Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
‘Qantas Airline’ เตรียมเปิดไฟลท์บินยาวที่สุดในโลก จากออสเตรเลียมุ่งตรงสู่อังกฤษ!!
สำหรับเพื่อนๆ ที่เคยเดินทางโดยสารเครื่องบินไปต่างประเทศแถบยุโรปกันบ่อยๆ จะรู้กันดีว่าด้วยระยะทางที่ยาวไกลนี้ ผู้โดยสารจะต้องมีการต่อเครื่องกันอยู่ตลอด ด้วยเหตุผลในเรื่องของการรักษาสภาพเครื่องยนต์ หรือเรื่องของการหากำไรทางธุรกิจเพิ่มเติม เป็นต้น แต่รู้ไหมว่าล่าสุดทางสายการบิน Qantas Airline สายการบินของประเทศออสเตรเลีย ก็ได้ทำการประกาศเปิดไฟลท์บินตรงจากเมือง Perth สู่กรุง London กลายเป็นไฟลท์ที่มีระยะทางยาวมากที่สุดในโลก!! จากการให้สัมภาษณ์ของนาย Alan Joyce หนึ่งใน CEO ของสายการบิน Qantas ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ West Australian ก็รู้ได้เลยว่าไฟลท์บินที่ยาวที่สุดในโลกนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์เต็มทีแล้ว!! เขาให้สัมภาษณ์ว่า “ย้อนกลับไปเมื่อปี 1947 พวกเราได้มีไฟลท์บินไปที่ลอนดอนที่ใช้เวลานานกว่า 4 วัน และต้องจอดพักเครื่องถึง 9 ครั้งด้วยกัน แต่ตอนนี้จาก Perth ไป London จะใช้เวลาเพียงแค่ 17 ชั่วโมง โดยไม่มีการจอดพักเลยแม้แต่ครั้งเดียว” และด้วยเหตุนี้เอง จะทำให้มีผู้โดยสารเป็นจำนวนมากจากหลากหลายที่ทั้ง Sydney, Melbourne, หรือจาก สิงคโปร์ เข้ามาใช้บริการที่สนามบินในเมือง…
-
สุดยอดภาพจาก “National Geographic” สาขาธรรมชาติ ความหลากหลายของโลก ประจำปี 2016
ในแต่ละปีนั้นเรามักจะได้เห็นภาพสวยๆ น่าตื่นตาตื่นใจจาก National Geographic อยู่เสมอ ทำให้เราเห็นถึงความงามของโลกในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก และนี่คือภาพส่วนหนึ่งที่ชนะมาจากการประกวดกว่า 100 รายการ ของ National Geographic ประจำปี 2016 ซึ่งเป็นผลงานของช่างภาพทางด้าน ‘ธรรมชาติ’ 1. รางวัลชนะเลิศ สาขา Action + Grand Prize :การอพยพของฝูงปลาซาร์ดีน ในระหว่างการอพยพของปลาซาร์ดีนตามแนวชายฝั่งป่าของแอฟริกาใต้ จะมีปลาซาร์ดีนนับล้านตัวที่ตกเป็นเหยื่อของสัตว์ขนาดใหญ่ เช่น ปลาโลมา นกทะเล เพนกวิน วงศ์ปลากระโทง(sailfishe) และสิงโตทะเล โดยการล่าจะเริ่มจากปลาโลมาก่อน พวกมันจะมีพัฒนาการล่าที่พิเศษคือ จะต้อนให้ฝูงปลาซาร์ดีนขึ้นไปยังผิวน้ำ เพื่อง่ายต่อการล่านั่นเอง แต่ในปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าจะมีการล่าปลามากขึ้น บวกกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ทำให้ปลาซาร์กระจัดจายและหาได้ยากมากขึ้น สำหรับการถ่ายภาพนี้ ช่างภาพได้ใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ภาพฝูงปลาซาร์ดีนมากที่สุด เจ้าของภาพ Greg Lecoeur 2. รางวัลชนะเลิศ สาขาภาพสัตว์ : ส่วนลึกในป่าใหญ่ ภาพนี้ถ่ายที่ Amboli ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม…
-
18 การตายแบบแปลกๆ ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แต่ละอันคือสาหัส ยิ่งกว่าโดนมีดบาด!!
สำหรับความตายนั้น ถึงจะเป็นสิ่งที่แน่นอน แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดเช่นกัน และที่สำคัญ มันสามารถเข้ามาได้ในทุกๆ รูปแบบเลยล่ะ วันนี้ทางเราก็มีบันทึกเกี่ยวกับ 18 การตายสุดแปลกที่เกิดขึ้นจริงๆ บนโลกของเราใบนี้ จะแปลกมากน้อยแค่ไหนเราต้องมาชมกันเลย ตายเพราะวัวตกลงมาจากหลังคา ในปี 2013 Joao Maria de Souza พบว่ามีวัวอยู่ในห้องของเธอ และสามีที่นอนอยู่ข้างๆ เธอนั้นบาดเจ็บสาหัส ภายหลังสืบทราบมาว่าวัวนั้นเดินมาเรื่อยๆ จากฟาร์มในละแวก และทำอีท่าไหนไม่รู้ มันเดินขึ้นไปบนหลังคาบ้าน ทำให้หลังคารับน้ำหนักไม่ไหวและถล่มลงมา สามีของเธอเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพราะแผลบาดเจ็บภายใน หัวเราะจนตาย!? ปี 1975 ในประเทศอังกฤษ Alex Mitchell กำลังนั่งดูรายการตลกเกี่ยวกับการเล่นสกีชื่อว่า The Goodies โดยตอนนั้นมีชื่อว่า Kung Fu Kapers ซึ่งถูกรสของเขาเข้าอย่างจัง เขาหัวเราะอย่างหนักราวๆ 25 นาทีเต็มๆ ก่อนที่จะเป็นลมล้มพับหมดสติไป และไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ภายหลังภรรยาของเขาก็ได้ส่งจดหมายขอบคุณให้กับทางรายการ ที่ทำให้สามีของเธอตายอย่างมีความสุขขนาดนั้น ตายเพราะผ้าพันคอ ในปี 1927 เทรนด์ในการใช้รถยนต์เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ Isadora Duncan คือนักแสดงชาวอเมริกาที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เธอก็เป็นอีกคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่เป็นรถแบบ Open-air…
-
บัตรเครดิตเกิดข้อผิดพลาด ‘ไม่จำกัดวงเงิน’ เขาเลยจัดเต็มทั้งรถสุดหรู เรือแสนแพง และงานปาร์ตี้!!
ในกรณีนี้ขอให้คำนิยามเกี่ยวกับเขาว่า เศรษฐีข้ามคืนเลยก็แล้วกัน ฮร่าาาา ไม่ว่าจะเป็นรถหรู สปีดโบ๊ท สาวๆ และปาร์ตี้ Luke Moore หนุ่มในวัย 22 ปี ที่เผอิญบัตรเครดิตของเขานั้นเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคเล็กน้อย (แต่ผลกระทบใหญ่หลวงมาก) และความผิดพลาดนั้นก็คือ วงเงินของเขามีไม่จำกัดล่ะ!! Luke Moore วัย 22 ปี ในตอนแรกเริ่มเดิมทีนั้น เขาเป็นหนี้อยู่ราวๆ 5,300 ปอนด์ หรือราวๆ 243,000 บาทอยู่แล้ว แต่พอเขารู้ว่าบัตรเครดิตของเขาไม่จำกัดวงเงิน เขาก็ตัดสินใจออกไปเที่ยวปาร์ตี้และสังสรรค์อย่างหนักทันที นอกจากนี้ก็ซื้อรถ Aston Martin ไปหนึ่งคัน ราคา 54,000 ปอนด์ หรือราวๆ 2.4 ล้านบาท Maserati อีกหนึ่งคัน ราคา 21,000 ปอนด์ หรือประมาณ 9 แสนบาท และสุดท้ายสปีดโบ๊ทอีกหนึ่งคัน ราคา 32,000 ปอนด์ หรือ 1.4 ล้านบาท!! เรือที่เขาซื้อ …
-
ญี่ปุ่นเสนอมอบสุนัข กระชับการทูตกับรัสเซีย สุดท้ายโดนปฏิเสธ แม้ปูตินจะรักสัตว์ แต่ก็พอแล้ว!?
เราในฐานะคนรักสัตว์ คงคิดว่า ใครๆ ก็รักสุนัขใช่มั้ยล่า? มันก็อาจจะจริง แต่บางทีการรักสัตว์ก็ไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรได้อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจเสมอไป อย่างกรณีของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ได้ส่งสุนัขให้รัสเซียเพื่อใช้ในการเจรจา แต่ถูกปฏิเสธข้อเสนอซะงั้น… รัฐบาลญี่ปุ่นอยากจะมอบของขวัญให้แก่ประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนรักสุนัขมากๆ ด้วยการส่งสุนัขเพศผู้พันธุ์อากิตะ ไว้ให้เป็นเพื่อนกับเจ้ายูเมะ สุนัขเพศเมียสายพันธุ์เดียวกันที่ญี่ปุ่นเคยมอบให้เขาไปเมื่อปี 2555 แต่ต่อมานายโคอิชิ ฮากิวดะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้โพสต์ลงบล็อกส่วนตัวของเขาว่า ‘น่าเสียดายที่ญี่ปุ่นได้ข่าวมาว่า ข้อเสนอที่จะส่งสุนัขเพศผู้ให้เป็นคู่กับสุนัขเพศเมียที่เคยมอบไว้กับผู้นำรัสเซียได้รับการปฏิเสธ’ โดยไม่ได้ให้เหตุผลที่ถูกปฏิเสธมาด้วย และเร็วๆ นี้นายอาเบะและนายปูตินกำลังจะพบกันที่ญี่ปุ่นในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้ คาดว่าจะหารือเพื่อรื้อฟื้นการเจรจาด้านความมั่นคงและการซ้อมกู้ภัยทางทะเลร่วมกันที่ระงับไปหลังจากรัสเซียเข้ายึดดินแดนไครเมียเมื่อปี 2557 นอกจากนี้ยังมีกำหนดลงนามในข้อตกลงธุรกิจด้วย เพราะทั้งสองฝ่ายยังมีความขัดแย้งยืดเยื้อจากการอ้างสิทธิครอบครองหมู่เกาะอยู่ เป็นที่รู้กันดีว่าประธานาธิบดีปูตินเป็นคนรักสัตว์มาก โดยมักมีภาพถ่ายขี่ม้า ว่ายน้ำกับโลมา และกอดกับเสือดาว ดังนั้นคนที่จะเข้าหาเขา จึงมักจะใช้สัตว์เป็นตัวช่วย ที่ผ่านมาผู้นำรัสเซียได้เจ้ายูเมะสุนัขเพศเมียที่เป็นของขวัญมาจากญี่ปุ่น และยังมีบัฟฟี สุนัขพันธุ์บัลแกเรียเชฟเพิร์ดซึ่งมาจากนายกรัฐมนตรีบัลแกเรียเมื่อปี 2553 ด้วย ปกติแล้ว เราจะเห็นปูตินในด้านที่เคร่งขรึม น่าเกรงขาม แต่พอเขามีเจ้าหมาอยู่ในอ้อมกอดเท่านั้นแหละ ดูกลายเป็นคนละคนไปเลย เรียกได้ว่า เป็นผู้นำที่เข้มแข็งในหน้าที่…
-
ชาวบ้านพบแมวจิ๋วบาดเจ็บ จึงพาไปหาหมอ มารู้ทีหลังคือ “เสือปลา” แมวป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
ในโลกนี้ เต็มไปด้วยแมวมากมายหลายชนิด ทั้งที่หายาก และหาได้ทั่วไป แต่ถ้าพูดถึง “เสือปลา” หลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนแน่ๆ และบางคนก็คิดว่ามันคงเป็นเสือชนิดหนึ่งเนี่ยแหละมั้ง แต่รู้มั้ยว่าเสือปลาในไทยก็มีนะ…. เมื่อไม่นานนี้มีครอบครัวหนึ่งในไทยเรานี่แหละ ได้พบกับแมวน้อยตัวหนึ่ง นอนอยู่บนถนนอย่างโดดเดี่ยว แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่า มันไม่เหมือนแมวทั่วไปที่เคยเห็นเลย พวกเขาจึงติดต่อไปยังมูลนิธิเพื่อสัตว์ป่าเพื่อขอความช่วยเหลือ… เมื่อแมวน้อยได้อยู่ในมือเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย พวกเขาก็ระบุว่า มันเป็นสายพันธุ์หนึ่งของแมวที่ใกล้สูญพันธุ์ในปัจจุบัน และเป็นพันธุ์ที่หายากมากๆ แมวที่ว่านี้คือ “เสือปลา” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกเสือขนาดเล็ก และเป็นแมวป่าขนาดกลาง ซึ่งจะอาศัยอยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะอยู่ในในภูมิประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น เสือปลามักอาศัยหากินอยู่ตามป่าเบญจพรรณ ป่าพรุหรือป่าละเมาะ และป่าชายเลน ส่วนที่ชื่อเสือปลาเพราะอาหารหลักคือ ปลา นั่นเอง ทางมูลนิธิบอกว่า “เราค่อนข้างแปลกใจที่มีคนพบลูกเสือปลา และกลับไม่พบแม่ของมันอยู่ใกล้ๆ เลย เพราะดูเหมือนมันเพิ่งเกิดเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น” ตอนมาได้ทราบจากครอบครัวที่พบลูกเสือปลาว่า เมื่อปีที่แล้ว พวกเขาได้พบกับเสือปลาตัวหนึ่งใกล้กับทุ่งนาข้างบ้าน จึงช่วยเหลือมันไว้ และเมื่อมันโตขึ้นพวกเขาจึงได้ปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติ แต่ดูเหมือนเสือปลาตัวนั้นจะมีความผูกพันกับมนุษย์ มันกลับมาที่นั่นเป็นบางครั้งบางคราว จนกระทั่งมันมีลูก มันก็เลยมาคลอดใกล้ๆ แถวนั้น เพราะหวังจะให้มนุษย์ช่วยเหลือ เมื่อครอบครัวนี้ไปเห็นมันคลอดลูกกระจัดกระจายไปทั่ว จึงได้ย้ายพวกมันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย แต่ในขณะที่ย้ายนั้น พวกเขาเกิดทำลูกแมวตัวหนึ่งหล่นโดยไม่รู้ตัว ตอนที่พบลูกเสือปลาน้อยตัวนี้ มันกำลังอยู่ในอาการหนาวสั่น และมันจำเป็นต้องได้กินนมให้เร็วที่สุด…
-
เด็กชายจากค่ายลี้ภัย ที่ไม่รู้แม้กระทั่งอายุตัวเอง อยากอุทิศตนทั้งชีวิต เพื่อช่วยเหลือสังคม
ครั้งหนึ่งของการได้เกิดมาบนโลกนี้ เราก็คงอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่า แล้วความคุ้มค่าของเพื่อนๆ คืออะไรกันบ้าง? บางคนอาจบอกว่า ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่บางคนคือการได้ทำในสิ่งที่คนอื่นชอบมากกว่า Peter Ter ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จริงๆ แล้วเขาอายุเท่าไร แต่เขาไม่ได้ใส่ใจที่จะหาคำตอบในเรื่องนี้ เพราะมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่เรื่องที่เขาสนใจคือ การทำตัวให้เป็นประโยชน์เพื่อสังคมมากกว่า Peter เกิดในครอบครัวเกษตรกรเลี้ยงวัวในซูดาน เขาเติบโตมากับสงครามกลางเมืองที่ยาวนานที่สุด เมื่อเขาโตขึ้นเป็นหนุ่มก็ถูกพรากจากพ่อแม่ และถูกส่งตัวไปอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศเคนยา ผู้แทนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้พบกับ Peter ในค่ายผู้ลี้ภัยในปี 2001 พวกเขาจึงได้คาดเดาอายุของชายหนุ่มจากความสูงของเขา และคาดว่าเขาน่าจะเกิดในปี 1980 นั่นเท่ากับว่า Peter อายุ 36 ปี ตอนเป็นเด็ก Peter มีความมุ่งมั่นสูงมาก เขาพยายามเรียนรู้ที่จะอ่านและเขียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง… เขาเล่าให้ฟังว่า “ผมเกิดมาในที่ที่ไม่ดินสอหรือปากกาเลย แต่ผมต้องการที่จะเป็นใครสักคนที่มีตัวตนมากกว่านี้ และผมรู้ว่าภาษาอังกฤษจะช่วยให้ผมเป็นเช่นนั้นได้ ผมไม่อยากเป็นเหมือนในอดีตอีกแล้ว” ในค่ายลี้ภัยที่เขาอยู่นั้น มีบริเวณกว้างใหญ่ มีผู้คนมากมาย สิ่งที่จำเป็นที่สุดคืออาหารการกิน ดังนั้นการที่จะมีอุปกรณ์การเรียนที่จะช่วยให้เขาฝึกฝนภาษาอังกฤษนั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่เขาก็ยังไม่ยอม เขาได้ฝึกเขียนบนพื้นทรายแทนกระดาษ วันแล้ววันเล่า จากคำก็พัฒนาขึ้นเป็นประโยค ที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ “วันหนึ่ง มีผู้ใหญ่เข้ามาเยี่ยมเราในค่าย และเฝ้าดูผมเขียนบนทราย…
-
ชาวรัสเซียพบหีบเก่านาซี บรรจุหัวกะโหลกแปลกๆ อาจโยงได้ว่า มีความเกี่ยวข้องกับเอเลี่ยน!!
ไม่แน่นะว่า นี่อาจเป็นเบาะแสของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกเลยก็เป็นได้… ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เทคโนโลยีของกองทัพนาซีนั้นถือว่าล้ำหน้ากว่าทุกๆ กองทัพในโลกเลยก็ว่าได้ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นศึกไหนพวกเขาก็สามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้ดูราวกับว่าเป็นกองทัพของปีศาจเลยทีเดียว รัสเซียก็ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกโจมตีโดยเยอรมนีเช่นกัน ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน Kamennomostsky ก็ได้มีชายคนหนึ่งพบหีบลึกลับโบราณของนาซี และนี่อาจเป็นหลักฐานความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดดของพวกเขา และความเกี่ยวข้องกับเอเลี่ยน หรือสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก!? หัวกะโหลกรูปร่างแปลกๆ ที่บรรจุอยู่ในกล่อง โดยหีบดังกล่าวเป็นของนาซีกลุ่มองค์กร Ahnenerbe ที่ได้รับมอบหมายให้สืบเสาะประวัติศาสตร์และที่มาของชนชาติอารยัน ซึ่งทางนักประวัติศาสตร์ Igor Ogay ได้ออกมากล่าวว่า ‘สิ่งที่เชื่อมโยงหัวกะโหลกแปลกๆ นี้กับกิจกรรมที่กลุ่ม Ahnenerbe ทำนั้น เป็นเรื่องที่คาดเดาและคิดได้ยาก แต่เรื่องที่พวกเขาเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ และพลังวิเศษต่างๆ นั้น ดูเหมือนหลักฐานชิ้นนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เลยทีเดียว’ ไม่ใช่กะโหลกศีรษะของมนุษย์อย่างแน่นอน ชมคลิปวิดีโอกันได้ที่นี่ ไม่แน่นะนี่อาจเป็นคำตอบของการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดของพวกเขาในยุคนั้นเลยก็เป็นได้… ที่มา: Metro
-
วินาทีเหวอ!! นักถ่ายภาพสัตว์ จับช่วงจังหวะสุนัขหนีหน้าตั้ง หลังไปรบกวนม้าป่าเข้า…
บางครั้งการหลีกเลี่ยงคู่ต่อสู้ที่มีขนาดใหญ่กว่าเราก็ถือเป็นตัวเลือกที่ฉลาดมากกว่านะ ไม่งั้นคุณอาจจะต้องวิ่งหนีหน้าตั้งแบบเจ้าสุนัขตัวนี้ได้… เรื่องที่#เหมียวฟิ้นได้หยิบมาเล่าในวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้า Maggie สุนัขสายพันธุ์อิงลิช เซตเทอร์ วัย 2 ขวบ ในเช้าวันหนึ่งมันได้ออกไปล่าเหยี่ยวกับเจ้านาย Rob Palmer นักถ่ายภาพสัตว์ป่านวัย 63 ปี ในทะเลทรายแดง รัฐไวโอมิง สหรัฐอเมริกา ระหว่างนั้นเจ้า Maggie ก็ออกไปเตรดเตร่เรื่อยเปื่อย แต่จู่ๆ มันกลับไปกวนใจม้าป่าสีดำร่างใหญ่ตัวหนึ่งวิ่งเข้า เจ้าม้าจึงออกอาการฉุนเลยวิ่งไล่เจ้าสุนัขผู้น่าสงสาร ทำให้มันวิ่งหน้าตั้งกลับมาขอความช่วยเหลือจากเจ้านาย แต่เนื่องจากเจ้านายของมันอยู่ค่อนข้างไกล ทำให้เขาไม่สามารถเข้าไปช่วยสุนัขไว้ได้ทัน ทำได้เพียงหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเหตุการณ์สุดระทึกนี้เก็บไว้ นาย Palmer กล่าวว่า “ผมรู้สึกกลัวแทนสุนัขของผมมากจริงๆ ไม่มีอะไรเลยที่ผมพอจะช่วยมันได้ ผมก็เลยยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเก็บไว้โดยอัตโนมัติ ด้วยสัญชาตญาติหลังจากเป็นช่างภาพมากลายปี” โชคดีที่เจ้า Maggie สามารถรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย และมันน่าจะเข็ดกับการไปแหย่ม้าอีกนานเลยทีเดียว ช่วยด้วย!! แอ่ค!! ทีหน้าทีหลังเวลาจะมีเรื่องกับใคร ดูขนาดตัวของเขาด้วยนะเจ้าสุนัข ที่มา dailymail
-
เรื่องราวให้แรงบันดาลใจของ “Bette Nash” แอร์โฮสเตสที่อายุมากที่สุดในโลก ในวัย 80 ปี
แอร์โฮสเตส เป็นอาชีพหนึ่งที่สาวๆ ใฝ่ฝันอยากจะเป็น บางคนทุ่มเทเพื่อให้ได้ขึ้นไปโบยบินอยู่บนฟากฟ้าตั้งแต่ยังสาวๆ จนผู้คนทั่วไปติดภาพไปแล้วว่าแอร์โฮสเตสจะต้องมีแต่สาวๆ เท่านั้น ซึ่ง#เหมียวฟิ้นขอบอกเลยว่าไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะบางคนทำงานนี้มาตั้งแต่สาวๆ จนตอนนี้กลายเป็นคุณยายแล้วก็ยังเป็นแอร์โฮสเตสอยู่เลย บุคคลที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้เธอเป็นชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า Bette Nash วัย 80 ปี เธอเข้าทำงานเป็นแอร์โฮสเตสให้กับสายการบิน American Airlines มาตั้งแต่เมื่อปี 1957 จนถึงปัจจุบัน ถ้านับถึงตอนนี้เธอก็มีอายุงานร่วมเกือบๆ 60 ปีเข้าไปแล้ว และนั่นทำให้เธอกลายเป็นแอร์โฮสเตสอาวุโส ที่มีอายุมากที่สุดในโลกด้วย เรื่องราวของ Bette โด่งดังจนสำนักข่าว CNN ต้องมาขอสัมภาษณ์เธอ เจ้าตัวเล่าถึงช่วงที่ยังเป็นแอร์ใหม่ๆ ไว้อย่างสนุกสนานทีเดียว เธอบอกว่าในสมัยก่อนที่ธุรกิจสนามบินยังไม่เจริญเท่าวันนี้ ผู้โดยสารจะขึ้นเครื่องได้จะต้องลงไปเดินบนสนามบินแล้วค่อยขึ้นบันไดของเครื่องบิน ไม่มีสะพานเทียบเครื่องบินเหมือนอย่างที่เราใช้กันทุกวันนี้ การทำงานเป็นแอร์ในสมัยก่อนก็ค่อนข้างอัตโนมือมากๆ เพราะแอร์โฮสเตสแต่ละคนจะต้องมาดูกระดานชอล์กบอร์ด เพื่อดูว่าในนี้นี้พวกเธอต้องทำอะไรบ้าง พอตกบ่ายก็จะมีการลบแล้วเขียนงานขึ้นใหม่ แม้ว่าในวันนี้รูปแบบงงานจะเปลี่ยนไปจากเดิมมาก แต่เธอก็ยังคงรักมันและมาทำงานด้วยรอยยิ้มเหมือนที่เธอทำในวันแรกๆ Bette พูดถึงแนวคิดที่เธอมีต่องานนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า “ผู้คนต้องการความรักเล็กๆ น้อยๆ และฉันไม่ได้หมายถึงการกอดหรืออะไรที่คนทั่วๆ ไปเขาทำกัน” “แต่ฉันหมายถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างการให้ความสนอกสนใจ คุณไม่สามารถซื้อความรักได้ คุณไม่สามารถซื้อความสนใจจากผู้คนได้ และนั่นแหละที่ผู้คนต้องการ มันเป็นของฟรี ที่คุณสามารถมอบให้คนอื่นๆ ได้แบบฟรีๆ…
-
รัฐบาลออสเตรเลีย จะจ่ายโบนัสให้เรือนจำหญิง หากดูแลนักโทษดี จนไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก
การส่งผู้ต้องหาไปอยู่ในเรือนจำนั้นถือเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมเพื่อขัดเกลาให้บุคคลเหล่านั้นกลับออกมาเป็นคนที่มีคุณภาพอีกครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระบวนการที่ว่านี้ไม่สามารถใช้ได้กับทุกๆ คน ยังคงมีคนหลายคนที่ออกมาจากเรือนจำแล้วทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคม ด้วยเหตุนี้เองทางรัฐบาลของออสเตรเลียจึงได้ออกนโยบายใหม่ โดยการจ่ายเงินโบนัสพิเศษให้กับเรือนจำแห่งหนึ่งที่สามารถดูแลหรือบำบัดนักโทษให้กลับมาอยู่ในสังคมได้โดยที่ไม่ทำผิดอีก เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าว RT บอกว่านี่เป็นโครงการนำร่องในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย จะใช้กับเรือนจำหญิง 1 ใน 3 ของเรือนจำเอกชนที่ดำเนินการโดยบริษัท Sodexo การจ่ายโบนัสให้กับเรือนจำนั้น มีเงื่อนไขอยู่ว่า เหล่านักโทษหญิงจะต้องพ้นโทษออกไปใช้ชีวิตตามปกติและไม่ก่ออาชญากรรมอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี หากทำได้ทางเรือนจำก็จะได้รับโบนัสเป็นจำนวนเงิน 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 392,400 บาท จากสถิติภายในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียนั้น พบว่านักโทษหญิงกว่า 34% เมื่อพ้นโทษออกไปแล้วจะกลับไปทำผิดซ้ำๆ อีก เพราะกลับไปอยู่ในสังคมแบบเดิม ที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและความรุนแรง ทางภาครัฐจึงพยายามมองหาวิธีการแก้ไขแบบใหม่ ซึ่งพวกเขาเชื่อกันว่าหากทำแบบนี้แล้วจะเป็นการช่วยเหลือนักโทษให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้เรือนจำใส่ใจกับนักโทษของพวกเขามากขึ้น หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ #เหมียวฟิ้น ได้เคยรายงานเกี่ยวกับเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ ที่มักไม่ใช้วิธีการลงโทษผู้ต้องหานานๆ แต่เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่า ซึ่งก็ส่งผลให้เรือนจำของพวกเขามีจำนวนนักโทษที่ลดน้อยลง จนต้องปิดเรือนจำไปกว่า 19 แห่ง (อ่านข่าวเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ได้ที่นี่เลย)…
-
เปิดวีรกรรมของกลุ่มก่อการร้าย “โบโก ฮาราม” ใช้เด็กสาววัย 7 ขวบ 2 คน เพื่อเป็นระเบิดพลีชีพ
หากพูดถึงกลุ่มผู้ก่อการร้าย หลายๆ คนน่าจะนึกถึงชื่อ “ไอซิส” ในอีรักและซีเรีย ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ เพราะมีประวัติการก่อการร้ายและฆ่าผู้คนที่โหดเหี้ยมแทบจะรายวัน แต่วันนี้เราจะมานำเสนอชื่อของกลุ่มก่อการร้านอีกกลุ่มหนึ่งที่มีชื่อว่า “โบโก ฮาราม” ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้านในประเทศไนจีเรีย ที่ก่อวีรกรรมมาไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2016 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ ที่มีการใช้เด็กผู้หญิงวัย 7 ขวบ 2 คน เพื่อเป็นระเบิดพลีชีพโจมตีตลาดสดแห่งหนึ่งในเมืองไมดูกูรี ประเทศไนจีเรีย การระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม รัฐบอร์โน ทำให้เด็กสาววัย 7 ขวบ 2 คนเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดกว่า 18 คน ตามรายงานบอกว่ากลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้มักจะใช้หญิงสาวเพื่อเป็นอาวุธหรือระเบิดมนุษย์ ในโจมตีสถานที่ต่างๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งทางการของไนจีเรียเชื่อกันว่าทั้งหมดนี้น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายโบโก ฮาราม แต่ยังไม่มีฝ่ายไหนออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทหารคนหนึ่งจากกลุ่มทหารอาสาสมัครในเมืองไมดูกูรีกล่าวว่าเขาคือคนสุดท้ายที่เห็นเด็กหญิงทั้ง 2 คนก่อนที่จะจุดระเบิดตัวเอง “พวกเขาลงมาจากรถลากคันหนึ่งและเดินตรงมาที่ผมโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ผมพยายามจะพูดกับพวกเขาด้วยภาษาท้องถิ่นและภาษาอังกฤษ แต่พวกเขากลับไม่ตอบผม” “ผมคิดว่าพวกเขาอาจจะกำลังมองหาแม่ของตัวเองอยู่ จากนั้นพวกเธอก็เดินไปยังร้านของพ่อค้าขายไก่ในตลาด และจุดชนวนระเบิดที่พวกพวกเขาพกติดตัวมาด้วย” กลุ่มก่อการร้ายโบโก…
-
คืนเราเถ๊อะ!! Samsung อัพเดทระบบ บังคับให้ Galaxy Note 7 ใช้งานได้ยากขึ้น
จากที่ผ่านๆ มา จะเห็นได้ว่า Samsung Galaxy Note 7 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีข่าวคราวเกี่ยวกับปัญหาแบตเตอรี่ระเบิด-ไฟไหม้ อยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทางผู้บริโภคอาจจะเกิดความไม่ไว้วางใจในเรื่องความปลอดภัย จนทำให้ทางบริษัทถึงขั้นงดการจำหน่ายในบางประเทศ และหากเกิดปัญหาขึ้นมาก็ยินดีที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้กับลูกค้าทันที และล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ทางสำนักข่าว BBC มีรายงานว่า Samsung คาดในยุโรปยังคงมีผู้ใช้โทรศัพท์รุ่น Galaxy Note 7 ราว 10% จึงเตรียมปรับปรุงระบบซอฟท์แวร์อีกครั้ง โดยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ไม่เกิน 30% ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ใช้โทรศัพท์รุ่นดังกล่าว นำเครื่องไปคืนไปนั่นเอง ทางด้านบริษัทผู้ผลิตได้เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับปรุงระบบไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อจำกัดการชาร์จแบตเตอรี่ให้มีความจุถึง 60% และมีแผนที่จะการอัพเดทซอฟท์แวร์อีกครั้งในวันที่ 15 ธันวาคมที่จะถึงนี้ “การปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์แบตเตอรี่ครั้งใหม่นี้ จะเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าที่ยังคงใช้ Galaxy Note 7 นำเครื่องมาคืนเพื่อความปลอดภัย” ทางบริษัทกล่าว นอกจากนี้ ทาง…
-
‘Tippi Degre’ หนูน้อยผู้มีเพื่อนซี้ เป็นสัตว์ป่าในแอฟริกา เหมือน ‘เมาคลี’ ในการ์ตูนเลยหล่ะ!!
เชื่อว่าตอนเด็กๆ เราต่างก็เคยได้รับรู้เรื่องราวของ ‘เมาคลี ลูกหมาป่า’ ซึ่งจะว่าไปเราก็ไม่มีทางรู้ได้ว่ามันจะเป็นไปได้มั้ย กับการที่เด็กทารกเติบโตขึ้นมาในป่าทึบ โดยมีสัตว์ป่าดุร้ายคอยดูแลเป็นเพื่อนอยู่ตลอด แต่จน #เหมียวบ็อบ มาเจอเรื่องราวของหนูน้อย ‘Tippi Degre‘ เนี่ยหล่ะ ถึงเชื่อว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ เพราะเด็กคนนี้เค้าไม่ธรรมดา สามารถเล่นกับช้างป่าแอฟริกาที่ขึ้นชือว่าดุร้าย เล่นกับเสือชีต้าร์ หรือแม้แต่ขี่หลังนกกระจอกเทศชมวิว เค้าก็ทำได้เหมือนกัน!! เธอเป็นมิตรกับสัตว์ป่าแทบจะทุกชนิด และดูเหมือนพวกมันก็ยินดีที่จะมีเพื่อนซี้เป็นมนุษย์ตัวจิ๋วอีกด้วยล่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน? ซึ่งเธอเป็นลูกของสองนักท่องเที่ยว และนักถ่ายภาพชาวฝรั่งเศส Sylvie Robert และ Alain Degre ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเดินทางอยู่ในทวีปแอฟริกานั้น หนูน้อยคนนี้ได้ลืมตาดูโลกขึ้นมาเมื่อปี 1990 ในเมือง Windhoek ประเทศนามิเบีย เชื่อรึยังล่ะว่าเธอเป็นเพื่อนกับเสือชีต้าร์จริงๆ เล่นกันอย่างกับแมวเหมียวเลยนะ ต้องถือว่าแนวคิดการเลี้ยงลูกของคู่รักชาวฝรั่งเศสนั้นแปลกใหม่ และไม่ซ้ำใครมาก พวกเขาตัดสินใจที่จะไม่พาลูกสุดที่รักเข้าสู่ระบบการศึกษาเหมือนคนอื่นๆ แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตแห่งการผจญภัย ป่าเขา และธรรมชาติ เป็นครูสอนให้แก่ลูกน้อย เด็กคนอื่นอาจจะนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ หรือทำการบ้าน แต่สำหรับ Tippi แล้วเวลาว่างคือการขี่หลังนกกระจอกเทศ ชมวิวไปรอบๆ…
-
สาวเลบานอน ประท้วงรัฐบาลร่างกฎหมายใหม่ ที่บังคับให้เหยื่อถูกข่มขืน แต่งงานกับผู้ก่อเหตุ
การเป็นหญิงสาวในประเทศเลบานอนอาจจะไม่ใช่เรื่องที่โชคดีเท่าไหร่นะ เพราะที่เลบานอนเองมีข่าวคราวเกี่ยวกับหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายและข่มขืนแทบจะรายวันทีเดียว ในปี 2009 มีรายงานว่ามีเด็กหญิงชาวบังกลาเทศถูกฆ่าตายในเลบานอนถึง 11 ศพ โดยส่วนใหญ่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย และในปีเดียวกันนี้เองยังมีข่าวว่าเด็กสาวชาวเนปาลที่เดินทางไปทำงานในเลบานอนได้ฆ่าตัวตายไปถึง 15 คน ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องของการข่มขู่ทางเพศ ล่าสุดได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Independent บอกว่าทางรัฐบาลของเลบานอนได้เตรียมที่จะออกร่างกฎหมายให้หญิงสาวที่ถูกข่มขืนต้องแต่งงานกับผู้ที่ข่มขืนพวกเธอ ตามพระราชบัญญัติฉบับเก่าจากปี 1940 ของเลบานอนได้ระบุเอาไว้ว่าหากใครฝ่าฝืนกฎหมายข้อนี้ จะต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี และยิ่งหากเป็นผู้เยาว์ หรือผู้ที่มีอาการทางจิตหรือผู้ป่วยไม่ว่าจะในลักษณะใดก็ตาม ก็จะมีโทษเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ในกฎหมายใหม่มาตราที่ 522 ได้สร้างช่องโหว่ทางกฎหมายขึ้น โดยระบุว่าผู้ที่กระทำชำเราผู้อื่นจะได้รับการละเว้นโทษ หากชายคนนั้นยอมแต่งงานกับฝ่ายหญิงเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ แต่ร่างพรบ.ที่ว่านี้กลับทำให้หญิงสาวในเลบานอนไม่พอใจอย่างมาก และคิดว่านั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุที่ไม่น่าจะช่วยลดคดีการข่มขืนลงได้ ในวันอังคารที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวเกือบสิบคนจึงได้ออกมาร่วมกันต่อต้านกฎหมายใหม่นี้ ด้วยการสวมชุดเจ้าสาว พร้อมกับมีผ้าพันแผลไว้รอบตัวและมีเลือดปลอมเปื้อนตามร่างกาย ยืนอยู่ที่ด้านนอกของอาคารรัฐสภาพในเมืองเบรุต เพื่อแสดงออกว่าพวกเธอไม่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่นี้ นางสาว Ghida Anani ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มในการต่อต้านครั้งนี้ได้กล่าวว่า “เราขอปฏิเสธการการละเมิดสิทธิของผู้หญิงโดยไม่คำนึงถึงอายุ พื้นเพ หรือสภาพแวดล้อม” Anani ยังบอกอีกว่าเธอไม่ชอบข้อเสนอของรัฐบาลเป็นเหมือนการซ้ำเติมผู้เคราะห์ร้ายมากกว่า “นี่มันเหมือนกับการพูดว่าผู้เคราะห์ร้ายซ้ำกันสองครั้ง พวกเธอต้องใช้ชีวิตร่วมอยู่กับคนที่ละเมิดสิทธิของพวกเธอ และนั่นเป็นเหตุให้เกิดการข่มชืนกันทุกวันๆ”…
-
คุณพ่อสร้างหุ่น AT-ACT จำลองจากสตาร์วอร์ส ให้ลูกๆ ได้สัมผัสบรรยากาศ อย่างเต็มเปี่ยม!!
สำหรับเด็กๆ แล้วคงไม่มีอะไรที่จะเพลิดเพลินเจริญใจไปกว่าการได้เล่นเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นอีกแล้วใช่มั้ย…แต่ถ้าเครื่องเล่นเจ๋งๆ นั้นมาอยุ่ในสวนหลังบ้านของคุณล่ะ!? Colin Furze คุณพ่อใจป้ำที่สร้างเครื่องเล่นแบบจำลอง AT-ACT walker หรือหุ่นรบจากเรื่องสตาร์วอร์ส ให้กับลูกๆ ของเขาขึ้นในสวนหลังบ้านของตัวเอง และต้องยอมรับเลยล่ะว่าทำรายละเอียดออกมาได้ดีเลยทีเดียว AT-ACT walker เขาใช้เวลาสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา 3 สัปดาห์เต็มกับเพื่อนของเขา พร้อมกับบันไดติดตั้งมอเตอร์ที่สามารถหย่อนลงมาได้เองอัตโนมัติ การตกแต่งภายในให้หรูหราอยู่สบาย เรียกได้ว่าเป็นเครื่องเล่นในฝันของสวนหลังบ้านเลยล่ะ!! แน่นอนพอเสร็จแล้วลูกๆ ของเขาก็ได้ขึ้นไป แล้วก็ฟินกันไปตามระเบียบ เห็นภาพคงไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ ต้องมาชมคลิปกันเลย ตอนเด็กๆ ถ้ามีใครมาทำอะไรให้แบบนี้นะ หึ้ยยยยยย เห็นแล้วอิจฉาลูกๆ ของเขาจริงจริ๊งงงง ที่มา: Thechive
-
‘Mikhail Baburin’ ชายคนสุดท้ายใน หมู่บ้านร้างแห่งไซบีเรีย พื้นที่อันหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจ!!
ถ้าใครคิดจะอยากอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิต หรือเป็นคนที่ชอบความสันโดษ (Introvert) #เหมียวบ็อบ จะขอพาเพื่อนๆไปรู้จักกับ ชายผู้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางพื้นที่อันหนาวเหน็บ ซึ่งแม้แต่ความหนาวก็มิอาจเข้าไปกัดกินสร้างความเหงาให้กับหัวใจของเค้าได้ ‘Mikhail Baburin’ โฉมหน้าของชายผู้อยู่อย่างโดดเดี่ยว เขาไม่เคยเหงา ไม่เคยอ้างว้าง และยืนยันที่จะอยู่ในพื้นที่นี้ต่อไปตราบชั่วนิรันดร์ ชายวัย 66 ปีผู้นี้ เดิมทีเขากำเนิดขึ้นมาลืมตาดูโลก ณ หมู่บ้าน Mikhailovka แห่งนี้ ซึ่งปัจจุบันมันได้กลายเป็นพื้นที่ควบคุม และมีเพียงเขาคนเดียวที่เป็นชาวบ้านคนสุดท้าย เดิมที ‘Baburin’ ต้องจากบ้านไปนานหลายปี เพื่อทำงานให้กับกองทัพเรือของรัสเซีย แต่ทว่าในปี 2000 หลังจากที่เจ้าตัวได้ตัดสินใจเกษียณตัวเอง เขาเลือกที่จะกลับมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะไม่มีชาวบ้านหลงเหลืออยู่แล้วก็ตาม ทุกๆวันเขาใช้ชีวิตอย่างสงบ อยู่ในบ้านน้อยอันแสนอบอุ่น ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ แต่เจ้าตัวก็ยังเลี้ยงสัตว์อยู่เช่นกัน เขามีหมาคู่ใจ ที่เป็นทั้งเพื่อนรัก และลูกมือคอยช่วยเหลืองานต่างๆ ที่ต้องทำในแต่ละวัน แถมยังมีเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า ‘Marquis’ อาศัยอยู่ในบ้านเป็นเพื่อนซี้กับเขาอีกด้วยล่ะ ในแต่ละวันนอกจากการเลี้ยงสัตว์แล้ว เขาก็มักจะหมดเวลาไปกับการนอนอ่านหนังสือแบบชิลๆ …
-
ผลสำรวจ ของเล่นชิ้นโปรดจากเด็กๆ ทั่วโลก จะยากดีมีจน นี่แหละคือความสุขที่ได้รับ!!
มีคำกล่าวที่ว่า ถ้าหากเราอยากจะเข้าใจโลกใบนี้ละก็ เราต้องเข้าถึงการเป็นอยู่ของผู้คน แม้ว่าจะอยู่ในสังคมที่ต่างกัน หรือวัฒนธรรมที่ตรงกันข้ามอย่างสุดขั้ว และการสำรวจผ่านของเล่น ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจเลยทีเดียว จากผลสำรวจของเว็บไซต์ Dollar Street ได้เข้าไปสำรวจของเล่นชิ้นโปรดจากแต่ละครอบครัว ในแต่ละประเทศที่ต่างกันออกไป โดยเรียงจากรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน ซึ่งจะทำให้เราเห็นว่า ในประเทศที่ประชากรรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงกว่า ส่งผลให้เด็กๆมีของเล่นที่หรูหรากว่า แต่ทว่าในอีกด้านหนึ่ง ประเทศที่ยากจน เด็กๆก็สรรหาของเล่นชิ้นโปรดเพื่อเสริมสร้างจินตนาการของพวกเขาได้อย่างครีเอทไม่แพ้กันเลยล่ะ ในอินเดีย บ้านหลังหนึ่งมีรายได้เฉลี่ย $29 ต่อเดือน ของเล่นโปรดคือ ขวดพลาสติกเก่าเก็บ ในซิมบับเว ครอบครัวมีรายได้เฉลี่ย $34 ต่อเดือน ของเล่นชิ้นโปรดของเด็กๆคือ ลูกบอลที่ต้องทำขึ้นมาเอง เช่นเดียวกับครอบครัวในเฮติ ที่มีรายได้เฉลี่ยเพียงแค่ $39 ต่อเดือน เด็กๆมีของเล่นชิ้นโปรดเป็นลูกเทนนิสเก่า สำหรับเด็กชายจากประเทศบูร์กินาฟาโซคนนี้ เขาอยู่ในครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ยเพียง $54 ต่อเดือน มีของเล่นชิ้นโปรดเป็นยางรถ หนุ่มอินเดียผู้มาจากครอบครัวที่มีรายได้ $65 ต่อเดือน เขาชอบที่จะเล่นไม้คริกเก็ตที่สร้างขึ้นมาเอง หนุ่มน้อยชาวปาเลสไตน์ผู้นี้ อยู่ในครอบครัวรายได้เฉลี่ย $112 ต่อเดือน ของเล่นโปรดคือขวดพลาสติก…
-
ชาวบ้านจีนถึงกับงง สัตว์ประหลาดมีตัวเป็นหมู แต่หน้าเป็นลิง จะเรียกหมูลิง หรือ ลิงหมู!?
เวลาเห็นอะไรรูปร่างแปลกๆ ผิดธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ใบหญ้า หรือ สัตว์ที่เกิดออกมารูปร่างไม่ปกติ ถ้าเป็นบ้านเราก็คงแตกตื่น แห่เข้าไปบูชาและขอหวยตามสเตป แล้วถ้าเป็นประเทศอื่นล่ะ เค้าจะทำยังไงเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติ…อย่างล่าสุดในประเทศจีน ชาวบ้านถึงกับงง ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี เพราะมันเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างเป็นหมูแต่หน้าลักษณะคล้ายกับลิง!? สัตว์ที่ยังไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรตัวนี้ น่าจะเป็นผลมาจากความผิดพลาดทางการทดลองพันธุกรรม เกิดขึ้นมาในฟาร์มแห่งหนึ่งในมณฑลกุ้ยโจว ทำให้ชาวบ้านในละแวกฟาร์มแห่งนั้นให้ความสนใจ และแห่มาขอดูอย่างไม่ขาดสาย ตามการรายงานของ NetEase reports บอกว่า ‘ตอนนี้สัตว์ตัวนี้ยังไม่มีการระบุว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ เพราะมันผสมระหว่างหมูกับลิง ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ความผิดปกตินี้อาจเกิดจากมลพิษทางสิ่งแวดล้อมด้วยส่วนหนึ่ง’ ส่วนผลข้างเคียงของความผิดปกตินี้ ทำให้มันไม่สามารถดูดนมจากแม่ได้ ชาวนานามว่า Lin ผู้ดูแลเจ้าสัตว์ตัวนี้ จึงต้องให้มันดื่มนมจากขวดนม และเลี้ยงมันเหมือนทารกคนหนึ่ง เนื่องจากตอนนี้ มันยังเด็กก็เลยยังไม่เผยลักษณะที่ชัดเจนว่า เป็นหมูมากกว่าหรือเป็นลิงมากกว่า แต่หากโตขึ้น คาดว่าผู้เชี่ยวชาญน่าจะบอกได้ว่ามันคือตัวอะไร และคงจะมีชื่อเรียกที่เหมาะกับมันเช่นกัน สำหรับประเทศจีนแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิถุนายน ชาวนาคนหนึ่งก็ได้เปิดเผยให้เห็นลูกหมูตวหนึ่งที่เกิดในฟาร์มของเขา โดยมี 2 หัว และ 3 ตา ซึ่งเป็นความผิดปกติที่สร้างความฮือฮาในเวลานั้นเหมือนกัน …
-
9 ซุปเปอร์ฮีโร่พลังแปลก ของ Marvel คือไม่อยากจะบอกเลยว่า ‘แบบนี้ก็ได้เหรอ’ !?
ถ้าในยุคนี้นึกถึงเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ล่ะก็ กลุ่มของ Marvel ก็คงเป็นกลุ่มที่มีผู้รู้จักและติดตามกันมากที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย… แต่เหล่าฮีโร่ที่เรารู้จักนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับไอเดียฮีโร่แปลกๆ ที่เหล่า Marvel เคยคิดจะทำออกมา จนคุณต้องแอบเผลอนึกในใจว่า ‘แบบนี้ก็ได้เหรอ!?’ เลยทีเดียว Doorman หรือแปลกันง่ายๆ ว่ามนุษย์ประตูนั่นแหละ พลังของเขาคือการดึงพลังมืดออกมาจากมิติอื่น ทำให้เขาสามารถสร้างประตูขึ้นได้ทันทีและทะลุสิ่งของอะไรก็ได้แม้แต่ตัวของเขาเอง!? (จะว่าไปแอบเป็นความสามารถที่ดีเลยนะเนี่ย) ForgetMeNot ความสามารถของเขาก็คือ ถ้าคุณไม่มองเขาล่ะก็ เขาก็จะเลือนหายไปจากความทรงจำของคุณโดยอัตโนมัติ เรื่องราวของเขาคือการที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของ X-men ที่มีบทบาทใหญ่ๆ หลายครั้ง ประเด็นคือไม่มีใครจำเขาได้น่ะสิ ขนาดศาสตราจารย์ X ยังต้องใช้พลังจิตกระตุ้นสมองของเขาเองทุกๆ 1 ชั่วโมงเพื่อที่จะได้ไม่ลืมฮีโร่คนนี้ (เพื่อออ ฮร่าาา) Razorback ในช่วงยุคปี 1970 นั้นการเป็นคนขับรถบรรทุกนั้นค่อนข้างที่จะเท่เลยทีเดียว เจ้าของรถหลายๆ คนถึงกับติดตั้งสถานีวิทยุ C.B. radios เพื่อรับฟังคลื่นที่เหล่าสิงห์นักขับเขาฟังกัน จะได้ดูคูลเหมือนว่าเป็นหนึ่งในพวกเขา และ Razorback ก็คือฮีโร่ที่พยายามจะเกาะกระแสนี้ พลังพิเศษของเขาก็ไม่มีอะไรมาก แค่เป็นคนขับรถที่เก่งมาก และใส่หมวกรูปหมูป่าเพื่อออกปราบปรามเหล่าร้าย Ulysses…
-
นักวิจัยจากอังกฤษชี้ การที่แม่บังคับเราไปจัดเตียงนั้น คือการบั่นทอนสุขภาพของเรา!!
ในสมัยเด็กๆ (หรือแม้กระทั่งปัจจุบันก็ตาม -*-) เพื่อนๆ คงเคยโดนแม่บ่นกันมาบ้างเรื่องการไม่จัดเตียงนอนตอนตื่นไปเรียน แต่ล่าสุดทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วล่ะ หึหึ เพราะงานวิจัยของทาง Kingston University ได้ชี้ว่า ที่แม่บ่นเราและบังคับเรากลับไปจัดเตียงทุกๆ เช้านั้น เป็นการทำร้ายสุขภาพของคุณทางอ้อมอยู่!!? Dr. Stephen Pretlove คือหัวหน้างานวิจัยนี้ และเขาได้แนะนำให้เราเลิกจัดเตียงกันซะ!! เลิกจัดเตียงกันเถอะ!! ตามค่าเฉลี่ยแล้ว เตียงแต่ละเตียงนั้นจะมีปริมาณไรฝุ่นอยู่ราวๆ 1.5 ล้านตัว และเป็นที่รู้กันว่า ไรฝุ่นนี้คือที่มาของอาการภูมิแพ้ต่างๆ และให้ทายสิว่าเตียงที่จัดกับไม่จัดนั้นแบบไหนจะมีไรฝุ่นมากกว่ากัน?? จากการเก็บข้อมูลของ Dr. Stephen พบว่า เตียงที่ไม่ได้รับการจัดนั้นจะมีปริมาณไรฝุ่นอยู่น้อยกว่า เพราะสิ่งที่สามารถกำจัดไรฝุ่นได้ดีที่สุดก็คือแสงแดดและอากาศ เตียงที่ถูกจัดเป็นอย่างดีนั้น จะทั้งอับและชื้นกว่าเตียงที่ไม่ได้จัด และในสภาพบรรยากาศอับชื้นนั้น เป็นสภาพที่เหมาะที่สุดในการเจริญเติบโตของเหล่าไรฝุ่นล่ะ!! นี่ไง ในที่สุด #จ่าสิบเหมียว ก็มีเรื่องไปอ้างแม่แล้วล่ะว่าทำไมถึงไม่จัดเตียง ฮร่าาา นี่เราทำถูกมาตลอดเลยเหรอเนี่ย >< ที่มา: bbc, Distractify, designntrend
-
คนใจร้าย จับแมวเหมียวใส่กล่อง ทิ้งไว้กลางหิมะหนาวจัด จนกระทั่ง คนกวาดถนนมาช่วยชีวิต…
เมื่อเรารับสัตว์มาเลี้ยง เราก็ต้องรับผิดชอบชีวิตมันด้วย เราจะปกป้องดูแลมัน ให้ความรักความอบอุ่น และให้ในสิ่งที่พวกมันควรจะได้รับ แต่ดูเหมือนบางคนไม่ได้คิดแบบนี้ เพราะพวกเขาจะตื่นเต้นแค่ช่วยแรกๆ ที่รับเลี้ยง แต่พอเบื่อก็ไม่สนใจใยดี และทิ้งให้มันต้องเผชิญชีวิตที่น่าสงสาร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความปวดใจให้กับใครหลายๆ คน โดยเฉพาะคนรักสัตว์… ในเดือนธันวาคมปีดังกล่าว ชาวคนหนึ่งได้รับแจ้งว่า ‘หิมะตกหนักจนรถไม่สามารถผ่านได้ ช่วยไปเคลียร์ให้หน่อย’ เมื่อเขาไปถึง กำลังจะเคลียร์หิมะออก ก็เหลือบไปเห็นกล่องอยู่ใบหนึ่ง ข้างในมีแมวผู้น่าสงสาร กำลังอยู่ในอาการสั่นไปทั้งตัว เพราะอากาศที่หนาวจัด กล่องใบนี้มีช่องมีช่องเพียงเล็กน้อย จึงทำให้แมวตัวนี้ไม่สามารถออกมาได้ และแทบจะมองไม่เห็นสิ่งภายนอกเลย จึงทำให้มันต้องอยู่แต่ในกล่องแคบๆ นี้ด้วยความทรมาน เมื่อชายคนนี้เปิดกล่องออกมา ก็พบว่ามีแมวถึง 2 ตัวอยู่แออัดกันในกล่องแคบๆ ใบนี้ ในสภาพที่ใครเห็นก็รับไม่ได้ พวกมันอยู่ในอาการหวาดกลัว และขาดสารอาหาร แม้จะมีอาหารอยู่ในกล่องด้วย แต่ดูเหมือนอาหารจะเสียเพราะสภาพอากาศที่หนาวจัดนี้ จึงทำให้พวกมันแทบไม่ได้กินอะไรเลย และพวกมันคงจะตาย ถ้าชายคนนี้ไม่ได้ถูกเรียกให้ไปทำความสะอาดถนนในวันนั้น… เขาจึงได้พาแมวทั้งสองตัวไปอยู่ในที่ที่อบอุ่นและปลอดภัย และเมื่อตรวจเช็คร่างกายก็พบว่า แมวที่อยู่ด้านหลังมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าตัวข้างหน้านี้มาก เพราะตัวหน้านี้มีอาการปวดที่หลังอย่างรุนแรง ตัวมันมีแต่อุจจาระ มีกลิ่นฉี่ติดตัว และมีสิ่งสกปรกอยู่รอบๆ…
-
ทหารรัสเซียพร้อมด้วย “หุ่นยนต์รบ” หน้าตาคล้าย Wall-E บุกเข้าโจมตีผู้ก่อการร้าย ISIS
สงครามในปัจุบันเริ่มแตกต่างไปจากสมัยก่อนโดยสิ้นเชิง แทนที่จะเป็นการใช้อาวุธเข้าต่อสู้กันแบบซึ่งๆ หน้า แต่ได้มีการเปลี่ยนมาเป็นการพึ่งพาเทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น และอีกหน่อยเราก็อาจจะได้เห็นการต่อสู้กันด้วยหุ่นยนต์จริงๆ ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า กองทัพของรัสเซียได้ส่งทหารกลุ่มหนึ่งพร้อมด้วยหุ่นยนที่ติดตั้งปืนกลเข้าโจมตีกลุ่มผู้ก่อการร้าย ISIS ที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคาร โดยหนึ่งในนั้นมีชื่อว่า Rustam Aselderov เป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการวางระเบิดในเมืองวอลโกกราด ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซียเมื่อปี 2013 ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตกว่า 34 ราย Aselderov ได้เข้าร่วมกับการต่อสู้ของกลุ่มก่อความไม่สงบ นำไปสู่การเชื่อมโยงว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคารบอมบ์ในสาธารณรัฐดาเกสถาน เมื่อปี 2012 จนมีผู้เสียชีวิต 14 คนและบาดเจ็บอีก 120 คน ทำให้รัสเซียต้องตามจับเขามาให้ได้ ถึงขนาดเสนอเงินรางวัลค่าหัวให้กับคนที่จับเขาได้ถึง 2.7 ล้านบาทเลยทีเดียว จากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นภาพของหุ่นยนต์ขนาดเล็กลักษณะคล้ายรถบังคับ กำลังยิงปืนถล่มเข้าไปในอาคารแห่งหนึ่ง ในเมืองนอร์ทคอเคซัส สาธารณรัฐดาเกสถาน หลังจากนั้นไม่นาน หุ่นยนต์รบขนาดจิ๋วก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาประจันหน้ากับอาคาร ก่อนจะเปิดฉากยิงในชั่วอึดใจ กลุ่มทหารรัสเซียได้ยืนคุ้มกันหุ่นยนต์รบในระหว่างที่มันกำลังใช้อาวุธของตัวเองเพื่อยิงเจาะอาคารให้เป็นรู และต้อนให้นาย Aselderov จนมุมในที่สุด และนี่คือใบหน้าที่แท้จริงของ Rustam Aselderov สามารถชมคลิปปฏบัติการของหุ่นยนต์ตัวนี้ได้ที่นี่เลย…
-
หญิงสาวคืนเงิน 1 แสนบาทให้ร้านพิชซ่า หลังพนักงานส่งผิด เลยได้กินพิชซ่าฟรี 1 ปีเต็ม!!
ไม่ว่าจะทำงานอะไรย่อมมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ แม้แต่งานบริการอย่าง การส่งอาหารเดลิเวอรี่ ที่บางครั้งบางคราว มีส่งผิดที่บ้าง ส่งผิดเมนูบ้าง รวมไปถึงความล่าช้าในการส่ง แต่ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดที่น้อยคนนักจะได้เจอ เพราะนอกจากลูกค้าจะไม่ได้กินพิซซ่าแล้ว ทางร้านก็ยังไม่รู้ด้วยว่ามีเงินถึง 1 แสนบาทหายไป!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อ Selena Avalos ได้สั่งพิซซ่าจากร้านโดมิโน แต่เมื่อพิซซ่ามาถึง เธอกลับไม่ได้กลิ่นพิซซ่า พอเปิดดูก็มีแต่เงินล้วนๆ และเงินที่อยู่ข้างในก็ไม่ใช่แค่ 100 หรือ 200 นะ แต่มากถึง 1 แสนเลยทีเดียว (5,000 ดอลลาร์) แต่ Selena เองก็รู้เลยว่า มันคงเป็นความผิดพลาดแน่ๆ เธอจึงตั้งใจส่งคืนให้ทางร้าน Selena จึงประกาศผ่านโซเชียล เพื่อให้ทางร้านได้ทราบและมารับเงินคืนกลับไป แต่ทว่า วันแล้ววันเล่าทางร้านก็ไม่โทรหาเธอสักที จนกระทั่งผ่านไป 3 วัน ก็ไม่มีอะไรเกิด ดูเหมือนว่าทางร้านยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงินหาย!! เธอจึงติดต่อไปยังสำนักข่าวท้องถิ่นเพื่อให้ประสานไปยังสำนักงานใหญ่ของพิชซ่า เมื่อทางตัวแทนบรีษัทมาถึง พวกเขาก็รับเงินจำนวนนั้นกลับไป และตอบแทน Selena ด้วยการให้กินพิชซ่าฟรีในปีถัดไป ในขณะที่หัวหน้างานของ Selena…
-
ช่างภาพสาวสงสัยว่า เกาหลีเหนือจะเป็นยังไง จนพบว่า มันก็ไม่ได้เลวร้าย อย่างที่คิดซะหน่อย…
ในหลายๆ ครั้ง เรามักเห็นภาพของประเทศเกาหลีเหนือที่เหล่าช่างภาพใจกล้าไปแอบถ่ายกันมา ล้วนแต่เป็นสภาพของวิถีชีวิตที่เลวร้ายและถูกกดดัน แต่สุดท้ายแล้ว ทุกๆ สิ่งที่เราเห็นได้ในภาพนั้น จะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหนกัน!? Joanna von Mruff ช่างภาพสาวก็เกิดสงสัยในข้อนี้ ตั้งแต่ Kim Jong Un ผู้นำคนใหม่ขึ้นสู่อำนาจ หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างก็ได้เปลี่ยนไปในประเทศนี้ เธอจึงเดินทางเข้าไปยังประเทศเกาหลีเหนือ ในกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของประเทศ Joanna von Mruff ข้างหลังนั้นคือเขตแดนของประเทศเกาหลีใต้ แถบบริเวณชานเมืองของกรุงเปียงยาง แม่น้ำ Putong ระหว่างทางจากสนามบิน ซึ่งเธอได้เขียนอธิบายไว้ว่าสภาพถนนของเมืองก็ดูดีเลยทีเดียว ทางรถไฟ ช่วงบ่ายในประเทศเกาหลีเหนือ เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่สามารถสังเกตได้จากชาวเกาหลีเหนือก็คือการต่อคิวของพวกเขา ที่เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก มุมสวยๆ ของเมืองก็มีอยู่หลายจุด และช่างภาพสาวก็ตระหนักขึ้นได้ว่า มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ทางเข้างานเทศกาลรื่นเริงที่จัดขึ้นในเมือง ตึกและอาคารต่างๆ ที่ไม่ต่างจากเมืองอื่นๆ ของโลก จตุรัส Kim-Ir-Sung ทุกๆ…
-
ชาวญี่ปุ่นเริ่มนิยม แต่งงานกันในหมู่เพื่อนฝูง เพราะมัวแต่ทำงาน และไม่มีเวลาออกเดท…
หลายๆ ประเทศนั้น อาจจะมีปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับจำนวนประชากรจนต้องมีการคุมกำเนิด แต่ในทางกลับกัน ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาอย่างหนักเลยล่ะ… เพราะการแต่งงานหาคู่ชีวิตมาอยู่ด้วยกันนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างต้องใช้เวลา ในส่วนของประเทศที่เน้นหนักในด้านหน้าที่การงานแบบชาวญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยจะมีเวลาไปออกเดทหรือทำความรู้จักกับใครมากนัก ตอนนี้เลยกลายเป็นเทรนด์ที่ว่าชาวญี่ปุ่นมักแต่งงานกับเพื่อนของพวกเขาเองซะเลย เพื่อที่จะไม่ต้องเสียเวลาไปทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ !? การแต่งงานกันเองในหมู่เพื่อนฝูงเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลา จากการสำรวจของทางรัฐบาลประเทศญี่ปุ่น ร้อยละ 69 ของชายหนุ่มและร้อยละ 59 ของหญิงสาวในวัยเจริญพันธุ์นั้น ไม่มีคู่รัก แถมมีข่าวคราวและเทรนด์ในการแต่งงานกับเพื่อนของตัวเองที่รู้จักกันมาเป็นเวลานานด้วยซะอีก โดยใช้ชื่อเรียกเทรนด์นี้กันว่า Kousai zero Nichikon หรือแปลว่าการแต่งงานแบบไม่ต้องเดทกันมาก่อนนั่นเอง สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดของประชากรใหม่น้อยที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน โดยประชากรราวๆ 1,000 ราย จะมีอัตราการเกิดแค่ 8.4 คนเท่านั้น และในปี 2060 นี้ คาดว่าประชากรของประเทศจะลดลงกว่า 1 ใน 3 เลยล่ะ อัตราการเกิดของประชากร และถึงจะไม่มีหลักฐานหรือการสำรวจที่เป็นรูปธรรมของเทรนด์นี้ แต่ก็มีกระแสและการพูดถึงเรื่องนี้ในประเทศญี่ปุ่นอย่างหนาตาขึ้นเรื่อยๆ และไม่แน่ นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้แล้วก็เป็นได้… ที่มา: BusinessInsider
-
อย่างเจ๋ง!! ช่างซ่อมรถใช้ประสบการณ์กว่า 10 ปี สร้างรถสปอร์ตขับเอง ด้วยงบเพียง 4 แสน
การที่ใครจะครอบครองรถสปอร์ตสักคันได้นั้น แสดงว่าต้องเป็นคนรวยมากๆ เพราะอย่างที่เรารู้กันอยู่แล้วว่า รถสปอร์ตนั้นราคาเป็นล้าน คนธรรมดาอย่างเราเลยได้แค่มอง แต่ล่าสุด Yang Haihua ช่างซ่อมรถยนต์ ได้ทำให้ทั่วโลกเห็นว่า แม้จะเกิดมาเป็นคนธรรมดา ก็ครอบครองรถสปอร์ตได้เช่นกัน และไม่ต้องลงทุนเป็นล้านด้วย Yang Haihua เป็นช่างที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมการบำรุงรักษารถยนต์มานานกว่า 10 เขาจึงได้นำประสบการณ์ทั้งหมดที่เคยสั่งสมมาสร้างรถสปอร์ตคันหรูด้วยตัวเอง ตามการรายงานข่าวของ CCTVNews โดยในการสร้างรถสปอร์ตคันนี้ เขาได้ลงทุนเพียง 400,000 บาทเท่านั้น (80,000 หยวน) แต่สภาพที่ออกมาดูไม่ต่างจากรถสปอร์ตทั่วไปเลย มีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว จนใครๆ ก็บอกว่าสวยคุ้มค่าจริงๆ เมื่อเอาออกมาใช้ ไม่มีใครคิดเลยว่า รถคันนี้ลงทุนแค่ 4 แสน แต่ทุกคนเข้าใจว่า มันคือรถสปอร์ตสุดหรู ที่มีราคาอยู่ในหลักล้าน จนใครเห็นก็ต้องอิจฉา ไม่เสียแรงจริงๆ ที่อุตส่าห์เป็นช่างนานถึง 10 ปี จนมีฝีมือขั้นเทพ ด้วยจำนวนเงินที่ใช้เพียงแค่หลักแสนบาท ไม่เจ๋งจริงทำไม่ได้นะเนี่ย ก่อนหน้านี้ก็มีรถประดิษฐ์เจ๋งมาแล้วเหมือนกัน นั่นคือรถที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ที่ดูเหมือนรถแอเรียล…
-
คุณปู่วัย 120 ปี ชาวอินเดีย เผยเคล็ดลับที่มีอายุยืนได้ขนาดนี้ เพราะยังซิงอยู่!!?
ใครๆต่างก็รักสุขภาพตัวเองกันทั้งนั้น คงไม่มีใครอยากจะด่วนจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียงน้อยนิดหรอกจริงมั้ย? ถ้าเป็นไปได้อยู่เป็นอมตะได้เลยก็ยิ่งดี วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ ‘Swami Sivananda’ คุณปู่ชาวยอินเดีย ซึ่งปีนี้อายุเค้าก็ปาเข้าไป 120 ปี เข้าให้แล้ว!! แถมตอนนี้ยังสามารถเดินเหินทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างปกติอีกด้วยล่ะ ทุกวันนี้คุณปู่แกก็ยังคงทำหน้าที่เป็นพระประจำศาสนาฮินดู เดิมทีช่วงชีวิตในวัยเด็ก คุณปู่เติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน ในเมืองกัลกัตต้า ประเทศอินเดีย แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ย้ายมาอยู่เมืองพาราณสี เรียกได้ว่าตลอดช่วงชีวิตของเขาเลยทีเดียว เชื่อมั้ยว่าทุกวันนี้ ถึงแม้คุณปู่จะอายุ 120 ปี แต่แกก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาจากหมอ ไม่มีแม้แต่ไม้เท้า ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ทำทุกวันก็คือ การเล่นโยคะเป็นประจำ วันละ 1 ชั่วโมง อีกทั้งเจ้าตัวยังย้ำด้วยว่า ‘วินัย’ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้มีชีวิตที่ดี สุขภาพที่แข็งแรง “ผมไม่กินอาหารรสจัด ไม่เคยมีเซ็กส์ และเล่นโยคะเป็นประจำทุกวันมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว การต่อสู้กับกิเลศที่อยู่ในตัวคุณ คือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชีวิตเรามีความสุข และอยู่ได้อย่างยั่งยืน” คุณปู่กล่าว เจ้าตัวยังกล่าวอีกด้วยว่า อาจจะเป็นเพราะช่วงชีวิตในวัยเด็กที่ต้องเติบโตมากับครอบครัวที่ยากจน ทำให้เค้าไม่มีโอกาสคิดถึงวัตถุภายนอก หรือสิ่งต่างๆที่อยากจะได้เหมือนคนอื่น ทุกวันนี้เจ้าตัวยังคงนอนบนพื้นราบ ใช้อิฐมารองหัวเป็นหมอน และยังเป็นกูรูคอยให้คำแนะนำ ทั้งด้านปรัชญาชีวิต และความเชื่อทางศาสนา…
-
บทเรียนแสนแพง โรงแรมในเวลส์ถูกสอบสวนหนัก หลังมีข่าวพนักงานทำร้ายแมวในโรงแรม…
คอนเท้นท์นี้อาจจะมีเนื้อหาซึ่งรุนแรงไปบ้างเล็กน้อย… บางครั้งเรื่องราวดีๆ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับสัตว์จรจัดเสมอไป เพราะยังไงแล้วพวกมันก็ต้องผจญกับความยากลำบากในการเอาชีวิตรอด ซึ่งบางครั้งพวกมันก็เจอคนดี และหลายครั้งพวกมันก็ได้เจอกับคนที่ใจร้าย เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าโรงแรม Royal Oak Hotel ทางตอนเหนือของประเทศเวลส์ ได้ถูกชาวเน็ตรุมโจมตีอย่างหนัก เนื่องจากมีหนักงานในโรงแรมจับแมวจรจัดที่หลุดเข้าไปในห้องครัวของโรงแรมมาทุบตีจนตาย เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดยชาวเมืองในบริเวณนั้นหลายคน ที่ยืนยันตรงกันว่ามีลูกแมวจรจัดแอบเข้าไปในครัวและกินอาหารในห้องครัวของโรงแรมนิดหน่อย แต่มันกลับหาทางออกไม่ได้และเริ่มแสดงอาการหวาดกลัวจนฉี่ราด หลังจากนั้นไม่นานก็มีพนักงานของโรงแรมเข้ามาพบเข้ากับแมวและฉี่ของมัน พวกเขาก็จับมันโยนใส่ในถุงพลาสติก และใช้ไม้นวดแป้งฟาดมันจนตาย เรื่องนี้ได้ถูกแจ้งไปยังตำรวจท้องถิ่นและหน่วยงานป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ (RSPCA) พวกเขาได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดแล้ว และตอนนี้ทางโรงแรมก็กำลังถูกสอบสวนอย่างหนักต่อการตายของแมวจรจัดตัวนี้ ด้านนาย Glen Evans หัวหน้าของโรงแรมได้ออกมายอมรับว่าแมวตัวนั้นถูกฆ่าจริงๆ แต่ปฏิเสธเกี่ยวกับวิธีการฆ่าที่พวกเขาถูกกล่าวหาอยู่ และบอกว่ามันเป็นเพียงการฆ่าแบบ “การุณยฆาต” เท่านั้น นาย Evans ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาไม่เชื่อว่าพนักงานจะทำผิดกฎหมายการฆ่าสัตว์ “กับปัญหาที่เกิดขึ้น แน่นอนครับว่าผมหวังว่าสิ่งที่เราต้องเจอจะแตกต่างออกไป เว้นแต่จะมีข้อมูลใหม่ออกมา ว่าพนักงานไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายเลย” หลังจากที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้ินเริ่มกลายเป็นข่าวแพร่ออกไปในอินเตอร์เน็ต บนหน้าเฟซบุ๊กเพจของโรงแรมก็ถูกชาวเน็ตถล่มให้ 1 ดาวอย่างมากมาย และยังมีชาวเน็ตจำนวนมากร่วมกันรณรงค์เพื่อคว่ำบาตรโรงแรมแห่งนี้อีกด้วย …
-
Johnny Depp ในร่าง “กัปตันแจ๊ค” ออกเยี่ยมเด็กๆ ในโรงพยาบาล สร้างกำลังใจช่วงคริสมาสต์
คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักตัวละคร Jack Sparrow ตัวเอกจากภาพยนตร์ชุด Pirates Of The Caribbean โจรสลัดชื่อก้องที่มีบุคลิกเฉพาะตัวจนกลายเป็นภาพจำให้กับนักแสดงอย่าง Johnny Depp ไปแล้ว และด้วยความที่ตัวละคร Jack Sparrow เป็นไอดอลของเด็กๆ หลายคนทั่วโลก Johnny Depp ก็เลยนำตัวละครนี้ออกมาสู่โลกความเป็นจริง มาให้กำลังใจเด็กๆ ผู้ป่วยได้มีแรงต่อสู้กับอาการเจ็บไข้ได้ป่วยต่อไป เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม โดยตามรายงานบอกว่า Johnny Depp ได้สวมชุดและแต่งหน้าให้กลายเป็นตัวละคร Jack Sparrow เพื่อไปเยี่ยมเด็กๆ ในโรงพยาบาล London’s Great Ormond Street Children’s Hospital ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ลูกสาวของเขาเข้ารักษาตัว เพื่อเป็นการฉลองเทศกาลคริสมาสต์ก่อนเวลา แม้ว่าเด็กเล็กบางคนอาจจะเกิดอาการเหวอเพราะไม่รู้จักตัวละครนี้และคาดหวังว่าพวกเขาจะได้เจอกับซานตาคลอสในชุดสีแดงมากกว่าคุณลุงหน้าตาเซอร์ๆ แต่ก็มีเด็กๆ วัยรุ่นหลายคนที่จดจำเขาได้และรู้สึกตื่นเต้นมากที่ดาราฮอลลีวูดวัย 53 ปีรายนี้มาหาพวกเขาถึงในโรงพยาบาล การปรากฏตัวของ Johnny Depp ในโรงพยาบาลเด็ก ทำเอาพยาบาลและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตื่นเต้นไปด้วย ก่อนจะมีการทักทายพูดคุยกับเด็กๆ และถ่ายภาพเพื่อเป็นที่ระลึก Depp ได้กล่าวกับสื่อหลังที่ได้ไปเยี่ยมเด็กๆ…
-
ดาราตลกขังตัวเองในกรงกว่า 87 ชั่วโมง ทำไปเพื่อระดมทุน และหาบ้านให้กับเหล่าน้องหมา!!
