Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
แม่หมาแอบซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ เพื่อรอให้มนุษย์ใจดี มาช่วยลูกน้อยแรกเกิดของมันทีละตัวๆ
Summer เป็นชื่อของแม่สุนัขตัวหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ตามถนนในเมืองลอสแอนเจลิสมาได้ระยะหนึ่งแล้ว มันถูกเลี้ยงดูโดยผู้คนในชุมชนแถวๆ นั้น อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาได้สังเกตเห็นว่ามันกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหมาได้ให้กำเนิดลูกของมัน ชาวบ้านก็ได้แจ้งไปยังมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ เพื่อต้องการไม่ให้ครอบครัวของเจ้า Summer ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบไร้คนดูแลอีกต่อไป “มันอยู่บนถนนได้สักพักหนึ่งแล้ว ผู้คนแถวๆ นั้นได้เลี้ยงดูมัน พวกเขาชื่นชอบมันมาก เพราะมันเป็นสุนัขที่น่ารัก เมื่อพวกเขารู้ว่ามันให้กำเนิดลูกน้อยในพุ่มไม้ นั่นทำให้พวกเขาได้ติดต่อมาหาเรา เพื่อที่จะให้แม่สุนัขและลูกน้อยของมันปลอดภัย ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด และมีสุขภาพที่ดีขึ้น” Eldad Hagar ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Hope for Paws กล่าว หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้รับรู้เรื่องราวของมัน พวกเขาก็รีบขับรถไปหา Summer ทันที ซึ่งมันได้คลอดลูกก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แถมยังซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้กับลูกๆ ของมัน เจ้าหมากำลังรอให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือในขณะที่มันกำลังดูแลลูกน้อยที่เพิ่งเกิดมาได้เพียง 1 ชั่วโมง และในขณะที่เจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง มันก็ดูมีความสุขมาก เจ้า Summer รอมนุษย์อย่างใจเย็น เพื่อให้พวกเขามาช่วยเหลือลูกของมัน เรารีบไปช่วยเหลือมันทันที และรู้สึกว่ามันเป็นสุนัขที่ดี แถมยังอ่อนโยนกับเรามากๆ”…
-
หนุ่มถูกปฏิเสธเข้าทำงานกว่า 45 ครั้ง เหตุเพราะรอยสักบนใบหน้า ที่พลาดได้มาตอนติดคุก!!
วันที่ 16 กรกฎาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เปิดเผยเรื่องราวของ Mark Cropp คุณพ่อวัย 19 ปี จากประเทศนิวซีแลนด์ ที่พยายามหางานทำแต่กลับไม่มีใครจ้าง เหตุเพราะเขามีรอยสักคำว่า “DEVAST8” (ซึ่งไม่ทราบความหมายแน่ชัด แต่จะออกเสียงคล้าย Devastate ซึ่งหมายถึงการทำลายล้าง) อยู่ครึ่งใบหน้านั่นเอง จากการรายงานระบุว่า เมื่อตอนที่ Mark อายุเพียง 17 ปี เขาถูกนำตัวเข้าคุมขังเป็นเวลานาน 2 ปีในข้อหาใช้อาวุธมีดปล้นนักท่องเที่ยว โดยในคืนหนึ่งขณะที่อยู่ในห้องขัง เขาได้ใช้เวลากับพี่ชายที่อยู่เรือนจำเดียวกันในการดื่มเบียร์ที่แอบทำขึ้นเอง จนทำให้เขาเมาไม่รู้ตัว งานนี้พี่ชายสุดแสบก็เลยตัดสินใจสักคำว่า DEVAST8 ให้กับน้องชายซะเลย และภายหลังจากที่ Mark ได้ตื่นขึ้นมา เขาก็รู้สึกตกใจกับรอบสักบนใบหน้าเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามเขายังก็คงไม่รู้สึกอะไรมากนัก เพราะคนที่อยู่ในคุกก็ล้วนแต่เป็นคนที่มีรอยสักกันทั้งนั้น แต่ความจริงแล้ว ใครจะรู้ล่ะว่ารอยสักดังกล่าวจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตโดยของเขา สองเดือนหลังจากที่ Mark ได้รับการปล่อยตัว เขาได้กลายเป็นคุณพ่อตกงาน นั่นเป็นเพราะรอยสักบนใบหน้า เลยทำให้ไม่มีนายจ้างคนไหนรับเข้าทำงานเลย แม้เขาอาจจะมีประสบการณ์ในการทำงานมาบ้างแล้วก็ตาม…
-
อ่ออ๊อยยย!! หนูน้อยถูกปรับเงิน 6,500 บาท หลังออกมาขายน้ำมะนาว แต่ไม่มีใบอนุญาต
วันที่ 20 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์มีรายงานว่า หนูน้อยชาวอังกฤษวัย 5 ขวบ ถึงกับหลั่งน้ำตา หลังจากที่เธอได้ทำน้ำมะนาวโฮมเมดขายให้กับผู้ที่ได้มาร่วมงานเทศกาลดนตรีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่โชคร้าย ที่ดั๊นมาถูกทางเจ้าหน้าที่ปรับเป็นเงินกว่า 150 ปอนด์ หรือราวๆ 6,500 บาท เหตุเพราะไม่มีใบอนุญาตขายของซะอย่างนั้น โถๆ น่าสงสารจังเลยลู๊กกกกก จากการายงานระบุว่า ในขณะที่หนูน้อยกำลังทำน้ำมะนาวขายให้ผู้ที่มาร่วมงาน Lovebox Festival ซึ่งอยู่ใกล้บ้านของเธอในย่าน Mile End ทางตะวันออกของกรุงลอนดอนอยู่นั้น ก็มีทางเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขต Tower Hamlets เข้ามาบอกว่า หนูน้อยทำการซื้อขายโดยไม่มีใบอนุญาต และให้ทำการหยุดขายน้ำมะนาวทันที ทั้งนี้ ยังมีการสั่งปรับเป็นจำนวนเงินถึง 6,500 บาทอีกด้วย ทางด้าน Andre Spicer ผู้เป็นพ่อและอาจารย์จาก City University ได้ออกมากล่าวว่า “เธอถึงกับร้องไห้ออกมาตลอดทางหลังจากที่เจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดขาย เธอมัวแต่พูดกับผมว่า พ่อค่ะ หนูทำสิ่งที่ไม่ดีลงไป เธอรู้สึกลำบากใจมากๆ เพราะเธอรู้สึกภูมิใจที่ได้ขายน้ำมะนาว แต่ก็ได้รับประสบการณ์แย่ๆ กลับมา มันไม่ใช่ว่าเธอกำลังพยายามหารายได้มหาศาล…
-
คุณปู่วัย 80 ลงทุนเดินเท้าไกลกว่า 60 กิโลเมตร เพื่อนำ ‘ไข่’ ไปให้หลานชายถึงที่ทำงาน
วันที่ 20 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ คุณปู่วัย 80 ปีรายหนึ่ง ที่แบกตะกร้าเอาไว้บนหลัง กำลังเดินช้าๆ อยู่บนถนนในเมืองจุนอี้ มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ซึ่งภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปสอบถาม ก็พบว่า คุณปู่ท่านนี้ กำลังเดินทางไปหาหลานชายของเขา เนื่องจากเขาเป็นห่วงหลานชายที่ทำงานหนัก และกลัวว่าจะกินไม่อิ่ม ด้วยเหตุนี้ คุณปู่จึงได้แบกตะกร้าที่ใส่ไข่ไก่หลายสิบฟองไปหาเขา โดยได้เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้าของวันจันทร์ไปยังเมืองจุนอี้ โดยมีระยะทางไกลถึง 60 กิโลเมตร ซึ่งก็ใช้เวลานานกว่า 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม คุณปู่ได้เผยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุที่เขาเลือกที่จะไม่นั่งรถยนต์นั้น ก็เพราะว่าต้องการที่จะประหยัดเงิน แต่เขาก็ยอมรับว่าในขณะที่เดินทางเป็นเวลานาน มีไข่แตกไปแล้วหลายใบ ภายหลังจากที่พบหลานชายของคุณปู่ เขาก็ได้ออกมาเผยว่า เขาไม่รู้เลยว่าคุณปู่จะเดินทางมาหาเขาพร้อมกับนำไข่มาให้ ซึ่งเขาก็ได้บอกว่าจะพาคุณปู่ออกไปทานอาหารอร่อยๆ หลังจากเดินทางมานานหลายชั่วโมง ขณะที่ภาพการเดินทางของคุณปู่วัย 80 ได้ถูกนำไปแชร์บนโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาก็ได้ออกมาแบ่งปันเรื่องราวน่ารักๆ ระหว่างพวกเขากับปู่ย่าตายายที่พวกเขารัก ทั้งนี้ มีชาวเน็ตอีกหลายๆ…
-
แก๊งวัยรุ่นหัวเราะเยาะเย้ย ชายพิการที่กำลังจมน้ำ และปล่อยให้เขาจมน้ำตาย ไปต่อหน้าต่อตา…
เจ้าหน้าที่ในรัฐ Florida เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าหดหู่ เมื่อมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุ 14 ถึง 16 ปี ที่กำลังอัดวิดีโอและหัวเราะชายหนุ่มพิการวัย 32 ปีที่กำลังจมน้ำ โดยที่ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ เลยแม้แต่น้อย คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกไว้ในช่วงเที่ยงของวันที่ 9 กรกฏาคม 2017 ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเผยให้เห็นภาพวินาทีแห่งชีวิตของคุณ Jamel Dunn ที่กำลังตะเกียกตะกายและขอความช่วยเหลือ จากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่กำลังยืนเยาะเย้ยเขาอยู่ ถึงแม้ว่าคุณ Dunn จะพยายามร้องขอความช่วยเหลือมากแค่ไหน พวกเด็กๆ ก็ยังคงไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเขา จนในที่สุดชายหนุ่มพิการก็ต้องพบกับความตาย หลังจากนั้น 3 วันร่างของชายหนุ่มก็ถูกกู้ออกมาจากบ่อน้ำแห่งนั้น ทางด้านตำรวจได้อธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าว่า พวกเด็กๆ ได้เตือนชายคนดังกล่าวแล้วว่าไม่ควรลงไปในบ่อน้ำนั้น “พวกเด็กๆ ที่กำลังนั่งสูบบุหรี่และกัญชากันอยู่บริเวณนั้น เห็นชายคนนี้เดินลงไปในบ่อน้ำด้วยตัวเอง พวกวัยรุ่นได้บอกเขาแล้วว่าห้ามลงไป” คุณ Yvonne Martinez โฆษกจากสถานีตำรวจ Cocoa Police กล่าว แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเห็นชายหนุ่มกำลังจมน้ำต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจเลย “เมื่อชายหนุ่มเริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ พวกเด็กๆ ก็เริ่มหัวเราะเยาะเขา ไม่มีใครโทรแจ้งตำรวจ พวกเขาเอาแต่หัวเราะและปล่อยให้ชายคนนั้นจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา” คุณ Martinez กล่าว “ออกมาจากน้ำ ไม่อย่างนั้นคุณจะตายนะ!! ” เด็กหนุ่มคนหนึ่งกล่าว และอีกคนก็ตะโกนว่า…
-
เพื่อนบ้านเซ็ง!! หนุ่มจีนจอดรถขวางหน้าบ้าน กว่าจะมาอีกหลายเดือน เพราะบินกลับประเทศไปแล้ว
เรื่องราวของหนุ่มนักเรียนจีนขี้ลืม ที่เผลอจอดรถขวางทางหน้าบ้านของสามีภรรยาคู่หนึ่ง แล้วบินกลับบ้านที่ประเทศจีนในช่วงปิดเทอมหน้าตาเฉย!! คุณ Tom และภรรยาของเขาคุณ Julia Ebenezer ถึงกับต๊กกะใจเมื่อเห็นรถ Citroen C4 สีดำจอดขวางหน้าบ้าน หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงบ้าน พร้อมกับพบจดหมายน้อยแผ่นหนึ่งแนบไว้ที่หน้ารถ เนื้อความภายจดหมายของหนุ่มนักศึกษาชาวจีนที่เช่าห้องอยู่ฝั่งตรงข้ามกล่าวว่า “สวัสดีครับ ผม Jack เอง ขอบคุณมากนะครับสำหรับที่จอดรถ ผมจะกลับมาในวันที่ 15 กันยายน” รถคันดังกล่าวจอดอยู่หน้าบ้านคุณ Tom เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์แล้ว โดยที่ชายแก่วัย 76 ไม่สามารถที่จะย้ายรถคันดังกล่าวออกไปได้เลย จดหมายน้อยที่แนบไว้ด้วย นอกจากจะขอบคุณเรื่องที่จอดรถแล้ว ยังขอให้ช่วยดูแลต้นไม้ที่เค้าปลูกไว้อีกต่างหาก!? “เจ้าของรถคันนี้คือหนุ่มนักเรียนชาวจีนที่เช่าบ้านอยู่ตรงข้ามบ้านผม และดูเหมือนว่าเขาจะกลับบ้านในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน เมื่อไหร่ที่ผมออกมานอกบ้านและเห็นรถคันสีดำนี้ผมรู้สึกรำคาญลูกตาจริงๆ ” คุณ Tom กล่าว “ทางการบอกกับเราว่าถ้าอยากจะย้ายรถ ก็ต้องระมัดระวังให้มากเพราะอาจจะทำให้รถเสียหาย แต่ไม่ว่าจะจ้างใครมา ก็ไม่มีใครยอมย้ายให้เรา เพราะไม่อยากจะเสี่ยงทำให้ตัวรถเสียหาย” จนในที่สุดแล้วนักเรียนชาวจีนก็ได้โทรมาหา Julia เพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น และสัญญาว่าจะส่งกุญแจรถผ่านทางไปรษณีย์มาให้พวกเขา เพื่อที่จะได้ย้ายรถออกไป (แต่ก็ไม่รู้ว่ากุญแจจะหายไปกลางทางรึเปล่า) เป็นใครก็ต้องเซ็งกันบ้างใช่ไหมล่ะ เล่นจอดทิ้งไว้เป็นเดือนๆ แบบนี้ ที่มา thesun
-
ประทับใจ!! อดีตทหารออกบินไปทั่วอเมริกา เพื่อช่วยเหลือสัตว์จรจัดมากกว่า 700 ตัว
แม้ในทุกๆ วันเราอาจจะได้ยินข่าวที่ไม่ค่อยสู้ดีอยู่บ่อยๆ แต่ต้องยอมรับเลยว่าความจริงแล้วยังมีเรื่องราวดีๆ และน่าชื่นชมมากมายเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ในทุกๆ วันเช่นกัน เหมือนดั่งเช่น เรื่องราวของอดีตทหารผ่านศึกคนนี้ ที่เดินทางไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยชีวิตสัตว์มากกว่า 700 ตัว โห…สุดยอด!! Paul Steklenski อดีตทหารขับรถถังวัย 45 ปี จากเมือง Schwenksville รัฐเพนซิลเวเนีย ยอมควักเงินในกระเป๋าตัวเองจำนวน $65,000 (ราวๆ 2,100,000 บาท) ในการซื้อเครื่องบินเพื่อออกเดินทางช่วยเหลือสุนัขจรจัดทั่วอเมริกา โดยก่อนหน้าที่จะมีเครื่องบินบรรทุกสัตว์ส่วนตัว Paul จะเช่าเครื่องบินจากรัฐเพนซิลเวเนีย เพื่อบินไปยังรัฐนอร์ทแคโรไลนา ก่อนจะนำสัตว์ที่ช่วยเหลือไปยังพื้นที่ในนิวยอร์ก โดยในปี 2013 เข้าได้เรียนและฝึกฝนการบินเป็นกิจกรรมอดิเรก และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเขาก็มีความรู้สึกที่อยากจะช่วยเหล่าสัตว์จรจัดด้วย และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขาทำการสอบใบอนุญาตขับเครื่องบิน สำหรับ Paul แล้ว เรียกได้ว่าเขาได้สร้างเรื่องราวสุดประทับใจจนทำให้ผู้คนโดยเฉพาะคนรักสัตว์ ซาบซึ้งในน้ำใจของไปตามๆ กัน โดยเขาได้ใช้ใบอนุญาตการบินที่ได้ผ่านการฝึกฝนมา เพื่อนำไปช่วยชีวิตสัตว์ผู้น่าสงสารได้มากมาย ในเดือนพฤษภาคมปี 2015 เขาได้จัดตั้งมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Flying Fur…
-
คุณแม่วัย 30 ขายภาพเรือนร่างตัวเอง โดยมีสามีเป็นคนถ่ายให้ สร้างรายได้กว่า 160,000 บาท!?
ต้องยอมรับเลยนะว่าในปัจจุบันสื่อออนไลน์ มีอิทธิพลต่อชีวิตของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งสื่อเหล่านี้ก็มีทั้งข้อดี และข้อเสียปะปนกันไป บ้างคนก็ใช้สื่อเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ในขณะที่บางคนใช้สื่อเพื่อหารายได้ เหมือนดังเช่น Summers VonHesse คุณแม่ลูก 2 วัย 30 ปี จากรัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกาคนนี้ เธอสามารถหารายได้บนโลกออนไลน์ได้มากถึง 5,000 ดอลลาร์ ราวๆ 167,000 บาทต่อเดือน จากการขายภาพและคลิปวีดีโอโชว์เรือนร่างลงผ่านเว็บไซต์ Patreon ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Summers สามารถทำรายได้มากกว่า 167,000 บาทต่อเดือน ด้วยการขายภาพเซ็กซี่ของตัวเองทางโลกออนไลน์เท่านั้น โดยหลังจากที่ภาพของเธอได้ถูกโพสต์บนเว็บไซต์นั้น ก็มีผู้คนจำนวนมากยอมจ่ายเงินตั้งแต่ 160 บาทไปจนถึง 1,600 บาท เพื่อเข้าไปดูชุดภาพโชว์เรือนร่าง รวมถึงคลิปวีดีโอของเธอที่อยู่ในชุดว่ายน้ำสุดเซ็กซี่ หรือแม้กระทั่งมาในแบบเปลือยทั้งตัว สำหรับภาพสุดเซ็กซี่เหล่านั้น Summers ได้ออกมาเผยว่า สามีของเธอเป็นผู้ที่ได้ถ่ายให้ทั้งหมด พร้อมกับช่วยสนับสนุนเธอ ซึ่งมันก็ทำให้เธอรู้สึกดีมากๆ เลยละ ภายหลังจากที่เธอได้ออกมาโชว์เรือนร่างหลังการคลอดลูกลงบนอินสตาแกรมในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ทำให้มีผู้คนเข้ามาติดตามเธอเป็นจำนวนมาก จนในตอนนี้มีผู้คนติดตามมากกว่า…
-
แก่มีไฟ!! รวมภาพถ่ายผู้สูงอายุแห่งเกาะอังกฤษ ที่ไม่ยอมเหี่ยวเฉา และยังคงความเก๋าไว้อยู่
คนเราเมื่อมีอายุที่มากขึ้น เราก็มักจะคิดว่าพออายุเยอะแล้ว เราจะทำอะไรเหมือนสมัยวัยรุ่นไม่ได้อีกต่อไป จากเคยเป็นคนห่ามๆ ก็อาจจะน้อยๆ ลงหน่อย หรือเคยเป็นชาวร็อคไม่ก็ไบค์เกอร์ ก็อาจจะกลับมาเป็นคนปกติธรรมดาแทนอะไรทำนองนี้ ซึ่งมันทำให้ Mui Vidler ช่างภาพชาวอังกฤษเกิดสงสัยว่า คนแก่ที่เคยห่ามๆ จะต้องกลายมาเป็นคนปกติตามวัยจริงๆ อย่างนั้นเหรอ ด้วยเหตุนี้เขาจึงสร้างสรรค์ชุดผลงานใหม่ขึ้นมา ในชื่อว่า “Rebels without a Pause” ตัวงานชุดนี้ก็จะเป็นการรวมภาพและเรื่องราวของกลุ่มคนสูงอายุในอังกฤษ ที่ไม่ยอมให้อายุมาเป็นตัวกำหนดและหยุดพวกเขาไว้กับที่ ว่าแต่จะเป็นยังไงนั้นลองมาดูกันเลยดีกว่า… คุณยาย Isobel Varley ผู้เริ่มสักเมื่อตอนอายุ 48 ปี และยอมรับว่าตัวเองชอบรอยสักมากๆ จึงเริ่มสักเริ่มจากตามส่วนต่างๆ และทำอะไรห่ามๆ มากกว่าที่เคย จนตอนนี้คุณยายแกเป็นหญิงสูงวัยที่สักเยอะที่สุดในโลกและได้ยอมรับจากกินเนสบุ๊คด้วยนะ (ด้านซ้ายคือสามีของเธอ ซึ่งไม่สักหรือไม่เจาะอะไรเลย) Sid Ellis คุณตาผู้หลงใหลในการเป็นเจ้านายทาส ซึ่งแน่นอนว่าคุณตาแกก็มีบ่าวจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน Danny Lynch คุณตาผู้เคยทำงานอยู่ในคณะละครสัตว์ แต่พออายุเยอะก็ออกมาใช้ชีวิตกับภรรยาและสุนัขหนึ่งตัวนอกชานเมือง แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งฝีไม้ลายมือในการพ่นไฟเลย ถ้าใครคิดว่าพออายุเยอะแล้วจะต้องเลิกเล่นกีฬาเอ็กซ์สตรีมแล้วล่ะก็ คงต้องคิดใหม่ เพราะ Adrian Delgoffe คือคุณตาที่ชอบเล่นสเก็ตบอร์ดมาก จนตอนนี้อายุเยอะแล้วก็ยังไม่เลิกเล่นเสียที แก่แต่เก๋าของจริง…
-
เจ้าหนูวัย 9 ขวบสะดุดล้มกับก้อนหิน ดันพบซากดึกดำบรรพ์อายุกว่า 1,000,000 ปี โดยบังเอิญ!?
เรื่องราวน่าประหลาดใจมักเกิดขึ้นกับเราได้เสมอ เหมือนกับเจ้าหนูวัย 9 ขวบคนนี้ที่บังเอิญเดินไปพบกับโครงกระดูกสัตว์ดึกดำบรรพ์ จนกลายเป็นอีกหนึ่งการค้นพบที่ยิ่งใหญ่มากๆ วันหนึ่งระหว่างที่เจ้าหนู Jude Sparks กำลังเดินเล่นกับครอบครัวในเมือง Las Cruces รัฐนิวเม็กซิโก หนูน้อยได้สะดุดเข้ากับหินก้อนใหญ่ และเมื่อพวกเขาลองตรวจสอบที่หินก้อนนั้นดูกลับพบว่ามันคือกรามของสัตว์โบราณขนาดใหญ่!! เจ้าหนูและกรามขนาดใหญ่ของช้างดึกดำบรรพ์ที่เขาพบโดยบังเอิญ “มันเป็นมีรูปร่างแปลกมาก ผมคิดว่ามันไม่ใช่วัตถุธรรมดาที่เราสามารถพบได้ทั่วไป” เด็กน้อยให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสำนักข่าว New York Times เมื่อวันอังคารที่ 18 กรกฏาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นพ่อและแม่ของเจ้าหนูได้ถ่ายรูปของเจ้าวัตถุก้อนนี้ แล้วส่งไปให้คุณ Peter Houde ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาประจำมหาวิทยาลัย New Mexico State University หลังจากนั้นไม่นานศาสตราจารย์ Houde ก็รีบมายังสถานที่ที่พบโครงกระดูกดังกล่าว เขาบอกว่าโครงกระดูกนี้เป็นของพวก Stegomastodon สัตว์ดึกดำบรรพ์รูปร่างคล้ายช้างที่สูญพันธุ์ไปกว่า 1,200,000 ปีแล้ว ทีมสำรวจเริ่มลงมือขุดซากโครงกระดูกทันทีที่มาถึง “พวกเราดีใจมากๆ ที่พวกเขาติดต่อเรามา เพราะถ้าหากพวกเขาไม่ติดต่อเรามา หรือพยายามที่จะขุดโครงกระดูกนั้นด้วยตัวเองอาจทำให้เราสูญเสียฟอสซิลชิ้นสำคัญไปเลยก็ได้” ศาสตราจารย์ Houde กล่าว โครงกระดูกของ Stegomastodon หลังจากที่ถูกขุดขึ้นมา “เราควรจัดการกับซากดึกดำบรรพ์ที่พบด้วยความรู้และความระมัดระวัง” ศาสตราจารย์กล่าวทิ้งท้าย ไปชมการชุดกู้ซากดึกดำบรรพ์และการให้สมัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ Houde ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา boredpanda
-
ได้ด้วยเหรอ? หนุ่มอาศัยอยู่กับผึ้งทั้งรัง มานานกว่า 12 ปี จนกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน!!
ใครที่เคยโดนผึ้งต่อยมาแล้วครั้งหนึ่ง คงจะจำได้ดีกับความรู้สึกเจ็บปวดจากเหล็กในของผึ้งที่ทำให้เรารู้สึกไม่อยากอยู่ใกล้พวกมันอีกเลย แต่สำหรับหนุ่มจีนผู้มีนามว่า Yongfu Li กลับแตกต่างออกไป เพราะเขาเป็นชายผู้หลงใหลผึ้งและมีความสุขที่ได้อยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกับผึ้งมานานกว่า 12 ปี!! ฟาร์มผึ้งที่อื่นอาจจะต้องเลี้ยงผึ้งอย่างระมัดระวัง แต่สำหรับบ้านหลังนี้พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างเสรี เรื่องราวทั้งหมดกลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลกโซเชียลจีน หลังจากที่แชนแนล PearVideo ได้นำเสนอเรื่องราวของหนุ่มจีน ผู้ปล่อยให้ผึ้งทำรังในบ้านของตัวเองจนกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน หากมองอีกแง่หนึ่งอาจเป็นความเชื่อเรื่องโชคลางก็ว่าได้ เพราะวันที่ฝูงผึ้งเหล่านี้ได้เดินทางมาทำรังในบ้านของเขา เป็นวันเดียวกับที่เขาจัดงานแต่งงานนั่นเอง “วันที่ผึ้งมาทำรังนับว่าเป็นวันดี และผมว่าพวกมันก็รู้ตัวเหมือนกัน อาจารย์ฮวงจุ้ยผมบอกว่าผึ้งเหล่านี้เดินทางมาทำงานให้ผม” นาย Li เล่า จากคำแนะนำของซินแสฮวงจุ้ย Yongfu Li จึงได้ปล่อยให้ฝูงผึ้งทำรังอยู่ในห้องนั่งเล่นของตัวเองมานับตั้งแต่วันนั้น และดูเหมือนคำทำนายจะกลายเป็นเรื่องจริง… เพราะในรอบหนึ่งปีเขาสามารถเก็บน้ำผึ้งสดๆ จากรังของพวกมันได้ถึง 3 ครั้ง ครั้งละ 5 กิโลกรัม ก่อนจะนำไปขายในท้องตลาดและสร้างรายได้เสริมให้เขาปีละ 3,045 หยวน (ราว 15,000 บาท) และที่สำคัญเจ้าตัวยังเคลมว่า ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยถูกผึ้งต่อยเลยแม้แต่ครั้งเดียวอีกด้วย!! …
-
‘Picher’ แห่งโอคลาโฮมา เมืองปนเปื้อนสารพิษที่มากที่สุดใน USA ไม่อาจอาศัยอยู่ได้เลย!!
ถ้าพูดถึงเรื่องเมืองร้างหลายคนอาจจะนึกถึงภาพของเมือง ‘Silent Hill’ ที่เคยทำออกมาเป็นทั้งเกมและหนังมาให้เราได้รู้สึกขวัญผวากันมาแล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่าโลกเราจะมีเมืองร้างที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้จริงๆ และหนึ่งในนั้นก็คือเมือง ‘Picher’ จากรัฐโฮคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมือง Picher เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของ Ottawa County แล้วเหตุใดกันที่ทำให้อดีตเมืองอุตสาหกรรมแห่งนี้ กลายเป็นเมืองร้างที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้..? ย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (ไม่มีการระบุปีที่แน่ชัด) Picher ได้เป็นหนึ่งในเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลาง 3 รัฐใหญ่ที่ทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และแน่นอนว่าครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ทว่าเดือนกันยายน ปี 2009 หนึ่งปีให้หลังจากการเกิดเหตุการณ์ทอร์นาโดครั้งรุนแรงระดับ EF4 ที่พรากชีวิตชาวเมืองไปกว่า 8 ชีวิต และทำลายอาคารบ้านเรือนไปกว่า 150 หลัง แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้เมืองร้าง ปัญหาที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อพบว่า น้ำสะอาดและดินของเมืองนี้ปนเปื้อนไปด้วยธาตุโลหะหนักจำนวนมาก ย้อนกลับไปในปี 1913 ได้มีนายทุนคนหนึ่งนามว่า Harry Crawfish ได้ค้นพบและนำทีมมาขุดแร่ในบริเวณดังกล่าว ทำการเปิดตลาดขายแร่ จนเริ่มพัฒนาเป็นบริษัทเหมืองแร่ Picher Lead Company เนื่องจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1…
-
จีนประกาศแบน “จัสติน บีเบอร์” ห้ามเข้ามาแสดงในประเทศ เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
เมื่อพูดชื่อ Justin Bieber (จัสติน บีเบอร์) คงมีน้อยคนนักที่ไม่รู้จัก เพราะเขาเป็นศิลปินที่ประสบความสำคัญมากที่สุดคนหนึ่ง เมื่อไปที่ไหนก็มีแต่คงกริ๊ดกร๊าดตลอดเวลา แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะตอนนี้เว็บไซต์ Businessinsider ได้รายงานว่าพ่อหนุ่มจัสตินถูกประเทศจีนแบนห้ามเข้ามาแสดงในประเทศโดยเด็ดขาด และตอนนี้มันก็สายเกินจะขอโทษแล้ว…It too late now to say sorry? ใครที่ติดตามจัสตินอยู่จะรู้ว่าขณะนี้เขากำลังอยู่ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต Purpose World Tour ในเอเชีย ซึ่งเป็นโปรเจกล่าสุดของเขา แต่สำหรับประเทศจีนแล้วพวกเขาไม่ได้เตรียมการต้อนรับหรือจัดสถานที่ไว้เพื่อจัสตินเลย หนึ่งในแฟนคลับของเขาได้ตั้งคำถามในเว็บไซต์ของ Beijing Municipal Bureau of Culture หรือกระทรวงวัฒนธรรมของจีน ว่าทำไมศิลปินผู้มีพรสวรรค์พิเศษอย่างจัสตินถึงไม่ได้ไปแสดงในจีน? ต่อมาทางได้มีการชี้แจงผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการว่า “จัสตินเป็นนักร้องที่มีพรสวรรค์ แต่เขาเป็นนักร้องหนุ่มที่กำลังมีปัญหาอยู่” “เท่าที่เรารู้คือเขามีพฤติกรรมที่ไมเหมาะสม ทั้งในสังคมของเขาเองและวีรกรรมก่อนหน้าที่เกิดขึ้นในประเทศจีน จนทำให้เกิดความไม่พอใจในคนหมู่มาก” ทั้งนี้กระทรวงวัฒนธรรมของจีนอาจจะหมายถึงการทัวร์คอนเสิร์ต Believe tour ของจัสตินในจีนเมื่อปี 2013 เพราะในระหว่างอยู่ในจีนเขาได้สร้างความเสียหายให้กำแพงเมืองจีนโดยบอดี้การ์ดของเขาเป็นผู้เผยแพร่ภาพดังกล่าว นอกจากนี้เขายังเคยถูกจับกุมในไมอามีเมื่อ 3 ปี ก่อน เนื่องจากมียาเสพติดและแอลกิฮอล์ซุกซ่อนอยู่ในรถแลมโบกินีของเขา นอกจากนี้ทางเว็บไซต์ยังระบุอีกว่า “เราหวังว่าจัสตินจะสามารถปรับพฤติกรรมของเขาได้เมื่อโตขึ้น เพื่อที่จะกลับมาได้รับความนิยมจากมวลชนอีกครั้ง” จัสตินจะว่าไงละทีนี้? ที่มา businessinsider
-
ถ้ำน้ำท่วมไม่น่าเที่ยว แต่สวนสาธารณะแห่งนี้ เมื่อน้ำท่วมจะเปลี่ยนเป็น “ทะเลสาบสุดงาม”
วันนี้เหมียวขออาสาพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวทะเลสาบแห่งหนึ่งในประเทศออสเตรีย ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ทะเลสาบหรอกนะ แต่เป็นเฉพาะช่วงๆ หนึ่งของปีเท่านั้น ฟังดูอาจจะงง ลองมาชมกันดูก่อนดีกว่า อิอิ Green Lake คือชื่อของที่นี่ รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านรอบๆ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับภูเขา Hochschwab ในออสเตรีย กรีนเลค หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ทะเลสาบกรูเนอร์ ตั้งอยู่ในรัฐสติเรีย ประเทศออสเตรีย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักดำน้ำเป็นอย่างมาก เพราะที่แห่งนี้มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เป็นทะเลสาบสีเขียวมรกต ใต้น้ำก็ใสแจ๋ว ซึ่งในช่วงฤดูหนาวทะเลสาบแห่งนี้จะมีความลึกเพียง 1-2 เมตรเท่านั้น สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้ชัดเจน ซึ่งเมื่อหิมะตกในฤดูหนาว และมาถึงช่วงฤดูร้อน หิมะพื้นที่รอบๆ จะละลายมารวมที่นี่ ทำให้มันกลายเป็นทะเลสาบ แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ น้ำในทะเลสาบก็จะเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะหิมะเริ่มละลายนั่นเอง โดยจะมีความลึกประมาณ 12 เมตร ทำให้พื้นที่รอบๆ ทะเลสาบกลายเป็นพื้นที่ใต้น้ำ ทั้งต้นไม้ สะพาน และม้านั่งก็โดนน้ำท่วมจมอยู่ในทะเลสาบ เรียกได้ว่าตั้งแต่ราวๆเดือนกรกฎาคม พื้นที่จะมีสภาพเป็นแบบนี้เลย โดยความลึกจะอยู่ราวๆ 3…
-
คุณพ่อเดือด หลังโรงเรียนไม่ยอมให้ลูกออทิสติกไปร่วมงานกีฬาสี เพราะกลัวทำเสียงาน..!?
นับว่าเป็นอีกเหตุการณ์ที่คงไม่มีผู้ปกครองคนไหนอยากให้เกิดขึ้นกับลูกของตัวเอง เมื่อลูกชายตัวน้อยถูกโรงเรียนปฏิเสธไม่ยอมให้เข้าร่วมงานกีฬาสี โดยให้เหตุผลว่า ‘กลัวทำเสียงาน’ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานเรื่องราวของคุณพ่อวัย 28 ปี Mark Birchall ผู้ออกมาร้องทุกข์หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับลูกชายผู้ป่วยเป็นออทิสติก Mark Birchall และ Jacob ลูกชายของเขา โดยคุณพ่อได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่โรงเรียน Banks Road Primary School ประจำเมืองลิเวอร์พูล ได้จัดงานกีฬาสีประจำปีขึ้น ทว่าคุณพ่อกลับได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นว่า ขอไม่อนุญาตให้ Jacob เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา เนื่องจากคุณครูเกรงว่าถ้าหากเขาแพ้การแข่งขันแล้ว เด็กชายจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์และอาจทำให้งานพังได้ เหรียญที่คุณพ่อนำมามอบให้ลูก หลังจากที่พวกเขาจัดงานแข่งขันกีฬากันเองในครอบครัว “ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจของบุคลากรที่ไม่แฟร์เอาซะเลย พวกเขาแก้ปัญหาด้วยการไม่ให้ลูกเราเข้าร่วมงานเพียงเพราะเขามีป่วยเป็นออทิสติก และนั่นก็เป็นข้อห้ามสำคัญที่คุณไม่ควรทำกับเด็กที่มีอาการป่วยผิดปกติ” คุณพ่อให้สัมภาษณ์ หลังจากที่เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดังในท้องถิ่น ทางครูใหญ่ของโรงเรียนก็ได้ออกมายอมรับว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิด และทางโรงเรียนก็ยินดีที่จะแก้ไขไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก ลิเวอร์พูลเป็นอีกเมืองที่ประกาศว่า จะพัฒนาให้กลายเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อผู้ป่วยออทิสติก…
-
ศิลปินใช้เทคโนโลยีสร้างผลงาน “แสงสีสามมิติ” ในธรรมชาติ เกิดเป็นภาพที่งดงามตระการตา
แสงโดยปกติแล้ว ตัวของมันเองอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไร เพราะเราเห็นกันจนชินตาไปแล้ว แต่หากเรานำมันมาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์จะเห็นว่ามันเป็นงานศิลปะที่งดงามไม่น้อยเลย เหมือนกับ Light Ragaz ที่เป็นการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยให้ออกมาเป็นภาพ 3 มิติ บนโขดหินในถ้ำ Tamina Gorge ที่อยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเข้าไปในถ้ำประมาณ 80 เมตร จะพบกับผนังถ้ำที่เป็นหินดิบ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหินที่มีความงดงามและหายาก ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับสร้างผลงาน 3 มิติ ที่นั่น Light Ragaz ถูกสร้างขึ้นในถ้ำโดยทีม projektil ซึ่งทอดยาวเรียงกันประมาณ 1000 เมตร และตลอดระยะทางนี้จะเต็มไปด้วยภาพ 3 มิติที่แตกต่างกัน ภาพ 3 มิติที่เห็นอยู่ผนังถ้ำนั้นไม่ได้เกิดจากการแตะหรือขูดขีดผนังแต่อย่างใด แต่เกิดการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยสร้างเป็นรูปร่างต่างๆ ให้เหมาะพื้นผิวของถ้ำส่วนนั้นๆ นอกจากรูปร่างแล้ว องค์ประกอบสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ แสงสี ที่ไม่ใช่จะฉายแสงสีอะไรก็ได้ แต่ศิลปินต้องอาศัยศิลปะในการเลือกสีเพื่อให้ภาพออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นเมื่อคุณได้เข้าไปชม Light Ragaz ในถ้ำ อาจจะมีความรู้สึกสับสนระหว่างโลกแห่งภาพลวงตากับโลกแห่งความจริง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร…
-
จีนเตรียมฉาย “อุลตร้าแมนภาคใหม่” แต่ถูกบริษัทญี่ปุ่นเบรคไว้ เพราะละเมิดลิขสิทธิ์!!
ครั้งหนึ่งหนังชื่อดังอย่างอุลตร้าแมนเคยเป็นหนังยอดฮิตของเด็กๆ จนไม่มีใครไม่รู้จัก จนกระทั่งปัจจุบันอุลตร้าแมนก็ยังเป็นฮีโร่ในดวงใจใครหลายๆ คน ล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาบริษัทของจีนในกรุงปักกิ่งก็ได้มีการประกาศเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Dragon Force: So Long Ultraman เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าญี่ปุ่นมักจะมีชื่อเสียงในเรื่องการทำหนังซีจี ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ มังกร รวมทั้งซุปเปอร์ฮีโร่อย่างอุลตร้าแมนที่แหวกแนวออกไป ภาพยนต์เรื่อง Dragon Force: So Long Ultraman ที่กำลังจะฉายในจีนนี้ นอกจากจะโชว์ผลงานสุดล้ำด้านซีจีแล้ว ยังมีการนำฉากในอุลตร้าแมนที่ผ่านมาเข้าแทรกด้วย แต่หลังจากที่ปล่อยตัวอย่างหนังไป Tsuburaya Productions บริษัทในโตเกียวซึ่งเป็นผู้สร้างตัวละครอุลตร้าแมนนี้ขึ้นมาได้ออกมาบอกว่า “ทางเราไม่ได้รับการติดจากจีนเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ทั้งภาพเคลื่อนไหว ทั้งฉากที่พวกเขาเอาไปใช้ยังไม่เคยผ่านการอนุญาตจากเรา และเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกจีนเอาไปตอนไหน” ตามสำนักข่าว Sports Hoichi ของญี่ปุ่น รายงานว่า ทางบริษัท Tsuburaya Productions จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ Dragon Force: So Long Ultraman นอกจากฟ้องผู้ที่สร้างภาพยนต์เรื่องนี้แล้ว ทางบริษัทในญี่ปุ่นยังต้องการจำดำเนินการกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเปิดตัวภาพยนต์ด้วย เพราะในการเปิดตัวนั้นพวกเขาได้ทำลายภาพพจน์ของอุลตร้าแมน ในงานเปิดตัวภาพยนต์ Dragon Force สื่อจีนได้ให้คนแต่งตัวเป็นอุลตร้าแมน และให้แสดงท่าทางต่างๆ ที่ดูแล้วไม่เหมือนกับฮีโร่ที่ญี่ปุ่นสร้างไว้ ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทผู้สร้างอุตร้าแมนของญึ่ปุ่นจึงได้ออกมาประณามว่า ภาพยนต์เรื่องนี้ของจีนเป็นการลอกเลียนแบบและละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับความยินยอมจาก Tsuburaya…
-
ภารกิจช่วยเหลือแมวอ้วนหน้าเศร้า ให้กลับมาแข็งแรงพร้อมมอบความสุขให้กับมันอีกครั้ง
ทุกวันนี้มีแมวจรจัดมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือ และเราส่วนใหญ่ก็มักมองข้ามพวกมันไป แต่สำหรับเจ้าเหมียวอ้วนตัวนี้มันยากเกินจะเดินผ่านโดยไม่พามันไปด้วย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอาสาสมัครจาก Kitty City เมือง Mandan มลรัฐนอร์ทดาโคตา ได้ไปรับแม่แมวพร้อมลูกๆ จากข้างถนน แล้วพวกเขาก็ได้บังเอิญพบกับ Pavarotti เจ้าเหมียวอ้วนที่อยู่ในที่แคบๆ Pavarotti นั่งอยู่อย่างเงียบๆ และรอใครสักคนรับมันไปเลี้ยง มันมีแววตาที่เศร้าสร้อยจนอาสาสมัครอดสงสารมันไม่ได้ ในที่สุดพวกเขาก็ตัดสินใจพามันไปด้วย ทาง Kitty City บอกว่า “มันอ้วนมากจนไม่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้ และน่าจะอยู่ในสภาพนี้มาหลายเดือนแล้ว ดังนั้นเราจึงพามันไปด้วยแม้ว่าคนอื่นๆ อาจจะไม่ต้องการก็ตาม แต่สำหรับเราแล้วมันเป็นแมวที่น่ารักและจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ” อาสาสมัครได้พา Pavarotti ไปยังศูนย์พักพิง ให้มันได้อยู่ในพื้นที่กว้างขวาง เพื่อที่จะได้เดินไปเดินมา และออกกำลังกายได้อย่างอิสระ ทุกคนมีความหวังว่าเจ้าเหมียวจะกลับมาหุ่นเฟิร์มอีกครั้งในไม่กี่เดือนข้างหน้า พวกเขาได้ทำที่นอนกับอาหารให้อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน โดยเว้นระยะห่างไว้พอสมควร เพื่อให้มันได้เดินออกกำลังกาย Pavarotti พยายามฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรง แม้ว่าตอนนี้ร่างกายของมันส่วนใหญ่ยังอ่อนแออยู่มาก ยิ่งเวลามันกระโดดจากที่สูง ขาของมันจะสั่นอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นนอกจากให้มันได้ออกกำลังกายแล้ว พวกเขายังให้อาหารพิเศษกับมันด้วย ซึ่งเป็นอาหารที่ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ส่วนที่นอนของมันจะเป็นงานถักโครเชต์ที่มีคนบริจาคให้และมันก็รักที่นอนนี้มากๆ เพราะที่นอนนี้เปรียบเหมือนพื้นที่ส่วนตัวที่มันสามารถหาความสุขได้ ตอนนี้ Pavarotti น้ำหนัก…
-
รัฐบาลญี่ปุ่นประชุมด่วน หลังพบ ‘มดคันไฟ’ เตือนภัยให้ประชาชนพร้อมรับมือสัตว์ต่างถิ่น!!
กลายเป็นเรื่องฮือฮาขึ้นมาเลยทีเดียว เมื่อระหว่างการประชุมรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารที่ 18 กรกฎาคม 2017 ได้มีการหารือในเรื่องของการจัดการกับผู้รุกรานต่างถิ่นอย่าง ‘มดคันไฟอินวิคต้า’ ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักขณะนี้ในหลายๆ พื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น ในการกระชุมดังกล่าว นายกรัฐมนตรี Shinzo Abe กล่าวว่า “ผมยากให้รวบรวมข้อมูลต่างๆ และมีการให้ความเข้าใจที่ถูกต้องกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดๆ ก็ตาม รวมไปถึงโรงเรียนด้วย เพื่อพร้อมรับมือกับพวกมดเหล่านี้อย่างถูกต้อง” โฉมหน้าของมดคันไฟที่พบใกล้ๆ กับตู้สินค้าในท่าเรือ Tokyo’s Oi สำหรับมดคันไฟอินวิคต้า ตกเป็นข่าวเมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากมีรายงานการพบมันบริเวณท่าเรือ โดยติดมากับตู้สินค้าซึ่งเดินทางมาจากประเทศจีน ทางรัฐบาลมีความกังวลว่า เหล่าเด็กๆ ที่ออกไปเล่นนอกบ้านในช่วงหน้าร้อนอาจจะได้รับอันตรายจากเหล่าผู้รุกรานต่างถิ่นนี้ได้ ในการประชุมครั้งนี้เป็นการหารือเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ถึงวิธีการรับมือและการป้องกันฝูงมดคันไฟผ่านทางสื่อหลายๆ ช่องทาง ทั้งในอินเตอร์เน็ตหรือทีวีต่างๆ รวมไปถึงการประกาศผ่านโรงเรียน ทั้งระดับประถมและระดับอนุบาล รวมไปถึงสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับเด็ก เจ้าหน้าที่ของท่าเรือ Nagoya กำลังค้นหารังของฝูงมดคันไฟ จากการรายงานของกระทรวงสิ่งแวดล้อมญี่ปุ่นบอกว่า ฝูงมดคันไฟเหล่านี้มีพิษที่รุนแรง โดยพิษของพวกมันจะทำให้ความเจ็บปวดและบางกรณีอาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอารช๊อคได้ และถ้าหากบางรายที่มีอาการแพ้รุนแรง อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย แต่อย่างไรก็ตามส่วนมากแล้วผู้ที่ถูกกัด มักไม่ค่อยเกิดอาการรุนแรงมากเท่าไหร่นัก แต่การแพร่ระบาดจากผู้รุกรานต่างถิ่นนี้ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว โปสเตอร์ที่ทางการจัดทำขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับอันตรายและการรับมือกับเจ้ามดคันไฟ สนามบินนาริตะก็มีการแพร่ระบาดของมดคันไฟ เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งทำกับดักกำจัดมด วางไว้ทั่วบริเวณสนามบินเช่นกัน …
-
ฝันดีน๊าาาา เทรนด์ใหม่ของสาวชาวญี่ปุ่น ทำที่นอนอย่างดีให้ “กระเป๋าเงิน” ของตัวเอง
กระเป๋าสตางค์ถือเป็นของติดตัวที่หลายคนขาดไม่ได้จริงๆ ไหนจะเงิน ไหนจะบัตร อยู่ในนั้นหมด แล้วหากวันที่ลืมพกติดตัวนะ เหมือนชีวิตจะเดินต่อไปไม่ได้เลยทีเดียวเชียว เพราะกระเป๋าสตางค์มีความสำคัญกับเราและเราก็ใช้มันบ่อยมาก บางทีมันก็ควรมีเวลาได้พักผ่อนบ้างนะ เหมือนกับคนญี่ปุ่นบางคนที่ให้กระเป๋าสตางค์นอนหลับไปพร้อมๆ กันในเวลากลางคืน จากเว็บไซต์ Naver Matome ของสำนักข่าวญี่ปุ่นรายงานว่าผู้หญิงญี่ปุ่นจำนวนมากจะพากระเป๋าสตางค์นอนบนเตียงก่อน แล้วพวกเค้าถึงจะนอนได้ เตียงที่ว่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อกระเป๋าสตางค์โดยเฉพาะ ส่วนใหญ่มักจะทำจากฟองน้ำ มีหมอนขนาดจิ๋วพร้อมกับผ้าปูที่นอนน่ารักๆ เทรนนี้ได้รับความสนใจตั้งแต่นักแสดง Kazuyo Matsui ได้พูดผ่านรายการทีวีเกี่ยวกับการจัดการกับกระเป๋าสตางค์ในช่วงสุดท้ายของวัน เธอบอกว่า “เรานอนเพื่อเติมพลังให้ตัวเองใช่มั้ย? ฉันเชื่อว่าถ้าเราไม่ให้กระเป๋าเงินได้นอนหลับหรือเติมเงิน พวกมันก็จะไม่มีพลังเหมือนกัน” Kazuyo บอกว่าตั้งแต่เธอให้กระเป๋าสตางค์ได้พักผ่อน เธอก็รู้สึกว่าตัวเองรวยอย่างบอกไม่ถูก นั่นอาจเป็นเพราะเป็นการตอบแทนจากการที่เธอดูแลมันดีก็ได้ หลังจากที่รู้สึกดีจากการดูแลกระเป๋าสตางค์แล้ว เธอยังบอกอีกว่าจะลองแบบเดียวกันนี้กับของใช้อื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา จอยเกม คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ มันจะดูเป็นไอเดียขำๆ แต่สาวๆ ญี่ปุ่นที่กำลังทำตามเทรนด์นี้ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันมันทำให้รู้สึกดี และทำให้ดูเป็นคนน่ารักด้วย เตียงนอนหนานุ่มของกระเป๋าสตางค์ นาฬิกาก็ควรมีเวลานอนเหมือนกันนะ…
-
ในที่สุดคุณยายวัย 86 ปี ก็เรียนจบ “ปริญญาตรี” เสียที ยืนยันได้ว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน!!
โดยปกติแล้วถ้าคนที่ลาออกจากมหาลัยหรือไม่ได้เรียนต่อ เพื่อออกไปทำธุรกิจหรืออะไรก็ตามส่วนใหญ่พวกเขาก็มักจะไม่กลับไปเรียนต่อสักเท่ไหร่เมื่อมีอายุที่มากขึ้น แต่เราก็เห็นคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่กลับไปเรียนจนจบ… คุณยาย Peggy Styles วัย 86 ปีเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ก็จัดว่าเป็นผู้สูงอายุคนหนึ่งที่เลือกจะกลับไปเรียนต่อ และแน่นอนว่าเธอก็ทำมันจนสำเร็จจนจบปริญญา ฉะนั้นก็ขอยินดีกับคุณยายด้วยนะ คุณยายแกเล่าว่า ตัวเองนั้นไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่นเท่าไหร่นัก เพราะแรกเริ่มตัวเธอนั้นเกิดที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี 1931 แต่ว่าพออายุ 6 ขวบ เธอก็ต้องย้ายไปยังประเทศเยอรมนีกับครอบครัว จนกระทั่งปี 1940 เธอก็ต้องย้ายกลับมาอังกฤษอีกครั้งแต่กลับมาในฐานะผู้ลี้ภัยแทน ด้วยปัญหากันย้ายถิ่นฐานไปมารวมถึงภาษาที่เปลี่ยนตลอด ทำให้เธอมีปัญหาในการเรียนรู้จนสุดท้ายพออายุ 15 เธอก็ไม่ไหวจนต้องลาออกจากโรงเรียน จากนั้นเมื่อมีอายุจนถึงระดับหนึ่งเธอก็ได้แต่งงานกับสามีที่เพิ่งออกจากการเป็นทหาร และทั้งคู่ก็มาเปิดโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวไปโดยปริยาย จุดพลิกผันที่ทำให้คุณยาย Peggy ตัดสินใจกลับไปเรียนนั้น มันเริ่มจากที่หลานชายของเธอมาขอให้เธอช่วยเรื่องโปรเจคหน่อย ซึ่งโปรเจคดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตัวโปรเจคก็สะท้อนสิ่งต่างๆ ในตัวเธอและทำให้มองเห็นถึงอดีตจนตัวเองตระหนักได้ว่าต้องกลับไปเรียนต่อ ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจสมัครเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยบริสทอล ซึ่งตั้งอยู่ในในประเทศอังกฤษ โดยตอนที่เริ่มเข้าเรียนนั้นเธอมีอายุ 78 ปี นั่นก็หมายความว่าเธอใช้เวลา 8 ปีในการเรียนจนจบนั้นเอง ส่วนเหตุผลที่คุณยาย Peggy ใช้เวลานานขนาดนั้นเพื่อเล่นจบนั่นก็คือ เธอป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ ทำให้เธอต้องใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเดือนๆ…
-
21 ภาพย้อนรอย 21 ปี Linkin Park รำลึกการจากไปของ Chester Bennington
สำหรับข่าวการจากไปอย่างกระทันหันของฟรอนท์แมนอย่าง Chester Bennington แห่ง Linkin Park ที่ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงด้วยการแขวนคอตายภายในบ้าน ก็ยังคงทำให้บรรดาแฟนเพลงชาวร็อคจากทั่วโลก รวมถึงศิลปินชื่อดังฮอลลีวู้ดช็อกกันไม่หาย โดย Chester นั้น ถือเป็นนักร้องนำแห่งวง Linkin Park ที่ดังที่สุดในยุคมิลเลนเนียมเลยก็ว่าได้ และตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา เขาได้ก็สร้างสรรค์ผลงานคุณภาพเอาไว้มากมาย… ทั้งเพลงดังที่แฟนเพลงทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดี เช่น Numb, In the End หรือ What I’ve Done นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในนักแสดงจากภาพยนตร์ Crank ในบท คนขายยา, Crank: High Voltage ในบท คนดังฮอลลีวู้ด รวมถึง Saw 3D ในบท Evan อีกด้วย และเพื่อเป็นการรำลึกถึง Chester Bennington ในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพย้อนรอย 21 ปี…
-
รวมเพลงอันน่าจดจำของ Linkin Park กับเสียงร้องของ Chester ที่จะอยู่ในใจตลอดไป…
กลายเป็นข่าวช็อคไปทั่วโลกหลังจากสื่อต่างประเทศได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ‘Chester Bennington’ ได้เสียชีวิตในห้องพักของตัวเองระหว่างทัวร์ ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีโอกาสได้ยินเสียงร้องของป๋าเชสเตอร์อีกแล้ว แต่เราเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่แฟนเพลงชาวไทยต่างเคยสัมผัสมาเหมือนกันก็คือ.. ผลงานเพลงและเสียงร้องของเขาที่ช่วยเปลี่ยนโลกการฟังของเด็กไทยอย่างเราๆ ไปตลอดกาล เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่การจากไปของเขา วันนี้เราจะขอไปย้อนอดีตชมผลงานเพลงอันโด่งดังที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี บทเพลงเหล่านี้ก็จะยังดังก้องกังวาลอยู่ในใจเราไปตลอดกาล เชสเตอร์ เบนนิงตัน ประสบความสำเร็จครั้งแรกกับอัลบั้ม Hybrid Theory วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2543 ถ้าพูดถึงชื่ออัลบั้มหลายคนอาจจะยังไม่คุ้น แล้วถ้าเป็นเพลงเหล่านี้ละยังจำกันได้ไหม? แทร็คแรกสุดจากอัลบั้มที่ทำให้ใครหลายคนโยกหัวกันมาแล้ว ตอนนั้นที่จำได้หลังเพลงแรกจบ เทปก็จะรันเพลงต่อไปเป็นริฟฟ์กีต้าร์ขึ้นมาแบบเท่ๆ และเพลงที่มีประโยคขึ้นต้นว่า ‘วัน ธิง ไอ ดอน โน วาย…’ ที่ฮิตติดปากเด็กไทยไปทั่วประเทศก็มาจากอัลบั้มนี้เหมือนกันนะ ต่อไปก็ต้องยกให้กับอัลบั้ม Meteora ซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้มที่ 2 ของพวกเขา วางจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 25 มีนาคม 2546 (ตอนนั้นอายุเท่าไหร่กันเอ่ย?) ต้องบอกว่าอัลบั้มนี้พวกเขาประสบความสำเร็จทุกเพลงเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังทำยอดขายได้มากกว่า 20 ล้านแผ่นทั่วโลก นอกจากนี้บิลบอร์ดยังยกให้ติดอันดับที่…
-
ชายผู้หนุ่มเป็น “เนื้องอกในสมอง” แม้พูดไม่ได้ แต่ก็ตั้งใจขอแฟนแต่งงาน เพื่อคนที่เขารัก
หนึ่งในความฝันสูงสุดของชีวิตคนเรานั่นก็คือ การแต่งงาน การมีครอบครัวและลูกๆ ซึ่ง Sam Hensman ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่คิดแบบนั้นเช่นกัน เพียงแต่ว่าโชคชะตากลับไม่เข้าข้างสักเท่าไหร่นั่นเอง Sam เป็นชายหนุ่มวัย 25 ปี ซึ่งเขาอยากจะแต่งงานกับแฟนสาวของเขา แต่ว่าเขาต้องต่อสู้กับโรคร้ายตั้งแต่อายุ 23 ปี ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ซึ่งมันร้ายแรงมากๆ และยังส่งผลให้เขาไม่สามารถพูดได้ แต่ถึงอย่างนั้นรักแท้ก็ยังมีอยู่จริง เพราะแม้ Tess Delony แฟนสาวของเขาจะรู้ว่า Sam ป่วย เธอก็ยังคงไม่ทิ้งเขาไปไหนและอยู่ข้างกายเขาตลอดเวลากว่า 10 เดือนที่เขาอยู่ในโรงพยาบาล และเมื่อไม่นานมานี้เขาก็ได้ตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อเขาส่งยิ้มให้แม่ของแฟนสาวที่เฝ้าอยู่ข้างกาย แน่นอนว่าเหมือนเธอจะรู้ว่าเขาต้องการอะไร คุณแม่จึงหยิบแหวนเพรชออกมาให้กับลูกสาว วินาทีนั้นเธอรู้ทันทีว่าเขาต้องการอะไร เพราะเขาไม่สามารถจะพูดว่าแต่งงานกับผมนะได้ แต่เธอก็พอจะรู้ว่าเขาต้องการแต่งงานกับเธอ ซึ่งมันแสดงออกมาผ่านรอยยิ้มบนสีหน้าของเขา แน่นอนว่า Tess ตอบตกลงคำขอของ Sam เธอตัดสินใจเปิดกล่องแหวนพร้อมสวมทันที พร้อมกับสวมกอดกันและกัน พร้อมกับน้ำตาแห่งความยินดีที่ไหลรินออกมา สุดท้ายแล้วแม้ตัว Sam ยังไม่สามารถพูดได้ แต่เวลาผ่านไปเขาค่อยๆ ดีขึ้นตามระยะและทำกายภาพบำบัดจนตอนนี้เขาสามารถเดินได้บ้างแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ยังพูดไม่ได้อยู่ดี แต่เชื่อเถอะว่าการมีคนรักข้างกายแบบนี้…
-
ถกกันสนั่น หลัง “พล่ากุ้ง” แสดงความเห็นการฆ่าตัวตายของ Chester Bennington คนไม่เห็นด้วยเพียบ!!
กลายเป็นกระแสร้อนอยู่ในโลกออนไลน์ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีการฆ่าตัวตายของ Chester Bennington นักร้องนำจากวง Linkin Park ภายในบ้านพักของตัวเอง สามารถอ่านข่าวเก่าได้ที่: Chester Bennington นักร้องนำ Linkin Park ฆ่าตัวตายปิดฉากชีวิตด้วยวัย 41 ปี หลังจากการจากไปของศิลปินดังระดับโลก ทำให้เกิดกระแสความเศร้าโศกของแฟนๆ และคนดังตามมามากมาย โดยล่าสุดศิลปินและพิธีกรดังอย่าง พล่ากุ้ง แห่งวง Magenta ก็ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้เช่นกัน โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง พร้อมกับข้อความต่อว่า Chester Bennington ว่าไม่ควรฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีผลกระทบต่อคนรอบข้าง พร้อมกับบอกว่าไม่อยากให้ใครฆ่าตัวตายเพราะไม่เป็นผลดีกับใครเลย ภาพข้อความดังกล่าว . จากการแสดงความเห็นของดาราหนุ่มทำให้เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ เนื่องจากมองว่าเจ้าตัวเองยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่ดีพอ เริ่มจากเพจใหญ่อย่าง Drama-addict “การฆ่าตัวตายจากโรคซึมเศร้า เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือเหตุผลไปแล้วครับ เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคนี้สารสื่อประสาทในสมองจะทำงานผิดปรกติ และทุกสิ่งรอบตัวเขาจะแตกต่างไปจากเรา เราอยู่ในห้องที่สว่าง แต่เขาอาจจะรู้สึกว่ามันคือที่ๆมืดมิดที่สุดในชีวิตเขาก็ได้ และเชสเตอร์ก็เป็นคนหนึ่งที่ต่อสู้กับโรคนี้มายาวนานมาก และสาเหตุของมันก็เกิดจากประวัติที่เขาเคยโดนคนทำร้ายในวัยเด็ก จนกลายเป็นปัญหาติดตัวเขามาจนถึงตอนโต” Wichittra Pannak “การรับรู้ ต่างกันค่ะ คนเป็นโรคซึมเศร้าไม่ได้ทำตามอารมณ์นะคะ ไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเลย ถ้าทำความเข้าใจกับคำว่า…
-
พ่อชาวคริสต์สังหารลูกสาว หลังเธอมีแฟนเป็นชายชาวมุสลิม และมีแพลนจะเปลี่ยนศาสนา
ก่อนเข้าสู่เนื้อหา แจ้งก่อนนะคะว่าเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากเกี่ยวกับความขัดแย้งทางศาสนา… ศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเปราะบางมากๆ และไม่ว่าศาสนาไหนก็สอนให้เป็นคนดีเสมอ แต่บางครั้งความไม่ลงรอยของศาสนาที่ต่างกันก็อาจกลายเป็นปัญหาที่บานปลายได้ อย่างกรณีนี้ ที่คุณพ่อที่เป็นชาวคริสต์ได้ลงมือฆ่าลูกสาวตัวเอง เนื่องจากเธอไปคบกับแฟนหนุ่มที่เป็นมุสลิม และมีแพลนที่จะแต่งงานกับเขา Sami Karra วัย 58 ปี ถูกจับกุมหลังพบว่าลูกสาวของเขา Henriette Karra วัย 17 ปี เสียชีวิตในบ้านที่ Ramle ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน การการชันสูตรศพพบว่า Henriette ถูกแทงซ้ำที่คอหลายจุด เนื่องจากเธอได้วางแผนว่าจะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามหลังแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่กำลังติดคุก แต่เรื่องนี้ทางครอบครัวไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อที่สั่งห้ามให้เธอเลิกคบกับเขาหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากเป็นคนต่างศาสนา สำนักข่าว Jerusalem Post รายงานว่า หญิงสาวเคยหนีออกจากบ้าน เพราะถูกพ่อตีและข่มขู่ด้วยวิธีการต่างๆ เธอจึงหนีไปอยู่บ้านแม่ของแฟน ในระหว่างที่หนีออกจากบ้าน หญิงสาวได้ส่งข้อความไปหาเพื่อนว่า “เธอต้องไม่เชื่อแน่ๆ ว่าครอบครัวส่งคนมาฆ่าฉันพวกเขาออกตามหาฉันทุกที่ เธออาจจะไม่เข้าใจว่ามันน่ากลัวแค่ไหน แต่ฉันต้องทำทุกทางเพื่อหนีให้ไกลจากพวกเขา” แต่ก็หนีได้ไม่นาน เธอก็ถูกตามตัวจนเจอและพากลับบ้านในที่สุด… ไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ดังที่รายงานไป ทำให้พ่อแม่พร้อมกับลุงของเธอถูกจับกุม เพราะตำรวจเคยติดตั้งเครื่องบันทึกเสียงไว้ในบ้านพวกเขา หลังได้รับการแจ้งความเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งก็ไม่มีหลักเพียงพอให้จับกุมได้ ในเทปบันทึกเสียง มีเสียงพ่อพูดกับผู้เป็นแม่ว่า “ลืมเธอซะ แล้วปล่อยเธอไปลงนรก” “มันไม่คุ้มหรอกที่เราจะเลี้ยงดูเธอต่อไป เธอไม่ต่างจากขยะชิ้นหนึ่ง…
-
เด็กสาวโดน “เพื่อนแกล้ง” จนไม่กล้าไปงานพรอม ครอบครัวและคนแปลกหน้าจึงมาจัดให้ที่บ้าน
งานพรอมถือเป็นงานที่นักเรียนหลายคนต่างรอคอย บางคนถึงขั้นตัดชุดรอไว้เป็นปีๆ ในขณะที่บางคนถึงกับทิ้งกิจกรรมทุกอย่างในวันจริงเพื่อที่จะได้ไปงาน เช่นเดียวกับ Shannon Purcifer นักเรียนสาววัย 16 ปี ที่มีความใฝ่ฝันอยากไปงานพรอมเหมือนคนอื่นๆ แต่เธอโดนเพื่อนแกล้งจนไม่สามารถไปงานได้ เมื่อ 2 ปีก่อน Shannon ได้รับการวินิจฉัยว่าลำไส้ใหญ่บวมจนเป็นแผล เนื่องจากลำไส้อักเสบ ทำให้เธอต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ นอกจากนี้เมื่อต้นปีที่ผ่าน หมอยังพบว่าเธอเป็นโรคข้ออักเสบ และจากการตรวจสอบ ดูเหมือนกับเธอมักจะมีการต่อสู้ระหว่างอยู่ในโรงเรียน Shannon บอกว่าเธอมักจะถูกแยกตัวไปอยู่ในห้องส่วนตัว เพื่อหลีกหนีจากคนที่ชอบแกล้งเธอ เพื่อนๆ มักจะล้อชื่อเธอ และทำให้อับอาย นอกจากล้อในห้องแล้ว พวกเขายังนำไปโพสต์ในสื่อออนไลน์ด้วย จนทำให้ Shannon ต้องเปลี่ยนหมายเลขโซเชียล แต่พวกเขาก็หาเจออีกจนได้ เธอบอกอีกว่า หากไปงานพรอมเธอจะต้องถูกกันออกไปกลุ่มเพื่อนๆ เพราะพวกเขามักจะอยู่กันเป็นแก๊งค์ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่เธอต้องอยู่คนเดียว สิ่งที่เลวร้ายกว่าการถูกล้อคือ เธอเป็นโรคข้ออักเสบ ซึ่งจะมีอาการปวดในข้อต่อเกือบทุกที่ในร่างกาย แต่เพื่อนๆ กลับไม่เชื่อ คิดว่าเธอแกล้งทำเป็นเจ็บมากกว่า อย่างไรก็ตาม Shannon ก็ยังตั้งใจที่จะไปร่วมงานพรอมอยู่ดี ถึงขั้นเสียเงินไปกว่า 18,000 บาท สำหรับชุดสวยๆ ที่จะใส่เข้างาน…
-
สื่อนอกวิเคราะห์ “สัญญาณการฆ่าตัวตายของ Chester” ที่ซ่อนอยู่ในเพลงล่าสุดของ Linkin Park
ในช่วงคืนที่ผ่านว่ามานั้นเราหลายๆ คนคงจะทราบข่าวเรื่องราวการจากไปของนักร้องนำวง LINKIN PARK อย่าง Chester Bennington ที่ทำเอาแฟนเพลงช็อคไปตามๆ กัน ซึ่งก่อนหน้านั้นทางวงเพิ่งไปปล่อยซิงเกิลใหม่มา ก็เกิดข่าวการฆ่าตัวตายของ Chester ที่บ้านพักส่วนตัวของเขา โดยเหตุจูงใจในการเกิดเหตุการณ์สุดเศร้าครั้งนี้คืออะไรกัน บทเพลงที่เขาได้เขียนไว้น่าจะเป็นสิ่งสื่อถึงความรู้สึกของเขาได้ดีที่สุด Chester Bennington นักร้องนำวง LINKIN PARK วัย 41 ปี ถูกพบว่าเสียชีวิตจากการที่เขาแขวนคอตัวเองในบ้านพักส่วนตัวในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในเพลงสุดท้ายที่ Chester ได้เขียนไว้นั้นมีการกล่าวถึงการฆ่าตัวตายไว้ ในขณะที่เพลง Heavy ที่ปล่อยมาในช่วงต้นปีนั้น ก็ได้เผยให้เห็นถึงความรู้สึกของเขา ที่มีปัญหากับชีวิต ในเนื้อเพลงของ Chester นั้นก็มีประเด็นที่ชัดเจนว่า “If I just let go, I’d be set free” คือถ้าเขาจากไป เขาจะได้รับอิสระ เพลง Heavy นั้นเขียนขึ้นโดย Chester และเพื่อนในวงอย่าง Brad Delson และ Mike Shinoda ร่วมกับ Julia Michaels และ Justin Tranter แรงบันดาลใจของเพลง Heavy มาจากบทสนทนาของพวกเขาเกี่ยวกับความผิดหวังและปัญหาในชีวิตของตัวเอง…
-
พบศพสามีภรรยาที่หายตัวไปเมื่อ 75 ปีก่อน หลังออกไปรีดนมวัว แต่ไม่กลับมาอีกเลย…
กำลังกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกตะวันตกกันเลยทีเดียว หลังจากที่มีการค้นพบศพของสองสามีภรรยาที่ก่อนหน้านั้น ทั้งคู่ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย… โดยล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ได้ไปพบศพของทั้งคู่ ที่บริเวณธารน้ำแข็ง Tsanfleuron ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นเวลานานกว่า 75 ปี ที่ไม่มีการค้นพบร่างของทั้งสองคน จนกระทั่งในที่สุดวันนี้ความจริงก็ได้ถูกเปิดเผยออกมา เจ้าหน้าที่ได้พบร่างของ Marcelin และ Francine Dumoulin จากการสืบประวัติพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1942 ทั้งคู่ได้เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปรีดนมวัว ทว่าหลังจากวันนั้นมาก็ไม่มีใครพบพวกเขาอีกเลย… จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านมานานกว่า 75 ปี ร่างของทั้งคู่ก็ถูกค้นพบโดยเจ้าหน้าที่สกีรีสอร์ทแห่งหนึ่งในบริเวณนั้น ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะมาจากการเดินตกเหว “ภาพแรกที่เราเห็นเขาทั้งคู่เป็นสภาพของ ชายหญิงใส่เสื้อผ้าจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 และดูเหมือนว่าร่างกายของพวกเขาจะทนไม่ไหวต่อสภาพอากาศที่หนาวเกินไป” Bernard Tschannen ผู้จัดการรีสอร์ทเล่า Marcelin (ขวา) และ Francine Dumoulin (ซ้าย) จากการนำตัวอย่าง DNA ไปตรวจสอบในห้องแล็บ เจ้าหน้าที่ก็ได้พบว่าร่างทั้งสองเป็นร่างของชายหญิงที่เคยหายไประหว่างออกไปรีดนมวัวจริง Marceline Udry-Dumoulin คุณยายวัย 79 ปี ได้เล่าว่า “ฉันจำได้ว่าตอนอายุได้ 4…
-
ยังเอาอยู่เหรอ!? โจรใจบาปขโมย “เก้าอี้เข็น” ของเด็กสาวพิการ มูลค่าสูงถึง 336,000 บาท
นับว่าเป็นเหตุการณ์สุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับสาวน้อยวัย 5 ขวบ ผู้ป่วยด้วยโรคโฮโลโปรเซนเซฟาลี (ความผิดปกติของศีรษะ ซึ่งสมองส่วนหน้าของเอ็มบริโอไม่พัฒนาแยกเป็นสองซีก) จากอาการป่วยดังกล่าวส่งผลทำให้หนูน้อย Mia Runakorwashe ต้องใช้เก้าอี้เข็นช่วยตลอดเวลา เนื่องจากว่าเธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทว่าวันหนึ่งคุณแม่ของเธอต้องตกใจ เมื่อได้พบว่าเก้าอี้เข็นคันดังกล่าวของลูกสาวเธอถูกโจรขโมยไปอย่างลอยนวล Mia Runakorwashe เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย โดยคุณแม่ของเธอเล่าว่าเช้าวันหนึ่งเธอได้ตื่นออกจากบ้านมาเพื่อเอาขยะไปทิ้ง และต้องการจะเอาเก้าอี้เข็นมารับลูกสาวเธอไปทานอาหาร ทว่ากลับถูกโจรขโมยหายไปซะแล้ว คุณแม่ Margaret Mutambara ได้เล่าว่า “อาการป่วยของลูกสาวดิฉันทำให้เธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และเก้าอี้เข็นคันนั้นก็ราคาสูงถึง 10,000 เหรียญ เราอยากรู้จริงๆ ว่าจิตใจเขาทำด้วยอะไร?” โดยที่เธอคาดว่าโจรน่าจะเข้ามาขโมยเก้าอี้รถเข็นในช่วงเวลาประมาณ 4.00 น. ในวันเกิดเหตุ เนื่องจากเพื่อนบ้านได้ยินเสียงการค้นกล่องจดหมายในบริเวณหน้าบ้านของเธอ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้คุณแม่ต้องออกมาขอร้องให้หัวขโมยนำรถเข็นมาคืนลูกสาวเธอ ด้วยรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่เธอต้องพาลูกไปพบหมออยู่บ่อยๆ ทำให้คุณแม่ชาวซิมบับเวคนนี้ ค่อนข้างขัดสนทางการเงินพอสมควร… แต่ในเรื่องร้ายๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น เมื่อเพื่อนบ้านของเธอต่างช่วยกันระดมทุนคนละเล็กน้อยเพื่อช่วยเหลือเป็นค่าเก้าอี้รถเข็นใหม่ และหลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกนำเสนอบนโลกโซเชียล สาวน้อยก็ได้รับการช่วยเหลือจากโรงพยาบาลทันที หลังจากเปิดระดมทุนได้เพียงสองวัน จำนวนเงินทุนสนับสนุนทั้งหมดที่มีผู้ใจบุญร่วมกันส่งมาให้เธอมากถึง 5,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ เพื่อเป็นทุนสำหรับการซื้อเก้าอี้รถเข็นใหม่…
-
หนุ่มมุสลิมอัดคลิปกินขนม ‘แบบไม่มีตราฮาลาล’ เพื่อต่อต้านการบังคับจ่ายภาษีฮาลาล!!
