Category: News Update

ความสัมพันธ์ของ LGBTQI หรือกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ กำลังเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ ซึ่งมีประชาชนส่วนที่สนับสนุน และบางส่วนคัดค้านความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2019 ที่ผ่านมา ศาลสูงสุดประเทศเคนย่าได้มีมติว่า ‘การรักร่วมเพศ’ ยังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมายและมีโทษจำคุกสูงถึง 14 ปี     หลังจากกฎหมายดังกล่าวได้มีการบังคับใช้มาตั้งแต่ประเทศเคนยาตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปลายศตวรรษที่ 19 เหล่านักรณรงค์ LGBTQI ได้มีการยื่นคำร้องให้แก้ไขกฎหมายอยู่หลายครั้ง โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายห้ามไม่ให้มีความสัมพันธ์ระหว่างคนเพศเดียวกันขัดกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งรับประกันความเสมอภาค ศักดิ์ศรีและความเป็นส่วนตัว แต่ศาลได้ปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าว     จากข้อมูลพบว่ากว่า 33 ประเทศจาก 55 ประเทศในทวีปแอฟริกา ความสัมพันธ์แบบชายรักชายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ในประเทศโซมาเลียและซูดานได้มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต ในขณะที่ประเทศไนจีเรียมีโทษจำคุก 14 ปี และในประเทศแทนซาเนียมีโทษจำคุกสูงถึง 30 ปี     Uhuru Kenyatta ประธานาธิบดี เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN เมื่อปีที่แล้วว่า “ประเด็นเรื่อง LGBTQI ยังเป็นสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับประเทศนี้” “ผมจะไม่ปฏิเสธว่า ชาวเคนยาบางคนเชื่อว่า…

ปัจจุบัน Webtoon หรือหนังสือการ์ตูนรูปแบบดิจิตอล ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนหันมารับชมสื่อต่างๆ ตามช่องทางออนไลน์มากขึ้น นอกจากความสะดวกสบายในการอ่านการ์ตูนออนไลน์บน PC และมือถือแล้ว รูปแบบการจัดวางของ Webtoon ยังอ่านง่าย แถมมีสีสันสดใสดึงดูดในคนอ่านอีกด้วย ในช่วงหลายปีมานี้ Webtoon จากนักวาดการ์ตูนชาวเกาหลีได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดีในหลายประเทศ เว็บไซต์ Soompi ได้รวบรวมการ์ตูน 7 เรื่อง หลากหลายแนวที่เปิดให้อ่านฟรีในแพลตฟอร์ม LINE WEBTOON จะมีเรื่องไหนน่าติดตามบ้างนั้นตามเรามาชมกันเลย Super Secret เรื่องราว ‘ความลับ’ ของหนุ่มข้างบ้านที่เป็นมนุษย์หมาป่า แอบชอบเพื่อนในวัยเด็กของตัวเองแต่ต้องปิดบังความจริงไว้ Save Me การ์ตูนเรื่องดังที่ใช้คาแรคเตอร์ของวงไอดอลชื่อดัง BTS มาเป็นตัวดำเนินเรื่องราวมิตรภาพของเด็กผู้ชาย 7 คน Sweet Home การ์ตูนแนวระทึกขวัญ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละครที่มีปัญหาในการเข้าสังคม กักขังตัวเองจากโลกภายนอก หลังจากการสูญเสียครอบครัวทั้งหมดของเขาไปในอุบัติเหตุ A Good Day To Be A Dog เรื่องราวความของผู้หญิงที่ต้องคำสาปต้องกลายเป็นลูกหมาทุกคืน หลังจากเผลอจูบกับเพื่อนร่วมงานหนุ่มสุดฮอตตอนเมา ทางเดียวที่จะแก้คำสาปนี้ได้คือทำให้เขาจูบเธออีกครั้งตอนอยู่ในร่างของน้องหมา Odd Girl…

มาพบกันอีกครั้งกับเหล่าเจ้าหมาจอมป่วน ผู้คอยสร้างสีสันให้เจ้าของไม่เว้นวันด้วยความซนแบบไม่เหมือนใครของพวกมัน ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปดูว่าเจ้าหมามีวีรกรรมเด็ดๆ อะไรกันบ้าง บางตัวก็ดูแสบ บางตัวก็ดูน่ารัก แต่รับรองว่าเพื่อนๆ ต้องรักพวกมันหมดทุกตัว   เจ้าตูบสุดแสบ อยากให้สนใจทีไรจะทำท่างับของไว้ แล้วส่งสายตามาขู่ว่า ‘ถ้าไม่เล่นด้วยจะพังละนะ!!’ When my dog wants attention he gently bites a piece of furniture, holds perfectly still, and makes aggressive eye contact. It’s pretty weird and very funny. Also it works. pic.twitter.com/ktS1tW0U26 — Amanda Grigg (@grigg) March 10, 2019   พี่ชายของฉันเพิ่งได้ชุดปิกาจูมาใหม่ แต่พอใส่เท่านั้นแหละ เจ้าหมาพุ่งใส่เขาทันทีเลย เพราะมันจำเขาไม่ได้…

สื่อจากประเทศจีนรายงาน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา มีการประกาศลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับโรงงานในประเทศจีน จาก 16% เหลือ 13% ซึ่งการประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 เมษายน 2562 ที่จะถึงนี้ การประกาศลด VAT ในครั้งนี้จะส่งผลให้รถหรูในประเทศจีนหลายค่าย ทั้ง BMW, Mercedes-Benz, Volvo และ Jaguar Land Rover มีการปรับลดราคา ทำให้รถบางรุ่นราคาถูกลงมากถึงเกือบ 300,000 บาท!!     สำนักข่าว Gasgoo ได้ทำชาร์ตสรุปราคารถหรูที่ปรับลดราคาในครั้งนี้ ซึ่ง #เหมียวเวจจี้ ได้เลือกมา 4 ค่าย โดยแต่ละค่ายการปรับลดราคาดังนี้… (***คำนวณราคาในอัตรา 1 หยวน=5 บาท)     Mercedes-Benz ตามรายงานเผยว่าค่ายรถจากเยอรมนีรายนี้ได้ประกาศลดราคารถยนต์ในหลายรุ่นเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา อย่างรถในตระกูล AMG บางรุ่นมีการปรับลดราคาลงมากถึง 64,000 หยวน…

เจ้าหมา Meatloaf ถูกช่วยไว้โดยศูนย์พักพิงสัตว์  Rescue Animals In Need หลังจากมันถูกรถชนเข้า แล้วคนที่ชนมันติดต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ให้พาตัวมันไปรักษา จากประสบการณ์ช่วยเหลือสัตว์ที่มี อาสาสมัครมองก็รู้เลยว่าเจ้าหมาไม่ได้อยู่ในสภาพนี้เพราะถูกรถชนเพียงอย่างเดียว มันต้องใช้ชีวิตรอดตามลำพังอย่างยากลำบากมานานแล้ว     Meatloaf เป็นเรื้อนและมีอาการติดเชื้อทั่วทั้งตัว ทั้งที่ผิวหนังและด้านในหู น้ำหนักตัวของมันก็น้อยกว่าที่ควรจะเป็นมากด้วย มันดูหวาดกลัวทุกสิ่งที่ได้เจอ แต่อย่างน้อยอาสาสมัครก็เห็นมันกระดิกหางด้วยความดีใจเมื่อได้เจอพวกเขา แม้ว่าอีกใจหนึ่งมันจะยังไม่ไว้ใจพวกเขามากนักก็ตาม     เจ้าหมาได้รับการรักษาเบื้องต้น แล้วถูกส่งไปอยู่ในบ้านอุปถัมภ์เพื่อรักษาโรคที่มีต่อ และเพื่อช่วยให้มันคุ้นเคยกับคนมากขึ้นด้วย ไม่นานนักอาการของมันก็ดีขึ้นมาก ถึงมันจะยังมีท่าทีกล้าๆ กลัวๆ อยู่แต่พวกเขาก็คิดว่ามันพร้อมจะหาบ้านใหม่แล้ว อย่างไรก็ตามคนแม่อุปถัมภ์ของมันก็ไม่มั่นใจคนที่มาขอรับเลี้ยงพวกมันเลย จนกระทั่งได้เจอกับ Brittney Strugala     เมื่อเดือนที่แล้ว Strugala หาหมาให้เพื่อนของเธอ แล้วเจอกับรูปของ Meatloaf เข้า เธอไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรมาดลใจ แต่เธอรู้สึกแน่ใจว่าอยากเลี้ยงมันเอง แต่เธอก็ไม่สามารถรับเลี้ยงมันได้ เนื่องจากอพาร์ตเม้นต์ของเธอให้เลี้ยงสุนัขได้แค่ตัวเดียว แล้วเธอก็มีเจ้าพิตบูลล์ Sky อยู่แล้ว ในเดือนถัดมาพอเธอมีโอกาสได้ย้ายมาอพาร์ตเม้นต์ซึ่งให้เลี้ยงสุนัข 2 ตัวได้ เธอจึงรีบเข้ามาขอรับเลี้ยงเจ้า Meatloaf แล้วมันก็ได้มาอยู่บ้านกับเธอ   มาอยู่ในบ้านใหม่แล้วคร้าบ   ตอนที่มาอยู่ในบ้านใหม่แผลบนร่างกายของ Meatloaf…

เอ็มม่าวัย 38 ปี ว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในเดือนสิงหาคม 2019 ได้สูญเสียคุณแม่ของเธอไปเมื่อปี 2017 ด้วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งตรวจพบหลังจากเอ็มม่าหมั้นกับแฟนหนุ่ม ริชาร์ด เพียงเดือนเดียว ทีแรกทุกคนต่างก็คิดว่าแม่ของเธอคงอยู่ถึงกำหนดการแต่งงาน แต่น่าเสียดายที่มันไม่เป็นไปตามคาด เอ็มม่าให้สัมภาษณ์กับทาง BBC ว่า “มันเป็นเรื่องยากที่ต้องจัดการทุกอย่างโดยไม่มีแม่อยู่ด้วย ฉันเสียน้ำตาไปเยอะมากจริงๆ” แต่แล้วเมื่อไม่นานมานี้เธอก็ได้รับพัสดุจากไปรษณีย์ มันเป็นรองเท้าที่เธอสั่งทำไว้ ซึ่งเธอก็ได้พบความจริงว่าแม่ของเธอเป็นคนจ่ายเงินค่ารองเท้าคู่นี้ที่เธอจะใส่ในวันแต่งงาน     ไม่เพียงเท่านั้นเธอยังได้พบตัวหนังสืออยู่ใต้รองเท้า ซึ่งเธอไม่ต้องคิดสงสัยเลยว่านั่นเป็นข้อความจากใคร…ข้อความลับนั้นมีใจความว่า “แม่อยากให้ลูกได้รับของขวัญวันแต่งงานจากแม่ รองเท้าคู่นี้เป็นของขวัญจากแม่ให้ลูกนะ แม่ขอให้มันเป็นวันที่แสนวิเศษของลูก ด้วยรักมากมายและอ้อมกอดแน่นๆ จากแม่ รักลูกจ้ะ”     เอ็มม่ากล่าวถึงข้อความนั้นว่า “ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยค่ะ แต่คู่หมั้นฉันเขารู้อยู่แล้ว มันทำให้ฉันตกใจมากๆ ฉันดึงรองเท้ามาดูข้างหนึ่งแล้วเห็นข้อความบางส่วนอยู่ใต้รองเท้า ฉันไม่ต้องคิดเลยว่ามันคือข้อความจากใคร จากนั้นฉันก็เริ่มร้องไห้…ฉันรู้สึกเศร้ามากๆ จนหายใจไม่ออก พูดอะไรไม่ออก” แม่ของเธอได้ใช้เวลา 1-2 ปีหลังพบโรคมะเร็งเขียนจดหมายถึงญาติพี่น้องและคนในครอบครัว และในระหว่างที่เขียนข้อความถึงลูกสาวของตนเอง เวลาของเธอก็ใกล้หมดลงแล้ว… ดังนั้นรองเท้าคู่นี้จึงเป็นอะไรที่พิเศษต่อเอ็มม่ามากๆ รวมทั้งอแมนด้า เจ้าของร้านทำรองเท้าตามสั่งออนไลน์ด้วย เธอบอกว่ามันเป็นอะไรที่ดีมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ “ของขวัญ” ชิ้นนี้   Shoes…

กลายเป็นกระแสดราม่าบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กธนาภัทร บุญแสง ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณย่านสาทร พร้อมข้อความระบุว่าเป็นเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทย์กันระหว่างคนวินมอเตอร์ไซค์ และคนขับ Grab Bike     “วินมอเตอร์ไซค์แถวสาทร ทำนักเลงรุมแกร็บ” ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก โดยภายในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นจังหวะที่ชาย 2 คนที่สวมเสื้อวินกำลังรุมทำร้ายชายคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่ที่พื้น     เจ้าของคลิปวิดีโอได้ให้สัมภาษณ์กับทางเราว่า ตนได้เห็นคนขับวินทั้ง 2 คนขับตาม Grab bike มาก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะยืนคุยกัน และจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุลแบบที่เห็นในคลิปวิดีโอ ซึ่งทางเจ้าของคลิปยังบอกอีกว่าวินมอเตอร์ไซค์มีท่อนเหล็กมาด้วย แต่อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็แยกจากกันไป   คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เริ่มต้น วินขี่มอไซค์ตามมา2คนและก็จอดคุยกัน ผมเห็นอีกทีก็ชุลมุลแบบในคลิปแล้ว ผมถ่ายไว้ได้หน่อยเดียวเพราะรถคันหลังบีปแตรไล่ วินมีท่อนเหล็กมาด้วย แต่ก็แยกออกต่างคนต่างไปเพราะแกร็บก็อาละวาดไม่ยอม วินก็เลยถอยๆ ครับ” เจ้าของคลิปวิดีโอให้สัมภาษณ์กับเรา     คลิปวิดีดังกล่าวถูกแชร์ต่อมากกว่า 1,400 ครั้ง และมีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้ตำหนิการกระทำของวินมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการกับผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 2 ฝ่ายอย่างไร     ที่มา ธนาภัทร บุญแสง

เราคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า “ผู้ชายคือช้างเท้าหน้าและผู้หญิงคือช้างเท้าหลัง” แต่ในปัจจุบันนี้ความเชื่อดังกล่าวก็เปลี่ยนแปลงไป เพราะบทบาทของผู้หญิงมีมากขึ้น ก็กลายเป็นว่าผู้หญิงกลายเป็นผู้นำของครอบครัวไปเสียอย่างนั้นและพ่อบ้านอย่างเราๆ ก็ถูกใช้งานต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นงานบ้านต่างๆ แถมยังได้ค่าขนมที่แสนน้อยนิด (TT) ทีนี้เมื่อพ่อบ้านคนหนึ่งได้รับของขวัญสุดพิเศษจากคุณภรรยาที่นานน๊านจะได้รับสักที ก็เลยอดไม่ได้ที่จะมาโพสต์อวดลงในโซเชียลมีเดียให้พ่อบ้านคนอื่นๆ อิจฉาเล่นๆ   https://twitter.com/chanhanaaaaaa/status/1102528970027786240?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1102528970027786240&ref_url=https%3A%2F%2Fnextshark.com%2Fjapanese-mom-thanks-hardworking-husband-180-day-off%2F   วันที่ 4 มีนาคม 2019 ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @chanhanaaaaa ได้โพสต์ภาพอวดของขวัญจากภรรยาสุดที่รักที่ตอบแทนที่เขาอดทนพยายามทำงานอย่างหนักมาก่อนหน้านี้ “ผมขอขอบคุณภรรยาของผมมากที่ให้วันพักผ่อนกับผม” เขาโพสต์แคปชั่นคู่กับรูปของรางวัลที่เป็นเงินจำนวน 20,000 เยน (5,700 บาท) พร้อมกับโน๊ตสั้นๆ ใบหนึ่งที่อยู่ข้างๆ     โดยในโน๊ตดังกล่าวเขียนข้อความเอาไว้ว่า “ของขวัญสำหรับคุณ: วันพักผ่อนหนึ่งวัน – จะใช้วันไหนก็ได้ แต่บอกให้ฉันรู้ด้วยว่าคุณเลือกวันไหน – คุณสามารถใช้เงินนี้ไปกับสิ่งที่คุณต้องการ (ไม่ว่าจะเป็นการเล่นปาจิงโกะ, ไปออนเซ็น, เอาไปซื้อของกิน, ออกไปสังสรรค์หรืออื่นๆ) – กลับบ้านตอนไหนก็ได้ที่คุณอยากกลับ (แต่อย่ากลับดึกเกินไป) – ในวันนั้น เมื่อคุณอยู่บ้าน คุณไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ นี่คือของขวัญสำหรับคุณที่กลายเป็นพ่อคุณที่ทำงานหนักอยู่เสมอในทุกๆ วัน ขอบคุณมากๆ”   เจ้าของโพสต์…

ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ ผู้คนหันไปอ่านบทความทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ร้านหนังสืออิสระหลายร้านได้ทยอยปิดตัวลงไปอย่างน่าใจหาย ที่เมือง Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส ยังมีร้านหนังสือเล็กที่ชื่อว่า Librairie Mollat ที่เหล่าพนักงานเกิดไอเดียที่จะปลุกกระแสให้ลูกค้าแวะมาที่ร้านมากขึ้น โดยจัดกิจกรรมที่ชื่อว่า ‘Book Face’      กิจกรรมดังกล่าวเป็นการถ่ายรูปโดยใช้หนังสือบังส่วนหนึ่งของหน้า แล้วโพสท่าให้กลมกลืนไปภาพที่ปรากฏบนปกหนังสือนั้น เพื่อให้เกิดความสมจริงมากที่สุด ภาพกิจกรรมของร้านหนังสือแห่งนี้ได้กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์ โปรโมทให้ลูกค้าใหม่ๆ รู้จักและเดินทางมาอุดหนุนที่ร้านเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอินสตาแกรมของทางร้านมีคนติดตามสูงถึง 80,000 คนแล้ว ลองไปชมภาพกิจกรรมบางส่วนพร้อมๆ กันเลย…   เป๊ะขนาดนี้เลยนะ .   เนียนเกินไปแล้ววว   มุมไหนก็ไม่หวั่น .   ทรงผมเดียวกันเป๊ะ! .   มนุษย์หมาป่าโผล่มาอยู่ตรงนี้ได้ไง!? .   คูลสุดๆ ไปเลย .   รูปนี้ก็พอไหว .   หนังสือมีชีวิต .   ถักผมมาจากบ้านเพื่องานนี้ ฮ่าๆ   เด็กน้อยขอเล่นด้วยคน   ส่งท้ายด้วยรูปนี้  …

#เหมียวเวจจี้ เชื่อแน่ว่าถ้าหากเพื่อนๆ ได้เห็นคอนเซปต์ล้อรถยนต์สุดล้ำจากทาง Goodyear ที่เรานำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในครั้งนี้ คิดว่าหลายคนคงจะนึกถึงหนังไซไฟสัก หรือการ์ตูนสักเรื่องแน่ๆ เพราะคอนเซปต์การออกแบบล้อรถยนต์ที่ว่าสามารถใช้ได้ทั้งการสัญจรทางถนน และบนอากาศยังไงล่ะ!!     คอนเซปต์ล้อจาก Goodyear นี้จะถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ยานพาหนะแห่งโลกอนาคต ที่อาจจะต้องเคลื่อนที่ทั้งบนถนนและในอากาศ โดยล้อสุดล้ำนี้จะมาพร้อมกับยางรถ ซึ่งจะมีคุณสมบัติเด่นๆ ดังต่อไปนี้     -เป็นยางแบบไม่ใช้ลมที่มีความยืดหยุ่นมากพอ และรองรับแรงกระแทกบนพื้นถนนได้ดี -วงล้อมีน้ำหนักเบา และรองรับน้ำหนักยานพาหนะได้ แถมยังมีใบพัดสำหรับใช้เคลื่อนที่ในอากาศด้วย   .   -ตัวล้อจะใช้พลังแม่เหล็กในการยึดจับกับเพลารถ และการขับเคลื่อน -มีเซนเซอร์ตรวจจับความสึกหรอของยาง และแสดงออกมาเป็นเฉดสี -มีเซนเซอร์ที่ยางคอยเก็บข้อมูล และใช้ระบบ AI ในการประมวลผลว่า สภาพถนนที่รถกำลังวิ่งอยู่นั้นเหมาะสำหรับการวิ่งบนถนน หรือการบินมากกว่ากัน     ลองไปชมภาพการทำงานของคอนเซปต์ล้อสุดล้ำนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างเลย…    ที่มา carmagazine

หากพูดถึงมวยปล้ำ WWE คนไทยน่าจะคุ้นเคยกับ ‘น้าติงฮาร์ดคอ’ นักพากย์ที่พากย์มวยปล้ำได้สะเด่าที่สุดจนกลายเป็นความทรงจำอันแสนสนุกของใครหลายๆ คน แต่หากพูดถึงนักพากย์ในเวอร์ชันต้นฉบับที่นั่งพากย์ติดขอบสนาม Jim Ross น่าจะเป็นชื่อที่แฟนๆ มวยปล้ำต่างก็คุ้นหู แต่ปัจจุบันเจ้าตัวกำลังจะสิ้นสุดบทบาทหลังจากพากย์ให้กับ WWE มา 26 ปี      นักพากย์วัย 67 ปี เผยว่าสัญญาของเขาจะสิ้นสุดกับ WWE ในวันที่ 28 มี.ค. 19 เนื่องจากตกลง ‘ร่วมกัน’ กับ Vince McMahon ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ WWE แล้ว “หลังได้คุยกับ Vince พวกเราก็ได้ข้อตกลงร่วมกัน ผมต้องก้าวต่อไป ที่จริงผมยังอยากทำหน้าที่นี้ ผมยังคิดว่าผมยังพากย์ได้ ถึงแม้คนรอบตัว Vince จะไม่คิดแบบนั้น”     แม้ Ross จะไม่ปฏิเสธว่าเขาผิดหวังที่เสียงานไป แต่เขาก็ไม่พูดอะไรเสียหายต่ออดีตเจ้านาย “Vince เป็นคนที่ยอดเยี่ยม เขาทำให้พวกเรามีรายได้มากขึ้น…

สุนัขก็เป็นสัตว์สังคมเหมือนกับมนุษย์ เวลาที่เพื่อนเดือดร้อนเพื่อนอีกคนก็พร้อมจะยื่นมือเข้าไปช่วย อย่างที่พี่หมาตัวนี้กำลังมอบความช่วยเหลือให้เพื่อนตัวน้อย เมื่อไม่นานมานี้ John Mace จากเมืองดูรันโก รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่งเจอกับหิมะตกหนัก ซึ่งทำให้แถวบ้านของเขามีหิมะขึ้นหนามากเป็นพิเศษ ส่งผลให้หมาตัวน้อยของเพื่อนบ้านที่กำลังจะมาทักทายสุนัขของเขาอย่างที่ทำประจำ ติดอยู่กลางทางเนื่องจากลุยหิมะที่หนาไม่ไหว ตอนที่เขามองออกไปหามัน เขาเห็นเพียงแค่หูกับกับตาของมันโผล่พ้นหิมะขึ้นมาเท่านั้น     เมื่อเห็นว่าเจ้าหมาน้อยติดหิมะอยู่ John จึงบอกให้เจ้า Kona หมาของเขาวิ่งเข้าไปช่วยมัน เพราะเจ้า Kona ตัวใหญ่กว่า สามารถเดินลุยหิมะระดับนี้ไปได้สบาย มันใช้เวลาไม่นานก็เดินเข้าไปถึงตัวเพื่อนรักแล้ว ตอนที่พวกมันได้เจอหน้ากัน ทั้งคู่ส่ายหางด้วยความดีใจกันแบบไม่มีกั๊กเลย     จากนั้นเจ้า Kona จึงเดินลุยนำทางเข้ามาที่บ้านก่อน เพื่อเปิดทางให้เพื่อนหมาตัวเล็ก พอมีคนทำทางไว้ให้ก่อนเจ้าหมาน้อยก็ไม่ต้องลุยหิมะเอง ใช้เวลาไม่นานเจ้าหมาทั้ง 2 ตัวก็เดินมาถึงในเขตบ้านของ John ทีนี้พวกมันก็สามารถเล่นด้วยกันในบ้านได้โดยไม่มีหิมะมาขวางกั้นแล้ว   ตามเรามานะเพื่อน   เย้ถึงบ้านแล้ว   ได้เห็น Kona กับเพื่อนช่วยเหลือกันแบบนี้แล้ว ก็ช่วยทำให้เรารู้สึกอบอุ่นข้างในหัวใจขึ้นมากเลยทีเดียว เพื่อนก็ต้องยื่นมือเข้าช่วยในเวลาที่เราผ่านอุปสรรคไปเองไม่ได้แบบนี้แหละเนอะ   คลิปวิดีโอฉบับเต็ม    ที่มา: John Mace, Inspire…

ถ้าหากลองให้เพื่อนๆ จินตนาการว่ารถยนต์ของพวกเรานั้น ดูคล้ายกับชนิดไหนบนโลกใบนี้ เชื่อแน่ว่าหลายคนก็คงจะจินตนาการได้หลากหลายชนิดแตกต่างกันออกไป แต่ทว่า Frédéric Müller ศิลปินชาวสวิสเซอร์แลนด์รายนี้ กลับทำให้ภาพที่เรานึกกันเล่นๆ นั้นกลายเป็นผลงานการออกแบบ ที่รวมเอาคาแรคเตอร์ของเหล่าสัตว์ต่างๆ มารวมกับรถยนต์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ…   1. Aston Martin DB5 ปี 1963 รถหรูจากประเทศอังกฤษ ที่สร้างชื่อจากหนังสายลับเรื่องดังอย่างพยัคฆ์ร้าย 007 มันคือโฉมที่รับไม้ต่อจาก DB4 โดยชื่อย่อของรถในซีรีส์นี้มาจาก David Brown เจ้าของ Aston Martin ระหว่างปี 1947-1972     และเมื่อรถหรูจากอังกฤษมารวมร่างกับเจ้าฮิปโป แล้วผ่านฝีมือการออกแบบของศิลปินหนุ่มรายนี้ ก็กลายเป็นรถสุดน่ารักอย่างที่เราเห็น .   2. Chevrolet Corvette Stingray ปี 1968 ต่อมาที Chevrolet Corvette Stingray รถสายพันธ์อเมริกัน ในเวอร์ชั่นจระเข้ ซึ่งสาเหตุที่รถรุ่นนี้ได้มารวมกับสัตว์นักล่าจากหนองน้ำ นั่นก็เพราะว่าคาแรคเตอร์ของเครื่องยนต์ และด้านหน้าของตัวรถที่ยื่นออกมาคล้ายปากจระเข้นั่นเอง     และเมื่อทั้งรถกับจระเข้รวมร่างกันก็… .   3. Ford-250…

แมวเหมียวมีความน่ารักและเสน่ห์มากเกินห้ามใจ ชายหนุ่มคนนี้จึงตกเป็นทาสของพวกมันอย่างกะทันหัน แถมยังบูชามันด้วยเตียงที่ออกแบบและทำเองอีกต่างหาก     Julia Carlson ไม่ได้เกลียดแมว แต่เหตุผลที่ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้เลี้ยงแมว เป็นเพราะ Christ สามีของเธอเคยบอกไว้ว่าการเลี้ยงแมวเป็นความรับผิดชอบที่มากเกินไป เขาจึงปฏิเสธไม่ให้เธอเลี้ยงมาตลอด ทว่าวันหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังรอ Christ ซึ่งออกไปซื้อของเข้าบ้านอยู่ เขาดันกลับมาพร้อมกับเจ้าแมว Ollie ที่ไปรับเลี้ยงมาจากศูนย์พักพิงสัตว์อย่างกะทันหัน     เขาคงจะตกหลุมรักมันแบบเต็มเปา จึงได้รับมันมาเลี้ยงโดยไม่บอกเธอก่อนแบบนี้ Julia ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอเองก็อยากเลี้ยงแมว แต่เธอก็ไม่นึกเช่นกันว่าเขาจะรักมันมากถึงขั้นมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้     ต่อมา Christ บอกกับเธอว่า “เอาล่ะ ฉันจะไปทำเตียงก่อนนะ” ทำให้ Julia ดีใจมาก เนื่องจากเธอคิดว่าเขาจะทำเตียงสำหรับที่นอนใหม่ที่พวกเธอพึ่งได้มา แต่เมื่อเธอเข้ามาดูเขาหลังจากผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง เธอก็พบว่าเขาไม่ได้ทำเตียงให้กับเธอ แต่เป็นเตียงจิ๋วสำหรับ Ollie ต่างหาก แถมยังมีโต๊ะเล็กๆ ที่เข้าชุดกันไว้ให้มันด้วย     เตียงที่ผมทำเองกับมือน่ะ   Christ อธิบายว่าเขาเริ่มต้นความคิดที่จะทำเตียงให้มันหลังจากหาข้อมูลเตียงแมวบนอินเตอร์เน็ตดู แล้วไหนๆ ก็จะทำแล้วเขาก็เลยถือโอกาสแกล้งให้ภรรยาเข้าใจผิดไปด้วยซะเลย ทางด้าน Julia นั้นพอได้รู้ว่าถูกเขาอำก็หัวเราะออกมาอย่างเสียไม่ได้ เธอไม่นึกเลยว่าเขาจะรักเจ้าแมวมากจนลงทุนทำเตียงให้ขนาดนี้   รักแค่ไหนให้การกระทำช่วยบอก  …

เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้ได้มีข่าวออกมาว่าบริษัท 4 แห่งในประเทศรัสเซียถูกฟ้องร้องในข้อหาจับวาฬผิดกฎหมายเป็นจำนวนกว่า 100 ตัวก่อนที่จะส่งขายให้สวนสนุกต่างๆ ในประเทศจีน     สถานที่พบวาฬคืออ่าว Srednyaya เมือง Vladivostok ประเทศรัสเซียซึ่งมีอาณาบริเวณติดกับจังหวัด Heilongjiang ในประเทศจีน ผู้ฟ้องร้องพบว่าวาฬทั้ง 100 ตัวนั้นแบ่งเป็นวาฬออร์กาจำนวน 90 ตัว และวาฬเบลูกาจำนวน 12 ตัว ทั้งหมดถูกกักขังในพื้นที่เล็ก และแออัด จนถูกขนานนามว่า “คุกวาฬ”     นักสังคมสงเคราะห์ท้องถิ่นอ้างว่าวาฬถูกขายให้สวนสนุกและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในประเทศจีน จากคลิปยังเผยให้เห็นว่าวาฬถูกเครนยกจากชายฝั่งใส่ในถังเพื่อเตรียมเคลื่อนที่ไปยังที่ใดก็ไม่อาจทราบได้      ข่าวยังรายงานอีกว่าวาฬออร์กาเพียงตัวเดียวสามารถขายในประเทศจีนได้ถึง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2018 ผู้ฟ้องร้องได้แจ้งว่า 4 บริษัทที่ไม่เปิดเผยชื่อนั้นได้รับอนุญาตให้จับวาฬออร์กาได้ถึง 10 ตัวเพื่อจุดประสงค์ทางการศึกษาเป็นเวลากว่า 3 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2012 – 2015 แต่พบว่า 7 ใน 10…

