Author:

หากคุณกลับมาบ้านแล้วเจอหมาของคุณอยู่กับตำรวจ คุณคงอดคิดไม่ได้ว่ามันต้องไปสร้างเรื่องใหญ่โตอะไรสักอย่างมาเป็นแน่ ทว่าครั้งนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่กับเจ้าหมา เนื่องจากมันนำทางพวกเขามาช่วยไม่ให้บ้านระเบิดต่างหาก     Serena Costello เลี้ยงสุนัขพิตบูลล์ไว้ตัวหนึ่งชื่อว่า Sadie แม้ว่ามันจะเป็นเด็กดี แต่มันก็ชอบแอบหนีออกไปจากบ้าน เธอจึงต้องให้มันอยู่ในรั้วกั้นเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ปกติเจ้าหมาจะไม่สามารถออกจากรั้วกั้นได้ ทว่าครั้งนี้มันเอาไม้ที่กั้นประตูบานเลื่อนทางหลังบ้านออกได้เอง แถมยังทำลายรั้วเพื่อออกไปข้างนอกบ้านด้วย     เมื่อเพื่อนบ้านเห็นมันออกไปเพ่นพ่านข้างนอก พวกเขาจึงแจ้งตำรวจให้ช่วยไปจับตัวมันไว้ มันจะได้ไม่ออกไปสร้างปัญหาข้างนอก แต่เมื่อ Sadie เห็นตำรวจ มันไม่ได้วิ่งหนีพวกเขาไปไหน มันแค่นำทางพวกเขากลับมาที่บ้าน…ตอนนั้นนั่นเองที่ตำรวจได้กลิ่นแก๊สคละคลุ้งในบ้านของ Costello     ตำรวจจึงติดต่อหน่วยดับเพลิงเพื่อให้เข้ามาตรวจสอบแก๊สที่รั้ว จากนั้นจึงปิดแก๊สที่รั้วจากห้องใต้ดินได้ทันก่อนที่ Costelle และลูกสาวจะกลับมาถึงบ้าน เจ้าหน้าที่ Lawrence Rotta ที่เข้าไปในบ้านเธอเล่าว่าแก๊สในบ้านกลิ่นแรงมาก มันหนาแน่นจนสามารถทำให้เกิดระเบิดขึ้นได้ทุกเมื่อเลย ส่วน Costelle นั้นค่อนข้างแปลกใจที่เจ้าหมาทำตัวเป็นฮีโร่ ปกติเธอนึกภาพมันทำอะไรแบบนี้ไม่ออกเลย แต่เธอก็บอกว่ามันได้ช่วยชีวิตเธอกับลูกสาวไว้จากเหตุระเบิดที่ยังไม่เกิดขึ้น   รายงานข่าวที่เจ้า Sadie ช่วยตามตำรวจไปควบคุมแก๊สในบ้าน    ที่มา: Eyewitness News ABC7NY, Inspire More

พี่แมวรู้ดีว่าการเป็นแมวจรจัดต้องผ่านความยากลำบากมายังไง มันจึงอยากปลอบใจน้องๆ แมวจรจัดทุกตัว และสอนให้พวกมันรู้ถึงความสุขจากการได้รับความอบอุ่น     Becky Zielinski จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Hearthside Cats มักจะไปยังย่านที่มีแมวจรจัดอาศัยอยู่เยอะ เพื่อช่วยเหลือแมวที่ไม่น่าจะเอาชีวิตรอดเองได้ ครั้งนี้เธอจึงช่วยเหลือเจ้า Teddy มา เนื่องจากมันเป็นลูกแมวที่ตัวเล็กผิดปกติ หากปล่อยไว้ตามลำพังมันคงดูแลตัวเองไม่ได้     หลังจากเก็บมันมารักษาโรคเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็พบว่าสาเหตุที่ Teddy ตัวเล็กผิดปกติ เกิดจากความไม่อยากอาหารของมัน พวกเขาจำเป็นต้องป้อนสารอาหารให้มันผ่านหลอดทุก 3-4 ชั่วโมงแทน เพื่อทำให้มันกลับมาอยากอาหารตามปกติอีกครั้ง     โชคดีที่ไม่กี่วันมิ้วน้อยก็มีสุขภาพดีขึ้น มันสามารถกินข้าวเองได้ตามปกติ โดยที่ไม่ต้องให้มนุษย์ช่วยป้อนอาหารได้อีกต่อไป เท่านี้ Becky ก็อุ่นใจได้แล้วว่ามันจะไม่กินอาหารน้อยจนขาดสารอาหารอีก ระหว่างที่อยู่ในบ้านของ Becky เธอไม่ได้เป็นคนเดียวที่ดูแลเอาใจใส่ Teddy…เจ้าแมวเหมียว Leo ก็มาช่วยดูแลมันอีกแรงหนึ่งเช่นกัน โดย Becky เป็นคนดูแลร่างกายและโรคภัยให้มิ้วน้อย ส่วนพี่แมว Leo ก็ช่วยมอบความอบอุ่นให้มันโดยการเลียขนและเป็นเพื่อนนอนด้วย     Leo เองก็เป็นแมวจรจัดมาก่อนเช่นกัน ตอนถูกช่วยมาสภาพของมันย่ำแย่จนแม้แต่สัตวแพทย์ยังบอกให้ยอมแพ้ ทว่า Becky ก็ช่วยดูแลมันจนมันรอดมาได้ และก็รับเลี้ยงมันเอาไว้…

 Jason Gasparik เขาเจอหมาตัวหนึ่งวิ่งกระวนกระวายอยู่ที่กลางถนน ทำให้การจราจรติดขัดจนไปต่อไม่ได้ คนที่ขับรถผ่านมาจึงลงรถเพื่อจะพามันไปในที่ปลอดภัย แต่มันไม่ยอมให้ใครจับตัวเลย แม้ว่าตอนนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคนหลายคนรวมถึงตัวเขาเองช่วยวิ่งไล่จับมันก็ตาม     หลังจากวิ่งไล่มันเป็นชั่วโมง Gasparik ก็สังเกตว่าถ้าเขาทำท่าวิ่งเหยาะๆ เจ้าหมาจะเดินตามมาเล่นกับเขาเอง เขาจึงวิ่งเล่นกับมันอยู่แบบนั้นสักพัก จนเจ้าหมาเหนื่อยแล้วยอมให้เขาจับในที่สุด ชายหนุ่มตัดสินใจจะพาเจ้าหมาไปตรวจไมโครชิปที่โรงพยาบาลสัตว์เอง แต่ก็น่าเสียดายที่เจ้าหมาไม่ได้ฝังไมโครชิปเอาไว้     คืนนั้นเขาจึงต้องเอาเจ้าหมาไปดูแลเองที่บ้านก่อน ยังดีที่ตอนนี้เจ้าหมาไม่ได้กลัวเขาแล้ว หลังจากมันไว้ใจเขามันก็เป็นมิตรมากเลยทีเดียว เจ้าหมาขึ้นไปนอนบนเตียงกับเขาทันทีที่ถึงบ้าน แล้วยังเลียเขาเหมือนกำลังขอบคุณอยู่ด้วย…แต่ถึงมันจะดูดีใจที่เขายอมช่วยมัน เขาก็รับรู้ได้เช่นกันว่าลึกๆ แล้วมันยังรู้สึกกังวลที่พลัดหลงอยู่ เขาจึงตัดสินใจจะช่วยเจ้าหมาตามหาเจ้าของ โดยเริ่มจากการโพส์เรื่องของมันในโลกออนไลน์ก่อน แม้จะมีคนเห็นโพสต์ของเขาไม่มากก็ตาม     วันต่อมาหลังจากเห็นว่าการโพสต์ตามหาเจ้าของให้มันไม่ได้ผล Gasparik ก็ลองใช้วิธีพื้นๆ ดูบ้าง โดยการขับรถไปตรงที่เจอมัน แล้วชูป้ายถามว่าคนที่ผ่านไปมารู้จักหมาตัวนี้บ้างไหม เขาหวังว่าอาจจะเจอใครสักคนที่รู้จักมัน แล้วช่วยเขาติดต่อกับเจ้าของของมันได้ หรือถ้าโชคดีหน่อยก็อาจจะเจอตัวเจ้าของเลย   ป้ายที่เขาใช้ตามหาเจ้าหมา   แม้ว่าวิธีนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผลยิ่งกว่าการโพสต์ออนไลน์ แต่ก็มีคนให้ความสนใจเขามากทีเดียว มีคนหลายคนจอดรถเพื่อแวะคุยกับเขา แล้วเสนอความช่วยเหลือให้อีกต่างหาก เขาเล่าว่า “มีหลายคนถามว่าผมตามหาเจ้าของหมาจริงๆ รึเปล่า แล้วก็มีบางคนเอาน้ำและอาหารมาให้ หรือแม้กระทั่งถามว่าอยากให้ช่วยไหมด้วย ผมจึงบอกให้พวกเขาช่วยกันแชร์เรื่องนี้ทางเฟซบุ๊ก เพื่อให้เรื่องไปถึงหูเจ้าของของมัน”  …

การข้ามถนนด้วยความระมัดระวัง เป็นบทเรียนสำคัญที่สุนัขทุกตัวควรเรียนรู้เอาไว้ให้ขึ้นใจ เพื่อความปลอดภัยของพวกมันเอง และความสบายใจของเจ้าของด้วย ถึงเจ้าตูบและเจ้าของคู่นี้จะมีวิธีการพากันข้ามถนนในแบบที่ไม่เหมือนใคร แต่มันก็ทำให้คนที่มองพวกเขารู้สึกอุ่นใจและเห็นถึงความน่ารักของทั้งคู่แม้จะไม่เห็นหน้ากันเลยก็ตาม   ยื่นมือมาสิเจ้าหมา   ช่วงนี้มีคลิปวิดีโออันหนึ่งซึ่งกำลังเป็นกระแสในกลุ่มคนรักสัตว์ ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอของชายคนหนึ่งที่กำลังจะข้ามถนนกับเจ้าหมาของเขา สิ่งที่ทำให้พวกเขาพิเศษก็คือวิธีการพาหมาข้ามถนนนี่แหละ โดยทั่วไปเจ้าของจะอุ้มเจ้าหมาข้ามถนน หรือไม่ก็ใช้สายจูงเดินนำทางพวกมันไป แต่ชายคนนี้ใช้วิธีการอมือเจ้าหมา แล้วพอมันยื่นมือให้เขา เขาก็จูงมือมันเดินไปด้วยกันจนถึงอีกฝั่งของถนนอย่างปลอดภัย   จับมือเราเอาไว้แน่นๆ อย่าปล่อยนะ   คลิปวิดีโอนี้ถูกถ่ายโดย  Natalie Compton (@NatBCo) ตอนที่เธอเดินทางไปเที่ยวประเทศเนปาล เพื่อที่จะไปขึ้นเขาเอเวอร์เรส เธอบังเอิญเจอชายหนุ่มและเจ้าหมาบนถนนที่วุ่นวายของเมืองกาฐมาณฑุ ตอนนั้นเธอเพิ่งออกกำลังกายเสร็จและกำลังนั่งพักอยู่หน้ายิม     เธอเล่าว่า “ฉันเห็นสุนัขน่ารักเป็นล้านตัวตั้งแต่มาถึงในเมือง แล้วฉันก็ชอบถ่ายวิดีโอพวกมันเก็บเอาไว้เป็นงานอดิเรกในฐานะคนรักสุนัข แต่ก็ไม่นึกเลยว่าจู่ๆ เจ้าของจะขอมือเจ้าหมา ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย พวกเขากำลังจูงมือกันข้ามถนนอยู่ในแบบที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมาก่อน”   เชิญชมคลิปวิดีโอทางนี้ https://twitter.com/NatBCo/status/1101494721740976128?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1101494721740976128&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.thedodo.com%2Fclose-to-home%2Fdog-holds-owners-hand-cross-street-nepal   การจูงมือกันข้ามถนนแบบนี้นอกจากจะทำให้เจ้าหมาไม่วิ่งออกไปหารถอย่างกระทันหันแล้ว ก็ยังทำให้คนที่มองดูรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปด้วย นอกจาก Compton แล้วชาวเน็ตเองก็คงจะคิดอย่างนั้นเช่นกัน คลิปวิดีโอที่เธอทวีตไว้จึงมีคนเข้าไปชมกว่า 2.4 ล้านครั้ง และมีคนกดไลก์ให้ตั้ง 150,000 ครั้งแน่ะ   ที่มา: the dodo, petpetbase

ฝากถึงคนที่ชื่นชอบแมวแต่ยังไม่เคยมีแมวเป็นของตัวเอง การได้เลี้ยงพวกมันและเป็นทาสแมวเต็มตัวจะทำให้คุณรู้สึกสุขใจเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ทว่าความสุขที่ได้มาก็ต้องแลกด้วยความลำบากเช่นกัน เพราะคุณจะต้องถูกพวกมันปู้ยี้ปู้ยำ ด้วยการสร้างเรื่องในบ้านให้ไม่เว้นวันเลยทีเดียว แต่ในฐานะทาสแมวเราก็ต้องด้วยกันเราย่อมเข้าใจกันดีว่า ถึงมันจะสร้างเรื่องป่วนไว้มากแค่ไหนก็ตาม เราก็ยอมเหนื่อยตามเก็บกวาดให้พวกมันแต่โดยดี…นี่สินะที่เขาบอกว่าความรัก(แมว)ทำให้คนตาบอด   แกไม่ชอบอาบน้ำไม่ว่า แต่จะมาบังคับให้มนุษย์เลิกรักษาความสะอาดแบบนี้ไม่ได้!!   ไม่ให้นั่งบนคีย์บอร์ดเหรอ…ก็ได้   กลับบ้านช้านิดเดียว เจ้าแมวแก้แค้นด้วยการฉีกถุงขนมปัง และกัดคำเล็กๆ ทุกชิ้น ทำให้ทาสไม่มีข้าวกินไปด้วยเลย   นับถอยหลังให้ยิ้มให้กล้องโว้ย ไม่ได้ให้แกกัดช้านนน   บ่นอยากได้มือถือใหม่เองนะ เราช่วยแล้ว   ผ้าปูที่นอนก็อยู่ของมันดีๆ แกไปทำร้ายมันทำไม??   แกไม่ใช่แมวบ้านเราด้วยซ้ำ มาทำร้ายต้นไม้บ้านเราทำไม ฮือ   นี่แกอยากดูวิวถึงขั้นพังมู่ลี่เลยเหรอ…   อยากเข้าไปในกล่องก็บอกกันดีๆ สิ ไม่ใช่พังกล่องแบบนี้   เป็นกำลังใจให้มันก็ดีหรอก แต่มันหนักนะโว้ย   เจ้าแมวชอบไปคุ้ยยกทรงใช้แล้วของฉัน แล้วเอามาให้แขกดู นี่มันตั้งใจแกล้งกันชัดๆ   เห็นทาสบ่นเหนื่อยใจเวลาเห็นบิล เราเลยช่วยทำลายให้   ฉันรักษาเบาะนี้มาตั้ง 8 ปี แกมา 3 เดือนพังไม่มีชิ้นดีเลย…

ในขณะที่บ้านอื่นๆ ทาสทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องตามเอาใจเจ้านายขนปุย บ้านนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้น เจ้าแมวกลับเป็นฝ่ายตามติดเด็กๆ แทน เหมือนกับพวกมันทำตัวเป็นหูเป็นตาให้คุณแม่เชียว ที่บ้านของ Yashu (@FakeYashu) มีแมวตัวโตอยู่ 4 ตัวด้วยกัน ได้แก่่เจ้าแมวพันธุ์โซมาลิ Tuna, เหมียวแร็กดอร์ Fia, แมวเหมียวเมนคูน Rai และเจ้าแมวเมนคูน Toyo     นอกจากเจ้าแมวพวกนี้แล้วเธอก็ยังมีลูกน้อยอีก 3 คนด้วย โดยเป็นเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ และเด็กชายอายุ 3 ขวบกับ 1 ขวบ ตั้งแต่เธอมีลูกๆ ดูเหมือนว่าแมวทุกตัวจะติดเด็กๆ มากเป็นพิเศษ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรอยู่ที่ไหน เจ้าแมวก็จะพากันตามไปหาเด็กๆ จนถึงที่   Toyo นอนให้น้องเล่นด้วยอย่างว่าง่าย   นอกจากจะคอยตามไปเล่นกับเด็กๆ แล้ว กิจกรรมโปรดอีกอย่างหนึ่งของพวกแมวก็คือการนอนงีบเป็นเพื่อนเด็กๆ หากไปเปิดดูทวิตเตอร์ของ Yashu แล้วจะเห็นว่าพวกมันงีบกับพวกเขาทุกวันเลยล่ะ ดูเหมือนแทนที่เจ้านายพวกนี้จะทำให้ทาสเอาใจ พวกมันกลับตกหลุมรักเด็กๆ จนยอมถวายตัวเป็นพี่เลี้ยงให้แล้ว พอได้เห็นแมวในมุมน่ารักและอ่อนโยนแบบนี้บ้างก็อดตกหลุมรักพวกมันมากกว่าเดิมไม่ได้จริงๆ   ไหนดูซิว่าน้องห่มผ้าห่มดีรึยัง   นอนให้ความอบอุ่นกับน้องคนละข้าง…

การได้ดูแลอดีตประธานาธิบดีอย่างใกล้ชิด ก็ถือเป็นหน้าที่ที่น่าภาคภูมิใจมากแล้ว ทว่าเจ้าหมาก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น มันยังคงสร้างความสุขให้คนอื่นในหน้าที่ใหม่ต่อ   https://www.instagram.com/p/BkxX8P6HJeK/?utm_source=ig_embed   คนที่ติดตามข่าวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา George H.W. Bush คงจะทราบดีว่าหลังจากที่เขาหมดวาระหน้าที่แล้ว สุขภาพของเขาก็ทรุดโทรมลงไปตามวัยที่มากขึ้น นั่นทำให้เขาได้เจ้า Sully สุนัขบริการสายพันธุ์ลาบราดอร์เข้ามาอยู่ดูแลเขาอีกแรงหนึ่ง มันได้กลายเป็นเพื่อนสนิทคู่ทุกข์คู่ยากในยามแก่ของเขาเลย   https://www.instagram.com/p/Bk0tn-NH3Ah/?utm_source=ig_embed   แม้ว่าเจ้า Sully จะเป็นสุนัขขององค์กร America’s VetDogs มันก็ใส่ใจ Bush มากราวกับเป็นเจ้าของแท้ๆ ที่อยู่ร่วมกันมานานเลย มันทำหน้าที่ได้ดีมากๆ จนทำให้มีคนหลงรักเจ้าหมา และสร้างอินสตาแกรมส่วนตัวให้มันด้วย แถมยังมีผู้ติดตามตั้ง 200,000 กว่าคนแน่ะ มันได้มอบรอยยิ้มและความสุขให้ Bush จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต และก็ยังไปเฝ้าอำลา Bush ในงานศพของเขาอีกต่างหาก   https://www.instagram.com/p/Bq6GcUxlLlO/?utm_source=ig_embed   หลังจากพ้นหน้าที่แล้ว เจ้า Sully ก็กลับไปอยู่กับองค์กร America’s VetDogs ตามเดิม ถึงแม้ว่าครอบครัวของ Bush จะคิดถึงความน่ารักของมันอยู่ก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ออกไปทำงานต่อเลยหรอกนะ มันได้ใช้ช่วงเวลาสั้นๆ ที่มีอยู่พักผ่อนหลังจากทำงานให้กับอดีตประธานาธิบดี Bush มาอย่างเต็มที่  …

คุณคงไม่คิดหรอกว่าหมาขนปุย 2 ตัวที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุข เคยผ่านสภาพการใช้ชีวิตที่เลวร้ายเกินกว่าที่จะจินตนาการมาก่อน พวกมันทั้ง 2 ตัวคงไม่มีโอกาสได้มีรอยยิ้มบนใบหน้าเลย หากไม่ถูกมนุษย์ไปช่วยออกมาและช่วยให้พวกมันมีชีวิตเหมือนเกิดใหม่     ศูนย์พักพิงสัตว์ Lebanon Shelter ได้ข่าวเกี่ยวกับเจ้าหมา Hazel มาว่ามันอาศัยอยู่ในชั้นใต้ดินของตึกร้าง สภาพของมันนั้นเหมือนโครงกระดูกเดินได้เลยทีเดียว มันน่าจะเป็นหมาจรจัดตัวเดียวที่เหลือรอดในแถบนั้น พวกเขาจึงจัดอาสาสมัครออกไปช่วยเหลือมัน แต่เมื่อไปเห็นมันจริงๆ แล้วมันดูเลวร้ายกว่าที่ได้ยินมาซะอีก เวลาที่มันหาอาหารกินไม่ได้มันกินแม้แต่ถุงพลาสติกเลยทีเดียว     สภาพของเจ้า Hazel ทรุดโทรมเกินกว่าจะบรรยาย   ทันทีที่เจ้าหมาเห็นพวกเขา มันหวาดกลัวแล้วรีบวิ่งไปหลบใต้ท้องรถ พวกเขาจึงต้องวางอาหารไว้ในกรงแล้วรอให้มันเดินเข้าไปในนั้นด้วยตัวเอง สักพักหนึ่งพวกเขาก็จับตัว Hazel ได้สำเร็จ แต่ตอนที่กำลังจะกลับ พวกเขาก็เห็นสุนัขอีกตัวหนึ่งวิ่งออกมาดูเพื่อนของมัน แต่มันก็ไม่กล้าเข้าใกล้มนุษย์เช่นกัน พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Aiden แล้วก็ตั้งใจจะพามันกลับไปกับเพื่อนด้วย ถึงแม้จะต้องเหนื่อยในการจับมันมากกว่าเจ้า Hazel ก็ตาม   Aiden เพื่อนหมาของ Hazel   สภาพมันย่ำแย่ไม่ต่างกันเลย   Shaarawi ซึ่งเป็นอาสาสมัครเล่าว่าหมาทั้ง 2 ตัวน่าสงสารมาก พวกมันเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องใต้ดิน และจะออกมาที่ทิ้งขยะใกล้ๆ เวลาที่ต้องการหาอาหารกินเท่านั้น…

สัตว์บางตัวจะหวงอาหารของตัวเองเป็นพิเศษ ถ้ามันเห็นขนมหรืออาหารเป็นของตัวเองล่ะก็ มันจะขู่ทุกคนที่มันคิดว่าจะแย่งอาหารไปจากมัน ต่อให้เป็นเจ้าของก็เถอะ สัตว์ที่มีนิสัยแบบนี้มีวิธีรับมือด้วยง่ายๆ แค่ไม่ไปยุ่งกับพวกมันตอนกำลังกินอาหารเท่านั้นเอง แต่สำหรับเจ้าคอร์กี้ตัวนี้คงจะเอาใจอยากหน่อย เนื่องจากมันทั้งหวงอาหารของตัวเอง…แต่ก็อยากให้เจ้าของแย่งอาหารไปจากมันเช่นกัน!?     เจ้า Chikuwa (แปลว่าปลาหมึกหลอด) สุนัขคอร์กี้ 3 สีอายุ 4 ขวบอาศัยอยู่กับเจ้าของ โดยที่เจ้าของของมันทำทวิตเตอร์ส่วนตัว @chikuwa20140325 เอาไว้ให้ด้วย มันก็เป็นหมาคอร์กี้ที่รักเจ้าของดีอยู่หรอก แต่การเอาใจเจ้าหมาเวลาที่มันกินข้าว ถือเป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับเจ้าของมากๆ เลย เนื่องจากนิสัยแปลกๆ ของมัน   เจ้าของของมันเล่าว่า Chikuwa จะส่งเสียงขู่แบบรุนแรงเวลาที่มีเขายื่นมือไปใกล้ถ้วยอาหาร หรือทำท่าเหมือนจะหยิบอาหารไปจากมันเสมอ บางคนอาจจะบอกว่าไม่ต้องไปยุ่งกับมันตอนกินข้าวซะก็สิ้นเรื่อง แต่กับเจ้า Chikuwa เจ้าของคงไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เนื่องจากพอเขาหยุดแกล้งแย่งข้าวมันเมื่อไหร่ แทนที่มันจะกินข้าวอย่างเงียบๆ มันกลับเอาหัวมาดุนมือเจ้าของเพื่อให้เขาขโมยข้าวมันต่อซะอย่างงั้น เหมือนในคลิปวิดีโออันนี้   มนุษย์ต้องมาแกล้งขโมยข้าวเจ้าหมา เพราะมันอ้อนให้ทำ!? ごはんを守るのが趣味なので、奪うフリの相手をしなければならない。 pic.twitter.com/AvMqEDAhKY — ちくわ (@chikuwa20140325) February 24, 2019   ใครได้ดูคลิปวิดีโอของ Chikuwa แล้วเป็นต้องงงแน่นอน เพราะเห็นได้ชัดว่ามันทั้งไม่อยากและอยากให้เจ้าของขโมยข้าวไปจากมันในเวลาเดียวกัน นี่แกเป็นไบโพล่ารึไง!?…

ถึงเราจะดูแลเจ้าหมาได้ดีมากขนาดไหน เมื่อได้เห็นสิ่งที่พวกมันทำตอบแทนให้เราแล้ว สิ่งที่เราทำก็เทียบกับความดีของมันไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่มันพร้อมสละชีพให้เรา ชายชาวอินเดีย Ameen Sharif ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Bhubaneswar พึ่งเสียสุนัขสุดรักไปเนื่องจากมันสละชีพปกป้องทุกคนในครอบครัว เขาเล่าว่าในวันที่เกิดเหตุเขาได้ยินเสียงเจ้าหมา Tyson เห่าอย่างต่อเนื่องตอนกลางดึก เมื่อเดินลงมาก็เห็นว่ามันกำลังเผชิญหน้าอยู่กับงูเห่าอินเดียตัวหนึ่งซึ่งมีพิษร้ายแรง     แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร เจ้าหมาก็กระโจนเข้าไปสู้กับงูเห่าเพื่อปกป้องพวกเขาซะแล้ว ซึ่งหลังจากต่อสู้กันสักพักเจ้าหมาก็กัดงูเห่าตาย ทำให้คนในครอบครัวปลอดภัย ทว่าเจ้า Tyson เองก็มีอาการเหมือนป่วยกระทันหัน เขาจึงรีบเข้าไปดูอาการมัน แล้วพบว่าระหว่างต่อสู้เจ้าหมาก็ถูกกัดเข้าที่ด้านซ้ายของใบหน้าเช่นกัน     เขาจึงรีบโทรหาสายด่วนซึ่งให้บริการช่วยเหลือเมื่อพบเจองู แล้วส่งคลิปวิดีโออาการของเจ้าหมา พร้อมกับงูที่มันกัดตายให้ผู้เชี่ยวชาญดู จึงได้รับการยืนยันว่างูที่สู้กับเจ้าหมาเป็นงูเห่าอินเดียไม่ผิดแน่ มันมีพิษร้ายแรงมากๆ หากเจ้าหมาโดนกัดแล้วควรรีบส่งตัวหาสัตวแพทย์ด่วนเพื่อช่วยชีวิต อย่างไรก็ตาม Sharif ก็ไม่สามารถพามันไปหาสัตวแพทย์ได้ทันเวลา เนื่องจากตอนที่เกิดเหตุเป็นเวลาตี 2 แล้ว เขาเองก็ติดต่อสัตวแพทย์ไม่ได้  หลังจากมันถูกกัดครึ่งชั่วโมง เจ้า Tyson ก็ตายจากพวกเขาไป     Sharif เล่าหลังเกิดเหตุว่า “พวกเราพยายามโทรหาสัตวแพทย์เพื่อขอยาต้านพิษให้ Tyson แล้ว แต่เวลานั้นไม่มีใครรับสายเราเลย มันช่วยชีวิตเราไว้แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถช่วยชีวิตมันได้ เขายังบอกกับทุกคนอีกว่า ครอบครัวของเขาจะไม่มีวันลืมความซื่อสัตย์ของเจ้าหมาและการเสียสละของเจ้า Tyson เลย   คลิปวิดีโออาการของเจ้าหมาหลังสู้กับงูเห่า…

ภาพของสัตว์ไม่มีหัว หรือสัตว์ที่มีหัวเกินมามากกว่าปกติที่เพื่อนๆ จะได้เห็นต่อไปนี้ ล้วนเป็นภาพที่ถ่ายจริงๆ โดยไม่ได้ผ่านการตัดต่อใดๆ ทั้งนั้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันเป็นแบบนั้นจริงๆ หรอก ภาพเหล่านี้เกิดจากการใช้มุมกล้องเพื่อหลอกตาคนให้คิดว่าพวกมันเป็นแบบนั้นต่างหาก ทว่าแต่ละภาพนั้นก็ดูแนบเนียนจนอดชื่นชมไม่ได้จริงๆ ถ้าคุณคิดว่าตัวเองเก่งพอ ลองดูภาพเหล่านี้แล้วมองตัวจริงของสัตว์ในภาพให้ออกทั้งหมดสิ   เจ้าเพนกวินตัวนี้ดูเหมือนหัวขาด ทว่าจริงๆ แล้วมันดูเป็นแบบนั้นเพราะมุมกล้อง   อูฐ 2 ตัวต่อกัน ดูเหมือนกับเจ้าอูฐคอยาวเลยใช่ไหมล่ะ   ที่เห็นอัลปาก้าพ่นไฟได้แบบนี้ ความจริงเป็นไอจากลมหายใจของมัน กระทบกับแสงแดดยามเช้า   เชื่อไหมว่ามียีราฟ 3 หัวอยู่?   เอ้ะ ทำไมเจ้ากวางตัวนี้มี 2 หน้า!?   เจมส์บอกที่ยืนได้มุมเหมือนรวม 2 ตัวเข้าเป็น 1 เดียว   รู้ไหมว่าพวกมันไม่ได้ขี่หลังกันอยู่หรอกนะ พวกมันยืนห่างกันมากเลยล่ะ   แม่น้ำที่เยือกแข็งใสกิ๊งจนดูเหมือนกระจกเงาสำหรับเจ้าไฮยีนา   คุณดูออกรึเปล่าว่าในภาพนี้มีนกยืนซ้อนกันอยู่ 2 ตัว   เจ้าเหยี่ยวไม่มีหัว หรือจริงๆ มันแค่เอี้ยวตัวไปข้างหลังกันนะ?   ถ้าคุณเห็นหน้าสัตว์ตัวหนึ่งในภาพ…

ใครจะไปคิดล่ะว่าการที่หญิงสาวเอาใจเจ้าหมา เพราะมันดูสนใจแชมพูแห้งของเธอ จะกลายมาเป็นคลิปวิดีโอสุดน่ารักที่มีคนดูนับล้านแบบนี้ แต่ก็นั่นแหละเจ้าหมามันน่ารักจริงๆ     เจ้าหมาตัวนี้คือ Daisy มันเป็นสุนัขของ Casey Holmes (@itsbl0ndie) สาวๆ บางคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอบ้าง เนื่องจากเธอเป็นบิวตี้วีล็อกเกอร์ เธอทำการรีวิวเครื่องสำอางทางแชแนลยูทูบ Casey Holmes และยังมีผู้ติดตามกว่า 1.7 ล้านคนเลยทีเดียว เธอรับเจ้าหมาเข้ามาเลี้ยงตั้งแต่ปี 2013 โดยรับมันเลี้ยงต่อจากเจ้าของคนเก่าซึ่งไม่ต้องการมันแล้ว แต่สำหรับเธอเจ้าหมาเป็นเพื่อนคู่ใจที่เข้ากันได้ดีมาก   น้อง Daisy น่ารักใช่ไหมล่ะ   ช่วงนี้ Casey สังเกตว่าเจ้า Daisy มักจะมาด้อมๆ มองๆ เวลาที่เธอใช้แชมพูแบบแห้งเสมอ ราวกับว่ามันอยากจะลองใช้แชมพูแบบเธอบ้าง พอเห็นมันทำแบบนั้นบ่อยๆ เข้า เธอก็เลยอยากเอาใจเจ้าหมา แต่จะให้มันลองแชมพูของคนก็ไม่ได้ เพราะอาจจะทำให้ผิวหนังของเจ้าหมาแพ้ เธอจึงต้องแกล้งสระผมแห้งให้มันหลอกๆ แบบนี้   ทำท่าทางเหมือนกำลังรดแชมพูแห้งใส่ตัวมัน พร้อมส่งเสียง “ฟู่ว” ราวกับกำลังพ่นสเปรย์   พอฉีดเสร็จก็นวดขนให้เจ้าหมาสักหน่อย แชมพูจะได้กระจายทั่วๆ   เสร็จแล้วก็แกล้งหวีให้มันโดยใช้ด้านหลังของหวี…แค่นี้ก็รู้สึกได้สระผมเหมือนแม่แล้ว   คลิปวิดีโอฉบับเต็ม https://twitter.com/itsbl0ndie/status/1100600950383960066  …

ถึงเจ้าแมวตัวนี้จะรักทาสมาก มันก็ยังมีพื้นที่ในใจเหลือไว้ให้กับอิสระนอกบ้านเสมอ มันจึงออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านบ่อยครั้ง โดยที่ทาสไม่มีทางรู้เลยว่ามันไปที่ไหนมา แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้มีโอกาสรู้ถึงการผจญภัยของเจ้านาย ผ่านทางจดหมายของเพื่อนบ้านที่เธอยังไม่เคยได้เจอหน้ากันเลย     เจ้า Rex ถูกรับเลี้ยงมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ตอนมันยังเด็ก ตอนแรกมันก็ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านเท่านั้น เหมือนกับแมวบ้านส่วนใหญ่ ทว่ามันก็เริ่มอ้อนให้เธอเปิดประตูไปข้างนอกบ่อยมากขึ้น ทั้งที่ตอนนั้นมันเองยังตัวไม่โตเท่าไหร่เลย จนสุดท้าย Emily Crane ก็ทนความขี้อ้อนของมันไม่ไหวจึงปล่อยมันออกไป     ถึงเธอจะไม่ได้รู้จักเพื่อนบ้านในแถบนั้นทุกคน แต่เธอก็ไม่ห่วงว่าใครจะทำอะไรไม่ดีกับ Rex เนื่องจากมันเป็นแมวที่เป็นมิตรมากๆ…แมวตัวอื่นอาจจะเข้ากับคนแปลกหน้ายาก แต่ไม่ใช่ Rex แน่นอน มันชอบให้ทุกคนลูบ แม้ว่า Crane จะไม่ห่วงเจ้าแมว แต่เธอก็ไม่มีทางรู้เช่นกันว่ามันไปทำอะไรที่ไหนมาบ้าง เนื่องจากพอพ้นเขตรั้วบ้านไปเธอซึ่งมองดูจากทางหน้าต่างก็มองไม่เห็นตัวมันแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งที่ Rex กลับมาบ้าน เธอสังเกตเห็นว่ามันมีกระดาษแนบมากับปลอกคอด้วย ซึ่งเป็นโน๊ตจากเพื่อนบ้านในละแวกนั้นเอง     ในโน๊ตเล่าว่า “สวัสดี เราคือเพื่อนบ้านของคุณที่อยู่บ้านหลังสีแดง พวกเราอยากให้คุณรู้ว่า Rex เริ่มติดการมานอนเล่นในอ่างอาบน้ำของเรา แล้วก็ชอบแอบเข้ามาในบ้านเพื่อนั่งเล่นในอ่างด้วย พวกเราทุกคนในบ้านไม่ว่าอะไรมันหรอก เพราะพวกเราก็รัก Rex มากเหมือนกัน เราแค่อยากให้คุณรู้ไว้ เผื่อว่าคุณสงสัยว่าช่วงนี้มันหายไปไหนมาบ้าง…คุณจะได้รู้ว่ามันน่าจะอยู่ในอ่างน้ำบ้านเรานี่แหละ…รัก จากเพื่อนบ้านหลังสีแดง”    …

เมื่อไม่นานมานี้หนุ่ม Garrett Johnson ถูกคุณพ่อคุณแม่ทิ้งให้เฝ้าบ้าน เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ไปสวีทกันบนเรือสำราญสองคน เขาจึงต้องรับหน้าที่ดูแลบ้านและเจ้าหมา Oscar ระหว่างที่พ่อแม่ไม่อยู่ แถมก่อนที่จะเดินออกจากบ้านไป คุณแม่ยังหันมากำชับกับเขาอีกว่า ให้ดูแลเจ้าหมาให้ดีที่สุด พวกเธอรู้สึกเป็นห่วงมันมาก เพราะไม่เคยออกจากบ้านไปนานแบบนี้     หนุ่ม Garrett จึงดูแลบ้านและเจ้าหมาอย่างดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ โดยที่เขากับมันได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขทั้งวัน แล้วก็เผื่อว่าพ่อแม่จะนึกภาพไม่ออกว่าเขาดูแลมันดียังไง เขาก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอสุดน่ารักแล้วโพสต์ลงทวีตเตอร์ เพื่อให้พวกเขาอุ่นใจว่าเจ้า Oscar อยู่กับเขาแล้วมีความสุขดีด้วย   เต้นรำด้วยกันกับเจ้าตูบ   ดินเนอร์บนโต๊ะอาหารด้วยกัน   ลูบเอาใจเจ้าหมา   นั่งดูซีรีส์ด้วยกันบนโซฟา มีป้อนขนมให้อีกต่างหาก   เล่นตุ๊กตาตัวโปรดกับเจ้า Oscar หน่อย   ส่งเจ้าหมาเข้านอนพร้อมบอกฝันดี   คลิปวิดีโอตัวเต็ม น่ารักกว่าภาพร้อยเท่า!! My parents went on a cruise and left me home alone. My mom kept…

ด้วยวัยเพียงแค่ 7 ขวบ เด็กหญิง Emma Mertens ก็ได้รับการยืนยันจากแพทย์แล้วว่าเธอมีเนื้องอกในสมอง ซึ่งไม่สามารถผ่าตัดรักษาได้ เรื่องนี้ต่างก็ทำให้ทั้งเด็กหญิงและพ่อแม่ของเธอรู้สึกใจหาย เนื่องจากเนื้อร้ายอาจทำให้เด็กหญิงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร     ด้วยความที่ Emma เป็นเด็กหญิงที่ชื่นชอบสุนัข เธอจึงบอกกับพ่อแม่ว่าเธออยากได้จดหมายจากเหล่าสุนัขเพื่อเป็นกำลังใจให้ตัวเอง ยิ่งมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ในเมื่อเด็กหญิงบอกความต้องการของตัวเองชัดเจนขนาดนี้แล้ว พ่อและแม่ของเธอจึงอยากช่วยทำให้คำขอของลูกเป็นจริง เพื่อทำให้เธอมีกำลังใจมากขึ้น     ครอบครัวของ Emma จึงเริ่มโทรหาคนรู้จักและติดประกาศ เพื่อบอกให้ทุกคนรู้ถึงอาการป่วยของลูกสาว และคำขอเล็กๆ ของเธอ แม้ว่าในตอนแรกพวกเธอไม่แน่ใจว่าจะมีใครสนใจช่วย Emma ไหม แต่ต่อมาพวกเขาก็พบว่ามีเจ้าของสุนัขและเจ้าหมามากมายพร้อมส่งกำลังใจมาให้เด็กหญิง พวกเขาได้รับจดหมายกองโตซึ่งส่งมาจากเจ้าของสุนัขจากทั่วทุกทิศ โดยเนื้อหาในจดหมายเหมือนกับว่าพวกสุนัขเขียนด้วยตัวเองเลยทีเดียว และนี่คือตัวอย่างจดหมายบางฉบับที่เด็กหญิงได้รับจากพวกหมา     หวัดดี Emma ฉันชื่อ Gizmo หมายอร์กกี้สีช็อกโกแลต เราจะส่งกำลังใจไปให้เธอเยอะๆ นะ หายไวๆ ล่ะ   หวัดดี Emma ฉันชื่อ Foxy Lou พันธุ์แรทเทอร์เรียร์ผสมคอร์กี้อายุ 5 ขวบ ฉันชอบของเล่นทั้งทีมีเสียงและไม่มีเสียง แล้วก็ชอบกระรอกกับผ้าห่มด้วย…

พวกเรารู้อยู่แล้วว่าสุนัขโดยรวมเป็นสัตว์ที่แสนรู้ ทว่าหากเจาะลึกลงไปอีก แต่ละสายพันธุ์ก็มีความเฉลียวฉลาดไม่เท่ากัน นักจิตวิทยาสุนัข Stanley Coren ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ The Intelligance of Dogs ที่ได้รับการยอมรับ ได้ลองทำการสำรวจมาแล้วว่าสุนัขสายพันธุ์ไหนฉลาดที่สุด ไปดูกันว่าสายพันธุ์ของเจ้าหมาที่เพื่อนๆ เลี้ยงไว้จะติดอันดับกันบ้างรึเปล่า   1. บอร์เดอร์คอลลี (Border Collie) สุนัขที่ฉลาดที่สุดคือสายพันธุ์บอร์ดเดอร์คอลลี พวกมันหลายตัวสามารถทำอะไรฉลาดๆ ได้โดยที่ไม่ต้องมีมนุษย์สอนให้เลยล่ะ เรียกได้ว่าฉลาดมาตั้งแต่เกิด   2. พุดเดิ้ล (Poodle) เห็นหน้าตาน่ารักๆ แบบนี้ แถมยังมีคนเลี้ยงมากมาย สุนัขพุดเดิ้ลเองก็เป็นรองแชมป์ด้านความฉลาดเช่นกัน ไม่นึกใช่ไหมล่ะว่าสุนัขที่คนเลี้ยงเยอะแบบนี้ก็ฉลาดโคตรๆ   3. เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd) ความฉลาดเป็นเลิศนี่แหละเป็นสาเหตุที่สุนัขสายพันธุ์นี้ถูกใช้เป็นสุนัขตำรวจอย่างแพร่หลาย พวกมันสามารถฝึกได้ง่ายและก็แก้สถานการณ์ได้ดีเยี่ยม   4. โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) ความแสนรู้ของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นที่รู้กันดีในหมู่คนเลี้ยงอยู่แล้ว แน่นอนว่าพี่หมาตัวโตขนปุยของพวกเราก็ติดโผกับเขาด้วยเช่นกัน   5. โดเบอร์แมนพินส์เชอร์ (Doberman Pinscher) สุนัขโดเบอร์แมนไม่ได้มีแต่ความกำยำและแข็งแรงเท่านั้น สติปัญหาของมันก็ไม่ได้ด้อยไปความกำลังกายที่มหาศาลเลย   6. เชตแลนด์ชีพด็อก (Shetland…

เจ้าหมาช่วยให้ชายหนุ่มก้าวข้ามเวลาที่เลวร้ายมาได้ เขาจึงรู้สึกรักและผูกพันกับมันมาก เมื่อถึงคราวมันตกที่นั่งลำบาก เขาเองก็พยายามจะช่วยเหลือมันโดยไม่ยอมแพ้ Justin Scott เป็นหนุ่มนักกู้ภัย และ Sara แฟนสาวของเขาก็ทำงานกู้ภัยเช่นกัน ทั้งคู่ต่างก็ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งสิ่งนี้เองอาจจะทำให้ทั้งคู่รู้สึกเข้ากันได้ดี   หนุ่มนักกู้ภัย Justin Scott   แฟนสาว Sara   วันหนึ่ง Justin ได้รับแจ้งให้ไปช่วยผู้บาดเจ็บ แต่งานครั้งนี้ต่างจากงานอื่นๆ ที่เขาเคยทำมา เนื่องจากผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนสนิทของเขาเอง แม้ว่าเขาและทีมงานจะพยายามช่วยผู้บาดเจ็บอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ ทำให้ Justin มีตราบาปในใจเนื่องจากเขาช่วยเพื่อนสนิทเอาไว้ไม่สำเร็จ     หลังจากนั้น Justin ก็มีอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด อาการของเขาน่าเป็นห่วงมากจน Sara เองก็เป็นกังวลไปด้วย เธออยากจะหาทางช่วยเขา เธอจึงปรึกษากับเขาและแนะนำให้ลองหาสุนัขสักตัวมาเยียวยาจิตใจดู ทั้งคู่จึงไปลองตามหาสัตว์ที่ถูกใจตามศูนย์พักพิงสัตว์ จนกระทั่งพบกับเจ้า Shelby     Shelby เข้ามาเติมเต็ม Justin ได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันช่วยให้อาการซึมเศร้าของเขาดีขึ้น ชายหนุ่มจึงกลับมายิ้มแย้มแจ่มใสอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหมากลายเป็นทั้งเพื่อนสนิทตัวใหม่ของเขา แล้วก็กลายเป็นที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดด้วย เพื่อเป็นการตอบแทนเขาจึงพยายามดูแลมันให้ดีที่สุดเหมือนกัน  …

แม้เด็กสาวจะยังอายุไม่มาก ความทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจให้กับเจ้าแพะ ก็แสดงให้เห็นว่าความรักสัตว์ของเธอและคู่หูก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเลย     Hamdü Sena Bilgin อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้กับเมือง Rize ของประเทศตุรกี เธอและครอบครัวเปิดฟาร์มเล็กๆ อยู่ด้วยกัน ตัวเธอทำหน้าที่เป็นคนดูแลฝูงแพะ และก็มีเจ้าหมา Tomi เป็นคู่หูที่รู้ใจของเธอ ทั้งคู่จะนำทางฝูงแพะออกไปกินหญ้าข้างนอก แล้วก็นำทางพวกมันกลับบ้าน     เมื่อตอนที่เธออายุ 11 ปี ระหว่างที่กำลังนำทางฝูงแกะท่ามกลางหิมะหน้าหนาวอยู่ แม่แพะท้องแก่ตัวหนึ่งก็คลอดระหว่างทาง มันไม่สามารถเดินตามฝูงได้ทันเนื่องจากตอนนี้ร่างกายของมันอ่อนแอ และลูกที่เกิดใหม่ก็เปราะบางมากด้วย Hamdü Sena จึงต้องนำทางแพะตัวอื่นกลับไปก่อนเพื่อความปลอดภัย แต่เธอก็ไม่ได้ตั้งใจทิ้งแม่แพะกับลูกแพะไว้ หลังจากที่กลับถึงบ้าน เธอก็คว้ากระเป๋าสะพาย 2 ใบที่เธอใช้ใส่หนังสือเรียน แล้วเรียกคู่หูกลับออกไปช่วยแม่แพะกับลูกแพะ     เมื่อกลับไปถึงจุดที่แม่แพะกับลูกแพะอยู่ Hamdü Sena ก็แบกแม่แพะใส่กระเป๋าสะพายหลังของตัวเองเพื่อแบกกลับบ้าน ส่วนลูกแพะก็ใส่เป้อีกใบแล้วให้เจ้า Tomi ช่วยสะพาย เจ้าหมาแสนรู้มากเลยทีเดียว เด็กสาวเล่าให้ฟังว่า “ตอนนั้นหิมะหนามาก ฉันเดินลุยมันไปจนรู้สึกเหนื่อยหอบ แต่การที่เราช่วยแม่แพะกับลูกแพะไว้ได้ก็คุ้มค่า” เมื่อเธอเดินไปจนใกล้ถึงบ้าน ก็มีพี่ชายของเธอรอช่วยเหลืออยู่ ซึ่งเขาก็เป็นคนที่ถ่ายรูปเธอแบกแม่แพะเอาไว้ได้ด้วย     ส่วนตัว Hamdü…

เราคิดว่าว่าเพื่อนๆ หรือคนใกล้ตัวน่าจะเคยร้องไห้เพราะเศร้าไปกับหนังกับหนังที่ดู รู้รึเปล่าว่าไม่ได้มีแค่มนุษย์แล้วนะที่อินกับหนังมากๆ ล่าสุดมีเจ้าหมาตัวหนึ่งร้องไห้ตามฉากเศร้าในหนังด้วย     เจ้าหมาน้อยอารมณ์อ่อนไหวตัวนี้ชื่อว่า Luna มันเป็นลูกหมาที่เกิดในศูนย์พักพิงสัตว์ของ Humane Educational Society Josh Myers และ Hannah Huddleston ก็มาเจอเจ้าหมาที่นั่น แล้วพวกเขาก็ตกหลุมรักในความน่ารักของมัน จึงได้รับเลี้ยงมันเอาไว้   https://www.instagram.com/p/BuOjB9wAN3_/?utm_source=ig_embed   เจ้าหมากับแม่ใหม่ https://www.instagram.com/p/BuOnv9lgXFL/?utm_source=ig_embed   Luna มาอยู่กับ Myers และ Huddleston หลายเดือนแล้ว มันตัวโตขึ้นมาก และจากการได้ใช้เวลาร่วมกันนานๆ ก็ทำให้หญิงสาวรู้ว่าเจ้าหมามีนิสัยอ่อนโยน ทว่าเมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งได้เห็นมุมที่อ่อนไหวของมัน ตอนนั้นเธอเปิดการ์ตูนเรื่อง Lion King ให้มันดู ตอนแรกๆ มันก็ดูหนังบ้าง เล่นกับของเล่นบ้าง เหมือนไม่ได้สนใจหนังสักเท่าไหร่     แต่พอเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ จนถึงฉากที่ Mufasa พ่อของตัวเอก Simba ตาย เจ้าหมาก็หยุดเล่นของเล่นแล้วหันมาสนใจดูการ์ตูนแบบใจจดใจจ่อเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้ว Luna ยังร้องเสียงหงิงๆ อย่างเศร้าสร้อย เหมือนมันกำลังเศร้าตามตัวเอกที่สูญเสียพ่อไปด้วย…

คุณคงนึกออกนะว่าถ้าเราไม่สามารถเดินได้เลย แล้ววันหนึ่งมีคนมาช่วยให้เราเดินได้มันจะน่าดีใจขนาดไหน เป็ดตัวนี้คงกำลังรู้สึกดีใจแบบนั้นอยู่ เจ้าเป็ดที่ชื่อว่า Merlin ถูกช่วยเอาไว้โดยศูนย์พักพิงสัตว์ Goats of Anarchy Santuary มันจึงได้มาอยู่ในความดูแลของมนุษย์     ทว่าพวกเขาก็พบว่าเจ้าเป็ดตัวนี้ได้รับบาดเจ็บที่ขาข้างซ้าย จนมันไม่สามารถใช้ขาข้างนั้นได้อีกต่อไป ทำให้มันว่ายน้ำไม่สะดวก แล้วก็เดินบนบกแทบไม่ได้ แต่ด้วยความที่พวกเขาอยากช่วยให้มันมีชีวิตที่ดี พวกเขาจึงติดต่อไปหาบริษัทธิ Walkin’ Pets ซึ่งช่วยทำรถเข็นให้สัตว์พิการ เพื่อขอให้ทำรถเข็นให้ Merlin บ้าง มันจะได้สามารถเดินเองได้     แม้ว่าจะไม่เคนทำรถเข็นให้เป็ดมาก่อน แต่ทางบริษัทธิก็อยากช่วยมันเช่นกัน จึงได้ลองเอารถเข็นของพวกหมาแมวมาดัดแปลงเล็กน้อย จนในที่สุดก็ออกมาเป็นรถเข็นที่สามารถใช้กับเป็ดอย่าง Merlin ได้ Mikayla Feehan จาก Walin’ Pets เล่าว่า “พวกเราไม่เคยทำรถเข็นให้เป็ดมาก่อนเลย ดังนั้นจึงต้องขอให้วิศวกรของเราดัดแปลงรถเข็นเล็กๆ เพื่อมันโดยเฉพาะ แต่พอลองเอารถเข็นให้มันใช้แล้วทำความเคยชินแล้ว มันก็สามารถเดิน้าวแรกได้ด้วยตัวของตัวเอง มันมหัศจรรย์มากที่คุณได้เห็นสัตว์ออกเดินก้าวแรกกับตาแบบนี้”     น่ายินดีกับเจ้าเป็ดจริงๆ ที่มันได้มีโอกาสเดินด้วยตัวเองบ้างสักที ต่อไปนี้มันคงสามารถเดินเล่นได้ตามใจชอบแล้ว แม้จะไม่เร็วเหมือนสัตว์ตัวอื่นก็ตาม ส่วนคนที่ช่วยมันอย่างอาสาสมัครและบริษัทผลิตรถเข็นสัตว์ ก็ได้รับความตอบแทนเป็นความรู้สึกอุ่นใจ ที่พวกเขาสามารถช่วยให้สัตว์ตัวน้อยๆ เดินได้เอง   …

หมาน้อยได้รับการช่วยชีวิตเอาไว้ และก็ต้องแยกจากผู้มีพระคุณของมัน ถึงจะเป็นแบบนั้นท้ายที่สุดเจ้าหมาก็ตามไปจนเจอเธอที่บ้านอีก ทำให้เธอมีโอกาสได้รับเลี้ยงมัน วันนั้นเป็นวัน Dias De Los Muertos หรือก็คือวันที่ชาวเม็กซิโกเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่ล่วงลับไป Eve และยายของเธอก็กำลังเดินทางไปสุสานเพื่อเคารพบรรพบุรุษ ก่อนจะไปร่วมงานเฉลิมฉลองเช่นกัน     ทว่าระหว่างทาง Eve สังเกตเห็นถุงพลาสติกใบหนึ่งมัดทิ้งไว้ เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ได้เจอกับลูกหมาเยอรมันเชพเพิร์ดอายุไม่ถึงเดือนกำลังนอนหายใจโรยรินอยู่ ด้วยสัญชาตญาณของคนรักหมาเธอจึงรีบช่วยมันออกมา ก่อนจะอุ้มมันไว้ในอ้อมอกแทบจะในทันที ทำให้เจ้าหมารอดชีวิตมาได้     ทว่ายายของเธอที่อยู่ด้วยก็มองมันด้วยสายตารังเกียจ เธอย้ำกับ Eve ว่าเธอจะไม่ให้เอาหมามาเลี้ยงในบ้านอีก หลังจากที่ Maimu สุนัขแสนรักของ Eve เพิ่งตายไปด้วยโรคมะเร็ง เธอจึงทำได้เพียงปล่อยเจ้าหมาไว้ตรงนั้น แล้วพาคุณยายไปร่วมงานเฉลิมฉลอง แต่ก่อนที่จะจากกับเจ้าหมาไปเธอก็ถือโอกาสกระซิบบอกกับมันด้วยความเอ็นดู ว่าให้มันลองออกตามหาเธอ เพราะเธออยากเลี้ยงมันมากๆ   Maimu เจ้าหมาตัวเก่าที่เพิ่งตายไป   Eve กับคุณยายไปร่วมงานเฉลิมฉลองด้วยกันจนงานจบลง พวกเธอจึงขับรถกลับบ้านของตัวเอง โดยคุณยายกำชับให้เธอกลับบ้านอีกทางหนึ่ง เพราะเธอรู้ว่าถ้ากลับไปทางเดิม Eve ต้องแวะรับเจ้าหมากลับบ้านแน่ๆ ตอนที่ขับรถกลับบ้านอยู่หญิงสาวอดคิดเรื่องของเจ้าหมาน้อยไม่ได้เลย เธอรู้สึกผูกพันธ์กับมันมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้เจอมันอีก     ทว่าหลังจากมาถึงบ้านแล้ว Eve…

หมาจรจัดย่อมมีชีวิตที่ยากลำบาก พวกมันต้องดิ้นรนหาอาหารทาน และบางครั้งก็ต้องต่อสู้กับสัตว์ตัวอื่นเพื่อแย่งชิงพื้นที่อาศัย ทว่าชีวิตของพวกมันก็ไม่ได้ย่ำแย่ทุกชั่วขณะ บางมุมพวกมันก็มีชีวิตที่มีความสุขในแบบของหมาจรจัดเช่นกัน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูมุมเหล่านั้นบ้าง โดยภาพเหล่านี้เป็นภาพจากช่างภาพ Zoltan ซึ่งไปถ่ายเหล่าหมาจรจัดที่เกาะ Sal ในหมู่เกาะ Cape Verde มา…แล้วทุกคนจะได้เห็นถึงความน่ารักสดใสในแบบฉบับของหมาจรจัด   นอนแผ่หลาซะสบายเลย   ได้เห็นวิวสวยๆ ทุกวัน   บางตัวก็เป็นลูกค้าขาประจำ ไม่ซื้อก็ยังมาทักกันทุกวัน   แดดยามเย็นนี่มันดีจริงๆ   ทุกที่เป็นที่นอนของผม   พวกมันประชุมเรื่องอะไรกันอยู่น้า   งื้อ แดดแยงตา   สุดหล่อมาเล่นด้วยกันไหม   ดูท่าทางเหมือนว่ามันจะฝันหวานอยู่   มายืนรอใครอยู่ตรงหัวมุมถนนเหรอพ่อหนุ่ม   บางครั้งก็มีคนใจกางร่มให้น้องนอน   มีคนใจดีเยอะแยะที่อยากเล่นกับพวกเรา   เจ้าถิ่นอยู่ตรงนี้ ใครจะมาออกกำลังกายต้องลูบหัวเป็นค่าผ่านทางก่อน   เพื่อนซี้กรรมกร เดินไปไหนในเขตก่อสร้างก็ได้   ดูดีอย่างกับนายแบบแน่ะ   ถึงจะยังไม่มีเจ้าของ ก็มีคนใจดีแวะเวียนมาหาอยู่เหมือนกัน   ขอพื้นที่หลบแดดหน่อยนะมนุษย์…

ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของลูกหมา ทำให้แทบทุกคนที่ได้เจอพวกมันอยากเล่นด้วย จนอาจทำให้ลูกหมาเหล่านี้เข้าใจว่าทุกคนอยากเล่นกับตัวเอง ลูกหมาตัวหนึ่งก็น่าจะคิดแบบนั้น มันจึงทำท่าเป็นมิตรและพร้อมเล่นกับทุกคนที่เจอ จนครั้งนี้มันต้องงงเมื่อเจอสุนัขตัวหนึ่งที่ไม่ยอมเล่นกับมัน…หรือถ้าบอกว่ามันเล่นด้วยไม่ได้จะถูกกว่านะ? ในคลิปวิดีโอสุดแสนน่ารักอันหนึ่ง บันทึกเรื่องราวของลูกหมาน้อย ที่บังเอิญผ่านมาเจอพี่หมาลาบราดอร์สีดำตัวหนึ่งนั่งอยู่หน้าประตู มันจึงอยากจะเล่นกับพี่หมาด้วย   พี่หมาๆ มาเล่นด้วยกันเถอะ!!   แต่ไม่ว่าหมาน้อยจะทำท่าทีออดอ้อน หรือแสดงให้เห็นว่ามันอยากเล่นกับเพื่อนใหม่ พี่หมาสีดำตัวนั้นก็ไม่มีท่าทีอยากเล่นกับมันด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้ลูกหมาน้อยเกิดอาการงงมากๆ เนื่องจากถ้าเป็นสุนัขหรือมนุษย์คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็คงจะเข้ามาเล่นกับมันตั้งแต่แรกเห็นแล้ว   ทำไมพี่เขาหยิ่งจังวะ ไม่ตอบอะไรสักคำ   แต่อันที่จริงแล้วการที่เจ้าหมาลาบราดอร์ตัวนั้นไม่เล่นกับมัน ไม่ได้เป็นเพราะมันหยิ่งหรือว่าใจแข็งหรอก ทว่ามันเป็นรูปปั้นสุนัขต่างหาก ถึงมันจะเป็นแค่รูปปั้น แต่ก็เป็นรูปปั้นหมาที่ดูสมจริงมากๆ ทำให้แม้แต่มนุษย์อย่างเราก็เข้าใจได้ว่าทำไมหมาน้อยถึงเข้าใจผิดแบบนั้น     อย่างไรก็ตามหลังดูคลิปวิดีโอนี้ก็ทำให้เราอดขำและเอ็นดูเจ้าหมาน้อยไม่ได้เลย มันโดนความสมจริงของรูปปั้นหลอก จนคิดว่านี่เป็นพี่หมาที่มีชีวิตจริงๆ เห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้เลยว่าพอหมาน้อยรู้ถึงตัวตนจริงๆ ของพี่หมาตัวนี้แล้ว มันจะมีความคิดยังไง และทำสีหน้าตลกขนาดไหนกันนะ ฮ่าๆๆๆ     รับชมคลิปวิดีโอเจ้าหมาน้อยอ้อนให้รูปปั้นเล่นด้วยทางนี้    ที่มา: Rumble Viral, Pets Impact

เจ้าของสุนัขทุกคนก็รักหมาเป็นปกตินั่นแหละ แต่คงมีน้อยคนนักที่รักพวกมันมากจนสามารถใช้คำว่า “คลั่งไคล้” พวกหมาได้ พวกเขาเหล่านี้คลั่งไคล้เจ้าตูบมากๆ ถึงขั้นพยายามให้ของใช้ทุกอย่างที่อยู่ในบ้านมีความเกี่ยวข้องกับเจ้าหมาทีเดียว คล้ายกับเหล่า “โอตาคุ” หรือผู้คลั่งไคล้การ์ตูนที่ชอบตกแต่งห้องส่วนตัวให้เต็มไปด้วยตัวการ์ตูนตัวโปรดยังไงยังงั้น เดี๋ยวเราจะพาเพื่อนๆ ไปลองรู้จักคนคลั่งไคล้หมาเหล่านี้ดู ว่าพวกเราแต่ละคนมีความรักหมามากมายขนาดไหน   Laura Rosenthal   Laura Rosenthal ตกหลุมรักกับเจ้าหมา Nellie ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ แต่เธอไม่สามารถรับเลี้ยงมันได้เนื่องจากเธออาศัยอยู่ในแฟลต ซึ่งไม่มีสวนให้มันวิ่งเล่น ด้วยความรักเจ้าหมาเธอจึงขายแฟลตนั่นทิ้งไป แล้วก็ซื้อบ้านที่มีสวนเพื่อที่จะได้รับรับเลี้ยงเจ้าหมา นอกจากนี้เธอยังเอารูป Nellie เข้าไปติดในแทบทุกสิ่งที่เธอมีด้วย เธอมีหมอน ปฏิทิน และของตกแต่งหลายอย่างในบ้านเป็นรูป Nellie และก็ยังจ้างให้จิตรกรณ์วาดภาพใบใหญ่ของมันให้อีกหลายใบด้วย เธอจะได้เอาภาพมันไปติดไว้ทั่วทุกมุมบ้าน…แน่นอนว่าแต่ละ   Victoria Alter   Victoria Alter เป็นครูที่คลั่งไคล้สุนัขพันธุ์เวสตี้บิชอง (Westie Bichon) เอามากๆ เธออยากเลี้ยงสุนัข แต่สามีของเธอยังไม่เห็นด้วย เนื่องจากตอนนั้นพวกเขามีลูกเล็ก 2 คนซึ่งก็ดูแลแทบไม่ไหวแล้ว เธอ้อนขอเลี้ยงสุนัขกับเขาอยู่นาน 3 ปีจนในที่สุดก็ได้เจ้า Flossy มาเลี้ยง เธอโอ๋มันมากๆ ซะจนสามีแซวเธอว่าเธอรักมันมากกว่าครอบครัวซะอีก Alter…

อีกสักพักหนึ่งภาพยนตร์เรื่อง A Dog’s Way Home หรือในชื่อภาษาไทยว่า เพื่อนรักผจญภัยสี่ร้อยไมล์ จะเข้ามาฉายในประเทศไทยแล้ว มันเป็นหนังฟีลกู้ดเกี่ยวกับชีวิตสุนัขตัวหนึ่งที่น่าประทับใจ แต่รู้ไหมว่าเรื่องนอกจอของเจ้าหมาที่แสดงเป็นตัวเอกก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลย     A Dog’s Way Home เริ่มฉายในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อต้นเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมา และจะเข้ามาฉายในประเทศไทยในวันที่ 4 เมษายน 2019 นี้ โดยตัวที่แสดงเป็นตัวเอกของเรื่องก็คือเจ้าหมา Shelby ในเรื่องนั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหมา Bella ผู้ซึ่งถูกส่งตัวข้ามรัฐไปอยู่บ้านใหม่ เนื่องจากในรัฐเก่ามีกฎหมายห้ามเลี้ยงสุนัขที่มีเชื้อสายพิตบูลล์ แต่มันก็ไม่เข้าใจเหตุผล จึงหนีออกจากบ้านมาแล้วพยายามกลับไปยังบ้านเก่าซึ่งห่างจากที่อยู่ใหม่ไปกว่า 400 ไมล์เลยทีเดียว และระหว่างทางมันก็ได้พบกับเรื่องราวมากมาย   ตัวอย่างหนัง A Dog’s Way Home    ทว่าในชีวิตจริงนั้น Shelby ก็มีเรื่องราวที่น่าทึ่งเช่นกัน มันเป็นเพียงแค่หมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ของรัฐชีทแฮม ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมันยังไม่มีเจ้าของมารับเลี้ยงด้วยซ้ำ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในศูนย์พักพิงพยายามช่วยเหล่าหมาในนั้นหาบ้านอยู่ ด้วยการช่วยถ่ายรูปโปรโมตให้มัน แล้วโพสต์ภาพลงบนอินเตอร์เน็ต   ภาพโปรโมตให้คนมารับเลี้ยง Shelby   ในตอนนั้นเอง Teresa Ann Miller ซึ่งกำลังตามหาสุนัขที่มาแสดงนำหนังให้กับภาพยนตร์ ก็ผ่านไปเห็นภาพมันเข้า…

เราเคยชินกับการที่เห็นกระต่ายมีขนาดเล็กกว่าหมา และหมาก็ตัวเล็กกว่าคน เราเข้าใจว่าโดยทั่วไปแล้วขนาดของพวกมันเป็นแบบนั้น ทว่าจริงๆ แล้วนั่นเป็นแค่สัตว์โดย “ทั่วไป” ต่างหาก บนโลกนี้ยังมีสัตว์บางตัวที่มีขนาดไม่ธรรมดาอยู่ด้วย เพียงแค่เราอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันจริงๆ เท่านั้นเอง ถ้าเพื่อนๆ ได้ดูภาพที่เรารวบรวมมาวันนี้แล้ว รับรองจะต้องทึ่งกับขนาดของสัตว์พวกนี้แน่ๆ พวกมันดูเหลือเชื่อเหมือนถูกตัดต่อให้มีขนาดตัวผิดปกติเลยล่ะ แต่ขอยืนยันอีกครั้งว่านี่แหละคือของจริง   เต่าที่ตัวใหญ่มากจนคน 2 คนขึ้นไปขี่ได้สบายๆ   หมาไม่ได้ตัวเล็กนะ กระต่ายมันตัวโตต่างหาก   ม้าตัวนี้เตี้ยกว่าหมาซะอีก   ในขณะเดียวกันม้าอีกตัวสูงเป็นยักษ์เลย   กระต่ายจิ๋วขนาดตัวเท่ากับไพ่   พี่หมานิวฟาวด์แลนด์ที่สูงเลยคนตัดขนไปไกล   นี่มันปลากระเบนหรือผ้าใบเรือกันแน่!?   กบจิ๋วตัวเล็กยิ่งกว่านิ้วหัวแม่มือ   ผีเสื้อตัวใหญ่ สามารถบินมาบังหน้าคุณได้เลย   นี่นกจริงๆ นะ ไม่ใช่เมล็ดถั่วสักหน่อย   ปูมะพร้าวตัวโเกือบจะเท่าพี่หมาแล้ว น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย   มองเห็นกันรึเปล่า กิ้งก่าจิ๋วตัวเล็กเท่าเล็บมือ   ค้างคาวของจริงนี่แหละครับ ดีนะที่มันกินแต่ผลไม้   จระเข้ตัวน้อย เล็กจนตัวเกือบจะเท่าใบไม้อยู่แล้วเชียว   เต่าตัวโตอีกตัวหนึ่ง…

ใครที่เคยจัดงานแต่งงานคงรู้ดีว่ากว่าทุกขั้นตอนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การจะเปลี่ยนแปลงหรืออะไรสักอย่างโดยเฉพาะวันงานแต่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่คู่บ่าวสาวคู่นี้ก็ยอมเลื่อนงานแต่งที่เตรียมการไว้แล้วให้ไวขึ้นอีกหลายเดือน เพื่อให้เจ้าหมาที่ป่วยอยู่ได้เข้าร่วมพิธีด้วยกัน     Estelle Harris รับเลี้ยงสุนัขบูลล์มาสทิฟ Bruce มาเมื่อหลายปีก่อน เธอรักเจ้าหมาตัวนี้มากเหมือนลูกแท้ๆ เลย และสิ่งนั้นก้ไม่มีอะไรทดแทนได้ ต่อมาเธอก็คบหาดูใจกับ Daniel เขาเป็นหนุ่มที่เข้าอกเข้าใจเธอ แล้วก็รู้ด้วยว่าเจ้า Bruce สำคัญกับเธอมากขนาดไหน บางครั้งถึงเธอจะเห็นมันสำคัญกว่าเขา เขาจึงเข้าใจเธอ     หลังคบกันมาได้หลายปี Estelle กับ Daniel ก็ตกลงปลงใจจะแต่งงานกัน โดยจะจัดงานขึ้นในเดือนพฤษภาคม และก็ได้มีการเตรียมการงานแต่งไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว Estelle วางแผนจะให้เจ้า Bruce เป็นส่วนสำคัญของงานด้วย เธออยากจะให้มันได้ถ่ายรูปครอบครัวร่วมกับ Daniel และลูกอีก 2 คนของเขาด้วย เนื่องจากมันก็ถือเป็นลูกรักของเธอ     ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นในเดือนธันวาคมของปีก่อนหน้างานแต่ง Bruce ไม่สบายหนักมาก ลิ้นของมันกลายเป็นสีน้ำเงิน และก็มีเมือกบริเวณปากด้วย พวกเขาจึงพามันไปหาหมอ พวกเขาจึงได้รู้ข่าวร้ายว่ามันมีน้ำในเยื่อหุ้มปอด นอกจากนี้ก็ยังเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรงบริเวณช่วงอกด้วย ทำให้มันเหลือเวลาอยู่ได้ไม่นาน แม้ว่าพวกเขาจะพยายามผ่าตัดรักษาเจ้าหมาแล้ว แต่อาการของมันก็ยังน่าเป็นห่วง สัตวแพทย์คาดว่ามันน่าจะมีเวลาเหลือไม่ถึง 6 เดือน…

อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Pet Alliance Greater Orlando เจอแมวน้อยสีส้มอยู่ตามลำพัง ที่น่าเป็นห่วงไปกว่านั้นก็คือขนาดตัวของมันเล็กกว่าที่ควรจะเป็นมาก พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Kevin หลังจากตรวจสุขภาพมันเสร็จจึงตัดสินใจจะส่งมันไปอยู่รวมกับแมวกำพร้าอีกครอกหนึ่ง ที่บ้านอุปถัมภ์ของ Lisa Krakosky      แม้ว่า Kevin จะทั้งตัวเล็กกว่าเพื่อนและก็มีสีขนแตกต่างจากตัวอื่น พี่น้องแมวดำก็ปฎิบัติกับมันเหมือนว่ามันเป็นพี่น้องแท้ๆ อีกตัวหนึ่ง ทุกครั้งที่ Krakosky ป้อนอาหารให้มันเสร็จ จะมีลูกแมวดำตัวอื่นมานอนกอดกับ Kevin เสมอ ซึ่งตัวที่มันดูจะสนิทมากเป็นพิเศษก็คือเจ้ามิ้วน้อย Lumen     Lumen ทำตัวเหมือนเป็นพี่ชายของ Kevin มันจะคอยปกป้องแมวส้มตัวน้อย และไม่ปล่อยให้น้องตัวนี้หลุดรอดสายตาของตัวเองเลย ด้วยความรักและใส่ใจที่มันได้จากพี่น้องแมวดำ ในเวลาไม่นานมันจึงตัวใหญ่ขึ้นมากจนคนดูแลอุ่นใจ แต่ก็ยังถือว่าตัวเล็กเมื่อเทียบกับตัวอื่นอยู่ดี     Krakosky อุ่นใจทุกครั้งที่เห็นว่า Lumen คอยเคียงข้าง Kevin อยู่ พวกมันจะเล่นซนด้วยกันตามมุมต่างๆ ของห้อง และก็งีบด้วยกันหลังเล่นเสร็จ แม้ไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าพวกมันรักกันมาก     เหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ เลย   นอกจากเหล่าพี่น้องแมวดำแล้ว ก็ยังมีแม่แมว Joule…

ชีวิตในมหาวิทยาลัยซึ่งนักศึกษาต้องเผชิญกับความเครียดจากการเรียนที่จริงจังมากขึ้น นักศึกษาจำเป็นต้องมีวิธีจัดการกับความเครียดของตัวเอง บางคนก็เลือกที่จะฟังเพลง เที่ยว หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกับเพื่อน สำหรับในมหาวิทยาลัย Nottingham Trent University ในประเทศอังกฤษ นอกจากวิธีต่างๆ ที่บอกไปข้างต้นแล้ว เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยยังจัดหาหมาไส้กรอก 4 ขามาช่วยทุกคนคลายเครียดด้วย     Debra Easter เป็นเจ้าหน้าที่หญิงวัย 45 ปีซึ่งทำหน้าทีสนับสนุนนักเรียนที่ต้องการหางาน หรือคำปรึกษาในสายอาชีพของตัวเอง ทว่านอกจากหน้าที่หลักของเธอแล้ว เธอยังหาทางลดความเครียดให้บุคลากรและนักศึกษาอีกทาง โดยการพา Jimmy ซึ่งเป็นสุนัขเยียวยาพันธุ์ดัชชุนด์ของตัวเองมาผ่อนคลายอารมณ์ให้ผู้อื่นด้วย     ซึ่งเจ้า Jimmy น่าจะเป็นสุนัขเยียวยาตัวแรกในประเทศอังกฤษ ที่ถูกเลี้ยงไว้ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเพื่อทำหน้าที่เยียวยานักศึกษาอย่างเป็นทางการเลยทีเดียว Easter บอกว่า “บุคลากรและนักศึกษาจำนวนมากมีอารมณ์ที่สดใสขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยการลูบและเล่นกับเจ้า Jimmy” แถมเจ้าหมาเองก็คงจะมีความสุขเช่นกัน เพราะมันชอบเป็นจุดสนใจของผู้คน     นักศึกษาที่มาหา Easter มักจะได้เจอกับ Jimmy ใส่หมวกใบจิ๋วคู่กับโบว์หรือเน็กไทเสมอ ซึ่งภาพแสนน่ารักนั้นแค่ได้มองก็ทำให้หลายคนสามารถยิ้มออกได้แล้ว เจ้าของของมันยังเสริมอีกว่าแม้เจ้าหมาจะไม่ได้เงินเดือนของตัวเองอย่างเป็นทางการ แต่มันก็เดินเข้าๆ ออกๆ ออฟฟิศเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดเสมอ     ที่มา: Daily…

เจ้าหนูตัวไม่น้อยตัวหนึ่งพาตัวเองไปติดอยู่ตรงรูในฝาท่อระบายน้ำ ปกติมันคงลอดผ่านรูปนั้นได้อย่างสบายๆ ทว่ามันคงไม่ทันคิดว่าตัวมันอ้วนขึ้นทุกวัน ครั้งนี้มันเลยลอดผ่านไปไม่ได้ และต้องให้มนุษย์พากันมาช่วยยกใหญ่ หนูตัวที่ว่านี้ติดอยู่บนถนนในเมือง Bensheim ประเทศเยอรมนี คนที่ไปพบมันกลุ่มแรกเป็นครอบครัวซึ่งประกอบไปด้วยคุณพ่อคุณแม่และลูกสาว 2 คน พวกเขาพยายามช่วยมันออกมาเองแล้วแต่ไม่เป็นผล     พวกเขาจึงติดต่อ Sehr ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Professional Animal Rescue Rhein-Neckar เพื่อให้เขามาช่วยเจ้าหนูออกมาให้ได้ ทว่าแม้แต่คนที่ช่วยสัตว์บ่อยๆ อย่าง Sehr ก็ไม่สามรถช่วยมันออกมาได้เช่นกัน เขาบอกว่าไขมันช่วงท้องของเจ้าหนูตัวนี้หนามาก ทำให้ตัวมันติดแน่นไม่ขยับเลย เขาเพิ่งจะเคยเห็นหนูตัวใหญ่ขนาดนี้ก็คราวนี้นี่เอง     ถึง Sehr จะช่วยมันเองไม่ได้ เขาก็ไม่อยากทิ้งให้มันลำบากอยู่ตรงนั้น เขาจึงโทรไปหาเพื่อนที่เป็นนักดับเพลิง เพื่อให้เพื่อนพาทีมงานมาช่วยปล่อยมันเป็นอิสระ ไม่นานนักนักดับเพลิง 9 คนก็มาถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาลองใช้ที่จับสัตว์ยึดกับตัวของมันไว้แล้วดึงออกมา แต่มันก็ติดแน่นจนเกินไป พวกเขาจึงลองใช้ชะแลงงัดฝาท่อให้เปิดออก เผื่อว่าจะช่วยมันได้สะดวกขึ้น     หลังจากยกฝาท่อขึ้นมาแล้ว Sehr และทีมนักดับเพลิงก็สามารถช่วยมันออกมาได้อย่างง่ายดาย โดยการค่อยๆ จับตัวมัดบิดไปมาเบาๆ จนเจ้าหนูหลุดออกจากรูในที่สุด จากนั้นพวกเขาก็รีบเอามันปล่อยลงไปในท่อระบายน้ำตามเดิม การช่วยเหลือครั้งนี้ใช้คนจำนวนมาก ในสายตาบางคนอาจจะดูเหมือนเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน แต่ Sehr และเพื่อนที่ช่วยมันก็อยากให้ทุกคนมองว่ามันเองก็เป็นชีวิตหนึ่งที่ควรไดรับการช่วยเหลือเช่นกัน  …

