ชายหนุ่มติดอยู่ในตู้ ATM ออกไม่ได้ สุดท้ายขอความช่วยเหลือได้ผ่านช่องรับใบเสร็จ!!?

เรื่องราวสุดหงุนงงเมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งเกิดไปติดอยู่ในตู้ข้าง ATM ออกมาไม่ได้ จะขอความช่วยเหลือก็ลำบากเพราะไม่มีโทรศัพท์มือถืออยู่กับตัว แต่สุดท้าpด้วยไหวพริบของเขา ก็ทำให้ตัวเองสามารถรอดออกมาได้ในท้ายที่สุด…

เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่เมืองคอร์ปัสคริสตีรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งชายไม่เปิดเผยชื่อคนนี้เป็นช่างจากบริษัทผู้รับเหมาที่ดูแลตู้เอทีเอ็มดังกล่าวอยู่ เพื่อให้มาซ่อมประตูหลังที่เชื่อมกับตู้ ATM ของ Bank of America

 

 

ทว่าเมื่อช่างคนดังกล่าวกำลังซ่อมประตูอยู่ อยู่ดีๆ ประตูดังกล่าวก็ปิดตัวลงและล็อคจากภายนอก ซึ่งนั่นทำให้ช่างผู้โชคร้ายไม่สามารถออกไปได้ และเขาก็ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครผ่านโทรศัพท์ได้ เพราะโทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับตัว

แต่ว่าด้วยไหวพริบของชายคนนี้ เขาคิดได้ว่าตัวเองมีปากกากับกระดาษติดอยู่กับตัว เขาจึงจัดการเขียนข้อความขอความช่วยเหลือ โดยมีเนื้อความว่า “ได้โปรดช่วยผมด้วย ผมติดอยู่ในตู้ ATM ผมไม่มีโทรศัพท์ ได้โปรดโทรไปหาหัวหน้าผมที่เบอร์ 210 *** *** *** ***”

 

 

ข้อความดังกล่าวได้ถูกส่งผ่านช่องใบเสร็จของตู้ ATM ออกไป และเมื่อเวลาผ่านไปสักพักความช่วยเหลือก็มาถึงเขา เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานต่างเดินทางเพื่อมานำตัวเขากลับมาสู่ดินแดนอิสระภาพอีกครั้งนั่นเอง

ด้านนายตำรวจ Richard Olden ผู้ดูแลคดีนี้ได้บอกกับสำนักข่าว WTOC ว่า “คนมากมายที่เห็นข้อความตอนแรกพวกเขาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกไม่ก็เป็นการกลั่นแกล้ง เลยต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะมีคนตัดสินใจโทรแจ้งเข้ามาจริงๆ

ผมก็ยอมรับเลยนะว่า มีตำรวจหลายนายเลยล่ะที่คิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องตลกและกลั่นแกล้งเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องใช้เวลาสักพักเลยกว่าพวกเขาจะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง จนพวกเราไปถึงและเงี่ยหูฟังก็พบว่ามีคนติดอยู่ข้างในจริงๆ”

 

 

ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ Richard ก็บอกถึงประสบการณ์ครั้งนี้ว่า “ผมไม่คิดว่าจะได้เจอกับประสบการณ์คนติดอยู่ในตู้ ATM มาก่อน ถือเป็นเรื่องแปลกครั้งหนึ่งในชีวิตเลยล่ะ”

 

สามารถรับชมคลิปข่าวได้ที่ลิงก์ข้างล่าง

 

เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า ในยามเดือดร้อนไหวพริบและสตินั้นจะช่วยเราได้เสมอ แม้บางครั้งจะมีคนมากมายมองข้ามก็ตาม อย่างน้อยถ้าอดทนสักนิดหรือไม่ยอมแพ้ ความพยายามนั้นก็จะประสบผลในท้ายที่สุด…

 

ที่มา ladbible

Comments

Leave a Reply