ด้วยจำนวนประชากรในปัจจุบัน ทำให้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามต้องเกิดการแข่งขันกันทั้งสิ้น แม้แต่การศึกษาก็ยังต้องแข่งกัน เราจะเห็นว่าในปัจจุบันพ่อแม่หลายๆ คนนิยมส่งลูกไปเรียนพิเศษกันตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อเตรียมตัวเข้าสถานศึกษาดีๆ ในอนาคต และนั่นเองทำให้เด็กๆ ที่อยู่ในวัยเรียนหลายๆ คนเกิดอาการเครียดสะสม โดยเฉพาะประเทศจีน หนึ่งในประเทศที่ถือว่ามีการแข่งขันทางการศึกษามากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก     ล่าสุดจากการรายงานของเว็บไซต์ Shanghai กล่าวว่า Xiao Jin เด็กชายวัย 13 ปี ผู้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 1 ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากทำการบ้านช่วงปิดเทอมไม่เสร็จ โดยในวันที่เกิดเหตุถือว่าเป็นวันเปิดเทอมใหม่ ทาง Xiao Jin ได้เดินทางไปเรียนตามปกติ แต่ไปเรียนได้เพียงครึ่งวันเท่านั้น เขาก็ถูกคุณครูส่งกลับบ้านให้ไปทำการบ้านช่วงปิดเทอมให้เสร็จก่อน     ซึ่งการถูกส่งกลับบ้านและถูกสั่งให้ทำการบ้านให้เสร็จครั้งนั้นได้สร้างความเครียดให้กับเด็กน้อยเป็นอย่างมาก สุดท้าย Xiao Jin ก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจทิ้งโน้ตลาตายเอาไว้ก่อนจะกระโดดลงจากตึกเพื่อปลิดชีพตัวเอง หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในโซเชียลมีเดียจีน ทางโรงเรียนและทางผู้ปกครองก็ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่สร้างแรงกดดันให้กับเด็กชายคนดังกล่าวจนทำให้เขาต้องฆ่าตัวตาย “ถ้าเด็กไม่ได้ทำการบ้านมา คุณครูก็ควรจะให้โอกาสแก่เขาไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่รีบไล่ให้กลับบ้านไป” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าว   ที่มา Shanghaiist, Miaopai

สำหรับหลายๆ คนแล้ว “ครอบครัว” ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของตน ขนาดที่ยอมเสียสละอะไรหลายๆ เพื่อให้คนในครอบครัวมีชีวิตที่ดีและมีความสุข แม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง… ดังเช่นเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เมื่อเด็กสาววัย 12 ปีคนหนึ่งยอมสละชีวิตตัวเอง กอดน้องชายของตัวเองเอาไว้ เพื่อปกป้องเขาจากไฟที่กำลังไหม้บ้านอยู่ในขณะนั้น     วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 เว็บไซต์ Shi Xun Wan ได้ทำรายงานเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นประมาณ 03.00 น. ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ในขณะที่ครอบครัวหนึ่งกำลังหลับพักผ่อนอยู่ ผู้เป็นพ่อก็สะดุ้งตื่นมาเพราะได้ยินเสียงลูกๆ ของตัวเองตะโกนขอความช่วยเหลือ เขาวิ่งออกจากห้องไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นและก็พบว่าที่พักของเขาเกิดไฟไหม้อย่างรุนแรง “ในตอนที่ผมเปิดประตู เปลวเพลิงก็ผลักผมถอยไปด้านหลัง บันไดก็ไฟลุกท่วม ส่วนทางหนีไฟที่ชั้นสองก็เต็มไปด้วยควันและร้อนมากๆ ผมก็เลยบอกให้ภรรยาโผล่หัวออกไปนอกหน้าต่าง ให้เธอตะโกนขอความช่วยเหลือ” คุณพ่อกล่าว     ในขณะเดียวกันกับที่บอกให้ภรรยาตะโกนขอความช่วยเหลือนั้น คุณพ่อก็สังเกตเห็นว่าเสียงร้องของลูกของตนค่อยๆ เบาลงไป เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องเพื่อจะทำการช่วยเหลือลูกๆ “ในห้องมันร้อนมากๆ และเต็มไปด้วยควันหนา พอผมเดินเข้าไปถึงเตียงของลูกๆ ก็เห็นว่าลูกชายถูกห่อตัวด้วยผ้าห่ม ขณะที่ลูกสาวคนโตของผมกำลังกอดเขาอยู่บนเตียง” คุณพ่อเล่าถึงเหตุการณ์     จากนั้นคุณพ่อก็รีบอุ้มลูกๆ ทั้งสองและวิ่งออกมาจากห้องเพื่อกลับมาหาฝ่ายภรรยาและก็ทำการรอพนักงานดับเพลิงเข้ามาช่วยพวกเขา และเมื่อพนักงานดับเพลิงสามารถควบคุมไฟได้แล้ว พี่น้องทั้งสองคนก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที…

เรตติ้งกระแสของละครเรื่อง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ และเนื้อเรื่องก็เริ่มมีความเข้มข้น ความสัมพันธ์ของพระนางและทุกตัวละครก็สามารถเรียกเสียงฮาได้ ทำเอาแฟนละครทั่วบ้านทั่วเมืองติดกันงอมแงมเลยทีเดียว และล่าสุดทางผู้จัดละครก็แอบแย้มข่าวมาว่า หมู่บ้านท่าโฉลงจะมีแขกสำคัญอีกคนหนึ่งที่อิมพอร์ตมาจากประเทศเกาหลีใต้เลยทีเดียว     แขกสำคัญคนนั้นก็คือหนุ่ม นิชคุณ หรเวชกุล ศิลปินหนุ่มไทยที่ไปโด่งดังไกลถึงประเทศเกาหลีใต้ แน่นอนว่าเรื่องนี้เขาได้มารับบทเป็นขุนนางชาวเกาหลีที่ล่องเรือมาจากโชซอน   มาพร้อมกับ มาร์กี้ ราศรี ที่โผล่มาเซอร์ไพรส์แฟนละครด้วย   พี่คุณออร่าหล่อทะลุมาเลยจ้า   ในลุคขุนนางเกาหลีโบราณ ดีมากกกกกก   ซ้อมบทกับแพท ณปภา ผู้รับบทแม่ชงโค   ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวที่ทำเอาแฟนละครชาวหมู่บ้านท่าโฉลงปลาบปลื้มไปตามๆ กันเลยทีเดียวกับการปรากฏตัวของหนุ่มนิชคุณในครั้งนี้ สำหรับใครที่ต้องการรับชมละครเรื่อง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง สามารถรับชมได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3     ที่มา #ทองเอกหมอยาท่าโฉลง

ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เราคงเห็นว่าประเทศจีนมีการใช้ “ระบบจดจำใบหน้าคน” เข้ามาประยุกต์ใช้กับหลายๆ หน่วยงานเพื่อทำการจัดการให้สังคมดีขึ้น แต่ล่าสุดนี้ระบบดังกล่าว กำลังจะกลายเป็นรุ่นเก่าเสียแล้ว เมื่อ Watrix บริษัทสตาร์ทอัปของจีนได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ที่จะสามารถระบุตัวตนได้เพียงแค่เห็น “ท่าเดิน” เท่านั้น     โดยทาง Watrix เรียกระบบดังกล่าวถูกเรียกว่า “Gait Recognition” ระบบที่จะคอยตรวจจับการเคลื่อนไหวตั้งแต่การเคลื่อนไหวของข้อเท้า เข่า รวมไปถึงรูปร่างและมุมการเคลื่อนไหวของมือก็ได้ ทางบริษัทได้ให้ความเห็นว่าระบบจดจำใบหน้านั้นยังมีจุดอ่อนอยู่มาก เพราะเพียงแค่สวมอะไรปิดบังใบหน้านิดหน่อย ระบบก็ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงพัฒนาระบบจดจำท่าเดินขึ้นมา “การหาอะไรมาปิดขาของคุณอาจจะลดความสามารถในการจดจำก็จริง แต่พวกเราวิเคราะห์ทั้งร่างกลายของพวกคุณ ขณะที่ระบบจดจำหน้าคนต้องให้คนมองมาที่กล้อง แต่เทคโนโลยีของเราไม่ต้องทำแบบนั้น” Huang Yongzhen ผู้ก่อตั้งของ Watrix ได้กล่าว      Watrix ได้เผยให้เห็นการทดลองเวอร์ชั่นแรกของ Gait Recognition ในช่วงเดือนตุลาคม 2018 ที่ผ่านมาและได้รับการความสนใจจากบริษัทรักษาความปลอดภัยหลายแห่ง ทั้งในสิงคโปร์, อินเดีย, รัสเซียหรือเนเธอแลนด์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของจีนก็ได้ทดลองใช้ระบบดังกล่าวเพื่อช่วยสืบและค้นหาคนร้ายในคดีโจรกรรมหลายๆ คดีด้วย และพบว่า แม้ตอนนี้ระบบจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็มีความแม่นยำมากกว่า 94% ทีเดียว  …

เคยได้ยินแต่หมาหรือแมวหนีออกจากบ้าน เมื่อท่องเที่ยวจนพอใจ พวกมันจะกลับบ้านเอง โดยไม่ต้องรอให้พ่อแม่ออกไปตาม แต่ล่าสุด มีน้องหมูตัวกลมที่ชื่อ Charlotte ตัดสินใจหนีออกจากบ้าน แต่มันจำทางกลับบ้านไม่ได้ เลยหลงอยู่ใน Middletown ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐโอไฮโอ     โชคดีที่ตำรวจมาเจอ Charlotte และสงสัยว่ามันกำลังหลงทาง พวกเขาจึงได้เอารถตำรวจมาจอดขวางทางไว้ เพื่อไม่ให้มันหนีไปไกลกว่านี้ ทางด้าน Yvette Hoffman ผู้เป็นเจ้าของของน้องหมูบอกว่า “Charlotte หนีออกไปทางสนามหลังบ้าน มันเป็นหมูที่เป็นมิตร ฉันเลยคิดว่ามันน่าจะหาเพื่อนละมั้ง”     อย่างไรก็ตาม การพาน้องหมูกลับบ้านไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่ยอมกลับ ไม่ยอมเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจหาอะไรสักอย่างมาล่อมัน แน่นอนว่าหุ่นกลมๆ แบบนี้ มันต้องชอบขนมมากแน่ๆ ว่าแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ลองเอาโอรีโอ้มาล่อมัน ปรากฏว่า Charlotte ติดใจในรสชาติโอรีโอ้มาก มันเดินเจ้าที่ถือขนมเพื่อขอเพิ่มอีก     เมื่อรู้แล้วว่าน้องหมูชอบโอรีโอ้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ใช้โอรีโอ้นี่แหละ ล่อให้มันเดินตามจนถึงบ้านของมันในที่สุด แหม่ แต่กว่าจะถึง โอรีโอ้หมดไปเยอะเหมือนกันนะ   ที่มา 9gag

เรื่องราวของการกู้หนี้กยศ. และไม่ชดใช้หนี้ ยังคงเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยในประเทศไทย เช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ แถมยังส่งผลกระทบไปให้กับบุคคลอื่นอีกด้วย…     คุณลุง ธงชัย พุ่มพวง ได้โพสต์เรื่องราวของตนผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า “หลังเกษียณอายุราชการแล้ว นึกว่าจะสบาย กรรมเก่าแต่ชาติปางก่อนตามมาทันแล้ว ค้ำประกัน กยศ. หวังให้ลูกเพื่อนเรียนจบ แต่ตรงกันข้าม” “จบแล้วไม่ยอมส่งซะงั้น เงินต้น 8 หมื่นบาท เพิ่มเป็น 1.2 แสนบาท แถมคนที่กู้เป็นหลาน นสพ. ตระกูลดังในภาคเหนืออีก ตอนนี้ สนง. บังคับคดียึดบ้านที่ผมอยู่อาศัยแล้ว ครอบครัวระหองระแหง เอ้อหนอ เวรกรรมที่เห็นในชาตินี้”     เรื่องของเรื่องเริ่มมาจาก คุณลุงธงชัยได้เซ็นค้ำประกันกยศ. ให้กับลูกของเพื่อน แต่ทางฝ่ายนั้นไม่ชำระหนี้ ภาระจึงตกมาอยู่ที่ตน จนสุดท้ายโดนยึดบ้าน คุณลุงจึงออกมาเผยเรื่องราวในโซเชียลเพราะกำลังเดือดร้อน     ล่าสุด รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ติดต่อไปหาคุณลุงธงชัย ได้ความว่าลุงค้ำประกันเงินกู้จากกยศ. ให้กับลูกชายเพื่อนในปี 2547 จำนวน 8 หมื่นกว่าบาท  จากนั้นผู้กู้หายตัวไปไม่ชดใช้เงินหลังเรียนจบ จนเวลาผ่านไป…

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่ปัจจุบันนี้มนุษย์มีค่าเฉลี่ยอายุยืนมากขึ้น ก็เพราะเทคโนโนยี นวัฒกรรมทางการแพทย์ที่มีการพัฒนามากขึ้น รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ดี ที่มีทักษะมากขึ้น เช่นเดียวกับ Dr. Rodrigo Ferreira Gomes แพทย์หนุ่มวัย 31 ปีที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ถือว่าเป็นแพทย์ที่ดีและมีจรรยาบรรณ     โดย Dr. Rodrigo Ferreira Gomes นั้นทำงานอยู่ในโรงพยาบาลในเมือง Ceara ประเทศบราซิลมา 6 ปี จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้มาทำงานตามปกติของเขา และต้องประหลาดใจ เมื่อพบว่าห้องทำงานของเขา มีคนอื่นมาใช้ เขาทำการพูดคุยกับแพทย์คนที่มาใช้งานห้องที่เคยเป็นของเขา แล้วได้พบกับความจริงว่าเขาถูกทางโรงพยาบาลไล่ออก โดยที่ไม่มีการบอกล่วงหน้า “ผมเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะการเมืองภายใน ผมบอกปัดที่จะสนับสนุนรองผู้อำนวยการที่กลายผู้จัดอำนวยคนปัจจุบัน และเมื่อผมไปถึงที่ทำงานตามปกติ ที่นั่นมีหมออีกคนอยู่ในห้องทำงานของผมและไม่มีใครบอกผมมาก่อนเลยว่าผมถูกไล่ออก” Rodrigo ให้สัมภาษณกับสำนักข่าว BOL     และหลังจากที่คุณหมอ Rodrigo ถูกไล่ออก เขาบอกว่ายังเป็นห่วงคนไข้ของตนอยู่ เขาจึงแจ้งเรื่องดังกล่าวให้คนไข้ได้รู้และรับปากว่าเขาจะกลับมา จากนั้นเขาจึงไปขนโต๊ะและเก้าอี้มาตั้งอยู่บนทางเท้านอกโรงพยาบาลและเริ่มให้บริการคนไข้ประจำของเขาเหมือนกับเขาไม่เคยถูกไล่ออกมาก่อน “ผมบอกพวกเขา (คนไข้) ว่าผมถูกไล่ออก แต่ผมรับปากกับพวกเขาว่าผมยังจะดูแลพวกเขาทั้งหมด ผมบอกให้พวกเขาช่วยรอหน่อย ก่อนที่จะรีบกลับบ้านและขนโต๊ะกับเก้าอี้เพื่อมานั่งตรวจพวกเขา” คุณหมอกล่าว   …

นี่เป็นเรื่องราวอบอุ่นหัวใจเกี่ยวกับภารกิจช่วยเหลือลูกเสือดาววัย 7 เดือน หลังเกิดอุบัติเหตุจนเป็นอัมพาต แต่กลุ่มคนใจดีพยายามช่วยให้มันเดินได้อีกครั้ง เมื่อต้นเดือนที่มา ลูกเสือดาวตัวนี้ถูกรถพุ่งชนใกล้กับ Igatpuri ซึ่งเป็นหมู่บ้านทางตะวันตกของประเทศอินเดีย ส่งผลให้มันได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง     ลูกเสือได้รับการช่วยเหลือจาก local Forest Department ก่อนจะถูกส่งไปยัง Manikdoh Leopard Rescue Center ในเวลาต่อมา ภายใต้การดูแลของทีมงาน Wildlife SOS การถูกรถพุ่งชนทำให้ลูกเสือดาวกลายเป็นอัมพาต ซึ่งผลจากการเอกซ์เรย์พบว่า มันได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังอย่างรุนแรง ส่งผลให้เป็นอัมพาตทั้งขาหน้าและหลัง โอกาสที่มันจะฟื้นตัวนั้นก็ดูมีน้อยมาก     อย่างไรก็ตาม เสือดาวน้อยยังเด็กมาก ทางสัตวแพทย์ไม่อยากให้มันเสียโอกาสในการเรียนรู้โลกเพียงเท่านี้ พวกเขาจึงตั้งใจที่จะช่วยให้มันเดินได้อีกครั้ง นอกจากการช่วยเหลือจากทีมสัตวแพทย์แล้ว เจ้าเสือดาวน้อยเองก็มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะกลับมายืนได้อีกครั้งเช่นกัน     Dr Ajay Deshmukh สัตวแพทย์อาวุโสของ Wildlife SOS Veterinarian บอกว่า “เราทำกายภาพให้มันเป็นประจำ ประกอบกับออกกำลังกาย ยืดกล้ามเนื้อ และช่วยมันฝึกเดิน” “มันเริ่มแข็งแรงขึ้นทุกวัน จนเราเริ่มเห็นว่ามันค่อยๆ ขยับแขนขาได้” ขณะที่ Ajit Shinde เจ้าหน้าที่ป่าไม้ บอกว่า “เราเห็นว่าเสือดาวน้อยตอบสนองต่อการทำกายภาพบำบัดได้ดี มันทำให้ผมรู้สึกกับความทุ่มเทของทีมงาน Wildlife…

คนบางคนเกิดมามีหัวธุรกิจ หาเงินเก่ง รู้ว่าทำอะไรแล้วจะได้เงิน เช่นเดียวกับ Yang เด็กชายวัย 14 ปีจากกรุงปักกิ่งรายนี้ ในขณะที่เด็กผู้ชายส่วนมากใช้เวลาในวันหยุดเทศกาลตรุษจีนไปกับการเที่ยวเล่นหาความสนุก แต่เด็กคนนี้ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉยๆ     Yang ยืมเงินจากแม่มา 800 หยวน (ประมาณ 3,700 บาท) เพื่อนำมาเป็นทุนซื้อขวดแก้วกว่า 400 ใบ และลูกปิงปองกว่า 300 ลูก นำมาสร้างเป็นเกมให้คนจ่ายเงินเพื่อเล่น ไอเดียนี้เกิดเมื่อปีที่แล้ว เมื่อเด็กชายได้ไปเที่ยวตลาดนัดที่มีร้านแผงลอยมากมาย และได้ไปเห็นเกมที่มีคอนเซ็ปคล้ายกัน จึงเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะนำมาหาเงินด้วยตัวเองบ้าง     หากคุณสงสัยว่าเกมดังกล่าวมีวิธีการเล่นยังไง ในแต่ละขวดจะมีเงินตั้งแต่ 5-100 หยวน ( ประมาณ 20-460 บาท) และผู้เล่นจะต้องซื้อลูกปิงปอง 10 ลูกในราคา 10 หยวน (ประมาณ 46 บาท) พยายามโยนให้เข้าไปในแก้ว และจะได้เงินรางวัลที่อยู่ในแก้วนั้นๆ   เด็กชาย Yang วัย 14…

คอร์กี้เป็นสุนัขที่มีความน่ารักเฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใคร ถึงพวกมันจะขาสั้นและเฝ้าบ้านได้ไม่ดีนัก แต่ความป่วนฮาและก้นใหญ่ๆ ของมันก็สามารถมัดใจคนจากทั่วทุกมุมโลกได้ เจ้าของของคอร์กี้ Maxine เองก็ตกหลุมรักมันหัวปักหัวปำ เขาจึงมักจะถ่ายรูปน่ารักๆ ของมันมาฝากชาวเน็ตในอินสตาแกรมด้วยเสมอ   https://www.instagram.com/p/Bt_Q3Zpn0WA/?utm_source=ig_embed   นอกจากเจ้าของของ Maxine จะเป็นคนรักสุนัขมากๆ แล้ว เขายังเป็นคอหนังตัวยงอีกด้วย บางครั้งเขาจึงอดไม่ได้ที่จะลองเอาหมาตัวโปรดมาตัดต่อลงไปในโปสเตอร์หนังดู นอกจากโปสเตอร์ที่เขาตัดต่อจะทำให้ Maxine ดูเจ๋งและเท่ไม่ซ้ำใครแล้ว การเอาคอร์กี้เข้าไปไว้ในโปสเตอร์หนังก็ทำให้หนังทุกเรื่องดูน่ารักขึ้นมาทันตาเลย แม้ว่าจริงๆ หนังจะเป็นแนวสยองขวัญก็ตาม ลองไปดูโปสเตอร์ที่เจ้าของของมันเคยตัดต่อเอาไว้กันนะ   A Star Is Born   Black Panther   A Quiet Place   Bohemian Rhapsody   Beautiful Boy   Eighth Grade   The Nun   Roma   Mission: Impossible —…

ในเดือนแห่งความรักแบบนี้ คนที่มีคู่คงจะรู้สึกอุ่นใจกับการได้หวานแหววกับคู่รัก ส่วนคนโสดก็ได้แต่อิจฉาตาร้อนกับความรักรอบตัวไป แต่ถ้าคุณได้มาเจอแมวเหมียวพวกนี้ ไม่ว่าคุณจะโสดหรือไม่โสด พวกมันก็ทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจไปกับความน่ารักของพวกมันได้ทั้งนั้น รับรองว่าถึงแฟนของคุณจะอบอุ่นเพียงไหน ก็ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นได้ไม่เหมือนกับแมวพวกนี้หรอก!! ว่าแล้วก้เชิญทุกคนไปรับความอบอุ่นจากน้องแมวกันได้เลย จะได้ไม่หนาวในในเดือนแห่งความรัก   อืม…ต้องแบบนี้สิอบอุ่นดี   อยากได้ผ้าห่มขนปุยแบบนี้บ้าง ต้องใช้แมวกี่ตัวครับ? https://www.instagram.com/p/Boo-FbfHDDq   เห็นแบบมัวๆ ยังรู้เลยว่าน้องน่ารัก   ได้นวดนี่มันรู้สึกดีจริงๆ นะเธอ เราก็แค่นอนบนเตียงเหมือนมนุษย์แค่นั้นเอง   อย่าเพิ่งซักผ้าเลย ขอนอนแบบนี้ต่ออีกสักชั่วโมงเถอะ   จะฟินก็ออกท่าให้มันพอดีหน่อย เดี๋ยวก็หล่นหรอกเจ้าเหมียว   ซานต้าที่ไม่ได้บินมาไกล แต่ก็มอบความสุขให้ทุกปี   ใส่ใจพ่อตั้งแต่เล็กยันโตเลยนะแก   เจ้าหมาก็นอนมาทั้งคืนแล้ว ตอนกลางวันเราขอนานหน่อยละกัน   สมาชิกครอบครัวเพียงตัวเดียวที่มารอต้อนรับหลัง 5 ทุ่ม   ก็ดีแค่ไหนถ้ามีเพื่อนสไตล์เดียวกันสักตัว   เป็นทั้งแมวทั้งกระต่าย น่ารักแบบ 2 อิน 1 ไปเลย   น้องกับแมวพากันส่องนอกหน้าต่างทุกวัน น่ารักที่สุด   กินคนเดียวอ้วนนะรู้ไหม…

ในช่วงยุคปี 1980 เรียกได้ว่าเป็นยุคแห่งความเฟื่องฟูของดนตรี และศิลปะเลยก็ว่าได้ และสำหรับวงการรถยนต์เองก็ได้รับผลพลอยได้ของความรุ่งเรืองเหล่าด้วยเช่นกัน สไตล์การออกแบบของรถยนต์ในยุคนั้น ถือว่าได้รับอิทธิพลมาจากความเฟื่องฟูที่ว่านี้ และภาพของเหล่ารถคลาสสิคที่ #เหมียวเวจจี้ นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในครั้งนี้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี…   1. Ferrari 288 GTO (1984)   2. Ford Thunderbird (1983-1988)   3. Honda CRX Si (1988)   4. Mazda RX-7 (1988)   5. Porsche 959 (1986–1989)   6. Nissan MID4 (1985-1987)   7. Mitsubishi Starion (1983–1989)   8. Toyota Celica Supra (1982–1986)   9. Ferrari F40 (1987–1992)   10. Lamborghini Countach (1974–1990)…

ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่คนไทยมองว่าน่าอยู่และน่าท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่กลับกันสำหรับคนญี่ปุ่นแล้วเขาคิดว่าสังคมของพวกเขานั้นตึงเครียดไม่น่าอยู่ ส่งผลให้คนที่มีปัญหาทางจิตเพิ่มสูงขึ้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อสาวพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ถูกหนุ่มโรคจิตคนหนึ่ง “เลียหัว” ของเธอกลางสถานีรถไฟ     เรื่องนี้เกิดขึ้นในจังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่น ณ สถานีรถไฟโยโกฮามะ ขณะที่พนักงานบริษัทสาววัย 29 ปีกำลังเคลื่อนตัวผ่านฝูงชนที่แออัดกันรอขึ้นรถไฟ หลังจากที่ขึ้นบันไดเลื่อนในสถานีมาได้ เธอก็รู้สึกว่าหลังหัวของตัวเองนั้นเหนียวๆ จึงเอามือไปลูบๆ ดู และพบว่าที่ผมของเธอมีของเหลวใสๆ เหนียวเหนอะหนะติดอยู่     และด้วยที่เธอไม่มีเวลาจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอจึงตัดสินใจที่จะหาตัวคนร้ายเอง โดยขอดูกล้องวงจรปิดจากทางสถานีและพยายามแกะรอยของคนร้าย ในที่สุดก็พบกับคนร้ายจนได้ โดยคนร้ายคือนาย Ryo Kikuchi หนุ่มวัย 23 ปีจากเมืองฟูจิซาวะ ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีเนื่องจากการตรวจ DNA ของหนุ่มคนดังกล่าว ตรงกับน้ำลายที่อยู่บนหัวของผู้เคราะห์ร้าย     เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่ทราบวิธีที่เขาทำ หนุ่มคนดังกล่าวจึงถูกตั้งข้อหา “ใช้น้ำลาย” กับผู้หญิงจากด้านหลัง  แต่อย่างไรก็ตามภายหลังผู้ต้องหาก็สารภาพออกมาว่า “ผมเลียหัวของเธอ” สุดท้ายนี้จากรายงานไม่ระบุว่าผู้ต้องหาคนนี้ถูกลงโทษอย่างไร แต่ที่แน่ๆ คือความผิดครั้งนี้จะถูกบันทึกลงในประวัติของเขาไปตลอดกาล   ที่มา Soranews, NTV News 24

อาการหลงลืม เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในทุกสถานการณ์เลยก็ว่าได้ บางคนอาจจะลืมของ บางคนอาจจะลืมจ่ายเงินค่าโทรศัพท์ หรือบางคนอาจถึงขั้นลืมแม่ยายเลยก็มี!! เรื่องฮาๆ นี้เกิดขึ้นที่มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน หลังจากที่หญิงวัยกลางคนรายหนึ่งเดินเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากว่าเธอถูกลูกเชยที่ขับรถมาด้วยกัน ลิมเอาไว้ที่จุดพักรถ     เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างที่เธอและลูกเขยกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่เมืองตูหยุน มณฑลกุ้ยโจว เพื่อฉลองปีใหม่กับทางครอบครัว แต่ในระหว่างที่แวะเข้าห้องน้ำที่จุดพักรถ หญิงคนดังกล่าวได้ตกลงกับลูกเขยของเธอว่าจะผลัดกันเข้าห้องน้ำ เธอเล่าว่า “เขาบอกว่าเขาจะลงไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วพอเขากลับมาฉันค่อยผลัดกันไป ฉันบอกเค้าเดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำนะ ไม่รู้เขาฟังได้ยินหรือเปล่า พอกลับมาฉันก็ไม่เห็นรถจอดอยู่แล้ว เดินหารอบจุดแวะพักก็ไม่เจอ” เธอเล่า     เมื่อได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบติดต่อไปยังลูกเขยขี้ลืมในทันที และตามรายงานเผยว่ากว่าที่เขาจะรู้ตัวว่าลืมแม่ยายเอาไว้ก็หลังจากที่ขับรถไปไกลกว่า 50 กม. แล้ว   เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ในประเทศจีน ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย บางคนบอกว่านี่อาจจะเป็นแผนของลูกเขยก็ได้ ในขณะที่บางคนบอกว่าแม่ยายอาจจะเปลี่ยนใจขอลูกสาวคืนก็ได้นะ!! ลืมอะไรก็ลืมได้ แต่อย่าลืมแม่ยายนะ ฮ่าๆ     ที่มา China Xinhua News

มีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้รถป้ายแดงเป็นตัวเลือกที่หลายคนนึกถึงเมื่ออยากจะเป็นเจ้าของรถสักคัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการซ่อมบำรุง รวมถึงความใหม่และสดของอะไหล่ต่างๆ ด้วย และถ้าหากว่าตอนนี้คุณคือคนหนึ่งที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่ล่ะก็ บอกเลยว่าเรื่องราวที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้อาจจะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อรถสำหรับคุณก็ได้!! เพราะครั้งนี้ #เหมียวเวจจี้ ได้ลิสต์รายชื่อรถยนต์ที่น่าสนใจ แถมราคายังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก เรียกว่าเหมาะสำหรับคนที่เพิ่งทำงานใหม่ๆ หรือใครที่กำลังมองหารถป้ายแดงราคาไม่แพงเลยทีเดียว!!   จะมีคันไหนบ้างนั้นไปชมกันได้เลย…   1. Nissan Note 1.2 V: ราคา 568,000 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับรุ่นนี้ดูได้ที่: nissan .   2. Nissan Almera 1.2V Sportech: ราคา 580,000 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับรุ่นนี้ดูได้ที่: nissan   3. Mitsubishi Attrage GLS CVT: ราคา 572,000 รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับรุ่นนี้ดูได้ที่: mitsubishi-motors   4. Suzuki Swift GLX CVT: ราคา 609,000 (ขออนุญาตเกินมานิด เพราะเพิ่มออฟชั่นมาคุ้มจริงๆ )…

กำลังเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลมีเดียตอนนี้ ถึงกรณีของ ‘น้ำใส BNK48’ ที่สวมเสื้อสวัสติกะ ‘นาซี’ ขณะซ้อมเต้น จนทำให้ชาวเน็ตมากมายรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม!! โดยเรื่องนี้เริ่มขึ้นจากความที่เว็บไซต์ TrueID ได้เผยแพร่ภาพขณะที่สมาชิก BNK48 หลายคนกำลังซ้อมเต้นในวันที่ 25 มกราคม เพื่อคอนเสิร์ตใหญ่ที่จะจัดขึ้นในวันนี้ (26 ม.ค. 2019)   ภาพที่กลายเป็นประเด็น   จากภาพที่ออกมาได้เผยให้เห็นว่า ‘น้ำใส BNK’ ใส่เสื้อที่มีสัญลักษณ์สวัสติกะนาซี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่หลายคนมองว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับความโหดร้ายของสงคราม และอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่จับมองของสื่อทั้งไทยและต่างประเทศ รวมทั้งมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมายถึงประเด็นนี้ ว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือไม่ ดังต่อไปนี้   บางก็พูดสั้นๆ ถึง “การศึกษา” ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ   ประวัติศาสตร์ของโลกอาจจะไม่ได้สอนในโรงเรียนไทย   เป็นเรื่องที่น่าอายมากสำหรับประเทศไทยในตอนนี้เลย   คนไทยอาจจะไม่ค่อยมีความรู้ในเรื่องประวัติศาสตร์โลกมากนัก ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับประวัติศาสตร์ของสัญลักษณ์นี้   นี่เป็นเรื่องที่น่าละอายเอามากๆ   นอกจากนี้ยังมีคอมเม้นต์บางส่วนของคนไทย ซึ่งพูดถึงประเด็นนี้กันอย่างคับคั่ง .   อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวล่าสุดในเรื่องนี้ ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของวงได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมติชนว่า “น้ำใสใส่เสื้อดังกล่าวจริง เพียงแต่น้องทำไปด้วยความไม่รู้” …

