Category: สัตว์โลกน่ารัก

ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ที่เกาะ “คอร์ซิกา” เกาะขนาดใหญ่ของประเทศฝรั่งเศสในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ยังมีแมวประหลาดชนิดหนึ่งอาศัยอยู่     พวกมันถูกเป็นแมวที่ถูกเรียกโดยคนในพื้นที่ว่า “Ghjattuvolpe” คำศัพท์ที่สามารถแปลตรงๆ ได้ว่า “แมว-จิ้งจอก” จากการที่พวกมันมีขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับแมวบ้านทั่วไป ด้วยความยาวลำตัวถึง 90 เซนติเมตร แถมยังมี เคราสั้น ฟันเป็นเขี้ยวใหญ่ และหางที่มองยังไงก็เหมือนสุนัขจิ้งจอกมากกว่าแมว ความแปลกของพวกมันนี้เองที่ทำให้เจ้าหน้าที่พยายามที่จะตรวจสอบแมวที่พบนี้มาเป็นเวลาร่วมทศวรรษแล้ว จากแนวคิดที่ว่าแมวเหล่านี้อาจจะเป็นแมวสายพันธุ์ใหม่ที่เราไม่เคยมีการพบมาก่อนก็ได้       อ้างอิงจากนักวิจัยที่กรมการล่าสัตว์และสัตว์ป่าแห่งชาติในคอร์ซิกา แมวตัวดังกล่าวนี้ถูกพบเป็นครั้งแรกในปี 2008 ในเล้าไก่ของคนในพื้นที่ ก่อนที่คนในพื้นที่จะเริ่มรายงานการพบเห็นมันเป็นช่วงๆ ทีมนักวิจัยมีโอกาสที่จะได้ตรวจสอบแมวประหลาดเหล่านี้อย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2012 จากการที่มันทิ้งขนเอาไว้ที่ไม้ล่อ และกว่าที่ทางนักวิจัยจะสามารถจับแมว-จิ้งจอกตัวเป็นๆ มาตรวจสอบได้มันก็เป็นเวลาสี่ปีหลังจากนั้น     ในเวลานั้นพวกเขาพบว่าแมวดังกล่าวมี DNA ที่คล้ายกับแมวป่าแอฟริกา แต่ถึงก็ใช่ว่าจะเป็นสายพันธุ์เดียวกันไปเลยแต่อย่างไร ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าแมวเหล่านี้นั้นอาจจะเกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ที่ซับซ้อน หรือไม่ก็เป็นสายพันธุ์ที่มนุษย์ไม่รู้จักโดยสิ้นเชิง อ้างอิงจากคุณ Pierre Bendetti หัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคนิคของกรมการล่าสัตว์และสัตว์ป่าแห่งชาติ พวกเขายังไม่ได้มีการตรวจสอบทั้งรูปแบบอาหารการกินและการผสมพันธุ์ของแมวสายพันธุ์ แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็มีทฤษฎีที่ว่า แมว-จิ้งจอกเหล่านี้ น่าจะเริ่มเข้ามาอาศัยบนเกาะจากการติดตามมนุษย์มาเมื่อช่วง 6,500 ปีก่อนคริสตกาล และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีต้นกำเนิดจริงๆ อยู่ไกลถึงตะวันออกกลางเลย…

ถ้าให้โหวตสัตว์ที่น่ารักที่สุดในอเมริกาเหนือ คุณจะโหวตสัตว์อะไร? #เหมียวขี้ส่อง ขอโหวต “Ringtail Cat” สัตว์ขนปุยผู้น่ารัก ที่พบได้ในทวีปอเมริกาเหนือแถบฝั่งตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ Ringtail Cat เป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของทวีปอเมริกาเหนือพวกมันมีนิสัยขี้อายมากๆ และกังวลเมื่อมีมนุษย์อยู่ใกล้ นอกจากนี้ เรายังมีโอกาสที่จะพบพวกมันได้ยากมากเมื่อเทียบกับสัตว์ตระกูลเดียวกันอย่างแรคคูน     Ringtail Cat เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับลิง แต่มีความแตกต่างกันตรงที่มันมีลวดลาย และมีขนาดตัวใกล้เคียงกับแมว ส่วนใบหน้าของ Ringtail Cat นั้นจะยาวคล้ายกับหมาจิ้งจอก มีดวงตาที่กลมโต ลำตัวของมันจากหัวจรดหางยาวประมาณ 1 เมตร มีน้ำหนักตัวประมาณ 3.5 กิโลกรัม     ลักษณะโดยรวมของมันดูงดงามมาก จนหลายคนยกให้มันเป็นสัตว์ที่น่ารักที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ นอกจากนี้เสียงของ Ringtail Cat ยังมีเอกลักษณ์มากๆ ซึ่งเป็นสิ่งทีทำให้มันไม่เหมือนสัตว์ชนิดอื่นๆ อย่างที่บอกไปแล้วว่ามันมีรูปหน้ายาวคล้ายหมาจิ้งจอก ฟันของมันจึงค่อนข้างแข็งแรง ช่วยให้พวกมันหาอาหารได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นแมลงชนิดต่างๆ กระต่าย รวมไปถึงกระรอก     Ringtail Cat ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง โดยมีจำนวนสมาชิกในฝูงหลายสิบตัว และมักจะหากินตามป่าโปร่ง  …

ถ้าคุณอยากให้แมวของคุณดูดีแล้ว แค่ใส่ใจดูแลเจ้าเหมียวอย่างเดียวมันไม่พอหรอก คุณต้องหาพร็อบน่ารักๆ ให้เหล่าเจ้านายใช้ด้วย แล้วเตียงแบ๊วๆ พวกนี้ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลย ขอแค่มีของใช้แบบนี้มาตั้งไว้ในบ้าน รับรองคนที่ได้มาเห็นต้องคิดว่าแมวของคุณน่ารักขึ้นเป็นกอง     เตียงแมวพวกนี้เป็นไอเดียจากคู่รักทาสแมวชาวยูเครน Kateryna และ Denis พวกเขาทำเตียงเหล่านี้ขึ้นมาจากไหมพรม โดยจุดเริ่มต้นของการทำเตียงพวกนี้ ก็มาจากการที่พวกเขาอยากทำของน่ารักๆ ให้เจ้าแมว Tara ของพวกเขานอนนี่แหละ     แม้ว่าในตอนแรกผลงานของพวกเธอจะออกมารูปทรงแปลกๆ และไม่สวยเท่าไหร่ แต่เจ้า Tara มันก็เข้าไปนอนด้านในนั้นอย่างดูพออกพอใจ เมื่อเห็นเจ้าแมวชอบใจแบบนั้นแล้ว จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ Kateryna ทำเตียงแบบใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นคอลเลคชั่นสุดน่ารักอย่างที่เห็นนี่แหละ   เริ่มจากทรงคลาสสิกแบบธรรมดาที่ดูดีแต่เรียบง่าย   เจ้าเหมียวในกระบองเพชรไร้หนาม   งานนี้โตโตโร่ก็มา น่ารักป้ะล่ะ   เตียงรูปรถไฟจากเรื่องโตโตโร่ก็มีนะ   แบบเท่ๆ อย่างธีมแบดแมนก็มีเช่นกัน   แบบนี้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาสสุดๆ   เตียงเจ้าเหมียวสีรุ้งฟรุ้งฟริ้ง   นอนหลับสบายอยู่ในดอกไม้   น้องแมวนอนในพุงหมาจิ้งจอก   อยู่ในอ้อมกอดหมาแพนดี้   ในผลทับทิมมีแมวอยู่ด้วย!?   ทรงฟักทองสุดคลาสสิก…

การทุ่มเทช่วยเหลือเพื่อน 4 ขาไม่จำเป็นต้องรอให้คุณโตแล้วมีงานทำจนมีเงินช่วยเหลือพวกมัน ดูอย่างเด็กชายวัย 9 ขวบคนนี้สิ ถึงจะเด็กและหาเงินเองไม่ได้เขาก็ช่วยเหลือหมาได้เกือบ 100 ตัวแล้ว     เด็กชาย Brady Snakovsky อายุ 9 ขวบมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนายตำรวจ เขาจะได้ช่วยดูแลคนในชุมชนของเขาให้ปลอดภัยได้ นอกจากนี้เขาก็เป็นคนที่รักสุนัขมาก เขาจึงใฝ่ฝันอยากมีคู่หูสุนัขตำรวจเป็นของตัวเองด้วย มันคงจะดีไม่น้อยเลยถ้าเขาและมันได้ช่วยกันปกป้องความสงบไปด้วยกัน     วันหนึ่งขณะที่ Brady นั่งดูสารคดีเกี่ยวกับตำรวจกับคุณแม่ เขาสังเกตเห็นว่านายตำรวจทุกคนมีเสื้อกันกระสุนใส่ แต่เจ้าหมาตำรวจไม่เห็นมีเสื้อใส่สักตัวเลย นั่นทำให้เด็กชายรู้สึกขัดใจอย่างมาก เพราะว่าสุนัขตำรวจเองก็ต้องทำงานเสี่ยงภัยไม่ต่างจากคน พวกมันควรจะมีเสื้อกันกระสุนไว้ป้องกันการบาดเจ็บเช่นกัน     หลังจากเขาบอกแม่เรื่องนี้ ทั้งคู่ก็ลองศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขตำรวจและเสื้อกันกระสุนสุนัขเพิ่มเติมดู แล้วได้รู้ว่าจริงๆ แล้วที่พวกหมาไม่มีเสื้อกันกระสุนใส่เป็นเพราะไม่มีเงินนี่เอง หน่วยที่มีสุนัขตำรวจส่วนใหญ่ต้องออกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุนัขเองแทบทั้งสิ้น จึงไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะไม่มีเงินซื้อเสื้อกันกระสุนสุนัขที่ราคาสูงถึงตัวละ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 38,000 บาท) ได้     ถึงจะรู้อย่างนั้นเด็กชายก็อยากให้พวกสุนัขตำรวจปลอดภัยอยู่ดี เขากับแม่จึงลองทำโครงการรับบริจาคเงินเพื่อซื้อเสื้อกันกระสุนสุนัขในเว็บไซต์ GoFundMe ดู เผื่อว่าจะช่วยสุนัขได้บ้างตัวหรือ 2 ตัวก็ยังดี แต่หลังจากนั้นโครงการของ Brady…

การที่เรามีสุนัขคอยอยู่เคียงข้าง ถึงพวกมันจะไม่ค่อยทำอะไรเลยนอกจากกินข้าว วิ่งเล่น และนอนอยู่ที่บ้าน แค่นั้นพวกมันก็ทำให้พวกเรามีความสุขแล้ว แต่ก็มีสุนัขบางตัวที่ไม่ชอบนั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านเหมือนกัน พวกมันชอบออกไปช่วยเจ้าของในที่ทำงานมากกว่า บางตัวมีตำแหน่งหน้าที่เป็นของตัวเองเลยล่ะ แถมงานของพวกมันยังหลากหลายมากๆ ด้วยนะ ลองตามไปดูกันว่าเจ้าหมาทำงานอะไรกันบ้าง แล้วคุณจะได้เห็นว่าพวกมันเก่งกว่าที่คุณคิดเยอะ (แถมน่ารักอีกด้วย)   อยากไปเที่ยวไหนบอกน้องหมาเลย เดี๋ยวจองทริปให้   น้องหมาแสนดีประจำไปรษณีย์   เจ้าหน้าที่ให้กำลังใจตัวน้อยมาแว้ว   ผู้ช่วยงานนายช่าง 4 ขาพร้อมให้บริการ   พนักงานต้อนรับประจำคลินิก เอาไว้คุยกับลูกค้า 4 ขาโดยเฉพาะ   เอาสแตมป์มาสิน้องจะช่วยเลียให้ จะได้ประหยัดการใช้กาวไง   เหล่าหมาตำรวจที่จะมาคอยฝึกเป็นเพื่อนนายตำรวจมือใหม่   ไม่ต้องกลัวจมน้ำ เพราะไลฟ์การ์ดที่นี่ตัวโต แบกคุณไหวแน่นอน   เจ้าหน้าที่ตรวจจับของผิดกฏหมาย Claude รายงานตัว!!   น้องหมารักษ์ คอยดมหารังเต่าเพื่อเอาไข่ไปฟักอย่างปลอดภัย ก่อนปล่อยคืนสู่ทะเล   พนักงานร้านตัวนี้จะคาบของที่คุณซื้อไปที่เคาเตอร์ให้ ไม่ต้องถือให้หนักเลย   เจ้าหมาทำหน้าที่แก้เหงาให้ลูกค้า ระหว่างที่รองานปริ้นอยู่  …

จะมีสักกี่คนที่ซื่อสัตว์กับเราได้เหมือนหมา เราเป็นที่ 1 ในใจของพวกมันเสมอ และมันจะคอยอยู่เคียงข้างเราไม่ห่าง แม้ในสถานการณืที่เลวร้ายที่สุด หนุ่มอายุ 26 ปีนาย Luke McKoy รับเลี้ยงเจ้าหมา Major มาจากศูนย์พักพิงสัตว์ตั้งแต่มันยังตัวเล็กๆ เขาจึงเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับมัน     ในตอนนี้ที่เจ้าหมาโตแล้ว Luke กับเจ้า Major ก็ยังไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นประจำ พวกเขาก็ยังเป็นเพื่อนรักที่ดีที่สุดของกันและกัน แต่น่าเสียดายที่เวลาแห่งความสุขอยู่กับพวกเขาได้ไม่นาน เมื่อไม่นานมานี้ Luke กับ Major ขับรถออกไปข้างนอกด้วยกัน แล้วโชคร้ายประสบอุบัติเหตุ ส่งผลให้รถของเขาพุ่งชนต้นไม้เข้าอย่างจังก่อนจะไถลลงไปตามไหล่ทาง     Luke ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วน Major เองก็กระดูกขาหักและเคลื่อน แต่ตอนนั้นสิ่งที่เจ้าหมาเลือกทำคือการคลานไปอยู่ข้างๆ เจ้าของที่มันรัก แม้ว่ามันเองน่าจะเจ็บมากจนน่าจะคลานไม่ไหว อีก 5 ชั่วโมงถัดมาหน่วยกู้ภัยก็มาถึงจุดเกิดเหตุ พวกเขาพบว่า Luke เสียชีวิตไปซะแล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเสียชีวิตทันทีที่รถชนหรือยังมีลมหายใจต่อ สิ่งที่พวกเขามั่นใจก็คือเจ้าหมาอยู่ข้างๆ เขาจนถึงลมหายใจสุดท้าย     ทางด้านเจ้า Major นั้นหน่วยกู้ภัยได้พาตัวมันไปรักษากับสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดแล้ว แต่อาการของมันก็ย่ำแย่พอๆ กับเจ้าของที่จากไปเลย…

เนื่องจากมนุษย์เราขยายพื้นที่เมืองจนทำให้ที่อยู่ตามธรรมชาติของสัตว์ลดลงไป บางครั้งพวกมันก็เลยหนีมาอาศัยอยู่กับพวกเราในเมืองบ้าง ถึงจะอยู่ในที่ที่ไม่ค่อยเหมาะสมก็ตาม บ่อยครั้งเราก็เลยต้องพยายามหาทางย้ายสัตว์เหล่านี้ออกไปเพื่อไม่ให้พวกมันเป็นอันตราย แต่คงไม่มีวิธีไหนที่จะดูยิ่งใหญ่เท่าวิธีการช่วยนกกระสาของบริษัทไฟฟ้าในญี่ปุ่นแล้วล่ะ     เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา มีนกกระสาตัวหนึ่งขึ้นไปทำรังอยู่บนยอดเสาไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น แถมมันดูไม่มีท่าทีจะย้ายไปไหนเลย ด้วยความที่นกกระเรียนเป็นสัตว์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์ ชาวบ้านแถบนั้นจึงกลัวว่ามันจะถูกไฟช็อตเข้า จึงขอให้บริษัท Hokuriku Electric Power Company ซึ่งดูแลเรื่องไฟฟ้าแถบนั้นช่วยจัดการเรื่องนกกระสาตัวนั้น     อย่างไรก็ตามการรื้อรังของมันออกทั้งๆ ที่ตัวเจ้านกกระสายังอยู่บนนั้นก็ดูไม่ใช่วิธีที่ดีเท่าไหร่ ครั้นจะรอจนมันออกไปจากรังเองก็อาจจะโดนไฟช็อตไปก่อนก็ได้ พวกเขาจึงเลือกทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน…นั่นคือการตัดกระแสไฟฟ้าที่ผ่านเสาไฟฟ้าต้นนั้น แล้วเปลี่ยนทางเดินไฟฟ้าไปยังเส้นทางอื่นเพื่อให้มันปลอดภัยแทน และในขณะเดียวกันชาวบ้านก็ยังมีไฟฟ้าใช้เหมือนเดิมด้วย     แต่แน่นอนว่าวิธีนี้คนที่เหนื่อยมากที่สุดก็ต้องเป็นบริษัทไฟฟ้านี่แหละ เนื่องจากพวกเขาต้องวางแผนเส้นทางเดินไฟฟ้าใหม่ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่พอควร ชาวบ้านและชาวเน็ตที่ได้รู้เรื่องการช่วยมัน จึงรู้สึกทึ่งกับความทุ่มเทที่บริษัทมีให้กับชีวิตเล็กๆ ชีวิตหนึ่งมาก พวกเขายอมลำบากเพื่อให้นกกระเรียนตัวนั้นปลอดภัย     ชาวเน็ตต่างก็คอมเมนต์ชม Hokuriku Electric Power Company ต่างๆ นาๆ บ้างก็บอกว่า “ขอบคุณคนท้องถิ่นและบริษัทไฟฟ้ามากจริงๆ” หรือ “โคตรนับถือวิธีแก้ปัญหาของพวกคุณเลย” ซึ่ง #เหมียวอาตี๋ ก็เห็นด้วยกับชาวเน็ตนะ เพราะคงมีไม่กี่คนหรอกที่ยอมลำบากใช้วิธียากและยิ่งใหญ่ขนาดนี้เพื่อช่วยอนุรักษ์สัตว์เพียงไม่กี่ตัว   ที่มา: Sora…

ถ้าสามีที่ดีต้องใส่ใจดูแลครอบครัว และช่วยเลี้ยงดูลูกโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นงานของผู้หญิง เจ้าแมวตัวนี้ก็ถือเป็นพ่อแมวในอุดมคติเลยล่ะ     ครอบครัวที่เลี้ยงดูแมวสาวสีดำ Jamie Sullivan และแมวหนุ่มสีส้ม Landon Carter ประสบเหตุไฟไหม้ทำให้พวกเขาไม่มีบ้านอยู่และไม่สามาถดูแลพวกแมวได้ เจ้าแมวทั้ง 2 ตัวก็เลยถูกส่งมาอยู่ในความดูแลของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Motley Zoo Animal Rescue เพื่อหาบ้านหลังใหม่ โดยที่แมวหนุ่มไม่ยอมออกห่างจากแมวสาวเลย     ตอนที่มาถึง Jamie ก็ท้องแก่อยู่แล้ว ไม่นานมันก็คลอดลูกแมวออกมา 3 ตัว พวกเขาก็เลยพยายามจะจับพ่อแมวแยกออกมาเพื่อให้แม่แมวดูแลลูกได้สะดวก แต่สุดท้ายพกเขาก็แยกพวกมันไม่ได้ พวกเขาเล่าว่า “ปกติแล้วเราต้องแยกแมวตัวผู้ออกมาจากตัวเมียที่ตั้งท้องหรือแม่แมวที่มีลูกเล็ก เพราะพวกมันอาจเป็นอันตรายต่อลูกแมวได้” แต่พอเราแยกพ่อแม่แมวคู่นี้ พวกมันก็ดูซึมๆ ไป สุดท้ายเราก็เลยต้องให้พวกมันกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม”     และถึงแม้ว่าจะแม่แมว Jamie จะวุ่นวายเพราะต้องดูแลลูกแมว Landon ก็คอยอยู่ข้างๆ เพื่อเป็นกำลังใจให้แม่แมวโดยไม่ได้ก่อกวนอะไรเลย หนำซ้ำเจ้าแมวหนุ่มยังช่วยแม่แมวเลี้ยงลูกเพื่อให้แม่แมวได้พักซะด้วย อาสามัครบอกว่า “มันเป็นตัวอย่างของพ่อแมวที่ดี ทั้งช่วยดูแลคู่ แล้วก็ช่วยกันเลี้ยงดูลูกด้วย”     เท่านั้นยังไม่พอ ตอนที่พวกมันเข้าไปในศูนย์พักพิง ที่นั่นก็ยังมีลูกแมวกำพร้าตัวอื่นอยู่อีกด้วย พวกมันยังไม่มีใครดูแลเลยนอกจากอาสาสมัครเท่านั้น…

เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ปี 2019 ขณะที่คนเก็บขยะกำลังเก็บขยะ ทันใดนั้น เขาก็เห็นภาพที่น่าตกใจ มันคือลูกแมววัย 8 สัปดาห์อยู่ในถังขยะ โดยมีโฟมหนาและแข็งปกคลุมทั่วหน้าแหละลำตัวของมัน ตอนแรกคนเก็บขยะคิดว่ามันตายแล้ว แต่อยู่ดีๆ เขาก็ได้ยินเสียงร้องของมัน จึงรีบนำถุงที่แมวน้อยอยู่กลับไปยังศูนย์กำจัดขยะ Hillsboro Garbage Disposal     จากนั้น คนเก็บขยะและเพื่อนร่วมงาน ได้ช่วยกันกำจัดโฟมออกจากใบหน้าของมิ้วน้อย ก่อนที่มันจะขาดอากาศหายใจ โดยการใช้มีดโกน ค่อนตัดเอาโฟมออกทีละนิดๆ และทำอย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจแล้วว่าแมวน้อยสามารถหายใจคล่องขึ้น พวกเขาก็รีบพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที     ทันทีที่ไปถึง คุณหมอตกใจมากเมื่อเห็นสภาพของแมวน้อยผู้น่าสงสาร Dr. Diane Healy บอกว่า “ทั้งหน้าและหัวของมันถูกปกคลุมด้วยโฟม ขาของมันแข็ง จนไม่สามารถขยับได้”     ขณะที่ช่วยรักษาลูกแมวนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำการสืบสวนไปด้วยว่าใครเป็นคนทำกับแมวน้อยแบบนั้น ซึ่งจุดที่มีการพบลูกแมวถูกทิ้ง อยู่ใกล้บ้าน 2 หลัง และมีอาคารให้เช่าอีก 2-3 หลัง เนื่องจากอาคารให้เช่านั้น มีคนเข้าออกมากมาย จึงยากที่จะหาตัวคนทำร้ายแมวได้ แต่พวกเขาเชื่อว่าเจ้าแมวตัวนี้เป็นแมวที่อาศัยอยู่บริเวณนี้  …

เมื่อพูดถึงพอสซัม หลายคนอาจจะรู้สึกกลัว บางคนคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่ชวนขนลุก น่าเกลียด โดยเฉพาะดวงตาและฟันแหลมๆ ของมันพวกมัน ที่ดูสยดสยองเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม แฮชแท็ก #PossumEveryHour ในทวิตเตอร์ ได้ทำให้ผู้คนเห็นว่าพอสซัมไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด ตรงกันข้าม พวกมันเป็นสัตว์ที่น่ารักจนน่าหลงใหลมากๆ และนี่คือความจริงเกี่ยวกับพอสซัม ที่จะทำให้คุณรู้จักสิ่งมีชีวิตชนิดนี้มากขึ้น   โอพอสซัมจะคลอดลูกเฉลี่ยครอกละ 8-9 ตัว หลังจากผสมพันธุ์ได้ 11-13 วัน โอพอสซัมตัวเมียอาจคลอดลูกได้ถึง 20 ตัว แต่โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 8-9 ตัว โดยลูกโอพอสซัมแรกเกิดจะเป็นสีชมพู และมีขนาดเล็กมากๆ จนสามารถให้ทั้ง 20 ตัวอยู่ในช้อนชาใบเดียวกันได้เลยหละ   โอพอสซัมสามารถแกล้งตายได้ แต่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของโอพอสซัมคือ การแกล้งตายเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่หวาดกลัว แต่พวกมันไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมนี้ได้ ความจริงคือ การแกล้งตายเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติเมื่อร่างกายของพวกมันมีความเครียด ดังนั้น เมื่อไหร่ที่เห็นโอพอสซัมแกล้งตาย อาจทำให้เจ้าของหรือคนที่เห็นเครียดไปด้วย   โอพอสซัมมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติต่อโรคบางอย่าง ว่ากันว่าโอพอสซัมเป็นโรคไลม์และโรคพิษสุนัขบ้า แต่นั่นเป็นเพียงแค่ข่าวลือ เพราะจริงๆ แล้วร่างกายของโอพอสซัมมีภูมิคุ้มกันโรคเหล่านี้ และมีโอกาสที่จะเป็นโรคดังกล่าวน้อยกว่าสุนัขถึง 8 เท่า  …

เมื่อภรรยาคลอดลูก ผู้เป็นพ่อดีใจไม่น้อยกว่าแม่เลย และพวกเขาก็พร้อมจะทำหน้าที่พ่อและสามีที่ดีให้กับคนที่เขารักทั้ง 2 คน ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับมนุษย์เท่านั้น โดยปกติแล้ว เราจะไม่ค่อยเห็นสัตว์ทำหน้าที่พ่อสักเท่าไหร่ แต่ก็มีสัตว์บางชนิดที่เป็นพ่อได้ดีเกินกว่าที่เราคาดไว้ เหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ ที่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เมื่อตัวเมียคลอดลูก   “ขอบใจนะ ที่คลอดลูกๆ ของเราออกมาอย่างปลอดภัย”   การคลอดลูกสำหรับแมวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพวกมันคลอดลูกครอกละไม่ต่ำกว่า 1 ตัว แน่นอน แม่แมวต้องเหนื่อยและอ่อนเพลียมากแน่ๆ โชคดีที่แม่แมวตัวนี้ไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากเพียงลำพัง โดยระหว่างที่คลอดลูก ก็มีพ่อแมวอยู่เคียงข้างและคอยดูไม่ห่าง   “เหนื่อยมากใช่มั้ย?”   เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากคลอดเสร็จและกำลังอ่อนเพลีย พ่อแม่ก็เข้ามาปลอบและมอบความรักให้ แววตาของพ่อแมวเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย จนเราหลายคนที่ดูอยู่ยังสัมผัสได้ พ่อแมวอาจจะรับความเจ็บปวดแทนแม่แมวไม่ได้ แต่การที่มันแสดงออกถึงความห่วงใยเช่นนี้ ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้แม่แมวได้มาก และทำให้ฟื้นตัวได้เร็วด้วย   “เค้าจะอยู่ตรงนี้ และจะคอยดูแลตัวเองกับลูกๆ ให้ดีที่สุด”   แม้จะเป็นเรื่องราวสั้นๆ แต่มันก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าสัตว์มีความรักและต้องการความรักไม่ต่างจากเรา ที่มา kandoli

ทหารหลายคนที่กลับจากการสู้รบ มักจะป่วยเป็นโรค PTSD หรือสภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ เพื่อเอาชนะโรคดังกล่าวนี้ หลายคนจึงตัดสินใจรับสุนัขบริการเข้ามาในชีวิต เพราะสุนัขบริการสามารถใช้ความรักช่วยเยียวยาจิตใจได้… แต่บางครั้ง พวกมันก็ต้องการการช่วยเหลือเหมือนกัน     David Broido เป็นหนึ่งในทหารที่ป่วยเป็นโรค PTSD และเขารู้ว่าต้องมีสุนัขบริการเข้ามาช่วยให้ผ่านจุดจุดนี้ไป แต่เขาต้องรอถึง 2 ปี กว่าเพื่อน 4 ขาจะปรากฏตัวขึ้น David ได้รับเลี้ยงลูกหมาที่ชื่อ Bones จากศูนย์พักพิง และได้ฝึกให้มันเป็นสุนัขบริการ และนั่นคือช่วงเวลาที่ชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไป หลังจากรับเลี้ยง Bones เพียงไม่นาน เพื่อนๆ ของ David ก็เริ่มเห็นความแตกต่างของเขา     เพื่อนหลายคนสังเกตุเห็นว่า Bones มีผลต่อสุขภาพจิตของ David เป็นอย่างมาก และได้เริ่มเรียกเจ้าตูบว่า Dr. Indiana Bones ตั้งแต่นั้นมา David กับ Bones ก็ได้ออกไปผจญภัยด้วยกันบ่อยขึ้น     David กับ…

North เป็นลูกแมวที่ถูกพบพร้อมพี่น้องในบ้านที่มีการรื้อถอน แม้จะตัวเล็กที่สุดในบรรดาพี่น้อง แต่มันมีใจที่แข็งแกร่งที่สุด โดยในวัยเพียง 4 วัน มันได้ใช้ชีวิตใน 9 ชีวิตไปแล้วหลายครั้ง หลังจากนั้นพี่น้องหมาทั้งหมดก็ถูกพายังไปคลินิกสัตว์ในเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย แต่พี่น้องของมันทยอยตายไปทีละตัวๆ จนเหลือ North เพียงตัวเดียว เพราะมันปฏิเสธที่จะยอมแพ้     ต่อมา Tara พยาบาลสัตวแพทย์ ผู้อุปถัมภ์และอาสาสมัครจาก Perth Rescue Angels ได้รับ North เข้ามาอยู่ในการดูแล เธอบอกว่า “ตอนที่มันถูกพามาหาฉัน เราไม่แน่ใจว่ามันจะรอดหรือเปล่า วันนั้นมันมีน้ำหนักเพียง 97 กรัมเท่านั้น”  Tara รับอุปถัมภ์ North ทั้งๆ ที่รู้ว่าเส้นทางการเอาตัวรอดของมันยังอีกยาวไกล นอกจากตัวเล็กแล้ว มันยังขาดสารอาหาร เลือดจาง แต่มันรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อกินและมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่     หลังกินอาหารแต่ละครั้ง Tara จะห่อมิ้วน้อยด้วยผ้าขนหนูอุ่นๆ ซึ่งนั่นทำให้มันเพอร์อย่างมีความสุข แม้ว่าเส้นทางของการมีชีวิตรอดจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ North กลับดูอุ่นใจ เพราะมันรู้ว่าไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง…

ในปัจจุบันมีร้านอาหารหรือคาเฟ่หลายร้านที่อนุญาตให้ลูกค้าพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาร่วมโต๊ะได้ เป็นที่ถูกอกถูกใจแก่เหล่าคนรักสัตว์ เมื่อเร็วๆ นี้ โรงภาพยนตร์ K9 Cinemas ในเมืองพลาโน ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาก็ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ชม ด้วยการอนุญาตให้เจ้าของสุนัข พาสัตว์เลี้ยงแสนรักของตัวเองมาชมภาพยนตร์ด้วยได้ โดยแสดงประวัติการฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่   https://www.instagram.com/p/Bvmmmx3nSoE/?utm_source=ig_embed   โรงภาพยนตร์แห่งนี้เกิดจากไอเดียของ Eric Lankford ผู้มองเห็นความเป็นไปได้ในตลาด จึงก่อตั้งโรงภาพยนตร์แห่งนี้ขึ้นมาเมื่อปลายปี 2018 ผู้ชมสามารถเข้าชมภาพยนตร์คู่กับสัตว์เลี้ยง 1 ตัว ในราคา 15 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 480 บาท) ราคารวมเครื่องดื่มไวน์แบบไม่อั้น!   https://www.instagram.com/p/BxEWjaFngX2/?utm_source=ig_embed . https://www.instagram.com/p/BuEm2QhgNar/?utm_source=ig_embed   แต่ถ้าผู้ชมคนไหนต้องการพาสุนัขเข้าชมมากกว่า 1 ตัวก็สามารถจ่ายค่าบริการเพิ่มตัวละ 5 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 160 บาท) นอกจากนั้นยังสามารถซื้ออาหารหรือขนมให้กับน้องหมาระหว่างชมภาพยนตร์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม โรงภาพยนตร์แห่งนี้ไม่ได้ฉายภาพยนตร์ใหม่ แต่เป็นภาพยนตร์เก่าหรือซีรีส์ตามโปรแกรมพิเศษที่แตกต่างกันในแต่ละวัน อย่างเช่น การฉาย “Game of Thrones” ในวันอาทิตย์ เป็นต้น…

เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2019 สุนัขแคทเทิลตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หลังบ้านของ Sima Bentley ในเซเวียร์เคาน์ตี้ รัฐเทนเนสซี มันอ่อนโยนมากๆ และเข้ากับ Aurora หลานสาวของ Sima เป็นอย่างดี Sima ตั้งชื่อให้หมาตัวนั้นว่า Oreo และได้โพสต์รูปของมันในเฟซบุ๊กของเธอ เพราะเธอไม่แน่ใจว่ามันเป็นหมาจรจัดหรือหมาที่หนีออกจากบ้านมา เลยทำทุกอย่างเพื่อตามหาเจ้าของของมัน     เธอบอกว่า “มันมาที่บ้านฉันเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว และไม่ยอมออกไปอีกเลย ฉันพยายามถามคนในละแวกใกล้เคียง แต่ไม่มีใครรู้จักมันเลย” Oreo ปรับตัวเข้ากับบ้านของ Sima มันเป็นมิตรกับทุกคน รวมไปถึงหมูที่เจ้าของบ้านเลี้ยงไว้ด้วย     Sima ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม Oreo ถึงอยู่ในบ้านของเธอ และไม่ยอมไปไหนสักที แต่หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าตูบก็กลายเป็นผู้ช่วยชีวิต Aurora วันที่เกิดเหตุนั้น Aurora กำลังเล่นอยู่ในสวน ทันใดนั้นก็มีสุนัขจรจัดวิ่งลงมาจากภูเขา มันเข้ามาทางหลังบ้านและเริ่มเห่าเด็กหญิง     เมื่อเห็นแบบนั้น Oreo รีบกระโดดเข้าไปอยู่หน้า Aurora…

สุนัขมักจะมีวิธีที่ทำให้เจ้าของภูมิใจอยู่เสมอ แม้ว่าบางครั้งพวกมันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เพราะพวกมันมีความรักอย่างเป็นธรรมชาติ เจ้าของเลยอดชื่นชมไม่ได้ และอย่างที่รู้กันว่าสุนัขต้องการความสนใจจากเจ้าของตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่เวลานอน เวลาตื่น มันก็จะตื่นก่อน แล้วก็ปลุกให้เราตื่นมาเล่นกับมันอีก     แต่ก็ไม่ใช่เจ้าของทุกคนหรอกนะที่จะตื่นมาเล่นกับสุนัข ยิ่งวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วยละก็… อย่างหวังเลยว่าจะตื่นเช้า เพราะแบบนี้ สุนัขเลยต้องหาอะไรทำระหว่างรอพ่อแม่ตื่น โชคดีที่เช้าวันหยุดมักจะมีการ์ตูนให้น้องๆ หนูๆ ได้ดูเสมอ และนั่นคือ ตอนที่เจ้าตูบน้อยตัวหนึ่งได้ค้นพบวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีช่วงเวลาที่แสนสนุก แม้พ่อแม่ไม่ตื่นมาเล่นด้วย     โดยในเช้าวันเสาร์ ขณะที่พ่อแม่ยังหลับอยู่นั้น เจ้าตูบได้นั่งดูการ์ตูนอย่างใจจดใจจ่อ ทำเอาเจ้าของแปลกใจที่อยู่ๆ เสียงของมันก็เงียบหายไป เมื่อตื่นมา เลยเห็นว่ามันเจ้าตูบกำลังนั่งอยู่การ์ตูน คือมันก็นั่งเฉยๆ นี่แหละ แต่ไม่รู้อะไรทำให้มันดูน่ารักซะจน เจ้าของต้องลุกขึ้น และรีบหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปมันเอาไว้     ดูเหมือนเจ้าตูบจะชอบดูการ์ตูนจริงๆ เพราะแม้จะรู้ว่าเจ้าของตื่นแล้ว มันก็ยังไม่ละสายตาจากจอทีวีเลย ทำเอาพ่อแม่น้อยใจ ที่เจ้าตูบเห็นการ์ตูนสำคัญกว่าพวกเขา ก็แหม่ ใครบอกให้เทน้องก่อนล่ะ เทมาก็เทกลับสิ ไม่โกงเด้อ ว่าแต่ถ้าวันหลังพ่อแม่ยอมเล่นด้วย น้องจะเลือกการ์ตูนหรือพ่อแม่นะ??     ที่มา petsimpact

Tammy Simpson รู้ดีว่า Ginger เจ้าเหมียวของเธอไม่ใช่นักล่าที่เก่งที่สุด แต่ยกเว้นอยู่อย่างที่มันไม่เคยพลาด คือ ลูกกวางมูส ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เจ้า Ginger มักจะหมกมุ่นอยู่กับการเฝ้าดูสิ่งมีชีวิตต่างๆ จากระเบียง หนึ่งในสัตว์ที่มันให้ความสนใจมากที่สุด คือ กวางมูส     แต่ก็อย่างที่บอกว่า Ginger ไม่ใช่นักล่าที่เก่งเลย มันไม่เข้าใจห่วงโซ่อาหารด้วยซ้ำ แน่นอนว่ามันไม่เคยคิดเรื่องการล่าด้วย ทั้งๆ ที่มันอายุ 7 ขวบแล้ว นอกจากนี้ Ginger ยังมีนิสัยขี้กังวลด้วย มันไม่ชอบให้แม่ย้ายของต่างๆ ในบ้าน แต่ขณะเดียวกัน มันก็มีความอ่อนโยนจนสามารถช่วยเยียวยาจิตใจของแม่ได้     ดังนั้น เมื่อ Ginger เริ่มให้ความสนใจกวางมูส Simpson จึงรู้สึกเป็นกังวลมากๆ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะบ้านเธออยู่ในโฮเมอร์มล รัฐอะแลสกา ซึ่งมีสัตว์ป่าเข้ามาใกล้เป็นประจำ     สำหรับกวางมูสนั้น มันจะไม่ทำอะไรผู้คนจนกว่าจะมีคนเข้าไปใกล้มันมากๆ หรือมีใครไปข่มขู่มัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกมันไม่ชอบสุนัข เพราะเข้าใจว่าสุนัขเป็นสัตว์อันตราย และพวกมันจะยิ่งก้าวร้าว…

ลูกแมวจรตัวหนึ่งถูกพบขณะอยู่ลำพังบนถนน มันจึงถูกนำตัวไปยังศูนย์ดูแลและควบคุมสัตว์ Animal Care and Control ในซานฟรานซิสโก หลังจากที่สัตวแพทย์ได้ตรงเช็กร่างกายของมิ้วน้อย พบว่า มันเกิดมาพร้อมกระหม่อมเปิด ปากแหว่ง และความผิดปกติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคน้ำคั่งในโพรงสมอง     ด้วยเครื่องมือที่มีอยู่จำกัด ทางทีมงานจึงไม่แน่ใจว่ามิ้วน้อยจะรอดหรือไม่ แต่ เมื่อ Tonis Kitty Rescue ทราบเรื่องของแมวน้อย พวกเขาจึงรับมันมาอยู่ในการดูแล เพื่อให้โอกาสมันมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้จะมีความผิดปกติหลายอย่าง แต่แมวน้อยชอบกินอาหารและดูมีความสุข อย่างไรก็ตาม มันจำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทางทีมงานจึงติดต่อไปยัง Amber Rose ผู้ก่อตั้ง Saving Grace Rescue เพื่อขอความช่วยเหลือ     Amber รับแมวน้อยมาอยู่ในการดูแลทันทีที่ได้รับการติดต่อ และได้ตั้งชื่อให้มันว่า Pug จากนั้น Joyce อาสาสมัครของ Saving Grace Rescue ก็ได้พามิ้วน้อยกลับไปดูแลที่บ้าน เข้ามาอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ได้ไม่นาน Pug ก็เสียงเพอร์ที่ฟังแล้วช่างเป็นเสียงที่น่าหลงใหลมากๆ จนทุกคนที่ได้ยินต่างพากันยิ้มด้วยความปลื้มปริ่ม  …

ทุกคนที่เลี้ยงสุนัขต่างคิดว่าน้องหมาตัวเองพิเศษ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะสุนัขแต่ละตัวต่างมีบุคลิกเฉพาะตัว ที่สำคัญ พวกมันทำให้เรามีความสุขเสมอ เพราะแบบนี้ เราอาจบอกได้ว่าสุนัขคือแหล่งความสุข สาเหตุของรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หากคุณไม่เชื่อ ให้ภาพเหล่านี้พิสูจน์สิ   1. ระวังเด้อ อย่าไปใกล้นางเชียวล่ะ เพราะนางกำลังโกรธ   2. หลังจากน้องไปเล่นในสวนสุนัขมา ทั้งมีความสุข ทั้งหมดแรง แถมเก็บไปฝันต่อด้วย   3. หาเห็ดเก่งแบบนี้ เปิดธุรกิจเลยมั้ยล่ะ   4. ข้อดีของหมาแคระ แก่แค่ไหนก็ยังดูเด็กเสมอ   5. วันนี้เรียกอูเบอร์มา แล้วดูคนขับสิ ปล้นกลับบ้านดีมั้ย?   6. เจอเพื่อนใหม่ มันก็จะเขินๆ หน่อย   7. เมื่อแม่บอกจะพาไปเที่ยวสวนสนุก   8. เห้ออ วันนี้ไม่มีใครมาเล่นด้วยเลย   9. “สามีมักจะพูดกับฉันเสมอว่าเจ้าตูบไม่รักเขา… แต่วันนี้ ฉันคิดว่าเขาคิดผิดนะ”   10. ตูบน้อยอยู่ในช่วงฝึกนั่งท่าพับเพียบ…

Brigitte Brouillard เป็นผู้ช่วยเหลือสัตว์ที่ใจดีมากๆ ซึ่งที่ผ่านมาเธอก็ได้ช่วยเหลือสัตว์ป่ามาแล้วนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้อำนวยการของ Second Chances Wildlife Center อีกด้วย ในปี 2018 ทาง Second Chances Wildlife Center ได้รับบีเวอร์กำพร้าวัย 8 สัปดาห์ เข้ามาอยู่ในการดูแล มันต้องการคนดูแลเป็นอย่างมาก Brigitte จึงตัดสินใจพามันกลับไปดูแลที่บ้าน     Brigitte ตั้งชื่อให้เจ้าบีเวอร์กำพร้าว่า Justin Beaver หรือเรียกสั้นๆ ว่า JB… JB ปรับตัวกับบ้านของ Brigitte ได้อย่างรวดเร็ว และเริ่มสร้างเขื่อนทั่วบ้านของเธอ ส่วนวัตถุที่ใช้สร้างเขื่อนนะเหรอ JB ใช้ทุกอย่างที่สามารถหามาได้ ตั้งแต่ของเล่นไปจนถึงไม้ลาครอสของลูกสาว Brigitte     นอกจากนี้ JB ยังขโมยพรมเช็ดเท้าเพื่อเอาไปสร้างเขื่อนด้วย “ตอนที่มันเคลื่อนย้ายสิ่งของ ฉันไม่ค่อยรู้หรอก จะรู้ก็ตอนที่มันเริ่มสร้างเขื่อนนั่นแหละ” Brigitte บอก  …

แมวจรจัดตัวหนึ่งได้คลอดลูกบนถนน โดยหนึ่งในลูกแมวมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด ต่อมา Nikki Martinez ผู้ช่วยเหลือจากลาสเวกัสจึงได้รับครอบครัวแมวนี้เข้ามาอยู่ในการดูแล ตอนแรกมีลูกแมวทั้งหมด 5 ตัว แต่น่าเศร้าที่ลูกแมว 2 ตัว ไม่สามารถรอดชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ยังโชคดีที่สมาชิกครอบครัวที่เหลือปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้อย่างรวดเร็ว พวกมันได้เติบโตในที่ที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก     พวกเขาตั้งชื่อแม่แมวว่า Roc ส่วนลูกๆ ประกอบด้วย Shebee, Pawlie และ Relish เนื่องจากแม่แมว Roc เข้ามาพร้อมขนที่เป็นสังกะตังและยุ่งเหยิงไปหมด ทำให้ยากต่อการให้นมลูกน้อย ทีมสัตวแพทย์จึงโกนขนพร้อมทั้งอาบน้ำให้ จนเนื้อตัวสะอาด นุ่ม และน่ากอด     แม่แมวดูมีความสุขมาก เมื่อรู้ว่ามันไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดอีกต่อไป มันสามารถให้นมลูกอย่างสะดวกสบาย แถมยังเป็นมิตรกับมนุษย์ และยอมให้พวกเขาช่วยเลี้ยงดูลูกในบางครั้ง     ด้วยความรักมากมายจากแม่และผู้ดูแล ทำให้แมวน้อยเติบโตขึ้นและแข็งแรงขึ้นทุกวัน โดยเจ้า Pawlie มีบุคลิกที่โดดเด่นกว่าพี่น้อง มันเป็นแมวน้อยที่กล้าหาญ มีความมั่นใจ และรักการผจญภัย มันชอบอวดความแข็งแรงของอุ้งเท้าตัวเอง ด้วยการกระโดดต่อหน้าผู้คนและแมวตัวอื่นๆ มันไม่กลัวอะไร แถมยังเป็นตัวสร้างความเสียหายต่างๆ…

ในโลกนี้อาจจะมีหลายสิ่งที่น่ารักกว่าเด็กและสัตว์เลี้ยง แต่ความผูกพันอันแสนพิเศษของเด็กกับสัตว์เลี้ยง ทำให้พวกเขาแตกต่างและทำให้โลกน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เด็กๆ จะรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นใจเมื่อได้อยู่กับสัตว์เลี้ยง ในขณะที่สัตว์เลี้ยงเองก็มีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ดูแล ปกป้อง และเล่นกับเพื่อนมนุษย์ตัวน้อย   ไม่บอกก็รู้ว่าพวกเขารักกันมาแค่ไหน   อ่ะ ผลัดกันนะ ฉันกดน้ำให้เธอ เดี๋ยวเธอต้องกดให้ฉันบ้างนะ   อยากเล่นใช่มั้ย ได้ แต่ก่อนอื่น ขอกอดก่อนนะ   แค่มีพี่เหมียว ผ้าห่มก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว   อยากเล่นอะไร เต็มที่เลยไอ้หนู เดี๋ยวพี่ตามปกป้องเอง   อย่าเศร้าไปเลยนะพี่หมา หนูจะอยู่เป็นกำลังใจให้พี่แบบนี้ จนกว่าพี่จะหายดี   ช่วยแม่เลี้ยงน้อง แม่จะได้พักบ้าง   เป็นพี่เลี้ยงแล้ว ยังต้องเป็นหมอนให้อีก   พี่ชายผู้ไม่เคยอยู่ห่างจากน้อง   หลังจากเล่นด้วยกันมาทั้งวัน… หมดแรงทั้งคู่   คาร์ซีตมีที่เดียว งั้นหนูจะกอดพี่เหมียวเอง   นี่แหละ ชีวิตพี่เลี้ยง   ถึงจะแอบอู้ แต่ก็ไม่ปล่อยมือจากน้องนะ   แม่ไม่ให้เพื่อนๆ ไปนนอนด้วย งั้นหนูมานอนกับเพื่อนๆ…

เมื่อไม่นานมานี้ มีคนพบแมวจรจัดตัวหนึ่งที่ Staten Island ในนิวยอร์ก มันเดินไปอยู่บนระเบียงบ้านของหญิงคนหนึ่ง และพยายามเรียกร้องความสนใจจากเธอ โชคดีที่หญิงคนนั้นเป็นคนใจดี และเธอไม่สามารถปล่อยให้มันเผชิญชีวิตลำพังต่อไปได้ เธอจึงพามันไปหาสัตวแพทย์ ก่อนจะรู้ว่ามันกำลังท้อง     เมื่อได้รู้อย่างนั้น หญิงสาวรู้ว่าแม่แมวจำเป็นต้องมีที่ที่ปลอดภัยสำหรับตัวเองและลูกๆ ของมัน เธอจึงประกาศขอความช่วยเหลือผ่านทางโซเชียล ต่อมา Athina Selena จาก Jersey Kitty Nonprofit ได้ตอบรับคำขอนั้น และอาสารับเจ้าเหมียวเข้ามาอยู่ในการดูแล     Athina บอกว่า “มันจะมีเจ้าของก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาปล่อยมันออกไปข้างนอก และไม่ต้องการให้มันกลับมาหาอีก เราจึงพามันไปหาสัตวแพทย์ ซึ่งจากการฉายเอกซ์เรย์พบว่าลูกๆ ของมันสุขภาพแข็งแรงดี” พวกเขาได้ให้การรักษาทางการแพทย์แก่เจ้าเหมียว ก่อนจะตั้งชื่อให้มันว่า Cannoli จากนั้นก็ได้ย้ายมันไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ และรอให้ลูกๆ ของมันเกิด     กระทั่งสัปดาห์ครึ่งต่อมา แม่แมวก็ได้คลอดลูกน้อยออกมา 4 ตัว ซึ่งสุขภาพดีทั้งหมด แต่ยังมีอีกตัวที่ติดในท้อง และสภาพของมันค่อนข้างแย่ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวอุปถัมภ์ได้ช่วยเหลือจนมิ้วน้อยตัวสุดท้ายออกมาอย่างปลอดภัย ทั้งยังดูแลจนมันพ้นจากภาวะวิกฤติด้วย นั่นทำให้…

สุนัขบำบัดมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยเยียวยาจิตใจผู้คน เช่นเดียวกับนักเรียนในพาร์คแลนด์ รัฐฟลอริด้า ที่ได้รับการช่วยเหลือจากสุนัขบำบัดและสุนัขบริการ หลังจากเจอกับเหตุกราดยิงหลายต่อหลายครั้ง ด้วยเหตุนี้ เหล่านักเรียนจึงตัดสินใจให้เพิ่มหน้าในหนังสือรุ่นให้กับให้กับสุนัขบำบัดและสุนัขบริการทั้ง 24 ตัว ในฐานะผู้ที่คอยเยียวยาจิตใจให้พวกเขามาโดยตลอด     หนังสือรุ่นดังกล่าวมีชื่อว่า Aerie yearbook ซึ่งเป็นของนักเรียนโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School ในนั้นไม่ได้มีแค่ภาพนักเรียน แต่มีเหล่าเพื่อน 4 ขา อย่าง Gail Policella, Sophie Levy, Annie Sultenfuss, River Haneski Grace Goodwill (เจ้าหญิงแห่งวงการสุนัขบำบัด) และ Schooner Davis ตูบผู้ผูกโบมาถ่ายรูปในวันนั้น     สำหรับสุนัขบำบัดเหล่านี้ พวกมันถูกพาไปยังโรงเรียนดังกล่าว เพื่อช่วยบำบัดจิตใจให้นักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงในโรงเรียน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 17 ราย     การกราดยิงในครั้งนี้…

เมื่อพูดถึงหมู หลายคนคงจะนึกภาพเจ้าตัวอ้วนที่วันๆ ไม่ทำอะไร นอกจากกินแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สำหรับน้องหมูสายสุขภาพอย่างเจ้าเฉาก๊วยแน่ๆ เฉาก๊วยต่างจากหมูทั่วไป เพราะกิจวัตรประจำวันของมันคือการออกไปวิ่งกับเจ้าของ แถมยังเชิญชวนให้ผู้คนร่วมวิ่งไปกับมันด้วย พูดมาขนาดนี้แล้ว เพื่อนๆ คงสงสัยว่ามันมีจุดเริ่มต้นยังไง… งั้นเราไปหาคำตอบกัน     เรื่องราวของเฉาก๊วยเริ่มต้นเมื่อคุณจตุรงค์ ผิวจันทร์ หรือคุณจิ๊บ ต้องการหาลิงมาเลี้ยง จึงได้เข้าไปในเพจขายดี แต่ยังไม่ทันได้เห็นลิง เขาดันเจอเฉาก๊วยซะก่อน คุณจิ๊บจึงตัดสินใจโทรไปยังฟาร์มที่เฉาก๊วย และได้ทำเรื่องรับมันมาเลี้ยงตั้งแต่นั้นมา     เมื่อพาหมูเข้าบ้าน แทนที่คุณจิ๊บจะเลี้ยงมันเหมือนหมูทั่วไป แต่เขากลับเลี้ยงมันเหมือนสุนัข และในฐานะที่เป็นนักวิ่งอยู่แล้ว เขาจึงพาออกเดินเล่นแถวบ้านทุกวัน ซึ่งตอนนั้นน้องเฉาก๊วยอายุเพียง 20 วันเท่านั้น     อย่างที่บอกไปแล้วว่าคุณจิ๊บเป็นนักวิ่ง และเขามักจะไปวิ่งตามงานวิ่งต่างๆ อยู่เป็นประจำ  กระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่เขาจะออกจากบ้านเพื่อไปวิ่งมาราธอนเหมือนที่ผ่านมา… อยู่ดีๆ เจ้าเฉาก๊วยก็ดันประตู อ้อนจะไปกับเขาให้ได้ ด้วยความที่กลัวไปไม่ทันเวลาปล่อยตัว คุณจิ๊บจึงอุ้มเจ้าลูกหมูของเขาไปด้วย     สำหรับงานวิ่งครั้งนี้เป็นงานพยาบาลชวนวิ่ง และเป็นงานวิ่งแรกที่เจ้าเฉาก๊วยไปร่วม โดยที่คุณจิ๊บไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ลงทะเบียนไว้ให้มัน อย่างไรก็ตาม งานวิ่งครั้งแรกนี้ เจ้าเฉาก๊วยดูสนุกกับการวิ่งมาก…

ไม่ว่าจะต้องเจอภัยอันตรายแบบไหนก็ตาม แม่แมวก็จะเอาตัวเข้าปกป้องเพื่อให้ลูกของมันปลอดภัย สำหรับมันลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญยิ่งกว่าความสบายของตัวเอง     เมื่อช่วงก่อนในบริเวณเมืองเจมส์ทาวน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มีแมวจรจัดไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวบ้านของหญิงคนหนึ่ง มันเป็นแมวตัวเมียที่กำลังตั้งท้อง ไม่นานนักเจ้าแมวจรจัดก็คลอดลูกแถวบ้านเธอนั่นแหละ ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกันที่พายุฝนพัดผ่านเมืองพอดี ทำให้มีฝนตกหนักมากๆ     ด้วยความที่เธอเป็นห่วงว่าหากแม่แมวและลูกแมวตากฝน พวกมันอาจจะไม่สบายและตายได้ เธอจึงโทรขอให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Sparkle Cat Rescue เข้ามาช่วยพาตัวพวกมันไปดูแล Sarah Kelly ซึ่งเป็นคนรับเรื่องรีบออกไปช่วยเหลือครอบครัวแมวด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายแบบนี้เป็นอันตรายกับพวกมัน     ตอนแรกเธอร้อนใจมากเพราะไปถึงก็ไม่เจอตัวพวกมันแล้ว เธอออกค้นหารอบๆ นั้นอย่างเร่งรีบ จนในที่สุดก็เจอครอบครัวแมวอยู่ในพุ่มไม้หลังบ้าน เธอรีบอุ้มพวกมันมาไว้ในอ้อมแขนแล้วตรงไปที่รถทันที แล้วพอไปถึงรถเธอก็สังเกตว่าลูกแมวไม่ได้ตัวเปียกมากอย่างที่คิด แต่แม่แมวตัวเปียกชุ่มไปหมดเลยทีเดียว Kelly เล่าว่า “แม่แมวขดตัวล้อมลูกๆ เอาไว้แล้วรับฝนที่ตกลงมาให้มากที่สุดเพื่อกำบังลูกแมว นั่นเป็นสาเหตุที่มันตัวเปียกโชก”     แม้จะมาอยู่ในรถอย่างปลอดภัยแล้ว แม่แมวก็ยังไม่หยุดดูแลลูกแมว มันโกยลูกเข้ามาชิดตัวแล้วมากที่สุดเพื่อให้ความอบอุ่น แล้วพยายามเลียขนลูกๆ ให้แห้ง ตลอดเวลาที่ Kelly ขับรถกลับไปยังศูนย์ แม่แมวเอาแต่ดูแลลูกท่าเดียวโดยไม่สนใจเลียขนตัวเองที่เปียกเลย ใจมันห่วงแค่ลูกจริงๆ     แม้ว่าเธอจะช่วยครอบครัวแมวมาอย่างกะทันหัน…

