เจ้าอัลปาก้าขนปุย นอกจากจะดูนุ่มนิ่มใจดีแล้ว ยังมีความสามารถในการบำบัดสูงด้วย!?

สัตว์บำบัดซึ่งใช้ในการดูแลและเยียวยาผู้ป่วย มีอยู่มากมายหลายชนิด บางตัวก็เป็นสุนัข บางตัวก็เป็นแมว หรือถ้าแปลกๆ หน่อยเป็นกระต่ายหรือหมูก็ยังมี…แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ยินว่ามีอัลปาก้าเป็นสัตว์บำบัดด้วย!?

ใช่แล้วคุณไม่ได้คาฝาดหรอก เรากำลังบอกคุณว่ามีอัลปาก้าเป็นสัตว์นักบำบัดจริงๆ โดยพวกมันเป็นอัลปาก้าของ Jo Bridge หญิงสาวซึ่งเปิดฟาร์มอัลปาก้าอยู่ในย่าน Wattisham ประเทศอังกฤษ

เธอเริ่มต้นเลี้ยงอัลปาก้าเพียง 5 ตัวในปี 2012 หลังจากซื้อพวกมันมาด้วยใจรัก จนปัจจุบันเธอก็ทำฟาร์มที่มีอัลปาก้ามากกว่า 60 ตัวแล้ว

 

 

ส่วนมากเธอจะขายอัลปาก้าเพื่อให้คนเอาไปตัดขน หรือในบางกรณีก็เอาไว้ปกป้องไก่จากสุนัขจิ้งจอก มีบางคนที่ซื้อพวกมันไปเล็มหญ้าในบ้านให้สั้นอยู่ตลอดด้วย…และบางครั้งเธอก็เปิดให้คนมาเยี่ยมชมภายในฟาร์ม

ตอนแรกเธอคิดว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่เป็นมิตรและน่ารัก ไม่ได้คิดว่าจะให้พวกมันเป็นสัตว์นักบำบัดเลย จนกระทั่งเธอได้เจอกับครอบครัวหนึ่งที่มาเยี่ยมชมฟาร์ม ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหญิงชราที่เก็บตัวอยู่ด้วย

 

 

เธอเล่าว่า “คนที่มาบอกเราว่ามีหญิงคนหนึ่งที่ไม่ค่อยพูดนัก และอาจจะไม่ยอมลงจากรถมาชมฟาร์มเลย แต่พอมาถึงคนดูแลของหญิงคนนั้นหลั่งน้ำตาด้วยความดีใจใหญ่เลย เนื่องจากเธอทั้งเดินเล่นกับอัลปาก้าอย่างมีความสุข และพูดคุยกับทุกคนตลอดเวลาแบบที่ไม่เคยเป็นด้วย”

จากนั้น Bridge จึงเริ่มให้ความสนใจพวกมันในฐาน สัตว์บำบัด และทดลองเอามันไปเยี่ยมคนป่วยโรคความจำเสื่อมในศูนย์และบ้านพักคนชราต่างๆ ดู…ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขามีความสุขมากๆ เช่นกัน

 

 

Clair Perks ซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรมของบ้านพักคนชรา Hadleigh Nursing Home เล่าว่า “Alfred Wright ซึ่งพักกับเรานั้นปกติไม่ค่อยแสดงอารมณ์เลย

แต่เมื่อเจออัลปาก้าครั้งแรกเขาก็นั่งหลังตรงแล้วบอกว่า ‘ที่รัก เธอทำให้ช่วงเย็นของฉันสดใสขึ้นทันทีเลย’…มันช่วยทำให้ผู้ป่วยความจำเสื่อมรู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ “

 

ภาพประกอบ

 

ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าอัลปาก้าจะทำให้ผู้ป่วยและคนชราสบายใจได้มากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะความน่ารักของพวกมันมีมากจนมนุษย์ทุกคนลืมความเศร้าที่มีอยู่

ถ้า Bridge ลองให้อัลปาก้าเป็นสัตว์บำบัดไปเรื่อยๆ และเกิดเป็นที่นิยมขึ้นมา…อีกหน่อยเราอาจจะเห็นอัลปาก้าเป็นสัตว์บำบัดทั่วไปก็ได้นะ

 

ที่มา: Lad Bible, Kingsley Healthcare


Tags:

Comments

Leave a Reply