อย่างที่ทราบกันดีว่างานประกาศรางวัล Oscar เป็นงานประกาศรางวัลทางภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งคนทั่วโลกให้ความสนใจ และเฝ้ารอวันประกาศผลอย่างใจจดใจจ่อ ในปีนี้การประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรตินี้จะจัดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2019 ทางเว็บไซต์หลักของงานนี้ก็ได้มีการประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนี่คือรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลในแต่ละสาขา   สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม 1. Christian Bale จากเรื่อง Vice 2. Bradley Cooper จากเรื่อง A Star Is Born 3. William Dafoe จากเรื่อง At Eternity’s Gate 4. Rami Malek จากเรื่อง Bohemian Rhapsody 5. Viggo Mortensen จากเรื่อง Green Book   สาขา นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม 1. Mahershala Ali จากเรื่อง Green Bookl> 2. Adam…

กล้องด้านหน้า และกล้องด้านหลังถือเป็นหนึ่งที่ค่ายรถหลายๆ ค่ายติดตั้งมาให้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ให้กับผู้ใช้งาน แต่ทว่าสำหรับค่ายรถจากประเทศสวีเดนอย่าง Volvo แค่กล้องหน้าและกล้องหลังนั้นอาจจะไม่เพียงพอ เพราะพวกเขาเตรียมพัฒนากล้องด้านในรถ เพื่อจับความเคลื่อนไหวของคนขับ และเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีกขั้น     ข่าวการเพิ่มกล้องด้านในนี้อาจจะทำให้ผู้ใช้รถบางคนเกิดความกังวล แต่ทางหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของทางค่ายได้ออกมาเปิดเผยว่า มันจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานมากกว่า และทำหน้าที่คล้ายกับการตรวจจับใบหน้าของกล้องมือถือ Atif Rafiq เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของทาง Volvo อธิบายว่า กล้องนี้กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา และลูกค้าสามารถเลือกที่จะติดตั้งหรือไม่ก็ได้     “ในอนาคตกล้องสำหรับคนขับจะกลายเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของรถเรา มันจะเป็นสิ่งที่ล้ำหน้ามากในอนาคต โดยมันจะสามารถตรวจวัดระดับกลูโคสของผู้ขับได้ และทำการแจ้งไปยังคนใกล้ตัว หรือโรงพยาบาลถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับคนขับ” Atif ให้สัมภาษณ์     Volvo ถือเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความปลอดภัย พวกเขาหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยคาดเดาปัญหาด้านสุขภาพที่จะเกิดขึ้นกับผู้ขับขี่ล่วงหน้า และทำให้จุดเด่นในด้านนี้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ทางค่ายได้ทดสอบเทคโนโลยีที่ว่านี้กับรถในรุ่น XC90 เมื่อปี 2017 และตามรายงานระบุว่าน่าจะมีการเปิดตัวในปี 2020 ที่จะถึงนี้   ที่มา carmagazine

Bill Gates ผู้ก่อตั้งและเจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ที่เราได้ใช้และคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งรายได้ในแต่ละปีของเขานั้นนับว่าเป็นรายได้ที่มหาศาลมากๆ จึงไม่แปลกใจที่จะกลายเป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ถึงแม้ว่าจะมีรายได้ที่มากมายขนาดไหน แต่คุณลุง Bill ก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายธรรมดา เป็นกันเองกับคนอื่นๆ เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความน่ารักขี้เล่นมากๆ   ในทุกๆ ปี เว็บไซต์ reddit.com แหล่งชุมชนออนไลน์ที่นิยมในต่างประเทศจะมีการจัดกิจกรรมการแลกของขวัญออนไลน์ ที่เหมือนกับกิจกรรมแลกของขวัญที่นิยมทำกันตอนปีใหม่นั่นแหละ ลุง Bill ก็เป็นอีกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมแลกของขวัญทุกๆ ปี ซึ่งแน่นอนว่าใครๆ ต่างก็หวังว่าจะโชคดีได้ของขวัญจากมหาเศรษฐีคนนี้ไปครอง     ซึ่งในปี 2018 ผู้โชคดีที่ได้รับของขวัญจากคุณลุงไปก็คือ Bobbi Collyer อายุ 49 ปี พนักงานไอทีจากรัฐเวอร์จิเนีย เธอได้เข้าร่วมลงชื่อในเว็บไซต์ Reddit ในชื่อผู้ใช้ Moondazed เพื่อหาซีเคร็ทซานต้า ผู้ที่จะมาประทานของขวัญให้เธอในปีนี้ แต่เธอก็ไม่คิดว่าเธอจะโชคดีที่ได้รับของขวัญจากมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก ของขวัญที่ว่าไม่ใช่เงินจำนวนมหาศาลแต่อย่างใด แต่รับรองว่าลิมิเต็ดสุดๆ     ของขวัญกล่องยักษ์ถูกส่งตรงไปยังหน้าบ้านของเธอ ซึ่งประกอบไปด้วยของขวัญน่ารักๆ อย่างเช่น ผ้าห่มพิมพ์ลายตัวละครจากอะนิเมะชื่อดัง Totoro ที่ลูกสาวของเธอชื่นชอบ…

อาชีพไม่สุจริตอย่างอาชญากร เช่นพ่อค้ายาเสพติดหรือโจรถือว่าเป็นอาชีพที่สร้างความเสียหายให้กับสังคม ไม่ว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินหรือจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติก็ด้วย แต่สำหรับโจรที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมกันในวันนี้ ดูเหมือนจะดวงไม่ดี เพราะยังไม่ทันได้ก่อความเสียหายใดๆ ก็ถูกเหยื่ออัดซะน่วมก่อน เพราะดันไปปล้นสาวนักสู้ UFC ด้วย “ปืนที่ทำจากกล่องกระดาษ”     ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว Polyana Viana นักสู้สาวชื่อดังประจำเวที Ultimate Fighting Championship (UFC) กำลังรออูเบอร์อยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ของเธอในเมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ขณะที่รอรถอยู่นั้น เจ้าโจรที่เรากล่าวถึงก็โผล่ออกมาหาเธอ โดยขู่ให้เธอส่งโทรศัพท์มือถือของเธอมาให้เขา พร้อมกับอ้างว่าตัวเขามีปืนนะ แต่นั่นก็หาได้ทำให้นักสู้สาวหวาดกลัวไม่ เธอจัดการปล่อยทั้งหมัดทั้งลูกเตะใส่โจรร้ายไม่ยั้ง ก่อนจะเข้าไปล็อคคอโจรจากด้านหลังและรอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุและทำการจับกุมโจรคนดังกล่าว   ปืนของโจรร้าย   Viana ได้ให้สัมภาษณ์กับ MMA Junkie ว่า “ตอนที่ฉันเห็นเขา เขาเข้ามานั่งข้างๆ ฉัน ก่อนจะถามฉันว่านี่กี่โมงแล้ว ฉันก็ตอบเขาไป แต่เขาก็ยังไม่ไปไหน ฉันก็เลยเอาโทรศัพท์ซ่อนไว้ที่เอว จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาว่า ‘ส่งโทรศัพท์มาให้ฉันซะ อย่าพยายามเล่นตุกติก เพราะฉันมีปืน’ ก่อนที่เขาจะควักปืนออกมา แต่ฉันตระหนักได้ว่าปืนดังกล่าวมันอ่อนเกินไป”   .  …

หลังจากที่มีการเปิดให้ชาวเน็ตทั่วโลกออนไลน์ร่วมกันโหวตเพื่อค้นหาผู้ครองตำแหน่ง หนุ่มหล่อที่สุดในโลกประจำปี 2018 โดย TC Candler ไปเมื่อประมาณกลางปี 2018 ชาวเน็ตทั่วโลก ต่างก็ได้ร่วมลงคะแนนกันมากมาย จนถึงตอนนี้การโหวตก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว และนี่คือรายชื่อและอันดับของ 100 หนุ่มหล่อแห่งปี 2018  มาดูกันว่าคนดังหนุ่มหล่อที่คุณชื่นชอบจะได้อันดับที่เท่าไหร่กัน   31. Leonardo Decaprio   30. Lionel Messi   29. Chris Evans   28. Timithee Chalamet   27. Anthony Joshua   26. Cole Sprouse   25. Dwayne Johnson   24. Tom Hiddleston   23. Chris Hemsworth   22. Christiano…

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2562 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Lukejan Nipaphon ได้โพสต์ภาพเครื่องดนตรีที่ได้รับความเสียหายจากการโหลดสัมภาระไว้ใต้เครื่อง พร้อมกับขอคำแนะนำจากชาวเน็ตว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี หลังจากที่ทางสายการบินแจ้งว่าไม่สามารถรับผิดชอบได้     เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับสมาชิกในวงดนตรีของเธอ โดยกีตาร์รุ่นพิเศษมูลค่าเกือบ 150,000 บาทของนักดนตรีรายดังกล่าวเกิดความเสียหายหลังจากที่โหลดเอาไว้ใต้เครื่อง ทั้งๆ ที่ใส่กล่องกันกระแทกอย่างดีแล้ว “อันนี้คือ สภาพกีตาร์ของน้องนักดนตรีที่วงเมื่อมาถึง สนามบินดอนเมือง เดินทางจากภูเก็ตโหลดหน้าเครื่อง เคสอย่างดีเซฟมากแล้ว กีตาร์ราคา 148000 เป็นรุ่น signature …. พนักงานสายการบินแจ้งว่า ไม่สามารถรับผิดชอบใดใด ก็เลยถามเค้าว่า เคสแบบนี้เคยเกิดขึ้นมั๊ย แล้วส่วนใหญ่เค้าทำยังไงแบบไหนที่ดีที่สุด     ..เค้าก็ตอบว่า ส่วนใหญ่ก็ต้องไปร้องที่ สคบ …พนักงานแนะนำและพูดจาดีนะคะ ก็ขอบคุณเค้าไป แต่คือ ท้ออะ เจอแบบนี้ รับต้นปี ต้องทำงานเล่นเค้าดาวน์อีก 10 กว่าปี กว่าจะได้เงินครบซื้อตัวเดิม ท้อบอกเลยท้อ เสียใจแทนน้องมาก อยากสอบถามผู้รู้ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ทุกท่านหน่อยนะคะ ทางแก้ และทางเยียวยาที่ดีที่สุด ณ จุดนี้ต้องทำยังไง…

การเขย่าถังน้ำมันหลังจากที่เติมน้ำมันเสร็จเรียบร้อย อาจเป็นพฤติกรรมที่หลายคนมักจะทำ เพื่อหวังว่าจะสามารถเติมน้ำมันได้เพิ่มมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วความเข้าใจแบบนี้ อาจจะเป็นเรื่องที่ผิด แถมยังเสียเวลาเปล่าๆ อีกด้วย!!     การเขย่าถังน้ำมันเพื่อให้ได้น้ำมันเพิ่มอย่างที่หลายคนเข้าใจนั้น ไม่ได้เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในบ้านเราเท่านั้น แต่ที่ประเทศสิงคโปร์ การเขย่ารถแบบที่พวกเราทำกันนี้ก็เป็นที่ฮอตฮิตเช่นกัน ทางรายการ Talking Point จากประเทศสิงคโปร์ไขความกระจ่างให้กับผู้ใช้รถหลายๆ คน โดยทำการสอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญว่า การเขย่าถังน้ำมันนั้นช่วยให้เติมน้ำมันได้มากขึ้นจริงหรือไม่??     Lee ช่างเครื่องผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายกับพิธีกรของรายการว่า อันที่จริงแล้วความเชื่อที่ว่านี้เป็นเรื่องที่ผิด แถมยังเป็นการกระทำที่เสียเวลาเปล่า ช่างเครื่องผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า การเขย่าถังน้ำมัน จะทำให้เกิดไอระเหยและฟองในถังน้ำมันเท่านั้นเอง ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถเติมน้ำมันได้เพิ่มมากขึ้นก็คือ การรอให้ไอและฟองเหล่านี้หายไปก่อน ก่อนที่จะเติมน้ำมันเข้าไปนั่นเอง   การสาธิตโดย Lee ช่างยนต์ผู้เชี่ยวชาญ   “เมื่อเราเขย่าถังน้ำมัน จะทำให้น้ำมันในถังเกิดฟองและไอระเหย ดังนั้นเราควรรอให้มันหายไปก่อน ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเติมน้ำมันได้มากขึ้น แทนที่จะเขย่ามัน” ช่างยนต์ผู้เชี่ยวชาญกล่าว Lee ยังบอกอีกว่าการเขย่ารถหลังจากเติมน้ำมันไม่ได้มีอันตรายต่อรถของคุณ แต่การเติมน้ำมันจนล้นถังอาจจะเป็นผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้   ไปชมการอธิบายของ Lee ได้ที่คลิปด้านล่างนี้เลย… ที่มา mashable, ROADS.sg

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2018 สำนักข่าว China Xinhua News รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถประจำทางสาย 270 แซ่โจว ในเมืองซีอาน มณฑลส่านซีของประเทศจีน โดยภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในรถ ได้เผยให้เห็นจังหวะที่คนขับรถรายหนึ่งกำลังถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากที่เขาเข้าช่วยเหลือผู้โดยสารหญิงที่ถูกลวนลาม     ตามรายงานระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยตอนที่เกิดเหตุ หญิงสาวรายดังกล่าวได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ พร้อมกับบอกว่าเธอถูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ลวนลาม หลังจากที่ได้ยินเสียงคนขับรถจึงเข้าช่วยเหลือเธอ โดยพาชายคนดังกล่าวออกมาอยู่ด้านหน้ารถ แต่หลังจากนั้นไม่นานคนขับรถก็ถูกทำร้ายร่างกาย     คนขับรถไม่ได้ตอบโต้ชายคนดังกล่าว แต่พยายามกดตัวเขาลงกับพื้นเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีเจ้าหน้าที่ก็มาถึงที่เกิดเหตุ   ไม่ตอบโต้ แต่พยายามควบคุมตัวคนร้ายเอาไว้     คนขับรถให้สัมภาษณ์ว่า เขาสังเกตเห็นสายตาของชายคนดังกล่าวดูไม่ค่อยปรกติ และยังบอกอีกว่าการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารถือเป็นสิ่งหนึ่งที่คนขับรถควรทำ ส่วนการใช้กำลังกับผู้โดยสารนั้น เขามองว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะอาชีพบริการของเขาก็เป็นเหมือนกับหน้าตาของเมือง อีกทั้งทางบริษัทยังเคยอบรมพนักงานไว้ด้วยว่า นครซีอานนั้นมีผู้ใช้บริการที่หลากหลาย ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจากต่างเมือง ดังนั้นจึงควรสร้างความรู้สึกดีและความประทับใจให้กับพวกเขา   คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่มา China Xinhua News

กลายเป็นเรื่องราวอันน่าประทับใจที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีนอีกครั้ง เมื่อคุณแม่รายหนึ่งได้กล่าวขอโทษผู้โดยสารคนอื่นๆ หลังจากที่ลูกของเธออ้วกออกมาเนื่องจากอาการเมารถ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2018 ที่ผ่านมา หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของคุณแม่รายดังกล่าว บนรถประจำทางสายหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้     สิ่งที่ทำให้คุณแม่ท่านนี้ได้รับความชื่นชม ไม่ได้มีเพียงแค่การกล่าวขอโทษผู้โดยสารคนอื่นๆ เท่านั้น แต่เธอยังใช้ทิชชู และกางเกงของลูกชาย เช็ดทำความสะอาดคราบอ้วกของลูกเธออีกด้วย   เธอใช้กางเกงของลูกในการทำความสะอาด พร้อมกับกล่าวขอโทษผู้โดยสารคนอื่นๆ เป็นการใหญ่   คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การกระทำของคุณแม่ท่านนี้ ได้รับคำชื่นชมจากชาวเน็ตจำนวนมากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของเธอ ซึ่งนอกจากพวกเขาจะพูดถึงการแสดงความรับผิดชอบของเธอแล้ว หลายคนยังบอกว่าการทำเป็นตัวอย่างที่ดีของเธอ ก็ถือเป็นการสอนลูกอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน   ที่มา China Xinhua News

รถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา หรือระบบขนส่งมวลชนที่ชาวกรุงเทพฯ รู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในชื่อของรถไฟฟ้าบีทีเอส ถือเป็นอีกหนึ่งระบบขนส่งมวลชนที่เปิดให้บริการมานานกว่า 19 ปีแล้ว นับตั้งแต่วันเริ่มเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 และในครั้งนี้เอง #เหมียวเวจจี้ ก็มีภาพถ่ายจากช่างภาพชาวดัตช์ ที่จะพาเพื่อนๆ กลับไปย้อนดูวันวานของโครงการนี้…     ภาพถ่ายที่เพื่อนๆ กำลังจะได้ชมต่อไปนี้ เป็นผลงานการถ่ายภาพของ Robert von Hirschhorn นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญด้านการคมนาคม ที่เคยบันทึกเรื่องราวการขนส่งระบบรางของประเทศต่างๆ ในแถบอาเซียน และนี่คือภาพของรถไฟฟ้า BTS ในอดีต โดยฝีมือของช่างภาพรายนี้ที่เรานำมาฝากเพื่อนๆ กัน…   . .   ภาพของรถไฟฟ้าสายสีลม ที่กำลังวิ่งผ่านถนนราชดำริที่อยู่ด้านล่าง .   ภาพยามเย็นของรถไฟฟ้าสายสีลม   ภาพระหว่างการก่อสร้างรถไฟฟ้า ถ่ายเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2557 . .   รถไฟฟ้าที่กำลังวิ่งออกจากสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ภาพนี้ถ่ายเมื่อปี 2543 . . . .…

Cadillac รถหรูจากสหรัฐอเมริกา หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับรถประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานั่นเอง ค่ายรถเก่าแก่ของสหรัฐฯ ค่ายนี้มีตำนานมายาวนานกว่า 100 ปีค่ายนี้ได้ผลิตรถหรูที่เป็นตำนานมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเจ้า Cadillac V16 จากปี 1930 คันนี้ยังไงล่ะ…     1930 Cadillac V16 คันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 7.4 ลิตร V16 ให้แรงม้าสูงสุดที่ 175 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดที่ 318 ปอนด์/ตารางฟุต โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 29.4 ลิตร/100 กิโลเมตร     ตามข้อมูลจากทางผู้ผลิต รถคุณปู่คันนี้สามารถทำความเร็วได้มาถึง 150 กม./ชม. แต่อันที่จริงแล้วมันสามารถวิ่งได้ไวถึง 160 กม./ชม. เลยทีเดียว   Cadillac V16 คันนี้ออกมาเผยโฉมครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 มกราคมปี 1930 ซึ่งเป็นยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งในตอนนั้นเอง มันคือรถที่ใช้เครื่องยนต์ V16 คันแรกของโลก   Cadillac V16 คันที่เพื่อนๆ…

กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของหนุ่มบิ๊กไบค์รายหนึ่ง ที่ขับรถมาเติมน้ำมันในปั๊ม ก่อนที่จะไม่ยอมจ่ายเงิน และขับรถหนีไปดื้อๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวได้โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความระบุว่า “ขับรถก็มีราคาเเต่ทำตัวเป็นโจรกระจอกแท้ เงินเเค่ 200 กว่าบาทมึงยังไม่มีปัญญาจ่าย รวยไม่จริงนี่? #บางนาkm8“     ภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวได้เผยให้เห็นชายคนหนึ่งได้ขับรถเข้ามาเติมน้ำมันในปั๊ม ซึ่งในขณะที่ยังเติมไม่เสร็จ เจ้าของรถคันดังกล่าวได้ยกหัวจ่ายน้ำมันออกไป ก่อนที่จะขับรถหนีไปโดยไม่สนใจ จากข้อมูลทางโพสต์ต้นทางมีการเปิดเผยใบเสร็จค่าน้ำมันที่หนุ่มบิ๊กไบค์รายดังกล่าวไม่ยอมจ่าย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 275 บาท และนอกจากนี้รถบิ๊กไบค์คันดังกล่าวยังไม่ได้ติดป้ายทะเบียนอีกด้วย     คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   แฟนเพจ เรารักสมุทรปราการ”v2 ได้นำคลิปวิดีโอดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมกับแชร์โพสต์ต่ออีกมากว่า 3,500 ครั้ง   คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในปั๊ม   “ตรรกะ​ ไม่ติดทะเบียนแล้วหนักหัวใคร​ 555​ นี้ไง​ โดนมารอบพวกไม่ติดป้ายทะเบียนชนแล้วหนีขี่มอไซมาชนท้าย​ จะลงไปเคลียร์ ขี่หนีไม่ติดทะเบียนตามไม่ได้ด้วย​ มันกะมาทำผิดอยู่แล้ว​” สุทธิชัย ราช ราชกิจ “ดูท่าทางคงไม่มีเงิน ล้วงหลายทีละ แต่ไม่มีไม่ควรหนี ควรติดต่อให้ใครช่วยเอาเงินมาให้ หรือเอาอะไรทิ้งไว้เป็นหลักประกันถ้าบริสุทธิ์ใจ ทำแบบนี้น่าละอาย” Iyarapatchr Ujjin     แต่นอกจากความคิดเห็นที่ตำหนิหนุ่มขับบิ๊กไบค์แล้ว…

ก่อนหน้านี้ #เหมียวเวจจี้ ได้นำเสนอความคลาสสิกของยานยนต์จากสหภาพโซเวียตที่ปรากฏออกมาในภาพโฆษณาสุดคลาสสิกกันไปแล้ว (อ่านข่าวเก่า ภาพหาชมยากของโฆษณารถยนต์ จากสหภาพโซเวียตในอดีต ดีไซน์โดดเด่นไม่แพ้ที่อื่น ) คราวนี้เราก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ย้อนไปชมนวัตกรรมยานยนต์แปลกๆ ของที่นี่กันอีกสักครั้ง ซึ่งต้องบอกเลยว่า ในอดีต ทั้งดีไซน์และเทคโนโลยีของสหภาพโซเวียตนั้นก็ไม่เป็นรองใครเลย…   MAZ 2000 รถบรรทุกดีไซน์แปลก ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน Paris International Motor Show ปี 1988 และได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น   นี่คือรถต้นแบบที่มาพร้อมกับกระจกแบบ 2 ระดับ ก่อนที่จะกลายเป็นต้นแบบของรถจาก AvtoVAZ ในรุ่น VAZ-2110   VAZ-2702 Pony รถตู้คันเล็กที่จะช่วยให้การขนส่งสินค้าในตรอกซอกซอยสะดวกขึ้น แต่น่าเสียดายที่มันไม่ถูกผลิตออกมาจริงๆ เพราะไม่ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัย   รถที่ถูกออกแบบมาตามหลักอากาศพลศาสตร์ แต่น่าเสียดาย ที่มันกลับไม่ถูกผลิตออกมาจริงๆ   NAMI-013 รถต้นแบบดีไซน์จี๊ดที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 50 ซีซี. 18 แรงม้า และจากรูปหน่วยก้านแล้ว เจ้ารถคันนี้ก็ไม่ได้ถูกผลิตออกมาจริงๆ อีกตามเคย   Moskvich-2139 Arbat รถขนาด 7 ที่นั่งที่มาพร้อมกับสีน้ำเงินและสีบรอนซ์ จากบริษัท AZLK   คันสุดท้าย AZLK-2144 จากบริษัท AZLK…

นี่อาจเป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความอันตรายของสัตว์ป่า เมื่อพระรูปหนึ่งเข้าไปทำสมาธิภายในป่า แต่ว่าในท้ายที่สุดกลับถูก ‘เสือดาว’ ฆ่าซะอย่างงั้น!! เรื่องนี้มีอยู่ว่าเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (11 ธ.ค.) พระสงฆ์ชาวอินเดียนามว่า Rahul Walke Bodhi กับพระรูปอื่นอีก 2 รูป ได้เข้าไปปฏิบัติสมาธิใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งภายในป่า Ramdegi ทางตะวันตกของประเทศอินเดีย ซึ่งป่าแห่งนี้เป็นอุทยานอนุรักษ์พันธุ์เสือที่ทางการของอินเดียกำหนดไว้…   พระ Rahul Walke Bodhi ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้   ในเช้าของวันที่เกิดเหตุ พระทั้งสามรูปกำลังปฏิบัติสมาธิและทำวัตรเช้าอยู่ จู่ๆ ก็มีเสือดาวตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาแล้วขย้ำพระ Rahul ในทันที เมื่อเห็นดังนั้นพระอีก 2 รูปจึงรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดและมาแจ้งตำรวจถึงเรื่องดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สนธิกำลังกันเข้าไปตรววจสอบจุดที่เกิดเหตุตามคำบอกเล่าของพระทั้ง 2 แล้วก็ได้พบกับสภาพศพของพระ Rahul จริงๆ “ท่านมีรอยขย้ำที่ดูโหดร้ายเอามากๆ และมีร่องรอยว่าพวกเสือพยายามจะลากร่างของท่านไป” Krisna Tiwari นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของภูมิภาคกล่าว     โดยป่า Ramdegi ที่เกิดเหตุนี้ อยู่ห่างจากเมืองมุมไบประมาณ 825 กิโลเมตร และได้รับการประกาศว่าเป็นพื้นที่อนุรักษ์สำหรับเสือ แต่ว่าพระภิกษุที่อยู่ใกล้ๆ กับที่นี่มักจะใช้ป่าแห่งนี้ เป็นพื้นที่สำหรับการมานั่งกรรมฐานประจำปีร่วมกัน โดยเพิกเฉยต่อคำเตือนของเจ้าหน้าที่ที่เตือนว่าการเข้ามาในป่าลึกเช่นนี้จะมีอันตราย… ซึ่งในกรณีของพระ Rahul นับได้ว่าเป็นครั้งที่ 5…

การที่เราจะซื้อบ้านต่อจากใครสักคนหนึ่ง สิ่งที่เราควรจะทำก็คือเข้าไปดูบ้านและสำรวจในทุกช่องทุกมุม ไม่อย่างนั้นเราอาจจะได้เราอาจจะได้บ้านที่มีสภาพเหมือนในภาพยนตร์สยองขวัญที่เราเห็นกันบ่อยๆ ก็เป็นได้ เช่นเดียวกับสองสามีภรรยาคู่นี้ ที่ได้ไปซื้อบ้านต่อจากคนคนหนึ่งมา แต่พอจะเข้าย้ายมาเข้ามาอยู่ก็ต้องผงะกับสภาพบ้านของพวกเขา     Craig Spurr ได้โพสต์ประสบการณ์สุดหลอนเกี่ยวกับบ้านหลังใหม่ของเขาลงใน Reddit ว่า “ภรรยาและผมซื้อบ้านนี้ทิ้งไว้ตั้งแต่ 2 ปีก่อน มันมีของที่แปลกๆ เต็มไปหมด ผมไม่รู้เลยว่าเจ้าของบ้านคนก่อนเขาทำอะไรไว้บ้าง” เรามาดูกันดีกว่าว่าบ้านหลังใหม่ของสองสามีภรรยาคู่นี้ จะมีสภาพเป็นอย่างไร ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าน่ากลัวววววววว   มีข้อความว่า “Mora ขอให้คุณฝันดี” ที่ใช้ตัวหนังสือสีแดงพร้อมกับคราบที่ดูเหมือนเลือดติดอยู่บนผนัง   ที่ตรงอื่นก็มีข้อความแปลกๆ อีกมากมายที่ใช้ตัวหนังสือสีแดงเช่นกัน   หลอดไฟที่มีดีไซน์เหมือนเชือกผูกคอ!?   สติ๊กเกอร์ติดผนังที่เป็นรูปหน้าต่าง แต่ที่หน้าต่างจริงๆ กลับมีม่านที่หนักมากๆ จนใช้งานแทบไม่ได้   “เอิ่ม…. แล้วนี่คือ…?”   พอได้ออกมาสวนหลังบ้านค่อยดูเป็นบ้านธรรมดาขึ้นมาหน่อย ในที่สุดก็ได้หายใจโล่งขึ้นสักที   หลังจากที่เขาโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงไปในโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย   บ้านหลังนี้ถูกสาปแน่นอน 1000%   อย่าลืมมาอัปเดตเวลาที่คุณโดนผีหลอกด้วยล่ะ   ทางที่ดีตูว่าเอ็งควรจะออกจากที่นั่นให้ไวเลยนะ  …

ในชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัย #เหมียวโคบี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องเคยประสบปัญหากับคลาสเช้า (อย่างคาบ 8 โมงเช้า) อย่างแน่นอน เพราะหลายๆ คนนี่กว่าจะพาตัวเองลุกจากเตียงได้มันช่างยากเย็นเหลือเกิน เช่นเดียวกับหนุ่มนักศึกษาที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ครับ เมื่อหมอนี่ขู่จะฆ่าอาจารย์ที่สอนตัวเอง เพราะอาจารย์จัดสอบไฟนอลเช้าเกินไป!!     เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย Florida Atlantic University รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อนาย Rafael Decomas นักศึกษาวัย 20 ปีได้โพสต์ทวิตเตอร์ที่ใช้นามแฝงว่า Cutie Claus ซึ่งมีใจความว่า “เฮ้ ตูจะไปฆ่าศาสตราจารย์คนนี้แน่ๆ เฮ้ ฉันสารภาพเลยว่านี่จะกลายเป็นการฆาตกรรมแบบไตร่ตรองไว้ก่อน” ซึ่งหลังจากที่โพสต์ข้อความดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เห็นข้อความดังกล่าวแล้วทำการสืบข้อมูล พบว่า Cutie Claus เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยและเมื่อสืบต่อก็สามารถรู้ได้ว่าคือนาย Rafael Decomas     เมื่อสามารถระบุตัวคนทำได้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าจับกุมนาย Rafael ทันที และเมื่อถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงอยากทำแบบนั้น นักศึกษาหนุ่มก็ได้ตอบว่าจริงๆ แล้วเขาไม่มีแผนการที่จะทำร้ายใครทั้งนั้น แต่ทวีตดังกล่าวถูกโพสต์ไปเพื่อระบายอารมณ์เท่านั้น เพราะเขาไม่พอใจที่อาจารย์จัดสอบปลายภาคเวลา 7 โมงเช้า  …

#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ ต้องมีโมเมนต์ที่ซื้อของกินอุ่นๆ มาแล้วรีบตรงกลับบ้านในทันใด เพราะไม่อยากให้อาหารอันโอชะนั้นเย็นลงก่อนรับประทาน เช่นเดียวกัน เรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ก็เป็นเรื่องของหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่อยากให้อาหารอุ่นๆ ของตัวเองเย็น เลยรีบขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว แต่ผลสุดท้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบเพราะขับเร็วเกินซะงั้น     เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในมณฑลยอร์กเชอร์ตอนใต้ (South Yorkshire) ของประเทศอังกฤษ หนุ่มคนหนึ่งได้ไปซื้อหารมาจากร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่าง McDonald อาหารอร่อยต้องทานตอนร้อนๆ และด้วยความที่อยากจะรักษาอุณภูมิของอาหาร ไม่ให้เย็นลงก่อนจะรับประทาน เขาจึงตัดสินใจที่จะขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว เรียกว่ามีเท่าไหร่ก็เหยียบมิด!!     แต่ก็อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นรถของเขาได้วิ่งผ่านหน้ารถตำรวจไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ถนนดังกล่าวเป็นถนนเลนเดียวเสียด้วย เห็นดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการบึ่งรถเพื่อตามจับกุมนักซิ่งผู้หิวโหยทันที โดยหลังจากถูกจับหนุ่มคนดังกล่าวก็บอกกับตำรวจว่า “ผมแค่ไม่อยากจะให้แมคโดนัลด์เย็นอ่ะ” แต่สถานการณ์ก็เลวร้ายยิ่งขึ้น หลังจากที่ถูกจับกุม ทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าหนุ่มและก็พบว่าเขาไม่ได้ทำประกันเอาไว้ ตำรวจเลยจัดการยึดรถ Volkswagen Golf ไปตามระเบียบ   ถ้าพี่จะรีบขนาดนี้ ทำไมไม่นั่งกินที่ร้านล่ะ ปัดโธ่ว!?   ที่มา Ladbible, The Sun