ต่อให้คุณจะใจแข็งและไม่ชอบแมวขนาดไหน ขอให้ได้มาอยู่ใกล้ชิดกับแมวสักพักเถอะ คุณจะกลายเป็นทาสของพวกมันไปโดยไม่รู้ตัว ทหารหนุ่มคนนี้ลองมาแล้ว     นี่เป็นเรื่องจากคุณ กัญญาณัฐ (Kanyanath M Pt) และแฟนหนุ่มที่เป็นทหารของเธอ ซึ่งเธอได้แบ่งปันเรื่องราวเอาไว้ในกลุ่มชมรมคนรักแมว เธอเล่าว่า “เรากับแฟนอยู่คนละที่ค่ะ แฟนรับราชการทหารอยู่พิษณุโลก เราอยู่กรุงเทพ อยู่บ้านเช่า เลี้ยงแมวระบบปิดมี 3 ตัว ทำหมันไปแล้ว 2 เหลือตัวสุดท้ายยังไม่ได้ทำ ทีนี้มีเรื่องพลิกผัน เรากำลังจะมีน้องค่ะ เลยต้องย้ายไปอยู่กับแฟนถาวรค่ะ เราก็เลยกังวลว่าแมวจะอยู่ได้ไหม เพราะเป็นบ้านพักข้าราชการ แน่นอนว่าไม่ใช่ระบบปิดเหมือนเดิม และแฟนก็ไม่ชอบแมวมากๆ”     นอกจากนี้พอย้ายมาอยู่กับแฟนได้ไม่นาน แมวอีกตัวที่กะว่าจะเอาไปทำหมันก็ดันมาท้องซะอย่างนั้น คุณกัญญาณัฐเธอก็เป็นกังวลว่าแฟนที่ไม่ชอบแมวอยู่แล้วจะรำคาญลูกแมวอีก แต่ปรากฏว่าทุกอย่างไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด เพราะพอย้ายมาพวกแมวที่เคนอยู่บ้านปิดก็ปรับตัวอยู่บ้านใหม่ได้สบายๆ ออกไปเดินเล่นนอกบ้านได้แล้วก็กลับเข้าบ้านเป็นเวลา แถมหมาข้างบ้านยังเป็นมิตรกับแมวอีกต่างหาก     ที่พีคไปกว่านั้นก็คือคุณแฟนของเธอนี่แหละ ตอนแรกก็นึกว่าไม่ชอบแมวสุดๆ แต่พออยู่ด้วยกันแล้วก็เอ็นดูแมวขึ้นมาซะอย่างงั้น เท่านั้นยังไม่พอเขายังเป็นคนช่วยเธอดูแลพวกแมว แล้วก็เป็นคนตั้งชื่อให้ลูกแมวครอกใหม่ทุกตัวเลย แบบนี้มันทาสแมวชัดๆ เลยนะ     ดูเหมือนว่าแค่ได้ใช้เวลาร่วมกับแมวไม่นานเท่าไหร่ พวกมันก็สามารถเข้าไปอยู่ในใจของทหารหนุ่ม และเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นทาสแมวได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เห็นไหมว่าพวกแมวมันครองใจคนเก่งจริงๆ ใครที่บอกไม่ชอบแมวก็อย่าเผลอตัวเข้ามาอยู่ใกล้มันล่ะ…

ปัญหาทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง เป็นปัญหาที่ฟังดูไม่ใหญ่แต่ร้ายแรง แถมยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อคนเราอย่างเดียวด้วย มันส่งกระทบถึงสัตว์ทุกชนิดที่อยู่บนโลกนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ทะเล เนื่องจากพวกมันมักจะกินขยะเหล่านี้เข้าไปด้วยความไม่รู้ ถ้าตัวไหนโชคร้ายติดคอก็ถึงตายได้ หรือสัตว์บางชนิดก็หยิบเอาขยะที่มนุษย์เราทิ้งเรี่ยราดไปเป็นที่อยู่อาศัยแทน เหมือนกับเจ้าหมึกมะพร้าวตัวนี้ที่นักประดาน้ำไปเจอเข้า     ปกติแล้วหมึกมะพร้าวชอบเข้าไปอาศัยในเปลือกมะพร้าวหรือเปลือกหอยเหมือนปูเสฉวน มันจะใช้วัสดุธรรมชาติมาเป็นบ้านและเครื่องมือปกป้องตัวเองจากสัตว์อื่น แต่หมึกมะพร้าวตัวหนึ่งที่ Pall Sigurdsson และเพื่อนนักประดาน้ำเจอกลับใช้แก้วพลาสติกเป็นบ้าน มันดูน่าสงสารมากเลยทีเดียว เขากับเพื่อนจึงตัดสินใจว่าในการดำน้ำครั้งนี้ พวกเขาจะช่วยมันหาบ้านใหม่ที่ไม่ใช่ขยะให้ได้ จากนั้นเขาและเพื่อนจึงดำน้ำแยกกันไปหาเปลือกหอยมาให้เจ้าหมึกมะพร้าว     แต่เนื่องจากหมึกมะพร้าวค่อนข้างจุกจิกในการเลือกบ้านใหม่ มันจึงไม่สนใจเปลือกหอยหลายอันที่พวกเขาเอามาให้เลย ทว่าในที่สุดมันก็ชอบเปลือกหอยอันหนึ่งที่พวกเขาเอามาให้จนได้ แล้วมันก็เลยออกจากแก้วพลาสติกสกปรกๆ เข้าไปอยู่ในเปลือกหอยแทน     ชมวิดีโอตอนนักประดาน้ำช่วยให้หมึกมะพร้าวย้ายมาอยู่ในเปลือกหอย    Sigurdsson เล่าว่า “หมึกมะพร้าวเป็นที่รู้จักดีในด้านความเรื่องมากในการเลือกเปลือกหอย เราต้องลองเอาเปลือกหอยมาให้มันหลายอัน จนในที่สุดก็มีเปลือกหอยอันหนึ่งผ่านมาตรฐานของมันสักที” Sigurdsson และเพื่อนๆ ใช้เวลาศึกษาเกี่ยวกับปัญหาขยะพลาสติกมานานแล้ว พวกเขาจึงรู้ดีว่านี่เป็นเพียงหนึ่งในปัญหามากมายที่เกิดขึ้นเท่านั้น     ในเมื่อมนุษย์เราเป็นคนสร้างปัญหาขยะ เวลาเจอสัตว์ที่ลำบากเพราะเรื่องพวกนี้ก็อย่าลืมหยุดช่วยเหลือพวกมันด้วยล่ะ สิ่งมีชีวิตอื่นจะได้ไม่ต้องมาลำบากเพราะคนเรา   ที่มา: the dodo, Pall Sigurdsson

สำหรับคนรักสัตว์อย่างเราๆ คาเฟ่สัตว์เป็นหนึ่งในที่ที่เข้าไปแล้วสุขใจเป็นที่สุด เพราะนอกจากจะได้นั่งชิลจิบเครื่องดื่มแล้ว ยังมีสัตว์รายล้อมเราเต็มไปหมดด้วย แต่ถ้าคุณไปตะลุยคาเฟ่หมาหรือคาเฟ่แมวมาจนเบื่อความจำเจแล้ว ลองหันมาดู “คาเฟ่หมูจิ๋ว” ทางนี้ดูสิ รับรองว่าน่ารัก แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร     แค่ได้ยินว่าเป็นคาเฟ่ “หมู” ก็แปลกแล้วใช่ไหมล่ะ? แต่คาเฟ่แบบนี้มีอยู่จริงๆ นะ คาเฟ่แห่งนี้ชื่อว่า mipig cafe เป็นร้านที่เปิดบริการอยู่ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่นี่เป็นร้านแห่งแรกและน่าจะเป็นแห่งเดียวในเมืองโตเกียว ที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับความน่ารักของหมูแคระอย่างใกล้ชิด   https://www.instagram.com/p/BwpDasGpVj2/   หมูจิ๋วอาจเป็นสัตว์เลี้ยงที่เราไม่คุ้นเคยกันเท่าไหร่ เนื่องจากพวกมันไม่ได้เป็นที่นิยมมากเหมือนแมวกับหมา แต่พวกมันก็น่ารักและอ้อนเก่งไม่แพ้กันเลย ถ้าคุณได้ลองสัมผัสความรู้สึกตอนอยู่กับพวกมันสักครั้ง อาจจะตกหลุมรักกับความน่ากอดของพวกมันเข้าให้ก็ได้     การใช้บริการคาเฟ่หมูจิ๋วแห่งนี้ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แค่เข้าไปแล้วสั่งเครื่องดื่มที่มีให้เลือก 1 อย่างและเสียค่าเข้าไปนั่งเล่นเป็นชั่วโมงเท่านั้นก็ได้สนุกกับเหล่าลูกหมูแล้ว แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าทางร้านก็เป็นห่วงหมูจิ๋วและไม่อยากให้คนมารุมล้อมพวกมันมากเกินไป พวกเขาเลยจำกัดจำนวนคนที่เข้าในแต่ละรอบไว้ด้วย ถ้าหากคิดจะไปเที่ยวควรจะจองเอาไว้ก่อนไป     แหม่ ในโลกเรานี่มีคาเฟ่สัตว์แปลกๆ เต็มไปหมดจริงๆ ไหนจะมีคาเฟ่แรคคูน คาเฟ่กระต่าย แล้วยังมีคาเฟ่หมูอีก แต่ไม่ว่าจะมีหลากหลายประเภทมากแค่ไหน ในฐานะคนรักสัตว์เราก็อยากจะลองไปมันทุกร้านนั่นแหละ จะได้เข้าถึงความน่ารักได้ทุกแบบไง   https://www.instagram.com/p/BwUWbPoJOAx/  …

แมวน้อยเพิ่งสูญเสียครอบครัวทั้งหมดที่มีไป มันจึงไม่เหลือใครให้อยู่ด้วยอีก แต่พอมันมาอยู่ในศูนย์พักพิงมันก็ได้พบกับลูกแมวตัวอื่นที่พร้อมจะมาเป็นครอบครัวเดียวกับมัน     อาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Jin’s Bottle Babies เจอ Smokey กับพี่น้องของมันในตอนที่พวกมันอ่อนแอมากแล้ว บางตัวก็ตายไปแล้วด้วย Shelbi Uyehara รับพวกมันเข้ามาดูแลต่อในบ้านของเธอ แต่ถึงจะพยายามดูแลพวกมันแล้ว พี่น้องแมวตัวอื่นก็ตายไปเพราะร่างกายอ่อนแอ เหลือแค่ Smokey ตัวเดียวที่รอดชีวิต     เธอเลี้ยงดูเจ้า Smokey จนมันกลับมาแข็งแรง มันตัวโตขึ้นบ้างแล้ว แต่ก็เห็นได้ว่ามันเหงาเพราะไม่เหลือใครให้อยู่ด้วย     ต่อมาไม่นาน Shelbi ก็เอาลูกแมวครอกใหม่เข้ามาดูแล ครั้งนี้เป็นลูกแมวเหมียว 3 พี่น้อง Ana, Kristina และ Daniela     หลังจากดูแลแมวน้อยทั้ง 3 ตัวจนแข็งแรงแล้ว เธอก็ลองพาพวกมันไปอยู่กับ Smokey ดู เผื่อว่าถ้าเข้ากันได้เจ้าแมวจะได้ไม่เหงาอีกต่อไป โชคดีที่ถึงวัยของพวกมันจะต่างกันอยู่บ้าง Smokey ก็ยังปรับตัวเข้ากับแมว 3 พี่น้องได้เป็นอย่างดี มันดูมีความสุขมาเวลาน้องๆ คลานเข้ามากอดเหมือนมันเป็นหมอนใบโต  …

การที่เจ้าของสุนัขติดป้ายเตือนสุนัขดุไว้ถือเป็นเรื่องที่ดี เผื่อว่าคนที่กลัวสุนัขหรือไม่อยากเสี่ยงถูกพวกมันเห่าจะได้เลี่ยงการเข้าใกล้รั้วบ้านหลังนั้นได้ แต่!! บางครั้งน้องหมาที่อยู่หลัง “ป้ายหมาดุ” พวกนี้ก็ไม่ได้ดูอันตรายเลยสักนิดเดียว บางตัวนี่นอนแผ่หลารอให้คุณไปลูบพุงแต่ไกลแล้ว บ่อยครั้งเราจึงได้เห็นความน่ารักของน้องหมาแสนเป็นมิตร ที่ทำท่าทางโคตรขัดกับป้ายเตือนว่าดุอย่างสิ้นเชิง และแน่นอนว่าเราก็อดที่จะตกหลุมรักพวกมันไม่ได้!!   ระวัง!! อย่าปล่อยน้องไว้คนเดียวนาน น้องเหงา   ระวัง!! อย่าจ้องตานาน เดี๋ยวตกหลุมรัก   ระวัง!! อย่าเดินผ่านไปไว เดี๋ยวไม่ได้ทักทายหมา   ระวัง!! หมาชอบหนี ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ด้วย   ระวัง…ระวังอะไรเล่า!! ป้ายหน้าดุกว่าน้องหมาอีก!!   ระวัง!! ระวังโดนป้ายหลอกว่าหมาดุ   หน้าแต่ละตัวนี่ดุจริงจริ๊งงงง!!   ระวัง!! ถ้าได้เล่นกับหมาตัวนี้คุณจะติดลม   ระวัง!! หมาน้อยตัวนี้อาจทำให้คุณใจละลายได้   ระวัง!! น้องหมาอาจอยากเล่นกับคุณแล้วตามกลับไปถึงบ้าน   ระวัง!! ถ้าไม่หยุดทักทายก่อนน้องหมาอาจน้อยใจ   ถ้าจะบอกว่าหมาดุก็ขอให้มันเชื่อถือกว่านี้หน่อย…   ระวัง!! เจ้าหมาตัวสูง เล่นด้วยอาจถูกหมาอาจเลียหน้า   ระวัง!! อย่าเล่นกับน้องเพลินจนเอาติดมือกลับบ้านไป…

ถ้าพูดถึงวัวล่ะก็คงไม่มีใครสนใจเท่าไหร่หรอก เพราะมันเป็นสัตว์ที่เราเห็นกันจนชินตาแล้ว และพวกมันก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรือแปลกใหม่ด้วย     แต่รู้กันบ้างรึเปล่าว่าวัวบ้านๆ ของคุณก็สามารถแปลงโฉมให้น่ากอดได้เหมือนกัน พอจับพวกมันแปลงโฉมแล้วมันก็จะกลายเป็น “วัวนุ่มนิ่ม” แบบนี้!!   https://twitter.com/LadyBArtist/status/602493794525806592   เห็นแวบแรกเพื่อนๆ อาจจะคิดว่าวัวขนฟูพวกนี้เป็นวัวสายพันธุ์ใหม่ก็ได้ เพราะตั้งแต่เกิดมาคงแทบไม่มีใครเคยเห็นวัวที่ขนนุ่มอย่างกับหมาโกลเด้นเลย แต่อันที่จริงพวกมันก็เป็นวัวสายพันธุ์ทั่วไปที่ได้รับการดูแลขนเล็กน้อย ทำให้ความน่ารักของพวกมันอัปเลเวลอย่างรวดเร็วเท่านั้นเอง   https://www.instagram.com/p/BdtJQGcgblB/?utm_source=ig_embed   โดยปกติแล้ววัวทั่วไปจะมีขนสั้นๆ ที่ลีบเรียบไปกับตัว ทำให้ขนของพวกมันดูไม่นุ่มฟูน่ากอดเหมือนในภาพที่เราเห็นกัน แต่จริงๆ แล้วขนของมันก็ไม่ต่างจากผมของคนเราเลย แค่ได้รับการสระด้วยแชมพูแล้วเป่าลมให้แห้งสักหน่อย ขนของพวกมันก็จะฟูฟ่องขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ!!   https://www.instagram.com/p/1-kwAWMGYD/?utm_source=ig_embed   จริงๆ แล้วพวกเราไม่เคยเห็นวัวขนฟูแบบนี้ก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอก เนื่องจากปกติพวกมันจะได้รับการสระขนและเป่าจนสวยงามเพื่อไปประกวดในงาน ซึ่งมักจะทำกันแค่ในฝั่งตะวันตกเท่านั้น แถวบ้านเราถึงจะมีการประกวดวัวกันบ้าง ก็ไม่มีคนเลี้ยงคนไหนสระขนให้พวกมันอย่างดีแบบนี้เลย พวกเราก็เลยไม่มีโอกาสเห็นมุมที่น่ารักน่ากอดของมัน   https://www.instagram.com/p/BrWnG7FFSCu/?utm_source=ig_embed   แต่ตอนนี้เพื่อนๆ ก็ได้รู้จักกับความน่ารักในแบบฉบับ “วัวขนนุ่มฟู” แล้ว คงไม่มีทางลืมภาพในมุมน่ารักๆ ของพวกมันได้หรอก แล้วเราก็คิดว่าทุกคนก็คงอยากเสพความน่ารักของพวกมันให้มากกว่านี้อีกเช่นกัน งั้นก็อย่ารอช้าแล้วไปฟินกับให้พอกับวัวนุ่มนิ่มกันเลย!!   ขนฟูฟ่องอย่างกับแกะแน่ะ!! https://twitter.com/cjsweck/status/347875778245046272   ขนสลวยเงางามอย่างกับใช้ซันซิลค์ https://www.instagram.com/p/BsTY8U8gdnG/?utm_source=ig_embed…

จากประสบการณ์เป็นทาสแมวมานาน พวกเราย่อมสามารถบอกได้อยู่แล้ว่าตัวไหนเป็นแมวจริงแมวปลอม บางคนถึงขั้นระบุสายพันธุ์เจ้าแมวได้ทันทีตั้งแต่แรกเห็น แต่พอได้เจอเจ้าแมวตัวนี้ มันก็ทำให้เหล่าทาสแมวพากันกุมขมับ เพราะมันหลอกเราให้เชื่อได้สนิทใจว่ามันเป็นแมวของจริง   https://www.instagram.com/p/BxZCjKAAlpo/?utm_source=ig_embed   เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Miru (@bebebe5353) ได้โพสต์วิดีโอของแมวตัวหนึ่งลงบนทวิตของตัวเอง มันเป็นแมวที่นิ่งมากๆ ขนาด Miru ยื่นมือไปลูบใบหน้าของมัน หรือหลบมุมไปทางซ้ายและขวา เจ้าแมวก็ไม่ขยับเลยสักนิด ชาวเน็ตจึงพากันชื่นชมในความสุขุมของมัน   เชิญชมคลิปวิดีโอ https://twitter.com/bebebe5353/status/1127736124334415873   แต่ทาสแมวทุกคนก็ต้องตะลึงเมื่อได้รู้ความจริงจาก Miru ว่าแมวในคลิปวิดีโอนั้น…ไม่ใช่แมวจริง!! มันเป็นเพียงแมวปลอมขนาดเท่าตัวจริงที่เธอทำขึ้นจากไหมพรม ที่สำคัญก็คือมันมีความสมจริงมากๆ จนทาสแมวที่อยู่กับแมวมาหลายปียังแยกไม่ออก   https://twitter.com/bebebe5353/status/1127753647046029312   ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นก็คือ Miru ไม่เคยไปเรียนการทำงานฝีมือจากที่ไหนเลย เธอเรียนรู้การทำแมวเสมือนจริงด้วยตัวเองตั้งแต่ปี 2010 และพัฒนาฝีมือเองเรื่อยมา จนปัจจุบันผลงานของเธอก็สมจริงจนน่าทึ่ง และทำให้ชาวเน็ตประทับใจที่แมวปลอมของเธอหลอกตาพวกเขาได้อย่าง่ายดาย   ผลงานชิ้นอื่นของ Miru https://twitter.com/bebebe5353/status/1011061802333974529   แม้แต่ตอนที่ยังทำเสร็จแค่ช่วงบนก็ดูเหมือนจริงมากแล้ว https://twitter.com/bebebe5353/status/1103466584834695168   หรือจะเป็นตุ๊กตาหมาเสมือนจริงก็มีนะ https://www.instagram.com/p/BviOvUAA9ob/?utm_source=ig_embed   ดูหลอกตาได้ดีไม่แพ้แมวเลย https://www.instagram.com/p/BrwWE_ugsT7/?utm_source=ig_embed   เท่านั้นยังไม่พอ ชาวเน็ตบางคนที่เข้าไปส่องทวิตเตอร์ของ…

ทุกคนคงรู้นะว่าสลอธเป็นสัตว์ที่เชื่องช้าขนาดไหน และก็คงนึกออกว่าตอนมันข้ามถนนมันต้องใช้เวลานานมากๆๆๆๆ ถ้ารอให้มันข้ามเองในชั่วโมงเร่งด่วน กว่าจะถึงที่หมายอาจจะโดนรถทับก่อนได้ Jose Aldenizio ที่ขับรถผ่านมาเจอมันพอดีก็ห่วงว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นเหมือนกัน เขาจึงตัดสินใจหยุดรถที่ข้างทางแล้วลงมาช่วยมันให้ถึงฝั่งตรงข้ามไวขึ้น     เขาเดินไปหาเจ้าสลอธที่กำลังคลานอยู่กลางถนน แล้วค่อยๆ อุ้มมันขึ้นมาอย่างเบามือ จากนั้นจึงพามันเดินไปยังอีกฝั่งที่มันพยายามจะข้ามไป คงมีไม่กี่คนหรอกที่ยอมเสียสละเวลาของตัวเอง เพื่อช่วยสัตว์ป่าที่เพิ่งเคยเจอกันแบบที่ Aldenizio เลือกทำอยู่     พออุ้มมันไปถึงป่าอีกฟากหนึ่งแล้ว Aldenizio ก็ไม่ได้ทิ้งมันไว้ข้างทางเฉยๆ เขาช่วยพามันไปเกาะไว้บนต้นไม้อีกต่างหาก แถมเขายังช่วยจัดแขนจัดขาให้เจ้าสลอธอย่างตั้งอกตั้งใจ เพื่อให้มั่นว่าเจ้าสลอธจะไม่ตกลงมาจากต้นไม้หลังจากที่เขาปล่อยมือจากมันนั่นเอง     จริงๆ การได้ช่วยเหลือสัตว์แค่นี้ก็ทำให้คนรักสัตว์อย่าง Aldenizio มีความสุขมากแล้ว…แต่ครั้งนี้ความสุขของเขาไม่ได้จบเท่านั้น หลังจากที่เจ้าสลอธขึ้นต้นไม้ได้อย่างปลอดภัยแล้ว มันยังหันกลับมายิ้มให้กับเขาด้วย แถมมันยังทำท่าทางเหมือนโบกมือให้เขาอีกต่างหาก เหมือนกับว่าเจ้าสลอธพยายามจะกล่าวขอบคุณเขาที่ช่วยเหลือมัน     หันมายิ้มและโบกมือให้ด้วย   การที่เจ้าสลอธหันมายิ้มและโบกมือให้กับ Aldenizio เป็นสิ่งที่พิเศษมากจริงๆ คงมีไม่กี่คนที่ได้สัมผัสประสบการณ์แบบนี้ นี่คงเป็นเพราะเขาช่วยมันโดยไม่หวังผล   ชมคลิปวิดีโอตอนที่เขาช่วยเจ้าสลอธ    ที่มา: Daily Mail

คนเราทำใจจากกับสิ่งที่เรารักไม่ได้หรอก ต่อให้ต้องเสียสิ่งที่รักอย่างอื่นไปเราก็จะเลือกเก็บสิ่งที่สำคัญที่สุดเอาไว้ ดังนั้นเมื่อ Liz Haslam อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่างสามีหรือสุนัขเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง…เธอถึงได้เลือกพวกหมา     ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ Liz ได้แต่งงานกับ Mike เมื่อ16 ปีก่อน เธอคิดว่าชีวิตคู่ของพวกเธอคือจุดเริ่มต้นของชีวิตที่สวยงาม ทั้งคู่ย้ายเข้าไปอยู่บ้านด้วยกัน มีลูกคนแรกด้วยกัน ครอบครัวของพวกเธอดูเหมือนจะมีแต่ความสุข แต่นั่นก็แค่ช่วงแรกๆ เท่านั้น     หลังจากผ่านช่วงความรักที่หอมหวานไป Mike ก็เริ่มมีเวลาให้กับ Liz น้อยลง เนื่องจากเขาเอาเวลาไปทุ่มเทให้กับงานแทนตามสไตล์คนบ้างาน ส่วน Liz ที่ต้องอยู่บ้านอย่างเหงาหงอย ก็หันไปใส่ใจกับสัตว์ที่เธอชอบอย่างสุนัขแทน โดยการก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Bed for Bullies     Liz เล่าว่า “พวกเราเริ่มห่างกันมากตั้งแต่เขาทุ่มเทเวลาให้กับงาน ฉันเองก็ไม่อยากเป็นแม่บ้านอยู่ว่างๆ ก็เลยทุ่มเทเวลาให้กับสุนัขเหมือนกัน”     แต่หลังจากอยู่ร่วมกันมาได้ 25 ปีโดยที่ต่างฝ่ายต่างสนใจกันน้อยลง ในที่สุด Mike ก็ทนไม่ได้ที่เห็นภรรยาใส่ใจสุนัขมากกว่าเขา เขาจึงบอกให้เธอเลือกว่าจะอยู่กับเขาหรือหมากันแน่ แน่นอนว่า Liz ไม่ได้เลือกเขา เธอเล่าต่อว่า…

เรารู้นะว่าไม่ว่าทุกคนจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงแบบไหน ก็คงจะรักมันมากทั้งนั้นแหละ ถึงแต่ละคนจะแสดงออกให้คนอื่นให้ไม่เท่ากันก็เถอะ แต่มันก็มักจะมีเจ้าของสัตว์เลี้ยงอีกส่วนหนึ่ง ที่ทำอะไรให้เจ้าขนปุยมากกว่าคนอื่นเขา ทำให้พวกเขาดูใส่ใจพวกมันมากกว่าเราไปอีกขั้นเสมอ และนี่คือตัวอย่างของเหล่าเจ้าของที่ใส่ใจสัตว์เลี้ยงแบบขั้นกว่า ถ้าทุกคนได้เห็นความเอาใจใส่ของพวกเขาแล้วเก็บเอาไปใช้บ้าง รัยรองลูกๆ ที่บ้านต้องปลื้ม   จะซื้อของขวัญทั้งทีต้องเอาให้ถูกใจลูก   จะปล่อยน้องหมาเปียกฝนไม่ได้ เดี๋ยวไม่สบาย   แม่เห็นน้องหมานอนไม่หลับ เลยเอาถุงน้ำอุ่นให้ จะได้อุ่นทั้งกายทั้งใจเลย https://twitter.com/shananig0ns/status/935298288802246663   กระต่ายน้อยขาดอะไร แม่ก็จะหามาให้ ถึงสิ่งนั้นจะเป็นหูก็เถอะ   ต่อบันไดให้ลุงหมาเข้าบ้านง่ายโดยเฉพาะ   เจ้าหมาเคยจรจัดมาก่อน ไม่รู้ว่าวันเกิดมันวันไหน คุณพ่อก็เลยจัดให้ตรงกับวันเกิดตัวเองซะเลย   อยู่บ้านกับลูกทั้งที เปิดเพลงผ่อนคลายสำหรับหมาให้ลูกฟังมันทั้งวันละกัน .   เมื่อคุณอยากให้แมวออกไปเล่นข้างนอกบ้าง แต่ก็ยังห่วงความปลอดภัยด้วย .   ลูกรักทั้งที ไม่มีห้องส่วนตัวให้ได้ไง   อยากให้น้องหมาได้นั่งรถเล่นสบายๆ เสียเงินแต่งรถเพิ่มหน่อยไม่เป็นไรหรอก   เลี้ยงลูกตัวเดียวก็เหงา งั้นหาแฟนให้ด้วย   นั่งรถตากลมนานๆ ตาแห้งหมด ใส่แว่นกันไว้นะหนู     เดี๋ยวนี้แดดแรง พื้นถนนก็ร้อน…

จริงๆ แล้วเจ้าหมา Athena ติดพี่สาวของ Isaiah Lenotte แต่พอเธอออกไปเรียนมหาวิทยาลัย มันก็เลยเพิ่งมาสนิทกับน้องชายที่ยังอยู่บ้านด้วยกัน ตอนนี้เจ้าหมากับเขากลายเป็นคู่ที่สนิทกันที่สุดแล้ว Lenotte เล่าว่า “ตอนอยู่บ้านมันจะไม่ยอมอยู่ห่างจากผมเลย แล้วมันก็จะรอเจอผมตอนผมกลับมาบ้านด้วย ไม่มีหมาตัวไหนที่ผมเชื่อใจไปมากกว่านี้แล้ว”     แล้วเจ้าหมาก็ทำให้เขาได้เห็นว่ามันตอบแทนความเชื่อใจที่เขามีให้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ช่วงก่อนหน้านี้มีวันหนึ่งที่ Lenotte ขับรถพาเจ้า Athena ออกไปตกปลาด้วยกัน วันนั้นเขากับเจ้าหมาต่างก็สนุกสนานกันมาก เหมือนเป็นวันปกติทั่วไปวันหนึ่ง แต่ตอนที่เขาขับรถกลับบ้านเขาก็เกิดหน้ามืดขึ้นมา พอได้สติกลับมาอีกทีรถของเขาก็ชนต้นไม้ แล้วพุ่งไปจนช่วงหน้าของรถอยู่ในสระน้ำแล้ว     แม้ว่าเขาจะมีแผลและรอยขีดขวั่นตามตัวเต็มไปหมด เขาก็พยายามอย่างหนักที่จะเอาตัวเองและเจ้าหมาออกจากรถ เพราะเขารู้ดีว่ารถอาจจะติดไฟและระเบิดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่พอ Lenotte เปิดประตูรถฝั่งคนนั่งออกได้แล้ว เจ้า Athena ต่างหากที่เป็นฝ่ายช่วยลากตัวเขาออกมาจากรถได้สำเร็จ และถึงมันจะดูตื่นกลัวเอามากๆ จนอยากจะวิ่งหนีไป มันก็ยังคอยอยู่ใกล้ๆ เป็นเพื่อนชายหนุ่มอยู่ดี     ทันทีที่ Lenotte เดินออกมาถึงถนนใหญ่ได้เขาก็โทรบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ครอบครัวรู้ แม่ของเขาจึงรีบมาหาพร้อมกับเรียกรถพยาบาลมาด้วย พอมาถึงคุณแม่ก็เห็นว่า Athena นั่งตัวสั่นอยู่ เธอจึงพยายามพามันขึ้นไปบนรถเพื่อให้มันรู้สึกสงบมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยมันลงมาอยู่กับ Lenotte เหมือนเดิม เพราะพอมันไม่เห็นเจ้าของอยู่ด้วยมันก็ยิ่งร้อนใจ กว่าเจ้าหมาจะพักได้ก็ตอนที่มันเห็นว่าทีมพยาบาลพาตัวเจ้านายไปรักษาแล้วนั่นแหละ…

ใครมีหมอนใบโปรดที่ใช้มาตั้งแต่เด็กยันโตจนกลายเป็น “หมอนเน่า” ขอให้ยกมือขึ้น!! ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีหมอนเน่า คุณก็เป็นพวกเดียวกันกับเจ้าหมา Draco แล้ว     เจ้าหมาพิตบูลล์ Draco ถูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก แล้วมันก็ค้นพบของเล่นชิ้นโปรดในทันที มันคือหมอนรูปหัวใจสีแดงที่เจ้าของซื้อให้มัน ถึงเวลาจะผ่านไปจนเจ้า Draco ตัวโตแล้ว มันก็ยังคงติดหมอนใบนั้นงอมแงมเหมือนเดิม ไม่ว่าเจ้าหมาจะไปที่ไหนเจ้าของของมันก็จะเห็นหมอนใบนั้นติดตัวอยู่ด้วย   ติดหมอนมาตั้งแต่เด็กยันโต   แต่เมื่อเร็วๆ นี้เจ้าหมาอีกตัวหนึ่งในบ้านที่ชื่อ Willow คาบเอาหมอนของ Draco ไปเล่น ด้วยความหวงเจ้าหมาก็เลยวิ่งไปแย่งหมอนคืนมา แล้วระหว่างที่ยื้อแย่งหมอนกันอยู่นั่นเอง หมอนเน่าของมันก็ขาด ทำให้เจ้า Draco หงอยไปเลยที่ของชิ้นโปรดพังไปแบบนั้น หลังจากนั้น O’Cain ซึ่งเป็นเจ้าของของมันก็เอาหมอนเน่าไปเย็บให้เจ้าหมา โดยที่มีมันมาเกาะขอบโต๊ะเฝ้าดูหมอนใบโปรดตลอดช่วงที่เย็บให้     ท่าทางของเจ้าหมาที่จ้องมองหมอนใบโปรดไม่ให้คลาดสายตา เป็นภาพที่น่าเอ็นดูมากเลยทีเดียว บางทีมันก็เอาหัวมาเกยโต๊ะแล้วมองดู หรือบางครั้งก็เอาขาทั้ง 2 ข้างเกาะโต๊ะไว้ O’Cain เล่าถึงความรู้สึกในตอนนั้นว่า “ตลอดเวลาที่ฉันเย็บหมอน เจ้าหมาจะคอยมองดูตลอด มันร้องหงิงๆ แล้วก็พยายามจะยื่นตัวเข้ามาคาบหมอนไป มันทำท่าทางเหมือนกับกำลังมองดูภรรยาเข้ารับการผ่าตัดเลยทีเดียว”     ทันทีที่ O’Cain เย็บหมอนให้มันเรียบร้อยแล้วยื่นหมอนให้…

เพื่อนๆ เคยได้ยินเรื่องราวของแมงมุมใยสามเหลี่ยมหรือ “Hyptiotes cavatus” กันไหม นี่คือแมงมุมไม่มีพิษที่พบได้บ่อยๆ ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ซึ่งอาศัยใยของตัวเองเป็นอาวุธหลักในการล่าเหยื่อ     แต่แทนที่จะแค่ชักใยทิ้งไว้และรอให้เหยื่อมาติดเหมือนกับแมงมุมทั่วๆ ไป H. cavatus กลับมีวิธีล่าเหยื่อที่แปลกกว่านั้นมาก เพราะมันนั้นมีการใช้งานใยตัวเองในรูปแบบคล้ายหนังสติ๊กที่มนุษย์เราใช้งานกัน อ้างอิงจากในงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแอเคริน ซึ่งจัดทำขึ้นโดยสังเกตการณ์แมงมุมสายพันธุ์นี้ในห้องทดลอง เหล่านักวิจัยได้พบว่าแมงมุม H. cavatus จะมีการชักใยเป็นรูปสามเหลี่ยม ก่อนจะใช้ขาหลังของตัวเองเกี่ยวปลายใยด้านหนึ่งไว้ในลักษณะคล้ายการง้างธนู และรอให้เหยื่อเข้ามาติดใยอย่างใจเย็น     ทันทีที่เหยื่อมาติดกับเจ้าแมงมุมตัวน้อยจะปล่อยใยที่เกี่ยวไว้ที่ขาหลังออก ส่งผลให้ทั้งตัวของมันและใยพุ่งเข้าหาเหยื่ออย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้มันจับเหยื่อได้อย่างมั่นคงมากกว่าการใช้ใยเพียงแค่เส้นสองเส้นอย่างแมงมุมตัวอื่นๆ     คุณ Daniel Maksuta หนึ่งในทีมวิจัยบอกว่า การใช้งานใยแบบนี้ ทำให้ H. cavatus สามารถจับเหยื่อได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าที่เหยื่อจะรู้ตัวตัวเสียอีก นับเป็นวิธีการล่าที่ใช้ประโยชน์จากใยของตัวเองได้เป็นอย่างดี   วิดีโอภาพล่าของ H. cavatus แบบเต็มๆ จาก AFP news agency    ความสามารถของมันนี่เองก็ทำให้แมงมุม H.…

ในฐานะทาสแมวคนหนึ่ง #เหมียวอาตี๋ อยากเอาความเป็นแมวมาใส่ไว้ในทุกส่วนของชีวิต แม้แต่ตอนเลือกซื้อของบางทียังเลือกซื้อจากร้านที่มีแมวเลย ร้านรถเข็นขายมันปิ้งในญี่ปุ่นร้านนี้จึงเป็นอีกหนึ่งร้านที่เราอยากไปลองอุดหนุน ไม่ได้เป็นเพราะที่ร้านเลี้ยงแมวไว้กวักลูกค้าหรอกนะ แต่เขามีแมวมาขายมันปิ้งให้เราเชียวนะ!!   昨日の営業風景なりー。 pic.twitter.com/39KuV45RWy — 山田　三毛猫 (@ZeroZero93) December 21, 2017   ถึงจะบอกว่ามีแมวมาขายมันปิ้งให้ มันก็ไม่ได้เป็นแมวจริงๆ หรอกนะ เจ้านายของพวกเราไม่ขยันทำมาหากินขนาดนั้นหรอก แมวที่ขายของอยู่เป็นคนสวมชุดแมวตัวโตต่างหาก ภายใต้ชุดแมวนั้นก็คือคุณ Mikeneko Yamada (@zerozero93) ซึ่งเป็นคนรักแมวในเมืองคุราโยชิ จังหวัดทตโตริ   もうなってる #あなたは猫になれるかチャレンジ pic.twitter.com/WIfah84Id2 — 山田　三毛猫 (@ZeroZero93) November 27, 2017   Mikeneko เริ่มขายมันเทศปิ้งอย่างนี้มา 6 ปีแล้ว ชุดแมวที่เขาใส่ก็เป็นคนทำเองตั้งแต่หัวจรดหางเลยทีเดียว ปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนท้องถิ่น เนื่องจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและจดจำง่ายนั่นเอง โดยแรกเริ่ม Mikeneko มีจุดประสงค์ในการขายมันปิ้งเพื่อหาเงินสักก้อนหนึ่งมาเปิดร้านราเมงเป็นของตัวเอง ซึ่งเขาก็ขายดีพอควรจนสามารถเก็บเงินก้อนนั้นได้สำเร็จ   お買い上げくださったかたの着用画像。ちっちゃくて可愛い！ pic.twitter.com/AIflM9W2hP — 山田　三毛猫…

เรารู้ว่าคนทุกคนมีความชอบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นถึงจะมีคนรู้จักหรือคนใกล้ตัวที่ไม่ชอบเหมือนเรา เราก็จะไม่บังคับพวกเขาให้ชอบพวกมัน แต่ในกลุ่มคนที่บอกไม่ชอบๆ เนี่ย จริงๆ แล้วมีบางคนที่ปากแข็งไม่ยอมรับว่าชอบอยู่ด้วยนะ แล้วพอไม่มีใครเห็นก็ทำท่าทีเอ็นดูพวกมันซะยิ่งกว่าทาสแมวซะอีก อย่างเช่นคุณปู่ของคุณ โรส (Rose Light Comet) นี่ไง เขาเคยบอกคุณโรสว่าเขาไม่ชอบแมว แต่พอเขาอยู่บ้านกับเจ้าแมวตามลำพังก็เป็นอย่างที่เห็น     ภาพนี้เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่คุณโรสติดเอาไว้ในบ้านเอง ท่าทางกำลังถ่ายรูปแมวอย่างตั้งอกตั้งใจแบบนี้ ใครเห็นก็รู้เลยว่าคุณปู่น่ะรักแมวชัดๆ พอคุณโรสเห็นภาพจากกล้องแบบนั้นเธอก็เลยเอามาโพสต์ในกลุ่มทาสแมวว่า “ฮั่นแน่…. ปู่ ไหนบอกไม่ชอบแมวไง เราเห็นนะ 555555” แถมคุณปู่ไม่ได้จบกับเจ้าแมวแค่ถ่ายรูปมันเท่านั้นนะ บางทีก็นอนดูทีวีกับมันอยู่บยโซฟาซะด้วย คนไม่รักกันเขาไม่ทำแบบนี้หรอก!!   เอ้ะ เหมือนว่าคุณปู่จะเปิดพัดลมหันไปทางแมวด้วยนะ ไม่รักแน่เหรอ??   อันที่จริงแล้วคุณโรสไม่ได้ตั้งใจติดกล้องวงจรปิดเพื่อแฉว่าคุณปู่เกลียดแมวไม่จริงหรอก สาเหตุหลักที่เธอติดกล้องวงจรปิดเป็นเพราะเธอเพิ่งมีลูกตัวน้อย แล้วอยากจะจับตาดูลูกเพื่อให้มั่นใจว่าลูกสบายดีตอนเธอไม่อยู่ด้วยต่างหาก แต่ก็มีผลพลอยได้คือการได้เห็นภาพคุณปู่ที่บอกว่า “เกลียดแมว” มาทำตัวน่ารักๆ เหมือนเป็นทาสคนหนึ่งนี่แหละนะ     แต่เราทาสแมวทุกคนเข้าใจคุณปู่นะ ไม่ผิดหรอกที่คุณปู่จะตกหลุมรักเจ้าเหมียว เพราะไม่มีใครในโลกนี้ต้านทานเสน่ห์ของแมวจ้ำม่ำแบบนี้ได้เลย   ที่มา: ทาสแมว / Rose Light Comet

ถ้าคุณตกหลุมรักในความน่ารักน่าชังของสุนัขพันธุ์ชิบะอยู่ละก็ เราก็แนะนำให้คุณรู้จักกับเจ้า ‘ฮาจิ’ ชิบะที่มาพร้อมกับความสดใส แถมยังรักในการโพสท่าหน้ากล้องอีกต่างหาก เจ้าของของเจ้าฮาจิคือ Masayo Ishozuki ช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่ได้เริ่มโพสต์ภาพสัตว์เลี้ยงของเธอลงในอินตราแกรมตั้งแต่ปี 2012 จนตอนนี้มียอดผู้ติดตามกว่า 18,000 แล้ว เรียกได้ว่าฝีมือการถ่ายภาพของเธอและความทะเล้นของเจ้าฮาจิทำให้ภาพออกมาสวยงามอย่างที่เห็น…   หนูกับดอกไม้อันไหนน่ารักกว่ากัน https://www.instagram.com/p/Bv-jzmvH1ca/ . https://www.instagram.com/p/Bv_nwsKHnaF/   มุมไหนก็ดูดี https://www.instagram.com/p/Bv_lXdqn_cU/   ถ่ายรูปกับสาวๆ ก็ต้องทำเข้มนิดนุง https://www.instagram.com/p/BgxHpdOh-1J/   สวัสดีวันจันทร์สีเหลือง https://www.instagram.com/p/Bv0h3nbHg89/ . https://www.instagram.com/p/BvTcYMDHXpl/   เพราะแสงมันแยงตา https://www.instagram.com/p/Bwwnl3UBoEO/   วันนี้มีพร็อบเป็นกระเป๋าด้วย https://www.instagram.com/p/BgQRojDAbqR/   ทดลองเป็นเน็ตไอดอล https://www.instagram.com/p/Bv_wlp1nnN0/   มุมเผลอๆ https://www.instagram.com/p/BpG28ZhHm1S/   พระอาทิตย์ยิ้มแฉง https://www.instagram.com/p/BmnS192BqaH/ . https://www.instagram.com/p/BmmcFwyBwIa/ . https://www.instagram.com/p/BvTCqD5ngE6/   ชมความงามของธรรมชาติรอบกาย https://www.instagram.com/p/Bj6JOFPhB9Z/   ยิ้มตาหยีเป็นเอกลักษณ์…

ถ้าแมวของคุณเคยหนีไปจากบ้าน คุณคงเข้าใจดีว่าทาสจะเป็นห่วงมันขนาดไหน ใจเราก็กลัวว่ามันจะมีอุบัติเหตุรึเปล่า หรือว่ามันจะมีข้าวกินจนอิ่มไหม แต่บางทีเราก็ลืมนึกว่าสาเหตุที่มันหายจากบ้านไปอาจไม่ได้เป็นเพราะมันหลงหรือลำบากเลย มันก็แค่ติดสาวเท่านั้นแหละ ไม่นานเดี๋ยวมันก็จะกลับมาเอง…แถมดีไม่ดีอาจพาสะใภ้เข้ามาให้เหมือนตัวนี้ด้วย!! คุณ นู๋อิ่ม (Bebe Sayttapukdee) เลี้ยงแมวไว้มากถึง 7 ตัว และตัวหนึ่งในที่ชื่ว่า ถั่วแดง ก็เพิ่งหนีออกจากบ้านไป     แต่เจ้าแมวก็ปล่อยเจ้าของเป็นห่วงอยู่ที่บ้านได้ไม่นาน แค่ 2 วันต่อมามันก็กลับมาบ้านแล้ว แถวยังพาต้นเหตุที่ทำให้มันหนีออกจากบ้านกลับมาด้วย…ซึ่งก็คือแมวสาว 3 สีที่อยู่ข้างหลังมัน คุณนู๋อิ่มก็เลยรู้ว่าที่แท้เจ้าแมวหายไปจากบ้านเพราะว่ามันติดสาวข้างนอกนี่เอง แล้วเธอก็โพสต์เล่าเรื่องให้ชาวเพจทาสแมวฟังว่า “หายออกจากบ้านไป2วันกลับมาบ้านรอบนี้พาใครมาด้วยก็ไม่รู้”     แต่ท่าทางมันจะไม่ได้ตามมาเที่ยวบ้านเฉยๆ น่ะสิ ดูเหมือนถั่วแดงอยากจะพาแฟนมาอยู่ด้วยกันซะเลย แถมไม่ยอมปรึกษาคนดูแลอย่างทาสสักคำ ด้วยความที่คุณนู๋อิ่มเป็นทาสแมว ถึงที่บ้านจะมีแมวอยู่เยอะแล้ว สุดท้ายเธอก็ใจอ่อนรับลูกสะใภ้ของถั่วแดงไว้ดูแลอีกตัวหนึ่ง     เจ้าถั่วแดงนี่ก็ร้ายไม่เบาเลยนะ หายออกบ้านไปแค่ 2 วันแท้ๆ เสน่ห์แรงจนแมวสาวถึงกับต้องตามมาอยู่บ้านด้วยเลย หรือว่าแมวสาวจะหลอกให้มันพาเข้าบ้านก็ไม่รู้สิ   โถพ่อหนุ่ม มาแค่นี้ก็พกเมียมาด้วย   ที่มา: ทาสแมว Official / Bebe Sayttapukdee

Danielle Eden เป็นหญิงสาวที่รักสัตว์มากๆ ซึ่งตลอดเวลาที่มา เธอทุ่มเทให้กับการช่วยเหลือสัตว์ที่อยู่ในสภาพเลวร้ายเสมอ นอกจากนี้ Eden ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Dog Tales Rescue and Sanctuary ในออนแทรีโอ ประเทสแคนาดา เธอช่วยสุนัขที่ถูกขังในกรง และพาพวกมันไปอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ที่ชนบทบนพื้นที่กว่า 120 ไร่     เดิม Eden กับสามี Rob มาจากอิสราเอล ซึ่งทุกวันนี้ทั้งคู่ก็ยังกลับประเทศตัวเองบ่อยๆ เพื่อช่วยเหลือสุนัข แต่พาพวกมันมาอยู่ในศูนย์ช่วเหลือของพวกเขา ทุกครั้งที่กลับอิสราเอล พวกเขาจะไปยังศูนย์พักพิงในท้องถิ่น และช่วยสุนัขอย่างน้อยครั้งละ 10-20 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหมาแก่ ป่วย และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้     กระทั่งปี 2016 Eden กับ Rob ได้กลับมาอิสราเอลอีกครั้ง และตัดสินใจไปเยี่ยมศูนย์พักพิงในท้องถิ่นที่มีสัตว์อยู่อย่างแออัด แม้ Eden จะเคยเห็นสัตว์อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่เธอไม่เคยเตรียมใจมาก่อนจะต้องมาเห็นอะไรแบบนี้…     ที่ศูนย์พักพิงแห่งนี้มีสุนัขกว่า 250 ตัว…

พบกับ Gringo แมวเหมียวผู้น่ารักที่ชาวเน็ตต่างลงความเห็นว่าไม่ว่าใครก็ต้องตกหลุมรักมันอย่างแน่นอน Gringo อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศสกับ Sabrine กับ Romain ผู้เป็นเจ้าของและยังเป็นผู้ดูแลอินสตาแกรมส่วนตัวของเจ้าเหมียวด้วย ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 27,000 คนแล้ว     Gringo เป็นแมวพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ อายุ 1 ขวบ จุดเด่นของมันคือ หนวดจิ๋มสีขาวๆ บนหน้า ที่ถือเป็นเสน่ห์ประจำตัวมันเลยหละ แม้ว่าอินสตาแกรมดังกล่าวนี้จะเป็นการนำเสนอความรักของ Gringo ซะส่วนใหญ่ แต่ Sabrine กับ Romain มีแมวอีกตัวชื่อ Milko     แน่นอน Gringo กับ Milko เป็นเพื่อนสนิทกัน (ก็ในบ้านมีกันอยู่ 2 ตัว ไม่สนิทกันแล้วจะให้ไปสนิทกับใครล่ะ) พวกมันชอบใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ด้วยกัน และทำให้บ้านมีความน่ารักคูณ 2     Sabine บอกว่า “ชีวิตของ Gringo เต็มไปด้วยความสุข มันมีบุคลิกที่ทำให้ผู้คนตกหลุมรักได้ง่ายๆ…

เชื่อมั้ยว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงมีพลังทำลายล้างสูงมาก พวกมันไม่ใช่แค่ทำให้มนุษย์ตกเป็นทาสได้ แต่ยังสามารถเปลี่ยนความคิดมนุษย์ได้ด้วย อย่าง Izzy เหมียวที่ทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่งเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับแมวไปอย่างสิ้นเชิง     ชายหนุ่มคนนี้โตมากับสุนัขโกล้เด้น รีทรีฟเวอร์ ดังนั้น เขาจึงรักสุนัขมากๆ และไม่เคยข้องเกี่ยวกับแมวมาก่อน จนกระทั่งแฟนสาวของเขาแนะนำให้รู้จักกับแมวตัวหนึ่ง จริงๆ แล้ว ตั้งแต่ชายหนุ่มคบกันแฟนคนนี้มา เขาพยายามทำตัวเหมือนเป็นคนชอบแมว เพื่อที่ความสัมพันธ์ของเขากับแฟนจะเป็นไปอย่างราบรื่น     กระทั่งคืนหนึ่ง แฟนสาวถามเขาว่า “สนใจรับเลี้ยงแมวของเพื่อนฉันมั้ย?” นั่นเป็นสถานการณ์ที่บังคับให้เขาต้องตอบว่า “สนใจสิ” เพราะที่ผ่านมาเขาแสร้งชอบแมว จนแฟนสาวคิดว่าเขารักแมวจริงๆ แมวตัวนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น Izzy นั่นเอง และดูเหมือนมันฉลาดพอที่จะรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้ชอบแมวจริงๆ มันเลยเริ่มภารกิจเอาชนะใจด้วยการพยายามเรียกร้องความสนใจจากเขา     Izzy ไม่เคยปล่อยให้ชายหนุ่มเข้าห้องน้ำคนเดียว เพราะมันไม่ชอบอาบน้ำ และคิดไปเองว่ามีสัตว์ประหลาดมากมายอยู่ในนั้น เพียงไม่นาน ภารกิจเอาชนะใจชายหนุ่มก็ประสบความสำเร็จ ชายหนุ่มหลง Izzy หัวปักหัวปำ แม้แต่เจ้าตูบที่เคยเกลียดแมวมากๆ ตัวนี้ ก็ยังอุ่นใจกับการได้งีบใกล้ๆ Izzy     Izzy ไม่ใช่แค่แมวเจ้าเสน่ห์ แต่มันทั้งฉลาดและตลกด้วย ดูสายตาของมันเวลามองชายหนุ่มเล่นเกมสิ…

เมื่อครอบครัวหนึ่งในบอสตันสูญเสียแมววัย 17 ปีไป พวกเขารู้ว่าชีวิตได้เกิดช่องว่าง ดังนั้น ในเดือนมกราคม ปี 2014 พวกเขาตัดสินใจไปศูนย์พักพิง Boston Animal Rescue ทันทีที่ครอบครัวมาถึงศูนย์ พวกเขาสังเกตเห็นแมวขาว-ดำตัวหนึ่ง กำลังร้องเมี๊ยวๆ อยู่ในกรง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากพวกเขา     นั่นทำครอบครัวรู้ได้ทันทีว่าแมวตัวนี้แหละที่เกิดมาเพื่อพวกเขา จึงได้สอบถามพนักงานว่าจะรับเลี้ยงมันได้อย่างไร พร้อมทั้งรับทราบเกี่ยวกับอดีตทั้งหมดของมัน     แมวตัวนี้มีชื่อว่า Sophie มันอยู่ในศูนย์พักพิงนานถึง 2 เดือนแล้ว เจ้าของเก่าของมันเป็นคนเพาะพันธุ์แมวขาย แต่เจ้าหน้าที่พบว่าบ้านหลังนั้นมีแมวมากเกินไป จึงได้ช่วยมันและเพื่อนตัวอื่นออกมา     สำหรับครอบครัวใหม่ของ Sophie นั้น พวกเขาตื่นเต้นและยินดีที่จะทำให้เจ้าเหมียวได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ซึ่งเหมียวเองก็ปรับตัวกับบ้านใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ดูเหมือน Sophie จะละทิ้งอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด เพราะมันอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยอะไรใหม่ๆ ที่ดีกว่า     ไม่กี่เดือนต่อมา ครอบครัวตัดสินใจพา Sophie ออกไปเดินเล่นรอบๆ ตึก นั่นคือช่วงเวลาที่เจ้าเหมียวรู้สึกมีความสุขและเป็นตัวของตัวเอง     เจ้าของบอกว่า…

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ปี 2016 ช่องยูทูบ Ten Shakes of Grace ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอ ซึ่งเผยให้เห็นโมเมนต์น่ารักของสัตว์เลี้ยง 2 ชนิด คือลูกแมวตัวน้อย Moo กับพี่หมาเยอรมัน เชพเพิร์ด Tennyson     ทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวรักสัตว์ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งในบ้านนี้มีเยอรมัน เชพเพิร์ดอีกตัว ชื่อ Harper Grace และนกคอกคาเทลชื่อ Shakespeare     โดยปกติแล้ว เจ้าของบ้านมักจะรับอุปถัมภ์ลูกแมวให้กับศูนย์พักพิงที่อยู่ใกล้ๆ ดังนั้น ซึ่งผู้อุปถัมภ์มักจะโพสต์คลิปของเหล่ามิ้วน้อยลงในช่องยูทูบ Ten Shakes of Grace บ่อยๆ และหนึ่งในนั้นคือ Moo โดยคลิปที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ มี Tennyson ด้วย     ในช่วงแรกของคลิป จะเห็นแค่ Tennyson เท่านั้น มันยืนอยู่ที่บันได เหมือนกำลังมองอะไรสักอย่างอยู่ จากนั้นกล้องก็หันไปทางบันได เลยรู้ว่าเจ้าตูบกำลังดู Moo…

ไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าตัวน้อยขนฟูสุดน่ารักจากประเทศออสเตรเลียอย่าง “โคอาล่า” หรอก มันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่คนทั่วทั้งโลกพากันชื่นชอบ แต่คงมีไม่กี่คนที่รู้ว่าพวกมันเหลือน้อยมากแค่ไหน ล่าสุดนักวิจัยจากประเทศออสเตรเลียก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่าพวกมันเข้าสู่ภาวะ “สูญพันธุ์โดยปริยาย” ในที่สุด     งงกันล่ะสิว่าพวกมันสูญพันธุ์ยังไง ก็ยังมีโคอาล่าให้เห็นกันอยู่เลย อันที่จริงคำว่า “สูญพันธุ์โดยปริยาย (Functionally Extinct)” ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้พวกมันสูญพันธุ์ไปแล้วหรอก แต่มีความหมายว่าตอนนี้ประชากรโคอาล่าทั่วโลกนั้นมีจำนวนน้อยมากๆ จนมีแนวโน้มสูงว่าพวกมันไม่น่าจะสร้างลูกหลานรุ่นต่อไปได้แล้วนั่นเอง ส่งผลให้ในอนาคตพวกมันจะสูญพันธุ์ในที่สุด     ปัจจุบันองค์กรอนุรักษ์โคอาล่า Australian Koala Foundation ได้ทำการตรวจสอบแล้วว่ามีโคอาล่าเหลืออยู่ตามธรรมชาติเพียงแค่ประมาณ 80,000 ตัวเท่านั้น ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ที่มีแหล่งอาศัยของโคอาล่าในประเทศออสเตรเลียถึง 128 แห่ง นับเป็นเรื่องน่าใจหายมากที่ปัจจุบันเหลือแหล่งอาศัยของพวกมันแค่ 87 แห่งเท่านั้น และในแต่ละแห่งก็มีจำนวนลดลงด้วย     ในปี 2016 นักวิจัยยังวิเคราะห์ว่ามีประชากรโคอาล่าอยู่ 144,000 ถึง 600,000 ตัวอยู่เลย การที่พวกมันลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วภายใน 3 ปีเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากๆ     อย่างไรก็ตามการสูญพันธุ์โดยปริยายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราปล่อยพวกมันไว้ตามธรรมชาติเท่านั้น ถ้ามนุษย์เรายื่นมือเข้าไปช่วยขยายจำนวนพวกมันอย่างจริงจัง อาจทำให้พวกมันพ้นจากภาวะนี้ก็ได้…

เจ้าหมาใกล้จมน้ำกำลังตกที่นั่งลำบาก มันอยู่กลางแม่น้ำใหญ่ซึ่งมีคนมามุงดูมากมาย มันคงจะตกอยู่ในอันตรายหากชายคนนี้ไม่ตัดสินใจลงไปช่วยมัน เจ้าหมา Harper เป็นสุนัขของ Erin O’Donnell มันเป็นหมาที่ขี้กลัวและเข้ากับคนแปลกหน้าได้ยาก โชคดีที่เจ้าของเข้าใจมันและดูแลอย่างใกล้ชิดมาตลอด     จนวันหนึ่งที่เธอต้องออกไปร่วมทำการแสดงกับ Brooklyn Irish Dance Company เธอจึงต้องทิ้งเจ้าหมาเอาไว้กับคนพาเดินเล่นที่มันคุ้นชินแล้ว แต่ตอนที่เจ้าหมากับคนจูงกำลังเดินเล่นอยู่นั่นเอง ก็มีรถคันหนึ่งฝ่าป้ายหยุดรถเข้ามาเฉี่ยวพวกเธอ โชคดีที่พวกเธอไม่ได้บาดเจ็บอะไรมาก แต่ด้วยความตกใจกลัว Harper จึงวิ่งหนีไปเรื่อยๆ จนถึงแม่น้ำใหญ่ซึ่งอยู่ติดกับชุมชน Brooklyn Barge แล้วมันก็โดดลงแม่น้ำไป   pic.twitter.com/1zPpptTNhi — Lorenzo Fonda (@lorenzo_fonda) May 5, 2019 Gabe Castellanos ซึ่งบังเอิญอยู่ใกล้ๆ เล่าผ่านอินสตาแกรมว่า “ผมกำลังฉลองวันเกิดอยู่ที่ Brooklyn ตอนที่ผมเห็นหมาตัวหนึ่งว่ายน้ำ วันนั้นอากาศร้อนมากผมก็เลยคิดว่ามันคงอยากว่ายน้ำเย็นๆ เล่นล่ะมั้ง แล้วเจ้าของก็น่าจะดูอยู่ใกล้ๆ จนกระทั่งคนจูงของมันวิ่งมาทางฝั่งด้านเหนือ แล้วบอกอย่างร้อนใจว่าเจ้าหมา Harper มันวิ่งหนีมาต่างหาก”   pic.twitter.com/lR30dkF6ZO — Lorenzo Fonda (@lorenzo_fonda) May…

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำใจหรือดำเนินชีวิตต่อไปได้ หากสูญเสียอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งไป แต่สถานการณ์เช่นนี้จะดีขึ้นได้ หากได้รับความช่วยเหลือจากคนรอบตัว เช่นเดียวกับกรณีของแมว 3 ตัวนี้ พวกมันทุกข์ทรมานจากปัญหาเกี่ยวกับสายตา แต่โชคดีที่พวกมันได้เข้ามาอยู่ในการดูแลของ Faithful Friends Society     Helen แมวที่แก่ที่สุดในบรรดา 3 ตัวนี้ เป็นโรคต้อหินอย่างรุนแรง ส่งผลให้มันเจ็บปวด ทรมาน และอาการแย่ลงอย่างต่อเนื่อง     สำหรับ Bruce กับ Willis เหมียวอีก 2 ตัวที่อายุน้อยกว่า ติดเชื้อที่ตาอย่างร้ายแรงทั้งคู่ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา พวกมันอาจจะตายได้ สัตวแพทย์จึงจำเป็นต้องผ่าตัดเอาดวงตาของเหมียวทั้ง 3 ตัวออก เพื่อให้โอกาสพวกมันได้มีชีวิตโดยปราศจากความเจ็บปวด     แมวที่อ่อนกว่า 2 ตัว ผ่านการผ่าตัดที่ค่อนข้างหนัก และพวกมันไม่สามารถปรับตัวให้ชินกับการมองไม่เห็นได้ จนกระทั่งได้พบกับสุนัขที่ชื่อ Alfie กับ Frankie Alfie กับ Frankie ได้รับการช่วยเหลือเมื่อไม่กี่ปีก่อน โดยหญิงสาวคนเดียวกับที่รับอุปถัมภ์แมวตาบอดทั้ง 3…

เมื่อ Elliot ถูกนำตัวไปยัง Lifeline Animal Project ศูนย์พักพิงในจอร์เจีย มันอยู่ในสภาพที่ใกล้จะตายแล้ว มันมีน้ำหนักเพียง 1.3 กิโลกรัม ก่อนจะทราบภายหลังว่าเจ้าของทิ้งมันไว้ข้างถนน โชคดีที่ในศูนย์พักพิงแห่งนี้มีคนใจดีมากมายที่อยากช่วเหลือมัน โดย Daphne Bragg เธอตกหลุมรัก Elliot ตั้งแต่วินาทีแรก     Daphne บอกว่า “มันตัวเล็กมาก จนอยู่ในฝ่ามือได้พอดี มันน่าสงสารมากๆ จนทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดไปด้วย ก่อนหน้านี้ฉันเคยเห็นสุนัขถูกทำร้ายมากมาย แต่กรณีของ Elliot มันให้ความรู้สึกที่ต่างออกไป”     Daphne ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตของน้องหมาน้อยตัวนี้ให้ดีขึ้น ดังนั้น เธอจึงต้อนรับมันเข้ามาอยู่ในบ้านของเธอ แม้ว่าที่บ้านจะมีพิตบูลล์ 3 ตัวแล้วก็ตาม อีกอย่าง เธอไม่สามารถออกจากศูนย์พักพิงได้ หากไม่พา Elliot ไปด้วย เมื่อมาถึงบ้าน พิตบูลล์ทั้ง 3 ตัว ก็ให้การต้อนรับเจ้าตูบน้อยเป็นอย่างดี พวกมันอ่อนโยนกับน้อง และทำทุกอย่างเพื่อให้แน่นอนใจว่า Elliot ได้รับความสะดวกสบาย  …

Zella เป็นสุนัขที่มีนิสัยขี้เล่นมากๆ แม้จะอายุ 16 ปีแล้ว แต่ความขี้เล่นของมันไม่ได้ลดเลยแม้แต่น้อย ล่าสุด มันได้วิ่งเล่นในป่าที่อยู่หลังบ้าน โดยมีครอบครัวเดินตามไปติดๆ แต่ทันใดนั้น มันวิ่งเข้าไปใกล้บ่อน้ำเก่าที่แห้งแล้ว ความลึก 2.5 เมตร ก่อนจะพลาดตกลงไป เนื่องจากบ่อน้ำทั้งแคบและลึกเกินไปจน Zella จึงไม่สามารถปีนขึ้นมาด้วยตัวเองได้ ทางครอบครัวก็เอื้อมไม่ถึงมันเหมือนกัน     ครอบครัวได้โทรหา 911 เพราะต้องการให้มันขึ้นมาจากบ่อน้ำนั้นให้เร็วที่สุด เพียงไม่นาน  South Killingly Fire Department กู้ภัยในพื้นที่ก็มาถึงจุดที่ได้รับแจ้ง พร้อมอุปกรณ์ช่วเหลือต่างๆ     หลังจากประเมินสถานการณ์แล้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ใช้อุปกรณ์โรยตัว โดยส่งกู้ภัยคนหนึ่งลงไปในบ่อน้ำ เพื่อพาเจ้าตูบขึ้นมา     หลังจากผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็สามารถพา Zella ขึ้นมาจากบ่อได้อย่างปลอดภัย ขณะที่เจ้าตูบเองก็แสดงท่าทีดีใจเมื่อรู้ตัวเองปลอดภัยแล้ว     หลังจากเหตุการณ์นี้ ครอบครัว Zella ได้เขียนชื่นชมทีมกู้ภัยผ่านสื่อโซเชียล ส่วนทางเจ้าตูบนั้น มันคงจะเข็ดกับการไปวิ่งเล่นในป่าอีกนาน     ที่มา…

สุนัขไม่ต่างอะไรจากเด็กน้อยที่ชอบเอาสิ่งของแปลกๆ เข้าปาก ไม่ว่าจะเป็นขวด ของเล่น รวมไปถึงสิ่งที่เจ้าของอาจไม่เคยรู้ เช่นเดียวกับ Gemini พิตบูลล์ของ Randy Etter ที่เริ่มมีอาการป่วย จนชายหนุ่มคิดว่าน่าจะมาจากการที่มันเคี้ยวและกลืนถุงเท้าเมื่อสองสามวันก่อน     Gemini เริ่มมีน้ำหนักลดลง แต่ท้องของมันยังคงป่อง Etter จึงตัดสินใจพามันไปสัตวแพทย์ทันที โดยหวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น แต่หลังจากตรวจเช็คอาการเสร็จ คุณแม่ได้แจ้งข่าวร้ายที่เขาไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง… คุณหมอบอกว่า Gemini กำลังทุกข์ทรมานจากการอุดตันในลำไส้ และจะต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากตอนนี้อาการของมันอยู่ในขั้นที่แย่มากแล้ว     ปัญหาอย่างหนึ่งคือ ค่าผ่าตัดอยู่ที่ 90,000-180,000 บาท ซึ่ง Etten ไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม เขาพร้อมที่จะหาเงินจำนวนนี้มาให้ได้ เพื่อช่วยสุนัขที่เขารักมากที่สุด อย่างแรกที่เขาทำคือนำรถไปขาย เพื่อนของเขาช่วยมาอีก 60,000 บาท แต่ก็ยังไม่พอสำหรับค่ารักษาทั้งหมดอยู่ดี Etter จึงโพสต์เรื่องราวของ Gemini เฟซบุ๊ก และไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนที่ไม่เคยรู้จักอาสาช่วยเหลือเขา     คนที่ไม่เคยรู้จักเหล่านั้น ได้ก่อตั้งกองทุนผ่าน Street Outreach…

แมวจรจัดที่ได้รับการช่วยเหลือพร้อมลูกๆ ได้รับเลี้ยงลูกแมวกำพร้าอีก 3 ตัว ที่ต้องการแม่ เมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ Kelsey Mcknight ผู้ช่วยเหลือสัตว์จากรัฐบริติชโคลัมเบีย กำลังทำงานในโครงการทำหมันแมวให้กับฝูงแมวที่ถูกพบในฟาร์ม เธอเห็นแม่แมวตัวหนึ่งกำลังดูแลลูกแมวแรกเกิด Kelsey บอกว่า “พวกมันมีความเสี่ยงมากที่จะโดนวัวในฟาร์มเหยียบ”     ตอนนั้นแม่แมวพยายามปกป้องลูกๆ อย่างดีที่สุด และไม่ต้องการให้ใครเข้ามาใกล้ มันขู่ใส่ Kelsey ตอนที่เห็นเธอ นั่นทำให้หญิงสาวคิดว่ามันต้องข่วนเธอแน่ๆ หากเข้าไปช่วยเหลือ     โชคดีที่เจ้าเหมียวแค่ขู่เท่านั้น แต่มันไม่ได้ข่วนหรือกัดแต่อย่างใด มันยอม Kelsey อุ้มลูกๆ เข้าไปในกรง โดยอยู่ภายใต้สายตาของมันตลอดเวลา หลังจากย้ายลูกแมวเข้ากรงเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็ทำกับดักสำหรับแม่แมว เพื่อความปลอดภัยของมัน และเพียงไม่นาน แม่แมวก็เดินเข้ากับดักอย่างง่ายดาย     Kelsey บอกว่า “เราใช้เวลาประมาณ 10 นาที กว่าจะพาครอบครัวแมวออกจากที่นั่นอย่างปลอดภัย” จากนั้น พวกมันก็ได้ย้ายไปอยู่ในการดูแลของ Barb Gosselin ที่  Critteraid…

เด็กมักจะรู้สึกดีกว่าเมื่อได้อยู่กับสัตว์เลี้ยง นั่นเป็นเพราะเด็กกับสัตว์เลี้ยงมีพันธะพิเศษบางอย่างที่ทำให้ชีวิตพวกเขาสมบูรณ์แบบและมีความสุข นอกจากพันธะพิเศษที่ว่าแล้ว ยังมีข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ บางครั้งสัตว์เลี้ยงจะให้ความสนใจกับเด็กน้อยมากกว่าพ่อแม่ของพวกเขาซะอีก หากคุณรู้สึกว่านี่ไม่เป็นความจริง โปรดดูภาพด้านล่างนี้   1. มิตรภาพของเด็กกับสัตว์เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ   2. ทุกครั้งที่เด็กน้อยร้องไห้ พี่ตูบจะวิ่งเข้ามาปลอบทันที   3. ตั้งแต่พาลูกน้อยกลับบ้าน เจ้าตูบก็ไม่เคยอยู่ห่างเขาเลย   4. ใบหน้าของเจ้าตูบทำให้ทุกคนรู้ว่า ‘อย่าแตะต้องเจ้านายตัวน้อยของมันนะ’   5. “ทารกคนนี้เป็นของหนูนะ ห้ามใครแย่งเด็ดขาด”    6. นอนใกล้ๆ แบบนี้แหละ จะได้ปกป้องน้องได้   7. พ่อกับแม่จะไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ก็ได้นะ เดี๋ยวผมดูแลเด็กคนนี้เอง   8. ครอบครัวเพิ่งพาลูกน้อยเข้าบ้านได้ 20 นาที และนี่คือปฏิกิริยาของเจ้าตูบ   9. “ไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ หรืออีกกี่ปีข้างหน้า พี่ก็จะอยู่กับน้องแบบนี้แหละ”   10. “ใครแตะต้องเจ้าหนูคนนี้ ได้มีปัญหากับตูแน่” พี่หมากล่าว   11.…

สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ดังนั้น พวกมันจึงควรได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับเพื่อนคนหนึ่งของเรา แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะสุนัขมากมายถูกทิ้งโดยไม่มีใครเหลียวแล ด้วยเหตุนี้ Sebahat Hanifeoglu หญิงสาวจากประเทศตุรกีจึงตัดสินใจทิ้งทุกอย่างในชีวิต เพื่อมาดูแลเพื่อน 4 ขาที่ถูกทอดทิ้งเหล่านี้     จุดเริ่มต้นของการดูแลสุนัขนับร้อยตัวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Sebahat เห็นสุนัขมากมายเร่ร่อนบนถนน บางตัวทรมานจากความหิว ในขณะที่หลายตัวได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย หญิงสาวไม่สามารถทนเห็นภาพที่น่าสงสารของสุนัขเหล่านั้นได้ เธอจึงตัดสินใจทำบางอย่างเพื่อเปลี่ยนชะตากรรมของพวกมัน แต่การจะทำแบบนั้นได้นั้น เธอต้องเป็นคนที่เสียสละอย่างแท้จริง รวมไปถึงการยอมเสียโอกาสต่างๆ ในชีวิตด้วย     ในตุรกีเต็มไปด้วยสุนัขจรจัดมากมาย ซึ่ง Sebahat รู้ดีว่าไม่สามารถช่วยเหลือพวกมันทั้งหมดได้ในทันที ดังนั้น เธอเริ่มด้วยการไปยังพื้นที่ที่มีสุนัขจรจัดอยู่ เพื่อให้น้ำและอาหารกับเหล่าเจ้าหมาที่กำลังหิวโหย ทุกวัน หญิงสาวจะตื่นตั้งแต่เช้ามืด แล้วเดินขึ้นไปยังภูเขาเพื่อตามหาลูกหมาตัวใหม่ที่อาจถูกนำมาทิ้งไว้ที่นั่น โดยนำอาหารติดมือไปด้วยเสมอ ซึ่งช่วยทำให้ลูกหมาเข้ามาหาเธอได้ง่าย     หลังจากที่ทำแบบนี้สักพัก เหล่าสุนัขจรจัดก็ตระหนักได้ว่า Sebahat ไม่เหมือนมนุษย์ที่ทอดทิ้งพวกมัน หญิงสาวเติมเต็มความเหงาของพวกมันด้วยมิตรภาพ และเติมเต็มท้องที่ว่างของพวกมันด้วยอาหาร ในแต่ละวัน Sebahat จะไปหาหมาไร้บ้านใน 5 พื้นที่ทุกวัน อย่างไรก็ตาม แม้เหล่าสุนัขจะได้รับการช่วยเหลือในระดับหนึ่งแล้ว แต่พวกมันก็ยังต้องการบ้านอยู่ดี…

Jenny Desmond ไม่ใช่คนแปลกหน้าเมื่อพูดถึงการช่วยเหลือสัตว์ เธอกับเจ้าสามีได้เปิด Liberia Chimpanzee Rescue and Protection Sanctuary ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ที่มีลิงชิมแปนซีกว่า 35 ตัว ในปี 2016 Jenny ได้มีโอกาสช่วยเหลือสัตว์ชนิดอื่นนอกเหนือจากชิมแปนซี มันคือ ลูกหมาที่กำลังจะตาย      วันนั้น Jenny กับทีมงานส่วนหนึ่งได้ขับรถไปยังหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง ที่นั่น พวกเขาพบลูกหมาตัวหนึ่ง สภาพของมันดูแย่มากๆ ทั้งขนร่วงและมีแผลทั่วทั้งตัว ถ้าพวกเขาไม่ทำอะไร หมาน้อยตัวนี้ต้องตายแน่ๆ Jenny ได้ตาตูบน้อยกลับบ้าน และส่งให้สามีของเธอ Jimmy ซึ่งเป็นสัตวแพทย์รับไปดูแลต่อ Jimmy บอกว่าตูบน้อยทรมานจากความหิวโหย จนกล้ามเนื้อของมันเริ่มเสื่อมไปเอง     Jimmy ได้ทำความสะอาดบาดแผลให้เจ้าลูกหมา เอาน้ำและอาหารให้มันกินจนอิ่ม จากนั้น Jenny ตัดสินใจตั้งชื่อให้มันว่า Snafu  สัปดาห์ต่อมา Snafu ดูแข็งแรงขึ้น และในไม่ช้าขนของมันก็เริ่มงอกขึ้นมาใหม่ “มันดูเหมือนสุนัขปกติมากขึ้น จากที่มีแผลทั่วตัว ก็ได้รับการรักษาจนหายหมด” Jenny…

หญิงชราคนหนึ่งรัก Missy กับ Zipper แมวเบอร์แมนวัย 16 ปี ของเธอมากกว่าสิ่งอื่นใดในโลกนี้ เธอเลี้ยงพวกมันตั้งแต่เป็นมิ้วน้อย และดูแลพวกมันเป็นอย่างดีเสมอ น่าเสียดาย หญิงชราล้มป่วยและต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านพักคนชรา ที่นั่น พวกเขาบอกว่าเธอไม่สามารถนำแมวมาอยู่ด้วยได้     หญิงชราจึงได้สอบถามไปยังญาติว่ามีใครพอจะรับแมว 2 ตัวนี้ไปอยู่ด้วยได้มั้ย? แต่ปรากฏว่าไม่มีใครรับเลี้ยงได้เลย ดังนั้น เธอจึงจำใจพาพวกมันไปอยู่ใน Anne Arundel County Animal Care & Control (AACAC) ที่เวอร์จิเนีย ทั้งนี้ เธอได้ทิ้งโน๊ตสุดสะเทือนใจเอาไว้ด้วย     โน๊ตใบนั้นได้พูดเกี่ยวกับอาหารที่ Missy กับ Zipper ชอบและไม่ชอบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแมวสองตัวนี้ได้รับการดูแลด้วยความรักมากแค่ไหน หญิงชราเขียนไว้ว่า “ในตอนกลางคืน พวกมันจะกิน Cool-Whip จากนิ้วมือของคุณ Zipper จะชอบให้ใช้ทั้ง 5 นิ้ว ในขณะที่ Missy ใช้ 4 นิ้ว…

ลูกแมวตัวหนึ่งขี้อายและขี้กลัวมากๆ เมื่อมันได้รับการช่วยเหลือจากฟาร์ม แต่เมื่อมีคนรับมันไปดูแลที่บ้าน มันก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ลูกแมวตัวนี้มีชื่อว่า Simba มันถูกพบพร้อมแม่แมว 2 ตัว และลูกแมวตัวอื่นๆ พวกมันอยู่ในสภาพที่ป่วยและไม่ได้รับการรักษาทางการแพทย์ที่ถูกต้อง Michele ผู้ช่วยเหลือสัตว์จากเมืองควิเบก ประเทศแคนาดา จึงช่วยพวกมันออกมาก่อนจะสายเกินไป     หลังจากได้พบสัตวแพทย์ แมวทั้งหมดถูกวินิจัยว่ามีปัญหาสุขภาพ รวมไปเป็นกลากเกลื้อนและผิวหนังติดเชื้อ Michele จึงอาสาดูแลพวกมันด้วยตัวเอง เพื่อให้พวกมันดีขึ้น หลังจากได้ดูแลแมวทั้งหมดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ พวกมันก็เริ่มแข็งแรงขึ้น และพร้อมสำหรับการหาบ้านหลังสุดท้าย แต่การหาบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะลูกแมวขี้กลัวอย่าง Simba     Michele ได้ติดต่อไปยังศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ของชุมชนเพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้น  Chatons Orphelins Montréal ก็ตอบรับคำขอ และรับ Simba วัย 8 สัปดาห์เข้ามาอยู่ในการดูแล Simba ทั้งอายและกลัวเมื่อมาถึง Chatons Orphelins Montréal มันเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ในกล่อง ไม่นานหลังจากนั้นมันก็ถูกจับผ่าตัดทำหมัน ที่เหลือรอแค่สักคนพากลับบ้าน    …

หากคุณเป็นคนเลี้ยงสุนัข บางครั้งคุณอาจจะรู้สึกรำคาญที่พวกมันชอบเดินตามคุณไปทุกที่ จะออกไปไหนทีก็มักจะเห่าตาม แต่จริงๆ แล้ว สุนัขส่วนใหญ่ที่ทำแบบนั้นก็เพื่อเจ้าของของมันเองนั่นแหละ อย่างกรณีของ Jane Taylor ที่รับอุปถัมภ์สุนัขที่ชื่อ Nellie โดยไม่เคยคิดเลยว่ามันจะกลายเป็นผู้ช่วยชีวิตของเธอ     เรื่องราวนี้เกิดขึ้นใกล้กับ Enchanted Rock รัฐเท็กซัส ขณะที่ Jane กำลังปาร์ตี้กับเพื่อน ซึ่งเธอคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการปีนเขา หลังจากที่วางแผนแล้ว หญิงสาวกับเพื่อน Matthew Tilley พร้อมทั้ง Nellie ก็ออกเดินทางไปผจญภัยด้วยกัน แต่พวกเขาตื่นเต้นจนลืมคิดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง     ขณะที่ Jane Matthew และ Nellie กำลังเดินป่าอยู่นั้น พวกเขาได้พบกับสิ่งมีชีิวิตที่น่ากลัวและอันตราย มันคืองูหางกระดิ่งที่คร่าชีวิตนักเดินทางมานับไม่ถ้วน แต่โชคดีที่ทริปนี้มี Nellie และมันได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นสุนัขที่น่าทึ่งมากแค่ไหน โดยขณะที่ทุกคนกรีดร้องด้วยความตกใจ เจ้าตูบก็พุ่งเข้าไปหางูตัวนั้นทันที     จากนั้นก็เกิดการต่อสู้ระหว่าง Nellie กับงู โดย Jane พยายามหยุดการต่อสู้ เพราะกลัวเจ้าตูบจะเป็นอันตราย สุดท้าย…

มีคนมากมายที่ชื่นชอบสุนัขแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจหามาเลี้ยง เนื่องจากไม่แน่ใจว่าพร้อมจะดูแลพวกมันไหม พอเลี้ยงแล้วจะดีรึเปล่า เรื่องแบบนี้ถ้าไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ก็ต้องฟังประสบการณ์จากคนที่เลี้ยงผ่านมาก่อนนี่แหละถึงจะดี เราจะได้รู้ว่าพอเลี้ยงหมาแล้วชีวิตจะเป็นยังไงบ้าง     ในครั้งนี้เราจะมาฟังประสบการณ์จาก ​Károly Heinrich และแฟน พวกเขาเพิ่งเริ่มเลี้ยงเจ้าหมาตัวแรกตอนเดือนกันยายน 2018 เขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาอยากเลี้ยงหมาจริงๆ รึเปล่า แต่เขาก็รับเจ้า Pablo มาจากศูนย์พักพิงใกล้เคียงเพื่อลองหาคำตอบแล้ว     ตอนที่เขารับเลี้ยงมันมาตอนแรกมันตัวเล็กนิดเดียวเอง และมันก็ดูหวาดระแวงกับบ้านใหม่นิดหน่อย แต่ในช่วงแรกก็ต้องให้เวลาเจ้าหมาปรับตัวกันบ้างแหละ     ต่อมาพอเจ้าหมาเริ่มชินที่แล้วมันก็กลายเป็นหมาที่อยากรู้อยากเห็นและซนมาก เขาจึงเริ่มฝึกเจ้าหมาเพื่อให้มันรู้ว่าอะไรควรทำละอะไรไม่ควรทำ     ตั้งแต่มีมันเข้ามาอยู่ด้วยเช้าทุกวันของ Heinrich ก็เริ่มต้นด้วยความสดใส เนื่องจากเจ้าหมามารอเล่นกับเขาตั้งแต่เช้าแล้ว จากนั้นเขาก็จะพามันไปเดินเล่นในป่าใกล้บ้าน หรือบางครั้งเขาก็จะพามันไปเที่ยวเล่นในสวนสาธารณะ มันจะได้เจอเพื่อนหมาตัวอื่นด้วย     ได้ไปเที่ยวแล้วดูตื่นเต้นเชียว   พอมันเชื่องแล้วก็พาไปนอนในห้องนั่งเล่นได้   การเลี้ยงเจ้า Pablo ทำให้ Heinrich ได้ออกกำลังกายมากขึ้น เพราะต้องพาเจ้าหมาออกไปเดินเล่นเป็นประจำ หรือบางครั้งก็วิ่งเล่นกับมันเลย อีกหนึ่งสิ่งที่เขาพบว่าเขาชอบเวลาเลี้ยงหมา ก็คือการได้เห็นมันสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นครั้งแรกนั่นเอง ความรู้สึกนั้นคงเหมือนกับเวลาเราทำอะไรดีๆ ให้ลูก  …

ทางตอนเหนือของประเทศอเมริกา มีทางรถไฟเส้นหนึ่งที่ชื่อว่า Nevada Northern Railway ซึ่งเป็นทางรถไฟเก่าแก่ ซึ่งระหว่างทางนั้นจะมีพิพิธภัณฑ์เปิดให้คนเข้าชมประวัติศาสตร์เกี่ยวกับทางรถไฟนี้ด้วย แต่นอกจากจะมีรถไฟและทางรถไฟซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คนอยากเข้ามาชมความน่ารักของมัน นั่นก็คือเจ้าแมวเหมียว Dirt   https://www.instagram.com/p/Bw8UJRnnXNc/   ที่ที่เพื่อนๆ จะสามารถพบเจ้า Dirt ได้ก็คือพิพิธภัณฑ์ East Ely Railroad Depot Museum โดยเจ้าแมวมักจะป้วนเปี้ยนอยู่แถวห้องดูแลเครื่องยนต์รถไฟ เจ้าแมวไม่ได้มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าของ แต่มันก็อาศัยอยู่ที่นั่นมานานมากพอจะเรียกได้ว่าที่นั่นเป็นบ้านของเจ้าแมวไปแล้ว   https://www.instagram.com/p/Bw_A34AH8Lp/   Dirt มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือสีขนของมันซึ่งมีสีเหมือนฝุ่น ทำให้มันดูสกปรกเหมือนไม่ได้อาบน้ำมานานแสนนานทั้งๆ ที่จริงมันก็เนื้อตัวสะอาดแล้ว และก็คงเป็นที่มาของชื่อของมันที่แปลว่าฝุ่นเช่นกัน แต่สีขนมอมแมมๆ ของมันกลับเข้ากับสถานที่อย่างพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ดีเหลือเกิน เพราะว่าคนที่ทำงานดูแลรถไฟจะเปื้อนฝุ่นหรือถ่านจนดูมอมแมมเหมือนมันเลย   https://www.instagram.com/p/BsdynvPnA5R/   เริ่มแรกนอกจากคนในพิพิธภัณฑ์หรือคนที่เคยมาเที่ยวชม ก็ไม่มีใครรู้จักเจ้า Dirt หรอก แต่พอพวกเขาเริ่มโพสต์รูปเจ้าแมวลงบนโซเชียลมีเดีย เจ้าแมวก็เริ่มได้รับความสนใจจนกลายเป็นมาสคอตของที่นี่ไป มันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีคนมาเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เพิ่มขึ้นเยอะ เห็นได้ชัดเลยว่ามีคนให้ความสนใจมันมาก จากยอดไลก์ของรูปเจ้าแมวในเพจที่เทียบกับรูปรถไฟแล้วต่างกันอย่างลิบลับ   รูปรถไฟคนกดไลก์หลักร้อย ส่วนรูป Dirt คนกดไลก์หลักพัน https://www.instagram.com/p/Bw2woRwhsoy/…

พวกแมวมีข้อดีที่ชัดเจนอยู่หนึ่งอย่าง ก็คือถึงพวกมันทุกตัวจะรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกัน แต่พวกมันจะมีส่วนที่น่ารักทั้งนั้น หากคุณคิดว่าแมวไม่ได้น่ารักไปซะทุกตัวหรอก คุณก็ลองดูแมวพวกนี้แล้วพยายามไม่ตกหลุมรักมันดูละกัน แต่ขอบอกเลยว่าต้องพยายามมากหน่อยนะ เพราะการทำใจไม่ให้ตกหลุมรักแมวเป็นเรื่องยากมากๆๆๆๆๆๆๆ   หนวดเจ้าแมวม้วนจนดูเหมือนมันใส่แว่นตลอด   น้องแมวกลัวอะไรอยู่อ่า น่าเอ็นดู   แกรักษาสมดุลให้เก้าอี้ไม่ล้มได้ยังไง?   เจ้าแมวไม่ชอบกินผักหรอก แต่กินเป็นเพื่อนกระต่ายให้มันไม่เหงาเฉยๆ https://twitter.com/AwwwwCats/status/1125805235690188801   เจ้าแมวไม่รู้จักให้พื้นที่ส่วนตัวกันบ้างเลย…แต่แบบนี้ก็ดีนะ https://twitter.com/AwwwwCats/status/1126642555628732416   น้องงง กินแตนเข้าไปทำไม ปากบวมหมดเลย My cousin's cat ate a wasp and I cannot breathe pic.twitter.com/9nSW0ZFClI — Georgia Diebelius (@GJDiebelius) May 5, 2019   เหมือนว่าเขาจะคุยกันรู้เรื่องนะ https://twitter.com/AwwwwCats/status/1126563164089409537   พี่แมวลายสวยมาก จนเจ้าของต้องติดป้ายกันขโมยไว้ว่า “อย่าเอาผมไปเลย ผมมีลูกมีเมียต้องเลี้ยง” literally the most amazing…

ใครที่เลี้ยงไซบีเรียนคงจะสัมผัสได้ถึงความแสบซนของพวกมัน ชนิดที่ว่าดุก็แล้ว ตีก็แล้ว ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งพวกมันได้อยู่ดี จนเจ้าของต้องออกมาแฉวีกรรมของพวกมันผ่านโลกโซเชียลอยู่บ่อยๆ วินเทอร์ เป็นอีกหนึ่งไซบีเรียนที่มักจะสร้างเรื่องปวดหัวให้เจ้าของอยู่เสมอ โดยล่าสุด มันพาตัวเองขึ้นไปติดบนหลังคา แล้วดันลงเองไม่ได้ซะงั้น งานนี้ใครเดือดร้อนล่ะ ก็เจ้าของอีกนั่นแหละ     เรื่องของเรื่องคือ บ้านของเจ้าวินเทอร์เป็นตึก 2 ตึกที่อยู่ติดกัน โดยมีชั้นลอยติดกับดาดฟ้าของอีกตึกหนึ่ง ซึ่งในส่วนนี้จะมีพื้นที่ใกล้กับหลังคาอยู่     ด้วยความที่เจ้าวินเทอร์มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น ชอบลองอะไรใหม่ๆ และยังไม่เคยขึ้นไปบนจุดที่พื้นอยู่ใกล้หลังคา มันจึงตัดสินใจไปเดินสำรวจจุดนั้น โดยอาศัยจังหวะที่เจ้าของเผลอ หลังจากที่เดินสำรวจสักพัก มันก็ตัดสินใจกระโดดขึ้นไปบนหลังคา เพราะคิดว่าน่าจะมีอะไรน่าตื่นเต้นกว่า และแล้วมันก็ได้พบกับประสบการณ์น่าตื่นเต้นจริงๆ เพราะหลังจากที่ได้อยู่บนหลังคาปุ๊บ มันพบว่าตัวเองไม่สามารถลงมาเองได้     เมื่อลงไม่ได้ ทางเดียวที่มันจะรอดคือการร้องขอความช่วยเหลือ แม้จะรู้ว่าสุดท้ายแล้วจะโดนทำโทษก็เถอะ แต่ ณ จุดๆ นี้ มันต้องลงจากไอ้เจ้าหลังคาบ้าบอนี้ให้ได้ก่อน ทางด้านเจ้าของ เมื่อได้ยินเสียงสุนัขสุดรักสุดหวงร้อง ก็วิ่งไปตามเสียงของมันทันที ก่อนจะพบว่ามันไปติดแหงกอยู่บนหลังคา พร้อมทำท่าอ้อนวอนให้ช่วย     แน่นอนว่าการปีนหลังคาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เพื่อเจ้าตูบที่รักมากแล้ว เจ้าของยอมเสี่ยงชีวิตปีนขึ้นไปช่วยมัน เท่านั้นยังไม่พอ เขายังต้องคอยปลอบให้มันใจเย็นด้วย…

ช่วงนี้มีภาพของเสือดาวตัวหนึ่งที่ทำให้ชาวเน็ตต้องแหกตาดูแล้วดูอีก เพราะคนส่วนใหญ่มองยังไงก็ไม่เห็นเสือดาวสักตัว เนื่องจากมันพรางตัวได้เนียนขั้นเทพ ภาพถ่ายนี้ถ่ายโดยช่างภาพ Saurabh Desai เขาถ่ายเสือดาวตัวนี้ได้ในหุบเขา Spiti Valley ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ภาพนี้ทำให้เห็นชัดเจนเลยว่าความสามารถในการพรางตัวของเสือดาวหิมะนั้นน่าทึ่งมากๆ ถ้าตาไม่ดีจริงๆ คงมองหามันไม่เจอหรอก ไม่เชื่อก็ลองมองหามันด้วยตัวเองดูสิ     เผื่อว่าเพื่อนๆ ลองมองหามันนานแล้วยังไม่เจอก็ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะ เพราะว่าเพื่อนๆ อยู่ในกลุ่มคนส่วนใหญ่ที่มองหามันไม่เจอเช่นกัน แม้จะลองวงจุดที่เสือดาวหิมะพรางตัวอยู่ให้ดูกันแล้ว บางคนก็ยังมองไม่ออกอยู่ดี ชวนให้ชาวเน็ตพากันสงสัยว่าถูกหลอกให้มองหาทั้งที่ไม่มีเสือดาวรึเปล่า     เราจำเป็นต้องซูมกันเข้าไปใกล้มากๆ ถึงจะเห็นตัวเจ้าเสือดาวหิมะชัดเจน ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วก็อดชมมันไม่ได้เลยว่าพรางตัวเก่งโคตร แม้แต่คนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ใกล้กับพวกมัน ยังบอกเลยว่าเสือดาวหิมะที่ชาวท้องถิ่นเรียกว่า Shan นั้นมองหาตัวยากจริงๆ     Desai ซึ่งเป็นคนถ่ายรูปมันบอกว่า “ผมอยากให้ภาพของมันออกมาในแบบที่ชาวท้องถิ่นพูดถึงมัน พวกเขามักพูดว่าพวกเขาไม่เห็น Shan หรอก แต่ Shan จะมองเห็นพวกเขาเสมอ” เขาเล่าต่อว่า “ผมใช้เวลาเกือบ 3 ปีในการตามหาแมวใหญ่น่าทึ่งพวกนี้ พอผมได้เห็นมันใกล้ๆ ผมก็พูดไม่ออกเลยว่าพวกมันสุดยอดขนาดไหน”     ถ้าคุณหามันเจอเองก็ยินดีด้วยนะ คุณสายตาดีมาก ที่มา: the dodo

แมวเป็นสัตว์ที่มีความอยากรู้อยากเห็นสูง และเหนือสิ่งอื่นใดพวกมันก็รักอิสระด้วย บ่อยครั้งทาสแมวจึงหนักใจเมื่อพบว่าเจ้าแมวหนีออกจากบ้านแล้วไม่ยอมกลับมาหาสักที ถ้าคุณลองตามหามันหลายวิธีแล้วยังไม่ได้ผล ลองวิธีตามแมวกลับบ้านจากทาสแมวจากญี่ปุ่นดูสิ ถึงจะฟังดูแปลกแต่คนที่ลองทำแล้วบอกว่าได้ผลดีจริงๆ นะเออ     ทาสแมวชาวญี่ปุ่นซึ่งใช้ชื่อในทวิตเตอร์ว่า @charlie0816 ก็เพิ่งเจอปัญหาแมวหนีออกจากบ้านแล้วไม่กลับมาเช่นกัน แต่เขาก็พบเคล็ดลับในการตามเจ้านายที่ทาสแมวคนอื่นแนะนำมาให้ เขาเล่าว่า “แมวของผมหนีออกจากบ้านไป 2 วันแล้วยังไม่กลับมาเลย แต่คนหนึ่งในทวิตเตอร์บอกผมว่า ‘ลองบอกแมวจรจัดแถวนั้นว่า ถ้าเห็นแมวของฉันช่วยบอกให้มันกลับบ้านด้วย ดูสิ เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลดีนะ’ เมื่อคืนผมเลยลองไปที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ แล้วบอกแบบนั้นกับแมวจรจัดที่นั่นดู จากนั้นในตอนเช้านี้แมวของผมก็กลับมาอยู่ตรงหน้าบ้านจริงๆ…ได้ผลดีเกินไปไหม?”     ทวีตของ @charlie0816 ネコが2日前に脱走して帰ってこなかったのだけど「近所の猫に、ウチの猫見つけたら帰るよう言ってくれって言うの効く」ってツイッターで誰かが言ってたので昨日の晩、近くのコンビニに住み着いてる野良ネコにダメ元で言ったら今日の朝家の前まで帰ってきてたんだけど・・え、マジで効くのこれ？ — チャーリー(CV 石川佳典) (@charlie0816) May 6, 2019   ทวีตของเขาได้รับความสนใจอย่างมาก และก็มีหลายคนมาสนับสนุนว่าวิธีนี้ได้ผลดีจริงๆ พวกเขาเล่าว่า “แม่ฉันก็ทำแบบนั้นกับเด็กที่เพิ่งเอาแมวมาเลี้ยงได้ 2 วันแล้วหาย เธอเล่าเรื่องของเด็กคนนั้นให้แมวจรจัดฟัง แล้วเช้าอีกวันมันก็กลับมาเหมือนกันเลย” “ฉันออกไปตามหาแมวของฉันพร้อมกับอาหารแมวกระป๋องหนึ่ง ตอนที่ฉันเจอแมวจรจัดระหว่างทางฉันก็เอาอาหารให้มันกินแล้วพูดคุยกับมัน แค่ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นแมวของฉันก็กลับบ้าน”     “ตอนที่ฉันทำแมวหาย แมวจรจัดตัวหนึ่งผ่านมาที่บ้าน ฉันเลยถามมันว่า ‘รู้ไหมว่าแมวของฉันอยู่ที่ไหน’ มันร้องเหมียวตอบพร้อมเดินช้าๆ…

เจ้าแมวที่ถูกช่วยมายังเด็กอยู่เลย ถึงอย่างนั้นพอมันได้เจอลูกแมวที่เด็กกว่าจากฟาร์มเดียวกัน มันทำตัวเป็นพี่สาวที่ดูแลแมวตัวอื่นแล้ว ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษมีคนเอาแมวมาปล่อยทิ้งไว้มากมาย ถึงเจ้าของฟาร์มจะไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงไว้ แต่เขาก็ดูแลโดยการเอาอาหารให้พวกมันกินเสมอ     แต่เนื่องจากเป็นแมวที่ถูกเอามาทิ้งพวกมันจึงยังไม่ได้รับการทำหมัน พออยู่ไปนานๆ เข้าพวกมันก็เลยเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าของฟาร์มจึงต้องขอความช่วยเหลือจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Shuswap Paws Rescue ให้ช่วยแก้ไขปัญหาลูกแมวที่เพิ่มขึ้น     พวกเขาเริ่มการช่วยเหลือโดยการพาแมวทั้งตัวที่โตแล้ว และตัวที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานกลับไปดูแลที่บ้านอุปถัมภ์ เพื่อจะได้ช่วยรักษาโรคและทำหมันให้พวกมัน เจ้าแมวน้อย Bees ก็เป็นหนึ่งในแมวที่ถูกพามาดูแล ตอนพวกเขาเก็บมันมามันยังไม่โตมากนักแล้วก็ค่อนข้างอ่อนแอด้วย แต่พอถูกเอามาดูแล Bees ก็แข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว มันจึงมีแรงเหลือให้เล่นซนและเล่นกับอาสาสมัครแล้ว มันชอบอ้อนให้คนลูบมากๆ เหมือนกับต้องการให้ใครสักคนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา     ต่อมาไม่นานอาสาสมัครก็เอาลูกแมวอีกครอกมาจากฟาร์มแห่งเดิมอีก คราวนี้ได้ลูกแมวมา 2 ตัวที่เด็กกว่า Bees ซะอีก พวกมันน่าจะยังอายุไม่ถึง 2 อาทิตย์ ตอนที่พวกมันส่งเสียงร้อง Bees จึงเข้ามาดูพวกมัน แล้วพอมันดมกลิ่นลูกแมวทั้ง 2 ตัวมันน่าจะได้กลิ่นฟาร์มเก่าที่คุ้นเคย มันก็เลยนอนขดตัวด้วยกันกับลูกแมว แล้วก็เลียขนทำความสะอาดให้ซะด้วย     จากนั้นมา Bees ก็ทำหน้าที่เป็นเหมือนพี่สาวให้แมวน้อยทั้ง 2…

ข้างถนนเส้นหนึ่งของรัฐแมสซาชูเซตส์ มีลูกหมาป่าไคโยตีตัวหนึ่งอยู่ตามลำพัง มันน่าจะพลัดหลงกับแม่แล้วเดินมาจนถึงถนนที่รถพลุกพล่านแห่งนี้ นายตำรวจ Carlo Mastromattei เข้ามาเจอมันทันก่อนที่มันจะถูกรถแถวนั้นชน เขารู้ดีว่าถ้าไม่มีแม่หมาป่าดูแลมันก็น่าจะปกป้องตัวเองไม่ได้     เขาจึงรีบติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Ocean View Kennels เพื่อให้คนที่มีประสบการณ์ไปช่วยสัตว์ตัวน้อยออกมา ได้อย่างปลอดภัย Mastromattei รู้ดีว่าเขาควรจะพามันไปส่งให้กับศูนย์ควบคุมสัตว์ป่า แต่ตอนที่ช่วยมันเสร็จก็ดึกมากแล้ว ไม่มีศูนย์ดูแลสัตว์ป่าที่ไหนเปิดเลย และถ้าเกิดปล่อยมันทิ้งไว้มันก็จะเป็นอันตรายอีก     Mastromattei ก็เลยอาสาพาลูกหมาป่าไคโยตีกลับไปดูแลที่บ้านเอง แม้ว่าตอนนั้นจะเป็นเวลาเลิกงานของเขาแล้วก็ตาม เขากับแฟนสาวช่วยกันดูแลลูกหมาป่าให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกเขาช่วยป้อนอาหารให้มัน แล้วก็หาที่อุ่นๆ ให้มันพักผ่อน ลูกหมาน้อยดูจะชอบใจที่มีเตียงอุ่นๆ ให้นอนสักที     แล้วเมื่อถึงเวลาเช้าวันถัดมา Mastromattei ก็เป็นคนเอาลูกหมาป่าไคโยตีไปส่งที่ศูนย์ดูแลสัตว์ป่าด้วยตัวเอง เขาดูเป็นห่วงมันจริงๆ สัตวแพทย์ที่ได้ตรวจสุขภาพให้หมาป่าตัวน้อย บอกนายตำรวจว่ามันแข็งแรงดีและไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ซึ่งก็คงเป็นเพราะ Mastromattei ช่วยพามันไปดูแลก่อนหน้านี้นี่แหละ     ต่อจากนี้ทางศูนย์ดูแลสัตว์ป่าจะดูแลลูกหมาป่าไคโยตีต่อจนกว่ามันจะโต จากนั้นพวกเขาก็จะปล่อยมันกลับไปใช้ชีวิตเองต่อเมื่อถึงวัยที่มันดูแลตัวเองได้ หลังจากนั้นไม่นานทางกรมตำรวจเขียนคำขอบคุณให้กับเจ้าหน้าที่ Mastromattei อย่างเป็นทางการเลยล่ะ เพราะเขาทุ่มเทพลังช่วยเหลือมันอย่างเต็มที่ทั้งในหน้าที่และนอกหน้าที่นั่นเอง   ที่มา: the dodo

ร้านค้าหลายแห่งมีมาสคอตเป็นของตัวเอง บ้างก็เป็นตุ๊กตาหรือโลโก้น่ารักๆ ของร้าน หรือหมาแมวที่ทางร้านเลี้ยงไว้ ส่วนร้านซ่อมรถแห่งนี้อาจจะแปลกหน่อย พวกเขามีมาสคอตประจำร้านเป็น ‘ไก่’     เจ้าไก่ตัวนี้โผล่มาที่ร้านซ่อมรถ R and R Garage ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว คนในร้านคิดว่ามันน่าจะถูกคนเอามาทิ้งไว้ ด้วยความสงสารพวกเขาก็เลยให้เศษอาหารมันกินเป็นประจำ พวกเขาคิดว่ามันคงจะป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้แค่ชั่วคราว พอถึงวันหยุดยาวที่ไม่มีคนอยู่ให้อาหารมันก็คงจะไปที่อื่นต่อเอง แต่พวกเขาคิดผิด ตอนที่กลับมาทำงานหลังจบวันหยุดยาว เจ้าไก่ก็ยังอยู่ที่นั่นไม่ไปไหน พวกเขาก็เลยรับมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยงแล้วตั้งชื่อให้ว่า Earl     Earl มักจะนอนหลับอยู่บนต้นไม้ข้างๆ ร้าน แต่ถ้าวันไหนที่อากาศไม่ค่อยดี ช่างในร้านก็จะพามันมานอนข้างในร้านเลย ทุกเช้าเวลามาทำงานพวกเขาก็จะเจอ Earl มายืนรอต้อนรับอยู่แล้ว หลังจากต้อนรับทุกคนเสร็จมันก็จะเดินไปรอบๆ ร้านเป็นเหมือนที่ทำเป็นประจำทุกวัน     ในช่วงเช้ามันจะเดินไปตามซอกตามมุมต่างๆ เพื่อหาแมลงกิน บางครั้งมันก็บินเข้าไปในกล่องเครื่องมือที่อยู่สูงเช่นกันเผื่อว่าจะเจอแมลงหรือแมงมุมในนั้น พอหาอะไรกินเสร็จมันก็จะไปอยู่ใกล้ๆ กับคนในร้านโดยไม่แคร์เลยว่างานที่พวกเขาทำอยู่จะเสียงดังมากแค่ไหน มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของร้านอย่างเต็มตัวแล้ว     คนในร้านเองก็ชินกับมันกันหมด ถึงเจ้า Earl มันจะชอบนอนขวางหน้าประตูจนคนเดินสะดุดบ่อยๆ หรือเดินไปขวางทางทำงานของพวกเขาบ้าง พวกเขาก็ไม่ว่าอะไรมันแล้ว     เป็นมาสคอที่เดินเพ่นพ่านได้ทุกที่โดยไม่มีใครว่า  …

Annabelle Camp เป็นคนรักสัตว์ ดังนั้นตอนที่เธอเห็นหมาน้อยผอมโซอยู่ข้างทาง เธอจึงอดไม่ได้ที่จะจอดรถเพื่อช่วยมัน เธอตั้งชื่อมันว่า Mason แล้วพามันกลับไปดูแลที่บ้านด้วย แต่เธอก็รู้ดีว่าไม่สามารถเลี้ยงมันได้หรอก เพราะคุณยายของเธอต้องไม่อนุญาตให้เลี้ยงแน่นอน เธอจึงทำข้อตกลงกับคุณยายว่าจะขอเก็บมันไว้จนกว่าจะมีบ้านอุปถัมภ์ว่างให้มันอยู่ คุณยายจึงให้เธอเก็บมันไว้ในห้องเก็บของได้     แต่พอเจ้าหมาไปอยู่ในห้องเก็บของมันก็ป่วยอีกจนต้องเข้าโรงพยาบาล ครั้งนี้ Camp จึงอ้อนวอนคุณยายให้ยอมพา Mason มาเลี้ยงในบ้าน ในที่สุดคุณยายก็ตอบตกลงกับเธอเพราะเห็นใจหลาน แต่เธอดูก็รู้แล้วว่าคุณยายไม่ได้อยากให้มันเข้ามาอยู่ด้วยเลยสักนิด     แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณยายที่ไม่ชอบเจ้าหมานักหนา จะรอดชีวิตเพราะมัน…ในคืนวันหนึ่งหลังจาก Mason เข้ามาอยู่ในบ้านกับพวกเธอ มันวิ่งเข้ามาเห่าปลุก Camp ถึงในห้องนอน เธอเล่าต่อว่า “Mason โดดลงจากเตียงแล้วทำท่าทางเหมือนอยากให้ฉันตามมันไป มันวิ่งไปตามทางเดิน (ซึ่งมันรู้ว่าพวกเราห้ามมันเข้า) แล้วก็ตรงไปในห้องคุณยาย ฉันตามมันไปจนถึงในห้องน้ำของเธอ แล้วเห็นว่ามันยืนเลียหน้าคุณยายพร้อมกับทำเสียงหงิงๆ อยู่ เพราะตอนนั้นเธอหัวใจวายจนหมดสติไปแล้ว” การเตือนของเจ้าหมาทำให้ Camp ช่วยคุณยายได้ทันท่วงที…มันช่วยชีวิตเธอเอาไว้     หลังจากนั้นคุณยายก็เปลี่ยนท่าทีที่มีต่อเจ้าหมาไป ก่อนหน้านี้เธอไม่อยากสุงสิงกับมันเลย แค่ยอมให้มันอยู่ในบ้านด้วยก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว ทว่าตอนนี้เธอกลับมีท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส่ ตอนที่ได้นั่งอยู่ข้างๆ Mason บนโซฟาแล้วลูบหัวให้มัน ถึงคุณยายจะไม่ได้เอ่ยปากบอก แต่ตอนนี้เธอคงจะยอมให้ Camp…

ทุกวันนี้ยังคงมีคนเอาสัตว์ไปทิ้งไว้ตามข้างทางอยู่เรื่อยๆ การที่คุณได้เจอลูกแมวน้อยถูกทิ้งไว้ในกล่องจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณเจอกองทัพแมวเหมียวเกือบ 40 ตัวถูกทิ้งไว้รวมกันไว้ในกล่องเดียวก็คงมีตกใจกันบ้างล่ะ     ศูนย์พักพิงสัตว์ยินดีรับสัตว์ที่ไม่มีคนดูแลเสมอ ตราบเท่าที่กรงของพวกเขามีจำนวนมากพอรับไหว เพราะอย่างน้อยการรับพวกมันเอาไว้ก็ทำให้พวกมันมีเวลาได้หาเจ้าของมากขึ้น ศูนย์พักพิงสัตว์ Paris Animal Shelter เองก็เคยชินกับการที่มีคนเอาลูกแมวมาทิ้งไว้ให้แล้ว แต่พอหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับลูกแมวเต็มกล่องพวกเขาก็ตกใจมาก…พวกมันมีจำนวนมากถึง 39 ตัว!!     หญิงสาวคนนั้นเล่าว่าพวกมันไม่ใช่แมวของเธอเองหรอก มีใครบางคนเอากล่องใบนี้วางทิ้งในสวนหลังบ้านของเธอ เธอก็เลยพาพวกมันมาไว้ที่นี่ ที่น่าห่วงก็คือศูนย์พักพิงสัตว์ก็รับลูกแมวจำนวนมากขนาดนี้ไว้ดูแลไม่ไหวเหมือนกัน พวกเขาไม่มีที่ว่างมากพอสำหรับพวกมัน     แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทอดทิ้งพวกมันหรอก อาสาสมัครพยายามช่วยพวกมันอย่างถึงที่สุด โดยการขอความช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงแห่งอื่นให้ช่วยดูแลลูกแมวบางส่วนแทน แน่นอนว่าศูนย์พักพิงแห่งอื่นก็รับลูกแมวทั้งหมดไว้ไม่ไหวเช่นกัน กว่าลูกแมวทั้ง 39 ตัวจะมีที่อยู่หมดอาสาสมัครต้องติดต่อศูนย์พักพิงไปกว่า 10 แห่งเพื่อแบ่งลูกแมวกันไปดูแลเลยทีเดียว     โชคดีที่ลูกแมวทุกตัวไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไรมาก พอมีศูนย์พักพิงรับไปดูแลพวกมันก็เลยกลับมาแข็งแรงในเวลาไม่กี่วัน จากนั้นพวกมันก็ถูกกระจายตัวไปตามบ้านอุปถัมที่ยังว่างอยู่ ตอนนี้ลูกแมวแต่ละตัวยังเล็กอยู่เลย พวกเขาจึงต้องให้ความสนใจกับการเลี้ยงดูพวกมันก่อน แล้วถ้าพวกมันโตเมื่อไหร่ค่อยสนใจการหาบ้านให้พวกมันอีกที     การที่มีคนเอาลูกแมวตั้ง 39 ตัวมาทิ้งขว้างไว้แบบนี้เป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ก็น่ายินดีที่ยังมีคนอีกมากมายให้ความสนใจและยินดีช่วยให้พวกมันมีชีวิตที่สุขสบาย     ที่มา: the dodo