สำหรับนาย Remi Gaillard แสดงตลกชาวฝรั่งเศส ที่รู้จักกันว่าเขาเป็นคนที่ชอบทำคลิปแกล้งคนอื่น หรือ มีมุขตลกฮาๆ แบบเรียลๆ มาให้ชาวเน็ตฝรั่งเศสได้ชมกันตลอด เท่านั้นยังไม่พอ Remi ยังเป็นคนที่รักสัตว์มากๆ เลยล่ะ โดยเมื่อช่วงเดือนก่อนเขาได้มีแพลนทำกิจกรรมเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในกรงสุนัขของสถานสงเคราะห์สัตว์ SPA Shelter ในเมือง Monpellier โดยเขากล่าวว่าจะใช้ชีวิตอยู่ในกรงขังไปเรื่อยๆ จนกว่าสัตว์ทั้ง 300 ตัวที่อยู่ในสถานสงเคราะห์จะถูกรับไปเลี้ยงจนหมด หรือจนกว่าจะมีเงินระดมทุนเข้ามาครบ 2 ล้านบาท ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Remi Gaillard ได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเหล่าสัตว์เลี้ยงนะ เพราะก่อนหน้านี้เขาก็ได้ทำคลิปแกล้งกันขำๆ แต่แฝงไปด้วยความหมาย ที่เขาแต่งตัวเลียนแบบสุนัขออกไปวิ่งไล่ หรือสร้างความก่อกวนให้กับผู้อื่น เพื่อให้ผู้คนตระหนักว่าหากเลี้ยงพวกมันแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เหล่ามะหมาหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ทั้งหลายก็อาจจะไปสร้างความรำคาญให้กับคนอื่น แบบที่เขากำลังทำอยู่ ลองไปชมคลิปแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… และล่าสุดเขาก็เริ่มแผนการที่วางไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนก่อนแล้ว โดยเขาได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในกรงสัตว์ในสถานสงเคราะห์ SPA Shelter จริงๆ ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น การเข้าห้องน้ำ การทานอาหารและน้ำ ทำเหมือนกับตัวเองเป็นสุนัขตัวหนึ่งเลยล่ะ …
-
2 เสือโคร่งไซบีเรีย เปิดศึกแย่งชิงเสือสาวอย่างดุเดือด ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ!!
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยภาพของ 2 เสือโคร่งไซบีเรีย ขณะต่อสู้กันเพื่อแย่งเสือตัวเมียกันอย่างดุเดือด ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ โดยภาพดังกล่าวถูกบันทึกได้โดย Ingo Gerlach ช่างภาพชาวเยอรมัน ผู้ที่ได้เดินทางไปยังอุทยาน Orsa-Björn Wildlife Park ประเทศสวีเดน และได้พบกับเจ้าเสือ 2 ตัวนี้ กำลังต่อสู้กันพอดี นั่นจึงทำให้เขาได้บันทึกภาพเหตุการณ์สุดระทึกนี้เอาไว้ สำหรับอุทยาน Orsa-Björn Wildlife Park ถือเป็นบ้านของสัตว์ป่าหายากหลายสายพันธุ์ เช่น หมีสีน้ำตาล หมีขั้วโลก หมาป่ายุโรป และโคร่งไซบีเรีย เรียกได้ว่าการศึกการต่อสู้ของพวกมันสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก ถือเป็นภาพเหตุการณ์ที่หาชมได้ยากมากจริงๆ ทางด้าน Ingo Gerlach ผู้เป็นช่างภาพได้เผยว่า “พวกมันได้ต่อสู้กันรุนแรงมาก ซึ่งเป็นการโจมตีในระเวลาเพียงสั้นๆ จากนั้นเสืออีกตัวหนึ่งก็ได้ถอยออกไป ส่วนสาเหตุที่พวกมันได้ต่อสู้กันอาจจะเป็นเพราะแย่งเสือตัวเมีย และต้องการแย่งชิงอาณาเขต” การต่อสู้ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นภาพที่ดูน่าเกรงขามพอสมควร …
-
คู่รักรับเลี้ยงเด็กกำพร้าทั้ง 5 คน ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่อยากให้พี่น้องต้องพรากจากกัน…
ไม่ว่าจะในประเทศไหนๆ ต่างก็มีเด็กกำพร้าด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีเด็กๆ รอการรับเลี้ยงมากกว่าล้านคน และจำนวนประชากรในประเทศที่พร้อมรับเลี้ยงกำพร้านั้น ก็มีเพียงกับจำนวนเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือด้วย ดังนั้นคนอเมริกันกว่า 72% ที่รับเลี้ยงเด็กจึงมักจะรับแค่คนเดียวหรือสองคนเท่านั้น บางคนอาจคิดว่า แค่รับเลี้ยงก็ถือว่าดีแล้ว แต่รู้มั้ยว่า เด็กบางคนไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่พวกเขามีพี่น้องที่เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกันด้วย หากรับไปเลี้ยงแค่คนเดียว นั่นหมายความว่า พวกเขาต้องพรากจากพี่น้องของตัวเอง โดยปกติแล้ว เด็กๆ จะมีพ่อแม่เป็นที่พึ่ง เป็นคนคอยมอบความรัก ความอบอุ่นให้ แต่เมื่อไม่มีพ่อแม่ พี่น้องจึงต้องดูและกันเอง และทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ให้กันและกันเพื่อเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป ดังนั้นคู่รัก Brenda และ Curt Heuer จึงได้กลายเป็นตัวอย่างที่ดีในการรับเลี้ยงเด็กๆ ให้กับเราทุกคน เพราะพวกเขาได้รับเลี้ยงเด็กกำพร้าพี่น้องพร้อมกันถึง 5 คน เพื่อไม่ให้ต้องแยกจากกัน Brenda และ Curt ได้รับเลี้ยงเด็กๆ ทั้ง 5 คนตั้งแต่ปี 2015 และสิ่งที่ททั้งคู่คาดหวังมาตลอดคือ การได้เป็นผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฏหมายให้พวกเขา เพราะตอนนี้ พวกเขาเป็นแค่ผู้ดูแลเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีสิทธิเหมือนพ่อแม่จริงๆ โดยทั้ง 5…
-
หนุ่มไปพบแพทย์ เจอหมอเซอไพรส์บ๊วบกระปู๋ บอกให้ผ่อนคลาย จะได้ฟินไปด้วยกัน!!?
ไม่ว่าเราจะป่วยเป็นโรคอะไรก็แล้วแต่ จะมากหรือน้อยไม่สำคัญ เพราะตราบใดที่เราได้พาตัวเองไปอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอแล้ว เราก็มักจะมั่นใจว่ามันต้องหายแน่ๆ จากการรายงาานข่าวของ Getwestlondon เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2559 ระบุว่ามีคนไข้ชาวอังกฤษคนหนึ่ง ได้เข้าไปพบหมอเพื่อตรวจสุขภาพต่อมลูกหมาก แต่ทว่ากลับถูกเซอไพรส์ด้วยการโดนอมกระปู๋ โดยไม่ทันได้ตั้งตัว งานนี้คนไข้ถึงกับไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลอีลลิง ประจำกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนไข้หนุ่มผู้ไม่ประสงค์ออกนามให้การว่า เมื่อ 1 กันยายน 2558 (ปีที่แล้ว) เขาได้เข้ามารับการตรวจต่อมลูกหมากกับนายแพทย์พอล แอนดรูว์ ฟ็อกซ์ ซึ่งเจ้าตัวเคยถูกบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด และทำท่าคลานคว่ำหน้าอยู่บนเตียง เพื่อทำการตรวจทางทวารหนัก แต่ทว่าทุกอย่างมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หลังจากที่ตรวจเสร็จแล้ว คนไข้หนุ่มรู้ตัวว่าตนเองกำลังโดนนายแพทย์ฟ็อกซ์ ลูบคลำอวัยวะเพศ และสั่งให้เขาลุกขึ้น ก่อนที่จะกระทำการอนาจารโดยใช้ปากต่อจากนั้น!! คุณหมอพอล แอนดรูว์ ฟ็อกซ์ กับเจ้าของฉายาพ่อยอดชาย (เหมียวตั้งให้เองแหละ) โดยคนไข้หนุ่มได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามขัดขืน แต่คุณหมอกลับบอกให้ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามสบาย แล้วเดี๋ยวคุณจะรู้สึกดีเอง!! หลังจากนั้นด้วยความไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนไข้จึงเข้าทำการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาคุณหมอผู้นี้จึงถูกฟ้องในฐานกระทำอนาจารคนไข้โดยไม่ได้รับคำยินยอม และจากการรายงานเพิ่มเติมพบว่า ปัจจุบันคุณหมอฟ็อกซ์ ได้ถูกสั่งพักงานเรียบร้อยแล้ว…
-
24 ภาพสุดประทับใจ จากทั่วทุกมุมโลก เผยให้เห็นว่า ยังคงมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นได้เสมอ…
หลายคนอาจคิดว่าโลกเรามันไม่น่าอยู่ เพราะมักจะเกิดเหตุการณ์ร้ายๆ ไม่เว้นแต่ละวันอยู่เสมอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โลกใบใหญ่ใบนี้ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมายจนนับไม่ถ้วน และนั่นก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกประทับใจ และมีความสุขหลังจากที่ได้รับฟังเรื่องราวเหล่านั้น และนี่คือภาพบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ที่เต็มไปด้วยความประทับใจ ความสุข และรอยยิ้ม ที่จะทำให้เราได้เห็นว่า อย่างน้อยโลกของเราก็มีสิ่งดีงามให้เห็นและจดจำ หากได้รับชมแล้วจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันทีเลยละ บุคคลปริศนาได้บริจาคเงินในตู้รับบริจาคเป็นจำนวนมากถึง 8,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 276,000 บาท ให้กับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ แม่เป็ดทำรังในร้านขายดอกไม้ พนักงานจึงทำป้ายห้ามรบกวนมาให้ ชายไร้บ้านยอมช่วยเหลือ และเลี้ยงดูน้องหมาจรจัดที่น่าสงสาร ถึงแม้ตัวเองจะยากจนก็ตาม เมื่อสองสัตว์อย่างเหยี่ยว และนกฮูกได้ทำความรู้จักกัน จึงเกิดเป็นภาพน่ารักๆ อย่างที่เห็น เจ้าจิงโจ้น้อยที่กำลังรอฟังนิทานก่อนนอน เจ้าช้างได้รับขาเทียม หลังจากที่ต้องเสียขาไปเพราะเหยียบใส่ระเบิด ตอนนี้มันเดินไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้นแล้ว สุดประทับใจ!! เมื่อร้านกาแฟในประเทศกรีซ เปิดให้สุนัขจรจัดเข้าไปนอนบนโซฟา เพื่อหลบความหนาวจากด้านนอก น้ำใจของชายไรบ้าน ที่ช่วยเหลือกระต่ายน้อย หลังจากที่มันถูกทิ้งลงในแม่น้ำ และสุดท้ายความดีก็ทำให้ชายผู้นี้ได้รับงาน มีเงิน แถมยังมีคนบริจาคอาหารสัตว์ให้เพื่อตอบแทนความดีที่เขาทำ ชายคนหนึ่งลงไปช่วยเจ้าเหมียวหลังจากที่ติดอยู่กลางน้ำท่วม…
-
8 ภาพของคนที่มีดวงตางดงามที่สุดในโลก สวยสะกดจิต ชวนให้หลงใหลเป็นที่สุด!!
อะไรที่คุณคิดว่าสวยงาม และโดดเด่นที่สุดบนใบหน้า เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องตอบว่าดวงตา เพราะถือเป็นอวัยวะที่มีความโดดเด่น และสามารถสร้างเสน่ห์ให้กับตัวของคุณได้ ยิ่งถ้าหากได้ลองจ้องมองดวงตาของใครสักคน คุณจะต้องรู้สึกราวกับโดนมนต์สะกดเป็นแน่ และในครั้งนี้เราจะพาคุณมารับชมภาพของผู้คนในตะวันออกกลาง รวมถึงคนผิวสี ที่มีดวงตา และสีตาที่งดงามหาชมได้ยากมากๆ บอกเลยว่าหากคุณได้จ้องมองที่ดวงตาของพวกเขา คุณจะต้องหลงเสน่ห์ในความงามของตาคู่นั้น จนมิอาจละสายตาไปได้เลย ความแตกต่างที่ดูลงตัวของผิวโทนอบอุ่น และดวงตาสีสันสดใส ดูราวกับเป็นภาพวาด ดวงตาที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อยามที่ได้มองมา ดวงตาสีเขียว ที่ทั้งสวยงาม และน่าพิศวง ประกายแวววาวในดวงตาที่งดงามของเด็กสาว ดวงตาสีฟ้าที่ดูโดดเด่น มองแล้วช่างสะดุดตา สีตาที่งดงามแบบไร้ที่ติ ดวงตาสีเขียวที่งดงามที่สุด เห็นแล้วมิอาจละสายตาไปได้เลย ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะมีดวงตาที่งดงามมากๆ จนทำให้หลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันเป็นการแต่งด้วยโฟโต้ช้อป แต่จริงๆ แล้วนี่คือดวงตาของจริงที่ไม่ได้ผ่านการตัดต่อใดๆ ทั้งสิ้น เห็นแล้วน่าอิจฉาฝุดๆ ที่มา : wittyfeed
-
ช่างภาพเผยเรื่องราว “ชนเผ่าพื้นเมือง ในยุคโลกาภิวัตน์” ที่ยังมีวิถีชีวิต เหมือนยุคโบราณ
เมื่อเทียบปัจจุบันกับอดีตที่ผ่านมา จะเห็นว่าโลกเรามาไกลมากกกก ว่ามั้ย? เครื่องไม้เครื่องมือก็ทันสมัย สะดวกสบาย มีเทคโนโลยีล้ำๆ มากมาย จนทำให้วิถีชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปด้วย แต่เชื่อมั้ยว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ยังมีชนเผ่ากลุ่มหนึ่งที่ยังใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ทำมาหากิน จนเรียกได้ว่า เป็นชนเผ่าสุดท้ายของโลกที่ยังใช้ชีวิตเหมือนยุคโบราณเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่า สักวันหนึ่งพวกเขาคงจะรับวัฒนธรรมสมัยเข้าไปใช้เหมือนชนเผ่าอื่นๆ ที่ผ่านมา ดังนั้นก่อนจะเกิดความเปลี่ยนแปลงนี้ช่างภาพ Jimmy Nelsons จึงได้เก็บรวบรวมวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมจากทั่วโลกไว้ในหนังสือ Before They All Pass Away เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความน่าสนใจของวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ภาพหินแห่ง RahRah lava Island อยู่ในหมู่เกาะ Torba Province Vanuatu ถ่ายในปี 2011 วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมนี้ ทำให้ผู้คนในสังคมแห่งโลกาภิวัตน์ต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขามีศิลปะ และวัฒนธรรมที่แตกต่าง เรียกได้ว่าอยู่คนละโลกกับปัจจุบันเลยก็ว่าได้ พวกเขายังคงใช้ธนูเป็นเครื่องมือหากิน ยังสวมใส่เสื้อผ้าแบบโบราณที่ทำจากขนสัตว์ และใช้ชีวิตใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ ในสังคมเมือง แต่ภาพเหล่านี้ ยิ่งนานวันยิ่งหาได้ยากมากขึ้น… เพราะไม่ว่าสังคมไหน ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเสมอ อยู่ที่ว่าจะเป็นช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ชนเผ่า Perak Ladies…
-
ลุงวัย 85 ปี รับเงิน 6.7 ล้านบาทแบบงงๆ หลังซื้อภาพวาดเก่าๆ ในราคาเพียง 107 บาท!?
บางคนพยายามกันทั้งชีวิต แต่ก็ไม่เคยจะมีโชคเกิดขึ้นกับตัวเองสักครั้ง แต่บางคนใช้เงินเพียงแค่ 107 บาทก็สามารถเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปได้เลย… นี่คือเรื่องราวของชายคนหนึ่งผู้คลั่งไคล้ในของมือสอง ที่เผยชื่อกลางเพียงแค่ Leroy วัย 85 ปี (เนื่องจากอยากปกปิดตัวตนไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว) จากเมืองแอนเดอร์สัน รัฐแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ลุง Leroy เคยทำงานเป็นนายหน้าร้านขายของเก่า แต่เมื่อเกษียณตัวเองแล้วเขาก็ยังคงชื่นชอบของเก่าอยู่ ใน 1 สัปดาห์เขาจะต้องแวะเวียนไปที่ร้านขายของเก่าที่ชื่อว่า Goodwill ถึง 4 ครั้ง เพื่อไปซื้อของเก่าที่เขาชื่นชอบมาเก็บเอาไว้ สินค้าที่เขาซื้อมีตั้งแต่ราคาไม่กี่บาทไปจนถึงสินค้าราคาแพงๆ ราคาเป็นหมื่นก็เคยซื้อมาแล้ว แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น เมื่อราวๆ ปี 2010 คุณลุง Leroy เล่าว่าเขาได้ไปเจอภาพวาดสีน้ำมันเก่าๆ ภาพหนึ่งราคา 3 เหรียญดอลลาร์ หรือราวๆ 107 บาท ซึ่งเขารู้สึกถูกใจมากจึงซื้อมาสะสมไว้ แต่ลูกสาวบุญธรรมของเขารู้สึกว่าภาพนั้นมันมีความเก่าแก่มาก และไม่น่าจะมีราคาอยู่แค่ 3 เหรียญดอลลาร์เท่านั้น เธอเลยนำเอาภาพนั้นไปประเมินราคาดู ปรากฎว่าภาพๆ นั้นเป็นภาพที่ถูดวาดขึ้นตั้งแต่เมื่อราวๆ ปี 1650 นับจนถึงตอนนี้ก็มีอายุปาเข้าไปกว่า 366…
-
หนุ่มช่วยเจ้าเหมียว เอามันเลี้ยงที่บ้าน ก็เลยตอบแทน ด้วยการเป็นพี่เลี้ยงหนูน้อยให้…
ในวันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวที่จะมาพิสูจน์ให้เพื่อนๆ เห็นว่าเหล่าแมวเหมียวทั้งหลายนั้นก็เป็นสัตว์ที่มีความกตัญญูรู้คุณเหมือนกันนะเออ ไม่ใช่แค่ว่าช่วยมาแล้วจะโดนยึดบ้านไปซะตลอดเลย ฮร่า ชายหนุ่มได้ทำการช่วยเหลือเจ้ามิ้วน้อยจรจัด ที่ร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากเขา และมันก็ตอบแทนความมีน้ำใจนั้นก้วยการทำหน้าที่เป็นบอร์ดี้การ์ดคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับลูกชายตัวน้อยของเขา ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Doug! เรื่องมีอยู่ว่าคุณ Matt Davis และลูกสาวของไปเห็นเจ้าเหมียวตัวหนึ่งดูท่าทางเศร้าเวา กำลังร้องเรียกขอความช่วยเหลืออยู่ที่นอกชานระเบียงของศูนย์ดูแลเด็ก พอเจ้าเหมียวตัวน้อยเห็นคุณ Matt แล้วมันก็ตัดสินใจได้ทันทีว่านี่แหละคือคนที่จะมาเป็นทาสของมัน คอยเดินตามเขาไปตลอดทุกที่เลย ด้วยความตื๊อของมัน คุณ Matt และลูกสาวก็เลยตัดสินใจที่จะลองมองหาดูว่ามันยังมีครอบครัวอยู่ที่ไหนในศูนย์ดูแลเด็กอีกหรือไม่ และก็พบว่ามีมันเพียงตัวเดียวเท่านั้น เขาก็เลยรับมันกลับไปเลี้ยงที่บ้านซะเลย พอมาถึงที่บ้าน พวกเขาก็เอาอาหารให้มันและดูเหมือนว่ามันหิวมากๆ เลย นั่งก้มหน้าอยู่ในถาดอาหารเป็นเวลานานมาก หลังจากที่จับมันอาบน้ำ และให้อาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วมันก็เดินเข้ามาอ้อน พร้อมกับหายใจเป็นเสียงกรนดังไม่หยุด “ในตอนแรก เราคิดว่ามันน่าจะมีเจ้าของ ก็เลยออกตระเวนถามคนที่อยู่อาศัยในละแวกศูนย์ดูแลเด็กเผื่อว่าจะมีใครเป็นเจ้าของมัน และก็พบว่ามันเป็นแมวจรจัดที่หลงมาอยู่แถวนั้น” คุณ Jessica ภรรยาของ Matt กล่าว หลังจากที่พามันไปที่คลีนิคสัตว์เพื่อตรวจโรคแล้ว เราก็พามันกลับมันที่บ้าน และก็พบว่าเจ้าเหมียวดีใจมากที่จะได้อยู่กับพวกเรา และมันก็เริ่มเข้ามาทำความรู้จักกับสมาชิกตัวน้อยของบ้าน เมื่อคุณ Matt นั่งลงและป้อนนมให้กับ…
-
โตแล้วทำเองได้…ห้างเกาหลี แยกตะกร้าสินค้าใหม่ อยากเลือกเอง หรือจะให้พนักงานช่วย!?
บ่อยครั้งที่พวกเราประสบกับปัญหาเวลาไปเดินเลือกซื้อของตามห้าง หรือตามแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จะต้องมีพนักงานเข้ามาแนะนำ ให้ความรู้ รวมไปถึงชักชวนให้ซื้อสินค้าในค่ายตัวเอง ซึ่งจะว่าไปแล้วการทำแบบนั้นก็ช่วยให้เราเข้าใจในตัวสินค้ามากขึ้น และสามารถตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อได้ แต่ลูกค้าบางรายอาจจะรู้สึกอึดอัด เมื่อมีพนักงานคอยเดินตามติดเหมือนวิญญาณ จนทำให้บางคนไม่กล้าเฉียดเข้าไปใกล้แผนกนั้นๆ เลยก็เป็นได้ ปัญหาเหล่านี้ได้ไปถึงหูของห้างสรรพสินค้า Innisfree ผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางรายใหญ่ในประเทศเกาหลีใต้ พวกเขาก็เลยแก้ปัญหานี้โดยการติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่ตะกร้าสินค้า 2 แบบ แบบแรกเป็นสติ๊กเกอร์สีเขียว มีข้อความเขียนติดเอาไว้ว่า “ฉันทำเองได้” เมื่อพนักงานเห็นสติ๊กเกอร์สีนี้พวกเขาก็จะไม่เข้ามารบกวนคุณเลย แบบที่สองเป็นสติ๊กเกอร์สีส้ม มีข้อความว่าเขียนติดไว้ว่า “ฉันต้องการความช่วยเหลือ” เมื่อพนักงานมาเห็นเข้าพวกเขาก็จะเข้ามาแนะนำสินค้าต่างๆ ให้กับคุณอย่างพร้อมเพรียง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ในการช็อปที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดใจและอยากกลับมาใช้บริการอีกครั้ง ที่มา buzzfeed , koreaboo
-
สาวตั้งท้องเผยความรู้สึก อีกด้านของการเป็นแม่ ที่แม้จะเหนื่อย แต่ก็คุ้มค่าทุกวินาที
การตั้งท้องอาจเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้หญิงหลายๆ และอาจเป็นสิ่งที่หลายคนรอคอย เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของคนคนหนึ่งไปเปลี่ยนเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะเกิดช่วงเวลา 9 เดือนนี้ แต่ในอีกมุมหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้ฟังจากคนตั้งท้องสักเท่าไรคือ การตั้งท้องมันไม่ใช่เรืองน่ายินดีเสมอไป เพราะเมื่อตั้งท้อง ไม่ใช่แค่ร่างกายที่เปลี่ยนไปแต่ผู้หญิงยังต้องปรับสภาพจิตใจและความคิดเพื่อเด็กที่จะเกิดด้วย ราวกับว่าเป็นการเปลี่ยนโลกไปเลยก็ว่าได้ ต้องเข้าใจว่า ในโลกปัจจุบันนี้ ผู้ก็ต้องรักสวยรักงาม แต่งตัวตามแฟชั่น รักชีวิตที่เป็นอิสระ และชอบถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียล แต่ทุกอย่างเหล่านี้จะจบลงเมื่อพวกเขาตั้งครรภ์ ในระหว่างที่ตั้งท้อง ผู้หญิงมักจะมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ทำอะไรก็ไม่สะดวก และทำให้รู้สึกอึดอัดกับร่างกายที่เปลี่ยนไปด้วย และนี่คือความรู้สึกของ Yemaya สาวที่ชอบเล่นโยคะ กับการตั้งครรภ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่า ชีวิตเปลี่ยนไป เพราะทำให้ความมั่นใจที่เคยมีก็ลดลงไป เธอบอกว่า “ฉันดีใจนะที่ได้ตั้งท้อง แต่รู้มั้ยว่า ตลอดเวลาที่ท้องความมั่นใจมันก็ลดลงไปฮวบเลย ฉันไม่สามารถแต่งตัวตามต้องการได้ เสื้อผ้าที่พอดีตัวและดูดีก็หาได้ยากขึ้น” “ฉันมีรอยแตกลายที่หน้าอกและท้องเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฉันเป็นคนชอบสำรวจร่างกายตัวเอง แต่ตอนนี้มันทำได้ยากเหลือเกิน” “นิ้วมือ นิ้วเท้าของฉันบวมเล็กน้อย จะหันหลังทีก็ปวดสะโพกไปหมด ฉันรู้สึกหน่วงๆ ที่มดลูกตลอดเวลา ฉันแทบจะลุกขึ้นนั่งด้วยตัวเองไม่ได้ ฉันต้องเปลี่ยนท่าเล่นโยคะ ทุกอย่างมันไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะอารมณ์แปรปรวนที่พร้อมจะเกิดได้ทุกเมื่อ ตรงนี้แหละที่น่าเบื่อมากที่สุด” …
-
ชายหนุ่มให้แฟนสาว ‘แต่งหน้า’ เพื่อช่วยออกค่าตั๋วไปเทศกาลดนตรี ตามที่เธอใฝ่ฝัน…
การเป็นกันนั้น ไม่ใช่แค่บอกรักกันไปวันๆ แต่ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่ออีกฝ่ายเดือดร้อน และที่สำคัญ ต้องไม่เอาเปรียบกันด้วย เหมือนกับหนุ่มสาวคู่นี้ ที่ทำให้รู้ว่าการเป็นแฟนที่ดีนั้นเป็นยังไง? Tatyanna Snyder สาววัย 17 ปี และหนุ่ม Jordan Shetrone วัย 18 ปี ที่คบหาดูใจกันมากว่า 9 เดือนแล้ว ก่อนที่ทั้งคู่จะตกลงเป็นแฟนกันนั้น พวกเขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนเป็นเวลา 3 ปี และเมื่อพวกเขากลายเป็นแฟนกัน ทั้งคู่จึงมักจะช่วยเหลือกันและกันเสมอ Tatyanna ยังเป็นนักเรียนอยู่ แต่เมื่อมีเวลาว่าง เธอก็จะรับงานแต่งหน้าเป็นอาชีพอิสระ และความใฝ่ฝันของเธอคือการได้เข้าร่วมเทศกาล Coachella ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่ ที่จัดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงเดือนเมษายนทุกปี แต่ค่าตั๋วสำหรับเทศกาล Coachella ค่อนข้างแพง ขนาดแค่ตั๋วธรรมดาก็ราคา 14,000 บาทแล้ว… แน่นอนว่าเด็กวัยไฮสูคลอย่าง Tatyanna คงไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นไปจ่ายค่าตั๋วได้แน่ หญิงสาวจึงรับงานแต่งหน้ามากขึ้น โดยจะได้จากลูกค้าเฉลี่ยคนละ 1,700 บาท ขณะเดียวกัน Jordan เองก็รู้ว่าแฟนสาวกำลังเดือดร้อนต้องการเงินจำนวนหนึ่ง แฟนหนุ่มจึงช่วยแฟนสาวด้วยการให้ยืมเงิน…
-
บ.ญี่ปุ่นเปิดตัว “ผ้าห่มชุดนักเรียนหญิง” ที่สุดของความคาวาอี้ เห็นแล้วใจมันสั่นรัวๆ!!
เราอาจเห็นข้าวของประหลาดๆ จากประเทศญี่ปุ่นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดนอนหมี (ไปชมถุงนอน “หมี” จากญี่ปุ่น ที่เหมือนเสียจนแทบจะวิ่งหนีเลยทีเดียว!!!) หรือว่าจะเป็นชุดแมว (ไปชมชุดแมวสุดเจ๋งจากญี่ปุ่น ที่เหล่าทาสแมวต้องหามาครอบครองซักตัวแล้วล่ะ!!!) ซึ่งแต่ละอันต้องบอกว่าน่ารักๆ ทั้งนั้น แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมผ้าห่มสุดน่ารัก ที่เพื่อนๆ เห็นแล้วต้องจิตใจหวั่นไหว เพราะมันคือ “ผ้าห่มชุดนักเรียนหญิง” ยังไงล่ะ!! “ผ้าห่มชุดนักเรียนหญิง” ชิ้นนี้สินค้าที่อยู่ในคอลเล็กชั่นฤดูหนาวของไลน์ Sera Kore หรือ ชุดกลาสี ซึ่งเป็นผลงานจากบริษัท Bibi Lab ที่ขึ้นชื่อเรื่องการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปลกๆ หลายชนิด แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่ามันเป็นผ้าห่ม แต่ลักษณะของผ้าห่มผืนนี้จะคล้ายกับชุดนอนมากกว่า ทางบริษัท Bibi Lab กล่าวว่า พวกเขาได้ออกแบบชุดนี้มา เพื่อให้ผู้สวมใส่ สามารถเดินไปไหนมาไหนในบ้านได้อย่างสะดวก โดยที่ยังคงรู้สึกอุ่นอยู่ และด้วยความที่ผ้าห่มชุดนักเรียนหญิงตัวนี้มีขนาดใหญ่มาก ทำให้เวลานั่งหรือเวลานอน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีบางส่วนของร่างกายออกไปปะทะกับลมหนาว มันช่างมิดชิดเหลือเกิน ฮึ่ยยย นอกจากนี้ เพื่อนๆ ยังสามารถนำมือสอดเข้าไปในปกเสื้อเพื่อให้รู้สึกอุ่นได้อีกด้วย …
-
เจ้าหมาพลาดเกิดหลงทาง เลยกระโดดขึ้นรถตำรวจ เพื่อออดอ้อน ช่วยพากลับบ้าน!!
เวลาเราหลงทาง เราจะขอความช่วยเหลือจากเป็นอันดับแรกๆ แน่นอนว่า เราหลายคนอาจจะนึกถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วถ้าสัตว์เลี้ยงหลงทางล่ะ พวกมันจะมีวิธีขอความช่วยอย่างไร? แต่ดูเหมือนสุนัขตัวนี้จะมีความฉลาดไม่ต่างจากมนุษย์เราเลยนะ…Ruger สุนัขของครอบครัวหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย แต่มันคงออกไปเดินเล่นเพลินไปหน่อย จนหาทางกลับบ้านไม่เจอ Ruger ก็เลยพยายามขอความช่วยเหลือด้วยตัวเอง และมันรู้ด้วยนะว่าต้องไปหาใคร ก็อย่างที่คิดนั่นแหละ เมื่อมันเห็นรถตำรวจจอดอยู่ มันรีบกระโดดขึ้นไปนั่งข้างใน และนิ่งไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะได้กลับบ้าน ทุกอย่างเกิดในเช้ามืดของวันหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ Hammell จาก Tuolumne County Sheriff ได้จอดรถไว้ข้างทาง แต่พอจะกลับเข้ามา ตำรวจก็ได้เจอกับสุนัขตัวหนึ่งวิ่งเข้าไปในรถ แล้วไปนั่งอยู่ในรถข้างคนขับด้วยท่าทางกังวล เจอแบบนี้ก็งงเลยสิ ว่าแต่สุนัขตัวนี้มาจากไหนกันนะ? แต่ตอนนี้ Ruger ไม่สามารถตอบความสงสัยใดๆ ของตำรวจได้ มันเลยเอาแต่นั่งนิ่ง กับสายตาที่อ้อนวอนว่า ‘พาเค้ากลับหน่อยเถอะ คุณตำรวจ’ แม้มันจะบอกอะไรไม่ได้ แต่โชคดีที่ปลอกคอของมันมีป้ายบอกที่อยู่ เลยทำให้รู้ว่ามันมาจากไหน และมันก็ดูแฮปปี้ขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่า ตำรวจกำลังจะพามันกลับบ้านแล้ว ระหว่างทางที่ตำรวจพามันกลับบ้าน Ruger นอนหลับปุ๋ยเลย ราวกับว่า ช่วงเวลาที่หลงทางนี้มันแทบไม่ได้พักผ่อนเลย เพราะมัวแต่วิ่งขอความช่วยเหลือ เมื่อถึงบ้าน ทุกคนออกมาต้อนรับมันด้วยดีใจ เพราะตั้งแต่มันหายไป ทั้งครอบครัวก็ได้ออกตามหามันทุกๆ…
-
สาวอ้วนเซลฟี่กับม้าผอมกร่องลงเฟซบุ๊ก แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือจุดเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่..
การใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่ออวดภาพกิจกรรมในแต่ละวัน ดูจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรอีกแล้วในปัจจุบัน แต่การเผยแพร่ภาพเหล่านั้นอาจทำให้คุณสูญเสียบางอย่างไปก็ได้… เช่นเดียวกับเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อ Charlotte McPherson วัย 22 ปี จากเมืองวุร์สเตอร์เชอร์ ประเทศอังกฤษ เธอได้โพสต์ภาพขี่ม้าลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง แต่นั่นดันกลายเป็นจุดเปลี่ยนระหว่างเธอและม้าของเธอ เพราะเนื่องจากภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น เจ้าม้ามีสภาพผอมแห้งม้า ในขณที่เธอนั้นมีรูปร่างอ้วนจนเปลี่ยนภาพการขี่ม้าของเธอให้กลายเป็นการทรมาณสัตว์ไปแบบช่วยไม่ได้ จากภาพที่มีการเผยแพร่ออกมา จะเห็นได้ว่านาง Charlotte นำเอาผ้าคลุมมาเปิดส่วนหลังและสะโพกของม้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้เห็นหนังติดกระดูกของเจ้าม้า และหลังจากที่ภาพของเธอภูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก็ทำให้องค์กรการกุศลเกี่ยวกับสัตว์และหน่วยงานสิทธิสัตว์ต้องเข้ามาสืบสวนว่าม้าของเธออยู่ในอาการย่ำแย่ขนาดไหน ตอนนี้เธอถูกเจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามไม่ให้เธอเลี้ยงม้าชนิดใดๆ ก็ตามเป็นระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้เธอยังต้องเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเวลา 12 เดือนและบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 160 ชั่วโมง หน่วยงาน RSPCA ของอังกฤษที่ดูแลเรื่องสิทธิสัตว์ได้ออกมาให้กล่าวว่าม้าตัวที่เห็นนั้นมีชื่อว่า Thor มันมีสุขภาพที่ไม่ดีเอามากๆ หากต้องให้คะแนนเต็ม 5 มันคงจะได้ 0 แน่ๆ และตอนนี้เจ้า Thor ก็ถูกส่งไปยังหน่วยงานที่ดูแลสัตว์แล้ว เพื่อจะได้มีสภาพร่างกายที่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ นาง McPherson ยอมรับว่าในระหว่างที่เจ้า Thor ผอมแห้งนั้น…
-
สุดยอดพ่อบ้าน!! สามีสร้าง ‘ห้องแต่งหน้า+เก็บเครื่องสำอาง’ ให้แฟน แบบที่สาวๆ ทั่วโลกอิจฉา!!!
กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้สาวๆ ทั่วโลกอิจฉาเลยทีเดียวสำหรับความน่ารักของสามีท่านหนึ่ง ที่สร้างห้องแต่งหน้าและเก็บเครื่องสำอางให้กับภรรยาสุดที่รัก จนกลายเป็นที่โด่งดังไปทั่วอินเตอร์เน็ต เรื่องราวดังกล่าวเป็นของพยาบาลสาว Kari Maksemetz ปัจจุบันนี้เธอได้แต่งงานกับ Todd ชายหนุ่มคนหนึ่ง และมีลูกเป็นสักขีพยานรักอีก 3 คน พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขในบ้านหลังหนึ่งที่พวกเขาหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ทุกอย่างดูจะไม่มีปัญหาอะไรนอกเสียจากว่า Todd และลูกๆ ชอบอยู่ในห้องน้ำนานเกินไป โดยเฉพาะช่วงเช้า ทำให้เธอไม่สามารถแต่งหน้าแต่งตัวได้ตามใจ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำให้เธอค่อนข้างเซ็งเล็กน้อย เพราะการได้ใช้เวลาแต่งหน้าอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเธอ เมื่อ Todd ได้ยินดังนั้น เขาคิดว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่างแล้ว สายตาเขาเหลือไปเห็นห้องเก็บของที่ว่างอยู่ห้องหนึ่งภายในบ้าน เขาจึงปิ๊งไอเดียสุดพิเศษขึ้นมา และเขาเชื่อว่า Kari ต้องกรี๊ดแน่ๆ ถ้าได้เห็นตอนมันเสร็จแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจาก Molly น้องสาวของ Kari สองวันต่อมา ห้องเก็บของธรรมดาๆ ก็กลายเป็นห้องแต่งหน้าเก็บเครื่องสำอางสุดพิเศษห้องนี้!! แน่นอน เมื่อ Kari เห็นห้องดังกล่าว เธอก็รู้สึกประทับใจมากๆ จากนี้ไปเธอจะได้แต่งหน้าอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องกลัวลูกๆ จะมารบกวนแล้ว หลังจากนั้น Molly ได้นำเรื่องราวดังกล่าวไปโพสลงบนทวิตเตอร์ของตนเอง และมีผู้รีทวิตกว่า 65,000 ครั้งเลยทีเดียว…
-
อาจารย์เคมีในจีน ผลิตยาบ้าส่งขายอเมริกา-ยุโรปทุกเดือน ทำเงินกว่า 21 ล้าน?!?!
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินข่าวหรือได้ดูซีรี่ย์จากอเมริกเรื่องหนึ่งชื่อว่า Breaking Bad ที่ว่าด้วยเรื่องของอาจารย์สอนเคมีที่กำลังจะตายด้วยโรคมะเร็ง เขาจึงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ผลิตยาบ้าขายเพื่อหาเงินก้อนสุดท้ายให้ครอบครัวให้ได้มากที่สุด ก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป แต่เชื่อหรือไม่ เรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เป็นเรื่องราวสมมุติในหนังเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงก็มีอาจารย์สอนเคมีผันตัวไปเป็นผู้ผลิตยาเสพติดจนร่ำรวยเหมือนกัน เรื่องราวจะเป็นยังไง ไปติดตามกันเลย เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น ในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เมื่อทางตำรวจได้จับกุมอาจารย์สอนเคมีคนหนึ่งแซ่จางวัย 46 ปี หลังจากพบว่าเขาได้ร่วมมือกับชายอีกสองคนผลิตยาเสพติดจำหน่ายจนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำในแต่ละเดือน โดยนายจางได้สำเร็จการศึกษาทางด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ก่อนจะกลายผันตัวเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ต่อมานายจางพบว่ายาเสพติด Flakka กำลังเป็นที่นิยมในออสเตรเลีย แต่กลับหาซื้อได้ยากและมีผู้ผลิตน้อย พอเขากลับมาจีน เขาจึงเช่าโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่นสร้างเป็นแหล่งผลิตยาบ้า ส่งขายยังอเมริกาและยุโรป จนเขาสามารถทำเงินได้กว่าเดือนละ 21 ล้านบาทเลยทีเดียว แม้พวกเขาจะพยายามคุมเส้นทางการเดินของเงินให้รัดกุมที่สุดโดยมีการจ่ายเงินผ่าน Bitcoin และ UnionPay แต่สุดท้ายทางตำรวจก็สามารถติดตามและจับกุมพวกเขาได้ในที่สุด เรียกว่าเป็นการใช้ความรู้ไปในทางที่ผิดจริงๆ เห็นแล้วนึกถึงต้นตำหรับยาบ้าในไทยเลย ที่ส่งลูกไปเรียนเคมีเพื่อกลับมาผลิตยาเสพติด (พาไปรู้จัก “กัลยาณี อร่ามเวชอนันต์” ผู้ให้กำเนิด “ยาบ้า” คนแรกในประเทศไทย…) ใครสนใจก็ลองกดเข้าไปอ่านดูได้นะเหมียววว ที่มา Shanghaiist
-
นักท่องเที่ยวพาชมวิถีชีวิตในชนบท ของชาวเกาหลีเหนือ ที่โลกอาจไม่เคยรับรู้มาก่อน!!
หากพูดถึงดินแดนอันลึกลับของชาวโลกที่ไม่ค่อยมีใครได้เข้าไปเยือนซักเท่าไหร่ เชื่อว่าชื่อของประเทศเกาหลีเหนือต้องโผล่มาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน ด้วยความที่ประเทศนี้ปิดประเทศมาอย่างยาวนานตั้งแต่สงครามเกาหลีจบลง ทำให้การเข้าไปเยือนเป็นเรื่องที่ยากแสนยาก ล่าสุด Eric Lafforgue ตากล้องวัย 52 ปีได้ปล่อยอีกมุมหนึ่งของชาวเกาหลีเหนือในชนบทอันห่างไกลที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อนออกมา เขาเล่าว่าเขาได้เดินทางท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือมาแล้วถึง 5 ครั้ง (ก่อนจะโดนแบนในครั้งที่ 5 นั่นแหละ) โดยแต่ละครั้ง เขาจะใช้บริการหาที่พักคล้ายๆ กับแอพ Airbnb ให้การหาที่พัก ซึ่งครั้งนี้เขาไปเที่ยวหมู่บ้านจุงพยองรี ในจังหวัดฮัมกย็องเหนือ ประเทศเกาหลีเหนือ แต่ละบ้านก็จะมีภาพของท่านผู้นำทั้งในอดีตและปัจจุบันติดไว้ ตามวัฒนธรรมของชาวเกาหลีเหนือแล้ว พวกเขาจะนอนบนพื้นและรองด้วยผ้าบางๆ เท่านั้น โดยไม่มีเตียงแต่อย่างใด (ซึ่งทาง Eric บอกว่าปวดหลังมากๆ) ท้องถนนหนทางก็ค่อนข้างลำบาก ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงที่หมาย รูปของเด็กแฝดที่เป็นเหมือนนักดนตรีประจำหมู่บ้าน ด้านหน้าของเกสเฮาส์หลังหนึ่งที่เขาได้พักระหว่างทริปล่าสุด มื้อเย็น ทางเจ้าของบ้านก็ได้ทำปูนึ่งกับเป็ดย่างให้ทาน สาหร่ายถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลผลิตสำคัญของหมู่บ้านจุงพยองรี โดยแทบทุกบ้านจะมีเรือนตากสาหร่ายอยู่ ซึ่ง Eric บอกว่ามันเหม็นมาก โรงตากสาหร่ายที่พูดถึง ผู้หญิงกำลังลากรถเข็นที่เต็มไปด้วยซากไม้ ถือว่าเป็นภาพที่พบเห็นได้ทั่วไปในชนบทของเกาหลีเหนือ…
-
Charles เจ้าหมูที่ยังคงรอรอยเจ้านายอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน หลังจากที่บ้านถูกทำลายเพราะไฟป่า
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “ไฟป่า” เป็นภัยร้ายแรงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อนไปด้วย และเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Thedodo มีรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ ในเขตพื้นที่รัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผู้คนที่อาศัยในพื้นที่บริเวณนั้น รวมถึงครอบครัวของ Rob Holmes ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งรุนแรงในนี้เข้าอย่างจัง ดังนั้น เขาจึงต้องรีบภาพครอบครัวอพยพออกจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เนื่องจากควันไฟจำนวนมาก ได้ทำให้ลูกชายวัย 18 เดือนของเขาหายใจลำบาก ในช่วงเวลานั้น สิ่งที่ Rob สามารถพาขึ้นรถไปได้ก็คือ ลูกๆ และภรรยา รวมถึงสุนัข และแมวเหมียวของเพื่อนบ้าน แต่ทั้งนี้เขายังมีสัตว์เลี้ยงอีกหนึ่งตัวคือ Charles เจ้าหมูตัวอ้วน ที่อยากจะเดินทางไปพร้อมกับเขา แต่ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มากๆ ของมัน จึงทำให้ Rob ไม่สามารถพามันเข้ารถมาในรถได้ และนั่นก็ทำให้เจ้า Charles ต้องอยู่ท่ามกลางไฟป่าที่รุนแรงเพียงลำพัง อีกทั้งพวกเขาก็ไม่สามารถกลับมารับมันได้ทัน จึงทำให้ Andrea ลูกสาวของเขาร้องไห้ไม่หยุด …
-
ชายหนุ่มเปลี่ยนกระดาษลังธรรมดาๆ มาสร้างเป็น ‘บ้านแมว’ ให้เจ้าเหมียวแสนรักของเขา…
จากที่เราได้นำเสนอภาพ หรือเรื่องราวของเจ้าเหมียว ส่วนใหญ่จะเห็นได้ว่าแมวเหมียวร้อยทั้งร้อยมักจะชื่นชอบการเข้าไปอยู่ในกล่องเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล่องกระดาษ ที่ไม่ว่าจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ มันก็ชอบเข้าไปอาศัยอยู่ในนั้นเสมอ จนบางทีก็สิงอยู่เป็นเวลานานโดยที่ไม่ยอมออกไปไหนเลย (เฮ้อ…ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ากล่องกระดาษแข็งๆ มันมีดีอะไร) ด้วยเหตุนี้ ชายผู้ตกเป็นทาสแมวอย่าง Sam จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด ในการนำกล่องกระดาษแข็งมาเนรมิตเป็นบ้านสุดอลังการงานสร้างของ Denni เจ้าเหมียวแสนรักของเขาซะเลย และนี่คือบ้านกระดาษสุดอลังของเจ้าเหมียว น่าอยู่ไหมละ “ผมชอบคิดค้นออกแบบทำสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะจากกระดาษแข็ง แมวของผมก็รักกระดาษแข็ง และผมก็รักมันมาก” Sam กล่าว เนรมิตรจากกระดาษลังให้กลายเป็นบ้าน ที่ดูไปแล้วก็เหมือนปราสาทขนาดย่อมๆ เลย นอกจากนี้ Sam ยังได้เผยอีกว่า เขาได้สร้างบ้านส่วนตัวให้มันในรูปแบบต่างๆ เช่นบ้านเป็นรูปตัวสัตว์ขนาดใหญ่ ภายในจะมีห้องเล็กๆ ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้ เพื่อให้เจ้าเหมียวสามารถเคลื่อนไหวไปรอบๆ บ้านได้ แถมมันยังเขาไปอยู่จริงๆ ซะด้วย… เพราะปกติแล้วมนุษย์ซื้อบ้านแมวมา มันมักจะไม่ค่อยเข้าไป ฮ่าาาา ทีนี้ก็สบายตัวแล้วละ เราจะขออยู่ในนี้ไม่ยอมออกไปไหน ฮี่ๆ นี่คือคลิปวิดีโอที่เขาทำขึ้น ลองไปดูกันสิ… …
-
เมื่อเจ้า “ลิงกังหงอนดำ” ฉีกยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวให้ช่างภาพถ่ายรูป ชาวเน็ตฮากันใหญ่!!
สัตว์บางตัว เมื่อได้เห็นวัตถุที่แสนประหลาดตาอย่าง “กล้อง” ก็เข้ามาตรวจตราด้วยความสงสัย หรือบางตัวก็วิ่งหนีเพราะความกลัว แต่จะว่าไปไม่ใช่สัตว์ทุกหรอกนะที่กลัวกล้อง เพราะอย่างน้อยก็มีเจ้าลิงกังหงอนดำตัวหนึ่งละ ที่เห็นกล้องปุ๊บก็เข้ามาฉีกยิ้มให้ปั๊บ จนเกิดเป็นภาพหาชมยากอย่างที่เห็น… ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ ได้เผยภาพถ่ายของลิงกังหงอนดำกลุ่มหนึ่ง ขณะที่กำลังทำใบหน้ายิ้มแย้ม โชว์ให้เห็นฟันขาวๆ ของมัน ในตอนที่กำลังถูกถ่ายภาพ เรียกได้ว่าเมื่อได้เห็นหน้าตาของมันผ่านภาพถ่าย ก็ทำเอาคนดูยิ้มไปตามๆ กัน เพราะใบหน้าตาของมันฮาใช้ได้เลยละ โดยภาพดังกล่าว ได้ถูกถ่ายขึ้นมาโดย Anup Shah ช่างภาพจากประเทศอังกฤษ ผู้ที่ได้เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติ Tangkoko National Park บนเกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกลิงนั่นเอง พวกมันคงชื่นชอบกล้องเป็นอย่างมาก แถมยังไม่รู้สึกเขินอายอีกด้วย “เจ้าลิงเหล่านี้มีความอยากรู้อยากเห็นมากเมื่อได้อยู่หน้ากล้อง และมันก็ทำท่าทางยิ้มแย้มออกมา เพื่อให้ผมได้บันทึกภาพ” Anup Shah ผู้เป็นช่างภาพกล่าว นี่อาจไม่ใช่ภาพสุดฮาภาพแรกของเจ้าลิงกังหงอนดำ เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2014 มีเจ้าลิงกังหงอนดำตัวหนึ่งได้ถ่ายเซลฟี่หน้าตัวเอง จนไปปรากฏทั่วโลกอินเทอร์เน็ต และโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ แต่ทว่าภาพของมันกลับเกิดเป็นศึกแย่งชิงลิขสิทธิ์ซะอย่างนั้น โดยนาย David Slater ช่างภาพอิสระ…
-
เว็บไซต์เผย ‘แผนที่โลก’ ที่บอกว่าแต่ละประเทศมีจุดเด่นอะไรบ้าง ของไทยเราคือ “ข้าว”
ถ้าพูดถึงของที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยเรา คุณจะนึกถึงอะไร มันก็มีไม่กี่อย่างหรอกที่มีแต่บ้านเราเท่านั้นที่ทำออกมาแล้วต่างชาติชื่นชม หนึ่งในนั้นก็คือ “ข้าว” ของเรานั่นเอง แล้วถ้าต่างประเทศบ้างล่ะ อย่างญี่ปุ่น อเมริา ฝรั่งเศส เกาหลีเหนือ ทุกคนคิดถึงอะไรกันบ้าง ตอนนี้ไม่ต้องคิดกันให้ปวดหัวแล้ว เพราะว่าเว็บไซต์ informationisbeautiful.net ได้ทำการรวบรวมเอาจุดเด่นของแต่ละประเทศมารวมไว้ในแผนที่เดียวกันแล้ว สถิติและข้อมูลทุกอย่างได้รวบรวมมาจาก World Bank, United Nations และแหล่งข้อมูลอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในแผ่นที่ได้แบ่งออกเป็น 9 ประเภท ได้แก่ โภคภัณฑ์ จิตวิทยา ระบบนิเวศ อาหาร เศรษฐกิจ ความงาม มนุษย์ เทคโนโลยี และความอันตราย (ตามสีในแผนที่) เราไปดูกันเลยว่าแต่ละที่จะเด่นทางด้านไหนกันบ้าง อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย แอฟริกา ใครอยากดูแบบภาพใหญ่ๆ เต็มๆ ลองเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ informationisbeautiful.net ที่มา boredpanda
-
ประวัติศาสตร์การล่า ‘กอริลลา’ สัตว์ผู้รักสงบที่ต้องใช้ชีวิตลำบาก เพราะการรุกรานจากมนุษย์
ในโลกเรานี้มีสัตว์มากมายหลายชนิด และก็มีสัตว์หลายชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ส่วนสาเหตุนั้นก็มาจากทั้งสาเหตุทางธรรมชาติและการถูกรุกรานจากมนุษย์ เช่นเดียวกับลิงกอริล่า กอริลลา มันเป็นสัตว์จำพวกเป็นเอป(ลิงไม่มีหาง) ที่อยู่ในเผ่า Gorillini และสกุล Gorilla ในวงศ์ Hominidae นับเป็นวานรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน ลิงกอริล่าถูกจับใน Belgian Congo ราวปี 1960 แต่กว่าพวกมันจะอยู่ได้จนถึงปัจจุบันนี้ พวกมันต้องผ่านช่วงชีวิตที่แสนลำบากเพราะพวกมันมีร่างกายที่ใหญ่โต เมื่อตกใจหรือต้องการขู่ผู้รุกรานจะลุกขึ้นด้วยสองขาหลัง และทุบหน้าอกรัว ๆ ด้วยสองแขน พร้อมกับคำรามก้อง จึงทำให้ภาพลักษณ์ของมันในสมัยก่อนดูเหมือนสัตว์ที่มีความดุร้ายยิ่งขึ้น ทั้งที่จริงแล้ว กอริลลาเป็นสัตว์ที่รักสงบ และขี้อาย ไม่เคยใช้พละกำลังหากไม่ถูกรบกวนก่อน กัปตันอังกฤษ A. Gatti และคนป่าสองคนได้จับกอริล่าหนัก 226 กิโลกรัม มัดห้อยไว้กับเสา หลังยิงได้ในป่า Tchibinda สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ประมาณปี 1930 กอริลลา มีถิ่นกำเนิดอยู่ในตอนกลางของทวีปแอฟริกา ทั้งที่เป็นที่ราบต่ำ และเป็นภูเขาสูงแถบเทือกเขาวีรูงกาที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเลถึง 2,200–4,300 เมตร ในคองโก และรวันดา ฝูงกอริลลาจะประกอบด้วยตัวผู้จ่าฝูงเพียงตัวเดียว นอกนั้นเป็นตัวเมียและลูกเล็ก ๆ จำนวนหนึ่ง ลูกเล็กจะเกาะอยู่กับแม่เหมือนลิงหรือเอปทั่วไป กอริลลาเมื่อเดินจะใช้ทั้งแขนหน้าและขาหลัง นานครั้งจึงจะเดินด้วยสองขาหลัง…
-
ยิ้มทั้งน้ำตา… ครอบครัว “ฉลองคริสต์มาสล่วงหน้า” ให้ความสุขแก่เจ้าหมา ก่อนมันจะจากไป
พูดถึงเทสกาลคริสต์มาส อาจะไม่เป็นที่นิยมเท่าไรสำหรับบ้านเรา แต่ที่ต่างประเทศ คริสต์มาสมีความหมายกับพวกเขามาก เพราะนอกจากได้เฉลิมฉลองแล้ว พวกเขายังได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือคนที่ตัวเองรักด้วย และไม่ใช่แค่คนในครอบครัว สัตว์เลี้ยงเองก็มีความสุขจากเทศกาลนี้ พวกมันจะได้เสื้อผ้าใหม่ ได้ของเล่น รวมได้ของกินอร่อยๆ ที่ครอบครัวเตรียมไว้ให้ด้วย ดังนั้นนี่จึงวันที่สัตว์เลี้ยงรอคอยมากที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่สำหรับครอบครัวหนึ่งในในสหราชอาณาจักร พวกเขาเริ่มฉลองคริสต์มาสก่อนที่จะถึงเวลาจริง เพราะสุนัขของพวกเขากำลังจะจากไปในไม่ช้านี้ ซึ่งอาจจะอยู่ได้ไม่ได้วันคริสต์มาสจริงๆ Scooby สุนัขแสนที่อยู่กับครอบครัวนี้มาตั้งแต่มันยังเป็นเด็ก และมันก็เติบโตมากับความรักความอบอุ่นที่ครอบครัวมอบให้เสมอมา มันจึงมีแต่ความสุขตลอดชีวิตที่ผ่านมา แต่แล้วเมื่ออายุ 16 ปี Scooby ก็เริ่มมีปัญหากับการเดิน มันไม่สามารถเดินได้ปกติ ในขณะเดียวกันมันก็ทรมานจากภาวะสมองเสื่อมด้วย มากกว่านั้นคือ มันตาบอดและหูหนวกซ้ำอีก เพราะมันแก่มากแล้ว ซึ่งก่อนที่ Scooby ล้มป่วยนั้น Molly Bradshaw และครอบครัวกำลังอยู่ในช่วงไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดที่สหรัฐอเมริกา แต่เมื่อรู้ว่า หมาของพวกเขากำลังป่วย จึงได้รีบกลับไปหามันทันที ต่อมาทุกคนได้รู้ว่า เจ้าหมาเพื่อนรักของพวกเขาตัวนี้จะอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว และในทุกๆ ปีนั้น มันก็จะอยู่ร่วมฉลองคริสต์มาสด้วยเสมอ แต่ปีนี้ดูเหมือนมันจะอยู่ไม่ถึงวันนั้นแล้ว และทุกคนก็ไม่อยากให้มันจากไปด้วยความเศร้าโศก จึงได้ตัดสินใจทำให้มันมีความสุขก่อนจากไป ด้วยการจัดคริสต์มาสก่อนเวลาจริง ในระหว่างที่ทุกคนตกแต่งบ้านนั้น Scooby รู้สึกตื่นเต้นมาก เหมือนมันรู้ว่า เทศกาลแห่งความสุขกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว…
-
ชมความสวยงามจาก “ทะเลสาบไบคาล” ที่กลายเป็นน้ำแข็งนาน 5 เดือนในฤดูหนาวของทุกปี
Alex Cheban ในช่วงฤดูหนาวนี้มักมีปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทำให้เราทึ่งได้เสมอ ในบ้านเราที่เห็นได้ชัดคือ ปรากฏการณ์แม่คะนิ้ง ที่มีน้ำแข็งเกาะอยู่ตามใบไม้ใบหญ้า ที่มักพบได้ทางภาคเหนือของประเทศ แต่สำหรับต่างประเทศแล้ว จะมีอุณหภูมิที่ลดต่ำจนทำติดลบ ทำให้หิมะตก และน้ำทะเลก็กลายเป็นน้ำแข็งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในทุกๆ ปี และล่าสุดก็ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอที่ถ่ายจากทะเลสาบไบคาล ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดในภูมิภาคไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย หนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดของโลก เรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ บางคนบอกว่า มันยังเป็นทะเลสาบที่เก่าแก่ที่สุดในโลกด้วย เพราะมีนานกว่า 25 ล้านปี ซึ่งประกอบไปด้วยสัตว์และพืชทางทะเลที่หายากมากมาย อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า ในช่วงฤดูหนาว ไซบีเรียจะมีอุณภูมิติดลบอย่างรุนแรง ดังนั้นทะเลสาบไบคาลจึงมักจะกลายเป็นน้ำแข็งในทุกๆ ปี นอกจากนี้ ลมที่พัดอยู่เหนือทะเลสาบนั้นมักจะก่อให้เกิดภาพที่น่าสนใจเสมอ หนึ่งในนั้นคือ เนินน้ำแข็งที่เกิดคลื่นที่ถูกพัดขึ้นฝั่ง ไม่ใช่แค่ลม แต่ทั้งหมดนี้เกิดจากการรวมตัวกันของลมและอุณหภูมิที่เปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืนด้วย ทำให้คลื่นที่ถูกพัดขึ้นฝั่งนั้น ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นน้ำแข็งอย่างช้าๆ และสวยงามมาก คลื่นที่ขึ้นแล้วไม่ได้ลง เพราะกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว ชมการเปลี่ยนแปลงของน้ำเป็นน้ำแข็งอย่างช้าๆ ในวิดีโอด้านล่างนี้ ที่ทะเลสาบไบคาลแห่งนี้ จะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งเป็นเวลาเกือบ 5 เดือนต่อปี ซึ่งจะมีความหนาประมาณหนึ่งเมตรถึงสองเมตรเลยทีเดียว…
-
หอพักนักศึกษามี “รอยร้าว” จนชาวเน็ตกังวล แต่มหาลัยชี้แจ้งว่า… แค่งานศิลปะ อย่าห่วงเลย
การสร้างตึกสูงนั้น แน่นอนว่าต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีความปลอดภัยสูง หากมีรอยร้าวหรืออาคารมีการทรุดโทรมแม้เพียงนิดเดียวก็ต้องรีบปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้ที่พักอาศัยและคนในบริเวณใกล้เคียง แต่เมื่อไม่นานนี้ มีอาคารหอพักหนึ่งในยูนนานหลังหนึ่งที่ภายนอกดูทรุดโทรม และมีรอยร้าวเต็มไปหมด และเมื่อภาพหอพักนี้ถูกเผยแพร่ใปในโลกโซเชียล ทุกคนจึงพากันเป็นห่วงและให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบก่อนจะสายเกินไป หอพักหลังนี้เพิ่งสร้างขึ้นได้ 6 เดือนเท่านั้น ซึ่งตั้งอยู่ในวิทยาลัย Yunnan Forestry Technological College ในมณฑลคุนหมิง แต่ไม่นานหลังจากนั้น บรรดานักศึกษาก็ได้ทำให้อาคารทั้งหลายเต็มไปด้วยการซ่อมแซมที่เหมือนกับเป็นการปิดรอยรอยร้าวอยู่ จนทุกคนคิดว่า อาคารหลังนี้ใกล้จะพังแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ภาพหอพักถูกเผยแพร่ไป ผู้คนจึงได้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบโดยด่วน… แต่ทางมหาลัยได้ออกมาชี้แจงว่า ที่เห็นนี้ไม่ใช่การซ่อมแซมรอยร้าวอย่างที่คิด แต่เป็นแค่การทำลวดลายหอพักให้มีความเก๋เท่านั้น รู้อย่างนี้แล้ว คงไม่ต้องห่วงแล้วสินะ แห่ม ก็เล่นซะตกอกตกใจหมด… และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชาวเน็ตได้เห็นภาพอาคารแบบนี้นะ เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2014 ก็มีอาคารที่สร้างขึ้นในหวู่ฮั่นเพียง 3 ปี แต่กลับมารอยรอยร้าวซะแล้ว ซึ่งจริงๆ เป็นแค่การตกแต่งภายนอกเท่านั้น แต่ไม่ว่ายังไง #เหมียวขี้ส่อง มองว่าการตกแต่งด้วยลายนี้ บางทีอาจสร้างปัญหาตามมาทีหลังก็ได้ เพราะหากมีอาคารที่มีรอยร้าวจริงๆ ผู้คนอาจเข้าใจว่าเป็นงานศิลปะ และไม่มีการเข้าไปแก้ไข สุดท้ายอาจพบกับความเสียใจก็ได้ แม้จะหายห่วง แต่ถ้ามีตึกที่ร้าวจริงๆ…
-
อุทาหรณ์… เจ้าหนี้นอกระบบปล่อย “ภาพลูกหนี้เปลือย” หลังจากพวกเธอไม่มีเงินจ่ายตามสัญญา
การกู้หนี้นอกระบบนั้น อาจเป็นทางเลือกสำหรับคนที่หมดหนทางแล้วจริงๆ เพราะกู้ง่ายไม่ต้องมีเอกสารหรือค้ำประกันเหมือนการกู้ในระบบ แต่ผู้กู้เองก็ต้องพร้อมที่จะรับผลที่ตามมาด้วยเช่นกัน เราไม่รู้เลยว่า กู้หนี้นอกระบบนั้นจะต้องถูกทวงด้วยวิธีใด ซึ่งมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ เช่นเดียวกับสาวๆ เหล่านี้ ที่มีภาพเปลือยของตัวเองว่อนเน็ต หลังที่พวกเธอไปกู้นอกระบบโดยใช้รูปตัวเองเป็นหลักประกัน!! ซึ่งคนที่กู้นอกระบบเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียน นักศึกษา ที่มีรายได้ไม่เพียงพอ แม้ว่าพ่อแม่จะออกค่าเล่าเรียนให้ แต่กับบางคนนั้นต้องการมากกว่านั้น เช่น ของใช้แบรนด์เนม เป็นต้น เพื่อจะได้ไม่น้อยหน้าคนอื่นๆ ที่สำคัญคือในประเทศจีนนั้น ไม่มีระบบเงินกู้ที่เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา ทำให้หลายคนไม่มีทางเลือก จึงต้องหันไปกู้เงินนอกระบบแทน และต้องคอยรับกับผลที่จะตามมาด้วย ทางสำนักข่าว China Youth Daily รายงาน เมื่อเร็วๆ นี้ มีภาพสาวๆ พร้อมข้อมูลส่วนตัว ครอบครัว และที่อยู่กว่า 167 คน ถูกแชร์ออกไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต สาวๆ ที่ตกเป็นเหยื่อครั้งนี้ ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 19 ถึง 23 ปี โดยพวกเขาถูกบังคับให้ถ่ายภาพเปลือยพร้อมข้อมูลส่วนตัว เพื่อแลกกับการต่ออายุเงินกู้ให้ สำหรับการกู้เงินนอกระบบนี้ ถูกดำเนินการภายใต้แอพออนไลน์ QQ ซึ่งมีผู้เช้าร่วมมากกว่าสองพันคน…
-
ช่างตัดผมเปิดร้านมา 25 ปี คิดราคาหัวละ 5 บาทตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ เพื่อช่วยเหลือคนยากจน
ถ้าจะเข้าร้านตัดผมสักร้าน เราคำนึกถึงอะไรบ้าง แน่นอนว่าคงต้องนึกถึงความสะอาด คุณภาพ ประสบการณ์ของช่าง ที่สำคัญ ราคาต้องไม่แพงเกินกำลังด้วย ว่าแต่ว่า เพื่อนๆ เคยตัดผมด้วยราคาที่ถูกที่สุดเท่าไรกันเอ่ย? จะถูกเท่าร้านนี้หรือเปล่า นี่คือร้านตัดผมในเมืองเจียวจั้ว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เจ้าของร้านคือ Wang Chengjian อายุ 67 ปี ซึ่งเปิดร้านตัดผมมานานกว่า 25 ปีแล้ว และตั้งแต่เปิดมาก็คิดราคาหัวละเพียง 1 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ 5 บาทเหมือนเดิมจนถึงปัจจุบันนี้ Wang ได้เริ่มเรียนตัดผมตั้งแต่ตอนอายุ 13 ปี ซึ่งในเวลานั้นเขาและเจ้านายได้เดินทางไปทั่วทั้งเมืองเพื่อบริการตัดผมให้ผู้คนถึงหน้าบ้าน หลายปีต่อมา Wang ก็ได้เปิดร้านตัดผมในหมู่บ้านของเขาเอง และได้คิดบริการหัวละ 5 บาทเท่านั้น เขาได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมเปิดร้านมาได้ประมาณ 25 ปีแล้วครับ และคิดค่าบริการหัวละ 5 บาท ปัจจุบันนี้ก็ยังราคาเดิมครับ” “ในขณะที่ช่างตัดผมคนอื่นคิดค่าบริการหัวละ 25-50 บาท แต่ผมไม่เคยคิดเกิน 5 บาทเลยครับ…
-
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ “หางไดโนเสาร์” ในก้อนอำพัน ลบทฤษฎีไดโนเสาร์ผิวโล้นแบบ Jurassic Park
ในความเข้าใจของพวกเรา ไดโนเสาร์นั้นเป็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ที่มีความดุร้าย มีผิวหนังหยาบกร้านและไร้ขน เราจะเห็นได้จากสารคดีหรือภาพยนตร์ดังอย่าง Jurassic Park หลายๆ ภาค แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศหลายๆ แห่ง เช่น CNN , Nationalgeographic หรือ Theguardian ได้ออกมารายงานว่ามีการค้นพบ “หางไดโนเสาร์” เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แล้ว ตามรายงานบอกว่าผู้ค้นพบหางไดโนเสาร์ชิ้นนี้มีชื่อว่า Xing Lida เป็นนักบรรพชีวินวิทยาชาวจีน เขาค้นพบมันในแทบตอนเหนือของประเทศพม่าใกล้กับชายแดนของจีน จากการตรวจสอบก้อนอำพันก้อนนี้ คาดว่าน่าจะมีอายุราวๆ 99 ล้านปี Xing ได้ให้สัมภาาณ์ผ่าน CNN ว่า “ผมมาคิดได้ว่าสิ่งที่อยู่ในอำพันนั้นน่าจะมาจากสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง อาจจะเป็นเทอโรพอด (มีลักษณะคล้ายทีเร็กซ์แต่ตัวเล็กกว่า) มากกว่าจะเป็นสัตว์ชนิดอื่นๆ” ด้านนาย Ryan McKellar นักบรรพชีวินวิทยา จากพิพิธภัณฑ์ Royal Saskatchwan Museum ในประเทศแคนาดาและเป็นผู้ศึกษาอำพันชิ้นนี้ด้วยได้กล่าวว่าเขารู้สึกตกตลึงมากที่นาย Xing นำอำพันมาให้เขาดูเป็นครั้งแรก “มันเป็นครั้งหนึ่งครั้งเดียวในชีวิตเลยก็ว่าได้…
-
บริษัท ‘Allegro’ โปแลนด์ ปล่อยโฆษณาเรียกน้ำตา การเริ่มต้นทำบางสิ่ง เพื่อใครบางคน…
การทำสื่อโฆษณาในยุคปัจจุบันนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่โฆษณาให้เห็นถึงข้อดีของสินค้าเท่านั้น แต่จะต้องมีเรื่องราวที่ดูน่าสนใจแปลกใหม่ และยิ่งถ้ามีเนื้อหาโฆษณาที่กินใจ ดูแล้วให้อารมณ์แบบฟีลกู้ด หรือมีพล็อตเรื่องดี คล้ายกับหนังสั้นส่งประกวด ก็จะยิ่งทำให้โฆษณาชิ้นนั้นได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เช่นเดียวกับโฆษณาของบริษัท Allegro ที่เป็นบริษัทประมูลของออนไลน์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศ Poland ที่เพิ่งจะปล่อยโฆษณาที่สุดประทับใจออกมา โดยใช้ชื่อว่า “English For Beginners” (ภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น) จัดทำโดยองค์กร Bardzo ที่ตั้งอยู่ในเมือง Warsaw เป็นเรื่องราวของผู้สูงอายุคนหนึ่ง ที่ได้รับพัสดุเป็นหนังสือฝึกสอนการใช้ภาษาอังกฤษ และจากนั้นเขาก็พร่ำฝึกสกิลในการใช้ภาษาอังกฤษด้วยตัวเองทุกวันๆ ตรงนี้เองเราจะสนุกสนานไปกับความน่ารักของคุณตา ที่พยายามฝึกพูดภาษาอังกฤษอย่างสุดฤทธิ์ โดยไม่รู้เหมือนกันว่าที่เขาพยายามฝึกไปเพื่ออะไร ลองไปชมคลิปโฆษณาแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… และแล้วจุดไคลแม็กซ์ก็มาถึง เมื่อพัสดุอีกชิ้นถูกส่งมา เป็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เบ้อเริ่มนั่นเอง เดาว่าคุณตาจะได้ออกเดินทางไปที่ไหนซักที่อย่างแน่นอน และแล้วก็มาโผล่ที่บ้านหลังหนึ่ง ทำให้รู้เลยว่าที่พยายามมาทั้งหมดนั้นก็เพื่อหลานสาวตัวเล็กๆ ของเขานั่นเอง ^^ บอกเลยว่าฉากจบนั้นทำเอา #เหมียวหง่าว น้ำตาซึมไปเลยล่ะ T T ที่มา…
-
11 สิ่งน่าสนใจ ที่แอบมาปรากฏ ในฉากภาพยนตร์ดัง จนหลายๆ คนไม่ทันสังเกตเห็น…
เวลาได้รับชมภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ หรือการ์ตูนดัง แต่ละคนก็คงโฟกัสไปยังภาพยนตร์ที่กำลังรับชมอยู่ ซึ่งอาจจะไม่เคยมีใครเคยเห็น หรือไม่รู้มาก่อนเลยด้วยซ้ำว่า ภาพยนตร์บางเรื่องนั้น บางครั้งก็แอบซุกซ่อนความลับ หรือนำสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนั้นเลย มาใส่ไว้ในผลงานของพวกเขา และในวันนี้เราจะขอมาเปิดเผยสิ่งที่แอบซุกซ่อนอยู่ในภาพยนตร์แต่ละเรื่องมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ว่าแต่จะมีอะไรมาปรากฏตัวให้เห็นบ้างนั้น ต้องไปดูซะแล้วละ 1. Raiders of the Lost Ark เมื่อ R2-D2 และ C-3PO หุ่นยนต์จากภาพยนตร์เรื่อง ”Star Wars” ได้มาปรากฏให้เห็นในตัวอักษรโบราณของอียิปต์ ที่ถูกเขียนไว้บนพนังของวิหารในภาพยนตร์เรื่อง Raiders of the Lost Ark 2. The Simpsons ในโลกของ Simpsons ตัวละครทุกตัวจะมีเพียงนิ้วมือเพียง 4 นิ้วบนมือแต่ละข้าง ยกเว้นตัวละครพระเจ้าและพระเยซูที่มี 5 นิ้ว 3. Fight Club หลายๆ ฉากในภาพยนตร์ Fight Club จะแอบมีแก้วกาแฟสตาร์บัคปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ…
-
เทรนด์ใหม่ล่าสุด “อายไลน์เนอร์ เขายูนิคอร์น” ถึงจะดูแปลกตา แต่ก็เก๋กู๊ดอยู่นะเธอ!!
