนหน้าบ้านอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยเห็นพวกมันเข้ามาใกล้ประตูขนาดนี้มาก่อนเลย”     หลังจากนั้นพอเธอเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนบ้านฟัง เธอถึงได้รู้ว่าเจ้ากวางมูสตัวนี้เป็นที่รู้จักดีเลยล่ะ มันชื่อว่า Twiggy มันวนเวียนอยู่แถวนี้มาประมาณ 3 ปีแล้ว ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมคนแถวนั้นถึงรู้จักมัน ก็เป็นเพราะมันแอบมากินต้นไม้ในกระถางของเพื่อนบ้านคนอื่นๆ เช่นกัน มันคงคิดกระถางต้นไม้หน้าบ้านคนเป็นข้าวฟรีไปซะแล้วล่ะ   ที่มา: the dodo

เราคงไม่ได้เห็นหมามาขึ้นรถประจำทางโดยไม่มีเจ้าของบ่อยนักหรอก ถ้าแค่นั้นคุณคิดว่าแปลกแล้ว หากคุณได้รู้เหตุผลที่มันขึ้นรถมาจริงๆ จะยิ่งแปลกใจกับความแสนรู้ของมันกว่าเดิมอีก วันหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่ Tet Tapuyao และเพื่อนของเธอกำลังจะขึ้นรถประจำทางเพื่อกลับบ้านหลังเลิกงาน พวกเธอก็เจอผู้โดยสารตัวหนึ่งที่แปลกมากๆ มันเป็นหมาสีดำตัวหนึ่งที่โดดขึ้นมาเอง พอเธอถามคนที่ขึ้นรถตามมาก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของมันเลย แต่เจ้าหมาก็ขึ้นมานั่งบนรถนิ่งๆ อย่างมีมารยาทราวกับเป็นขาประจำยังไงยังงั้น     ทั้ง Tapuyao และคนบนรถต่างก็แปลกใจและก็รู้สึกตลกเหมือนกันที่มีหมาไม่มีเจ้าของมานั่งรถด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใดทุกคนอยากรู้ว่าเจ้าหมาตัวนี้ตั้งใจจะไปที่ไหนกันแน่? Tapuyao ก็เลยถ่ายวิดีโอตอนที่เจ้าหมานั่งรถด้วยกันเอาไว้ จะได้เก็บไว้เล่าต่อให้คนอื่นฟัง แล้วก็เผื่อจะถ่ายตอนเจ้าหมาลงรถเอาไว้ได้ทันด้วย แต่ไม่นานนักตอนที่รถประจำทางติดไฟแดงอยู่ เธอก็พบว่าเป้าหมายของเจ้าหมามันไม่ใช่สถานที่หรอก แต่เป็นคนบนรถอีกคันหนึ่งที่อยู่ข้างๆ กันนี่เอง     ทันทีที่รถประจำทาง 2 คันจอดเทียบข้างๆ กัน เด็กที่อยู่บนรถคันนั้นก็สังเกตเห็นเจ้าหมาแล้วตะโกนบอกว่า “อ้าว! นั่นมัน Vince นี่นา…แม่ๆ ดูสิ Vince อยู่ตรงนั้น!” จากนั้นคุณแม่ก็เลยลงจากรถคันนั้นมารับเจ้า Vince แล้วพามันขึ้นรถไปด้วยกันกับเธอ…ทุกคนจึงเข้าใจได้ว่าพวกเขาเป็นครอบครัวของมันนี่เอง     Clarissa Carillo เด็กหญิงที่เป็นเจ้าของมันเล่าว่าวันนั้นเธอกับแม่ออกมาเที่ยวข้างนอกด้วยกัน โดยทิ้งเจ้าหมาเอาไว้ที่บ้าน บางครั้งเวลาที่เธอกับแม่ไปทำธุระด้วยกัน พวกเธอก็จะพา Vince นั่งรถประจำทางไปด้วย มันเลยน่าจะจำวิธีขึ้นรถบัสได้ แต่พวกเธอก็ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าหมาจะแอบขึ้นรถประจำทางด้วยตัวเอง แล้วตามพวกเธอมาเพื่อให้ได้เที่ยวด้วยกันแบบนี้ เพราะไม่เคยมีใครฝึกให้มันขึ้นรถประจำทางเองเลย…

ถ้าไม่ได้เห็นกับตัวเอง แม้แต่เจ้าของของพวกมันก็คงไม่อยากเชื่อว่าเป็ดกับหมาจะเป็นเพื่อนสนิทกันได้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาๆ พวกมันคงจะรู้สึกถูกชะตากันเลยสนิทกันไวมาก     Natacha เป็นหญิงสาวจากประเทศฝรั่งเศส ครอบครัวของเธอทำฟาร์มอยู่ แล้วก็เลี้ยงหมาพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดไว้ด้วยอีกตัวหนึ่งชื่อว่า Vendetta เจ้าหมาตัวนี้มีความเป็นมิตรสูงมาก มันเข้ากับคนได้ทุกคน แล้วก็อยู่กับนสัตว์ได้หมดทุกชนิดด้วย แต่มันก็ไม่ได้ดูสนิทกับใครเป็นพิเศษนอกจากเจ้าของ จนกระทั่ง Natacha รับลูกเป็ดตัวหนึ่งเข้ามาเลี้ยงในบ้าน ตอนนั้นเธอไม่ได้คาดหวังให้พวกมันสนิทกันหรอก แต่พวกมันก็สนิทกันโดยที่เธอคาดไม่ถึง     ลูกเป็ดตัวนั้นก็คือ Lemony ตอนแรกเธอไม่ได้ตั้งใจจะให้พวกมันอยู่ด้วยกัน แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ลูกเป็ดเลือกที่จะเดินตามเจ้าหมาต้อยๆ เหมือนกับว่ามันเป็นแม่ จากนั้น Vendetta ก็เริ่มสนิทกับ Lemony มากขึ้น มันช่วยเธอดูแลลูกเป็ดตั้งแต่มันยังตัวเล็กๆ จนตอนนี้โตแล้ว เธอแทบไม่เคยเห็นเจ้าหมากับเจ้าเป็ดอยู่แยกกันเลย     ดูสิพามาเที่ยวข้างนอกก็ยังอยู่ด้วยกัน   นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินอย่างกับคู่รัก   นอกจากพวกมันทั้ง 2 ตัวจะชอบอยู่ด้วยกันแล้ว ทั้งหมายังชอบเล่นน้ำเหมือนกับเจ้าเป็ดอีกต่างหาก ทำให้เวลาที่พามันไปทะเลสาบ เจ้าหมาก็ตามเป็ดลงไปเล่นน้ำด้วย     อยู่ด้วยกันตลอดไม่เบื่อเหรอไง?   ไปข้างนอกก็ยังมุ้งมิ้งกันอยู่   มันแปลกดีนะที่สัตว์ที่ต่างกัน 2 ตัว จะรู้สึกถูกใจกันตั้งแต่เจอครั้งแรก…

ใครที่กำลังคิดว่าชีวิตของตัวเองดูน่าเบื่อ ทุกวันเจอแต่อะไรเดิมๆ ไม่มีความแปลกใหม่เลย การเลี้ยงสัตว์สักตัวน่าจะทำให้ชีวิตของคุณมีรสชาติมากขึ้น ยิ่งถ้าเป็นเจ้าตูบแล้วละก็ มันจะสร้างเรื่องป่วนๆ ให้คุณได้ยิ้มได้ฮาไปกับมันในแบบที่ไม่ซ้ำกันแทบทุกวันเลย ลองเลี้ยงดูสิแล้วมันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง…ในทุกๆ เรื่องเลย!!   เจ้าหมาของพ่อแม่ฉันขังตัวเองไว้ในห้องอาบน้ำ แล้วหาทางออกไม่ได้… Good Afternoon. My parents’ dog locked himself in the shower and spent the better part of an hour trying to lick his way out…. pic.twitter.com/bj2RKMcaY8 — Erica Jordan (@TheNYCFilmChick) October 1, 2018   จะลอยไปไหนล่ะลูก กลับมาหาแม่ก่อน https://twitter.com/soloariana/status/1031979144609976320   เจ้าหมากินข้าวเลอะเลยต้องจับมันแยกไว้อีกห้องตอนทำความสะอาด แต่มันก็ยังพยายามกินข้าวลอดประตูอีก!! Zeus spilled his treats…

สำหรับหลายคน กระรอกอาจเป็นสัตว์ที่เรียกว่าสัตว์เลี้ยงไม่ได้ด้วยซ้ำ ทว่าคู่รักคู่นี้รักมันยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยงซะอีก…มันเปรียบเสมือนลูกของพวกเขาเลย     Christina Reyes และ Michael เจอกระรอกน้อยอยู่ในตึกสูง 10 ชั้น แม่ของมันมาทำรังแล้วคลอดลูกทิ้งไว้ แต่ว่าไม่ยอมดูแลลูกเลย ถึงคนที่เจอมันจะรอดูอยู่ มันก็แค่เอาแต่สร้างรังแล้วไม่สนใจลูกเหมือนเดิม Christina ซึ่งเป็นคนที่ช่วยเหลือกระรอกมานานแล้วจึงถูกขอให้มาช่วยเอาพวกมันไปดูแลแทน แล้วค่อยเอาพวกมันปล่อยคืนสู่ธรรมชาติเมื่อพวกมันโตแล้ว     เธอและสามีช่วยดูแลลูกกระรอกอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในจำนวนลูกกระรอกทั้งหมดที่เก็บมา มีตัวหนึ่งที่เล็กกว่าใครเพื่อน พวกเขาเลยตั้งชื่อให้มันว่า Thumbelina (ชื่อตัวเอกนิทานเรื่องหนูน้อยหัวแม่มือ)   Michael ช่วยป้อนอาหารให้ลูกกระรอกผ่านหลอดฉีด   Thumbelina ตัวเล็กเท่าลูกวอลนัทเลย   หลับปุ๋ยเชียว   พอลูกกระรอกทั้งหมดโตขึ้น Christina กับ Michael ก็พบว่า Thumbelina แตกต่างกับกระรอกตัวอื่นโดยสิ้นเชิง กระรอกน้อยไม่กระโดดหรือปีนป่ายไปบนที่สูงเหมือนตัวอื่น แล้วมันก็ไม่ชอบเข้าสังคมกับกระรอกตัวอื่นๆ ด้วย มันติดการอยู่กับคู่รัก และดูมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับทั้งคู่ นั่นทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจไม่ปล่อยมันไปเหมือนกระรอกตัวอื่น แล้วรับมันมาดูแลไว้ในฐานะสัตว์เลี้ยงแทน เพราะดูแล้วมันคงใช้ชีวิตไม่รอด     ไม่อยากอยู่กับกระรอก งั้นอยู่กับเราก็ได้   จากนั้นเป็นต้นมาชีวิตของ Christina…

ตอนนี้ในหมู่คนรักสัตว์น่าจะรู้จักเจ้าหมา Todd กันแทบทุกคนแล้ว ถึงจะไม่รู้จักเป็นพิเศษอย่างน้อยๆ ก็ต้องเคยเห็นรูปของมันผ่านตาแล้วแน่นอน…ใช่แล้ว มันคือเจ้าหมาหน้าบวมเต่งตัวนั้นนั่นแหละ วีกรรมการเอาตัวเองเสี่ยงภัยเพื่อช่วยเจ้านายของมัน ทำให้ชาวเน็ตต่างก็ประทับใจในตัวเจ้าหมา มันจึงถูกโหวตให้ชนะตำแหน่ง ‘หมาผู้ทรงเกียรติแห่งปี‘ ไปเลย     Todd เป็นหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์อายุ 6 ปีของ Paula หญิงสาวจากรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอชอบพามันไปเดินเขาด้วยกันเป็นประจำ ครั้งหนึ่งระหว่างที่ปีนเขากันอยู่ Paula เจอกับงูหางกระดิ่ง ด้วยความรักเจ้านาย Todd ก็เลยเข้าไปต่อสู้เพื่อปกป้องเธอจนงูตัวนั้นหนีไป ส่วนเจ้าหมาโดนกัดเข้าที่ข้างปาก จนหน้าของมันบวมไปหมดเลย     ชาวเน็ตต่างก็พากันชื่นชมในความซื่อสัตย์และกล้าหาญของมันกันใหญ่ แม้แต่ทวิตเตอร์ @dog_rates ที่โด่งดังก็ให้คะแนนความเป็นเด็กดีกับมันตั้ง 15/10 คะแนนแน่ะ มีหมาไม่กี่ตัวเท่านั้นนะที่ได้คะแนนจากเขาสูงขนาดนี้   เจ้าหมากลายเป็นกระแสไวรัลไปเลยล่ะ This is Todd. He saved his human from a rattlesnake yesterday. A true h*ckin hero. He’s expected to…

ในกลุ่มทาสแมวที่ตระเวนเที่ยวคาเฟ่แมวมาเยอะมากพอแล้ว อาจจะมีบางคนที่รู้สึกว่าคาเฟ่แมวที่ไหนก็คล้ายกันไปซะหมด วันนี้เราเลยอยากนำเสนอคาเฟ่แมวที่มีความพิเศษเล็กๆ อยู่ด้วย ซึ่งก็คือคาเฟ่แห่งนั้นจะเปลี่ยนเป็น ‘โรงหนังแมว’ ในช่วงเวลาพิเศษของปีนั่นเอง     ในทุกๆ ปีที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นจะมีการจัดเทศกาลแมวที่ชื่อว่า Cat Festival หรือ Neko Fes เสมอ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม ในย่านที่ชื่อว่า Kichijoji ซึ่งในแต่ละปีก็จะมีคาเฟ่แมวและร้านค้ามาเข้าร่วมงานด้วย โดยจะขายของที่มีความเกี่ยวข้องกับแมวเป็นส่วนใหญ่ ร้านคาเฟ่แมว Temari no Ouchi เองก็เข้าร่วมเทศกาลนี้ทุกปีเช่นกัน โดยพวกเขาจะเปิดโรงหนังแมวในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งสถานที่ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกลหรอก เป็นในคาเฟ่แมวของเขานั่นแหละ     ถึงจะบอกว่าเป็นโรงหนังแมว แต่พวกเขาก็ไม่ได้เน้นให้ความพิเศษกับหนังซะทีเดียวหรอก ในร้านจะมีจอฉายภาพเล็กๆ แค่จอเดียวเท่านั้นเอง ความพิเศษของมันก็ยังคงอยู่ที่การได้อยู่ร่วมกันแมวอยู่ดี โดยระหว่างที่เราเข้าไปชมหนังก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีแมวเหมียวล้อมรอบถึง 27 ตัวเลยทีเดียว     ถึงจะเป็นโรงหนังแมว ก็ยังคงเน้นบรรยากาศความเป็นคาเฟ่แมว   มีเจ้าแมวให้เล่นด้วยมากมาย   รับรองถูกใจทาสแมว   เป็นทาสแมวต้องไม่พลาดการถ่ายรูปเจ้าเหมียวอยู่แล้ว   คนที่เข้าร่วมดุหนังสามารถเข้ามาที่ร้านได้ตั้งแต่เวลา 19.30 น. และจะฉายหนังเมื่อเวลา 20.30 น. ถ้าใครมาเร็วหน่อยก็จะมีเวลาได้อยู่กับเจ้าแมวมากขึ้นนั่นเอง นอกจานี้ก็มีอาหารและเครื่องดื่มบริการให้ในร้านด้วยนะ…

เจ้าหมา Royce ถูกช่วยเข้ามาในศูนย์พักพิงสัตว์มาสักพักแล้ว ตอนที่ช่วยมาแรกๆ มันมีบาดแผลที่ใบหน้าด้วย ซึ่งบ่งบอกว่าชีวิตข้างถนนของมันไม่ราบรื่นเลย น่าจะเป็นเพราะมันน่าเห็นใจ ทำให้เจ้าหมาถูกรับเลี้ยงไปในเวลาไม่นาน แต่คนที่รับมันไปเลี้ยงก็เอามันมาคืนศูนย์พักพิงอีกเพราะเข้ากับมันไม่ได้     ครอบครัวที่ 2 ที่รับมันไปเลี้ยงก็เอามันมาคืนในเวลาไม่นานเช่นกัน พวกเขาอาจจะรับมือกับพลังอันล้นเหลือของมันไม่ไหว ในเมื่อถูกส่งคืนมาถึง 2 ครั้งแล้ว ศูนย์พักพิงสัตว์จึงคิดว่ามีโอกาสน้อยที่คนจะรับเลี้ยงมันอีก และประกาศจะการุณยฆาตมันถ้าไม่มีคนมารับเลี้ยงในเวลาที่กำหนด     คนที่ต้องการช่วย Royce หลายคนยังเป็นห่วงมันอยู่ แต่ก็ไม่สะดวกจะรับเลี้ยงมันไว้ พวกเขาจึงช่วยมันโดยการแชร์เรื่องของมันให้คนอื่นๆ รู้ เผื่อจะมีคนมาช่วยมันได้ทันเวลา ในที่สุดเรื่องของเจ้าหมาก็ถูกแชร์ไปถึง Sebba ชายคนที่สามารถช่วยมันได้ และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อมาช่วยมัน     Sebba เล่าว่า “เจ้าหมามีรอยยิ้มโดยธรรมชาติที่ทำให้ผมถูกใจมัน ผมก็อธิบายไม่ถูกหรอกว่าทำไม ผมอาจจะรู้ว่ามันเป็นหมาที่ถูกส่งคืน ทำให้มันมีโอกาสถูกรับเลี้ยงน้อยก็ได้ ก็เลยอยากช่วยรับมันมาเลี้ยงไว้เอง” แม้ว่าเจ้าหมาจะอยู่ในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วน Sebba อาศัยอยู่ในรัฐออแลนโดซึ่งห่างกันถึง 200 ไมล์ (ประมาณ 320 กิโลเมตร) แต่เขาก็ตัดสินใจช่วยมันและขับรถออกไปรับทันทีเลย     โชคดีที่…

หมาจรจัดส่วนมากที่ถูกช่วยจนชีวิตเปลี่ยน ต้องรอให้มนุษย์เข้าเจอมันถึงจะช่วยเหลือได้ ทว่าเจ้าหมาตัวนี้มันเดินเข้าไปหาความช่วยเหลือเองในศูนย์พักพิงสัตว์เลย ในศูนย์พักพิงสัตว์ Humane Society International ที่ประเทศอินเดีย เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็มีงานล้นมือ ทุกคนทำงานของตัวเองไปเรื่อยๆ จนเริ่มได้กลิ่นฉุนแปลกๆ จึงหันมาพบว่ามีหมาจรจัดตัวหนึ่งแอบมานอนในนั้นด้วย เจ้าหมาไม่มีใครช่วยเข้ามา มันเดินเข้ามาเองตอนที่ไม่มีใครสังเกต แต่ทุกคนก็เห็นว่าสภาพของมันย่ำแย่ควรช่วยเหลือโดยเร็ว น่าเสียดายที่พอมีคนสนใจมันมากขึ้น เจ้าหมาก็ตกใจแล้ววิ่งหนีออกไป     อย่างไรก็ตามในวันต่อมา เจ้าหมาตัวเดิมก็เดินเข้ามานอนในศูนย์พักพิงสัตว์อีกครั้ง คราวนี้เจ้าหน้าที่จึงปิดประตูกันไม่ให้มันหนี แล้วพามันไปหาสัตวแพทย์ได้สำเร็จ     พวกเขาตั้งชื่อเจ้าหาว่า Fairy มันเป็นเรื้อนหนักมาก ขนของมันร่วงจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงแค่แถวรอบๆ คอเท่านั้น แล้วตอนกำลังช่วยมันอยู่ผิวหนังของมันก็ลอกออกมาเห็นๆ เลย โชคดีที่นอกจากโรคเรื้อนที่เจ้าหมาเป็นอยู่ สุขภาพด้านอื่นๆ ของมันนั้นดีหมด ทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นเพิ่มเติมแล้วเพ่งความสนใจไปรักษาโรคเรื้อนให้มันได้เต็มที่     ที่น่าแปลกใจกว่าเรื่องที่ Fairy เดินเข้ามาในศูนย์พักพิงเอง ก็คือเจ้าหมาไม่ได้กลัวคนสักเท่าไหร่เลย มันทั้งเชื่องและไว้ใจคนที่ดูแลมัน ไม่ว่าจะตอนอาบน้ำให้หรือให้ยาเจ้าหมาก็ไม่เคยดื้อเลยสักครั้ง พวกเขาคิดว่าเจ้าหมาอาจจะดีใจที่มีคนคอยสนใจ หรือไม่อย่างนั้นมันก็คงจะรับรู้ได้ว่าทุกคนที่นี่กำลังช่วยมันอยู่ มันก็เลยให้ความร่วมมือพวกเขาด้วย     เป็นหมาที่ไม่เคยดื้อกับสัตวแพทย์เลย เด็กดีจริงๆ   ชีวิตของเจ้า Fairy เปลี่ยนไปตั้งแต่เดินเข้ามาในศูนย์พักพิงสัตว์ มันได้รับการรักษาโรคจนหายดี แล้วก็มีคนคอยเอาใจ…

“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น” นี่คือข้อความที่เราคุ้นหูมาตั้งแต่เด็ก และหลายคนก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันเป็นความจริง เช่นเดียวกับเจ้าหมีน้อยตัวนี้ ที่ได้สอนให้เรารู้ว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องพยายามจนถึงที่สุด แม้ต้องล้มสักกี่ครั้งก็ตาม     เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขณะที่แม่หมีตัวหนึ่งพาลูกน้อยปีนภูเขาอันสูงชันที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นของประเทศรัสเซีย แน่นอนว่าการต้องปีนเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะแบบนี้ ทำให้การปีนนั้นยากกว่าปกติ แม้แต่แม่หมีเองก็ดูจะทุลักทุเลไม่น้อยในการปีนเขาครั้งนี้     อย่างไรก็ตาม แม่หมีได้ทำที่เหยียบไว้ให้ลูก เพื่อให้ลูกปีนตามได้ง่ายขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับหมีน้อยอยู่ที่จะปีนตามแม่ หมีน้อยพยายามปีนตามรอยที่แม่ทำไว้ให้อย่างระมัดระวัง แต่ด้วยอุ้งเท้ายังน้อย แต่แรงยังน้อยเกินกว่าจะปีนเขาสูงชันแบบนี้ได้ มันจึงพลาดท่าจนลื่นไถลลงไปข้างล่าง     แทนที่มันจะขอความช่วยเหลือจากแม่ แต่หมีน้อยกลับพยายามปีนขึ้นไปด้วยตัวเอง ระหว่างนั้น แม่หมีอยู่บนยอดเขาแล้ว และได้เฝ้าดูมันด้วยความเป็นห่วง ขณะที่หมีน้อยกำลังปีนขึ้นไปนั้น มันร่วงลงมาอีกหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะร่วงลงไปกี่ครั้ง มันก็พยายามปีนขึ้นมาทุกครั้ง แม้แต่ตอนที่มันร่วงลงไปจนเกือบถึงตีนเขา มันก็ยังไม่ยอมแพ้ และพยายามปีนต่อไปสุดความสามารถ     ความผิดพลาดในแต่ละครั้ง ทำให้หมีน้อยเรียนรู้ว่ามันควรทำยังไง ดังนั้น มันจึงพยายามเกาะพื้นที่ที่เป็นหินให้มากที่สุด จนสุดท้าย มันก็ปีนขึ้นไปถึงยอดเขาที่แม่รอมันอยู่     นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก หมีน้อยตัวนิดเดียว แต่ความพยายามของมันนั้นเกินวัยไปมาก และมันได้พิสูจน์ให้เห็นว่าทุกอุปสรรค ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน เราสามารถผ่านมันได้ ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้…

เรารู้กันอยู่แล้วว่าสัตว์ชอบใช้ชีวิตแบบลุยๆ ชอบผจญภัย และอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกอย่าง เพราะแบบนี้ เลยทำให้พวกมันได้รับบาดเจ็บในบางครั้ง อาการบาดเจ็บบางอย่างไม่สามารถหายเองได้ เลยต้องพึ่งมนุษย์ให้ช่วย ซึ่งบางตัวต้องใช้อุปกรณ์ วัสดุขนาดจิ๋ว โดยเฉพาะการเข้าเฝือก มันเลยออกมาตะมุตะมิแบบนี้   1. กระต่ายน้อยกับเฝือกแครอทสุดคิวท์ เจ้ากระต่ายน้อยบาดเจ็บที่ขาหน้าขวา จนไม่สามารถกระโดดได้ แต่เฝือกแครอทน้อยนี้จะช่วยให้มันซุกซนได้อีกครั้ง   2. แฮมสเตอร์กับเฝือกจิ๋ว นี่คงจะเป็นการเข้าเฝือกที่เล็กที่สุดละมั้ง อีกไม่นานจะได้วิ่งซนเหมือนเดิมแล้ว อดทนหน่อยนะ   3. เจ้านายของบ้านกับเฝือกลายเสือ น้องขาหักหลังจากโชว์กระโดดออกจากหน้าต่าง ดูหน้ามันตอนนี้สิ แบบว่า ไม่น่าเล้ยกรู   4. มิ้วน้อยกับเฝือกชมพูพริ้ง ช่วงนี้ท่านอนอาจจะไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน เพราะน้องอยู่ในช่วงเข้าเฝือก บอกแล้ว อย่าซนให้มันมาก   5. เจ้าลาน้อยกับขาคู่ใหม่ ไม่ใช่ขาใหม่ก็เหมือนขาใหม่นั่นแหละ ทั้งใหญ่กว่าเดิม แข็งกว่าเดิม แถมงอไม่ได้ด้วย เอาหน่า อีกไม่นานก็ได้ขาคู่เดิมกลับมาแล้ว   6. สุนัขจิ้งจอกตัวน้อยก็ใส่เฝือกเด้อ หน้าน้องในวันที่เจอศึกหนัก บาดเจ็บไม่พอ โดนหมอรุมทำโน่นทำนี่ แถมมีเฝือกติดขาด้วย อดได้วิ่งเล่นเลย  …

เมื่อคุณรับเลี้ยงสัตว์ มันจะกลายเป็นสมาชิกครอบครัวคุณทันที ด้วยความเป็นครอบครัวที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา มันก็ต้องมีขัดแย้งหรือโกรธกันบ้างแหละ แต่เราทุกคนรู้ว่าต้องทำยังไงให้คนโกรธหายโกรธ แม้แต่ Ralphie สุนัขนิวฟันด์แลนด์ตัวนี้ ก็รู้ดีว่าการขอโทษคืออะไร และต้องทำยังไงเมื่อผู้อื่นกล่าวขอโทษ     นี่เป็นโมเมนต์ที่ลูกน้อยตัวโต Ralphie งอนคุณแม่ Bee ซึ่งเราไม่รู้ว่าแม่ไปทำอะไรให้นางงอน แต่ใบหน้าของน้องหมาแสดงออกชัดเจนว่ากำลังงอนหนักมาก และมันต้องการให้แม่ขอโทษ แม้น้องหมาจะนั่งลงข้างๆ แม่ แต่มันไม่ชอบมองหน้าแม่เลย ในขณะที่คุณแม่ก็พยายามพูดกับมัน ง้อมัน ‘เกิดอะไรขึ้นล่ะลูก? งอนแม่หรอ?’     Bee พูดอะไรไป ถามอะไรไป Ralphie ก็ยังทำหน้านิ่งเหมือนเดิม ดูเหมือนมันจะว่ารู้ความเงียบสามารถกดดันคุณแม่ได้ มันเลยเลือกที่จะนั่งนิ่งๆ และไม่เปล่งเสียงใดๆ คุณแม่เลยตามต่อว่า “แม่ต้องทำยังไงล่ะ ลูกถึงจะหายงอน?” เจ้าหมาหันไปมองแม่ด้วยสายเย็นชานิดนึง ก่อนจะหันไปมองที่อื่นต่อ     ในที่สุด Bee ก็พูดว่า “แม่ขอโทษ” และหวังว่าลูกน้อยตัวโตจะหายงอน ตอนแรก เจ้าหมายังนิ่ง แต่พอเธอพูดขอโทษอีกครั้ง เจ้าหมาก็กระโดดขึ้นตักเธอ และกอดเธอชุดใหญ่เลย   ก็แค่นี้แหละแม่ ที่หนูต้องการ  …

วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ Bambino แมววัย 11 ปี มันเข้ามาอยู่ในการดูแลของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์  Purrfect Pals ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐวอชิงตัน เพราะอยากได้บ้านใหม่สำหรับช่วงบั้นปลายชีวิต ก่อนหน้านี้ ทราบมาว่า Bambino ผู้จัดการในสำนักงาน แต่มันถูกทิ้งในศูนย์พักพิง เพราะเจ้าของเก่าต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น และไม่สามารถพามันไปด้วยได้     หลังจากนั้น มันก็ถูกรับเลี้ยงและถูกพาไปยังสำนักงานใน Renton รัฐวอชิงตัน จนกลายเป็นเหมียวประจำออฟฟิศอย่างเป็นทางการ ทุกคนที่นั่นตกหลุมรัก Bambino และมันกลายเป็นศูนย์รวมความสนใจของทุกคน เจ้าเหมียวชอบทักทายลูกค้า ชอบดูแลพนักงาน และเยียวยาทุกคนด้วยความน่ารักแบบแมวแก่ มันทำงานได้ดีมาก จนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์     ทุกอย่างดูเหมือนกำลังไปได้ดี แต่แล้ว สำนักงานดังกล่าวต้องปิดตัวลง พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจากPurrfect Pals เพื่อให้ช่วยหาบ้านที่สมบูรณ์แบบให้มัน ด้วยความที่แก่มากแล้ว Bambino จึงสูญเสียการมองเห็นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังมีความมั่นใจ เป็นมิตร รักผู้คน และชอบการกอดมากๆ     หลังจากที่กลายเป็นแมวตกงาน Bambino ก็กระตือรือร้นที่จะกลับไปหาตักใครสักคนอีกครั้ง และต้องการใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับเพื่อนมนุษย์ กระทั่งต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีคู่รักเข้าใน Purrfect Pals เพื่อรับเลี้ยงแมว เนื่องจากแมววัยชราของพวกเขาเพิ่งจากไป และสุนัขของพวกเขาที่ตาบอดและเกือบหูหนวกด้วยก็คิดถึงแมวตัวนั้นมาก  …

แมวนี่มันแมวจริงๆ อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากทำอะไรก็ทำ โดยไม่สนใจว่าจะทำให้ใครเดือดร้อนหรือไม่ กฎระเบียบต่างๆ นะเหรอ ลืมไปได้เลย แมวไม่สนหรอก อย่างเจ้าเหมียว 2 ตัวนี้ ที่หลงใหลในงานศิลปะมากๆ พวกมันจึงพยายามจะเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ศิลปะในญี่ปุ่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่จนถึงวันนี้ พวกมันก็ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไป     ตามกฎของพิพิธภัณฑ์แล้ว คนที่จะเข้าไปได้ต้องซื้อตั๋วก่อน และสัตว์ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป เพราะมันอาจจะไปทำงานศิลปะข้างในเสียหายได้ ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจอยู่หน้าประตูตลอดเวลา ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างดำเนินไปได้อย่างราบเรียบ จนกระทั่ง 2 ปี เมื่อพิพิธภัณฑ์ Hiroshima Onomichi City Museum of Art ได้จัดแสดงนิทรรศการในชื่อ Cats — Mitsuaki Iwago Photography Exhibition     หลังจากเปิดนิทรรศการดังกล่าวเพียงไม่กี่วัน ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้นที่หน้าพิพิธภัณฑ์ มันคือแมวดำตัวน้อยที่พยายามจะเข้าไปในงานให้ได้ มันผ่านประตูเลื่อนชั้นแรกไปได้ แต่แล้วพอจะผ่านประตูเลื่อนชั้นที่สอง มันก็จ๊ะเอ๋เข้ากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มันเลยถูกอุ้มออกไปข้างนอกทันที     แม้จะถูกอุ้มออกมาข้างนอก แต่เจ้าเหมียวก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มันพยายามจะหาทางเข้าไปข้างในต่อไป โดยหวังว่ายามจะเห็นในความพยายามของมัน แน่นอน…

สัตว์โลกทำให้เราประหลาดใจได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องนิสัย หรือรูปร่างหน้าตา รวมไปถึงขนาดตัวของพวกมัน สัตว์บางชนิดตัวเล็กจิ๋ว ในขณะที่บางสายพันธุ์ตัวโตอย่างกับยักษ์แน่ะ และนี่คือสัตว์โลกตัวโต บางตัวใหญ่เพราะกรรมพันธุ์ บางตัวใหญ่เพราะอ้วน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร พวกมันก็เป็นสัตว์ร่างยักษ์ที่น่ารัก น่ากอดสุดๆ โดยเฉพาะหน้าหนาวแบบนี้ อยากได้มากอดสักตัวจัง   1. เอิ่ม ที่ที่หนูนั่งน่ะ มนุษย์นั่งได้อีก 2 คนเลยนะ   2. นี่คือ Cinderella เจ้ากระต่ายยักษ์วัย 8 เดือน นางยังโตไม่สุดนะ นี่แค่เด็กๆ   3. นี่ไม่ใช่หมีแต่เป็นลูกหมานิวฟาวด์แลนด์ ย้ำว่าลูกหมาเด้อ   4. ส่วนตัวนี้ก็ลูกหมานิวฟาวด์แลนด์เหมือนกัน ยังโตไม่สุดด้วย   5. พาเดินเล่นที ต้องไปตอนกลางคืน ไม่งั้นคนแตกตื่น   6. หมูว่าอ้วนแล้ว แต่นี่โคตรหมู มันเลยโคตรอ้วน   7. เฮ้ย!! ทำไมพุงโตแบบนี้ แล้วเพื่อนๆ อีก 7…

วันหนึ่งขณะที่ Judy Obregon ขับรถไปตามถนนรกร้างในเท็กซัส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าสุนัขจำนวนมากถูกนำมาทิ้งที่นี่ และวันนั้น Judy ก็พบสุนัขถูกทิ้งตัวหนึ่ง ที่กำลังรอคอยใครสักคนด้วยความหวัง เธอจึงตัดสินใจจอดรถ แล้วเดินเข้าไปหาเจ้าหมาตัวนั้น ขณะที่สุนัขถูกทิ้งเองก็เดินเข้ามาหาเธอด้วยความตื่นเต้น แม้จะรู้สึกกลัวอยู่บ้างก็ตาม     เมื่อหญิงสาวเรียก เจ้าหมาถูกทิ้งก็ยอมเข้ามาหาเธอแต่โดยดี ก่อนจะเอาหัววางลงบนฝ่ามือของเธอ…Judy สังเกตเห็นมีเชือกที่ผูกอยู่ที่ขอของมัน ซึ่งขาดแล้ว เธอจึงเชื่อว่ามันจะโดนมัดไว้กับเสาหรือรั้ว แต่มันดิ้นจนเชือกขาด อย่างไรก็ตาม แม้เชือกจะขาดแล้ว แต่ด้วยความซื่อสัตย์ เจ้าหมายังคงนั่งรอให้เจ้าของกลับมารับ โดยไม่รู้เลยถูกเจ้าของทิ้งแล้ว     Judy ได้ตั้งชื่อหมาตัวนั้นว่า Callie จากนั้นก็อุ้มเจ้าหมาขึ้นรถเพื่อพามันไปกับเธอ เจ้าหมาไม่รู้ว่ามันจะถูกพาไปไหน แต่มันรู้ว่าหญิงสาวคนนี้ช่วยเหลือมัน ดังนั้น สิ่งที่มันอยากทำมากที่สุดในตอนนั้นคือการขอบคุณ Judy… มันยืนอยู่ที่หลังเบาะนั่งของหญิงสาว จากนั้นก็จุ๊บเธอซ้ำๆ     เมื่อมาถึงคลินิกสัตว์ คุณหมอได้ทำการตรวจร่างกายของมันอย่างละเอียด พบว่า Callie มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง แต่มันอ่อนเพลียเล็กน้อย เนื่องจากถูกทิ้งไว้ข้างนอกโดยไม่มีน้ำและอาหาร ปัจจุบัน Callie อยู่ในบ้านอุปถัมภ์ มันรอคนที่จะรับเลี้ยงและพร้อมจะดูแลมันตลอดไป ในระหว่างนี้ อดีตที่เจ็บปวดของมันกำลังถูกลบล้างด้วยความรัก และความสุขจากครอบครัวบุญธรรม     ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ Judy ไม่ขับรถผ่านมันไป แต่เลือกที่จะรับมันขึ้นรถ…

แมวเมนคูณเป็นแมวที่มีรูปลักษณ์เหมือนสัตว์ในเทพนิยาย พวกมันเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก และมีขนที่ฟูฟ่อง แต่มันนั่งบนโซฟาก็ดูสง่างามแล้ว ด้วยลักษณะที่โดดเด่นของแมวพันธุ์นี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าของแมวเมนคูนคนนี้ถึงได้ชอบโพสต์รู้เจ้านายตัวยักษ์ลงในอินสตาแกรมที่สร้างขึ้นเพื่อมันโดยเฉพาะ     เมนคูนตัวนี้มีชื่อว่า Lotus มันเป็นแมวที่สง่างามและเป็นเจ้าของอินสตาแกรม lotus_the_mainecoon ที่มีผู้ติดตามกว่า 70,000 คนแล้ว     ในแต่ละวันเจ้าของจะโพสต์รูปกิจวัตรประจำวันของมัน แม้ว่ามันจะนอนซะส่วนใหญ่ แต่ผู้คนก็ยังหลงใหลในความเป็นแมวยักษ์ของมัน คือเรียกได้ว่าอยู่เฉยๆ ก็ดูคูลอะ แต่ถึงจะเป็นแมวตัวโต นิสัยของมันก็ไม่ได้ต่างจากแมวทั่วไปสักเท่าไหร่หรอก มันมีความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่แม่ทำทุกอย่าง และชอบป่วนในบางครั้ง     แม้จะเป็นแมวขี้เซาที่ชอบนอนอยู่แต่ในบ้าน แต่เวลาพาออกไปเที่ยวข้างนอก Lotus จะรู้สึกฟินมากๆ มันชอบเอาหน้ากระแทกกับลม และชอบปล่อยขนให้ปลิวไสว     แมวก็คือแมวอยู่วันยังค่ำ ต่อให้จะตัวโตหรือเล็ก   หนาวแค่ไหนก็เอาอยู่ เพราะขนหนามากเวอร์   วันๆ ไม่ทำอะไร นอนแล้วก็นอน   พาฉันเที่ยวสิ ฉันจะได้ไม่นอน   เจ้านายของบ้านกับโซฟาตัวโปรด   งุ้ยยย กอดได้มั้ยเล่า   ก่อนไปผจญภัย ขอเพิ่มพลังก่อนดิ๊   ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการนอนอีกแล้ว  …

ช่วงต้นเดือนกันยายน ปี 2018 มีคนเจอลูกแมวตัวน้อยกำลังร้องไห้อยู่ที่ลานจอดรถในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน มันหิวมากๆ แต่ร้องเรียกหาแม่ตลอดเวลา แต่ไม่มีวี่แววของมันในละแวกนั้นเลย เห็นได้ชัดว่ามิ้วน้อยเพิ่งเกิด เพราะยังมีสายสะดือติดอยู่ พลเมืองดีคนนั้นจึงถ่ายรูปแมวน้อยแล้วอัปลงโซเชียลเพื่อขอความช่วยเหลือ     ต่อมา Avery Ortman ได้เห็นภาพนั้น เธอจึงเสนอรับดูแลมัน และได้ไปรับมันทันที ระหว่างทางกลับบ้านแมวน้อยร้องไห้ตลอดเวลา บ่งบอกว่ามันหิวมาก เมื่อกลับถึงบ้าน เธอตั้งชื่อให้มันว่า Bindi ซึ่งตอนนั้นมันอายุได้แค่ 1 วันเท่านั้น จากนั้น Avery ก็นมมันผ่านขวดนมที่จุกเล็กที่สุด มิ้วน้อยจึงหยุดร้องไห้     แผนการของ Avery คือจะดูแลมันจนกว่ามันจะโตและแข็งแรงพอสำหรับการรับเลี้ยง แต่ดูเหมือนว่า Bindi จะมีแผนที่ต่างออกไป ทันทีที่มิ้วน้อยได้กินนม มันก็เริ่มเปิดตาและหูก็เริ่มกางออก พอหนังท้องตึง มันก็งีบหลับในมือของ Avery และทำเสียงเพอร์เพื่อกล่อมตัวเองนอน ดูเหมือนมันจะคิดว่ามีเจ้าของแล้ว และมันก็ไม่อยากปล่อยเธอไป     Avery พามิ้วน้อยไปทำงานด้วยทุกวัน เพื่อที่จะได้ให้อาหารมันตามเวลา ขณะที่ Bindi ตัวจิ๋ว เป็นมิ้วช่างพูด มันเรียกร้องให้คนอุ้มตลอดเวลา และมันไม่ยอมให้ใครปฏิเสธความต้องการของมันด้วย     เนื่องจาก Bindi…

เป็นเวลากว่า 17 ปี ที่หมีดำตัวหนึ่งถูกขังอยู่ในกรงเล็กๆ มันไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง และไม่เคยได้รับการโอกาสในการติดต่อหรือสื่อสารกับหมีตัวอื่นๆ เลย หมีผู้น่าสงสารตัวนี้ถูกจับขังเพื่อสกัดน้ำดี  เนื่องจากคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะชาวเอเชียมีความเชื่อว่า ‘ดีหมี’ คือยาบำรุงชั้นเลิศที่เพียบพร้อมไปด้วยสรรพคุณ นั่นหมายความว่าหมีต้องอยู่ในกรงจนตาย     แม้ว่าผู้สกัดน้ำดีจากหมีจะได้รับการลงโทษและถูกประกาศให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและไร้มนุษยธรรมในเวียดนามนับตั้งแต่ปี 1992 แต่ปัจจุบันยังมีฟาร์มสกัดน้ำดีหมีหลายแห่งที่เปิดทำการอย่างผิดกฎหมายและยังไม่ได้รับการตรวจสอบ ส่งผลให้หมีที่ถูกจับไปต้องตายในที่สุด เนื่องจากปัญหาความอดอยากและปัญหาสุขภาพ     นับว่าเป็นความโชคดีที่ของเจ้าหมีตัวนี้ ที่ได้รับการช่วยเหลือทันเวลา ทำให้โชคชะตาของมันไม่กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า หมีตัวนี้ได้รับการช่วยเหลือโดย Animals Asia… เมื่อทีมงานไปถึงที่ที่เจ้าหมีถูกขัง พวกเขาได้วางยาสลบมัน จากนั้นก็รีบตัดโซ่ที่มัดล้อมรอบกรงของมัน ที่ต้องทำอย่างรวดเร็ว เพราะเจ้าหมีร่างกายอ่อนแอมาก หากปล่อยไว้นาน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต     ข้อมูลที่น่าทึ่งอีกอย่างหนึ่งคือ หมีตัวนี้เป็นตัวที่ 200 ที่ทาง  Animals Asia ได้ช่วยเหลือเอาไว้ในเวียดนาม นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นมา หลังจากพาเจ้าเหมียวออกจากฟาร์มได้สำเร็จ พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือทางการแพทย์เบื้องต้น จากนั้นก็พามันไปยังที่อยู่ใหม่ ที่ที่มันจะได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก่อนจะตั้งชื่อให้มันว่า Moon     นับตั้งแต่วันนั้น กล้วยกับใบไม้บางชนิดก็กลายเป็นอาหารโปรดของมัน และนี่ถือเป็นครั้งแรกของ Moon ที่ได้รับการเอาใจใส่จากมนุษย์…

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน พลเมืองดีพบแมวจรจัดตัวหนึ่งบนถนน มันเป็นมิตรกับผู้คนมากและกำลังอยู่ในช่วงท้องแก่ พวกเขาจึงรีบพามันไปคลินิกสัตว์เพื่อขอความช่วยเหลือ เมื่อไปถึง คุณหมอก็ติดต่อไปยัง CatRescue 901 ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือใน Terrey Hills ประเทศออสเตรเลีย และขอให้พวกเขาช่วยแม่อย่างเร่งด่วนที่สุด     Natalie Stathis อาสาสมัครในศูนย์ช่วยเหลือดังกล่าว จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือทันที ซึ่งต่อมาแม่แมวตัวนั้นถูกตั้งชื่อว่า Mimi Natalie บอกว่า “Mimi เฟรนด์ลี่มาก มันยังไม่มีไมโครชิป ไม่มีปลอกคอ และยังไม่ได้ทำหมัน” โชคดีที่พวกเขาช่วยมันไว้ได้ทันเวลา เพราะหลังจากที่มันมาถึงบ้านอุปถัมภ์เพียงไม่นาน มันก็คลอดลูก     การคลอดลูกแมวผู้น่ารักทั้ง 3 ตัว ผ่านไปด้วยดี และพวกมันก็ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย Mimi เองก็ปรับตัวกับบทบาทใหม่ได้อย่างรวดเร็ว มันให้นมลูก ดูแลลูก และไม่ยอมอยู่ห่างลูกเลย     เมื่อได้ยินเสียงลูกร้องไห้ Mimi จะปลอบลูกด้วยความรัก และกอดลูกจนกว่าจะหายร้อง รวมไปถึงคอยเช็ดหน้า เช็ดตัวให้ เพื่อให้ลูกดูสะอาดสะอ้านตลอดเวลา     Natalie บอกว่า “มันเป็นแม่ที่น่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ ฉันแทบจะไม่ต้องช่วยอะไรมันเลย มันช่างเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบจริงๆ”  นอกจากให้นมลูก ทำความสะอาดลูก…

บางครั้งความสุขไม่ได้เกิดจากการประสบกับตัวเองโดยตรงเสมอไป แต่แค่เห็นคนอื่นมีความสุขก็ทำให้เรารู้สึกอื่นอุ่นใจไปด้วย โดยเฉพาะโมเมนต์น่ารักๆ ของสัตว์โลก ที่ทำให้เราใจละลายได้เสมอ และนี่คือภาพของเหล่าสัตว์โลกที่ทั้งน่ารัก ไร้เดียงสา ซน และเกรียน แต่มันทำให้เรายิ้มได้ทุกครั้งที่เห็น เราจะไม่อยู่ในจุดจุดนั้นก็ตาม   1. แม่ อย่าทำหน้างั้นสิ เดี๋ยวคนอื่นสงสัยว่าซ่อนหนูไว้   2. “เราขับรถผ่าน 5 จังหวัด แวะอุทยานแห่งชาติ 5 แห่ง ในเวลา 11 วัน และทุกวินาทีเรามีความสุขมากๆ คงไม่ต้องบอกนะว่าทำไม”   3. “ฉันพยายามถ่ายรูปน้องหมาของฉัน แล้วฉันก็สั่งให้มันนั่งอย่างเดียวเลย นานๆ มันคงจะเริ่มหงุดหงิด เลยมองหน้าฉันด้วยสายตาแบบนี้”   4. กระต่ายน้อยไม่มีหู แม่เลยถักหูกระต่ายสุดคิ้วท์ให้   5. “ขอ Puppaccino 1 แก้ว แล้วก็ลูบหัวให้ด้วยนะ”    6. คุณปู่หนวดสวยในตำนาน   7. ดวงตากลมโตคู่นี้ ใครได้เห็นคงจำไม่ลืมแน่นอน   8.…

Eddie และ Yvonne เลี้ยงหมาน้อยชิวาว่าไว้ด้วย มันเปรียบเสมือนลูกแท้ๆ ของพวกเขา ชื่อของมันก็คือ Quica ต่อมาเมื่อ Yvonne ตั้งท้องลูกคนแรก Quica เริ่มหวงและออกตัวปกป้องทุกคนมากขึ้น มันไม่ยอมให้คนอื่นนอกจาก Eddie เข้าใกล้แม่ของมันเลย     ความขี้หวงของเจ้าหมาน้อยนั้นดูน่ารักและน่าชื่นชมมาก แต่นั่นก็ทำให้ Eddie กับ Yvonne กังวลเล็กน้อยว่าถ้าลูกของเธอเกิดมา มันจะเข้ากับเขาได้รึเปล่า หรือมันจะหวงเธอจนไม่ถูกกับลูก ทว่าเมื่อถึงเวลาที่ Nicholas ลูกน้อยของเธอคลอดออกมาแล้วพาไปเจอกับเจ้าหมาจริงๆ ความกังวลของเธอก็ดูไร้ความหมายไปเลย     แม้ว่า Quica จะเห่าคนแปลกหน้าทุกคนที่เข้าใกล้ครอบครัวของมัน แต่พอ Eddie อุ้ม Nicholas มาหามัน เจ้าหมากลับทำท่าทางดีใจเหมือนกับตอนที่ได้เจอเจ้าของเลย มันเอาแต่ส่ายหางดุ๊กดิ๊กไปมา แล้วก็ทิ้งตัวลงไปนอนกลิ้งกับพื้น ราวกับว่ามันรอให้คุณพ่อพาน้องคนใหม่มาหามันไวๆ ไม่ไหว มันคงมีสัญชาตญาณบางอย่างที่ทำให้รู้ได้ว่า Nicholas เองก็เป็นครอบครัวของมันเช่นกัน สงสัยมันจะจำกลิ่นเด็กน้อยคนนี้ได้ตั้งแต่อยู่ในท้องคุณแม่แล้ว     จากนั้นเป็นต้นมา Quica ก็เปลี่ยนมาติดน้องชายคนใหม่แทน มันหันมาปกป้องเขามากกว่าคุณแม่ซะอีก ไม่ว่าเด็กชายจะนอนอยู่ตรงไหนมันก็จะไปนอนอยู่ข้างๆ ด้วย…

ลูกแมวตัวน้อยที่เพิ่งถูกแม่ทิ้งไปมี มีแววตาเศร้าตั้งแต่มนุษย์ไปเจอมันแล้ว ถึงพวกเขาจะเปลี่ยนหน้าเศร้าๆ โดยธรรมชาติของมันไม่ได้ แต่ก็ทำให้มันรู้สึกมีความสุขขึ้นได้ เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ไปเจอเจ้ามิ้วน้อย Virgule อยู่ข้างถนนโดยไม่มีแม่อยู่ด้วย ถึงพวกเขาจะเก็บมันมาแต่ก็ไม่สามารถดูแลลูกแมวเด็กขนาดนี้เองได้ด้วยเช่นกัน     พวกเขาจึงติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chatons Orphelins Montréal เพื่อขอให้ช่วยเอาตัวมันไปดูแลแทนให้หน่อย     ครั้งแรกที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์เจอ Vrgule มันตัวเล็กนิดเดียวเอง แล้วก็มีแต่หมัดเต็มตัว มันเอาแต่ร้องเหมียวๆ ไม่ยอมหยุดด้วยความไม่สบายตัว แต่พอพวกเขาป้อนอาหารให้มันจนอิ่มท้อง แล้วก็จับมันอาบน้ำซ้ำๆ จนเนื้อตัวสะอาดแล้ว มันก็ดูมีความสุขขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย     ตอนแรกมันมีแต่หมัดเลยไม่สบายตัว ตอนนี้สะอาดแล้ว   แม้ Virgule จะเป็นแค่ลูกแมวตัวเล็กๆ แต่มันก็เอาแต่ใจพอดูเลยล่ะ มันจะร้องเรียกไม่หยุดถ้าไม่มีคนคอยอยู่กับมัน แถมไม่ยอมกินข้าวถ้าไม่มีคนคอยดูข้างๆ ด้วย นั่นทำให้อาสาสมัคร 2 คนต้องผลัดกันดูแลมันเป็นพิเศษ ลูกแมวตัวนี้ไม่เคยถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเลย เนื่องจากพวกเธอแพ้เสียงร้องเรียกของมัน     เป็นลูกแมวขี้เหงา อยากให้คนอยู่ด้วย   ถ้าไม่มีคนอยู่ด้วยจะส่งเสียงร้องประท้วง   หลังจากดูแลมันได้เพียงอาทิตย์เดียว Virglue ก็ตัวโตขึ้นมาก มันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่เหลือเค้าของแมวผอมกะหร่องผู้หิวโหยแล้ว นอกจากนี้มันก็ร่าเริงพอที่จะส่งเสียงร้องเพื่อเรียกให้คนอื่นมาเล่นกับตลอดด้วย…

เจ้าสัตว์หน้าขนอย่างแมวเหมียว ถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตที่มนุษย์ทั้งหลายนิยมเลี้ยงกัน ความซุกซนและนิสัยที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางทีก็ทำตัวน่ารัก เข้ามาอ้อน เข้ามาเล่นด้วย แต่บางทีก็เมินเราเฉยเลยก็มี ซึ่งนิสัยที่เองทำให้มนุษย์หลงใหลมันจนยอมตกเป็นทาส!! และวันนี้เราก็ขอเอาใจสาวกเจ้าเหมียว โดยการรวบรวมรูปภาพสุดน่ารักปนฮาของเจ้าเหมียวที่ถูกนำไปตัดต่อรวมกันกับสัตว์ประเภทต่างๆ ในโลกนี้ จะออกมาแปลก น่ารักขนาดไหนเราไปรับกันเลย   1. เมื่อมารวมกับหมีแพนด้า เคี้ยวไผ่ตุ่ยๆ ไปเลย   2. รวมร่างกับกระต่ายก็จะหูยาวหน่อยๆ   3. เมื่อมารวมกับซาลาแมนเดอร์   4. เหมียวหรืองูเนี่ย   5. กระเบนเหมียว หาวมาแต่ไกล   6. เจ้านกน้อย   7. เจ้าเหมียว + ลูกไก่แฟนซี   8. เจ้าเหมียวสายพันธุ์วัลลาบี   9. กลายมาเป็นฮู๊ดซะแล้วเหมียว   10. กระรอกสายพันธุ์เหมียว   11. นี่สินกเค้าแมวของแท้!!   12. มีเค้าแมวของแท้ไปแล้ว ก็ต้องมีแมวน้ำของแท้เช่นกัน…

หากคุณเป็นคนชอบฟังเสียงดนตรี และต้องการเสพความน่ารักของแมวไปพร้อมๆ กัน ตอนนี้คุณสามารถทำแบบนั้นได้แล้ว ขอแนะนำให้รู้จักกับ Sarper Duman นักดนตรีหนุ่ม ที่มีความเป็นทาสแมวอยู่ในสายเลือด เขาจะโชว์สกิลการเล่นดนตรีเพราะๆ ให้ผู้ติดตามฟัง พร้อมๆ กับเจ้าแมวน่ารักๆ อีกเพียบ   https://www.instagram.com/p/BoeMMUtAUx-/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_camera   Duman เป็นนักดนตรีที่อาศัยอยู่ในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เขาชอบอัปโหลดวิดีโอเพลงที่เขาเล่นลงบนอิสตาแกรมเป็นประจำ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขามีเอกลักษณ์ต่างจากนักดนตรีคนอื่นๆ ก็มีเขาจะมีคู่หูแมวติดมาด้วยในทุกๆ คลิป ทำให้เราได้ฟังเพลงเพราะๆ แล้วก็มองดูแมวน่ารักๆ ในเวลาเดียวกัน   https://www.instagram.com/p/BnimZjzgQyo/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_camera   จริงๆ คนที่ชอบแมวอาจจะรู้จักเขาอยู่แล้วก็ได้ เนื่องจากอินสตาแกรมของเขาก็โด่งดังพอสมควรเลยล่ะ ปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่า 800,000 คนแล้ว ในหลายๆ คลิปเจ้าแมวเองก็เคลิ้มไปกับเสียงดนตรีของ Duman ด้วย มันดูสบายอารมณ์จนแทบจะหลับคาคีย์บอร์ดไปเลยนะ   https://www.instagram.com/p/BnYFXA5Aeld/   บางครั้งก็ไม่ได้เล่นดนตรี เล่นกับแมวล้วนๆ เลย https://www.instagram.com/p/BpnFvT-AcGM/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_loading_state_camera   นอกจากจะเป็นนักดนตรีแล้ว Duman ก็ทำหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ด้วย โดยเขามักจะรับแมวเข้ามาดูแลในบ้านของตัวเอง บางครั้งมีแมวอยู่ในบ้านกับเขาเกือบ 20 ตัวเลยทีเดียว…

หนุ่มผิวดำ David Verburg เป็นนักวิ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2016 เขาเคยได้เหรียญทองจากการแข่งวิ่ง 4×100 ที่เมืองริโอเดอจาเนโร นอกจากเขาจะมีความสามารถทางด้านกีฬาดีเยี่ยมแล้ว เขาก็ยังมีใจรักสัตว์อีกด้วย และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้ใช้ความสามารถในการวิ่งของเขาเข้าไปช่วยเต่าไว้ตัวหนึ่ง     ตอนที่ Verburg กำลังขับรถอยู่บนถนนเส้นหนึ่ง เขาสังเกตเห็นเต่าตัวหนึ่งกำลังขดตัวอยู่ที่กลางถนน มีรถหลายคันที่หยุดและหลบเลี่ยงมัน แต่ก็มีรถอีกมากที่ไม่สังเกตเห็นมันจึงขับเฉี่ยวมันไป เขารู้ว่าถ้าปล่อยมันไว้แบบนั้น อีกไม่นานมันก็คงถูกรถที่ไม่เห็นทับเข้าจังๆ เขาจึงกลับรถของตัวเองไปทางเดิมเพื่อกลับไปช่วยมัน เมื่อจอดรถไว้ที่ข้างทางแล้ว Verburg ก็ลงรถแล้ววิ่งไปคว้าเจ้าเต่าขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว และพามันกลับมาที่รถได้ก่อนสัญญาณไฟจะเป็นสีเขียวอีกครั้ง     ในวิดีโอเขาพูดว่า “ตอนที่ผ่านมันครั้งแรกผมก็เกือบทับมันแล้วเหมือนกัน แต่โชคดีที่ผมหลบทัน ผมไม่อยากให้มันต้องถูกรถทับ ในเมื่อผมช่วยมันได้ก็เลยหยุดช่วยมันดู” เขาไม่รู้หรอกว่ามันอยู่กลางถนนมานานเท่าไหร่แล้ว จริงๆ ใครจะไปช่วยมันก็ได้ เพราะแค่ลงรถไปเอาตัวมันมาปล่อยในที่ปลอดภัยก็จบแล้ว แต่ถ้ารอคนอื่นมาช่วยไปเรื่อยๆ ก็คงไม่มีคนไปช่วยมันสักที เขาจึงลงมือทำด้วยตัวเอง     หลังจากช่วยเจ้าเต่ามาแล้ว Verburg ก็ขับรถพามันไปปล่อยตรงข้างทางที่ดูปลอดภัยมากพอ ก่อนเจ้าเต่าจะจากไป ดูเหมือนมันจะกล่าวคำขอบคุณกับเขาด้วยนะ เขาเล่าว่า “ตอนที่ผมปล่อยมันลงกับพื้น มันโผล่หัวออกมาแล้วมองผมก่อนด้วย ผมรู้สึกดีมากเลยที่ได้ช่วยให้มันปลอดภัย จริงๆ แล้วผมเป็นคนใจอ่อนเรื่องสัตว์มากๆ เลยล่ะ”   ว้าว ทั้งเก่งทั้งใจดีแบบนี้ น่าชื่นชมจริงๆ ที่มา:…

Kathryn Sinske ได้เห็นรูปของหมาชิวาว่า Claire ครั้งแรกบนเฟซบุ๊ก ปกติเธอก็เห็นหมาจรจัดบ่อยๆ แต่มีบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกอยากช่วยเจ้าหมาตัวนี้ เธอเล่าว่า “ตอนที่ฉันเห็นมันบนโซเชียลมีเดีย ฉันรู้สึกเห็นใจเจ้าหมามาก มันอยู่ในกลุ่มของหมาที่ท้องแก่ อาจจะคลอดลูกออกมาวันไหนก็ได้ ในรูปมันดูสับสนและหวาดกลัวมาก”     ประกาศเปิดรับเลี้ยงของเจ้าหมา   เธอตั้งตาคอยวันที่ทางศูนย์พักพิงสัตว์จะเปิดให้รับเลี้ยงมัน แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น Claire ก็คลอดลูกก่อนซะแล้ว ในวันแรกที่เจ้าหมาเปิดให้คนมาเป็นเจ้าของ Kathryn ไปหามันตั้งแต่เช้าเลย และเห็นว่ามันนอนขดอยู่บนผ้าห่มบางๆ ผืนหนึ่งกับลูกๆ แม้มันจะดูตื่นกลัวมนุษย์ ซึ่งอาจทำให้เธอต้องใช้เวลาปรับตัวกับมันนาน เธอก็ไม่รอช้าที่จะรับมันและลูกไปอยู่ที่บ้านตามที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก     หลังจากที่แม่หมาและลูกหมามาถึงบ้านแล้ว Claire ก็ไข้ขึ้นสูงมากจนต้องเข้ารักษาที่คลินิกอยู่นานเป็นสัปดาห์ ระหว่างนั้น Kathryn จึงต้องทำหน้าที่เป็นแม่คอยดูแลลูกหมาและแม่หมาไปพร้อมๆ กัน พอ Claire หายดีมันก็ดูดีใจที่ได้เจอ Kathryn แล้ว คงเป็นเพราะมันรับรู้ได้แล้วว่าเธออยากดูแลมันจริงๆ เมื่อกลับมาอยู่ในบ้านกับลูกมันเลยทำตัวเป็นหมาที่น่ารัก     Kathryn เล่าว่า “แม่หมาจริงๆ แล้วมีนิสัยอ่อนโยน มันชอบให้ฉันใส่ใจมัน แล้วก็ชอบมานั่งบนตัก…พอเห็นอุปสรรคทุกอย่างที่มันต้องผ่านมาแล้ว ฉันเลยอยากจะตามใจมันให้มากที่สุดเพื่อให้มันได้สัมผัสความสุข”     ที่มา:…

ในยุคนี้ทุกคนน่าจะรู้จัก สิริ (Siri) กันอยู่แล้ว สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก มันคือโปรแกรมโต้ตอบอัจฉริยะของบริษัท Apple ที่เหล่าผู้ใช้ iPhone หรือคอมพิวเตอร์ Mac สามารถเรียกใช้งานได้ นอกจากจะเรียกใช้เพื่อจัดการโปรแกรมต่างๆ หรือทำนัดหมายได้แล้ว เวลาเหงาไม่มีเพื่อนคุย สิริก็เป็นเพื่อนคุยให้กับคุณได้เช่นกัน (ถ้าคุณเหงาจนต้องคุยกับมือถือล่ะก็นะ) สิ่งที่น่าสนใจก็คือสิริสามารถฟังคำพูดของเราได้ตรงมาก แถมยังตีความได้ดีพอจะเปิดบทสนทนากับมันได้…แล้วถ้าให้สิริลองคุยกับเจ้าหมาดูล่ะ มันจะแปลภาษาหมาได้รึเปล่า??     แม้จะบอกได้ไม่ค่อยเต็มปากเท่าไหร่ แต่หลังจากที่เจ้าของของหมาซามอยด์ Maya ให้น้องได้ลองคุยกับสิริดูบ้าง ดูเหมือนมันจะเข้าใจเจ้าหมาอยู่เหมือนกันนะ ถ้าอยากรู้ว่าสิริคุยอะไรกับ Maya ไปบ้าง เชิญไปดูคลิปวิดีโอที่แม่ของมันถ่ายไว้ตอนที่เจ้าหมาคุยกับสิริไว้ได้เลย   https://www.instagram.com/p/BpMk38SHUFt/?utm_source=ig_embed   บทสนทนาแรกที่เจ้า Maya คุยกับสิริไป สิริตอบมันกลับว่า “สวัสดี” ซึ่งเป็นไปได้ว่าเจ้าหมาเริ่มต้นด้วยการทักทายสิริก่อน มีมารยาทดีเหมือนกันนะ แต่พอคุยกันอีกประโยคหนึ่ง สิริถามเจ้าหมากลับว่า “ห๊ะ คุณพูดว่าอะไรนะ ขอชัดๆ อีกรอบได้ไหม” ทำให้เราเริ่มไม่แน่ใจว่าสิริคุยภาษาหมารู้เรื่องรึเปล่า     จากนั้นพอ Maya คุยกับสิริต่อ สิริก็ตอบกลับมาว่า “ฉันไม่ใช่ไก่ฤดูใบไม้ผลิ ผึ้งฤดูหนาว หมึกฤดูร้อนหรอกนะ”…

แน่นอนว่าคุณแม่ต้องหวงลูกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ทว่าเจ้าลิงอุรังอุตังตัวนี้ดูจะโอ๋ลูกมากเป็นพิเศษ มันกอดลูกไว้ไม่ยอมปล่อยแม้ว่าจะโดนถ่ายวิดีโออยู่ก็ตาม แม่ลิง Suro วัย 11 ปีเพิ่งมีลูกน้อยชื่อว่า Senja เมื่อไม่นานนี้เอง พวกมันอยู่ด้วยกันในเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย     มนุษย์ถ่ายภาพของ Suro ตอนที่มันอยู่กับลูกน้อยไว้ได้ ในช่วงเวลานั้นแม่ลิงได้แสดงความรู้สึกที่ลึกซึ้งเกินบรรยายให้เราได้ชมกัน แม่ลิงกำลังกอดลูกน้อยไว้ในอ้อมแขน มันเอนตัวนอนลงบนกิ่งไม้และให้ลูกนอนซบลงบนตัวของมัน แม้ว่าพวกมันกำลังอยู่ในช่วงพักผ่อนแต่สายตาของแม่ลิงก็ยังคอยสอดส่องดูภัยอันตรายที่อาจจะมาถึงตัวลูกน้อยได้     ลิงอุรังอุตังเสี่ยงเจอภัยอันตรายมากมาย ภัยใหญ่อย่างหนึ่งในนั้นก็คือมนุษย์อย่างเรานี่แหละ เนื่องจากมีนักล่าที่เล็งจะจับลูกลิงไปขายอยู่ บางครั้งพวกเขาฆ่าแม่ลิงทิ้งเพื่อจับตัวลูกลิงเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ พวกมันอีก เนื่องจากบางครั้งลิงอุรังอุตังก็ไปบุกรุกพื้นที่ของมนุษย์ ทำให้พวกเขามองว่าพวกมันเป็นภัยร้ายและต้องการกำจัดทิ้ง     โชคดีที่นอกจากตัวของมันเองแล้ว กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ The Orangutan Project ซึ่งดูแลพวกมันอยู่ก็ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วยอีกแรงหนึ่ง พวกเขาจะช่วยดูแลพื้นที่ป่าที่พวกมันอาศัยอยู่ เพื่อให้ Suro, Senja และลิงอุรังอุตังตัวอื่นๆ ซึ่งอยู่ในโครงการที่อยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขาปลอดภัยที่สุด     ตราบใดที่แม่ลิง Suro ยังอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์นี้ มันจึงวางใจได้ว่าตัวเองและลูกจะปลอดภัย จึงสามารถแสดงความรักต่อกันได้อย่างเต็มที่ ผลพลอยได้ของการปกป้องพวกมัน ก็คือภาพความสัมพันธ์อันงดงามระหว่างแม่และลูกลิงอุรังอุตัง ที่เราได้เห็นกันอยู่นี่แหละ ถ้าทุกคนยังอยากเห็นภาพความรักแบบนี้ต่อไป อย่าลืมสนับสนุนการอนุรักษ์สัตว์กันด้วยนะ…

หิมะเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่ประเทศเขตร้อนอย่างเราไม่มีทางได้สัมผัสเลยถ้าไม่เดินทางไปหามันเอง #เหมียวอาตี๋ เองก็ยังไม่เคยสัมผัสหิมะเลย เคยคิดไว้ว่าสักครั้งหนึ่งต้องไปเล่นหิมะให้ได้ และถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ เราก็คงจะตื่นเต้นไม่แพ้เจ้าหมีแพนด้าตัวนี้หรอก     เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2018 ในเมือง Harbin มณฑล Heilongjiang ของประเทศจีนเพิ่งจะมีหิมะตกเป็นครั้งแรกของปี พอเจ้าแพนด้า Sijia กับ Youyou ที่อาศัยอยู่ในแถบนั้นได้เห็นหิมะแล้ว พวกมันก็ดีใจมากจนลิงโลด ไม่จำเป็นต้องอ่านใจพวกมันก็รับรู้ได้แล้วว่าทั้ง 2 ตัวตื่นเต้นกับการมาของหิมะจริงๆ     หลังจาก Sijia กับ Youyou เห็นสวนของตัวเองปกคลุมไปด้วยหิมะแล้ว พวกมันอดที่จะวิ่งเข้าไปเล่นด้วยเหมือนเด็กไม่ได้เลย พวกมันทั้งวิ่งลุยไปในพื้นหิมะ ปีนป่ายไปตามส่วนต่างๆ ที่มีหิมะปกคลุมอยู่ แล้วก็ทิ้งตัวนอนเกลือกกลิ้งลงไปกับหิมะเย็นๆ แบบร่าเริงสุดๆ ไปเลยล่ะ     เอาของเล่นเข้าไปเล่นด้วยแบบเต็มเหนี่ยว   ทิ้งตัวลงไปนอนบนพื้นเลยจ้า   ปีนขึ้นไปนอนชั้นบน เพราะข้างบนมีหิมะกองอยู่   ตรงไหนมีหิมะก็ปีนขึ้นไปเล่นหมด   เล่นเหนื่อยแล้วก็กินเติมพลัง…แล้วค่อยเล่นต่อ!!   เจ้า Sijia…

ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าคุณบ้าหมามากๆ แต่ดันถูกห้ามให้เลี้ยงมันจะน่าเศร้ามากขนาดไหน สาวคนหนึ่งจากเว็บไซต์ Reddit ก็เผชิญกับสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน ทว่าในความโชคร้ายของเธอยังมีความโชคดีอยู่ เนื่องจากเธอมีเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรและใจดี ซึ่งมีวิธีสุดน่ารักให้เธอได้เจอและเล่นกับหมาทุกวัน เมื่อไม่นานมานี้ larebear2 เพิ่งจะย้ายไปอยู่บ้านเช่าหลังใหม่ เธออยากเลี้ยงสุนัขมากๆ แต่ว่าเจ้าของบ้านเช่าไม่ยอมให้เธอเลี้ยงสัตว์     ด้วยความที่เพื่อนบ้านข้างๆ เห็นว่า  larebear2 รักหมามาก จึงเสนอให้เธอเล่นกับเจ้าหมา Jake ของเธอได้ มากเท่าที่เธอต้องการเลย แต่จะให้มาหาที่บ้านบ่อยๆ ก็คงจะไม่ค่อยสะดวก เธอจึงได้ทำหน้าต่างเล็กๆ บนรั้วระหว่างบ้านของพวกเธอไว้  larebear2 จะได้มองเข้ามาเจอหน้าเจ้า Jake ได้ตลอด แถมยังเล่นกับมันผ่านช่องเล็กๆ นี้ได้ด้วย หน้าต่างนี้ทำไว้เป็นช่องเล็กๆ ที่ส่วนบนของรั้วเท่านั้น เพื่อนบ้านจึงไม่ต้องกลัวว่าจะรบความเป็นส่วนตัวของกันและกัน และไม่ต้องห่วงว่า Jake จะข้ามไปอีกบ้านหนึ่งได้ด้วย เพราะอย่างมากมันก็ทำได้แค่เกาะรั้วทักทายเท่านั้นแหละ     แต่พอมีช่องเล็กๆ นี้แล้ว ชีวิตของ larebear2 ก็สดใสขึ้นเยอะเลย ถ้าเธอต้องการความรักจากเพื่อน 4 ขาเมื่อไหร่ เธอก็แค่เดินมาตรงรั้วเท่านั้น ถ้า Jake อยู่มันก็จะมาทักทายเธอทันที แถมเธอยังสามารถลูบหัวมันได้ แล้วก็จุ๊บมันได้ด้วย แม้ว่าในบ้านจะห้ามเลี้ยงหมาอย่างเด็ดขาด แค่นี้เธอก็สามารถเล่นกับเจ้าหมาได้อย่างจุใจแล้ว    …

ถ้าคุณได้เจอหมาชาร์เป่ย Stevie กับหมาชิวาว่า Jimmy คุณจะรู้ว่าคำว่าสนิทกันยังน้อยเกินไปสำหรับพวกมัน พวกมันอยู่โดยไม่มีอีกตัวไม่ได้เลย หมาทั้ง 2 ตัวถูกช่วยมาไว้ในศูนย์พักพิงสัตว์เมื่อไม่นานมานี้ พวกมันเป็นจุดสังเกตตั้งแต่มาถึงศูนย์พักพิงเลยล่ะ เพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ทำให้คนที่ได้เห็นประทับใจ     หมาทั้ง 2 ตัวจะอยู่ด้วยกันเสมอ โดยเจ้า Jimmy ซึ่งอายุมากกว่าจะทำหน้าที่เหมือนเป็นคนปกป้อง Stevie ซึ่งตาบอด ไม่เคยมีสักครั้งเลยที่พวกมันห่างกัน ถึงแม้หมาทั้ง 2 ตัวดูเหมือนจะเคยอยู่ในบ้านกับมนุษย์มาก่อน แต่ก็ไม่มีใครออกมาตามหาพวกมันเลย แม้ว่าจะมาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์สักพักแล้ว     Neda Rosa จากกลุ่มช่วยเหลือหมา California Shar-Pei Rescue ได้มาเจอพวกมัน เธอก็อยากจะช่วยรับ Stevie ออกไปดูแล และครั้งนี้เธอก็ให้เจ้า Jimmy ติดไปด้วยเป็นกรณีพิเศษ เธอเล่าว่า “พวกเราเป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่ช่วยแต่หมาชาเป่ยเท่านั้น แต่พอเราได้เห็นว่าหมาทั้ง 2 ตัวสนิทกันขนาดไหน เราก็ไม่อยากจะแยกพวกมันออกจากัน เลยรับเจ้าชิวาว่าไปด้วย”     แม้จะย้ายมาอยู่ในศูนย์พักพิงของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่มีคนคอยดูแลอย่างดีแล้ว Jimmy ก็ยังคงดูแล Stevie อยู่ใกล้ๆ เหมือนเดิม พวกมันรักกันตลอดเวลาจริงๆ…

สฟิงซ์ถือเป็นแมวที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและไม่เหมือนแมวพันธุ์ไหน เห็นมันไร้ขนแบบนี้ หลายคนอาจจะคิดว่ามันมีถิ่นกำเนิดจากที่ที่อบอุ่นแน่ๆ แต่เหล่าเลย มันมีถิ่นกำเนิดจากประเทศแคนาดาและรัสเซีย ซึ่งมีสภาพอากาศหนาวมากๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะวันนี้เราจะพูดถึงความคูลของพวกมันต่างหาก แล้วก็ไม่ใช่คูลธรรมดานะ แต่โคตรคูล ไม่เชื่อไปพิสูจน์ด้วยภาพด้านล่างนี้   1. ตังค์ใครไม่รู้ แต่ตูเจอมันก็ต้องเป็นสมบัติของตู   2. บางทีก็สงสัยนะว่ามันจากต่างดาวหรือเปล่า   3. โยคะก็ทำได้นะเออ   4. มองมาที่ฉันมนุษย์ เอ๊ะ บอกให้มองนี่ไง   5. พื้นที่ส่วนตัวหรอ… คือไรอะ ไม่รู้จักเด้อ   6. นอนซะมนุษย์ไม่กล้าขยับเลย   7. แว่นนี้น่าจะพอดีกับตาโตๆ ของเรานะ   8. รู้ว่าไม่ขี้อาย แต่ไม่ต้องเปิดขนาดนี้ก็ได้   9. แม่ บอกเหมียวตัวใหม่นี่ทีซิว่า หนูอยากนอนคนเดียว   10. วู้วววว ทาสซื้อของเล่นใหม่มาให้ มันน่ากระชากจริงจริ๊ง   11. ถึงจะไร้ขน…

แมวหลายๆ ตัว ชอบออกไปเที่ยวข้างนอก บางครั้งไปแป๊บๆ ก็กลับ บางครั้งก็ไปนานเป็นชั่วโมง เป็นวัน หรืออาจจะเป็นสัปดาห์ แต่ในที่สุด มันก็จะกลับของมันเอง เช่นเดียวกับ Jimmy เหมียวผู้น่ารักและซุกซนในเวลาเดียวกัน มันชอบออกไปเที่ยวในละแวกบ้าน ไปทักทายเพื่อนบ้านบ้าง ไปนั่งชิลในที่จอดรถบ้าง และเมื่อพอใจกับการสูดอากาศข้างนอกแล้ว มันก็จะกลับเข้าบ้านเอง     กระทั่งในเดือนกันยายนปี 2014 Jimmy ได้ขอออกไปเที่ยวข้างนอกเหมือนทุกครั้ง และพ่อแม่ก็ปล่อยมันออกไป เพราะคิดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมง มันคงกลับมาร้องเมี๊ยวๆ ให้เปิดประตูให้ แต่ปรากฏว่าตั้งแต่ตอนนั้น Jimmy ไม่กลับมาอีกเลย Susan Marotta Zelitsky เจ้าของ Jimmy เสียใจมาก เมื่อรู้ว่าแมววัย 13 ปีของเธอหายไป เธอกับสามี รวมทั้งลูกๆ จึงติดป้ายประกาศทั่วละแวกบ้าน หวังว่าจะมีใครสักคนเจอมัน     เวลาผ่านไปสัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ครอบครัวไม่ได้รับเบาะแสของ Jimmy เลย ในที่สุด Zelitsky ก็เลิกหวังที่จะเจอมันอีกครั้ง ตลอดระยะเวลา 2 ปีครึ่ง นับตั้งแต่ Jimmy หายตัวไป Zelitsky ไม่รู้เลยว่ามันไปอยู่ที่ไหน แต่แล้วในเดือนมีนาคม…

สำหรับพ่อแม่หลายๆ ความภูมิใจของพวกเขาอาจไม่ใช่การเห็นลูกเรียนเก่งที่สุด เล่นกีฬาได้ยอดเยี่ยมที่สุด แต่เป็นการเห็นลูกปฏิบัติกับผู้อื่นด้วยความเคารพ รวมไปถึงสัตว์ด้วย ดังนั้น เมื่อพ่อคนนี้เห็นสิ่งที่ลูกน้อยทำ เขารู้สึกภูมิใจมากๆ และโชคดีที่เขาตัดสินใจถ่ายคลิปเอาไว้ เลยทำให้ทุกคนที่ได้เห็นโมเมนต์นั้น รู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วย     คืนนั้นขณะที่คุณพ่อนั่งทำงานอยู่ในบ้าน อยู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังมาจากห้องนอน เขาบอกว่า “ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ” ดังนั้นเขาจึงรีบขึ้นไปข้างบน เพื่อไปดูลูกชายตัวน้อย ขณะเดินเข้ามาในห้อง เขาก็ยิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้น เลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายคลิป     ระหว่างนั้น พ่อได้ยินเสียงหอนและเสียงหัวเราะคิกคัก เมื่อเข้าไปถึงด้านในของห้อง เขาก็เห็นโมเมนต์สุดน่ารักอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ภาพที่เห็นคือ ลูกชายตัวน้อยกับน้องหมาของบ้านนอนเล่นด้วยกันใต้ผ้าห่ม โดยตอนนั้นเด็กชายกำลังสอนเพื่อนหมาให้หอน ทำเอาคุณพ่อกลั้นหัวเราะไม่ได้     เมื่อเพื่อนหมาหอนตามที่เขาสอน เด็กชายก็ชมเชยมันด้วยการลูบหัวเบาๆ พร้อมกับพูดว่า “กึ๊ดบอย” (เจ้าเด็กดี) โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังถูกพ่อแอบถ่าย เด็กชายแค่คิดว่าตัวเองกำลังเป็นครูสอนน้องหมาหอน ในขณะที่น้องหมาเองก็ทำตามที่เจ้านายตัวน้อยสอน ทั้งๆ ที่ธรรมชาติของมันนั้น สามารถหอนได้เมื่อถึงเวลา แต่ก็นั้นแหละ มันคือความไร้เดียงสาแบบเด็กๆ ที่เห็นแล้วต้องยิ้มตาม     ที่มา weloveanimals

ต้นทุนชีวิตคนเราอาจไม่เท่ากัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะประสบความสำเร็จไม่ได้ และไม่ใช่แค่มนุษย์เราเท่านั้น สัตว์ก็เช่นกัน และนี่คือเรื่องราวของ Baron Kratu von Bearbum  อดีตหมาจรจัดที่พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า ‘หมาจรจัดก็ฉลาดเหมือนกัน’     ในอดีต กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Wood Green ได้ช่วย Kratu จากการเป็นหมาจรจัด ตอนนั้นมันอาศัยอยู่ในที่ทิ้งขยะอันตราย ซึ่งสุนัขส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นั่นมักจะกัดกัน อดอยาก และไม่มีที่พักพิงที่ปลอดภัย หลังจากได้รับการช่วยเหลือ Kratu ก็อยู่ในการดูแลของเจ้าของคนใหม่คือ Tessa Eagle Swan ผู้ที่มุ่งมั่นจะลบล้างอดีตที่เจ็บปวดของมันด้วยการมอบอนาคตที่สดใสให้     ในช่วงเวลาที่อยู่กับ Eagle น้องหมาไม่เพียงแค่ลืมอดีตที่เจ็บปวด แต่มันกลายเป็นสุนัขบริการที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยสูงอายุ โดยเฉพาะผู้ป่วยสมองเสื่อม และเป็นผู้ที่สร้างความสนุกสนานในงานโชว์สุนัข แต่ด้วยความเป็นมิตรของมันนี่แหละ ทำให้การแสดงของมันในบางครั้งไม่เป็นไปตามที่ฝึกไว้ เพราะในขณะที่อยู่ระหว่างโชว์ มันชอบออกนอกลู่นอกทาง แล้ววิ่งเข้าไปอ้อนขอความรักจากผู้คนที่อยู่ข้างสนาม     การออกนอกลู่นอกทางแบบนี้ อาจจะทำให้ Kratu ไม่ชนะการแข่งขัน แต่มันชนะใจทุกคนที่อยู่ในสนาม เพราะพวกเขาตกหลุมรักในความน่ารักของมัน สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าความพิเศษของสุนัขไม่ได้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ต้นทุนที่ดี หรือการมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่อยู่ที่ความสามารถในการกระจายความสุขให้ผู้คนด้วยการเป็นตัวของตัวเอง     นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคลิปการโชว์ของ Kratu จึงมีคนเข้าชมกว่า…

สุนัขส่วนใหญ่มีนิสัยไม่ต่างจากเด็กน้อยเลย อย่าง Samson สุนัขพันธุ์นิวฟาวด์แลนด์ ที่ไม่ต้องการอะไรนอกจากอาหาร พื้นที่สำหรับวิ่งและเล่น ที่สำคัญที่สุดคือ มันอยากให้แม่อยู่ด้วยตลอดเวลา เข้าใจนะว่าติดแม่มาก แต่จะให้แม่อยู่ด้วยตลอดเวลาคงจะไม่ได้ เพราะบางครั้งแม่ก็ต้องออกไปทำธุระข้างนอกบ้าง และอาจจะพามันไปด้วยไม่ได้     เวลาแม่ออกไปข้างนอกแต่ละครั้ง ไม่ได้แอบไปเที่ยวโดยไม่บอกมัน แต่เธอออกไปทำงานซะส่วนใหญ่ นอกจากทำงานก็ออกไปซื้ออาหารให้ Samson นี่แหละ Samson เองก็ดูเหมือนจะชินกับการที่แม่ออกไปข้างนอกเพื่อทำสิ่งเหล่านั้น แต่แล้ววันหนึ่ง คุณแม่ออกจากบ้านไปนานกว่าปกติ และน้องหมาไม่โอเคที่แม่ทำแบบนั้น มันเลยหาวิธีทำให้แม่รู้     ปกติแล้ว Samson จะรีบวิ่งไปทักทายแม่ด้วยความตื่นเต้นเมื่อเธอกลับถึงบ้าน แต่วันนั้นน้องหมาไม่ทำแบบนั้น เพื่อให้แม่รู้ว่ามันกำลังงอนอยู่ ตอนที่แม่เดินเข้าประตูหน้าบ้าน Samson นั่งพิงผนังและไม่ยอมมองหน้าเธอ เห็นได้ชัดว่ามันงอนหนักมาก จนคุณแม่รู้สึกผิดที่ออกบ้านนานเกินไป     คุณแม่จึงเดินเข้าไปใกล้มัน และพูดกับมันเพื่อธิบายให้มันฟังว่าทำไมถึงออกไปนานกว่าปกติ พร้อมกับขอโทษที่ทำให้มันเสียใจ คุณแม่พูดกับน้องหมาว่า “ดูจากหน้าแล้ว แม่รู้ว่านะว่าลูกไม่ดีใจที่เห็นแม่ แม่รู้ว่าลูกผิดหวังและเสียใจ แม่ขอโทษจริงๆ นะ” และแล้วคำขอโทษนั้นก็ได้ผล น้องหมาวิ่งเข้าไปหาเธอ มันแกว่งหางด้วยความดีใจ และให้อภัยเธอในที่สุด ตอนนี้ Samson กลายเป็นลูกน้อยที่น่ารักของแม่เหมือนเดิม     ติดตามความน่ารักของ Samson ได้ที่ช่องยูทูบ welovenewfies…

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา พลเมืองดีพบแมวตัวหนึ่งที่กำลังเดินไปตามท้องถนนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีคนนั้นจึงติดต่อไปยัง RSPCA เพื่อขอความช่วยเหลือ… เพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่ของ RSPCA ก็ไปรับเจ้าเหมียวมาอยู่ในการดูแลของพวกเขา และตั้งชื่อให้มันว่า Saul      หลังจากประเมินสุขภาพเบื้องต้น สัตวแพทย์คาดว่ามันน่าจะประสบอุบัติเหตุบนถนนมา โดยได้รับบาดเจ็บที่ขากรรไกร ฟัน และตา Caroline Allen ผู้อำนวยการของ RSPCA บอกว่า “จากการได้รับบาดเจ็บนี้ ทำให้กรามของมันดูแปลกๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหน้ามันเหมือนไม่พอใจตลอดเวลา” เจ้าหน้าที่จึงเช็ดทำความสะอาดตัวให้ และเตรียมความพร้อมของร่างกายมัน เพื่อที่จะเริ่มต้นการรักษาได้     เจ้าหน้าที่ได้ทุ่มเทเวลาค่อนข้างนานในการรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ ของ Saul รวมทั้งให้ความรักและความสนใจเท่าที่มันต้องการ ตอนนี้ Saul กำลังได้รับการดูแลอย่างดีจากทีมงานของโรงพบาบาล และมันเองก็มีความสุขกับสิ่งที่พวกเขาให้ แม้ว่าสีหน้าของมันจะไม่แสดงออกว่ากำลังมีความสุขก็ตาม (ก็กรามมีปัญหาอะเนาะ ยิ้มยังไงก็เหมือนโกรธอยู่ดี) เนื่องจากเจ้าเหมียวไม่มีไมโครชิพ พนักงานจึงเชื่อว่ามันเป็นแมวจรจัด     ในแต่ละวัน อาการของ Saul ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่ว มันจึงเริ่มสำรวจรอบๆ โรงพยาบาล Caroline บอกว่า “หน้าของมันอาจจะดูเหมือนไม่พอใจ แต่มันเป็นแมวที่อ่อนหวานและเป็นมิตรมาก ที่สำคัญ หลังจากได้รับการรักษา…

มีด้วยเหรอที่อยู่เฉยๆ ก็มีคนมารู้จักและติดตามมากมายได้? ถ้าจะมีใครก็คงจะเป็นลูกหมาตัวน้อยที่ยังไม่ประสีประสาตัวนี้แหละ ตอนนี้มันยังไม่รู้เลยมั้งว่าตัวเองกลายเป็นหมาดังไปแล้ว เจ้าหมาน้อยตัวนี้ถูกเจออยู่ในร่องน้ำ มันลอยมากตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เนื้อตัวของมันมอมแมมไปหมด มันคงจะเล่นซนจนตกน้ำแล้วไหลมาจากที่ไหนสักแห่ง เจ้าของของมัน หรือก็คือเจ้าของอินสตาแกรม Zzangjeolmi ไปเจอมันเข้าแล้วช่วยมันมา ก่อนจะตัดสินใจเก็บมันมาเลี้ยงเอาไว้ แล้วตั้งชื่อมันว่า Injeolmi ซึ่งเป็นชื่อของแป้งโมจิเกาหลีที่สีคล้ายกับตัวมันเปี๊ยบเลย   https://www.instagram.com/p/Bmwi6yXh0mA/?utm_source=ig_embed   อย่างไรก็ตามเจ้าของของ Injeolmi ไม่เคยเลี้ยงหมามาก่อน และไม่มีความรู้ด้านนี้เลยแม้แต่นิดเดียว พอเก็บมันมาแล้วเขาก็เลยโพสต์รูปมันลงบนอินสตาแกรม เพื่อขอคำแนะนำในการเลี้ยงมันจากเจ้าของหมาคนอื่น ตอนนั้นแหละที่ชาวเน็ตเริ่มหลงรักลูกหมาขนปุย น่ารัก และไร้เดียงสา นอกจากคนที่เข้ามาให้คำแนะนำกับเขาแล้ว ยังมีคนมาชื่นชมและติดตามชีวิตของหมาน้อยตัวนี้อีกเพียบ   https://www.instagram.com/p/BmwjCBqB59B/?utm_source=ig_embed   หลังโพสต์รูปมันได้แค่วันเดียว ยอดติดตามอินสตาแกรมของ Zzangjeolmi ก็พุ่งขึ้นไปถึงเกือบล้านคนซะแล้ว ลูกหมาน้อยกลายเป็นเซเลบไปโดยไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เท่านั้นยังไม่พอนอกจากฐานคนติดตามที่แน่นแล้ว ยังมีรายการโทรทัศน์มาขอสัมภาษณ์เรื่องของ Injeolmi ด้วย แล้วก็ยังมีคนดังอย่าง Kwak Dong Yeon ผู้เป็นทั้งนักร้องและนักแสดงของเกาหลีประกาศตัวเป็นแฟนคลับของมันอย่างเป็นทางการอีกต่างหาก   https://www.instagram.com/p/Bm4uoK5BGDP/?utm_source=ig_embed   Kwak Dong Yeon บอกว่าเขารักเจ้า Injeolmi เข้าให้แล้ว https://www.instagram.com/p/Bnf9U_wAsWm/?utm_source=ig_embed   แต่ตอนนี้เจ้าหมาก็แค่ใช้ชีวิตแสนสุขกับเจ้าของใหม่ในบ้านเท่านั้น…

เจ้าหมาและกระต่ายต่างก็เป็นสัตว์ที่เจ้าของช่วยรับเลี้ยงมา แค่ได้มาอยู่ในบ้านที่อบอุ่นก็ถือว่าพวกมันโชคดีพอดี ทว่าพวกมันโชคดีกว่าที่ได้มาเจอเพื่อนที่รู้ใจกันในบ้านด้วย เจ้าหมาพิตบูลล์ Grace เคยเป็นหมาที่ถูกใช้ในสังเวียนต่อสู้ หลังจากมีคนช่วยมันมาไว้ในศูนย์พักพิงสัตว์ Mindy Hayes ก็ช่วยรับมาเลี้ยงในบ้านของตัวเองอีกที Hayes เป็นคนรักสัตว์ เธออยากช่วยเหลือสัตว์เท่าที่เธอจะทำได้ และหลังจากรับเลี้ยง Grace มาแล้ว ก็ยังมีสัตว์อีกตัวหนึ่งที่เธออยากช่วย นั่นก็คือกระต่าย Sophie     เธอรู้ดีว่ากระต่ายกับสุนัขส่วนมากไม่ถูกกัน การเอาพวกมันมาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันอาจจะทำให้เธอต้องดูแลพวกมันเป็นพิเศษ แต่พอพวกมันทั้ง 2 ตัวได้มาเจอกันจริงๆ แล้ว พวกมันก็แค่ดมกลิ่นกันและกันเป็นการทักทาย จากนั้นก็ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลย     จากนั้นเป็นต้นมาไม่ว่า Sophie จะกระโดดไปส่วนไหนของบ้าน Grace ก็จะเดินตามมันไปทุกที่ ทั้ง 2 ตัวไม่เคยอยู่ห่างกันเลย เธอเล่าว่า “ฉันแยกพวกมันจากกันไม่ได้เลย Grace ชอบเดินตาม Sophie ทุกเวลา แล้วพวกมันก็ชอบนอนเล่นบนโซฟาด้วยกัน… Grace ชอบเลียขนให้ Sophie มาก ถ้าฉันไม่หยุดมันเอาไว้เจ้าหมาก็จะเลียจนเพื่อนมันขนแฉะไปหมด”     Sophie เป็นกระต่ายตัวโต มันอ้วนเกือบจะเท่า Grace…

ภรรยาและเจ้าหมาของชายชาวอินเดียถูกฆ่าตายในบ้านของตัวเอง ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยนอกจากเจ้านกแก้ว และก็ไม่มีใครคาดคิดเช่นกันว่ามันจะช่วยระบุตัวคนร้ายได้ Sharma กลับบ้านมาพบว่าเจ้าหมาของตัวเองนอนจมกองเลือกตายอยู่บริเวณหน้าบ้าน และเมื่อเข้าไปในบ้านเขาก็เห็นภรรยาของเขาถูกฆ่าเช่นเดียวกันกับเจ้าหมาเลย   Sharma ชายชาวอินเดียพบกับเรื่องน่าเศร้า   หมาของเขาถูกฆ่าตาย   ภรรยาของเขาก็ถูกฆ่าด้วย   แม้ว่าจะเป็นการฆาตกรรมที่โหดร้าย ทว่าตำรวจกลับสืบหาตัวคนร้ายที่แท้จริงไม่ได้ เนื่องจากมีความเป็นได้มากมายที่มาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้การสืบสวนไม่มีทิศทางที่ชัดเจน นอกจากนี้หลักฐานที่ทางตัวรวจมีก็ยังไม่มากพอที่จะระบุตัวคนร้ายคนใดคนหนึ่งได้ เนื่องจากมีผู้ต้องสงสัยจำนวนมากจนไม่สามารถสืบเรื่องทั้งหมดได้ในระยะเวลาสั้นๆ     อย่างไรก็ตามตอนเกิดเหตุยังมีผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ตัวหนึ่ง มันคือเจ้า Mitu นกแก้วที่ครอบครัวเลี้ยงไว้เอง มันเปรียบเสมือนลูกของบ้านนี้อีกคนหนึ่งเลยทีเดียว คนในครอบครัวเล่าว่าพวกเขาเลี้ยง Mitu มาตั้งแต่ที่บ้านเก่า แม้จะย้ายมาบ้านใหม่ก็ยังพามันมาด้วย จนถึงตอนนี้ก็เลี้ยงมันมาตั้ง 28 ปีแล้ว มันเป็นนกแก้วที่เฉลียวฉลาด จำเสียงเรียกและโต้ตอบมนุษย์ได้ดี     ในตอนที่ไม่รู้จะสืบหาตัวคนร้ายยังไง Sharma เชื่อว่า Mitu จำคนร้ายที่ฆ่าแม่และเพื่อนหมาต่อหน้ามันได้ และนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่มันมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งเป็นพิเศษ ผู้ต้องสงสัยคนนั้นเป็นญาติของเขาเอง ตอนที่ Mitu เจอเขาในที่เกิดเหตุตอนตำรวจกำลังสืบสวนอยู่ เจ้านกแก้วก็กระพือปีกรุนแรงและร้องเสียงดังจนผิดสังเกต เขาคิดว่าสิ่งนี้อาจจะเป็นเบาะแสได้ จึงบอกให้ตำรวจสืบสวนคนคนนี้เป็นพิเศษดู     เมื่อลองสืบผู้ต้องสงสัยคนนั้นแบบเจาะลึกดูแลในที่สุดตำรวจก็พบว่าเขาคือคนร้ายจริงๆ โดยแรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากการลักขโมยของ…

หงส์ซึ่งได้มนุษย์ช่วยเอาไว้ ถูกเลี้ยงดูจนมันแข็งแรง พวกเขาอยากให้มันได้กลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาติเหมือนหงสต์ตัวอื่นๆ ทว่าตัวมันเองอยากอยูกับมนุษย์มากกว่า นาย Rob Adams เจอกับหงส์ Sidney ในท่าจอดเรือของเขาเมื่อตอนมันยังเป็นเล็ก มันถูกแม่ทิ้ง บาดเจ็บและไม่มีใครดูแล เขาเลยเก็บมันมาเพื่อให้มันรอดชีวิต     Rob ใช้ชีวิตอยู่กับ Sidney เหมือนกับมันเป็นลูกรัก เขาพามันไปเดินชอปปิงด้วยกัน พายเรือเล่นด้วยกัน แล้วก็นอนบนเตียงเดียวกัน เขาเล่าว่า “ผมมีกล่องเล็กๆ ข้างเตียงซึ่งมันควรจะนอนหลับในนั้น แต่มันไม่มีความสุขถ้าไม่ได้นอนกอดกับผม พอมันได้มานอนบนเตียงด้วยกันมันถึงจะนอนหลับสนิท”     นอกจาก Rob แล้ว Sidney ก็ยังตีสนิทกับ Sophie เจ้าหมาชิวาว่าที่อาศัยอยู่ที่นั่นด้วย พวกมันกลายเป็นเพื่อนเล่นด้วยกัน ถึงเจ้าหมาจะลงไปเล่นในน้ำด้วยไม่ได้ก็ตาม     เพื่อนสนิทต่างสายพันธุ์   ชายหนุ่มเลี้ยงดูหงส์จนมันโตมากพอ จากนั้นเขาก็ส่งมอบมันให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA เพื่อให้พวกเขาส่งมันกลับไปอยู่กับหงส์ตัวอื่นๆ ตามธรรมชาติ เขาคิดว่าเขาคงจะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว แต่ไม่นานนักกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็ติดต่อเขากลับมา เพื่อขอให้เขารับตัว Sidney กลับไปอยู่ด้วย     RSPCA บอกว่า Sideney…

ลูกแมวตัวหนึ่งถูกแม่ทิ้งให้อยู่ลำพัง มันจึงถูกนำไปส่งที่ศูนย์พักพิงในท้องถิ่น ลูกแมวตัวนั้นเกิดมาพร้อม Fever Coat คือมีขนสีขาวแซม ซึ่งเป็นสภาพที่เกิดจากแม่เครียดหรือไม่สบายตอนท้อง มิ้วน้อยได้รับการดูแลจนมีสภาพดีขึ้น และขณะที่มันเติบโตขึ้น สีขนของมันก็เริ่มกลับมาเป็นสีธรรมชาติ จนอายุได้ 8 สัปาด์ สีขนแปลกๆ ทำให้มันดูเหมือนหมาป่า     ต่อมา Ashlee กับคู่หูจากเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้เข้ามาในศูนย์พักพิง แล้วทัั้งคู่ก็ตกหลุมรักเจ้าเหมียวขนแปลกทันที ตอนนั้น พวกเขาอยู่ในช่วงหาแมวมาเลี้ยงพอดี ดังนั้น เมื่อมาเจอกับมิ้วน้อยพิเศษตัวนี้ พวกเขาก็ตัดสินใจรับเลี้ยงมัน และตั้งชื่อให้ว่า Sosuke     ระหว่างทางกลับบ้านใหม่ Sosuke ต้องการการสัมผัสตลอดเวลา และนั่นคือตอนที่ครอบครัวตระหนักว่าเจ้าเหมียวชอบการกอด Ashlee บอกว่า “มันคลานเข้าไปอยู่ในฮู๊ดของคู่หูฉัน แล้วก็อยู่ที่นั่นตลอดทางจนถึงบ้าน”     เธอบอกอีกว่ามันไม่เคยเรียนรู้วิธีการร้องเมิี๊ยว ดังนั้นมันจึงร้องเจี๊ยบๆ แทน ตอนนั้น ขนของมันยังเป็น Fever coat และมันดูเหมือนหมาป่า Sosuke เป็นแมวที่น่ารัก น่ากอดมากๆ และมันชอบการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจ มันทำตัวเหมือนนักสำรวจตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่ในบ้าน     เพราะมันชอบสำรวจ…

Kerry Haney เป็นอาสาสมัครใน  Don’t Bully Us Rescue  เธอเป็นที่รู้จักในฐานะคนรักสัตว์ ดังนั้น เมื่อผู้คนเจอสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ พวกเขามักจะติดต่อเธอเสมอ ล่าสุดมีคนโทรเข้ามาถึง 6 สาย ข้อความส่งมานับสิบ และมีคนแท็กเธอในเฟซบุ๊กอีกนับร้อย เกี่ยวกับสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกล่ามโซ่ใต้ต้นไม้ในเมืองสวีเดสโบโร สภาพหิวโหยจนใกล้ตาย หัวของมันติดอยู่ในโซ่ที่พันรอบต้นไม้ จนไม่สามารถขับหัวไปไหนได้ ที่นั่นไม่มีน้ำหรืออาหารสำหรับมัน มันต้องนั่งอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยอึและฉี่     หลังจากได้เห็นภาพนั้น Haney จึงรีบไปยังที่อยู่ที่มีคนส่งมาให้ เพื่อดูว่ามีหมาตามที่มีคนแจ้งมาหรือไม่ และถ้ามีโอกาส เธอจะพูดคุยกับครอบครัวของเจ้าหมาเพื่อหาทางช่วยมัน Haney ลงพื้นที่ไปตรวจสอบทั้งๆ ที่เป็นช่วงเวลากลางคืน เพราะเธอไม่อยากให้เจ้าหมาอยู่ในสภาพนั้นกว่านี้ แต่เมื่อไปถึง เธอไม่เห็นสุนัขอยู่ข้างนอกเลย Haney จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วบอกพวกเขาเกี่ยวกับสุนัขที่มีคนแจ้งเข้ามา ตำรวจจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สุนัขตัวนั้นปลอดภัย     ต่อมา ในสัปดาห์เดียวกันนั้น ตำรวจก็สามารถพาตัวเจ้าหมาออกจากครอบครัวของมันได้ แล้วพามันไปอยู่ใน Gloucester County Animal Shelter น้องหมาเป็นพันธุ์พิตบูลล์ มีชื่อว่า Max  พวกเขาดูแล Max ในศูนย์พักพิง จนกระทั่งวันที่…

การไปดูสัตว์ป่าในสวนสัตว์อาจจะเป็นเรื่องสนุกที่น่าตื่นเต้น แต่ถ้าเจอพวกมันข้างนอก โดยไม่มีคนคุมเมื่อไหร่ จากเรื่องน่าสนุก จะกลายเป็นเรื่องน่ากลัวทันที โดยเฉพาะสัตว์อันตรายอย่างหมี เมื่อไม่นานมานีี้ ครอบครัวของ Nicole Minkin Lissenden ที่อาศัยอยู่ในนอร์ทแคโรไลนาได้เผชิญหน้ากับหมี ที่บุกเข้ามาโดยมิได้นัดหมาย     วันนั้น พวกเขาไปบ้านพ่อแม่ที่อยู่นอกเมือง ครอบครัวลงรถโดยปิดประตูแต่ไม่ได้ล็อกไว้ เมื่อเข้าบ้านไปสักพัก Nicole นึกขึ้นได้ว่าต้องเอาของที่อยู่ในรถ แต่พอเดินกลับมาที่รถ เธอเห็นรอยเท้าแปลกๆ ที่กระจกรถ ก่อนจะเจอกับเซอร์ไพรส์ชุดใหญ่ จนไม่รู้ว่าจะตกใจหรือจะกลัวก่อนดี เพราะมันคือหมีดำ ที่เธอไม่เคยคิดว่าจะเผชิญหน้ากับมันในระยะใกล้แบบนี้     อย่างก็ตาม เห็นได้ชัดว่าหมีตัวนี้บังเอิญติดอยู่ในรถของเธอ มันพยายามหาทางออก แต่ไม่รู้จะออกยังไง Nicole เองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เธอจึงตะโกนเรียกสามีให้มาดู ขณะเดียวกัน เจ้าหมีดูหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ และพยายามทุบตีทุกอย่างที่อยู่รอบตัว สามีของเธอจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ อย่างระมัดระวัง และเปิดประตูรถ ก่อนจะรีบถอยห่างออกมา แต่หมีไม่รู้ว่ามนุษย์เปิดประตูให้ มันจึงดึงประตูปิดเหมือนเดิม และพยายามหาทางออกต่อไป จนในที่สุด มันก็ทุบกระจกหน้าต่างจนแตก และเอาตัวเองออกมาจากรถ     หลังจากที่เจ้าหมีหนีกลับเข้าไปในป่า ครอบครัวได้ตรวจสอบภายในของรถ พบว่าข้าวของเละไม่เป็นท่า มันทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า เนื่องจากมันหิวมาก…

ในวันฮัลโลวีนเราจะเห็นว่ามีคนแต่งตัวแบบจัดเต็มมากมาย ทั้งชุดที่ดูแล้วอลังการงานสร้าง หรือชุดที่ดูน่ากลัวและสมจริงแบบสุดๆ จนบอกได้ยากว่าชุดไหนสุดยอดกว่ากัน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องชุดที่ดูน่ารัก มองแล้วอบอุ่นหัวใจจนต้องเผลอยิ้มตามล่ะก็ เราขอยกให้คุณตาและเจ้าหมาคู่นี้ไปเลย     นี่คือคุณตา Henry วัย 87 ปี เขามีเพื่อนสนิทเป็นเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ Peyton ที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่มันยังเด็ก ตั้งแต่เจอกันทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่หูกันเลย Matt Poulton หลานชายของ Henry เล่าว่า “คุณตาของผมติดเจ้า Peyton เอามากๆ มันเป็นหมาของครอบครัวที่อยู่บ้านกับเรามานาน เจ้าหมามักจะหลับในห้องของเขา แล้วก็ชอบนอนเล่นอยู่กับเขาทั้งวัน”     เนื่องในโอกาสวันฮัลโลวีน Henry ก็อยากจะแต่งตัวให้เข้ากับเทศกาลบ้าง แต่ก็อยากให้เจ้า Peyton เป็นคู่หูแต่งตัวกับเขาด้วย คุณตาจึงปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าเขาจะแต่งตัวเป็นคุณตา Carl จากหนังเรื่อง Up ที่เขาเคยดู เพราะในหนังตัวเอกก็มีคู่หูเป็นเจ้าหมาด้วยพอดี     แล้วพอ Henry กับ Peyton ลองแต่งเป็น Carl จริงๆ แล้วผลก็ออกมาน่ารักน่าทึ่งมากจนชาวเน็ตหลงรักเขากับเจ้าเลยล่ะ ถึงหลายคนจะคิดว่าการแต่งตัวเป็น Carl ดูไม่เห็นยากเลย แต่ Henry ก็ใส่ใจในทุกรายละเอียดจนดูเหมือนกับตัวละครหลุดออกมาจากจอไม่มีผิด…

เทศกาลฮัลโลวีนเป็นวันหนึ่งที่คนมีสัตว์เลี้ยงต้องใส่ใจลูกๆ ให้ดี เนื่องจากทั้งหมาและแมวอาจจะตกใจกับคนแปลกหน้าในชุดประหลาดที่มาเคาะประตูทักทาย หรือของประดับบ้านน่าขนลุกเอาได้ ดีที่บ้านของเจ้าแมว Onyx ดูจะไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นเลย เพราะนอกจากเจ้าแมวจะเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าแล้ว ดูเหมือนมันจะไม่กลัวผีด้วย แถมยังเข้าไปทำความสนิทสนมอีกต่างหาก     ปีนี้ Onyx เพิ่งจะได้สัมผัสกับเทศกาลฮัลโลวีนเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้มันก็เป็นแมวจรจัดกำพร้าที่มีชีวิตยากลำบาก ต่อมาเมื่อมันถูกช่วยเข้ามาไว้ในศูนย์พักพิง เจ้าแมวถึงมีโอกาสได้เจอกับ Murphey ซึ่งเป็นทาสคนปัจจุบันของมัน Murphey ตกหลุมรักเจ้าเหมียวตั้งแต่แรกเจอเลยล่ะ เนื่องจากมันเข้ากับเจ้าหมา Captain ที่เธอเลี้ยงไว้ได้ดีมากๆ แถมยังมานอนหลับบนตักของเธอแม้จะเพิ่งเจอกันด้วย เจอลูกอ้อนเข้าแบบนั้นเธอเลยรับมันกลับมาบ้านด้วยเลย     Onyx เป็นแมวที่น่ารักอ่อนหวานมาก แล้วมันก็ชอบกอดและจับมือกับคนที่มักรักด้วย Murphey เล่าว่า “เจ้าแมวจะไม่ยอมจับมือใครเด็ดขาดนอกจากพวกเรา เพราะมันรักเรา” อย่างไรก็ตามพอเธอตกแต่งบ้านสำหรับวันฮัลโลวีนเสร็จ เธอก็พบว่าเจ้าแมวพยายมตีสนิทกับโครงกระดูกที่เธอเอาไปตกแต่งโซฟาซะแล้ว     เธอเล่าต่อว่า “แมวของฉันพยายามเป็นเพื่อนกับโครงกระดูกปลอมที่ฉันใช้ประดับบ้าน มันขึ้นไปนั่งบนตักของโครงกระดูกอย่างอ่อนโยน พอฉันเห็นความใสซื่อบริสุทธิ์ของมันตอนนั้นแล้วแทบอยากจะกรี้ดร้องกับความน่ารักของมันเลย สัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าเจ้าแมวรักใครสักคน ก็คือการที่มันเอาอุ้งเท้าไปจับมือเขาไว้…ฉันคิดว่าการที่มันเอาอุ้งเท้าและหน้าไปหนุนไว้กับมือของโครงกระดูกก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก”     สงสัยว่าเจ้าแมวอยากจะมีเพื่อนใหม่แบบเกาะกระแสฮัลโลวีนกับเขาบ้าง ไม่งั้นมันก็คงกลัวว่าโครงกระดูกผู้เดียวดายจะเหงา ก็เลยเข้าไปแบ่งความอบอุ่นให้มัน แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็น่ารักชวนยิ้มหมด ทาสของ Onyx บอกว่า “เจ้าแมวก็เหมือนกับเจ้าหมาที่เป็นพี่ชาย ทั้งคู่นิสัยดีและน่ารัก แถมยังทำให้เรายิ้มและมีความสุขได้ตลอด …

ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสายพันธุ์หมาที่มีความเป็นตัวเองสูง และมีบุคลิกครบทุกด้าน ทั้งฉลาด น่ารัก เกรียน ดื้อ และแปลกในบางครั้ง ถ้าเพื่อนๆ ไม่เชื่อลองดูภาพฮัสกี้พวกมันนี้สิ แล้วจะรู้ว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่มีนิสัยแปลกที่สุด   1. เมื่อฮัสกี้โตมากับแมว มันก็โดนล้างสมองจนคิดว่าตัวเองเป็นแมว   2. นั่งรถยังไงให้ดูคูล   3. ว่าไงนะ จะรับแมวมาเลี้ยงหรอ!?   4. ทำไมตูต้องเกิดมามีลายแบบนี้ด้วย ทำไมต้องเป็นกรูววววว   5. มองไรยะ พวกมนุษย์ชั้นต่ำ   6. ดูสิ๊ จะหนีออกมาได้อีกมั้ย   7. อีกแล้ว เล่นแบบนี้อีกแล้ว น่าเบื่อโว้ยยยย อยากเล่นอะไรใหม่ๆ บ้าง   8. ขอพัดลมเพิ่มอีกตัวได้มั้ย   9. แม่ดูสิ ฝีมือหนูเอง เค้าว่ายิ่งเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์   10. รักแม่จ๋านะ แม่จ๋ารักมั้ยหนูมั้ย?…

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแมวแย่งที่หมา หรือหมาแย่งที่แมว แน่นอน ถ้าไล่ดีๆ แล้วไม่ไป มันคงต้องมีปะทะกันบ้างแหละ จะให้พวกมันนอนด้วยกันนะหรอ คงเป็นไปได้ยาก แต่นั่นไม่ใช่กับเคสนี้ เมื่อน้องหมาอลาสกัน มาลามิวท์ที่ชื่อ Chamonix รู้สึกง่วงและตัดสินใจกลับนอนที่เตียงของตัวเอง แต่ปรากฏว่าที่นอนของมันมีคนอื่นนอนอยู่ซะงั้น ผู้ที่มานอนบนเตียงมัน ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Mr. Bojangles เจ้าเหมียวผู้เป็นบอสของบ้านนั่นเอง     ถ้าหมาตัวนี้ไม่ใช่ Chamonix และแมวตัวนี้ไม่ใช่ Mr. Bojangles เหตุการณ์คงจะเป็นอย่างที่หลายๆ คน คาดไว้ นั่นคือการต่อสู้ระหว่างหมากับแมว     แต่ Chamonix กับ Mr. Bojangles ไม่เหมือนหมาแมวทั่วไป พวกมันพิสูจน์ให้เห็นว่าหมาแมวสามารถอยู่ร่วมกันอย่างเป็นมิตรได้     ดังนั้นเมื่อ Chamonix เข้ามาเห็นเตียงตัวเองโดนยึดโดยเจ้าเหมียว มันก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่เลือกที่จะบีบตัวเองให้พอที่จะอยู่บนพื้นที่ว่างที่เหลือได้ แม้จะอึดอัดไปนิสก็ตาม     จริงๆ Mr. Bojangles ก็มีเตียงเป็นของตัวเองเหมือนกัน แต่มันคงอยากนอนกับเพื่อนหมามากกว่า บางทีน้องหมานอนอยู่ดีๆ มันก็จะเข้ามาทักทาย เข้ามานัวเนีย เมื่อพอใจแล้วก็เดินจากไป  …

ลูกแมววัย 3 สัปดาห์ตัวหนึ่ง ถูกพบอยู่ลำพังบนถนน พวกเขาพยายามตามหาแม่ของมัน แต่ก็ไม่เจอ เลยพามันไปศูนย์พักพิงสัตว์ในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ศูนย์พักพิงดังกล่าวไม่สามารถดูแลมิ้วน้อยได้ พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจาก Chatons Orphelins Montréal ซึ่งทางนี้ก็ตอบตกลงและรีบไปรับแมวน้อยทันที     ขณะที่ลูกแมวอยู่ในการดูแลของสัตวแพทย์ อาสาสมัคร Danielle ได้อาสารับอุปถัมภ์มิ้วน้อย เพื่อที่จะสามารถดูแลมันตลอดเวลาได้ ต่อมา พวกเขาตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่า Spirou     Spirou อยู่ที่คลินิกสัตว์ 2 คืน เพื่อรักษาที่จำเป็น ใน 2 คืนนี้ มิ้วน้อยเรียกร้องความสนใจตลอดเวลา เพราะมันไม่อยากอยู่คนเดียว พนักงานในคลินิกเองก็ให้ในสิ่งที่มันต้องการ คือใช้เวลากับมันเมื่อมันเรียกร้อง     ไม่มีใครรู้ว่าชีวิตของ Spirou ลงเอยด้วยการอยู่บนถนนลำพังได้อย่างไร แต่ทันทีที่มีคนเข้าไปจับมัน มันก็ทำเสียงเพอร์ออกมาก เพราะมันรู้สึกปลอดภัยและได้สัมผัสถึงความรัก     หลังจากได้รับการรักษาทางการแพทย์เรียบร้อย Danielle ก็พามันกลับบ้าน เมื่อ Spirou เห็นแม่บุญธรรมครั้งแรก มันก็ร้องเมี๊ยวๆ แล้วกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของเธอ ราวกับบอกว่าพร้อมที่จะกลับบ้านกับแม่แล้ว ระหว่างทางกลับบ้าน มิ้วน้อยไม่ยอมอยู่ในตะกร้าแมว แต่มันเลือกที่จะนั่งบนตักของ Danielle…

ลูกแมวน้อยเพิ่งสูญเสียครอบครัวไปจนเหลือมันเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น มันจึงรู้สึกโหยหาครอบครัว โชคดีที่มันได้พบกับพี่น้องแมวตัวใหม่ที่มาเป็นครอบครัวให้มันพอดี Barb หญิงรักแมวเจอลูกแมวน้อย 2 ตัวถูกพบอยู่ในพุ่มไม้โดยไม่มีวี่แววของแม่เลย แม้เธอจะรอแม่แมวเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมกลับมารับลูกไปอยู่ด้วย     เธอจึงรีบพาลูกแมวทั้ง 2 ตัวกลับมาดูแลที่บ้าน ก่อนที่พวกมันจะหมดแรง แต่ก็ไม่ทันซะแล้วเพราะมีตัวหนึ่งตายจากไปซะก่อน ส่วนอีกตัวหนึ่งที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ เธอตั้งชิ่อให้มันว่า Lionel เพราะอยากให้มันโตมาอย่างแข็งแรงเหมือนอย่างราชสีห์     อย่างไรก็ตามอาการของ Lionel ก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย มันอยู่ในวัยที่บอบบางมาก เธอต้องเอาผ้าห่มห่อตัวมันไว้แล้วป้อนข้าวตลอดเลย ร่างกายจะได้อบอุ่นและมีสารอาหารไปเลี้ยงทุกเมื่อ ถึงแม้อาการของมันจะขึ้นๆ ลงๆ ไม่คงที่ แต่สุดท้ายมันก็กลับมาแข็งแรงมากพอ เธอจึงไม่ต้องห่วงว่ามันจะไม่รอดอีกแล้ว     แข็งแรงปลอดภัยแล้วจ้า   พอ Lionel แข็งแรงแล้ว สิ่งที่มันต้องการต่อมาไม่ใช่การดูแล แต่เป็นไออุ่นจากครอบครัว ซึ่งอาจจะมีสาเหตุจากการที่มันเพิ่งเสียน้องและแม่ไปก็ได้ ตอนนั้นที่บ้านของ Barb ก็มีลูกแมวที่อายุไม่ห่างจาก Lionel อยู่อีก 2 ตัวพอดีคือเจ้า Maggie และ Jackson และมันก็ได้กลายมาเป็นครอบครัวใหม่ของลูกแมวกำพร้า     ในตอนแรก Lionel เป็นคนเริ่มเข้าไปขอความอบอุ่นจากพี่แมสทั้ง…

ลูกแมวน้อย 3 ตัวถูกพบอยู่ด้วยกันโดยไม่มีแม่คอยดูแล พวกมันยังอยู่ในวัยที่ถ้าไม่มีแม่ก็คงเอาตัวไม่รอด กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Purrfect Pals จึงรับพวกมันมาดูแลไว้เอง แต่ลูกแมวเด็กเล็กที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ค่อนข้างมาก จะให้มาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ก็คงจะไม่ดี พวกเขาจึงส่งพวกมันไปอยู่กับอาสาสมัคร Ashley ในบ้านของเธอเอง     ลูกแมวทั้ง 3 ตัวชื่อว่า Steven, Karen และ Georgia ทุกตัวต่างก็ผอมแห้งหมดจากการที่ไม่มีแม่ดูแล พอมาถึงบ้านแล้วพวกมันก็เลยป้อนนมให้พวกมันจนอิ่มแปล้ พอกินข้าวจนท้องป่องแล้วพวกลูกแมวก้พากันปีนขึ้นไปบนตัวของ Ashley แล้วซุกคอของเธอเพื่อเอาไออุ่น จนในที่สุดก็หลับไปตรงนั้นเลย     กินอิ่มแล้วก็จะนอนกันหมดเลย แถมใช้มนุษย์เป็นหมอนด้วย   หลับปุ๋ยไปแล้ว   ถึงพวกมันจะมาอยู่ในบ้านกับมนุษย์แล้ว แต่พวกมันก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะลูกแมวทุกตัวติดเชื้อในทางเดินหายใจ ตอนกลางคืนพวกมันต้องนอนในเครื่องฟักตัวเพื่อให้ร่างกายอุ่นและปลอดภัย แต่พวกมันก็ยังร่าเริงกันดีเสมอ เพราะว่าตอนกลางวันพวกมันก็มีคนป้อนนมให้ แล้วก็ยอมให้พวกมันกอดจนหลับไปทุกวันนั่นแหละ     ตรงรอบคอนี่เป็นี่หลับสุดโปรดของพวกมันเลย   บางครั้งก็ลามไปด้านบนบ้าง   Ashley ดูแล Steven, Karen และ Georgia จนพวกมันแข็งแรงดี ตอนนี้โตพอจะกินอาหารเม็ดได้แล้ว และเธอก็ยังแบ่งเวลาไปกอดกับพวกมันอยู่ทุกวัน พวกมันคงจะคิดว่าเธอเป็นแม่ของพวกมันไปแล้ว…

ตั้งแต่เจ้าหมาเกิดและเติบโตมาในศูนย์พักพิงสัตว์ มันก็มีนิสัยขี้กลัวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว คนดูแลต่างก็คิดว่ามันคงจะขี้กลัวแบบนี้ไปทั้งชีวิต แต่ดูเหมือนพวกเขาจะคิดผิด แม่ของ Phoebe ถูกช่วยเข้ามาในศูนย์พักพิงสัตว์ตอนมันท้อง Phoebe และพี่น้องเลยเติบโตมาในศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อรอคอยว่าที่เจ้าของมารับตัวไป     ในบรรดาลูกหมาทั้งหมด Phoebe เป็นตัวที่ขี้กลัวมากๆ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว ถึงจะโตขึ้นมันก็ไม่มีท่าทีว่าจะหายกลัวเลยสักนิด ทุกคนคิดว่าเจ้าหมาน่าจะหาเจ้าของยาก มันคงจะต้องรออีกนานเลยเพราะไม่น่าจะมีใครอยากได้หมาขี้กลัวแบบนี้ โชคดีที่มีคู่รักคู่หนึ่งเข้ามาแล้วถูกใจมันทำให้เจ้าหมาไม่ต้องรออีกต่อไป     Jillian Kuehn และแฟนของเธอเข้ามาหาสุนัขตัวใหม่ไปรับเลี้ยง ในบรรดาหมาทั้งหมดมีแค่ Phoebe ที่เข้ามาดมเธอทักทายเธอทั้งตอนที่เธอเข้าไปละตอนจะกลับออกมา นั่นทำให้ Kuehn สนใจที่จะรับเลี้ยง Phoebe เธอจึงขอให้เจ้าหน้าที่ในนั้นพาเจ้าหมามาเล่นด้วยกันในห้องรับรองก่อน ตอนนั้นเองที่เธอได้รู้นิสัยจริงๆ ของเจ้าหมา     Phoebe นั่งนิ่งไม่ยอมขยับไปไหนเลยกว่าครึ่งชั่วโมง มันขี้กลัวจนคนที่เพิ่งเคยเจอก็เห็นได้ชัดเลย…ถึงอย่างนั้นก็ตาม Kuehn ก็คิดว่าเจ้าตัวนี้แหละคือตัวที่เหมาะกับเธอแล้ว หลังจากนั้นหญิงสาวก็เข้ามาเยี่ยมเจ้าหมาอีก 2 ครั้งเพื่อทำความคุ้นเคยให้มากขึ้น และตัดสินใจรับเลี้ยง Phoebe ในที่สุด โดยก่อนออกมาจากศูนย์พักพิง คนดูแลได้เตือนเธอมาว่า Phoebe อาจจะขี้กลัวแบบนี้ไปทั้งชีวิต เพราะดูจากที่ผ่านมาแล้วมันไม่มีความกล้าขึ้นเลย เธอเตือนว่าถ้าจะรับเลี้ยงมันจริงๆ ก็ขอให้อดทนกับมันด้วย เพราะการดูแลมันคงไม่ง่าย  …

เช้าวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน ปี 2014 ลูกหมูที่ชื่อ Master Julian ถูกจับใส่ตะกร้าที่มัดไว้หลังรถมอเตอร์ไซค์ ก่อนจะถูกไปส่งที่ศูนย์พักพิงในเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ตอนนั้นภายในศูนย์พักพิง ทางองค์กรสิทธิสัตว์ได้จัดโครงการการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติจำนวน 40 คน เมื่อเจ้าหมูน้อยมาถึง มันหวาดกลัวมากๆ และเอาแต่หลบหน้าจากผู้คน     Julian มาพร้อมกับพี่น้องอีก 2 ตัว พวกมันกำลังจะถูกขายให้กับคนขายเนื้อหมู Catherine Besch จึงไปอุ้มหมูน้อยจากตะกร้า และพามันเข้าไปข้างใน น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถช่วยพี่น้องมันอีก 2 ตัวได้ ตั้งแต่วันนั้น Julian กับ Besch ก็กลายเป็นเพื่อนรักที่แยกออกจากกันไม่ได้ น้องหมูชอบนอนบนเตียงของเธอ จนกระทั่งมันโตเกินกว่าจะกระโดดขึ้นเตียงได้     Besch บอกว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักมากๆ จนกลายเป็นที่รักของทุกคนในศูนย์พักพิง และมันฉลาดกว่าสัตว์ทุกตัวที่เธอเคยช่วยเหลือมา เจ้าหมูสามารถเปิดประตูในศูนย์พักพิงได้ทุกบาน รวมไปถึงประตูตู้เย็นด้วย แต่ถึงจะเป็นหมู มันไม่ได้กินเหมือนหมูนะ อาจจเป็็นมันโดนตามมาเยอะ เลยกลายเป็นหมูช่างเลือก อย่างผัก ผลไม้ ถ้ามีคนยืนให้ มันหันหน้าหนีทันที     Julian เป็นหมูที่มีจิตใจอ่อนโยนมากๆ มันเข้ากับสัตว์ในศูนย์ได้ทุกตัว…

คนที่ทำงานแล้วย่อมรู้ดีว่างานสบายมันไม่มีอยู่ในโลกหรอก ยิ่งถ้าเป็นงานที่เราชอบทำด้วย แล้วได้เงินดีๆ อีกยิ่งคิดก็ยิ่งไม่มีอยู่จริง แต่ถ้าคุณเป็นคนรักหมาล่ะก็ งานนี้แหละที่น่าจะเป็นงานในฝันของคุณที่สุดแล้ว เพราะเพียงแค่คุณเล่นกับสุนัขเท่านั้น คุณก็จะได้เงินทันที ได้ทั้งความฟินจาการเล่นกับน้องหมาแล้วก็มีเงินไปชอปปิงต่อด้วย!     ฟังดูแล้วเหมือนเรากำลังขายฝันให้คุณอยู่ แต่ตอนนี้ร้าน MUTTS Canine Cantina ซึ่งเป็นร้านอาหารสำหรับคนรักหมาในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดโอกาสดีๆ ให้คุณแล้ว ร้านอาหารแห่งนี้ขายอาหารให้กับคน และก็มีอาหารสำหรับเจ้าหมาโดยเฉพาะด้วย แถมยังมีสวนใหญ่ๆ ไว้ให้สุนัขได้วิ่งเล่น จึงไม่น่าแปลกใจเลยถ้าพวกเขาจะต้องการคนเล่นกับหมาสักคนหนึ่ง พวกเขากำลังมองหาเด็กฝึกงานเพื่อเล่นกับหมาโดยเฉพาะ โดยตำแหน่งนี้เป็นจะเปิดให้กับผู้โชคดีเพียงแค่ 1 เดียวเท่านั้น และมีค่าตอบแทนสูงถึงชั่วโมงละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,300 บาท) เชียวนะ     Kyle Noonan ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งของร้านอาหารแห่งนี้บอกว่า “พวกเรากำลังมองหาเด็กฝึกงานในตำแหน่งพนักงานเล่นกับหมา งานนี้เป็นโอกาสดีของคุณแล้ว คงมีไม่กี่ที่หรอกที่จ่ายเงินให้กับเด็กฝึกงานเพื่อเล่นกับหมาทั้งวัน โดยปกติแล้วงานแบบนี้มักจะมาพร้อมกับความรับผิดชอบในการดูแลหมาด้านอื่นๆ ด้วย แต่ไม่ใช่สำหรับครั้งนี้ คุณมาเพื่อแค่เล่นกับหมาเท่านั้นจริงๆ”     อื้อหือ เห็นไหมว่าถ้าคุณเป็นคนรักหมา งานนี้มันเป็นงานที่ลงตัวจริงๆ ถึงจะเป็นแค่ตำแหน่งเด็กฝึกงานซึ่งรับเราทำแค่ชั่วคราว แต่ถ้าได้ทำแล้วทั้งฟินทั้งรวยแบบนี้ก็น่าจัดอยู่เหมือนกัน น่าเสียดายที่มันอยู่ไกลบ้านเราไปหน่อย แต่ถ้าใครสนใจจริงๆ ล่ะก็…

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Taka สุนัขชิบะ อินุ วัย 8 ปี ตัวหนึ่ง ติดอยู่ในบ้านที่ถูกไฟไหม้ ขณะที่ครอบครัวพยายามสุดความสามารถในการเข้าไปช่วยมัน แต่พวกเขาช่วยมันไว้ไม่ทัน เพราะไฟลุกลามหนัก เลยต้องรีบออกมาทันที แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อ Taka พยายามหนีออกมาเองทางระเบียง ก่อนจะวิ่งลงไปที่ถนน โชคดีที่เพื่อนบ้านคนหนึ่งเจอมัน จึงรีบพามันไปส่งที่โรงพยาบาลสัตว์ Care More Animal Hospital ในรัฐจอร์เจีย     Emily Martin สัตวแพทย์ใน Care More Animal Hospital บอกว่า “มันถูกไฟไหม้รอบดวงตา ปาก หู และท้อง ตอนแรกเราไม่รู้เลยว่ามันได้รับบาดเจ็บรุนแรงแค่ไหน เพราะเรากังวลเกี่ยวกับการสูดดมควันของมันมากกว่า” ดวงตาของ Taka ได้รับความเสียหายหนักมาก น่าเศร้าที่คุณหมอไม่รักษารักษาดวงตามันไว้ได้ มันจึงลงเอยด้วยการเป็นหมาตาบอด ไม่นานหลังจากนั้น Taka ก็เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ เพราะมันควันจากการเผาไหม้เข้าสู่ร่างกายมันมากเกินไป มันจึงถูกย้ายตัวไปที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย University of Georgia และได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ     ผ่านไป 2-3 วัน Taka ก็แข็งแรงพอที่จะกลับไปยัง Care More…

เมื่อสัปดาห์ก่อน มีคนโพสต์ภาพในเพจสัตว์หายพร้อมระบุแคปชั่นเจอว่าเจอสัตว์ที่มีลายสีน้ำตาล-ดำ อยู่ที่ทางใต้ของรัฐโคโลราโด แต่ไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร ทางชาวเน็ตได้คาดไปต่างๆ นานาว่ามันอาจจะเป็นตัวแบดเจอร์ หรือไม่ก็สุนัข อย่างก็ตาม หลายคนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ เผื่อว่าสัตว์ตัวนั้นต้องการความช่วยเหลือ     เมื่ออาสาสมัครจากทีมช่วยเหลือ SoCO Paws Responders ทราบข่าว พวกเขาจึงรีบลงพื้นที่ทันที และตามหาสิ่งมีชีวิตที่อยู่บริเวณนั้น ทีมช่วยเหลือใช้เวลาถึง 5 วันในการตามหาสัตว์บนพื้นที่แห้งแล้ง ในที่สุด พวกเขาก็เห็นรอยเท้าบนพื้นทราย และเห็นที่ที่คาดว่าน่าจะเป็นที่ซ่อนตัวของสัตว์ แต่ยังไม่เจอตัวสัตว์     เมื่อการตามหาไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขาจึงวางกับดักกรงเหล็กและวางอาหารไว้ข้างใน จากนั้นก็รอให้สัตว์ลึกลับตัวนั้นมาติดกับ 12 ชั่วโมงต่อ อาสาสมัครได้ไปตรวจสอบกับดัก แล้วก็ต้องเซอร์ไพรส์ เมื่อพบว่าสัตว์ที่มาติดกับดักเป็นสุนัข มันกำลังนั่งนิ่งๆ อยู่ในกรง ตอนที่อาสาสมัครเดินเข้าไปใกล้ เจ้าหมาดูกระวนกระวายเล็กน้อยๆ แต่มันก็ยอมให้คล้องสายจูงแต่โดยดีและเดินตามพวกเขาไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย     จากนั้นอาสาสมัครก็พาเจ้าหมาไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ ที่ทำให้ทุกคนใจบางคือ มันยอมให้คุณหมอตรวจร่างกายโดยไม่ขัดขืน แม้จะโดนฉีดวัคซีน มันก็อยู่นิ่งๆ ทางอาสาสมัครชื่อตั้งชื่อให้มันว่า Honey แล้วพามันไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ของคนในท้องถิ่น เพื่อดูว่ามันจะปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่อย่างไร Coatti หนึ่งในอาสาสมัครบอกว่า “Honey เป็นหมาที่ชิลล์มาก มันเล่นกับคนในบ้านอุปถัมภ์อย่างอ่อนโยน และไม่เคยขึ้นบนโซฟาโดยไม่รับอนุญาต”…

โดยทั่วไป หมากับแมวอาจจะเข้ากันไม่ค่อยได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่พวกมันเข้าได้ ความแตกต่างระหว่างหมากับแมวจะหายไปทันที และพวกมันจะกลายเป็นเพื่อนรักที่นอนด้วยกัน เล่นด้วยกัน และทำทุกอย่างด้วยกัน เหมือนกับคู่แมวและน้องหมาบูลล์ด็อกคู่นี้ พวกมันชอบทำทุกอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะกิน เล่น และนอน แต่ล่าสุดได้เกิดความขัดแย้งเล็กน้อย     วันนั้นเจ้าบูลล์ด็อกคงจะง่วงมาก มันเลยนอนหลับไปโดยไม่รอเพื่อนเหมียว ในขณะที่เจ้าเหมียวไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด มันอยากเล่นมากกว่า แต่จะทำยังไงล่ะ เพื่อนรักหลับไปแล้ว จะเล่นยังไง… ด้วยความเป็นแมว อยากได้อะไรก็ต้องได้ มันเลยตัดสินใจปลุกเพื่อนหมาตื่น แต่จากสิ่งที่เห็นพอจะคาดเดาได้ แมวตัวนี้น่าจะอ่อนโยนและรักเพื่อนมาก     เจ้าเหมียวปลุกเพื่อนหมาได้อ่อนโยนมากๆ มันเอาหัวถูกับหัวของเจ้าหมา แต่ก็ไม่สำเร็จ มันเลยหันไปใช้อุ้งมือแตะๆ ที่หัวเพื่อน ก็ไม่สำเร็จอีก ถ้าเป็นแมวทั่วไป ป่านนี้คงใช้ความรุนแรงไปแล้ว แต่เหมียวตัวนี้ไม่ทำแบบนั้น มันเดินวนเวียนสลับกับปลุกเพื่อนตื่นเรื่อยๆ แต่ไม่ว่าจะทำยังไง เพื่อนตูบดูไม่มีทีท่าจะตื่นเลย ขี้เซาจริงจริ๊ง     ก็เหมียวเล่นปลุกซะอ่อนโยนแบบนี้ ใครมันจะตื่นล่ะ ดีไม่ดี หลับลึกกว่าเดิมด้วยซ้ำ   บางทีเหมียวก็คิดนะว่ามันแกล้งนอนเพราะไม่อยากเล่นกับเราป่ะว่ะ?   ตัวหนึ่งอยากเล่น อีกตัวอยากนอน ‘เห้อออ ถ้าปลุกไม่ตื่นก็ต้องนอนกับมันสินะ’…