ไม่รู้ว่าเพราะพวกหมามันหิวมาก หรือว่าเพราะพวกมันกินข้าวมูมมามเป็นปกติ เวลาที่เราเอาข้าวให้พวกมันกินก็เลยเกิดความเลอะเทอะอยู่เป็นประจำ     ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีหมาที่มีกินข้าวเรียบร้อยอยู่หรอกนะ ถ้าหันมาดูมารยาทบนโต๊ะอาหารของพี่หมาชิบะตัวนี้บ้าง คุณอาจอยากเอาวิดีโอของมันไปเปิดเป็นแบบอย่างให้หมาที่บ้านดูเลยทีเดียว     ชิบะตัวนี้ชื่อว่า Purin มันอาศัยอยู่กับเจ้าของในประเทศญี่ปุ่น คนที่ติดตามดูอินสตาแกรมหรือทวิตเตอร์ของมันจะรู้ดีว่ามันมีมารยาทในการกินข้าวที่น่าชื่นชมมากๆ   https://www.instagram.com/p/BvaNAqRnKVo/?utm_source=ig_embed   เวลาที่ Teru Teru ซึ่งเป็นเจ้าของของ Purin ทำกับข้าวให้มันกิน เจ้าหมาจะนั่งรออย่างเรียบร้อยจนกว่าเจ้าของจะทำกับข้าวใส่จานเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นมันก็จะรอให้เจ้าของบอกให้กิน มันถึงจะค่อยกินข้าวด้วย นอกจากนี้เวลาที่มันกินข้าวมันก็จะค่อยๆ กิน ทำให้ข้าวของมันไม่หกเลอะเทอะเลย ดูๆ ไปแล้วมันกินข้าวเรียบร้อยกว่าคนซะอีก   https://www.instagram.com/p/BwrSC2xnAr0/?utm_source=ig_embed   ตอนเจ้าของทำกับข้าวให้ก็จะนั่งรอดีๆ ไม่เข้าไปแย่งดมหรือชิงกินข้าวก่อน   เวลาที่เจ้าของตักข้าวให้มันก็จะค่อยๆ กินจากช้อนแบบไม่ให้หกเลอะเทอะ   หรือแม้แต่ตอนที่กินเองก็สะอาดเรียบร้อยเช่นกัน เป็นเด็กดี๊เด็กดี   เห็นไหมล่ะว่า Purin เป็นเด็กดีที่กินข้าวได้เรียบร้อยมากๆ เลย แต่เจ้าของของมันก็ไม่ได้ทำกับข้าวให้มันกินแบบนี้ทุกมื้อหรอกนะ มื้อปกติทั่วไปมันก็จะกินอาหารหมาธรรมดานี่แหละ ซึ่งแน่นอนว่ามันก็กินได้สะอาดเรียบร้อยเหมือนเดิม ถ้าอยากให้หมาที่บ้านกินได้เรียบร้อยแบบ Purin บ้าง ว่างๆ ก็ลองเอาคลิปของมันเปิดให้หมาที่บ้านดูบ้างสิ ไม่แน่นะถ้าพวกมันแสนรู้พออาจจะสามารถเรียนรู้มารยาทบนโต๊ะอาหารจากเพื่อนหมาชิบะก็ได้  …

เป็นที่รู้กันดีว่าสุนัขมีความแสนรู้ซ่อนอยู่ทุกตัว แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดเลยว่ามันจะเล่นเกมยากๆ แบบเกมตึกถล่มได้ วีรกรรมนี้จึงทำให้มันดังระเบิด     ตั้งแต่ Ashley Agapiou รับเลี้ยงน้องหมาพันธุ์ลาบราดอร์ Remy มาอยู่ด้วยกัน เธอก็คิดว่าเจ้าหมามีบางอย่างที่พิเศษแล้ว มันชอบอวดสิ่งต่างๆ ให้เธอดูเสมอ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นของเล่นชิ้นโปรด หรือไม่ก็ของที่มันชอบอย่างกระดูก มันดูภูมิใจมากเวลาที่ได้โชว์สิ่งต่างๆ ให้เธอเห็น     ล่าสุดมันก็ได้แสดงทักษะการเล่นเกมส์แบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ในตอนนั้น Agapiou จัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ที่บ้านของตัวเอง แล้วนัดทุกคนมาดูการแข่งขันบาสเก็ตบอลด้วยกัน นอกจากนั้นเธอก็ยังเอาเกมตึกถล่ม (Jenga) มาตั้งไว้ในห้องรับแขกด้วย เผื่อว่าจะมีคนเบื่อการแข่งขันแล้วอยากหาอะไรทำฆ่าเวลาแทน แต่ทุกคนก็จดจ่ออยู่กับการแข่งจนไม่มีใครสนใจเกมเลย     จะมีก็แต่เจ้า Remy นี่แหละที่มานั่งด้อมๆ มองๆ เกมตึกถล่มอยู่ด้วยความสงสัย เนื่องจากมันไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนเลย ระหว่างที่ Agapiou กำลังจ้องมอง Remy อย่างเพลินๆ อยู่นั่นเอง จู่ๆ เจ้าหมาก็โชว์สกิลเกินหมา ดึงบล็อกไม้ออกมาได้สำเร็จโดยที่ตึกไม่ถล่ม ทำให้เธอและเพื่อนๆ แปลกใจมากเลย จากนั้นมันก็เอาชิ้นส่วนที่คาบได้ไปกัดเล่นอยู่ใต้โต๊ะอย่างภาคภูมิใจ มันคงชอบที่มีคนเห็นความเก่งของมันเยอะแบบนี้   https://www.instagram.com/p/BxG0ssfg2hl/?utm_source=ig_embed   แต่คนที่เห็นความเก่งกาจของมันไม่ได้มีแค่เพื่อนๆ…

ดูเหมือนหมาน้อยตัวนี้จะห่วงกินเกินไปหน่อย มันเลยไม่สนใจเลยว่าสภาพตัวเองดูน่าขำขนาดไหน ขอแค่ให้มันได้กินข้าวต่อจนหมดก็พอแล้ว หมาน้อย Apollo มีครอบครัวดูแลแล้ว พวกเขาเอาใจใส่มันอย่างดี แล้วก็คอยเติมข้าวให้มันไว้ในมุมหนึ่งของห้องครัวเสมอด้วย วันหนึ่งตอนที่มันวิ่งไปกินข้าว ดูเหมือนว่า Apollo จะไม่ทันระวังแล้วปัดชามข้าวเข้า ชามข้าวของมันก็เลยคว่ำจนอาหารหกไปอยู่ใต้ที่วางชาม เจ้าหมาน้อยซึ่งไม่สนใจอะไรนอกจากอาหาร ก็เลยมุดเข้าไปกินอาหารที่ตกอยู่ด้านในต่อ แต่ดูเหมือนว่าระหว่างที่มันพยายามอยู่นั้น มันก็เข้าไปติดอยู่ในช่องของที่วางชามข้าวซะแล้ว ภาพที่เห็นนั้นน่าขำจนครอบครัวของ Apollo ดูอยู่นิ่งๆ ไม่ไหว ถึงกับต้องหยิบกล้องออกมาถ่ายวิดีโอวีกรรมของมันเก็บไว้เลยทีเดียว แต่การที่ตัวของเจ้า Apollo เข้าไปติดอยู่ในที่วางชามก็ไม่ได้ทำให้มันลืมสิ่งที่สนใจอยู่สักนิด มันยังคงตั้งอกตั้งใจเลียอาหารที่กระจายอยู่บนพื้นต่อไป ไม่นานนักเจ้าหมาน้อยก็เลียกินอาหารบนพื้นจนสะอาดหมดจด แล้วมันก็เดินกลับไปหาคุณพ่อคุณแม่อย่างสบายใจ โดยเหมือนว่ามันจะไม่รู้ตัวว่ามีของชิ้นโตติดอยู่กลางตัวเลย แหม่น้องหมา Apollo นี่ก็เห็นแก่กินได้โล่จริงๆ เอาซะไม่สนใจสิ่งรอบๆ ตัวเลย ไม่รู้ว่ามันรู้ตัวรึป่าวว่าวีกรรมของมันได้ถูกบันทึกไว้แล้ว แต่อย่างน้อยนิสัยรักกินของมันก็สร้างเรื่องฮาๆ ให้คนที่เห็นยิ้มได้บ้างล่ะนะ  ที่มา: Daily Mail

ว่ากันว่าสัตว์เลี้ยงจะมีหน้าตาคล้ายกับเจ้าของ ทว่าเจ้าแมวตัวนี้ไม่ได้ดูคล้ายเจ้าของเลยสักนิด กลับกันมันดันไปหน้าคล้ายคนอื่นแทน แถมคนคนนั้นยังเป็นนักแสดงซะด้วย     เจ้าแมวเหมียว Marla ได้เข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ตั้งแต่เพิ่งเกิดได้ใหม่ๆ ถึงจะอยู่ที่นั่นนาน 2 ปีแล้วก็ยังไม่มีใครรับเลี้ยงมันไปสักที จน Jen Chavez ได้ไปเจอมันนั่นแหละ เธอก็เลยรับมันมาเลี้ยง บางทีการที่มันไม่มีคนมารับเลี้ยงเป็นเวลานาน อาจจะเป็นเพราะหน้าตามันค่อนข้างดูแปลกๆ เมื่อเทียบกับแมวตัวอื่นก็ได้     แต่พอ Chavez ได้สังเกตดูดีๆ แล้ว เธอพบว่าหน้าตาของมันเหมือนกับนักแสดงชาวอเมริกัน Steve Buscemi อย่างไม่น่าเชื่อ แถมมันยังไม่ได้แค่ดูเหมือนในระดับทั่วๆ ไปด้วยนะ หน้าตาของ Marla เหมือนกับ Buscemi ชนิดที่ว่าถอดแบบกันมาเลยทีเดียว   อะเทียบกันให้เห็นชัดๆ   หันข้างก็ยังคล้าย   มุมนี้ก็ยังคล้ายได้อีก   แต่นอกจากหน้าที่คล้ายคนมากกว่าแมวแล้ว Marla ก็เป็นแมวปกติทั่วไปนี่แหละ มันชอบเล่นซนกับแมวตัวอื่นๆ ในบ้าน แล้วก็ชอบใช้เวลาอยู่กับทาสด้วย Chavez เล่าว่า “เจ้าแมวมีนิสัยตลก อ่อนหวานและชอบเล่นซนกับแมวตัวอื่นๆ มันรักการกินแล้วก็ดูชอบใจตอนที่สามีของฉันร้องเพลงให้มันฟัง”     จนถึงตอนนี้…

เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ปี 2019 นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในเท็กซัส 2 คน ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการขโมยของที่ร้าน TJ Maxx ในเมืองอาร์ลิงตัน หลังจากวางสาย Adkins กับ Hillard ก็ไปขึ้นรถ เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านดังกล่าว แต่ระหว่างเดินไปที่รถนั้น ก็มีหญิงคนหนึ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือจากพวกเขา     ผู้หญิงคนนั้นบอกเจ้าหน้าที่่ว่ามีลูกแมวตัวเล็กๆ อยู่ใต้ท้องรถของเธอ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบแล้วก็พบใบหน้าเล็กๆ ของมิ้วน้อย 2 ตัวกำลังจ้องมาที่พวกเขา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลูกแมวน้อยก็เริ่มร้องเมี๊ยวๆ ดูเหมือนทั้งคู่จะรู้ว่าตำรวจมาที่นี่เพื่อช่วยพวกมัน     เจ้าหน้าที่ Adkins ได้เอื้อมมือเข้าไปคว้าลูกแมว และอุ้มพวกมันกลับไปยังรถของตัวเอง ทางหญิงเจ้าของรถบอกว่าเธอไม่ได้เลี้ยงแมว และไม่รู้ว่าแมวน้อยมาที่นั่นได้อย่างไร เมื่อกลับถึงรถ ลูกแมวทั้ง 2 กอด Adkins ไม่ยอมปล่อยเลย ดูเหมือนพวกมันจะติดใจและเริ่มผูกพันกับคุณตำรวจไปซะแล้ว     Adkins ได้พาแมวน้อยไปหมอเพื่อตรวจร่างกาย คุณหมอบอกว่านอกจากความหิวโหยแล้ว พวกมันมีสุขภาพดีมาก และยังบอกอีกว่าทั้งคู่น่าจะมีอายุต่ำกว่า 6 สัปดาห์ จากนั้น…

เมื่อไหร่ก็ตามที่อาสาสมัครจาก Hope for Paws เข้าไปมีส่วนร่วมกับภารกิจช่วยเหลือสัตว์ เราทุกคนรู้ดีว่าภารกิจนั้นมักจะประสบความสำเร็จด้วยดีเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน พวกเขาช่วยเหลือ Kona สุนัขที่ถูกละเลย และทำให้ชีวิตของมันลงเอยด้วยความสุขในแบบที่มันไม่เคยได้รับมาก่อน     เรื่องราวของ Kona เริ่มต้นขึ้นเมื่อเพื่อนบ้านเห็นเจ้าของไม่สนใจมัน แถมยังเอาไปล่ามไว้ข้างนอกนานนับเดือนราวกับเป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่ง จนเจ้าหมามีอาการหวาดกลัว และไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ เพื่อนบ้านจึงตัดสินใจติดต่อผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้พา Kona ออกจากบ้านหลังดังกล่าวนี้     เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พวกเขาก็พบกับปฏิกิริยาอันน่าทึ่งของ Kona เพราะมันไม่ได้ต่อต้านตามที่ได้รับแจ้ง แต่ตรงข้าม มันยอมให้ช่วยอย่างง่ายดายและกินอาหารที่พวกเอาให้ ราวกับมันรู้คนพวกนี้มาเพื่อช่วยมัน จากนั้น พวกเขาก็พามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ พร้อมทั้งอาบน้ำตัดขน จนกลายเป็นน้องหมาอีกตัวที่ดูสะอาดสะอ้านราวกับเจ้าหญิง     หลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือเพียงไม่กี่สัปดาห์ ก็มีครอบครัวใหม่ต้อนรับมันเข้ามาอยู่ในบ้าน และมันไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยของบ้านที่มีแต่คนรุมล้อมเพื่อมอบความรักให้ตลอดเวลา     ตอนนี้ Kona มีชีวิตที่มีความสุขมากๆ มันไม่ใช่ขยะของใครอีกต่อไปแล้ว   ที่มา weloveanimals

เมื่อ Metro Animal Care and Control (MACC) รับลูกแมวตัวเล็กๆ วัย 5 วันตัวหนึ่งมาอยู่ในการดูแล พวกเขาไม่คิดว่ามันจะรอด เพราะอาการของมันแย่ลงทุกชั่วโมง แมวน้อยจำเป็นต้องอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ เพื่อรับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ที่ศูนย์ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ Jade Beazley ซึ่งเป็นอาสาสมัครใหม่จึงอาสาพามันกลับไปดูแลที่บ้าน     Jade บอกว่า “แมวน้อยป่วยหนักมาก มันมีอาการติดเชื้อที่ตาทั้ง 2 ข้าง และได้กินอาหารไม่เพียงพอ ฉันไม่อยากตั้งชื่อให้มัน เพราะกลัวว่ามันจะไม่รอด เลยเรียกมันว่า Squirt“ เวลาผ่านไป Jade คิดว่าอาการลูกแมวน่าจะดีขึ้นแล้ว แต่อยู่ดีๆ มันก็ทรุดลงไปอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็น Squirt สู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี เธอก็มีแรงบันดาลใจในการสู้ไปกับมันเช่นกัน     Jade ได้ไปซื้ออาหารและของใช้จำเป็นทุกอย่างสำหรับแมวน้อย และมุ่งมั่นที่จะทำทุกทาง เพื่อให้ Squirt กลับมายืนด้วยขาตัวเองให้ได้ นอกจากนี้ เธอยังซื้อตุุ๊กตาที่หัวใจเต้นได้ให้มัน และให้นอนบนที่นอนที่ล้อมรอบด้วยแผ่นทำความร้อน…

ปกติแล้วงูไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ แต่ความซุกซนของงูน้อยตัวนี้ ทำให้มันได้อาบน้ำโดยไม่ได้ตั้งใจ แถมยังทำให้ตัวมันหอมฉุยไปด้วยกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มดาวนี่ เรื่องนี้เกิดขึ้นในบ้านของ Sanela Kamencic จากรัฐอิลลินอยส์ เธอได้นำผ้าไปปั่นทิ้งไว้ในเครื่องซักผ้าพร้อมใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มดาวนี่ตามปกติ แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือในเครื่องซักผ้ามีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ด้วย     กว่าเธอจะสังเกตเห็นงูตัวน้อยตัวนั้นก็ตอนที่เธอซักผ้าเสร็จแล้ว โชคดีที่มันดูไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แถมยังตัวหอมฉุยอีกต่างหาก แต่แน่นอนว่าถึงมันจะตัวเล็ก Kamencic ก็ตกใจกลัวมันอยู่ดี เธอจึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ Pedro Carrasco และเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ Jason Pound มาเพื่อเอาตัวมันไปตรวจกับสัตวแพทย์ต่อ     เจ้าหน้าที่ตำรวจ Carrasco เล่าให้ฟังว่าตอนที่พวกเธอไปถึงที่บ้าน เจ้างูยังอยู่ในเครื่องซักผ้าอยู่เลย แล้วมันก็ชะโงกหัวออกมาทักทายพวกเธอ ส่วนเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ Pound บอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจ้างูกลิ่นตัวเหมือนน้ำยาปรับผ้านุ่มดาวนี่ไม่มีผิด ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าบ้านนี้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อไหน     หลังจากที่ Carrasco และ Pound พามันไปหาสัตวแพทย์เรียบร้อยแล้ว พวกเธอก็ช่วยกันสืบหาดูว่าเจ้างูตัวนี้มาจากที่ไหนกันแน่ สักพักก็ได้ความว่าเจ้างูไม่มีพิษตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของเด็กวัย 12 ขวบที่บ้านอยู่ใกล้ๆ กับ Kamencic นี่เอง มันคงหนีออกมาจากตู้เลี้ยงตอนที่เจ้าของไม่ทันเห็น แล้วหลบเข้ามาอยู่ในเครื่องซักผ้าบ้านข้างๆ สำหรับตอนนี้เจ้างูได้กลับไปอยู่กับเจ้าของเรียบร้อยแล้ว และเขาก็คงจะได้กลิ่นหอมๆ จากตัวมันไปสักพักหนึ่งเลยทีเดียว    …

“ทำไมไม่ทำให้มันหลับไปตลอดกาลเลยล่ะ” นันคือคำพูดที่ Leslie Renner ผู้อำนวยการของ The Humane Society of Preble County ในรัฐโอไฮโอ ได้ยินครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อพูดถึงสุนัขที่ชื่อ Higgins Higgins เป็นสุนัขเยอมันเชพเพิร์ดสูงวัยที่อยู่ในศูนย์พักพิงมานานมาก แต่ทั้ง Renner และเจ้าตูบ ไม่เคยยอมแพ้ในการหาบ้าน     Higgins ถูกพาเข้ามาในศูนย์พักพิงตั้งแต่ยังเป็นลูกหมาตัวเล็กๆ แล้วมันก็ถูกรับเลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว แต่อยู่ในบ้านหลังนั้นได้ไม่นาน ก็มีคนส่งกลับมาที่ศูนย์อีกครั้งในปี 2012 Renner เล่าว่า “หลังจากที่ถูกรับเลี้ยงไป ประมาณ 1 ปีต่อมา ก็มีคนเดินเข้ามาในศูนย์พร้อมสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง มันคือ Higgins นั่นเอง” “ไม่มีใครตามหามันเลย ดูเหมือนเจ้าของไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำกับการหายตัวไปของมัน”     การที่ไม่มีสุนัขตัวอื่นอยู่ในศูนย์พักพิงนั้น ทำให้ Higgins รู้สึกสบายใจมากที่สุด เพราะนั่นหมายความว่าจะมีใครมาแย่งบ้านกับมันหากมีคนรับเลี้ยง Higgins ต้องรออย่างอดทนวันแล้ววันเล่า จนกว่าจะมีใครสักคนที่พร้อมจะรับเลี้ยงมัน แต่เวลาผ่านไป ก็ไม่มีวี่แววว่าฝันของเจ้าหมาจะเป็นจริง ใบหน้าของมันเริ่มแสดงถึงความกังวล โดยเฉพาะตอนอยู่ในกรงแล้วผู้คนเดินผ่านมันโดยไม่ทักทายมันเลย  …

ไม่มีใครรู้ว่า Blue สุนัขพันธุ์ผสมพิตบูลล์ตัวนี้เดินทางจากรัฐฟลอริดามายังรัฐมิชิแกนได้อย่างไร แต่มันลงเอยด้วยการไปอยู่ใน Humane Society of Midland County ที่มิชิแกนตอนกลางเมื่อเดือนมีนาคม ตอนแรก เจ้าหน้าที่คิดว่ามันเป็นหมาจรจัด แต่ปรากฏว่าในตัวมันมีไมโครชิปอยู่ เจ้าหน้าจึงโทรไปยังเบอร์ที่ระบุในไมโครชิป ก่อนจะมีหญิงจากฟลอริดาคนหนึ่งรับสาย     หญิงคนนั้นบอกว่าสุนัขของเธอหายไปเป็นสัปดาห์แล้ว เธอไม่รู้ว่า Blue เดินทางข้ามรัฐได้อย่างไร แต่เธออยากให้มันกลับมาหา ทางด้านพนักงานศูนย์ เมื่อรู้ว่า Blue มีเจ้าของ พวกเขาก็ตื่นเต้นมากๆ และอยากให้มันได้กลับสู่อ้อมกอดครอบครัว จึงได้โพสต์ถามในโซเชียลว่ามีใครสามารถขับรถพาเจ้าหมาไปยังฟลอริดาได้บ้าง     Logan Smith ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์ของ Humane Society of Midland County บอกว่า “มันน่าทึ่งมาก เพราะมีคนจำนวนมาก อาสาช่วยเราในเรื่องนี้”  สุดท้าย ผู้โชคดีที่จะได้เป็นคนขับรถพา Blue ไปส่งบ้าน ก็ตกเป็นของ Stephanie James เธอบอกว่า “Blue ต้องการกลับบ้าน ฉันเองก็ชอบฟลอริดามากๆ แถมยังชอบขับรถด้วย”  …

ผู้เลี้ยงสุนัขหลายๆ คน มักจะเปรียบเจ้าตูบเหมือนลูกน้อย แต่มันจะดีแค่ไหน ถ้าเหล่าลูกๆ 4 ขา ได้ใช้บริการสาธารณะเช่นเดียวกับเด็กๆ เพราะแบบนี้ Arat Montoya จึงตัดสินใจทำในสิ่งที่คนรักสุนัขหลายๆ คนใฝ่ฝันอยากทำ นั่นคือ Doggy School Bus หรือ รถโรงเรียนสุนัขนั่นเอง     Montoya อาศัยอยู่ในเวสต์ลินน์ รัฐโอเรกอน เขาได้เปิดบริการสำหรับสุนัชที่ไม่เหมือนใคร โดยทุกๆ เช้าเขาจะขับรถไปยังบ้านลูกค้า แล้วก็รับลูกหมาขึ้นรถตู้สีเหลืองของเขา จากนั้น เขาก็พาเหล่าลูกค้า 4 ขา ไปโรเรียน ซึ่งเป็นที่โล่งในเขตชนบทที่มีพื้นที่กว่า 12 ไร่ เพื่อให้พวกมันได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ อย่างอิสระ     Montoya ได้เริ่มทำธุรกิจของเขาในปี 2016 เพราะเขาเองก็เป็นคนที่รักสุนัขอยู่แล้ว และตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้ทำงานที่ Dog Club ในเวสต์ลินน์ หลังจาก Dog Club ปิดตัวลง Montoya ก็เริ่มทำงานกับลูกค้าส่วนตัว…

หมา 2 พี่น้องอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก พวกมันทั้ง 2 ตัวไม่เคยแยกจากกัน ถึงจะน่าเศร้าแต่ในเมื่อหาบ้านให้อยู่ด้วยกันไม่ได้พวกมันก็อาจจะต้องแยกกันอยู่ โชคดีที่มีคนเห็นใจและช่วยเหลือพวกมันไว้ได้ทันเวลา     พี่น้องหมาขาวดำคู่นี้มีพลเมืองดีจากประเทศอิหร่านไปเจออยู่ด้วยกัน ข้างๆ กันนั้นมีศพของแม่มันซึ่ถูกแทงจนตายนอนนิ่งอยู่ เธอเป็นห่วงอนาคตของหมาทั้ง 2 ตัวเนื่องจากหากอยู่อิหร่านต่อไปพวกมันก็ยังเสี่ยงถูกทำร้าย เธอจึงติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Dogs Without Borders ในประเทศอเมริกาเพื่อขอให้ช่วยพาพวกมันไปอยู่ที่นั่นแทน     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ยินดีรับพวกมันไว้ดูแล แล้วตั้งชื่อให้ว่า Han และ Solo…หมา 2 พี่น้องคู่นี้มีสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นมากแบบที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน พวกมันจะอยู่ข้างๆ กันเสมอ ไม่มีตอนไหนเลยที่พวกมันยอมอยู่ห่างจากกัน นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่พวกเขาตั้งชื่อให้มันตามคู่หูเพื่อนซี้ในหนังเรื่องสตาร์วอร์ส     ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์รู้ดีว่าทั้งคู่ไม่อยากแยกจากกัน จึงตั้งใจเปิดให้คนมารับเลี้ยง Han และ Solo ไปพร้อมกันทั้ง 2 ตัว แต่การเปิดรับเลี้ยงแบบนี้มีคนให้ความสนใจน้อยอยู่แล้ว ถึงพวกมันจะเป็นสุนัขที่เป็นมิตรกับคน ทั้งยังถูกฝึกให้ชินกับชีวิตในบ้านแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคนมารับเลี้ยงพวกมันเลย อันที่จริงแค่การหาบ้านอุปถัมภ์ให้มันอยู่ก็ยากมากแล้ว     พอเวลาผ่านไปนานเข้าทางศูนย์พักพิงสัตว์ก็เริ่มหมดทางเลือก พวกเขาจึงโพสต์หาบ้านให้พวกมันเป็นครั้งสุดท้ายว่า “พวกเราร้อนใจเป็นอย่างมาก แล้วก็ไม่มีทางเลือกเหลือแล้ว…

คนจากทั่วทุกมุมโลกพากันบอกว่าหมาเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของมาก ทว่า Jesse ไม่แน่ใจเรื่องนั้นเท่าไหร่ หลังจากเจ้าหมาที่เลี้ยงไว้รับส่วยจากหมีอยู่หลายครั้ง นี่คือเจ้าหมาพันธุ์มาสทิฟผสมชื่อ Brickleberry ที่ Jesse เลี้ยงเอาไว้ เขาเลี้ยงมันมาเองกับมือตั้งแต่แม่ของมันตายไปตอนคลอดมัน     แต่มันก็ทำเรื่องให้ Jesse หน่ายใจอยู่เหมือนกัน เขาเล่าผ่านทวิตเตอร์ว่า “เจ้าลูกชายขนฟูบ้าๆ ของผมมีงานต้องทำอย่างเดียวในช่วงกลางคืน คือเห่าไล่อะไรก็ตามที่มาบุกรุกให้หนีไป ง่ายใช่ไหมล่ะ? แต่!! หมีตัวหนึ่งเรียนรู้ว่าลูกชายขนฟูของผมสามารถซื้อใจได้ และนี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่มันรับกระดูกกวางเป็นส่วยแลกกับการให้เจ้าหมีเข้ามาคุ้ยขยะในบ้าน มันทำแบบนี้อยู่เรื่อยเลย!!”     ดูเหมือนว่าเจ้า Brickleberry จะเห็นแก่กินมากกว่าการปกป้องบ้านให้เจ้านายซะเลย แถมมันยังนอนกอดกระดูกที่ได้มาแบบไม่คิดจะปกปิดเลย     ได้กระดูกแล้วก็แทะเล่นอย่างเดียวเลยนะแก   ที่ Jesse รู้ว่าผู้ร้ายเป็นเจ้าหมี เนื่องจากเขาสังเกตดูจากร่องรอยความเสียหายของบ้านนั่นเอง ตัวโตและทำบ้านเละเทะได้ขนาดนี้ต้องเป็นหมีไม่ผิดแน่นอน     ในเมื่อเจ้าหมาทำหน้าที่บกพร่องหลายรอบแล้ว เขาคงไม่ไว้ใจให้เจ้าหมาเฝ้าบ้านต่อแล้วล่ะ ปล่อยให้มันนอนหลับสบายๆ ไปจะดีกว่า แต่ถึงมันจะเจ้าบ้านได้ไม่ดี Jesse ก็ยังรักมันอยู่เหมือนเดิมนะ อย่างที่เขาอธิบายถึงมันว่า “มันเป็นหมาพันธุ์มาสทิฟผสมฮาวด์มัท และมีความเป็นบีเกิ้ลอยู่ในตัวบ้าง มันเป็นเด็กดีที่สุด มันเข้ากับเด็กได้ดี…

มีคนมากมายที่สงสารและเห็นใจหมาจรจัดที่เจอ ทว่าคงมีน้อยคนที่ยอมหิวแล้วเสียสละข้าวของตัวเองให้พวกมันเหมือนกับชายคนนี้     คุณ ทศพร เลิศวิลัย เป็นชายคนหนึ่งที่มีใจรักสัตว์ ถึงเขาจะมีรายได้ไม่มากเขาก็ยังช่วยแบ่งข้าวให้สัตว์จรจัดอยู่บ่อยครั้ง เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายน 2019 ที่ผ่านมาคุณทศพรก็ได้ออกไปซื้อข้าวมันไก่พิเศษเพื่อจะเอากลับไปกินที่บ้าน แต่ระหว่างทางเขาเจอหมาจรจัดตัวหนึ่ง มันรูปร่างผอมติดกระดูก เขาเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารมันมากๆ เขาจึงยอมเสียสละข้าวเย็น ยกข้าวมันไก่ที่ซื้อมาให้มันไปทั้งกล่องเลย     เจ้าหมาได้อิ่มท้องมื้อนี้เพราะคุณทศพรล้วนๆ   เขานำเรื่องนี้ไปเล่าในกลุ่มเฟซบุ๊ก ‘รักหมา’ ว่า “ซื้อมาจะกินหลังเลิกงาน แต่ดู สภาพเอ็งแล้ว เอ็งต้องการข้าวมันไก่พิเศษกล่องนี้มากกว่าข้าวะ (หนังติดกระดูกเลย) เดี๋ยวข้ากินมาม่าก็ได้ กินให้หมดนะ #ให้ #หมาจร“ แน่นอนว่าชาวเน็ตต่างก็พากันชื่นชมและขอบคุณเขาที่ช่วยให้เจ้าหมามีข้าวกิน ก็จะไม่ให้ชมได้ยังไงล่ะ คงมีไม่กี่คนหรอกที่ยอมให้ตัวเองลำบากเพื่อให้เจ้าหมาได้อิ่มท้องแบบนี้     นอกจากเจ้าหมาตัวนั้นแล้ว คุณทศพรก็เคยช่วยเหลือสัตว์อีกหลายครั้งหลายครา อย่างล่าสุดในเฟซบุ๊กของเขาก็ได้โพสต์เรื่องที่เขาแบ่งอาหารให้แมวอีกตัวหนึ่ง ตอนนั้นเขาไปซื้อน้ำพริกปลาทูมาทานเป็นข้าวเย็น แต่พอเจอแมวที่ดูหิวโซแล้วเขาก็ใจอ่อน เลยยอมยกปลาทูให้มันไปเลย แล้วตัวเขาเองก็กลับไปกินน้ำพริกผักต้มกับข้าวเปล่าแทน     แกคงหิวมากกว่าฉันสินะ   งั้นเอาปลาทูไปกินเลย   คุณทศพรเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชมในเรื่องของความมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลก หากมีคนทำตามเขาเพิ่มขึ้นบ้างแม้เพียงไม่กี่คน ก็คงช่วยให้หมาและแมวจรจัดได้อิ่มท้องเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย   ที่มา…

หมาจรจัดมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก พวกมันมีจำนวนมากมายจนคนรักสัตว์ไม่สามารถช่วยได้หมด หลายครั้งที่คนช่วยต้องเลือกช่วยตัวที่ลำบากมากๆ ก่อน แต่เมื่อครั้งที่ Tamara Johnson ได้เจอกับเจ้า Basil ถึงมันจะลำบากไม่ต่างจากหมาจรจัดตัวอื่นที่เธอเคยเจอ เธอก็ตัดสินใจช่วยมัน เพราะในใจของเธอบอกว่านั่นเป็นสิ่งที่ควรทำ     เจ้า Basil เป็นหมาจรจัดที่ไม่มีแม่ดูแล ส่วนพี่น้องที่มันมีก็ถูกรถชนตายไป มันจึงอาศัยไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านแถวนั้นที่เอ็นดูมันเพื่อขอเศษอาหารกิน แต่ก็ไม่มีใครดูแลมันได้เต็มที่ ตอนที่ Johnson ไปเจอมันนั้น เจ้าหมายังอายุได้แค่ 2 เดือนเท่านั้นเอง แต่มันก็ขาดสารอาหารและผอมกร่อง มีเพียงช่วงท้องที่บวมออกมาเพราะว่าท้องอืด เธอกลัวว่าหากปล่อยมันไวแบบนี้มันจะเอาตัวรอดไม่ไหว     ก่อนที่ Johnson จะช่วยเจ้าหมามันมีอาการสั่นหวาดระแวงคน แต่เธอก็ตัดสินใจอุ้มมันไปขึ้นรถของตัวเองอยู่ดี เพราะตั้งใจว่าจะพามันไปให้สัตวแพทย์รักษา ทว่าพอ Basil ได้รู้ว่าเธอไม่ได้คิดร้ายกับมัน เจ้าหมาก็ทั้งอ้อนแล้วก็ซุกไซ้เธอยกใหญ่เลย มันคงเพิ่งเคยได้เจอคนที่มันไว้ใจได้เป็นครั้งแรก ในขณะเดียวกันการอ้อนของมันก้ทำให้คนช่วยมีกำลังใจช่วยมันเต็มเปี่ยม     Johnson เล่าว่า “ฉันเชื่อสนิทใจว่าที่มันอ้อนเป็นเพราะมันรู้สึกสบายใจมาก เหมือนกับว่ามันรู้ว่ามีคนจะมาช่วยมันแล้ว เจ้าหมาไม่ดิ้นหนีเลย มันเอาแต่ซุกตัวอยู่ในแขนฉันแล้วก็หลับปุ๋ยไป มันรู้ว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว”     การที่ Johnson ตัดสินใจพาเจ้า…

หลายคนอาจคงจะรู้จัก Brian May ในฐานะมือกีต้าร์ของวงดนตรีร็อกชื่อดังอย่างวง Queen ทว่าคงมีน้อยคนนักที่จะรู้จักเขาในมุมของคนรักสัตว์ตัวน้อยด้วย     May เป็นหนึ่งในสมาชิกของวงดนตรีร็อก Queen ร่วมกับเพื่อนๆ อีก 3 คน ลุ๊กของพวกเขาตอนอยู่บนเวทีนั้นดูเท่มากจนกลายมาเป็นขวัญใจของหลายคนเลยทีเดียว แต่ถ้าหากเราได้ไปเจอ May ตอนที่เขาอยู่ที่บ้านแล้ว เราจะพบว่าเขาเป็นคนรักสัตว์ที่มีนิสัยอ่อนโยนมากคนหนึ่งเลย โดยสัตว์ที่เขามักจะดูแลเป็นประจำก็คือเม่น     May ช่วยเหลือเม่นเป็นประจำมานานมากแล้ว หลังจากเขาเริ่มช่วยเหลือเม่นบ่อยเข้า เขากับ Anne Brummer ซึ่งเป็นคนรักเม่นเหมือนกัน ก็ได้ร่วมกันก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือเม่น Saving Grace Rescue Centre ขึ้น นอกจากนี้เขายังได้เปลี่ยนสวนหลังบ้านของตัวเองให้กลายเป็นที่พักฟื้นสำหรับเหล่าเม่นด้วย ในตอนนี้สวนหลังบ้านของเขามีเม่นอาศัยอยู่มากถึง 24 ตัวเชียวนะ     มอบสวนหลังบ้านให้พวกเม่นไปเลย   May บอกว่าการช่วยเหลือเม่นเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาทำแล้วมีความสุขมากที่สุดในชีวิตเลยล่ะ บางครั้งเวลาที่พวกมันต้องรักษาหรือผ่าตัดเขายังไปเฝ้าพวกมันถึงที่เลย     ตอนเม่นที่ดูแลต้องผ่าตัด May ก็ไปช่วยเป็นกำลังใจให้พวกมันด้วย   คนอะไรทั้งเก่งเรื่องดนตรี ทั้งดูดีมีแฟนคลับเยอะ แถมยังรักสัตว์และมีจิตใจงดงามอีก May เป็นคนรักสัตว์คนหนึ่งที่น่าชื่นชมมาก…

หมาชิบุสุนัขอีกพันธุ์หนึ่งที่มีคนชื่นชอบเป็นจำนวนมาก ด้วยความที่พวกมันมีขี้เล่นและแสนรู้ ทั้งยังมีหน้าตาดูดีไม่แพ้พี่ไซเลย ถึงโดยรวมแล้วชิบะจะดูน่ารักไปหมด แต่ก็จะมีบางตัวที่มีฐานแฟนคลับเยอะกว่าเพื่อนหมาชิบะด้วยกัน ซึ่ง Riri ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น มันมียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมเกือบ 50,000 คนเชียวนะ   https://www.instagram.com/p/BubE0jlg8-8/?utm_source=ig_embed   Riri เป็นหมาชิบะแสนซนจากประเทศญี่ปุ่นที่มีคนติตดามมาก เนื่องจากความกระตือรือร้นของมันมีมากพอชนะใจชาวเน็ตที่ผ่านมาเห็นได้ ถ้าเพื่อนๆ ลองตามไปดูชีวิตของมันในทวิตเตอร์ จะเห็นว่ามันซนมากเลยทีเดียว แต่นั่นก็เป็นความน่ารักอย่างหนึ่งที่ทำให้เราอยากตามดูมัน   https://www.instagram.com/p/Bu8aQvknhO4/   เมื่อไม่นานมานี้ Riri ก็ได้โชว์ความทะเล้นตามแบบฉบับชิบะให้เราได้เห็นอีกตอนที่มันไปเที่ยวทะเล ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมดจริงๆ   แค่นั่งถ่ายรูปเฉยๆ ก็สวยกินใจแล้ว https://www.instagram.com/p/BTLqLFOFxS9/?utm_source=ig_embed   ดูสิว่าเจ้า Riri มันตื่นเต้นขนาดมากไหนที่ได้ไปเที่ยวทะเล มันเอาแต่วิ่งเล่นไปทั่วหาดทรายแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย แถมทุกอย่างที่มันทำระหว่างที่เที่ยวทะเลอยู่ ก็ทำให้ผู้ติดตามได้เห็นความน่ารักของมันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักเกินห้ามใจ   https://www.instagram.com/p/BwAwuU5Ha5A/?utm_source=ig_embed   น้องชอบมุดหน้าลงไปในทราย น่ารักอะ งื้อ https://www.instagram.com/p/Bv567p9nAM1/?utm_source=ig_embed   แต่ตอนที่ Riri ดูน่ารักที่สุดในทริปเที่ยวทะเลครั้งนี้ ก็ไม่น่าจะหนีพ้นตอนที่มันว่ายน้ำท่าลูกหมาตกน้ำอย่างตั้งอกตั้งใจ ทั้งที่พ่อของมันยังไม่ทันหย่อนมันลงน้ำเลยแท้ๆ   น้องตีขารอว่ายน้ำแล้ว…

พบกับ Finn สุนัขตำรวจที่มาพร้อมเรื่องราวอันน่าทึ่ง ซึ่งเรื่องราวของมันนั้น PC Dave Wardell ผู้เป็นเจ้าของได้แชร์ผ่านรายการ Britain’s Got Talent ย้อนกลับไปในปี 2018 ขณะที่คู่หู Finn กับ Dave กำลังไล่ตามผู้ต้องสงสัยที่กำลังหลบหนี ทันใดนั้น ผู้ต้องสงสัยหันกลับมา และพยายามแทง Wardell ด้วยมีดความยาว 10 นิ้ว     แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ Finn กระโดดเข้าไปขวางหน้าคู่หู ทำให้ใบมีดของผู้ต้องสงสัยปักเข้าที่หน้าอกของมัน ที่แย่ไปกว่านั้น มันถูกแทงที่หัวด้วย อย่างไรก็ตาม Wardell สามารถใส่กุญแจมือผู้ต้องสงสัยได้สำเร็จ ก่อนจะโทรเรียกกำลังเสริม จากนั้น เขาก็รีบพา Finn ไปโรงพบาบาลสัตว์ทันที     Wardell บอกว่า “ร่างกายของ Finn ถูกเชื่อมต่อด้วยเครื่องจักรแทบจะทุกประเภท รวมไปถึงเครื่องช่วยหายใจ และภาพที่ผมเห็นคือ คู่หูผู้กล้าหาญของผมอาการสาหัสจนน่าใจหาย” โชคดีที่การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี และ Finn…

ในแต่ละวัน เราคงอยู่กับงานเดิมๆ กิจกรรมเดิมๆ จนทำให้รู้สึกเบื่อหรือหงุดหงิดได้ หากคุณรู้สึกเช่นนั้น ลองหาอะไรทำให้อารมณ์ดีสิ เราขอแนะนำวิธีที่ง่ายที่สุด นั่นก็คือ การดูภาพความน่ารักของสัตว์โลก และยิ่งถ้ามีเรื่องราวประกอบด้วยละก็ คุณจะยิ้ม หัวเราะ และในอารมณ์ดี แม้ในวันที่น่าเบื่อมากๆ อย่างทวิตต่อไปนี้   1. นุ้งหมาจิ้งจอกมาวิ่งเล่นที่ระเบียงหน้าบ้าน น่ารักซะจนอยากออกไปเล่นด้วย   2. นี่คือหมาเยอรมันเชพเพิร์ดแคระ ที่แม้แก่แล้ว แต่นางก็ยังดูเด็กเสมอ   3. หนุ่มใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการตามหากบที่ร้องเสียงดังในแอ่งน้ำข้างนอก และแล้ว เขาก็เจอมัน แฟนสาวเลยถ่ายรูปทั้งคู่ไว้เป็นที่ระลึก แต่ดูเหมือนเจ้ากบจะภูมิใจมากนะ ดูท่าโพสต์มันสิ   4. เคยเห็นมั้ย เหมียวเคาะประตูเพื่อขอเข้าบ้าน ช่างมีมารยาทจริงจริ๊ง   5. เหมียวตกหลุ่มรักแมวข้างบ้าน เลยพยายามทักทายกันผ่านกระจกทุกวัน เจ้าของเลยช่วยให้พวกมันสมหวัง   6. ตูบลูบแมวว่าเหลือเชื่อแล้ว เจอแมวกอดกลับ ถึงกับทึ่งเลยทีเดียวเชียว   7. เจอตัวหัวขโมยเครื่องสำอางแล้ว ที่ผ่านมาคิดว่าแฟนเป็นคนเอาไปทิ้งซะอีก โถๆ   8. คุณแม่โกนขนเท้าให้น้องหมา…

ในการแข่งขันโชว์ความสามารถของสุนัขแต่ละครั้ง นอกจากต้องภารกิจให้สำเร็จแล้ว ต้องทำเวลาให้ได้น้อยที่สุดด้วย เพื่อจะได้เป็นผู้ชนะ แต่เมื่อ Zeus สุนัขอิงลิช มาสทิฟฟ์ เข้าร่วมการแข่งโชว์ที่งาน Rocky Mountain Cluster Dog Show ในโคโลราโด มันได้ใช้ทักษะที่ทำเอาทุกคนยิ้มตาม     ความคล่องแคล่วของ Zeus ได้ถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายและถูกนำไปออกตามสื่อต่างๆ อีกมากมาย แต่ไม่ใช่เพราะมันได้ที่หนึ่งหรอกนะ… สิ่งที่มันทำให้ทุกคนเห็นระหว่างโชว์คือ ชีวิตคือความสนุก ดังนั้น มันจึงทำภารกิจทุกอย่างทีขั้น ค่อยเป็นค่อยไป และไม่รีบ แม้จะมีการจับเวลาอยู่     และแล้วในที่สุด Zeus ก็ทำภารกิจทุกอย่างได้สำเร็จ เวลาที่มันทำได้นะหรอก อย่าไปพูดถึงมันดีกว่า… เพราะตอนนี้ทุกคนต่างพูดถึงมันอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีใครสนใจว่ามันจะได้ที่เท่าไหร่     ผู้ชนคนหนึ่งบอกว่า “มันแกว่งหาง สนุกกับตัวเอง ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดนี่ เต็มไปที่เล้ยเจ้าหมายักษ์” อีกคนเสริมว่า “ฉันรักมัน ฉันชอบสิ่งที่มันโชว์วันนี้ 555” ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้มันได้กลายเป็นขวัญใจของผู้คนทั่วโลกไปแล้ว     สำหรับ…

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชายคนหนึ่งในลาสเวกัสได้ยินเสียงลูกแมวร้องไห้ เขาเลยตามหาต้นเสียงนั้น จนกระทั่งไปเจอลูกแมวน้อย 2 ตัว ซุกตัวอยู่ใกล้กับถังขยะ เขาจึงรับอุ้มเจ้าแมวน้อย 2 ตัวนั้นขึ้นมา และพาไปยังศูนย์พักพิงท้องถิ่น Hearts Alive Animal Rescue “เราพบว่าพวกมันมีอาการติดเชื้อในตา” Nikki Martinez อาสาสมัครของศูนย์กล่าว     ลูกแมวหิวมาก พวกมันมีแต่หนังหุ้มกระดูก และเนื่องจากพวกมันอยู่ใกล้ถังขยะ ส่งผลให้ 1 ใน 2 ตัวนี้ ติดเชื้ออย่างรุนแรงจนไม่สามารถลืมตาได้ Nikki ได้พาพวกมันกลับไปดูแลที่บ้าน เพื่อให้โอกาสพวกมันได้มีชีวิตที่ดีขึ้น     เมื่อมาถึงบ้าน เธอได้ทำให้ท้องที่ว่างเปล่าของพวกมันเต็มไปด้วยอาหาร จากนั้นก็อาบน้ำให้พวกมัน เพื่อล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย แม้จะสะอาดแล้ว แต่ลูกแมวยังต้องอาบน้ำอีก 2-3 รอบ เพื่อกำจัดกลิ่นเหม็นของขยะ จากนั้น Nikki ได้ตั้งชื่อมิ้วน้อยตัวสีดำว่า Piccolino และ Bambina ตัวขาว-ดำ     ลูกแมวดูเหน็ดเหนื่อยจากการถูกช่วยเหลือมาทั้งวัน แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งคู่ก็ดูมีความสุขที่ได้อยู่ในที่สะอาด…

ลำพังการเดินป่าคนเดียวก็ลำบากพอแล้ว แต่ Kyle Rohrig กลับเลือกที่จะพา Katana เจ้าชิบะอินุวัย 8 ขวบของเขาไปด้วย แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยงสูงก็ตาม ที่บอกว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะ Rohrig ตัดสินไปเดินป่าในเส้นทาง Florida Trail ซึ่งมีระยะทางกว่า 1700 กิโลเมตร และ Katana ก็เป็นหมาตาบอดด้วย อย่างไรตาม เขาคิดว่านี่เป็นความท้าทายที่จะทดสอบความอดทนและความพยายามมากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยทำในชีวิต       จริงๆ แล้ว นี่ไม่ใช่ประสบการณ์การเดินป่าครั้งแรกของ Katana เพราะช่วงที่เริ่มสูญเสียการมองเห็น มันได้ออกเดินทางกับ Rohrig เป็นระยะทางกว่า 3500 กิโลเมตร และในช่วงที่ตาซ้ายเป็นต้อ มันก็ได้ออกเดินทางอีกครั้ง ด้วยระยะทาง 2600 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ต้องหยุดการเดินป่าในระยะหนึ่ง เพื่อให้ Katana เข้ารับการผ่าตัด แต่ผลปรากฏว่าคุณหมอจำเป็นต้องผ่าตัดตาซ้ายของมันออก     กระทั่ง 2 ปีต่อมา ตาขวาของ Katana…

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว Hannah Elizabeth Strickland กับแฟนหนุ่มกำลังดื่มด่ำกับความสุขสบายท่ามกลางความเงียบสงบในบ้านเช่าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทของรัฐเทนเนสซี แต่ปรากฏไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคนที่ต้องการพักผ่อนในวันนั้น โดยขณะที่กำลังแช่น้ำอุ่นในอ่างส่วนตัวของที่พัก ทั้งคู่เห็นหมีดำเดินวนเวียนรอบๆ ระเบียง พวกเขารีบวิ่งเข้าบ้านทันที     จากนั้น ทั้งคู่ก็ได้แอบไปส่งหมีอยู่ที่หน้าต่างในห้องนอน ก่อนจะพบว่ามีลูกหมี 3 ตัว อยู่ที่ระเบียง สักพัก หนึ่งในลูกหมีก็สังเกตเห็นอ่างน้ำที่ Strickland เปิดน้ำร้อนเอาไว้ นั่นทำให้มันเกิดความสนใจขึ้นมาทันที     ขณะที่คู่รักกำลังสังเกตการณ์จากหน้าต่างๆ ลูกหมีที่มีความอยากรู้อยากเห็นก็หย่อนตัวลงไปในอ่างน้ำ เท่านั้นยังไม่พอ ระหว่างแช่อยู่ในน้ำ เจ้าหมีน้อยหลับตาพริ้ม และดื่มด่ำกับความสบายโดยไม่สนใจว่าใครจะมาเห็น     การเห็นหมีเพลิดเพลินกับการมานั่งแช่น้ำร้อนเช่นนั้น ทำให้ทั้งคู่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง “ฉันตกใจหนักมาก แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน มันเหมือนกับว่ากำลังดูตัวเองยังไงอย่างงั้น” Strickland บอก หลังจากที่แช่น้ำเป็นเวลาหลายนาที ก็ดูเหมือนเจ้าหมีจะถึงจุดที่อิ่มเอมกับการพักผ่อน มันจึงออกจากอ่างแล้วกลับไปรวมตัวกับหมีตัวอื่นๆ ก่อนจะเดินไปตามทางของตัวเองต่อไป     หลังจากเหตุการณ์นี้ Strickland ก็ตัดสินใจคลุมอ่างไว้ เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของแขกไม่ได้รับเชิญพวกนั้นอีก ซึ่งมันก็ได้ผลจริงๆ เพราะหมีได้กลับมาอีกครั้ง แต่เมื่อไม่เห็นอ่าง พวกมันก็เดินจากไปทันที แม้จะโดนรบกวนเวลาพักผ่อน…

คนทุกคนมีนิสัยแตกต่างกันไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องการเหมือนกัน คือคนที่เข้าใจเราและคอยอยู่เคียงข้างเราเสมอในยามที่เราเผชิญกับปัญหา และดูเหมือนว่าสำหรับเด็กชายคนนี้ คนที่ว่าเป็นเจ้าแมวขนปุยของเขานี่เอง Jayden Denton เป็นเด็กพิเศษซึ่งทำให้เขามีปัญหาเวลาเข้าสังคม เนื่องจากบางครั้งเขาไม่สามารถเข้าใจผู้อื่นได้ ส่งผลให้เขามีอารมณ์โมโหรุนแรงหรือเศร้าหนักมากๆ     คุณแม่ Tonya Denton เล่าถึงลูกว่า “ลูกชายของฉันมีปัญหาในการประมวลผลอารมณ์ และก็มีปัญหาอื่นๆ ใกล้เคียงกับปัญหาข้างต้น เวลาที่เขารับอารมณ์มามากเกินไปจนประมวลไม่ทันหรือไม่เข้าใจ อารมณ์ของเขาจะระเบิดออกมา บางครั้งก็ร้องไห้หนักจนไม่มีใครปลอบได้” Jayden จะมีปัญหากับการจัดการอารมณ์หลังเข้าสู่ภาวะนี้ทุกครั้ง จนกระทั่งครอบครัวได้รับเจ้าแมว Kitty เข้ามาเลี้ยง     Kitty ก็เป็นแมวทั่วไปเหมือนบ้านอื่นนี่แหละ มันชอบเล่นซนและขี้สงสัย บางครั้งก็ดื้อและเข้าใจยาก แต่มันรักและเป็นห่วง Jayden พอมันเห็นว่า Jayden ระเบิดอารมณ์ออกมาทีไร แทนที่มันจะหนีเตลิดไปด้วยความตกใจ มันเลือกที่จะอยู่เคียงข้างเขา แล้วปลอบใจจนเด็กชายสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ Tonya เล่าว่า “เราเริ่มเห็นว่า Kitty มักจะวิ่งไปหาลูกชายตอนที่เขาระเบิดอารมณ์ แล้ว Kitty ก็จะเลียหัวของ Jayden จนกระทั่งเขาใจเย็นลง นี่เป็นวิธีเดียวที่เรารู้ว่าจะช่วยให้ Jayden สงบได้”   ตัวอย่างครั้งหนึ่งตอนที่เด็กชายจัดการกับอารมณ์ไม่ได้ แต่มีเจ้าแมวคอยปลอบใจ  …

รู้สึกเหนื่อยบ้างไหมกับการที่เจ้านายขนปุยที่บ้านเอาแต่นอนรอให้เราเติมข้าวให้…บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าพวกมันลุกมาช่วยกันทำมาหากินบ้างก็คงจะดีไม่น้อย แต่ถ้าเกิดจะให้พวกมันไปทำงานจริงๆ พวกมันจะไปทำอาชีพอะไรได้บ้างล่ะ? ถ้าอยากรู้ก็ไปพบกับภาพฮาๆ ของเหล่าแมวเหมียวตอนกำลังทำงานที่ทาสพากันอวดได้เลย รับรองว่าแต่ละงานดูไม่ธรรมดา!!   ขายต้นกระบองเพชรจ้า เอาสักต้นไหม?   พี่เขาไม่ได้นอนเล่น เขากำลังทำหน้าที่เป็นพรีเซนเตอร์ที่นอนอยู่   เป็นแม่บ้านค่ะ จะให้ทำความสะอาด เลี้ยงเด็ก หรือทำกับข้าวก็ได้หมด   คู่นี้เป็นครูสอนดนตรี ถ้าอยากเรียนด้วยก็จ่ายมาเป็นปลาทูละกัน   เปิดธุรกิจปริ้นต์งานและรับถ่ายเอกสาร   เป็นพรีเซนเตอร์ยาสีฟัน โชว์ฟันขาวสะอาดให้ทาสเห็นกันชัดๆ ไปเลย   เป็นช่าง (ทำให้เราต้อง) ซ่อมรถมเตอร์ไซ   รับซักอบรีด จะเหมาจ่ายเป็นรายเดือนก็ไม่ว่ากัน   เป็นช่างรถยนตร์ช่วงล่าง ด้วยประสบการณ์นอนใต้ท้องรถมากว่าหลายปี เชื่อมือผมเถอะ!!   ใครอยากต่อทะเบียนหรือ พรบ. ขอให้มาทางนี้   เรียนหนังสือเก่งไม่เก่งไม่รู้ แต่ก็เลี้ยงควายได้   เป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์อาหาร   เป็นเด็กนั่งดริ้งขี้อ้อนก็ยังได้   ผันตัวออกมาเป็นพนักงานออฟฟิศบ้าง เซ็นเอกสารไม่เก่ง แต่เรื่องทำลายเอกสารขอให้บอก   เป็นแม่ค้าออนไลน์ นั่งส่องออเดอร์ทั้งวัน…