เรียกได้ว่าเป็นข่าวคราวที่ถูกพูดถึงไปทั่วโลก หลังจากที่มีหนุ่มชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในเมือง Adelaide ประเทศออสเตรเลีย ได้โพสต์วิดีโอของตัวเองที่กำลังทดสอบการทานช็อกโกแลตแบบที่ไม่มีตราฮาลาลติดอยู่ โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เมื่อวันอังคาร 18 กรกฎาคม 2017 ผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Imam Mohammad Tawhidi ได้โพสต์วิดีโอของตัวเองกำลังทานช็อกโกแลต พร้อมระบุเอาไว้ว่า… “ผมรู้สึกว่ารสชาติมันดีกว่าเยอะเลยถ้ามันไม่มีตราฮาลาลติดอยู่ เพราะผมยังสามารถทานมันได้อยู่โดยที่ไม่ต้องไปบังคับให้ประชาชนคนอื่นต้องมาจ่ายภาษีเพื่อตราฮาลาล และนี่ก็เป็นวิถีชีวิตในแบบออสซี่ที่ผมภูมิใจเป็นอย่างมาก” Imam Mohammad Tawhidi หลังจากได้ชิมช็อกโกแลตที่ไม่มีฮาลาลแล้ว เจ้าตัวก็บอกว่ารู้สึกอร่อยกว่าแบบที่มีฮาลาลซะอีก เนื่องจากรายได้ส่วนหนึ่งของสินค้าที่มีตราสัญลักษณ์ฮาลาลติดอยู่ จะถูกนำไปใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ให้แก่กลุ่มผู้นับถือศาสนาอิสลาม ทว่าทางด้านของหนุ่มมุสลิมคนนี้ เจ้าตัวได้ให้เหตุผลว่า บริษัทและประชาชนในประเทศออสเตรเลีย ไม่ควรจะถูกหักภาษีเพิ่มจากสินค้าที่มีตราฮาลาล “เพราะอะไรรู้มั้ย? เพราะผมมองว่าการกระทำแบบนี้ยังเป็นเหมือนการแบ่งแยกกลุ่มคนอิสลามออกจากศาสนาอื่นๆ นั่นเอง” ทว่าแนวคิดที่ดูทันสมัยของเขา กลับทำให้เจ้าตัวถูกกลุ่มชาวมุสลิมอนุรักษ์นิยมหลายๆ คนมองว่ากำลังทำผิดกฎของศาสนาอยู่เช่นกัน หลังจากที่เจ้าตัวโพสต์วิดีโอดังกล่าว ทางเฟซบุ๊กก็ได้ดำเนินการลบวิดีโอออกทันที ทำให้กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงมากยิ่งขึ้นไปอีก คลิปวิดีโอที่ถูกลบไป คิดว่าพี่มาร์กคงกลัวว่าจะกลายเป็นดราม่าระดับโลกแน่ๆ ถึงได้รีบลบวิดีโอออกอย่างไว ที่มา: Dailymail
-
Chester Bennington นักร้องนำ Linkin Park ฆ่าตัวตายปิดฉากชีวิตด้วยวัย 41 ปี
นับเป็นอีกข่าวเศร้าสำหรับแฟนๆ วงดนตรีแห่งตำนานดังกล่าว ที่ได้สูญเสียหนึ่งในบุคคลสำคัญที่สุดไป.. สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานตรงกันว่า Chester Bennington ศิลปินชื่อดังนักร้องนำแห่งวง Linkin Park เสียชีวิตที่บ้านพักของตนเองในเมืองลอสแองจิลิส ทางตำรวจเปิดเผยข้อมูลว่าพบศพของเขาแขวนคอตายในบ้านพักที่ Palos Verdes Estates ในเวลาประมาณ 9 โมงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย และไม่พบพิรุธใดๆ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าสาเหตุอาจจะมีปัญหาความเครียดในชีวิต เพราะเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องการติดเหล้ามาโดยตลอด แต่ก็ต้องรอการชันสูตรศพและพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด ทางเว็บไซต์แคทดั๊มบ์จะทำการอัพเดทความคืบหน้าของประเด็นดังกล่าวและนำข่าวมาเสนอหลังจากได้ข้อมูลเพิ่มเติม และขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของ Chester ด้วยเช่นกัน รายงานการเสียชีวิตในสื่อต่างประเทศ . . ที่มา: tmz, billboard
-
นักปั่นตูร์เดอฟร็องส์โชว์สภาพขา หลัง “ปั่นจักรยาน” อย่างหนัก ที่อาจจะดูน่ากลัวไปนิสสส
หลายคนมักเลือกออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน เพราะการปั่นสามารถช่วยกระชับช่วงขาได้ แล้วหากเราปั่นจักรยานเป็นประจำเหมือนนักปั่นอาชีพล่ะ ร่างกายจะเป็นอย่างไร? และนี่คือสภาพขาของ Pawel Poljanski นักปั่นชาวโปแลนด์ ที่แสดงให้เห็นสภาพขาหลังจากที่เข้าร่วมการปั่น Tour de France Poljanski เป็นนักปั่นชาวโปแลนด์ ที่อยู่ในทีม Bora-Hansgrohe ได้โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรม เป็นภาพของเขาในสภาพที่มีเส้นเลือดนูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังเข้าร่วมการปั่น Tour de France จากภาพนี้ทำให้ผู้คนเกิดคำถามว่าทำไมขาของนักปั่นถึงเป็นเช่นนี้?… ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เวลาที่เราปั่นจักรยานจะมีเลือดมหาศาลไหลลงยังไปยังขาเช่นเดียวกับนักปั่น Tour de France Tour de France เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกลรอบประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 สัปดาห์ในช่วงเดือนกรกฎาคมของทุกปี หลังจากการแข่งขัน Tour de France สิ้นสุดลง Poljanski เข้าเส้นชัยเป็นลำดับที่ 75 ใช้เวลาไป 1:55:14 รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 2,800 กิโลเมตร จากการแข่งทั้งหมด 16 รอบ เลือดจำนวนมากจะอยู่ที่บริเวณขาตลอดการปั่นจักรยาน และเมื่อทำต่อกันนานๆ จะทำให้เส้นเลือดเกิดการพองขึ้นเหมือนกับขาของ Poljanski Dr Bradley Launikonis จาก University of…
-
การดื่มโค้ก 1 กระป๋องจะทำอะไรกับร่างกายของเราบ้าง หลังจากผ่านไปแล้ว 1 ชั่วโมง…
ใครที่ชอบดื่มโค้กเป็นประจำ นอกจากทำให้ร่างกายสดชื่นจากความซ่าของโค้กแล้ว เคยสงสัยมั้ยว่ามันจะทำอะไรกับร่างกายของเราอีกบ้าง!? นี่คือข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับการเปิดเผย เกี่ยวกับปฏิกิริยาของร่างกายหลังดื่มโค้กเข้าไปแล้วในเวลา 1 ชั่วโมง ผลการวิเคราะห์เหล่านี้รวบรวมโดย The Renegade Pharmacist ซึ่งเป็นบล็อกที่ดูแลโดยอดีตเภสัชกรชาวอังกฤษ Niraj Naik โดยชี้ให้เห็นรายละเอียดต่างๆ ของโค้กถึง 7 จุดด้วยกัน ใน 10 นาทีแรก น้ำตาล 10 ช้อนชาจะทำปฏิกิริยากับระบบในร่างกายของคุณ (เป็นปริมาณ 100% ที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน) 20 นาทีต่อมา น้ำตาลในเลือดจะทำให้อินซูลินหลั่งออกมา ในขณะเดียวกันตับของคุณจะตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้โดยการเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นไขมัน 40 นาทีต่อมา ร่างการจะดูดซึมคาเฟอีนเป็นที่เรียบร้อย รูม่านตาของคุณจะขยายออก ความดันโลหิตจะเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าตับของคุณกำลังส่งน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น นอกจากนี้ตัวรับอะดีโนซีนในสมองของคุณจะเกิดการทำงาน ทำให้คุณไม่รู้สึกง่วง 45 นาทีต่อมา ร่างกายของคุณจะเพิ่มการผลิตโดปามีน เพื่อกระตุ้นสารแห่งความสุขในสมองของคุณ ซึ่งขั้นตอนนี้ร่างกายจะตอบสนองคล้ายๆ กับเวลาเสพเฮโรอีน จนกระทั่งนาทีที่ 60 กรดฟอสฟอริกจะทำปฏิกิริยากับแคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสีในลำไส้เล็กของคุณเพื่อเพิ่มการเผาผลาญอาหาร ประกอบกับปริมาณน้ำตาลที่สูงรวมทั้งสารให้ความหวาน ส่งผลให้เพิ่มการขับถ่ายแคลเซียมในปัสสาวะ ซึ่งในนาทีที่ 60…
-
คุณแม่แชร์ภาพ ก่อนและหลังเลิกเสพ “เฮโรอีน” เพื่อกระตุ้นให้คนหันหลังให้ยาเสพติดซะ…
การเสพสารเสพติดนั้นนอกจากจะทำให้สุขภาพย่ำแย่แล้ว ยังส่งผลให้รูปลักษณ์ภายนอกดูแย่ลงไปด้วย อย่างเธอคนนี้ที่แชร์ภาพตัวเองตอนเสพเฮโรอีนกับตอนเลิกว่ามันแตกต่างกันแค่ไหน Melissa Lee Matos เป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง จาก West Virginia ผู้เลิกเสพเฮโรอีนมาได้ 1 ปี กับ 5 เดือนแล้ว และพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ภาพตอนที่ Lee Matos เสพติดเฮโรอีนนั้นแทบจะดูไม่ได้เลย เธอนั่งพิงผนังห้องน้ำ มีจุดดำขึ้นอยู่บนใบหน้า ขอบตาคล้ำ และเบ้าตาก็ลึกเหมือนคนแก่ เธอบอกว่า “ฉันอยู่ในสภาพนี้ทุกวันเป็นเวลาหลายปี มันเป็นสภาพที่สามีฉันต้องเจอ และเป็นภาพที่ลูกสาวมักจะเดินเข้ามาเห็น” “มันคือภาพที่ครอบครัวและเพื่อนๆ ของฉันเห็นจนชินตา เป็นแบบนี้เรื่อยๆ จนกระทั่งฉันเกิดป่วยหนัก รู้สึกเหมือนกำลังจะตาย และคิดว่าคงไม่มีทางรักษาแล้ว” ผลข้างเคียงจากการเสพเฮโรอีนคือ ทำให้เกิดฝีและมีแผลตามร่างกาย มีจุดดำขึ้นบนหน้าและลำตัว และทำให้น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว อีกภาพหนึ่งของ Lee Matos เหมือนกับผีดิบไม่มีผิด มีตุ่มขึ้นเต็มใบหน้า ส่วนมือก็กำลังถือชามขนม หน้าแนบพื้นโต๊ะ ไม่มีแรงแม้จะกระทั่งจะยกหัวขึ้น เธอเขียนไว้ในเฟซบุ๊กว่า “ฉันสูญเสียทุกอย่าง ฉันคิดภาพไม่ออกว่าจะอยู่ได้มั้ยว่าถ้าไม่เสพเฮโรอีน ตอนนั้นฉันอยากตาย เพราะการมีชีวิตอยู่มันยากเหลือเกิน” ปัจจุบัน Lee Matos เลิกเฮโรฮีนได้…
-
อังกฤษเตรียมปล่อยแมวป่า 6 ตัว คืนสู่ธรรมชาติ เพื่อควบคุมประชากรกวางที่มีมากเกินไป
ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ป่า มันจะอยู่ได้ถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ในป่า เพราะสัญชาตญาณตามธรรมชาติของพวกมันถูกสร้างให้อยู่ในป่ามากกว่าอยู่ร่วมกับมนุษย์ ที่สำคัญยังเป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศด้วย ด้วยเหตุนี้อังกฤษจึงเตรียมปล่อยแมวป่าจำนวน 6 ตัวกลับสู่ธรรมชาติ หลังพบว่าอัตราของกวางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนได้ต้องรับการควบคุมจำนวนประชากร ตอนนี้แมวป่ากำลังจะถูกส่งตัวกลับไปยังเกาะเกรตบริเตน ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะบริเตน ทั้งยังเหมาะสำหรับแมวป่าอีกด้วย จากการสำรวจที่ผ่านมายังพบว่า แมวป่าตัวผู้บางตัวมีพฤติกรรมหยุดมีเพศสัมพันธุ์ เนื่องจากอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม จนกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จำนวนประชากรแมวป่าลดลง Lynx UK Trust องค์กรที่นำแมวป่า 6 ตัวมาจากประเทศสวีเดนกล่าวว่า “แมวป่าจะมีนิสัยขี้อายและรักความสงบ” ด้วยเหตุนี้พวกมันจึงน่าจะซ่อนตัวได้ดีจากนักล่า แต่ปรากฏว่าแมวป่าไม่น้อยถูกล่าโดยนายพรานที่ต้องการนำขนของพวกมันไปใช้ประโยชน์ และการที่แมวป่ามีจำนวนลดลงส่งผลให้จำนวนกวางเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จนทำให้ระบบนิเวศในป่าเสียสมดุล ด้วยเหตุนี้อังกฤษจึงคิดว่าการปล่อยให้แมวป่ากลับคืนสู่ธรรมชาตินั้นน่าจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย เนื่องจากจะเป็นการทำให้มีจำนวนแมวป่าเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยลดจำนวนกวางให้อยู่ในอัตราที่พอดี เพื่อเป็นการคงความสมดุลทางระบบนิเวศ ที่มา mirror
-
ปรากฏการณ์ “นกลอยได้” นกลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่ขยับปีก เฮ้ย!! มันลอยได้จริงๆ นะ
ทุกวันนี้เราเห็นนกบินอยู่บนอากาศจนกลายเป็นชินตาไปแล้ว ก็แหงละนั่นมันเป็นธรรมชาติของนกนี่ แล้วถ้าเห็นนกลอยได้ทั้งที่ไม่ตีปีกล่ะ เราจะคิดว่าเป็นเรื่องปกติมั้ย? อะ ลองมาดูคลิปนี้… คือปกติเนี่ย เวลาบินนกมันต้องขยับปีกเพื่อต้านแรงโน้มถ่วง แต่จากคลิปด้านบนนี้มันทำให้เข้าใจว่าบางทีธรรมชาติก็เป็นเรื่องลี้ลับนะ คลิปนี้เป็นเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกได้โดยกล้องวงจรปิด และถูกโพสต์ลงยูทูบโดย Ginger Beard ภายใน 24 ชั่วโมง มีคนเข้าดูถึง 250,000 ครั้ง หลังจากดูคลิป หลายคนสงสัยว่ามันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร… ต่อมามีคนมาอธิบายมันเกิดจากการที่ปีกของมันขยับอย่างรวดเร็ว บวกกับการจับภาพของกล้องที่ช้ากว่าการขยับปีกของนก จึงกลายเป็นภาพลวงตาเหมือนอย่างที่เห็น ซึ่งโอกาสที่เกิดขึ้นมีน้อยมากๆ เลยล่ะ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ที่มา boredpanda l GingerBeard
-
พ่อแม่เดือด…หลังหมอพลาดกรีดใส่หัวของทารกระหว่างผ่าคลอด แต่กลับไม่บอกความจริง!!
แพทย์เป็นอาชีพที่ต้องมีความชำนาญและความละเอียดสูงมาก เพราะหากผิดพลาดเพียงนิดเดียวอาจส่งผลกับชีวิตของคนไข้ทั้งชีวิตเลยก็ได้ อย่างกรณีของเด็กน้อยคนนี้ที่ถูกหมอทำคลอดพลาดไปกรีดใส่หัวของเธอหลังจากทำการพลิกหัวของเธอในระหว่างการผ่าตัดคลอด ตอนนี้พ่อแม่โกรธมาก เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องทางโรงพยาบาล NHS Highland ก็ไม่เคยแจ้งสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากความผิดพลาดของหมอ Emma Edwards ผู้เป็นแม่บอกว่าศัลยแพทย์ได้บอกกับเธอเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะเธอไม่ได้แจ้งทางโรงพยาบาลว่าถุงน้ำคร่ำแตก ตามความเป็นจริงแล้ว กรณีแบบนี้ ทาง NHS Highland บอกว่าแพทย์ผู้ผ่าคลอดต้องทำการตรวจภายในอย่างละเอียด และหากพบความเสี่ยงต้องแจ้งให้พ่อแม่เด็กรับรู้ก่อนทำการผ่าด้วย แต่พ่อแม่ของ Karmen อ้างว่าแพทย์ไม่ได้แจ้งผลการตรวจใดๆ กับพวกเขาเลย และเมื่อเกิดเรื่องพวกเขาก็ไม่เคยรู้สาเหตุที่แท้จริงของเรื่องนี้ ทั้งยังไม่เคยได้รับการติดต่อจากทางโรงพยาบาลอีกเลยเป็นเวลากว่า 1 ปี นอกจากนี้หลังถูกกรีดหัวแล้ว ยังเกิดความล่าช้าในการเย็บแผลให้ทารกด้วย เนื่องจากต้องรอหมอผู้เชี่ยวชาญจาก Aberdeen ที่มาถึงในเช้าของวันถัดมา จากเหตุการณ์นี้จึงทำให้เด็กน้อย Karmen มีรอยแผลเป็นขนาดอยู่ที่ข้างศีรษะเหนือหูของเธอ ที่สำคัญส่งผลให้ครอบครัวจำนวนมากไม่กล้ามาคลอดที่ Caithness อีก แม่บางคนถึงกับยอมเดินทางไปยัง Inverness ที่อยู่ห่างออกไป 300 กิโลเมตร Robert Edwards วัย 62 ปี คุณปู่ของ Karmen บอกว่า “ครอบครัวได้รับความเสียหาย แต่กลับไม่ได้รับการติดต่อจาก NHS Highland เลย” “หลังจากที่ใช้เวลาตรวจสอบกว่า 1…
-
สุนัขขี้เล่นเกินจนไม่มีใครเล่นด้วย แก๊งนักวิ่งจึงรับเข้าทีม และพามันไปเบิร์นพลังงานด้วยกัน
เวลารู้สึกเหงาๆ เราก็คงอยากมีใครสักคนมาช่วยคลายความเหงาให้ แต่ ณ จุดๆ นี้ คงไม่มีใครน่าอิจฉาไปกว่า Jasper น้องหมาขี้เล่นจนไม่ใครเล่นด้วย เลยกลายเป็นหมาเหงาก่อนจะถูกรับเลี้ยงโดยแก๊งเด็กหนุ่ม เมื่อ Jasper อายุได้ 3 ปี มันก็ถูกย้ายจากศูนย์บริการสัตว์ไปยัง Humane Society of Tampa Bay ทำให้มันกลายเป็นสุนัขขี้เล่นมากๆ แต่การที่มันขี้เล่นเกินสุนัขปกติทำให้มันไม่สามารถเข้ากับสุนัขตัวอื่นๆ ได้ ด้วยเหตุนี้ Glen Hatchell ครูฝึกสุนัขในศูนย์พักพิงคิดว่าคงต้องหาที่ที่เหมาะสมให้กับมัน จนในที่สุดก็ได้รับการแนะนำจากอาสาสมัครว่าในท้องถิ่นนี้มีเด็กกลุ่มหนึ่งที่เป็นนักวิ่ง และมักจะวิ่งไปทั่วประเทศ ดังนั้นน่าจะเป็นไอเดียที่ดีทีจะพาเจ้า Jasper ไปเข้าร่วมทีมด้วย และโชคดีที่กลุ่มนักวิ่งจากโรงเรียน Steinbrenner High School ตัดสินใจรับเลี้ยงเจ้า Jasper จากศูนย์พักพิง พร้อมทั้งให้มันเข้าร่วมทีมวิ่งด้วย แล้วรู้มั้ยว่าเจ้า Jasper ทำผลงานได้ดีมาก แม้ว่ามันจะไม่เคยวิ่งไกลขนาดนี้มาก่อนก็ตาม วันแรกมันวิ่งกับแก๊งนักวิ่งประมาณ 4 กิโลเมตรกว่า แต่วันต่อมามันวิ่งได้ 2 กิโลเมตร คงจะรู้จักความเหนื่อยบ้างแล้วสินะ หลังจากที่มันเข้าร่วมการวิ่งมานาน พอกลับมาอยู่ในที่พักพิงพลังงานของมันก็ยังเต็มล้นเหมือนเดิม Hatchell บอกว่า “มันพร้อมที่จะเล่นตลอดเวลา มันดูผ่อนคลายกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย แต่มันก็ยังไม่อยากนอนลงบนเตียงหรือนั่งเฉยๆ…
-
คุณแม่แอบพาลูก 4 ขวบขึ้นเครื่อง เพราะคิดว่าเด็กเล็กไม่ต้องซื้อตั๋ว ทำไฟลท์ดีเลย์วุ่นวาย!!
เรื่องราวสุดปั่นป่วนเมื่อคุณแม่ชาวจีนคนหนึ่ง ได้แอบพาลูกของเธอขึ้นเครื่องโดยที่ไม่ได้ซื้อตั๋วในส่วนของลูก ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบปุ๊บก็ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายขึ้นมาทันที เพราะต้องจัดการปัญหายิบย่อยจนสายการบินต้องดีเลย์เที่ยวบินไปนานกว่า 5 ชั่วโมง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฏาคม 2017 เป็นสายการบินจูนเยา เที่ยวบินระหว่างปักกิ่งไปเซี่ยงไฮ้ โดยที่ทางสายการบินจับได้ว่ามีผู้โดยสายคนหนึ่งแอบขึ้นเครื่องและจ่ายตั๋วไม่ครบ… ผู้โดยสารดังกล่าวเป็นคุณแม่ที่เดินทางมาพร้อมกับสมาชิกครอบครัว เป็นผู้ใหญ่สองคนและเด็กอีกสองคน ซึ่งปัญหามันเกิดขึ้นเพราะคุณแม่คนดังกล่าวแอบพาลูกวัย 4 ขวบขึ้นมาด้วย โดยไม่ยอมซื้อตั๋วในส่วนของลูกคนดังกล่าว!! ผู้ต้องหาได้ให้เหตุผลของการทำแบบนี้ว่า เธอคิดว่าลูกของตนยังเล็กและไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าโดยสาร จึงทำการพาขึ้นเครื่องมาด้วยโดยไม่ซื้อตั๋ว และเรื่องนี้ได้สร้างปัญหายกใหญ่จนทำให้เครื่องบินต้องดีเลย์ออกไป ท้ายที่สุดผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ต้องทนรับผลกรรมไปด้วยก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป พวกเขาต่างประท้วงและบังคับให้สายการบินต้องออกตัวทันทีหลังจากเครื่องดีเลย์มาแล้วกว่า 5 ชั่วโมง!! แน่นอนว่าพอเรื่องนี้ไปถึงชาวเน็ต มีเหรอจะรอด จวกเละ!! แถลงการณ์จากทางสายการบินดังกล่าว ทางด้านสายการบินก็ได้ออกมาแก้ต่างถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า พวกเขาจะไม่เอาผิดกับครอบครัวดังกล่าว เพราะแม้ว่าปกติแล้วเด็กวัย 2 ขวบขึ้นไปจะต้องเสียเงินค่าตั๋ว แต่ถ้าส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตรก็ถือว่าไม่เป็นไรและเด็กคนดังกล่าวก็อยู่ในเงื่อนไขนั้น ส่วนเรื่องเครื่องที่ต้องดีเลย์นานกว่า 5 ชั่วโมง จริงๆ แล้วปัญหามันเกิดขึ้นเพราะครอบครัวดังกล่าวแค่ 90 นาที ส่วนเวลาดีเลย์ที่เหลือเกินขึ้นเพราะสภาพอากาศไม่ดีนั่นเอง……
-
‘ไม่ชอบก็อย่ามอง!!’ แม่ออกมาปกป้อง หลังลูกชายชอบใส่ชุดเจ้าหญิง แต่ถูกคนอื่นวิจารณ์
เรียกได้ว่าปัจจุบันทุกวันนี้โลกเราพัฒนามาถึงจุดที่ ผู้คนรุ่นใหม่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับความเสมอภาคในเรื่องเพศสภาพส่วนบุคคลกันมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับลูกชายของคุณแม่วัย 25 ปี Charlie Hirons จากประเทศอังกฤษ โดยลูกชายของเธอชื่นชอบการใส่ชุดเดรสแบบเจ้าหญิงมากเป็นที่สุด ทว่าเขากลับถูกคนในสังคมวิพากษ์วิจารณ์จนทำให้เสียความมั่นใจในตัวเอง Riley-Prince Hirons ลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว สำหรับหัวอกคุณแม่แล้ว เธอมองว่าลูกชายของเธอมีสิทธิที่จะแต่งตัวได้ตามแบบที่เขาต้องการ และมีสิทธิที่จะเลือกเพศสภาพได้ตามความชอบของตัวเอง “บ่อยครั้งที่ครอบครัวเราไปทานอาหารข้างนอก โดยลูกชายของดิฉันใส่ชุดซินเดอเรลล่าไปด้วย และก็ตามมาด้วยผู้คนที่มักจะส่งสายตาแปลกๆ ใส่เขา บางคนก็ว่ากล่าวให้ร้าย บางคนก็เข้ามาล้อเลียนเหมือนเป็นเรื่องตลก” คุณแม่เล่า ครอบครัว Hirons คุณแม่เล่าว่าก่อนหน้านี้ญาติๆ ของเธอไม่เห็นด้วยที่เธอจะซื้อชุดเดรสซินเดอเรลล่าให้ลูกชายใส่ แต่เธอมองว่ามันเป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคลของเด็ก มันไม่สำคัญว่าจะต้องชอบให้ตรงตามเพศอีกต่อไปแล้ว “โลกเราเปลี่ยนไปมากแล้ว มันไม่จำเป็นหรอกว่าผู้ชายจะต้องชอบอะไรที่เป็นผู้ชาย ในขณะที่เด็กผู้หญิงอาจจะชอบเล่นเป็นทหารก็ได้ใครจะรู้ล่ะ?” คุณแม่กล่าวเสริม แม้ว่าผู้คนภายนอกอาจจะพูดว่า ลูกชายของเธอถูกคุณแม่บังคับให้แต่งตัวแบบผู้หญิง แต่เธอก็ไม่ได้สนใจในคำวิจารณ์ที่ไม่ได้เป็นจริงเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย เพราะทุกเครื่องแต่งกาย ทุกของเล่น และทุกกิจกรรม เธอกับสามีมักจะเปิดโอกาสให้ลูกได้ใช้ความคิดเป็นของตัวเองเสมอ “ฉันก็แค่ให้ลูกได้เป็นตัวของตัวเองก็เท่านั้น มันไม่จำเป็นหรอกที่คุณจะมีวิจารณ์อะไร เพราะถ้าคุณไม่ชอบก็อย่ามองซะก็จบ” ท้ายที่สุดแล้วคุณแม่ก็ไม่ได้สนใจว่าลูกเธอจะชอบอะไร สนใจอะไร สิ่งที่เธอต้องการก็คือสอนให้ลูกเป็นคนดี และเป็นตัวของตัวเอง…
-
ประกาศขายเกาะส่วนตัวในสก็อตแลนด์ แค่ 14 ล้านบาท คุณก็เป็นเจ้าของเกาะได้แล้วนะ..!!
สำหรับใครที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ที่จะใช้ลงทุนระยะยาว หรือกำลังมองหาที่พักส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเกาะสวาทหาดสวรรค์จากสก็อตแลนด์ ที่คุณก็เป็นเจ้าของได้ด้วยราคาเพียง 14 ล้านบาทเท่านั้น!! Little Ross Island เป็นเกาะส่วนตัวที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เกี่ยวกับกรณีที่นาย Hugh Clark ถูกฆาตกรรมที่นี่เมื่อ 60 ปีก่อน Little Ross Island สำหรับใครที่ไม่แคร์เรื่องคดีฆาตกรรมในอดีต ว่ากันว่าที่นี่เป็นเกาะที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางธรรมชาติอันโดดเด่นใจกลางทะเล เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสก็อตแลนด์ พร้อมพื้นที่ขนาดประมาณ 73 ไร่ ภายในอาคารก็ประกอบไปด้วยห้องนอน 6 ห้อง โดยบ้านทั้งหลังจะใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์และแรงลม (ประหยัดค่าไฟไปได้อีกเยอะ) รูปแบบอาคารภายนอกที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะ ก็จะมาพร้อมกับประภาคารที่เคยใช้สำหรับการเดินเรือ “ย้อนกลับไปในปี 1900s เกาะแห่งนี้เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวประมง นักเดินเรือ รวมทั้งมีการทำเกษตรกรรมขนาดเล็กขึ้นที่นี่ด้วย” David Corrie จากบริษัทที่ดูแลพื้นที่ส่วนนี้ให้สัมภาษณ์ และทุกวันนี้เกาะแห่งนี้ก็อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท Northern Lighthouses ซึ่งจะเดินทางมาได้ด้วยการใช้เรือหรือเครื่องบินส่วนตัวเท่านั้น ถ้าใครอยากเป็นเจ้าของก็ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณต้องมีเงิน…
-
จูบสุดท้าย…ภาพแห่งความประทับใจ ลูกน้อยจูบลาแม่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนเธอจะสิ้นลมหายใจ
ตั้งแต่เกิดมา แม่จะเป็นผู้ที่คอยทะนุถนอมลูกน้อยไว้ในอ้อมกอด ไม่ให้เจ็บไข้ได้ป่วย แม้ต้องอดหลับอดนอนก็ตาม หวังจะได้เห็นลูกน้อยเติบโตมาอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ แต่ใช่ว่าแม่ทุกคนจะได้มีโอกาสเห็นวันนั้นของลูก อย่างคุณแม่คนนี้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสมองผิดปกติ ทำให้เธอต้องจากลูกน้อยไปโดยไม่ทันได้เห็นการเติบโตของลูก Imogen Petrak จาก Gold Coast ประเทศออสเตรเลีย ถูกพบว่ามีการติดเชื้อที่หู ขณะที่เธอตังภรรค์ลูกคนที่สองได้ 36 สัปดาห์ Renee King เพื่อนสนิทของครอบครัว Imogen เล่าว่า อาการติดเชื้อของเธอคาดว่าน่าจะมาจากไขสันหลังอักเสบจนติดเชื้อจนลามขึ้นไปที่สมองทำให้เกิดอาการบวมอย่างรุนแรง ด้วยเหตุนี้คุณหมอจึงต้องผ่าคลอดฉุกเฉิน เพื่อช่วยเด็กในครรภ์ แต่สมองของ Imogen ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ก่อนจากไป JB ลูกชายวัย 17 เดือน ได้บรรจงจูบหน้าผากแม่ เป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย จนกลายเป็นโมเม้นต์สุดประทับใจที่ยากเกินจะบรรยายออกมาได้ มันเป็นจูบสุดท้ายที่งดงามที่สุด แม้แต่คุณแม่ที่นอนไม่ได้สติก็คงรับรู้ได้ถึงความรักที่ลูกต้องการจะบอกและคงหวังไว้ลึกๆ ว่าเขาจะทำหน้าที่ดูแลน้องสาวแทนแม่ในอนาคต ต่อมาผู้เป็นพ่อก็ได้โพสต์ภาพความประทับใจนี้ลงในโซเชียล โดยให้แคปชั่นว่า “จูบลาครั้งสุดท้าย” จนชาวเน็ตเข้ามาคอมเม้นต์ให้กำลังใจกันมากมาย John สามีของผู้เสียชีวิตได้เขียนในเฟซบุ๊กว่า “วันนี้เป็นวันที่แสนขื่นขม เมื่อเวลา 12:11 น. Eleanor ลูกสาวคนแรกและเป็นลูกคนที่สองของผมได้คลอดด้วยวิธีผ่านคลอดฉุกเฉิน แต่ต่อมาในเวลา 5 โมงเย็น ภรรยาที่รักของผมก็เสียชีวิตลงด้วยภาวะแทรกซ้อนจากกการติดเชื้อในหู” …
-
ชาวเน็ตแดนอาหรับโจมตีหนัก รับไม่ได้กับสาวนางแบบนุ่งสั้น ถ่ายคลิปเดินเล่นในโบราณสถาน!!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เมื่อล่าสุดได้มีนางแบบสาวนางหนึ่งไปเที่ยวสถานที่ประวัติศาสตร์ในดินแดนตะวันออกกลาง พร้อมกับถ่ายคลิปลงแอพพลิเคชั่น Snapchat ภาพที่ปรากฎนั้นเป็นตัวเธอเองนุ่งกระโป่งสั้นเสื้อครอปท็อป ซึ่งทำให้ชาวเน็ตที่นับถือศาสนาที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ดังกล่าวเกิดความไม่พอใจสุดขีด!! นางแบบสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า Khulood ซึ่งเธอได้ไปยังเมือง Ushaiqer ซึ่งเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งในประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยถ่ายอัดคลิปสั้นๆ ในระหว่างที่เธอเดินท่องเที่ยวชมเมือง ทว่าเมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตต่างออกมาแสดงความไม่พอใจกันยกใหญ่ เพราะว่าการแต่งกายของเธอนั้น ถือเป็นการเย้ยกฏหมายของประเทศที่เน้นเรื่องการแต่งกายอย่างเข้มงวด ความเห็นชาวเน็ตส่วนใหญ่ก็จะออกไปประมาณว่า บุคคลที่ไม่ให้ความเคารพในกฏของอาณาจักรจะต้องถูกลงโทษ หรือคนที่ไม่คารพกฏหมายจะต้องถูกจัดการอย่างถึงที่สุด ไม่พอแค่นั้น Ibrahim al-Munayif นักเขียนชาวซาอุฯ ที่มีผู้ติดตามกว่า 4 หมื่นคนก็ออกมาทวีตในทางเดียวกันว่า “เช่นเดียวกับเวลาที่ใครก็ตามต้องเคารพกฎของประเทศที่พวกเขาเดินทางไป ฉะนั้นพวกคุณก็ควรจะเคารพกฎของประเทศนี้ด้วยเช่นกัน” และแน่นอนว่าเมื่อมีคนที่ไม่เห็นด้วย ก็ย่อมมีคนที่เห็นด้วย ชาวเน็ตอีกกลุ่มหนึ่งก็ต่างออกมาพูดและปกป้องนางแบบสาวคนดังกล่าวทำนองว่า… โลกได้เปลี่ยนไปแล้ว และนักท่องเที่ยวทุกคนก็ไม่ได้สวมใส่ชุด Abaya เหมือนกับคนในประเทศหรอกนะ หรือในอีกทำนองว่า เธอโพสต์คลิปดังกล่าวในพื้นที่ของเธอ พวกคุณไปติดตามและมีปัญหาเองนี่ สุดท้ายแล้วทางการของประเทศซาอุดิอาราเบีย ก็ไม่ได้ทำการจับกุมหญิงสาวแต่อย่างใด รวมถึงด้านเจ้าชายของประเทศอย่าง เจ้าชาย Mohammed bin Salman ก็เป็นคนที่เปิดกว้างมากๆ ด้วย ซึ่งประเด็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นจึงเป็นแค่ความคิดเห็นของชาวเน็ตนั่นเอง ที่มา dailymail
-
เปิดขายปราสาทเก่าสไตล์สก็อต พร้อมเกาะอีก 2 เกาะ จับจองได้ในราคาแค่ 165 ล้านบาทเอ๊ง!!
คนที่ชอบดูการ์ตูนหรือหนังแนวแฟนตาซีคงจะคุ้นเคยกับปราสาทเป็นอย่างดี จนหลายคนถึงอยากมีปราสาทเป็นของตัวเองในสักวันหนึ่ง แต่มันจะไม่เป็นแค่ฝันอีกต่อไป เพราะตอนนี้มีปราสาทเก่าแก่ในสก็อตแลนด์ที่มีทิวทัศน์ที่งดงามพร้อมด้วยเกาะ 2 เกาะ รอให้คุณได้เป็นเจ้าของในราคา 165 ล้านบาทเอ๊ง ปราสาท Glenborrodale มีเนื้อที่ทั้งหมด 330 ไร่ ตั้งอยู่บนคาบมหาสมุทร Ardnamurchan ที่ Lochaber ใน Scottish Highlands มันถูกสร้างขึ้นในปี 1902 เป็นคฤหาสน์บารอน 5 ชั้น มีลักษณะเหมือนปราสาทในนวนิยาย ประตูด้านหน้าจะเป็นประตูเหล็ก และหว่างทางที่เดินเข้าสู่ตัวประสาทจะเห็นเสาหินที่งดงามเรียงรายอยู่ทั้งสองข้างทาง ในขณะที่ภายในของประสาทได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา มีบันไดหินอ่อนที่งดงามพร้อมด้วยเตาผิงแบบดั้งเดิม มีห้องนอน 16 ห้อง และยังมีทิวทัศน์ที่งดงามอยู่รอบด้าน นอกจากนี้ยังมีสนามเทนนิส มีห้องครัวสุดอลังการ มีห้องเล่นเกมส์ และมีเรือบ้านพร้อมท่าเทียบเรือ Bell Ingram ผู้ประกาศขายปราสาท Glenborrodale บอกว่า “ที่นี่เป็นทำเลที่ดีมาก มีทัศน์ยภาพบนชายฝั่งที่โดดเด่นและอุดมไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด” จุดเด่นของปราสาทคือมันตั้งอยู่ระหว่างเกาะที่งดงาม 2 เกาะ ดังนั้นเมื่อคุณซื้อปราสาทนี้ไป คุณจะได้เกาะทั้งสองไปด้วย ปราสาท Glenborrodale…
-
แม่ขโมย “เงินบริจาค” ของลูกสาวที่พิการไปใช้เอง ทั้งทำนม ซื้อรถ และซื้อบ้านใหม่
ทุกวันนี้มีคนไม่น้อยที่ช่วยเหลือหรือบริจาคเงินให้ผู้พิการ อาจจะเป็นค่ารักษาบ้าง ค่าอุปกรณ์การใช้ชีวิตบ้าง และสิ่งที่ผู้บริจาคต้องการคือ อยากเห็นผู้พิการคนนั้นๆ มีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ก็อย่างที่รู้ว่าผู้พิการบางคนไม่สามารถจัดการเงินบริจาคด้วยตัวเอง จึงต้องให้ผู้ปกครองหรือผู้ที่เกี่ยวข้องดูแลแทน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ะเงินนั้นถูกนำไปช่วยเหลือผู้พิการจริงๆ อย่างกรณีของ Cathy Svendsen แม่วัย 47 ปี กับอดีตสามี Robert Hills วัย 49 ปี ได้ร่วมกันขโมยเงินบริจาคของลูกผู้พิการว่า 21 ล้านบาท เพื่อไปหาความสุขให้ตัวเอง ทั้งทำนม ซื้อรถ ซื้อบ้านใหม่ และท่องเที่ยว ในปี 1999 Samantha หญิงผู้พิการได้รับเงินบริจาค 114 ล้านบาท แต่กลับถูกแม่กับพ่อขโมยไป 21 ล้านบาท เพื่อหาความสุขใส่ตัวเอง Svendsen ใช้เงิน 500,000 ในการทำหน้าอกและดูดไขมัน และยังสูญเงินไปอีก 3,000,000 บาท ในการทำธุรกิจจนล้มไม่เป็นท่า ทั้งคู่ได้นำเงินของลูกที่พิการไปหาความสุขตลอด 8 ปี โดยที่ไม่มีใครรู้เลย แต่ในที่สุดเมื่อความจริงถูกเปิดเผย ทั้งคู่ก็ถูกศาลตัดสินจำคุกตั้งแต่ปี 2014…
-
ยอดลูกชายกตัญญูยอม “แต่งหญิง” นานกว่า 20 ปี เพื่อปลอบใจแม่หลังสูญเสียลูกสาวไป
การที่สาวประเภทสองส่วนใหญ่เลือกที่จะแต่งหญิงนั้น อาจเป็นเพราะช่วยสร้างความมั่นใจให้ และเป็นรสนิยมส่วนบุคคลด้วย แต่สำหรับชายคนนี้ ได้แต่งหญิงมานานกว่า 20 ปี ทั้งที่เขาไม่ใช่สาวประเภทสอง และไม่ใช่รสนิยมของเขาด้วย แต่เป็นเพราะเขาต้องการปลอบใจแม่ที่สูญเสียลูกสาวไป นี่เป็นเรื่องราวสุดซึ้งของชายคนหนึ่งจาก Guilin ในมณฑลกวางสีของประเทศจีน เขาได้แต่งหญิงมาตั้งแต่ปี 1990 หลังจากที่พี่สาวเสียชีวิต แม่รักลูกสาวมาก ดังนั้นเมื่อลูกจากไปเธอจึงทำใจไม่ได้ จนทำให้สภาพจิตใจและร่างกายทรุดลงอย่างเห็นได้ชัด และแทบจะกินไม่ได้ นอนไม่หลับเลย ด้วยเหตุนี้ลูกชายเพียงคนเดียวจึงตัดสินใจที่จะแต่งหญิงให้เหมือนพี่สาวที่จากไปเพื่อที่จะดูแลแม่ ปรากฏว่าอาการของแม่ก็ค่อยๆ ดีขึ้น และกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ลูกชายบอกว่าการแต่งหญิงของเขาทำให้แม่อาการดีขึ้นมาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองยังไง ขอแค่ให้แม่มีความสุขก็พอ ส่วนคุณแม่บอกว่า “ตั้งแต่ลูกสาวของฉันตาย เขาก็กลายเป็นลูกสาวอีกคนของฉัน” ปัจจุบันการแต่งหญิงกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับลูกชายคนนี้ไปแล้ว มันเหมือนการได้รับชีวิตเป็นผู้หญิงตั้งแต่นั้นมาและเขาก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่นี้ด้วย นี่เป็นตัวอย่างของความกตัญญูของลูกที่มีต่อแม่ มันอาจไม่ใช่ความชอบ ไม่ใช่รสนิยม แต่อะไรก็ตามที่ทำให้แม่มีความสุข ลูกก็จะมีความสุขไปด้วย ลูกชายแต่งหญิงเพื่อแม่ที่เสียลูกสาวไป ที่มา dailymail
-
พนักงานไม่ยอมขายอาหารให้ลูกค้า เมื่อรู้ว่าเขาจะเอาไปให้กับคนจรจัด อ้างเป็นกฎของสถานี
คนจรจัดถือเป็นเรื่องใหญ่ที่หลายประเทศต้องการแก้ไขและกวาดล้างให้หมดไปด้วยวิธีการต่างๆ หนึ่งในนั้นคือห้ามช่วยเหลือคนจรจัดเพราะมันเท่ากับเป็นการส่งเสริม และเพราะแบบนี้จึงทำให้ช่างภาพคนหนึ่งถูกพนักงาน Costa Coffee ปฏิเสธที่จะขายแซนวิชให้ เพราะรู้ว่าเขาจะเอามันไปให้กับคนจรดจัด เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ Adrian Pinsent จาก Walton-upon-Thames อยู่ที่สถานี Waterloo Station เขาก็เห็นคนจรจัดนอนอยู่ข้างนอก เขาจึงพาคนจรจัดคนนั้นเข้าไปในร้านกาแฟเพื่อซื้อแซนวิชและเครื่องดื่มให้ แต่เมื่อพนักงานรู้ว่าเขาจะซื้อให้คนจรจัด จึงปฏิเสธที่ขายให้ โดยอ้างว่าเป็นนโยบายของสถานี หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามกฎที่ตั้งไว้ Pinsent ก็เลยบอกพนักงานว่างั้นเขาจะซื้อกินเอง แต่ก็ถูกปฏิเสธอยู่ดี และพูดแค่เพียงว่า “ขอโทษด้วยนะครับ ขอโทษจริงๆ แต่เราไม่สามารถขายให้คุณได้” พนักงานบอกว่า “เราทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ มันไม่ใช่กฎของ Costa Coffee แต่เป็นนโยบายของสถานีค่ะ ถ้าเราฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี” ช่างภาพเลยหันไปถามพนักงานอีกคน แต่ก็ถูกปฏิเสธเหมือนกัน Pinsent เล่าว่าเขาเจรจากับพนักงานอีกประมาณ 5 นาที และตลอดเวลานั้นพนักงานไม่พูดกับคนจรจัดที่เขาพาเข้ามาเลย ในที่สุดช่างภาพก็เอาเงินให้คนจรจัดแล้วบอกให้พนักงานขายอาหารให้คนจรจัดคนนี้ด้วย ส่วนตัวเขาเองนั้นต้องรีบไป ไม่งั้นจะพลาดรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายของวันนี้ จากนั้นคนจรจัดก็เดินเข้าไปที่เคาน์เตอร์ และมองกลับมาที่ Pinsent บางครั้งด้วยความกังวล แต่รู้มั้ยตลอดเวลาที่ยืนอยูที่นั้น พนักงานไม่พูดกับเขาเลย ช่างภาพพูดอย่างหัวเสียว่า “ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนบอกพนักงานเกี่ยวกับข้อปฏิบัติแบบนั้น แต่เห็นได้ชัดพวกเขาทำตามอย่างเคร่งครัดจนไม่สนใจอะไรเลย” เมื่อเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป โฆษกของ Network…
-
พบกับคุณแม่ผู้รักการ “คอสเพลย์” แต่งออกมาได้น่ารักมากจนกลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นไปแล้ว
เป็นธรรมดาของเด็กๆ หรือวัยรุ่นที่จะชอบแต่งคอสเพลย์ตามตัวการ์ตูนต่างๆ ส่วนวัยผู้ใหญ่เราไม่ค่อยได้เห็นเลย อาจจะเป็นเพราะมันเลยวัยที่จะทำแบบนั้นแล้วก็ได้ แต่สำหรับ Solange จากเมือง Manaus ประเทศบราซิล แม้จะอายุมากแล้ว แต่เธอก็ยังชอบคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูนที่อยู่ในวัยใกล้เคียงกัน เห็นแล้วช่างเป็นคนสูงวัยที่น่ารักจริงๆ ตอนแรกเพื่อนๆ ต่างบอกว่าเธอไม่กล้าทำแบบนั้นหรอก แต่ Solange แสดงให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องจิ๊บๆ ว่าแล้วเธอก็ซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์การคอสเพลย์จากร้านค้าออนไลน์ และจัดการแต่งตัวด้วยตัวเองทั้งหมด 1. Muriel จากเรื่อง The Cowardly Dog ส่วนตัวการ์ตูนที่ Solange ชอบคอสเพลย์มากที่สุดคือ Yubaba จาเรื่อง Spirited Away และ Muriel จากเรื่อง Courage the Cowardly Dog เธอบอกว่า “ฉันไม่คิดว่าจะได้รับการยอมรับอย่างมากมายจากคนหนุ่มสาว แต่รู้มั้ยทุกวันนี้ฉันกลับมีเพื่อนมากมายจากการคอสเพลย์นี่แหละ” ดังนั้นการคอสเพลย์จึงเปรียบเหมือนสวรรค์ของ Solange… ส่วนตัวการ์ตูนที่เธอจะคอสเพลย์ต่อไปคือคุณยาย Juju จากเรื่อง Jorel’s Brother ติดตามกันได้ที่เฟซบุ๊กของเธอนะคะ 2. Yubaba จากเรื่อง Spirited Away 3. นางฟ้าจากเรื่อง Shrek 4. คุณยาย Tala…
-
โรงเรียนเชิญ “ศิลปินกราฟฟิตี้” กว่า 100 คน มาสร้างผลงานบนผนังหอพัก ก่อนปรับปรุงอาคาร
โรงเรียนส่วนใหญ่มักมีการออกแบบอย่างเรียบง่าย เน้นการใช้สอยมากกว่าศิลปะการตกแต่ง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสีที่ใช้ทาอาคารต่างๆ จะเป็นสีเรียบๆ และเป็นสีเดียวกันเกือบทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ศิลปินกราฟฟิตี้กว่า 100 คน จึงได้เปลี่ยนผนังหอพักนักเรียนที่ Cité Internationale Universitaire ในกรุงปารีส ให้เต็มไปด้วยลวดลายและสีสันที่ไม่ซ้ำกันเพื่อให้เห็นความสร้างสรรค์ของงานศิลปะ การเปลี่ยนผนังอาคารนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Rehab 2 ซึ่งได้เชิญศิลปินกราฟฟิตี้จากเมืองต่างๆ มาประทับผลงานของตนเอง โดยใช้เวลากว่า 3 สัปดาห์ และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 16 กรกฎาคม ปีนี้ น่าเสียดายที่ศิลปะบนผนังเหล่านี้อยู่ได้เพียงไม่นานก็ถูกลบออก เนื่องจากมีการปรับปรุงหอพักอย่างเป็นทางการ แต่ยังดีที่ช่างภาพบันทึกภาพไว้ได้ก่อนที่มันจะถูกลบออกไป 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12.…
-
ตูบโกลเด้นกลายเป็นฮีโร่ หลังเข้าช่วย “ลูกกวางน้อย” ที่กำลังจะจมน้ำ จนพาขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่จะทำให้เรารู้สึกอบอุ่นหัวใจตามไปด้วย เมื่อ Storm น้องหมาพันธุ์โกลเด้นสีขาวตัวนี้ ได้กลายเป็นสุดยอดฮีโร่ หลังจากที่มันได้กระโดดลงไปช่วยลูกกวางน้อยที่กำลังจะจมน้ำ สำหรับเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ ขณะที่เจ้า Storm ได้เดินทางไปเที่ยวกับครอบครัวที่ Port Jefferson Harbor ในนิวยอร์ก ซึ่งขณะที่มันออกไปเดินเล่นกับเจ้านายที่ริมหาดอยู่นั้น จู่ๆ เจ้าหมาก็ได้เห็นลูกกวางน้อยตัวหนึ่งกำลังจมน้ำอยู่กลางทะเล และนั่นก็ทำให้มันไม่รอช้า รีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนต่างสายพันธุ์ทันที ทางด้าน Mark Freeley ผู้เป็นเจ้าของก็ได้คอยเฝ้าดูเจ้าหมาในขณะที่มันว่ายน้ำออกไปช่วยลูกกวาง และหลังจากนั้นมันก็คาบคอเจ้ากวาง พร้อมกับสามารถพามันขึ้นฝั่งได้สำเร็จ โชคดีนะเนี่ยเจ้ากวางที่สามารถรอดชีวิตมาได้ และนี่คือคลิปวีดีโอวินาทีขณะที่เจ้าหมาได้กระโดดลงไปช่วยลูกกวางน้อยที่กำลังจมน้ำ เมื่อสามารถช่วยลูกกวางน้อยขึ้นมายังฝั่งได้สำเร็จ ทาง Mark เจ้าของสุนัขก็ได้ติดต่อไปยังมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Strong Island Animal Rescue League เพื่อขอความช่วยเหลือ และเมื่อ Frankie Floridia และ Erica Kutzing เจ้าหน้าที่มูลนิธิมาถึง พวกเขาก็พบว่าเจ้ากวางน้อยเกิดอาการหงุดหงิดและได้วิ่งกลับลงไปในน้ำอีกครั้ง งานนี้เลยทำให้…
-
ภาพของเจ้า “กบฮอร์นฟรอก” สีสันสวยงาม ได้รับรางวัลการประกวดภาพถ่ายระดับนานาชาติ
วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 เว็บไซต์ Metro ได้เผยผลงานที่ได้รับรางวัลการประกวดภาพถ่ายระดับนานาชาติ ซึ่งรางวัลชนะเลิศได้ตกเป็นของ Michelle Howell ช่างภาพสาวจากอังกฤษ กับภาพของเจ้า “กบตาหนามอาร์เจนตินา” (Argentina Horned frog) หรือ “ฮอร์นฟรอก” ที่มีสีสันสวยงามภาพนี้… สำหรับ Michelle เธอเคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Flockton ในยอร์กเชอร์ ซึ่งภายหลังจากที่เธอได้ออกจากการเป็นตำรวจ เธอก็ได้หันมาทำธุรกิจเรือใบ และได้กลับมาถ่ายภาพที่เคยชื่นชอบดังเดิม “ธุรกิจเรือใบได้ทำให้ฉันเดินทางไปทั่วโลก และฉันก็ได้ใช้โอกาสเหล่านั้นในการถ่ายภาพสิ่งที่อยู่รอบตัวของฉัน ซึ่งฉันสนใจธรรมชาติ และการถ่ายภาพมาโครมากๆ เลยละ” Michelle กล่าว นอกจากนี้ ยังมีผลงานภาพถ่ายเจ๋งๆ ของช่างภาพคนอื่นๆ ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย . . . . . . . . . เป็นภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิต ผสมผสานกับความงดงามของธรรมชาติได้ลงตัวเหลือเกิน งานนี้ต้องขอปรบมือให้กับบรรดาช่างภาพเหล่านี้ซะแล้ว…
-
พบ “หมีสีน้ำตาล” ขนาดยักษ์ ออกมานั่งรถเล่นรอบเมืองในรัสเซีส ดูท่าทางนางสิ สบายเหลือเกิ๊น!!
บนรถพ่วงมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง เราก็นึกว่าชาย 2 คน กำลังขับรถเที่ยวกันแบบชิวๆ บนถนนพร้อมตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลขนาดยักษ์ แต่ความจริงแล้วนั่นไม่ใช่ตุ๊กตา แต่เป็นหมีของจริงๆ ต่างหากละ วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอของเจ้าหมีสีน้ำตาลจากประเทศรัสเซีย ที่กำลังได้รับความสนใจไปทั่วโลกออนไลน์ในขณะนี้เป็นอย่างมาก จากภาพเราจะเห็นได้ว่า เจ้าหมียักษ์ตัวนี้มันไม่ธรรมดา เพราะมันกำลังนั่งนิ่งๆ อยู่บนรถพ่วงมอเตอร์ไซค์ พร้อมให้มนุษย์ 2 นาย พาขับรถเล่นอยู่บนท้องถนนอย่างสบายใจเฉิบ งานนี้สร้างความตื่นตาให้กับผู้คนบนท้องถนนเป็นอย่างมาก ทางด้าน Nicholas Pasynkov ผู้ที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ออกมาเผยว่า ในขณะที่เขากำลังขับรถอยู่บนถนนในเมือง Syktyvkar เขาก็เห็นหมีขนาดยักษ์ตัวนี้นั่งนิ่งอยู่บนรถพ่วง ซึ่งมันเป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนักบนถนนแห่งนี้ ว่าแล้วก็มาชมคลิปของมันกันเลย นั่งสบายใจนะ แหม่!! จากการรายงานระบุว่า หมีตัวนี้มีชื่อว่า Tim มันเป็นหมีจากคณะละครสัตว์ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้า Tim ได้ออกมานั่งรถมอเตอร์ไซค์แบบนี้ เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว ก็มีคลิปวีดีโอขณะที่มันนั่งอยู่บนรถพ่วงมอเตอร์ไซค์ปรากฏอยู่ทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งมันได้ถูกเจ้านายนำมาร่วมงานการกุศลโดยกลุ่มนักบิดท้องถิ่น เพื่อให้ช่วยระดมเงินทุนมอบให้กับคลินิกผู้ป่วยทางจิตนั่นเอง มีโบกไม้โบกมือด้วยนะ . ที่มา…
-
หนุ่มชาวแอฟริกัน ผู้มีลูกป๋องแป๋งที่ใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไปถึง 10 เท่า โอ้ววพระเจ้าจอร์จ..!!