ถ้าพูดถึงปลาทองแล้ว ภาพที่อยู่ในหัวคนทั่วไปก็คือสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงเอาไว้ในตู้ที่บ้าน เอาไว้ดูเพลินๆ เพียงเท่านั้น ไม่สามารถออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันได้ ทว่าจริงๆ แล้วการที่เราไม่ได้พามันออกไปไหน เป็นเพราะการพามันไปข้างนอกนั้นลำบากนั่นเอง ถ้าคุณรักมันมากจริงๆ คุณก็คงจะเอามันไปเที่ยวด้วยทุกที่ เหมือนที่กำลังจะได้เห็นในทวีตสุดน่ารักครั้งนี้     เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวีตเตอร์ @ICs_nsu ได้ไปเที่ยวที่เขาแหลมหญ้า บนหมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยองเพื่อที่จะดูพระอาทิตย์ตกดิน แต่ระหว่างที่เธอกำลังจะชมพระอาทิตย์ตกดินนั่นเอง สายตาของเธอก็ไปสะดุดกับของที่เราไม่น่าจะเห็นในที่แบบนี้ได้…มีคนเอาโถใส่ปลาทองมาด้วย!?     แถมในโถนั้นยังมีคนเอาสายออกซิเจนใส่เอาไว้ เพื่อให้เจ้าปลาทองมีออกซิเจนหายใจเพียงพอด้วย จึงเข้าใจได้ว่ามันไม่ได้มีคนเอามาวางทิ้งๆ ขว้างๆ ไว้แน่นอน มันน่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของคนที่มาเที่ยวมากกว่า แน่นอนว่าการที่มีคนเอาปลาทองซึ่งปกติจะเลี้ยงไว้ในบ้านเท่านั้นออกมาเที่ยวซะไกลขนาดนี้ เป็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ @ICs_nsu จึงถือโอกาสถ่ายภาพมันเอาไว้เพื่อบอกต่อเรื่องราวน่ารักๆ นี้ให้เพื่อนของเธอฟัง     จากนั้นเธอก็ทวีตภาพของเจ้าปลาทองพร้อมข้อความว่า “เจอสิ่งนี้ตอนปีนเขาไปดูพระอาทิตย์ตก น้องลูกกกกก อยู่ในยุคที่เจ้าของพา(ป)ลาทองออกมาเที่ยวแล้ว” ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่าเจ้าของปลาทองตัวนี้เป็นใคร แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าเขาใส่ใจมันมากๆ และคงต้องรักมันมากด้วยเช่นกัน ถึงได้ยอมพกมันมาดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันบนเกาะแบบนี้ ถือว่าเจ้าของของมันได้เปิดมิติการเลี้ยงปลาทองแบบใหม่ให้เราจริงๆ และก็ได้มอบเรื่องราวชวนยิ้มให้เราได้เห็นกันอีกต่างหาก     มีใครเจอแปลกกว่านี้อีกไหม!? ที่มา: @ICs_nsu

หมู่บ้าน Cormorant รัฐมินเนสโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกามีนายกเทศมนตรีที่พิเศษ มันมีขามากกว่านายกเทศมนตรีทั่วๆ ไป…เนื่องจากมันคือเจ้าหมา Duke ผู้ถูกชาวเมืองเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีนั่นเอง Duke ได้ทำหน้าที่นายกเทศมนตรีที่ดี และเป็นที่รักใครของผู้คนมานานหลายปี ทว่าเมื่อไม่นานมานี้มันก็ได้เสียชีวิตไปตามอายุที่มากขึ้น     เจ้า Duke ถูกเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีประจำหมู่บ้าน Cormorant ครั้งแรกในปี 2014 หลังจากนั้นเป็นต้นมามันก็ชนะใจชาวเมือง และถูกเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 4 สมัยซ้อนเลยทีเดียว หน้าที่ของมันคือการออกพบปะและสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในขบวนพาเรด งานกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในเมือง หรือแม้แต่ตามร้านอาหารและบาร์ก็ตาม โดยทุกครั้งมันจะใส่หมวกประจำตำแหน่งด้วยเสมอ     ในเดือนกรกฎาคม 2018 เนื่องจากสุขภาพของมันย่ำแย่ลงลงเรื่อยๆ เจ้า Duke จึงเกษียณจากหน้าที่นายกเทศมนตรี และกลับไปพักอยู่กับ Karen และ Dave ซึ่งเป็นเจ้าของของมัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2019 Karen ก็ได้โพสต์ทางเพจเฟซบุ๊กของเจ้า Duke ว่ามันเสียชีวิตไปแล้วด้วยวัย 13 ปี และจะมีพิธีรำลึกถึงมันในเดือนมีนาคมหรือเมษายนที่จะถึงนี้ โดยจัดขึ้นในสถานที่ราชการของหมู่บ้าน  …

เป็นที่รู้กันในหมู่คนเลี้ยงแมวว่าถึงพวกมันจะเล่นตัว แต่ในเวลาที่เราต้องการความเป็นส่วนตัวมันจะโผล่มาก่อกวนเสมอ บางครั้งจึงมีทาสที่แก้ปัญหาด้วยกันปิดประตูห้องไม่ให้มันเข้ามากวนใจได้ ถ้าคุณคิดว่าทำแค่นั้นแล้วปัญหาจะหมดไปล่ะก็ บอกเลยว่าคุณดูถูกเหล่าเจ้านายมากไปแล้วล่ะ พวกมันฉลาดมากพอที่จะทำตัวน่ารักมัดใจเราได้ พวกมันก็ฉลาดพอที่จะเปิดประตูได้เช่นกัน!!     เหมือนแมวเหมียวซึ่งเป็นของเพื่อนร่วมห้องของ @steeleio_ เวลาที่เพื่อนร่วมห้องของเธอต้องการความเป็นส่วนตัว เธอจะเอาเจ้าเหมียวไปไว้ในห้องน้ำ แต่ไม่รู้ว่ามันทำยังไงถึงเปิดออกมาได้ทุกที จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนร่วมห้องของเธอลองตั้งกล้องวิดีโอไว้ในห้องน้ำตอนที่เจ้าแมวอยู่ในนั้น พวกเธอถึงได้รู้ว่ามันปีนไปบิดลูกบิดประตูได้อย่างชาญฉลาดแบบไม่น่าเชื่อ   My roommate’s cat is always breaking out of her bathroom. I set up this hidden camera to find out how…and y’all….i- 😂💀 pic.twitter.com/AUDN9IWPNE — liyah (@steeleiooo) February 21, 2019   บางคนอาจคิดว่าแมวของเธอฉลาดเกินกว่าแมวตัวอื่นๆ แต่ชาวเน็ตที่ได้ดูคลิปของเธอก็มาร่วมกันยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย มีแมวอีกมากมายที่สามารถเปิดประตูได้แบบชิลๆ เช่นกัน แถมไม่ได้มาเปล่าด้วย แต่ละคนต่างก็แปะคลิปวิดีโอของแมวตัวเองมายืนยันเพิ่ม ถึงความฉลาดเฉลียวและแสนรู้ของพวกแมวเหมียว   แมวของฉันตัวสูง ไม่ต้องปีนก็เปิดได้…

เราอาจจะไม่เคยสังเกต แต่ถ้ามองจากมุมมองของสัตว์แล้ว นอกจากเตียงกับชามข้าวของตัวเอง เฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นในบ้านไม่ได้ทำมาให้เหมาะสมกับพวกมันเท่าไหร่เลย ดังนั้นบางครั้งเวลาที่พวกมันพยายามมาใช้เฟอร์นิเจอร์ของมนุษย์ แทนที่จะนั่งนอนได้สบายขึ้น พวกมันกลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่เอาตัวเองออกไปไม่ได้แทน แน่นอนว่าจังหวะนี้เป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่ต้องช่วยพวกมันแล้ว แต่ก่อนจะช่วยก็อดขำกับภาพที่มันลำบากเพราะของใช้ของเราไม่ได้เลย…ลองไปดูสิว่ามันฮาขนาดไหน   ถอยหลังกลับก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง   แกไปทำอีท่าไหนให้ไปอยู่แบบนั้นได้ละเนี่ย   จอมซนไม่ยอมขึ้นโซฟาด้านหน้าดีๆ ตกร่องเลยเห็นไหม   ขาหน้าก็ลอย ขาหลังก็ก้าวไม่ออก แล้วฉันจะต้องทำไงต่อไป   นี่มันที่นอนสำหรับมนุษย์ แต่เป็นคุกสำหรับเรา   เฮ้ยมนุษย์ เอาเราออกไปที   ถ้าไม่ร้องหงิงๆ คงนึกว่าเล่นซ่อนแอบอยู่   เล่นซนแล้วดันติดมู่ลี่อีก แบบนี้ก็โบ้ยความผิดให้หมาไม่ได้น่ะสิ   รูด้านล่างมันใหญ่กว่า ทำไมน้องมาลอดรูนี้   นี่แกคิดว่าแกผอมพอจะลอดมาได้จริงเหรอ??   แมวพวกนี้หนิ แค่เบาะมีร่องหน่อยก็เดินหลบไม่ได้   น้องหมาใส่กระดองด้วย   ตัวนี้ยังเอาขาแตะพื้นไม่ได้เลย ต้องช่วยแล้วล่ะ   อยากลองมองมุมกลับบ้างเหรอ ได้ๆ   มนุษย์ช่วยด้วย เราติดร่อง   ซนแบบนี้เอาเข้าไปอบพร้อมจานซะเลยดีไหม  …

เพื่อนๆ เคยได้ยินชื่อสุนัขสายพันธุ์ นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundlands) บ้างรึเปล่า? มันเป็นสุนัขใจดีที่ตัวโตมากๆ เลยล่ะ มันถือเป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดอันดับที่ 5 ของโลกเชียวนะ นอกจากจะตัวสูงแล้วพวกมันยังมีขนที่หนาอีก ทำให้ตัวมันหนักไม่ใช่เล่น ให้พูดอย่างเดียวคงจะเห็นภาพไม่ชัด เราเลยลองไปรวบรวมภาพมาให้เพื่อนๆ ดูว่าพอเทียบกับของสิ่งอื่นแล้วมันตัวใหญ่ขนาดไหน ได้เห็นแล้วต้องมีตกใจกับความมหึมาของมันกันบ้างล่ะ   หัวโตกว่ามนุษย์อีก   เดินคู่กับม้าได้แบบเนียนๆ   เห็นตัวโตแบบนี้ มันก็เป็นหมาครอบครัวที่ดีมากเลยล่ะ   มีความขี้อ้อนชอบนอนตักทั้งทีตัวก็ไม่เล็ก   กินขนมเข้าไปได้ทั้งถ้วยของจริง   ดูบางมุมอาจเข้าใจผิดว่าเป็นหมีได้เลย เพราะตัวใหญ่มาก   เจอหมาตัวเล็กนี่เทียบกันไม่ติดเลย   ตกใจหมดนึกว่าหมีบุกบ้าน ที่แท้ก็ไอ้ตูบที่เลี้ยงไว้นี่เอง   ให้นั่งตักคงไม่ค่อยไหว เอาเก้าอี้ไปนั่งแยกกันคนละตัวเลยดีกว่า   ใช้เป็นเด็กเก็บบอลน่าจะดี ขายาววิ่งไม่กี่ก้าวก็ถึงอีกฝั่งสนามแล้ว   ตัดขนทีไรต้องเป็นงานใหญ่ เหนื่อยหน่อยนะช่าง   ตัวโตขนาดนี้ ยังจะอ้อนนั่งตักพ่ออีก สงสารพ่อเถอะลูก   ดูกันชัดๆ เลยว่าตัวโตจริงๆ ไม่ใช่แค่ขนฟู   ขนาดยืนไม่สุดขายังสูงเกือบเลยมนุษย์แล้ว  …

เจ้าแมวตาเขเป็นเพียงตัวเดียวในหมู่พี่น้องที่ยังไม่มีคนรับเลี้ยง ทว่าจริงๆ ที่มันรอนานกว่าเพื่อน อาจเป็นเพราะมันกำลังรอหนุ่มที่หลงรักมันตั้งแต่แรกเห็นคนนี้ก็ได้     Garrett Nabors กำลังมองหาแมวสักตัวมาอยู่เป็นเพื่อน เพื่อนของเขาก็โชว์รูปของ Poodle ซึ่งอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ที่เขารู้จักให้ดู เขาบอกว่าพี่น้องของมันมีคนมารับเลี้ยงไปหมดแล้ว แต่เจ้าตัวนี้ไม่มีคนรับเลี้ยงเลย น่าจะเป็นเพราะมันตาเข คนจึงกลัวว่าจะต้องดูแลมันมากเป็นพิเศษ     แต่แค่ได้เห็นรูปของมันในมือถือ Nabors ก็ตกหลุมรักมันแล้ว วันต่อมาเขาจึงขอให้เพื่อนพาไปเจอมันในบ้านอุปถัมภ์ดู ซึ่งพอได้เจอ Poodle ครั้งแรก เขาก็ประทับใจในตัวมันแล้ว เขาบอกว่า “มันเป็นแมวที่ขี้เล่นมาก มันเดินเข้ามาหาเราเอง ผมคิดว่ามันคงไม่มีความกลัวอยู่เลย”     เขาเห็นว่านอกจากตาที่เขแล้ว มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันสามารถมองเห็นได้ตามปกติ แม้จะมีบางครั้งที่มันทำเรื่องซุ่มซ่ามบ้างก็ตาม เขาจึงรับเลี้ยง Poodle มาภายในวันนั้นเลย ซึ่งหลังจากที่รับมันมาอยู่ด้วยแล้ว มันก็ทำให้เขารู้ว่าเขาคิดไม่ผิดจริงๆ ที่รับเลี้ยงมัน     ก่อนหน้านี้ Nabors อยู่คนเดียวจึงอาจมีบางช่วงที่รู้สึกเหงา แต่พอเจ้าแมวเข้ามาอยู่ด้วย มันก็ทำให้เขาหายเหงาได้เป็นอย่างดี เขาเล่าว่ามันเป็นสิ่งแรกที่เขาเห็นตอนตื่นนอน และก็เป็นสิ่งเดียวที่รอต้อนรับเขาตอนกลับบ้าน มาขี้อ้อนมากๆ และจะร้องไม่หยุดจนกว่าเขาจะอุ้มมันขึ้นมาเลยทีเดียว แล้วก็ต้องยอมให้มันขบจมูกกับเลียหน้าจนพอใจด้วย    …

เจ้าของจะรักสุนัขมากน้อยแค่ไหน เบื้องต้นเราสามารถดูได้จากการกระทำของพวกเขา และแม้ว่าสาวน้อยคนนี้จะยังเด็กมาก การกระทำของเธอก็แสดงให้เห็นว่าเธอรักเจ้าหมามากจริงๆ ลูกๆ ของ Shyba เคยบอกกับซานตาคลอสในวันคริสต์มาสปีหนึ่ง ว่าพวกเขาอยากได้สุนัขเป็นของขวัญ แต่ตอนนั้นเธอยังอาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นต์ เธอจึงไม่สามารถเลี้ยงสุนัขได้ พอเธอและครอบครัวได้ย้ายมาอยู่ในบ้านของตัวเอง พวกเขาจึงรับเลี้ยงลูกหมา Theo เข้ามาเป็นสมาชิกตัวใหม่ มันติดคนเอามากๆ เลย   เจ้าหมาและลูกคนโตของ Shyba   ทว่าพอมันเข้ามาอยู่ในบ้านจริงๆ แล้ว คนที่เจ้าหมาสนิทด้วยที่สุดกลับไม่ใช่พี่ๆ ที่บอกว่าอยากได้สุนัข แต่เป็น Beau น้องคนสุดท้องแทน เจ้าหมากับเด็กหญิงมักจะนอนกลางวันด้วยกันเสมอ ตั้งแต่วันแรกๆ ที่พวกเขาได้เจอกันแล้ว และแม้ว่าจะผ่านมาหลายเดือนตอนนี้พวกเธอก็ยังนอนด้วยกันตลอดเลย คุณแม่เองก็มักจะถ่ายภาพที่ Beau กับ Theo นอนด้วยกันมาฝากชาวเน็ตบ่อยๆ ขอบอกเลยว่าทุกภาพดูแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากๆ     น้องตัวเท่ากันเลยอะ   ขอซุกแขนน้องหน่อย   ท่าทางจะรักกันมากๆ นะ กอดกันกลมเชียว   ยอมให้เจ้าหมาหนุนแขนแบบนี้ ไม่รู้ว่าน้องเมื่อยบ้างไหม   อิจฉาน้อง มีคนให้นอนกอดด้วยตั้งแต่เด็ก   เห็นน้องสาวนอนอยู่ทีไร อดไปนอนด้วยไม่ได้ทุกที   ได้นอนกับคนที่รักท่าจะสบายใจ  …

มีอยู่หลายครั้งที่คนเราเข้าใจผิดว่าลูกหมาป่าเป็นลูกหมาบ้าน เนื่องจากตอนเด็กพวกมันดูคล้ายกันมาก ทว่าในครั้งนี้ขนาดว่าเจ้าหมาป่าโตแล้ว พวกเขาก็ยังเข้าใจผิดกันอยู่เลย ชายกลุ่มหนึ่งในประเทศเอสโตเนียได้ช่วย ‘หมา’ ตัวหนึ่งเอาไว้ขณะที่เดินผ่านข้างแม่น้ำที่หนาวเหน็บ พวกเขาเห็นว่ามันแช่อยู่ในน้ำก็เลยรีบลุยน้ำลงไปอุ้มมันขึ้นมา จากนั้นจึงเอาผ้าห่มตัวมันไว้เพื่อให้ความอบอุ่นเบื้องต้น แล้วรีบพาไปหาสัตวแพทย์ เนื่องจากอาการของมันดูไม่ดีซะเลย     แต่เมื่อไปถึงมือสัตวแพทย์แล้ว พวกเขาก็เริ่มเอะใจว่ามันอาจจะไม่ใช่หมาก็ได้ และเมื่อนายพรานที่อยู่ใกล้เคียงเข้ามาเห็นมันเขาก็ยืนยันว่าเจ้าตัวนี้เป็นหมาป่าจริงๆ คนที่ช่วยเจ้าหมาป่ามาจึงรู้สึกอึ้งแบบบอกไม่ถูก เพราะว่าตอนอยู่ในรถด้วยกันมันไม่มีท่าทีดุร้ายเลย มันยังดูเรียบร้อย แล้วก็นอนหนุนตักเขาอยู่เลย แถมพอตอนเขาจะขยับตัวเพราะเมื่อยขา มันก็ยกหัวให้อย่างว่าง่ายด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วที่มันเรียบร้อยแบบนี้เป็นเพราะร่างกายของมันไม่แข็งแรงต่างหาก มันยังมีความดันต่ำเนื่องจากเพิ่งออกมาจากน้ำที่เย็นยะเยือก     พอทราบว่ามันเป็นหมาป่า หลังจากที่สัตวแพทย์รักษามันเสร็จ พวกเขาก็ให้มันอยู่ในกรงระหว่างฟื้นตัว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มันทำร้ายคนรอยๆ ถึงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่การช่วยมันมาอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้นะ คงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าที่เจ้าหมาป่าอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะพวกเขาช่วยมันจากน้ำได้ทันเวลา และในการช่วยครั้งนี้ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยด้วย     หลังจากมันหายดีองค์กรอนุรักษ์สัตว์ Estonian Union for the Protection of Animals ก็รับหน้าที่เป็นคนเอามันไปปล่อยคืนป่าอีกทีหนึ่ง พวกเขาบอกว่า “พวกเราดีใจที่การช่วยมันให้ผลลัพธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย เราอยากขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกลุ่มชายที่ช่วยเจ้าหมาป่ามา และสัตวแพทย์ซึ่งไม่เกรงกลัวที่จะรักษาสัตว์ป่าอย่างมัน”   ที่มา: Lad Bible,…

หากคุณรักใครสักคนหนึ่งมากจริงๆ คุณอาจจะกล้าตัดสินใจเลือกทางเดินที่สุดให้กับเขา แม้ว่าคุณจะไม่สามารถร่วมเดินไปบนทางนั้นได้ก็ตาม     John เป็นชายที่รักสุนัขมาแทบทั้งชีวิต ตลอดระยะเวลาที่เขามีชีวิตอยู่ เขาแบ่งปันความสุขร่วมกับสุนัขมามากกว่า 10 ตัวแล้ว และแม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจนต้องใช้รถเข็น เขาก็ยังคงต้องการเพื่อน 4 ขาตัวใหม่ จึงทำให้เขาได้มาพบกับเจ้าหมา Pawpaw   John   Pawpaw   John และ Pawpaw พบกันผ่านโครงการของกลุ่มช่วยเหลือสุนัขแก่ Muttville Senior Dog Rescue ซึ่งจะช่วยคนชราที่ต้องการเพื่อน 4 ขาให้ได้พบกับสุนัขแก่ที่หาบ้านอยู่ ตั้งแต่ John ได้มาอยู่กับเจ้าหมา เขาก็มีความสุขมากเนื่องจากพวกเขาเข้ากันได้ดี แม้ว่า Pawpaw จะอายุ 13 ปีแล้วมันก็ยังทำตัวเหมือนลูกหมา มันทั้งสร้างสีสันและมอบรอยยิ้มให้เขาได้ทุกวัน     ทว่าในช่วงที่ผ่านมา John รู้ตัวดีว่าอาการป่วยของเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก และสิ่งที่เขาห่วงที่สุดเมื่อต้องจากไปก็คือเรื่องบ้านของเจ้า Pawpaw เขาอยากให้เพื่อนรักตัวนี้ได้เจอบ้านที่ดี มีคนพร้อมดูแลมัน เขาจึงเลือกที่จะเริ่มหาบ้านให้มันโดยไม่รอให้ถึงเวลาที่เขาต้องจากไปก่อน     Pawpaw…

เดิมทีขบวนพาเรดที่จัดขึ้นตามงานต่างๆ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความบันเทิงให้กับมนุษย์ที่มาเข้าร่วมงาน แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีแต่มนุษย์หรอกที่มีความสุขกับงานเฉลิมฉลองเหล่านี้ แม้แต่เจ้าหมาที่อยู่ใกล้ๆ ก็สามารถอินกับงานและมีความสุขไปด้วยกันได้เหมือนในคลิปวิดีโอนี้     ขบวนพาเรดที่เพื่อนๆ เห็นในคลิปวิดีโอเป็นขบวนที่มักจะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับงานแต่งงานของคู่รักในประเทศเม็กซิโก โดยในขบวนพาเรดจะมีหุ่นตัวใหญ่เป็นตัวแทนของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเต้นหมุนตัวไปรอบๆ รวมถึงคนอื่นที่มาร่วมขบวนก็มักจะเต้นแบบนี้ด้วย และในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับขบวนพาเรดนั่นเอง ก็มีสุนัขตัวหนึ่งเข้ามาขอร่วมแจมด้วย   เจ้าหมาหมุนตัวเลียนแบบท่าเต้นของคนในขบวนพาเรด ราวกับตัวเองเป็นลูกข่างเชียว   เจ้าหมาดูสนุกสนานกับขบวนพาเรดมากกว่ามนุษย์ๆ ที่ยืนอยู่ข้างทางซะอีก พอมันเข้ามาร่วมขบวนมันก็เต้นหมุนตัวติ้วๆ ไปรอบหญิงที่ใส่กระโปรงสีม่วง ราวกับว่ามันเป็นลูกข่างเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอนะ บางจังหวะที่เจ้าหมาดูรู้สึกอินมากๆ มันก็จะกระโดดตัวลอยเพื่อแสดงให้เห็นว่ามันกำลังมีความสุขที่ได้ร่วมขบวนพาเรดด้วย   มีการกระโดดโหยงๆ จนตัวลอยด้วย   คนที่อยู่รอบๆ เองก็ไม่เคยเห็นสุนัขที่สนุกกับขบวนพาเรดมากแบบนี้มาก่อน พวกเขาจึงหยิบกล้องและโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปกับคลิปวิดีโอกันใหญ่เลย กลายเป็นว่าเจ้าหมาได้เข้ามาร่วมสร้างสีสันให้กับขบวนพาเรดเป็นอย่างมาก และถึงจะไม่รู้ว่ามันรู้ตัวรึเปล่า แต่มันก็ได้ร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวที่เป็นเจ้าของงานแต่งไปเรียบร้อยแล้ว   ชมคลิปวิดีโอแบบเต็มกันทางนี้เลย เจ้าหมามันสนุกสุดเหวี่ยงจริงๆ   ที่มา: the dodo

ไม่รู้ว่ามันกำลังเป็นกระแสหรืออย่างไร ช่วงนี้ถึงได้ยินว่ามีคนนำไข่เป็ดมาฟักเองเยอะเหลือเกิน ทั้งสาวชาวฟิลิปปินส์ Erica Lim และหนุ่มชาวเวียดนาม Lê Đông ด้วย (ดูเรื่องราวของ Erica กับเจ้าเป็ด Daisy ได้ที่ https://www.catdumb.com/old/girl-buy-balut-got-duckling-friend-700/ ) (ดูเรื่องราวของ Lê Đông กับเป็ดน้อยเพื่อนรักได้ที่ https://www.catdumb.com/old/buy-egg-food-get-duck-700/) และล่าสุดก็มีหนุ่มวัย 14 ปี William Atkins อีกคนหนึ่ง ที่สามารถฟักลูกเป็ดสุดน่ารักเป็นของตัวเองได้สำเร็จ จากไข่ที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต     William เล่าว่าไอเดียการนำไข่เป็ดมาลองฟัก เกิดขึ้นหลังจากที่คนในครอบครัวถกกันว่าไข่ในซูเปอร์มาร์เก็ตซึ่งไม่น่าจะผ่านการผสมน้ำเชื้อ จะสามารถฟักได้รึเปล่า เขาจึงลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ตดู แล้วก็พบว่ามีคนที่สามารถฟักไข่ได้สำเร็จจริงๆ โดยที่ไข่ใบนั้นเป็นไข่นกกระทา     ทว่า William เคยลองฟักไข่นกกระทาด้วยเครื่องฟักไข่ที่มีอยู่แล้วไม่สำเร็จ เขาจึงลองเปลี่ยนมาเป็นไข่ไก่กับไข่เป็ดดูบ้าง ซึ่งในจำนวนไข่ไก่และไข่เป็ดที่ซื้อมาอย่างละครึ่งโหล พอผ่านไป 28 วันเขาก็สามารถฟักลูกเป็ดได้สำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ เขาเองยังไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้เลย เขาเล่าว่า “ลูกเป็ดที่ฟักออกมาน่ารักมาก แม้จะเพิ่งฟักมันก็ส่งเสียงแควกๆ ได้แล้ว ผมทึ่งมากที่ไข่จากซูเปอร์มาร์เก็ตฟักเป็นตัวได้จริงๆ แล้วผมก็ตื่นเต้นมากๆ ด้วย”     ถึงจะเห็นเขาดีใจมากขนาดนี้ที่ฟักลูกเป็ดได้ William ก็พยายามจะไม่ผูกพันกับมันมากนัก เพราะเขายังไม่พร้อมเลี้ยงสัตว์…

เพื่อนๆ ส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกับเรื่องของ Hachiko เป็นอย่างดี มันคือสุนัขอาคิตะผู้ซื่อสัตย์จากญี่ปุ่นซึ่งรอเจ้านายผู้ล่วงลับไปที่สถานีรถไฟนานถึง 9 ปี เรื่องของมันโด่งดังจนถุกสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย ในประเทศสก็อตแลนด์เองก็มีเรื่องราวที่คล้ายกันอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็คือเรื่องราวของเจ้า Bobby สุนัขสายพันธุ์สกายเทอร์เรียผู้เฝ้ารอเจ้านายเช่นกัน แถมยังรอนานถึง 14 ปีด้วย     ย้อนกลับไปเมื่อปี 1850 นาย John Gray และครอบครัวได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่เมือง Edinburgh และเริ่มต้นงานเป็นตำรวจตรวจตราครวามเรียบร้อยในตอนกลางคืน ตอนที่เขาเริ่มงานใหม่นั่นเอง เขาก็ได้รับเลี้ยง Bobby มาเป็นคู่หูไว้ออกเดินตรวจตราด้วย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาและเจ้าหมาก็กลายเป็นคู่หูที่คนแถบนั้นเห็นกันเป็นประจำ     ต่อมาเมื่อปี 1858 นาย Gray ก็ล้มป่วยและเสียชีวิตไป แล้วร่างของเขาถูกก็นำไปฝังไว้ที่สุสาน Greyfriars Kirkyard และแม้ว่าเจ้านายจะตายไปแล้ว Bobby ก็ยังคงซื่อสัตย์ต่อเขาเพียงผู้เดียว มันได้ตามไปนั่งเฝ้าที่หลุมศพของ Gray เป็นประจำทุกวัน โดยแทบไม่ยอมจากไปไหนเลย ชาวเมืองเคยพยายามกันไม่ให้มันเข้าไปในนั้นหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เคยเป็นผลสำเร็จเนื่องจากเจ้าหมาจะหาวิธีเข้าไปนั่งอยู่หน้าหลุมศพของเจ้านายจนได้ สุดท้ายพวกเขาจึงไม่กีดกันมัน และสร้างที่กำบังเล็กๆ ให้มันตรงนั้นแทน     Bobby จะออกจากสุสานไปเพียงเพื่อกินข้าวเท่านั้น โดยมันจะเดินออกไปที่ร้านกาแฟกับ William Dow ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเจ้านาย พอกินข้าวเสร็จมันก็จะกลับมานั่งเฝ้าเจ้านายตามเดิม…

รู้รึเปล่าว่าหมาบางตัวที่ดูไม่เป็นมิตร อาจมีสาเหตุมาจากการที่เราไม่เข้าใจมันและเข้าหามันได้ไม่ถูกต้อง หากว่าเราทำความเข้าใจกับมันสักหน่อยและใช้ความพยายามสักนิด มันก็จะเปิดใจให้เราเอง     เหมือนอย่างเรื่องราวของน้องหมาขาเป๋ Bokgil จากประเทศเกาหลี มันไม่ยอมให้คุณตาคุณยายที่ดูแลอยู่แตะเนื้อต้องตัวเลยแม้แต่นิดเดียว แม้พวกเขาจะเลี้ยงมันมานาน 2 ปีแล้ว ไม่ว่าเธอจะพยายามให้อาหารและความใส่ใจกับมันยังไง เมื่อเธอเข้าไปใกล้เจ้าหมาก็จะวิ่งหนีแบบเอาเป็นเอาตาย แม้ว่าจะมีโซ่ล่ามมันอยู่เพราะเธอไม่อยากให้มันไปเสี่ยงบาดเจ็บข้างนอกอีก มันก็ยังหาทางเลี่ยงสัมผัสจากคนเลี้ยงจนได้     จับไม่เคยได้จริงๆ ต้องวางข้าวไว้ให้มันกินเอง   สาเหตุที่มันเป็นแบบนี้น่าจะเป็นเพราะมันฝังใจจากเรื่องสมัยก่อน ก่อนที่จะมาอยู่กับคุณตาคุณยาย เจ้า Bokgil เป็นหมาจรจัดที่บังเอิญเดินไปถูกกับดักหนีบ มันบาดเจ็บมากจนต้องเสียขาข้างนั้นไป ที่มันสามารถทนใช้ชีวิตอยู่ได้ เนื่องจากตอนติดกับดักมีเพื่อนหมาสีดำอีกตัวคอยคุ้ยขยะเอาอาหารมาให้ และมันก็เป็นตัวที่เรียกให้คุณตามาช่วย Bokgil ไว้ ทว่าหลังจากมันมาอยู่กับคุณตาคุณยาย เพื่อนหมาของมันก็ตายจากไปก่อน ทิ้งให้มันต้องอยู่ตามลำพังและไม่ยอมเปิดใจให้ใครอีกเลย     จนกระทั่งผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ได้มาเยี่ยมคุณตาคุณยาย เขาคิดว่าการที่เจ้าหมากลัวคนแบบนี้ เป็นเพราะมันถูกล่ามโซ่อยู่ซึ่งทำให้มันรู้สึกกลัวเหมือนตอนที่มันติดกับดัก เขาจึงเริ่มแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเริ่มจากปลดสายจูงมันออกก่อน เพื่อให้มันเป็นอิสระและรู้สึกปลอดภัย และลองนำมันไปอยู่ในห้องที่โล่งกว้างดู ซึ่งก็ทำให้เจ้าหมาดูสบายใจขึ้นมาก     จากนั้นเขาจึงพาสุนัขที่ดูคล้ายกับเพื่อนตัวเก่าของ Bokgil มาเล่นผูกมิตรด้วย เพื่อให้มันได้รู้จักกับมิตรภาพอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าในตอนแรก Bokgil จะยังไม่แน่ใจจึงทำท่าทีเมินเพื่อนหมา แต่เมื่อเพื่อนตัวใหม่ทำท่าเดินจากไป มันก็เป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเพื่อนหมาซะเอง…มันเริ่มเปิดใจให้ผู้อื่นแล้ว  …

สุนัขสายพันธุ์ที่เรารู้จักกันดีจะเป็นพวกโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ลาบราอดอร์ หรือถ้าพันธุ์เล็กหน่อยก็จะเป็นพวกชิสุหรือชิวาว่า แต่จริงๆ แล้วสุนัขมีสายพันธุ์หลากหลายกว่านั้นมาก อย่างเช่นในกลุ่มสายพันธุ์ที่เรียกว่า “เทอร์เรีย” ในกลุ่มนี้เองก็จะมีแยกย่อยไปอีกหลายสายพันธุ์เช่นกัน วันนี้เรามาลองทำความรู้จักพวกมันให้มากขึ้นกันเถอะ แล้วเพื่อนๆ จะได้เห็นว่าในความแตกต่างเฉพาะตัวของแต่ละสายพันธุ์นั้น ไม่ได้มีพันธุ์ไหนที่น่ารักน้อยไปกว่าเพื่อนตัวอื่นเลย   เริ่มต้นกันที่สายพันธุ์ “บอสตันเทอร์เรีย” ที่ได้รับชื่อเล่นอีกชื่อว่า “สุภาพบุรุษอเมริกา” เนื่องจากลายของมันดูเหมือนใส่เสื้อสูทอยู่   น้องตัวเล็กพันธุ์นี้มีตาแป๋วๆ และนิสัยซน ทำให้คนเลี้ยงไม่มีเวลารู้สึกเบื่อเลยล่ะ   มาต่อกันที่ “เบดลิงตันเทอร์เรีย” เจ้าหมาที่มีขนปุยโดดเด่นดูเหมือนขนแกะ   ขนของพวกมันดูนุ่มมากๆ ถ้าตัวไหนตัวใหญ่หน่อยอาจดูผ่านๆ สับสนเป็นแกะได้เลย   เจ้าตัวเล็กหูตั้งนี่คือ “แคร์นเทอร์เรีย” ถึงจะตัวเล็กแบบนี้ แต่มันมีนิสัยกล้าหาญพอดู   นอกจากนี้มันยังแข็งแรงและขุดดินเก่งด้วยนะ เป็นหมาที่เรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋ว   เจ้าหมาที่เห็นอยู่นี่คือสายพันธุ์ “ซิลค์กี้เทอร์เรีย” ซึ่งชื่อนี้ก็ได้มาจากขนที่นุ่มสลวยของมันนั่นแหละ   พวกมันเป็นหมาตัวเล็กที่ร่าเริงและขี้อ้อนอย่าบอกใคร   เจ้าหมา “เวสไฮแลนด์ไวท์เทอร์เรีย” มีสีขาวสะอาดตาทั้งตัว https://www.instagram.com/p/BtOsQqSAsOr   เดิมทีแล้วพวกมันถูกเลี้ยงไว้ล่าสัตว์ แต่มันก็เข้ากับมนุษย์ได้ดีมากๆ เช่นกัน https://www.instagram.com/p/BsBBA-XHaJf  …

แมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระ ถึงพวกมันบางตัวจะมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว มันก็ยังชอบหนีออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกเป็นประจำ ทว่าใครจะไปคิดล่ะว่า การเที่ยวเล่นนอกบ้านของมัน จะทำให้เกิดเรื่องราวอบอุ่นหัวใจระหว่างทาสที่บ้านกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเลย     เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ทวิตเตอร์ @catsclinic ซึ่งเป็นทวิตเตอร์ของคลินิกสัตว์ในญี่ปุ่น ได้โพสต์ถึงเรื่องราวของแมวแปลกหน้าที่เธอยังไม่ลืม เขาเล่าว่า “มีแมวสีขาวดำตัวหนึ่งที่ชอบมาเล่นตรงระเบียงของเรา…ฉันเลยถือโอกาสตั้งชื่อมันว่า ‘Kuro-chan’ ตอนมันมาเยี่ยมมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันสังเกตเห็นปลอกคอขอมัน ฉันเลยคิดว่า ‘อ้าว มันก็มีเจ้าของนี่นา’ แล้วฉันก็เลยเขียนโน๊ตเหน็บไปกับปลอกคอของมัน แล้วก็ได้รับการตอบกลับซะด้วย!”   https://twitter.com/catsclinic/status/1092627203781681152?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1092627203781681152&ref_url=https%3A%2F%2Fsoranews24.com%2F2019%2F02%2F23%2Ftouching-story-of-a-japanese-messenger-cat-connects-distant-neighbors-on-social-media%2F   โน๊ตที่ทางคลินิกเขียนไปมีข้อความว่า “คุณเป็นเจ้าของเจ้าแมวใช่ไหม? มันมีชื่อรึเปล่า? มันชอบแวะมาเล่นกับพวกเราเสมอ มันน่ารักมากๆ เลย!”     ส่วนข้อความที่ได้รับกลับมาเขียนว่า “มันชื่อว่า Daizu มันแวะไปเที่ยวหาคุณนานมากรึยัง? โปรดเป็นเพื่อนที่ดีกับมันให้หน่อยนะ”     เพียงเราได้อ่านเรื่องราวของเจ้าแมว Daizu แค่นี้ เราก็คิดว่ามันน่าประทับใจและน่ารักมากๆ แล้ว แต่แล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น @combo1212 ซึ่งบังเอิญได้ผ่านมาเห็นทวีตของทางคลินิก เป็นคนที่เลี้ยงเจ้า Daizu นี่เอง! หลังจากนั้นเธอจึงเล่าเรื่องราวของมันจากมุมของเธอบ้าง เดี๋ยวสิ…นั่นมันเจ้าแมวที่บ้านของฉันนี่นา 待ってください。 私の家の猫です。 — 🌈こんぼ(26)🌈 (@combo1212)…

ควายเป็นสัตว์ที่อยู่กับคนไทยมานานแล้ว เดิมทีพวกมันถูกใช้เพื่อช่วยมนุษย์ทุ่นแรงในการทำเกษตรกรรม แต่หลังๆ มานี้บางคนก็เลี้ยงมันไว้เหมือนสัตว์เลี้ยงเลย คนที่อยู่ในเมืองอาจไม่ได้เห็นพวกมันบ่อยนัก และก็คงไม่รู้ว่าพวกมันก็มีมุมขี้อ้อนและน่ารักอยู่ด้วยเช่นกัน เหมือนเจ้าควายที่หญิงสาวคนนี้เลี้ยงไว้     ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sukruedee Khankhampha เป็นสาวน้อยบ้านนาที่ใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ และเธอก็ได้ใกล้ชิดกับควายด้วย และเมื่อไม่นานมานี้เธอก็เพิ่งได้ควายน้อยตัวใหม่มา ซึ่งมันมีนิสัยขี้อ้อนเอามากๆ อยู่ใกล้เมื่อไหร่เป็นต้องเข้ามาออดอ้อน ทำตัวเหมือนกับเป็นสุนัขเลย   Sukruedee Khankhampha   ควายน้อย   เมื่อมันมาอ้อนเธอบ่อยๆ ช่วงนี้คุณ Sukruedee ก็เลยได้ถ่ายรูปคู่กับมันเพียบเลย แล้วก็โพสต์แชร์ความน่ารักของเจ้าควายน้อยลงบนหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง พอได้เห็นความขี้อ้อนของเจ้าควายและความเอ็นดูที่คุณ Sukruedee มีให้กับมันแล้ว จะไม่ให้ชอบควายน้อยตัวนี้ก็คงยากแล้วล่ะ     มีความเอาคางมาเกย   อ้อนแรงกว่าหมาอีก   แอบขโมยหอมแก้มซะด้วย   อะหอมคืนบ้าง   ทำหน้าฟินจังเลยนะน้อง   อย่าอายกล้องสิ หันมายิ้มให้หน่อย   บางจังหวะก็ได้มานั่งเฝ้าน้องควายหลับ   อะให้หนุนตักหน่อยก็ได้   น้องควายไม่ยิ้มเรายิ้มเอง   ขี้อ้อนแบบนี้ไม่ให้รักได้ไงเล่า   ที่มา: Sukruedee Khankhampha

เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา ตำรวจจากสหรัฐอเมริกาได้บุกเข้ารวบโจรค้ายาในบ้านหลังหนึ่งที่รัฐเพนซิลเวเนีย นอกจากจะจับโจรและสิ่งเสพติดผิดกฎหมายหลายชนิดได้แล้ว พวกเขายังได้จระเข้ที่โจรเหล่านี้เลี้ยงไว้มาตัวหนึ่งด้วย ซึ่งสร้างความแปลกใจให้ตำรวจที่เข้าจับกุมมาก     ชาย 3 คนที่ถูกจับกุมก็คือนาย Irvin Hawkins อายุ 31 ปี, Aki Gathright อายุ 35 ปี และ Tyrone Jackson อายุ 40 ปี โดยทั้ง 3 คนมีทั้งเฮโรอีน โคเคน และฝิ่นอยู่ในครอบครอง และยังมีเงินที่สงสัยว่าได้มาจากการค้ายาอีกกว่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐด้วย นอกจากนี้ก็ยังพบจระเข้เล็กตัวหนึ่ง ซึ่งคาดว่าชายทั้ง 3 คนจะใช้มันเป็นสัตว์เฝ้ายาม ในกรณีที่มีคู่แข่งทางการค้าบุกมาขโมยเงินและยาที่ตนมี     Thomas Hogan ซึ่งเป็นทนายประจำเขตเชสเตอร์กล่าวว่า “ผู้ค้ายาจะทำทุกอย่างเพื่อป้องกันกันไม่ให้เกิดอันตรายกับยาและเงินที่พวกเขามี ผู้ค้ายาบางรายใช้สุนัขพิตบูลล์หรืองูมาทำหน้าที่เป็นยามรักษาความปลอดภัย แต่ก็เพิ่งเห็นโจรค้ายาใช้จระเข้ไว้เฝ้าบ้านก็ครั้งนี้แหละ”   ทนาย Thomas Hogan พูดติดตลกว่าไม่แน่เจ้าจระเข้อาจจะเป็นหัวหน้าแก๊งของพวกโจรก็ได้   หลังจากจับมันมาได้แล้ว เหล่าตำรวจก็ตั้งชื่อเจ้าจระเข้ว่า El Chompo เนื่องจากมันน่าจะถูกโจรใช้งานเฉยๆ…

ปกติแล้วสัตว์เลี้ยงของแต่ละคนก็จะมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยง หรือไม่ก็รับเลี้ยงสัตว์จรจัดมา กรณีของ Erica Lim จึงถือว่าไม่ธรรมดาเลย เธอได้สัตว์เลี้ยงตัวนี้จากการไปซื้ออาหาร เมื่อ 2 ปีก่อน Erica ซื้อไข่ข้าวใบหนึ่งมาจากร้านค้าในตลาด มันเป็นอาหารฟิลิปปินส์ซึ่งใช้ไข่เป็ดผสมแล้ว นำมากินสดๆ ตอนที่ตัวอ่อนกำลังเติบโต บางทีก็ยังเป็นไข่เหนียวๆ อยู่ หรือบางใบก็เริ่มเป็นตัวอ่อนแล้ว     ทว่าหลังจาก Erica ซื้อไข่ข้าวมา เธอก็ไม่ได้เอามาทานหรอก ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงลองเอาไข่ข้าวใบนั้นไปใส่ไว้ในตู้อบที่ทำขึ้นเองโดยใช้กล่องโฟมและหลอดไฟ ซึ่งหลังจากอบไข่ใบนั้นได้ 2 สัปดาห์ มันก็ฟักออกมาเป็นลูกเป็ดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอจึงกลายเป็นแม่ของลูกเป็ดตัวนั้นไปโดยปริยาย     เฮ้ย มีลูกเป็ดฟักออกมาด้วย   มันคิดว่า Erica เป็นแม่ของมัน   น่ารักใช้ไหมล่ะ?   เธอตั้งชื่อลูกเป็ดน้อยว่า Daisy แต่บางครั้งก็จะเรียกมันด้วยชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่งว่า Bibit เธอเลี้ยงมันไว้ในบ้านในฐานะสัตว์เลี้ยง และมันก็ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงธรรมดาๆ ซะด้วย มันเป็นเป็ดที่เรียบร้อย ว่าง่าย และติดหญิงสาวเอามากๆ ทุกวันนี้มันกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตเธอไปแล้ว     เจ้าเป็ดถูกเลี้ยงไว้ในบ้าน  …

มีคำกล่าวที่ว่า ‘อย่าคัดสินหนังสือจากปก’ เพราะสิ่งที่เราเห็นภายนอกอาจจะไม่เหมือนด้านในก็ได้ เหมือนแมวเหมียวตัวนี้ที่หน้าตาอาจดูไม่น่ารักเท่าไหร่ แต่นิสัยน่ารักซะเหลือเกิน     เจ้าแมวเหมียวตัวนี้ถูกพบเร่ร่อนอยู่ในแถบรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มันมีขนที่ยุ่งเหยิงและดูแข็ง แล้วที่หน้าของมันก็โล้นเกลี้ยงไม่มีขนเลย จึงทำให้มันไม่เหมือนแมวที่เราเห็นกันทั่วไป ด้วยหน้าตาที่ดูลักษณะคล้ายกับมนุษย์หมาป่าในเทพนิยายของทางตะวันออก อาจทำให้คนที่พบเจอมันคิดว่ามันน่ากลัวและไม่เป็นมิตร     ทว่าจริงๆ แล้วที่มันหน้าตาเป็นและขนของมันมีลักษณะแบบนี้ เป็นเพราะมันเป็นแมวสายพันธุ์ไลคอย (Lykoi) ต่างหาก เราอาจจะไม่ค่อยเห็นแมวจรจัดพันธุ์นี้บ่อยนัก เพราะปกติแล้วมันจะเกิดจากการผสมพันธุ์เพื่อนำมาขายเป็นสัตว์เลี้ยงซะมากกกว่า     Chris Poole ซึ่งเป็นคนช่วยแมวจรจัด เข้าใจเป็นอย่างดีว่ามันก็ต้องการความช่วยเหลือเช่นเดียวกับแมวจรจัดตัวอื่นๆ เขาจึงได้วางกรงล่อมันเอาไว้ เพื่อจับมันกลับไปหาสัตวแพทย์ และช่วยหาบ้านให้มัน ซึ่งก็ใช้เวลาในการล่อเจ้าแมวไม่นานเลย     ได้ตัวมาแล้ว   Poole ตั้งชื่อให้เจ้าแมวไลคอยตัวนี้ว่า Logan เขารีบพามันไปรักษากับสัตวแพทย์ก่อน เนื่องจากเห็นว่าเล็บมันยาวรุงรังมากๆ ชี้ให้เห็นว่าไม่มีคนดูแลมันมานานมากแล้ว เห็นหน้าตาดุๆ แบบนี้เจ้าแมวก็ไม่ได้มีนิสัยดุร้ายเลย มันออกจะกลัวคนด้วยซ้ำไป ซึ่งก็พอเข้าใจได้เพราะมันไม่ได้คลุกคลีกับคนมาเป็นเวลานาน     น้องอาจจะมองแรง แต่ไม่ได้ดุ   ทว่าหลังจากเห็นว่าคนที่ช่วยมันต่างก็ใส่ใจดูแล และหาผ้าห่มมาห่มให้มันรู้สึกอบอุ่น สายตาของเจ้าแมวก็เริ่มมีความอ่อนโยนออกมาให้เห็นบ้าง พอได้คลุกคลีกับเจ้า Logan…

เชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนต้องรู้จัก Garfield ตัวการ์ตูนแมวอ้วนสีส้มแสนขี้เกียจที่โด่งดังไปทั่วโลก หรือบางคนอาจจะเคยเห็นมันครั้งแรกในฐานะตัวละครแมว CGI ตุ้ยนุ้ยทางโรงภาพยนตร์ก็ตาม     แม้ว่ามันจะดูอ้วนตุ้ยน่ารักมากก็ตามที แต่หลายคนก็คิดว่าคงจะไม่มีแมวแบบนี้ในชีวิตจริงหรอก…หากเพื่อนๆ กำลังคิดแบบนั้นอยู่ต้องลองมารู้จักเจ้า Mango ซะก่อน Mango เป็นแมวอ้วนจากประเทศเกาหลี ที่ทั้งตัวโตมากและขี้เกียจไม่เป็นสองรองใคร เหมือนกับเป็น Garfield ในชีวิตจริงยังไงยังงั้นเลย และแน่นอนว่าความน่ารักของมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่กันด้วย   นี่ไงล่ะ เจ้า Mango เหมียวอ้วนในชีวิตจริง   ตัวมันหนักตั้ง 7 กิโลกรัม หนักกว่าแมวทั่วไปเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว   ตกลงว่าน้องเป็นแมวหรืออึ่งอ่างกันแน่?   แถมชีวิตประจำวันของมันก็ยังเรียบง่ายมากๆ ซะด้วย…มันจะนอนแผ่หลาไม่ขยับไปไหนเลย   ทาสของมันบอกว่ามันขี้เกียจมาก นอกจากตอนเข้าห้องน้ำกับกินแล้วมันจะไม่ยอมลุกเลย แม้แต่ตอนฝนเล็บมันก็ยังนอนพุงพลุ้ยแล้วยื่นมือออกไปเท่านั้น   หรือแม้แต่ตอนที่เล่นของเล่นชิ้นโปรด มันก็จะนอนกอดตีขาไปกลางอากาศ โดยไม่ยอมพลิกตัวลุกสักนิดเดียว   ด้วยความขี้เกียจระดับตัวพ่อนี้ เจ้าแมวก็เลยอ้วนตั๊บอย่างที่เห็นนั่นแหละ   แต่ก็ไม่ใช่ว่าทาสไม่พยายามช่วยมันลดน้ำหนักหรอกนะ เขาก็คุมอาหารให้มันอยู่ทุกวัน   แต่มักจะเจอปัญหาตอนออกกำลังกายมากกว่า เพราะมันเมินของเล่นชนิดที่ว่าแทบจะไม่สนใจเลย   เอามาล่อตรงหน้าก็ยังไม่ยอมเล่นด้วย  …

ทาสแมวหลายคนอาจจะตื่นมาโดยไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของเจ้านาย เพราะวันที่ 22 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถือเป็น “วันแมวเหมียวแห่งญี่ปุ่น” (Neko No Hi Day, National Cat Day of Japan) ถึงแม้จะไม่ได้เป็นวันสำคัญของเจ้านายประเทศเราโดยตรง แต่ในฐานะทาสแมวแล้วไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญของแมวชาติไหนเราก็ต้องร่วมยินดีกับพวกมันทั้งนั้นแหละ   https://twitter.com/distantcities/status/701749429909504000   ในวันแมวเหมียวแห่งญี่ปุ่นแบบนี้ เพื่อนๆ จะได้เห็นชาวญี่ปุ่นพากันร่วมแสดงความยินดีให้กับเจ้านายมากมาย บ้างก็แต่งตัวให้เจ้านายจนหล่อสวยเป็นพิเศษ บางทีก็เลี้ยงอาหารพวกมันแบบหรูหรา หรือพาพวกมันไปเที่ยวด้วย ส่วน #เหมียวอาตี๋ จะขอร่วมฉลองโดยการพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับแมวสุดแสนน่ารักที่โดดเด่นในประเทศญี่ปุ่น รับรองเพื่อนๆ จะตกหลุมรักไปกับความน่ารักของพวกมันแน่นอน   Maru แมวเหมียวชื่อดังระดับโลก Maru เป็นแมวที่โด่งดังมากในยูทูบ ความน่ารักของมันทำให้มีคนเข้าชมวิดีโอของมันมากมาย และก็มีวิดีโอหลายอันที่มียอดวิวขึ้นหลักล้านหรือสิบล้านเลยทีเดียว หากเพื่อนๆ ชอบก็สามารถไปติดตาม Maru กันได้ในแชแนลยูทูบ mugumogu หรือทางอินสตาแกรม maruhanamogu    Shiro แมวขาวสุดชิล Shiro เองก็เป็นแมวอีกตัวหนึ่งที่โด่งในประเทศญี่ปุ่น สีหน้าที่ดูขี้เกียจและสบายอกสบายใจของมันเป็นที่ถูกใจชาวเน็ตมากๆ เลยล่ะ สามารถไปติดตามมันได้ในบล็อก Kagenekoshiro    …

ชีวิตของเจ้าหมา Whiskey เริ่มต้นในสังเวียน มันถูกมนุษย์บังคับให้ต่อสู้เพื่อความบันเทิงของพวกเขา มันจึงไม่ได้รับการดูแลที่ดี ซ้ำร้ายกว่าจะมีคนไปช่วยมันออกมา เจ้าหมาก็บาดเจ็บและถูกยิงที่ต้นขาหน้าข้างซ้าย ทำให้สัตวแพทย์ต้องตัดขาข้างนั้นเพื่อช่วยชีวิตมัน     ในเวลา 5 เดือนต่อมาหลังจากมันถูกช่วย มันถูกส่งให้ไปทำความคุ้นเคยกับมนุษย์ในบ้านอุปถัมภ์ มันเริ่มเคยชินกับชีวิตที่มีเพียง 3 ขา และมันก็เลิกกลัวมนุษย์แล้วด้วย Kristen Flora ซึ่งรับอุปถัมภ์มันเล่าว่า “เจ้าหมา 3 ขาตัวนี้มีเบื้องหลังที่น่าเศร้า การมองดูมันก้าวผ่านอุปสรรคเป็นความสุขและแรงบันดาลใจของฉัน “     อย่างไรก็ตามความจริงก็คือ Whiskey เป็นสุนัขพิตบูลล์ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ถูกมองไม่ค่อยดีนัก มันเคยถูกใช้ในสังเวียนมาก่อน แถมยังพิการอีกด้วย Missy Redding ผู้ร่วมก่อตั้งของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่ช่วยมันออกมาบอกว่าสุนัขแบบนี้มีโอกาสถูกรับเลี้ยงแค่ 1 ใน 100,000 เท่านั้น…แต่เจ้าหมาก็ได้เจอคนที่เห็นใจมันในที่สุด     เรื่องของเจ้า Whiskey ถูกแชร์ไปในเพจเฟซบุ๊ก Lucky Fin Project ซึ่งเป็นกลุ่มของคนพิการด้วย ทำให้ Jeff Meyers ซึ่งอยู่ในกลุ่มได้รู้เรื่องของมัน Meyers เองก็พิการเนื่องจากเกิดมาไม่มีแขนข้างซ้าย เขาจึงรู้สึกเห็นใจเจ้าหมา และตัดสินใจจะรับเลี้ยงมันมาเพื่อมอบความสุขให้มันเอง    …

ไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มกำยำล่ำสันที่ไม่เคยคิดเลี้ยงหมาตัวเล็กเลย วันหนึ่งจะเป็นคนเริ่มทำกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ให้กับเหล่าสุนัขตัวน้อย โดยทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากความอบอุ่นที่ได้จากชิวาว่าตัวหนึ่ง Bobby เป็นหนุ่มตัวโตที่รักสัตว์ ในอดีตเขามักจะชอบสุนัขตัวใหญ่อย่างพวกร็อตไวเลอร์มากกว่า และไม่เคยคิดจะเลี้ยงสุนัขตัวเล็กอย่างชิวาว่าเลย     จนกระทั่งเขาต้องหย่ากับภรรยาที่อยู่มาด้วยกันนาน 17 ปี ชีวิตของเขาก็พังทลาย Bobby รู้สึกเศร้าแทบขาดใจ เขาถึงขั้นคิดที่จะฆ่าตัวตายด้วย ทว่าก็มีเพื่อนหญิง Connie ที่คอยอยู่เคียงข้างเขา เขาเล่าว่า “เธอไม่ยอมให้ผมอยู่คนเดียวแม้ผมจะไล่เธอไปก็ตาม เธอเคยเสียเพื่อนเพราะเขาฆ่าตัวตายไปแล้ว เธอคงไม่อยากเสียผมไปแบบนั้นอีก เธอทำให้ผมได้รู้ถึงความสำคัญของการมีเพื่อน ไม่ว่าผมต้องการอะไรเธอก็จะอยู่คอยช่วยเหลือผมเสมอ ผมรู้สึกว่าผมเป็นหนี้บุญคุณเธอ”     วันหนึ่ง Connie จำเป็นต้องเดินทางไกล เธอจึงขอร้องให้ Bobby ช่วยดูแลหมาชิวาว่า Lady ให้เธอเป็นการชั่วคราว Bobby รู้ว่า Lady ไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่อยากจะช่วยเพื่อนจึงตกลงรับปากกับเธอไป ทำให้มันได้มาอยู่บ้านกับเขา     แต่พอ Bobby ได้มาอยู่กับ Lady จริงๆ เขาก็พบว่าเจ้าหมาชอบอยู่กับเขา มันปีนขึ้นมานั่งบนตักเขาเอง แล้วก็ยังขึ้นไปนอนบนเตียงกับเขาด้วย ทำให้เขารู้สึกได้รับความอบอุ่นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาเล่าว่า “Connie…

เจ้าแมวตัวโตตัวนี้ถูกมนุษย์ใช้หาเงิน และไม่เคยได้มีโอกาสเห็นป่าซึ่งเป็นที่ที่มันควรจะได้อยู่เลย จนกระทั่งหญิงคนหนึ่งรู้ว่ามันลำบากจึงช่วยให้มันไปย้ายไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม     เมื่อไม่นานมานี้หญิงเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ในประเทศเยอรมนีได้รับผู้พักเข้ามาอยู่ใหม่ เขาพาแมวมาอยู่ด้วยตัวหนึ่งชื่อว่า Tikam ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เนื่องจากที่พักของเธออนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ทว่ายิ่งเวลาผ่านไปนาน หญิงเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่า Tikam ไม่ใช่ลูกแมวธรรมดาอย่างที่ผู้พักเคยได้บอกไว้ มันมีหลายอย่างที่ดูไม่เหมือนแมวเลย…มันคล้ายลูกเสือพูม่ามากกว่า     ผู้พักบอกว่ามันเป็นแมว แต่ยิ่งดูแล้วก็ยิ่งไม่ใช่   หญิงเจ้าของอพาร์ตเม้นต์จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดู เพราะหากมันเป็นเสือพูม่าอย่างที่เธอคิด มันก็ไม่ควรจะมาอยู่ในอพาร์ตเม้นต์แบบนี้ เนื่องจากที่นี่เล็กเกินไปสำหรับเสือพูม่า และมันก็อาจจะทำอันตรายต่อผู้พักคนอื่นด้วย หลังจากที่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พวกเขาก็พบว่า Tikam เป็นเสือพูม่าที่ถูกค้าอย่างผิดกฎหมายจริงๆ จึงได้ทำการยึดตัวมันจากเจ้าของเพื่อนำมันไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ     ตรวจดูแล้วเจ้าหนูนี่เป็นลูกเสือพูม่าจริงๆ ด้วย   หลังจากที่พาตัว Tikam ออกมาได้แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานงานกับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Four Paws International เพื่อที่จะพามันไปอยู่ในที่ที่เหมาะกับมัน อย่างไรก็ตามลูกเสือพูม่าตัวนี้ถูกเพาะพันธุ์โดยมนุษย์ และก็อยู่กับมนุษย์มาโดยตลอด ทำให้มันขาดความสามารถในการใช้ชีวิตตามธรรมชาติ พวกเขาจึงพามันไปปล่อยในป่าจริงๆ ไม่ได้     เจ้า Tikam จึงถูกนำไปปล่อยในพื้นที่อนุรักษ์เสือและสิงโตของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์แทน เนื่องจากที่นี่เป็นพื้นที่ป่าปิดที่กว้างขวาง และยังมีคนคอยระวังภัยพร้อมดูแลมันอีก…

พวกเราเคยรวบรวมเกร็ดความรู้เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงใกล้ตัวอย่างหมากับแมวมาฝากเพื่อนๆ เยอะแล้ว ครั้งนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์โลกที่อยู่ไกลตัวกันบ้าง รับรองว่าถ้าเพื่อนๆ ได้รู้แล้ว จะได้มองเห็นสัตว์พวกนี้ในมุมที่เปลี่ยนไป เพราะพวกมันไม่ได้มีแค่หน้าตาที่น่ารักดึงดูดใจเท่านั้น แต่นิสัยของพวกมันก็ยังน่ารักอีกด้วย   1. แม่โลมาก็ร้องเพลงให้ลูกที่อยู่ในท้องฟังเช่นเดียวกับคน https://www.instagram.com/p/Be96ZDRHxSh   2. ที่เห็นหมีขั้นโลกไถตัวไปตามหิมะ พวกมันไม่ได้เล่นอยู่หรอก พวกมันกำลังทำความสะอาดขนต่างหาก https://www.instagram.com/p/BpQYVXbHRTR   3. ตัวนากทะเลจะจับมือกันเอาไว้เวลาหลับ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกน้ำทะเลพัดไปคนละทาง   4. ที่ประเทศนอร์เวย์มีเพนกวิ้นตัวหนึ่งถูกแต่งตั้งให้เป็นอัศวินอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็คือเจ้า Nils Olav   5. นกพัฟฟินเป็นนกที่รักเดียวใจเดียว และในช่วงชีวิตหนึ่งก็จะมีลูกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น   6. ที่ประเทศตุรกีมีตู้ที่หากคุณหย่อนขวดพลาสติกเข้าไป มันจะให้อาหารสัตว์จรจัดเป็นการตอบแทน เจ๋งไปเลยเนอะ   7. เวลาสุนัขตัวผู้กับตัวเมียเล่นกัน ตัวผู้มักจะยอมให้ตัวเมียชนะ เหมือนเป็นการเอาใจ   8. ในขณะที่สุนัขมีคอร์กี้ที่ขาสั้นเป็นพิเศษ แมวก็มีมัชกิ้นที่ขาสั้นกว่าใครเพื่อนเช่นกัน   9. ด้วยเหตุผลบางอย่าง วาฬหลังค่อมจะช่วยปป้องสัตว์น้ำอื่นๆ จากวาฬเพชฌฆาต   10. บางครั้งช้างเด็กก็จะเอางวงใส่ปากเพื่อบอกให้รู้ว่าอยากได้ความรัก เหมือนเวลาเด็กทารกดูดนิ้ว…

แม่แมวจรจัดสีดำตัวหนึ่งถูกพบอยู่ข้างถนน กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Wellcat เจอมันตอนที่กำลังท้องแก่พอดี พวกเขาจึงตัดสินใจเอามันมาดูแล มันจะได้มีที่ที่อุ่นสบายไว้เลี้ยงลูก พวกเขาตั้งชื่อแม่แมวว่า Winter แล้วส่งมันไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์กับอาสาสมัคร Emily Jayne ซึ่งได้จัดเตรียมห้องไว้ให้ครอบครัวของเจ้าแมวโดยเฉพาะแล้ว     หลังจากพา Winter ไปตรวจสุขภาพมาแล้ว พวกเขาก็คิดว่ามันน่าจะถูกเจ้าของเก่าทิ้ง เนื่องจากมันค่อนข้างสุขภาพดีและมันก็เป็นมิตรกับคน Emily เล่าว่า “แม่แมวเปิดใจให้เราอย่างเต็มที่ และมันก็ดูมีความสุขมาก…ถ้าเราไม่ช่วยแม่แมว Winter เอาไว้มันก็คงต้องดูแลครอบครัวในสภาพอากาศที่โหดร้าย เหมือนกับลูกครอกก่อนที่มันเคยเลี้ยงมา”     ดูสิมันไม่กลัวมนุษย์เลย ออกจะขี้อ้อนอีกต่างหาก   2 สัปดาห์หลังจากที่มันเข้ามาอยู่บ้านกับ Emily แม่แมว Winter ก็คลอดลูกแสนน่ารักออกมา 4 ตัว เป็นลูกแมวสีดำสนิท 3 ตัว และลูกแมวสีน้ำตาลดำอีก 1 ตัว พวกเขาตั้งชื่อให้ลูกแมวสีดำว่า Maggie, Ivy และ Robin ส่วนลูกแมวสีผสมชื่อว่า Tabitha โดยในกลุ่มพวกมันเจ้า Robin ตัวเล็กที่สุด     แม่แมว Winter ทำหน้าที่คุณแม่ได้ดีมาก…

นักดับเพลิงในระเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้มีหน้าที่ควบคุมอัคคีภัยอย่างเดียว บางทีพวกเขาก็ถูกขอให้ไปช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ อย่างการช่วยแมวลงมาจากต้นไม้หรือเสาไฟฟ้าด้วย แต่ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานดับเพลิงมานานแค่ไหนก็ตาม ก็คงต้องแปลกใจเมื่อต้องไปช่วย “แมวตัวโต” ลงจากต้นไม้ในครั้งนี้ เมื่อไม่นานมานี้ในเมืองเฮสเพอร์เรีย รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพลเมืองผู้หวังดีสังเกตเห็น “สิงโตภูเขา” ติดอยู่บนต้นไม้สูงกว่า 50 ฟุต (ประมาณ 15 เมตร)     เท่าที่มองดูแล้วมันน่าจะติดอยู่และลงมาเองไม่ได้ เขาจึงโทรขอความช่วยเหลือจากนักดับเพลิงให้มาช่วยพามันลงมา เกิดเป็นงานช่วยแมวลงจากต้นไม้ที่ไม่ง่ายเหมือนเคย เนื่องจากนักดับเพลิงไม่ได้เชี่ยวชาญการรับมือกับสัตว์ป่า ครั้งนี้พวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ให้มาช่วยมันอีกแรงหนึ่งด้วย โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ที่มา ก็จัดแจงยิงลูกดอกยาสลบใส่เจ้าสิงโตภูเขาก่อนจะช่วยเหลือ เพื่อป้องกันไม่ให้มันทำร้ายนักดับเพลิง และก็เพื่อให้การช่วยเหลือมันเป็นไปอย่างง่ายดายนั่นเอง     จากนั้นนักดับเพลิงจึงปีนขึ้นไปหามัน ใช้สายรัดรอบตัวมันไว้ แล้วค่อยๆ หย่อนเจ้าสิงโตภูเขาลงมาข้างล่าง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์คอยรับมือต่ออยู่ พอเอาตัวมันลงมาได้แล้ว และเห็นว่ามันปลอดภัยดี พวกเขาจึงปล่อยมันเอาไว้ตรงโคนต้นไม้นั้น เพื่อที่ว่าพอมันตื่นขึ้นมามันจะได้กลับไปอยู่ตามถิ่นเดิมของมันเอง ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า Rick Fischer เองก็บอกว่า “การทิ้งสิงโตไว้บนต้นไม้แบบนั้น ทำให้เสี่ยงเกิดอันตรายต่อคนในชุมชน เราควรช่วยมันลงมาแล้วรอให้มันตื่นเอง จากนั้นมันก็จะกลับไปยังถิ่นอาศัยเดิมในที่สุด”     นักชีววิทยาสัตว์ป่า Kevin Brennan อธิบายว่าบางครั้งสิงโตภูเขาก็เข้ามาในเขตชุมชนเอง เนื่องจากมันพยายามจะขยายอาณาเขตที่มันอยู่ตามสัญชาตญาณของสิงโตหนุ่ม ครั้งนี้เองก็น่าจะเป็นแบบนั้นเช่นกัน หวังว่าเจ้าสิงโตภูเขาจะกลับไปอยู่ในป่าตามเดิม และไม่หลงออกมาบ่อยมากนักนะ…คงไม่มีนักดับเพลิงคนไหนอยากเสี่ยงภัยไปช่วยมันบ่อยๆ…

คนที่มีสัตว์เลี้ยงจะรู้ว่าพวกมันมีนิสัยหลากหลายมุม ซึ่งมุมที่คุณจะได้เจอประจำก็คือมุมที่พวกมันซนและป่วน คอยสร้างความบันเทิงให้ชีวิตคุณได้ไม่มีเบื่อ แต่คนที่อยู่กับพวกมันมานานก็คงจะเคยเจอมุมน่ารักและน่าซึ้งใจของพวกมันมาบ้างเช่นกัน เหมือนที่ชาวเน็ตเหล่านี้ได้บอกเล่าเรื่องราวอบอุ่นหัวใจที่สัตว์เลี้ยงมอบให้   1. เจ้าแมวช่วยสู้กับฝันร้าย emmaw4eafaff03 เล่าว่าเจ้าแมวของเขามักจะนอนด้วยกันเสมอ และถ้าเขาฝันร้ายจนตกใจตื่น มันจะตื่นมาคลอเคลียแถวใบหน้าเพื่อปลอบใจเขาจนนอนหลับต่อได้     2. ตูบช่วยคุมโรคเบาหวาน kristinad4ea2b09ab เป็นโรคเบาหวาน แต่เธอรู้ว่าน้ำตาลของตัวเองสูงหรือต่ำเกินไปเสมอ เนื่องจากเจ้าหมาจะเห่าเตือนเธอหากน้ำตาลไม่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ทำให้เธอกินยาได้ทันทุกครั้ง     3. หมาเชื่อมสัมพันธ์ครอบครัว abbyjanec2 เคยไม่ลงรอยกับพ่อ เธอไม่อยากไปหาเขาเลย แต่ที่เธอมีความกล้าไปหาเขา เนื่องจากในบ้านพ่อมีเจ้าหมา Oliver อยู่เป็นกำลังใจให้ มันช่วยให้เธอได้เจอกับพ่อบ่อยและได้พูดคุยกันมากจนตอนนี้สนิทกันแล้ว   4. หมาขี้กลัวผู้รักเจ้าของ เจ้าหมา Buckeye ของ kelseyh4e8f329ea เป็นหมาที่กลัวแทบจะทุกสิ่ง แต่มันจะวิ่งไปช่วยเจ้าของอย่างไม่ลังเลถ้าพวกเขาเศร้าหรือตกใจ และหากเขาหรือแฟนยังไม่หายเศร้า มันก็จะไปนอนให้พวกเขากอดด้วย     5. เจ้าหมาบรรเทาปวด rachbrung ป่วยเป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้บางครั้งเธอรู้สึกเจ็บช่วงท้อง สิ่งเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกดีมากขึ้นคือการนอนแล้วหาอะไรมากดบริเวณที่ปวด ซึ่งถ้าเจ้าหมา Hunter กับ Bruno เห็นเธอปวดเมื่อไหร่ พวกมันจะช่วยเอาหัวไปวางทับตรงที่เธอรู้สึกเจ็บให้     7.…

ลูกแมวน้อยพิการต้องการความรักและใส่ใจมากเป็นพิเศษ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคนที่สามารถมอบสิ่งเหล่านั้นให้มันได้คือแม่หมาที่เพิ่งเจอกันไม่นาน     ลูกแมวน้อย HarPURR ถูกแม่เหมียวทิ้งเอาไว้ หลังจากมันตกใจคนจนเผลอปล่อยลูกแล้ววิ่งหนีไป กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Alaska’s KAAATs จึงรับมันเข้ามาดูแล พวกเขาพบว่าลูกแมวตัวนี้ใช้การขาหลังไม่ได้ เนื่องจากมันเคยมีแผลจากการถูกบีบในช่องคลอด แม้แผลจะหายดีแล้วมันก็ยังใช้ขาเดินไม่ได้เหมือนเดิม     Shannon R Basner ผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์รู้ว่าแมวพิเศษแบบนี้ต้องได้รับการใส่ใจเป็นพิเศษเช่นกัน เธอจึงอาสารับมันอุปถัมภ์ไว้เอง ในตอนแรกนอกจากมันจะเดินไม่ได้แล้ว มันยังอ่อนแอจนกินข้าวเองไม่ได้ด้วย เธอต้องคอยป้อนข้าวให้มันกับมือทุก 2-3 ชั่วโมงตลอดเลย     หลายสัปดาห์ต่อมา HarPURR ก็แข็งแรงมากขึ้น มันกินข้าวเองได้แล้ว และก็เริ่มสดใสขึ้นมากด้วย พวกเธอจึงได้เห็นมุมที่ซนและขี้อ้อนของมัน มันต้องการให้มีคนอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา เนื่องจากในตอนแรกพวกเธอไม่รู้จะให้มันอยู่กับใครเวลาที่ไม่มีคนว่างดูแล จึงเอาตุ๊กตาให้มันไว้กอด     แต่แค่นั้นก็ไม่พอกับความต้องการของลูกแมวน้อยอยู่ดี Basner จึงพาแม่หมา Cinder เข้ามาเจอกับมันเพื่อให้พวกมันได้ทำความคุ้นเคยกัน เจ้า Cinder เป็นสุนัขที่มีสัญชาตญาณความเป็นแม่สูงมาก เมื่อไหร่ที่มันเห็นลูกสัตว์ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหมาหรือแมว มันก็จะเข้าไปดูแลให้ความรักอย่างเต็มที่ กับ HarPURR เองก็เช่นกัน พวกมันสนิทกันอย่างรวดเร็ว เจ้าแมวติดแม่หมาเหมือนกับเป็นแม่แท้ๆ ส่วนเจ้าหมาก็ดูแลมันเหมือนกับเป็นลูกในไส้ทีเดียว    …

ลูกแมวทั่วไปจะเห็นความเปลี่ยนแปลง และเริ่มดูสวยงามสมวัยในช่วง 1 ปีแรก ทว่าสำหรับเจ้า Elli ความสวยงามที่แท้จริงของมันเริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้น     เริ่มแรก Elli กับน้องสาวอีกตัวหนึ่งเป็นแมวจรจัดที่อยู่ในฟาร์มแถวบ้านของ Nicole เนื่องจากพวกมันไม่มีคนดูแล ทำให้ร่างกายอ่อนแอมาก เธอจึงเก็บพวกมันมาดูแล หลังจากที่พวกมันแข็งแรงแล้ว เธอก็หาบ้านใหม่ให้กับตัวน้องสาว ส่วน Elli เธอก็เป็นคนรับเลี้ยงเอาไว้ซะเอง     เจ้า Elli มีนิสัยเป็นมิตรและขี้อ้อนเหมือนกับสุนัข และก็มีสีขนสีขาวดำชัดเจนตั้งแต่เด็ก ในช่วงแรกที่มันเติบโตนิสัยกับรูปร่างหน้าตาของมันไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย จนกระทั่งผ่านมา 9 เดือน Nicole ก็สังเกตเห็นจุดสีขาวเล็กๆ บนตัวเจ้าแมว เธอเล่าว่า “ตอนแรกมันไม่มีจุดสีขาวแซมแบบนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นสีที่ติดมาก็เลยพยายามช่วยเอาออก แต่พอลองดูดีๆ แล้วนั่นเป็นขนของมันต่างหาก”     ยิ่งผ่านไปหลายเดือน เธอก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่าขนสีขาวเริ่มแซมเข้ามาทั่วทั้งตัวของ Elli เธอไม่เคยเห็นแมวตัวอื่นมีอาการแบบนี้มาก่อน ด้วยความเป็นห่วงเธอจึงรีบพามันไปหาสัตวแพทย์ เผื่อว่ามันเป็นโรคร้ายแรง เธอจะได้ช่วยรักษาและเตรียมรับมือกับมันได้อย่างทันท่วงที     เมื่อได้รับการตรวจเรียบร้อยแล้ว สัตวแพทย์ก็บอกว่า Elli เป็นโรคหายากซึ่งเรียกว่า โรคด่างขาว (Vitiligo) ซึ่งเป็นโรคที่พบในมนุษย์เพียงแค่ 1…