หากคุณได้ใช้เวลาร่วมกับสัตว์สักตัวหนึ่งสักพัก มันย่อมก่อให้เกิดสายสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างคุณกับมันขึ้น และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักแค่ไหน มันก็จะยังจำคุณได้อยู่เสมอ ช้าง Kirsty ถูกย้ายเข้ามาอยู่ในสวนสัตว์ Calderpark Zoo ในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสก็อตแลนด์ตอนช่วงปี 1980 ซึ่งตอนนั้นคนที่ดูแลมันอยู่ก็คือ Peter Adams     ชายหนุ่มกับเจ้าช้างสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว มันไว้ใจเขามากและเขาก็ดูแลมันอย่างเต็มที่เช่นกัน ทำให้ทั้งคู่รู้สึกผูกพันกัน แต่อยู่ด้วยกันได้ไม่กี่ปี ในปี 1987 เจ้า Kirsty ก็ถูกย้ายไปสวนสัตว์ Chester Zoo ทำให้มันต้องแยกกับ Peter ซึ่งเป็นคนดูแลของสวนสัตว์เดิม เท่านั้นยังไม่พอเจ้าช้างยังถูกย้ายไปที่สวนสัตว์ในเมืองดับลินเมื่อปี 1994 และถูกย้ายไปอยู่ในสวนสัตว์ที่ประเทศเยอรมนีอีกครั้งเมื่อปี 2005 ทำให้ Peter ตามข่าวไม่ทันว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่     จนกระทั่ง 35 ปีต่อมาเมื่อ Peter ลองใช้อินเตอร์เน็ตค้นหาข้อมูลดู เขาก็เลยรู้ว่า Kirsty อยู่ในสวนสัตว์ Neunkirchen Zoo ในเมื่อรู้ที่อยู่ของมันแล้ว เขาก็เลยอยากไปเยี่ยมเพื่อนตัวสำคัญดู โชคดีที่พอติดต่อคนดูแลสวนสัตว์แห่งนั้นไปแล้วเขาก็ยินดีให้ Peter เข้าไปเยี่ยมมันแบบใกล้ชิด ถึงอย่างนั้นเขากับมันก็ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว…

การใช้ชีวิตบนถนนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสุนัขจรจัดเลย พวกมันต้องคอยหาเศษอาหารเพื่อประทังชีวิต ต้องต่อสู้กับหมาจรด้วยกัน และต้องหาที่ปลอดภัยสำหรับพักพิง แน่นอนว่าหลายคนเห็นใจสุนัขเหล่านี้ แต่จะมีสักคนที่ลงมือช่วยเหลือพวกมัน?… นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องชื่นอาสาสมัครใน Animals Aid Unlimited      Animals Aid Unlimited เป็นหน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือสุนัขจรจัดทุกตัวในอินเดีย โดยไม่เลือกปฏิบัติ หนึ่งในนั้นคือ Bhaloo Bhaloo ถูกพบครั้งแรกบนถนนแห่งหนึ่ง ในสภาพที่มีหมัดเต็มตัวและหูของมันข้างหนึ่ง ติดเชื้ออย่างรุนแรง ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาโดยไม่มีใครเหลียวแลมันเลย     แต่เมื่ออาสาสมัครใน Animals Aid Unlimited ทราบเรื่อง พวกเขาก็ไปหา Bhaloo ทันที โดยเข้าหามันอย่างช้าๆ เพื่อให้มันไว้ใจ จากนั้นก็อุ้มมันกลับมาที่ศูนย์ บาดแผลที่หูของ Bhaloo ดูเหมือนจะได้จากการต่อสู้กับสุนัขตัวอื่น และทางเดียวที่จะทำให้มันรู้สึกดีขึ้นได้คือ การผ่าตัด     น่าเสียดายที่คุณหมอไม่สามารถรักษาหูข้างที่บาดเจ็บของมันไว้ได้ เพราะแผลของมันติดเชื้อเกินเยียว และจำเป็นต้องตัดออกเพื่อไม่ให้เชื้อลามไปถึงส่วนอื่นของร่างกาย การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี และหลังจากที่ Bhaloo เริ่มฟื้นตัว แม้จะรู้ว่าเสียหูไปข้างหนึ่ง แต่มันไม่คิดที่จะยอมแพ้ เพราะตอนนี้มีคนมากมายที่พร้อมที่จะมอบชีวิตที่ดีให้มัน…

ถ้าคุณคิดว่าชีวิตของคุณผ่านเรื่องเลวร้ายมามากแล้ว ลองมาดูเรื่องของนกแก้วตัวนี้ก่อน แล้วคุณอาจจะพบว่ามันผ่านความเจ็บปวดมามากกว่าคุณซะอีก เจ้านกแก้ว Freddy Krueger ถูกพบครั้งแรกตอนมันอยู่กับโจรลักลอบค้าสัตว์ ตอนนั้นโจรกำลังทำการหลบหนีจากตำรวจ และมีการเปิดฉากยิงปืนใส่กัน ตอนนั้น Freddy ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แล้วมันก็โดนลูกหลงจากการยิงปืนแลกกัน ทำให้จงอยปากด้านบนของมันเป็นแผล ทั้งยังมีรอยไหม้ที่ตรงกลางหน้าด้วย     แม้จะบาดเจ็บหนักและมีรอยแผลเป็นบนหน้า มันก็ถูกรักษาจนหายดี จากนั้นมันก็ถูกส่งไปอยู่กับสวนสัตว์แห่งหนึ่งในเมืองคาสคาวีล ประเทศบราซิล แล้วคนดูแลก็ตั้งชื่อให้มันว่า Freddy Krueger ตามตัวละครในหนังสยองขวัญที่ถูกไฟไหม้ใบหน้าจนเป็นแผลเป็นเช่นกัน     หลังจากผ่านเหตุการณ์ถูกยิงมาแล้ว คนดูแลคิดว่ามันจะมีชีวิตที่สุขสบายในสวนสัตว์ แต่ว่า 4 ปีต่อมาเจ้า Freddy ก็ผ่านเหตุการณ์เฉียดตายอีกครั้งเมื่อมีงูเข้าไปในกรงของมัน เจ้านกแก้วถูกงูกัดเข้าให้ที่ขา ถึงแม้ว่างูที่กัดมันจะไม่มีพิษ แต่ก็ทำให้มันเลือดออกเยอะมากเลยทีเดียว โชคดีที่ครั้งนี้มันก็ผ่านมาได้อย่างปลอดภัยอีกเช่นกัน     แต่ระหว่างที่มันกำลังรักษาตัวจากการถูกงูกัดอยู่นั่นเอง ก็มีโจรติดอาวุธ 3 คนบุกมาที่สวนสัตว์เพื่อขโมยสัตว์อีก นกหลายตัวรวมทั้ง Freddy ถูกกลุ่มโจรลักพาตัวไปและหลบหนีไปได้ ทว่าหลายวันต่อมา Freddy ก็ถูกพบอยู่บนต้นไม้ใกล้ๆ กรงของตัวเอง พวกเขาไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันหนีออกมาได้เอง หรือโจรทิ้งมันไว้เพราะมันมีแผลเป็น แต่ก็มีเพียงมันตัวเดียวเท่านั้นที่กลับมาได้    …

โดยทั่วไปแล้วชาวไร่ชาวนาจะเลี้ยงลาเอาไว้เพื่อใช้แรงงานในไร่ บ้างก้ใช้ให้พวกมันช่วยยกของ หรือบางทีก็ใช้พวกมันเป็นพาหนะ แต่ตอนนี้ดูเหมือนพวกมันจะมีงานใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ด้วยการผันตัวมาเป็นเด็กเสิร์ฟในงานสังสรรค์ต่างๆ แถมค่าตัวก็ดีไม่ใช่เล่นซะด้วย   https://www.instagram.com/p/BrlRen8gcsm/   เจ้าลาเด็กเสิร์ฟที่ว่าก็คือ Zoey และ Burrito นั่นเอง แต่พวกมันไม่ได้ออกมารับงานเสิร์ฟด้วยตัวเองหรอกนะ คนที่ช่วยพวกมันรับงานก็คือบริษัท Little Burro Events ที่เป็นเจ้าของพวกมันต่างหาก พวกมันจะไปให้บริการเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับคนที่ติดต่อมา(ส่วนมากก็จะอยู่ในประเทศอเมริกา) ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานเฉลิมฉลอง งานเลี้ยงรุ่น งานแต่งงาน หรืองานสังสรรค์ทั่วไปก็ตาม   https://www.instagram.com/p/Bo7Qgr4gRJC/   เวลาปฏิบัติหน้าที่ Zoey และ Burrito จะสะพายเป้ข้างตัวทั้ง 2 ข้างซึ่งใส่เครื่องดื่มต่างๆ เอาไว้ แล้วเดินเตร็ดเตร่ไปรอบๆ งานเพื่อให้แขกหยิบเครื่องดื่มจากตัวมันกันตามสะดวก แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าพวกมันจะเดินไม่เป็นที่เป็นทางเลย เพราะตอนทำงานพวกมันไม่ได้เดินตามลำพัง แต่จะมีคนดูแลเดินนำอยู่ 1-2 คนอีกด้วย   https://www.instagram.com/p/Bppw9Zlgc6i/   แค่มีพวกมันมาเดินป้วนเปี้ยนในงานก็เป็นการช่วยเสริมความน่ารักน่าชมให้กับงานเลี้ยงแล้ว นอกจากนี้ยังมีคนช่วยเสิร์ฟเครื่องดื่มเพิ่มอีกต่างหาก ดังนั้นการจ้างพวกมันมาจึงเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัวเลยนะ แต่ถ้าคุณอยากให้ Zoey และ Burrito มาเป็นสีสันในงานก็ต้องทุ่มทุนกันสักหน่อย…

การลาจากกับสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ลำบาก แต่ถ้ามีกำลังใจจากรอบข้างคอยหนุนช่วย โดยเฉพาะจากคนที่ไม่คาดคิด มันจะช่วยคุณได้มากเลยทีเดียว Joseph Inabnet อยู่กับหมาแสนรัก Bailey มานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงรักและผูกพันกับมันมากด้วยเช่นกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้มันก็ตายจากเขาไป     ตอนที่มันตายไป เขายังมีอาหารหมาที่สั่งมาจากเว็บไซต์อาหารสัตว์ chewy.com เหลืออยู่ที่บ้านอีกถุงใหญ่เลย แต่ในเมื่อเขาไม่มีเจ้าหมาอยู่ด้วยแล้ว เขาจึงคิดว่าจะเอาอาหารกลับไปคืน แต่พอติดต่อทางเว็บไซต์ไปแล้ว พวกเขาบอกว่าแทนที่จะเอาอาหารไปคืนเป็นเงิน พวกเขาขอให้ Inabnet เอาอาหารไปบริจาคแทนดีกว่าสุนัขตัวอื่นจะได้มีอาหารกินฟรี พร้อมกันนั้นทางเว็บไซต์ยังส่งเงินคืนให้เขาเต็มจำนวนด้วย นอกจากนี้อีกไม่กี่วันต่อมาทางเว็บไซต์ก็ได้ส่งจดหมายมาให้เขาอีกครั้งทั้งที่ไม่มีธุระกันต่อแล้วด้วย พอเปิดออกดูก็พบว่าทางเว็บไซต์ได้ส่งการ์ดพร้อมรูปวาดสีน้ำมันของเจ้า Bailey มาให้!!     โดยในการ์ดเขียนข้อความให้กำลังใจไว้ว่า “มันไม่ง่ายที่จะบอกลาสิ่งที่เรารัก แต่พวกมันก็จะอยู่ในความทรงจำของเราและถูกนึกถึงตลอดไป สัตว์เลี้ยงเข้ามาในชีวิตของเรา พร้อมกับทิ้งรอยเท้าไว้ในหัวใจและเปลี่ยนเราไปตลอดกาล พวกเราขอช่วยส่งความรักและความคิดบวกให้คุณ พวกเราอยากให้รู้ว่าถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ เรายังอยู่ตรงนี้เพื่อคุณเสมอ…ด้วยรัก จากครอบครัว Chewy”     Inabnet ไม่นึกเลยว่าร้านขายอาหารสัตว์ที่เขาอุดหนุนประจำจะใส่ใจลูกค้าคนหนึ่งมากขนาดนี้ เขาประทับใจกำลังใจที่ได้รับมากๆ ส่วนคนที่สงสัยว่าเว็บไซต์ไปเอารูปของเจ้า Bailey มาได้ยังไง…พวกเขาก็วาดมาจากรูปของเจ้าหมาที่ Inabnet เคยเอาไปโพสต์ไว้บนเพจของเว็บไซต์นั่นเอง     ชายหนุ่มซาบซึ้งใจในความใส่ใจของ chewy.com…

เมื่อไม่นานมานี้ Chatons Orphelins Montréal ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ได้รับการติดต่อเกี่ยวกับลูกแมวที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก มิ้วน้อยทักซิโด้ตัวนี้ถูกซื้อมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยง แต่เมื่อคนซื้อพามันกลับบ้าน ปรากฏว่ามันเริ่มมีอาการแย่ลงจนน่าตกใจ เธอพบว่ามันอายุน้อยกว่า 2 เดือน น้ำหนักน้อย และมีปัญหาทางเดินหายใจ     Celine Crom จาก Chatons Orphelins Montréal บอกว่า “มันถูกพรากจากแม่เร็วเกินไป และหลังจากที่ถูกพากลับบ้าน คนที่ซื้อไปเริ่มสังเกตเห็นว่ามันป่วย” อาการของมิ้วน้อยยังคงแย่ลงไปเรื่อยๆ กินอะไรเข้าไปก็อ้วกออกหมด ผ่านไป 5 วัน ก็ไม่มีวี่แววว่ามันจะดีขึ้น ในที่สุด เจ้าของก็ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจาก Chatons Orphelins Montréal     เมื่อมิ้วน้อยมาถึง Chatons Orphelins Montréal มันผอมมากจนเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก ทั้งยังมีภาวะขาดน้ำ และมีน้ำหนักเพียง 120 กรัม ทางเจ้าหน้าที่เริ่มให้การช่วยเหลือมันทันที เพื่อให้มันพ้นจากภาวะวิกฤตนี้ โดยเริ่มจากการให้ยาปฏิชีวนะและป้อนอาหารให้ผ่านไซริงค์ เพื่อรักษาชีวิตมันไว้ ตอนนี้ มิ้วน้อยมีชื่อว่า Poucet…

แมวขี้สงสัยที่มีชื่อว่า Mochi มักจะหมกมุ่นอยู่กับจอคอมพิวเตอร์และทีวีที่สีฉูดฉาด และเมื่อไหร่ก็ตามที่มันอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งใน 2 สิ่งนี้ มักจะมีอุบัติเหตุที่ทำให้ Jessica Schleider ผู้เป็นเจ้าของมีความสุขอยู่เสมอ     ทุกครั้งที่ Schleider ทำงาน Mochi จะขอเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยเสมอ และมันไม่ได้อยู่แป๊บๆ แต่จะอยู่ตั้งแต่เธอเริ่มทำงานจนกระทั่งงานเสร็จ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ Mochi เป็นแมวจรจัดที่ถูกพบบนรถบรรทุกของ UPS พร้อมลูกๆ ของมันอีก 2 ตัว จากนั้น มันก็ถูกรับเลี้ยงโดย Schleider และแฟนหนุ่มของเธอ ขณะที่ทั้งคู่ยังเรียนอยู่ในระดับบัณฑิตศึกษา     Schleider บอกว่า “มันติดใจแล็ปท็อปของฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ฉันคิดว่ามันได้เข้าไปดูหลายเว็บไซต์แล้วแหละ โดยเฉพาะช่วงที่มันงีบหลับ” ตอนนี้ Schleider เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่ Stony Brook University เธออุทิศตัวเพื่อทำการวิจัยด้านสุขภาพจิต โดยงานหลักของเธอคือการสมัครขอทุน ซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการทำวิจัย ล่าสุดนี้ เธอได้ส่งใบสมัครขอทุนที่มูลค่าสูงถึง 3 ล้านบาท ดังนั้น ก่อนส่งเธอต้องตรวจสอบอย่างละเอียดว่าไม่มีอะไรผิดพลาด  …

ลูกวัววัย 2 สัปดาห์ตัวหนึ่งป่วยและหิวโหยมาก มันถูกพบระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบฟาร์มที่มีการละเลยสัตว์ และมันจำเป็นต้องหาบ้านใหม่ เมื่อ Carly Henry ได้ยินเรื่องราวกับลูกวัวตัวนี้ เธอคิดว่ามันเป็นจังหวะที่เหมาะมาก เพราะเธออยากได้วัวมาตลอด และเธอนี้เธอก็พร้อมสำหรับการรับเลี้ยงแล้ว     สำหรับ Henry นั้น เธอเป็นเจ้าของ Carly’s Critter Camp ศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ที่อยู่นอกเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เธอช่วยเหลือสัตว์ทุกชนิดที่อยู่ในฟาร์มเธอตอนนี้ แต่สำหรับลูกวัวที่กำลังจะรับมานี้ มันยังเด็กมาก จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เจ้าวัวน้อยต้องอยู่ในบ้านของ Henry ซึ่งอยู่ถัดจากศูนย์เพียงเล็กน้อย ในบ้านนั้นมีทั้งสุนัข แมว และสามีของเธอ     นั่นหมายความว่าบ้านนี้จะมีสมาชิก 4 ขาเพิ่มมาอีก 1 ตัว ก่อนตัดสินใจ Henry พูดกับสามีว่า “เฮ้ ดูเจ้าเด็กน้อยนี่สิ” พร้อมกับเอารูปเจ้าวัวน้อยที่กำลังนอนห่มผ้าอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ให้เขาดู “ฉันอยากรับมันมาอยู่ด้วย และป้อนนมขวดให้มัน”      สามีของ Henry หยุดคิดสักพัก ก่อนจะมองหน้าเธอแล้วตอบว่า “โอ้ จะบ้าหรอ แต่ก็โอเคนะ…

รู้มั้ยว่าอุณหภูมิร่างกายตามธรรมชาติของสฟิงซ์นั้น มีความอบอุ่นมากกว่าแมวที่มีขนทั่วไปถึง 4 องศา? นี่คือเหตุผลว่าทำไมสฟิงซ์ถึงเป็นนักกอดที่ยอดเยี่ยมมากๆ เพื่อที่จะรักษาอุณหภูมิร่างกายให้อบอุ่นเช่นนี้อยู่เสมอ สฟิงซ์มักจะคลอเคลียเจ้าของตัวเองและกอดพวกให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่สฟิงซ์ต้องการกอด ไม่มีใครปฏิเสธพวกมันได้แน่ๆ โดยเฉพาะเจ้าย่นน้อยเหล่านี้ เห็นแล้ว มันน่าขยี้จริงจริ๊ง   เธอๆ ขอกอดหน่อยได้ป่าว?   ดูสิ หนูทำท่ายากแบบนี้ได้ด้วย   เพื่อนรักของน้อง   ความย่นนี่แหละคือเสน่ห์ ยิ่งย่นยิ่งน่าดึงดูด   หลับแป๊บ อย่าลุกไปไหนนะ   เป็นไงคะ เซ็กซี่พอมั้ย?   ไหนอะ ปลาที่แม่บอกจะซื้อมาให้   การผจญภัยประจำวันได้เริ่มขึ้นแล้ว อืมมม แก้วอยู่ไหนนะ…   งุ้ยยย ดูเจ้านางฟ้าตัวน้อยนี่สิ ใครจะต้านทานไหว   เบื่อ อยากออกไปผจญภัยแล้ว แม่ก็เอาแต่อุ้มอยู่นั่นแหละ   แป๊บนะ กำลังหาท่านอนที่เท่ที่สุดอยู่   จะไปทำงานอีกแล้วหรอ ไม่ไปได้มั้ยหง่า?   ถ่ายรูปหน้าตรง จะเอาติดใบสมัครเรียนอนุบาลหนึ่ง เป็นไง หล่อป๊าววว…

เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้มาเยือนลึกลับปรากฏตัวขึ้นที่น่านน้ำเปิดในแฮมเมอร์เฟสต์ ประเทศนอร์เวย์ มันคือวาฬเบลูกาที่มาพร้อมสายรัด ไม่มีใครรู้ว่าวาฬตัวนั้นมาจากไหน แต่เชื่อกันว่ามันน่าจะได้รับการฝึกฝนโดยกองทัพรัสเซีย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาฝึกให้มันเป็นสายลับ อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ถูกพบ มันก็ได้รับการปลอดปล่อยให้เป็นอิสระจากสายรัดนั้น     กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มีการค้นบุคลิกอันน่าทึ่งของวาฬในน่านน้ำเดิม ซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างเชื่อยาก หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง วันนั้น ขณะที่ Ina Mansika กับเพื่อนมุ่งหน้าไปยังแฮมเมอร์เฟสต์ เพื่อไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่ามีวาฬสายลับอย่างที่ถูกกล่าวขานหรือเปล่า     แต่แล้วก็มีสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจเกิดขึ้น วาฬเบลูกาไม่เพียงแค่โผล่มาทักทายพวกเขา แต่มันได้ช่วยเหลือ Mansika จากความผิดพลาดด้วย Mansika เล่าว่า “เรานอนราบลงกับพื้นเรือ และยื่นมือออกไป หวังจะได้แตะหรือลูบหัวมันเบาๆ แต่ฉันลืมไปว่าเก็บโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อ นั่นทำให้โทรศัพท์ร่วงลงสู่มหาสมุทรทันที่ฉันก้มลงไปนอน”     เธอเล่าต่อว่า “ฉันคิดว่าโทรศัพท์คงหายไปตลอดกาลแน่ๆ แต่แล้ว เจ้าวาฬเบลูกาก็ดำน้ำลงไป ก่อนจะโผล่มาอีกครั้ง พร้อมคาบโทรศัพท์ของฉันในปากของมัน” นั่นคือช่วงเวลาที่น่าทึ่งมากๆ และโชคดีที่เธอบันทึกวินาทีนั้นเอาไว้     Mansika และทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างกันตกลงตะลึง พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น “ฉันมีความสุขมาก และซาบซึ้งที่มันนำโทรศัพท์กลับมาให้ฉัน” หญิงสาวบอก แม้โทรศัพท์จะไม่สามารถใช้ได้แล้ว…

เมื่อ Justin Lansford กับแฟนสาว Carol Balmes ตัดสินใจแต่งงาน ฝ่ายชายอยากให้เพื่อนที่เขารักมากที่สุดเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว และเขารู้ทันทีว่าควรเลือกใคร…Gabe สุนัขบริการของเขานั่นเอง Justin ได้เจอกับ Gabe ครั้งแรกเมื่อปี 2012 ซึ่งปีนั้น เขาเป็นทหารประจำการอยู่ที่อัฟกานิสถาน โชคร้าย เขาได้สูญเสียขาข้างหนึ่งจากเหตุระเบิดแสวงเครื่อง เลยถูกส่งกลับสหรัฐฯ     แน่นอนว่าการสูญเสียนี้ทำให้สภาพจิตใจของ Justin แย่มาก และเขาต้องการใครสักคนที่ช่วยให้เอาชนะโรค PTSD (ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ) ดังนั้น เขาจึงติดต่อไปยัง Warrior Canine Connections ตอนนี้เองที่เขาได้พบกับ Gabe เจ้าตูบวัย 2 ขวบ และทั้งคู่ก็เข้ากันได้อย่างรวดเร็ว     ชายหนุ่มบอกว่า “เมื่อช่วยผมได้เยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นที่พึ่งหลักในเวลานั้นเลย เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมล้ม ผมจะจับมันไว้ เพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น”     ในปี 2014 Justin ตัดสินใจขอ Carol แฟนสาวที่คบกันมานานแต่งงาน…

การใช้ชีวิตบนท้องถนนเป็นเรื่องยากสำหรับสุนัขจรจัดในเมืองลิมา ประเทศเปรู เพราะที่นี่มีสุนัขจรจัดมากมายจนกลายเป็นความเคยชิน พวกมันจึงไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้คน แต่ไม่ใช่สุนัขจรจัดทุกตัวที่จะถูกเพิกเฉย อย่างกรณีของวัยรุ่นกลุ่มนี้ ขณะที่เดินอยู่บนถนนในเมืองลิมา พวกเขาเห็นภาพที่ทำให้ปวดใจมากๆ มันคือสุนัขจรจัดที่ถูกรัดติดกับล้อเลื่อน ที่สถานีรถไฟ จนไม่สามารถขยับตัวได้แม้เพียงนิดเดียว กลุ่มวัยรุ่นจึงรีบเข้าไปปลอดปล่อยมันเป็นอิสระ และหวังว่ามันจะสามารถดูแลตัวเองได้     กระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมา วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้มาเห็นสุนัขตัวเดิมอีกครั้ง มันถูกมัดติดกับล้อเลื่อนเหมือนครั้งแรกที่พวกเขาเจอมัน ดังนั้น พวกเขาจึงมุ่งมั่นทำให้มันหลุดพ้นจากอำนาจของคนที่ทำกับมันแบบนั้น พวกเขาพาสุนัขผู้น่าสงสารไปยัง Milagros Perrunos ศูนย์พักพิงเล็กๆ ที่ให้การช่วยเหลือสุนัขพิการ ซึ่งก่อตั้งโดย Sara Moran  Sara ได้ตั้งชื่อให้หมาตัวนี้ว่า Cabezoncito และจะตั้งใจจะให้โอกาสที่สองกับมันเร็วนี้     สิ่งแรกที่ Sara ทำคือ พา Cabezoncito ไปหาสัตวแพทย์ ที่นั่น เธอได้รับข่าวร้ายที่ทำให้รู้สึกปวดใจมาก คุณหมอบอกว่ามันป่วยหนัก มันบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ทำให้ไม่สามารถเดินได้ และขณะที่มันถูกมัดติดกับล้อเลื่อนนั้น มันต้องทรมานทุกครั้งที่ขับปัสสาวะ Sara รู้ดีว่าการรักสุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่เธอไม่สามารถทนเห็น Cabezoncito ทรมานแบบนี้ได้  …

ความจริงที่โหดร้ายสำหรับสัตว์เลี้ยงหลายๆ ตัวคือ พวกมันมักจะถูกทิ้งเมื่ออายุมาก มีปัญหาสุขภาพ หรือแม้แต่การมีรูปลักษณ์ที่ผิดปกติ Bjarni เป็นหนึ่งในสุนัขที่มีจุดเริ่มต้นชีวิตที่แย่ ก่อนจะลงเอยด้วยการอยู่ในการครอบครองของครัวที่ไม่ได้ใส่ใจความเป็นอยู่ของมัน จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้มีคนพบมันเดินเร่ร่อนอยู่บนถนนในฮันต์สวิลล์ ด้วยใบหน้าที่เสียโฉมอย่างรุนแรง   หน้าตาของมันไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวเท่านั้น แต่มันยังประสบปัญหาในการกินและหายใจอีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้หน้ามันเป็นแบบนี้ อาจเป็นเพราะมันถูกสัตว์ตัวอื่นโจมตี Bjarni มีฟันที่คดเคี้ยวและจมูกหายไปครึ่งหนึ่ง หลายคนที่เคยเจอมันได้ติดต่อเจ้าของของมันได้ แต่ทางเจ้าของตอบกลับมาอย่างเย็นชาว่า ‘ไม่ต้องการให้มันกลับมาหาแล้ว’ เมื่อ Anne Graber ผู้ร่วมก่อตั้ง St. Francis’ Angels ได้ทราบเรื่องของ Bjarni เธอจึงตัดสินใจรับมันเข้ามาอยู่ในการดูแล แต่โชคร้าย เจ้าตูบต้องผ่าตัดและเธอไม่มีเงินพอสำหรับส่วนนี้     อย่างไรก็ตาม ทาง Gulf Coast Veterinary Specialists ได้ติดต่อมายัง Graber แล้วบอกว่าพวกเขายินดีผ่าตัดให้สุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้มันมีสุขภาพที่ดีขึ้น หลังจากผ่าตัด ผลที่ได้ประสบความสำเร็จเกินคาด ใบหน้าของ Bjarni ได้รับการเปลี่ยนแปลงให้ดูปกติมากที่สุด มันสามารถกินได้ปกติและหายใจได้คล่อง     ตั้งแต่หายดี…

การได้แหวกว่ายในน้ำอย่างอิสระเป็นสิ่งที่เหล่าเป็ดชอบมากที่สุด แต่ถ้าเป็ดไม่เคยได้รับประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนล่ะ? มันคงจะเศร้ามากน่าดู เหมือนกับเป็ดเหล่านี้ที่ถูกขังอยู่ในเล้าแคบๆ และพวกมันไม่มีโอกาสได้ว่ายน้ำเหมือนเป็ดทั่วไป กระทั่งกลุ่มช่วยเหลือจาก Woodstock Farm Animal Sanctuary รู้เข้า จึงตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือพวกมันทันที     เมื่อไปถึงเล้าที่มีการขังเป็ดไว้ เจ้าหน้าที่ก็ได้ปล่อยพวกมันออกมา พร้อมต้อนพวกมันไปยังแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้ๆ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความสุขที่แท้จริงของเป็ดกลุ่มนี้     ทันทีที่ได้ลงน้ำ พวกเป็ดแหวกว่ายน้ำกับอย่างมีความสุข พร้อมกระพือปีกน้ำอย่างสนุกสนาม ท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเจ้าที่ที่มาช่วยพวกมัน ดูเหมือนนี่จะเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับพวกมันจริงๆ หรือจะเรียกว่าเป็นความฝันของพวกมันเลยก็ว่าได้ บางตัวเล่นสนุกจนไม่อยากขึ้นมาบนบกเลย     ทั้งนี้ สื่อไม่ได้เปิดว่าทำไมเจ้าของถึงขังเปิดเหล่านี้ไว้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ชีวิตของเป็ดผู้น่าสงสารเหล่านี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว ต่อจากนี้ พวกมันจะได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและได้ทำในสิ่งที่อยากทำเหมือนเป็ดทั่วไป     การมองดูเป็ดเล่นน้ำ อาจไม่ใช่เรื่องน่าประทับใจอะไร ต่างการจากมองเป็ดกลุ่มนี้ พวกมันทำให้คนดูมีความสุข อบอุ่นหัวใจ และร่วมยินดีกับพวกมัน     ช่วงเวลาที่เหล่าเป็ดได้รับอิสระครั้งแรกในชีวิต   ที่มา weloveanimals

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน มีคนพบแมวจรจัดเดินไปมาแถวห้างในท้องถิ่น กลุ่มช่วยเหลือแมวจากหลายหน่วยงานพยายามช่วยเหลือมัน ด้วยการนำกับดักไปวางตามจุดต่างๆ แต่แมวตัวนี้ฉลาดมาก มันเลยหลีกเลี่ยงกับดักได้มาตลอด ระหว่างนั้น เจ้าเหมียวเดินข้ามถนนไปมาหลายครั้ง มันไปยังร้านอาหารต่างๆ เพื่อขุดคุ้ยหาเศษอาหาร เมื่อพลเมืองดีคนหนึ่งเห็นรูปของมันที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เขาจึงไปหามันทันที     เมื่อไปถึง พลเมืองดีคนนั้นนำเกี๊ยวใส่ในกรงแมว และด้วยความหิว เจ้าเหมียวไม่สามารถต้านทานเกี๊ยวนั้นได้ มันจึงตัดสินใจยอมรับการช่วยเหลือจากมนุษย์คนนี้ ต่อมา เจ้าหน้าที่จาก Coastal Bend Cat Rescue ได้รับแมวตัวนั้นมาอยู่ในการดูแล และตั้งชื่อให้มันว่า Dumpling เมื่อตรวจร่างกาย พบว่า มันไม่ได้มาตัวคนเดียว แต่มันมีลูกในท้องด้วย     Lindsay Haglund ผู้ประสานงานอุปถัมภ์ของ Coastal Bend Cat Rescue บอกว่า “มันยังเด็กมาก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรกของมัน” และแล้ว วันต่อมา แม่แมวก็คลอดลูกน้อยออกมา 5 ตัว แต่รอดแค่ 4 ตัว โดยมีคนคอยช่วยทำคลอดและคอยเช็ดทำความสะอาดมิ้วน้อยให้ เพราะแม่แมวเหนื่อยเกินกว่าจะทำด้วยตัวเองทั้งหมด  …

คำเตือน: บทความนี้อาจทำให้คุณง่วงกะทันหัน จนอยากเทสิ่งที่ทำอยู่แล้วไปนอนยาวๆ หรือไม่ก็อาจทำให้คุณอยากซื้อแมวมาเลี้ยง หรืออาจจะเป็นทั้งคู่ เพราะนี่คือบทความที่รวบรวมภาพของเหล่าแมวเหมียวที่อยู่ในโหมดพักผ่อน นิ่ง และดูอบอุ่นมากๆ จนอดไม่ได้ที่จะทำอย่างพวกมันบ้าง   1. แม่แมวตัวกลมกอดลูกน้อยไว้แน่น งื้อ คงจะอุ่นน่าดู   2. และแล้วนางก็ค้นพบจุดที่อุ่นที่สุด   3. ถ้าเราคิดว่ามันพอดี มันก็จะพอดี   4. อุ่นพอไหม ถามใจเธอดู   5. อยู่ในกระถางส่วนตัว ใต้แสงแดดอ่อนๆ แค่นี้ก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว   6. นุ้งแมวหลับง่าย โดนแตะตัวเมื่อ หลับทุ๊กที   7. เจ้าตัวเล็ก ง่วงไหน นอนนั่น   8. จะบ่าย 3 แล้ว ตื่นได้แล้วจ้าพี่จ๋า   9. ถ้านอนคนเดียวไม่อุ่น มานอนด้วยกันได้นะ   10. สะดวกนอนตรงนี้อะ   11.…

Animal Aid Unlimited เป็นหน่วยงานที่ช่วยเหลือสัตว์ทุกกรณี ไม่ว่าจะยากและท้าทายแค่ไหน พวกเขาทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อให้สัตว์มีชีวิตที่ดีกว่า และหลายครั้งการช่วยเหลือของพวกเขาทำให้เรารู้สึกทึ่งมากๆ เรื่องราวของ Sparkle เป็นอีกหนึ่งภารกิจช่วยเหลือที่ประสบความสำเร็จ และเราควรขอบคุณทุกคนใน Animal Aid Unlimited ที่ทำเพื่อมัน     ย้อนกลับไปเมื่อผู้ช่วยเหลือจาก Animal Aid Unlimited ไปเจอ Sparkle ครั้งแรก มันมีเลือดออกจากปาก ซึ่งพวกเขาไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไร แต่หลังจากที่พา Sparkle ไปยังศูนย์ช่วยเหลือของพวกเขา พบว่า ขากรรไกรของมันถูกกระแทกจนหัก และพวกเขาต้องช่วยมันด่วนที่สุด มิฉะนั้นมันจะไม่สามารถกินอะไรได้     สัตวแพทย์ได้ทำการผ่าตัดและยึดขากรรไกรของมันด้วยลวด ขั้นตอนต่อไป พวกเขาได้แค่รอจนกว่าแน่ใจว่าการผ่าตัดผ่านได้ด้วยดี และหวังว่า Sparkle จะหายเป็นปกติ     ไม่เพียงแค่ปล่อยให้มันฟื้นตัวตามลำพัง แต่ระหว่างนี้พวกเขาคอยดูแลมันอย่างใกล้ชิด มอบความรักให้มัน และทำให้มันคุ้นชินกับมนุษย์มากขึ้น โชคดีที่ในที่สุด เจ้าตูบสามารถกินอาหารด้วยตัวเองได้อีกครั้ง มันทั้งซาบซึ้งและขอบคุณทุกคนที่ทำเพื่อมันในช่วงที่มันไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้     ทุกวันนี้ Sparkle ยิ้มได้อย่างมีความสุข…

เมื่อไม่นานมานี้ TinyKittens ศูนย์ช่วยเหลือจาก Fort Langley รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีเกี่ยวกับลูกแมวที่ต้องการความช่วยเหลือ พลเมืองดีคนนั้นบอกว่าเขาได้ยินเสียงร้องของพวกมันขณะที่มีพายุฝน ก่อนจะพบพวกมันอยู่ในกล่องกระดาษใกล้กับที่ทิ้งขยะ     ทางผู้ช่วยเหลือจึงรีบไปช่วยเหล่าแมวน้อยทันที ลูกแมวอายุแค่ 4 สัปดาห์ พวกมันร้องเมี๊ยวๆ และอ้อนขอความสนใจเมื่อผู้ช่วยเหลือมาถึง จากนั้น Shelly Roche ผู้ก่อตั้ง TinyKittens ได้รับลูกแมวมาอยู่ในการดูแลของเธอ โดยให้พวกมันอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอได้ตั้งชื่อให้พวกมันตามชื่อดอกไม้ ประกอบด้วย Snowdrop⁣, Snapdragon⁣, Azalea⁣, Clary Sage⁣ และ Dahlia⁣      ลูกแมวทุกตัวสุขภาพดี เป็นมิตร และมีน้ำหนักปกติ ดูเหมือนพวกมันจะเคยมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือ หลังจากที่รู้ว่าได้อยู่ในที่ปลอดภัย อบอุ่น และได้กินอาหารจนเต็มพุงแล้ว พวกมันก็ผล็อยหลับไปพร้อมกับเสียงเพอร์ดังสลับกัน     พี่น้องแมวน้อยยังคงอยู่ด้วยกันตลอดเวลา และให้ความอบอุ่นกันและกัน ที่บ้านหลังนี้มี Mason แมวที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากการเป็นแมวจรก้าวร้าว แต่ตอนนี้มันกลายเป็นคุณปู่แมวผู้น่ารัก อ่อนโยน และต้องการมอบความรักให้กับเหล่ามิ้วน้อยครอกนี้  …

ลูกแมวขี้อายมากๆ ตัวหนึ่ง โผล่มาบริเวณถิ่นแมวจรจัดในนิวยอร์ก เมื่อมันได้กินอาหารที่ชายคนหนึ่งเอามาให้ มันก็ตัดสินใจกลับมาหาเขาอีก… เรื่องนี้ เริ่มต้นเมื่อ Will Zweigart ผู้ก่อตั้ง Flatbush Cat ออกไปตรวจสอบแมวที่เขาเคยจับมาทำหมัน และทันใดนั้น เขาก็ได้พบแมวหน้าใหม่ตัวหนึ่ง     มันเป็นลูกแมวที่ขี้อายมากๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่ Will เดินเข้าไปใกล้ มันจะวิ่งหนีทันทีไปอย่างรวดเร็ว แต่มันก็ไม่ได้หนีไปไหนไกล และแล้ว ความหิวก็ทำให้มันกล้าพอที่จะร้องขออาหาร ทุกครั้งที่ Will ร้องเรียก เจ้าแมวน้อยจะตอบกลับมาด้วยเสียงเมี๊ยวอันน่ารักของมัน จากนั้น มันก็รวบรวมความกล้า เดินเข้าไปหาอาหารที่ Will วางไว้ให้     Will บอกว่า “มันเป็นแมวช่างพูดและกล้าสบตาคน ดูเหมือนว่ามันจะเคยเป็นแมวในบ้านมาก่อน แม้จะหิวมาก แต่ร่างกายของมันสะอาด ผมคิดว่ามันคงอยู่ข้างนอกได้ไม่นานเท่าไหร่” เมื่อ Will กลับมาอีกครั้ง แทนที่เจ้าเหมียวจะซ่อนตัวอยู่ในความมืด มันกลับเดินไปหาคนที่เคยให้อาหารมันอย่างง่ายดาย และหลังจากกินจนพุงแน่น มันก็ยอมให้เขาลูบตัวให้ด้วย     Will ได้ตั้งชื่อเจ้าเหมียวตัวนี้ว่า Chatty…

ในแต่ละวันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย อย่างกรณีของ Roger Pereira ที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้กระทำผิดตัวเล็กๆ ทำให้การจราจรติดขัดบนถนน US-101 ตอนใต้ของซานฟรานซิสโก เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ Pereira ก็พบว่ามีลูกสิงโตทะเลอยู่บนถนนฟรีเวย์ มันน่าจะอายุแค่ 10 เดือนเท่านั้น แต่โชคดีที่มีพลเมืองดีบางคนพยายามปกป้องมันจากรถที่วิ่งผ่านไปมา     Pereira บอกว่า “พลเมืองดียืนขวางสิงโตทะเลน้อย เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะเดินเข้าไปหารถที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว แต่ผมก็ไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าสิงโตจะมาโผล่อยู่บนนี้ได้ แน่นอน มันทำให้การจราจรวุ่นวายไหมด” อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าสิงโตทะเลน้อยตัวนี้ไม่รู้ตัวว่ากำลังสร้างความวุ่นวาย ด้วยการขัดจังหวะของผู้คนที่กำลังเดินทางไปทำงานในตอนเช้า มันดูไร้เดียงสาเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด ถึงแม้ตอนนั้นจะมีเสียงรถวิ่งผ่านและมีผู้คนล้อมรอบ แต่สิงโตทะเลน้อยดูไม่หวั่นเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันหันไปมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น     ไม่ว่าเจ้าสิงโตทะเลจะขึ้นมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไร ตอนนี้มันได้สร้างวุ่นวาย ดังนั้น Pereira ในฐานะตำรวจ ก็ต้องจับมันตามหน้าที่ แต่ไม่ได้ใส่กุญแจมือมันเหมือนคนร้ายทั่วไป เขาขับรถสายตรวจไปจอดข้างๆ สิงโตทะเลน้อย แล้วก็เปิดประตูออก… ขณะที่เจ้าอุ๋งน้อยก็ยอมแพ้อย่างเต็มใจ มันกระโดดขึ้นเบาะหลัง โดยไม่ต้องมีอะไรมาล่อเลย     ระหว่างที่นั่งรถนั้น สิงโตทะเลมารยาทดีมาก ไม่ได้ทำเสียงดังหรือสร้างความวุ่นวายเลย มันนั่งนิ่งจนกระทั่งมาถึงศูนย์ช่วยเหลือสัตว์  Peninsula…

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้นที่นอกบ้านหลังหนึ่งในเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ซึ่งแม้ไม่มีพยานอยู่ที่นั่น แต่กล้องวงจรปิดได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ Lisa Norwood จาก Animal Care Services บอกว่า “ในช่วงแรกของคลิป ดูเหมือนว่าสุนัขกำลังเดินเล่นกับเจ้าของ แต่แล้วเจ้าของคนนั้นก็พาเจ้าตูบไปหยุดอยู่ที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง” ขณะที่เจ้าของกำลังผูกสายจูงของเจ้าตูบกับเสาห่วงบาสเกตบอลนั้น เจ้าหมาก็รออย่างอดทนและแกว่งหางไปมาด้วยความตื่นเต้น     แต่เมื่อเจ้าของผูกสายจูงเสร็จและเดินจากไป ชะตากรรมของเจ้าตูบที่กำลังตื่นเต้นก็เปลี่ยนไป… “ความสุขนั้นทำให้มันสับสน และกลัวเมืองคนที่จูงมันมาเดินจากไป” Norwood บอก “ขณะที่ถูกทอดทิ้ง มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น มันพยายามวิ่งตามเจ้าของ แต่เพราะมีเชือกผูกเอาไว้ มันจึงทำได้แค่กระชากเชือกซ้ำแล้วซ้ำอีก”     นี่เป็นนาทีสะเทือนที่เจ้าตูบพยายามจะวิ่งตามเจ้าของ   เมื่อเจ้าของบ้านกลับมา ก็พบสุนัขแปลกหน้าถูกผูกไว้ที่หน้าบ้านตัวเอง โดยที่ไม่มีโน๊ตหรือหลักฐานอะไรที่สามารถบอกได้ว่าทำไมเจ้าของถึงทิ้งมัน พิตบูลล์ตัวนี้ถูกตั้งชื่อว่า Takis ในเวลาต่อมา มันถูกพาไปยังศูนย์พักพิงของ Animal Care Services ที่นั่น มันได้สร้างความประทับใจให้เจ้าหน้าที่อย่างเหลือเชื่อ     ช่วงแรกที่มาถึง Takis ยังคงสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีความน่ารักและขี้เล่นในเวลาเดียวกัน มันรู้วิธีนั่งและใช้สายจูงได้เป็นอย่างดี ซึ่งนั่นทำให้ทุกคนงงว่าเจ้าของทำกับสุนัขแสนดีแบบนี้ลงได้ยังไง แม้สถานการณ์ของ…

ลองนึกภาพดูว่าถ้ารูดอล์ฟมีจมูกที่เปล่งประกายและมีเขาวาววับ มันจะงดงามแค่ไหน… ซึ่งความงดงามนี้ สามารถพบได้ที่เมือง Rovaniemi ในแลปแลนด์ ประเทศฟินแลนด์ แต่รู้มั้ยว่าเจ้าของไม่ได้ทำให้เขาเรนเดียร์เรืองแสงเพียงเพราะให้มันงดงามในช่วงคริสต์มาสเท่านั้น แต่แสงที่เปล่งประกายนี้สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้     แม้ใครต่อใครจะบอกว่าแลปแลนด์เป็นดินแดนมหัศจรรย์ และเป็นบ้านของซาตาคลอส แต่ถ้าคุณไปเยือนที่นี่ด้วยตัวเอง จะรู้ว่ามันก็มีปัญหาเหมือนกัน ที่นี่จะมีอุบัติเหตุเกี่ยวกับกวางเรนเดียร์ 11 ครั้งต่อวัน โดยในแต่ละครั้ง ไม่คนก็กวางจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นมันจึงเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ทางการแลปแลนด์ต้องหาทางแก้ไข     ในขณะเดียวกัน Anne Ollila ผู้อำนวยการสมาคมเลี้ยงกวางเรนเดียร์ของฟินแลนด์และเจ้าของกวางเรนเดียร์ตัดสินใจใช้แสงสว่างในการแก้ปัญหา พวกเขาใช้สีเรืองแสงทาที่เขากวางเรนเดียร์ ทำให้พวกมันดูโดดเด่นในเวลากลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติต่างๆ ไม่ว่ากวางชนคน หรือรถชนกวาง     ปรากฏว่าไอเดียของ Anne ประสบความสำเร็จ เพราะหลังจากที่ทดสอบนำสีเรืองแสงทาบนเขากวางเรนเดียร์ อุบัติเหตุก็ลดลงไปมาก อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เกิดจากผู้คนไม่ชะลอรถเมื่อเห็นกวาง แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาเห็นกวางในระยะใกล้เกินกว่าจะชะลอทัน แต่นับตั้งแต่มีการทาสีเรืองแสง ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นกวางได้ในระยะไกล จึงทำให้ระวังมากขึ้น     วิธีนี้เป็นการช่วยชีวิตทั้งคนและกวางที่เป็นเอกลักษณ์ของแลปแลนด์ แต่ไม่ใช่แค่ในแลปแลนด์เท่านั้น เมืองไหนที่มีการอยู่ร่วมกับสัตว์ ก็สามารถนำไอเดียนี้ไปใช้ได้เหมือนกัน เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้     โดดเด่นแม้ยามราตรี…

Aase เป็นสุนัขอิงลิชบูลล์ด็อกที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคข้อเท้าอักเสบตั้งแต่ยังเป็นลูกหมาตัวเล็กๆ โรคนี้ทำให้มันรู้สึกเจ็บปวด ใช้ชีวิตลำบาก และไม่สามารถขึ้นลงบันไดในบ้านได้ อย่างไรก็ตาม แม่ผู้เฉลียวฉลาดของ Aase ได้หาทางช่วยเหลือมันด้วยวิธีที่น่าสนใจและยอดเยี่ยมมากๆ     Aase อาศัยอยู่กับครอบครัวในเดนมาร์ก โดย Pia Hjelmsø ผู้เป็นแม่ รักเจ้าตูบมากๆ และไม่มีอะไรที่เธอไม่สามารถทำให้ลูกน้อย 4 ขาตัวนี้ไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่งานช่าง     Pia ได้รับความช่วยเหลือจาก Lars Trillingsgaard ในการทำให้ Aase มีความสุขมากขึ้นอีกนิด ด้วยการทำกระเช้าเลื่อนขึ้นลงระหว่างชั้น 1 กับ 2 ของบ้านให้มัน ที่ยอดเยี่ยมไปกว่านั้นคือ กระเช้ามีลักษณะเหมือนรสบัสของชั้นของลอนดอน     เมื่อผู้คนได้ดูวิดีโอที่ Aase ทดลองใช้กระเช้าเลื่อน ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเป็นอะไรที่น่ารักที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา และแน่นอน คลิปนี้ถูกแชร์ให้โลกโซเชียลอย่างรวดเร็ว บางคนได้รับแรงบันดาลใจจากไอเดียนี้ ในการทำอะไรบางอย่างเพื่อสัตว์เลี้ยงของพวกเขาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญ พวกเขาชื่นชม Pia ผู้เป็นเจ้าของไอเดียด้วย     เมื่อลงกระเช้าไปถึงชั้นล่าง…

เจ้าเหมียวพาลูกแมว 3 ตัว กลับมาที่บ้าน แต่ทั้ง 3 ตัวไม่ใช่ลูกของมัน… เมื่อ 3 เดือนก่อน Barb Gosselin ผู้ก่อตั้ง  Shuswap Paws Rescue ได้รับแจ้งจากหมู่บ้านเล็กๆ ในบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เกี่ยวกับลูกแมว 3 ตัวที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ เธอจึงติดต่อไปยังผู้หญิงที่มีลูกแมว 3 ตัวนั้นอยู่ในบ้าน และได้รู้ว่าแมวของหญิงคนนั้นได้คาบลูกแมว 3 ตัว เข้ามาทางประตูแมว และเอามาวางไว้ที่เตียงของเธอ     หญิงคนนั้นตกใจมาก เธอจึงรีบออกไปดูข้างนอก แต่ไม่พบร่องรอยของแม่แมวเลย และไม่รู้ด้วยว่าจะไปตามหาแม่แมวที่ไหน เธอรู้ดีว่าแมวของเธอไม่สามารถดูแลลูกแมวพวกนี้ได้แน่ๆ Barb กับ Kelsey Mcknight อาสาสมัครของศูนย์จึงไปที่หมู่บ้านนั้นเพื่อรับลูกแมวมาดูแล Kelsey บอกว่า “เมื่อเราไปถึงที่นั่น เราพบลูกแมวขี้กลัว 3 ตัว ซ่อนตัวอยู่ใต้เตียง”     ลูกแมวทั้ง 3 ตัว ขี้ระแวงมาก…

ปกติการหาบ้านให้แมวในศูนย์ในสหรัฐอเมริกาเพียงแค่ตัวเดียวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากแล้ว และหากแมวสองตัวไม่สามารถแยกออกจากกันได้ การให้บ้านให้พวกมันยิ่งยากขึ้นไปอีก เหมือนกับแมวในบ้านอุปถัมภ์ที่รัฐฟลอริด้า 2 ตัวนี้ ที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกมันจะไม่ปล่อยมือจากกันเด็ดขาด     พวกมันจับมือกันและกัน   ดูเหมือนว่า Lily (แมวผสมวิเชียรมาศ) กับ Rosa (แมวตัวสีดำ) จะถูกลิขิตให้เกิดมาเพื่อกันและกัน   Andrea Christian ผู้อุปถัมภ์จาก St. Francis Society Animal Rescue เล่าถึงจุดเริ่มต้นของทั้งสองตัวว่า “Rosa มาหาฉันในสภาพที่ผอมมากและมันทำให้ฉันรู้สึกเศร้า” “ฉันวันต่อมามีคนโทรมาบอกฉันเกี่ยวกับลูกแมวที่ป่วยหนักอีกตัวหนึ่ง ซึ่งอยู่ในห้อง ICU เป็นสัปดาห์แล้ว มันคือ Lily ที่ถูกพบบนถนนในสภาพที่มีแต่หนังหุ้มกระดูกเช่นกัน”     ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการอุปถัมภ์ Christian จึงเริ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยลูกแมวทั้งสองตัวให้รู้สึกปลอดภัยในบ้านของเธอ หลังจากที่ Lily ผ่านการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะแล้ว Christian ก็พามันไปทำความรู้จักกับ Rosa     ปรากฏว่าพวกมันรักกันตั้งแต่แรกพบ…   เจ้าเหมียวสีดำถือเป็นโชคดีของ Lily…

ช่วงเช้าของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ทุกอย่างเริ่มต้นเหมือนทุกวันสำหรับ Nate Ohlman …วันนั้น เขาจะไปส่งจดหมายเหมือนที่เขาทำประจำ ทันใดนั้น เขาก็เห็นสุนัขแก่ตัวหนึ่งอยู่ในคูน้ำที่ท้ายถนน ซึ่งเป็นทางตัน ตอนนั้น อากาศข้างนอกหนาวมากเพราะมันเป็นช่วงหน้าหนาวของรัฐมิสซูรี และ Ohlman สามารถบอกได้ว่าสุนัขตัวนั้นกำลังดิ้นรนเพื่อหาวิธีทำให้ตัวเองอุ่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเห็นสุนัขผู้น่าสงสารอยู่ลำพังแบบนั้น ทำให้หัวใจเขาแทบแตกสลาย เขาจึงพยายามหาวิธีช่วยมัน     Ohlman พยายามหาวิธีที่จะช่วยมันอย่างช้าๆ เพราะมันอยากทำให้มันตกใจ แต่เมื่อลองสังเกตดูดีๆ พบว่าเจ้าตูบไม่ได้ยินและมองอะไรไม่ค่อยเห็นด้วย ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ มัน และทันทีที่เจ้าหมา ซึ่งต่อมีชื่อว่า Sloan เห็น Ohlman มันก็รู้ว่าเขามาเพื่อช่วยเหลือมัน จากนั้น Ohlman ก็พาเจ้าตูบกลับไปที่รถส่งจดหมายของเขา และเมื่อมองหน้ามัน เขาได้แต่สงสัยว่าทำไมถึงมีคนทำกับมันแบบนี้ได้ลง     Ohlman พา Sloan ไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้ที่สุด จากนั้นก็ไปทำงานต่อ อย่างไรก็ตามก่อนไป เขาได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ กำชับให้เจ้าหน้าที่โทรแจ้งเขาเกี่ยวกับอาการของเจ้าตูบ และอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน แต่ระหว่างทำงานอยู่นั้น Ohlman ยังคงเป็นห่วง Sloan ตลอดเวลา…