เราค่อนข้างจะมั่นใจเลยว่า เรื่องราวของหนุ่มชาวแอฟริกันผู้มีลูกป๋องแป๋งที่ใหญ่เกินกว่าชาวบ้านครั้งนี้ จะทำให้หนุ่มไทยหลายๆ คนรู้สึกว่าโชคดีจังเลยที่เกิดมามีไข่ใบเล็กน่ารักมุ้งมิ้ง โดยเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเรื่องราวของ Forene Owiti Opiyo วัย 21 ปี จากประเทศเคนย่า ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดช่วยเหลือ หลังขนาดลูกป๋องแป๋งใหญ่จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเขา Forene Owiti Opiyo “จำได้ว่าตอนผมอายุ 10 ขวบ มีตุ่มอะไรก็ไม่รู้ปรากฎขึ้นมาที่บริเวณหนังหุ้มไข่ ตอนแรกผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร จนมันมีขนาดเท่ากำปั้นมือ จากนั้นมันก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นอย่างที่เห็นกันนี่แหละครับ” เจ้าตัวร้องทุกข์ นับว่าลักษณะลูกป๋องแป๋งที่ใหญ่ผิดมนุษย์ ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนคนอื่นๆ เช่น เขาไม่สามารถสวมใส่กางเกงได้ หรือไม่สามารถเดินทางเท้าเป็นระยะทางไกลๆ ได้ จากผลกระทบดังกล่าว ทำให้เขาต้องออกจากโรงเรียนในวัยเด็ก และไม่สามารถออกไปหางานทำเพื่อช่วยเหลือครอบครัวได้ ก่อนหน้าที่เขาจะได้รับการผ่าตัดช่วยเหลือจากโรงพยาบาล เขาจำเป็นที่จะต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นช่างซ่อมรองเท้า และแน่นอนว่ารายได้ไม่มากพอที่จะช่วยให้เขารักษาอาการป่วยของตัวเองได้ ทว่าเป็นความโชคดีที่ Dr. James Obondi หมอศัลยแพทย์ได้อาสารับตัวผู้ป่วยมาดูแลเอง ก่อนจะทำการผ่าตัดศัลยกรรมทำให้ชีวิตของพ่อหนุ่มคนนี้ทำอะไรได้ง่ายยิ่งขึ้น “ผมต้องขอบคุณการช่วยเหลือจากคุณหมอมากจริงๆ ชีวิตผมเปลี่ยนไปเยอะมากหลังจากที่ได้เข้ารับการผ่าตัด ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นและดูอาการต่อไป” Forene ให้สัมภาษณ์…
-
ชาวเน็ตโวย!! ช่างสักจีนเอาแมวน้อยไปสักขา ก่อนนำวิดีโอมาแชร์ สุดท้ายโดนไล่ออก…
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตไปทั่วโลก หลังจากที่เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเรื่องราวของช่างสักชาวจีนคนหนึ่ง ที่อุตริเอาแมวน้อยวัย 6 เดือน ไปละเลงสักขาเพื่อฝึกฝีมือให้ตัวเอง!! เว็บไซต์ต้นฉบับได้รายงานว่า หนุ่มจีนนามว่า ‘Qingzi’ ได้โพสต์ภาพวิดีโอแมวเหมียวที่กำลังส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร เพราะอาจจะบาดเจ็บจากการถูกสักที่ขา คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียลเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากการสืบสวนของผู้สื่อข่าวในท้องถิ่นพบว่า ช่างสักคนดังกล่าวได้ดำเนินกิจการอยู่ในเมืองจี่หนิง มณฑลชานตง มาเป็นเวลานานกว่า 7 ปีแล้ว หลักจากที่กลายเป็นกระแสดราม่า เจ้าตัวก็ได้ออกมาโต้แย้งว่าการสักเป็นเหมือนงานศิลปะ และเขาอยากจะมอบงานศิลปะให้กับสัตว์เลี้ยงของเขาบ้าง โดยการสักครั้งนี้ได้เลือกใช้หัวปากกาเขียนคิ้วและให้ยาชาก่อนแล้ว แต่ถึงกระนั้นชาวเน็ตหลายคนก็โต้แย้งว่า เป็นการกระทำที่โหดร้ายเกินไป ชาวเน็ตคนหนึ่งบนเว็บไซต์ weibo ได้โพสต์ข้อความตำหนิว่า ‘ถ้านายอยากฝึกสักทำไมไม่ใช้หนังหมูที่ขายตามตลาดล่ะ หรือไม่ก็ซื้อหนังเทียมจากเน็ตมาก็ได้ ทำไมต้องทารุณโหดร้ายกับแมวน้อยด้วย!?’ จากกระแสดราม่าที่แพร่สะพัดไปทั่วโซเชียล ทำให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงสัตว์ได้เข้ามารับตัวเจ้าเหมียวไปดูแลแทน และในช่างสักคนดังกล่าวก็ต้องตกงานเช่นเดียวกัน Dr Manilal Valliyate สัตวแพทย์จากองค์กร PETA ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า “การทำแบบนี้กับสัตว์ถือว่าโหดร้ายมาก มันไม่ใช่แค่เรื่องของความเจ็บปวดแต่อาจส่งผลถึงการติดเชื้อในอนาคตด้วย” ทำแบบนี้มิ้วน้อยคงเจ็บแย่เลย น่าสงสารที่สุด… ที่มา: Dailymail
-
ช่วงเวลาดีๆ ของ ‘Ryan Reynolds’ เฟซไทม์ให้กำลังใจหนูน้อยวัย 5 ขวบที่ป่วยเป็นมะเร็งสมอง…
Daniel Downing หนุ่มน้อยที่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมองและโชคร้ายที่เจ้าหนูไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ หลังจากที่ได้ทราบข่าวร้ายทางครอบครัวของเจ้าหนูได้ติดต่อไปยังหนุ่ม Ryan Reynolds นักแสดงหนุ่มคนโปรดของเจ้าหนู เพื่อขอให้คุยกับเขา เมื่อติดต่อกับดาราคนโปรดได้ เจ้าหนูน้อยได้ขอร้องไปยังหนุ่ม Ryan ว่าอยากจะเฟซไทม์กับกับนักแสดงผู้รับบทฮีโร่มาดกวนอย่าง Deadpool วินาที่ที่เจ้าหนูได้วิดีโอคอลกับฮีโร่คนโปรด เจ้าหนูดีใจอย่ามากที่ได้พบกับ Ryan เขาบอกกับดาราคนโปรดว่าเขาอายุเพียงแต่ 5 ขวบเท่านั้นและรู้สึกดีใจสุดๆ ที่ได้มีโอกาสเฟซไทม์กับ Deadpool และนอกจากนี้เจ้าหนูยังเล่าเรื่องสุขภาพของเขาให้ Ryan ฟังอีกด้วย แต่ Daniel ไม่ได้พูดคุยกับ Ryan เพียงลำพังแต่ยังมีพ่อแม่ พี่ชาย และพี่เลี้ยงเด็กเขาอยู่ด้วย คุณ Stephanie ผู้เป็นแม่กล่าวว่า “ฉันมีความสุขมากๆ ที่เห็น Daniel ได้เจอกับดาราคนโปรด เขาตื่นเต้นมากๆ และเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนๆ และคุณครูที่โรงเรียนฟัง” การรักษาของเจ้าหนูน้อยนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากและมีค่าใช้จ่ายที่สูง ในการรักษาแต่ละครั้งเขาและครอบครัวต้องเดินทางไกลกว่า 321 กิโลเมตรเพื่อไปพบแพทย์ คุณ Biffy ได้จัดตั้งแฟนเพจ JustGiving เพื่อระดมทุนช่วนเหลือในค่ารักษาและค่าเดินทางเพื่อไปโรงพยาบาลของเจ้าหนู ซึ่งเป้าหมายในการระดมทุนนั้นอยู่ที่ประมาณ 2 แสน 6 หมื่นบาท แต่ตอนนี้มีผู้ร่วมบริจาคมากถึง 6 แสน 5 หมื่นบาทแล้ว …
-
เมื่อแพนด้าถูกนำมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นภาพศิลปะที่เราคุ้นเคย มันก็ดูจะพริ้วๆ หน่อยนะ
ลองคิดเล่นๆ ดูสิว่า เมื่อแพนด้ากับงานศิลปะถูกนำมาผสมผสานกัน ภาพที่ออกมาจะเป็นอย่างไร และถ้าหากใครที่ยังนึกไม่ออกละก็ ไม่เป็นไรจ้า เพราะทางนักวาดภาพประกอบจากประเทศจีน เขาได้รวมตัวกันเพื่อนำเสนอผลงานภาพวาดแพนด้าให้เข้ามาอยู่ในภาพตัวการ์ตูน รวมถึงภาพวาดบุคคลดังที่เราคุ้นตา ไม่ว่าจะเป็น… โตโตโร่ โมนาลิซ่า นอกจากนี้ เรายังจะได้เห็นแพนด้ามาในงานศิลปะรูปแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นถูกจับมาใส่ในช่วงของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ยุคโมเดิร์น รวมไปถึงศิลปะแบบดังเดิมของจีน และถึงแม้ว่าภาพวาดเหล่านี้อาจจะไม่ได้สวยงามเท่าภาพต้นฉบับ แต่ต้องบอกว่าแพนด้าเหล่านี้ช่างมีเสน่ห์ และมีเอกลักษณ์เหลือเกิน ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . นี่เป็นเพียงผลงานภาพวาดส่วนหนึ่งของพวกเขาเท่านั้น หากใครอยากรับชมรูปเพิ่มเติม สามารถคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ lofter ได้เลยจ้า ที่มา : boredpanda
-
เผยเบื้องหลังชีวิตของ “นักฆ่า” กับเรื่องราวในอดีตที่ยังตามหลอกหลอนเขามาจนถึงทุกวันนี้
วันที่ 17 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เปิดเผยเบื้องหลังชีวิตของ Martin Corona อดีตสมาชิกทีมสังหาร Death Squad วัย 53 ปี กับเรื่องราวในอดีตที่ยังตามหลอกหลอนเขามาจนถึงทุกวันนี้ จากการรายงานระบุว่า Martin Corona ถือเป็นฆาตกรมืออาชีพที่โหดมากคนหนึ่ง ซึ่งเขายังเคยเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในกลุ่มอันทรงอิทธิพลของเจ้าพ่อค้ายา Arellano Felix Martin ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมดของเขาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต เพื่อเป็นอุทาหรณ์ไม่ให้คนอื่นๆ เข้ามาสู่ด้านมืดเช่นเดียวกับเขา โดยเขาได้ออกมาเผยว่า “ผมไม่เคยรู้สึกภูมิใจในอดีตของผมเลย มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายจริงๆ ที่ตื่นขึ้นมามองตัวเองในกระจก และนึกถึงสิ่งที่เคยทำเอาไว้” สำหรับ Martin เขาได้เติบโตใกล้ซานดิเอโก ซึ่งในตอนที่ยังเป็นเด็กเขาชื่นชอบการเล่นฟุตบอล และยังเคยเป็นลูกเสือ แต่ทว่าหลังจากที่เขาอายุได้ 12 ปี ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปภายในพริบตา จากเด็กที่ควรจะมีอนาคตสดใส กลับเข้ามาสู่ด้านมืดอย่างเต็มตัว Martin ได้เผยว่า ตอนที่เขาอายุ 12 มีชายคนหนึ่งได้จ้างให้เขาและเพื่อนมาตัดหญ้า ซึ่งเขาได้เอากัญชามาให้เป็นค่าจ้างแทนที่จะเป็นเงิน และภายหลังจากที่ถูกพ่อจับได้ เขาก็ถูกนำตัวไปยังสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนอยู่นานหลายปี และเมื่อออกมาจากสถานที่ดังกล่าว เขาก็ได้เข้าสู่กลุ่มค้ายารายใหญ่ทันที…
-
นักวิทย์สร้าง “หัวใจเทียม” จากเครื่องปริ้นท์ 3 มิติ อีกขั้นของความก้าวหน้าทางการแพทย์…
นับวันเทคโนโลยีต่างๆ ในโลกล้วนแต่มีการพัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้นไปมากขึ้น และหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างมากและอาจมีผลต่อการเปลี่ยนโฉมโลกนั่นก็คือ “เครื่องพิมพ์สามมิติ“ นั่นเอง เมื่อไม่นานมานี้ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้ป่วย เมื่อมีผู้ที่สามารถผลิตหัวใจเทียมจากเครื่องพิมพ์สามิติที่ว่านี้ได้สำเร็จ โดยทางผู้ผลิตหวังว่าหัวใจเทียมที่ปริ้นออกมาจากเครื่องพิมพ์สามมิตินั้นจะสามารถช่วยชีวิตผู้คนอื่นๆ ได้อีกมากมาย ภาพต้นแบบของหัวใจเทียมก่อนที่จะถูกปริ้นท์ออกมาด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ทีมวิจัยจาก ETH Zurich ได้คิดค้นและออกแบบหัวใจซิลิโคนนี้ออกมา โดยพวกเขาระบุว่าอวัยวะเทียมที่ผลิตออกมานี้มีความยืดหยุ่นและสามารถเต้นได้เหมือนกับหัวใจจริงๆ ในอนาคตพวกเขาหวังว่าจะใช้หัวใจเทียมนี้ กับผู้ป่วยที่กำลังรอการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อหัวใจ เพราะว่าโครงสร้างของซิลิโคนนี้จะไม่เกิดการต่อต้านจากร่างกาย ซึ่งต่างจากหัวใจเทียมแบบเหล็กและพลาสติกที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังจากการผ่าตัดได้ และนี่คือหัวใจเทียมซิลิโคนที่ปริ้นท์ออกมาจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ทางทีมวิจัยกล่าวว่า “หัวใจเทียมที่เราผลิตมานี้มีขนาดที่ใกล้เคียงกับหัวใจของผู้ป่วย และสามารถเลียนแบบการทำงานได้ใกล้เคียงกับของจริงมากๆ “ นอกจากนี้ภายในของหัวใจเทียวดังกล่าวยังมีรายละเอียดที่เหมือนกับหัวใจจริงๆ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห้องหัวใจด้านซ้ายและขวา พร้อมกับระบบสูบฉีดเลือดด้วย ในการทดสอบการทำงานของหัวใจเทียมนี้ ทางผู้คิดค้นได้ทดสอบการเต้นของมันและพบว่ามันสามารถเต้นได้นานกว่า 3,000 ครั้งซึ่งสามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยได้ประมาณ 30-45 นาที ซึ่งในจุดนี้อาจจะต้องมีการคัดเลือกวัตถุดิบสำหรับการผลิตให้หัวใจเทียมนี้สามารถใช้งานได้นานขึ้น ตอนนี้หัวใจเทียมกำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาและยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้กับผู้ป่วยจริงๆ ทางทีมวิจัยได้ออกมาเปิดเผยว่าในอนาคตอันใกล้นี้ อีกไม่นานพวกเราอาจมีโอกาสได้เห็นหัวใจซิลิโคนนี้แน่นอน และพวกเขาก็หวังว่ามันจะสามารถพัฒนาต่อจนใช้แทนหัวใจจริงได้อย่างใกล้เคียงหรือสมบูรณ์แบบมากที่สุดในอนาคต… ไปชมขั้นตอนผลิตและการทดลอบหัวใจซิลิโคนได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย วิทยาศาสตร์การแพทย์นี่ก้าวหน้าไปไกลมากเลยนะเนี่ย สุดยอดจริงๆ ที่มา engadget
-
ชายหนุ่มรอดตายอย่างเหลือเชื่อ หลังจากที่ “หัวใจหยุดเต้น” ไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง
เรื่องราวปาฏิหาริย์ของชายหนุ่มจาก North Carolina ที่กลับมามีชีวิตใหม่อีกครัง หลังจากที่หัวใจหยุดเต้นไปนานถึง 30 นาที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ในระหว่างที่คุณ John Ogburn วัย 36 ปี กำลังนั่งทำงานของเขาและจู่ๆ ก็เกิดอาการหมดสติไประหว่างนั้น แต่ชายหนุ่มกลับรอดมาได้เพราะความพยายามของเจ้าหน้าที่ “ถ้าพวกเขาไม่สามารถช่วยผมไว้ได้ทันเวลา ผมคงต้องจากโลกนี้ไปแล้วแน่ๆ” คุณ Ogburn กล่าว คุณพ่อวัย 36 ปีจำเหตุการณ์รอดชีวิตแบบปาฏิหาริย์ของเขาไม่ได้ แต่หนึ่งในพนักงานของร้าน Panera นาง April Bradley เห็นคุณ Ogburn ล้มลงไปกับพื้นในระหว่างที่กำลังทำงาน จากนั้นเธอจึงตัดสินใจโทรแจ้ง 911 หญิงสาวผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า “วันนั้นสีหน้าของเขาแย่มาก หน้าของเขาเป็นสีม่วงเข้ม มันดูน่ากลัวมากๆ ” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ และเป็นโชคดีของคุณ John ที่หนึ่งในเจ้าหน้าที่เคยฝึกการปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาก่อน เจ้าหน้าที่ Guiler ได้เริ่มปั๊มหัวใจให้กับชายหนุ่มในระหว่างที่รอแพทย์ แต่หลังจากผ่านไป 20 นาที อาการของผู้ป่วยก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น หลังจากที่หลายๆ คนพยายามช่วยชีวิตเขาอยู่นานและทำ CPR มากกว่า 200 ครั้ง…
-
นี่คือ “อุโมงค์สีเขียว” ในประเทศจีน ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน นอกจากจะเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของ “อุโมงค์สีเขียวขจี” ที่ทั้งสวยงาม และน่าอัศจรรย์ใจอีกด้วย ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ ทุกคนมารับชม และรู้จักอุโมงค์ดังกล่าว ที่บอกเลยว่าหากใครได้มีโอกาสไปเยือนนครเฉิงตู คุณจะต้องแวะไปถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เลยนะ สำหรับอุโมงค์สีเขียวแห่งนี้ ความจริงแล้วเป็นสะพานวงแหวนแห่งเฉิงตู ที่สร้างขึ้นในปี 2556 นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความน่าดึงดูด และน่าสนใจเข้าไปด้วยการปลูกไม้เลื้อยเอาไว้ตลอดระยะทาง 28 กิโลเมตร จึงทำให้มันกลายเป็นสะพานสีเขียวอันงดงามแบบนี้… เมื่อเวลาผ่านไป ไม้เลื้อยเหล่านี้ก็ได้เติบโตขึ้น และค่อยๆ งอกงามจนกลายเป็นเป็นซุ้มสีเขียวหนา ที่ช่วยสร้างร่มเงา และสร้างความสบายตาให้แก่ผู้เดินทางเป็นอย่างมาก นอกจากความงดงามแล้ว อุโมงค์แห่งนี้ยังเป็นแหล่งช่วยสร้างออกซิเจน และช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อีกทางด้วย เรียกได้ว่ามีทั้งความสวยงามที่น่าอัศจรรย์ใจ แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เห็นแล้วอยากจะไปสัมผัสความเขียวขจีแบบนี้เต็มๆ ตาสักครั้งจัง ที่มา : photovide, cgtn
-
ชมคลิปวิดีโอสุดระทึก บันทึกภาพ “คลื่นสูงกว่า 30 เมตร” กระแทกเข้ากับเรือเต็มๆ ไร้ตัดต่อ
เรื่องที่เขาว่ากันว่าทะเลคือสถานที่รวมความบ้าคลั่งของธรรมชาตินั้น คงจะไม่ใช้เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด เมื่อมีคนบันทึกคลิปการเดินทะเลแล้วบังเอิญเจอเข้ากับคลื่นสูงขนาด 30 เมตรเข้า และยังเก็บภาพมาฝากอีก!!? คนปกติเห็นแค่นี้ก็ไม่กล้ามายืนดูต่อแล้วละมั่งเนี่ย นานเข้ายิ่งสูงกว่าเดิมอีก มันมาแล้ว เตรียมรับแรงกระแทก!! ตู้มมมมมม… คลิปคลื่น 30 เมตรดังกล่าวนั้นถูกถ่ายบริเวณทะเลทางเหนือ ซึ่งภาพถูกถ่ายไว้โดยชายคนหนึ่งบริเวณดาดฟ้าเรือ แน่นอนว่าในขณะที่ถ่ายนั้นชายคนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวคลื่นคลั่งดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนอื่นๆ กลับกลัวว่าเรือจะเป็นอะไรหรือเปล่า ชายผู้บันทึกภาพหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมพูดออกมาว่า “เชรี่ยย คลื่นนี่มันสุดยอดไปเลยว่ะ” ชมคลิปเต็มๆ พร้อมเสียงหัวเราะของเขาได้ข้างล่างเลย แน่นอนว่าเมื่อคลิปนี้ถูกปล่อยออกมา ชายเน็ตก็ไม่วายที่จะออกมาแสดงความคิดเห็นกันและต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อิตาคนอัดคลิปเนี่ยมันต้องบ้าแน่ๆ ที่หัวเราะในช่วงเวลาที่ตัวเองอาจจะตายได้ทุกเมื่อแบบนั้น!! จุดที่น่ากลัวที่สุดในคลิปคือเสียงหัวเราะของตาคนถ่ายนี่แหละ นี่มันเป็นการหัวเราะเพื่อเผชิญหน้ากับความตายชัดๆ ฉันชอบนะที่คนอื่นๆ ต่างพากันกลัวในช่วงเวลาแบบนี้ แต่อีตาคนถ่ายกลับไม่กลัวอะไรเลย แล้วยังหัวเราะพร้อมพูดออกมาว่าคลื่นที่อาจจะฆ่าเขามันเจ๋งสุดๆ อีก แต่โชคดีที่เรือลำดังกล่าวเป็นเรือขนาดเล็ก ทำให้สามารถโต้คลื่นและลมได้ดีกว่าเรือขนาดใหญ่ นั่นอาจจะเป็นสาเหตุให้เขารู้และยังหัวเราะได้นั่นเอง และสุดท้าย แม้คลื่นในคลิปดังกล่าวอาจจะไม่คลื่นที่สูงและน่ากลัวที่สุด แต่ก็ถือเป็นคลื่นที่โหดมากๆ เมื่อต้องเจอในทะเลแบบนั้น ถ้าใครมีคลิปเจ๋งๆ แบบนี้อีกก็สามารถเอามาแชร์กันได้นะ …
-
ทีมสำรวจพบร่างของนายทหารสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากสูญหายนาน 72 ปี
ในช่วงสงครามการสูญหายของทหารกล้าในสนามรบนั้นเป็นเรื่องที่สร้างความเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวที่รอคอยการกลับมาของพวกเขาเป็นอย่างมาก แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับมีเรื่องน่าเหลือเชื่อเกิดขึ้นกันครอบครัวหนึ่ง เมื่อพวกเขามีโอกาสได้พบกับร่างของชายผู้เป็นที่รักหลังจากที่ผ่านไปนานถึง 72 ปี ครอบครัวของร้อยโท William J Gray Jr. ได้มีโอกาสพบร่างของเขาอีกครั้งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกที่เยอรมนี ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทีมสำรวจพบโครงกระดูกของร้อยโท Gray ติดอยู่กับรากของต้นไม้ในเมือง Lindau ใกล้ๆ กับชายแดนประเทศ Lichtenstein การรอคอยอย่างยาวนานสิ้นสุดลง ครอบครัวได้นำร่างของเขากลับไปประกอบพิธีศพที่ Seattle รัฐ Washington อย่างสมเกียรติ ทีมค้นหาได้ทำหน้าที่อย่างหนักในการหาร่างของร้อยโทท่านดังกล่าว พวกเขาเริ่มหาเบาะแสจากจุดที่เครื่องบินตก และค้นหาเศษซากเครื่องบิน จนกระทั่งใช้เวลาในการค้นหานานถึง 15 วันจึงพบโครงกระดูกของนายทหารท่านนี้ ผลการตรวจ DNA ของโครงกระดูกกับน้องสาวของเขา ช่วยยืนยันว่าร่างที่พบคือร้อยโท Gray ตัวจริง เมื่อร่างของเขาเดินทางกลับมาถึงดินแดนบ้านเกิด นายทหารท่านนี้ก็ได้พักผ่อนอย่างสบายใกล้ๆ กับหลุมศพของเพื่อนสนิทเขาร้อยโท Jim Louvier ลูกสาวของร้อยโท Gray คุณ Jan Bradshaw บอกว่า “ทั้งสองออกไปรบด้วยกัน ฉันหวังว่าพ่อจะอยู่ตรงนี้ด้วย และเขาน่าจะดีใจที่ได้กลับบ้าน” ส่วนทางด้านคุณ Doug Louvier หลานชายของร้อยโทท่านนี้กล่าวว่า “ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันมาก ผมคิดว่าพวกเขาคงจะดีใจมากๆ ที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง” ที่มา ladbible
-
ปาฏิหาริย์ยังมี… ชายหนุ่มติดอยู่ใน “ถ้ำใต้น้ำ” นาน 2 วัน อดทนฝ่าฟันจนรอดตาย
คุณเคยจินตนาการว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานะการณ์คับขันชนิดเกือบเอาชีวิตไม่รอดกันบ้างไหม?? ในสถานะการณ์ดังกล่าว การควบคุมสติและไหวพริบในการเอาตัวรอดนั้นมีความสำคัญอย่างมาก และเรื่องราวของชายหนุ่มท่านนี้ก็เช่นกัน เมื่อเขาต้องตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากใต้ท้องทะเล และต้องอยู่แบบไม่มีออกซิเจนนานถึง 2 วัน!! ย้อนไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว คุณ Xisco Gràcia ต้องพบกับประสบการณ์ที่เสี่ยงตายที่เปรียบเสมือนฝันร้าย เมื่อเขาต้องติดอยู่ในถ้ำใต้ทะเล เพียงลำพังและไม่มีอุปกรณ์ยังชีพใดๆ เลย นานถึง 60 ชั่วโมง อาจารย์สอนธรณีวิทยา ผู้ชื่นชอบการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ เขาและคู่หูได้เดินทางมายังเกาะมายอร์กา (Mallorca) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของสเปน ที่นี่มีถ้ำใต้น้ำที่ใหญ่และคดเคี้ยวราวกับเขาวงกต ชายหนุ่มและเพื่อนของเขาหวังจะพิชิตถ้ำนี้ให้ได้ เมื่อวันที่ 15 เมษายน ชายหนุ่มและเพื่อนของเขาคุณ Guillem Mascaró ได้ดำลงไปสำรวจถ้ำใต้เขาวงกตทะเลที่ชื่อว่า Sa Piqueta ซึ่งมีความยาวจากปากถ้ำถึงส่วนที่เป็นเขาวงกตประมาณ 1 กิโลเมตร พวกเขาใช้เวลากว่ชั่วโมงในการดำน้ำเพื่อมายังถ้ำแห่งนี้ ในระหว่างการสำรวจ ทั้งสองแยกย้ายกันออกเก็บตัวอย่างของหิน แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในระหว่างที่กำลังสำรวจถ้ำอยู่นั้นพวกเขาบังเอิญว่ายน้ำมาชนกันเข้า จึงทำให้ตะกอนที่อยู่ใต้ทะเลฟุ้งกระจายขึ้นมาและทำให้ทั้งสองมองไม่ห็นทาง ทั้งสองพยายามจะกลับไปที่ปากถ้ำด้วยการตามเส้นเชือกที่ขึงเอาไว้ แต่โชคร้ายที่พวกเขาหามันไม่พบ ตอนนี้ทั้งคู่ตกอยู่ในสถานกาณ์ที่ยากลำบากแล้ว ทั้งสองมีออกซิเจนไม่เพียงพอสำหรับการว่ายออกไปยังปากถ้ำ และออกซิเจนสำรองของพวกเขาก็หมดแล้ว!! แต่แล้วคุณ Gràcia ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินนักดำน้ำคนอื่นๆ…
-
เมื่อผู้ชมข้างสนามตะโกนแนะนำผู้เล่น งานนี้เลยถูกนักเทนนิสเชิญให้ลงไปเล่นเองซะเลย
กลายเป็นเรื่องขำขันที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ประเภทหญิงคู่ เมื่อ Kim Clijsters นักเทนนิสหญิงชาวเบลเยียม ได้เชิญแฟนเทนนิสให้ลงมายังสนามแข่งเพื่อมาตีเทนนิสกับเธอ หลังจากที่เขาได้จะโกนให้คำแนะนำเธอกลางสนามแข่ง งานนี้บอกเลยว่าสร้างความสนใจให้กับบรรดาผู้ชมภายในสนามเป็นอย่างมาก เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ก่อนเริ่มการแข่งขัน Clijsters นักตบสาววัย 34 ปี ได้เป็นผู้เสิร์ฟลูกเทนนิสให้ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเธอก็ได้ถามเพื่อนร่วมทีมชาวออสเตรเลียอย่าง Rennae Stubbs ว่า ควรจะเสิร์ฟไปด้านข้าง หรือตรงกลางดี แต่แล้วจู่ๆ Chris Quinn คุณพ่อลูกสามจาก Wicklow ในไอร์แลนด์ หนึ่งในผู้ชมที่นั่งอยู่บริเวณแถวหน้าของสนามก็ได้ตะโกนให้คำแนะนำแก่ Clijsters งานนี้เลยทำให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามอย่าง Conchita Martinez และ Andrea Jaeger เดินเข้าไปคว้าตัวของเขาลงมายังสนาม พร้อมกับยื่นไม้เทนนิสให้เขาไปเล่นเองซะเลย สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ผู้เล่นทุกคนจะต้องสวมชุดสีขาว ดังนั้น จึงทำให้ Clijsters รีบวิ่งไปหยิบเสื้อพร้อมกระโปรงในกระเป๋าของเธอมาให้ Chris ใส่ ซึ่งเธอก็ได้เป็นผู้สวมใส่กระโปรงให้เขาด้วยตัวเองท่ามกลางเสียงหัวเราะจากผู้ชมทั่วทั้งสนาม…
-
สาวเห็นจักรยานที่หายไป ถูกประกาศขายบนเฟซบุ๊ก…เธอจึงวางแผนเพื่อขโมยมันกลับคืนมา
หลายคนคงจะเข้าใจความรู้สึกของการถูกขโมยของเป็นอย่างดี ซึ่งของบางอย่างก็เป็นสิ่งที่เรารักมาก และหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แต่ถ้าหากวันใดวันหนึ่งเรารู้ตัวหัวขโมยที่เอาของของเราไป เชื่อว่าคุณคงอยากจะเอาคืนให้สาสมใจแน่ๆ เลยใช่ไหมละ เหมือนดังเช่น Jenni Morton-Humphreys สาววัย 30 ปี จากเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษคนนี้ เธอก็ต้องมาเจอกับเหตุการณ์สุดเซ็งเช่นกัน หลังจากที่ถูกโจรขโมยรถจักรยานเสือภูเขาที่มีราคาแพงแสนแพงของเธอไป แต่ภายหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง รถจักรยานที่หายไปก็ปรากฏให้ Jenni ได้เห็นอีกครั้ง หลังจากที่มีใครบางคนนำมันไปประกาศขายบนโลกออนไลน์ วันที่ 15 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ในวันอาทิตย์ Jenni ได้ขี่รถจักรยานคันสีฟ้าของเธอออกไปรับประทานอาหารกลางวันในเมือง ซึ่งขณะที่เธอกำรับประทานอาหารอยู่นั้น เธอได้ล็อกล้อจักรยานเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลังจากที่ Jenni กลับมา เธอก็พบว่ามันถูกขโมยไป งานนี้เลยทำให้เธอได้รีบเข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับโพสต์ภาพจักรยานคันดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊ก Bristol Cycling เพื่อฝากให้ทุกคนที่มันเห็นได้ติดต่อกลับมาหาเธอ และก็เป็นเรื่องบังเอิญเข้าไปอีก เมื่อมีชายที่ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งดันไปเห็นรถจักรยานของ Jenni ถูกนำไปประกาศขายบนเฟซบุ๊กเข้า ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาได้ติดต่อไปหาเธอทันที เมื่อ Jenni ทราบเรื่อง เธอกับชายคนดังกล่าวก็ได้ร่วมกันวางแผนที่จะเอาจักรยานกลับคืนมา โดยเขาได้ติดต่อไปยังผู้ประกาศขาย…
-
หญิงน้ำใจงาม จ่ายค่าอาหารฟรีให้แก่พนักงานนักดับเพลิง หลังเสร็จภารกิจจากการดับไฟป่า
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างดีๆ ของผู้ที่มีน้ำใจแก่เพื่อนมนุษย์ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่ง ได้จ่ายค่าอาหารให้แก่พนักงานดับเพลิงเพื่อเป็นการขอบคุณที่พวกเขาได้ไปปฏิบัติภารกิจจากการดับไฟป่า ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการรายงานโดยเว็บไซต์ Littlethings ระบุว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มนักดับเพลิง 30 คน จากเมือง Colton ในเขต San Bernardino ได้เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้าน Denny’s หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจดับเพลิง และในขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหารอยู่นั้น ก็มีหญิงที่ไม่ประสงค์นามคนหนึ่ง ได้แจ้งกับทางพนักงานร้านอาหารว่า เธอต้องการที่จะจ่ายอาหารมื้อนี้ให้แก่กลุ่มนักดับเพลิง ซึ่งค่าอาหารทั้งหมดอยู่ที่ 405 เหรียญ (ราวๆ 13,000 บาท) อีกทั้ง เธอยังได้จ่ายค่าของหวานให้แก่พนักงานทั้งหมดเพิ่มอีก 100 เหรียญ (ราวๆ 3,300 บาท) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณกับความเสียสละให้ประเทศ ทางด้านนักดับเพลิง ก็ได้ออกมาแชร์เรื่องราวลงบนเฟซบุ๊กว่า “ผู้หญิงคนนี้จ่ายค่าอาหารให้กับนักดับเพลิงทุกคน โดยมีทั้งค่าอาหาร และค่าทิปรวมเป็นเงิน 405 เหรียญ แถมเธอยังได้จ่ายค่าขนมเพิ่มให้อีก 100 เหรียญด้วย” หลังจากที่เรื่องราวของเธอได้ถูกนำไปโพสต์ออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจ…
-
10 อันดับ ‘แหล่งน้ำทางธรรมชาติ’ ที่แฝงเบื้องลึกดำดิ่ง เต็มไปด้วยภัยอันตรายมากที่สุดในโลก…
สำหรับเพื่อนๆ หลายคนแล้วการได้ไปท่องเที่ยวตามแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ ก็คงเป็นความสนุกที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลยล่ะ แต่ถ้าหากเพื่อนๆ ได้มารู้จักกับแหล่งน้ำเหล่านี้แล้ว ขอบอกเลยว่าแม้จะไปเยือนก็คงได้แค่ยืนมองอย่างเดียว ไม่กล้าลงไปเล่นน้ำเลยทีเดียว และนี่ก็คือแหล่งน้ำที่อันตรายมากที่สุดในโลก จัดอันดับโดยเว็บไซต์ Brightside แต่ละที่จะมีความน่ากลัวขนาดไหน ลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…. 10. Great Blue Hole ในประเทศเบลีซ กระแสน้ำจะทำให้ Great Blue Hole กลายเป็นกระแสน้ำวนขนาดยักษ์ที่ดูดทุกอย่างบนผิวน้ำลงไปสู่ก้นหลุมที่มีความลึกมากกว่า 124 เมตรเลยทีเดียว เท่านั้นไม่พอเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงก็จะทำให้แนวหินที่อยู่รอบๆ ทำให้น้ำตื้นลงจนเรือไม่สามารถออกไปได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวก็ยังอยากไปเที่ยวชมสถานที่นี้ด้วยตาตัวเอง นั่นเป็นเพราะนักดำน้ำชื่อดังอย่าง Jacques Cousteau ได้บอกเอาไว้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ดำน้ำที่ดีที่สุดในโลกอีกที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ 9. Jacob’s Well รัฐ Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา บ่อน้ำธรรมชาติที่มีความลึกประมาณ 10 เมตรนี้ เป็นสถานที่ที่อันตรายมากๆ เพราะข้างใต้นี้มีเส้นทางมากมายให้ดำลงไปสำรวจ แต่เส้นทางเหล่านั้นไม่มีทางออก จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 300 รายด้วยกัน 8. ทะเลสาบ Michigan ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทะเลสาบ…
-
สาวร่วมมือกับพลเมืองดี ทำภารกิจทวงคืนจักรยาน หลังโดนขโมยนำไปโพสต์ขายในเน็ต
Jenni Morton-Humphreys สาววัย 30 ปี จากเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ ถูกขโมยรถจักรยานสุดรักของตัวเอง แล้วที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หัวขโมยก็นำจักรยานของเธอไปโพสต์ขายในอินเตอร์เน็ตซะแล้ว เรื่องมีอยู่ว่าเธอได้ขี่รถจักรยานและจอดพร้อมกับล็อคไว้ที่หลังร้าน Watershed จากนั้นก็ออกไปหาอะไรทานตอนเที่ยงที่ร้าน Mud Dock ในบริเวณใกล้ๆ กัน แต่พอกลับออกมาก็พบว่าจักรยานหายไปแล้ว!! เธอจึงรีบโทรแจ้งตำรวจและถ่ายภาพจักรยานของตัวเองนำไปโพสต์ลงในกลุ่มเฟซบุ๊ค Bristol Cycling เผื่อว่าจะมีใครเห็นจักรยานของเธอบ้าง ไม่นานก็มีคนไปเห็นว่าจักรยานของเธอถูกนำไปโพสต์ขายในเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้เองผู้หวังดีก็เลยอาสาเข้ามาให้การช่วยเหลือติดต่อไปยังหัวขโมยทำทีว่าสนใจอยากได้รถจักรยานในทันที ด้วยการบอกว่ามีน้องสาว ซึ่งก็คือ Jenni สนใจอยากจะได้จักรยาน แต่จะไม่ซื้อเด็ดขาดถ้าไม่ได้ลองขี่ซะก่อน จากนั้นก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมผู้ร้าย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่ให้ความร่วมมือ เพราะต้องทำตามขั้นตอน อีกทั้งยังออกปากเตือนเธออีกว่าอย่าพยายามนำจักรยานกลับคืนมาด้วยตัวเองเด็ดขาด และเนื่องจากว่า Jenni เกรงว่าจักรยานของเธอจะถูกซื้อไปโดยคนอื่นซะก่อน ก็เลยตัดสินใจที่จะจัดการเรื่องทุกอย่างต่อไป แม้จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการถูกแก๊งมิจฉาชีพทำอันตรายก็ตาม จากนั้นทางหัวขโมยและผู้หวังดีก็ได้นัดแนะเวลากันเรียบร้อย เพื่อทดลองนำจักรยานไปขี่และก็ได้เป็น 9 โมงเช้าของวันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2017 และหลังจากที่ได้จับจักรยานของตัวเองอีกครั้ง Jennie…
-
เจ้าหน้าที่ตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้กับ ‘ครอบครัวไร้บ้าน’ เพราะอยากให้เด็กๆ มีอนาคตที่ดี
บนโลกของเรานั้นมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นทุกวัน และการได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็สามารถช่วยให้หัวใจของเรารู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อย….เช่นเดียวกันกับเรื่องที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ ย้อนกลับไปในปี 2015 เมื่อคุณ Tierra Gray และลูกชายอีกสองคนถูกขับไล่ออกจากอพาร์ตเม้นท์ ทำให้ชีวิตของครอบครัวนี้ถึงกับไปไม่เป็น เธอจึงตัดสินใจพาลูกๆ ไปยังที่ทำการอำเภอ Butler County เพื่อหาที่ซุกหัวนอน “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า พระเจ้า…ฉันควรจะทำอย่างไรต่อไปดี ตอนนี้ฉันควรจะทำอะไรก่อนดี ลูกๆ ฉันจะต้องนอนในห้องพักของผู้ต้องหาแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อีกกี่คืนกัน ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้น มันเป็นอะไรที่ทำใจยอมรับได้ยากมากๆ เลยล่ะ” คุณ Tierra เล่า สิ่งที่คุณ Tierra กังวลมีอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือการถูกพรากลูกๆ ไป เพราะสถานะตอนนี้เธอเป็นเหมือนคนไร้บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เหมือนฟ้ายังมีตา เพราะจู่ๆ เจ้าหน้าที่ Brian Bussell ได้เข้ามาเสนอความช่วยเหลือให้กับเธอ โดยเขาให้เหตุผลว่าเด็กๆ ไม่ควรจะต้องมาเจอกับประสบการณ์แบบนี้ “พวกเขาควรจะได้นอนในบ้าน บนเตียงอุ่นๆ ไม่ใช่หน้าห้องขัง หรือใต้สะพาน” เจ้าหน้าที่ Bussell กล่าว “เขาบอกว่าจะช่วยเรา และช่วยหาทุกสิ่งที่จำเป็นให้กับเรา มันทำให้ฉันร้องไห้เลยล่ะ…
-
แก๊งวัยรุ่นใจเหี้ยม ทำร้ายเด็ก 10 ขวบ ด้วยการปา ‘อิฐบล็อค’ ใส่หัว จนได้รับบาดเจ็บหนัก…
แก๊งวัยรุ่นสวมเสื้อฮู้ดใจบาปได้ทำการโยนอิฐบล็อคใส่หัวของเด็กชายวัย 10 ขวบ ขณะที่เขากับเล่นกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนานจนหัวแตกเลือดอาบ Logan Peberdy คือผู้ตกเป็นเป้าหมายของการถูกกลุ่มวัยรุ่นกลั่นแกล้ง จนทำให้เกิดบาดแผลที่บริเวณศีรษะมีเลือดไหลอาบหน้า ซึ่งขณะที่เกิดเหตุนั้นเด็กชาย Logan ได้ไปเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ในบริเวณ Pebblebrook Park เมือง Crewe ประเทศอังกฤษ ซึ่งห่างจากบ้านของตัวเองไปประมาณ 200 เมตร ส่วนกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นผู้ลงมือนั้นเองก็เป็นคนที่เด็กชาย Logan ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่พาไปส่งที่โรงพยาบาลก็พบว่าบาดแผลที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวมากๆ มันลึกจนเกือบเห็นกระโหลกของเขาเลยทีเดียว ซึ่งความรุนแรงจากการถูกกระแทกก็ทำให้ Logan ถึงกับจำไม่ได้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหนหลังจากเพิ่งโดนปาอิฐใส่มาหมาดๆ คุณ Claire แม่ของเจ้าหนู Logan เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า “ฉันไม่สามารถอธิบายถึงความรู้สึก ณ ตอนนั้น ได้เลย ฉันเห็นเพื่อนของ Logan วิ่งมาหาฉันแล้วบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น และฉันก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ทั้งๆ ที่มันห่างจากบ้านออกไปแค่ 200 เมตรเอง” “อิฐถูกโยนมาจากไหนก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่กำลังเล่นอย่างสนุกสนานกับเพื่อนๆ ตามประสาเด็กๆ แท้ๆ” คุณแม่เล่าเสริม…
-
จีนค้นพบ “พระมัมมี่” อายุกว่า 1,000 ปี สภาพกระดูกและสมองครบสมบูรณ์มากที่สุด!!
กลายเป็นเรื่องที่ทำให้วงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ถึงกับตื่นตะลึงเลยทีเดียว เมื่อมีการค้นพบรูปปั้นมัมมี่อายุกว่าพันปี ที่บรรจุร่างของพระรูปหนึ่งเอาไว้ด้านใน แถมยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบมาเลย เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2017 ว่ามีการขุดพบร่างมัมมี่ของพระสงฆ์สีทองที่วัด Dinghui มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน เมื่อนำไปเข้าเครื่อง CT สแกนก็พบว่าภายในนั้นมีโครงกระดูกและสมองที่ยังอยู่ในสภาพดีจนสามารถนำมาศึกษาได้ โดยร่างมัมมี่นี้คือพระอาจารย์ Ci Xian ว่ากันว่าเป็นพระที่ได้รับการนับถือบูชาในสมัยก่อน และยังเคยเดินทางจากอินเดียไปยังจีนเพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธเมื่ออดีตกาลด้วย ในระหว่างการสแกนมีพระและเหล่านักบวชร่วมเป็นพยานด้วย ซึ่งผลการสแกนทำให้ผู้คนตกใจมาก เพราะกระดูกสมบูรณ์ราวกับคนปกติทั่วไป รวมไปถึงกราม ฟัน ซี่โครง กระดูกสันหลังและข้อต่อทั้งหมด ขั้นตอนการรักษามัมมี่ ขั้นตอนทั้งหมดล้วนใช้วิธีและวัตถุดิบทางธรรมชาติ เพื่อที่เหล่าสาวกจะได้รักษาสภาพของอาจารย์ของพวกเขาให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด โดยก่อนที่พระอาจารย์ของพวกเขาจะจากไป จะมีการถามก่อนว่าจะให้เผาหรือให้รักษาศพเอาไว้ หากเป็นอย่างหลังจะมีการนำศพไปใส่เอาไว้ในโหลเซรามิคขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยสารป้องกันการกัดกร่อนตามธรรมชาติ หลังจากนั้น 3 ปี เหล่าสาวกจะนำร่างของอาจารย์ออกจากโหลเพื่อดูว่าสภาพมัมมี่นั้นเน่าหรือไม่? พวกเขาเชื่อว่าหากดวงวิญญาณบรรลุไปอีกขั้นได้ ร่างของมัมมี่จะไม่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลา . . . ภาพสแกนอวัยวะต่างๆ ของมัมมี่ ที่แสดงให้เห็นว่าภายในยังสมบูรณ์จริงๆ . ที่มา dailymail
-
พนักงานวัย 16 กลายเป็นฮีโร่ ช่วยกู้ชีพชายชราให้รอดชีวิต หลังเข้าทำงานได้เพียงสองวัน!!
เมื่อคุณได้เข้าทำงานที่ไหนสักแห่ง สิ่งที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับก็คือประสบการณ์ เงินเดือน การฝึกฝนความสามารถให้กับตัวเอง คงไม่มีใครคาดหวังว่าตัวเองจะกลายเป็นฮีโร่ช่วยชีวิตคนแน่ๆ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2017 สำนักข่าวท้องถิ่น local12 ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยวีรกรรมอันน่ายกย่องของ Austin Goddard หนุ่มน้อยวัย 16 ปี ที่ได้ช่วยเหลือชายชราด้วยการทำ CPR จนรอดตาย ตามรายงานบอกว่านาย Austin เพิ่งเริ่มทำงานที่ร้านอาหารที่ชื่อว่า Skyline Chili ได้เพียง 2 วันเท่านั้น โดยในวันที่เกิดเหตุ ก็มีลูกค้าชายชรารายหนึ่งหมดสติล้มพับไปกับโต๊ะระหว่างกินอาหาร โดยที่ไม่มีใครทำการกู้ชีพหรือทำ CPR เป็นเลย “ในช่วงจังหวะนั้นผมกำลังถูโต๊ะ เช็ดจาน แล้วก็เอาพวกเครื่องเงินเก็บเข้าที่เข้าทางของมันอยู่ครับ” หนุ่มน้อย Austin เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ซึ่งโชคดีที่ Austin มีความรู้ทางด้านนี้มาบ้าง เลยรีบเข้าไปแล้วทำ CPR อย่างเร่งด่วน “ผมแค่วางมือลงบนหน้าอกของเขา ให้ข้อศอกตั้งฉากเพื่อให้มั่นใจว่ามีแรงกดมากพอ แล้วกดลงไป” ภายหลังจากการปฏิบัติการกู้ชีพของเขาแล้ว ก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามารับลูกค้ารายนี้ไปยังโรงพยาบาล ถือว่าการทำ CPR เบื้องต้นช่วยรักษาชีวิตของลูกค้ารายนี้ได้ชั่วขณะเลย ไม่กี่วันต่อมาได้มีญาติๆ…
-
17 ภาพถ่ายธรรมดาๆ แต่กลับทำให้รู้สึกขนลุก สยดสยอง และหวาดกลัวทุกครั้งที่ได้ดู!!
หนึ่งในวิธีเก็บเรื่องราวสุดประทับใจเอาไว้ดูยามคิดถึง คงจะหนีไม่พ้นภาพถ่าย แต่ในบางครั้งรูปภาพอาจไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเก็บความทรงจำดีๆ เพียงอย่างเดียว แต่มันอาจจะมาในรูปแบบที่แปลกประหลาด หลอน หวาดเสียว ซึ่งบางภาพก็ทำเอาคนดูถึงขั้นขนลุกซู่ไปตามๆ กัน เหมือนดั่งเช่น 17 ภาพถ่ายเหล่านี้ แม้จะดูเป็นภาพธรรมดาๆ แต่เวลาได้ดูแล้วกลับมีอาการขนลุก หวาดเสียว และสยดสยองขึ้นมาซะอย่างนั้น!! อุ้ย!! เห็นแล้วใจหายวาบเลย มนุษย์ผู้ชอบความท้าทาย ใจกล้า บ้าบิ่นสุดๆ มันก็จะหวาดเสียวหน่อยๆ ภาพถ่ายเหล่านี้ อาจไม่ใช่ภาพลึกลับอะไร แต่บางครั้งมันก็ทำให้เราตกใจได้แบบไม่ทันตั้งตัว โอ้ววว ทำเอาเท้าอยู่ไม่ติดพื้นเลยทีเดียว บางทีก็แอบหลอนไปนะ รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที บรึ๋ยยยยย สยดสยองเหลือเกิน แมงมุมแช่แข็ง ใครกลัวแมงมุมต้องขนลุกไปกับภาพนี้แน่นอน มันเป็นภาพที่มีทั้งความตื่นเต้น และหวาดเสียวในเวลาเดียวกัน โอ้ยยยย ทำเอาใจเต้นตุบๆ เลย สยองไปไหม หากคนกลัวความสูงต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้…
-
“บ้านพักนกฮูก” ในฝรั่งเศส เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักได้ฟรี ท่ามกลางบรรยากาศฟินๆ
สถานที่พักเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญ บางคนชอบแบบที่ติดแม่น้ำ บางคนชอบแบบอยู่ในป่า ในขณะที่บางคนก็สนใจในเรื่องของสถาปัตยกรรมและการออกแบบด้วย และนี่คือบ้านพักนกฮูกที่ไม่ได้มีดีแค่รูปทรงที่น่ารัก แต่ภายในของมันยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ตอบสนองทุกความต้องการของคุณในวันพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ บ้านนกฮูกอาจจะเป็นแค่ที่พักผ่อนชั่วคราว แต่รับรองเลยว่ามันสะดวกสบายว่าการนอนในเต็นท์แน่นอน เพราะภายในนั้น จะมีพื้นที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย แถมยังมีตั้งสองชั้นแหนะ มันมีชื่อเป็นทางการว่า The Watchers สร้างขึ้นโดยทีมนักออกแบบ Zebra3 ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือในเมืองบอร์โด ของประเทศฝรั่งเศส Candice Petrillo นักออกแบบบ้านนกฮูกบอกว่า “ฉันปิ้งไอเดียบ้านนกฮูกขึ้นมา เมื่อเห็นนกฮูกบินวนอยู่ทั่วท้องฟ้าเพื่อทำการสร้างรังที่อยู่ใกล้กับบึงน้ำ” นั่นเป็นเหตุผลที่บ้านนกฮูกถูกออกแบบและสร้างขึ้นใกล้ท่ามกลางบึงน้ำ ราวกับเป็นที่ตั้งรังของพวกมันนั่นเอง… เห็นน่าอยู่ขนาดนี้หลายคนคงคิดว่าราคาเช่าต้องแพงมากแน่ๆ เลย แต่ทว่าเปล่าเลยค่ะ เพราะเค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักได้ฟรีๆ แต่ต้องทำการจองไว้ล่วงหน้านะ หากใครที่กำลังสนใจ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ lesrefuges บรรยากาศกว้างขวาง ดูสบายตามาก ภายในบ้านมีสองชั้นนะ ออกมานั่งดริ๊งข้างนอกได้แบบชิลๆ ส่วนบรรยากาศในตอนกลางคืนก็ดูเงียบสงบดีเหมือนกัน ที่มา sobadsogood
-
พบกับตั๊กแตนสีชมพูน่ารักมุ้งมิ้ง แต่อาจมีอายุสั้น เพราะสีโดดเด่นจนเป็นที่เตะตาของนักล่า!!
ปกติเราส่วนใหญ่จะเคยเห็นตั๊กแตนเป็นสีเขียว สีเหลือง และสีน้ำตาล หรืออาจจะมีใครเคยเห็นสีที่ต่างไปจากนี้ ซึ่งก็คงไม่เพี้ยนไปจากสีเหล่านี้เท่าไหร่นัก แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าโลกของเรายังมีตั๊กแตนสีชมพูอยู่ด้วยนะ มันถูกพบที่ทะเลสาบเล็กๆ ในเมืองอิปสวิช มณฑลซัฟฟอล์ก ประเทศอังกฤษ ว่ากันว่ามันเป็นตั๊กแตนที่หายากมากๆ เลยล่ะ!! ทุกส่วนของตั๊กแตนสายพันธุ์นี้ ไม่ว่าจะเป็นลำตัว ขาทั้งสอง และรอบดวงตา ล้วนเป็นสีชมพูทั้งหมด ดังนั้นมันจึงไม่สามารถอำพรางตัวได้ท่ามกลางพืชสีเขียวได้เลย… การที่ตั๊กแตนมีสีชมพูเช่นนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม ซึ่งหมายความว่าตั๊กแตนผลิตโปรตีนสีแดงมากขึ้น เมื่อผสมกับสีเดิมแล้วมันจึงออกมาเป็นสีชมพู Richard Taylor ผู้ที่พบตั๊กแตนสีชมพูบอกว่า “ผมมาเดินเล่นพร้อมกล้องตัวหนึ่ง แล้วก็ไปเจอเจ้าตั๊กแตนสีชมพูเกาะอยู่บนต้นกก” อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่ามันเกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม ทำให้เม็ดสีปกติลดลง แต่ในขณะเดียวกันมันจะผลิตเม็ดสีแดงขึ้นมาแทนที่ แต่น่าเสียดายที่ตั๊กแตนสีชมพูมักจะมีอายุสั้น เนื่องจากสีของมันโดดเด่นจนทำให้นักล่าสังเกตเห็นได้ง่าย แต่ก็มีบางตัวที่โชคดี เพราะมันเลือกไปอยู่ท่ามกลางพืชที่สีคล้ายกัน อย่างเช่น ดอกกุหลาบ เป็นต้น . ไม่แน่นะ คนมีความรักอาจจะเคยเห็นจนชินตาไปแล้ว แฮร่ ที่มา dailymail
-
ปิดฉากรักเรา!! รวมภาพการแก้ไขรอยสักเกี่ยวกับ “แฟนเก่า” ที่คอยทำให้ใจเราต้องเจ็บปวด
คู่รักหลายคู่มักจะมีวิธีการแสดงความรักในแบบที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็สวมแหวนแสดงความเป็นเจ้าของ บ้างก็ใส่เสื้อคู่ และอีกหลายๆ คู่ก็ได้แสดงความรักของตัวเองด้วยการ “สัก” ลงบนร่างกาย สำหรับการแสดงความรักที่จริงจังโดยการสักนั้น เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่คู่รักหลายคู่มักจะทำกัน ซึ่งพวกเขาอาจจะไม่ได้คาดคิดว่าหากวันหนึ่งต้องมาเลิกรากันไป แล้วจะทำอย่างไรกับรอยสักที่อยู่บนร่างกายดีน้า ขีดฆ่าชื่อแฟนออก แล้วบอกว่า ‘ความเหี้ยมบังเกิด’ วันที่ 13 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้รวบรวมภาพฮาๆ ของผู้คนที่พยายามจะแก้ไข และเปลี่ยนแปลงรอยสักที่เกี่ยวกับของแฟนเก่า หลังจากที่พวกเขาได้เลิกรากันไปแล้ว ซึ่งบางคนก็สักเป็นหน้าของแฟนเก่า แต่ก็ต้องมาแก้ด้วยการทำเป็นรูปของสัตว์แทน บางคนก็แก้ไขชื่อแฟนจาก Lauren แล้วเปลี่ยนมาเป็นชื่อแบรนด์ดังอย่าง Ralph Lauren ซะอย่างนั้น เรียกได้ว่าหมดรักในครั้งนั้น ไม่เท่าเจ็บปวดเท่าแก้ไขรอยสักในครั้งนี้ ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า ว่ารอยสักที่เคยหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า จะถูกแก้ไขให้ออกมาในรูปแบบไหนกันบ้าง สักทับไปเลยว่า ‘นังร่าน’ ขีดเส้นทับให้หมด!! แบรนด์ Ralph Lauren ก็มา!! . เปลี่ยนเธอให้เป็นลิง . เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตกันเลยทีเดียว เธอจากไปแล้ว…
-
แพทย์ตะลึงทะลุเบ้า หลังพบคอนแทคเลนส์กว่า 27 ชิ้น ติดอยู่ในดวงตาของหญิงสูงวัย!!
เรียกได้ว่ากลายเป็นเรื่องราวที่ทำเอาหลายๆ คนถึงกับอึ้งไปตามๆ หลังผู้ป่วยสูงอายุรายหนึ่งรู้สึกตาแห้ง และมองเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ชัด งานนี้ เลยทำให้เธอรีบไปให้แพทย์ทำการตรวจสอบ และพบว่ามีคอนแทคเลนส์มากถึง 27 ชิ้นอยู่ภายในดวงตาของเธอ โอ้วววว จะเยอะเกินไปแล้ว!! เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 โดย Rupal Morjaria ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยาถึงกับช็อคหนัก เมื่อทราบว่าผู้ป่วยสูงวัยอายุ 67 รายหนึ่ง มีคอนแทคเลนส์อยู่ภายในดวงตามากถึง 27 ชิ้น จากการรายงานระบุว่า หญิงสูงวัยคนดังกล่าว รู้สึกระคายเคืองที่ดวงตา และมีอาการตาแห้ง ดังนั้น เธอจึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลในเมือง Solihull เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าตัดต้อกระจก “มันเป็นก้อนมวลที่มีขนาดใหญ่มาก เป็นคอนแทคเลนส์ทั้ง 17 ชิ้นอยู่ติดกันภายในดวงตา เรารู้สึกประหลาดใจมากๆ ที่ผู้ป่วยไม่รู้สึกและไม่เคยสังเกตเลย” Rupal Morjaria ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยากล่าว แต่ภายหลังจากที่แพทย์ได้ตรวจสอบก็พบว่ามีสิ่งผิดปกติเกาะอยู่ภายในตาของเธอ โดยในครั้งแรกได้ค้นพบคอนแทคเลนส์จำนวน 17 ชิ้น ก่อนจะตรวจพบอีกครั้งว่ายังมีเลนส์หลงเหลืออีก 10 ชิ้นติดอยู่ภายในดวงตา!! อย่างไรก็ตาม ทางแพทย์ได้ออกมาเผยว่า การผ่าตัดต้อกระจกของผู้ป่วยรายนี้ ต้องถูกเลื่อนออกไป…
-
เด็กหญิงป่วยมะเร็ง ขอกอดแมวเป็นครั้งสุดท้าย และอยากให้เลี้ยงต่อเมื่อเธอจากไปแล้ว…
หากรู้ตัวว่ากำลังจะจากโลกนี้ไป คุณอยากทำอะไรเป็นสิ่งสุดท้าย? หลายคนอาจเศร้าเกินกว่าที่จะอยากทำอะไร แต่บางคนเลือกที่จะมีความสุขเล็กๆ ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป… เหมือนกับ Kylie เด็กหญิงที่ป่วยเป็นมะเร็งที่ขอกอดแมวเป็นครั้งสุดท้าย เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต เธออยากกอดแมวทั้งๆ ที่ที่บ้านไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงเลย และไม่ได้คิดเรื่องการรับแมวมาเลี้ยงด้วย ครอบครัวจึงได้ติดต่อไปยังศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อหาแมวมาให้เธอได้กอดสมดั่งคำปรารถนา ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีเจ้าเหมียวชื่อ Eliza ถูกพาเข้ามาพักรักษาตัวอยู่ในศูนย์พักพิง Angels Among Us Pet Rescue ในสภาพที่ป่วยหนักมาก มันผอมแห้งจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ทาง Angels Among Us Pet Rescue บอกว่า “เราทำให้มันมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น จากนั้นก็รอคนใจดีรับมันไปเลี้ยง “ เป็นจังหวะเดียวกับที่ครอบครัวของ Kylie กำลังต้องการแมวสักตัวเพื่อมาทำความปรารถนาของสาวน้อยให้เป็นจริงในช่วงสุดท้ายของชีวิต ทางศูนย์บอกว่า “และแล้วก็มีคนโทรเข้ามา เธอคือ Kylie สาวน้อยผู้น่ารักที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เธอรักษาตัวจนกระทั่งทุกคนคิดว่าเธอใกล้จะหายแล้ว แต่โรคร้ายก็กลับมาอีกครั้ง” ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงรีบนำตัวเจ้าเหมียว Eliza ไปหาเด็กหญิงที่โรงพยาบาลทันที เพื่อให้มันได้อยู่ปลอบประโลมเธอก่อนจะหมดลมหายใจสุดท้ายของชีวิต เมื่อเด็กหญิงได้พบกับ Eliza ใบหน้าของเธอก็เต็มด้วยรอยยิ้ม จนทำให้ทั้งห้องอบอวลไปด้วยความสุขที่ไม่อาจอธิบายได้เลย Kylie อุ้มน้องแมวขึ้นมาแล้วมันก็ขดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเธอ… ตั้งแต่นั้นมา Eliza ก็ไม่ยอมไปไหน แต่มันอยู่กับเด็กหญิงตลอดเป็นระยะเวลากว่า 2 วันครึ่ง น้องแมววางคางบนไหล่ของเด็กหญิงเพื่อทำให้เด็กหญิงรู้สึกที่ความรักที่มันต้องการจะมอบให้…
-
โรงเรียนในอังกฤษออกกฎยิบย่อย แค่ดูนาฬิกาในห้องเรียน มีโทษหนักถึงขึ้นพักการเรียน!!
ใครที่เคยผ่านวัยเรียนมาคงจะคุ้นเคยกับกฎต่างๆ ของโรงเรียนเป็นอย่างดี ซึ่งแม้จะมีกฎมากมายแต่นั่นก็เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยนั่นเอง แต่สำหรับโรงเรียน Merchants’ Academy ในเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ กลับออกกฎใหม่ที่เข้มงวด เรียกว่า Behaviour for Learning ที่มีความยิบย่อยและมีบทลงโทษเกินกว่าเหตุ จนทำให้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย กฎดังกล่าวมีข้อห้ามอย่างเช่น ห้ามเคาะโต๊ะ ห้ามใส่รองเท้าที่ขัดเงาเกินไป ห้ามใส่ที่คาดผมสีฉูดฉาด และห้ามดูนาฬิกาเวลาเรียน ไม่งั้นจะถูกทำโทษอย่างหนัก Petula Peacock หนึ่งในผู้ปกครองที่รับไม่ได้กับกฎเหล่านี้ ได้ออกมาแสงความคิดเห็นว่าเธอกังวลเรื่องการเรียนของลูกชาย หลังโดนพักการเรียนเพียงเพราะชวนเพื่อนเล่นในห้อง ตามกฎใหม่ระบุว่า ใครที่เล่นในห้องเรียนจะถูกจับแยกตัวจากเพื่อนๆ ในห้อง นั่นหมายความว่าต้องขาดเรียนถึง 5 บท ไม่ให้มีเวลาพักเที่ยง ไม่ได้เลิกเรียนก่อน 15 นาที ที่สำคัญอาจจะถูกสั่งพักการเรียนตั้งแต่ทำผิดครั้งแรก Peacock บอกว่า “มันยุติธรรมแล้วหรอ? เด็กต้องขาดเรียนบทเรียนที่สำคัญไป ฉันได้รับข้อความจากทางโรงเรียนแค่ครั้งเดียว และไม่มีคำอธิบายอื่นๆ เลย” เธอบอกอีกว่า “ฉันพยายามเลี้ยงลูกอย่างดีและเขาก็เป็นคนดี แต่การลงโทษแบบนี้เท่ากับว่าทางโรงเรียนตำหนิว่าฉันเลี้ยงลูกไม่ดีจนทำให้เกิดปัญหา” ไม่ใช่แค่ลูกชายของ Peacock เท่านั้น แต่มีข่าวว่านักเรียนกว่า 100 คน ก็ถูกพักการเรียนในสัปดาห์เดียวกันนี้เหมือนกัน ทาง Nick Short ครูใหญ่ของโรงเรียนได้ปฏิเสธทุกคำเรียกร้องของผู้ปกครอง โดยอ้างว่าจำเป็นต้องลงโทษไปตามกฎที่ทางโรงเรียนเพิ่งจะเปลี่ยนใหม่นี้…
-
ช่างภาพจับสาวๆ มาแปลงโฉม จากหน้าบ้านๆ ให้กลายเป็นสาวลุคเซกซี่ ยั่วยวนใจมาก!!
“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” สุภาษิตนี้ดูจะเข้ากับบทความนี้มาก เพราะนี่คือการรวมเหล่าสาวๆ ที่ดูหน้าบ้านๆ มาแปลงโฉมให้เป็นสาวเซกซี่สุดเย้ายวน ราวกับไม่ใช่คนเดียวกัน Chrissy Sparks วัย 34 ปี ช่างภาพจากเบอร์มิงแฮม ได้ถ่ายรูปผู้หญิงนับพันๆ คน จากการเปิดสตูดิโอ DollHouse Photography เมื่อ 4 ปีที่แล้ว จากนั้นก็ขยายเป็นสตูดิโอ Vamp Boudoir Photography ที่ได้เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคมปี 2017 1. Lucy ก่อนแปลงโฉม หลังเปลี่ยนลุค ในการถ่ายรูปของ Chrissy นั้น เธอได้เปลี่ยนโฉมให้ผู้หญิงทุกคน เพื่อให้สาวๆ ได้เข้าถึงการถ่ายรูปแบบมืออาชีพและ เพื่อให้ได้สัมผัสถึงการถ่ายรูปขึ้นปกนิตยสาร เหมือนดั่งนางแบบระดับแนวหน้ากันเลยทีเดียว 2. Helen ก่อน หลัง ช่างภาพบอกว่า “งานของฉัน เป็นการฉายความงามของผู้หญิงออกมา ซึ่งบางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นคนสวย แต่เมื่อให้พวกเขาแต่งหน้า ทำผม ปรับแสง จัดองค์ประกอบแล้ว…
-
หนุ่มวัย 26 ถูกศาลตัดสินจำคุก 16 ปี ในข้อหาหลอกล่อและฆาตกรรม ‘แมว’ มากถึง 21 ตัว
วันที่ 16 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Metro มีรายงานว่า Robert Roy Farmer ชายวัย 26 ปี ได้รับการพิพากษาจากศาลรับโทษจำคุก 16 ปี หลังจากที่เขาได้ฆ่าแมวไปมากถึง 21 ตัว และทำทารุณกรรมทางเพศซากแมวอีก 1 ตัว ในบริเวณเมืองแซนโฮเซ (San Jose) รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากการรายงานระบุว่า มีแมวหลายตัวได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2015 โดยนาย Robert จะทำการหลอกล่อเหยื่อให้ออกมาจากบ้าน ก่อนที่จะลงมือฆ่าอย่างไร้ความปราณี นอกจากนี้ ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ขณะที่นาย Robert กำลังไล่จับแมววัย 17 ปี และในวันต่อมาทางเจ้าหน้าที่ก็พบซากแมว ซึ่งเป็นแมวตัวเดียวกันที่นาย Robert ไล่จับในคลิปวีดีโอ อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตามจับตัวนาย Robert หลังตรวจค้นพบอุปกรณ์หลายอย่างในรถที่เขาได้ใช้ฆ่าแมว ไม่ว่าจะเป็น ซากแมวตาย ถุงมือ และมีด ส่วนเจ้าเหมียวที่สามารถรถพ้นจากเงื้อมมือของฆาตกรคนดังกล่าวได้…
-
ชาวอังกฤษแตกตื่น… พบ “ไวท์วอล์คเกอร์” จาก GOT ออกมาเดินเพ่นพ่านกลางลอนดอน!!
หากว่าสายตาที่น่ากลัวของไวท์วอล์คเกอร์ที่เราเห็นอยู่ในจอแบบนี้ ออกมาเดินเพ่นพ่านอยู่ในบ้านเมืองของเรา เรียกได้ว่าความรู้สึกในตอนนั้นมันคงจะหนาวสั่นจับใจแน่นอน ไวท์วอล์คเกอร์ จากซีรีย์ Game of Thrones และนี่คือภาพของ “ไวท์วอล์คเกอร์” ที่นำทัพโดยตัวหัวหน้า Night’s King และลูกน้องของเขา ที่ได้พากันบุกออกมาเดินเพ่นพ่านอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แต่เดี๋ยวก่อน คุณไม่ต้องตกใจ หรือกลัวจนตัวสั่นหรอกนะ เพราะไวท์วอล์คเกอร์เหล่านี้ ไม่ได้มาฆ่าหรือทำร้ายใคร แต่พวกเขามาเพื่อโปรโมทรอบปฐมทัศน์ของ Game of Thrones ซีซั่น 7 ที่กำลังจะเข้าฉายในวันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม 2017 ต่างหากล่ะ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพ พร้อมคลิปวีดีโอของกลุ่มไวท์วอล์คเกอร์ ที่ได้พากันเดินผ่านสถานที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของกรุงลอนดอน… ไม่ว่าจะเป็น Oxford Circus, Tower Bridge รวมถึงพระราชวังบักกิงแฮม ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ว่า ศึกชิงบัลลังค์ซีซั่น 7 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว …
-
เส้นทางชีวิตของ “กอร์ดอน แรมซี่” จากนักฟุตบอลดาวรุ่ง พุ่งลงสนาม มุ่งสู่เชฟระดับโลก
เส้นทางชีวิตของคนเรานั้นไม่ได้เป็นเส้นตรงเสมอไป เพราะบางครั้งเราก็ต้องเผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคที่ไม่คาดคิด จนต้องทำให้เราต้องหันหลังกลับ หรือเลือกเส้นทางใหม่ เพื่อเดินทางไปให้ถึงจุดหมายที่หวังเอาไว้ เช่นเดียวกันกับชีวิตของสุดยอดเชฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกอย่าง Gordon Ramsay การันตีด้วยดีกรีเจ้าของร้านอาหารที่เคยได้รับรางวัลดาวมิชลิน 15 ดาว แถมยังร่วมเป็นพิธีกรในรายการอาหารอีกมากมายหลายรายการ แล้วเพื่อนๆ รู้มั้ยว่าจุดเริ่มต้นความสำเร็จของเขานั้นไม่ได้มาจากการร่ำเรียนมาตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ เพราะอดีตเขาเคยเป็น ‘นักฟุตบอล’ ดาวรุ่งอนาคตไกลมาก่อน แต่โชคร้ายที่โดนอาการบาดเจ็บเรื้อรังจึงทำให้ต้องแขวนสตั๊ดไปในที่สุด Gordon เริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กๆ จนเข้าสู่อาชีพนักฟุตบอลอย่างเต็มตัวกับทีมเยาวชนอายุต่ำกว่า 14 ปี ของทีม Racing Club Warwick F.C. เมื่ออายุได้ 12 ปี จนมาถึงช่วงกลางปี 1984 ก็ได้มาทดสอบฝีเท้ากับทีมเยาวชนของทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีคสกอตแลนด์อย่าง Glasglow Rangers จนในที่สุดก็ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมตอนอายุได้ 15 ปี แต่หลังจากที่ฝึกซ้อมเพื่อเตรียมรับมือกับการแข่งขันจริงไปได้ไม่กี่เดือน ก็ต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หัวเข่า จนต้องยอมเลิกเล่นไปในที่สุด หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลไป เขาก็เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการทำอาหารแทน และเริ่มลงมือทำอย่างสุดความสามารถจนประสบความสำเร็จในที่สุด นี่คือคลิปวิดีโอสารคดีที่เล่าถึงความฝันในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเมื่อวัยเด็กของ Gordon และการเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่มา…
-
บริษัทรับจ้างไปตีสนิทกับชู้ ที่เข้ามากุ๊กกิ๊กแฟนของคุณ และโน้มน้าวให้เลิกสนใจกันซะ!!
ปัญหาการหย่าร้าง การเลิกราในทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งมาสาเหตุมาจากมือที่สาม แต่จะโทษมือที่สามซะหมดก็คงจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะบางทีพวกเขาอาจไม่รู้ก็ได้ว่าคนที่ไปยุ่งด้วยนั้นมีเจ้าของแล้ว… แต่จะดีมั้ยถ้ามีใครคนหนึ่งเล่นบทเป็นคนสนิทของมือที่สาม เพื่อให้เลิกยุ่งกับแฟนคนอื่นแล้วปล่อยให้เขาหรือเธอกลับไปหาแฟนเป็นของตัวเองซะ และนี่คือบริการของ Ginza Ladis 1 บริษัทที่ปรึกษาทางด้านชีวิตคู่และรวมเหล่านักสืบสาว ที่เสนอทางเลือกค่อนข้างซับซ้อนสำหรับคนที่กำลังถูกคนรักนอกใจ ซึ่งถ้าหากใครที่รู้ว่าถูกแฟนนอกใจหรือกำลังคบซ้อนอยู่ ทางบริษัทก็ยินดีให้คุณจ้างนักสืบไขคดีรัก แล้วไปตามสืบเรื่องของคนที่เป็นมือที่สาม จากนั้นก็จะทำการเข้าไปตีสนิทด้วย เพื่อทำให้เขาหรือเธอเลิกกับแฟนของคุณ ที่ต้องจ้างคนอื่นมาช่วย เพราะบางทีหากคุณพูดกับแฟนตรงๆ อาจกลายเป็นการทะเลาะกันจนเป็นปัญหาบานปลาย ดังนั้นเมื่อพูดเองไม่ได้ ก็ใช้ตัวช่วยอื่นแทนก็แล้วกัน แถมยังทำให้ดูมีความเป็นนางเอกด้วย สิ่งที่ทางบริษัท Ginza Ladis 1 ทำอาจดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าจะได้ผลหรือไม่ ถ้าไม่ลองดูสักครั้ง… เมื่อเร็วๆ นี้ ตัวแทนจากบริษัทได้ออกมาพูดถึงกลยุทธ์ของพวกเขาว่า เมื่อคุณใช้บริการ ทางบริษัทจะส่งคนไปตามสืบเรื่องของมือที่สาม เช่นงานอดิเรก ความสนใจ รวมทั้งเข้าไปพัวพันในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียน ฟิตเนส และอื่นๆ เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเขาหรือเธอคนนั้น แล้วจะเป็นอย่างไรถ้ามือที่สามไม่มีงานอดิเรกเลย? ง่ายนิดเดียวค่ะ ทางบริษัทจะส่งคูปองฟรีสำหรับเข้าร่วมงานอีเว้นท์ต่างๆ ให้ทั้งสองคนผ่านอีเมลล์ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพวกเขาจะไปไหน ทำอะไร ที่เหลือก็แค่เล่นไปตามแผน …
-
ภาพสะเทือนอารมณ์ จากแคมเปญต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า เพราะคุณกำลังฆ่าสัตว์อยู่…
ทุกครั้งที่มีการตัดไม้ทำลายป่า มันไม่ได้ส่งผลเสียกับแค่ต้นไม้ ใบหญ้าเท่านั้น แต่มันคือการฆ่าสัตว์ไปด้วย เพราะป่าไม้คือที่อยู่อาศัยของสัตว์ เมื่อไม่มีป่าแล้วสัตว์จะอยู่อย่างไร? ด้วยเหตุนี้ Ganesh Prasad Acharya จึงได้จัดทำภาพแคมเปญต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าขึ้นมา ให้กับทางมูลนิธิปกป้องสัตว์ป่า Sanctuary Asia ได้นำไปเผยแพร่กับผู้คนให้ได้รับรู้ ปกติการอนุรักษ์ด้วยภาพสัตว์น่ารัก หรือป่าเขียวชอุ่ม อาจไม่ได้รับความสนใจมากพอ แคมเปญนี้จึงเน้นภาพที่สะเทือนอารมณ์ ซึ่งเป็นภาพที่สื่อสารได้ชัดเจนมากกว่า หวังจะให้ผู้คนหันมาใส่ใจสัตว์ป่ามากขึ้น มูลนิธิปกป้องสัตว์ป่า Sanctuary Asia ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1981 โดย Bittu Sahgal ตามคำสั่งของนักอนุรักษ์ Fateh Singh Rathore Sanctuary Asia เป็นองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติชั้นนำของอินเดีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสารกับผู้อ่านให้ทำความเข้าใจเหตุผลของการคุ้มครองสัตว์ป่าและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโดยมุ่งเน้นที่อนุทวีปอินเดีย ดังนั้นนับตั้งแต่ก่อตั้งมา Sanctuary Asia ก็กลายเป็นศูนย์รวมของการอนุรักษ์สัตว์ป่านับไม่ถ้วน และยังทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับกลุ่มบุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้วย ที่มา Sanctuary Asia l Instagram l Facebook l designyoutrust
-
ช่วงเวลาอบอุ่นหัวใจของคุณตา ค่อยๆ หวีผมให้ภรรยา ที่กำลังนอนหลับบนเตียงผู้ป่วย…
ความรักที่แท้จริงนั้น ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปนานเท่าไหร่ แค่สิ่งที่คนรักยังคงมอบให้กันนั้นย่อมไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปได้เลย เหมือนกับคุณตาท่านนี้ที่คอยดูแลคู่ชีวิตของเขาอย่างใกล้ชิด เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแแพร่คลิปวิดีโอน่ารักๆ ของคุณตาท่านหนึ่งกำลังเสริมสวยให้กับคุณยาย ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเเตียงผู้ป่วย คู่รักสูงวัยจากสหรัฐอเมริกา ได้ทำให้คนทั้งโลกออนไลน์ต้องใจละลาย คุณตา Nellie พูดกับภรยาของเขาระหว่าที่หวีผมว่า “ผมไม่เคยหวีผมมาก่อนนะ นี่เป็นครั้งแรกเลยคุณรู้ไหม” แต่อีกฝ่ายกลับไม่โต้ตอบใดๆ เธอได้แต่หลับตาและนอนนิ่งอยู่บนเตียง ปล่อยให้ชายชราทำหน้าที่ของเขา ระหว่างที่กำลังหวีผม ชายแก่ก็ค่อยๆ จับผมของคู่รักอย่างถนุถนอม และหวีเบาๆ อย่างนุ่มนวล ระหว่างที่ทำหน้าที่ของเขา คุณตาคอยถามภรรยาตลอดเวลาว่าเพราะกลัวว่าเธอจะเจ็บ จากนั้นสามีก็เริ่มเล่าถึงเรื่องราวความหลังของพวกเขา และเรื่องราวของครอบครัวให้เธอฟัง ถึงแม้ว่าจะใช้ชีวิตด้วยกันมานานหลายปี แต่ความรักที่คุณตามีให้กับภรรยาของเขานั้นกลับไม่จางหายไปเลย ภาพวิดีโอนี้คงจะบ่งบอกถึงความรักของทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี ชมคลิปวิดีโอได้ที่นี่เลย… ช่างเป็นภาพที่น่ารักอะไรอย่างนี้นะเนี่ย เห็นแล้วแอบเขินตามเลยนะว่าไหม?? ที่มา dailymail
-
ดิสนีย์เผยภาพโปรเจคสวนสนุกในธีม Star Wars พร้อมจะเปิดให้บริการภายในปี 2019 นี้
ใครที่เป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์ Star Wars ล่ะก็ เตรียมความพร้อมกันเอาไว้ให้ดี เพราะขณะนี้ทาง Disney Land ได้กลับมาสร้างความตื่นเต้นกันอีกครั้ง ด้วยการนำ Star Wars Lands มาสร้างเป็นสวนสนุก งานนี้บอกเลยว่าเอาใจแฟนสงครามอวกาศสุดๆ ไปเลย ซึ่งล่าสุดนี้ก็มีการเผยแพร่ภาพโปรเจคสวนสนุก Star Wars ของดิสนีย์ ที่ถูกนำมาจัดแสดงในงาน Expo D23 ณ เมืองอนาไฮม์ (Anaheim) รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยภาพโปรเจคดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นถึงภาพลายละเอียดที่ซับซ้อนของสวนสนุก ที่มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่อลังการเหมือนดั่งที่เราเห็นกันในภาพยนตร์กันมาแล้ว ทางด้าน Bob Chapek ประธาน Walt Disney Parks and Resorts ได้ออกมากล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่สวนสนุกธีม Star Wars จะเปิดให้บริการในปี 2019 ที่จะถึงนี้” ในขณะนี้โครงการดังกล่าวกำลังดำเนินการอยู่ที่ Anaheim Park และ Disney’s…
-
ลุงเกลียดเพื่อนบ้านขั้นหนัก ลงทุนตัดหญ้าเป็นคำว่า “ไอ้งั่ง” ตัวโตๆ มองเห็นชัดจากบนฟ้า!!!
เป็นเรื่องปกติที่ในบางครั้ง บ้านเรากับเพื่อนบ้านอาจจะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ ซึ่งบางคนก็ถึงขั้นไม่มองหน้ากันเป็นปีๆ ในขณะที่บางคนอาการหนักถึงขั้นย้ายบ้านหนีเลยก็มี เหมือนดังเช่นเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่าเขาจะเกลียดเพื่อนบ้านขั้นหนัก ถึงกับลงทุนตัดสนามหญ้าหลังบ้านให้กลายเป็นคำว่าไอ้งั่ง พร้อมเติมลูกศรชี้ไปทางบ้านของคู่กรณีกันเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Brian Juel คุณลุงจาก Sequim รัฐวอชิงตันรายนี้ ลงทุนตัดหญ้าคำว่า A Hole หรือไอ้งั่ง (A-Hole เป็นคำย่อๆ ของ Asshole) เป็นตัวอักษรขนาดใหญ่เอาไว้ที่สนามหญ้าหลังบ้านของเขา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าเขารู้สึกเกลียด Cindy และ Brian Zechenelly ผู้เป็นเพื่อนบ้านมากขนาดไหน จากการรายงานระบุว่า เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างสองบ้านนี้ ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2009 โดยทางครอบครัวของ Zechenelly ได้สร้างโรงรถสีม่วงขนาดใหญ่ไว้บนที่ดินของพวกเขา แต่นั่นกลับทำให้คุณลุง Brian และเพื่อนบ้านในละแวกนั้นอีกหลายๆ คน เกิดความไม่พอใจอย่างหนัก เพราะพวกเขาไม่พอใจในรูปลักษณ์ของมัน อีกทั้งอาคารสีม่วงดังกล่าวยังเป็นการลดคุณค่าของทรัพย์สินโดยรอบอีกด้วย งานนี้จึงทำให้พวกเขาได้พากันยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อฟ้องร้องครอบครัวของ Zechenelly เพราะความไม่พอใจอย่างหนัก…
-
นักแสดงหนุ่มอัดทิปหนักกว่า 6 หมื่นบาท ให้พนักงานร้านอาหาร หลังเจอบริการสุดประทับใจ
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Donnie Wahlberg นักร้องและนักแสดงวัย 47 ปี ได้เข้าไปนั่งทานอาหารในร้าน Waffle House ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาได้ถ่ายทำซีรีส์ Blue Bloods เสร็จ ซึ่งในขณะที่เขาอยู่ภายในร้าน Donnie ก็ได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่แสนพิเศษให้กับพนักงานเสิร์ฟที่มาให้บริการเขาในเย็นวันนั้น จากการรายงานระบุว่า หลังจากที่นักแสดงหนุ่มคนดังกล่าว ได้ถ่ายทำซีรส์ Blue Bloods เสร็จแล้ว เขาก็ได้เดินทางมารับประทานอาหารที่ร้าน Waffle House และเมื่อ Donnie ได้พบกับพนักงานที่กำลังรอเขาอยู่ มันก็ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งเขายังรู้สึกได้ว่าพนักงานในร้านอาหารแห่งนี้เป็นมิตร และรู้จักเขาอีกด้วย เนื่องจากเขาอาจไม่ได้เป็นที่รู้จักสักหรือมีชื่อเสียงโด่งดังเท่าไหร่นัก ในขณะที่ Donnie กำลังรออาหารที่สั่งอยู่นั้น เขาก็ได้ทำการบันทึกวีดีโอเพื่อเก็บภาพความประทับใจในขณะที่เขากำลังมีความสุขอยู่กับเหล่าพนักงานที่น่ารัก และบรรดาแฟนคลับที่ได้เขามาทักทาย พร้อมกันนี้ เหล่าพนักงานยังได้พากันร้องเพลงของเขาอีกด้วย เรียกได้ว่าอาหารมื้อนี้เป็นมื้อที่ทำให้เขามีความสุขมากที่สุดเลยละ หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ Donnie ยังได้มอบทิปเป็นจำนวน $2,000 หรือราวๆ…
-
สวนสัตว์ลอนดอน เชิญชวนผู้กล้ามาร่วมกิจกรรม ‘วิ่งเปลือยมาช่วยเสือ’ มีใครสนใจบ้างไหม!?
ในแต่ละปี สวนสัตว์ลอนดอน ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร จะมีการจัดกิจกรรมวิ่งโดยให้ผู้กล้า และผู้ที่มีใจอนุรักษ์สัตว์ ออกมาวิ่งเปลือยเพื่อระดมเงินการกุศลช่วยเหลือเสือโคร่ง และในปีนี้ กิจกรรมดังกล่าวจะถูกจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม 2560 โดยจะมีทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้ออกมาเปลือยกายวิ่งล่อนจ้อน พร้อมกับผู้ที่สนใจจะมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นการเชื้อเชิญเหล่าผู้กล้าให้เห็นภาพมากขึ้น พนักงานสวนสัตว์ก็ออกวิ่งเปลือยลองเชิงให้ดูก่อนงานวันจริง โดยจะใช้เวลาในการวิ่งเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น ซึ่งใครที่สนใจก็สามารถเข้ามาลงทะเบียนกับพนักงานในสวนสัตว์ลอนดอนได้ สำหรับกิจกรรมวิ่งที่ชื่อว่า The Streak for Tigers ได้วางเป้าหมายในการระดุมทุนเงินบริจาคเอาไว้ 40,000 ปอนด์หรือราวๆ 1.7 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้คนให้มาร่วมกิจกรรมได้มากกว่า 300 คน ซึ่งเงินทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นจากการบริจาค ก็จะนำมาใช้กับการอนุรักษ์เสือภายในสวนสัตว์แห่งนี้นั่นเอง . หากเพื่อนๆ คนไหนอยากจะแก้ผ้ากลางที่สาธารณะแบบไม่ผิดกฎหมายอนาจาร แถมยังได้ช่วยเหลือเสือด้วย ก็สามารถบินไปเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้ โดยคุณสามารถเข้ามาร่วมวิ่งเปลือย หรือจะมาเป็นกำลังใจให้กับบรรดานักวิ่งก็ได้เช่นกันจ้า ที่มา : ladbible
-
อดีตผู้ต้องหาสละโอกาสตัวเอง ไม่ไปสัมภาษณ์งาน ขอลงกลางทางเพื่อช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ
การหางานทำหลังจากที่ผ่านชีวิตในเรือนจำมานั้น ดูเหมือนจะอะไรที่ยากมากๆ แต่สำหรับอดีตผู้ต้องหาผู้นี้เขากลับเลือกโดยไม่ลังเลเลยที่จะเสียสละโอกาสในการได้งาน เพื่อไปช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์แทน พบกับเรื่องราวที่น่าประทับใจของคุณ Aaron Tucker จากเมืองบริดจ์พอร์ต รัฐคอนเนตทิคัต ที่บอกให้รถโดยสารประจำทางจอด เพื่อลงไปช่วยชีวิตผู้คนในอุบัติเหตุรถคว่ำ ระหว่างที่เขากำลังเดินทางไปสัมภาษณ์งาน หลังจากที่ช่วยเหยื่อผู้ประสบภัยออกจากที่เกิดเหตุ ชายหนุ่มวัย 32 ปีได้สละเสื้อของเขาเพื่อห้ามเลือดให้กับผู้บาดเจ็บ ทำให้เขาต้องพลาดโอกาสในการสัมภาษณ์งานของร้านอาหาร Dinosaur Bar-B-Que ไป แต่หลังจากที่เรื่องของชายหนุ่มถูกเผยแพร่ไปแล้ว ก็มีผู้ร่วมบริจาคเงินให้กับเขาผ่านทางเว็บไซต์ GoFundMe จำนวนมากเพื่อเป็นการตอบแทนความเสียสละ ที่ยอมละทิ้งการสัมภาษณ์งานในวันนั้นเพื่อช่วยชีวิตคน ตามการรายงานของสำนักข่าว New York Daily News บอกว่า เขาตื่นตั้งแต่ตอนตี 5 เพื่อเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งาน และระหว่างที่รถบัสกำลังแล่นไปบนถนน เขาสังเกตเห็นรถคันหนึ่งคว่ำอยู่และมีควันออกมา เขาจึงตัดสินใจบอกให้รถบัสหยุดและลงไปช่วยผู้บาดเจ็บ หลังจากที่ลงไปช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บแล้ว ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อยที่พลาดการสัมภาษณ์งาน “ตอนนั้นสิ่งที่ผุดขึ้นมาบนหัวผมคือ ผมต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว ดังนั้นผมจึงตัดสินใจลงไปช่วยเขา” คุณ Tucker เคยได้รับโทษจำคุกนาน 22 เดือนและกำลังมองหางานใหม่เพื่อดูแลครอบครัวเขา และจากการกระทำของชายหนุ่มท่านนี้ ก็ได้รับการยกย่องอย่างมากจากทั้งทางโลกออนไลน์และผู้คนในพื้นที่ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงและกู้ภัยในพื้นที่ Robert Yost กล่าวว่า “การกระทำของเขาแสดงให้ทุกๆ คนเห็นถึงความกล้าในการช่วยเหลือผู้อื่น ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสังคม” …
-
มันจะดีนะ… สุดยอดตารางธาตุแบบใหม่ มาพร้อมภาพประกอบ ช่วยให้จำได้ง่ายขึ้นเยอะ!!