สัตว์สี่ขา ขนปุย ที่มนุษย์นิยมเลี้ยงกันอย่างเจ้าเหมียวนี้ถือเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีความอินดี้และความซนสูงมากๆ และเรื่องที่เราจะนำมาพูดถึงในวันนี้ก็เป็นเรื่องความซนของเจ้าเหมียว ที่เข้าไปป่วนเพื่อนบ้านจนเพื่อนบ้านทนไม่ไหวต้องเขียนจดหมายไปบอกกับเจ้าของเสียเลย     เหตุการณ์เกิดขึ้นในเกาะ Walney ประเทศอังกฤษ เมื่อเจ้า Winston แมวของ Karl Hart ไปป่วนเพื่อนบ้านบ่อยเกินไป เพื่อนบ้านเลยเขียนข้อความมาบอกดังนี้ “สวัสดีคุณผู้ชายหรือคุณผู้หญิง ฉันเขียนจดหมายมาเกี่ยวกับเจ้า Winston แมวสีเทาปลอกคอมีโบว์ มันน่ารำคาญมากๆ เพื่อนบ้านบอกว่ามันเป็นแมวของคุณใช่มั้ย? มันลอดประตูแมวของฉันเข้ามาละก็ขโมยอาหารแมวของฉันกินทั้งวัน ทั้งที่อาหารแมวของฉันเป็นอาหารแบบพิเศษ ที่แพงสุดๆ เลยนะ แถมมันยังเข้ามาในครัวและรื้อถุงอาหารแมวซะกระจายเต็มพื้น     หากฉันจับเขาได้อีกครั้ง ฉันจะส่งเขาให้ RSPCA (องค์กรพิทักษ์สัตว์) แล้วนะ ซึ่งงานของฉันคือต้องเดินทางไปมาทั่วประเทศ ดังนั้นฉันอาจจะเอาแมวตัวนี้ไปส่งองค์กรพิทักษ์สัตว์ในเมืองต่างๆ ที่ฉันไป และมันอาจจะยากหน่อยสำหรับคุณที่ต้องมารับแมวคืน บางทีคุณควรหาประตูแมวมาให้มัน มันจะได้ไม่ต้องถูกขังทั้งวันหรืออย่างน้อยก็คอยให้ข้าวให้อาหารมันซะ การที่คุณปล่อยมันมาแบบนี้มันถือเป็นการปล่อยปละละเลยนะ มันเป็นเด็กที่น่ารัก หากฉันไม่ได้เลี้ยงแมวอยู่ก่อนแล้ว ฉันคงจะจับมันไปฝังชิปและไม่ปล่อยมันออกไปอีกเลย ดังนั้นช่วยดูแลมันให้ดีๆ หรืออย่างน้อยก็ให้อาหาร ไม่อย่างนั้นคราวหน้าสิ่งที่ฉันจะทำกับมันก็คือพามันไปเที่ยวทั่วประเทศกับฉันแน่ๆ ขอบคุณ”     หลังจากที่ Karl Hart ได้รับจดหมายก็ออกมาตอบผ่านเฟซบุ๊กว่า “ถึงคุณผู้หญิงนิรนามที่อยู่แถวๆ Walney ซึ่งขู่จะลักพาตัวแมวของผม  อย่างแรกเลยก็คือผมไม่ได้โกรธคุณหรอกนะที่หัวเสียที่เจ้า…

วันที่ 4 ธันวาคม 2018 สำนักข่าว The Sun ได้รายงานว่า Windi Thomas ผู้หญิงเจ้าของน้ำหนัก 133 กิโลกรัมได้ถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรมแฟนหนุ่มวัย 44 ปีที่มีน้ำหนักเพียง 50 กิโลกรัมด้วยการนั่งทับ     เรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะเกิดเหตุ Windi Thomas กำลังดื่มอยู่ในบ้านของเธอและกำลังคิดจะออกไปซื้อโคเคนมาเสพ ขณะเดียวกันแฟนหนุ่มของเธอก็เข้ามาเจอพอดีและเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง Windi โมโหเป็นอย่างมากจึงบันดาลโทสะทุบตีแฟนหนุ่มอย่างแรงและคว้ามีดแทงเข้าที่มือของเขา จากนั้นก็นำขาโต๊ะฟาดเข้าที่หัวของเขา ก่อนจะปิดท้ายด้วยกันนั่งทับที่หน้าอกจน Keeno Butler แฟนหนุ่มเสียชีวิตในที่สุด     เมื่อได้สติและพบว่าแฟนหนุ่มของตนเสียชีวิตไปแล้ว เธอตื่นตกใจและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนบอกว่าตัวเธอฆ่าแฟนหนุ่มของตัวเอง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมายังที่เกิดเหตุ Windi ก็ถูกจับกุมพร้อมกับแจ้งข้อหาฆาตกรรม ซึ่งจากการชันสูตรศพพบว่าแฟนของเธอเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจและมีร่องรอยการบาดเจ็บบริเวณคอ หน้าอก และศีรษะ     ในระหว่างที่สู้ความในชั้นศาล ทนายของ Windi ได้แก้ต่างให้เธอว่าเธอไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่าแฟนของเธอ เพียงแต่ตอนนั้นเธอมีอาการเมา จึงล้มทับผู้ตายโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่อย่างไรอัยการก็ยังชี้ชัดว่าการกระทำของเธอเป็นไปด้วยความตั้งใจและทางศาลก็ได้ตัดสินให้ Windi มีความผิดในข้อหาฆาตกรรมโดยมิได้เจตนา (Third-Degree Murder) มีโทษจำคุกระหว่าง…

กลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของการขนย้ายรถเก๋งบนถนนสายหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าการขนย้ายรถนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่สำหรับกรณีนี้ สิ่งที่มันทำให้ชาวเน็ตหลายคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากเลยนั่นก็คือ เรื่องของความปลอดภัยในการขนส่งนั่นเอง   อืม… เอาแบบนี้เลยนะ   ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยแฟนเพจ เฮียขับรถ ซึ่งได้ทำการโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “มึงว่าได้มะ กูว่าไม่นะ แต่แม่งทำได้เฉย”  ซึ่งภายในภาพได้เผยให้เห็นซากรถเก๋ง 2 คัน ที่ถูกซ้อนกันไว้บนรถกระบะ และกำลังวิ่งบนถนนสายหนึ่ง     ภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่อมากถึง 789 ครั้ง และมีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งบางก็สงสัยว่า การขนส่งในลักษณะนี้ไม่ผิดกฎหมายหรือ ในขณะที่บางคนก็เป็นห่วงในเรื่องของความปลอดภัยของผู้ใช้รถคนอื่น “เราต้องเสี่ยงชีวิตกับพวกนี้ใช่ไม่ครับ ถ้าเกิดสายเชือดรัดมันขาดขึ้นมาจะมีอีกกี่ชีวิตที่จะต้องสูญเสียเพราะพวกสันดารระยำแบบนี้” Nattawut Laowtongsan “กระบะไทยขนบ้านได้ขนกระท่อมเป็นหลังๆได้ ขนรถแท็กซี่แค่นี่มันแปลกตรงใหน  ???” อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺ โย     “ชีวิตและความปลอดภัยของคนใช้ถนนต้องมาเสี่ยงกับความมักง่ายของไอ้พวกนี้”  Suphachai Tosapruek  “อย่าพึ่งตัดสินอะไร ข้างหน้าอาจจะโดนจับก็ได้ อันนี้คือตอนที่ยังไม่โดน แบบมันขนขขึ้นแล้วพึ่งออกมา ยังไม่มีตำรวจเห็น” Aekkarat Khamwijit “โอยยย ตายแล้ววว จอดซ้อนคันแบบนี้ได้ยังไงเนีย??” chayut neelapamorn “วิ่งเกือบขวาสุดอีก แบบนี้วิ่งซ้ายสุดเถอะ” Tanapon Chotiyotin   …

เวลาที่เราเครียดหรือต้องรู้สึกหดหู่ สิ่งที่เราอยากได้เป็นที่สุดก็คงไม่พ้นกำลังใจจากใครสักคนหนึ่ง แม้จะเป็นกำลังใจคนที่เราไม่รู้จักก็สามารถช่วยเราได้เช่นกัน เหมือนอย่างกำลังใจจากเด็กหญิงแปลกหน้าที่อดีตทหารผ่านศึก John Metzler จากเมือง Wendell รัฐไอดาโฮ สหรัฐอเมริกาคนนี้ได้รับมาในระหว่างที่อยู่ในสงคราม     ย้อนกลับไปในช่วงสงครามเวียดนาม (พ.ศ. 2498-2518) John Metzler ได้เข้าร่วมสงครามเวียดนามในฐานะทหารอเมริกาที่ไปช่วยฝ่ายเวียดนามใต้ John ทหารหน่วยซุ่มยิงจากเฮลิคอปเตอร์วัย 23 ปีต้องรับหน้าที่สังหารทหารฝ่ายตรงข้ามทุกๆ วัน ทำให้เขามีปัญหาด้านจิตใจ เขาต้องประสบภาวะซึมเศร้าและเครียด     ระหว่างจุดตกต่ำของชีวิตนั้น เมื่อถึงวันคริสต์มาสของปี พ.ศ. 2513 เขาก็ได้รับจดหมายปริศนามาฉบับหนึ่ง ซึ่งมีข้อความว่า “ถึงผู้รับใช้ชาติ หนูอยากจะขอขอบคุณคุณเป็นอย่างมากที่เข้าร่วมสงครามและต่อสู้เพื่อพวกเรา ทุกคนในห้องเรียนของหนูหวังว่าคุณจะสามารถกลับบ้านมาได้อย่างปลอดภัย” พร้อมกับลงชื่อว่า DonnaCaye     แน่นอนว่าจดหมายฉบับนั้นเป็นจดหมายที่ไม่ได้เจาะจงมาให้เขา แต่จดหมายสั้นฉบับนั้นก็สามารถช่วยให้กำลังใจ John ได้เป็นอย่างมาก ไม่นานมานี้ John ได้ขอให้ครอบครัวช่วยตามหา DonnaCaye แต่โชคร้ายที่คำตอบของทางครอบครัวคือ พวกเขาหาเจ้าของจดหมายไม่พบ     แต่ในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีอยู่ เมื่อ DonnaCaye Ludemann Sica ได้รู้เรื่องของทหารที่เธอเขียนจดหมายให้กำลังแก่เขา เธอจึงตัดสินใจที่บินจากรัฐฟลอริดามาเพื่อเซอร์ไพรส์เขาแบบตัวเป็นๆ…

ฉากการไล่ล่าแบบควันออกล้อ ถือเป็นเรื่องธรรมดาเอามากๆ ถ้าหากคุณเลือกหนังแอคชั่นสักเรื่องขึ้นมาดู แต่ใครจะไปคิดว่าการเบิร์นยาง พร้อมกับขับด้วยความเร็วแบบนั้นจะเกิดขึ้นจริงๆ ในชีวิตประจำวันได้แบบนี้!! คลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ได้เผยให้เห็นวินาทีที่รถเก๋งสีดำคันหนึ่ง พุ่งออกมาจากทางแยก พร้อมกับควันที่โพยพุ่งออกมาจากรถ ซึ่งเจ้าของคลิปวิดีโอบอกว่า นี่ไม่ใช่การถ่ายทำหนัง แต่เป็นเหตุการณ์คนร้ายขโมยรถที่เกิดขึ้นจริงๆ     จากข้อมูลระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2018 ที่เมืองเชปเปอร์ตัน รัฐวิกทอเรีย ประเทศออสเตรเลีย เจ้าของคลิปวิดีโอผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เขียนอธิบายไว้ว่าเขาเจอดอมมินิค ทอเร็ตโต้ตัวปลอมในระหว่างที่กำลังขับรถกลับบ้าน ซึ่งภายหลังโพสต์คลิปวิดีโอนี้ลงบนโลกออนไลน์ เจ้าของรถตัวจริงและตำรวจก็ได้ติดต่อเขามาเพื่อขอใช้เป็นเบาะแสตามตัวคนร้าย   .   “ฉันกำลังขับรถกลับจากที่ทำงาน และรถคันที่เห็นนี้เกือบจะขับชนฉันเข้า นั่นคือรถที่ถูกขโมยไปเมื่อคืนก่อน และหลังจากนั้นตำรวจกับเจ้าของรถก็ติดต่อฉันมาเพื่อขอใช้วิดีโอนี้เพื่อตามตัวคนร้าย”   แหม่… เอาซะซิ่งเลยนะ   ไปชมจังหวะการซิ่งของเจ้าหัวขโมยรายนี้กันเลย    คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ผ่านทางช่อง ViralHog และมีผู้รับชมกว่า 7,000 ครั้ง แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคุมตัวคนร้ายได้แล้วหรือไม่   ที่มา thedrive, ViralHog 

กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอยู่ในโลกโซเชียลของต่างประเทศอยู่ ณ ขณะนี้ กับกรณีของ ‘พรานสาว’ ได้ทำการโพสต์ภาพคู่กับ ‘แกะ’ ที่ตัวเองล่าได้ พร้อมกับชู ‘อุปกรณ์คล้ายเซ็กส์ทอย’ อาบไปด้วยเลือดขึ้นมาด้วย!? พรานสาวคนดังกล่าวมีชื่อว่า Larysa Switlyk พิธีกรสาวจากสหรัฐอเมริกา ได้ไปออกทริปล่าสัตว์ที่เกาะนอร์ฟอล์ค ประเทศอังกฤษ หลังจากที่ยิงล่าแกะได้เธอก็ถ่ายภาพคู่กับผลงานของตัวเอง พร้อมกับชูอุปกรณ์รูปร่างคล้ายกับเซ็กส์ทอย ซึ่งเป็นแขนเด็กขึ้นมาให้กล้อง ในสภาพที่เปื้อนเลือดเห็นแล้วสยดสยองเป็นอย่างยิ่ง     แน่นอนว่าการกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างยิ่ง ทั้งคนที่รักสัตว์ และคนที่เป็น ‘พราน’ ด้วยกันเอง!? หรือแม้แต่กระทั่งพรานสาวชาวอังกฤษ Jenna Gearing ที่ไปร่วมทริปด้วยกันก็ออกมาประณามการกระทำของพิธีกรสาว Jenna ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Daily Mail ว่า “รู้สึกรังเกียจการกระทำของเธอ” พร้อมกับเปิดเผยว่าไอ้สิ่งที่มีรูปร่างคล้ายกับแขนเทียมนั้นมันคือ ‘เซ็กส์ทอย’ ที่มีเพื่อนร่วมทริปคนหนึ่งพกมาเนื่องในงานฉลองวันเกิดของตัวเองที่จัดขึ้นในคืนก่อนวันออกล่า “ปาร์ตี้เมื่อคืนมันก็สนุกอยู่นะ แต่ฉันไม่เข้าใจว่าจะพกมาในวันล่าด้วยทำไม?” “การทำแบบนี้มันคือการโชว์ให้เห็นว่าไม่เคารพต่อการตายของสัตว์ที่เธอเพิ่งฆ่าไป ฉันไม่ใช่เพื่อนของเธอ (Larysa) อีกต่อไปแล้ว ฉันออกจากทริปล่ากลางคันเพราะไม่เห็นด้วยกับการที่เธอปฏิบัติต่อสัตว์แบบนั้น”   ภาพที่เป็นประเด็น   “จริงๆ แล้วฉันออกจากทริปมาก่อนที่ภาพนั้นจะถูกถ่ายขึ้นเสียอีกนะ แต่พูดก็พูดเถอะมันทำให้ฉันรู้สึกอับอายมากๆ เลย…

การที่นักแสดงสักคนอยากจะสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง การได้รับบทดีๆ ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญมาก ยิ่งภาพยนตร์เรื่องไหนที่ดังเป็นพิเศษ ก็จะมีคนจดจำได้มากยิ่งขึ้น ยิ่งได้บทตัวละครที่ดี ก็ย่อมส่งผลที่ดีต่อนักแสดงด้วย อย่างเช่น 10 นักแสดงเหล่านี้ รู้ไหมว่า พวกเขานั้นเคยเกือบได้แสดงบทดังๆ มาแล้วนะ เคยกันคิดไหมว่า ถ้าเกิดว่าตัวละครในภาพยนตร์ที่เราชอบนั้นได้นักแสดงคนอื่นมาแสดงจะเป็นอย่างไร   1. Britney Spears เกือบได้รับบท Allie Calhoun ใน The Notebook แต่บทนี้ตกไปเป็นของ Rachel McAdams   2. Julia Roberts เกือบได้รับบท Natalie Becker ใน Seven Minutes In Heaven แต่ถูกปฏิเสธและได้ Jennifer Connelly มาแสดงแทน   3. Jessica Alba เกือบได้รับบท Agent99 ใน Get Smart แต่ Anne Hathaway ได้แสดงแทน   4. Kurt Russell เกือบได้รับบท…

หากเพื่อนๆ เคยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมาก่อนล่ะก็ ย่อมต้องเคยเห็นตู้ล็อคเกอร์รับฝากของที่ตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เป็นอย่างแน่นอน ซึ่งปกติแล้วตู้ล็อคเกอร์เหล่านั้นก็จะมีเอาไว้รับฝากของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋าหรือของอื่นๆ แต่ตู้ล็อคเกอร์ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมกันในวันนี้ต้องทำให้เพื่อนๆ ประหลาดใจแน่ๆ เพราะมันมีคนเป็นๆ อยู่ข้างใน!!     ในเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน 2018 ณ สถานีเซ็นได ในจังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อพนักงานสถานีรถไฟได้ไปเจอกับเสื้อผ้าหลากชิ้นที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นเต็มไปหมด หลังจากตามรอยเสื้อผ้าที่ตกอยู่ไปจนถึงตู้ล็อคเกอร์ เมื่อเปิดตู้ล็อคเกอร์ดังกล่าวดู พนักงานคนนั้นก็ต้องตกใจ เมื่อพบเจ้าของเสื้อผ้านั่งขดอยู่ภายในนั้น ด้วยสภาพเปลือยเปล่า     หลังจากพบว่ามีคนอยู่ภายในตู้ล็อคเกอร์ ทางสถานีรถไฟจึงรีบติดต่อหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รีบรับเรื่องและส่งคนมารับตัวชายคนดังกล่าว และเนื่องจากจังหวัดมิยางิในช่วงเวลาดังกล่าวมีอุณภูมิต่ำมากๆ โดยที่อุณภูมิในช่วงกลางคืนสามารถลดลงต่ำสุดได้เกือบถึง 6 องศาเซลเซียส ดังนั้นชายคนนี้จึงมีอาการอุณภูมิร่างกายต่ำผิดปกติ (Hypothermia) เมื่อเจ้าหน้าที่พบว่าชายคนนั้นมีอาการดังกล่าว จึงต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน ก่อนจะนำไปสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง     จากสอบสวนพบว่าชายเปลือยคนนี้มีอายุประมาณ 40 เกือบ 50 ปี แต่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมเขาจึงไปอยู่ภายในล็อคเกอร์ได้ ซึ่งก็ต้องรอติดตามกันต่อไป   ที่มา Soranews24, Kahoku Shinpo

การเป็นเจ้าของรถหลายๆ คันอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่บางครั้งการเป็นเจ้าของรถที่มากเกินไปจนไม่มีที่จอดแบบเหตุการณ์นี้ล่ะก็ อาจจะทำให้เพื่อนบ้านของคุณไม่ปลื้มเอาก็ได้!! เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2018 สื่อต่างประเทศรายงาน เรื่องราวที่เกิดขึ้นบริเวณย่าน 4700 N Kenmore Avenue ในรัฐชิคาโก สหรัฐอเมริกา หลังจากที่มีการร้องเรียนว่า เพื่อนบ้านเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่เจ้าของบ้านหลังหนึ่ง นำรถเกือบ 40 คันของเขามาจอดไว้เต็มถนน     นาย James Cappelman วัย 46 ปี นายกเทศมนตรีจากย่านดังกล่าว ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Nbcchicago ว่าเขาได้รับการร้องเรียนจากผู้อยู่อาศัยที่นี่ เกี่ยวกับเรื่องที่จอดรถ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของรถคันดังกล่าวก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้มีการจำกัดจำนวนการเป็นเจ้าของรถแต่อย่างใด     นอกจากนี้นายกเทศมนตรียังได้เปิดเผยอีกว่า เจ้าของรถทั้ง 38 คันนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับการเช่ารถผ่านแอปพลิเคชั่น คล้ายๆ กับบริการเช่าห้องแบบ Airbnb โดยใช้ชื่อแอปฯ ว่า TURO แต่อย่างไรก็ตามทางผู้บริหารของ TURO ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ในย่านดังกล่าวไม่มีรถของพวกเขาจอดไว้เลย     อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าขณะนี้ยังไม่มีรายงานที่แน่ชัดว่า สรุปแล้วใครเป็นเจ้าของรถเกือบ 40 คันนี้ แต่ทางด้าน James Cappelman…

หากย้อนกลับไปเป็นวัยรุ่นยุค 90 ขอบอกเลยว่าหนังเรื่อง Ghostbusters หรือ ‘บริษัทกำจัดผี’ ถือเป็นอะไรที่ฮิตมากๆ เลยทีเดียว แม้ว่าเมื่อปี 2016 จะมีภาคที่ทำออกมาใหม่ แต่ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับไม่ดีเท่า 2 ภาคแรกที่ปล่อยออกมาในปี 1984 และ 1989 แต่ล่าสุดมีรายงานว่า บริษัทกำจัดผี กำลังจะมีภาคที่ 3 โดยใช้นักแสดงชุดเดิมกับภาคแรกและภาคที่ 2 มาให้เราได้ชมกันอีกครั้งหลังจากผ่านมาเกือบ 29 ปี!! จากการให้สัมภาษณ์ของ Dan Aykroyd หนึ่งในนักแสดงนำชุดแรก ในรายการ The Big Interview with Dan Rather ระบุว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับนักแสดงหลักชุดเดิม     “มันมีความเป็นไปได้ที่พวกเราจะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง และตอนนี้เราก็เริ่มลงมือเขียนบทกันแล้ว ผมคิดว่า Billy (Bill Murray) จะมาร่วมงานกับเราแน่นอน ต่อให้เขาจะต้องมาเล่นเป็นผีก็ตาม เพราะเนื้อเรื่องมันสุดยอดมากๆ”   ชมคลิปรายการแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างได้เลยครับ   ส่วนเรื่องราวในภาค 3 นี้ก็มีหลุดออกมาแล้วว่าเป็นเรื่องของลูกสุดที่รักของ Dana…

ของของใครใครก็รัก ยิ่งเป็นนักปั่นจักรยานด้วยแล้ว ‘จักรยาน’ ก็เปรียบเสมือนกับเพื่อนคู่ใจเลยทีเดียว แล้วยิ่งจู่ๆ มีใครที่ไหนมาแกล้งเอาโดรนบินมาจับแล้วยกลอยไปต่อหน้าต่อตา ย่อมทำให้เหวอเป็นธรรมดา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขต Hustopece เมืองโมราเวีย ประเทศสาธารณรัฐเช็ก มีกลุ่มนักปั่นจักรยานกำลังยืนชมวิวกันอยู่บนหอคอย โดยที่ทิ้งจักรยานของตัวเองเอาไว้บนสนามข้างล่าง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีโดรนปริศนา 1 ลำบินมาที่รถจักรยานของพวกเขา ก่อนที่จะ ‘หยิบจักรยาน’ ขึ้นมาต่อหน้าต่อตาของเจ้าของ     ตอนแรกกลุ่มนักปั่นคิดว่าเป็นเรื่องขำๆ อาจจะมีใครสักคนแกล้งพวกเขาอยู่ก็ได้ ทุกคนจึงหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ ก่อนที่จะเริ่มรู้แล้วว่ามันไม่ใช่แบบนั้น เมื่อโดรนลำดังกล่าวค่อยๆ บินหนีไปพร้อมกับจักรยาน หนึ่งในนักปั่นคนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีแล้วจึงถอดหมวกกันน็อกออกมาแล้วโยนใส่โดรนเพื่อให้มันตกลงมา แต่พลาดไป ทุกคนรีบวิ่งลงไปข้างล่างเพื่อตามจับโดรนของหัวขโมย และคลิปวิดีโอก็จบลงตรงนั้น     จากรายงานของเว็บไซต์ Russian Time ระบุเอาไว้ว่าโดรนลำดังกล่าวบินหนีจากจุดเกิดเหตุไปได้หลายร้อยเมตร แต่ก็พลาดทำจักรยานจะหล่นลงมา ทำให้เจ้าของที่วิ่งตามมาได้จักรยานคืนมาอย่างปลอดภัย   ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างได้เลยครับ   อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์อย่างแพร่หลาย ชาวเน็ตหลายคนก็จับสังเกตว่ามันจะเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อเรียกยอดวิวรึเปล่า!?   “ไม่มีใครยอมเสี่ยงที่จะเอาโดรนราคาแพงขนาดนั้นมาแลกกับรถจักรยานราคาแค่นี้หรอก สรุปคือทำมาเพื่อสร้างกระแสแน่นอน”   “หรือมันจะเป็นการโฆษณาโดรนตัวใหม่!?”   “ปลอมแน่ๆ โดรนไม่สามารถยกน้ำหนักได้มากขนาดนี้…

คู่รักเอ็นดูเจ้าหมาเหมือนเป็นลูก มันผ่านทุกข์ผ่านสุขกับพวกเขามากมาย พอรู้ว่ามันจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน พวกเขาเลยอยากให้มันมีความสุขในทุกวินาทีที่เหลือ Cynthia Peterson พาเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ Finn มาอยู่ด้วยกันตั้งแต่ปี 2012 แล้ว ตอนนั้นมันยังอายุไม่ถึงปีเลย     แต่เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาเพิ่งตรวจเจอว่ามันเป็นโรคมะเร็ง สัตวแพทย์บอกว่ามันคงมีเวลาเหลืออยู่กับพวกเขาอีกไม่นานมากนัก เธอเล่าว่า “เจ้าหมาช่วยให้ฉันก้าวผ่านความทุกข์มาได้ตอนที่พ่อของฉันเสีย แต่ตอนนี้มันเองก็กำลังจะตายเพราะว่าเป็นมะเร็ง”     เพื่อทำให้ช่วงเวลาที่เหลือของ Finn มีความสุขที่สุด คู่รักจึงทำตามคำแนะนำของ The Live Like Roo Foundation กลุ่มช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่เป็นมะเร็ง โดยการทำรายการที่ต้องทำก่อนตายให้มัน รายการที่ Cynthia กับสามีทำให้มันสุดยอดมากๆ เลยล่ะ มีทั้งการพามันไปกินข้าวหรูๆ เที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม แล้วก็พาไปเล่นสนุกแบบสุดเหวี่ยงด้วย แล้วทั้งคู่ก็พามันไปเที่ยวตามรายการนั้นจริงๆ   พาไปเล่นในห้องลูกบอล สวรรค์ของหมาๆ   สเต๊กทั้งชิ้นเป็นของแกตัวเดียวเลยนะ   ไปออกทริปล่องเรือหน่อยเป็นไง   อู้วหูว นี่มันแกรนด์แคนย่อน!!   Finn เคยไปขึ้นบอลลูนมาแล้วด้วยนะ   หนึ่งในสิ่งที่ Cynthia ใฝ่ฝันมานานแล้วก็คืออยากให้…

ในช่วงที่เรายังเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา เราคงรู้ดีว่าในช่วงพักเที่ยงนั้นจะมีการยกถาดข้าวไปต่อแถวเพื่อรอให้คุณครูหรือพนักงานตักอาหารให้ เช่นเดียวกับโรงเรียนประถม Kingston แห่งเมือง Virginia Beach รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ที่มีผู้จัดการโรงอาหารนามว่า Stacey Truman ซึ่งมีหน้าตายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา     การที่ Stacey ต้องเสิร์ฟอาหารให้กับเด็กๆ ในทุกๆ วัน ทำให้เธอสนิทสนมกับเด็กๆ เป็นอย่างดี ดังนั้นหากมีเด็กคนไหนที่รู้สึกเศร้าหรือรู้สึกต้องการกำลังใจ เธอก็สามารถรู้ได้ทันที และด้วยความที่ต้องการสนับสนุนเด็กๆ นั่นเองทำให้ไอเดีย “กล้วยพูดได้” ของเธอก็ผุดออกมา ในวันถัดมา Stacey จัดการเตรียมกล้วยเอาไว้ให้นักเรียนได้ทานกันขณะพักกลางวัน แต่ในครั้งนี้เธอได้ใช้ปากกาเขียนข้อความให้กำลังใจเด็กๆ อย่าง “เธอเก่งมากๆ” หรือ “ฝันให้ไกลไปให้ถึง” ลงบนเปลือกกล้วยเหล่านั้น     ผลตอบรับก็คือเด็กๆ ชอบ “กล้วยพูดได้” ของเธอเป็นอย่างมาก พากันเข้ามาขอรับเจ้ากล้วยไปทาน จนกล้วยที่เธอเตรียมเอาไว้ไม่เหลือเลยทีเดียว และเมื่อ Sharon Shrewbridge ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เห็นการกระทำของ Stacey ก็รู้สึกชื่นชมเพราะเด็กๆ ไม่ได้รับแค่เพียงกำลังใจเท่านั้น แต่ยังได้รับสารอาหารที่อยู่ในผลไม้อีกด้วย   Sharon…

โดยปกติแล้วหากมีการพบศพผู้เสียชีวิตที่สภาพศพ ณ ตอนนั้นไม่สามารถบ่งบอกผู้ตายได้ ทางเจ้าหน้าที่ก็มักจะใช้วิธีตรวจ DNA แทน แต่มันจะเป็นอย่างไรล่ะหากผลการตรวจ DNA นั้นผิด เหมือนอย่างเรื่องที่เรานำมาให้ชมกันในวันนี้ เมื่อน้องชายไปเจอศพปริศนาแถวบ้านของพี่ชาย จึงได้นำศพไปตรวจ DNA และพบว่ามีค่าใกล้เคียงกัน เลยประกอบพิธีศพให้ศพดังกล่าวเสร็จสรรพ แต่อีกสองเดือนถัดมา พี่ชายคนนั้น คนที่เขาคิดว่าเสียชีวิตไปแล้วดันกลับโผล่หน้ามาให้เห็นซะอย่างนั้น     เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Tomarly ประเทศคาซัคสถาน เมื่อชายคนหนึ่งนามว่า Esengali ไปเจอเข้ากับศพปริศนาสภาพเน่าเปื่อยแถวบ้านของ Aigali Supugaliev พี่ชายวัย 63 ปีของตน ด้วยสภาพศพที่ไม่สามารถระบุผู้ตายได้ เขาจึงได้นำศพดังกล่าวไปเข้ารับการตรวจ DNA ซึ่งผลออกมาตรงกับ Supugaliev มากถึง 99.92% เขาจึงคิดว่านั่นคือศพของพี่ชาย     เมื่อทำใจยอมรับการตายของพี่ชายได้แล้ว Esengali จึงได้นำศพไปฝังเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพร้อมกับครอบครัวและญาติๆ คนอื่น แต่ผ่านไปสองเดือน ก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้คนทั้งครอบครัวตะลึงและงุนงง เมื่อ Aigali Supugaliev คนที่พวกเขาคิดว่าเสียชีวิตไปแล้วกลับโผล่หน้ามาให้พวกเขาเห็น โดยที่มีร่างกายอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ และทันทีที่ลูกสาวของ Esengali เห็นคุณลุงที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอก็เป็นลมล้มพับไปในทันที…