Jason Minson เป็นทหารผ่านศึกที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการภูมิทัศน์ โดยขณะที่เขาออกไปทำงานที่นอร์ฟอล์ก รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เขาเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง Minson ได้ยินเสียงดังปังๆ จากถนน ขณะที่กำลังเดินตรวจสอบต้นไม้ในสวน เมื่อไปดูใกล้ๆ ก็พบรถคันหนึ่งจอดติดกับรถคันอื่นๆ แต่เขาจะไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น หากไม่เข้าไปเช็ครถคันนั้น     ในรถคันดังกล่าวนั้นมีสุนัขลาบราดอร์สีดำ มันกำลังนอนเหยียดตัวอยู่บนพื้นรถ แต่เสียงของ Minson ได้ทำให้มันตื่นขึ้นมา จากนั้นมันก็หอบไม่หยุด “มันเป็นการหอบที่สุนัขพยายามทำให้ตัวเองเย็นลง” Minson บอก     Minson จึงรีบโทรแจ้ง 911 ทันที และทางกรมตำรวจก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือสุนัขตัวนี้ แต่เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าการทำลายกระจกรถผู้อื่นถือว่าผิดกฏหมาย     Minson มองเจ้าตูบที่กำลังหอบด้วยความร้อนผ่านกระจกที่แง้มไว้นิดนึง จากนั้นก็เอาขวดน้ำยื่นผ่านช่องดังกล่าว ทันใดนั้น เจ้าตูบก็กระโดดดื่มน้ำจากขวดที่เขายื่นให้ หลังจากดื่มไปหมด 1 ขวด มันก็ยังเรียกร้องที่จะดื่มอีก     ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์มาถึง พวกเขาก็เริ่มทำการงัดแงะกระจกรถ แต่ไม่สำเร็จ กระทั่งเกือบ 20 นาทีผ่านไป…

สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งอยู่เสมอ พวกมันทั้งน่ารักและพร้อมจะแบ่งปันความรักให้ผู้อื่น พวกมันทำให้เรารู้สึกสดใสและอบอุ่นใจโดยไม่ต้องมีคำพูดใด แต่น่าเศร้าที่เพื่อนที่แสนดีแบบนี้ มีอายุขัยที่สั้นเกินไป ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคงให้ความสุขกับเราจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต ดังนั้น แม้จะอยู่ในวัยชรา พวกมันก็ยังคงน่ารักอยู่เสมอ   “แมวผู้น่ารักของฉัน อายุครบ 20 ปี วันนี้ มันอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของฉัน และตอนนี้ฉันกำลังขับรถไปร่วมฉลองวันเกิดของมัน”   “เจ้าตูบวัย 16 ปี ไม่สามารถเดินได้อีกแล้ว แต่เราไม่อยากออกไปเที่ยวโดยทิ้งมันไว้ที่บ้านลำพัง เราเลยทำรถเข็นเพื่อที่จะพามันด้วยได้ทุกที่”   นุ้งแมวยังคงดูเหมือนลูกแมว ทั้งๆ ที่มันอายุ 23 ปีแล้ว   น้องหมาที่ชื่อ Maggie กำลังตื่นเต้นกับการฉลองอายุครบ 16 ปี   “เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ฉันตัดสินใจรับเลี้ยงแมวที่มีโอกาสน้อยที่สุดในศูนย์พักพิง และมันได้พิสูจน์ให้ฉันเห็นว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าที่สุด ตอนนี้ Hank อายุ 12 ปีแล้ว”   “สุนัขของฉันอายุ 17 ปีแล้ว ผู้คนมักจะบอกว่ามันเหมือนหนูที่น่าเกลียด แต่สำหรับฉันมันเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักที่สุดในโลก”   “น้องหมาของฉันอายุครบ…

เรียกได้ว่าเป็นภาพที่สร้างเสียงหัวเราะให้ผู้คนทั่วโลก เมื่อมีการแชร์ภาพของเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง ที่หน้าเหมือนควาย ราวกับเป็นลูกควาย แต่รู้มั้ยว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ไม่ได้มาจากต่างดงต่างดาว แต่มันอยู่ในไทยเรานี่แหละ ดังนั้น วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้น     น้องแมวหน้าควายตัวนี้มีชื่อว่า เคิร์ท มาจากชื่อเคิร์ทโคเบน นักร้องนำวงเนอร์วาน่า ที่เจ้าของชอบ นางเป็นแมววิเชียรมาศที่คุณกอล์ฟผู้เป็นเจ้าของรับเลี้ยงเมื่อประมาณปี 2559 (แต่ดูจากหน้าแล้ว เขาคิดว่ามันเป็นวิเชียรมั่วมากกว่า) คุณกอล์ฟเล่าว่านิสัยของเจ้าเคิร์ทนั้นค่อนข้างซนมากๆ โดยเฉพาะเขาอยู่แล้ว มันจะแสบเป็นพิเศษ แต่มันก็มุมที่ทำให้เขาหลงรักมันมากเช่นกัน     นั่นคือ เมื่อคุณกอล์ฟกลับมาจากทำงาน ต่อให้เจ้าเหมียวหลับไปแล้วหรืออยู่หลังบ้าน ทันทีที่ได้ยินเสียงรถของเขา มันก็จะวิ่งออกมารอรับหน้าบ้านเสมอ เจ้าเคิร์ทเนี่ย ไม่ได้แปลกแค่หน้าตา เสียงร้องของมันแปลกเช่นกัน ในขณะที่แมวทั่วไปร้องเมี๊ยวๆ เจ้าเคิร์ทดันร้องอึ๋งๆ ซะงั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันไปจำมาจากไหน     นอกจากนี้ เคิร์ทมีความอยากรู้อยากเห็นสูงมาก (เรียกว่าขี้เผือกก็ได้) ทุกครั้งที่มีเสียงคนมาบ้าน มันจะเป็นคนแรกที่วิ่งไปแอบดูหลังผ้าม่านหน้าประตูบ้าน เคิร์ทเป็นแมวที่ค่อนข้างถือตัวนิดนึง แม้แต่กับคนในบ้านที่ไม่ใช่คุณกอล์ฟ มันจะไม่ยอมให้อุ้มเท่าไหร่ ทุกคนสามารถลูบมันได้ แต่มันจะยอมให้ลูกแค่เดี๋ยวเดียวเท่านั้นนะ ยกเว้นว่าคนคนนั้นมีขนมเลีย มันถึงจะยอมให้เล่นด้วยจนกว่าจะกินขนมหมด     ยัง…

สำหรับบางคนแล้ว ความหวังเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขายังมีชีวิตอยู่ได้ เช่นเดียวกับ Ellen สุนัขจรจัดที่หวังว่าสักวันทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น Ellen เป็นสุนัขจรจัดที่ถูกพบบนถนนในเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอาสาสมัครของศูนย์พักพิงในท้องถิ่น และสิ่งที่แรกที่พวกเขาทำคือ การพามันกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือ     เจ้าหน้าที่พบว่า Ellen มีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง ซึ่งไม่ใช่ขาดสารอาหารเท่านั้น แต่ผิวของมันหนังทั้งแดงและมันคงจะแสบไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ขนของมันร่วงเกือบทั้งตัว จากสภาพที่เห็นอยู่นี้ แทบไม่มีใครเชื่อว่าจริงๆ แล้วมันอายุแค่ 5 เดือนเท่านั้น แน่นอนว่ามันจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็น แต่ทว่าอาสาสมัครที่ช่วยมันไว้ ไม่สามารถรับผิดชอบในส่วนนี้ได้     ดังนั้นพวกเขาจึงติดต่อไปยัง Shirley Zindler จาก Dogwood Animal Rescue Project ให้เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องนี้ แน่นอน Zindler ตอบตกลงทันที เธออ้าแขนช่วยเหลือ Ellen ด้วยความเต็มใจ โดยมุ่งมั่นทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่มีความสุขและมีสุขภาพดี     แม้จะได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ Ellen ฟื้นตัวค่อนข้างช้า เพราะมันต้องทานยาแก้อักเสบและอาบน้ำฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง แต่ในที่สุด มันก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น…

ลูกแมวที่ไม่สามารถกะพริบตาได้เหมือนแมวทั่วไป แต่มันมีรอยยิ้มที่งดงาม ทำให้มันได้พบกับครอบครัวสมบูรณ์แบบที่พร้อมจะผจญภัยไปกับมัน Tulip เป็นแมวทักซิโด้ ถูกพบเป็นแมวจรจัดในสภาพที่ตาติดเชื้อด้วยวัยเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น จากนั้น ผู้ช่วยเหลือท้องถิ่นในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ก็ได้รับมันมาดูแล เพียงไม่กี่สัปดาห์ Tulip ก็ฟื้นตัวได้เต็มที่ และพร้อมสำหรับการหาบ้าน     ขณะเดียวกันนั้น Jenn กับ Chris กำลังหาแมวที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนแมวของพวกเขา Pinecone ระหว่างที่ทั้งคู่ออกไปทำงานระหว่างวัน ดังนั้น เมื่อได้อ่านเรื่องราวของ Tulip พวกเขาก็อยากเจอมันทันที ตอนแรก ผู้ช่วยเหลือบอกว่า Tulip จะหงุดหงิดเวลาถูกล้อมรอบด้วยผู้คน และมันไม่ชอบให้อุ้ม แต่เมื่อ Jenn กับ Chris ลองอุ้มมันครั้งแรก มันยอมอยู่นิ่ง และไม่ต่อต้านเลย นอกจากทำเสียงเพอร์ นั่นทำให้ทั้งคู่รู้ว่าต้องพามันกลับบ้านด้วย     ทั้งนี้ ทั้งคู่ได้รู้ว่า Tulip เคยมีอาการติดเชื้อที่ตา ส่งผลให้มันไม่สามารถกะพริบตาได้เหมือนแมวตัวอื่นๆ “แม้จะมีเปลือกตา แต่มันไม่สามารถปิดตาได้” Jenn บอก เพื่อไม่ให้ดวงตาแห้งเกินไป Tulip…

Scott Russo ไม่ได้เลี้ยงแกะ และเขาก็ไม่มีแกะแม้แต่ตัวเดียว แต่เมื่อช่วงเย็นวันหนึ่งของสัปดาห์นี้ เขาต้องกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะจำนวนนับร้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บันเทิงเลยล่ะซิทีนี้     Russo อาศัยอยู่ในเมืองลินคอล์น รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งที่นี่ ผู้คนสามารถปล่อยแกะออกมาแทะเล็มหญ้าในพื้นที่สาธารณะได้ ในเย็นวันนั้น มีคนเลี้ยงแกะพาแกะของพวกเขามากินหญ้าในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งอยู่หลังบ้านของ Russo แต่แล้ว พวกเขาก็ทำผิดพลาดครั้งใหญ่     ขณะเดียวกันนั้น Russo ได้เปิดประตูหลังบ้านเอาไว้ เพื่อให้ลูกสาวตัวน้อยๆ ของเขาเพลิดเพลินกับการมองดูฝูงแกะที่กำลังกินหญ้า Russo บอกว่า “มีแกะตัวหนึ่งเดินเข้ามาในหลังบ้านของผม จากนั้นตัวที่สอง สาม สี่ ก็ตามเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็มีแกะอยู่เต็มหลังบ้านผมซะแล้ว”   และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น   เห็นได้ชัดว่า Russo ต้องรับมือกับฝูงแกะเหล่านี้ เขาต้องสวมบทเป็นเลี้ยงแกะและต้อนพวกมันออกไป โชคดีที่ภรรยาของเขาได้เข้ามาช่วย ด้วยการทำเสียงแทมบูรีน ทำให้แกะนับร้อยกรูกันออกไปผ่านประตูหลังบ้าน ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่พวกมันเข้ามา     จากเหตุการณ์นี้ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและแกะเองก็ออกไปอย่างปลอดภัยทุกตัว แม้แค่กระดานไม้เท่านั้นที่หัก และนี่ก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้ Russo เรียนรู้ว่าเขาจะไม่เปิดประตูหลังบ้านทิ้งไว้อีกต่อไป  …

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ Sheekilah Jones กำลังรอโบกรถประจำทางเพื่อจะไปทำงาน แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงดังกังวานท่ามกลางความเงียบในยามเช้า แต่เธอไม่มั่นใจว่าเสียงนั้นมาจากไหน Jones บอกว่า “ฉันได้ยินเสียงการเคาะ แต่ฉันไม่เห็นใครอยู่แถวนั้นเลย” เมื่อลองหันไปดูรอบๆ เธอก็ต้องเซอร์ไพรส์กับภาพที่เห็น…     ที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนมากนัก Jones เห็นแมวสีดำเกาะอยู่ที่ราวประตู และในไม่ช้าเธอก็รู้คำตอบว่ามันทำอย่างนั้นทำไม เจ้าเหมียวยื่นมือไปที่ที่เคาะประตู แล้วมันก็เคาะประตูเหมือนที่มนุษย์ทำ บ่งบอกว่ามันอยากเข้าไปข้างใน นั่นทำให้ Jones แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น แน่นอนว่าถ้าเอาไปเล่าให้ใครฟัง ก็คงไม่มีใครเชื่อเช่นกัน เธอจึงยกโทรศัพท์ถ่ายคลิปเอาไว้     เห็นได้ชัดว่าเจ้าเหมียวรู้วิธีที่จะเรียกเจ้าของให้มาเปิดประตูให้ แทนที่จะนั่งรอเฉยๆ แต่น่าเสียดายที่ Jones ต้องขึ้นรถไปทำงานก่อน จึงไม่ได้อยู่ดูว่าเจ้าของมาเปิดประตูให้หรือเปล่า     อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป เจ้าเหมียวแสนรู้ตัวนี้ก็ได้เข้าไปอยู่ในใจชาวเน็ตอย่างรวดเร็ว ทุกต่างชื่นชมในความฉลาดของมัน และคิดว่าเจ้าของเองก็คงภูมิใจในตัวมันไม่น้อย     ที่มา thedodo

เมื่อโจรพยายามจะงัดแงะรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่ในลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่แล้ว เขาก็ต้องลงเอยด้วยเซอร์ไพรส์จากสิ่งที่ไม่คาดคิด เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ถูกบันทึกได้โดยกล้องวงจรปิดแถวนั้น     ในคลิปนั้น โจรตกใจเมื่อเห็นอะไรบางอย่างในความมืด จากนั้นเขาค่อยๆ ถอยออกมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเผ่นหนีสุดกำลัง     จากนั้น ก็มีหมาป่าตัวหนึ่งเดินออกมาจากความมืด จุดที่โจรคนดังกล่าวหันไปมองก่อนหน้านี้ มันกรอกตาไปมา ราวกับว่ามันมาที่นี่เพื่อจับขโมยโดยเฉพาะ Cristy Trujillo ลูกสาวเจ้าของรถที่ถูกโจรงัดแงะบอกว่า “หมาป่าโผล่มาจากไหนไม่รู้ แต่มันกลายเป็นผู้ช่วยเหลือของเราในคืนนั้น”     หมาป่าอาจไม่รู้ตัวว่าได้ช่วยปกป้องทรัพย์สินของมนุษย์ แต่อย่างน้อย มันก็ทำให้เห็นว่าหมาป่าไม่ได้มีแค่ด้านไม่ดีเสมอไป     ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าหมาป่าโผล่มาทำไมในเวลาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ใครจะไปรู้ บางทีมันอาจจะแค่อยากมาทักทายพ่อหนุ่มคนนั้นก็ได้…     ที่มา thedodo

สัตว์บางตัวแค่อยากทำให้สิ่งที่ตัวเองอยากทำ โดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สำหรับใครที่คิดจะหยุดพวกมันละก็… เราก็ได้แต่ขอให้คุณโชคดี ที่ต้องพูดแบบนี้ เพราะสัตว์เหล่านี้ไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางง่ายๆ หรอก เพราะพวกไม่คิดจะทำตามกฎตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คงคิดว่าตรรกะของมนุษย์ใช้กับพวกมันไม่ได้มั้ง   เจ้าของบ้านกลับมาถึงกับเซอร์ไพรส์ เมื่อเห็นกวางมานอนชิลล์ที่ระเบียงกับสัตว์เลี้ยงของเธอ โดยที่ไอ้เจ้าสองตัวนี้ก็ไม่ได้ไล่มันแต่อย่างใด   นางกำลังอยู่ในโลกของตัวเอง โลกที่มีแค่มันตัวเดียว   ตบแค่นี้คิดว่ากลัวหรอ เดี๋ยว รอตูกินเสร็จ แกโดนจิกคืนแน่เจ้าเหมียว   ในขณะที่ทุกคนรอให้ซีเมนต์แห้ง…   เมื่ออยู่ดีๆ นางอยากเล่นบทเบบี๋เยซู   เจ้าตูบผู้เห็นทุกคนรอบตัวเป็นแค่เก้าอี้ของมัน   เมามาอีกแล้ว จะช่วยหรือซ้ำดี คิดแป๊บ   ติดป้ายแบบนี้ ตูก็ไม่สร้างเลอะเทอะสิ ไม่ได้ๆ ต้องเอาออก   แหม่ นี่คงคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าเป็ดตัวอื่นอยู่ละมั้ง   เลื่อนจมอยู่ข้างหลังโน่นนน แต่ดูสิ ไม่มีเจ้าตูบตัวไหนสนใจเลย เพราะพวกมันกำลังสนุกกับหิมะหนาๆ   จระเข้แล้วไง จะเดินอะ   เจ้าอุ๋งตัวนี้กระโดดขึ้นมาบนเรือ แล้วมันก็เข้าไปในห้องนั่งเล่น ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งชิลล์บนโซฟา ราวกับอยู่บ้านตัวเอง   จะมีปาร์ตี้กันหรอ…

หมาน้อยน่าสงสารถูกคนรุมทำร้ายตั้งแต่ยังเล็ก แต่มันก็ไม่ได้ลำบากลำบนตลอดหรอก พอมีคนเก็บมันมาดูแลชีวิตของมันก็ดูมีความหวังขึ้นมาแล้ว ตอนที่มีคนไปเจอหมาน้อย Murphy มันกำลังถูกเด็กเกเรรุมขว้างหินใส่อยู่ คนที่เห็นจึงช่วยไล่เด็กเหล่านั้นไปแล้วพาเจ้าหมามาให้กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Sidewalk Specials จากการตรวจดูแล้วหมาน้อยอายุเพิ่งครบ 6 สัปดาห์ไม่นานนี้เอง นอกจากมันจะเจ็บตัวเพราะโดนหินปาใส่แล้ว พวกเขายังตรวจเจอว่ามันเป็นโรคโลหิตจางด้วย     เพื่อให้เจ้าหมาเรีบนรู้การปรับตัวใช้ชีวิตใหม่ พวกเขาจึงส่งมันไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์กับอาสาสมัครที่รู้จัก มันจะได้หัดทำความคุ้นชินกับคน แล้วก็ลองใช้ชีวิตในบ้านด้วย พอไปอยู่ในบ้านที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาทำร้าย หรือดิ้นรนเอาชีวิตรอดแล้ว Murphy ดูมีความสุขขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย มันใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นกับพี่หมาตัวโตในบ้าน และใช้เวลาที่เหลือเพื่อกินอาหารอร่อยๆ กับนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่     ถึงก่อนหน้านี้มันจะถูกเด็กเกเรทำร้ายมาก่อน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ฝังใจกลัวมนุษย์นะ มันชอบแม่อุปถัมภ์คนใหม่ของมันมากเลยล่ะ ช่วงที่เธอต้องออกไปทำงานที่ออฟฟิศ เธอก็จะพาเจ้า Murphy ติดไปที่ทำงานด้วย เธอจะได้จับตาดูมันได้ตลอดเวลา ระหว่างที่อยู่ในออฟฟิศเจ้าหมาก็จะอ้อนให้เธอเล่นด้วยอยู่เรื่อย ถึงมันอาจจะทำให้เธอทำงานได้ช้าลงบ้าง แต่การเล่นกับมันก็ช่วยเติมพลังใจให้แม่อุปถัมภ์ได้เป็นอย่างดี      น่าดีใจกับเจ้า Murphy นะ ที่จะได้พ้นจากชีวิตหมาน้อยข้างถนนมาสักที ถ้ามันยังเป็นหมาจรจัดต่อไปอีกหน่อยมันก็เสี่ยงจะถูกทำร้ายอีก แต่ตอนนี้มันมีคนมาช่วยดูแลความปลอดภัยและเติมความสุขให้เรียบร้อยแล้ว   ที่มา: Sidewalk Specials, We Love Animals

สุนัขเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเฉลียวฉลาดและแสนรู้ หลายครั้งที่พวกมันใช้ความแสนรู้ช่วยเจ้าของให้พ้นจากอันตรายมากได้ ถึงพวกมันจะถูกชมว่าแสนรู้อย่างไร บางตัวอาจจะโชว์ความซื่อบื้อได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่านั่นเป็นเรื่องไม่ดีหรอกนะ บางครั้งความซื่อของมันก็ทำให้เราได้ยิ้มออกเหมือนกัน Richard Millar เลี้ยงหมาลาบราดอร์อายุ 2 ขวบไว้ตัวหนึ่งชื่อว่า Bugsy บางครั้งเวลาที่มันเจอสุนัขตัวอื่น มันก็จะเห่าใส่กันบ้าง     แต่ระยะหลังมีสิ่งหนึ่งนอกจากหมาที่เจ้า Bugsy เห่าใส่อย่างเอาเป็นเอาตาย ซึ่งก็คือรูปวาดข้างกำแพงที่วาดเป็นรูปหมาสีดำสนิท รูปวาดนี้ถูกวาดเอาไว้ตรงกำแพงร้านค้าแห่งหนึ่ง เพื่อบอกว่าจุดที่รูปภาพถูกวาดเอาไว้เป็นจุดมัดสัตว์เลี้ยงสำหรับลูกค้า ก่อนจะเข้าไปจับจ่ายซื้อของนั่นเอง     แต่ดูเหมือนว่า Bugsy จะไม่เข้าใจว่าหมาสีดำที่เห็นเป็นแค่รูปภาพ มันคิดว่าหมาตัวนั้นเป็นสุนัขจริงๆ มันก็เลยเห่าขู่เป็นการใหญ่ทุกครั้งที่ได้เดินผ่านตรงนี้ Richard เล่าให้ฟังว่า “ตอนที่ถ่ายคลิปไว้ ผมกำลังจะเดินไปที่ผับประจำของผม ผมถ่ายคลิปวิดีโอเองในเมือง Abergavenny แล้วเจ้าหมาก็จะเห่ารูปแบบนี้ทุกครั้งที่เราเดินผ่าน”     แหม่เจ้า Bugsy นี่ก็เข้าใจผิดคิดว่ารูปภาพเป็นหมาจริงๆ ไปซะได้ ไม่รู้ว่าต้องเดินผ่านตรงนี้อีกกี่ครั้งมันถึงจะเริ่มเข้าใจสักทีว่ารูปภาพนั้นไม่ทำอันตรายมันหรอก แต่อย่างน้อยระหว่างที่มันยังเข้าใจผิดคิดว่าภาพวาดนั้นเป็นหมาจริงอยู่ มันก็จะทำให้คนที่มองมันได้ยิ้มด้วยความฮาปนเอ็นดูไปกับความซื่อของมันล่ะนะ   ที่มา: Daily Mail

เวลาที่เจ้าแมวมีความสุขมากๆ ถึงมันจะขี้เก๊กหรือพยายามคีพลุ๊คมากแค่ไหน เราก็จะรับรู้ได้จากเสียง ‘คราง’ ในลำคอของพวกมันอยู่ดี หญิงสาวเองก็รู้ว่าแม่แมวตัวนี้กำลังมีความสุขมากที่เธอให้ที่อุ่นๆ เพื่อให้มันเลี้ยงลูก เนื่องจากมันเอาแต่ครางเสียงดังไม่ยอมหยุด     เจ้าเหมียว Happy เป็นแมวที่มาอาศัยอยู่กับชาวนาในฟาร์ม พวกเขาตั้งชื่อนี้ให้มันเพราะว่ามันดูอารมณ์ดีอยู่เสมอ และมันก็เป็นมิตรมากๆ มันเดินตามชาวนาโดยไม่กลัวพวกเขาเลย พอเจ้าแมวตั้งท้องชาวนาจึงติดต่อให้ Ashley Morrison ซึ่งเป็นคนช่วยแมวช่วยดูแลมัน เนื่องจากพวกเขาไม่มีที่ที่เหมาะสมให้ลูกแมวอยู่     ตอนที่เจ้าแมวมาถึงบ้านของ Morrison มันก็ท้องแก่มากๆ แล้ว เธอบอกว่าเธอเห็นลูกของมันขยับอยู่ในท้องชัดเจนเลยทีเดียว แม่แมวส่งเสียงให้เธอได้ยินตั้งแต่ตอนที่มันยังไม่คลอดเลย มันอาจะรู้สึกขอบคุณเธอที่เธอยอมให้มันใช้บ้านเป็นที่เลี้ยงลูก     เธอวางแผนว่าจะช่วยแม่แมวตอนที่มันกำลังคลอดลูกด้วย แต่แม่แมวก็ไม่ยอมคลอดสักที เธอก็เลยต้องแวะมาดูมันอยู่บ่อยๆ แล้วในตอนเช้าวันหนึ่งระหว่างที่เธอเอารถออกไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั่นเอง ภายในเวลาสั้นๆ ที่เธอไม่อยู่บ้านแม่แมว Happy ก็คลอดลูกเองและทำความสะอาดลูกเสร็จหมดซะแล้ว     Happy คลอดลูกออกมาทั้งหมด 7 ตัวเป็นลูกแมวตัวผู้ 4 ตัว และลูกแมวตัวเมียอีก 3 ตัว ซึ่งทุกตัวล้วนมีสุขภาพแข็งแรงดี     ระหว่างที่ Happy กำลังดูแลลูกแมวอยู่ มันจะส่งเสียงครางออกมาดังมาก…

คนเราเลี้ยงไก่เพื่อเอาไว้ผลิตไข่มานานแล้ว แต่ฟาร์มบางแห่งก็ใช้งานพวกมันเหมือนเป็นแค่เครื่องมือ โดยไม่ดูแลสุขภาพของพวกมันเลย เนื่องจากมีฟาร์มแบบนี้อยู่ Geoff Regier และเพื่อนๆ จึงพยายามช่วยกันนำพวกไก่ออกมาเพื่อให้มันได้รับการดูแลที่ดี ซึ่งในจำนวนที่พวกเขาเคยช่วยมา ดูเหมือนว่าเจ้าไก่ Penny เป็นหนึ่งในไก่ที่เปลี่ยนไปมากที่สุด     Regier เจอ Penny อยู่ในเล้าไก่แห่งหนึ่งที่พวกเขาบุกเข้าไปช่วย ตอนที่เขาเจอมันครั้งแรกมันจมอยู่ในกองอึและไม่มีแรงลุกขึ้นมาเอง พอเขาช่วยดึงมันออกมาก็ได้เห็นว่านอกจากจะอ่อนแอแล้ว ขนบนตัวของมันก็แทบจะไม่มีเหลืออยู่ สภาพร่างกายของมันแย่เอามากๆ แม้แต่จะทรงตัวยืนก็ยังทำแทบไม่ไหวเลย นอกจากนี้ไข่ที่มันฟักออกมาก็เป็นไข่เละๆ เนื่องจากร่างกายของมันขาดสารอาหารจนไม่สามารถผลิตเปลือกไข่ได้ ทำให้ตอนฟักไข่ออกมามีแต่ตัวอ่อนข้างในเท่านั้น     พวกเขาจึงช่วยนำตัวมันมาทำความสะอาดและรักษา ให้มันกินยาและสารอาหารเพิ่มเติม แล้วก็ให้มันนอนพักหน้าหลอดไฟอุ่นๆ จนกระทั่งมันดูแข็งแรงขึ้นมาบ้าง แต่สิ่งที่ยังรักษาไม่ได้ทันทีก็คือความกลัวของเจ้าไก่ ดูเหมือนมันจะไม่ได้รับการดูแลเลย ทำให้ตอนนี้มันกลัวคนแบบเต็มขั้น พอเห็นคนเดินเข้ามาใกล้หน่อยก็วิ่งหนีแล้ว     Regier พยายามใช้ความเอาใจใส่เอาชนะใจ Penny เขาอดทนและค่อยๆ ให้ความรักกับมันเป็นเวลานานร่วมปี จนในที่สุดจากที่ตอนแรกมันไม่กล้าเข้าใกล้ ตอนนี้มันกลับเป็นฝ่ายที่อยากมาอยู่ใกล้เขาเอง ตอน Penny กลับมามีขนสวยงามทั่วตัวแล้ว และมันก็ติดพ่อใหม่เอามากๆ ด้วย ถึงขนาดว่าขอตามไปนอนด้วยกันในห้องนอนของเขาเลยล่ะ     Regier เล่าว่าเดี๋ยวนี้ Penny เริ่มมีความกล้ามากขึ้นแล้ว…

พบกับ Kyle แมวเหมียวผู้ไม่เหมือนใครที่มาพร้อมกับหนวดสุดโดดเด่น แต่รู้มั้ยว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มีจุดเริ่มต้นชีวิตที่น่าสงสารมากๆ Kyle เกิดมาในบ้านที่มีแมวอยู่แล้ว 30 ตัว และเมื่ออายุได้เพียงไม่กี่ขวบ มันได้เห็นเหตุการณ์ความรุนแรงภายในครอบครัวระหว่างเจ้าของ ที่จบลงด้วยการมีคนเสียชีวิต     จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ Kyle พร้อมกับแมวอื่นอีก 30 ตัว ถูกนำตัวออกจากบ้าน โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของตำรวจในฐานะหลักฐานประกอบคดี แน่นอนว่าในสถานีตำรวจมีที่ไม่เพียงพอสำหรับแมวทั้งหมดนี้ แต่ตำรวจกลับปฏิเสธที่จะส่งพวกมันไปอยู่ในศูนย์พักพิง ซึ่งเป็นที่ที่เหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว Kyle ก็ถูกส่งไปยังศูนย์พักพิงที่ไม่มีการการุณยฆาต และเนื่องจากมันผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามาก มันจึงกลัวการที่มีผู้คนรอบตัว     วันหนึ่ง เมื่อหญิงที่ชื่อ Jenn กับคู่หูของเธอ กำลังเข้าดูในเว็บ Petfinder เพื่อหาเพื่อนให้แมวของพวกเขาที่ชื่อ Princess Mer และแล้วทั้งคู่ก็สะดุดเข้ากับประวัติของ Kyle ทั้งคู่ตกหลุมรัก Kyle โดยเฉพาะหนวดที่ยุ่งเหยิงของมัน ทำให้มันดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษ จากนั้น คู่รักก็มุ่งหน้าไปยังศูนย์พักพิงที่เจ้าเหมียวอยู่ทันที ที่นั่น พวกเขาได้รู้ว่า Kyle มีสะโพกที่ผิดปกติ ไม่มีฟัน และไม่มีกรงเล็บ…

สุนัขผู้น่าสงสารตัวนี้ถูกพบบนถนนแห่งหนึ่งของอินเดีย พร้อมใบหน้าที่ผิดปกติมากที่สุดเท่าที่ผู้ช่วยเหลือจากองค์กร Animal Aid Unlimited เคยเห็นมา หน้าของสุนัขตัวนั้นบวมหนักมาก สภาพบวมจนดูคล้ายหมู ที่น่าเศร้าที่สุดคือ สภาพเช่นนี้ทำให้มันเจ็บปวดจนต้องวิ่งหนีไปทันทีที่มีคนเข้าไปแตะตัวมัน     เพื่อจะพาเจ้าตูบตัวนี้ไปศูนย์พักพิง เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือจำเป็นต้องจับมัน และใช้ตาข่ายแบกมันไป แน่นอนว่าการจับเจ้าตูบตัวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความพยายาม ในที่สุด พวกเขาก็จับมันได้ ทางเจ้าตูบเอง แม้จะเจ็บปวดกับสภาพที่เป็นอยู่ แต่มันก็แกว่งหางด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่ากำลังจะได้รับการช่วยเหลือจากทุกคนที่กำลังล้อมรอบมันตอนนี้     หลังจากสัตวแพทย์ได้ตรวจสอบใบหน้าที่ผิดปกติของมันอย่างละเอียด พบว่า ที่ใบหน้าของมันบวมหนักเป็นผลมาจากการติดเชื้อ คุณหมอจึงได้ทำการผ่าตัดให้ เพื่อเอาหนองออกจากใบหน้าของมัน และโชคดีที่การรักษาผ่านไปได้ด้วยดี     ด้วยการดูแลทางการแพทย์และความรักมากมายจากผู้ดูแล ในที่สุดชีวิตของเจ้าตูบตัวนี้ก็เปลี่ยนไป มันกลายเป็นสุนัขตัวใหม่ที่หน้าไม่บวม สิ่งสำคัญที่สุดคือ มันไม่เจ็บปวดอีกแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าตูบไปโดนอะไรมา แต่จากท่าทีที่หวาดกลัวผู้ช่วยเหลือในตอนแรก คาดว่ามันน่าจะถูกทำร้ายมา     ชมการเปลี่ยนแปลงอันน่าทึ่งและชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความสุขของเจ้าตูบจากวิดีโอด้านล่างนี้   ที่มา weloveanimals

ยิ่งเราได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงนานมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกผูกพันกับพวกมันมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นหญิงสาวซึ่งอยู่กับสัตว์เลี้ยงมานานกว่า 50 ปีคนนี้จึงผูกพันกับมันมากกว่าใคร Jeanna Smith ชื่นชอบเต่ามาตั้งแต่เด็กแล้ว พอถึงวันเกิดครบรอบ 10 ขวบของเธอ คุณพ่อกับคุณแม่จึงให้เต่าเป็นของขวัญวันเกิด แล้วเธอก็ตั้งชื่อให้มันว่า George     พ่อแม่ของเธอมอบสัตว์เลี้ยงตัวนี้กับเธอ เพื่อให้เธอได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเอาใจใส่ผู้อื่น และทำให้เธอมีความรับผิดชอบมากขึ้น แต่พวกเขาคงไม่ได้คิดว่ามันกับเธอจะเป็นเพื่อนกันอย่างยาวนาน   Jeanna ตอนยังเด็ก   ตั้งแต่ Jeanna ได้รับเจ้า George มาในปี 1962 เธอก็ดูแลเอาใจใส่มันอย่างดี เธอชอบให้มันอยู่ข้างๆ ตลอด บางครั้งเธอก็จะเอามันใส่ตะกร้าแล้วขี่จักรยานไปชมวิวด้วยกัน หรือแม้แต่ตอนที่เธอออกไปเที่ยวไกลๆ หลายวัน เธอก็จะพา George ติดไปด้วย มันจึงกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของเธอไปโดยปริยาย     พอ Jeanna ต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัย แม้ว่าทางหอพักของมหาวิทยาลัยจะห้ามเลี้ยงสัตว์ เธอก็ไม่อาจทำใจให้อยู่ห่างจาก George ได้ เธอจึงแอบเอามันเข้าไปอยู่ด้วย… โชคดีที่แม้ว่าผู้ดูแลหอพักจะรู้เข้า พวกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรที่เธอเอา George มาเลี้ยง อาจจะเป็นเพราะมันเป็นสัตว์ที่ไม่รบกวนผู้อื่น หรือไม่เป็นเพราะคนในหอพักต่างรู้สึกชอบมันก็ได้…

หากคุณเคยให้อาหารหมาจรจัด ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะรีบกินอาหารทันทีเนื่องจากความหิว ทว่าบางครั้งก็มีหมาที่ไม่ห่วงตัวเองแล้วคาบอาหารไปให้หมาตัวอื่นเหมือนกัน อย่างที่ Yusuf Kılıçsarı เคยได้เจอ เขาเป็นชายรักสัตว์จากประเทศตุรกี เขามักจะให้อาหารสุนัขจรจัดที่อยู่ข้างทางบ่อยครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาเอาอาหารเทใส่ถ้วยให้หมาจรจัด แต่หมาตัวนี้ไม่เหมือนตัวอื่น มันไม่ยอมกินอาหารทันทีแต่กลับคาบถ้วยอาหารวิ่งไปที่อื่นแทน     Kılıçsarı จึงลองขับรถตามเลียบทางเท้าไปอย่างช้าๆ เพื่อตามเจ้าหมาไป ด้วยความอยากรู้ว่ามันจะคาบถ้วยอาหารไปถึงที่ไหน เขาขับรถตามมันอยู่หลายนาที มันเดินไปเรื่อยๆ ตามถนน ผ่านเขตก่อสร้างและที่ทิ้งขยะ ระหว่างนั้นเขาก็ถ่ายคลิปวิดีโอตอนที่ตามมันไว้ด้วย      จนกระทั่งเจ้าหมามาถึงที่จอดรถแห่งหนึ่งมันก็เดินเลี้ยวเข้าไปในนั้น Kılıçsarı ก็เลยต้องจอดรถทิ้งไว้แล้วเดินตามเข้าไป แล้วเขาก็ได้รู้ว่าที่เจ้าหมาไม่ยอมกินอาหารแล้วคาบมาซะไกล ก็เพื่อจะเอาอาหารมาให้ลูกๆ ของมันที่รออยู่ตรงนี้ได้กินข้าวนั่นเอง ดูจากขนาดตัวของลูกหมาที่อ้วนพีสมบูรณ์ดีแล้ว ท่าทางแม่หมาคงจะคาบอาหารมาให้พวกมันกินจนอิ่มท้องเป็นประจำ     เห็นแบบนี้แล้วก็ทำให้เราได้รู้ว่าถึงจะเป็นแม่หมาจรจัดที่หากินลำบาก แต่มันก็รักลูกมากกว่าตัวเองเสียอีก ถึงตัวเองไม่มีกินก็ไม่เป็นไร แต่ลูกต้องได้อิ่มท้องก่อนเสมอ Kılıçsarı เองก็คงจะซาบซึ้งกับความรักลูกของแม่หมาตัวนี้เช่นกัน เขาลงคลิปวิดีโอและภาพของพวกมันลงบนโซเชียลมีเดีย พร้อมกับเขียนอธิบายสั้นๆ ไว้ว่า “ความเป็นแม่”   ที่มา: the dodo

มีงานวิจัยพบว่าสัตว์เลี้ยงสามารถรับรู้ถึงมิตรภาพ ความรัก ความเศร้า และความสุขของเราได้ ยิ่งไปกว่านั้น ความรักของสัตว์เลี้ยงนั้นอยู่เหนือศาสนา ความแตกต่าง หรือแม้แต่เผ่าพันธุ์ก็ตาม โดยเรื่องราวระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยงต่อไปนี้ จะทำให้คุณเห็นว่ามิตรภาพและความผูกพันของพวกเขานั้น อ่อนโยนและน่าประทับใจมากแค่ไหน   1. เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ไม่ได้มีแค่สุนัขเสมอไป Jonny จากแคลิฟอร์เนีย มีเป็ดชื่อ Nibbles แม่ของมันตายก่อนที่มันจะฟักตัวออกจากไข่ มันรัก Jonny มาก เพราะเขาเป็นคนแรกที่มันเห็นเมื่อลืมตาดูโลก มันจะจะร้องก๊าบๆ ขณะรอเพื่อนรักกลับจากโรงเรียนทุกวัน   2 Nala แมวเหมียวที่ท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยรถจักรยาน Dean Nicholson เป็นนักปั่นจักรยานวัย 31 ปี เขาปั่นจักรยานออกไปเที่ยวทั่วโลก จนวันหนึ่ง เขาเจอลูกแมวจรจัดระหว่างทาง ซึ่งมันเอาชนะใจเขาได้ เขาจึงได้ตั้งชื่อให้มันว่า Nala Dean ได้ดัดแปลงรถจักรยานของเขาเพื่อ Nala โดยเฉพาะ และตอนนี้ทั้งคู่ได้ออกไปผจญภัยด้วยกันทุกแห่งหน   3. ภาพเจ้าเหมียวก่อนและหลังการช่วยเหลือ แมวตัวนี้เดินเข้าไปหาหญิงแปลกหน้าคนหนึ่งที่เจอบนถนน มันเดินขึ้นรถของเธออย่างไม่เกรงกลัว นั่นทำให้หญิงคนนั้นใจอ่อน และยอมเป็นแม่ให้มันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้   4.…

อาสาสมัครแค่จะพาลูกแมวที่ได้รับการช่วยเหลือไปดูแลที่บ้าน แต่ทว่าเจ้าเหมียวมีแผนที่ไกลกว่านั้น… เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา McComb Animal Shelter ในเมือง McComb รัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐฯ ได้รับลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลือมากๆ เข้ามาอยู่ในการดูแล     ต่อมา Madison VanNess อาสาสมัครของศูนย์พักพิงดังกล่าว ได้เดินไปหาลูกแมวตัวนั้น หลังเธอได้ยินเสียงร้องเมี๊ยวๆ ดังมาจากกรงของมัน ยิ่งเธอเดินเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ มิ้วน้อยก็ยิ่งร้องดังมากขึ้นเท่านั้น จากนั้น มันก็เริ่มเรียกร้องความสนใจและอ้อนให้เธอลูบตัวให้     เมื่อหญิงสาวอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมา มันก็ทำเสียงครางอยู่ในอ้อมแขนของเธอ จากนั้นก็ปีนขึ้นไหล่แล้วเอาหัวถูกไถกับหน้าของเธอ Madison จึงคิดขึ้นได้ทันทีว่า นี่สินะที่เรียกว่า ‘รักแรกพบ’ “มันสกปรกและน่าสงสารมาก เราให้มันอยู่ในศูนย์เป็นเวลา 2-3 วัน เพื่อให้แน่ใจว่ามันมีสุขภาพแข็งแรงดี จากนั้น ฉันก็พามันกลับไปดูแลที่บ้านต่อ” Madisonบอก หญิงสาวตั้งชื่อให้มันว่าเจ้าเหมียว Gatsby และตั้งใจจะให้มันอยู่ด้วยจนกว่ามันจะพร้อมสำหรับการรับเลี้ยง     แต่ดูเหมือน Gatsby จะมีแผนการที่ต่างไปจากแม่บุญธรรม ทันทีที่มันเข้ามาอยู่ในบ้าน มันก็ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว มันไม่ท่าทีหวาดกลัวอะไรเลย และเดินเข้าไปหาทุกคนด้วยความมั่นใจ มิ้วน้อยเข้าไปนอนขดตัวอยู่ใกล้เจ้าตูบดัชชุน…

คนเลี้ยงหมาทุกคนย่อมรู้ดีว่าสุนัขชอบนอนบนเตียงกับเรามากแค่ไหน ต่อให้ซื้อที่นอนอย่างดีให้มัน มันก็ชอบที่จะนอนเตียงของเราอยู่ดี แต่คนเลี้ยงสุนัขมีอยู่ 2 ประเภท คือ ประเภทที่ปล่อยให้น้องหมามานอนบนเตียงด้วย เพราะไม่อาจต้านทานความออดอ้อนของมันได้ และอีกประเภทคือกลุ่มพยายามจะจับน้องหมาลงจากเตียง เพื่อให้มันนอนบนเตียงของตัวเอง     Chunk น้องบูลล์ด็อกวัย 4 เดือน เป็นอีกตัวที่ติดเตียงเจ้าของมากๆ เพราะเตียงเจ้าของทั้งกว้างใหญ่ นุ่ม และสามารถนอนกลิ้งไปกลิ้งมาได้เต็มที่     Chunk รักการนอนบนเตียงเจ้าของมาก ถึงขนาดไม่ยอมลงจากเตียงเลย แม้เจ้าของจะพยายามไล่ หลอกล่อ แต่มันก็ไม่ยอมลงจากเตียงอยู่ดี…   ตอนที่ขอให้ลงจากเตียง ใบหน้าของมันมีแต่คำว่า ‘ไม่ ไม่’ แล้วก็ ‘ไม่’   แหม่… เตียงตัวเองก็มีไม่นอน พอให้มานอนด้วยก็ติดอกติดใจ จนอยากยึดเป็นของตัวเอง แล้วดูหน้ามันสิ ไม่พอใจแรงมาก เมื่อพ่อพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลงจากเตียง เด็กหนอเด็ก อยากได้อะไรต้องได้…     ปฏิกิริยาของเจ้า Chunk เมื่อพ่อบอกให้ลงจากเตียง   ที่มา weloveanimals

กว่าจะได้เป็นทันแพทย์ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งต้องศึกษา ฝึกฝน และสอบอีกมากมาย แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนคนจะทิ้งอาชีพทันแพทย์นี้เพื่อสิ่งที่น้อยคนจะทำ คนที่เรากำลังจะพูดถึงนี้คือ Theoklitos ‘Takis’ Proestakis ทันตแพทย์ที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่เขาได้ทิ้งสิ่งเหล่านี้ แล้วไปก่อตั้งศูนย์พักพิงเพื่อช่วยสุนัขถูกทิ้ง     Takis อาศัยอยู่ในเมือง Lerapetra ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลที่อยู่บนเกาะครีตของหมู่เกาะกรีซ โดยย้อนกลับไปในปี 2015 Takis ได้ไปยังลานทิ้งขยะเพื่อทิ้งขยะตามปกติ… แต่ขณะที่อยู่ที่นั่น เขาได้เห็นภาพที่น่าสะเทือนใจมากๆ นั่นก็คือเหล่าสุนัขรูปร่างผอมโซหลายตัวกำลังเดินคุ้ยหาอาหารบนกองขยะที่ผู้คนนำมาทิ้ง     Takis ได้ถามผู้คนในละแวกนั้น ได้ความว่าสุนัขเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสุนัขถูกทิ้งโดยเจ้าของเก่าของพวกมัน พวกมันถูกเลี้ยงให้เป็นสุนัขนักล่า แต่หากพวกมันทำไม่ได้ ก็จะถูกนำไปทิ้งบนภูเขา และที่สำคัญพวกมันยังไม่ถูกทำหมันเลย Takis ตกใจมากเมื่อได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ และนั่นทำให้เขาคิดขึ้นได้ว่าต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกมัน ตั้งแต่นั้นมาเขาก็เริ่มเอาน้ำและอาหารไปให้สุนัขทั่วเมือง Lerapetra     แม้ Takis จะนำน้ำและอาหารมาให้สุนัขถูกทิ้งเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับพวกมันอยู่ดี เห็นได้ชัดว่าสุนัขเหล่านี้ต้องการสถานที่ที่เรียกว่า ‘บ้าน’ ดังนั้น Takis จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นทันตแพทย์ แล้วเริ่มก่อตั้งศูนย์พักพิงสัตว์ของตัวเอง เขาได้ซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยต้นมะกอก จากนั้น เขาก็เริ่มพาสุนัขถูกทิ้งเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิง…

แมวจรจัดตัวหนึ่งเดินเข้าไปหาคนที่กำลังจูงหมาเดิน จากนั้นมันก็ร้องเมี๊ยวๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจ มันไม่มีความกลัวเลยสักนิด เพราะมันแค่อยากมีเพื่อน วันนั้น ขณะที่ Kiara จากฟลอริด้า กำลังเดินจูงหมาเดินเล่นในเมืองออร์แลนโด เธอเห็นแมวตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหา โดยไม่กลัวสุนัขที่เธอจูงมาเลย     แต่เจ้าเหมียวน่าสงสารมาก เพราะภายใต้ขนของมันนั้นมีแค่หนังหุ้มกระดูกเท่านั้น “ขนของมันสกปรก เปื้อนน้ำมัน และมีหมัดทั่วตัว” Kiara กล่าว หลังจากพาหมาเดินเล่นเสร็จ หญิงสาวจึงกลับไปยังจุดที่เจอเจ้าเหมียว ซึ่งพบว่ามันยังอยู่ที่นั่น เธอจึงนั่งลงลูบตัวให้มันและมอบความรักให้มัน     Kiara ได้ถามคนละแวกนั้นว่าเคยเห็นแมวตัวนี้อยู่กับใครหรือเปล่า จนได้รู้ว่ามันเป็นแมวจรมาตั้งแต่เกิด มันเร่ร่อนบนถนนมาสักพักแล้ว และไม่มีใครอยากเป็นเจ้าของมันเลย ขณะที่ฟังเรื่องราวของมันจากหญิงคนหนึ่งในละแวกนั้น Kiara ก็ลูบตัวให้เจ้าเหมียวเรื่อยๆ และเจ้าเหมียวเองก็เพอร์เสียงดังตลอดเวลา นั่นทำให้ Kiara รู้ว่าเจ้าเหมียวต้องเป็นของเธอแล้วล่ะ     เจ้าเหมียวขี้อ้อนปีนขึ้นไปอยู่ในอ้อมแขนของ Kiara และไม่ยอมลงอีกเลย เห็นได้ชัดว่ามันกำลังหาบ้าน และตอนนี้มันเจอแล้ว มันจึงไม่ยอมปล่อยเธอไป Kiara ตั้งชื่อให้เจ้าเหมียวว่า Hope จากนั้นได้โทรหาแฟนหนุ่ม Chris แล้วทั้งคู่ก็ไปยังร้านขายของสัตว์ เพื่อซื้อสิ่งจำเป็นให้น้องแมว  …

ทุกคนที่เคยจับสุนัขมาถ่ายรูป แม้เพียงตัวเดียว คงรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หญิงสาวคนหนึ่ง สามารถจับสุนัขถึง 11 ตัว มาถ่ายรูปหมู่ได้อย่างน่าทึ่ง เธอคนนี้คือ Melissa Lentz ผู้อุปถัมภ์สุนัขผ่าน Releash Atlanta จากภาพด้านล่างนี้ เรียงจากแถวบนซ้าย Mia, Pancake และ Paxton แถวล่างจากซ้าย Benji, Gizmo, Alex, Penny, Donny, Lula, Monroe และ Rudy     หญิงสาวบอกว่า “Gizmo, Donny, Monroe และ Rudy เป็นสุนัขของฉัน ส่วนที่เหลืออีก 7 กำลังรอคนรับเลี้ยง” ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่าหญิงสาวรู้จักสุนัขที่อยู่กับเธอเป็นอย่างดี แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือ การถ่ายรูปหมู่เจ้าหมาพวกนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญสำหรับ Lentz ในขณะที่หลายคนอาจจะแค่ฟลุ๊กทำได้เท่านั้น     Lentz บอกว่า “ฉันมีรูปหมู่ของพวกมันเยอะมาก และบางครั้ง ฉันก็ร่วมอยู่ในเฟรมเดียวกับพวกมันด้วย”…

สุนัขตัวผอมโซที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้คือ Alex มันถูกพบครั้งแรกขณะเดินอยู่บนถนนในนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา มันมีน้ำหนักแค่ 19 กิโลกรัมเท่านั้น ทุกคนสามารถมองเห็นซี่โครงของมันได้อย่างชัดเจน เพราะมันมีแค่หนังหุ้มกระดูกเท่านั้น เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว และแน่นอน สุขภาพของมันแย่มากๆ     Alex ถูกพาไปยังศูนย์ควบคุมสัตว์ Vermillion Parish’s Rabies Animal Control แต่โอกาสที่มันจะมีชีวิตรอดในศูนย์นั้นมีน้อยมาก Deanna Theis ผู้ช่วยผู้อำนวยการของ Southern Animal Foundation รู้ถึงความเสี่ยงนี้ดี เธอจึงตัดสินใจรับ Alex เข้ามาอยู่ในการดูแล จากนั้นก็เริ่มให้การช่วยเหลือทางการแพทย์กับมัน ระหว่างที่ตรวจสอบร่างกายของน้องหมาอย่างละเอียดนั้น Deanne ได้ค้นพบความจริงอันโหดร้ายเกี่ยวกับมัน นั่นคือ ที่ผ่านมามันเอาตัวรอดด้วยการกินก้อนหินและกิ่งไม้      นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องทำให้ Alex รู้จักกับอาหารสุนัขที่แท้จริง แต่ขั้นตอนนี้ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะเจ้าตูบไม่ชินกับอาหารที่ถูกหลักสุขอนามัยแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะเอาอะไรให้ Alex กิน ก็มีแต่จะทำให้มันปวดท้องเท่านั้น ดังนั้น ทางเดียวที่จะช่วยมันได้คือ การผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว…

เหมียวเป็นเจ้านายขนปุยที่รักอิสระและมีความเป็นตัวเองสูง แต่บางครั้งพวกมันก็ทำอะไรแปลกๆ บ้าๆ บอๆ ชนิดที่เราเดาไม่ออกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมผิดปกติเหล่านี้แหละที่ทำให้ทาสอย่างเรายิ้ม หัวเราะ และหลงรักพวกมันหัวปักหัวปำ   1. ที่มาของคำว่า “ทำให้ตัวเองสูงด้วยการเหยียบหัวคนอื่น”    2. เพิ่งล้างมือมา กลัวมือสกปรกอีก เลยเอาวางไว้บนอุ้งเท้า   3. เมื่อมีคนเปิดเพลงที่คุณชอบ   4. อาการหลังจากน้องฟื้นจากการเมาแคทนิป   5. งื้อออ ทิชชู่ในห้องน้ำนี่แหละ อุ่นที่สุด   6. อื้มมม ก้านมะยมในมือสั่นไปหมดแล้ว   7. ฝันว่าปั่นจักรยานไปซื้อปลาทู ระหว่างทางสะดุดก้อนหินจนล้ม   8. แบบนี้ ทั้งวันก็ไม่ได้กินหรอก   9. นักบัลเลต์ในคราบแมว   10. ตั้งแต่รู้ว่าตู้เย็นมีที่กดน้ำแบบนี้ มันก็ไม่เคยกินน้ำจากชามตัวเองอีกเลย   11. นี่คือ Makoli มันเป็นเจ้านายที่ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ   12.…

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อนๆ และครอบครัวได้รวมตัวกันเพื่อบอกลา Bill Schiller เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาจะจากไปตลอดกาล แต่ไม่ได้มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่เสียใจ เจ้าตูบแสนรักของ Schiller ก็เป็นอีกหนึ่งสมาชิกที่เสียใจไม่แพ้กัน     น้องหมาแสนรู้และแสนดีตัวนี้มีชื่อว่า Chief มันถูกรับเลี้ยงโดย Schiller เมื่อ 5 ปีที่แล้ว จนกระทั่งเวลาผ่านไป ทั้งคู่กลายเป็นคู่พ่อลูกที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ Anne Marie Sibthorp แฟนของ Schiller เห็นถึงมิตรภาพอันงดงามของพวกเขาเสมอ เธอบอกว่า “พวกเขามีความผูกพันกันมาก และอยู่ด้วยกันตลอดเวลา” และแล้ว กาลเวลาก็ได้พราก Schiller ไปจากครอบครัว แน่นอนว่า Chief ได้รับเชิญมาร่วมงานศพด้วยเช่นกัน     ตอนที่ Sibthorp พา Chief ไปยังโลงศพของ Schiller ไม่มีใครคาดเดาได้เลยว่าเจ้าตูบจะมีท่าทีหรือบอกลาเพื่อนรักครั้งสุดท้ายอย่างไร Sibthorp บอกว่า “มันเหยียดคอให้ยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นมันก็ส่ง Schiller ครั้งสุดท้ายด้วยการเลียหูของเขาอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว แน่นอนว่าเพื่อนรักของมันไม่มีท่าทีตอบสนองเหมือนครั้งยังมีชีวิตอยู่” “Chief…