จำได้ไหม ตอนเด็กๆ นักเรียนส่วนใหญ่มักจะต้องได้ท่องตารางธาตุ ซึ่งเป็นอะไรที่จำยากมาก บางทีคิดว่าท่องได้แล้วนะ แต่พอจะไปท่องให้ครูฟังจริงๆ ดั๊นตื่นเต้นจนท่องผิดท่องถูกปนกันไปหมด แต่นักเรียนสมัยนี้คงไม่ต้องปวดหัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะตอนนี้ Keith Enevoldsen นักวิศวกรซอฟต์แวร์ได้ทำตารางธาตุพร้อมรูปภาพประกอบ ให้ท่องง่ายยิ่งขึ้นแถมน่าสนุกด้วย เขาได้ออกแบบตารางธาตุที่มีความน่าสนใจมากขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือการสอนสำหรับเด็กรุ่นใหม่ หรือผู้ใหญ่บางคนที่อยากทบทวนความรู้ในวิชาเคมีก็ใช้ได้เหมือนกันนะ ตารางธาตุที่ Keith ทำขึ้นใหม่นี้จะอิงข้อมูลจากตารางแบบเก่า แต่เขาจะเพิ่มเติมคำธิบายและสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นรูปภาพที่เรามักจะคุ้นเคยในชีวิตประจำวันเข้าไปด้วย อย่างเช่น ‘โซเดียม’ ภาพประกอบก็จะเป็นเครื่องปั่นเกลือ และสำหรับ ‘นีออน’ ก็จะมีสัญลักษณ์เป็นป้ายโฆษณาที่ส่องสว่าง นี่ขนาดไม่เห็นภาพยังนึกออกเลยนะเนี่ย!? ใครที่สนใจสามารถเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ elements หรือสนใจสั่งซื้อได้ที่ cafepress แล้วจะรู้ว่าท่องตารางธาตุน่ะ ‘ง่ายนิดเดียว’ (ที่เหลือยากหมด ฮร่าาาา) ตารางธาตุง่ายนิดเดียวจริงๆ นะ ที่มา mentalfloss
-
เด็กหญิงเดินเข้าไปกลางโต๊ะอาหารของตำรวจ เพื่อขออธิษฐาน เป็นการตอบแทนที่ทำงานหนัก
การอธิษฐานหรือสวดมนต์นั้นเป็นสิ่งที่ชาวคริสต์มักจะทำเป็นประจำกันอยู่แล้ว โดยเฉพาะก่อนทานอาหารชาวคริสต์จะต้องมีการอธิฐานก่อนเสมอ และไม่ใช่แค่อธิษฐานให้ตัวเอง แต่บางครั้งพวกเขายังอธิษฐานสวดภาวนาให้คนอื่นๆ ด้วย เหมือนกับ Paige Vazquez เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ที่ขออธิษฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เด็กหญิงอาศัยอยู่ในซานอันโตนิโอ เธอเป็นเด็กที่ขี้อายมากๆ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่จะหยุดเธอให้เดินไปที่โต๊ะอาหารที่มีตำรวจนั่งอยู่ 8 คน และขัดจังหวะการกินของพวกเขา เจ้าหน้าที่ทุกคนมองมาที่เด็กหญิงด้วยความแปลกใจ และคิดว่าเธอคงต้องการความช่วยเหลืออะไรสักอย่าง แต่เปล่าเลย เด็กหญิงถามพวกเขาว่า “หนูขออธิษฐานเพื่อพวกคุณได้ไหมคะ?” เด็กหญิงเล่าตอนที่ไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “หนูถามพวกเขาว่า ‘สวัสดีค่ะ หนูขออธิษฐานเผื่อพวกคุณได้ไหมคะ?’ พวกเขาตอบว่า ‘ได้สิ ได้เลย’” ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแปลกใจกับสิ่งที่เธอทำ แต่พวกเขาเห็นความตั้งใจของเด็กหญิง ก็เลยก้มศีรษะให้เด็กหญิงอธิษฐานเผื่อ เด็กหญิงบอกว่า “หนูมักจะอธิษฐานเผื่อคนอื่นเสมอ โดยเฉพาะเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะพวกเขาต้องเจอช่วงเวลาที่ยากลำบากและต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น” “บางครั้งการอธิษฐานเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ใครบางคนรู้สึกดีขึ้นได้ ดังนั้นหนูจึงตัดสินใจทำแบบนั้น ในวันที่พวกเขาต้องเจอเรื่องไม่ดีค่ะ” เด็กหญิงบอก Kat แม่ของเด็กหญิงบอกว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเธอค่ะ แต่ลูกสาวฉันมักจะอธิษฐานเผื่อคนอื่นเสมอ แม้จะเป็นคนแปลกหน้าก็ตาม” “เราเองก็ควรอธิษฐานเผื่อคนอื่นเหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพราะการอธิษฐานอาจเปลี่ยนวันแย่ๆ ให้กลายเป็นวันที่สดใสก็ได้” แม่บอก หลายคนอาจไม่เข้าใจความหมายของการอธิษฐาน แต่รู้ไว้อย่างหนึ่งว่าสิ่งที่เด็กหญิงทำอยู่นี้ก็เพื่อถ่ายทอดความหวังดีและอยากให้คนอื่นพบเจอแต่สิ่งดีๆ นั่นเอง…
-
พนักงานส่งของ นำขนมมาเปลี่ยนให้กับเด็กออทิสติกทันที หลังจากส่งของรอบแรกผิดรสชาติ
เรื่องราวน่าประทับใจของชายหนุ่มส่งของจากห้าง Tesco ที่ยอมเสียเวลาเดินทางกลับไปที่โกดังเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่อนำขนมรสชาติใหม่มาเปลี่ยนให้กับเด็กน้อยผู้ป่วยออทิสติก… พนักงานส่งของ Dan Lawry ได้รับคำยกย่องเป็นอย่างมากหลังจากที่เขาเดินทางไปกลับเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เพื่อนำขนมมันฝรั่ง Pringles รสชาติโปรดปรานที่ถูกต้องมาเปลี่ยนให้ หลังจากที่ส่งออเดอร์ผิดรสชาติมาในตอนแรก Rachel George คุณแม่วัย 42 ปีของหนูน้อย บอกว่าลูกชายของเธอต้องทุกข์ทนกับอาการป่วยและยังต้องนั่งบนรถเข็นหลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดที่เท้า เขาเป็นเด็กที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นพิเศษ และคุณ Dan ก็เหมือนฮีโร่ เขามาพร้อมกับขนมสุดโปรดของลูกชายเธอ คุณ Rachel เล่าว่า ” Adam มีความสุขมาก เขาดีใจสุดๆ หลังจากที่ได้ขนม Pringles รสซาวครีมและหัวหอมซึ่งเป็นรสชาติโปรดของเขา สิ่งที่ Dan ทำนั้นไม่ใช่แค่เพียงการเอาขนมรสชาติที่ถูกต้องมาให้ แต่มันหมายถึงการใส่ใจในความรู้สึกของเด็กๆ ด้วย” “ตอนที่ Dan ขับรถมาถึงบ้าน เขาเราบอกว่ามีบางอย่างที่ผิดพลาด เมื่อฉันได้ยินดังนั้นก็ขออย่าให้เป็นขนมของ Adam เลยเพราะเขาคงจะรู้สึกแย่มากถ้าได้ขนมที่ไม่ถูกใจ “ คุณแม่กล่าว แต่ยังโชคดีที่มีโกดังสินค้าอยู่ใกล้ๆ ดังนั้น Dan จึงกลับไปเปลี่ยนขนมให้เจ้าหนูได้ทัน โดยที่สามารถไปส่งของให้ลูกค้าคนอื่นได้ทันเวลา และวนกลับมาเปลี่ยนขนมให้กับเจ้าหนูได้ในวันเดียวกันทันที…
-
เมื่อเจ้าสาวโดนเท เปลี่ยนงานแต่งให้เป็นงานการกุศล นำมาจัดเลี้ยงเหล่าคนไร้บ้านแทน…
เรื่องราวของคู่รักที่กำลังวางแผนจะจัดงานแต่ง แต่ทว่างานแต่งของพวกเขากลับกลายเป็นงานการกุศลไปซะนี่ หลังจากที่พวกเขายกเลิกงานแต่ง แต่แทนที่จะยกเลิกไปเฉยๆ ฝ่ายหญิงกลับจัดงานเลี้ยงสำหรับคนไร้บ้านแทนงานแต่งซะนี่ คุณ Sarah Cummins และคู่หมั้นของเธอ Logan Araujo วางแผนจัดงานแต่งงานสำหรับแขก 170 คน แต่โชคร้ายที่พวกเขาต้องยกเลิกงานแต่งประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Sarah หญิงสาววัย 25 ปีตัดสินใจเชิญเหล่าคนไร้บ้านของสถานสงเคราะห์ในรัฐอินดีแอนา เพื่อมาร่วมทานอาหารเย็นในงานเลี้ยงของเธอในอาคาร Ritz Charles ส่วนเหตุผลที่งานแต่งงานของเธอถูกยกเลิกนั้นทางฝ่ายหญิงไม่ได้เปิดเผยให้ทราบแต่อย่างใด “มันเป็นเรื่องแย่มาก ฉันโทรไปยกเลิกทุกๆ คนที่เราเชิญไป และโทรไปยกเลิกงานแต่ง แต่ฉันก็รู้สึกเสียดายที่จะต้องยกเลิกอาหารที่สั่งไว้กับผู้จัดงาน” หญิงสาวและแม่ของเธอยืนยันที่จะจัดงานเลี้ยงสำหรับเหล่าคนไร้บ้าน พวกเขาให้พนักงานของทาง Ritz Charles จัดห้องสำหรับงานเลี้ยงใหม่ โดยที่ไม่มีโต๊ะวางเค้กหรือโต๊ะของวัญสำหรับคู่บ่าวสาว งานเลี้ยงดังกล่าวมีมูลค่าถึง 30,000 เหรียญหรือประมาณ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว หญิงสาวบอกว่าอาหารต่างๆ ในงานเลี้ยงจะเป็นชุดเดียวกันกับที่เตรียมไว้สำหรับงานแต่งของเธออย่างเช่น เนื้อแกะอบ และขนมหวานต่างๆ ส่วนทางด้านของอดีตคู่หมั้นนาย Logan Araujo นั้นกล่าวว่าเขารู้สึกเสียใจอย่างมากสำหรับการยกเลิกงานแต่งงานดังกล่าว “ผมเสียใจมากจริงๆ และขอยินดีกับ Sarah ด้วยที่เธอสามารถผ่านเรื่องร้ายๆ มาได้และทำเรื่องราวดีๆ แบบนี้” ชายหนุ่มกล่าว นอกจากนี้ทางฝ่ายหญิง…
-
โมเม้นหายาก… เมื่อแม่สิงโตรับเลี้ยงลูกเสือดาว ดูแลเหมือนลูกแท้ๆ หลังเสียลูกตัวเองไป
หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเห็นแม่สัตว์เลี้ยงลูกสัตว์ที่ไม่ใช่ลูกตัวเอง แถมบางทีเป็นสัตว์ต่างชนิดด้วย นั่นเป็นเพราะพวกมันมีสัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่นั่นเอง เหมือนกับแม่สิงโตจากอุทยานแห่งชาติเซเรนเกตี ในประเทศแทนซาเนีย ที่เลี้ยงดูลูกเสือดาว พร้อมทั้งให้กินนมราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง ตามลำดับห่วงโซ่อาหารแล้ว เมื่อสิงโตเห็นลูกเสือดาว พวกมันมักจะลงมือฆ่าทันที เนื่องจากเป็นศัตรูที่คอยแย่งชิงอาหารกัน แต่แม่สิงโตตัวนี้กลับให้ลูกเสือดาวดูดนม ซึ่งเป็นภาพที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ยังบอกว่าหาได้ยากมากๆ สำหรับแม่สิงโตตัวนี้ได้คลอดเจ้าตัวน้อย 3 ตัว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2017 และมันก็ให้ลูกๆ ซ่อนตัวอยู่ภายในรัง บริเวณพื้นที่อนุรักษ์อึงโกรองโกโร แต่จากการสังเกต Ainslie Wilson ผู้จัดการ Ndutu Safari Lodge บอกว่า ‘ดูเหมือนลูกๆ ของมันจะตายแล้ว เพราะมันไม่ได้กลับไปที่รังนานแล้ว’ โดยในภายหลังแม่สิงโตก็พบลูกเสือดาว ที่อยู่ห่างจากรังประมาณ 1 กิโลเมตร แม่สิงโตจึงเกิดความเอ็นดู และตัดสินที่จะดูแลมันเหมือนลูกตัวเอง ไม่มีใครรู้ว่าลูกของสิงโตนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่แม่สิงโตจะอยู่ดูแลลูกเสือดาวตลอดเวลา ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าลูกของมันอาจจะตายไปแล้วจริงๆ ก็ได้ อย่างที่บอกว่ามันแทบจะเป็นไม่ได้ที่สิงโตจะไม่ทำร้ายเสือดาว แต่นักสัตววิทย Sarah Durant บอกว่า “อาจเป็นไปได้ว่าแม่สิงโตได้มาเจอลูกเสือดาว…
-
สาวเจ้ามัวแต่ห่วงเซลฟี่ ทำงานศิลปะล้มเป็นโดมิโน่ มูลค่าความเสียหายเกือบ 7 ล้านบาท!!
ใครที่เสพติดการเซลฟี่ เห็นอะไรเป็นต้องอยากเข้าไปถ่ายรูปด้วยหมด เรื่องนี้จะเป็นอุทธาหรณ์ให้คุณได้ระวังตัวมากขึ้น ดีไม่ดีอาจจะอยากเลิกเซลฟี่ไปเลยก็ได้… คงจะไม่มีการเซลฟี่ครั้งไหนระทึกได้เท่าครั้งนี้แล้วล่ะ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเมามันกับการถ่ายรูปกับผลงานศิลปะจนพลาดท่าทำให้งานล้มเป็นโดมิโน่ สร้างความเสียหายรวมแล้วเกือบ 7,000,000 บาท ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งกำลังเดินชมผลงานศิลปะในอาคาร The 14th Factory เมืองลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นการจัดแสดงผลงานของ Simon Birch โดยวางผลงานบนเสาสี่เหลี่ยมที่เรียงกันเป็นแถว ขณะนั้นมีหญิงสาวสองคนกำลังถ่ายรูปคู่กับงานศิลปะเหมือนคนอื่นๆ แต่แล้วหนึ่งในสองคนนั้นก็นั่งลงใกล้เสาที่ตั้งผลงาน เพื่อให้อีกคนถ่ายรูปให้ แต่ในจังหวะที่ก้นยังไม่ทันถึงพื้น หญิงสาวเกิดเซล้มใส่เสาตั้งผลงานพอดี ทำให้เสาต้นแรกล้มไปด้านหลัง ส่งผลทำให้เสาต้นอื่นๆ ล้มตามเหมือนโดมิโน่ เทกระจาดผลงานศิลปะกันเลยทีเดียว ภายหลังคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่โดยยูทูปเบอร์ ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนกับ Birch ผู้เป็นศิลปินเจ้าของผลงาน โดยเขาเขียนบรรยายเอาไว้ว่า “เกิดเรื่องกับงานของ Simon Birch ที่จัดแสดงที่ลอสแองเจลิส หญิงสาวบังเอิญไปล้มใส่งานแล้วมันก็ล้มต่อๆ กัน สร้างความเสียหายเกือบๆ 7 ล้านบาท” ในการจัดแสดงผลงานครั้งนี้ Birch ได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าศิลปินสหวิทยาการถึง 16 คนด้วยกัน จากทั้งประเทศจีน ฮ่องกง สหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและแคนาดา นอกจากนี้ Birch และทีมงานได้ใช้เวลาเตรียมงานนี้กว่า…
-
อีกแล้ว!! เด็กหนุ่มเสียชีวิต หลังเข้าร่วมเกมมรณะ “วาฬสีน้ำเงิน” ที่หลอกล่อให้คนฆ่าตัวตาย
เมื่อไม่นานมานี้ เราได้นำเสนอเรื่องของ เกมวาฬสีน้ำเงิน (Blue Whale) ซึ่งเป็นเกมที่ผู้เข้าร่วมจะต้องทำเป้าหมาย 50 อย่างที่เจ้าของเกมกำหนดไว้ให้สำเร็จ โดยจะต้องทำให้สำเร็จวันละหนึ่งอย่าง แต่ทว่าเป้าหมายสุดท้ายของผู้ที่เข้าร่วมเกม มักจะมีจุดจบด้วย “การฆ่าตัวตาย” ทำให้เด็กหนุ่มชาวอมริกันคนนี้ที่ได้เข้าร่วมเล่นเกมดังกล่าว ถูกชักจูงไปในทางที่ผิดและเป็นเหตุทำให้เขาตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง Isaiah Gonzales วัย 15 ปี จากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกพบในสภาพแขวนคอตัวเองภายในตู้เก็บของเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม 2017 และพบข้อความในโทรศัพท์มือถือของเขา ที่เขียนเกี่ยวกับเจตนาในการฆ่าตัวตาย… หลังจากที่ตรวจสอบประวัติการใช้อินเตอร์เน็ตของ Isaiah ทางครอบครัวยืนยันว่าลูกชายไม่เคยแสดงอาการของคนที่อยากฆ่าตัวตายเลย และมั่นใจว่าลูกตกเป็นเหยื่อของเกมวาฬสีน้ำเงินอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่เข้าร่วมเล่นเกมวาฬสีน้ำเงินนั้น ต้องทำตามคำสั่งของผู้ควบคุมเกมที่ไม่ได้ระบุตัวตนเป็นเวลา 50 วัน สิ่งที่ต้องทำมีตั้งแต่ชมภาพยนตร์สยองขวัญตลอดทั้งคืน ไปจนถึงการทำร้ายตัวเอง นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมเกมจะถูกขอให้ถ่ายรูปตัวเองในสถานการณ์ต่างๆ ที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นการไปนั่งบนขอบตึก ไปนอนบนรางรถไฟ และสิ่งที่ท้าทายที่สุดคือบังคับให้ผู้เล่นฆ่าตัวตาย หากผู้เล่นต้องการที่จะเลิกหรือออกจากเกม พวกเขาจะถูกข่มขู่และคุกคามด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ขู่ทำร้ายครอบครัว ดังนั้นผู้เข้าร่วมเกมจึงต้องฝืนทำภารกิจจนถึงวันสุดท้าย แต่เมื่อถึงวันที่ 50 พวกเขาก็จะถูกสั่งให้ฆ่าตัวตาย หากผู้เข้าร่วมเกมเปลี่ยนใจกลางคัน ผู้ควบคุมเกมก็จะตามมาจัดการเองในชีวิตจริง ปัจจุบันเกมวาฬสีน้ำเงินได้แพร่ไปทั่วสังคมออนไลน์ และคนที่ตกเป็นเหยื่อมักจะเป็นวัยรุ่นที่อยากรู้อยากลอง ดังนั้นสิ่งที่จะป้องกันได้คือพ่อแม่…
-
นวัตกรรม ‘ไม้ดูดยุง’ อีกขึ้นของการขจัดความรำคาญ ไม่ต้องโบกตบจนกล้ามขึ้นอีกต่อไป!!
‘ยุง’ สิ่งมีชีวิตที่สุดแสนจะน่ารำคาญ เมื่อไหร่ที่เจ้าแมลงตัวน้อยๆ นี้เข้ามาตอมใกล้ๆ เราแล้วล่ะก็ อยากจะมอบฝ่ามือให้เป็นของขวัญกับมันเสียจริงๆ และถ้าพูดถึงวิธีการจัดการกับเจ้ายุงนั้น ก็คงจะมีหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้มือตบ ไม้ตบ จุดยากันยุง ทายากันยุง หรือนอนกางมุ้งก็ตาม และเมื่อไม่นานมานี้มีบริษัทหนึ่งจากแดนปลาดิบ ก็ได้คิดค้น ‘ไม้ดูดยุง’ อุปกรณ์กำจัดยุงสุดเจ๋งที่จะมาปฏิวัติวงการตบยุงอย่างสิ้นเชิง!! แท่น แท๊นนนน โฉมหน้าของไม้ดูดยุง!! บริษัท Thanko ผู้นำทางด้านนวัตกรรมอุปกรณ์พกพาแปลกๆ จากประเทศญี่ปุ่น ได้คิดค้นวิธีจัดการกับผู้บุกรุกตั๋วจิ๋วนี้ พวกเขาได้ออกแบบเจ้าไม้ดูดยุง ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างที่ช๊อตยุงและเครื่องดูดเอาไว้ด้วยกัน คุณไม่ต้องกังวลเลยว่าเจ้ายุงจะแค่ถูกช๊อตจนสลบหรือรอดเงื้อมมือคุณไปได้ เพราะไม้ดูดยุงที่ว่านี้จะดูดพวกมันให้เข้ามาใกล้ๆ และติดกับแผงไฟฟ้าได้นานพอ ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าพวกมันไม่กลับมากวนใจคุณอีกแน่นอน ส่วนด้านหน้า มันคือการผสมผสานระหว่างแผงไฟฟ้าและเครื่องดูด ส่วนของที่จับยุงสามารถปรับให้งอได้มากถึง 90 องศา แต่ก็อย่ามัวแต่ดูดยุงจนเพลินล่ะ คุณต้องคอยทำความสะอาดตะแกรงและใบพัดด้วยนะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะสกปรกและเต็มไปด้วยซากยุงจนดูไม่น่าใช้เลยก็ได้ ส่วนรายอะเอียดและขนาดของเจ้าไม้ดูดยุงที่ว่านี้ มันสามารถยืดยาวได้ถึง 83 เซนติเมตรและมีน้ำหนักเพียงแค่ 708 กรัมเท่านั้น โดยคุณสามารถสั่งซื้อได้ทางเว็บไซต์ thanko ในราคาประมาณ 750 บาทเท่านั้นเอง …
-
นักท่องเที่ยวมือบอน ใช้หินทุบสะพานกระจกที่เพิ่งสร้างเสร็จ ร้าวจนเสียวสันหลังวาบ…
เมื่อวันที่ 1 กรฎาคม 2017 ได้มีการเปิดใช้สะพานแก้วแห่งหนึ่งในเมือง Fengbin ประเทศไต้หวัน และหลังจากวันก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้เข้ามาร่วมชมความสวยงามและทดสอบความแข็งแรงของสะพานดังกล่าวด้วย แต่ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวผู้หนึ่งจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการร่วมทดสอบ ว่าความหมายที่แท้จริงแล้วก็คือการเดินเฉยๆ แต่พี่แกดันเล่นเอาหินมาทุ่มใส่ ทำเอาสะพานกระจกถึงกับร้าวเลยทีเดียว และนี่คือสภาพของกระจกที่เกิดจากการทดสอบด้วยก้อนหิน!! สะพานแก้วแห่งนี้ตั้งอยู่ริมหน้าผาในมลฑล Hualien ซึ่งมีความยาวทั้งสิ้น 150 เมตร และสูงจากพื้นดิน 50 เมตร โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 3 ปีด้วยกัน แต่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2017 หลังจากที่เปิดใช้งานได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ สะพานดังกล่าวก็ต้องถูกสั่งปิดหลังจากเจ้าหน้าที่พบว่ากระจกบานหนึ่งเกิดการร้าวเนื่องจากมีหินหล่นใส่ กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งได้ใช้ก้อนหินทุบลงไปที่แผ่นกระจกก่อนที่จะหลบหนีออกไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดสะพานเพื่อทำการซ่อมแซม และหลังจากนั้นสะพานแก้วแห่งนี้ก็เปิดให้ใช้บริการอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น บ่อยครั้งที่สะพานแก้วแบบนี้มักจะได้รับความเสียหาย ทั้งจากธรรมชาติและนักท่องเที่ยว อย่างเช่นเมื่อปี 2015 สะพานแก้วที่ภูเขา Yuntai นั้นก็เคยได้รับความเสียหายจากการที่หินหล่นใส่เช่นกัน ที่มา shanghaiist
-
ประเด็นถกเถียง… ถูกหรือไม่ที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เทแชมเปญจากแก้วกลับใส่ขวด!?
เรื่องดังกล่าวกำลังกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างหนัก โดยเฉพาะในต่างประเทศอยู่ ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ หลังจากที่มีผู้โดยสารชาวรัสเซียคนหนึ่งถ่ายคลิปวิดีโอขณะที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบิน Emirates กำลังเทแชมเปญขากแก้วใส่ขวดตามเดิม นาย Yevgeny Kayumov ผู้โดยสารชาวรัสเซียได้ใช้บริการของสายการบิน Emirates ชั้นธุรกิจ บนเที่ยวบิน A380 เพื่อเดินทางไปยังเมือง Dubai ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาทำการถ่ายคลิปวิดีโอบรรยากาศในชั้นธุรกิจของสายการบินชั้นนำของโลก เขาได้บอกว่าบังเอิญถ่ายติดพฤติกรรมแปลกๆ ของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเข้าซะงั้น!? ก็เลยนำมันมาโพสต์ลงบนโซเชียล พร้อมกับแคปชั่นไว้ว่า “ผมบังเอิญถ่ายคลิปวิดีโอนี้ขึ้นมา และตอนแรกก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น หรือมันจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นบนสายการบินนี้อยู่แล้วนะ?” คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ไปเป็นหมื่นๆ ครั้ง และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย ชาวเน็ตจากเว็บไซต์ Reddit คนหนึ่งถึงกับคอมเม้นต์ด่าอย่างรุนแรงว่า “การเทแชมเปญจากแก้วกลับเข้าไปในขวดนั้นเป็นอะไรที่น่าเกลียดมาก” ด้วยเหตุนี้เองทางด้านโฆษกของสายการบิน Emirates ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “สายการบิน Emirates ของเรานั้นมักจะคำนึงถึงการบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอยู่เสมอ และสิ่งที่เกิดขึ้นในวิดีโอนั้นไม่ใช่การปฏิบัติตามมาตรฐานการบริการของเราอย่างแน่นอน และตอนนี้ทางเราก็กำลังตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่” ทางด้านชาวเน็ตคนอื่นๆ ที่เคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็ได้ออกมาชี้แจงว่า การกระทำดังกล่าวนั้นอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าเกลียดอย่างที่คุณคิดนะ… “ฉันเคยเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินมาก่อน และฉันคิดว่าที่พนักงานต้อนรับฯ คนนี้ทำคือการเทแชมเปญเข้าไปในขวดเพื่อจะได้นำไปทิ้งทีเดียวเลย…
-
เจ้าของถึงกับตกใจ เมื่อหมาโกลเด้นวัย 3 ขวบ คลอดลูกน้อยออกมาเป็นน้องตูบชาเขียว!?
วันที่ 14 กรกฎาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า เจ้า Rio ตูบพันธุ์โกลเด้นวัย 3 ขวบ ได้ให้กำเนิดลูกน้อยออกมาถึง 9 ตัว แต่ทว่าสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ ลูกน้อยตัวหนึ่งของมันกลับแตกต่างไปจากพี่น้องตัวอื่นๆ นั่นก็คือ มันคลอดออกมาตัวเป็นสีเขียว!! จากการรายงานระบุว่า นี่เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก และอาจจะเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ของโลกเท่านั้น ซึ่งสาเหตุเกิดจากเม็ดสีในรกของสุนัขที่ผสมกับน้ำคร่ำ เลยทำให้เจ้าหมาน้อยคลอดออกมาตัวเป็นสีเขียวนั่นเอง ภายหลังจากที่เจ้าหมาได้คลอดลูกน้อยออกมาเป็นสีเขียว งานนี้เล่นเอานาง Sutherland ผู้เป็นเจ้าของถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่คิดเลยว่าสุนัขแสนรักของตนจะให้กำเนิดลูกสุนัขสีเขียวแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เธอได้ตั้งชื่อให้เจ้าหมาน้อยว่าเจ้า Forest “ตอนที่เจ้าหมาจะคลอด ลูกตัวแรกของมันติดอยู่ในท้อง ดังนั้น ฉัน และ Claire ลูกสาวของฉัน จึงได้ช่วยกันทำคลอดให้มันได้ออกมาลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย เราไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีลูกสุนัขตัวหนึ่งเป็นสีเขียว และเมื่อเราได้ทำการตรวจสอบแล้ว ก็พบว่าความผิดปกตินี้เกี่ยวข้องกับรก โดยสีที่ติดตัวมันมานี้จะค่อยๆ เริ่มหายไปในไม่ช้า” นาง Sutherland กล่าว อย่างไรก็ตาม…
-
หนุ่มวิศวกร ผู้นั่งเครื่องบินเพื่อไปทำงานทุกวัน ใช้เวลาทั้งไปกลับรวมแล้วถึง 6 ชั่วโมง!!
เมื่อคุณได้กลายเป็นมนุษย์วัยทำงาน สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนจะต้องเผชิญในแต่ละวันก็คือ ปัญหาเกี่ยวกับระยะเวลาในการเดินทาง เพราะบางคนบ้านและที่ทำงานก็อยู่ห่างไกลกันซะเหลือเกิน ซึ่งในบางครั้งเราก็ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเป็นชั่วโมง แถมบางวันก็ยังต้องมาเจอกับปัญหาการจราจรติดขัดอีกด้วย เรียกได้ว่าแค่ขาไปก็กินเวลาไปเยอะแล้ว (นี่ยังไม่รวมขากลับอีกนะ) เมื่อเจอปัญหาดังกล่าว หลายคนอาจจะมีวิธีแก้ไขปัญหาด้วยวิธีของตัวเอง บ้างก็ไปทำงานแต่เช้ารถจะได้ไม่ติด บ้างก็เช่าห้องพักใกล้ๆ ที่ทำงาน แต่สำหรับ Curt von Badinski วิศวกรเครื่องกลและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีในซานฟรานซิสโกคนนี้ เขาก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปทำงานเฉลี่ยวันละ 6 ชั่วโมง เพราะจากบ้านกับที่ทำงานนั้นอยู่ห่างไกลกันมาก!! ดังนั้นรถยนต์อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วก็เปลี่ยนมานั่งเครื่องบินไปทำงานแทนก็แล้วกัน ในทุกๆ วัน Curt มักจะตื่นนอนตอนตี 5 เขาอาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้า และใช้เวลาในการขับรถออกไปยังสนามบิน Bob Hope Burbank เป็นเวลา 15 นาที Curt เดินทางไปทำงานโดยเครื่องบินอยู่เป็นประจำ โดยจะใช้เวลาในการเดินทางไปยังเมือง Oakland ที่อยู่ห่างออกไปไกล 568 กิโลเมตร นานถึง 90 นาที หลังจากนั้น เขาก็ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ต่อเพื่อไปยังสำนักงานใหญ่ของบริษัทในซานฟรานซิสโกอีกหนึ่งต่อ…
-
หมอนวดมาเลเซีย โชว์การรักษาโรคกระดูกสันหลัง ด้วยวิธีเคาะด้วยค้อนให้เข้าที่!?
ความทุกข์ทรมานของอาการปวดหลังจากโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท (Herniated disc) นั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย หรือในบางกรณีที่ผู้ป่วยเกิดอาการของโรคอย่างรุนแรง ถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาตัวเป็นระยะเวลานานหลายเดือนเลยทีเดียว แต่สำหรับ Rosdi Hasan หมอนวดจากประเทศมาเลเซียคนนี้ กลับแก้ไขอาการปวดหลังจากโรคดังกล่าวได้แบบง่ายๆ ด้วยการใช้ค้อนทุบลงไปบนสันหลังเพื่อให้กระดูกกลับเข้าที่!? Rosdi Hasan หมอนวดชาวมาเลเซีย สามารถทำการวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท และอาการปวดหลังของผู้ป่วยได้แบบชนิดที่ว่าแพทย์แผนปัจจุบันถึงกับงงกันไปเลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสแกน MRI หรือฟิล์มเอกซเรย์ในการตรวจสอบแม้แต่นิดเดียว เพราะเขาใช้เพียงแค่ใช้นิ้วมือตรวจสอบตำแหน่งของกระดูกสันหลังได้ทันที จากนั้นก็ทำการวาดภาพตำแหน่งกระดูกสันหลังด้วยปากกาสีดำ และใช้ชิ้นส่วนของไม้ไปวางยังตำแหน่งที่ผิดปกติ สุดท้ายก็ใช้ค้อนเคาะเพื่อให้กระดูกสันหลังกลับเข้าที่ดังเดิม สำหรับการนำค้อนมาทุบที่กระดูกสันหลังนี้ อาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย ซึ่งมันจะส่งผลให้พวกเขาเป็นอัมพาตได้ แต่ทั้งนี้ Rosdi อ้างว่า เขาไม่เคยพบปัญหาอะไรเลยตั้งแต่ที่มีการรักษาผู้ป่วยมา นอกจากนี้ เขายังรู้สึกภูมิใจในวิธีการรักษาของเขาอีกด้วย Rosdi ได้โพสต์คลิปวีดีโอการรักษาของตัวเองลงบนโลกออนไลน์เป็นประจำ ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามารับชมกันเป็นจำนวนมาก แม้ว่าบางคนอาจจะมาแสดงความคิดเห็นในเชิงตลก แต่ก็มีอีกหลายคนที่เชื่อว่า Rosdi สามารถแก้ไขปัญหาโรคกระดูกสันหลังของตนได้จริง และนี่คือหนึ่งในคลิปวิดีโอของ Rosdi ที่ได้กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วมาเลเซีย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ทำให้ Mahyuddin ศัลยแพทย์กระดูก ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คของเขาว่า……
-
ฝันเป็นจริง… เมื่อหญิงชรามีลูกคนแรกในวัย 60 ปี แต่ถูกสามีทิ้งเพราะทนฟังเสียงเด็กร้องไม่ได้
เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยทองโอกาสที่จะมีลูกก็น้อยลงไปด้วย และส่วนใหญ่แพทย์ก็ไม่แนะนำให้มีลูกเมื่ออายุมาก เพราะอาจมีความเสี่ยงที่เด็กจะไม่สมบูรณ์ แต่สำหรับหญิงคนนี้ เธอพยายามมีลูกมาตลอด 20 ปี แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งอายุ 60 เธอก็ได้รับข่าวดีว่ากำลังจะมีลูกคนแรก แต่ทว่ากลับกลายเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้เป็นสามีแทน Serif Nokic วัย 68 ปี จากเมืองโนวี ปาซาร์ เขตราสกาของเซอร์เบียตะวันตก ตัดสินใจทิ้ง Atifa Ljajic ผู้เป็นภรรยาในวันเดียวกับที่เธอคลอดลูกสาว Alina ตอนที่ตั้งท้องหมอบอกกับ Atifa การตั้งครรภ์ในวัยทองเช่นนี้อาจมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น 3 เดือนก่อนคลอดเธอจึงต้องเข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ทางด้าน Serif เผยว่าเขาคัดค้านเรื่องการมีลูกด้วยช่วงอายุที่ล่วงเลยมาไกลแล้ว แต่ภรรยาก็ยังยืนยันที่จะมีลูกให้ได้ จนกระทั่งวันที่ภรรยาคลอดลูกแล้วอุ้มลูกไว้ในอ้อมกอดครั้งแรก นั่นทำให้เขาตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่อยู่กับครอบครัวอีกแล้ว เขาบอกกับภรรยาว่า เสียงร้องของ Alina จะทำให้เขาตื่นในตอนกลางคืน ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของเขา และยังอ้างอีกว่าภรรยาได้ในสิ่งที่ต้องการมาทั้งชีวิตแล้ว ดังนั้นตอนนี้เธอมีความสุขดีแม้จะไม่มีเขาก็ตาม แต่รู้ไหม Atifa ก็มีปัญหาสุขภาพเช่นกัน คือเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่เธอยืนยันว่าพร้อมที่จะเลี้ยงลูกสาวด้วยตัวเองเพียงลำพัง ถึงอย่างนั้น Serif ก็ยังหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า “ผมเป็นคนป่วย ผมอายุ 68 ปีแล้ว ผมเป็นเบาหวานและหัวใจก็ไม่ค่อยดีด้วย ดังนั้นมันไม่ง่ายเลยที่ต้องนอนพร้อมฟังเสียงเด็กร้องไห้” เพราะถูกพ่อทิ้งในวันเกิดและไม่ยอมรับเป็นลูกสาว…
-
เนื่องในโอกาสใกล้ครบรอบ 20 ปี “วันพีซ” อาจารย์โอดะเผย “วันพีซต้องถึงตอนจบในสักวันหนึ่ง”
การ์ตูนทุกเรื่องเมื่อมีเริ่มต้นแล้ว สักวันหนึ่งมันก็ต้องมีวันจบเช่นกัน แล้วเราเคยคิดมั้ยว่าการ์ตูนชื่อดังอย่าง วันพีซ ที่มีจำนวนตอนมามากมาย เรื่องราวการผจญภัยของแก๊งโจรสลัดหมวกฟาง จะไปจบลงที่ตรงไหน? และเนื่องในโอกาสใกล้ครอบรอบ 20 ปี ของการ์ตูนวันพีซ อ.เออิชิโร โอะดะ (Eiichiro Oda) ผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้ ก็ได้ออกมาแง้มให้แฟนๆ ได้รู้ไว้ว่า “วันพีซใกล้จะถึงตอนจบแล้ว” จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีการ์ตูนชื่อดังหลายๆ เรื่องได้จบลงไปแล้ว เช่น นารูโตะ ที่ออกตอนสุดท้ายเมื่อปี 2014 ตามด้วยเรื่อง บลีช ที่จบในปี 2016 ทั้งนารูโตะและบลีช ได้ดำเนินเรื่องมานานถึง 15 ปี กว่าจะจบลง แต่สำหรับวันพีซแล้ว แม้กำลังจะครบรอบ 20 ปี ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ก็ยังดูเหมือนจะไม่จบง่ายๆ ถึงอย่างนั้นอาจารย์โอดะได้เตรียมขอบคุณแฟนๆ การ์ตูนวันพีซ และได้แจ้งข่าวที่ยากจะเชื่อก็คือ “วันพีซจะต้องเดินทางไปถึงจุดสิ้นสุดในสักวันหนึ่ง” และนี่คือข้อความของอาจารย์โอดะที่ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ Imgur “ตอนนี้ผมสงสัยว่าคุณอายุเท่าไหร่แล้ว? คนที่อ่านวันพีซเป็นยังไงกันบ้าง? ตอนนั้นคุณเกิดหรือยัง? ลูฟี่…
-
ไต้หวันเซอร์ไพร้ส์ผู้โดยสาร เปลี่ยน “รถไฟใต้ดิน” ให้เป็นสนามกีฬา เสียงตอบรับล้นหลาม!!
ใครที่สัญจรด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นประจำอาจจะรู้เบื่อกับอะไรเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการเบียดเสียดกับผู้คนมากมาย นั่งเก้าอี้แบบเดิมๆ ก้มมองพื้นเดิมๆ ด้วยเหตุนี้ไต้หวันจึงได้ปิ้งไอเดียเปลี่ยนพื้นรถไฟฟ้าใต้ดินให้กลายเป็นอะไรที่น่าสนุกยิ่งขึ้น เพื่อช่วยคลายความเบื่อหน่ายของผู้โดยสารบ้าง เมืองไทเปซึ่งเป็นเมืองหลวงของไต้หวันนั้น ได้เป็นเจ้าภาพสำหรับการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน 2017 Summer Universiade ในวันที่ 19 สิงหาคมที่กำลังจะถึงนี้ และเพื่อตอบรับกับการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ก็เลยทำการเปลี่ยนแปลงพื้นในรถไฟใต้ดินให้กลายมาเป็นสนามแข่งกีฬาหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล ลู่วิ่ง และสนามบาสเกตบอล… โปรเจคนี้จัดทำขึ้นโดย EasyCard Corporation ร่วมกับบริษัทการขนส่งสาธารณะทั่วไต้หวัน รวมถึงหน่วยงานการท่องเที่ยวของประเทศไต้หวันด้วย ส่วนแรงบันดาลในการเปลี่ยนพื้นรถไฟฟ้าใต้ดินครั้งนี้ เกิดจากความต้องการโปรโมททางด้านการท่องเที่ยว และเพื่อตอบรับกับกระแสการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ โดยย้อนกลับในปี 2011 สหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยนานาชาติได้ลงมติให้ไทเปเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยในปีนี้ สามารถชนะประเทศบราซิลไปได้อย่างขาดลอย สำหรับกีฬามหาวิทยาลัยถือเป็นกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยกีฬามหาวิยาลัยภาคฤดูร้อน 2017 (2017 Summer Universiade) จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม ไปจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม ด้วยเหตุนี้ไทเปจึงได้โปรโมทตอบรับกระแสการแข่งขันกีฬาผ่านรถไฟฟ้าใต้ดิน และคาดหวังว่าการท่องเที่ยวจะประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว …
-
11 ความเชื่อในอดีตเกี่ยวกับ ‘แมว’ จากทั่วโลก กว่าจะล้างสมองคนสำเร็จ ก็ต้องใช้เวลาหน่อย
เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวของวัฒนธรรมความเชื่อตามพื้นที่ต่างๆ ก็จะรู้กันว่ามันช่างแตกต่างกันซะเหลือเกิน เพราะความแตกต่างทางสภาพแวดล้อม ทั้งภูมิประเทศ และอากาศของที่อยู่อาศัย เช่นเดียวกันกับเรื่องของ ‘แมวเหมียว’ ที่อยู่คู่กับเผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติมาแสนยาวนาน และแน่นอนว่าความเชื่อที่มีต่อมันก็ย่อมแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ด้วย สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับเหล่าแมวเหมียวจากรอบโลกกัน จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. แมวจะขโมยลมหายใจของเด็กทารก หลายร้อยปีก่อน ในประเทศอังกฤษมีความเชื่อว่าแมวจะกระโดดเข้าไปใกล้ๆ กับเด็กทารกแล้วก็สูบลมหายใจจนทำให้เด็กสำลักและตายไปในที่สุด นั่นเพราะว่าแมวเกิดอิจฉาเด็กทารกเกิดใหม่ ที่มาทำให้ความสำคัญของมันลดลงไป 2. แมวจะกินคนเป็นอาหารเย็นในช่วงคริสต์มาส ในช่วงคริสต์มาสของชาวไอซ์แลนด์จะมีความเชื่อในเรื่องของเจ้าแมวปิศาจขนาดยักษ์ชื่อว่า Yule Cat ที่มักจะออกมาเที่ยวเดินด้อมๆ มองๆ ตามเขตชนบทที่มีหิมะปกคลุม เพื่อหาจับเหยื่อมนุษย์กินในช่วงคริสต์มาส 3. แมวเป็นตัวหายนะที่นำมาซึ่งความตาย ในช่วงยุคกลางสำหรับชาวยุโรปแมวจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของปิศาจที่น่ากลัว และมีพลังด้านมืดเหมือนกับเหล่าพ่อมดแม่มด บ้างก็เชื่อว่ามีพลังของซาตาน หากโดนมันกัดขึ้นมาแล้วล่ะก็ คุณจะติดเชื้อคำสาป จนนำมาซึ่งความตายในที่สุด 4. แมวเป็นสัตว์ที่จะนำมาซึ่งความโชคดี ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวนั้นคือตัวการที่ทำให้เกิดความโชคดี จึงกลายมาเป็นความเชื่อเรื่องของ ‘แมวกวัก’ ที่ตั้งเอาไว้หน้าร้านขายของเพื่อเรียกลูกค้า และความมั่งคั่ง…
-
ถึงกับขนลุก!! รถบรรทุกปลาแฮ็กฟิชพลิกคว่ำ เทกระจาดเมือกกระจาย เหมือนดั่งหนังเอเลี่ยน
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาได้มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นในรัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา มีรถบรรทุกคันหนึ่งที่ขนสัตว์เลื้อยคลานที่เต็มไปด้วยเมือกเหนียวๆ เต็มลำรถเกิดพลิกคว่ำเทกระจาดกลางถนนไฮเวย์ จนสร้างความสยองให้กับผู้คนที่ผ่านไปมาและเหล่าชาวเน็ตเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่เล่าว่ารถบรรทุกขันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำขึ้นบนถนนหมายเลข 101 โดยมีสาเหตุมาจากการที่นาย Salvatore Tragale คนขับวัย 59 ปี ต้องเหยียบเบรกกระทันหัน เพราะเพิ่งสังเกตเห็นป้ายก่อสร้างบนถนน จึงทำให้รถที่บรรทุกปลาแฮ็กฟิชเกิดพลิกคว่ำ ตู้ปลากว่า 13 ตู้ที่บรรทุกมานั้นกระเด็นออกจากตัวรถ และมีตู้หนึ่งลิวข้ามไปยังถนนไฮเวย์อีกฟากหนึ่ง ทำให้ปลาแฮ็กฟิชไหลออกมานอนเกยตื้นอยู่เต็มท้องถนน ตู้ที่ปลิวข้ามมาอีกฝั่งของถนนนั้นทำให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ มีเป็นจำนวนไม่น้อย แถมเจ้าปลาแฮ็กฟิชที่กระเด็นออกมาเต็มถนนก็สร้างความสยองให้กับผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่น้อยเลยล่ะ สำหรับปลาแฮ็กฟิชคือปลาที่มีรูปร่างคล้ายงู มีต่อมเมือกกระจายอยู่ทั่วผิวหนัง เพียงตัวเดียวก็สามารถทำให้น้ำ 1 ถัง กลายเป็นวุ้นเหนียวๆ ได้ภายในเวลาแค่ 1 นาที แถมเมือกนั้นยังมัความเหนียวยิ่งกว่าใยแมงมุมด้วยซ้ำ!! บางตัวยังดิ้นอยู่เลยนะ ฮร่าาาา (ดูคลิปได้ที่นี่) Thanks @OregonDOT pic.twitter.com/SmwHtWLeQ3 — Depoe Bay Fire Dist. (@DepoeBayFire)…
-
ชายจรจัดเข้ามาขอเงินเจ้าของร้านกาแฟ เธอจึงจ้างเขา ให้มาทำงานที่ร้านแทนซะเลย…
เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2016 ที่ผ่านมา มีชายจรจัดคนหนึ่งที่ชื่อว่า Marcus ได้เดินเข้าไปภายในร้านกาแฟในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในขณะที่ได้เดินเข้าไปภายในร้าน เขาก็ได้พบกับ Cesia Abigail ผู้เป็นเจ้าของร้าน และนั่นจึงทำให้เขาได้เดินเข้าไปขอเงินเธอ ในตอนนั้น Cesia ได้เพียงแต่คิดว่าถ้าหากเธอได้ให้เงินแก่ชายคนนี้ไป เขาอาจจะมาขอเงินเธออีกในภายหลัง ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะไม่ให้เงินแก่เขา แต่กลับทำในบางสิ่งบางอย่างแทน… Cesia ได้ถาม Marcus ว่า ทำไมคุณถึงไม่ทำงาน? คุณก็รู้ว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ หรอกใช่ไหม? ทางด้านชายคนดังกล่าวก็ได้ตอบกลับเธอไปว่า เขาพยายามหางานทำมาหลายที่แล้ว แต่เพราะเคยมีประวัติที่ไม่ดีมาก่อน ทำให้ไม่มีใครอยากจ้างเขาทำงาน นอกจากนี้ เขายังได้บอกอีกว่า ในทุกๆ วันเขามักจะมีความหวังอยู่เสมอ แต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้ง เขาคิดว่าคงไม่มีใครอยากจะรับเขาเข้าทำงาน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาต้องกลายมาเป็นคนจรจัด เมื่อได้ฟังเรื่องราวของชายคนดังกล่าว Cesia จึงถามเขากลับว่า คุณอยากทำงานไหม? ฉันมีงานให้คุณทำ และนั่นก็ทำให้ Marcus รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาแทบไม่เชื่อเลยว่าจะมีคนจ้างเขาทำงาน ซึ่งทาง Marcus…
-
หญิงวัย 48 ร่วมมือกับลูกชาย จัดฉากแกล้งตายหวังเงินประกัน 6.1 ล้าน หลังก่อหนี้ท่วมหัว…
เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Arafa Nassib หญิงวัย 48 ปี ได้วางแผนกับ Adil Kasim ลูกชายวัย 18 ปีของเธอ กระทำการฉ้อโกงบริษัทประกันภัย Scottish Widows ทั้งนี้ เพื่อเรียกร้องเอาเงินประกันจำนวน 140,000 ปอนด์ หรือราวๆ 6.1 ล้านบาท หลังจากที่ไม่มีเงินมาใช้หนี้บัตรเครดิตที่เธอนำไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมแล้วจำนวน 80,000 ปอนด์ หรือราวๆ 3.5 ล้านบาท จากการรายงานระบุว่า Arafa ได้อ้างว่า เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนขณะกำลังเดินทางไปยังประเทศแทนซาเนีย และจะทำการเรียกร้องเอาเงินประกันจำนวน 6.1 ล้านบาทจากบริษัทดังกล่าว แต่ภายหลังจากที่ทางบริษัทได้ทราบเรื่องจากลูกชาย ก็ได้ทำการตรวจเอกสารต่างๆ แต่กลับพบว่าเป็นเอกสารปลอม นั่นจึงทำให้ทางบริษัทได้ส่งเรื่องให้ทางตำรวจเข้ามาสอบสวนทันที สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี 2016 ที่ผ่านมา โดยในขณะนั้น นาง…
-
คุณลุงชาวอินเดียวัย 57 ปี กับอาชีพสุดอินดี้ ทำหน้าที่เป็น ‘ยามยืนนิ่งๆ’ มานานถึง 32 ปี…
พบกับเรื่องราวของ Abdul Aziz ชายชาวอินเดียวัย 57 ปี ผู้มีอาชีพสุดแปลก เขาทำหน้าที่เป็นหุ่นยามเฝ้าประตู และยืนนานถึงวันละ 6 ชั่วโมงมานานกว่า 32 ปีแล้ว คุณ Aziz หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘India’s Statue Man’ ผู้นี้ ได้เริ่มต้นการประกอบอาชีพนี้มาตั้งแต่ปี 1985 แล้ว หลังจากที่เขาได้เข้ารับงานรักษาความปลอดภัยในกับรีรอร์ท VGP Golden Beach ในเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ที่มาของการเฝ้ายามแบบนี้เกิดจากเจ้านายของเขาได้เดินทางไปยังประเทศอังกฤษ และได้เข้าชมพระราชวังบักกิงแฮม จนรู้สึกประทับใจกับทหารเฝ้าพระราชวังที่ยืนนิ่งมากๆ เขาจึงได้นำเอาไอเดียนี้มาใช้กับระบบการรักษาความปลอดภัยของที่นี่ พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทดังกล่าวจะได้รับการฝึกฝนให้ยืนนิ่งๆ ถึง 3 เดือน พวกเขาจะต้องยืนนานถึง 4 ชั่วโมงโดยไม่ขยับเขยื้อนใดๆ เลย และไม่ได้รับอนุญาตให้เดิน ยิ้ม พูดคุย หรือแม้กระทั่งการปัดแมลง ถึงแม้ว่าในตอนแรกคุณ Aziz จะไม่เห็นด้วยกับไอเดียดังกล่าว แต่เขาก็ไม่อาจจะขัดคำสั่งของเจ้านายได้ ดังนั้นเขาจึงต้องยอมยืนนิ่งเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงต่อวันและต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างๆ ที่มาเยือนที่นี่ จริงๆ แล้วการยืนเป็นรูปปั้นนี้อาจจะมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่สำหรับคุณลุงท่านนี้เขามีความพิเศษกว่าคนอื่นนั่นก็คือ เขาไม่กระพริบตาเลยแม้แต่ครั้งเดียวระหว่างที่ยืนเฝ้ายาม…
-
คนขับรถสาว ขอขับรถเมล์พาสามีไปงานแต่งตัวเอง เพื่อให้มันเป็นสักขีพยานในวันสำคัญ
ปกติเวลาคู่บ่าวสาวแห่ขบวนเข้างานหรือเดินทางมาในงานแต่ง มักจะมาด้วยรถยนต์หรูๆ หรือบางคนก็อยากจะเดินทางเข้างานมาด้วยเฮลิคอปเตอร์กันเลยทีเดียว แต่สำหรับเจ้าสาวคนนี้เธอขอปฏิเสธการปรากฏตัวเข้างานด้วยยานพาหนะเหล่านั้น แต่ขอแหวกแนวด้วยการขับรถเมล์พาเจ้าบ่าวไปยังงานแต่งงานของทั้งคู่แทน!? เจ้าสาวก็คือ Wu Zheng เป็นคนขับรถประจำทางในมณฑลซานตง ประเทศจีน และเธอก็ได้เจอกับสามีครั้งแรกบนรถเมล์นี่แหละ รถเมล์เป็นสิ่งที่เธอใช้เลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัวแถมยังทำให้เธอเจอเนื้อคู่ด้วย ดังนั้นมันจึงมีความหมายกับเธอมากกว่าแค่รถเมล์ธรรมดาคันหนึ่ง เจ้าสาวพูดถึงรสเมล์ว่า “ฉันอยากให้มันมาอยู่ที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานในวันสำคัญของฉันด้วยค่ะ” และด้วยเหตุนี้ก็ทำให้งานแต่งของเธอได้รับความสนใจจากสื่อต่างๆ เป็นอย่างมาก เพราะไม่บ่อยนักที่จะเห็นคู่บ่าวสาวแหวกแนวได้ขนาดนี้ รถเมล์ขบวนบ่าวสาว เดินทางถึงงานแต่งได้อย่างปลอดภัย ได้สักขีพยานรักที่แปลกและแตกต่างจากงานอื่นสุดๆ จะมีแหวกแนวกว่าอีกนี้มั้ยเนี่ย? ที่มา shanghaiist
-
ห้างสรรพสินค้าในเซี่ยงไฮ้ เปิดตัวตู้เกมเอาใจเหล่า “พ่อบ้าน” ที่ต้องรอภรรยาช็อปปิ้งนานๆ
เพราะลูกค้าสาวๆ คือกลุ่มเป้าหมายหลักของห้างสรรพสินค้า และเงินก็มาจากการยึดจากเหล่าพ่อบ้าน ฉะนั้นการให้บริการที่ทำให้พ่อบ้านอยู่ติดห้างได้นานที่สุด จึงเป็นสิ่งที่ควรทำนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทางห้างสรรพสินค้าเซี้ยงไฮมอล จึงเข้าใจถึงปัญหาและวิธีการดังกล่าว ทางห้างเลยทำการเปิดตัวตู้เกมแบบพิเศษที่เรียกว่า “Husband Relaxation Booths” ขึ้นมา โดยจุดประสงค์หลักก็ตามชื่อของมันคือสร้างความผ่อนคลายให้กับเหล่าท่านชายที่ต้องรอศรีภรรยาช็อปปิ้ง ภายในบูทนั้นก็จะประกอบไปด้วยจอทีวีและเครื่องเล่นเกมอย่างดี รวมถึงเก้าอี้ที่สะดวกสบายเพื่อให้ท่านชายไม่เบื่อหน่าย และตัวบูทก็เก็บกักเสียงได้เป็นอย่างดีรับรองว่าเสียงรบกวนข้างนอกมาไม่ถึงแน่ๆ แม้ว่าตัวบูทนี้จะถูกใจท่านชายทั้งหลายเสียเหลือเกิน แต่มันก็ไม่ได้ถูกอกถูกใจเหล่าศรีภรรยาสักเท่าไหร่ เพราะว่าภรรยาหรือแฟนสาวส่วนใหญ่จะให้เหตุผลที่พวกเธอไม่ชอบเจ้าบูทนี้ว่า “มันทำให้พวกเธอต้องไปช็อปปิ้งคนเดียว มันน่าเบื่อ” ไม่ก็ “ถ้าฉันไปช็อปปิ้งเสร็จแล้ว แต่กลับมาเจอว่าสามีฉันยังเล่นเกมไม่เสร็จล่ะ? มันจะแย่กว่าไหม” ยังไงก็ตาม แม้ว่าความคิดเห็นดังกล่าวจะไปในแง่ลบก็ตาม แต่ทางเซี่ยงไฮมอลก็ได้เปิดมุมเอาใจท่านชายใหม่ที่ปัญหาน้อยกว่านี้ไปแล้วเมื่อช่วงปลายปี 2016 มุมนี้มีชื่อว่า “Husband Nursery” ซึ่งตัวห้องจะมีความสะดวกสบายมากกว่าบูทเกม แต่ก็จะมีความสนุกน้อยลงไป ซึ่งก็อาจจะลดปัญหาการรอสามีเล่นเกมหลังช็อปปิ้งเสร็จได้ไม่ยากนั่นเอง จะว่าไปไม่มีห้างไหนในไทยสนใจทำอะไรแบบนี้บ้างเหรอ? ที่มา shanghaiist
-
พาไปดูทางหลวงในประเทศจีน ที่ถูกยกสูงเหนือพื้นถึง 72 เมตร ดูยังไงก็รางรถไฟเหาะชัดๆ…
ต่อไปนี้การเดินทางของพี่น้องชาวจีนอาจจะมีความตื่นเต้นมากขึ้น พวกเขาอาจจะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังขับรถไฟเหาะอยู่แน่ๆ เพราะล่าสุดทางการจีนได้เปิดใช้ทางหลวงที่ยกสูงถึง 72 เมตรแล้ว!! ทางการของเขตฉงชิ่ง ผู้รับผิดชอบทางหลวงที่สูงและตั้งตระหง่าอยู่กลางเมืองแห่งนี้ดูเผินๆ อาจจะคล้ายกับรางรถไฟเหาะขนาดใหญ่ และนี่คือทางหลวงที่ว่านี้ เป็นไงล่ะดูเหมือนรางรถไฟเหาะเลยใช่มั้ย?? เส้นทางขนาดยักษ์นี้ ตั้งอยู่เหนือพื้นดินถึง 72 เมตร ซึ่งมันถูกพยุงไว้ด้วยเสาปูนขนาดใหญ่ และมีเส้นทางที่คดเคี้ยวดูคล้ายกับรางรถไฟในสวนสนุกเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากใครที่เป็นโรคกลัวความสูงอาจจะต้องคิดกันหนักหน่อยล่ะ ถ้าหากว่าจำเป็นจะต้องขับรถผ่านเส้นทางนี้ แต่ถ้าหากใครที่ชอบความตื่นเต้นก็ดูน่าสนุกไม่น้อยเลยทีเดียวนะ… ไม่ว่าจะสูงงงง แค่ไหนก็ไปถึงงงง!! ทางหลวงนี้ไม่ใช่สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ชิ้นแรกของเขตฉงชิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีสิ่งก่อสร้างหลากหลายอย่างที่ทำให้ชาวเน็ตต่างตกตะลึงกันมานักต่อนักแล้ว และการสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่เหล่านี้ ก็กลายเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไปแล้ว เพราะพวกเขามองว่าตึกและถนนขนาดใหญ่จะช่วยเพิ่มจุดเด่นให้กับเมืองได้ บรรยากาศการขับรถบนทางหลวงยกสูงสายนี้ หวาดเสียวพอตัวเลยนะ!! แหม่… ถ้าใครใจไม่แข็งอาจเป็นลมได้เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ ที่มา shanghaiist
-
แก๊งค้ามนุษย์ชิลี แอบส่งโจรเข้าอังกฤษทุกๆ 2 สัปดาห์ เพื่อขโมยของล้ำค่ากลับประเทศ…
เหตุการณ์อาชญากรรมนั้น อาจเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน การป้องกันตัวเองและระมัดระวังในทรัพย์สินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และยิ่งเดี๋ยวนี้การเดินทางระหว่างประเทศนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ยากแล้ว นั่นจึงยิ่งเพิ่มโอกาสในการเกิดอาชญากรข้ามชาติเพิ่มขึ้นอีกด้วย และเมื่อไม่นานมานี้ทางผู้พิพากษาจาก Oxford Crown Court ได้ออกมาเปิดเผยว่าในทุกๆ 2 สัปดาห์จะมีอาชญากรชาวชิลีบินข้ามประเทศเข้ามาที่อังกฤษเพื่อขโมยทรัพย์สินมูลค่าสูงต่างๆ การออกมาเปิดเผยนี้เกิดขึ้นหลังจากการจับกุม 2 หัวขโมยชาวชิลีที่กำลังงัดเข้าบ้านหรูหลังหนึ่งในย่าน Oxford โดยมีนาย Alfredo Rodriguez วัย 34 ปี และนาง Ailin Miranda วัย 22 ปี ถูกจับกุมระหว่างที่กำลังพยายามหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ทั้งสองคนถูกกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของแก๊งที่มีเป้าหมายในการขโมยของในบ้านหรูต่างๆ และจะผลัดเปลี่ยนหน้าที่โจรกรรมกับสมาชิกคนอื่นๆ ในแก๊งทุกๆ 2 สัปดาห์ โดยในการขโมยครั้งนี้ ฉกชิงทรัพย์สินและของมีค่าอื่นๆ รวมมูลค่าถึง 600,000 บาทเลยทีเดียว ทางด้านอัยการ Jane Davies ได้ออกมาบอกว่า “กลุ่มอาชญากรกลุ่มนี้ แต่ละคนจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการก่ออาชญากรรมโดยจะมีเป้าหมายเป็นทรัพย์สินอย่างเช่นนาฬิกาหรูและเงินสด” เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงบ่าย ก่อนที่เจ้าของบ้านกำลังจะออกไปข้างนอก เธอก็ได้ยินเสียงแปลกๆ จึงตะโกนออกไป ก่อนที่จะเห็นเงาของคน 2 คนวิ่งออกมาจากห้องครัวเธอ หญิงสาวจึงตัดสินใจโทรแจ้งตำรวจและผู้ร่ายทั้ง 2 ก็ถูกจับในที่สุด หลังจากที่ถูกจับได้ทั้งสองมีอาการตกใจกลัวอย่างมาก…
-
รู้จักกับ Hawkeye เด็กชายวัย 5 ขวบ ช่างภาพอายุน้อยที่สุด เท่าที่ NatGeo เคยนำเสนอมา!!
การได้เป็นช่างภาพของ National Geographic นั้น นับเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของช่างภาพมืออาชีพหลายๆ คน เพราะนอกจากจะได้เก็บภาพธรรมชาติอันสวยงามแล้ว ก็ยังได้ถ่ายทอดผลงานสู่สายตาผู้ชมไปทั่วโลกด้วย แต่สำหรับเด็กชาย Hawkeye Huey กลับได้เป็นช่างภาพที่ทาง National Geographic นำเสนอให้ผู้คนได้รู้จัก ตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น ในเดือนเมษายนของปี 2014 ตอนที่ Hawkeye อายุ 4 ขวบ พ่อของเขา Aaron Huey (ผู้เป็นช่างภาพของ National Geographic อยู่แล้ว) ก็ได้ซื้อกล้องตัวแรกให้กับเขา หลังจากนั้นตลอดระยะเวลา 18 เดือน พ่อลูกคู่นี้ก็พากันเดินทางไปทั่วอเมริกาตะวันตกเพื่อออกไปถ่ายรูป พบปะคนแปลกหน้า หาแสง หามุม และเก็บเกี่ยวประสบการณ์การถ่ายภาพให้มากที่สุด Salvation Mountain ในแคลิฟอร์เนีย การผจญภัยของพวกเขานั้น มีทั้งการปีนขึ้นไปบนภูเขา Salvation เดินเข้าไปสำรวจกระท่อมที่ Cody Night Rodeo ไปเยี่ยมชมตลาดของชนพื้นเมืองอเมริกัน และไปเยือนแถบลาสเวกัส ซึ่งในช่วงระหว่างอายุ 4-5 ขวบ นี้ Hawkeye ได้ฝึกการถ่ายรูปภาพมากมายเกือบพันรูป พ่อลูกได้แบ่งปันการเดินทางเหล่านี้ผ่านรูปถ่าย จากนั้นก็เผยแพร่ลงในบัญชี…
-
หนุ่มใส่ส้น “รองเท้าสูงปีน” เขาที่โหดที่สุดในอังกฤษ เพื่อพิสูจน์ว่า… ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้!!
สำหรับนักปีนเขาชาวอังกฤษทั้งหลาย ต่างรู้ดีว่าเทือกเขา ‘Ben Navis’ เป็นหนึ่งในเขาที่ปีนยากและโหดหินที่สุดแห่งเกาะอังกฤษ ทว่าสำหรับ Ben Conway หนุ่มชาวผู้ดีอังกฤษวัย 19 ปีคนนั้น เขาอยากจะทำอะไรที่มันท้าทายมากกว่านั้น เมื่อเจ้าตัวได้ตัดสินใจนำส้นสูงยาว 5 นิ้วมาใส่แทนรองเท้าบู๊ท จากนั้นก็ออกเดินทางปีนเขาเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าจู่ๆ อยากจะปีนแก้เบื่อหรอกนะ เพราะเจ้าตัวทำไปเพื่อทุนการศึกษา โดยก่อนหน้านี้หนุ่ม Ben Conway ได้ยื่นเรื่องขอทุนการศึกษาจาก School of Communication Arts in Brixton ซึ่งทางสถาบันได้ให้ผู้สมัครยื่นขอทุน ‘ไปทำรายงานอะไรมาก็ได้ที่เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้สมัครตั้งใจอย่างแรงกล้า’ พ่อหนุ่มจึงคิดได้ว่าเจ้าตัวปีนเขามาก็ตั้ง 13 ปีแล้ว คราวนี้เลยขอปีนเขาเพื่อยื่นขอทุนอีกซักรอบเลยล่ะกัน Ben Navis ภูเขาที่อยู่สูงกว่า 1,345 เมตรจากระดับน้ำทะเล “เรื่องของเรื่องคือผมยื่นขอทุนไป ทางสถาบันเค้าบอกให้ไปทำรายงานอะไรก็ได้ที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราตั้งใจจริงในชีวิตเรา ผมก็เลยคิดว่า… เอาวะ ไหนๆ ก็ชอบปีนเขาตอนวันหยุดแล้ว เราใส่ส้นสูงปีนเขาอีกซักรอบเลยละกัน” Ben Conway เล่า เจ้าตัวเริ่มออกเดินทางในเช้าวันที่…
-
สุนัขพิทบูลกลายเป็นฮีโร่ หลังพยายามช่วยเหลือเด็กน้อย ให้รอดพ้นจากการถูกงูกัด!!
หลายคนมองว่าเจ้าตูบพิทบูล เป็นปีศาจสังหาร เพราะทุกครั้งที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินข่าวอันน่าสลดเกี่ยวกับสุนัขสายพันธุ์นี้มามากมาย อย่างการขย้ำเจ้าของจนถึงขั้นเสียชีวิต… แต่ในบางครั้ง เจ้าหมาพันธุ์นี้ก็ไม่ได้มีแต่ด้านโหดๆ เสมอไป เพราะมันก็มีด้านดีๆ เหมือนกันนะ ดูอย่างเจ้า Hurley สุนัขพันธุ์พิทบูลตัวนี้ ที่ได้กลายเป็นสุดยอดฮีโร่ หลังสามารถช่วยชีวิตเด็กน้อยจากการถูกงูกัดได้ เรื่องราวของเจ้าตูบแสนรักถูกเผยแพร่ผ่านเฟสบุ๊คของ Stacie Rae English น้องสาวของ Shelby ผู้เป็นเจ้าของ Hurley และภายในเวลาไม่นาน เรื่องราวของมันก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีคนเข้ามาไลค์มากกว่า 53,000 ครั้ง และกดแชร์มากถึง 13,000 คนเลยทีเดียว โดยที่เธอเล่าว่า เจ้าหมาได้กลายเป็นสุดยอดฮีโร่หลังจากที่มันสามารถช่วยชีวิตเด็กน้อย ที่กำลังตกอยู่ในอันตรายให้รอดชีวิตจากงูพิษมาได้ แม้ว่าตัวของมันเองจะถูกงูกัดก็ตาม และนี่คือเรื่องราวที่ทางเจ้าของได้นำออกมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ฟังแล้วก็รู้สึกขอบคุณเจ้า Hurley มากจริงๆ … “พี่ชายของฉันกับเจ้าหมา กำลังเดินอยู่แถวละแวกบ้านในตอนเย็น แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กดังมา และนั่นก็ทำให้เจ้า Hurley รีบวิ่งยังสถานที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงบริเวณดังกล่าว มันก็เห็นว่าเด็กกำลังจะถูกงูพิษกัด ด้วยเหตุนี้ เจ้าหมาจึงรีบเข้าไปฆ่างูตัวนั้น…
-
จะเป็นอย่างไร… หากตัวละครจากดิสนีย์คลาสสิค เพิ่งจะถูกสร้างขึ้นในยุคปัจจุบัน 2017
ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้สวยงามเหมือนในเทพนิยาย เพราะในทุกๆ ครั้งที่เราได้รับชมการ์ตูนจากดิสนีย์ เราก็มักจะเห็นตัวละครเหล่านั้นเจอแต่เรื่องราวดีๆ แต่ถ้าตัวละครที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาจากดิสนีย์ได้ออกมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงล่ะ? มันจะเป็นอย่างไรบ้าง งานนี้ Tom Ward ศิลปินกราฟฟิคชาวอังกฤษ จึงได้นำตัวการ์ตูนจากดิสนีย์ มาสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในชื่อผลงานชุด “Alt Disney” โดยการให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงในยุคปัจจุบันปี 2017 ซะเลย ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า ว่าผลงานที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นจะสามารถล้อเลียนสังคมในปัจจุบันได้เป๊ะขนาดไหน 1.เมื่อตัวละครจากโฉมงามเจ้าชายอสูร ได้มาร่วมงานพาเหรดชาวสีรุ้ง หรือพาเหรดเกย์ 2. การกักขังสัตว์ และการให้ความช่วยเหลือ 3.เซลฟี่ 4.เจ้าชายติดสมาร์ทโฟน 5.จากที่เคยใช้ชีวิตอย่างอิสระ แต่ตอนนี้ถูกจับเข้ามาอยู่ในละครสัตว์ซะอย่างนั้น 6.เมื่อต้องมาเจอกับกล้องวงจรปิด จะแอบเข้าไปก็ยากแล้วสินะ 7.เมื่อเอเรียลกลายพันธุ์ ผลพวงจากมลพิษ 8.ถูกตัดเอางาไป 9.กินแต่อาหารเพื่อสุขภาพ 10.ติดเกมส์ 11.กลายเป็นโจร 12.เมื่ออยากรู้วิธีดึงดาบ ต้องค้นหาในอินเทอร์เน็ตเท่านั้น นอกจากผลงานเหล่านี้ คุณยังสามารถเข้าไปรับชมผลงานอื่นๆ ของเขาได้ที่อินสตาแกรม tomwardstudio, เฟสบุ๊ค…
-
หมอสหรัฐฯ นิยมสั่งยาแบบใหม่ “หยุดงานแล้วไปเดินป่า” ให้ธรรมชาติเยียวยาสุขภาพผู้ป่วย
โดยปกติแล้ว ผู้ป่วยมักจะได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ โดยจะมีทั้งยาแบบเม็ด แบบน้ำ รวมถึงยาทา และจะต้องมีการกำหนดเวลาไว้ว่าควรทานช่วงไหนบ้าง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติที่เรามักจะเจอกันอยู่เป็นประจำ แต่สำหรับแพทย์ในรัฐเซาท์ดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดใบสั่งยาแบบใหม่ที่เจ๋งไปกว่านั้น โดยที่ไม่ต้องกินหรือไม่ต้องทา เพียงแค่มีจุดมุ่งหมายให้ผู้ป่วยได้ “ไปเดินป่า” เท่านี้ก็ช่วยเยียวยาได้แล้ว!? สำหรับใบสั่งยาจากแพทย์ในรัฐเซาท์ดาโคตา ที่เขียนสั่งยาทุกอย่างตั้งแต่ยาแก้ปวดไปจนถึงขี้ผึ้ง แต่ในปีนี้ทางแพทย์ได้มีทางเลือกใหม่ในการเลือกจ่ายยาตัวใหม่นั่นคือ “ParkRx” แทน ใบสั่งยาดังกล่าว จะให้ผู้ป่วยหยุดงาน 1 วัน เพื่อไป “สวนสาธารณะ หรือพื้นที่นันทนาการใดๆ ก็ได้ในรัฐเซาท์ดาโคตา โดยใบสั่งจะมาพร้อมกับสัญลักษณ์ “Rx” บนมุมกระดาษ โครงการ ParkRx ได้ถูกดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2015 โดย Game Fish & Parks Department และกรมสุขภาพของรัฐเซาท์ดาโคตา ซึ่งเป็นการเชิญชวนแพทย์ของรัฐมาจ่ายยาให้ผู้ป่วยในรูปแบบใหม่ เพื่อเป็นการช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตใจของผู้ป่วย ด้วยการไปสัมผัสกับบรรยากาศอันร่มรื่นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ทางด้าน Nikki Prosch ผู้ประสานงานโครงการ ได้ออกมากล่าวว่า “เราได้แรงผลักดันมากขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยมีการโฆษณา…
-
พนักงาน McDonald’s โมโหโกรธาสุดขีด เข้ารุมกระทืบลูกค้าจนอ่วม หลังจากที่ถูกปาอาหารใส่…
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2017 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของชายคนหนึ่ง กำลังถูกพนักงานจากร้าน McDonald’s สาขา Canning Town ในกรุงลอนดอน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ หลังที่ได้ขว้างปาอาหารใส่พวกเขา จากการรายงานระบุว่า ภาพจากคลิปวีดีโอดังกล่าวถูกบันทึกเอาไว้ได้โดย Joseph Weare หนึ่งในลูกค้าที่ได้เข้าไปในบริการ ณ ขณะนั้น โดยทาง Joseph ได้ออกมาเผยว่า “ผมได้เดินเข้ามาพร้อมกับแฟนของผมในเวลาประมาณ 11.30 น. โดยในขณะนั้นที่ร้านมีลูกค้าอยู่ประมาณ 12 คน ซึ่งตอนที่ผมกำลังสั่งอาหาร และรอรับอาหารอยู่นั้น ก็เริ่มมีการทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ชายกางเกงสีชมพู กับพนักงานคนหนึ่งในร้าน McDonald’s เกิดขึ้น โดยชายคนดังกล่าวได้แต่ขว้างปาอาหารใส่พนักงาน นั่นจึงทำให้พนักงาน 4 คน ได้กระโดดข้ามเคาน์เตอร์ จากนั้นก็เริ่มรุมทุบตีเขา” นอกจากนี้ ยังมีลูกค้ารายหนึ่งภายในร้านได้ตะโกนห้ามปราม เพื่อให้เหล่าพนักงานใจเย็นลง เพราะเขาเชื่อว่าเหตุที่พนักงานได้มารุมตีชายคนนั้น เป็นเพราะถูกขว้างปาอาหารใส่จนมีอาการโมโห ทางหญิงรายหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์ ณ ขณะนั้น ก็ได้ตะโกนเสียงดังว่า…
-
ชายหนุ่มติดอยู่ในตู้ ATM ออกไม่ได้ สุดท้ายขอความช่วยเหลือได้ผ่านช่องรับใบเสร็จ!!?
เรื่องราวสุดหงุนงงเมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งเกิดไปติดอยู่ในตู้ข้าง ATM ออกมาไม่ได้ จะขอความช่วยเหลือก็ลำบากเพราะไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่กับตัว แต่สุดท้าpด้วยไหวพริบของเขา ก็ทำให้ตัวเองสามารถรอดออกมาได้ในท้ายที่สุด… เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมืองคอร์ปัสคริสตีรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งชายไม่เปิดเผยชื่อคนนี้เป็นช่างจากบริษัทผู้รับเหมาที่ดูแลตู้เอทีเอ็มดังกล่าวอยู่ เพื่อให้มาซ่อมประตูหลังที่เชื่อมกับตู้ ATM ของ Bank of America ทว่าเมื่อช่างคนดังกล่าวกำลังซ่อมประตูอยู่ อยู่ดีๆ ประตูดังกล่าวก็ปิดตัวลงและล็อคจากภายนอก ซึ่งนั่นทำให้ช่างผู้โชคร้ายไม่สามารถออกไปได้ และเขาก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครผ่านโทรศัพท์ได้ เพราะโทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับตัว แต่ว่าด้วยไหวพริบของชายคนนี้ เขาคิดได้ว่าตัวเองมีปากกากับกระดาษติดอยู่กับตัว เขาจึงจัดการเขียนข้อความขอความช่วยเหลือ โดยมีเนื้อความว่า “ได้โปรดช่วยผมด้วย ผมติดอยู่ในตู้ ATM ผมไม่มีโทรศัพท์ ได้โปรดโทรไปหาหัวหน้าผมที่เบอร์ 210 *** *** *** ***” ข้อความดังกล่าวได้ถูกส่งผ่านช่องใบเสร็จของตู้ ATM ออกไป และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักความช่วยเหลือก็มาถึงเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานต่างเดินทางเพื่อมานำตัวเขากลับมาสู่ดินแดนอิสระภาพอีกครั้งนั่นเอง ด้านนายตำรวจ Richard Olden ผู้ดูแลคดีนี้ได้บอกกับสำนักข่าว WTOC ว่า “คนมากมายที่เห็นข้อความตอนแรกพวกเขาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกไม่ก็เป็นการกลั่นแกล้ง เลยต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะมีคนตัดสินใจโทรแจ้งเข้ามาจริงๆ ผมก็ยอมรับเลยนะว่า มีตำรวจหลายนายเลยล่ะที่คิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องตลกและกลั่นแกล้งเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องใช้เวลาสักพักเลยกว่าพวกเขาจะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง จนพวกเราไปถึงและเงี่ยหูฟังก็พบว่ามีคนติดอยู่ข้างในจริงๆ” …
-
เจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิงถึงกับร่ำไห้ เมื่อเจ้าเหมียวแก่อายุ 15 ปี ถูกรับไปเลี้ยงซักที!!
อย่างที่รู้กันอยู่แล้ว่ายิ่งแมวมีอายุมากเท่าไร โอกาสที่มันจะถูกรับเลี้ยงยิ่งมีน้อยลงเท่านั้น เหมือนกับ Muffy แมวอายุ 15 ปี ที่แทบจะไม่มีหวังสำหรับการรับเลี้ยงแล้ว Muffy ใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์พักพิง Fayette Friends of Animals ในรัฐเพนซิลเวเนีย แทบจะตลอดชีวิต และสภาพหูของมันก็แหว่งไปข้างหนึ่งเพราะโดนตัดออก จริงๆ ตอนที่มันเข้ามาในอยู่ในศูนย์พักพิงใหม่ๆ มันเคยถูกรับเลี้ยงไปสักพักหนึ่ง แต่แล้วมันก็ถูกนำมาคืนและอยู่ในศูนย์พักพิงมาตลอด 5 ปีเต็ม จนกระทั่ง Muffy ค่อยๆ ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะอยู่โดยไม่คาดหวังการรับเลี้ยงจากมนุษย์อีก ถึงแม้จะแก่แล้ว เจ้าเหมียวก็ยังคงเข้ากับแมวตัวอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี แต่มันจะชอบอยู่เงียบในห้องตัวเองมากกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็คิดว่า คงจะไม่มีใครรับเลี้ยงมันแล้ว… แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อ Scarlett Wable กับลูกของเธอได้มาเยี่ยมชมศูนย์พักพิงในฐานะผู้บริจาคเงินให้ศูนย์… ขณะที่เดินดูรอบๆ เธอก็สังเกตเห็น Muffy กำลังนอนขดตัวอยู่ในกรงของมัน ใครจะเชื่อว่า ทันทีที่เห็น Wable ก็ตกหลุมรักมันทันที… เธอบอกว่า “เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างคิดว่าจะไม่มีใครรับเลี้ยง Muffy แล้ว เพราะมันเป็นแมวแก่ หูแหว่ง และดูเกร็งๆ เวลาเจอผู้คน” แต่เมื่อ Wable กำลังจะเดินผ่านมันไป เจ้าเหมียวแก่ก็ร้องทักท้วงขึ้นมาทันที จนทำให้เธอมีความรู้สึกพิเศษบางอย่างกับแมวแก่ตัวนี้ …
-
เจ้าสาวถูกบังคับ ‘พิสูจน์ความเวอร์จิ้น’ แต่เจ้าบ่าวก็ยังไม่เชื่อ จนนำไปสู่การฆ่าตัวตาย…
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วในประเทศทาจิกิสถานนั้นผู้หญิงมักจะไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม และพวกเธอจะต้องถูกทดสอบความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงาน จนกลายเป็นเรื่องปกติของประเทศไปแล้ว อย่างกรณีนี้เมื่อ Zafar Pirov วัย 24 ปี แต่งงานกับเจ้าสาว Rajabbi Khurshed วัย 18 ปี ซึ่งเป็นภรรยาคนที่สองแล้ว แต่เขาไม่เชื่อว่าเธอยังเวอร์จิ้นก็เลยบังคับให้เธอทำการทดสอบเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หลังจากที่ทำการพิสูจน์แล้ว ผลออกมาว่า Khurshed ยังบริสุทธิ์จริง แต่เจ้าบ่าวไม่ปักใจเชื่อ ยังบังคับให้เธอทำการทดสอบอีกหลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งผลก็ได้ออกมาเหมือนเดิม… จากเหตุการณ์นี้ทำให้หญิงสาวไม่อาจยอมรับข้อเรียกร้องของว่าที่สามีได้อีกต่อไป และเธอก็อายจนไม่กล้าใช้ชีวิตในสังคมแล้ว จนในที่สุดก็ทำให้ Kurshed ตัดสินใจฆ่าตัวตาย… ทางครอบครัวของ Khurshed บอกว่า Pirov บังคับให้เธอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่มันก็เป็นการแต่งงานครั้งที่สองของเขาแล้ว จนสร้างความอับอายให้เจ้าสาวเป็นอย่างมาก พวกเขายังบอกอีกว่า ลูกสาวได้พูดไว้ก่อนตาย เธอรับไม่ได้กับข้อเรียกร้องของ Pirov ในการรับเธอเป็นภรรยาคนที่สองและเครียดจนไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว ทางด้าน Pirov ถูกศาลตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 8 ปี ในข้อหาเป็นเหตุให้ Khurshed ฆ่าตัวตาย แต่เขาอ้างว่า “ภรรยาคนแรกอนุญาตให้ผมรับ Khurshed เป็นภรรยาคนที่สองได้ เพราะเธอไม่เวอร์จิ้นแล้ว” ในขณะที่ Fazila Mirzoeva แม่ของผู้เสียชีวิตบอกว่าลูกสาวของเธอเป็นเหยื่อของการใส่ร้ายและทารุณ เพราะเธอไม่เคยมีแฟน และไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครมาก่อนเลย ทางคุณแม่ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า…
-
นักท่องเที่ยวดูเครื่องเทคออฟใกล้รันเวย์ ถูกแรงดันอัดตัวปลิว จนหัวกระแทกพื้นเสียชีวิต!!