ความรัก ความผูกพันเป็นความสัมพันธ์ดีๆ ที่ของมนุษย์มีให้แก่อีกผ่าน และถือว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ถือว่าทรงพลังที่สุดอีกด้วย ขนาดที่ทำให้สามีภรรยาคู่หนึ่งยังอยู่ด้วยกัน แม้ว่าฝ่ายชายจะข้ามเพศกลายเป็นผู้หญิงเสียแล้ว     คู่สามีภรรยาที่เรากล่าวถึงนี้คือคู่ของ Steff Barnett หรือชื่อเดิมคือ Steve Barnett หญิงข้ามเพศวัย 65 ปีกับ Lynne ภรรยาวัย 62ปี ทั้งคู่พบกันตั้งแต่ Lynne ยังอายุได้เพียง 16 ปีเท่านั้น เพียงแค่สบตากันครั้งแรกทั้งคู่ก็ต่างตกหลุมรักกัน จากนั้นก็เริ่มคบกัน จนในที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันและมีลูกด้วยกันสองคน     หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันมา Steve ก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกแบบผู้ชายทั่วไป เขารู้สึกว่าตัวเองชอบที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง เขาได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับ Lynne ซึ่งฝ่ายภรรยาก็ยอมรับได้ และด้วยการที่กลัวจะตกเป็นเป้าการกลั่นแกล้งจากเพื่อนบ้านหรือที่ทำงาน เขาเลยยังไม่คิดเรื่องแปลงเพศในขณะนั้น แต่หลังจากแต่งงานกันมา 45 ปี ปี 2013 ในที่สุดเขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไปแล้วตัดสินใจที่จะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศและกลายเป็น Steff     จากการที่ Steff เข้ารับการผ่าตัดและกลายเป็นสตรีข้ามเพศ นั่นหมายความว่าเขาจะไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชาย-หญิงกับภรรยาสุดที่รักอีกต่อไป นั่นรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ด้วย ในตอนแรก Lynne…

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน จำนวนประชากรมนุษย์มีการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่การเพิ่มขึ้นของจำนวนดังกล่าวได้สวนทางกับจำนวนสปีชีส์ของสัตว์และพืช เนื่องจากมีการรุกล้ำธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดดูเหมือนว่าธรรมชาติจะใกล้ถึงทางตันเสียแล้ว เมื่อองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลหรือ World Wildlife Fund (WWF) ได้ออกมาบอกว่ามนุษย์รุ่นที่มีอยู่ตอนนี้จะเป็น “รุ่นสุดท้าย” ที่สามารถช่วยธรรมชาติได้     จากผลของดัชนีชี้วัดความหลากหลายทางชีวภาพในปีนี้ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกพบว่าตั้งแต่ปี 1970 เป็นต้นมาประชากรสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม, สัตว์ปีก, สัตว์น้ำและสัตว์เลื้อยคลานกว่า 60% ได้หายไปเสียแล้ว นี่มันผลพวงมาจากการเพิ่มขึ้นของการบริโภคอาหารและทรัพยากรที่มากขึ้นของคนทั่วโลก ทำให้ก่อเกิดมลพิษและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ จากรายงานได้บอกถึงอัตราการสูญพันธุ์ในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นสูงเป็น 1,000 เท่าก่อนที่มนุษย์จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสัตว์และธรรมชาติ     ในตอนนี้นกทะเลกว่า 90% มีพลาสติกอยู่ในกระเพาะของพวกมันกันทั้งนั้น หากเทียบกับในปี 1960 พบว่ามีเพียง 5% เท่านั้น จากรายงานพบว่าจากที่ผ่านมา 50 ปี รอยเท้านิเวศน์ (หน่วยที่เอาไว้วัดผลกระทบต่อธรรมชาติจากกิจกรรมที่มนุษย์ทำ) เพิ่มขึ้นกว่า 190% หากเราต้องการระบบที่มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนแล้วต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการใช้ทรัพยากร การบริโภคและการผลิตต่างๆ อย่างรวดเร็ว     Tanya Steele ผู้บริหารระดับสูงของ WWF…

การที่เราได้เจอชิ้นส่วนของมนุษย์ถูกฝังอยู่ในที่ใดที่หนึ่งที่ไม่ใช่สุสาน เราก็อาจเกิดความสงสัยว่าใครเป็นเจ้าของชิ้นส่วนนี้ หรือสืบสวนว่ามันมาถูกฝังอยู่ได้ยังไงกัน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากคุณไปเจอฟันของมนุษย์นับ 1,000 ซี่อยู่ซ่อนในกำแพงตึก เหมือนดั่งเหตุการณ์ต่อไปนี้!!   ฟันปริศนาที่เจอในตึกนี้    เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา คนงานก่อสร้างแห่งรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกากลุ่มหนึ่ง ได้รับการว่าจ้างให้ไปรีโนเวทตึกชื่อว่า TB Converse Building ในเมืองวาลโดสตา ซึ่งในชั้นที่สองของตึกนี้เอง ทันทีที่พวกเขาพังกำแพงตึกก็ได้พบกับความสยดสยองในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด เพราะมีฟันของมนุษย์นับฟันซี่ถูกฝังเอาไว้อยู่ข้างในนั้น!!   1,000 Human Teeth Were Found Inside the Walls of a Georgia Construction Site https://t.co/FpKBkRBRWu pic.twitter.com/7BTmDvlVzE — dhy frs (@dhyfrs) October 30, 2018   ไม่มีใครรู้ว่าฟันพวกนี้มันเข้าไปอยู่ในกำแพงได้อย่างไรกันและใครเป็นคนเอามันมาฝังไว้อย่างนี้… แต่ว่าก็มีจุดที่น่าสังเกตคือความที่ Harry Evans นักวิจัยของสมาคมประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์เขต Lowndes บอกว่าตึกนี้เคยถูกครอบครองโดยทันตแพทย์ถึง 2 คนด้วยกัน   ตึกดังกล่าว   โดยคนแรกคือทันตแพทย์ Clarence…

เพราะด้วยความที่ในยุคนี้สมัยนี้ไม่ว่ามองไปทางไหนเราก็ต่างเห็นคนจิ้ม ‘สมาร์ทโฟน’ กันในแทบจะทุกอิริยาบถของชีวิต เลยทำให้บาร์แห่งหนึ่งตัดสินใจว่าร้านของพวกเขาลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะต้องถูกแบนสมาร์ทโฟนโดยสิ้นเชิง!!     บาร์ที่มีแนวคิดสุดล้ำเช่นนี้มีชื่อว่าร้าน Chihuahua Julep ตั้งอยู่ในกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาพวกเขาได้ประกาศเริ่มใช้นโยบายนี้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทั้งหมด ทั้งนี้นี่ไม่ใช่นโยบายที่ทำขึ้นมาเพื่อเป็นการต่อต้านโลกสมัยใหม่แต่อย่างใด แต่ว่าจุดประสงค์ที่พวกเขาประกาศสั่งแบนการใช้โทรศัพท์ก็เพื่ออยากจะให้ผู้ที่มาใช้บริการมีปฏิสัมพันธ์กัน ได้พูดคุยกันในโลกความเป็นจริงต่างหาก     โดยหากใครอยากจะเข้ามาที่บาร์แห่งนี้ จะต้องวางโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่กล่องหน้าทางเข้าบาร์ (ไม่ทราบว่ามีคนดูแลให้หรือไม่) ก่อน และนอกจากนี้ทางเจ้าของร้านยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำอย่างนี้ก็เพื่อไม่อยากจะให้แสงจากหน้าจอโทรศัพท์มาทำลายบรรยากาศอันงดงามของร้าน และทั้งหมดนี้ก็เพื่ออรรถรสในการจิบเครื่องดื่มอย่างแท้จริง… หลังจากเดือนสิงหาคมที่ประกาศนี้ออกไป เจ้าของร้านก็เล่าว่าเขาสามารถสังเกตได้ว่าลูกค้ามีความรีแลกซ์มากขึ้น ได้พูดคุยกับเพื่อนมากขึ้นหลังจากไม่มีโทรศัพท์มาให้กังวลใจ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้เป็นอย่างดีทีเดียว     อย่างไรก็ตามเจ้าของร้านบอกว่ามันก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดกับนโยบายนี้ โดยเฉพาะกับเหล่าผู้ปกครองที่ต้องคอยดูแลเด็กๆ เพราะพวกเขามักจะกังวลที่ต้องคอยตามดูลูกๆ ในโลกโซเชียลนั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยินดีที่จะเข้ามาผ่อนคลายที่บาร์แห่งนี้และมีความสุขร่วมกันเป็นอย่างดี… “มันเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้เห็นว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง จริงๆ แล้วผู้คนอาจต่างก็ต้องการการใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีอุปกรณ์อัจฉริยะอย่างนี้ และนี่เองที่เป็นเหตุผลให้เราทำมันขึ้นมา” Jarvinen เจ้าของร้านกล่าว จากสิ่งที่ทำลงไปนี้ Jarvinen ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าพนักงานของทางร้านได้รับคำขอบคุณจากลูกค้ามากมายที่ทำให้พวกเขาได้กลับมามีปฏิสัมพันธ์กันในชีวิตจริงอีกครั้ง ด้วยการตัดขาดกับสมาร์ทโฟน     “ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในโลกความเป็นจริงมันเป็นอะไรที่แตกต่างจากในจอโทรศัพท์เอามากๆ มีหลายคนเลยล่ะที่อยากจะหย่าร้างกับมันแต่ก็ทำไม่ได้” Jarvinen กล่าว ในตอนนี้เรื่องของสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียกำลังตกเป็นที่พูดถึงอย่างมากในประเทศฟินแลนด์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวเอาไว้ว่า กว่า 90% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั้งหมดในตอนนี้ได้เสพติดมันเข้าไปแล้ว และก็มีบางส่วนขอให้มีการแบนสมาร์ทโฟนในโรงเรียน…

บนโลกของเรายังคงมีเรื่องราวที่ยังไม่รู้อีกมากมาย จึงไม่แปลกเลยที่มนุษย์จะค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ และมันสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจทุกครั้งเลยทีเดียว และนี่คือเรื่องราวการค้นพบที่เรียกได้ว่าเป็น ‘สิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา’ ได้เลยทีเดียว มันคืออะไรนั้นลองไปติดตามชมพร้อมๆ กันได้เลยครับ     การค้นพบในครั้งนี้เกิดขึ้นในประเทศจีน ในหลุมยุบที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติขนาดยักษ์ ตั้งอยู่ในป่าของเขตปกครองตนเองกว่างซี โดยเป็นหลุมยุบที่มีขนาดใหญ่กว่า 6.7 ล้านลูกบาศก์เมตร เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ประเทศจีนและประเทศอังกฤษได้ร่วมมือกันลงไปสำรวจเจ้าหลุมยุบดังกล่าว ว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่ด้านใต้กันแน่ หน่วยงานที่ลงไปประกอบไปด้วยสถาบันธรณีวิทยาของจีน และ องค์กรสำรวจถ้ำจากประเทศอังกฤษ ส่งนักวิจัยและนักสำรวจถ้ำกว่า 19 ชีวืตลงไปในหลุ่มยุบดังกล่าวเมื่อวันที่ 4-8 ตุลาคม 2018     และสิ่งที่พวกเขาพบก็คือ ‘ถ้ำขนาดใหญ่’ ที่อยู่ข้างล่างนั้น ถ้ำดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า Hong Kong·Haiting Hall เป็นการให้เกียรติแก่ทีมสำรวจจากฮ่องกงที่ค้นพบมันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา จากการสำรวจของผู้เชี่ยวชาญทำให้รู้ว่ามันคือการค้นพบที่เรียกได้ว่าเป็น ‘สิ่งมหัศจรรย์ของธรณีวิทยา’ เลยทีเดียว     ถ้ำที่อยู่ด้านใต้สุดของหลุมยุบนั้นมีความกว้างราวๆ 100 เมตร ยาวประมาณ 200 เมตร และมีความลึกสูงสุดอยู่ที่ 118…

หลายครั้งที่สัตว์แสดงความรักต่อเพื่อนได้ลึกซึ้งกว่ามนุษย์ เพราะพวกมันเข้าใจความรักที่แท้จริง รู้จักเสียสละ มีความซื่อสัตย์ต่อเพื่อน และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่หวังผลตอบแทน และนี่คือความรักของสัตว์ที่มีต่อเพื่อน ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นใคร สายพันธุ์อะไร ตัวเล็กหรือใหญ่ พวกมันก็รักด้วยใจจริง เพราะมิตรภาพไม่มีเงื่อนไข   1. เป็นเพื่อนกันมา 5 ปี แล้ว อย่าเพิ่งเบื่อเรานะ   2. พี่หมาเอาของเล่นชิ้นโปรดของตัวเองมาให้น้องที่กำลังร้องไห้   3. นี่ก็รักกันเหลือเกิ๊น กอดอยู่นั่นแหละ กลัวใครจะแย่งไปหรอ   4. ถึงจะเป็นสัตว์ที่เข้มงวด แต่กับลูกแล้ว อ่อนโยนเสมอ   5. หมาไร้บ้านให้ความอบอุ่นนักปั่นที่ได้รับบาดเจ็บตลอดทั้งคืน จนมีคนมาช่วย   6. ลิงชิมแปนซีดูแลน้องเสือน้อย   7. มิตรภาพระหว่างสิงโต หมี และเสือ ยาวนานกว่า 10 ปี   8. พอเห็นคนเดินผ่าน ยิ้มอ่อนเลยนะ มันต้องหวังอะไรแน่ๆ   9. หนูช่วยนะแม่ เพราะหนูชอบดอกไม้  …

ความประมาทถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ และอาจจะสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สิน หรือชีวิตของผู้อื่นได้     เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศรายงานข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนสายหนึ่งใกล้ๆ กับเขต Chalk Farm ทางตอนเหนือของกรุงลอนดอน เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความประมาทของคนงานในระหว่างการตัดต้นไม้ริมถนน ซึ่งต้นไม้ได้ล้มลงมาจนเกือบโดนหนุ่มรายหนึ่งที่ขับจักรยานผ่านมา     เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับผู้พบเห็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น “ทำไมถึงไม่มีการควบคุมอะไรเลย โชคดีนะที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ” ความเห็นจากชาวเน็ตรายหนึ่ง   เฉียดไปนิดเดียวเอง!!   และนี่คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ที่มา metro

นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องสะเทือนใจมากจริงๆ เมื่อมีคุณลุงคนหนึ่งนำข้าวของในบ้านของตัวเองมาวางขายหน้าบ้าน ทั้งนี้เงินที่ได้ทั้งหมดก็เพื่อจะนำเงินไป ‘จัดงานศพ’ ให้กับตัวเองเมื่อลาโลกนี้ไปแล้ว…     เรื่องเศร้าเรื่องนี้ได้กลายเป็นที่โจษจันกันในโลกโซเชียลจากความที่ David Dunkleberger ได้สังเกตเห็นว่าที่หน้าบ้านหลังหนึ่งมีชายแก่นำทรัพย์สินต่างๆ มาวางขายเต็มหน้าบ้านของเขาที่ย่าน Brownstown รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา     เขาจึงได้เข้าไปสอบถามว่าทำไมถึงเอาของใช้แทบจะทั้งบ้านมาขายอย่างนี้ ชายแก่คนดังกล่าวก็เล่าให้ฟังว่าเขามีชื่อว่า Willie Davis อายุ 66 ปี เขากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนังอยู่ในขณะนี้และรู้ว่าสักวันหนึ่งต้องลาโลกนี้ไป จึงได้เอาทรัพย์สินมาวางขายเพื่อที่จะได้นำเงินในส่วนนี้มาใช้ฝังตัวเองในสุสานเดียวกับพ่อแม่ โดยเขาคาดว่าต้องใช้เงินประมาณ 15,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 484,000 บาท)     เมื่อได้ยินคำตอบสะเทือนใจดังกล่าว David เลยรีบควักเงินซื้อของไป 2 – 3 อย่างพร้อมกับเดินกลับไปที่รถเรียกเพื่อนเขาชื่อว่า Ed Sheets มารับรู้เรื่องราว “มันทำใจผมแทบสลายเมื่อได้ยินเรื่องราวนี้ เราต้องทำบางอย่างเพื่อช่วยเขา มันอาจทำให้ชีวิตเขาเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี” Ed กล่าว หลังจากการซื้อของในครั้งนั้น สองหนุ่มก็ตั้งระดมทุนบนเว็บ GoFundMe โดยตั้งเป้าเอาไว้ 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 161,000 บาท) สำหรับการช่วยเหลือชายชราอดีตทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนามคนนี้ “เขาทำหลายอย่างเพื่อประเทศของเรามามากดังนั้นพวกเราจึงอยากจะตอบแทนให้กับเขา ให้เขาได้ใช้ช่วงท้ายของชีวิตอย่างสงบสุข”     ในเวลาเพียงไม่นานนักก็ปรากฏว่ามียอดบริจาคเข้ามาอย่างถล่มทลายถึง…

สำหรับเงินที่เป็น ‘เหรียญ’ ใครหลายคนอาจจะมองว่าไม่มีค่า แต่ว่าเมื่อเร็วๆ นี่มีเหตุการณ์หนึ่งที่อาจทำให้ความคิดนี้เปลี่ยนไป เพราะว่ามีชายคนหนึ่งใช้เหรียญล้วนๆ เป็นเงินกว่า 70,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.2 ล้านบาท) เพื่อซื้อรถหรูค่าย BMW !!   หน้าตาของชายคนดังกล่าว   โดยชายผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ชาวเมืองตงเรน มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีนคนนี้ มีอาชีพเป็นคนขับรถบัส ซึ่งในระยะเวลาหลายปีที่เขาทำงานมา เขาก็เริ่มเก็บเล็กผสมน้อยทีละนิดๆ ด้วยเงินเหรียญที่ได้มาในแต่ละวัน แต่ว่าแทนที่เขาจะนำเหรียญที่เก็บเหล่านี้ไปแลกเป็น ‘ธนบัตร’ เพื่อความง่ายในการใช้จ่าย เขากลับเก็บเหรียญเหล่านี้ไว้ที่บ้านของตัวเอง   มาเป็นคันรถเลย   ชายคนนี้เล่าให้ฟังว่าเงินเหรียญที่อดออมมาจากการทำงาน ก็เพื่อจะเก็บเอาไว้ซื้อรถในฝันเป็นรางวัลให้กับตัวเอง ซึ่งพอดีว่าวันหนึ่งได้เห็นรถ BMW รุ่นใหม่เข้า เลยตัดสินใจว่าจะใช้เงินทั้งหมดเพื่อซื้อรถคันนี้ให้จนได้ แต่แล้วก็มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะด้วยความที่เขาไม่เคยนับเงินที่เก็บไว้ว่ามีเท่าไหร่ เลยทำให้ลำบากต้องโทรเรียกเพื่อนๆ จำนวนหลายคนมาช่วยนับ ซึ่งก็ปรากฏว่าพวกเขาต้องใช้เวลานับเงินเป็นเวลา 4 วันเต็มๆ ถึงจะสามารถยกใส่หลังกระบะขับไปโชว์รูมเพื่อซื้อรถได้…   เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ!!   แน่นอนเมื่อพนักงานได้เห็นดังนั้นก็ยิ้มอ่อนทันที เพราะด้วยเงินมูลค่ากว่า 70,000 ดอลลาร์แต่กลับเป็นเหรียญล้วนๆ จะไม่นับก็ไม่ได้ พวกเขาจึงต้องติดต่อทางธนาคารให้มาช่วยนับเงินจำนวนนี้หน่อย…

มันยากที่จะเชื่อ แต่นี่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นใน Echo Lake Park เมืองฟอร์ตเวิร์ธ รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นที่ที่ทุกคนสามารถนำสัตว์เลี้ยงมาทิ้งกลางสวนสาธารณะได้ Judy Obregon ผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือสัตว์ The Abandoned Ones (TAO) มักจะเห็นสัตว์ถูกทิ้งในสวนสาธารณะแห่งนี้บ่อยครั้ง จนตอนนี้เธอมาที่นี่ทุกวัน เพื่อหาสัตว์เลี้ยงที่ถูกทิ้ง     วันหนึ่ง ขณะที่เธอมาสวนสาธารณะเหมือนเช่นเคย เธอสะดุดตากับบ้านสัตว์เลี้ยงสีฟ้าที่วางอยู่กลางสวนสาธารณะ ซึ่งดูเหมือนกับว่าไม่มีอะไรอยู่ข้างใน อย่างไรก็ตาม เธอตัดสินใจเข้าไปเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีสัตว์ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ในนั้นจริงๆ แต่เมื่อเปิดออกมา สิ่งที่เห็น ทำให้เธอไม่สามารถเดินผ่านไปได้     ในบ้านสัตว์เลี้ยงนั้น มีผ้าห่มหลายฝืน Obregon จึงค่อยๆ ดึงผ้าห่มออกมาช้าๆ แล้วเธอก็เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้ชัดเจน มันคือลูกหมาตัวน้อยที่กำลังจ้องมองมาที่เธอ ผ้าห่มที่อยู่ในนั้นทั้งเปียกและเย็น ไม่มีน้ำหรืออาหารวางอยู่ข้างมันเลย Obregon จึงรีบพาลูกหมาออกมาอย่างรวดเร็วและพามันไปหาสัตวแพทย์ทันที     เมื่อตรวจเสร็จพบว่าน้องหมามีอายุ 10 เดือน และป่วยเป็นโรคขี้เรื้อนแห้ง จากนั้น Obregon ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Najila ซึ่งเป็นภาษาอาหรับ แปลว่า ‘ดวงตาที่ส่องประกาย’ มันเป็นชื่อที่เธอคิดว่าเหมาะกับมันมาก เพราะดวงตาที่ส่องประกายเป็นสิ่งแรกที่เธอเห็นเมื่อพบมัน Najila ไปพักฟื้นอยู่ในบ้านของ Obregon…

ย้อนกลับไปในอดีตกาล โลกใบนี้ถือว่ามีสิ่งงดงามอย่างธรรมชาติอยู่รายล้อมตามที่ต่างๆ เต็มไปหมด แต่เมื่อประชากรของมนุษย์มีเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนธรรมชาติเสื่อมโทรมลง แต่กระนั้นแล้วก็ยังมีธรรมชาติหลายๆ แห่ง ที่ยังคงความสวยงามให้เราได้ค้นหาอยู่ วันนี้เอง #เหมียวโคบี้ จึงได้รวบรวมรูปภาพของเหล่าธรรมชาติแสนสวย ที่สวยขนาดเพื่อนๆ อาจไม่คาดคิดว่ามันจะมีอยู่บนโลกนี้จริงๆ เลยล่ะ จะสวยงามขนาดไหนนั้นเราไปรับชมพร้อมๆ กันเลยครับ   1. ฟองน้ำในน้ำแข็งที่เกิดจากการสลายตัวของพืชที่อยู่ใต้น้ำแข็งในทะเลสาบ Spray ประเทศแคนาดา https://www.instagram.com/p/BaMA5QjBBjf/?utm_source=ig_embed   2. ภาพของฝูงนกสตาร์ลิ่งที่รวมตัวกันจนเหมือนกับภาพเคลื่อนไหว https://www.instagram.com/p/Bn35uvegqrX/?utm_source=ig_embed   3. เมฆจานบินที่เหมือนกับ UFO บินอยู่บนฟ้าจริงๆ เลย https://www.instagram.com/p/Bmy_3Z8Hi0A/?utm_source=ig_embed   4. เมื่อลาวามาบรรจบกับทะเล   5. ปรากฏการณ์หายากที่เรียกว่า “เสาแสง ” ซึ่งเกิดจากกระทบกันระหว่างแสงกับผลึกน้ำแข็ง https://www.instagram.com/p/Bfq57hBljk9/?utm_source=ig_embed   6. คุณเคยเห็นสายรุ้งสีขาวมาก่อนหรือไม่? https://www.instagram.com/p/BntrNqcHX3O/?utm_source=ig_embed   7. ที่เห็นนี่ไม่ใช่พืชนะ แต่เป็นกองทัพปูแดงนับล้านตัวต่างหากล่ะ https://www.instagram.com/p/BOW3D02AFwe/?utm_source=ig_embed   8. การรั่วไหลของก๊าซธรรมชาติ…

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นแห่งปีที่หลังจากปล่อยตัวอย่างออกมาก็ได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากชาวเน็ตในปีนี้ ก็คงเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่อง Ralph Breaks Internet ที่ได้ปล่อยทีเซอร์เรียกเสียงกรี๊ดทำให้คนตั้งหน้าตั้งตารอคอยที่จะได้รับชมกันเสียที แว๊บๆ มาว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นการรวมตัวเจ้าหญิงดิสนีย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยก็ว่าได้ เอาใจแฟนคลับเจ้าหญิงดิสนีย์สุดๆ ไปเลยพี่จ๋าาาา แถมยังมีการปรับตัวละครเจ้าหญิงดิสนีย์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้นให้เข้ากับยุคกับสมัยอีกด้วย     แน่นอนว่า นอกจากรูปลักษณ์ของเจ้าหญิงดิสนีย์แล้ว เรื่องเสื้อผ้าการแต่งตัวของเจ้าหญิงทั้งหลายก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปด้วย จึงได้มีการแอบเปิดเผยรายละเอียดเล็กๆ ที่ทางทีมผู้ผลิตภาพยนตร์ได้ใส่ใจ สมกับเป็นดิสนีย์ซะจริงๆ มาดูดีกว่าว่า รายละเอียดเล็กๆ ที่ว่าเหล่านี้ จะมีอะไรบ้าง สโนไวท์: สวมเสื้อยืดที่มีลายแอปเปิ้ลพิษ พร้อมกับสกรีนคำว่า Poison ที่แปลว่าพิษเอาไว้ด่วย ซินเดอเรลล่า: สวมกางเกงขายาวสีฟ้าที่เป็นสีประจำตัวของเธอพร้อมกับเสื้อแขนยาวที่มีลายรถฟักทอง ในเรื่องนี้เราจะได้เห็นหูของซินเดอเรลล่าแล้วด้วยนะ     แอเรียล: สวมเสื้อยืดสีม่วงที่คล้ายคลึงกับชุดราตรีของเธอเอง โพคาฮอนทัส: สวมเสื้อแขนยาวสีม่วงเข้มที่มีคำว่า “Blue Moon Corn” มู่หลาน: สาวเท่ สวมแจ็คเก็ตสีแดงปักลายมังกร สวมกางเกงยีนส์และรองเท้าคอนเวิร์สสีแดง ออโรร่า: เสื้อลาย สกรีนคำว่า Nap Queen นี่แหละเจ้าหญิงนิทราของแท้     เทียน่า: สวมชุดนอนสีเขียวสีประจำตัว ราพันเซล: สวมชุดสีสันสดใสลายโคมไฟ…

หากพูดถึงกีฬาเทนนิสแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักนักเทนนิสชื่อดังอย่าง Andy Murray นักเทนนิสชาวสกอตแลนด์ผู้เล่นได้อย่างรวดเร็วและมีพลัง อดีตเจ้าของตำแหน่งนักเทนนิสอันดับหนึ่งของโลก ล่าสุด Andy ก็ได้เดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อเตรียมตัวแข่งขัน Shenzhen Open แน่นอนว่านักเทนนิสชื่อดังอย่างเขามาเยือนจีนขนาดนี้ จึงมีองค์กรอยากจะมอบโล่รางวัลเป็นที่ระลึกให้แก่เขา แต่ประเด็นที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมกันในวันนี้เองคือจังหวะที่ Andy กำลังจะถ่ายรูปกับโล่ที่ระลึก จู่ๆ ไม่รู้อีท่าไหน  เขาดันไปทำเจ้าโล่รางวัลดังกล่าวร่วงพื้นทั้งๆ ที่เพิ่งจะได้รับมันมาเดี๋ยวเดียวเอง…   Whoops! Andy Murray drops a commemorative plate in China 😂 pic.twitter.com/JIapbpTDDA — ESPN UK (@ESPNUK) September 24, 2018   วันที่ 24 กันยายน 2018 Andy Murray ได้อัปโหลดสตอรี่ขึ้นบนอินสตาแกรมพร้อมกับแคปชั่นว่า “อุ๊ปส์” สั้นๆ แต่คนดูน่าจะรู้ว่าช่วงนั้นเขารู้สึกอย่างไร (ฮา) โดยในวิดีโอเราจะเห็นได้ว่า Andy กำลังถ่ายรูปคู่กับถ้วยรางวัลที่ระลึกของเขาอยู่และทันทีที่เขาทำมันหล่นลง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขายิ้มแบบเขินๆ พร้อมพูดขอโทษอย่างรวดเร็ว…

“วิดีโอเกม” ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทำการสร้าง ทำการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความเพลิดเพลินสนุกสนานของมนุษย์ ซึ่งเกมนี้ก็มีมากมายหลายแนวและหลายคุณภาพ และวันนี้เราก็จะมาพูดถึงเกมที่กำลังจะวางจำหน่ายในอนาคต Red Dead Redemption 2 หนึ่งในเกมคุณภาพ ที่การันตีความเจ๋งโดย Rockstar ค่ายเดียวกับที่เกมอย่าง GTA V (ที่ล่าสุดขึ้นแท่นกลายเป็นสื่อบันเทิงที่ขายดีที่สุดในโลกไปเรียบร้อย)   มาดูเทรลเลอร์เกมเพลย์เจ๋งๆ กันเสียก่อน    Red Dead Redemption เป็นเกมแนว Open World เช่นเดียวกันกับตระกูล GTA เพียงแต่ว่าธีมของเกมจะอยู่ในช่วงเวลาแห่งยุคคาวบอย ด้วยความใส่ใจของ Rockstar พวกเขาได้ทุ่มเททุกอย่างที่เขาสามารถสร้างสรรค์ได้ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกของเกมที่สวยสุดยอด ทิวทัศน์ที่งดงาม รวมถึงระบบหลากหลายอย่างที่ “สมจริง”     หากจะถามว่าสมจริงขนาดนั้นไหนนั้น เราก็สามารถยกตัวอย่างง่ายๆ ที่ต้องทำให้เพื่อนๆ ตะลึงได้ เพราะ Rockstar ใส่ใจแม้กระทั่ง “ไข่ม้า”… ในเกมนี้มีระบบที่ไข่ของเจ้าม้าที่เราใช้เป็นพาหนะสามารถหดตัวหรือยืดย้อยได้ตามสภาพอากาศ รวมถึงยังมีระบบฟิสิกส์การเด้งแบบสมจริงอีกด้วย นอกจากนี้ในเกมยังเพิ่มระบบความสัมพันธ์ระหว่างเราและม้าด้วย วิธีที่คุณปฏิบัติกับมันจะมีผลกระทบต่อเวลาที่คุณขี่มัน แถมยังสามารถตั้งชื่อและสอนทริคให้แก่มันได้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้นในส่วนของระบบอาวุธอย่างปืน คุณจะต้องทำการบำรุงพวกมันให้ดี ไม่อย่างนั้นมันอาจะมันอาจจะขัดลำกล้องก็เป็นไปได้ด้วยนะ    …