Grace Redmon และคุณพ่อสนิทกับแมวเหมียว Athena มันเป็นสัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไป 2 หลัง แต่มันมักจะแวะมาทักทายพวกเธอที่บ้านเสมอ เธอเล่าว่า “เจ้าแมวเป็นมิตรมากๆ พ่อของฉันมักจะให้อาหารและเล่นกับมันประจำ แล้วมันก็จะชอบมารอทักทายพวกเรา โดยเฉพาะตอนที่พ่อกลับมาจากที่ทำงาน”   ยินดีต้อนรับกลับนะมนุษย์   ทว่าสำหรับเจ้า Athena แล้วชีวิตในบ้านของมันไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่ คนที่ดูแลมันเลี้ยงหมาเอาไว้ก่อนแล้ว 2 ตัว และพอรับเจ้าแมวเข้ามาเพิ่ม พวกมันก็เข้ากันไม่ได้เลย หลายเดือนถัดมาคนที่ดูแลมันก็ยอมแพ้ เขาไม่พยายามทำให้พวกมันเข้ากันต่อไปแล้ว จึงเลือกที่จะทิ้ง Athena ไว้ข้างถนน     ตั้งแต่มันโดนทิ้ง Athena ก็มาอาศัยอยู่ในสวนของ Redmon แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในบ้าน เหมือนมันแค่มาขอพื้นที่ซุกหัวนอนเท่านั้น จนสักพักหนึ่งเธอและพ่อก็พบว่า Athena ไม่ได้มาอยู่ตามลำพัง ตอนที่มันถูกไล่ออกจากบ้านมันก็ท้องอยู่แล้ว และมันก็มาคลอดลูกไว้ที่บ้านของเธอ แต่กว่าเธอกับพ่อจะได้เห็นตัวลูกแมวก็ตอนที่พวกมันเริ่มโตแล้ว     คุณพ่อของ Redmon เป็นห่วงเจ้า Athena กับลูกๆ มาก แต่อีกใจหนึ่งเขาก็บอกกับตัวเองว่าเขาไม่ควรรับมันมาเลี้ยง เนื่องจากที่บ้านก็มีแมวตั้ง 2 ตัวแล้ว และก็ไม่รู้ว่าพวกมันจะเข้ากันได้ไหมด้วย หลังจากเห็นคุณพ่อทำสองจิตสองใจอยู่นาน…

หมาตำรวจจำเป็นต้องมีความกล้าหาญในการเผชิญกับสถานการณ์หลายรูปแบบ ด้วยเหตุนี้เจ้าหมาตำรวจฝึกหัดที่ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเท้าลงพื้นจึงอดทำหน้าที่ไปอย่างช่วยไม่ได้ Sydney เป็นสุนัขตำรวจที่เคยกล้าหาญและไม่กลัวอะไร มันทำการฝึกเป็นสุนัขตำรวจได้ดีตลอดระยะเวลา 4 เดือนแรก ทว่าหลังจากมันลื่นล้มในการฝึกสุนัขตำรวจเมื่อเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมา มันก็มีความกลัวฝังใจและไม่ยอมเดินผ่านพื้นบางรูปแบบ     ล่าสุดขณะที่มันเดินอยู่กับผู้ฝึกของมัน เจ้า Sydney ก็หยุดชะงักกะทันหันเมื่อผู้ฝึกเดินพ้นพรมสีเทาไป แม้ว่าเขารอให้มันเดินตามมันอยู่ มันก็ไม่กล้าเดินไปเหยียบพื้นมันวาวข้างหน้า ครูฝึกของมันใจเย็นมาก และออกมานั่งรอข้างหน้าเป็นกำลังใจให้มัน แต่เจ้าหมาก็ยังรวบรวมความกล้าก้าวไปหาเขาไม่ได้อยู่ดี     คาดว่ามันคงจะฝังใจกับการเจ็บตัวหรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นตอนฝึกเป็นสุนัขตำรวจ ทำให้ทุกครั้งที่มันเห็นพื้นแบบนั้นมันไม่อยากออกไปเหยียบ ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุแบบนี้กับ Sydney ในระหว่างทำงานเป็นสุนัขตำรวจอยู่ คงไม่ทันการณ์ต่อเหตุด่วนเหตุร้ายที่เกิดขึ้นแน่ๆ     ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเลยทีเดียวกว่า Sydney จะรวบรวมความกล้าได้มากพอ และก้าวขาออกไปหาครูฝึกซึ่งรอคอยมันอยู่ แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ยิ่งทำให้เห็นชัดว่า Sydney คงยังไม่มีความเหมาะสมพอที่จะเข้าการฝึกเป็นสุนัขตำรวจต่อได้ มันจึงถูกปลดออกจากการฝึก     น่าเสียดายแทนเจ้า Sydney เหมือนกันนะที่มันฝึกมาตั้งหลายเดือน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเป็นสุนัขตำรวจได้…แต่ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะเจ้าตูบ แกต้องเป็นเด็กดีให้กับบ้านสักหลังได้อย่างแน่นอน      ที่มา: Daily Mail

เราได้ฟังเรื่องราวของเจ้าหมาแสนรู้ที่ช่วยชีวิตคนมาบ่อยแล้ว วันนี้ลองไปดูเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่ช่วยชีวิตหญิงแก่เพื่อนบ้านกันดูบ้าง Fran Swayze อาศัยอยู่ในคอนโดกับเจ้าเหมียว Bandit ในรัฐเท็กซัสประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นแมวขี้สงสัยที่ชอบออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน แต่ทาสของมันก็ไม่อยากเลี้ยงมันแบบปล่อยเกินไป เพราะกลัวมันจะเจออันตรายข้างนอก     เธอจึงพบกับเจ้าแมวคนละครึ่งทาง โดย Fran จะพา Bandit ออกไปเดินเล่นด้วยกันเป็นประจำทุกวัน จากนั้นก็จะให้มันอยู่ในบ้านเท่านั้นจนกว่าจะถึงเวลาเดินเล่นของอีกวัน การทำแบบนี้ทำให้ Bandit ได้มีเวลาออกไปเล่นข้างนอกจนพอใจ และทำให้ Fran สบายใจด้วยเนื่องจากมันอยู่ในสายตาของเธอตลอดเวลา นี่จึงเป็นวิถีชีวิตที่เธอและเจ้าแมวมีร่วมกันทุกวัน     แต่ในตอนเย็นวันหนึ่งขณะที่ Fran นั่งคุยกับลูกสาวที่มาเยี่ยมอยู่ในห้อง จู่ๆ เจ้า Bandit ก็วิ่งตรงไปที่หน้าประตู และส่งเสียงร้องดังผิดปกติเหมือนอยากออกไปข้างนอก แม้จะออกไปเดินเล่นมาแล้ว มันไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ตอนแรกเธอพยายามจะเมินมัน แต่หลังจากที่เห็นมันทำแบบนั้นอยู่สักพักหนึ่ง เธอก็เกิดความสงสัยว่ามันกำลังสนใจอะไรอยู่ จึงเปิดประตูให้มันออกไปข้างนอก     ทันทีที่ประตูเปิดออก เจ้าแมวก็พุ่งตัวออกไปตรงรั้วกั้นซึ่งมีสวนอยู่เบื้องล่าง มันเอาแต่จ้องมองไปที่ตรงนั้นตาไม่กะพริบ เมื่อเธอพยายามเพ่งมองตามมัน เธอก็เห็นบางอย่างหลังจากที่ตาของเธอชินกับความมืดแล้ว เธอตกใจมากเมื่อเห็นว่านั่นคือ Mary หญิงแก่เพื่อนบ้านของเธอกำลังล้มฟุบอยู่ โดยที่มีเจ้าหมาที่เธอเลี้ยงเอาไว้นั่งเฝ้าข้างๆ   ภาพบริเวณคอนโดนี้ถ่ายตอนกลางวัน แต่เหตุเกิดกลางคืน  …

หนุ่มคนหนึ่งได้เปลี่ยนวันที่น่ากังวลสำหรับเจ้าหมาหลงทางและเจ้าของของมัน ให้กลายเป็นวันที่พวกเขารู้สึกสุขใจจนไม่มีวันลืม ในเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2019 หนุ่ม Brooks Rabren เจอหมาตัวหนึ่งนอนอยู่หน้าบ้านของเขา เขาไม่เคยเห็นมันแถวนี้มาก่อน     เขาเห็นว่ามันดูเหนื่อยล้า แต่มันก็มีปลอกคอและถูกดูแลมาอย่างดีเช่นกัน จึงสรุปได้ว่ามันเป็นหมาหลงทางที่บังเอิญมาอยู่หน้าบ้านของเขา น่าเสียดายที่ป้ายชื่อของมันหลุดหายไป เขาจึงไม่มีทางติดต่อเจ้าของมันได้เลย Rabren จึงช่วยถ่ายรูปมันแล้วโพสต์ตามหาเจ้าของบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาพอจะทำได้ในขณะนี้ ทว่าเขาก็ไม่ได้ปล่อยให้เจ้าหมารอเจ้าของอย่างเหงาหงอย ไหนๆ เขากับมันก็บังเอิญมาเจอกันแล้ว เขาจึงตัดสินใจว่าจะทำให้เจ้าหมามีความสุขกับเขาทั้งวัน แม้จะเพิ่งรู้จักกันก็ตาม   อะกินข้าวเติมพลังให้หายเหนื่อยก่อนนะ   มาว่ายน้ำในทะเลสาบข้างบ้านสนุกใช่ไหมล่ะ   Rabren เห็นว่ามันไม่มีป้ายชื่อ จึงตั้งชื่อชั่วคราวให้มันก่อนว่า Susan…เขาเอาข้าวให้มันกิน แล้วก็พามันไปเล่นน้ำอย่างสนุกสนานในทะเลสาบใกล้ๆ บ้าน รวมทั้งพามันไปทำกิจกรรมอีกหลายอย่างตลอดทั้งวันด้วย โดยเขาเองก็โพสต์สิ่งที่ทำร่วมกับเจ้าหมาลงบนทวิตเตอร์ของตัวเองตลอดทั้งวันด้วย ทำให้มีชาวเน็ตมาติดตามชีวิตในวันหนึ่งที่เจอกันโดยบังเอิญของเขากับเจ้าหมาด้วย   เล่นน้ำจนเหนื่อยเจ้าหมาก็เลยงีบพักก่อน…ไม่รู้ว่าจะเรียกมันว่าอะไร เรียกว่า Susan ไปก่อนก็แล้วกัน   หายเหนื่อยแล้ว งั้นออกไปพายเรือเล่นกันนะ   เขากับเจ้าหมาใช้เวลาทั้งวันในการผจญภัยด้วยกันอย่างสนุกสนาน และบอกเล่าเรื่องราวนี้ให้ชาวเน็ตฟังในโลกโซเชียล ซึ่งระหว่างนั้นเองก็มีชาวเน็ตที่รู้จักเจ้าของของเจ้าหมา ติดต่อบอกพวกเขาว่าเจ้าหมาอยู่กับ Rabren ทำให้พวกเขามาตามตัวเจ้าหมากลับบ้านได้ถูก  …

เมื่อครั้งที่หนุ่มเมืองดูไบ Anand Raman เดินทางไปเยี่ยมพี่สาวในที่ทำงาน เขาได้เจอกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่งกำลังหลบแดดอยู่ใต้รถยนต์ โดยที่กินเศษอาหารที่คนมาทำงานเทไว้ให้ เขาเห็นว่ามันขนยุ่ง สกปรก และเดินแปลกๆ มันไม่สนใจใครเลยจนกระทั่งเขาเดินผ่านมา มันถึงวิ่งออกจากใต้ท้องรถมาหาเขาอย่างเร่งรีบ เขาเห็นได้ชัดว่ามันดูสงสัยและตื่นเต้นที่ได้เจอเขา เขาตกหลุมรักในท่าทีเป็นมิตรของมัน แม้มันจะเป็นมิตรแค่กับเขาเท่านั้นก็ตา นั่นทำให้เขาตัดสินใจพามันกลับไปด้วยทั้งที่วันนั้นไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเหลือหมาเลย     ตอนที่เจอกันในลานจอดรถ เขานั่งลูบมันด้วยความเอ็นดู และหลังจากที่เขาอุ้มมันขึ้นรถไปด้วย มันก็สบายใจจนผล็อยหลับไปบนตักของเขา หลังจากเขาพามันไปพบสัตวแพทย์มา และเห็นว่ามันไม่ได้เป็นโรคอะไรมากแค่ขาดสารอาหารเท่านั้น เขาก็พามันตรงดิ่งกลับไปอยู่บ้านด้วยกันเลย พอเขาอาบน้ำทำความสะอาดให้เจ้าหมาเสร็จ เขาก็พบว่าเจ้าหมาไม่ได้สกปรกอย่างที่เห็นตอนแรก ที่จริงแล้วมันมีขนสีขาวบริสุทธิ์น่ามองมากทีเดียว…เขาจึงตั้งชื่อให้มันว่า Snowy     ถึง Raman กับ Snowy จะเข้ากันได้ตั้งแต่แรกเจอ แต่การเอาสุนัขที่ใช้ชีวิตข้างถนนมานานมาอยู่ในบ้าน ก็มีเรื่องต้องปรับตัวพอสมควรเหมือนกัน เขาเล่าว่า “การช่วยให้เจ้าหมาปรับตัวกีบชีวิตในบ้านไม่ง่ายเลย มันไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง มันก็เลยเอาแต่นั่งในมุมห้อง แล้วพอผมพามันไปเดินเล่น มันก็กลัวว่าผมจะเอามันไปทิ้งไว้ข้างถนนอีก มันก็เลยดึงสายจูงแล้วพยายามไปหลบในลานจอดรถของอพาร์ตเมนต์หลายครั้ง…มันทำแบบนี้อยู่นานจนกระทั่งมันเข้าใจว่าพวกเราไม่ทิ้งมันหรอก แค่ออกไปเดินเล่นเท่านั้น”     ใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนเจ้า Snowy ก็เริ่มเข้าใจว่ามันไม่ต้องกังวลเรื่องจะถูกทิ้งแล้ว ที่ที่มันอยู่ก็คือบ้านของมัน และมันก็มีคนที่รักมันอยู่ด้วย เดี๋ยวนี้เจ้าหมาจึงหลับพักผ่อนอย่างสบายใจอยู่ในห้องระหว่างที่ Raman ออกไปทำงาน…

เคยไหมที่คุณเกิดความสงสัยว่าพัสดุในกล่องของเพื่อนหรือคนรู้จักมีอะไรอยู่…จงเก็บความสงสัยนั้นเอาไว้เถอะ เพราะหากคุณได้รู้แล้วอาจจะเกิดอาการมองหน้ากันไม่ติดแบบกรณีนี้ Jenna แต่เนื่องจากเธอไม่อยู่ จึงให้ Jenna รับพัสดุแทนไว้ และเธอก็เอามันเก็บไว้หลังประตูโดยไม่ได้คิดที่จะเปิดดูเลย จากนั้นตัวเองจึงออกไปข้างนอก เมื่อ Lee สามีของเธอเดินลงมาข้างล่างในชั่วโมงต่อมา เขาก็พบว่าพัสดุกล่องนั้นถูกเจ้าหมา Bonnie ที่เลี้ยงไว้กัดจนกล่องฉีกหมดแล้ว     การที่พัสดุของเพื่อนบ้านเสียหายมันก็เป็นปัญหาอยู่หรอก แต่สิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่กว่านั้นก็คือของที่อยู่ข้างในต่างหาก…มันเป็น “ดิลโด้” ขนาดมาตรฐานชายหนุ่มทั่วไปสีชมพู Lee เล่าว่า “ตอนแรกที่ผมเดินลงมาเจอมัน ผมนึกว่ามันเล่นกับของเล่นฝึกหมาอยู่ เนื่องจากผมมีของที่คล้ายๆ แบบนั้นในบ้าน แต่เมื่อมองดูดีๆ ก็พบว่ามันไม่ใช่ จากนั้นผมก็คิดว่ามันอาจจะเป็นของ Jenna ก็ได้ และก็คิดว่า ‘เธอจะซื้อมันมาทำไมกันนะ?’ แล้วพอผมมองเห็นกล่องที่อยู่ข้างๆ กันผมก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด”     เขากับเพื่อนบ้านคนนั้นไม่ได้รู้จักกัน เขาแค่รู้ว่าเธอเป็นหญิงที่อายุมากกว่าเท่านั้น และตอนนี้เขาก็ดันมาเห็นของล่อแหลมที่เธอสั่งมาโดยไม่อยากให้ใครรู้เข้าซะแล้วด้วย Lee ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเลย และก็ไม่รู้จะต้องอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านยังไงด้วย เขาคงรู้สึกระอักกระอ่วนใจไม่แพ้กับเจ้าของพัสดุชิ้นนี้เลย ในขณะเดียวกันเจ้า Bonnie ที่เป็นต้นเหตุของสถานการณ์น่าอึดอัดใจ ดันทำท่าทางมีความสุขกระดี๊กระด๊า ราวกับตัวเองเพิ่งทำเรื่องที่น่าชื่นชมมาอย่างนั้นแหละ     เมื่อเขาสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เขาจึงถ่ายคลิปวิดีโอบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเล่าให้ชาวเน็ตฟังถึงสถานการณ์อึดอัดใจที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ โดยไม่ลืมที่จะให้เกียรติเพื่อนบ้านโดยการไม่เอ่ยชื่อหรือที่อยู่ของเธอด้วย แน่นอนว่าชาวเน็ตถูกใจและก็รู้สึกขำไปกับสถานการณ์ที่เขาเจอ ถ้าเป็นพวกเขาเองก็คงไม่รู้จะเข้าหาเพื่อนบ้านยังไงดีเช่นกัน  …

ตอนนี้ภาพของพอสซัมตัวน้อยที่เกาะหลังสุนัขบีเกิ้ลไม่ยอมปล่อย ติดไปด้วยกันทุกที่เหมือนคู่หู กลายเป็นภาพแสนน่ารักที่ถูกใจของกลุ่มชาวเน็ตผู้รักสัตว์ และถ้าหากคุณได้ฟังเรื่องราวความเป็นมาของพวกมันทั้งคู่แล้ว รับรองคุณจะยิ่งรู้สึกหลงรักกับพวกมันทั้งคู่มากขึ้นกว่าเดิมอีก     ก่อนที่พวกมันจะมาเจอกัน Elle Moyle ซึ่งเป็นเจ้าของแม่หมาบีเกิ้ล Molly เล่าว่าเมื่อไม่นานมานี้แม่หมาตั้งท้องและคลอดลูกออกมาครอกหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีลูกหมารอดชีวิตเลย หลังจากนั้นมา Molly ก็มีอาการซึมเศร้า มันเอาแต่มองหาลูกของตัวเอง ซึ่งที่มันเป็นแบบนี้อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณความเป็นแม่ในตัวมันยังรุนแรงอยู่ก็ได้     ส่วนลูกพอสซัม Poss เองก็ไม่มีแม่คอยดูแล พอพวกมันทั้งคู่ได้มาเจอกัน พวกมันจึงช่วยเติมเต็มในส่วนที่ขาดของกันและกันได้พอดี และกลายมาเป็นคู่แม่ลูกสุดแปลกแบบนี้ โดยสิ่งที่น่ารักมากๆ ก็คือเจ้า Poss มักจะเกาะอยู่บนสะโพกของ Molly เสมอเหมือนที่ลูกพอสซัมชอบทำกับแม่ และพอมันมาทำแบบนี้กับสุนัขก็ยิ่งทำให้พวกมันชนะใจชาวเน็ตไปเต็มๆ เลย     ชอบเกาะอยู่บนหลังแม่ใหม่ ให้แม่พาไปทุกที่   แม้ว่าพวกมันทั้งคู่จะมีสไตล์ชีวิตที่ต่างกันอยู่บ้าง เนื่องจาก Molly เป็นสัตว์ที่ชอบวิ่งเล่นในตอนกลางวัน ส่วน Poss เป็นสัตว์ที่ใช้ชีวิตในตอนกลางคืน แต่พวกมันทั้งคู่ก็ยังรักกันและพยายามปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตของอีกฝ่าย โดยกระหว่างที่ Molly วิ่งเล่นในสนามหญ้า Poss ก็จะเกาะหลังมันแล้วหลับพักอยู่บนนั้นนั่นแหละ หรือบางครั้งแม่หมาก็จะปล่อยมันหลับใต้ต้นไม้แล้วก็นั่งเฝ้ามันนิ่งๆ และถ้าลูกพอสซัมตัวน้อยตื่นมาและต้องการแม่เมื่อไหร่ Molly…

มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คนเราดูหล่อดูสวย แต่ที่สำคัญมากก็คงหนีไม่แพ้เรื่องทรงผมนั่นเอง หากทรงผมของคุณดูดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว พวกสัตว์เองจะดูดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับทรงผมเช่นกัน…ไม่สิ ควรจะเรียกว่า “ทรงขน” ซะมากกว่า…เนื่องจากแทบทั้งตัวของพวกมันประกอบไปด้วยขน สิ่งนี้จึงเป็นตัวชี้วัดความสวยงามของพวกมันเลยทีเดียว ซึ่งในหมู่สัตว์พวกนี้ก็จะมีบางตัวที่ขนยุ่งฟูจะจนทำหล่อทำสวยกันไม่ได้เลย ไปลองดูกันดีกว่าทรงขนของพวกมันจะเป็นอุปสรรคต่อความสวยงามได้ยังไงบ้าง   ขนฟูแบบนี้ต้องหนีบกี่ชั่วโมงถึงจะเรียบ   แนะนำยานวดผมให้น้องหน่อย ผมแห้งเสียไม่ไหวแล้ว   ก็บอกให้ตัดอออกนิดเดียว ไม่ใช่เหลือไว้นิดเดียว   เราไม่ได้หัวโล้นนะเฮ้ย ทำทรงนี้ให้ทำมายยย   เห็นสภาพขนแล้ว…รู้สึกสงสัยว่าอาบน้ำบ้างรึเปล่า   หวีขนให้น้องบ้างนะ ไม่เป็นทรงเลย   นี่สิเขาเรียกว่าปัญหาผมชี้ฟู   หวียังไงเส้นนี้ก็ไม่เรียบ หงุดหงิด!!   ดูพี่แกมั่นใจกับทรงขนมาก ใครก็ได้เตือนแกที   ขอยืดขนหน่อยค่ะ ฟูจนพันขาไปหมดแล้ว   เหมือนว่าทรงขนจะดี…แต่ก็เหมือนจะไม่ดี??   ใส่แว็กซ์มากไปหน่อย ผมค้างแบบนี้มา 3 วันแล้ว   วันนี้ลูกยังไม่ได้สระผมแน่ๆ เลย   ขนแบบนี้ถ้าอยากยืดต้องทำกี่ชั่วโมงเนี่ย?   ขนไม่สวยช่างมัน มีของกินก็พอแล้ว   เป็นม้าก็ต้องตัดหน้าม้าสิ  …

น้องหมา Toby น่าจะถูกเจ้าของเก่าทิ้งในประเทศเกาหลี มันถูกเก็บมาไว้ในศูนย์พักพิงสัตว์ แต่พวกเขาก็ไม่มีกำลังมากพอจะดูแลหมาได้ทุกตัว เจ้าหมาจึงถูกส่งตัวข้ามฟ้ามายังประเทศสหรัฐอเมริกา มาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์  Band For Animal ซึ่งพวกเขาก็จะหาบ้านอุปถัมภ์ให้มันอีกทีหนึ่ง     ในขณะเดียวกันครอบครัวของ Ann Hoang เองก็กำลังอยากจะเลี้ยงหมาตัวที่ 2 แต่พวกเขาไม่แน่ใจว่าจะสามารถดูแลสุนัขหลายตัวได้ไหม เธอและสามีจึงปรึกษากันว่าจะลองรับอุปถัมภ์หมาดูก่อน ถ้าพวกเขาดูแลมันไหวก็จะรับเลี้ยงหมาตัวใหม่หลังที่มันเจอเจ้าของแล้ว…และหมาที่พวกเขาเลือกรับอุปถัมภ์มาก็คือเจ้า Toby นั่นเอง     ในตอนแรก Toby ดูตื่นกลัวมากๆ มันไม่กล้าออกมาจากกรง และไม่กล้าเข้าใกล้คนหรือหมาในบ้านเลย มันเอาแต่นั่งนิ่งๆ อยู่ตัวเดียวแล้วจ้องมองคนอื่นเท่านั้น ซึ่งนั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่มั่นใจในการดูแลมัน ทว่าหลังจากที่เจ้าหมามองดูพวกเขาอยู่หลายชั่วโมง มันก็รับรู้ได้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นอันตราย มันจึงเริ่มเข้าหาพวกเขาและทำการอ้อนทันที ทำให้ภายในเวลาแค่วันเดียวมันก็ไว้ใจครอบครัวใหม่แล้ว โดยเฉพาะกับสามีของ Hoang นั่งพักผ่อนอยู่ด้วยกันบนโซฟาอย่างสบายใจตั้งแต่มันมาถึงวันแรกเชียวล่ะ       ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Toby ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Hoang อย่างรวดเร็ว มันสนิทกับทุกคนในบ้านไวมากๆ แม้แต่เจ้า Charlie ที่เป็นหมาซึ่งอยู่มาก่อนก็ดูสนิทกับมันราวกับรู้จักกันมานานแล้ว คนที่สนิทกับเจ้าหมามากที่สุดก็คือชายหนุ่ม Hoang เล่าว่า “เวลาผ่านไปแค่อาทิตย์เดียว แต่สามีของฉันกับ Toby ก็ดูสนิทกันมากจนตัดกันไม่ขาดซะแล้ว…Toby…

จริงอยู่ว่ามีมนุษย์บางคนที่ใจร้ายกับสัตว์ คิดจะใช้พวกมันหาประโยชน์ให้กับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงแล้วทิ้งพวกมันแบบไม่ใยดี หรือการลัลกอบค้าสัตว์ก็ตาม แต่ก็อย่าลืมว่ายังมีคนอีกมากมายที่เต็มใจและอยากช่วยเหลือสัตว์อยู่ พวกเขาเหล่านี้ช่วยเหลือพวกมันด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ และมักจะไม่ค่อยมีใครสังเกตมากนัก เหมือนคนในคลิปวิดีโอนี้ เมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊ก City of Morro Bay ของเมืองมอรร์โรเบย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหัฐอเมริกาได้โพสต์คลิปวิดีโอสุดน่ารักอันหนึ่ง ที่ช่วยให้ลูกนากพลัดหลงได้กลับไปอยู่กับแม่ของมัน     โดยคนที่ช่วยพวกมันก็คือชาวประมงของเมือง ศูนย์ดูแลสัตว์น้ำ Marine Mammal Center และนาย Mike Harris กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Fish & Wildlife ตอนแรกพวกเขาอุ้มลูกนากไว้ที่ขอบเรือก่อน แล้วให้มันส่งเสียงร้องเรียกหาแม่ พอแม่นากได้ยินมันก็ว่ายน้ำตามเสียงลูกแยกออกมาจากฝูงจริงๆ ด้วย     เมื่อเห็นว่าแม่นากให้ความสนใจกับลูกนากแล้ว Harris จึงช่วยโยนลูกนากไปใกล้ๆ กับแม่ เพื่อให้มันคาบลูกกลับไปดูแลต่อเอง ที่เห็นเขาโยนมันลงไปแบบนั้นอย่าเข้าใจผิดว่าเขาไม่ถนอมมันล่ะ เขาจำเป็นต้องเอามันออกไปไกลๆ ตัว เนื่องจากถ้าเขายังอุ้มมันไว้ แม่นากอาจกลัวมนุษย์มากจนยอมทิ้งลูกแล้วกลับไปหาฝูงตัวเดียวนั่นเอง     หลังจากที่แม่นากดูลาดเลาและทิ้งช่วงให้เราได้ลุ้นกันอยู่นั้น ในที่สุดเมื่อมันเห็นว่าไม่มีอันตราย มันก็ขึ้นจากน้ำกลับมารับลูกไปอยู่ด้วยจนได้ แม้ว่าการช่วยพวกมันให้กลับมาเจอกันจะเป็นเหตุการณ์ช่วยเหลือเล็กๆ แต่มันก็สร้างความอบอุ่นให้กับหัวใจของเราได้ดีเยี่ยมจริงๆ     โชคดีนะเจ้านาก อย่าพลัดหลงกับแม่อีกล่ะ  …

ที่สุนัขได้รับฉายาว่า ‘เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์’ เป็นเพราะพวกมันรักเจ้าของมากๆ พวกมันพร้อมจะเอาชีวิตเข้าเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเหลือคุณ เหมือนในกรณีนี้     ตอนที่นาย Gino Wensel วัย 40 ปีจากประเทศแอฟริกาใต้ กำลังพาเจ้าหมาเยอรมันเชพเพิร์ด Duke ของตัวเองไปเดินเล่นนอกบ้านอยู่ พวกเขาก็สังเกตเห็นชายท่าทางน่าสงสัยคนหนึ่ง เดินเข้ามาหาพวกเขาพร้อมถือมีดมาในมือด้วย แต่ก่อนที่ Wensel จะทันได้ไหวตัว เขาก็ถูกชายคนนั้นข่มขู่ปล้นทรัพย์ซะแล้ว     ด้วยความเป็นห่วงเจ้าของ Duke จึงพุ่งออกไปต่อสู้กับโจรเพื่อปกป้องเขา ทางด้านโจรเองก็สู้มันกลับเช่นกัน ทำให้เจ้าหมาถูกมีดปักเข้าที่กลางหน้าผาก ถึงจะเป็นแบบนั้นเจ้าหมาก็ยังไม่ยอมแพ้ มันยังคงเห่าขู่โจรคนนั้นต่อไปจนกระทั่งเข้ากลัวและวิ่งหนีไป จากนั้นจึงค่อยหมดแรงสลบลงไปนอนกับพื้น     Wendel เห็นว่าเจ้าหมายังมีลมหายใจอยู่ จึงรีบพาตัวมันไปส่งสัตวแพทย์เพื่อช่วยชีวิตมันเอาไว้ แต่อาการของมันก็ยังน่าเป็นห่วงมากทีเดียว Animal Welfare Society of South Africa ซึ่งทำการรักษามันเล่าว่า “ทุกวินาทีมีค่าในการรักษาเจ้าหมา สติของมันยังคืนมาไม่เต็มที่ เราคิดว่าทางเดียวที่จะช่วยมันได้คือเอามีดออกมาให้เร็วที่สุดอย่างปลอดภัย”     โชคดีที่จุดที่มันถูกมีดปัก ไม่ได้โดนส่วนสำคัญของเจ้าหมาเลย จะเรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์สำหรับเด็กดีอย่างมันก็ได้ ทำให้เจ้า Duke รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด เจ้าของของมันเองก็โล่งใจมากที่เจ้าหมายังอยู่ดี…

เวลาเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ มักจะทำให้เราได้เห็นว่าบางคนใกล้ตัวเราไม่ได้รักเราจริงๆ อย่างที่คิด และในขณะเดียวกันก็จะทำให้เราเห็นว่ายังมีคนที่รักเรามากๆ อยู่ใกล้ตัวโดยที่เราไม่รู้อีกเช่นกัน เจ้า Bear อาศัยอยู่กับเจ้าของเก่าจนกระทั่งวันหนึ่งมันถูกรถยนต์ชน รถคันที่ชนมันหนีไปโดยไม่สนใจใยดี ทว่ายังมีคนแปลกหน้าที่เข้ามาช่วยนำตัวมันส่งสัตวแพทย์ได้ทันเวลา     เจ้าหมาได้รับบาดเจ็บที่ตาทั้ง 2 ข้างสาหัส สัตวแพทย์จึงจำเป็นต้องผ่าตัดนำตาทั้ง 2 ข้างออก ส่งผลให้มันกลายเป็นสุนัขตาบอด เรื่องเลวร้ายของ Bear ยังไม่จบเท่านั้น เนื่องจากเจ้าของเก่าของมันทิ้งมันไว้ที่โรงพยาบาล โดยไม่กลับมารับมันอีกเลย     ในขณะที่สถานการณ์ของ Bear ดูสิ้นหวัง ก็มีหญิงคนหนึ่งซึ่งทำงานในโรงพยาบาลที่มันรักษาตัวอยู่ รู้สึกเห็นใจและอยากช่วยเหลือมัน เธอจึงปรึกษากับ Katie ลูกสาวของเธอก่อน จากนั้นจึงตัดสินใจรับเจ้าหมาตาบอดเข้ามาดูแลในบ้านของตัวเอง ทำให้เจ้าหมามีบ้านอยู่อีกครั้ง     อย่างไรก็ตามการดูแลหมาพิการที่ต้องทำความเคยชินกับการมองไม่เห็น ก็มีอุปสรรคมากมายให้หญิงสาวต้องรับมือด้วย เนื่องจากเจ้าหมายังกลัวเรื่องที่เจอมาฝังใจอยู่ ทำให้มันไม่กล้าเดินไปไหนตามลำพัง แถมยังกลัวเสียงรถยนต์ด้วย เธอต้องให้มันอยู่ระหว่างขาของเธอ มันจึงจะอุ่นใจว่าตัวเองปลอดภัยแล้วเดินไปกับเธอได้     การที่ต้องตามดูแล Bear เกือบตลอดเวลาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เจ้าของใหม่ของมันก็รู้ว่าถ้าเธอให้ความรักและเวลากับมัน เจ้าหมาจะผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้อย่างแน่นอน ตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านด้วยกัน เด็กหญิง…

การที่เจ้าหมาคิดถึงเราเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ระวังอย่าปล่อยให้เจ้าหมาคิดถึงคุณจนเกินพิกัด ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันแบบนี้ นาย Li ซึ่งเป็นเจ้าของของไซบีเรียนฮัสกี้ตัวหนึ่งใน ได้ไปเยี่ยมญาติในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา และทิ้งให้เจ้าหมาอยู่บ้านที่เมืองเฉินโจว ประเทศจีน แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว แต่สำหรับเจ้าหมาดูเหมือนนั่นจะนานเกินรอจริงๆ เมื่อมันเห็นเข้ากลับมาบ้าน มันจึงกระโดดจากดาดฟ้าชั้น 2 ลงมาหาเขาด้วยความรักและคิดถึง   เจ้าตูบผู้คิดถึงเจ้านายจนทนไม่ไหว   โดดลงมาจากดาดฟ้าชั้น 2 ลงมากอดเขา   ดูภาพมุมสูงกันชัดๆ   ไม่ต้องห่วงเจ้าหมาหรอกว่ามันจะได้รับอันตราย มันสบายดีและดูจะดีใจมากที่ได้พบหน้าเจ้าของ ทว่านาย Li ที่ถูกเจ้าไซบีเรียนฮัสกี้น้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัมโดดลงมาหาจากที่สูงนั้น ย่อมไม่สบายดีแน่นอน เขาหมดสติแทบจะในทันที หลังจากที่ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองแล้ว จากผลเอ็กเรย์แพทย์ก็พบว่านาย Li คอหักและไขสันหลังเคลื่อนเลยทีเดียว จึงต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน แล้วนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกระยะหนึ่ง     อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้สติแล้วนาย Li บอกว่าตนเองไม่ได้โกรธหรือโทษเจ้าหมาเลย เขาเข้าใจว่ามันคิดถึงเขามาก และเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นอุบัติเหตุเท่านั้น ทว่าต่อไปนี้เขาก็คงจะระวังไม่ทิ้งมันไว้นานจนมันคิดถึงเขาเกิดไป แล้วก็จะพยายามใส่สายจูงให้มันเพื่อไม่ให้มันกระโดดมาจากชั้น 2 แบบครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเขาหายดีได้ออกโรงพยาบาลกลับไปเจอหน้ามัน ไม่อย่างนั้นเขาอาจได้เข้าโรงพยาบาลซ้ำ 2…    …

หมาน้อยเกิดมาพร้อมกับโรคร้ายทำให้มันเหลือเวลาใช้ชีวิตไม่มาก ถึงจะเป็นแบบนั้นทุกคนก็อยากทำให้มันมีความสุขที่สุด ผู้คนมากมายจึงนัดกันรวมตัวมาเพื่อทำสิ่งที่มันชอบที่สุด…นั่นคือการกอด หมาน้อยพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด Logan ถูกช่วยไว้โดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์กลุ่มหนึ่ง พวกเขาตรวจพบว่ามันเป็นโรคหัวใจร้ายแรงซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต     พวกเขาจึงส่งต่อมันไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Rescued Hearts Northwest ซึ่งมีความพร้อมด้านการช่วยเหลือมันมากกว่า โดยหวังจะให้มันมีชีวิตยืนยาว ทว่าหลังจากพวกเขาตรวจโรคให้มันอย่างละเอียดแล้ว ก็พบว่าเส้นเลือดในหัวใจของมันพันกันหนักมาก แม้แต่พวกเขาเองก็คิดว่าคงไม่สามารถช่วยมันได้ และคาดว่ามันมีเวลาเหลือไม่ถึง 1 ปีเท่านั้น หรือถ้าโชคร้ายอาจจะแค่เดือนเดียว     แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง พวกเขาก็ไม่ได้จมอยู่กับปัญหา พวกเขาพามันไปอยู่กับครอบครัวของ Lindie Saenz เพื่อให้อุปถัมภ์มันแทน โดยหวังว่ามันจะได้รับความสุขมากที่สุดในช่วงเวลาที่มีเหลืออยู่ Saenz และครอบครัวอยากให้มันได้เจอประสบการณ์มากมายที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงเริ่มพามันออกเดินทางไปเที่ยวเล่นในสถานที่ใหม่ๆ และให้มันกินอาหารอร่อยๆ มากมาย     ระหว่างที่พามันเที่ยวอยู่นั่นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นว่าไม่ว่าจะไปที่ไหน Logan ก็ชอบพบปะเพื่อนใหม่ระหว่างทางเสมอ มันชอบเข้าสังคมมากๆ และสิ่งที่มันชอบมากที่สุดคือการได้กอดกับคนพวกนั้น ในเมื่อพวกเขารู้ถึงสิ่งที่มันชอบแล้ว จึงอยากเอาใจมันด้วยการรวบรวมผู้คนมาเพื่อกอดมันโดยเฉพาะขึ้นมา มันจะได้มีความสุข     ในตอนแรกพวกเธอและกลุ่มช่วยเหลือสัตว์หวังว่าจะมีคนสัก 100 คนมาร่วมกันกอดมันก่อนมันจะจากไป ซึ่งก็เป็นจำนวนไม่น้อยเลย จึงต้องจัดตั้งงานกอดมันเป็นแคมเปญขึ้น ทว่าพอเริ่มกระจ่ายข่าวออกไป พวกเขาก็พบว่ามีคนมากมายพร้อมมอบความรักให้เจ้าหมา ไม่ทันไรก็มีคนลงชื่อจะมาร่วมกอดมันมากถึง 200 คนแล้ว และนี่คือภาพในงานวันที่พวกเขานัดกันมาร่วมกอดเจ้า Logan……

หมาที่คนชมกันว่าเป็นเด็กดี มักจะเป็นหมาที่มีนิสัยเป็นมิตร และอยู่เคียงข้างเจ้าของเสมอเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาต่อสู่กับปัญหา ทว่าหมากลุ่มนี้ทำได้มากกว่านั้น มันสามารถช่วยมนุษย์แบ่งเบาภาระหน้าที่โดยการทำงานได้ด้วย พวกมันจึงเหมาะสมกับตำแหน่งสุดยอดเด็กดีเป็นที่สุด วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่าสุดยอดเด็กดีเหล่านี้เขาช่วยงานมนุษย์ทำอะไรบ้าง แล้วเพื่อนๆ จะได้เห็นว่ามันเหมาะสมกับตำแหน่งสุดยอดเด็กดีขนาดไหน   น้องช่วยให้มนุษย์สร้างเกมโดยการเป็นโมเดลตัวละครให้   เจ้าหมาตำรวจช่วยดูแลหมาน้อยตุ๊กตาของตัวเองอีกที   พี่ตูบตัวนี้ช่วยมนุษย์ดมหารังผึ้งที่ติดเชื้อ เพื่อเอาไปทำวิจัยต่อ   เจ้าหน้าที่ให้กำลังใจอย่างเป็นทางการ   เจ้าของไปพักอยู่ อยากได้ทุเรียนแบบไหนบอกมา เดี๋ยวเราแถมให้   เจ้า Jake หมาประจำหน่วยดับเพลิงผู้ช่วยให้ความรู้เรื่องการหนีเพลิงกับเด็กๆ   พี่หมาผู้ทำงานหนัก ลงทุนมุดลงไปในท่อเพื่อตรวจสอบหาโจร An elaborate apparent bank heist has been foiled when a repair crew tending to a sinkhole discovered it was actually an underground tunnel leading to…

เราคิดว่าทุกคนน่าจะรู้จักสัตว์ที่เรียกว่า ‘เสือดาวดำ’ กันนะ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่หายากมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปแอฟริกา ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมาแทบจะไม่มีใครได้เห็นหรือถ่ายรูปมันได้แบบชัดเจนเลย จนเมื่อไม่นานมานี้มีช่างภาพหนุ่มคนหนึ่งที่ดั้นด้นไปออกตามหาถ่ายภาพมันถึงถิ่น และสามารถเก็บภาพมันกลับมาได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ถือเป็นคนแรกที่เก็บภาพเสือดาวดำในแอฟริกาได้ชัดเจนขนาดนี้ในศตวรรรษ     Will Burrard-Lucas เป็นช่างภาพหนุ่มชาวอังกฤษวัย 35 ปี เขามักจะถ่ายภาพสัตว์อยู่เสมอ และในฐานะที่เป็นช่างภาพสัตว์เขาก็มีความฝันว่าอยากถ่ายภาพเสือดาวดำสุดหายากให้ได้สักครั้งในชีวิต เขาจึงเดินทางไปที่ Laikipia Wilderness Camp ประเทศเคนย่า ซึ่งเป็นแถบที่มีข่าวลือว่ามีเสือดาวดำอาศัยอยู่ และบางครั้งก็มีคนถ่ายรูปมันแบบไม่ชัดได้จากแถวนั้นด้วย     เขาร่วมมือกับนักชีววิทยาจากสวนสัตว์ซานดิเอโก้ในการไปถ่ายรูปครั้งนี้ โดยหาจุดตั้งกล้องที่เหมาะสม และทิ้งกล้องเอาไว้หลายวันเพื่อให้มันจับภาพเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตเอง     เขาตั้งกล้องจับความเคลื่อนไหวทิ้งไว้ในป่าเพื่อถ่ายภาพเสือดาวดำ หลายวันต่อมา Lucas จึงกลับมาเก็บกล้องตามจุดต่างๆ ที่ตั้งไว้ และเมื่อเปิดดูกล้องตัวหนึ่งเขาก็พบภาพของสัตว์สีดำสนิทที่มีดวงตาสีเหลืองทองอย่างชัดเจน…เขาถ่ายภาพเสือดาวดำได้แล้ว!! เขาเล่าว่า “พวกเราเคยได้ยินว่ามีเสือดาวดำอาศัยอยู่ในทวีปนี้ แต่เรื่องเล่าเหล่านั้นก็ขาดรูปที่ชัดเจนมาเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีพวกมันอยู่จริง ผมยังแทบไม่เชื่ออยู่เลย ผมคิดว่าหลังจากเริ่มโปรเจ็กนี้แล้วผมคงไม่ได้ภาพเสือดาวดำในแอฟริกากลับมาจริงๆ หรอก แต่มันก็มาปรากฎิอยู่บนกล้องของผมอย่างไม่น่าเชื่อ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงามที่สุดเท่าที่ผมเคยถ่ายมาเลย”   และนี่คือภาพที่ Lucas ถ่ายมาได้   เป็นภาพเสือดาวดำที่ชัดที่สุดของทวีปแอฟริกาในรอบ 100 ปีนี้  …

เจ้าหมาพิตบูลล์ Lily ถูกช่วยมาครั้งแรกตอนมันอายุได้ 3 เดือน โดย กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Fur Friends In Need แยกมันมาจากเจ้าของที่ขังมันไว้ในสวนหลังบ้านทั้งวันทั้งคืน จากนั้นเป็นต้นมาเจ้าหมาก็ได้มาอยู่กับ Collin Brink ในฐานะสุนัขที่ถูกอุปถัมภ์ เขาเล่าว่ามันมีตาโตสีน้ำตาลและขนเรียบสวยทำให้มันดูน่ารักมากๆ     ได้มาอยู่กับพ่อชั่วคราวในบ้านหลังถูกช่วย   หลังจากนั้นไม่นานกฃุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็เริ่มโพสต์เรื่องของเจ้าหมาลงบนเพจ และเปิดให้คนยื่นคำขอรับเลี้ยงมัน ซึ่งก็มีคนให้ความสนใจเจ้าหมามากมาย ในที่สุดเจ้าหมาก็ได้ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่ดูสนใจมัน แถมมันยังเข้ากับหมาที่บ้านนั้นได้ดีด้วย ทุกคนคิดว่ามันจะได้เจอบ้านที่ตามหามานานแล้ว     จนกระทั่งครึ่งปีต่อมาครอบครัวนั้นก็เอา Lily กลับมาคืนกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ เนื่องจากมันนิสัยเปลี่ยนไป ไม่สามารถเข้ากับหมาตัวใหม่ที่พวกเขาเอามาเลี้ยงได้ และพวกเขาก็ไม่รู้จะรับมือกับมันยังไงดี มันจึงได้กลับไปอยู่กับ Brink ในบ้านอุปถัมภ์อีกครั้งโดยที่ครั้งนี้มันตัวโตแล้ว และนิสัยของมันก็เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างที่ว่าจริงๆ     เมื่อก่อนเจ้าหมาสามารถเข้ากับสัตว์ตัวอื่นในบ้านของ Brink ได้ ทว่าเมื่อกลับมาครั้งนี้มันเอาแต่แยกเขี้ยวขู่สัตว์ตัวอื่นแทบจะทุกครั้งไป ทำให้เขาจำเป็นต้องใส่ที่ครอบปากให้มัน เพื่อกันไม่ให้มันทะเลาะกับสัตว์ตัวอื่นจนเกิดเรื่อง โชคดีที่พอมันใส่ที่ครอบปากแล้วมันก็สามารถอยู่กับหมาตัวอื่นและเล่นกันได้อย่างสงบสุข     กลับมาครั้งนี้ต้องใส่ที่ครอบปากเวลาอยู่กับเพื่อน   ทว่านอกจากเรื่องนั้นแล้วนิสัยที่น่ารักของมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย Brink เล่าว่า “เจ้าหมาสนิทสนมกับคนที่มันชอบได้เร็ว มันเป็นหมาขี้สงสัยที่ชอบตามคุณไปทุกที่ มันจะมาส่งคุณที่หน้าประตูทุกครั้งเวลาคุณไปข้างนอก (โดยไม่ส่งสียงครางกวนใจคุณ)…

หากหน้าที่ของนายกเทศมนตรีคือการดูแลความสุขของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ คงบอกได้ว่านายกเทศมนตรีแห่งกรุงโซลคนนี้ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว เขาไม่เพียงแต่ดูแลประชาชนเท่านั้น แต่ยังห่วงพวกสุนัขอีกด้วย     นาย Park Won-Soon ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2013 เป็นคนที่รักและเห็นใจสุนัข เขามักจะคิดถึงปัญหาเรื่องสุนัขที่มีในเมืองเสมอ และเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมาเขาก็ได้กล่าวในงานประชุมกีฬาเกาหลีและคณะกรรมการโอลิมปิก ว่าเขาจะทำลายโรงฆ่าสุนัขให้หมดไปจากกรุงโซลให้ได้     จากข้อมูลของ กลุ่มสนับสนุนสิทธิสัตว์ในเกาหลี พบว่ามีสุนัขถูกใช้เป็นอาหารในแต่ละปีมากถึง 700,000-1,000,000 ตัวเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาหมาจรจัดในกรุงโซลที่มีอัตราการรับเลี้ยงต่ำอีกด้วย นาย Park เล่าว่า “ทุกปีมีสุนัขจรจัดกว่า 8,500 ตัวถูกทิ้งในโซล และ 1 ใน 4 ของพวกมันก็ถูกการุณยฆาตเพราะไม่มีใครรับเลี้ยง นอกจากนี้ผมยังได้ยินว่ามีสุนัขจรจัดอีกมากมายบนภูเขา Bukhan ผมรู้สึกว่ามันเป็นความรับผิดชอบที่ต้องช่วยพวกมัน…ผมมีความเชื่อในการสร้างโลกที่สงบสุขและปลอดภัยสำหรับสัตว์ด้วย”     ที่ผ่านมานายกเทศมนตรี Park ได้พยายามทำการช่วยเหลือพวกหมามาโดยตลอด ซึ่งทำให้ตัวเลขของสุนัขที่ถูกใช้เป็นอาหารลดลงในแต่ละปี เขายังเล่าอีกว่า “ในอดีตพวกเรามีโรงฆ่าสุนัขหลายแห่งในย่าน Cheongnyangni แต่ผมได้ทำการปิดมันด้วยวิธีต่างๆ เกือบหมดแล้ว… ปัจจุบันมีโรงฆ่าสุนัขเหลือเพียง 1 หรือ 2 แห่งเท่านั้นที่ผมไม่สามรถบังคบให้พวกเขาปิดกิจการได้…

มีแมวหลายตัวบนอินสตาแกรมที่โด่งดังเพราะความน่ารักสมบูรณ์แบบ ถึงเจ้าแมวตัวนี้จะไม่ดังเท่าพวกมัน แต่มันก็มีคนติดตามอยู่พอสมควรเนื่องจากหน้าตาของมันนั้นน่ารักแปลกๆ ในแบบที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ แมวเหมียว Olive มาเจอกับ Michelle Tranor ในสภาพที่ทั้งเนื้อตัวปกคลุมไปด้วยยางไม้ แล้วมันก็ป่วยเอามากๆ ด้วย มันน่าจะเพิ่งถูกเจ้าของเก่าทิ้งมา   https://www.instagram.com/p/BYySj9xlwbg/   หลังจากเธอได้เจอมันแล้ว Michelle ก็เอามันไปส่งให้สัตวแพทย์เพื่อรักษา มันต้องอาบน้ำยาอยู่หลายรอบเลยกว่าจะอาการดีขึ้น แต่พอรักษาเสร็จเธอก็ยังลืมดวงตาที่เขไม่เหมือนแมวตัวอื่นไม่ได้เลย เธอคิดว่ามันน่ารักดี จึงเอามันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านซะเลย   https://www.instagram.com/p/BcIkkVpl1np/   เธอคิดว่าหน้าตาของ Olive นั้นมีเสน่ห์มาก เพราะถึงจะไม่ได้ดูสวยงามสมบูรณ์แบบ แต่ดวงตาเบี้ยวๆ กับใบหน้าที่ผิดรูปนิดหน่อยของมัน ทำให้คนที่มองยิ้มออกตลอดเลย และดูเหมือนว่าเธอจะไม่ใช่คนเดียวที่คิดเช่นนั้น ชาวเน็ตก็คิดเหมือนกับเธอไม่มีผิด พอ Michelle สร้างอินสตาแกรมให้เจ้าแมวแล้ว จึงมีคนมากดติดตามกันจนยอดตามขึ้นหลักหมื่นอย่างรวดเร็ว   https://www.instagram.com/p/BgjP8E4AotY/   ตอนนี้เจ้าแมวไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว เนื่องจากถึงจะตาเขแต่มันก้มองเห็นได้ตามปกติ แถมยังมีทาสคอยเอาใจอยู่ทุกวี่ทุกวัน มิหนำซ้ำมันยังช่วยให้ทาสและผู้ติดตามในอินสตาแกรม ยิ้มไปกับใบหน้าที่ดูน่ารักปนฮาของมันได้ ทุกครั้งที่มีรูปใหม่เชียวล่ะ   https://www.instagram.com/p/BlEBesqDAjn/   หากเพื่อนตกหลุมรักเจ้า Olive เข้าให้แล้ว อย่าลืมเข้าไปติดตามดูชีวิตของมันในอินสตาแกรม crazy_eyes_olive ด้วยนะ…

เหมียวจรจัดตัวนี้โชคดีกว่าตัวอื่น ตรงที่มันมีมนุษย์คนหนึ่งขับรถเอาอาหารมาป้อนให้ประจำ แต่ดูเหมือนว่ามันอยากได้บ้านมากกว่าอาหาร มันจึงบังคับให้เธอพามันไปบ้านด้วยซะเลย Yagmur เป็นหญิงผู้รักแมวจากประเทศตุรกี เมื่อว่างเธอมักจะขับรถเอาอาหารไปให้แมวจรจัดเสมอ และหนึ่งในแมวที่เธอให้อาหารประจำก็คือเจ้า Leo     ทุกครั้งที่เธอขับรถมายังที่ประจำ เจ้า Leo จะเดินเข้ามาหาเธอเพื่อมากินอาหารเสมอ แต่เธอก็ไม่ได้เอามันไปเลี้ยงหรอกนะ เธอเพียงแค่ให้อาหารมัน ลูบตัวนิดหน่อยแล้วก็จากไปเท่านั้น จนอยู่มาวันหนึ่ง Leo ก็ไม่ได้ต้องการแค่อาหารอีกต่อไป หลังจากที่มันกินอาหารจาก Yagmur เสร็จแล้ว มันก็ปีนขึ้นไปบนรถของเธอแล้วเข้ามาในรถจากทางหน้าต่างก่อนที่เธอจะได้ออกรถไป     จะรีบไปไหนเหรอมนุษย์ พาเราไปด้วยสิ   มิหนำซ้ำเจ้าแมวก็ยังไม่ยอมลงจากรถด้วย ไม่ว่าเธอจะพยายามไล่ Leo ลงจากรถยังไง  มันเอาแต่นอนงีบบนรถท่าเดียวเลย ดูเหมือนเจ้าแมวจะคิดได้ว่าถ้ารอให้เธอมาหาอย่างเดียว กว่าจะได้กินอาหารแต่ละครั้งก็คงนานแน่ๆ มันจึงอยากกลับไปอยู่บ้านกับเธอด้วย   ไม่ยอมลงรถหรอก จะไปอยู่บ้านด้วย   แน่นอนว่าทาสแมวหน้าไหนก็ตามได้เจอลูกอ้อนแบบนี้แล้ว ก็ย่อมปฏิเสธพวกมันไม่ลง วันนั้น Yagmur จึงได้พา Leo กลับไปอยู่บ้านด้วยกันตามที่เจ้าแมวหวัง ตอนนี้เจ้าเหมียวก็เลยมีชีวิตที่สุขสบายแล้ว มันไม่ต้องรอคนมาให้อาหารหรือแย่งอาหารกับแมวตัวอื่น มันมีทาสเทอาหารไว้ให้มันโดยเฉพาะทุกวัน ยินดีที่แกยึดบ้านสำเร็จด้วยนะเจ้าเหมียว     ดูคลิปวิดีโอเรื่องราวของ…

เราว่าตอนเด็กๆ แทบทุกคนต้องเคยมีตุ๊กตาตัวโปรดไว้ในห้องแน่นอน หรือบางคนก็ยังนอนกอดมันอยู่ถึงแม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม และก็ไม่ใช่แค่มนุษย์หรอกนะที่ติดตุ๊กตาตัวโปรดน่ะ สัตว์เลี้ยงเองก็มีตุ๊กตาตัวโปรดของตัวเองเช่นกัน เนื่องจากเวลาที่ได้นอนกอดตุ๊กตา จะทำให้เรารู้สึกอบอุ่นกว่านอนตามลำพัง นอกจากการกอดตุ๊กตาจะทำให้สัตว์เลี้ยงของเรารู้สึกอบอุ่นแล้ว ก็ยังทำให้คนที่มองพวกมันอย่างเรายิ้มตามไปด้วย เนื่องจากภาพของมันที่นอนกอดกับตุ๊กตานั้นน่ารักเกินกว่าจะมองข้ามได้   หนูน้อยมีตุ๊กตากอดแล้วหลับปุ๋ย   เจ้าเหมียวชอบกอดตุ๊กตาหนูซะงั้น   นี่ก็เป็นหนู แต่เป็นหนูมิกกี้เม้าส์   ท่าทางจะหวงตุ๊กตามากนะนั่น https://www.instagram.com/p/BSVbQuagnLQ   ขอนอนหนุนพี่นินจาเต่าหน่อย https://www.instagram.com/p/tPlWShrCOl   ทำท่าเดียวกับตุ๊กตาตัวโปรดเลย https://www.instagram.com/p/BktPZnOg8vQ   โตมาท่าจะร้ายนะไอ้เสือ https://www.instagram.com/p/Bdokmcll0bX     ได้กอดตุ๊กตาแล้วมันฟินจริงๆ นะเออ https://www.instagram.com/p/BmkXc2wj6UZ   หมาปั๊กกอดหมู น่าเอ็นดูอะ https://www.instagram.com/p/9Jb01kEDaO   ท่าจะนอนกอดกันมานาน ตุ๊กตาเป็ดงี้เยินเชียว https://www.instagram.com/p/Bm1SP-NlF7n   สายตาของมันบอกว่า ‘ตุ๊กตาของข้าใครอย่าแตะ’ https://www.instagram.com/p/BZl0eyDg1YR   เหมือนพวกแมวจะชอบตุ๊กตาหนูจริงๆ นะเนี่ย สงสัยเอาไว้ซ้อมตะปบ https://www.instagram.com/p/BsrkfInlID3   ตุ๊กตาตัวนี้แหละรักที่สุด https://www.instagram.com/p/BrGBhD7FbPh  …

มีหมามากมายที่ยังเหงาหงอยและรอคอยเจ้านายคนใหม่มารับตัวอยู่ ทว่าคงไม่มีหมาตัวไหนเหงาเท่าเจ้าตัวนี้หรอก มันอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์มานานเกือบ 2 ปี และได้รับฉายาว่า ‘สุนัขที่เดียวดายที่สุดในอังกฤษ’ เจ้าหมาสายพันธุ์สีขาว-ดำ Hector เคยถูกช่วยมาจากเจ้านายเก่า เนื่องจากเขาดูแลมันได้ไม่ดีอย่างที่ควรจะเป็น จากนั้นมามันก็ได้มาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Little Valley Animal Shelter ในปลายปี 2017     มันเป็นสุนัขที่อาสาสมัครต่างพากันรัก Jo Evans ซึ่งเป็นผู้จัดการของศูนย์พักพิงเล่าให้ฟังว่า “Hector เป็นหมาที่ตลกมาก มันทำให้พวกเรายิ้มออกได้เสมอ และมันก็เป็นหมาตัวโปรดในสายตาคนที่ได้เจอมันเสมอมา อาสาสมัครทุกคนก็รักมันทั้งนั้น แต่พวกเราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมมันถึงถูกมองข้ามเสมอ…ทั้งที่มันมีความรักให้คุณอย่างเปี่ยมล้นเลยล่ะ”     ปัจจุบันเจ้าหมาอยู่ศูนย์พักพิงมานานกว่า 500 วัน และสื่อที่ลงข่าวเรื่องมันก็ยกให้มันเป็น ‘สุนัขที่เดียวดายที่สุดในอังกฤษ’ ด้วยระยะเวลารอคอยเจ้าของที่ยาวนานนี่เอง เนื่องจากมันรอเจ้าของมานานจนโตเต็มวัยแล้ว เจ้าหมาจึงตัวสูงใหญ่ ตอนมันยืน 2 ขาความสูงนี่เลยคนตัวเตี้ยๆ ไปเลย ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนไม่สนใจมัน เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่หาเลี้ยงหมาจะอยากได้หมาเด็ก     อีกสาเหตุที่ทางศูนย์พักพิงสัตว์คิดว่าทำให้ไม่มีคนเลี้ยงมันสักที น่าจะเป็นเพราะเจ้าหมามีปัญหาเรื่องการอยู่ตามลำพังด้วยนั่นเอง ก่อนหน้านี้มันอยู่กับเจ้าของที่ไม่สนใจกันมาก่อน เจ้าหมาจึงเกิดอาการหวาดกลัวและส่งเสียงเห่าเมื่อไม่ได้เห็นเจ้าของอยู่ในสายตา นอกจากนี้มันก็ยังมีปัญหาเรื่องความบ้าพลังด้วย ทางศูนย์พักพิงจึงอยากได้คนที่ชอบทำกิจกรรมหรือชอบออกกำลังมารับเลี้ยงมัน เพราะน่าจะเข้ากับมันได้ดีทีเดียว     ถึงเจ้าหมาอาจจะหาคนเลี้ยงยากเพราะนิสัยส่วนตัวของมันด้วย แต่จะปล่อยทิ้งให้มันอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ต่อไปเรื่อยๆ ก็น่าสงสารอยู่ดี หวังว่ามันจะได้เจอคนที่เข้ากันได้มารับเลี้ยงไปโดยเร็วนะ…

ครั้งหนึ่งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Furry Friends Refuge เคยไปเจอหมากลุ่มหนึ่งถูกทิ้งใส่กรง 2 กรงในบริเวณที่จอดรถ กรงของพวกมันดูแคบมากจนแทบขยับตัวไม่ได้ แต่เมื่อพวกเขาช่วยหมาทั้ง 9 ตัวเอาไว้แล้วพาไปหาสัตวแพทย์ พวกเขาถึงได้เข้าใจว่าที่พวกมันไม่ขยับตัว ไม่ได้เป็นเพราะไม่มีที่ให้ขยับ แต่เป็นเพราะขนของพวกมันพันกันยุ่งต่างหาก     ขนของสุนัขแต่ละตัวพันกันเป็นก้อนชนิดที่ว่าเพียงพวกมันขยับตัวนิดๆ หน่อยๆ ขนที่พันกันก็จะถูกดึงจนตึง ส่งผลให้พวกมันรู้สึกเจ็บแล้ว นอกจากนี้ทุกตัวก็มีเห็บหมัดอาศัยอยู่ตามขนเต็มไปหมด โดยเฉพาะในส่วนที่ขนพันกันเป็นกระจุก ซึ่งคงทำให้พวกมันคันจนรำคาญมากเลย     พวกเธอจึงไม่รอช้า รีบตัดขนให้สุนัขทั้ง 9 ตัวจนขนของพวกมันกลับมาสั้น พวกหมาดูสบายตัวขึ้นเยอะเลยหลังจากที่พวกมันถูกช่วย     ขนกองใหญ่เกือบเท่าตัวเท่าหมาแน่ะ   หมาทุกตัวล้วนทำตัวไม่ถูกกับการอยู่ร่วมกับมนุษย์ พวกมันไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไงเวลาถูกลูบ หรือเวลามีมนุษย์เข้าหา เห็นได้ชัดเจนเลยว่าคนที่เลี้ยงพวกมันก่อนหน้านี้ไม่เคยให้ความสนใจพวกมันเลยสักนิด ซึ่งความไม่ใส่ใจที่ว่านั้นก็น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้ดูแลพวกมัน และปล่อยปละละเลยเจ้าหมาจนขนของพวกมันพันกันยุ่งด้วยเช่นกัน     ตัดขนให้แล้วดูสวยขึ้นเยอะ   Andrea Touzani ซึ่งเป็นผู้จัดการของศูนย์พักพิงสัตว์ที่ดูแลพวกมันอยู่บอกว่า “พวกมันไม่ได้รับการฝึกให้เข้าสังคมเลย จึงต้องใช้ความพยายามมากหน่อยในการทำให้พวกมันชินคน แต่ก็ยังดีที่พวกมันชอบให้เราหวีขนทุกตัว นอกจากนี้พวกมันก็ไม่ได้ถูกฝึกมาให้เป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านด้วย แต่ดูจากการที่พวกมันฟื้นตัวในด้านอื่นได้ดีแล้ว ไม่นานพวกมันก็คงจะรู้ว่าการไปอยู่บ้านกับมนุษย์ต้องทำตัวยังไง”     พอเจ้าหมาได้รับการฝึกเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถเปิดให้คนมาขอรับเลี้ยงพวกมันได้ ทีนี้พวกมันจะได้มีโอกาสสัมผัสความสุขในการอยู่ร่วมกับมนุษย์และมีคนเอาใจใส่สักที…

เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาเรื่องจิตใจหรืออารมณ์ มักจะมีสัตว์คู่ใจที่เป็นสัตว์ช่วยเยียวยาจิตใจอยู่ด้วย โดยส่วนมากก็จะเป็นหมาหรือแมว แต่คุณลุงคนนี้มีสัตว์เยียวยาจิตใจที่ไม่น่าจะเหมือนใคร และบางทีก็คงไม่มีใครอยากลองเหมือนด้วย สัตว์ที่ว่าก็คือจระเข้ที่เขาเลี้ยงเอาไว้นั่นเอง     ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ Joie Henney อาศัยอยู่ มีจระเข้ตามธรรมชาติอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ บางครั้งพวกมันก็เข้ามาในแถบที่คนอาศัยอยู่ ชาวบ้านบางส่วนจึงกังวลว่ามันอาจทำอันตรายพวกเขา และเลือกที่จะฆ่าพวกมัน…ด้วยความเป็นห่วงจระเข้น้อยตัวหนึ่ง Henney จึงเก็บมันเอามาเลี้ยงไว้     Henney ตั้งชื่อมันว่า Wally เขาเลี้ยงมันเอาไว้ด้วยกันในบ้านของตัวเองเลย และดูเหมือนมันจะรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของคุณลุงที่เก็บมันมาเลี้ยงด้วย เจ้าจระเข้จึงมักจะเข้ามากอดและมอบกำลังใจให้ Henney บ่อยๆ ซึ่งทำให้คุณลุงซึ่งมีอาการซึมเศร้ารู้สึกดีขึ้นมากเลยทีเดียว เขาบอกว่ามันช่วยให้เขาอารมณ์ดีมากกว่ายาที่หมอให้มาซะอีก เมื่อ Wally อายุได้เกือบ 4 ปี คุณหมอก็เห็นว่ามันช่วยให้อาการของคุณลุงดีขึ้นมากจริงๆ มันจึงถูกลงทะเบียนให้เป็นสัตว์เยียวยาจิตใจของคุณลุงอย่างเป็นทางการ     Wally ชอบกอดให้กำลังใจ Henney เสมอ บางครั้งเวลาที่เขารู้สึกไม่ดีมันก็จะเข้ามาหาเขาเองเหมือนมันสัมผัสได้ว่าคุณลุงต้องการมัน หรือบางครั้งมันก็ไปนอนบนเตียงกับเขาตอนที่เขารู้สึกไม่ค่อยสบายด้วย แต่ถึงมันจะได้เป็นสัตว์เยียวยาจิตใจแล้ว คุณลุงก็ไม่ได้พามันออกไปทุกที่หรอกนะ เขารู้ดีว่าทุกคนไม่ได้รู้สึกดีกับจระเข้ หรือเข้าใจว่า Wally ไม่เป็นพิษเป็นภัย เขาจึงพามันไปข้างนอกในที่ที่เขารู้ว่าคนจะต้อนรับมันเท่านั้น อย่างเช่นร้านของคนรู้จักที่สนิทกัน หรือที่ที่เคยพา Wally ไปมาก่อนแล้วและเห็นว่าคนที่นั่นชอบมัน…

หากเราสามารถนำเอางานอดิเรกของตัวเอง มาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นและตัวเองได้ก็คงจะดีไม่น้อยเลย เหมือนแบบที่หนุ่มบราซิลคนนี้กำลังทำอยู่     Amarildo Silva เป็นช่างฝีมือหนุ่มจากบราซิลผู้ชื่นชอบการทำงานฝีมือมาก โดยเฉพาะการนำของที่คนอื่นไม่ใช้แล้วมาทำให้เกิดประโยชน์ใหม่ เมื่อ 2 ปีก่อนเขาได้เริ่มต้นการนำยางรถยนต์ใช้แล้วที่กองอยู่เกลื่อนกลาด มาดัดแปลงและตกแต่งซะใหม่ จนกลายออกมาเป็นที่นอนสัตว์ที่ดูสวยงามและสะดวกสบายได้อย่างเหลือเชื่อ     เอายางรถมาดัดแปลงออกมาดูดีมากๆ !!   แรงบันดาลใจในการทำที่นอนจากยางรถของ Silva เริ่มจากการที่เขาเห็นหมาจรจัดและแมวจรจัด มักจะใช้ยางรถทิ้งแล้วเป็นที่ซุกหัวนอน ประกอบกับจำนวนยางรถทิ้งแล้วที่มีอยู่มากมายในชุมชนนั้นสามารถหามาได้ง่าย เขาจึงลองเอามันมาประยุกต์ซะใหม่ และเติมกลิ่นอายความเป็นบ้านให้กับที่นอนสัตว์เลี้ยงจากยางล้อรถนี้     ยางล้อรถแต่ละอันก็จะมีลายและสีไม่เหมือนกันด้วยนะ ดูสวยงามและไม่ซ้ำซาก   โดยเขาจะเริ่มต้นจากการคัดยางที่ยังสภาพใช้ได้อยู่ นำมาตัดให้ได้รูปแบบที่ต้องการ จากนั้นก็จะเอายางไปล้างให้สะอาด แล้วจึงลงสีตกแต่งให้ดูดีขึ้น ซึ่งการที่เขาทำที่นอนสัตว์เลี้ยงจากล้อรถ ก็เป็นทั้งการช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีที่นอนสวยๆ ใช้ ช่วยลดปริมาณยางที่คนทิ้งโดยการรีไซเคิล และก็เป็นการหารายได้เสริมอีกทางหนึ่งให้กับตัวเองด้วย นอกจากจะสวยงามแล้ว ที่นอนดัดแปลงจากยางรถยนต์ของเขายังนอนสบายมากๆ เลยล่ะ ดูได้จากสีหน้าของเจ้าหมาแมวแต่ละตัวที่ได้ลองนอนที่นอนสัตว์เลี้ยงของเขาแล้วนั่นเอง     ที่นอนใหม่สบายถูกใจล่ะสิ   เจ้าแมวนี่นอนชิลเลย เจอที่นอนโปรดอันใหม่แล้ว   ให้สีหน้าบอกละกันว่าสบายขนาดไหน   จะเอาไว้ให้คุณแม่หมานอนกับลูกๆ ก็ยังได้ เพราะที่นอนกว้างมาก…

Whitney King Cahoon เลี้ยงสุนัขลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ (โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ผสมลาบราดอร์) วัย 9 ปีเอาไว้ตัวหนึ่งชื่อว่า Zero โดยปกติแล้วมันเป็นหมาที่มีนิสัยขี้เล่นตอนอยู่กับครอบครัว แต่ถ้าต้องพบเจอสิ่งที่ไม่คุ้นชินมันจะกลายเป็นหมาขี้กลัวทันที ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม ดังนั้น Cahoon จึงค่อนข้างรู้สึกแปลกใจ เมื่อเจ้าหมาช่วยวิ่งไล่โจรที่ปรี่เข้ามาขโมยของที่บ้าน จนเขาหนีหัวซุกหัวซุนไปได้     ในเช้าวันหนึ่งตอนที่ไม่มีใครอยู่แถวหน้าบ้านของ Cahoon มีชายคนหนึ่งทำท่าทีเหมือนมาวิ่งออกกำลังกาย แต่พอได้จังหวะก็รีบวิ่งเข้ามาคว้าเอาพัสดุที่อยู่หน้าประตูบ้านไป ทุกอย่างเหมือนจะเป็นไปได้สวยสำหรับเขา แต่ในขณะที่เขากำลังจะหนีขึ้นไปบนรถของเพื่อนที่รอรับอยู่นั่นเอง เจ้า Zero ก็วิ่งออกมาจากบ้านด้วยความรวดเร็ว และเห่าใส่พวกเขาอย่างกล้าหาญ โจรทั้ง 2 คนจึงตื่นตกใจกลัว คนที่ขับรถอยู่ก็รีบเร่งรถออกไปเพื่อหนีเจ้าหมา ส่วนคนที่ขโมยของเองก็ทำอะไรไม่ถูก ต้องโยนของที่ขโมยมาลงกับพื้น แล้วรีบขึ้นรถหนีไปเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากภาพของกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าบ้าน      Cahoon บอกว่า “ฉันไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าหมาจะตามพวกโจรไป นั่นทำให้ฉันภูมิใจในตัวมันมากที่สามารถทำให้โจรกลัวได้ มันทำได้ดีมากจริงๆ” แม้ว่าเจ้าหมาจะทำตัวสบายๆ เหมือนเดิม ไม่ได้คิดว่าสิ่งที่ทำนั้นยิ่งใหญ่อะไร และของที่อยู่ในกล่องซึ่งเกือบถูกขโมยไปก็มีมูลค่าแค่ประมาณ 100 กว่าบาท แต่สิ่งที่มันทำก็ทำให้เจ้าของภูมิใจในตัวเจ้าหมามากทีเดียว     ที่มา: the…

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนรักสัตว์ทั่วโลก เราได้ใกล้ชิดกับมันมาเนิ่นนาน และก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเรารู้จักพวกมันในทุกแง่มุมแล้ว วันนี้ #เหมียวอาตี๋ เลยลองรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับพวกมันมาให้เพื่อนๆ ดู เผื่อว่าพวกเราจะได้รู้จักมันดีมากยิ่งขึ้น   1. แต่เดิมปลอกคอหนามไม่ได้ใส่แค่เท่ๆ เท่านั้น   ปัจจุบันปลอกคอที่มีหนามติด มักจะใช้ใส่ให้เจ้าหมาเป็นเครื่องประดับ แต่ถ้าย้อนกลับไปในยุคกรีกโบราณ พวกเขาจะใช้หนามแหลมๆ ที่เป็นอันตรายมาทำปลอกคอ เพื่อใช้ป้องกันไม่ให้สุนัขถูกหมาป่าหรือสัตว์อื่นกัดคอซึ่งเป็นจุดอ่อนของพวกมัน   2. หนวดสุนัขช่วยนำทางในความมืดได้   ในความมืดที่การมองเห็นจำกัด สุนัขจะใช้การดมกลิ่น และหนดวซึ่งอยู่บริเวณขมูกของสุนัขช่วยนำทาง เนื่องจากหนวดของพวกมันรับความสู้สึกได้ดี เวลากระแสลมที่มาสัมผัสเปลี่ยน พวกมันก็จะรู้ว่าทางข้างหน้าเป็นอย่างไรบ้าง   3. สุนัขฉลาดเทียบเท่ากับเด็ก 2 ขวบ   จากการวิจัยแล้ว พบว่าสุนัขมีความสามารถในการเรียนรู้ และแสดงออกคล้ายเคียงเด็กอายุ 2 ปี แต่นั่นไม่ได้แปลว่าพวกมันไม่ฉลาดหรอกนะ คุณแค่ไม่ทันคิดว่าเด็ก 2 ขวบก็ฉลาดมากกว่าที่คุณคิดเช่นกัน   4. สุนัขสามารถรู้สึกอิจฉาได้   อย่าคิดว่าพวกมันเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงที่คิดอะไรซับซ้อนไม่ได้เท่านั้น สุนัขเองก็มีความรู้สึกละเอียดอ่อน และจากการทดลองมันก็รู้สึกอิจฉาได้เหมือนมนุษย์ พวกมันสามารถอิจฉาได้แม้แต่สิ่งไม่มีชีวิตที่คุณให้ความสนใจมากกว่ามัน   5.…

ที่ผ่านมาเรารู้ว่าการลูบหรือกอดสุนัขส่งผลดีต่อใจ แม้จะอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไรก็ตาม แต่ตอนนี้มีนักวิทยาศาสตร์ทำวิจัยออกมาอธิบายแทนเราแล้ว ว่าตอนลูบหมาเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้าง แล้วทำไมถึงรู้สึกดี ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนว่าการสัมผัสสิ่งต่างๆ นั้น จะทำให้ร่างกายของเรามีความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป โดยความรู้สึกเหล่านี้ได้แก่ รู้สึกดี, รู้สึกเป็นกลาง และรู้สึกแย่ ซึ่งจะถูกจำแนกผ่านสมองส่วนที่เรียกว่า  anterior cingulate cortex     ซึ่งหากเราสัมผัสสิ่งที่อยู่ในกลุ่มรู้สึกดี มันจะทำให้สมองของเราหลั่งสารให้ความสุขอย่างเช่น เซโรโทนิน และ โดฟามีน ออกมา ซึ่งสาร 2 ตัวนี้เป็นสารให้ความสุขแบบเดียวกันที่กระตุ้นโดยยาบ้า ยาอี หรือโคเคนเลยล่ะ คนที่เป็นโรคซึมเศร้าซึ่งมีสาเหตุจากการมีระดับเซโรโทนินกับโดฟามีนในสมองต่ำ ก็จะได้รับผลดีจากการลูบหมาไปตรงๆ เลย แก้ไขได้ถูกจุด ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแน่นอน     ข้อดีของของการเลี้ยงหมาไม่ได้มีเท่านี้นะ นอกจากการสัมผัสพวกมันแล้ว แค่จ้องมองพวกมันก็ทำให้เรารู้สึกดีได้เช่นกัน โดยการมองตาเจ้าหมาจะทำให้ร่างกายของเราหลั่งสารที่ชื่อ ออกซิโทซิน ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกันที่ช่วยให้แม่รู้สึกผูกพันกับลูก แต่ร่างกายจะหลั่งสารนี้กับหมาที่เราสนิทแล้วเท่านั้นนะ หมาแปลกหน้าไม่นับ     นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมการเลี้ยงหมาถึงช่วยให้เรามีความสุขได้ และเป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าหมาถึงถูกใช้เป็นสัตว์บำบัดอย่างแพร่หลาย ดังนั้นจงดีใจซะเถอะถ้าคุณเลี้ยงหมาเอาไว้ เพราะแค่นั้นก็ถือว่าคุณมีแหล่งความสุขมากกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงหมาอีกอย่างหนึ่งแล้ว   ที่มา: I Heart Dog, Animal Channel

คุณเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติ อย่างการติดต่อกับคนที่ล่วงลับไปแล้วไหม? ครอบครัวของคุณยายเชื่อว่าพวกเธอเพิ่งได้รับข้อความจากคุณแม่ที่เพิ่งเสียไป ในรูปแบบของนกคาร์ดินัล เมื่อไม่นานมานี้คุณยายทวด Dorothy Booth เพิ่งเสียชีวิตไปด้วยวัย 97 ปี ทำให้ครอบครัวของเธอรู้สึกเศร้าเสียใจและคิดถึงเธอมาก   คุณยายทวด Dorothy   Angela Abbott Patteson ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ของบ้านเล่าว่า “คุณแม่และลูกสาวเคยพูดติดตลกกันว่า ถ้าหากเธอจากไปและได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ ช่วยส่งสัญญาณมาบอกให้พวกเรารู้ด้วย และถ้าให้ดีก็ส่งนกคาร์ดินัลมาบอกละกัน เพราะมันเป็นนกที่คุณยายชอบมากที่สุด…คุณยายก็เลยตอบว่า ‘ฉันจะลองดูก็แล้วกัน’” ไม่มีใครคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องตามบทสนทนานั้นขึ้นจริงๆ…หลังจากที่ฝังร่างของ Dorothy เสร็จเพียงแค่วันเดียว ก็มีนกคาร์ดินัลตัวหนึ่งบินเข้ามาในบ้านของ Debbie และ Jeanne ซึ่งเป็นลูกสาวของยายทวด     นกตัวนั้นบินเข้ามาในครัวแล้วเอาแต่ยืนนิ่งรอพวกเธอ แล้วพอคนในครอบครัวเอื้อมมือไปหามัน เจ้านกก็ยอมให้พวกเขาอุ้มง่ายๆ ผิดนิสัยของนกด้วย การมาเยือนของมันต่างก็ทำให้คนในครอบครัวทึ่ง มันทั้งแปลกและประจวบเหมาะเหมือนกับเจ้านกเป็นตัวแทนของคุณยายมาบอกพวกเธอจริงๆ แต่เท่านั้นยังไม่พอนะ  Debbie กับ Jeanne ต้องทึ่งมากกว่าเดิมอีก เนื่องจากตอนที่พวกเธอเอานกตัวนี้ไปปล่อย มันกลับไม่ยอมบินจากไปเหมือนนกตัวอื่น…มันบินกลับมาเกาะอยู่บนไหล่ของเธอ       ทั้งครอบครัวต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเลยทีเดียว กว่าที่เจ้านกคาร์ดินัลตัวนี้จะยอมขึ้นไปเกาะบนกิ่งไม้ แล้วบินจากพวกเธอไป ไม่ว่าใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ทั้ง Debbie, Jeanne และ…

ถ้าหากคุณเป็นคนรักสัตว์เลี้ยงที่ชอบแต่งตัวสวยงามให้พวกมัน และก็ชื่นชอบการ์ตูนรื่อง เซเลอร์มูน (Sailor Moon) หรือ ดราก้อนบอล (Dragon Ball) คุณจะต้องชอบชุดพวกนี้แน่ๆ เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Bandai ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิของเซเลอร์มูนและดราก้อนบอลอยู่ เปิดเผยว่าจะทำชุดคอร์สเพลย์และสินค้าให้เจ้าหมาเจ้าแมวออกมาเพิ่ม โดยอยู่ในธีมของการ์ตูนทั้ง 2 เรื่องนี้ โดยทางบันไดได้ร่วมมือกับบริษัท Petio ซึ่งเป็นบริษัทขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ในการทำสินค้าชุดดังกล่าวออกมา และหน้าตาของชุดก็ดูน่ารักน่าสะสมสำหรับทาสหมาทาสแมวที่แฟนการ์ตูนทั้ง 2 เรื่องมากเลยทีเดียว   โดยชุดที่ทำออกมาได้แก่ ชุดเซเลอร์มูนสำหรับเจ้าเหมียว   ชุดเซเลอร์มูนสำหรับเจ้าตูบ   ชุดเซเลอร์เมอร์คิวรี่   ชุดเซเลอร์จูปิเตอร์   ชุดเซเลอร์วีนีส (จริงๆ มีชุดเซเลอร์มาร์สด้วยนะ แต่ไม่มีรูปมาฝาก)   ส่วนเรื่องดราก้อนบอล ก็มีชุดสีส้มซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอกโงกุน   และก็มีชุดชาวไซย่าที่เบจิต้าใส่เป็นประจำด้วย   รับรองว่าถ้าเพื่อนๆ หาชุดพวกนี้ไปให้มันใส่ ยิ่งถ้าบ้านมีแมวหลายตัวด้วยแล้ว จะให้ความรู้สึกเหมือนคุณได้อยู่ร่วมกับแก็งเซเลอร์ครกลุ่มเลยทีเดียว นอกจากชุดที่ทำให้พวกมันดูคล้ายตัวละครในเรื่องเซเลอร์มูนและดราก้อนบอลแล้ว ก็ยังมีสินค้าอื่นๆ อย่างเช่นบ้านแมวและหมอนสำหรับสัตว์เลี้ยงอีก ซึ่งก็ดูน่ารักไม่แพ้กันเลย   บ้านแมวเหมียวแห่งจันทรา   กระสวยอวกาศของชาวไซย่า  …

#เหมียวอาตี๋ คิดว่าเพื่อนๆ ในนี้ก็น่าจะมีคนชอบความน่ารักของหมูเหมือนกัน ก็มันทั้งน่ารัก ทั้งดูนุ่มนิ่มจะให้ไม่ชอบก้คงยากเนอะ แต่ปกติแล้วคนรักสัตว์มักจะไม่ค่อยลงรูปหมูกันสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหมาเจ้าแมวมากกว่า ทำให้เราไม่ค่อยได้เห็นความน่ารักของเจ้าหมูกันบ่อยเท่าไหร่ วันนี้เราก็เลยรวบรวมอินสตาแกรมเจ้าหมูสุดแสนน่ารัก มาฝากเป็นของขวัญให้เพื่อนๆ คนรักหมูได้ติดตามกัน มีทั้งหมูจิ๋ว หมูตัวโตและหมูที่มาเป็นคู่เลยทีเดียว   1. Prissy และ Pop (@prissy_pig) คู่หูหมูชีวิตดี๊ดี https://www.instagram.com/p/BtLdrzilAwo/?utm_source=ig_embed   2. Oliver เจ้าหมูผจญภัย (@oliverthetravelingpig) https://www.instagram.com/p/BpAk-rAAsHh/?utm_source=ig_embed   3. Esther (@estherthewonderpig) เจ้าหมูขี้เกียจสุดแสนสบาย https://www.instagram.com/p/BsDggnwAKB_/?utm_source=ig_embed   4. Pickles (@livingwithpickles) หมูน้อยผู้สร้างเสียง ASMR https://www.instagram.com/p/Bs_V8yzAVd3/?utm_source=ig_embed   5. River (@river.theminipig) หมูจิ๋วสีดำยิ้มเก่ง https://www.instagram.com/p/BtYfmL-D5Jg/?utm_source=ig_embed   6. Paris และ Luna (@paristheminipig) กับชีวิตในบ้านของพวกมัน https://www.instagram.com/p/BsooelMH9M2/?utm_source=ig_embed   7. Hamlet (@hamlet_the_piggy) หมูนักบำบัดผู้มากับลุคคูลๆ https://www.instagram.com/p/Bsgn0kzhE8a/   8. Morita (@morita_thepiglet)…

ทาสแมวหลายคนน่าจะรู้จักเจ้า อโศก แมวเซเลบจากเพจ Kingdom Of Tigers: ทูนหัวของบ่าว หรือหากไม่รู้จักก็น่าจะเคยได้ยินชื่อมันผ่านๆ หูบ้าง เมื่อไม่นานมานี้เจ้าอโศกป่วยหนัก อาการร่อแร่ เขาก็เลยทำการไลฟ์สดเพื่อให้แฟนๆ ได้ร่วมบอกลาเจ้าแมวด้วยกัน..แต่ในขณะที่ทุกคนคิดมันมันตายจากไปแล้ว มันกลับฟื้นขึ้นมาอีก!?     เจ้าอโศกเป็นแมวจรจัดที่เคยเป็นกระแสบนโลกออนไลน์เมื่อหลายปีก่อน มันวนเวียนอยู่แถวสถานีรถไฟอโศก มันจึงได้ชื่อนี้มา ต่อมามันก็ถูกรับเลี้ยงโดยเจ้าของเพจ ทูนหัวของบ่าว และได้รับการเลี้ยงดูจากเขาอย่างดี แล้วเขาก็อัพเดทเรื่องราวของเจ้าแมวลงเพจเป็นประจำ ทำให้มีคนรู้จักมันเยอะด้วย     ไม่นานมานี้อโศกก็ป่วยเป็นโรคไตแมว ทำให้มันไม่ร่าเริงอย่างที่เคยเป็น สุขภาพของเจ้าแมวเองก็ทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2019 ทาสก็เห็นว่ามันคงใกล้จากไปเต็มทีแล้ว จึงได้ทำการไลฟ์สดในเพจเพื่อให้แฟนๆ ของมันได้มาร่วมอำลามันด้วยกัน พร้อมทั้งได้เชิญพระมาสวดทำพิธีให้มันอีกด้วย ในระหว่างที่ไลฟ์กันอยู่นั่นเอง เจ้าแมวก็ได้ตายจากไป สร้างความเสียใจให้กับทาสและแฟนๆ ของมันมาก…   ในระหว่างที่ไลฟ์จะเห็นว่าเจ้าแมวมีเลือดออกปากด้วย ทำให้คิดว่าร่างกายมันไม่ไหวแล้ว   แต่ในขณะที่ทาสและพระกำลังทำพิธีให้มันอยู่ จู่ๆ เจ้าแมวก็ฟื้นขึ้นมาอีกอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนกับที่ทางเพจเล่าให้ฟังว่า “เมื่อคืนนิมนต์พระมาสวดให้ อยู่ในมือพระ ทำตัวแข็ง ตอนสวดบังสกุล พระหันมาบอก เสียแล้วตอน 19:15 เลยเปลี่ยนเป็นสวดบังสกุลตาย…

แค่อีกสัปดาห์เดียวเท่านั้นก็จะถึงวันแห่งความรัก หรือ ‘วันวาเลนไทน์’ ที่คนมีความรักทั้งหลายตั้งตารอคอย มันวันพิเศษสำหรับคู่รักที่จะได้หวานแหววกันเป็นพิเศษ หรือบางคนก็ใช้โอกาสนี้บอกรักคนที่ชอบด้วย แต่ถ้าคุณยังไม่อินกับความรักหวานแหววแม้ว่าจะใกล้วันแห่งความรักเต็มทีล่ะก็ มาให้เจ้าหมาเจ้าแมวพวกนี้ช่วยเติมเต็มความรักให้คุณกันก่อนดีกว่า พอเห็นพวกมันรักกันจนหวานหยดย้อยแล้ว เราจะได้มีกำลังใจที่จะหวานแหววกับแฟนแบบมันบ้าง ไม่ให้น้อยหน้าพวกมันนั่นเอง   ขอจุ๊บๆ หน่อยน้า   มาทานอาหารเช้าบนเตียงกันเถอะที่รัก   โดนแฟนหอมรู้สึกชื่นใจที่สุดเลย   เจ้าหนูนี่เนื้อหอมนะเนี่ย   รวมร่างเป็นหัวใจ♥   ดูสายตาของเจ้าหมาก็รู้แล้วว่ารักเจ้านายมาก   ความรักจะช่วยให้คุณผ่านเรื่องยากๆ ไปได้   ที่รักเบาๆ หน่อย คนมองใหญ่แล้ว   เราจะจู๋จี๋กัน มนุษย์อย่ามาขัดนะ   ดูหน้าตอนจุ๊บแล้ว บอกเลยว่าฟินมาก   แค่ได้กอดกันก็อุ่นใจแล้ว   นอนหนุนตักหน่อยนะหวานใจ   ถ้าเป็นเวอร์ชั่นคนต้องกำลังจุ๊บแบบดูดดื่มแน่ๆ https://www.instagram.com/p/BsxfPMVASuy/   ดูพวกมันคลอเคลียกันสิ คนโสดล่ะอิจฉา https://www.instagram.com/p/Bkg1Apen1hR/   ใครไม่มีคู่ เชิญจ่ายเงินแล้วมาจุ๊บทางนี้ https://www.instagram.com/p/BfMMHBwh30_/   จะเอาดอกกุหลาบไปให้สาวที่ไหนครับหนุ่มน้อย? https://www.instagram.com/p/BbzLkTgFft_/…

สัตว์บำบัดซึ่งใช้ในการดูแลและเยียวยาผู้ป่วย มีอยู่มากมายหลายชนิด บางตัวก็เป็นสุนัข บางตัวก็เป็นแมว หรือถ้าแปลกๆ หน่อยเป็นกระต่ายหรือหมูก็ยังมี…แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินว่ามีอัลปาก้าเป็นสัตว์บำบัดด้วย!? ใช่แล้วคุณไม่ได้คาฝาดหรอก เรากำลังบอกคุณว่ามีอัลปาก้าเป็นสัตว์นักบำบัดจริงๆ โดยพวกมันเป็นอัลปาก้าของ Jo Bridge หญิงสาวซึ่งเปิดฟาร์มอัลปาก้าอยู่ในย่าน Wattisham ประเทศอังกฤษ เธอเริ่มต้นเลี้ยงอัลปาก้าเพียง 5 ตัวในปี 2012 หลังจากซื้อพวกมันมาด้วยใจรัก จนปัจจุบันเธอก็ทำฟาร์มที่มีอัลปาก้ามากกว่า 60 ตัวแล้ว     ส่วนมากเธอจะขายอัลปาก้าเพื่อให้คนเอาไปตัดขน หรือในบางกรณีก็เอาไว้ปกป้องไก่จากสุนัขจิ้งจอก มีบางคนที่ซื้อพวกมันไปเล็มหญ้าในบ้านให้สั้นอยู่ตลอดด้วย…และบางครั้งเธอก็เปิดให้คนมาเยี่ยมชมภายในฟาร์ม ตอนแรกเธอคิดว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่เป็นมิตรและน่ารัก ไม่ได้คิดว่าจะให้พวกมันเป็นสัตว์นักบำบัดเลย จนกระทั่งเธอได้เจอกับครอบครัวหนึ่งที่มาเยี่ยมชมฟาร์ม ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหญิงชราที่เก็บตัวอยู่ด้วย     เธอเล่าว่า “คนที่มาบอกเราว่ามีหญิงคนหนึ่งที่ไม่ค่อยพูดนัก และอาจจะไม่ยอมลงจากรถมาชมฟาร์มเลย แต่พอมาถึงคนดูแลของหญิงคนนั้นหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจใหญ่เลย เนื่องจากเธอทั้งเดินเล่นกับอัลปาก้าอย่างมีความสุข และพูดคุยกับทุกคนตลอดเวลาแบบที่ไม่เคยเป็นด้วย” จากนั้น Bridge จึงเริ่มให้ความสนใจพวกมันในฐาน สัตว์บำบัด และทดลองเอามันไปเยี่ยมคนป่วยโรคความจำเสื่อมในศูนย์และบ้านพักคนชราต่างๆ ดู…ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขามีความสุขมากๆ เช่นกัน     Clair Perks ซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรมของบ้านพักคนชรา Hadleigh Nursing Home เล่าว่า “Alfred Wright ซึ่งพักกับเรานั้นปกติไม่ค่อยแสดงอารมณ์เลย แต่เมื่อเจออัลปาก้าครั้งแรกเขาก็นั่งหลังตรงแล้วบอกว่า…

ลองคิดดูสิว่าหากพ่อแม่ต้องแยกกันอยู่กับลูก พวกเขาจะรู้สึกร้อนรนใจมากแค่ไหน…นี่คือสิ่งที่แม่ลากำลังเผชิญอยู่  มันเอาแต่เศร้าที่หาลูกไม่เจอ แต่รอยยิ้มของมันก็กลับมาอีกครั้งเมื่อมนุษย์ช่วยพาลูกของมันกลับมาอยู่ด้วยกัน     แม่ลา Mary Poppins และลูกลา Colonel Sanders เดิมทีถูกประมูลขายทั้งคู่ ต่อมาพวกมันก็รอดออกมาใช้ชีวิตสบายๆ ได้เนื่องจากมีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ประมูลตัวพวกมันสำเร็จ ทว่าแม่ลากับลูกลาถูกกลุ่มช่วยเหลือสัตว์คนละกลุ่มช่วยเอาไว้ พวกมันจึงแยกกันไปอยู่ในความดูแลของคนที่ช่วยประมูลพวกมันออกมา     Colonel ได้มาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Speranza Animal Rescue ทว่าตั้งแต่มันมาถึงที่นี่โดยไม่มีแม่ มันก็ดูไม่มีความสุขเลย Janine Guido ผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เล่าว่า “ตอนแรกมันเอาแต่อยู่ตัวคนเดียวตลอด มันไม่เข้าหาคน และก็เงียบผิดปกติ ถ้าคุณเห็นคุณก็คงบอกได้ว่ามันคิดถึงแม่”     เวลาผ่านล่วงเลยไปกว่าสัปดาห์ที่ลูกลาและแม่ลาต้องแยกกันอยู่ พวกเขาเองก็อยากจะช่วยให้พวกมันร่าเริงขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง จนกระทั่งมีโทรศัทพ์จากที่ประมูลโทรมาหา Janine พวกเขาบอกว่าหลังจากประมูลเสร็จ กลุ่มช่วยเหลือสัตว์อีกกลุ่มยังไม่ได้มารับตัว Mary ไปเลย และมันก็ซึมเศร้าจนกินอาหารไม่ได้เพราะคิดถึงลูกเช่นกัน เมื่อได้ยินแบบนั้นแล้ว Janine ก็ไม่รอช้า เธอและอาสาสมัครีบออกไปรับตัวแม่ลาที่ศูนย์ประมูล เพื่อเอาตัวมันกลับมาอยู่กับลูกทันที     ตอนที่ Colonel และ Mary ได้กลับมาเจอกันเป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ ลูกลากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ และมารอรับแม่ตั้งแต่มันเห็นแม่ไกลๆ แล้ว ส่วนแม่ลาพอเข้ามาใกล้พอที่จะเห็นลูก มันก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความคิดถึงเช่นกัน…

เป็นธรรมดาที่บางครั้งคุณจะเจอกับหมาที่เลือกกิน เนื่องจากเจ้าหมาแต่ละตัวก็มีของที่ชอบและไม่ชอบต่างกันไปหมดเรานี่แหละ แต่เจ้าหมาตัวนี้มันเลือกกินในแบบที่ไม่เหมือนใคร มันไม่ได้เลือกกินแค่ของที่ชอบอย่างเดียว มันจะกินแค่อาหารที่อุ่นไมโครเวฟแล้วเท่านั้นด้วย!?   https://www.instagram.com/p/Bsfz8vZjD5l/   เจ้าหมาเลือกกินที่ว่านี้ก็คือเจ้า Dunkin หมาลาบราดอร์สีดำซึ่งอาศัยอยู่กับเจ้าของ และคู่หูหมาปอมอีกตัวชื่อว่า Kirby  เจ้าของของมันอธิบายว่า Dunkin มักจะทำสีหน้าบึ้งตึงอยู่เสมอ ส่วน Kirby เป็นหมาน้อยร่าเริงที่คอยกวนใจพี่หมาตัวใหญ่ ทั้ง 2 ตัวเป็นคู่หูที่เข้าขากันได้ดีทีเดียว   https://www.instagram.com/p/BsqM-KEDXGF/   นอกจากจะมีหน้าบึ้งตึงที่โดดเด่นแล้ว เจ้าหมาตัวนี้ยังมีนิสัยอีกอย่างหนึ่งซึ่งเจ้าของไม่เคยเห็นหมาตัวไหนมีมาก่อนเลย นั่นก็คือมันจะกินอาหารที่อุ่นไมโครเวฟมาแล้วเท่านั้น เรื่องแบบนี้เป็นใครได้ยินก็คงเชื่อได้ยาก มันจะมีหมาแบบนี้อยู่จริงๆ เหรอ??…เจ้าของของมันก็รู้เหมือนกันว่าพูดเฉยๆ คงไม่มีใครเชื่อหรอก เธอเลยถ่ายคลิปวิดีโอตอนเอาข้าวให้มันกินมาให้ดูกันไปเลย   ตอนแรกที่เอาข้าวแบบไม่ได้อุ่นให้ เจ้าหมาเอาแต่จ้องมองเจ้าของโดยไม่ยอมกินเลย   เจ้าของก็เลยต้องเอาอาหารของมันเข้าไมโครเวฟแบบหลอกๆ ให้มันเห็น   พอเธอกดปุ่มอุ่นจนมีเสียง “ติ๊ด” ดังขึ้น เจ้าหมาก็เหยียดตัวรอด้วยความตื่นเต้น   หลังจากมันเห็นว่าข้าวถูกอุ่นไมโครเวฟแล้ว มันก็กินอย่างเอร็ดอร่อยเลยเชียว   คลิปวิดีโอเต็ม https://twitter.com/humorandanimals/status/1085931447876235264   เจ้าของคิดว่าเจ้าหมาไม่ได้ห่วงเรื่องความร้อนของอาหารหรอก เนื่องจากเวลาที่เธอเอาอาหารมันเข้าไมโครเวฟให้ ก็เอาเข้าแค่ไม่กี่วินาทีเพื่อหลอกมันเท่านั้น ไม่ได้ทำให้อาหารอุ่นขึ้นเลย เธอคิดว่ามันอยากให้อุ่นอาหารเข้าไมโครเวฟ…

หากคุณเป็นคนป่วยหรือคนชรา และไม่มีใครมาอยู่ดูแลหรือช่วยเหลือคุณได้ การมีหาแสนรู้สักตัวหรือสองตัวจะช่วยคุณได้มากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเกิดเหตุไม่คาดคิด Maureen Hatcher อาศัยอยู่ในบ้านที่รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกากับหลานชาย และเธอก็มีเจ้าหมาลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ (โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ผสมลาบราดอร์) Bella กับ Sadie อยู่เป็นเพื่อนอีก 2 ตัว   Maureen Hatcher   Bella กับ Sadie   วันหนึ่งขณะที่หลานชายไม่อยู่บ้าน จู่ๆ Hatcher ก็รู้สึกชาและล้มลงไปกับพื้น เธอขยับตัวแทบไม่ได้เลย เธอทำได้เพียงบอกกับเจ้าหมาว่า “ช่วยด้วย” Sadie และ Bella จึงวิ่งออกไปตาม Alexandra Naspolini ซึ่งอาศัยอยู่ข้างบ้าน เพื่อขอให้เธอมาช่วยเจ้านายของตัวเองหน่อย โดยเหตุการณ์นั้นถูกบันทึกไว้ด้วยกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านของ Hatcher   หลังเจ้านายชัก เจ้าหมาทั้ง 2 ตัวรีบออกไปหาเพื่อนบ้าน   Naspolini ซึ่งอยู่ในบ้านได้ยินเสียงเจ้าหมาเห่าเรียก เธอจึงออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นพวกมันก็นำทางเธอมายังหน้าบ้านของตัวเอง เธอลองกดกริ่งเรียก Hatcher ดูก่อน เผื่อว่าเจ้าหมาจะออกมาจากบ้านโดยที่เธอไม่รู้ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เธอจึงแง้มประตูเข้าไปดูข้างใน     พอ…

แมวเหมียวตัวน้อยเกิดมาพร้อมจมูก 2 แฉก ทำให้หน้าตาของมันดูเหมือนอารมณ์เสียตลอดเวลา ทว่าหากได้ลองอยู่กับมันดูแล้ว คุณจะพบว่าภายใต้หน้าตาบึ้งๆ นั้นแฝงไว้ด้วยความน่ารักล้วนๆ     อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ K9Kastle เจอแมวน้อยตัวหนึ่งอยู่ตามลำพัง ตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันคงจะเป็นลูกแมวที่ถูกแม่ทิ้ง แต่พอลองตรวจสุขภาพดูแล้วก็พบว่าฟันของมันขึ้นมาเยอะแล้ว แปลว่ามันเองก็คงไม่เด็กแล้วเช่นกัน พวกเขาแปลกใจมากที่มันยังตัวเล็กขนาดนี้     นอกจากจะตัวเล็กแล้วเจ้าแมวยังเกิดมาพร้อมกับจมูก 2 แฉกซึ่งเป็นผลมาจากกรรมพันธุ์ที่ผิดเพี้ยน ทำให้หน้าตาของมันดูเหมือนบึ้งตึงอยู่เสมอ และมันก็ยังมีความบกพร่องทางสมองที่เรียกว่า Cerebellar Hypoplasia ทำให้สมดุลในร่างกายมันไม่ปกติด้วย บางครั้งเจ้าแมวจึงเอียงหัวแบบแปลกๆ และเดินไม่ค่อยตรง     จมูก 2 แฉกทำให้น้องดูเหมือนหน้าบึ้ง   แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้โกรธใครหรอกนะ   แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลอะไรกับชีวิตของเจ้าแมวเลย เนื่องจากมันมีนิสัยที่ไม่ยอมแพ้ ไม่ว่ามันจะเดินเอียงจนล้มกี่ครั้ง มันก็จะลุกกลับขึ้นมาเดินต่อไปเสมอ ทำให้มันไม่ค่อยต่างจากแมวทั่วไปนัก แค่อาจซุ่มซ่ามกว่าเท่านั้น เมื่อแน่ใจแล้วว่ามันสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ พวกเขาจึงประกาศหาบ้านให้กับเจ้าแมว ซึ่งคนที่รับมันไปเลี้ยงก็คือ Connie Viscuso     ตอนแรก Connie รับมันมาอุปถัมภ์ในบ้านเนื่องจากมันรอบ้านมาหลายสัปดาห์แล้ว และก็ยังไม่มีใครรับเลี้ยงสักที แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะรับเลี้ยงมันได้ด้วย เนื่องจากแมวของเธอเข้ากับแมวตัวอื่นแทบไม่ได้เลย ทว่าพอแมวน้อยหน้าบึ้งเข้ามาอยู่กับเธอได้เพียงชั่วโมงเดียว มันก็ทำให้เจ้าแมวอารมณ์บูดของเธอยอมรับมัน และช่วยรับดูแลมันเหมือนเป็นน้องได้แล้ว…เธอจึงมั่นใจว่ามันน่าจะเหมาะกับบ้านของเธอ และเปลี่ยนมารับเลี้ยงมันแทนการอุปถัมภ์…

เพื่อนๆ คงเคยเห็นสัตว์ที่แสดงหนังฟอร์มยักษ์ร่วมกับดาราดังมาบ้าง รู้ไหมว่าพวกมันต้องฝึกอยู่นานกว่าจะแสดงหนังได้ดีขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้มีแค่พวกมันหรอกนะที่มีสกิลการแสดงยอดเยี่ยม หมาบางตัวจากทางบ้านก็ทำการแสดงเก่งไม่แพ้พวกมันเลยล่ะ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูความสามารถในการแสดงของพวกมันกัน รับรองว่าได้เห็นแล้วต้องยอมยกรางวัลตุ๊กตาทองให้พวกมันไปเลย   เอ้ามาแต่งตัวเท่เป็นคู่กันหน่อยเพื่อน   น้องต้องแกล้งทำขาเป๋หลอกขอขนมคนมาเยอะแล้วแน่นอน   ขอปรบมือให้กับความเข้าถึงบทของน้อง   แกล้งตายยังไม่พอ ยิงซ้ำแล้วมีกระตุกให้ด้วย   เรื่องกระบี่กระบองอย่ามาสู้กับพี่   น่าพาไปเข้าวงอะแคปเปล่านะเนี่ย ดูมีพรสวรรค์   ตกลงน้องแกแค่หลับลึกมากๆ หรือกำลังพยายามแกล้งตาย??   น้องจะมาเนียนทำเป็นบิดขี้เกียจ แล้วมาหยิบข้าวพี่ไปกินไม่ได้!!   แกล้งตายแบบสนิทจริงๆ ยกตัวขึ้นมายังไม่ยอมขยับ   เล่นฉากตกใจเบอร์ใหญ่มากๆ   ไหนขอค้นตัวหน่อยซิว่ามีของผิดกฎหมายบ้างไหม   น้องทำท่ามีความสุขเข้าสู้ช่างตัดขน   ขอฉากเลิฟซีนหวานๆ หน่อยจ้า   ให้เลียนแบบมนุษย์เหรอ? สบายมาก!!   ปืนของเล่นน้องก็อินได้   อู้หูววว นี่สินายแบบมืออาชีพ เปลี่ยนท่าโพสต์อย่างไว   เราไม่หิวนะ ไม่ได้มองนายกินขนมเลยจริงๆ   เล่นแกล้งตายเนียนเกิน จนแม้แต่เพื่อนยังเชื่อ…

คุณยายเป็นคนที่รักสุนัข ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่สะดวกจะช่วยรับเลี้ยงพวกมัน เธอจึงช่วยพวกมันด้วยการมอบผ้าห่มอุ่นๆ ให้ใช้ในหน้าหนาวแทน ซึ่งทำให้เธอสามารถช่วยหมาได้เป็นจำนวนมาก     ในประเทศที่มีอากาศเย็นมากในหน้าหนาว กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Dogs Trust เป็นกังวลว่าพวกหมาจรจัดทั้งในศูนย์พักพิงสัตว์ และที่ยังใช้ชีวิตอยู่ตามถนน จะต้องทนต่อสู้กับอากาศหนาวเย็นอย่างยากลำบาก พวกเขาจึงประกาศขอให้อาสาสมัครและคนรักหมา ช่วยกันถักเสื้อผ้าหรือผ้าห่มให้กับพวกเขาหน่อย เพื่อที่จะได้เอาไปช่วยเหลือพวกมันต่ออีกที ข้อดีของการมอบผ้าห่มและเสื้อผ้าให้เจ้าหมานั้นนอกจากจะทำให้พวกมันอุ่นกายแล้ว ก็ยังมีข้อดีอีกอย่างคือทำให้พวกมันรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นด้วย     หลังจากที่ประกาศขอความช่วยเหลือออกไป ก็มีคนรักหมาช่วยกันนำผ้าห่มและเสื้อผ้าที่ช่วยกันถักมาให้พวกหมามากมาย แต่ในจำนวนคนทั้งหมดที่นำผ้าห่มถักมาบริจาค ไม่มีใครที่ถักผ้าห่มและเสื้อไหมพรมให้พวกหมาเยอะเท่าคุณยาย Maisie Green วัย 89 ปีเลย     ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณยาย Maisie บริจาคผ้าห่มและเสื้อผ้าที่เธอถักเองกับมือ ให้กับพวกหมามาแล้วประมาณ 450 ชิ้น แม้เธอจะมาบริจาคไม่บ่อยมาก แต่ทุกครั้งที่อาสาสมัครเห็นหน้าเธอ พวกเขาก็รู้ว่าพวกหมากำลังจะมีผ้าห่มไหมพรมกองโตไว้ใช้กันแล้ว     คุณยาย Maisie เล่าว่า “ฉันรักการถักไหมพรม และก็รักสุนัขด้วย การทำแบบนี้จึงเหมือนกับการเอา 2 สิ่งที่ฉันรักมาผสมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ฉันใช้เวลาประมาณ 3 วันในการถักผ้าห่มผืนหนึ่งให้หมา ส่วนถ้าเป็นเสื้อก็จะใช้เวลาแค่เพียงวันเดียว มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้ฉันไม่ต้องอยู่ว่างๆ และฉันก็มักจะถักไหมพรมระหว่างที่ดูโทรทัศน์อยู่ด้วย”…

ลูกแมวตัวน้อยมีดวงตาขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ซึ่งพอสัตวแพทย์ที่รักษามันได้เห็นแล้วทำให้เธอหลงรักทันที เธอจึงรับมันมาเป็นครอบครัวเดียวกัน แม้จะเพิ่งเจอกันได้แค่วันเดียว     มิ้วน้อยตัวนี้ถูกเอาใส่กล่องไปทิ้งไว้หน้าบ้านของหญิงคนหนึ่ง สิ่งที่เธอสังเกตเห็นได้ชัดตอนที่เธอเจอมันก็คือดวงตาที่กลมโตเป็นพิเศษ และแผลขนาดใหญ่ตรงคอ เธอจึงรีบเอามันไปรักษากับสัตวแพทย์ Elise Hall ซึ่งเปิดคลินิกอยู่ไม่ไกลบ้านเธอนัก…พอ Elise ได้เห็นดวงตากลมโตคู่นั้นเธอก็หลงรักเจ้าแมวในทันที     ด้วยความที่เธอติดใจมัน เธอจึงเสนอว่าจะรับอุปถัมภ์แมวน้อยเอาไว้ให้ จนกว่าแผลของมันจะหายดี และหาบ้านให้มันอยู่ได้…โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วคนที่รับเลี้ยงมันในเวลาต่อมาก็คือเธอนั่นแหละ     เธอตั้งชื่อให้แมวน้อยตัวนี้ว่า Porg หลังจากที่อยู่กับมันได้สักระยะหนึ่ง เธอก็สังเกตเห็นว่าผิวหนังของมันมักจะลอกออกมาเวลาที่มันเกาหรือเลียขนให้ตัวเอง เมื่อเธอทำการตรวจเพิ่มเติมจึงได้พบว่าแมวน้อยเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ที่ชื่อว่า Ehlers Danlos Syndrome ซึ่งทำให้ผิวหนังแห้งและลอกง่ายนั่นเอง     ตาที่โตเป็นพิเศษของมันก็เป็นผลข้างเคียงมาจากโรคดังกล่าวด้วย ที่มันตาโตขนาดนี้มีสาเหตุมาจากตาของมันแห้งอยู่แทบจะตลอดเวลา โชคดีที่ Elise หาวิธีแก้ปัญหาให้มันได้อย่างชาญฉลาด โดยเธอหาเสื้อผ้ามาใส่ให้มัน เจ้าแมวจะได้ไม่เกาผิวตัวเองจนหลุดอีก ส่วนเรื่องตาของมันเธอก็คอยหยอดน้ำตาเทียมให้มันเป็นประจำ เท่านี้ตามันก็ไม่ระคายเคืองแล้ว     เจ้า Porg เองก็ดูไม่ได้รำคาญเสื้อผ้าที่เพิ่งเคยใส่เลย มันดูจะชอบด้วยซ้ำที่ผิวหนังของมันไม่หลุดออกมาอีก แถมเสื้อผ้าที่ใส่ก็ทำให้มันดูน่ารักขึ้นเป็นกองด้วย     นอกจากเรื่องที่มันป่วยเป็นโรคทางกรรมพันธุ์แล้ว Porg ก็เป็นลูกแมวที่ซนและขี้อ้อนมากๆ เลยล่ะ มันชอบมาอ้อนขอขนมจากเธอทุกครั้งที่ได้กลิ่นของกิน แล้วก็ยังชอบมาขอนอนบนตักของ Elise อีกต่างหาก…

สำหรับสัตว์ที่ถูกมนุษย์จับมาแล้ว การได้กลับไปอยู่ตามธรรมชาติน่าจะเป็นสิ่งที่มันโหยหามากที่สุด…ทว่าเมื่อเจ้าสิงโตทะเลมีโอกาสได้กลับไปสู่ทะเล มันก็ไม่ยอมวิ่งลงน้ำไปสักทีจนกว่าเพื่อนของมันจะไปด้วย     สิงโตทะเล Ensign และ Ledger เป็นสิงโตทะเลที่ถูกมนุษย์จับไป และคนที่ดูแลพวกมันอยู่ก็ไม่ได้สนใจไยดีพวกมันนัก ทั้งคู่จึงตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ จนกระทั่งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ทะเล The Pacific Marine Mammal Center ไปเจอตัวพวกมันทั้งคู่ จึงทำการช่วยพวกมันไว้   สภาพก่อนถูกช่วยมา   พวกเขาเอาสิงโตทะเลทั้ง 2 ตัวมาอยู่ในความดูแลของตัวเอง และช่วยดูแลมันอย่างดีจนสุขภาพของทั้งคู่ดีขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดจากสภาพผิวและสีผิวของพวกมัน พอพวกมันแข็งแรงดีแล้ว พวกเขาก็จะพาพวกมันกลับไปปล่อยคืนสู่ทะเล เหมือนกับสิงโตทะเลตัวอื่นๆ ที่ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เคยช่วยก่อนหน้านี้   สภาพหลังถูกช่วย   แต่การปล่อย Ensign และ Ledger กลับสู่ทะเลนั้นมีสิ่งที่พิเศษกว่าสิงโตทะเลตัวอื่นๆ เนื่องจากพวกมันได้แสดงให้มนุษย์เห็นถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นที่พวกมันมีให้กัน โดยในวันที่ทั้งคู่ถูกปล่อยลงบนหาดนั้น อาสาสมัครจะเอากรงของพวกมันไปวางไว้ และเปิดกรงเพื่อให้พวกมันวิ่งกลับลงไปสู่ทะเลเอง แถมยังวางรั้วกั้นไว้เพื่อไม่ให้พวกมันวิ่งไปผิดทางด้วย     ซึ่งโดยปกติสิงโตทะเลที่ถูกปล่อยก็จะรีบคลานออกมาจากกรง แล้ววิ่งลงไปในทะเลโดยที่แทบจะไม่สนใจคนที่พาพวกมันมาปล่อย หรือสิ่งอื่นๆ รอบตัวเลย แต่ Ensign ไม่ทำแบบนั้น ถึงมันจะดูอยากวิ่งลงไปในทะเลมากแค่ไหน มันก็เอาแต่ยืนอยู่หน้ากรงนิ่งๆ เนื่องจากมันกำลังรอ Ledger…

เมื่อครอบครัวมีปัญหาการเงิน เจ้าหมาไม่สามารถช่วยพวกเขาหาเงินได้ แต่มันก็สามารถอยู่เป็นกำลังใจที่ดีให้ครอบครัวได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาผ่านเรื่องร้ายๆ มาจนถึงปัจจุบัน Tara King และคู่หมั้นหนุ่ม Tim รับเลี้ยงเจ้าหมาขนปุยสีขาว Winston มาเมื่อปี 2014 ตอนนั้นพวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันในอพาร์ตเมนต์ที่เมืองลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา     แม้ว่าตอนรับมามันจะผอมกะหร่องสุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ดีนัก แต่สิ่งที่เธอสัมผัสได้จากการอยู่กับมัน ก็คือเจ้าหมามีนิสัยร่าเริงอยู่เสมอ ความร่าเริงของมันทำให้ Tara และ Tim ซึ่งใช้เวลาร่วมกับมันมาก รู้สึกมีความสุขตามมันไปด้วยทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน     ต่อมา Tara กับ Tim ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ทำให้พวกเขาไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าอพาร์ตเมนต์และกลายเป็นคนไร้บ้าน ทั้งคู่จึงเข้าไปอาศัยอยู่ในห้องเก็บของเล็กๆ ซึ่งมีโซฟายาวเพียงตัวเดียวเป็นที่นอนสำหรับเธอ คู่หมั้น และเจ้าหมาด้วย เนื่องจากไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว     ห้องที่พวกเธอใช้ซุกหัวนอนตอนออกจากอพาร์ตเมนต์   ถึงแม้ว่าห้องเล็กๆ แคบๆ นั้นจะไม่เหมาะกับการเลี้ยงหมาเลยสักนิด แต่ Winston ก็ไม่เคยแสดงท่าทีว่ามันไม่มีความสุขเลย มันใช้ความร่าเริงของมันเข้าปลอบเจ้าของ ทำให้ Tara กับ Tim รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น และพร้อมที่จะสู้กับปัญหาที่เจอต่อไป…

เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคน คงอยากจะสนิทและใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองกันทั้งนั้น เพราะเราอยากให้พวกมันรู้ว่าเรารัก และก็อยากให้มันไว้ใจพวกเรา แต่ระวังเอาไว้ด้วยล่ะ พวกสัตว์น่ะไม่มีคนว่า “พื้นที่ส่วนตัว” อยู่ในหัวของมันหรอกนะ ถ้ามันยอมเข้ามาใกล้ชิดคุณขึ้นมา มันอาจจะใกล้ชิดจนมากเกินกว่าที่คาดเอาไว้ก็ได้…แบบสัตว์เลี้ยงพวกนี้ไง   ท่าจะหวงทาสหนัก ใกล้ชิดเกิ๊น   เอ่อ…น้องส่องดูอะไรอยู่อะคะ??   นี่แกอยากมองหน้าฉันชัดๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ   จะขึ้นมานอนบนโซฟา ก็ช่วยดูคนที่นอนอยู่ก่อนด้วยได้ไหม!?   ไม่ทับคีย์บอร์ดเวลาทำงานก็ได้   นี่มันหาเรื่องกันชัดๆ   น้องไปอึ๊มาแล้วทำแบบนี้ พ่อรับไม่ด๊ายยย!!   ที่นอนก็มีเยอะแยะ จะมาแย่งกางเกงในเราทำไม   ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ มันแค่รักฉันมากเท่านั้นเอง https://www.instagram.com/p/BtG6a7VAOKi/?utm_source=ig_embed   ใกล้ไปค่ะลูก น้ำลายไหลขึ้นมาแม่ต้องกรี๊ดแน่เลย https://www.instagram.com/p/Bst2g9Th4e0/?utm_source=ig_embed   ดีใจที่ได้อยู่ใกล้แม่ แต่ไม่ได้เช็กน้ำหนักตัวเองเลย https://www.instagram.com/p/BsyQcILgzfh/?utm_source=ig_embed   นี่ข้อมูลส่วนตัวนะคะ มาดูกันโต้งๆ แบบนี้ได้ยังไง https://www.instagram.com/p/Bs6ZJBmgE1-/?utm_source=ig_embed   ตอนมันจะใช้หมอนมันคงลืมคิดไปว่าพ่อกำลังหนุนหมอนอยู่ https://www.instagram.com/p/BtKAG6ygwqj/?utm_source=ig_embed   ไม่รู้ว่ารักหรือว่าหิว แทะจมูกใหญ่เลย https://www.instagram.com/p/BtHGPKYFSjy/?utm_source=ig_embed…

ในหน้าหนาวนี้ตอนที่ Ryan Arens ซึ่งเป็นพนักงานส่งของกำลังขับรถไปตามเส้นทางของตัวเองอยู่ เขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และเริ่มมองหาต้นตอของเสียงนั้น เขาขับวนรอบทางเลียบสระน้ำไปเรื่อยๆ จนเขาเห็นว่ามีจุดหนึ่งที่แผ่นน้ำแข็งค่อนข้างบาง ซึ่งเสียงที่เขาได้ยินน่าจะมาจากจุดนั้น     พอเขาเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นว่าตรงกลางของแผ่นน้ำแข็งบางๆ นั้นมีสุนัขตัวหนึ่งเกาะขอบแผ่นน้ำแข็ง และร้องขอให้คนมาช่วยอยู่ นอกจากเขาแล้วยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่อยู่แถวนั้นออกมามุงดูมันด้วย แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปช่วยเนื่องจากการเดินบนน้ำแข็งบางๆ นั้นเสี่ยงที่จะตกลงไปเองมากเลยทีเดียว จนกระทั่งมีชายคนหนึ่งเอาเรือและไม้พายออกมาเตรียมช่วยมัน เขาจึงขอติดไปช่วยมันด้วย โดยที่ถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์และถุงเท้า เผื่อว่าเขาต้องเปียก จะได้มีชุดไว้ใส่หลังจากตัวแห้ง     ทั้งคู่ค่อยๆ ใช้ไม้พายถีบให้เรือไถลไปบนแผ่นน้ำแข็งบางๆ นั้น จนกระทั่งมันอยู่ใกล้เจ้าหมามากพอ Arens จึงยื่นตัวออกไปหาเจ้าหมาด้วยมือข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างหนึ่งเกาะขอบเรือเอาไว้ เขาเล่าว่า “สิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือการตกไปใต้แผ่นน้ำแข็งแล้วกลับขึ้นมาไม่ได้ ซึ่งแผ่นน้ำแข็งก็แตกจริงๆ ณ จุดนั้นผมจึงเปลี่ยนมาว่ายน้ำไปช่วยมันแบบสุดชีวิตแทน ดีนะที่มันมีปลอกคออยู่ ผมจึงคว้าปลอกคอมันไว้และลากตัวมันมาบนเรือได้”     ตอนที่พวกเขากลับขึ้นมาบนฝั่งได้ ก็มีชาวบ้านรอช่วยเหลืออยู่เต็มเลย ตอนนั้นเจ้าหมายังไม่สามารถยืนได้เองเพราะมันชาไปทั้งตัว ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ใกล้ๆ จึงเสนอให้เขาและเจ้าหมาเข้าไปอาบน้ำอุ่นและผิงไฟในบ้านก่อน หลังจากที่ Arens อุ้มเจ้าหมาลงไปอาบน้ำอุ่นๆ ด้วยกันแล้ว โชคดีที่ชายคนนั้นเป็นอดีตสัตวแพทย์ด้วย เขาจึงสามารถตรวจสอบอาการของเจ้าหมาได้ทันที เขาบอกว่าอุณหภูมิตัวของเจ้าหมาค่อนข้างต่ำมาก ถ้าหาก Arens ลงไปช่วยมันช้ากว่านี้แค่นิดเดียว เจ้าหมาคงหัวใจวายตายไปแล้ว…

การเลี้ยงหมาไม่ได้ทำให้คุณเหงาน้อยลงอย่างเดียวเท่านั้น แต่พวกมันจะมาช่วยเปลี่ยนนิสัยบางอย่างของคุณไปโดยที่คุณไม่ทันรู้ตัว และนี่คือ 19 นิสัยที่เราสังเกตว่าเจ้าของสุนัขมักจะทำกัน มาลองดูว่าคุณมีนิสัยคล้ายแบบนี้บ้างรึเปล่า ถ้าใช่คุณก็ถือว่าคุณตกเป็นทาสเจ้าหมาเข้าแล้ว   1. ในคลังรูปมือถือของคุณ แทบทั้งหมดจะมีแต่รูปลูกรัก   2. คุณจะไม่เหลือพื้นที่ส่วนตัวอีกต่อไป   3. คุณจะพูดคุยกับหมาได้เป็นตุเป็นตะ และจินตนาการว่ามันตอบอะไรคุณบ้าง   4. เตียงจะไม่ใช่ที่นอนของคุณแค่คนเดียวแล้ว แม้คุณจะไม่มีแฟนก็ตาม   5. คุณจะเริ่มจำคนจากหมาที่เขาเลี้ยง   6. ทุกครั้งที่คุณออกจากบ้านโดยที่พาหมาไปด้วยไม่ได้ คุณจะบอกลามันอย่างกับเป็นการเจอกันครั้งสุดท้าย   7. หากคุณกลับมาบ้านแล้วเจ้าหมาไม่มารอต้อนรับ คุณจะรู้สึกแย่เสมอ เพราะถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นกับมัน ของในบ้านก็ต้องพังแน่นอน…   8. เงินส่วนใหญ่ของคุณจะเสียกับค่าอาหารและยาของมัน   9. นอกจากนี้คุณก็จะซื้อของสิ้นเปลืองให้มันบ่อยๆ ด้วย   10. คุณจะอดใจซื้อชุดน่ารักๆ ให้น้องหมาใส่ไม่ได้   11. คุณจะรู้สึกแย่กับตัวเองเสมอ ถ้าหมามาขอของกินแล้วคุณเอาให้มันไม่ได้   12. ทำใจไว้เลยว่าต่อไปนี้เสื้อทุกตัวของคุณจะมีแต่ขนสัตว์   13.…

ใครที่คิดว่าหมากับแมวไม่ค่อยถูกกัน อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดซะใหม่หลังได้อ่านเรื่องของเจ้าแมวน้อยตัวนี้ มันรักหมามากกว่าทาสซะอีก อาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Alley Cat Rescue ไปเจอแมวน้อยตัวหนึ่งอยู่ในลานจอดรถที่เต็มไปด้วยหิมะ พวกเขาเห็นมันหนาวสั่นจึงอยากจะช่วยมัน แต่เจ้าเหมียวก็ไม่ให้ความร่วมมือเลย มันวิ่งหนีพวกเขาไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็มามุดอยู่ในท้องรถแวน ลำบากคนช่วยต้องเอาตัวมันออกมาอยู่นาน แต่ในที่สุดพวกเธอก็เอามันออกมาได้สำเร็จ     ลูกแมวเหมียวตัวสกปรกไปหมดเลย เนื่องจากหนีไปมุดอยู่ในห้องเครื่องรถแวนมา ตอนอาบน้ำให้มันน้ำจึงกลายเป็นสีดำคล้ำเลยทีเดียว     เอ้อ ตัวสะอาดแล้วค่อยน่าดูหน่อย   พวกเธอตั้งชื่อแมวน้อยตัวนี้ว่า Waffles พอทำความสะอาดตัวและตรวจรักษาโรคให้มันเสร็จ อาสาสมัครก็ส่งมันไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์เพื่อทำความคุ้นเคยกับคนต่อทันที แต่เจ้าแมวขี้อายมากๆ มันเอาแต่ซ่อนตัวจากมนุษย์ตลอดเวลาเลย แม้ว่าจะอยู่ในบ้านมาเป็นสัปดาห์แล้ว มันก็ยังไม่ยอมเปิดใจให้พวกเขาสักที     จนวันหนึ่งที่ครอบครัวพาพี่หมาที่เลี้ยงไว้มาหามันด้วยนั่นแหละ เจ้าแมวก็เลยเลิกซ่อนตัวแล้วพุ่งออกมาเล่นกับพี่หมาแบบง่ายๆ ดูเหมือนว่ามันจะขี้อายแต่กับคนเท่านั้นนะ พอเป็นพี่หมาแล้วมันทั้งเข้าไปเล่นด้วย แล้วก็หนุนนอนข้างๆ กันแบบไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย     แล้วก็ไม่ได้เป็นแบบนี้กับแค่หมาของครอบครัวตัวเดียวด้วยนะ พวกเขาบอกว่ากับหมาตัวอื่นมันก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นหมาใหญ่หมาเล็กมันก็เดินเข้าไปอ้อนหมดเลย     รักหมาก็ไม่บอกแต่แรกนะเจ้าเหมียว   ต่อมาอาสาสมัครจึงตั้งใจว่าจะประกาศหาบ้านให้ Waffles โดยที่ครอบครัวที่รับมันต้องมีพี่หมาคอยอยู่เป็นเพื่อนมันด้วย หลังจากประกาศได้ไม่นาน ก็มีคนมารับเลี้ยงมิ้วน้อยไป มันจึงได้มีบ้านและทาสเป็นของตัวเอง และก็มีพี่ตูบ Sparky อยู่เป็นเพื่อนไม่ให้มันเหงา    …

เป็นคุณจะตกใจไหม ถ้าจู่ๆ ตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งและพบว่า สัตว์ทั้งหลายใกล้บ้านของคุณเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เหมือนหลุดออกมาจากหนังเรื่อง อวตาร (Avatar) ยังไงยังงั้น ตอนนี้ชาวเมืองแคลกตอนในประเทศอังกฤษกำลังเจอเรื่องแบบนี้อยู่ แต่พวกสัตว์ไม่ได้เปลี่ยนสีกันเองตามธรรมชาติหรอกนะ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญต่างหาก     เมื่อไม่นานมานี้ในเมืองแคลกตอนเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น โดยหนึ่งในสิ่งที่ถูกไฟไหม้ไปด้วยก็คือถุงที่บรรจุผงหมึกสีน้ำเงินเอาไว้จำนวนหลายถุง กว่าพนักงานดับเพลิงจะได้รับแจ้งเหตุ และสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ไฟก็ลุกไหม้นานกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว ทำให้ผงหมึกสีที่ว่าระเบิดลอยฟุ้งกระจายไปทั่วชุมชนเลยทีเดียว     นอกจากจะมีบางบ้านที่มีรั้วและต้นไม้กลายเป็นสีน้ำเงินอย่างเห็นได้ชัดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พลอยกลายเป็นสีน้ำเงินไปด้วยก็คือเหล่าสัตว์ทั้งแมวและหมา ไม่ว่าสัตว์พวกนี้จะเป็นสัตว์จรจัด หรือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงก็ตาม ขนของพวกมันก็จับผงหมึกที่ลอยฟุ้งอยู่ แล้วกลายเป็นสีน้ำเงินไป บางตัวก็เป็นสีแค่บางจุด บางตัวก็เปลี่ยนสีไปทั้งตัวเลยทีเดียว   ได้ย้อมขนฟรีเฉยเลย   สัตว์เลี้ยงที่ออกไปเล่นข้างนอกก็ยังโดน   กลับเข้าบ้านมาสีเปลี่ยนเอง เจ้าของต้องมีงงกันบ้างล่ะ   รวมพลหมาแมวอวตารหน่อย   Terry Oliver ซึ่งอาศัยอยู่แถวนั้นเล่าว่า “มันไม่ใช่ทุกวันหรอกนะที่เราจะได้เห็นแมวสีฟ้าระหว่างทาง ตอนฉันขับรถอยู่แล้วเห็นมัน ฉันต้องหันขวับกลับไปมองซ้ำสอง แล้วก็อดถ่ายรูปเก็บเอาไว้ไม่ได้เลย” ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ผงหมึกสีไปเจอพวกมันเข้า พวกเขาก็คงจะงงมากเช่นกัน คงอดนึกไม่ได้ว่าพวกมันนัดกันไปย้อมสีขนกันมาทั้งชุมชนรึเปล่า     โชคดีที่นักวิทยาศาสตร์ออกมาตรวจสอบแล้วว่าผงหมึกสีนี้ไม่ได้เป็นอันตรายกับพวกมัน และผงสีก็จะฟุ้งกระจายอยู่แค่ไม่กี่วันเท่านั้น แล้วก็จะจางหายไปเอง…

มีคนเห็นครอบครัวแมวจรจัดครอบครัวหนึ่ง วนเวียนอยู่แถวๆ โรงเรียนในชุมชนบรูกลิน ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับพวกมันนัก จนอยู่มาวันหนึ่งก็มีคนพบว่าลูกแมวเหมียว 2 ตัวจากครอบครัวนั้นถูกทิ้งเอาไว้ตามลำพัง แล้วพวกเขาก็ตามหาแม่แมวหรือลูกๆ ตัวอื่นไม่พบเลย     ถูกแม่ทิ้งเอาไว้แค่ 2 ตัว   เธอจึงจับลูกแมวทั้ง 2 ตัวไว้ และส่งมันไปให้กับศูนย์พักพิงสัตว์ เพราะคิดว่ามันยังเด็กอยู่ น่าจะต้องมีคนดูแลถึงจะใช้ชีวิตรอดจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้ จากนั้นเมื่อ Jess Thoren ซึ่งเป็นอาสาสมัครไปเจอพวกมันในศูนย์พักพิงสัตว์เข้า เธอจึงรู้สึกเอ็นดูพวกมันและพาพวกมันไปอุปถัมภ์ที่บ้านของตัวเอง     ทันทีที่มาอยู่ในบ้านของ Thoren เจ้าเหมียวทั้ง 2 ตัวก็ดูร่าเริงและเล่นซนกันทันที ไม่มีท่าทีว่าจะกลัวเธอเลย มันคงจะรู้สึกขอบคุณเธอที่พามาอยู่ในที่ที่อุ่นและสบายแบบนี้ เธอตั้งชื่อตัวเมียว่า Winnie (แปลงมาจากคำว่า Winter แปลว่าหน้าหนาว) ส่วนตัวผู้ให้ชื่อว่า Chill (แปลว่าหนาวเย็น) เพราะว่าเจอพวกมันตอนหน้าหนาวพอดี     ชีวิตในบ้านมนุษย์ของแมวเหมียว 2 ตัวนี้ มีแต่การเล่นกันสนุกสนานแบบไม่หยุดเกือบตลอดเวลา ส่วนเวลาที่เหลือพวกมันก็จะนอนพักเอาแรงไว้เพื่อเล่นกันต่อ แต่ไม่ว่าจะเล่นซนหรือจะนอนหลับ ทั้ง 2 ตัวก็จะอยู่ด้วยกันเสมอเลย ยิ่งมองดูพวกมัน Thoren ก็ยิ่งรู้สึกว่าพวกมันน่ารักมาก…

หากจู่ๆ มีคนบุกเข้ามาในบ้านของเรากลางดึกโดยไม่ได้รับเชิญ เป็นใครก็คงระแวงกลัวว่าจะเป็นโจรไว้ก่อนเป็นธรรมดา พอเขาได้เห็นตัวตนของแขกสุดน่ารักชัดๆ แล้ว เขาจึงโล่งใจที่ไม่เจอโจรและยิ้มไปกับความน่ารักของพวกมันแทน Bo Rodriguez อาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองที่เมืองฮิลสตัน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และในบ้านของเขาก็มีโซนสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย กลางดึกคืนหนึ่งเขาเหลือบไปดูในกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ และเห็นว่ามีเงาตะคุ่มๆ อยู่กลางสระน้ำ เขาจึงรู้สึกตกใจและระแวงขึ้นมาทันทีทันใด     ในแวบแรกที่เห็นภาพนั้น เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่อยู่ในสระคืออะไร จึงคิดว่าน่าจะเป็นโจรที่แอบบุกเข้ามาในบ้าน ซึ่งอาจจะมาปล้นทรัพย์สิน หรือทำร้ายเขาก็เป็นได้ แต่ในระหว่างที่เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี เมื่อดูภาพในกล้องวงจรปิดต่อไปเรื่อยๆ เขาก็เริ่มเห็นว่าสิ่งที่อยู่ในสระน้ำไม่ใช่คน…มันเป็นเจ้าแรคคูนตัวแสบต่างหาก แถมมันไม่ได้มาตามลำพังซะด้วย มันยกพวกกันมาถึง 3 คน…ไม่สิ…พวกมันพากันมาถึง 3 ‘ตัว’ เลยต่างหาก   อ๋อ เป็นเจ้าแรคคูนนี่เอง ทำให้ตกใจไปได้   แล้วพวกมันก็ไม่ได้มาขโมยอาหาร หรือพยายามจะงัดแงะเข้ามาในบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว พวกมันแค่อยากมาใช้สระว่ายน้ำเท่านั้น เขาเห็นพวกมันทั้ง 3 ตัวกระโดดจากขอบสระลงไปในน้ำอย่างสนุกสนาน แถมยังว่ายขึ้นมาขอบสระแล้วกระโดดซ้ำอีกหลายรอบด้วย ทำให้เขาไม่กลัวพวกมันอีกต่อไปแล้ว เขากลับรู้สึกขำขันและเอ็นดูไปกับความน่ารักของพวกมันแทน     แต่การบุกเข้ามาจัดปาร์ตี้ข้างสระน้ำของพวกมันก็ดำเนินอยู่ได้ไม่นานหรอกนะ ถึงเขาจะไม่ได้ว่าหรือออกไปไล่พวกมัน แต่สักพักหนึ่งก็มีเสียงเห่าของหมาข้างบ้านช่วยไล่แขกไม่ได้รับเชิญออกไปแทน ทำให้พวกแรคคูนวิ่งหนีกันออกไปแทบไม่ทัน Rodriguez ไม่เคยคิดว่าแรคคูนจะทำตัวน่ารักแบบนี้มาก่อน การเจอพวกมันในครั้งนี้ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อพวกมันไปมากเลยทีเดียว…

เพื่อนๆ เคยเอารูปตอนเด็กกับปัจจุบันมาเทียบกันดูบ้างไหม เวลาที่เราได้เห็นว่ายังมีเพื่อนวัยเด็กหรือพี่น้องที่ยังสนิทและอยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้ มันน่าอุ่นใจมากๆ เลยล่ะ แต่ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน #เหมียวอาตี๋ คิดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นภาพของคนกับสัตว์เลี้ยงที่โตมาด้วยกันแทน มันดูอบอุ่นหัวใจกว่ากันมากจนเทียบกับคนไม่ได้เลย เผื่อว่าเพื่อนๆ จะไม่อินกับเรา วันนี้เราเลยไปรวบรวมภาพเจ้าของกับสุนัขที่ใช้เวลาร่วมกันและโตมาด้วยกันมาให้ เพื่อนๆ จะได้รู้ว่ามันรู้สึกอุ่นในหัวจริงเวลาที่ได้ดูอะไรแบบนี้ จริงๆ   อยู่ด้วยกันมา 20 ปีแล้วนะน้องหมา   คุณพ่อ ลูกสาว และเจ้าหมาเจ้าแมว ถ่ายรูปแบบเดิมตลอด 10 ปี   พี่ไปเข้าประจำการมาแป๊บเดียว ทำไมน้องโตไวจังครับ   ใช้เวลาแค่ครึ่งปี เจ้าหมาก็ตัวสูงเท่าคนแล้ว   อยู่ด้วยกันจนหงอกขึ้นเลยทีเดียว   4 เดือนยังโตขนาดนี้ ครบ 4 ปีคงสูงเลยหัวแม่พอดี   อื้อหือ 12 ปีผ่านไปหล่อขึ้นเห็นๆ   11 ปี ก่อนเป็นเพื่อนซนยังไง ตอนโตก็ยังเป็นเพื่อนซนยังงั้น   น้องโตแล้วจะมานั่งตักแม่ตอนขับรถไม่ได้แล้วนะ ไปนั่งข้างๆ เถอะ   ตั้งแต่เล็กยันโต…

หลายครั้งสุนัขจิ้งจอกถูกเข้าใจว่าเป็นสัตว์ที่ดุ เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์ป่าที่ชอบมาทำร้ายสัตว์เลี้ยงในบ้าน ทว่าสุนัขจิ้งจอกเองก็มีมุมที่อ่อนโยนกับคนเหมือนกัน อย่างเจ้าหมาตัวนี้ติดคนมากจนกลายเป็นสัตว์เลี้ยงไปเลย     Gemma Holdway และครอบครัวพบลูกสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยในบริเวณบ้านของตัวเอง โดยแม่สุนัขจิ้งจอกมาคลอดพวกมันทิ้งเอาไว้ และหนีออกไป เธอและครอบครัวหวังว่าแม่จิ้งจอกจะกลับมารับลูก แต่หลังจากรอและเปิดดูกล้องวงจรปิดแล้ว ก็ไม่มีวี่แววของแม่สุนัขจิ้งจอกเลย     หากปล่อยไว้แบบนี้ลูกสุนัขจิ้งจอกอาจตายเพราะไม่มีคนดูแลได้ พวกเธอจึงตัดสินใจเอาลูกสุนัขจิ้งจอกทั้ง 5 ตัวเข้ามาดูแลซะเอง ตอนที่พวกเธอเก็บมันมาตอนแรก พวกมันยังอายุได้ไม่กี่วันอยู่เลย และก็ยังไม่ลืมตาด้วยทำให้พวกมันยังไม่รู้ว่าใครเป็นแม่ของตัวเอง     พอพวกมันลืมตาได้แล้ว มีลูกสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งที่เห็น Gemma และแฟนหนุ่มเป็นสิ่งแรก มันจึงติดพวกเธอมากและตามเธอเหมือนเธอเป็นแม่ของมันไม่มีผิด ลูกสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นชื่อว่า Vixey และถึงแม้มันจะโตแล้ว มันก็ยังติด Gemma เหมือนเดิม เธอจึงตัดสินใจเลี้ยงมันเอาไว้ในขณะที่ปล่อยสุนัขจิ้งจอกตัวอื่นกลับคืนสู่ธรรมชาติไป     หญิงสาวเล่าว่า “ฉันเข้าใจดีว่ามันเป็นสัตว์ป่า และควรอยู่ตามลำพัง แต่ฉันก็รู้เช่นกันว่าตอนนี้มันติดมนุษย์มากๆ แล้ว หากปล่อยให้มันกลับไปอยู่ตามธรรมชาติเอง จิ้งจอกตัวอื่นคงทำร้ายมันเพราะมันมีกลิ่นพวกเราติดอยู่ อีกอย่างเราก็มีพื้นที่บ้านตั้งหลายไร่ มีที่กว้างๆ ให้มันวิ่งเล่นได้ไม่รู้จักเบื่อ ดังนั้นการที่มันอยู่กับเราจึงทำให้มันมีชีวิตสุขสบาย สามารถออกไปวิ่งสำรวจพื้นที่ได้ทุกวัน และก็กลับมาอยู่กับเราที่บ้านก่อนฟ้ามืด”     หลังจากที่เธอตัดสินใจเลี้ยง Vixey…

แมวเหมียวตัวไหนที่มีบ้านและทาสเป็นของตัวเองถือว่าโชคดีมาก มันคงจะไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองสบายขนาดไหน ที่มีที่หลบร้อนหลบหนาว และมีคนดูแลตลอดเวลา หากเป็นแมวจรจัดล่ะก็ พวกมันต้องดิ้นรนแย่งกันหาอาหาร ซ้ำยังต้องทนต่อสู้กับอากาศอันโหดร้ายอีกด้วย เหมือนพี่น้องแมวเหมียวคู่นี้ พี่น้องแมวจรจัดคู่ไม่มีที่อาศัยหลบภัย และมันก็ทนหนาวไม่ได้ด้วย พวกมันจึงทำได้เพียงกอดกันและกันเอาไว้ เพื่อเอาไออุ่นจากร่างกายอีกฝ่าย     ตอนที่มีคนไปเจอพวกมัน ก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่ทนหนาวแบบนี้อยู่นานแค่ไหนแล้ว ถึงจะสงสารแต่เธอก็ไม่สะดวกจะช่วยมัน เธอจึงโพสต์รูปในโลกออนไลน์หวังให้สักคนไปช่วยพวกมันแทน Nadia และ Christine ซึ่งเป็นคนรักแมวเห็นเข้า จึงไปตามหาแมวเหมียวทั้ง 2 ตัวและช่วยเก็บพวกมันมาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chatons Orphelins Montréal     แมวเหมียวทั้ง 2 ตัวถูกส่งตัวให้สัตวแพทย์ทันที เนื่องจากพวกมันอ่อนแอมากและต้องได้รับการดูแลโดยด่วน แต่น่าเสียดายที่แมวเหมียวตัวหนึ่งตายจากไปในคืนที่ช่วยมันมาได้ พวกเขาตั้งชื่อเจ้าแมวอีกตัวหนึ่งที่รอดว่า Luciole และตั้งใจว่าจะดูแลรักษามันจนแข็งแรง แล้วก็หาบ้านให้มันอยู่อีกด้วย     อาสาสมัครเล่าตอนที่ดูแล Luciole ใหม่ๆ มันทั้งระแวงคนและก็ต้องการให้คนดูแลไปพร้อมๆ กัน เห็นได้จากการที่มันขดตัวกลัวเวลามีคนเข้าใกล้ แต่พอออกมาอยู่ห่างๆ ให้มันสบายใจก็ดันร้องเรียกพวกเขาให้กลับไปหาซะงั้น ในช่วงแรกเจ้าแมวน้อยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน เนื่องจากมันต้องพักฟื้นร่างกายให้แข็งแรง มันเป็นแมวที่น่าเอ็นดูเอามากๆ เลย     หลังจากที่เจ้าเหมียวแข็งแรงเป็นปกติแล้ว มันก็เริ่มพยายามทำความคุ้นชินกับมนุษย์ ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานมากหรอก เนื่องจากมันได้ใกล้ชิดกับคุณหมอที่รักษามันทุกวัน…

ถ้าคุณอยู่กับสัตว์เลี้ยงมาอย่างยาวนาน และอยู่กับพวกมันมาหลายตัว คุณจะรู้ว่าไม่ได้มีแค่หมาหรอกนะที่ขี้อ้อน แมวที่ว่าหยิ่งๆ นี่บางอารมณ์มันขี้อ้อนกว่าหมาซะอีก แล้วพวกมันก็ไม่สนใจหรอกว่ามนุษย์กำลังทำงาน หรือยุ่งกับอะไรอยู่ ถ้าพวกมันต้องการให้เราสนใจเมื่อไหร่ พวกมันจะเริ่มอ้อนแบบเอาเป็นเอาตายทันที!! ซึ่งการที่พวกมันอ้อนแบบไม่สนโลก ก็มักจะทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้…   ไหนๆ ก็นั่งว่างๆ แล้ว เล่นกับผมหน่อยสิ   แกเลือกที่จะเล่นเกมบ้าๆ นี่แทนเล่นกับข้าเรอะเจ้าทาส!?   รู้ว่าอยากให้สนใจ แต่ไม่ต้องทำลายของกินก็ได้ ฮือ   อยากอยู่เป็นเพื่อนก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่อย่าทับการบ้านสิ…   ปล่อยให้ดูทีวีสนุกๆ ไม่ได้เลยใช่ไหมเจ้าเหมียว!?   ถ้าแม่ไม่ออกมาหาหนู หนูจะพังประตูแมวเข้าไปละนะ   อ้อนให้อุ้มตลอด พอจะปล่อยก็งอแง เลยต้องทำแบบนี้   ปิดประตูกั้นไว้แล้ว ก็ยังจะพยายามมาให้เห็นตัวอีกเหรอ!?   ลูกเราก็สำคัญนะแก ปล่อยให้เรามีเวลาอยู่กับลูกบ้าง   อยากอยู่ใกล้ชิดกับแม่นักใช่ไหม มาเป็นที่มัดผมเลย   อ้อนขนาดนี้แล้วยังเล่นเกมได้อีก ทาสมันไร้หัวใจ   เขากำลังแข่งบอลจริงจังนะน้อง ไว้เล่นดีหลังดีกว่าไหม??   โอ้ยน้อง การบ้านมันส่งพรุ่งนี้นะ อย่ามาทำให้พี่หวั่นไหว…

วันนี้เรามีความน่ารักและความซนของหมาชิบะมาฝากกันอีกแล้ว โดยในครั้งนี้น้องชิบะได้ทำการเลียนแบบมนุษย์ และทำการช่วยเจ้าของบ้านถูพื้นทำความสะอาดอีกด้วย!! น้องหมา Kumakichi เป็นสุนัขชิบะสีดำของชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ถึงบางครั้งมันจะดูป่วนๆ บ้าง แต่เขาก็บอกว่ามันเป็นเด็กดีที่เขารัก   https://www.instagram.com/p/BoRjyRZHG-j/   เมื่อไม่นานมานี้เจ้าของของ Kumakichi สามารถถ่ายคลิปวิดีโอของเจ้าหมา ตอนมันช่วยเขาทำความสะอาดบ้านเอาไว้ได้ทัน โดยมันกำลังใช้ผ้าขนหนูยึดไว้กับขาหน้า แล้ววิ่งไถไปกับพื้น ซึ่งเป็นวิธีถูพื้นในแบบฉบับที่เพื่อนๆ น่าจะเคยเห็นกันในหนังหรือการ์ตูนญี่ปุ่นมาบ้างนั่นเอง   วิธีการทำความสะอาดพื้นแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น   เจ้าหมาเองก็ทำแบบนี้เปี๊ยบเลย https://www.instagram.com/p/BsVXGl9HufI/?utm_source=ig_embed&utm_medium=loading   เห็นไหมว่ามันแสนรู้มากๆ เลย แต่ถึงจะเห็นแบบนั้นเจ้าของของมันกลับบอกว่ามันก็ไม่ได้ช่วยมากเท่าไหร่หรอก เพราะมันไม่ได้ออกแรงจนพื้นสะอาดเลย ยังไงเขาก็ต้องถูซ้ำเองอีกรอบอยู่ดี แถมเวลาทำความสะอาดบ้านโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นทีไร เจ้าหมาก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือดีเท่าไหร่เลยด้วย ไม่ว่าเขาจะใช้เครื่องดูดฝุ่นกี่ที เจ้าหมาก็ไม่ชินกับเสียงเครื่องดูดฝุ่นสักที   น้องจะไปเห่าเครื่องดูดฝุ่นทำไมละคร้บ?? https://www.instagram.com/p/BoJbRDYHlJE/?utm_source=ig_embed&utm_medium=loading   ยังไงก็ตามในฐานะสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักแล้ว Kumakichi นั้นสร้างความร่าเริงและรอยยิ้มให้กับเจ้าของได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเลย ดังนั้นถึงมันจะทำตัวซนตอนทำความสะอาดอยู่บ้าง นอกนั้นมันก็เป็นเด็กดีและเป็นลูกรักของเจ้าของตลอดเวลานั่นแหละ   ไม่งอแงตอนไปจ่ายตลาดกับพ่อ https://www.instagram.com/p/BkXaPY7nzRh/   ไม่ดื้อซนตอนไปเดินเล่นกับเพื่อน https://www.instagram.com/p/Bo6p7nUn3tT/   มอบรอยยิ้มให้เจ้าของ ทำให้เขายิ้มออกเสมอ https://www.instagram.com/p/Bj0xwExnT51/   ถ้าใครอยากติดตามความน่ารักของเจ้าหมา…

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุนัขตำรวจที่เป็นที่รักต้องจากไป แต่เหล่าตำรวจก็คิดว่าพวกเขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้มันแล้ว และก็ร่วมกันบอกลามันไปอย่างยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีด้วย สุนัขตำรวจพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด Tazer เป็นคู่หูของนายตำรวจ Chris Martinez มันทำงานรับใช้ประชาชนในเมืองนิวเบอร์รี่ รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกามานาน 8 ปีครึ่งแล้ว     ตลอดเวลาที่ผ่านมามันทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มันทำงานดีจนได้รับเหรียญกล้าหาญ 2 เหรียญ, เหรียญสรรเสริญ 1 เหรียญ และได้รับการยกย่องในพิธีต่างๆ อีกหลายครั้ง ทว่าเมื่อไม่นานมานี้พวกเขาพบว่ามันทำตัวแปลกไปจากเดิม จึงพามันไปตรวจสุขภาพ และได้พบว่ามันเป็นมะเร็งกระดูกที่ขาหลังทั้ง 2 ข้าง แถมตาทั้ง 2 ข้างยังบอดอีกด้วย     นายตำรวจทุกคนรวมทั้งคู่หูของมันตกใจมากที่ได้รู้เรื่องนี้ เนื่องจากมันน่าจะเจ็บปวดมากที่ต้องทำงานในสภาพแบบนี้ แต่เจ้าหมาก็ไม่เคยแสดงอาการแบบนั้นให้เห็นเลย มันคงทำท่าทีเข้มแข็งเพราะอยากทำงานของตัวเองต่อไป อย่างไรก็ตามทางตำรวจคิดว่าในสภาพที่ต้องเจ็บปวดจากมะเร็งทุกก้าวเดินแบบนั้น ควรให้ Tazer หยุดพักจะดีกว่า จึงลงความเห็นกันว่าจะให้เจ้าหมาได้รับการการุณยฆาตเพื่อให้พ้นจากความทุกข์     โดยในวันสุดท้ายของเจ้าหมา มีรถตำรวจขับนำขบวนไปส่งมันที่คลินิกสัตว์จำนวน 30 คัน และก็มีนายตำรวจกว่า 70 นายยืนแถวขนาบ 2 ข้างเพื่อรอทำความเคารพมันเป็นครั้งสุดท้ายด้วย นายตำรวจคนหนึ่งมายืนส่งมัน เศร้าเสียใจกับการจากไปของ Tazer…