หลายคนอาจเคยรู้จักชายหาด Maho Beach มาบ้างแล้ว ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดหวาดเสียว แต่ก็ยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวแบบสุดๆ ที่ชายหาดแห่งนี้จะติดอยู่กับท่าอากาศยานนานาชาติปรินเซส จูเลียนา นักท่องเที่ยวจะเห็นเครื่องบินร่อนลงเหนือหัวแบบใกล้มากๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นนักท่องเที่ยวต้องอยู่ในบริเวณชายหาด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดอันตรายได้ และแล้วกรณีนี้ก็เกิดขึ้นกับหญิงนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์วัย 57 ปี คนหนึ่งก็เพิ่งเสียชีวิตไป เนื่องจากศีรษะถูกกระแทกเข้ากับพื้นคอนกรีต ด้วยแรงดันไอพ่นจากเครื่องบินที่กำลังจะออกตัวไปจากสนามบิน ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามจะช่วยชีวิตเธอ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เสียชีวิตระหว่างถูกนำตัวส่งศูนย์การแพทย์บนเกาะ Sint Maarten โดยปกติแล้ว ชายหาดแห่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนที่คอยเดินตรวจบริเวณโดยรอบ เพื่อให้มั่นใจว่านักท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย แต่แม้ว่าจะมีกฎ มีคำเตือนจากเจ้าหน้าแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนก็ยังชอบที่จะไปเกาะอยู่ตรงรั้วที่แบ่งระหว่างสนามบินกับชายหาด เพื่อที่จะได้เห็นเครื่องออกตัวในระยะใกล้ๆ สำหรับกรณีของหญิงที่เสียชีวิตนั้น ก่อนหน้านี้เธอไปยืนดูเครื่องบินโบอิ้ง 737 ที่กำลังจะออกเดินทางไปยังประเทศตรินิแดด เมื่อเครื่องบินออกตัว แรงดันไอพ่นก็พุ่งตรงไปยังแนวรั้วที่ผู้หญิงคนนั้นเกาะอยู่ จนทำให้ผู้หญิงคนนั้นล้มลงไปข้างหลังอย่างแรง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังที่กล่าวมา I stood on Maho Beach just a few weeks ago. Filmed a bunch of fence…
-
บริษัทในอินเดียเริ่มปรับตัว ให้พนักงานหญิง ‘ลาช่วงประจำเดือน’ ไม่ต้องทนปวดมาทำงาน
แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่มีวันได้สัมผัสความเจ็บปวดของการเป็นประจำเดือน แต่เราก็พอจะเข้าใจได้ว่าเมื่อไหร่ที่ช่วงนั้นของเดือนมาถึง เราไม่ควรปล่อยให้สาวๆ ต้องทำงานหนัก และดูเหมือนว่าปัญหาด้านนี้จะเป็นที่ตระหนักถึงมากขึ้นในประเทศอินเดีย เพราะหลายๆ บริษัทเอกชนเริ่มปรับตัวหันมาเพิ่มวันลาหยุดให้แก่พนักงานผู้หญิงในช่วงวันนั้นของเดือน Culture Machine เป็นหนึ่งในตัวอย่างบริษัทที่เพิ่มนโยบายนี้ให้พนักงานหญิงกว่า 75 ชีวิต หลังจากที่บริษัทได้ปล่อยคลิปวิดีโอเป็นภาพของพนักงานสาวพูดถึงการทำงานในช่วงวันนั้นของเดือน นอกจากนั้นบริษัทดังกล่าวยังส่งเรื่องไปถึงกระทรวงพัฒนาสตรีและเด็ก และกระทรวงเพื่อเรียกร้องให้มีการเพิ่มสวัสดิการดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างทั่วประเทศ สำหรับเรื่อง ‘ประจำเดือน’ ของหญิงสาวในอินเดียนั้นถือว่าเป็นปัญหาที่ผูกติดอยู่กับประเพณีดั้งเดิมมาอย่างช้านาน ยกตัวอย่างเช่นทางความเชื่อของชาวฮินดู จะมีประเพณี Chhaupadi ซึ่งเป็นประเพณีโบราณที่ยังปฏิบัติกันอยู่ในหลายๆ พื้นที่ชนบทของประเทศ โดยมีความเชื่อที่ว่า ‘หญิงสาวที่เป็นประจำเดือนถือเป็นสิ่งสกปรก’ และพวกเธอจะต้องถูกขับไล่ให้ออกไปนอนนอกบ้าน และนั่นก็นำมาซึ่งข่าวโศกนาฎกรรมการเสียชีวิตของหญิงสาวตามชนบทที่มักจะเห็นได้บ่อยๆ ในสื่ออินเดีย คลิปวิดีโอที่บริษัทให้พนักงานออกมาพูดถึง ความยากลำบากในการทำงานระหว่างเป็นประจำเดือน นอกจากเรื่องประจำเดือนแล้ว อินเดียยังขึ้นชื่อในเรื่องของการกดขี่สิทธิทางเพศมาอย่างช้านาน ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าจากกระแสดังกล่าวอาจทำให้สังคมอินเดียหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่บางประเทศทางฝั่งเอเชียอย่างเช่น ญี่ปุ่น และไต้หวัน การเพิ่มสวัสดิการลาหยุดช่วงประจำเดือนให้แก่พนักงานสาวถือว่าเป็นสิ่งที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไหนจะต้องรับมือกับความเจ็บปวด อารมณ์ที่แปรปรวนอีก ถ้ายังต้องมาทำงานอยู่ก็น่าเห็นใจเหมือนกันนะเนี่ย ที่มา: Reuters
-
เปิดภาพลับหาดูยาก ลานจอดรถ ISIS ดัดแปลงไว้เพื่อก่อการร้าย ราวกับอยู่ในหนัง Mad Max
เคยสงสัยไหมว่าเหล่าผู้ก่อการร้าย ISIS เนี่ยจะมีพาหนะสำหรับการก่อการร้ายแบบไหนกันนะ? ที่เรารู้แน่ๆ คือจะมีรถปกติสำหรับคาร์บอร์ม แล้วรถแบบอื่นล่ะ พวกเขามีรถถังไหม หรือว่ารถทหารหุ่มเกราะอะไรแบบนี้ล่ะ มีหรือเปล่า? สิ่งที่เราสงสัยกันตอนนี้ได้รับการเปิดเผยเรียบร้อยแล้วโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอิรัก ซึ่งพวกเขาได้นำรถของกลุ่มก่อการร้ายทั้งหมดที่จับได้มาจัดแสดงโชว์ที่นครโมซูล เพื่อให้ชาวโลกเห็นว่ากลุ่มก่อการร้ายใช้พาหนะแบบไหนกันแน่นั่นเอง จอดเรียงกันเป็นตับเลย รถส่วนใหญ่ที่เหล่า ISIS ใช้นั้นจะเป็นรถประเภท SUV ซึ่งมีขนาดที่พอดีและสามารถบรรทุกระเบิดได้ดี จากนั้นพวกเขาก็จะหุ้มเกราะให้กับตัวรถด้วยเหล็กหนาเพื่อป้องกันกระสุน บางคันจะหุ้มเกราะหนากว่าปกติราวกับเป็นรถถัง ซึ่งคาดว่ารถคันดังกล่าวไม่น่าจะได้ใช้สำหรับคาร์บอมอย่างแน่นอน แต่จะใช้ในการรบปกติเสียมากกว่า ดูๆ แล้วก็อย่างกับหลุดมาจากหนัง Madmax หรือ Deadrace เลยนะเนี่ย ตัวรถก็มีการออกแบบเกราะมาอย่างดี ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ คันนี้ก็อย่างกับรถถังพร้อมรบ คันนี้ก็ป้อมปราการเคลื่อนที่ชัดๆ ดูสิ มีกระจกข้างบนด้วย คันนี้ยิ่งไม่ต้องถาม รถถังย่อมๆ เลย ด้านยี่ห้อรถที่เหล่า ISIS ดูจะชื่นชอบและนิยมนำมาใช้มากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นรถจากฝั่งญี่ปุ่นอย่าง Toyota Land Cruiser และ Toyota Hilux แต่ก็ไม่ใช่ว่ารถจากญี่ปุ่นจะเป็นที่นิยมเพียงอย่างเดียวนะ…
-
สองสหายทดสอบ ‘เครื่องกดสบู่อัตโนมัติ’ แต่ไหงเหยียดคนผิวสี ไม่ยอมให้บริการฟะ!?
เกิดเหตุการณ์ฮือฮาบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับการเหยียดผิวอีกครั้ง หลังจากที่มีชายหนุ่มผู้หนึ่งได้อัพเดทคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นการทำงานของเครื่องกดสบู่อัตโนมัติ ที่เลือกให้บริการเฉพาะคนขาว!! คุณ T.J. Fitzpatrick ชายหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน – แอฟริกัน และเพื่อนคนขาวของเขาได้ถ่ายคลิปวิดีโอการทำงานของเครื่องกดสบู่อัตโนมัติดังกล่าว และพบว่าสบู่จะออกมาเฉพาะตอนที่เพื่อนของเขายื่นมือเข้าไปเท่านั้น คุณ Fitzpatrick บอกว่า “ผมไม่ได้รู้สึกแย่นะ แต่รู้สึกฮามากกว่า ทำไมมันไม่ยอมให้ผมใช้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมลองกับเครื่องกดสบู่ทุกเครื่องในห้องน้ำ แต่ก็ไม่มีเครื่องไหนยอมให้ผมใช้เลย เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมเข้าห้องน้ำผมต้องพาเพื่อนไปด้วยทุกครั้ง ฮ่าๆ” แต่หลังจากที่คลิปวิดีโอถูกอัพลงบนโลกออนไลน์ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย แต่ละความคิดเห็นกลับรู้สึกแย่และคิดว่านี่คือการเหยียดผิวไปซะได้… ทางด้านคุณ Richard Whitney จากบริษัท Particle ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องกดสบู่อัตโนมัติว่า จริงๆ แล้วเทคโนโลยีดังกล่าวมักมีปัญหากับผู้ใช้งานผิวสีอยู่แล้ว “เครื่องกดสบู่อัตโนมัตินั้นจะมีเซนเชอร์ติดอยู่ภายใน มันจะส่งสัญญาณผ่านหลอดไฟอินฟาเรด ซึ่งสาเหตุที่เครื่องไม่ทำงานนั้นอาจมาจากแสงที่ส่องไปนั้นไม่สะท้อนกลับมา หรือความเข้มของแสงที่สะท้อนกลับมานั้นไม่เพียงพอ” คุณ Richard เจ้าตัวก็แค่เอาฮาเท่านั้นแหละ อย่าไปคิดอะไรมากล่ะ!! ที่มา metro
-
โรคจิตเมาแอ๋คุมสติไม่อยู่ ก่อเหตุ “ข่มขืนมอเตอร์ไซค์” ทั้งที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้วันเดียว
เมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศ มีวิธีปลดปล่อยที่หลากหลาย บางคนอาจช่วยตัวเอง บางคนอาจมีอะไรกับคู่รัก ในขณะที่หลายคนเลือกที่จะซื้อบริการ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร… แต่สำหรับชายคนนี้กลับเลือกที่จะ ‘มีความสุขสมสู่กับรถจักรยานยนต์’ ท่ามกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย สุดท้ายถูกจับจนต้องติดคุก!! Kevin Chapman วัย 34 ปี พยายามจะมีช่วงเวลาโรแมนติกกับรถจักรยานยนต์ Suzuki ขนาด 600 ซีซี หลังจากที่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองได้อีกต่อไป ก่อนหน้าที่จะมีเซ็กส์กับรถจักรยานยนต์ Chapman ได้มีการโต้เถียงกับคนจรจัดแถวนั้น มีทั้งตี เตะ ต่อย ก่อนจะฉี่รดบนรถจักรยนต์ที่ไม่ใช่ของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ถอดกางเกงออก แล้วเริ่มแสดงท่าทางทางเพศต่อรถจักรยานยนต์คันนั้น แต่เขายังพอมีสติไม่ให้คนอื่นเห็นอวัยวะเพศของเขา ด้วยการคร่อมมอเตอร์ไซค์ไว้แล้วก็ข่มขืนเพื่อปลดปล่อยอารมณ์สมหมาย… แต่ขณะนั้นผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างดึงเขาออกจากรถจักรยานยนต์คันนั้น และเริ่มตะโกนด่าเขาสำหรับการกระทำดังกล่าว จนในที่สุดตำรวจก็ได้มารวบตัวเขาไป Suzuki GSX-R600 รถจักรยานยนต์รุ่นดังกล่าวที่ตกเป็นเหยื่อข่มขืน ตอนแรก Chapman อ้างว่าเขาถูกคนจรจัดยั่วยุให้ทำแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับข้อกล่าวหา เมื่อ Neil Sweeney ผู้รับผิดชอบคดีนี้ได้แสดงหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้ Chapman ยอมรับว่าลงมือทำจริง เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ และได้แสดงความละอายใจต่อการกระทำของตัวเองด้วย จากการตรวจสอบประวัติพบว่า Chapman…
-
กองทัพเรือทำภารกิจ “ช่วยช้างตกทะเล” ใช้เวลานานกว่า 12 ชั่วโมง จนพากลับขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
การช่วยเหลือสัตว์มีหลายกรณี ซึ่งในแต่ละกรณีนั้นจะมีทั้งง่ายและยากแตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าจะกรณีไหนเราก็มักจะเห็นความพยายามของผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือสัตว์ตัวนั้นๆ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเคสที่ถือว่าเป็นงานยากมากๆ เมื่อช้างตัวหนึ่งเกือบจมลงไปในทะเล หลังถูกคลื่นซัดให้ออกห่างจากชายฝั่งไปไกลถึง 8 กิโลเมตร เมื่อเจ้าหน้าที่กองทัพเรือของประเทศศรีลังกา เห็นช้างลอยอยู่ในทะเลที่ห่างออกไปจากชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของศรีลังกา พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะลงไปช่วยทันที เหตุการณ์นี้มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งปีนขึ้นไปบนหลังช้าง และพยายามจะนำเชือกคล้องมันเอาไว้ เพื่อให้เรือดึงมันกลับไปยังชายฝั่ง ขณะเดียวกันจะเห็นว่าช้างก็พยายามจะตะเกียกตะกายพาตัวเองขึ้นเหนือน้ำเพื่อหาอากาศหายใจ… ทว่าปฏิบัติการช่วยชีวิตช้างตกทะเลไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด พวกเขาต้องใช้เวลาในการช่วยเหลือนานถึง 12 ชั่วโมง จนในที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ก็สามารถพาช้างกลับขึ้นฝั่งได้สำเร็จ Chaminda Walakuluge โฆษกของกองทัพเรือบอกว่า “มันเป็นกรณีที่ไม่ค่อยได้กันเห็นบ่อยนัก เพราะปกติช้างมักจะอยู่ในบริเวณน้ำตื้นๆ หรือในระดับน้ำที่มันควบคุมตัวเองได้ “ “แต่สำหรับช้างตัวนี้ มันอาจจะพยายามข้ามฝั่งจนถูกคลื่นซัด ทำให้มันลอยอยู่ในน้ำลึกอย่างที่เห็น แต่โชคดีที่มันได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย” และในกรณีนี้คาดการณ์ว่าเจ้าช้างพยายามที่จะข้ามฝั่งจากแอ่งน้ำ Kokkilai ที่พาดผ่านระหว่างผืนป่าและมีทางน้ำไหลสู่มหาสมุทรอินเดีย ที่มา metro
-
ศาสตราจารย์ซื้อแป้นเก่าในราคาถูก โดยคนขายไม่รู้ว่าเป็น ‘เครื่องอินิกมา’ ที่ขายได้ 2 ล้านบาท!!
กลายเป็นข่าวดังกึกก้องไปทั่วโลก เมื่อมีชาวโรมาเนียคนหนึ่งนำแป้นพิมพ์สภาพเก่าราวกับหลุดมาจากสมัยสงครามโลก มาประกาศขายในตลาดสินค้ามือสองด้วยราคาเพียงแค่ 100 ยูโรเท่านั้น (4,000 บาท) ทว่าเจ้าตัวกลับไม่รู้เลยว่าแป้นพิมพ์ดังกล่าวเป็น ‘เครื่องแปลงรหัสอินิกมา’ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับส่งรหัสปฏิบัติการณ์ลับที่ตกถอดมาจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แถมยังขายได้ราคาสูงถึง 45,000 ยูโร (ราวเกือบ 2 ล้านบาท) สภาพหน้าตาของเครื่องอินิกมาที่ตกทอดมาจากกองทัพเยอรมัน ถึงแม้จะไม่มีการเปิดเผยว่าใครเป็นคนซื้อ แต่หลังจากที่แป้นพิมพ์นี้ถูกขายต่อด้วยราคาเพียง 100 ยูโร เจ้าของคนใหม่ก็ได้นำเครื่องนี้ไปขายต่อในตลาด Bucharest Artmark โดยเปิดประมูลไว้ที่ราคา 9,000 ยูโร ก่อนจะมีเศรษฐีนิรนามปิดประมูลที่ราคา 45,000 ยูโร “เป็นเรื่องราวที่ฮือฮาในตลาดประมูลสินค้ามากครับ มีศาสตราจารย์ด้านการถอดรหัสคนหนึ่ง เขาไปเจอกับเครื่องถอดรหัสอินิกม่าและซื้อมันมาในราคาถูกแสนถูก ก่อนจะเปิดประมูลและปิดราคาได้อย่างสวยงาม” Cristian Gavrila ผู้จัดการ Artmark ให้สัมภาษณ์ เดิมทีเครื่องอินิกม่าถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในเยอรมัน เมื่อปี 1920 เพื่อใช้สำหรับการส่งรหัสปฏิบัติการทางสงครามต่างๆ โดยไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ ทว่าต่อมาประเทศอังกฤษและฝ่ายสัมพันธมิตรได้พยายามถอดรหัสเครื่องอินิกม่าให้ได้ จนกระทั่งมีนักคณิตศาสตร์ที่ชื่อว่า Alan Turing สามารถไขรหัสของกองทัพเยอรมันได้สำเร็จ และสามารถเอาชนะสงครามได้ในที่สุด…
-
สาวเก็บมือถือของคนกระโดดน้ำฆ่าตัวตายได้ แต่ไม่ยอมคืนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต!!
เวลาเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม ตำรวจมักจะกั้นที่เกิดเหตุไว้เพื่อไม่ให้คนภายนอกเข้า ป้องกันหลักฐานถูกทำลาย รวมทั้งปกป้องทรัพย์สินของผู้ประสบอุบัติเหตุด้วย แต่หากไม่ทำแบบนี้นั้นอาจเกิดเรื่องเหมือนอย่างกรณีนี้ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งเจอมือถือของคนที่ฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่ยอมคืนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต นี่เป็นภาพบันทึกเหตุการณ์จาก Yichang ในมณฑลหูเป่ย์ เผยให้เห็นภาพชายหนุ่มวัย 17 ปี กระโดดสะพานฆ่าตัวตาย เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา เหลือไว้แต่โทรศัพท์มือถือที่ทิ้งไว้บนทางเท้า หลังจากประมาณ 6 นาที ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งไปยังที่เกิดเหตุแล้วหยิบโทรศัพท์ของชายหนุ่มขึ้นมา ก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว หลังจากเหตุการณ์นั้น น้องสาวของผู้เสียชีวิตก็ได้ตามหามือถือของพี่ชาย จนกระทั่งวันอาทิตย์เธอก็สามารถติดต่อกับใครบางคนผ่านโทรศัพท์ของพี่ชาย เมื่อน้องสาวถามคนปลายสายว่าเป็นใคร เธอตอบกลับมาว่าเป็นคนที่เก็บโทรศัพท์ได้บนสะพาน น้องสาวจึงได้ขอโทรมือถือพี่ชายคืน แต่ผู้หญิงปลายสายกับวางสายอย่างรวดเร็ว สักครู่ต่อมา ผู้หญิงคนเดิมก็โทรกลับมา แล้วเรียกร้องเงินจากน้องสาวผู้เสียชีวิตเพื่อแลกกับโทรศัพท์เครื่องนี้ น้องสาวจึงตอบไปว่าจะให้ทุกอย่างขอแค่ได้โทรศัพท์พี่คืนมา แต่แล้วผู้หญิงปลายสายก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา เธอบอกว่าถ้าคืนโทรศัพท์ให้คงต้องเจอปัญหาใหญ่แน่นอน ก็เลยตัดสินใจเก็บมันไว้เอง ตั้งแต่นั้นมา โทรศัพท์ของพี่ชายก็ถูกปิดการใช้งานทันที และไม่สามารถติดต่อผู้หญิงคนนั้นได้อีกเลย… เข้าไปดูคลิปเหตุการณ์ได้ที่นี่ ในการให้สัมภาษณ์ น้องสาวบอกว่าอยากได้โทรศัพท์ของพี่ชายคืน เพราะเธอและครอบครัวคิดว่าอาจจะมีข้อความหรืออะไรบางอย่างในโทรศัพท์ที่จะทำให้รู้อะไรเป็นเหตุจูงใจให้พี่ชายฆ่าตัวตาย ที่มา shanghaiist
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 28 ภาพพัฒนาการฝีมือวาดรูป ตอกย้ำว่าไม่มีใคร “เก่งมาตั้งแต่เกิด”
ทุกๆ การฝึกฝนย่อมมีการพัฒนาเสมอ โดยเฉพาะทักษะทางศิลปะที่ไม่มีใครเก่งแต่เกิด เหมือนกับศิลปินส่วนใหญ่ต่างก็อาศัยการเรียนรู้ ฝึกฝนและพัฒนาตนเองจนประสบความสำเร็จ เหมือนกับภาพเหล่านี้ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการฝึกฝนที่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ และหากฝึกต่อไปเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่าทักษะทางศิลปะนั้นไม่มีที่สิ้นสุด 1. ฝีมือการวาดรูปตั้งแต่อายุ 13 ถึง 17 ปี 2. พัฒนาการใน 7 ปี 3. ตั้งแต่ 2 ขวบ จนอายุ 25 ปี 4. ทักษะการวาดตาใน 3 ปี 5. ความสำเร็จในเวลา 8 ปี 6. ความสำเร็จจากการฝึกฝนตลอด 10 ปี 7. ฝีมือตั้งแต่ 9 ขวบถึง 15 ปี 8. พัฒนาการใน 5 ปี…
-
เผยนวัตกรรม ‘หมวกกันน็อคตัดเสียง’ สวมใส่ให้หัวโต พร้อมสร้างสมาธิในการทำงาน!!
เคยรู้สึกกันไหมว่าบางทีการทำงานออฟฟิศแล้วเราต้องใช้ความคิดมากๆ แต่เพื่อนรวมงานดันไม่เข้าใจ ส่งเสียงอะไรกันก็ไม่รู้ดังหนวกหูไปหมด จะเดินไปบอกให้เงียบๆ ก็ดูจะไม่ซึบซับกันเสียเท่าไหร่… แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะเมื่อเราจัดการต้นตอของเสียงไม่ได้ เราจึงต้องจัดการตัวเองแทน เพราะฉะนั้นก็เชิญพบกับนวัตกรรมใหม่จากบริษัทออกแบบ Hochu-rayu กับสุดยอดหมวกกันน็อคที่สามารถตัดเสียงรอบข้างได้ และที่สำคัญคือมันนุ่มมากๆ !! เจ้าหมวกกันน็อคที่ว่านี้มีชื่อว่า HELMFON ซึ่งเป็นหมวกกันน็อคที่เกิดจากไอเดีย ของการมีสมาธิในช่วงเวลาแห่งการทำงานนั่นเอง ตัวหมวกนั้นจะมีขนาดที่ใหญ่พอสมควรแต่ก็ไม่ถึงกับเทอะทะ เพราะมันออกแบบมาให้ใส่ขณะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทำงานนั่นเอง ภายในหมวกก็จะสามารถปิดกั้นเสียงรวบกวนได้อย่างเต็มที่ และภายในก็จะมีการออกแบบให้นุ่มสบายเหมาะสำหรับการใส่นานๆ ภาพดีไซน์ฉบับ 0.1 ของหมวก หลังจากนี้มันอาจจะดียิ่งขึ้นก็เป็นได้นะ ดูดีๆ มันก็เท่ไม่อยอก เหมือนกันใส่เดินเท่ๆ คูลๆ ในออฟฟิศได้สบาย ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น มันยังเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะมากๆ สำหรับใช้เวลาคุยโทรศัพท์แล้วเราอยากจะตัดเสียงรอบข้างออกไป (จริงๆ แล้วสามารถสวมปุ๊บแล้วก็นอนปั๊บได้ด้วยนะ ฮร่าๆ) ใส่แล้วแอบหลับนี่ไม่มีใครรู้แน่นอน (เว้นแต่จะเผลอกรนออกมา) สุดท้ายเจ้าหมวกตัวนี้ยังเป็นตัวเบต้า หรือก็คือรุ่นทดลองอยู่ ฉะนั้นถ้าใครสนใจก็ตามติดผลงานของบริษัทหรืออัพเดตของเจ้าหมวกตัวนี้ไว้ให้ดีได้ที่ Hochu rayu. design bureau เลย อีกหน่อยอาจจะมีระบบทำความเย็นภายในหมวกก็เป็นได้นะ ที่มา designyoutrust
-
ภาพสุดท้ายของเด็กน้อยนักสู้ ดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับ ‘ลูคีเมีย’
Ali Farbrace คุณแม่ของเด็กชาย Daniel จากประเทศอังกฤษ ได้แชร์รูปภาพของเธอที่จูบบอกลาลูกชายที่ต้องจากไป หลังจากที่ต้องต่อสู้กับโรคลูคีเมียมาอย่างยากลำบาก ซึ่งเธอได้เล่าเรื่องทั้งหมดว่า ลูกชายของเธอได้ตัดสินใจเสียสละชีวิตตัวเอง เพื่อให้ครอบครัวไม่ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบากในการตัดสินใจปิดเครื่องช่วยชีวิต เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ผู้คนมากมายต่างพูดกับครอบครัวของ Daniel ว่าเสียใจกับการจากไปของลูกชายด้วย ด้าน Ali ผู้เป็นแม่และ Dan ผู้เป็นพ่อ ได้บอกว่าพวกเขาไม่ได้เสียใจอะไรเลย เพราะลูกชายของพวกเขาตั้งใจที่จะเสียสละตัวเองเหมือนดั่งนักรบที่กล้าหาญอยู่แล้ว เขาเสียสละตัวเองเพื่อให้เรารู้สึกไม่ลำบากใจ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันยากมากๆ ที่จะรู้สึกแบบนั้น เพราะพวกเราอยากให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ และไม่อยากให้เขาต้องรู้สึกทรมาน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังบอกอีกว่า พวกเขาจะไม่อภัยตัวเองมากๆ ถ้าพวกเขาต้องเป็นคนที่ต้องตัดสินใจปิดเครื่องช่วยชีวิตของลูกชาย เพราะภาพที่ต้องเป็นคนปิดเครื่องช่วยชีวิตลูกตัวเอง เป็นพ่อแม่คนไหนก็รับไม่ได้ทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงยกให้ลูกชายเป็นยอดนักสู้ในวินาทีสุดท้ายของชีวิต Daniel ต่อสู้กับโรคร้ายด้วยเครื่องช่วยชีวิตเป็นเวลากว่า 9 วัน จากนั้นเขาก็ได้จากไปอย่างสงบด้วยอายุ 21 เดือน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2017 ที่ Demelza Children’s Hospice ในเมือง Sittingbourne ประเทศอังกฤษ สุดท้ายพวกเขาก็ได้นำพาร่างของลูกชายกลับมาไว้ที่บ้านเป็นเวลา 9 วัน ซึ่งทั้ง…
-
ชาวบ้านทึ่ง แลนด์โรเวอร์ 4×4 โผล่มาจาก “หาดทราย” หลังจมหายไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อน
เล่นเอาชาวบ้านในละแวกนั้นถึงกับงงกันไปเป็นแถบ เมื่อจู่ๆ ก็มีชิ้นส่วนของรถยนตร์แลนด์โรเวอร์ปรากฎขึ้นมาบนชายหาด Gwithian ทางตะวันตกของประเทศอังกฤษ เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า ชาวบ้านในละแวกนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับวัตถุชิ้นส่วนรถยนต์ ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนชายหาดอย่างไม่น่าเชื่อ สภาพชิ้นส่วนที่ปรากฏขึ้นมาบนชายหาด เมื่อเจ้าหน้าที่สืบทราบก็ได้พบว่า วัตถุดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนจากรถแลนด์โรเวอร์ 4×4 ของนาย Ronnie Hanney ซึ่งวัตถุชิ้นนี้ถูกฝังไว้ใต้ชายหาดมานานกว่า 22 ปีแล้ว เจ้าของรถได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนและครอบครัวได้ซื้อรถคันนี้มาในช่วงปี 1990 จนวันหนึ่งพวกเขาได้ขับรถผ่านชายหาดแห่งนี้และล้อดันไปติดกับหลุมทรายเข้า ทว่าพวกเขาไม่สามารถนำรถขึ้นมาจากหลุมทรายได้ จนเมื่อระดับน้ำขึ้นสูงมาถึงรถ พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องทิ้งมันไว้ตรงนั้นอย่างน่าเสียดาย สภาพดั้งเดิมของรถก่อนที่จะถูกฝังไว้ใต้ชายหาด “เรายังจำได้อยู่เลยว่า วันนั้นเป็นวันที่เรารู้สึกว่ามันแย่มากที่สุดเลยก็ว่าได้ เราไปเที่ยวกันและล้อรถไปติดหลุมทราย เราเอารถขึ้นมาไม่ได้จนตอนเย็นน้ำทะเลก็ได้พัดทรายมาฝังรถเรา พออีกวันกลับไปดูก็เหลือแต่โครงแล้ว” เจ้าของเล่า ภาพเจ้าของรถกับสภาพแลนด์โรเวอร์ที่ทรายฝัง และตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปจัดการนำวัตถุดังกล่าวออกจากชายหาด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว แหม่… หายไปนานเป็นสิบๆ ปีเลยนะ ที่มา dailymail
-
เอาใจแฟนๆ มังงะ!! ฮอนด้าออกรถลายการ์ตูน เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี นิตยสารโชเน็นจัมป์
“Itasha” คือคำเรียกแนวการแต่งรถชนิดหนึ่งของชาวญี่ปุ่น โดยแนวการแต่งรถที่ว่าจะเป็นการนำลวดลายจากอนิเมต่างๆ มาตกแต่งรอบตัวรถเต็มไปหมด ซึ่งถือเป็นหนึ่งรสนิยมที่คนญี่ปุ่นชอบมากๆ แต่สำหรับคนนอกหรือบ้านเราอาจจะดูแปลกตาสักหน่อย ที่สำคัญการแต่งรถแบบ Itasha นั้น ปกติแล้วจะเกิดจากการแต่งตามความต้องการของเจ้าของรถในภายหลัง ทว่าล่าสุด การแต่งรถแนวนี้ก็ได้ถูกทำขึ้นโดยเจ้าของแบรด์กันเสียที ซึ่ง Honda ถือเป็นผู้ริเริ่มในครั้งนี้ด้วย ตัวอย่างของรถแนว Itasha Honda ได้ร่วมมือกับทางนิตยสารโชเน็นจัมป์ เปิดตัวรถรุ่นใหม่ Honda Fit ที่มาพร้อมกับลวดลายตัวการ์ตูนดังจากนิตยสารดังกล่าว ซึ่งก็จะมีอายุครบ 50 ปี ในปีหน้าที่จะถึงนี้แล้ว!! (โชเน็นจัมป์เป็นนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ที่เป็นต้นกำเนิดของการ์ตูนดังอย่าง Dragon Ball , One Piece และ Naruto เป็นต้น) และนี่ก็คือโฉมหน้าของรถ Honda Fit ในลวดลายของโชเน็นจัมป์ ด้านข้างก็จะมีการ์ตูนขึ้นหิ้งหลายเรื่องเลยล่ะ ทั้งกินทามะ โจโจ้ ฮิคารุ หรือคินนิคุแมนก็มากับเขาด้วย เรือเธาซันด์ ซันนี่ก็มีนะเออ ด้านหลังรถก็จะเป็นลูฟี่กับนารูโตะ ซึ่งเป็นสองตัวละครยอดฮิตตลอดกาล …
-
ใจร้อนเป็นเหตุ!! มอเตอร์ไซค์ “ถีบรถเก๋ง” เจอเก๋งเบียดคืน กลายเป็นอุบัติเหตุชนกันระนาว
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการอัพเดทคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันระหว่างรถจักรยานยนต์คันหนึ่งกับรถยนต์ บนทางด่วนสายหนึ่งในลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุตามมาอีกมากมาย วิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกจากล้องหน้ารถคันหนึ่งในเช้าวันพุทธที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเริ่มต้นจากการถกเถียงกันระหว่างรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวและรถเก๋งคู่กรณี ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเริ่มถีบที่รถเก๋งและรถคันดังกล่าวก็หักเข้าชนกับที่กันขอบถนน จากนั้นจึงพุ่งข้ามไปชนรถที่อยู่อีกฝั่ง ภาพจังหวะที่รถเก๋งคันดังกล่าวหักเข้าขนกับแผงกันขอบถนน ไปชมภาพเหตุการณ์เต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวคนขับจักรยานยนต์ได้ขับรถหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ เหลือเพียงแค่รถเก๋งคู่กรณีและรถกระบะสีขาวที่ถูกชนเท่านั้น ขณะนี้ตำรวจกำลังสืบสวนถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ต่างๆ และตอนนี้คนขับรถยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อื่ม… ทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะเนี่ย มีอะไรค่อยๆ พูดค่อยจากันก็ได้พ่อคู๊ณณ ที่มา ladbible
-
พนักงานซื้อเค้กให้ตำรวจ คู่รักข้างหลังอยากได้บ้าง แต่พอไม่ได้ ก็เลยโวยวายซะลั่นร้าน
การทำดีเป็นสิ่งที่เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะการทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพราะสุดท้ายสิ่งดีๆ จะเข้ามาหาคุณเอง แต่ดูเหมือนจะไม่เสมอไปนะ… Zack Randolph วัย 18 ปี ทำงานอยู่ที่ร้านขายคุกกี้ในห้าง Katy Mills Mall รัฐเท็กซัส แล้วก็มีตำรวจคนหนึ่งที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในห้าง เดินมาสั่งขนมเค้กเนยแข็ง เมื่อเห็นว่าเป็นตำรวจ Zack จึงตัดสินใจควักเงินตัวเองซื้อบราวนี่ราคา 90 บาทให้ เพื่อแสดงความขอบคุณที่เขาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ตำรวจคนนั้นจึงได้ขอบคุณเขาก่อนจะเดินไปทำงานของตัวเองต่อ… หลังจากนั้นดูเหมือนชายหนุ่มจะเจอปัญหาเข้าแล้ว เมื่อคู่รักที่ต่อแถวอยู่หลังตำรวจเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และพวกเขาก็อยากได้ขนมหวานฟรีจาก Zack ด้วย แต่ชายหนุ่มได้บอกพวกเขาไม่สามารถซื้อให้ได้ ทำให้คู่รักโกรธมากและด่าทอเขาอย่างเสียๆ หายๆ แม้ชายหนุ่มจะอธิบายว่าทำไมพวกเขาก็ไม่ยอมฟัง ไม่เพียงเท่านั้นคู่รักยังดูถูก Zack และข่มขู่ด้วยคำพูดสารพัด จนชายหนุ่มต้องรีบวิ่งไปอยู่ห้องหลังร้าน เพื่อยุติสถานการณ์ ชายหนุ่มบอกว่าเขาแค่ต้องการตอบแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยดูประชาชน และไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ แถมยังทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าคนอื่นๆ ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ วันต่อมา Zack บอกว่าทางร้านสั่งให้เขาหยุดทำงานเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยจะไม่ได้รับค่าจ้างในเวลานี้ด้วย!? เรื่องนี้ทำให้ Tami แม่ของชายหนุ่มโกรธมาก เธอจึงโพสต์เรื่องราวของลูกชายลงในเฟซบุ๊ก เพราะคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับลูกชายที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ทั้งๆ…
-
หญิงสาวเดินทางไปถ่ายรูปใน “สถานที่เดิม” ที่ถ่ายเมื่อ 30 ปีก่อน บรรยากาศที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง
เวลาเราจากที่ไหนไปนานๆ แล้วกลับมาอีกครั้งจะเห็นว่าอะไรๆ ก็ไม่เดิม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือผู้คน แต่ในความเปลี่ยนแปลงนั้นก็ยังมีเค้าเดิมให้เราจำอยู่บ้าง เหมือนกับเธอคนนี้ที่ได้ออกเดินทางทั่วยุโรป และตามหาสถานที่เดิมๆ ที่เธอเคยถ่ายรูปไว้เมื่อ 30 ปี ก่อน เพื่อดูว่าแต่ละสถานที่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง 1. Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส 2. Heidelberg ประเทศเยอรมนี 3. Cologne ประเทศเยอรมนี 4. Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส 5. Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส 6. Heidelberg ประเทศเยอรมนี 7. Strasbourg ประเทศฝรั่งเศส 8. Mainz ประเทศเยอรมนี 9. Mainz ประเทศเยอรมนี แล้วเพื่อนๆ ล่ะ เคยอยากกลับไปถ่ายรูปสถานที่ในวัยเด็กมั้ย? ที่มา boredpanda
-
นักวิจัยเผยสถิติ “ประเทศที่ขี้เกียจที่สุดในโลก” โดยวัดจากจำนวนการก้าวเดินในแต่ละวัน
ความขี้เกียจมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน โดยไม่แบ่งแยกว่าจะเป็นคนที่ไหนหรือเชื้อชาติไหน แต่หากคุณกำลังสงสัยว่าประเทศไหนที่ขี้เกียจที่สุดในโลก วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว นี่เป็นข้อมูลจากผู้ใช้แอปพลิเคชั่น Argus ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามกิจกรรมประจำวันของบุคคล โดยสำหรับครั้งนี้มีกลุ่มตัวอย่างกว่า 700,000 คน จากข้อมูลดังกล่าวพบว่าชาวฮ่องกงเป็นคนที่พอดีที่สุด โดยวัดจากการเดินเฉลี่ยวัน 6,880 ก้าว เทียบเท่ากับระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรครึ่ง ในขณะที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford University พบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซียดูเหมือนจะเป็นคนที่ขี้เกียจที่สุด เพราะมีการเดินเฉลี่ยเพียง 3,513 ก้าวเท่านั้น เมื่อนำประเทศต่างๆ มาเปรียบเทียบพบว่า ชาวอังกฤษจะเดินเฉลี่ยวันละ 5,444 ก้าว หรือ 5 กิโลเมตร ในขณะที่สหรัฐฯ เดินเฉลี่ย 4,774 ก้าว ทั้งนี้โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนทั้งโลกจะเดินประมาณวันละ 4,961 ก้าว หรือ 4 กิโลเมตร ตามผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature แต่หลายๆ ประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ กลับพบว่ามีการเดินเฉลี่ยที่ต่ำกว่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบอกว่าอาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น ลักษณะกิจกรรมที่แตกต่างกัน และนี่คือ 33…
-
คุณลุงทุ่มสุดตัว ใช้เวลากว่า 20 ปี เปลี่ยนสวนหลังบ้านของตัวเอง ให้เป็นป่าฝนอันชุ่มฉ่ำ!!
ทุกวันนี้คนเราพึ่งพาแต่เทคโนโลยี โหยหาแต่ความสะดวกสบายท่ามกลางตึกรามบ้านช่อง และยิ่งมีความเจริญมากเท่าไหร่ มนุษย์ก็ยิ่งห่างไกลจากธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น… ด้วยเหตุนี้ Nick Wilson วัย 61 ปี จึงได้ทุ่มเงินกว่า 650,000 บาท และใช้เวลาอีกกว่า 20 ปี ในการเนรมิตสวนหลังบ้านให้กลายเป็นป่าฝนได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!! Nick ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงสวนหลังบ้านของตัวเอง หลังจากที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการได้ไปเห็นพืชพรรณไม้ใหญ่ในช่วงวันหยุดกับครอบครัวที่มณฑล Cornwall ของช่วงปี 1990 เขาได้เริ่มสร้างป่าหลังบ้านขึ้นในปี 1998 โดยต้องใช้เวลาสร้างถึง 20 ปี รวมทั้งการหาข้อมูลและหาต้นไม้ที่ต้องการ ก่อนจะเปิดให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัสเมื่อหกปีก่อนในชื่อ Jungle Garden Nick และภรรยาเป็นคนรักธรรมชาติมาก ดังนั้นเมื่อเขาตัดสินใจเริ่มสร้างป่าแห่งนี้ ภรรยาก็จะอยู่เคียงข้างคอยสนับสนุนและช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ แม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการทำสวนนี้เป็นจำนวนมาก แต่เงินทั้งหมดที่เสียไปนั้น ก็น้อยกว่าที่ทั้งคู่คิดเอาไว้ในตอนแรก พืชชนิดแรกที่เขานำมาปลูกคือ Gunnera Manicata หรือที่เรียกกันว่า Chilean rhubarb ที่สามารถเติบโตได้สูงถึง 4 เมตร และจะมีใบกว้างได้มากถึง 3…
-
เด็กหนุ่มวัย 14 ปี ผู้หลงใหลในการวาดรูป กับฝีมือขั้นเทพ จนกลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว
เส้นทางสู่การเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จนั้นต้องอาศัยทั้งพรสวรรค์ ความสามารถ การฝึกฝนเรียนรู้ และต้องใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง หลายคนอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตในขณะที่บางคนกลับประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เหมือนกับ Kieron Williamson วัย 14 ปีผู้นี้ Kieron เป็นคนที่รักการวาดรูปตั้งแต่เด็กๆ และได้ขายงานชิ้นแรกในราคา 500,000 บาท ในขณะที่มีอายุเพียงแค่ 6 ขวบเท่านั้น โดยได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่อย่างเต็มที่ ด้วยพรสวรรค์และการฝึกฝนเหล่านี้ ทำให้เด็กชายสามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ในวัยเพียง 8 ขวบเท่านั้น โดยมีพ่อแม่และน้องสาวอาศัยอยู่ด้วยกัน ปัจจุบันเขาอายุ 14 ปี แน่นอนว่าฝีมือการวาดภาพของเขาก็พัฒนาขึ้นด้วย จนทำให้ผลงานของเขามีมูลค่าสูงถึง 2,400,000 บาท เรียกได้ว่ากลายเป็นเศรษฐีอายุน้อยไปแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเขาจะสามารถขายงานได้มูลค่ามหาศาล Kieron บอกว่าเขาจะไม่วาดรูปเพื่อแลกกับเงิน แต่เขาจะวาดรูปเมื่อต้องการวาดเท่านั้น เพราะเขาเป็นคนที่รักการวาดรูปจริงๆ โดยที่เจ้าตัวได้กล่าวเอาไว้ว่า “ถ้าใจผมไม่อยู่กับการวาดรูป ผมก็จะวาดไม่ได้ครับ” ตอนนี้เด็กชายก็เตรียมจัดนิทรรศการศิลปะที่เป็นผลงานของตัวเองอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าเขากลายเป็นที่จับตามองจากสื่อต่างๆ ไม่น้อยเลย เพราะมันไม่ง่ายเลยกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ การเป็นเศรษฐีตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ Kieron ต้องมีที่ปรึกษาในด้านต่างๆ คือนอกจากพ่อแม่แล้ว เขายังต้องมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อคอยให้คำแนะนำในเรื่องการทำธุรกิจจากงานของเขา รวมทั้งวิธีการจัดการเงินจำนวนมหาศาล…
-
สนามบิน JFK ถึงกับดีเลย์กันจนวุ่น เพราะมี ‘เต่า’ ออกมาเฉิดฉายบนรันเวย์ เพื่อหาที่วางไข่…!!
ไม่น่าเชื่อนะว่าเจ้าเต่าน้อยสี่ขาที่เดินต้วมเตี้ยมเนี่ย เมื่อถึงฤดูวางไข่พวกมันสามารถทำให้ไฟลท์บินดีเลย์กันจนวุ่นวายไปทั้งสนามบินได้เลย เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม 2017 โดยไฟลท์บินเกือบทั้งหมด ในสนามบินนานาชาติ John F. Kennedy ถึงกับต้องประกาศดีเลย์ หลังมีเต่ากว่า 40 ชีวิตออกเดินทางเพื่อตามหาที่วางไข่ตามฤดูกาล เต่าน้อยที่เดินทางไกลมาจากอ่าว Jamaica Bay ตามช่วงฤดูวางไข่ในเดือนมิถุนายน – กลางเดือนกรกฎาคม ของทุกปี แม้ว่าหลายเที่ยวบินจะต้องดีเลย์ออกไปเกือบชั่วโมง ทว่าหลังมีการประกาศสาเหตุที่เครื่องดีเลย์ ผู้โดยสารส่วนใหญ่ต่างยอมรับได้ที่จะให้เวลาพวกเต่าน้อยได้หาบ้านเพื่อทำรังวางไข่ Cheryl Albiez โฆษกการท่าสนามบินได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องนี้ผ่าน New York Daily News ว่า “ทางเรามีเหตุจำเป็นที่จะต้องดีเลย์ไฟลท์บินในช่วงเวลา 16.45 นาฬิกา เนื่องจากมีเต่ากว่า 40 ชีวิตเดินทางผ่านรันเวย์ของเราเพื่อไปวางไข่” งานนี้ผู้โดยสารบางคนถึงกับรู้สึกเซ็งไปเลยก็มี ในขณะที่อีกหลายๆ คน มองว่ามันเป็นเรื่องตลกที่ดูน่ารักไปอีกแบบ ที่ไฟลท์บินต้องดีเลย์เพราะเต่าน้อย โดยทางสนามบินได้ติดต่อขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์ป่า…
-
จีนผุด “ธุรกิจแชร์ร่ม” สุดเจ๋ง แต่พอทำจริงดันเจ๊งไม่เป็นท่า มีแต่คนยืมแต่ไม่ยอมมาคืน!!?
ถ้าให้พูดถึงบริษัทสตาร์ทอัพสุดเจ๋งในยุคนี้ ธุรกิจการแชร์ของหรือบริการต่างๆ จากศูนย์ให้บริการ ถือเป็นธุรกิจที่ฮอตฮิตมากๆ พอสมควรเลยทีเดียว เช่นเดียวกับในจีนที่ก่อนหน้าธุรกิจแชร์จักรยานก็ทำเงินได้ดีสุดๆ เลยทีเดียวล่ะ… (แต่บางส่วนก็เจ๊งไปแล้วนะ) ทว่าเมื่อเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่เริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะต่อยอดแนวธุรกิจที่ว่านี้ หลังจากที่ธุรกิจแชร์จักรยานของคนอื่นมันดังเปรี้ยงปร้างไปแล้ว ซึ่งเขาก็เลยเกิดไอเดียใหม่ขึ้นมาผ่านการมองเห็นว่าชีวิตชาวเมืองมักจะไม่มีร่มใช้ในยามที่ฝนตก ร่มจึงกลายเป็นเป้าหมายใหม่นั่นเอง Zhao Shuping ผู้คิดค้นริเริ่มก่อตั้งไอเดียดังกล่าว ก็เลยจัดการลงทุนเงินมากกว่า 50 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อร่มจำนวนมากมาไว้ให้บริการยืมตามหัวเมืองต่างๆ ถึง 11 เมือง วิธีการใช้นั้นก็ง่ายมากเพียงแค่จ่ายเงิน 90 บาท ต่อการยืมหนึ่งครั้ง และคิดเงินราวๆ 2 บาทต่อชั่วโมงเท่านั้น!! ถูกไปเลยใช่ไหมล่ะ ส่วนวิธีการคิดเงินก็แค่สแกน QR โค๊ดเพื่อจ่ายเงิน จากนั้นก็รับรหัสปลดล็อคร่มมา เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว ทว่าเมื่อบริการแชร์ร่มเปิดตัวได้ไม่นาน ปัญหาอันใหญ่หลวงก็ตามมาอย่างรวดเร็ว ปัญหาที่ว่านั้นก็คือร่มหาย!!? ใช่แล้วอ่านไม่ผิดหรอก เพราะเมื่อคนนำร่มไปใช้แล้วผู้คนส่วนใหญ่ก็จะไม่นำร่มกลับมาคืน ซึ่งจากสถิติของบริษัทก็พบว่า เพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ร่มที่ให้บริการทั้ง 11 เมืองได้หายรวมกันกว่า 300,000 คันแล้ว!!? ทางด้านนาย Zhao ก็บอกว่า…
-
ชาวเน็ตฮือฮา เมื่อนักชกชื่อดัง McGregor ใส่สูทแสนสุภาพ แต่แฝงไปด้วยคำว่า ‘F*ck You’
สำหรับใครที่ติดตามข่าวคราววงการมวยโลก คงจะทราบดีเกี่ยวกับแมตช์นัดชกของ Cornor McGregor แชมป์มวย UFC ปะทะกับ Floyd Mayweather นักชกมวยสากลชื่อดัง ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ Cornor McGregor สร้างชื่อเสียงจนโด่งดังไปทั่วโลกจากการเป็นแชมป์มวย UFC รุ่น Lightweight และรุ่น Featherweight ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวลืออย่างหนาหู เกี่ยวกับการท้าชกกันของสองนักมวยชื่อดัง เพราะคู่ปรับของ McGregor ในครั้งนี้ก็ไม่ใช่นักมวยหน้าใหม่ที่ไหน แต่เขาคือ Floyd Mayweather ยอดนักมวยสากลชาวอเมริกันเจ้าของแชมป์โลก 5 สมัย และมีสถิติไม่เคยแพ้หรือเสมอแม้แต่นัดเดียว ทว่าสำหรับฝั่ง McGregor นั้น นอกจากจะมีชื่อเสียงด้านการต่อยมวยในกรงแปดเหลี่ยมแล้ว เขายังมีชื่อเสียงโด่งดังมาจากฝีปากของตัวเองด้วยเช่นกัน และที่งานโปรโมตก่อนขึ้นชก McGregor ก็ได้ทำให้โลกรู้จักกับการด่ารูปแบบใหม่ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ดูเผินๆ เสื้อสูทของเจ้าตัวอาจจะดูเรียบง่ายไม่มีอะไร แต่ที่ไหนได้… เมื่อซูมเข้าไปถึงได้รู้ความจริง ซูมดูเข้าไปชัดๆ เห็นรึยังล่ะว่าพี่แกร้ายกาจขนาดไหน ถ้าไม่สังเกตนี้ไม่รู้เลยนะเนี่ย…
-
สาวสูญเสียอวัยวะสำคัญ 4 อย่าง เพื่อต่อสู้กับแบคทีเรียร้าย อันก่อให้เกิด ‘ไข้กาฬหลังแอ่น’
Sarah Joyce สาววัย 30 ปี จากนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เรื่องราวของเธอได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยทั่วโลกลุกขึ้นมาต่อสู้กับโรคร้ายที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ “คืนวันหนึ่งฉันมีไข้ตัวร้อน และก็คิดว่าตัวเองคงป่วยเป็นไข้ปกติทั่วไป แต่อาการกลับแย่ลงเรื่อยๆ จนฉันไปถึงมือหมอถึงได้พบว่าชีวิตตัวเองต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากนั้น…” Sarah กล่าว Sarah Joyce ในช่วงที่เธอยังสุขภาพแข็งแรง แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรค ‘ไข้กาฬหลังแอ่น’ ซึ่งหลังจากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เธอเคยเป็นผู้หญิงวัยทำงาน เธอต้องเปลี่ยนมาเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดรักษาอาการป่วยของตัวเองแทน จากอาการป่วยติดเชื้อขั้นรุนแรง ทำให้คุณหมอต้องผ่าตัดนำ ถุงน้ำดี, ไต 2 ข้าง และลำไส้กว่า 80% ของเธอออกไป “ทุกวันนี้ฉันไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายให้คล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน หลังการผ่าตัดครั้งใหญ่ฉันต้องตื่นมาพบว่าตัวเองต้องอาศัยอยู่ด้วยท่อออกซิเจน แต่ยังไงฉันก็จะขอสู้ต่อไป..” ช่วงที่อาการเธอทรุดหนัก คนรอบตัวเธอต่างรู้สึกหมดหวัง และไม่มั่นใจว่าเธอจะทำได้ จากการผ่าตัดเพื่อต่อสู้กับเชื้อร้ายหลายครั้ง ทำให้เธอต้องเข้ารับการกายภาพบำบัดใหม่ทั้งหมด “อันที่จริงแล้วอายุฉันหยุดไว้แค่อายุ 30 ปี 1 วันเท่านั้นแหละ เพราะที่เหลือจากนั้นฉันไม่ได้ใช้ชีวิตเลย แต่กำลังต่อสู้เพื่อกลับมาใช้ชีวิตต่างหากล่ะ” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้ม สุดท้ายเธอฝากเอาไว้ว่า…
-
โหดสึสรัสเซีย หนุ่มพาจระเข้มาเดินเล่นริมหาด ไปๆมาๆ… โดนตำรวจจับเลยจ้า!!
พ่อหนุ่มรัสเซียคนนี้จะมาประกาศให้ชาวโลกได้รู้ว่า เลี้ยงหมาแมวมันเอาท์ไปแล้วนะน้อง เพราะถ้าอยากเฟี้ยวแบบพี่.. ต้องเลี้ยงจระเข้ เล่นเอาชาวบ้านชาวเมืองพ่อแก่แม่หม้ายรวมไปถึงสาวเล็กหนุ่มใหญ่ ถึงกับงงเหมือนโดนสตั๊นท์กันเลยทีเดียว เมื่อมีหนุ่มรัสเซียคนหนึ่งเอาจระเข้ออกมาเดินเล่นริมชายหาดสบายใจเฉิบ แบบนี้ก็มีด้วยเร๊อะ!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ชายหาดแห่งหนึ่งในเมือง Anapa ประเทศรัสเซีย ภาพจากคลิปวิดีโอที่มีชาวบ้านในละแวกนั้นถ่ายมาได้ เผยให้เห็นภาพของหนุ่มนิรนามคนหนึ่ง นำจระเข้ไม่ทราบชื่อมาเดินเล่นริมหาด พร้อมกับใช้สายจูงราวกับว่านี้เป็นน้องหมาน่ารักมุ้งมิ้งยังไงยังงั้น เรียกได้ว่าชาวเมืองต่างให้ความสนใจกันอย่างสนุกสนาน เด็กๆ เดินเข้ามาลูบหัวจระเข้เหมือนกับลูบหัวแมวน้อยไม่มีผิด ทว่าหลังจากที่คลิปวิดีโอกลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วรัสเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จับกุมตัวชายเจ้าของจระเข้ทันที เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนเพิ่มเติมก็พบว่า พ่อหนุ่มคนนี้เลี้ยงจระเข้ไว้ในตู้อควาเรียมขนาดเล็ก โดยจุดประสงค์ก็เพื่อฝึกให้มันเชื่องและนำไปแสดงตัวหวังเรียกเงินบริจาคจากคนดู ไม่มีการเปิดเผยว่าพ่อหนุ่มต้องโทษกี่ปี แต่มีการรายงานว่าจระเข้ตัวนี้ได้ย้ายไปอยู่ในการดูแลของสวนสัตว์แห่งหนึ่งในรัสเซียแล้ว คลิปวิดีโอที่กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลก ที่น่าสงสารที่สุดก็คงเป็นจระเข้สินะ ช่างไม่แฟร์กับมันเอาซะเลย… ที่มา: Metro
-
14 สิ่งที่คนส่วนใหญ่มักจะทำ ‘เวลาอยู่บ้านคนเดียว’ แล้วคุณล่ะ ทำแบบนี้บ้างรึเปล่า?
พูดถึงเรื่องของการอยู่อาศัย อย่างน้อยๆ ก็ต้องอยู่บ้านกับพ่อแม่ หรือไม่ก็เพื่อนร่วมห้อง เพราะฉะนั้นแล้วการจะทำอะไรบางอย่างก็มักจะต้องรู้สึกเกรงใจผู้ที่อาศัยร่วมอยู่ด้วย จะไปทำอะไรโฉ่งฉ่างมากก็ไม่ค่อยจะดีเสียเท่าไหร่นัก แล้วถ้าหากว่ามีช่วงเวลาที่ได้อยู่บ้านคนเดียวแล้ว เพื่อนๆ ชอบทำอะไรกันบ้าง? แน่นอนว่ามันคือช่วงเวลาที่คุณสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง มันคือช่วงเวลาแห่งอิสระที่น้อยครั้งจะได้สัมผัส ฮร่าาา และนี่คือ 14 สิ่งที่ผู้คนมักจะทำเวลาอยู่บ้านคนเดียว โดยการจัดอันดับจากเว็บไซต์ Metro ลองมาเช็คดูกันซิว่าคุณเป็นแบบนี้บ้างมั้ย? 1. อาบน้ำนานๆ เพราะไม่มีใครมารอต่อคิวอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำใดๆ ดังนั้นคุณจึงสามารถอาบน้ำนานเท่าที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลย 2. แก้ผ้าล่อนจ้อน เวลาอยู่ในบ้านคนเดียว คุณสามารถแก้ผ้าแล้วเดินรอบบ้านได้โดยไม่มีใครว่า แล้วก็ไม่ต้องระแวงว่าใครจะเห็นด้วย 3. เข้าห้องน้ำโดยไม่ต้องปิดประตู เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวได้แบบลั๊ลลาโดยไม่ต้องปิดประตู อะไรจะสบายปานน้านนนน 4. ดูอะไรก็ได้ตามใจอยาก ใครที่ไม่กล้าดูหนังโป๊หรืออะไรที่มันน่าอาย ช่วงเวลานี้แหละที่คุณจะได้ปลดปล่อย อยากดูอะไรก็ดูเต็มที่เลย ไม่มีใครรู้หรอก (แต่อย่าไปเปิดเสียงดังจนข้างบ้านได้ยินล่ะ) 5. แหกปากร้องเพลงและเต้นไปด้วย คุณสามารถเต้นและร้องเพลงได้อย่างบ้าคลั่ง ทำอาหารไปร้องเพลงไป แม้เสียงจะเพี้ยนก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครได้ยิน 6. ดูทีวี/ภาพยนตร์ โดยไม่ถูกขัดจังหวะ อย่างในช่วงเวลาที่กำลังดูบอล หรือกำลังดูภาพยนตร์ในช่วงวินาทีที่สำคัญ ก็จะไม่มีใครมาคอยพูดคอยบ่นให้เสียอรรถรสอีกต่อไป…
-
พ่อแม่สูญเสียลูกชายสองคน สองปีต่อมาคลอดลูกแฝด ราวกับว่าพวกเขากลับมาอีกครั้ง…
ชีวิตของลูกไม่ใช่สิ่งของที่จะหามาทดแทนได้ แต่สำหรับพ่อแม่คู่นี้ที่เคยสูญเสียลูกสองคนไปพร้อมกัน ได้รับการเติมเต็มอีกครั้งเมื่อพวกเขาคลอดลูกแฝดในอีกสองปีต่อมา… Gentry และ Hadley Eddings คู่รักจากรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้กำเนิดลูกชายฝาแฝด Isaiah Dobbs และ Amos Reed เมื่อวันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม 2017 โดยก่อนหน้านั้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2015 พวกเขาเคยสูญเสียลูกสองคนในอุบัติเหตุทางรถยนต์ ใกล้กับเมือง Wilmington รัฐนอร์ทแคโรไลนา ตอนที่เกิดอุบัติเหตุนั้น มีลูกชายนั่งอยู่ในรถคนหนึ่ง ส่วนอีกคนอยู่ในครรภ์ของ Hadley ได้ 8 เดือนแล้ว คุณหมอจึงทำการผ่าคลอดฉุกเฉินให้ แต่ในที่สุดแล้วเขาก็ได้เสียชีวิตในสองวันต่อมา ส่วนคู่กรณีคือ Matthew Blair Deans ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน เนื่องจากเป็นอุบัติที่เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจ และได้ออกจากคุกแล้วเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ลูกน้อยที่จากไปหลังผ่าคลอดได้สองวัน หลังจากที่คู่กรณีได้มาขอโทษ ทั้ง Gentry และ Hadley ก็พร้อมที่จะอภัยให้…
-
แม่อยู่ในภาวะสมองตาย ต้องดิ้นรนต่อชีวิตไปอีก 123 วัน เพื่อให้กำเนิดลูกแฝดอย่างปลอดภัย
ขึ้นชื่อของความเป็นแม่แล้ว ไม่มีอะไรที่ทำให้ลูกไม่ได้ แม้ว่าตัวเองต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนก็ขอให้ลูกได้มีความสุข… เหมือนกับคุณแม่ที่อยู่ในภาวะสมองตายท่านนี้ ที่พยายามยื้อชีวิตเพื่อให้คลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัย นี่เป็นเรื่องราวของ Frankielen da Silva Zampoli Padilha คุณแม่วัย 21 ปี ที่กำลังตั้งท้องลูกแฝด แต่กลับตรวจพบว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองในขณะที่ตั้งท้องได้ 9 สัปดาห์ จนกระทั่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ Muriel Padilha สามีวัย 24 ออกไปทำงานนอกบ้านแล้ว Frankielen โทรหาให้เขากลับมาหาเป็นการด่วน สามีเล่าว่า “เธอโทรมาบอกว่าปวดหัวมาก แล้วก็ปวดลามไปที่คอจนรู้สึกเหมือนกำลังจะตายแล้ว” หลังจากวางสายเขาจึงรีบกลับไปหาเธอที่บ้านทันที เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบภรรยานอนสั่น ร้องไห้ เวียนหัว และอาเจียน เธออยู่ในอาการที่ทรมานมากๆ เขาจึงรีบขับรถไปส่งเธอที่โรงพยาบาล และระหว่างทางไปนั้น Frankielen พูดกับสามีว่า “ฉันอยากให้คุณเตรียมใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะฉันอาจต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลและไม่ได้กลับบ้านแล้ว” หลังจากพูดจบได้สักพัก ภรรยาก็เสียชีวิตลง นั่นจึงเป็นคำพูดสุดท้ายและช่วงเวลาสุดท้ายที่เขาได้อยู่กับเธอขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์บอกว่า Frankielen มีเลือดออกในสมอง หลอดเลือดดำระเบิดและกว่าจะถึงมือหมอก็พบว่ามีเลือดออกในสมองของเธออย่างรุนแรงแล้ว หลังจากที่ทำการรักษานาน 3 วัน คุณหมอก็มาแจ้งว่าสมองของ Frankielen…
-
ตำรวจเปิดประตูรถอัดใส่ขโมย จนนอนล้มไปกองกับพื้น… ชาวเน็ตสงสัย ต้องทำขนาดนี้เลย?
หน้าที่ของตำรวจคือจับโจร แต่วิธีการจับโจรนั้นก็มีหลากวิธีซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย แต่กรณีนี้เมื่อตำรวจไล่จับโจรด้วยการเปิดประตูรถใส่จนทำให้โจรล้มลงไปนอนกับพื้น ทั้งๆ ที่ก็มีวิธีการจัดการอีกหลากหลายทาง? Jake Nedd วัย 31 ปี ได่ก่อเหตุขโมยของจากรถ Range Rover สีดำที่จอดอยู่ข้างทางบนถนน Dawes ทางตะวันตกของลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพการกระทำดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด ในวิดีโอคลิปจะเห็นคนร้ายเดินเข้าไปดุ้มๆ มองๆ ตรงกระจกรถก่อนจะมาเปิดท้ายรถแล้วก็พยายามขโมยข้าวของ อีกทั้งยังไปขโมยของที่อยู่ในทางด้านหน้ารถด้วย เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลากลางวันแสกๆ เลย พอขโมยของสมใจเขาก็ปั่นจักรยานเพื่อหลบหนี แต่ยังไม่ทันไรตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุซะก่อน ทำให้ Nedd พยายามปั่นหนีไปอีกทาง แต่ก็ถูกตำตรวจตามขนาบข้าง ในจังหวะนั้นเอง ตำรวจก็เปิดประตูรถใส่คนร้ายจนทำให้เข้าล้มลงไป ตำรวจจึงลงไปรวบตัวทันที… ซึ่งภายในเวลาต่อมาศาลก็ตัดสินให้ Nedd จำคุกเป็นระยะเวลา 7 เดือน แต่ดูเหมือนเรื่องจะไม่จบแค่นั้น เมื่อ Berns หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่จับคนร้ายออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “คนร้ายในคลิปพยายามจะหลบหนี แต่ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่อีกคนที่ขับรถรถเก่งมาก จนทำให้ผมจับคนร้ายได้” หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตที่ไม่เห็นด้วย โดยโต้กลับว่า “มันไม่เกินไปหน่อยหรอ ทำแบบนี้อาจทำให้เขาตายได้เลยนะถ้าเกิดหัวกระแทกพื้นขึ้นมา” ขณะเดียวกัน Sebastian Swire ก็ออกมาเขียนว่า “มันเหมาะสมแล้วหรอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาอวดผลงานผ่านสื่อออนไลน์แบบนี้?” อย่างไรก็ตาม งานนี้มีชาวเน็ตไม่น้อยที่ออกมาปกป้องเจ้าหน้าที่ Berns…
-
ดราม่าหนัก!! ลูกค้าสาวโดนโฮสต์ Airbnb ผลักตกบันไดเกือบเสียชีวิต เพราะเช็คเอาท์ช้า
หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักคำว่า ‘Airbnb’ เราจะอธิบายแบบหยาบๆ ให้ละกันว่า.. มันคือแอป ที่ถูกออกแบบให้ทุกคนสามารถเป็นผู้ให้เช่าที่พักค้างคืนเพื่อตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยว โดยราคาต่างๆ จะขึ้นอยู่กับข้อตกลงของที่นั้นๆ ได้อย่างเสรี หรือจะจองห้องพักก็ใช้แอปนี้ได้ ทว่าล่าสุดก็กลายเป็นประเด็นดราม่า เมื่อคลิปวิดีโอของนักท่องเที่ยวสาวคนหนึ่งถูกแชร์ต่อจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก เผยให้เห็นภาพของผู้ให้เช่า Airbnb ผลักนักท่องเที่ยวสาวตกบันไดจนเกือบเสียชีวิต!! ก่อนอื่นก็ไปชมคลิปในเหตุการณ์กันก่อนเลย… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ Steve Nkumb เล่าว่า เธอและเพื่อนอีก 3 คนเดินทางมาจากประเทศแอฟริกาใต้ เพื่อมาเที่ยวชมนิทรรศการงานศิลปะที่เมืองนี้ โดยเธอและเพื่อนๆ ได้ติดต่อเช่าห้องพักแห่งนี้ผ่านแอป Airbnb ทว่าเธอเช็คเอาท์ออกจากห้องพักช้าไปเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมง (ตามเวลาที่กำหนดในสัญญา) และเกิดปากเสียงกับเจ้าของห้องพักจนเกิดเป็นเหตุการณ์นี้ขึ้น NL Times ได้รายงานว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินทางไปสอบปากคำทั้งสองฝ่ายทันที ทางฝั่งของผู้เสียหายให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันเชื่อว่าการกระทำที่เกิดขึ้นมีเจตนาของการเหยียดเชื้อชาติ หรือสีผิวแฝงอยู่ และเป็นการทำร้ายร่างกายกันโดยเจตนาอย่างเห็นได้ชัด” David King ผู้ก่อตั้ง Airbnb ได้ออกมาชี้แจงว่า “พฤติกรรมจากผู้ให้เช่าที่กลายเป็นข่าว ถือว่าเป็นเรื่องที่รุนแรงเกินกว่าจะรับได้ และทางบริษัทเราจะทำการลงโทษรวมทั้งเพิ่มมาตรการความเข้มงวดในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน” ทั้งนี้ทั้งนั้นชาวเน็ตหลายคนได้ออกมาแย้งว่า จริงๆ แล้วสาเหตุของปัญหาทั้งหมดอาจไม่เกี่ยวข้องกับสีผิว หรือเชื้อชาติที่ผู้เสียหายยกมาอ้าง…
-
พบภูเขาน้ำแข็งหนักขนาดล้านล้านตัน แยกตัวออกจากทวีปแอนตาร์กติกา จนอดกังวลไม่ได้!!
ทุกวันนี้มนุษย์ส่วนใหญ่ต่างใช้ชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง สนใจแต่เรื่องตัวเอง แต่กลับไม่เคยให้ความสำคัญกับโลกเลยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง… เราคงจะรู้กันมาบ้างแล้วว่า ตอนนี้ภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติอย่างมาก และล่าสุดนี้ก็ทำให้ภูเขาน้ำแข็งขนาดล้านล้านตัน แยกตัวออกจากทวีปแอนตาร์กติกาแล้ว และมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากๆ ภูเขาน้ำแข็งนี้มีขนาดใหญ่เป็น 4 เท่าของกรุงลอนดอน ด้วยขนาด 5,800 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นน้ำแข็งที่รู้จักกันในชื่อ Larsen C ที่ผ่านมานักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Swansea University ได้เฝ้าสังเกตการแบ่งตัวของภูเขาน้ำแข็งเป็นเวลาหลายเดือน และคาดการณ์จากภาพดาวเทียม พวกเขาสามารถระบุได้ว่า ภูเขาน้ำแข็งอาจจะแยกตัวออกจากทวีปแอนตาร์กติกาในช่วงวันที่ 10 ถึง 12 กรกฎาคม 2017 นี้ และแล้วก็เป็นตามการคาดการณ์ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าอุณหภูมิได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในแอนตาร์กติกาฝั่งตะวันตก ทำให้ชั้นน้ำแข็งมีความเปราะบางมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่ภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่เท่านั้น มันยังส่งผลต่อความปลอดภัยในการเดินเรือด้วย เนื่องจากการแยกตัวของน้ำแข็งทำให้ไหลเข้าสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำในโลกเพิ่มสูงขึ้นอีก 10 เซนติเมตร แน่นอนว่าวิกฤติการณ์นี้ส่งผลต่อถิ่นที่อยู่ของสัตว์โลกบางชนิดด้วย เช่น เพนกวินจักรพรรดิ และอีกไม่นานมนุษย์ก็คงได้รับผลกระทบจากภัยนี้เช่นกัน นี่ไม่ใช่ปัญหาที่จะต้องรอให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งมาจัดการ แต่มันเป็นหน้าที่ของทุกคนในการช่วยปกป้องโลกเพื่อให้กลับมาอยู่ใสภาพเดิม หรืออย่างน้อยๆ ก็ไม่ให้ถูกทำลายไปมากกว่านี้…
-
เด็กวัย 13 ปี ถูกจับกุม หลังกลั่นแกล้งใส่ชีสให้เพื่อนกิน ถึงขั้นแพ้รุนแรงจนเสียชีวิต!!
กลายเป็นประเด็นดราม่าถกเถียงกันไปทั่วโลกออนไลน์ เกี่ยวกับการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนที่อาจเกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่นำมาสู่ผลลัพธ์ที่ทำให้มีการเสียชีวิตเกิดขึ้น เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่า มีเด็กวัย 13 ปีคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม หลังจากที่กระทำเหตุกลั่นแกล้งเพื่อนร่วมชั้น Karanbir Cheema จนถึงแก่ชีวิต Karanbir Cheema เด็กหนุ่มที่เสียชีวิตเพราะแพ้ชีสอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียน William Perkin CofE High School ทางตะวันตกของลอนดอน โดยมีการรายงานว่าเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2017 มีเพื่อนร่วมชั้นแอบนำชีสมาใส่ลงในอาหารกลางวันของ Karan ซึ่งเดิมที Karan มีอาการป่วยจากการแพ้อาหารหลายชนิด ทำให้เขาต้องได้รับการดูแลเรื่องอาหารการกินจากที่บ้านเป็นพิเศษ หลังจากที่อาการ Karan เริ่มมีอาการแพ้ เจ้าหน้าที่ก็ได้รีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาล แต่ทว่าอาการแพ้ชีสอย่างรุนแรงทำให้เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจากหลักฐานการเสียชีวิตของเด็กหนุ่ม และพวกเขาก็ได้ข้อสรุปว่าสาเหตุในการเสียชีวิตครั้งนี้ เกิดจากปริมาณชีสที่ถูกแอบใส่เข้ามาในอาหารนั้นมีมากเกินไป Dame Alice Hudson ครูใหญ่ของโรงเรียนให้การณ์ว่า “Karan เป็นเด็กที่มีประวัติแพ้อาหารหลายชนิด ทว่าสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะการแกล้งกันสนุกสนานตามวัยเด็ก อย่างไรก็ตามโรงเรียนจะออกมาตรการเพื่อควบคุมปัญหาการกลั่นแกล้งให้มากยิ่งขึ้น” จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่ง…
-
หนุ่มน้อยวัย 8 ขวบ กับตำแหน่งเจ้าของบริษัท ‘ขายไข่ไก่’ มีรายได้ปีละ 570,000 บาท!!