กำลังกลายเป็นที่ฮือฮากันอยู่ในโลกโซเชียลตอนนี้ ในกรณีของชาวเน็ตคนหนึ่งที่นำคลิปวิดีโอมาโพสต์แฉว่าใช้บริการร้านสะดวกซื้อ ‘7-11’ แต่ว่ากลับถูกพนักงานโกงเงินเอาดื้อๆ !! นี่คือเรื่องราวที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Nares Thamchaipenet นำมาเปิดเผย โดยทั้งนี้เขาโพสต์ดังกล่าวก็มีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นถึงภาพในวินาทีที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นด้วย  “**** เตือนภัย **** น้าของเพื่อนไปซื้อของเซเว่น ให้ตังค์แบงค์1000 มันโกงบอกน้าเพื่อนให้แบงค์100 ตังค์น้าเพื่อนมีแต่แบงค์1000 เพื่อนเลยให้เปิดกล้อง เป้าหมายคือ “ผู้สูงวัย” เครดิต: พี่ศุภกิจ จากภูเก็ต ส่งมาให้ดูนะครับ”    วิดีโอคลิปดังกล่าว    ในคลิปจะเห็นได้ว่าเป็นภาพของสุภาพสตรีคนหนึ่ง ที่นำสินค้ามาจ่ายเงินหน้าเคาร์เตอร์ตามปกติ แต่ว่าเมื่อให้เงินไปแล้วพนักงานกลับไม่นำเงินใส่ไว้ในช่องเก็บเงินอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับนำไปวางไว้บนชั้นวางที่อยู่ด้านล่างแทน     ทั้งนี้ตัวแคปชั่นโพสต์ก็อธิบายว่าผู้หญิงคนนี้จ่ายเงินชำระค่าสินค้าเป็นแบงก์พัน แต่ว่าพนักงานคนดังกล่าวกลับบอกว่าเงินที่รับมาเป็นแบงก์ร้อยซะอย่างนั้น… อย่างไรก็ตามเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นเช่นไรกันแน่ ซึ่งทาง CP ALL ก็กำลังเร่งตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งถ้ามีการกระทำผิดจริงๆ พนักงานคนนี้ก็อาจถูก ‘ไล่ออก’   โพสต์แถลงการณ์ของทาง CP ALL  ทางด้านชาวเน็ตที่ได้ดูคลิปวิดีโอดังกล่าว ต่างก็แสดงความเห็นถึงเรื่องนี้อย่างมากมายในทิศทางต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นต่อไปนี้   . . .  …

สำหรับเรื่องของการ ‘ลดน้ำหนัก’ แต่ละคนก็คงจะมีวิธีการหรือเคล็ดลับเฉพาะตัว แต่ถ้าหากใครที่ยังลดไม่ได้ซะทีไม่ว่าด้วยวิธีไหน ลองมาใช้วิธีแบบผู้หญิงคนนี้ดูก็ได้ทว่าอาจต้องกลั้นใจนิดหน่อย เพราะเธอคนนี้อ้างว่าน้ำหนักของเธอลดได้กว่าครึ่งด้วยการกินฉี่!?     Leah Sampson คุณแม่ลูกสองวัย 46 ปีจากรัฐแอลเบอต้า ประเทศแคนาดา คือคนที่มีวิธีการลดน้ำหนักดังกล่าว เธอกล่าวว่าครั้งหนึ่งชีวิตของเธอเคยมีน้ำหนักมากถึง 120 กิโลกรัม ซึ่งเป็นผลพวงอันเกิดจากการกินที่เธอเรียกว่าเป็น ‘วิถีชาวเมกัน’ นั่นคือกินเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่เป็นจำนวนมากต่อวัน และนั่นมันทำให้เธอไม่สามารถเอื้อมมือไปสระผมได้เลย ณ จุดจุดนั้น      ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้ Leah ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เธอตั้งใจไว้ว่าจะลดน้ำหนักอย่างจริงจังและด้วยความบังเอิญทำให้เธอไปพบเข้ากับสิ่งที่เรียกว่า ‘ปัสสาวะบำบัด’ ซึ่งเธอก็ตัดสินใจว่าจะใช้วิธีการนี้แหละในการขจัดความอ้วนให้หมดไปซะ     แต่ในระหว่างนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่เธอทำควบคู่ไปกับปัสสาวะบำบัด ก็คือเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจากที่เคยกินอาหารแปรรูปหนักๆ ไปเป็นอาหารจากธรรมชาติที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูปด้วย และในตอนนี้ไม่ต้องเชื่อก็ต้องเชื่อว่าด้วยวิธีการดังกล่าว ทำให้เธอมีน้ำหนักตัวเหลือเพียง 68 กิโลกรัมเท่านั้น!! ด้วยเหตุนี้เธอจึงอยากแบ่งปันเรื่องราวของเธอผ่านวิธีการนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นรวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักด้วย     “ในวัย 40 ปี แขนของฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่จะสระผมตัวเอง ฉันร้องไห้อ้อนวอนต่อพระเจ้าร้องขอให้พระองค์ช่วยให้คำตอบฉันด้วย ฉันบอกพระองค์ว่าฉันยินดีจะทำอะไรก็ตามแล้วแต่พระองค์ประสงค์ ขอเพียงพระองค์ช่วยฉันเท่านั้น” “หลังจากการสวดภาวนานั้นไม่นาน เพื่อนของฉันก็ส่งวิดีโอยูทูบเกี่ยวกับปัสสาวะของคนเรามาให้ดูว่ามันมีประโยชน์ต่อด้านร่างกาย อารมณ์…

ชายคนหนึ่งใน Jacksonville รัฐฟลอริด้า ต้องทนทุกข์ใจเป็นเวลานาน หลังจากที่น้องหมาสุดที่รักของเขา Daisy หายออกจากบ้าน สำหรับเจ้าของแล้ว การสูญเสียสุนัข มันให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการที่ลูกหายตัวไปเลย เขากังวลว่ามันจะได้รับอันตราย และใจหายเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้เจอมันอีก     สำหรับการหายตัวไปของ Daisy นั้น เริ่มจากวันนั้น เจ้าของเปิดประตูทิ้งไว้ มันจึงวิ่งหนีออกไป ปกติเมื่อมันออกไปแบบนี้ มันจะหาทางกลับบ้านเอง แต่ครั้งนี้ คงมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้มันไม่ยอมกลับมา มันหายไปเป็นเวลานานจนครอบครัวเริ่มกังวล พวกเขาใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ในการตามหา Daisy แต่ก็ไม่พบ และในขณะที่พวกเขากำลังจะสูญเสียความหวังทั้งหมดไป ก็มีสิ่งที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น     เมื่อพี่เลี้ยงของครอบครัวเห็นรูปสุนัขตัวหนึ่งในเว็บไซต์ของศูนย์พักพิงท้องถิ่น สุนัขในภาพดูคล้าย Daisy มาก และมันกำลังมองหาคนรับเลี้ยง ครอบครัวจึงรีบไปยังศูนย์พักพิงดังกล่าวทันที และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟัง ก่อนจะได้รู้เรื่องจากพนักงานศูนย์ว่า มีคนเจอ Daisy เดินอยู่บนถนน เลยพามันมาส่งศูนย์พักพิง พวกเขายังบอกอีกว่าตั้งแต่ถูกพาเข้ามา มันก็มันดูเซื่ยงซึมตลอดเวลา     แต่วันนี้ อาการมันเปลี่ยนไป เพราะมันได้เจอกับพ่ออีกครั้ง… ทันทีที่ Daisy เจอพ่อ มันแสดงความดีใจอย่างบ้าคลั่ง นั่นทำให้พนักงานรู้ทันทีว่าพวกเขาเป็นครอบครัวของมันจริงๆ     ในที่สุด Daisy…

ท่ามกลางภัยพิบัติต่างๆ เรามักจะได้เห็นเรื่องราวที่น่าประทับใจเสมอ เหมือนกับ Ali Standish ที่ตั้งใจไปรับสุนัขมาดูแล และเมื่อไปถึง เธอแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น ภาพที่เห็นคือมีอาสาสมัครต่อคิวยาวเหยียด และทุกคนมาเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ช่วยดูแลและให้ที่ปลอดภัยสำหรับสุนัขที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน Florence     ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาสาสมัครจาก Saving Grace ได้ทำงานกันอย่างหนัก เพื่อจัดหาที่พักให้สุนัขที่ถูกช่วยเหลือจากศูนย์พักพิงที่อยู่ติดชายฝั่งในแคโรไลนา และโชคดีที่คนในชุมชนอาสาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจนี้ Molly Goldston ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Saving Grace บอกว่า “นี่เป็นโอกาสดีสำหรับคนที่ไม่สามารถเลี้ยงสุนัขนานๆ ได้ แต่พวกเขายินดีเปิดบ้านตัวเองในระยะสั้นเพื่อเป็นที่พักสำหรับน้องหมาเหล่านี้” Standish เป็นหนึ่งในอาสาสมัครกว่า 100 คน ที่ช่วยรับเลี้ยงสุนัข จริงๆ เธอเองก็ดูแลน้องหมาอยู่แล้ว 2 ตัว และไม่แน่ใจว่าเจ้าลูกหมา Floyd จะเข้ากับพวกมันได้หรือเปล่า     แต่ทันทีที่พาน้องหมามาถึงบ้าน ความกังวลเหล่านั้นก็หายไป เพราะพี่หมาทั้งสองเข้าไปเล่นกับน้องหมาตัวใหม่อย่างเป็นมิตร ทำให้ Floyd อุ่นใจและปรับตัวกับที่ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว หมาของ Standish ทั้งสองตัวคือ Bella และ Keeper พวกมันยินดีแบ่งพื้นที่โซฟาให้ Floyd ขณะที่น้องเล็กเองก็รู้สึกพวกมัน รวมไปถึงพ่อแม่มนุษย์ด้วย ทุกครั้งที่มีโอกาส…

ใครๆ ต่างก็รู้กันดีว่าสนามบินเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยระดับ ‘เข้มงวด’ ในระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็กกระเป๋าสัมภาระก่อนอนุญาตให้เข้า หรือสแกนตามเนื้อตัวว่าพกอาวุธมาด้วยหรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นบางครั้งก็อาจมีสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้ามาบ้าง และในเหตุการณ์นี้ก็เช่นเดียวกันเมื่อมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญหลุดเข้ามาในสนามบิน สร้างความหวาดผวาให้กับผู้ที่พบเห็นจนถึงแตกกระเจิง เพราะเจ้าสิ่งที่ว่านี้มันคือ ‘งู’ ตัวเป็นๆ!!     โดยเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดนี้เกิดขึ้นที่สนามบิน Daniel Z. Romualdez เมืองตักโลบัน ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อมีผู้โดยสารบางคนสังเกตเห็นว่าบนพื้นมันเหมือนมีอะไรเลื้อยไปๆ มาๆ อย่างน่าฉงน และเมื่อมองชัดๆ ก็รู้ซึ้งว่าไม่ใช่ของเล่นใดที่ไหน แต่มันคืองูตัวน้อยตัวหนึ่ง   คลิปของน้องงูตัวนี้    ในสถานที่อย่างสนามบินใครจะไปคาดคิดว่าจะมีงูสามารถเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้ แต่เมื่อมันเข้ามาแล้วก็แน่นอนทำให้ฝูงชนแตกฮือหนีกันจ้าละหวั่น เพราะไม่รู้ว่าเจ้าวายร้ายตัวนี้มีพิษหรือไม่ ซึ่งนอกจากผู้โดยสารแล้วพนักงานสายการบินก็ไม่กล้าแหยมกับมันเช่นเดียวกัน เรื่องนี้ในที่สุดแล้วก็ต้องเดือดร้อนถึงมือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาช่วยกันจับตัวมันออกไป โดยพวกเขาบอกว่าจริงๆ แล้วงูชนิดนี้เป็นงูที่มีชื่อเรียกว่า ฺBlack Rat Snake ซึ่งเป็นงูที่กินหนูกินนกทั่วๆ ไปไม่ได้มีพิษอันตรายต่อคนแม้แต่น้อย (ช่างเป็นโชคดีจริงๆ)     การจับงูดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ที่เข้าใช้บริการสนามบินจำนวนมาก ผู้คนต่างพากันถ่ายรูปถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ดูเป็นที่ระลึก เพราะนี่เป็นภาพหายากจริงๆ ที่มีงูอยู่ในสนามบินเช่นนี้ “ผมกำลังจะขึ้นเครื่องกับเมียของผมในเย็นวันนั้น แล้วจู่ๆ ก็เห็นผู้คนแตกฮือกันยังกะเห็นผี ผมเลยเดินเข้าไปดูแล้วก็พบว่าเป็นงูนี่เอง ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองแน่ะ มันเป็นเรื่องที่เกินคาดมากๆ ในตอนนั้นเราหนีกันจ้าละหวั่นแต่นอกจากความตื่นเต้นแล้ว ก็ยังมีความสนุกแฝงอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วยนะ” Leon…

ถ้าหากพูดถึงนิตยสารเกี่ยวกับรถยนต์ระดับโลกล่ะก็ ชื่อของ TopGear อาจจะคุ้นหูพวกเราหลายๆ คนเป็นอย่างแน่ และในวาระครบรอบของนิตยสารรถยนต์ระดับโลกที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานกว่า 25 ปี พวกเขาก็ได้รวบรวมรถยนต์จากค่ายต่างๆ ที่เรียกได้ว่าทำให้โฉมหน้าของวงการรถยนต์เปลี่ยนไปเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้ เราก็มีตัวอย่างสุดยอดยานยนต์จากลิสต์ที่ว่านี้มาให้ได้ชมกัน…   1. Honda NSX ถึงแม้ว่ารถรุ่นนี้จะมีการเปิดตัวเจเนอร์เรชั่นล่าสุดไปหมาดๆ แต่รุ่นพี่ของมันก็ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดรถแห่งยุค แถมยังเป็นรถสปอร์ตที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบายๆ อีกด้วย   2. McLaren F1 นี่คือรถที่เร็วที่สุดในโลก ก่อนที่ Bugatti Veyron จะถือกำเนิดขึ้นมา มันถือเป็นรถสมถรรณะเยี่ยมที่มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และห้องโดยสารแบบ 3 ที่นั่งอันเป็นเอกลักษณ์   3. Lotus Elise รถสปอร์ตจากปี 1996 ที่ยังคงมีให้เห็นในต่างประเทศ และเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ทาง TopGear บอกว่ามันดูแลรักษาค่อนข้างง่าย   4. Pagani Zonda สปอร์ตจากยุค 90’s ซุปเปอร์คาร์อีกหนึ่งยี่ห้อจากอิตาลี ที่ทำให้พวกเรารู้ว่าในแดนมักกะโรนีนั้นไม่ได้มีดีแค่ Ferrari หรือ Lamborghini เท่านั้น   5. Fiat 500 นี่อาจจะไม่ใช่รถที่มาพร้อมกับสมถรรณะเครื่องยนต์ที่ทรงพลังเหมือนกับรถสปอร์ตคันอื่นๆ ในลิสต์…

เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา หลายคนอาจจะพอทราบกันถึงการเสนอนโยบายแก้ปัญหารถติดในชั่วโมงเร่งด่วนที่ทาง พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ว่า อยากให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) ลดจำนวนรถเมล์ประจำทางในรามคำแหง ในขณะที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม เนื่องจากเป็นสายที่มีปริมาณรถมากแต่มีผู้ใช้บริการน้อย เนื่องจากเมื่อเกิดรถติดจะทำให้เสียพื้นที่จำนวนมาก     ล่าสุดในวันเดียวกันนั้น ทางด้านนายชำนาญ อยู่สอาด ผู้อำนวยการเขตการเดินรถที่ 6 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ก็ได้ออกมาคัดค้านแนวคิดดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก ชำนาญ อยู่สอาด ว่า รถเมล์ของ ขสมก.นั้นไม่ได้สร้างปัญหาจราจร พร้อมกับบอกว่าตรรกะ ที่ว่ารถเมล์ขนาดใหญ่นั้นใช้พื้นที่เยอะ สร้างปัญหาการจราจร ขัดกับแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศที่เจริญแล้ว ซึ่งจะเน้นให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวแทน     “ฟังความเห็นการสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาจราจรแล้วปวดหัวใจครับ “เพราะรถเมล์ มีขนาดที่ใหญ่ บางเส้นทางทำให้สร้างปัญหาจราจร” เจ็บเล็กครับกลับตรรกะนี้ จากอดีตที่ผ่านมา แนวคิดการแก้ไขปัญหาจราจรในเมืองใหญ่ ในหลากหลายนานาอารยประเทศ คือความพยายามจูงใจให้ประชากรในเมืองหลวง เปลี่ยนแปลงการเดินทางจากยานพาหนะส่วนตัว มาใช้บริการสาธารณะ ด้วยรถโดยสารประจำทาง อาทิ เวียดนาม เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ แม้กระทั่งแถบยุโรปและอเมริกา โดยเฉพาะเกาหลีใต้     ในยามเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ รัฐบาลจะประกาศให้ขึ้นรถโดยสารประจำทางฟรี เพื่อความปลอดภัย…

กิจกรรมที่เป็นงานอดิเรกของมนุษย์มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายประเภทให้เลือกทำ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬา เล่นดนตรี อ่านหนังสือ ฟังเพลงรวมถึง “การล่าสัตว์” ก็ด้วย ซึ่งสำหรับการล่าสัตว์แล้ว ในสายตาของคนนอกถือว่าเป็นงานอดิเรกที่ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เนื่องจากมีการเบียดเบียนและฆ่าสิ่งมีชีวิตเพื่อนร่วมโลกของเราโดยไม่จำเป็น แต่สำหรับ Ashley Murphy คุณแม่วัย 31 ปีคนนี้เธอไม่คิดอย่างนั้น เธอคิดว่าการออกไปล่าสัตว์กันเป็นครอบครัวนั้นดีต่อทุกๆ คน และยังบอกอีกด้วยว่ามันเป็นกิจกรรมที่ดี ที่สามารถช่วยให้ลูกของเธอไม่ติดเทคโนโลยีอย่าง iPad ด้วย     Ashley เติบโตมาจาก Burnsville  รัฐนอร์ทแคโรไลนาเธอได้เจอกับ Brandon สามีวัย 33 ปีซึ่งงานอดิเรกคือการล่าสัตว์ตั้งอยู่เรียนมัธยม ในครั้งแรกที่เขาชวนเธอออกล่าสัตว์ พวกเขาก็สามารถล่ากวางได้และนั่นทำให้เธอเริ่มสนใจในกิจกรรมล่าสัตว์ และเมื่อทั้งคู่มีลูกด้วยกัน พวกเขาก็พา Bryson ลูกชายวัย 8 ขวบไปล่ากับพวกเขาด้วย ซึ่ง ณ ปัจจุบันเด็กน้อยสามารถฆ่าสัตว์ไปได้กว่า 4 ตัวแล้ว     เธอกล่าวว่า “เมื่อพวกเราเรียนรู้ว่าการล่าสัตว์มันสามารถช่วยหยุดความหิวโหยของคนในโลกได้ เพราะอาหาร (สัตว์ที่พวกเขาล่า) สามารถบริจาคให้กับคนที่ต้องการได้และก็มีองค์กรที่พยายามทำแบบนั้นอยู่ ฉันไม่สามารถหยุดความหิวโหยได้หรอก แต่ก็ขอมีส่วนร่วมสักหน่อย”     ปกติแล้ว Brandon…

ในยุคแห่งโลกออนไลน์ ไม่ว่าอะไรก็ดูจะแสนสะดวกสบายไปซะทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของการค้าขาย ซื้อง่าย ขายคล่อง แค่กด โอนเงิน ก็นอนรอรับของได้ถึงหน้าบ้าน สะดวกสบายซะจริงๆ แต่ว่าวงการค้าขายออนไลน์นี้ เหล่าพ่อค้าแม่ขายต่างก็ต้องงัดกลเม็ด วิธีเด็ดๆ มาสู้กัน เพราะเรื่องความน่าเชื่อถือนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ลูกค้าไว้เนื้อเชื่อใจซื้อของออนไลน์กับร้านนั้นๆ อย่างเช่นเรื่องราวต่อไปนี้จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า เจ้ฟ้า กับอาเฮีย ที่  #เหมียวบู้บี้ ขอยกตำแหน่งให้เป็นแม่ค้าที่จริงใจที่สุดในสามโลกไปเลย เจ๊ฟ้า ได้โพสต์รูปภาพไลน์การสนทนาของเธอกับลูกค้าคนหนึ่งไว้ในเฟซบุ๊กของเธอ เริ่มที่ลูกค้าที่ได้ซื้อเสื้อผ้ากับเธอได้ทักมาว่า มี ‘ขน’ อะไรบางอย่างติดไปกับเสื้อผ้าด้วย   มันคือขนอะไรบางอย่าง ซึ่งจากการเดาแล้วว่าน่าจะป็นขนของมนุษย์แน่นอน แม่ค้าจึงตอบกลับไปว่า อาจจะเป็นขนตา หรือขนจมูกก็ได้   คุณลูกค้าก็ยังคงไม่เชื่อ สั้นๆ หนาๆ แบบนี้ มันเหมือนขนตรงนั้นอ่า   หมายถึง ขนเหมี๊ยว (ขออนุญาตเซ็นเซอร์ให้ดูน่ารักๆ) หรอคะลูกค้า   ถึงกับต้องถอนมาให้ดูเลยค่ะ ไม่ใช่ขนเหมี๊ยวจริงๆ   นี่คือขนทั้งหมดทั้งมวลในร่างกายแม่ค้าค่ะ   แหม่ จริงใจจริงๆ แม่ค้าคนนี้   ที่มา เจ้ฟ้า กับอาเฮีย

ในโลกออนไลน์ในช่วงนี้เราจะเห็นได้ว่า เหล่าคนดังทั้งดารานักแสดง นักร้อง หรือเซเลบแห่งวงการต่างๆ เริ่มออกมาทำรายการเป็นของตัวเองมากขึ้น ส่วนมากก็จะมาเปิดเผยไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันของตัวเองให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน ทำให้คนดู ได้เห็นในอีกมุมหนึ่งในชีวิตของคนดังที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งแต่ละรายการที่คนดังมาถ่ายรายการเองเช่น คุณสู่ขวัญ คุณพี่ติ๊ก คุณแพร วทานิกา ก็ได้กระแสตอบรับจากชาวโลกออนไลน์เป็นอย่างดี และรายการใหม่ล่าสุดที่เราจะมาพูดถึงตอนนี้คือ ช่องยูทูบของ เก้า สุภัสสรา ธนชาต นักแสดงสาวขวัญใจวัยรุ่นที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 6.2 ล้านคน โด่งดังมาจากซีรีส์ชื่อดังอย่าง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น     เก้าได้อัปโหลดคลิปวิดีโอ Vlog (Vlog คือ การถ่ายวิดีโอเก็บความทรงจำคล้ายกับการเขียนไดอารี่ที่อยู่ในรูปแบบของวิดีโอ ที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้) พาเที่ยวมัลดีฟ ซึ่งความน่ารักของเธอนั้น ทำเอา #เหมียวบู้บี้ ที่ชื่นชอบในตัวของเธออยู่แล้วยิ่งชอบเข้าไปอีก ดูเพลินๆ เลย   ใส่แว่น น่ารักมาก โอยยยย   สดใส น่าย๊ากกกก   เพลินๆ ไปกับการเที่ยวมัลดีฟไปกับเธอ   อยากไปเที่ยวทะเล   สดใสเกินไปแล้ว…

คลิปวิดีโอจากกล้องติดตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากรัฐเท็กซัส เผยให้เห็นวินาทีที่เขาตัดสินใจใช้ปืนยิงใส่ชายวัย 24 ปี ในขณะพยายามหนีการตรวจค้น Oshae Terry คนขับรถคันดังกล่าวถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ในระหว่างที่เขาได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้จอดรถ และลดกระจกลง     เจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในเหตุการณ์อ้างว่า พวกเขาได้กลิ่นกัญชาออกมาจากภายในรถของหนุ่มวัย 24 ปี ก่อนที่จะกลับไปที่รถตรวจการเพื่อตรวจสอบประวัติ ภายในคลิปวิดีโอ นายตำรวจที่ยืนอยู่ฝั่งผู้โดยสารได้พูดคุยกับชายทั้งสองคนในรถว่า ต้องการตรวจค้นรถเท่านั้น และไม่ต้องกลัวอะไรถ้าหากไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย     “ถ้าหากคุณไม่มีอะไรในรถ ก็ไม่ต้องกังวลหรอก เราแค่ต้องทำในหน้าที่ของเราเท่านั้นเอง” เสียงของตำรวจหนุ่มที่กำลังคุยกับคนในรถ อย่างไรก็ตามชายคนหนึ่งในรถได้พยายามเลื่อนกระจกขึ้น ซึ่งในขณะเดียวกันมือของเจ้าหน้าที่ก็ยังคงติดอยู่ เขาจึงพยายามที่จะหยุดรถที่กำลังวิ่งอยู่     “เฮ้ เฮ้ หยุดรถก่อนครับ” เจ้าหน้าที่บอกกับ Terry ก่อนที่เขาจะตอบกลับมาว่า “ผมก็ไม่ได้จะไปไหนนี่” แต่อย่างไรก็ตามรถยังคงเคลื่อนไปข้างหน้าเรื่อยๆ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตะโกนบอกให้หยุดอีกครั้ง และตัดสินใจยิงไปที่คนขับ 5 นัดด้วยกัน     Terry เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนเพื่อนของเขาที่นั่งมาด้วยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในเหตุการณ์วันนั้น หลังจากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบกัญชา 400 กรัม ยาอี 7…

กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจอย่างมากสำหรับกรณีที่ดีเจเก่ง หรือ เก่ง เกียร์ R ได้รับใบขับขี่ตลอดชีพคืน ตามที่หลายๆ สำนักข่าวรายงาน แต่ดูเหมือนว่าการรอคอยตลอดระยะเวลาเกือบ 3 ปีของดีเจเก่ง จะถูกหลายๆ คนตั้งคำถาม รวมถึงเพจดังอย่าง อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return ที่ออกมาโพสต์ถามว่าทำไมดีเจเก่งถึงได้รับใบขับขี่คืน      “ความเสือกของกูนี่มันอยู่ในสันดานกูจริงๆ นะแม่งฝังลึกยากต่อการขุดออก-ิบหาย กูจำได้ว่าศาลมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่รถของเก่งนะ แต่ทำไมวันนี้เก่งได้รับใบอนุญาตคืนแบบใสๆ ถ้าถามตามความเหมาะสมมันควรไปอบรม 5 ชม. จริงๆแx่งอบรมสัก 3 วันเลยด้วยซ้ำ แล้วสอบใหม่ 5 ปีต่อครั้งนึงเหมือนบุคคลอื่นๆ #กรมขนส่งทางบก ควรมีคำตอบ” ข้อความจากทางเพจ อย่างไรก็ตามหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น บางส่วนบอกว่า คำพิพากษาฎีกานั้นยังไม่ถึงที่สุด พร้อมกับยกข้อกฎหมายออกมาอ้าง   .   บางคนก็บอกว่าคำตัดสินยังไม่ถึงที่สุด!!   แต่อย่างไรก็ตามมีบางทางแฟนเพจดังกล่าวก็ได้ตั้งคำถามกลับไปว่า ถึงแม้จะเหลือคำตัดสินของศาลชั้นฎีกาจริง แต่ได้ใบขับขี่คืนแบบนี้ได้ด้วยหรือ พร้อมกับชาวเน็ตบางคนที่ออกมาโต้แย้งว่าจริงๆ แล้วก็น่าจะต้องเพิกถอนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นแล้ว   ชาวเน็ตรายหนึ่งที่ออกมาอธิบาย เกี่ยวกับข้อกฎหมาย .   แต่ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าของคอมเมนต์ก็ยังไม่กระจ่าง พร้อมกับยกตัวอย่างกรณีเมาแล้วขับมาอ้าง และถามกลับว่าอยู่ในระหว่างสู้คดี และใบขับขี่ยังไม่ถูกเพิกถอน และวันที่โดนจับไม่ได้เอาให้ร้อยเวรก็น่าจะใช้ได้นี่  …

สวนสนุก อีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสุดโปรดที่ใครหลายๆ คนมีเอาไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกตอนที่ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ที่ไม่ว่าจะไปเมื่อไหร่ก็ได้รอยยิ้มกลับไปเสมอ อาจจะมีคนคิดว่า คงไม่มีงานไหนที่จะสนุกเท่ากับการเป็นพนักงานประจำสวนสนุก การได้ดูผู้คนสนุกสุดเหวี่ยงพร้อมกับรอยยิ้มในทุกๆ วัน มันก็น่าจะดีไม่ใช่เหรอ ไม่มีสถานที่ไหนที่จะดีสมบูรณ์แบบเสมอไป มีการตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ Reddit ขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนที่ทำงานสวนสนุกมาแชร์กันว่า พวกเขาเคยเจออะไรแบบประหลาดๆ ในสวนสนุกบ้าง ซึ่งคำตอบของแต่ละคนก็ทำเอาขนลุกเลยล่ะ   1. ถังแช่เย็นที่เต็มไปด้วยอ้วก @GreasyDagoWop: “ระหว่างที่ทำความสะอาดลานปิกนิก ฉันพบกับถังคูลเลอร์ใบหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยเปิดมันดู ดอกแรกเลยก็คือกลิ่นที่ชวนแหวะมากๆ มันคือถังที่เต็มไปด้วยอ้วก เป็นสิ่งที่สะอิดสะเอียดที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยล่ะ”   2. รูปของ Bob Hope มีคนบอกว่าเจอรูปของ Bob Hope (อดีตนักแสดงตลกชื่อดัง) ในหลายๆ ที่ ทั้งถังน้ำแข็ง บนเครื่องเล่น ที่เครื่องเก็บเงิน หรือแม้กระทั่งในสวน   3. กระเป๋าพร้อมถุงเท้าเก่า 100 คู่ กระเป๋าแบ็คแพ็คพร้อมถุงเท้าเก่าๆ 100 คู่ถูกทิ้งเอาไว้ตอนที่สวนปิด ถุงเท้าในกระเป๋าใบนั้นล้วนแต่เป็นถุงเท้าสีดำทั้งหมด   4. หมวกแม่มดที่แปดเปื้อนไปด้วยอึ   5. ขาเทียม…

คงจะไม่เรื่องไหนที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดใจได้เท่ากับความตั้งใจอยากจะมีลูก แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จเสียที เนื่องจากความเข้าใจผิดที่สั่งสมมานานแรมปี… เข้าผิดถ้ำ ยัดผิดรู เรื่องของเรื่องก็คือ คู่รักไม่เปิดเผยนามในวัย 26 กับ 24 ปี ได้เข้ามาพบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษาหลังจากที่จ้ำจี้กันเป็นประจำเพื่อหวังผล แต่ไม่เคยประสบผลสำเร็จในการตั้งท้องเลยสักครั้ง     จนกระทั่งมารับรู้ความจริงหลังการตรวจวินิจฉัยแล้ว พบว่าทางฝั่งภรรยายังคงความบริสุทธิ์ไว้ครบถ้วน และเธอยอมรับว่ามักจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงทุกครั้ง ที่มีอะไรๆ กับสามี สูติแพทย์ Liu Hongmei ได้กล่าวว่า “คู่รักคู่นี้ยังอยู่ในช่วงเยาว์วัยมาก ชายอายุ 26 กับหญิงอายุ 24 พวกเขาสุขภาพแข็งแรงดี แม้จะแต่งงานอยู่กินด้วยกันมา 4 ปีแล้ว ก็ยังไม่ตั้งท้องเลยสักครั้ง ครอบครัวก็ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่จากปัญหาที่เจอ”     จากการซักประวัติเบื้องต้น แพทย์รับรู้ว่าทั้งคู่เล่นจ้ำจี้เป็นประจำ ฝั่งภรรยาก็ยอมทนเจ็บทุกครั้งเพื่อหวังว่าจะตั้งท้อง อาการของเธอจึงเข้าข่ายโรคทางนรีเวช แต่แล้วความจริงก็ปรากฏออกมาว่า ทั้งคู่เข้าใจผิดทำอะไรกันผ่านรูทวารมาตลอด 4 ปี     ในที่สุดแล้ว แพทย์จึงได้แนะนำวิธีการที่ถูกต้องพร้อมกับคู่มือเพศศึกษา ก่อนที่จะปล่อยทั้งสองกลับบ้านไป จนกระทั่งได้รับข่าวดีว่าภรรยาตั้งท้องในไม่กี่เดือนต่อมา… “สี่ปีที่แต่งงานมา และไม่ว่าจะทั้งสามีหรือภรรยาไม่รู้วิธีการตั้งครรภ์ เป็นกรณีที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย แต่มันก็เกิดขึ้นกับคู่นี้ได้…