เราจะเห็นได้ว่าเทรนด์การแต่งหน้า มักจะมีการเปลี่ยนแปลง และมีอะไรใหม่ๆ มาอัพเดทอยู่เสมอ เพราะล่าสุดทางสาวๆ ทางฝั่งตะวันตก ผู้นำเทรนด์แฟชั่นสุดแหวกแนว ได้เนรมิตการเขียนอายไลน์เนอร์ในรูปแบบใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร งานนี้บอกเลยว่าสร้างความสดใส และน่ารักเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้ว การเขียนอายไลน์เนอร์มักจะมีเทคนิค และรูปแบบการเขียนที่หลากหลายอยู่แล้ว แต่เมื่อลองเพิ่มอะไรใหม่ๆ เข้าไป ก็ทำให้มันดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และนี่คือ การเขียนอายไลเนอร์ยูนิคอร์น เทรนด์ใหม่ในปี 2016 ที่ฉีกทุกกฎของการแต่งหน้า กำลังเป็นที่ฮอตฮิตของสาวๆ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะดูแหวกแนวแล้ว ยังทำให้ดวงตาดูสดใส และเก๋ไก๋ในแบบไม่ซ้ำใครอีกด้วย จากที่ผ่านๆ มา เราจะเห็นได้ว่าแฟชั่นที่ได้นำยูนิคอร์นมาเป็นแรงบันดาลใจมีมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็น เทรนด์การทำสีผมเลียนแบบยูนิคอร์น หรือจะเป็นการเขียนคิ้วแบบยูนิคอร์น และในตอนนี้ก็มีเทรนด์ใหม่ล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยูนิคอร์นได้เกิดขึ้นมาอีกแล้ว นั่นก็คือ การเขียนอายไลน์เนอร์ยูนิคอร์น นั่นเอง มันไม่ใช่แค่แปลกแหวกแนว แต่มันยังทำให้คุณดูโดดเด่นกว่าใครๆ อีกทั้งยังดูสวยงาม และดูมีมนต์ขลังมาก ลองเพิ่มสีสันให้กับใบหน้า โดยการกรีดอายไลน์เนอร์ และเขียนคิ้วแบบยูนิคอร์นดูไหมละ ฟรุ้งฟริ้งดีจัง เป็นอีกหนึ่งเทรนด์การแต่งหน้าที่ #เหมียวขี้อ้อน คิดว่ามันก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน…
-
สื่อต่างชาติจัดอันดับ 27 เมืองที่มีคุณภาพชีวิตของประชากรดีที่สุด ประจำปี 2016
ทุกๆปีก็มักจะมีการจัดอันดับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา และเช่นเคยก่อนที่เราจะเข้าสู่ปี 2017 บริษัทจัดอันดับยักษ์ใหญ่จากต่างชาติ ‘Mercer’ ได้ออกมาเผยถึง 27 อันดับที่มีคุณภาพชีวิตของประชากรดีที่สุด ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้ใช้เกณฑ์วัดจาก ความเสถียรภาพทางการเมือง ระบบเศรษฐกิจ สวัสดิการทางการแพทย์ การศึกษา การคมนาคมขนส่ง รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรในเมือง สภาพการเป็นอยู่ และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ซึ่งเค้าได้จัดอันดับไว้ทั้งหมด 230 ประเทศ แต่วันนี้เราจะพาไปดูประเทศที่ติดอันดับท็อป 27 ว่ามีอะไรกันบ้าง ตามไปชมกันเลย 27. Adelaide, Australia 26. Singapore 25. Nuremberg, Germany 24. Stuttgart, Germany 23. Montreal, Canada 22. Perth, Australia 21. Brussels, Belgium 20. Stockholm, Sweden …
-
นักวิจัยชี้ สาวๆ ชอบหนุ่มกระปู๋ใหญ่ แค่คืนเดียวพอ ส่วน ‘ขนาด’ มีความสำคัญกว่า ‘ความยาว’
ผู้หญิงชอบผู้ชายที่ ‘จู๋ใหญ่’ เฉพาะความสัมพันธ์แบบ One-night stand เท่านั้นนะจ๊ะ นักวิจัยพึ่งค้นพบกันสดๆ ร้อนๆ เลย!! หลายๆ คนอาจจะคิดว่าขนาดที่ ใหญ่ ยักษ์ ยาว และอวบอ้วนนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่นี่ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องจริงเสมอไปนะจ๊ะ Dr. Nicole Prause ศาสตราจารย์หญิงผู้เชี่ยวชาญในด้านของแรงขับเคลื่อนทางเพศ แห่ง UCLA ได้สร้างรูปแบบของกระปู๋ของเพศชายที่เป็นไปได้ออกมา 100 รูปแบบ สำหรับแรงบันดาลใจในการทำวิจัยในเรื่องนี้ก็คือเธอมีความสนใจในด้านความเจ็บของสาวๆ ระหว่างการมีเซ็กส์ เธอจึงตัดสินใจร่วมงานกับ Geoffrey Miller นักวิจัยเกี่ยวกับระบบสมองและระบบประสาท สร้างรูปแบบกระปู๋ที่เป็นไปได้ออกมา 100 แบบ!! เธอและทีมวิจัยได้ทำการตัดตัวเลือก 100 รูปแบบออกให้เหลือเพียง 33 รูปแบบเท่านั้น และสร้างเซ็กส์ทอยกระปู๋เทียมออกมาจริงๆ ตามทั้ง 33 รูปแบบ แล้วนำทั้งหมดมาใส่ไว้ในตะกร้า หลังจากนั้นเธอก็ได้นำอาสาสมัครหญิงทั้ง 75 รายมาเลือกกระปู๋ดังกล่าว โดยการมีตัวเลือกให้เลือกได้คนละ 2 ชิ้น ชิ้นแรกสำหรับความสัมพันธ์แบบ One-night และอีกชิ้นสำหรับความสัมพันธ์ในระยะยาว โดยขนาดของตะกร้าที่มีขนาดใหญ่นั้นจะอยู่ที่…
-
เพราะ “ตาตี่” ดีเจหนุ่มถึงกับเซ็ง ทำพาสปอร์ตออนไลน์ไม่ผ่าน ถูกแจ้งว่ารูปถ่ายหลับตา…
ก็อย่างที่รู้กันดีว่า การทำพาสปอร์ตนั้น เราจำเป็นต้องถ่ายรูปให้เห็นใบหน้าที่ชัดเจน และต้องให้เห็นใบหูด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการปลอมแปลงหรือสวมรอยได้ง่ายๆ แต่สำหรับชายหนุ่มชาวนิวซีแลนด์เชื้อสายเอเชียคคนนี้ เขาได้ถ่ายรูปเพื่อต่ออายุหนังสือเดินทาง และทำตามกฎระเบียบทุกอย่างคือ เห็นใบหน้าตรงชัดเจน แต่กลับไม่ผ่านซะงั้น Richard Lee เป็นดีเจ วัย 22 ปี กำลังศึกษาอยู่ในคณะวิศวกรรมอวกาศและการจัดการธุรกิจในกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เขาเกิดที่ไต้หวัน แต่เติบโตขึ้นมาในประเทศนิวซีแลนด์ และในกรณีล่าสุดของ Richard นั้น เขาพยายามจะต่ออายุหนังสือเดินทาง เพื่อจะเดินทางไปยังไปยังประเทศออสเตรเลีย แต่แล้วก็พบข้อผิดพลาด เมื่อเขาอัพโหลดรูปผ่านโปรแกรมตรวจสอบพาสปอร์ตออนไลน์แต่ดันไม่ผ่านซะงั้น เหตุผลที่ไม่ผ่านนั้น เป็นเพราะโปรแกรมได้วิเคราะห์ว่า “ภาพที่คุณอัพโหลด ไม่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด เพราะคุณหลับตาอยู่” แต่จากภาพที่เห็น เขาก็ลืมตาเต็มที่แล้วนะ และมองเห็นชัดเจนด้วย แต่แค่เกิดมาเป็นคนตาตี่เท่านั้น…ผมผิดอะร๊ายยย ต่อมาทางโฆษกได้ออกมาชี้แจงว่า ‘รูปที่ถ่ายมานั้น มีแสงส่องหน้าที่ไม่สม่ำเสมอกัน ซึ่งดูเหมือนกว่าหลับตาอยู่ จึงทำให้ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบ’ Richard กล่าวว่า “ผมพยายามจะเปลี่ยนเป็นรูปอื่นแล้ว แต่ก็ไม่ผ่านอยู่ดี ผมจึงได้ติดต่อไปยังสำนักงานทำหนังสือเดินทาง จนได้คำตอบว่า แสงที่ส่องหน้าผมนั้นไม่เพียงพอ” “ดังนั้น ผมเลยถ่ายรูปใหม่อีกสองสามรูป…
-
เบื่อๆ ไม่รู้จะไปไหนงั้นมาทางนี้!! นี่คือ 5 เว็บไซต์แปลกๆ ที่ช่วยเติมความรู้ และทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น
ทุกวันนี้มีเว็บไซต์อยู่มากมายให้คุณได้ติดตามข่าวสารเพื่อความรู้หรือความบันเทิงอยู่มากมาย แต่บางคนอาจจะประสบปัญหาว่าเว็บไซต์ที่คุณสิงสู่อยู่เริ่มจะน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆ #เหมียวฟิ้นเลยจะขอมาแนะนำ 5 เว็บไซต์เก๋ๆ ที่จะทำให้คุณมีอะไรทำไปอีกนาน 1. BugMeNot คุณเคยประสบปัญหาในการสมัครสมาชิกเว็บไซต์กันบ้างหรือเปล่า? ไม่ว่าจะสมัครชื่ออะไรก็ตาม พลิกแพลงยังไงก็ตาม ก็จะมีคนใช้ชื่อนั้นอยู่ก่อนแล้ว งั้นเราขอนำเสนอเว็บไซต์ BugMeNot.com วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ เพียงแค่คุณนำลิ้งของเว็บไซต์นั้นๆ ลงไปวางในเว็บไซต์นี้ มันก็จะทำการประมวลผลว่ายังเหลือชื่อผู้ใช้หรือพาสเวิร์ดแบบไหนบ้างที่ยังไม่เคยสมัคร แล้วเลือกมาให้คุณลองเอาไปใช้จริงๆ ดู ไม่ว่านะเว็บนอกหรือเว็บไทยก็สามารถทำได้ทั้งนั้น 2. Get Notify การสื่อสารผ่าน Facebook แบบทุกวันนี้มีข้อดีอย่างหนึ่งคือเราสามารถเช็คได้ว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความของเราแล้วหรือยัง? แต่หากเป็นการส่งอีเมล์เราจะไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่หากคุณลองมาใช้เว็บไซต์ Getnotify.com มันจะสามารถตรวจสอบได้ว่าอีเมล์ที่คุณส่งไปหาอีกฝ่ายนั้น ได้รับการอ่านแล้วหรือยัง 3. Livestream เว็บ Livestream จะช่วยให้คุณชมการถ่ายทอดสดจากทุกรูปแบบได้ ไม่ว่าจะมาจาก Fox BBC Ted Spotify งานเดินแบบ งานประกาศรางวัล หรืออื่นๆ อีกมากมาย ผ่านเว็บนี้เว็บเดียว หรือจะเป็นการถ่ายทอดสดการประชุมจากบริษัทที่อยู่ห่างกันคนละมุมโลก เว็บนี้ก็สามารถดึงเอามาแสดงให้คุณชมได้ 4. Memrise นี่เป็นเว็บที่#เหมียวฟิ้นชอบมาก เพราะนี่คือเว็บไซต์ที่จะมาสอนภาษาให้คุณแบบฟรีๆ!! โดยจะมีภาษาให้คุณเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น…
-
รวมภาพชีวิตชาวนิวยอร์ค เมื่อเผชิญกับสภาวะ ‘เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่’ 87 ปีก่อน!!
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินคำว่า ‘Great Depression’ ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกถึงสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ในยุคนั้นแทบจะไม่มีใครเชื่อว่า เวลาเพียงชั่วข้ามคืน จะสามารถพลิกชะตาชีวิตของใครหลายคน จากที่เคยอยู่กินสบาย ต้องกลายเป็นคนตกงาน และไร้บ้านได้ในชั่วพริบตาเดียว คราวนี้เราจะพาเพื่อนๆ ย้อนกลับไปชมภาพวิถีชีวิตของชาวนิวยอร์คเกอร์ เมื่อช่วงค.ศ.ประมาณปี 1930 เผยให้เห็นวิถีชีวิตอันยากลำบาก และการต่อสู้กับผลกระทบที่เกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยที่ใครหลายคนอาจไม่ทันได้ตั้งตัว… ปี 1929 ราคาหุ้นเริ่มดิ่งตัวลงอย่างรวดเร็ว ชาวเมืองหลายคนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว หลายคนต้องตกงาน และไร้ที่อยู่อาศัย สภาพที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้นมาเอง ซึ่งปัจจุบันที่ตรงนี้เป็น ‘เซ็นทรัล ปาร์ค’ นั่นเอง ในแต่ละวันมีชาวเมืองจำนวนมาก ที่ต้องต่อแถวอันยาวเยียด เพื่อรับเสบียงอาหารจากรัฐบาลที่นำมาแจกจ่ายให้ประชาชนผู้อดอยาก สาเหตุของวิกฤติการครั้งนี้มีหลายอย่าง ส่วนหนึ่งมาจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงถึงร้อยละ 13 และก็ตกลงมาอีกถึงร้อยละ 12 ทำให้ผู้ที่กู้เงินมาลงทุนก่อนหน้า ต้องกลายเป็นหนี้สินกันไปมากมาย จากเหตุการณ์ดังกล่าว คาดว่าเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ตกต่ำจนถึงขีดสุด และส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง มีโรงงานหลายแห่งต้องปิดตัวลง นั่นหมายความว่าอัตราคนว่างงานก็เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วัน 1 ใน 3…
-
7 นวัตกรรมจาก NASA ที่ไม่น่าเชื่อว่า จะกลายเป็นของที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน!!
เพื่อนๆ อาจไม่อยากเชื่อ แต่นวัตกรรมของนาซ่าเหล่านี้อยู่รอบตัวเรามาตลอดเวลา แต่เราอาจไม่เคยรู้กันมาก่อนเลยล่ะ!! เพราะหลายๆ นวัตกรรมนั้น NASA คิดค้นมาเพื่อให้เหล่านักบินใช้กันบนอวกาศ แต่บางครั้งมันก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในแบบอื่นได้เช่นกัน และกลายเป็นที่มาของนวัตกรรมเหล่านี้ในที่สุด กล้องจับภาพตอนทดสอบรถชน นวัตกรรมนี้เริ่มมาจากการที่ทาง NASA ต้องการกล้องที่สามารถจับภาพความเร็วสูงได้ เพื่อบันทึกภาพระบบการลงจอด หรือระบบร่ม จนไปร่วมมือกับทางบริษัท Integrated Design Tools (IDT) จนสามารถผลิตกล้องที่ถ่ายภาพ 1,000 ภาพภายในระยะเวลา 1 วินาที และเก็บข้อมูลของภาพดังกล่าวได้ทันที และในปัจจุบัน นวัตกรรมนี้ก็ถูกใช้ในการทดสอบการชนของรถทั้งหมด เทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศแบบเลเซอร์ NASA ใช้เทคโนโลยีนี้ในการคำนวนระยะทางเมื่ออยู่นอกโลก โดยการใช้เลเซอร์เพื่อหาระยะทาง และสามารถสร้างแผนที่ออกมาได้ ทาง NASA ก็ได้ใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ซึ่งนำไปปรับปรุงให้มีขนาดเล็กกว่า เพื่อให้เหล่านักโบราณคดีได้นำไปใช้ในการขุดค้นของพวกเขา และที่สำคัญ ตอนนี้เทคโนโลยีนี้ก็ถูกนำไปใช้ในรถไร้คนขับแล้วด้วยล่ะ ไม้ตีกอล์ฟ ใครจะไปเชื่อว่าเทคโนโลยีในการสร้างยานอวกาศจะคล้ายคลึงกับที่ถูกใช้ในการสร้างไม้สำหรับตีกอล์ฟล่ะ? นวัตกรรมดังกล่าวมีชื่อว่า Spiralock ออกแบบโดยบริษัท Holmes Tool Company ร่วมกับ NASA ระบบการล็อคของน็อตที่สามารถทนทานต่อแรงออกตัวของจรวดได้ และนวัตกรรมนั้นก็อยู่ในไม้ตีกอล์ฟนี่แหละ …
-
หนูน้อยสุดดีใจ เดินได้เป็นครั้งแรกในชีวิต หลังได้กำลังใจจากคุณครูและเพื่อนร่วมชั้น…
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยเรื่องราวของ David Matos de Souza เด็กชายชาวบราซิลวัย 6 ขวบ ที่อยากจะมีชีวิตที่แสนสุขเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่เพราะป่วยโรคโปลิโอ จึงทำให้เขาไม่สามารถเดินไม่ได้ แถมยังต้องต้องพึ่งพารถเข็นอยู่ตลอดเวลา ภายหลังหนูน้อยได้รับกำลังใจจากเพื่อนๆ และคุณครูที่โรงเรียน และนั่นจึงทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาทันที เชื่อว่าการได้รับกำลังใจจากคนรอบข้าง หรือคนที่เรารัก อาจจะทำให้ความหมดหวัง หรือความท้อแท้ในชีวิตหายไปได้ เหมือนดังเช่นหนูน้อย David ที่ได้ทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นว่า กำลังใจที่ยิ่งใหญ่สามารถทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้จริงๆ เรื่องราวสุดประทับใจของหนูน้อย David เริ่มต้นด้วยวันแห่งความสดใสในขณะที่เขาได้ไปโรงเรียน คุณครู และเพื่อนในชั้น ต่างก็อยากให้ David เดินได้เหมือนคนทั่วๆ ไป ดังนั้น พวกเขาจึงช่วยกันส่งเสียงเชียร์กันว่า “David David David สู้ๆ นะ” แรงผลักดันของคุณครูและเพื่อนๆ ทำให้หนูน้อย David พยายามที่จะลุกขึ้นมาเดินให้ได้ เขาค่อยๆ เดินอย่างช้าๆ…
-
เด็กชายเสียพ่อไประหว่างปฏิบัติหน้าที่ ชาวเน็ตทำ ‘ตุ๊กตาเครื่องแบบพ่อ’ เพื่อให้อยู่ข้างๆ
เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ เบลก สไนเดอร์ จากเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกาได้เสียชีวิตลงไประหว่างปฏิบัติหน้าที่ หลังโบกรถผู้ต้องสงสัยและถูกยิงสวนออกมา ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาก็ถูกจับกุมและรอศาลตัดสินความผิด ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้ สร้างความสะเทือนใจให้กับภรรยา อลิซาเบธ และมาลาคี ลูกชายวัย 2 ขวบเป็นอย่างมาก ที่ต้องเสียเสาหลักของครอบครัวไปอย่างกะทันหัน ซึ่งเมื่อชาวเน็ตทราบเรื่องดังกล่าว พวกเขาก็ได้ส่งทั้งข้อความและของขวัญต่างๆ มากมาย เพื่อเป็นกำลังใจให้ทั้งสองสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ไปได้ ภาพของเบลกขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ล่าสุดชาวเน็ตท่านหนึ่งได้ทำตุ๊กตาที่สวมชุดเครื่องแบบตำรวจของเบลกขึ้นมา และมอบให้กับมาลาคีและอลิซาเบธ เพื่อให้ทั้งสองรู้สึกว่า เบลกจะอยู่กับพวกเขาตลอดไป ซึ่งภายหลังอลิซาเบธได้โพสภาพดังกล่าวลงบนเฟสบุ๊ก และมีผู้แชร์ไปกว่า 5,200 ครั้ง และในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าที่ผ่านมา อลิซาเบธได้ถือโอกาสขอบคุณทุกคนที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจเธอเรื่อยมา “ขอบคุณทุกคนที่ขอบสนับสนุนฉันและมาลาคีเรื่อยมาก ฉันไม่แน่ใจจริงๆ ว่าหากขาดทุกคนไป ชีวิตของฉันตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอให้ทุกมีความสุขในวันขอบคุณพระเจ้านะ” ยังไง #เหมียวอ๊อดโด้ ก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจในการผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายเหล่านี้ไปได้นะฮะ สู้ๆ ครับ ที่มา distractify, Elizabeth Snyder
-
อะไรที่ทำให้เด็กชายวัย 14 ปีถูกจับข้อหาฆาตกรรม หลังก่อเหตุยิงแม่-น้องชายคาเตียงนอน…
ถ้าดูจากภาพด้านบนใครจะเชื่อว่าครอบครัวนี้เพิ่งผ่านเหตุการณ์ฆ่าล้างครอบครัวสุดสะเทือนขวัญมา และที่ไม่น่าเชื่อยิ่งกว่าคือเหตุการณ์สุดสะเทือนนั้นคือลูกชายคนโตที่ยืนยิ้มอยู่ตรงกลางนั้นเอง!! เรื่องราวเกิดขึ้นที่รัฐเพนซิลเวอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อทางตำรวจได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุฆาตกรรมในครอบครัวหนึ่ง เมื่อพวกเขาถึงที่เกิดเหตุ พบว่าผู้เสียชีวิตคือ ดาน่า เรมาเลย์ วัย 46 ปี และเด็กชาย คาเล็บ เรมาเลย์ วัย 8 ปี ฆาตกรคือ เจคอบ เรมาเลย์ วัย 14 ลูกชายและพี่ชายแท้ๆ ของเหยื่อทั้งสอง… โดยในช่วงเช้าของวันนั้น เจคอบได้แอบหยิบปืนที่ซ่อนอยู่ในห้องครัวออกมา จากนั้นก็เดินขึ้นไปที่ห้องนอนของแม่ที่กำลังหลับอยู่ จากนั้นก็จ่อยิงในระยะ “ประชิดมากๆ” จนดาน่าเสียชีวิตในทันที จากนั้นเขาก็เดินไปยังห้องนอนของน้องชาย และจ่อยิงในลักษณะเดียวกัน เมื่อก่อเหตุเสร็จเขาก็โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งว่าพ่อของเขา เดวิด เรมาเลย์ ได้ทิ้งปืนไว้ในห้อง และอยู่ดีๆ ปืนก็ลั่นขึ้นมาเองจนแม่และน้องเสียชีวิต ซึ่งเมื่อตำรวจถึงที่เกิดเหตุ ก็ได้ติดต่อไปยังเดวิด และพบว่าเขายังอยู่ในที่ทำงานขณะเกิดเหตุ ดังนั้นตำรวจเชื่อว่านี่เป็นความพยายามป้ายความผิดไปให้พ่อของเจคอบ ยิ่งไปกว่านั้นตำรวจเชื่อว่าหากเดวิดอยู่บ้านในขณะนั้น ก็ต้องกลายเป็นเหยื่อฆาตกรรมอีกคน ขณะนี้ตำรวจกำลังสอบสวนถึงสาเหตุว่าทำไมเจคอบถึงก่อเหตุดังกล่าว และจะมีการประเมินทางจิตวิทยาและจิตเวชในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งพวกเขาสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจาก “ความแตกต่างบางอย่าง” ระหว่างเขากับคนในครอบครัว อย่างไรก็ตามทางตำรวจรายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและน้องชายเป็นไปด้วยดีมากๆ…
-
เหล่าทหารสาวยูเครนกลายเป็นคนดัง หลังจากโพสต์ภาพภารกิจในแต่ละวัน ลงบนโลกออนไลน์
ขึ้นชื่อว่าสงครามคงไม่มีสถานที่ใดที่สวยงามหรือดึงดูดเราได้หรอกนะ แต่กับสงครามแห่งนี้ อาจจะเปลี่ยนความคิดของคุณจนรู้สึกหลงไหลก็เป็นได้ เมื่อช่วงวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศหลายแห่งเช่น Dailymail, The Sun หรือ Mirror ได้เผยแพร่ภาพของกลุ่มทหารสาวสวยจากประเทศยูเครน ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ทางภาคตะวันออกของประเทศ พร้อมกับถืออาวุธไว้ข้างกาย ตามรายงานไม่ได้บอกว่าทหารสาวกลุ่มนี้มีชื่อว่าอะไร บอกเพียงแค่ว่าหลังจากที่ภาพของเธอถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ภาพของเธอกลายเป็นที่สนใจของหนุ่มๆ ทั่วโลก แม้ว่าใบหน้าของเธอจะดูขัดกับเครื่องแบบที่เธอสวมใส่อยู่ก็ตาม โดยส่วนใหญ่ของสงครามที่เริ่มตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2014 กองกำลังทหารของรัฐบาลยูเครนไม่อนุญาตให้ทหารสาวออกไปต่อสู้ในแนวหน้าของสงคราม หน้าที่ของพวกเธอจึงทำได้เพียงเป็นแพทย์สนาม แม่ครัวและงานอื่นๆ ที่ไม่ต้องออกไปรบโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายนปี 2016 กระทรวงกลาโหมของยูเครนได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎใหม่ ที่ให้หญิงสาวที่ทำหน้าที่แค่เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลภาคสนาม ทำอาหารหรือนักบัญชี สามารถเข้ารับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการยานพาหนะของกองทัพ พลปืน วิทยุสื่อสาร หรือแม้แต่การเป็นสไนเปอร์ และเพื่อการรับใช้ชาติและการต่อสู้ในสนามรบอันหนักหน่วง พวกเธอจำเป็นจะต้องเข้าฟิตเนสเพื่อฟิตซ้อมร่างกายและมีการทดสอบทางจิตวิทยาด้วย ซึ่งปัจจุบันมีหญิงสาวเข้าร่วมกับกองทัพของยูเครนเพื่อเป็นทหารแล้วกว่า 17,000 คน อนึ่งประเทศยูเครนมีกฎหมายว่าด้วยการให้หญิงสาวสามารถเข้ารับราชการเป็นทหารได้ ซึ่งประเทศยูเครนเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยสาวสวยมากมาย เราเลยได้เห็นภาพของทหารหญิงสุดสวยอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง ถึงขนาดที่ว่าเมื่อมีการจัดอันดับทหารสาวที่สวยที่สุดในโลกจากเว็บไซต์ต่างๆ ทหารสาวจากยูเครนก็มักจะติดอันดับเป็น 1 ใน 5 หรือ 1 ใน…
-
Athena ลูกแมวที่ถูกกักขังจนมีสภาพย่ำแย่ ได้รับการช่วยเหลือจนมีชีวิตที่ดีอีกครั้ง…
หากทาสแมว หรือคนรักสัตว์ทั้งหลาย ได้ฟังเรื่องราวของ Athena น้องแมวตัวน้อยแสนน่ารักตัวนี้ละก็ คุณอาจจะต้องสงสารมันจับใจ เพราะก่อนที่มันจะมีชีวิตที่แสนสุข เจ้าเหมียวได้ผ่านเรื่องราวอันแสนเลวร้ายมามากมายเหลือเกิน เพราะในอดีต Athena เป็นแมวที่เจ้าของในรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา เคยเลี้ยงไว้แบบกักขังในกรงที่แสนสกปรก พร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ อย่างน้องหมา แต่โชคดีที่พวกมันไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในกรงนรกอีกต่อไป เพราะในที่สุดทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ ก็ได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าเหมียว พร้อมกับสัตว์ตัวอื่นๆ นอกจากนี้พวกเขายังได้ตรวจสอบพบว่า เจ้าของเดิมเคยถูกจับกุมข้อหาทารุณสัตว์มาแล้ว แต่ก็ยังคงทำร้ายสัตว์อีกเช่นเคย และในครั้งนี้พวกเขาก็ได้ถูกจับอีกครั้งในข้อหาเดิม หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือเจ้าเหมียว และสัตว์ตัวอื่นๆ ออกมา พวกเขาก็ได้พบว่า Athena กำลังป่วยหนัก และร่างกายของมันก็ไม่แข็งแรง ที่โชคร้ายไปกว่านั้นคือ มันติดเชื้อระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง ซึ่งทำมันแทบจะมาสามารถหายใจได้เลย อีกทั้งเจ้าเหมียวก็ดูเครียดหนักอีกด้วย ทางด้าน Dani Ellis ผู้เป็นเจ้าของคนใหม่ที่ได้รับเจ้าเหมียวมาดูแล ได้เผยว่า “ครั้งแรกที่พามันไปพบสัตว์แพทย์ ทางแพทย์ได้บอกว่าจะต้องทำการุณยฆาต เพราะไม่อาจช่วยชีวิตมันได้ และนั่นก็ทำฉันร้องไห้อย่างหนัก… แต่โชคดีที่แพทย์อีกคนหนึ่งได้บอกว่า หากเจ้า Athena ได้รับการผ่าตัดโดยการตัดจมูกที่ติดเชื้อออกไป มันก็จะสามารถกลับมาชีวิตที่ปกติอีกครั้ง” …
-
Angel Oak ต้นโอ๊กที่มีอายุยืนยาวนานกว่า 400 ปี และจะยังคงความงามไปตลอดกาล…
เป็นไปได้ยากมากๆ ที่ต้นไม้ต้นหนึ่งจะมีอายุยืนยาวขนาดนี้ เพราะด้วยเหตุการณ์ทางธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ด้วย ทำให้ต้นไม้ที่อยู่มานานหลายต้นต้องล้มหายตายจากไป แต่วันนี้จะพาไปที่ที่เซาท์ แคโรไลน่า ที่แห่งนี้มีต้นโอ๊กต้นหนึ่งที่อยู่มานานกว่า 400 ปี และมันก็ยังคงความงดงาม แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาให้เราได้ชมกันอยู่เสมอ ต้นนี้มีชื่อว่า Angel Oak ตั้งอยู่ใน Angel Oak Park ใกล้กับเมือง Charleston ในรัฐเซาท์ แคโรไลน่า ซึ่งมีความสูงกว่า 20 เมตร และมีเส้นรอบวงยาวประมาณ 8.5 เมตร และแผ่กิ่งก้านปกคลุมพื้นที่กว่า 1,600 ตารางเมตร และก้านที่ยาวที่สุดที่วัดได้คือ 56 เมตร นอกจากนี้ Angel Oak ยังเป็นต้นโอ๊กอันดับ 210 ที่ได้รับการบันทึกไว้ใน Live Oak Society อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งต้นโอ๊กที่เป็นตำนานในยุคนี้จริงๆ นับเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นและยังไม่ถูกทำลายลงไปนับพันปี ดูแล้วก็เหมือนต้นไม้ในเทพนิยายเลย ไม่เคยเห็นต้นไม้อะไรที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ที่มา designyoutrust
-
งานวิ่งมาราธอน ณ ‘กรุงเปียงยาง’ 2017 อยากไปวิ่งในเกาหลีเหนือ รีบไปสมัครกันด่วนๆ
ใครว่าประเทศ ‘เกาหลีเหนือ’ ที่มีระบบการปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จโดยมีลูกพี่ตระกูลคิมเป็นผู้นำ จะไม่เปิดกว้างต้อนรับคนจากต่างชาติเลย ก็คงไม่ถูกซะทีเดียวนัก เพราะตอนนี้เกาหลีเหนือได้จัดงานวิ่งมาราธอนประจำปี ‘2017’ แถมยังเปิดโอกาสให้คนจากทั่วโลกเข้าร่วมได้อย่างอิสรเสรี ไม่ว่าคุณจะถือสัญชาติไหนก็ตาม ถ้าใครกำลังมองหางานวิ่งที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นละก็ เราขอแนะนำให้สมัครโดยด่วน!! ‘เปียงยางมาราธอน’ ได้จัดขึ้นมาทั้งหมด 30 ครั้งแล้ว แต่ทว่านี่ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่เปิดโอกาสให้นักวิ่งจากทั่วโลกมาเข้าร่วมกิจกรรม และสำหรับปี 2017 งานนี้จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 4 เมษายน ลองจินตนาการว่าคุณได้เปลี่ยนบรรยากาศจากการวิ่งมาราธอนอันแสนธรรมดา มาวิ่งในประเทศที่ไม่ค่อยได้มีใครเข้ามาสำรวจมากนัก แถมยังได้วิ่งชมทิวทัศน์รอบเมือง ก่อนจะมาบรรจบเส้นชัยที่สนามกีฬากลางคิมอิลซุง ภาพบรรยากาศเมื่อปีที่ผ่านมา เห็นแบบนี้ได้รีบความสนใจจากทั่วโลกเลยนะ แล้วจะสมัครยังไง? อันที่จริงคุณไม่สามารถสมัครได้ด้วยตนเอง เพราะผู้เข้าร่วมทุกคนต้องลงทะเบียนผ่านเอเจนซี่ทัวร์ของทางเกาหลีเหนือ UriTours โดยการแข่งขันครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 รายการ ฟูลมาราธอน ฮาล์ฟมาราธอน และวิ่งระดับ 10 กิโลเมตร นอกจากชาวต่างชาติแล้ว ชาวเมืองเกาหลีเหนือก็เข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง!! เมื่อซื้อทัวร์นี้แล้วจะได้รับประสบการณ์อะไรบ้าง? หลังจากที่ลงทะเบียน และยืนยันตัวตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประสบการณ์ที่ผู้เข้าแข่งขันจากต่างชาติทุกคนจะได้บินกับสายการบิน ‘Air Koryo’ ได้เข้าไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเมืองเปียงยาง…
-
บาทหลวงในกาน่า อ้างว่าทำให้กระปู๋ใหญ่ขึ้นได้ เพียงแค่นวดด้วยมือศักดิ์สิทธิ์ของเค้า!!!
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นโฆษณาแบบชวนเชื่อตามอินเตอร์เน็ต หรือตลาดแผงลอยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นยาอกฟูรูฟิต ยาขยายขนาดเจ้าโลก หรือสารพัดยาครอบจักรวาลอีกมากมายที่สรรหาจะเอามาขายกัน แต่ตอนนี้ต้องบอกเลยว่า ยาที่ว่ามาทั้งหมดต้องชิดซ้าย แม้แต่น้ำมันจิ้งเหรนสุดโบราณของไทยที่เคลมว่าเอามานวดแล้วจะใหญ่โตมโหฬารก็ต้องชิดขวา เพราะจากการายยงานข่าวของสำนัก Metro ได้ระบุว่า บาทหลวงจากกาน่าคนนี้ เคลมว่าสามารถทำให้อวัยวะทุกอย่างใหญ่ขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นกระปู๋ หรือหน้าอกของสาวๆ เพียงแค่ใช้มืออันศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้ามอบมาให้ นวดคลึงมัน!! นั่นไงชัดเลย ขอแค่บาทหลวงนวดคลึงให้ แล้วท่านจะกลายเป็นเจ้าโลกทันที บาทหลวงผู้เป็นศูนย์รวมความเชื่อของชาวบ้านบางส่วนในประเทศกาน่าคนนี้ มีชื่อว่า ‘Daniel Obinim’ และจากภาพของวิดีโอที่มีคนแอบถ่ายออกมาได้ จะสังเกตุได้ว่าผู้เข้าร่วมพิธีเต็มไปด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ ที่พร้อมจะรอรับหัตถ์จากพระเจ้า นวดคลึงน้องชายของพวกเขา เพียงเพื่อหวังว่ามันจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น (จะเอาใหญ่ไปไหน?) ในประเทศกาน่า เขาถือว่าเป็นบาทหลวงที่ได้รับความนิยมอย่างสูง และมีศรัทธาชนคอยติดตามอยู่มากมายเลยล่ะ “ถ้าคุณไม่พอใจส่วนไหนของร่างกายให้มาหาหลวงพ่อ หลวงพ่อสามารถจัดการทำให้มันเป็นที่น่าพอใจได้ทั้งนั้น” คำกล่าวของเจ้าตัวที่พูดผ่านแชนแนลวิดีโอส่วนตัว อ้างอิงจาก Metro ซึ่งนอกจากจะรับขยายขนาดเจ้าโลกให้ผู้ชายแล้ว บาทหลวงคนนี้ยังรับขยายหน้าอกให้หญิงสาวอีกด้วย ประมาณว่าถ้าไม่พอใจส่วนไหนก็เอาไปให้เค้าจับ แล้วเดี๋ยวมันจะใหญ่ขึ้นด้วยพลังวิเศษนั่นแหละ ลองไปชมคลิปวิดีโอจากพิธีกรรมดังกล่าวกันดู… อ้างอิงจากสำนักข่าวในกาน่า เจ้าหน้าที่กล่าวว่าการกระทำดังกล่าว ถือว่าเป็นการมอมเมาผู้คนด้วยความเชื่อ และขัดต่อหลักกฏหมายของประเทศ ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวก็ถูกจับด้วยข้อหามากมายที่เผลอกระทำไปตอนเป็นบาทหลวงเรียบร้อยแล้วล่ะ!! ซึ่งในช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา…
-
หนุ่มรีบวิ่งออกจากรถ เพื่อช่วยลูกแมวจรจัดตัวน้อย เฉียดรถเหยียบไปเพียงแค่นิดเดียว!!
ในช่วงที่การจราจรของเมืองแห่งหนึ่งในประเทศรัสเซียกำลังวุ่นวาย มีลูกแมวจรจัดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ได้ปรากฏตัวอยู่ข้างถนน และขณะที่รถยนต์กำลังหยุดอยู่ตรงสัญญาไฟแดง เจ้าเหมียวตัวน้อยตัวนั้น ก็ได้ตัดสินใจที่จะข้ามถนนทันที แต่ทว่ายังไม่ทันไร สัญญาณไฟแดงได้เปลี่ยนเป็นไฟเขียว ทำให้รถยนต์ได้เริ่มเคลื่อนที่ไปทีละคันอย่างช้าๆ โดยในตอนนั้นเจ้าเหมียวได้เดินข้ามไปอยู่กลางถนนแล้ว และมันก็ได้หยุดอยู่ตรงรถยนต์คนหนึ่งที่กำลังจะเคลื่อนที่ ในที่สุดก็มีชายคนหนึ่งได้ตะโกนขึ้นมาว่า “หยุด” นั่นทำให้เจ้าแมวหยุดเดิน แต่รถยนต์คันดังกล่าวกลับเคลื่อนที่ออกไปซะแล้ว… โชคดีที่รถคันนั้นไม่ได้ทับร่างเจ้าเหมียว เพียงแต่บางรถเฉี่ยวที่ใบหน้าของมันเท่านั้น หลังจากนั้น ชายคนที่ตะโกน ก็ได้ออกจากรถของเขาพร้อมกับเข้าไปอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมา และถอนหายใจด้วยความโล่งอก…ตอนนี้เจ้าเหมียวไม่เป็นอะไรแล้ว มันคงอยากบอกชายคนนั้นว่า “ขอบคุณนะมนุษย์ที่ช่วยเราเอาไว้” ไม่นานก็มีรถยนต์คันสีขาวได้ขับมาจอดอยู่ ณ ที่เกิดเหตุ และปรากฏให้เห็นเป็นภาพของผู้หญิงรายหนึ่ง เธอได้ลงมาจากรถ พร้อมกับขอเสนอที่จะรับเจ้าเหมียวไปดูแล มันโชคดีมากเลยนะเนี่ย และนี่คือคลิปวีดีโอของเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ถูกนำไปโพสต์ลงในเว็บไซต์ YouTube ซึ่งก็ทำให้มีผู้คนเข้าไปรับชมกันอย่างมากมาย อีกทั้งยังมีชายคนหนึ่งที่ชื่อ Alexey Mikhailenko ได้เข้ามาแสดงความเห็นด้านล่างวีดีโอว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาของเขาเอง และในตอนนี้ลูกแมวน้อยก็อยู่ในความรู้แลของพวกเขา แถมยังได้ตั้งชื่อให้มันว่า Mail อีกด้วย หลังจากได้ดูคลิปก็ลุ้นมาตลอดเลยว่าเจ้าเหมียวจะรอดหรือเปล่า สุดท้ายมันก็มีคนมาช่วยไว้ทัน แถมยังโชคดีกว่าเดิมที่มีคนใจดีมารับไปเลี้ยง…
-
ชายเก็บขยะ ถูกแอบถ่ายพร้อมข้อความดูถูก ชาวเน็ตทนไม่ไหว พาเขาไปซื้อของที่หมายปอง!!
สำหรับคุณลุงพนักงานทำความสะอาดคนนี้ ก็ต้องบอกว่าโชคหล่นทับแล้วล่ะ… Nazer al-Islam Abdul Karim วัย 65 ปี คือพนักงานเก็บขยะชาวบังคลาเทศที่ไปทำงานอยู่ใน Riyadh ประเทศซาอุดิอาระเบีย เขาถูกถ่ายภาพได้ขณะที่เขากำลังมองไปยังเครื่องประดับแสนแพงอยู่ และมีชาวเน็ตนิสัยไม่ดีคนหนึ่งได้โพสต์ภาพนี้ ด้วยข้อความที่ว่า ‘ชายคนนี้ไม่สมควรมองไปที่เครื่องประดับสุดหรู เขาควรมองแค่ขยะก็พอ’ ภาพที่เขาถูกถ่ายไว้ เรื่องนี้ร้อนไปถึง Abdullah Al-Qahtani ซึ่งเป็นเจ้าของเพจ ‘Ensaneyat’ หรือกลุ่มสิทธิมนุษยชนในภาษาอาระบิก และเขาก็ได้แคปและแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไป มีผู้ร่วมแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นออกไปมากมาย จนมีการค้นหาตัวของเขา หลังจากพบตัวของเขาแล้วจึงทราบว่า Nazer al-Islam Abdul Karim เป็นพนักงานเก็บขยะ โดยเขาได้รับเงินเดือนในการทำความสะอาดราวๆ 187 เหรียญ หรือประมาณ 6,545 บาทเท่านั้น และเขาไม่ทราบเลยว่าเขาถูกถ่ายภาพนี้ไว้ และหลังจากพบตัวเขา ก็มีผู้เห็นใจส่งทั้งเงินและข้าวของมาให้เขามากมาย ทั้งถุงข้าว เงิน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง (ไอโฟน 7 กับซัมซุงกาแล็กซี่) และนั่นยังไม่รวมถึงเครื่องประดับที่เขาเคยไปมองที่ห้างแห่งนั้นด้วย!? ผู้คนแห่งส่งความช่วยเหลือไปถึงเขา ‘ผมทำงานเป็นพนักงานเก็บขยะให้กับทางเทศบาลของเมือง…
-
KFC ออกสินค้า “เทียนกลิ่นไก่ทอด” ส่งกลิ่นเย้ายวน ให้คุณโหยหาไก่ทอดตลอดเวลา!!
ถ้าพูดถึงร้านอาหารฟาสฟู้ดชื่อดังที่โดดเด่นเกี่ยวกับเรื่องไก่ทอด ก็คงหนีไม่พ้นของผู้พันแซนเดอร์อย่างร้าน KFC ได้เลย เพราะไก่ของเขานี่เรียกได้ว่าไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ยิ่งของบ้านเราหลายคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยกว่าต่างประเทศเสียอีก เคยมั้ยเวลาไปเดินห้างแล้วไม่รู้จะกินอะไรดี แต่พอเดินผ่าน KFC ทีไร ได้กลิ่นไก่ทอดที่ลอยออกมานอกร้าน เอาจิตใจของเราอ่อนไหวอย่างง่ายดายเลย เหมือนมีมนต์สะกดให้เดินเข้าไป แต่วันนี้ความหิวนั้นจะมาอยู่ที่บ้านของคุณแล้ว เมื่อเพจ KFC ของประเทศนิวซีแลนด์ได้ทำการโพสต์ผลิตภัณฑ์ใหม่ และมันก็คือ “เทียนไขกลิ่นไก่ทอด” ปกติแล้วเทียนหอมก็มักจะมีกลิ่นธรรมชาติอย่าง กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นน้ำผึ้ง อะไรทำนองนี้ แต่อันนี้จะฉีกแนวออกไปเยอะมากๆ เพราะบ้านของคุณจะเหมือนร้านไก่ทอด KFC ไปเลย แต่ทว่ายังไม่ได้ทำออกมาขายนะ โดยคนที่จะได้เทียนนี้ไปต้องไปคอมเมนต์ในเพจ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีคนโชคดีได้รับไปเรียบร้อยแล้ว “จะดีแค่ไหนค่ำคืนนี้ของคุณอบอุ่นไปด้วยเทียนกลิ่งไก่ของ KFC ถ้าอยากได้ก็เพียงแค่คอมเมนต์ว่าอยากเห็นสินค้าอะไรอีกจาก KFC” และนี่ก็คือผู้ชนะของเรา ก็หวังว่าจะมีเขียนกลิ่นไก่ทอดนี้วางขายหรือแจกที่ประเทศอื่นบ้างนะ เพราะว่ามันน่าลองสูดดมเหลือเกิน ที่มา distractify
-
คุณแม่ทำตุ๊กตาไปตั้งร้านขาย แต่ขายไม่ได้ซักตัว ลูกถ่ายรูปแชร์ไม่นานก็ขายหมดเกลี้ยง!!
Martyn Hett หนุ่มอังกฤษวัย 28 ปีจากเมือง Manchester และเขาควรที่จะได้เป็นลูกดีเด่นแห่งปีมากๆ เพราะช่วยให้คุณแม่ของตัวเองสามารถทำอาชีพการเย็บปักถักร้อยต่อไปได้ แม้ว่าคุณแม่จะเอาไปขายในงานที่จัดขึ้นเพื่อขายสิ้นค้าแฮนด์เมดไม่ได้เลยซักชิ้นเดียวก็ตาม… เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณแม่ของเขาได้ชิ้นงานเย็บปักถักร้อยที่ตัวเองได้ทำขึ้นไปขายที่งาน Craft Fair ที่จัดขึ้นสำหรับขายของแฮนด์เมด ด้วยความเป็นห่วงลูกชายก็เลยทักไปถามคุณแม่ว่าเป็นอย่างไรบ้างขายดีมั้ย? คุณแม่ก็ตอบกัลบมาว่ารู้สึกเศร้าเล็กน้อยเพราะไม่มีใครมาซื้อตุ๊กตายัดไส้ของเธอเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ด้วยความที่นาย Martyn นั้นรู้สึกเศร่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็เลยถ่ายรูปสินค้าของคุณแม่โพสต์ลงทวิตเตอร์ของตัวเอง พร้อมกับใส่แคปชั่นไปว่า “แม่ของผมไปตั้งร้านขายของที่งาน Craft Fair และส่งข้อความมาหาผมว่าเธอยังขายอะไรไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียวเลย มันทำให้หัวใจของผมแทบแตกสลาย” ซึ่งนอกจากนี้คุณแม่เองก็ได้มีหน้าร้านอยู่ที่เว็บไซต์ Depop อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าก่อนหน้านี้ก็ขายไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว แต่หลังจากที่เขาโพสต์รูปภาพลงบนทวิตไปได้ไม่นาน ก็มีคนทักเข้ามาเพื่อขอซื้อสินค้า และหนุ่ม Martyn ก็รีบทักไปหาแม่ของเขาทันที ว่าเพื่อนของเขาอยากจะได้สินค้าชิ้นนี้ และดูท่าทางคุณแม่ของเขาก็รีบตอบกลับไปอย่างตื่นเต้นว่า “เย้!!นี่เป็นการขายครั้งแรกของแม่เลยนะเนี่ย ช่วยบอกให้ลูกค้าผู้น่ารักรีวิวให้แม่หน่อยได้มั้ย? แล้วแม่จะไปส่งให้กับเขาอย่างไรได้บ้าง?” จากที่ขายไปได้ 1 ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 3 จาก 3 ก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 9 ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง…
-
พ่อแม่ชาวจีนใช้เวลากว่า 21 ปี เพื่อพิสูจน์ว่าลูกชายไม่ผิด พ้นการประหาร ในข้อหาฆ่าข่มขืน!!
ชายหนุ่มถูกตัดสินให้มีความผิดฐานข่มขืนแล้วฆ่า จนถูกตัดสินต้องโทษประหารชีวิตในวัยเพียง 21 ปี ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นคนทำ จนเวลาล่วงเลยผ่านมากว่า 21 ปี ศาลได้ตัดสินให้เขาพ้นความผิดและล้างมลทินให้กับเขาได้สำเร็จ Nie Shubin ทำงานอยู่ในในเมือง Shijiazhuang ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑล Hebei ประเทศจีน เขาถูกประหารชีวิตไปเมื่อปี 1995 จากการถูกกล่าวหาว่าข่มขืนแล้วฆ่าหญิงสาวคนหนึ่งเมื่อปีก่อนหน้านั้น เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาศาลสัญจรชั้นสอง (Second Circuit Court) ที่เป็นหนึ่งในสาขาของศาลประชาชนสูงสุด (Supreme People’s Court) ได้ออกมาประกาศเปลี่ยนคำตัดสิน และสาเหตุที่คดีถูกรื้อขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเพราะในปี 2005 ได้มีการจับตัวผู้ต้องหาอีกคนที่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการฆ่าข่มขืนผู้หญิงจากคดีของ Nie ซึ่งก็คือนาย Wang Shujin จนมาในปี 2013 นาย Wang ได้ออกมาสารภาพว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีของ Nie แต่อย่างใด นั่นทำให้ทางเจ้าหน้าที่ได้รื้อคดีขึ้นมาทำการสอบสวนอีกครั้งหนึ่งซึ่งใช้เวลากว่า 1 ปีเต็มๆ เลยทีเดียว จนมาถึงเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2015 ศาลสูงสุดได้ทำการตรวจสอบเอกสาร และระบบการทำงานของศาลสัญจรชั้นสองอีกกครั้ง……
-
นักวิจัยพบ “สาหร่ายรสเบคอน” ถึงจะดูแปลก แต่มีคุณค่ามากกว่าคะน้าถึง 2 เท่า!!
ถ้าลองเอาผ้าปิดตา แล้วชิมรสชาติของเจ้าสาหร่ายพันธุ์สีแดงสุดแปลกนี้ หลายคนอาจจะคิดว่านี่มันเบคอนแน่นอน แต่ถ้าหากเปิดผ้าออกมาแล้ว กลับพบว่า อ้าว!! นี่มันไม่ใช่เบคอน แต่เป็นสาหร่ายนี่หว่า เชื่อว่าคุณจะต้องรู้สึกสับสน และมีความกังวลว่าต่อมรับรสมันต้องผิดเพี้ยนไปแน่ๆ แต่นั่นแหละถูกแล้ว ต่อมรับรสของคุณยังปกติดี เพียงแต่เจ้าสาหร่ายที่เห็นนี้กลับแปลกยิ่งกว่า เพราะแทนที่มันจะมีรสชาติเหมือนสาหร่ายทั่วๆ ไป แต่กลับให้รสชาติคล้ายกับเบคอนซะอย่างนั้น เอ้อ…แบบนี้ก็มีด้วย สำหรับสาหร่ายพันธุ์สีแดงนี้ถูกเรียกว่า Dulse ค้นพบโดยกลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Oregon State มันเป็นสาหร่ายพันธุ์ใหม่ที่มีรูปร่างโปร่งแสง มีหน้าตาคล้ายผักกาดหอม แถมยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ และโปรตีนมากมาย อีกทั้งยังสามารถเจริญเติบโตไว้รวดเร็วมากๆ อีกด้วย Chuck Toombs หนึ่งในทีมงานนักวิจัยได้กล่าวว่า “Dulse เป็นสุดยอดอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าผักคะน้าถึง 2 เท่า อีกทั้งมันก็จะได้กลายเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารใน Oregon” ทางด้าน Chris Langdon หัวหน้านักวิจัยได้เผยว่า “นี่มันเป็นสาหร่ายที่มหัศจรรย์มาก เมื่อคุณได้ลองนำไปทอด มันจะให้รสสัมผัสที่เหมือนกับเบคอนเป๊ะๆ โดยที่ไม่เหมือนสาหร่ายเลยสักนิดเดียว” ด้วยเหตุนี้ ทางทีมนักวิจัยพร้อมผู้เชี่ยวชาญ จึงได้จดสิทธิบัตรการค้นพบสาหร่ายสายพันธุ์ใหม่นี้ขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้คาดว่าในอนาคต เจ้าสาหร่ายสุดแปลกนี้อาจถูกนำไปปรุงอาหาร…
-
สบายใจหายห่วง… EIU จัดอันดับ 15 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในโลกประจำปี 2016
ในการตัดสินใจที่จะลงหลักปักฐานในสถานที่ใดๆ นั้น ความปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญเช่นกัน… จากการอ้างอิงข้อมูลจากทาง Economist Intelligence Unit นี่คือ 15 เมืองที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดของโลก โดยการจัดอันดับจะอ้างอิงจาก 40 ตัวชี้วัด โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลักๆ ได้แก่ ด้านความปลอดภัยทางด้านไอที สุขภาพอนามัย ความปลอดภัยทางด้านโครงสร้างภายใน และความปลอดภัยส่วนบุคคล และคราวนี้น่าสนใจจริงๆ ที่มีเมืองในเอเชียติดเข้ามาหลายอันดับเลยล่ะ ลองมาดูกันเลยว่าจะมีเมืองไหนกันบ้าง!! อันดับ 15. Barcelona 75.16 คะแนน รายงานระบุว่าอาชญากรรมของเมืองลดลงกว่า 32% เลยทีเดียว หลังจากเมื่อ 3 ปีก่อนทางสภาของเมืองได้เริ่มนโยบายจัดวางเวรยามตำรวจตามท้องถนนมากขึ้น นั่นทำให้ติดอันดับเข้ามาในปีนี้ อันดับ 14. Montreal 75.6 คะแนน นอกจากเป็นเมืองที่ปลอดภัยแล้ว บรรยากาศในการทำธุรกิจที่เมืองแห่งนี้ก็ยังอยู่อันดับต้นๆ ของโลก และในส่วนคะแนนคุณภาพของอาหารที่ชาวเมืองได้รับประทานกันก็ยังเป็นอันดับต้นๆ ด้วยเช่นกัน อันดับ 13. Taipei 76.51 คะแนน ในด้านความปลอดภัยโดยรวมแล้วอาจจะเข้ามาในอันดับที่ 13 แต่หากแยกดูตามหัวข้อแล้ว ความปลอดภัยทางด้านข้อมูลส่วนตัวเมืองไทเป ได้เป็นอันดับที่ 4 ของโลกเลยล่ะ อันดับ 12. San Francisco 76.63 คะแนน…
-
เกมสร้างเมือง!? ชวนเที่ยวญี่ปุ่นแบบ 3 มิติ ผ่าน Google Earth สวยสมจริง ฟินไปอีกแบบ
เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเห็นกระทู้พันทิปกระทู้หนึ่งของคุณ Real~Fine เข้า โดยในกระทู้เป็นการนำเอาภาพ 3 มิติจาก Google Earth มาให้เราได้ชมกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว Google Earth จะแสดงผลโดยการดึงเอาภาพถ่ายจากดาวเทียมมาหให้เราดู ภาพที่ได้ก็จะแบนๆ ไม่มีมิติอะไร แต่ในระยะหลังๆ มานี้ Google ได้พัฒนาระบบ 3 มิติของบ้านเรือน อาคาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้ดูเป็นรูปทรงโดดเด่นออกมาจากพื้นดินมากขึ้น ประหนึ่งว่าคุณกำลังเล่นเกม PS1 ยังไงยังงั้นเลย ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะเชิญชวนเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วย Google Earth 3D ตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ หลายแห่ง ลองมาดูกันว่าระบบ 3 มิติที่ว่านี้จะทำให้คุณเหมือนไปอยู่ตรงนั้นได้จริงๆ หรือเปล่า? 1. พระราชวังอิมพีเรียล ภาพสถานที่จริง 2. โตเกียวทาวเวอร์ สถานที่จริง 3. ภูเขาไฟฟูจิ …
-
ชาวเน็ตชื่นชมห้างสรรพสินค้า หลังรับ ‘ทหารผ่านศึกพิการ & หมาของเขา’ เข้าเป็นพนักงานประจำ…
ในสนามรบ เหล่าทหารก็มักจะได้รับบาดเจ็บเพราะถือเป็นอาชีพที่มีความเสียงอย่างมาก และบางคนก็ไม่ได้โชคดีเสมอไป จนต้องสูญเสียอวัยวะและพิการ… เหล่าทหารผ่านศึกไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็มักจะประสบปัญหาเรื่องสภาพชีวิตหลังสงครามเสมอๆ แต่ล่าสุดเรื่องราวน่ารักๆ ก็เกิดขึ้นในร้านค้า Lowe’s ที่ตั้งอยู่ใน Abilene รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากลูกค้าของทางร้าน Judy Rose ได้ถ่ายภาพของพนักงานของร้านค้าที่เธอไปจับจ่ายซื้อของ เป็นภาพของทหารผ่านศึก และสุนัขของเขา ที่ทางร้านจ้างทั้งคู่เพื่อมาทำงานด้วย ภาพจากโพสต์ของ Judy Rose ‘I love Abilene Lowes, way to go! This is a disabled vet who struggled to get a job because he needs his service dog! Lowes hired them BOTH!!’ โพสต์ของเธอ ‘ฉันรักร้าน Lowes มากๆ นี่คือภาพของทหารผ่านศึกพิการที่หางานทำได้ยากเพราะว่าเขาต้องมีสุนัขคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด ทางร้านเลยจ้างพวกเขาทั้งสองรวดเดียวเลย’…
-
เทรนด์เซลฟี่ใหม่ Grey Sweat Pants Challenge แข่งโชว์ “ของ” ในกางเกงเป้าตุง ใครฮากว่าชนะ
ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ในสหรัฐมีเทรนด์การถ่ายภาพหรือกิจกรรมแปลกๆ ผุดขึ้นมาได้ไม่เว้นแต่ละวัน เช่น Mannequin Challenge ที่เป็นการถ่ายคลิปของสิ่งต่างๆ รอบตัวที่หยุดนิ่งเหมือนการหยุดเวลา หรือเทรนด์ล่าสุดอย่างเทรนด์โยนกระเป๋าใส่เพื่อนที่ดังเฉพาะในอเมริกา แต่เทรนด์เหล่านั้นก็แค่ “เจ๋ง” เท่านั้น ต่างจากเทรนด์ที่#เหมียวฟิ้นจะมานำเสนอในวันนี้ นี่คือเทรนด์ใหม่ที่ทั้งสร้างสรรค์และฮาในเวลาเดียวกัน มันคือ Grey Sweat Pants Challenge การท้าทายที่ว่านี้ก็ง่ายมากๆ เพียงแค่หนุ่มๆ ใส่กางเกงออกกำลังกายหรือกางเกงจ๊อกเกอร์สีเทา แล้วโชว์ “ของ” ในกางเกง แต่อย่าเพิ่งคิดทะลึ่งไป เพราะ “ของ” ที่ว่านี้จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะ งั้นลองไปชมตัวอย่างกัน อ่าห้า!! ระวังมันกัดนะ… เอ่อ ทำไมทรงมันแปลกๆ ล่ะ …สงสารโรเบิร์ต ระวังมันบาดนะวัยรุ่น เล่นใหญ่เล่นโตมาก … …
-
นาวิกโยธินเล่าประสบการณ์ ลักลอบนำ ‘สุนัข’ ที่เจอในสนามรบกลับบ้าน ทั้งน่ารักและตื่นเต้น
สนามรบอาจจะเป็นสถานที่ที่ทำให้ชีวิตของใครหลายๆ คนต้องจบลงที่นั่น แต่บางครั้งมันก็ก่อเกิดเป็นมิตรภาพดีๆ ที่คุณคิดไม่ถึงเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของนาย Craig Grossi นาวิกโยธินของสหรัฐที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจในเมืองเฮลมานด์ ประเทศอัฟกานิสถาน ครั้งหนึ่งระหว่างประจำการ ในช่วงกลางคืนของเดือนตุลาคมปี 2009 ด้วยเฮลิคอปเตอร์ และรุ่งเช้ามาพวกเขากลับถูกกลุ่มตาลีบันเข้าโจมตี เมื่อการต่อสู้เริ่มซาลง นาย Grossi ก็สังเกตเห็นว่าในบริเวณนั้นมีสุนัขอยู่ตัวหนึ่งนอนอยู่ ซึ่งไม่ได้เรื่องปกติของที่นั่น เพราะสุนัขส่วนใหญ่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มและแสดงท่าทางดุร้ายใส่ผู้คน แต่กับเจ้าตัวนี้ดูจะนิ่งสงบมากกว่า เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าเจ้าสุนัขตัวนี้อาศัยหลบนอนอยู่ตามพุ่มไม้และคุ้ยเขี่ยหาอาหารเล็กๆ น้อยๆ กิน ไร้เจ้านาย เนื้อตัวสกปรกเต็มไปด้วยเห็บหมัด แต่ถึงจะรู้สึกสงสารมันอย่างไรก็ตาม ในหน่วยของเขามีกฎอยู่ว่าห้ามเข้าใกล้สุนัข แต่ใช่ว่านาย Grossi จะปฏิบัติตามกฎเสมอไป เพราะเขาได้หยิบเอาขนมหมาติดมือไปยื่นให้กับมัน พอมันเห็นก็แกว่งหางไปมาและเข้ามาหาเขาอย่างเป็นมิตร นาวิกโยธินหนุ่มมองเห็นความน่ารักสดใสในสุนัขตัวนี้ จึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าในเมื่อมันน่ารักขนาดนี้แต่ทำไมถึงไม่มีใครสนใจดูแลมันเลยแม้แต่คนเดียว? “ผมเกาที่หลังหูของมัน และผมไม่อยากจะเชื่อเลย” นาย Grossi เล่าถึงช่วงเวลาที่ทำให้เขาตกหลุมรักมัน เขาเลยตั้งชื่อเล่นให้มันว่า Fred ที่คล้ายกับคำว่า Friend (เพื่อน) ทหารหนุ่มเล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาการทำสงครามว่า กลุ่มตาลีบันจะใช้ชาวบ้านเป็นโล่ เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ถูกทหารอเมริกันโจมตีโดยตรง ทำให้กลุ่มนาวิกโยธินต้องหลีกเลี่ยงการโจมตีใส่ชาวบ้าน ตกกลางคืนกลุ่มทหารก็จะออกสำรวจตามบ้านเรือนเพื่อดูว่าสงบเรียบร้อยดีหรือไม่ เมื่อเจ้า Fred เห็นว่านาย Grossi ออกไปในเดินตามหมู่บ้าน มันก็จะรีบเดินตามเขามาทันที …
-
Jesse Heiman สุดยอดตัวประกอบที่เก่งที่สุดในโลก ถึงจะไม่รู้จักชื่อ แต่ก็ต้องคุ้นหน้าเขาบ้างล่ะ!!
เส้นทางของเหล่าดาราดังหลายๆ คนนั้น ก็ล้วนแล้วแต่ไต่เต้ามาจากการเป็นตัวประกอบมาก่อน แต่สำหรับบางคนก็ค้นพบตัวของตัวเองในฐานะตัวประกอบนี่แหละ!! ชื่อของเขาคือ Jesse Heiman สุดยอดตัวประกอบระดับโลกที่มีชื่อในเครดิตของ IMDb มากกว่า 90 เรื่องเข้าไปแล้ว (และนี่ยังไม่รวมมิวสิควิดีโอ หรือโฆษณาอีกมากมายเลยนะ) และหลายๆ คน ขนานนามเขาว่า ‘ตัวประกอบที่เก่งที่สุดในโลก’ ไปเป็นที่เรียบร้อย!! Jesse Heiman อย่างน้อยๆ ก็ต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างแหละ เขาเกิดในเมือง Boston ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 23 พฤษภาคม 1978 ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ Los Angeles จบการศึกษาที่ Texas State University ในสาขาวิชาด้านภาษาอังกฤษ เขาเริ่มงานแสดงในปี 2000 ด้วยการเริ่มเป็นตัวประกอบในฉากต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ ทีวีโชว์ โฆษณา และมิวสิควิดีโออยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะได้รับบทใหญ่จริงๆ ในเรื่อง American Pie 2 ด้วยการที่เขาเป็นขาประจำของทั้งทีวีโชว์ ภาพยนตร์ โฆษณา และมิวสิควิดีโออีกมากมาย ว่าแล้วเราลองมาดูผลงานของเขากันสักหน่อย… …
-
ชมชีวิตนักปีนเขาแห่ง El Capitan ต้องตั้งแคมป์ริมหน้าผาสูงกว่า 900 เมตร เพื่อไปให้ถึงยอด!!
ถ้าเพื่อนๆ คือหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมแบบสูงๆ เช่นปีนเขาล่ะก็ นี่อาจเป็นการตั้งแคมป์ในฝันของเพื่อนๆ กันเลยล่ะ!! ว่าแล้วก็มาพบกับ Cliff hanger นี่ไม่ใช่ชื่อคน แต่เป็นชื่อเรียกกิจกรรมการไปตั้งแคมป์กันตรงหน้าผาของภูเขา El Capitan ในอุทยานแห่งชาติ Yosemite National Park ที่ตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนียร์ ประเทศสหรัฐฯ แน่นอนว่าการปีนเขากว่า 900 เมตรนั้นไม่ใช่กิจกรรมที่จะทำภายในวันเดียวได้ จึงต้องมีการตั้งแคมป์พักผ่อนเพื่อเอาแรงกันซะหน่อย และนี่คือการตั้งแคมป์แบบเดียวที่สามารถทำได้ในสถานที่แห่งนี้!! ตั้งแขวนอยู่บนหน้าผา เหนือพื้นดินที่อยู่ต่ำลงไปกว่า 900 เมตร ภาพถ่ายชุดนี้เป็นของ Alexandre Eggermont ช่างถ่ายภาพชาวเบลเยี่ยม และเพื่อนอีกสองคนของเขา Morgane Choquet และ Samuel Cobby การปีนให้ถึงยอดที่มีความสูงกว่า 1,100 เมตรจากท้องทะเลนั้น ต้องใช้ระยะเวลา 2-3 วันเลยทีเดียว แต่ก็ต้องมีข้อระวังก็คือ เต้นท์นี้อาจจะปกป้องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย แต่ไม่ได้ปกป้องจากก้อนหินที่อาจจะร่วงลงมา อีกหนึ่งคำเตือนขำๆ ของเหล่า Cliff hanger ที่มักนำมาเล่นมุกกันก็คือ กิจกรรมนี้ห้ามไม่ให้ผู้ที่ ‘นอนละเมอ’…
-
ทรงพระแฮนด์ซั่มมาก!! จัดอันดับ 10 เจ้าชายจากหลายประเทศที่ “หน้าตาดีที่สุดในโลก”
ในซีรี่ส์เกาหลีหลายๆ เรื่องมักจะมีการนำเอาเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าชายมาผสมผสานลงไป เพื่อช่วยเติมเต็มความฝันให้กับสาวๆ ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะมีเจ้าชายหนุ่มรูปงานมาตกหลุมรักพวกเธอ แต่นั่นก็เป็นเพียงเรื่องสมมติในละครล่ะนะ เจ้าชายเหล่านั้นไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงๆ แต่ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปรู้จักกับเจ้าชายที่มีตัวตนอยู่จริงๆ และได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ Ranker.com ว่าเป็น 10 เจ้าชายรูปงามที่สุดในโลก จะมีใครที่ทำให้สาวๆ สามัญชนอย่างเรารู้สึกคลั่งไคล้ได้บ้าง ลองไปชมกันเลยพะยะค่ะ 10. เจ้าชายอันเดรีย อัลแบร์ ปิแยร์ กาสิรากี แห่งโมนาโก 9. เจ้าชายปิแยร์ กาสิรากี แห่งโมนาโก 8. เจ้าชายแฮร์รีแห่งเวลส์ 7. เจ้าชายลอเรนโซ่ บอเกซ แห่งอิตาลี 6. สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลีเปที่ 6 แห่งสเปน 5. เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ 4. เจ้าชายเฟลิกซ์ แห่งลักเซมเบิร์ก 3. เจ้าชายอะเมเดโอแห่งเบลเยียม อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-เอสเต 2. ฮัมเดน บิน มูฮัมหมัด อัล มักทูม แห่งดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1. เจ้าชายคาร์ล ฟิลิป…
-
ลูกชายเป็นเกย์ รักการแต่งหน้า คุณพ่อเลยยอมมาแต่งหน้าด้วย เพื่อให้สังคมยอมรับในตัวเขา…
ในสมัยก่อน รวมถึงปัจจุบัน น้อยครอบครัวนักที่จะเปิดใจยอมรับในเรื่องเพศที่ 3 บางครอบครับที่รู้ว่าลูกตัวเองเป็นเกย์ หรือเป็นกระเทย ก็ถึงขั้นตัดความสัมพันธ์กันเลยทีเดียว ในขณะที่บางครอบครัวก็เปิดใจรับฟังเหตุผลของลูกมากขึ้น นี่คือ Spencer Claus เด็กหนุ่มวัย 16 ปี จากสกอตส์เดล รัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา ผู้ที่ชื่นชอบการแต่งหน้า และหลงใหลในละครเพลงเป็นอย่างมาก เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ชายที่นิยมชมชอบเพศเดียวกัน แ ต่ถึงกระนั้น ครอบครัวของเขากลับเข้าใจ และยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น ในวันแม่ที่ผ่านมา แม่ของ Spencer ได้ถ่ายภาพเลียนแบบลูกชายของตัวเอง ซึ่งเธอเป็นแม่ที่เข้าใจลูกเป็นอย่างมาก แถมยังยอมรับในตัวตนของ Spencer และรักในสิ่งที่เขาทำเช่นกัน และที่โชคดีมากกว่านั้น คุณพ่อของ Spencer ผู้มีอาชีพเป็นทนายความ ก็ยอมรับ และเข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ ตั้งใจที่จะมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับลูกชายในวันพ่อ โดยเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนกับลูกยังไงละ คุณพ่อยอมเปลี่ยนตัวเองโดยไม่แคร์ว่าใครจะมองเขายังไง Spencer ยังได้กล่าวว่า เขาและพ่อนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น และดูรายการโทรทัศน์ร่วมกัน มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก หลังจากนั้น Spencer…
-
สาววัย 23 ทำบัตรประชาชนหายไปเป็นปี วันหนึ่งมันถูกส่งคืนมาพร้อม “จดหมายขอบคุณ” สุดฮา
ใครเคยทำบัตรประชาชนหายบ้าง? เชื่อว่าหลายคนต้องเคยทำหายบ้างละ แต่จะว่าไปคิดแล้วก็เซงเหมือนกันนะ เพราะไหนจะต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะมากมาย ไหนจะต้องไปทำใหม่อีก เฮ้อ…เสียเวลาจริงๆ แต่สำหรับ Christina Egan สาววัย 23 ที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ เธอกลับไม่ได้รู้สึกเซ็งอะไรเลยที่ทำบัตรหล่นหาย เพราะเธอได้บอกว่า ในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปีผ่านมา เธอทำบัตรประชาชนหายมาแล้วถึง 3 ครั้งด้วยกัน…แหม!! คิดว่าเธอคงจะชินกับการทำบัตรหายซะแล้วละ!! “ฉันชอบออกไปข้างนอก โดยพกแค่บัตรประชาชนของฉัน บัตรเดบิต รวมถึงลิปกลอส แล้วเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ โดยที่ไม่มีกระเป๋าสตางค์ใส่ มันเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีเอาซะเลย” Christina กล่าว ย้อนเวลากลับไปเมื่อปีที่แล้ว มีครั้งหนึ่งที่เธอทำบัตรประชาชนหล่นหาย ขณะที่กำลังเที่ยวในบาร์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก แต่แทนที่เธอจะรีบหามัน Christina กลับไม่คิดอะไร พร้อมรีบไปทำบัตรอันใหม่ขึ้นมาแทน Christina สาวที่ทำบัตรประชาชนหายอยู่บ่อยครั้ง ได้ลืมเรื่องราวที่เคยทำบัตรหายในบาร์ไปเสียสนิท กระทั่งวันหนึ่งเธอได้รับจดหมายลึกลับส่งมายังบ้านของเธอ ซึ่งเธอก็ได้เปิดดูมัน และพบว่านี่เป็นจดหมายขอบคุณ ภายในจดหมายที่ส่งมา มีบัตร ID Card ของเธอที่เคยทำหายไป พร้อมกับกระดาษจดหมายที่เขียนข้อความฮาๆ แนบมาด้วย และนั่นทำให้เธอเห็นได้ชัดเลยว่ามีคนพบบัตรของเธอ…
-
ภาพถ่ายวิถีชีวิต แสดงถึงความไม่เท่าเทียมกันของ ‘คนรวย vs คนจน’ ในเม็กซิโกซิตี้
เม็กซิโกซิตี้ คือเมืองหลวงขนาดใหญ่ของประเทศเม็กซิโก ที่มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 21 ล้านคน และแน่นอนว่าเมื่อเป็นเมืองหลวงของประเทศแล้ว ภาพที่เราเห็นก็จะต้องมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนที่อาศัยอยู่เมืองแห่งนี้ส่วนใหญ่จะต้องมีฐานะที่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้ว เม็กซิโก ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีทั้งคนรวย และคนจน เหมือนกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเช่นกัน และในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคนมาดูภาพความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของรวย และจนในประเทศเม็กซิโก ว่าจะแตกต่างกันขนาดใน โดยภาพทั้งหมดถูกบันทึกเอาไว้โดย Johnny Miller ช่างภาพที่ได้ออกถ่ายภาพวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของคนเม็กซิโก ระหว่างเศรษฐี และคนยากจน โดยใช้โดรนในการบันทึกภาพในครั้งนี้ และได้นำมาเผยแพร่ผ่านโครงการ Unequal Scenes (เนื้อหาต่อไปนี้ เป็นข้อความที่ช่างภาพผู้เข้าไปถ่ายทำได้ระบุออกมา ขอใช้คำพูดของเขาเพื่อไม่ให้มีการผิดเพี้ยนไป) เม็กซิโกซิตี้ ตั้งอยู่ในหุบเขาเม็กซิโกบริเวณกึ่งกลางประเทศ เป็นเมืองที่คึกคัก และสวยงาม มาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิแอซเท็ก เป็นเมืองโบราณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ถึงกระนั้นเม็กซิโกซิตี้ ก็ไม่ได้เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรื่องไปทั่วทุกแห่งเหมือนกับสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีความเลื่อมล้ำในด้านสังคม และเศรษฐกิจ ที่ไม่เท่าเทียมกันมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ในหมู่คนรวยจะมีอำนาจในทางเศรษฐกิจ และการเมืองเป็นอย่างมาก โดยในความเป็นจริงแล้วมีประชากรเพียงแค่ 1% เท่านั้นที่มีรายได้ถึง 21% ของรายได้ทั้งหมดของประเทศ …
-
PewdiePie บ่นประชดยูทููป กำลังฆ่าชานแนลเขาอย่างช้าๆ และถ้าครบ 50 ล้านซับ คงได้ลบเริ่มใหม่!!
ในปัจจุบันนั้นก็ถือว่า Youtube สามารถเป็นแหล่งทำเงินได้เช่นกัน โดยเฉพาะเหล่ายูทูปเบอร์หลายๆ คน ที่สามารถทำเงินได้เป้นกอบเป็นกำในแต่ละปี ด้วยความโด่งดังของพวกเขาที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รายรับก็ได้เพิ่มมากขึ้นตาม ทั้งเหล่านักเล่นเกมเกม บิวตี้บล็อคเกอร์ หรือแม้แต่คนที่ทำอะไรฮาๆ แล้วถ่ายคลิปลงใน Youtube รายได้ของพวกเขานั้นถ้าไปถึงจุดๆ หนึ่งแล้ว ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยล่ะ!! และถ้าพูดถึงยูทูปเบอร์ที่ทำเงินได้มากที่สุดในโลกก็คงไม่พ้นพ่อหนุ่มคนนี้!! PewDiePie หรือ Felix Kjellberg ยูทูปเบอร์ชาวสวีเดนที่มีผู้ติดตามชาแนลของเขากว่า 49,625,672 คนเข้าไปแล้ว ด้วยการเล่นเกมที่ฮาและบ้าๆ บอๆ ของเขา เลยทำให้เขามีผู้ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ และเขาออกมาสัญญาในคลิปนี้ว่า ถ้าผู้ติดตามเขาถึง 50 ล้านคนเมื่อไหร่ เขาจะลบชาแนลของเขา!! ในคลิปเขาก็ได้ออกมาบ่นในเรื่องเกี่ยวกับการบริหารงานของทาง Youtube ที่ราวกับว่าค่อยๆ กดดันให้เขาปิดชาแนลของเขาลง โดยเฉพาะการปรับอัลกอริธึ่มใหม่ที่ทำให้คนเห็นคลิปของเขาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด และถึงแม้ยังยังกดติดตามชาแนลของเขาอยู่ แต่กลับเห็นวิดีโอที่ตัวเองไม่ได้กดติดตาม เข้ามาในโซนของ Recommended แทน ทั้งคลิปวิดีโอคลิกเบท และได้รับการสนับสนุนต่างๆ ทำให้ยอดเข้าชมของแต่ละคลิปของเขาน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ขนาดบ่นนะยังออกมาได้ฮาขนาดนี้เลย เอิ๊กๆๆ สำหรับใครที่อยากดูนอกเหนือจากที่ #จ่าสิบเหมียว สรุปมา เข้าไปชมวิดีโอที่เขาบ่นแบบเต็มๆ กันได้ที่นี่…
-
ฝรั่งเศส เริ่มนโยบายเก็บ DNA สุนัขลงฐานข้อมูล ถ้าหากอึเรี่ยราด เจ้าของโดนใบสั่งทันที!!