ไม่ว่าใครต่างก็ใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นเศรษฐีเงินล้าน…แต่มันจะมีความหมายอะไรหากเราได้แค่ฝัน แต่ไม่ยอมลงมือทำซักที เช่นเดียวกับหนูน้อย Junior Wyatt วัย 8 ขวบ ที่เริ่มต้นเส้นทางสู่เศรษฐีเงินล้านด้วยการ ‘ขายไข่ไก่’ จนสามารถหาเงินได้เองมากถึงปีละ 570,000 บาท!! (เฉลี่ยโดยรวมเดือนละ 47,500 บาทเลยนะเนี่ย) จากจุดเริ่มต้นมาจนถึงการตั้งบริษัทอย่างจริงจังในชื่อ Mr Free Range ขึ้นมา โดยทำการร่วมตั้งบริษัทกับคุณแม่ และมีทุนจดทะเบียนเพียงแค่ 430 บาทเท่านั้น โดยน้อง Junior จะขายไข่ไก่ในราคา 87 บาท สำหรับ 6 ฟอง 152 บาท สำหรับ 12 ฟอง และ 262 บาท สำหรับ 30 ฟอง ซึ่งไข่ที่นำมาขายก็จะรับซื้อมาจากฟาร์มที่อยู่ในละแวกบ้านของเขาเอง และตอนนี้หนูน้อย Junior ก็สามารถขายไข่ไปได้แล้วมากกว่า 750 ฟอง!! ความคิดที่จะเปิดบริษัทขายไข่นี้ ได้มาจากการชมรายการสารคดี ‘How’d You…
-
นักท่องเที่ยวกว่า 80 คน รวมตัวต่อแถวเป็นเชือก เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังจะจมน้ำ!!
เราคงเคยได้ยินข่าวคนเสียชีวิตระหว่างไปเล่นน้ำทะเลมามากแล้ว แต่จริงๆ ในบางกรณีอาจจะไม่ถึงขั้นเสียชีวิตก็ได้ ถ้าคนที่เห็นเหตุการณ์ไม่นิ่งเฉยและยื่นมือเข้าช่วยเหลือ อย่างกรณีของครอบครัวนี้ที่เกือบจมน้ำ แต่โชคดีที่นักท่องเที่ยวหลายสิบคนเห็นเข้า จึงต่อแถวกันเป็นเชือกมนุษย์และทำการช่วยเหลือได้สำเร็จ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ Roberta Ursrey เห็นสามี แม่ หลานชาย และลูกชาย กำลังอยู่ในน้ำลึกประมาณ 5 เมตร ที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 90 เมตร ในเมืองปานามาซิตี้ รัฐฟลอริดา Ursrey จึงพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้น ซึ่งทุกคนต่างก็เห็นว่าครอบครัวนั้นกำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดในน้ำ แต่มันก็อยู่ไกลเกินไปที่จะเข้าช่วยเหลือทุกคนได้ทันเวลา Roberta Ursrey และสามี Bryan ขณะเดียวกัน Jessica Simmons ที่กำลังเดินเล่นกับสามีอยู่บนชายฝั่งหลังจากทานอาหารด้วยกัน กลับมองว่ามีโอกาสที่จะช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังจะจมน้ำได้ เธอบอกว่า “ฉันคิดว่าเราสามารถเข้าถึงตัวพวกเขาได้ และจะพาพวกเขาออกมาให้ได้” ด้วยเหตุนี้ Simmons กับสามีจึงตัดสินใจว่ายไปหาครอบครัวนั้นทันที ก่อนที่นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จะตามลงไปแล้วต่อแถวกันเป็นเชือกมนุษย์เพื่อที่จะเข้าถึงตัวคนที่กำลังจะจมน้ำ ผู้คนกว่า 80 คนต่อแถวช่วยครอบครัวที่กำลังจะจมน้ำ มีผู้คนต่อแถวเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนั้นประมาณ 80 คน บางคนว่ายน้ำไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่ก็เข้าไปต่อแถวด้วย โดยยืนอยู่ในส่วนน้ำตื้นแทน พวกเขาเริ่มด้วยการช่วยเด็กออกมาก่อน…
-
คุณพ่อฮีโร่ช่วยชีวิตทารกแรกเกิด ที่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป้ายรถเมล์ จนรอดมาได้อย่างปลอดภัย…
ทุกวันนี้มีทารกไม่น้อยที่ถูกทิ้งตั้งแต่แรกเกิด บางคนเสียชีวิตก่อนได้รับการช่วยเหลือ ในขณะที่บางคนรอดมาได้หากมีพลเมืองดีช่วยเหลือไว้ทัน Daniel Braxton เป็นพ่อลูกสอง ที่ได้ช่วยเด็กทารกที่ถูกนำมาทิ้งไว้บริเวณป้ายรถเมล์ พร้อมกับให้ความอบอุ่นจนเด็กน้อยกลับมาหายใจได้อีกครั้ง วันที่พบเด็กทารกนั้น Daniel และลูกสาววัย 18 ปี Talitha ได้ขับรถผ่านป้ายรถเมล์ดังกล่าว ทันใดนั้นลูกสาวก็บอกกับพ่อของเธอว่าเห็นเด็กทารกอยู่บริเวณป้ายรถเมล์!! ตอนแรก Daniel ไม่เชื่อแถมยังหันไปบอกลูกว่าอย่าพูดอะไรไร้สาระ แต่ลูกสาวยังคงลุกลี้ลุกลนและยืนยันว่าเธอเห็นทารกจริงๆ คุณพ่อจึงตัดสินใจหยุดรถแล้วถอยกลับมา และปรากฏว่าเป็นทารกจริงๆ อยู่ในสภาพที่เพิ่งคลอดออกมา มีอาการอ่อนแรงและหายใจแผ่วเบามาก ด้านหลังของเธอเต็มไปด้วยเลือด และที่สำคัญสายสะดือยังไม่ได้ตัดออกเสียด้วยซ้ำ ข้างๆ กันนั้นมีผ้าขนหนูที่คาดว่าน่าจะใช้ห่อทารกในตอนแรก แต่ตอนนี้เธอนอนอยู่บนพื้นเปล่าๆ ตัวเธอเริ่มเป็นสีเขียวอมฟ้า อันเป็นลักษณะของคนที่ใกล้จะเสียชีวิตแล้ว Danie จึงรีบไปเอาผ่าในรถมาห่อตัวเด็กไว้ แล้วอุ้มเธอขึ้นมาในอ้อมแขน จากนั้นก็พยายามลูบหน้าอกเธอเพื่อให้ความอบอุ่น จนในที่สุดทารกก็กลับมาหายใจปกติอีกครั้ง เขาเล่าว่า “ผมกดลงไปที่หน้าอกของเธอเพื่อปั้มหัวใจให้ เพียงแค่ 2 วินาที ดวงตาของเธอก็เปิดออก ตอนนั้นผมเห็นดวงตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องมาที่ผม มันช่างเป็นแววตาที่สวยงามมากจริงๆ” เขาบอกอีกว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่งจริงๆ เธอได้แต่จ้องหน้าผมนิ่งๆ ผมก็เลยกอดเธอเอาไว้ แล้วบอกกับเธอว่าทุกอย่างกำลังจะเรียบร้อยแล้ว อดทนไว้นะเด็กน้อย” เขาปลอบทารก เพราะคิดว่าเธอคงต้องการการปลอบใจมากที่สุดในตอนนี้……
-
สาวขอลางานเพื่อดูแลสุขภาพจิต บอสก็ตอบกลับมาแบบโคตรคูล จนชาวเน็ตหลงรัก
แม้ว่าเราจะเป็นคนตั้งใจทำงานมากแค่ไหน แต่บางทีก็มีปัญหาสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพจิตหรือสุขภาพกายจนทำให้ต้องหยุดหรือลางานไป แต่จะหยุดทันทีทันใดไม่ได้ ต้องทำเรื่องขอลาให้เจ้านายได้ทราบเสียก่อน Madalyn Parker นักพัฒนาเว็บที่ทำงานให้กับบริษัทซอฟต์แวร์ Olark ต้องต่อสู้กับอาการป่วยทางจิตที่เธอพยายามฝืนมานาน และในช่วงที่ผ่านมาเธอรู้สึกว่าจะต้องหยุดพักซัก 2-3 วัน เธอจึงเขียนอีเมล์เพื่อบอกบอสตรงๆ ว่าเธอต้องการจะหยุดพักผ่อนเพื่อชาร์จพลังให้กับตัวเอง Madalyn Parker แน่นอนว่าสายการทำงานนี้ จะต้องเจอกับความเครียดบ้าง ความกังวลบ้าง ซึ่งบางคนก็ไม่กล้าลางานด้วยเหตุผลเหล่านี้ เพราะกลัวบอสด่าหรือต่อว่าได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหากเป็นอาการป่วยทางสุขภาพจิต หัวหน้างานหรือบอสจะไม่ค่อยยอมรับว่าเป็นอาการป่วยเท่าไหร่นัก แต่โชคดีที่บอสอย่าง Ben Congleton เข้าใจปัญหาของพนักงานเป็นอย่างดี และเขาไม่ละเลยในสิ่งที่มองไม่เห็น จากอาการป่วยทางสุขภาพจิตของเธอ ดังนั้นเมื่อ Parker โพสต์ข้อความที่บอสตอบกลับมา ทำให้ชาวเน็ตหลงรักบอสคนนี้เพียบ จนอยากสมัครเข้าทำงานในบริษัทของเขากันเลยทีเดียว!! จดหมายลางานที่ Parker ส่งให้เจ้านาย เธอขอลางาน 2-3 วัน แล้วจะกลับมาทำงานอย่างเต็มที่เมื่อหายดีแล้ว เมื่อทาง CEO ได้เห็นข้อความการขอลาพักผ่อนของเธอแล้ว ก็ตอบกลับมาด้วยใจความดังนี้ เฮ้ Madalyn, ผมอยากจะขอบคุณคุณเป็นการส่วนตัวที่ส่งอีเมล์แบบนี้มาให้ผม ทุกครั้งที่คุณส่งมา ผมก็จะใช้มันเป็นตัวช่วยเตือนความจำ…
-
ชาวออสเตรเลีย ร่วมกันจัดเทศกาล… แข่งขันพายเรือทำจาก “กระป๋องเบียร์” เจ๋งดีเว่ยเฮ้ย..!!
เป็นธรรมดาที่คนเรามักจะหาเทศกาลอะไรสนุกๆ มาร่วมกันทำในชุมชนให้เกิดความเพลิดเพลินใจไปตามๆ กัน และครั้งนี้ก็เหมือนกัน.. แต่ดูเหมือนว่านอกจากจะสนุกแล้วจะมีเมาซะด้วยสิงานนี้!! เพราะเป็นประจำทุกปีที่ชาวเมืองออสเตรเลีย จะเดินทางมาที่ Mindil Beach เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันพายเรือที่สร้างขึ้นมาจากกระป๋องเบียร์ อันที่จริงเทศกาลนี้ถูกจัดเป็นประจำมาตั้งแต่ปี 1974 แล้วล่ะ ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ชาวออสเตรเลียเดินทางมาร่วมสนุกมากขึ้น ก็ทำให้การแข่งขันเรือกระป๋องกลายเป็นประเพณีที่เต็มไปด้วยความครึกครื้นสุขสันต์ นอกจากนั้นเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้จากการแข่งขัน จะนำไปบริจาคให้แก่องค์กรการกุศลต่างๆ ทั่วประเทศออสเตรเลียอีกด้วย กติกาก็ง่ายมาก เพียงแค่คุณต้องสร้างเรือที่ทำขึ้นมาจากกระป๋องเบียร์ และต้องสามารถนำไปใช้พายเรือแข่งขันจริงได้ด้วย ทุกอย่างดูเหมือนจะง่ายนะ.. แต่เปล่าเลย เพราะนอกจากจะพายเรือแข่งแล้ว ยังต้องแข่งความครีเอทีฟด้วย และนี่แหละที่เป็นจุดไคลแม็กซ์ของงาน ลองนึกสภาพดูสิว่ามันจะฮาขนาดไหน ถ้าคุณตั้งใจต่อเรืออลังการงานสร้างนานนับเดือน แต่พอเอาลงน้ำปุ๊บ.. มันจมทันที!! กลับกันเรือของคุณอาจจะดูไม่มีความแปลกใหม่อะไรเลย เป็นแค่กระป๋องเบียร์ธรรมดาๆ แต่อาจจะสามารถพาคุณเข้าเส้นชัยได้ จุดประสงค์หลักของเทศกาลนี้ เดิมทีก็เพื่อให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงปัญหาขยะตามชายหาดทะเลมากยิ่งขึ้น แต่เอาไปเอามา… เทศกาลก็กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ และมันก็กลายเป็นงานแข่งเรือแบบตลกโปกฮาเพื่อการกุศลแทน เคยมีคำกล่าวที่ว่า.. ถ้าหากใครได้มาพบกับความสนุกในงานต่อเรือแล้ว ยากที่ปีต่อไปเขาคนนั้นจะพลาดงานนี้อีก ภาพบรรยากาศเหมือนทุกคนกำลังพักผ่อนในวันหยุด และออกมาร่วมกันทำกิจกรรมสนุกสนานเลยเนาะ ดูน่าแจมได้อีก…
-
ผู้คนสรรเสริญ หนุ่มวัย 12 ปี ฮีโร่ผู้เสียสละชีวิต ช่วยสาวน้อยที่จมน้ำให้รอดตายได้
หนุ่มน้อยผู้เสียสละยอมเสี่ยงชีวิตตัวเอง เพื่อกระโดดลงไปช่วยสาวน้อยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และนี่คือเรื่องราววีรกรรมสุดกล้าหาญของฮีโร่ตัวจริง เว็บไซต์สำนักข่าว TheSun ได้รายงานเรื่องราววีรกรรมสุดกล้าหาญของ Owen Jenkins นักรักบี้หนุ่มวัย 12 ปี ที่ได้รับการสดุดีจากชาวเน็ตทั่วโลก หลังสละชีวิตช่วยเหลือหญิงสาวจนตัวเองถึงแก่ความตาย Owen Jenkins เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณแม่น้ำ Beeston Marina ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครทราบเหตุการณ์ที่แน่ชัด แต่ Liz Ryan ญาติหนุ่มน้อยผู้เสียชีวิตได้ให้สัมภาษณ์ว่า “เขากระโดดลงไปช่วยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจมน้ำอย่างไม่คิดชีวิต ถึงแม้ว่าจะมีป้ายเตือนว่าห้ามลงไปก็ตาม แต่หลังจากที่ช่วยหญิงสาวได้แล้ว เหมือนว่าเขาจะหมดแรงซะก่อนจนทำให้จมน้ำไปในที่สุด” บริเวณจุดเกิดเหตุ หญิงสาวที่ถูกช่วยเหลือได้เล่าเหตุการณ์ไว้ว่า ตอนที่ตัวเองกำลังจะจมน้ำใกล้ตายนั้น จู่ๆ หนุ่มคนนี้ก็กระโดดลงมาและประคองตัวเธอให้ขึ้นมาบนฝั่ง แต่เหมือนว่าตัวเขาเองจะมีอาการหมดแรงทำให้จมน้ำและขาดอากาศหายใจไปในที่สุด โดยปกติแล้ว Owen มักจะกลับบ้านมาในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ทว่าวันเกิดเหตุเขากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย จนเจ้าหน้าที่ได้พบศพของเขาในอีก 4 ชั่วโมงต่อมา ชาวเมืองต่างเดินทางมาไว้อาลัยให้กับวีรกรรมอันกล้าหาญของเขา “ลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเรา เขาเป็นทั้งหัวใจและดอกไม้ที่เราเฝ้าถนุถนอมมาอย่างดี แต่วันนี้เขาได้จากเราไปอย่างสงบสุขแล้ว….” ผู้ปกครองของเด็กหนุ่มกล่าวทั้งน้ำตา และเรื่องราวทั้งหมดของ…
-
รวม 23 ภาพหลังคา ‘หญ้า’ สุดงดงามจากสแกนดิเนเวียน ไม่แปลกใจถ้าเห็นวัวปีนขึ้นไปได้!!
‘หลังคาหญ้า’ หนึ่งในวัฒนธรรมที่สนใจของชาวสแกนดิเนเวียน ตอนนี้การทำหลังคาของบ้านให้ปกคลุมด้วยหญ้านั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ถึงขนาดมีการตั้งสมาคมกันเลยทีเดียว หลังคาดังกล่าวนี้นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว มันยังช่วยเพิ่มความอบอุ่น ดูดซับน้ำฝน และช่วยทำให้บ้านเย็นในช่วงหน้าร้อน ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายของเจ้าของบ้านอีกด้วย ลองไปชมความสวยงามของหลังคาบ้านสีเขียวจากแถบสแกนดิเนเวียน ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ได้เลย… 1. Hofskirkja ประเทศ Iceland 2. Thjorsardalur ประเทศ Iceland 3. Skalholt ประเทศ Iceland 4. Vatnajökull Nationalpark ประเทศ Iceland 5. Renndølsetra ประเทศ Norway 6. ประเทศ Norway 7. Saksun Village, Streymoy หมู่เกาะ Faroe 8. Torshavn หมู่เกาะ Faroe 9. Church…
-
หนุ่มวัย 15 ปี เศรษฐีรุ่นใหม่ขายขนมในห้องน้ำโรงเรียน จนมีรายได้กว่า 1.9 ล้านบาทต่อปี!!
ใครอยากเป็นเศรษฐี? ฉันน่ะสิ… ฉันน่ะสิ… ไม่ว่าใครก็อยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตกันทั้งนั้น บางคนอาจจะใช้เวลาไขว่คว้าหาสิ่งนี้มาชั่วชีวิต แต่สำหรับพ่อหนุ่มวัยห้าวเป้งคนนี้เค้าเจอทางที่พิเศษกว่านั้น เพราะมันอยู่ในห้องน้ำโรงเรียนนี้แหละ!! กลายเป็นเรื่องราวที่ถูกแชร์ต่อไปทั่วโลก เกี่ยวกับหนุ่มวัย 15 ปี Nathan John-Baptiste ที่สามารถทำรายได้ๆ มากถึง 43,000 ปอนด์ต่อปี จากการขายขนมในห้องน้ำโรงเรียนให้เพื่อนๆ จนตอนนี้ขยายสาขาไปแล้วมากกว่า 3 แห่งทั่วกรุงลอนดอน Nathan John-Baptiste เศรษฐีหนุ่มหัวใสที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก ในแต่ละวันเขาสามารถทำกำไรจากการขายขนมขบเคี้ยว และของหวานต่างๆ ให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนได้มากถึง 230 ปอนด์ต่อวัน (ราว 10,000 บาท) โดยเจ้าตัวจะนำเมนูขนมต่างๆ พร้อมกับอัพเดทโปรโมชั่นประจำวันผ่านแอพฯ Snapchat ให้เพื่อนๆ ได้เลือกสรรก่อนจะทำการแลกเปลี่ยนกันในห้องน้ำตอนช่วงพักเที่ยง ราคาขนมส่วนใหญ่จะขายถูกกว่าในร้านค้าข้างนอก โดยเริ่มต้นที่ 50 เพนนีเท่านั้น ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่หยุดธุรกิจอยู่แค่นี้ เพราะล่าสุดคุณครูในโรงเรียนได้รายงานว่า พ่อหนุ่มได้ขยายสาขาร้านขายขนมในห้องน้ำโรงเรียนเพิ่มอีก 3 สาขา โดยมีลูกจ้างพนักงานมากถึง 11 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ ต่างโรงเรียนของเขานั่นเอง สินค้าที่เจ้าตัวขายก็มีตั้งแต่คิทแคท คุ๊กกี้ ขนมคบเคี้ยวต่างๆ…
-
Amabrush แปรงสีฟันแห่งโลกอนาคต ไม่ต้องเมื่อยมือ แค่อมเข้าปากเดี๋ยวฟันก็สะอาดแล้ว
ในทุกๆ เช้าเย็น หลายคนอาจจะให้ความสำคัญกับเรื่องของการแปรงฟันเป็นพิเศษ ซึ่งบางทีมันก็อาจจะทำให้เสียเวลาไปบ้าง เพราะเรามักจะมัวแต่แปรงฟัน แถมยังต้องใช้น้ำยาบ้วนปาก ปิดท้ายด้วยการใช้ไหมขัดฟันอีก แต่สำหรับ Amabrush แปรงสีฟันอัจฉริยะที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบอัตโนมัติชนิดแรกของโลกนี้ จะมาช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นเยอะ เพราะเพียงแค่ได้ลองใช้มัน เจ้า Amabrush จะสามารถทำความสะอาดฟันของคุณได้หมดจดจนครบทุกซี่ ภายในเวลาเพียง 10 วินาที!! ในส่วนของวิธีใช้เจ้า Amabrush ก็ง่ายมากๆ เพียงแค่คุณกดปุ่มเริ่มต้นการทำงานแค่ครั้งเดียว จากนั้นก็ใส่เข้าไปในปาก เพียงแค่นี้ฟันของคุณก็สามารถขาวสะอาดได้แล้ว สำหรับ Amabrush เรียกได้ว่าเป็นแปรงสีฟันที่ถูกพัฒนาขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม และแตกต่างจากแปรงสีฟันที่เราใช้กันเป็นประจำทุกวันอย่างสิ้นเชิง โดยเจ้าแปรงสีฟันตัวนี้ มาในรูปแบบแปรงอัตโนมัติ และถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วน Mouthpiece ซึ่งเป็นที่ครอบฟันที่มีรูปทรงโค้งตามรูปฟัน ทำหน้าที่เป็นหัวแปรง นอกจากนี้ ยังมีขนแปรงที่ทำจากซิลิโคนที่มีความยืดหยุ่นสูง มีความนุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือก โดยจะทำมุม 45 องศากับฟัน แถมยังเคลือบสารป้องกันแบคทีเรียได้ถึง 99.99% แถมมาให้อีกด้วย ซึ่งจะสามารถใช้ได้ 3-6…
-
สาวมะกันสุดเฮง ถูกล็อตเตอร์รี่ 2 ครั้งติดภายใน 1 สัปดาห์ รับทีเดียวเหนาะๆ 21.4 ล้านบาท
คนจะโชคดี ยังไง๊ยังไงมันก็โชคดีวันยังค่ำ เหมือนดังเช่นสาวรายนี้ ที่โชคดีขั้นสุด หลังถูกหวยติดกัน 2 ครั้งซ้อน รับทีเดียวเหนาะๆ กว่า 22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Rosa Dominguez หญิงสาววัยเพียง 19 ปีรายนี้ ได้ถูกล็อตเตอร์รี่มูลค่า 555,555 เหรียญ หรือราวๆ 18 ล้านบาท จากการซื้อสลากขูดตัวเลขแค่ 5 เหรียญ หรือเพียงแค่ 170 บาท ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งระหว่างที่เธอเดินทางจากแอริโซนามายังแคลิฟอร์เนีย และอีกสองสามวันต่อมา เธอก็ได้ซื้อล็อตเตอร์รี่มูลค่า 5 เหรียญในแคลิฟอร์เนียอีกครั้ง และไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะได้รับรางวัลอีก 100,000 ดอลลาร์ หรือราวๆ 3.4 ล้านบาท ซึ่งรวมๆ แล้วภายอาทิตย์เดียวเธอถูกรางวัลไปแล้วกว่า 21.4 ล้านบาทเลยทีเดียว ทางด้าน Rosa ได้ออกมาเผยความรู้สึกหลังจากที่ถูกล็อตเตอร์รี่ว่า “ฉันกังวลมากจนอยากจะร้องไห้” อย่างไรก็ตาม…
-
26 ภาพยืนยันว่า ออฟฟิศ Google คือสถานที่ทำงานเจ๋งที่สุดเลยล่ะคุณเอ๊ยยย..!!
ในยุคที่โลกเข้าถึงอะไรได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วคลิ๊กแบบนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘Google’ ที่ช่วยให้เราหาข้อมูลในการทำกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่ทำรายงาน ยันเสิร์ชหาเว็บโป๊กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นทันที และครั้งนี้เราจะพาไปชมออฟฟิศของ Google จากทั่วโลก ที่นำมาเผยแพร่โดย BusinessInsider และทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่ว่าทำไมอากู๋ถึงเป็นบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดในโลก ข้อควรระวัง: ภาพบรรยากาศทั้งหมดอาจทำให้คุณรู้สึกอิจฉาและอยากลาออกจากที่ทำงานเก่าได้เลย..!! ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริษัทกูเกิ้ลได้ออกแบบห้องประชุมให้มีรูปไข่ เอาซะน่ารักเลย นอกจากนั้นที่สาขานี้ยังมีห้องประชุมใต้ดิน ให้ความรู้สึกเหมือนก่อปฏิบัติการลับยังไงยังงั้น พนักงานที่นี่ก็เหมือนที่อื่นๆ พวกเขาสามารถเล่นกีฬาพักผ่อนในเวลางานได้ ออฟฟิศกูเกิ้ลที่สาขาดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ มีการออกแบบใช้สีสันให้เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ เพื่อเพิ่มไฟในการทำงาน สำหรับที่นั่งประชุมเล็กๆ ในสาขาดับลิน จะถูกออกแบบเป็นเหมือนโพรงใต้ต้นไม้แทน อีกทั้งยังมีห้องสมุดให้พนักงานได้ใช้พักผ่อน ราวกับว่าอยู่ในโลกของแฮร์รี่ พ็อตเตอร์แน่ะ!! นี่คือภาพส่วนหนึ่งของห้องครัวจากสาขาวอชิงตัน ซึ่งเป็นออฟฟิศที่เดียว ที่มีกิจกรรมปีนผาให้พนักงานได้ไต่เล่นกันอย่างสนุกสนาน ออฟฟิศกูเกิ้ลสาขาปารีส มีการตกแต่งภายในด้วยรถโฟล์คสีแดงที่ดูเก่าแต่เก๋า เหมาะกับบรรยากาศเมืองฝรั่งเศสสุดๆ สำหรับพนักงานที่รู้สึกเครียดกับงาน ที่สาขาชิคาโก ก็มีการติดตั้งตู้เกมอาร์เคดให้เล่นแก้เครียดด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น..…
-
ชายสูญเสียหน้าไปครึ่งนึง ได้รับการศัลยกรรมหน้าใหม่ โดยใช้ผิวหนังจากแขนและขา..!!
สำหรับผู้ที่ต้องเผชิญโรคร้ายจนถึงกับต้องสูญเสียใบหน้าไป คงเปรียบได้กับการถูกพรากสิ่งสำคัญบางอย่างของชีวิตไปเลยทีเดียว แต่ก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีการแพทย์สมัยใหม่ ที่ช่วยทำให้ Tim McGrath หนุ่มวัย 38 ปี จากรัฐมิชิแกน ได้กลับมามีใบหน้าอีกครั้ง ถึงแม้ว่าอาจจะไม่สมบูรณ์แบบเท่าเดิมก็ตาม… **คำเตือน: อาจมีภาพสะเทือนใจและทำให้รู้สึกใจคอไม่ดีเลยได้** ย้อนไปในปี 2014 เจ้าตัวรู้สึกปวดบริเวณกราม เมื่อไปตรวจก็พบว่ามีเนื้องอกและหมอได้วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นมะเร็งซาร์โคมา อ้างอิงข้อมูลจาก National Institutes of Health พบว่า มะเร็งซาร์โคมาร์เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก เป็นโรคที่มีความรุนแรงปานกลาง แม้ว่าตอนแรกอาจไม่พบอาการ แต่มะเร็งชนิดนี้สามารถขยายตัวได้เร็วมากๆ ทว่าสำหรับ Tim ก้อนเนื้อร้ายของเขากลับโตมีขนาดเท่าลูกซอฟท์บอล ในระหว่างการรักษานั้นเขาต้องอยู่ในห้องผ่าตัดนานกว่า 30 ชั่วโมง และต้องคอยเฝ้าสังเกตอาการผลข้างเคียงต่างๆ อยู่ในโรงพยาบาลต่ออีกนานถึง 7 สัปดาห์ หลังการผ่าตัดแพทย์พยายามปลูกถ่ายผิวหนังบนใบหน้าของเขาขึ้นมาใหม่ ทว่าร่างกายกลับไม่ตอบสนอง ทำให้อีกซีกหนึ่งของหน้าเขามีสภาพอย่างที่เห็นนี้… “ตลอดการผ่าตัดที่ผ่านมามันไม่ใช่เรื่องดีเอาซะเลย หลังผ่าตัดผมต้องเจอกับปัญหาผิวหนังติดเชื้อและอื่นๆ อีกเยอะแยะ มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกอยากจะยอมแพ้…” Tim McGarath ให้สัมภาษณ์ ทว่าชีวิตของเขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง…
-
Macklemore ปล่อย MV สุดเท่พาคุณย่าวัย 100 ปี ไปฉลองวันเกิดทำเอาชาวเน็ตประทับใจ
หลายๆ คนคงจะคุ้นเคยกับชื่อของศิลปินแร็พเปอร์ชื่อดัง Macklemore ที่โด่งดังจากเพลง Thrift Shop ซึ่งมียอดผู้เข้าชมในยูทูปมากกว่า 1 พันล้านครั้ง ล่าสุดแร็พเปอร์หนุ่มผู้นี้ได้ออกมิวสิควิดีโอชิ้นใหม่ล่าสุด ที่ไม่ธรรมดาให้แฟนๆ ได้ชมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมิวสิควิดีโอดังกล่าวนั้นเป็นการร่วมเซอร์ไพรส์วันเกิดครบรอบ 100 ปีของคุณย่าเขา ทำเอาชาวเน็ตที่ได้เห็นโมเม้นต์น่ารักๆ ของทั้งสอง ถึงกับอมยิ้มเลยทีเดียว Helen คุณยายของ Macklemore ได้ร่วมแสดงในมิวสิควิดีโอเพลง GLORIOUS ซึ่งตอนนี้มีผู้เข้าชมมากกว่า 9 ล้านครั้งแล้ว เนื้อหาในวิดีโอเล่าถึงการใช้ชีวิตประจำวันของยายและหลาน พวกเขาออกไปทำเรื่องราวต่างๆ ในวันเกิดของเธอเพื่อย้อนไปในวัยสาวของคุณยาย ไม่ว่าจะเป็นการชอปปิ้ง หรือเที่ยวไปตามถนนด้วยรถสุดคลาสสิค แร็พเปอร์หนุ่มก็จัดให้คุณยายแบบเต็มที่ . . นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไพรส์อีกมากมายที่หลานชายเตรียมไว้ให้กับคุณยายของเขา ไปชมมิวสิควิดีโอเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างนี้เลย… หลายๆ คนคงจะแอบอมยิ้มไปด้วยเลยใช่ไหมล่ะ เห็น Macklemore กับคุณยายแล้วช่างน่าอิจฉาจริงๆ เลยนะเนี่ย… ที่มา boredpanda
-
หนุ่มอัดคลิปฝึก “ตีลังกาหลัง” ภายในครึ่งวัน ผ่านความล้มเหลวนับร้อยครั้งกว่าจะสำเร็จ
การตีลังกากลับหลัง เป็นหนึ่งในท่าเท่ๆ ที่เรามักจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ ตามคลิปเกี่ยวกับกิจกรรมผาดโผนต่างๆ และเชื่อแน่ว่าหลายๆ คนก็คงกำลังแอบฝึกกันอยู่ใช่ไหมล่ะ แต่การจะทำท่าลังกาหลังเนี่ยมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ ว่าไหม?? แต่อย่าเพิ่งท้อกันไป เพราะเมื่อไม่นานมานี้มีพ่อหนุ่มคนหนึ่งที่เค้าอดทนและสามารถฝึกท่าทีว่านี้ได้ โดยใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมงด้วยกัน… ชาวแก๊งค์ Bucket List Boys กลุ่มยูทูปเบอร์กลุ่มหนึ่ง ได้สร้างคลิปวิดีโอที่เรียกได้ว่าช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนอย่างมาก เมื่อคุณ Justin Kroehler หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มได้อัดคลิปความพยายามในการทำท่าลังกาหลังของเขา Kroehler เล่าถึงที่มาที่ไปของการทำคลิปวิดีโอนี้ว่า เมื่อสมัยมัธยมเขาถูกหลายๆ สบประมาทว่าร่างกายของเขานั้นไม่มีความยืดหยุ่นพอที่จะทำท่าลังกากลับหลังได้ โค้ชเชียร์ลีดเดอร์สมัยมัธยมบอกว่าเขาตัวสูงเกินไปที่จะทำท่านี้ “ผมเป็นคนที่ชอบพิสูจน์ตัวเองอยู่แล้วเวลาที่มีใครบอกว่าทำผมไม่ได้ อันที่จริงก่อนอัดวิดีโอนี้ผมก็มีความกังวลนิดหน่อยนะว่าจะทำไม่ได้ แต่ผมก็ตัดสินใจทำและพยายามจนสำเร็จ” ชายหนุ่มกล่าว ชายหนุ่มใช้ความพยายามมากถึง 400 ครั้งและใช้เวลานานถึง 6 ชั่วโมงในการฝึก “หลังจากฝึกเสร็จผมเดินขึ้นบันไดไม่ได้อีกหลายวันเลยหล่ะ ฮ่าๆ” Kroehler กล่าว ชายหนุ่มต้องอดทนและใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึก ไปชมการฝึกเต็มๆ ของเขาได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ในที่สุด ความพยายามก็ประสบผลสำเร็จ… ความพยายามของพ่อหนุ่มคนนี้คงจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ ที่มา thrillist
-
เทรนด์ใหม่ชาวญี่ปุ่น นำแตงโมมาทำเป็นชุดเดรสน่ารักๆ เติมเต็มความสดชื่นในหน้าร้อน
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน หลายคนอาจจะหาวิธีผ่อนคลายความร้อนโดยการไปเดินช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้าที่มีแอร์เย็นๆ หรือบางคนอาจจะไปเที่ยวน้ำตก หรือทะเล แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว เขากลับมีวิธีคลายร้อนใหม่ๆ โดยการนำแตงโมมาสร้างสรรค์เป็นชุดเดรสๆ น่ารักๆ เพื่อเติมเต็มความสดชื่นให้กับตัวเอง งานนี้จึงเกิดเป็นเทรนด์ยอดฮิตถึงขนาดไอดอลชื่อดังชาวญี่ปุ่นอย่าง HKT48, AKB48, Sakura Miyawaki ก็ได้เข้ามาร่วมสนุกกับเทรนด์นี้ด้วย เรียกได้ว่ากระแสชุดเดรสแตงโม ได้กลายเป็นจุดที่สร้างความสนใจให้กับชาวเน็ตทั่วประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก แต่ละคนได้สร้างสรรค์ชุดเดรสของตัวเองขึ้นมา แล้วนำมาโพสต์อวดกันลงบนอินสตาแกรม ฮิตตั้งแต่ผู้ใหญ่ ไปจนถึงเด็กทารกตัวน้อยๆ เลยทีเดียว . . น่ารักไหมละ . เพราะกำลังอยู่ในช่วงอากาศที่ร้อนชื้น เราจึงต้องมาเติมเต็มความสดชื่นกันซะหน่อย . ชุดไหนถูกออกแบบขึ้นมาได้สร้างสรรค์ที่สุดบ้าง . . . จริงๆ แล้วตอนนี้สภาพอากาศบ้านเราก็ร้อนเหมือนกันนะ ว่างๆ เพื่อนๆ ก็ลองทำชุดเดรสแตงโม แล้วนำภาพมาโพสต์อวดผลงานของตัวเองลงบนอินสตาแกรม… พร้อมติดแฮชแท็ก # スイカドレス (#WatermelonDress) ดูสิ บอกเลยว่าผลงานของคุณจะต้องเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนแน่นอน อย่าลืมมาร่วมสนุกด้วยกันเยอะๆ…
-
แพนด้ายักษ์จากจีน กลายเป็นดาวเด่นชั่วข้ามคืน หลังมี “ภาพหลุด” ตอนถูกโกนขาหลัง!!
หลังจากที่มีภาพของเจ้าแพนด้ายักษ์ตัวหนึ่ง ได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงบนอินเตอร์เน็ตในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้มันได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก จนทำให้เจ้าแพนด้าอ้วนตัวนี้ได้กลายเป็นดาวเด่นไปชั่วข้ามคืน เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพของ Yuanxiao แพนด้ายักษ์จากศูนย์วิจัยแพนด้าในเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ขณะที่มันกำลังนอนชิวๆ อย่างสบายใจ แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ เจ้าแพนด้าตัวนี้จะมีความแตกต่างจากแพนด้าตัวอื่นๆ ตรงที่บริเวณขาด้านหลังของมันได้ถูกโกนออกจนขนหมดเกลี้ยง งานนี้จึงทำให้บรรดาชาวเน็ตที่ได้เห็นภาพของมัน ได้มาแสดงความเห็นกันแบบขำๆ ว่า เหมือนมันไม่ได้ใส่กางเกงเลย สำหรับภาพดังกล่าว ไม่ใช่ภาพในปัจจุบันของเจ้า Yuanxiao แต่เป็นภาพที่ถูกถ่ายขึ้นเมื่อปี 2008 ซึ่งในขณะนั้นเจ้า Yuanxiao กำลังได้รับบาดเจ็บที่ขาของมันหลังจากที่ได้ต่อสู้กับแพนด้าตัวอื่น และนั่นจึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัย ได้ทำการโกนขนบริเวณที่ขามันออก เพราะจะได้สะดวกต่อการทำแผลยังไงละ หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาได้ ตอนนี้เจ้า Yuanxiao ได้เติบโตขึ้น และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข อีกทั้งขาของมันก็หายเป็นปกติดีแล้วจ้า ที่มา : shanghaiist
-
รัฐบาลสหรัฐฯ แนะ สิ่งที่พวกคุณควรจะเตรียมไว้ หากเกิด “ระเบิดนิวเคลียร์” ขึ้นจริงๆ !!
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีข่าวที่น่าสนใจจากทั่วโลกเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือ เกาหลีเหนือกำลังคุกคามโลกตะวันด้วยการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นเวลานานหลายเดือน โดยผู้นำ Kim Jong-Un สั่งให้มีการเปิดตัวการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ICBM ที่ทางผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารเชื่อว่าขีปนาวุธใหม่นี้ อาจเป็นชนิดที่สามารถยิงไปถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่รัฐบาลอเมริกันจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ นั่นจึงทำให้พวกเขาได้ออกมาแนะนำวิธีที่จะทำให้อยู่รอด และสิ่งที่จะต้องเตรียม หากสงครามเกิดขึ้น และต้องมีการนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ โดยพวกเขาได้รวบรวมรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมด เพื่อช่วยให้คุณมีโอกาสอยู่รอดหากตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย… 1. น้ำหนึ่งแกลลอนต่อคนต่อวัน สำหรับการดื่มและการสุขาภิบาล โดยให้อยู่ได้เป็นเวลาอย่างน้อยสามวัน 2. เตรียมอาหารที่ไม่ค่อยเน่าเปื่อยเพื่อบริโภค โดยให้อยู่ได้เป็นเวลาอย่างน้อยสามวัน 3. แบตเตอรี่ขับเคลื่อน หรือวิทยุสื่อสาร และวิทยุสภาพอากาศ พร้อมการแจ้งเตือนด้วยเสียงและแบตเตอรี่สำรอง 4. ไฟฉายและแบตเตอรี่เสริม 5. ชุดปฐมพยาบาล 6. นกหวีดเพื่อขอความช่วยเหลือ 7. หน้ากากป้องกันฝุ่น 8. ผ้าเช็ดตัว ถุงขยะและถุงพลาสติก เพื่อสุขาภิบาลส่วนบุคคล 9. ประแจหรือคีมเพื่อปิดระบบสาธารณูปโภค 10. เครื่องเปิดอาหาร (หากมีอาหารกระป๋อง) 11.…
-
ชมความสวยงามของ 20 ภาพ “เครื่องเล่นยามค่ำคืน” จากฝีมือของศิลปินชาวญี่ปุ่น…
สนามเด็กเล่น หนึ่งในที่ชื่นชอบของเด็กๆ ที่นี่เด็มไปด้วยของเล่นมากมายที่ให้พวกเขาได้ปีนป่ายและสนุกกับจินตนาการ แต่สำหรับศิลปินแล้วพวกเขากลับมองว่าที่นี่เต็มไปด้วยงานศิลปะ!! คุณ Kito Fujio ช่างภาพอิสระชาวญี่ปุ่นผู้หนึ่งได้เดินทางไปทั่วประเทศเพื่อบันทึกภาพของเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น ผลงานภาพถ่ายของเขาถูกนำไปจัดนิทรรศการต่างๆ มากมาย และเมื่อเร็วๆ นี้เขาได้สร้างสรรค์ผลงานของสนามเด็กเล่นยามค่ำคืน ที่ถูกตกแต่งด้วยแสงไฟหลากสี และนี่คือภาพบางส่วนจากผลงานของศิลปินท่านนี้… 1. สวนสาธารณะ Nishikidaini จากรุง Tokyo 2. สวนสาธารณะ Otsubo จากจังหวัด Aichi 3. สวนสาธารณะ Kashiwa จากจังหวัด Chia 4. สวนสาธารณะ Komaba จากจังหวัด Hokkaido 5. สวนสาธารณะ Tatsuta จากจังหวัด Aichi 6. สวนสาธารณะ Minami Mizumoto จากกรุงโตเกียว 7. สวนสาธารณะ Minami Mizumoto จากกรุงโตเกียว 8. บ้าน Fukiagedanchi Terrace จากจังหวัด Saitama 9. สวนสาธารณะ จากกรุง Tokyo 10. สวนสาธารณะ Himemiyaika…
-
แฟนเพลง Coldplay ช่วยกันพา “หนุ่มพิการ” ขึ้นเวทีร่วมแจมกับศิลปินคนโปรดสักครั้งในชีวิต
การได้ดูคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดแบบใกล้ชิดติดขอบเวทีคงจะเป็นเรื่องดีสำหรับเหล่าแฟนเพลงตัวยง และพ่อหนุ่มคนนี้ก็เช่นกัน ถึงแม้วว่าตัวเขาเองนั้นจะต้องนักรถเข็น แต่นั่นก็ไม่สามารถขัดขวางเขาในการชมคอนเสิร์ตได้ ในระหว่างงานคอนเสิร์ตของ Coldplay ที่ Croke Park เมือง Dublin ประเทศไอร์แลนด์เมื่อคืนวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการประทับใจขึ้น เมื่อฝูงพีเพิลได้พากันยกชายหนุ่มที่นั่งรถเข็นและพาตัวเขาไปพบกับศิลปินคนโปรดแบบใกล้ชิดสุดๆ หนุ่มผู้โชคดีคนนั้นก็คือ Rob ชายหนุ่มผู้พิการที่นั่งรถเข็นเพื่อมาร่วมงานคอนเสิร์ตดังกล่าว เขาถูก Chris Martin เชิญขึ้นมาร่วมสนุกบนเวทีระหว่างการแสดงสด จากนั้นเหล่าผู้ชมคนอื่นๆ จึงยกพ่อหนุ่มคนนี้ขึ้นและค่อยๆ เคลื่อนตัวเขาเข้าไปที่เวที จนในที่สุดหนุ่มน้อยก็ได้ร่วมแสดงกับวงดนตรีโปรด Chris ให้ชายหนุ่มคนดังกล่าวช่วยเป่าหีบเพลงปากระหว่างที่เขาเล่นเพลง การแสดงของทั้งคู่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้อย่างมาก โดยส่วนมากแล้ววง Coldplay นั้นมักจะให้แฟนเพลงของพวกเขาขึ้นมาร่วมแจมบนเวทีอยู่บ่อยๆ และคราวนี้ก็เป็นคิวของพ่อหนุ่มน้อยคนนี้ และนี่คือคลิปวิดีโอจากงานคอนเสิร์ตที่ผ่านมา จากนั้นแฟนเพลงที่อยู่ในงานคอนเสิร์ตวันนั้นก็ได้บันทึกคลิปเหตุการณ์ดังกล่าว และอัพเดทลงในโลกออนไล์ เพื่อชื่นชมสิ่งที่นักดนตรีคนโปรดของพวกเขาทำ หรือบางคนก็เข้ามาแสดงความชื่นชมสิ่งเกิดขึ้น ว้าวว น่าอิจฉาพ่อหนุ่มคนนี้จริงๆ เลยนะเนี่ย ที่มา ladbible
-
รัฐ Nevada ออกมาตรการฉุกเฉินหลัง “กัญชา” ขาดตลาด สร้างภาษีให้รัฐวันละ 17 ล้านบาท!!
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รัฐเนวาด้าได้กลายเป็นรัฐที่ 5 ของประเทศสหรัฐฯ ที่มีการอนุญาติให้จำหน่ายกัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย (เนวาด้าประกาศให้กัญชาถูกกฎหมาย) เรียกได้ว่าระยะเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ รัฐเนวาด้าก็ต้องออกมาตรการฉุกเฉินเพิ่มร้านขายกัญชา หลังสินค้าขายดีเทน้ำเทท่าจนขาดตลาด และช่วยสร้างภาษีให้รัฐได้เฉลี่ยวันละ 500,000 เหรียญเลยทีเดียว (ราว 17 ล้านบาท) รัฐเนวาด้ามีนักท่องเที่ยวมากกว่า 42 ล้านคนต่อปี โดยมองว่าในอนาคตลาสเวกัสอาจจะกลายเป็นเมืองแห่งกัญชาที่แซงหน้ากรุงอัมสเตอร์ดัมไปเลยก็ว่าได้ The Nevada Tax Commission ได้รายงานว่า จากวันแรกที่มีการประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายจนถึงล่าสุดนี้ รัฐบาลสามารถเก็บภาษีส่วนนี้ได้สูงถึงราววันละ 500,000 เหรียญ และในระยะเวลา 6 เดือนภาษีจากกัญชาอาจช่วยสร้างรายได้ให้สูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว ทว่าล่าสุดความคล่องตัวในการค้าขายก็เริ่มติดขัด เมื่อความต้องการซื้อมีมากเกินกว่าที่ร้านค้าจะนำมาขายได้ในแต่ละวัน ทำให้ทางการต้องออกมาตรการฉุกเฉินมาใหม่ โดยจะกำหนดให้เริ่มใช้ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ โดยเนื้อหามาตรการฉุกเฉินนี้ได้ระบุให้ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถนำกัญชามาวางขายได้ “อ้างอิงจากผลการรายงานพบว่า ตอนนี้ความต้องการซื้อของกลุ่มผู้ใช้มีสูงเกินกว่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้ และตอนนี้ตลาดกัญชาในรัฐในเนวาด้ากำลังไปได้สวย และเราเชื่อว่ามาตรการตัวใหม่นี้น่าจะรองรับความต้องการของผู้ซื้อในตลาดได้” Riana Durrett จากสมาคมผู้ประกอบการร้านยาให้สัมภาษณ์…
-
United Airlines ยกเลิก “ที่นั่งของเด็กน้อย” พร้อมกับให้นั่งตักคุณแม่นาน 18 ชั่วโมง
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารย์อีกครั้ง เมื่อสารการบิน United Airlines ได้ยกเลิกที่นั่งมูลค่ากว่า 3 หมื่นบาทของเด็กน้อยคนหนึ่ง เพื่อให้ผู้โดยสารท่านอื่น คุณ Shirley Yamauchi บอกว่าเธอต้องให้ลูกชายที่มีน้ำหนักตัวถึง 11 กิโลกรัม นั่งตักเธอมาตลอดการเดินทาง หลังจากที่ตั๋วโดยสารที่จองมาล่วงหน้าถึง 3 เดือนของเธอถูกยกเลิก คุณ Yamauchi ได้ซื้อตั๋วโดยสารสำหรับการเดินทางเพื่อไปประชุมที่บอสตันไว้ 2 ที่เพราะต้องพาลูกชายตัวน้อยร่วมเดินทางไปด้วย และตามกฏหมายจะต้องมีการซื้อตั๋วเพิ่มสำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปี แต่แล้วเธอก็ต้องพบกับความยากลำบาก เมื่อสายการบินนั้นได้ยกเลิกตั๋วของลูกชายเธอ จึงทำให้คุณครูสาวต้องให้ลูกชายนั่งตักเป็นเวลานาถึง 18 ชั่วโมง คุณ Yamauchi บอกว่า “ฉันต้องให้ลูกชายนั่งตัก เขาหนักถึง 11 กิโลกรัมและสูงประมาณครึ่งหนึ่งของฉัน แขนและขาของฉันชาไปหมดเลย ฉันรู้สึกถึงความไปไม่เป็นธรรมเลย” สายการบินได้ยกเลิกที่นั่งของหนูน้อย ให้กับผู้โดยสารท่านหนึ่งที่จ่ายค่าตั๋วเพียงแค่ 2,000 กว่าบาทเท่านั้น พนักงานบนเครื่องไม่สนใจกับการร้องเรียนของเธอ พร้อมกับส่ายหน้าแล้วบอกว่าเที่ยวบินเต็ม!! จากเหตุการณ์ฉาวที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารชาวเอเชียก่อนหน้านี้ ทำให้ครูสาวไม่กล้าที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมของเธอ คุณ Yamauchi จึงจำเป็นต้องให้ลูกชายของเธอนั่งตักเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา “ฉันยังจำเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารเอเชียก่อนหน้านี้ได้ดี และฉันก็กลัวว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะเกิดขึ้นกับฉัน ตอนที่ฉันบอกพนักงานบนเครื่องว่าลูกชายไม่มีที่นั่งและพวกเราได้ซื้อตั๋วเอาไว้แล้ว พวกเขากลับยักไหล่แล้วตอบกลับมาว่า ที่นั่งเต็มแล้ว…
-
23 ภาพของมนุษย์ผู้ “โชคดี” จากทั่วทุกมุมโลก งานนี้โชคดียิ่งกว่าถูกหวยอีกนะเนี่ย
ในบางครั้งคนเราก็โชคดีแบบสุดๆ บางคนจู่ๆ ก็โชคดีจากการได้รับรางวัล บางคนก็โชคดีเพราะได้เจอกับดาราคนดังที่ชื่นชอบ ขณะที่หลายๆ คนโชคดียิ่งกว่าใครๆ เพราะสามารถรอดจากอุบัติเหตุมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ และนี่คือ 23 ภาพของมนุษย์ผู้ที่โชคดี เรามาดูกันว่าพวกเขาจะได้เจอกับอะไรดีๆ บ้าง เมื่อคุณพบถุงเงินที่เต็มไปด้วยเงินสดบนทางหลวง และเมื่อคุณได้คืนมันให้เจ้าของ คุณก็ได้รับรางวัลสำหรับการส่งคืนเป็นแสนๆ เมื่อคุณพบกับป๊อปทาร์ตถึง 3 ชิ้นในถุง ใครเจอแบบนี้ก็แฮปปี้ทุกคนแหละ เมื่อคุณพบกับสุนัขแสนรักที่หายไปนานหลายปี เมื่อกุญแจเกือบตกลงไปในท่อระบายน้ำ เป็นวันที่ดีจริงๆ เจอไฟเขียวตลอดทาง จู่ๆ ก็เจอป๊อบคอร์น โชคดีจัง เมื่อคุณได้พบเรื่องราวดีๆ ก็ทำให้มีความสุขตามไปด้วย เกือบซวยซะแล้ว แต่ก็ยังโชคดีอยู่นะเนี่ย โหยยยย อีกนิดเดียว เจอเพชรในสวนสาธารณะ เมื่อคุณได้จับมือกับนักกีฬาคนโปรดที่คุณชื่นชอบมาก เมื่อคุณอยู่ในอ่างน้ำร้อนที่เต็มไปด้วยสาวๆ และคุณเป็นเพียงผู้ชายคนเดียว เมื่อได้เจอสิ่งที่ชอบ ต้องบอกเลยว่านายโชคดีมาก เจอแบบนี้ก็มียิ้มบ้างละ …
-
เปิดภาพฟิล์มเอ็กซ์เรย์ของชายชาวอินเดีย หลังพบว่ามี “เข็ม” ปริศนา 150 เล่มฝังทั่วร่างกาย
วันที่ 8 กรกฎาคม 2560 สำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Badrilal Meena ชายวัย 56 ปี จากประเทศอินเดีย ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลถึง 6 แห่ง และได้รับการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง เพื่อนำเข็มที่ติดอยู่ในแขน เท้า และลำคอออก หลังแพทย์ตรวจพบว่าในร่างของเขามีเข็มจำนวนมากฝังอยู่ทั่วร่าง จากการรายงานระบุว่า ในครั้งแรกเขาได้บ่นว่ารู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณเท้าจนทนไม่ไหว ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Badrilal ได้ตัดสินใจเดินทางไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น และหลังจากนั้น แพทย์ก็ได้พาเขาไปเข้าเครื่องเอ็กซเรย์ ก่อนที่จะพบว่ามีเข็มมากถึง 75 เล่มอยู่ทั่วร่างกายของเขา หลังจากที่นาย Badrilal พยายามตามหาโรงพยาบาลที่จะมารักษาเขา ในที่สุดทางด้านสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งเอเชีย (AIMS) ใน Faridabad ก็ยินดีที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งหลังจากที่เขาได้รับเข้าการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ทางแพทย์ก็ได้ตรวจพบเข็มฝังอยู่ในร่างกายเพิ่มขึ้นมาอีกจำนวน 75 เล่ม โดยรวมแล้วมากถึง 150 เล่ม ทางด้านนาย Badrilal…
-
เปิดตัวเครื่องแบบแอร์โฮสเตส Hainan Airlines สายการบินจีน แต่สวยดังไปไกล จนฝรั่งร้องว๊าว
สิ่งที่ทำให้เราสะดุดตาเวลาไปใช้บริการที่สนามบิน นอกเหนือจากหน้าตาของแอร์โฮสเตสสวยๆ แล้ว ชุดเครื่องแบบของพวกเธอก็สามารถเรียกความสนใจให้กับผู้คนได้เหมือนกันนะ และนี่คือหนึ่งในชุดเครื่องแบบของสายการบินจากจีน ที่ต้องบอกเลยว่ามีทั้งความเก๋ไก๋ และมีความทันสมัยมาก เห็นครั้งแรกก็นึกว่าเป็นชุดแฟชั่นบนรันเวย์… สำหรับชุดดังกล่าว เป็นของสายการบิน Hainan Airlines สายการบินจากประเทศจีนที่กำลังมาแรงจากไหหลำ ที่เพิ่งจะเปิดตัวอยูนิฟอร์มสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินแบบสดๆ ร้อนๆ บนรันเวย์โอต์ กูตูร์ (Paris Couture Week) ณ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส งานนี้บอกเลยว่าทำเอาฝรั่งร้องว้าวกันเป็นแถว โอ้โห!! เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์มาก มีความไฮโซ มีความโฉบเฉี่ยวขั้นสุด ชุดเครื่องแบบนี้ ทางสายการบินได้ร่วมมือกับนักออกแบบชื่อดังอย่าง Laurence Xu โดยเป็นการผสมผสานระหว่างแฟชั่นตะวันตกสมัยใหม่ กับสไตล์เสื้อผ้าแบบดังเดิมของจีนนั่นเอง มีความฟิวชั่นระหว่างตะวันตกกับตะวันออก ไฮโซโก้เก๋ไหมละ “ความร่วมมือระหว่างสายการบินและ Laurence Xu จะอยู่ในอุตสาหกรรมชั้นแนวหน้า เราไม่เพียงแต่สร้างชุดเครื่องแบบใหม่เท่านั้น แต่ยังแสดงภาพลักษณ์ที่แสดงความเป็นสากลของสายการบินของเราอีกด้วย โดยเฉพาะเส้นทางระหว่างประเทศ เราต้องการให้ผู้โดยสารรู้ว่าประเทศจีนมีความทันสมัยและมีความอินเทรนด์” Xu Fei ผู้อำนวยการสายการบินกล่าว …
-
จากผลสำรวจพบชาวญี่ปุ่นกว่าครึ่งประเทศยัง “เวอร์จิ้น” แม้จะเลยวัย 30 ปีมาแล้วก็ตาม
แม้ในสายตาคนนอก เราอาจจะคิดว่าประเทศที่มีอุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่สูงอย่างญี่ปุ่น คงจะเป็นประเทศที่หนุ่มสาวมักจะป๊าบๆ กันตั้งแต่วัยละอ่อน แต่เชื่อหรือไม่ว่าความคิดนี้มันเป็นแค่เรื่องเพ้อฝัน เพราะจริงๆ แล้วคนญี่ปุ่นไม่ค่อยมีอะไรกันเลยแม้จะแก่แล้วก็ตาม… ด้วยผลสำรวจล่าสุดจาทางเว็บไซต์ Independent ซึ่งได้รายงานว่าประชากรชาวญี่ปุ่นมากกว่าครึ่ง ยังไม่เคยมีเซ็กส์มาก่อนเลยแม้ว่าจะเลยอายุเลข 3 แล้วก็ตาม!!? นอกจากนี้ทาง Ladbible ได้ทำการอ้างอิลผลวิจัยซึ่งมีการสัมภาษณ์ชาวญี่ปุ่นหลายคน เช่น Takashi Sakai ชายวัย 41 ปี คนหนึ่งผู้ให้สัมภาษณ์กับ AFP เมื่อปี 2014 ว่า “ผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยนะ มันไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบผู้หญิงนะ ผมชอบผู้หญิง แต่ว่ายังหาคนที่ใช่ไม่ได้เท่านั้นเอง” Ano Matsui วัย 26 ปี “ผมไม่มีความมั่นใจในตัวเองนัก เพราะผมไม่เคยฮอตในหมู่สาวๆ เลย เคยมีครั้งหนึ่งผมรวบรวมความกล้าไปสารภาพกับผู้หญิง เธอปฏิเสธผมทันทีเลยซึ่งมันทำให้ผมบอบช้ำใจมากๆ” Ano ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า “ยังมีผู้ชายในญี่ปุ่นอีกเยอะเลยนะที่ค้นพบว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่น่ากลัวมากๆ พวกเราล้วนกลัวที่จะถูกปฏิเสธจากพวกเธอ นั่นจึงกลายเป็นเหตุผลักดันให้ผู้ชายญี่ปุ่นแบบผมหันไปสนใจกิจกรรมอย่างอื่นเช่น อนิเมะเป็นต้น” พอลองถามทางด้านผู้หญิงดูบ้างอย่าง Megumi Igarashi…
-
หนุ่มบราซิลรับการผ่าตัดมือที่เสียหาย ด้วยการ ‘เย็บติดไว้ในท้อง’ จนกลับงอกขึ้นมาใหม่ได้!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาและภาพที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม] หากใครยังจำกันได้ เมื่อราวๆ ต้นปี 2016 ได้เคยมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับหนุ่มชาวบราซิล Carlos Mariotti ที่ทำงานเป็นคนควบคุมเครื่องจักร แต่กลับเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเขาดันถูกเครื่องจักรดูดมือเข้าไปจนเนื้อที่มือของเขาแทบไม่เหลือ นาย Carlos ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน และที่โรงพยาบาลเขาก็ได้พบกับคุณหมอ Boris Brandao ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการผ่าตัดและตกแต่งผิวหนัง เขาเลยเกิดไอเดียในการผ่าหน้าท้องของคนไข้แล้วนำมือที่ได้รับบาดเจ็บใส่เข้าไปในกระเพาะอาหาร เพื่อให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อ สารอาหารและผสานเส้นเลือดขึ้นมาใหม่ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการติดเชื้อที่มือของคนไข้ด้วย เขาต้องทนทรมานอยู่แบบนี้ราวๆ 6 สัปดาห์ เพื่อให้มือกลับมามีสภาพที่สมบูรณ์ ในระหว่างนั้นเขาก็ต้องใช้ชีวิตประจำวันไปด้วย โดยมีภรรยาและลูกคอยช่วยเหลือดูแล แต่ก็ยังอดกังวลไม่ได้ว่าตัวเองจะเผลอดึงมือออกจากหน้าท้อง เมื่อเวลาผ่านไป 6 สัปดาห์ มือของ Carlos ก็เริ่มกลับมาเป็นรูปเป็นร่างอีกครั้งและพร้อมที่จะถูกผ่าออกจากหน้าท้องของเขาแล้ว และมันก็ออกมาดีทีเดียวเมื่อเทียบกับตอนที่เขาได้รับอุบัติเหตุใหม่ๆ เมื่อนำมือออกมาได้แล้วก็ต้องรักษาเพื่อให้แผลเข้าที่เข้าทางต่ออีกสักพัก ก่อนที่คุณหมอ Boris จะวางแผนผ่าตัดครั้งต่อไป เพื่อแยกมือที่เป็นก้อนของเขาออกให้กลายเป็นนิ้วมือแบบปกติ ในระหว่างนั้น Carlos ต้องฝึกใช้มือข้างซ้ายของเขาในการทำกิจวัตรประจำวันแบบง่ายๆ อยู่เสมอ ทั้งการจับมือถือ…
-
ช่างภาพถ่ายทอด ‘คุณภาพชีวิต’ ของหอพักนักศึกษาในมอสโก แออัดและสกปรกกว่าที่คุณคิด
เราคนไทยน่าจะคุ้นชินกับรูปแบบการใช้ชีวิตในหอพักหรืออย่างน้อยที่สุดก็น่าจะได้เห็นตามสื่อหรือมีเพื่อนๆ ใช้ชีวิตแบบนี้มาบ้างล่ะนะ ในบางครั้งที่หอพักในมหาลัยมีไม่เพียงพอ เหล่านักศึกษาก็ต้องออกไปหาเช่าห้องพักนอกมหาลัยกันเอง เรทค่าเช่าก็มีตั้งแต่ 3-6 พัน แล้วแต่พื้นที่ที่เพื่อนๆ อาศัยอยู่ แต่สำหรับนักศึกษาในต่างประเทศแล้วใช่ว่าพวกเขาจะมีตัวเลือกอะไรมากมาย ย้อนกลับไปในปี 2014 มีช่างภาพและนักข่าวชื่อว่านาย Pascal Dumont ที่ทำงานเป็นนักเขียนและตามถ่ายภาพเรื่องราวต่างๆ อยู่ในรัสเซีย ได้ออกสำรวจหอพักหลายๆ แห่งในกรุงมอสโก เพื่อดูว่าเหล่านักเรียนและนักศึกษาที่นั่นมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง? จากการสำรวจของเขาทำให้ได้ภาพน่าทึ่งมามากมายทีเดียว และทำให้เขารู้ว่าความเป็นอยู่ของปัญญาชนรุ่นใหม่ ไม่ได้ถูกหลักสุขอนามัยสักเท่าไหร่ นาย Pascal พบว่าเตียงนอนตามห้องพักต่างๆ เต็มไปด้วยไรฝุ่น มีแมลงสาบวิ่งพล่านไปทั่วพื้น มีฝ้าเพดานรั่วลงมาอยู่หลายห้อง และยังมีขนาดที่คับแคบเมื่อเทียบกับจำนวนผู้พักอาศัย นี่เป็นภาพของ Kudakwashe Ndlov นักศึกษาวัย 25 ปี ที่สอบชิงทุนได้ เขาแชร์ห้องพักกับเพื่อนเดือนละ 341 บาท แม้จะเป็นห้องพักที่เยินมากแล้ว แต่เนื่องจากพวกเขาไม่มีเงิน ทางเลือกของพวกเขาเลยมีไม่มากนัก . สภาพเพดานที่เหมือนพร้อมจะพังลงมาได้ตลอดเวลา นี่เป็นภาพของนักศึกษาชาวไนจีเรีย Christopher Onoja (บน) วัย 22 ปี และนาย…
-
หนุ่มฉุนธนาคารบริการแย่ จ้างสาวโคโยตี้มาเต้นให้ดูว่า “การบริการ” แท้จริงมันต้องทำไง!!
ในฐานะที่เป็นลูกค้า เวลาไปใช้บริการของธนาคารต่างๆ บางทีก็อาจจะมีไม่ถูกใจบ้าง ก็ปล่อยผ่านมันไป แต่ถ้าเจอกรณีหนักๆ หน่อย ก็สามารถแจ้งหรือร้องเรียนกับทางสาขาใหญ่ของธนาคารก็ได้ แต่สำหรับลูกค้าธนาคารรายนี้กลับใช้วิธีการแปลกๆ ด้วยการจ้างสาวระบำเปลื้องผ้ามาเต้นในธนาคาร เพื่อเป็นการประท้วงที่พวกเขาให้บริการแย่จนทนไม่ไหวแล้ว!! เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สาขาหนึ่งของธนาคาร Sberbank ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อลูกค้าผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในธนาคารพร้อมหญิงสาวสองคนที่แต่งตัวปกติในตอนแรก จากนั้นลูกค้าคนดังกล่าวก็พูดกับพนักงานว่า “คุณบริการลูกค้าแบบนี้หรอ มันแย่มาก นี่ผมจะสอนให้รู้ว่าควรปฏิบัติกับลูกค้ายังไง” จากนั้นเขาก็เปิดเพลงที่เตรียมเอาไว้ แล้วผู้หญิงที่มาด้วยสองคนนั้นก็เริ่มเต้นและค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นๆ จนเหลือแค่ชุดชั้นใน แค่นั้นยังไม่พอ สองสาวยังถอดยกทรงออกด้วยแล้วก็ขึ้นไปเต้นบนโต๊ะของธนาคารที่มีพนักงานนั่งอยู่ ในขณะเดียวกันผู้ชายคนเดิมก็พูดขึ้นอีกว่า “พวกคุณทำให้ผมหัวเสียเพราะบริการแย่ๆ ทีนี้รู้หรือยังว่าควรปฏิบัติกับลูกค้ายังไง ผมหวังว่าคุณจะจำเหตุการณ์นี้เอาไว้นะ” ต่อมาทางธนาคาร Sberbank ออกมายืนยันว่าธนาคารในคลิปเป็นหนึ่งในสาขาย่อยของพวกเขาจริง โดย Oleg Vlasov โฆษกของสาขาดังกล่าวบอกว่า “จริงๆ ปัญหาของผู้ชายคนนี้ได้รับการแก้ไขก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว” ดังนั้นพวกเขาจึงได้แจ้งความชายคนนี้ ฐานทำลายชื่อเสียงของธนาคาร แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มีรายงานว่าชายคนนั้นมีความผิดอะไร หรือได้รับโทษอย่างไรบ้าง แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดยังไงกันบ้าง? ที่มา mirror
-
เจ้าเหมียวช่วยเพื่อนบ้านให้รอดชีวิต หลังไม่มีใครได้ยินเสียงเธอ ที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ…
คนที่เลี้ยงแมวมักจะรู้ว่า แมวนั้นมีเซนส์บางอย่างที่มนุษย์ไม่มีหรือจะเรียกว่าสัมผัสที่หกก็ได้ เช่นเวลาเจ้าของป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ก็มีแมวนี่แหละที่มักจะรับรู้ได้ก่อน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความผูกพันระหว่างเจ้าของกับแมว เหมือนกับน้องเหมียวตัวนี้ที่ใช้ความสามารถพิเศษในด้านการได้ยินทำการช่วยเหลือเพื่อนบ้าน จนทำให้เธอรอดมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2017 ได้มีการเผยแพร่เกี่ยวกับความกล้าหาญของเจ้าเหมียว Bandit ที่อาศัยอยู่กับ Fran Swayz ในเมือง Cleburne รัฐเท็กซัส Fran ได้รับเลี้ยง Bandit จากศูนย์พักพิงเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว ปัจจุบันเธอและแมวอาศัยอยู่ในชุมชนผู้อาวุโส Buena Vista Senior Community ปกติแมวอาจจะไม่ค่อยชอบเดินเล่นเหมือนสุนัขสักเท่าไหร่ แต่สำหรับ Bandit แล้ว มันรักการเดินเล่น มันจึงชอบเดินไปกับเจ้าของในทุกๆ เย็น Mary Baker เพื่อนบ้านที่ร้องขอความช่วยเหลือ จนเมื่อเย็นวันหนึ่งลูกสาวของ Fran ได้แวะเข้ามาเยี่ยม เจ้าเหมียวก็ขอให้พวกเขาพาเดินเล่นเป็นรอบที่สอง ซึ่งผิดปกติไปจากเดิมมากๆ เพราะมันไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ถึงอย่างนั้น Fran ก็ปล่อยน้องเหมียวออกมา แต่ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งแล้วร้องเมี๊ยวๆ ส่งเสียงดังตลอด เจ้าของและลูกสาวจึงวิ่งตามมันไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วพวกเขาก็พบกับ Mary Baker…
-
สุดยอดฮีโร่!! หนุ่มจีนกระโดดลงจากรถไฟแบบไม่คิดชีวิต เพื่อช่วยหญิงชราจนถูกทับขาขาด
การข้ามทางรถไฟ ถือเป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง ยิ่งถ้าเป็นผู้สูงอายุที่หูตาไม่ดี พวกเขาอาจไม่ได้ยินเสียงเตือน หรือไม่ได้สังเกตเห็นสัญญาณไฟ เหมือนดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหญิงชรารายนี้ เธอเกือบได้รับอันตรายจากการข้ามรางรถไฟ แต่โชคดีที่รอดมาได้เพราะมีฮีโร่หนุ่มมาช่วยเอาไว้ได้ทัน เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า ในบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2017 Xu Qiankai หนุ่มวัย 29 ปี หนึ่งในผู้ควบคุมรถไฟกำลังขับรถไฟอยู่ในเส้นทางชานเมืองฉงชิ่ง โดยในขณะนั้น เขาได้เห็นหญิงชราคนหนึ่งกำลังเดินข้ามทางรถไฟ ด้วยเหตุนี้เขาต้องรีบดึงเบรกฉุกเฉินและส่งเสียงแตรเตือน แต่แทนที่หญิงรายนั้นจะรู้ตัว เธอกลับยังยืนนิ่งอยู่บนรางรถไฟ ทางด้าน Xu หลังจากที่เขาเห็นว่าเธอไม่ขยับตัว และกำลังจะถูกรถไฟพุ่งเข้าบดขยี้ร่าง จึงทำให้เขารีบกระโดดลงจากรถไฟ พร้อมกับวิ่งเข้าไปหาเธอ และผลักเธอให้พ้นออกไปจากที่เกิดเหตุทันที แม้ว่าเขาจะสามารถช่วยเหลือหญิงรายดังกล่าวได้ทันเวลา แต่ตัวเขาเองกลับเคราะห์ร้ายถูกรถไฟทับบริเวณขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน อย่างไรก็ตาม นาย Xu สามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้มาได้ แต่ก็น่าเศร้าก็คือ เขาต้องถูกแพทย์ตัดขาด้านขวาออกหลังจากที่ถูกรถไฟบดขยี้ “ถึงแม้ว่าผมจะสูญเสียขาไป แต่ผมก็สามารถช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งเอาไว้ได้…
-
มาไทยบ้างสิ!! KFC เปิดสาขาใหม่ในจีน รูปแบบสายเขียวเพื่อสุขภาพ เมนูเน้นผักล้วนๆ
เมื่อพูดถึง KFC หลายคนคงจะนึกถึงเมนูไก่ทอดกรอบชิ้นโตๆ พร้อมกับเมนูของทอดแสนอร่อยอื่นๆ อีกมากมาย แต่สำหรับ KFC ที่ประเทศจีน บอกเลยว่าเรื่องของทอดของมันต้องหลบไป เพราะที่นี่เขาเน้นบริการอาหารคลีนๆ สำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Shanghaiist มีรายงานว่า ในขณะนี้ KFC ที่ประเทศจีน ได้เปิดบริการเมนูอาหารเพื่อสุขภาพเป็นหลัก โดยมาในแบรนด์ใหม่ที่ชื่อ “K Pro” เป็นสาขาแรกที่เมืองหางโจว สำหรับ K Pro นั้นจะแต่งต่างจาก KFC ตรงที่ทางร้านจะไม่เน้นขายของทอดของมัน แต่รายการอาหารจะเน้นไปที่อาหารเพื่อสุขภาพทั้งหมด โดยเมนูก็จะมีทั้งผักสลัดหน้าอกไก่ย่าง กุ้งและแซลมอนรมควัน มาพร้อมกับเครื่องดื่มแสนอร่อยอย่างน้ำผลไม้ นอกจากนี้ยังมีเบียร์สดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มเบียร์อีกด้วย ในส่วนของการออกแบบและตกแต่งภายในร้านก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะภายในร้านได้ถูกออกแบบขึ้นมาให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงการมีสุขภาพที่ดี ขณะที่ชุดของพนักงานจะไม่ใช่ชุดเหมือนกับของแบรนด์ KFC ทั่วไป แต่จะถูกเปลี่ยนเป็นชุดสีเขียวแทน . . อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3…
-
หญิงสาวทำเซอร์ไพร์ คุกเข่าขอแฟนตำรวจแต่งงาน ท่ามกลางขบวนพาเหรดชาวสีรุ้ง…
สำหรับงานพาเหรดชาวสีรุ้ง (LGBT Pride) ที่ถูกจัดขึ้นในทุกๆ ปี ไม่ได้มีแต่บรรยากาศที่สนุกสนานครึกครื้นเพียงอย่างเดียว เพราะในแต่ละปีเรามักจะได้เห็นภาพของคู่รักเพศเดียวกันที่มักจะมาขอกันแต่งงานอยู่เสมอ และล่าสุดวันที่ 8 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศก็ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอสั้นๆ ช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงของอังกฤษ ผู้ดูแลความเรียบร้อยของขบวนในงาน London Pride ถูกแฟนสาวของเธอเซอร์ไพรส์ด้วยการคุกเข่าขอแต่งงาน สร้างบรรยากาศ ณ ตอนนั้นให้โรแมนติกเป็นอย่างมาก จากคลิปวีดีโอปรากฏให้เห็นเป็นภาพของหญิงรายหนึ่งที่เดินเข้าไปหาตำรวจสาวซึ่งเป็นแฟนของเธอ จู่ๆ ก็ทำเซอร์ไพรส์ ด้วยการลงไปคุกเข่าพร้อมด้วยกล่องแหวน เพื่อขอแฟนสาวแต่งงานกลางขบวนพาเหรด และนั่นก็ทำให้คุณตำรวจตอบตกลงทันที งานนี้บอกเลยว่าเรียกเสียงปรบมือและเสียงเฮแสดงความยินดีจากผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ไม่น้อย ก่อนที่คลิปวีดีโอจะจบลงด้วยภาพของทั้งสองกำลังกอดกัน She said YES! Congratulations ❤️?#LoveHappensHere pic.twitter.com/bAmZABMMzD — BTP (@BTP) July 8, 2017 เห็นแล้วยิ้มตามเลย หลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกนำไปเผยแพร่ลงในทวิตเตอร์ ชาวเน็ตก็ได้เข้ามากดไลค์ และแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งก็มีหลายๆ คนเข้ามาแสดงความยินดีกับทั้งคู่อีกด้วย สำหรับงานขบวนพาเหรดชาวสีรุ้งในปีนี้ มีผู้เดินทางมาเข้าร่วมขบวนแห่มากกว่า…
-
งานแต่งแห่งรอยยิ้ม… คู่บ่าวสาวชาวซอยหญ้า ชวนกันเข้าพิธีวิวาห์ ท่ามกลางโรงปลูกกัญชา!?