เรื่องของการ ‘หลงทาง’ นับได้ว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่ากังวลใจของเหล่านักเดินทางจริงๆ และถ้ายิ่งเป็นพื้นที่ที่เราไม่รู้จักอย่างในป่าในเขาแล้วด้วยล่ะก็ มันอาจเป็นเรื่องที่หมายถึงชีวิตของเราได้เลย แต่ว่าเมื่อเร็วๆ มานี้ได้มีเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น เมื่อมีชายคนหนึ่งหลงเข้าไปในภูเขาเป็นสัปดาห์ แต่ว่าเมื่อมีการค้นพบตัวเขากลับไม่เป็นอะไรเลยสักนิด และที่เขารอดชีวิตมาได้ก็เป็นเพราะว่าการ ‘กินผึ้ง’!!     โดยเรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ชายชาวอเมริกันนามว่า Matthew Matheny ได้ยืมรถเพื่อนของเขาขับไปเที่ยว Blue Lake Trail เส้นทางเดินป่าบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของภูเขาไฟ Mount St.Helens ในรัฐวอชิงตัน     แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานแล้วนานเล่าจนผิดสังเกต Matthew ก็ยังไม่กลับมาซะที ทางเพื่อนผู้เป็นเจ้าของรถจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะหลงป่าอยู่ในตอนนี้ ปฏิบัติการค้นหาตัวชายคนนี้ได้เริ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ค้บพบรถ Sabaru Outback ตามที่ได้รับแจ้ง จอดเอาไว้ที่ต้นทางเดินป่า เมื่อวันเสาร์ที่ 11 สิงหาคมผ่านมา     พวกเขาจึงใช้กำลังคนเข้าค้นหาในพื้นที่รวมถึงสุนัขดมกลิ่น เฮลิคอปเตอร์ และโดรนสำรวจ แต่ถึงอย่างไรแล้วเวลาผ่านไปเกือบๆ สัปดาห์ ก็ยังไม่อาจหาตัวหรือแม้แต่วี่แววของ Matthew ได้ แต่แล้วความพยายามก็ประสบผลสำเร็จในที่สุดเมื่อวันพุธที่ 15 สิงหาคม เมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้พบตัวชายหลงป่าคนนี้ในสภาพที่สมบูรณ์ไม่ได้มีอาการอ่อนแรงแต่อย่างใด     ทว่าเพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่จึงพาตัวเขาเข้ารับการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเป็นการด่วน ซึ่งผลจากการตรวจปรากฏว่าเขาไม่ได้มีอาการบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นมีความเสี่ยงอันตรายใดๆ…

ช่วงกลางดึกวันที่ 19 สิงหาคม 2018 ทางเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ลูกค้าผู้ชายคนหนึ่งเข้าไปโวยวายกับทางร้านโทรศัพท์ เนื่องจากพนักงานไม่สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้กับเขาได้   ชายสวมกางเกงขาสั้น คือลูกค้าที่เข้ามาโวยวาย   จากข้อมูลของโพสต์ต้นฉบับบอกว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า โดยชายในคลิปได้ซื้อ iPhone X จากทางร้านไปก่อนหน้านั้น 1 วัน หลังจากนั้นเขาก็กลับมาที่ร้านอีกครั้ง โดยบอกว่ามือถือที่เพิ่งซื้อไปนั้นมีปัญหา ต้องการที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่     แต่เหมือนว่าชายคนดังกล่าวจะนำมือถือไปทำอะไรสักอย่างกับร้านอื่น (โดยข้อมูลบอกว่าเป็นร้านตู้กระจกทั่วๆ ไป) ซึ่งมันอาจไม่ตรงกับเงื่อนไขที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้พนักงานไม่สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้กับเขาได้ เมื่อชายคนนั้นได้ยินว่าทางร้านยินดีรับเคลมเพียงอย่างเดียว เขาก็เริ่มเกิดอาการฉุนเฉียว พยายามที่จะเข้าไปหลังร้าน (บริเวณคลังเก็บของ) โดยที่พนักงานสาวก็พยายามห้ามเขาไว้ที่หน้าประตู   พนักงานยืนขวาง ไม่ให้เขาเข้าไปในห้องเก็บสินค้า   จนกระทั่งเขาได้กระชากแขนของพนักงานหญิงคนนั้น ก่อนที่จะต่อยเข้าไปบริเวณใบหน้าของเธอ จนทำให้คนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์รีบกรูเข้ามาควบคุมสถานการณ์   คลิปจากกล้องวงจรปิด ตอนที่ชายคนนี้ต่อยหน้าพนักงานสาว   และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะเขายังคงโวยวายต่อไป จนเกือบกลายเป็นปัญหาบานปลาย ลามไปถึงลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานชายที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งไม่มีใครพอใจกับการที่ชายคนนี้ต่อยผู้หญิง…

กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง ในกรณีของเพจๆ หนึ่งที่ออกมาเผยเรื่องราวว่ามีรุ่นพี่มหาวิทยาลัยดังรับน้องด้วยการบังคับให้กินเหล้าเพียวติดๆ กันจนแทบช็อก และที่สำคัญคือยังบอกด้วยว่าถ้าตายไปพี่รับผิดชอบไม่ไหว โดยเรื่องดังกล่าวนี้ได้ถููกเปิดเผยมาจากเพจ Anti Sotus โดยมีภาพของแชทที่อ้างว่าเป็นการพูดคุยกันระหว่างนักศึกษารุ่นพี่ที่เป็น ‘พี่ว้าก’ และการรับน้องที่เกิดขึ้นนี้มีจุดประสงค์ก็เพื่อ ‘แหวน’   บทสนทนาที่ทางเพจโพสต์เปิดเผย . . . . .   เมื่อเรื่องดังกล่าวแพร่กระจายออกไป ทางด้านชาวเน็ตต่างก็เข้ามาคอมเมนต์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างมากมาย ดั่งเช่นความคิดเห็นดังต่อไปนี้   . . . .   ที่มา: anti sotus

เป็นใครก็ต้องโมโหเป็นธรรมดา ถ้าหากว่าตื่นเช้ามาในวันแสนสดใสแต่ว่ากลับต้องมาเจอ ‘ขี้หมา’ นอนกองอยู่หน้าบ้าน แล้วถ้ามันเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นทุกวันล่ะมันจะน่าอารมณ์เสียขนาดไหนกัน และไม่แน่เหมือนกันนะว่าคุณอาจจะแก้เผ็ดเหมือนกับชายคนนี้ ที่ลงทุนติดกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวคนร้ายแล้วปริ้นท์ภาพออกไปวางตรงกองขี้เพื่อให้รู้สำนึกซะเลย!!     โดยเรื่องมีอยู่ว่านาย Steve Tamblyn ชาวนครแอดิเลด รัฐเซาท์ออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย ต้องประสบกับปัญหาเรื่อง ‘ขี้หมา’ ที่มากองเต็มอยู่บริเวณหน้าบ้าน แน่นอนว่าการตามหาเจ้าของจากกองขี้ มันคงเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ หลังจากทนมาหลายวัน ในที่สุดแล้วเขาจึงลงทุนติดกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวว่าเจ้าของหมาตัวก่อปัญหานี้คือใครกันนะ และแล้วเขาก็ได้รู้ว่าผู้ร้ายในการก่อเหตุนี้ก็คือ เจ้าหมาพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวหนึ่ง ที่ทางเจ้าของผู้หญิงได้จูงมันมาขี้ใส่สนามหญ้าหน้าบ้านเขา “อย่าคิดว่ามันเป็นเวลาเช้าตรู่ (ุ6.47 น.) แล้วจะไม่มีใครรู้เห็นเรื่องนี้นะ” เขากล่าว   วิดีโอขณะเจ้าหมาน้อยมาทิ้งทุ่น    ในเวลาต่อมาเขาก็โพสต์วิดีโอจากกล้องวงจรปิดนี้ลงในโลกโซเชียล เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ตช่วยระบุตัวให้หน่อยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ นอกจากนี้สิ่งที่เขาทำเพื่อสั่งสอนเป็นบทเรียนให้กับเจ้าของหมาก็คือ ปริ้นท์รูปตอนที่เธอพาหมามาทิ้งทุ่นไปปักไว้บริเวณกองขี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เธอคนนี้มีความสำนึกช่วยเก็บขี้หมาไปทิ้ง รวมถึงเป็นการประจานเรื่องนี้ต่อสายตาชาวบ้านที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้นด้วย     “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเธอเห็นภาพของเธอหรือยัง หรือบางทีเธอคงเปลี่ยนเส้นทางในการพาหมาเดินเล่นไปแล้วมั้ง” Steve กล่าวอย่างอารมณ์ดี     ทั้งนี้นาย Steve ก็บอกด้วยว่าปัญหาที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ตัวของน้องหมาเอง แต่ว่าอยู่ที่จิตสำนึกของเจ้าของหมามากกว่า “บอกเลยนะว่าผมก็เป็นคนรักหมาเหมือนกัน แถมผมยังเลี้ยงหมาเอาไว้และมักจะพามันออกไปเดินเล่นตามถนนอยู่บ่อยๆ” “แต่ผมเบื่อเหลือเกินกับเจ้าของหมาที่ไม่มีความรับผิดชอบเลยต้องทำอย่างนี้ และหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับเจ้าของหมาคนอื่นๆ ด้วย”  Steve…

ในการเซลฟี่แต่ละครั้ง เราสามารถออกแบบธีมเซลฟี่ของตัวเองได้ บางคนอยากได้แบบสวยๆ หล่อๆ บางคนอยากได้แบบฮาๆ หรือเฉยๆ ก็จัดไปตามนั้น แต่ใช่ว่าจะมีแค่มนุษย์เราซะที่ไหน พวกสัตว์เลี้ยงเองก็ออกแบบธีมเซลฟี่เองได้เหมือนกัน บางตัวไม่ยอมให้เซลฟี่กับมนุษย์ มันก็แสดงออกมาชัดเจน ในขณะที่บางตัวเซลฟี่อย่างกับมืออาชีพแหน่   1. ไหน ใครเรียกหาม้าลายหรอ?   2. เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ ใครบอกฉันจะเซลฟี่ด้วย ห๊ะ จุ๊บเหม่งตูอีกต่างหาก ยึ๋ย   3. ไม่เอา ไม่ถ่ายโว้ยยยย จะถ่ายคนเดียว   4. เซลฟี่หรอ ได้สิ ตาปรือแป๊บ จะได้ดูเซ็กซี่   5. จะถ่ายก็ถ่ายเฉยๆ อย่ามาจุ๊บ   6. สวยนักใช่มั้ย แย่งซีนซะเลยหนิ   7. เมื่อคุณเผลอเปิดกล้องหน้า   8. เรื่องเซลฟี่ไว้ใจแก๊งนี้เลย พวกพี่เค้าดังไปทั่วโลกแล้ว   9. เมื่อคุณเซลฟี่กับแฟนสาว แต่เธอยังไม่พร้อม   10.…

ความรักของแม่เป็นรักอันแสนยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหาสิ่งใดเปรียบ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งความรักที่มาพิสูจน์ให้เห็นว่าคำพูดนี้จริงแท้แค่ไหน เมื่อมีคุณแม่คนหนึ่งไลฟ์ขายตุ๊กตาในเฟซบุ๊กเพื่อนำเงินมารักษาลูกที่ป่วย ‘แขนขาผิดรูป’ และถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่หายดี 100% แต่ก็เชื่อว่าสักวันหนึ่งน้องต้องเป็นปกติ… เรื่องราวสุดซึ้งนี้เกิดขึ้นกับคุณแม่คนหนึ่งที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า กชวรรณ แป้งหอม พ้นภัย ที่ได้ไลฟ์สดขายตุ๊กตาอยู่กับบ้าน และเหตุผลที่ต้องไลฟ์เช่นนี้ ก็เพราะไม่สามารถออกไปทำงานข้างนอกได้ และต้องดูแลลูกสาวของเธอที่ป่วยอยู่นั่นเอง       สำหรับอาการป่วยของลูกสาวเธอนั้นก็คือ ‘แขนขาผิดรูป’ โดยทางคุณแม่ก็จะคอยอัปเดตอาการของน้องผ่านทางเฟซบุ๊กอยู่ตลอด เพื่อให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ   ตัวอย่างการไลฟ์ขายตุ๊กตา  แต่ทั้งนี้คุณแม่ก็ได้ออกมาบอกด้วยว่า ต้องขอโทษด้วยถ้าหากโพสต์บ่อย ไลฟ์บ่อยเกินไปจนหลายคนรำคาญ ทว่าก็ต้องทำเพื่อที่จะหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับน้องและหวังว่าจะมีคนเข้าใจเธอดี      สู้สุดตัวเพื่อลูก    ยังไงต้องหายสักวัน    เห็นอย่างนี้แล้วถ้าหากใครอยากได้ตุ๊กตาน่ารักๆ พร้อมกับการได้ช่วยเหลือน้อง ก็สามารถเข้าไป F ไปจองตุ๊กตาของคุณแม่คนนี้กันได้ที่เฟซบุ๊ก กชวรรณ แป้งหอม พ้นภัย และทั้งนี้ #เหมียวจิวยี่ ก็ขอส่งกำลังใจไปให้คุณแม่สู้ต่อไปด้วยนะจ๊ะ   อยากได้ยินคำว่า ‘แม่’ สักครั้ง       ที่มา: กชวรรณ แป้งหอม พ้นภัย

การออกเดินทางพร้อมกับคนรู้ใจ ด้วยรถบ้านคันโปรด อาจจะเป็นความฝันของหลายๆ คู่ การได้บุกตะลุยไปตามสถานที่ต่างๆ และค้างคืนในรถที่เป็นเหมือนบ้านหลังเล็กๆ คงจะดูมีความสุขไม่น้อยเลยว่าไหม?? และเรื่องราวของ Ben และ Mande Tucker สองนักเดินทางที่ได้นำรถโรงเรียนคันเก่า มาดัดแปลงให้กลายเป็นรถบ้านคันใหญ่ และออกไปเก็บภาพสถานที่สวยๆ ที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้ ก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ ได้ไม่น้อยเลย     “เป็นเวลากว่า 7 ปีแล้วที่ผมและเพื่อน จัดการนำรถบัสโรงเรียนคันเก่ามาดัดแปลงให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของเรา”  Ben ให้สัมภาษณ์ถึงจุดเริ่มต้นของเขา สองสามีภรรยาเรียกรถบ้านของพวกเขาว่า The Lost Bus และใช้มันเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วอเมริกา เพื่อเก็บภาพความสวยงามของสถานที่เหล่านั้น     เมื่อทั้งสองได้พบกับเจ้ารถโรงเรียนขนาด 20 เมตรคันนี้ พวกเขาก็เกิดไอเดียเจ๋งๆ ที่จะดัดแปลงมันเพื่อออกไปสัมผัสกับธรรมชาติ ภายในของรถโรงเรียนคันนี้ ถูกแทนที่ด้วยเฟอร์นิเจอร์ โครงไม้ เตียงนอน และอุปกรณ์ครัวมากมาย จนมันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเหมือนกับกระท่อมหลังเล็กๆ   https://www.instagram.com/p/Baltw3kFt3X/?taken-by=fernthebus   บรรยากาศด้านในเจ้า Lost Bus https://www.instagram.com/p/BkNXBbfgoVQ/?taken-by=fernthebus . https://www.instagram.com/p/BXdd9f8FDcd/?taken-by=fernthebus   นับตั้งแต่สร้างเจ้ารถคันนี้ขึ้นมาจนกระทั่งถึงปี…

อย่างที่รู้กันว่าในตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้มีอากาศร้อนเข้าปกคลุมเกินกว่าที่ใครจะทนไหว ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงหาวิธีดับร้อนด้วยวิธีต่างๆ นานา และอย่างที่เรารู้กันว่าสิ่งที่ดับร้อนได้ดีที่สุดคงไม่มีอะไรหนีพ้น ของกินเย็นๆ แต่ว่าถ้าจะให้กินไอศกรีม น้ำแข็งไส ก็คงจะไม่เพียงพอสำหรับอุณหภูมิที่มีอยู่ช่วงหนึ่งเคยสูงถึง 40 องศาเซลเซียส (มันร้อนเอามากๆ สำหรับคนญี่ปุ่น) ถ้าอย่างนั้นแล้วล่ะก็ลองไปพบกับราเมงเย็นชามนี้ที่เสิร์ฟมาด้วยภาชนะเก็บความเย็นที่มีอุณหภูมิสุดจะเยือกแข็งถึง -79 องศาเซลเซียส!!     โดยเจ้าราเมงชามสุดวิเศษที่ว่านี้มันมีชื่อว่า Hiyashi Paro แต่เดี๋ยวก่อน คุณจะต้องแปลกใจที่ไม่สามารถกินมันได้ที่ร้านราเมงทั่วไป เพราะว่าเจ้านี่มันมีขายเฉพาะในร้านคาราโอเกะที่มีชื่อว่า Pasela สาขาอากิฮาบาระ ในกรุงโตเกียวเท่านั้น มีอะไรให้แปลกกว่านี้อีกไหมเนี่ย… และอีกอย่างหนึ่งที่แปลกๆ เกี่ยวกับราเมงชามนี้ก็คือ ปกติธรรมดาราเมงเย็นจะเป็นอาหารเบาๆ ที่ไม่ให้ความอิ่มมากเท่ากับราเมงร้อน แต่สำหรับชามนี้ต้องบอกเลยว่ามาแบบจัดเต็ม มาแบบเครื่องแน่นๆ ทั้งเส้นนุ่มๆ, หมูชาชูละลายในปาก, พริกแดงทอด และผัักอื่นๆ อีกมากมาย บอกเลยว่ามีจุก     นอกจากนี้ด้วยความที่เป็นร้านคาราโอเกะ ถ้าหากคุณสั่งเมนูนี้มากินแล้วล่ะก็ มันจะถูกเสิร์ฟมาในภาชนะสีฟ้าสดใสแสดงถึงความเย็นยะเยือก รวมถึงจะมีเพลงบรรเลงประกอบเพิ่มอรรถรสให้เรากินอย่างเต็มที่ยิ่งขึ้นอีกด้วยนะ ถ้าคุณอยากสัมผัสกับประสบการณ์อันล้ำค่าอย่างนี้ล่ะก็สามารถไปหาโดนกันได้ที่ร้าน Pasela สาขาอากิฮาบาระ สำหรับค่าตัวของมัน สนนราคาอยู่ถ้วยหนึ่งแค่ 980 เยน (ประมาณ 292 บาท) เท่านั้น และมีความลิมิเต็ดขายถึงวันที่ 15…

กลายเป็นกระแสบนโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่คุณครูท่านหนึ่งได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เธอถูกนักเรียน ใช้เฟซบุ๊กปลอมส่งข้อความมาด่าด้วยคำหยาบคาย คุณครู… ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของเธอเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมว่า เธอเองถูกนักเรียนส่งข้อความมาด่าถึง 3 ครั้ง และก่อนหน้านี้ก็รู้สึกเสียใจที่ทำให้เด็กๆ รู้สึกเกลียดเธอ     “การที่จะมาเป็นครูนั้นมันก็ยากอยู่แล้ว พวกเราอุตส่าห์เรียนมา 4 ปี ฝึกสอนเต็มๆ อีก 1 ปี สอบบรรจุกับคนนับหลายพันคนเพื่อที่จะเข้ามาสอนด้วยอุดมการณ์ที่อยากจะพัฒนาคน…  แต่ทุกคนรู้มั้ย สิ่งที่บั่นทอนใจเจนมากที่สุดไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน สถานที่ แต่เป็นบุคคลที่เจนอยากจะพัฒนาเขามากที่สุด เจนอาจจะพูดไม่เต็มปากว่ารักพวกเขา เพราะสิ่งที่พวกเขาทำมันทำร้ายเจนมาครั้งนี้ครั้งที่ 3 แล้ว เป็นนักเรียนแต่กลุ่มเล็กๆ ที่เขาน่าจะมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเจน” ข้อความจากเฟซบุ๊กของคุณครูท่านดังกล่าว     คุณครูท่านดังกล่าวยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่า ถึงแม้เธอเองจะรู้สึกแย่ที่ถูกเด็กๆ ทำแบบนี้ แต่ในครั้งล่าสุดที่เธอได้รับข้อความจากนักเรียน มันทำให้เธอเข้าเด็กๆ มากขึ้น และพร้อมที่จะทำหน้าที่ของเธอต่อไปให้ดีที่สุด “2 ครั้งแรก เจนร้องไห้ เจนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เจนรู้สึกผิดที่ทำให้เด็กเกลียดได้ขนาดนี้…  แต่สิ่งที่เจนรู้สึกได้คือ เขาแค่ต้องการระบายความในใจออกมา ต้องการที่จะด่าเพื่อให้ตัวเองสะใจ และให้เจนรู้สึกแย่ เจนทำได้เพียงให้อภัยและเป็นที่รองรับความรู้สึกเกลียดชังเหล่านั้น หากนั่นคือ ความสุขเดียวที่เด็กๆ กลุ่มนี้จะมี…

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีของครูวิภา ที่เป็นผู้ค้ำประกันกองทุนเพื่อการศึกษา(กยศ.) ให้กับนักเรียน ที่กำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย กลายเป็นประเด็นที่หลายคนกำลังให้ความสนใจ แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่าการเป็นผู้ค้ำประกันกยศ. นี้จะสร้างภาระให้กับคุณครูอีกท่านเช่นกัน หลังจากที่คุณครูสรพงศ์ เค้ากล้า หรือ ครูหมี โรงเรียนห้วยต้อนพิทยาคม จ.ชัยภูมิ ได้โพสต์ข้อความขอร้องให้ลูกศิษย์ที่ยังค้างชำระหนี้ เร่งจัดการให้เรียบร้อย เพราะเกรงว่าจะเป็นเหมือนกรณีของครูวิภา     เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมาครูหมี ได้โพสต์เฟซบุ๊กขอร้องให้นักเรียนที่ตนเป็นผู้ค้ำประกันกยศ. ประมาณ 40 คน ซึ่งบางส่วนไม่สามารถติดต่อได้ ให้ช่วยจัดการชำระหนี้ด้วย เพราะตนใกล้จะเกษียณแล้ว และตอนนี้ก็กำลังป่วยด้วย “แจ้งถึง ลูกศิษย์ ครูหมี ห้วยต้อน ที่ครูค้ำเงินกู้ กยศ.ให้พวกเธอได้เรียนมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ ปี 2539-2548 ประมาณ 40 คน ทราบครับ -กยศ. มีหมายศาลให้ครูติดตามมาไกล่เกลี่ย ผ่อนใช้เงินกู้คืนได้ 13 ราย(ที่เหลือยังติดตามไม่เจอ) -ขอร้องมายังพวกเธอ อย่าให้เป็นเช่นครูวิภา นะครับ เพราะ 1.ครูใกล้เกษียณแล้ว(อีกปีเศษ)กลัวจะไม่มีเงินบำนาญไว้ใช้ยามแก่ชรา 2.ครูมีบ้านหลังเดียว(ที่พวกเธอเคยพักอาศัยอยู่กินสมัยเป็นนักเรียน) กลัวถูกฟ้องยึดขายทอดตลาด 3.ช่วงนี้ก็ป่วยไม่มีแรงจะตามหาพวกเธอได้…

เหตุการณ์สุดสะพรึงเกิดขึ้นบนเครื่องบินเที่ยวหนึ่งของสายการบิน AirAsia เมื่อเด็กทารกเกิดใหม่คนหนึ่งถูกพบในห้องน้ำของเครื่องบินในสภาพที่เป็นศพ ก่อนที่เครื่องจะลงจอดในประเทศอินเดีย ในวันพุธที่ 18 กรกฎาคม 2018 ศพของเด็กทารกถูกพบในห้องน้ำบนเครื่องบินของสายการบิน AirAsia ก่อนที่เครื่องบินลำดังกล่าวจะลงจอดในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าเด็กทารกดังกล่าวน่าจะเป็นทารกที่เสียชีวิตในครรภ์ ส่วนทางสายการบินกล่าวว่าจากการชันสูตรยืนยันได้ว่าเด็กทารกดังกล่าวเพิ่งคลอดออกมาจากครรภ์บนเที่ยวบินนี้แน่นอน     เจ้าหน้าที่ตำรวจสนามบินกล่าวว่า หญิงคนหนึ่งที่โดยสารมาบนเที่ยวบินดังกล่าวป็นผู้ต้องสงสัยในการคลอดทารกและทิ้งเอาไว้ในห้องน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวเอาไว้สำหรับการสอบสวน เจ้าหน้าที่ยังบอกกับสำนักข่าวหนึ่งอีกว่า “หญิงคนนี้ได้คลอดทารกที่ตายในครรภ์ก่อนกำหนด” ทางสายการบินให้ข้อมูลว่าศพทารกดังกล่าวถูกพบในห้องน้ำของเครื่องบินโดยพนักงานรายหนึ่ง ขณะที่พนักงานทุกคนบนเครื่องบินกำลังเตรียมตัวสำหรับการลงจอด     อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังคงปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม ทราบเพียงว่าเที่ยวบินดังกล่าวเป็นการบินจากตอนเหนือของเมืองกูวาฮาติมายังกรุงนิวเดลีของประเทศอินเดีย ส่วนหญิงที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยก็ยังคงถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป   ที่มา: dailymail, metro และ indiatoday

สำหรับปกติแล้วคนเราไม่ว่าจะถ่ายเบาหรือถ่ายหนักก็จะต้องรีบวิ่งหา ‘ห้องน้ำ’ เพื่อไว้เป็นสถานที่สำหรับปลดปล่อยความทุกข์ที่มาเยือน หรือว่าถ้าไม่ทันจริงๆ บางคนก็เลือกที่จะวิ่งเข้าป่าไปจัดการ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาเป็นภาระให้ใครต้องมาทนเหม็นทนอุจาดตาไปกับสิ่งเหล่านี้ แต่ว่าก็มีบางคนไม่คิดอย่างนั้น และกลับคิดเอาว่าลานจอดรถของร้านค้าก็เป็นห้อง ‘ขรี้’ ได้เหมือนกัน งานนี้เจ้าของร้านเลยต้องออกมาโวยวาย เพราะมันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เกิดเหตุอย่างนี้ขึ้นและตอนนี้ก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว!!     โดยเหตุการณ์เหม็นๆ นี้เกิดขึ้นที่ร้านขายไวน์ชื่อว่า Porters Liquor ในนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาคนมา ‘ขรี้แล้ววิ่ง’ เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน จนตอนนี้พวกเขาได้ให้ฉายากับนักปล่อยทุ่นคนนั้นว่านักขรี้ต่อเนื่อง Jim Shwilk เจ้าของร้านดังกล่าวได้ออกมาพูดถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นว่า นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับลานจอดรถของพวกเขาที่ต้องมาเป็นห้องส้วมให้กับผู้ลงมือ และด้วยเหตุนี้จึงทนไม่ไหวอีกต่อไป ขอเอาภาพจากกล้องวงจรปิดเตือนบนอินเทอร์เน็ตหน่อยเถอะ   คลิปสุดเหม็นที่ว่านี้… (ขอเตือนก่อนนะว่าควรกินข้าวมาแล้ว) หากดูไม่ได้คลิกที่นี่    โดยภาพจากวิดีโอได้แสดงให้เห็นว่า จู่ๆ ก็มีคนๆ หนึ่งเดินมาที่ลานจอดรถแห่งนี้แล้วถอดกางเกงปล่อยขรี้พุ่งออกมาอย่างสบายใจ และใช้เวลาอย่างรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีการเก็บกวาดใดๆ เดินจากไปอย่างหน้าตาเฉยเลย Jim บอกว่าเหตุผลที่ปล่อยคลิปนี้ก็เพราะ ต้องการให้วิดีโอนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขาคนนั้นเกิดความยับยั้งชั่งใจไม่กลับมาทำพฤติกรรมอย่างนี้อีกนั่นเอง     “เมื่อประมาณ 10 วันก่อนเราเจอของฝากชิ้นใหญ่ที่หลังร้านของเรา มันเป็นประสบการณ์ที่โคตรจะเลวร้ายเลยคุณ ตอนแรกผมก็นึกว่าอาจจะเป็นใครบางคนที่พาหมามาทำอย่างนี้ แต่พอคิดไปคิดมามันก็ไม่น่าจะใช่เพราะถ้าเป็นหมามันต้องตัวใหญ่มากแน่ๆ…

เรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ทำให้ถูกลูกเรือหัวเราะเยาะใส่ หลังจากที่พยายามบอกพวกเขาว่า ผู้โดยสารชายคนข้างๆ เธอกำลังช่วยตัวเองอยู่ Genevieve Pascolla หญิงวัย 26 ปีได้แชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอินสตาแกรมของเธอ ซึ่งได้เผยให้เห็นมือของผู้โดยสารชายบนเที่ยวบินของสายการบิน United Airlines กำลังขยุ่มขย้ำอยู่ใต้ผ้าห่มของเขา     เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเที่ยวบินจากลอนดอนไปยังชิคาโก Pascolla เขียนแชร์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความว่า “ชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ฉันบนเครื่องกำลังเริ่มช่วยตัวเอง ฉันตื่นขึ้นมาและเห็นเขากำลังทำอย่างนั้นใต้ผ้าห่ม ฉันสะกิดผู้หญิงคนข้างๆ และบอกลูกเรือเพื่อเช็กดูว่าเขากำลังทำอย่างนั้นจริงๆ หรือเปล่า แต่แล้วพวกเขาก็เริ่มหัวเราะ พร้อมกับหยอกฉันว่า ฉันใส่น้ำหอมมากไปหรือเปล่า หรือ “คุณน่าจะหาไวน์ให้เขาสักแก้วนะ” แต่ไม่มีใครช่วยฉันเลย”     ทางด้านนาย Maddie King โฆษกของทางสารการบินได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Buzfeed ว่าพฤติกรรมของผู้โดยสารชายคนดังกล่าวเป็นอะไรที่น่ารังเกียจมาก เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นได้ยากในเครื่องบินของพวกเขา “มันเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมาก เหตุการณ์แบบนี้มักไม่ค่อยเกิดขึ้นบนเครื่องบินของเรา เรามีสัญญาณเตือนภัยที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร เพราะนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดของเรา”   และนี่คือคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น    อย่างไรก็ตามทางสายการบินได้มอบเงินค่าชดเชยให้กับ Pascolla หญิงสาวให้สัมภาษณ์ว่าเธอได้รับค่าตั๋วคืนครึ่งหนึ่ง ในรูปแบบของบัตรกำนัล ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่เธอโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงบนทวิตเตอร์ของตัวเอง   ที่มา buzzfeednews, metro