จะว่าไปแล้วนี่อาจเป็นทางออกเดียวเกี่ยวกับเรื่องการปล่อยสุนัขให้อึเรี่ยราดก็เป็นได้ ถึงแม้อึของพวกมันจะสามารถย่อยสลายไปตามธรรมชาติได้ แต่ก็คงเป็นภาพที่ไม่งามตาสักนิดเลยใช่มั้ยล่ะ… แต่เหล่าสุนัขที่เมือง Beziers ที่อยูทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสนั้น จะถูกจับตัวทันที และสาวตัวไปยังเจ้าของหากมาอุเรี่ยราดในพื้นที่สาธารณะ!? Robert Menard นายกเทศมนตรีของเมืองได้ทำการเก็บข้อมูลดีเอ็นเอของสุนัขภายในเมืองทุกๆ ตัวไว้ และส่งใบสั่งไปยังเจ้าของสุนัขทันทีถ้าตรวจเจอดีเอ็นเอนั้นตรงกับในอึตามพื้นที่สาธารณะ และหากใครปล่อยหมาอึเรี่ยราด จะมีใบสั่งมูลค่าราวๆ 32 ปอนด์ หรือประมาณ 1,400 บาท ส่งไปถึงบ้านทันที!! ‘ตอนนี้นโยบายนี้เป็นที่ถูกใจของเหล่าชาวเมืองเป็นอย่างมาก เพราะว่าทำให้บ้านเมืองสะอาดขึ้น และยังเป็นการช่วยทางเมืองประหยัดเงินค่าทำความสะอาดไปในตัวอีกด้วย’ Menard กล่าว แต่ในส่วนของความผิดนั้น ทางศาลจะไม่ถือว่าเจ้าของสุนัขขที่ไปอึไว้เรี่ยราดนั้นจะเป็นอาชญากร หรือเป็นผู้ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด กล่าวคือพวกเขามีความผิดที่ละเลยการทำหน้าที่ต่อสังคม โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยเพียงเท่านั้น คล้ายๆ กับการทำผิดกฎจราจรนั่นเอง Robert Menard นายกเทศมนตรีของเมือง สำหรับปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสุนัขอึเรี่ยราดนั้นก็เป็นปัญหาของเมืองในประเทศฝรั่งเศสหลายๆ เมืองเลยทีเดียว โดยเฉพาะการที่เจ้าของนำสุนัขมาเดินเล่นนอกบ้าน และปล่อยให้มันอึเรี่ยราดลงบนทางเท้าและไม่ทำความสะอาด ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีเลยนะเนี่ย แต่ปัญหาก็ติดอยู่ตรงที่บางครั้งเจ้าของสุนัขไม่ยอมให้ความร่วมมือในการส่งมอบ DNA ของสุนัขพวกเขาไปให้กับฐานข้อมูล และอีกหนึ่งปัจจัยก็คือเหล่าสุนัขเร่ร่อนในละแวก ซึ่งก็ต้องมีแนวทางปรับปรุงแก้ปัญหา เพื่อให้กฎหมายนี้บังคับใช้ได้อย่างทั่วถึงเต็มที่ในอนาคต แต่ก็สามารถเห็นได้ชัดว่าสามารถแก้ปัญหาไปได้ในส่วนใหญ่ ถ้าความรับผิดชอบต่อสังคมไม่มี ก็ต้องมีกฎและบทลงโทษแบบนี้แหละออกมาล่ะ คงจะมีหลายคนอยากให้เอามาใช้กับบ้านเราบ้างสินะ!? …
-
มหาลัย Oxford ถูกศิษย์เก่าฟ้อง 50 ล้าน เพราะทำเขาพลาดเกียรตินิยมอันดับ 1 จนเสียโอกาสในชีวิต!?
ถ้าพูดถึงเรื่องการศึกษาแล้ว มหาวิทยาลัยดังแห่งประเทศอังกฤษอย่าง Oxford ก็มักจะติดอันดับต้นๆ ของโลกเสมอ แต่ล่าสุดพวกเขาก็ต้องเจอกับปัญหาแล้วล่ะ เมื่อนักศึกษาเก่าของพวกเขา ทำการฟ้องมหาวิทยาลัยเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 1 ล้านปอนด์ หรือราวๆ เกือบ 50 ล้านบาทด้วยกัน!! เรื่องที่เขายื่นฟ้องต่อศาลนั่นก็เพราะว่า ‘การสอน’ ที่น่าเบื่อและไม่ดึงดูดของมหาวิทยาลัย ทำให้เขาพลาดได้รับคะแนนเกียรตินิยม ซึ่งทำให้เขาพลาดโอกาสได้งานดีๆ และประสบความสำเร็จในชีวิต ฟ้องมหาวิทยาลัย Oxford Faiz Siddiqui ผู้ที่เคยเป็นนักศึกษาสาขาวิชาทางด้านประวัติศาสตร์สมัยใหม่ ของมหาวิทยาลัยนี้ เชื่อว่าเขาจะได้รับหน้าที่การงานที่ดีกว่านี้ เป็นทนายด้านธุรกิจระดับนานาชาติ แต่ความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อเขาได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 แทนที่จะเป็นอันดับ 1 จากทางมหาวิทยาลัยเมื่อ 16 ปีก่อนตอนที่เขาเรียนจบ Siddiqui ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Sunday Times ว่า ‘ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นั้นมาตลอด และความเสียหายต่อทั้งจิตใจและรายรับที่ผ่านมาทั้งหมดนั้น ประเมิณค่าได้ราวๆ 1 ล้านปอนด์’ และถ้าเคสนี้เขาเกิดชนะขึ้นมาล่ะก็ จะมีคำฟ้องร้องในกรณีเดียวกันมาอีกมากมายเลยทีเดียว ทั้งการสอนที่ไม่เพียงพอ สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงดุลยพินิจของอาจารย์ผู้สอนในการให้คะแนน ซึ่งเบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยก็ได้ออกมายอมรับว่าในปีที่ Siddiqui…
-
15 สิ่งชิคๆ คูลๆ เจ๋งๆ ที่คุณจะได้พบเห็น หากได้ไปเที่ยวที่ “ประเทศญี่ปุ่น” สักครั้ง…
หากใครที่ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น คุณได้จะเห็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ร้านค้าสะดวกซื้อ รวมไปถึงห้องน้ำ ยังมีสิ่งแปลกๆ ล้ำๆ ไอเดียเด็ดๆ ให้เห็นอยู่ตลอดเวลา แ ละนี่คือ 17 สิ่งสุดเจ๋งที่คุณอาจได้พบเจอ หากไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น 1. มีอ่างล้างมือสุดอัจฉริยะอยู่บนโถส้วม เพื่อที่จะสามารถใช้ประโยชน์ได้ถึงสองต่อ น้ำล้างมือก็จะเป็นน้ำกดชักโครกต่อไป 2. หัวจ่ายน้ำมันที่ห้อยลงมาจากด้านบน โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนรถให้ตรงกับตู้จ่ายน้ำมันเป๊ะๆก็ได้ 3. ลำโพงกระจายเสียงตามสาย ที่จะคอยเตือนชาวญี่ปุ่นหากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว พายุเฮอร์ริเคน หรือภัยธรรมชาติอื่นๆ 4. วิทยุกระจายเสียงของชาวญี่ปุ่น ที่ทำขึ้นมาให้เพื่อให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะอยู่ที่สวนสาธารณะ โรงงาน และโรงเรียน 5. Running Station สวนสาธารณะที่ไม่ใช่แค่สวน สามารถใช้ฟิตเนสได้อย่างอิสระ และใช้บริการห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ตู้ล็อกเกอร์, ห้องอาบน้ำชาย-หญิงได้ 6. มีรถแท็กซี่ ที่สามารถเปิด-ปิดประตูได้เองแบบอัตโนมัติ 7. ร้านอาหารที่คุณสามารถเลือกเมนู และรู้ราคาอย่างชัดเจนก่อนเข้าไปในร้าน …
-
สาวๆ ว่าไง!? นักวิจัยวิทยาศาสตร์ชี้ การมีเซ็กส์บ่อยขึ้น ทำให้ผู้หญิงมีสมองที่ดีกว่า
เอาล่ะสาวๆ ไม่ต้องเข้าเรียน ไม่ต้องฝึกเล่นหมากรุก อ่านหนังสือหรือเข้าคอร์สอะไรหรอก แต่การมี ‘เซ็กส์’ นี่แหละ ทำให้สามารถฉลาดขึ้นได้!! เหล่าทีมนักวิจัยแห่ง McGill University ประเทศแคนาดา โดยการเก็บข้อมูลของเหล่าอาสาสมัครหญิงทั้ง 78 คน ที่มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 18-29 ปี โดยในการวิจัยครั้งนี้ พวกเธอจะต้องตอบคำถามเรื่องชีวิตส่วนตัวและเรื่องเซ็กส์ก่อนที่จะได้รับการทดสอบ นั่นก็คือเกมทดสอบความทรงจำช่วงเวลาสั้นๆ เซ็กส์ทำให้สมองดีขึ้น งั้นหรือ!? การทดลองนี้จะให้จดจำคำศัพท์และใบหน้าจำนวน 60 คำ-ภาพ จากนั้นให้แยกแยะออกมาจากใบหน้าและคำศัพท์ 90 คำ-ภาพ เพื่อทดสอบความจำในระยะสั้น ผลพบว่าผู้หญิงที่มีแนวโน้มมีเซ็กส์บ่อยกว่า จะสามารถทำคะแนนได้ดีกว่าโดยเฉพาะคะแนนในส่วนของการจดจำคำศัพท์นั้น สามารถทำได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน ผลของงานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ Archives of Sexual Behaviour พบว่าเหล่าผู้หญิงที่มีความถี่ในการมีเซ็กส์บ่อยนั้น จะสามารถทำคะแนนในเกมความจำได้ดีกว่า นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าอาจพูดได้ว่าเป็นหน้าที่ของสมองตรงส่วน Hippocampus ซึ่งเป็นสมองที่ควบคุมในส่วนของการจดจำคำศัพท์ และระหว่างการมีกิจกรรมเข้าจังหวะกันอยู่นั้น จะช่วยกระตุ้นเซลล์ประสาทในสมองส่วนของ Hippocampus ที่มีผลเกี่ยวกับความทรงจำโดยตรงนั่นเอง และนี่คือประโยชน์แฝงของมันล่ะ แน่นอนว่านอกจากเรื่องเซ็กส์แล้ว กิจกรรมเข้าจังหวะยังทำให้ร่างกายผู้หญิงได้ออกกำลังกาย ยังช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพสมองด้วยเช่นกัน ในส่วนของผู้ชายยังไม่ได้รับการยืนยันนะจ๊ะ เพราะครั้งนี้เค้าวิจัยกันในกรณีแต่ของสาวๆ…
-
หนุ่มตกปลาดุกขนาดยักษ์ 50 กิโล พลาดทำลายสถิติโลก เพราะหนักน้อยไป 2 กิโลเท่านั้น!!
ว่ากันว่าปลายสายพันธุ์ของปลาดุกนั้น สามารถเจริญเติบโตได้แบบไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับปริมาณและคุณภาพของอาหาร และเรื่องนี้ก็อาจเป็นอีกเครื่องยืนยันของทฤษฎีนี้เลยก็ได้นะเนี่ย!! Riahn Brewington หนุ่มนักตกปลาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พึ่งตกปลาดุกน้ำหนักราวๆ 50 กิโลกรัมขึ้นมาได้ ซึ่งเกือบเป็นสถิติของรัฐที่เขาอยู่เลยทีเดียว เพราะมีคนเคยตกได้ 52 กิโลกรัมเท่านั้น น่าเสียดายจริงๆ Riahn Brewington และปลาดุกที่เขาตกขึ้นมาได้ ‘ตอนแรกผมคิดว่ามันคงเป็นปลาที่ตัวใหญ่มากๆ และสายเบ็ดจะต้องขาดแน่นอน แต่สุดท้ายผมก็สามารถตกมันขึ้นมาได้สำเร็จ’ Riahn Brewington กล่าว และสำหรับเพื่อนๆ หลายคนที่เป็นห่วงเจ้าปลาดุกล่ะก็ หายห่วงกันได้ เพราะหลังจากแชะภาพได้หลายรูป เขาก็ปล่อยมันกลับลงน้ำไปเหมือนเดิม… แถมปลาในตระกูลนี้ยังถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่ปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยเฉพาะปลาแค้ หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษที่ว่า Goonch catfish แห่งประเทศอินเดีย ปลาแค้ยักษ์ หรือ Goonch catfish ในประเทศอินเดียนั้นมีเรื่องราวและตำนานเกี่ยวกับปลาชนิดนี้ ที่ทำร้ายมนุษย์และถึงขั้นลากมนุษย์ลงไปกินในน้ำกันเลยทีเดียว ปลาแค้ จัดว่าเป็นปลานักล่า มีฟันแหลมคม หัวที่โต ปากที่กว้างมาก และที่สำคัญก็คือมันสามารถเจริญเติบโตได้เรื่อยๆ จนไม่มีขนาดที่แน่นอนของมัน ส่วนหนึ่งก็ก็เพราะว่าในประเทศอินเดียนั้นมีธรรมเนียมในการเผาศพแล้วนำไปลอยแม่น้ำ และศพเหล่านี้นี่เองที่กลายไปเป็นอาหารของมัน และนั่นทำให้มันเคยชินกับการบริโภคเนื้อมนุษย์…
-
ความรักในธรรมชาติ ขณะแม่หมีสีน้ำตาล ออกล่าปลาแซลมอนให้ลูกทั้ง 3 ที่รออยู่บนฝั่ง…
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ได้มีการเผยภาพถ่ายที่น่าตื่นตาตื่นใจของแม่หมีสีน้ำตาลตัวหนึ่ง ขณะกำลังออกหาอาหารให้ลูกหมีทั้ง 3 ตัวของมัน ที่กำลังยืนรออยู่บนริมฝั่งแม่น้ำ ในอุทยานแห่งชาติ Katmai National Park ในรัฐอลาสก้า โดยภาพดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นโดย Christophe Vasselin ช่างภาพวัย 43 ปี ที่ได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าว และได้พบกับครอบครัวของเจ้าหมีขณะกำลังออกหาอาหาร ดังนั้น เขาจึงได้เก็บภาพวินาทีที่แสนยอดเยี่ยมเหล่านี้เอาไว้ ทางด้าน Christophe ได้บอกว่า “รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เห็นภาพของแม่หมี และลูกๆ ของมันขณะกำลังหาอาหาร” แม้จะไม่ได้มีการสู้จนเลือดสาดทั้งสองฝ่าย แต่ก็เป็นฉากการล่าเหยื่อที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก “นี่เป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ และมันก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่ได้ภาพของพวกมัน…แม่หมีได้เดินลงไปล่าปลาแซลมอนอยู่หลายรอบ เพื่อให้ลูกๆ ของมันได้กินปลาที่แสนอร่อย และเมื่อใดตามก็มันเห็นเหยื่อ มันก็จะรีบเข้ามาจับทันที” Christophe กล่าว แม่หมีที่ต้องหาอาหารมาให้ลูกมากที่สุด เพราะหลังจากเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อาหารก็จะขาดแคลน เป็นงานหนักมากที่ต้องเตรียมมันและลูกๆ ให้พร้อม มิฉะนั้นอาจจะไม่สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาฤดูหนาวอันโหดร้ายไปได้ สำหรับหมีสีน้ำตาล…
-
10 อันดับสถานที่ซึ่งบันทึกว่า “อากาศหนาวเย็น” มากที่สุดในโลก เห็นอุณหภูมิก็สั่นแล้ว
สำหรับเมืองไทยบ้านเรา ถือเป็นหนึ่งในเมืองร้อนที่น๊านนานที ผู้คนในประเทศจะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นในช่วงปลายปี แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาที่แสนสั้นซะเหลือเกิน เพราะเผลอแป๊บเดียวก็เข้าสู่หน้าร้อนอีกแล้ว เฮ้อ… แต่ถ้าหากว่าคุณได้อยู่ใน 10 สถานที่ที่มีอากาศเย็นยะเยือกมากที่สุดในโลกละก็ เชื่อว่าทุกคนคงอยากจะภาวนาให้เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนไวๆ แน่นอน เพราะแต่ละที่นั่นทั้งหนาวเหน็บจนถึงขั้นกลายเป็นน้ำแข็งเลยก็มี ส่วนบางที่ก็หนาวติดลบถึง -90 องศาเซลเซียส ป้าดดด!! แค่เห็นอุณหภูมิก็หนาวสั่นไปทั้งตัวแล้ววววว และนี่คือ 10 อันดับสถานที่ที่ขึ้นชื่อได้ว่าหนาวเย็นมากที่สุดในโลก…. Roger Pass รัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา Roger Pass เส้นทางที่ทอดผ่านเทือกเขา Selkirk Mountains เป็นสถานที่ที่ถูกบันทึกเอาไว้เมื่อวันที่ 20 มกราคม 1954 ว่า มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดในรัฐอลาสก้า โดยอุณหภูมิที่เคยวัดได้ต่ำสุดถึง -57 องศาเซลเซียส Fort Selkirk ในยูคอน ประเทศแคนาดา ถือเป็นสถานที่ที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเลือกอาศัยอยู่ที่นี่ รถไม่สามารถเข้าไปได้ จำกัดเฉพาะเรือ และเครื่องบินเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าไปได้ เนื่องจากมันมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากที่สุด ซึ่งเคยวัดอุณหภูมิได้ต่ำสุดอยู่ที่ -59 องศาเซลเซียส …
-
ลูกสาวเจ้าหน้าที่ EU ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครดูแลผู้อพยพ แต่กลับถูกฆ่าข่มขืนโดยผู้ลี้ภัยเอง….
นี่เป็นเรื่องราวที่น่าสลดใจที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนผู้คนเริ่มรู้สึกชินชา แต่กับกรณีนี้อาจจะทำให้ทั้งโลกตั้งคำถามขึ้นมาอีกครั้งว่าการหยิบยื่นความช่วยเหลือให้แก่ผู้ลี้ภัยโดยไม่เลือกปฏิบัติต่อใครเลย เป็นเรื่องที่เหมาะสมและปลอดภัยจริงหรือไม่? เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักข่าว The Sun ของอังกฤษได้รายงานว่า Maria Ladenburger นักศึกษาแพทย์วัย 19 ปี ถูกพบเป็นศพอยู่ในแม่น้ำไฟรบูร์ก ประเทศเยอรมนีใกล้กับชายแดนของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นฝีมือของผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถาน ตามรายงานบอกว่านางสาว Maria Ladenburger ได้ออกไปร่วมงานปาร์ตี้กับเพื่อนๆ และกลับบ้านในเวลาตี 2.37 และปั่นจักรยานกลับบ้านของเธอตามปกติ แต่ในระหว่างทางกลับมีวัยรุ่นพบเห็นเธอ จึงกระชากเธอลงมาแล้วทำการข่มขืนเธอก่อนที่เธอจะจมน้ำตาย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการค้นพบร่างของ Maria เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สำรวจตามพุ่มไม้ต่างๆ โดยละเอียด จึงพบว่ามีเส่นผมสีดำที่ย้อมกลายเป็นสีบลอนด์ขนาด 18.5 เซ็นติเมตรตกอยู่ และยังมีการค้นพบผ้าพันคอของ Maria ตกอยู่ที่ก้นแม่น้ำใกล้ๆ ด้วย เมื่อนำเอา DNA จากผ้าพันคอและเส้นผมมาตรวจ กลับไปพบความเกี่ยวข้องใดๆ ตำรวจจึงได้ตรวจสอบกล้อง CCTV เพิ่มเติมและพบว่ามีวัยรุ่นชายวัย 17 ปีอยู่บนรถกระเช้าไฟฟ้าที่มีผมสีดำและย้อมทองคล้ายกับเส้นผมที่ตกอยู่ในพุ่มไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญให้วัยรุ่นหนุ่มมาให้ปากคำและตรวจ DNA อย่างละเอียดในวันศุกร์ที่ 2…
-
จากหญิงสาวที่เผลอหลับไป กลายมาเป็นโรค “เจ้าหญิงนิทรา” หลับจริงนานถึง 6 เดือน!!
Beth Goodier หญิงสาววัย 22 ปี ผู้ใช้ชีวิตอย่างธรรมดา แต่วันหนึ่งชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เธอต้องนอนวันละประมาณ 22 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ใช่เพราะว่าเธอขี้เกียจแต่อย่างใด แต่เธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค KLS (Kleine-Levin syndrome) หรือโรคเจ้าหญิงนิทรา โรคนี้เกิดจากความผิดปกติทางระบบประสาทและอาจจะเกี่ยวเรื่องจิตใจด้วย โดยอาการคือผู้ป่วยจะเหนื่อยง่าย มีอาการง่วงหรืองัวเงียตลอดเวลา บางคนก็จะนอนตลอดหรือนอนเยอะกว่าคนอื่น และเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะงัวเงียไม่สดชื่นเหมือนคนทั่วไป มีอีกมากกว่าหนึ่งร้อยคนที่ประสบปัญหาเดียวกับเธอ ซึ่งก็คือโรคเจ้าหญิงนิทราที่ประเทศอังกฤษ เธอนอนหลับเป็นเวลานานมากๆจนกระทั่งเธออายุได้ 16 ปี แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้เผลอหลับไปอีกครั้ง เธอเป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 6 เดือน ในแต่ละวันเธอทำได้แค่ตื่นมา ทานข้าว และทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็หลับไปอีกครั้ง และที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือเธอไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าเธอจะหลับไปอีกครั้งเมื่อไหร่ ด้วยอาการนี้ทำให้เธอต้องหมดโอกาสหลายอย่างในชีวิตไป เช่นการเรียน การได้ทำงานดีๆ หรือการได้สนุกกับชีวิตเป็นเวลานานๆ 5 ปีที่แล้ว เธอเผลอหลับไปในเดือนพฤศจิกายน แล้วก็ตื่นอีกทีในเดือนเมษายน Janine แม่ของเธอเล่าว่าลูกของเธอใช้เวลานอนหลับกว่า 75% มาตลอด 5 ปี Dan แฟนของเธอก็อยู่กับเธอตลอดในช่วงเวลาที่เธอหลับ ในแต่ละวัน เธอใช้เวลาหลับนอนกว่า…
-
นิตยสาร Forbes จัดอันดับ 20 ดาราเซเลบดัง ผู้สามารถทำเงินได้มากที่สุดในปี 2016
ถ้ากล่าวถึงอาชีพ ‘ดารา’ แล้ว ในปัจุบันก็ถือว่าเป็นอาชีพที่มีทั้งชื่อเสียงและความมั่งคั่ง วันนี้เราก็เลยอยากพาเพื่อนๆ ไปพบกับ 20 ดาราที่สามารถทำเงินได้มากที่สุดในช่วงปี 2016 ที่ผ่านมาจากการจัดอันดับของ Forbes แต่ละคนนี่ติดโผไปกับหนังดังทั้งนั้นเลยนะเนี่ย จะมีใครบ้างเราไปดูกันเลยดีกว่า!! อันดับ 20. Harrison Ford – 15 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 525 ล้านบาท จากการกลับมารับบท Han Solo ทำให้ปู่กลับมารับทรัพย์เยอะอีกครั้งสินะ อันดับ 19. Charlize Theron – 16.5 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 577.5 ล้านบาท อันดับ 18. Matthew McConaughey – 18 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 630 ล้านบาท อันดับ 17. Will Smith – 20.5 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 717.5…
-
คุณแม่ตกใจ เห็นรูปลูกตัวเอง กลายเป็นมีมในโลกออนไลน์ ทั้งที่ไม่เคยโพสต์ลงสักรูปเลย…
ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่า มีเด็กมากมายที่มีชื่อเสียงในโลกโซเชียล นั่นเป็นเพราะพวกเขามีความน่ารักและความสามารถ บวกกับการส่งเสริมจากผู้ปกครองที่ได้นำรูปของลูกๆ ไปโพสต์ลงในโซเชียลจนลูกกลายเป็นคนดัง แต่กับบางคนนั้น กลับไม่ต้องการให้รูปลูกถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียลเพราะกลัวจะถูกเอาไปใช้ในทางเสียหาย และอาจจะเป็นอันตรายกับลูกได้ แต่สำหรับ Ariel Griggs คุณแม่ลูกสอง กลับต้องตกใจอย่างแรง เมื่อเธอเห็นภาพของลูกน้อยถูกเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต เพราะเธอไม่ได้ถ่ายรูปพวกนั้นเลย… ในระหว่างที่คุณแม่ท่องโลกโซเชียล เธอก็ไปเจอรูปของ Ashton Howell ลูกชายวันขวบครึ่งของเธอ ปรากฏอยู่หน้านิวฟิด ด้วยความแปลกใจเธอจึงพยายามหาต้นตอของรูปนี้ แล้วก็ได้พบว่า ไม่ใช่คนเดียวเท่านั้นที่โพสต์รูปนี้ แต่ผู้คนมากมายแห่โพสต์รูปของหนูน้อยพร้อมแคปชั่นต่างๆ เธอยิ่งงงหนักเข้าไปอีก เพราะเธอมั่นใจว่า ไม่ได้เป็นคนถ่ายและเผยแพร่รูปพวกนี้แน่ คุณแม่เริ่มเกิดความกลัว เพราะกลัวว่าการเผยแพร่รูปลูกชายเช่นนี้จะมีผลต่อความปลอดภัยของลูก คุณแม่เล่าว่า “ความคิดแรกของฉันคือ ‘พวกเขาได้ภาพนี้มาจากไหน?’ เพราะฉันเองยังไม่มีภาพพวกนี้เลย” คุณแม่จึงตัดสินใจกด report รูปนั้นทันที แต่ดูเหมือนจะไม่ทัน เพราะมันคนแชร์ไปมากจนไม่สามารถจะหยุดได้ ภาพหนูน้อยถูกแชร์พร้อมแคปชั่นต่างๆ เช่น “เมื่อคุณโพสต์รูป แล้วมีสาวสวยคอมเม้นชม” แหม่ เป็นแคปชั่นที่เข้ากับรูปซะด้วยสิ ตอนนี้คุณแม่เครียดและสับสนมาก เพราะตัวเธอเองยังไม่เคยโพสต์รูปลูกลงโซเชียลเลย แล้วใครล่ะ ที่โพสต์รูปของลูกโดยที่เธอไม่รู้เลย เธอพยายามตามสืบในอินเตอร์เน็ตต่อ จนพบว่าน้องชายของเธอ Steven Small…
-
หงายเงิบ!? หนุ่มออสเตรเลียปล่อยหมัดจิงโจ้ เพื่อปกป้องสุนัขของตัวเองที่ถูกมันรังแก
หากใครที่เคยได้ดูคลิปของเหล่าจิงโจ้ในต่างแดนมาบ้าง ก็จะพอรู้ว่าพวกมันนั้นเป็นนักสู้ที่น่ากลัวตัวหนึ่งเลยล่ะ เพราะด้วยรูปร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม การออกหมัดที่คล้ายกับคน ลูกเตะที่รุนแรงจนอาจทำให้คุณไส้แตกได้ มันจึงเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่คุณไม่น่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ขอให้สู้ให้สุดใจ… เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มรายหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ขณะต่อสู้อยู่กับจิงโจ้เพื่อปกป้องสุนัขของตัวเอง ตามรายงานบอกว่าสุนัขตัวนี้มีชื่อว่าเจ้า Max มันพยายามจะวิ่งหนีจิงโจ้ตัวหนึ่งเพื่อกลับมาหาเจ้านายที่รถกระบะ แต่มันก็ถูกจิงโจ้จับตัวไว้ได้ทัน เมื่อเจ้านายของมันรู้สึกถึงอันตราย เขาก็รีบกระโดดลงจากหลังกระบะวิ่งตรงไปยังเจ้าจิงโจ้ทันที เมื่อจิงโจ้สังเกตเห็นว่ามีมนุษย์อยู่มันจึงปล่อยสุนัขและหันเหความสนใจมาอยู่ที่คน ทันทีชายหนุ่มไปถึงเขาก็ตั้งการ์ดพร้อมประจันหน้ากับเจ้าถิ่น แต่ไม่ทันไรเขาก็ปล่อยหมัดแย็บออกไป 1 หมัด ทำให้เจ้าจิงโจ้ถึงกับยืนนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่จิงโจ้จะกลับเข้าป่าไปและชายหนุ่มก็รีบพาสุนัขของเขาออกจากจุดเกิดเหตุ ชมคลิปแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในวงกว้าง ทำให้เกิดคำวิจารณ์ในหลากหลายแง่มุม เช่น bugsplat “จากมุมมองของจิงโจ้ มันคงคิดว่า ‘ฉันแค่ออกมาหาอาหารเอง ฉันทำอะไรผิดล่ะ’” Amanda Anderson “หลังจากดูคลิปจบ ฉันก็รู้สึกเสียใจกับเจ้าจิงโจ้ไปด้วย” syed hossain “นี่คือสิ่งที่ตลกที่สุดที่ฉันได้เห็นในวันนี้เลย จิงโจ้เป็นฝ่ายชนะ เพราะมันยังยืนจ้างเขม็งผู้ชายคนนั้นได้ แต่เขากลับตื่นกลัวและเป็นฝ่ายถอยออกมาเอง” Petroleuse “ถ้าเจ้าของสุนัขไม่ทำแบบนั้น เจ้าจิงโจ้คงจะทารุณเขาด้วยขาหลังของมันไปแล้ว” …
-
แบบนี้ก็มี… 20 ของอันตรายที่ผู้คนแอบนำขึ้นเครื่องบิน ก่อนจะถูกตรวจเจอ และยึดไว้ทั้งหมด
เป็นที่รู้กันดีว่า การจะเข้าสนามบินได้นั้นต้องผ่านการตรวจที่เข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของทุกคน แต่ที่ผ่านมายังมีคนพยายามลักลอบนำสิ่งของแปลกๆ เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการซ่อนดาบไว้ในไม้เท้า มีซ่อนอยู่ในปืน มีดาวกระจาย และสิ่งของต้องห้ามอื่นๆ อีกมากมาย และนี่คือสิ่งของแปลกๆ ที่ตัวแทน TSA ได้รวบรวมไว้ ซึ่งเป็นของที่ตรวจพบในจุดตรวจของสนามบิน โดยภาพเหล่านี้ถูกโพสต์ไว้ในอินสตาแกรม tsa ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 500,000 คน Bob Burns ผู้ดูแลอินสตาแกรมนี้บอกว่า “ทุกวันนี้เราพบของแปลกๆ ไม่เว้นแต่ละวัน ถึงแม้จะมีเครื่องตรวจตจับก็ตาม แต่ดูเหมือนว่า เราจะพบกับของแปลกมากขึ้นเรื่อย บางคนพยายามหากลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องตรวจจับด้วย” 1. มีดเล็บมังกร ถูกพบในกระเป๋าถือใบหนึ่งในสนามบิน Atlanta (ATL) 2. อาวุธที่เหมือนของเต่านินจา พบในสนามบิน Boise (BOI) 3. ขวดที่มีผลสีดำอยู่ข้างใน พบในสนามบิน Allentown (ABE) ผงสีดำข้างในคาดว่าคนร้ายจะนำไปประกอบเป็นระเบิด เจ้าหน้าจึงเรียกให้ตำรวจเข้ามาตรวจสอบทันที พร้อมจับกุมเจ้าของวัตถุชิ้นนี้ด้วย 4. หน้ากากกันแก๊สพิษ ตกแต่งด้วยกระสุนปืน พบที่สนามบิน Miami (MIA) หน้ากากนี้รอดจากการเครื่องตรวจของสนามบิน แต่ถูกพบในกระเป๋าพกพาในเวลาต่อมา 5.…
-
คุณยาย “ไม่ยอมขายบ้านให้นายทุน” สุดท้ายบริจาคให้องค์กรการกุศล เพื่อเป็นที่อยู่ให้คนยากไร้
บ้านกับคนย่อมมีความผูกพันกันเสมอ เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่มันเต็มไปด้วยความทรงจำที่เรามีร่วมกับครอบครัวหรือคนที่เรารัก ดังนั้น จะเห็นได้ว่า หลายคนจึงไม่ยอมเสียบ้านง่ายๆ แม้ต้องแลกกับอะไรก็ตาม คุณยาย Edith Macefield วัย 86 ปี กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่อทางนายทุนได้เข้ามากดดันให้เธอขายบ้าน เพราะคนอื่นๆ ก็ขายกันหมดแล้ว คุณยายอาศัยอยู่ใน Seattle มานานกว่า 60 ปี แต่แล้วพวกนายทุนก็ได้มาขอซื้อบ้านแถวนี้ จนเพื่อนบ้านของเธอยอมขายกันจนหมด ยกเว้นคุณยายคนเดียวที่ไม่ยอม ทางนายทุนคิดว่าคุณยายคงต้องการเงินจำนวนมาก จึงได้เสนอเงินให้เธอมากขึ้นๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุด พวกเขาเสนอให้คุณยาย 35 ล้านบาท แต่คุณยายก็ปฏิเสธเหมือนเช่นเคย และยืนยันว่าจะไม่ยอมขายเด็ดขาด!! ตอนนี้รอบๆ บ้านของคุณยายได้ถูกสร้างเป็นห้างไปหมดแล้ว และดูเหมือนว่าบ้านของคุณยายกำลังขัดขวางการทำงานของพวกเขาอยู่ ดังนั้น ผ่านมาพวกนายทุนจึงพยามเกลี้ยงกล่อมให้คุณยายขายบ้านให้ ในระหว่างที่ดำเนินการนี้ คุณยายก็ได้รู้จักกับ Barry Martin ซึ่งเป็นผู้จัดการของโครงการก่อสร้างนี้ จนทั้งคู่ได้กลายเป็นเพื่อนกัน ต่อมา คุณยายก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง และเธอก็ไม่มีลูกหลานที่คอยดูเลย มีเพียง Martin คนเดียวที่คอยดูแลคุณยายมาตลอด จนในปี 2008 คุณยาย Edith ก็ได้เสียชีวิตลง…
-
ญี่ปุ่นนำชุดกิโมโน ดัดแปลงเป็นลายการ์ตูนดัง “Evangelion” ความแตกต่างที่ดูงามลงตัว…
เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงจะรู้จักกับชุดพื้นเมืองของญี่ปุ่นอย่างชุดกิโมโนกันไม่มากก็น้อยล่ะนะ แม้จะเป็นเครื่องแต่งกายที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อพันกว่าปีก่อน แต่ปัจจุบันเราก็ยังเห็นผู้คนนำมาสวมใส่กันเป็นประจำ และสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างหนึ่งของเครื่องแต่งกายชนิดนี้ก็คือ ชาวญี่ปุ่นเองได้มีการนำมาพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับยุคเข้ากับสมัยอย่างที่เราคาดไม่ถึงกันด้วยล่ะ เมื่อช่วงวันที่ 14-31 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Otakumode ได้มีการจัดโหวตเพื่อเฟ้นหาการออกแบบลวดลายบนชุดกิโมโนลายใหม่ ที่มีการนำเอาการ์ตูน Evangelion (อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา) สุดฮิตของญี่ปุ่นมาเป็นธีมหลักในการออกแบบ และหลังจากที่มีการโหวตกัน ก็ได้ลายชนะเลิศเป็นผืนผ้าสีดำ ที่มีลวดลายสื่อถึงการ์ตูน Evangelion แต่เพียงเล็กน้อยและไม่ดูรกจนเกินไป พร้อมกันนี้ยังมีผ้าโอบิ (สายรัดผ้าคลุม) เป็นลาย 6 เหลี่ยมสีแดงกับลายจากการ์ตูนด้วย และนี่คือหน้าตาของผ้าโอบิทั้ง 2 แบบ มีการรับประกันว่าชุดกิโมโนที่เห็นทั้งหมดนี้ถูกถักทอขึ้นด้วยมือล้วนๆ จากโรงงานเก่าแก่อายุ 70 ในจังหวัดฮิโรชิม่า แต่เนื่องจากเป็นงานแฮนเมดจึงมีราคาที่แพงพอสมควรเลยทีเดียว สนนราคาต่อชุดเริ่มต้นที่ 69,235 (อื้อหือออ) หากสนใจก็เข้าไปกดสั่งซื้อได้ที่ otakumode.com บอกตรงๆ ว่า#เหมียวฟิ้นเองก็ไม่ได้เป็นแฟนการ์ตูนเรื่อง Evangelion อะไรมากมายนะ แต่มันน่าสนใจตรงที่ประเทศเขาไม่ยอมให้วัฒนธรรมหยุดอยู่กับที่นี่แหละ ทำให้คนรุ่นใหม่ๆ สามารถเข้าถึงวัฒนธรรมอันเก่าแก่ได้ง่ายและรู้สึกอยากมีส่วนร่วมไปด้วย ยอดเยี่ยมจริงๆ ที่มา rocketnews24
-
เจ้าหน้าที่ในจีน รวบคนลักลอบขน ‘กระดองเต่ากระ’ สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ได้กว่าร้อยชิ้น
นี่ออกจะเป็นเรื่องน่าเศร้าของคนรักธรรมชาติเลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าว Global Times ของจีนได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน ได้เข้าจับกุมผู้ลักลอบขนกระดองของเต่ากระเปล่าๆ จำนวนมาก ตามรายงานบอกว่าส่วนหัวของเต่าถูกตัดออกไป และยัดนุ่นใส่เข้าไปในตัวของพวกมันแทน เพื่อแอบเอากระดองเต่าเหล่านี้ไปส่งให้กับลูกค้าและเตรียมนำไปแปรรูปต่อไป เมื่อเจ้าหน้าที่นำเอากระดองเต่าทั้งหมดออกมาเรียกจึงพบว่ามีตำนวนทั้งสิ้น 109 ชิ้น หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในประเทศจีน ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากเป็นภาพชวนสลดที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน และที่น่าเศร้ายิ่งกว่านั้นก็คือ การซื้อขายกระดองเต่าแบบนี้เริ่มกลายเป็นเรื่องที่แพร่หลายมากขึ้นจนผู้คนสัมผัสได้ ด้านนาย David Godfrey กรรมการบริหารของขององค์กรพิทักษ์เต่าทะเลได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า “กระดองเต่าพวกนี้คือสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เราเห็นว่าข้างนอกนั่นยังคงมีการซื้อขายสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกมากมาย” สาเหตุส่วนใหญ่ที่พวกมันถูกจับมา เป็นฝีมือของชาวประมงในแถบทะเลแคริเบียน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย จากนั้นลำเลียงพวกมันไปแบบผิดกฎหมายและนำไปแปรรูปเป็นเครื่องประดับหรือสินค้าอื่นๆ จากการสำรวจของผู้เชี่ยวชาญพบว่าในปัจจุบันโลกของเราเหลือเต่ากระอีกเพียงราวๆ 15,000 ตัวเท่านั้น ซึ่งใกล้จะสูญพันธุ์เต็มทีแล้ว นั่นหมายความว่าการที่เราได้เห็นข่าวเกี่ยวกับพวกมันจึงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่ แม้ว่าพวกเราจะไม่สามารถทำอะไรกับกลุ่มชาวประมงหรือคนที่จับพวกมันมาทำแบบนี้ แต่คุณก็พอจะช่วยได้บ้างด้วยการไม่สนับสนุนซื้อสินค้าที่ทำมาจากสิ่งมีชีวิตต่างๆ นะ หากพบเห็นล่ะก็สามารถแจ้งตำรวจให้เข้าไปตรวจสอบได้ทันทีเลย ที่มา thedodo
-
บริษัทต่างชาติเตรียมสร้าง ‘แท็กซี่ลอยฟ้า’ เปิดใช้ปี 2020 ปฏิวัติการเดินทางราวกับหนังไซไฟ
การเดินทางด้วยแท็กซี่เริ่มสะดวกสบายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะแทนที่เราจะต้องไปยืนโบกมือหยอยๆ ข้างถนน ตอนนี้ระบบต่างๆ ก็เริ่มพัฒนาทำให้เราสามารถเรียกแท็กซี่ผ่านสมาร์ทโฟนได้ และคุณเชื่อไหมว่าในอนาคตอันใกล้ มนุษย์เราอาจจะสามารถเรียกแท็กซี่จากทางอากาศได้ด้วย? สิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือ “แท็กซี่ลอยฟ้า” ที่แม้จะยังเป็นเพียงแนวคิดหรือคอนเซ็ปต์แต่ก็มีการยืนยันออกมาแล้วว่าแท็กซี่ในรูปแบบนี้กำลังถูกพัฒนาอยู่จริงๆ โดยเจ้าแท็กซี่ลอยฟ้าที่ว่านี้อยู่ในระหว่างการคิดค้นโดย Airbus Group บริษัทที่ผลิตอากาศยานและระบบป้องกันประเทศของยุโรป ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า CityAirbus เจ้า CityAirbus ที่ว่านี้ Airbus Group ต้องอาศัยบริษัทหลายๆ แห่งร่วมกันพัฒนามันขึ้นมา โดยพวกเขาได้มอบหมายงานให้บริษัท MTSI (Modern Technology Solutions, Inc) รับหน้าที่ในการบินทดสอบ ส่วนบริษัท SOAR Oregon จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนการทดสอบ ไอเดียของแท็กซี่ลอยฟ้าจะมีความใกล้เคียงกับระบบของรถไร้คนขับที่บริษัทผู้ผลิตรถ Tesla กำลังพัฒนาอยู่ ผสมกับเทคโนโลยีโดรนที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายเพื่อการถ่ายภาพ ซึ่ง CityAirbus จะมาในรูปแบบของยาน 4 ใบพัดไร้คนขับที่บังคับทิศทางได้เอง สามารถนั่งได้ 1 ที่นั่ง และบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้เลยโดยที่ไม่ต้องใช้ถนนหรือรันเวย์ในการออกตัว นอกจากนี้ยาน CityAirbus ยังมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ที่จะคอยตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ นั่นหมายความว่าหากคุณนั่งยานที่ว่านี้อยู่บนอากาศ มันก็จะไม่มีทางชนกันเองแน่นอน…
-
ศิลปินสร้างอาคารประวัติศาสตร์สูง 2 เมตร ด้วยขนมล้วนๆ เหมือนจริงและอลังการมาก
การทำขนมเดี๋ยวนี้ แค่รสชาติอย่างเดียวคงไม่พอแต่ต้องมีหน้าตาที่น่าทานควบคู่ไปด้วย จนบางทีไม่ใช่แค่การทำเพื่อทานเท่านั้น แต่เป็นการทำขึ้นมาเพื่อการตกแต่ง หรือเพื่อเป็นการจัดแสดงก็มี ล่าสุดบริษัทขนมที่โด่งดังอย่าง Biscuiteers ก็ได้จำลองคฤหาสน์ Waddesdon ที่มีอายุกว่า 240 ปี ด้วยขนมทั้งหมด ซึ่งเรียกได้ว่ามีความเหมือนในทุกซอกทุกมุม จนเห็นแล้วไม่กล้าทานเลยทีเดียว การจำลองนี้มีความสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งมีการเลียนแบบห้องต่างๆ ของ Waddesdon โดยใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเฟอนิเจอร์เล็กๆ น้อยๆ หรือแม้แต่ลวดลายก็ทำให้ออกมาได้เหมือนมาก ห้องทานอาหารของ Waddesdon และนี่คือการจำลองห้องทานอาหารที่ทำด้วยขนม การทำคฤหาสน์ Waddesdon จำลองในครั้งนี้ใช้เวลากว่า 500 ชั่วโมง ใช้ไข่ 240 ใบ และใช้ไอซิ่ง 216 กิโลกรัม ซึ่งได้จัดให้เข้าชมในงาน Coach House gallery at the Stables จนถึงวันที่ 2 มกราคม 2017 ห้องนอนใน Waddesdon …
-
เด็กสาวป่วยมะเร็งอยู่ได้อีก 48 ชั่วโมง และเธอก็มีความฝัน… อยากเป็นคนโปรยดอกไม้ในงานแต่ง
Abby Furco เด็กหญิงวัย 10 ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และเธออาจตายได้ถ้าไม่เข้ารับการรักษาทันที ทุกครั้งที่เข้ารับการรักษานั้น เธอต้องทนอยู่กับความเจ็บปวด แต่หนูน้อยก็ยอมเพราะคิดว่า การรักษาจะช่วยให้เธอดีขึ้น แต่ผลที่กลับไม่เป็นตามที่คาดหวังเลย หลังจากรักษามาเป็นเวลาหลายปี หมอก็ได้แจ้งข่าวร้ายกับครอบครัวว่า Abby มีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ Abby ได้สัญญากับใครคนหนึ่งว่า จะเป็นเด็กโปรยดอกไม้ในงานแต่งงานให้ และเธอก็ไม่อยากผิดสัญญาด้วย เธอจึงอยากทำตามสัญญาก่อนที่จะจากไปในอีก 48 ชั่วโมงนี้ และใครคนนั้นที่เด็กสาวให้ความสำคัญขนาดนี้ก็คือ Sarah Swaim Rostock ที่ปรึกษาของหนูน้อยเมื่อปี 2013 ที่ Camp Fantastic ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับการดูแลเด็กที่กำลังเผชิญกับโรคมะเร็ง ซึ่งตั้งแต่เด็กสาวป่วยเป็นมะเร็ง Sarah ก็คอยอยู่เคียงข้างเธอ คอยให้คำปรึกษาและให้กำลังใจตลอดมา จนพวกเขากลายเป็นคนสำคัญของกันและกันเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน แต่น่าเสียดายที่งานแต่งของ Sarah ได้กำหนดไว้ในอีก 4 เดือนข้างหน้า ในขณะที่เด็กสาวมีเวลาเหลือแค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งในตอนแรกนั้น Sarah ยังไม่ทราบข่าวนี้ แต่ในเวลาต่อมาเธอก็ได้ทราบข่าวจากแม่ของเด็กสาวที่โพสต์ลงใน Facebook ซึ่งคุณแม่ได้บอกไว้ว่า…
-
20 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ อันน่าเหลือเชื่อ ที่เกิดขึ้นจริง จากทั่วโลก!!
ไม่สำคัญว่ามนุษย์เราจะอาศัยอยู่บนโลกนี้มานานกี่ล้านปี หรือวิวัฒนาการของเราจะก้าวไกลขนาดไหน แต่สิ่งที่เราไม่สามารถเอาชนะได้ก็คือ ‘ธรรมชาติ’ บางครั้งธรรมชาติก็ช่างแสนแปลก เพราะมันมักจะทำให้รู้ซึ้งถึงคำนี้ ผ่านปรากฏการณ์ต่างๆ ถึงแม้ว่าปัจจุบันเราจะมีเทคโนโลยีคอยคาดการณ์ภัยพิบัติได้บ้าง แต่ยังคงมีปรากฏการณ์แปลกๆ อีกมากมาย ที่ไม่ได้เห็นกันได้ง่ายๆ เหมือนฝนตก ฟ้าร้อง อะไรเทือกนั้น เราไปทำความรู้จักกับ 20 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่าพิศวงเหล่านี้กันเลย 1. ฟ้าผ่าจากภูเขาไฟ เป็นปรากฏการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นยากมาก เกิดจากการรวมตัวกันระหว่างการปะทุของภูเขาไฟ และกลุ่มก้อนเมฆที่ก่อตัวขึ้นมาเป็นพายุอยู่เหนือภูเขาไฟพอดี แอบน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย 2. ปล่องควันหิมะ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น มันเกิดขึ้นจากการที่แผ่นเปลือกโลกชั้นใต้ดินเปิดออก และส่งควันก๊าซออกมา ผสมกับการเกิดขึ้นในพื้นที่อันหนาวเหน็บ ทำให้หิมะก่อตัวกันขึ้นมาเป็นรูปปล่องควัน 3. น้ำวน Moskstraumen เป็นกระแสน้ำวนที่เกิดขึ้นได้เฉพาะในแถบทะเลนอร์เวย์เท่านั้น อีกทั้งยังมีความรุนแรงที่พร้อมจะสูบทุกสิ่งมีชีวิตบริเวณนั้น ให้จมลงไปใต้ท้องทะเลลึกอีกด้วย 4. ปรากฏการณ์เสาแห่งแสง สามารถเกิดขึ้นได้ในเฉพาะพื้นที่ๆ มีความหนาวเหน็บเท่านั้น เกิดจากการที่เศษคริสตัลน้ำแข็งขนาดเล็ก เคลื่อนที่ในลักษณะแขวนลอยอยู่กลางอากาศ และสะท้อนกับแสงพอดี 5. ดอกไม้น้ำแข็ง จะเกิดขึ้นเฉพาะแถบอาร์กติก หรือทวีปแอนตาร์กติกเท่านั้น ซึ่งมันเกิดจากโมเลกุลในน้ำเปลี่ยนจากของแข็งไปเป็นก๊าซ และกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้งอย่างรวดเร็ว 6.…
-
ช่างภาพลุยป่าถ่ายชีวิตเหล่าสัตว์ แต่ได้ผลงานสมบูรณ์แบบ ราวกับถ่ายในสตูดิโอ
การจะถ่ายรูปสัตว์ให้ได้ออกมาตาต้องการนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่ช่างภาพยังบอกว่ายาก เพราะธรรมชาติของสัตว์นั้น มันก็จะดุ๊กดิ๊ก และมันไม่เข้าใจหรอกว่า การถ่ายรูปคืออะไร แต่สำหรับชุดภาพต่อไปนี้ เหล่าสัตว์ได้ฉายแววความเป็นมืออาชีพในการถ่ายแบบ จนเกิดเป็นภาพที่สมบุรณ์แบบราวกับว่าเป็นการจัดวาง ซึ่งภาพทั้งหมดนี้ถ่ายโดยช่างภาพชาวสเปน Pedro Jarque แต่กว่าจะได้ภาพที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ เขาต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง และต้องกดชัตเตอร์นับครั้งไม่ถ้วน แล้วจึงค่อยน้ำมาตกแต่งพื้นหลังให้ดูเหมือนอยู่ในสตูดิโอ Pedro ใส่พื้นหลังสีดำให้สิงโตที่สั่นแผงคออย่างสง่างาม Pedro บอกว่า “ภาพที่ถ่ายมานี้ ส่วนใหญ่ได้มาตอนที่พวกมันไม่รู้ตัว เพราะสัตว์บางตัวนั้นเกลียดกล้องมาก และมันจะจู่โจมทันหากเห็นกล้อง ดังนั้นผมจึงต้องซุ่มอยู่ในระยะใกล ให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่รู้ตัว” “อย่างลิงชิมแปนซี เมื่อมันเห็นผม มันก็หินปาใส่ผม เช่นเดียวกับเสือที่กระโจนใส่รถผม แต่โชคดีที่กระจกหนาจนผมรอดมาได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ ผมคิดว่า มันเป็นเพราะความอดทนและความโชคดีของผม ทำให้ได้ภาพสุดประทับใจนี้มา” จระเข้อ้าปากกว้างจนเห็นฟันทุกซี่ แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวและสวยงามในเวลาเดียวกัน ภาพลามิงโกระหว่างต่อสู้กันอย่างชุลมุน กว่าจะได้ภาพนี้ ช่างต้องถูกชิมแปนซีปาหินใส่หลายครั้งมาก จนมันทำหน้าเหนือแบบนี้แหละ หนึ่งในนักล่าที่น่ากลัวที่สุดในโลก แต่เวลางีบกลับดูอ่อนโยนเหมือนแมวน้อยเลย จิงโจ้นอนหันหลังในกัน นี่งอนอะไรกันมาหรือเปล่า ค้างคาวกางปีกออกเต็มที่ขณะห้อยหัวลงมา จนเกิดเป็นที่สวยงามแบบนี้ …
-
ญี่ปุ่นมอบ “บ่อน้ำพุร้อน” ให้เหล่าลิงได้แช่ตัวฟินๆ ตลอดฤดูหนาว มนุษย์เห็นแล้วยังต้องอิจฉา
ช่วงที่อากาศหนาวแบบนี้ สิ่งที่เราอยากทำก็คงเป็นการนั่งแช่น้ำอุ่นๆ อยู่ตลอดเวลา แต่มันทำไม่ได้นั่นสิ เพราะเรามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน เพราะแบบนั้น ที่จะทำให้เราอิจฉาลิงพวกนี้ เพราะพวกมันได้ครองน้ำพุร้อนอุ่นๆ ตลอดในช่วงฤดูหนาวนี้ แถมไม่ต้องคอยออกไปหาอาหารเองด้วย แต่มีคนหยิบยื่นให้ถึงที่ นี่มันจะสบายเกินไปแล้ววววว นี่เป็นอ่างน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่ตั้งอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์ Hakodate Tropical Botanical ของญี่ปุ่น โดยจะมีอุณหภูมิที่อบอุ่นจนมนุษย์อย่างเราก็อยากลงไปแช่ แต่คงต้องอด เพราะอ่างน้ำพุร้อนนี้ ถูกลิงยึดครองไปแล้ว โดยทางญี่ปุ่นจะให้พวกมันอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวานคม ปี 2016 ถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า เรียกง่ายๆ คือจนกว่าจะหมดหน้าหนาวนั่นแหละ ที่ทำแบบนี้เพราะพวกเขาเข้าใจดีว่า การต้องทนกับความหนาวนั้นมันทรมานแค่ไหน มนุษย์อย่างเราสามารถหาซื้อเสื้อกันหนาวมาใส่เพิ่มความอบอุ่นได้ แต่สำหรับสัตว์พวกนี้ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ดังนั้นถ้ามนุษย์เราสามารถช่วยมันได้ แม้จะเล็กน้อยก็ช่วยเถิด เพราะบางทีสิ่งเล็กน้อยสำหรับเรา อาจเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่สำหรับสัตว์พวกนี้ก็ได้ สบายจุง อุ๊นนนอุ่น มีน้ำเปล่าบริการถึงที่ด้วย แช่อ่างว่าสบายแล้ว แต่บางตัวมีเพื่อนหาเหาให้ด้วย เพิ่มความฟินไปอีก พื้นที่กว้าง ไม่ต้องแย่งกัน มนุษย์จะอิจฉาลิงก็ตอนนี้แหละ…
-
บริษัทรับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงที่ออฟฟิศ 2 ตัว เพื่อเพิ่ม เอ้ย!! เพื่อบำบัดความเครียดให้พนักงาน!?
เจ้าเหมียว 2 ตัว จากสถานสงเคราะห์สัตว์ถูกรับเลี้ยงมาไว้ที่บริษัทแห่งหนุ่งเพื่อช่วยงานเหล่าพนักงานทั้งหลายด้วยการออดอ้อนและการกอด และจะช่วยคลายความเครียดให้กับพนักงานได้ (จริงหรา!?) ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Chomsky และเจ้า Pirate บริษัท Memrise เป็นบริษัทเกี่ยวกับการเรียนการสอน ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อนหน้านี้เหล่าผู้บริหารได้มาประชุมกันหาวิธีในการลดความเครียดของพนักงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน และจู่ๆ การรับเลี้ยงเจ้าเหมียวจากสถานสงเคราะห์สัตว์ก็ปิ๊งขึ้นมา เหล่าผู้บริหารต่างก็หวังว่าการที่มีแมวมาไว้ในบริษัทซัก 1 ตัว เอาไว้ให้เป็นมาสค็อตของบริษัท แต่สุดท้ายก็รับมาสค็อตมาไว้ถึง 2 ตัวด้วยกัน “เจ้า Pirate และ เจ้า Chomsky นั้น ถูกรับมาจากสถานสงเคราะห์มาได้ประมาณ 1 ปี แล้ว ในช่วงแรกๆ นั้นมันขี้อาย และขี้กลัวมาก” พนักงานในบริษัทกล่าว “พนักงานทุกคนในบริษัท Memrise นั้นต่างก็มอบความรัก และความเอาใจใส่ให้กับพวกมันเป็นอย่างดี ในวันนั้นจึงกลายเป็นวันที่แสนสุขทั้งสำหรับเจ้าเหมียวและพนักงานทุกคน” ในทุกๆ วันมันจะรอเหล่าทาส (หรือที่มันเข้าใจว่าเป็นที่เปิดกระป๋อง) อยู่ที่ประตูหน้าของบริษัท เพื่อขอให้ที่เปิดกระป๋องนั้นเปิดกระป๋องเอาอาหารมาเสิร์ฟให้กับพวกมัน หลังจากที่พนักงานแต่ละคนเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานแล้ว เจ้าเหมียวทั้ง…
-
คุณป้าเสี่ยงชีวิตลุยฝ่าเปลวเพลิง เพื่อช่วยเหลือแมวเหมียว 24 ชีวิต ที่ติดอยู่ในตึกไฟไหม้!!
บางทีเมื่อเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยอย่าง ‘ไฟไหม้’ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง เหล่าสัตว์โลกตัวน้อยอย่างแมวเหมียวผู้น่ารัก มักจะต้องการความช่วยเหลือจากสัตว์ใหญ่อย่างมนุษย์เราอยู่เสมอ จากรายงานของเว็บไซต์คนรักแมว LoveMeow ได้รายงานเรื่องราววีรกรรมความกล้าหาญของคุณป้า ‘Jean Favini’ ประธานผู้ก่อตั้ง ‘Oasis for Animals’ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์แห่งรัฐวอชิงตัน คุณป้าผู้กล้าหาญ และหนึ่งในแมวเหมียวที่เธอช่วยเอาไว้ได้ทัน เรื่องราวทั้งหมดมีอยู่ว่า วันหนึ่งที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ของคุณป้านั้น จู่ๆก็เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาอย่างรวดเร็วบนชั้นบนสุด ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแมวจำนวนหนึ่ง “อยู่ดีๆก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น พอเราออกไปดูก็เห็นไฟกำลังลุกลามอยู่ตรงชั้นบนสุด ที่ๆเราเอาแมวเหมียวจำนวนหนึ่งไปพักผ่อนไว้ ควันดำลุกโชยอย่างรวดเร็ว ฉันคิดแค่ว่า เราไม่มีเวลาแม้แต่ 1 นาที เพื่อช่วยเหลือเจ้าแมว ถ้าไม่รีบไปตอนนี้ พวกมันทุกตัวอาจจะไม่รอด” คุณป้าให้สัมภาษณ์กับ Love Meow การที่ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะทั้งชั้นเต็มไปด้วยซองอาหารแมว และวัสดุพลาสติก ซึ่งทำให้เพลิงไหม้ครั้งนี้ มีแต่ควันสีดำลุกทั่วไปหมด ราวกับอยู่ในนรก ทันทีที่เกิดเหตุ เธอรีบโทรแจ้ง 911 และเจ้าหน้าที่ได้บอกให้เธอรออยู่ด้านนอก แต่เธอรู้ดีว่าแมวเหมียวทุกตัวที่เธอช่วยเหลือมากับมือ อาจจะต้องสำลักควัน จนเสียชีวิต เธอจึงเอาผ้าเช็ดตัวชุบน้ำปิดหน้าเธอไว้ และรีบวิ่งฝ่าเข้ากองไฟที่กำลังลุกลามอย่างรวดเร็ว…
-
ทหาร ISIS ถอดใจ คิดปลอมตัวหลบหนีออกมา ดั๊นโดนทางการจับตัวได้ สงสัยปลอมตัวได้เนียนเกิ๊นนน!!?
สงสัยเราคงต้องลืมความเชื่อที่ว่า ทหารของกลุ่มก่อการร้ายที่ชื่อว่า ‘ISIS’ จะโหดร้าย และทารุณไปซะแล้ว เพราะพักหลังมานี้รู้สึกว่ามีข่าวหลุดชวนขำ ออกมาจากผู้ก่อการร้ายกลุ่มนี้บ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ จากการรายงานของสำนักข่าว TheSun ได้ตีแผ่เรื่องของกลุ่มทหาร ‘ISIS’ ที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวคิดถึงแม่ หรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไปกันแน่ ถึงได้แอบพรางตัวคิดจะหลบหนีออกมาจากเขตสู้รบ โดยหวังว่าจะไม่ถูกทหารของทางการจับไว้ได้ แต่ทว่าวิชาปลอมตัวของพวกเขามันแนบเนียนเกินไป สุดท้ายก็ต้องจับได้อยู่ดี เฮ้ออ…. จากรายงานพบว่า มีทหารกองกำลังของรัฐบาลอิรัก ที่กำลังซุ่มเฝ้าระวังภัยจากกลุ่มก่อการร้ายนี้อยู่ ปรากฏว่าจู่ๆวันหนึ่งพวกเขาดันสังเกตุเห็นคนกลุ่มหนึ่ง กระทำตัวอย่างน่าสงสัย ราวกับว่าไม่ได้เป็นชาวบ้านแถวนั้นมาก่อน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ และพบว่า พวกเขาไม่ได้เป็นชาวบ้าน แต่เป็นนักรบของกลุ่มที่ประกาศตนว่าเป็น ISIS ที่แอบหลบหนีออกมาจากอีกฝั่ง ด้วยการแต่งหน้า แต่งตัว ให้กลมกลืนกับชาวบ้านในละแวกนั้น แต่สงสัยจะเนียนไปหน่อย หนีไม่พ้นมือตำรวจสิครับงานนี้ หนึ่งในนั้นก็ประกอบไปด้วยนักรบหนุ่มคนนี้ ที่แอบทาลิปสติก ใส่วิก ทาขอบตา พร้อมกับสวมชุดเหมือนหญิงสาวสุดเซ็กส์ซี่ แหมเนียนจริงๆ พ่อคู๊ณณ!! นี่ก็อีกคนที่โดนจับได้ แต่งตัวมาแบบนี้ ไม่มีใครดูออกเลยจริงๆนะ เนียนเกิ๊นนน นักรบหนุ่มสองคนนี้ที่สงสัยจะคิดถึงแม่ และชีวิตสบายๆตอนอยู่บ้าน แอบสวมผ้าคลุมสีดำตามธรรมเนียมของผู้นับถืออิสลาม แต่ดูไม่ออกเลยจริงๆ ว่าเป็นผู้ชายอ่ะนะ …
-
14 สถานที่ (ไม่) ลับจากทั่วโลก แต่คนธรรมดาเข้าไปไม่ได้ และคุณล่ะจะไปไหม!?
เคยอยู่เฉยๆ แล้วเกิดความรู้สึกว่าอยากจะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง แบบที่ไม่ต้องกลับมานั่งทำงาน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น และเที่ยวไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบ้างมั้ย? มีงานวิจัยมากมายบอกว่า การได้เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ส่งผลดีหลายด้านต่อทั้งร่างกาย และสุขภาพใจเรา แต่ทว่ายังมีบางสถานที่ ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ ถึงแม้ว่าจะอยากไปมากแค่ไหนก็ตาม เราไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง 1. เกาะงูคลั่งในบราซิล เป็นเกาะที่ถูกทางการบราซิลสั่งปิดตาย ไม่ให้นักท่องเที่ยวคนไหนเข้ามาย่างกรายที่นี่โดยเด็ดขาด เพราะทั่วทั้งเกาะเต็มไปด้วยงูพิษร้ายแรงจำนวนมาก มีเพียงแค่นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปศึกษาพื้นที่นี้ได้ 2. เกาะเฮิร์ด เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้กับแอนตาร์กติก มีเพียงนักท่องเที่ยวจำนวน 400 คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเที่ยวได้ต่อปี แต่กว่าจะไปถึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องนั่งเรือนาน 2 อาทิตย์ แถมยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคด้านสภาพอากาศที่แปรปรวนสุดๆ 3. Surtsey ในไอซ์แลนด์ ความพิเศษของเกาะนี้คือ มันเกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟในช่วงยุค 1960s และมันถูกควบคุมไม่ให้มนุษย์เข้าไปสำรวจ เพื่อทำการศึกษาการเป็นไปของเกาะแห่งนี้ตามธรรมชาติอย่างแท้จริง 4. ถ้ำลาสโกในฝรั่งเศส นับว่าเป็นถ้ำที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์มาก เพราะด้านในเต็มไปด้วยภาพศิลปะบนกำแพงของมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ ครั้งหนึ่งมันเคยเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ทว่าในปี 1963 ถ้ำแห่งนี้ถูกปิดตัวลง เพื่อรักษาความสวยงามจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ ให้คงอยู่ต่อไป 5. เกาะเซนติเนลเหนือ เกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอันดามัน…
-
พี่สาวรวบรวมความกล้า สารภาพบอกน้องสาวว่า ‘ชอบเพศเดียวกัน’ น้องบอก ‘หนูก็ด้วย’!?
เพื่อนๆ หลายคนคงจะเคยประสบปัญหากับการที่จะสารภาพรสนิยมทางเพศของตัวเองให้กับคนในครอบครัวฟัง เพราะกลัวว่าพวกเขาจะรับไม่ได้ ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวของสาวคนนี้ที่ตัดสินใจสารภาพว่าตะวเองชอบเพศตัวเดียวกันให้กับน้องสาวฟัง และผลที่ได้กลับเซอร์ไพรส์มากกว่าที่คิด เพื่อเป็นแรงบันดาลใจที่จะช่วยให้เพื่อนๆ รวบรวมความกล้าและสารภาพบอกกับสิ่งที่เราเป็นกับครอบครัว มารู้จักกับ Kay สาววัย 20 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Ryerson University ในรัฐ Toronto เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาเธอได้ส่งข้อความไปหาน้องสาว Sam วัย 15 ปีเพื่อสารภาพอะไรบางอย่าง “ชั้นรู้ว่ามันอาจจะกระทันหันไปนิด แต่ก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะต้องบอก” Kay กล่าว “ฉันชอบเพศเดียวกัน” เธอบอกกับ Sam และน้องสาวผู้น่ารักก็ตอบกลับมาทันทีว่า “ยังไงฉันก็รักเธอ ไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไรก็ตาม” จากนั้น Kay ก็ตอบกลับไปว่า “เหมือนกับยกอะไรหนักๆ ออกไปจากไหล่เลย” หลังจากนั้นไม่นาน Kay ก็ต้องตกใจเพราะน้องสาวของเธอนั้นก็ได้ทำการสารภาพกับเธอเช่นกันว่า “ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันน่าจะบอกเธอได้แล้วนะว่าฉันเองก็เป็นไบเซ็กซ์ชวลน่ะ” เท่านั้นยังไม่พอ Sam ยังบอกอีกว่า “แม่กับพ่อจะต้องเดือดอย่างแน่นอนเลยถ้ารู้เรื่องนี้เข้า!!” “ในตอนแรกนั้นฉันรู้สึกช็อคมาก และก็คิดว่า…
-
ชาวเมืองรัสเซีย คิดว่าเป็นกล่องใส่ระเบิด พอเจ้าหน้าที่มาดู ถึงกับผงะเป็น 2 หมา 1 แมว ซะงั้น!!?
จะว่าไปช่วงหลังๆมานี้ มักจะมีข่าวการลอบวางระเบิด หรือการก่อร้ายทั่วโลกไปหมด โดยที่ประชาชนคนบริสุทธิ์อย่างเราๆนี้แหละ ที่กลายเป็นเหยื่อของผู้ไม่ประสงค์ดี เวลาไปเจอวัตถุแปลกประหลาดในที่สาธารณะ ก็ต้องเรียกเจ้าหน้าที่มาพิสูจน์ไว้ก่อนเพื่อความชัวร์ เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในเมือง Ulan-Ude ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย ซึ่งทางเว็บข่าวได้ลงรายงานไว้เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เรื่องมันมีอยู่ว่า เย็นวันหนึ่ง ณ จุดรอรถบัสสาธารณะที่ชาวเมืองมักมาใช้กันอย่างเป็นประจำ มีพลเมืองสังเกตุเห็นกล่องปริศนาที่วางอยู่ในบริเวณนั้น แต่ไม่ทราบว่าด้านในบรรจุอะไรไว้ หลายคนเกรงว่าจะเป็นวัตถุระเบิด หรืออะไรทำนองนั้น จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด ให้เข้ามาตรวจสอบโดยด่วน งานนี้เจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้า ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากันให้เพียบ มีการกักบริเวณไว้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนอีกด้วย ถึงขนาดที่ว่ามีการสั่งปิดถนนชั่วคราว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตัดสินใจว่า จะนำกล่องปริศนานี้ไปทำการตรวจสอบในที่ห่างไกลผู้คน หรือว่าจะเข้าไปเก็บกู้ตรงนั้นเลยดี แต่แล้วในระหว่างที่กำลังเตรียมพร้อมปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งสังเกตุเห็นว่า กล่องนี้มันขยับได้!! ดูเหมือนว่ามันจะต้องมีสิ่งมีชีวิตด้านในแน่ๆ เอ๊ะ..หรือว่าจะเป็นระเบิดที่ใช้สัตว์ขนาดเล็กเป็นตัวล่อกันแน่นะ แบบนี้ต้องมีผู้เสียสละ เจ้าหน้าที่นายหนึ่งรีบเข้าไปเก็บกล่องแห่งนั้น พร้อมกับพบว่า มันไม่ใช่ระเบิดอย่างที่ทุกคนคิด!! ปรากฏว่าด้านในกล่อง เป็นที่อยู่ของ สองหมาน้อย และอีกหนึ่งแมวเหมียวผู้น่ารัก แต่กระนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันมาจากไหน และใครเอามาทิ้งไว้ ชาวเมืองคาดกันว่า เจ้าหมาน้อยคงมีอายุเพียงแค่ 1 เดือน ส่วนแมวเหมียวน่าจะโตจนอายุ 2-3…
-
สาวประเภทสอง ออกเดินทางแต่งหน้าให้ผู้ป่วยมะเร็งฟรี เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้พวกเขา…
ความสวยความงามเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการไม่ว่าจะอยู่ในสังคมแบบไหน แต่เมื่อต้องเผชิญกับโรคร้ายอย่างโรคมะเร็งจึงทำให้หลายๆ คนสูญเสียความมั่นใจไป แต่สำหรับ Norman สาวประเภทสองและเป็นช่างแต่งหน้า เธอเคยถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งตั้งแต่อายุ 15 ปี ส่งผลให้เขาผมร่วงจากการทำคีโม (เคมีบำบัด) ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น ทั้งขนตา คิ้ว ก็ร่วงไปหมดเลยด้วย แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็กอายุแค่ 15 ปี เพราะเธอมักจะถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ และยังถูกเพื่อนแกล้งอีกเป็นประจำ ไม่นานหลังจากนั้น ผมของเเธอก็ค่อยๆ ขึ้นมาเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็สูญเสียผมทั้งหมดอีกครั้งในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย จนทำให้เเธอแทบจะสิ้นหวัง แต่นั่นคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตขอ เมื่อ Norman ได้ดูการสอนแต่งหน้าบนยูทูป ก็เกิดสนใจ จึงได้ตัดสินใจลงเรียนคลาสแต่งหน้าทันที เมื่อแต่งหน้าเป็นแล้ว เธอไม่เพียงแต่งหน้าให้ตัวเอง และแทนที่เขาจะทำงานกับนางแบบ หรือรับจ็อบเสริมเพื่อสร้างรายได้ในวันหยุด แต่เขาเลือกที่จะแต่งหน้าให้ผู้ป่วยมะเร็งฟรีๆ Norman ให้เหตุผลว่า “เพราะฉันเองก็เป็นมะเร็ง และฉันรู้ดีว่ามันน่ากลัวแค่ไหน กับการที่ต้องถูกคนอื่นมองด้วยสายตาแปลกๆ แต่ฉันก็รู้สึกมั่นใจอีกครั้งเมื่อได้เสริมสวย ดังนั้นฉันจึงอยากส่งมอบให้ผู้ป่วยมะเร็งคนอื่นๆ ด้วย” “การที่ผู้ป่วยมะเร็งต้องสูญเสียผมไปนั้น ทำให้พวกเขาสูญเสียความมั่นใจไปด้วย และแน่นอนว่ามันกระทบกับสภาพจิตใจโดยตรง ดังนั้นฉันจะเขียนคิ้ว ติดขนตาให้ เพื่อให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น” …
-
15 สถานศึกษาซึ่งได้ขึ้นชื่อว่า ออกแบบสวยงามที่สุดในโลก ทั้งได้ความรู้และบรรยากาศฟินๆ
การที่นักเรียนหรือนักศึกษาไม่ชอบไปเรียนนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า พวกเข้าเบื่อบรรยากาศเดิมๆ เบื่อการต้องนั่งในห้องสี่เหลี่ยมที่ไม่มีอะไรให้น่าสนใจเลย แต่สำหรับ 15 สถานศึกษาต่อไปนี้เปลี่ยนแหล่งเรียนรู้ให้มีความน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งขึ้น กระตุ้นให้นักเรียนมีความกระอยากเรียนมากขึ้น และยังขึ้นชื่อว่าสถานศึกษาที่สวยที่สุดในโลกด้วย…. 1. โรงเรียนอนุบาล OA ในไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น โรงเรียนที่ดูจากภายนอกแล้วไม่มีความเหมือนโรงเรียนทั่วไปที่เราเคยเห็นเลย มีการตกแต่งภายในที่ดูสะอาดตา และมีพื้นที่ให้เด็กๆ วิ่งเล่นที่กว้างขวาง 2. มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น คณะการออกแบบที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น มีตึกที่ออกแบบให้มีรูปทรงคล้ายกับต้นไม้ ซึ่งทำให้นักเรียนได้รู้สึกผ่อนคลายและทำให้มีสมาธิมากขึ้นอีกด้วย ส่วนด้านข้างไม่ได้ปิดกั้นด้วยปูนหรือไม้ แต่ทำเป็นตาข่ายด้วยดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร 3. มหาวิทยาลัย TAC SEV ประเทศตุรกี TAC SEV ใน ประเทศตุรกี ดูเผินๆแล้วภายในเหมือนสวนหย่อมที่สุดแสนธรรมดาในที่ทำงาน แต่พอกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟสีส้มทำให้สวยสบายตาสุดๆ 4. โรงเรียน Pennleigh and Essendon Grammar ประเทศออสเตรเลีย โรงเรียน Penleigh and Essendon Grammar เมือง Niddrie…
-
หนุ่มอยากง้อแฟนสาว ลงทุนเอา ‘ไส้กรอก’ ทำเป็นระเบิดปลอม ไม่ได้ผลแล้วยังโดนจับอีก!!