สำหรับนักปีนเขาหรือนักเดินทางสายธรรมชาติทั้งหลาย การเจอสัตว์ป่าระหว่างทางคงไม่ใช่เรื่่องแปลกอะไร แต่มันจะแปลกมากถ้าเจอสัตว์เลี้ยงในบ้านอยู่ในป่าลึกหรือยอดเขาสูงโดยไม่มีเจ้าของมาด้วย เหมือนกับสิ่งที่ Wojciech Jabczynski นักปีนเขาชาวโปร์แลนด์เพิ่งเจอมาเมื่อไม่นานนี้ ระหว่างที่ไปพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศ     Jabczynski แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเขาปีนขึ้นไปถึงยอดเขา Rysy ที่มีความสูงถึง 2,500 เมตร แล้วเจอแมวบ้านกำลังนั่งเลียมือตัวเองชิลล์ๆ ไม่มีใครรู้เลยว่าแมวบ้านขึ้นมาถึงยอดเขาได้อย่างไร และมันขึ้นมาทำไม แต่ Jabczynski สงสัยว่ามันอาจจะอยู่ในกระท่อมเล็กๆ ของนักท่องเที่ยวแถวนี้     ถ้าไปพูดให้คนที่ไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง อาจจะไม่มีใครเชื่อ Jabczynski จึงหยิบกล้องมาถ่ายเจ้าเหมียวบ้านที่นั่งชิลล์อยู่บนยอดเขาสูง เพื่อยืนยันว่าเขาไม่ได้มโนไปเองเด้อ ชายหนุ่มเล่าว่าเจ้าเหมียวตัวนั้นไม่ได้กังวลกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นเลย และไม่ได้กลัวมนุษย์ แถมมันยังเดินเข้าไปหาเขา ตอนเขาหยิบมื้อเที่ยงออกจากกระเป๋า     หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตมากมายได้แสดงความคิดเห็นเชิงขำขัน บางคนบอกว่าอาจจะเป็นเสือดาวปลอมตัวมา เพื่อหลอกล่อมนุษย์ให้ตกเป็นเหยื่อ หรือมันอาจจะเป็นวิญญาณของแพะภูเขา อย่างไรก็ตาม มีคนอีกไม่น้อยที่ไม่ขำกับการที่แมวบ้านต้องอยู่ในสภาพอากาศหนาวรุนแรงแบบนั้น และขอให้มีการเข้าไปตรวจสอบเพื่อช่วยแมวตัวนั้น     ว่าแต่เหมียวจะรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าตัวเองกำลังเป็นที่พูดถึงในโซเชียล ถ้ารู้แล้วก็กลับบ้านกลับช่องซะนะ คนห่วงเค้าจะได้โล่งใจสักที   ดู๊ดูมัน นั่งชิลล์บนยอดเขาสูง ราวกับเป็นแมวป่า   ที่มา odditycentral

ในโลกนี้คงไม่มีรักไหนยิ่งใหญ่กว่ารักของแม่อีกแล้ว ซึ่งไม่ใช่ในหมู่มนุษย์ แต่รวมไปถึงอาณาจักรสัตว์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น แม่ช้าง พวกมันจะให้นมลูกนานถึง 6 ปี และดูแลลูกอีกไปอีก 16 ปี หรือนานกว่านั้น เพราะแบบนี้ ความผูกพันระหว่างแม่ลูก จึงเป็นสิ่งที่พิเศษที่ไม่สามารถหาอะไรมาเทียบได้ และนี่คือภาพแม่ลูกของเหล่าสัตว์โลก ที่ทำให้เราได้เห็นอีกมุมของพวกมัน   1. แม่ไม่เพียงแค่เฝ้าดูแลลูก แต่พวกมันแสดงความรักต่อลูกด้วย   2. สำหรับลูก คงไม่มีอะไรมีค่าไปกว่าการได้เห็นรอยยิ้มของแม่   3. โตขึ้น หนูขอทำหน้าม้าเหมือนแม่นะ   4. แม้ลูกจะโตแล้ว แต่สำหรับแม่ ลูกยังเป็นเด็กน้อยเสมอ   5. แม่นี่แหละ คือเพื่อนเล่นที่ดีที่สุด   6. เหนื่อยอะแม่ ขอขี่หลังนะ   7. ที่ลูกดูสะอาดสะอ้านก็เพราะแม่อาบน้ำให้บ่อยๆ   8. อย่าไปเล่นซนไกลนะ อยู่ใกล้ๆ แม่ไว้   9. บางครั้งแม่ยอมอดหลับอดนอน เพื่อให้ลูกได้หลับเต็มอิ่ม  …

เราเชื่อว่าแทบทุกคนคงจะรู้จักเจ้าชาย Harry และ Meghan ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ จากประเทศอังกฤษกันดีอยู่แล้ว ใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศเป็นประจำ น่าจะได้เห็นทั้งคู่บ่อยพอดูเลยล่ะ   เจ้าชาย Harry   Meghan คู่ครองของเจ้าชาย   ทั้งคู่เป็นคนดังที่ดูดีทั้งด้านภาพลักษณ์ แถมยังหน้าตาก็ดีอีกด้วย ทั้ง 2 คนจึงมีแฟนคลับไปรอต้อนรับเวลาเยี่ยมเยียนประชาชนหรือออกงานแบบล้นหลามเลยล่ะ   พวกเรารัก Meg(h)an (เจ้าชาย Harry ด้วยก็ได้)   แต่เมื่อไม่นานมานี้นักข่าวเพิ่งค้นพบว่า นอกจากเจ้าชายและคู่ครองจะมีแฟนคลับเป็นมนุษย์แล้ว แม้แต่เจ้าหมาก็ยังตามมาเป็นแฟนคลับของเขาด้วย ซึ่งมันก็คือเจ้าหมาปั๊ก Charlie นั่นเอง มันมารอต้อนรับ Harry และ Meghan ที่ถนนเวลลิงตันในประเทศนิวซีแลนด์พร้อมกับเจ้าของด้วย     โดยด้านหน้าของเจ้าหมามีรูปของเจ้าชาย Harry วางไว้อยู่เพื่อแสดงความรักต่อเจ้าชาย และยังมีข้อความบนป้ายข้างๆ จากมันโดยเฉพาะด้วย ป้ายของมันเขียนว่า “สวัสดีครับ ผมหมาปั๊ก Charlie แฟนคลับผู้ซื่อสัตย์ของท่านเอง ได้โปรดเถิดดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ หยุดลูบหัวผมด้วย” เท่านั้นยังไม่พอนะ เจ้าหมายังรักทั้งคู่มากถึงขนาดใส่เสื้อสีน้ำเงินสดใสมาต้อนรับเลย คาดว่าเสื้อที่มันใส่น่าจะเลียนแบบชุดสีฟ้าของ Meghan ซะด้วย…

ชาวเน็ตในประเทศจีนต่างก็คิดว่าเป็นเรืองล้อเล่น เมื่อเห็นเจ้าหมาชิบะตัวหนึ่งถูกประมูลในหมวกหมู่ ‘สังหาริมทรัพย์’ แต่พอตรวจสอบดูแล้วเลยได้รู้ว่า ศาลเป็นคนเอามันลงประมูลเองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย น้องหมาชิบะ Deng Deng อายุ 4 ปีถูกเจ้าของพาไปปล่อยไว้ที่ร้านรับฝากสุนัขตั้งแต่ปลายปี 2014 โดยที่เจ้าของจ่ายค่าใช้จ่ายให้มันล่วงหน้าแล้วส่วนหนึ่ง     แต่ในปี 2015 เจ้าของของ Deng Deng ก็ขาดการติดต่อไปโดยสิ้นเชิง แล้วก็ไม่ได้รับเจ้าหมากลับไปด้วย ทำให้ร้านรับฝากสุนัขต้องดูแลต่อโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ต่อมาร้านรับฝากสุนัขจึงฟ้องศาลเพื่อเรียกชดเชยค่าเสียหายในการดูแลเจ้าหมานานนับปี ทั้งหมดเป็นเงินเกือบ 200,000 บาท     อย่างไรก็ตามทางศาลไม่สามารถติดตามตัวเจ้าของ Deng Deng มารับผิดชอบค่าเสียหายได้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถทวงคืนเงินให้ร้านรับฝากสุนัขได้ ศาลจึงตัดสินใจเอาเจ้าหมาเข้าประมูลในฐานะ ‘สังหาริมทรัพย์’ หรือก็คือทรัพย์สินที่เคลื่อนที่ได้ โดยจะประมูลเริ่มต้นที่ 500 หยวน (ประมาณ 2,400 บาท) ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2018 ทั้งนี้ก็เพื่อหาเงินส่วนหนึ่งไปคืนร้านรับฝากก่อน และก็จะได้หาเจ้าของให้ Deng Deng ด้วย     พอชาวเน็ตรู้เรื่องของมัน…

ณ เวลานี้คอหนังและซีรีส์แทบทุกคนคงไม่มีใครไม่รู้จัก Netflix ผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ที่มีหนังให้เลือกดูได้มากมายและหลากหลาย แถมดูได้ทุกที่ทั้งในบ้านและนอกบ้านด้วย ล่าสุดมีข่าวดีสำหรับคอหนังที่เป็นคนรักหมาด้วยเช่นกัน โดย Netflix ได้ประกาศว่าจะนำซีรีย์เกี่ยวกับเจ้าหมาโดยเฉพาะมาให้คนรักหมาอย่างเราๆ ได้ดูกันจนจุใจเลย     ตัวอย่างซีรีย์ของเจ้าหมา    ซีรีส์เจ้าหมาที่ Netflix กำลังจะนำเข้าฉายนี้ใช้ชื่อว่า Dogs จัดอยู่ในประเภทของสารคดี โดยในซีรีย์จะรวบรวมเอาเรื่องราวของเจ้าหมาและมนุษย์ทั้ง 6 คู่มาเล่าให้เราฟัง โดยสมาชิก Netflix ทุกคนสามารถเข้าไปชมสารคดีเรื่อง Dogs พร้อมๆ กันได้ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2018 นี้     สิ่งที่ซีรีย์ตั้งในจะนำเสนอให้กับเราก็คือความผูกพันธ์และความรักระหว่างสุนัขและมนุษย์ผู้เป็นคู่หู แม้จะฟังดูไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ก็คงจะถูกใจแฟนๆ ของเจ้าหมากันมาก     แค่ตอนแรกเพื่อนๆ ก็จะได้พบกับเรื่องราวสุดซึ้งของสาวน้อยวัย 11 ปีผู้ป่วยเป็นโรคลมชัก และเจ้าหมานักเยียวยา Rosy ที่จะคอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้เธอ และยังมีเรื่องราวของชายหนุ่ม Ayham ซึ่งหลบหนีจากสงครามในประเทศซีเรีย กับความพยายามของเขาที่ต้องการพาเจ้าไซสุดรัก Zeus ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยด้วยกันอีก     เอาเป็นว่าคนรักหมาอย่างเราๆ ก็เตรียมตัวกันไว้ให้ดีละกัน แล้วก็อย่าลืมพกทิชชู่ไว้ซับน้ำตากันไว้ด้วยล่ะ…

หลายครอบครัวตัดสินใจทิ้งสุนัขของตัวเองเมื่อพวกเขามีลูก ทั้งๆ ที่ครั้งหนึ่ง พวกเขาเคยรักน้องหมาเหมือนลูก อย่างไรก็ตาม ครอบครัวนี้เลือกที่จะไม่ทำแบบนั้น ขณะที่อยู่ระหว่างทางพาลูกน้อยกลับบ้านครั้งแรก ครอบครัวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าหมาชิบะที่บ้านจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับเด็กน้อยผู้เป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน พวกเขารู้เพียงแค่ว่าเจ้าเหมียวมีนิสัยน่ารักและอ่อนหวาน พ่อแม่จึงหวังว่าทั้งสองจะเข้ากันได้และกลายเป็นเพื่อนที่ดีของกันและกัน     เมื่อทารกน้อยมาถึงบ้าน น้องหมาก็ได้แสดงปฏิกิริยาที่ทำให้ทุกคนทึ่งมาก แทนที่มันหวงบ้านหรือหวงครอบครัว แต่มันกลับทำบางอย่างที่น่ารักต่อน้องตัวน้อย ขณะที่แม่วางคาร์ซิทลูกสาวใกล้กับพี่ชิบะ มันเอาแต่จ้องน้องที่กำลังนอนอย่างไม่ละสายตา ตอนนั้นแม่คิดในใจว่าถ้ามันไม่ข่วนน้องก็คงจะเห่าน้อง     แต่ปรากฏว่าสิ่งที่คุณแม่คิดไม่ได้เกิดขึ้นเลย เจ้าชิบะค่อยๆ ดมกลิ่นน้อง จากนั้นมันก็เริ่มโยกที่นอนให้น้องด้วยอุ้งเท้าน้อยๆ ของมัน คุณแม่รู้สึกโล่งใจมาก เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของเจ้าหมาที่มีต่อลูกน้อย ก่อนหน้านี้ครอบครัวมักจะเปรยถึงวิธีประหยัดค่าจ้างพี่เลี้ยงเด็ก แต่ตอนนี้ดูเหมือนพวกเขาจะมีพี่เลี้ยงเด็กที่ดีที่สุดอยู่ในบ้านแล้ว พี่หมาแค่ตกหลุมรักมนุษย์ตัวน้อย และนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกพบ     สำหรับหมาชิบะนั้น พวกมันอาจจะดื้อในบางครั้ง แต่มันมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น จนสร้างเสียงหัวเราะให้คุณได้เสมอ ผู้เชี่ยวชาญเองก็ยืนยันว่ามันเป็นหนึ่งหมาเฝ้าบ้านที่ดีที่สุด เพราะพวกมันมีความจำดีมาก พวกมันจะเตือนเจ้าของทันทีเมื่อสังเกตเห็นคนแปลกหน้าหรือสิ่งแปลกๆ นอกบ้าน และมีความสามารถในการจดจำคำสั่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญ พวกมันมีความซื่อสัตย์และพร้อมปกป้องเจ้าของเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ดังนั้น ครอบครัวจึงมั่นใจว่าเจ้าชิบะตัวนี้จะเป็นพี่เลี้ยงที่ดีให้ลูกน้อย และทั้งคู่จะกลายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกันและกันในอนาคต     ที่มา weloveanimals

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าของได้พาเหมียว Doughnut มาทิ้งไว้ในศูนย์พักพิง The Jacksonville Humane Society เพราะเธอไม่สามารถเลี้ยงมันได้อีกต่อไป Lindsay Layendecker จาก The Jacksonville Humane Society บอกว่า “เจ้าของรักเจ้าเหมียวมากและเธอเสียใจที่ไม่สามารถดูแลมันต่อไปได้”     สำหรับ Doughnut นั้น มันทั้งน่ารักและอ่อนหวานมากๆ จนทุกคนในศูนย์พักพิงตกหลุมรักมัน มันมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 13 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าอ้วนมาก ทางศูนย์พักพิงต้องทำงานร่วมกับสัตวแพทย์ เพื่อช่วยให้ Doughnut มีน้ำหนักอยู่ในระดับที่เหมาะสม ดังนั้น พวกเขาเริ่มหาบ้านสมบูรณ์แบบที่พร้อมจะช่วยมันในเรื่องนี้     Doughnut เป็นแมวตัวอ้วนที่ชอบให้คนสนใจและชอบการถูกลูบตัว มันมีความมั่นใจสูงและชอบเข้าสังคม นอกจากนี้มันยังชอบให้มนุษย์เกาคางให้และงีบหลับใต้แสงแดดอ่อนๆ     ตั้งแต่ประกาศหาบ้านให้เจ้าเหมียว มีหลายครอบครัวเข้ามาขอพบมัน แต่ไม่มีใครพร้อมที่จะรับภาระในการช่วยมันลดน้ำหนักเลย ในขณะที่ Doughnut เอง ก็ดูเหมือนจะรู้ด้วยว่าใครคือคนที่เหมาะสมสำหรับมัน     กระทั่งวันศุกร์ที่ผ่านมา Doughnut ได้พบกับครอบครัวที่มันรอคอย มันรู้สึกอุ่นใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอพวกเขา แถมยังอ้อนให้พวกเขาเกาคางให้ด้วย ทางด้านครอบครัวนั้นก็ตกหลุมรักเจ้าเหมียวอ้วนเข้าอย่างจัง ยิ่งมันเข้ามาออดอ้อนแบบนี้ พวกเขาก็ยิ่งรักมัน และพร้อมจะช่วยทุกอย่างที่มันต้องการ ด้วยความช่วยเหลือจากครอบครัวใหม่…

นับว่าเป็นความโชคดีของเจ้าเหมียวจรจัด Oreo ที่เสียงร้องเมี๊ยวๆ ของมัน ได้รับความสนใจจากทาสแมว 2 คนคือ Thè Kyi Soe และ Shaun Chen จากเมืองเกลัง ประเทศสิงคโปร์ หลังจากได้ยินเสียงแมว ทั้งคู่ก็ได้มองไปรอบๆ จบเจอเจ้าของเสียงเป็นลูกแมวตัวน้อย สภาพของ Oreo ตอนนั้นทั้งผอมและดูอ่อนแรงมากๆ ทั้งคู่จึงตัดสินใจช่วยเหลือมันอย่างไม่ลังเล     แต่การช่วยเหลือ Oreo ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะแมวน้อยซ่อนตัวอยู่ในท่อระบายน้ำ เมื่อผู้ช่วยเหลือทั้งสองคนพยายามจะจับตัวมัน มันก็จะถอยเข้าไปลึกกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ไม่ยอมแพ้ และตัดสินใจกลับมาหามันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เพื่อดูว่ามันยังอยู่ที่เดิมไหม โชคดีที่เจ้าเหมียวยังอยู่ที่นั่น     พวกเขาพยายามหลอกล่อเจ้าเหมียวด้วยอาหาร เพื่อให้มันออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จอีก… หลังจากนั้นสักพัก ก็มีแมวที่โตกว่าปรากฏตัวขึ้นมา พวกเขาคิดว่ามันน่าจะเป็นแม่ของ Oreo     นอกจากนี้ ยังมีพี่น้องของ Oreo อีก 3 ตัว พวกมันทุกตัวอยู่ในสภาพที่แย่มาก ดังนั้น ทั้งคู่จึงตัดสินใจช่วยพวกทั้งหมด โดย Oreo ตัวเล็กที่สุดและอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม     เมื่อ Oreo โผล่ออกมาจากที่ซ่อนอีกครั้ง…

เมื่อคนเลี้ยงสุนัขต้องการรับเลี้ยงสุนัขเพิ่ม สิ่งแรกที่พวกเขากังวลคือ สุนัขในบ้านจะเข้ากับสุนัขตัวใหม่ได้มั้ย เพราะบางตัวไม่อยากแชร์บ้านและไม่อยากแชร์ครอบครัวร่วมกับใคร เช่นกับ Katie Becattini เธออยากรับเลี้ยงหมาอีกตัวมากๆ แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือ เธอไม่รู้ว่าน้องหมา Tuck จะต้อนรับสมาชิกใหม่หรือเปล่า     Becattini บอกว่า “Tuck ติดฉันมาก ไม่ว่าฉันเดินไปที่ไหน มันจะตามไปด้วยทุกที่ กลางคืนมันก็นอนกับฉัน และอยากให้ฉันกอดตลอดเวลา เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันไปข้างนอกและไม่สามารถพามันไปด้วยได้ มันจะรู้สึกเศร้าและกังวล” ในขณะที่ยังลังเลอยู่นี้ หญิงสาวกับแฟนหนุ่มได้ไปงานแสดงสัตว์ใน ใน Oaks รัฐเพนซิลเวเนีย ที่นั่น  Salfid Rescue ได้พาลูกหมาพันธุ์เกรท ไพรีนีส 11 ตัวมาแสดงด้วย ซึ่งได้ตกหลุมรักพวกมันทันที     เมื่อเดินออกมาจากงาน ในหัวของ Becattini ยังมีภาพของเหล่าน้องหมาเกรท ไพรีนีสวนเวียนอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าพามันกลับบ้านก็กลัว Tuck จะไม่พอใจ แต่ด้วยความที่อยากรับเลี้ยงพวกมันมากๆ หญิงสาวจึงตัดสินใจรับอุปถัมภ์น้องหมาเกรท ไพรีนีสตัวหนึ่ง เพื่อดูว่า Tuck จะแสดงปฏิกิริยาอย่างไร     หญิงสาวกับแฟนหนุ่มได้ตกหลุมรัก เกรท ไพรีนีส ตัวเดียวกันคือ ตัวที่ตัวใหญ่ที่สุดและขนฟูที่สุดในกลุ่ม พวกเขาจึงพาตัวนั้นกลับบ้าน และตั้งชื่อให้มันว่า Beau เมื่อ Tuck…

เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา Bennett Dillon เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Monroe County Sheriff’s Department ในรัฐอินเดียน่าได้รับแจ้งให้ไปช่วยสัตว์จรจัดที่ถูกพบละแวกนั้น แต่เมื่อ Dillon ไปถึงที่จอดรถ เขาสังเกตเห็นถุงพลาสติกสีขาวถูกทิ้งไว้บนพื้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ในถุงนั้น และมันกำลังต้องการความช่วยเหลือ     Dillon จึงเดินเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ แล้วก็พบว่าเป็นลูกแมวตัวน้อยที่อาการน่าเป็นห่วงมาก ดูเหมือนมีใครบางคนตั้งใจทิ้งให้มันตายอยู่ตรงนี้ ตอนนั้น Dillon ไม่พบสัตว์ตัวอื่นตามที่มีคนแจ้งมา และหากแมวน้อยไว้นานกว่านี้ มันอาจจะอยู่ได้ไม่ได้ถึงวันรุ่งขึ้น ดังนั้นเขาจึงพามิ้วน้อยกลับไปก่อน     Dillon บอกว่า “ลูกแมวตัวนั้นแทบจะไม่หาย แถมยังมีเลือดออกในตาและหู ผมจึงอุ้มมันออกจากถุงพลาสติกและนำผ้าขนหนูห่อตัวมันไว้” ตอนนี้นั้นเองที่กระบวนการช่วยชีวิตมิ้วน้อยได้เริ่มต้นขึ้น     Dillon รีบพาแมวน้อยไปยังโรงพยาบาลสัตว์ Arlington Heights Veterinary Hospital ที่นั่น คุณหมอแจ้งว่าสภาพของแมวน้อยแย่มากๆ การรักษาอาจเป็นได้ยากและต้องใช้เวลานาน แต่ถึงอย่างนั้น ผู้ช่วยเหลือปฏิเสธที่จะยอมแพ้ และมุ่งมั่นที่จะช่วยแมวน้อยสุดความสามารถ     มิ้วน้อยบาดเจ็บที่หัว เป็นโรคเลือดจาง ซึ่งมีสาเหตุจากหมัด นอกจากนี้ มันขาหักข้างหนึ่ง และอนาคตของมันก็ยังไม่แน่นอนว่าจะเป็นอย่างไร แม้มิ้วน้อยจะมีโอกาสรอดน้อย แต่พนักงานในคลินิกทุกคน…

ในปี 2009 ตำรวจที่เกษียณแล้วอย่าง Mike Anfield ร่วมกับสุนัขตำรวจจาก Vancouver Police Department  ได้ทำปฏิทินเพื่อระลึกถึงภรรยาของเขาที่จากไปด้วยโรคมะเร็งในปี 2004 โดยเงินที่ได้จากการขายปฏิทินจะนำไปบริจาคให้มูลนิธิเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง B.C. Cancer Foundation และมูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก B.C. Children’s Hospital Foundation     Anne-Marie Clark เจ้าหน้าที่ประสานงานของกรมตำรวจ Vancouver Police Department บอกว่า “สุนัขตำรวจทุกตัวเป็นเด็กดี และพวกมันทำตามคำสั่งในการถ่ายปฏิทินแต่ละครั้งอย่างดีเยี่ยม” เวลาถ่ายรูปสำหรับทำปฏิทิน สุนัขตำรวจไม่ได้ทำตัวติ๊งต๊อง ดื้อ หรือเกเร แต่พวกมันทำตัวน่าเกรงขาม คมเข้ม สมกับเป็นสุนัขตำรวจ   อย่างตัวนี้ Brando มันดูเท่จริงๆ เมื่อใส่แว่นกันแดด   ส่วนตัวนี้ Bailey มันกำลังแลกเปลี่ยนข้อมูลลับกับคู่หูในร้านกาแฟ   และนี่คือ Jack มันกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเค้นเอาความจริงจากผู้ต้องสงสัย   ปัจจุบันมีทีมสุนัข 15 ทีมในหน่วย VPD Canine Unit แต่ละทีมประกอบด้วยสุนัขบริการของตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยควบคุมพวกมัน เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าสุนัขตำรวจทุกตัวมีความสำคัญมากๆ เพราะพวกมันได้รับการฝึกฝนในหลากหลายทักษะ ทั้งแกะรอย จับอาชญากร…

โปเกม่อน โปเกม่อน บีบมะนาวฆ่างู… ไหนใครเป็นแฟนตัวยงโปเกม่อน ขอเสียงหน่อย แล้วเพื่อนๆ ชอบตัวละครตัวไหนมากที่สุดเอ่ย? ไม่ว่าเพื่อนๆ จะชอบตัวไหน แต่ถ้าได้เห็นเหล่าโปเกม่อนในเวอร์ชั่นต่อไปนี้ ต้องตกหลุมรักทุกตัวแน่ๆ เพราะตัวไหนๆ ก็ดูน่ารักไปซะหมด โปเกม่อนเวอร์ชั่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นตัวอะไร แต่หน้าจะเป็นหมาหมด และเป็นหมาที่น่ารัก น่าชังซะด้วยสิ เพราะพวกมันคือ น้องหมาชิบะเอชจังและเอสคุง ที่โด่งดังจากทวิตเตอร์ C_Suzuki   Charmander   ถ้าใครได้ติดตามทวิตเตอร์ C_Suzuki จะรู้ว่าเจ้าของน้องหมาเป็นทาสตูบสายบันเทิง เพราะเขาชอบจับน้องหมามาคอสเพลย์เป็นโน่นนี่นั่นเป็นประจำ รอบนี้มาถึงคิวโปเกม่อน ที่กำลังเป็นกระแสในโลกออนไลน์ น้องเอชจังและเอสคุง จึงโดนแปลงร่างเป็นตัวละครต่างๆ ในโปเกม่อน และดูพวกมันก็ชอบที่ได้คอสเพลย์ซะด้วยสิ มันเลยออกมาตะมุตะมิแบบนี้   Charizard   Flareon   Growlithe   Mankey   Mew   Squirtle   Meowth   Jigglypuff   Magikarp   Teddiursa   Psyduck…

เรารู้จักเวทีเดินแบบในชื่อ ‘แคทวอล์ค’ ทั้งๆ ที่ไม่มีแมวมาเดินเลย มีแต่มนุษย์นางแบบและนายแบบเท่านั้น ดังนั้น เจ้าเหมียวจอมป่วนตัวหนึ่ง จึงทำให้วงการแฟชั่นได้เห็นว่าแคทวอล์คของจริงเป็นอย่างไร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในงานแฟชั่นโชว์ Esmod International Fashion Show ซึ่งจัดขึ้นในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี อยู่ดีๆ ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญบุกขึ้นรันเวย์เฉย     แขกไม่ได้รับเชิญตัวนั้นคือ เจ้าเหมียวจอมป่วนนั่นเอง ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน และเข้ามาข้างในตั้งแต่เมื่อ รู้อีกทีมันก็อยู่บนรันเวย์ซะแล้ว ที่สำคัญ มันแย่งซีนนางแบบทุกคนบนเวย์ แทนที่แขกจะดูแฟชั่นโชว์ พวกเขากลับมุ่งความสนใจที่เจ้าเหมียวแทน     Göksen Hakkı Ali ดีไซเนอร์ของแฟชั่นโชว์ชุดนี้บอกว่า “ทุกคนในงานตกใจมาก ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน แต่เป้าหมายของมันค่อนข้างชัดเจน นั่นก็คือ มันต้องการเรียกร้องความสนใจจากผู้ชม” เนื่องจากเจ้าเหมียวต้องการให้ผู้ชมสนใจแค่มันเพียงตัวเดียว ดังนั้น เวลาที่นางแบบเดินผ่าน มันจะคอยโจมตี คอยขัดขวาง เพื่อไม่ให้ผู้ชมสนใจพวกเขา     และนี่คือสิ่งที่เจ้าเหมียวทำเมื่ออยู่บนรันเวย์   คิดว่าสวยหรอ นี่แน่ะ!!   บอกว่าอย่าทำตัวเด่นกว่านี่ เตือนแล้วนะ  …

เมื่อถึงเทศกาลฮาโลวีน ผู้ใหญ่อาจจะมีความสุขกับการได้แต่งตัวน่ากลัวๆ ซึ่งมันก็ดูน่ากลัวจริงๆ นั่นแหละ ในขณะที่เด็กๆ ตื่นเต้นกับการไปขอขนมตามบ้านต่างๆ และไม่ว่าพวกเขาจะแต่งอะไรก็ดูน่ารัก น่าเอ็นดูไปหมด นอกจากเด็กๆ แล้ว เหล่าสัตว์เลี้ยงก็ตื่นเต้นกับการฉลองเทศกาลฮาโลวีนเหมือนกัน เพราะแบบนี้จึงได้เกิด The Strut, Wag และ Rock ซึ่งเป็นปาร์ตี้ฮาโลวีนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสัตว์เลี้ยง     ปาร์ตี้ดังกล่าวนี้ดำเนินการโดย Vets4Pets Charitable Clinic ซึ่งจัดปาร์ตี้ให้เหล่าสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ เพื่อให้พวกมันกับเจ้าของมาปล่อยของกันให้เต็มที่ ปีนี้ ผู้จัดได้กำหนดธีมเป็นธีมยุค 60 ภายในงานมีกิจกรรมมากมายสำหรับสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ ทั้งขายสินค้าสัตว์เลี้ยง ทำคอกเทลเมนูพิเศษ และที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดคือ การประกวดเครื่องแต่งกาย     ในวันที่ 20 ตุลาคม มีสุนัขมากกว่า 100 ตัวที่เข้าร่วมประกวดเครื่องแต่งกาย แต่มีสุนัขตัวหนึ่งชื่อ Tommy มันได้แย่งซีนเพื่อนทุกตัวในงาน ภายในงาน Logan Harrell หนึ่งในผู้เข้าชม ได้บันทึกคลิปความน่ารักของ Tommy ขณะที่มันสวมชุดช้างและทำการแสดงท่ามกลางผู้คนมากมาย     การแสดงของ Tommy แสดงให้เห็นว่ามันไม่ใช่นักแสดงมือสมัครเล่น แต่มันเป็นมืออาชีพที่รู้ว่าจะขโมยหัวใจคนดูอย่างไร ในวิดีโอนั้น…

เมื่อคุณให้อาหารน้องหมา ให้แน่ใจว่ามันได้กินจนอิ่ม ไม่งั้น น้องหมาจะขออีกเรื่อยๆ หรือไม่ มันอาจจะหาวิธีหาอาหารที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้ อย่างเจ้าพิตบูลล์ตัวนี้ ไม่รู้หิวมาจากไหน อยู่ดีๆ มันก็พุ่งเข้าไปหาคนแปลกหน้า แล้วทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ในสิ่งตัวเองต้องการ     เรื่องมีอยู่ว่าขณะที่ชายคนหนึ่งอยู่ในรถของเขา อยู่ดีๆ ก็มีพิตบูลล์กระโดดเกาะหน้าต่างรถ เหมือนมันต้องการอะไรบางอย่าง เจ้าของรถจึงถามมันว่า ‘ต้องการอะไรหรอเราอ่ะ? มาหาอาหารใช่มั้ยล่ะ?’ และแล้วคำตอบของเจ้าพิตบูลล์ทำเอาทุกคนในรถถึงกับแตกตื่น     หลังจากมนุษย์ถาม เจ้าพิตบูลล์ก็กระโดดเข้ามาในรถ ราวกับได้รับการเชื้อเชิญ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นทุกคนในรถต้องส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว คือถ้ามันเป็นหมาทั่วไป คนในรถคงไม่ร้องขนาดนี้ แต่นี่มันเป็นพิบูลล์ที่ขึ้นเรื่องความดุร้ายไง อย่างไรก็ตาม สักพักเจ้าหมาก็ทำให้ทุกคนเห็นว่ามันเป็นมิตร ไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แค่มาขออาหารบ้างเท่านั้นเอง ทุกคนจึงผ่อนคลายคงและขำกับสิ่งที่มันทำ     เมื่อเข้ามาในรถได้ มันก็สอดส่องไปมา ราวกับจะบอกว่า ‘เค้าขึ้นมาได้ละนะ ไหนล่ะอาหาร?’ แม้จะเป็นคนแปลกหน้า แต่ด้วยความหิว เจ้าหมาจึงขออาหารอย่างรู้สึกอายเลยสักนิด     แม้ว่าจะไม่ได้อาหารจากเจ้าของรถ แต่การได้เข้ามาในรถทำให้เจ้าพิตบูลล์รู้สึกสะดวกสบาย มันเลยเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับหน้าตาเฉย ต่อให้เจ้าของเปิดประตูให้และไล่ลง มันก็ไม่ยอมลง    …

สำหรับบางคนแล้วสัตว์เลี้ยงคือสิ่งที่มีค่าในชีวิต พวกเขาจึงต้องการให้มันได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ได้อยู่ในที่ปลอดภัยที่สุด และคงไม่ไว้ใจใครให้ดูแลให้ รวมไปถึงสัตวแพทย์ ไม่แปลกที่เจ้าของสัตว์จะระแวง เพราะที่ผ่านมามีข่าวมากมายเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์ในร้านอาบน้ำ ตัดขนสัตว์ ร้านขายสัตว์ หรือแม้แต่ในคลินิกสัตว์     ด้วยเหตุนี้ เจ้าของสัตว์คนหนึ่ง จึงตัดสินแอบถ่ายคลิปสัตวแพทย์ เพื่อดูว่าเธอจะปฏิบัติต่อสุนัขอย่างไร เมื่อเขาและคนอื่นๆ ไม่อยู่ในห้องด้วย และนี่คือสิ่งที่เจ้าของสัตว์ได้เห็นจากการแอบถ่ายคลิป…     นั่นเธอกำลังทำอะไรกับสุนัขตัวน้อยนะ!?   แต่เมื่อลองดูชัดๆ สิ่งที่เห็นกลับตรงข้ามกับสิ่งที่คิดเลย เพราะนอกจากคุณหมอจะไม่ทำให้น้องกลัวแล้ว เธอยังเล่นกับน้องหมาอย่างมุ้งมิ้งเชียว     คุณหมอคนนั้นได้อุ้มน้องหมาเหมือนเด็กน้อย พร้อมกับร้องเพลงและโยกไปตามจังหวะอย่างสนุกสนาน ทำเอาเจ้าของน้องหมาหายห่วงทันที     แม้จะเป็นเพียงคลิปสั้นๆ แต่สัตวแพทย์คนนี้ก็ทำให้เจ้าของสัตว์หลายๆ คนเปลี่ยนทัศนคติและอุ่นใจมากขึ้นเมื่อต้องพาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอ     เจอหมอน่ารักแบบนี้ สัตว์เลี้ยงคงสบายใจขึ้นเยอะ และคงไม่กลัวถ้าต้องหมาหาหมออีก   ที่มา weloveanimals

เมื่อเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ TNR (ดักจับ-ทำหมัน-ปล่อยกลับ) จาก Alley Cat Rescue กำลังลงพื้นที่สำรวจสัตว์เพื่อทำหมันให้ อยู่ก็มีแมวจรอ้วนตัวหนึ่งเดินมาหาพวกเขา เพราะมันหิวมาก เหมียวตัวนั้นคือ Mr. Cheeks มันเดินเข้าไปในกับดักของเจ้าหน้าที่ในเมือง McLean รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา     เจ้าหน้าที่จาก Alley Cat Rescue ไม่เคยเห็นมันอยู่แถวนี้มาก่อน แต่เห็นได้ชัดว่ามันหิวมาก เลยตามกลิ่นปลาทูน่าที่พวกเขาวางไว้ในกับดัก หลังจากที่เจ้าหน้าที่ลองเล่นกับ Mr. Cheeks ก็พบว่ามันน่ารักและอ่อนหวานมากๆ แม้มันจะขี้อาย แต่เวลามีคนเกาหรือลูบตัวให้ มันจะฟินมากๆ และไม่อยากให้พวกเขาหยุดเกา     ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พาเจ้าเหมียวอ้วนไปอยู่ร่วมกับแมวที่รับการช่วยเหลืออีกตัวชื่อ Bruce นั่นทำให้มันมีเพื่อนเล่นและทำให้มันรู้สึกอุ่นใจขึ้น ตามปกติแล้ว เวลาที่ทาง TNR ช่วยทำหมันให้แมวเสร็จ พวกเขาก็จะปล่อยมันกลับไปอยู่ตามเดิม แต่สำหรับ Mr. Cheeks เจ้าหน้าที่บอกว่ามันไม่ควรใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก เพราะมันจะยิ่งแย่ลง     ระหว่างที่อยู่ในศูนย์พักพิง Mr. Cheeks จะพยายามซ่อนตัวเองเมื่อมันรู้สึกไม่สบายใจ ดังนั้น อาสาสมัครเข้าไปกอดมันและลูบตัวให้ ขณะที่เจ้าเหมียวเองก็ชอบเวลาที่มันได้อยู่ในอ้อมกอดของมนุษย์ มันดื่มด่ำกับความรักที่ไม่เคยรับมาก่อน     ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ Mr. Cheeks ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์…

เจ้าหมาบูลด็อก Lily เป็นสุนัขสุดรักของ Gina ตอนนี้มันอายุ 4 ปีด้วย เธอรับมันมาเลี้ยงตั้งแต่ยังเด็กเลย มันเลยคุ้นเคยกับคนในบ้านดี เธอเจอเจ้าหมาตั้งแต่มันยังเกิดใหม่ๆ เลย ตอนนั้นมันและพี่น้องต่างก็ถูกทิ้ง แต่มีแค่ Lily ตัวเดียวเท่านั้นที่เธอรู้สึกผูกพันเป็นพิเศษ เธอก็เลยรับมันมาเลี้ยง     อย่างไรก็ตาม Lily มีปัญหาใหญ่อยู่อย่างหนึ่ง มันกลัวการเจอสิ่งใหม่ๆ ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงคนแปลกหน้าด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเจออะไรที่ไม่คุ้นชิน เจ้าหมาจะวิ่งหนีไปหลบและไม่ยอมให้ใครจับตัวมันเลย     Gina และญาติอีกคนซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกันคิดว่าความกลัวของมันเกิดจากการผ่าตัด ตั้งแต่เด็ก Lily ต้องผ่าตัดหลายครั้งเพื่อทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เธอคิดว่าการต้องเข้าผ่าตัดบ่อยๆ คงทำให้มันติดนิสัยหวาดกลัวมาจนถึงปัจจุบัน ถึงมันจะชินกับครอบครัวแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่อยากให้มันรู้สึกกลัวอยู่ดี     ตอนเด็กเจ้าหมาต้องผ่าตัดหลายครั้ง เพื่อทำให้มันหายใจสะดวก   แล้วก็ผ่าตัดเอาหางออก เพราะหางของมันงอกไปด้านในตัวตั้งแต่เด็ก   การต้องผ่าตัดบ่อยๆ น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่มันกลัวสิ่งใหม่รอบตัว   ถึงตอนแรก Gina จะไม่รู้ว่าต้องให้มันหายกลัวได้ยังไง แต่ในที่สุดเธอก็หาทางออกได้โดยบังเอิญหลังจากเธอซื้อชุดเต่าให้มัน     ทันทีที่ Lily ได้ใส่ชุดเต่า นิสัยของมันจะเปลี่ยนไปเหมือนกับเป็นคนละตัว…

จะว่าไปแล้วถ้าเทียบกับแมว สุนัขถือเป็นสัตว์ที่มีความหลากหลายกว่ามากๆ แต่ละสายพันธุ์ล้วนมีความแตกต่างและเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมไม่ว่าจะเป็นหมาแบบไหน ตัวเล็ก ตัวใหญ่ ขนสั้น หรือขนยาว พวกมันก็น่ารักไปซะหมดเลย พวกมันทุกตัวคงมีพลังบางอย่างที่ใช้มัดใจมนุษย์โดยเฉพาะ…พวกเราเลยต้องกลายเป็นคนหลายใจ เห็นหมาตัวไหนก็รัก   แอบส่งสายตาให้นิดๆ แค่นี้ก็น่ารักแล้ว   เป็นหมามันก็นุ่มฟูน่ากอดแบบนี้แหละ   หน้าตาดูดี ขึ้นกล้องยิ่งกว่านายแบบซะอีก   เจ้าเชาเชาจ้ำม่ำดีจังเลย น่าฟัดอะ   มีตุ๊กตาเป็นเพื่อนตัวโปรด ไปไหนก็เอาไปด้วย เพราะเพื่อนไม่ทิ้งกัน   อุ้ย นี่มันหมาหรือว่าหมีกันแน่เนี่ย   ออกมาเถอะเจ้าหมา สังคมให้อภัยแล้ว   ได้ออกมาเที่ยวข้างนอกมันสุขใจแบบนี้เอง   มีหมาเหมือนได้เลี้ยงหมีขั้วโลกยังไงยังงั้น   มองตาใสๆ ของเก๊าสิ แล้วจะรักเลย   มีหมายิ้มเก่งอยู่ข้างๆ รับรองยิ้มได้ทุกวัน   ตัวนี้เหมือนหมาจิ้งจอกมาก แต่จริงๆ เป็นหมานะ   วันไหนลมแรงๆ ขนฟูเป็นลูกบอลทุกที   น่ารักจิ้มลิ้มอย่างกับตุ๊กตาแน่ะ   สุดหล่อมาดเข้มแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน  …

ในวันที่ฝนตกหนักวันหนึ่ง เจ้าของร้านขายเครื่องดื่มโทรหา Sabrina Wilkerson อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chihuahua Rescue of San Diego County เพื่อขอให้เธอช่วยหมาตัวหนึ่ง มันเป็นชิวาว่าที่วิ่งเข้ามาในร้านของเขาเพื่อหลบฝน แต่เขาไม่เคยเลี้ยงหมาจึงไม่รู้ว่าต้องทำยังไงกับมัน แล้วมันก็ดูขี้กลัวด้วย     ระหว่างรอให้ Wilkerson มาหา เขาก็เอาผ้าขนหนูผืนหนึ่งไปห่มให้มันเพราะว่ากลัวมันหนาว แต่ก็ช่วยได้แค่นั้นจริงๆ เพราะเขาไม่มีอย่างอื่นให้มัน 2 ชั่วโมงต่อมาที่หญิงสาวเข้ามาถึงร้าน เจ้าหมาก็ยังนอนตัวสั่นอยู่ตรงที่เดิมอยู่เลย มันยิงฟันใส่เธอเหมือนว่าจะขู่ แต่เธอดูออกว่าเจ้าหมาแค่รู้สึกเครียดเพราะสภาพแวดล้อมเท่านั้น     Wilkerson ตั้งชื่อเจ้าหมาว่า Austin เธออุ้มเจ้าหมาออกมาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แล้วพามันขึ้นรถไปด้วยกันเพื่อไปตรวจร่างกาย และหาที่อุ่นๆ ให้เจ้าหมาอาศัยอยู่ชั่วคราว แต่ตามกฎหมายของเขตที่เธออาศัยอยู่ เธอจึงต้องทิ้งมันไว้ศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อรอหาเจ้าของก่อน จึงจะค่อยรับมันออกไปดูแลได้   ตัวเปียกไปหมด   เดี๋ยวพาไปอยู่ที่อุ่นๆ นะ   แต่ในวันต่อมาที่เธอมารับ Austin ไปดูแล เธอพลาดไม่ได้เอากรงมาด้วย ทำให้ต้องอุ้มมันมือเปล่าขึ้นรถกลับบ้าน…เมื่อเธอเปิดประตูรถเจ้าหมาก็เลยวิ่งหนีหายไปโดยที่เธอไล่จับไม่ทัน Wilkerson ทำใบปลิวเพื่อตามหาเจ้าหมาด้วย แต่พอมีคนโทรมาแจ้งว่าเจอเจ้าหมาแล้ว ตอนนั้นมันก็ถูกเอาไปส่งที่ศูนย์พักพิงสัตว์อีกแล้ว     ยังไงก็ตามเธอก็จะออกไปรับมันมาดูแลอีกครั้งหนึ่ง และครั้งนี้เธอก็ไม่ลืมเอากรงไปด้วย…

Jazmin Felder เป็นทาสแมวที่พร้อมต้อนรับแมวจรจัดเสมอ เธอไม่สนใจหรอกว่าเธอจะมีแมวอยู่แล้วกี่ตัว ถ้าเธอเจอแมวอีกเธอก็จะช่วยมัน ตอนที่เธอได้ยินเสียงแมวร้องอยู่ในสวนหลังบ้าน เธอจึงเดินออกไปดูแล้วพบแมวตัวหนึ่ง เธอเล่าว่า “เจ้าแมวอยู่บนยอดของต้นไม้ มันดูดีใจมากที่ได้เจอฉันแล้วก็ไต่ต้นไม้ลงมาหาเลย ฉันก็เลยพามันเข้ามาอยู่บ้านด้วย” นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ Buddy เจ้าเหมียวสีน้ำตาลได้เข้ามาใช้ชีวิตในบ้านร่วมกับแมวตัวอื่นอีก 4 ตัวที่หญิงสาวเลี้ยงไว้     อย่างไรก็ตามถึง Buddy จะเข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว แต่มันก็ไม่สุงสิงกับใครเลย มันเลี่ยงที่จะยุ่งกับแมวตัวอื่นในบ้าน และแม้ว่าตอนแรกมันจะเป็นคนเข้ามาหา Felder เอง ตอนนี้มันก็ไม่อยากยุ่งกับเธอเช่นกัน เวลาผ่านไปนานกว่า 6 เดือนแล้วที่เจ้าแมวเข้ามาอยู่โดยที่ไม่สนใจใคร ตอนนั้นเองที่ Felder ได้ช่วยเหลือแมวน้อยสีเทา Hannah เข้ามาอีกตัวหนึ่ง     Hannah กับ Buddy ดูต่างกันแบบคนละขั้ว เจ้าแมวสีน้ำตาลเป็นแมวเก็บตัวและขึงขัง ส่วนเจ้าแมวสีเทากลับเข้ากับคนง่ายและโหยหาความรักตลอดเวลา แม้ว่าพวกมันดูไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่หลังจากที่ Hannah เข้ามาอยู่ในบ้าน Buddy ก็เริ่มเข้าใกล้แมวตัวอื่นเป็นครั้งแรก     Felder เล่าว่า “ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันพา Hannah เข้ามาในบ้าน เจ้า Buddy…

เคยคิดสงสัยบ้างไหมว่าคนที่ช่วยเหลือสัตว์ เหนื่อยก็เหนื่อย แล้วบางครั้งก็ไม่มีค่าตอบแทนด้วยซ้ำ พวกเขาทำไปทำไม? …สำหรับคนที่เคยช่วยคงมีคำตอบอยู่แล้ว ความคุ้มค่ามันอยู่ที่การได้เห็นพวกมันมีความสุข กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Animal Aid Unlimited ในประเทศอินเดียเคยได้รับแจ้งว่ามีลูกหมาตัวหนึ่งอยู่ข้างถนน อาการของมันร่อแร่แล้ว     เจ้าหมาไม่มีทั้งพ่อแม่อยู่ดูแล และก็ไม่มีเจ้าของดูแลด้วย แม้ว่าจะไม่มีอะไรตอบแทน อาสาสมัครก็ตั้งใจช่วยชีวิตมันอย่างสุดความสามารถ ลูกหมามีอาการน่าเป็นห่วงมาก มันหายใจแผ่วเบาและไม่มีแรง พวกเขาไม่มั่นใจเลยว่ามันจะรอดไปถึงคลินิกของพวกเขาได้รึเปล่า     พอถึงที่คลินิกแล้วพวกเขาก็รู้ว่าเจ้าหมาช็อกเพราะขาดน้ำอย่างแรง พวกเขาต้องรีบช่วยมันทันทีเพราะไม่อย่างนั้นหมาน้อยอาจจะไม่รอด แต่ถึงอย่างนั้นความดันของมันก็ต่ำมาก ทำให้พวกเขาหาเส้นเลือดมันได้ลำบากเหลือเกิน ยังดีที่สุดท้ายพวกเขาก็เจาะเลือดและให้ยากับมันได้     แม้จะได้รับยาแล้ว อาการของมันก็ดูไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ วันนั้นทั้งวันเจ้าหมาเอาแต่นอนนิ่งๆ บางช่วงก็รู้สึกตัว บางช่วงก็ไม่รู้สึกตัว อาสาสมัครได้แต่หวังว่ามันจะเอาชีวิตรอดได้     อย่ายอมแพ้นะหมาน้อย ทุกคนกำลังพยายามช่วยแกอยู่   โชคดีที่พวกเขาช่วยมันเอาไว้ได้ทันเวลา จากตอนแรกที่มันทำท่าจะไม่รอดแล้ว วันต่อมาเจ้าหมาก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แล้วฉายแววลูกหมาแสนซนให้พวกเขาได้เห็น แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้เงินตอบแทนเลย แถมต้องใช้เงินบริจาคในการรักษามันด้วย แต่สิ่งที่พวกเขาได้จากการแลกแรงกายแรงใจไป ก็คือความรู้สึกภูมิใจและยินดีที่ได้เห็นเจ้าหมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขนี่แหละ   เห็นตัวอื่นเล่นใบไม้ก็เอากับเขาบ้าง   ช่วยชีวิตแกเอาไว้ได้แล้ว ต่อไปก็จะช่วยหาบ้านให้ด้วย  …

หนุ่มชาวไอร์แลนด์ Martin Stanton เป็นคนรักสัตว์ ที่บ้านของเขาก็เลี้ยงแมวไว้ แต่เขาไม่ได้สนใจแค่สัตว์ในบ้านเท่านั้น บางทีเขาก็ไปเดินเที่ยวทักทายสัตว์ที่อยู่แถบใกล้ๆ เหมือนกัน เมื่อ 1 ปีก่อนเขาลองเดินไปที่ฟาร์มใกล้บ้านแห่งหนึ่ง และได้พบกับเจ้าลา Harriet เขาคิดว่ามันน่ารักดี หลังจากที่เจอมันครั้งแรกแล้ว ถ้าเขาได้ผ่านไปแถวนั้นอีกก็จะเอาแครอทไปฝากมันเสมอ     Stanton แวะไปหาเจ้าลาบ่อยมากๆ จนมันจำเขาได้ แค่เขาเดินผ่านไปแถวนั้น Harriet ก็จะเดินออกมารอทักทายแล้ว นอกจากนี้เขายังรู้จักกับเจ้าของของมันด้วยนะ เขาเริ่มทักทายเจ้าของของมันหลังจากที่เจอมันนี่แหละ เพราะเขาอยากพูดคุยเกี่ยวกับความน่ารักของมันมากขึ้น     เมื่อไม่นานมานี้ Stanton ก็ได้แวะไปหาเจ้า Harriet ตามปกติ แต่ครั้งนี้เมื่อมันเจอหน้าเขาเจ้าลาก็ได้มอบบางสิ่งที่พิเศษให้ด้วย นั่นก็คือเสียงร้องอันไพเราะของมัน เจ้าลาร้องเรียกเขาด้วยเสียงที่กังวาลเหมือนกับกำลังร้องเพลงให้ก็ไม่ปาน นั่นอาจจะเป็นคำขอบคุณจากมันให้เขา หรือไม่มันก็คงดีใจมากๆ ที่เขามาหาเลยร้องจนสุดเสียงแบบนั้น     ตอนนั้น Stanton โชคดีที่เขาถ่ายวิดีโอตอนมันร้องเพลงเอาไว้ได้พอดี พวกเราก็เลยมีโอกาสได้ฟังเสียงใสๆ ของมันด้วย เขาเล่าว่า “นั่นเป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ยินมันร้องเพลงแบบนี้ ผมได้ยินแล้วถึงกับหยุดหัวเราะไม่ได้เลย มันช่างน่ารัก เป็นมิตร และอ่อนโยนจริงๆ” เราว่าจริงๆ ที่มันร้องแบบนี้เพราะต้องการทำให้ Stanton…

ไม่แปลกเลยที่หมาจรจัดจะกลัวคน บางตัวใช้เวลาทำความคุ้นเคยไม่นาน บางตัวก็กลัวไม่หายสักที แต่ถ้าเราอดทนและให้ความรักกับมันอย่างต่อเนื่อง เดี๋ยวมันก็หายกลัวเอง เจ้าหมาสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดผสมและน้องสาวเคยถูกจับไปอยู่ในศูนย์พักพิงในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหมากลัวคนมากอย่างเห็นได้ชัด     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Shenandoah Shepherd Rescue ที่ไปเจอมันในนั้นคิดว่าพวกเขาน่าจะช่วยมันให้หายกลัว และก็หาบ้านใหม่ให้ได้ จึงได้เอาตัวมันและน้องสาวออกมาเพื่อเดินทางไปยังศูนย์ในรัฐเวอร์จิเนียด้วยกัน และตั้งชื่อให้มันว่า Blue ส่วนน้องสาวชื่อว่า Roxanne     หลังจากให้สัตวแพทย์ตรวจสุขภาพให้แล้ว พวกเขาก็พบว่า Blue มีไวรัสพาร์โวในลำไส้ ซึ่งถ้าปล่อยเอาไว้จะทำให้มันมีโอกาสตายสูง โชคดีที่ Roxanne ไม่ได้ติดไวรัสนี้จากมัน แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาต้องแยก Roxanne ออกไปอยู่กับคนดูแลที่บ้านหลังอื่นก่อน แล้วรักษาเจ้าหมาในห้องแยก     เจ้าหมาต้องแยกกับน้องสาวเพื่อรักษาโรค   การรักษา Blue ก็ไม่ง่ายเลย ระหว่างการรักษามันป่วยหนักมากจนพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะรอดไหม โชคดีที่สุดท้ายมันก็หายดี     ทันทีที่มันหายป่วย เจ้าหมาก็ถูกส่งไปอยู่กับ Julia Downer เธอรอดูแลมันอยู่นานแล้ว เพราะเธอเห็นพี่น้องหมาคู่นี้แล้วอยากเป็นที่พึ่งให้พวกมัน แต่พอเธอได้เจ้า Blue มาอยู่ด้วยจริงๆ เธอถึงได้รู้ว่าการดูแลมันท้าทายกว่าสุนัขตัวอื่นๆ ที่เธอเคยเจอมาเยอะ    …

สำหรับบางคนสัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นแค่คนช่วยแก้เหงาหรอก ด้วยความที่อยู่ด้วยกันมานาน ทำให้พวกมันมีค่าไม่ต่างไปจากพี่น้องที่โตมาพร้อมๆ กันเลย นอกจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยก็คือความผูกพันที่สัตว์เลี้ยงกับเจ้าของมีให้กัน และทุกครั้งที่เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของคู่สัตว์กับคนที่อยู่ด้วยกันมานาน แต่ก็ยังผูกพันกันเหมือนเดิม ก็ทำให้เรารู้สึกดีไปด้วยเสมอ แบบนี้ไง   เจ้าไซตัวโตขึ้นเยอะ   ดูดีขึ้นทั้งเจ้าของทั้งเจ้าตูบเลย   ตอนเด็กเจ้าหมายังอยู่กับเจ้านาย ตอนโตพอเจ้าหมามาก็มองหาเจ้านายไม่เจอแล้ว   ตั้งแต่เล็กยันโตเจ้าแมวก็ยังทำท่าเหมือนเดิม   หมาดูแลเด็กหญิงตั้งแต่เกิด โตมาเธอเลยรักมันเหมือนพี่ชาย   โตเป็นผู้ใหญ่แล้วสวยขึ้นทั้งคู่   ปีเดียวแกก็บังหัวฉันมิดเชียวนะ   ตอนเด็กเจ้าของยิ้มคนเดียว รู้ตัวอีกทีมีเจ้าหมายิ้มเป็นเพื่อน   ดูเหมือนมนุษย์จะโตไม่ทันเจ้าหมานะ   เดี๋ยวสิ มนุษย์ดูไม่เปลี่ยนไปเลย แต่เจ้าหมาตัวโตเอาๆ   จะนานแค่ไหนก็ยังอยากนอนกับเจ้าของ   เป็นคู่ซี้กันยังไง โตมาก็ยังซี้กันยังงั้น   พอตัวโตแล้วก็ให้ความอบอุ่นคุณลุงได้มากขึ้น   เจอกันระหว่างงาน แต่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป   ไม่รู้ระหว่างหมากับเจ้าของใครเปลี่ยนไปเยอะกว่ากัน   ที่มา: BRIGHT SIDE

ชายหนุ่มคนหนึ่งเบื่อชีวิตเดิมๆ ที่ต้องวนซ้ำไปซ้ำมาอยู่ทุกวัน เขาอยากเติมเต็มรสชาติให้กับชีวิตจึงทิ้งทุกอย่างแล้วออกท่องเที่ยว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยคิดจะทิ้งเลย…นั่นคือเจ้าแมวดำที่เขารัก หนุ่มชาวออสเตรเลีย Rich East เกิดและเติบโตมาในเมืองโฮบาร์ด รัฐแทสเมเนีย เขาเบื่อกับชีวิตที่เป็นอยู่และอยากรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตอีกครั้ง เมื่อปี 2015 เขาจึงได้ขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อเตรียมออกท่องเที่ยว     แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่เขาเก็บเอาไว้ นั่นก็คือเจ้าแมวดำ Willow ซึ่งเป็นเพื่อนตัวโปรดของเขา Rich ใช้เงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินเพื่อซื้อรถแวนคันหนึ่งไว้ใช้ท่องเที่ยวกับมัน ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางกับเจ้าแมวมาก็เป็นเวลา 3 ปีครึ่งแล้ว พวกเขาไปเที่ยวกันมาแทบทุกส่วนของประเทศออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นชายหาด ทะเลทราย ป่าเขา และอื่นๆ อีกมากมาย จนถึงตอนนี้การเดินทางของพวกเขาก็ยังไม่จบลง     การเดินทางทำให้ Rich รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าอีกครั้งหนึ่ง ทว่าเอาเข้าจริงๆ แล้วการเดินทางอาจจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ก็ได้ สิ่งที่มีความหมายจริงๆ ก็คือการได้ออกไปท่องเที่ยวโดยมี Willow อยู่ข้างๆ ต่างหาก เขารักการได้มองวิวที่สวยงามผ่านมุมมองของเจ้า Willow และก็รู้สึกดีเวลามีมันอยู่ด้วย เจ้าแมวนี่แหละคือหัวใจสำคัญที่ทำให้เขามีความสุข     Rich และเจ้าแมวไปเที่ยวด้วยกันมานานแล้ว   โดยใช้รถแวนเป็นบ้านของตัวเอง   พอได้ท่องเที่ยวเยอะๆ…

คนรักสัตว์พร้อมที่จะช่วยเหลือสัตว์โลกที่กำลังลำบากทุกเมื่ออยู่แล้ว แต่คงไม่มีใครคิดหรอกว่าเขาจะได้พบกับสัตว์หน้าเดิมรอให้ช่วยอยู่ทุกวัน Jimmy McNeil เป็นคนดูแลโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา เขาทำงานอยู่ในโรงเรียนมา 6 ปีแล้ว แต่เมื่อไม่นานนี้เขาเพิ่งพบแรคคูนครอบครัวหนึ่งบุกเข้ามาในโรงเรียน     พวกมันเข้ามาคุ้ยหาอาหารกินในถังขยะ แต่ดูเหมือนว่าหลังจากอิ่มท้องแล้วพวกมันไม่สามารถปีนออกจากถังขยะเองได้ เขาก็เลยยื่นมือเข้าช่วยครอบครัวแรคคูนโดยการหย่อนไม้ท่อนหนึ่งลงไปให้ เพื่อให้พวกมันใช้เป็นบันไดปีนออกจากถังขยะ     ทว่าเขาสังเกตว่าพวกมันไม่ได้กลัวเขาเลย ทันทีที่เขาหย่อนไม้ลงไปพวกมันก็ปีนขึ้นมาอย่างชิลๆ โดยไม่ต้องรอให้เขาเดินออกไปห่างๆ ก่อนด้วย เขาเล่าว่า “พวกมันเหมือนกำลังคาดหวังว่าจะต้องมีคนมาช่วยออกไปแน่ๆ ซึ่งน่าจะแปลว่าเคยมีคนช่วยพวกมันก่อนหน้านี้แล้ว”   ขอบใจนะเจ้ามนุษย์ งั้นเราไปล่ะ   บางตัวก็ยังกลัวคนอยู่ ครอบครัวไปหมดแล้วมันยังไม่กล้าตามไปเลย   ต้องรอให้มนุษย์ออกไปห่างๆ ก่อนถึงกล้าปีนออกมา   รับชมคลิปวิดีโอ    แม้ว่า McNeil จะช่วยพวกมันออกไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน เนื่องจากวันต่อมาพอเขามาดูที่ถังขยะ ก็ได้พบกับพวกมันอีกเหมือนเดิม และวันต่อๆ มาก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เขาเล่าว่า “ผมเพิ่งเคยเจอพวกมันอาทิตย์นี้เอง แต่หลังจากนั้นก็ช่วยพวกมันทุกวันเลย พวกมันมากันที่นี่ทุกเช้า ผมจะเจอพวกมันตั้งแต่ 3-6 ตัว แต่ถ้าสุดสัปดาห์ไหนที่ขยะกองสูงๆ ผมก็จะไม่เจอมันเพราะพวกมันออกไปเองได้”  …

สำหรับคนที่อยากได้ความอบอุ่นและความรู้สึกปลอดภัยจากสัตว์เลี้ยง คุณน่าจะเหมาะกับสัตว์ตัวโตๆ อย่างหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ หรือแมวเมนคูน แต่ถ้าคุณเป็นคนที่อยากมอบความรักและดูแลใครสักคนละก็ ต้องเลี้ยงสัตว์ตัวเล็กๆ ไซส์มินิ ดูแล้วน่าโอ๋มันทั้งวันทั้งคืนเลยล่ะ ถ้าคุณยังไม่เข้าใจว่าสัตว์ตัวเล็กมันทำให้เรารู้สึกอยากปกป้องและรู้สึกดีได้ยังไง…คงจะเข้าใจได้มากขึ้นหลังจากเห็นภาพสัตว์พวกนี้   ตัวเล็กกว่ารองเท้าอีก ต้องระวังไม่ให้เดินเหยียบน้อง   ตัวเล็กมากๆ จนต้องใช้พวงกุญแจเป็นตุ๊กตาแทน   ตัวนี้ต้องดูแลกันเป็นพิเศษเลย จะได้หายป่วยไวๆ   ตัวเล็กเท่าฝ่ามือเลย น่าปกป้องอ่า   ไม่กล้าขยับมาก กลัวน้องตื่น   เจ้าหมาน่าฟัดมาก แต่ต้องห้ามใจแล้วเบามือเข้าไว้   นี่สิอยู่ในอ้อมอกของเราจริงๆ   หนูตะเภาตัวเล็กๆ ก็มีนะจ๊ะ   เจ้านายดูแลผมดีๆ นะ เดี๋ยวจะทำให้ยิ้มทุกวันเลย   แกจะตัวเล็กเกินไปแล้วนะ   เคยเห็นกระต่ายตัวเล็กขนาดนี้กันรึเปล่า   นิ้วเรากินไม่ได้นะเธอ   ตัวเท่ากับกระป๋องข้าวเลยจ้า   ตัวก็เล็ก ลิ้นก็เล็ก เห็นแล้วอยากอุ้มมากอด   เจ้าตัวเล็กทำไมหน้าดุจังเลย โกรธอะไรใครมา   ถึงจะตัวเล็กแต่ก็จ้ำม่ำ น่ารักไปอีกแบบ  …

ไม่ได้มีเฉพาะหมาบ้านเท่านั้นที่กตัญญูรู้คุณ หมาจรจัดเองก็รู้จักบุญคุณดีเช่นกัน มันเองก็อยากจะตอบแทนคนที่เอาอาหารมาให้มันอยู่ทุกวัน มันจึงให้สิ่งของตอบแทนเธอ แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นแค่ของเล็กๆ น้อยๆ ที่มันหามาได้ก็ตาม     ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2017 คุณ อรวรรณ แก้วละเอียด กำลังอาศัยอยู่ที่จังหวัดกระบี่ เธอเป็นคนรักสัตว์ที่มีกิจวัตรประจำวันเป็นการทำอาหารไปให้กับหมาจรจัดในแถบนั้นกิน     เธอเตรียมข้าวให้พวกหมากินทุกวัน   ในบรรดาหมาจรจัดนั้นก็มีเจ้า ถั่วพลู กับแม่ของมันอยู่ด้วย เธอมักจะเห็นมัน 2 ตัวมากินข้าวด้วยกันเสมอ เธอรักและเอ็นดูมันเหมือนลูกเลย เธอชอบเจ้าถั่วพลูมากและเป็นห่วงมันด้วย เธอเป็นคนไปหาซื้อปลอกคอมาให้มันใส่เอง พอคนเห็นปลอกคอก็จะได้เข้าใจว่ามันมีเจ้าของและไม่ทำร้ายมัน     คุณอรวรรณเป็นห่วงพวกหมามาก เนื่องจากอีกไม่นานเธอจะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น จึงกลัวว่าจะไม่มีใครมาให้อาหารพวกมัน โดยเฉพาะเจ้าถั่วพลูกับแม่ซึ่งดูไม่สู้คนเอาซะเลย ถึงจะกังวลแต่เธอก็ทำได้แค่ให้อาหารพวกมันไปเรื่อยๆ เท่าที่จะทำได้ เพราะเธอก็ไม่สามารถวานให้คนแถวนั้นมาให้อาหารมันทุกวันเหมือนที่เธอทำได้     อยู่มาวันหนึ่งตอนที่เธอเอาข้าวออกไปให้หมาจรจัด เธอสังเกตเห็นว่าถั่วพลูคาบอะไรบางอย่างเดินเข้ามาหาเธอด้วย เมื่อดูดีๆ แล้วมันก็คือใบไม้นั่นเอง มันเอาใบไม้มาวางไว้ให้เธอ เหมือนกับเป็นสิ่งแทนคำขอบคุณที่เธอเอาข้าวให้มันตลอดมา ช่างเป็นหมาที่แสนรู้และกตัญญูอะไรขนาดนี้ จากนั้นเป็นต้นมาทุกครั้งที่เธอมาให้ข้าวพวกหมา เจ้าถั่วพลูก็จะคาบบางอย่างมาให้เธอเพื่อตอบแทนเป็นประจำ     เธอเคยเล่าผ่านเฟซบุ๊กว่า “เจ้าตัวนี้เขาชื่อ ถั่วพลู ไม่มีเจ้าของ เมื่อเขาหิวข้าว ดูนะคะว่าเขามีของมาแลกข้าวค่ะ…