สัตว์เลี้ยงบางตัวจะมีฟันซี่ล่างที่ยื่นออกมาจนเห็นได้ชัด บางครั้งมันอาจจะเป็นปัญหาสุขภาพได้ แต่ถ้าหากสัตว์เลี้ยงไม่ได้เจ็บหรือมีปัญหาในการเคี้ยวอาหาร ก็ถือว่าพวกมันมีฟันยื่นเฉยๆ เท่านั้นเอง นอกจากกนี้การที่มีฟันยื่นก็ไม่ได้ทำให้พวกมันดูน่าเกลียดด้วย ลองมองพวกมันดูดีๆ สิ แล้วเพื่อนๆ จะเห็นว่าพวกมันมีเสน่ห์บางอย่างที่มีเฉพาะในสัตว์ที่มีฟันยื่นเท่านั้น   เจ้านี่หน้าซื่อบื้อจนอดรักไม่ได้เลย https://www.instagram.com/p/BsQbaZtBGtz/?utm_source=ig_embed   น้องทำหน้าเศร้าเพราะกลัวไม่หล่อ https://www.instagram.com/p/BsMD5QBjdkO/?utm_source=ig_embed   พอมีฟันยื่นแบบนี้แล้ว เวลาคุยกับเจ้าแมวทีไรอดยิ้มไม่ได้เลย https://www.instagram.com/p/Bk_eHkfn5cB/?utm_source=ig_embed   หนูยิ้มยิงฟันให้กล้องเหรอครับ? https://www.instagram.com/p/BsrQdJNhKxf/?utm_source=ig_embed   ทาสเอาข้าวมาให้ข้าซิ ถ้าช้าเดี่ยวงับแขนเป็นรอยเลย https://www.instagram.com/p/Bsp0a6_gs1M/?utm_source=ig_embed   ไม่รู้ทำไม แต่ยิ่งดูแล้วยิ่งน่ารัก https://www.instagram.com/p/BsthlE4ADWN/?utm_source=ig_embed   นี่หน้าธรรมชาติ…หรือน้องเบะปากใส่ทาส?? https://www.instagram.com/p/Bl_KUq1Fv7d/?utm_source=ig_embed   รอยยิ้มของน้องช่างน่าเอ็นดู https://www.instagram.com/p/Bssf4GgFkPF/?utm_source=ig_embed   ทำไมคิดว่าเราโกรธทาสล่ะ เราอารมณ์ดีจะตาย https://www.instagram.com/p/BqKZ3EiA-PN/?utm_source=ig_embed   ผมยิ้มดูไม่เหมือนคนอื่น…เพราะดูน่ารักกว่า แฮร่ https://www.instagram.com/p/BspRHwDnsXC/?utm_source=ig_embed หุ้ยๆๆๆๆ สีหน้าตอนฟินของเจ้าเขี้ยวยื่นนี่มันดีต่อใจจริงๆ https://www.instagram.com/p/Blso4rkAt98/?utm_source=ig_embed   แต่พอมีเขี้ยวยื่นแล้ว เวลาน้องโกรธ ก็จะดูโหดขึ้นไปอีกหน่อย https://www.instagram.com/p/Bsuo42ahDd2/?utm_source=ig_embed   บางตัวมีฟันแล้วหน้าก็เอ๋อไปเลย…

อีกเรื่องสำคัญสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ซึ่งเจ้าของต้องหมั่นพาพวกมันไปคลินิกเพื่อตรวจเป็นประจำ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดมันป่วยขึ้นมาแล้วเราไม่รีบรักษา อาจจะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตก็ได้ แต่ถ้าหากใครขี้เกียจพาพวกมันไปหาสัตวแพทย์ที่คลินิก หรือไม่สะดวกพาพวกมันไปตรวจจริงๆ เราก็มีวิธีตรวจเช็กสุขภาพเบื้องต้นแบบง่ายๆ ที่คุณทำได้ที่บ้านมาฝากกัน   1. วัดอุณหภูมิร่างกาย   การตรวจอุณหภูมิร่างกายว่าอยู่ในระดับที่ปกติหรือไม่ สามารถบอกได้ว่าร่างกายของพวกมันมีอะไรผิดแปลกหรือเปล่า โดยอุณภูมิปกติของเจ้าแมวอยู่ที่ 37.7-39.1 องศาเซลเซียส และของสุนัขอยู่ที่ 36-40 องศาเซลเซียส จะใช้เทอร์โมมิเตอร์ปกติของคนก็ได้นะ แต่มันไม่สะดวกเท่าไหร่เนื่องจากทรงรูหูของพวกมันไม่ได้ตรง จึงแนะนำให้ใช้เทอร์โมมิเตอร์เฉพาะของสัตว์ซึ่งมีขายตามคลินิกทั่วไป   2. วัดอัตราการเต้นของหัวใจ   การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ต้องใช้มือสัมผัสเพื่อจับเวลาดูว่าใน 1 นาทีหัวใจของสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราเต้นไปทั้งหมดกี่ครั้ง อัตราการเต้นของหัวใจปกติของสุนัขจะอยู่ที่ 70-120 ครั้งต่อนาทีโดยขึ้นอยู่กับขนาดตัวของสุนัขด้วย ส่วนของเจ้าแมวเหมียวจะอยู่ที่ 140-220 ครั้งต่อนาที   3. ตรวจดูปัญหาเกี่ยวกับดวงตา   ทั้งหมาและแมวส่วนใหญ่แล้วก็ไปหาหมอด้วยปัญหาเกี่ยวกับตาทั้งนั้นแหละ โดยส่วนมากจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อ หากคุณเห็นว่ามีสิ่งสกปรกติดรอบดวงตามัน ควรช่วยทำความสะอาดออกให้ด้วย หรือถ้าทำเองไม่ได้ควรพาไปหาหมอทันที   4. ตรวจดูใบหู   ในหูของสัตว์เลี้ยงอาจมีไรเห็บหรือแผลถลอกอยู่ ซึ่งถ้าไม่รีบรักษาจะสร้างความรำคาญให้กับสัตว์เลี้ยง และอาจเป็นปัญหาเรื้อรังในอนาคตเลยทีเดียว หากหูของพวกมันมีกลิ่นเหม็น,…

แม่แมวจรจัด Mama Delta Dawn ไม่มีบ้านแสนอบอุ่นให้อยู่ เมื่อมันมีลูกเหมียวน้อยๆ 3 ตัว มันจึงต้องใช้ตัวเองเป็นเครื่องทำความอุ่น นอนกอดกับลูกๆ เพื่อทำให้พวกมันสบายที่สุดเท่าที่สามารถทำได้ แม้ว่าอากาศจะยังไม่หนาวถึงขีดสุด แม่แมวก็ดูแลลูกแมวจนตัวเองนั้นโทรมไปหมดแล้ว โชคดีที่พวกมันถูกคนเจอและช่วยเอาไว้ก่อนอากาศจะหนาวไปกว่านี้ เพราะถ้าถึงตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันจะเอาตัวรอดไหวไหม     Kelly ซึ่งเป็นอาสาสมัครที่ชอบช่วยแมว เป็นคนไปช่วยพวกมันทั้งครอบครัวมาจากข้างถนน และพามาเลี้ยงอุปถัมภ์ไว้ในบ้านของตัวเอง ตอนที่ช่วยพวกมันมาใหม่ๆ ทั้งแม่แมวและลูกแมวต่างก็มีหมัดเต็มไปหมดเลย แต่หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วพวกมันก็เนื้อตัวสะอาดเอี่ยมอ่อง     เธอตั้งชื่อลูกแมวน้อยว่า Winn Dixie, Coralee และ Georgia Peach แล้วเธอก็มอบห้องเงียบๆ ไว้ให้ครอบครัวของมันดูแลกันเองโดยเฉพาะเลย     ดูเป็นครอบครัวที่น่ารักจังเลย   Delta ดูแลลูกแมวทุกตัวได้ดีมากสมกับเป็นคุณแม่ มันให้ลูกๆ กินนมและเล่นกับลูกๆ มากเท่าที่ลูกต้องการเลย จึงไม่มีอะไรให้ห่วงพวกลูกแมวอีก ที่น่าห่วงก็มีแต่แม่แมว Delta นี่แหละ เนื่องจากมันเอาแต่ดูแลลูกๆ ตลอดเวลาจนไม่ดูแลตัวเองเลย ตัวของมันก็เลยผอมแห้งอย่างเห็นได้ชัด     อาสาสมัครจึงทิ้งการดูแลลูกแมวให้กับ Delta ทั้งหมด แล้วหันมาให้ความสนใจกับการดูแลมันแทน โดยการจัดอาหารให้มันกินเพื่อเพิ่มสารอาหารให้ ซึ่งก็ดูจะได้ผลดีมากเลยทีเดียว เพราะหลังจากที่เลี้ยงมันได้ไม่นานนัก แม่แมวก็เริ่มดูตัวใหญ่และสุขภาพดีขึ้นมาแล้ว…

เมื่อไม่นานมานี้ศูนย์พักพิงสัตว์ The Humane Society of Southeast Texas ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ช่วยหมาเอาไว้ตัวหนึ่ง ทว่าถึงจะถูกช่วยมาแล้ว เนื่องจากมันไม่ได้รับการรักษาโรคพยาธิหนอนหัวใจมานาน ตอนนี้อาการป่วยของมันจึงเขาสู่ระยะสุดท้ายที่รักษาไม่ได้แล้ว และมันก็มีเวลาใช้ชีวิตเหลืออยู่อีกไม่มากด้วย     พวกเขาจึงโพสต์หาคนรับเลี้ยงมัน โดยหวังว่าคนที่รับมันไปจะสามารถดูแลมัน และทำให้มันได้รู้จักกับความสุขบ้าง ถึงมันจะไม่สามารถอยู่กับพวกเขาได้นานก็ตาม Courtney Thomsen เป็นหนึ่งในคนที่เห็นโพสต์รับเลี้ยงของมัน เธอเห็นมีคอมเมนต์มากมายที่บอกอยากรับเลี้ยงเจ้าหมา แต่จนถึงตอนนั้นมันก็ยังไม่ถูกรับเลี้ยงไปเลย เธอทนไม่ได้หากจะต้องเห็นมันตายจากไปทั้งๆ ที่ยังไม่มีบ้านอยู่ เธอจึงโทรไปขอรับเลี้ยงมันในทันที และตั้งชื่อมันใหม่ว่า Taco …เนื่องจากเจ้าหมาดูจะชอบชื่อนี้ตอนที่เธอและลูกชายพยายามเลือกชื่อให้มัน     อย่างไรก็ตามการพาเจ้าหมาซึ่งไม่เคยได้รับการดูแลมาเลี้ยง ก็ไม่ได้ง่ายดายเลย มันเอาแต่ขดตัวนอนอยู่ในจุดๆ เดียวเพราะว่ามันยังตื่นกลัวเธออยู่ ในเมื่อเหลือเวลาไม่มาก Thomsen จึงไม่รอให้เสียเวลา เธอพยายามพูดคุยกับมัน ลูบมัน และให้ความสนใจมันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มันไว้ใจเธอให้เร็วที่สุด     ซึ่งดูเหมือนความทุ่มเทของเธอจะให้ผลดีมากเลยทีเดียว เนื่องจากใช้เวลาแค่ 2-3 วันเจ้าหมาก็ไว้ใจเธอมากพอจะเดินตามเธอไปทุกที่ และยิ้มให้เธอมากขึ้นแล้ว     ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตในบ้านนั้น Thomsen ไม่ต้องฝึกให้มันมากเลย เพราะว่า Taco นั้นแสนรู้ พอมันเห็นหมาตัวอื่นไปอึเป็นที่…

หากคุณไปวิ่งมาราธอน แต่ดันได้หมากลับบ้านมาหลังจบงาน เป็นใครได้ยินแบบนี้ก็คงต้องงงทั้งนั้นว่าเกิดอะไรขึ้น…เราไปลองฟังเรื่องราวแสนน่ารักของเธอคนนี้และเจ้าหมาน้อยกันดีกว่า     คุณ เขมจิรา คลองสนั่น เป็นหญิงวัย 43 ปีซึ่งมีงานอดิเรกอย่างหนึ่งคือการวิ่งออกกำลังกาย และเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2019 ที่ผ่านมาเธอก็ได้ไปเข้าร่วมงานวิ่งจอมบึงมาราธอนที่จังหวัดราชบุรีด้วย แต่เมื่อเธอวิ่งไปถึงประมาณกิโลเมตรที่ 12 เธอก็เห็นเพื่อนนักวิ่งหลบเลี่ยงบางอย่างอยู่ที่ทางด้านหน้า เมื่อเธอวิ่งไปถึงตรงนั้นบ้างถึงได้เห็นลูกหมาตัวหนึ่งนั่งขวางทางอยู่     คนอื่นพากันวิ่งหลบมันไปโดยไม่หยุดสนใจมันเลย แต่เธอเป็นห่วงเจ้าหมาเนื่องจากรอบๆ นั้นไม่มีบ้านคนเลย แล้วก็ไม่เห็นแม่หมาอยู่แถวนั้นด้วย เธอคิดว่าหากปล่อยมันเอาไว้ตรงนั้นมันอาจจะได้รับอันตราย เธอจึงอุ้มมันขึ้นมาและพามันวิ่งไปกับเธอด้วยตลอดระยะทาง 30 กิโลเมตรที่เหลือจนถึงเส้นชัยเลยทีเดียว      หลังจากที่จบการวิ่งมาราธอนแล้ว เธอจึงเอาเจ้าหมาน้อยกลับไปเลี้ยงด้วย และตั้งชื่อให้มันว่า จอมบึง ตามชื่อของงานวิ่งมาราธอนที่ไปเจอมัน เธอเอาเรื่องที่เธอได้เจอเจ้าหมาโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก Polsin Sinsamoe และยังมีคลิปวิดีโอของเธอและเจ้าหมาในเพจ นักเดินทางรัก ซึ่งถ่ายโดยคุณ Noom Phuwis Lorkamnoed ทำให้เรื่องของเธอและเจ้าหมาดังใหญ่เลยล่ะ     จริงๆ ที่บ้านของคุณเขมจิราก็มีพี่หมาอยู่หลายตัวแล้ว การเอาจอมบึงเข้าไปเลี้ยงเพิ่มโดยกะทันหัน จึงดูน่าหวั่นใจอยู่เหมือนกันว่ามันจะเข้ากับพี่หมาที่บ้านได้รึเปล่า แต่ก็ดีที่พวกมันดูเป็นมิตรต่อกัน แถมเป็นเพื่อนเล่นให้น้องเล็กด้วย   เจ้านายบอกว่าไปวิ่งไม่ใช่เหรอ แล้วไปเอาตัวเล็กมาได้ไงเนี่ย??   ช่างเถอะ น้องมันน่ารักดี…

ทุกคนต้องเคยได้ยินมาก่อนแหละว่าหมาเป็นสัตว์ที่ฉลาดและแสนรู้ นอกจากจะเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังคำสั่งจากเจ้าของได้แล้ว มันยังมีวิธีแก้ไขปัญหาในแบบของตัวเองที่บางทีก็ดูชาญฉลาดเกินหมามากๆ อย่างเจ้าหมา พี่โทน ตัวนี้ที่ไม่อยากให้ตัวเองโดนยุงกัด ก็เลยไปเรียกให้คนข้างบ้านมากางมุ้งให้ตัวเองนอนอย่างสบายๆ นั่นเอง     พี่โทนเป็นหมาของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Monthien Pong Up โดยปกติแล้วเจ้าของคงจะกางมุ้งให้มันนอนข้างนอกบ้าน เพื่อที่มันจะได้ไม่โดนยุงกัดตอนนอน แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่งเจ้าของของพี่โทนเกิดไม่อยู่บ้านขึ้นมา เจ้าหมาจึงไม่มีใครกางมุ้งให้ ทำให้มันจำเป็นต้องนอนให้ยุงกัดอย่างช่วยไม่ได้   ยุงกัดเต็มไปหมด นอนไม่สบายเลยวุ้ย   แต่มันก็มีวิธีแก้ปัญหาแบบน่ารักๆ ในแบบของมัน ก็คือมันรู้ว่า พี่หนิง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของมันยังอยู่ มันจึงวิ่งจากบ้านของตัวเองไปที่บ้านของเธอเพื่อเรียกให้เธอมาช่วยมัน แม้จะเป็นเวลาเกือบตี 1 แล้วแต่พี่หนิงก็ลุกตามพี่โทนมา แล้วก็มาช่วยกางมุ้งให้มันนอนโดยที่ไม่ถูกยุงรบกวนใจ กลายเป็นเรื่องราวน่ารักๆ ให้ชาวเน็ตอย่างเราได้ดูกัน   เอ้ะ พี่หนิงอยู่บ้านนี่นา…ไปตามมาช่วยดีกว่า   ดึกดื่นแล้วยังมาเรียกกันแบบไม่เกรงใจเลยนะพี่โทน   อะ กางมุ้งให้แล้วนะ หลับให้สบายล่ะ   มาดูกันว่าเจ้าหมาไปเรียกเพื่อนบ้างมากางมุ้งยังไง    หลังจากที่พี่หนิงกางมุ้งให้พี่โทนเรียบร้อยแล้ว ในวันต่อมาเธอก็เลยแชทเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าของของเจ้าหมาฟัง แล้วเกิดเป็นบทสนทนาน่ารักๆ ดังต่อไปนี้   .   แหม่ เจ้าหมาก็ทั้งฉลาดและน่ารัก…

ในหนังรักโรแมนติกบางเรื่องจะมีฉากที่พระเอกแกล้งปลุกนางเอกให้ตื่น เพื่อที่พวกเขาจะได้มีโมเมนต์สวีทหวานแหววกันต่อ ซึ่งมันก็ดูโรแมนติกไม่เบาเลยล่ะ สิงโตหนุ่มตัวหนึ่งก็คงหวังจะให้เกิดฉากโรแมนติกแบบนั้นขึ้นเหมือนกัน แต่มันคงไม่รู้ว่าการปลุกสิงโตสาวที่กำลังหลับพักผ่อนอยู่ ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย เมื่อไม่นานมานี้อินสตาแกรม Lastest Sightings – Kruger ซึ่งแชร์วิถีชีวิตที่น่าสนใจของสัตว์ป่า ได้แชร์คลิปวิดีโอของสิงโตและสิงโตสาวคู่หนึ่งที่ชาวเน็ตชอบใจกันมาก     ในคลิปวิดีโอนั้นสิงโตสาวกำลังนอนหลับอยู่อย่างสนิท ส่วนสิงโตหนุ่มที่เป็นคู่ของมันกำลังเดินเข้ามาหาจากทางอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายสิงโตหนุ่มเห็นแฟนหลับอยู่แบบนั้นแล้ว มันคงหมั่นเขี้ยวนึกสนุกอยากแกล้งดู ก็เลยค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วงับเข้าให้ที่สะโพกของเธอดูเบาๆ     แต่แทนที่แฟนสาวจะตื่นมาสวีทด้วยกันเหมือนในหนังโรแมนติก เธอกลับดีดตัวตื่นด้วยความตกใจ แล้วไล่ตะปบสิงโตหนุ่มซะยกใหญ่เลยล่ะ เธอคงไม่พอใจมากที่อีกฝ่ายมากวนการนอนหลับพักผ่อนแบบสบายๆ ของตัวเอง ใครที่ชอบนอนคงจะเข้าใจเธอเป็นอย่างดีว่ามันน่าโมโหแค่ไหนตอนโดนคนปลุกโดยไม่เต็มใจ     คนจะนอน มันใช่เวลามาทำแบบนี้ไหม!?   คลิปดังกล่าวเป็นที่ถูกใจของชาวเน็ตที่ได้ชมมากๆ เลยล่ะ คงจะเป็นเพราะว่าพวกมันทั้งคู่ทำตัวเหมือนคู่ชายหญิงมนุษย์ไม่มีผิด ทุกคนก็เลยอินไปกับมันได้ง่าย เห็นแบบนี้แล้วใครที่เห็นแฟนหลับแล้วอยากแกล้ง ก็ระวังตัวกันเอาไว้ด้วยล่ะ ไม่แน่ว่าถ้าแฟนของคุณเกิดไม่พอใจขึ้นมา อาจจะโมโหน่ากลัวกว่าสิงโตสาวตัวนี้ก็ได้   งอนละ ตามมาง้อทีหลังด้วย!!   ที่มา: Lastest Sightings – Kruger , Daily Mail

ทุกคนน่าจะเคยรู้สึกเหนื่อยกันจนไม่อยากทำอะไรต่ออีกเลย ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยเรียนหรือวัยทำงาน ก็น่าจะผ่านฟีลนี้กันมาแล้วทั้งนั้น ล่าสุดไม่ได้มีเพียงแค่คนเท่านั้นที่ทำท่าเบื่อโลก เหมือนยอมแพ้กับชีวิตแล้ว ตอนนี้เจ้าแมวก็พลอยทำท่าทางเหนื่อยใจให้เราเห็นด้วยเช่นกัน เมื่อตอนที่ @pachipachi003 จากทวิตเตอร์ไปเที่ยวที่คาเฟ่แมวใกล้บ้าน เขาได้พบกับเหล่าแมวที่เข้ามาต้อนรับอย่างน่ารัก และแมวตัวอื่นๆ ซึ่งบางตัวก็พักผ่อนตามอัธยาศัยของตัวเอง…แต่มีแมวอยู่ตัวหนึ่งที่ต่างไปจากพวกโดยสิ้นเชิง   https://twitter.com/pachipachi003/status/1088406599234813952   มันคือเจ้าเหมียวสก็อตติชโฟลด์ที่นอนหมดอาลัยตายอยากอยู่ตรงเก้าอี้นั่นเอง มันนอนนิ่งไม่ขยับตัว พร้อมเหม่อมองไปในความว่างเปล่าอย่างไร้จุดหมาย เห็นแว่บแรกก็พาให้มนุษย์อย่างเราคิดว่า มันต้องเบื่องานต้อนรับมนุษย์อย่างพวกเราทุกวันแน่เลย พอวันนี้มันหมดความอดทนแล้ว ก็เลยมานอนประท้วงไม่ยอมทำงานอยู่ตรงนี้ คิดดูแล้วก็น่าขำซะจริง ที่เจ้าแมวมันสามารถทำท่าทางแสดงอารม์ได้เหมือนมนุษย์ขนาดนี้ ชาวเน็ตเองก็พากันขำที่มันทำท่าเบื่อโลกเหมือนกัน   https://twitter.com/pachipachi003/status/1088730612985294850   แต่ดูเหมือนว่าจริงๆ แล้วเจ้าสก็อตติชโฟลด์มันไม่ได้เซ็งชีวิตแบบนั้นหรอก หลังจากที่ @pachipachi003 เข้าไปนั่งในคาเฟ่แมวได้สักพักหนึ่ง มันก็ลุกขึ้นมานั่งอ้อนทาสต่อเหมือนพนักงานเหมียวตัวอื่นนั่นแหละ ที่แท้เจ้าแมวมันก็แค่ทำตัวเหม่อลอย และเข้าใจยากตามประสาแมวเท่านั้นเอง หลอกให้ทาสอย่างเราๆ ขำอยู่ซะตั้งนานแน่ะ   แหม่ ก็แค่นอนอู้แป๊บเดียวเอง เราก็มาทำงานต่อละไง https://twitter.com/pachipachi003/status/1088738246597632000     ที่มา: @pachipachi003, Sora News 24

แมวจรจัดที่ระแวงคน ก็คงจะมีช่วงที่เบื่อการเป็นแมวจรจัดอยู่บ้าง เหมือนเจ้าแมวตัวนี้ที่อยู่ๆ ก็ทำตัวขี้อ้อนขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วก็ตามตื๊ออ้อนมนุษย์จนได้ทาสสมใจ     Orange Boy (หนุ่มน้อยสีส้ม) หรือเจ้า OB เป็นแมวจรจัดในเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา คนแถวนั้นรู้จักคุ้นหน้ามันดี และก็รู้ด้วยว่ามันระแวงคนมากๆ Lynne Gramer ซึ่งเป็นอาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Boston’s Forgotten Felines ก็พบเห็นมันบางครั้งเวลาที่เธอออกไปให้อาหารแมวจรจัดเช่นกัน     กว่าเธอจะให้อาหารมันได้แต่ละครั้งก็ใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากมันไม่ค่อยถูกกับแมวจรจัดแถวนั้น จึงต้องแยกออกมาเทข้าวให้มันที่อีกจุดหนึ่ง นอกจากนั้นเจ้าแมวก็ยังทำท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เหมือนไม่อยากเข้ามาใกล้เธอทั้งๆ ที่หิว กว่าจะกินเสร็จก็เลยต้องรอดูแลมันนาน     Gramer เคยพามันไปทำหมันมาแล้วครั้งหนึ่ง แล้วก็เอามันกลับมาปล่อยข้างถนนอีก เนื่องจากทุกคนเห็นตรงกันว่านิสัยของมันคงเข้ากับคนไม่ได้ง่ายๆ หรอก ทว่าจู่ๆ วันหนึ่งระหว่างที่เธอนั่งเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้าน… OB ก็เดินเข้ามาหาเธอเองแล้วมาคลอเคลียที่ขาเธอ สร้างความประหลาดใจให้เธอมากเลยทีเดียว แถมถ้าเธอพยายามเดินเข้าบ้าน มันก็จะตะปบขาเธอเป็นการประท้วงด้วย     จากนั้นมันก็มาวนเวียนอยู่แถวบ้านเธอเรื่อยๆ แล้วก็ทำท่าทีเหมือนอยากจะเข้าไปอยู่ในบ้านเธออีกต่างหาก แต่เธอก็ไม่สามารถดูแลมันได้ เนื่องจากตอนนั้นเธอรับอุปถัมภ์สัตว์ตัวอื่นอยู่จนไม่มีที่พอสำหรับมันแล้ว ตอนนั้น OB ก็ย้ายมาอาศัยอยู่ในสวนหน้าบ้านของเธออยู่นาน ไม่ยอมจากไปไหนเลย จนในที่สุดเมื่อมีคนมาขอรับเลี้ยงสัตว์ที่เธออุปถัมภ์ไปหมด เธอจึงสามารถรับอุปถัมภ์เจ้าแมวเข้ามาในบ้านได้…

การที่เรานำสัตว์มาเลี้ยงในบ้านแล้วให้อยู่กับมนุษย์ ก็เหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากทำให้พวกมันมีคนคอยเอาอกเอาใจ และก็มีอาหารให้กินสบายๆ แต่ดูเหมือนการที่มันอยู่ใกล้ชิดกับพวกเราไปนานๆ จะทำให้พวกมันติดนิสัยแบบมนุษย์ไปด้วยซะแล้ว ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อนาคตที่สัตว์จะลุกขึ้นมาใช้ชีวิตในแบบมนุษย์อาจจะอยู่ไม่ไกลก็ได้นะ… เจ้าของสัตว์เลี้ยงทางบ้านสงสัยกันล่ะสิ ว่าเจ้าหมาเจ้าแมวที่กินๆ นอนๆ ที่บ้านมันไปทำตัวเหมือนมนุษย์ยังไง…ตอนที่พวกมันทำแบบนั้นคุณอาจจะไม่ทันเห็น เราเลยรวบรวมภาพของสัตว์ที่ทำตัวคล้ายมนุษย์มาให้ดูกันทางนี้แล้ว   แอบแชทหาสาวที่ไหนอีกล่ะ   เวลาหาวต้องปิดปากเหมือนคนด้วยเหรอ   ดูซีรีส์เรื่องนี้ยังมนุษย์ เห็นเขาว่าดี   วันนี้อยากไปเที่ยวกับพี่ไหมจ๊ะน้องสาว   เออดี อยู่บ้านก็ช่วยทาสทำงานบ้านบ้าง   ทำท่าเหมือนกำลังแอบส่องเฟซหนุ่มอยู่   ท่าโยคะนี้ได้มาจากแม่   อ๋อ กำลังอ่านหนังสือเพิ่มเติมความรู้อยู่น่ะ   ปกติแมวเขาไม่นั่งแบบนี้กันนี่นา   ก็เราเห็นทาสชอบไปลงอ่างไง เราเลยเลียนแบบบ้าง   เอ้า ซ่อมรถให้แล้วนะ ขับไปซื้อขนมให้เราได้แล้ว   ผู้ดีเขาต้องกินข้าวโดยใช้ส้อมกับมีด   แกเองก็หัดนั่งดูทีวีบ้างแล้วสินะ   โอ๊ย ทำไมงานไม่เสร็จสักที!!   ทาสทำแป้งเละไปนะ ไปทำมาเสิร์ฟใหม่   วันนี้เจ้านายดูเหนื่อยๆ นะ ให้ผมขับดีกว่า  …

ถึงจะเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา ส่วนใหญ่แล้วก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองทั้งนั้นแหละ ไม่อยากอยู่ด้วยกันตลอดหรอก แต่ลูกแมวเหมียว 2 ตัวนี้ไม่เหมือนใคร อาจจะเป็นเพราะพี่น้องของมันตายจากไปหมดจนเหลือกันแค่นี้ พวกมันก็เลยรักกันมากๆ และไม่ยอมออกห่างจากกัน     ในแหล่งอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ขณะที่คนงานกำลังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กันอยู่ มีคนสังเกตเห็นลูกแมวน้อย 2 ตัวกำลังจ้องมองพวกเขาอยู่ข้างนอกหน้าต่าง พอมีคนเดินเข้าไปใกล้ พวกมันก็หนีเข้าพุ่มไม้ที่อยู่ข้างๆ ไป แต่ก็มีตัวหนึ่งที่กล้าพอจะเดินกลับมา และเก็บเนื้อไก่ชิ้นเล็กๆ ที่คนงานโยนไว้กลับไปกินด้วย     พวกเขาเคยเห็นลูกแมวกลุ่มนี้กับแม่ของมันมาก่อน จริงๆ มันมีพี่น้องมากกว่านี้ แต่ตอนนี้ลูกแมวมีเหลือกันอยู่แค่ 2 ตัว พวกเขากลัวว่าถ้าหากปล่อยมันให้เอาตัวรอดท่ามกลางอากาศหนาว พวกมันก็จะไม่รอดเช่นกัน พวกเขาจึงติดต่ออาสาสมัครให้มาช่วยจับตัวแมวน้อยไปดูแลหน่อย…ซึ่งถึงจะต้องใช้เวลาอยู่หลายวัน พวกเขาก็จับตัวแมว 2 ตัวนี้ได้ แถมยังได้แม่แมวกลับมาด้วย     พวกเขาเอาแม่แมวส่งไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่รู้จัก เพื่อทำหมันให้มันและให้พวกเขาช่วยหาบ้านให้มันอยู่ มันจะได้ไม่ลำบากอีก ส่วนลูกแมวเหมียว 2 ตัวที่ตอนนี้ชื่อว่า Masala และ Chamalow ได้ไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์กับ Nadia ซึ่งเป็นคนที่จับตัวพวกมันได้นั่นเอง     Nadia เล่าว่าแมวเหมียว 2…

การแสดงความรักอย่างหนึ่งของแมว คือการคาบของขวัญกลับมาให้กับทาส ซึ่งส่วนใหญ่แล้วของขวัญของมันก็เป็นเหยื่อที่มันจับได้ ทว่าบางครั้งของที่มันคาบมาให้ก็เป็นของของคนอื่นที่มันไปขโมยมา!? เมื่อประมาณ 1 ปีก่อน Jade Jefferies ซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์ มักจะเจอหนังสือพิมพ์ปริศนาที่ครอบครัวเธอไม่ได้สั่ง วางทิ้งไว้อยู่ในบริเวณบ้านอยู่บ่อยๆ     จะว่าคนส่งหนังสือพิมพ์เอามาส่งไว้ผิดบ้าน ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะหากเป็นแบบนั้นจริงๆ มันก็บ่อยเกินไปแล้ว และบ้านที่สั่งหนังสือพิมพ์แต่ไม่ได้รับก็น่าจะแจ้งพวกเขาจนรู้ว่าส่งผิดบ้านแล้วด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่แปลกก็คือหนังสือพิมพ์ที่มาโผล่ในบ้านเธอมักจะมีรอยฟันเล็กๆ อยู่ด้วยเสมอ เหมือนกับว่ามันถูกสัตว์บางตัวคาบเอามาไว้ที่นี่     แน่นอนว่าพอเจอหลักฐานแบบนี้แล้ว ผู้ต้องสงสัยรายแรกที่ครอบครัวเธอคิดถึงก็คือ Max แมวเหมียว 2 สีที่พวกเธอเลี้ยงเอาไว้นี่แหละ มันอาจจะไปขโมยหนังสือพิมพ์มาให้พวกเขาก็ได้ แต่เธอก็ยังไม่ปักใจเชื่อแบบนั้นทันที เพราะจะโบ้ยให้ลูกรักอย่างมันเป็นหัวขโมยทั้งที่ไม่มีหลักฐาน ก็ดูไม่ยุติธรรมสำหรับมันเอาซะเลย เธอจึงรอดูต่อไปเพื่อให้เห็นชัดๆ ว่าใครหรือตัวอะไรกันแน่ที่เอาหนังสือพิมพ์มาแจกให้บ้านเธอ     ไม่นานนักเธอก็เจอหัวขโมยแบบจะจะจนได้ เมื่อวันหนึ่งลูกชายของเธอเห็นหัวขโมยหนังสือพิมพ์แล้วเรียก Jefferies ให้รีบมาดูตัวหัวขโมยด้วยกัน สิ่งที่เธอเห็นก็คือเจ้า Max ที่กำลังคาบหนังสือพิมพ์ไว้ในปาก เดินมาจากบ้านข้างๆ และปีนรั้วข้ามกลับมายังบ้านของเธอเพื่อวางหนังสือพิมพ์ทิ้งไว้ให้นั่นเอง      Jefferies บอกว่าเธอนึกอยู่แล้วว่ามันต้องเป็นหัวขโมย แล้วเธอก็รู้สึกผิดต่อบ้านที่มันไปขโมยหนังสือพิมพ์มาจริงๆ หวังว่ามันจะไม่ทำเรื่องให้คนส่งหนังสือพิมพ์โดนด่าเข้านะ แล้วเราก็หวังด้วยว่าเจ้าแมวจะเรียนรู้วิธีการบอกรักเธอทางอื่น…เช่นการกอด นอนตัก ร้องเหมียวๆ หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่การขโมยของของบ้านเพื่อนบ้านมาน่ะ…

อะแฮ่มๆ วันนี้เราจะมาพูดเรื่องใต้สะดือกันนิดหนึ่งนะ ทุกคนน่าจะเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “ลีลาสำคัญกว่าขนาด” ซึ่งก็สามารถใช้ได้กับมนุษย์เราอยู่แหละ แต่สำหรับเจ้าจระเข้แล้ว ความเล็กของพี่แกเป็นปัญหาใหญ่ของครอบครัวเลยล่ะ เจ้าจระเข้ Hektor จากสวนสัตว์ Poznan Zoo ใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาร่วมกับจระเข้เพศเมีย Luiza มานานแสนนานแล้ว เริ่มตั้งแต่ตอนปี 1973 ที่พวกมันยังตัวเล็กนิดเดียวกันอยู่เลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกมันก็มีกิจกรรมอันเร่าร้อนร่วมกันทุกปี แม้จะอยู่ต่อหน้าคนที่มาเที่ยวก็ไม่มีเขินอายใดๆ ทว่าจนถึงตอนนี้ซึ่งนับรวมเวลาเกือบ 50 ปีแล้ว ทั้งคู่ก็ยังไม่เคยมีลูกด้วยกันเลย!!   พี่ Hektor จระเข้หนุ่มอาภัพลูก   สัตวแพทย์พยายามตรวจหาสาเหตุที่ทั้งคู่ไม่สามารถมีลูกได้มานานแล้ว ทั้งทำการตรวจร่างกายฝ่ายหญิง แล้วก็ตรวจร่างกายฝ่ายชายด้วย แต่ผลที่ตรวจเจอก็ชี้ว่า Luiza ตกไข่เป็นปกติดี ส่วน Hektor เองก็สุขภาพดีเช่นกัน การที่ทั้งคู่ไม่สามารถมีลูกกันได้สักทีจึงสร้างความสงสัยให้กับคนในสวนสัตว์พอดู   เราก็ขยันทำลูกกันทุกปีนะเธอ ทำไมไม่มีลูกอะ!!   จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้มีหมอชำนาญการพิเศษจากประเทศเยอรมนีได้เดินทางมาตรวจมันดู เขาบอกว่าเขาพบสิ่งที่น่าจะเป็นสาเหตุของการมีลูกไม่ได้แล้ว…นั่นก็คือขนาด ‘กระปู๋’ ของเจ้า Hektor มันเล็กเกินไปนั่นเอง!? คุณหมอบอกว่าการที่จระเข้มีกระปู๋เล็ก แม้จะร่วมกิจกรรมป่ามป๊ามกันได้ ก็เป็นปัจจัยให้พวกมันมีลูกยากอยู่เหมือนกัน และเจ้า Hektor ก็เล็กจริงๆ ซะด้วย  …

เคยได้ยินไหมว่าธรรมะทำให้เราสุขใจ เรื่องนี้น่าจะจริงนะ เพราะแค่เรามองดูเจ้าอาวาสผู้เปี่ยมธรรมะ กำลังป้อนขนมให้แมวด้วยความเมตตา เราก็รู้สึกชื่นใจตามแล้ว     ชายในคลิปวิดีโอคนนี้คือเจ้าอาวาสของวัด Chorakuji ในจังหวัดโทชิงิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งวัดแห่งนี้นับถือเทพ Kanon ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความเมตตาเป็นพิเศษ และดูเหมือนว่าเจ้าอาวาสท่านนี้เองก็มีเมตตามากเช่นกัน แม้ว่าเขากำลังกินข้าวเช้าของตัวเองอยู่ เขาก็ไม่ขัดใจเจ้าแมวที่มารายล้อมและต้องการอยู่ข้างๆ เขา   住職の朝ごはん。 pic.twitter.com/PYHm6vvA3u — 那須の長楽寺 (@nasu_chourakuji) January 13, 2019   จะเห็นได้ว่าท่านอุ้มแมวไว้บนตักตัวหนึ่ง อีกตัวหนึ่งมาเบียดอยู่ที่แขนข้างซ้าย และก็ยังมีอีก 2 ตัวเกาะรออยู่ตรงขอบโต๊ะอีกต่างหาก ทาสแมวจะรู้ดีว่าการรับมือกับแมวจำนวนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ถ้าเป็นคนอื่นที่กำลังทำธุระของตัวเองอยู่ คงจะอุ้มหรือปัดพวกมันให้ออกไปห่างๆ ด้วยความรำคาญแล้วล่ะ ทว่าเจ้าอาวาสท่านกลับไม่ว่าอะไรพวกมันเลย ท่านอยู่ร่วมกับพวกมันด้วยความสงบ แถมยังให้พวกมันกินข้าวด้วยกันอีก     แต่สิ่งที่พวกมันเล็งอยู่ไม่ใช่อุด้งในถ้วยของท่านหรอกนะ พวกมันรอกินปลาตากแห้งซึ่ง ท่านตั้งใจเอาไว้กินเป็นกับต่างหาก ในคลิปจะเห็นท่านเจ้าอาวาสพักจากการกินข้าวของตัวเอง แล้วค่อยๆ หยิบปลาแห้งป้อนแมวแต่ละตัวด้วยความเบามือ เป็นภาพที่น่ารักมากเลยล่ะ   住職の朝ごはん。 pic.twitter.com/cGguEKMJCv — 那須の長楽寺…

หมาน้อยตัวนี้ประสบเหตุไฟไหม้มาตั้งแต่ยังเล็ก มันเกือบเอาชีวิตไม่รอดหากไม่มีคนไม่ช่วยเอาไว้ ทว่าพอโตมาแทนที่มันจะกลัวและออกห่างจากไฟ มันก็ยังทำงานเกี่ยวกับอัคคีภัยอยู่ดี โดยเป็นถึงผู้ช่วยสอนการหนีไฟเชียวนะ     หมาน้อย Jake ประสบเหตุไฟไหม้ตั้งแต่อายุได้แค่ 3 สัปดาห์ โดยมันติดอยู่ในโรงเก็บของที่กำลังถูกไฟไหม้ ด้วยความที่ยังเด็กจึงไม่สามารถหนีออกมาเองได้ โชคดีที่ข้างบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ Bill Lindler ซึ่งเป็นนักดับเพลิงพอดี ทันทีที่เขาเห็นควันไฟเขาจึงคว้าอุปกรณ์ดับเพลิงในบ้านและไปช่วยมันไว้ได้ทัน     จริงๆ แล้ว Jake เป็นหมาของเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุไฟไหม้ ทว่าหลังเกิดเหตุลูกหมาน้อยมีแผลไหม้เกือบทั้งตัว แม้แต่ตรงฝ่าเท้าก็ด้วย ทางครอบครัวจ่ายค่ารักษาให้มันไม่ไหว พวกเขาจึงทิ้งมันไว้ที่คลินิกที่พามันไปตรวจ ตอนนั้นเองที่ Bill ตัดสินใจรับเลี้ยงมันเอาไว้เอง และก็จ่ายค่ารักษาให้มัน     น้องหมามีแผลไหม้เกือบทั้งตัว   ครอบครัวเก่าไม่ยอมจ่ายค่ารักษา และทิ้งมันไว้ นักดับเพลิงที่ช่วยมันจึงรับเลี้ยงต่อแทน   ถึงจะบอกว่า Bill เป็นคนรับเลี้ยงมันไว้ แต่เขาก็พามันไปที่สถานีดับเพลิงด้วยบ่อยๆ และคนในนั้นก็ช่วยกันดูแลเจ้าหมาด้วย มันจึงเหมือนกับเป็นหมาของสถานีดับเพลิง พออยู่ไปนานๆ เข้าในที่สุด Jake ก็กลายเป็นมาสคอตแสนน่ารักและเป็นมิตรของสถานีดับเพลิงแห่งนั้นไป     กลายเป็นหมาประจำสถานีดับเพลิงซะงั้น   เท่ไหมล่ะครับ?  …

คนที่เลี้ยงสุนัขรู้ดีว่าพวกมันนั้นสำคัญสำหรับเรามาก แม้มันจะถูกมองว่าเป็นสัตว์เลี้ยง แต่มันก็เป็นเพื่อนคนสำคัญที่ไม่มีใครสามารถมาแทนที่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนไร้บ้าน ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเพื่อน 4 ขา เมื่อเขาได้กลับมาเจอกับเจ้าหมาที่หายไปนานนับสัปดาห์ เขาจึงปล่อยโฮออกมาโดยไม่แคร์สายตาใคร     Lee เป็นชายหนุ่มอายุ 24 ปีซึ่งเป็นคนไร้บ้านในเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ ปกติแล้วเขาจะอยู่กับหมาสีขาวอายุ 2 ปีที่ชื่อ Crystal ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมยากคนสำคัญของเขา ทว่าเมื่อไม่นานมานี้เจ้าหมาวิ่งหนีหายไป เนื่องจากตกใจที่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกันใกล้ๆ กับสะพานที่พวกเขาอาศัยนอน ชายไร้บ้านจึงไปขอความช่วยเหลือจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Helping Hands ให้ช่วยตามหามัน…อาสาสมัครช่วยเหลือเขาตามหามันอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่มีวี่แววของเจ้าหมาเลย     Toni Mella Sweeney ซึ่งเป็นอาสาสมัครที่ช่วยตามหาเจ้าหมาเล่าว่า “เราช่วยกันตามหามันอยู่นาน 2 วันแรกเราไม่เจออะไรเกี่ยวกับมันเลย หลังจากนั้นก็มีคนบอกว่าพบเห็นมันบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นมันรึเปล่า” ยิ่งนานเข้า Lee ก็ยิ่งกังวลว่าจะมีคนลักพาตัวเจ้า Crystal ไป ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงไม่มีทางได้เจอมันอีกเป็นแน่ ทว่าโชคดีก็ยังเข้าข้างเขา หลังจากที่เจ้าหมาหายไปนาน 9 วันก็มีคนเจอมัน แล้วพาเจ้าหมากลับมาหาชายไร้บ้าน ทันที่เขาได้เจอหน้ามัน เขาก็ดีใจและบอกขอบคุณทุกคนที่ช่วยเขาตามหาเจ้าหมาทั้งน้ำตา     …

ปกติแล้วแขกที่ไปเยี่ยมศูนย์พักพิงสัตว์ จะเป็นคนที่กำลังมองหาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ และตามหาหมาหรือแมวที่ใช่สำหรับตัวเองอยู่ แต่บางครั้งก็จะมีนักข่าวหรือคนจากองค์กรต่างๆ ที่มาสัมภาษณ์และถ่ายทำเรื่องเจ้าหมาจรจัด เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์และทำให้พวกมันได้เจอเจ้าของไวขึ้น ครั้งนี้ก็มีนักข่าวคนหนึ่งมาทำข่าวในศูนย์พักพิงสัตว์เช่นกัน ทว่าสิ่งที่เขาได้กลับไปนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ข่าว…เขาได้หมาตัวหนึ่งกลับไปเลี้ยงด้วยเลย     ตอนที่มีนักข่าวมาทำข่าวที่ศูนย์พักพิงสัตว์แห่งหนึ่ง หมาในศูนย์พักพิงต่างก็ให้ความสนใจกับคนแปลกหน้าที่มาเยี่ยม พวกมันพากันเข้าไปรุมดมเขากันใหญ่เลย หลังจากพวกมันมาดมทักทายเขาได้แป๊บเดียว พวกมันก็เดินจากไปเล่นกันต่อตามปกติ ทว่ามีหมาอยู่ตัวหนึ่งที่ยังไม่ยอมไปจากเขา มันกระโดดยืนขึ้นใช้ขาหน้าทั้ง 2 ข้างเกาะขาของนักข่าวเอาไว้ แล้วก็เอาหัวไปซบไว้ที่สะโพก ราวกับกำลังพยายามอ้อนขอความสนใจอย่างหนัก      นักข่าวคนนั้นดูเหมือนจะเข้าใจว่ามันอยากให้เขาเล่นด้วย เขาก็เลยไม่ได้ผลักมันออก เพียงแต่ยืนให้มันเกาะนิ่งๆ และลูบหัวให้มันเท่านั้น พอเห็นนักข่าวสนใจมันบ้าง เจ้าหมาก็หลับตาพริ้มและส่ายหางไปมาอย่างแรง ไม่ว่าใครได้เห็นภาพนี้ก็คงคิดว่าน่ารักมากทั้งนั้น     แม้ว่าจะผ่านไปนานหลายนาที เจ้าหมาก็ยังไม่ยอมผละตัวออกจากขาของนักข่าวเลย ต้องรออยู่นานกว่าเขาจะได้ออกไปสัมภาษณ์อาสาสมัครเพื่อทำงานให้เสร็จ ทว่าหลังเสร็จงานแล้ว นักข่าวก็ไม่ได้เอาข่าวกลับไปอย่างเดียว ดูเหมือนว่าการอ้อนของเจ้าหมาจะทำให้เขาใจอ่อนเข้าซะแล้ว เขาก็เลยทำเรื่องรับเลี้ยงเจ้าหมาตัวนั้นไปอยู่กับเขาซะเลย     ไม่รู้นะว่าที่เจ้าหมาเข้าไปกอดไปอ้อนนักข่าวแบบนั้น เป็นเพราะมันรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับมัน หรือว่ามันวางแผนจะอ้อนเพื่อให้เขารับเลี้ยงอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นอย่างหลังล่ะก็ถือว่ามันทำสำเร็จตามแผนอย่างสวยงามเลยล่ะ   ที่มา: Love for Animals, Animal Channel 

มันเป็นไปได้เหรอที่ลูกหมาตัวเล็กๆ จะร่วงลงมาจากท้องฟ้าโดยที่ไม่เป็นอะไรเลย…เป็นไปได้สิ เพราะลูกหมาตัวนี้ผ่านเรื่องนี้มาแล้ว!! ที่ไซต์ก่อสร้างแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่คนงานกำลังทำงานกันอยู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงลูกหมาร้องเหมือนขอความช่วยเหลือ ทุกคนจึงช่วยกันตามหาต้นตอของเสียงนั้น แต่ถึงพวกเขาจะสอดส่องดูรอบๆ ไซต์ก่อสร้างเท่าไหร่ พวกเขาก็ไม่เห็นวี่แววลูกหมาเลยสักตัว…ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งถึงจะมีคนรู้ตัวว่าเสียงลูกหมาตัวนั้นมาจากข้างบนหัวพวกเขาต่างหาก     เมื่อมองตามเสียงขึ้นไปพวกเขาก็เห็นลูกหมาตัวน้อยๆ อยู่ในกรงเล็บของเหยี่ยวตัวหนึ่ง มันคงถูกเหยี่ยวฉกตัวมาจากที่ไหนสักแห่งแล้วบินมาถึงตรงนี้ แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้ทำอะไร เหยี่ยวตัวนั้นก็ปล่อยหมาน้อยร่วงลงมา คนงานต่างก็รีบวิ่งด้วยความตกใจไปยังจุดที่ลูกหมาตก และรีบพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที     เมื่อไปถึงมือสัตวแพทย์แล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าลูกหมาตัวนี้แทบไม่ได้รับบาดเจ็บเลยทั้งที่ตกลงมาสูงมากๆ มันออกจะดูสบายดีซะด้วยซ้ำไป มันไม่มีแผลจากการตกลงมา หรือว่าแผลภายในร่างกายเลยสักนิด จะมีก็แค่แผลถลอกที่หัวและท้อง ซึ่งเกิดจากกรงเล็บของเหยี่ยวอีกต่างหาก     ต่อมาเจ้าหมาก็ถูกส่งไปอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Austin Animal Center เนื่องจากคิดว่ามันไม่น่าจะมีเจ้าของ และมันก็ต้องการคนดูแลด้วย พวกเขาตั้งชื่อหมาน้อยตัวนี้ว่า Tony Hawk ซึ่งเป็นชื่อของนักสเก็ตบอร์ดที่มีชื่อเสียง แต่ไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับสเก็ตช์หรอก มันน่าจะได้ชื่อนี้เพราะถูกเหยี่ยวคาบมามากกว่า     แม้จะพึ่งผ่านเรื่องราวหน้าสิ่วหน้าขวานมา เจ้าหมาก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือฝังใจเลยสักนิด มันเอาแต่พยายามอ้อนให้คนเล่นด้วย แม้จะใส่สายยาอยู่ Tony ก็พยายามจะตะกายตัวออกมานอกผ้าห่ม เพื่อให้คนที่ดูแลมันอยู่ลูบและเล่นกับมันได้นั่นเอง     ว่าไปแล้วเจ้าหมาก็เหมือนกับซูเปอร์แมนเลยเนอะ ถึงจะหล่นลงมาจากที่สูงแต่ก็ไม่เป็นอะไรเลย ใส่เสื้อซูเปอร์แมนแล้วเข้ากันเป็นที่สุด ตอนนี้เจ้าหมาน้อยยังต้องอยู่ในความดูแลของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ไปก่อน…

เคยสงสัยกันรึเปล่าว่าการให้สัตว์เลี้ยงมานอนบนเตียงด้วยมันดีหรือไม่ดี? แม้แต่ในกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์เอง ก็มีทั้งคนที่คิดว่าการนอนหลับกับสัตว์เลี้ยงอาจรบกวนการนอนหลับของเรา และอีกส่วนก็คิดว่ามันช่วยให้เราหลับง่ายขึ้น ตอนนี้คงไม่ต้องเถียงกันต่อให้เสียเวลาแล้ว เนื่องจากมีนักวิจัยช่วยกันทำการเก็บข้อมูล และชี้ถึงข้อดี 5 ข้อในการนอนหลับร่วมกับสัตว์เลี้ยงให้เราฟังกันชัดๆ ไปเลย   1. ช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง   หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่นอนไม่หลับเพราะมีอาการเจ็บปวดเรื้อรังจากโรค การนอนหลับกับสัตว์เลี้ยงน่าจะเป็นทางออกที่ดีอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้คุณหลับได้สนิทมากขึ้น นักวิจัยชาวแคนาดา ศึกษา มาแล้วว่าผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังจะรู้สึกปวดน้อยลงเมื่อนอนกับสัตว์เลี้ยง เนื่องจากพวกมันช่วยดึงความสนใจไม่ให้คุณจดจ่ออยู่กับความเจ็บปวดที่มี   2. ทำให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น   จาก การเก็บข้อมูล ในศูนย์การนอนหลับ เมืองสก็อตเดล ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าคนที่นอนหลับกับสัตว์เลี้ยง รู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อมีสัตว์เลี้ยงอยู่ข้างๆ เนื่องจากพวกเขามั่นใจว่าหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น พวกมันจะปลุกเขาให้ตื่นรับมือกับเหตุการณ์นั้นได้ นอกจากนี้พวกมันก็จะช่วยปกป้องเขาอีกแรงด้วย   3. เพิ่มความผ่อนคลาย https://www.instagram.com/p/Bou4L6pAzI1/   สำหรับข้อนี้น่าจะเป็นผลเกี่ยวกับเนื่องมาจากข้อข้างต้น เพราะพอเราไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยแล้ว มันก็จะทำให้เราหมดกังวล พอเราไม่มีเรื่องเหล่านั้นมากวนใจเราก็จะหลับสนิทยิ่งขึ้นนั่นเอง โดยข้อมูลเรื่องความสบายใจนี้ก็อ้างอิงจาก การเก็บข้อมูล เดียวกันของศูนย์การนอนหลับ เมืองสก็อตเดล ประเทศสหรัฐอเมริกา   4. ช่วยให้เราไม่รู้สึกเหงาเดียวดาย https://www.instagram.com/p/BnuBbWuCZ62/   ข้อนี้จะยิ่งเห็นได้ชัดในกลุ่มคนโสด หรือคนที่ต้องนอนตามลำพัง ผลวิจัย บ่งชี้ว่าพวกมันจะไม่ทำให้คุณคิดฟุ้งซ่านเรื่องความเหงาอีกต่อไป แล้วก็ยังเป็นเพื่อนกอดนอนที่ดีอีกด้วย  …

ปกติสัตว์เลี้ยงแทบทุกตัวไม่ชอบไปหาสัตวแพทย์ทั้งนั้น ถ้ามันรู้ว่าเราจะพาไปหาหมอล่ะก็ พวกมันจะรีบหาทางเลี่ยงหรือซ่อนตัวแบบสุดชีวิต มีไม่กี่ตัวหรอกที่เป็นเด็กดีกล้าเผชิญหน้ากับหมอ และในกลุ่มที่เป็นเด็กดีกับคุณหมอ ก็ยังมีน้อยตัวอีกต่างหากที่ทำท่าดีใจเหมือนรอเจอหมอมานาน การที่เจ้าหมาตัวนี้ทำท่าดีใจเกินเบอร์ตอนไปคลินิก จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตชอบใจเป็นที่สุด     เจ้าหมา Endo เป็นสุนัขสีดำที่ดูสดใสร่าเริงตลอดเวลา ตลอดเวลาที่เจ้าของอยู่กับมันมา ดูเหมือนมันจะมองทุกสิ่งเป็นเรื่องน่าสนุกไปเสียหมดเลย สิ่งที่ทำให้ทุกคนเห็นว่ามันอารมณ์ดีได้ชัดเจน ก็คือมันมักจะกระโดดโหยงๆ เวลาที่มันเจอสิ่งที่มันชอบใจ…ซึ่งมันก็ทำท่าทางแบบนี้กับแทบทุกสิ่งที่มันเจอนั่นแหละ     มนุษย์กลับบ้านมาแล้ว ดีใจจังเลย โดดต้อนรับดีกว่า https://www.instagram.com/p/Br8xDSQjF9-/?utm_source=ig_embed   เย้ๆๆๆๆ จะได้ไปเดินเล่นแล้ว แม่รีบกินข้าวเร็ว อยากไปข้างนอก!! https://www.instagram.com/p/Brs-8oVj7m2/?utm_source=ig_embed   เล่นหิมะสนุกจังเลยโว้ย อยากมาเล่นทุกวันจัง https://www.instagram.com/p/Br_pGY7AOua/?utm_source=ig_embed   แม้แต่ตอนที่มันไปหาสัตวแพทย์ เจ้าหมาก็ยังทำท่าทางดีใจที่ได้ไปหาหมอ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่แม่ของมันพามันไปหาสัตวแพทย์ในโรงพยาบาลสัตว์ของมหาวิทยาลัยประจำรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระหว่างที่เธอกำลังอธิบายกับคุณหมอ ว่ามันไปเล่นซนจนมีหญ้าหางจิ้งจอกติดอยู่ในหูและเอาออกไม่ได้นั่นเอง เจ้าหมาก็กระโดดด้วยความดีใจ ราวกับรอเจอคุณหมอแทบไม่ไหวแล้ว ซึ่งสัตว์ตัวอื่นไม่ค่อยทำแบบนี้หรอก     กล้องวงจรปิดในโรงพยาบาลสัตว์ถ่ายภาพมันตอนนั้นเอาไว้ได้ และโพสต์แชร์ลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง กลายเป็นคลิปวิดีโอที่ทำให้คนเห็นความน่ารักของมัน และทำให้ชาวเน็ตรู้จักมันมาก ถ้าหากเพื่อนๆ ติดใจในท่ากระโดดของเจ้า Endo สามารถตามไปดูชีวิตประจำวันของมันได้ในอินสตาแกรม Endo The Jumping…

เมื่อต้องเสียเพื่อนสนิทที่อยู่ด้วยกันมานานไป แม้จะเป็นแมวมันก็คิดถึงเพื่อนไม่ได้ต่างไปจากเราเลย ลองไปดูแมวเหมียวตัวนี้สิ แล้วคุณจะเห็นว่ามันคิดถึงเพื่อนมากแค่ไหน ตั้งแต่เหมียวสีเทา-ขาว Sen เข้ามาอยู่ในบ้านกับเหมียวดำ Alesana พวกมันก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเกือบจะตลอดเวลา พวกมันเป็นเพื่อนสนิทที่แทบไม่เคยอยู่ห่างกัน      Emma Pearce ซึ่งเป็นทาสของพวกมันมักจะเห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน นอนกอดกัน และก็เลียขนให้กันอยู่เสมอ ทว่าเมื่อ Alesana อายุได้ 8 ปีมันก็ป่วยเป็นโรคมะเร็ง และก็ตายจากเพื่อนของมันไปตอนสิ้นปี 2018 ทิ้งให้เพื่อนของมันต้องอยู่เดียวดาย Pearce เล่าว่า “ฉันคิดว่า Sen รู้ว่าเพื่อนของมันไม่อยู่แล้ว มันมักจะนั่งอยู่ใกล้ๆ กับหน้าต่างตรงประตูหน้า และก็มองออกไปข้างนอกอยู่นาน บางทีมันก็เดินไปรอบๆ ห้องแล้วจ้องมองตรงที่ Alesana ชอบอยู่”     จนเมื่อไม่นานมานี้ทางครอบครัวก็ได้ของที่ระลึกจากการเอาร่าง Alesana ไปเผากลับมา ซึ่งได้แก่รอยเท้าของมัน ขี้เถ้าของมัน และก็ขนกระจุกหนึ่งด้วย Pearce จึงเกิดความขึ้นคิดว่าถ้าเจ้า Sen ได้กลิ่นของเพื่อน คงจะทำให้มันหายคิดถึงกันได้บ้าง และก็จะช่วยให้มันทำใจกับการจากไปของเพื่อนสนิทได้ง่ายขึ้น     เธอจึงเอาของและรอยเท้าของ Alesana ไปให้ Sen ดู…ทันทีที่มันได้กลิ่นเพื่อนจากขนที่เหลืออยู่…

เป็นที่รู้กันดีว่าพี่หมาชิบะ นอกจากจะเป็นสายพันธุ์ที่มีความแสนรู้ และความซื่อสัตย์แล้ว มันยังเข้ากับคนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย… พี่หมา Daifuku เองก็เป็นหมาชิบะที่มีนิสัยเหมือนที่บรรยายไว้ไม่มีผิดเลย และยิ่งชาวเน็ตได้เห็นความอ่อนโยนของมันที่มีต่อเด็กน้อย ก็ยิ่งทำให้พวกเขาหลงรักมันเข้าไปอีก   https://www.instagram.com/p/_4MxUuQYPC/?utm_source=ig_embed   เจ้า Daifuku เป็นหมาของคุณ Goto และมันก็เป็นหนึ่งในหมาเซเลบที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นด้วย สังเกตได้จากยอดติดตามอินตาแกรมของมันที่ตอนนี้เกือบจะแตะยอด 400,000 คนแล้ว นอกจากจะมีคนรู้จักมันมากมายแล้ว เจ้าหมาก็ยังมีปฏิทิน สติกเกอร์ และแสตมป์เป็นของตัวเองอีกต่างหาก เรียกได้ว่าในกลุ่มคนรักสัตว์น่าจะมีคนรู้จักมันเยอะเชียวล่ะ   https://www.instagram.com/p/BsxyZVIBwbw/?utm_source=ig_embed   ก่อนหน้านี้ Daifuku ก็ทำตัวน่ารักและเป็นมิตรจนชนะใจชาวเน็ตอยู่แล้ว แต่พอคุณ Goto มีลูกสาวตัวน้อยชื่อ Ichigo ความอ่อนโยนของเจ้าชิบะก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นมาอีก โดยช่วงนี้เจ้าหมาจะติดเด็กน้อยคนนี้มากเป็นพิเศษเลย มันน่าจะคิดว่าเธอเป็นน้องสาวของตัวเอง ก็เลยพยายามดูแลอย่างดีที่สุด…และสิ่งที่มันทำได้ดีสุดๆ ไปเลยก็คือการช่วยให้น้องหยุดร้องไห้   https://www.instagram.com/p/BsNwvtIhgM9/?utm_source=ig_embed   เมื่อไหร่ก็ตามที่ Ichigo เกิดร้องไห้ขึ้นมาโดยที่คุณแม่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ เจ้า Daifuku จะเข้าไปปลอบเธอโดยการเลียมือเธอเบาๆ เหมือนกับพยายามบอกว่า “ไม่ต้องร้องนะ พี่หมาอยู่ข้างๆ เธอแล้ว” จากนั้นเด็กหญิงก็จะหยุดร้องไห้แทบจะในทันที ความอบอุ่นและอ่อนโยนที่เจ้าหมามีให้กับน้อง ทำเอาชาวเน็ตใจละลายกันเป็นแถบเชียวล่ะ และก็ทำให้มีคนรักมันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม…

ดูเหมือนว่ามนุษย์เราจะไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่อยากใส่แว่นซะแล้ว เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าพี่อัลปาก้าตัวนี้ก็อยากได้แว่นใส่บ้างเหมือนกัน ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมา ในแค้วนบริตทานี ประเทศฝรั่งเศสมีอัลปาก้าตัวหนึ่งเดินเข้าไปในร้านแว่น Les Opticiens Mutualistes แล้วเดินดูแว่นอยู่นานเลยทีเดียว มันเดินดูแว่นอยู่เงียบๆ โดยไม่ได้รบกวนหรือมีท่าทีดุร้ายต่อลูกค้าท่านใด พอดูมุมหนึ่งเสร็จมันก็วนไปดูที่อีกมุมต่อ ราวกับมันกำลังเลือกแว่นของตัวเองอยู่ เป็นภาพที่สร้างความแปลกใจให้กับคนที่ได้เห็น     พนักงานในร้านเล่าว่าเจ้าอัลปาก้าตัวนี้น่าจะหลุดมาจากละแวกใกล้เคียง โดยมันเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูอัตโนมัติของร้าน พอประตูเปิดออกมันก็เดินดูแว่นด้านในอย่างสบายอารมณ์ เธออธิบายถึงมันว่า “เจ้าอัลป้าก้าไม่ได้ดุร้ายเลยสักนิด มันก็แค่เดินดูโน่นนี่ตามความต้องการของตัวเองเท่านั้นแหละ” มันเดินดูแว่นอยู่นานครึ่งชั่วโมง ก่อนที่พนักงานจะตัดสินใจล็อกประตูร้าน เพื่อกันไม่ให้อัลปาก้าตัวนี้วิ่งออกไปกลางถนนและถูกรถชน จากนั้นก็โทรแจ้งตำรวจให้ตามหา เจ้าของและให้เขามารับตัวมันกลับไป     หลังจากที่มันเดินดูแว่นอยู่ในนั้นได้นานชั่วโมงครึ่ง ในที่สุดตำรวจก็สามารถตามหาตัวเจ้าของของมันได้ เขาจึงเข้ามารับตัวมันกลับไปอย่างปลอดภัย ซึ่งเจ้าของของมันก็เป็นคนในท้องที่ที่เลี้ยงมันไว้ในฟาร์มใกล้ๆ นี้นี่เอง มันคงจะหลุดออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว แล้วเดินเพ่นพ่านมาจนถึงร้านแว่นแห่งนี้     คิดดูแล้วเจ้าอัลปาก้าอาจจะไม่ได้บังเอิญเข้ามาในร้านแว่นก็ได้นะ ท่าทางมันอยากได้แว่นสักอันหนึ่ง ดูจากสายตาของมันที่ไม่ได้มีปัญหาก็คงเป็นแฟชั่นสวยๆ สักอันไว้ใส่เท่ๆ ก็เลยหนีออกจากบ้านมาดูแว่นด้วยตัวเอง…อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ที่มา: Mirror, Sputnik News, China Xinhua News

ปกติแล้วแมวไม่ได้เป็นมิตรกับคนทุกคน มันออกจะหวงตัวและไว้ใจคนยากด้วยซ้ำไป ถึงเราจะเป็นแมวที่เราเลี้ยงมานาน บางทีมันก็ยังดูไม่ค่อยรักเราเลย การที่หญิงสาวคนนี้มีแมวมาคอยดักรอเจอทุกวัน แล้วก็เข้ามาอ้อนมาออเซาะเธอ จึงเป็นสิ่งที่น่ารักและน่าอิจฉามาก แต่ที่น่าสนใจก็คือเธอไม่ได้เลี้ยงหรือดูแลเจ้าแมวตัวนี้เลย…มันเป็นแค่แมวของเพื่อนบ้านต่างหาก     จากโพสต์ของคุณ Pairy Cat ในเพจ ‘ทาสแมว’ เธอเล่าว่าทุกเย็นหลังจากที่เธอกลับจากการทำงานมาที่บ้าน จะมีแมวเหมียวเพศผู้สี ส้ม-ขาว ตัวหนึ่งรอต้อนรับเธออยู่เสมอ พอมันเจอหน้าเธอ มันก็จะรีบวิ่งปรี่เข้ามาแล้วล้มตัวลงที่ขาของเธอ จากนั้นก็จะทำการถูๆ ไถๆ อ้อนขอความรักจากเธอด้วยความน่าเอ็นดู     หลายคนอาจหลงคิดว่ามันต้องเป็นแมวที่เธอเลี้ยงดูอย่างดี มันเลยตอบแทนเธอด้วยความรักแบบนี้ ทว่ามันไม่ใช่แมวที่เธอเลี้ยงไว้หรอก มันเป็นแมวของเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดออกไป 2 หลังต่างหาก Pairy Cat ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงติดเธอมากขนาดนี้ รู้แค่ว่ามันจะมารอเจอเธอทุกเย็น แถมบางวันยังพาเพื่อนมาอ้อนเธอเพิ่มด้วย…ช่างผิดกับแมวของตัวเองที่ชอบเมินเจ้าของซะจริงๆ อุ้มก็ยังไม่ได้อีกต่างหาก     ความน่ารักของเจ้าแมวเพื่อนบ้านยังไม่หมดเท่านี้นะ ถ้าวันไหนเธอกลับเข้าไปในบ้านก่อนมันจะทันมารอเธอ เจ้าแมวก็จะร้องเมี๊ยวๆๆๆ เพื่อเรียกให้เธอออกมาเล่นด้วยอยู่ดี ดูเหมือนมันจะรักเธอมากจริงๆ นะเนี่ย ถึงได้มารอต้อนรับอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ไม่เคยหายหน้าหายตาไปไหนเลย     เห็นเจ้าแมวมาอ้อนออเซาะเธอด้วยความรักแบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่ากับเจ้าของตัวเอง มันจะอ้อนแบบนี้บ้างรึเปล่า…หรือว่าตอนอยู่บ้านมันก็เมินเจ้าของเหมือนแมวของเธอเอง แหม่ ถ้าแมวที่บ้านเราแสดงความรักกับเราเหมือนกับเจ้าตัวนี้บ้าง คงจะดีไม่น้อยเลย เราจะได้รู้ชัดๆ…

ความสัมพันธ์กับคนพิเศษ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงพิเศษเหมือนเดิมเสมอ… ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 ด้วยวัยเพียงแค่ 2 เดือนหมาน้อย Charlie ก็ถูกเจ้าของเอามาทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ซะแล้ว Kristina Helfer ซึ่งเป็นอาสาสมัครอยู่ที่นั่นเห็นถึงว่าเจ้าหมาต้องการคนรักและใส่ใจ เธอจึงรับอุปถัมภ์มันและพามันไปอยู่ที่บ้านด้วย     จริงๆ แล้ว Helfer ตั้งใจแค่อยากให้ Charlie ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่น ไม่ต้องอยู่ในสถานที่วุ่นวายอย่างศูนย์พักพิงสัตว์ ทว่าพอเอามันกลับมาบ้านแล้ว เจ้า Charlie กับหมา Piper ที่เธอเลี้ยงเอาไว้กลับเข้ากันได้ดีเกินคาด จึงเหมือนกับว่าเธอได้พามันมาเจอกับแม่ตัวใหม่เลย     Helfer เล่าว่าเธอรับอุปถัมภ์หมาอยู่เสมอ แล้วเจ้า Piper ก็จะเป็นผู้ช่วยในการดูแลสุนัขที่มาใหม่ทุกครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอเห็นมันมีสายสัมพันธุ์ลึกซึ้งกับตัวอื่น เหมือนกับที่มันรู้สึกกับ Charlie เลย Piper จะคอยอยู่เป็นเพื่อนเล่นให้ Charlie ตลอดเวลา แล้วก็คอยสอนให้มันขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง แล้วก็ไม่ดื้อซนกับมนุษย์จนมากเกินไปด้วย มันดูเหมือนแม่ลูกกันจริงๆ     รักแม่ตัวนี้ที่สุด   เจ้าหมาทั้ง 2 ตัวใช้เวลาร่วมกันในบ้านของ Helfer อยู่หลายเดือน…

ชาวเน็ตจีนพากันชื่นชมเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้ เนื่องจากมันซื่อสัตย์และรักเจ้าของ แถมยังสามารถนำทางรถพยาบาลไปช่วยเจ้าของได้อีกด้วย เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2019 ที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยในเมืองยุนเฉิง มณฑลชานซี ประเทศจีนได้รับแจ้งว่ามีชายคนหนึ่งหมดสติอยู่ในซอยเล็กๆ ทีมกู้ภัยจึงรีบนำรถออกไปยังจุดที่ได้รับแจ้ง เพื่อจะได้นำตัวเขาส่งไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อพวกเขาขับไปจนใกล้ถึงจุดที่ได้รับแจ้งแล้ว ก็พบว่ามีสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวหนึ่งนั่งขวางอยู่กลางถนน     แต่ทันทีที่มันเห็นรถพยาบาล เจ้าหมาก็ลุกขึ้นวิ่งไปข้างหน้า และหันหลังกลับมามองรถพยาบาลเป็นระยะ เมื่อมันมั่นใจแล้วว่ารถพยาบาลตามมันมา เจ้าหมาก็เร่งความเร็วเต็มฝีเท้าไปตามถนนต่อทันที เส้นทางที่เจ้าหมาวิ่งไปนั้นเป็นเส้นทางเดียวกับที่รถพยาบาลต้องไปรับผู้ป่วยพอดี พวกเขาตามมันไปเรื่อยๆ จนถึงที่หมายซึ่งมีคนมุงดูชายที่หมดสติอยู่ พอรับตัวผู้ป่วยไปและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากคนในละแวกนั้น จึงได้ทราบว่าหมาตัวนี้เป็นหมาของชายที่หมดสติอยู่นั่นเอง มันไปนั่งอยู่กลางถนนเพื่อรอรถพยาบาลมารับตัวเจ้านาย และพอเห็นรถมามันก็ช่วยวิ่งนำทางให้     เมื่อทีมกู้ภัยได้รู้แบบนั้นแล้ว ก็อดชื่นชมในความแสนรู้และความรักเจ้านายของหมาโกลเด้นตัวนี้ไม่ได้เลย พวกเขาจึงเอาคลิปวิดีโอตอนเจอเจ้าหมาแชร์บนโซเชียลมีเดีย เพื่อให้ชาวเน็ตได้เห็นความแสนรู้ของมันบ้าง พอชาวเน็ตได้เห็นคลิปที่มันวิ่งนำทางรถพยาบาลไปหาเจ้าของแล้ว พวกเขาเองก็รู้สึกชื่นชมมันเช่นกัน แถมยังทึ่งด้วยที่มันรู้ว่ารถคันนี้เป็นรถพยาบาลซึ่งมุ่งหน้าไปช่วยเจ้านายของมันอยู่      ทางด้านเจ้าของของมันที่สลบไปนั้น แพทย์บอกว่าเขาแค่เมามากจนสลบไปเท่านั้นเอง ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อลูกชายให้เข้ามาดูแลเขาแล้ว ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เราคิดว่าหลังจากที่เจ้าของของมันฟื้นขึ้นมาและได้ชมคลิปนี้ เขาก็น่าจะทึ่งในตัวเจ้าหมาไม่น้อยเหมือนกัน หวังว่ามันจะได้รางวัลให้สมกับที่มันพยายามช่วยเจ้าของนะ     ที่มา: Daily Mail, Harmon Deng

คงจะไม่มีเพื่อนบ้านคน(?)ไหนน่ารักและเป็นมิตรเท่ากับเพื่อนบ้านของหญิงสาวแล้ว นอกจากจะมารอทักทายข้างรั้วทุกมัน ยังมีการมองเชื้อเชิญให้เข้ามาเล่นกันก่อนไปทำธุระด้วย เมื่อไม่นานมานี้คุณ Moin’t Ti’Ra ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กของตัวเอง ถึงเรื่องของเพื่อนบ้านผู้เป็นมิตรที่เธอเพิ่งได้เจอมา มันเป็นเจ้าตูบ 4 ขาที่อยู่ข้างๆ บ้านของเธอนั่นเอง ความน่ารักและเป็นมิตรของมัน ทำให้ชาวเน็ตที่เห็นภาพของเจ้าหมา ต่างก็พากันเทใจให้มัน แล้วก็พลอยอยากมีเพื่อนบ้านแบบนี้สักตัวบ้าง   แฮร่ หยุดก่อน   จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน แวะเล่นกับเราก่อนสิคร้าบ   เจ้าหมาตัวนี้จะมารอต้อนรับเธอเสมอเวลาที่เธอกำลังจะออกไปทำงาน มันจะมาเกาะอยู่ที่ข้างรั้วบ้าน ส่งยิ้มให้และกวักมือให้เธอเข้าไปเล่นกับมันก่อน แน่นอนว่าเจอหมาเฟรนด์ลี่แบบนี้เข้าไป เป็นใครก็ต้องแวะเล่นกับมันก่อน ถึงแม้ว่าจะรีบก็ตาม หญิงสาวก็ทำแบบนั้นด้วยเช่นกัน   สวัสดีคุณเพื่อนบ้าน   ตอนลูบหัวมีทำหน้าเคลิ้มด้วย เป็นเด็กดีจังเลย   เอ้า ไฮไฟว์หน่อยเพื่อน   แถมหลังจากเจอมันครั้งแรกแล้ว ก็ยังมีอีกหลายครั้งเลยที่เธอเจอมันมาเกาะอยู่ตรงนี้ให้เธอเห็น แล้วเธอก็ต้องแวะทักทายและเล่นกับมันทุกทีไป น่าสงสัยจริงๆ ว่ามันมารออยู่ตรงรั้วบ้านเพื่อเจอเธอโดยเฉพาะรึเปล่านะ?     สวัสดีฮะพี่สาว ออกไปทำงานดีๆ นะ   คุณ Moin’t Ti’Ra เล่าว่าเจอกันมาก็ตั้งหลายครั้งแล้ว เธอยังไม่รู้ชื่อของมันเลย ได้แต่เรียกมันว่า “คุณเพื่อนบ้าน”…

คนที่ไม่เคยเลี้ยงหมามาก่อนอาจจะมีข้อสงสัยในใจ ว่าหมาตัวหนึ่งมันจะผลต่อชีวิตเราจริงๆ รึเปล่า…ลองมาฟังเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ดูก่อน แล้วคุณจะรู้ว่าหมาตัวหนึ่งสามารถมอบอะไรให้คุณได้มากมาย Ruth Gregory ป่วยเป็นออทิสติกมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากเธอมีปัญหาสุขภาพมาก และไม่กล้าเข้าหาคน ทำให้ชีวิตของเธอมีเพียงครอบครัวและโรงพยาบาล เธอหวังอยากจะให้ชีวิตของตัวเองเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และเพื่อนใหม่ที่ช่วยมอบสิ่งนั้นให้เธอได้ก็คือเจ้าหมา Ryder     Ryder เป็นหมาสา่ยพันธุ์สปริงกาดอร์ (ลาบราดอร์ผสมสปริงเกอร์สปิเนล) จากศูนย์ฝึกสุนัข Autism Dogs ซึ่งถูกฝึกให้เป็นผู้ช่วยผู้ป่วยโรคออทิสติก นอกจากมันจะเข้ามาช่วยดูแลเรื่องอาการป่วยของ Ruth แล้ว เจ้าหมาก็ยังเป็นเพื่อนตัวสำคัญที่ช่วยเปิดโลกใหม่ให้กับเธออีกด้วย     ก่อนหน้านี้ Ruth เคยมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ การป่วยเป็นโรคออทิสติกทำให้เธอนอนหลับไม่เคยสนิท แต่หลังจากมี Ryer เข้ามา มันก็เข้ามานอนเป็นเพื่อนเธอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกนอนหลับสนิทได้อย่างน่าประหลาดใจ อีกอย่างเจ้าหมาก็จำเวลาที่เธอต้องกินยาได้ เมื่อถึงเวลากินยาของเธอเมื่อไหร่ เจ้าหมาก็จะเข้ามาซบและส่งสายตาเตือนเธอว่าต้องกินยาแล้วนะ ทำให้เธอกินยาตรงเวลาเสมอ     เธอคิดว่ามันมองการดูแลสุขภาพของเธอเป็นเกมส์อย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอเองก็รู้สึกสนุกกับการดูแลสุขภาพของตัวเองไปกับเจ้าหมาด้วย     นอกจากเรื่องสุขภาพแล้ว เจ้าหมาก็ยังช่วยเติมเต็มในเรื่องจิตใจของเธอได้อีกต่างหาก เห็นได้จากก่อนหน้านี้ Ruth ไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้าเลย แม้จะมีคุณแม่ซึ่งสนิทอยู่ด้วย ทว่าหลังจากเจอ Ryder ได้แค่วันเดียว…