การถูกแฟนทิ้งนั้น คนทำให้หลายๆ คนถึงขั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับ บางคนจึงตัดสินใจตามง้อ ขอคืนดีทุกวิถีทาง เพราะความรักทำให้คนเรายอมทำทุกอย่างได้ แม้จะเป็นเรื่องผิดก็ตาม เหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ ที่ถูกแฟนทิ้ง เขาจึงได้ทำระเบิดปลอมขึ้นมาเพื่อใช้ไปขู่แฟนสาวและครอบครัว โดยหวังว่า วิธีนี้จะทำให้แฟนสาวกลับมาหาสำเร็จ เขาคือชายหนุ่มจากมณฑล Heilongjiang หลังจากที่ตามง้อมาด้วยสารพัดวิธีแต่แฟนสาวก็ไม่ยอมใจอ่อนสักที ชายหนุ่มจึงคิดวิธีพิเรน และคิดว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะง้อแฟน ว่าแล้ว เขาก็ได้นำไส้กรอกมาห่อโดยทำให้ดูเหมือนระเบิด จากนั้นก็ถ่ายรูประเบิด (ปลอม) นี้ส่งไปให้แฟนเก่าในแอพลิเคชั่น WeChat พร้อมข้อความว่า “ถ้าเธอไม่ออกมาหาฉัน ฉันจะฆ่าเธอและครอบครัวซะ” แต่โชคไม่เข้าข้างเขา เมื่อน้องสาวของเขาได้เข้าไปเจอห่อแปลกๆ อยู่ในตู้เย็น และเธอเข้าใจผิดว่าเป็นระเบิดจริงๆ เธอเลยโทรเรียกตำรวจทัน โดยไม่ได้ถามพี่ชายซักคำ!! เมื่อตำรวจมาถึง ความลับนี้ก็แตก ณ ตอนนั้นแหละ แค่นั้นยังไม่พอ ตำรวจยังจับเขาในข้อหาข่มขู่ผู้อื่นโดยเจตนา จนทำให้ผู้อื่นตื่นตระหนกอีกด้วย สุดท้ายแล้วไม่มีรายงานว่าเขาถูกตั้งข้อหาหรือตัดสินจำคุกนานเท่าไร แต่น่าจะเป็นบทเรียนให้กับหลายๆ คนในการทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด หรือขาดสติได้อย่างดีมากๆ เลย สภาพระเบิดปลอมของเขา นอกจากง้อไม่สำเร็จแล้วยังโดนจับอีก อะไรจะซวยขนาดนี้ ที่มา shanghaiist
-
ชาวเมืองร่วมผูก ‘ผ้าพันคอ’ รอบต้นไม้ เพื่อให้คนจรจัดและผู้ยากไร้ นำไปใช้กันหนาวได้ฟรีๆ
การผูกผ้าสีๆ ตามต้นไม้คงเป็นภาพที่คนไทยเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยวัตถุประสงค์ในการทำเช่นนั้นก็คงเป็นเพราะความเชื่อในสิ่งศักดิ์ หรือเพื่อเป็นการอนุรักษ์ต้นไม้นั่นเอง และตอนนี้ผู้คนจากทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาก็กำลังนิยมผูกผ้าตามต้นไม้เช่นกัน แต่ไม่ใช่เพราะความเชื่อหรือปกป้องต้นไม้นะ แต่มันมีความหมายมากกว่านั้น คนอเมริกาได้เอาผ้าพันคอของตัวเองไปผูกไว้ตามต้นไม้ เพื่อส่งมอบความอบอุ่นให้กับคนยากไร้ในช่วงฤดูหนาวนี้ และเพื่อทำให้คนไร้บ้านรู้สึกว่า พวกเขาไม่ได้อยู่ท่ามกลางความหนาวเพียงลำพัง บางคนใส่ผ้าพันคอออกบ้าน แต่เมื่อเห็นผ้าพันคอผูกอยู่ตามต้นไม้ พวกเขาก็จะถอดออกไปแล้วไปผูกไว้เช่นกัน เพราะรู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่ต้องการความอบอุ่นแต่ไม่สามารถหาซื้อได้ Elizabeth Sammons หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการนี้ บอกว่า การมอบผ้าพันคอให้คนที่ต้องการนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะทำให้กับชุมชนของเราได้ ในอเมริกามีคนไร้บ้านอยู่ประมาณ 1,560,000 คน ที่รอคอยความช่วยเหลือ แต่คนเพียงคนเดียวหรือคนกลุ่มน้อยจะช่วยทั้งหมดนี้ก็ดูกจะยากเกินไปและคงไม่ทั่วถึงแน่ ดังนั้น คนอเมริกาเกือบทุกรัฐจึงได้เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งทุกคนไม่ได้ถูกบังคับให้ทำ แต่พวกเขาเต็มใจที่มอบผ้าพันคอให้กับคนยากไร้ เพราะคนยากจนก็คือพลเมืองคนหนึ่งในสังคม เพราะฉะนั้นพวกเขาก็ควรได้รับความอบอุ่นเช่นเดียวกันคนอื่นๆ บางคนได้มาผูกไว้มากกว่า 1 ผืน เพราะรู้ดีว่า คนจรจัดในสังคมนี้มีไม่น้อยเลย และพวกเขาก็อยากให้ทุกคนได้รับผ้าพันคอโดยไม่ต้องแย่งกัน เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกอุ่นใจไปด้วย เพราะมันไม่ใช่แค่การบริจาคเท่านั้น แต่มันทำให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งเดียวกันของคนในชุมชนและความห่วงใยที่มีให้กัน ในขณะเดียวกัน คนไร้บ้านเอง ก็จะรู้สึกว่า พวกเขาไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะมีคนมากมายที่ห่วงใยพวกเขาและพร้อมจะช่วยเหลือเสมอ เรียกได้ว่า…
-
องค์กรการกุศลผลิต “เสื้อกันหนาวถุงนอน” บริจาคให้คนไร้บ้าน ใช้ใส่และนอนได้อย่างอบอุ่น
หนาวแล้ว คนส่วนใหญ่คงซื้อเสื้อกันหนาวมาเต็มตู้แน่ๆ เลย ทีนี้หนาวแค่ไหนก็ไม่หวั่นแล้ว.. แต่นั่นมันสำหรับเรา แล้วคนไร้บ้านหรือผู้ยากไร้ล่ะ พวกเขาจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อ? และถ้าเราอยากซื้อเสื้อสักตัวในคนไร้บ้าน ก็คงต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าในการนำไปใช้ด้วย นี่เลย เสื้อกันหนาวแบบใหม่ที่สามารถดัดแปลงในเป็นถุงนอนได้ เสื้อกันหนาวแบบใหม่นี้ผลิตโดย The Empowerment Plan ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร โดยผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือคนไร้บ้านนับพันที่ต้องเผชิญกับความหนาวเหน็บข้างถนน เสื้อกันหนาวพิเศษนี้สามารถกันน้ำได้ และมีความทนทาน เพราะทำจากวัสดุพิเศษที่ได้รับบริจาคจากบริษัท General Motors ซึ่งจะให้ความอบอุ่นและแห้งตลอดช่วงฤดูหนาว และเมื่อไม่ต้องการสวมใส่ ก็สามารถนำมาพับเก็บเป็นกระเป๋าที่พกพาได้สะดวกสบาย ส่วนต้นทุนนั้นอยู่ที่ประมาณตัวละ 3,500 บาท ซึ่งทาง TEP ได้จ้างคนไร้บ้านมาทำให้ นอกจากนี้ TEP ยังได้หางานที่มั่นคงให้กับพวกเขาด้วย พร้อมทั้งหาที่อยู่ที่ปลอดภัยและให้พวกเขามีอิสรภาพในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของสังคมด้วย เสื้อกันหนาวที่ได้ผลิตมานี้ถูกนำไปกระจายตามองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือคนไร้บ้านตามที่ต่างๆ โดยไม่คิดราคา เพราะพวกเขาตระหนักว่า มนุษย์ไม่ควรต้องนอนอยู่ข้างถนนท่ามกลางอากาศหนาว และแม้การแจกเสื้อกันหนาวจะช่วยได้ไม่มาก แต่อย่าน้อยมันก็ให้ความอบอุ่นและไม่ต้องทนกับความชื้นอีกต่อไปจนกว่าพวกเขาจะได้ไปอยู่ในศูนย์พักพิงหรือมีที่อยู่ที่ดีขึ้น TEP ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2012 พวกเขามีลูกจ้าง 30 คน ซึ่งเป็นคนไร้บ้านมาก่อน และตอนนี้พนักงานเหล่านี้ก็ไม่ต้องอยู่ตามข้างถนนอีกแล้ว เสื้อกันหนาวกว่า 15,000 ตัวกระจายไปตามรัฐต่างๆ ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา นอกจากนี้ยังทำให้เด็กส่วนหนึ่งมีรายได้ที่มั่นคงจากโครงการนี้ด้วย…
-
จีนสร้าง “เรือไททานิคจำลอง” แบบที่เหมือนจริงทุกตารางนิ้ว พร้อมภูเขาน้ำแข็งอีกด้วย
พูดถึงเรือไททานิค เราคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะได้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังจนทำให้หลายคนถึงกับรู้สึกเสียดายเรือยักษ์ ที่มีความหรูหราแบบนั้น เมื่อเป็นเรือที่โด่งดังขนาดนี้ พี่จีนเองก็ไม่พลาดที่จะนำเรือแห่งความทรงจำนี้กลับมาอีกครั้ง เพราะตอนนี้จีนอยู่ในระหว่างการสร้างเรือไททานิคจำลอง และจะเปิดให้ทุกคนได้มาสัมผัสเมื่อสร้างเสร็จ จีนได้ประกาศที่จะสร้างเรือไททานิคจำลองเมื่อปี 2013 ในที่สุดโครงการนี้ก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยใช้ลงทุนไปกว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งจะมีการตกแต่งภายในให้เหมือนเรือไททานิคที่สุด แต่สำหรับเรือไททานิคจำลองนี้จะไม่สามารถออกสู่มหาสมุทรได้ แต่มันตั้งอยู่ในอ่างเก็บน้ำในมณฑลเสฉวน ซึ่งอยู่ห่างจากทะเลประมาณ 1,200 กิโลเมตร ในปี 1912 ที่เรือไททานิคจมสู่ก้นมหาสมุทร มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คน ซึ่งทุกคนบนเรือก็ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะทุกคนที่ขึ้นเรือลำนี้ต่างตื่นเต้นกับความอลังการของเรือยักษ์ และมันเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งมาก และหลังจากเกิดเหุตการณ์น่าเศร้านี้ ทางผู้ผลิตหนังฮอลลีวู้ดก็ได้นำมาสร้างเป็นภาพยนต์สุดอลังการเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้ที่จากไป ดังนั้นจีนเอง ซึ่งเป็นประเทศที่ถนัดเรื่องการเลียนแบบอยู่แล้ว ก็ไม่พลาดที่จะทำเรือไททานิคเช่นกัน… ย้อนกลับไปในปี 2014 พวกเขาก็ได้สร้างรูปปั้นสฟิงซ์จำลองของอียิปต์ ในเมือง Hebei และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้สร้างนาฬิกาพลังงานแสงอาทิตย์จนสำเร็จด้วย ดังนั้นการสร้างเรือไททานิคจำลองนี้ก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับจีน และมันก็ไม่ใช่แค่การเลียนแบบเท่านั้น แต่มันอาจจะหมายความว่าโศกนาฏกรรมนี้จะอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยนั่นเอง และคาดว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมความอลังการของเรือไททานิคจำลองนี้ในช่วงปลายปี 2017 นอกจากตัวเรือแล้ว พวกเขาจะทำก้อนน้ำแข็งซ่อนอยู่ใต้น้ำด้วย โดยจะจำลองบรรยากาศโดยรอบให้สมจริงที่สุด และนี่คือภาพภายในของเรือไททานิคจำลองเมื่อสร้างเสร็จ …
-
พบกับ Liu Miaomiao นางฟ้าจากสายการบินเซินเจิ้น ผู้ได้รับรางวัล ‘แอร์ที่สวยที่สุดในโลก’
สำหรับ #เหมียวขี้ส่อง แล้ว เห็นแอร์โฮสเตสคนไหนๆ ก็สวยเหมือนกันหมดนั่นแหละ แต่ก็อย่างว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า นั่นแสดงว่า ต้องมีแอร์ที่สวยที่สุดอยู่คนหนึ่งยังไงล่ะ เธอจะเป็นใครกันน่าาา!? นี่ไง Liu Miaomiao แอร์โฮสเตสจากเซินเจิ้น ผู้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติที่มีชื่อว่า “แอร์โฮสเตสที่สวยที่สุดในโลก” ซึ่งจัดประกวดโดย World Air Stewardess Association (WASA) ในปีนี้ เดิมนั้น Liu มาจาก Xi’an และได้กลายมาเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินเซินเจิ้น (Shenzhen Airlines) ในปี 2010 ซึ่งกว่าจะได้เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินนั้น เธอต้องการผ่านการทดสอบที่เข้มงวดมาก ในช่วงสามเดือนที่ฝึกงาน Liu และเพื่อนๆ ต้องฝึกบุคลิกด้วยการวางจานไว้บนหัวเพื่อฝึกเดินให้สง่างาม และต้องคาบตะเกียบเพื่อมีรอยยิ้มที่สดใสเป็นธรรมชาติ แต่ก็ต้องขอบคุณทักษะทั้งหมดนี้ที่ทำให้เธอได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแอร์โฮสเตสในปี 2014 ซึ่งครั้งหนึ่ง Liu ก็ได้กลายเป็นที่จดจำทั่วประเทศจีน เมื่อเกิดเหตุการณ์เครื่องบินดีเลย์ จนผู้โดยสารออกมาโวยวายกันอย่างวุ่นวาย แต่แอร์สาวทำให้สถานการณ์นี้สงบลงด้วย “รอยยิ้ม” ของเธอ ตามการรายงานข่าวของ China Daily และไม่น่าเชื่อว่าในตอนท้าย ผู้โดยสารที่กำลังโมโหนั้น เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ พวกเขาต่างพากันขอโทษเธอที่ทำพฤติกรรมที่ไม่ดีใส่ …
-
ระทวย…ญี่ปุ่นจัดแสดงนิทรรศการ “ขาอ่อน” เพื่อคนที่ชื่นชอบศิลปะแบบขาวๆ โอโม่ๆ
ศิลปะสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพถ่าย การปั้น การประดิษฐ์ หรือแม้แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นศิลปะได้อย่าง “ขาอ่อน” ก็สามารถทำให้กลายเป็นศิลปะได้เช่นกัน… เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าบริษัทเบค่อนจำกัดมหาชน (ชื่อนี้จริงๆ) ในประเทศญี่ปุ่น ได้เตรียมจัดงาน The World of Thigh Photography 2016-2017 หรือว่าง่ายๆ ก็คือนิทรรศการจัดแสดงภาพถ่ายขาอ่อนประจำปี 2016-2017 นั่นเอง นิทรรศการครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดยการนำเอาภาพถ่ายของช่างภาพที่ชื่อว่า Yuria ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพขาอ่อนของสาวๆ มาจัดแสดงให้ผู้ที่ชื่นชอบขาอ่อนเหมือนกัน (และมองว่าเป็นศิลปะ) ได้เข้ามาชื่นชมกันอย่างเปิดเผย ภาพถ่ายทั้งหมดจะถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่แกลอรี่ TODAYS GALLERY STUDIO ที่เขตอซาคูซะบายาชิ เมืองโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2016 ถึง 22 มกราคม 2017 เก็บค่าเข้าชม 500 เยน หรือราวๆ 160 บาทเท่านั้น มองให้เป็นศิลปะนะหนุ่มๆ รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก… …
-
‘กำแพงแห่งน้ำใจ’ โผล่ขึ้นมาในประเทศอิหร่าน เพื่อให้คนนำเสื้อผ้าส่งต่อสู่ผู้ยากไร้…
“กำแพงแห่งน้ำใจ” โผล่ขึ้นมาในเมืองต่างๆ ของประเทศอิหร่าน เพื่อให้ผู้คนที่แวะเวียนเดินผ่านไปมานำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ที่กำแพงให้กำับผู้คนยากไร้หรือคนไร้บ้าน จากการรายงานของสำนักข่าว BBC บอกว่ากำแพงอันแรกนั้นโผล่ขึ้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Mashhad โดยมีที่แขวนผ้ามาติดที่ผนังพร้อมกับมีข้อความบอกว่า “ถ้าคุณไม่ต้องการมัน แขวนมันไว้ที่นี่ และถ้าคุณต้องการมันก็สามารถเอามันไปได้เลย” ชายคนที่เป็นคนคิดค้นโปรเจ็คนี้ขึ้นมานั้นไม่ได้ต้องการเปิดเผยตัวตน เขาได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น Hamshahri ว่าเขาดีใจที่ไอเดียของเขานั้นถูกนำไปใช้งาน “ผมได้บอกกับผู้คนว่าให้ผู้คนนำเสื้อผ้าในปริมาณน้อยๆ มาแขวนไว้ ดังนั้นคนที่มาที่นี่ก็จะรู้ว่าจะมีเสื้อผ้าให้พวกเขาอยู่ตลอดเวลา” จาการรายงานของ Radio Free Europe พบว่า “กำแพงแห่งน้ำใจ” นี้ได้เริ่มเกิดขึ้นในเมือง Sirjan และเมือง Shiraz ด้วยเช่นกัน ในฤดูหนาวของประเทศอิหร่านนั้นจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เพราะฉะนั้นความต้องการเสื้อผ้าของเหล่าผู้ยากไร้หรือคนไร้บ้านนั้นจะมีตัวเลขที่สูงมาก เพราะแค่ในเมืองหลวง Tehran นั้นก็มีประชากรคนไร้บ้านมากกว่า 15,000 คนไปแล้ว แน่นอนว่า ‘กำแพงแห่งน้ำใจ’ นี้จะช่วยเหลือเหล่าคนยากไร้และคนไร้บ้านได้มากมายเลยทีเดียวล่ะ ^^ “พวกเราต้องการทำมันด้วยตัวเอง ชีวิตมันสั้นนัก เพราะฉะนั้นจงทำความดีให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้” สมาชิกท่าหนึ่งของอินสตาแกรมได้กล่าวไว้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก เรื่องดีๆ แบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ พอได้รับรู้แล้วก็รู้สึกอิ่มเอมหัวใจไปด้วยเลย…
-
สาวจีนนักผจญภัย ลุยถ่ายภาพสวยๆ จากทั่วโลก 70 ประเทศ และอีกกว่า 100 เมือง
การได้เดินทางไปท่องเที่ยวรอบโลก มันคงจะเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน เพราะนั่นจะทำให้เราได้เห็นสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็น และได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย เหมือนดังเช่นสาวชาวจีนคนนี้ เธอได้เดินทางไปท่องเที่ยวรอบโลกมาแล้วกว่า 70 ประเทศ และอีกกว่า 100 เมือง เรียกได้ว่าต้องขอยกให้เธอเป็นสาวนักผจญภัยตัวจริงซะแล้วละ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต์ ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Xiao Yun Dou หรือ Dou Dou ช่างภาพสาวชาวจีน ผู้ที่หลงใหลการออกเดินทางไปเที่ยวรอบโลกเป็นอย่างมาก เธอยังได้เก็บภาพสุดประทับใจในขณะที่เธอได้เดินทางไปเที่ยวยังประเทศต่างๆ เอาไว้มากมาย จนภาพของเธอได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ของจีน ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับจากบรรดาชาวเน็ตอย่างล้นหลาม ทั้งยังทำให้เธอได้กลายเป็นบุคคลที่โด่งดังไปชั่วข้ามคืนอีกด้วย สำหรับ Dou Dou เธอเป็นช่างภาพสาวที่มีใจรักกีฬาด้านผาดโผน โดยตอนที่เธออายุเพียง 6 ขวบ เธอเคยเรียนเต้นมาก่อน และหลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าสู่วงการนางแบบในวัยเพียง 16 ปี แต่พอเริ่มเข้าเรียนไฮสคูล เธอก็เริ่มสนใจกีฬากลางแจ้ง และอยากที่จะออกไปท่องเที่ยวในหลายๆ ประเทศทั่วโลก นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้ออกไปผจญภัยยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในตอนนี้เธอไปมาแล้วกว่า…
-
ช่างค้นพบ ‘จดหมาย’ ของภรรยาที่จากไป 40 ปีในบ้านเก่า จึงดั้นด้นนำไปมอบให้กับสามีของเธอ!!
สำหรับคนที่ชื่นชอบการเขียนไดอารี่ หรือบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ จะรู้กันดีว่าเมื่อเวลาผ่านไปพอเราได้กลับมาอ่านมันอีกครั้งความทรงจำต่างๆ ที่เราเคยผ่านมาจะไหลผ่านเข้ามาผ่านตัวหนังสือสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับผู้หญิงคนนี้ที่มักจะเขียนจดหมายบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ แต่เสียดายที่เธอไม่ได้มีโอกาสอ่านมันได้อีกเพราะเธอได้เสียชีวิตไปและไม่มีใครทราบถึงมันเลยแม้แต่คนเดียว แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปนานกว่า 50 ปี จดหมายนี้ก็ถูกพบเจอและส่งมันไปให้กับสามีเธอรักที่สุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองไปติดตามชมกันได้เลย… เมื่อฤดูใบไม้ผลิในปี 2014 คุณ John Murray และทีมช่างของเขาได้ทำการรีโนเวทบ้านหลังหนึ่งในเมือง Phoenix รัฐ Arizona ที่สร้างไว้ตั้งแต่ปี 1950 และก็ได้บังเอิญพบกับสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องแปลกใจ จากการลอกแผ่นฉนวนกันความร้อนออกจากกำแพงพวกเขาก็ได้พบกับ รูปถ่ายครอบครัวเก่าๆ และกระดาษที่เขียนด้วยลายมือที่ดูสละสลวย คุณ John และนายช่างในทีมได้เล่าให้ฟังว่า “พวกเราผ่านการทำงานซ่อมแซมและรีโนเวทบ้านมาเป็นร้อยๆ หลัง แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน” จากการสำรวจดูแล้วก็พบว่าจดหมายบันทึกเหตุการณ์นี้ถูกเขียนขึ้นโดยคุณ Betty Klug ในปี 1966 ณ ตอนนั้นเธอมีอายุ 33 ปี เธอไม่เคยบอกใครเรื่องนี้เลยแม้แต่สามีอันเป็นที่รักอย่างคุณ Bruce ก็ตาม …
-
พาส่อง “ห้องน้ำสาธารณะ” สุดหรูมูลค่า 4 ล้านบาท ที่จะทำให้การปลดทุกข์ของคุณเหมือนอยู่ในสวรรค์!!
การได้เข้าห้องน้ำดีๆ นั้นถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ลองนึกภาพเวลาเราปวดท้องอย่างหนัก แล้วมาเจอห้องน้ำโทรมๆ ที่ตรงโน้นก็ไม่ดี ตรงนี้ก็ไม่ดี บางทีก็ทำเอาหมดอารมณ์เหมือนกัน แต่เพื่อนๆ ไม่ต้องกลัวไป เพราะวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมห้องน้ำสุดหรูระดับห้าดาว (แหม อย่างกะโรงแรม) ในประเทศจีน ที่มูลค่าทั้งหมดแล้วกว่า 4 ล้านบาท รับรองว่าถ้าเพื่อนๆ ได้เข้า อาจจะรู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยล่ะ… ห้องน้ำสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน มีการใช้งบประมาณก่อสร้างตกแต่งถึง 800,000 หยวน หรือราว 4 ล้านบาทเลยทีเดียว ถือว่าเป็นห้องน้ำระดับห้าดาวไม่กี่แห่งในประเทศจีน โดยภายในมีการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยหินอ่อนและไม้สำเร็จรูป นอกจากนี้การออกแบบยังคำนึกถึงความโปร่งโล่งสบาย บนพื้นที่ 15 ตารางเมตร พร้อมทั้งยังมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ให้ภายในมีอุณหภูมิไม่เกิน 26 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ยิ่งไปกว่านั้นสุขาชายยังมีการติดตั้งกระจกใส ที่อนุญาตให้ผู้ที่กำลังปลดทุกข์ สามารถดื่มด่ำกับวิวอันงดงามของภายนอกได้ และยังมีการเว้นระยะระหว่างโถ่ปัสสาวะ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการอีกด้วย แค่เห็นก็ฟินแล้ว อยากจะไปใช้บริการซักครั้งจริงๆ นอกจากห้องน้ำด้านบนแล้ว ล่าสุดทางเขตเทศบาลนครฉงฉิ่งเพิ่งเปิดตัวห้องน้ำชายสาธารณะแบบเปิดเผยสุดๆ…
-
สาวช่วยเหลือแมวตาบอดมาจากต้นไม้ และมอบชีวิตใหม่ที่แสนสุขให้กับมัน!!
เรื่องราวของเจ้าเหมียวตาบอดที่ได้รับโอกาสในการมีชีวิตใหม่ที่แสนสุข หลังจากที่ถูกช่วยเหลือมาจากต้นไม้อันเป็นเสมือนบ้านของมันมาตลอดชีวิต มารู้จักกับเจ้าเหมียว Wally “ฉันได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนบอกว่ามีแมวอยู่ในต้นไม้ที่อยู่ในลานจอดรถของห้าง Wallmart และดูเหมือนกับว่ามันจะมีอาการย่ำแย่เอามากๆ เลยล่ะ” คุณ Nikki ผู้ช่วยเหลือเจ้า Wally เล่า เจ้าแมวจรจัดตัวน้อยมีสภาพที่ดูสกปรกมาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน “ดวงตาของมันนั้นปิดลงอย่างสนิทจากการติดเชื้อ” ในขณะที่ได้รับโทรศัพท์นั้นคุณ Nikki กำลังอยู่ในเวลางานอยู่ เธอก็เลยให้คำแนะนำกับเพื่อนอย่างละเอียดเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อช่วยเหลือเจ้าเหมียวออกมาอย่างปลอดภัย ต่อมาในช่วงเวลาบ่ายซึ่งเป็นช่วงพักทานข่าวเธอก็รีบบึ่งรถมารับมันในทันที ภาพแรกที่เธอเห็นก็คือเจ้าเหมียว Wally กำลังร้องเหมียวใส่คนที่ทำการช่วยเหลือมันออกมา ราวกับบอกว่า ‘ขอบใจนะ’ อยู่เลย “มันมีบุคลิกที่น่ารักมากตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับมัน” เธอเล่า จากนั้นคุณ Nikki ก็พาเจ้าเหมียวกลับมาที่บ้านเพื่อดูอาการของมันและปฐมพยาบาลเบื้องต้น “หลังจากวันที่ฉันพามันกลับมาที่บ้านด้วย ฉันก็รีบพามันไปยังคลีนิคที่เธอทำงานอยู่ เพราะต้องทำการผ่าตัดดวงตาของมันอย่างเร่งด่วน” คุณ Nikki เล่า หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น เจ้าเหมียว Wally ก็แสดงให้เห็นว่าตอนนี้มันรู้สึกดีขึ้นแล้วนะ ด้วยดารเอามือมานวดฝ่ามือของคุณ Nikki จากการตรวจสอบแล้วก็พบว่าเจ้าเหมียว Wally นั้นเกิดมาพร้อมกับอาการผิดปกติที่เรียกว่า Micro Ophthalmia…
-
นักออกแบบฝรั่งเศสเผยคอนเซ็ป “ฟิตเนสลอยน้ำ” สุดล้ำ ไม่ปั่น ไม่ออกแรง ไม่ได้ขึ้นฝั่ง!!
ทุกวันนี้การหาแรงบันดาลใจไปออกกำลังกายอาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆ คน แต่ละคนก็มีเหตุผลต่างๆ นาๆ แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าการหาแรงบันดาลใจเป็นเรื่องยากเกินไป ลองไปชมฟิตเนสแห่งนี้ ที่ถ้าท่านไม่ออกแรง ไม่กำลังกาย ท่านจะไม่ได้ขึ้นฝั่งกลับบ้านอย่างแน่นอน ฟิตเนสแห่งนี้มีชื่อว่า The Paris Navigating Gym ออกแบบโดย Carlo Ratti Associati โดยมีลักษณะเป็นเรือที่ล่องไปตามแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ความพิเศษของฟิตเนสแห่งนี้คือมันสามารถผลิตพลังงานได้เอง…ถามว่าพลังงานเหล่านั้นจากไหน ก็มาจากการออกกำลังกายยังไงล่ะ!! พลังงานทั้งหมดของเรือจะมาจากการปั่นเครื่องปั่นจักรยาน ลู่วิ่ง และเครื่องเล่นต่างๆ ซึ่งออกแบบโดยบริษัท ARTIS ซึ่งเรือจะล่องไปเรื่อยๆ และมีจุดจอดเป็นระยะๆ ดังนั้นถ้าท่านไม่ออกแรงปั่น ท่านก็จะไม่ได้ขึ้นฝั่งนั่นเอง ถือว่าเป็นการบังคับให้ออกกำลังกายไปในตัว “มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นเรือที่สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังของมนุษย์จริงๆ มันจะทำให้เห็นว่าพลังของมนุษย์นั้นเจ๋งขนาดไหน” Carlo Ratti กล่าว นอกจากนี้ทางทีมออกแบบได้กล่าวว่า รูปลักษณ์ของเรือลำนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือ Bateaux Mouches ซึ่งเป็นเรือโดยสารบนแม่น้ำแซนในช่วงศตวรรษที่ 20 อย่างไรก็ตามเรือลำนี้ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาอยู่และยังไม่มีกำหนัดว่าจะสามารถใช้งานได้จริงเมื่อไหร่ ก็ต้องรอติดตามกันต่อไปนะฮะ แต่ถือว่าเจ๋งเป้งไปเลยใช่มั้ยล่า ที่มา demilked
-
การต่อสู้ระหว่าง สิงโตตัวผู้ vs ตัวเมีย… ผลก็รู้ๆ กันอยู่ พ่อบ้านทั้งหลาย อย่าคิดจะกร่าง!!
หากได้เห็นภาพของสิงโตตัวผู้และตัวเมียทะเลาะกัน หลายคนอาจจะคิดว่าสิงโตตัวผู้น่าจะเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน เพราะด้วยขนาดตัวที่ใหญ่กว่า นั่นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะทำให้มันได้รับชัยชนะอย่างสมเกียรติ แต่สิ่งที่คิดมันอาจไม่ได้เป็นจริงเสมอไปก็ได้นะ เพราะเหตุการณ์วิวาทอันดุเดือดระหว่างสิงโตตัวผู้และตัวเมียครั้งนี้มันไม่ใช่แบบนั้นน่ะสิ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Thesun ได้เผยภาพของสิงโตคู่หนึ่งที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด และดูเหมือนจะคาดเดายากมากๆ ว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้แพ้ เพราะความโหดเรียกได้ว่าสูสีกันมากๆ เลยละ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้น ณ อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ เมืองโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งทาง Corlette Wessels ผู้จัดการฟาร์มวัย 43 ปี ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับอุทยานดังกล่าว เป็นผู้บันทึกช่วงวินาทีที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้เอาไว้ได้ โดยในขณะที่เขากำลังเดินตรวจฟาร์มอยู่นั้น ก็บังเอิญเห็นสองสิงโต ซึ่งเป็นตัวผู้ และตัวเมียกำลังทะเลาะวิวาท และต่อสู้กันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน โดยอยู่ห่างจากเขาประมาณ 200 เมตร ด้วยเหตุนี้ Corlette จึงรีบนำกล้องขึ้นมาบันทึกภาพเอาไว้ทันที Corlette ได้เผยว่า เขาได้เห็นสิงโตตัวผู้เข้าไปนั่งใกล้ๆ ฝูงสิงโตตัวเมีย แต่ทว่าสิงโตตัวเมียตัวหนึ่งที่อยู่ในฝูงกลับไม่พอใจก็เลยเริ่มคำรามใส่สิงโตตัวผู้ ด้านสิงโตตัวผู้ก็ได้คำรามกลับ จึงทำให้สิงโตตัวเมียตบหน้าเข้าอย่างจัง แถมไม่พอยังมีสิงโตตัวอื่นๆ…
-
คุณปู่อดีตทหารผ่านศึกวัย 89 ประกาศหางานหลังเกษียณ เพราะกลัวจะเบื่อตายซะก่อน!!
เคยคิดถึงชีวิตในช่วงวัยเกษียณของเรากันบ้างมั้ย? หลายๆคนคงคิดภาพตัวเองอยู่กับลูกหลาน ไม่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน ไม่ต้องมีเสียบ่นจากเจ้านายให้น่ารำคาญ อยู่กับความสงบในช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่สำหรับคุณปู่ ‘Joe Bartley’ อดีตทหารผ่านศึกวัย 89 ขวบ คนนี้ เค้าเลือกเส้นทางเดินบั้นปลายชีวิตที่ต่างออกไป เพราะเค้าทนไม่ไหวที่จะอยู่บ้านตามลำพัง นั่งดูทีวีอันแสนน่าเบื่อ และรอเงินสวัสดิการจากรัฐฯไปวันๆ เพราะความเบื่อหน่าย และความเงียบเหงา คุณปู่ตัดสินใจลงโฆษณาประกาศหางานผ่านหนังสือพิมพ์ ‘Torquay Herald and Express’ คุณปู่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ผมคงเป็นประสาทแดกแน่ๆ ถ้าต้องอยู่ติดกับบ้าน นั่งดูทีวี หรืออ่านหนังสือทั้งวัน ผมก็แค่อยากจะหางานทำวันละซัก 5 ชั่วโมง เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่า ถึงแม้ว่าผมจะได้สวัสดิการจากรัฐฯ แต่คุณเข้าใจมั้ยว่า ผมทำงานดูแลตัวเองมาตลอดชีวิต ขืนอยู่แบบนี้ผมคงเบื่อตายแน่ๆ” ในประกาศหางาน คุณลุงได้ใส่ข้อมูลด้วยว่า อดีตตนเป็นทหารอากาศมาก่อน สามารถทำได้ทุกอย่างแล้วแต่จะจ้าง และได้โปรดใครก็ได้ช่วยเค้าหลุดออกจากความเบื่อหน่ายที!! ภาพในอดีตสมัยที่คุณปู่ Joe ยังเป็นทหารอากาศหนุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ย้ายมาอาศัยอยู่กับภรรยาสุดที่รัก ‘Cassie’ คู่ชีวิตที่อยู่กินร่วมกันมาตลอด 37 ปี ที่เมือง Torbay…
-
โครงการปันรักให้ ‘ผู้สูงอายุความจำเสื่อม’ เลี้ยง ‘เหมียวกำพร้า’ เพื่อเติมเต็มให้กันและกัน
ที่ผ่านมาการผลวิจัยเผยว่า สัตว์เลี้ยงนั้นสามารถช่วยลดความเครียดของมนุษย์ได้ ทั้งยังฟื้นฟูสุขภาพและช่วยรับมือกับความแปรปรวนทางอารมรณ์ได้ด้วย และอย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะประสบกับปัญหาความจำเสื่อม ส่งผลให้พวกเขามีอารมณ์แปรปรวนง่าย เราจะต้องมีวิธีการรับมือกับอารมณ์เหล่านี้ด้วยการทำให้พวกเขามีความสุข นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Catalina Springs Memory ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุความจำเสื่อมกับ Pima Animal Care ศูนย์ดูแลสัตว์ได้ร่วมมือกันทำโครงการที่มีประโยชน์ต่อทั้งผู้สูงอายุและแมวเหมียว โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อ Rebecca Hamilton ผู้อำนวยการของศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เห็นว่ามีแมวน้อยมากมายที่ถูกทิ้ง และพวกมันควรได้รับการดูแล และคนคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกผู้สูงอายุที่เธอดูแลอยู่ เธอจึงได้ประสานไปยังศูนย์ดูแล และพวกเขาได้ตกลงจัดตั้งโครงการเยียวผู้สูงอายุและแมวน้อยขึ้นมา โดยจะให้ผู้สูงอายุทำหน้าที่ดูแลแมวน้อย ตั้งแต่โครงการนี้ได้ดำเนินการเห็นได้ชัดว่า ผู้ป่วยหลายคนมีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด อย่างบางคนที่มีโลกส่วนตัวสูง อยู่แต่ในห้อง ก็ยอมออกจากห้องเพื่อมาเล่นกับแมวน้อย บางคนเป็นคนหงุดหงิดง่าย หน้าบึ้งอยู่ตลอด แต่เมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับแมวเหมียว พวกเขาก็มีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าและกลายเป็นคนอารมณ์ดีอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นี่คือคุณยาย Thelma ที่สูญเสียความจำไปนานมากแล้ว แต่เธอดูมีความสุขเมื่อได้ป้อนนมให้แมวน้อย นอกจากทำให้เหล่าคุณตาคุณยายสภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว ผู้ดูแลยังบอกอีกว่า แมวน้อยยังช่วยทำให้ความจำบางส่วนของผู้สูงอายุกลับมาด้วย แม้จะเล็กน้อยก็ตาม นั่นหมายความว่า นอกจากจะมอบความสุขให้ผู้สูงอายุด้วยความน่ารักแล้ว พวกมันยังเรียกคืนความทรงจำให้กับคุณตาคุณยายด้วย ส่วนแมวน้อยเองแม้จะกำพร้าพ่อแม่ แต่เมื่อมันได้มาอยู่ในการดูแลของผู้สูงอายุเหล่านี้ ก็เหมือนเป็นการทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปนั้น พวกมันเติบโตมาท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่นและคอยดูอย่างดี…
-
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหมาจรจัด ได้โปรโมชั่น 1 แถม 5 แบบไม่รู้ตัว เพราะมันต้องท้องอยู่…
รอบตัวเรานี้เต็มไปด้วยสุนัขจรจัดที่รอคอยความช่วยเหลือ แต่ก็น้อยคนนักที่จะเหลียวและ เพราะคนส่วนที่พบเจอมักจะเดินผ่านไปโดยไม่ใยดี แต่สำหรับสุนัขจรจัดตัวนี้ เลือกอาศัยอยู่ใต้รถเข็นห้างเป็นบ้านของตัวเอง เพราะมันคงจะรู้ดีว่า ต้องมีคนมากมายเดินเข้าออกห้างในแต่วัน และคงจะมีใครสักคนที่ให้ความเอ็นดูกับมันบ้าง เรื่องราวของสุนัขจรจัดตัวนี้ถูกถ่ายทอดเมื่อ Rescue From The Hart ได้รับโทรศัพท์จากพลเมืองดีให้มาช่วยเหลือหมาใต้รถเข็น และเมื่อสืบประวัติดูก็พบว่า มันมีอะไรมากกว่าที่เราเห็นซะอีก Rescue From The Hart เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งขึ้นโดย Annie กับ James ในปี 2014 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครอีกมากมาย ตั้งแต่ก่อตั้งมา พวกเขาก็ให้การช่วยเหลือสุนัขมากมาย พร้อมทั้งหาบ้านให้กับาพวกมันด้วย แต่สำหรับ Bailey สุนัขใต้รถเข็นตัวนี้ได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษและพวกเขาก็ไม่ลืมด้วยว่าได้ช่วยเหลือมันยังไงบ้าง Bailey ถูกพบขณะที่นอนอยู่ใต้รถเข็น แต่ที่น่าแปลกใจคือ มันไม่ได้อยู่เพียงลำพัง เพราะมันมีเพื่อนมนุษย์มากมายที่คอยเอาอาหารและน้ำให้เป็นประจำรวมทั้งโทรของความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่จากศูนย์ให้การช่วยเหลือมาถึง พวกเขาค่อยๆ เข้าหา Bailey เพื่อให้มันไว้ใจ แล้วก็ได้รู้ว่า นอกจากเพื่อนมนุษย์ที่อยู่เคียงข้างมันแล้วมันยังมีลูกอยู่ในท้องอีกด้วย เจ้าหน้าพบว่า Bailey กำลังตั้งท้องอยู่ เจ้าหน้าที่จึงบอกกับมันว่า ‘ไม่ต้องกลัวนะ เราจะดูแลเธอและลูกๆ เอง’ …
-
เที่ยวไหมอู๊ดๆ…ชวนไปชม “หาดสวรรค์ของหมู” ในบาฮามาส ให้คุณว่ายน้ำเล่นกับมันได้อิสระ
ทุกคนที่เดินทางไปเที่ยวทะเล เพื่อหวังจะได้พักผ่อนกับธรรมชาติ สายลม คลื่นทะเล หาดทรายสวยๆ แต่ที่เกาะแห่งนี้ให้คุณได้มากกว่า เพราะที่นี่มีหมูว่ายน้ำได้!? เกาะที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Pig Beach (หาดหมู) เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศบาฮามาส สาเหตุที่มันโด่งดังก็เพราะว่าที่นี่มีหมูอยู่มากมายและมักจะออกมาว่าน้ำเล่นกับผู้คนอย่างสนุกสนาน ไม่มีการจดบันทึกอย่างเป็นทางการว่าหมูเหล่านี้ขึ้นมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้ได้อย่างไร บางเรื่องเล่าบอกว่าที่หมูแห่กันมาอยู่บนเกาะแห่งนี้เป็นเพรามีนักเดินเรือนำพวกมันมาปล่อยไว้เพื่อที่จะกลับมาประกอบอาหารในภายหลัง แต่กลุ่มนักเดินเรื่องที่ว่าก็ไม่เคยกลับมาที่เกาะอีกเลย แต่บางคำบอกเล่าก็บอกว่าที่หมูพวกนี้มาอยู่บนเกาะได้เพราะว่ามีเรือขนหมูเหล่านี้เพื่อเดินทางไปส่งยังจุดหมายปลายทาง แต่ในระหว่างนั้นเรือเกิดอับปาง แต่หมูพวกนี้กลับสามารถเอาชีวิตรอดและว่ายน้ำไปยังเกาะที่ใกล้ที่สุดได้ ส่วนใครที่สงสัยว่าทำไมหมูเหล่านี้ถึงมีชีวิตรอดอยู่บนเกาะที่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าได้รับเศษอาหารจากเรือที่ผ่านไปมา ทำให้พวกมันมีชีวิตรอดไปได้ หมูเหล่านี้เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะการที่พวกมันว่ายน้ำได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เกาะแห่งนั้นมีนักท่องเที่ยวแห่กันไปว่ายน้ำเล่นกับพวกหมูหรือให้อาหารพวกมันมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นสถานที่ท่อวเที่ยวในที่สุด จากการสำรวจจำนวนประชากรหมูที่เกาะแห่งนี้พบว่ามีหมูราวๆ 20 ตัว ซึ่งนอกจากหมูแล้วที่เกาะแห่งนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมอยู่ด้วย เช่นมีแมวและแพะอีกจำนวนหนึ่งด้วย สัตว์ทั้งหมดบนเกาะใช้ชีวิตอยู่อย่างอิสระมาก ไม่มีใครคอยล่ามโซ่หรือกักพวกมันไว้แต่ในคอก กิจกรรมในแต่ละวันของพวกมันก็คือการออกไปอาบแดดเป็นชั่วโมงๆ เมื่อพวกมันอาบแดดจนพอใจแล้วก็จะลงไปว่ายน้ำเล่น พวกมันมีนิสัยขี้เล่นและเป็นมิตรมากๆ เมื่อเห็นนักท่องเที่ยวพวกมันก็จะออกมาทักทายอย่างเป็นกันเอง สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน จนเกิดเป็นหนังสือเด็กที่ชื่อว่า “The Secret of Pig’s Island” เขียนโดย Jennifer R. Nolan และได้รับการบรรจุในเนื้อหาของหนังสือสำหรับเด็กในต่างประเทศด้วย หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่หลงรักหมูและตั้งปฏิญาณว่ายังไงชาตินี้ก็ต้องไปให้ได้สักครั้ง…
-
เด็กสาวลงทุน “ตัดผม” สร้างหลักฐานปลอม เพื่อแอบหนีเที่ยว แล้วมันก็ได้ผลซะด้วยซิ!!
ใครแอบพ่อแม่หนีเที่ยวบ้างยอมรับมาซะดีๆ นะ ไม่ใช่ไรหรอก แค่อยากรู้ว่าเพื่อนๆ มีวิธีการหนีออกมายังไง แล้วพ่อแม่จับได้หรือเปล่า เช่นเดียวกับสองเพื่อนซี้ Shannon และ Keira ที่อยากออกไปเที่ยวแต่พ่อแม่ไม่อนุญาต ทั้งคู่เลยวางแผนออกไปเองอย่างเงียบด้วยวิธีที่หลายๆ คงไม่อยากเลียนแบบสักเท่าไรหรอกมั้ง และแล้วแผนการลับก็เริ่มขึ้น แผนที่ว่านี้ก็คือ การลงทุนตัดผมตัวเอง!! แล้วเอาไปวางใว้ใต้แต่เอาออกมาให้เห็นอยู่ประปราย เพื่อทำให้เหมือนว่าเธอกำลังนอนอยู่ จากนั้นก็ย่องออกไปเงียบๆ เฮ้ย!! แล้วมันก็ได้ผลซะด้วยสิ เพราะพ่อแม่ไม่รู้เลยว่าเธอออกไปข้างนอก…พอออกไป เธอเลยเที่ยวแบบจัดเต็มให้สมกับที่ลงทุนตัดผมตัวเองไป โน่นนนนกว่าจะกลับมาก็ปาเข้าตี 4 เลย แต่แล้วความลับก็แตกจนได้ เพราะขณะที่เธอปีนเข้าบ้านทางหน้าต่างนั้น พ่อแม่ดันได้เสียงแปลกๆ จนต้องไปดู แล้วก็เจอลูกสาวแบบคาหนังคาเขาอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ หลังจากแผนการนี้สำเร็จไปด้วยดี เรื่องราวนี้ก็ถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ แล้วเชื่อมั้ยว่ามีคนแชร์ไปถึง 32,000 ครั้งและมีคนกดไลค์อีกมากมาย หลายคนเห็นแล้วถึงกับอยากทำตาม แต่งานนี้คงต้องมีสูญเสียกันบ้างล่ะ ที่สำคัญต้องแน่ใจว่าพ่อแม่ยังไม่ได้เห็นเรื่องราวนี้นะ ไม่งั้นคงเจอเซอร์ไพรส์กลับแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่เจ๋งและได้ผล เพื่อนๆ ก็ควรขอพ่อแม่และคุยกันด้วยเหตุผลจะดีกว่านะจ๊ะ เพราะถ้าแอบหนีเที่ยวแบบนี้แล้วเกิดอะไรขึ้น คนที่เสียใจที่สุดคือพ่อแม่ของเราเนี่ยแหละ แล้วเพื่อนๆ ล่ะ เคยหนีเที่ยวด้วยวิธีไหนบ้าง!? ที่มา metro
-
ช่างภาพตระเวนรอบโลก ตามถ่าย “มุมสูงยามค่ำคืน” ของเมืองต่างๆ ที่ทำให้เห็นความงดงาม
สำหรับบางคนแล้ว สังคมเมืองนั้นมีแต่ความวุ่นวาย และไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่ตึกจนไม่น่ามอง แต่มันก็ไม่เสมอไปนะ โดยเฉพาะในเวลากลางคือ เมื่อมองเมืองต่างๆ จากมุมสูงแล้วมันก็สวยงามไม่น้อยเลยนะ AIR เป็นหนังสือที่รวบรวมภาพที่ถ่ายทางอากาศของเมืองต่างๆ กว่า 10 เมืองที่มีความโดดเด่นในเวลากลางคืน ซึ่งถ่ายโดยช่างภาพ Vincent Laforet Laforet ได้ถ่ายภาพทางอากาศเพื่อถ่ายทอดความงามยามราตรีของเมืองต่างๆ สู่สายตาผู้คนทั่วโลก เพื่อให้เห็นว่าในเมืองที่เต็มไปด้วยตึก แสง สี เสียงนี้ ก็มีมุ่มที่สวยงามอย่างน่าทึ่งเช่นกัน 1. เมืองนิวยอร์ก 2. กรุงเบอร์ลิน 3. ลอสแอนเจลิส 4. ซิดนีย์ 5. ไมอามี่ 6. ลอนดอน 7. บาร์เซโลนา 8. เมืองชิคาโก 9. ซานฟรานซิสโก 10. บิ๊ก แอปเปิ้ล (ฉายาของนิวยอร์ก) 11. เมืองเบอร์ลิน 12. ซิดนีย์ …
-
เตรียมจองตั๋วรถไฟใหม่ญี่ปุ่น Twilight Express Mizukaze ทั้งขบวนมี 30 คน หรูหราอย่างกับโรงแรม
พูดถึงรถไฟแล้ว เรานึกถึงอะไรบ้าง!? การเดินทางด้วยรถไฟนั้นดูจะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าเครื่องบินหรือรถทัวร์ เพราะนอกจากล่าช้าแล้ว มันอาจจะไม่สะดวกสบายเท่าไรนัก แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการรถไฟญี่ปุ่นไปลบภาพเดิมๆ เหล่านั้นออกไปแล้วเนรมิตให้รถไฟกลายเป็นการเดินทางที่มีความสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน รถไฟขบวนนี้บริหารงานโดย Japan Railways (JR) ได้โปรโมทรถไฟสุดหรูที่ใช้ชื่อว่า Twilight Express Mizukaze ที่จะแล่นผ่านเส้นทางทางตะวันตกของญี่ปุ่นระหว่าง เกียวโต โอซาก้า ไปยังชิโมโนเซกิ จังหวัดยะมะงุจิ โดยใช้เวลาสองวันหนึ่งคืน แต่รถไฟสายนี้ยังไม่เปิดให้บริการ จนกว่าจะถึงช่วงฤดูร้อนปี 2017 ซึ่งเป็นฤดูแห่งการท่องเที่ยวนั่นเอง ใครที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่เตรียมจองตั๋วไว้ได้เลยนะ ดูจากภายนอกแล้ว ก็คงจะไม่ต่างจากรถไฟธรรมดาๆ สักเท่าไร แต่ภายในนั้นมีการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยสไตล์โรงแรมชั้นเลิศ โดยผู้โดยสารจะมีห้องพักส่วนตัว มีห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน รถไฟขบวนพิเศษนี้ประกอบด้วย 10 ตู้ แบ่งเป็น 6 ตู้นอน 2 ตู้ชมทิวทัศน์ ตู้เสบียง และตู้เลาจน์ โดยในหนึ่งขบวนนั้นรองรับผู้โดยสารเพียงแค่ 30 คนเท่านั้น เพราะตู้โดยสาร 6 ตู้นั้นถูกออกแบบเป็นตู้นอนทั้งหมด นอกจากนี้มีตู้หนึ่งที่ถูกทำให้เป็นห้องสวีท ที่ถูกแบ่งสรรให้เป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร…
-
เปิดใจ “Adam Driver” ยอมลดน้ำหนักเพื่อเล่นหนัง และกลับมาล่ำอีกครั้งเพื่อถ่ายนิตยสาร
การเป็นนักแสดงนั้น ไม่ใช่แค่การแสดงผ่านสีหน้า ท่าทางหรือคำพูดเท่านั้น แต่รวมไปถึงร่างกายด้วย ดังนั้นนักแสดงหลายคนจึงเพิ่มความอ้วนบ้าง ลดน้ำหนักบ้างเพื่อให้สมกับบทที่ได้รับ เช่นเดียวกับ Adam Driver นักแสดงวัย 33 ปีที่เป็นที่รู้จักในหนังเรื่อง Silence ซึ่งเล่นเป็นมิชชันนารีคริสเตียน และต้องลดน้ำหนักถึง 22 เพื่อให้สมบทบาทที่ได้รับ แต่หลังจากที่ถ่ายทำไปแล้ว เขาก็ได้ทำให้ตัวเองกลับมาหุ่นล่ำ และแข็งแรงอีกครั้งเพื่อถ่ายรูปลงนิตยสารพร้อมทั้งให้สัมภาษณ์เล็กน้อย เขาได้บอกว่า “ผมไม่คิดเลยว่าจะกลับมามีวันนี้อีกครั้ง ตอนนั้นผมทั้งหิวและเหนื่อยง่ายเพราะสูญเสียน้ำหนักไปมากจนแทบจะทำอะไรไม่ได้” ในภาพนี้จะเห็นได้ชัดว่า Adam ผอมแห้งเหลือแต่หนังติดกระดูกเท่านั้น ตัวอย่างภาพยนต์ Silence ในภาพยนต์นั้น Adam ต้องเดินทางไปยังญี่ปุ่นพร้อม Andrew Garfield เพื่อนมิชชันนารีของเขาเพื่อตามหาอาจารย์ที่หายไป โดยในระหว่างสั้นเขาได้เจอกับความลำบากมากมายจนร่างกายซูบผอม… เขาบอกอีกว่า “Scorsese ขอให้เราลดน้ำหนัก แน่นอนว่าเราก็ยอมทำเพราะหนังเรื่องนี้ได้มีการลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก ซึ่งเขาก็ต้องการเห็นร่างกายนักแสดงที่สมจริง” “ในตอนแรกที่เขาบอกให้ผมลดน้ำหนัก ผมไม่รู้เลยว่าต้องลดเท่าไรถึงจะพอ เพราะผมไม่สามารถควบคุมอะไรในฉากได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือการควบคุมอาหาร” ทางด้านนักแสดงเองก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะนี่ก็เหมือนกับการสร้างภาพในภาพยนต์ให้สมจริงแค่นั้นเอง ซึ่งนักแสดงทุกคนก็ทำกันอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแสดงที่ทำให้เราได้เห็นถึงสปีริตแห่งการเป็นนักแสดง ที่ไม่ต้องว่าจะรับบทไหนก็ลงทุนทำให้สมจริงตลอด ในการขณะเดียวกัน…
-
เปิดโปงกลุ่มอ้างช่วยเหลือ ‘แมวจรจัด’ ในจีน แต่เบื้องหลังเอาพวกมันไปทำเป็นอาหาร!!?
เนื้อหานี้อาจจะมีภาพที่ดูรุนแรงไปบ้าง ถึงแม้ว่าแต่ละประเทศจะมีประเพณีการกินอาหารที่แปลกแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสากลโลกเท่าไหร่ นั่นก็คือการจับสัตว์เลี้ยงแสนซื่อที่อยู่คู่มนุษย์เรามานานแสนนาน มาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสัตว์ที่คนทั่วไปเลี้ยงอย่างเช่น หมา หรือ แมว จากการรายงานข่าวของ Dailymail เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองเฉิงตู ได้รับแจ้งจากกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ ‘อ้ายจื่อเจีย’ เนื้อหากล่าวถึงเรื่องราวของ นาย Huang FuPing ที่แอบเปิดโรงเชือดแมวอย่างผิดกฏหมาย พร้อมกับส่งเนื้อแมวทั้งหมดไปทั่วประเทศจีน เป็นราคา 20 หยวนต่อกิโลกรัม!! เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปก็พบว่า แมวเหมียวทุกตัวแออัดกันอยู่ในกรงเล็กๆ เฝ้ารอเวลาที่จะถูกนำไปทำเป็นเมนูพิศดาร จากการสืบประวัติพบว่า นาย Huang Fuping เป็นที่รู้จักกันของชาวบ้านละแวกนั้นว่าเขาเป็นคนที่รักแมว และมักจะประกาศขออุปการะแมวจรจัดมาดูแลเสมอ อีกทั้งเจ้าตัวมักจะอ้างว่า แมวทุกตัวได้อยู่อย่างสุขสบายในห้องแอร์ฯ ตลอด 24 ชม. และได้วิ่งเล่นในบ้านสุดหรูของเขา แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม เพราะนาย Huang Fuping ได้นำแมวทั้งหมดไปเก็บไว้ในโกดังลับแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู อีกทั้งพวกมันทุกตัวถูกจับให้อาศัยร่วมกันอยู่ในกรงขนาดแคบเพียงแค่ 20 ซม. เท่านั้น!! ภาพจากวิดีโอที่มีคนเข้าไปถ่ายไว้ได้…
-
ไบค์เกอร์ใจดีเก็บกระเป๋าได้ “ขับรถไล่คืน” แต่เจ้าของชูนิ้วกลางใส่ โยนซะเลยงานนี้!!
นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องดราม่าที่เถียงกันไม่ตกจริงๆ สำหรับเมืองนอก เมื่อหนุ่มไบค์เกอร์คนหนึ่ง ซึ่งมีจิตใจดี เขาได้เห็นรถยนต์คันหนึ่งทำกระเป๋าเงินตกไว้ ก็เลยพยายามขับตามไปเอากระเป๋าเงินไปคืน แต่กลับเจอพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีจากเจ้าของ เหตุการณ์ทั้งหมดถูกจับภาพไว้ได้จากกล้องที่ติดอยู่บนหัวหนุ่มไบค์เกอร์โดยเริ่มจากการที่เขาได้ไปเห็นรถคันนี้กำลังเลี้ยวออกมาจากปั๊มน้ำมัน ก็ได้เจอรถยนต์คันดังกล่าว เหมือนจะลืมกระเป๋าเงินและมือถือไว้บนหลังคารถ ซึ่งตอนเลี้ยวออกมาทำให้กระเป๋าเงินหล่น ภาพเหตุการณ์ที่กล้องบันทึกเอาไว้ หนุ่มไบเกอร์คนนี้ก็เลยรีบไปเก็บให้ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่เห็นและขับไปไกล พร้อมกับพยายามขับตามไปเรื่อยๆ ทั้งบีบแตรและเรียก แต่คนขับรถยนต์ก็ไม่สนใจ พร้อมทั้งชูนิ้วกลางและเอามือปัดไล่ให้ไปไกลๆ นี่เขาคงคิดว่าพ่อหนุ่มมาก่อความรำคาญหรืออย่างไร!? จนกระทั่งรถยนต์ได้จอดลง ไบค์เกอร์ก็ได้โชว์กระเป๋าเงินให้เขาได้ดู หลังจากที่คนขับรถยนต์เห็นก็พูดว่า ‘thank you so much bro’ แต่หนุ่มไบค์เกอร์ก็อยากจะดัดนิสัยของเขาเสียหน่อย ก็เลยโยนกระเป๋าเงินเข้าหน้าต่างไป หลังจากนั้นเขาก็ได้เห็นว่าเขาลืมมือถือไว้ข้างบนรถด้วย ก็เลยอยากจะดัดนิสัยต่อด้วยการทิ้งลงพื้นมันซะเลย หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากที่สิ่งที่เขาทำนั่นมันถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเสียงก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย “คนขับรถไม่รู้ว่าไบค์เกอร์ตามเขามาทำไม และเขาก็ได้ขอบคุณเมื่อนึกขึ้นได้ ไบค์เกอร์ควรไม่สนใจเรื่องก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะทำเรื่องไม่ดีก็ตาม” “ไบค์เกอร์น่าจะเป็นพวกหลงตัวเอง เขาจิตใจดี แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนดีด้วย” “คนขับรถยนต์สมควรได้รับแล้ว” เราไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย แล้วเพื่อนๆ คิดว่าการกระทำของหนุ่มไบค์เกอร์คนนี้เกินกว่าเหตุไปหรือเปล่า ลองแสดงความคิดเห็นกันมาได้นะจ๊ะ ที่มา dailymail
-
สตรองแค่ไหน… เมื่อรถน้ำมันหมด ‘ภรรยาอาสาลงไปเข็นรถ’ สามีก็เข็น แต่เป็นรถเข็นลูกนะ
โดยปกติแล้วไม่ว่าในสังคมไหน ผู้ชายมักจะเสียสละทำงานหนักกว่าผู้หญิงหรือหากงานไหนที่ต้องใช้กำลังมากๆ ฝ่ายชายมักจะเป็นคนลงมือมากกว่า แต่ก็ไม่เสมอไป อย่างกรณีของหญิงคนหนึ่งในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน อาสาลงไปเข็นไปเข็นรถที่น้ำมันหมดจนผู้ที่พบเห็นต่างพากันตั้งฉายาให้เธอว่า “สาวน้อยมหัศจรรย์” จริงๆ มันก็ไม่แปลกหรอกที่ผู้หญิงจะเข็นรถบ้าง แต่มันมีความผิดปกติที่ว่าเธอสลับหน้าที่กับสามีแค่นั้นเอง…คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ ครอบครัวนี้วางแผนจะพาลูกน้อยไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์แต่ระหว่างทางนั้น รถเกิดน้ำมันหมดซะงั้น สามีเลยบอกให้ภรรยาโทรเรียกรถลากมา แต่ภรรยาไม่ยอมเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง และเธอก็ยืนยันว่า เราควรจะเข็นรถไปปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดด้วยตัวเองจะดีกว่านะ จะได้เป็นการประหยัดด้วย ครั้งแรกนั้นเธอได้โทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนแต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยเธอได้ โชคดีที่คนผ่านไปผ่านมาแถวนั้นได้ค้นหาแผนที่ปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดให้ จากนั้นเธอได้บอกให้สามีลงจากรถและเข็นรถเข็นให้ลูก ส่วนตัวเธอเองนั้นได้ทำหน้าที่เป็นซุปเปอร์เกิร์ลด้วยการลงไปเข็นรถด้วยตัวเอง เพื่อไปยังปั้มน้ำมันที่ใกล้ที่สุดแต่ก็หลายร้อยเมตรอยู่หน่าาาา แน่นอนว่ามีหลายคนที่พบเห็นเหตุการณ์นี้ จึงได้ถ่ายรูปไปลงโซเซียลจนเกิดเป็นเสียงวิพากวิจารณ์กันหนักว่า ปกติแล้วผู้หญิงก็ทำงานหนักอยู่แล้วนะ อย่างงานบ้านทุกอย่างผู้หญิงก็ต้องทำ เลี้ยงลูกก็ฝ่ายหญิงอีกนั่นแหละ แล้วนี่ยังต้องให้เข็นรถด้วย!? และเมื่อดูจากแผนที่แล้ว ระยะที่หญิงคนนี้เข็นรถด้วยตัวเองนั้น ไม่ใช่ใกล้ๆ เลย ทำให้ชาวเน็ตยิ่งไม่พอใจสามีคนนี้หนักเข้าไปอีก หรือคิดในแง่ นี่อาจเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับครอบครัวนี้ก็ได้ เพราะแต่ละครอบครัวก็ไม่เหมือนกันหรอกเนาะ พวกเขาอาจจะมีเหตุผลของตัวเองที่เรายังไม่รู้ก็ได้ เกิดเป็นผู้หญิงต้องสตรอง!! ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ก็แข็งแรงไม่แพ้ผู้ชายหรอกนะ ที่มา shanghaiist
-
นักศึกษาญี่ปุ่น ตกแต่งหอพักตัวเองเป็น ‘สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม’ เรียบง่ายแต่น่าอยู่มาก
ใครเคยอยู่หอพักในมหาลัยบ้าง? หลายคนอาจจะไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไรโดยเฉพาะหอพักนักศึกษาในบ้านเรา ที่สร้างมาแค่ให้พออยู่ได้เท่านั้น ไม่ได้เน้นความหรูหราหรือสวยงามอะไร แต่สำหรับหอพักห้องหนึ่งในมหาวิทยาลัย Xihua มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ที่ได้มีการออกแบบ ตกแต่งภายในอย่างเรียบง่ายแต่สวยงามด้วยสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจนนักศึกษาทั่วโลกต้องอิจฉา นี่คือห้อง 254 ในหอพักมหาวิทยาลัยที่ตกแต่งโดยผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่ใช้ชื่อว่า @未负侠义 ร่วมกับรูมเมทของเธอเอง พวกเขาได้รับไอเดียการตกแต่งนี้จาก The Great Wave off Kanagawa ซึ่งมีโต๊ะน้ำชา มีเบาะนั่งสี่ที่ และพื้นที่ทำด้วยไม้ และหลังจากที่ภาพห้องนี้ถูกเผยแพร่ในเว็ป Weibo ชาวเน็ตจีนต่างแห่คอมเม้นว่าพวกเขาชื่อชอบห้องแบบนี้มาก และอยากได้ห้องแบบนี้เช่นกัน ไม่เพียงแค่นั้น เพราะบางคนถึงขั้นออกไปตามหาห้องแบบนี้ในเมืองที่ตัวเองอยู่ ไม่ต้องเหมือนก็ได้แต่ขอให้ใกล้เคียงมากที่สุดก็พอ และทุกวันนี้ก็มีหอพักมากมายที่พยายามจะทำออกมาให้น่าอยู่ที่สุด เพื่อเป็นการเรียกให้คนมาอยู่ ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็มีกลุ่มนักเรียนที่มหาวิทยาลัยหูหนานแปลงห้องพักที่น่าเบื่อของพวกเขาให้กลายเป็นบ้านที่แสนสบาย หรือจะเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย Jiujiang ที่ลงทุนราว 6,000 ในการทำเก้าอี้นอนในห้องพักของตัวเอง อ่านหนังสือเพลียๆ ก็งีบนอนได้สบ๊ายยย ให้บรรยากาศเหมือนบ้านมากกว่าหอพักซะอีกนะเนี่ย ไงล่ะ เรียบง่ายแต่น่าอยู่มาก ว่ามั้ย? ที่มา shanghaiist
-
เพิ่มความยากเข้าไปอีก!! IUPAC ประกาศชื่อธาตุใหม่ ‘Nihonium’ ค้นพบโดยชาวญี่ปุ่น
สำหรับเด็กสายวิทย์แล้วจะรู้กันดีว่าสิ่งที่หินที่สุดตอนเรียนก็คือการท่องจำ ‘ตารางธาตุ’ นี่แหละ ก็เล่นมีเป็นร้อยกว่าธาตุแถมแต่ละธาตุยังมีคุณสมบัติไม่เหมือนกันอีกใครจำได้หมดขอบอกเลยว่าเป็นยอดมนุษย์แล้วล่ะ ฮร่า และล่าสุด IUPAC (ที่เป็นระบบการเรียกชื่อสารประกอบที่นักเคมีได้จัดขึ้นและใช้กันแพร่หลายทั่วโลก) ได้ทำการประกาศธาตุใหม่ในลำดับที่ 113 อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!! เจ้าธาตุในลำดับที่ 113 นี้ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ทีมวิจัยของนาย Kosuke Morita จากสถาบันวิจัยแห่งชาติ Raiken ได้ตั้งชื่อมันว่า Nihonium หรือ นิโฮเนียม พร้อมอักษรย่อคือ Nh ซึ่งชื่อและอักษรย่อที่เพิ่งจะประกาศออกมานี้ทาง IUPAC ต้องใช้เวลาพิจารณานานถึง 5 เดือนเลยทีเดียว โดยสาเหตุที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะว่าตั้งใจให้มีกลิ่นอายของความเป็นเอเชียอยู่ด้วย ทางด้านคุณ Morita นั้นก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขาและทีมวิจัยรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่มีธาตุเคมีที่ถูกค้นพบโดยคนเอเชียไปปรากฏอยู่บนตารางธาตุ ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าชาวเอเชียก็ทำได้เช่นกัน เจ้าธาตุ Nihonium หรือมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Ununtrium นี้เป็นธาตุหนักที่สุดในตารางธาตุ มีช่วงครึ่งชีวิตที่สั้นมากเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น และจะแปรสภาพไปเป็นธาตุชนิดอื่น นอกจากนี้เองก็มีการเพิ่มลำดับธาตุใหม่เมื่อช่วงปี 2558 ที่ผ่านมา คือลำดับที่ 113, 115,…
-
ญี่ปุ่นเตรียมปลดประจำการ “กันดั้ม” ขนาดเท่าจริงที่โอไดบะ ใครยังไม่ได้ถ่ายรูป ให้ไวเลย!!!
นับว่าเป็นข่าวสะเทือนวงการกันดั้มและการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อหุ่นกันดั้มขนาด 1/1 หรือเท่าตัวจริงที่อยู่หน้าศูนย์การค้า DiverCity ที่เมืองโอไดบะ จะไม่อยู่ให้เราได้ถ่ายรูปอีกแล้ว ซึ่งวันสุดท้ายที่เราจะได้เห็นก็คือวันที่ 5 มีนาคมในปี 2017 หุ่นกันดั้มยักษ์อันนั้นเริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่แรกที่ได้มีการโชว์ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีที่โตเกียวในปี 2009 และย้ายไปที่ชิสุโอกะในปีถัดมา แต่ทั้งสองที่ก็ไม่ได้เป็นการจัดแสดงแบบถาวร ซึ่งหลังจากข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายคนก็รู้สึกผิดหวัง เพราะว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปถ่ายรูป อีกทั้งยังติดกับห้างสรรพสินค้าและทะเลอีกด้วย ถือเป็นแลนด์มาร์กสำหรับนักท่องเที่ยวที่ดีทีเดียว ทางเว็บไซต์ Gundam Info ก็ได้รายงานว่ามีแผนที่จะเอากันดั้มตัวใหม่ไปจัดแสดงที่อื่น แต่ยังไม่มีรายละเอียดมากในจุดนี้ ต้องรอประกาศต่อไป ในปี 2019 นี้ ก็เป็นการครบรอบ 40 ปีของการ์ตูนกันดั้ม คาดว่าหุ่นกันดั้มตัวต่อไปต้องใหญ่และอลังการมากอย่างแน่นอน หุ่นที่จัดแสดงอยู่ปัจจุบันคือ กันดั้มรุ่น RX-78-2 อีกทั้งที่แห่งนี้ยังมีกันพลาเวอร์ชั่นพิเศษที่มีวางขายเฉพาะอีกด้วย ทำให้กลุ่มนักสะสมต้องมายังที่แห่งนี้เพื่อซื้อเก็บไว้ และภายในห้างก็จะมีงานจัดแสดงกันพลาตั้งแต่รุ่นแรกๆ จนถึงปัจจุบันให้กับเหล่าคนที่ชื่นชมได้ชม ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากๆ สำหรับข่าวนี้ เพราะต่อให้เราไม่รู้จักกันดั้ม แต่ถ้าไปที่โอไดบะก็ต้องไปถ่ายรูปสักครั้ง เพราะหุ่นตัวนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ใครยังไม่ได้ไปถ่ายรูปต้องรีบหน่อยแล้ว…
-
จีนเนรมิต “รถไฟฟ้าสายเขียว” ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า เพื่อให้เห็นความสำคัญของธรรมชาติ
เทรนโลกสีเขียวกำลังมาแรงในโลกปัจจุบันนี้ เพราะในขณะที่อุตสาหกรรมมีการพัฒนาขึ้นทุกวัน ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่โหยหาธรรมาชาติแต่ทว่ามันหาได้ยากเหลือเกินในสังคมเมือง ล่าสุดสำนักงานรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง จีงได้เนรมิตรถไฟสายสีเขียวเพื่อให้ผู้คนที่เห็นถึงความสวยงามของธรรมชาติท่ามกลางสังคมเมืองที่หาได้ยาก พวกเขาได้นำต้นไม้ในหญ้าหลากหลายชนิดมาไว้ในรถไฟฟ้าใต้ดินสายนี้ พร้อมตกแต่งให้มีความสวยงามลงตัว ราวกับได้อยู่ในป่าจริงๆ โดยรถไฟสายสีเขียวนี้ไม่ได้ทำขึ้นมาถาวร แต่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพียงครึ่งวันเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนให้หันมาให้ความสนใจกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แน่นอนว่า หลายคนที่ได้ชมธรรมชาติที่ได้เนรมิตมาไว้ในรถไฟฟ้าใต้ดิน ต่างก็ให้ความสนใจ และอยากให้มีรถไฟสายเขียวแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ แต่เพราะมันเป็นแค่กิจกรรมที่จัดขึ้นในเวลาสั้นๆ เท่านั้น พวกเขาจึงรีบเก็บรูปไว้ และได้สัมผัสในเวลาสั้นๆ ซึ่งมันก็คงจะฟินกว่ารถไฟธรรมดาที่เคยนั่งแน่ๆ มองไปทางไหนก็เป็นสีเขียว ถ้าหากเราช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ เราก็คงได้สัมผัสกับความฟินแบบนี้ได้แม้จะอยู่ในสังคมเมือง แหม่ อยากให้มีแบบนี้จริงๆ จุงเบย ที่มา shanghaiist
-
เทรนด์ใหม่แห่งการเซลฟี่ ใช้หนึ่งนิ้วปิดจุดสำคัญ เพื่อแสดงว่าไม่ได้ผ่านการศัลยกรรมนะ
การเซลฟี่นั้นเป็นที่นิยมมากไม่ว่าจะในสังคมไหน แต่จะถ่ายธรรมดาก็คงจะน่าเบื่อไปสักหน่อย มนุษย์เลยปิ้งไอเดียในการถ่ายรูปเก๋ๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ จนบางทีมันก็แปลกไปนะ ล่าสุดนี้ในโลกออนไลน์ก็กำลังฮิตเซลฟี่แนวใหม่อีกแล้ว ก็ไม่รู้ว่าถ้าเพื่อนๆ เห็นแล้วจะอยากทำตามหรือเปล่านะแต่มันคงไม่เหมาะกับบ้านเราหรอกนะ เพราะเป็นการถ่ายรูปโดยปิดจุดสำคัญด้วยหนึ่งนิ้วของเราเท่านั้น!! วิธีการก็คือ ยืนเปลือยกายอยู่หน้ากระจก แล้วใช้นิ้วของเรา(นิ้วไหนก็ได้) ปิดจุดสำคัญไว้ ให้แน่ใจว่าถ่ายออกมาแล้วจะไม่เห็นอะไรอย่างว่าแน่ๆ จะว่าไปมันก็ทำให้ดูโป๊น้อยลงนะ แต่ต้องปิดให้มิดจริงๆ นะ ส่วนที่มาของไอเดียนี้เกิดจากศิลปินอานิเมะของญี่ปุ่นที่สร้างตัวการ์ตูน Sky-FreeDom ซึ่งเป็นภาพการ์ตูนสาวเปลือยกายหน้ากระจกแล้วใช้เพียงนิ้วเดียวในการปิดหน้าอกและจุดสำคัญข้างล่าง นี่ไง ต้นฉบับ เห็นในการ์ตูนทำแล้ว มนุษย์ก็เลยอยากลองทำบ้าง มันอาจจะดูเป็นเทรนด์ที่บ้าบอคอแตก แต่จริงๆ แล้วคนที่นำเทรนนี้คือ Delia Melody บล็อกเกอร์สาวที่อยากแสดงให้ผู้คนเห็นว่า ร่างกายของเธอไม่ได้ผ่านการศัลยกรรมเลยด้วยแฮชแท็ก #transgender และ#onefingerselfiechallenge ตั้งแต่นั้นมาผู้คนก็นิยมถ่ายเซลฟี่แนวนี้กันมากขึ้นจนกลายเป็นนิยมในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย รวมทังเหล่าดาราดังหลายๆ คนด้วยา แต่มันก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ นะ เพราะคุณต้องแน่ใจว่านิ้วของคุณจะปิดได้มิดจริงๆ และต้องวางให้ตรงจุดเป๊ะๆ ถ้าเคลื่อนแม้แต่นิดเดียว มันอาจจะเปลี่ยนความหมายไปเลยก็ได้ นี่ไงมันต้องปิดแบบนี้ จะบนหรือล่างก็ไม่โผล่ออกมาให้เห็น ผู้ชายก็อยากโชว์หุ่นเหมือนกันนะ …
-
รวม 17 ภาพปัจจุบันของเหล่าอดีต “หนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก” พวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนนะ
ในช่วงเกือบๆ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 ทุกๆ ปีนิตยสาร People ได้ทำการมอบรางวัล “หนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก” ให้กับดารานักแสดงหรือคนดังที่ได้รับการโหวตว่าเป็นหนุ่มที่เซ็๋กซี่ที่สุดในปีนั้นๆ ซึ่งปีล่าสุดรางวัลดังกล่าวตกเป็นของ Dwayne Johnson หรือ The Rock นักแสดงและอดีตนักมวยปล้ำชื่อดังนั่นเอง แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่า แล้วเหล่าอดีตดาราคนดังที่เคยได้รางวัล “หนุ่มที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก” ของปีก่อนๆ ปัจจุบันพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง ยังหล่อเหมือนเดิมหรือเปล่า รึว่าเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้า “หนุ่มเซ็กซี่ที่สุดในโลก” ซะแล้ว ว่าแล้วก็ไปติดตามชมกันเลย Mel Gibson (1985) Mark Harmon (1986) Harry Hamlin (1987) Sean Connery (1989) Tom Cruise (1990) Nick Nolte (1992) Richard Gere (1993,1999) Brad…
-
ค้นพบ ‘กำแพงดิน 4.5 เมตร’ เกิดใหม่ หลังแผ่นดินไหวนิวซีแลนด์ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
ยังจำเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ที่เกิดขึ้นกับประเทศนิวซีแลนด์เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมากันได้มั้ยเอ่ย? ถึงแม้ว่ายอดการสูญเสียจะอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าเป็นห่วง แต่ทว่าหลังเหตุการณ์สงบ ธรรมชาติกลับทิ้งบางสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจไว้ จากการรายงานของ Dailymail ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 ได้รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงสูงถึง 7.8 ริคเตอร์ ทำให้เกิดกำแพงที่มาจากการยกตัวของดิน สูงถึง 457 ซม. ราวกับว่าธรรมชาติกำลังจะส่งคำเตือนอะไรบางอย่างแก่พวกเราอยู่ (รึเปล่า?) เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 บริเวณที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือเมือง Kaikoura ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือไกลออกไป 965 กิโลเมตร จากเมือง Christchurch นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติ นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ทีมนักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญ ได้เข้าไปสำรวจพื้นที่แห่งนี้ พวกเขาทั้งหมดกลับพบว่า มีกำแพงหินขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด Dr. Kate Pedley จากมหา’ลัย Canterbury ถ่ายรูปกับกำแพงหินยักษ์นี้ แสดงให้เห็นว่ามันมีความใหญ่กว่าตัวมนุษย์เราหลายเท่านัก ถนนหลายๆ เส้นทางในเมืองนี้ ถูกแผ่นดินไหวถล่ม จำเป็นต้องมีการใช้ยานพาหนะของกองทัพบกเท่านั้น ถึงจะสามารถเข้าไปสำรวจในพื้นที่ได้ ไม่ว่าจะทุ่งหญ้า ถนนหนทาง…
-
ญี่ปุ่นผุด “เครื่องบริหารหน้า” อุปกรณ์ช่วยใบหน้าดูอ่อนวัย แต่การใช้งานแปลกๆ นะ!?