บางครั้งคนเราก็รู้สึกถูกชะตากับใครสักคนหนึ่ง ทั้งที่อาจจะยังไม่เคยรู้จักกัน แต่เห็นหน้าครั้งแรกก็รู้สึกว่าใช่แล้ว แบบนี้อาจจะเรียกว่าเป็นคนที่ฟ้าส่งมาให้เราได้ Adam Hevey เป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ของเมืองแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเคยไปรับหมา 3 ตัวเข้ามาในศูนย์พักพิงสัตว์หลังจากที่เจ้าของต้องการทิ้งพวกมัน     สภาพหมาทั้ง 3 ตัวล้วนดูไม่ได้ทั้งนั้น แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเจ้า Marzipan ที่เป็น 1 ในหมา 3 ตัวนั้นจึงสะดุดตาของเขาเหลือเกิน เขาเล่าว่า “เจ้า Marzipan นั่งนิ่งๆ อยู่ตรงกลางกรงกับหมาอีก 2 ตัว มันมองตรงๆ มาที่ผมขณะที่ผมจดบันทึกอาการพวกมันอยู่ ตัวมันบวม มีเลือดออก แล้วก็สกปรก แต่แค่เราได้สบตากันผมก็รู้สึกว่าผูกพันกับมันในแบบที่อธิบายไม่ได้”     เขาพาหมาทั้ง 3 ตัวกลับไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ แล้วให้สัตวแพทย์จัดการรักษาพวกมันทันที แต่แม้ว่า Marzipan กำลังเจ็บอยู่ มันก็ยังตื่นเต้นที่ได้พบกับคนที่นั่นแล้วพยายามเข้ามาเล่นด้วย Hevey เล่าว่า “พอมันได้ออกมาจากกรง มันก็เดินตรงมาหาผมและสัตวแพทย์คนอื่นๆ เจ้าหมาส่ายหางอย่างรุนแรงด้วยความดีใจ มันส่ายหางสั้นๆ แรงมากทุกครั้งที่เห็นผม บางครั้งก็แรงเกินไปจนทำให้มันเซเชียวล่ะ”     ถึงจะป่วยและเพิ่งพบกัน…

หมาหลายตัวที่เพิ่งไปอยู่บ้านใหม่ถูกส่งกลับคืนเพราะพวกมันมีปัญหาบางอย่างกับเจ้าของ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่พอจะเข้าใจได้ แต่เราไม่เคยคิดเลยว่าการที่เจ้าหมาเป็นเด็กดีทุกด้าน จนแทบไม่มีปัญหาอะไรให้ตำหนิมันเลย ก็เป็นเหตุผลให้มันถูกส่งคืนได้เหมือนกัน     เจ้า Binx หมาพันธุ์ฮัสกี้ผสมพิตบูลล์เป็นเด็กดีมาก เมื่อปี 2017 กลุ่มนักไต่เขาไปเจอมันอยู่ข้างทางจึงเก็บมาดูแล มันเป็นมิตรและไม่เคยสร้างปัญหาให้พวกเขาเลย ทว่าพวกเขาก็รักการทำกิจกรรมนอกบ้านและออกไปผจญภัยตลอด จึงไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลเจ้าหมาได้ แม้ว่าจะรักมันแต่สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจเอามันไปส่งให้ศูนย์พักพิงสัตว์ Arizona Animal Welfare League (AAWL) พวกเขาอยากให้มันได้อยู่กับคนที่มีเวลาเอาใจใส่เจ้าหมาอย่างที่ควรจะเป็น และมั่นใจว่าเด็กดีแบบมันไม่นานก็หาบ้านได้แน่นอน     Binx มาถึงศูนย์พักพิงไม่ทันไร มันก็กลายเป็นหมาตัวโปรดของคนในศูนย์พักพิงสัตว์ มันทำตัวเป็นเด็กดีจนทุกคนที่ได้เจอหลงรัก เจ้าหมาเป็นเด็กดีจนเกินบรรยายจริงๆ ไม่กี่วันหลังจากที่มาอยู่ศูนย์พักพิงเจ้าหมาก็ถูกรับเลี้ยง แล้วได้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ ตามที่เจ้าของเก่าและคนดูแลหวังไว้     ทว่าหลังไปอยู่บ้านใหม่ได้แค่ 2 วันเท่านั้น Binx ก็ถูกส่งตัวคืนศูนย์พักพิงอีกครั้ง คนดูแลเล่าว่า “ครอบครัวบอกว่าเจ้าหมาถูกฝึกให้ขับถ่ายมาดีแล้ว มันเข้ากับเด็กๆ และหมาตัวอื่นได้ดี แล้วก็เล่นกับทุกคนได้อย่างไม่มีปัญหา พวกเขาก็เลยรู้สึกว่าไม่มีความท้าทายในการเลี้ยงมันเลย แล้วบอกว่าขอเอาลูกหมาไปเลี้ยงแทนดีกว่า จะได้มีความท้าทายในการฝึกหมาหน่อย…”     ถึงเหตุผลนี้จะทำให้คนฟังงงๆ หน่อยว่า ‘แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ’ แต่อย่างน้อยก็เป็นเรื่องดีที่เจ้าหมาถูกส่งกลับมา เพราะคนที่ไม่ต้องการมันก็ไม่คู่ควรที่จะได้มันไปอยู่ด้วยหรอก Binx มีแต่คนชมว่ามันเป็นเด็กดีจะตายไป…

อีกไม่นานก็จะถึงเทศกาลฮัลโลวีนกันแล้ว เทศกาลนี้เป็นวันหยุดและวันฉลองใหญ่วันหนึ่งของทางฝั่งตะวันตกเลยนะ เราจะเห็นคนพากันแต่งตัวเป็นผีหรือตัวละครกันมากมายเลย ถึงแม้ว่าในบ้านเราจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันฮัลโลวีนเท่าไหร่ แต่เพื่อนๆ ก็อินกับฮัลโลวีนได้ง่ายๆ เหมือนกันนะ ด้วยการแต่งตัวให้กับน้องหมาในชุดน่ารักๆ ไง แล้วก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเป็นผีน่ากลัวๆ ด้วยนะ จริงๆ แล้วในวันฮัลโลวีนเราจะใส่ชุดอะไรก็ได้ ลองเลือกชุดน่ารักๆ แต่งเป็นคู่กับเจ้าหมาดูสิ คงดูเท่ไม่หยอกเหมือนกัน สำหรับคนที่คิดไม่ออกว่าวันฮัลโลวีนควรแต่งตัวแนวไหนให้น้องหมาดี ลองไปดูตัวอย่างกันทางนี้เลย   หมาร้อนอะรู้จักป่าว   แต่งตัวเป็นนายกก็ได้ แถมมีนโยบายชิกๆ มาให้ด้วย   ไปออกทะเลกับกะลาสีเรือตัวนี้สิ   อยากให้นักข่าวตัวนี้มาสัมภาษณ์เราบ้าง   พี่น้องนักกีฬาและเชียร์ลีดเดอร์   จะรับเครื่องดื่มหรืออาหารดี โฮ่ง   ข้านี่แหละจะเป็นราชาโจรสลัด   เจ้านายอยากได้รูปสักใบไหม ผมจัดให้   น้องเล่นเทนนิสเก่งนะจะบอกให้   ผมเป็นเด็กดีนะฮะ แค่เข้าคุกไปเป็นเพื่อนเจ้านายเฉยๆ   ไหนๆ ก็อ้วนจะเป็นหมูอยู่แล้ว เอาชุดนี้ไปละกัน   น้องจะเป็นปลาวาฬหรือยูนิคอร์นกันแน่คะ?   เดี๋ยวนี้คาวบอยเขาไม่ขี่ม้ากันแล้วเหรอ!?   หนูน้อยหมวกแดง…กับพี่ไซป่า??   นางฟ้าที่น่ารักที่สุดในโลก…

ถ้าใครเคยเลี้ยงลูกหมาตั้งแต่ตอนมันยังเล็ก คุณจะรู้ว่าพวกมันโตไวมากๆ เวลาผ่านไปไม่ทันไรพวกมันก็ตัวโตจนไม่เหลือความเป็นลูกหมาไว้แล้ว แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดพวกมันตัวโตไม่หยุด เกินกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้ล่ะ? พวกมันก็จะกลายเป็นหมายักษ์ตัวโตแบบนี้ไงล่ะ ถึงจะกินเยอะอยู่สักหน่อย แต่รับรองถ้ามีอยู่ที่บ้านสักตัวจะฟินกันจนตายไปข้างหนึ่งเลย   ผมไม่ได้ตัวใหญ่นะ แค่โตไว   เจ้าหมาตัวโตมากจนดูเหมือนคนใส่ชุดหมาเลย   นั่นมันหมาหรือหมีกันแน่??   ตัวยาวมากจนเอามาเป็นผ้าพันคอได้   นี่มันไม่ใช่หมาแล้ว นี่มันยักษ์ชัดๆ   หนูยังนั่งตักแม่เหมือนเด็กๆ อีกเหรอ   งือ กอดอุ่นที่สุดเลย   อุ้มบ่อยๆ มีหวังเจ็บหลังแน่   ตัวโตยังไม่พอ อ้วนตั๊บเชียว   หัวโตกว่าคุณแม่แล้ว   พี่ไซชอบให้อุ้มล่ะสิ ยิ้มใหญ่เลย   ง่วงก็ไปนอนไป๊ จะมานั่งตักพ่อทำไม   แค่นี้ก็ถือว่าได้นั่งตักเจ้านายแล้ว   จะนั่งไม่เคยว่านะ แต่เหลือพื้นที่ให้แม่หายใจบ้าง   ตัวสูงจนยืนกอดคอพ่อได้สบายๆ   แม่บอกพี่หมาให้หน่อยว่าหนูต้องลงรถแล้ว   ตัวเท่ามนุษย์เลยนะแก   หมาเล็กไม่ได้นั่งตักเลย หมาใหญ่แย่งตลอด  …

หญิงกลุ่มหนึ่งสังเกตเห็นหมาเกรย์ฮาวด์ขาหักอยู่ข้างถนน พวกเธอจึงช่วยเอามันมารักษาตัว แต่ทุกอย่างคงไม่จบลงด้วยดีถ้าแม่หมาไม่ใจสู้อยากจะช่วยลูกๆ ด้วย Lianne และเพื่อนๆ เจอกับเจ้าหมาตอนที่มันอยู่ตามลำพัง พวกเธอตั้งชื่อให้มันว่า Vera เจ้าหมาถูกพาไปส่งให้กับสัตวแพทย์เพื่อทำเฝือกให้     แม้ Vera จะเป็นเกรย์ฮาวด์ซึ่งเป็นหมาสายพันธุ์ใหญ่ แต่ตัวของมันผอมแห้งมากๆ ดูเหมือนโครงกระดูกเดินได้เลยทีเดียว พวกเธอเลยตั้งใจจะช่วยดูแลมันจนแข็งแรง ทว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วง นั่นก็คือลูกๆ ของเจ้าหมานั่นเอง Lianne และเพื่อนสังเกตว่าแม่หมามีน้ำนมด้วย แปลว่ามันต้องกำลังเลี้ยงลูกน้อยอยู่ พวกเธอจะช่วยแค่แม่หมาก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นลูกหมาคงไม่มีแม่ดูแล     ถ้าให้ตามหาลูกหมากันเอง พวกเธอก็คงไม่มีวันหาพวกมันเจอหรอก เพราะในแถบที่เจอแม่หมามีพื้นที่สำหรับซ่อนลูกหมาอยู่นับไม่ถ้วนเลย โชคดีที่ Vera ซึ่งกำลังขาหักอยู่ฝืนเดินต่อไปแม้ว่าจะเจ็บขา แล้วนำทางพวกเธอจนไปเจอรถยนต์เก่าคันหนึ่งที่แม่หมาใช้เป็นรังเลี้ยงลูกน้อย     ถึงแม่หมาจะเจ็บอยู่ มันก็ยังนำทางมนุษย์มาช่วยลูกจนถึงที่   จากนั้น Lianne และเพื่อนก็พาลูกหมาทั้งหมดกลับมาด้วย ลูกของ Vera มีตั้ง 9 ตัวแน่ะ ดีนะที่พวกเธอกับแม่หมาช่วยพวกมันเอาไว้ได้ แล้วทั้งแม่หมาและลูกหมาก็ได้เข้ามาอยู่กับมนุษย์ในศูนย์พักพิง ที่นี่มีข้าวให้แม่หมากับลูกทุกตัวกินจนอิ่ม แล้วก็อุ่นสบายกว่าข้างนอกเยอะเลย     ฮีโร่ของงานนี้นอกจาก Lianne แล้วก็คือ…

เจ้าแมวเหมียวตัวหนึ่งไม่มีคนรับไปเลี้ยงอยู่หลายเดือน น่าจะเป็นเพราะว่ามันกำลังป่วยอยู่และต้องใช้เงินรักษามาก แต่ในที่สุดมันก็ได้เจอคนที่พร้อมจะดูแลมัน Laura Russell และแฟนหนุ่มกำลังมองหาแมวสักตัวที่จะมาเติมเต็มครอบครัวของเธอ เธอกับแฟนจึงไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์อยู่หลายครั้งเพื่อมองหาแมวที่ใช่     และทุกครั้งพวกเขาก็จะตกหลุมรักกับ Leo แมวอายุ 6 ปีที่อยู่ในนั้นมาหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีใครขอรับเลี้ยงมันไปสักที เธอเล่าว่า “ทุกครั้งที่ฉันออกจากศูนย์พักพิงสัตว์มาฉันรู้สึกเศร้าที่ต้องจากมันไป ฉันเลยรู้ว่ามันนี่แหละคือแมวที่ใช่สำหรับเรา ถึงมันจะมีปัญหาสุขภาพอยู่บ้าง ซึ่งเป็นสาเหตุที่มันไม่มีคนรับเลี้ยงเลยถึง 4 เดือน เราก็ไม่สนใจหรอก”     Leo เป็นโรคเหงือก แม้จะฟังดูไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่คนที่รับเลี้ยงมันก็ต้องรับผิดชอบค่าดูแลรักษาให้ ซึ่งก็เป็นเงินไม่น้อยเลยทีเดียว คนรู้จักของ Russell บางคนก็บอกเธอว่าเอาเจ้าแมวไปคืนเถอะ เพราะกลัวว่าเธอจะรับค่ารักษามันไม่ไหวเหมือนกัน แต่เธอก็ยืนยันที่จะเลี้ยงมันต่อไป     พอ Leo ได้มาอยู่กับ Russell และแฟนในบ้านแล้ว เจ้าแมวดูจะเข้ากับพวกเขาได้ดีมากๆ แค่วันแรกมันก็นอนหลับกับทาสคนใหม่ด้วยกันแบบน่าเอ็นดูที่สุด   หลับทั้งพ่อทั้งลูก   ถึงแม้ Russell กับแฟนจะมีเงินไม่มาก แต่พวกเขาก็ตั้งใจเก็บเงินเพื่อพามันไปผ่าตัดรักษาโรคเหงือกให้หายโดยไวที่สุด ซึ่งต่อมาทั้ง 2 คนก็เก็บเงินได้มากพอจะพามันไปผ่าตัดแล้ว เจ้า Leo…

ในแถบที่มีหมาจิ้งจอกอาศัยอยู่ คนแถวนั้นมักจะเดือดร้อนเพราะพวกมันแอบเข้ามาในเขตบ้าน หรือเข้ามาขโมยของอยู่บ่อยๆ ครั้งนี้เจ้าหมาจิ้งจอกก็พยายามจะเข้าบ้านมนุษย์จนสร้างความเดือดร้อนให้พวกเขาอีกแล้ว แต่มันเป็นความเดือดร้อนในรูปแบบใหม่ เพราะพวกเขาต้องลำบากเรียกคนมาช่วยให้มันเป็นอิสระแทน เจ้าของบ้านที่เจ้าจิ้งจอกพยายามจะแอบเข้าไป รู้ตัวว่ามีหมาจิ้งจอกอยู่หลังบ้านในช่วงเช้า เนื่องจากได้ยินเสียงมันโหยหวนอยู่ข้างนอกบ้าน     พวกเขาแปลกใจมากที่ได้ยินมันส่งเสียงดัง เพราะปกติแล้วถ้าหมาจิ้งจอกจะแอบเข้าบ้านใคร พวกมันจะไม่ส่งเสียงดัง เพราะกลัวคนจับได้ แต่เมื่อออกมาดูถึงได้รู้ว่าที่เจ้าหมาจิ้งจอกมันส่งเสียงดัง เป็นเพราะขาหน้าของมันทั้ง 2 ข้างค้างติดอยู่กับรั้ว มันกำลังต้องการความช่วยเหลืออยู่นั่นเอง เจ้าของบ้านคาดว่ามันคงพยายามจะปีนรั้วเข้ามาในสวน แต่พลาดท่าทำให้ขาหน้าเข้าไปติดในร่องรั้ว แล้วออกมาเองไม่ได้     กว่าจะช่วยเจ้าหมาจิ้งจอกออกมาได้ก็ใช้เวลานานพอสมควรเลย หน่วยดับเพลิงที่ส่งคนไปช่วยมันเล่าว่า “พวกเราได้รับแจ้งเรื่องในตอน 6.45 น. ว่ามีสุนัขจิ้งจอกติดอยู่ตรงรั้วในเมือง Bournemouth ตอนแรกเราส่งเจ้าหน้าที่ไปที่เกิดเหตุแค่คนเดียว แต่หลังจากที่ไปถึงเราก็พบว่าเราต้องให้ทีมช่วยเหลือสัตว์เข้าไปช่วยแทน เนื่องจากพวกเขามีอุปกรณ์ที่พร้อมกว่า เราเลยติดต่อไปหา RSPCA แต่พวกเขาก็ไม่มีคนอยู่ใกล้ๆ เหมือนกัน เราจึงต้องหาทางติดต่อสัตวแพทย์ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือแทน” สุดท้ายเวลาก็ผ่านไปกว่าชั่วโมงกว่าเจ้าจิ้งจอกจะเป็นอิสระ     ก็ดีใจอยู่หรอกนะที่เจ้าจิ้งจอกหลุดออกไปได้อย่างปลอดภัย แต่พอมาคิดดูอีกทีเหมือนช่วยโจรให้หนีไปได้เลย หวังว่าเจ้าจิ้งจอกจะเข็ดหลาบแล้วไม่แอบเข้าบ้านไปขโมยของอีกนะ   ที่มา: Daily Mail

อีกไม่ถึงสัปดาห์ก็จะถึงวันฮาโลวีนแล้ว แต่ก่อนจะถึงวันนั้นยังมีวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่ทาสแมวไม่ควรพลาด ซึ่งก็คือ ‘วันแมวดำแห่งชาติ’ นั่นเอง วันแมวดำแห่งชาติจะตรงกับวันที่ 27 ตุลาคมของทุกๆ ปี ก่อนถึงวันฮาโลวีนแค่ 4 วันเท่านั้น ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ค่อนข้างเหมาะเจาะอยู่เหมือนกัน     วันแมวดำแห่งชาติถูกกำหนดขึ้นเพื่อให้คนสนใจแมวดำมากขึ้น เนื่องจากพวกมันเคยถูกเข้าใจว่าเป็นตัวโชคร้ายและอัปมงคล ดังนั้นเนื่องในวันพิเศษของมันเราจึงอยากให้ทุกคนมองเจ้าเหมียวซะใหม่ จริงๆ แล้วแมวดำน่ะดีจะตายไป ร้านขายของหลายแห่งที่มีแมวดำก็ขายดี เพราะว่ามีเจ้าแมวนี่แหละคอยกวักลูกค้าเข้าให้ มันก็น่ารักน่าเลี้ยงไม่ต่างจากแมวตัวอื่นหรอก   ก่อนถึงวันฮาโลวีน เป็นวันของพวกเราแมวดำก่อน   พวกเราไม่ได้นำโชคร้ายนะ เราน่ารักจะตาย   ไม่ว่าจะของจริงของปลอม ก็น่ารักพอๆ กัน   แมวสีไหนก็ชอบเล่นถุง   ตาแบ๊วๆ แบบนี้ไม่รักได้ด้วยเหรอ   ใครชอบเที่ยวข้างนอก แมวดำก็เป็นเพื่อนเที่ยวได้   แมวดำมีความสามารถในการซ่อนตัว…สูง!   มองผ่านๆ นึกว่าเป็นนกฮูก   แมวดำนี่แหละแบ๊วที่สุดแล้ว   ร้านไหนมีแมวดำ ช่วยกวักลูกค้าได้นะ   ไม่ต้องอ่านหนังสือหรอก เอาเวลามาเล่นกับเราดีกว่า  …

แมวเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด พวกมันไม่ได้มีดีแค่น่ารัก หรือน่ากอด แต่จากการวิจัยพบว่าแมวช่วยลดความเครียดและความกังวลได้ พวกมันจะทำให้คุณหายเศร้าและไม่รู้สึกเหงา และนี่คือภาพอันน่ารักของเหล่าเจ้านายขนปุย ที่จะทำให้ใจคุณละลายซ้ำแล้วซ้ำอีก ใครได้อยู่บ้านกับพวกมัน คงไม่อยากออกไปไหนแล้วแน่ๆ   1. มิ้วน้อยรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมแขนพี่เลี้ยงโฮ่งๆ   2. ไม่รู้ว่าอยากปลอบใจพี่หมาหรืออยากหลบแดดกันแน่   3. ขอนอนต่ออีกหน่อยเถอะแม่   4. ว่าจะเข้านอนซะหน่อย โดยเหมียวยึดเตียงไปเรียบร้อย   5. ลูกแมวสายตาบ้องแบ๊วกับลิ้นน้อยๆ ที่ทำให้คุณใจละลาย   6. ดีๆ เกาแบบนั้นแหละ ชอบ   7. นางชอบปลามากๆ จนอยากเป็นปลาด้วย แม่เลยจัดให้   8. ครอบครัวสุขสันต์   9. แม่ ช่วยหนูด้วย เร็วๆ   10. ตายแล้ว นี่แหละคือภาพที่ทำให้ใจมนุษย์ละลายได้   11. เมื่อเหมียวเจอมนุษย์ครั้งแรก มันก็จะเขินๆ อายๆ หน่อย  …

ชีวิตของเจ้าหมีไม่เคยได้รับอิสระอย่างแท้จริงสักที แม้จะเคยถูกช่วยมาแล้วมันก็ยังไปไหนตามใจชอบไม่ได้ แต่อย่างน้อยในช่วงท้ายของชีวิตมันก็มีอิสระอย่างแท้จริง แถมยังได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างเต็มที่     เจ้าหมี Napa เริ่มต้นชีวิตด้วยการเป็นหมีในคณะละครสัตว์ มันถูกฝึกให้ทำการแสดงอยู่ในนั้น ไม่เคยได้ออกไปข้างนอกเลย ต่อมาในปี 2009 เมื่อประเทศเซอร์เบียมีกฎหมายห้ามใช้สัตว์ป่าในการแสดงละครสัตว์ เจ้าหมีถึงได้พักผ่อนแล้วย้ายไปอยู่ในสวนสัตว์แทน     อย่างไรก็ตามพื้นที่ในสวนสัตว์ของมันก็ยังคงเป็นเพียงแค่กรงกรงหนึ่ง มันก็ยังไม่ได้รับอิสระไม่ต่างจากตอนที่อยู่ในคณะละครสัตว์เลย ดีกว่าแค่ไม่ต้องทำการแสดงแล้วเท่านั้นเอง จนเมื่อไม่นานมานี้องค์กรช่วยเหลือสัตว์ Four Paws International ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเจ้าหมี โดยการช่วยพาตัวมันออกจากกรงแคบๆ ในสวนสัตว์ แล้วย้ายมันไปอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อันกว้างขวางในประเทศสวิสเซอร์แลนด์แทน     แน่นอนว่า Napa มีท่าทางดีใจมากๆ เมื่อมันสามารถไปไหนก็ได้ตามที่ใจต้องการ มันมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นอย่างกว้างขวาง และมีพื้นที่สีเขียวเป็นของตัวเอง บ้านหลังใหม่ของมันทำให้มันมีความสุขมากจริงๆ     แต่เมื่อหน้าหนาวมาถึง คนดูแลก็ได้เห็นท่าทีที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูกว่าเดิมของ Napa ในการเผชิญหน้ากับหิมะเป็นครั้งแรกในชีวิตของมัน ที่ผ่านมาเจ้าหมีไม่เคยมีโอกาสสัมผัสธรรมชาติในหน้าหนาวเลย มันจึงไม่เคยเห็นหิมะมาก่อน แม้ว่าจะมีอายุ 20 กว่าปีแล้ว มันก็ยังทำตัวเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่เชียวล่ะ     Napa สนุกกับการเดินชมวิวทิวทัศน์สีขาวโพลน บางทีมันก็หยุดเพื่อเล่นกับหิมะบ้าง หรือไม่ก็ทิ้งตัวลงไปเกลือกกลิ้งบนหิมะเลยทีเดียว     เล่นหิมะเพลินเลยนะพี่หมี…

ในบางเวลา คงไม่มีอะไรดีกว่าการไปนั่งรถเล่นกับเพื่อนสนิท ขับรถไปตามถนนที่ทอดยาว เปิดเพลงโปรดฟัง และร้องไปด้วยกัน นั่นไม่ใช่แค่สิ่งที่คิด แต่มันคือสิ่งที่ Walter Ledermuller เจ้าของน้องหมาเฟรนช์บลูด็อก Junior ทำร่วมกับเพื่อนรัก 4 ขาของเขาเป็นประจำ     ขณะที่ขับรถเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี โดยมีเจ้าหมา Junior นั่งอยู่ข้างๆ Walter ได้เปิดเพลง Diamonds ของ Rihanna ไม่ใช่แค่เปิดฟัง แต่ Walter ยังร้องเพลงนั้นอย่างสุดเสียงพร้อมใส่อารมณ์เต็มที่ จน Junior รู้สึกว่าถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในรถยังไงก็ไม่รู้     ด้วยความที่ไม่อยากรู้สึกโดดเดี่ยวเวลานั่งรถกับพ่อ Junior จึงเข้าร่วมการร้องเพลงประสานเสียงกับพ่อด้วย แล้วเสียงของมันคือ โคตรน่ารัก โดยเฉพาะตอนที่ต้องขึ้นคีย์สูง Junior ไม่ร้องสุ่มสี่สุ่มห้านะ มันรู้ต้องเปล่งเสียงเมื่อไหร่ อย่างไร อาจจะฟังไม่เป็นคำ ที่ก็พอจะรู้แหละว่ามันนักร้องที่เสียงเพราะขนาดไหน     จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกนะ ที่น้องหมาร้องเพลงกับพ่อ ทุกครั้งนั่งรถด้วยกันพ่อจะเปิดเพลงแล้วร้องตามแบบนี้ มันเลยเกิดการซึมซับ ที่สำคัญ Diamonds คือเพลงโปรดของมันเลยล่ะ ไหนใครอยากฟังเสียงน้อง Junior ขอเสียงกริ๊ดหน่อย     ที่มา animalchannel

แมวจรจัดมักจะมีชีวิตที่น่าสงสาร พวกมันต้องเผชิญกับความหิวโหย ต่อสู้กันเพื่อแย่งอาหารและที่นอน เมื่อป่วยหรือบาดเจ็บ ก็ต้องทนอยู่อย่างนั้น เพราะไม่มีใครพาพวกมันไปรักษา Bernie คือหนึ่งในเหมียวที่เคยมีชีวิตแบบนั้น มันถูกพาเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงเมื่อ 6 เดือนก่อน มันมีนิสัยน่ารักมากๆ และอ่อนหวานจนทุกคนในศูนย์พักพิงหลงรักมัน     ต่อมา ทางศูนย์ได้ติดต่อไปยัง Saving Grace Rescue เพื่อขอให้ช่วย Bernie… โชคดีที่พวกเขายินดีช่วยเจ้าเหมียว และได้มารับมันไปอยู่ในการดูแลทันที เมื่อพา Bernie ไปหาหมอ พบว่ามันเกิดมาไม่มีเปลือกตา นอกจากนี้มันยังบาดเจ็บที่ขา มีอาการอ่อนเพลียและหัวใจโต แต่ดูเหมือนเจ้าเหมียวจะไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ เพราะมันกำลังดีใจที่ได้รับความรัก     หลังจากคุณหมอรักษาน้องเสร็จ Josh Norem ก็รับมันมาอุปถัมภ์ ทันทีที่มาถึงบ้าน เขาก็สังเกตเห็นความน่ารักของมัน ที่สำคัญ มันชอบนัวเนียทุกคน สองเดือนต่อมา Bernie ต้องเข้ารับการผ่าตัดตาถึง 3 ครั้ง เพื่อช่วยให้มันเปิดตาได้ และใช้ชีวิตโดยปราศจากความเจ็บปวด     หลังจากการผ่าตัดครั้งแรกเสร็จเรียบร้อย Bernie ก็ได้กลับบ้าน มันเดินข้าไปหาพ่อบุญธรรมและทำเสียงเพอร์ดังมาก มันยังหวานแหววเหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านความเจ็บปวดมา อย่างที่บอกไปแล้วว่า Bernie ชอบกอดทุกคน ซึ่งไม่ใช่แค่กับมนุษย์…

ในโลกของเรามีนกมากมายหลายชนิด และก็มีหลากหลายสายพันธุ์มากซะจนไม่แปลกเลยที่เราจะไม่รู้จักพวกมันทั้งหมด ในจำนวนนั้นมีนกบางประเภทที่มีสีสันและหน้าตาแปลกประหลาด แปลกชนิดที่ว่าเห็นแว่บแรกแล้วคิดว่ามันไม่น่าจะมีอยู่จริงเลยล่ะ เหมือนมีคนเอาสีไปทาพวกมันไว้ซะมากกว่า ถ้าไม่เชื่อลองไปดูกันเลย 1. พญาแร้ง (King Vulture)   พญาแร้งเป็นแร้งขนาดใหญ่ที่กินซากสัตว์เป็นอาหารเหมือนแร้งทั่วไป แต่ที่พิเศษกว่าแร้งทั่วไปก็คือสีสันอันสดใสของมันนั่นแหละ     2. Cock-of-the-Rock   นกตัวนี้มีต้นกำเนิดและถิ่นอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ โดยนกตัวผู้จะมีหงอนรูปใบพัดขนาดใหญ่อยู่บนหัว เอาไว้ใช้ดึงดูดความสนใจจากตัวเมีย แต่พอมีหงอนอันนี้แล้วหน้าตาของพวกมันเลยต่างจากนกทั่วไปโดยสิ้นเชิง   3. Superb bird-of-paradise   เจ้านกตัวนี้จริงๆแล้วก็ไม่ได้ดูต่างจากนกทั่วไปเลย เพียงแค่มีแถบสีฟ้าสะท้อนแสงอยู่ตรงอกเท่านั้นเอง ทว่าท่าเกี้ยวพาราสีของพวกมันนั่นแหละที่ทำให้พวกมันดูเหมือนนกจากต่างดาว เวลานกตัวผู้จะดึงความสนใจจากตัวเมีย พวกมันจะแผ่หางออกเป็นรูปใบพัด และยกแผงขนสีฟ้าสะท้อนแสงให้สูงขึ้น ทำให้พอมองจากด้านหน้าแล้วดูไม่เหมือนนกเลย      4. ไก่ฟ้าสีทอง (Golden Pheasant)   ไก่ฟ้าสีทองมีต้นกำเนิดจากประเทศจีน แต่ปัจจุบันสามารถพบเห็นพวกมันได้ในประเทศแถบตะวันตกเหมือนกัน ขนของมันเป็นสีทองสวยงามสมชื่อ แทบไม่อยากเชื่อตาเลยว่าธรรมชาติสร้างมันมาได้สวยงามขนาดนี้     5. นกเงือก (Hornbill)   นกเงือกประหลาดกว่านกตัวอื่นๆ ตรงที่จะงอยปากของพวกมันใหญ่เป็นพิเศษ ดูๆ…

สำหรับบางคนแล้ว สุนัขไม่ใช่แค่เพื่อน แต่มันคือครอบครัว คือคนสำคัญที่มีความหมายกับชีวิต ดังนั้น เมื่อพวกมันหายไป พวกเขาจึงตามหามันอย่างสุดความสามารถ แม้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เช่นเดียวกับเจ้าฮัสกี้ Semper ที่หายไปเมื่อ 2 ปีก่อน… เรื่องราวนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Kameroun Mares จากฟลอริด้า สาวผู้เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน เธอได้เข้ารับเคมีบำบัดในช่วงฤดูร้อนปี 2013     ตอนนั้นสิ่งที่หญิงสาวต้องการมากที่สุดคือความรักและกำลังใจจากเพื่อน ดังนั้น เมื่อได้พบกับไซบีเรียนหนุ่ม เธอจึงตัดสินใจรับมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เธอได้ตั้งชื่อให้เจ้าหมาว่า Semper Fidelis หรือเรียกสั้นๆ ว่า Semper ตั้งแต่นั้นมา มันก็กลายเป็นเพื่อที่ซื่อสัตย์ของเธอ และเป็นกำลังใจสำคัญที่ช่วยให้เธอต่อสู้กับมะเร็ง กระทั่งปี 2016 Mares ต้องไปรักษาตัวที่แคลิฟอร์เนีย โชคดีที่เพื่อนร่วมห้องอาสาดูแล Semper ให้ในช่วงที่เธอไม่อยู่ แต่หลังจากไปได้ไม่นาน รูมเมทก็โทรมาบอกว่าเจ้าฮัสกี้หายตัวไป     เมื่อหญิงสาวกลับมา เธอออกตามหาเจ้าหมาทุกหนทุกแห่ง ในปีต่อมา เธอต้องย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนีย แต่หญิงสาวก็ยังพยายามติดต่อศูนย์พักพิงต่างๆ ในฟลอริด้าอยู่เสมอ เผื่อว่าพวกเขาจะพบเพื่อนรักของเธอ ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังติดประกาศ โพสต์ในเฟซบุ๊ก และไปไล่ดูตามสถานที่ต่างๆ กว่า 15 ที่…

หมาโกลเด้นสุดน่ารักตัวหนึ่งเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว หลังมันถูกทวีตลงบนทวิตเตอร์ชื่อดัง ทว่าจริงๆ แล้วเจ้าหมาตัวนี้ไม่ได้เพิ่งมีชื่อเสียงหรอก มันเป็นที่รู้จักดีพอสมควรเลย     เมื่อไม่นานมานี้ @dog_rates ซึ่งเป็นทวิตเตอร์ชื่อดังที่ให้คะแนนความน่ารักของเจ้าหมาจากทางบ้าน ก็ได้ทำหน้าที่ให้คะแนนน้องหมาตามปกติ และครั้งนี้ก็คราวของ Riley เจ้าหมาโกลเด้นแสนน่ารัก ในคลิปวิดีโอเจ้าหมากำลังเอนตัวออกมาจากกำแพง แล้วทิ้งลูกบอลลงบนพื้นเพื่อหวังให้คนที่เดินผ่านมาเล่นบอลกับมันด้วย ทำเอาชาวเน็ตหลงรักมันใหญ่เลย ส่งผลให้ Riley เป็นที่รู้จักเพียงชั่วข้ามคืน   This is Riley. Every morning he hangs over the wall and drops his toy so the nearest passerby is forced to play with him. It works 100% of the time. 14/10 pic.twitter.com/KA9BO2SAL9 — WeRateDogs (@dog_rates) October 22,…

ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา หลังจาก Riaan Nysschens ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่ที่แอฟริกาใต้ ได้ไม่นาน เขาได้พบว่าบ้านนี้มีผู้ครอบครองอยู่แล้ว บ้านหลังนี้มีหลังคาเป็นทรงสามเหลี่ยม มีโครงที่ทำจากไม้และมุงด้วยหญ้าคา ประเด็นคือ มีทางเข้า-ออกเล็กๆ บนหลังคาด้วย ตรงนั้นแหละ ที่อยู่ของเจ้าของบ้านที่มาอยู่ก่อน พวกมันคือ บุชเบบี้ (bush babies)  บุชเบบี้เป็นวงศ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก จัดอยู่ในอันดับไพรเมตหรือลิง เป็นสัตว์หากินกลางคืนที่พบในทวีปแอฟริกา     Nysschens บอกว่า “ตอนแรกผมเห็นบุชเบบี้วัยผู้ใหญ่แค่ 4 ตัว ทุกๆ เย็น พวกมันจะออกจากบ้าน เพื่อไปหาอาหาร แต่เมื่อไม่นานนี้ ผมเริ่มได้ยินเสียงเล็กๆ คาดว่าน่าจะเป็นเสียงลูกกาเลโก” ปกติแล้ว Nysschens เห็นเพื่อนร่วมบ้านเหล่านี้ในระยะไกลเท่านั้น แต่แล้ววันหนึ่ง ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาเห็นมันแบบใกล้ชิดและชัดเจน     วันนั้น Nysschens นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ อยู่ดีๆ ก็มีเสียงบางอย่างกระทบกับโซฟา พร้อมกับแหลมเล็กๆ เล็ดลอดออกมา ด้วยความสงสัย เขาจึงเดินดูแล้วก็ได้พบลูกบุชเบบี้ตัวจิ๋วนอนอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่งเกิดได้ไม่นาน และเนื่องจากมันยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เลยร่วงลงมาจากรังที่อยู่บนเพดาน     ขณะเดียวกัน Nysschens ได้ยินเสียงแม่ของทารกน้อยกำลังเคลื่อนไหวอยู่เหนือศีรษะด้วยความกังวลใจ มันคงคิดหาวิธีช่วยลูกละมั้ง…

เราหลายคนอาจจะเคยเห็นลิงลมหรือนางอายมาเยอะแยะมากมายแล้ว แต่มีใครเคยเห็น ‘นางอายเผือก’ บ้าง แน่นอน น้อยคนที่เคยเห็น เพราะมันหาได้ยากมาก แม้แต่ทีมช่วยเหลือสัตว์ International Animal Rescue (IAR) ในอินโดนีเซีย ที่เคยเห็นสัตว์แปลกๆ มาแล้วมากมาย ก็ยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อพวกเขาเห็นนางอายเผือกครั้งแรก     โดยทั่วไปแล้วนางอายจะมีขนสีน้ำตาลเข้ม สีแดง หรือสีเทา แต่ตัวที่ถูกพบนี้ มีขนเป็นสีขาวออกสีทองทั้งตัว หรือนางอายเผือกนั่นเอง Karmele Llano Sanchez จาก IAR บอกว่า “นี่เป็นครั้งแรกของโลกที่มีการพบนางอายเผือก ซึ่งเป็นความผิดปกติที่หาได้ยากมาก”      เรื่องน่าเศร้าอย่างหนึ่งคือ นางอายเผือกถูกจับโดยคนลักลอบล่าสัตว์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้ฆ่า แต่พวกเขาเอาไปขายเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงของคนบางกลุ่ม และเพื่อให้ง่ายต่อการเลี้ยงและป้องกันอันตรายที่จะได้รับจากนางอาย พวกเขาเหล่านั้นได้เลาะฟันของพวกมันออก นั่นทำให้สัตว์ป่าผู้น่าสงสารต้องอยู่กับความทุกข์ทรมาน     กระทั่งในเดือนสิงหาคม เจ้าหน้าที่ได้ช่วยนางอายเผือกออกมาจากการครอบครองของมนุษย์ และส่งมันไปยังศูนย์พักฟื้นในเมือง Bandar Lampung โชคดีที่นางอายเผือกตัวนี้ยังมีฟันอยู่ครบ และไม่ได้มีความผิดปกติใดๆ นั่นหมายความว่ามันสามารถเอาตัวรอดในป่าได้     แม้จะห่วงความปลอดภัยของนางอายเผือก แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามันควรจะมีสิทธิที่จะอยู่อย่างอิสระในธรรมชาติ เช่นเดียวกับสัตว์ชนิดอื่นๆ อย่างไรก็ตาม…

หมาที่อยู่ตามข้างถนนบางทีก็ไม่ใช่หมาจรจัดอย่างที่คิด พวกมันอาจจะมีเจ้าของอยู่แล้วแต่ชอบเดินเที่ยวทักทายผู้คน หรือไม่ก็ชอบแอบไปขออาหารเหมือนเจ้าตัวนี้     เจ้า Princess เป็นหมาของ Betsy Reyes หญิงซึ่งอาศัยอยู่เมืองโอกลาโฮมาซิตี้ รัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเลี้ยงดูมันอย่างดี ให้ทุกอย่างที่มันต้องการ เรียกได้ว่าตามใจมันทุกอย่าง และเจ้าหมาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับเธอด้วย     ทว่าเจ้าหมาชอบแอบออกไปนอกบ้านเวลากลางคืนเสมอ มันออกไปที่ร้านแมคโดนัลด์แห่งหนึ่งในแถบนั้น และทำตัวให้เหมือนหมาจรจัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากพอคนเห็นว่ามันจรจัด พวกเขาก็จะสงสารมันแล้วแบ่งแฮมเบอร์เกอร์ที่เพิ่งซื่อมาจากแมคโดนัลด์ให้มันกินนั่นเอง เจ้าหมาก็เลยออกมาขอของกินเป็นประจำจนติดนิสัย     Betsy เองก็เพิ่งรู้ว่า Princess ทำแบบนี้ตอนที่เธอสงสัยแล้วแอบตามมาดูมันอย่างลับๆ จนมาถึงที่ร้านแมคโดนัลด์นั่นเอง เธอจึงโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “ถ้าคุณเห็นหมาของฉันที่ร้านแมคโดนัลสาขาใกล้ๆ ชิลด์ กรุณาเลิกให้อาหารยัยอ้วนนี่ได้แล้ว มันทำให้เจ้าหมาเสียนิสัยจนแอบออกบ้านแทบทุกคืนเพื่อมาที่แมคโดนัลด์ มันทำตัวเหมือนหมาจรจัดทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะมันเป็นเหมือนกับอีตัวรีดไถเงิน คนที่เห็นจะได้สงสารแล้วแบ่งแฮมเบอร์เกอร์ให้มันกินไงล่ะ“   จับได้คาหนังคาเขาเลยว่าแอบออกมาหาแฮมเบอร์เกอร์กิน   ถึงจะเห็นแล้วว่าแม่แอบตามมาดู มันก็ไม่สนใจ ไปหลอกขอของกินคนอื่นต่อ   หลังจากโดนจับได้แล้ว Princess ก็มีโอกาสได้ออกบ้านน้อยลง เพราะ Betsy คอยจับตาดูมันอยู่ แล้วก็น่าจะมีคนให้แฮมเบอร์เกอร์มันน้อยลงด้วย เพราะว่าเรื่องของมันดังในโลกออนไลน์ใหญ่แล้ว แต่บางทีถ้าเจ้าหมาได้มีโอกาสออกไปอีก มันก็คงได้กินแฮมเบอร์เกอร์อยู่ดี…

ครั้งหนึ่งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เคยช่วยลูกแมวครอบครัวหนึ่งมาจากข้างถนน พวกมันทุกตัวล้วนกลัวคนหมด เอาแต่ส่งเสียงขู่เวลาที่คนพยายามเข้าใกล้ ถึงจะเห็นว่ามันกลัวคนมาก แต่พวกเขาก็ปล่อยให้มันอยู่ในสภาพแวดล้อมแย่ๆ ต่อไปไม่ได้ จึงตัดสินใจลองให้พวกมันทำความเคยชินกับมนุษย์ดู     Will ซึ่งเป็นอาสาสมัครที่ช่วยพวกมันมาใช้เวลาทั้งเดือนต่อมาในการดูแลลูกแมวทั้ง 4 ตัว โดยพยายามให้พวกมันทำความเคยชินกับมนุษย์มากขึ้น พอพวกมันได้รับความอบอุ่นจากมนุษย์ ลูกแมวก็ค่อยๆ หายกลัวมนุษย์ไปทีละตัว จนพวกมันสามารถเล่นกับมนุษย์ได้โดยไม่เกรงกลัวแล้ว     แต่ยังมีลูกแมวตัวหนึ่งที่ไม่หายกลัวคนสักที มันชื่อว่า Franny เจ้าตัวนี้ระแวงคนมากเป็นพิเศษเลย ขนาดพวกเขายื่นขนมให้มันกิน มันยังกินแบบกล้าๆ กลัวๆ ประมาณว่าหิวแต่ก็ยังไม่อยากไว้ใจอยู่ดี เหมือนว่าส่วนหนึ่งเจ้าแมวก็ไว้ในคนที่ดูแลมันแล้ว แต่อีกส่วนลึกๆ ในใจมันก็ยังไม่กล้าเข้าไปหา พวกเขาก็เลยให้เวลากับมันมากกว่าตัวอื่นๆ     Will เล่าว่า “การดูแลพวกมันเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เนื่องจากตอนที่เราเอาพวกมันเข้ามาพวกมันก็อายุค่อนข้างเยอะแล้ว จึงไม่ง่ายเลยที่จะทำให้พวกมันหายจากความกลัวได้”     Will ใช้เวลาตามลำพังกับ Franny อยู่นานมาก บางครั้งเขาก็แค่นั่งนิ่งๆ อยู่กับมัน แล้วดูว่ามันจะเข้ามาใกล้ไหม หรือบางครั้งเขาก็ห่อมันไว้ในผ้าห่มแล้วอุ้มมัน เพื่อให้มันรับรู้ว่าเขาอยากเป็นเพื่อนด้วย จนเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน ในที่สุด Franny ก็หายกลัวมนุษย์จนได้ ตอนนี้มันไม่ได้กล้าเข้าใกล้มนุษย์เท่านั้นนะ มันมาอ้อนให้คนเล่นกับมันด้วยเลยล่ะ…

Emily Sullivan เหรัญญิกของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Happy Jack Cats, Inc. เคยรับดูแลลูกแมว 3 พี่น้อง Artemis, Apollo และ Hercules เธอดูแลพวกมันไว้ในบ้านของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะรับเลี้ยงเอาไว้ เธอแค่ให้พวกมันอยู่ในบ้านจนกว่าจะมีคนที่ต้องการพวกมันจริงๆ มารับเลี้ยงไป   Artemis   วันหนึ่งมีคู่รักติดต่อเธอเข้ามาเพื่อขอรับเลี้ยงลูกแมวตัวหนึ่ง เพราะพวกเขาอยากได้เพื่อนให้กับแมวที่เลี้ยงอยู่ เธอจึงนักพวกเขามาที่บ้านเพื่อให้เจอลูกแมวก่อน ในกลุ่ม 3 พี่น้องแมว คู่รักถูกใจเจ้า Artemis มาก หลังจากเจอมันได้ไม่ถึงวันพวกเขาก็ตกลงรับเลี้ยงลูกแมวตัวนี้แล้ว   Hercules   Sullivan จึงรีบไปจัดกรงให้ Artemis ทันทีเนื่องจากตอนนั้นก็ดึกมากแล้ว และคู่รักก็อยากจะพาลูกแมวกลับไปในวันนั้นเลย โดยเธอเอากรงออกมาตั้งไว้ วางผ้าห่มปูทับเพื่อให้เจ้าแมวอยู่ในนั้นได้อย่างสบาย แล้วก็ทิ้งกรงไว้อย่างนั้น จากนั้นก็เข้าไปในห้องที่ลูกแมวหลับอยู่แล้วอุ้ม Artemis ออกมาใส่กรง     แกจะได้ไปอยู่บ้านใหม่แล้วนะ   ก่อนคู่รักจะกลับบ้าน Sullivan ก็ยกกรงขึ้นมามองดู Artemis อีกครั้งหนึ่งเพื่อบอกลามันอยู่เลย ตอนนั้นเธอและคู่รักก็ยังไม่สังเกตเห็นอะไรผิดปกติแม้แต่น้อย     ทว่าพอคู่รักถึงบ้าน…

เวลาจะหาสัตว์เลีย้งใหม่สักตัว บางคนไม่อยากจะรับสัตว์จรจัดมาเลี้ยง เพราะว่าพวกมันดูไม่สวยและน่ารักเท่ากับสัตว์ที่ถูกเพาะพันธุ์มาขายโดยเฉพาะ แต่รู้รึเปล่าว่าที่สัตว์พวกนี้ดูแย่เป็นเพราะไม่มีคนคอยดูแลเอาใจใส่ต่างหาก ถ้าเราเอามันมาดูแลแล้ว พวกมันก็หล่อสวยได้ไม่แพ้สัตว์ที่เพาะพันธุ์มาอย่างดีเลย   เจ้าเหมียวจากไต้หวัน ผู้แปลงร่างเป็นยูนิคอร์น   น้องเหมียวจรจัด Bunny ถูกไฟช็อต ได้มนุษย์ดูแลปีเดียวก็สวยแล้ว   น้องหมาถูกทิ้งอยู่ในป่า ถูกชุบตัวจนดูหล่อขึ้นผิดหูผิดตา   เจ้าหมาหัวลำโพง กลายเป็นหมาขนสวยที่เหล่าหมาๆ ต้องอิจฉา   มิ้วน้อย Kira ถูกมนุษย์ช่วยไว้อาทิตย์เดียว เปลี่ยนไปยังกับเป็นคนละตัว   น้องแมวสุดรักของคุฝณแม่ ที่ถูกดูแลอย่างดีจนกลายเป็นคุณหนูสุดน่ารัก   ตอนแรกเอาแต่ทำหน้าเศร้า พออยู่กับมนุษย์แล้วร่าเริงเลย   เจ้าแมวผอมโซ ยึดทาสบ้านไม่ทันไรตัวแน่นโตแถมยังขี้อ้อน   เจ้า Lana ตอนอยู่ในศูนย์พักพิงกับหลังมีบ้าน อารมณ์ต่างกันลิบลับ   Barkley มีเจ้านายใหม่ดูแลจนหายจากโรคเรื้อน   เจ้าหมาจรจัดถูกรับเลี้ยง เปลี่ยนไปมากจนคนแทบจำไม่ได้   Olivia กับบ้านใหม่แสนสุข   เจ้าเหมียวตาบอด ถึงตาจะหายไปข้างหนึ่งแต่ดูน่ารักกว่าเดิม   แค่ 6…

ถึงแม้จะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่สัตว์ที่อายุมากมักจะเป็นตัวเลือกท้ายๆ ในการรับเลี้ยงสัตว์ตัวใหม่ เนื่องจากพวกมันคงอยู่ได้อีกไม่นาน และก็ไม่ขี้เล่นเท่าสัตว์ที่เด็กกว่า เจ้า Bear หมาอายุ 16 ปีก็กำลังประสบปัญหานี้ เนื่องจากมันแก่แถมยังดูไม่น่ารักเลย ขนของมันชี้ยุ่งเพราะไม่ได้รับการดูแลที่ดี นั่นทำให้เจ้าหมามักจะถูกมองข้ามเสมอ     อาสาสมัครต่างที่อยู่กบัมันต่างก็ทำใจแล้วว่ามันอาจจะต้องอยู่ที่นี่ไปตลอด ไม่แน่ว่าเจ้าหมาเองก็อาจจะคิดเหมือนกันด้วย จนกระทั่งได้พบกับครอบครัวหนึ่งที่พร้อมให้โอกาสมัน พวกเขามองว่าเจ้าหมาตัวนี้ยังเป็นหมาที่น่ารัก มันควรจะได้รับโอกาสและความรับเหมือนหมาตัวอื่นๆ พวกเขาจึงรับเลี้ยงมันซะเอง     จากนั้นชีวิตของเจ้า Bear ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มันได้รับชื่อใหม่ว่า Norman และได้เริ่มต้นชีวิตการเป็นสัตว์เลี้ยงอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหมาดูสบายใจมากๆ ที่ในที่สุดมันก็มีโอกาสได้นอนบนเบาะและที่นอนนุ่มๆ มากเท่าที่ต้องการ โดยที่ไม่มีใครขัดใจมันเลย     ได้นอนบนเบาะนุ่มๆ สักทีหลังจากอยู่ในกรงมานาน   ครอบครัวของ Norman มอบทุกอย่างให้มันทั้งความรัก ความอบอุ่น และอาหารด้วย เจ้าหมาดูมีความสุขมากเลยที่ได้กินอาหารดีๆ แถมไม่มีจำกัดด้วย มันจึงได้กินจนอิ่มท้องทุกมื้อ     สิ่งที่น่าดีใจอีกอย่างก็คือพอ Norman ได้รับการดูแลที่ดีในทุกๆ ด้าน ขนที่เคยยุ่งเหยิงของมันก็สวยงามเหมือนกับมันไม่ใช่หมาแก่เลย     ดูดีขึ้นกว่าตอนแรกลิบลับ  …

มีอยู่หลายครั้งที่เราเก็บลูกสัตว์มาเลี้ยงแล้วเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ชนิดอื่น เนื่องจากสัตว์ตอนยังเด็กดูตล้ายๆ กันไปหมด แต่ในครั้งนี้แม้แต่สัตวแพทย์ยังเข้าใจชนิดของสัตว์ผิดเลย มันน่างงจริงๆ นะเนี่ย เรื่องมีอยู่ว่าคุณ @bngrs1_6 เล่าว่าเพื่อนที่ทำงานของน้องสาวของเขาเก็บลูกแมวมาเลี้ยง 5 ตัว เนื่องจากเธอคิดว่ามันน่าจะเป็นแมวจรจัดที่แม่ทิ้ง     ต่อมาเธอจึงพาพวกมันไปหาสัตวแพทย์ที่คลินิก เพื่อตรวจร่างกายให้พวกมัน เพราะไหนๆ ก็จะเลี้ยงแล้วก็อยากจะมั่นใจว่าพวกมันแข็งแรงดี ทว่าพอตอนที่เธอพาลูกแมวไปหาสัตวแพทย์ เขากลับบอกว่าสัตว์ที่เธอพามาด้วยไม่ใช่ลูกแมวหรอก แต่เป็นลูกหมาต่างหาก     แต่ไม่ว่าจะดูยังไงเธอก็ยังคิดว่ามันเป็นลูกแมวอยู่ดี เธอจึงยังเชื่อว่ามันเป็นลูกแมวอยู่ และก็เลี้ยงพวกมันต่อไป เพราะยังไงพอพวกมันโตแล้วก็รู้เองว่าเป็นลูกหมาหรือลูกแมวกันแน่     อย่างไรก็ตามพอเวลาผ่านไปจนสัตว์ที่เธอเก็บมาโตแล้ว เธอก็พบว่าเธอกับสัตวแพทย์ไม่มีใครคิดถูกเลยสักคน…เจ้าสัตว์ที่เธอเก็บมาเลี้ยงมันเป็น ‘ทานูกิ’ ต่างหาก มันไม่แปลกหรอกที่ทั้งเธอและสัตวแพทย์จะเข้าใจผิดกันทั้งคู่ เพราะพอเราเห็นลูกทานูกิแล้วมันก็ชวนเข้าใจผิดว่าเป็นหมาหรือแมวได้จริงๆ   นี่ไงโตแล้ว ไม่ใช่ทั้งหมาทั้งแมวเลย   จากตอนแรกที่เธอคิดว่าตัวเองได้ช่วยลูกแมวถูกทิ้งไว้ ก็เลยกลายเป็นว่าเธอไปเอาลูกสัตว์ป่าเข้ามาเลี้ยงในบ้านเองซะนี่ ในเมื่อพวกมันเป็นทานูกิเธอก็เลยไม่จำเป็นต้องหาบ้านให้พวกมันแล้ว จากนั้นก็เอาพวกมันไปส่งให้กับศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าแทน พวกมันจะได้ถูกส่งกลับไปอยู่ตามธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย   ที่มา: Sora News

เมื่อปี 2017 ทางการของรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศเตือนว่าพายุเฮอร์ริเคน เออร์มากำลังจะถล่มบางพื้นที่ในประเทศ นั่นหมายความว่าหลายคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ นักเรียกสาวที่ชื่อ Jessica Lewis จึงรีบตั้งใจที่จะกลับบ้านในเมืองแอตแลนตาทันทีหลังจากเลิกเรียน อย่างไรก็ตาม เธอต้องการพา Luna สุนัขเพื่อนรักไปด้วย นั่นหมายความว่าเธอต้องกลับไปที่อพาร์ตเพื่อนไปรับน้องหมา ซึ่งค่อนข้างทำให้เสียเวลา แถมยังมีอีกคลาสที่ยังต้องเข้าเรียนอยู่ ดังนั้นเธอจึงถ่ายรูปสุนัขของเธอแล้วส่งไปให้อาจารย์ Dr.Kennedy เพื่อขอพาน้องหมาเข้าเรียนด้วย     ข้อความที่เธอส่งไปให้อาจาย์มีความว่า “ถึง Dr.Kennedy สวัสดีค่ะ หนูชื่อ Jessica Lewis เป็นนักเรียนในคลาสอาจารย์ หนูรู้ว่าคำตอบที่รับอาจจะเป็น ‘ไม่’ แต่หนูคิดว่าคุณเป็นอาจารย์ที่เจ๋งพอที่จะตอบตกลง ดังนั้นหนูคิดว่ามันคุ้มที่จะเสี่ยง” “หนูขอพาสุนัขเข้าเรียนคลาสวันนี้ด้วยได้มั้ยคะ? ถ้าได้ มันจะช่วยหนูได้มากเลย เพราะวิชาอาจารย์เป็นคลาสสุดท้ายที่หนูต้องเข้าเรียนในวันนี้ พอเลิกเรียนหนูต้องรีบกลับบ้านในแอตแลนตาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”     “ถ้าต้องกลับไปรับน้องหมาที่อพาร์ตเมนต์หลังเลิกเรียน ฉันต้องแย่แน่ๆ เพราะต้องฝ่าฟันกับการจรจัดที่ติดขัดบนถนนอีก หนูสัญญาว่ามันจะเป็นเด็กดี แค่อาจจะวุ่นวายเล็กน้อย หนูแนบรูปมันมาด้วยหลายใบเลย ช่วยเห็นแก่ความน่ารักของมันด้วยนะคะ” วิธีการของอนุญาตของนักเรียนสาวผ่านการคิดมาแล้วอย่างดี เธอเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวและอธิบายถึงสถานการณ์ของเธอ แล้วก็จบด้วยการแนบรูปน่ารักๆ ของน้องหมา แน่นอนว่าเธอกังวลมาก ขณะที่รอคำตอบจากอาจารย์     และแล้วคำตอบของ Dr. Kennedy ก็แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นอาจาย์ที่เจ๋งจริงๆ…

สัตว์เลี้ยงอาจจะพูดภาษาเดียวกับเราไม่ได้ แต่สีหน้าและท่าทางของพวกมันมักจะสื่อความหมายได้ชัดเจนว่ากำลังคิดอะไรอยู่ อีกอย่างคือ สัตว์เลี้ยงมีนิสัยที่คล้ายกับเด็กๆ คือไม่ว่าจะคิดอะไรก็จะแสดงออกมาอย่างนั้น ดูอย่างเจ้าพวกนี้สิ อารมณ์ท่าสีหน้าชัดเจนกว่าคำพูดซะอีก   1. นางหาวเฉยๆ แต่ดูเหมือนนางกำลังร้องเพลงนะ   2. นี่ของชั้น อย่ามาแตะนะเว้ย   3. เมื่อคุณตื่นมาในบ้านของใครก็ไม่รู้…   4. สีหน้าของน้องหมา เมื่อเจ้าของไม่อนุญาตให้ขึ้นมาบนเรือ   5. น้องคิดว่าเจ้าของจะเหลือเบอร์เกอร์คำสุดท้ายไว้ให้ แต่ก็ไม่   6. ไม่เอาหน่าาา บอกสิว่าไม่มีนกฮูกอยู่ข้างหลังฉัน   7. เมื่อคุณทำท่าแอ๊บแบ๊วแล้วเจ้าหมาทำหน้าแบบนี้ใส่ มันคงคิดในใจว่า ‘ทำอะไรหนะ คิดว่าน่ารักหรอ เหอะ’   8. แพ้อีกแล้ว ตูแพ้มันอีกแล้ว   9. บอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่ชอบจัดปาร์ตี้วันเกิด!!   10. น้องหมาแกล้งตาย… จ้าาา เนียนมาก เห็นแล้วเศร้าเลย   11. อากาศหนาวๆ ขอนอนผิงไฟอุ่นๆ บนที่นอนนุ่มๆ…

เมื่อ 2 เดือนก่อน Jenifer Hurt จาก Wrenn Rescues ได้รับการติดต่อกับเกี่ยวกับลูกแมวหลายตัวที่ต้องการความช่วยเหลือ หนึ่งในนั้นคือ Chester แมวส้มกรามหัก Chester ได้รับการช่วยเหลือในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังดูมีความสุขและทำเสียงเพอร์ดังราวกับมอเตอร์     Alissa Smith คู่หูของ Jenifer บอกว่า “คุณหมอฟังเสียงการเต้นของหัวใจของมันยากมาก เพราะมันทำเสียงเพอร์ดังเกินไป” หลังจากที่ได้รับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขกราม Chester ก็ได้เข้าไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ของ Mel Lamprey     Mel บอกว่า “หลังจากผ่าตัด Chester ยังต้องแบกรับความเจ็บปวดมากมาย แต่มันเป็นแมวที่น่าทึ่งมาก ทั้งน่ารัก น่ากอด อยากขอบคุณคนที่ช่วยเหลือมัน” “ทุกครั้งที่เราเดินเข้าห้องน้ำ Chester จะตามไปด้วย เพื่อนัวเนียเรา พยายามจะอาบน้ำให้ และทำเสียงเพอร์ตลอดเวลา”     เธอบอกอีกว่า “ฉันให้อภัยได้เสมอ แม้คนคนนั้นจะทำร้ายมันก็ตาม Chester โดนทำร้ายจนกรามหักและอาจจะปิดปากไม่ได้อีกเลย แต่มันเลือกที่จะไม่จดจำอดีตที่ผ่านมา” ขณะเดียวกัน มีลูกแมวอีกตัวชื่อ Bitty มันถูกพาเข้ามาใน Wrenn Rescues เพื่อรับโอกาสในการมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่มันขี้กลัวมากๆ และไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ นิ้วของมันหายไปบางนิ้ว…

เราส่วนใหญ่รักสัตว์เลี้ยงตัวเองเหมือนคนในครอบครัว และถ้าพวกมันหายไป เราคงจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะหามันเจอ เหมือนกับ Bill Ballato ที่เคยพรากับน้องหมาและคิดว่าจะได้ไม่เจอมันอีก เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน Ballato อาศัยอยู่ใน Rhode Island กับสุนัขบีเกิ้ลของเขา Bosco แต่มันได้หลุดหายไป เขาพยายามออกตามหามันเป็นเวลานาน แต่ไม่พบร่องรอยของมันเลย     Ballato ได้ขอความช่วยเหลือจากทุกคนที่รู้จัก พร้อมกับแจกใบปลิวประกาศหาน้องหมา โดยหวังว่าจะมีใครสักคนพามันกลับมาหาเขา ไม่กี่เดือนต่อมา Ballato ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น น่าเศร้าที่เขาไม่ได้ไปกับ Bosco… หลังจากที่ไม่ได้รับข่าวคราวของน้องหมา เขาก็ไม่คาดหวังที่จะได้เจอมันอีก แต่ก็ยังคิดถึงมันเสมอ     อยู่มาวันหนึ่ง หลังจากที่เจ้าบีเกิ้ลหายไปเป็นเวลา 2 ปี Ballato ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่เป็นตำรวจว่าเจอสุนัขที่ดูคล้าย Bosco เธออยากจับเจ้าหมาตัวนั้นเพื่อพามันกลับไปหา Ballato เมื่อ Sheila Graham อาสาสมัครจาก Missing Dogs of Massachusetts ทราบเรื่องนี้ เธอจึงตัดสินใจร่วมภารกิจในครั้งนี้   พวกเขาได้ทำกับดักไว้ แม้จะใช้เวลาสักพักแต่ในที่สุด Bosco ก็เข้ามาที่กับดัก และช่วงเวลาต่อจากนี้ พวกเขาต้องพามันกลับหา Ballato Ballato อยากไปหาน้องหมาทันทีที่ทราบข่าว แต่ทางถูกปิด เขาจึงไม่สามารถเดินทางได้…

เช้าวันหนึ่งขณะที่ Bree Taylor จากควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลีย กำลังพาน้องหมา Koda เดินเล่น อยู่ๆ สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นลูกแมว 10 ตัว อยู่ในพุ่มไม้เพียงลำพัง ตอนแรก Taylor กังวลว่าแม่แมวจะออกมาและสู้กับ Koda แต่เมื่อมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นวี่แววของแม่แมวเลย ขณะที่ลูกแมวถูกทิ้งให้อยู่กันเอง พวกมันจึงต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก   หวัดดีมนุษย์ อย่าทิ้งพวกเราไว้ตรงนี้นะ   Taylor นั่งลงข้างๆ แมวน้อยแล้วเล่นกับพวกมัน ทุกครั้งที่ลูบท้องให้ พวกมันจะทำเสียงเพอร์ดังมาก แมวน้อยทุกตัวเป็นมิตรอย่างไม่น่าเชื่อ และเห็นได้ชัดว่าพวกมันหิวมาก Taylor อยากช่วยลูกแมว แต่ไม่สามารถอุ้มทั้ง 10 ได้ และไม่แน่ใจว่าจะพาพวกมันทั้งหมดกลับบ้านยังไง ในที่สุด เดินก็ตัดสินใจออกเดิน ปรากฏว่าลูกแมวเดินเธอเป็นขบวนเลย     ตอนแรก Taylor กังวลว่าลูกแมวที่กำลังหิวโหยและร่างกายอ่อนแอ จะไม่สามารถเดินไปถึงบ้านเธอได้ แต่พวกมันก็เดินตามเธอไปต้อยๆ ระหว่างทาง ลูกแมวที่ตัวเล็กที่สุดเริ่มอ่อนล้าจนเกือบเดินไม่ไหว Taylor จึงอุ้มมันขึ้นมา และแล้วทั้งหมดก็มาถึงบ้านของเธอ เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร   เล่นด้วยแล้ว ต้องรับผิดชอบนะ   ทันทีที่ถึงบ้าน Taylor…

Christine Bouldin อาจจะเป็นทหารสาวที่มีิจิตใจเข้มแข็งและไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ แต่เธอก็มีจุดอ่อนเหมือนกัน นั่นก็คือแมวน้อย และเมื่อ Bouldin ปฏิบัติหน้าที่ครั้งสุดท้ายในอัฟกานิสถาน มีคนมาบอกว่าพบแม่แมวและลูกแมวเดินอยู่ใกล้ฐานทัพ เธอจึงรีบไปตามหาพวกมันทันที     ในที่สุดเธอก็เจอลูกแมวผู้มีหูขนาดใหญ่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่มันลุกขึ้นเดิน มันจะล้มลงไป เธอไม่รู้ว่ามันมีความผิดปกติอะไร แต่รู้ว่ามันต้องการความช่วยเหลือ ต่อมา Bouldin ได้รู้ว่าแมวน้อยมีความผิดปกติทางสมองในส่วนที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย ส่งผลให้การเดินของมันผิดปกติอย่างที่กล่าวไป     Bouldin ตัดสินใจดูแลทั้งแม่แมวและลูกแมว ตอนแรกแมวน้อยกลัวเธอมาก แต่เมื่อแม่ของมันเริ่มไว้ใจทหารสาว ลูกแมวก็เรียนรู้ที่จะไว้ใจเธอด้วยเช่นกัน แต่แล้ววันหนึ่ง แม่แมวก็หนีไปจากลูกน้อย ทำให้มิ้วน้อยต้องอยู่ลำพัง อย่างไรก็ตาม Bouldin ไม่อาจปล่อยแมวพิการไว้แบบนั้นได้ เธอจึงพามันมาอยู่ในค่ายด้วย พร้อมทั้งให้น้ำ ให้อาหาร จนทั้งคู่กลายเป็นคู่หูที่ตัวติดกันตลอดเวลา     ทหารสาวตั้งชื่อให้แมวน้อยว่า Felix และเธอก็รักมันมาก การได้อยู่กับมัน ดูแลมันทุกวัน ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นแม่ของมันจริงๆ เมื่อถึงเวลาที่ Bouldin ต้องกลับบ้าน เธอตัดสินใจจะพา Felix ไปด้วย แม้การพาสัตว์เลี้ยงไปยังสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอก็ยืนยันจะไม่ทิ้งมัน อยู่มาวันหนึ่ง ทหารสาวได้พา Felix ไปหาหมอ ที่นั่นเธอได้รับการแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มช่วยเหลือที่จะช่วยให้เธอสามารถพาแมวน้อยกลับบ้านไปกับเธอได้…