ในประเทศสหรัฐอเมริกา หมาจรจัดที่ไม่มีใครรับเลี้ยงหรือแสดงความเปนเจ้าของ จะถูกพามาอยู่รวมกันในศูนย์พักพิงสัตว์ตามรัฐต่างๆ และเนื่องจากทางส่วนกลางไม่สามารถรับผิดชอบดูแลหมาพวกนี้ได้ทั้งหมด เมื่อศูนย์พักพิงสัตว์เต็ม สัตว์ที่ไม่มีคนรับเลี้ยงมานานที่สุดในนั้นก็มักจะถูกการุณยฆาต ครั้งนี้ถึงคราวของเจ้า Rudolf สุนัขสีดำวัย 8 เดือนบ้างแล้วที่ต้องถูกการุณยฆาต…ทว่ามันก็สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน เมื่อมันฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น     หลังจากที่สัตวแพทย์ฉีดยาเพื่อการุณยฆาตเจ้า Rudolf แล้ว พวกเขาก็เดินออกไปจากห้องเพื่อให้มันจากไปอย่างสงบ ทว่าพอกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง พวกเขากลับพบว่าเจ้าหมามันยังตื่นอยู่ และมันก็แข็งแรงดีด้วย เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย สัตวแพทย์ที่อยู่ที่นั่นเองตอนแรกก็ทำการการุณยฆาตมันไปด้วยหน้าที่ พอเห็นว่ามันฟื้นจากความตายได้แบบปาฏิหาริย์แล้ว เธอก็ปฏิเสธที่จะการุณยฆาตมันซ้ำอีก อาจเป็นเพราะเธอคิดว่ามันคือสิ่งที่บอกว่าเจ้าหมาอยากมีชีวิตต่อ     ต่อมาเจ้าหมาจึงถูกส่งไปอยู่กับศูนย์พักพิงสัตว์ของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Kings Harvest Pet Rescue ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงที่ไม่ทำการฆ่าสัตว์ เพื่อให้เจ้าหมาได้มีโอกาสเจอเจ้าของและใช้ชีวิตในบ้านต่อ ซึ่งพอทางศูนย์พักพิงสัตว์ประกาศหาบ้านให้มันบนเฟซบุ๊ก พร้อมเล่าเรื่องราวที่มาของมัน ก็ทำให้มีคนสนใจรับเลี้ยงหมาปาฏิหาริย์ตัวนี้อย่างล้นหลาม     Kylie Jo Mitchell ซึ่งทำงานใน Kings Harvest Pet Rescue No Kill Shelter เล่าว่า “มันเป็นหมาปาฏิหาริย์จริงๆ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องทำนองนี้มาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกที่มีหมารอดจากการการุณยฆาตหลังถูกฉีดยาไปแล้ว…ทุกคนจึงให้ความสนใจเจ้าหมาตัวนี้มากๆ”   คนที่มาเยี่ยมเจ้าหมา แต่คนนี้ไม่ได้ถูกเลือกให้เลี้ยงมันนะ  …

เราคิดว่าคงมีคนรักสัตว์หลายคนเลย ที่ไม่เลี้ยงสัตว์เพราะว่าพ่อแม่ของตัวเองไม่ชอบสัตว์ และบอกคุณอยู่ตลอดว่าห้ามเอาสัตว์เข้ามาเลี้ยงเชียวนะ แต่รู้รึเปล่าว่าคนใจแข็งพวกนี้แหละ ที่อยู่ๆ กับสัตว์นานเข้าก็เป็นคนที่รักมันที่สุดซะเอง รักพวกมันมากซะยิ่งกว่าเราที่รักสัตว์ซะอีก ถ้าคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นไปไม่ได้ ก็ลองไปดูคุณพ่อคุณแม่จากเพื่อนๆ ชาวเน็ตดูสิ ว่าแต่ก่อนพวกเขาเกลียดสัตว์ขนาดไหน แล้วเดี๋ยวนี้รักพวกมันขนาดไหน   ตอนแรกพ่อบอก”ไม่อยากได้แมวบ้านี่” ตอนนี้อุ้มมันไปนอนในห้องที่ทำให้มันโดยเฉพาะทุกคืน   ตอนมันเป็นลูกหมา แม่ไม่อยากจับมันด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ทำกับข้าวแล้วก็ซื้อขนมให้กินตลอด   ที่พ่อเคยบอกว่าไม่อยากเลี้ยงหมาคืออะไร??   ตอนพ่อแม่เลี้ยงผม พวกเขาต่อต้านการเลี้ยงหมามาก พอผมย้ายออกมาแล้วส่งหมาไปอยู่เป็นเพื่อน ดูสิพ่อมีความสุขแค่ไหน   5 ปีก่อนยังไม่ให้เลี้ยงหมาอยู่เลย เดี๋ยวนี้ถึงกับทำบ้านให้มันแล้ว!?   แต่ก่อนตายายบอกไม่เลี้ยงแมวเสียงแข็ง เดี๋ยวนี้ถามว่าจัดโต๊ะกินข้าวให้เจ้าแมวรึยัง โถ่วววว   นี่ไงพ่อคนเดียวกันกับที่บอกว่าไม่อยากให้หมาเฉียดเข้ามาในบ้าน… https://twitter.com/earthangeII/status/1082832480858603521   แต่ก่อนพ่อบอกไม่อยากได้ทั้งไอแพ็ดและหมา…ตอนนี้ถือทั้ง 2 อย่างไม่ยอมปล่อย   สมัยก่อนพ่อไม่อยากเลี้ยงหมาเลย เดี๋ยวนี้ห่มผ้าให้มันทุกวัน   พ่อไม่ชอบหมาไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมซื้ออ่างให้มันใบใหญ่เท่าบ้านแบบนั้นล่ะ!?   พ่อที่เคยบอกว่าไม่ชอบหมา เดี๋ยวนี้ตากเสื้อตัวเองคู่กับเสื้อหมาเลยจ้า   พ่อเกลียดแมวนะ แต่พ่อทำที่นอน 2 ชั้นให้…เอ้ะ…

เราเคยได้ยินมาแล้วว่ามีหมาหลายตัวใช้ความกล้าหาญสู้กับโจรและปกป้องเจ้าของได้ แต่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกนี่แหละว่ามีหมาที่ใช้ความน่ารักหลอกล่อโจร แถมยังเล่นกับโจรอยู่นานจนคุณตำรวจตามมาจับตัวได้ด้วย     หมาน้อยตัวที่ว่าชื่อว่า ดำเกิง เป็นสุนัขสายพันธุ์เฟรนช์บูลล์ด็อกของคุณ Udom Rak เขาบอกว่ามันเป็นหมาที่เป็นมิตรมาก มันสามารถเข้ากับคนและสัตว์ตัวอื่นได้หมด   แม้แต่หุ่นพี่แมคโดนัลด์น้องหมาก็เป็นมิตรด้วย   คุณ Udon Rak เล่าว่าครั้งหนึ่งเคยมีขโมยติดยาเข้ามาปล้นของในบ้าน และตอนนั้นก็ไม่มีใครเห็นโจรเลยนอกจากเจ้าดำเกิง เมื่อมันเห็นโจรมันก็ไม่ได้เห่าไล่เหมือนหมาตัวอื่น แต่มันใช้ความขี้เล่นของตัวเองหลอกล่อให้โจรติดยาเข้ามาเล่นด้วยกัน ซึ่งก็เป็นผลสำเร็จทำให้โจรเล่นกับมันอยู่นานเลยทีเดียว สักพักหนึ่งคนในบ้านก็เห็นเหตุการณ์เข้า แต่เนื่องจากโจรมัวแต่เล่นกับเจ้าหมาอยู่จึงไม่ทันรู้ตัว เธอจึงมีเวลาแจ้งตำรวจให้เข้ามาจับตัวโจรเอาไว้ได้ทัน     เจ้าของของมันบอกว่าเขาภูมิใจในตัวเจ้าหมามากที่ถ่วงเวลาโจรไว้ได้ ทำให้ไม่มีทรัพย์สินในบ้านหาย และคนในบ้านก็ปลอดภัยจากโจรทุกคน บางทีการที่มันเลือกเล่นกับโจรอาจจะเป็นวิธีรับมือที่มันคิดมาดีแล้วก็ได้ ถ้าหากมันเห่าจนโจรเกิดใช้ความรุนแรงเข้ามา ตัวเล็กๆ แบบมันคงสู้โจรไม่ไหวหรอก   ภาพตอนเจ้าหมาไปฉีดยา เป็นเด็กดีกับคุณหมอ ไม่ดื้อไม่ซน   คุณ Udom Rak เล่าว่าตั้งแต่รับดำเกิงมาเลี้ยงดำเกิงมา มันก็เป็นมิตรกับทุกคนแบบนี้แหละ คนอยากจะเล่นกับคนทุกคนที่เจอ ยิ่งถ้าเป็นคนรู้จัก พอมันเห็นหน้าปุ๊บมันจะรีบเห่าเรียกร้องความสนใจให้เขามาเล่นด้วยให้ได้ แถมมันยังไม่ได้เป็นมิตรกับคนเท่านั้นนะ มันยังเป็นมิตรกับแมวอีก 3 ตัวที่เลี้ยงไว้ที่บ้านด้วย พวกมันอยู่ด้วยกันโดยไม่ทะเลาะกันเลยล่ะ     น่าภูมิใจในตัวเจ้าดำเกิงจริงๆ นะ นอกจากมันจะคอยมอบความรักและความสดใสให้กับเจ้าของแล้ว…

ชีวิตของเจ้าแมวเหมียวมีอุปสรรคมากมาย มันตาบอดตั้งแต่เป็นแมวจรจัด และเมื่อมาเจอมนุษย์ก็เสี่ยงถูกการุณยฆาตอีก มันอาจไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตต่อหากหญิงคนนี้ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วย     ลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งถูกพบอยู่ตรงระเบียงบ้าน หลังจากคนที่เจอมันพามันไปหาสัตวแพทย์และได้รู้ว่ามันตาบอด เขาก็ต้องการให้สัตวแพทย์ช่วยการุณยฆาตมันทันที โชคดีที่สัตวแพทย์ไม่เห็นด้วยกับเขา มันเลยยังรอดชีวิตอยู่ แต่คนที่เจอมันก็ยังโพสต์ในโลกออนไลน์หาสัตวแพทย์ที่พร้อมจะการุณยฆาตมัน     ตอนนั้นเองกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็ผ่านไปเห็นโพสต์นั้นเข้า และรีบขอรับตัวมันไว้เพื่อให้โอกาสมันมีชีวิตต่อ ซึ่งโชคดีที่พวกเขาสามารถช่วยมันไว้ได้ทัน พอ Leigh Hoag ซึ่งเป็นอาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์อยู่ได้ยินเรื่องมันเข้า เธอก็รีบขอรับมันมาอุปถัมภ์ที่บ้าน แม้ว่าตัวเองจะเพิ่งผ่าตัดมาและยังไม่หายดีก็ตาม เธอบอกว่า “ฉันยังรู้สึกเจ็บ และยังฟื้นตัวอยู่ แต่ฉันรู้ว่าฉันต้องช่วยรับมันมาอยู่ด้วย”     เธอตั้งชื่อแมวน้อยว่า Benjamin หลังจากที่ได้อยู่ร่วมกับมัน เธอก็พบว่าถึงมันจะตาบอดแต่เจ้าแมวไม่เคยกลัวอะไรเลย มันชอบสำรวจที่ใหม่เสมอ และสิ่งที่มันชอบมากที่สุดก็คือการถูกห่อด้วยผ้าห่มนุ่มๆ แล้วให้ Hoag แกว่งมันไปมาเหมือนนอนเปลอยู่ จนมันหลับไปในอ้อมแขนของเธอ     ชอบถูกอุ้มที่สุดเลย   นอกจากนี้มันก็เป็นแมวที่มีกำลังใจดีมาก ไม่ว่ามันจะต้องรับการรักษาหรือผ่าตัดอะไรมา มันก็จะฟื้นตัวได้เร็วและกลับไปเล่นซนเหมือนเดิมแทบจะในทันที เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่เจอมันตอนแรก ถึงไม่เห็นความเป็นนักสู้ และความพยายามในการใช้ชีวิตต่อของ Benjamin     หลังจากที่มันรับการรักษาทั้งหมดเสร็จ Hoag ก็พักฟื้นเสร็จด้วยเช่นกัน เธอเริ่มกลับไปทำงานของตัวเอง โดยที่พาเจ้า Benjamin…

Ashli Garza มีนัดหมายงานอยู่ เธอจึงต้องรีบขับรถไปให้ถึงที่หมายทันเวลา แต่ระหว่างทางเธอก็เห็นหมาจรจัดตัวหนึ่งอยู่ที่ขอบถนน ด้วยความรักสัตว์เธอจึงไม่สามารถปล่อยมันไว้ได้ เธอจอดรถเทียบข้างทางแล้วพยายามจะถ่ายรูปมันเก็บไว้ เนื่องจากหมาจรจัดอาจจะกลัวคนแล้วหนีไปได้ ถ้าอย่างน้อยมีรูปเก็บไว้ ชาวเน็ตแถวนั้นจะได้รู้ว่าเธอเจอหมาตัวไหน และช่วยมันต่อได้     แต่น่าแปลกใจที่เจ้าหมาเดินเข้ามาหาเธออย่างเป็นมิตร เธอจึงสามารถเข้าใกล้มันได้โดยไม่ต้องกังวลเลย แต่พอมันเข้ามาใกล้ๆ เธอก็เห็นว่ารอบคอของมันมีโซ่เหล็กอันใหญ่คล้องเอาไว้ โซ่ที่ว่านี้ทั้งหนาและหนักมาก มันถูกพันรอบคอเจ้าหมาเอาไว้ถึง 2 ครั้ง ยังดีที่ตอนนั้นมันมีแผลถลอกจากโซ่แค่เล็กน้อยเท่านั้น เธอคาดว่าคนที่เอามันมาทิ้งน่าจะเป็นคนคล้องโซ่ให้มัน     เธอรู้สึกสงสารเจ้าหมามาก นอกจากจะต้องแบกโซ่หนักๆ ที่เสี่ยงทำให้คอมันเป็นแผลเพิ่มแล้ว มันยังเนื้อตัวสกปรกและดูหงอยๆ ด้วย อย่างไรก็ตามการเอามันไปด้วยดูจะไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ เนื่องจากเธอยังมีนัดหมายงานอยู่ และในรถก็มีชุดแต่งงานสีขาวของเพื่อนซึ่งอาจจะเลอะโคลนจากตัวมันได้ ทว่าหลังไตร่ตรองดูแล้ว Garza ก็ไม่สามารถทิ้งมันไว้ตรงนี้ได้ เธอจึงอุ้มมันขึ้นรถไปด้วยเพื่อหาทางช่วยเหลือมันต่อ ถึงเธอจะช่วยมันเองไม่ได้ เธอก็ยังมีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่เป็นสมาชิกอยู่เป็นที่พึ่งได้อยู่ดี     ระหว่างที่นั่งรถไปด้วยกัน เจ้าหมามองเธอและทำท่าลุกๆ นั่งๆ ตลอดทางเลยล่ะ เธอรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นการนั่งรถครั้งแรกของมัน แต่เจ้าหมาก็ไม่ได้มีท่าทีดื้อซน หรือตื่นตกใจใดๆ เลย ถึงมันจะลุกๆ นั่งๆ มันก็อยู่กับที่และไม่ทำข้าวของในรถเลอะหรือเสียหายสักนิด     หลังจากที่เธอไปตามนัดหมายงานเสร็จ เธอก็หาทางช่วยเอาโซ่ออกจากคอเจ้าหมาก่อนทันที…

ในวันที่เราเจออะไรแย่ๆ มา หรือต้องการเติมพลังเพื่อลุยกับงานในวันนั้นต่อ เราก็จะมีวิธีเติมพลังแตกต่างกันไป บางคนก็ออกไปสูดอากาศข้างนอก หรือบางคนก็หาขนมหวานกิน สำหรับ #เหมียวอาตี๋ แค่ได้ดูรูปน้องหมาน่ารักๆ หรืออ่านเรื่องมุ้งมิ้งของพวกมันแค่นั้นก็มีพลังใจแล้ว แล้วเราก็ยังได้เอาเรื่องราวเหล่านี้มาแบ่งให้กับเพื่อนๆ ด้วย จะได้ยิ้มออกไปด้วยกัน   พ่อแม่ฉันจะพาหมาตัวใหม่มาที่บ้าน ฉันเลยให้เจ้าหมาตัวนี้แต่งตัวรอต้อนรับมัน My parents just bought another dog and my current dog is home all dressed up waiting to meet him 😂 pic.twitter.com/nhJzUR8EOF — Juan_Flores (@J_Flores991) January 6, 2019   น้องเล่นโคลนได้ แต่น้องจะตัวเลอะโคลนเข้าบ้านไม่ได้!! my aunt got a new puppy and sent us…

เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนเอาแมวมาทิ้ง เรามักจะเข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้รักแมวจริงๆ ทว่าหลังจากได้ลองอ่านเรื่องราวของชายคนนี้แล้ว คุณจะได้เข้าใจว่าคนที่เอาพวกมันมาทิ้ง บางคนก็รักพวกมันจริงๆ แต่พวกเขามีความจำเป็นต้องทิ้งมัน Kristi Idnurm มาทำงานที่ร้านขายของสัตว์เลี้ยง เธอเจอลูกแมวหลายตัวถูกเอาใส่กรงรวมกันทิ้งไว้หน้าร้าน โดยที่มีโน้ตแผ่นหนึ่งแนบติดเอาไว้ด้วย     โน้ตหน้าแรก   โน้ตแผ่นนั้นเขียนไว้ว่า “ผมช่วยเหลือพวกแมวมาเนิ่นนานมากแล้ว แต่ปีนี้มีปัญหาถาโถมมามากมายเหลือเกิน ผมไม่มีเวลาจะหาบ้านให้พวกมันได้ทัน…ใครก็ตามที่เจอพวกมัน ผมขอให้คุณลองอ่านเรื่องราวนี้ดูก่อนจะตัดสินผม เมื่อปลายปี 2017 ผมเคยมีห้องใต้ดินที่เอาไว้เลี้ยงดูพวกแมว แต่ก็เกิดไฟไหม้ทำให้บ้านกว่าครึ่งหลังของผมเสียหาย และน่าเศร้าที่ประกันบ้านหลังนี้ขาดไป ผมจึงไม่ได้อะไรชดเชยมาเลย”       โน้ตหน้าที่ 2   “ในปี 2018 ลูกชายของผมเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้ผมต้องพักงานออกมาดูแลเขาตั้ง 4 เดือน นอกจากนี้ป้าของผมก็ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ด้วย ตอนสิ้นปีเธอก็จากโลกนี้ไป และผมก็จำเป็นต้องใช้เงินเก็บทั้งหมดที่มีเพื่อทำพิธีฝังศพให้เธอ ในตอนนั้นผมก็ไม่มีงานทำแล้วด้วย”   โน้ตหน้าที่ 3   “ต่อมาผมจึงถูกไล่ออกจากบ้านเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าแล้ว ผมใช้เวลาทั้งหมดที่เหลืออยู่พยายามหาบ้านให้พวกแมวที่น่าจะมีคนรับเลี้ยงยากจนหมด ส่วนเจ้าพวกนี้ผมหาบ้านให้มันไม่ทัน โปรดเข้าใจด้วยว่าผมรักพวกมัน พวกมันเปรียบเสมือนพลังใจในการใช้ชีวิตต่อของผม ผมได้ทิ้งอาหารแมว และเงิน 30…

เราคิดว่าคนที่อยู่กับแมวมานานๆ คงจะเคยได้เห็นเวลาพวกมันพลาดมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัวโดดขึ้นโต๊ะไม่ถึง หรือตอนที่มันตกจากชั้นวาง ซึ่งพอได้เห็นช็อตเด็ดแบบนี้แล้วก็อดที่จะหัวเราะพวกมันแรงๆ ไม่ได้เลย แต่ก็มีแมวอีกประเภทหนึ่งที่แม้ว่าพวกมันจะทำพลาดสักแค่ไหน เราก็ไม่เคยหัวเราะพวกมันเลย เนื่องจากพอพวกมันทำอะไรพลาดแล้ว พวกมันก็จะทำหน้าตาน่าเอ็นดู ทำให้มนุษย์อย่างเราสงสารและเห็นใจพวกมันแทน ขอบอกเลยว่าเจ้าแมวประเภทนี้รับมือยากกว่าแบบแรกอีกนะ เพราะว่าพอมันทำความผิดแล้วเราไม่สามารถปั้นหน้าดุมันได้ มีแต่จะเผลอยกโทษให้กับท่าทีสำนึกผิด (แบบปลอมๆ) ของมันทุกที   เก๊าลุกเองไม่ได้ ทาสช่วยหน่อย   ไปทำอีท่าไหนถึงไปติดท่านั้นได้ล่ะลูกกกกก   เราแค่พยายามจะช่วยทาสตกแต่งต้นไม้น่ะ แต่เราทำไม่ได้   แค่อยากลองใช้ส้วมบ้าง แล้วก้นมันติดน่ะ   เราไม่ได้ตั้งใจนะทาส มองตาเราแล้วหายโกรธนะ   อ่าวโทษๆ นึกว่าประตูเปิดอยู่…ว่าแต่เอาเราลงไปหน่อยสิ   ยินดีต้อนรับแม่กลับฮะ จัดปาร์ตี้กันนิดหน่อยไม่ว่ากันเนาะ   อย่ามองเราแบบนั้นสิมนุษย์ เราแค่เอาเสบียงมาตุนไว้แผ่นเดียวเอง   เอ่อ…พอดีเห็นของขวัญมันไม่ได้แกะ เลยช่วยแกะให้น่ะ   โอ้ย น้องกินข้าวยังไงให้ตัวเข้าไปอยู่ในจาน!?   แอบเข้ามาในตู้เย็นแล้วออกเองไม่ได้ใช่ไหมล่ะ เกือบแข็งตายแล้วแก   เป็นของเหลวประเภทที่ไหลเข้าไปได้ แต่ไหลออกมาไม่ได้   พยายามจะมองมุมกลับ แต่กลับท่าเดิมไม่เป็น โถ่ว…

แมวเหมียวตัวน้อยต้องทนทรมานกับโรคที่มี และยังต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในฐานะแมวจรจัดด้วย ชีวิตของมันอาจจบลงอย่างรวดเร็วถ้าไม่ได้พบกับหญิงสาวและเจ้าหมาทันเวลา Rose Jenkins เป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เธอมีคอนโดเป็นของตัวเองและก็เลี้ยงสัตว์เอาไว้หลายตัวด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าหมาชื่อ ใจ     เธอมักจะพามันไปเดินเล่นในเส้นทางเดิมเป็นประจำ ทว่าวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังจะกลับเข้าบ้านกับมันตามปกติ เจ้าหมาก็ดึงเธอออกไปอีกทางหนึ่งเนื่องจากมันได้กลิ่นที่ไม่คุ้นชิน ตอนแรก Jenkins นึกว่ามันได้กลิ่นของกินแล้ววิ่งตามมา แต่พอมันมาหยุดในซอยที่อยู่ข้างๆ โรงแรมเก่า เธอก็เห็นว่าเจ้าหมามันเจอลูกแมวจรจัดน่าสงสารต่างหาก     เจ้าหมาตื่นเต้นมากที่ได้เจอลูกแมว เนื่องจากมันชอบดูแลและเล่นกับลูกแมวมาก ทว่าเจ้าแมวน้อยที่ไม่รู้เรื่องนี้กำลังขดตัวสั่นด้วยความกลัวอยู่ หญิงสาวตัดสินใจพาเจ้าหมากลับขึ้นไปบนคอนโดก่อน แล้วกลับลงมารับลูกแมวอีกทีหนึ่ง โชคดีที่มันไม่ได้วิ่งหนีเธอไปไหนเลย เธอจึงพามันกลับไปด้วยได้ แต่ก็โชคร้ายที่อาการของมันแย่กว่าที่เธอคิดไว้มากทีเดียว…ตอนที่เธอมองตาของมันชัดๆ เธอก็ได้เห็นว่าเจ้าแมวไม่มีลูกตาแล้ว มีเหลืออยู่แค่แผลติดเชื้อในดวงตาเท่านั้น       Jenkins พยายามจะพาลูกแมวตาบอดไปคลินิกสัตว์โดยเร็วที่สุด แต่ก็ไม่มีรถแท็กซี่คันไหนยอมพาเธอและเจ้าแมวไปที่คลินิกเลย ด้วยความเป็นห่วงมันเธอจึงแอบเอาแมวน้อยใส่กระเป๋าหลังไว้ แล้วขึ้นรถไฟใต้ดิน MRT ไปแทน ถึงเธอจะรู้ว่าเธอทำผิดกฎที่ไม่ให้นำสัตว์ขึ้นไปด้วย แต่เธอก็ยอมแหกกฎเพื่อช่วยมันให้รอดก่อน     เธอตั้งชื่อแมวน้อยตัวนี้ว่า Aldous เธอโชคดีมากเลยที่สามารถพามันไปถึงคลินิกได้ก่อนจะปิดแค่ 10 นาทีเท่านั้น และสัตวแพทย์ก็ยินดีรักษาให้มันก่อนด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าแมวก็ร่างกายอ่อนแอ ยังไม่สามารถรับการผ่าตัดได้ พวกเขาจึงทำได้แค่รักษาเห็บหมัดให้มันเบื้องต้น และให้ยาบำรุงกับมันไปก่อน…ระหว่างนั้น Jenkins…

ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หนก็ตามที่หญิงสาวจับเจ้าหมาใส่ไว้ในกรง เมื่อเธอกลับมาดูอีกทีมันก็จะหลุดออกมานอกกรงตลอด ถ้ากรงที่ซื้อมาทุกอันไม่ได้เสียล่ะก็ เจ้าหมาคงจะเป็นนักสะเดาะกลอนมือดีแน่ๆ เมื่อไม่กี่ปีก่อน Ash Jordan ได้รับเลี้ยงลูกหมามาตัวหนึ่งชื่อว่า Zeke มันทั้งน่ารักทั้งร่าเริง และในขณะเดียวกันมันก็ชอบทำลายข้าวของเอามากๆ ด้วย นั่นทำให้ Jordan ต้องจับมันใส่กรงเอาไว้เวลาที่จะออกไปข้างนอก เพื่อกันไม่ให้มันทำลายข้าวของในบ้านตอนเธอไม่อยู่…แน่นอนว่าเจ้าหมาจอมซนแสดงท่าทีว่ามันไม่ชอบกรงเอาซะเลย       สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือพอเธอกลับมาถึงบ้าน เธอจะพบว่า Zeke หลุดออกมาจากกรงทุกครั้ง ตอนแรกเธอคิดว่ากรงที่ซื้อมามีตำหนิจึงลองเปลี่ยนกรงให้มันอยู่หลายครั้ง ทว่าถึงเธอจะเปลี่ยนกรงแบบใหม่กี่ครั้ง หรือใช้เชือกมัดประตูกรงไว้ยังไง เจ้าหมาน้อยก็ยังหลุดออกมาทำลายข้าวของได้เสมอ ด้วยความสงสัยว่ากรงของมันเสียหมดทุกอันจริงๆ รึเปล่า เธอก็เลยลองตั้งกล้องวงจรปิดถ่ายเจ้าหมาไว้ เพื่อดูว่ามันออกมาจากกรงได้ยังไง…และเธอก็ต้องแปลกใจมากกับสิ่งที่ได้เห็น     จากวิดีโอที่กล้องบันทึกเอาไว้ เธอเห็นชัดเจนเลยว่า Zeke รู้วิธีปลดล็อกกรงอันใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อมา และมันก็ทำได้อย่างชาญฉลาดมากๆ ซะด้วย เธอจึงได้รู้ชัดแล้วว่าเจ้าหมามันฉลาดมากๆ มันมองดูตอนที่เธอปิดกรงขังมัน ทำให้มันรู้ว่ากรงแต่ละอันเปิด-ปิดยังไง แล้วพอเธอออกจากบ้านไปมันก็เปิดกรงออกมาได้ไม่ยากเพราะรู้วิธีเปิดแล้วนั่นเอง     หึหึ แม่ไม่อยู่เฝ้า หมาฉลาดอย่างเราก็หนีสบาย   หลังจากนั้นเป็นต้นมาเพื่อไม่ให้ Zeke พังของในบ้านเพิ่มได้อีก Jordan จึงต้องใช้วิธีปิดกรงที่แน่นหนากว่าการขังหมาทั่วไป โดยสิ่งที่เลือกใช้ก็คือแม่กุญแจแบบใช้รหัสเลขปลดล็อกนั่นเอง ซึ่งหลังจากซื้อล็อกแบบนี้มาใช้แล้ว เจ้า Zeke…

สัตว์เลี้ยงถือเป็นครอบครัวและเพื่อนคนสำคัญของมนุษย์ ดังนั้นช่วงเวลาทุกวินาทีที่ใช้ร่วมกับสัตว์เลี้ยง จึงถือเป็นความทรงจำสุดล้ำค่าสำหรับเจ้าของ หนึ่งในช่วงเวลาที่ล้ำค่าที่สุดแต่ไม่มีใครอยากให้มาถึง ก็คงหนีไม่พ้นช่วงการดูใจก่อนเจ้าหมาจะจากโลกนี้ไปนั่นเอง เพราะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายแล้วที่เราจะได้มอบความรักให้กับมัน     คนที่เคยบอกลาเจ้าหมาในช่วงเวลาสุดท้าย คงจะรู้ซึ้งอยู่แล้วว่ามันเศร้าจนหาคำมาอธิบายไม่ได้เลย และมันยากมากที่คุณจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาได้ ส่วนเจ้าของหมาที่ยังไม่เคยได้สัมผัสช่วงเวลานี้ วันนี้เรามีภาพของการบอกลาเจ้าหมาจากชาวเน็ตมาฝากกัน เพื่อให้คุณเข้าใจและเตรียมใจไว้ก่อน เพราะในอนาคตทุกคนจะต้องเจอเรื่องนี้แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้   ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจากเราไปแล้ว   ขอให้แกไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้นะ   ฉันพยายามกอดแกเอาไว้ เพื่อให้แกรู้สึกอุ่นที่สุด   หวังว่าฉันจะช่วยให้แกไม่รู้สึกเดียวดายตอนจากไปนะ   แกสู้มานานแล้ว เดี๋ยวก็ได้พักแล้วนะเจ้าตูบ   หลับให้สบายเถอะ ไม่ต้องทนทรมานต่อไปแล้ว   ฉันยังทำใจไม่ได้เลยค่ะคุณหมอ   ฉันยังอยากให้เราได้ใช้เวลาร่วมกันอีกนานๆ   แกเหนื่อยมามากแล้วนะเพื่อนยาก   ถึงเวลาที่แกต้องพักผ่อนแล้ว หลับให้สบายเถอะนะ   ถึงแกจะไม่อยู่กับฉันอีกแล้ว ฉันก็จะไม่ลืมเวลาที่เคยใช้ร่วมกับแกเป็นอันขาด   หมาบางตัวก็สำคัญเหมือนกับลูกแท้ๆ   มันเป็นเรื่องยากเสมอที่จะทำใจกับการตายของเจ้าตูบ   ไม่ต้องกลัวนะ ฉันจะอยู่ข้างแกเสมอ   พวกเราจะไม่ทิ้งให้แกต้องจากไปตามลำพัง   แกเคยมอบความสุขให้พวกเรามามากแล้ว   แกจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป…

เพื่อนๆ หลายคนน่าจะมีสัตว์เลี้ยงชอบหนีออกไปเที่ยวกลางคืนเหมือนกัน แล้วบางครั้งก็หายออกไปนานจนทำให้เจ้าของเป็นห่วงด้วย บางทีเราก็อดคิดไม่ได้ว่ามันไปเอานิสัยชอบหนีเที่ยวแบบนี้มาจากไหน แต่พอได้เห็นเรื่องของเจ้าหมาตัวนี้แล้ว ทำให้คิดได้ว่าสัตว์เลี้ยงของคุณอาจจะไม่ได้ชอบหนีเที่ยวหรอก แต่เพื่อนของมันเป็นตัวต้นคิดชวนหนีต่างหาก     Laura Krier เลี้ยงหมาลาบราดอร์สีดำไว้ตัวหนึ่งชื่อว่า Bo มันรักครอบครัวมาก แต่มันก็รักการผจญภัยด้วย ทำให้บางครั้งมันก็หนีหายไปจากบ้านโดยที่ไม่มีใครเห็น ล่าสุดมันก็หนีออกไปจากบ้านอีกแล้ว และครั้งนี้มันก็หายไปนานข้ามคืนเลย ทำให้ทางครอบครัวเป็นห่วงมันมากและเริ่มออกตามหา     วันต่อมาพวกเขาได้ข่าวจากเพื่อนบ้านว่ามีคนเห็นหมาที่คล้าย Bo วิ่งเล่นอยู่ในทุ่งหญ้าที่อยู่ห่างไป 6 ไมล์ (เกือบ 10 กิโลเมตร) Krier จึงขับรถไปดูว่าเป็นมันรึเปล่า พอไปถึงบริเวณนั้นเขาก็เจอเจ้าหมาจริงๆ เจ้าหมาเองเมื่อเห็นรถของเขามันก็วิ่งมาหาเขาแต่ไกลเลย…ทว่าพอมันเข้ามาใกล้แล้ว เขาก็ได้เห็นว่ามันไม่ได้มาตัวเดียว มันมีเพื่อนมาอีก 2 ตัวด้วย      พวกมันก็ไม่ใช่สัตว์แปลกหน้าที่ไหนหรอก มันคือเจ้าหมา Ozzy กับแพะ Libby ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้านของเขานี่เอง ตอนนั้นเขาถึงได้เข้าใจว่า Bo ไม่ได้หนีเที่ยวข้ามคืนแค่ตัวเดียว แต่เพื่อนของมันเองก็หนีออกมาเที่ยวด้วย โดยที่เขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครชวนใครหนีเที่ยวกันแน่ แล้วพอเจ้า Bo โดดขึ้นรถเพื่อกลับบ้านไปกับเจ้าของ Ozzy กับ Libby…

ทาสแมวขนานแท้คงจะมีไอเทมไว้เสริมความน่ารักให้เจ้าแมวกันมากมาย อย่างเช่นชุดแมว หมวกแมว และของเล่นแมว เป็นต้น แต่มีไอเทมอย่างหนึ่งที่ทาสแมวน้อยคนนักที่จะมี และเราก็อยากแนะนำให้คุณหาติดบ้านไว้ด้วย นั่นก็คือ ‘โต๊ะกระจก’ ยังไงล่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าของแบบนี้มันเป็นไอเทมของทาสแมวได้ยังไง…ที่ทาสแมวควรมีมันไว้ก็เพราะว่าตอนที่เจ้าแมวมันปีนขึ้นไปนอนบนโต๊ะกระจกแล้ว จะทำให้ชาวทาสแบบเราๆ ได้เห็นเจ้าแมวในมุมที่ไม่เคยเห็นมาก่อนไงล่ะ คุณจะได้เห็นอุ้งเท้าแมวสีชมพูแบบชัดแจ๋ว และก็ได้เห็นหุ่นที่แท้จริงของพวกมันตอนนอนด้วย แถมยังได้เห็นความเป็นของเหลวในตัวพวกแมวเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก แค่ฟังก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ!!   ที่นอนใสๆ ทำให้เราเห็นความเป็นของเหลวของมันชัดขึ้น   เหมือนขนด้านข้างของเจ้าแมวแหว่งไปเลย   อ้าว มนุษย์แอบมองเราเหรอ แลบลิ้นใส่เลย   อารมณ์เหมือนกำลังส่องดูใต้ท้องเครื่องของรถ   ว้าว เห็นอุ้งเท้าสีชมพูชัดมว๊ากกก   เพิ่งรู้ตัวเหรอว่ามีคนมองแกอยู่   แมวนี่มันเป็นของเหลวจริงๆ นะ   แกรู้สึกว่าถูกมองทะลุปรุโปร่งเหมือนฉันไหม   มุดหน้าหนียังไงก็หลบมนุษย์ไม่พ้นแล้วล่ะเจ้าแมวเอ๊ย   หนีขึ้นมาบนโต๊ะแล้วทำไมยังเห็นหน้ามนุษย์อีกฟะ   ทำหน้าเหวอทำไมมนุษย์ ไม่เคยเห็นแมวพิงผนังรึไง   ดูพุงพลุ้ยๆ ของเจ้าแมวบนนั้นสิ น่าขยุ้มจัง   มุมนี้รู้สึกกลิ่นตุๆ นะ   กะจะเลียพุงในมุมลับหน่อย โดนมนุษย์แอบดูซะได้…

เขาบอกกันว่ารถติดเป็นเรื่องธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงจะไม่มีสัญญาจราจรทำให้รถหยุดเลย ก็ยังมีคนขับรถช้าจนทำให้คันข้างหลังไปไม่ได้อยู่ดี นอกจากนี้ก็มีปัจจัยทางธรรมชาติอื่นๆ ด้วย อย่างในประเทศไทยเราเนี่ยเคยมีช้างหรือวัว เดินออกมาขวางถนนทำให้คนต้องหยุดรถแบบช่วยไม่ได้ ล่าสุดพี่สิงโตก็ออกมาขวางทางรถกับเขาด้วย…รถติดเพราะธรรมชาติจริงๆ     เมื่อไม่นานมานี้คนที่ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติ Kruger National Park ในประเทศแอฟริกา ต้องประสบกับเหตุรถติดแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน คนที่ติดอยู่ทางด้านหลัง คงไม่มีทางเดาออกเลยว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร ส่วนคนที่อยู่ข้างหน้าก็คงจะอึ้งกับสาเหตุที่ทำให้เกิดรถติดแน่ๆ การที่รถติดครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากรถเสียหรือว่ารถชนกันเลย แต่เป็นฝูงสิงโต 4 ตัวที่จู่ๆ ก็มีอารมณ์ชิลมาเดินกลางถนนต่างหาก   ข้างหน้ามีรถติด แต่อยู่ไกลเลยไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร พอเข้ามาดูใกล้ๆ เลยเห็นว่าเป็นพี่สิงโตนี่เอง ไม่ว่าก็ได้จ้า   พวกมันค่อยๆ ก้าวเดินแบบใจเย็น ราวกับว่าถนนทั้งหมดนี้เป็นที่ของพวกมัน หรือไม่พวกมันก็คงกำลังคิดว่าเดินแคทวอร์คอยู่เลยล่ะ ส่วนคนที่ต้องเจอรถติดอยู่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย นอกจากรอให้พวกมันเดินออกไปก่อน จะให้ไปไล่ก็คงไม่ได้ เพราะถ้าพวกมันไม่พอใจแล้วงับหัวเราขึ้นมาละยุ่งแน่ๆ   เชิญชมคลิปวิดีโอ   ถึงจะเดือดร้อนกันสักหน่อยเพราะพวกมันทำรถติด แต่ก็ปล่อยพวกสิงโตทำตามใจไปละกัน พวกมันคงไม่ได้มาเดินกลางถนนแบบนี้กันทุกวันหรอก คิดซะว่าแจ็คพอตเจอของหายากก็แล้วกันนะ ที่มา: the dodo, Lions Of Kruger Park And Sabi Sand

เวลาที่เรานึกถึงสัตว์ขี้อ้อน ส่วนใหญ่แล้วเราก็จะนึกถึงเจ้าหมาก่อนเป็นอันดับแรกเลย เนื่องจากมันชอบเรียกร้องความสนใจจากเราตลอดเวลา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขี้อ้อนที่สุดหรอกนะ ลองมาดูเจ้าห่านทางนี้ก่อนสิ อ้อนเก่งจนเจ้าหมาต้องชิดซ้ายหายไปเลย     เจ้าห่านตัวนี้ชื่อว่า ปุ๊กปิ๊ก มันเป็นห่านที่บ้านของคุณ ตาล (@Ratitarn) เลี้ยงเอาไว้ในบ้าน มันมีนิสัยที่ขี้อ้อนมากๆๆๆๆ จนไม่รู้จะเอาไปเทียบกับอะไรดี ทุกครั้งที่ปุ๊กปิ๊กเห็นคุณแม่อยู่ในสายตา มันจะตรงดิ่งเข้าไปหาเธอโดยไม่สนใจอย่างอื่น แล้วก็จะซบคุณแม่แบบเอาเป็นเอาตาย อ้อนเก่งแบบนี้ไงที่บ้านถึงรักมาก     คุณตาลเล่าว่าที่เจ้าห่านกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยง เนื่องจากที่บ้านมีห่านซึ่งเลี้ยงเอาไว้ข้างนอก ตอนนั้นพอพี่น้องของปุ๊กปิ๊กฟักออกมาจากไข่ แม่ห่านก็เหยียบลูกตายเกือบหมดเลย เหลือมันรอดชีวิตมาแค่ตัวเดียว คุณพ่อกลัวว่าปุ๊กปิ๊กที่เหลือเป็นตัวสุดท้ายจะถูกแม่เหยียบอีก จึงพามันเข้ามาเลี้ยงไว้ในบ้าน แล้วมันก็เลยกลายเป็นสัตว์เลี้ยงขี้อ้อนอย่างที่เห็น     ตัวอื่นถูกเลี้ยงข้างนอก แกได้อยู่ในบ้านตัวเดียวเลยนะรู้ไหม   เลี้ยงไปแป๊บเดียว รู้ตัวอีกทีตัวโตซะแล้ว   โตไวจนปรับตัวตามไม่ทัน   แม่อยู่ไหนขออ้อนแม่หน่อย   แต่ถึงจะบอกว่าปุ๊กปิ๊กนิสัยขี้อ้อน มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นกับทุกคนหรอกนะ มันจะทำตัวขี้อ้อนกับมนุษย์คนโปรดของมันเท่านั้น ซึ่งก็คือคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณตาล คุณตาลบอกว่าถ้าเป็นคนอื่นปุ๊กปิ๊กจะเดินหนีท่าเดียวเลย แม้แต่คุณตาลเองบางทีมันก็หนีเช่นกัน แต่ถ้าเป็นคุณแม่ล่ะก็ แค่ได้ยินเสียงไกลๆ มันก็วิ่งไปหาเธอด้วยความเร็วแสงแล้ว   เจ้าห่านลำเอียง รักพ่อกับแม่มากกว่า   มานั่งเฝ้าตรงที่คุณแม่อยู่ ไม่ยอมออกห่าง…

คงบอกได้ยากว่าทาสแมวทุ่มเงินให้เจ้าเหมียวกันเยอะมากไหม แต่ถ้าเอามาเปรียบเทียบกับครอบครัวนี้แล้ว คงมีน้อยคนนักที่ทุ่มเงินให้เจ้าแมวมากขนาดนี้ Victoria Amith เป็นทาสของแมวเหมียว Tina และ Louise แต่เธอไม่สามารถเอามันไปเลี้ยงในหอพักของมหาวิทยาลัยได้ เธอจึงฝากมันไว้กับพ่อแม่ ในปีถัดมาเธอตัดสินใจย้ายออกมาอยู่กับคู่หมั้น เธอจะได้เอาเจ้าแมวมาอยู่ด้วยได้ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหมาของฝ่ายชายเข้ากับเจ้าแมว 2 ตัวนี้ไม่ได้เลยสักนิดเดียว     แต่ด้วยความรักเจ้าแมว และไม่อยากให้มันไปอยู่ไกลตัว เธอจึงตัดสินใจเช่าอพาร์ตเมนต์ให้มันอยู่โดยเฉพาะ ซึ่งเจ้าของอพาร์ตเมนต์ก็เป็นเพื่อนของพ่อเธอนี่เอง โดยเธอยอมจ่ายเงินมากถึงเดือนละ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณเกือบ 50,000 บาท) เพื่อให้เจ้าแมวได้อยู่กันอย่างสุขสบายในห้องนั้นเลย     ทาสเลี้ยงเราดีจริงๆ เช่าห้องส่วนตัวให้อยู่ด้วย   David Callisch ซึ่งเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์แห่งนั้นเองก็คงถูกใจกับแขกห้องนี้มากเช่นกัน เนื่องจากเขาไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะแอบสูบบุหรี่ในห้อง ดื่มสังสรรค์กันจนดึกดื่น หรือเปิดเพลงเสียงดังเลย เขาแค่ต้องเข้าไปให้อาหารพวกมันทุกวันเท่านั้น และ Amith ซึ่งเป็นเจ้าของพวกมันก็จะแวะมาหาเจ้าแมวบ่อยๆ ด้วย จึงเหมือนกับว่าเขาเจอคนเข้าพักที่ไม่ก่อเรื่องกวนใจให้นั่นเอง   This is the “out of touch” reality that exists in Silicon Valley ……

สำหรับเจ้าของหมาคนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขารักหมามากมายแค่ไหน แค่เจ้าหมาหายไปไม่กี่วันเขาก็เป็นเดือดเป็นร้อนใจแล้ว แถมยังจัดงานต้อนรับการกลับมาของมันซะใหญ่โตและติดป้ายบอกให้ชาวบ้านรู้ด้วย รักแค่นี้พอไหม!?     เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณ Janthana Hongweingjan ได้โพสต์ภาพป้ายงานเลี้ยงของเจ้าหมา ‘ลูกหมู‘ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง ซึ่งในป้ายมีข้อความว่า ‘จัดงานเลี้ยงลูกหมู คืนสู่เหย้า หลังจากหายไป 5 วัน ในวันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2562 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป’     วันที่ลูกหมูหายออกไปจากบ้านนั้นเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีการจุดพลุกันเสียงดัง ทำให้มันตกใจกลัวและวิ่งหนีหายไปทางท้ายซอย เจ้าของบอกว่าจริงๆ แล้วมันก็อยู่ที่ท้ายซอยตลอดแหละ แต่แค่หาไม่เจอเท่านั้น พอหายไปครบ 5 วันเจ้าหมาก็กลับมาหาเขาที่บ้านเอง     การจัดงานเลี้ยงให้หมาที่หายไปไม่กี่วันใหญ่โตแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อน เรื่องนี้จึงได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย และเรื่องของมันก็กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว ทีมงานจาก Amarin TV จึงเข้าไปสัมภาษณ์ นายบุญส่ง มีเฒ่า คุณลุงวัย 60 ปีที่เป็นเจ้าของลูกหมู เพื่อสอบถามเรื่องราวทั้งหมดต่อ     จากที่ทาง Amarin TV สัมภาษณ์มา คุณลุงบุญส่งบอกว่าลูกหมูเป็นลูกของหมาจรจัดที่ลูกสาวตนเก็บมาเลี้ยงเมื่อ…

ปกติแล้วก่อนจะขึ้นเดินแฟชั่นโชว์ได้ นายแบบและนางแบบจะต้องทำการซ้อมเดินกันหลายรอบ เพื่อจะได้เพิ่มความมั่นใจและดึงความโดดเด่นของตัวเองออกมาได้เวลาอยู่บนเวที ทว่าการเดินแบบครั้งนี้กลับไม่มีนายแบบหรือนางแบบคนไหนได้เป็นดาวเด่นของงานเลย คนที่มาแย่งชิงความสนใจไปจากคนดูกลับเป็นหมาตัวหนึ่งที่ไม่ได้ซักซ้อมเดินแบบกับเขาเลย แต่มันดันโดดเด่นที่สุดในงานซะงั้น   And they all posed well!! A dog seemed to have been the cutest co-show stopper besides @SidMalhotra at Designer Rohit Bal 's show!#Bollywood #page3 #page3reporter #styleicon #Fashion #showstopper #dogs #SidharthMalhotra #RohitBal pic.twitter.com/cuiNZFBNks — Page3Reporter (@Page3Reporter) January 17, 2019   งานเดินแบบที่ว่านี้เป็นงานแฟชั่นโชว์ของดีไซเนอร์ Rohit Bal ซึ่งจัดขึ้นในประเทศอินเดีย โดยจัดขึ้นเพื่อแสดงเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เขาเป็นคนออกแบบเอง ในตอนแรกการเดินแบบก็เป็นไปตามที่ทุกคนวางแผนเอาไว้ ทว่าจู่ๆ ก็มีเจ้าหมาตัวหนึ่งวิ่งตามนางแบบขึ้นไปด้วย แล้วก็ไม่ยอมลงมาจากเวที  …

แมวนี่มันพยายามเข้าไปอยู่ในทุกส่วนของชีวิตมนุษย์จริงๆ นอกจากจะหลอกเราให้ตกเป็นทาสจนต้องรับใช้มันทั้งวันแล้ว เวลาเราจะส่องหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อหนีมันไปนอกข้างนอกบ้าน ก็ยังจะมีแมวตามมาหลอกหลอนอีก!! เมื่อไม่นานมานี้มีทวีตอันหนึ่งของ @TastyTK ที่กำลังเป็นกระแสในหมู่ชาวเน็ต ซึ่งเป็นคลิปที่เขากำลังใช้ ‘กูเกิ้ลแมพ’ หรือก็คือโปรแกรมแผนที่ของกูเกิ้ลในส่วนของกูเกิลสตรีทวิวที่สามารถดูภาพเหมือนเรายืนอยู่ในสถานที่จริงๆ ได้ โดยที่ที่ @TastyTK กำลังส่องดูอยู่ก็คือจัตุรัสโบราณ Largo di Torre Argentina ซึ่งอยู่ในประเทศอาร์เจนตินานั่นเอง แต่แทนที่เขาจะได้ดูบรรยากาศรอบๆ จัตุรัสอย่างเดียว เขากลับพบกับ…หน้าแมวเต็มๆ จอ!?   เอ้อ จัตุรัสโบราณสวยงาม น่าเที่ยวจริงๆ ไหนขอลองส่องอีกมุมหนึ่งบ้างซิ…   เฮ้ย!? อยู่ๆ ก็โผล่มา ตกใจหมดเลย!!   คลิปวิดีโอที่เขาทวีตเอาไว้ So I found this on Google Maps pic.twitter.com/dz7PWaiOrF — TastyTK (@TastyTK) January 14, 2019   แถมเจ้าแมวไม่ได้มาตัวเดียวนะ ชาวเน็ตที่เห็นคลิปยังชี้แจงเพิ่มอีกว่า นอกจากเจอเจ้าแมวโผล่หน้ามาอย่างกับรอต้อนรับแล้ว มันยังมากับเพื่อนอีกตัวหนึ่งด้วย   อ้าว มีอีกตัวด้วยเหรอ!? ตกลงนี่สถานที่ท่องเที่ยวหรือแหล่งกบดานแมว?? https://twitter.com/themilfhunterz/status/1085399667771392000…

ทาสแมวตัวจริงจะต้องมีไอเทมเสริมความน่ารักให้เจ้านายแสนรักเสมอ ซึ่งส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเสื้อผ้าสีสันสดใส และหมวกน่ารักๆ นั่นเอง ล่าสุดตอนนี้ก็มีหมวกแมวแบบใหม่ออกมาอีกแล้ว โดยเซ็ตนี้จะเป็นหมวกคอสเพลย์การ์ตูนเรื่อง โปเกมอน ที่ไม่ว่าจะเป็นตัวไหนก็ดูน่ารักไปหมดเลย และคนที่เป็นแฟนคลับการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ควรจะพลาดด้วย     หมวกคอสเพลย์โปเกมอนสำหรับแมวคราวนี้ เป็นตู้กาชาปอง (ตู้ไข่หมุนแบบสุ่ม) จาก Kitan Club ซึ่งเป็นผู้ผลิตหมวกแมวเหมียว โดยประกาศว่าจะปล่อยหมวกเซ็ตนี้มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2018 แล้ว และตอนนี้หมวกเซ็ตนี้ก็ได้ออกมาให้ทาสแมว และแฟนคลับโปเกมอนทั้งหลายล่ามาสะสมกันอย่างเป็นทางการ โดยมีทั้งหมด 6 แบบ 6 ตัวละครด้วยกัน   ใบแรกแน่นอนว่าต้องเป็นเจ้า ปิกาจู หนูสายฟ้าที่เป็นตัวเอกยอดนิยมของเรื่อง   แบบต่อมาเป็นเจ้า อีวุย ซึ่งกำลังจะได้เป็นตัวเอกในเกมโปเกมอนภาคใหม่   ถ้าแมวของใครขี้เซา ต้องเหมาะกับหมวก คาบิกอน แน่เลย เพราะพวกมันขี้เซาเป็นที่สุด   ส่วนแมวที่น่ารักอ่อนหวาน ต้องชอบหมวก พูริน ที่ดูนุ่มนิ่มน่ากอดนี้แน่นอน   เจ้า เนียร์ธ แมวจอมป่วนจากแก็งร็อกเก็ตเองก็มาด้วย น่าจะเหมาะกับเจ้าแมวที่ชอบทำเรื่องยุ่งให้คุณไม่เว้นแต่ละวัน   และแบบสุดท้ายเป็นหมวกเจ้า โรคอน ที่ทั้งดูเท่และน่ารักในเวลาเดียวกัน   หลังจากที่หมวกออกวางขาย…

แม้จะเพิ่งเริ่มต้นปี 2019 ได้ไม่นาน แต่ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Spokane Humane Society ก็เจอเจ้าของเอาสุนัขชิสุมาทิ้งด้วยกัน 3 ตัวซะแล้ว แถมเธอยังขอให้การุณยฆาตพวกมันด้วย เนื่องจากมันชอบกัดเธอ ทว่าพอได้เห็นสภาพที่ขนรุงรังและเล็บยาวเฟื้อยจากการถูกละเลยแล้ว เจ้าหน้าที่ในนั้นคิดว่ามันน่าจะกัดคนเพราะความเครียดมากกว่า พวกมันไม่น่าจะดุร้ายอย่างที่เจ้าของบอก เขาคิดว่าหมาทั้ง 3 ยังควรได้รับโอกาสอยู่ จึงโน้มน้าวให้เจ้าของหมาไม่การุณยฆาตพวกมัน แล้วให้ศูนย์พักพิงสัตว์ดูแลต่อให้แทน     หลังจากที่โน้นน้าวไม่ให้ฆ่าเจ้าหมาได้สำเร็จแล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาหมาชิสุทั้ง 3 ตัวไปตัดขนและเล็บซะใหม่ จนพวกมันทุกตัวดูดีขึ้นเยอะเลย แถมพอพวกมันได้รับการดูแลจนรู้สึกสบายตัวแล้ว หมาชิสุทั้ง 3 ตัวซึ่งไม่เครียดแล้วก็แสดงความขี้เล่นออกมาให้เจ้าหน้าที่เห็นกันชัดเลย   หล่อแล้วนะ   ขนสั้นแล้วรู้สึกสบายใจ อยากอ้อนมนุษย์แล้ว   นอกจากนี้ทางศูนย์พักพิงสัตว์ยังได้เปิดรับบริจาคเงินให้พวกมันด้วย เนื่องจากพวกมันต้องการค่ารักษาสำหรับฟันที่ไม่ได้รับการดูแลมานานอีกเช่นกัน ซึ่งก็มีคนเห็นใจพวกมันหลังจากได้รู้เรื่องราว และส่งเงินเข้ามาช่วยรวมกว่า 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 100,000 บาท) เลยทีเดียว     ทางศูนย์พักพิงสัตว์เล่าว่า “พวกเรารู้แล้วว่าใต้ขนที่รุงรังนั้นมีปัญหาสุขภาพรออยู่มากมาย แต่พวกเราก็ได้พบว่าพวกมันเป็นหมาหน้าหล่อทั้ง 3 ตัวเลยด้วย ถึงจะอ้วนไปนิดหน่อยก็เถอะ พวกมันทุกตัวมีดวงตาสีน้ำตาลที่กลมโต…

แม่แมวและลูกน้อยถูกอาสาสมัครช่วยพาเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ได้ทันเวลาช่วงหน้าหนาวพอดี ทว่าที่ศูนย์พักพิงก็ไม่ได้มีระบบทำความอบอุ่นที่ดี แถมบรรยากาศที่เสียงดังในนั้นก็ทำให้แม่แมวเครียดจนไม่อยากดูแลลูกด้วย โชคดีที่ Tracy Pitisci ที่อยู่ใกล้เคียงรู้เข้าว่าศูนย์พักพิงสัตว์ต้องการคนช่วยรับอุปถัมภ์พวกมัน และเธอเองก็สะดวก แม่แมวเลยมีที่ที่เงียบสงบและอุ่นไว้เลี้ยงลูก ทว่าพอได้ดูแลลูกแมวอย่างใกล้ชิดแล้ว Pitisci ก็พบว่าลูกแมวตัวหนึ่งมีร่างกายผิดปกติ ขาหลังของมันพับงออย่างไม่เป็นธรรมชาติเลย     เธอตั้งชื่อลูกแมวตัวนั้นว่า Aries เธอรู้ตั้งแต่ตอนนั้นเลยว่ามันต้องลำบากแน่ถ้ารอดชีวิตช่วงเด็กมาได้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็อยากจะให้มันได้ลองสู้ชีวิตดู ไม่นานนักเจ้าแมวขาเบี้ยวก็เติบโตผ่านช่วงเด็กมาได้อย่างที่เธอคาดไว้ มันซนมากไม่แพ้พี่น้องที่ปกติตัวอื่นเลย ทว่าในขณะที่พี่น้องของพวกมันเริ่มหัดเดิน มันกลับต้องคลานตามอย่างยากลำบาก และมันก็ปีนที่สูงไม่ได้ด้วย     สัตวแพทย์แนะนำให้พวกเขาเอาเทปยาพันขาทั้ง 2 ข้างของมันเอาไว้ เพื่อไม่ให้ขาของมันถ่างออกอีกเวลาฝึกเดิน ซึ่งก็ดูจะช่วยมันได้พอสมควรเลย     ยิ่ง Pitisci เลี้ยง Aries นานยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ขาของเจ้าแมวก็ยิ่งดูแปลกตามากเท่านั้น ตอนที่มันโตเกือบเต็มวัยแล้วขาของมันก็บิดมาอยู่ที่บริเวณลำตัว ทำให้ดูผ่านๆ แล้วเจ้าแมวเหมือนแมงมุมน้อยน่ารักเลย     มุมนี้ยิ่งดูเหมือนแมงมุม   ปัจจุบัน Aries ชินกับการมีขาที่ไม่ปกติแล้ว มันสามารถพาตัวเองเดินไปที่ต่างๆ ได้เหมือนแมวปกติ ถึงจะช้ากว่าแต่มันก็ไปถึงที่หมายเสมอ นอกจากนี้ถึงมันจะกระโดดไม่ได้ แต่มันก็ไม่เคยละความพยายามในการขึ้นไปที่สูงๆ เลย เวลาที่เจ้าแมวอยากขึ้นที่สูง มันจะพยายามทุกวิถีทางทั้งปีนทั้งเกาะ บางครั้งมันก็สามารถขึ้นไปได้ในที่สุด…

เราเชื่อว่าเพื่อนๆ แทบทุกคนที่อยู่ตรงนี้น่าจะเคยเล่นซ่อนหากันมาแล้ว และก็น่าจะมีหลายคนที่เล่นบ่อยจนซ่อนและหาเพื่อนเก่งเป็นพิเศษด้วย แต่ดูท่าทางแล้วเจ้าหมาพวกนี้คงจะไม่ได้เล่นซ่อนหากับเพื่อนบ่อยเหมือนเรา สกิลการเล่นซ่อนหาของพวกมันก็เลยต่ำมากๆ ในใจของพวกมันคงจะคิดว่าการซ่อนของพวกมันนั้นแนบเนียนไร้ที่ติ ไม่มีทางที่มนุษย์จะหาเจอแล้ว ทว่าในสายตาของเรา พวกมันนั้นซ่อนได้ไม่เก่งในแบบที่น่ารักน่าขำเหลือเกิน   รีบซ่อนก่อน เดี๋ยวมนุษย์รู้ว่าเราแอบมากินน้ำในส้วม   สงสัยน้องลืมนึกไปว่าผ้ามันไม่ได้ยาวพอคลุมตัว   เก็บตูดให้หมดสิเจ้าคอร์กี้   เกือบจะเนียนละ ถ้าไม่เอาหัวโผล่ออกมา   เปิดลิ้นชักแล้วโดดเข้าไปได้ แต่ไม่รู้จะปิดยังไง   เอิ่ม…แกเข้าไปทำอะไรในนั้น??   เอ่อ…ผมแค่อยากเซอร์ไพรส์นายน่ะ ไม่ได้ตั้งใจพังชั้นวางนะ   ก็ข้างนอกมันร้อน เลยแอบเข้ามาข้างในนี้   เหมือนจะเนียนนะ แต่ก็ยังดีไม่พอ   แค่นี้มนุษย์ก็ไม่เห็นเราแล้ว เรานี่เก่งจริงๆ   โถ่วน้อง ตรงนั้นมันมีกระจกอยู่นะ!!   ถ้าเรามองไม่เห็นเขา เขาก็ต้องไม่เห็นเราเหมือนกัน   เหมือนจะมีตุ๊กตาเกินมาตัวหนึ่งนะ   นี่พวกแกไปเรียนวิชาซ่อนตัวจากที่เดียวกันมาใช่ไหม ไม่เนียนทั้งคู่เลย   ซ่อนไม่เนียนก็ดีแล้ว ถ้าเนียนเกินเดี๋ยวเผลอเหยียบละยุ่งเลย   แกคิดว่าตัวเองเหมือนตุ๊กตามากขนาดนั้นเลยเหรอ??   อยากอาบน้ำก็ไม่บอก ไม่ต้องแอบไปรอให้คนซักก็ได้…

เจ้าแมวกับเจ้าหมาที่บ้านของคุณดูไม่ค่อยถูกกันรึเปล่า? พวกมันอาจจะทำแบบนั้นต่อหน้าคุณ แล้วญาติดีกันลับหลังก็ได้นะ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนคุณไม่อยู่บ้านพวกมันจะทำอะไรกัน…นอกจากจะพึ่งพากล้องวงจรปิด เจ้าแมวเหมียวสีส้ม Kevin และเจ้าหมา Joule เป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน โดยมีวิศวกรหญิงคอยดูแลอยู่   https://www.instagram.com/p/BrNu_D0AFTO/   Joule เป็นหมาจรจัดที่เธอช่วยเหลือมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ ตอนแรกมันมีนิสัยขี้กลัวมากๆ กว่ามันจะหายกลัวและชินกับบรรยากาศในบ้านได้เหมือนทุกวันนี้ก็ต้องใช้เวลานานเลยทีเดียว ส่วนเจ้าแมว Kevin นั้นเป็นแมวที่อยู่บ้านมาก่อนแล้ว แม้ว่าทั้งคู่จะอายุ 4 ขวบเท่ากัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ามนุษย์พวกมันก็ไม่ได้ดูสนิทกันเท่าไหร่เลย   นอนอาบแดดคนละมุมไปนะ https://www.instagram.com/p/BrI-dhCgGqE/   เมื่อไม่นานมานี้หญิงสาวซื้อกล้องวงจรปิดไปติดไว้ที่บ้าน เนื่องจากเธออยากรู้ความเป็นไปของสัตว์เลี้ยงเวลาที่เธอออกไปทำงาน โดยเธอเลือกติดตั้งมันไว้หน้าโซฟาที่เจ้าหมาชอบไปนอนเล่น หลังจากติดกล้องได้ไม่นาน เธอก็ได้เห็นว่าตอนที่เธอไม่อยู่บ้าน เจ้าแมวกับเจ้าหมามันนอนกอดกันกลมบนโซฟาทั้งวันเลย   https://www.instagram.com/p/Bsnor1cAj7j/   เธอเล่าว่า “ในช่วงเวลาที่ฉันกำลังทำงาน พวกมันเอาแต่นอนกอดกันและหลับด้วยกันตลอดเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน พวกมันแทบไม่ทำแบบนี้เวลาที่เราอยู่ในบ้านเลย เดี๋ยวนี้ฉันก็เลยเปิดไลฟ์สตรีมทิ้งเอาไว้ที่ขอบจอคอมฯ อันที่ 2 ตอนทำงานเสมอ ฉันจะได้เห็นพวกมันมุ้งมิ้งด้วยกันได้”   https://www.instagram.com/p/BrK8GVDA9dx/   ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าเวลาที่เราอยู่บ้านกับไม่อยู่บ้าน พวกสัตว์เลี้ยงจะทำตัวไม่เหมือนกัน ถ้าคุณลองติดกล้องวงจรปิดไว้ดูสัตว์เลี้ยงบ้าง อาจจะได้เห็นมุมแปลกๆ ของพวกมันที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้ ที่มา: Ginger cat…

คงมีไม่กี่คนหรอกที่เห็นค่าของแมวจรจัด ถึงขนาดที่ยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อรักษาชีวิตของมันไว้ แม้ว่าเธออาจจะไม่ได้เลี้ยงมันก็ตาม Claudia Mustafa กำลังขับรถไปส่งแม่ของจากรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ไปยังรัฐนิวเจอร์ซี ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอเลือกขับผ่านมาในเส้นทางที่น่าจะมีรถติดมาก ระหว่างทางนั่นเองเธอและแม่ก็สังเกตเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่กลางถนน เมื่อเพ่งสายตาดูดีๆ ก็พบว่ามันเป็นแมวจรจัดที่กำลังนั่งขดตัวด้วยความกลัวอยู่     เจ้าแมวมันกระดิกหูให้เธอเห็น และก็กะพริบตาปริบๆ ทุกครั้งที่มีรถผ่านมันไปด้วยความเร็ว เมื่อเห็นว่ามันยังมีชีวิตอยู่แบบนั้นเธอจึงรีบเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อชะลอและหยุดรถช่วยมันทันที ถนนเส้นที่เธอขับรถอยู่นั้นเป็นเส้นที่คนมักจะขับรถเร็ว ทำให้ตอนนั้นมีรถบีบแตรไล่เธอหลายคันเลยทีเดียว แต่เธอก็ไม่สนใจและรีบช่วยเจ้าแมวที่นั่งรอความช่วยเหลืออยู่ ตอนแรกเธอก็กลัวเหมือนกันว่ามันจะวิ่งหนีเธอ ซึ่งอาจทำให้มันถูกรถคันอื่นทับได้ แต่เจ้าแมวก็นั่งรอให้เธอช่วยอยู่กับที่ เธอจึงอุ้มมันขึ้นมาได้โดยง่ายดายแล้วพามันขึ้นรถไปกับเธอด้วย     Mustafa พาเจ้าแมวกลับมาพักที่บ้านก่อน ตอนที่เธออุ้มมันออกมาจากรถเจ้าแมวก็ร้องเหมียวๆ พร้อมทำท่าทีอ้อนเธอใหญ่เลย เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นแมวบ้านมาก่อน เนื่องจากมันเชื่องมากๆ เธอตั้งชื่อมันว่า Bruckner พอได้พามันมาอยู่ในที่สว่างๆ เธอถึงเพิ่งเห็นว่าขาหลังของเจ้าแมวบิดไปอีกด้านหนึ่งแบบผิดธรรมชาติ เธอเลยรีบพามันไปหาสัตวแพทย์ต่อ     หลังตรวจดูเจ้าแมวแล้ว สัตวแพทย์บอกว่าขาของมันสามารถรักษาให้หายได้ แต่ต้องใช้เงิน 5,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 175,000 บาท) เลยทีเดียว สำหรับ Mustafa ที่เกษียณจากการทำงานแล้วและยังเป็นผู้พิการอีก เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เงินน้อยๆ ที่เธอพอจะมีเผื่อเอาไว้เลย  …

หลายครั้งเราจะได้เห็นข่าวว่ามีสุนัขที่ซื่อสัตย์ เข้าไปนอนอยู่ข้างหลุมศพของเจ้าของ เพราะมันรักและคิดถึงเจ้าของที่ตายจากไป เมื่อหญิงสาวเห็นเจ้าหมาในสุสาน เธอจึงคิดว่ามันทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่เจ้าหมาตัวนี้ไม่ได้เข้าไปในสุสานด้วยจุดประสงค์นั้นเลย มันเข้าไปเพื่อหวังจะหาที่หลบภัยให้กับครอบครัวเท่านั้น     วันหนึงเมื่อ Dimitra เดินผ่านสุสานในเมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย เธอได้ยินเสียงหมาตัวหนึ่งวิ่งไปในสุสาน และทำเสียงดังแปลกๆ เธอจึงตามมันไปดูด้วยความสงสัย พอเธอเห็นว่ามันอยู่ข้างหลุมศพ ตอนแรกเธอจึงคิดว่ามันมาไว้อาลัยให้เจ้าของ ทว่าพอเข้าไปใกล้อีกหน่อยเธอก็เห็นว่ามันขุดหลุมศพไว้จนเป็นโพรงเล็กๆ และเข้าไปนอนในนั้นเลย     เธอมองดูมันต่อด้วยความสงสัย เนื่องจากตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่ามันไม่ได้ไว้อาลัยเจ้าของแน่ๆ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงมาขุดหลุมอยู่ตรงนี้ เจ้าหมาเองเห็นเธอมองนานๆ มันก็เริ่มสนใจเธอเหมือนกัน สักพักมันจึงลุกออกมาจากหลุมและวิ่งมาขอขนมจากเธอกิน     ขอขนมกินหน่อยนะมนุษย์   ตอนนั้นเอง Dimitra ก็ได้เห็นว่าข้างในถ้ำเล็กๆ นั้นไม่ได้มีแค่เจ้าหมาเท่านั้นที่นอนอยู่ แต่ข้างในยังมีลูกหมาอีกหลายตัวเลยทีเดียว เธอเล่าว่า “คุณจะเห็นว่ามันสร้างถ้ำเล็กๆ ที่แข็งแรงเอาไว้ ถึงมันจะไม่ใช่สถานที่ที่ดีเท่าไหร่ก็ตาม แต่นั่นก็เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่แม่หมาจะเอาไว้ปกป้องลูกหมาได้แล้ว”   อย่างไรก็ตามลูกหมาที่เธอเจอก็อ่อนแอมาก บางตัวนอนสั่นเทาด้วยความหนาว เธอเห็นแล้วก็กลัวว่าพวกมันอาจจะเอาชีวิตรอดกันเองไม่ได้ เธอจึงโทรติดต่อหา Vesna Mihajloski ซึ่งเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือสัตว์ให้มาพาพวกมันไปดูแล แล้วเธอก็ตกลงจะพาลูกหมาไปหาสัตวแพทย์ให้ทุกตัวเลย แน่นอนว่าแม่หมาก็ถูกช่วยไปด้วย     หลังจากที่พาพวกหมาไปหาสัตวแพทย์มาแล้ว พวกมันก็ได้รับยาจากคุณหมอ และก็ยังได้กินอาหารจาก Mihajloski…

ความสัมพันธ์ของคนเราเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ คนที่เคยสนิทกันเมื่อตอนเด็ก ตอนโตอาจจะไม่สนิทกันเลยก็ได้ ทว่าสำหรับสัตว์นั้นต่างออกไป ส่วนใหญ่ถ้ามันได้สนิทกับเพื่อนอีกตัวหนึ่ง พวกมันก็จะเป็นเพื่อนสนิทกันตลอดไป ถึงเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ถ้าไม่เชื่อลองไปดูเหล่าคู่หูสัตว์ที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กพวกนี้ดู แม้แต่ตอนที่โตแล้วพวกมันก็ยังสนิทกันทุกคู่ น่ารักสุดๆ ไปเลย   ยิ่งอยู่ใกล้กัน ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น   เจ้าแมวตัวโตเท่าเจ้าหมาแล้ว   นั่นเจ้าหมูจะจูงเพื่อนหมาออกไปเดินเล่นเหรอ!?   โตแล้วก็ยังจะนอนเบียดกันอีก รักกันเกินไปแล้ว   คู่นี้รักกันแบบไม่เปลี่ยนแปลง   ตอนเด็กนอนดมก้นกัน ตอนโตนอนจุ๊บกัน   ยังชอบนอนกอดกันเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย   ยังคงเป็นคู่หูขาวดำที่ขาดกันไม่ได้   นอนเบียดกับเจ้าหมาอุ่นล่ะสิ โตแล้วก็ยังไม่เลิกเบียดเลย   หน้าตาหล่อเข้มขึ้นทั้ง 3 ตัวเลยจ้า   พอโตมาด้วยกันก็ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น   คู่หูแมวหน้าเอ๋อ ตอนเด็กเอ๋อกันยังไงตอนโตก็เอ๋อแบบนั้น   ตอนเด็กตัวกอดเค้า งั้นตอนนี้เค้ากอดเตงบ้าง   เจ้าหมาเจ้าหมู คู่หูยิ้มแฉ่ง   โตมาเหมือนเจ้าเป็ดจะสนิทกับพี่หมาจนไม่เกรงใจกันแล้ว   ที่บ้านของเพื่อนๆ มีคู่หูสัตว์ที่สนิทกันตั้งแต่เด็กยันโตบ้างรึเปล่า หรือจะเป็นคู่หูแถวบ้านก็ได้นะ ถ้ามีอยู่ล่ะก็อย่าลืมมาโพสต์อวดความน่ารักกันในช่องคอมเมนต์ล่ะ…

ความรักของมนุษย์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน นอกจากเราจะหาคู่รักที่เข้ากันดีได้ยากแล้ว ยังต้องมานั่งกังวลอีกว่าจะไปกันได้ตลอดรอดฝั่งรึเปล่า สัตว์บางชนิดถือว่าโชคดีกว่ามนุษย์มาก หลังจากผ่านขั้นตอนการหาคู่เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกมันก็จะรักกันไปตลอด โดยไม่ต้องห่วงเรื่องที่อีกฝ่ายจะนอกใจตัวเอง ส่วนจะมีสัตว์อะไรบ้างที่รักเดียวใจเดียวแบบนี้ เดี๋ยวเราลองไปรู้จักมันพร้อมๆ กันเลย 1. Macaroni Penguin   มีนกมากมายที่รักเดียวใจเดียวเหมือนกัน แต่ไม่มีตัวไหนที่เกี้ยวพาราสีกันได้โรแมนติกเหมือนนกเพนกวินชนิดนี้หรอก เวลาที่พวกมันเจอกัน มันจะทำท่าเต้นโดยการทำให้อกพองโต ส่ายตัวไปมา และส่งเสียงร้องไปด้วย ดูเหมือนพวกมันกำลังเต้นรำคู่กันอยู่   2. นกกระเรียนเนินทราย   นกกระเรียนเนินทรายเองก็รักเดียวไม่เปลี่ยนแปลง และยังมีวิธีเกี้ยวกันที่ไม่เหมือนใครเช่นกัน โดยพวกมันจะส่งเสียงร้องประสานเสียงกัน ทำให้ตัวอื่นรู้ว่าพวกเราเป็นคู่กันจริงๆ นะ ขนาดร้องเพลงยังเข้ากันได้ดีเลย   3. ม้าน้ำ   แม้ม้าน้ำจะไม่ต้องกังวลเรื่องแฟนนอกใจ แต่บางครั้งมันก็ต้องแย่งกันจีบตัวเมียกว่าจะได้คู่มา ซึ่งวิธีที่มันใช้จีบกันก็คือการเกี่ยวหางเข้าด้วยกันแล้วหมุนไปรอบๆ เหมือนเต้นรำนั่นเอง   4. หมาป่าสีเทา   หมาป่าสีเทาตัวเมียนั้นมีสิทธิพิเศษอย่างหนึ่ง คือนอกจากจะไม่ต้องกลัวถูกนอกใจแล้ว มันยังมีสิทธิในการปกครองฝูงเหมือนสามีด้วย เพราะหมาป่าในฝูงถือว่ามันเองก็มีพลังเท่ากับสามี เจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะ   5. นกแสก   นกแสกนั้นจีบกันโดยการให้ของขวัญเหมือนมนุษย์เลย โดยสิ่งที่ตัวผู้มักจะใช้จีบตัวเมียก็คือหนูซึ่งเป็นเหยื่อของพวกมันนั่นเอง และถ้าตัวเมียร้องตอบรับกลับ…