ญี่ปุ่น ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นประเทศที่ชอบคิดค้น และสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ขึ้นมามากมาย อย่างล่าสุดก็ได้ผุด “เครื่องบริหารหน้าชะลอวัย” นวัตกรรมใหม่สำหรับผู้ที่อยากให้ใบหน้าดูอ่อนวัยโดยเฉพาะ โดยเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ก็ได้นำภาพของเจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวมาเผยโฉมให้ได้ชมกัน สำหรับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ ทางผู้คิดค้นได้ตั้งชื่อให้มันว่า “Facial Fitness Pao” หรือ “เครื่องออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า” นั่นเอง โดยทางผู้ผลิตยังได้เผยวิธีใช้ที่ง่ายแสนง่ายนั่นก็คือ ขั้นแรกให้นำส่วนของตัวเครื่องไปใส่ในปาก แล้วคาบไว้เพื่อให้ปีกกางออกไปทั้งสองข้าง จากนั้นผู้ใช้ก็ทำการผงกหัวขึ้น-ลง เพื่อให้ปีกทั้งสองข้างเหมือนกระพือบินอยู่ยังไงละ แม้เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ จะดูแปลกตา และมีวิธีใช้ที่แอบฮาไปหน่อย แต่ทางผู้ผลิตเขาได้ยืนยันนอนยันมาแล้วว่า การบริหารปากด้วย Facial Fitness Pao นี้ สามารถช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้จริงๆ และที่สำคัญ การออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าให้กระชับ นอกจากจะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนวัยแล้ว ยังช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าได้อีกด้วย เจ๋งไหมละ!! Cristiano Ronaldo กัปตันทีมของฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกสคนปัจจุบัน ก็ได้มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับเจ้าอุปกรณ์สุดแปลกนี้ด้วยนะ นอกจากนี้ ทางผู้ผลิตยังได้มีการนำคลิปวีดีโอวิธีใช้เจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวมาเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ซึ่งหลังจากที่ทางชาวเน็ตได้เห็น ต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม บ้างก็บอกว่า…
-
หนูน้อยวัย 7 ขวบ บังเอิญเก็บสลากถูกรางวัลได้ เลือกนำเงินไป ‘ซื้ออาหารแจกคนยากไร้’
หากได้เจอกับสิ่งของมีค่าไม่ว่าจะเป็นแก้ว แหวน เงิน ทอง ที่เจ้าของทำตกไว้ คุณจะทำอย่างไรกับมันดี จะส่งคืน หรือจะเก็บเอาไว้ซะเอง? และนี่ก็อาจจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดใจ ที่จะทำให้คุณได้ตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องได้ แต่สำหรับ Phoebe Brown เด็กหญิงวัย 7 ขวบคนนี้ เธอได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นแล้วว่า การได้เสียสละความสุขของตัวเองทั้งๆ ที่ได้รับมันมาด้วยความบังเอิญ แล้วนำไปแบ่งปันให้กับผู้อื่นมันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจแค่ไหน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน เว็บไซต์ Huffingtonpost มีรายงานว่า Phoebe Brown เด็กหญิงวัย 7 ขวบคนนี้ เธอโชคดีมากๆ ที่ได้บังเอิญเจอลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลกว่า 100 ดอลลาร์ หรือราวๆ 3,500 บาท ตกอยู่บนพื้น หลังจากที่ได้ออกไปทำธุระกับคุณแม่ใน Independence, รัฐมิสซูรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แทนที่จะเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ หนูน้อยได้ตัดสินใจบอกแม่ของเธอว่า จะนำทั้งหมดนี้ไปซื้ออาหารกระป๋อง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้คนที่ยากลำบาก ด้านคุณพ่อของ Phoebe ก็ได้ออกมาเผยกับทางสถานีโทรทัศน์ Kansas City…
-
หัวใจที่มองเห็นแม่… หนูน้อยตาบอด เข้ารับการผ่าตัดตา ในที่สุดก็ได้เห็นแม่เป็นครั้งแรก
เราคงเคยเห็นคนตาบอดหรือคนหูหนวกมากมายอยู่รอบตัวเรา แต่เราจะไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกนั้นเลย ถ้ามันไม่เกิดขึ้นกับเราหรือคนที่เรารัก และสำหรับเด็กบางคนก็โชคร้ายเหลือเกินที่ตาบอดและหูหนวกตั้งแต่เกิดทำให้เสียโอกาสได้ชมโลก ได้เห็นหน้าคนที่ตัวเองรักรวมทั้งไม่ได้ยินเสียงไพเราะจากธรรมชาติ Nicolly Pereira จากประเทศบราซิลที่เกิดมาตาบอด แต่เธอก็เป็นตัวแทนที่จะบอกทุกคนว่า เราโชคดีแค่ไหนที่เกิดมาเห็นโลกและได้ยินเสียงทุกอย่างตามต้องการ ด้วยเหตุนี้เองทำให้หนูน้อยจึงไม่เคยได้เห็นหน้าแม่เลย นอกจากได้สัมผัสทางกายเท่านั้น ทางครอบครัวจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้หนูน้อยได้มองเห็น คุณแม่ของ Nicolly ได้ตั้งกองทุนระดมเงินเพื่อทำให้ลูกสาวมองเห็นให้ได้และเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกให้กับเธอ จนในที่สุดก็สามารถรวบเงินได้ราว 600,000 บาท คุณแม่ได้พา Nicolly ไปผ่าตัดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา… ก่อนผ่าคุณแม่ได้ใช้เวลากับลูกสาวเพื่อทำให้เธอผ่อนคลายและให้กำลังใจกับเธอเพื่อผ่านโลกใบเก่าไปให้ได้ เพื่อต้อนรับลูกสาวคนใหม่และโลกใบใหม่ของเธอ ในที่สุด Nicolly วัย 2 ขวบก็ได้เห็นหน้าแม่เป็นครั้งแรกหลังจากผ่าตัดเสร็จ และแน่นอนว่า ช่วงจังหวะที่เธอได้เห็นหน้าแม่ครั้งแรกนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดสำหรับหนูน้อยและแม่เลยก็ว่าได้ และคงจะไม่มีคำพูดไหนที่จะบรรยายถึงความรู้สึกนี้ได้ คุณแม่ได้กอดลูกสาวด้วยความดีใจโดยไม่มีคำพูดใดๆ ในขณะที่ลูกสาวก็กำลังอยู่ในอาการแปลกใจกับการมองเห็นโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย Nicolly กับรอยยิ้มที่สดใส เธอคือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดของแม่ คุณแม่ทำทุกวิถีทางเพื่อมอบโลกใบใหม่ให้กับเธอ และนี่คือครั้งแรกที่เด็กน้อยเห็นหน้าแม่ ที่ทำให้หลายๆ คนต้องร้องไห้ ในที่สุดหนูน้อยก็ได้เห็นโลกและยังได้เห็นหน้าคนที่รักมากที่สุดด้วย ที่มา heroviral l people l miamiherald
-
พบกับ “โรงแรมตู้หนังสือ” แห่งเดียวในเกียวโต ด้วยกลิ่นไอหนังสือจะทำให้คุณหลับสบาย…
วิธีการนอนของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป บางคนนอนง่าย แค่หัวถึงหมอนก็หลับได้ บางคนก็ต้องดูทีวีก่อนนอน และกิจกรรมที่ผู้คนส่วนมากทำก่อนนอนก็คือการได้อ่านหนังสือดีๆ สักเรื่องนั่นเอง ถ้าใครยังจำกันได้ ทางเราเคยนำเสนอเกี่ยวกับโรงแรม Book and Bed Tokyo โรงแรมที่ทำออกมาในธีมร้านหนังสือ ซึ่งผ่านมาหนึ่งปีแล้ว โรงแรมนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมาก จนตอนนี้มันเกิดขึ้นอีกครั้งที่เกียวโตในวันที่ 2 ธันวาคมที่จะถึงนี้ ลักษณะก็เหมือนโรงแรมที่โตเกียวเลย ที่จะให้แขกได้นอนในห้องที่เหมือนโรงแรมแคปซูล ท่ามกลางหลังจากกว่า 5,000 เล่มที่จะให้คุณเลือกอ่านได้อย่างตามใจ โดยที่หนังสือนั้นจะเป็นภาษญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษเพื่อรองรับชาวต่างชาติด้วย ส่วนเรื่องราคานั้นอยู่ที่ประมาณ 1,400 บาทต่อคืน ถ้าสนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ bookandbedtokyo.com โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 9 ของตึก ซึ่งมีห้องนอนประมาณ 20 ที่ให้นักท่องเที่ยวได้พักอาศัยกัน มีห้องขนาด 220*110 เซนติเมตรอยู่ 18 ห้อง และห้องขนาด 220*90 เซนติเมตรอยู่ 2 ห้อง ซึ่งทั้งสองแบบราคาต่างกันนิดหน่อยเท่านั้น ที่แห่งนี้มีไวไฟฟรี และห้องน้ำเป็นแบบห้องน้ำรวม แต่จะมีผ้าเช็ดตัวและอุปกรณ์อาบน้ำอำนวยความสะดวกจะมีแบบให้เช่าในราคาประมาณ…
-
ชมภาพ ‘เชื้อโรค & ไรฝุ่น’ ที่อยู่รอบตัวเรา จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน จะทำให้คุณรู้จักโลกนี้มากขึ้น…
เพราะเชื้อโรคนั้นอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ และวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็จะพาเพื่อนๆ ไปรู้ซึ้งประจักษ์ถึงแก่นของเรื่องนี้กันล่ะ!! ไม่ว่าจะเป็นโซฟา พรม หรือแม้แต่บนเตียงของคุณ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ล้วนแต่อาศัยอยู่ทั้งสิ้น บ้างก็กัดกินเซลล์ผิวหนังที่ร่วงแล้วของคุณเพื่อดำรงชีวิตของมัน โดยการใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนส่องดู นี่คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเหล่าเชื้อโรคที่อาศัยอยู่รอบตัวเรา ว่าแล้วเรามาดูแต่ละชนิดกันเลยดีกว่า ผลงานนี้เป็นของ Steve Gschmeissner นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญในการส่องกล้องจุลทรรศน์ชนิดนี้ และเป็นหัวกะทิของโลกเลยล่ะ!! นี่คือภาพซูมของเชื้อโรคที่อาศัยอยู่ในฟองน้ำ แบคทีเรียธรรมดานั้นสามารถสังเกตเห็นได้ในสีม่วงและเขียว เชื้อราจะเป็นสีม่วงและแดง ส่วนรายีสต์จะมีสีเหลืองและเขียว นี่คือ Dust Mites หรือไรฝุ่น ไรฝุ่นนับล้านๆ ตัวอาศัยอยู่รอบตัวเรา อาหารที่มันกินก็คือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วของมนุษย์ และร้อยละ 10 ของมนุษย์ทั่วโลกมีอาการแพ้โปรตีนที่เกิดจากของเสียของไรฝุ่นเหล่านี้ และเป็นที่มาของอาการภูมิแพ้นั่นเอง Pseudoscorpions หรือเรียกกันในภาษาไทยว่าแมงป่องเทียม แมงป่องเทียมถือว่าส่วนหนึ่งแล้วมีประโยชน์ต่อมนุษย์ นั่นก็เพราะว่ามันคอยจัดการ ตัวอ่อนผีเสื้อกลางคืน ตัวอ่อนของด้วงในพรม ไร และเหาหนังสือ ที่มักถูกพบในพรมและห้องน้ำของบ้าน Chiggers หรือไรอ่อน ไรอ่อนสามารถพบได้ที่นอกบ้าน พวกมันจะติดอยู่บนตัวสัตว์หลายชนิด ทั้งกระต่าย กบ เต่า…
-
เผยภาพสวนสนุก Pandora จากหนัง Avatar สุดอลังการดาวล้านดวงใน Disney World!!
แม้หนัง Avatar จะมีอายุเกือบๆ สิบปีเข้าไปแล้ว แต่เกาะลอยฟ้า ป่าสีเขียวอันชุ่มฉ่ำ และชนเผ่าพื้นเมืองตัวสีน้ำเงิน ยังติดตราตรึงใจผู้ชมอยู่เสมอ และถ้าใครที่กำลังคิดถึงบรรยายกาศเหล่านี้ล่ะก็ เตรียมตัวให้ดี เพราะท่านจะได้ไปเยือนดินแดน Pandora ของจริง ได้ที่ Disney World’s Animal Kingdom ในช่วงปี 2017 ที่จะถึงนี้แล้ว!! ล่าสุดทาง Disney World ได้ปล่อยภาพชุดใหม่ของสวนสนุกแห่งนี้ออกมาแล้ว บอกได้คำเดียวอลังการดาวล้านดวง จนอยากจะไปเที่ยวเดี๋ยวนี้เลยล่ะ!! Bob Chapek ประธานของ Disney Parks and Resorts กล่าวว่า สวนสนุกแห่งใหม่นี้ จะกลายเป็นพระเอกของรีสอร์ทเลยทีเดียว เขาเล่าว่าสวนสนุกแห่งนี้จะตกแต่งด้วยธีมของโลก Pandora และจะมีการผจญภัยสองส่วน ส่วนแรกคือ Avatar Flight of Passage ที่ผู้เล่นจะได้บินเหนือป่าของ Pandora และข้ามภูเขา Banshee และอีกส่วนคือ Na’vi River Journey ที่เหล่าผู้เล่นจะได้ล่องเรือผ่านป่าแห่งชีวิต ที่มีสิ่งมีชีวิตเรืองแสงอันงดงามอยู่เต็มไปหมด…
-
สุนัขแสนรู้ช่วยเหลือหนูน้อย 4 ขวบ ที่หายเข้าไปในป่า 11 วัน พร้อมพาทุกคนตามหาจนเจอ
ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เลี้ยงกันมนุษย์นั้น บางทีมันก็ยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด เพราะแม้สัตว์เลี้ยงจะไม่เคยเปล่งคำว่าพูดว่า “รัก” แต่มันก็แสดงถึงความรักต่อเจ้าของเสมอ โดยเฉพาะสุนัขที่สามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่างที่เราอาจคาดไม่ถึง… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสาวน้อย Karina Chikitova วัย 4 ขวบจาก Yakutsk สาธารณรัฐซาฮา ในภาคตะวันออกของรัสเซียซึ่งมีอุณหภูมิที่หนาวจัด ได้หายตัวไป!! โดยปกติแล้ว Karina จะอยู่ในการดูแลของคุณยาย แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็หายตัวไป คุณยายเลยคิดว่าหลานสาวคงไปอยู่กับพ่อแหละมั้ง!? ต่อมาคุณยายก็รู้ว่า เด็กน้อยไม่ได้อยู่กับพ่อของเธอ เพราะพ่อได้ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปหางานใหม่แล้ว และในบริเวณที่เธออยู่ก็ไม่มีโทรศัพท์ให้ติดต่อได้ด้วย คุณยายจึงรีบไปแจ้งตำรวจทันที หนูน้อยหายไปพร้อมกับสุนัขของเธอ Krychaan ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงอยู่ด้วยกัน มันเป็นที่พึ่งเดียวที่คอยปกป้องเด็กสาว และในท่ามกลางอาการจัดที่หนาดจัดนี้หนูน้อยสวมเพียงเสื้อกันหนาวตัวเดียวเท่านั้น วันแล้ววันเล่า ครอบครัวและเจ้าหน้าที่ได้ออกตามหาก็ไม่เจอเด็กน้อยสักที ทุกคนเป็นห่วงเธอมาก เพราะไม่รู้ว่าเด็กตัวแค่นี้จะอยู่ยังไง จะกินยังไง แต่แม้จะแค่ 4 ขวบ แต่ Karina ก็รู้วิธีการเอาตัวรอดเล็กน้อย เธอได้ทำที่นอนของตัวเองในพงหญ้าสูง เพื่อเป็นการซ่อนตัวจากสัตว์ร้ายด้วย แต่นั่นทำให้เฮลิคอปเตอร์และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถมองเห็นเธอไปด้วย ในขณะเดียวกันเจ้า Krychaan ก็ทำหน้าที่ผู้ปกครองได้อย่างดีเยี่ยม มันคอยให้ความอบอุ่นด้วยการกอดเธอ และคอยปกป้องเธอจากอันตรายรอบด้าน โดยเฉพาะจากหมีและหมาป่า แต่แล้วในวันที่ 9…
-
Jeta หมีผู้ไม่เคยได้รับอิสระ เพราะถูกล่ามโซ่เพียงเพื่อการถ่ายภาพ จนได้รับฉายา “หมีเซลฟี่”
ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ต่างก็ไม่ต้องการให้ใครมากักขัง หรือล่ามเอาไว้หรอกว่าไหม เพราะทุกชีวิตต้องการเป็นอิสระ และไม่อยากตกอยู่ภายใต้การบังคับของใคร เหมือนดังเช่น Jeta เจ้าหมีตัวนี้ แทนที่มันจะได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในแบบที่มันควรจะเป็น แต่กลับต้องมาถูกคนใจร้ายล่ามโซ่เอาไว้ เพื่อที่จะได้พามันเดินไปรอบๆ ชายหาด และชวนให้ผู้คนมาถ่ายรูปด้วย เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต์ Thedodo ได้เผยว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้า Jeta หมีสีน้ำตาลในสภาพผอมโซ ได้รับความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ Four Paws และทางการแอลเบเนีย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะหลังจากที่ก่อนหน้านี้ มันถูกเจ้าของเดิมจับมาล่ามโซ่ พร้อมพาเดินไปรอบๆ ชายหาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปคู่กับมัน จนทำให้เจ้าหมีตัวนี้ได้รับฉายาว่า “หมีเซลฟี่” “เจ้าหมีเซลฟี่ ได้ถูกจูงไปรอบๆ ชายหาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพคู่กับมัน และแน่นอนว่าพวกเขาก็ยอมที่จะจ่ายเงินเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปคู่กับเจ้าหมี” เจ้าหน้าที่กล่าว สภาพของ Jeta ช่างน่าสงสารยิ่งนัก เพราะมันถูกโซ่ร้อยผ่านจมูก เพื่อเจ้าของจะได้ใช้ควบคุมเวลาที่จะลากมันไปตามชายหาก และเมื่อมีนักท่องเที่ยวผ่านไปมา เจ้าของก็จะแนะนำให้พวกเขาถ่ายภาพกับ Jeta …
-
น้ำใจแท้จริง… ชาวเน็ตร่วมอัดเสียง ‘เพลงกล่อมลูก’ ให้คุณพ่อ ที่เสียภรรยาไปเพราะการคลอด
เวลาที่เราสูญเสียใครไปสักคน สิ่งหนึ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจได้ก็คือ การได้ฟังเสียงหรือดูภาพของคนๆ นั้นที่บันทึกไว้เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกว่ายังมีเขาอยู่ข้างๆ ท่ามกลางความโศกเศร้า ครอบครัวของ Jared Buhanan-Decker และภรรยาของเขา Sharry ทั้งคู่กำลังจะมีลูก และได้วางแผนที่จะเลี้ยงลูกด้วยกันอย่างแฮปปี้ แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อภรรยาได้เสียชีวิตอย่างระหว่างคลอดลูก ทำให้ Jared ต้องกลายเป็นซิงเกิ้ลแด๊ด แต่ด้วยความเป็นผู้ชายการเลี้ยงลูกจึงค่อนข้างยากลำบาก แต่เขาก็พยายามทำให้ดีที่สุดในทุกๆ ด้าน ส่วนการกล่อมลูกนั้นเขาก็ไม่ถนัดเช่นกันก็เลยเปิดฟังจากใน YouTube ซึ่งก็ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่ล่าสุดเขาก็เกิดไอเดียหนึ่งขึ้นมา Jared ได้ขอความช่วยเหลือผ่านเว็บไซต์ Reddit ว่า “ผมต้องการได้ยินเสียงเธออีกครั้ง” และเพียงไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ได้รับการตอบรับจากผู้คนมากมายทั่วโลก เพราะทุกคนรู้ดีว่า ผู้ชายที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ชาวเน็ตจากทั่วโลกจึงได้อัดเสียงตัวเองเท่าที่จะทำได้ แล้วส่งมาให้ซิงเกิ้ลแด๊ดคนนี้เพื่อใช้ในการกล่อมลูก ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของ Sharry นั้น คุณหมอบอกว่า เกิดจากน้ำคร่ำไปอุดหลอดเลือดทำให้เธอเสียชีวิต คุณหมอจึงต้องผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อช่วยเด็กในท้อง เขาได้ตั้งชื่อให้ลูกชายว่า JJ ซึ่งตอนแรกนั้น หมอได้แจ้งข่าวร้ายให้กับผู้เป็นพ่อว่า “กรณีนี้ เด็กอาจจะตาบอก เดินไม่ได้ ไม่สามารถจะกินข้าวเองได้ และการไม่ได้ดื่มนมแม่ก็อาจทำให้สมองพิการอย่างรุนแรง รวมทั้งอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานด้วย” แต่ตอนนี้ JJ กำลังเติบโตท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ โดยมีคุณพ่อคอยดูและอย่างใกล้ชิด… Jared…
-
หนุ่มทำเงินแสนปลิวกระจุยหน้าธนาคาร พนักงานช่วยตามเก็บ จนได้กลับมาครบทุกใบ!!
ลองนึกภาพถ้าเราถือเงินสดกว่าแสนบาทเพื่อที่จะนำไปฝากธนาคาร แต่โชคร้าย เราดันทำเงินจำนวนนั้นตก แถมยังถูกลมพัดจนกระจุยกระชาย ความรู้สึกของเราตอนนั้นจะสิ้นหวังขนาดไหน สำหรับ หยาง ชายชาวจีนคนนี้ก็เช่นกัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเขาได้นำเงินสดที่เก็บหอมรอมริดมาอย่างยาวนานจำนวน 30,000 หยวน หรือราว 150,000 บาท ไปฝากธนาคารแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงสู แต่ยังไม่ทันได้เดินเข้าธนาคาร เขาดันทำเงินก้อนนั้นตกหน้าประตู สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เงินจำนวนนั้นถูกลมพัดกระจุยกระจายไปทุกทิศทาง ตอนนั้นเขาถึงกับช็อคและทำอะไรไม่ถูกไปเลยทีเดียว โชคดีที่พนักงานธนาคารคนหนึ่งชื่อว่า ซุน เห็นเหตุการณ์ เธอจึงรีบวิ่งออกมาช่วยเก็บเงินที่กำลังปลิวในทันที “เธอไม่สนใจด้วยซ้ำว่าฝนตกอยู่หรือเปล่า เธอเข้ามาช่วยผมเก็บเงินที่ตกอยู่ แม้สุดท้ายเธอจะต้องเปียกทั้งตัว แต่เธอก็ยังตัดสินใจช่วยผม” หลังจากนั้น พนักงานธนาคารคนอื่นๆ ก็ออกมาช่วยเก็บเงินเช่นกัน สุดท้ายเงิน 30,000 หยวนที่ปลิวไป ก็กลับมาอยู่ในมือของนายหยางครบทุกหยวนไม่ขาดแม้แต่นิดเดียว พอเก็บเงินเสร็จแล้ว ผู้จัดการของธนาคารก็นำผ้าเช็ดตัวมาให้กับนายหยาง รวมทั้งนำไดร์เป่าผมมาช่วยเป่าให้เงินแห้งอีกด้วย ขอชื่นชมพนักงานทุกคนจริงๆ ถ้าไม่ได้พวกเขาเงินของนายหยางอาจมีหายไปบ้างก็เป็นได้ นี่แหละน้า น้ำใจของเพื่อนมนุษย์ ที่ยังทำให้โลกใบนี้งดงามอยู่ ^^ ที่มา Shanghaiist
-
ช่างภาพทำอัลบั้ม “แม่ผู้มีรอยสัก” หวังให้สังคมตระหนักว่า อย่าตัดสินคนแค่รูปลักษณ์ภายนอก
การสักนั้นนับว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แต่ก็แปลกดีนะที่คนสักส่วนใหญ่มักจะถูกมองในแง่ลบ จนบางบริษัทถึงขั้นไม่รับเข้าทำงานเพียงเพราะมีรอยสักเท่านั้นเอง เช่นเดียวกับคุณแม่วัยใสอย่าง Celia Sanchez คุณแม่ที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกสังคม เพราะพวกเขามักมองเธอแปลกๆ หลายคนคิดว่าเธอจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดี เพียงเพราะเป็นคุณแม่ที่มีรอยสัก Sanchez มีลูกเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ในวัย 23 ปี และมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่เธอเริ่มกลายเป็นแม่ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เธอจะไม่มีวันลืม เธอบอกว่า “เมื่อฉันพาลูกไปเข้าคอร์สการเลี้ยงดูลูก ฉันจะรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่เหมือนกับแม่คนอื่นๆ พวกเขาแก่กว่าฉัน มันเลยทำให้ฉันรู้สึกแปลกแยก” “มันจะมีคนทักฉันว่า ‘คุณมีลูกแล้วหรอเนี่ย เป็นแม่ที่เด็กมากเลยนะ’ ‘คุณไม่เหมือนคนเป็นแม่เลย’ โดยเฉพาะคำพูดหลังนี้ ที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่มาก” ด้วยแรงกดดันจากสังคมนี้ ทำให้ Sanchez ซึ่งเป็นช่างภาพอยู่แล้ว จึงตัดสินใจที่จะทำโปรเจคถ่ายภาพ เพื่อทำให้สังคมเปลี่ยนความคิดที่มีต่อคุณแม่ที่มีรอยสัก เธอบอกว่า “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงทั้งโลก ฉันอยากให้ทุกคนได้เห็นว่า เราเป็นแค่คนคนหนึ่ง ที่มีความชอบมีแนวของตัวเอง แม้จะมีรอยสักแต่เราไม่แตกต่างจากคนปกติเลย” ชุดภาพของ Sanchez ใช้ชื่อว่า “Devoted” ซึ่งเป็นภาพของคุณแม่ที่มีรอยกับลูกๆ ของพวกเขา โดยโปรเจคนี้ได้รับความร่วมมือจากคุณแม่มากมาย เพราะพวกเขาอยากสนับสนุนความคิดของ Sanchez เช่นกัน คุณแม่เหล่านี้จะโชว์รอยสักของพวกเขา สีผมฉูดฉาด…
-
สาวนำตุ๊กตาเก่ามาปัดฝุ่น ตกแต่งใหม่ดูสมจริง ราวกับว่าแต่ละตัวนั้นมีชีวิตจริง!!
ในส่วนของตุ๊กตานั้นก็เรียกได้ว่าเป็นของเล่นยอดฮิตของเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กสาวๆ ที่ต้องมีกันอย่างน้อยคนละตัวสองตัวเลยล่ะ!! แต่สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยนั้นก็คือการที่ตุ๊กตาจะเริ่มเก่าและเสื่อมไปตามกาลเวลา บางส่วนถึงกับหน้าตาดูไม่ได้กันเลยทีเดียว นั่นเป็นแรงบันดาลใจมาให้สาว Mim Hammonds ที่เป็นหนึ่งในผู้ชื่นชอบตุ๊กตาเช่นกัน และเธอก็มีตุ๊กตาที่สะสมไว้ในสมัยเด็กๆ มากมาย แต่แทนที่จะปล่อยให้ตุ๊กตาเก่าแก่ไปตามกาลเวลา เธอได้นำตุ๊กตาเก่าๆ มาปัดฝุ่น ตกแต่งใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย และดูสมจริงมากขึ้น!! Milly ตุ๊กตาสาวน้อยช่างพูด ในการตกแต่งและโมดิฟายด์ตุ๊กตาแต่ละตัวเพิ่มเติมนั้น เธอได้จินตนาการลักษณะนิสัยของตุ๊กตาที่แตกต่างกัน จนได้ลักษณะของใบหน้าการแต่งตัวและทรงผมที่ดูเหมือนมนุษย์จริงๆ มากขึ้น Mary สาวผู้รักดอกไม้และธรรมชาติ Jo ผู้ชื่นชอบสีสันสวยงาม Katie ผู้ที่ชอบปีนป่ายต้นไม้ ทุกๆ ตัวล้วนมีเรื่องราวและพื้นหลังที่แตกต่างกันออกไป ของตกแต่งทุกๆ ชิ้นนั้นเธอสร้างด้วยตนเองทั้งหมด Nancy สาวน้อยผู้แสนใจดี Jess สาวสปอร์ตเกิร์ล และอีกมากมายหลายตัวเลยล่ะ… ถือว่าเป็นงานอดิเรกที่น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย แถมเป็นนำของเก่ากลับมารีไซเคิลใหม่เบาๆ อีกด้วยนะเนี่ย สุดยอดไปเลย!! ที่มา:…
-
หญิงสาวช่วย “สุนัขยืนตากฝน” อย่างโดดเดี่ยว พากลับไปเลี้ยง จนได้เห็นความน่ารักที่ซ่อนอยู่
สุนัขทุกตัวนั้นเมื่อมันได้รับการเลี้ยงดู มันมักจะตอบแทนเจ้าของด้วยความน่ารักของมัน และยังคอยปกป้องเจ้าของจากอันตรายอีกด้วย แต่ก็น่าเสียดายที่สุนัขหลายตัวไม่ได้มีโอกาสได้ทำแบบนั้น เพราะมันไม่มีใครครอบครัว ไม่มีใครเลี้ยง จึงต้องเผชิญชีวิตอย่างยากลำบากเพียงลำพัง เช่นเดียวกับสุนัขจรจัดตัวนี้ ที่ถูกพบอยู่ข้างถนนด้วยสภาพเปียกปอน มอมแมมท่ามกลางในที่ตกอย่างหนัก แต่น่าแปลกที่มันไม่ได้วิ่งหนีจากจุดๆ นั้น ราวกับทำเป็นพระเอกเอ็มวียังไงอย่างงั้น… ในขณะเดียวกัน Blaine หญิงสาวที่เห็นสุนัขตัวนี้อยู่กลางสายฝน จะเดินผ่านไปโดยไม่ช่วยอะไรเลยก็ทำไม่ลง เธอก็เลยเรียกมันมาหา สุนัขจรจัดเหมือนจะรอโอกาสนี้มานานแล้ว มันเข้าไปหาหญิงสาว และเดินตามเธอพร้อมากระดิกหางด้วยความดีใจ Blaine พามันกลับบ้านด้วย แต่ก่อนอื่นเธอได้สืบประวัติของมันเล็กน้อย จนรู้มาว่า มันมาจากที่กักขังสัตว์ที่เลี้ยงสัตว์อย่างทรมาน ซึ่งมันได้อยู่ในนั้นมาแล้ว 3 เดือน จนได้หนีออกมาในที่สุด หญิงสาวได้ตั้งชื่อให้มันว่า Bran และได้อาบน้ำ ทำความสะอาดให้มัน แต่ก็พบว่า แค่อาบน้ำคงไม่พอ เพราะมันมีเห็บหมัดเยอะแยะไปหมดจนไม่สามารถเอาออกเองได้ ดังนั้นในเช้าวันต่อมาเธอจึงพา Bran ไปหาสัตวแพทย์ ซึ่งชั่งน้ำหนักได้แค่ 11 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเห็บ หมัดที่กัดจนมันมีแผลทั่วร่างกาย หลังจากที่คุณหมอได้เอาออกให้ ก็พบว่า มันมีเห็บหมัดมากกว่า 200 ตัว ทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กเต็มไปหมด ทำให้นึกถึงภาพของสถานที่ที่มันหนีมาเลย คงจะทรมานไม่น้อยแน่ๆ แต่โชคดีที่ตอนนี้มันมีครอบครัวใหม่ที่พร้อมจะมอบความรักความอบอุ่นให้กับมัน และยังได้พบกับเพื่อนใหม่อีกตัวชื่อ ชื่อ Addie…
-
เหมียวน้อยถูกทิ้งใกล้ตาย ถูกสาวป่วยเป็นมะเร็งช่วยไว้ ต่างก็ช่วยเติมความสุขให้กันและกัน!!
เรื่องราวของหญิงสาวผู้ป่วยเป็นมะเร็งและได้ทำการต่อสู้กับมันมายาวนานกว่า 7 ปี ได้ทำการช่วยเหลือด้วยการรับเจ้าเหมียวกำพร้าแม่ตัวน้อยมาเลี้ยงไว้ และทั้งคู่ต่างก็ช่วยเหลือกันด้วยการมอบความสุขให้แก่กัน มารู้จักกับเจ้าเหมียว Kesha “มันเป็นแมวที่ถูกช่วยเหลือมา แม่และพี่น้องของมันได้ทำการทิ้งพวกมันไปแล้ว และฉันก็กลายมาเป็นคุณแม่จำเป็นของมัน” คุณ Laramie Evans กล่าว (จะเรียกให้ถูกก็คือเป็นทาสรับใช้ดีกว่านะ ฮร่า) “ฉันเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งสมอง และทำการต่อสู้กับมันด้วยการทำคีโมมามากกว่า 6 ครั้งแล้ว และเจ้า Kesha นั้นก็เป็นตัวช่วยเยียวยารักษาใจของฉันได้เป็นอย่าดีเลยล่ะ และอะไรหลายๆ อย่างก็เหมือนจะไปได้สวยเลยทีเดียว” เธอเล่าเสริม เจ้าเหมียวสามสีตัวน้อยถูกพบเจอใกล้ๆ กับคลินิคของคุณ Laramie (เธอทำงานเป็นนางพยาบาล) ในสภาพที่ใกล้ตายแต่เจตนารมย์ที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อของมันนั้นช่างกล้าแข็งซะเหลือเกิน คุณ Laramie ได้ทำการดูแลรักษามันจนกลับมามีร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้ง และตอนนี้เธอก็กลายเป็นทาสที่ซื่อสัตย์คอยปรนนิบัติรับใช้มันเป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับเจ้าเหมียว Kesha คุณ Laramie เองก็เป็นนักสู้ที่ต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งด้วยเช่นกัน เธอต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายมานานกว่า 7 ปีด้วย หลายๆ ครั้งเธอยอมรับว่าก็ท้อบ้าง แต่ตอนนี้เธอก็ไม่คิดจะยอมแพ้แล้วล่ะ เพราะตอนนี้เหมือนเธอกำลังมีเป้าหมายในชีวิตใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เจ้า Kesha…
-
จะเป็นอย่างไร ถ้าเอาเอกลักษณ์ของ ‘กรุงโตเกียว’ เข้าไปอยู่ในเมืองดังๆ รอบโลก
โตเกียว เป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นที่มีประชากรทั้งหมดกว่า 13.62 ล้านคน อีกทั้งยังขึ้นชื่อได้ว่าเป็นเมืองที่คึกคัก และเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมกันตลอดทั้งกลางวัน และกลางคืนอยู่เสมอ ยิ่งถ้าเป็นในเวลากลางคืน คุณก็จะได้เห็นถึงสีสัน เสียง ผนังแสงไฟนีออน และรวมถึงจอ LED อยู่เต็มทั่วทั้งเมือง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีทั้งความสวยงาม และน่าไปเที่ยวชมมากจริงๆ และถ้าเราลองคิดเล่นๆ ว่า เมืองต่างๆ ในแต่ละประเทศทั่วโลก ถูกเปลี่ยนให้มีบรรยากาศเหมือนมหานครโตเกียว ซึ่งเป็นเมืองแห่งสีสันในยามค่ำคืน เพื่อนๆ คิดว่ามันจะเป็นอย่างไร Liam Wong ช่างภาพ และ Daigo Ishii สถาปนิก ได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการลองนำเอกลักษณ์ของกรุงโตเกียว ไปใส่ในเมืองดังๆ รอบโลก เรามาดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละเมืองจะออกมาเป็นอย่างไร 1.นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 2.กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 3.กรุงเวนิส ประเทศอิตาลี 4.โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก 5.บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา 6.ลาปาซ ประเทศโบลิเวีย …
-
หนุ่มไม่กลับบ้านใน ‘วันขอบคุณพระเจ้า’ ครอบครัวเลยแกล้ง ทำอนุสรณ์ติ๊ต่างว่าเขาตายแล้ว!!
ในงานเทศกาลต่างๆ ของบ้านเรา อย่างเช่นวันปีใหม่ วันสงกรานต์ ก็เปรียบเสมือนเป็นวันรวมญาติ ที่ทุกคนในครอบครัวจะได้กลับมาพบปะกันพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง เช่นเดียวกับเทศกาลขอบคุณพระเจ้าของต่างประเทศ ครอบครัวจะกลับมาพบปะกันเลี้ยงฉลองในวันขอบคุณพระเจ้า แต่หนุ่มคนหนึ่งดันไม่ได้กลับไปหาครอบครัวในวันนั้น ก็เลยถูกแกล้งซะฮาเลย… Celeb James Plott หนุ่มนักศึกษาวัย 19 ปีจากมหาวิทยาลัย University of Southern Mississippi ในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านนั้นเป็นวันแรกของการเฉลิมฉลองเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าและเขาก็ไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงร่วมกับครอบครัวของเขา “พวกเขาตัดสินใจที่และบอกกับผมว่าไม่ต้องกลับบ้านก็ได้” James เล่า เนื่องจากว่าเขาไม่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไปยัง Washington DC และเนื่องจากว่าหนุ่ม James นั้นไม่ได้มาร่วมงาน เหล่าน้องชายของเขา Noah วัย 14 ปี และ Joseph วัย 16 ปี ก็เลยคิดแผนการแกล้งพี่ชายแบบฮาๆ ออกมา ด้วยการนำรูปภาพของพี่ชายตัวเองมาทำเป็นภาพอนุสรณ์แบบปลอมๆ พร้อมกับจุดเทียน 1 เล่ม ราวกับว่าเขาได้จากไปแล้วยังไงยังงั้นเลย พร้อมกับโพสต์รูปภาพลงบนอินสตาแกรมด้วยแคปชั่นว่า “นี่เป็นงานฉลองขอบคุณพระเจ้าครั้งแรกโดยไม่มีเขา” …
-
นี่อาจเป็น “หอย” ที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่มันกลับเป็นหนึ่งในยอดนักล่าแห่งมหาสมุทร
โดยปกติแล้ว “หอยทาก” ไม่ได้เป็นสัตว์ที่ดูอันตรายเกินกว่าที่จะไปทำร้ายสัตว์อื่นๆ ได้เลย แต่ถ้าหากว่าคุณได้เห็นภาพ พร้อมกับคลิปวีดีโอที่เราได้หยิบมาให้ชมในวันนี้ รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกขนลุก และหวาดกลัวเจ้าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหอยทากนี้แน่นอน เพราะนี่คือ Geographic Cone Snail หรือ หอยเต้าปูนลายแผนที่ (หอยทากทะเลทรงกรวย) สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่อยู่ภายใต้เปลือกอันแข็งแรงและสวยงาม ซึ่งดูจากภายนอกแล้ว มันอาจจะดูเหมือนเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ความจริงแล้วใครจะรู้ละว่า เจ้าหอยชนิดนี้กลับมีพิษรุนแรงมากพอที่จะสามารถฆ่าคนได้เลยละ….มนุษย์ทั้งหลายจงระวังตัวเอาไว้ให้ดีละกัน สำหรับเจ้า Cone Snail จะพบมากในเขตอินโดแปซิฟิก พวกมันชอบอาศัยอยู่ตามซอกโพรงหินในแนวปะการัง อีกทั้งมันยังสัตว์กินเนื้อที่มักจะออกล่าเหยื่อในตอนกลางคืนอีกด้วย การล่าเหยื่อของมันนั้น บอกเลยว่าโหดเหมือนกันนะ เพราะหลังจากที่ได้เจอเหยื่อจากการตามกลิ่นแล้ว มันก็จะทำการสำรวจเหยื่อโดยการยื่นงวงออกไปสัมผัส ก่อนจะรีบโจมตีโดยการยิงเข็มพิษใส่ทันที นี่คือภาพงวงของมันขณะกำลังยืดเข้าไปดูดสัตว์ทะเลตัวอื่นๆ เช่น ปลาตัวเล็กตัวนี้ พิษที่ร้ายแรงของเจ้าหอยชนิดนี้ จะทำให้สัตว์ที่ตกเป็นเหยื่อเป็นอัมพาต และแน่นิ่งไปในที่สุด ลองไปรับชมวีดีโอการล่าเหยื่อของมันกันได้ก่อนเลย.. และในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เหยื่อก็จะถูกมันกลืนกินเข้าไปทั้งตัวอย่างรวดเร็ว ดูน่ากลัว และโหดมาก เห็นนิ่งๆ แบบนี้ โหดร้ายไม่เบาเลยนะเจ้าหอย ที่มา : boredomtherapy
-
ภาพถ่ายจากประวัติศาสตร์เยอรมนี เผยให้เห็นวิถีชีวิตของฝั่ง ‘นาซี’ ที่ถูกปิดไว้มานาน
สำหรับเรื่องราวของ ‘นาซี’ ในอดีตแล้ว อาจจะไม่เป็นที่น่าจดจำของคนเยอรมันในปัจจุบันมากนัก แต่ครั้งนึงกองทัพของ ‘อดอล์ฟ ฮิตเลอร์’ เคยยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่ว่าเกือบจะครองโลกได้สำเร็จ ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นซะก่อน จากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะได้เห็นภาพความโหดร้ายที่กลุ่มทหารนาซี กระทำกับชาวยิว จนเกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ว่าแต่มีใครเคยเห็นภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของฝั่งนาซีบ้างมั้ยเอ่ย? เราตามไปดูภาพถ่ายสะท้อนเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของทหาร และประชาชนชาวเยอรมันในยุคนาซีกันเลย… ฮิตเลอร์ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ให้กับราชสภาเยอรมัน ในวันที่ 6 ตุลาคม ปี 1939 ทำให้ต่อมาหลายคนคล้อยตาม และยอมเป็นส่วนหนึ่งของการกอบกู้ชาติในครั้งนี้ ชาวเมืองเยอรมันตะวันออก เริ่มเดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ โดยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลของฮิตเลอร์ ปี 1939 ช่วงที่สงครามยังไม่รุนแรงมากนัก มีการแข่งขันฟุตบอลลีคในเยอรมัน โดยปีนี้ได้ทีมชาลเก้ ขึ้นนำเป็นแชมเปี้ยนประจำลีก เหตุการณ์ในเเชคโกสโลวาเกีย ปี 1939 ที่ดูเหมือนจะค่อยๆ รุนแรงมากขึ้น เมื่อร้านค้า หรือบ้านเรือนของชาวยิว ต่างถูกโจมตีอย่างหนัก และไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ การประกาศยอมแพ้ต่อทหารเยอรมันของชาวโปแลนด์ ฮิตเลอร์เข้าไปเยี่ยมเยียนฐานทัพอากาศ ‘Luftwaffe’ ซึ่งมีทหารนายหนึ่งได้นำนกอินทรีย์ที่แกะสลักจากไม้ นำมามอบให้เป็นของขวัญ ปี 1939…
-
หนุ่มแคนาดาเงิบ ถูกพ่อค้าหลอกขายแมวสฟิงส์ แท้จริงเป็นแค่แมวถูกจับตัดขน?!?!
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นแมวพันธุ์สฟิงส์ แมวขนสั้นที่หน้าตาเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเจ้าเหมียวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นแมวที่มีราคาสูงมากๆ พันธุ์หนึ่งเลย โดยมีราคาถึงตัวละ 20,000 บาทเป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว ด้วยราคาที่สูงขนาดนี้ ทำให้มีพ่อค้าบางคนหัวใส ทำแมวสฟิงส์ “ปลอม” ขึ้นมา และมีเหยื่อหลายคนหลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อมากมาย อย่างเช่นในรัฐอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนนาดาแห่งนี้ ทางสำนักข่าว CBC ได้รายงานว่า นาย JoAnne Dyck ได้ทำการซื้อแมวพันธุ์สฟิงส์มาจากฟาร์มแห่งหนึ่ง พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Vlad พอมาถึงบ้าน เจ้า Vlad ก็มีอาการแปลกๆ เช่นตัวสั่นและเหมือนกำลังร้องไห้ แต่ Dyck คิดว่าเป็นเพราะต้องมาอยู่แปลกที่ มันเลยมีอาการกลัวอยู่บ้าง แต่หลายสัปดาห์หลังจากนั้น เจ้าแมวสฟิงส์ตัวนั้นกลับมีขนขึ้นมาเต็มไปหมด จนมีสภาพไม่ต่างจากแมวทั่วไป ตอนนั้นเขารู้ได้ทันทีว่าเขาถูกหลอกแล้ว “ตอนนั้นมันมีอาการเหมือนกำลังร้องไห้ ผมก็นึกว่ามันคิดถึงแม่ หลายวันผ่านไปอาการของมันก็ยังไม่ดีขึ้น ผมเลยตัดสินใจพามันไปหาสัตวแพทย์” “พวกเขาบอกว่ามันไม่ได้เหงาหรือคิดถึงแม่อะไร แต่มันกำลังเจ็บปวดต่างหาก บนร่างกายมันมีรอยถูกมีดโกนอยู่เต็มไปหมด หลังจากนั้นไม่นาน ขนที่ถูกโกนก็ขึ้นมาตามปกติ ผมรู้ได้ทันทีเลยว่า ผมถูกหลอกแล้ว“ Dyck กล่าว ไม่ใช่แค่ JoAnne…
-
เด็กหญิงซีเรีย โพสต์เล่าเรื่องวินาทีเมืองถูกถล่ม “บ้านฉันพังไปแล้ว และฉันเห็นคนตาย…”
ทวิตเตอร์ของเด็กหญิงชาวซีเรียวัย 7 ขวบ ที่โพสเล่าเหตุการณ์เมืองถูกทิ้งระเบิด และบ้านของเธอก็ถูกทำลายไปด้วยแรงระเบิดอีกด้วย กลายเป็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจที่สื่อหลายๆ แห่งต่างพากันนำเสนอ ทวิตเตอร์ดังกล่าวเป็นของเด็กหญิง บานา อลาเบด วัย 7 ขวบที่อาศัยอยู่ในทางตะวันออกของเมืองอเลปโป ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เธอได้อัพเดทชีวิตของผู้ที่ยังอาศัยอยู่ในเมืองอเลปโปให้ชาวโลกได้รับรู้อยู่เป็นประจำ ล่าสุดเธอได้อัพเดทว่า “ตอนนี้ฉันไม่มีบ้านแล้ว และฉันได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ฉันยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อวานและกำลังหิวโหย ฉันอยากมีชีวิตอยู่ ฉันยังไม่อยากตาย” ปัจจุบัน แอคเคาท์ @AlabedBana มีผู้ติดตามกว่า 132,000 คน โดยแอคเคาท์นี้ทั้งบานาและแม่ของเธอเฟตมาห์ ได้ใช้บอกเรื่องเรื่องราวและผลกระทบจากสงครามให้คนภายนอกได้รับรู้ อย่างเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมาพวกเธอได้โพสว่า “กองทหารได้บุกเข้ามาแล้ว นี่อาจเป็นวันสุดท้ายที่เราได้คุยกัน ไม่มีอินเตอร์เน็ต ช่วยสวดมนต์ภาวนาให้พวกเราด้วย – เฟตมาห์” หลังจากนั้นไม่นา เธอก็โพสอีกว่า “ข้อความสุดท้าย ตอนนี้มีการทิ้งระเบิดอย่างหนัก อาจไม่มีชีวิตรอด ถ้าพวกเราตาย ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้กับ 200,000 ชีวิตที่ยังอยู่ในเมืองด้วย ลาก่อน – เฟตมาห์” หลายๆ ครั้งเธอก็ได้บอกเล่าสุดสะเทือนใจสะท้อนให้เห็นชีวิตอันโหดร้ายของผู้ที่ยังอาศัยอยู่ในเมืองอเลปโปแห่งนั้นเช่น “อย่างที่เห็นเราอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้…
-
รู้จักกับ “Water Seer” อุปกรณ์สุดเจ๋งที่แค่เสียบลงดิน ก็สามารถผลิตน้ำดื่มจากอากาศได้!!
ทุกวันนี้หนึ่งในปัญหาสำคัญของโลกคือปัญหาการขาดแคลนน้ำ มีรายงานที่น่าตกใจว่า ทุกๆ ปีมีผู้คนกว่า 2.3 ล้านคนทั่วโลกไม่มีน้ำดื่มสะอาดดื่มกิน ทำให้ชีวิตของพวกเขาประสบกับความยากลำบากเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เอง ทางสถานบัน VICI-Lab ร่วมกับมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลี่ และสมาคมสันติภาพโลก ได้ร่วมมือกันพัฒนาอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งขึ้นมา เพื่อเป็นความหวังในการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเหล่านี้ได้ โดยอุปกรณ์ชิ้นนั้นมีชื่อว่า “Water Seer” “Water Seer” เป็นกังหันลมที่อาศัยหลักการควบแน่นของความชิ้นในอากาศมาผลิตเป็นน้ำดื่ม กา่รทำงานนั้นตัวกังหันจะดูดน้ำเข้ามาในท่อที่ฝังลงไปในพื้นดิน เมื่ออากาศเหล่านั้นเจอกับความเย็นภายในท่อ จะก็จับตัวกันเป็นหยดน้ำและถูกกักเก็บไว้ด้านล่างสุดของท่อ ทางผู้พัฒนากล่าวว่ากังหันตัวนี้ สามารถผลิตน้ำได้ถึงวันละ 11 แกลลอนหรือราว 44 ลิตรโดยที่ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าแต่อย่างใด ซึ่งสามารถหล่อเลี้ยงหมู่บ้านเล็กๆ ได้ทั้งหมู่บ้านเลยทีเดียว ตอนนี้ทางเจ้าของโครงการได้เปิดระดมทุนบนเว็บไซต์ Indiegogo และสามารถระดมทุนไปแล้วกว่า 300,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 10 ล้านบาท ใครสนใจก็ลองเข้าไปชมในเว็บไซต์ดังกล่าวกันได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในการแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มในพื้นที่ห่างไกลจริงๆ ที่มา inhabitat
-
ไม่ใช่แค่ไทย แต่การลดราคาแหลก Black Friday ก็ทำให้ Nike Store สาขานี้พังยับราวซอมบี้บุก
ถ้าใครติดตามข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ จะทราบว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงเทศกาล Black Friday ของชาวตะวันตก ซึ่งร้านค้าต่างๆ จะพากันลดราคาสินค้าของตนเองกันอย่างบ้าคลั่ง (ลดกันระดับครึ่งๆ จนถึง 80-90% กันเลยทีเดียว) แน่นอนเมื่อลดราคากันขนาดนั้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างพากันเข้าไปเลือกซื้อสินค้าในวันนั้น ถ้าร้านไหนโชคดีหน่อยอาจแค่เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย แต่ถ้าร้านไหนโชคร้ายหน่อย ก็อาจเป็นเหมือนร้าน Nike Store แห่งนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นที่ร้าน Nike factory store ใน Seattle Premium Outlets ในเมือง Tulalip รัฐ Washington โดยเมื่อช่วง Black Friday ที่ผ่านมา ร้านนี้ก็ลดราคาตามเทศกาลเหมือนกันร้านอื่นๆ และนี่คือสภาพของร้านในวันนั้น Larry Downer ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BuzzFeed News ว่า “ผมตั้งใจจะไปซื้อรองเท้าบาสเก็ตบอลให้กับลูกชาย แต่พอผมเปิดเข้าไปผมถึงกับอึ้งเลย นึกว่ามีแผ่นดินไหวอะไรทำนองนั้นซะอีก” “มองไปทางไหนก็เจอกล่องสีส้มวางกระจายเต็มพื้นไปหมด คนที่เดินไปมาในั้นก็แค่เอาเท้าเขี่ยๆ แล้วก็เดินข้ามไป” Larry Downer หนึ่งในพนักงานของร้าน…
-
ทั่วโลกร่วมไว้อาลัย สโมสร ‘Chapecoense’ เครื่องบินตก คู่แข่งโชว์สปิริตมอบถ้วยแชมป์ให้!!
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดขึ้น เครื่องบินที่บรรทุกผู้โดยสารกว่า 81 คน ได้ตกลงมากระแทกพื้นอย่างรุนแรง จนทำให้ผู้โดยสารกว่า 76 คนเสียชีวิต และเหลือรอดเพียง 5 คนเท่านั้น โดยมีอีกคนหนึ่งไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งเครื่องบินลำนั้นได้ถูกทีมฟุตบอล Chapecoense ที่อยู่ในลีคสูงสุดของประเทศบราซิลเหมาลำเพื่อเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ Copa Sudamericana (เป็นถ้วยรองระดับทวีป อารมณ์ประมาณยูโรป้าลีคของฝั่งอเมริกาใต้) ในนัดแรก อันประกอบไปด้วยนักเตะทั้งตัวจริงและตัวสำรอง สตาฟโค้ช และผู้โดยสารคนอื่นๆ และมีสมาชิกของทีมรอดมาได้เพียง 3 คนเท่านั้น ส่วนอีกสองคนที่เหลือเป็นผู้โดยสารและลูกเรือ ส่วนสต๊าฟโค้ช และนักเตะคนอื่นๆ เสียชีวิตทั้งหมด ตามรายงานบอกไว้ว่าเครื่องบิน Avro RJ85 ได้เกิดเหตุขัดข้องเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าขณะที่กำลังบินผ่านเทือกเขา Antioquia และกำลังจะมุ่งหน้าไปยังประเทศ Colombia เพื่อทำการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศเพื่อชิงแชมป์รายการ Copa Sudamericana กับทีมชื่อดังอย่าง Atletico Nacional จากนั้นเครื่องก็พุ่งดิ่งชนเข้ากับพื้นอย่างจังจนตัวเครื่องขาดออกเป็นสองท่อนและทำให้ผู้โดยสารเกือบทั้งลำเสียชีวิตในทันที ด้วยเหตุนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็เลยอยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับสโมสร…
-
โย่วโย่ว 3 คุณยายโชว์เสต็ปฮิปฮอป เพื่อแสดงให้เห็นว่า อายุไม่ใช่อุปสรรคของการทำตามฝัน
เคยได้ยินมั้ย “อายุเป็นเพียงตัวเลข” กับบางคนแล้ว อายุทำอะไรพวกเขาไม่ได้เลย เพราะแม้จะแก่ขึ้นแต่ก็ยังสามารถทำอะไรเหมือนวัยรุ่นได้ แถมยังเจ๋งอีกต่าง เหมือนแก๊งมนุษย์ป้าจากประเทศญี่ปุ่นที่มีอายุเฉลี่ย 59 ปีแล้ว แต่พวกเขายังเต้นได้เหมือนวัยรุ่น และไม่ใช่การเต้นธรรมดานะแต่มันคือการเต้นฮิปฮอปจ้าแม่คุ๊ณณณ โย่ว โย่ว หากใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น สิ่งที่เป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งคือ คนเฒ่าคนแก่ที่นี่จะมีพลังที่เหลือล้นและมีการเคลื่อนไหวคล่องแคล่วอย่างเหลือเชื่อ นั่นเป็นเพราะว่า เมื่อย่างเข้าสู่อาย 60 ปี เป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์สำคัญที่คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า kanreki ซึ่งหมายความว่า เป็นปีที่วันเกิดของคุณจะตรงกับราศีเกิดในช่วงห้ารอบตามราศีจีน ที่พวกเขาเชื่อกันว่าได้เกิดใหม่อีกครั้งนั่นเอง ดังนั้น 3 มนุษย์ป้าจึงได้พิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาได้มีชีวิตใหม่จริงๆ ด้วยการเต้นเพลง 24K Magic ซึ่งเป็นอัลบั้มใหม่ของ Bruno Mars และไม่ว่าพวกเขาจะใส่ชุดดั้งเดิมหรือชุดแบบฮิปฮอป ความสามารถในการเต้นนั้นมันก็เจ๋งอยู่ดี ไม่เชื่อก็ดูลองดูสิ ไม่แพ้วัยรุ่นเลยนะ Tori คุณยายวัย 61 หนึ่งในคุณยายที่อยู่ในคลิปบอกว่า เธอจะเต้นอย่างมีความสุขและโด่งดังเหมือน Bruno Mars ให้ได้ และจะดึงดูดความสนใจของผู้คนด้วยรอยยิ้มของเธอ และเพื่อนอีกสองที่เต้นข้างๆ เธอคือ Mash อายุ 56…
-
I am Groot!! ศิลปินสร้างรูปปั้น “เทพเจ้าแห่งป่า” สุดประณีต ราวเสกธรรมชาติให้มีชีวิต
ศิลปินสาว Emily Coleman มีความหลงไหลในธรรมชาติเป็นอย่างมาก และตลอดเวลาที่เธอได้เห็นป่าไม้ค่อยๆ ถูกทำลาย เธอรู้สึกเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก เธอจึงอยากปกป้องป่าไม้อันงดงามไว้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ในปี 2008 เธอจึงสร้างสรรค์ผลงานชิ้นหนึ่งขึ้นมา เธอเรียกมันว่า “Arbori” เทพเจ้ามังกรแห่งป่า ที่เธอหวังว่ามันจะเป็นเหมือนตัวนำที่คอยส่งมอบความรู้สึกอยากปกป้องป่าให้กับคนทั้งโลก “Arbori” มีลักษณะเหมือนมังกรไม้ โดยเธอได้ศึกษาลายเส้นและการออกแบบตัวละครมาจาก ฮายาโอะ มิยาซากิ นักสร้างการ์ตูนชื่อดังจากค่าย Ghibli นั่นเอง เห็นแล้วแอบนึกถึงตัวละคร Groot ในหนังเรื่อง Guardian of The Galaxy จริงๆ เธอบอกว่าเธอใช้ซิลิโคนและเรซิ่นเป็นวัสดุในการทำ ซึ่งวัสดุทั้งสองชนิดนี้เป็นสิ่งที่เธอเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก สวยงามจริงๆ เลยเนอะ ใครที่ชื่นชอบผลงานของเธอ ลองไปชมผลงานอื่นๆ ของเธอตามลิ้งได้ล่างได้เลยนะฮะ มีทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว และอินสตาแกรม รับรองมีอะไรเจ๋งๆ ให้ชมอีกเพียบแน่นอน ที่มา boredpanda, emilysculpts, emilysculpts@instagram
-
ชุดภาพถ่ายสุดหวานเยิ้ม!! เมื่อศิลปินเคลือบน้ำผึ้งลงบนตัวนางแบบ เป็นความหนืดที่งดงาม
การเป็นศิลปินไม่ใช่เพียงแต่จะสร้างสรรค์งานของตัวเองให้ออกมาสวยงามอย่างเดียว แต่คุณจะต้องมีจินตนาการสุดล้ำ และคิดในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ด้วย เหมือนดังเช่นผลงานของ Blake Little ศิลปินจากลอสแองเจลลิส ผู้สร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใครคนนี้ เขาได้เนรมิตผลงานสุดแหวกแนวของตัวเองขึ้นมา โดยผลงานชุดดังกล่าวมีชื่อว่า “Preservation” ซึ่งเป็นการจับเอานายแบบนางแบบจากหลากหลายช่วงอายุ มาโพสต์ท่าถ่ายภาพ ในขณะตัวของพวกเขากำลังถูกราดด้วยน้ำผึ้งไปทั่วทั้งร่างกายแบบนี้…. สำหรับจุดประสงค์ของงานชิ้นนี้คือ เขาต้องการที่จะแสดงให้เห็นถึงสรีระตามธรรมชาติของมนุษย์ในแต่ละช่วงอายุ ซึ่งก็จะทำให้เราได้เห็นความแตกต่างในรูปร่างของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน เมื่อได้เห็นการโพสต์ท่าของนายแบบและนางแบบแต่ละคน ก็ทำให้รู้สึกราวกับว่ามันมีลักษณะเหมือนรูปปั้นของกรีก หรือโรมันในสมัยก่อนไม่มีผิด เหมือนถูกแช่แข็งเอาไว้เลย กว่าจะล้างออกจนหมด ต้องใช้เวลานานเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว ทางด้าน Blake Little ได้เผยว่า “ดูเหมือนพวกเขาถูกเก็บรักษาไว้ภายใต้สีเหลืองอำพัน และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการทั้งหมด ส่วนสำคัญที่สุดของการถ่ายภาพทั้งหมดนี้ คือการที่ได้เห็นพวกเขาได้แสดงปฏิกิริยาหลังจากที่ถูกเคลือบด้วยน้ำผึ้ง พวกเขามีการตอบสนองที่แตกต่างกัน และนั่นก็คือการสร้างอารมณ์จากภาพถ่ายทั้งหมด” และกว่าจะออกมาเป็นผลงานที่ดูแปลกตาเหล่านี้ เขาต้องใช้น้ำผึ้งไปมากถึง 1,810 กิโลกรัมเลยนะ!! เราต้องชื่นชมในตัวของนายแบบ และนางแบบเหล่านี้ด้วยนะ ที่ต้องทนถูกเคลือบด้วยน้ำผึ้งจำนวนมหาศาลแบบนี้ มันจะต้องเหนียวหนืด แถมยังหายใจค่อนข้างลำบากมากๆ เลยละ ลองชมขั้นตอนการสร้างผลงาน…
-
สะพรึง!! ภาพโคลสอัพชัดๆ จากขนตาหญิงชาวจีน มี ‘เหา’ เกาะอยู่มากถึง 20 ตัว…
เอาจริงๆ นะ เราว่าเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนผ่านการเป็นเหามาแล้วทั้งนั้น ซึ่งเจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เป็นที่รู้กันดีว่ามันชื่นชอบการอาศัยอยู่บนศีรษะของเรามากกกก หรือมันอาจจะคิดว่าเส้นผมเปรียบเสมือนป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ที่เป็นแหล่งพักพิงให้กับมัน อะจึ๋ยยย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว… แต่ถ้าหากว่า “เหา” เปลี่ยนจากการอาศัยอยู่บนเส้นผม แล้วมาอยู่ในขนตาแทนละ คิดแล้วคงสยดสยองกว่าเดิมไม่น้อยเลยเนอะ แต่ว่าใครจะมีเหาอยู่บนขนตาล่ะ? เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้ยิน ได้เห็นมาก่อน แต่วันนี้คุณจะได้รู้ และได้เห็นแน่นอน เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า Zhang หญิงชาวจีนรายหนึ่ง จู่ๆ ก็เกิดอาการคันที่บริเวณขนตาข้างหนึ่งเป็นอย่างมาก ซึ่งในตอนแรกเธอคิดว่ามันอาจจะเป็นผลมาจากโรคหลอดเลือดในสมอง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้เข้าไปถามลูกชาย และให้เขาตรวจดูที่ดวงตาของเธอ ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ และนั่นก็ทำให้ลูกชายของเธอตกใจเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่เห็นนั้นก็คือ “เหา” ตัวเล็กๆ จำนวนหลายสิบตัวเกาะอยู่ทั่วขนตาเต็มไปหมด หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลทันที และเมื่อทางแพทย์ได้เห็น พวกเขาก็รู้สึกตกใจไม่แพ้กัน ซึ่งดวงตาของเธอยังมีสภาพที่บวมเป่ง และทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด โดยทางแพทย์ได้ก็ได้เผยว่า “เหาเหล่านี้ คงจะแพร่พันธุ์และอาศัยอยู่บนขนตาของเธอมาได้สักพักแล้วละ มันมีจำนวนมากถึง 20 ตัวเลยทีเดียว” อื้อหือออออ!! น่ากลัวจริงๆ ลองไปรับชมคลิปวีดีโอกันหน่อยไหม…
-
ชาวมุสลิมกว่า 20 ล้านคน ร่วมเดินขบวนต่อต้าน ประกาศกร้าวไม่ยอมรับกลุ่ม ISIS!!!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หากพูดถึงกลุ่มก่อการร้ายที่สร้างความหวาดวิตกให้กับคนทั้งโลก ชื่อของ ISIS (ไอซิส) หรือ Islamic State of Iraq and the Levant ต้องโผล่มาเป็นชื่อแรกๆ อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาถือว่าเป็นผู้ก่อเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่ๆ หลายครั้งทั่วโลก รวมทั้งเหตุกราดยิงที่ฝรั่งเศส เมื่อปีก่อน แน่นอนว่าการมีอยู่ของ ISIS นี่เอง ทำให้ชาวมุสลิมทั่วโลกได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ทว่าไม่ใช่ชาวมุสลิมทุกคนจะสนับสนุนและเห็นดีเห็นงามด้วยกับการกระทำของกลุ่มไอซิส ล่าสุดในช่วงเทศกาลวันอัรบาอีนฮุซัยนี ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์จากทั่วโลกกว่า 20 ล้านคนได้ร่วมเดินเท้าไปยังเมืองกัรบาลาอ์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก ไม่เพียงเพื่อแสดงความระลึกถึงอิหม่ามฮุเซนเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงเจตจำนงต่อต้านการกระทำทุกรูปแบบของไอซิสอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เส้นทางที่ใช้เดินทางไปยังเมืองกัรบาลาอ์นั้น อยู่ใกล้กับดินแดนของกลุ่มไอซิสเป็นอย่างมาก ทำให้กลุ่มผู้แสวงบุญถูกโจมตีโดยกลุ่มไอซิสหลายครั้ง และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 80 ราย ซึ่งตอนนี้ทางการได้ระดมพลทหารและตำรวจกว่า 24,000 นาย คอยรักษาความปลอดภัยให้กับขบวนผู้แสวงบุญ กลุ่มไอซิสเคยประกาศว่า ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ถือว่าเป็นพวกผู้ที่เลิกศรัทธาและจะเป็นเป้าโจมตีหลักของกลุ่มไอซิส จึงเป็นที่น่ากังวลว่า อาจมีการโจมตีรุนแรงเกิดขึ้นก็เป็นได้ อย่างน้อยเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เราเห็นว่าไม่ใช่ชาวมุสลิมทุกคนที่จะเห็นด้วยกับไอซิส และไอซิสยังเป็นภัยร่วมของชาวโลก ที่ต้องถูกปราบปรามให้เร็วที่สุด…
-
พรหมลิขิต… หนุ่มได้พบกับ รักแรกในวัยเด็กอีกครั้ง หลังไม่ได้เจอกันมานานกว่า 30 ปี
เพื่อนๆ เชื่อเรื่องพรหมลิขิตกันหรือเปล่า? เชื่อหรือไม่ว่าหากคนสองคนเกิดมาคู่กันแล้ว ต่อให้ต้องแยกจากกันไปไกลแค่ไหน แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ พวกเขาก็จะได้กลับมาคู่กันอีกครั้ง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า Justin และ Amy Pounders เชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พวกเขาได้เจอกันอีกครั้งใน 30 ปีต่อมานับจากเจอกันครั้งแรก และครั้งนี้พวกเขาก็ตกลงจะเป็นคู่ชีวิตของกันและกัน… เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน Justin และ Amy พบกันบนเว็บไซต์หาคู่เว็บไซต์หนึ่ง หลังจากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจคบหากันเรื่อยมา จนวันหนึ่ง Amy ถาม Justin เกี่ยวกับแผลเป็นเหนือคิ้ว เขาบอกว่าเป็นแผลที่เขาได้มาตอนที่เรียนอยู่โรงเรียนอนุบาล Good Ol’ Sunshine ตอนนั้นเธอเริ่มเอะใจ เพราะเธอเองก็เคยเรียนที่โรงเรียน Good Ol’ Sunshine นี้เช่นกัน และเมื่อพวกเขาลองคำนวนดีๆ ผลคือพวกเขานั้นเคยเข้าเรียนในโรงเรียนนั้นในช่วงเวลาเดียวกันมาก่อน?!?! และเมื่อพวกเขากลับไปค้นภาพเก่าๆ ภายในบ้าน ปรากฎว่ามีรูปที่พวกเขาถ่ายร่วมกันสมัยเด็กๆ ด้วย?!?! นี่มันเรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิตกันเนี่ย?!? Diane Twar อดีตครูประจำโรงเรียน Good Ol’ Sunshine ยังจำเรื่องราวเมื่อ 30…
-
โอ้โหแฟนตาซี!! พาทัวร์โรงงาน Lush ผู้ผลิตลูกบอลอาบน้ำ ที่จะทำให้คุณเคลิ้มไปทั้งวัน
คนไทยเราเวลาจะอาบน้ำก็จะต้องมีสบู่ไว้คอยถูตัว จะก้อนหรือเหลวก็ว่ากันไป แต่ในต่างประเทศนั้นจะมีอุปกรณ์ทำความสะอาดอีกแบบหนึ่งคือ “บาธบอมบ์” บาธบอมบ์คือบอลกลมๆ คล้ายสบู่ สีสีนสดใส เวลาจะใช้ก็แค่นำไปใส่ไว้ในอ่างอาบน้ำเพื่อให้มันละลาย หลังจากนั้นก็ลงไปแช่ได้เลย ในต่างประเทศเองการใช้บาธบอมบ์ดูจะเป็นที่นิยมมากจึงทำให้เกิดผู้ผลิตขึ้นมาหลากหลายเจ้า หนึ่งในนั้นคือบริษัท Lush ผู้ผลิตเครื่องสำอางแบบแฮนด์เมดรายใหญ่ในประเทศแคนาดา ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นก็เลยจะพาเพื่อนๆ ไปทัวร์โรงงานที่เป็นแหล่งผลิตบาธบอมบ์ ตั้งแต่ที่มันยังเป็นผงๆ จนกลายมาเป็นก้อนกลมที่สวยงาม รับรองว่าดูไปเพลินไปเหมือนโดนสะกดจิตยังไงยังงั้นเลย ที่โรงงาน Lush ตั้งอยู่ในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ที่นี่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชมโรงงาน กระบวนการผลิต หรือแม้แต่ลงมือทำด้วยตัวเองได้ (แต่คุณจะต้องติดต่อนัดหมายให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อนนะ) ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2016 ที่ผ่านมา ยูทูบเบอร์ที่ชื่อว่า Jaclyn Forbes ก็ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานแห่งนี้แล้วถ่ายคลิปวิดีโอมาให้คนที่ติดตามเธอได้ชมกันด้วย ก่อนที่ Jaclyn จะเข้าไปข้างในโรงงานได้ ทางเจ้าหน้าที่จะให้เธอและเพื่อนๆ เปลี่ยนชุด สวมแว่นและรองเท้าให้เรียบร้อยเสียก่อน วินาทีแรกที่เธอเข้าไปข้างในเธอบอกว่ากลิ่นภายในโรงงานนั้นอเมซิ่งมาก ต่อมาทีมงานก็พาเธอและเพื่อนๆ ไปลองทำบาธบอมบ์ด้วยตัวเอง มีการใส่ส่วนผสมจริงๆ เช่นอะโวคาโดให้เห็นกันชัดๆ ด้วย เป็นการพิสูจน์ว่าบาธบอมบ์หรือเครื่องประทินผิวของเขาสดใหม่จริงๆ ใส่ส่วนผสมด้วยตัวเอง ปั้นบาธบอมบ์ด้วยตัวเอง…
-
วิถีชีวิตของราชนาวีใน HMS Vigilant เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ของสหราชอาณาจักร!!
ในสงครามยุคปัจจุบันนั้น เรือดำน้ำก็ถือว่าเป็นยุทโธปกรณ์ที่สร้างอำนาจและแสดงให้เห็นถึงพลังทางการรบให้กับกองทัพของประเทศนั้นๆ ถึงจะไม่ได้ใช้งานอะไรจริงจังแต่ก็คงสร้างความเกรงใจให้กับประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงได้บ้าง (ตามที่เขาว่ากันมานะ -*-) วิถีชีวิตในเรือดำน้ำ โดยส่วนมากแล้วเรือดำน้ำสมัยใหม่นั้นจะใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ และวันนี้เราก็เลยอยากจะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพบรรยากาศของการใช้ชีวิตในเรือดำน้ำของเหล่าราชนาวีของสหราชอาณาจักรกัน มาดูกันซิว่าชีวิตของเหล่าราชนาวีในเรือดำน้ำนั้นจะเป็นยังไงกัน!? HMS Vigilant คือเรือดำน้ำแนวหน้าของสหราชอาณาจักร และแน่นอนว่ามันบรรจุหัวรบนิวเคลียร์ที่ติดตั้งเอาไว้ในนั้นด้วย คำว่า Vigilant นั้นแปลว่าเฝ้าระวัง หรือราวกับว่าเป็นผู้เฝ้าระวังแห่งกองทัพนั่นเอง ภาพของทหารยามกำลังยืนอยู่บนเรือดำน้ำ ขณะที่มันจอดบริเวณชานเรือดำน้ำ Her Majesty’s วันที่ 20 มกราคม 2559 ที่ผ่านมาในเมือง Rhu ประเทศสกอตแลนด์ เหล่านายเรือที่กำลังทำหน้าที่ของพวกเขาในห้องควบคุมเรือดำน้ำ Vigilant การฝึกปฏิบัติงานควบคุมขณะที่เกิดเพลิงไหม้ในเรือดำน้ำ ภาพถ่ายของนาวีและช่องยิงมิสไซล์ของเรือดำน้ำ ภาพจากภายในห้องอาวุธยุทโธปกรณ์ของเรือ Vigilant การเดินทางของลูกเรือภายในเรือดำน้ำ ห้องพยาบาลและคุณหมอที่ประจำอยู่ในเรือดำน้ำแห่งนี้ เผื่อมีนายทหารคนไหนที่ป่วยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พ่อครัวที่ประจำการอยู่ในเรือดำน้ำกำลังเตรียมอาหารให้กับเหล่าลูกเรือ เหล่าทหารเรือหนุ่มที่กำลังพักผ่อนโดยการเล่นวิดีโอเกมในห้องนั่งเล่น หรือใครที่นิยมการละเล่นในแบบอื่นๆ ก็มีห้องพักไว้สำหรับนั่งเล่นกันตามอัธยาศัย บริกรหญิงที่จะคอยดูแลเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกินให้กับเหล่าลูกเรือทุกๆ คน…
-
วิจารณ์ ‘อควาเรียม’ ในญี่ปุ่น ใช้ซากสัตว์น้ำ 5,000 ตัว แช่แข็งใต้ลานไอซ์สเก็ต เพื่อความแปลกใหม่!?
กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอยู่ในโลกออนไลน์ของประเทศญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของอควาเรียมแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่เปลี่ยนให้ลานไอซ์สเก็ตให้กลายเป็นลานน้ำแข็งสุดสะพรึง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SpaceWorld ในจังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว หลังจากผู้สนับสนุนสิทธิสัตว์ได้วิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบ เกี่ยวกับการดำเนินการของพวกเขา ตามรายงานบอกว่าเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาง SpaceWorld ได้นำเอาปลากว่า 5,000 ตัว มาแช่แข็งไว้ใต้น้ำ แล้วลดอุณหภูมิเพื่อเปลี่ยนให้ผิวน้ำกลายเป็นลานสเก็ตขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ภาพลานไอซ์สเก็ตดังกล่าวถูกแชร์ลงใน Facebook, Twitter และสื่อสังคมออนไลน์หลายแห่งอย่างรวดเร็ว แต่ไอเดียนี้กลับไม่ปังอย่างที่ทีมงานคิดกัน เพราะหลังจากที่เปิดให้บริการไปได้เพียง 2 สัปดาห์ ก็ถูกผู้คนก่นด่าอย่างหนักในโลกออนไลน์ เนื่องจากมันเป็นภาพที่น่าสลดใจเกินกว่าจะเล่นสนุกบนตัวปลาที่ไร้ชีวิตเหล่านั้นได้ ภาพสัตว์น้ำที่เราเห็นมีตั้งแต่ปลาทั่วๆ ไป หรือแม้แต่ปลากระเบน นอนแผ่อยู่ใต้ชั้นน้ำแข็ง สร้างความหดหู่ให้แก่ชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ข่าวนี้ถูกพูดถึงในหมู่ชาวเน็ตของญี่ปุ่นกันอย่างแพร่หลาย เช่น @TK074HAKUTAKA “คุณยังสนับสนุนการเล่นไอซ์สเก็ต แม้ว่าจะเล่นอยู่เหนือปลาพวกนั้นน่ะเหรอ? ฉันคิดว่านั่นเป็นรสนิยมที่แย่มาก” @g28z0 “คุณรู้สึกสนุกกับการไม่ให้ความเคารพสิ่งมีชีวิตงั้นเหรอ?”…
-
ผลสำรวจสาวๆ ญี่ปุ่น 1,000 คน ระหว่าง “ไม่หล่อแต่รวย” กับ “หล่อแต่ไม่มีงานทำ” จะเลือกใคร!?