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก เมื่อแมวที่ไม่ค่อยสนโลก ตัดสินใจรับเลี้ยงลูกกระรอกกำพร้าถึง 4 ตัว และดูแลพวกมันราวกับเป็นลูกของตัวเอง ลูกกระรอก 4 ตัวนี้ ถูกพบลำพังโดยไร้ร่องรอยของแม่ มนุษย์ที่พบพวกมันจึงเอากลับมาดูแลที่บ้าน และทันทีที่ Pusha เจ้าเหมียวของบ้านเห็นเข้า มันก็ยอมรับกระรอกน้อยพวกนี้โดยไม่ลังเล       ตั้งแต่นั้นมา กระรอกน้อยก็เข้าใจว่าพี่เหมียวเป็นแม่ พวกมันมักจะนอนกอดแม่ เล่นกับแม่ และปีนป่ายบนตัวของ Pusha อย่างสนุกสนาน โดยที่เหมียวเองให้ปล่อยให้ลูกบุญธรรมเล่นและทำทุกอย่างที่ต้องการ   หลายครั้งที่ Pusha จูบและกอดลูกกระรอกน้อยด้วยความรัก นั่นทำให้กระรอกน้อยตัวหนึ่งติดเหมียวมากๆ มันเดินตามเหมียวไปทุกที่ แถมยังพยายามดูดนมแม่ด้วย     ปัจจุบัน ครอบครัวต่างสายพันธุ์นี้ อาศัยอยู่ในบ้านแสนอบอุ่นกับเจ้าของที่ Bakhchisaray ในคาบสมุทรไครเมีย ประเทศรัสเซีย     ขอบคุณความรักของเหมียวที่มอบให้กระรอกกำพร้าครอกนี้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกมันเติบโตโดยไม่รู้สึกขาดอะไรเลย     ที่มา dailymail

เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ผู้คนคิดว่าลูกหมีกำพร้า 2 ตัว อาจไม่รอด เมื่อเทียบจากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ ทุกคนประหลาดใจที่ได้เห็นว่าพวกมันกำลังมีความสุขกับชีวิตมากแค่ไหน ในเดือนมกราคมลูกหมี Mi กับ Tam ได้รับการช่วยเหลือมาจากคนลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่เวียดนามที่มุ่งมั่นและเข้มงวดในเรื่องนี้     หมีทั้ง 2 ตัว ยังเด็กและตัวเล็กมากๆ พวกมันมีน้ำหนักแค่ 900 กรัมเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนพวกมันจะไม่เคยได้รับการดูแลจากแม่มาก่อน และพวกเขาก็ไม่พบร่องรอยของแม่หมีด้วย อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงที่หมีเหล่านี้จะถูกลักลอบมาจากลาวหรืออาจจะมาจากฟาร์มในเวียดนามโดยตรง     หลังถูกช่วยเอาไว้ ลูกหมีก็ถูกส่งไปยัง Bear Sanctuary Ninh Binh ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ Four Paws International เพื่อรับการช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน โดยที่ไม่มีใครมั่นใจว่าพวกมันจะรอดหรือเปล่า     Emily Lloyd ผู้จัดการ Four Paws ของเวียดนามบอกว่า “ลูกหมียังเด็กมาก สถานการณ์ของพวกมันจึงน่าเป็นห่วงไม่ใช่น้อย แต่เราจะทำทุกทางเพื่อให้พวกมันรอด” ลูกหมีทั้ง 2…

พบกับ Esther the Wonder Pig จากลูกหมูที่ถูกเข้าใจว่าแคระ สู่เจ้าหมูตัวบิ๊กเบิ้มที่กลายเป็นขวัญใจของผู้คนทั่วโลกในขณะนี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 คู่รัก Steve Jenkins กับ Derek Walter ชาวแคนาดา ได้รับเลี้ยง Esther เพราะเข้าใจว่ามันเป็นลูกหมูแคระ   ตอนถูกรับเลี้ยง Esther มีน้ำหนักแค่ 1.3 กิโลกรัมเท่านั้น   หลังจากรับเลี้ยง คู่รักคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรในการเลี้ยงหมู และมันคงจะเลี้ยงง่ายเหมือนสุนัข เพราะเจ้าของบอกว่าน้องจะโตไม่เกิน 30 กิโลกรัม 2 ปีต่อมา Esther มีน้ำอยู่ที่ 290 กิโลกรัม ซึ่งขนาดของมันไม่ต่างหมูที่เลี้ยงขายเลย ทำเอาเจ้าของถึงงง อ่าว!? ไหนว่าเป็นหมูแคระ…     แม้จะรู้สึกประหลาดใจกับขนาดตัวของ Esther แต่ด้วยความรักและมิตรภาพที่พวกเขาได้รับจากเจ้าหมูตัวนี้ ทำให้ชีวิตของทั้งคู่ดีขึ้น Esther ไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตของพวกเขา แต่มันยังเลือกสไตล์ชีวิตให้พวกเขาด้วย… เมื่อคู่รักรู้ว่าเจ้าหมูตัวนี้ฉลาดและเป็นมิตร (หมูมีความฉลาดพอๆ กับสุนัข ในขณะที่หลายคนที่คิดว่ามันเป็นสัตว์ที่สะอาดกว่าด้วยซ้ำ)…

ชีวิตประจำวันของสัตว์มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์ในหลายๆ ด้าน เช่นเดียวกับการพักผ่อน หลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดมาทั้งวันหรือหลังจากกินอิ่มมากเกินไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม วันนี้เราอยากให้เพื่อนๆ เห็นว่าสัตว์ก็ขี้เกียจเหมือนกัน แต่เวลาพวกมันแสดงออกถึงความขี้เกียจ ช่างดูน่ารักต่างจากเราเหลือเกิน   1. หลังจากโดดไปนั่นไปนี่ทั้งนี่ทั้งวัน นุ้งต่ายก็งีบหลับด้วยความเหนื่อยล้า   2. จับมาอุ้มทีไร งีบทุ๊กที   3. อ่ะ นี่ไม่ใช่งีบธรรมดา พวกนางสวีทกันด้วย   4. รถไม่สามารถเคลื่อนได้ จนกว่าเจ้าหนูนี่จะตื่น   5. น้อง ให้มาอาบน้ำ ไม่ใช่มานอน   6. นอนอยู่ดีๆ ละลายได้ไง งงแป๊บ   7. พุงป่องขนาดนี้ ลิ้นห้อยแบบนี้ คงจะอิ่มน่าดู ฟาดไปกี่ชามล่ะ   8. รู้ว่าง่วงมาก แต่แค่ทิ้งตัวลงนอนดีๆ คงไม่ได้ยากอะไรมากมายหรอกมั้ง   9. อ่ะนังนี่ เพิ่งตื่นแล้วขยับไม่กี่ท่า หลับอีกละ   10. เมื่อคุณอยากงีบ…

เข้าใจตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อน แต่ดูเหมือนประเทศไทยของเราจะร้อนระอุกว่าปีไหนๆ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่างวันอยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส แน่นอน บางที่สูงกว่านี้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณหน้าร้อนที่ทำให้ 7-Eleven ไม่มีช่วงเว้นว่างจากผู้มาเยือน แม้เป็นกลางดึกก็ตาม และผู้มาเยือนไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเหล่าแขก 4 ขานั่นเอง     อาจเป็นปกติที่เราเห็นหมาหน้าเซเว่น แต่ช่วงหน้าร้อนจะเห็นเยอะเป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเข้าเซเว่นไหน ต้องมีสุนัขมานอนอยู่หน้าประตูอย่างน้อย 1 ตัวเสมอ ก็แหงละ อากาศร้อนขนาดนี้ คงไม่มีที่ไหนยอดเยี่ยมกว่าหน้าเซเว่นอีกแล้ว แต่รู้มั้ยว่าหมาหน้าเซเว่นเหล่านี้กลายเป็นความน่ารักของไทยเรา จนมีเว็บนอกเอาไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียล เรียกรอยยิ้มจากผู้คนทั่วโลก     ไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้าถิ่นนะ แค่อยากมารับลมเย็นๆ จากเซเว่นน่ะ   เซเว่น สวรรค์หน้าร้อนของเหล่าเพื่อน 4 ขา   ไม่ต้องเอาอะไรให้กินก็ได้ ขอแค่เปิดประตูพอ   อยู่หน้าประตู เย็นไม่พออะ ขอเข้ามาข้างในเลยละกันนะ สัญญาจะไม่ดื้อ   เข้าออกได้ตามสบายเลยฮะ หนูไม่กัด   ไอ้สองต้นข้างๆ เนี่ย แทนเป็นเราสองตัวได้มั้ย…

ในโลกนี้มีคนมากมายที่บอกว่ารักแมว ยอมซื้อทุกอย่างให้แมว ยอมแม้กระทั่งเป็นทาสแมว แต่จะมีสักกี่คนที่ยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อแมว? และนี่คือตัวอย่างของผู้กล้าหาญที่ยอมทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำ เพียงเพื่อแมวตัวหนึ่ง…     เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยชายที่ชื่อ Jeff Powell เห็นเหตุการณ์อันน่าทึ่งจากตึกฝั่งตรงข้ามกับอพาร์ตเมนต์ของเขาในโตรอนโต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น น่าจะอยู่ไม่ต่ำกว่าชั้น 12 ของตึก มีชาย 2 คน ยืนกังวลอยู่ที่ระเบียง และเหมือนพวกเขาจะกำลังพูดถึงบางอย่างที่อยู่ระเบียงของห้องในชั้นเดียวกัน     เมื่อ Powell สังเกตดูดีๆ จึงได้รู้ว่าทั้งคู่กำลังเป็นห่วงแมวของพวกเขา ที่ติดอยู่บนระเบียงของห้องเพื่อนบ้าน และทั้งคู่พร้อมที่จะไปรับเจ้าเหมียวกลับมา สิ่งที่หลายคนคิดคือ เจ้าของคงจะไปเคาะประตูเพื่อนบ้านห้องดังกล่าว เพื่อนำแมวออกมา แต่สิ่งที่เจ้าของแมวคนนี้ทำ ทำเอา Powell ทึ่งมา จนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง     หนึ่งในชาย 2 คนนั้น ก้าวออกจากระเบียงห้องตัวเองอย่างกล้าหาญ และเดินไปตามขอบตึกที่เชื่อมกับระเบียงที่เจ้าเหมียวอยู่ แน่นอนว่ามันเป็นการกระทำที่เสียงมาก เพราะนั่นมันตึกชั้น 12 และเขาก็ไม่อุปกรณ์ช่วยเหลือใดๆ ด้วย     ชายหนุ่มเดินดุ่มๆ ไปจนถึงระเบียงเป้าหมาย โดยไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยสักนิด…

ตอนที่หนุ่ม Dillan Elliott และเพื่อนๆ ออกไปตกปลาด้วยกันบริเวณชายฝั่งประเทศออสเตรเลีย พวกเขาก็เห็นบางอย่างกำลังดำผุดดำว่ายอยู่กลางทะเล เมื่อพยายามมองดูดีๆ ก็ต้องตกใจที่พบว่ามันเป็นจิงโจ้ตัวหนึ่งที่ลอยมาอยู่กลางทะเลได้ยังไงก็ไม่รู้ เขาเล่าว่า “คุณเห็นได้ชัดเลยว่ามันพยายามกระโดดอยู่ในน้ำ แต่ก็กำลังตกที่นั่งลำบากอยู่” พวกเขาอยากจะช่วยมันจึงโยนเชือกไปหาหวังจะคล้องตัวมันไว้แล้วพามาบนเรือ แต่ด้วยความที่มันกำลังอยู่ในอาการตกใจมันจึงดิ้นจนหลุดจากเชือกทุกครั้ง     สักพักหนึ่งจิงโจ้ตัวนั้นก็จมน้ำจนสลบไป พวกเขาจึงสามารถลากตัวมันขึ้นมาบนเรือได้โดยง่าย แต่มันไม่ยอมหายใจเลย ทุกคนกลัวว่ามันจะไม่รอดซะแล้ว แต่ด้วยความที่อยากจะช่วยมัน ประกอบจากได้รับคำแนะนำจากคนขับเรือ พวกเขาจึงลองทำ CPR ให้มันดู โดยการใช้มือปั๊มหัวใจมันเรื่อยๆ แม้ว่า Elliot จะไม่เคยทำ CPR ให้สัตว์มาก่อน เขาก็พยายามทั้งๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าทำถูกต้องไหม เพราะเขารู้ว่าถ้าไม่ลองทำดูมันต้องไม่รอดแน่นอน     โชคดีที่มันฟื้นขึ้นมาในที่สุด ชายหนุ่มเล่าว่า “มันเงยหัวขึ้นมาและเอาจมูกมาแตะกับจมูกผม มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ ” นี่อาจจะเป็นการขอบคุณที่เขาช่วยมันไว้ “นอกจากนั้นแล้วมันยังเอาอุ้งมือมาเกาะผมไว้ด้วย แล้วมันก็อ้าปาก ผมคิดว่ามันน่าจะคอแห้งผมก็เลยเอาน้ำดื่มมาเทให้มันกิน”     หลังจากได้ดื่มน้ำและพักผ่อนแล้วเจ้าจิงโจ้ก็ดูอาการดีขึ้นบ้าง แต่พวกเขาก็ยังเป็นห่วงมันอยู่จึงติดต่อให้เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่ามาดูอาการมันอีกที ตอนที่ถึงฝั่งและกำลังรอเจ้าหน้าที่มาหาอยู่ พวกเขาช่วยกันมัดเจ้าจิงโจ้ไว้อย่างหลวมๆ เพื่อไม่ให้มันหนีไป หวังว่ามันคงจะเข้าใจนะว่าพวกเขาทำไปเพราะเป็นห่วง     หลังจากที่เจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ป่ามาถึงแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าถึงมันจะจมน้ำจนหมดสติไป มันก็ไม่ได้เป็นอะไรเลยสักนิด…

ช่วงนี้ประเทศไทยเราอาจจะยังอยู่ในฤดูร้อน แต่ทางประเทศอเมริกากำลังอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นฤดูที่มีความสวยงามทางธรรมชาติให้เห็นมากมาย หนึ่งในสิ่งเหล่านั้นก็คือลูกสุนัขจิ้งจอกซึ่งจะสามารถเห็นได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น และพวกมันก็ไม่ได้หาดูง่ายๆ เลย ทว่าคุณยายคนหนึ่งมีโอกาสได้เห็นพวกมันแทบทุกวันเลยล่ะ ผู้ใช้ Reddit ชื่อว่า Vechrotex บอกว่าคุณยายของเขาอาศัยอยู่ในบ้านซึ่งอยู่ใกล้กับป่า และช่วงนี้ก็มักจะมีแขกขนปุยตัวน้อยแวะมาเล่นตรงระเบียงบ้านของเธอประจำ ซึ่งมันก็คือลูกจิ้งจอกตัวน้อยนั่นเอง     บางครั้งมันก็เดินเข้ามาใกล้กับประตูกระจกแล้วมองเข้ามาข้างใน เหมือนกับจะพยายามขอของกินหรือกำลังมองหาคนมาเล่นด้วย ส่วนครั้งอื่นๆ มันก็จะมาขอใช้พื้นที่ระเบียงของคุณยายเพื่อวิ่งไล่จับกับพี่น้องของมัน ซึ่งทำให้คุณยายได้เห็นภาพที่น่ารักแบบนี้ทุกวัน     Vechrotex เล่าว่าพวกมันไม่ได้มากันเองตามประสาเด็กๆ หรอก ทุกครั้งที่พวกมันมาเล่นตรงนี้จะมีแม่จิ้งจอกมานั่งเฝ้ามองดูจากมุมไกลๆ เสมอ แต่พวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจกับแม่จิ้งจอกหรอก เพราะมันแวะมาตรงระเบียงบ่อยกว่าลูกจิ้งจอกซะอีก แม่จิ้งจอกจะแวะมาที่ระเบียงของพวกเธอตลอดปี ส่วนลูกจิ้งจอกจะโผล่มาให้เห็นแค่ช่วงนี้ของปีเท่านั้น     นั่นเป็นเพราะว่าจิ้งจอกจะผสมพันธุ์และมีลูกในเวลาเดิมเป็นประจำทุกปี และลูกจิ้งจอกมีพัฒนาการที่ไวมากๆ เพียงแค่เดือนกว่าๆ พวกมันก็จะโตจนดูเหมือนจิ้งจอกผู้ใหญ่แล้ว ถ้าหากจะหาดูความน่ารักของลูกจิ้งจอกตัวน้อยน่าทะนุถนอม ก็ต้องดูตอนช่วงเดือนเมษายนถึงกรกฎาคมเท่านั้นแหละ     หลายคนอาจจะไม่อยากอยู่บ้านแถบชายป่าเหมือนคุณยายของ Vechrotex เพราะมันห่างไกลความเจริญ แต่ถ้าแลกกับการได้เห็นความน่ารักแบบนี้บ่อยๆ ก็ดูคุ้มที่จะไปอยู่เหมือนกันนะ   ที่มา: Reddit, boredpanda

Randy Etter กับเจ้าหมา Gemini อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ตอนเจ้าหมายังตัวเล็กแล้ว ปัจจุบันพวกเขาอยู่ด้วยกันมานานกว่า 2 ปี เขารักเจ้าหมามากๆ มันเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของเขาเลย หากขาดมันไปเขาคงรู้สึกเศร้าแทบขาดใจ ดังนั้นเขาจึงยินดีจะทำทุกทางเพื่อช่วยมันเมื่อรู้ว่ามันเป็นอันตรายถึงชีวิต     ทุกครั้งที่ Etter ไปหาแฟนสาวที่บ้าน เจ้าหมาจะไปเล่นกับลูกสาวของเธอเสมอ…เด็กหญิงชอบโยนขวดนมออกมาให้ Gemini แล้วมันก็ไปคาบขวดนมกลับมาทุกครั้ง ปกติ Etter จะรีบเอาขวดนมออกจากปากมันแล้วเอาไปล้างก่อนจะคืนให้เด็กหญิง แต่ครั้งนี้เจ้าหมาคาบขวดนมไปโดยที่เขาไม่ทันสังเกต แล้วมันก็กัดจุกขวดนมจนขาดแล้วกลืนลงไป     ตั้งแต่ตอนนั้นเจ้าหมาก็เริ่มป่วย มันดูไม่กระตือรือร้นเหมือนปกติ แล้วก็เอาแต่เดินตามชายหนุ่มเหมือนต้องการให้ช่วยอะไรสักอย่าง เขาพอจะดูออกว่ามันไม่สบาย แต่ก็ยังลองดูอาการต่อก่อนสักพัก และเมื่อมันอ้วกอย่างรุนแรงเขาก็มั่นใจว่ามันป่วยหนัก ก็เลยรีบขับรถพามันไปหาสัตวแพทย์     น่าเสียดายที่สัตวแพทย์ที่เขาพาเจ้าหมาไปหาบอกไม่ได้ว่าอาการของมันเกิดจากอะไร เขาจึงต้องพามันขับไปตามคลินิกต่างๆ เพื่อหาสัตวแพทย์ที่บอกสาเหตุของอาการป่วยมันได้ Etter เล่าว่า “ผมเสียงานที่ทำไปเพราะต้องพามันขับไปหาสัตวแพทย์ตามที่ต่างๆ แต่ผมก็ไม่ได้รู้ความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการของมันเลย ผมกลัวว่าผมจะช่วยมันไม่ทันเวลา นั่นเป็นสิ่งที่ผมกลัวที่สุด”     ในที่สุด Etter ก็เจอสัตวแพทย์ที่รู้อาการของเจ้า Gemini จนได้ คุณหมอบอกเขาว่าเจ้าหมามีบางอย่างอุดหลอดอาหารอยู่ แต่จำเป็นต้องผ่าตัดรักษา ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงถึง 4,500…

ด้วยความน่ารักในแบบฉบับของหมาคอร์กี้ บวกกับนิสัยขี้อ้อนและเป็นมิตรแล้ว ทำให้แทบไม่มีใครต้านทานความน่ารักของ Max ได้เลย แม้แต่นักวิ่งก็ยังต้องหยุดแวะเล่นด้วย เจ้าหมา Max เป็นสัตว์เลี้ยงของนาย Colin ซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐนิวออร์ลีนส์ ประเทศอเมริกา เขามักจะพามันไปไหนมาไหนด้วยเสมอ     เมื่อไม่นานมานี้ Colin ก็เพิ่งพา Max ไปชมการวิ่งแข่ง  Crescent City Classic ระยะ 10 กิโลเมตรด้วยกัน เนื่องจากเขาเองก็ต้องไปเชียร์เพื่อนที่เข้าร่วมงานวิ่งด้วย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาเห็นว่า Max ดูเหนื่อย เขาก็เลยอุ้มมันขึ้นมาเพื่อที่มันจะได้ไม่ต้องเดินเอง แล้วมันก็จะได้เห็นนักวิ่งชัดๆ ด้วย ตอนนั้นเองที่นักวิ่งทั้งหลายสังเกตเห็น Max อย่างชัดเจน นักวิ่งแทบทุกคนที่วิ่งผ่านมันในตอนนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะต้องแวะมาลูบเจ้าหมาก่อนจะวิ่งผ่านไป     แน่นอนว่าการที่พวกเขาหยุดเพื่อลูบเจ้า Max มันต้องทำให้พวกเขาเข้าเส้นชัยช้าลงนิดหน่อยแน่นอน แต่ถ้าเทียบกันแล้วกำลังใจที่ได้จากการลูบเจ้าหมาก็คุ้มค่ากว่าอยู่แล้ว Colin เล่าว่า “ตลอดเวลาที่เจ้าหมามีคนมาแวะลูบพุง ผมรู้สึกขำที่เห็นผู้คนยอมเข้าเส้นชัยช้าลงหลายวินาทีเพื่อแค่จะได้ลูบเจ้าหมา!”   https://www.instagram.com/p/Bac_UC6nuqF/?utm_source=ig_embed   แต่เราจะไปโทษนักวิ่งที่ยอมเสียเวลาไม่ได้หรอก ถ้าเราไปอยู่ต่อหน้า Max ในตอนนั้น พวกเราเองก็คงเป็นหนึ่งในคนที่หยุดลูบพุงมันเหมือนกัน  …

บางคนก็มีความชอบที่จะได้ ‘คอสเพลย์’ เป็นตัวละครที่ชื่นชอบ แต่ว่าบางทีก็ไม่ใช่แค่คนเท่านั้นที่จะคอสเพลย์ได้ เพราะเชื่อหรือไม่ว่าแม้กับ ‘หมา’ ก็สามารถทำได้เช่นกัน อย่างเช่นเจ้าหมา Merly จอมคอสเพลย์ตัวนี้!!   กัปตันมาแว้วว https://www.instagram.com/p/BuzbvfbjtQm/   เท่ๆ กับกาโมร่า https://www.instagram.com/p/BwQFIxIj6-h/   Merly คือน้องหมาที่กลายเป็นสตาร์ในโลกไอจี หลังจากที่ Amanda Vanderbeek สาวสุดน่ารักผู้เป็นเจ้าของได้เปิดไอจีสำหรับมันโดยเฉพาะ   ตัลล้าก https://www.instagram.com/p/BwDTg4FD9JJ/   ไอจีที่ว่านี้มีชื่อว่า TheCosplayDog ซึ่งรูปภาพที่อยู่ในนี้ก็ตรงตามชื่อนั่นก็คือ มีภาพของ Merly แต่งชุดต่างๆ อยู่เต็มไปหมด และแน่นอนว่ามีหลายคนที่หลงรักมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น   ถ่ายกับไอรอนแมนซะหน่อย https://www.instagram.com/p/BvtEMr9jvd4/   ในตอนนี้ มีคนกดติดตามเจ้าหมาพันธุ์ผสมระหว่างสายพันธุ์ Blue Heeler กับ Border Collie ตัวนี้แล้วถึง 20,000 คนด้วยกัน   แต่งเป็น Deadpool ซะด้วย https://www.instagram.com/p/BvO3rinj_20/   จุดเริ่มต้นของการคอสเพลย์ของมัน Amanda…

เมื่อแมวเหมียวสุดรักอยากรู้จักเพื่อนใหม่ห้องตรงข้าม เลยเป็นหน้าที่ของทาสที่ต้องช่วยให้มันสมหวัง และเกิดเป็นเรื่องราวสุดน่ารักขึ้น     เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Mackenzie (@kenziecoffman) เห็นว่าเจ้าแมวส้ม Simon ของเธอมองแมวที่อยู่ในห้องตรงข้ามหน้าต่างอยู่บ่อยครั้ง เธอเลยคิดว่ามันน่าจะหลงรักแมวของเพื่อนบ้านเข้าให้แล้ว ครั้นจะปล่อยให้เจ้าแมวมองหน้ากันไปเรื่อยๆ แบบนี้ ความสัมพันธ์ของพวกมันก็คงไม่มีวันคืบหน้า เธอจึงตัดสินใจช่วยให้พวกมันรู้จักกันมากขึ้น     โดยการเขียนป้ายข้อความติดหน้าต่างไว้ว่า “แมวของคุณชื่ออะไร? ด้วยรักจาก Simon” และหวังว่าเจ้าของแมวฝั่งตรงข้ามจะเห็นข้อความนี้แล้วตอบกลับมาบ้าง แล้วหลังจากผ่านไปไม่นานก็มีข้อความส่งกลับมาหาเธอจริงๆ ว่า “สวัสดี Simon ฉันชื่อ Theo นะ แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลย จาก Theo”     ดูเหมือน Simon จะดีใจมากเลยที่ได้รู้จักแมวฝั่งตรงข้ามเพิ่มขึ้นสักที หลังจากเริ่มเขียนจดหมาย พวกมันทั้ง 2 ตัวก็มาเจอหน้ากันที่หน้าต่างบ่อยขึ้นกว่าเดิมอีก แน่นอนว่าพอทาสของทั้ง 2 ฝ่ายรู้ว่าแมวฝั่งตรงข้ามอยากรู้จักแบบนี้ พวกเธอก็ย่อมยินดีช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปไกลมากยิ่งขึ้น     แม้ว่าทั้ง Mackenzie และทาสของ Theo จะไม่เคยคุยกันมากกว่าที่เขียนจดหมายให้เจ้าแมวเลย พวกเธอก็กล้ามากพอที่จะเปิดหน้าต่างให้มันทั้ง 2 ตัวได้คุยกันด้วย   THEO’s…

ทาสแมวบางคนเขารักแมวยิ่งกว่าลูกแท้ๆ ซะอีก ดูอย่างบ้านหลังนี้สิ เห็นลูกร้อนยังพอทน แต่เห็นแมวร้อนบ้างไม่ได้ต้องติดแอร์ให้!!     นี่เป็นเรื่องเล่าจากคุณ บี (บีอย่านอนดึกมากนะลุก อ่านหนังสือด้วย) และการติดแอร์ตัวใหม่ในบ้านของเธอเอง ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะเจ้าเหมียว โจวชัว เธอเล่าไว้ในเพจ “ทาสแมว” ว่าที่บ้านของเธอไม่ได้ติดแอร์สักที เพราะว่าพ่อไม่ยอมให้ติดแอร์มาตั้ง 3 ปีแล้ว แม้พี่ชายของเธอเสนอจะจัดการให้คุณพ่อก็ยังไม่อนุมัติให้เอาแอร์เข้ามาสักที จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้คุณพ่อเห็นเจ้าโจวชัวมันทนร้อนไม่ไหว ถึงกับต้องหลบไปอาศัยกระเบื้องเย็นๆ ในห้องน้ำเป็นที่นอน คุณพ่อถึงรีบทำการติดตั้งแอร์อย่างเร่งด่วน     จากที่ลูกๆ ทนร้อนกันมานาน 3 ปีก็ยังไม่มีแอร์ใช้ พอแมวร้อนเท่านั้นแหละภายในเวลา 24 ชั่วโมงในบ้านก็มีแอร์ตัวใหม่ใช้เลย รวดเร็วเหมือนเสกแอร์มาลงยังไงยังงั้น คุณบีถึงกับเขียนขอบคุณเจ้าแมวว่า “คุณหลวงโจวชัววิฬาร์สลิดเสนากับแอร์ตัวใหม่ของเขา กราบแมวสิโว้ยรออะไร นี่ถ้าไม่มีแมวเราร้อนตายเลย”     อันที่จริงดูเหมือนก่อนหน้านี้คุณพ่อของคุณบีก็ไม่ได้สนับสนุนให้เธอเลี้ยงแมวหรอกนะ เขาน่าจะเคยบอกเธอว่า “เรียนจบไม่ต้องเอามันกลับมาบ้านนะ พ่อเกลียดแมว” แต่ดูเหมือนพอได้อยู่ด้วยกันแล้วคุณพ่อก็ต้านทานเสน่ห์ของโจวชัวไม่ไหวเหมือนกัน ตอนนี้กลายเป็นทาสแมวอย่างเต็มตัวแล้ว แถมยังทำท่าทางห่วงมันยิ่งกว่าลูกซะอีกแน่ะ     ขอขอบคุณท่านโจวที่นำความร่มเย็นมาให้คุณบี   ที่มา: บีอย่านอนดึกมากนะลุก อ่านหนังสือด้วย, ทาสแมว

สายสัมพันธ์ของสัตว์มีความแน่นแฟ้นไม่แพ้มนุษย์ โดยเฉพาะสายสัมพันธ์ของแม่ลูกที่ยากจะตัดให้ขาด ความรักของแม่สัตว์ที่มีให้กับลูกแม้แต่มนุษย์อย่างเราก็มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แม่วัวชื่อ Karma เคยอยู่ในสภาพที่คนดูแลไม่ให้น้ำ อาหาร หรือที่กำบังกับพวกมันมาก่อน มันจึงถูกช่วยมาอยู่ในฟาร์ม The Gentle Barn     แต่พอ Karma มาถึงฟาร์มแล้ว มันก็เอาแต่ส่งเสียงร้องโหยหวนทั้งที่ร่างกายของมันก็แข็งแรงดี และก็มีน้ำกับอาหารให้มันกินเหลือเฟือ คนดูแลสังเกตเห็นว่ามีน้ำนมหยดจากเต้าของมันตลอดเวลา จึงคาดการณ์ว่ามันอาจจะร้องเพราะว่าคิดถึงลูกก็ได้ แต่พวกเขาก็ไม่เคยได้ยินว่ามันมีลูก     ตอนที่กลับไปตรวจสอบที่ฟาร์มเก่าของมัน พวกเขาก็ได้รู้ว่า Karma มีลูกตัวหนึ่งจริงๆ แต่คนเลี้ยงไม่ยอมบอกพวกเขาเพราะจะเก็บลูกวัวไว้ขาย ดีที่พวกเขารู้เรื่องนี้ทันการณ์จึงสามารถช่วยลูกวัวกลับมาที่ฟาร์มด้วยอีกตัวหนึ่ง     ตอนที่พวกเขาพาลูกวัวไปถึงฟาร์ม Karma คงจะรู้ว่าลูกมาแล้ว มันก็เลยรีบวิ่งมาที่รั้วกั้นแล้วส่งเสียงเรียกลูกเป็นการใหญ่เลย พอลูกวัวได้ยินเสียงแม่ มันก็รีบวิ่งตามเสียงไปเช่นกัน ท่าทางดีใจของพวกมันตอนได้กลับมาอยู่ด้วยกันทำให้เรารับรู้ได้ว่ามันรักกันมากๆ     หลังจากนั้น Karma กับลูกก็คลอเคลียอยู่ด้วยกัน แม่วัวให้ลูกกินนมจากเต้าของมัน และมันก็ไม่ส่งเสียงร้องแบบโหยหวนหรือทรมานอีก เรื่องของพวกมันทั้ง 2 ตัวทำให้เรารับรู้ได้ชัดเจนว่าแม่สัตว์ก็รักลูกสัตว์มาก ไม่ได้แพ้ที่คนเรารู้สึกรักครอบครัวเลย ถึงภายนอกเราจะไม่เหมือนกันแต่จิตใจข้างในคงไม่ต่างกันหรอก     รับชมเรื่องราวของ Karma…

ผู้ชายบางคนจะเก๊กมาดเข้มอยู่ตลอดเวลา บ้างก็ทำแบบนั้นเพราะทำแล้วดูสุขุมมาดแมน หรือบางคนก็แค่ไม่ชอบแสดงท่าทีอ่อนหวานต่อหน้าคนอื่นเพราะอายเท่านั้น แต่ไม่ว่าคุณจะดูมาดเข้มขนาดไหน ถ้าผู้ชายได้มาเป็นทาสแมวและอยู่ร่วมกันแล้ว ก็ต้านทานความขี้อ้อนของพวกแมวไม่ไหวหรอก ทำให้พวกเขามักจะมีมุมอ่อนหวานตอนอยู่กับเจ้านายขนปุย อีกอย่างตอนผู้ชายอยู่กับแมวนั้นดูน่ามองมากๆ เลย เพราะจะมีออร่าความอ่อนโยนแผ่ออกมาแบบไม่รู้ตัว!!   คุณลุงพาเจ้าแมวแก่ออกมาชมวิวด้วยกัน ก่อนที่มันจะสิ้นใจ   เห็นคุณพ่อชอบทำหน้าดุ พอมีแมวปุ๊บก็น่ามองขึ้นทันตาเห็น   ถึงจะงานยุ่งแค่ไหน ก็ยอมแบ่งเวลามากอดเจ้าแมว   อยู่กับแมวแล้วผ่อนคลาย ผู้ชายเลยไม่ทำหน้าเครียด   ชอบส่งสายตาขี้อ้อนแบบนี้ไง แม้แต่ผู้ชายก็ทนใจแข็งด้วยไม่ได้   ถึงเจ้าแมวจะกวนการทำงานไปหน่อย คุณพ่อก็ไม่ไล่หรอก เพราะอยากอยู่ใกล้มัน   คนรักแมวจะดูหล่อขึ้น 10,000%   ถ้าคุณรักแมว แมวก็จะรักคุณ   ปกติไม่หอมใครออกหน้ากล้องนะ แต่ถ้าเป็นแมวยอมหอมก็ได้   เมื่อคุณอินกับการดูแลแมวมากจนถึงขั้นสวมวิญญาณเพศแม่   ถ้าเจ้าแมวอยากนอนกอด งั้นเราไม่ลุกก็ได้   ดูแลแมวเหมือนเป็นลูกเลยทีเดียว   คนนี้เคยบอกว่าไม่ชอบแมว ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ…   หน้าพ่อไม่ยิ้มนะ แต่ในใจต้องฟินมากแน่ๆ   เมื่อยคอ แต่ยอมให้นอนต่อก็ได้ ฟินดี…

พี่น้องแมวยังเด็กมากทั้งคู่ หากต้องดิ้นรนใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่มีแม่ โอกาสรอดชีวิตของมันก็แทบไม่มีอยู่เลย ดังนั้นการช่วยเหลือของหญิงสาวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้พวกมันเติบโตอยู่ในที่ที่ปลอดภัย     มีสาวคนหนึ่งเจอแมวน้อยสีดำและแมวน้อยสีเทาอยู่ในเขตโรงเรียน แต่เธอไม่เห็นวี่แววของแม่แมวอยู่แถวนั้นเลย เธอจึงช่วยเก็บพวกมันมาดูแล แต่ถึงเธอจะดูแลพวกมันโดยการให้อาหารทุก 2 ชั่วโมงแล้ว พวกมันก็ดูอาการไม่ดีนัก เธอดูแลต่อไม่ไหวก็เลยส่งพวกมันต่อไปให้ Nikki Martinez ซึ่งเป็นคนช่วยแมวที่มีประสบการณ์มากกว่า     Nikki ตั้งชื่อให้แมวน้อยสีดำว่า Ponch ส่วนแมวน้อยสีดำชื่อว่า Jon พอพวกมันมาอยู่กับเธอปุ๊บ เธอก็เห็นเลยว่าพวกมันมีปัญหาในการกินอาหาร ใขณะที่ Jon กินอาหารผ่านทางหลอดฉีดยาได้ เจ้า Ponch เอาแต่คายอาหารออกมาตลอด ทำให้เธอต้องใช้หลอดป้อนอาหารสอดลงไปในช่องปากมันโดยตรงเพื่อให้อาหาร     Nikki เล่าว่า “พวกเราได้รับการฝึกการป้อนอาหารโดยใช้หลอดจากสัตวแพทย์แล้ว…เจ้า Ponch มันต่อต้านตอนที่ฉันพยายามป้อนอาหารให้ มันไม่ยอมกลืนลงไปเลย การให้อาหารโดยใช้หลอดจึงเป็นทางเดียวที่จะทำให้มีอาหารตกถึงท้องมัน ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ดีไม่ดีมันอาจจะขาดสารอาหารตายเอา”     ทั้ง Jon และ Ponch ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ Nikki มาช่วยดูแลพวกมัน ตอนนี้พวกมันไม่ได้ตัวผอมจนน่าเป็นห่วงแล้ว แต่พวกมันทั้งคู่ก็ยังเอาแต่กอดกันอย่างน่าเอ็นดู เหมือนกับตอนที่มีคนไปเจอพวกมันทั้ง…

การบริจาคเลือดเป็นกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่คนใจบุญชอบไปทำกัน เนื่องจากเลือดของเราสามารถช่วยชีวิตคนอื่นได้ในยามฉุกเฉิน การไปบริจาคเลือดจึงเหมือนการได้ทำบุญแบบอ้อมๆ ไปด้วย ถึงเราจะคุ้นเคยกับบริจาคเลือดของคนดีแล้ว แต่คงมีไม่กี่คนที่รู้ว่าสุนัขก็บริจาคเลือดได้ด้วยเช่นกัน ลองไปฟังเรื่องราวจากหญิงที่พาสุนัขไปบริจาคเลือดเป็นประจำดูดีกว่า เราจะได้รู้ว่าการบริจาคเลือดสุนัขมันเป็นยังไง     Chrissa เป็นเจ้าของน้องหมา Milo เธอเคยพามันไปบริจาคเลือดมาก่อนแล้ว เธอจึงแค่ทำการนัดหมายกับทางคลินิกไม่มากก่อนจะพามันไปตรวจสุขภาพ และบริจาคเลือดเท่านั้น แต่ถ้าสุนัขของคุณยังไม่เคยทำการบริจาคเลือดล่ะก็ อาจจะต้องให้น้องหมาไปลงทะเบียน แล้วค่อยให้รับการตรวจร่างกาย ตรวจโรคและกรุ๊ปเลือดซะก่อน ถ้ามันแข็งแรงมากพอถึงจะสามารถบริจาคเลือดได้     คลินิกที่เธอพาเจ้าหมาไปบริจาคเลือดจะให้ขนมเป็นรางวัลกับเจ้าหมาก่อนที่มันมาทำความดี จากนั้นจึงจะค่อยพามันไปนอนบนเตียงเพื่อเจาะเลือด โชคดีที่เจ้าหมามันไม่กลัวคุณหมอ มันก็เลยไม่ได้ขัดขืนมากนัก สำหรับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่มันมาบริจาคเลือด คุณหมอเลยต้องให้ยากล่อมประสาทเบาๆ มันจะได้ไม่ดิ้นมาก ถ้ามันมาบ่อยกว่านี้จนชินแล้วต่อไปก็ไม่ต้องใช้ยาอีก     ให้ยากล่อมประสาทนิดนึงนะ จะได้ไม่ดิ้นมาก   การบริจาคเลือดของเจ้าหมาจะใช้เข็มเจาะเข้าไปตรงบริเวณใต้คอ โดยจำเป็นจะต้องโกนขนตรงนั้นออกก่อนเพื่อให้ง่ายต่อการเจาะเข็ม และก็เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหมาเอง หลังจากเจาะเลือดเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่เข้าตอนรอให้เลือดเต็มถุงเหมือนของคนเราเลย โดยจะช้ารึเร็วก็ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละตัว ส่วนเจ้า Milo ใช้เวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นเนื่องจากมีสุขภาพแข็งแรงดี     เจาะเลือดเสร็จก็แค่รอให้เลือดเต็มถุง   รอแป๊บเดียวเลือดก็เต็มถุงแล้ว เก่งมากเลยเจ้าตูบ   สัตวแพทย์บอกว่าเลือดสุนัขขนาดใหญ่หนึ่งถุง สามารถช่วยเหลือสุนัขขนาดใหญ่ตัวอื่นได้ถึง 4 ตัวเลยทีเดียว…

เวลาที่เราเลี้ยงสัตว์รวมกันไว้หลายตัว พวกมันมักจะมีเรื่องป่วนๆ ฮาๆ หลุดมาให้เราได้เห็นเสมอ คู่หูชิพมังค์กับกระต่ายคู่นี้เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @shiratama_suzu เลี้ยงกระต่ายเอาไว้หลายตัว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้ากระต่ายขาว Shiratama แล้วนอกจากกระต่ายก็ยังมีชิพมังค์อีกตัวชื่อว่า Suzu ด้วย   น้อง Shiratama   และน้อง Suzu   Shiratama กับ Suzu อยู่ด้วยกันประหนึ่งเพื่อน พวกมันไม่มีปัญหาอะไรกันเลย จะมีก็แค่นิสัยแปลกๆ ของ Suzu เท่านั้นที่เห็นแล้วน่าตีจริงๆ เพราะมันชอบไปแย่งข้าวหรือขนมของเจ้ากระต่ายกิน ไม่ใช่ว่าเจ้าของให้ข้าวพวกมันไม่เท่ากันหรอกนะ เขาแบ่งข้าวไว้ให้พวกมันเรียบร้อยแล้ว แต่พอเจ้าชิพมังค์เห็นเพื่อนกระต่ายกินอะไรอยู่เท่านั้นแหละ มันก็จะวิ่งไปแย่งกินทุกครั้ง   なんで2個あげたのに1個を取り合うの？ pic.twitter.com/ccW1HegLC0 — しらたま&すずはツンデレラ (@shiratama_suzu) April 7, 2019   บางครั้งเวลาไปแย่งขนมมาเป็นของตัวเอง แล้วเจ้ากระต่ายหันไปกินชิ้นอื่นแทนแล้ว มันก็ยังจะตามมาแย่งข้าวของกระต่ายกินอยู่ดี เรียกว่าไม่ได้หิวแต่ชอบแย่งจะดีกว่า   大きい🍎を捨ててまで‥ pic.twitter.com/gLgWAnOJwU — しらたま&すずはツンデレラ (@shiratama_suzu) 10 เมษายน…

ต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Elijah Barkley ออกไปตกปลากับเพื่อนๆ และครอบครัวที่รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะลงเอยด้วยการช่วยชีวิต แต่นั่นคือสิ่งที่เขาได้ทำในวันนั้น… โดยขณะที่เดินกลับไปยังแคมป์ Barkley ได้พบกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้พร้อมด้วยผู้ดูแลหมี พวกเขาได้ขอให้ชายหนุ่มช่วยตามหาลูกหมีที่น่าจะอยู่ในพื้นที่นี้     เจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่าลูกหมีตัวนั้นกำพร้าหลังสูญเสียแม่ไป ซึ่งทำให้ Barkley รู้สึกเศร้าขึ้นมาทันที และรับปากว่าถ้าเจอมันจะแจ้งให้พวกเขาทราบ เมื่อแยกกับเจ้าหน้าที่ Barkley ก็เดินทางกลับไปยังแคมป์ และทันใดนั้น เขาก็พบลูกหมี ที่ทุกคนกำลังตามหา ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้และผู้ดูแลหมียังคงอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ดังนั้น Barkley จึงไปตามพวกเขาแล้วพาไปยังจุดที่เขาเจอลูกหมี     ผู้ดูแลหมี Joel Rosenthal ซึ่งดำเนินการอยู่ในศูนย์บำบัดหมีที่เรียกว่า Point of View Farm, Inc พยายามตามหาลูกหมีที่เร่ร่อนตามลำพัง เพื่อที่จะพามันไปยังศูนย์ช่วยเหลือของเขาและให้การช่วยเหลือต่อไป โชคดีที่ Barkley เจอลูกหมีในเวลาอันรวดเร็วหลังถูกขอให้ช่วยตามหา แต่ยังไม่ทันที่ Rosenthal จะเข้าไปทำให้ลูกหมีสงบลง เท้าของมันก็จุ่มลงไปในน้ำซะแล้ว เพราะมันพยายามจะข้ามไปอีกฝั่งของแม่น้ำ     จากสภาพของลูกหมี คาดว่าลูกหมีน่าจะพยายามว่ายข้ามแม่น้ำมาสักพักหนึ่ง ทำให้มันหมดแรงจนไม่สามารถยกหัวขึ้นได้…

ศูนย์พักพิงเกือบทุกที่ทั่วโลกมักจะเต็มไปด้วยสัตว์ที่อดทนรอให้ใครสักคนเข้ามาและพาพวกมันกลับบ้านด้วย แต่กว่าสัตว์จะถูกรับเลี้ยงแต่ละตัวนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐเนแบรสกา จึงก้าวเข้ามาและช่วยเติมเต็มความฝันให้สุนัขในศูนย์พักพิง เพื่อให้พวกมันลงเอยด้วยการพบกับชีวิตอันแสนสุข แล้วรู้มั้ยว่าตำรวจเหล่านี้ทำยังไง?     พวกเขาทำให้สุนัขในศูนย์พักพิงเป็นสุนัข K9 เป็นเวลา 1 วัน นั่นหมายความว่าตำรวจสามารถพาสุนัขออกไปได้ครั้งละ 1 ตัว และให้อยู่กับพวกเขาตลอดทั้งวัน ด้วยเหตุนี้ สุนัขที่ถูกรับไปจึงไม่ได้อยู่แค่ในสถานีตำรวจเท่านั้น แต่พวกมันยังได้ออกไปตระเวนทั่วเมืองพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย     ไอเดียนี้จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้คน และหวังว่าสุนัขแต่ละตัวจะมีโอกาสมากขึ้นในการพบกับครอบครัวใหม่ระหว่างที่ออกไปลาดตระเวนกับตำรวจ Mickey เป็นสุนัขตัวแรกที่ได้เป็นสุนัข K9 1 วัน และรู้มั้ยว่ามันถูกรับเลี้ยงไม่กี่วันหลังจากที่เข้าร่วมโครงการนี้     กรณีของ Mickey ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศมีกำลังใจและยินดีที่จะทำแบบเดียวกันนี้ เพื่อให้สุนัขทุกตัวในศูนย์พักพิงได้มีครอบครัวของตัวเอง Bryan Waugh หัวหน้ากรมตำรวจเชื่อว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับสุนัขนั้น เป็นประโยชน์กับทั้งกรมตำรวจและตัวสัตว์เอง     เขาให้เหตุผลเพิ่มเติมว่าการที่ผู้คนเห็นตำรวจทำงานร่วมกับสุนัข เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กรมตำรวจมากขึ้น ว่าพวกเขาทุ่มเทที่จะดูแลความปลอดภัยของประชาชนจริงๆ ด้านสุนัขในศูนย์พักพิงนั้น เมื่อได้มาเป็นสุนัข K9 แม้เพียงแค่วันเดียว แต่ก็เพิ่มโอกาสที่จะถูกรับเลี้ยงมากขึ้น     ภาพที่เห็นอยู่นี้คือ…

บางคนคิดว่าสัตวแพทย์ได้เห็นสัตว์ในเคสต่างๆ มาแล้วมากมาย ดังนั้น พวกเขาก็น่าจะชินกับสถานการณ์ต่างๆ ของสัตว์ ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนก็ตาม แต่สำหรับเคสนี้ มันรุนแรงเกินกว่าสัตวแพทย์จะรับได้ เมื่อลูกแมว 6 ตัว ถูกพามายังศูนย์พักพิงในเมือง Sylacauga รัฐแอละแบมา ในสภาพที่เจ้าหน้าที่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง สภาพของลูกหมาดูแย่มากๆ จนไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้…     ลูกหมาเหล่านี้ถูกพบในป่าโดยพลเมืองดีที่ไม่อยากทิ้งพวกมันไว้ที่นั่น จึงได้อุ้มพวกมันทั้งหมดมายังศูนย์พักพิงดังที่กล่าวไป Nicole Zaguroli ผู้ที่ทำงานร่วมกับ Second City Canine Rescue (SCCR) บอกว่า “กลิ่นของพวกมันเหม็นมาก จนเจ้าหน้าที่ต้องสวมหน้ากากปิดจมูกในช่วงที่อาบน้ำให้” นอกจากนี้ เหล่าหมาน้อยยังเป็นหิด ตัวเย็น และเป็นโรคขาดสารอาหารอย่างรุนแรง     ผิวของพวกมันเป็นสีแดง และมีน้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัม ทำให้เจ้าหน้าที่คิดว่าพวกมันไม่น่าจะใช่สุนัยสายพันธุ์ใหญ่ บางคนคิดว่ามันเป็นสุนัขพันธุ์ผสมสแปเนียล แม้จะไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้อย่างชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่ศูนย์พยายามทำทุกอย่างเพื่อมอบความสะดวกสบายให้พวกมัน     อย่างไรก็ตาม ลูกหมาเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่เข้มงวดมากขึ้น เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานอื่นเพื่อขอความช่วยเหลือ นั่นเป็นตอนที่ Jacque Cobb ประธาน…

เมื่อไม่นานมานี้ พลเมืองดีพบลูกแมว 5 ตัว อยู่ข้างถนนกับแม่ของพวกมันที่ตายแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกรถชน ถึงอย่างนั้น ลูกแมวก็ยังคงอยู่รวมกันเพื่อปลอบใจกันและกัน พลเมืองดีคนนั้นจึงรีบพาลูกแมวทั้ง 5 ไปยังศูนย์พักพิงในรัฐแมริแลนด์ เพื่อขอความช่วยเหลือ     เหล่าลูกแมวกลัวมนุษย์มากๆ พวกมันจึงอยู่ใกล้กันตลอดเวลา และพยายามให้ความอบอุ่นใจแก่กันและกัน บางตัวหลบอยู่หลังพี่น้องเพื่อความปลอดภัย พวกมันทุกตัวกลัวสิ่งแวดล้อมในศูนย์พักพิง เพราะที่นี่ไม่มีแม่อยู่ด้วย เมื่อ Jen (@pokeypotpie) อาสาสมัครอุปถัมภ์ได้ทราบเรื่องของพวกมัน เธอจึงอาสารับลูกแมวครอกนี้มาอยู่ในการดูแล     หลังจากได้อาบน้ำ ได้กินอาหารจนอิ่ม และได้รับความสะดวกสบายบนเตียงอุ่นๆ มิ้วน้อยทุกตัวก็รู้สึกดีขึ้น และผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด Jen บอกว่า “ต้องใช้เวลาถึง 2 วัน กว่าพวกมันจะรู้สึกอุ่นใจกับเรา และตัดสินใจไว้ใจเรา เมื่อเราเอาอาหารมาให้ และลูบตัวให้ด้วยความรัก” สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ พี่น้องทั้ง 5 ไม่เคยอยู่แยกจากกัน     ลูกแมวทั้ง 5 ตัว ถูกตั้งชื่อว่า Pesto, Pomodoro, Panino, Panna Cotta…

เมื่อพูดถึงออสเตรเลีย หลายคนอาจจะขนลุกขนพอง เพราะมัวแต่นึกถึงภาพอันน่ากลัวของเหล่าสัตว์ป่า โดยเฉพาะ งูพิษ บางคนถึงกับบอกว่าออสเตรเลียเป็นดินแดนแห่งงูพิษอย่างแท้จริง แต่จริงๆ แล้วออสเตรเลียมีเสน่ห์มากกว่าที่คิดเยอะ เพราะที่นั่นไม่ได้มีแค่งู แต่มีเหล่าตัวขนปุกปุยน่ารักน่ากอดมากมาย และหากคุณได้ดูภาพเหล่านี้ คุณต้องเปลี่ยนทัศนคติอย่างแน่นอน   1. ฮาโหล หาเค้าอยู่หรอ?   2. เคยเห็นป่ะ เจ้าเบบี๋ควอล   3. ชูการ์ไกลเดอร์ เป็นสัตว์มุ้งมิ้งที่หวานแหววสมชื่อจริงๆ   4. เอ๊ะ เมื่อกี้มีใครพูดว่าของหวานนะ!? ของโปรดเค้าเลยหละ   5. มองผ่านๆ นึกว่าเปลือกไม้   6. น้องบาดเจ็บ เลยต้องอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ แถมยังได้ใส่กางเกงที่เข้ากับเฝือกด้วย   7. ไม่ว่าจะสูงแค่ไหนก็ไปถึง…   8. เจอแบบนี้เข้าไป เป็นใครก็ใจละลายทั้งนั้น   9. ล่าสุด ราวตากผ้ากลายเป็นของเล่นของชูการ์ไกลเดอร์ไปแล้ว   10. ทำหน้างอนแบบว่า ผมโตแล้วฮะ ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว…

โชคชะตาของแม่ลูกแกะคู่หนึ่ง เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที เมื่อหญิงที่ประมูลตัวพวกมันได้ไม่ได้ซื้อพวกมันไปเป็นอาหาร แต่เป็นการจ่ายเงินเพื่อต่อชีวิตให้     แม่แกะหมายเลข 264 และลูกแกะหมายเลข 265 ถูกขายให้กับโรงประมูล Palm Sunday เพื่อให้โรงฆ่าสัตว์ประมูลตัวพวกมันไปเป็นอาหารอีกทอดหนึ่ง โชคดีที่คนที่มาประมูลพวกมันไปไม่ใช่โรงฆ่าสัตว์ แต่เป็น Marla Riley ซึ่งรักสัตว์และอยากเลี้ยง ชีวิตของพวกมันจึงรอดพ้นจากอันตราย   แม่แกะหมายเลข 264   ลูกแกะหมายเลข 265   Riley เป็นคนที่รักสัตว์ และเธอกับครอบครัวก็ช่วยกันทำกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ The Riley Farm Rescue อยู่ด้วย ก่อนหน้าแม่ลูกแกะคู่นี้ เธอก็ช่วยชีวิตสัตว์มามากมายแล้ว เธอบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจมาช่วยชีวิตแม่ลูกแกะเป็นพิเศษ แต่พอเธอมางานประมูลแล้วเจอพวกมัน เธอก็คิดว่า 2 ตัวนี้แหละที่ฉันควรจะช่วย     หญิงสาวบอกอีกว่าเธอรู้ว่าแกะ 2 ตัวนี้ไม่ได้เป็นสัตว์คู่เดียวที่ตกที่นั่งลำบากในการประมูลครั้งนั้น มีสัตว์อีกหลายตัวที่ถูกประมูลขายให้โรงฆ่าสัตว์อีก ถึงเธอจะไม่สามารถช่วยเหลือพวกมันได้ทุกตัว แต่เธอก็ตัดสินใจว่าจะช่วยพวกมันเท่าที่ช่วยได้ อย่างน้อยแม่ลูกคู่นี้ก็ได้มีชีวิตอยู่ต่อเพราะความช่วยเหลือเล็กๆ ของเธอ     Riley ตั้งชื่อแม่แกะว่า Daisy…

ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหมาหรือเจ้าแมว ตอนอยู่บ้านกับเราพวกมันก็เล่นซนหรือนอนหลับแทบทั้งวัน เหมือนมันอยู่แบบไม่แคร์เราเลย จนบางคนก้อดสงสัยไม่ได้ว่ามันสนใจเราบ้างรึเปล่า แต่นั่นอาจเป็นเพราะคุณไม่เคยเห็นพวกมันตอนอยู่ห่างจากคุณ ถ้าคุณลองแอบถ่ายรูปหรือวิดีโอตอนที่คุณไม่อยู่บ้านไว้ คุณอาจจะได้เห็นว่าพวกมันคิดถึงคุณมากจนแทบรอเจอหน้าไม่ไหวก็ได้ แบบสัตว์พวกนี้เป็นต้น   พอใกล้เวลาพ่อกลับบ้าน ก็มารอตรงนี้ทุกที   ไม่ไดม้ีแค่หมาที่คิดถึง แมวก็คิดถึงทาสเด้อ   ช่องล่างกว้างสุด รอดูจากช่องนี้ละกัน   ดีนะหน้าต่างอยู่ระดับสายตาพอดี เลยนอนรอได้   กลับมาบ้านสักทีนะทาส เติมข้าวให้เราได้แล้ว   กระต่ายยังมารอมนุษย์กลับบ้านด้วยเลย   นั่นไงแกทาสกลับมาแล้ว   คิดถึงทาสจังเลย อยู่บ้านคนเดียวไม่รู้จะกวนใคร   พวกหมาตาถั่ว นั่นไม่ใช่รถมนุษย์สักหน่อย เรียกเรามาให้ดีใจเล่นทำไม   ปกติไม่เห็นสนใจเราเลย พอมาดูกล้องวงจรปิด มันแอบมารอเรากลับบ้านเว้ย!!   คาบของขวัญมารอต้อนรับด้วยเลยเหรอ   พอทาสไม่อยู่ก็เหงาล่ะสิเจ้าเหมียว   กลับบ้านมาก็ดีอยู่หรอกทาส แต่คราวหน้าอย่ากลับดึกเข้าใจไหม!!   ไปหัดนั่งท่านี้มาเพื่อรอเจ้าของกลับบ้านโดยเฉพาะเลยนะ   ไม่ใช่แมวบ้านนี้หรอก แต่มารอน้องกลับจากโรงเรียน จะได้มีคนเล่นด้วย   ตัวสูงก็จะมองเห็นเจ้านายไกลๆ หน่อย จะได้มีเวลาเตรียมตัวกระโจนใส่…

