งานวิจัยชี้ มนุษย์จะเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้ขนาดตัวของสัตว์โลกเล็กลง 25% ในศตวรรษนี้

ในช่วงเวลาปัจจุบัน โลกของเหล่าเข้าสู่ยุคที่อะไรๆ ก็มีแนวโน้มที่จะมีขนาดเล็กลง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้อย่างโทรศัพท์มือถือ หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างนาโนเทคโนโลยี

แต่เชื่อกันหรือไม่ว่าสิ่งของนั้น ไม่ใช่เพียงสิ่งเดียวที่มีแนวโน้มที่จะเล็กลงไปเรื่อยๆ เพราะจากรายงานล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร “Nature Communications” เหล่าสัตว์โลกเองก็อาจจะมีขนาดโดยเฉลี่ยเล็กลงถึง 25% ภายในศตวรรษนี้ก็เป็นได้

 

 

ตัวเลขที่ออกมานี้หากดูเผินๆ แล้วอาจจะเป็นข่าวดีสำหรับหลายคน เพราะสัตว์ตัวเล็กนั้นเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในสังคมปัจจุบัน แต่ในความเป็นจริงแล้วตัวเลขนี้ไม่ใช่อะไรที่น่าดีใจเลย เพราะการที่ขนาดโดยเฉลี่ยของสัตว์โลกเล็กลงในกรณีนี้ มันมาจากการที่สัตว์ขนาดใหญ่เริ่มเอาชีวิตรอดบนโลกได้ยากขึ้นต่างหาก

นี่เป็นผลการวิจัยที่เกิดขึ้นจากการศึกษานกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 15,484 ชนิดบนโลกของมหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน ซึ่งพบว่าในปัจจุบันสัตว์ขนาดเล็กที่กินแมลงเป็นอาหาร โดยเฉพาะสัตว์ที่อยู่ในสภาพอากาศที่หลากหลาย ในปัจจุบันจะมีโอกาสเอาชีวิตรอดได้มากกว่าสัตว์ขนาดใหญ่กว่ามาก แม้ว่าพวกมันจะมีอายุขัยสั้นกว่าก็ตาม

 

 

ทางผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะในปัจจุบันโลกที่ร้อนขึ้น และการรบกวนของมนุษย์ต่อสถานที่อยู่อาศัยของสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่า การล่าสัตว์ และการขยายตัวของเมือง

ภาวะของโลกเหล่านี้ ส่งผลให้สัตว์ขนาดใหญ่ ที่มักจะต้องมีถิ่นที่อยู่อาศัยแบบเฉพาะมีจำนวนลดลงเรื่อยๆ ผิดกับสัตว์ขนาดเล็กที่มักปรับตัวเข้ากับสังคมของมนุษย์

 

 

โดยสัตว์ใหญ่ที่นักวิจัยระบุว่ามีความสุ่มเสี่ยงจากสถานการณ์โลกในปัจจุบันนั้น ก็มีตัวอย่างเช่น แรด ฮิปโป กอริลลา ยีราฟ และนกขนาดใหญ่อย่าง นกอินทรี กับแร้ง เป็นต้น

จริงอยู่ว่านี่อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ขนาดตัวของสัตว์โลกมีขนาดเล็กลงจากในอดีต แต่อัตราส่วนที่ 25% นั้นก็ถือเป็นตัวเลขที่น่ากลัวเอามากๆ เพราะในยุคน้ำแข็งเมื่อ 130,000 ซึ่งเคยทำให้ขนาดโดยเฉลี่ยของสัตว์โลกเล็กลงในอดีตนั้น ยังคิดเป็นอัตราส่วนได้เพียง 14% เท่านั้น

 

 

หากปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไป การที่โลกสูญเสียสัตว์ขนาดใหญ่ก็อาจจะนำไปสู่การพังทลายของสมดุลธรรมชาติได้ไม่ยากเลย ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญหลายคนจึงออกมาเตือนว่านี่ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องทำอะไรสักอย่างกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน

นั่นเพราะ “การสูญพันธุ์เหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้น ดังนั้นมันจึงยังเป็นเรื่องที่พอจะหยุดได้ มิใช่สิ่งที่แก้ไขไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” คุณ Rob Cooke ผู้เขียนหลักของงานวิจัยชิ้นนี้กล่าว

 

ที่มา allthatsinteresting, theguardian, cnn

Comments

Leave a Reply