เด็กกับสุนัขมีลักษณะนิสัยที่คล้ายกันเล็กน้อย โดยทั้งเด็กและสุนัขมักจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ควบคุมทุกคนในบ้าน แล้วคิดดูว่าถ้าเด็กกับสุนัขอยู่บ้านหลังเดียวกัน จะเกิดอะไรขึ้น หลายๆ บ้าน อาจจะไม่ยอมให้สุนัขอยู่กับลูก เพราะกลัวพวกมันจะกัดลูก แต่สำหรับบ้านนี้ เด็กน้อยได้ทำให้พี่หมาตัวโตรู้ว่าใครคือเจ้านายของบ้านที่แท้จริง   บรรยากาศแบบนี้มันน่านอนยาวๆ   นี่เป็นวิดีโอสั้นๆ ที่มีคนเข้าดูกว่า 4 ล้านครั้ง ในคลิปเผยให้เห็นเด็กวัยหัดเดิน ที่พยายามจะแย่งที่นอนของพี่หมาตัวโตพันธุ์เกรตเดน ตอนแรกพี่หมานอนอยู่บนที่นอนตัวเองอย่างเงียบๆ แต่สักพัก เด็กน้อยวัยหัดเดินก็เดินเข้ามาหามัน พร้อมกับออกคำสั่งกับมันอย่างไม่เกรงกลัว   เฮ้ยพี่หมา ลุกดิ๊!!   ไม่รู้ว่าเด็กน้อยอายุกี่เดือน กี่ปี แต่นางยังใส่แพมเพิสอยู่เลยอะ แล้วดูการกระทำของนางคือใหญ่เกินตัวมาก น้องเดินเข้าหาเจ้าหมายักษ์เกรตเดน จากนั้นก็สั่งให้มันลุกจากที่นอน ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกหรือเปล่า แต่ดูจากอาการไม่พอใจของพี่หมาแล้ว น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำแหละมั้ง   เออ นั่นแหละ ลุกไปอยู่อื่น   ถึงพี่หมาจะไม่พอใจ แต่มันก็ยอมลุกให้มนุษย์ตัวน้อย จากนั้นมันก็ยืนมองเขาแย่งที่นอนไปต่อหน้าต่อตา โดยที่มันทำอะไรไม่ได้เลย เห็นถึงความเสียสละของเจ้าหมายักษ์แล้ว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกรตเดนถึงขึ้นชื่อว่าเป็น ‘หมายักษ์ที่อ่อนโยนที่สุด’ และเข้ากับเด็กได้เป็นอย่างดี   เพราะตรงนี้หนูจะนอน   ก็เราไม่สู้คนไง เลยถูกมนุษย์เอาเปรียบแบบนี้อะ  …

การหาบ้านให้หมาตัวหนึ่งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องดูความเข้ากันได้ทั้งผู้รับเลี้ยงและตัวน้องหมาเอง นอกจากนี้ ต้องเช็กประวัติผู้รับเลี้ยงและความสามารถในการดูแลหมาด้วย ด้วยเหตุนี้ น้องหมาตัวหนึ่งจึงจัดตั้งสำนักงานของตัวเอง เพื่อช่วยให้มันหาบ้านได้ง่ายขึ้น นี่เป็นเรื่องราวของ Bentley สุนัขที่เข้ามาอยู่ใน Pennsylvania SPCA เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016 หลังจากที่ทาง Humane Law Enforcement บังคับให้มันออกจากบ้าน     ทางศูนย์พักพิงไม่ค่อยรู้ข้อมูลเกี่ยวกับมันมากนัก เนื่องจากเป็นความลับของคดีความ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่ามันผ่านเรื่องร้ายมามาก จนทำให้มันกลัวทุกอย่าง ตอนแรกที่มาถึง Bentley ทั้งขี้อายและรู้สึกอึดอัดมากๆ Kayla Dorney ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสุนัขจาก Pennsylvania SPCA บอกว่า “มันเข้าไปอยู่หลังกรงและนอนลงที่นั่น ไม่ยอมไปไหน” มันหันหน้าเข้ากำแพงและไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับมนุษย์     อย่างไรก็ตาม พนักงานในศูนย์พักพิงมุ่งมั่นที่จะช่วยมันให้หายกลัว ให้มันออกจากที่ซ่อน และพยายามทำความรู้จักมัน เพื่อที่จะได้ดูแลมันอย่างถูกต้อง ยิ่งพนักงานใช้เวลากับมันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดูสบายใจมากขึ้น หางของมันเริ่มแกว่งและเริ่มเผยความเป็นตัวเองออกมาจนกลายเป็นขวัญใจของพนักงานในศูนย์พักพิง แม้ว่า Bentley ยังมีอาการกังวลเมื่อเจอผู้คนใหม่ๆ อยู่บ้าง แต่มันมาไกลมากเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนที่มาเข้ามาในศูนย์ใหม่ๆ     Bentley เป็นมิตรกับพนักงานทุกคนในศูนย์พักพิง แถมยังเป็นเพื่อนกับน้องหมาตัวอื่นๆ ด้วย…

สังเกตไหมว่าเวลาที่เจ้าหมาเจ้าแมวต้องใส่กรวย พวกมันดูจะไม่ชอบใจเอาซะเลย แล้วก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้กรวยหลุดออกจากหัวตัวเอง เราคิดว่าบางทีนอกจากกรวยจะน่ารำคาญเพราะมันเทอะทะแล้ว เจ้าหมาเจ้าแมวอาจจะอายที่ต้องใส่กรวยก็ได้ เพราะมันเป็นเหมือนเครื่องหมายบอกว่าตัวเองกำลังป่วยอยู่ แต่ถ้าเราเอากรวยที่ดูน่าเบื่อมาทำให้ดูสวยงามขึ้นดู ไม่แน่ว่าบางทีสัตว์เลี้ยงที่บ้านอาจจะยอมใส่ก็ได้นะ เนื่องจากแทนที่จะรู้สึกเหมือนใส่ชุดผู้ป่วยอยู่ พวกมันจะได้รู้สึกเหมือนใส่ชุดสวยๆ แทนไง ถ้ายังคิดไม่ออกว่าจะทำกรวยให้สวยงามได้ยังไงบ้าง…วันนี้เรามีตัวอย่างมาฝากกัน เผื่อใช้เป็นไอเดียนะ   กลายเป็นนักกล้ามไปซะแล้ว   นุ่มสบาย เต็มไปด้วยความน่ารักแบบนี้ ยอมใส่ทั้งวันเลย   ยิ้มใหญ่เลย ชอบกรวยดอกไม้ล่ะสิ   ไม่ว่าจะมุมไหนผมก็ยิ้มได้   กลายเป็นมาสคอตของพิกซ่าไปแล้ว   เข้ากับเทศกาลคริสต์มาสสุดๆ ไปเลย   ไม่ว่าจะไปไหนก็มีขนมติดไปด้วย   กรวยดูหล่อน่าใส่มากๆ เลย   สดใสเหมือนดอกทานตะวันในทุ่ง   ถ้าเจ้าหมาเป็นแฟนสตาร์วอร์สคงถูกใจน่าดู   ใครมีไพ่อะไรลงมาเลย เราสู้ได้หมด   เจ้าหมากลายเป็นผลงานศิลปะไปซะแล้ว   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตัวนี้เป็นสายรักผัก   เหมือนเจ้าหมากำลังถูกดูดเข้าไปในหลุมดำเลย   ที่มา: 9gag

นี่คือ Belarus เหมียวที่ลงเอยด้วยการเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ หลังจากเจ้าของบ้านบอกกับเจ้าของของมันว่าไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ ครอบครัวรู้สึกเสียใจมากที่ต้องจำใจพาเจ้าเหมียวไปอยู่ในศูนย์พักพิง แต่พวกเขาก็หวังว่ามันจะได้บ้านใหม่ที่ดีในอนาคต     Deb Campbell จาก Animal Care and Control San Francisco บอกว่า “Belarus เป็นแมวตัวใหญ่ที่มีนิสัยอ่อนโยน มันน่ารักมาก แถมยังมีความหล่อเหลาด้วยดวงตาอันแสนหวาน และมีหางฟูฟ่อง” Belarus มีความกระตือรือร้นที่จะได้รับความรักและความสนใจตลอดเวลา เมื่อมีคนเข้ามาเยี่ยมมัน มันจะยืนขึ้นและพิงอยู่ที่ประตู ราวกับจะขอให้พวกเขาพากลับบ้านด้วย     จนกระทั่งวันหนึ่ง Rachel จากซานฟรานซิสโก เห็นโพสต์เกี่ยวกับน้องเหมียวตาเหล่ในอินสตาแกรม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เธอกำลังหาแมวมาเลี้ยง Rachel บอกว่า “เมื่อฉันเห็นดวงตาที่น่ารักของมัน ฉันก็ตกหลุมรักทันที เลยติดต่อศูนย์พักพิงในวันนั้น และได้ไปเยี่ยมมันในเวลาต่อมา”     เมื่อ Belarus กับ Rachel ได้พบกัน เจ้าเหมียวตาหวานก็เข้าไปนัวเนียเธอทันที และถ้ามันพูดได้มันคงจะบอกว่า ‘เก๊าพร้อมที่จะกลับบ้านกับตะเองแล้วนะ’ และแล้วหญิงสาวก็ได้พาเจ้าเหมียวกลับบ้านในวันนั้น เธอมีความสุขมากๆ ที่เห็น Belarus ปรับตัวกับบ้านใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และอีกไม่นานเธอคงต้องตกเป็นทาสมันอย่างสมบูรณ์แน่นอน    …

พบกับ Pokey แมวเหมียวแสนฉลาดที่แข็งแรงมากๆ เพราะมันมีแรงบันดาลใจบางอย่างให้เป็นแบบนั้น ว่าแต่จะเป็นเรื่องอะไรนะ?? เรื่องราวกับของ Pokey เริ่มขึ้นเมื่อ Jen กับ Ian รับอุปถัมภ์หลังจากที่มันเกิดได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ มันมีน้ำหนักน้อยมาก มีปัญหาการเข้าสังคม ดังนั้นมันจึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ     หลังจากที่พ่อแม่บุญธรรมทำให้เจ้าเหมียวมีทักษะการเข้าสังคมได้ ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักมันทันที ทั้งคู่จึงตัดสินใจรับเลี้ยง Pokey ในที่สุด ก่อนหน้านี้ Jen กับ Ian ได้รับอุปถัมภ์แมวเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อมี Pokye พวกเขาไม่รู้ว่ามันจะตอบสนองกับแมวตัวอื่นอย่างไร เลยหยุดอุปถัมภ์แมวไปสองสามปี     เมื่อ Pokey อายุได้ 2 หรือ 3 ปี ทั้งคู่ก็ตระหนักได้ว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา พวกเขาได้พลาดการอุปถัมภ์แมวไปมากแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะทำอีกครั้ง ตอนแรกที่พาลูกแมวมาอยู่ในบ้าน Jen กับ Ian ได้แยกห้องพวกมันไว้ต่างหาก เพราะยังเดาทางไม่ถูกว่า Pokey จะมีท่าทีอย่างไรกับแมวน้อย กระทั่งวันหนึ่ง คู่รักสังเกตเห็นประตูห้องของลูกแมวเปิดอยู่ ทั้งๆ ที่พวกเขามั่นใจว่าได้ปิดไว้ เมื่อมองเข้าไปข้างใน ภาพที่เห็นคือ Pokey กำลังเล่นกับแมวน้อย     นั่นเป็นภาพที่ Jen…

สุนัขคือเพื่อนแท้ที่รู้จักเจ้าของดีที่สุด เหมือนกับน้องหมา Opal ที่ทั้งตาบอดและหูหนวกตั้งแต่เกิด แต่มันรู้การเคลื่อนของเจ้าของผ่านความรู้สึก ความพบพร่องทางร่างกาย อาจทำให้ Opal ดูแตกต่างจากสุนัขทั่วไป แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้หัวใจของมันหยุดส่องแสงเลย     Opal อายุ 8 เดือน เป็นสุนัขพันธุ์ merle-coated มันถูกรับเลี้ยงโดย Christina Bray และสามีของเธอ พวกเขารู้จักกันผ่านกลุ่มช่วยเหลือใน Idaho ที่คอยหาบ้านให้สุนัขที่มีความต้องการพิเศษ แน่นอนว่าการรับเลี้ยงสุนัขที่มีความบกพร่องแบบนี้ เจ้าของอาจต้องเจอกับความท้าทายมากมาย แต่สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือ หัวใจที่เต็มไปด้วยความรักของมัน   Opal ตอนอยู่กับแม่บุญธรรม   ล่าสุด พ่อแม่ของน้องหมาได้แชร์คลิปวิดีโอที่ทำให้ใจละลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่า Opal มองไม่เห็นและไม่ได้ยิน มันเลยรับรู้สิ่งต่างๆ ผ่านความรู้สึก คลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นตอนที่พ่อของน้องหมากลับมาบ้าน แน่นอนว่าเจ้าหมาไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงใดๆ แต่มันแสดงอาการดีใจและตื่นเต้นกับการต้อนรับเขา   ดูอาการตื่นเต้นของน้องหมาจากคลิปด้านล่างนี้   Bray บอกว่า “มันยืนรออยู่ที่สวนหน้าบ้าน และรับรู้การกลับมาของพ่อผ่านกลิ่นรถของเขา ฉันไม่รู้ว่ามันแยกความแตกต่างของกลิ่นรถได้อย่างไร แต่เมื่อมีรถเพื่อนบ้านมาจอด มันไม่ได้แสดงท่าทางดีใจหรือสนใจเลย” เมื่อพ่อลงจากรถ Opal ยิ่งได้กลิ่นของเขาชัดมากขึ้น มันก็ดีใจมาก และแกว่งหางไม่ยอมหยุดเลย แน่นอนว่านี่เป็นภาพที่ทำให้พ่อแม่ใจละลายทุกครั้งที่ได้เห็น    …

ในขณะที่ Jacqueline Panzo และแฟนหนุ่มกำลังเดินไปซื้อยาแก้หวัดที่ร้านขายยา พวกเธอสะดุดตาเข้ากับถุงดำใบหนึ่ง เนื่องจากเธอเห็นว่ามีขอบกรงยื่นออกมา พอเธอเข้าไปดูใกล้ๆ มันก็เป็นกรงสัตว์เลี้ยงจริงๆ แถมยังมีแฮมสเตอร์อยู่ด้านในด้วย เจ้าของเก่าคงตั้งใจเอามันมาทิ้งไว้เนื่องจากเขาเปิดประตูกรงให้มันออกไปด้านนอกได้ถ้าต้องการ     Panzo เป็นคนรักสัตว์เธอจึงไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ ได้ เนื่องจากถ้าปล่อยมันไว้ตามลำพังมันก็คงจะตายอยู่ตรงนั้น เธอและแฟนหนุ่มจึงตัดสินใจพาเจ้าแฮมสเตอร์กลับบ้านไปด้วย เธอเล่าว่า “ฉันไม่มีทางทิ้งมันไว้ตรงนี้หรอก ฉันรู้สึกเป็นกังวลมาก และถึงฉันจะไม่รู้ว่าพาไปด้วยแล้วมันจะรอดไหม ฉันก็อยากจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้เพื่อให้มันรู้สึกอุ่นสบายอีกครั้ง”     เธอตั้งชื่อให้มันให่ว่า Hamtaro (แฮมทาโร่) ตอนแรกมันก็กลัวเธออยู่นิดหน่อย แต่พอได้ขึ้นมาอยู่บนมือเธอครั้งหนึ่งแล้ว มันก็ไม่กลัวเธออีก กลับกันเจ้าแฮมสเตอร์ดูจะอุ่นใจขึ้นกว่าเดิมที่ถูกช่วยออกมาจากข้างถนน มันวิ่งเล่นในบ้านของเธออย่างร่าเริง Panzo เห็นว่าในเมื่อมันมีความสุขที่ได้ในบ้านหลังนี้ เธอก็เลยรับมันเลี้ยงไว้ซะเลย     สร้างแลนด์มาร์กเรียบร้อยแล้ว   Hamtaro ปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้ดเป็นอย่างดี นอกจากมันจะขโมยใจ Panzo ไปหมดแล้ว มันก็ยังตีสนิทกับเจ้าหมา Hazel ด้วย กิจวัตรประจำวันของทั้งคู่คือการเดินเล่นไปด้วยกัน โดย Hamtaro ซึ่งอยู่ในลูกบอลจะกลิ้งไปรอบๆ บ้าน แล้วเจ้า Hazel ก็จะเดินตามดูเหมือนเป็นพี่ที่แสนดีดูแลน้อง    …

เราคงเคยเห็นกันมาเยอะแล้วสำหรับภาพที่เหล่าเจ้าตูบโดนผึ้งเล่นงาน กลับมาหน้าบวมบ้าง ตาบวมบ้าง แขนขาบวมบ้าง เห็นแล้วมันช่างน่าเอ็นดูจริงๆ วันนี้พามาดูแมวโดนผึ้งต่อยบ้าง แน่นอนพวกมันต้องอาการบวมอยู่แล้ว แต่เป็นความบวมที่ไม่รู้จะขำหรือสงสารดี อะดูเอาเองละกัน    1. คางบวมข้างหนึ่งแบบนี้ หวังว่าจะเข็ดและไม่ไปหาเรื่องพวกผึ้งอีกนะ   2. คางบวมเฉยๆ ไม่ใช่เหนียงโว้ยยย   3. อุ้งมือโตเชียว โตข้างเดียวซะด้วย   4. หายดีเมื่อไหร่ เจอกันเจ้าพวกผึ้ง!!   5. เหมือนแก้มจะระเบิดเลยค่ะแม่   6. อุ้งเท้าบวมเป่งเชียว คงจะเจ็บน่าดู แต่ทำไมนี่ขำ   7. นี่ก็กล๊มกลม แต่ดูสายตานางสิ คงจะแค้นหนัก   8. บวมขนาดนี้ โดนไปกี่ตัวละเราหนะ   9. แม่ ฝากบอกสาวข้างบ้านหน่อยสิ ช่วงนี้ห่างกันสักพัก   10. แววตาที่แฝงไปด้วยความแค้น   11. งุ้ยยยน้อง บวมซะน่ารักเชียว  …

ช่วงวันหยุดในฤดูหนาว หลายคนมักไปตั้งแคมป์ตามภูเขา ตามดอย เพราะนอกจากจะได้นอนท่ามกลางธรรมชาติแล้ว ยังได้ตื่นมาสัมผัสบรรยากาศยามเช้าท่ามกลางสายหมอกด้วย แต่สำหรับคุณเม เธอได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ากว่านั้น เพราะสิ่งเธอได้พบเจอระหว่างตั้งแคมป์ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เจอ และมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แน่     เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 21-22 ตุลาคมที่ผ่านมา คุณเมได้ไปพักที่แคมป์ดอยอินทนนท์ ซึ่งที่พักเป็นเต็นท์ กลางคืนทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี แต่พอใกล้รุ่งสางเท่านั้นแหละ มีบางอย่างโผล่มาเซอร์ไพรส์เธอ     เมื่อเวลาประมาณตี 5 ขณะที่คุณเมหลับอย่างสบาย อยู่ดีๆ ก็มีบางอย่างย่องเข้ามาอยู่หน้าเต็นท์ของคุณเม และมันค่อนข้างเห็นชัดว่าสิ่งนั้นคือแมวเหมียว     พอได้สบตากับมนุษย์ที่นอนในเต็นท์ เจ้าเหมียวก็เดินเข้ามาในเต็นท์ ราวกับว่ามีใครเชิญชวนให้มันเข้ามาอย่างนั้นแหละ     นึกว่ามันจะมาทักทายสักแป๊บ แล้วก็จากไป ที่ไหนได้ มันนั่งในเต็นท์แล้วมองหน้าคุณเมเหมือนมีอะไรจะบอก… สุดท้ายมีเพียงความเงียบ     เนื่องจากตอนนั้นข้างนอกฝนตก อากาศก็หนาว คุณเมจึงไม่กล้าไล่มันออก เลยให้มันอยู่ในเต็นท์ด้วย ซึ่งเจ้าเหมียวก็ไม่ได้ก่อกวนอะไร     นั่งสักพักมันก็เริ่มง่วง บรรยากาศก็เป็นใจซะเหลือ มันเลยหาที่อุ่นๆ ข้างคุณเมแล้วซุกตัวนอน คุณเมเองก็ง่วงเช่นกัน…

ขึ้นชื่อว่าทำงานแล้วก็ต้องมีเหนื่อยเป็นธรรมดา ไม่เหนื่อยกายก็เหนื่อยใจ หลายคนจึงหาแรงบันดาลใจหรือกำลังใจในการทำงาน เพื่อที่จะทำงานได้อย่างมีความสุข สำหรับพวกเราชาวเหมียว กำลังใจสำคัญที่ทำให้เราอยากมาทำงานทุกวันคือ เหล่าแมวเหมียวประจำออฟฟิศทั้ง 3 ตัว พวกมันคอยสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และสร้างสีสันให้ออฟฟิศมาเสมอ   ทั้ง 3 ตัว ประกอบด้วยวุ้นจุ่น พี่ใหญ่สุด   หวานแจ๋ว สาวหวานตัวเดียวของออฟฟิศ   และเวนเจอร์ น้องเล็กที่เกิดมาพร้อมความพิเศษ เลยเอ๋อๆ หน่อย   เพื่อนๆ หลายอาจจะเพิ่งรู้จักพวกมันเป็นครั้งแรก แต่เราเสียใจที่ต้องบอกว่า 1 ใน 3 ตัวนี้ ได้จากเราไปตลอดกาลแล้ว นั่นก็คือ วุ้นจุ่น พี่ใหญ่ของออฟฟิศเหมียว     การเดินทางของวุ้นจุ่นเริ่มต้นขึ้นเมื่อประธานเหมียวหรือบอสแห่งแคทดั๊มบ์ของเราได้รับเลี้ยงมันต่อจากน้องคนหนึ่งที่ต้องไปเรียนต่อในระดับมหาลัย และไม่สามารถพาเจ้าเหมียวไปด้วยได้ น้องคนนั้นบอกว่าวุ้นจุ่นพร้อมพี่น้องอีก 2 ตัว ถูกแม่คลอดทิ้งไว้ เมื่อเธอไม่สามารถดูแลต่อไป บอสจึงรับเลี้ยงทั้ง 3 ตัว และตั้งชื่อพวกมันว่า วุ้นจุ่น ว็อทจั้บ และหวานแจ๋ว    …

ทาสแมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิต้านทานแมวต่ำมาก แค่เจอพวกมันอ่อยนิดๆ หน่อยๆ ก็ต้องยอมทำตามใจมันแล้ว เหมือนสาวคนนี้ที่แค่เจ้าแมวเคาะประตูหน้าบ้านหน่อยเดียวก็ถึงกับรับมันเข้ามาเลย Laura Cassiday อาศัยอยู่ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งเธอกำลังพาเจ้าหมาออกไปเดินเล่นยามเช้า และขากลับก็เจอแมวแปลกหน้าด้วย     แม้จะไม่เคยเจอมันมาก่อน เจ้าแมวก็เดินตามเธอกับเจ้าหมามาเรื่อยๆ จนถึงหน้าบ้าน ถึงเธอจะเข้าบ้านไปแล้วเจ้าแมวก็ยังคงเกาะอยู่ตรงประตูแล้วเคาะให้เธอเปิดประตูให้ เธอเห็นว่าตอนนั้นฝนกำลังตกอยู่ แล้วเจ้าแมวก็สภาพโทรมมาก แค่คิดต้องปล่อยให้มันกลับไปตากฝนข้างนอกเธอก็สงสารมันแล้ว สุดท้ายเธอก็เลยเปิดประตูให้มันเข้ามาในบ้าน และตกเป็นทาสมันไปโดนปริยาย     Cassiday ตั้งชื่อมันว่า Bones เนื่องจากมันผอมจนติดกระดูกไปหมด นอกจากนี้ขนของมันก็จับตัวเป็นปื้นๆ ด้วย ทำให้เธอรู้ว่ามันป่วยอย่างไม่ต้องสงสัยเลย     เจ้าแมวท่าทางจะหิวมาก พอเธอเอาอาหารให้มันกิน มันก็กินอาหารทั้งกระป๋องหมดไปอย่างรวดเร็ว แต่พอมันอิ่มแล้วเจ้าแมวอารมณ์ดีกว่าเดิมเยอะเลยล่ะ ตอนนี้มันเอาแต่ครางหึ่มๆ อย่างมีความสุขเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆ Cassiday มันคงพอใจแล้วที่ได้มาใช้ชีวิตในบ้านกับมนุษย์สักที     หลังจากให้มันได้กินอิ่มนอนหลับเต็มที่แล้ว เธอก็พา Bones ไปตรวจและรักษากับสัตวแพทย์ต่อ เพราะมันดูสุขภาพไม่ดีเลย โชคดีที่ Cassiday เป็นอาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือแมวอยู่ เธอเลยขอให้พวกเขาช่วยออกค่ารักษาให้เจ้าแมวได้ ทีนี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะรักษามันไม่ไหวแล้ว     หมอให้รอนานจัง…

ครั้งหนึ่งเคยมีเจ้าของหมา 2 ตัวเข้าไปที่คลินิกสัตว์ San Antonio Pets Alive! เขาอยากจะทิ้งพวกมันไว้ที่นั่น แต่ทางคลินิกแนะนำศูนย์พักพิงสัตว์ในเมืองให้แทน เพราะที่นั่นมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พวกมันมากกว่า เธอเห็นชายคนนั้นเดินออกร้านไปโดยคิดว่าเขาคงจะไปส่งพวกมันถึงที่แล้ว แต่หลังจากนั้น 4 ชั่วโมงเธอก็ได้รับแจ้งจากคนขายเนื้อร้านใกล้ๆ ว่าเขาเจอลูกหมา 2 ตัวในถังขยะข้างร้าน พอเธอออกไปดูตรงจุดที่ได้รับแจ้งด้วตัวเอง เธอก็เจอกับลูกหมา 2 ตัวที่มากับชายคนก่อนหน้านี้ เขาไม่ได้เอาหมาไปส่งในศูนย์พักพิงสัตว์ตามที่เธอคิดเลย     ลูกหมาทั้ง 2 ตัวต่างก็ดีใจมากที่เธอมาเจอพวกมัน ทันทีที่เธออุ้มพวกมันออกมาจากถังขยะ ทั้ง 2 ตัวก็ส่ายหางอย่างรวดเร็ว พวกมันคงคิดว่าปลอดภัยสักที Kylie Brasher ผู้อำนวยการของคลินิกเล่าว่า “พวกมันเข้ามากอดกับคนดูแลของเราทันที แล้วก็ส่ายหางดุ๊กดิ๊กตลอดเลยด้วยตอนที่เราให้ข้าวและความรักกับพวกมัน”     หลังจากช่วยพวกมันออกมาแล้ว พวกเขาก็พาลูกหมาไปอาบน้ำเพื่อให้ตัวสะอาด เพราะพวกมันน่าจะติดเห็บหมัดมาตอนที่อยู่ข้างในถังขยะ ตอนที่อาบน้ำให้พวกมันนั่นเอง ที่คนในคลินิกสังเกตเห็นว่าเจ้าของเก่าของมันดูแลพวกมันไม่ดีเลย เพราะตัวมันผอมมากๆ แล้วก็มีพยาธิหลายอย่างด้วย     ลูกหมาทั้ง 2 ตัวถูกตั้งชื่อว่า Crockett และ Bowie ถึงแม้ว่าตอนแรกพวกเขาจะอยากให้มันไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ แต่ในเมื่อเจ้าของทิ้งพวกมันแบบนี้ พวกเขาก็เลยรับมันไว้ดูแลเอง เจ้าหมาทั้ง 2…

หากคุณขับรถผ่านเขตป่า อาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะเจอสัตว์ป่าบ้างอะไรบ้าง แต่สิ่งที่ Sarah Verney และเพื่อนๆ ได้เจอเมื่อไม่นานมานี้ ค่อนข้างจะแปลกออกไปสักหน่อย วันนั้นขณะที่ Verney และเพื่อนๆ ขับรถอยู่ถนนใกล้กับ Kokadjo รัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา สายของพวกเขาก็สะดุดเข้ากับบางอย่างที่ผิดปกติมาก     พวกเขาเห็นแมวป่า 2 ตัว ยืนอยู่กลางถนนพร้อมทำเสียงดังผิดปกติ… นี่นับว่าเป็นประสบการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิตด้วยซ้ำ เพราะโดยธรรมชาติแล้วแมวป่าชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในป่าหนาทึบและพบได้ยากมาก     ดูเหมือนแมวป่าทั้ง 2 ตัว กำลังมีปัญหาขัดแย้งกันอยู่ พวกมันทำเสียงขู่กันไปมาเพื่อที่จะเป็นผู้ชนะ Verney บอกว่าเสียงของมันดังมาก ยิ่งเลื่อนกระจกลงก็ยิ่งได้ชัดมากขึ้น     แต่ตอนนั้นหญิงสาวและเพื่อนๆ ไม่ได้แทรกแซงอะไรแมวป่า พวกเขาปล่อยให้พวกมันเคลียร์ปัญหากันเอง ที่สำคัญ นี่เป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่ามากๆ ที่พวกเขาได้เห็นสัตว์หายากแบบใกล้ชิดขนาดนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งดูอยู่ในรถอย่างเงียบๆ     สำหรับรัฐเมนนั้น มีแมวป่าชนิดนี้ประมาณ 1000 ตัว และว่ากันว่ามีเพียงรัฐในอเมริกันเท่านั้นที่มีประชากรแมวป่าชนิดนี้อาศัยอยู่ ว่าแต่ทั้ง 2 ตัวทะเลาะอะไรกันนะ ถึงกับออกมาอยู่บนถนนแบบนี้ แถมไม่แคร์สายตามนุษย์ที่กำลังมองดูพวกมันด้วย หวังว่าคงจะไม่ใช่ปัญหาแย่งสาวกันหรอกนะ     ที่มา weloveanimals

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่เอาแต่ใจตัวเองมากๆ วันไหนอยากออกบ้านก็ออก ไม่บอกไม่กล่าวสักคำ และจะกลับมาก็ต่อเมื่ออยากกลับ บางทีไปซะนานจนคิดว่าหลงทางไปซะแล้ว เท่านั้นยังไม่พอ วันดีคืนดีมันพาเพื่อนเข้าบ้านด้วย คงคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของบ้านแล้วจะพาใครมาก็ได้มั้ง อย่างเจ้าเหมียวตัวนี้ที่กลับบ้านมาพร้อมเพื่อนใหม่ที่ทำเอาครอบครัวถึงกับอึ้ง     เรื่องราวนี้ไม่ได้ระบุสถานที่ชัดเจน แต่น่าจะเป็นบ้านที่อยู่ในชนบทและติดกับป่า บ้านหลังดังกล่าวเลี้ยงแมวสีขาวดำไว้ตัวหนึ่ง โดยทำประตูเล็กๆ ให้มันเข้าออกเองได้สะดวก แต่แล้ววันหนึ่ง มันก็ทำให้เจ้าของตกใจ… ตอนแรกมันกลับเข้ามาในบ้านผ่านประตูแมวเหมือนปกติ แต่หลังจากที่มันเข้ามาได้สักพัก ก็มีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ที่ประตูแมวอีก     และแล้วเจ้าสิ่งนั้นค่อยๆ โผล่ออกมาให้เห็นมากขึ้น จนเจ้าของเริ่มรู้สึกคลับคล้ายคลับลาเหมือนสัตว์บางชนิด มันยืนแขนเข้ามา เอาหัวเข้ามา ก่อนจะโผล่มาให้เห็นทั้งตัว     ชัดเลย มันคือกวางน้อยที่เดินตามเจ้าเหมียวเข้ามา ไม่รู้เหมือนกันว่าเหมียวชักชวนมันมา หรือมันมาของมันเอง แต่ที่แน่ๆ ตอนนั้นเจ้าของตกใจจบแทบจะเป็นลม มันเป็นเรื่องที่เจ้าของไม่เคยคาดคิดมาก่อนและมันค่อนข้างตลก     หลังจากที่ผ่านประตูแมวมาได้ เจ้ากวางน้อยก็ชายตามองไปรอบๆ บ้าน และเดินสำรวจไปมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น แน่นอนว่าเจ้าของไม่ทันได้เก็บภาพหรือถ่ายคลิปหรอก เพราะเธอมัวตกใจอยู่ แต่โชคดีที่ที่บริเวณนั้นมีกล้องวงจรปิดอยู่ เราจึงได้เห็นทุกการเคลื่อนไหว ตั้งแต่เหมียวกลับเข้าในบ้านไปจนถึงตอนที่กวางน้อยเข้ามาตาม     ตอนนี้กวางน้อยคงถูกส่งกลับไปอยู่ป่าเรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ้าเหมียวก็คงไม่รู้สึกผิดอะไรที่พาเพื่อนแปลกหน้ามาบ้าน แต่มันก็โดนด่าไปชุดใหญ่เหมือนกัน รู้นะว่ารักเพื่อน…

วันหนึ่งขณะที่ Paul Morris จากรัฐแมริแลนด์กำลังนั่งทำงานท่ามกลางบรรยากาศอันแสนสบายอยู่บนดาดฟ้าบ้านของเขา อยู่ดีๆ เขาก็เห็นบางอย่างที่ผิดสังเกต เขาบอกว่า “ผมกำลังทำงานอยู่บนด้านฟ้าและหันไปเห็นแม่หมีและลูกหมี 2 ตัวอยู่ในสนามหญ้า พวกมันจ้องมองมาที่ผม ผมจึงรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า จังหวะนั้นเอง พวกมันก็วิ่งหนีไป”     Morris มองตามครอบครัวหมีที่วิ่งหนีไปยังเขตป่า แล้วเขาก็สะดุดกับบางที่ทำให้ประหลาดใจ เพราะหนึ่งในลูกหมีดูทุลักทุเลเพื่อวิ่งให้ทันครอบครัว เมื่อสังเกตดูดีๆ จึงได้รู้ว่ามีขวดติดอยู่บนหัวของลูกหมีตัวนั้น Morris รู้สึกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของลูกหมีและรู้ว่าต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยมัน     โชคดีที่ Morris มองรู้จักคนที่จะช่วยเจ้าหมีตัวนั้นได้ เขาได้ติดต่อไปยัง Maryland Department of Natural Resources (MDNR) และคนจากหน่วยงานดังกล่าวก็มาช่วยหมีน้อยทันที     ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่าคาดว่าขวดพลาสติกนี้น่าจะครอบหัวหมีน้อย 3 วันเต็มๆ แต่โชคดีที่มีคนเจอมันและครอบครัว จึงได้ช่วยมันได้ทันเวลา ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยหมีน้อย ทั้งแม่และพี่อีกตัวก็เฝ้ามองมันอยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง     หลังจากช่วยหมีน้อยได้สำเร็จและตรวจสุขภาพของมันเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็ปล่อยมันกลับสู่ป่า ซึ่งมีแม่กับพี่อีกตัวรอรับมันอยู่ที่นั่น ในที่สุดเหตุการณ์ครั้งนี้ก็จบลงด้วยดี แต่หวังว่าหมีน้อยจะจำประสบการณ์ครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียนและไม่เอาหัวไปซุกในโหลแปลกๆ อีก     ที่มา thedodo

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก San Bernardino County Sheriff ได้รับแจ้งว่าพบอาชญากรตัวอู๊ดๆ ออกมาเพ่นพ่านบนถนน มีคนบอกว่าหมูตัวนั้นมีขนาดเท่าม้าไซส์มินิ มันหลุดออกจากบ้าน ตอนนี้มันวิ่งไปวิ่งมาอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับบ้านมัน ราวกับมันเป็นเจ้าของพื้นที่ หลังจากที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คน ก็ลงพื้นที่ไปต้อนเจ้าหมูกลับบ้านทันที ทั้งคู่เคยมีประสบการณ์ต้อนหมูมาก่อนและรู้แล้วด้วยว่าเจ้าหมูตัวนี้อยู่บ้านไหน ดังนั้นจึงคิดว่าภารกิจนี้ไม่น่ายาก     แต่เมื่อมาถึงและเผชิญหน้ากับเจ้าหมูจริงๆ พวกเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าภารกิจนี้ไม่ง่ายเลย เพราะเจ้าหมูไม่มีทีท่าที่อยากกลับบ้านเลยสักนิด มันยังคงสนุกกับการออกมาผจญภัยข้างนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเปลี่ยนแผน ด้วยการซื้ออาหารโปรดของหมูมาล่อมัน ทันทีที่เจ้าหมูเห็นของอร่อยในมือคุณตำรวจ มันก็น้ำลายไหลและเริ่มตามเธอไปอย่างง่ายดาย     เมื่อหาจุดสนใจของเจ้าหมูได้ การพามันกลับบ้านจึงไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป คุณตำรวจถือขนมล่อเจ้าหมู คอยป้อนมันทีละนิดๆ พร้อมนำทางไปยังบ้านของมัน ในที่สุด เจ้าหมูจอมซนก็กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมกับรสชาติอาหารแสนอร่อยที่ยังคิดอยู่บนลิ้น นี่คงจะเป็นประสบการณ์การหนีออกจากบ้านที่คุ้มค่าสำหรับมันแน่ๆ     ที่มา thedodo

ทุกคนคงคิดว่าตัวเองดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ทว่าจะดีพอหรือยังก็คงไม่มีใครบอกได้ เพราะคำว่าดีของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน แต่ถ้าเราลองเอาตัวเองไปเทียบกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงต่อไปนี้ อาจจะเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นก็ได้ เพราะพวกเขาได้รับเสียงโหวตจากชาวเน็ตแล้วว่าเจ้าของแบบนี้แหละที่สัตว์เลี้ยงต้องรัก   แม่ของฉันจัดบ้านให้หนูตะเภาได้สุดยอดไปเลย มีรูปครอบครัวแขวนไว้ด้วย https://twitter.com/ccoragordonn/status/1038147229587058688?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.buzzfeed.com%2Fjamiejones%2Fpet-owners-who-took-wholesomeness-to-a-whole-new-level   พ่อแม่ของฉันรักหมามาก จนซื้อบ้านเด้งดึ๋งให้มันหลังโตเชียว https://twitter.com/rahulgowthaman/status/719765276489699328?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.buzzfeed.com%2Fjamiejones%2Fpet-owners-who-took-wholesomeness-to-a-whole-new-level   ความปลอดภัยของน้องหมาต้องมาก่อน   ทีนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าแมวเหมียวจะหนาวแล้ว schmoop pic.twitter.com/xqJkrYXe9o — Queen Quen (@quenblackwell) October 6, 2018   ผมบอกเจ้าหมาว่านี่คือยาเสริมความหล่อ มันจะได้รู้สึกดีเวลากินยาแก้แพ้ My dog Philby has to take allergy meds everyday but he doesn’t need to know that. pic.twitter.com/5oFUVCb5bG — Christine Nangle (@nanglish) September 21, 2018  …

คุณปู่แมวใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาตลอดระยะเวลาที่เป็นแมวจรจัด มันอาจไม่พบความสุขเลยถ้ามนุษย์ไม่บังเอิญช่วยมันไว้แล้วพามันมาพบกับสิ่งที่มันชอบ     แมวแก่ Mason ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนแมวจรจัดแห่งหนึ่ง เนื้อตัวมันเต็มไปด้วยแผลเป็นจากการสู้กับสัตว์อื่นเพื่อเอาชีวิตรอด อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Tiny Kittens เห็นว่ามันป่วยอยู่ พวกเธอต้องการช่วยมันจึงจับมันมาเพื่อรักษาโรคก่อนจะปล่อยกลับไปอยู่ในที่ที่มันคุ้นเคย     ทว่าหลังจากตรวจร่างกายแล้ว พวกเขาก็ได้รู้ว่า Mason ป่วยเป็นโรคไตขั้นรุนแรง ทำให้พวกเขาปล่อยมันไปอยู่ตามเดิมไม่ได้ เนื่องจากจำเป็นต้องให้ยามันเป็นประจำ แล้วก็ต้องคุมอาหารให้มันด้วย ไม่อย่างนั้นมันคงอยู่ได้ไม่นาน คุณปู่แมวไม่คุ้นชินกับชีวิตแมวบ้านสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะมีคนช่วยดูแลมันเสมอ เจ้าแมวก็ยังดูเหมือนขาดความอบอุ่นอยู่ดี     จนวันหนึ่งอาสาสมัครได้พา Mason มาอยู่กับลูกแมวจรจัดที่เพิ่งช่วยมา พวกเขาถึงได้เห็นว่าเจ้าแมวเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเมื่อมีลูกแมวอยู่ใกล้ๆ มันดูแลลูกแมวทุกตัวด้วยความรัก และตัวมันเองก็ดูผ่อนคลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย จากนั้นมันก็จะหลับอย่างสบายใจโดยมีลูกแมวนอนหนุนอยู่รอบๆ พวกเขาจึงรู้ว่ามันชอบอยู่กับลูกแมว     จากนั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็พยายามให้ Mason ได้อยู่ใกล้กับลูกแมวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และก็เป็นดังที่พวกเขาคาดไว้เลย เวลาไหนที่ Mason ไม่ได้อยู่กับลูกแมวมันจะดูเซื่องซึมลง แต่พออยู่กับลูกแมวไม่ว่าจะตัวไหนมันจะมีท่าทีสบายใจมาก     ลูกแมวจรจัดแต่ละตัวที่ได้เจอกับ Mason คงรู้สึกเหมือนได้มีพ่อแม่อีกครั้ง เนื่องจากคุณปู่เหมียวดูแลพวกมันเป็นอย่างดี ในทางกลับกันเจ้าแมวแก่ก็ได้รับความสบายใจจากการได้อยู่ใกล้ลูกแมวเช่นกัน แม้ว่าลูกแมวแต่ละตัวที่เข้ามาจะถูกรับเลี้ยงไป แต่ก็จะมีลูกแมวตัวใหม่ที่อาสาสมัครช่วยมาอยู่กับมันต่อเสมอ     ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาช่วย…

ดาราดังหน้าตาดีอาจจะดูเป็นคนไกลตัวสำหรับเรา พวกเขาทั้งมีความสามารถมาก และหน้าตาดี ทว่าจริงๆ พวกเขาก็เหมือนคนทั่วไปที่มีไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเอง วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับดาราที่มีความรักสัตว์เหมือนกับเรา โดยเฉพาะเจ้าหมา บางทีถ้าเราได้รู้ว่าเขาชอบหมาเหมือนเรา เราอาจจะรู้สึกใกล้ชิดพวกเขามากขึ้นก็ได้   Bradley Cooper   หนุ่ม Bradley Cooper นักแสดงรูปหล่อที่เป็นพระเอกของหนังเรื่อง A Star Is Born ก็เป็นคนรักหมานะ เขาเลี้ยงหมาตั้ง 2 ตัวซึ่งก็คือเจ้า Samson และ Charlotte เขารักมันเหมือนลูกแท้ๆ เลย   Chris Evans   นาย Chris Evans หรือกัปตันอเมริกาของเราเป็นคนรักหมาโดยแท้จริงเลยล่ะ นอกจอภาพยนตร์เรามักจะเห็นเขากับเจ้าหมา Dodger ทางทวิตเตอร์อยู่เสมอ   Olivia Munn   นักแสดงหญิง Olivia Munn ซึ่งรับบทในเรื่อง X-Men: Apocalypse และ Ocean’s 8 เป็นเจ้าของของ เจ้าหมา Chance เธอชอบโพสต์รูปกับมันบนอินสตาแกรมเป็นประจำ แถมยังสนับสนุนให้ทุกคนรับเลี้ยงหมาจรจัดด้วย งามทั้งกายและใจโดยแท้   Jon Hamm  …

Chuck Hawley กำลังขับรถออกไปทำงานตามปกติ แต่ในวันนั้นเขาสังเกตเห็นบางอย่างอยู่บนถนน มันคือลูกแมวตัวหนึ่งที่กำลังสั่นเทาด้วยความกลัวอยู่ ถึงแม้จะมีรถผ่านไปมากมาย ก็ไม่มีใครหยุดช่วยลูกแมวเลย แถมมันยังไม่ยอมขยับไปไหนด้วย ถ้าปล่อยไว้ยังไงไม่ช้าก็เร็วรถสักคันคงจะทับมันเข้า เขาจึงตัดสินใจหยุดช่วยมันด้วยตัวเอง     พอ Hawley ลงมาจากรถเขา ก็พบว่าสาเหตุที่ลูกแมวไม่ขยับไปไหนไม่ได้เป็นเพราะกลัวจนก้าวขาไม่ออก แต่เป็นเพราะทั้งตัวของมันเลอะไปด้วยกาวจนมันไม่สามรถขยับไปไหนได้ เขาจึงค่อยๆ อุ้มมันขึ้นมาอย่างเบามือ แล้วอุ้มมันไว้ในอ้อมแขนเพื่อทำให้ตัวของมันอุ่น จากนั้นก็วิ่งพามันขึ้นรถกลับไปอาบน้ำล้างตัวที่บ้านทันที     เมื่ออาบน้ำให้มันเสร็จแล้วเจ้าเหมียวก็สบายตัวขึ้นมาก แต่ก็ยังมีกาวติดอยู่อีกเยอะ เขาจึงพามันไปที่คลินิกเพื่อให้สัตวแพทย์ช่วยล้างตัวมันอีกครั้งหนึ่ง เนื้อตัวของมันก็เลยสะอาดหมดจด     พอลูกแมวรู้สึกสบายตัวแล้ว จากที่ตอนแรกมันไม่ร้องเลยสักแอะ มันก็เริ่มร้องเมี๊ยวๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจาก Hawley มันร้องงอแงไม่ยอมหยุดจนกว่าจะได้เข้าไปซบอยู่บนไหล่ของเขา จากนั้นไหล่ของเขาก็กลายเป็นที่โปรดของเจ้าแมวเลย บางทีมันก็ซบเขาจนหลับไปทั้งอย่างนั้น     หลับตรงนี้เลยก็ได้เหรอ   เขาเห็นว่าไหนๆ เจ้าแมวก็ติดเขาแล้ว เขาก็เลยรับเลี้ยงมันเอาไว้ซะเลย โดยตั้งชื่อลูกแมวว่า Sticky ที่แปลว่าเหนียวหนึบนั่นเอง     Hawley เล่าว่า “เราเพิ่งคุยกันวันก่อนเองว่าอยากจะได้แมวมาเพิ่ม แล้วเจ้าเหมียวก็เข้ามาเจอเราพอดี เราก็เลยจะเลี้ยงมันเอาไว้ ภรรยาของผมเป็นคนตั้งชื่อให้มันว่า Sticky” ตอนนี้เจ้าเหมียวได้ใจทุกคนในบ้านไปเรียบร้อยแล้ว…

ตอนที่ Dan และภรรยาย้ายบ้านมาใหม่ พวกเขาได้เจอแมงสีส้มตัวหนึ่งที่ดูเป็นมิตรเกินปกติ มันเดินเข้ามาหาพวกเขาโดยตรงแล้วอ้อนไม่ยอมหยุดเลย เขาแปลกใจมากที่เจอแมวเป็นมิตรกับเขาขนาดนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เขาจึงนั่งเล่นกับมันอยู่นานเลย แต่เขาคงไม่นึกหรอกว่าหลังจากนั้นเขาจะได้เจอมันอีกแทบทุกวันจนต้องตกหลุมรักมันมากกว่าเดิม     หลังจากนั้นมา Dan ก็ได้เจอมันเป็นประจำ แล้วพอเจอมันบ่อยเข้าก็เลยรู้ว่ามันชื่อว่า Bosco เป็นแมวของเพื่อนบ้านในแถบนั้นเอง เจ้า Bosco มีนิสัยชอบทักทายผู้คน ทาสของมันก็เลยทำประตูสัตว์เลี้ยงให้ มันจะได้เดินออกไปทักทายเพื่อนบ้านได้ทุกเมื่อที่ต้องการ     Dan รู้สึกว่าเจ้าแมวสนิทกับเขาเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเจอมันบ่อยมากๆ ก็ได้ เนื่องจากเขาทำงานใกล้บ้านเลยได้เดินผ่านบ้านของ Bosco ไปยังที่ทำงานทุกวัน เขาเล่าว่า “ในวันที่อากาศดี ผมจะได้เจอมันทุกเช้า ตอนกลางวันผมก็เดินกลับมาพักที่บ้านแล้วก็มักจะเจอมันนอนอยู่หน้าบ้านของมัน ถ้าผมเรียกชื่อเจ้าเหมียวก็จะตื่นแล้ววิ่งมาหาผมทันที แถมบางครั้งตอนกลับมันก็มารอเจอผมด้วย”     เรียกเราเหรอ?   ตอนนี้ Dan รู้สึกว่าตัวเองสนิทกับ Bosco มากที่สุด เพราะมันไม่เคยพลาดโอกาสที่จะได้เล่นกับเขาเลย ทว่าเขาก็รู้ดีว่ามันเป็นแมวแสนดีที่ทำแบบนี้กับทุกคน เขาบอกว่า “มันรักคนทุกคนนั่นแหละ ผมมั่นใจว่าผมไม่ใช่คนเดียวหรอกที่หยุดเล่นกับเจ้าแมว ผมคิดว่าที่มันออกมาเจอคนเป็นเพราะมันอยากให้คนลูบมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”       รู้ตัวอีกที…

ในโกดังเก็บของที่มีของวางเรียงรายอยู่มากมาย บางครั้งก็มีสัตว์เข้าไปแอบอาศัยอยู่บ้าง ปกติพนักงานก็จะไล่พวกมันไปเพื่อความสะดวกในการทำงาน แต่ในครั้งนี้พวกเขาต่อต้านความน่ารักของสัตว์ตัวน้อยไม่ได้ แทนที่จะรบกวนพวกมัน พวกเขาเลยปล่อยให้พวกมันอยู่ในนั้นต่อแทน     ในโรงงานแห่งหนึ่งมีสิ่งที่เรียกว่า มัลช์ (Mulch) อยู่เต็มไปหมด มันเป็นซากพืชหรือเศษไม้ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้จนแห้งเพื่อใช้เป็นปุ๋ยหรือคลุมดิน มีประโยชน์ในการทำเกษตรกรรม ในช่วงฤดูเพาะปลูกมัลช์จะเป็นที่ต้องการมาก ในโกดังจึงมีมัลช์กักตุนเอาไว้มากมาย และระหว่างที่พนักงานกำลังขนย้ายมัลช์กันอยู่พวกเขาก็พบแขกไม่ได้รับเชิญในนั้น     มันคือลูกแรคคูน 3 ตัวที่กำลังนอนขดอยู่ด้วยกันอย่างน่าเอ็นดู แม่แรคคูนคงจะแอบปีนเข้ามาในนี้แล้วกัดถุงมัลช์จนขาดเพื่อใช้เป็นที่นอนนุ่มๆ ให้ลูก ส่วนตัวเองก็ออกไปหาอาหารตอนกลางวัน เมื่อเห็นลูกแรคคูนน่ารักแล้วพนักงานก็ไม่กล้ารบกวนพวกมัน พวกเขาอยากให้มันได้หลับต่อสบายๆ ก็เลยตั้งป้ายไว้ข้างๆ ว่า “กรุณาอย่ารบกวนหรือเข้าใกล้กองสินค้านี้ มีลูกแรคคูนอยู่ในรังตรงกลาง”     พนักงานคิดว่าพวกเขาน่าจะปล่อยกองสินค้านั้นไว้ก่อน พอแม่แรคคูนมาเอาตัวลูกๆ ออกไปแล้วค่อยไปขนย้ายสินค้าก็ยังได้ ตอนนี้การได้เห็นลูกแรคคูตัวน้อยอยู่สบายมีค่ากับพวกเขากว่ามาก     อย่างไรก็ตามแม้จะผ่านไป 2 วันแล้วก็ไม่มีใครเห็นแม่แรคคูนเลย พวกเขาไม่แน่ใจว่ามันจะทิ้งลูกไว้แล้วไม่กลับมาอีกรึเปล่า ด้วยความเป็นห่วงลูกแรคคูนตัวน้อย บวกกับความจำเป็นที่ต้องเคลื่อนย้ายสินค้า พวกเขาก็เลยส่งมันให้กับเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ไปดูแลแทน     เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ตะดูแลลูกแรคคูนไปก่อน ระหว่างนั้นก็จะพยายามตามหาแม่แรคคูนแถวนั้นด้วย ถ้าหากเจอก็จะปล่อยลูกกลับไปอยู่กับแม่ของมัน พวกมันจะได้อยู่กับครอบครัว แต่ถ้านานเข้ายังหาตัวแม่แรคคูนไม่เจอ พวกเขาก็จะเลี้ยงพวกมันจนกว่าจะโตมากพอ แล้วค่อยปล่อยพวกมันกลับไปอยู่ตามธรรมชาติ…

เมื่อไหร่ก็ตามที่พ่อแม่มีลูกหลายคน มันก็จะมีปัญหาอิจฉากันเกิดขึ้นในหมู่พี่น้อง เพราะคิดว่าพ่อแม่รักอีกคนมากกว่า และแม้ว่าคุณจะเป็นลูกคนเดียวที่มีพี่เป็นหมาโกลเด้น ปัญหานี้ก็ยังเกิดอยู่ดี Holly Krakowski เป็นคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งมีลูกชายตัวน้อยชื่อว่า Luka นอกจากเธอจะมีลูกชายแล้ว พร้อมกันนั้นเธอก็ยังรับเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวน้อย Roger มาอยู่เป็นเพื่อนลูกชายด้วย     Roger เองฮับ   Roger และ Luka โตมาด้วยกันจนดูเหมือนเป็นพี่น้อง และแม้ว่า Holly จะพยายามรักทั้งคู่อย่างเท่าเทียมกัน เจ้าหมาน้อยก็ดูจะอิจฉาความรักที่เธอให้เด็กชายอยู่ดี เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณพ่อคุณแม่ (และอาจจะเป็นการแกล้ง Luka ด้วย) Roger ก็เลยขโมยจุกนมปลอมของเด็กชายมาเป็นของตัวเองซะเลย     ปกติถ้าเจอเด็กไม่ดีแย่งของเล่นคนอื่นแบบนี้ คงโดนตักเตือนหรือโดนตีไปแล้วล่ะ แต่เมื่อเห็น Roger คาบจุกนมปลอมแล้ว ความน่ารักของมันกลับทำให้ Holly ยกจุกนมปลอมให้มันไปเลย จากนั้นเจ้า Roger ก็ชอบคาบจุกนมปลอมไปไหนมาไหนบ่อยๆ คงเป็นเพราะเวลามันทำแบบนี้แล้วมีแต่คนให้ความสนใจมันยังไงล่ะ     มนุษย์หลงความน่ารักของเราแล้วล่ะสิ   ถึงแม้ว่า Holly จะรัก Roger และ Luka เท่ากัน…

การทำงานเป็นตำรวจต้องเสี่ยงเจอกับอันตรายอยู่บ่อยครั้ง แม้จะมีอาวุธติดตัวอยู่บางครั้งก็ยังไม่พอที่จะช่วยตัวเองได้ แต่พวกเขาก็อุ่นใจได้มากขึ้นเมื่อมีหมาตำรวจคู่หูคอยอยู่เคียงข้าง เหมือนอย่างครั้หนึ่งที่นายตำรวจ Frazier เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะถูกทำร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเองก็รอดมาได้เพราะเจ้าหมาตำรวจอยู่ด้วยเช่นกัน     ตอนนั้น Frazier กำลังขับรถตรวตตราตามปกติ เมื่อเขาขับไปถึงบริเวณถนนที่ไร้ผู้คน เขาก็เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ตรงข้างทาง รถคันนั้นปิดไฟมืดสนิท แต่ก็เห็นได้ว่ามีคนนั่งอยู่ นายตำรวจจึงลงไปตรวจสอบดูใกล้ๆ เผื่อว่าคนขับต้องการความช่วยเหลือ แต่พอเขาเข้าไปใกล้รถ จู่ๆ ก็มีชาย 2 คนโผล่มาจากพุ่มไม้แล้วข้ามาทำร้ายเขา Frazier พยายามถอยหนีแล้ว แต่โชคร้ายที่เขาสะดุดล้มทำให้หนีไปไม่ทัน     เจ้าหน้าที่ที่ทำการสืบสวนเรื่องนี้เล่าว่า “เจ้าหน้าที่สะดุดล้มลงกับพื้นตอนที่พยายามถอยห่างจากรถคันนั้น ตอนนั้นชายทั้ง 3 คนรวมถึงคนขับก็เข้ามาทำร้ายเขา และใช้ของมีคมฟันจนหน้าผากเขาเป็นแผล แล้วลากเข้าไปในป่า” ด้วยความที่ Frazier ก็ไม่ได้ตัวใหญ่อะไรเขาจึงต่อกรกับชาย 3 คนนั้นไม่ได้เลย โชคดีที่เขาสามารถกดรีโมทเปิดประตูรถตำรวจได้ ทำให้ Lucas หมาตำรวจคู่หูออกมาจากรถเพื่อช่วยเขาได้ทันเวลา     Frazier บอกว่า “ผมมองไม่เห็นอะไรเลยเพราะเลือดเข้าตา แต่ผมก็ได้ยินเสียงเจ้าหมากำลังมาช่วย มันขู่และเห่าอย่างกับหมาป่าจนทำให้พวกนั้นหนีไป”     หลังจากนั้น Frazier ก็กลับมาได้อย่างปลอดภัย…

ในบรรดากระต่าย จะมีอยู่บางสายพันธุ์ที่แม้จะโตเต็มตัวแล้วก็ยังมีขนาดเล็กอยู่ บางครั้งพวกมันจึงถูกเรียกว่า ‘กระต่ายแคระ’ ตัวอย่างสายพันธุ์ของกระต่ายพวกนี้ก็เช่นสายพันธุ์ Netherland Dwarf, Holland Lop และ Dwarf Hotot เป็นต้น โดยสายพันธุ์พวกนี้จะเป็นที่ต้องการของคนเลี้ยงกระต่าย เพราะมันตัวเล็กน่ารักอยู่เสมอ     ทว่าบางครั้งคนที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องกระต่ายมากพอ อาจถูกหลอกให้ซื้อกระต่ายเด็กราคาถูกแทน ซึ่งกระต่ายพวกนี้ตอนยังเล็กจะดูคล้ายกระต่ายสายพันธุ์แคระ แต่พอโตมาจะตัวใหญ่เพราะเป็นสายพันธุ์ตัวโต วันนี้เราจึงขอนำภาพจากคุณ Sirinya Boonluarn ผู้ซึ่งซื้อกระต่ายที่คนขายบอกว่าแคระมา แต่พอเลี้ยงต่อมาแล้วตัวโตเฉยเลย มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังเป็นตัวอย่างกันนะ   . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…

ใครที่เลี้ยงแมวก็จะรู้ดีว่ามันไม่ค่อยฟังอะไรที่เราบอกเท่าไหร่หรอก ยิ่งเป็นเรื่องห้ามให้นอนตรงที่เราไม่อยากให้นอน มันก็จะทำตามใจตัวเองอยู่ดี มนุษย์เราเลยคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า ‘หนามกันแมว’ ขึ้น เพราะคิดว่าหากเอาไปวางไว้แล้วเจ้าแมวจะไม่ไปนอนตรงนั้น เนื่องจากหนามจะแทงตัวทำให้มันนอนได้ไม่สบาย แต่มนุษย์คงจะดูถูกแมวมากไปหน่อย พอเอาหนามกันแมวออกมาใช้งานกันจริงๆ เจ้าแมวมันก็นอนบนหนามได้สบายๆ เลย แถมบางทียังดูเหมือนมันตั้งใจไปนอนบนหนามโดยเฉพาะด้วย…หรือว่ามันกำลังเยาะเย้ยมนุษย์อยู่!?   นี่คือหนามกันแมวที่มนุษย์คิดค้นขึ้น   เพราะคิดว่าถ้าแมวนอนไม่สบายตัว มันก็คงจะย้ายไปนอนที่อื่น   แต่เจ้าแมวมันก็ไม่แคร์ นอนทับหนามอยู่ดี   เจ้ามนุษย์ประดิษฐ์อะไรไม่เข้าท่าเลย   ถ้าแมวจะนอน มีหนามก็ไม่สน ขอทำเลดีเป็นพอ   นี่พวกเอ็งเป็นโยคีฝึกตนรึไง   ดูมันนอนสบายกว่าตรงที่ไม่มีหนามอีก   พวกแกจะเอาอะไรมาสู้ก็ไม่ชนะเราหรอกมนุษย์   เอามาให้เรากัดเล่นเหรอ ขอบใจนะ   หึหึ คิดว่าแค่มีหนามแมวจะเข้าใกล้ไม่ได้เหรอ…ดูถูกกันเกินไปแล้ว!!   เบาะใหม่นอนสบายดีนี่มนุษย์ ขอบใจที่เสียเงินซื้อมานะ   เอ้อมนุษย์นี่เข้าใจคิดนะ ทำที่นวดแขนตอนเราดูวิวให้ด้วย   หนามแค่นี้ หลบนิดเดียวก็นอนได้แล้วย่ะ   พวกมนุษย์อ่อนหัดมากที่คิดว่าแมวกลัวหนามปลอมๆ นี่   เครื่องนวดเท้านี่แปลกดีนะทาส   เหมือนมีคนปูพรมให้เดินเป็นทาง…

สิงโตสาวและสิงโตหนุ่มอยู่ในกรงเดียวกันมานานหลายปี แล้วก็ยังมีลูกด้วยกันถึง 3 ตัวด้วย แต่ด้วยสาเหตุบางอย่างทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันจนสิงโตหนุ่มตายไปเลย     สิงโตสาว Zuri และสิงโตหนุ่ม Nyack อยู่ด้วยกันในสวนสัตว์ The Indianapolis Zoo ในรัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา สิงโตทั้ง 2 ตัวอยู่ด้วยกันมานาน 3 ปีแล้ว และมีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ในสวนสัตว์ที่มีการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดีพวกมันไม่น่าจะเป็นอันตรายได้เลย   Nyack   Zuri     แต่เช้าวันหนึ่งคนดูแลสวนสัตว์ได้ยินเสียงคำรามจากกรงสิงโตดังมากผิดปกติ เมื่อเข้าไปดูก็เห็นว่า Nyack และ Zuri กำลังต่อสู้กันอย่างรุนแรง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์จะเข้าไปแยกสิงโตทั้ง 2 ตัวได้ทัน Zuri ก็ใช้เท้ากดคอของ Nyack ไว้จนมันนอนแน่นิ่งไปในที่สุด     ทางสวนสัตว์จึงออกมาประกาศว่า “สวนสัตว์ของเราขอแจ้งข่าวร้ายให้ทราบว่าสิงโตหนุ่มวัย 10 ปี Nyack ได้เสียชีวิตไปตอนต้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันกับสิงโตสาว Zuri เราจะพยายามทำการสืบสวนดูว่าอะไรเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกมันทะเลาะกัน…เจ้า Nyack เป็นสิงโตที่ดี พวกเราจะคิดถึงมัน…

ลูกแมวตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ถูกพบพร้อมกับพี่น้องของมันในสวนหลังบ้านของมนุษย์ในนิวซีแลนด์ พวกมันมีรูปร่างแย่มากๆ และไม่สามารถเปิดตาได้ เจ้าของบ้านจึงพาพวกมันไปยังคลินิกสัตว์ทันที จากนั้นคุณหมอก็ได้ติอต่อไปหา Samantha Boston ผู้ช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่น เพื่อแจ้งให้ทราบว่าลูกแมวต้องการบ้านอุปถัมภ์     Samantha บอกว่า “ลูกแมวเหล่านั้นเป็นโรคขาดสารอาหาร แถมยังป่วยด้วยโรคไข้หวัดแมว และมีพยาธิหนอนหัวใจ” แม้ลูกแมวทุกตัวจะพยายามสู้อย่างเต็มที่ แต่น่าเศร้าที่ลูกแมวตัวหนึ่งไม่รอด เหลือแค่ Luna กับพี่ชาย Logan ที่ค่อยมีอาการดีขึ้นและเริ่มกินอาหาร โดยเฉพาะ Luna มันเป็นแมวนักสู้ แม้จะตัวเล็กที่สุดของครอกก็ตาม     ตาและจมูกของ Luna ไม่สามารถเปิดได้ เพรามันติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนอย่างรุนแรง มันมองเห็นได้ไม่ชัด และหายใจไม่ค่อยสะดวก แต่มิ้วน้อยไม่เคยยอมแพ้เลย มันอยากมีชีวิตอยู่ มันกินอย่างทุกอย่างที่ผู้ดูแลเอาให้ แม้รสชาติจะแย่มากก็ตาม ดูเหมือนมันรู้ว่ายาพวกนี้จะช่วยให้มันดีขึ้น หลังจากที่ตาของ Luna ได้รับการทำความสะอาดจนสามารถเปิดได้แล้ว Samantha สังเกตเห็นว่าทั้งมันและพี่ชาย ตาเหล่ทั้งคู่     อย่างไรก็ตาม จากการตรวจโดยคุณหมอพบว่า สายตาของมันไม่ได้มีผลใดๆ กับร่างกายเลย พวกมันสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ เพียงแค่มีสายตาหวานๆ ซึ่งทำให้พวกมันน่ารักขึ้นด้วย ตั้งแต่เริ่มแรก Luna ชอบเดินตามแม่บุญธรรมไปทุกที่ และอยากทำทุกอย่างร่วมกับเธอ…

เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนขณะที่ Olena Kagui อยู่ในสถานีรถไฟและเลื่อนดูเฟซบุ๊กฆ่าเวลา แต่แล้วเธอก็เห็นบางที่ทำให้นิ้วของเธอนิ่งอยู่บนจอโทรศัพท์ มันเป็นโพสต์เกี่ยวกับพิตบูลล์ตัวนี้ที่มีแววตาเศร้ามากๆ เพราะมันกำลังจะถูกการุณยฆาตในศูนย์พักพิงที่บรุ๊คลิน นิวยอร์ก Kagui บอกว่า “ปกติแล้วฉันมักจะเลื่อนผ่านโพสต์แบบนี้ เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกเศร้าที่ไม่สามารถช่วยสัตว์ทุกตัวที่ต้องการความช่วยเหลือได้ แต่ใบหน้าของเจ้าหมาตัวนี้ ทำให้ฉันไม่สามารถเลื่อนผ่านได้”     ในโพสต์นั้นอธิบายว่า “พิตบูลล์ตัวนี้ชื่อ Smiley มันเป็นมิตรและชอบเข้าสังคม มันถูกฝึกให้อยู่กับครอบครัวและมันชอบเล่นกับของเล่นที่มีเสียง” “เหตุผลเดียวที่ครอบครัวตัดสินใจเอามันมาทิ้งในศูนย์พักพิงคือ พวกเขามีลูกน้อย น่าเศร้าที่ Smiley ยังหาบ้านใหม่ไม่ได้ ถ้าไม่มีใครรับเลี้ยงมันในเร็วๆ นี้ มันจะต้องตายในไม่ช้า”     Kagui บอกว่า “ฉันเริ่มร้องไห้เมื่อเห็นว่าไม่มีคอมเม้นต์ไหนที่บอกว่าจะรับเลี้ยงมันเลย เมื่อสามีเห็นฉันร้องไห้ และได้อ่านโพสต์นั้น เขาพูดกับฉันว่า ‘เรายังรับเลี้ยงสุนัขตอนนี้ไม่ได้’” แต่ Kagui มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเจ้าหมาตัวนี้ เธอจึงพูดคุยกับสามีเกี่ยวกับการอุปถัมภ์ Smiley หลังจากที่ศึกษาข้อมูลเสร็จ พวกเขาก็ติดต่อไปยัง Pound Hounds Res-Q     Pound Hounds Res-Q เป็นกลุ่มช่วยเหลือที่วางแผนจะพาเจ้าพิตบูลล์ออกจากศูนย์พักพิง แต่สิ่งเดียวที่พวกเขาขาดคือบ้านอุปถัมภ์ ดังนั้น Kagui กับสามีจึงอาสาเติมเต็มสิ่งนั้น ไม่กี่วันต่อมา หลังจากทำหมันเสร็จเรียบร้อย Smiley…

สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำเรื่องน่าทึ่งได้เสมอ และบางครั้งพวกมันก็สามารถมีชีวิตรอดได้ในสถานการณ์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ที่รอดจากการเดินทางเป็นร้อยๆ กิโล ทั้งๆ ที่มันติดอยู่ในกันชนรถ เรื่องมีอยู่ว่าขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังอยู่ระหว่างทางไปเที่ยวในประเทศ และเมื่อขับมาได้สักพัก เขาก็ขับชนใส่หมาตัวหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ     เขารู้ว่าได้ชนกับบางอย่าง แต่เนื่องจากเขาขับรถเร็วมากเลยไม่ได้หันกลับไปดูหรือลงไปตรวจสอบแต่อย่างใด ตอนนั้นเขาคิดแค่สองอย่างคือ ถ้าสัตว์ตัวนั้นไม่หนีไป มันก็คงตายอยู่ตรงนั้น แม้จะรู้สึกแย่แต่ชายคนนั้นคิดว่าคงไม่เป็นไรที่จะเดินทางต่อไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงเห่า เขาไม่แน่ใจว่าเสียงมาจากไหน เลยเลื่อนหน้าต่างลงและลดเสียงวิทยุ เมื่อตั้งใจฟังดีๆ เหมือนกับว่าเสียงนั้นดังมาจากหน้ารถของเขา เขาจึงหยุดรถข้างทางแล้วลงไปดู ก็พบว่าสุนัขที่เขาชนติดอยู่ที่กันชนหน้ารถ     เจ้าหมาติดอยู่ในสภาพนี้เป็นเวลานาน เห็นได้ชัดว่ามันได้รับบาดเจ็บและกลัวตายมาก มันติดอยู่ในกันชนเป็นระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร ชายคนนั้นจึงช่วยเจ้าหมาออกจากกันชนและพามันไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุด เจ้าหมาจึงได้รับการตรวจพร้อมรักษาอาการบาดเจ็บต่างๆ     อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี เพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้เจ้าหมาเป็นแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจรับเลี้ยง เพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำให้เจ้าหมาได้ ชายคนนั้นบอกว่า “มันรอดสถานการณ์ที่อันตรายมากๆ และผมเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ นี่อาจเป็นโชคชะตาของผมกับเจ้าหมาตัวนี้ก็ได้”      เจ้าหมาตัวนี้ถือว่าโชคดีมากๆ มันรอดจากการถูกชนไม่พอ มันรอดจากการอยู่ในกันชนถึง 300 กิโลเมตรด้วย ที่สำคัญ หลังจากได้รับการรักษาเสร็จ มันก็ถูกรับเลี้ยงทันทีโดยคนที่ชนมัน…

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาระหว่างที่ Nikki Martinez ผู้ช่วยเหลือและนักอุปถัมภ์สัตว์จากลาสเวกัส กำลังออกช่วยเหลือสัตว์ในท้องถิ่น เธอได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ หญิงคนนั้นบอกว่าเธอเลี้ยงแมวไว้ในบ้าน 20 ตัว ที่อยู่นอกบ้าน 10 ตัว และลูกแมวอีก 8 ตัว และยอมรับว่าไม่สามารถจ่ายการรักษาพยาบาลให้ทั้งหมดนี้ได้     หญิงคนนั้นจึงยอมปล่อยแมวที่เลี้ยงไว้ทั้งหมดให้กับ Nikki เพื่อให้พวกมันได้รับการดูแลทางการแพทย์ รวมไปถึงฉีดวัคซีน ทำหมัน และหาบ้านที่ดีต่อไป ตอนแรก Nikki กับสามีคิดว่ามีลูกแมวแค่ 8 ตัวเท่านั้นที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าพวกเขาได้ยินเสียงลูกแมวร้องดังมาจากกองขยะขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้ที่จอดรถของหญิงคนนั้น     สามีของ Nikki จึงรื้อขยะออกอย่างระมัดระวัง และแล้วพวกเขาก็เจอลูกแมวตัวน้อยที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในนั้น เท่านั้นยังไม่พอ ข้างมิ้วน้อยยังมีศพพี่น้องของมันอีก 3 ศพ ลูกแมวที่ยังมีชีวิตอยู่ พยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่เนื่องจากจุดที่มันอยู่ค่อนข้างไกลมาก Nikki กับสามีจึงไม่สามารถเอื้อมมือไปคว้ามันได้     สถานการณ์ของลูกแมวตอนนั้นดูแย่มากๆ ดังนั้นทั้งคู่จึงตั้งใจว่าต้องพามันออกจากตรงนั้นให้ได้ กระทั่งผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง พวกเขาก็สามารถพาแมวน้อยออกจากพื้นที่นั้นได้อย่างปลอดภัย     Nikki บอกว่า “มันอยู่ในที่ที่อันตรายมากๆ ฉันจึงรู้สึกโล่งใจที่สามารถพามันออกมาจากสภาพแวดล้อมที่สกปรกนั้นได้สำเร็จ”…

หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่าสำนักข่าวแมวของเรามีแมวจริงๆ รึเปล่า? แน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้ว เป็นสำนักข่าวแมวก็ต้องมีแมวสิเนอะ และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มารู้จัก 1 ในเจ้านายประจำออฟฟิศเหมียวกัน มันคือเจ้า เว็นเจอร์ (Venture) แมวที่มึนที่สุดเท่าที่เรารู้จัก เว็นเจอร์เป็นหนึ่งในบรรดาแมวของ #ประธานเหมียว มันอาศัยอยู่ในออฟฟิศเลย ในทางหนึ่งเลยบอกได้ว่าเหมียวทั้งหลายมาอาศัยบ้านของมันอยู่เพื่อทำงาน     หน้าที่ของมันก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก ก็แค่กินข้าว นอนหลับ กินข้าว นอนหลับ กินข้าว นอนหลับ…และเดินตรวจตราความเรียบร้อยในออฟฟิศเป็นบางครั้ง(น้อยครั้งจริงๆ) เท่านั้นเอง เห็นขนฟูๆ ยุ่งๆ แบบนี้หลายคนคงไม่คิดหรอกว่าเว็นเจอร์จะเป็นแมวพันธุ์สก็อตติช แต่ที่ขนมันเป็นแบบนี้มีสาเหตุมาจากการที่มันเลียขนตัวเองไม่ค่อยเป็น มันก็เลยดูไม่เนี๊ยบ     ความพิเศษของเว็นเจอร์ก็คือมันเป็นโรคออทิสติกแมว ทำให้มันดูเหม่อลอยมากๆ แล้วก็ไม่ค่อยเต็มสักเท่าไหร่ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือมันชอบเดินเซไปเซมา แล้วก็โดดขึ้นที่สูงไม่ได้ เห็นแบบนี้เมื่อตอนเด็กเว็นเจอร์เคยผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแล้วนะ เนื่องจากมันเคยเป็น “โรคหัดแมว” มาก่อนจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ตอน #ประธานเหมียว พบว่ามันป่วยและตรวจที่โรงพยาบาลสัตว์ คุณหมอบอกว่ามีโอกาสรอดแค่ 50-50 ให้เจ้าของทำใจไว้ได้เลย แถมยังต้องขังแยกในห้องปลอดเชื้อ เฝ้าประคบประหงมอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ใกล้กับแมวตัวอื่น เพราะถ้าติดไปยังแมวเด็กตัวอื่น มันคือโรคอันตรายมาก แต่โชคดีที่มันสามารถฟื้นตัวจนหาย เลยมีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้…  …

เจ้าหมาหายตัวไปจากเจ้าของเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น แต่ระยะเวลาสั้นๆ แค่นี้ก็ทำให้เธอเป็นห่วงมันจนแทบแย่ เธอจึงดีใจมากที่ได้เจอมัน เจ้าหมาเองก็ดูคิดถึงเธอมากเช่นกัน ตอนที่ Katherine Evans พาเจ้าหมา Grizzy ออกไปเดินเล่นด้วยกันในสวนสาธารณะ จู่ๆ มันก็วิ่งออกไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว ทำให้สายจูงหลุดจากมือเธอไป และเธอก็วิ่งตามมันไปไม่ทัน     ในคืนนั้นเธอและเพื่อนพยายามออกตามหาเจ้าหมาแล้ว แต่ถึงจะเรียกยังไงก็ไม่มีเสียงมันตอบกลับมาเลย พวกเธอก็เลยต้องกลับไปทั้งที่ยังไม่เจอมัน วันต่อมาเธอก็ยังออกมาตามหามันอีกอย่างไม่ลดละ น่าเสียดายที่เธอและเพื่อนก็ยังไม่พบวี่แววของมันอีกเช่นเคย เธอเริ่มเป็นห่วงความปลอดภัยของมันมากขึ้น เพราะมันไม่น่าจะเอาตัวรอดได้เองเป็นเวลานาน     ในขณะที่เธอใกล้จะหมดหวัง วันที่ 3 ที่ Katherine ออกมาตามหาเจ้า Grizzy เธอก็พบว่ามีคนที่ไม่สนิทกันมากมายมาช่วยเธอตามหาเจ้าหมาอีกแรง พวกเขาเป็นเจ้าของหมาตัวอื่นที่เคยเจอกันระหว่างที่เธอพาเจ้าหมามาเดินเล่นในสวนสาธารณะ พวกเขาและหมาตัวอื่นรวมตัวกันเพื่อมาช่วยตามหา Grizzy โดยเฉพาะเลยทีเดียว     ด้วยความร่วมมือจากทุกคน ในที่สุดวันนั้น Katherine ก็ได้เจอกับเจ้าหมาอีกครั้ง มันติดอยู่กับต้นไม้เนื่องจากสายจูงของมันไปพันกับกิ่งไม้เข้าทำให้มันดิ้นไปไหนไม่ได้ นั่นแปลว่ามันไม่ได้กินอะไรมา 64 ชั่วโมงแล้ว โชคดีที่มันยังมีชีวิตรอดอยู่ แถมยังกระโดดโผเข้ามาหาเธอด้วยความดีใจเป็นที่สุด ทำให้เธอเองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นกันที่ได้เห็นว่าเจ้าหมาปลอดภัย   เจ้าหมากับเจ้าของดีใจมากที่ได้เจอกัน    มีคนแปลกหน้ามากมายมาช่วยเธอตามหาเจ้าหมา…

ชีวิตที่เกิดมาไม่สมบูรณ์ต้องพบเจอกับความทุกข์เหรอ? คงไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไปหรอก ดูอย่างเจ้าหมาปอมเมอเรเนียน 3 ขาตัวนี้สิ ชีวิตของมันดูมีความสุขจะตาย     เจ้า Minzi อายุ 3 ขวบมีขาเพียงแค่ 3 ข้างเพราะเคยมีคนทำมันหลุดมือจนขาหัก ทำให้ต้องตัดขาทิ้งไป ถ้ามันอยู่ตามลำพังชีวิตคงจะลำบากน่าดู แต่เจ้าหมาโชคดีที่มีเจ้าของเป็น Sandra และ Andre พวกเขาดูแลมันอย่างดีที่สุด ทำให้เจ้าหมาเป็นหมาที่ร่าเริงแม้จะมีร่างกายไม่สมบูรณ์     ความสดใสของ Minzi มีมากอย่างท่วมท้น มันมากพอจะแบ่งให้กับแฟนคลับที่ติดตามทางอินสตาแกรมได้แทบทุกวันเลย แล้วยิ่งเมื่อมันได้อยู่รวมกับพี่น้องหมา Monty, Lia, Cora และ Aisha แล้ว ยิ่งทำให้ชีวิตของเจ้าหมาในครอบครัวนี้น่าติดตามยิ่งขึ้น     ใกล้ถึงวันฮัลโลวีนแล้ว ต้องเตรียมฟักทองไว้สักหน่อย   แปลงร่างเป็นกวาง   แม่บอกว่าอย่ามองกล้องไง โถ่   อ้าว มีเด็กดื้อตัวนึงไม่เอียงคอตามพ่อ   พวกเราเป็นโจรสลัดตาเดียว   ชุดนี้ใส่แล้วเย็นดี   ฮึบๆ มี…

เวลาที่คนเราทำความดีเอาไว้จนมีคนยกย่อง ก็มักจะมีแผ่นป้ายสลักชื่อหรือรูปปั้นของตัวเอง เพื่อให้คนอื่นได้ทราบถึงความดีที่ตัวเองทำ บริษัท TrustedHousesitters คิดว่าในเมื่อคนเรามีแผ่นป้ายยกย่องของตัวเองแล้ว สัตว์เลี้ยงที่ดีก็ควรจะได้รับเกียรตินี้บ้าง พวกเขาจึงจัดทำแผ่นป้ายให้พวกมันเอง      Trusted House Sitters เป็นบริษัทจัดหาพี่เลี้ยงเด็กหรือคนดูแลสัตว์เลี้ยงในประเทศอังกฤษ จากการที่พวกเขาได้คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงมานาน พวกเขาจึงอยากทำบางอย่างให้พวกมันเป็นการตอบแทน โดยเลือกที่จะมอบป้ายยกย่องความดีให้กับสัตว์เลี้ยงที่น่าชื่นชมทั้งหลาย ตัวไหนที่ได้ไปก็จะได้รับป้ายสีเชียวที่มีหูแหลมๆ พร้อมเขียนชื่อและวีรกรรมอันน่าชื่นชมของมันไว้ให้ทุกคนที่ผ่านไปมาได้เห็นนั่นเอง     แต่พวกเขาก็ไม่ได้ให้ป้ายนี้กับสัตว์เลี้ยงทุกตัวหรอกนะ ใครที่อยากให้สัตว์เลี้ยงที่บ้านได้ป้ายนี้ต้องส่งรูป ข้อมูล และความดีของสัตว์เลี้ยงมาให้ก่อน ถ้าทางบริษัทเห็นว่ามันคู่ควรจะได้พวกเขาถึงจะทำป้ายให้ไป และนี่คือตัวอย่างเด็กดีบางส่วนที่ได้ป้ายนี้ไปประดับบ้านกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลองไปดูกันว่าพวกมันมีความดีอะไรถึงถูกยกย่องให้เป็นเด็กดี   แมวเหมียว Smudge ช่วยไล่เด็กเกเรไม่ให้มารังแกทาสของมัน   เจ้าหมา Flora ผู้ใช้ความสามารถในการดมกลิ่นช่วยเจ้าของที่กำลังจะเป็นลมจากโรคประจำตัวได้   Alfie ปั๊กผู้มอบอ้อมกอดให้กับเด็กทุกคนที่ต้องการ   Waffle หมาผู้ทำหน้าที่เป็นหูให้กับเจ้านายหูหนวก   แมวเหมียว Tink ช่วยปลุกทาสและลูกๆ ของเธอ ทำให้ทุกคนหนีจากไฟที่กำลังไหม้บ้านได้ทันเวลา   หมา Cocoa ช่วยให้เจ้านายที่ป่วยเป็นออทิสติกหัดเดินจนเธอเดินเองได้   เจ้าเหมียว Prince Ozzy…

เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะมีสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงที่ตัวเองอยากเลี้ยงเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่รู้รึเปล่าว่าจริงๆ แล้วสายพันธุ์นั้นไม่สำคัญเลย ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะเป็นสายพันธุ์ไหน ถ้าเรารักมันสัตว์เลี้ยงตัวนั้นก็จะน่ารักที่สุดในโลก     คุณ พีรดา หรือคุณ พลอย เป็นหญิงที่ชื่นชอบแมว เธอตั้งใจไว้ว่าถ้าได้เลี้ยงแมวเธอจะเลี้ยงสายพันธุ์อเมริกันชอร์ตแฮร์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์โปรดของเธอ พอเธอมีโอกาสจะเลี้ยงแมวจริงๆ เธอก็เลยไปหาซื้อแมวสายพันธุ์อเมริกันชอร์ตแฮร์มาจากจตุจักร แล้วก็ได้เจ้า แฟนต้า มาอยู่ด้วย     คุณพลอยดีใจมากที่ได้เลี้ยงแมวสายพันธุ์ที่ใฝ่ฝันสักที แถมยังได้เจ้าแฟนต้าที่ถูกใจมาด้วย ถึงท่าทางมันจะไม่ค่อยเต็มบาทสักเท่าไหร่เธอก็ชอบมันอยู่ดี แต่ฝันหวานของเธอก็อยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะเธอได้ค้นพบความจริงที่น่าตกใจ ตอนที่พาเจ้าแฟนต้าไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ…     สะดุ้งอะไรของแก…   ระหว่างที่ตรวจสุขภาพอยู่คุณหมอก็ถามคุณพลอยว่าแฟนต้าเป็นแมวพันธุ์อะไร เธอจึงตอบด้วยความภูมิใจว่า “อเมริกันชอร์ตแฮร์ค่ะ” นั่นทำให้คุณหมอหัวเราะออกมาในทันที แล้วบอกต่อว่า “ไม่ใช่หรอกค่ะ ลายนี้หน้าบ้านหมอเต็มเลย” ทำให้คุณพลอยรู้ว่าตอนนี้เจ้าแฟนต้าเป็นแมวพันธุ์อะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่ที่แน่ๆ มันไม่ใช่อเมริกันช็อตแฮร์แล้ว…     เธอบอกว่าความรู้สึกตอนนั้นเหมือนโดนลมพัดกระแทกหน้าตึงเลย ไม่ใช่เพราะว่าเจ้าแมวไม่ใช่พันธุ์ที่อยากเลี้ยงเท่านั้นนะ ที่เจ็บกว่าก็คือโดนคนขายหลอกให้จ่ายเงิน 5,500 บาทแล้วได้แมวบ้านนี่แหละ! ตอนนี้คุณพลอยก็เลยได้เลี้ยงแมวบ้านราคาแพง แถมนิสัยไม่ค่อยเต็มบาทด้วย เธอคิดว่าถ้ารู้แบบนี้แต่แรกไปอุ้มที่วัดมาดีกว่าจะได้ไม่เสียดายเงิน     อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้คุณพลอยทิ้งแฟนต้า มันไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แล้วเธอก็รักมันไปแล้วด้วย เธอก็เลยเลี้ยงมันต่อเหมือนที่ตั้งใจไว้ตอนแรก…

เม่น อาจจะไม่เป็นที่นิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะกลัวว่าหนามบนตัวมันจะทำเราเจ็บก็ได้ แต่ถ้าใครได้ลองอยู่ด้วยแล้ว คงเข้าใจในความน่ารักของพวกมันได้ดี เจ้า Rick เป็นตัวอย่างของความน่ารักฉบับเม่นแคระได้ดีเชียวล่ะ มันเป็นเม่นแคระจากประเทศยูเครน ที่เพิ่งอยู่กับ Diana ได้ไม่ถึงปี แต่ก็ทำให้เธอตกหลุมรักหัวปักหัวปำแล้ว ส่วนสาเหตุที่เธอรักมันคงไม่ต้องอธิบายกันให้มาก เป็นเพราะความน่ารักในทุกมุมของเจ้า Rick นี่แหละ เม่นน้อยทำให้เธอยิ้มออกเสมอเวลาที่ได้มองมัน แล้วที่เธอชอบอีกอย่างก็คือมันเป็นนายแบบที่ดี ให้ความร่วมมือในการถ่ายรูปตลอดเลย   นั่นเอาไว้บูชานะ ห้ามกิน   อยากเล่นสเก็ตบอร์ดบ้าง มันเท่ดี   เราไม่ได้แอบกินขนมนะ   ให้ช่วยพิมพ์งานไหม?   เวลาลูบต้องระวังหนามนิดนึงนะ   ตอนหลับดูไม่มีพิษภัยเลย   จะออกไปแตะขอบฟ้า .   เหมือนน้องกำลังใส่วิก   กอดเม่นต้องทำแบบนี้   ดอกไม้งามย่อมมีหนาม   ยกสูงๆ อีก   จะเอาแต่กินไม่ได้ ต้องออกกำลังกายนิดนึง จะได้ไม่อ้วน   ที่วิ่งไม่ได้อยากออกกำลังกายนะ แค่แก้เบื่อ   ตอนว่างก็อ่านหนังสือด้วย เจ๋งป่าว…

เจ้าหมาทำงานกับตำรวจมานานจนถึงเวลาปลดประจำการ ถึงแม้ตัวของมันจะไม่ได้ทำงานต่อแล้ว แต่ความดีของมันจะถูกยกย่องไปอีกนาน สุนัขตำรวจ Mojo ทำงานให้กับตำรวจในประเทศอังกฤษ มันเป็นสุนัขตำรวจที่มีความสามารถในการดมตรวจจับระเบิด และผลงานที่โดดเด่นซึ่งทำให้คนชื่นชมมันมากก็คือการช่วยเหลือในเหตุระเบิด Manchester Arena ในปี 2017 ในวันปลดประจำการของมัน องค์กรช่วยเหลือสัตว์ PDSA จึงได้มอบรางวัล PDSA Order of Merit เพื่อยกย่องความดีของเจ้าหมาด้วย     เจ้าหน้าที่ Phil Healy ซึ่งเคยเป็นคู่หูของมันเล่าว่าวันที่เกิดเหตุทั้งคู่ออกจากเวรแล้ว แต่เมื่อได้รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดก็รีบไปยังที่เกิดเหตุทันที เขาและเจ้าหมาไปถึงที่เกิดเหตุเป็นกลุ่มแรกๆ และช่วยกันตรวจตราดูระเบิดที่อาจมีหลงเหลืออยู่ นอกจากนี้ก็ยังช่วยเหลือคนในแถบนั้นจนถึงเช้าของอีกวันหนึ่งเลย นายตำรวจเล่าว่า “เจ้าหมาทำงานดีอยู่แล้ว แต่มันมีบางอย่างที่ไม่เหมือนตัวอื่น มันดูเหมือนไม่อยากจะอยู่ในสถานการณ์แย่ๆ นั่นเลย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ตั้งใจทำงานและตรวจตราเพื่อให้หน่วยติดอาวุธเคลียร์พื้นที่ได้อย่างปลอดภัย”     นอกจากคู่หูแล้วเจ้าหน้าที่คนอื่นรวมถึงองค์กรอื่นๆ ก็ชื่นชมเจ้าหมาเช่นกัน พวกเขาจะไม่มีวันลืมผลงานและความทุ่มเทที่มันเคยทำเอาไว้เลย ปัจจุบัน Healy ไม่ได้เป็นคู่หูของเจ้าหมาแล้ว แต่เขากลายเป็นเจ้านายของมันแทน เนื่องจากเขารับเลี้ยงมันหลังจากปลดประจำการ เจ้าหมาจึงได้ใช้ชีวิตหลังทำงานกับคนที่มันรักเหมือนเดิม      ที่มา: Lad Bible, British…

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักเรียนและนักศึกษาก็คือการเรียน  แต่บางครั้งการเรียนก็ยังสำคัญไม่เท่ากับสัตว์เลี้ยงแสนรัก เหมือนกับที่สาวคนนี้เลือกให้เจ้าหมาได้นอนสบายๆ แลกกับการที่เธอทำงานไม่เสร็จ Rebecca Stack เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เธออยู่กับครอบครัวและเจ้าหมา Seamus ที่เธอรักมากๆ มันเปรียบเสมือนลูกชายของเธอเลยทีเดียว     เล่นกับน้องหมาหน่อย https://twitter.com/beckxstack/status/1036315665521618947   มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอต้องเขียนบทความส่งให้อาจารย์ ซึ่งมันก็เป็นงานชิ้นหนึ่งที่เธอสามารถทำเสร็จได้ตามกำหนดหากไม่มีปัญหาอะไร ทว่าปัญหาก็มักมาในรูปแบบที่เธอคาดไม่ถึงเสมอ ครั้งนี้ปัญหาของเธอคือการที่เจ้า Seamus ดันมานอนทับบทความของเธอแล้วหลับปุ๋ยไปซะอย่างนั้น     หลายคนอาจจะมองว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่ปลุกเจ้าหมาหรือดึงบทความมาเขียนต่อที่อื่นซะก็สิ้นเรื่อง แต่สำหรับ Rebecca แล้วการปล่อยให้เจ้า Seamus หลับสบายๆ สำคัญกว่างานเป็นไหนๆ เธอจึงหาทางออกโดยการเจรจาเรื่องงานกับอาจารย์แทน โดยส่งอีเมลหาอาจารย์ว่า “สวัสดีค่ะ Mrs. B ตอนที่ฉันกำลังเขียนบทความหมาของฉันก็หลับทับมันพอดี ฉันเกรงว่าฉันคงจะทำงานเสร็จไม่ทันวันพรุ่งนี้ ฉันหวังว่าอาจารย์จะเข้าใจที่ฉันไม่อยากปลุกเจ้าหมาให้ตื่นนะคะ ขออภัยจริงๆ จาก Rebecca Stack”     น่าเสียดายที่อาจารย์ไม่ได้อินไปกับความรักหมาของ Rebecca ด้วย เธอก็เลยต้องโดนหักคะแนนเพราะส่งงานช้าไปโดยปริยาย แต่ดูเหมือน Rebecca จะไม่ได้ใส่ใจที่โดนหักคะแนนเท่าไหร่หรอก อาจเป็นเพราะว่าการได้เห็นเจ้า Seamus หลับสนิทมันคุ้มค่าสำหรับเธอแล้ว    …

สิงโตเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าป่า สัตว์ส่วนใหญ่จึงหวาดกลัวมัน รวมทั้งมนุษย์เราด้วย แต่ใครจะคิดล่ะว่าพวกมันก็อ่อนโยน มุ้งมิ้งได้เหมือนกัน หนึ่งในนั้นคือ Filya สิงโตที่อาศัยอยู่ใน Taigan Safari Park ประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นสวนสัตว์ของครูฝึกสิงโตผู้โด่งดังอย่าง Oleg Zubkob     ล่าสุดได้มีการเผยแพร่คลิปของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ที่ได้ใกล้ชิดกับสิงโตในแบบที่หลายคนไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ใกล้กับพวกมันมากขนาดนี้มาก่อน     ในคลิปนั้น มีนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง กำลังนั่งรถที่ขับโดย Zubkob เพื่อเที่ยวชมสัตว์ภายในสวนสัตว์ ระหว่างนั้น พวกเขาเห็นสิงโตนั่งติดกับกำแพง     เมื่อขับเข้าไปใกล้ๆ เจ้าสิงโตก็ลุกขึ้นยืนและเดินมาที่รถ จนนักท่องเที่ยวที่นั่งอยู่บนรถพากันใจหายใจคว่ำ และคงคิดในใจว่าไม่รอดแล้วแน่ๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ทำเอาทุกคนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง     Filya กระโดดขึ้นบนตัวครูฝึก แล้วก็กอดเขาเป็นชุดใหญ่… ปกติการเผชิญหน้ากับสิงโต อาจจบลงด้วยโศกนาฏกรรม แต่นั่นไม่ใช่กับสิงโตตัวนี้ เพราะมันแค่ต้องการกอดมนุษย์เท่านั้น     เท่านั้นยังไม่พอ Filya ยังย้ายมาที่เบาะผู้โดยสาร แล้วขึ้นไปหานักท่องเที่ยวทุกคนอย่างมิตรด้วย ดูมันมีความสุขมากๆ ที่ได้นัวเนียมนุษย์อย่างใกล้ชิด     หลังจาก Filya กอดและนัวเนียนักท่องเที่ยวสักพัก มันก็กระโดดลงจากรถ…

สุนัขที่เข้ามาในอยู่ในศูนย์พักพิง ไม่เป็นสุนัขจรจัด ก็เป็นสุนัขถูกทิ้งหรือสุนัขที่ถูกช่วยเหลือมา Phoenix ก็เช่นกัน มันเข้ามาในศูนย์พักพิงด้วยเรื่องราวที่น่าเศร้า ในเดือนกรกฎาคม มีคนเห็นพิตบูลล์ถูกผูกติดกับต้นไม้ในป่าที่ควิเบก ประเทศแคนาดา โดยมีแผลไฟไหม้และแผลพุพองทั่วร่างกาย มันจบลงด้วยการมาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ท้องถิ่น ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นมันถูกจัดอยู่ในลิสต์การุณยฆาต     โชคดีที่ Litters ‘n Critters Rescue Society กลุ่มช่วยเหลือในแฮลิแฟกซ์ โนวาสโกเทีย พามันออกจากศูนย์พักพิงได้ทันเวลา แต่มันยังต้องได้รับการดูแลอีกมาก Shelley Cunningham ผู้ก่อตั้ง Litters ‘n Critters บอกว่า “สภาพของมันโคตรแย่ ตัวมันเองก็ดูหมดหวังและเศร้าหนักมาก”     พวกเขาจึงพา Phoenix ไปหาสัตวแพทย์เพื่อรักษา จากนั้นมันก็ได้อยู่ในบ้านอุปถัมภ์ของ Lori Teale และสามี ซึ่งเป็นครอบครัวที่เคยรับเลี้ยงลูกหมาตัวหนึ่งชื่อ Echo ที่มาจาก Litters ‘n Critters เหมือนกัน Teale บอกว่า “ตอนที่เราพา Phoenix มาที่บ้าน มันกลัวทุกอย่างรอบตัว มันจะตัวสั่นทุกครั้งเมื่อเกิดเสียงดัง แม้แต่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ มันก็กลัว ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนม่าน แมวเดินผ่าน รวมไปถึงสิ่งที่มันไม่ทันสังเกตเห็น”…

เราในฐานะคนภายนอก อาจจะไม่รู้ว่าม้าที่ดูสวยงามอยู่ในฟาร์มนั้นจะมีจุดจบอย่างไร ความเป็นจริงคือ พวกมันโดนใช้งานอย่างหนัก และจะถูกประมูลหรือถูกทิ้งเมื่อหมดประโยชน์ เจ้าม้า Arthur กับเพื่อน Max กำลังเผชิญกับชะตากรรมดังที่กล่าวมา ทั้งคู่เป็นม้าในฟาร์มที่ถูกใช้งานอย่างหนักทุกวัน แต่ตอนนี้พวกมันอยู่ในวันที่ไม่คุ้มกับการทำงานแล้ว เจ้าเลยตัดสินใจขายพวกมัน     อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จบลงด้วยการที่ Cindy Diagre ก้าวเข้ามาและตัดสินใจพาพวกมันไปอยู่ในบ้านที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Ferrell Hollow Farm Senior Horse Sanctuary ในเทนเนสซี Daigre แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเมื่อมีคนบอกว่าม้าที่ถูกทารุณทั้งสองตัวนี้กำลังจะพบจุดจบในมือของชายที่ได้ชื่อว่า ‘cat man’ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะคนที่รับซื้อม้าเพื่อนำไปเป็นอาหารให้แมวของเขา     เธอรู้สึกสยดสยองกับความคิดนี้มาก ม้าสภาพผอมแห้ง หิวโหย และถูกทำร้ายมานับไม่ถ้วน แต่พวกเขายังกล้าฆ่าพวกมันเพื่อเป็นอาหารแมวอีก Daigre รู้ดีว่าการช่วยม้าประเภทนี้เป็นเรื่องยากและอาจต้องใช้เวลานาน แต่เธอมุ่งมั่นที่จะทำให้พวกมันมีสุขภาพดีและมีความสุขครั้งแรกในชีวิต     ด้วยความรักและการเอาใจใส่ Arthur เริ่มกินอาหารอย่างสม่ำเสมอจนค่อยๆ ฟื้นตัวและแข็งแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง   ขณะที่ Max ได้รับบาดเจ็บที่หลัง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทและปัญหาเกี่ยวกับเท้า มันถูกทำร้ายร่างกายมาอย่างหนัก และเต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันเข้ากับคนไม่ได้ และอันตรายมากที่จะทำงานกับมัน     อย่างไรก็ตาม Diadre ไม่เคยคิดจะยอมแพ้กับ…

สุนัขขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ ภักดี แสนรู้ และโคตรฉลาด โดยเฉพาะพวกไซบีเรียนฮัสกี้ ทั้งฉลาด ทั้งซน และเกรียนสุดๆ แล้วก็นั่นแหละ บางทีความฉลาดของพวกมันก็ทำให้เราดูโง่ไปเลย ถ้ามันหลอกเราได้สำเร็จนะ และเรื่องนี้คุณ Pan Meesook ยืนยันได้     คุณ Pan Meesook เลี้ยงสุนัขไว้ 3 ตัว คือ ไซบีเรียนสีเทา ชื่อ กาคุ (Gaku) ไซบีเรียนสีคอปเปอร์ ชื่อ กิล (Gilgamesh) และเยอร์มันเชปเปิร์ดโปแลนด์ ชื่อ ริว (Ryu)     กาคุ (Gaku)   ริว (Ryu)   กิล (Gilgamesh)   ล่าสุด หนึ่งในสามตัวนี้ได้ก่อเรื่องที่ทำให้คุณ Pan Meesook รู้สึกโง่ไปเลย    เรื่องมีอยู่ว่าคืนนั้น คุณ Pan Meesook ได้ต้มตับไว้ให้น้องหมาทั้ง 3 ตัว…

แม่แมวตัวหนึ่งไปคลอดลูกในบ้านร้างที่ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ แต่น่าเสียดายที่ลูกแมวตัวหนึ่งป่วยหนักมาก และแม่แมวก็เลือกที่จะทิ้งมันไว้มันที่นั่น ลูกแมวที่เพิ่งเกิด ป่วยหนัก แถมต้องอยู่ลำพังในบ้านร้าง ถ้ามันไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยด่วน มันคงไม่รอดแน่ๆ     มิ้วน้อยเองก็เหมือนจะรู้ว่าสถานการณ์ของมันในตอนนั้นแทบจะไม่มีหวัง แต่มันก็ตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสียงของมันดังมาก จนเด็กชายวัย 10 ขวบที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นได้ยิน และในฐานะคนรักสัตว์ เขาจึงโทรไปที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA เพื่อขอความช่วยเหลือ     RSPCA พร้อมด้วยพนักงานดับเพลิงจาก Merseyside Fire and Rescue Service จึงรีบไปยังบ้านร้างหลังนั้นทันที เมื่อไปถึง พวกเขาได้ยินเสียงร้องของมิ้วน้อยอย่างชัดเจน Helen Smith ผู้ตรวจการของ RSPCA บอกว่า “มันร้องดังมาก และในที่สุดฉันก็เจอมัน ไม่อยากเชื่อเลยว่าสัตว์ตัวเล็กแค่นี้จะร้องดังได้ขนาดนี้”     นักดับเพลิงได้ทำการเปิดประตู แล้วพวกเขาก็เห็นลูกแมวนั่งขดตัวอยู่ในมุมของห้อง สภาพของมันดูแย่มากๆ จนทุกคนตกใจ มันทั้งผอมแห้งและติดเชื้อในตา ทาง RSPCA คาดเดาว่ามันน่าจะอายุประมาณ 4 สัปดาห์ และคิดว่ามันน่าจะอยู่ในบ้านร้างหลังนี้มานาน 4 วันแล้ว พวกเขาจึงรับพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที    …

เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับแรคคูนในฐานะสัตว์เลี้ยง แต่ใครที่ได้เลี้ยง หรือมีโอกาสสังเกตพฤติกรรมของพวกมัน จะรู้ว่าเจ้าพวกนี้แหละ ตัวเกรียนอันดับต้นๆ เลย และนี่คือเหล่าแรคคูนจอมเกรียนที่จะสร้างเสียงหัวเราะให้กับคุณ ใครที่เจอเรื่องแย่ๆ มา เครียด หรือไม่สบายใจ ให้แรคคูนเยียวยาสิ   1. จะติดรถเค้าก็บอกดีๆ สิ จะได้เข้าไปนั่งในรถ   2. เมื่อน้องอยากช่วยมนุษย์ขับรถ… อืมมม จะดีหรอ?   3. แรคคูนนี่แหละ แต่ตัวนี้กินดีอยู่ดีไปหน่อย   4. ไงเพื่อน สนใจมานอนชิลด้วยกันมั้ย   5. ไม่มีใครเล่นด้วย เล่นไถลลงราวบันไดคนเดียวก็ได้   6. งื้อออ เพื่อนรักของเก๊า   7. ขึ้นไม่ได้ มันติดพุงหนะ… อิ่มไปหน่อย   8. พุงโตจนต้องติดป้ายว่าน้องเป็นผู้ชาย น้องไม่ได้ท้อง แค่อ้วนเฉยๆ   9. กลมกลืนเลยนะ   10. วันแรกมาตัวเดียว วันถัดมาพากันมาเป็นทีมเลย…

เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา Deputy Mike Scott เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Ascension Parish Sheriff ได้รับแจ้งให้ไปช่วยแมวสีเทาขาวที่ติดอยู่ในท่าแปลกๆ ในบ้านหลังหนึ่งในรัฐหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อไปถึงพบว่าแมวติดอยู่ระหว่างประตูโรงรถกับกำแพง แต่ดูจากท่าแล้วไม่แน่ใจว่ามันติดอยู่ที่นั่น หรือมันตั้งใจนอนท่าแบบนั้นกันแน่     Scott บอกว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาของการทำงาน ผมไม่เคยคิดว่าจะเจออะไรแบบนี้มาก่อน” ต่อมาทราบว่าเหมียวตัวนั้นชื่อ Bella ซึ่งเป็นแมวของบ้านนี้นี่แหละ ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ในบ้าน แต่พวกเขาเชื่อว่ามันน่าจะขึ้นไปนอนบนประตูตอนที่เจ้าของบ้านเปิดประตูไว้ และโดนหนีบตอนที่พวกเขาปิดประตู โดยไม่รู้ว่ามีแมวอยู่บนนั้น     โชคดีที่เพื่อนบ้านผ่านมาเห็น พวกเขาจึงโทรขอความช่วยเหลือ จนเจ้าหน้าที่ Scott พร้อมทีมช่วยเหลือเข้ามาช่วยนี่แหละ พวกเขาพยายามเอาแม่เหล็กที่ติดอยู่ขอบประตูออก ในที่สุด Bella ก็ถูกช่วยออกมาอย่างปลอดภัย ก่อนที่เจ้าของจะกลับมาหลังจากนั้นเพียงไม่นาน และได้ทราบข่าวจากเพื่อนบ้าน     จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า Bella ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย แต่ดูเหมือนมันจะรู้สึกอายเล็กน้อย สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Scott บอกว่า “ผมไม่ใช่ทาสแมวหรอก แต่ไม่มีใครอยากเห็นสัตว์ทุกข์ทรมาน จริงมั้ย ขอบคุณพระเจ้าสำหรับปาฏิหาริย์และเพื่อนบ้านที่ดีที่โทรแจ้งให้เราทราบ”     ไอ้พวกมนุษย์ กลับบ้านเมื่อไหร่ เจอดีแน่…

เมื่อ Mackenzie Purdy เห็นเจ้าหมา Charlie ครั้งแรก มันขี้อายมากๆ และดูเหมือนมันว่าจะหมดหวังในการหาบ้านใหม่ด้วย Charlie เป็นหมาพันธุ์ผสมชิสุห์ อายุ 7 ปี มันไม่ยอมสบตากับทุกคนที่เดินผ่าน และเอาแต่หันหน้าเข้ากำแพงในศูนย์พักพิง Associated Humane Tinton Falls     Charlie เข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ไม่กี่เดือนต่อมามันก็ถูกรับเลี้ยง แต่มันถูกส่งกลับมาที่ศูนย์อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุผลที่ว่ามันเดินขึ้นบันไดไม่ได้ เจ้าของคนนั้นไม่สามารถลงไปอุ้มมันขึ้นมาได้ Charlie จึงลงเอยด้วยการกลับมาอยู่ในกรงเดิมๆ บรรยากาศเดิมๆ และพบกับความโดดเดี่ยวเหมือนเดิม     Purdy บอกว่า “Charlie อายุมากนิดหน่อยแต่ไม่ค่อยชอบเดินเล่น ที่สำคัญ มันเอาแต่หันหลังให้ผู้คนตลอดเวลา ฉันเลยคิดว่าสิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่มีใครสนใจมัน “ อย่างไรก็ตาม Purdy กับพนักงานคนอื่นๆ พยายามจะใช้เวลากับเจ้าหมาให้มากที่สุด เข้าไปพูดกับมัน เล่นกับมัน ขณะที่ Charlie ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาให้เห็นสักเท่าไหร่ แต่มันจะแกว่งหางน้อยๆ ของมัน เมื่อมีคนเดินเข้าไปหา     นอกจากนี้ Purdy ยังพาสุนัขของเธอ Baxter มาหา Charlie ด้วย ปรากฏว่าทีที่เห็นเพื่อนใหม่ เจ้าหมาแก่ก็แกว่งหางอย่างแรงด้วยความตื่นเต้น…

เวลานอนคือช่วงเวลาที่เราควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมบางคนนอนอ้าปาก นั่งนอน ยืนนอน รวมไปถึงนอนท่าแปลกๆ แต่ไม่ได้มีแค่เราหรอก สัตว์ก็เป็นเหมือนกัน แถมแปลกและฮากว่ามนุษย์เราเยอะ เพราะที่นอนของพวกมันไม่ได้เรียบเหมือนเราไง ไปดูสิ๊ พวกมันจะนอนยังไงกันบ้าง   1. หมดกัน ภาพพจน์เจ้าป่า   2. เมื่อน้องช้างหมดแรงเล่น แต่ยังไม่อยากออกจากน้ำ   3. ข้อดีของการมีคอยาว นอนหนุนตัวเองก็ได้   4. เมื่อคุณนอนและไม่อยากลุกไปไหนแล้ว   5. เดี๋ยวลูก มีกระดูกมั้ยนั่น   6. อย่าทำตัวแตกต่าง เดี๋ยวเป็นจุดเด่น   7. ขอนอนอีก 5 ทีเถอะ ขอร้อง   8. หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน นี่คืออาการคุณเมื่อกลับมาถึงเตียง   9. ชิลไปครับพี่น้อง   10. นอนอยู่ดีๆ อาจกลายเป็นของเหลวโดยไม่รู้ตัว   11. ดูจากสภาพแล้ว นางต้องนอนกรนอยู่แน่ๆ…

Jen กับ Tray Federichi เป็นคนรักสัตว์ที่เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่ทำอุตสาหกรรมเลี้ยงปศุสัตว์และคุ้นเคยกับวิถีชีวิตแบบนั้น แต่เมื่อโตขึ้น พวกเขาเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งที่กำลังทำ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่เปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเขา ความคิดนั้นคือ ถ้าอยากกินเนื้อวัว ต้องกินวัวของตัวเอง และวัวที่จะฆ่าได้ต้องมีอายุมากแล้วเท่านั้น     นอกจากนี้ การได้เห็นความทารุณที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเลี้ยงปศุสัตว์ ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเปลี่ยนฟาร์มปศุสัตว์ของพวกเขาเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Surf and Turf Sanctuary พวกเขาให้การช่วยเหลือและให้ที่อยู่กับสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง ถูกทารุณกรรม ปัจจุบัน ในฟาร์มของพวกเขาจึงมีทั้งวัว แพะ สุนัข แมว รวมทั้งม้าลายที่ชื่อ Mystery     Mystery ถูกช่วยเหลือมาจากสวนสัตว์เปิด ซึ่งผู้คนสามารถเที่ยวชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดโดยการขับรถผ่าน หรือจอดแวะทักทายพวกมัน     เจ้าของ Mystery ไม่ได้เลี้ยงมันด้วยความรัก แต่พวกเขาต้องการหาเงินจากมันให้มากที่สุด เท่านั้นยังไม่พอ พวกเขายังดำเนินการให้นักท่องเที่ยวจ่ายเงินแลกกับการยิงสัตว์ได้ด้วย แต่ในระหว่างที่เจ้าของกำลังจัดให้มีการล่าสัตว์นั้น Federichis เข้ามาพอดี และได้ช่วย Mystery ก่อนจะพามันกลับไปอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าของเขา     เมื่อมาถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า Mystery ก็เดินเข้าไปหาฝูงวัวทันที และตั้งแต่นั้นมา มันก็สร้างความผูกพันกับเหล่าวัว “เราไม่แน่ใจว่ามันคิดว่าตัวเองเป็นวัวหรือเปล่า” Jen กล่าว…

หลายครั้งที่เราเห็นสัตว์วิ่งอยู่กลางถนนที่มีรถวิ่งผ่านไปผ่านมาตลอด แต่มีน้อยมากที่จะหยุดช่วยพวกมัน อาจเป็นเพราะอยู่ในชั่วโมงเร่งรีบหรือไม่สะดวกที่จะลงไปช่วย แต่นับว่าเป็นความโชคดีที่ของหมาจรจัดสีดำตัวนี้ ขณะที่มันยืนอยู่กลางถนนที่วุ่นวายด้วยความหวาดกลัวในประเทศบราซิล มันได้พบกับฮีโร่ที่เข้ามาช่วยมัน     วันนั้น ผู้โดยสารบนรถบัสคันหนึ่งใน Rio de Janeiro รู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่ออยู่ดีๆ คนขับรถก็ตัดสินใจจอดรถ แต่เหตุการณ์หลังจากนั้น ทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าทำไมเขาจึงจอด สิ่งที่ทุกคนเห็นเหมือนกันคือ สุนัขจรจัดตัวหนึ่งติดอยู่บนถนนที่วุ่นวาย รถหลายคันขับผ่านมันไป และไม่มีใครคิดจะช่วยมันเลย แต่คนขับรถบัสปฏิเสธที่จะทิ้งมันไว้ในสภาพนั้น     และนี่คือสิ่งที่คนขับรถบัสทำ หลังจากจอดรถ   ด้วยความเมตตาจากคนขับรถบัส ทำให้น้องหมาได้รับการช่วยเหลือ มันเดินตามเขามาอย่างง่ายดาย และเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถ มันก็รู้ทันทีว่าปลอดภัยแล้ว เลยหันไปยิ้มให้ผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่อยู่บนรถ แม้ว่าเหตุการณ์นี้ คนขับรถบัสจะทำให้การเดินทางของผู้โดยสารล่าช้า แต่ดูเหมือนว่าไม่มีผู้โดยสารคนไหนที่ไม่พอใจเลย ตรงกันข้าม พวกเขาปรบมือให้คนขับรถตอนที่เขาพาสุนัขจรจัดขึ้นรถ และบางคนตะโกนขอบคุณเขาด้วย     ที่มา thedodo

เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ Dustin DeRoche กับเพื่อนร่วมงานกำลังเดินกลับไปที่รถหลังเลิกงาน พวกเขาก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหา ลูกแมวตัวนั้นเป็นมิตรและกระตืนรือร้นที่จะได้รับความรัก DeRoche จึงอุ้มมันขึ้นมาและเริ่มกอดมัน เพียงเสี้ยววินาที มิ้วน้อยก็ทำเสียงเพอร์ทันที สภาพมิ้วน้อยตอนนั้นมีหมัดอยู่ทั่วตัวและหายใจลำบาก แน่นอน DeRoche ไม่สามารถทิ้งมันไว้ที่นี่ได้ เขาจึงตั้งชื่อให้มันว่า Chuck และพามันกลับบ้านด้วยในคืนนั้น     ตลอดทางกลับบ้าน Chuck ไม่มีปัญหาเลย มันนอนนิ่งอยู่บนตักของ DeRoche ราวกับว่ามันได้เจอคนที่ช่วยมันแล้ว เมื่อถึงบ้าน ชายหนุ่มกับเพื่อน Melissa Lee ก็ช่วยกันทำความสะอาดให้แมวน้อย แม้จะดูเหนื่อยแต่มันก็ตื่นเต้นมากที่ได้อยู่ในที่ปลอดภัย แถมมีที่อุ่นๆ ให้นอนด้วย และหลังจากที่ได้อาบน้ำ มันก็นอนหลับไปพร้อมเสียงเพอร์     ทั้งคู่ปล่อยให้ Chuck นอนหลับอยู่อย่างนั้น เพราะเข้าใจว่ามันคงเหนื่อยล้ามาก นอกจากนี้ พวกเขายังเอาผ้าขนหนูห่อตัวมันไว้ด้วย เพื่อให้มันรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นมากขึ้น เมื่อตื่นขึ้นมา มิ้วน้อยก็เริ่มเล่นกับเจ้าของใหม่ มันดูมีความสุขกับชีวิตใหม่นี้มาก พวกเขาบอกว่า “มันขี้สงสัยและขี้เล่นมากๆ”     วันรุ่งขึ้น DeRoche พามิ้วน้อยไปหาหมอ จึงได้รู้ว่า Chuck อายุประมาณ 9-10 สัปดาห์ จากนั้นคุณหมอก็รักษาอาการป่วยต่างๆ ของมิ้วน้อย รวมทั้งให้ยารักษาอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจด้วย หลังจากได้รับการรักษาเพียงไม่นาน Chuck ก็ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์…

ปกติแล้วเมื่อโดนหมากัดหรือหมาทำร้าย เราหลายๆ คนอาจจะเกลียดหมา กลัวหมาหรือมีอคติกับพวกมันไปเลย แต่สำหรับหนุ่มคนนี้ เมื่อโดนหมาทำร้าย เขากลับต้องการมันมากขึ้น เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Manny กับ Ina เดินเข้าไปในศูนย์พักพิงสัตว์ เพื่อหาสัตว์เลี้ยงที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกตัวใหม่ของครอบครัว แต่พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะเจอสัตว์ที่ถูกใจและเข้ากับพวกเขาได้หรือเปล่า     หลังจากที่เดินดูสักพัก พวกเขาก็ได้พบกับ Pablo พิตบูลล์ที่กำลังต้องการบ้าน เมื่อ Manny เดินเข้าไปไกล้ เจ้าพิตบูลล์ก็เริ่มเห่าทันที ก่อนจะกระโดดงับแขนเสื้อคลุมของเขาและกัดจนแหลกเป็นชิ้นๆ ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับเงียบแบบไม่ได้นัดหมาย แต่ใบหน้าของพวกเขาฟ้องว่า ‘ยังไงก็ไม่รับเลี้ยงเจ้าหมาตัวนี้แน่ๆ’     ถึงแม้ว่าการกระทำของ Pablo จะดูสยดสยอง แต่ Manny กลับเข้าใจมัน และรู้ว่าไม่มีใครอยากรับเลี้ยงหมาที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ดังนั้น จึงมีเพียงเขาและ Ina เท่านั้น ที่จะยอมให้โอกาสครั้งที่สองกับ Pablo ชายหนุ่มบอกว่า “ตอนนี้ผมต้องการมากขึ้นกว่าเดิมอีก”     ในที่สุด Manny กับ Ina ก็ตัดสินใจรับเลี้ยงมัน พวกเขาบอกว่าอยากให้ Pablo มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ และอยากให้มันเติบโตขึ้นท่ามกลางความรัก Manny บอกว่า “เรารู้ว่าต้องทุ่มเทความรักให้มันอย่างมากมายและต้องใช้ความอดทนสูง” หลังจากที่พา Pablo กลับบ้าน ทั้งคู่ก็เริ่มเรียนรู้เกี่ยวอดีตที่มืดมนของมัน ตอนที่พวกเขาพามันไปโรงพยาบาลสัตว์ คุณหมอถาม Ina…

ใครที่เลี้ยงสุนัขจะรู้ว่าพวกมันมีบุคลิกไม่ต่างจากเด็กๆ เลย พวกมันชอบวิ่งเล่น ชอบก่อความวุ่นวายด้วยความไร้เดียงสา และชอบอ้อนพ่อแม่ให้ซื้อของเล่นหรืออาหารอร่อยๆ ให้ เช่นเดียวกับ Mishka เจ้าหมาอลาสกัน มาลามิวท์วัย 3 ขวบ ผู้ติดอกติดใจในรสชาติไอศกรีม ถึงขั้นคุ้นเคยกับรถไอศกรีมเป็นอย่างดี และรู้ว่าด้วยต้องทำยังไงถึงจะได้กิน     ทุกครั้งที่ Mishka ได้ยินเสียงรถไอศกรีมแล่นเข้ามาใกล้บ้านของมัน มันจะรับออกมายืนรอพร้อมแกว่งหางด้วยความตื่นเต้นอยู่หน้าบ้าน ถึงมันอยากกินแค่ไหน แต่มันก็พยายามตัวเป็นเด็กดีที่สุด มันยืนรอจนกระทั่งรถไอศกรีมจอดตรงหน้าบ้าน แต่บางครั้งถ้ารถไม่จอด มันก็จะเรียกจอดเอง     เมื่อรถไอศกรีมจอด มันจะทักทายคนขายก่อนเป็นอันดับแรก จากให้ก็ค่อยบอกคนขายว่ามันต้องการอะไร แน่นอน คนขายรู้ว่ามันอยากกินไอศกรีมเพราะมันเป็นลูกค้าประจำ จากนั้นเขาก็ตักไอศกรีมใส่กรวยก่อนจะยื่นให้ Mishka จริงๆ เจ้าของไม่อยากให้มันกินไอศกรีมบ่อยหรอก เพราะกลัวมันอ้วนแล้วลดยาก แต่เพราะลูกน้อย 4 ขา ทั้งน่ารักและเป็นเด็กดี เธอจึงยอมให้มันกินอย่างน้อยครั้งละ 1 อัน     อย่างที่บอกว่ามันเป็นเด็กดีมาก มันไม่เคยเห่าหรือกระโดดเกาะบนรถไอศกรีม และมันจะยืนนิ่งๆ ด้วยความตื่นเต้นแล้วรอให้คนขายยื่นไอศกรีมให้ ดูมันสิ พอได้กินแล้ว มีความสุขเชียว ส่วนเรื่องจ่ายตังนะหรอ ก็ต้องเป็นหน้าที่คุณแม่อยู่แล้ว   ที่มา weloveanimals

Ruthie เป็นสุนัขชิวาวาวัย 16 ปี มันถูกพบบนถนนใน Abilene รัฐเท็กซัส ก่อนจะถูกพาไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ในท้องถิ่น สภาพของมันแย่มากๆ และดูเหมือนมันจะผ่านจุดนี้ไปได้ยาก เจ้าหมาทั้งน้ำหนักน้อยและมีหมัด มันทุกข์ทรมานจากการติดเชื้อในตา ผิวหนังติดเชื้อ และเป็นโรคเหงือก ทางศูนย์พักพิงจึงแยกมันไปอยู่ลำพัง เพราะมันอยากให้มันเครียดมากไปกว่าเดิม     ด้วยสภาพของ Ruthie ในตอนนั้น ดูเหมือนไม่มีใครเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้ จนกระทั่งกลุ่มช่วยเหลือจาก Forgotten Friends Mixed Breed Rescue ได้รู้เรื่องราวของมัน พวกเขาตัดสินใจทันทีว่าจะให้โอกาสมัน หลังจากที่ผู้ช่วยเหลือพามันออกจากศูนย์พักพิง Ruthie ก็ได้อยู่ในลิสต์รอบ้านอุปถัมภ์ ขณะเดียวกัน ผู้ดูแลก็ช่วยรักษาปัญหาสุขภาพต่างๆ ให้มัน รวมทั้งปัญหาในช่องปากด้วย การหาบ้านให้สุนัขที่อายุมากมักจะเป็นเรื่องยากเสมอ โดยเฉพาะหมาที่อายุ 16 ปี แบบนี้ แต่โชคดีที่มีครอบครัวสมบูรณ์ได้ทราบเรื่องของ Ruthie และตกหลุมรักมันทันที     ตอนนั้น Jen Ramey กับสามีอยู่ระหว่างวางแผนจัดปาร์ตี้วันเกิดให้ Buttercup สุนัขของพวกเขา และตัดสินใจจะใช้งานปาร์ตี้นี้งานเงินบริจาคให้กับ Forgotten Friends Mixed Breed Rescue ตามแผนคือ ทางศูนย์จะพาสุนัขบางส่วนไปร่วมงานปาร์ตี้นี้ หนึ่งในนั้นคือ Ruthie และทันทีที่คู่รักได้พบชิวาวาวัยชราตัวนี้…

เรื่องราวของ Roxanne เหมียววัย 12 ปี ผู้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก มันไม่เคยมีความสุขและพร้อมจะยอมแพ้ทุกเมื่อ จนกระทั่งวันที่มีชายคนหนึ่งมาหามัน Roxanne ถูกพบตอนเป็นแมวจรจัดที่เร่ร่อนอยู่บนถนน ก่อนจะถูกมายังศูนย์พักพิงสัตว์สาธารณะ ที่นั่นเจ้าเหมียวถูกพบว่ามันกินหินเข้าไป ดังนั้น มันจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากกระเพาะ     หลังจากฟื้นตัวจากการผ่านตัดและอยู่ในนั้นไม่กี่เดือน พวกเขาก็ตัดสินใจย้ายมันยัง Purrfect Pals ที่ที่จะช่วยมันหาบ้านใหม่ได้ เมื่อ Roxanne มาถึง มันขี้อายมากๆ และไม่ชอบแมวตัวอื่นๆ เลย มันเก็บตัวอยู่ลำพังและอยู่ห่างจากทุกคน มันชอบทำเสียงฟ่อและไม่มีความสุขเลยตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น     ขณะที่แมวตัวอื่นได้บ้านกันตัวแล้วตัวเล่า มีเพียง Roxanne ตัวเดียวที่ถูกมองข้ามเสมอ เพราะไม่มีใครได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของมัน ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา John ผู้อุปถัมภ์ที่ทำงานกับ Purrfect Pals ได้มาเยี่ยม Roxanne และเข้าไปนั่งข้างๆ มัน ตอนแรกเจ้าเหมียวพยายามต่อสู้กับเขา แต่เมื่อรู้ว่าชายคนนี้ไม่เป็นอันตราย มันก็สงบลง     เมื่อมันสงบลง John ก็เริ่มลูบตัวให้มัน และได้ยินเสียงเพอร์ของมันอย่างชัดเจน จากที่เป็นแมวก้าวร้าว Roxanne เปลี่ยนเป็นแมวที่ต้องการความรักในไม่กี่วินาที มันเดินเข้าไปหา John เพื่ออ้อนให้เกาแก้มให้ และมันอยากให้เขาหยุดเกาเลย มันขึ้นไปนั่งบนตักของเขาและทำเสียงเพอร์ตลอดเวลา John บอกว่า…

สุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ดังนั้นเมื่อมันเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าของก็พร้อมจะช่วยมันสุดความสามารถ แต่โชคร้ายสำหรับ Koncel สุนัขวัย 10 ปีตัวนี้ เพราะเจ้าของไม่รู้จะช่วยมันยังไง เจ้าของของ Koncel เป็นชาวอินโดนีเซียชื่อ John เขาอาสัยอยู่กับภรรยา ลูกสาว และแม่บุญธรรม ใกล้กับหมู่บ้าน Tanjung Naman บนเกาะสุมาตรา John มีรายได้เล็กน้อยจากการทำไร่ โดยมีเพื่อนรักผู้ซื่อสัตย์อย่าง Koncel ที่พร้อมจะช่วยเขาทำงานทุกวัน     แต่เมื่อ Koncel ป่วย ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป มันกลายเป็นหมาที่มีอาการเซื่องซึม เบื่ออาหาร และยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถไปทำงานกับ John ได้ นอกจากนี้ มันยังขนร่วง และผิวแข็งกระด้างและเป็นขี้เรื้อน John อยากช่วยเพื่อนรัก 4 ขา แต่สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการรักษาด้วยยาแผนโบราณ น่าเศร้าที่ยาตัวนี้ไม่ได้ช่วยให้เจ้าหมาดีขึ้นเลย     ต่อมาเพื่อนของ John จึงแนะนำให้ทาน้ำมันเครื่องบนผิว Koncel เนื่องจากคนในท้องถิ่นมีความเชื่อว่าน้ำมันเครื่องจะช่วยรักษาอาการติดเชื้อบนผิวสุนัขได้ แต่สุดท้ายวิธีนี้ก็ไม่ได้ผลอีกตามเคย กระทั่งเดือนกรกฎาคม ในที่สุด Koncel ก็ได้รับความช่วยเหลือที่สมควรได้รับ เมื่อทีมงานจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Stay Wild มาที่หมู่บ้านของ John และเขาได้ขอความช่วยเหลือจากพวกเขา     ทีมงานจาก Stay Wild…

เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว กลุ่มช่วยเหลือท้องถิ่น TNR (กลุ่มที่จับสัตว์มาทำหมันและปล่อยกลับ) ได้รับการติดต่อเกี่ยวกับแมวส้มที่จำเป็นต้องการได้รับการรักษาทางการแพทย์โดยด่วน ทั้งนี้คนที่เคยให้อาหารเจ้าเหมียวตัวนั้นบอกว่าเคยเจอมันเมื่อ 2 เดือนก่อน แต่หลังจากที่วิ่งตัดหน้ารถ มันก็หายไป จนกลับมาอีกครั้งในวันนี้     2 วันต่อมาเจ้าหน้าที่จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์จึงวางช่วยเจ้าเหมียวเพื่อให้ได้รับความปลอดภัย และหลังจากที่จับมันได้ พวกเขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์ทันที แมวส้มมีรูปร่างที่ไม่ค่อยดีนัก แต่โชคดีที่คุณหมอไม่พบว่ามันมีกระดูกหักเลย หลังจากที่ได้รับการตัดขนที่เป็นสังกะตังออก เหมียวก็รู้สึกดีขึ้นและดูผ่อนคลายลง     อย่างไรก็ตาม คุณหมอพบว่ามันติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน ไม่มีฟัน และน่าจะอายุประมาณ 12 ปี ต่อมา Athina Selena ผู้ช่วยเหลือและผู้อุปถัมภ์สัตว์ จึงพาเจ้าเหมียวกลับบ้าน เพื่อให้มันได้อยู่ในที่ที่สะดวกสบายในช่วงพักฟื้น พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า Punk’n และให้มันอยู่ในห้องมีอาหารมากมายสำหรับมัน พร้อมด้วยสิ่งของนุ่มๆ สำหรับให้มันซบหรือกอดเมื่อต้องการ     ตอนแรก Punk’n ดูกังวลมากๆ แต่ในไม่ช้า สิ่งต่างๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เจ้าเหมียวเริ่มเดินสำรวจรอบๆ ตัว Athina บอกว่า “เราได้ยินมันทำเสียงเพอร์แถมยังกอดเราด้วย มันดูมีความสุขมากๆ ที่ได้รับความรัก…

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะมีความชอบหลายอย่าง อยากทำโน่น ทำนี่มากมายเต็มไปหมด แต่มันจะดีแค่ไหนถ้าคุณได้ทำทุกอย่างที่รักไปพร้อมๆ กัน เหมือนกับ Honza Řeháček ช่างภาพอิสระจากสาธารณรัฐเช็กที่มีความหลงใหลในธรรมชาติ การเดินทาง แลกการได้อยู่กับเพื่อนรัก 4 ขาของเขา Sitka      Honza มักจะรวมเอาสิ่งที่เขาทั้ง 3 นี้มาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ นั่นก็คือการพา Sitka ไปผจญภัยในป่าและสถานที่ที่สวยงาม พร้อมเก็บภาพสวยๆ ตลอดการเดินทาง ชายหนุ่มชอบถ่ายภาพที่สื่ออารมณ์ความรู้สึกได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะภาพหมอกในยามเช้าของฤดูหนาว ที่ใครเห็นเป็นต้องฟินตาม     แน่นอนว่านายแบบหลักที่อยู่ในทุกภาพของ Honza ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น Sitka เพื่อนรัก 4 ขาของเขานั่นเอง ซึ่งเจ้าหมาเองก็รักการผจญภัยมากๆ มันจึงออกเดินทางกับชายหนุ่มทุกครั้งและทุกที่ สำหรับ Sitka มันเป็นหมาพันธุ์ Wolfdog ซึ่งเป็นสายพันธุ์ผสมระหว่างหมาบ้านกับหนึ่งในสี่สายพันธุ์หมาป่า Gray Wolf, Red Wolf, Eastern Wolf และ Ethiopain Wolf อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wolfdog ได้ที่ https://www.catdumb.com/old/the-wolfdog/     ที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงการผจญภัยส่วนหนึ่งของ Honza…

ประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน Sara Zoe กับแฟนหนุ่ม Ed และเพื่อนสาว Maureen เห็นลูกแมวตัวหนึ่งกำลังหาอาหารบนทางเท้าใน Crown Heights บรู๊คลิน นิวยอร์ก พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะช่วยมัน Sara บอกว่า “มันใช้อุ้งเท้าน้อยๆ เขี่ยหาเศษอาหารในถุงพลาสติก มันผอมมากๆ จนเห็นแต่กระดูก และมันไม่มีแรงมากพอที่จะวิ่งหนีเราด้วย”     หลังจากที่ไปซื้อผ้าขนหนูและอาหาร Maureen ก็ห่อมิ้วน้อยไว้แล้วพวกเขาก็พามันกลับบ้าน “ฉันรู้สึกดีใจมากที่ได้ช่วยมันในช่วงเวลาที่มันกำลังเจอทางที่มืดมนที่สุด” เพื่อนสาวบอก เธอบอกอีกว่า “เราสังเกตเห็นอาการบวมที่ข้างปากด้านขวา ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมาลูกแมวตัวนี้ต้องเจออะไรมาบ้าง”     พวกเขาตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่า Johnny มันเป็นฝีที่ปากและติดเชื้อด้วย มันคงจะเจ็บมากจนไม่สามารถกินได้ ในขณะที่มันอายุได้ 8 สัปดาห์ มันขาดทั้งอาหารและน้ำ และมีน้ำหนักแค่ 590 กรัมเท่านั้น ต่อมาพวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์  Flatbush Cats มิ้วน้อยจึงได้ไปหาหมอและได้รับยาปฏิชีวนะ และยาอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายของมันกลับมาอยู่ในภาวะปกติ     ขณะที่ลูกแมวกำลังได้รับการตรวจร่างกาย มันทำเสียงเพอร์ดังมาก ราวกับรู้ว่าผู้คนที่อยู่นั่นกำลังช่วยทำให้มันดีขึ้น… ในช่วง 3 วันแรก ให้อาหารมันผ่านไซริงค์…

