จากหญิงสาวที่เผลอหลับไป กลายมาเป็นโรค “เจ้าหญิงนิทรา” หลับจริงนานถึง 6 เดือน!!

Beth Goodier หญิงสาววัย 22 ปี ผู้ใช้ชีวิตอย่างธรรมดา แต่วันหนึ่งชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เธอต้องนอนวันละประมาณ 22 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ใช่เพราะว่าเธอขี้เกียจแต่อย่างใด แต่เธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค KLS (Kleine-Levin syndrome) หรือโรคเจ้าหญิงนิทรา

โรคนี้เกิดจากความผิดปกติทางระบบประสาทและอาจจะเกี่ยวเรื่องจิตใจด้วย โดยอาการคือผู้ป่วยจะเหนื่อยง่าย มีอาการง่วงหรืองัวเงียตลอดเวลา บางคนก็จะนอนตลอดหรือนอนเยอะกว่าคนอื่น และเมื่อตื่นขึ้นมาก็จะงัวเงียไม่สดชื่นเหมือนคนทั่วไป

 

มีอีกมากกว่าหนึ่งร้อยคนที่ประสบปัญหาเดียวกับเธอ ซึ่งก็คือโรคเจ้าหญิงนิทราที่ประเทศอังกฤษ

1-1

 

เธอนอนหลับเป็นเวลานานมากๆจนกระทั่งเธออายุได้ 16 ปี แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้เผลอหลับไปอีกครั้ง เธอเป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 6 เดือน ในแต่ละวันเธอทำได้แค่ตื่นมา ทานข้าว และทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็หลับไปอีกครั้ง

และที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือเธอไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าเธอจะหลับไปอีกครั้งเมื่อไหร่ ด้วยอาการนี้ทำให้เธอต้องหมดโอกาสหลายอย่างในชีวิตไป เช่นการเรียน การได้ทำงานดีๆ หรือการได้สนุกกับชีวิตเป็นเวลานานๆ

 

5 ปีที่แล้ว เธอเผลอหลับไปในเดือนพฤศจิกายน แล้วก็ตื่นอีกทีในเดือนเมษายน

1-2

 

Janine แม่ของเธอเล่าว่าลูกของเธอใช้เวลานอนหลับกว่า 75% มาตลอด 5 ปี

1-3

 

Dan แฟนของเธอก็อยู่กับเธอตลอดในช่วงเวลาที่เธอหลับ

1-4

1-5

 

ในแต่ละวัน เธอใช้เวลาหลับนอนกว่า 22 ชั่วโมง

1-6

 

ปกติแล้วเธอไม่ค่อยออกจากบ้านไปไหนไกลมาก แต่ถ้าออกไปก็ต้องนั่งวีลแชร์ เพราะว่าเธอเหนื่อยง่ายมากๆ เวลาเดิน

1-7

 

คุณแม่ก็ชินกับอาการเจ้าหญิงนิทราของลูกแล้ว

1-8

 

ไม่มีสิ่งไหนสามารถปลุกเธอได้ แม้กระทั่งยาหรือเสียงอันดัง

1-9

 

การนอนของเธอไม่ต่างจากแมวเลย ใช้เวลานอนพอๆ กัน

1-10

 

ในจังหวะที่เธอตื่นก็จะไปพบแพทย์บ้าง เพื่อเช็กดูว่าร่างกายปกติดีรึเปล่า

1-11

 

เธอได้เจอกับแฟนตอนนี้เธอยังเป็นโรคเจ้าหญิงนิทราอยู่ แน่นอนว่าทั้งสองพบกันตอนเธอตื่นนอนแล้ว

1-12

 

ตอนนี้เธออายุได้ 22 ปีแล้ว และสามารถรับมือกับโรคนี้ได้เป็นอย่างดี

1-13

 

ถือว่าเป็นโรคที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก แต่โชคดีที่เธอได้ครอบครัวที่ดี เลี้ยงดูเธอตลอด อีกทั้งแฟนหนุ่มก็เข้าใจในตัวเธออีกด้วย นั่นทำให้ชีวิตที่เหมือนจะแย่ก็ไม่ได้ดูเศร้าเท่าไรนักเลย

ที่มา lifebuzz

Comments

Leave a Reply