โอละพ่อ!! เรื่อง “เจ้าของเบียร์โคโรนาบริจาคมรดกให้คนทั้งหมู่บ้าน” ไม่เป็นความจริง

เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา เพื่อนคงได้อ่านข่าว “เจ้าของเบียร์โคโรน่าบริจาคมรดกให้กับคนยากจน” จากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อนอกหรือสื่อในบ้านเรา หรือแม้แต่เว็บไซต์ Catdumb เอง (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่)

แต่เราเสียใจที่ต้องบอกว่า ข่าวที่นำเสนอไปนั้นเป็นการเข้าใจผิด และเขาก็ไม่ได้บริจาคมรดกตามที่เป็นข่าวด้วย

ตามข่าวบอกว่า “เมื่อ Antonio ผู้ก่อตั้งเบียร์โคโรนาเสียชีวิตในวัย 98 ปี เขาได้บริจาคเงินให้กับหมู่บ้านยากจน หมู่บ้านละ 75 ล้านบาท รวม 80 หมู่บ้าน เพื่อให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น และมีความสุขกับความมั่งคั่งในแบบที่ไม่เคยได้รับ

เขาได้ก่อตั้งบริษัท โคโลนา ในปี 1925 ซึ่งจำนวนเงินที่เขาบริจาคทั้งหมดนั้นคาดว่าน่าประมาณ 6,000 ล้านบาทเลยทีเดียว”

เขากลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์จากทั่วโลก เช่น Google

Dailymail

Independent

รวมทั้งเว็บไซต์ของเราด้วย

และนี่คือข้อความสำคัญที่หลายเว็บไซต์ได้นำเสนอไป

แต่ความจริงแล้ว The Local รายงานว่า…

Lucía Alaejos ผู้อำนวยการ Fundanción Cerezales Antonino y Cinia ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมในเมืองที่ได้รับการสนับสนุนโดย Fernández บอกว่า “ผมเสียใจที่จะบอกทุกคนว่า ข่าวที่ถูกแพร่ออกไปนั้น ไม่เป็นความจริงครับ”

“แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง เพราะ Antonino ได้มอบสิ่งดีๆ หลายอย่างให้กับบ้านเกิดของเขา รวมทังก่อตั้งมูลนิธิต่างๆ แต่ทั้งหมดเขาได้ทำในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่“

ส่วนมรดกส่วนใหญ่นั้น เขาได้ทิ้งไว้ให้กับพี่น้องของเขาที่มีถึง 13 คนด้วยกัน เพราะเขาเองนั้นไม่มีลูก นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเขาได้ลงทุนไปมากมายเพื่อนทำให้คนในบ้านเกิดของเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เขาได้ทำให้ทุกบ้านมีน้ำกินน้ำใช้ ทั้งยังฟื้นฟูคริสจักรต่างๆ อีกมากมาย… และขอย้ำอีกครั้งว่า Antonino ไม่ได้ทำให้ทุกคนในเมืองนี้กลายเป็นคนรวยอย่างที่เป็นข่าว

ดังนั้นเมื่อความจริงได้ปรากฏ บางเว็บไซต์จึงเลือกที่จะลบข่าวนั้นทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดต่อไป

บางเว็บไซต์ก็ได้ออกมาแก้ข่าวตามความเป็นจริง

แล้วข่าวนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?  Diario de Leon ซึ่งเป็นนักข่าวของเว็บไซต์ MailOnline หลังจากเขาได้ไปอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่มีคำพูดที่อ้างว่าเป็นเจ้าของบาร์ในหมู่บ้านแห่งนี้ว่า “ที่ผ่านเราไม่เคยได้รับเงินมากมายขนาดนี้มากก่อนเลยครับ และถ้าไม่มี Antonino ก็ไม่รู้ว่าจเป็นยังไงต่อไป ต้องขอบคุณเขามากจริงๆ”

จากข้อความนี้ นำมาสู่ข่าวที่ทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิด แต่จริงๆ แล้วข้อความที่ว่านี้ก็ไม่สามารถหาแหล่งอ้างอิงได้ชัดเจน และคนที่ถูกอ้างถึงนี้จะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ไม่แน่ชัดอีก…

จากการนำข่าวที่ผิดพลาด ทางเราเองก็ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งนะคะ

ที่มา buzzfeed