สุนัขไม่เคยเลือกเจ้าของที่ฐานะ เพศ หรือรูปลักษณ์ภายนอก แต่ใครก็ตามที่มอบความรักให้มัน แม้เพียงเล็กน้อย มันก็พร้อมจะตอบแทนด้วยทั้งหมดของชีวิต เหมือนกับเจ้าหมา Yurtie ที่เพิ่งมีครอบครัวใหม่เมื่อไม่นานมานี้ และสาเหตุที่พวกเขารับเลี้ยงมัน เป็นเพราะเรื่องราวเบื้องหลังของมันก่อนหน้านี้     ก่อนที่จะถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวปัจจุบัน Yurtie เคยอยู่กับเจ้าของที่ชื่อ Kevin McClain เขาเป็นคนที่รักสุนัขของเขามากๆ สำหรับ McClain เขาเป็นคนไร้บ้าน ดังนั้น เขากับ Yurtie จึงอาศัยอยู่ในรถ แม้ความเป็นอยู่จะลำบาก แต่ทั้งคู่มีความสุขที่มีกันและกัน     แต่แล้ววันหนึ่ง พวกเขาก็มาถึงจุดที่ต้องแยกจากกัน เมื่อ McClain ป่วยด้วยโรคมะเร็งปอด อาการของเขาหนักมากและเขาได้ใช้ช่วงเวลาสุดท้ายอยู่ใน Mercy Medical Center and Hospice House ช่วงที่แพทย์พา McClain เข้าไปในโรงพยาบาล เขาเอาแต่พูดซ้ำๆ ว่า อยากเห็นสุนัขของเขาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ต้องบอกลามันครั้งสุดท้าย     การได้เห็น Yurtie อีกครั้งคือโลกทั้งใบสำหรับชายไร้บ้านที่กำลังจะตายคนนี้ ดังนั้นอาสาสมัครจาก Cedar Rapids Animal Care and Control ซึ่งเป็นที่ที่เจ้าหมาอยู่หลังจากเจ้าของเข้าโรงพยาบาล…

การทำหมันให้แมวไม่เพียงแต่จะหยุดการขยายพันธุ์ที่เกินการควบคุม แต่ยังทำให้แมวตัวอ้วนขึ้นด้วย ทีนี้แหละ จะได้กอดพวกมันแบบเต็มไม้เต็มมือสักที แต่จริงๆ แล้ว มีแมวบางสายพันธุ์ที่ตัวใหญ่โดยธรรมชาติ นี่ไม่ได้หมายถึงเสือ สิงโต หรือสัตว์ป่าน่ากลัวนะ แต่หมายถึงแมวจริงๆ นี่แหละ จะมีพันธุ์ไหนบ้าง ไปดูกัน   1. แมวซาวันนา   แมวซาวันนาเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและแพงที่สุดในปัจจุบัน เมื่อตัวโตเต็มวัย พวกมันสามารถชั่งน้ำหนักได้ถึง 9 กิโลกรัม แม้ว่าบรรพบุรุษของแมวพันธุ์นี้จะเป็นสัตว์ป่า แต่พวกมันรักสงบ เป็นมิตร แถมยังฉลาดอีกด้วย     2. แมวป่านอร์เวย์ แมวป่านอร์เวย์เป็นแมวชนิดเดียวที่สามารถปีนลงด้วยหัวก่อน พวกมันสามารถอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ได้ดี นอกจากนี้พวกมันยังน่ารักและมีขนาดตัวที่น่ากอดมากๆ เมื่อโตเต็มวัย ตัวผู้จะหนัก 6 กิโลกรัม ในขณะที่ตัวเมียจะมีน้ำหนักเบากว่าตัวผู้เล็กน้อย แต่หากคุณจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้ คุณต้องรู้ว่ามันมีนิสัยชอบล่า ดังนั้น ต้องเปิดโอกาสให้มันได้ใช้ชีวิตแบบแอคทีฟ   3. เมนคูน เมนคูนเป็นแมวขนาดใหญ่ที่พบในสหรัฐอเมริกา ตัวผู้น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 4-7 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียอยู่ที่ 3-5 กิโลกรัม พวกมันมีความยาวของลำตัวได้สูงสุดถึง 97…

เมื่อ 2 เดือนก่อน ลูกแมวตัวน้อยวัย 1 สัปดาห์ ถูกพบอยู่ลำพังบนถนนใน ฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย และถูกพาไปยังศูนย์พักพิงในท้องถิ่น  เนื่องจากสภาพของมิ้วน้อยตอนนั้นแย่มากๆ ทำผู้ช่วยเหลือมีเวลาจำกัดในการช่วยเหลือ และพวกเขาต้องรีบช่วยมันให้เร็วที่สุด ก่อนจะสายเกินไป ต่อมาเมื่อ Jen Mack ผู้ก่อตั้ง Kitkat Playroom ได้ทราบเรื่องของมิ้วน้อย เธอจึงรีบไปหามิ้วน้อยที่ศูนย์พักพิงดังกล่าวทันที     Jen บอกว่า “ฉันขับรถไปรับมันในวันนั้น ซึ่งเป็นวันที่ฝนตกและมีเมฆหนา ขณะที่เรากำลังขับรถกลับ มานั่งอยู่ข้างๆ ฉันที่นั่งข้างคนขับ ฉันมองไปที่มันและเริ่มร้องเพลงให้มันฟัง เพื่อทำให้โลกสดใสในวันที่ฟ้าครึ้ม” เธอตั้งชื่อให้มิ้วน้อยว่า Tate หรือ Tater Tot และแม้ว่ามันยังอายุน้อย แต่ลูกแมวส้มทำให้ทุกคนเห็นว่ามันเป็นนักสู้     มันกินอาหารเก่งและกินได้เยอะ นั่นทำให้น้ำหนักของมันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทั่งมันอายุได้ 3 สัปดาห์ Jen สังเกตเห็นก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่บนหัวของมัน หลังจากตรวจสุขภาพ พวกเขาลงความเห็นว่า Tate ต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง พวกเขาจึงพามันไปหา Dr Glass นักประสาทวิทยาจากโรงพยาบาล Red Bank Veterinary Hospital    …

ข้อดีของการมีสัตว์เลี้ยงคือ เราไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของพวกมันได้ ที่สำคัญ พวกมันมักจะแสดงพฤติกรรมตลกจนเราอดขำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่แมวพยายามจะทำลายต้นคริสต์มาส น้องหมาไม่อยากไปหาหมอ การขโมยอาหาร หรือการพยายามเลียนแบบมนุษย์ สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้มันกลายเป็นตัวสร้างสีสันประจำบ้าน   1. ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองหน้าเหมือนแมวบนถุงอาหาร มันก็ชอบเล่นแบบนี้   2. เพื่อนซี้เค้ากำลังหาท่านอนที่ได้ใกล้ชิดกันมากที่สุดหนะ   3. น้องหมาจ๋า ดูหน้าพี่เต่าด้วย กลัวจนจะฉี่ราดอยู่แล้ว   4. อะไรมันจะได้จังหวะขนาดนี้   5. ดีใจอย่างกับโดนขอแต่งงานแหน่   6. ขังฉันอีกสิ ขังฉันเลย หึหึ   7. น้องยังไม่อยากกลับอะ ยังเล่นไม่เต็มที่เลย   8. ไม่รู้เป็นอะไร เมื่อไหร่ที่เปิดลำโพงโทรศัพท์ เจ้าเหมียวจะมาขโมยรองเท้าแบบนี้ทุกครั้ง   9. กำลังเล่นต่อสู้กับน้องหมา แต่ลืมไปว่าถ้ามันไม่เคยพลาด ถ้าเห็นของกิน   10. เมื่อเจ้าหมาไปหมอ… มันคงคิดว่าถ้าไม่เห็นหมอ หมอก็ไม่เห็นมันเหมือนกัน เลยหันหน้าเข้ากำแพงซะอย่างนั้น   11. เอิ่ม…

ในเวลาที่เรารู้สึกไม่ดี ไม่ว่าจะอกหัก รู้สึกเศร้า รู้สึกเหงา ถูกหวยกิน หรือเบื่อ การดูรูปสัตว์น่ารักๆ จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้เสมอ หรือถึงคุณจะไม่ได้เศร้ามันก็ทำให้คุณสดใสยิ่งกว่าเดิมได้เหมือนกัน วันนี้เราจะมาทำให้ทุกคนรู้ว่าทุกส่วน และทุกมุมของสัตว์น่ารักน่ามองไปซะหมด แล้วเพื่อนๆ จะพบว่าถึงจะไม่ได้เห็นหน้าเราก็ตกหลุมรักสัตว์พวกนี้ได้แล้ว   ในอุ้งเท้ายังมีอุ้งเท้าอยู่อีก   อย่ามองนานสิ เค้าเขินนะ   เซลฟี่กับมนุษย์ได้ด้วย เก่งจัง   กระต่ายมุมนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ   พี่น้องหมาเล่นกันนี่มันน่ามองจริงๆ   ก้นแกนี่แน่นน่าตีจัง   กดปิดสวิตช์ความซนแป๊บได้ไหม   ดูแฮมสเตอร์มุมไหนก็น่ามอง   ยิ้มกว้างจังเลย สงสัยอยากให้มนุษย์เล่นด้วย   นอนอาบแดดมันสบายแบบนี้นี่เอง   เคยได้ยินแต่คิดมากจนคิ้วชนกัน ตัวนี้หูชนกันเลย   แมวมีคิ้วก็หล่อนะเนี่ย   เบื่อแล้วอะ พาไปเดินเล่นหน่อย   กินกาแฟแล้วยังไม่หายง่วงอีกเหรอ…   อันนี้กินไม่ได้นะ อย่าแทะ   ชู่ว แรคคูนหลับอยู่ อย่าเสียงดัง   ได้ออกมาเล่นนอกบ้าน…

ร้านค้าและบริษัทหลายแห่งจะมีตุ๊กตาแมวกวักไว้ เพราะเชื่อว่ามันช่วยเสริมโชคด้านการเงิน ทว่าบริษัทแห่งหนึ่งมีสิ่งที่ดีกว่านั้น นั่นก็คือแมวที่ช่วยพวกเขาหาเงินได้จริงๆ โดยไม่ต้องพึ่งดวง Stuart McDaniel เป็นเจ้าของของบริษัท GuRuSu ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Tulsa รัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2015 เขาตัดสินใจรับเลี้ยงเจ้าแมว Sir Whine-a-lot มาจากศูนย์พักพิงสัตว์ แล้วให้มันอาศัยอยู่ในออฟฟิศ มันก็ทำตัวเป็นเจ้านายที่ดีนั่งๆ นอนๆ ดูทาสในออฟฟิศทำงานไปตามประสาแมว     ต่อมาเมื่อปี 2017 เจ้าแมวก็เริ่มหาเงินเข้าบริษัทได้ ตอนแรก McDaniel ไม่รู้เลยว่ามีกองแบงก์ 1 ดอลลาร์กองอยู่หน้าประตูได้ยังไง รู้แต่ว่าช่วงนั้นเขาเห็นเงินกองอยู่ตรงนั้นเป็นประจำ จนวันหนึ่งเขาก็สังเกตว่า Sir Whine-a-lot มานอนเล่นอยู่หน้าประตูที่มีเงินกองอยู่ เขาเลยคิดว่าอาจจะเป็นเจ้าแมวก็ได้นะที่กวักเงินเข้ามาในบริษัท     เขาจึงทดลองเอาเงินแหย่เข้าไปหามันทางประตูเพื่อทดสอบว่ามันเอาเงินไปจริงๆ ไหม แล้วก็พบว่าเจ้าแมวนี่เองที่เป็นต้นเหตุให้มีเงินมากองอยู่ตรงนี้ทุกวัน     หลังจากนั้นไม่นานชาวเมืองก็รู้ข่าวลือเรื่องของ Sir Whine-a-lot ในฐานะแมวที่จะมาเล่นด้วยถ้าคุณให้เงิน จึงมีคนมาเล่นกับมันมากขึ้น ทำให้มีเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นเป็นต้นเหตุให้ Sir Whine-a-lot มีชื่อเล่นใหม่ว่า Cashnip Kitty หรือก็คือแมวที่ล่อเงินให้เข้ามาหาตัวเองนั่นแหละ     เจ้าแมวเริ่มเป็นที่รู้จักมากจนมีคนมาขอทำเรื่องของมันลงโทรทัศน์…

ในช่วงชีวิตของทุกคนล้วนมีช่วงเวลาที่ดีและแย่ปนๆ กันไป บางคนก็มีช่วงที่แย่มากกว่า บางคนก็มีช่วงที่ดีมากกว่า แต่ส่วนไหนจะติดอยู่ในใจมากกว่ากันล้วนขึ้นอยู่กับความสำคัญที่เราให้กับมัน สำหรับหมาเยอรมันเชพเพิร์ด Herschel เวลาส่วนใหญ่ของมันจมอยู่กับความทุกข์ 5 ปีแรกตั้งแต่มันเกิดมา มันถูกเจ้าของจับล่ามโซ่ไว้ จึงได้ใช้ชีวิตอยู่ในสวนที่แห้งแล้งตลอด     พอกลุ่มช่วยเหลือสัตว์รู้เรื่องของมันเข้า พวกเขาก็เข้าไปคุยกับเจ้าของหลายครั้งเพราะเป็นห่วงเจ้าหมา จนในที่สุดเจ้าของเก่าของมันก็ตัดสินใจมอบมันให้ Michelson Found Animals ไปดูแล ถึงจะพ้นจากเจ้าของแย่ๆ มาแล้ว แต่พอมันไปบ้านหลังใหม่ Herschel ก็ถูกส่งตัวกลับมาหลายครั้ง เนื่องจากมันไม่มีประสบการณ์การเป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไปมาก่อน จึงปรับตัวกับการอยู่บ้านกับมนุษย์ไม่ได้     ถึงอย่างนั้นอาสาสมัครที่อยู่กับมันก็รู้ว่ามันเป็นเด็กดี พวกเขาอยากให้มันได้สัมผัสความสุขจริงๆ บ้าง จึงได้ติดต่อไปหา Rocky Kanaka พิธีกรรายการ Dog’s Day Out หมาที่ได้ไปออกรายการของเขา เป็นหมาที่มีชีวิตลำบากจึงได้รับโอกาสให้ไปเที่ยวเล่นกับ Kanaka และสนุกแบบเต็มเหนี่ยว ซึ่งเจ้า Herschel ก็ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนั้นด้วย     วันที่ Kanaka พามันออกรายการไปเที่ยวเล่น พวกเขาให้ขนมมันกินหลายอย่างทั้งเค้ก กาแฟ และเบอร์ริโต้ รวมทั้งพามันไปเล่นหิมะ และวิ่งเล่นริมหาดด้วย     ทุกอย่างล้วนทำให้ Herschel ดูมีความสุข…

อันที่จริงแล้วคนทุกคนน่าจะมีสิทธิ์เลือกสิ่งต่างๆ ให้กับตัวเอง โดยเฉพาะชื่อที่ต้องถูกเรียกไปตลอดชีวิต แต่น่าเสียดายที่ตอนยังเด็กเรายังไม่มีปัญญาพอจะเลือกเอง ทว่าเจ้าแมวน้อยตัวนี้ได้สิทธิในการเลือกชื่อเองก่อนมนุษย์ซะอีก ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วเหตุผลที่มันได้เลือกจะเป็นเพราะทาสทั้ง 2 ตกลงชื่อกันเองไม่ได้ก็ตาม     ลูกแมวตัวนี้เพิ่งถูกรับมาเลี้ยงโดยทาส 2 คนซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน พวกเขาต่างก็มีไอเดียตั้งชื่อเป็นของตัวเอง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะตั้งชื่ออะไร ผลสุดท้ายก็เลยตกลงกันว่าไหนๆ ก็เป็นชื่อของเจ้าเหมียวแล้ว ให้มันเลือกเองไปเลยละกัน จะได้ยุติธรรมกับทาสทั้ง 2 และเจ้าแมวด้วย     โดยวิธีให้เลือกชื่อนั้นก็ไม่ยากเลย พวกเขาเอาชื่อที่แต่ละฝ่ายคิดเขียนลงไปบนกระดาษ แล้วเอาชื่อไปวางไว้ข้างๆ กับถ้วยอาหารที่เตรียมไว้ทั้งหมด 10 ถ้วย จากนั้นก็ให้เจ้าเหมียวเลือกกินอาหาร โดย 3 ถ้วยแรกที่มันเลือกกินจะเป็นชื่อที่ผ่านเข้ารอบ เพื่อไปหาชื่อที่จะชนะเลิศอีกทีในรอบถัดไป   ชื่อนี้ก็ดีนะมนุษย์   ได้มาครบ 3 ชื่อเรียบร้อยแล้ว   อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าเป็นแมวแล้ว มันย่อมชอบทำอะไรแหกกฎที่ทาสตั้งไว้ ในรอบชิงชนะเลิศแทนที่ลูกแมวจะเลือกกินอาหารจาก 3 ถ้วยที่เลือกไว้ตอนแรก มันก็เดินไปอีกทางหนึ่งแล้วกินถ้วยที่อยู่นอกตัวเลือกอยู่ดี ตอนนี้เลยกลายเป็นว่ามีชื่อเข้ารอบสุดท้ายมากถึง 4 ชื่อ ถึงจะไม่ตรงตามความตั้งใจที่มีตอนแรกสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมเจ้าแมวเพราะนี่คือชื่อของมันเอง    …

การไปหาหมอเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับทั้งคนและสัตว์ เนื่องจากพวกเขาชอบให้ยารสชาติขมๆ หรือจับเราฉีดยาจนรู้สึกเจ็บ (ถึงมันจะดีต่อร่างกายก็เถอะ) ดังนั้นตอนที่เจ้าหมา Pocket ไม่รับขนมเป็นรางวัลจากหมอ เราจึงเข้าใจมันได้ดี เพราะไม่แน่ว่าหมออาจจะหลอกเอาขนมให้เรากิน แต่จริงๆ แล้วเป็นยาก็ได้     เจ้า Pocket เป็นหมาพันธุ์อัคบาช ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เลี้ยงไว้เป็นหมาเฝ้ายาม โดยทั่วไปแล้วหมาพันธุ์นี้จะไม่ค่อยสุงสิงกับคนเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่กับเจ้า Pocket เจ้าหมาเป็นมิตรมากๆ เรียกได้ว่านิสัยไม่เหมือนเพื่อนก็ได้ เมื่อ 5 ปีที่แล้วมันก็เลยได้เข้ามาใช้ชีวิตอยู่กับ Kail Marie ในบ้านอันแสนอบอุ่น และรายล้อมไปด้วยเพื่อนหมา หมู และแมวอีกด้วย     ไม่นานมานี้ Pocket ถูกแมลงต่อยตรงจมูกจมบวมเต่ง Marie จึงต้องพามันไปหาสัตวแพทย์ แต่ดูเหมือนเจ้าหมาไม่ชอบการไปหาหมอสักเท่าไหร่ เจ้าหมาพยายามอย่างหนักเพื่อจะหลบอยู่หลัง Marie ตั้งแต่ตอนเข้าไปถึงคลินิกจนกระทั่งหมอให้ยามันจนเสร็จ มันก็ยังพยายามจะออกห่างจากหมอให้มากที่สุด     คุณหมอรู้ว่าเจ้าหมาระแวงเขามาก เขาเลยอยากผูกสัมพันธ์กับมันโดยการให้ขนมมันเป็นรางวัล เหมือนกับตอนที่เด็กๆ ได้อมยิ้มหลังกินยานั่นแหละ แต่เจ้า Pocket ก็ไม่รับขนมจากเขา Marie ต้องยอมรับเลยว่าเจ้าหมาคงไม่ไว้ใจเขาจริงๆ ถึงอดใจไม่กินขนมที่อยู่ตรงหน้าได้     อย่างไรก็ตามตอนที่คุณหมอออกจากห้องไป เจ้าหมาก็เลิกหลบหลังเจ้าของแล้วรีบวิ่งไปสำรวจขนมที่คุณหมอวางทิ้งไว้ทันที…

เมื่อไม่นานมานี้ในประเทศจีน มีคลิปของเด็กหญิงคนหนึ่งกับลูกเสือน้อยกำลังเป็นที่กำลังถูกพูดถึงอยู่มาก เพราะเธอพาลูกเสือออกมาเดินเล่นเหมือนกับเป็นหมาเลย เด็กหญิงชื่อว่า Sun Xiaojing เธอเป็นลูกของคนดูแลสวนสัตว์ Donghu Zoo ในมณฑลฟู่เจียน เธอมักจะพาลูกเสือน้อย Huniu มาเดินเล่นด้วยประจำ     ในขณะที่หลายคนชื่นชมในความน่ารักของทั้งคู่ คนอีกส่วนหนึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กหญิง เพราะสัตว์ที่เธอพาเดินเล่นอยู่เป็นสัตว์ป่าที่ทำอันตรายเธอได้ อย่างไรก็ตามคุณ Sun พ่อของเธอก็บอกด้วยความมั่นใจว่ามันอายุเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น และทั้งคู่ก็สนิทกัน ลูกเสือจึงไม่เป็นอันตรายต่อเธอ     เขาเล่าว่า “เพื่อนร่วมชั้นของลูกสาวผมคิดว่าเสือน่ากลัว แต่สำหรับลูกสาวผมแล้ว Huniu ก็คือเพื่อนของเธอ… Huniu เป็นลูกเสือที่ขี้เล่น มันชอบให้เธอลูบพุงมัน แล้วมันก็จะวิ่งมาหาลูกสาวผมตอนกลับมาจากโรงเรียนเสมอ”     เขาอธิบายว่าที่ลูกเสือน้อยมาอยู่กับเธอและเขาแทนที่จะอยู่กับแม่เสือ เป็นเพราะว่าแม่เสือเคยทำร้ายลูกเสือตายมาแล้ว พี่น้องของมัน 2 ตัวก็ตายตั้งแต่ตอนเกิดใหม่ เพราะแม่เสือทำร้ายพวกมัน พวกเขาเลยต้องแยก Huniu ออกมาเพื่อให้มันปลอดภัย จากนั้นมันก็สนิทกับ Xiaojing อย่างที่เห็น     อย่างไรก็ตาม Sun ก็ตั้งใจว่าจะให้ Huniu แยกไปใช้ชีวิตในกรงเหมือนสัตว์ตัวอื่นๆ ตอนที่มันโตกว่านี้และฟันของมันเริ่มขึ้นดีแล้ว…

หากหมากับแมวไม่ได้โตมาด้วยกันแต่แรก ก็ยากที่พวกมันจะรักกันเหมือนพี่น้อง การได้เจอหมาจรจัดกับแมวจรจัดนอนกอดกันด้วยความรักจึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดาเลย     มีคนเห็นคู่หูหมาและแมวจรจัดคู่หนึ่งอยู่ในสนามฟุตบอล ด้วยความเป็นห่วงเขาจึงขอความช่วยเหลือจากคนรักสัตว์ ให้มาพาพวกมันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย Angela Ward และลูกสาวจึงยื่นมือเข้าช่วย เธอบอกว่า “พวกเราเป็นคนรักสัตว์ตัวยง เราทนไม่ได้หรอกที่จะปล่อยพวกมันไว้ข้างนอกนั่น ในแถบนี้ยิ่งมีหมาป่าอยู่เยอะในตอนกลางคืนด้วย ปล่อยเอาไว้ก็เสี่ยงอันตราย”     โชคดีที่ตอนไปถึงสนามฟุตบอลเจ้าหมากับแมวยังอยู่ที่เดิมอยู่เลย พวกมันนอนขดอยู่ด้วยกันระหว่างห้องส้วมสาธารณะ เจ้าหมาขู่เธอใหญ่เลยตอนที่พยายามเข้าใกล้เจ้าแมว มันห่วงความปลอดภัยของเพื่อนมาก แต่พวกเธอกับเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ก็ช่วยกันจับพวกมันมาได้     ทั้ง 2 ตัวถูกพาไปตรวจและรักษาตัวกับสัตวแพทย์ ก่อนจะถูกส่งตัวไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์กับเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ เมื่อมั่นใจแล้วว่าพวกมันไม่มีเจ้าของ พวกเขาก็เลยเปิดให้คนรับเลี้ยงพวกมันได้ แต่ก็ไม่รับปากว่าทั้ง 2 ตัวจะได้ไปอยู่บ้านหลังเดียวกัน     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Saver of Souls Pet Rescue ได้ยินเรื่องของทั้ง 2 ตัวเข้า พวกเขารู้สึกประทับใจในความสัมพันธ์ของสัตว์ 2 ตัวนี้ จึงทนไม่ได้ที่จะเห็นพวกมันถูกแยกจากกัน เลยรับพวกมันมาดูแลซะเอง     พวกเขาตั้งชื่อหมาว่า Gomez ส่วนเจ้าแมวชื่อว่า Morticia ตั้งแต่รับพวกมันมาดูแลทั้งคู่ยังไม่เคยออกห่างกันเลย มันทำทุกอย่างด้วยกันแล้วก็นอนเตียงเดียวกัน เจ้าหมามีนิสัยค่อนข้างขี้อาย…

หญิงสาวได้พบกับหมาจรจัดและอยากจะช่วยมัน แต่มันเอาแต่หนีเธอไปที่อื่นจนตามตัวได้ยาก กว่าจะช่วยมันมาได้จริงๆ ก็ผ่านไปเกือบ 1 ปีแล้ว Shana Breeden ได้เจอกับเจ้าหมาที่เธอตั้งชื่อว่า Amethyst เมื่อเดือนกันยายน 2017 เธอขับผ่านไปเห็นมันอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง     เจ้าหมาแทบไม่มีขนเหลืออยู่เลย มันกำลังเดินขอของกินจากคนที่มาซื้อของอยู่ แต่มันก็ระแวงคนมากเหมือนกัน เธออยากช่วยมันก็เลยพยายามจับตัวมันเพื่อพาไปรักษา แต่หลังจากพยายามอยู่เกือบ 1 ชั่วโมงเธอก็ต้องยอมแพ้ ยังไงก็ตามเธอก็เปลี่ยนเส้นทางขับรถเพื่อกลับมาจุดเดิมอีก ทำมาหามันแทบทุกวันตลอดระยะเวลาหลายเดือน แต่เธอก็หาเจ้าหมาไม่เจออีกเลย     Breeden เป็นคนที่ได้อยากช่วยหมาแล้วยังไงก็ต้องช่วยให้ได้ ดังนั้นเธอจึงโพสต์ตามหามันทางโซเชียลมีเดีย เพื่อให้คนที่เจอมันติดต่อมาหาเธอด้วย อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่มีคนติดต่อเธอมา พอเธอไปหาตามจุดที่ได้รับข้อมูลก็ไม่เจอเจ้าหมาแล้ว มันหนีคนไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุดเลย     5 เดือนต่อมาหลังจากเจอ Amethyst ครั้งแรก ในที่สุดเธอก็ได้เจอมันอีกครั้ง หลังได้รับเบาะแสจากชายคนหนึ่งว่ามันชอบมานอนอยู่ในตึกร้างใกล้ๆ บ้านเขา เธอก็เดินทางไปหามันทันที     แต่เมื่อเจอเจ้าหมาสภาพของมันก็แย่กว่าตอนแรกมาก ตอนนี้มันไม่มีขนเหลือแล้ว ตาก็อักเสบจนบวมออกมา ทำให้เธออยากช่วยมันมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามครั้งนี้เธอก็ยังจับมันไม่ได้เหมือนคราวก่อน แล้วมันก็หนีหายไปอีกครั้งหนึ่ง     ถึงการตามหาตัวมันจะเป็นเรื่องยาก แต่เรื่องที่ Breeden…

เจ้าหมา Bella จากประเทศนิวซีแลนด์โชคร้ายที่เจอเจ้าของที่ไม่รักมัน มันไม่มีความสุขจนต้องหนีไปอยู่กับครอบครัวอีกครอบครัวหนึ่งซึ่งเป็นคนเพาะพันธุ์หมา แต่มันก็เข้ากับหมาตัวอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่นไม่ได้เช่นกัน ท้ายที่สุดพวกเขาก็เลยพาเจ้าหมาไปอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Husky Rescue NZ     หลังจากที่มันเจอประสบการณ์แย่ๆ จากมนุษย์มานาน พอมาถึงศูนย์พักพิงของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ เจ้าหมาก็กลัวคนไปซะแล้ว เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนเดินเข้าไปใกล้กับกรงของ Bella มันก็จะวิ่งหนีไปที่ด้านหลังสุดของกรงแล้วขดตัวอยู่ตรงนั้น เพื่อพยายามซ่อนตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาสาสมัครที่นั่นต่างก็คิดว่าเจ้าหมาต้องใช้เวลาเยียวยาจิตใจนานมาก…แต่ก็โชคดีที่ไม่เป็นอย่างนั้น เพราะ Bella ได้เจอกับ Simon Evans ก่อน     Evans เป็นอาสาสมัครที่มาช่วยงานเป็นบางครั้งบางคราว เขาเคยช่วยให้หมาอลาสกันมาลิมิวท์ในนั้นที่ชื่อว่า Noct ให้หายกลัวคนมาแล้ว ซึ่งเจ้าหมาก็มาจากที่เดียวกันกับ Bella นั่นแหละ แล้วมันก็เคยกลัวคนมากพอๆ กันเลย เขาคิดว่าในเมื่อตัวเองเคยช่วยให้ Noct พ้นจากความกลัวมาแล้ว บางทีเขาก็อาจจะช่วย Bella ได้ด้วยเช่นกัน เขาจึงเริ่มมาหา Bella บ่อยขึ้น     ช่วงที่ Evans พยายามทำความคุ้นเคยกับ Noct เขาใช้วิธีการพามันไปเดินเล่นด้วยกันบ่อยๆ เพื่อให้มันคุ้นเคยและไว้ใจเขามากขึ้น ครั้งนี้เขาก็ใช้วิธีเดียวกันนี้กับเจ้า Bella…

เรารู้อยู่แล้วว่าสุขภาพจิตก็มีผลต่อการทำงานไม่ต่างจากสุขภาพกายเลย หากจิตใจของเราพร้อมที่จะทำงาน ก็จะส่งผลให้ทำงานได้เร็วและมีคุณภาพที่ดีขึ้นตามไปด้วย แล้วถ้าพนักงานส่วนใหญ่เป็นทาสแมว การเพิ่มแมวเข้ามาในบรรยากาศในที่ทำงานจะช่วยให้งานดีขึ้นได้ไหม? บริษัท Ferray Corporation จากประเทศญี่ปุ่นมีคำตอบให้เราแล้ว     บริษัท Ferray Corporation ก็ไม่ได้เอาผลการวิจัยมากจากที่ไหนไกลหรอก พวกเขาทดลองเรื่องนี้กับบริษัทของตัวเองนี่แหละ โดยพวกเขามีนโยบายให้พนักงานช่วยเหลือแมวจรจัด หากใครทำในส่วนนี้ก็มีสิทธิได้รับเงินโบนัสเพิ่มไปฟรีๆ เลย ถือเป็นนโยบายที่ช่วยให้พนักงานรักแมวมากขึ้นและเป็นการช่วยเหลือสังคมไปในตัว     นอกจากนี้ทางบริษัทก็อนุญาตให้พนักงานพาแมวของตัวเองมาที่บริษัทได้ตามสบาย ทำให้พนักงานที่เป็นทาสแมวไม่ต้องทิ้งแมวเอาไว้ที่บ้านตามลำพัง ในขณะเดียวกันการพาแมวมาอยู่ในที่ทำงาน ก็ทำให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลายเพราะมีเจ้าเหมียวช่วยคลายเครียดให้พวกเขาระหว่างวันด้วย     เจ้าแมวที่มาอยู่ในบริษัทจะไปไหนมาไหนก็ได้ตามใจชอบ ขอแค่อย่ากวนให้งานเสียก็พอแล้ว ทำให้บางครั้งแม้แต่เวลาเข้าประชุมก็ยังมีเจ้าเหมียวมานั่งฟังมนุษย์คุยเรื่องงานกัน     แน่นอนว่าพอมีแมวในออฟฟิศหลายตัวแล้ว มันก็ย่อมเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์เป็นธรรมดา บางทีอาจจะเดินมาขวางหน้าจอหรือคีย์บอร์ดบ้าง หรือไม่ก็อาจจะมานั่งทับเอกสารแล้วหลับไปเลยก็ได้ ตรงนี้ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบและจัดการตัวเองของทาส ที่จะงัดวิธีเฉพาะตัวมาช่วยเพื่อให้งานดำเนินไปด้วยดี และเสร็จตามเป้าหมานที่ตั้งไว้   มาอ้อนอีกแล้วเหรอ ขอทำงานตรงนี้เสร็จก่อนเดี๋ยวไปเล่นด้วยนะ   บรรยากาศน่าทำงานจริงเชียว…   ที่น่าสนใจก็คือทางบริษัทระบุว่าการเอาแมวมาอยู่ในที่ทำงาน ส่งผลให้พนักงานมีความเครียดลดน้อยลง และสร้างผลงานออกมาได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน ที่ผลออกมาเป็นแบบนี้ อาจเป็นเพราะพนักงานมีเจ้าแมวคอยจับตาดูเวลาทำงาน ก็เลยตั้งใจทำงานมากขึ้นกว่าปกติก็ได้นะ   ออฟฟิศของเราก็เป็นแบบนี้แหละ ที่มา:…

พี่น้องบางครอบครัวอาจอยู่ด้วยกันมานานจนเบื่อหน้า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะมีเวลาส่วนตัวเยอะๆ ทว่าไม่ใช่สำหรับ 3 พี่น้องหมาครอบครัวนี้แน่นอน พวกมันไม่อยากจากกันแม้วินาทีเดียว Goliath, Gunther และ Gasket เป็นพี่น้องหมาสายพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด พวกมันจึงชินกับการอยู่ด้วยกัน     เมื่อศูนย์พักพิงสัตว์รับพวกมันมาเข้ามา พวกเขาถึงกับต้องปิดห้องอาศัยของหมาจรจัดให้พวกมันทั้งห้องเลย เนื่องจากพวกมันตัวโตและต้องการพื้นที่มาก ถึงจะกินที่สักหน่อยแต่หมาทั้ง 3 ตัวก็ดูมีความสุขมากกับห้องที่ได้ พวกมันสามารถวิ่งเล่นกันได้อย่างเต็มที่ แล้วพอเหนื่อยก็จะมานอนกองรวมกันในกรงกรงเดียว เป็นภาพที่เห็นแล้วน่าเอ็นดูสุดๆ     เจ้าหน้าที่ในนั้นเคยทดลองแยกพวกมันออกจากกันครั้งหนึ่ง แต่พวกมันทุกตัวต่างก็มีอาการเครียด เอาแต่มองหาทางหนีเพื่อออกไปตามหาพี่น้องตัวอื่น เมื่อเห็นว่าสายสัมพันธ์ของพวกมันเหนียวแน่นขนาดไหนแล้ว ทางศูนย์พักพิงสัตว์จึงตัดสินใจว่าพวกมันทั้ง 3 ตัวต้องได้ไปอยู่บ้านหลังเดียวกันเท่านั้น     ทว่าการหาบ้านให้พวกมันทั้ง 3 ตัวเป็นเรื่องใหญ่มากๆ เพราะพวกมันทุกตัวต่างก็ตัวโต คนรับเลี้ยงจึงต้องพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายเรื่องอาหารของพวกมัน ซึ่งทางศูนย์พักพิงสัตว์คาดว่าน่าจะสูงถึงประมาณ 1 หมื่นบาทต่อเดือน โชคดีที่หลังจากออกประกาศตามหาบ้านให้ Goliath, Gunther และ Gasket แล้ว ชาวเน็ตก็ให้กระแสตอบรับดีมากๆ ไม่ทันไรก็มีครอบครัวที่ต้องการจะเลี้ยงพวกมันหลายร้อยครอบครัวแล้ว     ตอนนี้ทางศูนย์พักพิงยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้ใครเลี้ยงพวกมัน เพราะพวกเขาอยากใช้เวลาสักพักเพื่อพิจารณาให้แน่ใจก่อนว่าครอบครัวที่รับพวกมันไป จะแบกรับเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพวกมันไหวจริงๆ นอกจากนี้แล้วครอบครัวที่จะได้พวกมันไปก็ต้องรักพวกมันจริงๆ ด้วย…

เจ้ากระต่ายน้อยตัวหนึ่งเป็นตัวเดียวในหมู่พี่น้องที่ไม่มีหูตั้งแต่เกิด ถ้าเป็นเราคงจะรู้สึกแปลกแยกมากเลย แต่หลังจากที่ได้มาอยู่กับเจ้าของคนใหม่ เธอก็ช่วยเติมเต็มความน่ารักให้กับมันจนดูดีกว่าพี่น้องตัวอื่น เจ้า Little Mimi เกิดมาพิการเนื่องจากไม่มีหูทั้ง 2 ข้าง นอกจากนั้นแล้วยังมีขาเพียงแค่ 3 ข้างด้วย เนื่องจากขาหน้าข้างหนึ่งของมันไม่พัฒนาตอนอยู่ในท้อง     ครอบครัวของมันเคยอยู่กับหญิงชราคนหนึ่งมาก่อน แต่เมื่อเธอแก่ตัวจนดูแลพวกมันเองไม่ไหวแล้ว มันและครอบครัวก็ถูกส่งต่อให้ Rodajia Welch หญิงวัย 22 ปีซึ่งเป็นเจ้าของคนปัจจุบันดูแลแทน หลังจาก Welch รับพวกมันมา เธอก็ทำให้ Little Mimi ดูสมบูรณ์มากขึ้นโดยการทำหูไหมพรมให้มันใส่ แถมยังมีหลากหลายแบบให้เลือกใส่ไม่เบื่อเลย ถ้าพี่น้องของมันเห็นคงรู้สึกอิจฉากันบ้างล่ะ     Welch เล่าว่าหูไหมพรมของมันได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระแส Kemonomimi ซึ่งเป็นการแต่งคอสเพลย์ด้วยการใส่หูสัตว์ เธอเห็นว่ากระต่ายน้อยไม่มีหูพอดี จึงน่าจะเหมาะกับหมวกหูสัตว์แบบนี้ แถมมันยังใส่แล้วดูเหมาะมากๆ เนื่องจากไม่มีหูของจริงมาซ้อนกันด้วย นอกจากนี้หูสัตว์พวกนี้ก็เป็นที่มาของชื่อของมันเช่นกัน   ถักหมวกให้เองกับมือ   เสร็จแล้วก็จะประมาณนี้   น่ารักเนอะ   อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้บังคับให้ Little Mimi ใส่หูสัตว์เพื่อความสวยงามหรอกนะ เธอจะใส่ให้มันเฉพาะเวลาอยู่ด้วยกัน และเวลาที่แยกจากพี่น้องตัวอื่นเท่านั้น เพราะเธอไม่อยากให้กระต่ายอื่นมารุมแทะหูมัน…

การได้เข้าไปอยู่ใกล้ชิดกับแมวน้ำ หรือที่เราเรียกกันเล่นๆ ว่าอุ๋งๆ เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลย ดังนั้นประสบการณ์ที่นักผจญภัยกลุ่มนี้ได้เจอจึงเป็นสิ่งที่น่ารักและน่าอิจฉาด้วย ครั้งหนึ่งเมื่อ Alistair Forrest และเพื่อนของเขากำลังพายเรือคายัคด้วยกันอยู่ในทะเลนอร์ธซี ใกล้กับประเทศสกอตแลนด์ พวกเขาสังเกตเห็นแมวน้ำตัวหนึ่งว่ายน้ำตามมาด้านหลัง     เจ้าอุ๋งมันว่ายน้ำตามพวกเขามาสักพักแล้ว Forrest ก็เลยตัดสินใจหยุดพายเรือ แล้วถ่ายคลิปวิดีโอไว้เพื่อดูว่ามันต้องการอะไรกันแน่ พอเขาหยุดเรือแล้วเจ้าแมวน้ำก็เกาะขอบเรือคายัค เพื่อพยายามจะปีนขึ้นมานั่งบนเรือด้วย แต่ Forrest ก็ไล่มันลงไปเพราะกลัวว่าเรือจะล่ม   บอกให้ลงไปจากเรือก็ไปดีๆ ด้วยแฮะ สงสัยฟังรู้เรื่อง   อย่างไรก็ตามเจ้าแมวน้ำตัวนี้ก็ไม่ได้ละความพยายาม อีกสักพักหนึ่งมันก็วนไปที่เรือของเพื่อนเขา แล้วปีนเอาตัวเองขึ้นมาอยู่บนเรือจนได้ พวกเขาและเพื่อนเลยคิดว่าเจ้าแมวน้ำคงอยากมานั่งเล่นเป็นเพื่อนละมั้ง เพราะไม่อย่างนั้นมันคงไม่ตามพวกเขามาขนาดนี้ แล้วขึ้นมานั่งบนเรือชิลๆ หรอก   ค่อยๆ ปีนขึ้นไป เรือจะได้ไม่คว่ำ   ฮึบๆ ทรงตัวนั่งบนเรือได้แล้ว   ในคลิปวิดีโอเจ้าอุ๋งพยายามปีนขึ้นมาบนเหลือตั้ง 3 รอบเชียวนะ Forrest และเพื่อนของเขาเองก็บอกว่านี่เป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ เหมือนกัน ไม่รู้ว่าหลังจากนี้พวกเขาจะได้เจออะไรแบบนี้อีกรึเปล่า     ดูคลิปวิดีโอเต็มๆ ได้ที่นี่    โอ๊ย อยากใกล้ชิดอุ๋งๆ…

แมวเหมียวตัวหนึ่งถูกเอามาทิ้งไว้ที่หน้าร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง มันลุกขึ้นยืนเองยังไม่ได้เลย แต่หลังจากเจอหญิงที่เต็มใจช่วยมันไม่นาน แมวเหมียวก็กลับมาเดินได้ตามปกติ     หลังจากที่พนักงานเจอเจ้าแมวอยู่หน้าร้าน พวกเขาก็ขอให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Hearts Alive Village รับมันไปดูแล Ellen Richter ซึ่งเป็นอาสาสมัครอยู่จึงมารับตัวเจ้าแมวไป แล้วเธอก็สังเกตเห็นได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับมัน     เธอเล่าว่า “พนักงานในร้านเอากล่องใบหนึ่งที่เต็มไปด้วยกิ่งไม้และใบไม้มาให้ฉัน แล้วฉันก็เห็นเจ้าเหมียวอยู่ในนั้น มันตกใจที่ฉันเข้าไปหา ตอนแรกฉันนึกว่ามันจะโดดหนีไป แต่มันก็นอนอยู่เฉยๆ แล้วขู่ใส่ฉัน” ตอนแรกเธอคิดว่ามันเป็นฮีทสโตรกจนทำให้ลุกขึ้นไม่ไหว ก็เลยเอาผ้าชุบน้ำห่อตัวมันแล้วเอาน้ำให้กินด้วย แต่ถึงจะพามันมาถึงบ้านแล้วมันก็ยังยืนขึ้นไม่ได้เลย แต่มันพยายามใช้ข้อศอกคลานหนีแทน     Ellen ตั้งชื่อเจ้าแมวว่า Tiny เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงพามันไปหาสัตวแพทย์ จากนั้นถึงได้มั่นใจว่าเจ้าเหมียวแข็งแรงดี แต่ด้วยสาเหตุบางอย่างที่แม้แต่หมอเองก็ไม่รู้ เจ้าแมวเลยเดินไม่ได้ทั้งๆ ที่ขาก็ไม่ได้หัก     อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทิ้งมันไว้กับสัตวแพทย์ 1 คืน เจ้าแมวก็สามารถยืนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ทั้ง Ellen และสัตวแพทย์ทุกคนดีใจกับมันมาก นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอมีความหวัง ว่าหากเธอช่วยดูแลมันต่อไปเจ้าแมวจะต้องกลับมาเดินได้อีกครั้ง เธอจึงพยายามช่วยมันอย่างเต็มที่     ในช่วงแรกเธอพยายามช่วยพยุง Tiny ให้ยืนขึ้นได้ด้วยตัวเอง การที่เธอใช้เวลากับมันมากๆ ทำให้เจ้าเหมียวเริ่มไว้ใจเธอจนไม่ร้องขู่แล้ว…

การพบกันของเจ้าหมาและเจ้าของหลังจากที่ห่างกันไปนาน ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกซาบซึ้งไปกับพวกเขาด้วย เนื่องจากเห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าหมาจำเจ้าของได้ และดีใจเป็นที่สุดที่ได้เจอเขา คุณลุง Giorgi Bereziani วัย 62 ปีเป็นเจ้าของของ Jorge เจ้าหมาในคลิปวิดีโอ มันหายออกไปจากบ้านในเมือง Tbilisi ประเทศจอร์เจียเมื่อปี 2015     Bereziani พยายามตามหาเจ้าหมาตลอดมา เขาทำป้ายประกาศตามหาสุนัขหายและนำมันไปติดไว้ทั่วเมือง แต่ก็ไม่เคยเจอตัวมันเลย แม้จะมีคนแจ้งเบาะแสของมันให้เขาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เบาะแสของเจ้าหมาจริงๆ สักที จนกระทั่งเขาได้รับโทรศัพท์เรื่องเจ้าหมาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา     พนักงานของโรงละครแจ้ง Bereziani ว่ามีหมาตัวหนึ่งนอนอยู่หน้าโรงละคร ซึ่งเหมือนกับในประกาศหมาหายของเขาเลย เมื่อ Bereziani มาดูหน้าโรงละครเขาก็ได้เจอกับเจ้าหมาจริงๆ ในคลิปวิดีโอจะได้ยินเขาบอกว่า “Jorge นั่นแกใช่ไหม โอ้ Jorge เป็นแกจริงๆ ด้วย! เด็กดีของพ่อ เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม?”      เจ้าหมาเองก็จำคุณลุงได้ แถมยังแสดงอาการดีใจแบบเก็บไว้ไม่อยู่เลยด้วย มันส่งเสียงออดอ้อนดีใจที่ในที่สุดก็ได้เจอเจ้าของอีกครั้ง     หลังจากได้เจอกับเจ้าของ Jorge…

ขนของหมาบ่งบอกได้ถึงคุณภาพชีวิตของพวกมัน ดังนั้นสำหรับเข้าหมาจรจัดขนยุ่งตัวนี้ แค่ดูก็รู้ทันทีเลยว่าไม่มีใครช่วยดูแลมันเป็นเวลานานแล้ว     เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์เจอเจ้าหมาขนยุ่งตัวนี้อยู่ข้างถนนในเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะพามันเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ ทว่าสภาพของมันเกินกำลังช่วยเหลือของศูนย์พักพิง พวกเขาจึงต้องติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Trio Animal Foundation ให้มาช่วยมันอีกต่อหนึ่ง     พวกเขาตั้งชื่อเจ้าหมาว่า Sang Su ถึงมันจะอยู่ในมือของคนที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือหมามามากแล้ว แต่พวกเขาก็คิดว่ากรณีของมันค่อนข้างร้ายแรง Sue Naiden ประธานของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เล่าว่า “ขนของมันพันกันยุ่งเหยิงมากทั้งรอบหู และก็รอบขาทำให้เหมือนมันถูกยึดไว้กับเครื่องหนีบตลอดเวลา นอกจากนี้ขนหนาๆ ของมันก็เหม็นกลิ่นฉี่มากจนทำให้คนไม่กล้าเข้าใกล้”     ขนของเจ้าหมาหนามากจนแทบมองไม่เห็นตัวเลย ทำให้อาสาสมัครเดาไม่ถูกว่ามันเป็นหมาพันธุ์อะไรกันแน่ พวกเขาต้องใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงกว่าจะช่วยตัดขนของมันจนหมด พอตัดขนออกมาแล้วถึงได้รู้ว่าเจ้าหมาตัวเล็กนิดเดียวเอง ขนหนาๆ ของมันดูจะหนักเทียบเท่าตัวมันได้เลยเชียวนะ     ตอนแรก Naiden คิดว่าเจ้าหมาน่าจะเป็นพันธุ์ชิสุหรือไม่ก็พุดเดิ้ลเพราะมันขนยาว แต่พอตัดขนเสร็จเขาที่อยู่กับหมามานานก็ยังเดาผิดเหมือนกัน เขาเล่าว่า “พอตัดขนเสร็จเราก็ได้รู้ว่ามันเป็นหมาพันธุ์คอกเกอร์สปิเนลผสม ตั้งแต่ทำงานช่วยเหลือมาจนตอนนี้ 20 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเดาพันธุ์ของหมาภายใต้ขนยุ่งๆ ผิด”     พอตัดขนเสร็จเรียบร้อยแล้ว Sang Su ก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นหมาตัวใหม่ มันดูแตกต่างจากเดิมลิบลับ แถมยังเดินไปมาคล่องตัวขึ้นเยอะเลย มันได้วิ่งไปมาอย่างอิสระหลังจากที่ไม่สามารถทำแบบนั้นมานาน…

ถึงจะยังเป็นเด็กแต่เมื่อเด็กชายเจอลูกหมาจรจัด เขาก็ปล่อยมันไว้เฉยๆ ไม่ได้ จึงพามันไปปล่อยในที่ที่ปลอดภัย และทำให้มันมีบ้านในที่สุด      João Gabriel วัย 10 ขวบจากประเทศบราซิลกำลังเดินไปโรงเรียน เขาเห็นลูกหมาตัวหนึ่งอยู่ตามลำพัง และเขาก็ไม่อยากปล่อยมันไว้แบบนั้น เขาจึงอุ้มมันใส่กระเป๋าแล้วพามันไปด้วย เขาเล่าว่า “ผมรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเจ้าหมาน่ารักตัวนี้อยู่ตามลำพัง มันดูหิวโหยด้วย ผมก็เลยพามันไปร้านขายยาที่ผมเดินผ่านทุกวัน”     สาเหตุที่เขาพามันไปปล่อยไว้ที่หน้าร้านขายยา เป็นเพราะที่นั่นมีถาดอาหารและน้ำวางไว้ให้หมาจรจัดด้วยนั่นเอง ซึ่งเด็กหนุ่มคิดว่าที่นั่นจะปลอดภัยสำหรับมันมากกว่า ตอนที่ Gabriel พามันไปปล่อยกล้องวงจรปิดหน้าร้านก็จับภาพไว้ได้พอดี วิดีโอที่เด็กหนุ่มช่วยพาเจ้าหมามาส่งเลยถูกแชร์ลงบนโซเชียลมีเดีย และดังเป็นกระแสไวรัลเลยทีเดียว     นอกจากนี้การที่ Gabriel เอามันมาส่งตรงนี้ ก็ทำให้มันได้เจอบ้านใหม่ด้วย เนื่องจาก Josiel Pedro Barbosa ซึ่งทำหน้าที่เติมข้าวและน้ำตรงนั้นเป็นคนที่ช่วยเหลือสัตว์ประจำ เมื่อเขามาเจอมันก็เลยช่วยหาบ้านให้ได้ เนื่องจากวิดีโอของเด็กชายดังเป็นกระแสอยู่แล้ว ทำให้ไม่ยากเลยที่จะทำให้คนรู้จักเจ้าหมาน้อย จึงมีคนมาขอรับมันไปเลี้ยงเรียบร้อยแล้ว     ความดีของน้อง Gabriel สร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตมาก ทางร้านขายยาเองก็รู้สึกชื่นชมเด็กชายที่มีน้ำใจช่วยเหลือหมาเช่นกัน เมื่อเขาผ่านมาอีกพนักงานในร้านขายยาจึงมอบรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ให้เขาเป็นรางวัล เพื่อเป็นกำลังใจให้เด็กชายทำความดีต่อไป     ถ้าเราตั้งใจทำความดี…

ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ชนิดไหนก็ตาม สิ่งที่มีติดตัวมาโดยธรรมชาติตั้งแต่เกิดเหมือนกัน ก็คือสัญชาตญาณความเป็นแม่ เมื่อสัตว์มีลูกส่วนใหญ่พวกมันก็จะปกป้องลูกอย่างสุดความสามารถ แล้วทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ลูกเติบโตได้อย่างปลอดภัย สิ่งที่แสดงความรักของแม่สัตว์ที่มีต่อลูกได้ ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าภาพระหว่างแม่ลูกที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน แค่มองเราก็รู้แล้วว่าความรักของแม่ยิง่ใหญ่ขนาดไหน   ไม่ต้องเดินให้เหนื่อยหรอก ขี่หลังแม่ไปก็ได้   จับตามองแบบใกล้ชิด จะได้ไม่มีคนรังแกลูก   ง่วงแล้วเหรอ เดี๋ยวแม่กล่อมนอนนะ   ดูสิเล่นซนจนตัวมอมแมมหมดเลย   อย่าว่ายน้ำห่างแม่ไปไกลนะ   เอ้าค่อยๆกินสิ อย่าแย่งกัน   แย่งกันอ้อนแม่เหรอ   ตามแม่กันมาสิ ช้ามากเดี๋ยวก็หลงหรอก   หอนตามแม่นะ โตมาจะได้ทำเป็น   เข้ามาหลบในนี้ดีกว่า ปลอดภัยหายห่วง   รักนะ กอดแม่หน่อย   อยากสูงเท่าแม่ไวๆ ล่ะสิ   เลอะทีไรแม่ต้องพามาอาบน้ำทุกที   เดี๋ยวหนูเลียขนให้แม่บ้างนะ   อ้อนแม่จังเลย เด็กอะไรขี้อ้อนจัง   อ้อมกอดของแม่อุ่นที่สุด   อยู่กับแม่แล้วรู้สึกปลอดภัยขึ้นเยอะเลย   อยากเห็นเจ้าตัวเล็กโตขึ้นไวๆ  …

ในชุมชนแห่งหนึ่งมีหมาจรจัดชื่อว่า Baby อาศัยอยู่ คนแถบนั้นที่รู้จักมันต่างก็รักมัน เพราะมันชอบเดินไปส่งทุกคนกลับบ้านเสมอ แต่ถึงทุกคนจะรักและห่วงมัน ตัวของมันเองก็ไม่มีบ้านอยู่ แล้วก็ต้องตากแดดตากฝนเพราะไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากพวกเขา ทุกคนเลยร่วมมือกันเพื่อหาทางช่วยเจ้าหมา   ในย่านแห่งหนึ่ง…   มีหมาอยู่ตัวหนึ่งที่ชอบเดินไปส่งทุกคนกลับบ้าน   ทุกคนเรียกมันว่า Baby   มันจะส่งคนแถวนั้นไปให้ถึงบ้าน   แล้วตัวเองก็ไปรอส่งคนอื่นต่อ   ถ้าเจอคนอยู่กันเป็นหมู่   Baby ก็จะเดินไปกับทุกคนตามเส้นทาง   เพื่อส่งคนที่บ้านอยู่ใกล้ก่อน   จากนั้นจึงไล่ไปส่งต่อทีละคน   จนถึงบ้านของมนุษย์คนสุดท้าย   ส่วนตัวเองก็กลับไปนอนข้างถนน   นั่นคือชีวิตประจำวันของ Baby   กลุ่มคุณป้าที่มันอยู่ด้วยประจำบอกว่าตอนแรกพวกเขาก็ไม่รู้จักกัน แต่พอเจอเจ้าหมาก็เลยรู้จักกันและรวมตัวผ่านมัน   พวกเธอเห็นว่ามันนิสัยน่ารักก็เลยเอาข้าวเอาน้ำให้กิน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้มันตอบแทนพวกเธอโดยการเดินไปส่งที่บ้านก็ได้   ไม่ว่าสภาพอากาศจะแย่แค่ไหน มันก็ยังเดินไปส่งพวกเขาทุกครั้ง   แต่มันก็ไม่เคยตามพวกเขาไปหลบแดดหลบฝนเลย คุณป้าเลยเป็นห่วงมันมาก   พวกเขาเคยบอกให้เจ้าหน้าที่ควบคุมมสัตว์จับมันไปเพื่อหาเจ้าของใหม่ แต่เจ้าหมาก็ฉลาด เห็นคนใส่ชุดนี้แล้วหนีตลอด   สุดท้ายพวกเขาก็เลยให้คนที่สนิทล่อ Baby เข้าไปในกรงถึงจับตัวไว้ได้…

คนที่ชอบกอดสัตว์จะรู้ดีว่าการได้เข้าไปกอดกับสัตว์ขนฟู-หนา-นุ่ม มันสร้างความฟินในหัวใจได้ในแบบที่ไม่มีอะไรมาเทียบเลย แล้วเคยคิดกันบ้างรึเปล่าว่าถ้าสัตว์ขนฟูพวกนี้ตัวใหญ่กว่านี้คงจะกอดเหมาะมือมากๆ เลย… @13033303 ศิลปินชาวญี่ปุ่นเองก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ไม่เพียงเท่านั้นนะ เขายังถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นรูปภาพให้เราได้ชมกันด้วย พอเห็นภาพของเขาแล้วยิ่งมั่นใจเลยว่าโลกที่มีสัตว์ขนฟูตัวโตน่ากอดมันดีต่อใจจริงๆ   ถ้ามีแมวตัวโตๆ เราไม่กอดมันแล้ว ขอนอนซุกเลยดีกว่า   เหมือนมีหมอนอิงเคลื่อนที่ได้เลย   อาห์ ขอซุกหน้าลงไปในขนนุ่มๆ นี่หน่อยเถอะ   จะกอดตัวไหนดีละเนี่ย   พี่หมีจะไปไหนคะ แวะเล่นกันก่อนสิ   ไม่ทำมันละการบงการบ้าน นอนกับแมวดีกว่า   สัตว์ขนฟูนี่แหละเยียวยาใจเราได้   สงสัยหลับอยู่ ไม่กวนดีกว่า   อย่าขยับนะ อยากพิงต่ออีกสักแปบ   ถ้าตะปบเรือเราคว่ำนะ   มาเป็นหมอนให้มนุษย์หนุนหน่อย   นี่แหละสวรรค์ของผม   ที่เมืองพังเป็นเพราะแกกลิ้งทับใช่ไหม…   ออกมาปิ๊กนิกกับแมวก็จะฟินไปอีกแบบ   คงไม่มีอะไรนุ่มกว่านี้แล้ว   หยุดเลยมนุษย์ เอาข้าวมากินก่อนแล้วค่อยกอด   ฉันไม่ควรขยับใช่ไหม?   มัวแต่ทำงานอยู่นั่นแหละ มาชิลกันเถอะ  …

เจ้าของสัตว์ทุกคนคงรู้สึกดีถ้าได้รู้ว่าเจ้าหมารักตัวเองมาก แต่ถ้าเจ้าหมารักและคิดถึงเจ้าของมากเกินจนเป็นเรื่องให้ต้องเสียเงินเป็นหมื่น…ก็ไม่รู้จะเสียใจกับเงินที่เสียไป หรือดีใจที่มันคิดถึงตัวเองมากกว่าปกติดี Tara Jameson เป็นเจ้าของของหมาขนปุยสีขาวชื่อว่า Bobbie เจ้าหมารักและหวงเธอมากๆ จนไม่อยากจะอยู่ห่างจากเจ้าของเลย     วันหนึ่งเมื่อเธอต้องไปซ้อมพิธีแต่งงานกับแฟนหนุ่ม เธอก็เอาเจ้า Bobbie มาฝากไว้ที่บ้านของคุณแม่ พร้อมกับทิ้งของเล่นที่มันชอบไว้ให้อีกกล่องหนึ่งด้วย เธอออกไปซ้อมพิธีแต่งงานเพียงแค่ 3 ชั่วโมงเท่านั้น จึงไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อกลับมาบ้านแม่แล้ว…เธอกลับต้องมาพบกับความพินาศที่เจ้าหมาก่อไว้ ซึ่งมันค่อนข้างร้ายแรงเลยล่ะ   ภาพก่อนที่ Tara จะออกจากบ้านไป   ภาพหลังจากที่เธอกลับมาหาเจ้าหมา   หลังจากที่เธอทิ้ง Bobbie ไว้แล้ว เจ้าหมาทนคิดถึงเธอไม่ไหว มันก็เลยกัดประตูเพื่อพยายามจะตามเธอออกไป นอกจากนี้มันก็กัดกล่องพัสดุซึ่งมีโทรทัศน์อยู่ข้างในจนเละเทะเพื่อเรียกร้องความสนใจด้วย พอลองคำนวณมูลค่าความเสียหายที่เจ้าหมาก่อทั้งหมดแล้ว เจ้าหมาทำให้เธอเสียเงินกว่า 1,500 ปอนด์ (เกือบ 65,000) เชียวนะ Tara เล่าว่า “เรื่องครั้งนี้เป็นอะไรที่แย่ที่สุดตั้งแต่อยู่กับมันมาเลย แถมเรื่องก็ไม่ได้เกิดที่บ้านของฉันเองด้วย ตอนแรกฉันก็ตกตะลึงและโกรธมันอยู่หรอก แต่พอคิดได้ว่ามันอยู่ไม่สุขเพราะถูกฉันทิ้งไว้ ฉันก็พอเข้าใจมันนะ”     เธอเล่าว่าปกติ Bobbie ก็หวงเธอมากอยู่แล้ว แต่มันดูจะหวงเธอมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่เธอกับแฟนคบกัน ทุกครั้งที่แฟนของเธอมาบ้านเจ้าหมาจะหอน เหมือนมันกำลังประท้วงเพราะรู้สึกอิจฉาอยู่ยังไงยังงั้นแหละ ครั้งนี้ที่เธอออกไปกับแฟนหนุ่มข้างนอกโดยทิ้งมันไว้…

ในขณะที่กำลังขับรถอยู่ หากมีสัตว์วิ่งออกมาตัดหน้ารถจนถูกทับ หลายคนไม่คิดจะหันกลับไปมองมันด้วยซ้ำ ทว่าหนุ่มคนนี้แตกต่างออกไป เขาเป็นห่วงแม้แต่สัวสดิภาพของกระรอกตัวน้อยๆ วันหนึ่งขณะที่ Cristopher Felix หนุ่มวัย 19 ปีกำลังขับรถอยู่ เขาเห็นกระรอกตัวหนึ่งวิ่งออกมาตัดหน้ารถของตัวเอง ถึงเขาจะหยุดรถได้แต่ก็ไม่แน่ใจว่าทับมันไปรึเปล่า     พอเขาเอารถจอดเข้าข้างทางแล้วลงไปดูอาการของมัน เจ้ากระรอกก็นอนนิ่งไปแล้ว ด้วยความที่เขาอยากช่วยมันเขาก็เลยอุ้มมันไปที่ข้างทางแล้วเริ่มปั๊มหัวใจให้ Felix เล่าว่า “ผมรู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมคิดแค่ว่าผมอยากจะพยายามช่วยกระรอกอย่างสุดกำลัง เพราะสำหรับผมแล้วนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด”     สักพักหนึ่งตำรวจที่ตรวจตราอยู่แถวนั้นก็สังเกตเห็นเขาเข้า จึงเข้ามาสอบถามเรื่องราวแล้วให้คำแนะนำ Felix เพิ่มเติมเกี่ยวกับการช่วยมัน ตำรวจบอก Felix ว่าไม่แน่เจ้ากระรอกอาจจะไม่ได้โดนรถทับหรอก มันคงจะตกใจกับแรงลมของรถที่พัดมันอย่างแรงจนทำให้มันสลบไปเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แค่ให้มันพักสักหน่อยก็โอเคแล้ว     Felix ก็คิดว่าเขาไม่ได้ขับรถทับมันหรอก เขาแค่เป็นห่วงเพราะมันนอนแน่นิ่งไป พอเขาพลิกตัวมันกลับมาแล้วลูบต่ออีกสักพัก เจ้ากระรอกก็รู้สึกตัวแล้ววิ่งกลับเข้าไปในป่าได้โดยไม่บาดเจ็บอะไร ชายหนุ่มยิ้มกว้างทันทีที่เห็นว่ามันปลอดภัยแล้ว ดูหน้าก็รู้แล้วว่าเขาต้องรู้สึกดีใจมากๆ ที่รู้ว่าตัวเองได้ช่วยให้มันปลอดภัยอีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วเจ้ากระรอกอาจจะไม่เป็นอะไรเลยตั้งแต่ต้น แต่ความเป็นห่วงและหวังดีที่ Felix มีให้มันก็น่าชื่นชมมากทีเดียว ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน     ที่มา: the dodo

หลายคนบอกว่าสุนัขคือสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดในโลก เพราะพวกมันมักจะทำให้คุณยิ้มหรือหัวเราได้เสมอ และเมื่อพูดถึงสุนัขพันธุ์ที่มีความฉลาด เราคงจะนึกถึงโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เป็นอันดับต้นๆ ยกตัวอย่างเช่น Marshal น้องโกลเด้นวัย 3 ขวบตัวนี้ ที่มีทั้งความน่ารัก ความฉลาด และความซุกซน จนกลายเป็นสีสันของครอบครัว     Marshal ก็เหมือนสุนัขทั่วไปนั่นแหละ ที่ชอบแอบออกไปเล่นนอกบ้านในบางครั้ง ทั้งๆ ที่พ่อแม่ไม่อนุญาต แต่จริงๆ มันไม่ได้จะหนีหรอก มันแค่จะออกไปเดี๋ียวเดียว เมื่อเล่นจนพอใจแล้วมันก็จะรีบกลับมาทันที แต่ครั้งนี้ดูเหมือนพ่อแม่จะให้บทเรียนกับมัน หลังจากที่มันหนีออกจากบ้าน พวกเขาก็ล็อกประตูไว้ แล้วคอยดูว่ามันจะหาวิธีไหนเข้าบ้านยังไง แต่ภาพที่บันทึกจากกล้องวงจรปิด ทำเอาทุกคนยิ้มตาม     ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพตอนที่ Marshal กลับมาเคาะประตู มันใช้อุ้งเท้าตะกุยที่ประตู เพื่อบอกให้พ่อแม่รู้ว่ามันพร้อมที่จะเข้าบ้านแล้ว Marshal ทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่าจะโดนพ่อแม่ล็อกประตูใส่ เพราะมันออกไปเล่นแค่แป๊บเดียวจริงๆ ยังเล่นไม่พอใจด้วยซ้ำ แต่ตัดสินใจรีบกลับมาก่อนเพราะไม่อยากทำตัวเป็นเด็กเกเร     ดูความฉลาดของมันจากคลิปด้านล่างนี้ เห็นแล้วอยากรีบเปิดให้เลย   ที่มา weloveanimals

ข้อดีอย่างหนึ่งของสุนัขคือ พวกมันสามารถมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหมือนอย่าง Molly หมาพันธุ์บิชอน ชิสุห์ วัย 9 ขวบ ที่ชอบเล่นกับขนแกะที่ตัดแล้ว Molly อาศัยอยู่กับ Tilly Merson และครอบครัวในประเทศนิวซีแลนด์ มันชอบสัตว์ขนปุยมากๆ แต่ดูเหมือนครอบครัวจะไม่รู้เลยว่ามันชอบขนสัตว์มากขนาดไหน     บ้านของ Tilly กับครอบครัวเป็นสวนผลไม้ที่มีแกะอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง พวกเขารับเลี้ยง Molly ตัั้งแต่มันเป็นลูกหมาตัวน้อย พวกเขาบอกว่ามันชอบหมกมุ่นกับสัตว์ขนปุย แม้จะอายุ 9 ขวบแล้ว แต่ Molly ชอบเล่นเหมือนหมาน้อยที่อายุได้ไม่กี่เดือน เพราะแบบนี้ ใครก็ตามที่เห็นมัน ก็ตกหลุมรักมันทั้งนั้น     Tilly บอกว่า “Molly รักแกะมาก และชอบหมกมุ่นอยู่กับพวกมัน มันชอบไปวิ่งเล่นกับพวกแกะทุกครั้งที่มีโอกาส เรามีแกะตัวหนึ่งชื่อ Lamb Lamb มันมีเสน่ห์โดดเด่นกว่าตัวอื่นๆ Molly สนิทกับมันมากเป็นพิเศษ” ทุกครั้งที่ Molly ได้อยู่กับ Lamb Lamb มันจะทำความสะอาดหูให้และเลียขาให้ เวลาที่คุณลุงตัดขนให้แกะ พวกเขาจะขังเจ้าหมาไว้ในบ้าน เพื่อไม่ให้มันไปรบกวนลุง  …