บ่อยครั้งที่เราจะเห็นการถกเถียง การตั้งคำถามกันในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นในการเลือกคบคน เช่น “หากมีคนหล่อแต่จนกับคนไม่หล่อแต่รวยมาจีบ คุณจะเลือกใคร?” เพื่อดูว่าผู้หญิงจะเลือกคบคนแบบไหนมาเป็นแฟน เพื่อให้การตั้งคำถามนั้นเกิดผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง นิตยสาร AneCan ในญี่ปุ่นจึงได้ทำการสำรวจสาวๆ ประมาณ 1,000 คน เพื่อสอบถามพวกเธอว่าอยากจะได้ผู้ชายแบบไหนมาเป็นแฟน ระหว่าง “ผู้ชายหน้าตาไม่หล่อแต่มีเงินถัง” (มีรายได้ต่อปี 90 ล้านบาท) กับ “ผู้ชายหล่อแต่ไม่มีงานทำ” หลังจากที่ได้ออกไปสำรวจสาวๆ ทั้งหมด ผลที่ได้ก็คือ 75.5% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม เลือกผู้ชายที่รวยและประสบความสำเร็จในด้านการเงิน ในอีกด้านหนึ่งราวๆ 24.5% ของผู้หญิงที่ตอบแบบสอบถาม บอกว่าพวกเธอยินดีจะจ่ายค่าอาหารแทนหนุ่มๆ ตราบใดที่พวกเธอยังได้นั่งมองหน้าหล่อๆ ของพวกเขา (สายเปย์นั่นเอง) หลังจากที่ผลสำรวจนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนพากันแสดงความคิดเห็นกันไปอย่างหลากหลาย เช่น “เราควรจะดูกันที่ภายใน” “ดูกันที่ภายใน = ก็เงินไง!” “เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าทุกคนเลือกคนรวย” “ในท้ายที่สุดแล้ว เงินคือทุกสิ่ง” “ฉะนั้นไม่ใช่ตัวผู้ชายหรอกที่เนื้อหอม แต่เงินของเขาต่างหากที่เนื้อหอม” “ผมเป็นผู้ชายนะ แต่ผมก็คงตอบแบบเดียวกันถ้าผมเป็นผู้หญิง” จากผลสำรวจเห็นได้ชัดว่าสาวๆ เลือกคนที่คิดว่าจะสามารถดูแลพวกเธอได้ แต่นั่นก็อาจแปรผกผันไปตามช่วงอายุของสาวๆ…
-
แนะนำเว็บไซต์ “ลบตัวตนออกจากอินเตอร์เน็ต” เพียงคลิ๊กเดียว ข้อมูลคุณก็จะหายไปในพริบตา…
หลังจากที่โลกเราได้เข้าสู่ยุคของอินเตอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เราก็มีบริการทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมากแบบนับไม่ถ้วน มีการสมัครเข้าใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ เว็บไซต์และเว็บบอร์ด จนตัวตนของเราแทบจะอยู่ในอินเตอร์เน็ตทั้งหมด ไม่ว่าใครก็สามารถหาข้อมูลของคุณได้ ในด้านหนึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่คุณจะหาข้อมูลของสิ่งต่างๆ ได้โดยง่าย แต่นั่นเท่ากับความเป็นส่วนตัวของคุณก็จะถูกรุกล้ำโดยคนอื่นเช่นกัน แต่หากคุณอยากกำจัดตัวตนในโลกออนไลน์ของคุณออกให้หมด เพื่อที่จะได้ไม่มีใครหาข้อมูลส่วนตัวของคุณเจอ งั้นบทความนี้ก็เหมาะกับคุณแล้ว เพราะในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Deseat.me ที่ถูกออกแบบโดยโปรแกรมเมอร์ชาวสวีเดน Wille Dahlbo และ Linus Unnebäck จะช่วยลบร่องรอยทุกๆ อย่างของคุณออกจากโลกอินเตอร์เน็ต เพียงแค่คลิ๊กเดียวเท่านั้น เว็บนี้ถือกำเนิดขึ้นด้วยไอเดียง่ายๆ ที่ว่า หากเราทำให้อีเมล์กลายเป็นบัตรประชาชนยืนยันตัวตนได้ อีเมล์ก็สามารถปลดล็อคการใช้บริการทุกอย่างได้เช่นกัน บริการของเว็บไซต์นี้จะใช้โปรโตคอล Google’s OAuth เพื่อเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ทั้งหมด จากนั้นมันก็จะลบบริการต่างๆ ที่เราใช้อีเมล์ดังกล่าวไปสมัครเซอร์วิสต่างๆ ไว้ทีละอย่าง เช่น Facebook, Evernote, Twitter, Youtube และอีกมากมาย (แต่หากใครอยากเก็บบางอย่างเอาไว้ก็เลือกได้นะ) ทางผู้พัฒนาเว็บไซต์นี้ให้รายละเอียดในเว็บไซต์ว่า “เราจะแสดงรายชื่อบัญชีและบริการต่างๆ ทั้งหมดที่คุณไปสมัครบริการไว้ เราจะนำเอารายชื่อทั้งหมดมาแมทช์กับลิ้งสำหรับลบข้อมูลโดยตรงเพื่อลบทุกอย่างออกไป” “และเราจะมีคำแนะนำคอยบอกคุณทุกขั้นตอน เบสิคเลยก็คือคุณแค่บอกเราว่าบัญชีไหนที่คุณอยากจะลบ แค่นั้นเลย” แต่ดูเหมือนว่าเว็บไซต์ Deseat.me เพิ่งจะถูกพัฒนาได้ไม่นาน ฉะนั้นเลยยังมีข้อจำกัดเรื่องของอีเมล์ที่จะใช้ลบข้อมูล…
-
สุนัขฮีโร่!! ยอมเสี่ยงชีวิตรับพิษจากงู เพื่อปกป้องหนูน้อยให้ปลอดภัย และทั้งคู่ก็รอดมาได้!!
สุนัขกับสัตว์นั้นมักจะเกิดมาคู่กันเสมอ ว่ามั้ย? จากที่ผ่านมาเราเคยเห็นมนุษย์ช่วยสุนัขมามากมายแล้ว วันนี้เรามาดูสนัขช่วยเหลือมนุษย์กันบ้างดีกว่าเนาะ คนเลี้ยงสุนัขจะรู้มั้ยว่า บางทีสุนัขก็รักคุณมากกว่ารักตัวเองซะอีก พวกมันเป็นสัตว์ที่ใจดี เสียสละ และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณยิ้ม เรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวหนึ่งในแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย พวกเขามีสุนัขชื่อ Khan และล่าสุดมันก็ช่วยลูกสาวของครอบครัวนี้จากงูพิษ ซึ่งถ้าหากไม่มีมันในวันนั้น หนูน้อยคงไม่รอดแน่ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อหนูน้อย Charlotte กำลังเล่นอยู่กับ Khan ในบ้าน ส่วนคุณแม่ก็กำลังพักผ่อนและไม่ทันดูพวกเขา เพราะทั้งคู่ก็เล่นด้วยกันแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว จึงไม่กังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น Khan เป็นเหมือนสุนัขทั่วไป มันชอบเล่นกับเจ้านายตัวน้อยคนนี้ และคอยเดินตามเธอไปทุกที่ ทั้งคู่จึงกลายเป็นเพื่อนสนิทที่พร้อมจะแบ่งปันความสุขให้กันและกันเสมอ ในระหว่างที่ทั้งคู่เล่นด้วยกัน คุณแม่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของ Khan มันแสดงท่าทางก้าวร้าวใส่ลูกสาวของเธอ และมันยังกระโดดไปรอบๆ หนูน้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันพยายามจะผลักหนูน้อย แต่ก็ทำไม่ได้ ก็เลยอ้อมตัวไปข้างล่าง แล้วงับเข้าที่ผ้าอ้อมของหนูน้อย ก่อนที่จะจับโยนออกไปอีกทาง คุณแม่ที่กำลังเฝ้ามองอยู่ตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่า มันเกิดอะไรขั้นกันแน่ แล้วทำไมมันถึงทำแบบนี้ เพราะที่ผ่านมามันไม่เคยเป็นแบบนี้เลย แต่ทันใดนั้น เธอก็พบว่ามีงูอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งเจ้า Khan พยายามจะกันไม่ให้งูเข้าใกล้หนูน้อย ก่อนที่จะจับเธอโยนออกไปเหมือนที่เห็นก่อนหน้านี้ หลังจากโยนนายน้อยออกไปแล้ว…
-
คุณตาทุ่มเททั้งชีวิต เพื่อดูแลภรรยาผู้เป็นอัมพาตตลอด 56 ปี เพราะรักแท้ยังมีอยู่จริง…
รักแท้นั้น แม้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ต่อให้ต้องเจออุปสรรคอีกมากมาย แต่คนสองก็จะไม่ทิ้งกันไปไหน อีกทั้งพวกเขาก็พร้อมที่จะฝ่าฟันมันไปด้วยกันเสมอ เช่นเดียวกับคุณตาท่านนี้ที่คอยดูแลภรรยามาตลอด 56 ปี แม้ว่าเธอจะป่วยเป็นอัมพาตก็ตาม แต่คุณตาก็ยังดูแลเป็นอย่างดีและยังรักเธอเหมือนเดิมเสมอ ไม่มีน้อยลงไปเลย คุณตา Du Yuanfa เป็นชาวนาจากประเทศจีน มีภรรยาชื่อ Zhou Yu’ai ทั้งคู่แต่งงานกันในปี 1959 แต่หลังแต่งงานเพียง 5 เดือน พวกเขาก็ต้องเจอกันชะตากรรมอันโหดร้าย เพราะภรรยาป่วยด้วยโรคแปลกๆ ในวัย 20 ปี ส่งผลให้เธอกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่นั้นมา ในขณะที่ Du กำลังทำงานอยู่ในเหมืองถ่านหิน ที่อยู่เมืองใกล้เคียงกัน Du ได้รับข่าวร้ายนี้เมื่อครอบครัวได้เขียนจดหมายถึงเขา เกี่ยวกับอาการของภรรยา และตอนนี้เธอต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา ที่สำคัญคือไม่สามารถดูแลตัวเองได้เลย เขาตกใจมาก จึงตัดสินใจลางานและกลับบ้านทันที เพราะอาการป่วยของ Zhou หนักมาก เธอไม่สามารถถือจับอะไรได้เลย และไม่มีแพทย์คนไหนที่รักษาได้ด้วย สถานการณ์เช่นนี้ เพื่อนๆ ของ Du ต่างก็แนะนำให้หย่ากับภรรยาแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ซะ!! แต่เขาไม่ทำเช่นนั้น และยังได้บอกกับภรรยาอีกว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะดูแลคุณตลอดไป” ซึ่งเขาก็รักษาคำพูดเสมอมา …
-
อยู่อย่างสงบ? “บ้านพักกลางสุสาน” เฟอร์นิเจอร์ครบครัน พร้อมเข้าอยู่ มีเพื่อนบ้านเพียบ
หากเพื่อนๆ กำลังมองที่พักสักที่จะคำนึงถึงอะไรเป็นหลัก? แน่นอนว่า หลายคนก็คงอยากได้ที่พักที่สะอาด น่าอยู่ทั้งภายนอกและภายใน ที่สำคัญต้องมีเพื่อนบ้านที่ดีด้วย สำหรับบ้านพักแห่งหนึ่งในเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ไม่ได้ออกแบบมาเพียงแค่นั้น แต่จะทำให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างออกไป เพราะมันถูกสร้างอยู่ท่ามกลางสุสาน และถูกประกาศว่าเป็นสุสานที่เต็มแล้วในปี 2013 บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักที่ตั้งอยู่ในสุสาน Witton ซึ่งถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแนวโกธิคอย่างสวยงาม บอกได้เลยว่าบรรยากาศรอบข้างนั้นช่างน่าสนใจเหลือเกินนนนน!? ถ้าใครได้มาอยู่ที่นี่คงจะโชคดีมากๆ เพราะคุณจะไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่มีเพื่อนบ้านมากมาย รวมทั้งคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง John Cadbury ที่ถูกฝังไว้ที่นี่ในปี 1889 ด้วย ทีนี้ก็เอาไปโม้กับเพื่อนๆ ได้เล่ยยย ภายนอกของอาคารดูสวยงาม และแตกต่างจากอาคารทั่วไป เพราะมันทำด้วยอิฐล้วนๆ ส่วนหน้าต่างนั้นจะเป็นทรงโค้ง ราวกับเป็นปราสาทในนวนิยาย เรียกได้ว่าเป็นบ้านในฝันของหลายๆ เลยก็ว่าได้ ภายในบ้านพักนั้นมีการประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเตียง ลิ้นชัด ตู้เย็น ไมโครเวฟ และกาต้มน้ำ โดยในแต่ละห้องนั้นจะมาพร้อมกับห้องน้ำในตัว และยังมีห้องครัวเล็กๆ ที่สามารถใช้ร่วมกันได้อีกด้วย สุสาน Witton เรียกได้ว่า เป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์มิงแฮม…
-
ช่างภาพตามถ่ายชีวิต “คนข้างถนนในบราซิล” ที่ต้องแลกมาด้วยคำสาปแช่งและการต่อสู้!!
เพื่อนๆ อาจจะคิดว่า การถ่ายรูปนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ แค่มีกล้องก็ยกมาถ่ายได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงเป็นอะไรที่ยากกว่านั้น โดยเฉพาะในบางสถานที่ หรือบางคนที่ไม่อยากให้ใครได้ภาพของเขาไป แต่ขอเตือนว่า เรื่องราวและภาพที่เพื่อนๆ จะได้ดูต่อไปนี้อาจมีความรุนแรงและน่าไม่น่าดู ดังนั้นใครจะดูขอให้ทำใจให้เข้มแข็งก่อนนะ บราซิลเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่การจะถ่ายภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่ตามท้องถนน ผู้คนต่างก็ไม่อยากให้ใครมาถ่ายรูปไปง่ายๆ เพราะพวกเขารู้ดีว่าช่างภาพอาจนำรูปของพวกเขาไปหาเงินได้มากมาย ในขณะเดียวกันก็กลัวว่าช่างภาพจะนำรูปพวกเขาไปทำให้เสียหาย นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเรามักจะเห็นการชกต่อยระหว่างคนตามท้องถนนกับช่างภาพ!! และ Fabricio Brambatti เป็นหนึ่งในช่างภาพแห่งเมืองเซาเปาโล ที่สามารถถ่ายภาพวิถีชีวิตผู้คนข้างถนนมาได้ จนได้รับรางวัลจาก Lensculture ปี 2016 ในหมวดสตรีทโฟโต้กราฟ จากผลงานชุด “My Sweet Paradise” หญิงบริการ อนาเบลขายบริการอยู่ข้างถนน เธอถูกพ่อข่มขืนตอนเด็ก โดยพ่อของเธอจะใส่หน้ากากระหว่างการข่มขืนเพื่อกลบเกลื่อนว่าไม่ได้เป็นคนทำ แต่ลูกสาวก็รู้มาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อเธออายุ 11 ขวบ เธอกับน้องจึงได้วางแผนพาพ่อของเธอเข้าไปอยู่ในคุก และนี่คือภาพส่วนหนึ่งที่เขาได้บันทึกชีวิตประจำวันของผู้คนตามท้องถนนในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ฟังดูจะเป็นเรื่องง่ายจะ แค่ถ่ายรูปผู้คน!? แต่ Fabricio บอกว่า “หลายภาพที่ได้มานั้น มีราคาที่ต้องจ่ายต่างกัน บางภาพก็ต้องถูกด่าทอสาปแช่ง รวมทั้งการลงไม้ลงมือชกต่อยกันบนท้องถนนด้วย” จนบางคนถึงกับกล่าวว่า เมืองแห่งนี้คือเมืองไร้รัก เพราะมีผู้คนอาศัยอยู่ถึงสิบสี่ล้านคน ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองหลวง…
-
นักปีนเขาพบน้องหมา พลัดหลงกับเจ้าของบนภูเขาสูง ใจดีพาส่งนั่งแท๊กซี่ กลับถึงบ้าน!!
เพื่อนๆ คนไหนเคยทำสัตว์เลี้ยงหายไปบ้าง แล้วเพื่อนๆ มีวิธีการพามันกลับบ้านได้ยังไง หรือมีใครพามันส่งให้หรือเปล่า แต่ไม่ว่ามันจะกลับมาด้วยวิธีไหน ก็ทำให้เราโล่งใจได้ทั้งนั้น จริงมั้ย? สำหรับกรณีนี้ สุนัขตัวหนึ่งได้หายไประหว่างที่เจ้าของพาไปเดินเล่นแถวภูเขา Ben Nevis แล้วมันก็ดันไปเจอเข้ากับกวางตัวหนึ่ง ก็เลยวิ่งตามจนหายไปอย่างไร้ร่องรอย เจ้า Harris เป็นสุนัขของ Christoff และ Alison Du Plessis ทั้งคู่เป็นทันตแพทย์ และพวกเขาก็รักสุนัขตัวนี้มาก เพราะอยู่ด้วยกันมานานแล้ว ภูเขา Ben Nevis มีความสูง 1345 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิติดลบ และแทบจะไม่มีแดดส่องมาเลย สภาพอากาศแบบนั้นถือว่าเลวร้ายมากๆ และเจ้าหมาอาจจะไม่รอดกลับมาได้ ต่อมาในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน นักปีนเขาสองคนก็ได้พบ Harris อยู่ห่างจากจุดเดิมที่พบมันเป็นครั้งสุดท้าย ที่ต้องใช้เวลาในการเดินนานกว่า 1 ชั่วโมง พวกเขารู้ได้เลยว่า สุนัขตัวนี้ต้องหลงทางมาแน่ๆ เพราะมันใส่ปลอกคออยู่ และที่ปลอกคอก็มีระบุเบอร์โทรเจ้าของด้วย ทั้งคู่เจอโทรไปหาเบอร์นั้นทันที ปลายสายนั้นเป็นคุณแม่ของ Christoff ได้รับแจ้งจากนักปีนเขาบอกว่ามีหมาพลัดหลงกับเจ้าของ ทว่าข้อมูลในปลอกคอเป็นข้อมูลเก่าโดยที่สองสามีภรรยาไม่ได้อยู่อาศัยที่นี่แล้ว คุณแม่ก็เลยให้ที่อยู่ใหม่กับพวกเขาไป เมื่อได้ที่อยู่ที่ถูกต้องแล้ว นักปีนเขาทั้งสองก็พาเจ้า Harris ส่งกลับบ้าน…
-
17 กลิ่นธรรมชาติ ที่สามารถปลุกเร้า ‘อารมณ์ทางเพศ’ ทำงานดี ยิ่งกว่าน้ำหอมซะอีก!!
ไม่ต้องใช้กลิ่นจากน้ำหอมขวดละหลายพันหลายหมื่นหรอก แค่กลิ่นจากวัตถุดิบธรรมชาติก็ถือว่าใช้ได้แล้วล่ะ!! รู้หรือไม่ว่าเรื่องของกลิ่นที่ถูกปรุงแต่งมาใช้เป็นน้ำหอมนั้น สามารถปลุกเร้าอารมณ์ของมนุษย์ได้อย่างแปลกประหลาด เพราะความรู้สึกนึกคิดที่มีร่วมกับกลิ่นนั้น ชวนให้จินตนการไปถึงหลายสิ่งหลายอย่างมาก Dr. Alan Hirsch แห่งสถาบัน Chicago’s Smell & Taste Treatment and Research Foundation ได้กล่าวว่า ‘กลิ่นของอาหารนั้นมีผลต่ออารมณ์ทางเพศของมนุษย์โดยตรงและอาจจะรุนแรงกว่าโคโลญหรือน้ำหอมซะอีก’ Hirsch และทีมวิจัยของเขาได้ทำวิจัยในเรื่องนี้หลายต่อหลายครั้งและได้ผลลัพธ์ที่ออกมาสนับสนุนคำพูดของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย และนี่ก็คือลิสต์ของกลิ่นอาหารที่สามารถปลุกอารมณ์ของทั้งหนุ่มและสาวได้ล่ะ ลองมาดูกัน วานิลลา ส่วนผสมที่ใช้กันเป็นประจำในน้ำหอมของชาวฝรั่งเศสและชาวจีนมาตั้งแต่โบราณ และในหนังสือของ Dr. John King ก็เคยเขียนไว้ด้วยว่า ‘วานิลลา’ นั้นสามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของมนุษย์ได้ ชะเอมเทศ ในงานวิจัยของ Dr. Alan Hirsch พบว่า ชะเอมเทศนั้นมีผลปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศได้ดี โดยเฉพาะในเพศหญิง ซินนาม่อน หนึ่งในกลิ่นที่ได้ชื่อว่าสร้างความสุนทรีย์ได้มากที่สุด แถมทำให้เลือดหมุนเวียนได้ดีขึ้นอีกด้วย พายฟักทอง ในพายฟักทองมีส่วนผสมของทั้งซินนามอนและวานิลา และนั่นก็คือเหตุผลที่สามารถปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศในมนุษย์ได้ ขนมปังกล้วยหอมใส่ถั่ว กลิ่นของอาหารชนิดนี้จะมีผลต่อเพศหญิงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถ้ามีส่วนผสมของชะเอมเทศในนี้ด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งมีผลมากขึ้นไปอีก …
-
พ่อชาวสวีเดน พบตัวลูกสาวที่หายตัวไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว แต่กลายเป็นคนเร่ร่อนในอิตาลี!?
นี่เป็นเรื่องราวชวนฉงนของหญิงสาวไร้บ้านคนหนึ่งที่ถูกพบอยู่ในประเทศอิตาลี แต่ดันพูดภาษาอิตาลีไม่ได้เลย แถมยังมีพฤติกรรมแปลกๆ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสืบกันวุ่นวายว่าเธอคือใครกันแน่? เรื่องนี้ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2016 เป็นเรื่องราวของหญิงสาวไร้บ้านวัย 21 ปี คนหนึ่งที่ถูกพบว่านอนคุดคู้อยู่บนพื้นขรุขระอยู่ในย่าน Piazza della Torretta ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ลักษณะภายนอกดูเหมือนคนท้องถิ่น แต่ทว่าเธอไม่สามารถพูดภาษาอิตาลีได้ พูดได้เพียงภาษาอังกฤษเท่านั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยกับเธอ เธอจึงบอกว่าตัวเองชื่อ Maria เป็นชาวอังกฤษและพูดอังกฤษได้ ไม่มีพาสปอร์ต ไม่มีบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่จึงสงสัยว่าเธออาจจะเป็นโรคอะไรสักอย่างและพลัดหลงมา เมื่อตำรวจสอบถามเธอว่าทำไมถึงมาอยู่ที่อิตาลี เธอกลับตอบง่ายๆ ว่าเธอหนีครอบครัวมาจากอังกฤษและไม่ได้ให้ข้อมูลที่สมเหตุสมผลเลย ซึ่งในตอนแรกตำรวจได้ทำการกักตัวเธอไว้ เนื่องจากเธอมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ พร้อมทั้งข้อมูลเบาะแสเด็กหายที่ประเทศโปรตุเกส ในปี 2007 ชื่อว่า Madeleine McCann นั้นเป็นชาวอังกฤษเช่นกัน จึงไม่แน่ใจว่าเธอคือเด็กที่หายไปหรือไม่ ก่อนหน้านั้นมีเด็กอังกฤษชื่อว่า Madeleine McCann (ภาพซ้าย) หายตัวไปในปี 2007 เกิดเหตุที่โปรตุเกส และหญิงสาวคนนี้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกันมาก แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ต้องปล่อยเธอไป…
-
ภาพความงดงามของ “หิมะแรกของพฤศจิกายน” ในโตเกียว หลังครั้งสุดท้ายเมื่อ 54 ปีที่แล้ว
หิมะตกที่โตเกียวถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ แต่การที่หิมะเริ่มตกตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนั้นไม่ใช่เรื่องปกติเลย เพราะว่าครั้งสุดท้ายที่หิมะตกในเดือนนี้ก็คือเมื่อ 54 ปีที่แล้ว ในปีนี้สร้างปรากฏการณ์ให้กับชาวโตเกียวได้ตื่นเต้นอีกครั้ง หลายคนออกมีชื่นชมบรรยากาศหิมะที่ตกก่อนเวลา โดยปกติแล้วโตเกียวไม่ค่อยจะได้เจอหิมะสักทั่วไหร่ ปีหนึ่งตกประมาณ 1-2 ครั้ง และครั้งสุดท้ายที่หิมะตกในเดือนพฤศจิกายนก็คือปี 1962 ถึงแม้ว่าผู้คนจะไม่คุ้นชินกับหิมะที่ตกในเวลานี้ แต่มันก็ทำให้เมืองปกคลุมไปด้วยเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่นมาจากท้องฟ้า ซึ่งบางคนก็ตื่นเต้นที่ได้เห็นหิมะแรกโดยไม่ทันตั้งตัว เนื่องจากบ้านเราไม่มีหิมะ ก็เลยอยากจะพาทุกท่านไปชมความงดงามของหิมะแรกที่คาดไม่ถึง เกิดที่ที่โตเกียว ไปดูกันว่าชาวญี่ปุ่นจะตื่นเต้นมากเพียงใด ใครที่อยากจะไปสัมผัสความหนาวของโตเกียว ไปช่วงนี้ก็ถือว่ากำลังดีเลยนะ ประมาณ 4 – 15 องศา เดินคลุมผ้าห่มไปเที่ยวด้วย อิอิ ที่มา boredpanda
-
สาวสวย ถูกจับเข้าคุก 4 ปี ปรับอีก 5 แสนบาท ด้วยเหตุ “โพสต์คลิปหวิวเพื่อเพิ่มผู้ติดตาม”
ทุกวันนี้ตามสื่อโซเชียลต่างๆ เรามักจะเห็นสาวๆ นุ่งน้อยห่มน้อย โชว์นั่นโน่นนี่ เพื่อแลกไลค์ แต่ในอีกทางหลายคนมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะคงไม่ใช่ทุกคนที่อยากเห็นอะไรแบบนั้น เมื่อเร็วๆ นี้หญิงสาวนามสมมติ Lin อายุ 21 ปี จากประเทศจีน ได้ถูกตำรวจจับกุมโดยไม่มีการสอบสวนใดๆ ในข้อหาทำอนาจารลงโซเชียล!! Lin ได้โพสต์วิดีโอที่ใช้ชื่อว่า “Chengdu Foursome” จนมีการแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ โดยในวิดีโอนั้น แสดงให้เห็นถึงชาย 2 หญิง 2 กำลังมีอะไรกัน ตามการรายงานของ Chengdu Business Daily บอกว่า เมื่อตำรวจได้เห็นวิดีโอดังกล่าว จึงได้เข้าจับกุมทันที โดยไม่มีการสอบปากคำใดๆ หนึ่งในหญิงสาวที่อยู่ในคลิป ผู้เป็นเจ้าของเว็ปแคมที่ใช้ชื่อว่า Sydney Gun” หรือ “Xue Liqiang ได้มีการโพสต์วิดีโอลามกอนาจาร ถึง 31ไฟล์ด้วยกัน และมีแฟนๆ ติดตามถึง 40,000 คน นับว่าไม่น้อยเลยนะ ตำรวจได้เข้าจับกุม Lin และเพื่อนๆ ของเธอที่อยู่ในคลิปเมื่อวันที่…
-
แมว 3 แม่ลูก ถูกมนุษย์ใจร้ายโยนออกจากรถ โชคดีที่ถูกช่วยไว้ได้ และปลอดภัยทุกตัว
ทุกวันนี้มีสัตว์มากมายที่ถูกมนุษย์ทำร้าย จนบางทีมันก็ทำให้คิดว่า ทำไมมนุษย์ถึงมีความโหดร้ายขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เรียกตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ? และนี่คืออีกหนึ่งพฤติกรรมอันโหดร้ายที่มนุษย์ได้กระทำต่อสัตว์น้อยผู้บริสุทธิ์… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในรัฐมิชิแกน เมื่อมีคนเห็นรถคันหนึ่งได้เปิดกระจกแล้วโยนแมว 3 ตัวลงกลางถนนอย่างโหดร้ายและเลือดเย็น ก่อนจะขับรถออกไปโดยไม่สนใจใยดี!! ในขณะเดียวกันก็มีหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังยืนอยู่บนทางเท้าและได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอรีบวิ่งไปหาเหล่าแมวเหมียวทันทีเพื่อดูว่ามันปลอดภัยหรือเปล่า เมื่อไปถึงก็พบว่ามีแมวตัวใหญ่หนึ่งตัวและแมวน้อยอีกสองตัวซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแม่ลูกกัน เธอจึงตัดสินใจพาทั้งสามตัวกลับบ้านด้วย และเพราะเธอไม่มีบ้านแมว ก็เลยหากล่องให้มันอยู่ และให้ข้าวให้น้ำพวกมันอย่างดี หลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้โทรไปยัง Michigan Humane Society ซึ่งหน่วยงานช่วยเหลือสังคม เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานจึงรีบไปยังบ้านของหญิงคนดังกล่าวทันที เจ้าหน้าที่ได้ตรวจร่างของแมวทั้ง 3 ตัว เป็นการดูเช็คว่า พวกมันมีกระดูกที่หักหรือบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ก่อนจะพาไปอยู่ในศูนย์พักพิง เพื่อทำการรักษาและฉีดวัคซีนให้ ตอนนี้สามแม่ลูกอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว มีเจ้าหน้าให้กันดูแลอย่างดี โชคดีที่พวกมันสุขภาพแข็งแรงทุกตัว จึงไม่ต้องมีการดูอะไรมากเป็นพิเศษ ด้านเจ้าหน้าที่ Michigan Humane Society บอกว่า ต้องขอบคุณหญิงสาวคนนั้นที่ช่วยแมวสามแม่ลูกนี้ไว้ เพราะหากช่วยช้ากว่านี้ พวกมันอาจถูกรถคันอื่นทับเอาได้ หรือเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้ จะสัตว์หรือแมว เราต่างก็รักชีวิตทั้งนั้น และนี่เป็นแค่แมวตัวเล็กๆ มนุษย์ก็ยังทำได้ลงคอ และโชคดีที่โลกเราไม่แค่คนโหดร้าย แต่ยังมีคนดีๆ ที่เข้าไปช่วยจนพวกมันปลอดภัยดี …
-
หนุ่มวัย 17 ขอแฟนสาวแต่งงาน หลังรู้ว่าเธอเป็นมะเร็ง เพื่อเป็นคู่ชีวิตในเวลาที่เหลืออยู่…
มีหลายเหตุผลว่าทำไมบางคนถึงแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน เราก็เชื่อว่า การแต่งงานเกิดขึ้นจากความรักของคนสองคนเป็นสำคัญ Amber Snailham และ Callum Firks ทั้งคู่อายุ 17 ปี และพวกเขากำลังจะเข้าสู่พิธีแต่งงาน โดยมีเวลาเตรียมตัวแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น เพราะพวกเขายังเป็นวัยรุ่นถ้าเป็นบ้านเราก็เด็กมัธยมอยู่เลย ดังนั้นทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ ต่างก็ให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่ ที่ทุกคนทุ่มเทช่วยทั้งคู่ขนาดนี้เพราะ Amber ว่าที่เจ้าสาวคนนี้ ป่วยเป็นโรคมะเร็งตั้งแต่อายุ 13 ปี และเข้ารับการรักษาที่ Bristol Children’s House มาตลอด เธอได้เข้ารับการผ่าตัดและทำเคมีบำบัดอีก 6 เดือนหลังจากนั้น จนครบเมื่อเดือนกรกฎาคม แต่เมื่อไม่นานนี้ในเดือนตุลาคม เธอก็ได้รับข่าวร้ายอีกครั้งเมื่อ คุณหมอตรวจพบว่า มะเร็งได้ลามไปยังสมองของเธอ!! และแม่เลี้ยงของเธอ Vicky Bishop ก็บอกทั้งน้ำตาว่า “คุณหมอไม่ได้บอกว่า Amber จะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานเท่าไร แต่ฉันคิดว่าเธอคงอยู่ได้อีกไม่กี่เดือน” ส่วน Callum เมื่อได้รู้ถึงอาการป่วยของแฟนสาว เขาก็ตัดสินใจที่จะขอเธอแต่งงานทันที เพราะเขาอยากดูแลเธอ และอยากให้เธอมีความสุขมากที่สุดในช่วงสุดท้ายของชีวิต ชายหนุ่มจึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษาครอบ และแม้ทุกคนจะเห็นด้วย แต่ตอนนั้น ครอบครัวไม่มีเงินพอให้เขาจัดงานแต่งงานได้ ทั้งคู่เจอกันที่โรงเรียน Bedminster…
-
หนูน้อยวัย 3 ขวบ ดำน้ำได้โดย ไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ช่วย กลายเป็น “นักดำน้ำ” ที่อายุน้อยที่สุด
ใครว่ายน้ำไม่เป็นบ้าง? อะแหน่ รู้นะว่าเพื่อนๆ บางคนยังไม่ว่ายน้ำไม่เป็นทั้งที่โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแลัว แต่อยากบอกว่า ฝึกไว้นะเพราะมันเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการเอาตัวรอดเวลาจมน้ำ อะ ใครที่ว่ายไม่เป็น คงต้องอายเด็กน้อยคนนี้แล้วละ…Fedor Afonasiev อายุแค่ 3 ขวบ ที่ไม่ใช่แค่ว่ายน้ำเป็น แต่ยังเป็นนักดำนำที่อายุน้อยที่สุดในโลกด้วย บางคนอาจคิดว่าแค่ดำน้ำใครๆ ก็ทำได้ จริงค่ะ แต่รู้มั้ย หนูน้อยคนนี้ไม่ได้ดำน้ำโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจหรือออกซิเจนและนะ แต่เขาอาศัยการกลั้นหายใจล้วนๆ หืมมมม เด็กตัวแค่เนี๊ยะแต่กลั้นหายใจเป็นแล้ว!? จะบอกว่าที่เก่งแบบนี้เพราะพ่อแม่ของเขาเป็นนักดำนำมืออาชีพทั้งคู่ ดังนั้นพวกเขาจึงฝึกหนูน้อยตั้งแต่อายุ 2 ขวบ โดยการให้หนูน้อยขี่หลังตอนดำน้ำ นักดำน้ำมืออาชีพ Alexey Molchanov เป็นเจ้าของ Freediving Federation ซึ่งเป็นสถาบันฝึกดำน้ำ และเป็นเพื่อนกับพ่อแม่ของหนูน้อย Alexey ยังเป็นผู้ถ่ายการดำน้ำของหนูน้อย Fedor ในเซตนี้ด้วย และเขาบอกว่า เด็กคนนี้สามารถดำน้ำได้ลึกถึง 10 เมตรเลยทีเดียว นี่ถ้าไม่ได้ฝึกมาอย่างดีทำไม้ได้นะเนี่ย แต่พ่อแม่เองก็ไม่ได้คาดหวังว่า Fedor ต้องเป็นนักดำน้ำมืออาชีพเหมือนพวกเขา แต่ให้เขาไปไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ และให้เขาเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง ส่วนภาพที่เราได้เห็นนี้…
-
กล้ามใต้ร่มผ้า!! แฮร์โฮสเตสสาว แบ่งเวลาว่างมาเพาะกาย แถมชนะรางวัลมาแล้วด้วย
อาชีพแอร์โฮสเตสนั้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสายงานที่สาวๆ ใฝ่ฝันมากที่สุด เพราะภาพที่มักจะเห็นคือ พวกเขาดูสง่างามตลอดเวลาโดยเฉพาะเวลาใส่เครรื่องแบบแอร์โฮสเตส หญิงสาวคนนี้ก็เช่นกัน เธอดูสง่างามเมื่ออยู่ในชุดแอร์โฮสเตส แต่เมื่อไรก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบ เธอจะเผยให้เห็นถึงรูปร่างใต้ร่มผ้า บอกได้เลยว่า แข็งแกร่งซ่อนรูปจริงๆ!! Ayme Oliveira แอร์โฮสเตสสาว แม้ตอนทำงานต้องทำตัวเรียบร้อย ดูนิ่ง แต่เมื่อเวลาว่าง หรือวันหยุดเธอจะกลายเป็นนักกล้ามทันทีรวมทั้งการเข้าแข่งขันอีกหลายต่อหลายครั้ง Oliveira อายุ 32 ปี จาก Chelmsford โดยปกติแล้ว ถ้ามีเวลาว่างเธอก็จะเข้าฟิตเนสเป็นประจำวันละ 2 ชั่วโมงครึ่ง และจะกินอาหาร 5 มื้อต่อวันเมื่ออยู่ในเวลางาน ดังนั้นไม่ว่าจะเวลาว่างหรือทำงานเธอก็จะรักษาหุ่นอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขัน และเพราะแบบนี้นี่เอง เธอก็เลยสามารถลงแข่งได้ทุกเมื่อที่อยู่ในประเทศ กว่า 1 ปีแล้วที่เธอประสบความสำเร็จกับร่างกายที่แข็งแรงแบบนี้ เธอจึงได้แชร์ให้คนอื่นได้รับรู้ เพราะไม่ใช่แค่มีรูปร่างที่ดี แต่มันยังดีต่อสุขภาพด้วย Oliveira ได้เป็นแอร์โฮสเตสตั้งแต่อายุ 18 ปี เธอเล่าให้ฟังว่า “ไม่มีใครรู้เลยว่าฉันเป็นนักกล้าม แต่เมื่อพวกเขาเห็นฉันกินอาหารหรือสาธิตความปลอดภัยบนเครื่อง พวกเขาจะรู้ได้ทันที” “และบางที เวลาที่ฉันยืนอยู่ระหว่างทางเดินในเครื่อง ผู้โดยสารก็มักจะถามว่า ฉันเป็นเล่นกล้ามหรือเปล่า?…ซึ่งฉันก็ชอบเวลาที่มีคนถามแบบนี้…
-
เปิดตำนาน ‘Fidel Castro’ วีรบุรุษแห่งอุดมการณ์ฝ่ายซ้าย และผู้นำการปฏิวัติในคิวบา!!
นับว่าเป็นข่าวใหญ่โตที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 เมื่อสำนักข่าวชั้นนำของโลก ต่างลงข่าวคึกโครมกันใหญ่ว่า ‘Fidel Castro’ วีรบุรุษแห่งอุดมการณ์ฝ่ายซ้าย ผู้จากโลกนี้ไปด้วยวัย 90 ปี เชื่อว่าหลายๆ คนที่ไม่ค่อยได้ติดตามประวัติศาสตร์ และการเมือง อาจจะไม่รู้จักว่าเค้าคนนี้เป็นใคร? ยิ่งใหญ่มาจากไหน? เพราะจู่ๆ ข่าวคราวการเสียชีวิตของลุงคนนี้ก็มาปรากฏอยู่เต็มหน้าเฟซฯ ของเราแล้วซะงั้น ก่อนจะหาว่า #เหมียวบ็อบ ชอบลงแต่เรื่องหื่นๆ คราวนี้จะขอทำตัวเป็นเด็กดีมีสาระกับเค้าบ้าง จะพาไปรู้จักกับชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘วีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต’ และ ‘อดีตผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์แห่งคิวบา’ จริงๆแล้วเขามีชื่อเต็มว่า ‘ฟีเดล อาเลคันโดร กัสโตร รุซ’ จุดเริ่มต้นของวีรบุรุษนักปฏิวัติ ‘ฟีเดล กัสโตร’ ได้ถือกำเนิดลืมตาขึ้นมาบนโลกนี้เมื่อปี ค.ศ. 1926 ในเมือง Birán เติบโตมาในครอบครัวเกษตรกรรมที่มีฐานะค่อนข้างจะดีเลยทีเดียว ด้วยความที่พ่อแม่ของเขา เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของการศึกษา เขาจึงถูกส่งไปใช้ชีวิตเป็นนักเรียนประจำของนิกายเยซูอิต ตั้งแต่เยาว์วัย ตลอดช่วงชีวิตแห่งการเป็นนักเรียน จวบจนเรียนจบในมหาวิทยาลัย สาขาวิชากฏหมาย เขาได้ทำงานเป็นทนายความอยู่ในกรุงฮาวานา หน้าที่หลักๆ คือการได้ช่วยเหลือประชาชนผู้ยากจน ที่ไม่มีความรู้ด้านกฏหมาย และมักจะถูกกลั่นแกล้งจากนายทุนอยู่บ่อยๆ ในช่วงนั้นเองทำให้เขาได้เห็นปัญหาของคนจนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มนายทุน และนักธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งในช่วงยุคนั้นเรียกได้ว่า…
-
ใกล้ปีใหม่เข้ามาทุกที… รู้จักกับ 13 ประเพณีฉลองวันปีใหม่ แบบแปลกๆ จากหลากประเทศ!?
รู้สึกกันมั้ยว่าทำไมช่วงเวลา 365 วัน มันถึงผ่านไปไวเหลือเกิน เผลอแป๊ปเดียวไม่ทันได้ตั้งตัว เราก็ใกล้จะเข้าสู่ปี 2017 เข้ามาทุกทีแล้วสินะ ในคืนวันปีใหม่ คนส่วนใหญ่มักจะออกไปปาร์ตี้ บ้างก็อยู่กับครอบครัว เราบางคนก็เลือกที่จะเข้าหาศาสนพิธีตามความเชื่อของตนเอง คราวนี้ #เหมียวบ็อบ จะพาไปรู้จักกับ 13 ประเพณีการเฉลิมฉลองที่แปลกได้อีก จากทั่วโลก เห็นแล้วจะรู้สึกว่า แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ? 1. เผารูปจำลอง (ปานามา) เมื่อถึงวันขึ้นปีใหม่ ชาวเมืองปานามามักจะเอาหุ่นจำลองของใครก็ได้ อาจจะเป็นคนดัง คนที่เรารัก หรือคนที่เราเกลียด มาเผาให้มอดไหม้ เพราะเชื่อว่าเป็นการชะล้างเรื่องไม่ดีที่ผ่านมา และเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความโชคดีตลอดทั้งปี 2. ก้าวเข้าบ้านครั้งแรก (สก็อตแลนด์) ในสก็อตแลนด์เมื่อถึงช่วงวันปีใหม่ จะมีธรรมเนียมปฏิบัติอยู่อย่างหนึ่งคือ คนที่ก้าวข้ามรั้วที่ติดไว้ตรงประตูบ้านคนแรก จะต้องนำของขวัญมาด้วย เพราะจะนำความโชคดีมาให้แก่บ้านหลังนั้น 3. ทำลายเฟอร์นิเจอร์เก่า (แอฟริกาใต้) ในบางพื้นที่ของแอฟริกาใต้ ก็มีธรรมเนียมแปลกๆ เช่นกัน เมื่อถึงวันปีใหม่ พวกเขาจะทำลายเก้าอี้ หรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ เสร็จแล้วก็นำไปทิ้งนอกบ้าน ด้วยความเชื่อว่าเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีกว่า 4. คุยกับวัว…
-
‘ต้องรอด’ แนวคิดบ้านแบบใหม่ อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม และเอาตัวรอดจากภัยพิบัติธรรมชาติได้!!
รู้สึกกันมั้ยว่าพักหลังมานี้ โลกของเรามักจะปรากฏเหตุการณ์ภัยพิบัติจากธรรมชาติ แทบจะทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะในเมืองใหญ่ หรือป่าเขาทึบ เอ๊ะ..หรือว่าวันสิ้นโลกจะมีจริงๆนะ? เพื่อเป็นการป้องกันภัย และเอาตัวรอด จะพาไปรู้จักกับ ‘Eartships’ แนวคิดของบ้านรูปแบบใหม่ ที่ภายอาจจะดูเหมือนบ้านที่หลุดมาจากดาวอังคาร หรือเอเลี่ยนใช้อาศัยกัน แต่ผู้คิดค้นเคลมว่า เมื่อไหร่ที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ บ้านราคาประมาณ 42 ล้านบาทนี้ จะทำให้เรารอด!! ‘แบบบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และออกแบบมาเพื่อคนรุ่นต่อไป’ สโลแกนจากบริษัทผู้ผลิต ซึ่งเชื่อว่าบ้านหลังนี้ สามารถทำให้เราอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง และปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งหลาย โครงสร้างส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุเหลือใช้ เช่นกำแพงถูกสร้างจากยางรถยนตร์ และมันจะไม่มีทางถล่มเมื่อเกิดแผ่นดินไหว บ้าน ‘ต้องรอด’ แบบนี้ไม่ได้มีแค่หลังเดียวนะ เพราะเค้าสร้างขึ้นมาเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในรัฐนิว เม็กซิโก ประเทศสหรัฐฯ ไม่ใช่แผ่นดินไหวเท่านั้น แต่ยังป้องกันเหตุอัคคีภัย และวาตภัยได้ด้วย ตัวอย่างภายในบ้านหลังหนึ่ง สังเกตุว่าการตกแต่งจะใช้วัสดุที่เหลือมาประยุกต์ทั้งนั้น แนวคิดบ้านแบบล้ำสมัยนี้ คิดค้นขึ้นโดยบริษัท Eartship Biotecture ภายในบ้านยังมีเรือนกระจก เพื่อใช้สำหรับเพาะปลูก สร้างอาหารให้ตัวเองได้อย่างยั่งยืน…
-
กลุ่มบิ๊กไบค์สาวสุดคูล รวมตัวกันส่งความสุข ขับรถส่งนมให้กับเด็กๆ ในเมืองนิวยอร์ก!
ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆ นี้คนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ซีซีสูงๆ หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า ‘บิ๊กไบค์’ นั้นมักถูกมองในด้านแย่ๆ จากผู้คนในสังคม จากทั้งลักษณะนิสัยในการขับขี่ที่ไม่ระมัดระวัง ไม่เกรงใจผู้อื่น แถมบางคันก็ยังมีเสียงท่อไอเสียที่ดังมากๆ อีก แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรจดจำไว้นั่นก็คือ ทุกๆ สังคมมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไป เพราะฉะนั้นเราอย่านำพฤติกรรมแย่ๆ ของคนบางคนมาตัดสินคนในสังคมทั้งหมดนะจ๊ะ!! อย่างวันนี้เราก็มีตัวอย่างดีๆ ของกลุ่มสาวๆ ผู้ชื่นชอบการขับบิ๊กไบค์มานำเสนอกัน กับกลุ่ม Sirens Women’s MC of NY กลุ่มบิ๊กไบค์สาวแห่งเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รวมตัวกันเพื่อขับไปส่งนมให้เด็กๆ ล่ะ Sirens Women’s MC of NY สำหรับเด็กๆ ทารกแล้ว น้ำนมแม่นั้นถือว่าสำคัญอย่างมาก เพราะอาจเรียกได้ว่ามีความสำคัญพอๆ กับการให้เลือดในกลุ่มผู้ใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งทาง New York Milk Bank องค์กรนมแม่ไม่แสวงกำไรก็มีปริมาณน้ำนมกักตุนกันไว้อย่างเพียงพอ แต่ปัญหาก็มาติดอยู่ตรงที่การขนส่งนี่แหละ เพราะหลังจากได้รับน้ำนมมาแล้วก็ต้องนำไปพาสเจอร์ไรส์ และบรรจุภัณฑ์เพื่อเตรียมแจกจ่ายไปให้กับทางโรงพยาบาลและบ้านเรือนที่ต้องการน้ำนมเร่งด่วน และด้วยกระบวนการทั้งหมดดังกล่าว เหล่าเจ้าหน้าที่ก็เรียกได้ว่างานล้นมือแล้ว แถมยังต้องขับผจญกับสภาพจราจรของเมืองนิวยอร์กด้วยซะอีก ทำให้การส่งนมไปแต่ละที่นั้งล่าช้ามากๆ แต่ก็ได้แก้งค์บิ๊กไบค์สาวของพวกเธอ…
-
จากนางแบบสาวพริตตี้ ชาวไต้หวัน ผันตัวมา ขายบาร์บีคิวปิ้งย่างข้างทาง ลูกค้าแน่นเอี๊ยด!!
เมื่อกล่าวถึงแม่ค้าพ่อค้าร้านขายปิ้งย่างทั่วไปแล้ว เพื่อนๆ จะรู้กันดีว่ามันก็ไม่มีอะไรที่แปลกและไม่ได้มีอะไรน่าสนใจแต่อย่างใด แต่ถ้าลองเปลี่ยนแม่ค้ามาเป็นนางแบบสาวสุดฮ็อตล่ะ หนุ่มๆ หลายคนคงจะตาลุกวาวอยากจะไปลองลิ้มชิมรสชาติของปิ้งย่างขึ้นมาทันที!! เมื่อช่วงวันที่ผ่านมาได้มีการแชร์ภาพของหญิงสาวที่มีหน้าตาสวย หุ่นดี แถมยังแต่งตัวสุดฮ็อตมายืนย่างบาร์บีคิวขายที่ร้านข้างทาง เว็บไซต์ Mirror ของอังกฤษรายงานว่าพบหญิงสาวคนหนึ่งไม่ทราบชื่อ ตามรายงานบอกไกว้ว่าเธอได้รับฉายาว่าคุณแม่วัยสาว (ปกติแล้วคนขายอาหารตามร้านค้าต่างๆ คนจีน – ญี่ปุ่น เค้าจะเรียกว่าคุณแม่) สวมชุดสุดฮ็อตมายืนปิ้งบาร์บีคิวขาย ในร้านที่มีลักษณะเป็นรถตู้ขายของในประเทศใต้วัน ที่ร้านมีทั้งไส้กรอก เนื้อย่าง และเนื้อสะเต๊ะ ขายตามร้านข้างทางทั่วไป แต่ลูกค้าเข้ามาแวะเวียนเต็มร้านอย่างไม่ขาดสาย ก็แหงล่ะสิ เพราะเจ้าของร้านเค้าเด็ดดวงขนาดนี้ไม่ว่าหนุ่มๆ คนไหนเดินผ่านก็คงอยากจะแวะชิมซักคำสองคำ แถมเธอยังเป็นคนทำเองทุกอย่างทั้งเตรียมของ โปรโมทร้านเรียกลูกค้า เสิร์ฟ และก็ย่างด้วยตัวเอง จากรายงานก็พบว่า แท้จริงแล้วสาวคนนี้เคยเป็นนางแบบ พริตตี้ รับงานถ่ายแบบในงานมอเตอร์โชว์ต่างๆ มาก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนมาเดินทางสายเชฟเปิดร้านบาร์บีคิวขายตามข้างทาง และตอนนี้เธอก็มีความสุขกับชีวิตการเป็นแม่ค้าแบบสุดๆ ไปเลยล่ะ สงสัยอยู่หน้าเตาย่างทั้งวันจะร้อนก็เลยเลือกชุดใส่มาทำงานซะน้อยชิ้นเลย ฮร่า ด้วยความที่เธอมีหุ่นดีซะขนาดนี้ ชาวเน็ตหลายๆ คนที่เห็นรูปภาพของเธอต่างก็เข้าใจผิดคิดว่าเป็นหุ่นลองเสื้อซะอีก อืมมม์ สงสัยจะร้อนจริงๆ นั่นแหละ…
-
เปิดตัวคาเฟ่แมวจรในญี่ปุ่น เป็นใหญ่เป็นโตในร้าน คุมกิจการให้อบอวลไปด้วยความน่ารัก!!
สถานที่แห่งนี้อบอวลไปด้วยความน่ารัก และความสนุกสนานของเหล่าแมวเหมียวที่ถูกช่วยเหลือมาทั้งหมด 9 ตัวด้วยกัน… โดยร้านคาเฟ่แมวสุดชิคที่มีขนาดเล็ก แต่ตลบอบอวลไปด้วยเหล่าแมวเหมียวที่ถูกช่วยเหลือมาไว้ที่นี่ บ้างก็นั่งอยู่บนกล่องข้างๆ แคชเชียร์ ทำตัวเป็นผู้จัดการร้านคอยนั่งอยู่หน้าร้านร้องเหมียวๆ อีกทั้งยังหายใจเป็นเสียงกรน ต้อนรับลูกค้าที่มาเยี่ยมเยียน เหล่าแมวเหมียวทั้งหลายนั้นเป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าแมวเหมียวส่วนมากที่อยู่ในคาเฟ่แมวทั้งหลายนั้นก็เป็นแมวที่มาจากฟาร์มเพาะพันธุ์ ไม่ได้มาจากการช่วยเหลือมาจากข้างถนนแต่อย่างใด และเมื่อคุณ Hannah Shaw เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือแมว Kitten Lady ได้มาท่องเที่ยวยังประเทศญี่ปุ่น และได้ทราบข่าวว่ามีคาเฟ่แมวจรอยู่กลางเมืองเกียวโต ก็เลยอยากจะแวะไปเยี่ยมชมซักหน่อย “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเยี่ยมเยียนที่คาเฟ่แมวที่ให้การสนับสนุนกับสถานสงเคราะห์แมว เหล่าเหมียวทั้งหลายนั้นถูกช่วยเหลือมาไว้ที่นี่ และพวกเขาก็มอบชีวิตที่แสนสุขให้กับมัน ซึ่งร้านนี้อยู่ใกล้ๆ กับศาลเจ้า Inari” คุณ Hannah เล่า และล่าสุดพวกเขาก็เพิ่งจะรับสมาชิกใหม่เข้ามา 2 ตัว โดยช่วยเหลือพวกมันมาจากข้างถนน และคอยดูแลรักษามันจนกลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง “และนี่คือเจ้าเหมียวบ็อบ ที่ชื่นชอบการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้าน และที่ประจำของมันก็คือกล่องที่ทำขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้มันทำหน้าที่ในการต้อนรับเหล่าลูกค้า” เจ้าของร้าน Neko Cafe Time กล่าว และแน่นอนว่าเจ้าเหมียวบ็อบ (ตัวสีขาวดำ) ก็มักจะแบ่งพื้นที่ของตัวเองให้เพื่อนๆ คนอื่นนอนด้วย…
-
โอละพ่อ!! เรื่อง “เจ้าของเบียร์โคโรนาบริจาคมรดกให้คนทั้งหมู่บ้าน” ไม่เป็นความจริง
เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา เพื่อนคงได้อ่านข่าว “เจ้าของเบียร์โคโรน่าบริจาคมรดกให้กับคนยากจน” จากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อนอกหรือสื่อในบ้านเรา หรือแม้แต่เว็บไซต์ Catdumb เอง (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) แต่เราเสียใจที่ต้องบอกว่า ข่าวที่นำเสนอไปนั้นเป็นการเข้าใจผิด และเขาก็ไม่ได้บริจาคมรดกตามที่เป็นข่าวด้วย ตามข่าวบอกว่า “เมื่อ Antonio ผู้ก่อตั้งเบียร์โคโรนาเสียชีวิตในวัย 98 ปี เขาได้บริจาคเงินให้กับหมู่บ้านยากจน หมู่บ้านละ 75 ล้านบาท รวม 80 หมู่บ้าน เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น และมีความสุขกับความมั่งคั่งในแบบที่ไม่เคยได้รับ เขาได้ก่อตั้งบริษัท โคโลนา ในปี 1925 ซึ่งจำนวนเงินที่เขาบริจาคทั้งหมดนั้นคาดว่าน่าประมาณ 6,000 ล้านบาทเลยทีเดียว” เขากลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์จากทั่วโลก เช่น Google Dailymail Independent รวมทั้งเว็บไซต์ของเราด้วย และนี่คือข้อความสำคัญที่หลายเว็บไซต์ได้นำเสนอไป แต่ความจริงแล้ว The Local รายงานว่า… Lucía Alaejos ผู้อำนวยการ Fundanción Cerezales Antonino y Cinia ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมในเมืองที่ได้รับการสนับสนุนโดย Fernández…
-
อลังการ!! Danniel วัวไซส์ยักษ์หนัก 1 ตัน ถูกยกให้เป็น วัวที่มีความสูงมากที่สุดไปแล้ว
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ ได้เผยภาพของ Danniel โคสายพันธุ์โฮลสไตน์ จากฟาร์ม Lost Coast Hay ในเมืองยูเรกา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกบันทึกลง Guinness World Records ว่าเป็นโคที่มีความสูงมากที่สุดในโลกถึง 193 เซติเมตร ในขณะที่โคปกติจะอยู่ที่ 137 เซนติเมตรเท่านั้น และด้วยความที่ Danniel มีความสูงกว่าโคตัวอื่นๆ จึงทำให้มันมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าปกติ อีกทั้งยังมีน้ำหนักมากถึง 1,034 กิโลกรัมอีกด้วย และนี่คือหน้าตาของ Danniel วัวไซส์ยักษ์ที่เรากำลังกล่าวถึงนั่นเอง ทางด้าน Ken Farley ผู้เป็นเจ้า และได้เลี้ยงเจ้า Danniel มาตั้งแต่เกิด ได้เผยว่า “Danniel มักจะกินอาหารมากกว่าวัวตัวอื่นๆ ถึง 4 เท่า… โดยในทุกๆ วันมันจะกินหญ้าไปเข้าไปกว่า 45 กิโลกรัม เมล็ดข้าวอีกประมาณ…
-
เผยโฉมหน้า 13 ตัวละครในซีรีย์และภาพยนตร์ ที่ผู้ชมส่วนใหญ่ “เกลียด” มากที่สุด
หากตัวละครตัวร้ายตัวไหน ที่สามารถทำให้คนดูรู้สึกอินถึงขั้นเกลียดเข้ากระดูกดำได้ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาสามารถตีบทเหล่านั้นได้แตกกระจุย อีกทั้งยังส่งผลให้ตัวนักแสดงประสบความสำเร็จอีกด้วย และในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะมาเผยโฉม 13 ตัวละครจากภาพยนตร์ และซีรีย์ที่ถูกผู้ชมเกลียดมากที่สุด โดยทางเว็บไซต์ thechive เป็นผู้ที่ได้จัดอันดับผลโหวตของผู้ชมจากต่างประเทศนี้ขึ้นมา ว่าแล้วก็ลองไปชมกันเลยดีกว่า ว่าจะมีตัวละครตัวไหนกันบ้าง ไม่แน่นะว่ามันอาจจะมี 1 ในคนที่คุณเกลียดอยู่ด้วยก็เป็นได้ 1.กษัตริย์จอฟฟรีย์ บาราเทียน จาก Game of Thrones 2.ศาสตราจารย์โดโลเรส อัมบริดจ์ จาก แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ 3.เพอร์ซีย์ เวทมอร์ จาก The Green Mile 4.จักรพรรดิ Commodus จาก Gladiator 5.เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ จาก Game of Thrones 6.นายพล ฮานส์ แลนดา จาก…
-
โหดร้ายหรือสวยงาม!! ช่างภาพถ่ายทอดวินาที “งูกินกบ” วงจรชีวิตที่เกิดทุกวันในธรรมชาติ
เอาจริงๆ แล้ว ปากของมนุษย์ไม่ได้กว้างพอ ที่จะสามารถกลืนกินอาหารที่มีขนาดใหญ่มากๆ เข้าไปได้ทั้งหมด ดังนั้น อาจจะต้องมีการแบ่งให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะรับประทานเข้าไป แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “งู” กลับสามารถกินเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าปากของมันหลายเท่าได้แบบชิวๆ เหมือนดังเช่นในกรณีของเจ้ากบต้นไม้ตัวนี้ ที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าปากของงูตัวเล็กหลายเท่า แต่สุดท้ายมันกลับตกเป็นอาหารอันโอชะของงูไปในที่สุด และนี่คือ 5 ภาพถ่ายชอตสุดสยองของเจ้ากบตัวหนึ่ง ในป่าลุ่มน้ำอเมซอน ประเทศเอกวาดอร์ ขณะกำลังถูกงูขนาดเล็กค่อยๆ กลืนกินเข้าไปทั้งตัว ซึ่งภาพถ่ายเหล่านี้ ถูกถ่ายขึ้นโดย Luis Fernando Espin ช่างภาพ และไกด์นำเที่ยว ที่กำลังจะเดินออกจากกระท่อม ไปยังห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน และได้เกิดเห็นศึกปะทะกันระหว่างงูกับกบพอดี ดังนั้น เขาจึงรีบไปหยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพเหล่านี้เอาไว้ Luis ได้เผยว่า “ผมกำลังจะเดินออกไปทานอาหารกลางวัน ซึ่งในขณะที่กำลังเดินตรงไปยังห้องอาหารนั้น ก็ได้เห็นเจ้างูตัวหนึ่ง กำลังเขมือบกบต้นไม้อยู่ ดังนั้น ผมจึงรีบวิ่งไปหยิบกล้อง แล้วถ่ายภาพเอาไว้ทันที” เป็นภาพการต่อสู้ที่ดูน่ากลัวไม่น้อย นอกจากนี้ เขายังได้บอกอีกว่า ขณะที่เจ้ากบกำลังถูกงูงับเข้าไปกลางลำตัวนั้น มันก็พยายามดีดเท้าออก ซึ่งใช้เวลานานกว่า 45…
-
สาวร่างยักษ์ เมินฉายา “ก็อตซิล่า” มีงานถ่ายแบบมากมาย เพราะยอมรับในสิ่้งที่เป็น…
หากเลือกได้ เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนคงอยากสวย และมีรูปร่างดีมาตั้งแต่เกิด เพราะไม่มีใครหรอกที่อยากจะเกิดมาแล้วโดนคนอื่นล้อว่าเป็นคนอ้วนร่างใหญ่เหมือนยักษ์เหมือนสัตว์ประหลาด แต่ถึงแม้ว่าจะเลือกเกิดไม่ได้ อย่างน้อยเราก็สามารถเลือกเป็นในสิ่งอยากจะเป็นได้ นี่คือ Aly Stosz สาววัย 27 ปี กับความสูงถึง 205 เซนติเมตร!! เธอเป็นผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมกับความสูงมากๆ จนได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนมากมาย โดยตอนที่เธอมีอายุเพียง 12 ปี Aly มีความสูงประมาณ 190 เซนติเมตร ซึ่งสูงกว่าเด็กในวัยเดียวกันเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเธอยังเคยถูกล้อว่าเป็นสัตว์ประหลาด และ ก็อตซิลล่าอยู่เสมอ ดังนั้น จึงทำให้เธอกลายเป็นคนประหม่า และจมอยู่กับความวิตกกังวลอยู่บ่อยครั้ง Aly ก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นนางแบบ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และเมินเฉยต่อคำล้อเลียนของคนอื่นๆ และนั่นก็ทำให้ชีวิตของเธอเริ่มเปลี่ยนไป เธอเริ่มมีงานถ่ายแบบเข้ามามากมาย ตั้งแต่ตอนอายุ 20 ต้นๆ แต่ทว่าชีวิตการเป็นนางแบบของเธอต้องหยุดลง เพราะดันประสบอุบัติเหตุระหว่างการทำงานจนข้อเท้าหักเสียก่อน Aly ได้ทำให้คนทั้งโลกเห็นว่า การที่เกิดมาสูงผิดปกติกว่าคนทั่วๆ ไป มันไม่ได้เป็นปมด้อยอะไรเลย…
-
คุณพ่อจับลูกชายมาตัดต่อ เข้ากับสถานที่สำคัญทั่วโลก ยกระดับให้เหนือจินตนาการ!
Adrian Sommeling ศึกษาเกี่ยวกับงานวิจิตรศิลป์มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้หันเหความสนใจไปยังศิลปแบบดิจิตอลแทน และจะมีอะไรสนุกสนานกว่า จับลูกชายมาเป็นวัตถุดิบชั้นยอด ล่าสุด Sommeling ได้ปล่อยภาพตัดต่อชุดใหญ่ของลูกชายออกมา ซึ่งแต่ละอันต้องบอกว่า เหนือล้ำจินตนาการจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพาไปเล่นสเก็ตบนโรงแรม Marina Bay Sand Hotel หรือ ขี่จักรยานบนชิงช้าสวรรค์ London Eye จะเจ๋งแค่ไหน ไปดูกันเลย อาลาดินก็มา สเก็ตบอร์ดบน Marina Bay Sand Hotel จับครอบซะเลย หลบแบบดิจิตอล ไปชมภาพอื่นๆ กันเลย ใครชื่นชอบผลงานผลงานของคุณพ่อท่านนี้ ลองไปชมผลงานอื่นๆ ของเขาได้ที่เว็บไซต์ส่วนตัว ได้เลยนะฮะ รับรองว่ามีงานเจ๋งๆ ให้ชมอีกเพียบแน่นอน ที่มา boredpanda
-
อุ๊ตะ!! กางเกงโยคะขนแพะ 100% จากรัสเซีย ให้สาวๆ ได้เล่นโยคะแบบอุ๊นอุ่นในหน้าหนาว
เราคงเคยเห็นเสื้อผ้าขนสัตว์กันมามากมายหลายรูปแบบแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นเสื้อมากกว่ากางเกง และคงจะมีการดัดแปลงให้ดูเป็นเสื้อผ้าธรรมดา แต่กางเกงที่คุณจะเห็นต่อไปนี้ ถ้ามองผ่านๆ คงจะคิดว่ามีสัตว์มาเดินใกล้ๆ ซะอีก…มันคือ กางเกงโยคะขนแพะ ที่จะทำให้คุณลืมกางเกงแบบเดิมๆ ไปเลย แน่นอนว่า หลายคนอาจคิดว่า มันเป็นขนปลอม หรือทำขึ้นมาเพื่อล้อเลียนเท่านั้น แต่รู้มั้ยกางเกง Orenburgs ทำมาจากขนแพะ 100% ในประเทศรัสเซีย นอกจากนี้กางเกงโยคะก็กำลังฮิตในเมือง Orenburg ด้วยนะ เหมาะกับการเล่นโยคะในหน้าหนาวนี้มากๆ เพราะทั้งหนาและนุ่ม หนาวแค่ไหนก็เล่นโยคะได้ชิวๆ ไม่ใช่คนรัสเซียเท่านั้นนะที่สามารถซื้อใส่ได้ เพราะตอนนี้กางเกงขนแพะได้มีการวางขายแล้วในเว็บไซต์ Ebay ใครไม่อยากตกกระแสก็จัดเลยในราคาเพียง 2,000 บาท อาจจะดูแพงแต่ก็คุ้มนะ เพราะมันเป็นขนแพะจริงๆ ส่วนใครที่คิดว่ามันเป็นการทรมานสัตว์ จะบอกว่าไม่ใช่เลย เพราะนี่เป็นขนแพะที่เลี้ยงไว้ และต้องตัดขนเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ที่สำคัญแพะก็ยังได้รับการดูแลอย่างดี ใส่แบบนี้ออกบ้าน ไม่มีคนมองก็ไม่รู้จะว่าไงละ แบบหุ้มเท้าก็มีนะ อุ่นทั่วถึงทุกส่วนแน่ หรือใครไม่อยากใส่ขนหนาๆ ก็มีขนบางๆ แบบนี้ให้เลือกใส่ได้นะ สาวๆ…
-
10 เรื่องของ “เออิชิโร โอะดะ” ผู้อยู่เบื้องหลัง “วันพีซ” อันโด่งดังจนมีแฟนคลับทั่วโลก
เมื่อพูดถึงการ์ตูนแล้ว เพื่อนๆ นึกถึงเรื่องอะไรกันบ้าง หรือใครชอบเรื่องไหนมากที่สุดเอ่ย? แต่ไม่ว่าจะชื่อชอบเรื่อง เหมียวขี้ส่องคิดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักเรื่อง “วันพีซ” แน่ๆ และใครที่เป็นสาวกวันพีซเคยสงสัยกันมั้ยว่า ใครเป็นผู้แต่งเรื่องนี้กันนะ ทำไมมันถึงได้สนุกเร้าใจขนาดนี้ งั้นวันนี้ เรามาทำความรู้จักผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสนุกนี้กันเลยดีกว่า เขาคนนั้นก็คือ Eiichiro Oda หรือ เออิชิโร โอะดะ นี่เอง คุ้นๆ กันบ้างมั้ยเอ่ย แต่รู้แค่ชื่อมันน้อยไป เราเลยได้รวบรวมข้อมูลที่แฟนอยากรู้ไว้ที่นี่แล้ว ทำความรู้เขาให้มากขึ้นด้วย 10 เรื่องนี้ต่อไปนี้กันเล่ยยยย 1. วันเกิดและอายุของเออิชิโร โอะดะ เริ่มด้วยข้อมูลพื้นกันก่อนเนาะ เออิชิโร โอะดะเกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปี 1975 ในเมืองคุมาโมโตะ จังหวัดคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุ 41 ปี เออิชิโร โอะดะเล่าให้ฟังว่า เขาอยากเป็นนักวาดการ์ตูนมาตั้งแต่อายุ 4 ขวบแล้ว และเมื่อโตขึ้นมาก็อยากทำอาชีพเป็นนักวาดการ์ตูนอย่างจริงจัง 2. แรงบันดาลในการเริ่มเขียนวันพีซ เป็นอีกเรื่องที่หลายคนอยากรู้มากแน่ๆ เขาบอกว่าได้แรงบันดาลจากผลงานของ Akira Toriyama ซึ่งเป็นคนเขียนเรื่องดราก้อนบอลนั่นเอง นอกจากนี้เขายังมีความสนใจในเรื่องโจรสลัดเป็นพิเศษหลังจากได้ดูการ์ตูนเรื่อง Vicky the…
-
หญิงสาวคลั่งลดน้ำหนัก เพื่อให้เหมือน Kendall Jenner ถึงขั้นอาจตายได้ ถ้าอาบน้ำ!?
การมีไอดอลเป็นของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่บางคนก็คลั่งมากเกินไปจนถึงกับเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีรูปร่างเหมือนไอดอลคนนั้นโดยไม่คำนึงถึงความพอดี เหมือนกับนักเรียนสาวคนนี้ที่มีความคลั่งไคล้นางแบบหุ่นดีอย่าง Kendall Jenner จึงบอกกับตัวเองว่า ต้องมีหุ่นเหมือนกับเธอให้ได้ Katie Hogg นักเรียนที่อยากมีหุ่นเหมือนนางแบบในดวงใจ เธอจึงลดความอ้วนอย่างจริงจัง จนมีน้ำหนักเหลือแค่ 30 กิโลกรัม ในวัย 20 ปี คุณหมอเองยังต้องเตือนว่า เธออาจตายได้ถ้าอาบน้ำ และแน่นอนว่าวิธีที่เร็วที่สุดและง่ายที่สุดก็คือ การควบคุมอาหาร ดังนั้นในแต่ละวันนั้นหญิงสาวจึงทานแต่ชาดีท็อกซ์ 12 ถ้วยและผักดิบเท่านั้น เมื่อร่างกายเริ่มผอมหนักเข้าๆ คนรอบข้างจึงเตือนให้เธอไปหาหมอ เพราะตอนนี้ร่างกายของเธอมันเกินคำว่าผอมไปแล้ว ในที่สุดเธอก็ยอมไปหาหมอตามคำแนะนำ คุณหมอบอกว่า ตอนนี้ร่างกายเธออ่อนแอมาก เพราะแทบจะไม่มีสารอาหารอยู่ในร่างกายเลย ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ ที่สำคัญผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า เธอไม่สามารถอาบน้ำได้เพราะร่างกายจะปรับอุณหภูมิไม่ทัน และอาจถึงขั้นตายได้ Kendall Jenner นางแบบที่หญิงสาวชื่นชอบ Katie บอกว่า “ฉันรู้สึกตกใจมาก เมื่อได้เข้ารับการรักษา และต้องนั่งรถเข็นอีกต่างหาก ฉันไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้” “คุณหมอยังบอกอีกว่า ถ้าฉันเดินฉันอาจจะเหนื่อยเกินไป และฉันก็ไม่สามารถอาบน้ำได้ เพราะถ้าร่างกายเจอที่แตกต่างกันอย่างเฉียบพลัน อาจทำให้การทำงานของหัวใจล้มเหลวได้” “ตอนนี้ร่างกายของฉันมีแต่หนังกระดูก และฉันก็คงอยู่ได้อีกไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์แน่ ถ้าไม่พึ่งการรักษาทางการแพทย์” …
-
เจ้าเหมียวน้อยช่วยทาสหนุ่ม ใช้ความน่ารักเพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน… ใครจะปฏิเสธได้ลง!!
เจ้าเหมียวตัวน้อยจากสถานสงเคราะห์ได้ทำการช่วยเหลือชายหนุ่มเพื่อทำการขอแต่งงานกับแฟนสาว ในวันก่อนวันขอบคุณพระเจ้าที่ทั้งคู่ได้พบกันเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นพวกเขาก็รับมันไปเลี้ยงด้วยเลย!! มารู้จักกับเจ้าเหมียว Gandalf กับทาสหญิงคนใหม่ของมัน เรื่องราวความรักของทั้งคู่เริ่มต้นในวันขอบคุณพระเจ้าเมื่อปี 2014 คุณ Jerad (ฝ่ายชาย) ก็ได้รู้มาตั้งแต่วันนั้นแล้วว่าคุณ Kat (ฝ่ายหญิง) คือคนที่เขาหมายปอง จากนั้นพวกเขาก็ตกลงปลงใจคบหาดูใจกันเรื่อยมา จนมาถึงวันก่อนวันขอบคุณพระเจ้าในปีนี้คู่รักก็ได้ตัดสินใจที่จะไปรับเจ้าเหมียวจากสถานสงเคราะห์มาเลี้ยง ซึ่งก็คือเจ้าเหมียวน้อย Gandalf นั่นเอง แต่ทางฝั่งของคุณ Jerad ก็ได้วางแผนเพื่อที่จะทำการเซอร์ไพรซ์คุณ Kat ในวันนั้นด้วยซะเลย “ในตอนแรกนั้น Kat คิดว่าเรากำลังถ่ายคลิปไว้เพื่อบันทึกเหตุการณ์วันแรกที่รับเจ้า Gandalf ไปเลี้ยง แต่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์กับรู้ถึงเรื่องแผนเป็นอย่างดี” เจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์สัตว์ SPCA (Erie County, NY) เล่า “มันเป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากๆ เลย คุณป้าของเขาทำงานที่ SPCA อยู่พอดี เธอดูแลเหล่าแมวเหมียวอยู่ที่นี่ และหลังจากที่พวกเราได้พบกับเจ้าเหมียว Gandalf ก็ตกหลุมรักมันในทันที” “ตอนแรกฉันคิดว่า Jerad ไปทำงาน หลังจากนั้นเขาก็โผล่มาพร้อมกับขอฉันแต่งงาน โดยมีตัวหนังสือเขียนอยู่บนแท็กห้อยคอของมันว่า ‘แต่งงานกันมั้ย?’ มันน่ารักมากๆ…
-
บอกลาเข็มฉีดยา ด้วยนวัตกรรมแผ่น ‘Nanopatch’ แค่แปะลงบนผิวหนังก็ซึมเข้าแล้ว!!