อย่างที่ทราบกันดีว่า ‘กัญชา’ พืชสมุนไพรสีเขียวที่ออกฤทธิ์เพิ่มความมึนเมาให้กับร่างกาย สำหรับบางประเทศการปลูกหรือมีไว้ครอบครองนั้น ถือเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่ามุมมองต่อเจ้าหญ้าวิเศษนี้เริ่มจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมาย หรืการศึกษาค้นคว้าวิจัยต่างๆ และล่าสุดได้มีคู่รักคู่หนึ่งได้จัดงานแต่งในโรงปลูกเพาะกัญชากันเลยทีเดียว… เจ้าบ่าว Mark Balfe-Taylor และเจ้าสาว Anna Balfe-Taylor ได้ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณรักของพวกเขาภายในโรงปลูกกัญชาถูกกฎหมายแห่งหนึ่งในมหานครลาสเวกัส ฝ่ายเจ้าสาวบอกว่าเธอตกลงจัดพิธีแต่งงานสุดแปลกนี้ทันที หลังจากที่ฝ่ายชายนำไอเดียนี้มาปรึกษากับเธอ งานแต่งของทั้งคู่จัดขึ้นวันเดียวกันกับที่มีการประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายในรัฐเนวาดา ทั้งคู่บอกว่าการจัดงานแต่งของพวกเขานั้นเป็นการสนับสนุนกฎหมายกัญชาของรัฐเนวาดา คุณ Mark Balfe-Taylor นั้นเคยมีอดีตที่เลวร้ายเกี่ยวกับกฎหมายกัญชา ชายหนุ่มเล่าว่าพ่อของเขานั้นเคยถูกดำเนินคดีข้อหามีกัญชาในครอบครอง ดังนั้นมันจึงทำให้เขารู้สึกดีที่มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาของรัฐเนวาดาเสียใหม่ มันเป็นวันที่พิเศษของทั้งสองคนมาก พวกเขายิ้มอย่างความสุข ไปชมบรรยากาศในงานแต่งขอทั้งสองได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งงานแต่ง ที่เต็มไปด้วยความสุขทั้งเจ้าบ่าว เจ้าสาวเลยนะเนี่ย… ที่มา usnews, KTNV Channel 13 Las Vegas
-
ผู้โดยสารเหวอ!? เมื่อมีการอัญเชิญเจ้าแม่ ‘Mazu’ ประทับชั้นธุรกิจ เพื่อเดินทางไปมาเลเซีย
โดยปกติแล้วสายการบินต่างๆ มักจะมีบริการเก็บสัมภาระต่างๆ ของผู้โดยสารไว้ใต้เครื่องอยู่แล้ว ซึ่งอัตราค่าบริการนั้นก็อาจจะแตกต่างกันไป แต่ก็จะมีสิ่งของบางอย่างที่ไม่แนะนำให้ใช้บริการนี้เช่นวัตถุมงคลขนาดใหญ่… และหนุ่มชาวจีน 3 ท่านนี้ก็คงจะเข้าใจถึงความเสี่ยงของการโหลดของใต้เครื่องเป็นอย่างดีหรืออย่างไรไม่ทราบ พวกเขาถึงได้นำวัตถุมงคลขนาดยักษ์นี้ขึ้นเครื่องไปด้วย!? และไม่ได้ขึ้นธรรมดานะ ประทับบนที่นั่งชั้นธุรกิจด้วย!! เรียกได้ว่าเป็นบุญของผู้โดยสารเที่ยวบินจากจีนไปยังมาเลเซีย ของสายการบิน Xiamen Airlines กันเลยทีเดียว เมื่อได้มีการอัญเชิญเจ้าแม่ Mazu ร่วมเดินทางไปกับพวกเขาด้วย โดยชายชาวจีนสองท่านคือคุณ Qian Li Yan และคุณ Shun Feng Er 2 องครักษ์พิทักษ์เจ้าแม่ ได้ทำการอัญเชิบวัตถุมงคลชิ้นนี้เพื่อไปประดิษฐานที่วัด Thean Hou ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและมาเลเซีย ภาพของการเคลื่อนย้ายดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านทางโลกอินเตอร์เน็ต โดยจากการรายงานของสำนักข่าว BBC กล่าวว่าชายทั้งสองคนพร้อมกับเจ้าแม่ Mazu นั้นเดินทางด้วยชั้นธุรกิจ ซึ่งมีค่าตั๋วที่นั่งราวๆ 9,000 บาทเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามการขนย้ายวัตถุมงคลดังกล่าวได้มีการใช้เชือกรัดและยึดน๊อตให้แน่นหนา เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารท่านอื่นๆ แล้ว ส่วนสาเหตุที่เจ้าแม่ Mazu นั่นจะต้องมานั่งที่ชั้นธุรกิจนี้ยังไม่มีการรายงานให้ทราบแต่อย่างใด แต่ #เหมียวเวจจี้ คิดว่าน่าจะเป็นเพราะกลัวเจ้าแม่ได้รับการกระทบกระเทือนแน่ๆ หรือเพื่อนๆ คิดว่าอย่างไรก็ลองคอมเม้นต์มากันได้เลย… ที่มา shanghaiist
-
หนุ่มพลิกชีวิตจากคนไร้บ้าน สู่การเป็นนักออกแบบชุดงานพรอม ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า!!
นี่คือเรื่องราวของ Jimelle Levon เด็กหนุ่มวัยเพียง 18 ปีจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถพลิกผันชีวิตของตัวเองจากที่เคยเป็นคนไร้บ้านสู่การเป็นดีไซเนอร์ออกแบบชุดงานพรอม จนทำให้ผลงานของเขาได้รับการยอมรับ และขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนที่ Jimelle อายุเพียง 10 ขวบ เขากับแม่กลายเป็นคนไร้บ้าน และต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงไปตลอดชีวิตของเขา แต่ถึงแม้ว่าชีวิตจะไม่ได้โรยด้วยกลับกุหลาบเหมือนคนอื่นๆ แต่ Jimelle ก็ไม่เคยยอมแพ้ให้กับตัวเอง เพราะตอนที่เขาอายุ 14 ปี เขาได้เรียนรู้วิธีการตัดเย็บเสื้อผ้า และเมื่อปีที่แล้วเขาก็เพิ่งจะสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลาย นั่นทำให้เขาได้มีโอกาสสร้างชุดงานพรอมสวยๆ ขึ้นมา ซึ่งมันก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาได้ภายในพริบตาเลยละ สำหรับชุดราตรีชุดแรก เขาได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง Coming to America โดย Jimelle ได้สร้างชุดสูทสำหรับตัวเอง และชุดราตรีสำหรับสีทองอันน่าทึ่งให้กับเพื่อนสาว เมื่อเขาได้นำภาพถ่ายชุดราตรีสีทอง ซึ่งเป็นผลงานของตัวเองลงบนโลกออนไลน์ ก็ได้กลับความสนใจจากผู้คนรวมถึง Steve Harvey เป็นอย่างมาก พร้อมกันนี้ Steve ยังได้เชิญให้ Jimelle มาร่วมพูดคุยในรายการของเขาอีกด้วย ปัจจุบัน Jimelle อายุ 18…
-
ลูกค้าควักเงินซื้อจักรยาน มอบให้พนักงานปั้มที่ต้องเดินเท้า 4 ชั่วโมง เพื่อมาทำงานทุกวัน
ทุกวันนี้เราต้องพบเจอผู้คนมากมายโดยไม่รู้ว่าพวกเขาพบเจออะไรมาบ้าง หรือมีชีวิตยังไง แต่หากได้ลองพูดคุยกับคนที่พบเจอ บางทีคุณอาจนำการเปลี่ยนแปลงที่ดีมาให้คนๆ นั้นก็เป็นได้ Johnnie Phillips คุณพ่อลูกสามจากเมืองสปริงฟีลด์ รัฐอิลลินอยส์ ต้องเดินเท้าวันละ 4 ชั่วโมง เพื่อไปและกลับจากปั้มน้ำมันที่เขาทำงานในกะกลางคืน ในขณะเดียวกัน Jim Copeland เป็นคนขับรถของไปรษณีย์ในสหรัฐฯ มักจะเป็นลูกค้าที่มาเติมน้ำมันที่ปั้ม Phillips ทำงานอยู่เป็นประจำ เมื่อมาบ่อยๆ ทั้งคู่ก็ทำความรู้จักกันมากขึ้น จน Jim ทราบว่า Phillips ต้องเดินเท้าหลายกิโลเมตรเพื่อมาทำงานทุกวัน จนทำให้เขาจึงตัดสินใจที่จะเซอร์ไพรส์บางอย่างให้ และแล้ว Jim ก็ซื้อจักรยานใหม่ให้กับ Phillips โดยในวันที่ไปมอบให้เขานั้น Jim ได้ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ด้วย ก่อนจะโพสต์ลงในทวิตเตอร์ เมื่อเห็นจักรยานที่พนักงานไปรษณีย์มอบให้แล้ว ก็ทำให้ Phillips รู้สึกดีใจมาก เข้ายิ้มด้วยความปลื้ม จนพูดแทบไม่ออกเลย ในคลิป Phillips พูดว่า “ทุกวันๆ ผมต้องเดินจากบ้านมาที่ทำงานตลอดทาง ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ” “ผมต้องเดินฝ่าฝน ฝ่าหิมะ ผมต้องปัดเหงื่อบนหน้าทุกวัน แต่แล้ววันหนึ่งก็มีคนยื่นมือเข้าใจช่วยเหลือ ผมซาบซึ้งมาก พูดออะไรไม่ออก ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น”…
-
เล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่…ต่างชาติยกย่องโฆษณา Lego ไอเดียของคนไทย ที่คว้ารางวัลระดับโลก
เลโก้เป็นของเล่นส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ที่เหมาะกับคนทุกเพศและทุกกลุ่มวัย เพราะมันมีวิธีการเล่นที่หลากหลายและแตกต่างได้ตามสร้างสรรค์ของแต่ละคน ล่าสุดก็มีโฆษณาฝีมือคนไทยโดยบริษัท Ogilvy Bangkok ที่นำเลโก้มาต่อเป็นอาชีพในจินตนาการของเด็กๆ เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการสานฝันในอนาคต เป้าหมายสำคัญของเลโก้ดังกล่าวนี้ คือการสร้างแรงบันดาลใจพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความคิดอย่างสร้างสรรค์ คิดหาเหตุผลอย่างเป็นระบบและมุ่งให้เด็กๆ สร้างอนาคตด้วยตัวเอง ซึ่งภายในภาพชุดโฆษณาเหล่านี้ ก็จะมีทั้งภาพของสาวน้อยนักบินอวกาศ ที่จะเล่นกับแสงสว่างให้อารมณ์แบบอวกาศนอกโลก ส่วนหนูน้อยร็อคสตาร์จะเป็นแสงสีในคอนเสิร์ต ในขณะที่หนูน้อยนักดับเพลิงจะเป็นแสงเหมือนเปลวไฟ สาเหตุที่เลือกคาแร็คเตอร์อาชีพเหล่านี้ เพราะทางเอเจนซี่เชื่อว่าจะดึงดูดเด็กๆ ได้มากที่สุด โดยเปลี่ยนจากอาชีพฝันของเด็กๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น นักบินอวกาศ สำหรับเด็กที่ชื่นชอบวิทยาศาสตร์ ร็อคสตาร์สำหรับเด็กที่ชื่นชอบศิลปะ และนักดับเพลิงสำหรับเด็กที่ชอบงานช่วยเหลือสังคม นพดล ศรีเกียรติขจร รองประธานกลุ่มบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ประเทศไทย บอกว่า “เรามีความเชื่อว่าการเล่นคือกุญแจสำคัญในการพัฒนาเด็กให้เติบโต ดังนั้นการเล่นอย่างมีคุณภาพจึงช่วยส่งเสริมและเป็นรากฐานที่สำคัญยิ่งในการเติบโตให้เป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแกร่งในอนาคตต่อไป” ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงได้สร้างสรรค์โฆษณานี้ออกเป็นภาพ Visual Art เพื่อสื่อกับผู้บริโภค โดยผ่านมุมมองการสร้างเลโก้ออกมาเป็นอาชีพในฝันที่เด็กๆ อยากจะเป็น นอกจากนี้บริษัทยังมีแนวคิดว่าเลโก้คือสัญลักษณ์ของการพัฒนาเด็กๆ คือเมื่อพวกเขาต่อเลโก้เสร็จแล้วก็จะเติบใหญ่ขึ้นและเข้าใกล้ความฝันของพวกเขามากขึ้นด้วย เพราะควมสร้างสรรค์นี้ทำให้โฆษณาชิ้นนี้ได้รับรางวัลบนเวทีโฆษณาระดับโลกอย่าง Cannes Lions Festival…
-
ขะ แข็งแกร่ง… ลูกเรือสาวใช้ขวดไวน์ฟาดหัวผู้โดยสาร ที่พยายามจะเปิดประตูเครื่องกลางเวหา
เรื่องราวระทึกขวัญนี้เกิดขึ้นกับสายการบิน Delta Air Lines โดยแอร์โฮสเตสผู้หนึ่งได้ใช้ขวดไวน์จำนวน 2 ขวดฟาดเข้าที่ห้วของผู้โดยสารที่กำลังพยายามเปิดประตูเครื่อง ในขณะที่กำลังบินอยู่กลางอากาศ!! นาย Joseph Daniel Hudek IV ชายผู้ก่อเหตุดังกล่าว ถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2017 ชายหนุ่มคนดังกล่าวถูกควบคุมตัวทันที่เมื่อเครื่องลงจอดที่เมือง Seattle ในรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา หนุ่มวัย 23 ปี ถูกลูกเรือและผู้โดยสารท่านอื่นๆ ล๊อคตัวไว้บนเครื่องบิน Boeing 767-300 ของสายการบินดังกล่าว จากรายงานของ FBI บอกว่านาย Hudek นั้นเป็นผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส ชายหนุ่มได้ดื่มเบียร์เข้าไปก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงพยายามที่จะเดินไปด้านหน้าของเครื่องบินเพื่อเปิดประตูออกไปด้านนอก ระหว่างนั้นพ่อหนุ่มคนนี้ได้ทำร้ายพนักงานต้อนรับบนเครื่องและผู้โดยสารคนอื่นๆ อีกด้วย จากนั้นเมื่อสถานการณ์ดูเหมือนจะแย่ลงไปเรื่อยๆ แอร์โฮสเตสผู้หนึ่งจึงได้ตัดสินใจเอาขวดไวน์ฟาดเข้าที่หัวพ่อหนุ่มเลือดร้อนนี้ถึง 2 ขวด เพื่อทำให้เขาหยุดการกระทำดังกล่าว แต่แล้วเหตุการ์ทั้งหมดก็สงบลงได้ นักบินนำเครื่องลงจอดที่สนามบิน Seattle-Tacoma International Airport ได้อย่างปลอดภัย ส่วนพ่อหน่มคนดังกล่าวถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี ข้อหาขัดขืนการทำงานของลูกเรือ และกำลังเตรียมรับการพิพากษาในวันที่ 13 กรกฏาคม 2017 โดยไม่มีการให้ประกันตัว…
-
ภาพปัจจุบันของ 9 นักแสดงจาก Forrest Gump จากวันนั้นแล้ว พวกเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง!!
เราเชื่อว่าหลายๆ คน เติบโตมาพร้อมกับภาพยนตร์เรื่อง Forrest Gump (ฟอร์เรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม) อย่างแน่นอน เพราะหนังเรื่องนี้บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องมีครบรสมากจริงๆ ซึ่งมีทั้งตลก โรแมนติก และดราม่า ถึงขั้นถูกจัดอันดับให้เป็นภาพยนตร์ที่มีคุณภาพที่สุดของอเมริกาเลยก็ว่าได้ และเมื่อพูดถึงหนังเก่าๆ แบบนี้ ก็ทำให้หลายคนนึกถึงนักแสดงที่มารับบทไปด้วย ซึ่งจากวันนั้นจนถึงวันนี้พวกเขาจะเปลี่ยนไปขนาดไหนกันนะ ในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปรับชมภาพของเหล่านักแสดงนำจาก Forrest Gump ทั้งอดีตและในปัจจุบัน มาดูกันว่าพวกเขาจะเปลี่ยนไปขนาดไหน 1.Tom Hanks รับบท Forrest ปี 1994 และปัจจุบัน ปี 2017 2.Mykelti Williamson รับบท Bubba ปี 1994 และปัจจุบัน ปี 2017 3.Robin Wright รับบท Jenny ปี 1994…
-
ชาวนอร์เวย์ร่วมลงขันบรูณะ ‘หน้าผาหรรมส์ขาด’ ที่ถูกมือดีตัดทิ้ง ให้กลับมาผงาดได้อีกครั้ง
หลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้เราได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการแอบตัดกล่องดวงใจของผาหินแห่งหนึ่งในประเทศนอร์เวย์ (อ่านข่าวเก่า ชาวนอร์เวย์ร่วมลงเงินบูรณะ ‘ผากระปู๋’ อันเลื่องชื่อ มีมือดีบังอาจมาตัดแท่งหินยื่นออก!!) ล่าสุดแท่งหินดังกล่าวถูกนำกลับไปติดที่เดิมเรียบร้อยแล้ว!! ผาหินกระปู๋นี้ได้กลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากที่มันถูกมือดีเข้าไปตัดส่วนที่ยื่นออกมาในช่วงหลายเดือนก่อน และล่าสุดนี้หินขนาด 12 ตัน ถูกยกขึ้นไปติดตั้งที่เดิมด้วยความร่วมมือจากชาวนอร์เวย์ผู้หวงแหนผากระปู๋แห่งนี้ นั่งร้านที่มีความสูงกว่า 10 เมตรและรถเครนขนาดใหญ่ ถูกนำมาใช้ในการบูรณะหน้าผา Trollpikken แห่งนี้ โดยในการซ่อมแซมดังกล่าวได้รับเงินจากการบริจาคถึง 9 แสนบาท และใช้เวลาในการซ่อมแซมนานถึง 1 สัปดาห์ ช่างฝีมือกำลังช่วยกันบูรณะหน้าผา Trollpikken คุณ Olav Magne Egebakken หนึ่งในชาวนอร์เวย์ผู้สังเกตเห็นว่าส่วนที่ยื่นออกมาของผา Trollpikken นั้นหายไป ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ดูเหมือนมีคนใช้สว่านไฟฟ้าขนาดใหญ่ ทำการเจาะและตัดในส่วนด้านบนของมัน นี่เป็นการกระทำที่แย่มากๆ” แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ทางการยังไม่สามารถจับตัวมือดีที่ทำการเฉือนแท่งหินนี้ได้ และแล้วน้องชายก็ได้กลับบ้านอีกครั้ง… หวังว่าคงจะไม่มีใครไปเฉือนแท่งหินนี้อีกแล้วนะ ที่มา dailymail
-
หนุ่มเข้าทำร้ายสุนัขจนเจ็บหนัก เหตุเพราะคิดว่าอดีตคู่หมั้น มีความสัมพันธ์ใหม่กับชายอื่น…
นี่คงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้คนรักน้องหมาทั้งหลายรู้สึกใจสลายขึ้นมาทันที เพราะเจ้าหมาที่น่าสงสารตัวนี้ ต้องกลายมาเป็นเหยื่ออารมณ์ของหนุ่มรายหนึ่ง ที่จับตัวของมันกระแทกเข้ากับผนังด้วยความโกรธ เหตุเพียงเพราะกลัวว่าเขากลัวแฟนเก่าของตัวเองจะไปมีความสัมพันธ์ใหม่กับคนอื่น… วันที่ 9 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ Mirror มีรายงานว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา Shane Gibson หนุ่มวัย 38 ปี ได้ทำการทุบกระจกหน้าต่างเพื่อบุกเข้าไปในบ้านของอดีตคู่หมั้นในเวลาประมาณ 4.30 น. ซึ่งในตอนนั้นเขามีอาการเมาหนักมาก และเชื่อว่าอดีตคู่หมั้นของตนกำลังอยู่กับชายอื่น งานนี้เลยทำให้เขาถึงขั้นโกรธจัด รีบคว้าตัวเจ้า Sky ผู้น่าสงสาร จับกระแทกเข้ากับผนังจนทำให้ขาของมันได้รับบาดเจ็บสาหัส และส่งผลให้มันต้องถูกตัดขาทิ้ง ทางด้าน Philip Brown อัยการประจำศาลท้องถิ่นในคิงส์ตัน อัพพอน ฮัลล์ได้ออกมาเผยว่า “หลังจากที่เข้ามาภายในบ้าน นาย Gibson ได้รีบวิ่งขึ้นบันไดในสภาพร้อนใจ ขณะกำลังมองหาอดีตคู่หมั้นของเขา ซึ่งในตอนนั้นเขาได้ดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ จากนั้นก็เข้าไปในห้องของเธอ และด้วยความโกรธทำให้เขาได้ระบายอารมณ์ด้วยการทำร้ายเจ้า Sky และทำให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัส” จากการรายงานระบุว่า Gibson ไม่ได้นำตัวของเจ้าหมาไปหาสัตว์แพทย์แต่อย่างใด แต่ภายหลังจากนั้นเพียงไม่นาน อดีตคู่หมั้นก็ได้สังเกตเห็นว่าสัตว์เลี้ยงของตนมีอาการบาดเจ็บ “อาการบาดเจ็บของเจ้าหมาถูกทิ้งไว้เป็นเวลานาน…
-
KFC สิงคโปร์ยอมนำ “ไก่แซ่บ” กลับมาขายใหม่ เพราะมีแฟนพันธุ์แท้ ตามตื้อแทบทั้งปี!!
‘ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’ พวกเราคงจะคุ้นเคยกับประโยคสุดคลาสสิคนี้กันเป็นอย่างดีเลยใช่ใหม่ล่ะ และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีเรื่องราวของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ทำให้เห็นว่าประโยคที่เราได้ยินมากันแต่ตอนเด็กๆ นั้นเป็นความจริง!! เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากคุณ Farhan Adam Borst ได้เรียกร้องให้ทาง KFC นำเมนูสุดโปรดของเขามาขายอีกครั้ง (เมนูนี้ไม่ได้มีขายตลอดในต่างประเทศ) ความพยายามในการเรียกร้องของเขาเริ่มมาตั้งแต่ เดือนสิงหาคม ปี 2016 โน่นแหนะ ซึ่งการขอร้องของพี่แกนั้นอาจจะเรียกได้ว่าตื้อแบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะชายหนุ่มคนนี้เล่นไปตามพูดถึงเมนูสุดโปรดของเขาในทุกโพสต์ของร้าน KFC สิงคโปร์เลย เมนูที่ว่านี้ก็คือ Devil Drumlets คล้ายๆ กับวิงซ์แซ่บในบ้านเรา ที่เคยเปิดขายในช่วงปี 2014 ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของคุณ Farhan เลยทีเดียว และแน่นอนว่าเมื่อเมนูที่สุดโปรดหยุดขายไปแล้ว ปฏิบัติการทวงคืนไก่สไปซี่ของพี่คนนี้จึงเริ่มขึ้น เมนูไก่ทอดเผ็ด Devil Drumlets ต่อให้ราคาจะแพงเท่าไหร่ สำหรับ 10 น่องไก่เผ็ดๆ ก็ยอมจ่ายได้ – 3 ตุลาคม 2016 มือผมจะไม่เปื้อนอะไรทั้งนั้น นอกจากผงแซ่บจาก Devil…
-
ผู้หญิงชนเผ่าอินเดีย เจาะจมูกและสักใบหน้า ทำให้ดูอัปลักษ์ เพื่อป้องกันชายต่างเผ่าลักพาตัว
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะใช้เงินไปกับเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ยอมซื้อ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะผู้หญิงต่างก็อยากเป็นคนสวย และดูดีกันทั้งนั้น แต่สำหรับผู้หญิงในชนเผ่าที่เรียกตัวเองว่า Apatanis หรือ Tanis ไม่มีโอกาสทำให้ตัวเองดูสวยงามเหมือนผู้หญิงทั่วไป เพราะความสวยจะเป็นอันตรายต่อตัวเองได้ ภาพถ่ายของผู้หญิงในชนเผ่า Apatani ถ่ายในเดือนตุลาคม ปี 2016 ใน Ziro Valley รัฐอรุณาจัลประเทศ ประเทศอินเดีย Apatanis เป็นชนเผ่าที่อพยพมาอยู่ในที่ราบสูง Apatani ของประเทศอินเดีย พวกเขาเป็นที่รู้จักในฐานะชนเผ่าที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเกษตรกรรม ส่วนประวัติศาสตร์หรือที่มาที่ไปของชนเผ่านั้นไม่ได้ถูกบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร แต่มีเรื่องเล่าที่ถูกถ่ายทอดจากรุุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบันนี้ หนึ่งในเรื่องเล่าเหล่านั้นคือ เหตุผลที่ผู้หญิงในชนเผ่า Apatanis ที่ส่วนใหญ่แล้วจะต้องเจาะรูจมูกเป็นกว้าง และมีรอยสักอยู่ทั่วใบหน้าของพวกเธอ มีการเล่าว่าผู้หญิงในชนเผ่านี้ เป็นคนที่สวยมากและด้วยความสวยความงามเหล่านี้ จะทำให้พวกเธาถูกผู้ชายต่างชนเผ่ามาลักพาตัวไปเป็นภรรยา โดยที่ผู้หญิงไม่ได้มีความรู้สึกเต็มใจเลย หญิงชนเผ่า Apatani สองคนกำลังแบกข้าวเปลือกเพื่อเอาไปให้คู่รักใหม่ที่เพิ่งแต่งงาน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ผู้สูงอายุของชนเผ่าจึงตัดสินใจสักบนใบหน้าของผู้หญิงและเจาะรูจมูกของพวกเธอให้กว้างตั้งแต่เด็ก ทำให้มีลักษณะที่ดูอัปลักษณ์ เพื่อลดความสนใจของผู้ชายต่างเผ่า รอยสักบนใบหน้าจะเริ่มทำเมื่อเด็กหญิงมีอายุครบ 10 ขวบ และแม้ว่าสาเหตุของการทำแบบนี้จะไม่สวยงามเท่าไหร่นัก แต่ผู้หญิงบางก็ภูมิใจกับรอยสักและการเจาะรูจมูก เพราะมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนพวกเขาไปแล้ว…
-
หนุ่มผวาเสียงชักโครกดังกลางดึก ตั้งกล้องพิสูจน์พลังลี้ลับ ที่ไหนได้เป็นเจ้าแมวตัวแสบ!?
หากเราได้ชมหนังผีกันอยู่บ่อยๆ จะพบว่าพล็อตส่วนใหญ่ที่มักจะถูกนำมาใช้ในหนังก็คงจะหนีไม่พ้นการที่สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ทำงานได้ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันกับสิ่งที่นาย Curt Coleman ได้พบเจอเมื่อปีก่อนหน้านี้ขณะที่เขากำลังนั่งดูหนังผีเรื่อง The Conjuring อยู่ที่บ้านคนเดียวพร้อมกับปิดไฟมืดสนิท แต่แล้วจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงกดชักโครกดังขึ้นมาเองอย่างปริศนา Curt เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “การได้ยินเสียงกดชักโครกมันช่างเป็นอะไรที่หลอนมาก โดยเฉพาะตอนที่ดูหนังผี The Conjuring ตอนมืดๆ คนเดียว” จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อทำการถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ แล้วก็ค่อยๆ เดินไปดูที่ห้องน้ำ… และก็พบว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียงกดชักโครกมันไม่ใช่ผี แต่เป็นเพราะเจ้า Crazy แมวเหมียวของเขาที่เลี้ยงเอาไว้นี่เอง (ปั๊ดโถ่ววว เล่นเอาซะตกอกตกใจหมด!!) “มันกระโดดขึ้นมากดชักโครก แล้วก็กดแช่ค้างไว้อย่างนั้นปล่อยให้น้ำในถังชักโครกไหลลงไปจนหมด แล้วก็ทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ดูเหมือนว่ามันจะชอบกิจกรรมการกดชักโครกเอาซะมากๆ เลยล่ะ” นาย Curt เล่า จากนั้นเขาก็เอาคลิปดังกล่าวไปอัพลงเว็บไซต์ยูทูบ และก็พบว่ามีคนให้ความสนใจเข้ามาชมมากกว่า 527,000 ครั้งเลยทีเดียว ลองชมคลิปวิดีโอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ที่มา : littlethings, Curt Coleman
-
‘Paddy’ Mayne จากนักกีฬารักบี้ทีมชาติ ชีวิตเมาหัวราน้ำสุดกู่ สู่ฮีโร่ในสงครามโลกครั้งที่ 2
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ Blair ‘Paddy’ Mayne อดีตนักกีฬารักบี้ทีมชาติอังกฤษ ที่ผันตัวมาเป็นทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกลายเป็นฮีโร่ผู้รับหน้าที่ทำภารกิจที่เสี่ยงอันตรายมาแล้วมากมาย Paddy เป็นชายที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมีร่างกายที่แข็งแรง ตัวสูง หน้าตาหล่อเหลา เล่นกีฬาเก่ง ทั้งกอล์ฟ คริกเกต และการยิงปืนไรเฟิล นอกจากนี้ก็ยังมีความเฉลียวฉลาดแบบสุดๆ เพราะเขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีทางด้านกฎหมายและเตรียมตัวที่จะเป็นทนายความแล้ว แต่เนื่องจากว่าสกิลในการเล่นรักบี้ของพี่แกนั้นช่างโดดเด่นซะเหลือเกินจนได้เข้าไปเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษเมื่อปี 1938 แต่ข้อเสียของพี่ Paddy นั้นมีเพียงข้อเดียวคือเป็นคนที่ติดเหล้าอย่างหนัก แถมเวลาเมาแล้วก็ชอบระรานคนอื่นไปทั่ว มีครั้งหนึ่งที่นาย Harry McKibbin เพื่อนร่วมทีมเล่าว่าหลังจากจบการแข่งขันที่แอฟริกาใต้ พี่แกก็ออกไปเที่ยวจนดึกดื่นพอกลับมาที่โรงแรมก็พังห้องซะเละเลย นอกจากนี้ก็ยังไปต่อยตีกับเพื่อนร่วมทีมอยู่หลายครั้งหลังจากที่ดื่มจนหนัก จนมาถึงปี 1939 Paddy ก็ได้ถูกเชิญชวนให้ไปเข้ากองทัพกับหน่วยปืนใหญ่ Royal Artillery ก่อนที่ความสามารถในการยิงปืนและการรบของเขา จะไปเตะตาท่านนายพัน David Stirling ผู้ก่อตั้งหน่วย SAS (Special Air Service) SAS เป็นหน่วยรบพิเศษที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ (เช่นเดียวกับหน่วย Delta Force และ Navy…
-
สัตวแพทย์เคยช่วยชีวิตเต่าด้วย “ไฟเบอร์กลาส” และแล้วโชคชะตา ก็พาให้เธอได้เจอมันอีกครั้ง
การเลือกเรียนสัตวแพทย์ดูจะเป็นทางเลือกที่ยากลำบากไม่แพ้กับการเรียนแพทย์แบบปกติเลยนะ เพราะมันต้องอยู่บนพื้นฐานการช่วยชีวิตเหมือนๆ กัน เพียงแต่อาชีพสัตวแพทย์อาจจะไม่ได้ถูกกล่าวถึงสักเท่าไหร่ แต่ก็มีอยู่หลายเหตุการณ์เหมือนกัน ที่ทำให้เรารู้ว่าการเป็นสัตวแพทย์ก็ดูเจ๋งไม่แพ้อาชีพอื่นๆ เลย อย่างเหตุการณ์ต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของสัตวแพทย์สาวที่ทำงานอยู่ในคลินิก Hocking Hills Animal Clinic รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนได้มีคนพาเจ้าเต่าตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรถชนมาให้เธอรักษา สัตวแพทย์รายนี้เลยนำเอาแผ่นพลาสติกไฟเบอร์กลาสแปะไว้รอบๆ กระดองของมันเพื่อสมานแผลและรักษาชีวิตของมันเอาไว้ หลังจากที่แน่ใจแล้วว่ามันแข็งแรงดี จึงได้ตัดสินใจพามันกลับไปสู่ผืนป่าอีกครั้ง หลังจากที่เวลาผ่านไปหลายปี สัตวแพทย์ก็ได้ไปเจอเข้ากับเต่าตัวเดิมโดยบังเอิญ และที่เธอจำมันได้ก็เพราะว่าแผ่นไฟเบอร์กลาสที่แปะอยู่บนกระดองของมันนั่นเอง “เมื่อไม่นานมานี้ในขณะที่ฉันกำลังเดินอยู่บนเนินเขา ฉันก็สังเกตเห็นใบไม้รูปร่างแปลกๆ จนเกิดเป็นความประหลาดใจ เพราะนั่นคือคนไข้เก่าของฉัน ที่ยังมีไฟเบอร์กลาสยังติดที่หลังอยู่เลย บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตการทำงานสัตวแพทย์ของฉันเลย” เธอกล่าวผ่านหน้าเฟซบุ๊ก นอกจากนี้สัตวแพยท์สาวยังได้ให้คำแนะนำแก่ชาวเน็ตด้วยว่าให้ช่วยกันสังเกตพวกเต่าที่ได้รับบาดเจ็บ หากมีใครพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกก็ให้ความช่วยเหลือแก่พวกมันสักหน่อย อย่างในกรณีนี้เจ้าเต่าดูจะโตเต็มที่แล้ว การแปะไฟเบอร์กลาสลงไปดูจะเป็นวิธีที่เหมาะสม แต่หากยังเป็นลูกเต่าที่เติบโตได้อีก อาจจะต้องนำไปให้สัตวแพทย์ตรวจดูเป็นระยะๆ เพื่อปรับเปลี่ยนไฟเบอร์กลาสให้เหมาะสมกับพวกมัน แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มันก็สร้างผลกระทบต่อจิตใจผู้คนในวงกว้างทีเดียว “ลูกของฉันเองก็รักเต่าทะเลหลังจากเจอมันในสภาพที่กระดองหักและขาหลังหลุดหายไป ต้องขอขอบคุณเจ้าเต่าที่ทำให้เขาก็ตั้งใจจะเดินทางสายนี้เพื่อช่วยเหลือตัวอื่นๆ เช่นเดียวกับตัวที่เขาได้พบ” “ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคนที่รักษาสัตว์ป่าด้วยนะ” “นี่มันยอดเยี่ยมมาก เมื่อตอนที่ฉันเป็นเด็กฉันเคยเอาข้อความติดไว้ที่กระดองของมันด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าหากเราเจอมันอีกครั้งเราจะได้รู้ว่ามันคือตัวเดิม จนมาเมื่อปีที่ผ่านมาลูกชาย 6…
-
น่ารักจังลูก!! เด็กน้อยวัย 2 ขวบมี “คนเก็บขยะ” เป็นไอดอล ตั้งตารอที่จะได้เจอทุกอาทิตย์
มีไม่กี่อาชีพหรอกนะ ที่จะกลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับเด็กๆ จนพวกเขาอยากจะเติบโตมาแล้วทำอาชีพนั้นๆ ซึ่งอาชีพเหล่านั้นก็คงจะหนีไม่พ้นอาชีพอย่างหมอ พยาบาล ตำรวจ ทหาร ครู วิศวกร จะมีสักกี่คนที่ชื่นชมอาชีพคนเก็บขยะจนยกให้พวกเขากลายเป็นไอดอล? นี่เป็นเรื่องราวของเจ้าหนู Quincy Kroner วัย 2 ขวบ ที่อาศัยอยู่ในรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ในทุกๆ วันศุกร์จะมีคนเก็บขยะ 2 คนขับรถผ่านหน้าบ้านเพื่อมาเก็บขยะเสมอ เจ้าหนู Quincy ไม่ได้มองพวกเขาว่าเป็นคนใช้แรงงานเนื้อตัวมอมแมมแต่กลับมองว่านั่นคือฮีโร่ของเขาเลย การรอคอยให้ถึงวันศุกร์นั้นดูจะเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับหนูน้อย Quincy นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าทุกครั้งที่คนเก็บขยะขับรถผ่านหน้าบ้านก็จะทำการโบกไม้โบกมือมาให้ วันหนึ่งทีมคนเก็บขยะก็เลยมอบรถเก็บขยะของเล่นจำลองให้กับหนูน้อยเป็นรางวัล Quincy ก็เลยอดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะรอให้ถึงสัปดาห์ต่อไปเพื่อจะถ่ายภาพร่วมกันกับพวกเขา แต่เมื่อถึงวันที่ต้องถ่ายภาพจริงๆ หนูน้อย Quincy กลับไม่ได้แฮปปี้ดี๊ด๊าเหมือนอย่างที่เคย เพราะในวันนั้นเขากลับตื่นกลัวเสียงของรถเก็บขยะจนถึงกับร้องไห้ ด้านคุณพ่อของเขานาย Ollie Kroner ได้กล่าวกับสื่อว่า “เขาจะยิ้มทุกครั้งที่รถเก็บขยะผ่านมา ผมถามเขาว่าอยากจะถ่ายภาพกับพวกเขาไหม? เขาก็ตอบตกลง แต่ผมคิดว่าเขาคงตกใจเพราะเสียงรถเก็บขยะที่อยู่ตรงหน้าพวกเรามันดังมาก” แต่คุณพ่อก็เล่าว่าหลังจากที่หายกลัวเสียงดังของรถเก็บขยะแล้ว เขาก็กลับมายิ้มแย้มและเล่นกับรถของเล่นได้ตามเดิม ที่มา huffingtonpost , cincinnati
-
เจ้าหมาน้อยลากที่นอนใหม่ไปไว้ข้างรั้ว เพื่อแบ่งให้หมาแปลกหน้า ได้ห่มบรรเทาความหนาว
ขอแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับเจ้า Anna หมาน้อยวัย 8 เดือน ที่อาศัยอยู่กับเจ้าของสุดที่รักในประเทศบราซิล ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้า Anna เป็นหมาจรจัดที่อาศัยอยู่ข้างถนนร่วมกับพี่น้องของมันมาก่อน แต่ภายหลังได้ถูกคุณ Suelen Schaumloeffel และคู่หมั้นรับมาเลี้ยง จนทำให้มันได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้านที่แสนอบอุ่น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เจ้า Anna หลงลืมเรื่องราวในอดีตของตัวเอง และทำให้มันมีความเข้าใจหัวอกของเหล่ามะหมาที่ไร้บ้านได้เป็นอย่างดี… เมื่อเช้าวันอังคารที่ผ่านมา คุณ Suelen ก็ออกไปทำงานปกติ แต่ก็พบว่าเจ้า Anna ได้คาบผ้าห่มที่เพิ่งซื้อมาให้ใหม่ เอาไปไว้ข้างๆ รั้วเพื่อแชร์ผ้าห่มให้กับหมาตัวหนึ่งที่อยู่ข้างนอกบ้าน เพราะช่วงนั้นอากาศหนาวมาก “ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่งดงามมากกับสิ่งที่เจ้า Anna ทำให้เพื่อนใหม่ของมัน และมันทำให้ฉันเข้าใจว่าความเอื้ออาทรต่อเพื่อร่วมโลกนั้นเป็นเรื่องที่ดีแค่ไหน” คุณ Suelen เล่า เนื่องจากว่าเจ้าหมาตัวนั้นมันไม่ยอมให้คนเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย แต่จากการสังเกตดูก็พบว่ามันมีแท็กชื่อห้อยคออยู่ คาดว่ามันน่าจะหลุดจากบ้านของใครสักคนมา เพราะที่ละแวกบ้านก็ไม่เคยมีหมาจรจัดมาอาศัยอยู่เลย ถึงอย่างนั้น Suelen ก็ยังไม่ละความพยายาม เธอตั้งใจจะช่วยเหลือมันเพื่อพากลับไปหาเจ้าของ และเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้เธอและคู่หมั้นรู้สึกประทับใจในตัวของเจ้า Anna เป็นอย่างมาก “มันคือหมาที่ใจดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยล่ะ และบางครั้งฉันก็มักจะลืมไปว่าเราสามารถสร้างสิ่งดีๆ ให้กับคนอื่นได้ด้วยการช่วยเหลือกันแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ซึ่งเจ้า…
-
ภารกิจเข้าช่วยเหลือ ‘อดีตม้าแข่งระดับแชมป์’ หมดค่าก็ถูกทิ้ง เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก…
บางครั้งชีวิตของคนเราก็อาจจะได้พบเจอกับจุดสูงสุด และจุดต่ำสุดกันบ้างสลับกันไป… เช่นเดียวกันกับชีวิตของเจ้าอดีตม้าแข่งตัวนี้ ที่เมื่อก่อนเคยเป็นยอดม้าที่กวาดรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันมาแล้วหลายรายการ แต่หลังจากที่เรี่ยวแรงเริ่มโรยราไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เหมือนในอดีต สุดท้ายก็ถูกทิ้งไว้ให้อยู่ในสภาพที่น่าเวทนา ผู้หวังดีที่อาศัยอยู่ในเมือง Opelousas รัฐ Louisiana ได้ทำการติดต่อไปยังองค์กรช่วยเหลือสัตว์ St. Landry Parish Animal Control and Rescue (SLPAC) ให้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าม้าตัวดังกล่าวหลังพบว่ามันมีสภาพย่ำแย่มาก พอเดินทางมาถึงสถานที่แล้วก็เริ่มให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่ามันอ่อนแอมาก ร่างกายของมันพังพินาศอย่างสิ้นเชิง กระดูกสันหลังถูกหนอนชอนไช เนื่องจากแผลที่เกิดขึ้นจากการผูกอานที่แน่นเกินไปเป็นระยะเวลานาน จนทำให้เกิดแผลเปิดขึ้นมากมายหลายจุด ซึ่งบาดแผลแต่ละที่นั้นก็มีการติดเชื้ออย่างรุนแรง แถมยังมีฝีอยู่ในปากของมันทำให้ไม่สามารถเคี้ยวหญ้าแห้งได้ เป็นเหตุให้เนื้อตัวของมันซูบผอมเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เจ้าหน้าที่จึงตกลงปลงใจว่าวิธีการช่วยเหลือที่ดีที่สุดสำหรับมันก็คือช่วยให้มันไปสบาย จะได้ไม่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสแบบนี้อีกต่อไป…ใช่แล้ว พวกเขาตัดสินใจทำการุณยฆาตมัน “ผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันก็น่าจะเข้าใจว่าพวกเราได้พยายามจนถึงที่สุดแล้ว” คุณ Stacey McKnight เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์กร SLPAC กล่าว แม้มันจะเป็นวิธีที่ฟังดูโหดร้าย แต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ขอให้หลับให้สบายนะเจ้าม้า ที่มา : thedodo
-
เทรนด์หนุ่มต่างประเทศ ทำการเมคอัพ ‘กระปู๋’ ของตัวเอง เพื่อให้ดูใหญ่และสว่างปิ๊งๆ!?
โดยปกติแล้วสาวๆ ทั้งหลายจะใช้ ‘การเมคอัพ’ เพิ่มความสวยงามบนใบหน้า เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง สำหรับเหล่าหนุ่มๆ เองก็มีวิธีในการใช้การเมคอัพเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้เอามาแต่งหน้านะ เอาไปแต่ง ‘กระปู๋’ ให้ดูใหญ่ขึ้นกว่าเดิม!? และมันกำลังกลายเป็นเทรนด์ที่เหล่าหนุ่มในต่างประเทศกำลังให้ความสนใจ แม้แต่ช่างแต่งหน้าชื่อดังอย่าง Jeffree Star ก็ยังออกมาเปิดเผยว่าเขาเองก็เมคอัพกระปู๋ของตัวเองอยู่บ่อยๆ ซึ่งการเมคอัพกระปู๋นั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่แต่อย่างใด เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้มีคอนเท้นท์ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ หรือบทความ ที่แนะนำการตกแต่งกระปู๋ของตัวเองเพื่อทำให้มันดูใหญ่ขึ้นมาในโลกออนไลน์มาแล้วหลายปี ด้วยเหตุนี้เองทางเว็บไซต์ Metro ก็เลยติดต่อไปถามช่างแต่งหน้าชื่อดังอย่าง Hannah Sorcha ถึงวิธีการตกแต่งเบื้องต้น ก็ได้ความว่า… “ใช้บรอนเซอร์สีเข้มๆ ตกแต่งบริเวณด้านข้างของโคนแท่งลากยาวขึ้นมาจนถึงปลาย เพื่อเสริมให้ดูมีความยาวมากยิ่งขึ้น จากนั้นก็เติมสีเข้มกว่าเดิมลงไปอีกเพื่อเติมเงาลงไป” “จากนั้นก็เติมไฮไลท์เข้าไปตรงกลางของแท่ง เพื่อทำให้มันดูใหญ่และสว่างปิ๊งๆ มากยิ่งขึ้น แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งนี้เมื่อคุณจะมีเซ็กส์ก็ต้องล้างมันออกก่อนนะ เพราะไม่เช่นนั้นสารเคมีจากเครื่องสำอางค์อาจจะทำอันตรายให้กับคู่นอนของคุณได้” แหม่ ใครอยากได้อยากโดนก็ลองเอาไปใช้งานกันดูได้นะจ๊ะ ฮร่าๆ ที่มา : metro
-
เสี่ยงตายรายได้งาม “นักจับปูอลาสก้า” อาชีพอันตรายที่สุดในโลก ออกรอบเดียวได้หลักล้าน!!
ใครที่กำลังเผชิญอยู่กับปัญหาการเงินติดขัด หรือรู้สึกว่างานที่ทำมันช่างได้ค่าตอบแทนที่ไม่เหมาะสมเอาซะเลย วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับอาชีพจับปูที่มีรายได้ดีสุดๆ สื่อหลายสำนักต่างเคยลงเรื่องราวของอาชีพนักจับปูอลาสก้ามาให้เราเห็นผ่านตากันบ้างแล้ว ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่าเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตรายสูงมาก แต่ก็แลกมาด้วยค่าตอบแทนที่สูงจนน่าตกใจเช่นกัน อาชีพจับปูอลาสก้านั้นจะสามารถทำได้เฉพาะช่วงเดือน ตุลาคม – มกราคม ของทุกปีเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวที่สุดในรอบปี และในช่วงที่สภาพอากาศหนาวที่สุดในรอบปีนี้เอง จะเป็นช่วงที่เหล่าปูอลาสก้าทั้งหลายเดินทางมาวางไข่ใต้ท้องทะเลลึกกัน ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสทองเดียวของพวกเขาในการล่าพวกมันมาขาย ส่วนใหญ่แล้วการเดินเรือหนึ่งครั้งจะใช้ระยะเวลาประมาณไม่เกิน 2 – 4 อาทิตย์/ปี เท่านั้น พวกเขาจะต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวสุดขั้ว ท่ามกลางมหาสมุทรที่มีคลื่นซัดกระหน่ำ The Bureau of Labor Statistics ได้จัดอันดับให้งานจับปูอลาสก้า เป็นงานที่มีความเสี่ยงสูงมากที่สุดติดอันดับต้นๆ มีการเก็บค่าเฉลี่ยและพบว่าในทุกๆ รอบของการเดินทางไปจับปู จะต้องมีลูกเรือเสียชีวิต 1 คนเป็นอย่างน้อย ลูกเรือทุกคนจะต้องทำงานอย่างหนักเกือบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแข่งขันกับเวลาในการจับปูอลาสก้า ทว่านั่นเป็นสาเหตุทำให้คนงานส่วนใหญ่ขาดสติในการทำงาน และเสียชีวิตจากการจมน้ำตาย หรือไม่ก็เสียชีวิตจากภาวะตัวเย็นเกิน ด้วยกฎหมายการออกล่าที่จำกัดระยะเวลา ทำให้พวกเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อแข่งกับเวลา ทว่าด้วยความเสี่ยงที่สูงกว่าอาชีพอื่นๆ ทำให้คนจับปูเป็นอาชีพที่มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่า 50,000 –…
-
โรงแรมในดูไบเตรียมทำ “ป่าฝน” ภายในอาคาร ให้ผู้คนรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติจริงๆ มากขึ้น
ประเทศที่พัฒนาได้อย่างมาแรงแซงทางโค้งชาวโลกมากที่สุด ก็คงต้องยกรางวัลให้กับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากเมื่อไม่กี่สิบปีก่อนที่ยังเป็นเพียงประเทศแห้งแล้ง ปัจจุบันพวกเขากำลังจะก้าวล้ำเข้าไปอีกขั้นแล้วนะ!! โดยล่าสุดสำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่าบริษัทในเครือของ Hilton พร้อมที่จะให้บริการโรงแรมป่าฝนและความชุ่มชื่นเป็นที่แรกของโลก ซึ่งจะเปิดให้บริการในเมืองดูไบภายในปี 2018 ที่จะถึงนี้ งบประมาณในการก่อสร้างทั้งหมด 230 ล้านเหรียญยูโร (ราว 10,116 ล้านบาท) จุดประสงค์หลักของการสร้างป่าฝนในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการให้เมืองดูไบกลายเป็นอีกหนึ่งในศูนย์รวมนักท่องเที่ยวที่มาจากฝั่งตะวันตกและตะวันออก ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถนำเงินเข้าประเทศได้อีกหลายเท่าตัวในระยะยาว ภายใน Rosemont Hotel & Residences จะถูกตกแต่งด้วยป่าฝนจำลองทั้งหมด หนึ่งในจุดที่น่าสนใจมากที่สุดของโรงแรมแห่งนี้ คือสระน้ำที่มาพร้อมกับทิวทัศน์ของดูไบทั้งเมือง โรงแรมแห่งนี้จะประกอบไปด้วยห้องรับรองสุดหรูกว่า 450 ห้อง ห้องอาหาร ห้องประชุม และชั้นของโรงแรมที่ถูกจัดให้เป็นป่าฝนสำหรับพักผ่อนทั้งชั้น แม้ว่าจะต้องจำลองบรรยากาศ และสภาพภูมิอากาศ แต่ต้นไม้ทุกชนิดจะถูกเพาะพันธุ์มาจากป่าฝนจริงๆ นี่คือตัวอย่างโรงจอดรถสุดหรู ที่ถูกตกแต่งทุกทิศทางให้เป็นสีเขียว ดูเย็นตาเย็นใจมากขึ้นไปอีก นอกจากนั้นภายในอาคารยังประกอบไปด้วยอพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวอีกกว่า 280 และร้านค้าแบรนด์ดังระดับไฮเอนด์จากทั่วโลก และทั้งหมดนี้ก็เป็นตัวอย่างของโรงแรมป่าฝนแห่งแรกในโลก ที่จะถูกเนรมิตรขึ้นมาท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุแห่งตะวันออกกลาง ดูไบพัฒนาไปอีกขั้นแล้วสินะ… โอ้วว๊าวว…
-
นักเทนนิสร่ำไห้กลางการแข่งขัน “Wimbledon” เพราะยังรู้สึกคิดถึงพ่อที่จากไปแล้ว…
สำหรับนักกีฬาเทนนิสมืออาชีพนั้น เชื่อว่าเป้าหมายสูงสุดอย่างหนึ่งของพวกเขาคือการได้คว้าแชมป์รายการ Wimbledon เช่นเดียวกับ Steve Johnson นักเทนนิสมือวางอันดับที่ 31 ของโลก เขาก็เป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่มีเป้าหมายเป็นถ้วยรายการวิมเบิลดัน ทว่าระหว่างการแข่งขันกลับมีเหตุการณ์ที่ชวนให้คนทั้งโลกน้ำตาคลอเกิดขึ้น Steve Johnson นักเทนนิสมือวางอันดับที่ 31 ของโลก สัญชาติอเมริกัน นับว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นครั้งแรกของ Steve Johnson ที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรายการวิมเบิลดัน ทว่าจู่ๆ เจ้าตัวก็หลั่งน้ำตาออกมาในเซ็ตที่ 3 ระหว่างประมือกับ Marin Cilic (มือวางอันดับ 6) และเป็นอย่างที่เราทราบกันดีว่า ความเสียใจถึงพ่อผู้จากไปที่ถาโถมเข้ามาระหว่างการแข่งขันนั้น ได้ทำให้เจ้าตัวเสียสมาธิและแพ้คู่แข่งไปอย่างน่าเสียดาย คุณพ่อของนักเทนนิสหนุ่มคนนี้มีนามว่า Steve Johnson Snr เขาได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยวัย 58 ปี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากคุณพ่อของเขาจะทำหน้าที่คอยดูแลเลี้ยงดูลูก จนกลายเป็นนักเทนนิสอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว คุณพ่อของเขายังเป็นโค้ชสอนเทนนิสให้กับลูกชายมาตั้งแต่ยังเด็กอีกด้วย พ่อลูกในฐานะนักกีฬาและโค้ช ระหว่างการแข่งขันเซ็ตสุดท้ายจู่ๆ เจ้าตัวก็เริ่มเสียสมาธิและหลั่งน้ำตาออกมา …
-
ชายทำฟาร์มวัวแต่ทำใจฆ่าไม่ลง เพราะดันเป็นมังสวิรัต สุดท้ายตัดสินใจนำวัวไปบริจาค…
หลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิตลงในปี 2011 Jay Wilde ชายวัย 59 ปีใน Ashbourne สหราชอาณาจักร ก็ได้รับมรดกฟาร์มวัวต่อจากครอบครัว และนับตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้ส่งวัวไปยังโรงฆ่าสัตว์อย่างต่อเนื่อง อยู่มาวันหนึ่ง เขาก็ได้รู้ว่าตัวเองไม่สามารถทนต่อการส่งวัวไปฆ่าได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Jay ได้ตัดสินใจมอบวัวส่วนหนึ่งในฟาร์มให้กับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Hillside Animal Sanctuary ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับ Frettenham ใน Norfolk ทางด้าน Jay เกษตรกรผู้ที่กินมังสวิรัติเป็นเวลานานกว่า 25 ปี ได้ออกมากล่าวว่า มันเป็นเรื่องยากมากที่จะส่งพวกมันไปยังโรงฆ่าสัตว์ แต่เขาสัญญากับพ่อเอาไว้ว่าจะดำเนินกิจการต่อจากครอบครัว สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถรักษาสัญญาเอาไว้ได้ และตัดสินใจที่จะมอบวัวทั้งหมดให้กับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ได้ดูแล เมื่อทางพี่เขยได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาก็ได้ออกมาเผยว่า Jay เป็นคนวิกลจริต เพราะการทำฟาร์มปศุสัตว์สามารถทำรายได้มากถึง 40,000 ปอนด์ หรือราวๆ 1.7 ล้านบาทเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขายกเลิกการทำฟาร์มวัว Jay ไม่ได้เปลี่ยนมาทำฟาร์มผักแต่อย่าง…
-
แอบส่องวิถีเหล่าทายาทเศรษฐีรัสเซีย ชีวิตบนกองเงินกองทอง ในแบบที่ไม่อาจเอื้อมถึง
วันที่ 7 กรกฎาคม 2017 สำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยภาพของบรรดาลูกเศรษฐีในประเทศรัสเซียจากอินสตาแกรมที่ชื่อ @richrussiankids ซึ่งในขณะนี้มีผู้ติดตามมากกว่า 490,000 คนมาให้เราได้รับชมกันว่า เด็กๆ ที่เกิดบนกองเงินกองทองเหล่านี้ มีชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวันอย่างไรบ้าง โดยแต่ละภาพแสดงให้เห็นว่า พวกเขามีความสุขและสนุกสนานอยู่กับความมั่งคั่งของตน แถมบางคนยังมีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราจนใครที่ได้เห็นต่างก็แอบพากันอิจฉาเบาๆ ในขณะที่ผู้คนเหล่านี้กำลังสนุกอยู่กับวิถีชีวิตอันฟุ่มเฟือยของตัวเอง ก็มีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้จ่ายอันสิ้นเปลืองของพวกเขา โดยมีชาวเน็ตบางคนได้ออกมากล่าวว่า “ฉันไม่ต้องการเขียนถึงสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนข้างนอกนั่น แต่มันเป็นความอัปยศที่คนเหล่านี้ไม่สามารถซื้อสมองใหม่ให้กับตัวเองพ่อแม่ของพวกเขาทำงานอย่างหนัก เพื่อนำเงินมาให้คนขี้เกียจเหล่านี้ได้ใช้กันอย่างสะดวกสบาย” และนี่คือภาพตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ จากอินสตาแกรมดังกล่าว ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย . . . . . . . . . . . สำหรับหลายคนที่สงสัยว่าชีวิตการเป็นมหาเศรษฐีในรัสเซียเป็นอย่างไร เมื่อได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วก็คงพอจะรู้กันแล้วใช่ไหมว่าพวกเขามีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่หรูหรามากขนาดไหน แต่ถ้าหากใครที่แอบน้อยใจว่าโลกนี้มันช่างไม่ยุติธรรมซะเหลือเกิน ทำไมเราถึงเกิดมาไม่รวยแบบนี้บ้าง จริงๆ แล้วคนเราไม่จำเป็นต้องมีเงินที่มากมายมหาศาลหรอก… เพราะเราสามารถสร้างความสุขเล็กๆ ให้ตัวเองได้ และถ้าหากวันใดวันหนึ่งที่เรารู้สึกท้อแท้ ก็โปรดจงจำไว้ว่าอย่างน้อยในโลกใบนี้ก็มีคนที่ลำบากกว่าเราเยอะ ที่มา : dailymail
-
23 ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลัง ของการเปลี่ยนทรงผม ทำให้แทบจะจำคนเดิมไม่ได้เลย!?
ใครที่กำลังอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนวุ่นวายหรอก เริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุดเลย นั่นคือการเปลี่ยนทรงผมของเรานั่นเอง แบบชนิดที่ว่าเปลี่ยนลุคให้พลิกไปเป็นอีกแบบได้ทันที!! ใครที่ไว้ผมยาวมาตลอดก็ลองตัดให้สั้นบ้าง ใครที่ไม่เคยไว้ผมยาวก็ลองปล่อยใหัมันยาวบ้าง หรือถ้าไม่อยากตัดก็ลองเปลี่ยนทรงหรือเปลี่ยนสีบ้างก็ได้นะ แล้วคุณจะดูเปลี่ยนไปในรูปแบบที่ว่าคนอื่นก็แทบจะจำคุณไม่ได้เลย 1. ลุคไหนดีคะ เลือก.. 2. เปรี้ยวมากค่ะ หมายถึงลุคนะ ไม่ใช่กลิ่นตัว 3. เปล่งปลั่งขึ้นมาทันที 4. ทรงผมเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน 5. ตัดสั้นแบบพองาม 6. บางคนตัดสั้นแล้วหน้าเด็กลงนะ 7. ตอนผมยาวเป็นไงไม่รู้ แต่ตัดแล้วสวยเนาะ 8. นี่คนเดียวกันจริงๆ ใช้ไหม? 9. เปลี่ยนรักจะมีคนเจ็บ แต่ถ้าเปลี่ยนลุคจะมีคนทักนะจ๊ะ 10. หัวล้านเหรอ ผมปลอมช่วยคุณได้ 11. ตัดให้ขาดเลย ชับ ชับ ชับ 12. คนสวย ทำทรงไหนก็สวยอยู่ดี…
-
ตามไม่ทันแล้วพี่บัวลอย… 37 ภาพอาหารที่ถูกจัดเสิร์ฟ ด้วยวิธีแปลกประหลาดจนพูดไม่ออก
สิ่งที่ร้านอาหารส่วนใหญ่กำลังทำอยู่ตอนนี้คือ พยายามหาซิกเนเจอร์ของร้านที่มีความแตกต่าง แปลกใหม่ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และซิกเนเจอร์ของร้านมักจะมาในรูปแบบของการเสิร์ฟอาหาร ที่แต่ละร้านพยายามนำเสนอวิธีการแปลกๆ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ของการกิน และจะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ (ทั้งในด้านที่ดีและไม่ดี) จนยากที่จะลืมเลือนว่าเคยเจอะเจออะไรมา ฮร่าาาาา 1. ทุกอย่างดูเก๋ไก๋ไปหมด 2. ต้องเริ่มกินจากส่วนไหนก่อนเนี่ย 3. มันอาจจะกินลำบากหน่อย แต่ก็คุ้มค่ากับการถ่ายรูปอวด 4. กินอย่างมีสไตล์ 5. จะเรียกขอหวานหรือของคาวดี 6. บาร์บี้ก็มา 7. ส้มสดคั้นเองเล้ยยย 8. จะแพงก็ตรงอุปกรณ์เสิร์ฟอาหารนี่แหละ 9. กินอาหารสไตล์ชาวสวน 10. ขนมสายไหมบนหัวม้า 11. ล้าเต้อาร์ทในแครอท 12. อยากรู้ราคาจานนี้ 13. กินวนไปค่ะ 14. น้ำแข็งธรรมดามันน่าเบื่อแล้ว ต้องน้ำแข็งทรงมือแบบนี้สิ…
-
ความรักที่ไม่มีกำแพงกั้น… งานแต่งของหญิงสาวคู่รักเพศเดียวกัน เป็นคู่แรกของออสเตรเลีย
ยังคงเป็นอีกหนึ่งกระแสที่มีการเคลื่อนไหวให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ในต่างประเทศ นั่นก็คือเรื่องของเสรีภาพทางด้านเพศ ล่าสุดได้มีเรื่องดีๆ เกี่ยวกับการยอมรับเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้ นเมื่อหญิงสาวคู่หนึ่งกลายเป็นคู่แต่งงานเพศเดียวกันชาวออสเตรเลียกันคู่แรก… คุณ Carly Naughton วัย 31 ปี และคู่รักของเธอคุณ Alee Fogarty วัย 28 ปีได้เข้าร่วมพิธีแต่งงานในเมือง Surfers Paradise เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 ทั้งสองพบกันเมื่อปี 2015 ก่อนที่จะเริ่มสร้างความสัมพันธ์และตกลงแต่งงานกัน ทั้งสองได้กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ (Evermore Pledge) โดยถึงแม้ว่าในตอนนี้การแต่งงานของเพศเดียวกันยังไม่ถูกต้องตามกฎหมายในประเทศออสเตรเลียก็ตาม แต่การกล่าวคำปฏิญาณดังกล่าวนั้นจะมีผลบังคับทางกฏหมายทันที เพราะมันเป็นหนึ่งในข้อกำหนดของกฏหมายการสมรสในออสเตรเลีย ซึ่งจะรวมถึงการทำพินัยกรรมต่างๆ การทำหนังสือมอบอำนาจ หรือการซื้ออสังหาริมทรัพย์อีกด้วย ทั้งคู่ดีมีความสุขในวันพิเศษของพวกเขามาก คุณ Naughton กล่าวว่า “สำหรับพวกเราแล้วนี่ไม่ใช่แค่พิธีแต่งงาน แต่เราต้องการที่จะใช้ชีวิตในอนาคตร่วมกัน การกล่าวคำปฎิญาณนั้นก็มีผลทางกฎหมาย พวกเราต้องการที่จะอยู่เคียงข้างกันไปตลอด” งานแต่งานจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย โดยมีเพื่อนสนิทและคนในครอบครัวร่วมเป็นพยานรักของทั้งคู่ ทั้งสองสัญญาจะดูแลกันตลอดไป และแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ให้แก่กัน การกล่าวคำปฏิญาณ (Evermore Pledge)…
-
นักเรียนประดิษฐ์ “นิ้วที่ 6” ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น พร้อมเติมเต็มให้คนที่สูญเสียไป…
เคยคิดไหมว่าถ้าคนเรามีนิ้ว 6 นิ้ว มันจะเป็นยังไง?? มันก็คงจะแปลกๆ สินะ แต่ในความแปลกนี้มันอาจทำให้การชีวิตของเราง่ายขึ้นก็เป็นได้นะเออ ด้วยเหตุนี้ Dani Clode นักเรียนชั้นมัธยมจาก London’s Royal College of Art (RCA) จึงได้สร้างสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า The Third Thumb (นิ้วหัวแม่มือที่ 3) ซึ่งเป็นนิ้วที่ 6 ของมนุษย์ขึ้นมา The Third Thumb จะใส่ด้านข้างของมือและเชื่อมต่อกับสายข้อมือที่ติดตั้งด้วยระบบไฟฟ้าและเซอร์โว นิ้วที่ 6 นี้สามารถควบคุมได้โดยใช้เซนเซอร์วัดความดันที่อยู่ใต้เท้า ถ้าคุณกดเท้าลงไปข้างเดียว นิ้วที่ 6 ก็จะเกิดการเคลื่อนไหวและถูกส่งไปยังข้อมือผ่านระบบบลูทูธ มันอาจจะฟังดูงงๆ แต่ Clode บอกว่ามันใช้งานง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน และไม่ต่างจากการขับรถที่ต้องบังคับพวงมาลัย ต้องเหยียบคันเร่งและเบรกในเวลาเดียวกัน Clode ตั้งใจที่จะทำให้มันกลายเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง เพราะมันไม่เพียงช่วยเติมเต็มคนที่นิ้วไม่ครบ แต่ยังทำให้คนนิ้วครบได้รับความสะดวกมากขึ้นด้วย Clode บอกว่า “The Third Thumb…
-
สื่ออินเดียตีข่าว ชาวบ้านส่งคนแก่เข้าไปในป่าหวังให้เสือขย้ำ เพื่อจะรับเงินเยียวยาจากรัฐ…
เงินมักจะเป็นปัจจัยที่เปลี่ยนจิตสำนึกของมนุษย์ ที่ทำให้มนุษย์ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินโดยไม่คำนึงถึงหลักศีลธรรมหรือความถูกต้องใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับเขตป่าสงวนของอินเดีย ที่ถูกกล่าวหาว่าส่งคนเฒ่าคนแก่เข้าไปในป่าเพื่อเป็นอาหารให้เสือ โดยหวังจะเรียกร้องค่าชดเชยจากรัฐบาล กระบวนการดังกล่าวนี้ได้ถูกค้นพบโดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมอาชญากรรมสัตว์ป่า Wildlife Crime Control Bureau (WCCB) ในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย หลังพบหลักฐานที่ผิดสังเกต ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใกล้กับถิ่นที่อยู่ของเสือ กรณีล่าสุดได้รับรายงานเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 โดยพบศพหญิงชราวัย 55 ปี ในทุ่งที่ใกล้กับหมู่บ้านของเธอ แต่ชิ้นส่วนเสื้อผ้ากลับถูกพบห่างออกไปอีก 1 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในเขตที่อยู่ของเสือ นอกจากนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าร่างของหญิงชราคนดังกล่าวได้รับการโยกย้ายมาก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรู้ เสือในเขตสงวน Pilibhit จะถูกปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติอย่างอิสระ ซึ่งทุกคนในพื้นที่ต่างก็รู้กันอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีคนที่จงใจเข้าไปในเขตของเสือ แม้ถูกทำร้ายหรือเสียชีวิตก็จะไม่รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล แต่หากถูกทำร้ายหรือเสียชีวิตนอกเขตป่าสงวน ครอบครัวของพวกเขาจะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล… หลังที่จากที่มีรายงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุที่ถูกเสือโจมตีเสียชีวิต ปรากฎว่ายอดคนชราที่เสียชีวิตเพราะถูกเสือขย้ำก็พุ่งขึ้นสูงผิดปกติ โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ที่เสียชีวิตไป 7 คน จนเจ้าหน้าที่เริ่มสงสัยว่าอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุแล้ว ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จากหลายๆ ฝ่ายจึงได้รวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจนพบว่า ชาวบ้านจงใจส่งสมาชิกผู้สูงอายุในชุมชนเข้าไปในป่าเพื่อเป็นอาหารให้กับเสือ เพราะหวังจะได้เงินค่าชดเชยจากรัฐบาล เมื่อสอบถามแทนที่ชาวบ้านจะปฏิเสธ พวกเขากลับบอกว่าผู้สูงอายุเหล่านั้นอาสาเดินเข้าไปในป่าด้วยตัวเอง เพื่อให้ครอบครัวของพวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น ในขณะที่นาย…
-
หนุ่มยื่นร่มให้เด็กหญิงที่หลบฝน จึงได้รู้ว่าเธอตกเป็นเหยื่อความรุนแรง จนนำไปสู่การช่วยเหลือ
ทุกวันนี้เราต้องพบเจอผู้คนมากมาย ทั้งรู้จักและไม่รู้ และเราจะไม่รู้เลยว่าชีวิตของพวกเขาเจอกันอะไรบ้างหรือคิดอะไรอยู่ ถ้าเราไม่เดินเข้าไปถามหรือพูดคุยด้วย แต่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเลือกที่จะไม่เดินผ่านคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือในวันที่ฝนตก จนสุดท้ายเขาก็ได้กลายเป็นผู้เปลี่ยนชีวิตให้หญิงสาวคนหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2017 Yuto Morita อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Kwansei Gakuin University เดินทางกลับบ้านที่อยู่ในเมือง Takarazuka เมื่อเดินออกมาจากสถานี Mondo-Yakujin ก็พบว่ามีฝนตกหนักมาก เขาจึงกางร่มเพื่อที่จะเดินทางฝ่าฝนกลับบ้าน แล้วทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวคนหนึ่งอายุประมาณ 12 ปี กำลังยืนหลบฝนที่หน้าร้านค้าใกล้ๆ กับสถานี Morita จึงตัดสินใจเข้าไปหาเธอ แล้วก็มอบร่มของตัวเองเพื่อที่เธอจะสามารถเดินกลับบ้านได้ จากนั้นเด็กหนุ่มก็วิ่งฝ่าฝนไปทางบ้านของตัวเอง แต่พอหันมาอีกที ปรากฏว่าเด็กหญิงคนนั้นวิ่งตามเขามาด้วย เธอร้องไห้แล้วบอกกับ Morita ว่า ไม่อยากกลับบ้านเธอเพราะกลัวพ่อ เด็กหนุ่มจึงแนะนำให้เธอโทรแจ้งตำรวจ แต่เด็กหญิงจะไม่เห็นด้วยกับวิธีนั้น ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงติดต่อกับเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งของเธอเพื่อที่จะทำให้เธอสบายใจมากขึ้น แล้วพวกเขาก็มาเจอกันที่บ้านของ Morita จุดที่เด็กหนุ่มเจอเด็กหญิง ขณะที่นั่งทานอาหารว่าง เด็กหญิงก็เริ่มเล่าเรื่องของตัวเองว่า ทุกๆ วันเธอจะออกจากบ้านก่อนที่พ่อจะตื่น และจะไม่กลับเข้าไปบ้านจนกว่าพ่อจะหลับไป เด็กหญิงบอกว่า “ถ้าพ่อเจอฉัน เขาจะตีฉันทันที”… จากการบอกเล่า Morita รู้ว่าเด็กหญิงคนนี้กำลังตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงจนไม่สามารถปกป้องตัวเองได้…
-
ศาลสั่งจำคุกเหยื่อข่มขืน 30 ปี ในข้อหาฆาตกรรม หลังจากที่เธอแท้งลูกในท้องโดยไม่รู้ตัว!?