ลูกหมาพิการตั้งแต่เกิดไม่มีคนต้องการมันเลย ทุกคนต่างคิดว่ามันคงไม่มีโอกาสรอด มีเพียงชายที่เป็นเจ้าของคนปัจจุบันเท่านั้นที่สู้ไปกับมันและทำให้มันมีชีวิตที่แสนสุข Putol เกิดมามีเพียงขาหน้าแค่ 2 ข้างเนื่องจากมีความปกติทางกรรมพันธุ์ ทว่ามันก็สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง ถ้าใครเคยไปเมือง Quezon City ประเทศฟิลิปปินส์อาจจะเคยเห็นมันแล้วก็ได้     Danilo Codilego Jr. ซึ่งเป็นเจ้าของของมันเจอมันครั้งแรกเมื่อ 6 ปีก่อน โดยเพื่อนร่วมงานของของเขาเอาลูกหมามาขาย 4 ตัว เขาเล่าว่า “ตัวอื่นๆ มีคนซื้อไปเลี้ยงหมด มีเพียงหมา 2 ขาน่าสงสารเท่านั้นที่ไม่มีใครสนใจ พวกเขาคิดว่ามันจะอายุสั้น มีแค่ผมเท่านั้นที่กล้าพอจะดูแลมัน      ในช่วง 2 ปีแรกที่ Danilo รับมันมาดูแล เจ้าหมาก็มีปัญหาในชีวิตมากเหมือนกัน เนื่องจากมันยังเดินเองไม่เป็น มันก็เลยต้องลากตัวเองไปมาเวลาที่อยากเคลื่อนที่ แต่พอ Danilo ช่วยฝึกให้มันทรงตัวเดิน 2 ขาแล้ว Putol ก็สามารถเดินได้เหมือนหมาปกติ มันวิ่งได้ไวมากๆ จนไม่น่าเชื่อเลยว่าพิการ      ปัจจุบันเจ้า Putol จึงเป็นหมาที่มีความสุขกับการอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของ มันก้าวข้ามความลำบากในการเป็นหมาพิการไปได้โดยสมบูรณ์แล้ว Danilo…

หญิงสาวคนหนึ่งเจอแมว 2 ขาโดยบังเอิญ ท่าที่ที่มันพยายามใช้ชีวิตตามปกติให้เหมือนแมวที่ไม่พิการทำให้เธอประทับใจมันมาก เธอจึงพามันมาอยู่บ้านด้วย Mareen เป็นหญิงรักแมวที่ชอบออกไปให้อาหารแมวจรจัดทุกวัน แม้เธอจะมีแมวอยู่ที่บ้าน 2 ตัวแล้วแต่เธอก็ยังอยากช่วยเหลือแมวตัวอื่นด้วย วันหนึ่งเธอสังเกตเห็นว่ามีแมวตัวใหม่เข้ามาทานอาหารที่เธอให้ไว้ด้วย เธอตกใจมากเมื่อเห็นว่ามันมีแค่ขาหน้า 2 ข้างเท่านั้น     แต่เมื่อเธอกำลังจะเอื้อมมือไปหามันเพื่อช่วยเหลือ เจ้าแมวกลับวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้แมวปกติเลย นั่นยิ่งทำให้เธอประหลาดใจและจดจำมันได้ขึ้นใจกว่าเดิม หลังจากที่ Mareen ให้อาหารเจ้าแมวสักพักหนึ่ง มันก็เริ่มไว้ใจเธอมากขึ้นทีละนิดๆ จนเมื่อเธอมั่นใจว่ามันเชื่อใจเธอมากพอแล้ว เธอก็พามันกลับไปอยู่บ้านด้วยกันซะเลย     เธอตั้งชื่อแมว 2 ขาตัวนี้ว่า Rocket แน่นอนว่าแมวที่อยู่ข้างถนนมาตลอดชีวิตอย่างมัน เมื่อได้เข้ามาอยู่ในบ้านก็มีปัญหาในการปรับตัวพอสมควร แต่เมื่อมันรับรู้ได้ว่าในบ้านหลังนี้ไม่มีใครที่คิดร้ายกับมัน แถมยังเป็นที่ที่มันทำอะไรก็ได้เต็มที่โดยที่ไม่มีใครว่า มันก็เลิกกังวลและหันมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแทน     เข้ามาอยู่บ้านไม่ทันไรก็ทำตัวชิลๆ แล้ว https://www.instagram.com/p/BIKFVwgB0Qp/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_video_watch_again   พอ Rocket เริ่มปรับตัวได้ มันก็ทำความสนิทสนมกับ Flint และ Gürkchen ซึ่งเป็นแมวอีก 2 ตัวได้ แต่มันก็สนิทกับแมวตัวอื่นไม่เท่า Mareen หรอก เธอเล่าว่าเวลาที่อยู่ในบ้านด้วยกันเจ้าเหมียวชอบเข้ามากอดเธอ แล้วมันก็จะส่งเสียงครางหึ่มๆ ให้เธอรู้ว่ามันกำลังมีความสุขอยู่ Mareen…

เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว แม่ของ Megan Boehm ได้ทราบเรื่องราวของเจ้าเหมียว Cricket มันเกิดมามีตาข้างเดียว ปากแหว่ง และกรามเบี้ยว ความผิดปกติเหล่านี้เกิดจากการเพาะพันธุ์ที่ขาดการดูแลที่ถูกต้อง สุดท้าย คนเพาะพันธุ์สัตว์ตัดสินใจการุณฆาตมัน เพราะรู้ว่าขายไม่ออก     หลังจากทราบข่าว แม่ของ Megan ก็รีบไปช่วย Cricket ทันทีและพามันกลับบ้าน สภาพของมันในตอนนั้นคือ ผอมมากจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แถมยังเป็นโรคขาดสารอาหารด้วย แต่ไม่นานหลังจากที่ Cricket มาถึงบ้าน Megan มันก็เริ่มตรวจดูรองเท้าของพวกเขา เดินสำรวจรอบบ้าน และอ้อนขอความรักและการดูแลจากพวกเขา Megan บอกว่า “ดูเหมือน Cricket จะรู้ว่ามันมาอยู่ถูกที่ มันต้องการคลอเคลียกับเราตลอดทั้งวัน ฉันเองก็รักมันมากและอยากทำทุกอย่างเพื่อมัน”     เพียงไม่นาน Cricket ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่ามันชอบความรัก มันเข้าไปกอด Megan ทุกครั้งที่มีโอกาส และอยู่ใกล้กับเธอตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงไม่รู้สึกโดดเดี่ยว Megan บอกว่า “เราพยายามดูแลมันและเพื่อให้สุขภาพของมันกลับมาแข็งแรง นอกจากนี้เรายังพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง เพียง 2 วัน มันก็ดูดีขึ้น”     ครอบครัวยังบอกอีกว่า “Cricket ไม่เหมือนแมวทั่วไป มันมีนิสัยน่ารัก…

เรื่องราวของสัตว์เลี้ยงมักจะทำให้เรายิ้มได้เสมอ เหมือนกับเรื่องของ Penny กับ Banjo พวกมันพบกันครั้งแรกตอนออกไปเที่ยวกับพ่อแม่เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว จนกลายเป็นรักแรกพบ ตั้งแต่นั้นมา พวกมันก็กลายเป็นเพื่อนรักที่อยู่เคียงข้างกันเสมอ Marisa Folz แม่ของ Banjo บอกว่า “ทั้งคู่มีความสุขมากที่ได้เป็นเพื่อนของกันและกัน”     พ่อแม่ของ Penny กับ Banjo ได้ลงทะเบียนฝากพวกมันไว้ในศูนย์ดูแลสุนัขที่เดียวกัน เพื่อให้พวกมันได้เล่นด้วยกัน กอดกันเป็นเวลา 8 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ มิตรภาพของพวกมันเบ่งบานขึ้นเรื่อยๆ และทุกครั้งที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน พวมกันจะมีความสุขมากๆ แต่แล้วครอบครัวของ Penny ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น     แม่ว่าบ้านใหม่ของ Penny จะอยู่ห่างจากบ้านของ Banjo เพียง 30 นาที แต่พวกมันไม่ได้เจอกันทุกวันเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของทั้งคู่พยายามจะทำให้พวกมันได้มาเจอกันบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขานัดกันไปสวนสุนัข ชายหาดสุนัข สระว่ายน้ำ และที่อื่นๆ เท่าที่พวกเขาจะคิดได้ ทุกครั้งที่ Penny กับ Banjo ได้มาเจอกัน พวกมันจะตื่นเต้นมาก และจะใช้ทุกวินาทีที่ได้อยู่ด้วยกันอย่างคุ้มค่าที่สุด Folz บอกว่า “ทั้งคู่รักกันมาก…

บางทีก็รู้สึกอิจฉาสัตว์เลี้ยงนะ วันๆ ไม่ต้องทำอะไร นอกจากนอน กิน เล่น เท่านั้นยังไม่พอ บางตัวว่างจนต้องสรรหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขมากที่สุด ดูอย่างเจ้าพวกนี้สิ พวกมันค้นพบจุดที่ทำให้ตัวเองแฮปปี้ หน้ามันก็จะฟินๆ หน่อย ทำเอามนุษย์อย่างเราๆ รู้สึกอิจฉาจนอยากเกิดเป็นสัตว์เลี้ยงบ้าง   1. ความสุขของน้องไก่ก็จะประมาณนี้แหละ   2. มันเป็นยังไงลูก ฟินจนบอกไม่ถูกหรอ   3. นอนท่านี้แหละ สบายที่สุด   4. ดูนางมีความสุขกับท่าแบบนี้นะ   5. ถ้าความง่วงเข้าครอบงำ ท่าไหนก็นอนได้ทั้งนั้น   6. จริงๆ อยู่บนเตียงแหละ แต่นางละลายได้ เลยมาอยู่ในท่านี้   7. เข้าใจหาที่นะเหมียว ปั่นต่อเลยดีมั้ย   8. นี่ก็น่ารักเหลือเกิ๊น จะทำท่าไหนก็น่ารักไปหมด   9. ตั้งแต่ได้นอนบนตักมนุษย์ ก็ไม่อยากกลับสู่ธรรมชาติอีกเลย   10. น้องหมากำลังมีความสุขกับการได้มาเที่ยวครั้งแรก   11.…

ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง How to Train Your Dragon Your Dragon มาแล้วไม่ว่าจะภาค 1 หรือภาค 2 ต้องรู้จักเจ้า เขี้ยวกุด (Toothless) มังกรตัวเอกของเรื่องกันแน่ๆ     ในหนังเคยกล่าวไว้ว่าเจ้าเขี้ยวกุดเป็นมังกรที่ทรงพลังและหายากสุดๆ จะสังเกตได้ว่าเราเห็นมังกรแบบมันในเรื่องเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงของเราเขี้ยวกุดก็มีอยู่จริงเหมือนกัน แถมไม่ได้หายากเลยสักนิดเดียว…มันก็คือเจ้าแมวดำในบ้านของคุณนั่นแหละ     ถ้าคุณยังคิดไม่ออกว่าแมวดำธรรมดาๆ ที่บ้านจะเป็นมังกรเขี้ยวกุดไปได้ยังไงกัน งั้นลองไปดูความคล้ายคลึงของพวกมันกันเลย แล้วเพื่อนๆ จะเห็นว่าแมวดำที่บ้านคือเชี้ยวกุดที่ปลอมตัวมาเพื่ออยู่กับมนุษย์ชัดๆ   จริงๆ แล้วข้านี่แหละคือเขี้ยวกุด   ข้าซ่อนปีกเอาไว้เพื่อที่จะได้อยู่กับทาสแบบเนียนๆ   แต่ถ้าพวกเจ้าตาถึงล่ะก็ เจ้าจะมองตัวตนที่แท้จริงของข้าออก   ถ้ายังมองไม่ออกลองเปรียบเทียบมุมซ้าย   มุมขวา…   หรือมุมตรงยังไงก็ตัวเดียวกันใช่ไหมล่ะ   ท่าอื่นก็เหมือนกันนะ ดูข้าแยกเขี้ยวสิ แฮร่!!   ยิ้มแหยๆ แบบนี้เลียนแบบกันไม่ได้หรอกนะ   มุมกลับหัวนี่โคตรชัด   อ๊ะ แลบลิ้นให้ดูอีกทีก็ได้  …

ทุกคนเคยคิดกันเล่นๆ บ้างไหม ว่าถ้าเกิดเรามีฝาแฝดบ้างคงจะเท่ไม่น้อยเลย แต่ก็คงทำได้แค่เพ้อฝันว่าสักวันหนึ่งอาจจะมีฝาแฝดที่พลัดพรากจากกันไปโผล่มาเจอกันก็ได้ ทว่าเหล่าสัตว์ที่เรากำลังจะได้เห็นกันมันได้เจอแฝดในชีวิตจริงแล้วล่ะ ที่พิเศษไปกว่านั้นก็คือเป็นแฝดคนละสายพันธุ์กันด้วย!? ถึงจะเป็นสัตว์คนละชนิดกัน ก็คงไม่มีใครเถียงหรอกว่าพวกมันไม่ใช่ฝาแฝดกัน เพราะว่าดูยังไงพวกมันก็คล้ายกันเหมือนแฝดที่คลานตามกันมายังไงยังงั้น   เป็นพี่น้องกันห้ามทะเลาะกันนะ   หน้าแมวเหมือนอยากถามว่าตูต้องเป็นพี่น้องกับมันจริงๆ เหรอ   สำเนาถูกต้อง เข้าใจตรงกันนะ   นี่ไงน้องชายผม   พี่หูสั้นกับน้องหูยาว   ก็ว่าแมวมันดุได้ใครมา   ชิ เห็นว่าเป็นน้อง งั้นไม่กินก็ได้   อยากรู้จังว่าพี่น้องคู่นี้ใครวิ่งไวกว่ากัน   ปั๊กกับวิเชียรมาศ!?   หน้ามึนๆ เหมือนกันเลย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่น้อง   กวางกับกระต่ายก็ได้เหรอ??   ถึงเธอจะบินไม่ได้ เธอก็ยังเป็นน้องเรานะ   เหมือนกันแม้แต่ท่าแลบลิ้น   ทำไมพี่ตัวสูงจังเลยล่ะ แบ่งส่วนสูงมาบ้างสิ   พี่น้องขนเตียน   เหมือนกำลังคุยกันว่าฝาแฝดกันจริงรึเปล่า   นี่ไงฝาแฝดของผม เท่ใช่ไหม   แกจำไว้นะ ถึงเราจะเป็นแฝดกันแต่ข้าเหนือกว่า…

หญิงคนหนึ่งกำลังต่อสู้กับมะเร็ง เธอพยายามต่อสู้กับมันเพื่อที่จะได้มีชีวิตรอดและดูแลคนที่เธอรักต่อ แต่เมื่อเธอต่อสู้กับมันไม่ไหว เธอก็หวังเพียงแค่ว่าเจ้าหมาจะมีคนดูแลต่อ เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Stray Rescue of St. Louis ได้รับตัวเจ้าหมา Shell กลับเข้ามาในศูนย์พักพิงเป็นครั้งที่ 2 พร้อมกันนั้นเจ้าของเก่าของมันก็เขียนจดหมายมาบอกเล่าเหตุผลที่เธอต้องเอามันมาคืน พร้อมกับความต้องการของเธอด้วย     จดหมายเขียนไว้ว่า “ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้มาให้คุณเพราะฉันอยากให้คุณรับ Shell หมาของฉันไว้ มันถูกรับเลี้ยงมาจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ของคุณช่วงปี 2009-2010 โดยคุณแม่ของฉัน Sharon Blackwell แต่เมื่อปี 2012 แม่ของฉันชักอย่างรุนแรงและถูกวินิจฉัยว่าเป็นอัลไซเมอร์ เจ้าหมาก็เลยได้ย้ายมาอยู่กับฉันแทน ทว่าฉันเองก็สู้กับโรคมะเร็งมาหลายเดือนแล้วเหมือนกัน ถ้าคุณได้อ่านจดหมายฉบับนี้ แปลว่าฉันไม่สามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้ ดังนั้นฉันจึงหวังว่าเจ้าหมาจะมีคนพาไปดูแลต่อในบ้านหลังใหม่…Shell เป็นหมาที่อ่อนโยนมาก ฉันรักมันเหมือนกับเป็นลูกสาวแท้ๆ เลย”     อาสาสมัครเข้าใจดีเลยว่าทำไมเจ้าของของ Shell ถึงเป็นห่วงมันมาก เพราะนอกจากเธอจะรักมันแล้ว เจ้าหมายังเข้ากับคนแปลกหน้าได้ค่อนข้างยาก เธอจึงกลัวมันจะไม่มีบ้านอยู่ แต่หลังจากที่ทุกคนได้รู้เรื่องราวของมัน พวกเขาก็อยากช่วยให้มันเจอบ้านใหม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงโพสต์เรื่องของมันทางเฟซบุ๊กเพื่อช่วยหาเจ้าของทันที     ชาวเน็ตที่ได้อ่านจดหมายของเจ้าหมาต่างก็เห็นใจมันกันทั้งนั้น พวกเขาช่วยแชร์โพสต์หาบ้านกันตั้งเกือบ 2,000 แชร์แน่ะ…

การบอกว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ไม่ได้เอามาจากตำราหรือทฤษฏีใด แต่มาจากประสบการณ์ตรงของทุกคนที่เคยอยู่กับสุนัข สุนัขมักจะสร้างรอยยิ้มให้เจ้าของเสมอ และคอยอยู่เคียงพวกเขาในทุกสถานการณ์ จนหลายคนรู้สึกขาดเจ้าตูบไม่ได้ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเรื่องราวของ Merv Tolention Dumenat กับเจ้าตูบของเขา จึงเศร้าเกินบรรยาย     เรื่องราวสุดเศร้านี้เริ่มขึ้นเมื่อ Dumenat ชายหนุ่มที่อาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์ ได้รู้ว่า Shadow สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้วัย 7 ปี ของเขากำลังป่วย ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันและได้สร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันมาหลายปี แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ทราบข่าวร้ายว่า Shadow มีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง มันเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องและเป็นโรคเลือดจาง ดังนั้น เมื่อเจ้าหมาต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล Dumenat จึงเริ่มบันทึกเรื่องราวของเขากับเจ้าตูบตั้งแต่นั้นมา     ชายหนุ่มได้โพสต์ในเฟซบุ๊กว่าสิ่งที่เขากับเจ้าหมากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ มันเป็นเรื่องยากลำบากมากๆ Shadow ต้องได้รับการถ่ายเลือดในการรักษา ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก แต่นั่นเป็นวิธีเดียวที่ช่วยมันได้ โชคดีที่มีผู้บริจาคเลืิอด แต่การตัดสินใจที่ยากที่สุดสำหรับชายหนุ่มคือ เขาต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่จะตามมา ซึ่งร้ายแรงถึงขั้นทำให้เจ้าหมาเสียชีวิตได้     แม้ว่าการรักษาครั้งแรกนี้จะมีความเสี่ยง แต่ Dumenat กับ Shadow ก็ได้รับข่าวดีในเวลาต่อมา พวกเขาประสบความสำเร็จในการถ่ายเลือด และอาการของเจ้าตูบก็ดีขึ้น แต่น่าเสียดาย ข่าวดีอยู่กับพวกเขาเพียงเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพราะเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ Shadow ได้รับการรักษา มันก็จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา…

มิ้วน้อย 2 ตัวถูกแม่ทิ้งตั้งแต่พวกมันยังไม่หย่านม ทั้งคู่เลยไม่มีแม่แมวให้ความอบอุ่น แต่ก็ได้อ้อมกอดจากแม่หมาซึ่งอุ่นพอจะแทนกันได้ กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Juliet’s House Animal Rescue เจอลูกแมวน้อย Myles และ Willow เมื่อกลางเดือนกันยายน 2018 นี่เอง แต่รอบๆ นั้นไม่มีวี่แววของแม่แมวเลย     ในเมื่อพวกมันเด็กเกินกว่าจะดูแลตัวเองได้ พวกเขาก็เลยเก็บมันมาดูแล โดยให้ทั้ง 2 ตัวไปอยู่บ้านกับอาสาสมัคร Casaundra Maimone  เธอเล่าว่า “การดูแลลูกแมวตัวน้อยที่ถูกทิ้งต้องใช้ความพยายามมาก แค่เบื้องต้นเราก็ต้องป้อนอาหารให้มันเองทุกๆ 2-3 ชั่วโมงแล้ว แต่เราก็รับพวกมันมาดูแลอยู่ดีเพราะพวกมันไม่มีที่พึ่งอื่น”     เนื่องจาก Maimone เคยดูแลลูกแมวมาหลายครั้งแล้ว การป้อนอาหารให้มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเธอ เธอจึงช่วยให้พวกมันอิ่มท้องได้ทั้งวัน ทว่าสิ่งที่ลูกแมวขาดก็คือความอบอุ่นจากแม่ต่างหาก การที่พวกมันขาดแม่ก็เหมือนขาดที่พึ่งทางใจ แต่ยังดีที่เธอพอจะมีคนทำหน้าที่นี้แทนได้ ซึ่งก็คือเจ้าหมา Winnie   Winnie เป็นหมาบำบัดที่เธอเลี้ยงเอาไว้ มันชอบทำให้คนรอบข้างสบายใจ เจ้า Myles กับ Willow เองก็ไม่เป็นข้อยกเว้นเช่นกัน ทันทีที่ลูกแมวเห็นเจ้าหมา พวกมันก็เข้าไปใกล้ๆ เพื่อนอนกอดด้วยกัน…

การย้ายมาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์คงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีนักสำหรับสัตว์เลี้ยง แต่อย่างน้อยเจ้าหมาตัวหนึ่งก็ได้รับความอบอุ่นระหว่างอยู่ที่นั่น เจ้า Prince หมาพันธุ์พิตบูลล์อายุ 2 ขวบเคยอยู่กับเจ้านายหนุ่มมาก่อน แต่พอเขาดูแลมันต่อไม่ได้ก็ยกมันให้แฟนสาวไปดูแล     วันหนึ่งระหว่างที่แฟนสาวกำลังพามันไปเดินเล่น เจ้าหมาก็หลุดจากสายจูงแล้ววิ่งหนีหายไป มันก็เลยได้มาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Mohawk Hudson Humane Society ทางศูนย์พักพิงสัตว์ติดต่อเธอได้และแจ้งแล้วว่าเจ้าหมาอยู่ที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้กลับมารับมันไปอยู่ด้วยอีกเลย     Nancy Haynes ผู้อำนวยการด้านพฤติกรรมสัตว์ของศูนย์พักพิงเล่าว่า Prince ปรับตัวได้ไม่เก่ง กว่ามันจะยอมเปิดใจให้คนดูแลก็ใช้เวลานานพอสมควรเลย ถึงจะปรับตัวเข้ากับคนดูแลได้บ้างแล้ว แต่ถ้ามีคนแปลกหน้าเดินผ่านมันก็จะหนีไปหลบอยู่ตรงมุมห้อง แล้วขดตัวนอนหลบอยู่ดี     อย่างไรก็ตามคนดูแลก็อยากจะทำให้เจ้าหมารู้สึกอบอุ่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพวกเขาก็ค้นพบว่า…เจ้าหมารู้สึกอุ่นใจมากขึ้นเวลามีคนส่งมันเข้านอน      Haynes บอกว่า “อาสาสมัครของเราคนหนึ่งเข้าไปเล่นกับมันในกรง จากนั้นเจ้าหมาก็ขึ้นไปนอนบนเตียง เขาก็เลยหยิบผ้าห่มที่อยู่ใกล้ๆ แล้วห่มให้มัน ตอนนั้นแหละที่เราได้รู้ว่า ‘อ๋อ เจ้าหมามันชอบให้คนส่งเข้านอนนี่เอง ดูสิทำท่าสบายใจใหญ่เชียว’”     หลังจากที่คนดูแลทุกคนได้รู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ผลัดเวรกันไปส่ง Prince เข้านอนทุกคืนก่อนที่จะเลิกงาน จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติน่ารักๆ ของที่นี่ไป คนดูแลเล่าว่า…

คนอยู่กับหมาแมวมักจะเป็นคนอารมณ์ดี เพราะพวกเขาได้รับความบันเทิงจากสัตว์เลี้ยงไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะวันที่มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นกับพวกมัน ยิ่งฮากระจาย ล่าสุด มีภาพหลุดของแมวเหมียว 2 ตัว ที่ถูกโพสต์ในทวิตเตอร์ Mikan and Jiro’s House ก่อนจะโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ในญี่ปุ่น     สำหรับทวิตเตอร์ Mikan and Jiro’s House เจ้าของได้สร้างเอาไว้เพื่อแชร์ชีวิตประจำวันของนุ้งแมวพันธุ์บริชทิช ชอร์ตแฮร์ 3 ตัวคือ Jiro Mikan และ Potato 3 ตัวนี้ก็เหมือนแมวทั่วไปนั่นแหละที่ชอบแสดงความรู้สึกผ่านสีหน้า แต่ภาพที่โด่งดังของพวกมัน ไม่ใช่ตอนที่มันทำหน้าร่าเริง หรือมีความสุขนะ แต่เป็นภาพที่พวกมันทำหน้าผิดหวังต่างหาก   Jiro เกิดอะไรขึ้นหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้น?   รูปที่โพสต์ในทวิตเตอร์มีแคปชั่นว่า “Jiro บังเอิญถูกขังอยู่ในห้องโถงเป็นชั่วโมง มันดูเจ้าของเดินไปเดินมา ทำโน่นทำนี่ ผ่านประตูด้วยใบหน้าที่โกรธแค้นสุดๆ” คือจริงๆ เจ้าของไม่ได้ตั้งใจขังมันไว้หรอก แต่เผลอล็อคประตูเฉยๆ น่ะ เดี๋ยวดูหน้าเจ้าเหมียว จะบอกให้เปิดก็ไม่รู้จะบอกยังไง เลยได้แต่ทำหน้าเซ็ง ในใจคงคิดแผนแก้แค้นอยู่ละมั้ง     แต่ Jiro…

ผู้หญิงคนหนึ่งจากรัฐแอริโซนาพบลูกแมวตัวเล็กๆ ถูกทิ้งไว้ลำพัง มันกำลังหิวโหยและมีน้ำหนักตัวน้อยมาก แม้จะพยายามเอาอาหารให้มันกิน แต่มิ้วน้อยก็ไม่รู้วิธีกินอยู่ดี หลังจากพยายามอยู่ 2 วัน แล้วไม่สำหรับ หญิงคนนั้นจึงพามันไปหา Melinda Blain จาก Bottle Baby Fosters ในเมืองฟีนิกซ์ เพื่อขอให้ช่วยแมวน้อย     Melinda รีบรับมิ้วน้อยมาอยู่ในการดูแล และเริ่มให้อาหารมันผ่านหลอด นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ท้องของมันเต็มไปด้วยอาหาร ภายในวันเดียวมิ้วน้อยก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 20 กรัม พวกเขาจึงตั้งชื่อให้มันว่า Wolfie Shelbi Uyehara เพื่อนร่วมงานของ Melinda ได้มารับมิ้วน้อยไปอยู่บ้านในรุ่งขึ้น จากนั้นก็ดูแลมันเป็นพิเศษอย่างต่อเนื่อง     มิ้วน้อยไม่ยอมกินนมจากขวดนม ดังนั้น จึงต้องมีคนคอยช่วยเหลือมัน นอกจากนี้มันยังต้องการแอนติบอดีที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งปกติมันจะได้รับจากนมแม่ หลังจากเกิน 2-3 วัน ผู้ดูแลให้ยาปฏิชีวนะกับ Wolfie เพราะมันเป็นหวัดด้วย ซึ่งอาการน่าเป็นห่วงเล็กน้อย เพราะเสี่ยงต่อการเป็นปอดบวมได้ง่าย     Shelbi กับสามี Brandon พยายามอย่างหนักในการช่วยให้ลูกแมวกินอาหารได้ พวกเขาให้ความอบอุ่นกับแมวน้อย และดูแลมันอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน Shelbi บอกว่า “หลังจาก…

ปกติแล้วเวลาสุนัขเห็นกระรอก มันจะวิ่งไล่ล่าจนกว่าจะจับตัวได้ และอาจจะกัดจนตาย แต่นั่นไม่ใช่กับ Jax เพราะนอกจากจะไม่ไล่ล่าแล้ว มันยังรักกระรอกน้อยมาก และกระรอกก็รักมันด้วยเช่นกัน Jax เป็นสุนัขเบอร์นีส เมาน์เทนด็อก มันมีนิสัยอ่อนโยนและรักสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ทั้งตัวใหญ่และตัวเล็ก มันอาศัยอยู่กับเจ้าของ Shannon Apple ใน Parkville รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากมนุษย์แล้ว มันยังอยู่ร่วมบ้านกับสุนัขอีก 2 ตัว และเจ้ากระน้อยที่ชื่อ Wally…     แม้ว่า Wally จะเป็นกระรอกในบ้าน แต่สัญชาตญาณตามธรรมชาติของมันไม่เคยจางหาย มันยังติดนิสัยฝังลูกโอ๊กเมื่อถึงฤดูหนาว แต่เนื่องจาก Wally ไม่สามารถหาที่ที่จะฝังลูกโอ๊กได้เพราะมันอยู่ในบ้าน ดังนั้น มันจึงปิ๊งไอเดียสร้างสรรค์ในการซ่อนลูกโอ๊ก และแล้ววันหนึ่ง Shannon สังเกตเห็น Wally ทำท่าขุดหลุมที่ขนของ Jax เมื่อเธอเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่ามันกำลังพยายามซ่อนลูกโอ๊กใต้ขนหนาๆ ของ Jax     Shannon ไม่รอช้า รีบหยิบกล้องมาถ่ายโมเมนต์ฮาๆ นี้ ตอนที่กระรอกน้อยพยายามฝังลูกโอ๊ก Jax ดูจะเป็นผู้ช่วยที่ดี มันนั่งนิ่งอยู่พื้นและปล่อยให้ Wally จัดการธุระตัวเองบนขนของมัน Wally พยายามอย่างหนักในการซ่อนลูกโอ๊กให้มิดที่สุด แต่ไม่ว่าจะทำยังไง ลูกโอ๊กก็ร่วงลงมาจากขน Jax อยู่ดี สุดท้าย มันตัดสินใจกินลูกโอ๊กซะเลยเพื่อตัดปัญหา    …

ลูกแมวส้มตัวหนึ่ง ถูกพบเพียงลำพังที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มันจึงถูกพาไปยังศูนย์พักพิง Animal Care and Control Team of Philadelphia ตอนแรกมิ้วน้อยแทบจะร้องเมี๊ยวไม่ได้ แต่หลังจากที่ได้รับการกอด มันก็ทำเสียงเพอร์ออกมาอย่างสุดเสียง ต่อมา Alley Cagnazzi ผู้ที่ทำงานกับศูนย์พักพิงดังกล่าว ได้เข้ามาในศูนย์เพื่อที่จะรับแมวตัวอื่นไปอุปถัมภ์ แต่เมื่อเดินเข้าไปในห้อง เธอเห็นมิ้วส้มตัวนั้นและได้ตกหลุมรักมันทันที     Alley บอกว่า “ตอนที่ฉันเจอมัน มันยังเด็กมาก มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะร้องเมี๊ยวยังไง แต่มันได้แสดงออกชัดเจนว่ามันชอบให้คนแสดงความรักกับมัน มันจะทำเสียงเพอร์ทุกครั้งที่ฉันอุ้มมันไว้ในอ้อมแขน” ลูกแมวตัวนั้นมีชื่อว่า Artie มันมีหมัดเล็กน้อย แต่ถูกกำจัดออกหมดแล้วหลังจากที่มันได้อาบน้ำอุ่นๆ เมื่อ Alley เช็ดตัวให้ มันยิ่งทำเสียงเพอร์ดังขึ้น     Alley บอกว่า “Artie เป็นแมวที่พิเศษมาก มันจะทำเสียงเพอร์เมื่อฉันอุ้มมันไว้ในมือ ขณะที่มันอายุเพียง 7 วันเท่านั้น มันต้องใช้ความพยายามสองสามครั้งในการกินนมจากขวด แต่หลังจากที่มันทำได้ มันก็ไม่ยอมวางขวดเลย” ด้วยความน่ารักและความพยายามของ Artie ทำให้ Alley กับสามีรักมันตั้งแต่วันแรก     มิ้วน้อย Artie ไม่มีความกลัวเลย มันชอบเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ…

ใครที่เลี้ยงแมวจะรู้ดีว่าพวกมันนั้นแสบแค่ไหน เริ่มตั้งแต่ทำให้มนุษย์ตกเป็นทาส จากนั้นก็ยึดบ้าน ต่อด้วยการสร้างวีรกรรมแสบๆ ไม่เว้นแต่ละวัน และนี่คือตัวอย่างส่วนหนึ่งที่พิสูจน์ว่าเหมียวเป็นสัตว์จอมแสบที่ชอบทำอะไรตามใจ ไม่สนโลก ไม่สนใครทั้งนั้น แต่ทำม๊ายยยทำไมมนุษย์ถึงยอมตกเป็นทาสมันคนแล้วคนเล่า อีกหน่อยแมวคงได้ครองโลกละมั้ง   1. ป่วยยังไม่พอ ยังโดนแมวซ้ำเติมอีก   2. นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนเลี้ยงแมวถึงไม่ควรซื้อของแพง   3. อ่าว นอนทับพิชซ่านุดหรอ โทษที อะ จะกินต่อมั้ย?   4. เฮ้ย!! บอกว่าอย่าบังทีวีไงล่ะ ออกไปเดี๋ยวนี้นะเจ้าทาส   5. พี่เหมียวขอร้องล่ะ เค้าจะออกไปทำงาน แล้วเค้าต้องใส่รองเท้าคู่ที่เหมียวนอนทับอะ ช่วยลุกหน่อยเถอะ   6. ให้มันรู้ซะบ้างว่าบ้านนี้ใครใหญ่สุด   7. ก็คุกเข่าทำงานได้หนิ งั้นเก้าอี้นี่ขอยึดนะ   8. ขอพิชซ่าให้หนูเถอะนะพี่เหมียว เดี๋ยวมันเย็นแล้วจะไม่อร่อยอะ   9. นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนเลี้ยงแมวถึงไม่ควรทำประตูแบบญี่ปุ่น สวยนะแต่…   10. ทำงานจนไม่มีเวลาให้ตู หึ วันนี้อย่าหวังว่าจะได้ทำ…

วันหนึ่งขณะที่ Jessica Clayborn อยู่ในบ้านที่ Zebulon นอร์ทแคโรไลนา เธอได้ยินเสียงดังมาจากบึึงที่อยู่ในเขตบ้านของเธอ ปกติแล้วเวลาได้ยินเสียงสัตว์ Clayborn จะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่เสียงที่เธอได้ยินล่าสุดนี้ ทำให้เธอต้องวางมือจากสิ่งที่ทำและรีบวิ่งไปดูทันที หญิงสาวเดินไปตามเสียงที่ได้ยิน ซึ่งอยู่ในป่าที่ค่อนข้างรก แต่เธอก็พยายามเดินฝ่าดินโคลนเข้าไป พร้อมใช้มือปัดกิ่งไม้ที่บดบังทาง ในที่สุด เธอก็พบลูกหมาที่อยู่บนพื้นแห้ง     มันเป็นลูกหมาสีน้ำตาลดำ Clayborn จึงตั้งชื่อให้มันว่า Nash… มันถูกผูกติดกับต้นไม้ มันพยายามดิ้นให้หลุดจากเชือก จนทำให้คอของมันมีรอยบาดจากเชือก Clayborn รู้ว่าไม่สามารถทิ้งมันไว้ที่นี่ได้ เธอจึงเดินลุยโคลนที่สูงประมาณเข่า และใช้มีดตัดเชือกที่ผูกติดกับต้นไม้ จากนั้นก็อุ้มมันออกมาจากป่า     ไม่มีใครรู้ว่าน้องหมาอยู่ในบ่อโคลนมานานแค่ไหน แต่รอบคอขอมันมีแผลลึกจากการโดนเชือกบาด มีแมลงเกาะตามขนและหู ซึ่งคาดว่ามันน่าจะมีแผลในหู หลักฐานเดียวที่สามารถทำให้คาดเดาอดีตของมันได้คือ รอยแผลไหม้จากสารเคมีที่หูและหางของมัน แน่นอนว่าถ้า Clayborn ไม่ได้ยินเสียงของมัน มันอาจจะตกเป็นเหยื่อของสัตว์ป่า     หลังจากมาถึงบ้าน Clayborn ก็อาบน้ำให้ Nash และให้การดูแลเป็นพิเศษเพราะลูกหมาอ่อนแอมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่เธออุ้มมันขึ้นมา เจ้าหมาจะโล่งใจ เพราะมันรู้สึกเหมือนได้อยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว อย่างน้อยก็มีใครบางคนอยู่กับมัน ต่อมากลุ่มช่วยเหลือ SPCA of Wake County ได้ย้าย Nash ไปยังโรงพยาบาลสัตว์ Care First Animal Hospital…

เมื่อ Animal Aid Unlimited ในประเทศอินเดียได้รับแจ้งเกี่ยวกับลูกหมาบาดเจ็บที่ซ่อนตัวอยู่ในถุงพลาสติก พวกเขาก็รีบไปหามันทันที เมื่อไปถึงที่ที่ได้รับแจ้ง พวกเขาจึงเดินเข้าไปใกล้มันช้าๆ และเปิดปากถุง ก่อนพบลูกหมาที่เคลื่อนไหวช้าๆ ด้วยความเจ็บปวด และขู่ใส่พวกเขา มันบาดเจ็บที่สะโพกและเป็นโรคเรื้อนทั่วทั้งตัว     ผู้ช่วยเหลือพยายามจะอุ้มน้องหมาขึ้นมา แต่ทุกครั้งที่จับโดนตัว มันจะทำเสียงขู่ พวกเขาจึงใช้อาหารล่อให้มันออกมาเอง และด้วยควาามหิวโหย น้องหมาก็ค่อยๆ ออกจากถุง และกินมากที่สุดเท่าที่มันจะกินได้     หลังจากน้องหมาได้กินอาหารแล้ว เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็อุ้มมันใส่ไว้ในผ้าขนหนู เจ้าหมาน้อยเริ่มทำเสียงขู่อีกครั้ง ก่อนจะสงบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อผู้ช่วยเหลือกอดมันไว้ในอ้อมแขน เจ้าหน้านที่ Animal Aid Unlimited บอกว่า “หมาน้อยตัวนี้ กำลังทุกข์ทรมานมาก สายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของมันไม่เคยผ่อนคลายลงเลย โดยเฉพาะช่วงวันแรกๆ ที่มันถูกช่วยเหลือ”     เมื่อพาน้องหมามาถึงศูนย์ช่วยเหลือของ Animal Aid Unlimited เจ้าหน้าที่ก็เริ่มรักษาแผลที่สะโพกของมันทันที นอกจากนี้ พวกเขายังได้อาบน้ำให้มัน และก็เริ่มให้ยาต่างๆ เพื่อรักษาโรคเรื้อน     เป็นเวลากว่า 6 สัปดาห์ ที่เจ้าหน้าที่ดูแลเจ้าหมาน้อย ทั้งให้ยา…

ประมาณเดือนที่แล้ว Jieyan Ow จากประเทศมาเลเซีย เห็นลูกแมวตัวน้อยอยู่บนถนน ขณะที่เธออยู่ระหว่างทางไปกินข้าว ลูกแมวไม่ยอมขยับไปไหนเลย เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ จึงได้รู้มันบาดเจ็บที่ขาและร่างกายก็อ่อนแอเกินกว่าจะร้องขอความช่วยเหลือได้     ผู้คนมากมายเดินผ่านมันไป และแม่แมวก็ไม่อยู่แถวนั้นด้วย Jieyan รู้ว่าลูกแมวตัวนี้ไม่สามารถเอาตัวรอดเองได้ เธอจึงตัดสินใจช่วยเหลือมัน หญิงสาวบอกว่า “มิ้วน้อยอายุประมาณ 3 สัปดาห์ แต่น้ำหนักมันแค่ 260 กรัมเท่านั้น ที่แย่ไปกว่านั้นคือ กระดูกข้อเท้าของมันเคลื่อน”     เนื่องจากมิ้วน้อยยังเด็กมาก พวกเขาจึงหวังว่าเท้าของมันจะกลับมาเป็นปกติหลังจากที่ได้พักฟื้นในบ้าน สำหรับ Jieyan นั้น เธอไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับลูกแมว ดังนั้นหญิงสาวจึงเสิร์จหาวิธีการดูแลลูกแมวจากยูทูบ จากนั้นเธอก็เริ่มให้อาหารมันตามที่ได้ดูมา     สองวันแรก มันค่อนข้างเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับมิ้วน้อย เพราะมันกลัวมากและไม่ยอมกินอะไรเลย อย่างไรก็ตาม Jieyan อยู่กับมันตลอดเวลา และพยายามให้ความสะดวกสบายกับมัน เพื่อที่มันจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยว มิ้วน้อยค่อยๆ ยอมรับความอบอุ่นจากมนุษย์อย่างช้าๆ มันยอมให้เธอลูบตัวให้ และค่อยๆ เงยหน้าขึ้น     สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ มิ้วน้อยลงไปกินอาหารในชามด้วยความหิวโหย และเริ่มทำเสียงเพอร์เป็นครั้งแรก เธอจึงตั้งชื่อให้มัน่า Baby Tiger เพียงไม่นาน ความกลัวของมิ้วน้อยก็หายไป…

ขณะที่ Michael Ortega กับ Allen Au วิศวกรที่ทำงานกับ Burlington Northern Santa Fe Railway กำลังอยู่ระหว่างการเดินทาง พวกเขาก็ได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่น่าตกใจ พลเมืองดีที่โทรเข้ามาบอกว่ามีสุนัขถูกผูกติดกับรถไฟที่กำลังจอดในเมือง Prairie du Chien รัฐวิสคอนซิน ของประเทศสหรัฐอเมริกา     แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง ก็ไม่เห็นสุนัขอยู่ที่นั่น พวกเขาจึงเดินไปดูจนสุดทางขบวนรถไฟแต่ก็ไม่เห็นอยู่ดี Au จึงตัดสินใจปีขึ้นไปบนรถไฟ แล้วก็ก็เห็นสุนัขสีน้ำตาลตัวน้อย กำลังยืนขาสั่นด้วยความหวาดกลัว เจ้าหมาตัวนั้นดูอ่อนแรงมาก มันยืดติดกับโซ่สั้นๆ จนแทบจะนั่งไม่ได้ด้วยซ้ำ ที่สำคัญ ที่นั่นไม่มีน้ำหรืออาหารสำหรับมันเลย พวกเขาจึงโยนอาหารไปให้สุนัข แต่มันเลื่อนไปอยู่อีกทาง ทำให้น้องหมากินไม่ได้ Au จึงเดินเข้าไปหามันช้าๆ และมันกลับมาอยู่ในห้องโดยสารได้สำเร็จ แล้วพวกเขาก็ต้องประหลาดใจ ที่เจ้าหมาแกว่งหางด้วยความดีใจ ทั้งๆ ที่มันเพิ่งเจอเหตุการณ์ร้ายๆ มา     Au ตกใจมากเมื่อได้รู้ว่าเจ้าหมาถูกผูกอยู่บนนั้นประมาณสองถึงสามวันแล้ว ซึ่งรถไฟขบวนนี้ไม่ได้จอดทิ้งไว้ แต่มันวิ่งตามเวลาที่กำหนด โดยความเร็วอยู่ที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นั่นหมาความว่าน้องหมาต้องเผชิญกับความน่ากลัวนั้นเพียงลำพัง ต่อมา Au กับ Ortega ได้ตั้งชื่อเจ้าหมาตัวนั้นว่า…

ครั้งแรกที่ Nicole Simone เห็นคลิป Stevie หัวใจเธอแทบแตกสลาย ในคลิปนั้นเผยให้เห็นสุนัขที่เดินชนกำแพงและเดินวนไปรอบๆ โดยไม่รู้ทิศทาง นั่นเป็นเหตุผลเพียงพอที่ทำให้เธอตัดสินใจว่าต้องช่วยมัน แม้จะอยู่ต่างประเทศก็ตาม สำหรับ Stevie นั้น มันถูกพบโดยเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ ขณะเร่ร่อนอยู่บนถนนในเท็กซัสตอนใต้ ใกล้ชายแดนเม็กซิโก และให้มันอยู่รวมกับสัตว์ตัวอื่นๆ ในศูนย์พักพิง โดยที่ไม่รู้ว่ามันแตกต่างจากสุนัขจรจัดทั่วไป     พวกเขามารู้ภายหลังว่า Stevie  หูหนวกและตาบอด ซึ่งเป็นผลมาจากความผิดปกติทางพันธุกรรม มันไม่เคยเห็นหมาตัวอื่นที่พุ่งเข้ามาทำร้ายมัน และไม่รู้จะปกป้องตัวเองยังไง สุดท้ายมันเลยมีแผลขนาดใหญ่ที่ขา Addicus Legacy ผู้ช่วยเหลือจากออสตินจึงตัดสินใจพา Stevie ออกจากศูนย์พักพิงดังกล่าว ก่อนที่มันจะถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความบกพร่องของเจ้าหมา ทำให้การหาบ้านอุปถัมภ์ให้มันนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่ขณะเดียวกัน Simone ผู้ก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Redemption Paws หวังว่าเธอช่วยมันหาครอบครัวบุญธรรมได้     เมื่อ Simone ได้ไปเจอ Stevie เธอมีความรู้สึกที่พิเศษต่อมัน เธอบอกว่า “มันเป็นหมาที่น่ารักและอ่อนโยนมาก แม้ว่ามันจะผ่านเรื่องแย่ๆ มาก็ตาม มันไม่ได้ซ่อนตัวและรู้สึกสับสน แต่มันไว้ใจมนุษย์” จากการตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์พบว่า Stevie กำลังทุกข์ทรมานจากการติดเชื้อในตา ซึ่งจำเป็นต้องผ่าเอาดวงตาของมันออก     โชคดีที่การรักษาผ่านไปได้ด้วยดี  Stevie…

นี่เป็นเรื่องราวของ Sophia เจ้าเหมียวที่เดินป้วนเปี้ยนตามถนนในอีสต์นิวยอร์ก เป็นเวลานานเพื่อหาใครสักคนที่จะพามันกลับบ้านด้วย กระทั่งไม่กี่สัปดาห์ก่อน Farhana ผู้ช่วยเหลือในใน Queens นิวยอร์ก ได้มาพบกับเจ้าเหมียวตัวนั้น ขณะที่เธอกำลังจะไปหาเพื่อน     ตอนนั้นเธอเดินอยู่ทางเท้า แล้วก็เห็นแมวตัวอ้วนตัวหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่นและมองมาที่เธอ เมื่อได้สบตากับมันเข้า เจ้าเหมียวก็เดินมาหาหญิงสาว และทันทีที่เธอนั่งลงทักทายมัน มันก็กระโดดขึ้นมานั่งบนตักของเธอ ผู้คนในละแวกนั้นบอกว่ามันเป็นแมวที่มีเจ้าของมาก่อน แต่เมื่อเจ้าของจากไป มันก็ถูกทิ้งจนกลายเป็นแมวเร่ร่อน มันเป็นแมวที่ชอบกอดและแสดงความรักต่อทุกคนที่มองมาที่มัน     ต่อมา หญิงสาวได้รู้ว่าเจ้าเหมียวไม่ใช่แมวแปลกหน้าสำหรับหลายๆ คนในละแวกนี้ เพราะมันน่ารักและเป็นมิตรกับทุกคน ที่สำคัญมันเคยอยู่กับมนุษย์มาก่อน มันจึงรู้วิธีการทำให้มนุษย์หลงเสน่ห์ Farhaha คิดว่า Sophia ไม่ควรที่จะต้องมาเดินเร่ร่อนอยู่บนถนนแบบนี้ ดังนั้น หลังจากที่ไปหาเพื่อนที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ช่วงตึกเสร็จแล้ว หญิงสาวพาเจ้าเหมียวออกจากถนน โดยได้ความช่วยเหลือจากเพื่อนและผู้ช่วยเหลือที่มาด้วยกัน จากนั้น Flatbush Cats กลุ่มช่วยเหลือในบรุ๊คลินก็รับเจ้าเหมียวไปอยู่ในการดูแลของพวกเขา     Flatbush Cats บอกว่า “Sophia มีความสุขกับการกอดตลอดเวลาและมันนอนกับเราทุกคืน ฉันเลยแปลกใจว่าทำไมถึงมีคนกล้าทิ้งมัน มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่พิเศษและมีหัวใจที่เต็มไปด้วยความรัก” “เรารู้ว่าไม่ควรขอความรักจากแมวมากเกินไป เพราะความรักเล็กๆ น้อยๆ จากพวกมันก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับ Sophia มันต้องการมอบความรักให้เราไม่หยุดไม่หย่อน”     Sophia…

สุนัขเป็นสัตว์เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความภักดี มันทำทุกอย่างเพื่อเจ้าของ แต่ด้วยวิธีการต่างๆ ที่มันแสดงออกถึงความรัก บางทีมันก็ทำให้เราขำได้เหมือนกัน และนี่คือภาพของเหล่าเจ้าตูบที่จะทำให้คุณตกหลุมรักพวกมันซ้ำแล้วซ้ำอีก บางการกระทำอาจจะเล็กๆ น้อยๆ ไร้สาระ แต่มันขโมยใจคุณได้อย่างง่ายดาย   1. นางฉลาดนะ หนีออกจากปลอกคอได้ แต่นางก็ซื่อสัตย์ในเวลาเดียวกัน   2. เค้กหายไปในชั่วพริบตาเดียว นี่เจ้าของวันเกิดไม่คิดจะแบ่งแขกบ้างหรอ   3. เจ้าหมาไม่ชอบนมกระดูก แต่มีคนใจดีเอาให้เพราะไม่รู้ มันเลยคาบไว้ในปากเพื่อรักษาน้ำใจ พอเดินออกมาได้ไกลจนคิดว่าคนให้ไม่เห็น มันก็ทิ้งลงข้างทาง   4. หิว ไม่พูดมาก เจ็บคอ   5. ทำงานทั้งวัน เหนื่อย หมดแรง อยากพักยาวๆ   6. หลังจากเลิกงาน เจ้าหมาก็โผล่มาทักทายแบบนี้ทุกวัน… นั่นมันประตูแมวนะ   7. น้องถึงกับเศร้าหนัก เมื่อเจ้าของบอกว่าได้เวลากลับบ้านแล้ว   8. นี่หมาเพื่อนบ้านค่ะ นางเข้ามาที่สวนหลังบ้านฉัน แล้วขอให้ฉันเกาให้ คือมันอยากมีคนสนใจหนะ   9. เมื่อเจ้าของห้ามเอากิ่งไม้เข้ามาเล่นในบ้าน……

Michael Shinkle กับลูกชายชอบการไปตั้งแคมป์มาก พวกเขามักจะไปตั้งแคมป์ด้วยกันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ใกล้กับบ้านของพวกเขาในแทลลาแฮสซี รัฐฟลอริด้า จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่พ่อลูกอยู่ระหว่างแคมปิ้งและกำลังตกปลาด้วยกัน ก็มีแมวจรจัดเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างเป็นมิตร     ปรากฏว่าลูกชายของ Michael สนิทกับแมวตัวนั้นอย่างรวดเร็ว เด็กชายมีความสุขที่ได้เล่นกับแมว ส่วนเจ้าเหมียวเริ่มทำเสียงเพอร์และคลอเคลียกับเขา เจ้าเหมียวตัวนั้นค่อนข้างผอม Michael จึงอยากแบ่งอาหารให้มัน แต่พวกเขานำอาหารติดมาด้วยไม่มากนัก ดังนั้น เขากับลูกชายจึงมุ่งมั่งตกปลา เพื่อที่จะเอามาเลี้ยงเจ้าเหมียวให้อิ่ม ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง เพราะพ่อลูกจับปลาไม่ได้เลย พวกเขาเลยแบ่งขนมปังให้เจ้าเหมียวส่วนหนึ่ง เหมียวเองก็รู้สึกขอบคุณพ่อลูกมาก แม้จะได้กินเพียงเล็กน้อยก็ตาม     ต่อมา หลังจากที่ Michael กับลูกชายกินมื้อเย็นเสร็จ พวกเขาก็เอาอาหารที่เหลือทิ้งไว้ให้เจ้าเหมียว เมื่อกินเสร็จ มันก็หายไปในคืนนั้น หลังจากที่เหมียวเดินจากไป พ่อลูกก็ตั้งเต็นท์และเข้านอน กระทั่ง 2 ชั่วโมงต่อมา Michael ตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงดังจากนอนเต็นท์ และเมื่อเดินออกไปดูตามเสียง เขาก็ต้องตกใจกับดวงตาเรืองแสง 8 ดวง ที่กำลังจ้องมองเขา เมื่อสายตาของ Michael ปรับเข้ากับความมืดตรงนั้นได้ เขาก็ตระหนักได้ว่ามันเป็นตาของแม่แมวและลูกๆ อีก 3 ตัว     Michael…

เมื่อ 3 เดือนก่อน มีคนพบแมวตัวหนึ่งได้รับบาดเจ็บที่ขาและติดเชื้อในหู พวกเขาจึงพามันเข้ามาในศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งในลอสแอนเจลิสเพื่อรับโอกาสในการมีชีวิตอยู่ต่อ แมวตัวนั้นมีชื่อว่า Lucy มันอายุได้ 9 เดือนตอนที่ถูกพาเข้ามา มันจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมขา และต้องรักษาอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบน สำหรับผลกระทบจากการติดเชื้อในหู ทำให้ Lucy หัวเอียง     Jenifer Hurt จาก Wrenn Rescues ได้รับเจ้าเหมียวมาอยู่ในการดูแลของเธอ ก่อนจะพามันไปยัง Oaks Veterinary Urgent Care เพื่อรับการรักษา Jenifer บอกว่า “คุณหมอต้องใช้เวลานานมากในการทำให้มันหายเป็นปกติ สัตวแพทย์บอกว่ามันติดเชื้อในหูอย่างรุนแรงและไม่ได้รับการรักษาในเวลา เชื้อจึงเข้าเข้าไปทำลายหูชั้นใน”     ขณะที่ Lucy อยู่ในโรงพยาบาลสัตว์ มันชอบเรียกร้องความสนใจจากทุกคนที่เจอ ดูเหมือนมันจะชอบความสนใจจากมนุษย์มากกว่าจากแมวด้วยกันซะอีก หลังจากได้รับการผ่าตัด เจ้าเหมียวผู้กล้าหาญก็โหยหาอ้อมกอดมนุษย์ตลอดเวลา ที่สำคัญ มันมีจิตใจที่เข้มแข็งเสมอ     ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ร่างกายของมันก็ฟื้นตัวเต็มที่ แต่มันกลายเป็นแมวหัวเอียง โชคดีที่ความผิดปกตินี้ไม่ได้สร้างความรำคาญให้ Lucy เลย Jenifer บอกว่า “มันมักจะเอียงหัวเสมอ ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหากับชีวิตมันเลย สำหรับฉันแล้ว มันน่ารักมากๆ เลยล่ะ ตอนนี้มันพร้อมที่จะเข้าไปอยู่บ้านใหม่แล้ว…

ลูกแมวน้อยตัวหนึ่งถูกทิ้งข้างทางเท้าและไม่มีใครสนใจ จนหญิงคนหนึ่งจากเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา มาเห็นเข้า ตอนแรกเธอคิดว่ามันตายแล้ว เพราะลูกแมวนอนนิ่ง แต่แล้วมันก็ขยับตัวเล็กน้อย หญิงคนนั้นจึงรีบพามันไปหาสัตวแพทย์ในคลินิกสัตว์ที่ใกล้เคียงทันที     ลูกแมวตัวนั้นอายุประมาณ 4 สัปดาห์ มันเป็นโรคขาดสารอาหาร น้ำหนักน้อยมาก และมีหมัดอยู่เต็มตัว ตัวมันเย็นเพราะอยู่ข้างนอกมานาน เจ้าหน้าที่จึงรีบทำให้ร่างกายมันอบอุ่นเป็นอันดับแรก พวกเขาพยายามทำให้มิ้วน้อยพ้นขีดอันตราย ในที่สุดร่างกายของมันก็กลับมาอยู่ในอุณหภูมิปกติ จากนั้นพวกเขาก็เอาอาหารให้มันกิน เมื่อมิ้วน้อยเริ่มมีแรง มันก็ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ ไม่หยุด     แม้น้อยต้องการบ้านอุปถัมภ์ ดังนั้น Nathalie จากคลินิกสัตว์จึงติดต่อไปยัง Chatons Orphelins Montréal  เพื่อขอให้ช่วยดูแลมัน กลุ่มช่วยเหลือดังกล่าวตอบตกลงทันทีโดยไม่มีลังเล คืนนั้น Nathalie จึงย้ายมิ้วน้อยไปยังบ้านอุปถัมภ์ และตั้งชื่อให้มันว่า Maddy     Nathalie พูดกับมิ้วน้อยว่า “ฉันรู้ว่าแค่เจ็บปวด แต่ทุกอย่างจะดีขึ้นนะ” ทางด้าน Chatons Orphelins Montréal บอกว่า “มันเป็นลูกแมวที่อ่อนแอมาก แต่มันมีจิตวิญญาณของนักรบ” กรณีของ Maddy ค่อนข้างเป็นเคสที่ท้าทาย มันมีแผลใกล้กับหาง นอกจากนี้มันยังต้องอดทนกับแผลในปาก โรคไวรัสคาลิไซ และการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ    …

วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ Cora Rose น้องหมาที่อาจไม่เข้าใจว่าแรงบันดาลใจคืออะไร และคงไม่รู้ว่าหลายคนได้รับแรงบันดาลใจจากมัน แต่รู้มั้ยว่า… มันเกือบตายมาก่อน     ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว Cora Rose ถูกนำเข้ามาในศูนย์พักพิงใน Madera รัฐแคลิฟอร์เนีย และทำให้ทุกคนต้องตัดสินใจอย่างหนักว่าการที่ให้มันมีอยู่ต่อนั้นจะคุ้มค่าหรือไม่ จากสภาพของน้องหมา พวกเขาเชื่อว่ามันน่าจะถูกรถชน ขาหน้าของมันทั้ง 2 ข้าง ถูกทำลายจนรักษาไม่ได้ กระดูกเชิงกรานของมันหัก มันแทบจะเคลื่อนไหวไม่ได้ และกำลังทุกข์ทรมานมาก   Cora Rose ถูกย้ายไปที่ Marley’s Mutts องค์กรช่วยเหลือสัตว์ที่ก่อตั้งขึ้นโดย Zach และ Heather Skow เพื่อรับการรักษา แต่ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะรอดหรือไม่ ที่นั่น น้องหมาถูกตัดขาหน้าไปข้างหนึ่งทิ้ง เพราะติดเชื้ออย่างรุนแรง ก่อนจะถูกตัดอีกข้างหนึ่งของมันก็ดูเหมือนจะต้องถูกตัดเหมือนกัน     มันเป็นช่วงวาเลนไทน์ที่ Zach กับ Heather Skow ได้พบกับ Cora Rose ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะมอบความรักและมอบชีวิตที่ดีให้กับมัน แต่มันไม่ง่ายเลย อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะสู้เพื่อมัน และทำทุกอย่างเพื่อให้มันได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขสักครั้ง แม้ต้องอยู่ในสภาพไหนก็ตาม ในที่สุด Cora Rose…

ปกติแล้วเราจะเห็นว่าหมาแทบทุกตัวมีความซนและขี้เล่น ซึ่งทำให้เรารู้สึกเอ็นดูไปกับความทะเล้นของพวกมัน เรียกได้ว่าความร่าเริงสดใสเป็นเสน่ห์อันโดดเด่นอย่างหนึ่งของพวกหมาเลย ทว่าเจ้า Osol มีเสน่ห์ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง มันไม่ได้ขี้เล่นจนลิงโลดเพื่อทำให้มนุษย์สนใจ แต่มันเลือกที่จะทำตัวให้ดูน่าเอ็นดูโดยการนอนหงายแทน ลองไปดูเสน่ห์ที่แตกต่างของมันกัน   นี่คือพระเอกของเรา เจ้า Osol   สิ่งที่ทำให้มันแปลกกว่าหมาตัวอื่น ก็คือมันชอบนอนหงายท้องเฉยๆ   แม้จะมีคนหรือหมาตัวอื่นเข้ามาเล่นด้วย มันก็ไม่ยอมลุก   เจ้าของบอกว่าไม่ว่าจะที่ไหน เมื่อไหร่ มันก็นอนหงายท้องทุกที ไม่ยอมออกกำลังเลย เธอเองก็เอือมแล้ว   ถึงเธอจะเอาของกินเข้าสู้ แถมยังมีเพื่อนหมาในบ้านกินล่อหน้า   สิ่งที่ Osol ทำไม่ใช่การลุกไปกินขนม แต่เป็นการอ้อนอยู่กับที่ขอแทน   มันไม่ยอมลุกขึ้นมากินจริงๆ จนเธอใจอ่อนต้องยอมป้อนให้   ปกติแล้วหมาตัวอื่นจะไม่ชอบนอนหงายท้อง เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย   แต่กับ Osol แล้ว ไม่ว่าจะจับพลิกยังไงมันก็จะนอนหงาย   จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้นอนตลอดซะทีเดียวหรอกนะ บางทีถ้าเล่นกับเพื่อนก็ลุกบ้างเหมือนกัน   แต่ถ้าให้พูดจริงๆ เจ้าหมาก็เลือกที่จะนอนสัก 90% ของเวลาทั้งหมด   แม้แต่เวลาออกไปเดินเล่นก็ด้วย…

แมวจรจัดตัวหนึ่งระแวงคนมาก มันขู่มนุษย์แทบทุกคนที่เข้าใกล้แล้วก็พยายามหนีห่าง แต่หลังจากมันได้ลองอยู่กับมนุษย์ที่เข้าใจมันแล้ว มันตัดสินใจเลิกเป็นแมวจรจัด Ashley เป็นหญิงที่ชอบช่วยแมวจรจัดในเมืองวอร์ชิงตัน ประเทศอังกฤษ เธอมักจะพาแมวจรจัดมาทำหมันและรักษาโรค จากนั้นก็ปล่อยมันกลับไปอยู่ในที่ที่พามันมา หรือถ้าตัวไหนอยากอยู่กับมนุษย์ต่อเธอก็จะหาเจ้าของให้     ครั้งนี้เธอเจอเจ้าแมวตัวหนึ่งซึ่งระแวงคนมาก แต่มันป่วยอยู่เธอเลยจับมันมารักษาด้วย ทว่ามันก็เอาแต่ขู่ใส่มนุษย์ทุกคนเลย เธอตั้งชื่อมันว่า Stud Muffin ถึงเธอจะรู้ว่ามันไม่ชอบคนเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเธอก็อยากให้มันอยู่กับเธอจนกว่าจะรักษาโรคหายแล้วค่อยเอาไปปล่อยตามเดิม     ปกติเจ้าแมวจะเอาแต่หลบอยู่ในคอนโดแมวตลอดเวลา พอมีคนเข้ามาใกล้ก็จะมุดไปด้านใน แต่พอมันเห็นว่า Ashley ให้อาหารมันบ่อยๆ แล้วมันก็เลยไม่หลบเธอ เธอเห็นว่าเจ้า Stud Muffin ชอบจ้องมองเธอจากด้านในคอนโดแมวบ่อยๆ เหมือนมันเริ่มไว้ใจเธอมากขึ้นหลังจากที่รู้ว่าเธอเป็นมิตร     แล้วพอเธอลองยื่นมือเข้าไปหามัน เจ้าแมวก็ยอมให้เธอลูบหัวอย่างไม่น่าเชื่อ มันคงรับรู้ได้แล้วว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกที่น่ากลัว มีมนุษย์บางคนที่มันไว้ใจได้เหมือนกัน Ashley เล่าว่า “ฉันลองเสี่ยงยื่นมือไปหาเจ้าแมว มันก็ยอมให้ฉันลูบหัว แล้วก็ยอมให้ฉันทายาที่ตาให้อย่างว่าง่ายด้วย”     เมื่อถึงวันที่เธอต้องพา Stud Muffin ไปปล่อยคืนที่เดิม เธอก็เอามันไปปล่อยเหมือนกับที่เคยทำมากับแมวตัวอื่นๆ แต่เจ้าแมวเลือกที่จะอยู่กับเธอมากกว่า เธอเล่าว่า “ฉันให้มันตัดสินใจว่าอยากจะกลับไปเป็นแมวจรจัดต่อไหม โดยเปิดกรงของมันทิ้งไว้แล้วเดินจากไป แต่เจ้าแมวก็เอาแต่เข้าไปหลบด้านในของกรงเหมือนมันอยากอยู่กับฉันต่อ”…

ตั้งแต่ Phoebe Gill เจ้าแมว Stitch ซึ่งบาดเจ็บที่ตา เธอก็หยุดคิดเกี่ยวกับมันไม่ได้ เธออยากจะเข้าไปช่วยให้มันหายดี แต่ก็ทำไม่ได้อีกเช่นกันเพราะมันมีเจ้าของอยู่ เธอเล่าว่า “เจ้าแมวมีแผลตรงตาข้างหนึ่ง ซึ่งถ้าเจ้าของพาไปรักษาและให้ยามันก็หายแล้วแท้ๆ แต่เจ้าของที่เป็นคนเพาะพันธุ์แมวก็ไม่ยอมพามันไปหาสัตวแพทย์”     เจ้าแมวบาดเจ็บที่ตา แต่เจ้าของเก่าไม่ยอมพาไปรักษา   เธอเล่าต่อว่า “เมื่อแผลของมันร้ายแรงมากขึ้น คนเพาะพันธุ์ก็เลยทิ้งมัน จากนั้นสัตวแพทย์เลยเอาตัวมันไปผ่าตัดเพื่อเอาตาข้างนั้นออก เพราะว่าตอนนั้นก็สายเกินไปที่จะรักษาตาของมันแล้ว” ถึงเจ้าแมวจะกลายเป็นแมวตาบอดข้างหนึ่ง Phoebe ก็ยังคงชอบมัน เธอคิดว่ามันน่ารักเสมอไม่ว่าจะตาบอดหรือไม่ เธอก็เลยอยากช่วยรับมันไปเลี้ยงไว้ที่บ้าน     เดี๋ยวพี่จะพาไปอยู่บ้านด้วยนะ   ดูสิน่ารักจะตาย ไม่ซนด้วย   ไม่มีขนก็ไม่เป็นไร ทาสมีเสื้อให้ใส่   แม้ว่า Phoebe จะมั่นใจว่าอยากรับเลี้ยง Stitch แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เธอกังวลอยู่ ซึ่งก็คือเรื่องของเจ้าหมาพิตบูลล์ Alaska ที่เธอเลี้ยงไว้นั่นเอง เธอไม่แน่ใจว่าเจ้าหมากับเจ้าแมวจะเข้ากันได้ดีรึเปล่า ถ้าหากพวกมันเข้ากันไม่ได้เลย สุดท้ายเธออาจจะต้องเอา Stitch มาคืนก็ได้     ทว่าพอ Stitch กับ…