เมื่อกล่าวถึง ‘การฉีดยา’ สำหรับเพื่อนๆ ที่กลัวเข็มแล้ว ก็คงต่างขวัญผวาไปตามๆ กัน ลองหลับตานึกถึงบรรยากาศในโรงพยาบาล กับการซักถามอาการของคุณหมอ จากนั้นก็หยิบเข็มฉีดยาแหลมปรี๊ดขึ้นมา แค่นี้ก็แทบจะเป็นลมล้มพับแล้วล่ะ T T แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาแนะนำเทคโนโลยีการฉีดยาแบบใหม่ใหม่ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน และแน่นอนว่ามันจะไม่สร้างความเจ็บปวดแม้แต่น้อย และมันจะทำให้เพื่อนๆ บอกลาเข็มฉีดยายาวๆ น่ากลัวไปได้เลย!! มันมีชื่อว่านวัตกรรม Nanopatch ที่ไม่ต้องการตู้เย็นในการเก็บตัวยาหรือวัคซีน เพราะตัวยาทั้งหมดจะถูกจับมาเคลือบแห้งลงบนแผ่นขนาดเล็กที่มีเข็มเล็กๆ นับพันฝังอย่างข้างใน วิธีการใช้งานของมันก็คือแค่แปะเจ้าแผ่น Nanopatch นี้ลงไปบนผิวหนังด้วยเครื่องยิงแบบสปริงหรือที่เรียกว่า Spring-loaded device จากนั้นเซลล์ของวัคซีนหรือตัวยาจถูกดันเข้าไปแล้วก็เพิ่มจำนวนขึ้นแบบทวีคูณใต้ผิวหนัง และด้วยวิธีนี้เองจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อแบบปกติ แถมยังลดโอกาสในการสร้างบาดแผลอันจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้ออีกด้วย!! ซึ่งเทคโนโลยี Nanopatch นี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยคุณ Mark Kendall วิศวกรชีวเวช มาตั้งแต่ปี 2004 ปัจจุบันเขาเป็นศาสตราจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัย Queensland University ประเทศออสเตรเลีย และจากการตรวจสอบก็พบว่ามันน่าจะเหมาะสำหรับประเทศที่แร้นแค้นทำให้ไม่มีอุปกรณ์ในการเก็บรักษาวัคซีน การใช้เจ้า Nanopatch นี้ไม่จำเป็นจะต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับการเก็บวัคซีน ทำให้พื้นที่นั้นมียาป้องกันโรคระบาดอย่างน้อยนิด…
-
ชม 14 เรื่องจากเกาหลีเหนือ ที่ว่าเหมือนจะจริง แต่ดันโดนคนจับได้ว่า โกหกทั้งเพ!!
‘เกาหลีเหนือ’ เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความลับ และการโฆษณาชวนเชื่อ ยิ่งเราได้รู้จักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากจะรู้ว่าจริงๆแล้ว ประชาชนของเขามีความสุขกันจริงรึเปล่า? อยู่ดีกินดีกันจริงเหรอ? แต่บางทีเราก็มักจะได้เห็นภาพที่ทางการปล่อยออกมาให้ชาวโลกได้เห็นกัน แต่ก็ยังหนีไม่พ้นกับคำถามที่ว่า จะเชื่อได้จริงเหรอ? วันนี้เราจะพาไปชม 14 ภาพที่ทางการเกาหลีเหนือปล่อยออกมา แต่ทว่าสุดท้ายก็โดนคนทั้งโลกจับได้ว่ามันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น!! 1. ชายหาดที่เต็มไปด้วยชาวเกาหลีเหนือ ภาพนี้ถูกเผยแพร่โดยนิตยสารจากเกาหลีเหนือฉบับหนึ่ง เผยให้เห็นถึงผู้คนจำนวนมากที่มาพักผ่อนริมชายหาดกันในวันหยุด ซึ่งเพื่อนๆ ลองสังเกตุตามจุดวงกลมแดงๆดูสิ จะพบว่ามันเป็นภาพตัดต่อแบบที่ไม่ค่อยเนียนเอาซะเลย 2. ภาพของท่านคิมที่สามารถพิชิตยอดเขา สูง 9,022 ฟุตได้ เป็นภาพที่ถูกปล่อยออกมาให้ชาวเกาหลีเหนือเข้าใจว่า ท่านผู้นำคิม นอกจากจะเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งแล้ว ยังสามารถพิชิตยอดเขาแพคตู ที่สูงที่สุดได้อีก ซึ่งความเป็นจริงแล้ว คงไม่มีใครสามารถพิชิตยอดเขาสูงขนาดนี้ด้วยร่างกายของตัวเอง โดยที่ปราศจากรอยเปื้อน หรือใส่เสื้อโค้ทมาซะเท่แบบนี้ได้หรอกจริงมั้ย? 3. เกาหลีเหนือมีเครื่องบินรบเป็นจำนวนมาก ภาพของเครื่องบินรบที่เกาหลีเหนือมักจะปล่อยออกมาให้ชาวโลกได้รู้สึกหวาดกลัว อย่างเช่นภาพนี้ ความจริงแล้วมันคือเครื่องบินโดยสารธรรมดาๆ ของสายการบิน Koryo เนี่ยแหละ แต่แค่เอามาทาสีใหม่เท่านั้นเอง 4. ภาพถ่ายความรุ่งเรืองทางเกษตรกรรมของเกาหลีเหนือ ตอนแรกที่เห็นแกะจำนวนมากขนาดนี้ เราก็คงคิดว่าที่นี่ต้องอุดมสมบูรณ์มากแน่ๆ แต่ความจริงแล้ว ภาพนี้ใช้มุกเดิมคือการตัดแปะ ลองสังเกตุตามช่องสี่เหลี่ยมสีแดงดูสิ…
-
โรงเรียนจีนประกาศ มอบเงินอัดฉีดให้นักเรียนที่สอบผ่าน 239 คน ทั้งสิ้น 41 ล้านบาท!!
ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก หรือเกิดมาเป็นเด็กประเทศไหน แน่นอนว่าพ่อแม่ต้องคอยพร่ำสอนให้เราตั้งใจเรียน หมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาลำบากตอนแก่ แต่สำหรับโรงเรียนมัธยม Shuren ในมณฑลเจ้อเจียง เค้าไม่ต้องรอให้เด็กๆ แก่ก่อนถึงจะเห็นผลสำเร็จของความตั้งใจ เพราะทางผู้ใหญ่ในโรงเรียน ได้ประกาศมอบเงินรางวัล ให้กับนักเรียนทุกคนที่สามารถสอบผ่านตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ได้ เอาเงินมากองกันตรงหน้าให้เห็นชัดๆ แบบนี้เลย ทั้งหมดก็รวมเป็นจำนวน 8 ล้านหยวน ประมาณ 41 ล้านบาท นักเรียนส่วนใหญ่จะอยู่ในชั้นมัธยมตอนต้น และสามารถสอบผ่านเข้าไปศึกษาต่อในชั้นมัธยมปลายได้ ซึ่งเงินรางวัลทั้งหมด จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับด้วยกัน คนที่สอบได้ตามเกณฑ์สูงสุดจะได้รับ 1 แสนหยวน (5 แสนบาท) รองลงมา 5 หมื่นหยวน (2 แสนห้าหมื่นบาท) และเกณฑ์ต่ำสุด 4 หมื่นหยวน (2 แสนบาท) อันเนื่องมาจากโรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนเอกชน ทำให้มีค่าเทอมที่ค่อนข้างจะสูงพอสมควร เฉลี่ยอยู่ที่ปีละประมาณ 3 หมื่นหยวน (1 แสนห้าหมื่นบาท) เรียกได้ว่า คืนกำไรให้แก่นักเรียนของจริง …
-
ฮีโร่หนุ่ม ออกปราบพวกพรากผู้เยาว์ แต่ถูกสั่งให้หยุด เพราะสร้างงานให้ตำรวจมากเกินไป!?
นับว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะในประเทศฝั่งตะวันตก หรือในบ้านเรา ก็มักจะได้เห็นข่าวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับคนร้ายที่ชอบลวงเด็กไปข่มขืน จากเว็บไซต์ TheSun ได้รายงานข่าวเรื่องราวของ ‘Scott Rivers’ ฮีโร่หนุ่มที่ไม่ได้มีความสามารถเหนือมนุษย์ หรือต่อสู้เก่งแต่อย่างใด เพียงแต่เขาต้องการที่สร้างความยุติธรรมให้สังคม โดยเฉพาะกับพวกคนที่ชอบล่อลวงเด็กไปทำมิดีมิร้าย แต่ทว่าล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเกาะอังกฤษ ได้แจ้งให้เขารับทราบว่า ถึงแม้การกระทำดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ได้โปรดช่วยหยุดก่อน เพราะมันเยอะจนเจ้าหน้าที่ทำงานกันไม่ทันแล้วจ้า!! ฮีโร่หนุ่มวัย 29 ปีคนนี้ เขามักจะสวมชุดแบทแมน ใช้ชื่อว่า Mr.Shy และคอยสอดส่องดูแลเมื่อทราบว่ามีเหตุ เด็กหายไปจากบ้าน หรือทราบว่ามีคนต้องการที่จะลวงผู้เยาว์มาค้างคืนด้วย หน้าที่ของเขา ไม่ได้ออกไปปรายเหล่าร้าย เหมือนในหนังหรอกนะ แต่เขาจะใช้การรวบรวมข้อมูลจากเฟซบุ๊คปลอมที่เจ้าตัวสร้างขึ้นมา เพื่อที่จะได้ตีเนียนใกล้ชิดกับบุคคลดังกล่าว ก่อนที่จะนำหลักฐานทั้งหมดส่งมอบให้ตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมา เขาหาเบาะแส และช่วยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้มากถึง 20 คนเลยทีเดียว!! เจ้าตัวบอกว่า ทั้งหมดที่ทำไป ก็เพื่อต้องการให้สังคมตระหนักถึงเรื่องนี้ และช่วยกันสอดส่องดูแลกันมากยิ่งขึ้น เพราะมักจะมีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับเหตุการณ์ครั้งล่าสุด หลังจากที่เจ้าตัวได้นำข้อมูลเบาะแสเพื่อการจับกุมไปให้กับตำรวจ ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะรับไว้พิจารณา แต่เขาก็ถูกตอบกลับมาด้วยท่าทีที่ทำให้ผิดหวังสุดๆ “ผมรู้สึกแย่ที่เจ้าหน้าที่บอกให้ผมหยุด ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้อมูลเบาะแสของผมสามารถนำไปสู่การจับกุมอย่างถูกต้องตามกฏหมาย…
-
ปรบมือ! คุณลุงจอมหื่น “มาซาฮิโร ทาบูชิ” ได้รับรางวัลนักแสดง AV ชายยอดเยี่ยมปี 2016!!
อย่างที่ทราบกันดีว่า วงการหนังผู้ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นแทบไม่ต่างจากวงการหนังทั่วไป และในแต่ละปีก็จะมีการมอบรางวัลให้กับดาราที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม (แหม อย่างกับฮอลลีวูดเลยทีเดียว) โดยในงานประกาศรางวัล AV Open 2016 ปีล่าสุดนี้ ภายใต้งานใหญ่ Japan Adult Expo 2016 นั้น ก็มีการประกาศมอบรางวัลให้กับเหล่าทีมงานและนักแสดงทั้งหญิงและชายที่ผ่านงานกันมาอย่างโชกโชน แต่ละรางวัลก็มีมากมายหลายสาขากันเลยทีเดียว มอบรางวัลให้กับผู้กำกับหนังชมพูแนวแปลก ผีจีน กระโดดหย๋องๆ!! แต่สำหรับนักแสดงชายที่ส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยโด่งดังเท่านักแสดงนำหญิงนั้น ก็ถือว่าเป็นคนสำคัญเช่นกัน เพราะพวกเขาสามารถสร้างความรู้สึกร่วมให้กับนักแสดงนำหญิงได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในบทบาทไหน ก็ขาดไม่ได้เลย ผมคุณลุงจอมหื่นเองครับแหม่ และผู้ที่ได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในปี 2016 นี้ก็คือ “มาซาฮิโร ทาบูชิ” ผู้คร่ำหวอดในวงการหนังเอวีมากว่า 20 ปี ซึ่งปกติแล้ว เขามักจะได้รับบทเป็น “คุณลุงพนักงานบริษัทจอมหื่น” นั่นเอง เชื่อว่าแฟนๆ เอวีทุกท่านต้องคุ้นหน้าคุ้นตาคุณลุงมาซาฮิโรเป็นอย่างดีแน่นอน เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการจริงๆ ยังไงก็ขอแสดงความยินดีร่วมกับคุณลุงด้วยนะฮะ ทำผลงานออกมาให้หนุ่มๆ ทั้งหลายได้ชมกันเรื่อยๆ จะได้อิจฉากันไปนานๆ ฮร่า…
-
น้องสาว “ประกาศขายเวอร์จิ้น” ด้วยความจำเป็น เพื่อนำเงินไปรักษาพี่ชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง…
หากเลือกเกิดได้ คงไม่มีใครอยากเกิดมาจน เพราะความจนนั้นมันจะบีบคคั้นให้เราฝืนทำให้สิ่งที่ไม่อยากทำ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องใช้เงินที่ทำให้หลายคนยอมทำทุกอย่างไมว่าจะลักษณะไหนก็ตาม และเพื่อนๆ อาจจะเห็นภาพชัดขึ้นเมื่อได้ฟังเรื่องราวของหญิงสาววัย 19 ปีคนนี้ ที่พยายามจะขายความบริสุทธิ์ของตัวเองเพื่อนำเงินไปรักษาพี่ชายที่ป่วยเป็นมะเร็ง เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อน้องสาวรู้ว่าพี่ชายป่วยเป็นมะเร็งอย่างหนัก และต้องใช้เงินจำนวนมากในการรักษา เธอจึงออกเดินทางจากมณฑลยูนนานที่เป็นบ้านเกิดของตัวเองไปยังมณฑลหางโจว แต่เงินจำนวนมากมายขนาดนั้น เธอเองก็ไม่รู้จะหามาจากไหน ถ้าไปทำงานก็คงนานเกินกว่าที่พี่ชายจะรอได้ เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเขียนป้ายประกาศขายเวอร์จิ้นในราคา 1 ล้านบาท (200,000 หยวน) เพื่อนำมาเป็นค่ารักษาให้กับพี่ชาย และเมื่อ Xu Yanhong ผู้เป็นพี่ชายรู้ว่าน้องสาวใช้วิธีนี้ เขาบอกว่า น้องสาวเธอได้ทำในสิ่งที่โง่เขลามาก และเขาเองก็รู้สึกแย่ที่เป็นภาระให้ครอบครัวแบบนี้ ตอนนี้เขาอยากกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพื่อให้น้องสาวได้ไปเรียนตามปกติ Samantha Gomersall ชาวอังฤษที่อาศัยอยู่ในมณฑลหางโจว เป็นคนหนึ่งที่ได้เห็นข้อความของหญิงสาว และเขาก็ไม่สามารถนิ่งเฉยกับเรื่องราวนี้ได้ Samantha จึงได้ก่อตั้งแคมเปญ GoFundMe ซึ่งเป็นการระดมทุนเพื่อนำเงินไปช่วยค่ารักษาพยาบาลให้กับพี่ชายของหญิงสาวคนนี้ จากการรายงานที่แพร่ไปทั่วอินเตอร์เมื่อไม่นานมานี้ได้ระบุว่า ‘Xu ผู้พี่ชายของเธออายุ 23 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และน้องสาวก็มีไขกระดูกที่เข้ากันได้’ แต่ทว่าพี่ชายเคยได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกมาแล้ว และได้รับผลกระทบในด้านลบมา…
-
ยากเกินทำใจ… เมื่อสุนัขที่เป็นมากกว่าเพื่อน กำลังจะจากไป เก็บไว้ให้เหลือเพียงความทรงจำ
ใครที่เคยเลี้ยงจะรู้ว่าดีว่า มันไม่ได้เป็นแค่สัตว์ แต่มันยังเป็นเพื่อนที่ดี คอยแก้เหงา คอยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ จนเราแทบไม่อยากจะจากมันไปไหน โดยเฉพาะเวลาที่ต้องบอกลามันตลอดกาล แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากเมื่อต้องเจอเรื่องแบบนี้ ดังนั้นหลายคนจึงมีวิธีจัดการกับความสูญเสียนี้ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสร้งทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น การหาสัตว์ตัวอื่นมาแทน หรือแม้แต่การร้องไห้ระบายความรู้สึก สำหรับช่างภาพอย่าง Catherine Panebianco เธอได้สร้างชุดภาพแห่งความทรงจำให้สุนัขตัวโปรด ที่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ สุนัขตัวนี้ชื่อ Benny เป็นสัตว์เลี้ยงตัวแรกของ Catherine ที่อยู่ด้วยกันมา 14 ปีแล้ว และตลอดเวลาที่ผ่านมา จึงเต็มไปด้วยความรักและความผูกพัน ในทุกวันๆ ทั้งสองจะออกไปเดินเล่นด้วยกันไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นแบบไหน และในทุกๆ เช้า Benny จะดื่มนมที่เหลือจากชามซีเรียลของ Catherine พวกเขาต่างเป็นเพื่อนแท้ให้กันและกันเสมอมา ดังนั้นเมื่อสุนัขเพื่อนรักเริ่มแก่ตัวลงเธอเริ่มตระหนักได้ว่า เวลาของมันคงใกล้จะหมดลงแล้ว เธอจึงเริ่มถ่ายรูปช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันไว้ในโทรศัพท์มือถือตัวเอง เธอบอกว่า “Benny เป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด ฉันจึงเริ่มที่จะบันทึกเรื่องราวระหว่างเราในปีสุดท้ายของมัน ซึ่งมันเป็นวิธีรับมือกับความสูญเสียที่กำลังจะมาถึง และฉันก็อยากเก็บความทรงจำดีๆ ไว้ให้มากที่สุด” “ตลอดเวลาที่ถ่ายภาพ ฉันเห็นถึงท่าทางของมัน ที่เริ่มเคลื่อนไหวได้ช้าลง ในขณะเดียวกัน ฉันเองก็เรียนรู้ที่จะจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ที่จะต้องสูญเสียเพื่อนที่มีค่าที่สุดในชีวิตไป” Catherine ได้รับเลี้ยงสุนัขตัวนี้มาตั้งแต่เด็ก…
-
จากแพะตาบอดขี้กลัว ถูกหญิงสาวรักษาดูแลด้วย “ชุดเป็ด” จนตอนนี้เป็นแพะน่ารักไปแล้ว!?
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ The Dodo ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแพะตาบอดตัวหนึ่ง ที่มีขี้กังวลเอามากๆ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรแห่งหนึ่งจนเกิดเป็นเรื่องราวน่ารักๆ จน#เหมียวฟิ้นยังอดยิ้มไปด้วยไม่ได้ ตามรายงานบอกว่านาง Leanne Lauricella ที่ทำงานอยู่ในองค์กรช่วยเหลือแพะที่ชื่อว่า Goats of Anarchy ในรัฐนิวเจอร์ซี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ช่วยเหลือแพะมาตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า Polly จึงเกิดความสงสารเลยรับมันมาเลี้ยงที่บ้าน นาง Lauricella เล่าว่าเจ้า Polly จะเกิดอาการวิตกกังวลและส่งเสียงร้องดังลั่นทุกครั้ง ที่มันไม่เจอเจ้านายหรือรู้ว่าเจ้านายไม่ได้อยู่ในบ้าน นอกจากนี้มันยังมีอาการแปลกๆ อย่างการวิ่งไปหลบในมุมบ้าน และเลียที่ผนัง ฉะนั้นทุกมุมบ้านของพวกเขาจะเต็มไปด้วยรอยเลียจากปากของมันทุกที่เลย ปัญหาเกี่ยวกับอาการวิตกกังวลของมันดูจะเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย แต่จู่ๆ Lauricella ก็ค้นพบวิธีการแก้ปัญหาโดยบังเอิญ เมื่อเธอจับเจ้า Polly มาสวมชุดแฟนซีเป็นเป็ดในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาบางสิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น “ทันทีที่ฉันสวมชุดให้มัน มันก็ดูจะสงบนิ่งไปเลย” Lauricella กล่าว การสวมชุดเป็ดอาจช่วยทำให้ร่างกายของมันอบอุ่นขึ้น ความวิตกกังวลจึงลดน้อยลงไปด้วย หลังจากนั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้า Polly เกิดอาการวิตกกังวล Lauricella จะหยิบเอาชุดเป็ดมาสวมให้กับมันทันที และดูเหมือนชุดนี้จะมีความพิเศษบางอย่าง ทำให้มันเคลิ้มหลับลงได้ง่ายๆ ครั้งหนึ่ง…
-
หนุ่มน้อยเสนอวิธีถอนฟันน้ำนม ที่เท่สุดในโลกด้วยรถสปอร์ต พุ่งทะยานพร้อมฟันที่หลุดลอย
ในวัยเด็กของพวกเราล้วนเคยผ่านประสบการณ์ “ฟันน้ำนมหลุด” กันมาแล้วทั้งนั้น นั่นถือเป็นการสูญเสียที่ใหญ่มาก เพราะนั่นถือเป็นการที่เราได้เห็นเลือดเป็นครั้งแรกๆ และได้เห็นอะไรหลุดออกไปจากร่างกายของเรา แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่าการที่ฟันหลุดออกไปคือตอนที่มันยังไม่หลุดนี่แหละ ช่างเป็นเวลาที่แสนทรมานเหลือเกิน พ่อแม่บางคนก็เลยคิดหาวิธีเพื่อดึงเอาฟันน้ำนมออกจากปากของลูกด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อที่พวกเราจะได้ไม่ต้องทรมานอย่างต่อเนื่อง นาง Stephanie Thomason คุณแม่ชาวอเมริกันจึงได้คิดหาวิธีกับสามี เพื่อเอาฟันน้ำนมออกจากปากของลูกชาย ประจวบเหมาะกับที่สามีของเธอมีรถ Audi S5 อยู่คันหนึ่ง พวกเขาจึงเกิดไอเดียแหวกแนวขึ้น พวกเขาผูกเชือกเข้ากับฟันของลูกชายและรถสปอร์ตคันงาม จากนั้นก็ให้สามีเร่งเครื่องแล้วพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว และในเสี้ยววินาทีนั้นเองฟันของเด็กชายก็หลุดออกมา และคลิปการถอนฟันนี้ก็กลายเป็นคลิปที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในตอนนี้ ว่าเป็นการถอนฟันที่เท่ที่สุดคลิปหนึ่งเลย ชมคลิปการถอนฟันได้ที่นี่เลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ กลับมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่าพ่อแม่เด็กอย่างมากมาย ถึงวิธีการที่ให้เด็กถอนฟันด้วยการผูกติดกับรถแบบนั้น Cooper O’Brien “วันหนึ่งเราคงได้เห็นคลิปวิดีโอของเด็ก ถูกลากไปกับพื้นเพราะฟันของพวกเขายังไม่พร้อมจะหลุดออกจากปาก” Chris Dozier “ใครสักคนจะกล่อมเด็กให้ทำแบบนี้ได้ยังไง? ถ้าผมทำแบบนี้กับลูก ลูกคงมองว่าผมโง่” Barbara Eriksson “น่าตกใจเหลือเกิน! ถ้าคุณสามารถซื้อรถแบบนั้นได้ คุณก็น่าจะมีเงินจ่ายค่าหมอฟันนะ! ลูกของฉันจะต้องบอบช้ำแน่ๆ ถ้าทำแบบนี้” การถกเถียงและการต่อว่าพ่อแม่เด็กเริ่มยืดเยื้อมากขึ้น จนนาง Stephanie Thomason ผู้เป็นแม่ทนไม่ไหว ออกมาชี้แจงว่าที่เห็นทั้งหมดในคลิปนั้นเป็นความคิดของลูกชายเองทั้งหมด …
-
คุณแม่ป่วยลำไส้อักเสบ เลิกกินยา และหันมาใช้กัญชาเยียวยาแทน เป็นประจำวันละ 3 ครั้ง!?
ต้องบอกก่อนว่า สำหรับเรื่องราวที่จะมาเล่าให้กันอ่านในครั้งนี้ เราไม่ได้ตั้งใจสนับสนุนให้ใช้สิ่งผิดกฏหมายที่เรียกว่า ‘กัญชา’ นะจ๊ะ เพราะยังไงมันก็ผิดกฏหมายบ้านเราอยู่ เพียงแต่เห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจจนอยากจะเอามาบอกต่อเท่านั้นเอง จากรายงายของ TheSun เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559 ได้รายงานเรื่องราวของครอบครัว Longstaff จากแคนาดา ที่คุณแม่ประสบปัญหาป่วยอย่างหนักด้วยอาการลำไส้อักเสบ ส่งผลทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา Lorena Longstaff คุณแม่วัย 31 กับสามี และลูกชายสุดที่รักของเธอ ซึ่งอาการป่วยของเธอนี้มีมาตั้งแต่ช่วงที่เธอเป็นสาว และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่เธอคลอดบุตรชายออกมา เมื่อเธอเข้าพบแพทย์ คุณหมอก็สั่งยาสเตียรอยด์มาให้เธอ เพื่อแก้อาการบาดเจ็บในครั้งนี้ หลังจากที่ใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ไปเรื่อยๆ กลับพบว่าร่างกายของเธอแย่ลง สุขภาพจิตก็เช่นกัน อารมณ์หงุดหงิดง่าย ไม่สามารถแม้แต่จะวิ่งเล่นกับลูกชายสุดที่รักได้ แต่ทว่าเธอมีโอกาสได้เห็นเรื่องราวชีวิตของผู้ป่วยที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน และนำกัญชามาใช้เพื่อการรักษา เธอจึงเริ่มสนใจ และยื่นเรื่องทำบัตรผู้ป่วย ตามกฏหมายของประเทศแคนาดา “ฉันเคยคิดว่า คนเสพกัญชาต้องเป็นคนไม่ดี หรือขี้ยาอะไรทำนองนั้น แต่ไม่น่าเชื่อว่า หลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมาณมาตลอด 8 ปี กัญชาทำให้ฉันกลับมามีชีวิตที่ปกติและแข็งแรงได้อีกครั้ง” ทุกๆวันเธอจะต้องหยดสารสกัดจากกัญชาสู่ร่างกายตัวเอง รวมถึงดูดวันละไม่เกิน 3 ครั้ง…
-
ลูกถูกเพื่อนล้อเพราะพ่ออ้วน คุณพ่อจึงมุ่งมั่นลดน้ำหนักจาก 123 กิโล เหลือ 78 กิโล ในหนึ่งปี
ใครที่อ้วนหรือมีน้ำมาก จะรู้ดีกว่า การลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องอดอาหารโปรดบางอย่าง แถมยังต้องมาออกกำลังที่สุดแสนจะเหนื่อยด้วย จนทำให้หลายคนล้มเลิกความตั้งใจมานักต่อนักแล้ว Sheng Biao คุณพ่อวัย 32 ปี จากมณฑลหางโจว ประเทศจีน ก็เป็นอีกคนที่มีรูปร่างอ้วน แต่เขาก็ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากลูกสาววัย 4 ขวบมาบอกว่า “เธอถูกเพื่อนล้อที่มีพ่ออ้วน” ก่อนหน้านี้ Sheng มีน้ำหนัก 123 กิโลกรัม โดยที่เขาได้เล่าว่า ตอนเรียนมหาลัย เขามีน้ำหนักอยู่ที่ 90 กิโลฯ แต่พอเข้าสู่วัยทำงาน ก็ไม่มีเวลาออกกำลังกาย และหนักกว่านั้นคือ อาหารในที่ทำงานก็มีแต่ของอร่อยๆ ทั้งนั้น จนทำให้น้ำหนักพุ่งขึ้นหลัก 100 กิโลกรัม เขายังบอกอีกว่า ครั้งหนึ่งเขาได้ไปทานข้าวนอกบ้านกับครอบครัว และกินไปทั้งหมด 14 จาน จนบริกรยังต้องตกใจกับการกินอาหารได้ในปริมาณมากขนาดนี้ แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป หลังจากที่ลูกสาวตัวน้อยวัย 4 ขวบของเขาได้กำเนิดขึ้นมา เขาคอยดูแลเอาใจใส่ลูกสาว ช่วยเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก อาบน้ำให้ และป้อนข้าวให้ แต่มาถึงจุดจุดหนึ่ง เขาก็เริ่มรู้สึกได้ว่าเขามีน้ำหนักตัวที่มากเกินไปแล้ว…
-
14 ไอเดียรอยสักอันสวยงาม แถมยังช่วยปกปิดรอยแผลเป็น ให้คุณมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น!!
การมีรอยแผลเป็นนั้นอาจทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจ จนต้องหาอะไรมาปกปิด ไม่ว่าจะเป็นการใส่เสื้อผ้าหรือการปกปิดด้วยเครื่องสำอางต่างๆ และอีกหนึ่งวิธีที่ที่เป็นที่นิยมก็คือ “การสัก” เพราะการสักนั้น นอกจากจะเพื่อความสวยงามแล้ว ก็สามารถช่วยปกปิดแผลเป็นที่ไม่น่าดูน่าชมได้อีกด้วย ช่วยเรียกความมั่นใจกลับมาสู่ตัวเราได้อีกครั้ง อย่างเช่นตัวอย่างไอเดียรอยสักสวยๆ เหล่านี้แหละจ้า ลองมาดูกันได้เลยนะ 1. หญิงสาวสักเพื่อปกปิดแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดกระดูกสันหลัง 2. แผลเป็นถูกสักทับ จนดูไม่ออกว่ามีแผลเป็น 3. ดอกไม้เล็กๆ ที่ไม่ใช่แค่สวยแต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ด้วย 4. กรณีนี้ไม่ได้สักทับ แต่สักเป็นรูปซิปราวกับเป็นการเปิดผิวหนัง เก๋ไปอีกแบบ 5. แผลเป็นที่ดูหดหู่นี้ถูกแทนรอยสักอาร์ตๆ จนให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป 6. จากแผลเป็นที่ดูน่ากลัว กลับดูสวยขึ้นด้วยการสักสีสันที่สดใส 7. แม้จะแทนกันไม่ได้ แต่ก็ทำให้มั่นใจกว่าเดิม 8. รอยแผลเป็นที่ถูกปิดด้วยดอกไม้ ดูน่ามองยิ่งขึ้น 9. เพราะมีรอยแผลขนาดใหญ่จึงต้องซ่อนในร่มผ้า แต่วันนี้ไม่ต้องแล้ว 10. ไหล่ที่ถูกปิดมาตลอด แต่เมื่อสักทับด้วยดอกไม้ ก็ไม่ต้องปกปิดอีกแล้ว 11. ลืมไปเลยว่าเคยมีแผลเป็น …
-
คุณลุงต้องขายมันฝรั่ง 32 ตันให้หมด เพื่อที่จะได้กลับบ้าน ผู้คนแห่ช่วยซื้อ หมดเกลี้ยงในข้ามคืน!!
การเป็นการเกษตรกรนั้น ไม่ใช่อาชีพที่สบายเลย เพราะกว่าจะได้ผลผลิตมาขายนั้น ต้องใช้ทั้งเวลา แรงกาย แรงใจ และกว่าจะเอาไปขายได้แต่ละบาทก็ต้องผ่านหลายขั้นหลายตอนอีกเช่นกัน และใช่ว่ามันจะขายได้ตามราคาที่ตั้งไว้เสมอไป ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ราคาผลผลิตผันผวน อีกทั้งพวกเขาอาจถูกกดราคาโดยพ่อค้าคนกลาง หรือหากต่อรองราคาไม่ได้ พวกเขาอาจไม่รับซื้อเลยก็มี เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Ma เกษตรกรวัย 60 ปี จากมณฑลชิงไห่ ประเทศจีน ได้นำมันฝรั่ง 32 ตันขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำไปขายในตลาดท้องถิ่นของเมืองเซินเจิ้น โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่าเมื่อขายหมดแล้วก็จะได้นำเงินทุนและกำไรที่ได้ เดินทางกลับบ้าน แต่เมื่อไปถึง เขาก็เจอกับปัญหาอันใหญ่หลวง เมื่อผู้รับซื้อบอกว่า มันฝรั่งของคุณลงนั้น คุณภาพต่ำเกินที่จะนำมาขายในตลาดท้องถิ่นได้ อีกทั้งยังมีคนตั้งข้อสังเกตว่าคุณลุงอาจจะโดนหลอกเพื่อเป็นการปฏิเสธการรับซื้อ เพราะดูเหมือนพวกพ่อค้าคนกลางต้องการตัดเขาออกจากการตลาดมากกว่า คุณลุง Ma ถึงกับทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาเสียเงินค่าธรรมเนียมบรรทุกของไปแล้วกว่า 82,000 บาท และด้วยระยะทางที่ขับรถมาไกลกว่า 2,500 กิโลเมตร เป็นเวลา 4 วัน 4 คือ แต่ทว่าทุกอย่างกลับสูญเปล่า… เขาหมดหนทางที่ขายมันฝั่งเหล่านี้ และไม่รู้ว่าจะเอามันฝรั่งทั้งหมด 32 ตันไปเก็บไว้ที่ไหน ดังนั้น Ma จึงได้เทมันฝรั่งทั้งหมดลงข้างถนน…
-
แมวน้อยตาอักเสบจนคล้ายกบ ต้องผ่าตัดนำดวงตาออก ถึงแม้จะไม่มีตาแล้ว แต่ก็ยังแฮปปี้
การเลี้ยงสัตว์สักตัวนั้น ไม่ใช่แค่ให้อาหารหรือให้ที่พัก แต่เรายังต้องคอยดูแลสุขภาพของมันด้วย และหากพบว่ามันต้องการความช่วยเหลือ เราก็ควรช่วยมันทันที Oomi แมวน้อยมหัศจรรย์ ที่กำลังเผชิญกับโรคตาอักเสบคล้ายดวงตากบ และได้ถูกนำตัวมายัง ASPCA ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลแมวในนิวยอร์กเมื่อเดือนที่แล้วในวัยเพียง 4 สัปดาห์ อาการตากบของมันนั้นอยู่ในระยะที่น่าเป็นห่วง จนคุณหมอต้องให้มันทำ TLC (โครมาโตกราฟีแบบผิวบาง)และต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างใกล้ชิด คุณหมอคาดว่า โรคตากบของเจ้าเหมียว Oomi นี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียและไม่ได้รับการรักษา จนทำให้ตาของมันอักเสบอย่างรุนแรง และไม่สามารถมองเห็นได้ ที่สำคัญมันต้องอยู่อย่างทรมาน Cerena เจ้าของคนใหม่ของมันบอกว่า “ครั้งแรกที่ฉันได้เจอ Oomi ฉันและสามีก็ตกหลุมรักมันทันที มันต้องการความรัก และอยากให้เรากอดมัน “ Cerena และสามีได้พามันไปหาหมอหลายครั้งมาก แต่แมวน้อยก็ไม่เคยคุ้นชินกับการไปหมอเลย ดังนั้นเจ้าของเจอมักจะกอดปลอบก่อนที่ Oomi จะเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ แต่อาการของมันก็ไม่ดีขึ้นเลย มันยังคงทรมานกับโรคตากบนี้ตลอดเวลา และไม่สามารถมองเห็นได้ชัด บางครั้งมันก็แสดงออกว่ามันก็รู้สึกรำคาญกับอาการนี้ด้วย ทางด้านเจ้าของเองก็พยายามช่วยมันทุกวิถีทาง ในที่สุดพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะผ่าเอาตามันออก แน่นอนว่า พวกเขาก็ลำบากใจไม่น้อยที่ตัดสินใจแบบนี้ แต่ก็ไม่สามารถทนเห็นมันทรมานแบบนี้ต่อไปได้ ตอนนี้ตาข้างหนึ่งของ Oomi ได้บอดไปแล้ว และอีกข้างก็มองเห็นไม่ชัด หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ มันก็ได้รับการผ่าตัด ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าที่วางแผนไว้ซะอีก …
-
หนุ่มๆ กล้ามโตชมรมพายเรือร่วมใจ “ถ่ายปฏิทินนู้ดการกุศล” จำเป็นต้องดีขนาดนี้มั้ย…
ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทำกันเป็นประจำเลยทีเดียว สำหรับการถ่ายปฏิทินนู้ดของหนุ่มๆ จากชมรมพายเรือ Warwick Rowers จากมหาวิทยาลัย Warwick ประเทศอังกฤษ เพื่อช่วยเหลือกลุ่มรักร่วมเพศ และกระตุ้นความสนใจในสังคมเกี่ยวกับชาวรักร่วมเพศ จุดประสงค์หลักของปฏิทินเพื่อ “ส่งเสริมทัศนคติด้านบวกแต่ชาวรักร่วมเพศ รวมทั้งเพศทางเลือกอื่นๆ ด้วย” และรายได้บางส่วนจะนำเข้าชมรมพายเรือ เพื่อให้กีฬาชนิดนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น อื้อหือ เห็นแล้วใจไม่ดี ร่มสวยเนาะ จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน อย่าจ้องแบบนั้นจิ เค้าเขิน ต้นคริสมาสต์กลมเนียนเชียว นายดูตรงนั้นสิ เห็นเหมือนที่เราเห็นมั้ย ไปดูคลิปเรียกน้ำย่อยกันดีกว่า ใครสนใจอยากสั่งจองปฏิทินปีล่าสุดนี้หรือร่วมบริจาคให้กับองค์กรนี้ ก็เข้าไปที่เว็บไซต์ของ Warwick Rowers ด้านล่างนี้ได้เลยนะฮะ ที่มา warwickrowers
-
คุณอาจจะอยากรู้ว่า ถ้ารถส้วม 27 ตัน ชนกลางถนนจะเป็นยังไง แค่คิดก็ขมคอแล้ว… โบ้มมม
ใครที่กำลังกินข้าวอยู่หรือกำลังจะไปกินข้าว หรือกำลังนั่งทานอะไรอยู่หน้าคอมหรือหน้าโทรศัพท์มือถือ ขอให้ท่านวางของสิ่งนั้นลงก่อน เพราะข่าวนี้อาจทำให้อาหารของเท่าเสียรสชาติได้ (หรือทำให้อร่อยขึ้นกันแน่ ฮาา) เหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจเกิดขึ้นที่เมือง Toowoomba ในรัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย เมื่อรถสิบแปดล้อที่บรรทุกของเสียหนัก 27 ตันมาเต็มลำรถ ต้องเบรกกะทันหันเนื่องจากมีรถคันหนึ่งพยายามพุ่งออกมา และสิ่งที่เกิดขึ้นคือ สิ่งปฏิกูลเหล่าเหล่าทะลักออกมาและกระจายออกมาเต็มถนน… นี่คือสภาพของรถที่พุ่งออกมาตัดหน้า อาการบาดเจ็บทางร่างกายหรือความเสียหายทางคงไม่มี แต่อาการบาดเจ็บทางจิตใจคงฝังลึกไปอีกนาน อวสานอาหารทุกมื้อ… ใครอยากเห็นว่าคลิปเหตุการณ์เป็นอย่างไร ชมคลิปด้านล่างนี้ได้เลยนะฮะ ไม่อยากนึกสภาพและกลิ่นของรถคันที่ถูกอุนจิ “ทับ” ใส่เลยจริงๆ ล้างอาจจะยากไป แนะนำให้ซื้อใหม่น่าจะง่ายกว่า ฮาาาา ที่มา Buzzfeed
-
“Titan Arum” ดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งสูงตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ
มีสิ่งต่างๆ มากมาย ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นที่สุดของที่สุดในโลก เช่น ช็อกโกแลตที่มีราคาแพงที่สุดใหญ่โลก สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หรือจะเป็นอาหารที่แพงที่สุด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก และนอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากจะมาแนะนำให้รู้จักก็คือ Titan Arum (Amorphophallus titanium) หรือดอกบุกยักษ์ ซึ่งเป็นพืชดอกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง ดูตอนแรกก็นึกว่ามันเป็นสิ่งแปลกประหลาดที่มาจากดาวเคราะห์ดวงอื่น แต่จริงๆ แล้วมันคือดอกไม้หรือนี่!! Titan Arum เป็นดอกไม้ที่เติบโตขึ้นตามธรรมชาติในเขตป่าฝนทางทิศตะวันออกของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย โดยดอกที่บ้านแล้วจะมีลักษณะเป็นสีแดงเข้ม ไปจนถึงสีม่วง กลีบหนา และจะมีขนาดกว้างมากถึง 1.3 เมตรเลยทีเดียว ในส่วนของตัวช่อดอกที่แทงยอดตั้งขึ้นไปข้างบนนั้น จะสามารถเติบโตได้สูงเต็มที่กว่า 3 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องอันตรายจากสัตว์บางชนิด อีกทั้งมันยังมีน้ำหนักมากถึง 100 กิโลกรัมอีกด้วย ขณะเดียวกัน คุณอาจจะต้องระวังเรื่องกลิ่นของมันสักหน่อยนะ เพราะเจ้าดอกไม้ชนิดนี้มีกลิ่นที่เหม็นมากคล้ายกับซากสัตว์เน่าๆ ผสมกับซากศพ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มันถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ดอกซากศพ” ยังไงละ แม้ว่ามันจะมีกลิ่นเหม็นจนน่าสะอิดสะเอียด แต่กลับเป็นตัวดึงดูดให้แมลงบางชนิด โดยเฉพาะพวกแมลงเต่า…
-
Bonika อุรังอุตังน้อย ได้รับการช่วยเหลือ หลังจากถูกลามโซ่ติดไม้กระดานกว่า 6 เดือน
ลองคิดเล่นๆ กันดูนะว่า หากคุณถูกล่ามโซ่เอาไว้ไม่ให้ไปไหน จะรู้สึกอย่างไร? แน่นอนว่าสิ่งแรกที่คิดก็คือ อยากถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ เพราะการถูกขังเอาไว้แบบนี้ มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนทรมานเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้น ความรู้สึกของคุณ มันคงไม่ต่างอะไรไปจาก Bonika อุรังอุตังน้อยวัย 18 เดือนตัวนี้ ที่ถูกจับมาล่ามโซ่ติดกับแผ่นไม้กระดานเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน ทำให้มันแทบไม่สามารถขยับตัวไปไหนมาไหนได้เลย แต่โชคดีเหลือเกิน ที่อย่างน้อยมันไม่ได้ถูกล่ามไว้นานไปกว่านั้น เพราะหลังจากที่มูลนิธิกู้ภัยสัตว์ (IAR) ได้ทราบเรื่องราวของมัน พวกเขาก็รีบเดินทางเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร เพื่อไปช่วยเหลือเจ้าอุรังอุตังน้อยทันที เมื่อเดินทางไปถึง ภาพที่เห็นก็คือ Bonika อยู่ในสภาพที่ถูกโซ่ล่ามไว้รอบคอ ซึ่งผูกติดกับแผ่นไม้กระดานเก่าๆ ในห้องครัว ทางด้าน Bapak Hendrigus ชายผู้พบเจ้า Bonika ได้อ้างว่า ในขณะที่กำลังเดินทางไปยังสวนยางพารา เขาได้บังเอิญเห็นเจ้าลิงตัวนี้นั่งอยู่เพียงลำพัง ดังนั้น จึงได้พามันกลับมาบ้านด้วย และหวังจะให้มันเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัว พวกเขาให้มันกินข้าว อ้อย ขนมปัง และนมเป็นอาหาร โดยเจ้า Bonika…
-
เด็กหญิงตาบวม แต่แพทย์วินิจฉัยผิด จนทำให้เธอเกือบจากไปด้วย “โรคเนื้องอก” ที่หายาก
เมื่อป่วยหรือบาดเจ็บอะไรมา สิ่งแรกที่เรานึกถึงก็คงจะเป็นแพทย์ เพราะพวกเขาสามารถบอกเราได้ว่า เกิดอะไรขึ้นและมีแนวทางในการรักษาอย่างไร แต่บางทีการวินิจฉัยของหมอนั้นก็มีความผิดพลาดได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าปักใจเชื่อครั้งแรกที่ตรวจแต่ควรเฝ้าสังเกตและตรวจละเอียดอีกทีเพื่อความแน่ใจ Stella Robson เด็กหญิงวัย 6 ขวบ มีอาการเปลือกตาบวมและแดงทั้ง 2 ข้าง พ่อแม่คิดว่าเธอน่าจะติดเชื้อจึงพาไปหาหมอเพื่อความแน่ใจ หมอเองก็บอกว่าเป็นแค่การติดเชื้อเล็กๆ เท่านั้น อีกไม่กี่วันก็หายดี จึงให้ยาฆ่าเชื้อแล้วให้กลับบ้านได้ แต่หลายวันผ่านไป ตาของเด็กหญิงก็ยังคงบวมเหมือนเดิม จน Gaylene Robson ผู้เป็นแม่จึงตัดสินใจพาเธอไปพบจักษุแพทย์เพื่อทำซีทีสแกนที่โรงพยายาลเด็ก Royal ในเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย จากการสแกนพบว่า Stella เป็นเนื้องอกก้อนเล็กๆ คล้ายทรงระฆังขึ้นระหว่างตาและสมองของเธอ ซึ่งคุณหมอบอกว่า เป็นมะเร็งที่หายากที่เรียกว่า Langerhans cell histiocytosis (เนื้องอกในกระดูก) เนื้องอกของ Stella มีขนาด 1.5 เซนติเมตร ขึ้นอยู่บริเวณกระดูกรอบดวงตา และมันก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็วจนเด็กหญิงต้องเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญก็พยายามหาทางที่ดีที่สุดและเร็วที่สุดเพื่อเอาเนื้องอกออก พวกเขาปรึกษากันแล้วเข้าใจถึงความเสี่ยงอย่างมากในการนำออก พวกเขาแจ้งให้แม่เด็กรับทราบ และรับรู้ถึงความเสี่ยงนั้นเช่นกัน ในที่สุดศัลยแพทย์ก็สามารถกำจัดเนื้องอกส่วนใหญ่ออกไปได้ หลังจากนั้น Stella ต้องเข้ามาทำเคมีบำบัดอย่างน้อย 1 ปี…
-
พ่อค้าแม่ค้าตลาดสดอินเดีย หันมาใช้ระบบบัตรเครดิต จ่ายเงินกันแบบรูดปรื้ดๆ!!
ถ้าหากว่าเราติดตามข่าวคราวบ้านเมืองนี้ จะพบว่าจริงๆ แล้วประเทศอินเดีย เป็นอีกประเทศที่มักจะมีอะไรมาเซอไพรส์ชาวโลกอยู่ตลอด และล่าสุดข่าวใหญ่หน้าหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ รัฐบาลออกมาประกาศยกเลิกธนบัตร 500 และ 1,000 รูปี อย่างกระทันหัน ซึ่งงานนี้ประชาชนทุกคนจะต้องรีบเอาธนบัตรแบบเก่า ไปแลกแบบใหม่ภายในเดือนธันวาคมนี้เท่านั้น เพราะถ้าหลังจากนี้แล้ว มันจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเศษกระดาษ ที่ไม่สามารถใช้ทำธุรกรรมใดๆ ได้ทันที ธนบัตรแบบเก่า ที่กำลังจะหมดความหมาย กลายเป็นซากอ้อย ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า.. จากเหตุการณ์ที่รัฐบาลออกมาประกาศอย่างกระทันหันในครั้งนี้ ทำให้ประชาชนส่วนมาก รู้สึกกังวล และเกรงว่าในอนาคต เงินที่อยู่ในรูปแบบกระดาษ จะไม่มีความหมายอีกต่อไป เมื่อการเปลี่ยนแปลงเข้ามา การปรับตัวก็ต้องเป็นไป ทำให้พ่อค้าแม่ค้าชาวอินเดีย ไม่ว่าจะร้านของชำ ร้านขายผักสด หรือแม้แต่อาบังขายถั่ว ก็เลือกที่จะหันมาใช้ระบบการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตแทนซะเลย แม้แต่ร้านซ่อมรองเท้า เค้าก็หันมาใช้ระบบจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตกันแล้วนะ ซึ่ง Paytm ที่ชาวอินเดียหันมาใช้กันนี้ เป็นธุรกรรมทางออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงมากในเมืองใหญ่อย่างนิวเดลี ส่วนสาเหตุที่รัฐบาลต้องประกาศใช้ธนบัตรอย่างกระทันหัน ก็เพื่อต้องการปราบคอร์รัปชั่น และตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนบางกลุ่มนั่นเอง เชื่อหรือไม่ว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศยกเลิกธนบัตรได้ไม่กี่ชั่วโมง ทำให้ระบบธุรกิจของ Paytm ในอินเดียเติบโตมากขึ้นถึง…
-
หญิงตุรกีแห่ประท้วง หลังรัฐบาลเตรียมออกกฎหมาย ‘ข่มขืนแล้วแต่งงาน’ ถือว่าไม่มีความผิด?!?!
เรามักจะได้รับทราบข่าวเกี่ยวกับคดีข่มขืนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยของเราเองที่ปัญหานี้มีให้เห็นวนเวียนอยู่ตลอดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลง ทีนี้จะขอพาข้ามไปรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับการเรื่องกฎหมายการข่มขืน ในประเทศอย่างตุรกีกันบ้าง… กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตในประเทศตุรกี หลังจากมีความพยายามเสนอร่างกฎหมายใหม่ ที่เหล่าผู้ที่กระทำผิดล่วงละเมิดทางเพศ (รวมทั้งข่มขืน) อาจพ้นผิดได้ หากผู้กระทำยอมแต่งงานกับเหยื่อ จนมีผู้ออกมาประท้วงจำนวนมากในกรุงอังการา ประเทศตุรกี กฎหมายดังกล่าวมีใจความที่สรุปคร่าวๆ ว่า หากผู้ชายกระทำการล่วงละเมิดทางเพศเล็กๆ น้อยๆ หรือ ไม่ได้มีการ “ขู่เข็ญ” หรือ “บังคับ” หรือแม้กระทั่งได้มีการกระทำแล้ว แล้วรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเหยื่อ ก็จะถือว่าไม่มีความผิด แน่นอนว่าเมื่อมีการระบุแบบนี้ในกฎหมายทีเตรียมออกมา ย่อมมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาค่อนข้างมาก และเกิดการประท้วงขึ้นมา หลังจากมีการประท้วง ทางรัฐบาลได้เลื่อนการพิจารณาออกกฎหมายออกไปก่อน และจะมีการพิจารณาในสภาอีกครั้งในวันข้างหน้า ทางกลุ่มผู้ต่อต้านได้ออกมากล่าวว่า “การล่วงละเมิดทางเพศถือว่าเป็นอาชญากรรม และมันไม่ควรถูกยอมรับ นั่นเป็นสิ่งที่พรรค AK (พรรคที่เป็นรัฐบาลขณะนี้) ไม่เข้าใจ การยอมรับการล่วงละเมิดทางเพศเป็นสิ่งที่ใครที่ไหนเขาก็ไม่ยอมรับกันหรอก” ขณะเดียวกัน Binali Yildirim นายกรัฐมนตรีของตุรกี ที่สนับสนุนกฎหมายใหม่ดังกล่าว ได้ออกมาให้เหตุผลว่า เจตนาของกฎหมาย ก็เพื่อมาแก้ปัญหาต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งชี้ให้เห็นถึงข้อดีหากมันออกมา ตัวอย่างเช่น…
-
ค้นพบปรากฏการณ์ “พื้นทะเลยกตัวขึ้นเหนือน้ำ 2 เมตร” หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวนิวซีแลนด์
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.8 ริกเตอร์ และครั้งที่สองอีกขนาด 6.1 ริกเตอร์ บริเวณชายฝั่งของเมืองไคคูร่า ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเหตุทำให้พื้นทะเลยกตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนอยู่เหนือผืนน้ำถึง 2 เมตร อีกทั้งพืชใต้ทะเล รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็ได้โผล่ขึ้นมาให้เห็นตลอดแนวชายฝั่งอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยากมาก ด้าน Joshu Mountjoy นักธรณีวิทยาทางทะเลจากสถาบันวิจัยน้ำและบรรยากาศแห่งชาติของนิวซีแลนด์ ได้เผยว่า เหตุการณ์นี้ไม่เคยเห็นในชีวิตเขาเลย “ผมไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะอยู่ในสภาพแบบนี้ไปช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ” สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านในท้องถิ่น รวมถึงนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบตามไปด้วย โดยในแถบนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่าหลายสิบราย และมีผู้เสียชีวิตอีก 2 รายด้วยกัน นอกจากนี้ Joshu ยังเกิดความสงสัยขึ้นมาอีกว่า เหตุที่การณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นหลังจากแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในครั้งนี้ อาจเป็นผลมาจากการเคลื่อนที่ของรอยเลื่อนหลายรอยมารวมตัวกัน ในเวลาเดียวกันก็เป็นได้ Nicola Litchfield นักธรณีวิทยาจากสถาบันวิจัย GNS Science…
-
สุนัขจรจัดถูกทรมานจนกลัวทุกคน มนุษย์จึงได้เข้าช่วยเหลือ จากหน้าเศร้าก็กลายเป็นหน้ายิ้ม
รู้มั้ยว่าในประเทศอินเดียนั้นมีสุนัขจรจัดมากกว่า 30 ล้านตัว และจากการรายงานของ Global Alliance for Rabies Control พบว่า ประชากรในประเทศแถบเอเชียกว่า 35% เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้า ที่แพร่ระบาดมากในสุนัขจรจัด ดังนั้นอินเดียเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก จึงเลือกที่จะกำลังเหล่าสุนัขจรจัดมากกว่าการควบคุมปริมาณประชากรในประเทศ ในขณะที่รัฐบาลอินเดียก็ยังไม่มีมาตรการเกี่ยวกับสุนัขจรจัดอย่างชัดเจน เพราะแค่ปัญหาเกี่ยวกับประชากรก็หนักมากแล้ว ดังนั้นหลายครั้งที่สุนัขถูกทารุณและถูกฆ่าทิ้งไป The Animal Aid Unlimited เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ที่ก่อตั้งโดย Erika, Jim, และ Claire Abrams-Myers จากซีแอทเทิล ในสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ซื้อบ้านอยู่ในอินเดียเมื่อ 15 ปีแล้ว และได้เช่าพื้นที่กว่า 4 ไร่ เพื่อเป็นที่พักพิงสำหรับสัตว์จรจัด พร้อมทั้งให้การรักษาพวกมัน เพราะที่นี่ไม่โรงพยาบาลสัตว์เลย แต่การทำงานเป็นอาสาสมัครที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะรัฐบาลอินเดียนั้นมีปัญหากับพวกเขาบ่อยๆ เนื่องจากคนอินเดียไม่ชอบสุนัขโดยเฉพาะสุนัขจรจัด แต่พวกเขาก็พยายามบ่ายเบี่ยงได้ทุกครั้ง ดังนั้นตลอดเวลาที่เป็นอาสาสมัครที่นี่ พวกเขาต้องอยู่ด้วยตัวเอง และเพราะเป็นคนรักสัตว์ พวกเขาจึงต้องยอมเสี่ยง หลายครั้งที่ไปเจอสุนัขข้างถนน…
-
เด็กน้อยป่วยด้วยโรคหายาก ไม่สามารถหัวเราะได้ และมีเพียง 4,000 คนจากทั่วโลก!!
พ่อแม่ทุกคนอยากเห็นความลูกมีความสุขในชีวิต และความสิ่งที่บ่งบอกถึงความสุขอย่างหนึ่งก็คือเสียงหัวเราะของลูกนั่นเอง จนบางทีเสียงหัวก็เปลี่ยนเรื่องร้ายกลายเป็นดีได้ แต่พ่อแม่บางคนกลับไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะของลูกเลย… คู่รัก Lindsey Shaw และ Paul Matthews ไม่เคยได้ยินเสียงหัวเราะของลูกสาวเลย เพราะ Emily วัย 2 ขวบ ป่วยด้วยโรค Aicardi Syndrome ซึ่งเป็นโรคหายาก และมีเพียง 4,000 คนจากทั่วโลก โรค Aicardi Syndrome ไม่สามารถกินอาหารเหมือนคนปกติได้ แต่ต้องกินข้าวด้วยวิธี PEG หรือการสอดสายผ่านทางหน้าท้องเข้าสู่กระเพาะโดยตรง นอกจากนี้บางกรณีก็อาจตาบอด และทรมานจากการชักกว่า 20 ครั้งต่อวัน (ตามการรายงานของ Gazette Live ) ดังนั้น Emily จึงต้องได้รับการดูแลอยู่แต่ในบ้าน และพ่อแม่ของเธอจะได้ออกจากบ้านเมื่อพาเธอไปโรงพยาบาลหรือเมื่อต้องเข้าบำบัดใน Zoe’s Place ซึ่งเป็นบ้านพักรับรองทารกเท่านั้น Lindsey ผู้เป็นแม่เผยว่า “ตอนฉันตั้งครรภ์นั้นทุกอย่างปกติดี และฉันไม่เคยรู้ว่ามีความผิดพลาดอะไรเลย ฉันยังได้เข้ารับการสแกนพิเศษ เพราะเมื่อไม่กี่ปีก่อนนี้ ฉันเคยแท้งลูกมาแล้วครั้งหนึ่ง” “หลังจากคลอดเธอออกมา ใน 2 สัปดาห์แรกทุกอย่างดูเหมือนปกติ แต่หลังจากนั้นเธอเริ่มมีอาการสำลักและหน้าซีด…
-
หนุ่มจีนเล่นพิเรนใช้ “สาย USB” ช่วยตัวเองจนดึงออกไม่ได้ แพทย์จึงต้องผ่าตัดเอาออกให้!!
เป็นที่รู้กันดีว่าสาย USB นั้น สามารถนำไปยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้หลากหลายหลังจากที่ไม่สามารถใช้การได้แล้ว เช่นอาจจะเอาไปใช้แทนเชือกผูกสิ่งของ หรือเป็นราวตากผ้าก็ได้นะ และอื่นอีกมากมาย แต่ก็คิดไม่ถึงเลยนะว่าจะมีคนพิลึกเอาสาย USB ไปใช้ช่วยตัวเองด้วย และเราจะไม่มีวันรู้เลยว่ามีคนคิดแบบนี้จริงๆ ถ้าเขาไม่เกิดพลาดจนสายไปติดอยู่ในอวัยวะเพศจนแพทย์ต้องช่วยเอาออก เรื่องราวนี้เกิดกับชายหนุ่มคนหนึ่งจากมณฑล Shaanxi ประเทศจีน ความคิดพิเรนนี้เกิดขึ้นเมื่อเขาเมาหนักมาก จึงช่วยตัวเองด้วยการใช้สาย USB เขาได้ไอเดียนี้มาจากคลิปวิดีโอที่เคยดู แล้วก็คิดว่า มันคงจะช่วยให้เขาสำเร็จความใคร่ได้จริงๆ แต่แล้วเขาก็พลาด เพราะหลังจากเสร็จแล้วเขากลับดึงสาย USB ออกมาไม่ได้!! เมื่อทนความเจ็บปวดไม่ไหว จึงตัดสินใจไปพบแพทย์แม้ต้องอับอายก็ตาม หลังจากผ่าเสร็จก็พบว่า สาย USB ที่ใช้มีความยาวถึง 20 เซนติเมตร คุณหมอบอกว่า “ชายหนุ่มคนนี้ได้เลียนแบบมาจากวิดีโอออนไลน์ที่สอนการช่วยตัวเอง เขาจึงได้ทำตามโดยการสอดสาย USB เข้าไปในท่อปัสสาวะ แต่เกิดพลาดท่าจนดึงออกไม่ได้” “ตอนที่เขามาถึง เขาอยู่ในสภาพที่เจ็บปวดและทรมานมาก เราจึงทำการผ่าตัดทันที และใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมง ในการเอาสาย USB ออก โดยต้องตัดออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน”…
-
ความรู้เรื่อง ‘การผ่าตัด’ ในศตวรรษที่ 19 ที่อาจดูน่าหวาดเสียวแต่ก็เกิดขึ้นจริง…
เราเคยสงสัยกันมั้ยว่า ในสมัยที่การแพทย์ยังไม่พัฒนาเหมือนวันนี้ คนในอดีตมีการรักษาอย่างไร? โดยเฉพาะการผ่าตัด ที่ไม่ใช่แค่มีมีดก็ผ่าได้ แต่ต้องห้ามเลือด ต้องทำความสะอาดเครื่องมือ แล้วพวกเขามีวิธีจัดการกับเรื่องเหล่านี้อย่างไร? หนังสือ Crucial Interventions: เป็นหนังสือที่มีภาพประกอบหลักการและการปฏิบัติของการผ่าตัดในศตวรรษที่ 19 โดยนักประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ Richard Barnett ซึ่งปัจจุบันหนึ่งสือนี้มีขายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป และเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจการผ่าตัดในประวัติศาสตร์ และนี่คือภาพส่วนหนึ่งจาก Crucial Interventions ที่ไม่ได้นำเสนอเพื่อล้อเลียน แต่เป็นการชี้ให้เห็นถึงบทบาทของศัลยแพทย์ในประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญในยุควิคตอเรีย Robert Liston ศัลยแพทย์ชาวสก็อตแลนด์ที่เป็นที่รู้จักในฐานะหมอผู้กำจัดเนื้อตาย เขาได้ผ่าตัดเอาเนื้อตายออกจากขาผู้ป่วย โดยใช้เวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้น ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบในการผ่าตัด ซึ่งเป็นการผ่าตัดครั้งแรกของอังกฤษที่วางยาสลบให้กับผู้ป่วย คำเตือน: หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีจิตใจอ่อน มิฉะนั้นคุณอาจเป็นลมระหว่างดูภาพต่างๆ ซึ่งเหล่านักวิจารณ์หนังสือก็ได้ออกมายืนยันว่ามันเป็นหนังสือที่มีความโดดเด่นมากที่สุดเล่มหนึ่ง จนได้มีการทำสำเนาเอาไว้ ซึ่งพบในคอเลคชั่นการแพทย์โบราณสมัยศตวรรษที่ 19 ของ Henry Wellcome Wellcome ทำอาชีพเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับยา มีชีวิตอยู่ในยุควิคตอเรียเขามีความสนใจเกี่ยวกับพัฒนาการทางการแพทย์ในประวัติศาสตร์ทั่วโลก ดังนั้นเขามักออกเดินทางไปยังที่ต่างๆ เพื่อรวบรวมสิ่งที่เขาสนใจ เขาได้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางในการผ่าตัดมากมาย ซึ่งบางภาพอาจจะดูไม่เหมือนกับความคิดของเราหรือที่เราเคยเห็น แต่ต้องเข้าใจว่าในสมัยนั้นเครื่องหรืออุปกรณ์ยังมีไม่พร้อม แต่ทั้งหมดนี้ก็นำมาสู่การพัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์รวมทั้งยาชาในปัจจุบัน เครื่องมือผ่าตัดจากศตวรรษที่ 19 เครื่องมือผ่าตัดมีทั้งเลื่อย มีด และกรรไกร ซึ่งนำมาใช้ในการผ่าตัดแขน ขา…
-
โทเร็ตโต้มาเอง!! หนุ่มซิ่งรถปิดหน้ารถบรรทุก เพื่อช่วยชีวิตเหล่าหมา ก่อนถูกส่งเข้าโรงเชือด
ถ้าใครที่เคยดูหนังดังอย่าง ‘Fast and the Furious’ คงจำได้ดีกับฉากที่เหล่าแก๊งค์พระเอก โชว์ทักษะการปล้นแบบขั้นเทพ ในระหว่างขับรถให้เรารู้สึกหวาดเสียวกันเล่นๆ จากการรายงานข่าวของ Dailymail เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมณฑลเหอหนาน ครั้งนี้มีความใกล้เคียงกัน ถึงแม้ว่าผู้ขับขี่จะไม่ได้ซิ่งแรงทะลุนรกเหมือนพี่วิน ดีเซลล์ ก็ตาม เรื่องมันมีอยู่ว่า กลุ่มมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์แห่งประเทศจีน ได้ทราบข่าวว่ามีรถบรรทุกคันหนึ่ง กำลังขนหมาจรจัด ไปยังโรงฆ่าสัตว์ แน่นอนว่า..เจ้าหมาทุกตัวต้องถูกเปลี่ยนสภาพ ให้กลายเป็นอาหารโดยที่พวกมันไม่สามารถช่วยตัวเองได้ พวกเขาต้องการที่จะหยุดรถบรรทุกคันนี้ ที่คาดว่ากำลังจะเดินทางเข้าสู่เมืองเทียนจิน เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิผู้ไม่ประสงค์ออกนาม วัย 26 ปี ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากรีบแซงรถบรรทุก ก่อนจะหักเข้าด้านหน้ารถบรรทุก ทำให้รถทั้งสองคันชนเข้าอย่างจัง หลังจากที่พวกเขาสามารถหยุดรถบรรทุกคันนี้ได้แล้ว เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิคนอื่นๆ จึงรีบเข้าไปดูอาการของหมาที่ถูกบรรทุกกันมาอย่างแออัด พบว่าพวกมันตกอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่เศร้าหมองสุดๆ ทุกตัวไม่ได้รับอาหาร หรือน้ำดื่มมามากกว่า 1 วัน อีกทั้งยังถูกกักขัง ต้องใช้ชีวิตอยู่ในลูกกรงขนาดเล็ก มีหมาหลากหลายสายพันธุ์ที่ถูกบรรทุกมาในครั้งนี้ บางครั้งพวกมันก็ถูกส่งไปทำเป็นอาหารในเกาหลีใต้อีกด้วย จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย และเจ้าหน้าที่ทุกคน รวมถึงคนขับรถบรรทุก…
-
คำพูดจากซานต้า “เธอไม่ได้ด้อยค่า เพราะเกิดมาเป็นออทิสติก” ทำให้เด็กชายมั่นใจมากขึ้น
การเกิดมารูปร่างผิดปกติ หรือมีความผิดปกติทางสมองนั้น ไม่ได้แปลว่า คุณจะดีกว่าหรือด้อยกว่าคนอื่น แต่คุณไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดาทั่วไปเลย โดยเฉพาะเด็กออทิสติก ที่ถูกมองว่าเป็นเด็กพิเศษ จนได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมือนเด็กทั่วไป ซึ่งนั่นอาจเป็นการทำลายความมั่นใจของคนคนหนึ่งไปเลยก็ได้ เช่นเดียวกับ Landon วัย 6 ขวบ ที่เป็นโรคออทิสติก จนกลายเป็นคนที่ไม่มั่นใจตัวเอง และนี่เทศกาลคริสต์มาสก็ได้ใกล้เข้ามาแล้ว เด็กชายจึงกลัวว่าจะไม่ได้ของขวัญจากซานต้า ดังนั้นเมื่อมีโอกาสครอบครัวจึงได้พาเขาไปพบกับ ลุงซานต้า ที่ห้าง RiverTown Crossings ในรัฐมิชิแกน เพื่อถามคำถามที่สำคัญมากๆ กับซานต้า และเขาก็อยากถามด้วยตัวเอง เมื่อได้เจอกัน Landon มีความกลัวลุงซานต้ามาก เขาได้เข้าไปหาซานต้าด้วยอาการเกรงๆ แล้วถามคุณลุงว่า “ถ้าผมเป็นเด็กออติสติก คุณจะเขียนชื่อผมให้อยู่ในรายชื่อเด็กดื้อมั้ยครับ?” ซานต้าจึงตอบโดยไม่ลังเลว่า “ไม่เลย ถ้าเป็นเธอ เด็กน้อย” แม้จะเป็นเพียงคำตอบสั้นๆ แต่ก็มีความหมายและมีพลังมากสำหรับ London เพราะหลังจากได้ฟังคำตอบ เขาก็ผ่อนคลายลงทันที Naomi แม่ของ Landon ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เฝ้ามองด้วยความแปลกใจ ที่ซานต้าทำให้เด็กชายหายกลัวได้ ซานต้ายังได้อธิบายให้ Landon ฟังเช่นเดียวกับที่แม่เฝ้าสอนมาตั้งแต่เด็กว่า “คุณจะไม่ดีกว่าหรือด้อยกว่า เพราะเพียงแค่คุณเกิดมาเป็นออทิสติก” …
-
10 นักแสดงที่ลงทุน ‘เปลี่ยนแปลงตัวเอง’ เพื่อให้สมบทบาท สมกับเป็นมืออาชีพ!!
การจะเป็นนักแสดงที่ดีได้นั้น คุณต้องเล่นได้ทุกบทบาท ที่สำคัญต้องมีความสมจริงมากที่สุด เพื่อให้คนดูอินไปกับตัวละครนั้น ดังนั้นนักแสดงบางคนถึงกับลงทุนเปลี่ยนแปลงตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลยก็มี เช่นเดียวกับนักแสดงเหล่านี้ที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เข้ากับบทบาทที่หลากหลาย ซึ่งไม่ใช่แค่การแต่งหน้าเท่านั้นแต่รวมถึงรูปร่างด้วย บางคนต้องเพิ่มความอ้วน บางคนต้องลดน้ำหนัก แสดงให้เห็นถึงการเป็นนักแสดงมืออาชีพนั่นเอง 1. แกรี่ โอลด์แมน การแปลงโฉมของโอลด์แมนจากภาพยนต์เรื่อง Dracula, True Romance, The Fifth Element, Interstate 60, Harry Potter ตามลำดับ ราวกับเป็นคนละคนกันเลยยังไงอย่างงั้น 2. เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ คาแรคเตอร์ต่างจาก Fight Club, Planet of the Apes, Harry Potter, Alice in Wonderland และ The King’s Speech 3. เอียน แมคเคลเลน อีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถ ที่ไม่ว่าบทไหนก็เล่นได้สมจริงเสมอ และนี่คือส่วนหนึ่จากเรื่อง Richard III, Rasputin, David Copperfield,…
-
จะเป็นอย่างไร!? และนี่คือ 12 สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าอยู่ดีๆ ‘ดวงอาทิตย์’ หายไป
ทุกวันนี้สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ดำรงชีวิตอยู่ได้ก็เพราะว่ามีดวงอาทิตย์เป็นปัจจัยหลัก เพราะดวงอาทิตย์เป็นแหล่งให้พลังงานเพื่อให้พืชสังเคราะห์แสงไปเป็นอาหารของทั้งคนและสัตว์ อีกทั้งยังให้พลังงานความอบอุ่นกับโลกอีกด้วย แต่ถ้าหากไม่มีดวงอาทิตย์ขึ้นมา คิดดูสิว่าโลกเราจะเป็นอย่างไร เราคงไม่มีอาหาร ไม่อาจแยกกลางวันกับกลางคืนได้ รวมถึงสิ่งอื่นๆ ก็คงจะสูญพันธุ์ไปจนหมดสิ้น และทั้งหมดนี้ 12 สิ่งที่จะเกิดขึ้น หากโลกของเราไม่มีดวงอาทิตย์ 1.หากดวงอาทิตย์ได้หายไปภายในระยะเวลา 8 นาที ดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่รอบๆ ก็จะหยุดลง เนื่องจากไม่มีแรงโน้มถ่วงจากดวงอาทิตย์ และจะเดินทางเป็นเส้นตรงจากจุดเดิมแทนการโคจรไปเรื่อยๆ 2.และ 1 นาทีต่อมา เราทั้งหมดก็จะอยู่ในความมืดมิดทันที 3. ในเวลานี้ เรายังคงสามารถมองเห็นดวงดาวที่มีแสงสว่างในตัวเองได้ แต่คุณจะไม่ได้เห็นแสงสว่างจากดวงจันทร์อีกต่อไป เนื่องจากไม่ได้รับแสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์ 4. ในอีกไม่กี่วันต่อมา อุณหภูมิของโลกจะเริ่มลดลง และภายในสองเดือนหลังจากนั้น อุณหภูมิก็จะติดลบ 92 องศาเซลเซียส และอีก 4 เดือนผ่านไป อุณหภูมิก็จะลดลงอีกเป็น 162 องศาเซลเซียส 5. แบคทีเรียส่วนใหญ่จะตายภายในไม่กี่วัน มีเพียงจุลินทรีย์เท่านั้นที่จะอยู่รอดบนเปลือกโลกได้ 6. มนุษย์ทั้งหมดอาจจะตายได้ในทุกเดือน แต่จะสามารถอยู่รอดได้ถ้าหากอยู่ในที่ที่ปิดสนิทและมีพลังงานให้ความอบอุ่นพอ หรือไปหลบอยู่ในเรือดำน้ำที่อยู่ลึกลงไปในมหาสมุทร …
-
“International SOS” เว็บไซต์ดูความเสี่ยงของประเทศก่อนไปเที่ยว ไทยติดขั้นอันตรายเรื่องท้องถนน!!
ถ้าวางแผนจะไปเที่ยวที่ต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่สำคัญเลยก็คือการดูว่าที่ที่เราไปเที่ยวนั้นปลอดภัยหรือไม่ เพราะว่าเราต้องมันใจว่าเราจะกลับมาบ้านแบบครบ 32 อันตรายก็มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไวรัสซิก้าที่กำลังระบาดอยู่ตอนไหน หรือว่าจะเป็นการก่อการร้ายหรือภัยพิบัติต่างๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องศึกษาให้ดีก่อนออกเดินทาง ถ้าคุณไม่รู้จะไปดูที่ไหน แนะนำให้เข้าเว็บไซต์ International SOS ซึ่งที่นี่ได้จัดทำแผนที่โลกพร้อมทั้งแบ่งสีให้เห็นอย่างชัดเจนเพื่อแบ่งระดับความอันตราย ซึ่งสถิติทั้งหมดมาจากการสำรวจจากนักท่องเที่ยวจริงๆ จากรอบโลก ส่วนมากแล้วคนมักจะเลือกประเทศที่ไม่มีการก่อการร้าย แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คืออัตราการเกิดอาชญากรรมและปัญหาท้องถนนนั่นเอง โดยทางเว็บไซต์ได้แบ่งความอันตรายออกเป็น 3 ประเภทได้แก่ ความเสี่ยงในการท่องเที่ยว ความเสี่ยงบนท้องถนน และความเสี่ยงต่อร่างกาย ซึ่งท่านสามารถดูได้จากแผนที่ชุดนี้ และในแผนที่ก็แสดงสีที่แตกต่างกันออกไป เพื่อแบ่งความอันตรายออกเป็นหลายประเภทได้แก่ สีเขียว – อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำมาก ไม่มีสัญญาณถึงการใช้ความรุนแรงในศาสนา การเมือง เชื้อชาติต่อชาวต่างชาติ มีความปลอดภัยและคอย่ชวยเหลือเป็นอย่างดี การเดินทางสะดวกและปลอดภัย สีเหลือง – อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ แทบไม่มีสัญญาณถึงการใช้ความรุนแรงในศาสนา การเมือง เชื้อชาติต่อชาวต่างชาติ มีการก่อการร้ายได้ยาก และก็สามารถทำให้เหตุการณ์สงบได้ถ้าเกิดเหตุจริง การขนส่งก็สะดวกและปลอดภัยในระดับนึง สีส้ม – มีการชุมนมการการเมืองบ้างเป็นระยะ มีการก่อการร้ายให้เห็น นักท่องเที่ยวอาจจะเสี่ยงกับความคุณแรงทางด้านเชื้อชาติ ศาสนาและอาชญากรรมด้วย การดูแลความปลอดภัยไม่ค่อยมั่งคง…