หมาทั่วๆ ไปมักจะระแวงคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหมาตัวนี้ต่างออกไป มันเป็นมิตรกับทุกคนที่เข้ามาเจอ และมันก็พร้อมต้อนรับพวกเขาด้วยของเล่นชิ้นโปรดของตัวเอง     เจ้า Atlas สุนัขลาบราดอร์อายุ 6 ขวบของ Kyla Pearce เป็นหมาที่เป็นมิตรมากๆ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ทำให้มันไม่เคยมีปัญหากับแขกคนไหนที่มาเยือนบ้านเลย เจ้าของเล่าว่า “มันเป็นหมาที่ใจเย็นและเชื่องมาก แม้แต่คนที่ไม่ชอบสุนัขก็มักจะถูกใจเจ้า Atlas เพราะมันไม่ทำตัวกวนใจพวกเขา”     นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษที่สุดสำหรับเจ้าหมาก็คือ มันมักจะคาบเอาของเล่นของตัวเอง มารอต้อนรับแขกที่หน้าประตูเสมอ ทำให้คนที่เจอเจ้าหมาต่างก็หลงรักมัน Kyla บอกว่ามันเริ่มคาบของเล่นมาต้อนรับแขกตั้งแต่ตอนอายุได้ขวบครึ่ง พอมันเห็นว่าคนชอบที่มันทำแบบนั้น ต่อมามันก็ทำแบบนั้นตลอดเลย นอกจากนี้ถ้าเกิดมันไม่ทันรู้ตัวว่ามีคนมาหา และเจอหน้าแขกแบบกะทันหัน มันจะทำท่าทางสับสนว่าควรจะต้อนรับพวกเขาก่อน หรือวิ่งไปคาบของเล่นมาดี…ซึ่งหลังจากยืนงงสักพักมันก็จะเลือกทำอย่างหลังทุกรอบ     บางคนอาจจะบอกว่าการที่ Atlas คาบของเล่นมาให้แปลว่ามันอยากจะให้แขกเล่นกับมัน แต่เจ้าของยืนยันว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เจ้าหมาจะคาบของเล่นมาเพื่อรอต้อนรับเท่านั้น และถ้าใครยื่นมือเข้าไปเอาของเล่นล่ะก็ มันจะเอียงหัวหนีเป็นเชิงบอกว่า ‘ผมแค่เอามาอวดเฉยๆ หรอก อย่าเอาของเล่นผมไปนะ’     พฤติกรรมสุดน่ารักและนิสัยเป็นมิตรของมัน ทำให้ทุกคนที่ได้เจอมีความสุขที่ได้เจอเจ้าหมา โดยเฉพาะกับ Pearce ที่เป็นเจ้าของก็ชอบที่ได้เห็นมันแสดงความอ่อนโยนต่อทุกคนด้วย     ที่มา:…

เมื่อไม่นานมานี้ในเมืองแวดส์เวิร์ด รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ชาวบ้านในละแวกนั้นเจอแมวจรจัดตัวหนึ่ง มีคนมุงดูให้ความสนใจมันมากมาย แต่ก็ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของมันเลย ชายที่เจอมันคนแรกจึงโทรเรียกให้ตำรวจมารับตัวมันไป เผื่อว่ามันจะเป็นแมวที่หายไปของใครสักคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าดูลักษณะแล้วมันน่าจะเป็นแมวจรจัดมากกว่าก็ตาม     ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจ Vivian Feke ก็มาถึงที่เกิดเหตุ เธอรับตัวเจ้าแมวน้อยขึ้นรถไปด้วยกัน และตั้งใจว่าจะให้ศูนย์พักพิงสัตว์มารับตัวเจ้าแมวไป ทว่าหลังจากติดต่อศูนย์พักพิงสัตว์ในเมืองแล้ว กลับไม่มีใครสะดวกออกมารับตัวมันไปในตอนนั้นเลย เธอจึงพามันกลับไปที่สถานีตำรวจด้วยเพื่อดูแลมันชั่วคราวก่อนแทน     ไปที่สถานีกับคุณตำรวจก่อนนะ   ในตอนแรกที่เธอไปรับเจ้าแมวน้อยมา มันดูสับสนและตื่นคนมากเนื่องจากถูกคนมุงดู แต่พอมันมาเจอ Feke เจ้าแมวก็ร้องเรียกให้เธอเล่นด้วยอย่างเดียวตลอดทางไปสถานีตำรวจเลย พอถึงที่สถานีตำรวจแล้วเธอจึงป้อนข้าวป้อนน้ำให้มัน และเล่นกับมันเต็มที่จนเจ้าแมวพอใจเลย แถมยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ มาเล่นกับมันเพิ่มด้วย เจ้าแมวดูมีความสุขมากๆ เลยล่ะ มันวิ่งเล่นไปทั่วห้องด้วยความตื่นเต้น และบางครั้งก็กลับเข้ามาอ้อนให้คุณตำรวจลูบมันต่อ     แผนการหาทาสเป็นตำรวจดำเนินไปได้ด้วยดี   หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นความขี้เล่นและความน่ารักของเจ้าแมวแล้ว พวกเขาก็ไม่อยากให้ Zeke เอาตัวมันไปส่งที่ศูนย์พักพิงสัตว์เลย เพื่อนตำรวจของ Zeke จึงอาสารับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนั้นในทันที มันจะได้กลับไปที่บ้านกับเธอและไม่ต้องไปศูนย์พักพิงสัตว์อีก     Zeke เล่าว่า “ครอบครัวของตำรวจที่รับเลี้ยงมันไปตั้งชื่อเจ้าแมวว่า Bella พวกเราคิดว่าในอนาคตมันคงจะเป็นแมวตำรวจที่ดีได้แน่นอน”    …

หากถามว่าแม่หมาจะมีลูกเป็นอะไร แทบทุกคนจะต้องตอบว่าเป็นหมาแน่นอน เพราะมันคงไม่มีทางคลอดลูกออกมาเป็นสัตว์ตัวอื่นได้หรอก แต่รู้รึเปล่าว่ามีสัตว์ส่วนหนึ่งที่มีลูกคนละสายพันธุ์กัน พวกมันยอมเป็นแม่จำเป็นให้กับลูกสัตว์กำพร้าตัวอื่น ทำให้พวกมันได้มีโอกาสได้รับความรักและการดูแลจากคุณแม่ คุณอาจจะนึกภาพไม่ออก และคิดว่าสัตว์คนละสายพันธุ์จะรักกันเหมือนครอบครัวได้จริงเหรอ?…ถ้าอย่างนั้นไปดูภาพของคุณแม่จำเป็นกับลูกๆ ตัวน้อยที่มันรับเลี้ยงดูกันแทนคำตอบดีกว่า แล้วคุณจะรู้ว่าความรักไม่มีขีดจำกัดหรือการแบ่งแยกเลย   แม่หมาอยู่กับลูกแมวแล้วสุขใจจนยิ้มกว้างเลย   เอ้าไอ้เสือ อย่าแย่งนมน้องกินสิ ค่อยๆ ดื่ม   แม่เสือก็เลี้ยงลูกหมูได้นะ   แถมยังเล่นกับพวกมันได้ด้วย   ถึงเวลาอาบน้ำแล้ว มาหาคุณแม่แมวเร็วเข้า   อยู่กับคุณแม่หมาตัวโตแล้วรู้สึกอุ่นมากเลย   ลูกๆ เว้นที่ให้เจ้าหมาดูดนมบ้างสิ ถึงจะลายไม่เหมือนกัน แต่เราก็รักแม่คนนี้แหละ   มนุษย์มองอะไร นี่ลูกเราเอง   เดี๋ยวแม่ป้อนนมจากขวดให้นะคะ   ดีใจจังเลยที่เห็นลูกๆ อิ่มท้อง   เลี้ยงทั้งหมา เลี้ยงทั้งแมว คุณแม่เลยทำหน้าเหนื่อยหน่อย   จะหมาหรือเสือ อยู่ด้วยกันก็เป็นพี่น้องกันได้   ลูกเจี๊ยบกินหนอนไม่ใช่เหรอ ทำไมมาดูดนมอยู่ตรงนี้!?   อยากเรียกลูกว่าไอ้เสือมาตั้งนานแล้ว   แม่เสือเลี้ยงลูกหมูได้ งั้นแม่หมูก็เลี้ยงเสือได้เช่นกัน  …

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีเจ้าของหมาที่ใจร้ายแบบนี้อยู่ เขาไม่ต้องการเจ้าหมาแล้ว ก็เลยเอามันไปปล่อยทิ้งไว้แบบไม่ดูดำดูดี และไม่ให้โอกาสมันได้เอาชีวิตรอดเลย เจ้าหมา Dice ถูกเจ้าของเก่าเอาไปปล่อยทิ้งไว้ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยเอาใส่กรงที่ปิดเอาไว้ ทำให้มันไม่สามารถออกไปข้างนอกกรงเพื่อหาของกินหรือขับถ่ายได้ กว่าจะมีคนไปเจอเจ้าหมา มันก็ผอมจนเหลือแต่กระดูกแล้ว คุณสามารถมองเห็นโครงกระดูกของมันได้อย่างชัดเจนแม้จะมองจากไกลๆ มันอยู่ในสภาพที่น่าสงสารมาก     น้องหมาผอมมากๆ เหมือนโครงกระดูกเดินได้   จากการสอบถามคนแถวนั้นที่ผ่านไปมา พวกเขาบอกว่ามีคนเห็นเจ้าหมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว แต่อาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Feeling Fine Rescue คิดว่าสภาพมันดูเหมือนจะถูกทิ้งไว้นานกว่านั้นอีก การที่มันสามารถรอดชีวิตมาได้นานขนาดนี้ และยังไม่ตายทั้งที่ผอมจนหนังติดกระดูก ก็เหมือนกับปาฏิหาริย์แล้วจริงๆ     แม้แต่ตอนที่พามันไปหาสัตวแพทย์ Dice ก็ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้นานนัก และก็เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มแล้ว เป็นเพราะมันไม่ได้กินอะไรมานานจนไม่มีแรงนั่นเอง ถึงมันจะถูกทิ้งไว้จนโทรม แต่ก็น่าดีใจที่มันยังเป็นมิตรกับมนุษย์อยู่ หมาตัวอื่นคงรู้สึกกลัวและขยาดมนุษย์ไปแล้ว หลังถูกเจ้าของเก่าทิ้งไว้แบบนั้น     เจ้าหมายังไว้ใจมนุษย์ทั้งที่ถูกทิ้งจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด   อาสาสมัครดูแลเจ้าหมาอย่างดีที่สุด ภายในเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์มันก็กลับมามีน้ำหนักปกติ และดูสุขภาพดีกว่าเดิมเยอะเลย ทำให้พวกเขาไม่เป็นห่วงมันมากเหมือนเก่าแล้ว นอกจากนี้ก็น่าดีใจกับเจ้าหมาด้วยที่มันมีคนมาขอรับเลี้ยงอย่างรวดเร็ว ทำให้มันได้กลับไปสัมผัสความรักจากการเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง     มาอยู่แป๊บเดียวก็มีคนรับไปเลี้ยงแล้ว   Tracey Godin ติดตามดูมันตั้งแต่ถูกช่วยมาตอนแรกแล้ว…

การที่เราเป็นคนรักและช่วยเหลือหมา ไม่ได้หมายความว่าเราสามารถช่วยหมาทุกตัวได้ บางครั้งเราก็ช่วยพวกมันได้เท่าที่แรงของพวกมันจะมี แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่เหล่าอาสาสมัครมักจะรับหมามาดูแลเกินกว่าที่ตัวเองจะทำได้ เพราะพวกเขารู้ว่าถ้าไม่รับมันเอาไว้ พวกมันจะถูกเอาไปทิ้งในที่ที่อาจเป็นอันตรายต่อพวกมัน     Tamara Johnston เป็นคนต่างประเทศที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย และเธอก็เป็นคนก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Thai Street Paws Rescue ด้วย ถึงเธอจะเป็นคนก่อตั้งกลุ่ม แต่คนที่มาช่วยดูแลเจ้าหมาก็ไม่ได้มีมากนัก เธอจึงมักจะออกไปให้อาหารหมาจรจัดข้างถนนเป็นประจำ     ครั้งหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังให้อาหารสุนัขอยู่ที่จังหวัดสงขลา จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งตะโกนเรียกเธอมาแต่ไกล เขาถือตะกร้าใบหนึ่งมาด้วย ซึ่งข้างในนั้นมีลูกหมาอยู่ 3 ตัว เขาบอกว่าอยากให้เธอเอาลูกหมาพวกนี้ไปเลี้ยงดูให้หน่อย เนื่องจากไม่มีใครต้องการมัน และถ้าเธอไม่ยอมรับพวกมันไปเลี้ยง เขาก็คงจะต้องทิ้งพวกมันไว้ข้างถนนสักแห่ง     ลูกหมาน้อยดูน่าเอ็นดูมากๆ   Johnston รู้สึกลำบากใจมากที่ถูกขอร้องแบบนั้น ถึงเธอจะอยากช่วยพวกมัน แต่ตอนนี้เธอก็มีหมาจรจัดให้ดูแลเป็น 100 ตัว โดยที่มีคนช่วยเพียงไม่กี่คน การรับหมามาเพิ่มอีกจึงเป็นภาระไม่ใช่น้อย แต่เธอก็ตัดสินใจยอมรับพวกมันไว้ เนื่องจากเธอไม่สามารถปล่อยให้พวกมันถูกทิ้งขว้าง แล้วไปเผชิญชะตากรรมข้างถนนโดยไม่มีแม่ดูแล     เธอเล่าให้ฟังว่า “ลูกหมาพวกนี้ดูตื่นกลัว และมองมาที่ฉันเหมือนกับขอความช่วยเหลืออยู่…ถ้าฉันไม่ช่วย พวกมันก็ถูกชายคนนั้นเอาไปทิ้ง และอาจถูกรถทับด้วย พวกมันมีโอกาสรอดไม่มากนักหรอก” เธอรับลูกหมาพวกนั้นไว้และเอากลับไปดูแลที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ของตัวเอง โดยเอาอาหารให้กินและอาบน้ำให้ จากนั้นเธอก็หวังว่าจะหาเจ้าของให้พวกมันได้โดยไว…

ลิงเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีสถิปัญญาและความสามารถในการเรียนรู้ดีเยี่ยม พวกมันมักจะพบวิธีเจ๋งๆ ที่ช่วยทำให้ชีวิตของพวกมันสะดวกสบายขึ้น เหมือนอย่างครั้งนี้ที่พวกมันใช้ความสามารถในการปีนป่าย ปีนขึ้นที่สูงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองต้องรู้สึกหนาวเวลาเดินเหยียบหิมะด้านล่าง     คลิปวิดีโอของฝูงลิงฝูงนี้ถูกถ่ายได้ที่เมืองมุตสึ จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าหนาว บริเวณนั้นจึงมีหิมะตกปกคลุมอยู่เต็มไปหมด สำหรับฝูงลิงที่ไม่มีรองเท้าใส่เหมือนมนุษย์ พวกมันจำเป็นต้องเดินลุยหิมะเพื่อไปยังที่ต่างๆ แต่นั่นก็ทำให้พวกมันต้องรับรู้ถึงความหนาวจากหิมะทุกย่างก้าวที่เดินไป แต่ฝูงลิงฝูงนี้ใช้ความชาญฉลาดที่มีค้นพบวิธีหลีกเลี่ยงความหนาวจนได้ แทนที่พวกมันจะเดิน พวกมันก็พากันไต่สายไฟฟ้าที่อยู่ด้านบนแทน แบบนี้พวกมันก็สามารถไปถึงที่หมายอีกด้านได้ โดยไม่ต้องรู้สึกเย็นเท้าเลยด้วย     ภาพของลิงทั้งฝูงที่ไต่บนสายไฟฟ้าตามกันเป็นแนวยาวจนสุดสายตานั้น เป็นภาพที่แปลกตาจริงๆ และก็คงหาดูกันไม่ได้ง่ายๆ ด้วย พอได้เห็นพวกมันทำแบบนี้แล้ว ก็อดชื่นชมในสติปัญญาและความแสนรู้ของพวกมันไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าการไต่ไปตามสายไฟจะดูไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่ก็ตาม      นอกจากนี้พวกมันก็ไม่ได้ไต่สายไฟแบบชาญฉลาดโดยบังเอิญหรอกนะ 2 วันหลังจากที่ชาวบ้านเห็นพวกมันทำแบบนั้นครั้งแรก ฝูงลิงก็กลับมาไต่สายไฟเดินทางอีกเหมือนเดิม อย่างกับว่าการไต่สายไฟกลายเป็นทางลัดในการเดินทางช่วงหน้าหนาวของลิงกลุ่มนี้ไปซะแล้ว และดูจากอากาศที่หนาวยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงนี้แล้ว มันก็คงจะใช้ทางเส้นนี้ไปจนหมดหน้าหนาวนั่นแหละ…   ที่มา: Daily Mail, Video Break

คุณเชื่อรึเปล่าว่าในโลกนี้อาจจะมีฝาแฝดของเราอยู่ก็ได้? สัตว์พวกนี้มันก็คงไม่เชื่อเรื่องนี้หรอก จนพวกกระทั่งพวกมันได้เจอกับตัวนี่แหละ แถมยังเป็นคนละสายพันธุ์ด้วย ถึงพวกมันจะไม่ใช่สัตว์ประเภทเดียวกัน แต่พอดูเรื่องความคล้ายคลึงกันของทั้งคู่แล้ว ก็ดูเหมือนกับพวกมันเป็นพี่น้องที่คลานตามกันออกมาเลยล่ะ   ฝาแฝดต่างไซส์ของผมเอง https://www.instagram.com/p/BrGm82EB_Y_/   กระต่ายกับพี่ไซเป็นญาติห่างๆ กันสินะ https://www.instagram.com/p/Bm_KekpnhT6/   เห็นแก่ว่าเราเป็นฝาแฝดกัน ฉันจะไม่กินแกนะเจ้าหนู https://www.instagram.com/p/BUVzulmj7Zf/   เกือบจะเป็นฝาแฝดกันจริงๆแล้ว ขาดแค่ความยาวของหูเท่านั้นเอง https://www.instagram.com/p/Br1btEVgi24/   เจอน้องที่พลัดพราดกันไปหอมแก้ม รู้สึกชื่นใจมากเลยงับ (โดนหลอกให้เป็นทาสไม่รู้ตัว) https://www.instagram.com/p/Bkhhn-mFnHE/   ไหนบอกซิว่าใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง https://www.instagram.com/p/76qzdDzZ5_/   สีเราก็เหมือนกัน มี 4 ขาเหมือนกันอีก ฝาแฝดกันชัะวร์ https://www.instagram.com/p/BrXxJPZn13m/   หมูกับหมาก็เป็นฝาแฝดกันได้เด้อ https://www.instagram.com/p/BHqbrp1B1Px/   คู่นี้สิคล้ายทั้งสีและหน้าตาเลย https://www.instagram.com/p/BiV5FyTHrN3/   ดูเหมือนตัวซ้ายจะอิจฉาตัวขวาที่ดูคล้ายกันแต่น่ารักกว่า https://www.instagram.com/p/vlkSppQcYT/   น้องหมากำลังงง นึกว่าส่องกระจกอยู่   คู่แฝดขนยุ่ง ที่ชอบทำหน้าง่วงเป็นประจำ https://www.instagram.com/p/BirD4CTANGz/   ถ้าผมโตขึ้นผมจะสูงเหมือนพี่ไหมฮะ?…

เคยได้ยินมาบ้างว่าบางครั้งมีคนเข้าใจผิด คิดว่ารูปปั้นสัตว์เป็นสัตว์จริงๆ เนื่องจากมันดูเหมือนจริงมาก แต่เพิ่งเคยได้ยินวันนี้แหละว่ามีหมาจริงที่เหมือนรูปปั้นจนคนพากันเข้าใจผิดกันเพียบด้วย เมื่อไม่นานมานี้มีภาพของหมาตัวหนึ่งถูกแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ ซึ่งเจ้าหมาสีดำตัวนี้ดูคล้ายรูปปั้นมากๆ ชาวเน็ตที่ได้เห็นรูปต่างก็ไม่แน่ใจกันว่าตกลงมันเป็นรูปปั้นหมา หรือเป็นหมาที่มีชิวิตจริงๆ   รูปนี้แหละที่ทำให้คนงง มันดูคล้ายรูปปั้นมากๆ เลย   ทว่าเจ้าหมาตัวนี้ไม่ใช่รูปปั้นแต่อย่างใด มันคือเจ้า Piper เป็นสุนัขสายพันธุ์เม็กซิกันไร้ขน หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ Xoloitzcuintli  พอได้รู้ว่ามันเป็นสุนัขของจริง ชาวเน็ตบางคนก็พากันชื่นชมเจ้าหมาว่ามันเป็นเหมือนผลงานศิลปะที่มีชีวิตเชียวล่ะ เพราะมันดูคล้ายรูปปั้นมากเหลือเกิน   https://www.instagram.com/p/BjmhpmyjO_D/?utm_source=ig_embed   ส่วน Sandra ที่เป็นเจ้าของของเจ้าหมานั้นก็ไม่คิดเลยว่าผู้คนจะพากันเข้าใจผิด และเถียงกันจริงจังขนาดนี้ว่ามันเป็นหมาหรือรูปปั้นกันแน่ เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกตลกมากที่มีคนมากมายมาถามว่าจริงๆ Piper เป็นหมาหรือรูปปั้น ตอนแรกฉันคิดว่าพวกเขาทักเอาฮาด้วยซ้ำ แต่สักพักฉันก็เข้าใจว่าพวกเขาจริงจังเรื่องนี้อยู่ และก็ไม่อยากจะเชื่อด้วยว่ามันเป็นหมาของจริง ฉันคงจะเห็นมันมานานจนชิน ก็เลยไม่เคยคิดว่ามันคล้ายรูปปั้นเลย แต่พอฉันลองถามคนในครอบครัวและเพื่อนรอบตัวดู พวกเขาก็บอกว่าเข้าใจนะที่คนทั่วไปเข้าใจผิดเรื่องนั้น”     แหม่ก็รูปของเจ้าหมามันดูแล้วชวนเข้าใจผิดว่าเป็นรูปปั้นจริงๆ นี่นา ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ามันขนโล้น ผิวเลยดูมันวาวเหมือนรูปปั้นด้วยก็ได้ ถ้าใครรู้สึกถูกใจ Piper และคิดว่าเจ้าหมาตัวนี้มันดูน่ารัก ก็สามารถติดตามเจ้าหมาเพิ่มเติมได้ในอินสตาแกรม Piper & Riley เลย   ส่วนคนที่ยังไม่เชื่อว่ามันเป็นหมา ไปดูวิดีโอของมันให้หายข้องใจก็แล้วกัน    ที่มา:…

การเป็นคนไร้บ้านไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่มีหัวใจ ถึงแม้ว่า Luiz จะไร้บ้านแต่เขาก็มีครอบครัว 4 ขาเล็กๆ ที่รักเขาอยู่ด้วย คืนหนึ่ง Luiz มีอาการชัก คนที่เห็นจึงโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับตัวเขาไปรักษา ส่วนหมาทุกตัวของเขาแม้จะไม่ได้ขึ้นรถพยาบาลไปด้วย แต่พวกมันก็รักและเป็นห่วงเขามาก จึงวิ่งตามรถพยาบาลไปจนถึงที่หมายเลย     แน่นอนว่าถึงพวกมันจะวิ่งตามมาถึงโรงพยาบาลแล้ว แต่พวกมันก็ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ สิ่งที่พวกมันเลือกทำจึงเป็นการปักหลักนอนรอ Luiz อยู่หน้าทางเข้าโรงพยาบาล และไม่ยอมขยับไปไหนเลย พยาบาลที่ได้เห็นพวกมันต่างก็รู้สึกประทับใจกับความรักที่พวกมันมีต่อเจ้านาย แต่ก็เป็นห่วงพวกมันด้วย เขาจึงโทรติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Amigos de Patas Cianorte ให้ส่งอาสาสมัครมาช่วยดูแลพวกมันระหว่างรอเจ้าของหน่อย     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์เล่าว่าคนที่อาศัยอยู่แถวถนน Cianorte ในประเทศบราซิล คงเคยเห็น Luiz กับพวกหมาบ่อยแล้ว เขาอยู่ข้างถนนมากว่า 20 ปี และแม้จะมีคนพยายามหาบ้านให้ เขาก็ปฏิเสธไปเพราะอยากอยู่กับพวกหมาที่เขารัก ถึงจะไม่มีเงินมาก เขาก็แบ่งปันทุกอย่างที่มีกับพวกมัน นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมหมาพวกนี้จึงรักเขามาก และไม่ยอมทิ้งเขาในยามที่เขาเดือดร้อน     เช้าวันต่อมา Luiz ก็มีอาการคงที่และได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ แต่เขาถูกพาออกไปทางประตูอีกด้านหนึ่ง พวกสุนัขเลยยังรอเขาที่ประตูด้านหน้าเหมือนเดิม พวกมันรออยู่นานมากจนพยาบาลต้องส่งคนไปรับตัว Luiz ที่บ้านพี่ชายให้ออกมาพบพวกมัน เจ้าหมาถึงจะยอมเดินออกมาพร้อมกับเขาด้วยท่าทางดีใจที่ได้พบมนุษย์คนโปรดสักที  …

หญิงสาวรักหมาของตัวเองมาก แต่มันก็อยู่กับเธอมานานและแก่ตัวมากแล้ว สุขภาพของมันทรุดโทรมลงไปเรื่อยๆ เธอจึงอยากทำให้วันสุดท้ายในชีวิตของมันมีความสุขที่สุดก่อนที่จะต้องจากไป Kira เลี้ยงเจ้าหมา Gizmo มาตั้งแต่เธอยังเด็ก มันกับเธอเติบโตไปด้วยกัน มันจึงกลายเป็นเพื่อนคนสำคัญของเธอที่ไม่มีใครแทนได้     เป็นเพื่อนซี้สุดๆ ใส่ชุดสีเข้าคู่กันซะด้วย   ปัจจุบัน Gizmo อยู่กับ Kira มานาน 18 ปีแล้ว พอเจ้าหมาเริ่มแก่ตัวลง ปัญหาด้านสุขภาพของมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มจากการสูญเสียการได้ยิน ตามมาด้วยประสาทการมองเห็นที่พร่ามัว เนื่องจากตาของมันเป็นต้อกระจก แถมขาของมันยังมีอาการท่ออักเสบจนเดินได้ลำบากอีกต่างหาก     Kira รู้ว่าตอนนี้การมีชีวิตอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ทำให้ Gizmo ทรมานจากการต่อสู้กับโรคภัยต่างๆ ที่มี และถึงแม้เธอจะอยากอยู่กับมันต่อ เธอก็ตัดสินใจว่าควรจะการุณยฆาตให้มันพ้นทุกข์ดีกว่าปล่อยให้มันทรมานมากกว่านี้ หลังจากวางแผนการุณยฆาตแล้ว Kira ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่ามันมีความสุขที่สุด และเมื่อถึงวันสุดท้ายของเจ้าหมา เธอก็ยังพามันขับรถออกไปกินของโปรด และเดินเล่นด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายด้วย     หญิงสาวเล่าว่า “มันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา ฉันอยากมั่นใจว่าวันสุดท้ายในชีวิตของมันจะเต็มไปด้วยความรักและขนมที่มันชอบ อันที่จริงแล้วฉันรู้สึกดีใจมากที่ฉันว่างอยู่กับเจ้าหมาในวันสุดท้าย ฉันเลยอยากทำให้มันเป็นวันที่พิเศษสำหรับมัน เพื่อให้เพื่อนคนสำคัญตลอดหลายปีของฉันอย่าง Gizmo ได้รับวันที่ดีที่สุดอย่างที่มันสมควรได้รับ”   …

เด็กหญิงตัวน้อยเคยผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวตั้งแต่เด็ก ซึ่งประสบการณ์นั้นทำให้เธอรู้สึกกลัวจนนอนไม่หลับ แต่เธอก็มีพี่หมาที่คอยอยู่ข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจและนอนได้โดยไม่กลัวอีก ตั้งแต่เกิดมาเด็กหญิง Adalynn ก็รายล้อมไปด้วยความรัก ทั้งความรักจากคุณพ่อคุณแม่ และความรักจากพี่หมาลาบราดอร์ Fury ด้วย เธอดูมีความสุขและสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่กับเจ้าหมา ส่วนเจ้าหมาก็ชอบเอาใจและคอยอยู่เคียงข้างเพื่อดูแลเด็กสาวตัวน้อยเช่นกัน     เมื่อหลายเดือนที่ประเทศอลาสก้าเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงมาก ซึ่งบ้านของ Adalynn ก็อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุด้วย ส่งผลให้บ้านของเธอสั่นไหวจนข้าวของร่วงลงมาเละเทะไปหมด แถมยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายระลอกอีกต่างหาก น่ายินดีที่อย่างน้อยน้อง Adalynn และครอบครัวไม่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวเลย แต่เด็กหญิงก็รู้สึกหวาดกลัวและนอนหลับยากหลังจากผ่านเรื่องน่ากลัวแบบนั้นมา     คุณพ่อ Kyle Leary เล่าว่าตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนั้น ก็มีอาฟเตอร์ช็อกตามมาเรื่อยๆ และทำให้เด็กหญิงมีปัญหาในการนอน สิ่งที่พอจะช่วยให้ Adalynn หลับสนิทได้ก็คือเจ้า Fury เนื่องจากทุกครั้งที่เธอลงไปนอนกอดกับมันบนพื้น คุณพ่อคุณแม่จะเห็นชัดเลยว่าเธอรู้สึกสบายใจมากๆ เหมือนเจ้าหมาทำให้ความกลัวของเธอหายไปได้ในทันใด และนอกจากจะนอนกอดกันในตอนกลางวันแล้ว เร็วๆ นี้คุณพ่อคุณแม่ก็เห็นผ่านกล้องวงจรปิด ว่าเด็กหญิงเริ่มชวนเจ้าหมามานอนบนเตียงกับเธอในตอนกลางคืนแล้ว เป็นภาพที่น่ารักมากๆ เลย     นอกจากเธอจะอาศัยไออุ่นและกำลังใจจากเจ้าหมา เธอก็ยังรู้สึกรักและเป็นห่วงมันด้วย ในคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าเธอยังพยายามห่มผ้าให้มันเพื่อให้มันหลับสบายอยู่เลย แม้ความกลัวแผ่นดินไหวของ Adalynn จะยังไม่หายสนิทดี แต่เราก็คิดว่าถ้าเจ้าหมายังอยู่เป็นกำลังใจให้น้องต่อไปแบบนี้ ในอนาคตน้องก็คงจะหายกลัวเป็นปลิดทิ้งได้สักวัน  …

ตลอดเวลาการทำงานช่วยเหลือสัตว์หลายปีของ Jen Deane เธอมักจะรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอและดูแลลูกหมากลุ่มใหม่ทุกครั้ง ทว่าครั้งนี้เจ้าหมาที่เจอทำให้เธอถึงกับใจละลายเลยทีเดียว เนื่องจากมันมีหูที่ม้วนเป็นเกลียดแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ทำให้ดูน่ารักจนอดใจไม่ไหว     Deane เป็นประธานของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Pit Sisters เมื่อไม่นานมานี้อาสาสมัครก็เพิ่งช่วยเหลือลูกหมาชุดใหม่มา และเธอก็กำลังรอเจอพวกมันอยู่ ทันทีที่ได้เจอหน้าพวกมันเธอก็ตกหลุมรักลูกหมาตัวหนึ่งทันที เนื่องจากมันมีหูที่ม้วนเป็นเกลียวดูโดดเด่น ไม่เหมือนหมาหูชี้ตัวอื่นๆ ที่เคยเห็นมา     พี่น้องตัวอื่นหูชี้กันหมด มาแปลกอยู่ตัวเดียว   Deane จึงตั้งชื่อมันว่า Cinnamon เนื่องจากหูของมันกลมดูคล้ายกับขนมซินนามอนโรลนั่นเอง ซึ่งอาสาสมัครก็คิดว่าเข้ากับมันดีมากๆ อาสาสมัครในกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ต่างก็พากันตกหลุมรักเจ้าหมากันใหญ่เลย เพราะว่านอกจากหน้าตาและหูของมันจะน่ารักแล้ว นิสัยของมันก็ยังเป็นขี้อ้อนด้วย เป็นมิตรกับคนที่สุดเลย     แถมไม่ได้มีแค่คนในกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่เทใจให้มันด้วยนะ พอ Deane เอารูปของ Cinnamon ไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก ชาวเน็ตก็พากันตกหลุมรักมันเหมือนกัน มีแต่คนบอกว่ามันน่ารักน่ากอด และก็มีอีหลายคนด้วยที่อยากจะรับเอามันมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเลย เป็นหมาน่ารักก็มีคนแย่งตัวเยอะแบบนี้แหละ     น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีโอกาสได้รับเลี้ยงมันหรอก เนื่องจาก Deane ตั้งใจจะรับเลี้ยงเจ้า Cinnamon ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนี้มันจึงได้มาอยู่บ้านกับเธอ และก็มีพี่หมาอีก 3 ตัวคอยอยู่ดูแลมันด้วย ตอนนี้เจ้า Cinnamon…

เจ้าหมาจรจัดได้รับความเมตตาจากคนในปั๊มน้ำมัน และถูกพวกเขาเลี้ยงดูไว้ที่นั่น เมื่อถึงคราวที่พวกเขาเดือดร้อน มันจึงตอบแทนพระคุณโดยการปกป้องพวกเขา เมื่อ 2 ปีก่อนมีหมาตัวหนึ่งเดินหลงเข้ามาในปั๊มน้ำมันที่รัฐตาเมาลีปัส ประเทศเม็กซิโก มันน่าจะเป็นหมาที่ถูกคนเอามาทิ้งไว้ มันจึงดูหวาดกลัวคน     ทว่าพนักงานในปั๊มก็ไม่ได้ไล่มันออกไป หรือเมินเฉยมัน พวกเขาเลือกที่จะให้อาหารมันและทำให้มันไว้ใจ จนในที่สุดมันก็เป็นมิตรกับพวกเขา เมื่อเวลาผ่านไปมันก็เลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของปั๊มแห่งนี้ และกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวพนักงานไปโดยปริยาย พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Randy ทุกคนที่ทำงานที่นั่นดูแลมันอย่างดี โดยไม่ได้หวังเลยว่าวันหนึ่งมันจะตอบแทนบุญคุณพวกเขาได้ในแบบที่ไม่คาดคิด     เมื่อไม่นานมานี้ในเวลาค่ำวันหนึ่ง ในช่วงที่มีพนักงานเฝ้าปั๊มอยู่ตามลำพัง จู่ๆ ก็มีโจร 2 คนพร้อมอาวุธเข้ามาปล้นปั๊ม เมื่อพวกเขาทั้งคู่เห็นว่าพนักงานมีท่าทีต่อต้าน พวกเขาก็เลยรุมทำร้ายพนักงานคนนั้น หวังจะทำให้เขายอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี ตอนนั้นเองเจ้า Randy ที่หลับอยู่ในห้องเก็บของก็ได้ยินเสียงข้างนอกจนตื่นขึ้นมา มันจึงรีบวิ่งเขาไปช่วยพนักงานปั๊มไล่โจร 2 คนนั้นออกไปได้ทันท่วงที   ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันนั้น   วันนั้นเจ้าหมากลายเป็นฮีโร่ของปั๊มไปเลย Gerardo Aguilar ซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มเล่าว่า “พวกเราก็แปลกใจเหมือนกันที่เห็นมันรีบออกมาช่วยแบบนั้น พวกเราภูมิใจในตัวมันมากเลย ถ้าหากวันนั้นไม่ได้เจ้า Randy เข้ามาช่วย เหตุการณ์อาจจะไม่จบดีแบบวันนั้นก็ได้ พวกเรารู้สึกขอบคุณและดีใจมากที่มีมันอยู่ด้วยกัน”     นอกจากจะช่วยดูแลความปลอดภัยและรักษาความสงบในปั๊มแล้ว Randy ยังช่วยเรียกลูกค้ามาใช้บริการที่ปั๊มแห่งนี้ด้วย…

ชีวิตของแมวจรจัดตัวหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้มากสักแค่ไหนถ้าถูกเก็บมาเลี้ยง? นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่ามันโชคดีได้ไปเจอคนที่เลี้ยงดูมันดีรึเปล่า ถ้าเกิดมันได้เจอทาสที่ดี ชีวิตของมันจะมีความสุขขึ้นมาก หากคุณนึกภาพไม่ออก เราลองไปดูตัวอย่างจากเจ้า ‘วันเพ็ญ‘ แมวเหมียวจากเพจ เฮงเฮง แมวเทพ ที่พลิกชีวิตจากแมวจรจัดมาเป็นแมวที่มีครอบครัวแสนอบอุ่น โดยเจ้าแมวถูกเอามาทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทาง ทั้งที่มันยังเล็กอยู่และดูแลตัวเองไม่ได้ แต่ก็โชคดีที่ทาสคนปัจจุบันมาเจอมันทันเวลา   . . . . . . .   แน่นอนว่าแมวจรจัดที่เพิ่งถูกทิ้งก็มักจะกลัวคนแปลกหน้า การจับมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทว่าทาสของมันก็มีผู้ช่วยในการล่อให้เจ้าแมวออกมาหา นั่นคือแมวเหมียว พี่หางยาว ที่เธอเลี้ยงไว้นั่นเอง   . . . . . . . .   และเนื่องจากเจ้าแมวน้อยถูกจับได้ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงพอดี ทาสจึงตั้งชื่อให้มันว่า ‘วันเพ็ญ’   .   หลังจากที่วันเพ็ญถูกช่วยมาแล้ว ทาสของมันก็พามันมาพบกับครอบครัวใหม่ ซึ่งนอกจากจะมีมนุษย์แล้ว ก็ยังมีพี่แมวเหมียวอีก 14 ตัวคอยอยู่ดูแลมันด้วย และมันก็ได้รับการดูแลอย่างดี   .…

คงไม่มีเด็กดีคนไหนช่วยงานคุณพ่อได้ดีเท่าตัวนี้อีกแล้ว ในขณะที่หมาตัวอื่นอาจก่อกวนเวลาที่เจ้าของทำงาน เจ้าหมาตัวนี้เป็นกำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้เจ้าของทำงานต่อไปได้ Michael Reeg เป็นคุณพ่อที่ทำงานอยู่ที่บ้านของตัวเอง โดยในออฟฟิศของเขามีพนักงานอยู่แค่ 3 คนเท่านั้น ได้แก่เขาเอง เจ้าหมา Meeka และเจ้าหมา Kya     โดยคนที่ทำงานทั้งหมดในออฟฟิศก็คือ Michael ส่วนเจ้าหมาอีก 2 ตัวส่วนใหญ่ก็จะงีบหลับอยู่ในนั้นด้วย เพื่อไม่ให้เขารู้สึกเหงา Michael เล่าว่าการต้องทำงานตามลำพังนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เนื่องจากบรรยากาศทุกอย่างเงียบสงัด เขาต้องพยายามหาแรงบัลดาลใจเพื่อให้ทำงานต่อไปได้เสมอ และคนที่มาช่วยเติมเต็มสิ่งนั้นให้ก็คือ Meeka     เขาเล่าว่า “บางครั้งเวลาที่ผมทำงานอยู่ ผมก็จะเล่าปัญหาหรือแผนผังงานของลูกค้าให้มันฟัง และผมก็ลองฝึกเสนองานขายให้ลูกค้าต่อหน้ามันด้วย เจ้าหมามันตั้งใจฟังผมมาก ถึงแม้สิ่งที่มันได้ยินจะเป็น ‘บลาๆๆ บลาๆๆ นะ Meeka’ แต่มันก็ชอบฟังเสียงผมและให้ความสนใจผมเสมอ การมีมันอยู่ด้วยทั้งวันจึงช่วยผมได้มากเลยทีเดียว” ส่วนเจ้า Kya นั้นจะมานั่งๆ นอนๆ อยู่ด้วยแค่ตอนภรรยาของเขาไม่อยู่เท่านั้น เพราะเดิมทีมันก็เป็นหมาของเธอ มันจึงไม่ค่อยมีส่วนร่วมในการทำงานเท่าไหร่     ในเมื่อ Meeka เป็นหนึ่งในหัวใจหลักที่ทำให้เขาทำงานได้โดยไม่มีสะดุด เขาจึงอยากมอบบางอย่างที่พิเศษให้กับมัน และสิ่งที่เขาพอจะทำให้มันได้ก็คือ การมอบตำแหน่ง…

โรคมะเร็งนั้นน่ากลัวเนื่องจากคนส่วนใหญ่รู้ตัวหลังจากที่มะเร็งลุกลามไปมากแล้ว ทำให้การรักษาเป็นไปอย่างยากลำบาก ทว่าหญิงคนนี้สามารถตรวจเจอมะเร็งได้อย่างรวดเร็ว เพราะเธอมีเจ้าหมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่ช่วยเตือนถึงเนื้อร้ายในตัวเธออยู่ด้วย     Stephanie Herfel รับเลี้ยงเจ้าหมาไซบีเรียนฮัสกี้ Sierra ต่อจากลูกชายของเธอในปี 2011 ถึงเธอจะไม่ได้เลี้ยงมันเป็นคนแรก แต่มันก็รักเธอเหมือนแม่จริงๆ เลย มันคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ และเป็นสมาชิกครอบครัวตัวสำคัญที่ทำให้ชีวิตของ Stephanie ไม่เงียบเหงา แถมมันยังรับรู้ได้เวลาที่ร่างกายของเธอมีความผิดปกติด้วย     หลังจากเลี้ยง Sierra ได้ 2 ปี Stephanie ก็เริ่มมีอาการเจ็บบริเวณท้อง…ตอนที่เธอไปหาหมอ เขาก็ให้ยาแก้ปวดมากิน และพบว่าเธอมีถุงน้ำรังไข่เท่านั้น ไม่มีอะไรน่าห่วง ทว่า Sierra รับรู้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ได้ Stephanie เล่าว่า “เจ้าหมาเอาจมูกมาดมที่ท้องช่วงล่างของฉันแบบจดจ่อ จากนั้นมันก็ทำแบบนั้นซ้ำอีกเรื่อยๆ แล้วก็วิ่งหนีไปหลบหลังตู้เสื้อผ้า”     การกระทำของเจ้าหมานั้นเป็นสิ่งที่แปลกมาก ตั้งแต่เธออยู่กับมันมา Sierra ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลย เธอจึงเอะใจว่ามันต้องมีบางอย่างผิดปกติ หลายสัปดาห์ต่อมาผลตรวจอย่างละเอียดของเธอก็ระบุว่าเธอเป็นมะเร็งมดลูกจริงๆ แต่เธอก็เข้ารับการรักษาและสามารถระงับการลุกลามของมะเร็งได้ทัน     เท่านั้นยังไม่พอ 2 ปีหลังจากตรวจพบมะเร็งครั้งแรก Sierra ก็กลับมาดมช่วงท้องของ Stephanie…

เคยได้ยินกันบ้างไหมว่าถ้าสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของอยู่ด้วยกันไปนานๆ จะดูเหมือนกัน…เรื่องหน้าตาน่ะอาจจะไม่ใช่หรอก  เพราะเจ้าหมาคงจะไม่สามารถซึมซับกรรมพันธุ์ของมนุษย์ไปอยู่บนใบหน้าของพวกมันได้ แต่เรื่องนิสัยนี่เห็นกันได้ชัดเจนเลย เนื่องจากพอสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของได้ใช้เวลาร่วมกันแล้ว มันก็จะติดนิสัยบางอย่างจากเจ้าของ บางตัวถึงขั้นสามารถทำท่าเลียนแบบได้เหมือนไม่มีผิดเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อก็มาดูภาพของคู่หูสัตว์เลี้ยงละมนุษย์เหล่านี้ดู แล้วคุณจะต้องยอมรับว่ามันสามารถเลียนแบบมนุษย์ได้เหมือนเปี๊ยบอย่างกับกด Ctrl+C แล้ว Ctrl+V เลย   ยิ้มเหมือนทาสเป๊ะ   ทาสชอบนั่งไขว้ขา เราเลยติดนิสัยด้วยเลย   ทำสายตาดูถูกแบบ x2   แหม่ลิ้นยาวเหมือนกันทั้งคู่ สมเป็นคู่หูกันจริงๆ   คล้ายกันทั้งหน้าทั้งหุ่น   ทำท่าซาบซึ้งกับธรรมชาติตามมนุษย์แป๊บ https://www.instagram.com/p/BlhWiBggJXW/   แมวปกติเขานั่งเท้าชี้แบบนี้กันด้วยเหรอ?? https://www.instagram.com/p/BXakST6BGKb/   มายิงฟันแข่งกัน ดูว่าของใครสวยกว่า https://www.instagram.com/p/Br94p3BF38O/   อันนี้น้องน่าจะเลียนแบบท่านอนเจ้าหมานะ… https://www.instagram.com/p/BmsSt3VAlwQ/   สงสัยเมื่อคืนนอนดึกกันทั้งคู่ https://www.instagram.com/p/Bg1IVJdBWYx/   ขอนอนอาบแดดด้วยสิมนุษย์ เดี๋ยวผิวเราไม่แทนเขาจะหาว่าไม่ได้มาเที่ยวด้วยกัน https://www.instagram.com/p/BRelfHShnGt/   ตัวนี้ทำหน้าไม่เหมือนเจ้าของ แต่ดีใจที่ได้ไปเที่ยวเหมือนกัน https://www.instagram.com/p/0I_wKAG6jy/   บอกไม่ถูกเลยว่าคนหรือแมวเท่กว่ากัน https://www.instagram.com/p/BqhvmHvHkgP/   ขอยืดเส้นด้วยคนนะฮับ…

ว่ากันว่าลิงเป็นสัตว์ที่มีความคล้ายคลึงมนุษย์มากที่สุด ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่การมีสังคมและนิสัยของพวกมันก็คล้ายเราด้วย หลังจากเราได้เห็นแม่ลิงที่ต้องแยกจากลูก รีบวิ่งเข้าไปคว้าตัวลูกลิงเข้ามากอดไว้ โดยไม่รอให้มันกลับมาหาเธอเอง เราก็ต้องยอมรับเลยว่าความรักลูกของพวกมันไม่ต่างจากคนจริงๆ     ครั้งหนึ่งศูนย์ช่วยเหลือลิง Umsizi Umkomaas Vervet Rescue Centre ได้รับการติดต่อให้ไปช่วย ‘ลิงไข่ฟ้า’ ซึ่งมันเป็นลิงจากแอฟริกาและยุโรปที่อยู่กันเป็นสังคม หากตัวหนึ่งเดือดร้อน ทั้งฝูงจะมาช่วยกันทันที เมื่ออาสามัครต้องแยกลูกลิง Pearce ซึ่งบาดเจ็บออกมาจากฝูง มันจึงไม่ใช่งานง่ายๆ เลย แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องแยกตัวมันออกมาเพื่อรักษาโดยด่วน     ลูกลิงบาดเจ็บ เลยต้องถูกแยกตัวออกมารักษา   กว่าจะได้ตัว Pearce มาพวกเขาต้องถูกฝูงลิงของมันขู่ใส่ และเสี่ยงที่จะโดนทำร้าย ทว่าพวกเขาก็โชคดีที่สามารถแยกลูกลิงออกมาได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ     หลังจากที่รักษาลูกลิงจนหายดีแล้ว อาสาสมัครจึงวางแผนจะเอามันไปคืนฝูงที่เดิม โดยการวางกรงของมันเปิดทิ้งไว้ แล้วให้ลูกลิงปีนขึ้นไปหาฝูงเอง อาสาสมัครจะได้ไม่เสี่ยงถูกลิงตัวอื่นในฝูงทำร้าย ทว่าแทนที่ฝูงลิงจะระแวงมนุษย์ที่อยู่ด้านล่าง ลิงตัวหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นแม่ของ Pearce ก็รีบวิ่งเข้ามาคว้าตัวลูกที่กำลังปีนขึ้นไปหามันอย่างรวดเร็ว แล้วก็กอดมันเอาไว้แน่น เป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆ เลย      การที่เราได้เห็นแม่ลิงรีบคว้าตัวลูกลิงเข้าไปกอดแบบนี้นี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าพวกลิงก็มีความรู้สึกเหมือนกับเราเลย โดยเฉพาะความรักของแม่ที่มีต่อลูกที่เราเห็นได้ชัดเจนจากคลิปวิดีโอนี้…

คาเฟ่สัตว์เคยเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับเรามาก่อน ทว่าในปัจจุบันมีคาเฟ่สัตว์เปิดให้บริการมากมายจนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว นั่นคือในกรณีที่เราพูดถึงคาเฟ่หมา หรือคาเฟ่แมวเท่านั้น…ถ้าหากเพื่อนๆ ได้รู้ว่ามีคาเฟ่สัตว์เลื้อยคลานอยู่บนโลกนี้ล่ะก็ รับรองใครก็ตามที่ได้ยินก็ต้องคิดว่าแปลกแน่นอน     ในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟนากาโนะ จะมีถนนเส้นหนึ่งที่ชื่อว่า Renga Zaka ซึ่งในโซนนี้จะมีร้านอาหารและบาร์อยู่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือบาร์ Bar Yatonokami ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วย แต่ที่ร้านนี้มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครก็คือ ภายในร้านจะมีสัตว์เลื้อยคลานนอนเรียงรายอยู่ในตู้ รอต้อนรับลูกค้าอยู่นั่นเอง   ถนน Renga Zaka   ร้าน Bar Yatonokami   ความเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้ มีให้เห็นตั้งแต่ทางเดินเข้าไปในบาร์เลยทีเดียว โดยปกติบาร์ทั่วไปจะติดโปสเตอร์โฆษณา หรือนายแบบนางแบบเอาไว้ ทว่าบาร์แห่งนี้กลับมีโปสเตอร์รูปสัตว์เลื้อยคลานมากมายหลายชนิด ติดเรียงรายไว้ให้ลูกค้าได้ชมกันแบบละลานตาเลยทีเดียยว   บันไดทางเข้าร้าน   มีรูปสัตว์เลื้อยคลานเต็มไปหมด   ติดไว้เยอะมากจนถึงเพดานเชียว   เมื่อลูกค้าเข้ามาในบาร์ สิ่งแรกที่จะสังเกตเห็นได้ทางซ้ายมือก็คือตู้สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิ้งก่า เต่า กบ หรืองู สัตว์พวกนี้ไม่ได้คอยต้อนรับคุณเพียงอย่างเดียวนะ ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบพวกมันละก็ คุณก็สามารถขออนุญาตเจ้าของร้านเพื่อพาพวกมันออกมาอุ้มเล่นได้ด้วย     ยินดีต้อนรับสู่บาร์ของเรานะมนุษย์  …

สัตว์เลี้ยงหายเป็นเรื่องปกติที่เราพบเจอได้ทุกวัน โดยส่วนมากตัวที่ประกาศตามหากันก็จะเป็นหมาหรือแมว ซึ่งเป็นสัตว์ที่คนส่วนใหญ่เลี้ยงกัน แต่ถ้าคุณได้ลองไปใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยขอนแก่น คุณจะพบว่าการเจอสัตว์หายแต่ละที เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะมันมีแต่สัตว์แปลกๆ ทั้งนั้น     โดยจากการที่คุณ Mancharee Sangmueang ได้เข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในช่วงเวลาแค่ 1 ปีเธอได้เห็นประกาศตามหาสัตว์หายมากมายจากกลุ่มเฟซบุ๊ก KKU Group อันที่ประกาศตามหาหมาหรือแมวมันก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอก ทว่าบางตัวที่ตามหากันนั้นเป็นสัตว์ที่คาดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันง่ายๆ ทั้งนั้นเลย แถมพวกมันยังถูกเจอในที่ที่มีคนอยู่เยอะด้วย จนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยหรือสวนสัตว์ย่อมๆ กันแน่…มีตัวอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย   ห๊ะ!! วัวหลุดมาถึง eve and boy เลยเหรอ!?   เอ่อ…ปกติหมูป่ามันเจอกันง่ายๆ ขนาดนี้เชียวเหรอ?   ตัวที่หาในป่ายังไม่ค่อยเจออย่างชูการ์ไกลเดอร์ก็มา   น้องลูซี่ชื่อน่ารักดีนะ แต่หน้าตาน่ากลัวจังเลย   เจอน้องแล้ว รีบกลับไปหาเจ้าของเถอะ   ถ้าไปเดินเล่นที่สนาม มข. เราอาจจะเจอเม่นบ้างก็ได้นะ   ชักไม่แน่ใจจริงๆ แล้วสิว่าที่นี่เป็นสวนสัตว์ในคราบมหาวิทยาลัยรึเปล่า   เจองูกันถี่จริงๆ นะเนี่ย   อีกแล้ว!? แปลว่าต้องเจอเจ้าลิงกันบ่อยมากๆ…

แมวเหมียว Rascal ใช้เวลาแทบทั้งชีวิตอยู่กับครอบครัวเพียงครอบครัวเดียว จนกระทั่งมันแก่เจ้าเหมียวก็ยังสุขภาพดี จะมีก็เพียงแค่หูที่หนวกไปแล้วเท่านั้น ทว่าปัญหาของมันก็เริ่มขึ้นเมื่อทาสคนเก่าของมันย้ายบ้าน ทำให้เจ้าแมวที่เคยชินกับบ้านหลังเก่าปรับตัวไม่ทัน และมักมีอุบัติเหตุในบ้านใหม่เสมอ     สุดท้ายเจ้าแมวก็ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ ด้วยเหตุผลว่า “มันแก่เกินไปและชอบมีอุบัติเหตุในบ้านเป็นประจำ” ทำให้เจ้าแมวลำบากหนักขึ้นไปอีก Rascal ดูสับสนมากเมื่อถูกเจ้าของทิ้งไว้ คนที่นั่นเข้าใจเจ้าแมวดี เนื่องจากลำพังแค่บ้านใหม่มันก็ปรับตัวไม่ได้แล้ว นี่เล่นพามันมาที่ใหม่โดยที่ไม่มีคนที่มันคุ้นเคยอยู่เลย มันจึงงงหนักเข้าไปอีก     เมื่อเจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิงได้รู้ว่ามันอายุตั้ง 20 ปีแล้ว พวกเขาก็ร้อนใจใหญ่เลยที่แมวแก่ขนาดนี้ถูกทิ้ง เนื่องจากมันน่าจะเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกไม่นานแล้ว และพวกเขาก็ไม่อยากให้เวลาอันน้อยนิดของมันต้องจบลงที่ศูนย์พักพิงสัตว์ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันหาบ้านใหม่ให้มันในทันที โดยโพสต์เรื่องของมันในเพจเฟซบุ๊กว่า “Rascal เป็นแมวแก่ที่อยู่กับครอบครัวมาเกือบทั้งชีวิต เราจึงเข้าใจว่าทำไมมันรู้สึกสับสน เราหวังว่าคุณจะช่วยกันแชร์โพสต์นี้ต่อไป เพื่อที่ว่าคืนนี้จะเป็นคืนแรกและคืนสุดท้ายที่มันจะได้อยู่ในศูนย์พักพิง”     โชคดีที่โพสต์ของพวกเขาช่วยเจ้าแมวได้สำเร็จจริงๆ คลิปวิดีโอที่พวกเขาโพสต์ให้มันถูกแชร์ต่อไป และมีคนเข้าชมกว่า 200,000 ครั้ง ทำให้มีคนมากมายรับรู้เรื่องของมัน ในวันต่อมา Meredith Bauer ที่ได้เห็นคลิปของมันก็มารับมันไปเลี้ยง ทำให้เจ้าเหมียวไม่ต้องทนใช้ชีวิตตามลำพังในศูนย์พักพิงนาน     ครั้งนี้ Rascal สามารถปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้เป็นอย่างดี มันไม่สร้างเรื่องที่บ้านใหม่เลย และก็ยังเข้ากับคนในครอบครัวใหม่ได้ดีมากด้วย ใช้เวลาเพียงนิดหน่อยมันก็ยอมกอดกับ Bauer…

สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหลายคน พวกมันไม่ใช่แค่เพื่อนแก้เหงา แต่เปรียบเสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว ดังนั้นถึงจะต้องลำบาก หญิงสาวก็ไม่ลังเลที่จะต้องช่วยชีวิตมัน Elizabeth Ann Entenman สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างจากเจ้า Pearl หมาลาบราดอร์สีดำของเธอ มันคือชิ้นเนื้อเล็กๆ สีแดงที่โผล่ขึ้นมาในปากของเจ้าหมาโดยไม่มีที่มาที่ไป เธอสังหรณ์ใจไม่ดีตั้งแต่เห็นมันครั้งแรกแล้ว แต่ก็พยายามทำเป็นไม่สนใจระหว่างที่รอผลตรวจจากสัตวแพทย์อยู่ ทว่าต่อมาเธอก็ได้รับแจ้งว่ามันเป็นมะเร็งจริงๆ     Elizabeth จึงจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ว่าเธอจะพยายามยืดชีวิตมันโดยการพาเจ้าหมาไปรักษา หรือว่าจะเลี้ยงมันให้มีความสุขที่สุดในเวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด…แต่ด้วยความที่เธอรักมันมาก เธอจึงเลือกรักษามัน Pearl เข้ามาในชีวิตของเธอตั้งแต่ปี 2010 ตอนนั้นแม่ของเธอเองก็กำลังป่วยเป็นมะเร็งปอด และเธอก็มีเจ้าหมาที่คอยอยู่เป็นกำลังใจให้ นอกจากเรื่องการจากไปของแม่แล้ว ตลอดหลายปีที่อยู่ด้วยกันมา มันก็คอยเติมเต็มเธอเสมอ เธอดีใจมากที่รับมันมาจากเจ้าของเก่าที่บอกว่ามันบ้าพลังและขี้อ้อนเกินไป เพราะสำหรับเธอแล้วมันเป็นคู่หูที่เข้ากันได้อย่างลงตัว     อย่างไรก็ตาม ถึง Elizabeth ตัดสินใจจะช่วยมัน แต่เธอก็ไม่ได้มีเงินเก็บมากมายที่จะใช้รักษาเจ้าหมา เธอจึงต้องยอมเป็นหนี้บัตรเครดิตเพื่อให้เจ้าหมาหายดี ค่ารักษาของมันก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย เธอต้องจ่ายค่าตรวจ ค่ายา ค่าผ่าตัด ค่ารับคำปรึกษา และค่าอื่นๆ อีกมากมาย ถึงค่าใช้จ่ายบางอย่างจะไม่แพง แต่เมื่อต้องเข้ารักษาหลายต่อหลายครั้ง รวมแล้วก็แพงจนเธอท้อใจ เธอจ่ายค่ารักษาให้มันไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันเธอมีหนี้รวมเกือบ 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ…

แมวน้อยถูกทิ้งโชคดีมากที่มีทาสคนใหม่รับเลี้ยงต่อแทบจะในทันที และยังได้ไปเจอเพื่อนแมวอีกตัวในบ้านหลังใหม่ด้วย พวกมันทั้ง 2 ตักลายเป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่แรกเจอเลย     มิ้วน้อยตัวนี้ถูกเอามาทิ้งไว้ในสถานดูแลเด็กที่ Cathy Blouin ทำงานอยู่ เธอรู้เรื่องมันจากคนที่มารับลูก จากนั้นจึงตามเสียงมันไปจนเจอตัวอยู่ในลานจอดรถ มันร้องดังมากเพราะไม่รู้ต้องทำตัวยังไง และแน่นอนว่ามันพยายามจะวิ่งหนีเธอด้วย แต่ Blouin ก็ไวพอจะคว้าตัวมันไว้ได้ และพามันกลับไปเลี้ยงไว้ที่บ้านด้วย     เธอตั้งชื่อมันว่า Whippet ในตอนแรกเจ้าแมวส่งเสียงขู่เธอไม่หยุดเลย แต่พอผ่านไปสักพักมันคงเห็นว่าเธอไม่เป็นอันตรายต่อมัน มันจึงไม่ระแวงเธออีก พอเธอเอาข้าวเอาน้ำให้มันกิน และอาบน้ำให้มันแล้ว เจ้าแมวน้อยก็เปิดใจให้ครอบครัวใหม่เต็มที่ มันสบายใจจนหลับปุ๋ยไปบนไหล่ของเธอเลย     แม้ว่าการได้บ้านใหม่ทันทีจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับมัน แต่ดูเหมือนเจ้า Whippet จะยินดีกว่าที่มันได้เจอพี่แมวขาวดำ Oreo อยู่ในบ้านด้วย ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน Whippet ก็เข้าเอาหน้าไปถูไถ Oreo ก่อนเลย ส่วนพี่แมวเองก็คงเห็นน้องเป็นมิตรดี มันจึงช่วยดูแลโดยการเลียขนให้น้องเช่นกัน     ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Whippet ก็ตาม Oreo เหมือนเป็นเงาเลยทีเดียว มันจะตามพี่แมวไปทุกที่ และพยายามมีส่วนร่วมกับทุกสิ่งที่พี่แมวทำ เจ้า Oreo เองก็ดูจะชอบที่มันทำแบบนั้น แถมมันยังช่วยสอนวิถีแมวให้กับน้องเล็กด้วย…

การดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดีเป็นความรับผิดชอบที่เจ้าของทุกคนควรมี แม้ว่าคุณจะบอกว่าคนทุกคนมีวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงในแบบของตัวเอง แต่คนรอบข้างก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยตัดสินได้ว่าคุณเลี้ยงดูพวกมันดีจริงหรือไม่ ในประเทศไทยเราอาจทำได้แค่ช่วยให้คำแนะนำเจ้าของที่ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ดี แต่ถ้าเป็นในต่างประเทศ การดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ดีอาจทำให้คุณถูกเชิญขึ้นศาล และไม่ได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงอีก เหมือนอย่างนาย Martin Harrison จากเขตดอร์เซต ประเทศอังกฤษ เขาเป็นเจ้าของของ Brucie และ Lucy ซึ่งอยู่ด้วยกันมา 2 ปีแล้ว     คนในท้องที่ที่เคยเห็นเขากับเจ้าหมา แจ้งไปยังกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ว่าเขาดูแลเจ้าหมาได้ไม่ดี เพราะมันอ้วนเหมือนกับถังน้ำเลย ทำให้มันสุขภาพย่ำแย่และเหนื่อยง่ายมาก เมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่าเจ้าหมาทั้ง 2 ตัวอ้วนตั๊บอย่างที่ได้ยินจริงๆ จึงทำการตักเตือนเขาไปพร้อมแนะนำวิธีลดน้ำหนักพวกให้   เจ้า Brucie   กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ชี้แจงว่าก่อนที่พวกมันจะไปอยู่กับ Harrison พวกมันน้ำหนักแค่ประมาณ 21 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งเป็นน้ำหนักที่ดีสำหรับสุนัขสตัฟฟอร์ดชายร์บูลล์เทอร์เรีย แต่ตอนที่พวกเธอได้รับแจ้งไปไปตรวจสุขภาพเจ้าหมาอีกที พวกมันก็น้ำหนักเกินเกณฑ์ไปจนถึงประมาณ 33.5 กิโลกรัมแน่ะ   อ้วนเกินไปจนน่าเป็นห่วง   Harrison ให้เหตุผลที่พวกมันอ้วนว่าแม่ของเขาที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ชอบให้ข้าวพวกมันกินเยอะ รวมทั้งของที่ทำให้พวกมันอ้วนอย่างชีสและพุดดิ้งข้าวด้วย แม้ว่าเขาจะพยายามซ่อนอาหารหมาจากเธอแล้วก็ตาม แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หลังจากที่ RSPCA มาตรวจสอบเขาดูซ้ำอีก 2 ครั้งในรอบหลายเดือนต่อมา เจ้า Brucie…

แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังและได้รับความนิยมมาก จึงไม่แปลกเลยที่คุณจะมีแฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์อยู่แทบทุกที่ แต่รับรองว่าคุณต้องยังไม่เคยเจอแฟนคลับที่เป็นหมาแน่ๆ เจ้าหมาที่ว่าก็คือเจ้า Remus หมาที่สามารถเข้าใจคาถาต่างๆ จากหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ และสามารถทำตามได้อย่างคล่องแคล่ว ทั้งฉลาดและน่ารักเลยล่ะ   นี่คือเจ้า Remus เปิดตัวมาคู่กับไม้กายสิทธิ์เลยทีเดียว https://www.instagram.com/p/Bir1yZ9BP4D/?utm_source=ig_embed   อันที่จริงแล้ว Remus ไม่ได้เริ่มชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์ด้วยตัวเองหรอก Anna Brisbin เจ้าของของมันต่างหากที่เป็นแฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์ตัวยง และมีของสะสมมากมาย พอมาอยู่กับเธอแล้ว เจ้าหมาก็เลยได้รับการฝึกสอนให้ทำตามคำสั่งเป็นคาถาแฮร์รี่ พอตเตอร์แทน แถมดูมันจะชอบซะด้วย เพราะมันทำตามคำสั่งอย่างคล่องแคล่วเชียวล่ะ   ผมเป็นหมาบ้านกริฟฟินดอร์ครับ https://www.instagram.com/p/BsMEYG_gsr8/?utm_source=ig_embed   เวลาร่ายคาถา Avada Kedavra ซึ่งเป็นคาถาแห่งความตายใส่ เจ้าหมาจะแกล้งตายทันที   หากร่ายค่า Engorgio ซึ่งทำให้ตัวของคนที่ถูกคาถาพองใหญ่ขึ้น Remus ก็จะกินข้าวจนพุงกาง   ถ้าลองร่ายคาถา Relashio ที่ใช้ผลักของออกไป เจ้าหมาจะวิ่งหนีโดยไม่หันหลังกลับมามองเลย   และถ้าร่ายคาถา Lumos ซึ่งสร้างแสงไฟที่ไม้กายสิทธิ…

ต้องบอกเลยว่าเจ้าแมวเหมียวตัวนี้เกิดมาเพื่อปกครองมนุษย์จริงๆ ใช้เวลาไม่นานมันก็เลื่อนขั้นตัวเองด้วยการมัดใจมนุษย์ จนกลายเป็นผู้ปกครองปราสาทโบราณไปซะแล้ว     เจ้าแมวเหมียว Sanjuro เดิมทีเป็นแมวของ Megumi Namba ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองทากาฮาชิ จังหวัดโอกายาม่า ประเทศญี่ปุ่น แต่มันพลัดหลงออกมาจากบ้านเธอตอนที่เกิดเหตุน่ำท่วมและดินถล่มเมื่อกลางปี 2018 คนที่ทำงานดูแลปราสาท Bitchu Matsuyama ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ ไปเจอตัวมันเข้าและเก็บมาดูแล จากนั้นไม่นานเจ้าแมวก็โปรยเสน่ห์ใส่คนที่ทำงานในประสาททุกคน ลามไปจนถึง Hideo Aihara ผู้อำนวยการสมาคมท่องเที่ยวที่มีอำนาจดูแลปราสาทสูงสุดเลยทีเดียว ต่อมาเขาจึงแต่งตั้งให้มันเป็นผู้ปกครองปราสาทแห่งนี้   เจ้าแมวมัดใจทุกคนรวมไปถึงผู้มีอำนาจดูแลสูงสุดจนอยู่หมัด   มนุษย์จึงมอบตำแหน่งผู้ปกครองปราสาทให้กับมัน   ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Sanjuro ก็สามารถเดินไปได้ทุกซอกทุกมุมของปราสาท ตั้งแต่ลานด้านหน้าจนถึงชั้นสูงสุดตามใจชอบ และยังมีคนคอยตามดูแลเกือบตลอดด้วย แต่มันก็ไม่ได้มานั่งกินนอนกินฟรีๆ หรอกนะ หลังจากที่มันได้รับตำแหน่ง ทางปราสาทก็ทำพิธีมอบตำแหน่งให้มันอย่างเป็นทางการ และแนะนำมันให้คนที่มาท่องเที่ยวรู้จักด้วย     ตอนนี้เจ้าแมวจึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดขายของปราสาท Bitchu Matsuyama ซึ่งช่วยเรียกนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี บางทีก็มีนักท่องเที่ยวที่แวะมาเพื่อเจอมันโดยเฉพาะด้วยนะ มันเป็นที่นิยมมากๆ จนพอลองเทียบรายรับช่วงก่อนที่มันเป็นผู้ปกครองปราสาท กับหลังจากมันมาช่วยเรียกแขกแล้ว มีกำไรสูงกว่ากันลิบลับเลยทีเดียว     มาเพื่อเจอเจ้าแมวเลยสินะหนุ่มน้อย   แน่นอนว่าการที่ Sanjuro ดังแบบนี้ ทำให้ Namba ซึ่งเป็นทาสคนเก่าที่กำลังตามหามันอยู่…

ขณะที่กำลังเดินผ่านถนนเส้นหนึ่งในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกีอยู่ Sarper Duman ซึ่งเป็นนักเปียโนหนุ่มและนักช่วยเหลือแมว ก็เจอเข้ากับลูกแมวน้อยเข้า มันกำลังใช้ขาหน้าลากร่างของตัวเองไปตามทาง และร้องเหมือนกำลังขอความช่วยเหลือ เขาจึงพาตัวมันไปหาสัตวแพทย์ด้วยตัวเอง     เขาตั้งชื่อลูกแมวน้อยว่า Piti หลังจากตรวจดูแล้วสัตวแพทย์บอกเขาว่ามันถูกรถทับมา ขาหลังทั้ง 2 ข้างของมันกระดูกแตก และขาหน้าก็หักไปข้างหนึ่ง เหลือขาที่ใช้ได้เพียงข้างเดียวเท่านั้น ที่น่าเป็นห่วงกว่าก็คือร่างกายของมันในตอนนี้ยังอ่อนแอมาก ไม่สามารถจะให้รับการผ่าตัดในสภาพนี้ได้ พวกเขาจึงได้แต่หวังว่ามันจะอาการดีขึ้นโดยเร็ว     แต่ระหว่างที่คุณหมอและ Duman กำลังเป็นห่วงสุขภาพของมัน สิ่งที่ Piti โหยหาไม่ใช่การรักษาเลย มันต้องการความรักจากพวกเขา มิ้วน้อยเอาแต่ส่งเสียงร้องอ้อนให้นักเปียโนหนุ่มเล่นด้วยตลอดเลย โดยที่ไม่สนใจว่าตัวเองกำลังเจ็บอยู่ แค่มีคนสนใจให้ความรักมัน เจ้าแมวก็พอใจแล้ว     เจ็บช่างมันก่อน ขอแค่มีคนเล่นด้วยก็พอ   สัตวแพทย์ให้ Piti อยู่ที่คลินิกไปก่อนเพื่อรอดูอาการมันต่อไป เพราะการที่ขายังใช้การไม่ได้เลยนั้นน่าเป็นห่วงมาก แต่ก็โชคดีที่กำลังใจเจ้าเหมียวดีไม่มีตก ใช้เวลาแค่ 5 วันมันก็แข็งแรงพอจะเข้ารับการผ่าตัดได้แล้ว หลังจากรับการผ่าตัดเสร็จ Duman ก็ไปเยี่ยมมันเหมือนที่ทำทุกวัน และเจ้าเหมียวก็ยังคงให้ความสำคัญกับการอ้อนให้เขาเล่นด้วยเหมือนเคย     แม้ว่าตอนแรกขาของ Piti จะฟื้นตัวได้ไม่ดีตามที่พวกเขาคาดไว้ แต่ไม่นานนักเจ้าแมวก็อาการดีขึ้นอย่างช้าๆ…

ไม่ได้มีแต่เฉพาะในประเทศไทยเราเท่านั้นที่มีคนเคยเอาช้างมาใช้แรงงานเพื่อหาเงิน ที่ประเทศอื่นก็มีช้างถูกเอาเปรียบแบบเดียวกันด้วย แต่เรื่องที่น่ายินดีก็คือมีช้างตัวหนึ่งที่ทนลำบากมานานได้รับอิสระแล้ว Gajraj เป็นช้างจากประเทศอินเดีย ซึ่งเคยถูกเจ้าของจับล่ามโซ่ไว้กับที่ แล้วให้มันมอบความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยวโดยการให้ขี่หลังหรือถ่ายรูป ซ้ำมันยังเคยถูกทำร้ายและตัดงาออกไปด้วย     มันถูกใช้งานมานานกว่า 50 ปีที่วัด Yamai Devi และพิพิธภัณฑ์ Shri Bhavani Museum ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมในรัฐ Aundh จนเมื่อปี 2017 ก็มีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์เข้าไปช่วยนำตัวมันออกมา และพามันไปใช้ชีวิตอย่างอิสระในพื้นที่อนุรักษ์ขององค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่า NGO Wildlife SOS     ในบ้านใหม่หลังนี้ Gajraj ได้ใช้ชีวิตทุกวันไปกับการเดินเล่นในพื้นที่ป่า มีอาหารให้กินทุกเมื่อที่ต้องการ และจะนอนหลับพักผ่อนเท่าไหร่ก็ได้ สบายผิดกับชีวิตที่ถูกทารุณมาก่อนหน้านี้ลิบลับเลย     เมื่อสิ้นปี 2018 ที่ผ่านมาก็เป็นเวลาครบรอบ 1 ปีที่เจ้าช้างได้รับอิสระ จึงมีคนมากมายที่พยายามช่วยเหลือมันมานาน ร่วมกันแสดงความยินดีกับชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นของมัน นอกจากนี้ Gajraj ก็ได้รับเกียรติให้เป็นลูกค้ารายแรกของโรงพยาบาลช้าง Wildlife SOS Elephant Hospital ที่เพิ่งเปิดตัวด้วย เนื่องจากพวกเขาคิดว่ามันสมควรได้รับการรักษาที่สุด     ตอนนี้นอกจากจะมีอิสระแล้ว มันจึงได้รับการตรวจและรักษาที่ทันสมัย ที่จะช่วยเยียวยาร่างกายของมันซึ่งถูกใช้งานมานานโดยไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าของเก่าเลย…

ตอนนี้ก็วนมาถึงปี 2019 แล้ว ถึงเวลาที่แต่ละบ้านจะต้องเปลี่ยนเอาปฏิทินอันเก่าทิ้งออกไป และหาอันใหม่มาให้พร้อมรับกับปีใหม่ที่มาถึงสักที แต่ไหนๆ เราก็จะเปลี่ยนปฏิทินทั้งที ในฐานะทาสแมวเราลองมาใช้ปฏิทินที่มีเจ้าแมวน่ารักๆ ให้เราพลิกดูกันทั้งปีดีกว่า อย่างเช่นปฏิทิน Social Justice Kittens แบบนี้ไง     ปฏิทิน Social Justice Kittens เป็นปฏิทินที่รวมเอาแมวน้อยกว่า 20 ตัวไว้ เพื่อให้ทาสแมวได้เพลิดเพลินไปกับความน่ารักของพวกมันเวลาพลิกเปลี่ยนหน้าปฏิทินแต่ละเดือน นอกจากนี้แต่ละรูปก็มีข้อความคำคมติดมาให้เราอ่านด้วย โดยแต่ละอันจะเป็นข้อความเกี่ยวกับแนวคิดความเป็นธรรมทางสังคม ที่คนส่วนมากต้องพบเจอนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นปฏิทินที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและความน่ารักเลย   เพศไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดแปลกอะไร รสนิยมของคนต่างหากที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมทางสังคมที่กีดกันเพศ   การแสดงความแมนแบบผิดๆ ทำลายบรรยากาศเสมอ   ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรุนแรงแบบไม่มีเหตุผล’ ต่อพวกฟาสซิสต์หรอก ทุกอย่างนับเป็นการป้องกันตัวทั้งนั้นแหละ   เอาทุนนิยมออกไปไกลๆ เลย   ฉันไม่คุยกับพวกฟาสซิสต์หรอก ถ้าเจอจะข่วนให้เละเลย   ร่างกายเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นเท่านั้น   ความโกรธของเธอเกิดจากความกลัวและความเกลียดชัง แต่ความโกรธของเราเกิดจากความรักทั้งนั้น   ‘ความเห็น’ ของคุณเป็นแนวคิดอันตรายที่ทำร้ายฉันได้   ถึงจะคุยกันแล้ว…