แมวเหมียวตาบอดไม่ได้รับความสนใจจากแม่หรือพี่น้องเลย แต่ชีวิตมันก็ยังมีความสุขได้ เพราะมีมนุษย์พามันไปอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหม่     Kerry Denman เป็นหญิงสาวที่ชอบแมว บางครั้งเธอก็จะแวะไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อเล่นกับพวกแมว แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะรับเลี้ยง ครั้งนี้เธอก็มาศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อเล่นกับแมวอีกเช่นเคย แต่คราวนี้เธอได้เจอกับเจ้า Louie ซึ่งเป็นลูกแมวที่มาอยู่ใหม่ด้วย     Louie เป็นลูกแมวที่เกิดมาก็ตาบอดแล้ว และก็มีโครงสร้างกระดูกผิดปกติบางจุด เธอเห็นมันนั่งขดอยู่ตัวเดียวบนตะกร้าผ้า แม่ของมันไม่ดูแลมันเลยเพราะมันเป็นตัวที่อ่อนแอที่สุดในในครอก ส่วนพี่น้องของมันก็ไม่ยอมเล่นกับมันเช่นกัน เธอรู้สึกสงสารมัน แต่ก็ไม่ได้พามันกลับบ้านด้วยในตอนนั้น…     แต่หลายวันผ่านมาเรื่องของเจ้าแมวน้อย Louie ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว Denman เหมือนเดิม เธอจึงกลับไปรับเลี้ยงเจ้าแมวตาบอดมาอยู่ด้วยกัน     Louie ปรับตัวกับบ้านหลังใหม่ได้ไวกว่าคนที่รับเลี้ยงมันซะอีก Denman เล่าว่า “วันแรกที่พามันมาอยู่บ้านฉันสติแตกมาก แต่เจ้าแมวไม่ได้ดูหวาดกลัวเลย มันก็แค่สำรวจบ้านไปรอบๆ มันทำตัวเหมือนกับว่ามันอยู่กับฉันมานานแล้ว”     เวลาที่ Louie อยู่กับหญิงสาวตามลำพัง เธอบอกว่ามันดูไม่หวาดกลัวเลย แต่ถ้ามีคนแปลกหน้าเข้ามาในห้องด้วยมันจะเดินตามเสียงของเธอตลอด เธอคิดว่าจริงๆ มันก็คงจะรู้สึกกลัวหรือกังวลกับสิ่งแปลกใหม่บ้าง แต่เจ้าแมวน้อยมันไว้ใจเธอตั้งแต่แรก เธอก็เลยไม่เห็นมันกลัวเท่านั้นเอง     หลังจากเลี้ยงมันมาได้พักใหญ่ๆ Louie…

แมวเหมียวสีขาวดำตัวนี้ไม่เคยเดียวดายเลย เพราะถึงมันจะออกไปเล่นข้างนอกตัวเดียว แต่มันก็จะเอาของเล่นติดตัวไปเป็นเพื่อนด้วยเสมอ…     แมวเหมียวอายุ 12 ขวบตัวนี้ชื่อว่า Pixie มันอาศัยอยู่บ้านกับทาส Beth Wilson ด้วยกันที่บ้านในประเทศอังกฤษ Wilson รัก Pixie และโอ๋มันมากๆ เธอให้มันออกไปเที่ยวเล่นตามใจชอบ และก็ซื้อของเล่นให้มันมากมายซึ่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นตุ๊กตาที่มันโปรดปราน     Pixie ติดตุ๊กตาเอามากๆ เวลาที่มันออกไปเล่นซนทีไรมันต้องมีตุ๊กตาติดตัวไปด้วยอย่างน้อย 1 ตัว แล้วมันก็จะดูแลตุ๊กตาเป็นอย่างดี เวลาที่เจ้าแมวทำอะไรแล้วรู้สึกดี มันก็จะอยากจะให้ตุ๊กตารู้สึกอย่างนั้นด้วย อย่างเช่นถ้าเจ้าแมวรู้สึกฟินตอนมันนอนหงายท้องรับแสงแดด มันก็จะให้ตุ๊กตาของมันนอนหงายท้องเหมือนกัน     หรือถ้าวันนั้นมันเอาแต่วิ่งเล่นสำรวจไปทั่วสวน มันก้จะไม่ปล่อยตุ๊กตาทิ้งเอาไว้ แต่จะคาบติดตัวไปด้วยกันเลย มันคงได้ความรู้สึกเหมือนว่ามันกับเจ้าตุ๊กตาได้สำรวจโลกกว้างไปพร้อมๆ กัน     เจ้าแมวมีตุ๊กตาหลายตัว แต่ก็ดูแลอย่างดีทุกตัว   Pixie ไม่ได้ติดตุ๊กตาแค่เวลาออกไปข้างนอกบ้านเท่านั้น ถ้าวันไหนฝนตกจนออกไปนอกบ้านไม่ได้ มันก็จะคาบตุ๊กตาเดินเล่นอยู่ในบ้านนั่นแหละ Wilson เล่าว่า “ในช่วงหน้าร้อนมันจะเอาตุ๊กตาออกไปเล่นด้วยที่สวน บางครั้งมันก็จะคาบตุ๊กตาออกไเดินเที่ยว แล้วกลับเข้ามาในบ้าน… ส่วนช่วงหน้าหนาวมันจะคาบตุ๊กตาเดินไปรอบๆ บ้าน บางครั้งมันก็เอาตุ๊กตาเข้ามาในห้องหลายตัวเลยทีเดียว”    …

เมื่อ 2 เดือนก่อนเราเคยได้เล่าเรื่องราวของคุณตา John และเจ้าหมา Pawpaw ให้ทุกคนได้อ่าน รวมถึงความหวังที่เขาอยากหาบ้านให้มันก่อนจะจากโลกนี้ไป (อ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้ของคุณตา John และเจ้าหมา Pawpaw ได้ที่ https://www.catdumb.com/old/man-last-wish-find-dog-home-700) และในตอนนี้หลังจากที่ตามหาบ้านให้เจ้าหมาแรมเดือน ความปรารถนาของคุณตา John ก็เป็นจริงได้ทันเวลาอย่างฉิวเฉียด     คุณตา John ผู้รักหมาอยู่กับหมามาหลายตัวแล้ว แม้จะแก่มากแล้วเขาก็ยังรับเลี้ยง Pawpaw มาอยู่เป็นเพื่อนคู่ใจกัน แต่เนื่องจากคุณตาป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม เขาจึงรู้ตัวเองดีว่าเขาเหลือเวลาใช้ชีวิตอยู่อีกไม่นาน เขาห่วงอย่างเดียวเท่านั้นคืออยากให้ Pawpaw มีคนดูแลต่อก่อนเขาตาย     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Muttville Senior Dog Rescue ซึ่งมอบ Pawpaw ให้กับ John ก็พยายามช่วยคุณตาหาบ้านให้กับเจ้าหมามาสักระยะหนึ่งแล้ว จนเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ตามหาเจ้าของใหม่อยู่นาน… พวกเขาคิดว่า Bernie Knobbe กับ Tim Belavich เป็นคนที่เหมาะสมจะได้เลี้ยงมันต่อ จึงได้นัดพวกเขาให้ไปเจอกับเจ้าหมาดูก่อน     Bernie…

เจ้าอ้วนตัวกลมที่มาพร้อมเสียงร้องอู๊ดๆ ตัวนี้มีชื่อว่า Arnold มันเป็นหมูวัย 7 ขวบ และในฐานะสัตว์เลี้ยง มันเคยผ่านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในชีวิตมาแล้วมากมาย Jenny Nichols ผู้อำนวยการ Cottontail Cottage Animal Sanctuary บอกว่า “นอกเหนือจากบ้านปัจจุบัน Arnold เคยเปลี่ยนบ้านมาแล้ว 3 หลัง”      หมูที่ถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงนั้น มันจะลงเอยด้วยการเป็นสัตว์ไร้บ้านหรือถูกทอดทิ้ง เพราะพวกมันเป็นสัตว์ฉลาด และต้องการความสนใจ การดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ โชคดีที่กรณีของ Arnold นั้น เพราะมันยังมีสิ่งหนึ่งที่เป็นแหล่งความสุข ซึ่งทำมันรู้สึกดีเสมอ และยังเป็นความทรงจำอันงดงามของมันในปัจจุบันนี้ด้วย นั่นก็คือ Sammie ไก่ผู้เป็นสัตว์เลี้ยงของ Arnold นั่นเอง     ความผูกพันระหว่าง Arnold กับ Sammie เริ่มต้นขึ้นที่บ้านหลังปัจจุบันของเจ้าหมู เมื่อไหร่ที่ Arnold ดูเหมือนรู้สึกไม่ค่อยดีนัก Sammie จะช่วยทำให้มันรู้สึกดีขึ้น นอกจากนี้ เจ้าไก่ยังชอบไปยืนอยู่บนหลังของเพื่อนหมู ซึ่งเป็นภาพที่ดูน่ารักมากๆ และยังเป็นการสื่อสารระหว่างทั้งคู่ด้วย…

มิ้วน้อยตัวนี้มีชื่อว่า Hamish มันมีขนาดตัวเท่าลูกเทนนิส และมันพยายามอย่างหนักเพื่อจะเติบโตในช่วง 4 สัปดาห์แรกของชีวิต ก่อนหน้านี้ Hamish ถูกพามาที่ศูนย์พักพิง  The Arlington Welfare League Kitten Academy พร้อมกับพี่น้องครอกเดียวกัน     ขณะที่พี่น้องตัวอื่นเติบโตขึ้นตามกาลเวลา แต่ Hamish กลับมีน้ำหนักหยุดอยู่ที่ 140 กรัมเหมือนเดิม ซึ่งน้อยกว่าพี่น้องถึง 3 เท่า ดังนั้น ผู้ช่วยเหลือจึงต้องช่วยมันมากเป็นพิเศษ เพื่อให้มันมีโอกาสเติบโต Ellen Carozza จาก Nova Cat Clinic บอกว่า “พวกเขาติดต่อมาหาฉัน เพราะมิ้วน้อยไม่สามารถเติบโตได้ แม้พวกเขาจะช่วยมันอย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม”     Hamish ตัวเล็กมากๆ มันขนที่หางร่วง และท้องป่องผิดปกติ มันจึงต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ที่ถูกต้อง และรู้ว่าไหมว่า แม้ชีวิตของมันจะน่ากังวลแค่ไหน แต่เสียงร้องของมันดังมาก ราวกับต้องการบอกว่ามันอยากมีชีวิตอยู่ Ellen บอกว่า “เราได้ทำการวินิจฉัยเพิ่มเติมและพบว่ามันติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร รวมถึงมีการเคลื่อนไหวของลำไส้ค่อนข้างช้า”…

นี่คือ Gale เป็นสุนัขอเมริกัน สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอเรียร์ วัย 10 เดือน ที่กำลังมีช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมในงานแข่งสุนัขในสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นผู้ชนะการประกวดในครั้งนี้ แต่เมื่อพวกเขากำลังออกจากประเทศเพื่อเดินทางกลับบ้านในอัมสเตอร์ดัมในเนเธอร์แลนด์ ก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น     โดยเมื่อเครื่องบินมาถึงที่เนเธอร์แลนด์แล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าหมาได้หายตัวไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝั่งสหรัฐฯ ก็แจ้งมาว่าพวกเขาไม่พบ Gale เช่นกัน ผู้จัดการ Gale ตัดสินใจแจ้งไปยังเจ้าของน้องหมา Floris Van Essen ซึ่งอยู่ห่างไปครึ่งโลก(เนเธอร์แลนด์) และเมื่อทราบเรื่อง พวกเขากังวลใจมาก เพราะครอบครัวนี้ไม่มีลูก ดังนั้น Gale จึงเปรียบเหมือนลูกแท้ๆ ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอคอยการติดตามหาของเจ้าหน้าที่ด้วยความกระวนกระวายใจ     เมื่อสอบถามและประสานงานกันเพื่อตามหาเจ้า Gale ทางพนักงานของสนามบินบอกว่าพวกเขาเห็นกรงเปล่าตั้งแต่ย้ายกรงไปขึ้นเครื่องแล้ว ขณะที่ KLM ออกมาแจ้งว่าสุนัขได้หนีออกจากกรง ระหว่างที่พนักงานกำลังโหลดมันไปยังเที่ยวบิน KL622 ซึ่งจะออกเดินทางจากแอตแลนตาไปยังอัมสเตอร์ดัมเมื่อวันที่ 23 มีนาคมผ่านมา ตอนนี้ทุกคนอยู่ในความสับสน เพราะไม่รู้เลยว่าเจ้า Gale หายไปไหน!?    …

เมื่อเห็นแก๊งไบเกอร์เห็นกล้ามใหญ่ มีรอยสัก ดูน่าเกร็งขาม หลายคนมักเข้าใจว่าพวกเขาเป็นอัธพาล ชอบใช้ความรุนแรง และไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยว แต่ความจริงแล้ว ไบเกอร์กลุ่มนี้อ่อนโยนกว่าที่คิด พวกเขาอุทิศเวลาในการช่วยเหลือสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลือ ภายใต้องค์ของพวกเขาที่มีชื่อว่า Rescue Ink      ที่ผ่านมา องค์กร Rescue Ink ได้ช่วยชีวิตสัตว์เป็นจำนวนมาก และพวกเขาจะไม่หยุดจนกว่าจำนวนสัตว์ที่ถูกทอดทิ้งและถูกทำร้ายจะเหลือศูนย์ ผู้สนับสนุนการช่วยเหลือสัตว์เหล่านี้ไม่ได้เป็นไบเกอร์ทุกคนหรอกนะ บางคนเป็นนักเพาะกาย บางคนเป็นทหาร ตำรวจ นักสืบ รวมไปถึงทนายความ     พวกเขาไม่เพียงช่วยสัตว์ที่ถูกทำร้ายเฉพาะในละแวกบ้าน แต่พวกเขาออกตามหาและช่วยสัตว์ทุกตัวที่ถูกทารุณกรรม ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ที่บ้านหลังไหนก็ตาม หนึ่งในคนกลุ่มนี้บอกว่า “บางคนคิดว่าเราเป็นฮีโร่ แต่จริงๆ เราเป็นแค่คนที่รักสัตว์มากคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราต้องผ่านอุปสรรคและความท้าทายมากมายในการทำงานภารกิจต่างๆ”     Rescue Ink ไม่ได้ทำงานกันลำพัง แต่พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงสัตว์และองค์กรสาธารณะต่างๆ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนจากเหล่าคนดังด้วย พวกเขาช่วยเหลือสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว ม้า หรือแม้แต่ปลา     Mr. Missari หนึ่งในทีมงานของ Rescue…

วันหนึ่ง ขณะที่ Jessica Banzhof ออกมาทำธุระด่วน และกำลังนำอาหารกลับไปที่ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ทันใดนั้น เธอก็ได้พบกับ Cupid  Cupid เป็นสุนัขพิตบูลล์ มันสวมเสื้อสีแดง ซึ่งดูน่ารักจน Banzhof ไม่อาจต้านทานได้ เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ และทักทายมัน     Banzhof เล่าว่า “ฉันถามคนที่ฉันคิดว่าเป็นเจ้าของของมันว่า ‘ขอลูบมันหน่อยได้มั้ย?’ แต่แล้วฉันก็สังเกตเห็นว่าคนคนนั้นไม่ใช่เจ้าของของมันจริงๆ” “ฉันคิดว่านั่นเป็นโชคชะตาที่ทำให้ฉันมาเจอมัน” ความจริงคือ Cupid อยู่ในร้านขายสัตว์เลี้ยงภายใต้โครงการ Dogs on the Town ที่ดำเนินการโดย  Lucas County Canine Care and Control ในรัฐโอไฮโอ เพื่อช่วยให้สุนัขจากศูนย์พักพิงเป็นที่สังเกตของชุมชน   พวกเขาพาสุนัขในศูนย์พักพิงไปที่ร้าน เพื่อให้คนเห็นมันและยินดีรับมันไปเลี้ยง   จากนั้น Banzhof ก็รีบส่งข้อความไปหาสามีว่า “ฉันเจอสุนัขตัวนี้ และฉันก็ตกหลุมรักมัน มันเป็นมิตรและดูสงบมาก”  ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกๆ ของเธอเคยขอเลี้ยงสุนัขตัวโต แต่ได้รับการปฏิเสธไป ดังนั้น…

ลองนึกภาพดูว่าถ้าคุณต้องออกจากบ้าน จากเพื่อน พี่น้อง ครอบครัว ทิ้งทุกอย่างที่คุณเคยทำเป็นประจำ และไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า ไหนจะกลิ่นและเสียงที่ไม่คุ้นเคยอีก… คุณจะรู้สึกยังไง? แค่จินตนาการก็รู้ศึกเศร้าแล้ว แต่รู้มั้ยว่านั่นเป็นสิ่งที่สุนัขหลายตัวต้องเผชิญในชีวิตจริงเมื่อมาถึงศูนย์พักพิง พวกมันต้องอยู่กับความรู้สึกสับสนและเครียดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้…     ด้วยเหตุนี้ คนที่เข้าไปเป็นอาสาสมัครในศูนย์พักพิงจึงพยายามอย่างดีที่สุดในการให้อาหาร ทำความสะอาด และให้ความรักสุนัขเหล่านี้ โดยหวังว่าจะช่วยลดความเครียดหรือความกังวลให้พวกมันได้ แม้ทุกอย่างอยู่ภายใต้เวลา งบประมาณ และทรัพยากรที่จำกัด แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังพยายามทำทุกวิถีในการหาบ้านให้สุนัขแต่ละตัว และหนึ่งในวิธีเหล่านั้นคือ การถ่ายรูปพวกมันแล้วโพสต์ในสื่อโซเชียล   แต่ถ้าถ่ายรูปธรรมดา คนก็อาจจะสนใจน้อย เพราะฉะนั้นต้องทำให้คนสนใจมันมากที่สุดแล้ว!!   Josie Baughan เป็นช่างภาพที่อาสามาถ่ายรูปให้สุนัขในศูนย์พักพิง ภายใต้โครงการ Animals In Need โดยการพาสุนัขในศูนย์ออกมาข้างนอก เพื่อถ่ายรูปในสถานที่ที่ไม่ใช่กรง แต่ภารกิจนี้ไม่ง่ายเลย เพราะสุนัขหลายตัวออกจากกรงพร้อมความกังวล กลัว และระแวงกับทุกอย่างรอบตัว บางตัวแค่เดินบนถนนคอนกรีตก็ทำให้มันรู้สึกสะเทือนใจแล้ว ดังนั้น ระหว่างการถ่ายรูป จึงต้องมีอาสาสมัครคอยปลอบพวกมันอยู่เสมอ     อย่างไรก็ตาม Baughan ต้องการให้สุนัขทุกตัวดูผ่อนคลายที่สุดเมื่อมาอยู่หน้ากล้องของเขา ไม่ใช่แค่เพียงให้ได้ภาพที่สวยที่สุด แต่เพื่อให้ผู้คนเห็นว่าพวกมันเป็นอย่าง??เมื่อได้ออกมาข้างนอก Baughan…

เชื่อว่าทาสแมวทั้งหลายน่าจะยังจำแมวส้ม Go-chan และแมวดำ Ken-chan ได้ พวกมันคือคู่หูแมวที่พยายามจะลักลอบเข้าพิพิธภัณฑ์ Onomichi Museumในจังหวัดฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น (อ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้ของ Go-chan และ Ken-chan ได้ที่ https://www.catdumb.com/old/cats-visiting-japanese-art-museum-777)     Ken-chan นั้นอาศัยอยู่กับทาสในบ้านที่อยู่ใกล้เคียง และจะออกมาเล่นข้างนอกบ้านเป็นประจำ ส่วน Go-chan เป็นแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ในเขตอพาร์ตเมนต์แถวนั้น ทุกวันนี้เจ้าแมวส้มและแมวดำก็ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าพิพิธภัณฑ์เหมือนเดิม และยังคงพยายามจะเข้าไปในพิพิธภัณฑ์อย่างไม่ลดละ   『久しぶりニャ😺 Long time no see! ②』(23/4/2019) #尾道 #千光寺公園 #尾道市立美術館 #黒猫 #cat #onomichi pic.twitter.com/YPS0m14x5n — 尾道市立美術館 (@bijutsu1) April 23, 2019   แม้ลุงยามที่เฝ้าประตูอยู่ ก็ไม่ให้มันเข้าไปข้างในเช่นเคย แต่เขาก็อ่อนโยนและเอ็นดูทั้ง Ken-chan และ Go-chan บ่อยครั้งที่พวกมันมาหาเขาก็จะหยุดเล่นกับพวกมัน เจ้าแมวทั้ง 2…

คงไม่มีใครหรอกที่ห้ามใจไม่ให้รักนกเจ้าถิ่นแห่งแดนขั้วโลกอย่าง “นกเพนกวิน” ได้ ก็หน้าตาพวกมันทั้งดูใสซื่อบริสุทธิ์และน่ารักซะขนาดนั้น แล้วรู้รึเปล่าว่าพวกเพนกวินมันก็มีวันพิเศษเป็นของตัวเองด้วยนะ…ซึ่งก็คือวันที่ 25 เมษายน ของทุกปีนั่นเอง     “วันเพนกวินโลก” ถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกเมื่อนักวิจัยบนเกาะรอสส์ ในทวีปแอนตาร์กติกา ค้นพบว่านกเพนกวินอาเดลีจะพากันอพยพในวันนี้เป็นประจำทุกปี พวกเขาก็เลยทำให้มันเป็นวันพิเศษที่ทุกคนจะได้ชมการอพยพของพวกมันซะเลย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะฉลองให้กับพวกมันเพียงสายพันธุ์เดียวหรอกนะ วันเพนกวินโลกเป็นวันที่จะทำให้คนทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของเพนกวินทุกสายพันธุ์เท่าๆ กัน     ก็อย่างที่รู้กันดีว่าปัจจุบันสภาวะโลกร้อนนั้นส่งผลกระทบต่อการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกเป็นอย่างมาก และมันก็ส่งผลโดยตรงต่อถิ่นที่อยู่อาศัยของนกเพนกวินด้วย ทำให้จำนวนของพวกมันลดลงอย่างน่าเป็นห่วง ตอนนี้ในจำนวนนกเพนกวินทั้งหมดที่มีอยู่บนโลก 17 สายพันธุ์ พวกมัน 11 สายพันธุ์ถูกประกาศให้เป็นสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์หรือสัตว์ล้ำค่าเรียบร้อยแล้ว ในอีกนัยหนึ่ง วันนี้จึงเป็นวันที่ทำให้มนุษย์เราหันมาใส่ใจปัญหาโลกร้อนและการอนุรักษ์เพนกวิ้นด้วยเช่นกัน     ส่วนพวกเราขอย้ำเตือนความสำคัญของพวกมันด้วยภาพน่ารักๆ ดีกว่า พอเพื่อนๆ ตกหลุมรักกับนกเพนกวิ้นแล้ว จะได้อยากให้พวกมันอยู่กับเราไปนานๆ แล้วช่วยกันอนุรักษ์พวกมันไงล่ะ     วันนกเพนกวินทั้งที พี่หมีลองมาเป็นเพนกวินกับเขาบ้างก็ได้   เหมือนมาอยู่ผิดฝูงเลยแฮะ   บางทีไม่ต้องมีน้ำแข็งเพนกวินก็อยู่ได้ ขอแค่อากาศหนาวเย็นก็พอ   เห็นเพนกวินชอบอากาศหนาว แต่ก็ชอบอาบแดดเหมือนกันนะ   ใครบอกเพนกวินบินไม่ได้ เราบินได้ไม่กี่วิต่างหาก  …

มีบางบ้านเหมือนกันที่ถึงจะแต่งงานกันนานแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกตัวน้อยด้วยกันสักที ที่เห็นมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็มีแค่เจ้าหมานั่นแหละ ถ้าคุณสงสัยว่าพวกเขาไม่อยากเลี้ยงเด็กบ้างเลยเหรอ…จริงๆ พวกเขาอาจจะไม่มีลูกกันเพราะทุกวันนี้ที่เลี้ยงหมาก็รู้สึกเหมือนเลี้ยงลูกคนแล้วก้ได้ ฮั่นแน่!! แอบคิดอยู่ล่ะสิว่าลูกหมากับลูกคนมันจะไปเหมือนกันได้ยังไง อะไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า แล้วเอาปากกามาวงว่าตรงไหนบ้างที่มันไม่เหมือน!!   จะไม่ฟังคำว่าไม่จากปากเราเด็ดขาด ไม่งั้นจะงอน https://twitter.com/GrizzlySZN/status/1107292798590599168   มีคนเปเสื้อผ้าน่ารักๆ ให้ใส่เสมอ My mum gets handmade clothes from America for my dog and I literally can’t cope 😂😩😂 pic.twitter.com/lpGnDiLyi0 — Rubess🌹 (@rubyymaee) March 27, 2018   จะเด็กหรือหมาก็อารมณ์แปรปรวนง่าย อยู่ๆ จะงอนก็งอน https://twitter.com/Smashhlyn/status/1117537003719942144   เล่นสนุกคนเดียวได้เป็นชั่วโมงๆ Lads look at my dog being the…

ชายคนหนึ่งเข้าไปคุ้ยหาเศษอาหารเพื่อประทังชีวิต ครั้งนี้แม้เขาจะไม่ได้ของกินให้ตัวเอง แต่เขาได้ช่วยชีวิตน้อยๆ เอาไว้ถึง 7 ชีวิต เมื่อกลางเดือนเมษายน 2019 ที่ผ่านมา มีชายไร้บ้านคนหนึ่งไปคุ้ยถังขยะซึ่งอยู่ข้างร้านขายอะไหลารถยนต์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา     แต่แทนที่เขาจะเจอเศษอาหารอย่างที่ตั้งใจ เขากลับพบว่ามีคนเอาลูกหมา 7 ตัวมามัดใส่ถุงพลาสติกแล้วทิ้งไว้ในนั้นแทน เขาจึงช่วยหิ้วเอาตัวพวกมันออกมา แล้วเอาพวกมันไปวางไว้ใกล้กับด้านหน้าของทางเข้าร้านขายอะไหล่รถยนต์ เผื่อคนที่ผ่านมาจะช่วยเหลือพวกมันได้   .   Jazzy Espino ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านขายอะไหล่รถยนต์เล่าให้ฟังว่า “ลูกค้าที่เข้ามาบอกฉันว่าข้างนอกมีลูกหมาถูกทิ้งอยู่ เราก็เลยเอาพวกมันใส่กล่องแล้วพามาไว้ข้างในร้าน พวกมันเนื้อตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะอากาศข้างนอกนั่นร้อนมาก แล้วพวกมันก็ทั้งร้องทั้งกัดนิ้วเราเนื่องจากพวกมันหิวมากด้วย…วันนั้นอากาศร้อนถึง 95 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งทำให้พวกมันตายได้ง่ายๆ เลยล่ะ”     เธอเล่าต่อว่า “ที่ทิ้งขยะอยู่ตรงด้านข้างของร้านเรา ตรงนั้นแทบไม่มีใครผ่านไปเลย ถ้าไม่ได้คนไร้บ้านคนนั้นคุ้ยพวกมันออกมาล่ะก็ คงไม่มีใครเจอพวกมันหรอก” จากนั้น Espino ก็ติดต่อไปหาเพื่อนที่ทำงานช่วยเหลือสัตว์ เพื่อนของเธอจึงนำอาหารมาป้อนให้พวกมันกิน แล้วช่วยไม่ให้พวกมันหิวตายได้   .   ส่วนทางด้านคนใจร้ายที่นำลูกหมาเป็นๆ มาทิ้งไว้ ทางร้านและเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ได้เปิดกล้องวงจรปิดดูย้อนหลัง และเจอตัวเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอเป็นหญิงวัย 54…

การรับเลี้ยงหมาไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องดูแลมันฝ่ายเดียวเท่านั้น สำหรับบางคนเจ้าหมาก็มีส่วนช่วยในการดูแลเจ้าของเช่นกัน เหมือนกับคุณตาและเจ้าหมาคู่นี้ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ก่อนหน้านี้เจ้าหมา Buddy อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์มานานแล้ว ในเมื่อไม่มีใครมารับดูแลมันสักที ทางศูนย์พักพิงสัตว์จึงตัดสินใจว่าคงถึงเวลาต้องการุณยฆาตมัน ก่อนหน้าที่จะถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเจ้าหมานั่นเอง Richard Patterson ก็ได้เข้ามาในศูนย์พักพิงสัตว์แห่งนั้นพอดี แล้วพอเขารู้ว่ามันจะมีชีวิตได้อีกแค่วันเดียว เขาก็รับมันมาเลี้ยงเอาไว้     ทว่าเขาไม่ได้เป็นฝ่ายช่วยชีวิตมันฝ่ายเดียวเท่านั้น หลังจากที่มันมาอยู่กับเขาสักระยะหนึ่งแล้ว มันก็ช่วยเตือนภัยเขา โดยการเห่าและใช้อุ้งเท้าแตะบริเวณที่เขารู้สึกปวดด้วย เขาคิดว่ามันอาจเป็นการเตือนภัยบางอย่าง เขาจึงลองไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายดู แล้วได้รู้ว่าเขาเป็นมะเร็งผิวหนังบริเวณที่เจ้าหมาแตะจริงๆ เนื่องจาก Buddy ช่วยให้เขาตรวจเจอมะเร็งตั้งแต่ระยะแรก หมอจึงช่วยผ่าตัดเอาส่วนที่เป็นเนื้อร้ายออกให้เขาได้ ทำให้เขามีชีวิตต่อได้โดยไม่ต้องเป็นโรคมะเร็ง     นอกจากจะช่วยเตือนภัยเรื่องโรคมะเร็งให้ Patterson แล้ว Buddy ยังช่วยให้เขาต่อสู้กับโรค Post-traumatic stress disorder (PTSD) หรือก็คืออาการเครียดที่ฝังใจ ซึ่งเกิดขึ้นกับเขาหลังออกรบที่เวียดนามมาด้วย โรคนี้ทำให้ Patterson กลายเป็นคนมีปัญหาในการเข้าสังคม แต่พอมี Buddy มาอยู่ด้วยเขาก็รู้สึกว่ามันช่วยให้เขาผ่านปัญหานี้ไปได้     โดยเจ้าหมาจะไปอยู่เป็นกำลังใจให้เขาทุกเวลา เขาเล่าว่า “มันไปที่โบสถ์กับผม มันนอนเป็นเพื่อนผม แล้วก็ไปส่งผมเข้าห้องน้ำด้วย ตอนไปหาหมอมันก็ยังไปเป็นกำลังใจให้ผมเลย”  หรือแม้แต่เวลาที่เขาไปออกกำลังกายที่ยืมมันก็ไปออกกำลังกายเป็นเพื่อนเขาเช่นกัน  …

แมวแก่ขี้เซาไม่มีคนรับเลี้ยงไปสักที เนื่องจากมันไม่ค่อยดึงดูดความสนใจจากคนที่มาหาแมวเลี้ยง อาสาสมัครจึงต้องให้ครูฝึกช่วยให้มันหาจุดเด่นเพิ่มให้ตัวเองบ้าง ทำให้ในที่สุดมันก็มีคนสนใจและรับไปเลี้ยง เจ้าแมว Lynette Baguette มาอยู่ในศูนย์พัพิงสัตว์ Monmouth County SPCA (MCSPCA) ได้สักพักแล้ว และการทำให้มันมีคนอยากรับเลี้ยงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย     เนื่องจากเจ้าแมวเป็นโรคไขข้ออักเสบ มันจึงรู้สึกเจ็บแผลและทำให้มันมีอารมณ์บูดเกือบตลอดเวลา เวลามีคนอยากเล่นด้วย มันก็มักจะใช้อุ้งเท้านุ่มๆ ตะปบหรือใช้ฟันที่เหลืออยู่ซี่เดียวงับเพื่อบอกว่าไม่อยากเล่นด้วย คนที่ดูแลมันรู้ถึงปัญหาเรื่องนี้ดี พวกเขาจึงพยายามรักษาโรคไขข้ออักเสบให้มันก่อนเป็นอันดับแรก จนกระทั่ง Lynette หายจากโรคนั้น     แต่พอ Lynette หายเจ็บแล้ว แทนที่จะมันจะสนใจเล่นกับคนอื่นมากขึ้น มันกลับรู้สึกสบายตัวมากๆ แล้วเลือกที่จะนอนหลับเกือบตลอดเวลาแทน นั่นทำให้ทุกคนที่มีคนมารับเลี้ยงแมวในศูนย์พักพิงสัตว์ พวกเขาก็จะสนใจแมวตัวอื่นที่เข้ามาเล่นด้วยมากกว่า แล้วเจ้า Lynette ที่เอาแต่นอนหลับก็แทบจะไม่อยู่ในสายตาทาสทั้งหลายเลย     ด้วยเหตุนี้คนดูแลจึงตัดสินใจพาครูฝึกแมว Lindsay มาเจอมัน เพื่อให้เธอช่วยหาวิธีแก้ความขี้เซาของเจ้าเหมียว และทำให้มีคนรับเลี้ยงมันให้ได้ ซึ่งหลังจากที่ Lindsay ใช้เวลาอยู่กับ Lynette สักระยะหนึ่ง เธอก็พบว่ามันมีความสามารถที่ไม่เหมือนแมวตัวอื่น ซึ่งก็คือการทำ “ไฮไฟว์” หรือการแตะมือกับทาสเพื่ออ้อน  …

การพบสัตว์ในที่ที่ไม่คาดคิด มักจะสร้างความตกใจให้กับผู้คนเสมอ เช่น การเจองูในชักโครก เจอตัวเงินตัวทองมาเกาะประตูบ้าน หรือเจอกวางในห้องครัว ยกเว้นที่ออสเตรเลีย มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เห็นจิงโจ้มาโผล่ในทุกที่ที่พวกเขาอยู่ เหมือนอย่างคลิปด้านล่างนี้ เมื่อมีคนกลุ่มอยู่ในบาร์ แล้วอยู่ดีๆ ก็มีจิงโจ้ตัวหนึ่งเดินเข้ามา     หนึ่งในคนที่อยู่ในบาร์ดังกล่าว บอกว่า “ขณะที่ผมกับเพื่อนๆ กำลังเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มเย็นๆ อยู่ดีๆ ก็มีจิงโจ้กระโดดเข้ามาข้างใน ก่อนจะตรงมายังโซสสูบบุหรี่” หากเป็นที่อื่น เจอจิงโจ้เข้ามาแบบนี้ คงจะอึ้งกันน่าดู แต่ที่นี่ทุกคนดูเหมือนจะเฉยๆ มาก ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือไม่พวกเขาก็คงเห็นจนชินแล้ว     ตั้งแต่เข้ามา เจ้าจิงโจ้ก็โดดไปนั่นไปนี่ทั่วบาร์ ก่อนจะกระโดดออกทางประตูหลังของร้าน  โดยที่ผู้คนแทบจะไม่สังเกตเห็นมัน มีบางคนที่เหลือบไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะหันมาดื่มหรือคุยกับเพื่อนต่อ ราวกับว่า ‘จิงโจ้เข้าร้าน… แล้วไงอะ’     แน่นอนว่าจิงโจ้เองก็ดูไม่สะทกสะท้านเช่นกัน มันเข้ามาในบาร์ที่มีผู้คนมากมาย แต่มันมีท่าทีตื่นเต้น ตกใจ หรือกลัวเลยสักนิด ราวกับกำลังกระโดดเล่นในป่าเหมือนทุกวัน     เห็นได้ชัดว่า ที่ออสเตรเลียนั้น จิงโจ้กระโดดเข้ามาในบาร์ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสักนิด ซึ่งสำหรับคนที่รักสัตว์ทั่วโลก กลับมองว่ามันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก และอยากให้จิงโจ้กระโดดเข้ามาในที่ที่พวกเขาอยู่แบบนี้บ้าง…

แมวจรจัดตัวหนึ่งมักจะมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ บ้านของ Noemi Camacho เธอเองก็เป็นคนชอบแมว ก็เลยหลงเสน่ห์มันแล้วเอาข้าวเอาน้ำให้มันกินบ่อยๆ สักพักหนึ่งเธอก็สังเกตว่าแมวตัวนั้นกำลังท้องอยู่ ด้วยความที่เป็นห่วงมันเธอก็เลยเก็บเอามันเข้ามาอยู่ในบ้านเพื่อให้มันมีที่ไว้คลอดลูก     ลูกแมวส่วนใหญ่สุขภาพแข็งแรงดี แต่มีอยู่ตัวหนึ่งที่มีขาบิดเบี้ยวผิดรูป ซึ่งเธอไม่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลแมวแบบนี้จึงไม่สามารถช่วยมันเองได้ เธอจึงช่วยพวกมันโดยการติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในชุมชนแทน ครอบครัวของมันจึงได้ไปอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Friends for Life RescueNetwork     Jacqueline DeAmor ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ตั้งชื่อแม่แมวว่า Nymeria เธอรับมันและลูกมาอยู่ในกันในศูนย์พักพิงที่เธอดูแลอยู่ แล้วเธอก็ให้อาสาสมัครช่วยแม่แมวในการดูแลแม่แมว ซึ่งตัวที่พวกเขาต้องดูแลเป็นพิเศษก็คือ Troy ลูกแมวที่มีขาผิดรูป     พวกเขารู้ว่าขาที่ผิดรูปของ Troy มีสาเหตุมาจากเส้นเอ็นที่ตึงมากเกินไป พวกเขาจึงทำการบำบัดให้มันด้วยการนวดเป็นประจำ Jacqueline เล่าว่า “เส้นเอ็นของมันสั้นเกินและจึงเกินไป ถ้าเรานวดและช่วยยืดเอ็นให้มัน เราก็หวังว่ามันจะช่วยให้เส้นเอ็นยืดอย่างถาวรได้”     โชคดีที่การรักษาเป็นไปตามที่เธอคิด หลังจากนวดให้มันไม่กี่วัน ขาของ Troy ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางเป็นปกติแล้ว ที่เหลือก็แค่นวดให้มันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้เส้นเอ็นของมันอยู่ตัวตามปกติ ส่วนลูกแมวตัวอื่นนั้นอาสาสมัครแทบไม่ต้องช่วยดูแลเลย เพราะว่าแม่แมว Nymeria ดูแลลูกแมวเองทุกอย่างจนไม่เหลืออะไรให้อาสาสมัครช่วยเลย     Jacqueline เล่าถึงแม่แมวว่า “มันเป็นแม่แมวที่หวงลูกอย่างแรง…

มีคนเคยบอกไว้ว่าอย่าเชื่ออะไรจนกว่าจะได้เห็นกับตาตัวเอง แต่ถึงคุณจะได้เห็นบางอย่างกับตาแล้ว นั่นก็อาจจะไม่ใช่ความจริงก็ได้!? เพราะบางครั้งสิ่งที่เห็นก็ยังหลอกตาคุณอยู่ดี เหมือนกับสัตว์พวกนี้ที่ถึงจะดูเหมือนกับสัตว์ชนิดหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วเป็นสัตว์คนละตัวเลย พวกมันมีความคล้ายกับตัวอื่นขั้นเทพ ชนิดที่ว่าหลายคนมองผ่านแล้วเข้าใจผิดกันง่ายๆ เลย ไปดูกันว่าคุณจะมองตัวจริงของสัตว์พวกนี้ออกทุกตัวไหม   หมาแพนดี้ กับหมีแพนด้า   เป็นลูกหมาแท้ๆ แอ๊บเป็นลูกหมีซะเนียน   ถ้าดูแค่ลายก็เป็นเสือดีๆ นี่เอง   ถ้าคุณคิดว่านี่เป็นแกะ…คุณคิดผิด!! มันคือหมูพันธุ์ Mangalitsa ที่มีขนเต็มตัวตลอดทั้งปี   นี่คือ Owl Butterfly เป็นผีเสื้อแต่มีหน้านกฮูกอยู่บนปีก   อุ๋งๆ ตัวนี้ว่ายได้แค่ท่าลูกหมาตกน้ำเท่านั้นแหละ   คล้ายกันแบบนี้ ถึงจะมีคนเข้าใจหนูผิดเป็นแมวหรือแมวผิดเป็นหนู ก็จะไม่แปลกใจเลย   พี่หมานิวฟาวด์แลนด์ ตัวโตจนเนียนไปกับม้าซะงั้น   เจ้าแห่งการปลอมตัว ตั๊กแตนกิ่งไม้   ใจเย็นๆ น้องไม่ใช่หมาป่า น้องเป็นแค่หมาพันธุ์ Tamaskan   ถึงจะเหมือนกระต่ายขนปุย แต่จริงๆ มันคือทากทะเลต่างหาก   ดูหน้าเป็นหนู แต่พอดูรวมๆ…

เราได้เห็นแมวที่มีลักษณะแปลกเพราะความผิดปกติทางพันธุกรรมมาเยอะ บ้างก็มีขาผิดรูป บ้างก็มีหูเยอะเกิน หรือบางตัวก็มีปากแหว่ง แต่คงไม่มีอะไรจะแปลกเท่าแมว 2 หน้าอีกแล้ว     ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2017 แม่แมวตัวหนึ่งในประเทศแอฟริกาใต้ได้ให้กำเนิดลูกแมว 3 ตัว แต่หนึ่งในนั้นมีความแปลกประหลาด เนื่องจากมันมีใบหน้า 2 ใบ ถ้าจะบอกให้ละเอียดกว่านั้นคือลูกแมวน้อยมีตา 4 ดวง มีจมูก 2 อัน และก็มีปาก 2 อันด้วย เนื่องจากเจ้าของแมวไม่เคยเห็นแมวแบบนี้มาก่อน เขาจึงรีบพามันไปหาสัตวแพทย์     เขาได้รู้จากสัตวแพทย์ว่าลูกแมวมีความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เรียกว่า craniofacial duplication ซึ่งทำให้มันมีใบหน้าเกินมา เขาแนะนำกับเจ้าของว่าควรการุณยฆาตมันซะตั้งแต่ตอนนั้น เนื่องจากลูกแมวที่มีความผิดปกติแบบนี้มักจะมีโอกาสรอดชีวิตน้อย แล้วถ้าอยู่ไปก็ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด     ถึงอย่างนั้นเจ้าของแมวก็อยากลองให้โอกาสมันใช้ชีวิตดูก่อน เธอจึงพามันกลับบ้านไปด้วยพร้อมกับตั้งชื่อให้แมวน้อยว่า Bettie Bee     ในช่วงแรก Bettie Bee มีพัฒนาการไม่ต่างไปจากลูกแมวปกติเลย มันกินเก่ง นอนเก่ง แล้วก็ชอบเล่นซนเหมือนลูกแมวทั่วไป แล้วเจ้าแมว 2 หน้าก็มีน้ำหนักตัวตรงตามมาตรฐานเหมือนกับแมวตัวอื่นด้วย…

ใครที่เลี้ยงแมวอยู่คงรู้อยู่แล้วว่าสิ่งหนึ่งที่เจ้าแมวชอบเล่นมากๆ ก็คือ “ทิชชู่” ถ้าทิ้งทิชชู่ไว้ใกล้มือมันเมื่อไหร่ รับรองว่าหมดม้วนแน่นอน ทว่ามีทาสแมวอยู่คนหนึ่งที่อยากให้เจ้านายได้เล่นทิชชู่อย่างจุใจ เขาจึงลองสร้างห้องที่มีแต่ทิชชู่ให้มัน งานนี้ไปดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น     เจ้าเหมียวที่ถูกทาสสปอยล์อย่างหนักชื่อว่า Pusic เนื่องจากทาสของมันชอบสร้างวิดีโออารมณ์ดีเกี่ยวกับแมว มันจึงได้ทำอะไรที่แมวตัวอื่นไม่เคยทำอยู่บ่อยครั้ง   https://www.instagram.com/p/BfvPUGMguWV/   และครั้งนี้เขาจะมาสร้างห้องที่เต็มไปด้วยทิชชู่ซึ่งเป็นของเล่นที่แมวทุกตัวโปรดปราน ให้กับเจ้า Pusic ตัวเดียวโดยเฉพาะ เขาลงทุนซื้อทิชชู่มาร่วม 100 ม้วนเพื่อความบันเทิงของเจ้าแมวเลยทีเดียว ทาสคงกะจะให้เจ้าแมวเล่นอย่างจุใจชนิดที่ไม่ห่วงเรื่องการเก็บกวาดเลย   ภารกิจในวันนี้ ทำห้องทิชชู่ให้เจ้าแมวโดยใช้ทิชชู่ 100 ม้วน!!   โดยห้องที่ทาสเลือกใช้ทำดินแดนทิชชู่ให้เจ้าแมวก็เป็นห้องนั่งเล่นในบ้านของเขาเอง นอกจากจะลงทุนซื้อทิชชู่ให้มันเป็นจำนวนมากแล้ว เขายังลงทุนลงแรงจัดห้องให้มันแบบจัดเต็มด้วย เขาทำให้ทั้งพื้นห้อง เพดานห้อง และผนังห้องปกคลุมไปด้วยทิชชู่ทั้งหมด แค่ดูภาพก่อนและหลังจัดห้องก็รู้แล้วว่าเขาทุ่มเทให้เจ้าแมวมาก   สภาพห้องก่อนกลายเป็นดินแดนทิชชู่   เอาทิชชู่ติดตามเพดาน และคลี่ลงมาปกคลุมผนังห้องทุกด้าน   แล้วก็ใช้ทิชชู่ที่เหลือโปรยให้เต็มพื้น จนได้ออกมาเป็นดินแดนทิชชู่!!   เห็นสภาพห้องแล้วไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเจ้าแมวต้องชอบมันมากแน่ๆ แล้วพอเจ้า Pusic ได้เข้ามาอยู่ในห้องมันก็ถูกใจห้องทิชชู่อย่างที่คาดไว้จริงๆ มันไม่รอช้ารีบพุ่งตัวเข้าไปหากองทิชชู่อย่างเอาเป็นเอาตายเลยทีเดียว ถ้าไม่บอกว่ามันปกติดีเราอาจเข้าใจผิดว่ามันเมากัญชาแมวมาก็ได้นะ    …

วันหนึ่ง ขณะที่ชายหนุ่มคนหนึ่งไปเดินป่าในซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ทันใดนั้น สายตาเขาก็เหลือบไปเห็นลูกหมาตัวเล็กๆ ถูกทิ้งให้อยู่ลำพัง เมื่อมองไปรอบๆ แล้วไม่เห็นวี่แววของแม่หมา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มหมาน้อยกลับบ้านด้วย เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ มันคงไม่รอดแน่ จากนั้น เขาก็ติดต่อไปยัง San Diego Humane Society เพื่อขอให้รับลูกหมาผู้น่าสงสารตัวนี้ไปดูแล     ทางหน่วยงานดังกล่าวตอบตกลงและได้เดินทางไปรับลูกหมาที่บ้านของชายหนุ่มทันที แต่เมื่อไปถึง พวกเขาสังเกตเห็นบางอย่างแปลกๆ ในตัวลูกหมาตัวนี้ เมื่อลองดูดีๆ พวกเขาถึงได้รู้ว่าที่ลูกหมามีความแปลกๆ นั้น เป็นเพราะมันไม่ใช่ลูกหมา แต่เป็นลูกหมาป่า     Dariel Walker หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของ San Diego Humane Society บอกว่า “ผู้คนมักจะแยกแยะความแตกต่างระหว่างลูกหมาบ้านกับลูกหมาป่าไม่ออก เพราะพวกมันยังเด็ก” “แต่สิ่งหนึ่งเห็นได้ชัดคือ จมูกลูกหมาป่าจะยาวกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเราได้รับการอบรมมาอย่างดี ในการแยกแยะความแตกต่างนี้”     ทางด้านชายหนุ่มนั้น เขาไม่รู้ตัวเลยว่าได้เก็บลูกหมาป่ามาอยู่ในบ้าน และเขาดูสับสนมากตอนที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบว่านี่คือลูกหมาป่า ไม่ใช่หมาบ้านอย่างที่เขาเข้าใจ ไม่มีใครรู้ว่าทำไมลูกหมาป่าตัวนี้ถึงถูกทิ้งไว้ลำพัง แต่เจ้าหน้าที่คาดว่าแม่อาจหมาคาบลูกตัวอื่นๆ ไปไว้ในถ้ำใหม่ และขณะที่จะกลับมาคาบลูกตัวสุดท้ายนั้น มันตกใจผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น…

เมื่อชาวเมืองคนหนึ่งจากนิวเจอร์ซีย์ได้ยินเสียงเมี๊ยวๆ ดังมาจากหลังบ้าน เธอจึงเดินไปดู เธอก็ต้องเซอร์ไพรส์ เมื่อพบว่ามีครอบครัวแมวเล็กๆ ใช้ที่นั่นเป็นบ้าน ต่อมา ชาวเมืองคนนั้นได้ติดต่อไปยัง Whitney Malin และแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับลูกแมวครอบครัวนั้น Whitney จึงไปที่นั่น ก่อนจะพบลูกแมวครอกนี้อายุแค่ 3 เดือนเท่านั้น ขณะที่แม่แมวดูระแวงมาก     แม่แมวพยายามซ่อนลูกๆ ไว้ในรังที่ทำจากกิ่งไม้และเศษขยะ และเนื่องจากลูกแมวได้รับการลูกแลจากแม่แมวอยู่แล้ว Whitney จึงตัดสินปล่อยพวกมันไว้ที่นั่นต่อไป แต่ไม่ได้หมายความเธอทิ้งพวกมัน เธอได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับดัก และพยายามช่วยแม่แมวพร้อมลูกๆ แต่ภารกิจนี้ไม่ง่ายเลย เพราะแม่แมวขี้ระแวง     แม่แมวหลีกเลี่ยงกับดักเกือบ 2 สัปดาห์ แต่ Whitney ก็ไม่คิดยอมแพ้ เธอไปเช็คพวกมันทุกวัน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันยังโอเค เมื่อลูกแมวอายุได้ 16 วัน ในที่สุด แม่แมวก็เข้าไปหาอาหารในกับดัก Whitney จึงรีบปิดประตูกับดักทันที ก่อนจะไปอุ้มลูกแมวจากรัง และพาไปหาสัตวแพทย์ทันที     หลังจากตรวจสุขภาพ พบว่า แม่แมวเป็นไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาวและโรคภุมิคุ้มกันบกพร่อง คุณหมอจึงฉีดวัคซีนพร้อมกำจัดเห็บหมัดให้มัน ขณะที่ลูกแมวมีน้ำหนักเพียง…

สำหรับบางคนแล้ว การใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงถือเป็นการบำบัดใจที่ยอดเยี่ยมกว่าวิธีไหนๆ เพราะสัตว์เลี้ยงมีความรักมากมายที่พร้อมจะมอบให้มนุษย์ที่รักมันเสมอ เพราะแบบนี้ เราจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า สัตว์เลี้ยงสามารถทำให้โลกที่มืดมนของเรากลับมาสดใจได้ และสิ่งที่มีค่าที่สุดคือ พวกมันรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่ต้องการอะไรตอบแทน   1. ฮาโหล นุดน้อย เราจะเป็นการ์ดให้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนะ   2. ไม่มีใครกล้ารังแกเด็กคนนี้แน่ๆ เพราะนางมีพี่เลี้ยงที่รักนางมาก   3. การกอดจากน้องหมาของฉัน คือสิ่งที่ดีที่สุด   4. น้องหมาของฉันมอบความสุขให้ชายชราที่มันเจอเมื่อเช้า   5. น้องจับมือฉันระหว่างทางไปหาหมอ ทำเป็นปลอบใจคนอื่น แต่จริงๆ ตัวเองนั่นแหละที่กลัว   6. สุนัขของแม่เป็นเพื่อนสนิทกับลูกน้อยของฉัน พวกเค้าดูรักกันมาก   7. ภรรยาของผมกับสุนัขของเรา ขณะที่ผมกำลังจะออกไปทำงาน   8. น้องสาวแรกเกิดของฉันเพิ่งกลับมาบ้านวันนี้ แล้วดูสิ พี่ชายของตัวตื่นเต้นมากที่ได้เจอเธอ   9. พี่เป็นหมา แต่ถ้าน้องอยากให้เป็นม้า พี่ยอมก็ได้   10. แมวของฉันตาบอด แต่มันชอบปีนขึ้นบนตัวผู้คนเพื่อกอดพวกเขา   11. หลังจากที่ทั้งคู่เพิ่งเจอกันครั้งแรก……

ทุกวันนี้มีเพจต่างๆ เยอะแยะมากมายไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเพจความงาม เพจสัตว์เลี้ยง เพจเทคโนโลยี เพจฮาๆ รวมไปถึงเพจการเมือง กีฬา และอื่นๆ แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีการโพสต์ผิดเพจ อย่างเช่นเรื่องนี้ ที่มีคนมาโพสต์เกี่ยวกับการศัลยกรรมในกลุ่มรักหมา? ผลตอบรับจะออกมาเป็นยังไงน้าาาา?   นี่คือการโฆษณาศัยลกรรมที่ไปโพสต์ในหลุ่มรักหมา พร้อมเปิดให้สอบถามและปรึกษาฟรีอีกด้วย   ตอนแรก นึกว่าโพสต์นี้จะถูกลบออกจากกลุ่ม เพราะเนื้อหาไม่เกี่ยวกับเพจรักหมาเลยสักนิด ที่ไหนได้ นอกจากไม่โดนลบแล้ว ยังได้รับการตอบรับแบบถล่มทลายด้วย มีทั้งเจ้าเหมียวที่เข้ามาสอบถามเรื่องการเพิ่มขนาดน้องชาย ไหนจะคู่หูที่สอบถามเรื่องทำตาสองชั้นอีก ไปกันใหญ่แล้วน้อง     เมื่อมีคนเปิด ก็ต้องมีคนถามเป็นธรรมดา นั่นทำให้เหล่าน้องหมาที่รู้สึกว่าตัวเองมีปัญหากับสรีระร่างกายเข้ามาถาม มาปรึกษากันรัวๆ   พักนี้รู้สึกหน้าบวม มีทำหน้าวีเชฟป่ะ   บางตัวไม่มีอะไรให้ทำหรอก แต่เห็นเค้าฮิตเลยอยากทำบ้าง   บางตัวรวยหน่อยและกะสวยในครั้งเดียว เลยขอทำทุกอย่างพร้อมกัน   รับแปลงเพศด้วยมั้ยฮ่ะ แบบว่าร่างกายเป็นชาย แต่ใจเป็นหญิงอะ   จมูกสวยมาตั้งแต่เกิดแล้ว แต่ไขมันเนี่ยสิ มาจากไหนไม่รู้ ช่วยดูดออกให้ที   แดดเมืองไทยร้อนเหลือเกิน เนี่ย ผิวคล้ำหมด…