กลายเป็นเรื่องที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนที่ประเทศเอกวาดอร์เป็นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ซ้ำเติมกับหญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของการข่มขืน และเธอถูกศาสสั่งจำคุก 30 ปีหลังจากที่เธอแท้งลูกออกมา!? Evelyn Beatriz Hernandez Cruz หญิงสาวชาวเอกวาดอร์วัย 19 ปีถูกแจ้งข้อหาฆาตกรรม โดยทางอัยการกล่าวว่า เธอนั้นไม่ต้องการเด็กและโยนเขาทิ้งไว้ในชักโครกหลังจากที่เด็กน้อยคลอดออกมา ทารกที่ออกมานั้นมีอายุครรภ์เพียงแค่ 32 สัปดาห์เท่านั้น หญิงสาวถูกข่มขืนมานานหลายเดือนก่อนที่เธอจะตั้งครรภ์ โดยเธอนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าตัวเองตั้งท้องและกำลังจะคลอดลูก ส่วนการที่เด็กหลุดออกมานั้นเกิดจากภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ของเธอ เธอถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 30 ปี เนื่องจากการแท้งลูกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ และลูกในครรภ์นั้นก็เกิดมาจากการข่มขืน แต่อย่างไรก็ตามทางอัยการยังคงยืนยันว่าเธอนั้นมีเจตนาที่จะฆ่าเด็กทารก และตอนนี้ทนายความของ Hernandez กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในวันพุธที่จะถึงนี้ต่อไป ประเทศเอกวาดอร์นั้นเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือว่าการทำแท้ง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือกรณีใดๆ ก็ตามต่างก็เป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยกฎหมายดังกล่าวถูกบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 1998 แล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีผู้ถูกตัดสินจำคุกเพราะการทำแท้งจำนวนมาก อย่างเช่นในปี 2011 มีหญิงสาวคนหนึ่งถูกตัดสินจำคุกนานถึง 40 ปีจากข้อหานี้ หลังจากที่เธอเกิดปวดท้องกระทันหันและแท้งลูกที่บ้านของตัวเอง สำนักข่าว Mirror รายงานว่าการตัดสินคดีความของ Hernandez นั้นขาดการพิจารณาในหลายๆ ด้านและไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะบอกว่าเธอจงใจทำแท้ง ทางด้านองค์การสหประชาชาติได้ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายข้อนี้ โดยทางด้านคุณ Erika Guevara-Rosas ผู้อำนวยการของ…
-
ช่างภาพตามเก็บภาพสถานที่สวยๆ จากทั่วโลก และนำมาผสมผสานทั้งสองขั้วได้อย่างลงตัว
ในแต่ละปี เราจะได้เห็นภาพถ่ายที่น่าสนใจของช่างภาพจากทั่วโลกมากมาย ซึ่งมันมีทั้งภาพถ่ายที่ดูแปลกตา น่าตื่นตาตื่นใจ สวยงาม ฯลฯ และในครั้งนี้เราจะขอพาคุณมารับชมภาพถ่ายโลกคนละขั้ว ที่ถูกนำมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวบ้าง สำหรับภาพถ่ายเหล่านี้ เป็นผลงานของช่างภาพผู้ใช้อินสตาแกรมที่ชื่อ howfarfromhome พวกเขาได้เดินทางไปสำรวจสถานที่ต่างๆ รอบโลกมาเป็นเวลาถึง 2 ปี และได้ไปเยือนประเทศต่างๆ มาแล้วกว่า 40 ประเทศ พร้อมกับเก็บภาพสวยๆ มามากถึง 14,000 ภาพ ซึ่งหลังจากที่ได้เก็บภาพจากรอบโลกมาแล้วทั้งหมด เขาก็ได้สังเกตเห็นถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างภูมิประเทศและวิวทิวทัศน์ของสถานที่ต่างๆ และนั่นก็ทำให้เขาได้ปิ๊งไอเดียเจ๋งๆ ในการนำสถานที่เหล่านั้นมาผสมผสานให้กลายเป็นภาพเดียวกัน และนี่คือผลงานส่วนหนึ่งของเขา… 1.Bryce Canyon ในประเทศสหรัฐอเมริกา และทิวเขาโดโลไมท์ ในประเทศอิตาลี 2.ทาวเวอร์บริดจ์ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และสะพานบรูคลิน ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 3.อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ ในประเทศแคนาดา และอุทยานแห่งชาติ Tsitsikamma ในประเทศแอฟริกาใต้ 4.ดอกฟลอร่า จากประเทศออสเตรเลีย และดอกบาหลี ในประเทศอินโดนีเซีย 5.ป่าในประเทศนอร์เวย์ และป่าไผ่ในประเทศญี่ปุ่น…
-
ปู่วัยเกษียณถึงกับเดือด หลังเห็นเพื่อนบ้านปล่อยให้สุนัขอึเรี่ยราด และไม่ยอมทำความสะอาด
ในขณะที่บ้านของเราไม่ได้เลี้ยงสุนัข แต่กลับต้องมาทนทุกข์อยู่กับอุจจาระของสุนัขข้างบ้านที่อึเรี่ยราด เรียกได้ว่ามันคงเป็นสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากแน่นอน John Smedley คุณปู่วัยเกษียณคนนี้ก็เช่นกัน เขาถึงกับโกรธจัดหลังจากที่เพื่อนบ้านไม่ยอมเก็บอุจจาระของสุนัขตัวเอง งานนี้เล่นเอาคุณปู่ถึงกับออกมาต่อว่าเจ้าของอย่างดุเดือดกันเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Metro ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอขณะที่ John คุณปู่วัย 72 ปี ได้ออกมาด่าเพื่อนบ้านซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์วัย 3 ปีอย่างโกรธจัด หลังจากที่เขาได้ปล่อยให้สุนัขของตัวเองอึเรี่ยราดบนท้องถนน จากการรายงานระบุว่า คุณปู่ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อกล่าวหาของ David McDermott ว่าสุนัขของเขานั้นอึเป็นของเหลว โดยทาง Lynn คุณย่าวัย 72 ผู้เป็นภรรยาก็ได้ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมโยนถุงให้กับชายผู้เป็นเจ้าของสุนัข เพื่อให้เขาทำความสะอาดถนน นอกจากนี้ คุณปู่ยังได้ออกมาเผยว่า “ตอนนั้นฉันอยู่ในห้องนอน และกำลังทำความสะอาดหน้าต่าง ซึ่งฉันก็เห็นในสิ่งที่เขากำลังทำ เขาปล่อยให้สุนัขของเขาอยู่ที่นั่น และเขาก็ยืนอยู่ที่นั่นด้วย… เมื่อสุนัขของเขาอึเสร็จ เขาก็เหยียบมันและใช้เท้าถูมัน จากนั้นเขาก็เดินออกไป ซึ่งมันทำให้ฉันทนไม่ได้ที่จะตะโกนด่าเขาจากหน้าต่างห้องนอน” หลังจากที่ทางคุณปู่ได้ตะโกนด่าผู้เป็นเจ้าของสุนัข เขาก็ได้ตอกกลับมาว่า สุนัขของเขาได้อึบนถนนสองครั้ง แต่เขาไม่สามารถทำความสะอาดได้…
-
โรงเรียนอนุบาลในรัสเซีย สร้างเหมือนปราสาทในเทพนิยาย ให้เด็กๆ เพลิดเพลินไม่มีสิ้นสุด
ก็รู้กันอยู่แล้วว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่ไม่ชอบไปโรงเรียน ดังนั้นผู้ปกครองจึงต้องรวมมือกันทำทุกอย่างเพื่อให้หนูๆ รักการไปโรงเรียนให้ได้!! และคงไม่มีเด็กคนไหนโชคดีไปกว่านักเรียนอนุบาล 150 คน ในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ที่ได้ไปเรียนในโรงเรียนที่เหมือนปราสาทในเทพนิยายแห่งนี้แล้วล่ะ ในทุกๆ วัน แทนที่เด็กอนุบาลเหล่านี้จะได้ไปโรงเรียนอนุบาลทั่วไป แต่พวกเขาจะได้เข้าไปโลดแล่นใน Castle of Childhood ซึ่งเป็นปราสาทในชีวิตจริง ที่ให้เด็กๆ ได้เพลิดเพลินกับของเล่นในจิตนาการหรือเล่นเป็นเจ้าหญิงเจ้าชายได้ตามต้องการ Castle of Childhood ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนอนุบาลที่สวยที่สุดในโลก เพราะในโรงเรียนเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย มีปราสาทที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม มีพื้นที่ให้เล่นอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังมีชิงช้า สไลด์เดอร์ มีบ้านของเล่นหลายหลัง มีสนามฟุตบอล ลานวิ่งเล่นและสวนดอกไม้ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่เด็กๆ ชอบ เพื่อให้เด็กๆ เพลิดเพลินไปกับความสนุกตลอดเวลา โรงเรียนอนุบาลในฝันแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณ Lenin State Farm และได้เปิดทำการไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2013 Pavel Grudinin ผู้อำนวยการได้ไอเดียนี้มาหลังจากที่ได้ไปเยี่ยมชมปราสาท Neuschwanstein ของประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดปราสาทเจ้าหญิงนิทราของดิสนีย์แลนด์ด้วย Grudinin…
-
ยายชาวจีนลงทุนสร้าง “วังเซรามิค” เพื่อสานฝันของตัวเอง มีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท!!
คนเราถ้ามีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจ ก็ย่อมประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ เหมือนกับคุณยายคนนี้ที่ลงทุนทั้งแรงเงินและแรงใจ เพื่อสร้างวังเป็นของตัวเองได้สำเร็จ Yu Ermei อายุ 86 ปีจากเมืองจิ่งเต๋อเจิน ทางตะวันออกของจีน ได้ทุ่มเงินกว่า 30 ล้านบาท และใช้เวลาอีก 5 ปี ในการสร้างพระราชวังของตนเอง และตกแต่งให้สมบูรณ์ด้วยเซรามิคแทบทั้งหมด!! ตั้งแต่เริ่มทำโครงการนี้ มีแต่มองว่าเธอบ้า แต่คุณยายบอกว่าชีวิตของเธอจะไม่สมบูรณ์เลยถ้าไม่มีพระราชวังเป็นของตัวเอง ครั้งแรกที่ Yu ตัดสินใจสร้างวังเมื่อ 6 ปีก่อน ทางครอบครัวต่างคิดว่าเธอคงเข้าสู่วัยชราแล้ว ก็เลยคิดอะไรแบบไม่ปกติ แต่คุณยายอธิบายให้พวกเขาฟังว่ามันเป็นความฝันในชีวิตเธอ… คุณยายอาศัยอยู่ในเมืองจิ่งเต๋อเจิน ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องถ้วยชามเซรามิค ตั้งแต่อายุ 12 ปี ดังนั้นเธอจึงอยากจะสร้างอะไรสักอย่างเพื่อเป็นเกียรติกับเมืองที่เติบโตมาและเพื่อให้รุ่นลูกหลานได้ดูด้วย คุณยาย Yu เคยทำงานในวงการธุรกิจเซรามิคมาแทบจะตลอดชีวิต ครั้งแรกเธอเป็นแค่เด็กฝึกงานในเวิร์กช็อปเครื่องถ้วยชามเท่านั้น ต่อมาเธอก็ได้เป็นคนงานในโรงงานเซรามิคของรัฐแห่งหนึ่ง ตลอดการทำงานเธอได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมาย จนสามารถมาเปิดเตาเผาเป็นของตัวเองได้ หลังจากที่เปิดโรงงานเซรามิคของตัวเอง เธอก็ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เธออยากตอบแทนเมืองจิ่งเต๋อเจินด้วยเครื่องเซรามิค นอกจากขายถ้วยชามเซรามิคไปทั่วประเทศจีนและส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว Yu ยังเก็บสะสมเครื่องเซรามิคมาตั้งแต่ 30 ปีก่อนด้วย แต่คุณยายไม่รู้ว่าจะเอาเซรามิคพวกนี้ไปทำอะไร จนกระทั่งได้ไปเห็นพิพิธภัณฑ์…
-
คุณพ่อเดือดปุดๆ!! เมื่อลูกชายไปงานพรอม แต่ถูกเชิญออกจากงานเพราะ ‘แต่งกายไม่สุภาพ’
งานพรอมเป็นงานที่นักเรียนมัธยมหลายๆ คนรอคอย บางคนถึงกับตัดชุดรอเพื่อไปงานนี้โดยเฉพาะ แต่ก่อนตัดหรือก่อนซื้อชุด ควรดูกฎของงานพรอมด้วยนะว่าแบบไหนใส่ได้หรือไม่ได้ เหมือนกับนักเรียนชายคนนี้ที่แต่งตัวมาอย่างหล่อเหลาเพื่อเข้าร่วมงานพรอม แต่สุดท้ายก็ถูกไล่ออกมาจากงานเพียงเพราะใส่กางเกงขาเต่อกับรองเท้าสีฟ้า!? Baden Kerr วัย 16 ปี ได้เลือกชุดใส่ไปงานพรอมที่ต่างไปจากธีมของงานเล็กน้อย เพราะผู้จัดงานระบุว่าผู้ชายต้องแต่งกายด้วยชุดทางการอย่างเช่นชุดอาหารค่ำ หรือชุดทักซิโด้ แต่ชุดที่ Baden เลือกใส่เข้างานพรอมนั้นก็คือ กางเกงขาเต่อ รองเท้าสีฟ้าและไม่ใส่ถุงเท้า ส่วนช่วงบนที่ไม่เข้าธีมของงานก็คือแว่นกันแดดสีดำ เมื่อถูกตักเตือนเขากลับใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพกับหัวหน้าสถานศึกษารวมทั้งกับสตาฟคนอื่นๆ สุดท้ายเขาจึงถูกเชิญออกจากงานทันที Warren Kerr วัย 52 ปี พ่อของ Baden ยอมรับว่าลูกชายทำผิดกฎจริง แต่เขารู้สึกว่าลูกชายตกเป็นเหยื่อของทางโรงเรียนจากการกระทำดังกล่าว พ่อบอกว่า “เมื่อไปถึงงาน พวกเขาบอกว่าเขาแต่งตัวไม่เหมาะสม แต่งตัวไม่เข้าธีม แถมผมก็สั้นเกินไป ในขณะที่ลูกชายบอกว่ามันเป็นทรงที่เขามั่นใจที่สุดแล้ว” “ก็จริงนะที่เขาอาจไม่ใช่คนโดดเด่นอะไรในโรงเรียน แต่การทำแบบนี้เท่ากับเป็นการกลั่นแกล้งเขา ผมหมดความอดทนแล้วจริงๆ” พ่อบอก หลังจากที่ถูกไล่ออกจากงานพรอม แม่ของชายหนุ่มก็ไปรับเขาที่รีสอร์ทสถานที่จัดงานทันที เพราะตอนนั้นเขารู้สึกเสียใจมาก จนทำอะไรไม่ถูก พ่อบอกอีกว่า “เราเสียเงินไปมากกับเรื่องนี้ เพราะก่อนจะถึงวันงาน ทางโรงเรียนได้แจ้งกฎระเบียบให้นักเรียนและผู้ปกครอง โดยระบุว่าให้ใส่ชุดสุภาพ” ในจดหมายที่ได้รับระบุว่า สาวๆ จะใส่ชุดราตรียาว ส่วนหนุ่มๆ…
-
ศิลปินนำหนังสือกว่า 100,000 เล่มที่ถูกสั่งแบน มาสร้างเป็น “วิหารหนังสือพาร์เธนอน” อันยิ่งใหญ่
ทุกวันนี้มีหนังสือไม่น้อยที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ตีพิมพ์ ห้ามอ่าน ห้ามวางจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางด้านเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือด้วยเหตุผลอื่นๆ ก็ตาม จนสุดท้ายมันก็กลายเป็นแค่กองกระดาษรวมเล่มหนาๆ ที่ไม่มีใครสนใจ แต่สำหรับศิลปินชาวอาร์เจนตินาอย่าง Marta Minujín วัย 74 ปี ไม่ได้ปล่อยให้หนังสือที่ถูกสั่งห้ามเหล่านั้นเป็นเพียงแค่กระดาษที่ไร้ค่า Minujín ได้นำหนังสือกว่า 100,000 เล่ม ที่ถูกแบนด้วยเหตุผลต่างๆ มาสร้างเป็นวิหารพาร์เธนอนขนาดใหญ่ ที่มีความสวยงามอย่างเหลือเชื่อ วิหารนี้มีชื่อว่า The Parthenon of Books ตั้งอยู่ใจเมือง Kassel ประเทศเยอรมนี ถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปะ Documenta 14 โดยได้รับความช่วยเหลือจากนักศึกษามหาวิทลาลัย Kassel University ในหนังสือจำนวน 100,000 เล่มนี้ ประกอบไปด้วยหนังสือที่มีเนื้อหาแตกต่างกันกว่า 170 เรื่อง ที่ถูกแบนจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก Minujín สร้างวิหารหนังสือโดยการใช้สก๊อตเทปพันหนังสือติดกับเสาเหล็กที่มีการติดตั้งหลอดไฟไว้ข้างใน มันจึงดูสวย โดดเด่นในเวลากลางคืน สำหรับหนังสือที่มีการถกเถียงกันมากที่สุดในประเทศเยอรมนีคือ Adolf Hitler’s “Mein Kampf” อันเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอุดมการณ์ทางการเมืองของฮิตเลอร์ แถมยังถูกสั่งเซนเซอร์ปกปิดจากนาซีเองเสีย…
-
คุณป้าโวยเดือด ตั้งใจไปผ่าตัดเล็ก ไม่รู้หมอทำอีท่าไหน… ตื่นมาฟันหน้าหายเกลี้ยง!?
ลองคิดดูว่าจะเป็นยังไง ถ้าคุณตั้งใจไปผ่าตัดเล็ก แต่หมอดั๊นไปทำอย่างอื่นแถมเล่นใหญ่อีกต่างหาก แบบนี้ไม่ตรงสเปคสุดๆ!! โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณป้า Gail Tapp เมื่อเธอได้เดินทางไปเข้ารับการผ่าตัดเล็ก เพื่อบรรเทาอาการแผลฟกช้ำตามร่างกาย ที่โรงพยาบาล USMD ในเมือง Fort Worth รัฐเท็กซัส คุณป้า Gail Tapp สำนักข่าว CBFNews รายงานว่า เนื่องจากตอนผ่าตัดคุณป้าได้รับยาชาทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มและไม่ได้สติ ซึ่งเธอได้บอกกับหมอว่าเธอมีสะพานฟัน (สำหรับผู้ใช้ฟันปลอม) อยู่ในปาก ทันทีที่เธอตื่นขึ้นมาจากการผ่าตัด เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างผิดแปลกไปจากเดิม… “ฉันรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นกับช่องปากของฉัน” เธอกล่าวถึงความรู้สึกแรกที่ตื่นขึ้นมา คุณป้าถึงกับตกใจเมื่อตื่นมาพบว่าฟันปลอมของเธอหายไปหมดเลย..!? ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ออกมาชี้แจงว่า คุณป้า Gail เป็นคนบอกคุณหมอเองว่าให้ช่วยถอดสะพานฟันออก ในช่วงที่คุณหมอกำลังย้ายท่อหายใจ ยิ่งไปกว่านั้นคือก่อนหน้าการผ่าตัด คุณป้าได้เซ็นเอกสารรับทราบข้อตกลงเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัดแล้ว ทำให้โรงพยาบาลไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้เธอ ล่าสุดคุณป้าออกมาชี้แจงว่า ถ้าจะใส่ฟันใหม่ต้องใช้เงินสูงถึง 15,000 เหรียญสหรัฐฯ เธอขอแค่โรงพยาบาลยกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ก็พอแล้ว… ก็ไม่รู้นะว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง… แต่ดูเหมือนป้าจะแอบอยากหาเรื่องไม่จ่ายหนี้นะเนี่ย ที่มา: TheSun
-
ชาวเน็ตยกย่อง คุณแม่โพสต์ภาพ ‘ล่อนจ่อน-ใส่ผ้าอ้อมหลังคลอด’ เพราะเป็นแม่มันไม่ง่าย!!
โดยปกติแล้ว ถ้ามีคนโพสต์ภาพหวือหวาหรือลามก ลงเฟสบุ๊ค ก็ต้องมีแต่คนรุมด่า ว่ามันเป็นสิ่งที่สังคมมองว่ามันไม่เหมาะสม… แต่ไม่ใช่กับคุณแม่ยังสาวคนนี้ ซึ่งรูปของเธอกลับถูกอกถูกใจคนเป็นแม่ทั่วโลก ความจริงที่คนเป็นแม่ต้องพบเจอ คุณแม่ยังสาวโพสภาพที่น่าประทับใจหลังการคลอดบุตร Amanda Bacon คุณแม่ยังสาวจากรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสรูปของเธอขณะที่ล่อนจ้อนอยู่ในผ้าอ้อมสำหรับคุณแม่ หลังจากที่เธอคลอดบุตร ถ้าเป็นการโพสภาพหวือหวาแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทั่วๆ ไปก็คงจะถูกตราหน้าไปแล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับภาพนี้ เพราะ Amanda เป็นคนโพสด้วยตัวเธอเอง ซึ่งทำให้ภาพนี้มียอดไลค์พุ่งสูงถึง 212,000 ไลค์ และยอดแชร์กว่า 69,106 ครั้ง ในเวลาเพียงแค่ 10 ชั่วโมง!! “ชีวิตคนเป็นแม่ เวอร์ชั่นอันเซ็นเซอร์ – ฉันแชร์ภาพนี้ก็ว่ามันคือสิ่งที่จริงแท้ นี่แหละคือความเป็นแม่ ไม่มีการปรุงแต่ง ทั้งน่าทึ่ง ทั้งวุ่นวาย แล้วก็น่าขำในเวลาเดียวกัน… การมีลูกเป็นประสบการณ์ที่สวยงาม แต่ความเป็นจริงหลังการคลอดกลับไม่ถูกพูดถึง และไม่มีการเก็บรูปถ่ายเอาไว้ บางคนอาจจะอึดอัดเมื่อเห็นภาพนี้ แต่ทำไมต้องอึดอัดล่ะ?? ไม่เข้าใจจริงๆ เราทุกคนควรที่จะยอมรับ ทำความเข้าใจ และให้ความสำคัญกับทุกๆ แง่มุมของการคลอดบุตรสิ รวมถึงสถานการณ์แบบนี้ด้วย เราถ่ายมันขณะที่พวกเรากำลังเฮฮากัน ไม่มีอะไรจะต้อนรับการเป็นแม่ได้ดีกว่าเด็กน้อยน่ารัก และผ้าอ้อมสำหรับคุณแม่อีกแล้ว”…
-
ผู้เชี่ยวชาญคาด ปี 2025 ผู้หญิงจะมี ‘เซ็กส์’ กับ ‘หุ่นยนต์’ มากกว่าคนจริงๆ ด้วยกัน…
เราต่างก็รู้ว่าในอนาคตนั้นกำลังจะเข้าสู่โลกของหุ่นยนต์กันมากขึ้น และมันอาจจะมาทำงานแทนมนุษย์ในหลายๆ อย่าง รวมไปถึงการใช้งานเพื่อสนองตอบทางเพศ แทนที่เซ็กส์ทอยหรือตุ๊กตายางในยุคปัจจุบันด้วย Dr Ian Pearson เป็นนักอนาคตวิทยา เขาได้ชี้ให้เห็นว่า ในอนาคตนั้นผู้หญิงจะใส่ใจหุ่นยนต์มากกว่าผู้ชาย และนั่นหมายถึงว่า การมีเซ็กส์กับหุ่นยนต์อาจจะเป็นเรื่องปกติอย่างนั้นหรือ!? เขากล่าวทำนองว่าไม่นานหุ่นยนต์จะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงชอบมากกว่าหนังโป๊เสียอีก จริงๆแล้ว เขาคิดว่าภายในปี 2050 จะมีการรวมความรักของมนุษย์และหุ่นยนต์เข้าด้วยกัน “โดยในตอนแรกนั้น ผู้คนมากมายแห่กันจองหุ่นยนต์เซ็กส์ แต่พอเมื่อพวกเขาได้ใช้มันแล้ว ก็อาจจะเบื่อในภายหลัง แต่ ความสามารถในการคิดของ AI จะมีมากขึ้น พวกเขาก็เริ่มที่จะเป็นเพื่อนกัน ทำอะไรต่ออะไรด้วยกัน และมีความผูกพันที่แน่นแฟ้น” Ian กล่าวในรายงาน แค่นี้ยังไม่พอ ยังมีการตั้งชื่อให้มนุษย์ที่หลงรักหุ่นยนต์ว่า Robophilia และนี่คือ สิ่งที่ Ian คาดการณ์ไว้ ปี 2025 หุ่นยนต์เซ็กส์จะเริ่มมีจำหน่าย และเป็นของเล่นอีกชนิดหนึ่งของเหล่าคนมีอันจะกิน ปี 2030 ผู้คนจะเริ่มมีความสุขกับโลกเซ็กส์แบบเสมือนจริง (VR อันล้ำยุค) เหมือนกับเราดูหนังโป๊ ปี 2035 ประสบการณ์เซ็กส์แบบ VR กับเซ็กส์ทอยจะเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ปี 2050 การมีเซ็กส์กับหุ่นยนต์จะพบได้มากกว่าการมีเซ็กส์ปกติ …
-
สื่อนอกลงข่าว สาวไทยถูกช่วยจาก “ซ่องเกาหลีใต้” หลังแอบส่งโน้ต ให้พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต
เมื่อไม่นานมานี้ หลายคนคงจะพอได้ยินข่าวเกี่ยวกับสาวไทยที่ถูกหลอก และถูกบังคับให้ไปขายบริการที่ประเทศเกาหลีใต้กันมาบ้างแล้ว และล่าสุดวันที่ 8 กรกฎาคม 2560 มีรายงานจากทางเว็บไซต์ Allkpop ว่า ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม เวลาประมาณตี 4.20 น. ที่ผ่านมา หญิงไทยรายหนึ่งได้เดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่เธอถูกบังคับให้ไปขายบริการ จากการรายงานระบุว่า หญิงไทยรายนี้ได้ทำการส่งกระดาษโน้ตให้กับแคชเชียร์สาวในซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีข้อความเป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี และภาษาไทยว่า “ช่วยแจ้งตำรวจให้ที ฉันโดนจับอยู่ชั้น 4 ของตึก” ทางด้านแคชเชียร์สาวก็ได้ตอบเธอกลับว่า คุณต้องการให้ฉันโทร 112 (บริการฉุกเฉิน) หรือไม่? แต่ทางสาวไทยรายดังกล่าวกลับปฏิเสธ เพราะในขณะนั้นมีผู้ชายที่มีท่าทางที่น่าสงสัยอยู่กับเธอหลายคน ด้วยเหตุนี้ ทางแคชเชียร์สาวเลยแอบถามเบอร์โทรสะสมแต้มของซุปเปอร์มาร์เก็ต จากนั้นเธอก็ได้โทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ซึ่งภายหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง ก็พยายามตามหาหญิงรายดังกล่าวรอบๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต แต่การค้นหาดำเนินไปอย่างยากลำบาก เพราะรายละเอียดที่เธอบอกในกระดาษโน้ตมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่สาวไทยได้ทิ้งเอาไว้ในโน้ต ทางเจ้าหน้าที่ก็พบว่ามันตรงกับเบอร์โทรศัพท์ของนายลี ซึ่งเขาเคยถูกจับตาเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับสถานขายบริการ “Kiss Room” นอกจากนี้ บนเฟสบุ๊คของผู้เป็นเพื่อนของหญิงที่มาขอความช่วยเหลือ…
-
ฮีโร่!! คนขับรถบรรทุกจอดรถกลาง “ทางด่วน” เพื่อวิ่งเข้าไปช่วยคนขับรถตู้ที่ไม่ได้สติ…
เราไม่รู้เลยว่าเวลาอยู่บนถนนนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนอื่นที่ใช้ถนนร่วมกันบ้าง แต่มันจะดีมากถ้าเราไม่มองข้ามคนที่ต้องการความช่วยเหลือบนถนน เหมือนกับคนขับรถบรรทุกคนนี้ที่ตัดสินใจจอดรถกลางทางถนน เพื่อวิ่งไปช่วยคนขับรถตู้ที่ไม่ได้สติ จนรอดมาได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย ในวันเกิดเหตุนั้น Russell Dagless วัย 53 ปี กำลังขับรถไปตามถนน A47 ใกล้กับ Dereham ในเมือง Norfolk ทันใดนั้นเขาก็เห็นคนขับรถตู้คนหนึ่งกำลังหมดสติอยู่ในรถ ทั้งๆ ที่รถยังวิ่งอยู่ เมื่อเห็นดังนั้น Dagless จึงพยายามขับรถเบียดรถตู้ให้ไปข้างทาง เพื่อพาเขาไปอยู่ในที่ปลอดภัย ก่อนจะจอดรถแล้ววิ่งลงมาดูอาการ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ที่ขับตามมาก็วิ่งลงมาจากรถทั้งที่รถยังจอดไม่สนิท เพื่อเข้าไปสมทบและปฐมพยาบาลให้คนขับรถตู้ที่หมดสติ ต่อมาตำรวจเผยว่า Dagless ได้ช่วยชีวิตคนขับรถตู้เอาไว้ เพราะหากเขาไม่ขับเบียดรถตู้ไปนอกเส้นทาง อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ สำหรับคนขับรถตู้ ตำรวจบอกว่าเขาหมดสติเพราะมีเลือดออกในสมองระหว่างขับรถ หลังปฐมพยาบาลแล้วเขาก็ถูกส่งตัวโรงพยาบาลทันที และโชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ Dagless ได้รับการยกย่องให้เป็นฮีโร่ และได้รับรางวัล Royal Humane Society ที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยคนอื่น นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัล Testimonial ในเวที Vellum สำหรับความกล้าหาญของเขา และยังได้รับเสียงชื่นชมจากเพื่อนร่วมงานด้วย คนขับรถบรรทุกบอกว่า “ผมทำไปตามสัญชาตญาณครับ ตอนนั้นผมคิดว่าต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยคนขับที่กำลังหมดสติ ซึ่งคุณเองก็คงทำเหมือนกันถ้าเจอสถานการณ์แบบนั้น” เขาบอกอีกว่า “ตอนแรกรถตู้ขับมาเร็วมาก แต่คนขับหมดสติหน้าแนบพวงมาลัย ผมก็เลยค่อยๆ…
-
มารู้จักกับ นกกระตั้วดำ ที่มี “ลิ้น” อันแข็งแกร่งขนสามารถแกะเปลือกเมล็ดแข็งได้ชิลๆ
เมื่อไม่กี่วันก่อน #เหมียวขี้ส่อง ได้ดูรายการ CONAN ของช่อง TBS ที่มี Conan เนี่ยแหละเป็นพิธีกรของรายการ แล้วก็ต้องสะดุดเมื่อทางรายการนำนกแปลกๆ ตัวหนึ่งมาออกรายการ นกแปลกๆ ที่ว่านี้คือ นกกระตั้วดำ หรือ Black cockatoo ซึ่งเป็นนกปากขอชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์นกกระตั้ว แต่มันมีความแตกต่างจากนกกระตั้วทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ลักษณะทั่วไปของนกกระตั้วชนิดนี้มีลำตัวและหงอนสีทับทิมคล้ายสีดำ จึงถูกจัดให้เป็นเพียงชนิดเดียวเท่านั้นที่อยู่ในสกุล Probosciger จุดเด่นของมันคือมีลิ้นขนาดใหญ่ ปลายลิ้นจะมีเป็นสีดำหัวมนและมีความแข็งแรงมาก สามารถแกะเมล็ดที่มีเปลือกแข็งได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้มันยังมีหงอนใหญ่โค้งไปด้านหลัง มีลักษณะแคบและยาว สีข้างแก้มจะเป็นสีแดง และตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้ นอกจากนี้แล้ว ตัวผู้จะมีขนทั่วตัวเป็นสีน้ำตาลปนดำ ใต้คอปลายขนมีขอบสีเขียว ส่วนบริเวณหูมีสีเหลือง ปากสีเทา ขาสีน้ำตาล ม่านตาสีน้ำตาล ในขณะที่ตัวเมียขนบริเวณส่วนหูจะมีสีเหลืองจางกว่าเพศผู้เล็กน้อย แต่จะมีลักษณะเด่นของจุดสีเหลืองๆ ที่อยู่บริเวณขนหาง และมีเปลือกตาเป็นสีเทา นกกระตั้วดำจะมีขนาดลำตัวใหญ่ประมาณ 55–60 เซนติเมตร น้ำหนักตัวประมาณ 910–1,200 กรัม อาศัยอยู่ตามเกาะนิวกินีและรัฐควีนส์แลนด์ ทางตอนเหนือของออสเตรเลียเท่านั้น โดยมีอายุการฟักไข่ประมาณ 30 วัน นอกจากนี้มันยังจัดเป็นนกที่นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงและเพื่อแสดงตามสวนสัตว์ มันจึงมีราคาซื้อขายที่ค่อนข้างแพง …
-
หญิงสาวถูกสั่งจำคุก หลังปรักปรำชายหนุ่ม 15 คนว่าข่มขืนเธอ จนมีหนึ่งรายติดคุกจริงๆ!?
อีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญที่กลายเป็นประเด็นร้อนในประเทศอังกฤษ กับเรื่องราวของ Jemma Beale สาวอังกฤษวัย 25 ปี ที่เคยปรักปรำชายหนุ่มกว่า 15 คนว่าข่มขืนเธอ จนมีหนึ่งในนั้นต้องติดคุกรับโทษจริง!! เหตุการณ์แรกสุดเกิดขึ้นกับ Mahad Cassin ซึ่งเธออ้างว่าถูกชายหนุ่มคนนี้ข่มขืน หลังจากที่เขาอาสาจะไปส่งเธอถึงที่บ้าน และคำให้การของเธอในชั้นศาลเกี่ยวกับเพศสภาพความเป็นเลสเบี้ยนของเธอเอง ทำให้ชายหนุ่มคนนี้ถูกจำคุกนานถึง 2 ปีเต็ม หลังจากคดีแรกที่เจ้าหน้าที่สามารถจับคนร้ายได้ ทำให้เธอได้รับเงินนำจับถึง 11,000 ยูโร (ราว 430,000 บาท) จากนั้นต่อมาเดือนกรกฎาคม ปี 2012 เธอเข้าแจ้งความกับตำรวจว่า เธอถูกชายแปลกหน้าคนหนึ่งนามว่า Noam Shazad ลวนลามในผับและพยายามจะล่อลวงเธอไปข่มขืน ทว่าหลักฐานไม่เพียงพอ ต่อมาในปี 2013 เธอได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งใจจะเอาผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรากับชายถึง 6 คน และหลังจากนั้นถัดมาอีกสองเดือน เธอก็อ้างว่าถูกชายแปลกหน้า 2 คนล่อลวง และถูกรุมข่มขืนจากชายอีก 4 คน!? ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาให้ Beale ชี้ตัว ทว่าหลักฐานไม่เพียงพอต่อการจับกุม …
-
อย่างนี้ก็ได้หรอ!! สาวออกมาเผย…การให้นมลูกขณะมีเซ็กส์ไปด้วยไม่ใช่เรื่องที่ผิด!?
การให้นมบุตรขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วทำให้หลายคนรู้สึกประหลาดใจ แต่สำหรับ Tasha Maile คุณแม่ลูก 3 จากแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ เธอกลับมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามาก เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า คลิปวีดีโอของ Tasha Maile ในชื่อ Do I have sex while breastfeeding? ที่เคยถูกนำมาเผยแพร่ลงใน YouTube ตั้งแต่ปี 2015 และมียอดวิวมากถึง 3 ล้านครั้ง ยังคงได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เธอได้ออกมาเผยว่า การให้นมลูกขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์กับสามีนั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด โดยล่าสุด Tasha ได้ออกมาเผยแพร่คลิปวีดีโอหลังจากที่ได้รับคำวิจารณ์จากวีดีโอครั้งก่อนว่า “เซ็กซ์เป็นสิ่งที่สวยงาม ฉันคิดว่าเราทุกคนเห็นด้วยกับเรื่องนี้” และนี่คือความคิดเห็นส่วนหนึ่งของชาวเน็ต หลังจากที่ได้เข้ามารับชมคลิปวีดีโอที่ Tasha ได้นำมาเผยแพร่เมื่อปี ก่อน “ฉันเห็นด้วยกับเธอว่าการมีเพศสัมพันธ์มีความสำคัญ และมันเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คุณไม่ควรให้นมลูกขณะที่กำลังมีเซ็กกับสามี” ในขณะที่อีกคนหนึ่งได้กล่าวว่า “ฉันไม่อยากให้ลูกๆ…
-
อดีตทหารผ่านศึก บริจาคที่ดินส่วนตัวมูลค่า 77 ล้านบาท มอบให้องค์กรกุศลเพื่อช่วยสังคม!!
อีกเรื่องราวคุณงามความดีของนายทหารผู้ผ่านศึกสงคราม ที่ได้บริจาคพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองหลังเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อมอบให้แก่องค์กรการกุศลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์… Stephen Florentz อดีตทหารผ่านศึกที่เคยผ่านสมรภูมิรบในเวียดนาม ในฐานะแพทย์สนามที่คอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หลังจบจากสงครามเขาก็ได้ย้ายมาทำหน้าที่เป็นแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในชุมชน Stephen Florentz ช่วงบั้นปลายชีวิตเขาได้มอบพินัยกรรม ทำการบริจาคที่ดินทั้งหมดให้กับองค์กร Central Oklahoma Habitat for Humanity “ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นเรื่องเดียวที่เค้าใส่ใจมากที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะช่วงหลังจากที่เขาได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่โอคลาโฮมา และมีบ้านเป็นของตัวเอง” Mike Bourland เพื่อนคนสนิทเล่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวปัจจุบันถูกสร้างให้เป็นที่พักสำหรับกลุ่มคนไร้บ้าน และคนที่ต้องการความช่วยเหลือต่างๆ เจ้าตัวได้ทำการติดต่อกับ Ann Felton CEO ผู้ดูแลองค์กรดังกล่าว ทว่าไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเขาได้ทำการมอบพื้นที่ทั้งหมดให้กับองค์กรไว้ก่อนแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 6 เดือนก่อน คุณลุงสตีเฟ่นได้ลาจากโลกไปอย่างสงบ จนเมื่อมีการเปิดพินัยกรรมถึงได้รู้ว่า คุณลุงได้มอบโฉนดที่ดินทั้งหมดมูลค่ากว่า 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 77 ล้านบาท) “พวกเราไม่แปลกใจเลยที่เขาบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดที่ตัวเองมีให้กับมูลนิธิ เพราะนี่คือภาพสะท้อนตัวตนของความเป็น Stephen Florentz อย่างแท้จริง… เขาเป็นทั้งผู้ให้ และผู้ที่คอยหวังดีกับเพื่อนมนุษย์เสมอ” T. Sheri…
-
หนุ่มพบทางสว่างหลังครองอันดับสูงสุดใน Xbox มานาน 11 ปี พอแต่งงานโดนแซงก็ไม่สน!!
สำหรับนักเล่นเกมแล้ว การปลดล็อคความสำเร็จภายในเกมถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่หลายคนชื่นชอบที่จะทำกัน และการครองอันดับหนึ่งไว้ให้ได้ตลอดก็เป็นความท้าทายสุดโรแมนซ์ที่คนเล่นเกมตัวจริงจะยอมให้กับใครไม่ได้!! แต่ว่าสำหรับ Ray Cox ชายผู้ครอบครองแชม์ปคะแนนความสำเร็จสูงสุดใน Xbox มานาน 11 ปีนั้นกลับไม่คิดแบบนั้น เพราะเขาได้พบทางสว่างในชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแม้ว่าจะถูกคนอื่นชิงอันดับที่รักษามานานไป เขาก็โอเคไปกับมัน ส่วนเหตุผลที่เขายอมสละตำแหน่งสูงสุดไปก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้น่าเกลียดและสมเหตุสมผลเลยทีเดียว ตัว Ray นั้นเดิมทีแล้วเขาก็เป็นหนุ่มติดเกมคนหนึ่งที่บ้าเก็บสถิติและปลดความสำเร็จมากๆ เรียกว่าเขาทำมันมาตั้งแต่เครื่อง Xbox มีระบบนี้เลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าเขานั้นไม่ยอมแพ้ให้กับใครเลย เขาพยายามเก็บและรักษาตำแหน่งแชมป์ไว้ถ้ามีใครใกล้เข้ามาเขาก็จะหนีออกไปเพื่อไม่ให้ใครแซงได้จนเข้าถึงปีที่ 11 เขาก็ได้ปลดล็อคความสำเร็จอันใหม่ ขนาดโพสต์ภาพแต่งงานก็ยังคงความเป็นเกมเมอร์ ทว่าความสำเร็จที่ว่านั้นกลับเป็นความสำเร็จในชีวิตจริง เพราะเขาได้แต่งงานกับผู้หญิงที่เขารักแถมยังได้ไปฮันนีมูนกันอีกด้วย!! ส่วนการเสียตำแหน่งของเขามันก็เกิดขึ้นในช่วงที่เขาไปฮันนีมูนนี่แหละ แน่นอนว่าเมื่อแชม์ปถูกโค่น คนก็จะสนใจ เมื่อถามถึงความรู้สึกของ Ray โดยตัวเขาให้เหตุผลว่าเขาเจอสิ่งที่ดีกว่าแล้ว มันถึงเวลาที่ต้องยอมปล่อยตำแหน่งดังกล่าวไปเสียที เพราะชีวิตเขากำลังจะเริ่มต้นใหม่… เขายอมหยุดและเดินไปข้างหน้าต่อกับชีวิตคู่ของเขา สุดท้ายแล้ว Ray ยังได้ทวีตข้อความตอบแฟนๆ ที่มาถามว่าทำไมถึงปล่อยตำแหน่งไปว่า “ผมไม่ว่าง ผมกำลังวุ่นอยู่กับการมีอะไรกับภรรยา” มันก็จะไม่ค่อยว่างหน่อยๆ หลังแต่งงานอะนะ สุดท้ายแล้ว หลายคนอาจจะมองว่า เขาสูญเสียเวลาไปเปล่าๆ ถึง…
-
เพื่อนบ้านแจ้งตำรวจมาจับ “สไลด์เดอร์” ข้างถนน แต่พอมาถึง ก็มาแจมกับเขาซะงั้น!!?
เรื่องราวสุดพลิกผันจากเมืองแอชวิลล์รัฐนอร์ทแคโรไลนา เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีชาวบ้านโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับปาร์ตี้สไลด์เดอร์ที่ทำขึ้นมาอย่างผิดกฏหมายและขัดขวางการจราจร ซึ่งมีเด็กๆ เล่นอยู่และส่งเสียงดัง แต่ว่าพอตำรวจมาเพื่อจะปิดปาร์ตี้สไลด์เดอร์ดังกล่าว เรื่องกลับไม่เป็นอย่างที่คาดคิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนกลับเลือกที่จะไม่ปิดสไลด์เดอร์ แต่กลับเลือกที่จะลงไปเล่นกับเด็กๆ จนเกิดเป็นภาพสุดประทับใจและน่ารักอย่างเหลือเชื่อ Katlen Joyce Smith ชาวบ้านที่มาร่วมแจมได้บอกกับสำนักข่าว ABC ว่า “ตอนแรกเจ้าหน้าที่ทั้งสองเดินมา ผมนึกว่าพวกเขาจะจับพวกเราแล้วเสียอีก แต่วินาทีที่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงขอถุงดำพร้อมกับถอดอุปกรณ์ของเธอออก แล้วร่วมลงไปเล่นกับเด็กๆ เล่นเอาผมอึ้งไปเลย” ย๊า ฮู้ว.ว.ว.ว Travis Eagledove ชาวบ้านอีกคนก็บอกว่า “นอกจากตำรวจผู้หญิงคนนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ Joe Jones ซึ่งเป็นตำรวจอีกคนที่มาด้วยกันก็ร่วมไปเล่นกับเขาด้วยนะ แต่ว่าตัวเขาใหญ่เกินกว่าจะใช้ถุงดำในการเล่น เด็กก็เลยไปเอาเรือยางมาให้เขาแทน ซึ่งมันเป็นภาพที่น่ารักสุดๆ” เป็นภาพที่น่ารักสุดๆ เลยจริงไหม สุดท้ายแล้วชาวบ้านที่เล่นสไลด์เดอร์ก็ชื่นชมและบอกว่าเด็กๆ ชอบตำรวจทั้งสองมากๆ พวกเขาเป็นคนที่ใจดีและเข้าใจในเด็กๆ ดูคุณตำรวจแกจะแฮปปี้มากๆ เลยนะเนี่ย เอ้าลุกๆ ก้นเปียกหมดแล้ว ก่อนจากก็ถ่ายรูปกับเด็กๆ กันสักหน่อย …
-
ยูทูปเบอร์สาวลอง “ไดเอทด้วยอาหารของทหาร” ลดจริงใน 3 วัน แต่ไม่แนะนำให้ทำตาม
สำหรับสาวๆ ที่อยากลดความอ้วนมีวิธีให้เลือกทำมากมาย แล้วแต่ว่าใครจะสะดวกใช้วิธีอย่างเธอคนนี้เลือกที่จะไดเอทด้วยอาหารของทหาร Candace Lowry เป็นยูทูปเบอร์จาก LA ได้ค้นพบวิธีไดเอทที่เรียกว่า Military Diet ที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ก่อนลองมามาดูเธอรีวิวก่อนจะดีกว่า เผื่อจะเปลี่ยนใจ วิธีการไดเอทด้วยทหารคือต้องลดปริมาณแคลอรี่ โดย Lowry จะกินอาหารแบบทหารเป็นเวลา 3 วัน แล้วมาดูกันว่าผลจะออกมาเป็นยังไง หญิงสาวบอกว่า “ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าอาหารที่กินในกองทัพเป็นสิ่งที่ปลอดภัย มันอาจจะไม่ได้มีหน้าตาน่ากินหรือมีรสชาติอร่อย แต่มันทำให้ทหารมีชีวิตอย่างแข็งแกร่งได้” เธอไดเอทด้วยอาหาร 1,300 แคลอรี่ ในวันแรก วันต่อมาก็ลดลงเหลือ 1,200 แคลอรี่ และวันที่สาม 1,100 แคลอรี่ ตั้งแต่วันที่สี่ไปก็กินวันละ 1,500 แคลอรี่ สำหรับวันแรก Candace เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าที่ประกอบไปด้วย กาแฟร้อน 1 แก้ว ขนมปังปิ้งทาเนยถั่ว 1 แผ่น และส้มโอครึ่งลูก ต่อมาเป็นอาหารกลางวัน ที่ยังคงมีกาแฟ 1 แก้วเหมือนเดิม มีปลากระป๋องทูน่าและขนมปังปิ้ง แต่หญิงสาวบอกว่าทั้งสองมื้อนี้ไม่เพียงพอสำหรับเธอ เธอบอกว่า “ฉันรู้สึกเหนื่อยมากๆ แถมยังปวดหัวด้วย แล้วก็หงุดหงิดง่ายด้วย” ดังนั้นพอเลิกงานปุ๊บเธอก็รีบกลับบ้านแล้วกินสเต๊ก ถั่วเขียว 1 ถ้วย กล้วยครึ่งลูก แอปเปิ้ล 1…
-
เปิดแฟ้มภาพเก่า ของเหล่า “ทาสบำเรอกาม” สาวเกาหลี ในสมัยที่โดนทหารญี่ปุ่นบุกโจมตี
สนามรบในอดีตอาจเต็มไปด้วยสู้รบ การนองเลือด และความเหน็ดเหนื่อย แต่เมื่อว่างจากการสู้รบเหล่าบรรดาทหารก็ได้พักผ่อน โดยจะได้รับการอำนวนความสะดวกสะบายเท่าที่ทำได้ หนึ่งในนั้นคือหญิงบำเรอ หญิงสาวที่มาบำเรอกามให้ทหารนั้นมีทั้งเต็มใจและถูกบังคับ อย่างสาวเกาหลีที่ตกเป็นทาสกามในสมัยที่โดนทหารญี่ปุ่นบุกโจมตี นี่เป็นวิดีโอขาวดำที่ถูกถ่ายในช่วงปี 1944 เป็นภาพผู้หญิง 7 คน ที่ยืนอยู่ด้านนอกของซ่องสำหรับทหารที่ยืดครองโดยประเทศจีน ซึ่งได้รับการปลดปล่อยจากญี่ปุ่นโดยกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตร ในคลิปจะเห็นผู้หญิงหนึ่งในเจ็ดกำลังยืนคุยกับทหารจีน ด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็ก้มหัวความกลัว ที่สำคัญดูเหมือนจะมีคนท้องอยู่ด้วย คลิปดังกล่าวนี้ถูกค้นพบที่ US National Archives และได้รับการจัดเก็บไว้ที่ Records Administration ซึ่งมีอายุกว่า 70 ปีแล้ว เนื้อหาของคลิปมีความเชื่อมโยงกับบันทึกทางสงครามที่แสดงให้เห็นเรื่องราวของทาสที่ถูกจับกุมใน Songshan โดยกองกำลังพันธมิตรในเดือนกันยายน ปี 1944 ปัจจุบันได้มีการเล่าเรื่องของหญิงสาวเกาหลีผู้ตกเป็นทาสกามผ่านงานเขียนเรื่อง ‘COMFORT WOMEN’ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาดังนี้ นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่เชื่อว่าผู้หญิงราวๆ 200,000 คน ที่ส่วนใหญ่มาจากเกาหลี ถูกบังคับให้ทำงานในซ่องกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จากประเด็นในอดีตที่ญี่ปุ่นบังคับให้สาวเกาหลีเป็นทาสทางอารมณ์ ยังคงมีผลกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีจนทุกวันนี้ ชาวเกาหลีจำนวนมากที่ถูกละเมิดสิทธิในช่วงการล่าอาณานิคมของญี่ปุ่นในช่วงปี 1910-1945 ในคาบสมุทรเกาหลี คำว่า Comfort Woman มาจากคำว่า jugun ianfu…
-
“CocoLoko” ผงโกโก้สายเมา เก็ทไฮได้ด้วยการสูดดม ผู้เชี่ยวชาญหวั่นถึงผลข้างเคียง!!
นับว่าเป็นมิติใหม่แห่งวงการสายเมาทั่วโลกเลยก็ว่าได้ หลังจากที่มีเทรนด์การนำผงช็อคโกแลตมาสูดดมกันอย่างแพร่หลายในยุโรป และนี่คือสินค้าที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า.. “ไอ อิน เลิฟ วิท เดอะ โกโก้” กันเลยทีเดียว CocoLoko ผลิตภัณฑ์ผงช็อคโกแลตแบบสูดดม เป็นสินค้าของบริษัท Legal Lean จากรัฐฟลอริดา ซึ่งทางผู้ผลิตอวดอ้างสรรพคุณว่าสูดแล้วไฮจริง อะไรจริง!! CocoLoko ผงโกโก้ที่คุณเก็ทไฮได้ เพียงกระปุกละ 19.99 เหรียญเท่านั้น (ราว 680 บาท) ‘พลังแห่งสารเซโรโทนินจากผงโกโก้ จะช่วยยกระดับความรู้สึกเคลิบเคลิ้มให้กับร่างกายของคุณราวกับว่าได้อัพยาอี นี่คือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้คุณฟังเพลงได้สนุกยิ่งขึ้นและมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ’ คำโฆษณาสินค้าจากเว็บไซต์ Nick Anderson เจ้าของบริษัท Legal Lean ได้เล่าว่า หลังจากที่เทรนด์การซื๊ดผงโกโก้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วยุโรป เขาจึงได้ไอเดียที่จะลองนำสินค้าชนิดนี้มาเปิดตลาดในสหรัฐฯ ดูบ้าง “ตลอดช่วง 2-3 ปีที่มีเทรนด์นี้เกิดขึ้นในยุโรป ทุกอย่างก็ดูปกติดีนะครับ ไม่มีการรายงานว่าพบผู้เสียชีวิตจากการสูดดมผงโกโก้แต่อย่างใด” Anderson กล่าว โฆษณาของโกโก้ยี่ห้อนี้ได้ระบุไว้ว่า หากเราสูดดมผงโกโก้ในปริมาณที่พอดีจะช่วยเพิ่มการหลั่งสารเอ็นโดรฟินให้กับร่างกาย ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม อีกทั้งยังช่วยทำให้มีสมาธิที่ดียิ่งขึ้นด้วย!! ทว่าเทรนด์ดังกล่าวกลับสร้างความลำบากใจให้ผู้เชี่ยวชาญและผู้ปกครองเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพฤติกรรมการบริโภคที่คล้ายกับการใช้สารเสพติดผิดกฎหมายจริงๆ…
-
หุ่นยนต์รัสเซียช่วยเด็กให้รอด จากการถูกชั้นวางของล้มทับ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งโปรแกรมไว้!?
เรื่องราวอันแสนน่าทึ่งของหุ่นยนต์จากรัสเซียตัวหนึ่ง ที่เข้าช่วยเหลือเด็กน้อยซึ่งกำลังจะถูกชึ้นวางของล้มทับได้ทันก่อนที่สาวน้อยจะได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือเจ้าหุ่นนั้นเข้าไปช่วยเด็กหญิงด้วยตัวเอง!! คลิปวิดีโอจากมหาวิทยาลัย Perm Polytechnic University ประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นวินาทีที่เจ้าหุ่น Promobot หุ่นยนต์ที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เอามือเข้าดันชั้นวางของเพื่อช่วยหนูน้อยคนหนึ่งให้รอดพ้นจากอันตราย วินาทีที่เจ้าหุ่นเข้าช่วยหนูน้อย คุณ Oleg Kivokurtsev หนึ่งในทีมผู้พัฒนาหุ่นยนต์ตัวดังกล่าวอ้างว่า การเข้าช่วยเด็กน้อยของเจ้าหุ่นตัวนี้เกิดขึ้นจากความคิดของตัวมันเอง ไม่ได้เกิดจากการป้อนคำสั่งเข้าไปแต่อย่างใด… นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวน่าเหลือเชื่อของเจ้าหุ่นตัวนี้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพยายามหลบหนีออกจากการทดสอบ หรือการมีการคิดคำตอบที่ซับซ้อนขึ้นมาเอง และนี่คือคลิปวิดีโอตอนที่เจ้าหุ่นเข้าช่วยหนูน้อย แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีหน่วยงานใดๆ ออกมายอมรับการทำงานของเจ้าหุ่นตัวนี้ โดยทางสถาบันทางด้านเทคโนโลยีอย่าง Atlas Obscura และ BGR ได้กล่าวว่ายังมีอีกหลายๆ เรื่องที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์เกี่ยวกับเจ้าหุ่นตัวนี้ นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยอื่นๆ อีกมากมายต่อคลิปวิดีโอดังกล่าว ทั้งความไม่สอดคล้องกันของเหตุการณ์อย่างเช่นข้อแรกคือหุ่นยนต์นั้นถูกวางอยู่ใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ และระหว่างที่เด็กน้อยกำลังจะหล่นเจ้าหุ่นได้เคลื่อนเข้าไปใกล้พร้อมกับยื่นมือออกไปก่อนหน้านี้แล้ว สิ่งที่ผิดสังเกตอีกข้อคือชั้นวางนั้นถูกวางอยู่โดดๆ โดยไม่มีสิ่งของอื่นๆ วางอยู่ใกล้ๆ เลย และกล่องที่วางอยู่บนชั้นวางยังเป็นกล่องเปล่าอีกด้วย นอกจากนี้ตัวหนูน้อยเองยังไม่มีอาการตกใจแม้แต่น้อย คาดว่าจะเป็นการจัดฉากขึ้นมามากกว่า แต่อย่างไรก็ตามทางผู้พัฒนาก็ยังคงยืนยันว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเกิดจากความบังเอิญแทบทั้งสิ้น พวกเขาอ้างว่าในขณะนั้นหุ่นกำลังอยู่ใน ‘mirror mode’ โดยโหมดดังกล่าวจะทำให้หุ่นยนต์มีความนึกคิดและเลียนแบบการกระของมนุษย์ คุณ Kivokurtsev กล่าวว่า “เด็กหญิงวิ่งเล่นอยู่รอบๆ ในบริเวณนั้น และปีนขึ้นไปบนชั้นวางของจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่โชคดีที่เจ้าหุ่นอยู่ตรงนั้นและช่วยเธอได้ทัน…
-
สาวขาพิการ แต่ยังไม่หยุดความฝัน “เดินทางทั่วยุโรป” พร้อมเขียนชื่อเมืองลงบนขาเทียม
หลายคนมักคิดว่าความพิการของร่างกายเป็นตัวฉุดที่ทำให้สูญเสียความฝันไป แต่จริงๆ แล้วถ้าคุณมีใจที่มุ่งมั่นและลงมือทำ ไม่ว่าอะไรก็ไม่อาจฉุดคุณได้หรอก เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ แม้จะขาพิการ แต่ไม่หยุดความฝัน เธอตัดสินใจท่องเที่ยวทั่วยุโรป พร้อมเขียนชื่อเมืองต่างๆ ลงบนขาเทียม หญิงสาวคนนี้ใช้ชื่อว่า devgal ในเว็บไซต์ Reddit ทุกเมืองที่เดินทางไปเธอจะถ่ายรูปกับสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนั้นๆ พร้อมใช้ชอล์กเขียนชื่อเมืองไว้บนขาเทียมด้วยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ในการทำตามความฝันเช่นเดียวกับเธอ devgal เกิดมาพร้อมโรคกระดูก ทำให้เธอต้องสูญเสียขาไปข้างหนึ่งตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้หยุดทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หญิงสาวบอกว่า “จริงๆ แล้วความพิการไม่ได้เลวร้ายไปซะหมดหรอก แต่ตรงข้ามมันทำให้ฉันมีความมุ่งมั่นมากกว่าคนทั่วไป และมันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำตามความฝันด้วย” นี่จึงเป็นเหตุผลให้หญิงสาวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยไม่รู้สึกถึงความบกพร่องทางร่างกาย เราหลายๆ คนก็ควรจะคิดแบบนี้เช่นกันนะ . . . . . . . . . . . . ที่มา huffingtonpost l aplus l imgur l boredpanda
-
ศิลปินจากจอร์เจียทำ “ภาพวาดดิจิตอล” ให้เหมือนภาพจริง เหมือนเป๊ะจนคิดว่าเป็นภาพถ่าย
ทักษะด้านศิลปะนั้นมีอยู่ในตัวทุกคน แต่การให้ผลงานออกมาสวยงามมีคุณภาพนั้นต้องอาศัยการมีความคิดสร้างสรรค์ พรสวรรค์ และการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ อย่าง Irakli Nadar ศิลปินวัย 28 ปี จากเมืองทบิลิซิ ประเทศจอร์เจีย ผู้มีความสามารถในการสร้างสรรค์ภาพดิจิตอลให้เหมือนจริงราวกับเป็นภาพถ่าย Irakli วาดรูปโดยใช้โปรแกรมแก้ไขรูปภาพ เขาเก็บทุกรายละเอียด แม้จุดเล็กๆ น้อยๆ เขาก็วาดให้เหมือนจริงทุกอย่าง จนดูไม่ออกว่ามันเป็นภาพวาด เขาบอกว่า “มีเทคนิคมากมายที่ใช้ในการวาดรูปได้ ซึ่งแต่ละคนก็มีเทคนิคแตกต่างกันไปตามความชอบหรือความถนัด บางคนถามว่าแล้วเทคนิคที่ดีที่สุดคืออะไร? ผมไม่สามารถบอกได้เพราะไม่มีเทคนิคไหนที่ดีที่สุดหรอกครับ” ศิลปินยังบอกอีกว่า “หลายคนพูดกับผมว่าพวกเขาไม่สามารถทำภาพวาดให้สวยเท่ากับผมได้ แต่ผมจะบอกว่าภาพไม่มีใครวาดสวยตั้งแต่ครั้งแรก ยิ่งผมวาดรูปงานของผมก็ยิ่งสวยขึ้นเรื่อยๆ และคุณเองก็ควรจะคิดแบบนี้เช่นกัน” คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นความสามารถที่ไกลตัว คุณทำไม่ได้เหมือนศิลปิน แต่ถ้าไม่ลงมือทำจะรู้ได้อย่างไร ทุกอย่างต้องอาศัยการฝึกฝน ความอดทน แล้วสักวันคุณอาจประสบความสำเร็จเหมือน Irakli ก็ได้ . . . . . . . . . . . . . . .…
-
สัมผัสกับ ‘สปาเบียร์สุดหรู’ แห่งแรกในไอซ์แลนด์ ได้ทั้งดื่มและนั่งแช่ งานนี้ฟินฟินฟิน!!
เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา เราเคยนำเสนอเรื่องราวเอาใจนักท่องเที่ยว และนักดื่ม เกี่ยวกับสปาร์เบียร์ในประเทศสาธารณรัฐเช็ก ที่มีอ่างเบียร์ให้คนได้ลงไปแช่กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และล่าสุดที่ประเทศไอซ์แลนด์ ก็จะขอมาเอาใจหนุ่มสาวนักดื่มด้วยเช่นกัน กับการให้คุณได้ลองสัมผัสกับ “สปาเบียร์” งานนี้บอกเลยว่าคุณจะได้ทั้งดื่ม และแช่เบียร์อุ่นๆ กันแบบฟินไปทั้งตัวแน่นอน ลองนึกถึงการดื่มเบียร์เย็นๆ ในขณะที่แชร์อยู่ในถังที่เต็มไปด้วยเบียร์อุ่นๆ ดูสิ…โอ้วววว นี่มันสวรรค์ชั้น 7 ชัดๆ วันที่ 7 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ในตอนนี้ที่ประเทศไอซ์แลนด์ ได้ทำการเปิดสปาเบียร์ที่ให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายได้ลงไปแช่กันแบบฟินๆ เป็นครั้งแรก โดยสปาเบียร์ดังกล่าว ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Árskógssandur ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ และแน่นอนว่าสปาเบียร์แห่งนี้ไม่ได้เปิดเพื่อเอาใจนักดื่มเพียงอย่างเดียวนะจ๊ะ เพราะมันมีข้อดีด้วย เช่น เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผิวพรรณ รวมถึงเส้นผมอีกด้วย บอกเลยว่าหากคุณได้ไปสัมผัสกับบรรยากาศอันชวนฝันที่สปาเบียร์แห่งนี้ คุณจะต้องรู้สึกเพลิดเพลินและมีความสุขมากๆ แน่นอน เพราะการได้ดื่มเบียร์ของ Kaldi ที่เป็นที่รู้จักมานานกว่า 20 ปี พร้อมกับเอาตัวจุ่มในถังเบียร์ใหญ่ๆ มันต้องฟินเกินบรรยาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินอยู่ในถังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเบียร์คนเดียวได้ หรือสามารถชวนเพื่อนมาร่วมวงได้ อีกทั้งยังได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์สวยๆ…
-
สะเทือนใจ… เจ้าสาวขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปงานแต่ง แต่กลับประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต…
นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่สะเทือนใจชาวเน็ตทั่วโลก กับอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดฝันมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น…!! โดยภาพจากคลิปวิดีโอในเหตุการณ์ เผยให้เห็นภาพของเจ้าสาว Rosemere do Nascimento Silva และน้องชายของเธอ ที่กำลังจะเดินทางไปเซอไพรส์แขกในงานแต่งของตนเอง คำเตือน: อาจมีเนื้อหาที่รุนแรงและกระทบจิตใจ ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม.. เจ้าสาววัย 32 ปี Rosemere do Nascimento Silva สำนักข่าวท้องถิ่นได้รายงานว่า เจ้าสาวมีแผนการณ์ที่จะเดินทางไปเซอไพรส์แขกผู้ร่วมงานในแต่งงานของเธอเองพร้อมกับน้องชาย และช่างภาพสาวที่กำลังตั้งครรภ์ “เธอวางแผนกับเราว่าจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปเซอไพรส์แขกในงานกว่า 300 ชีวิตและเจ้าบ่าวของเธอ เราเสียใจมากกับโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้น” Carlos Eduardo Batista หนึ่งในผู้จัดงานให้สัมภาษณ์ ช่วงแรกของการเดินทางทุกอย่างดูปกติดี ทว่าด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย จากการรายงานของคนขับได้แจ้งว่า มีหมอกหนามากและบดบังทัศนียภาพ อีกทั้งยังมีลมพายุฝนตกหนักอีกด้วย หลังจากนั้นไม่นานคนขับได้สูญเสียการบังคับทิศทาง และด้วยลมพายุที่กรรโชกแรงเกินไปทำให้เฮลิคอปเตอร์ถูกพัดตกลงมายังบริเวณชนบทแห่งหนึ่งในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล คนขับเริ่มสูญเสียการควบคุม ในวินาทีนั้นพวกเขาไม่รู้เลยว่าเฮลิคอปเตอร์ถูกพัดไปทางไหน…. และนี่คือภาพสุดท้ายที่เกิดขึ้นในคลิปวิดีโอดังกล่าว จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้โดยสารทั้ง 4 คน เสียชีวิตทันที และเจ้าหน้าที่จะสืบหาหลักฐานสาเหตุการเกิดโศกนาฎกรรมต่อไป ที่มา: Ladbible
-
เมื่อปธน. ของฝรั่งเศส “มาครง” โรยตัวเหยียบเรือดำน้ำ แหม่.. เท่อย่างกับเจมส์บอนด์แหน่ะ!!
กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตออกมาแซวกันแบบขำๆ ไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของฝรั่งเศส “แอมมานูเอล มาครง” โรยตัวลงมาเหยียบเรือดำน้ำแบบเท่ๆ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีได้ไปเดินทางไปยังเรือเรือดำน้ำอาวุธนิวเคลียร์ ‘Le Terrible’ เพื่อทำการทดสอบอาวุธดังกล่าว และแน่นอนว่าพี่แกช่างเหมือนพระเอกเจมส์ บอนด์ เหลือเกิ๊นนน!! ถ่ะแด๊มม..!! โรยตัวลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ อย่างกับสายลับ 007 ถึงกับมีชาวเน็ตออกมาแซวว่า ช่างเป็นประธานาธิบดีที่ฮาร์ดคอร์เหลือเกินพ่อคู๊ณ ดูวิวรอบข้างของเรือดำน้ำลำนี้ซะก่อน ถ้าใจไม่ถึงโดดไม่ได้นะเนี่ย ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ได้กระโดดโรยตัวม้วนหน้า 3 ตลบ แบบในหนังหรอก เพราะเอาจริงๆ ก็ต้องใช้สลิงช่วยเหมือนกัน ส่วนสาเหตุที่มาเยี่ยมเยือนเรือดำน้ำในครั้งนี้ ก็เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบขีปนาวุธตั้งแต่ต้นจนจบ ดูมาดพี่แกซะก่อน… เหมือนหัวหน้าสายลับในหนังฮอลลีวูดอะไรทำนองนั้น แม้แต่มาดตอนสั่งการก็ยังดูมีความเท่ อย่างกับเจ้าหน้าที่สายลับขั้นสุดยอด “ท่านเห็นตรงนั้นมั้ยครับ? เดี๋ยวผมจะเอาขีปนาวุธไปลงแม่มตรงนั้นเลย!!” คนข้างๆ ไม่ได้กล่าว แต่ประธานาธิบดีดูเท่จริงๆ นะเออ ภาพทั้งหมดกลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลก เราไปดูกันว่าชาวเน็ตจะแซวยังไงบ้าง “ผมชื่อมาครง แอมมานุเอล มาครง!!” หง่อวว…
-
เหตุการณ์หดหู่จากบ้านพักคนชรา เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ ทำร้ายคุณปู่มากถึง 11 หมัด!!
เหตุการณ์สุดหดหู่เมื่อมีการเผยแพร่ภาพของเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราในแคนาดา ซึ่งกำลังรับหน้าที่ดูแลคนปู่ท่านหนึ่งอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้อยเข้าที่หน้าของคุณปู่ซะอย่างนั้น ภาพดังกล่าวเล่นเอาญาติของคุณปู่ถึงกับช็อค!! เรื่องราวในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวของคุณปู่ Georges Karam วัย 89 ปี สังเกตเห็นว่าคุณปู่ของพวกเขามีบาดแผลตามร่างกายซึ่งมาจากไหนก็ไม่ทราบได้ พอถามตัวคุณปู่ก็ไม่ยอมปริปาก จนกระทั่งทาง Daniel Nassrallah ผู้เป็นหลานได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในห้อง เพื่อติดตามดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณปู่ของเขา ภาพที่ปรากฏออกมาเล่นเอาคนทั้งครอบครัวช็อคไปตามๆ กัน เมื่อ Jie Xiao เจ้าหน้าที่ผู้เป็นคนดูแลปู่ของพวกเขาได้พูดบางอย่างและต่อยเข้าที่หน้าของคุณปู่ Georges ซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 11 ครั้งด้วยกัน แค่นั้นยังไม่พอเขาดูเหมือนจะพยายามทำให้คุณปู่คนดังกล่าวหวาดกลัวด้วยการพูดข่มขู่พร้อมกับชูกำปั้นขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นครอบครัวของคุณปู่ Georges จึงรีบรุดหน้าไปยังบ้านพักคนชรา Garry J Armstrong ทันทีหลังจากแจ้งความกับตำรวจเพื่อเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ทางด้านของคุณปู่ก็ได้รับการส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที โชคดีที่ไม่ได้ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนักนอกจากบาดแผลฟกช้ำ แต่มันก็สร้างความหวาดกลัวให้กับทั้งคุณปู่และครอบครัวไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนทางด้านนาย Jie ก็ให้การรับสารภาพและจะถูกตัดสินคดีในเร็ววันนี้ ทางครอบครัวคุณปู่ก็หวังว่าเขาจะได้รับการลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำดังกล่าว ที่มา metro
-
ลูกวิลเดอบีสต์ วิ่งตามรถยนต์หลายกิโล เพราะคิดว่าเป็นแม่ จนแม่ตัวจริงต้องวิ่งมาตาม!!
ไม่แปลกถ้าคนหรือสัตว์จะมีความสับสนบ้าง แต่ความสับสนนั้นก็ทำให้คนอื่นไม่เข้าใจว่ามันน่าสับสนตรงไหน เหมือนกรณีของลูกวิลเดอบีสต์ตัวนี้ที่เข้าใจว่ารถเป็นแม่ของมัน!? เรื่องมันมีอยู่ว่ามีคู่รักคู่หนึ่งได้ขับรถผ่านอุทยานแห่งชาติในแอฟริกาใต้ แล้วจังหวะนั้นพวกเขาก็เห็นลูกวิลเดอบีสต์ตัวหนึ่งกำลังมองหาอะไรบางอย่าง เมื่อหาไม่เจอ มันก็เดินมาที่ถนน แล้วสิ่งแรกที่เห็นคือรถสีฟ้าคันหนึ่งที่กำลังขับอยู่ข้างหน้าของคู่รักดังกล่าว จากมันก็พุ่งไปหารถคันนั้นทันที ส่วนรถคันข้างหน้าอาจจะงงเช่นกันว่าเจ้าวิลเดอบีสต์จะวิ่งตามมาทำไม พวกเขาจึงขับต่อไปเรื่อยๆ ทำให้มันวิ่งตามต่อไปอีกหลายกิโลเมตรเลย ทางด้านคู่รักที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็สังเกตเห็นว่าเจ้าวิลเดอบีสต์ตัวน้อยเริ่มจะอ่อนแรง และกลัวว่ามันจะได้รับอันตราย จึงได้ขับตามต่อไปเรื่อยๆ อย่างใกล้ชิดเพราะเกรงว่ามันจะเป็นอะไรไป Zaheer Ali หนึ่งในคู่รักบอกว่า “เราเข้าใจว่ามันเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติ ที่จะติดตามวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ เพราะเวลาอยู่กับฝูงมันก็ทำแบบนี้เหมือนกัน” เธอบอกอีกว่า “ตอนนั้นเราห่วงเรื่องความปลอดภัยของมันมาก เพราะมันอยู่ตัวเดียวตามลำพังในสภาพที่อ่อนแรง ที่สำคัญแถวๆ นั้นอาจจะมีสิงโตหรือเสือชีตาห์จ้องมองมันอยู่ก็ได้ เราก็เลยต้องตามเฝ้ามันอย่างใกล้ชิด” ต่อมาลูกวิลเดอบีสต์ก็เกิดความสับสนอีกครั้งเมื่อเห็นรถหลายคันวิ่งผ่าน ก่อนตัดสินใจวิ่งตามรถของคู่รักแทน สุดท้ายก็ทำให้มันสับสนมากกว่าเดิมอีก Ali บอกว่า “เราพยายามจะขับไปห่างเจ้าวิลเดอบีสต์ เพราะกลัวว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ เราขับต่อไปอีก 3-4 กิโลเมตร แล้วลองมองหาฝูงของมันดู” จนในที่สุดคู่รักก็เจอฝูงวิลเดอบีสต์สักที และเมื่อแม่ของวิลเดอบีสต์เห็นลูกวิ่งอยู่บนถนนมันก็รีบวิ่งมาหาลูกทันที ก่อนจะกลับไปรวมตัวกับฝูง หลังจากที่พบแม่ เห็นได้ชัดว่าวิลเดอบีสต์น้อยไม่มีอาการสับสนเหมือนก่อนหน้านี้ มันเดินตามแม่กลับไปหาเพื่อนฝูงอย่างมีความสุข และแล้วมาถึงตรงนี้คู่รักจึงเข้าใจว่าที่มันวิ่งตามรถ เป็นเพราะมันหาแม่ไม่เจอแล้วคิดว่ารถที่วิ่งอยู่นี้เป็นแม่ของมันก็เลยวิ่งตามอย่างไม่ลดละ …
-
คุณพ่อใช้เวลาปีครึ่งกับเงินอีก 1 ล้าน เปลี่ยน “รถบัสโรงเรียน” ให้กลายเป็นบ้านน่าอยู่สุดหรู
ด้วยงบที่มีจำกัดทำให้หลายๆ คนสับสนว่าจะซื้อรถหรือบ้านก่อนดี แต่ใครบางคนไม่คิดเช่นนั้น พวกเขาตัดสินใจซื้อทั้งสองอย่างพร้อมกันโดยไม่ต้องใช้เงินเพิ่ม จริงๆ จะเรียกว่า “ทูอินวัน” ก็ได้นะเนี่ย เพราะนี่เป็นการซื้อรถบัสคันเก่าๆ แล้วมาเปลี่ยนให้เป็นบ้านใหม่สุดหรูอย่างมีสไตล์โดยครอบครัวหนึ่งในรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา Luke Davis จาก Oswego ทุ่มเงิน 1,000,000 บาท และใช้เวลา 1 ปีกว่าในการสร้างรถบ้านสุดหรูด้วยตนเองที่จะอยู่กับภรรยา Rachel และลูกสาว Charlotte ก่อนหน้านี้ Davis วัย 28 ปี ที่กำลังตกงานอาศัยอยู่กับครอบครัวในบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง จนกระทั่งตัดสินใจซื้อรถบัส AmTran Genesis ปี 1992 ในราคา 130,000 บาท จากนั้นเขาก็นำรถคันดังกล่าวมาดัดแปลง เปลี่ยนโครงสร้าง ตัดส่วนที่ไม่ต้องการออกไป และตกแต่งทั้งภายนอกและภายในจนกลายเป็นบ้านที่สมบูรณ์แบบหลังหนึ่ง ภายในของรถบัสนั้นมีทั้งห้องครัว ห้องนอน และถูกตกแต่งเหมือนบ้านทั่วไปทุกอย่าง เผลอๆ ดูหรูหรากว่าด้วย ส่วนด้านนอกมีหลังคาเป็นแผงโซลาเซลล์ที่สามารถใช้งานได้นานถึง 2 สัปดาห์ต่อครั้ง Davis บอกว่า “ตอนแรกมันดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะผมคิดว่ามันเป็นแค่ความฝันลมๆ…
-
ชาวเน็ตถกเถียง วิทยาลัยทำรั้วกั้นใน “งานเลี้ยงจบ” เพื่อแยกคนจ่ายเงิน กับไม่จ่ายออกจากกัน!!
ปกติแล้วเวลาที่โรงเรียนมีการจัดงานพรอมหรืองานเลี้ยง ส่วนใหญ่ก็มักจะมีการจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อให้งานดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นได้ และหลายคนก็อาจจะยินยอมที่จะจ่าย แต่ก็มีไม่น้อยทีไม่ยอมจ่ายด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่นเดียวกับงานเลี้ยงจบของวิทยาลัย Colegio de Bachilleres ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งล่าสุดได้มีการโพสต์ภาพบรรยากาศในงานดังกล่าว และมีจุดสนใจจุดหนึ่งที่ดูแล้วแปลกตามากๆ นั่นก็คือมีรั้วไม้กั้นอยู่ภายในงานด้วย!? . เมื่อลองหาต้นตอก็พบว่ารั้วดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการที่ทางวิทยาลัยได้ขอเก็บเงินจากผู้เข้าร่วมงาน เพื่อที่จะได้ไปจ้างคนมาจัดงานในครั้งนี้ และทางผู้จัดก็เกิดแนวคิดที่ว่าคนที่ไม่จ่ายเงินก็ไม่ควรจะได้เข้าร่วมงาน… และเมื่องานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นทุกคนที่มาร่วมงานก็ต่างพบว่ารั้วดังกล่าวนั้นได้ล้อมรอบบริเวณงานไว้เรียบร้อย ส่วนด้านนอกรั้วก็จะมีเก้าอี้ไว้ให้สำหรับผู้ที่ไม่ได้จ่ายค่าร่วมงาน ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อภาพนี้ได้ถูกโพสต์ลงโซเชียล ก็มีกระแสตอบรับออกมามากมายในแนวลบประมาณว่า ทำไมจะต้องทำแบบนี้ด้วยมันเป็นการจำกัดสิทธิ์เกินไปหรือเปล่า รวมถึงยังโทษในตัวของผู้จัดงานที่คิดไอเดียแบบนี้ขึ้นมาด้วย แต่ว่าก็ยังมีคนมากมายเช่นกันที่เห็นด้วยกับไอเดียนี้ โดยพวกเขาให้เหตุผลที่ว่า ทำไมจะต้องให้สิทธิ์ที่เท่าเทียมกับคนที่จ่ายเงินและไม่จ่ายเงินด้วย ถ้าคิดว่าไม่จ่ายเงินเพราะไม่อยากร่วมงานก็ไม่ต้องมาแต่แรกก็ได้ เพื่อนๆ มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง ก็ลองมาแชร์ความคิดเห็นกันดูนะ… ที่มา odditycentral, am