ภายในโลกที่สัตว์มีสีสันสวยงามในแบบของตัวเองอยู่มากมาย นก ‘สปิกซ์มาคอว์’ ก็ยังโดดเด่นในสายตาของคนที่ได้เห็นเสมอ ด้วยสีสันสีน้ำเงิน-ฟ้าสดใสไม่มีใครเหมือน แต่พวกมันเกือบจะไม่เหลือให้เราเห็นแล้ว เจ้าสปิกซ์มาคอว์ หรือนกมาคอว์สีน้ำเงิน ถูกค้นพบครั้งแรกในแถบประเทศบราซิล ตั้งแต่ตอนที่พวกมันถูกค้นพบ พวกมันก็เป็นสัตว์ที่มีจำนวนเหลือน้อยแล้ว จึงมีคนพบเห็นพวกมันไม่มาก   https://www.instagram.com/p/BfMSZ75nzTT/?utm_source=ig_embed   พวกมันเพิ่งเป็นที่รู้จักมากในปี 2011 เนื่องจากถูกนำไปใช้เป็นต้นแบบสำหรับตัวละครในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Rio ซึ่งได้รับความนิยมจากคนดูพอสมควร ถึงพวกมันจะเริ่มได้รับความสนใจจากคนมากขึ้น แต่จำนวนของพวกมันก็ยังคงมีน้อยเหมือนเดิม และดูเหมือนจะลดลงไปเรื่อยๆ     ตั้งแต่ช่วงปี 2,000 เป็นต้นมา นักอนุรักษ์ก็เริ่มสงสัยว่านกมาคอว์สีน้ำเงินในธรรมชาตินั้นสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากนานมากแล้วที่ไม่มีคนเห็นพวกมันเลย จนเมื่อปี 2018 องค์กรที่เฝ้าดูแลสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่านกสปิกซ์มาคอว์ตามธรรมชาติ ถูกจัดว่าสูญพันธุ์ไปเรียบร้อยแล้ว   https://www.instagram.com/p/Bh-CkMTADee/?utm_source=ig_embed   ปัจจุบันนกมาคอว์สีน้ำเงินหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว และอยู่ในความดูแลของนักอนุรักษ์สัตว์เท่านั้น โดยพวกเขาหวังว่าจะสามารถขยายพันธุ์มันได้สำเร็จ และนำพวกมันกลับคืนสู่ธรรมชาติเพื่อให้ขยายพันธุ์ต่อไปอีก ดังนั้นนกชนิดนี้จึงถือเป็นนกที่หาดูได้ยากมากๆ ใครที่เคยเห็นพวกมันตัวเป็นๆ ตามธรรมชาติถือว่าโชคดีมากๆ เลยล่ะ แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ามนุษย์ช่วยดูแลและขยายพันธุ์พวกมันสำเร็จจริงๆ เราอาจจะได้เห็นพวกมันอยู่ตามธรรมชาติอีกครั้งก็ได้     ที่มา: BRIGHT SIDE, Act-Parrot, Al…

ในขณะที่หมีในป่าได้ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ และมีอิสระที่จะใช้ชีวิตตามวิถีของหมี มีหมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกคนจับไปฝึกเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้ตัวเอง พวกมันส่วนมากโดนทรมาน เพื่อบังคับให้พวกมันทำการแสดงตามที่เจ้าของต้องการ บางตัวก็ถูกถอนเขี้ยวเล็บออกเพื่อไม่ให้ทำอันตรายคนได้     Raju ก็เป็นหนึ่งในหมีจำนวนนั้นเช่นกัน ตั้งแต่เด็กมันก็ถูกคนฝึกให้ทำท่าเต้นอยู่ข้างถนนของประเทศอินเดีย เพื่อให้คนที่ผ่านไปมามอบเงินให้คนที่ดูแลมัน และหากไม่ทำตาม คนที่ฝึกมันก็จะดึงเชือกที่ผูกกับตัวมันอยู่ ทำให้เจ้าหมีรู้สึกเจ็บจนต้องยอมเต้นต่อไป มันถูกใช้เหมือนเป็นเครื่องมือหาเงินที่แสดงความต้องการของตัวเองไม่ได้     แน่นอนว่ามีคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากพวกหมีแล้ว ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องการช่วยพวกมันให้เป็นอิสระเช่นกัน พวกเขาเป็นกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ที่พยายามช่วยเหลือหมีไปเรื่อยๆ แต่ก็ทำได้อย่างมีข้อจำกัด กว่าที่พวกเขาจะมาเจอ Raju ในปี 2009 มันก็ถูกบังคับให้เต้นมานาน 7 ปีแล้ว แต่พอมันถูกพบโดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Wildlife SOS มันก็ได้รับอิสระและไม่ถูกบังคับให้เต้นอีก     Raju เป็นหมีสลอธที่หายากและใกล้สูญพันธุ์แล้ว เมื่ออาสาสมัครไปพบจึงอยากดูแลมันให้ดีที่สุด เจ้าหมีจึงถูกส่งตัวไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ซึ่งเป็นผืนป่าที่มันจะได้รับอิสระ แต่ก็มีมนุษย์คอยช่วยดูแลอีกแรงหนึ่งด้วย ถึงแม้ตลอดเวลาที่ผ่านมา การฝึกของมนุษย์จะสร้างแผลเป็นไว้บนร่างกายมันหลายแห่ง แต่ตอนนี้เจ้าหมีก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีรอยแผลเพิ่มแล้ว แถมยังได้ใช้ชีวิตตามใจชอบในนั้นด้วย     ไม่ต้องโดนบังคับทำงานอีกต่อไปแล้ว   ปัจจุบัน Raju ใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์มานาน 9 ปีแล้ว ชีวิตประจำวันของมันมีแค่ตื่นมาเล่นกับเพื่อน เดินเล่นในป่า และเล่นซนกับเพื่อนๆ…

ถ้าคุณเห็นเจ้าแมวเจ้าหมาที่บ้านมันนอนสบายทั้งวันแล้วรู้สึกว่ามันขี้เกียจล่ะก็ เราขอบอกคุณว่ามีสัตว์ที่ขี้เกียจกว่ามันเยอะเลย สัตว์พวกนี้นอกจากจะนอนเก่งแล้ว มันยังไม่ใช้พลังงานเปลืองแบบเจ้าหมาเจ้าแมวด้วย จะมีตัวอะไรบ้างลองไปดูกันเลย   10. กิ้งก่าปิ๊กมี่ลิ้นน้ำเงิน   ความขี้เกียจของเจ้ากิ้งก่าตัวนี้ ก็คือมันแทบไม่ออกไปทำอะไรข้างนอกหลุมของตัวเองเลย มันจะอ้าปากรออยู่ที่ปากหลุมรอให้เหยื่อผู้โชคร้ายสักตัวตกลงมาในปากเอง และก็จะรอกินน้ำจากหยาดน้ำและน้ำฝนด้วยวิธีเดียวกัน   9. นกกาเหว่า   ความขี้เกียจของนกกาเหว่านั้นหลายคนเคยได้ยินกันมาแล้ว นั่นก็คือการที่พวกมันแอบไปฟักไข่ไว้ในรังของนกอื่น แล้วให้พวกมันเลี้ยงลูกแทนนั่นเอง   8. ปลาฉลามพยาบาล   ในขณะที่ฉลามตัวอื่นๆ ต้องว่ายน้ำเพื่อหายใจและล่าเหยื่อ ฉลามพยายามนั้นต่างออกไปโดยสิ้นเชิง พวกมันใช้เวลาแทบทั้งวันนอนอยู่กับที่ แล้วดูดเหยื่อตัวเล็กเข้ามาในปากเพื่อกิน   7. แพนด้ายักษ์   เจ้าแพนด้าตัวโตพวกนี้นอนหลับวันละประมาณ 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว แล้วก็นอนที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น พอตื่นมาก็จะเอาแต่กิน กินเสร็จก็นอน ใช้ชีวิตสไตล์ขี้เกียจโดยแท้   6. ตัวกินมดหนาม   เจ้าตัวกินมดสายพันธุ์นี้นอนหลับประมาณวันละ 12 ชั่วโมง หรือก็คือนอนหลับตลอดช่วงที่มีแสงแดดเลยทีเดียว และจะออกมาใช้ชีวิตแค่ช่วงกลางคืนเท่านั้น   5. งูหลาม   งูหลามนั้นทั้งเคลื่อนที่เชื่องช้า แถมยังนอนเยอะถึงวันละ…

ในสถานการณ์ที่บีบบังคับและไม่มีใครสามารถช่วยได้ หญิงสาวต้องพยายามป้องกันตัวเองจากชายที่กำลังคุกคามเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าหมาของเขาจะปกป้องเธอแทนที่จะเข้าข้างเจ้านายตัวเอง หญิงสาวคนหนึ่งอยากเผยประสบการณ์รอดจากการถูกลวนลามของหัวหน้าอย่างฉิวเฉียดให้พวกเราได้ฟังกัน โดยเธอบอกว่าถ้าไม่ได้เจ้าหมาเข้ามาช่วย เธอต้องแย่แน่ๆ     หญิงสาวเล่าว่าเธอเพิ่งจะร่วมงานกับชายคนหนึ่งไม่นาน พ่อของเธอซึ่งถูกเขาจ้างงานบ่อยๆ เป็นคนแนะนำงานให้ งานนี้มีสวัสดิการที่ดีและได้เงินดี รวมถึงเวลาที่เธอเจอเขาตอนที่มีพ่ออยู่ด้วย เขาก็ดูไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร โดยงานของเธอหลักๆ แล้วจะเป็นการดูแลเจ้าหมาสายพันธุ์เคนคอร์โซ่ของเขา ระหว่างที่เขากำลังทำงาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่บ้านของเขา แต่เธอก็มีความสุขเนื่องจากเธอรักหมาและมันก็ดูจะชอบเธอมากเช่นกัน     หลังจากเริ่มงานได้ไม่นาน เธอสังเกตว่าเจ้านายของเธอชอบทักทายทุกคนที่เจอด้วยการกอด ตอนแรกเธอจึงไม่ได้คิดอะไร แต่สักพักเธอก็รู้สึกได้ว่าเขาเริ่มจับเนื้อต้องตัวเธอมากขึ้น หรือบางครั้งเวลาที่กอดเขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ แม้ว่าเธอจะปฏิเสธไปแล้วก็ตาม     วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังนั่งอยู่กับเจ้าหมาบนโซฟา จู่ๆ หัวหน้าของเธอก็เข้ามาจับเอวเธอจากทางด้านหลัง เธอจึงรีบขยับตัวหนีและบอกเขาว่าเธอไม่ชอบทันที แต่เขาก็วนมาหาเธอทางด้านหน้าแทน ทำท่าทีว่าจะจักจี้เธอเล่นๆ แต่เธอรู้สึกว่าท่าทางจะไม่ดีซะแล้ว เลยเรียกเจ้าหมาให้ช่วย เผื่อว่ามันจะเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเขาได้ และทำให้เธอรอดจากสถานการณ์นี้     ทว่าสิ่งที่เธอไม่คาดคิดเลยก็คือ เจ้าหมาลุกเข้ามาปกป้องเธอจริงๆ มันทั้งเห่าและขู่เจ้าของของตัวเอง แล้วก็เอาตัวเข้ามาคั่นกลางระหว่างพวกเขาไว้ เธอจำเป็นต้องบอกให้มันนั่งลง มันถึงจะหยุดเห่าชายคนนั้น แต่เจ้าหมาก็ยังนั่งอยู่ข้างๆ เธอเพื่อปกป้องอยู่ดี วันนั้นเธอรอดจากการถูกลวนลามมาได้เพราะมันแท้ๆ เลย     หญิงสาวเล่าว่า “ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์…

เจ้าของสัตว์เลี้ยงบางคนอาจจะเคยมีช่วงที่คิดว่าตัวเองนั้นเดียวดาย ไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้างเลย แต่ก็มองข้ามไปว่าจริงๆ แล้วถึงจะไม่มีคนอยู่ด้วย สัตว์เลี้ยง 4 ขาก็ยังคงอยู่เคียงข้างคุณเสมอ แม้แต่เจ้าแมวเหมียวที่เขาบอกกันว่าชอบเมินทาส ลึกๆ แล้วมันก็รักเรานั่นแหละ วันนี้เราได้รวบรวมรูปภาพของสัตว์เลี้ยงและมนุษย์หลายคู่มาให้คุณดู แล้วคุณจะรู้ว่าพวกมันไม่เคยทิ้งเราเลย   เจ้าพวกแมวตามติดภรรยาผมตลอดเวลา มันคงห่วงเธอกับลูกที่อยู่ในท้อง   พี่ทหารอุ่นใจเพราะมีเจ้าหมายิ้มให้ทุกวัน https://www.instagram.com/p/pFw4jYDeiY/   เจ้าเหมียวพยายามปลอบทาส เพราะเธอเพิ่งเลิกกับแฟนมา   มาคอยเติมกำลังใจให้คุณแม่ระหว่างวิ่งมาราธอนซะด้วย https://www.instagram.com/p/BoXJwW6gZ-Q/   คุณแม่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด เจ้าหมาแมวเลยยกพวกกันมาเติมกำลังใจให้   ไม่ต้องห่วงว่าจะเหงาตอนฝึก เพราะคู่หูจะลำบากไปพร้อมกันเสมอ https://www.instagram.com/p/uEKlYJjeoY/   เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกไม่สบาย พวกมันจะมองดูคุณอยู่ไม่ห่าง   ผู้ช่วยคนดีของฉัน ช่วยให้ทั้งฉันและผู้ป่วยรู้สึกดีกว่าเดิม https://www.instagram.com/p/BrVyFAznhcZ/   เจ้าหมาอยากเล่นกับน้องตั้งแต่น้องยังไม่เกิด   เราจะคอยเดินอยู่ข้างๆ เธอเอง ไม่ต้องห่วง https://www.instagram.com/p/BreOO2mnek2/   ไม่ต้องเศร้านะมนุษย์ เราอยู่ตรงนี้แล้ว   ไม่ต้องกังวลนะมนุษย์ เดี๋ยวสักแป๊บก็หายดีแล้ว ค่อยมาวิ่งเล่นกัน https://www.instagram.com/p/BrceybFnfbz/   ที่เจ้านายมักไม่เห็น…

ในสถานการณ์ที่ครอบครัวตกอยู่ในอันตราย หมาน้อยพยายามจะช่วยชีวิตเจ้านายของมัน แต่น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นมันเองที่ตายในอุบัติเหตุ     ครอบครัว Farrant เป็นครอบครัวอบอุ่นที่ประกอบไปด้วย คุณพ่อ Dan คุณแม่ Cara และลูกๆ ตัวน้อยของพวกเขาอีก 4 คน นอกจากสมาชิกที่เป็นมนุษย์แล้ว ครอบครัวของเขายังมีเจ้าหมาชิวาว่า Coco อีกตัวด้วย คนในครอบครัวรักเจ้าหมามาก และเจ้าหมาเองก็รักครอบครัวเช่นกัน Dan เล่าว่า “เจ้า Coco เป็นกาวที่ยึดครอบครัวของเราเอาไว้ด้วยกัน ถ้าเกิดมีใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวกำลังเศร้าหรือป่วย มันจะไปให้กำลังใจคนคนนั้นเสมอ”     ในวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา ทั้งครอบครัวตัดสินใจขับรถไปเที่ยวด้วยกัน โดยมีจุดหมายปลายทางคือประเทศสกอตแลนด์ แต่ระหว่างที่กำลังเดินทางกันอยู จู่ๆ เครื่องยนต์ของพวกเขาก็ลุกเป็นไฟ และไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรถคันหนึ่งที่อยู่แถวนั้นพอดีจอดลงมาเพื่อช่วยพวกเขา Dan พาลูกๆ 3 คนหนีออกมาได้ แต่ก่อนที่ Cara กับลูกสาวที่ชื่อ Thea และ Coco จะหนีออกมาได้ ประตูรถก็โดนความร้อนหลอมจนเปิดไม่ออกแล้ว Cara โยน Coco ออกมาทางหน้าต่างก่อนเป็นตัวแรก จากนั้นเธอและลูกสาวก็พยายามหาทางออกจากรถโดยใช้ทางอีกด้านหนึ่งโดยที่มีสามีช่วยอยู่    …

ต้องยอมรับจริงๆ นะว่าการเรียนบางวิชามันแน่นไปด้วยเนื้อหาจนดูน่าเบื่อจริงๆ วิชากฎหมายก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน นักเรียนกฎหมายคนหนึ่งจึงมีวิธีกันไม่ให้ตัวเองเบื่อโดยการ พาน้องหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกัน เขาจะได้มีเพื่อนระหว่างอ่านหนังสือ แล้วก็เผื่อว่ามันจะรู้กฎหมายไปด้วยกันซะเลย คุณ กิตติศักดิ์ ภาโว เป็นทหารที่รักสุนัข บางครั้งเขาก็ไปให้อาหารและช่วยเหลือสุนัขอื่นๆ ที่เจอ และก็ยังมีสุนัขที่เลี้ยงเองไว้หลายตัวด้วย     นอกจากจะเป็นทหารแล้ว ตอนนี้เขากำลังศึกษาเนติบัณฑิตไทยอยู่ด้วย และก็ต้องอ่านหนังสือคนเดียวบ่อยครั้ง ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาแน่นๆ คนเดียวมันน่าเบื่อจริงๆ ทว่าเขาก็มีวิธีแก้ปัญหาในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือการพาเจ้าหมาที่เลี้ยงไว้มานั่งอยู่ด้วยเวลาเขาอ่านหนังสือ โดยส่วนมากเจ้าตัวที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาก็จะเป็น น้องครีม    ผมชื่อน้องครีมฮะ   ซึ่งพอมีเจ้าหมามานั่งอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ทำให้เขาหายเหงาและอ่านหนังสือได้คล่องขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ถึงแม้ว่าบางทีน้องครีมจะดูง่วงกับเนื้อหาไปด้วยก็ตาม     อ้าว น้องครีม อย่าเพิ่งสัปหงกสิครับ เดี๋ยวเจ้าของง่วงตามนะ   น้องครีมไม่ใช่สุนัขตัวเดียวที่มานั่งอยู่เป็นเพื่อนคุณกิตติศักดิ์ ในบางครั้ง พี่ด่าง ก็จะมานั่งเป็นเพื่อนเพิ่มอีกตัวหนึ่งด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความน่าเบื่อของเนื้อหาที่คุณกิตติศักดิ์อ่าน บางทีแม้แต่เจ้าหมาทั้งหลายก็ถ่างตาฟังต่อไม่ไหว แล้วหลับไปก่อนก็มี   พี่ด่างทำหน้าหงอยทำไม นึกว่าโดนพิจารณาคดีอยู่เหรอ??   บางทีเจ้าหมาก็อยู่เป็นเพื่อนไม่ไหวแล้ว ขอหลับก่อนละกัน ปล่อยพ่ออ่านหนังสือสอบต่อไป   การเอาเจ้าหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกันแบบคุณกิตติศักดิ์ ก็ดูเป็นเทคนิคแก้เบื่อในการอ่านหนังสือที่ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ นอกจากนี้ถ้าเขาอ่านหนังสือให้น้องครีมกับพี่ด่างฟังบ่อยๆ อีกหน่อยพวกมันอาจจะเป็นหมาที่รู้กฎหมายไปด้วยเลยก็ได้…

ลูกโคอาล่าเป็นสัตว์น้อยที่บอบบาง ปกติมันจะซุกตัวอยู่ในถุงหน้าท้องของแม่ตลอด แม่ของมันจะได้ปกป้องมันจากภัยอันตรายได้ แต่ถ้ามันเกิดพลัดหลงกับแม่ขึ้นมา ก็คงจะปกป้องตัวเองไม่ได้เลย โชคดีที่ลูกโคอาล่าหลงทางตัวนี้ไปเจอพี่หมาโกลเด้น มันเลยรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด     ลูกโคอาล่าตัวน้อยตัวนี้ถูกพบอยู่กับเจ้าหมาโกลเด่นรีทรีฟเวอร์ Asha โดยคาดว่ามันน่าจะหล่นจากถุงหน้าท้องของแม่ในตอนกลางคืน พอเจ้าหมาไปเจอมันเข้า มันก็เลยเกาะติดเจ้าหมาเหมือนกับที่มันเคยเกาะแม่ Kerry McKinnon ซึ่งเป็นเจ้าของของเจ้าหมาไปเจอพวกมันนอนกอดกันในช่วงเช้า ตอนที่เธอกำลังจะออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าน     McKinnon เล่าว่าลูกโคอาล่าโชคดีมากที่เจอเจ้าหมาทันเวลา เนื่องจากคืนนั้นอากาศหนาวเย็นจนอุณภูมิต่ำถึง 5 องศาเซลเซียส หากมันไม่ได้ไออุ่นจาก Asha มันก็คงจะหนาวตายไปแล้ว หรือถึงมันจะรอดจากอากาศหนาวเหน็บมาได้ มันก็น่าจะถูกสัตว์ป่าอื่นอย่างสุนัขจิ้งจอกทำร้ายเพราะไม่มีคนคอยปกป้องอยู่ดี     เธอบอกว่า “Asha ช่วยชีวิตเจ้าโคอาล่าเอาไว้ได้โดยการมอบความอบอุ่นจากร่างกายให้มัน ถ้ามันถูกทิ้งไว้ตามลำพังทั้งคืนมันคงตายไปแล้วแน่ๆ” แถมดูเหมือนว่าลูกโคอาล่าจะรู้สึกชอบเจ้า Asha เอามากๆ เลยล่ะ ตอนที่เธอพยายามอุ้มมันออกมาจากตัวเจ้าหมา มันเอาแต่เกาะขนเจ้าหมาแน่น แล้วส่งเสียงขู่เธอตลอดทางเลย     อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดเธอก็แยกลูกโคอาล่าออกมาจากเจ้าหมาได้ และส่งมันไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์อย่าง RSPCA ดูแลต่อ เพื่อที่พอมันแข็งแรงมากพอแล้ว พวกเขาจะได้ช่วยปล่อยมันกลับไปอยู่ตามธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น   ที่มา: 9gag

คุณเคยเห็นฉากที่ตัวเอกถูกบีบบังคับให้ต้องเลือกโดดลงรถเพื่อเสี่ยงตาย หรืออยู่นิ่งๆ ต่อไปเพื่อรอคอยความตายบ้างไหม? เจ้าวัวตัวนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน…และมันเลือกที่จะโดดลงจากรถ เมื่อกลางดึกวันหนึ่งขณะที่รถขนวัวกำลังพาพวกวัวไปยังโรงฆ่าสัตว์ มีวัวตัวหนึ่งตัดสินใจโดดจากชั้น 2 ของรถ ลงมาสู่ถนนข้างล่าง มันอาจกำลังคิดว่ายอมเสี่ยงดีกว่าต้องรอความตายข้างหน้า     โชคดีที่มันรอดชีวิตมาได้ แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัยดีนักเนื่องจากมันยังอยู่บนถนนที่มีรถวิ่งด้วยความเร็วสูงอยู่ ตำรวจจึงพากันออกมาควบคุมตัวเจ้าวัวไว้ มันจะได้ไปสร้างความปั่นป่วนให้กับคนใช้ถนนคนอื่น และก็เป็นโชคดีของมันอีกเช่นกัน ที่มันไม่ถูกจับไปส่งคืนให้โรงฆ่าสัตว์หรือเจ้าของเก่า แต่มันถูก Mike Stura ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Skylands Animal Sanctuary and Rescue พาไปอยู่ด้วยแทน มันจึงได้ใช้ชีวิตต่อสมใจ     คลิปวิดีโอตอนที่ตำรวจและ Mike ไปจับเจ้าวัวบนถนน   Mike ตั้งชื่อเจ้าวัวว่า Brianna เขาพามันไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในฟาร์ม โดยให้มันเดินเล่นไปมาได้ตามใจทั้งวัน และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกส่งไปโรงฆ่าสัตว์อีกเลย     แม้จะเพิ่งโดดลงรถมา แต่มันก็ดูไม่เจ็บอะไรมาก และมีความสุขดี   หลังจากที่ Brianna มาอยู่ในฟาร์มของ Mike ได้ไม่นาน มันก็เซอร์ไพรส์ทุกคนด้วยการคลอดลูกตัวน้อยออกมา ทั้งที่ตอนแรกไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่ามันท้อง นั่นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า จริงๆ แล้วมันอาจไม่ได้ตัดสินใจโดดจากรถเพื่อช่วยชีวิตตัวเองอย่างเดียว แต่เพื่อทำให้ลูกตัวน้อยได้มีโอกาสลืมตาดูโลกด้วย    …

คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นต้องเจอสิ่งอันตรายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับคนร้าย และการควบคุมความไม่สงบที่เกิดขึ้นในชุมชน พวกเขาจึงนับได้ว่าเป็นคนที่มีความกล้าหาญมาก ทว่าบางครั้งก็มีสิ่งที่ทำให้พวกเขากลัวได้เหมือนกัน แม้ว่าเราจะไม่คิดเลยว่าสิ่งที่ว่านั้นจะเป็นแค่กระรอกตัวเล็กๆ ดูไม่มีพิษไม่มีภัยตัวหนึ่ง…   ภาพสเก็ตช์คร่าวๆ ของคนร้ายขนปุย   เมื่อไม่นานมานี้ที่สถานีตำรวจในเมืองแม็คเฮนรี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีกระรอกน้อยตัวหนึ่งบุกเข้ามาหน้าประตูทางเข้าโรงพัก ตอนที่มีนายตำรวจกำลังจะเปิดประตูออกไปเพื่อกลับบ้าน แม้ว่าเราจะไม่เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ยังไง แต่นายตำรวจหลายคนในคลิปวิดีโอมีท่าทีชัดเจนเลยว่าพวกเขาเกรงกลัวมัน ราวกับว่ากระรอกน้อยตัวนี้เป็นอันตรายมากๆ นายตำรวจเล่าว่า “เจ้ากระรอกตัวนี้มันวนเวียนอยู่แถวนี้เป็นประจำแหละ มันไม่ค่อยกลัวอะไรหรอก ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของเรากำลังจะออกจากสถานี มันยังเข้ามาทำให้เขากลัวแทนเลย”     เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามช่วยกันอย่างหนัก เพื่อที่จะไล่ให้มันออกไปข้างนอกเหมือนเดิม คนที่กลัวมันจะได้เดินเข้าออกได้ตามปกติ ทว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากเจ้ากระรอกติดอยู่ระหว่างประตูทางเข้าชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ซึ่งประตูทั้ง 2 บานนี้มีกลไกเปิดและปิดพร้อมๆ กัน นั่นหมายความว่าถ้าจะเปิดประตูให้เจ้ากระรอกออกไป ก็ต้องเสี่ยงให้มันวิ่งเข้ามาด้วยนั่นเอง งานนี้การไล่เจ้ากระรอกออกไปจึงดูเครียดมากๆ ราวกับการต้อนผู้ร้ายเลยทีเดียว   สุดท้ายแล้วพวกเขาก็สามารถไล่เจ้ากระรอกน้อยออกไปได้สำเร็จ แต่ตำรวจสาวที่ถ่ายคลิปวิดีโออยู่กลัวเจ้ากระรอกจนไม่สามารถถ่ายคลิปถึงตอนนั้นได้ และทำให้เราไม่ได้เห็นว่าพวกเขาทำให้มันออกไปได้โดยไม่มีตำรวจร้องไห้รึเปล่า ถึงจะเห็นว่ากระรอกตัวเล็กแค่นี้ แต่ดูจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละคนระแวงมันมากแล้ว คาดว่ามันน่าจะเคยก่อเรื่องไว้เยอะพอควรเลย ถือว่ามันเจ๋งมากที่กล้าหือกับตำรวจทั้งสถานี   ที่มา: the dodo, McHenry Police Department

ในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ มักจะมีภาพอะไรแปลกๆ ออกมาให้เราได้เห็นเสมอ และครั้งนี้ก็มีภาพความสัมพันธ์สุดประหลาดของงูและคางคก จากประเทศออสเตรเลียหลุดออกมาสู่สายตาชาวเน็ตเช่นกัน ภาพนี้ถูกถ่ายไว้โดยนาย Paul Mock ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Kununurra ประเทศออสเตรเลีย เขาเล่าว่าเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2018 มีฝนตกหนักบริเวณบ้านของเขา ซึ่งตกหนักมากจนอาจเกิดน้ำท่วมย่อมๆ ได้เลย และเมื่อเขาเปิดประตูออกไปดูใกล้ๆ บ้าน เขาก็ประหลาดใจมากเมื่อพบกับงูหลามยาวกว่า 3.5 เมตร ที่มีคางคกพิษจำนวนมากเกาะอยู่บนหลังด้วย เหมือนเจ้างูกำลังช่วยพวกคางคกให้อพยพหนีฝนได้เร็วขึ้นยังไงยังงั้น   https://twitter.com/MrMeMock/status/1079448894981828608   แน่นอนว่า Mock ไม่พลาดโอกาสที่จะถ่ายรูปสุดหายากนี้ไว้ ต่อมาภาพของเจ้างูและพวกคางคกจึงถูกนำมาเผยแพร่ลงบนทวิตเตอร์ของน้องชายเขา โดยน้องชายเขาเขียนแคปชั่นไว้ว่า “ฝน 68mm เพิ่งตกถล่มที่ Kununurra เมื่อชั่วโมงที่แล้ว มันพัดเอาคางคกอ้อยในเขื่อนของพี่ชายผมออกมา พวกมันบางตัวเจอวิธีหนีที่สะดวกสบาย นั่นคือการโดดขึ้นไปขี่หลังงูหลามยาว 3.5 เมตร”   A WA snake has become a global sensation after video emerged…

ตอนที่แม่ลูกคู่หนึ่งไปเจอลูกหมาน้อยอยู่ข้างถนน พวกเธอไม่รู้เลยว่าทำไมถึงมีคนเอาลูกหมาน่ารักอย่างมันมาทิ้งไว้ จนเมื่อพามันไปรักษาตัวถึงได้รู้ว่ามันมีความผิดปกติบางอย่างอยู่ หมาน้อย Petey ถูกพบอยู่ในสภาพที่สกปรกและมีเห็บหมัดทั่วตัว มันนอนขดอยู่บนผ้าห่มผืนหนึ่งที่วางไว้ข้างทางกับพี่น้องอีกตัวหนึ่ง แม่ลูกที่เจอมันจึงพามันไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ SPCA ในท้องที่     แต่กว่าจะถึงมือหมอ ลูกหมาอีกตัวหนึ่งก็ตายจากไปแล้ว เหลือเพียง Petey เท่านั้นที่ได้รับการดูแลและการรักษาได้ทันท่วงที ทว่าพวกเขาก็พบว่า Petey มีความผิดปกติทางสมองที่เรียกว่า cerebellar hypoplasia ซึ่งทำให้เจ้าหมายืนไม่ค่อยอยู่ เดินเซ และมีปัญหาในการกินอาหารด้วย ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่คนเอามันมาทิ้งนั่นเอง     เจ้าหมาใช้ชีวิตลำบากมากเนื่องจากมันเดินได้เชื่องช้า แถมเซล้มบ่อยอีกต่างหาก และก็ต้องมีคนคอยช่วยเวลามันกินข้าวอยู่เสมอเลย แต่อาสาสมัครที่ดูแลมันก็ไม่ได้ยอมแพ้ พวกเขาคิดว่าน่าจะช่วยมันได้ จึงเริ่มพามันไปทำกายภาพบำบัดเป็นประจำทุกวัน เผื่อว่าอาการของมันจะดีขึ้นบ้าง     หลังจากที่ Petey ได้รับการทำกายภาพบำบัด อาการของมันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน จากตอนแรกที่มันยืนไม่ค่อยอยู่ มันก็ทรงตัวได้ดีมากขึ้นเยอะแล้ว นอกจากนี้เจ้าหมายังสามารถกินอาหารเองได้แล้วด้วย ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่น่าชื่นใจมากเลย อย่างน้อยๆ มันก็จะไม่ลำบากเวลาต้องกินข้าวอีก     เป็นหมาที่ยืนไม่ค่อยอยู่ แต่ซนเอาเรื่อง    หลังจากที่ Petey อาการดีขึ้นมากแล้ว…

ว่ากันว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าของสุนัขหลายคนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปไว เพราะทุกเวลาที่มันอยู่กับคุณ มันทำให้คุณรู้สึกสุขใจขึ้นเสมอ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วหรอก อีกอย่างที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นก็เพราะว่าเจ้าหมามันโตเร็วมากจริงๆ ต่างหาก ถ้าไม่เชื่อก็ลองมาดูบันทึกการเปลี่ยนแปลงของเจ้าหมาในตอนเด็กจนถึงตอนโตกันดีกว่า บางรูปนั้นเวลาผ่านไปไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง รับรองว่าคุณต้องทั้งทึ่งและรู้สึกอบอุ่นใจกับการเติบโตของพวกมันแน่ๆ   ทั้งเจ้าของและเจ้าหมาต่างก็โตไปด้วยกัน   นี่มันหมาหรือตุ๊กตาสูบลม โตไวจริงๆ   เจ้าของดูไม่เปลี่ยนเลย แต่เจ้าหมาโตเต็มที่ซะแล้ว   ลูกหมาในวันนั้น เป็นหมาตัวโตในวันนี้   ไม่ว่าจะโตแค่ไหน พ่อก็ยังอยากอุ้ม   ตอนแรกตัวเท่าแขนแม่เอง ไม่ทันไรตัวเท่ากันแล้ว   พี่หมาของน้อง อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะ   ตัวใหญ่จนบังพ่อมิดเลยจ้า   กินอะไรถึงได้โตไวขนาดนี้นะ   ปีเดียวจริงๆ ครับ โตไวเหมือนโกหก https://www.instagram.com/p/BH7Bp8YD8bL/?utm_source=ig_embed   นี่น้องหมาตัวเดิมไง แค่ตัวโตขึ้นนิดเดียว (?) เอง ทำเป็นจำไม่ได้ https://www.instagram.com/p/BHZcLRajo4J/?utm_source=ig_embed   ดูจากกล่องเอาละกันว่ามันสูงขึ้นขนาดไหน   โตเป็นหมีแล้วยังอยากนั่งชิงช้าอีกนะลูก https://www.instagram.com/p/BM6iUGRgiAp/?utm_source=ig_embed   เผลอแป๊บเดียว แม่อุ้มเจ้าหมาไม่ไหวแล้ว…

หากแม่แมวต้องดูแลลูกน้อยอยู่ข่าวถนน คงทำให้ชีวิตของพวกมันลำบากพอดูเลย โชคดีที่แม่แมวตัวนี้ถูกมนุษย์เก็บมาได้ทันเวลา มันและลูกๆ จึงได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของมนุษย์ช่วงปีใหม่พอดี แม่แมว Molly ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์พามาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ของเมืองลาสเวกัสเมื่อสิ้นปี 2018 ซึ่งทันเวลาก่อนที่มันจะคลอดลูกพอดิบพอดี     มีลูกๆ ติดมาด้วย   ถึงแม้ว่ามันจะได้คลอดลูกในที่ที่พ้นจากอากาศหนาวข้างนอกแล้ว แต่ศูนย์พักพิงสัตว์ที่หนาแน่นก็ยังไม่เหมาะจะเป็นที่ที่ใช้ดูแลลูกสักเท่าไหร่ คนที่อยากช่วยมันออกไปจึงติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังอาสาสมัคร และกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ในพื้นที่ เผื่อว่าจะยังมีใครมีที่ว่างเหลือให้พวกมันอยู่     Hearts Alive Village Las Vegas ที่ได้รับเรื่องก็เลยพยายามหาบ้านให้กับพวกมัน แล้วส่งครอบครัวแมวเหมียวไปอยู่กับ Kymmi ที่บ้านของเธอ Kymmi เล่าว่าแม่แมว Molly เป็นแม่ที่รักลูกมากๆ แม้แต่ตอนที่เธอพาพวกมันขึ้นรถไปที่บ้าน มันก็ยังเลียขนและดูแลลูกๆ อยู่ในกรงเลย     ดูแลลูกตลอด 24 ชั่วโมง สมกับเป็นคุณแม่   หลังจากที่แม่แมวเข้ามาพักกับ Kymmi เธอก็จะตื่นมาเจอกับเสียงร้องเมี๊ยวๆ ของลูกแมว และเสียงครางอย่างมีความสุขของพวกมันทุกเช้า เธอเองก็ดีใจมากที่เธอได้ช่วยแม่แมวและลูกให้อยู่ในบ้านที่อบอุ่น ซึ่งถือเป็นของขวัญวันปีใหม่และการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของพวกมันด้วย     แย่งกันกินนมแม่ใหญ่เลย แบบนี้คงจะโตเร็วน่าดู https://www.instagram.com/p/BsCTqqDApEy/  …

ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ Carr Park ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาต้องหยุดหลังสังเกตเห็นห่านแคนาดาตัวหนึ่งนอนหงายเอาเท้าชี้ฟ้าอยู่ อาการของมันดูแย่มาก มันนอนนิ่งไม่ยอมขยับตัวเลย ท่าทางของมันดูเหมือนมันตายไปแล้วด้วยซ้ำ แถมข้างๆ กันนั้นยังมีนกอีกตัวหนึ่งนอนล้มอยู่ในลักษณะคล้ายๆ กันด้วย     เมื่อมองไปบริเวณข้างๆ เขาก็เห็นต้นเหตุที่ทำให้พวกมันนอนแอ้งแม้งอยู่แบบนี้ มันคือยาหลากหลายประเภทที่มีคนเอามาโยนทิ้งไว้นี่เอง เจ้าห่านกับนกคงจะเผลอกินเข้าไปจนทำให้ร่างกายมันผิดปกติ เขาจึงรีบโทรแจ้งทีมกู้ภัยจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Wetlands & Wildlife Care Center ทันทีเพื่อช่วยชีวิตพวกมันทั้ง 2 ตัว     คนที่มาช่วยพวกมันทั้ง 2 ตัวเล่าว่า “ยาที่เจออยู่บนพื้นเป็นยาโรคหัวใจ ยารักษาโรคซึมเศร้า ยาแก้เครียด และก็ยานอนหลับ มันก็พูดยากเหมือนกันว่าพวกมันจะตายรึเปล่าหากเราไม่มาช่วย แต่ดูแล้วก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะถึงพวกมันจะไม่ตายเพราะยา ศัตรูทางธรรมชาติก็คงจะทำร้ายพวกมันซึ่งไม่อยู่ในสภาพที่จะป้องกันตัวได้เลย”   เจ้าห่านที่เมายา   และเจ้านกที่มีชะตากรรมเดียวกัน   โชคดีที่พวกเขาช่วยพวกมันได้ก่อนจะสายเกินไป ทั้งเจ้าห่านและเจ้านกจึงปลอดภัยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด และให้ยามันเพื่อให้ทั้งคู่ถ่ายยาแปลกปลอมที่กินเข้าไปทั้งหมดออกจากร่างกายด้วย   ได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นแล้ว เดินได้สบายมาก   เจ้านกเองก็อาการดีขึ้นไม่แพ้กัน   ไม่กี่วันหลังจากนั้นเจ้าห่านก็สุขภาพดีมากพอจนเจ้าหน้าที่คิดว่าปล่อยมันไปได้แล้ว พวกเขาจึงพามันไปปล่อยพร้อมกับเพื่อนห่านอีกตัวหนึ่งที่ถูกรักษาอยู่ในศูนย์เดียวกัน  …

ในโลกนี้มีศิลปินอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่มีอยู่หนึ่งตัวที่ไม่เหมือนใครแน่นอน ไม่ใช่เพราะแนววาดรูปของมันเป็นเอกลักษณ์ แต่เป็นเพราะมันเป็นมะหมา 4 ขา Kenny Au และ Denise จากประเทศแคนาดาก็เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่มีสุนัขอยู่ด้วย มันคือเจ้า Hunter หมาชิบะซึ่งเป็นเสมือนลูกรักของพวกเขานั่นเอง     อย่างไรก็ตามนอกจากการใช้ชีวิตเล่นสนุกตามประสาหมาทั่วไปแล้ว เจ้า Hunter ยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่มีหมาตัวไหนเหมือน ก็คือมันเป็นศิลปินนักวาดภาพแนวแอ็บสแตรคด้วย     ต้องมีหัวศิลป์นิดนึงถึงจะเข้าใจเจ้าหมาได้   Au เล่าว่า “เนื่องจาก Hunter เป็นหมาที่ใจเย็น รอบคอบ และชอบโต้ตอบกับเรา ภรรยาของผมเลยคิดว่ามันน่าจะเรียนรู้การวาดรูปด้วยพู่กันได้ ตอนแรกเรากะจะเอาผลงานของมันเก็บไว้ดูเป็นของต่างหน้า แต่พอมันวาดรูปออกมาจริงๆ เราเองยังทึ่งในผลงานของมันเลย”     สวยใช่ไหมล่ะ   หลังจากที่ Hunter ได้วาดรูปครั้งแรกแล้ว มันก็อยากวาดทุกวันเลย แต่เจ้าของของมันก็ไม่ลืมที่จะให้มันเล่นและทำอย่างอื่นกับพวกเขาบ้าง เพราะถ้าให้มันวาดรูปอย่างเดียวทุกวัน พวกเขาก็กลัวว่าเจ้าหมาจะเบื่อจนไม่อยากวาดรูปอีก     ผลงานของผมเองฮะ   แถมเจ้าหมายังไม่ได้วาดรูปเป็นงานอดิเรกไปวันๆ ด้วย รูปที่มันวาดมีคนไม่น้อยมาติดต่อขอซื้อ กลายเป็นรายได้อีกทางหนึ่งให้เจ้าของไปด้วยเลย โดยปัจจุบันรูปของเจ้าหมามีราคาอยู่ที่ประมาณใบละ 38 ดอลลาร์สหรัฐ…

หนุ่มตั้งใจรับเลี้ยงแมวเหมียวมาแค่ตัวเดียว เขาคิดว่ามันตัวอ้วนมาก แต่เขาไม่คิดเลยว่ามันกำลังมีลูกน้อยอยู่ เมื่อแม่แมวคลอดลูกแถมออกมาให้ เขาจึงแปลกใจมาก creative1232 จากเว็บไซต์ Reddit เล่าว่าตอนที่เขารับเลี้ยงแมวเหมียวสีส้มมา เขารับเลี้ยงมันด้วยความรู้สึกถูกชะตา และไม่ได้ตั้งใจจะรับแมวมาเยอะเลย     ถึงมันจะตัวอ้วนมาก แต่คนที่ศูนย์พักพิงสัตว์ก็บอกกับเขาว่ามันไม่เคยออกไปเจอแมวอื่นข้างนอกเลย เขาเลยคิดว่ามันน่าจะอ้วนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเขาให้อาหารมันเยอะมาก เขาจึงรู้สึกตกใจจนรับมือไม่ถูก เมื่อต่อมาเจ้าแมวคลอดลูกมาเพิ่มให้เขา แถมไม่ใช่จำนวนน้อยๆ ซะด้วย มันมีลูกเพิ่มมาอีกตั้ง 7 ตัวแน่ะ     ถึง creative1232 จะตกใจจนรับมือไม่ถูก แต่ยังดีที่คู่หมั้นของเขาเตรียมพร้อมดูแลลูกแมวอยู่แล้ว เขาเล่าว่า “คู่หมั้นของผมน่าจะมีสัญชาตญาณของผู้หญิง ทำให้รู้ว่ามาตลอดว่าแม่แมวมันท้องอยู่แล้ว“ จากนั้นทั้งคู่จึงช่วยแม่แมวดูแลมิ้วน้อยอย่างดีที่สุด พวกเขาช่วยกันเลี้ยงดูจนทุกตัวเติบโตมาอย่างแข็งแรง แล้วก็พาพวกมันทั้งหมดไปทำหมันให้ด้วย     เนื่องจากตอนแรก creative1232 ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงแมวเยอะขนาดนี้ เขาจึงไม่พร้อมจะดูแลพวกมัน ต่อมาเขาจึงเริ่มหาบ้านให้ลูกแมวทั้ง 7 ตัวแทน ตอนนี้ถึงลูกแมวแต่ละตัวจะไม่ได้อยู่กับแม่แล้ว แตพวกมันก็มีทาสเป็นของตัวเอง จึงไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะใช้ชีวิตลำบากเลย ส่วนชายหนุ่มก็ยังดูแลแม่แมวตัวนั้นเหมือนเดิมตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก โดยหวังว่ามันจะไม่เซอร์ไพรส์พาลูกแมวมาให้เขาเป็นรอบที่ 2 อีกนะ     ที่มา: Love Meow

เขาว่ากันว่าในการถ่ายรูปแต่ละครั้ง จะมีแค่ไม่กี่รูปจากหลายพันใบเท่านั้นที่ดูดีและลงตัวที่สุด การจะหารูปดีๆ สักใบจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทว่าวันนี้เราไปไปหารวบรวมภาพถ่ายของเหล่าสัตว์ ที่ถูกถ่ายอย่างตรงจังหวะพอดีมาให้แล้ว มันจะเป็นภาพที่ฮาและน่ารักมากขนาดไหนลองไปชมกันดูนะ   นี่ไงแว่นกับทรงผมใหม่ของผม   ไม่อยากแบ่งใช่ไหม? งั้นก็กินให้หมดอย่าให้เหลือล่ะ!!   ว้าว ทุกตัวมองกล้องพร้อมกันหมดเลย   ไหนดูซิเช้านี้มีข่าวอะไรน่าสนใจบ้าง?   ถ่ายตอนเลียจมูกไว้ได้พอดิบพอดี https://www.instagram.com/p/BqBpyPWHUvS/?utm_source=ig_embed   แมวตัวนี้ขายาวจัง   แม้แต่ในเงา เจ้าแมวก็มีตานะ   เจ้าของกับเจ้าม้ายิ้มพร้อมกันพอดี ท่าจะซี้กันมากนะเนี่ย https://www.instagram.com/p/BqvXUC5BMqP/?utm_source=ig_embed   มุมนี้ดูเหมือนเจ้าหมามีแค่ส่วนหัวเลย   มันไม่อร่อยหรอกน้องหมา รีบคายออกมาเถอะ   อุ๊ย ลื่น ขอโทษนะเพื่อน   คู่นี้สวีทกันอะไรขนาดนั้นคะ คนโสดล่ะอิจฉา https://www.instagram.com/p/Bn6dVuQFkA_/?utm_source=ig_embed   ขาสวยนะเราอะ เหมือนขานางแบบ   เราเป็นหมายักษ์ งาบรถได้ทั้งคันเลยทีเดียว   ดูเหมือนเจ้าเหมียวจะได้เพื่อนใหม่แสนสวยนะ   จะเสิร์ฟแล้วนะ เตรียมรับดีๆ ล่ะ  …

คุณเคยรู้สึกบ้างไหม ว่าถึงคุณจะเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้าง หรือแปลกมากแค่ไหน คุณก็ยังคิดว่าตรรกะของแมวมันแปลกอยู่ดี แม้แต่ทาสแมวที่อยู่กับพวกมันทั้งวันทั้งคืน ก็ดูจะทำความเข้าใจเจ้านายของพวกเขาไม่ได้เลย…เพราะแมวมันชอบทำอะไรที่แปลก ดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย (ในสายตามนุษย์) ถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนที่เข้าใจตรรกะแมวๆ ได้ล่ะก็ ลองดูพฤติกรรมประหลาดของพวกมันดูสิ มันเข้าใจได้ยากจริงๆ นะ   ชามข้าวของตัวเองก็มี จะแย่งกันกินของเพื่อนทำไม??   ตรงไหนนอนสบายแมวก็จะนอน ลำบากคนอื่นช่างมัน   ทำยังไงก็ได้ ให้ท่ากินน้ำดูยากลำบากมากที่สุด   เรื่องกวนทีนมนุษย์นี่ งานถนัดนักขอให้บอก   ชักไม่แน่ใจแล้วว่าพวกมันเป็นญาติกับค้างคาวรึเปล่า   ที่หลบภัยแบบนี้มันน่าปลอดภัยตรงไหนกัน…   มนุษย์เข้าห้องน้ำทีไรต้องมานั่งเฝ้าทุกที…หรือว่ามันเป็นพวกถ้ำมอง!?   ถ้าเราไม่เห็นเขา ก็ถือว่าเขาต้องไม่เห็นเรา (ใช่เหรอ!?)   ตอนประตูปิดก็ไม่ยอมใช้ประตูเล็ก แต่ตอนประตูเปิดอยู่นี่ขยันใช้จัง   แกจะกินและนอนในที่เดียวกันแบบนี้ไม่ได้นะเจ้าเหมียว   ตีเนียนว่าช่วยแม่แต่งต้นคริสต์มาส แต่จริงๆ วางแผนร้ายอยู่   ซื้อเตียงให้กี่เตียง มันก็เหมาเป็นของตัวเองหมด ไม่มีน้ำใจแบ่งเพื่อนเลย   ของแพงๆ ไม่ชอบ ขอแค่กล่องกระดาษก็พอแล้ว   ที่มีให้นั่งตั้งเยอะ ทำไมถึงเลือกตรงนี้นะ???…

สำหรับเด็กๆ แล้ว คงไม่แปลกถ้าพวกเขาอยากจะรู้ว่าซานต้าที่ให้ของขวัญพวกเขาทุกปีหน้าตาเป็นยังไง? เป็นเหมือนที่พวกเขาคิดเอาไว้รึเปล่า? เด็กหลายคนได้แต่คิดจินตนาการถึงเรื่องพวกนี้ ส่วนเด็กชายขี้สงสัยคนนี้ตัดสินใจจะค้นหาคำตอบด้วยตัวเองเลย โดยการตั้งกล้องวิดีโอแอบถ่ายซานต้าไว้…ทว่าสิ่งที่เขาเจอกลับไม่ใช่ซานต้าเลย เขาเจอความแสบของเจ้าหมาแทน     น้องชายของ @lntolisa เกิดอยากเห็นหน้าซานต้าขึ้นมา และปีนี้เขาก็ปิ๊งไอเดียว่าหากใช้ไอแพดตั้งบันทึกวิดีโอทิ้งไว้ก็น่าจะถ่ายติดซานต้าด้วย เขาจึงแอบเอาไอแพดเสียบชาร์จแบตไว้ และตั้งถ่ายวิดีโอไว้ที่ใต้ต้นคริสต์มาสทั้งคืน แบบนี้เขาก็จะได้เห็นซานต้าตอนที่เขาเอาของขวัญมาวาง   https://twitter.com/lntolisa/status/1077395206654357504?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1077395206654357504&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.dailymail.co.uk%2Ffemail%2Farticle-6530133%2FLittle-boy-leaves-iPad-Christmas-tree-catch-Santa-discovers-unusual.html   แล้ว @lntolisa ก็เอาวิดีโอที่น้องชายถ่ายมาอัปโหลดลงทวีตด้วย โดยเขียนอธิบายว่า “น้องชายของฉันใช้ไอแพดถ่ายวิดีโอทิ้งไว้ใต้ต้นคริสต์มาสเพื่อจับซานต้า แต่ดูสิว่าเขาเจออะไร” อย่างไรก็ตาม ในวิดีโอก็ไม่มีซานต้าอยู่เลย แต่เขาก็เจอเรื่องไม่คาดคิดในคืนนั้นเหมือนกัน โดยตัวก่อเรื่องก็คือเจ้าหมาน้อยสัตว์เลี้ยงในบ้านนั่นเอง     เจ้าหมาแอบย่องเข้ามาที่ใต้ต้นคริสต์มาสตอนที่ทุกคนในบ้านหลับหมดแล้ว และมันก็ดูจะสนใจตรงใต้ต้นคริสต์มาสมากๆ เลย มันไม่ได้สนใจของขวัญที่วางอยู่ตรงนั้นหรอกนะ มันกำลังหาที่อึ๊อยู่ต่างหาก แถมยังมาปล่อยระเบิดไว้ด้านหน้ากล้องวิดีโอซะอีก บางทีมันอาจจะอยากให้ครอบครัวรู้ว่ามันเองก็ทิ้งของขวัญไว้ให้ด้วย     แต่แน่นอนว่าไม่มีใครอยากได้ของแบบนั้นหรอก พอเด็กชายตื่นเช้าลงมาดูวิดีโอที่ถ่ายไว้ นอกจากจะผิดหวังที่ไม่ได้เจอซานต้าแล้ว ยังต้องมาเจอกองระเบิดของเจ้าหมาอีก ช่างเป็นเช้าที่ไม่สดใสเอาซะเลย   อี๋ เจ้าหมาอึ๊ไม่เป็นที่เลย   ส่วนชาวเน็ตที่ได้เห็นวิดีโอบางคนก็ปลอบเขาว่า น่าดีใจนะที่เจ้าหมามันอยากให้ของขวัญกับเขา แต่ไม่มีอย่างอื่นจะให้เท่านั้นเอง บางคนก็คอมเมนต์บอกว่านี่อาจเป็นบทลงโทษสำหรับเด็กที่สอดรู้เรื่องของซานต้าก็ได้ แต่เราว่าเจ้าหมากับซานต้าไม่น่าจะได้เตี๊ยมกันมาก่อนหรอก   https://twitter.com/lntolisa/status/1077434918379159552  …

เจ้าหมาน้อยปลุกคุณแม่ขึ้นมากลางดึกด้วยเสียงเห่า เธอรู้สึกรำคาญมันเพราะต้องการพักผ่อน แต่ก็เป็นโชคดีของเธอที่เธอเอะใจตามไปดูว่ามันเห่าอะไร เธอและครอบครัวจึงมีเวลามากพอให้หนีออกมาได้อย่างปลอดภัย     Angela Fullmer เป็นคุณแม่ลูกเก้าที่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านเต็มตัว โดยลูกของเธอมีตั้งแต่เด็กวัยทารกไปจนถึงเด็กโตวัย 11 ขวบเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังเรียนต่อมหาวิทยาลัยในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพไปด้วย เธอจึงต้องเหนื่อยกับการดูแลลูกและเรียนไปพร้อมๆ กัน     ลูกน้อยทั้ง 9 คนของ Angela   ส่วนสามี Isacc ทำงานเป็นคนขับรถบรรทุกอยู่ไกลบ้านเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว เขาจึงไม่ได้กลับมาบ้านบ่อยนัก แต่เพื่อหาค่าเลี้ยงดูให้ลูกๆ จึงต้องยอมสละเวลาที่ได้อยู่กับลูกไป     Isaac เป็นคนช่วยเจ้าหมาน้อย Capone เอาไว้และพามาเลี้ยงไว้ที่บ้าน โดยเขาเจอมันอยู่ข้างทางด่วนตอนขับรถอยู่ แล้วแวะจอดช่วยมันเพราะเห็นว่าไม่มีใครสนใจมันเลย เขาพาเจ้าน้อยไปอยู่กับครอบครัว เนื่องจากคิดว่ามันน่าจะเป็นเพื่อนกับเด็กๆ ได้ และจะได้ทำให้บรรยากาศในบ้านดูร่าเริงมากขึ้นทั้งสำหรับคุณแม่และลูกๆ ด้วย     ปกติแล้ว Angela จะขับรถไปส่งลูกๆ ไปโรงเรียนในตอนเช้า และกลับมาดูแลลูกที่ยังเล็กอยู่ที่บ้าน จากนั้นก็จะไปรับลูกกลับจากโรงเรียน และก็เรียนทางไกลไปด้วย ส่วนตอนกลางคืนเธอก็ต้องส่งลูกๆ ทั้ง 9 คนเข้านอน กว่าเธอจะส่งลูกเข้านอนได้ครบหมด เธอก็หมดแรงและอยากพักผ่อนเต็มทนแล้ว…

ดูเหมือนว่าสมัยนี้จะไม่ได้มีแค่น้องๆ หนูๆ ที่ชอบเล่นเกมมือถือและแท็บเล็ตซะแล้ว แม้แต่เจ้าแมวเหมียวเองก็ติดแท็บเล็ตไปกับเขาด้วยอีกคน แถมยังเล่นเกมเก่งกว่าทาสซะอีก เพื่อนๆ ยังจำเกม Ninja Fruit กันได้ไหม? มันเป็นเกมมือถือและแท็บเล็ตที่เราต้องฟันผลไม้ให้ได้แต้มมากที่สุด โดยใช้นิ้วประหนึ่งดาบนั่นเอง ช่วงก่อนหน้านี้เกมนี้เคยได้รับความนิยมมากเลยล่ะ และตอนนี้ก็มีเจ้าเหมียวตัวหนึ่งกำลังติดเกมนี้อยู่เช่นกัน แถมมันยังเล่นเก่งไม่เบาเลยด้วย เห็นแล้วก็น่าทึ่งที่มันสามารถเล่นเกมแท็บเล็ตแบบนี้ได้ และก็น่าขำที่มันเล่นจริงจังมากเหลือเกิน     เจ้าแมวที่ว่าก็คือ Mao Mao แมวเหมียวจากประเทศจีน ที่แอบเอาแท็บเล็ตของทาสไปเล่นเกมฟันผลไม้ตอนที่เธอกำลังเผลอ ทาสของมันเล่าว่าเจ้าแมวแอบมองดูเธออยู่ตอนเธอเล่นเกม พอเธอพักเบรกแล้ววางแท็บเล็ตทิ้งไว้บนโต๊ะ กลับมาอีกทีเธอก็เห็นมันกำลังใช้อุ้งเท้าฟันผลไม้แบบแหลกลาญแล้ว     แถมเจ้าเหมียวยังไม่ทำร้ายแท็บเล็ตของเธอด้วย เนื่องจากเธอเห็นแล้วว่าตอน Mao Mao เล่นเกม มันเก็บเล็บเอาไว้และใช้อุ้งเท้าถูจอเฉยๆ เท่านั้น ไม่ได้ทำให้หน้าจอเป็นรอยเลย (แต่เธอก็ติดฟิล์มกันเหนี่ยวเอาไว้แล้ว หายห่วงได้) ที่น่าทึ่งอีกอย่างก็คือทาสของมันยังบอกอีกว่า เจ้าแมว Mao Mao มันเล่นเก่งจนทำคะแนนได้สูงกว่าที่เธอเล่นอีกแน่ะ…ถ้าไม่ใช่ว่าเธอเล่นไม่เก่ง เจ้าเหมียวมันก็คงจะเป็นเซียนเกมจริงๆ นะเนี่ย     เกมและวิดีโอในแท็บเล็ตนั้นสนุกถูกใจทั้งคนและแมวจริงๆ และมันก็ใช้เป็นสื่อบันเทิงทำให้เจ้าเหมียวไม่รู้สึกเบื่อได้ด้วย แต่ก็ลืมหาเวลาเล่นกับมันบ้างล่ะ เพราะการได้สานสัมพันธ์กับเจ้าเหมียวด้วยตัวเอง ดีกว่าการเลี้ยงมันด้วยแท็บเล็ตเยอะเลย แถมมันจะได้รักเรามากขึ้นด้วย     …

แม้ว่าเรื่องราวนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่คนที่เคยได้ฟังเรื่องของแม่แมวผู้กล้าหาญซึ่งช่วยลูกๆ ออกมาจากเหตุไฟไหม้ ก็คงไม่มีทางลืมมันได้ง่ายๆ เมื่อหลายปีก่อนในเหตุไฟไหม้ครั้งหนึ่ง นักดับเพลิงกำลังเร่งรีบเข้าไปควบคุมไฟในที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ไฟไหม้ลุกลามไปกว่าเดิม     ตอนที่พวกเขาไปถึงที่เกิดเหตุแล้วกำลังช่วยดับไฟและอพยพคนนั้น พวกเขาก็ต้องทึ่งเมื่อได้เห็นแม่แมว Scarlett วิ่งเข้าและออกจากกองไฟหลายรอบ พร้อมกับคาบลูกออกมาทีละตัว นักดับเพลิงเห็นเลยว่าแม่แมวเองก็มีแผลตามตัวไม่น้อย ตามตัวของมันบางจุดไม่มีขนเหลือแล้ว อุ้งเท้าและหูของมันก็มีแผลไหม้เช่นกัน แถมมันยังรู้สึกร้อนจนแทบลืมตาไม่ขึ้น     แต่ถึงมันจะเจ็บปวดแค่ไหน แม่แมวก็ไม่หวั่นเกรงไฟที่กำลังลุกโชนอยู่เลย มันยังคงกระโดดเข้าออกกองไฟอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมันคาบลูกออกมาได้ครบ 5 ตัวและมั่นใจว่าลูกปลอดภัย มันถึงล้มตัวลงและสลบไป นักดับเพลิงคนหนึ่งรีบพาพวกมันทั้งครอบครัวไปหาสัตวแพทย์ น่าเสียดายที่มีลูกแมวตัวหนึ่งได้รับแผลไหม้จนตายไป แต่ก็น่าชื่นชมมากเลยที่แม่แมวช่วยลูกแมวที่เหลือเอาไว้ได้     พอเรื่องของเจ้า Scarlett ได้รู้ไปถึงหูชาวเน็ตแล้ว ก็มีแต่คนชื่นชมมันไม่ขาดปากเลย แถมยังมีคนสนใจจะรับเลี้ยงพวกมันมากมายด้วย ทำให้แมวเหมียวทั้งครอบครัวมีมนุษย์ดูแลครบหมดแล้ว และต่อมาในปี 2008 หลังที่แม่แมวได้อยู่กับทาสอย่างมีความสุข มันก็จากโลกนี้ไปตามอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของมัน     อย่างไรก็ตามถึงแม่แมวจะตายจากไปแล้ว ผู้คนก็ยังจำความเสียสละและความรักที่มันมีต่อลูกๆ ได้ขึ้นใจ และในปีต่อมาองค์กร North Shore Animal League ก็ได้มอบรางวัลสัตว์ผู้กล้าหาญให้กับ Scarlett ให้สมกับความดีที่มันเคยทำ   ที่มา:…

ปี 2018 นี้เป็นปีที่อาสาสมัครของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Teckels Animal Sanctuaries พากันยินดีเป็นพิเศษ เนื่องจากเจ้าหมาที่อยู่ที่นั่นมา 8 ปีมีคนพากลับไปอยู่บ้านในปีนี้แล้ว เจ้าหมา Roxy พันธุ์สตัฟฟอร์ดชายร์ได้เข้ามาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ตั้งแต่มันอายุ 2 ขวบ มันเป็นหมาที่ฉลาดมากๆ ไม่ว่าอาสาสมัครจะเอาเกมพิเศษสำหรับหมาแบบไหนมา มันก็แก้ปัญหาได้หมด     พวกเขาหวังว่าหมาแสนรู้แบบมันจะหาบ้านได้ในเวลาไม่นาน ทว่าในความเป็นจริงแล้วไม่มีคนสนใจมันเลย จนกระทั่ง 8 ปีผ่านไปเจ้าหมาก็ยังอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์อยู่ ทว่าพอมาถึงปี 2018 เจ้า Roxy ก็ไปสะดุดตา Leanne Wenban และแฟนหนุ่ม Samm Watkins-Little เข้า พวกเขาจึงอยากลองรู้จักมันมากขึ้น และเริ่มให้โอกาสกับมันดู     เห็นเจ้าหมาแล้วรักเลย   Wenban เล่าว่า “พวกเราเห็นมันบนเว็บไซต์ของ Teckles แล้วก็เห็นว่ามันอยู่ที่นั่นมานานมากๆ แล้ว เราเลยอยากลองดูว่ามันจะเข้ากับเราได้ไหม…เราใช้เวลานาน 6 เดือนเลยทีเดียวกว่าเราจะไว้ใจกันและกัน ตอนแรกที่ได้เจอกันมันเมินเฉยใส่พวกเรา แต่เราก็ไปเที่ยวหามันทุกวันพฤหัสบดีและวันอาทิตย์ เราเริ่มจากนั่งเป็นเพื่อนมันอยู่ในกรง จนกระทั่งมันยอมให้เรากอดเล่นและพามันไปเดินเล่นได้”   ทั้งคู่ไปเยี่ยมเจ้าหมาที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ทุกอาทิตย์   จนเจ้าหมาไว้ใจพวกเขา  …

หากวันนี้คุณยังรู้สึกไม่ตื่นตัว ไม่สดใส ไม่มีพลังในการใช้ชีวิต วันนี้เรามาชาร์ตพลังเพิ่มด้วยการเสพรูปน้องหมาตัวน้อยกันดีกว่า เห็นพวกมันตัวเล็กนิดเดียวแบบนี้ แต่พวกมันมาพร้อมกับความน่ารักแบบไม่มีขีดจำกัด พร้อมเติมพลังให้เพื่อนๆ อารมณ์ดีได้ทั้งวันกันเลยทีเดียว   ผมไม่ได้ใส่หน้ากากอยู่นะงับ แม่แค่สีหมดระหว่างคลอด https://www.instagram.com/p/BgsWJOPgcOz/?utm_source=ig_embed   หลับบนตักเจ้านายมันสบายแท้ https://www.instagram.com/p/BZeDtudlnJA/?utm_source=ig_embed   พ่อดูสิ พี่แกล้งหนูอีกแล้ว   เลี้ยงลูกยังไงให้เชื่องขนาดนี้ ยืนเรียงแถวถ่ายรูปเรียบร้อยมาก   เป็นครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรัก   ไหนพ่อบอกไม่ชอบหมา กลับบ้านมานอนกอดคือไร   ขอเหมาทั้งตะกร้าเลยฮะ https://www.instagram.com/p/BiwZHUzg7TG/   ต้องออกลาดตระเวน แต่ยังวิ่งไม่ทันเพราะตัวเล็ก พี่ตำรวจเลยเอามาเหน็บเอว   พร้อมออกไปเที่ยวกับลูกแล้วจ้า https://www.instagram.com/p/BrqXSI1AdBx/?utm_source=ig_embed   ลูกหมาอะไรตุ้ยนุ้ยจัง โตมาต้องตัวใหญ่มากแน่เลย https://www.instagram.com/p/BrYvHScn-t3/   https://www.instagram.com/p/BhidgO5FJmw/   น้องจะหลับทั้งๆ ที่ใส่แว่นอยู่ไม่ได้นะ https://www.instagram.com/p/BnrmdmYlHrQ/   ยินดีที่รู้จักนะคู่หูตัวน้อย https://www.instagram.com/p/Bru4P4pgEA1/?utm_source=ig_embed   วันที่คุณอาบน้ำให้น้องหมาทีไร ก็จะต้องเจอเรื่องแบบนี้ทุกที https://www.instagram.com/p/BneLxUfAoip/?utm_source=ig_embed   เหตุผลว่าทำไมไม่ให้ลูกออกไปเล่นหิมะ…เดี๋ยวหาไม่เจอ…

บนพื้นน้ำแข็งที่ทั้งเย็นและเปราะบาง ไม่มีใครกล้าเสี่ยงอันตรายเข้าไปช่วยเจ้าหมาเลย ถ้าไม่ได้นักกู้ภัยช่วยมันไว้ เจ้าหมาอาจจหนาวตายก่อนได้กลับขึ้นฝั่งก็ได้ ตอนที่เจ้า Hardy สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์กำลังออกไปเดินเล่นกับ Pat ในเขตนอร์ทัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ เป็นช่วงที่อากาศเย็นมากจนผิวลำธารกลายเป็นแผ่นน้ำแข็ง และระหว่างที่เดินเล่นกันอยู่นั่นเอง เจ้าหมาก็ได้หลุดรอดจากสายตาของ Pat ไป กว่าเขาจะเจอมันอีกทีก็พบว่ามันวิ่งไปกลางแม่น้ำ และตกลงไปในน้ำที่เย็นยะเยือกแล้ว     เจ้าหมาไม่สามารถขึ้นมาเองได้ มันทำได้แค่เกาะอยู่ตรงขอบแผ่นน้ำแข็งเพื่อไม่ให้ตัวเองจมหรือลอยไปทางอื่น ส่วน Miller ก็ไม่กล้าลงไปช่วยเช่นกัน เนื่องจากเขาเองก็กลัวว่าน้ำแข็งจะแตกแล้วตกลงไปอีกคนด้วย เขาจึงรีบติดต่อนักกู้ภัยให้มาช่วย ไม่นานนัก Jaqui Miller ก็มาถึงและรีบตรงเข้าไปช่วยมันทันทีที่ผูกเชือกนิรภัยไว้กับต้นไม้เสร็จ Miller บอกว่าถึงสถานการณ์จะบีบคั้น แต่เขาต้องใจเย็นและเตรียมพร้อมก่อนลงไปช่วยเจ้าหมา เพราะถ้ายังไม่มั่นใจว่าตัวเองปลอดภัย เขาอาจพลาดและต้องให้คนอื่นมาช่วยเขาเพิ่มอีก     ถึงแม้ว่าเขาจะเคยผ่านการช่วยเหลือมาหลายครั้งหลาย แต่การว่ายน้ำเย็นๆ ลงไปช่วยมันก็ต้องใช้ความกล้าและความอดทนมากทีเดียว แต่เขาก็ยอมเสี่ยงเพื่อช่วยมันให้ได้ ในที่สุดหลังจากเขาคลานอย่างระมัดระวังไปถึงตัวมัน และดันตัวมันขึ้นมาจากน้ำได้ เจ้าหมาก็ได้กลับขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย และไปหานักกู้ภัยคนอื่นที่รอดูแลมันต่อบนฝั่งต่อ     ชมคลิปวิดีโอการช่วยเจ้าหมาของนักกู้ภัย    Jacqui เล่าว่า “ถ้าผมไปถึงที่นั่นช้ากว่านั้นสักหน่อย สถานการณ์อาจย่ำแย่มาก เนื่องจากเจ้าหมาเกาะอยู่ตรงนั้นเป็นชั่วโมงแล้ว อุณหภูมิร่างกายของเจ้าหมาคงจะลดต่ำลงจนถึงจุดอันตรายลยทีเดียว ผมดีใจเหลือเกินที่ไปถึงทันเวลา” ส่วน Pat…

หมาแต่ละตัวมีนิสัยเฉพาะของตัวเอง ดังนั้นพวกมันจึงมีสิ่งที่ถนัดแตกต่างกันไป ถ้าจะถามว่าสิ่งที่ถนัดนั้นคืออะไรก็คงตอบไม่ได้ทันทีหรอก แต่สำหรับเจ้าหมาตัวนี้ เรารู้ได้ทันทีเลยว่าการเป็นหมาบริการไม่ใช่ทางของมัน น้องหมาเยอรมันเชพเพิร์ด Ryker เคยได้รับการดูแลจากศูนย์ฝึกสุนัขบริการ Double H Canine Training Academy อย่างไรก็ตามมันมีพลังที่ล้นหลาม และมีนิสัยขี้เล่นเอามากๆ ซึ่งพอเอา 2 ข้อนี้ไปใช้ในการสอบเป็นหมาบริการแล้ว ทำให้มันสอบตกชนิดที่ได้ F รัวๆ กันเลยทีเดียว ส่วนจะสอบตกยังไงนั้นไปลองดูกัน     การฝึกอย่างแรกของเจ้า Ryker คือการไปคาบขวดน้ำที่อยู่ไกลมาให้เจ้านาย ซึ่งเจ้าหมาก็แสนรู้พอที่จะไปคาบขวดน้ำมาได้อย่างรวดเร็ว ถือว่าน่าชื่นชมเลย ทว่าถึงมันจะเอาขวดน้ำมาได้ก็ตาม แต่ขวดน้ำที่มันคาบกลับมานั้นไม่มีน้ำเหลืออยู่เลย เนื่องจากมันกัดขวดน้ำแรงเกินไปจนขวดรั่ว ทำให้น้ำไหลออกจากขวดไปหมดแล้วระหว่างที่มันวิ่งกลับมาหาเจ้าของ     เก๊าแรงเยอะไปหน่อย ขวดแตกเลย   ต่อมาคือการฝึกให้มันเดินคู่กับคนที่ต้องใช้ของจำพวกไม้เท้าในการช่วยเดิน ตอนอยู่เฉยๆ กับเจ้าของมันก็เรียบร้อยดีอยู่หรอก แต่พอลองเดินไปข้างหน้าปั๊บ เจ้าหมาก็คิดว่าเจ้าของเล่นด้วย วิ่งไล่งับไม้เท้าจนเจ้าของไม่ได้ใช้เลย     การทดสอบอีกอย่างหนึ่งก็คือลองเปิดตู้เย็นเพื่อช่วยหยิบของให้เจ้าของ แน่นอนว่าข้อนี้ดูง่ายมากๆ เนื่องจากตู้เย็นมีเชือกที่ให้มันใช้ดึงผูกติดไว้อยู่แล้ว แต่ Ryker ก็ทำได้ดีจนเกินไปอีกเช่นเคย เนื่องจากมันออกแรงทั้งหมดในการดึง แทนที่จะทำให้ฝาตู้เย็นเปิดออกอย่างเดียว ก็เลยกลายเป็นว่ามันลากตู้เย็นไปกับมันด้วยซะงั้น    …

ตอนนี้ก็ใกล้ถึงช่วงสิ้นปี 2018 แล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายคนตั้งตารอคอยก็คือการได้รับของขวัญจากพื่อน แฟน หรือครอบครัวนั่นเอง สำหรับมนุษย์อย่างเรา คงจะดีใจถ้าได้รับของที่มีมูลค่ามากอย่างคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ แต่สำหรับเจ้าหมาแล้ว ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับมันในปีนี้ก็คือเพื่อนใหม่ตัวน้อยที่จะคอยอยู่เคียงข้าง     เจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ Minnie จากรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาป่วยเป็นโรควิตกกังวล มันจึงหวาดกลัวง่ายและไม่มีความมั่นใจเลย Nicolette Hall หญิงซึ่งเป็นเจ้าของของมันเล่าว่า มันขี้กังวลและกลัวสิ่งรอบตัวอย่างแรง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันขาดความมั่นใจและไม่มีเพื่อนมากนัก ในวันคริสต์มาสปีนี้ เธอจึงวางแผนจะหาเพื่อนหมาน้อยตัวใหม่มาเป็นของขวัญให้กับมัน ซึ่งดูแล้วมันชอบใจที่ได้มีน้องใหม่มากเลยทีเดียว   นี่มันลูกหมานี่นา   ตอนที่เธอกำลังจะพา Minnie ไปเจอเจ้า Parker ซึ่งเป็นน้องใหม่ของมัน เจ้าหมาดูตื่นเต้นตั้งแต่ได้กลิ่นน้องซึ่งอยู่ในกล่องแล้ว พอเธอเปิดกล่องให้น้องออกมาเจอหน้ามัน เจ้าหมาถึงกับเก็บอาหารตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ มันส่ายหางไปมาเร็วมาก และวิ่งวนด้วยความตื่นเต้นจนเราเห็นแล้วต้องยิ้มเชียวล่ะ   พามาเป็นเพื่อนใหม่ให้ผมเหรอ? ขอบคุณนะเจ้านาย!!   ดีใจจังเลยมีเพื่อนแล้ว   ส่วนเจ้า Parker เองก็ดูดีใจเหมือนกับที่ได้เจอกับ Minnie และได้มีบ้านใหม่ด้วย พอออกมาจากกล่องพี่หมาก็เข้าไปเล่นกับน้องหมาไม่ยอมหยุดเลย Nicolette หวังว่าการมีน้องใหม่อยู่ด้วย จะทำให้ Lola มีความมั่นใจมากขึ้น และกล้าเผชิญสิ่งใหม่ๆ…

คนเราทุกคนล้วนมีชีวิตหลายด้าน เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเราอาจจะเป็นคนขี้อาย แต่ถ้าได้อยู่กับครอบครัวอาจจะพูดมากก็ได้ เพราะบรรยากาศที่ต่างกันไป เราก็เลยทำตัวต่างกัน สัตว์เลี้ยงเองก็ด้วย คุณคงเคยเห็นพวกมันเวลามันอยู่กับคุณเท่านั้น คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นเด็กดีตลอดเวลาเหมือนตอนอยู่กับคุณ แต่คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าตอนคุณไม่อยู่พวกมันทำอะไรบ้าง ลองมาดูภาพจากเจ้าของที่บังเอิญเจอชีวิตลับๆ ของพวกสัตว์เลี้ยงที่คิดว่าเจ้านายไม่เห็นกันบ้างดีกว่า มันจะฮาและแซบซ่าขนาดไหนไปชมกันเลย   นี่พวกแกแอบประชุมแผนลับอะไรกันอีกล่ะ   นึกว่าเป็นเด็กเรียบร้อยไม่เที่ยว ที่แท้มีเพื่อนมาหาถึงบ้าน   นี่ไม่ใช่ที่นอนนะเจ้าเหมียว   ปลดปล่อยความเป็นนักดนตรีในตัวคุณ   ทาสก็เทน้ำใส่ถ้วยไว้ให้แล้ว ทำไมต้องมาต่อคิวกินน้ำกันตรงนี้??   แหม ทีตอนจับอาบน้ำทำไม่ชอบ พอทาสไม่อยู่มาว่ายเล่นเฉย   นึกว่าจะช่วยเฝ้าบ้านให้ ที่ไหนได้ ชิลเกิ๊น   ไม่ทำบ้านรกสักวันไม่ได้เหรอ…   ไม่ได้มองแป๊บเดียว แอบไปไล่กวางจนโดนคุณตำรวจจับเลย   เห้ย แกเปิดฝากล่องขนมกินเองได้ไง!?   มีแมวบางตัวแอบเข้าครัวตอนฉันเผลอ   เจ้านกแก้วชอบสั่งของจาก Amazon ตอนเจ้านายไม่อยู่ห้อง   ถ้าฉันมาเห็นช้ากว่านี้ อาจมีแมวตายก็ได้   เจ้านายไม่อยู่ ขอสิงโซฟาเลยละกัน   เห็นปกติชอบทำท่าหยิ่งๆ ตอนอยู่ตัวเดียวทำไมดูเครียดกับชีวิตจัง…