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองอลาเมด้าเจอเจ้ามิ้วน้อยสีดำในสถานีตำรวจ พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเข้าภาวะเสี่ยงโดนยึดที่ทำงานแล้ว ตำรวจจะต้องเสียสถานีตำรวจประจำรัฐแคลิฟอร์เนียอีกแห่งให้เจ้าเหมียวรึเปล่า!? มิ้วน้อยตัวนี้เข้ามาในสถานีตำรวจด้วยตัวเอง และไม่ยอมออกไปข้างนอกเลย มันคงหวังจะใช้ที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง อีกอย่างก็มีทาสรอคอยรับใช้มันหลายคนด้วย     มันพยายามหาที่ที่เหมาะกับตัวเองอยู่นาน มันลองไปนอนอยู่หลายที่ ทั้งโต๊ะทำงานของตำรวจ กล่องกระดาษใบโต แต่นอนดูแล้วก็ไม่รู้สึกเข้าที่เข้าทางสักที     จนมันได้เจอกับช่องใส่กระดาษบนเครื่องถ่ายเอกสารในสถานีตำรวจ มันก็เลยยึดจุดนั้นเป็นฐานที่มั่นและไม่ยอมลุกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เครื่องถ่ายเอกสารเลย จะอุ้มออกไปก็ไม่ยอมซะด้วย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกคนในสถานีตำรวจต่างก็ชื่นชอบมัน แม้แต่หัวหน้าใหญ่ยังไม่ว่าอะไรเลย อนุญาตให้มันอยู่ที่นี่ได้ตามใจชอบ     หึ พวกมนุษย์หลงกลข้าแล้ว อยู่ไปยาวๆ   ในหมู่ตำรวจทุกคนที่ยินดีกับการมาของเจ้าเหมียว ตำรวจหญิง Sierra Scalise ดูจะยินดีมากเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะมีใจรักในการบริการประชาชนแล้ว เธอยังรักสัตว์มากด้วย หลังจากที่เจ้าเหมียวตัวนี้มาอยู่ในสถานีตำรวจได้แค่ 2 วัน เธอก็เลยรับมันไปเลี้ยงอย่างเป็นทางการซะเลย… ถึงจะยึดสถานีตำรวจของตัวเองได้ไม่นาน แต่ได้ไปอยู่บ้านที่มีทาสส่วนตัวแทนก็น่าจะถือว่าแทนกันได้นะ     วิธีการอ่อยทาสแบบเนียนๆ …บุกที่ทำงาน ที่มา: Animal Channel

เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่ทางผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า ไอเนะ ยูคิมุระ ได้โพสต์เอาไว้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม กรณีที่หลานของเธอถูกรุ่นน้องร่วมโรงเรียนทำร้ายร่างกายจนคิ้วแตกเลือดอาบ โดยเด็กที่มาหาเรื่องอยู่เพียงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่านั้น “คือเรื่องมีอยู่ว่า หลานนุ่นเพิ่งไปเรียนโรงเรียนวัดแสมดำวันแรกเมื่อวันจันทร์ วันแรกมีข้อความจากเพื่อนร่วมโรงเรียนมาขู่ ….แล้ววันอังคารหยุดเรียน 1 วัน พอวันนี้วันพุธได้ไปส่งหลานไปโรงเรียนวัดแสมดำ ได้เอาข้อความให้คุณครูดูและฝากดูนักเรียนเกเรที่ส่งมาขู่หน่อยนะคะกลัวมีปัญหากัน แต่วันนี้พอเข้าเเถวเสร็จ พิซซ่าเดินขึ้นห้อง เด็กและเพื่อนกลุ่มนั้นก็เรียกพิซซ่าไปและทำการกระชากคอเสื้อและต่อยหลายทีจนเลือดอาบ จนวิ่งหนีออกมากลับบ้านเอง ซึ่งคุณครูไม่ทำอะไรเลยทั้งที่ฝากให้ดูแลด้วยนะคะ….? จนดิฉันไปถึงโรงเรียนก็ยังมาสอบสวนดิฉันฝ่ายเดียว โดยไม่เรียกนร. ที่ต่อยมาสอบสวน คือคุณครูทำไม่ถูกค่ะ     ขอความเป็นธรรมด้วยนะคะ บอกให้เรียกผู้ปกครองฝ่ายกรณีมาก็ด่าดิฉันว่าจะมาเร่งรัดอะไร ??!!! ตะคอกเเละไม่ยอมสอบสวน เด็กเกเรคนนั้นที่ชื่อกรอน ดิฉันถามว่า นร. คนนั้นชื่ออะไร ก็ปกปิดไม่ยอมบอกข้อมูลหรือเรียกมาสอบถามใดๆ ทั้งสิ้น ฉันงงมากกับระบบของคุนครูที่นี่ หลานฉันไม่เคยรู้จักเด็กคนนั้นเป็นการส่วนตัว และเพิ่งย้ายจากโรงเรียนแจงร้อน มาเรียนวัดแสมดำเป็นวันแรก …..ฝากแชร์หน่อยนะคะ !! หลานฉันผิดอะไร แล้วทำไมปกป้องไม่สอบสวนคนที่ต่อยมาสอบสวนแค่ฉันทำไม ต้องเรียกผู้ปกครองและสอบสวนทั้งสองจริงปะคะ ฉันได้ทำการแจ้งความกับตำรวจแสมดำไว้เเล้วค่ะ ขอความเป็นธรรมด้วยนะคะ !!!! แย่มากกกก ห่วยค่ะ”   เด็กที่มาหาเรื่องได้ส่งข้อความมาหาน้องพิซซ่าทางเฟซบุ๊กในเชิงหาเรื่องทะเลาะวิวาท ซึ่งนี่จะเป็นหลักฐานอีกหนึ่งชิ้นที่สามารถเอาผิดได้  …

อย่างที่คนทั้งโลกรู้กันดีว่า ทีม ‘ตราไก่’ ฝรั่งเศสมีคิวจะต้องลงเตะฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศกับทีมชาติโครเอเชีย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 และก็ถือว่าเป็นนัดชิงชนะเลิศที่ไม่ว่าใครชนะก็จะได้คว้าแชมป์โลกในศักราชนี้ไปครอง!! แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีลางบอกเหตุอะไรรึเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ เพราะในวันชาติของประเทศฝรั่งเศสที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุความผิดพลาดขึ้นถึงสองครั้งสองคราเลย…     ในวันที่ 14 กรกฎาคมของทุกๆ ปี ประเทศฝรั่งเศสจะมีการเฉลิมฉลองวันชาติหรือที่เรียกกันว่าวันบัสตีย์ (Bastille Day) และแน่นอนว่าในวันอันแสนจะยิ่งใหญ่อย่างนี้ก็ต้องมีขบวนพาเหรดเดินแสดงความเกรียงไกรด้วย ทว่าในปีนี้กลับมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถึงสองประการในการเฉลิมฉลองวันชาตินี้…     ประการแรกก็คือในขบวนพาเหรดที่ไชโยโห่ร้องกันอย่างสนุกสนาน ณ กรุงปารีส ก็มีมอเตอร์ไซค์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดผิดคิวกันในการแสดง จึงชนประสานงาเข้าอย่างจังจนล้มกันไปต่อหน้า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติมากมาย     ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ในเวลาต่อมาก็มีการแสดงปล่อยควันเป็นสีธงชาติฝรั่งเศสจากเครื่องบิน AlphaJet ของกองบิน Patrouille de France จำนวน 9 ลำ แต่ผลที่ออกมาก็ปรากฏว่าสีของควันได้ผิดเพี้ยนจากที่ได้วางแผนเอาไว้เมื่อมันเกิดสลับสีกันอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด และได้กลายเป็นเสียงฮือฮาสำหรับผู้ที่พบเห็นด้วย   ภาพเคลื่อนไหวของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น    จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนอกจากจะมีความอับอายเกิดขึ้นแล้ว บางคนก็ยังโยงไปถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศที่กำลังเข้ามาถึงด้วยว่า นี่อาจเป็นลางบอกเหตุของทีมชาติฝรั่งเศสหรือไม่ แต่อย่างไรแล้วก็ต้องรอติดตามชมกันว่าจะเป็นจริงอย่างที่คาดการณ์กันไว้รึเปล่านะ…   ที่มา: dailysabah, xinhuanews, news1130

คงจะไม่มีใครปฏิเสธเลยว่า นับวันโลกของเรานั้นยิ่งหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ การเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วที่ยิ่งกว่าขีปนาวุธนำวิถีจากเกาหลีเหนือนั้นเกิดขึ้นแทบจะทุกวงการ ไม่เว้นแต่วงการแฟชั่นเองก็ตาม เดิมทีการทำความเข้าใจความสวยงามของวงการแฟชั่นนั้น ก็เป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ คนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เชื่อแน่ว่าคุณจะต้องทำหน้ามุ่ยพร้อมเกาหัวแรงๆ แน่ๆ ถ้าหากได้เห็นภาพแฟชั่นหลุดโลกเหล่านี้…   1. หน้ากากที่คาดว่าน่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากทศกัณฐ์   2. แฟชั่นแบบชาว Swag ได้รุกเข้าไปในพื้นที่ของเหล่าสัตว์เลี้ยงแล้ว!!   3. จะแตกต่างทั้งที มันก็ต้องเอาทั้งโลโก้ ทั้งสโลแกน!!   4. แม้แต่ชุดเจ้าสาวเองก็เปลี่ยนไป…   5. อืม… นี่อาจจะเป็นรองเท้าส้นสูงสำหรับสาวๆ ที่ชอบนก!!   6. เลกกิ้งแบบ 2 in 1   7. การออกแบบถุงเท้า ที่อยากมอบเสียงหัวเราะให้กับผู้สวมใส่   8. ลองทายกันดู คอนเซปต์ของชุดนี้คืออะไร??   9. พ่อหนุ่มคาวบอย กับรองเท้าหนังปลายแหลมของเขา…   10. อากาศบริสุทธิ์ ที่จะตามคุณไปทุกที่   11. บอกแล้วว่าวงการแฟชั่น…

ถ้าหากพูดถึงเรื่องรถยนต์แล้วล่ะก็ คุณผู้หญิงหลายๆ คนอาจจะเมินหน้าหนีกันอย่างแน่นอน และยิ่งเป็นเรื่องรถคลาสสิคด้วยแล้วล่ะก็ ยังไม่ใช่ทางเลยใช่ไหมล่ะ เพราะเรื่องเครื่องยนต์กลไกล กับความดันลมยางนั้นมันช่างไม่เหมาะกับคุณสาวๆ เลยทีเดียว แต่!! ถ้าหากว่าคุณได้รู้จักกับรถคลาสสิคสุดน่ารักอย่าง Mazda R360 Coupe ยอดยนตกรรมจากปี 1960 คันนี้ล่ะก็ อาจจะทำให้คุณอยากรู้จักวงการนี้มากขึ้นก็ได้!!     R360 Coupe รถยนต์ขนาดเล็กน่ารัก 2 ประตู รถเก๋งคันแรกจากทาง Mazda ที่เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 1960 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดรถยนต์ในแดนปลาดิบกำลังเติบโตเป็นอย่างมาก ทาง Mazda ได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในตอนนั้น ผลิตเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งสนนราคาต่อคันในเวลานั้นอยู่ที่ 300,000 เยน (ประมาณ 90,000 บาท) ในรุ่นเกียร์ธรรมดา     ในปีที่เปิดตัวยอดจำหน่ายของเจ้ารถจิ๋วสุดน่ารักคันนี้อยู่ที่ 23,417 คัน ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และทำให้ Mazda คว้าส่วนแบ่งทางการตลาดไปมากถึง 64.8 เปอร์เซ็นต์ ทางด้านเครื่องยนต์ R360 Coupe…

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2018 สื่อต่างประเทศได้รายงานเรื่องราวของหนุ่มรายหนึ่ง ที่หลอกสาวถึง 3 ราย และได้เงินไปมากกว่า 120,000 ปอนด์ (5 ล้าน 2 แสนบาท) นาย Ammar Haider หนุ่มวัย 31 ปี ได้พบกับหญิงรายหนึ่งหลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากข้อหาฉ้อโกงและต้องรับโทษนานกว่า 5 ปี หลังจากพ้นโทษ Ammar เตรียมเข้าพิธีวิวาห์กับหญิงรายหนึ่ง แต่ก่อนงานแต่งงานจะเริ่มต้นขึ้น เขาได้ขอยืมรถ BMW ของเธอไปหาผู้หญิงอีกคนที่เขาแอบคุยในระหว่างรับโทษในห้องขัง     Ammar พบกับว่าที่เจ้าสาวของเขาเมื่อเดือนพฤษภาคม ในระหว่างที่อยู่ในห้องขังด้วยเช่นกัน เขาแอบส่งข้อความหาเธอโดยอ้างว่าส่งผิด ก่อนที่จะหลอกเธอว่าตัวเขาเองคือนักบินของสายการบินชื่อดังแห่งหนึ่งจากตะวันออกกลาง หญิงสาวผู้น่าสงสารไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนที่เธอกำลังคุยด้วยนั้นคือผู้ต้องหา จนกระทั่งเธอกำลังจะแต่งงานกับเขาที่กรุงลอนดอน     เจ้าสาววัย 34 ปีให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกโกรธมากเมื่อรู้ความจริง ก่อนที่เจ้าบ่าวของเธอจะยอมรับว่านักโทษที่ HMP Hewell แทบทุกคนแอบนำโทรศัพท์เข้าไปในห้องขังด้วย “เราพบกันเมื่อตอนวันหยุดพักร้อนของเขา เขาบอกกับฉันว่าตอนนี้กำลังทำงานอยู่ทางตอนเหนือ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขาเอาโทรศัพท์เข้าไปในคุกได้อย่างไร ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าจะต้องใช้ชีวิตกับคนแปลกหน้า” หญิงวัย 34 ปีให้สัมภาษณ์    …

เดิมทีแล้วสถานการณ์ความไม่ลงรอยกันของกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไนจีเรียก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและเต็มไปด้วยประวัติความรุนแรงอยู่แล้ว แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2018 ที่ผ่านมาก็ได้เกิดเหตุชาวนาของกลุ่มชาติพันธุ์ Berom บุกเข้าโจมตีคนเลี้ยงสัตว์ของกลุ่มชาติพันธุ์ Fulani จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย     เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เกิดความโกรธแค้นเป็นอย่างมากในหมู่คนเลี้ยงสัตว์จนกระทั่งในวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายนนี้เอง คนเลี้ยงสัตว์ของกลุ่มชาติพันธุ์ Fulani ก็ได้ทำการโจมตี กลุ่มชาวนาของ Berom เพื่อเป็นการล้างแค้นคนที่ตายไปก่อนหน้า ผลจากการปะทะกันในครั้งนี้ถูกรายงานออกมาหนึ่งวันหลังจากนั้นโดยทางตำรวจ ซึ่งได้มีการเข้าสำรวจพื้นที่เกิดเหตุที่ Barkin Ladi ใน Plateau โดยในเบื้องต้นนั้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 86 ราย และบาดเจ็บอีก 6 ราย     นี่นับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ที่รุนแรงที่สุดของไนจีเรีย นับตั้งแต่เหตุการณ์บุกสังหารในปี 2009 เลยก็ว่าได้ Undie Adie นายตำรวจที่ทำการลงพื้นที่กล่าวว่า รถมอเตอร์ไซค์ 15 คัน รถยนต์ 2 คัน และบ้านกว่า 50 หลังถูกเผาทำลายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางรัฐบาลได้มีการประกาศว่าจะมีเคอร์ฟิวฉุกเฉิน ตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกาไปจนถึง 06.00 นาฬิกาตามเวลาในท้องถิ่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงไปมากกว่านี้  …

ภาพของเหล่าตัวการ์ตูนที่คุณกำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ อาจจะทำให้ความน่ารักสดใสของเหล่าหมีพูห์ มิกกี้เมาส์ หรือการ์ตูนดังต่างๆ ที่คุณเคยรู้จักเปลี่ยนไปเลยก็ได้ ผลงานตัวการ์ตูนแบบเซอร์เรียลของคุณ Dan LuVisi ที่ได้จับเอาเหล่าการ์ตูนดังมาแปลงโฉมเพิ่มบทบาทสมมุติและความสมจริงเข้าไป จนเรียกได้ว่าหลุดกรอบความน่ารักใสๆ ไปกันเลยทีเดียว   จำได้ไหม ผมมิกกี้เอง!!   และนี่คือผลงานบางส่วนจากศิลปินชาวอิตาเลี่ยนวัย 30 ปีผู้นี้ ที่เรานำมาให้ได้ชมกัน   Tigger ในวันที่ Winnie the pooh เริ่มได้รับความนิยมน้อยลง!!   โอย!! กระโดดจนเจ็บหางแล้วนะ   กูฟฟี่ไงจะใครล่ะ   Adventure Time ของจริงมันต้องแบบนี้…   วายร้ายจากสไปเดอร์แมนที่ว่าน่ากลัวแล้ว แบบนี้ยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก!!   นักล่าค่าหัวแจงโก้ เฟทท์ จากสตาร์วอร์   ลองทายกันดูว่าเจ้าตัวนี้ คือตัวการ์ตูนตัวไหน??   ฮาน โซโลก็มา!!   แมดแม็กซ์ รวมร่างกับแม็กซ์ ลูกชายของกูฟฟี่   โดนัลด์ดั๊ก หลังจากการถ่ายการ์ตูนที่แสนยาวนาน   เมื่อตัวการ์ตูน…

กระแสของโทษประหารชีวิต เป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ และในประเทศไทยนั้น การประหารชีวิตได้เปลี่ยนจากวิธียิงเป้า มาเป็นวิธีฉีดสารพิษให้ตายตั้งแต่ปี 2546 หลายคนอาจจะสงสัยว่าการฉีดสารพิษให้ตายนั้นทำอย่างไร หลังจากทีมงานหาข้อมูลมา พบว่าสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆ ได้ดังนี้     1. ทำให้นักโทษหมดสติ หลังจากนำนักโทษขึ้นเตียงประหาร และใช้สายรัดแขนขาและลำตัวเพื่อไม่ให้ขยับได้แล้ว ในเข็มแรก จะใช้การฉีดสาร  Sodium Pentothal ปริมาณ(ประมาณ) 20 ซีซี เพื่อทำให้นักโทษหมดสติ   2. ทำให้นักโทษหยุดหายใจ ขั้นตอนถัดมาคือการฉีดสาร Pancuronium Bromide เป็นยาในกลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อ ปกติจะใช้ในการช่วยผ่าตัดผู้ป่วยที่มีการต้องใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดลม การฉีดนี้จะกดการหายใจของนักโทษ จนถึงขั้นหยุดหายใจ   3. ทำให้หัวใจหยุดเต้น ขั้นตอนสุดท้ายคือการฉีดสาร Potassium Chloride  ซึ่งหากมีสารนี้ในเลือดสูงจะส่งผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจ และส่งผลให้หัวใจหยุดเต้น     ซึ่งจากการสรุปขั้นตอนประหารแล้ว จะพบว่านักโทษนั้นจะค่อยๆ ถูกทำให้ตายทีละขั้นตอน ได้แก่หมดสติก่อน แล้วหลังจากนั้นก็จะไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองตายแล้ว   และแม้จะมีการรณรงค์ต่อต้านโทษประหาร แต่ก็ทำให้หลายคนออกมาวิจารณ์ว่าการประหารด้วยการฉีดสารพิษนั้นเป็นการทำให้ตายอย่างไม่ต้องทรมาณ หรือนัยหนึ่งคือสบายเกินไป เมื่อเทียบกับความผิดที่เขาก่อ ประเด็นเรื่องโทษประหารนี้ถือเป็นเรื่องที่จะถกเถียงกันไม่จบ…

แน่นอนว่าในโลกแห่งความเป็นจริง ร่างกายของมนุษย์เราย่อมจะต้องมีการร่วงโรยไปตามกาลเวลาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในโลกของเหล่าตัวการ์ตูนล่ะก็ เรื่องที่ว่านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย Lesya Guseva ศิลปินชาวรัสเซีย เจ้าของไอเดียสุดแหวกที่จับเหล่าตัวการ์ตูนดังๆ มาแปลงโฉมและจินตนาการถึงวัยหลังเกษียณของพวกเขาออกมา ในผลงานชุด Pensioners ที่เรานำมาให้ได้ชมกัน…   1. คุณปู่ทอร์ และวันว่างๆ กับหลานตัวน้อย   2. อย่าวิ่งซิคุณปู่!!   3. อืม นึกถึงสมัยสาวๆ จังเลยนะวันเดอร์ วูแมน   4. สุขสันต์วันเกิด คุณย่าแคทวูแมน   5. คุณย่าฮาร์ลีย์ ควินน์ กับการนวดแป้งด้วยไม้เบสบอลสุดโปรดของเธอ   6. นี่ อย่าเสียงดังสิจ๊ะหลานๆ   7. ตอนนี้เจ้าแบทแมนจะเป็นอย่างไรบ้างนะ??   8. ถึงจะแก่ แต่ความเกรียนก็ยังเหมือนเดิม   9. งานยามว่างของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์   10. แก่แล้วก็ขอพักหน่อยละกันนะ   11. ถึงแม้จะอยู่คนละสตูดิโอ แต่เราก็มาพบกันได้จริงไหม คุณยายสโนว์ไวท์…

หนุ่ม Ryan Sesselman เป็นคนรักสุนัขขนานแท้ เมื่อไม่นานมานี้เขาตกหลุมรักกับลูกหมาตัวหนึ่งอย่างแรง เขาอยากเลี้ยงมันมากๆ แต่แม่ก็มอบเงื่อนไขสุดหินให้เขา ซึ่งเขาก็ไม่ยอมแพ้แล้วทำมันจนสำเร็จและได้มันมาเลี้ยง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2018 นาย Ryan ไปเจอหมาตัวน้อยตอนไปร้านขายของสัตว์เลี้ยง Petsmart ซึ่งที่นั่นมีซุ้มเปิดให้รับหมาไปเลี้ยงด้วย แล้วเขาก็ตกหลุมรักกับมันตั้งแต่แรกเห็น     ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้เนี่ย   งื้อ ขี้อ้อนซะด้วย   แต่ที่บ้านของเขามีหมาตั้งหลายตัวแล้ว พอแม่ของเขารู้ว่าเขาอยากเลี้ยงหมาเพิ่มเธอเลยไม่ยอมให้เขาเลี้ยง แต่เขาก็ยังอยากเลี้ยงมันอยู่ดี แม่ก็เลยบอกเขาว่าถ้าเขามียอดรีทวีตถึง 1 ล้านครั้ง เธอจะยอมให้เขาเลี้ยงเจ้าหมาตัวนี้เพิ่มก็ได้   ข้อตกลงของเขากับคุณแม่   Ryan ก็เลยทวีตเรื่องเจ้าหมาลงบนทวิตเตอร์ของตัวเอง เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต แม้ว่ายอด 1 ล้านรีทวีตจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก จนในที่สุดในวันที่ 13 มิถุนายน 2018 เขาก็ทำยอดรีทวีต 1 ล้านครั้งสำเร็จจนได้ ครอบครัวของเขาก็เลยอนุญาตให้เลี้ยงเจ้าหมาตัวน้อยสักที ความพยายามของเขา ทำให้ครอบครัวมีเจ้าหมา Milli มาอยู่ด้วยอีกตัวหนึ่ง  …

ปัญหาการเหยียดชนชาติ โดยเฉพาะการเหยียดชาวมุสลิมในประเทศอังกฤษนั้น กลายเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่หลายๆ ฝั่งพยายามที่จะแก้ไขให้ได้ ยิ่งเป็นหลังจากที่มีเหตุการณ์จดหมาย Punish a Muslim Day แพร่กระจายออกมาในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้วด้วย     แต่แล้วโลกโซเชียลของอังกฤษก็ต้องสั่นสะท้านกันอีกครั้ง เมื่อมีคลิปของชายชาวอังกฤษคนหนึ่งฉีดสเปรย์กำจัดคราบใส่สาวมุสลิมที่กำลังซื้อของอยู่ในห้างสรรพสินค้า   วิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากช่อง Documenting Oppression Against Muslims   ในวิดีโอสั้นๆ นี้จะเห็นได้ว่าชายคนหนึ่งได้หันขวดสเปรย์กำจัดคราบ Vanish มาให้กล้องและกล่าวว่า “มาดูกันสิว่าเจ้านี้ทำงานได้จริงไหม” ก่อนที่จะเดินไปฉีดสเปรย์ที่ว่าเข้าที่ด้านหลังของสาวชาวมุสลิมคนหนึ่ง “ไม่เห็นใช้ได้จริงเลย” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมหันกล้องเข้าหาตัวเองก่อนที่คลิปจะจบลง     แม้ว่าการกระทำในครั้งนี้จะไม่ได้ทำให้มีผู้บาดเจ็บ รวมทั้งสาวมุสลิมคนที่โดนฉีดสเปรย์ใส่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รู้สึกตัวแต่อย่างใด แต่การที่วิดีโอนี้เผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากชาวเน็ตอยู่ดี โดยความเห็นส่วนมากนั้นมองว่าวิดีโอชิ้นนี้เป็นภาพที่น่ารังเกียจมาก และต้องการให้มีการตามตัวชายในคลิปมาลงโทษให้ได้   นี่มันการทำร้ายคนในที่สาธารณะและถ่ายคลิปไว้ชัดๆ ใช่ มากพอที่จะตัดสินว่าทำผิดได้เลย อย่างน้อยก็เป็นการทำร้ายคนแน่ๆ ล่ะ   หวังว่าเขาจะโดนแจ้งตำรวจมาจับนะ   คราวหน้าก็ลองได้ทำกับคนที่เขาตอบโต้ได้ดูสิ ถ้ากล้าพออ่ะนะ   ในขณะนี้ยังไม่อาจทราบได้ว่าวิดีโอนี้ถ่ายจากที่ใด หรือว่ามีใครนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้งความกับทางตำรวจหรือยัง อย่างไรก็ตามนี่เป็นหลักฐานชั้นดีที่บอกว่ายังมีความเกลียดชังแฝงอยู่ในสังคม แม้ว่าเราจะก้าวเขามาสู่ยุคที่ทุกเชื้อชาติ เพศ และศาสนาควรจะเท่าเทียมกันแล้วก็ตาม   ที่มา independent, sputniknews, dailymail

ชายหนุ่มถูกสายการบินสั่งห้ามขึ้นเครื่องตลอดชีวิต หลังจากพกตุ๊กตาเซ็กส์ดอลล์เป่าลมขึ้นเครื่องไปด้วย เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าผู้โดยสารหนุ่มวัย 32 ปี รายหนึ่งที่ใช้บริการของสายการบิน Jet2 ได้ถูกเชิญลงจากเที่ยวบิน LS397 ที่เดินทางออกจากเมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ไปกรุงปราก ประเทศสาธารณะรัฐเช็ก เนื่องจากมีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อลูกเรือบนเครื่อง     จากการรายงานบอกว่าเครื่องบินลำดังกล่าวต้องลงจอดฉุกเฉินในเมืองตูลูซ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปรากราวๆ 2 ชั่วโมง ทำให้ผู้โดยสารหลายคนต้องเดินทางล่าช้าไปด้วยจากการลงจอดฉุกเฉินครั้งนี้     โฆษกของ Jet2 กล่าวว่าชายหนุ่มได้มีการบริโภคแอลกอฮอล์แบบผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้เขามีพฤติกรรมที่น่าอับอาย และยังพกเอาตุ๊กตาเป่าลมหรือเซ็กส์ดอลล์ขึ้นมาบนเครื่องด้วย Phil Ward กรรมการผู้จัดการของสายการบิน Jet2 กล่าวว่า “เราจะไม่ยอมทนต่อพฤติกรรมที่น่าอับอายนี้บนเครื่องบินของเรา”     ผู้โดยสารหัวเสียรายหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ได้บ่นผ่านทวิตเตอร์ Small Axe ว่าเขาเห็นชายคนดังกล่าวหิ้วเอาตุ๊กตาเป่าลมขึ้นมาบนเครื่องด้วย “ทำได้ดีจริงๆ ไอ้หนุ่ม!! มาพร้อมกับตุ๊กตาเป่าลมในตอน 7 โมงเช้าต่อหน้าลูกๆ ของผมและคิวอันยาวเหยียด” หลังจากนั้นมีรายงานเพิ่มเติมว่าชายหนุ่มรายดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว และปล่อยตัวในภายหลังจากการสอบสวนเสร็จแล้ว     ที่มา metro , thesun

หมาไซบีเรียนฮัสกี้ตัวนี้ถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตหมาจรจัดจนสภาพแทบดูไม่ได้ และมันก็ไม่ได้ถูกทิ้งที่ไหนไกล มันอยู่ในประเทศไทยเรานี่แหละ เจ้าหมาถูกเจอในจังหวัดภูเก็ต มันเคยมีเจ้าของมาก่อน แต่พวกเขาก็ทิ้งมันจนต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้ จนมีคนมาช่วยมันเอาไว้ตอนเดือนมกราคม 2018     มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย เป็นคนช่วยมันเอาไว้ ถึงแม้สุนัขไซบีเรียนจะมีราคาอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็บอกว่าได้ช่วยสุนัขไซบีเรียนไว้บ่อยพอสมควร Maeve Henry ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมูลนิธิบอกว่า “สังคมประเทศไทยให้ความสำคัญกับรูปร่างภายนอก หมาไซบีเรียนฮัสกี้ที่มีตาสีฟ้าสวยจึงเป็นที่นิยมมาก แต่คนเลี้ยงส่วนใหญ่ก็ไม่มีความรู้ในการดูแลพวกมัน คนไทยบางคนก็ชอบสุนัขน่ารัก แต่ไม่อยากรับภาระการดูแลยุ่งยากที่เจ้าหมาตัวใหญ่ บ้าพลังอย่างไซบีเรียนฮัสกี้มีให้ พอลูกหมาบางตัวโตมาเขาก็เลยทิ้งมัน”     สภาพพี่ไซขนหลุดลุ่ยไปหมด   อาสาสมัครเรียกเจ้าหมา Nessie ถึงมันจะเป็นหมาจรจัด แต่พอช่วยมันมาได้แล้วมันกลับเป็นมิตรกับพวกเขามากอย่างไม่น่าเชื่อ Henry บอกว่า “พวกอาสาสมัครแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าหลังจากมันลำบากขนาดนี้ มันจะยังรักมนุษย์อยู่อีก มันไล่เลยอาสาสมัครไปทั่วโดยไม่กลัวใครเลย คิดแล้วก็เศร้าแทนที่หมาดีๆ อย่างมันต้องถูกทิ้ง”     จากนั้นพวกเขาก็ทุ่มเทเวลารักษามันให้หายจากโรคเรื้อน ทั้งทายาให้มันแล้วก็อาบน้ำให้มันด้วย อาการของมันดีขึ้นหลังจากที่รักษาเพียงแค่ 2 อาทิตย์ แล้วก็หายจากโรคเรื้อนสนิทในเวลา 2 เดือน ตอนนี้สวยมากๆ แต่ที่สำคัญก็คือมันเริ่มยิ้มได้ตั้งแต่ 2 วันแรกแล้วล่ะ ถึงสภาพร่างกายมันจะแย่แค่ไหน จิตใจที่เป็นมิตรของมันก็ไม่เคยถูกความเศร้าบดบังเลย     กลับมาสวยเหมือนเดิมแว้วน้า  …

หากว่าเราเกิดหิวขึ้นมาในกลางดึกหรืออยากจะซื้อน้ำเย็นๆ สักขวดในวันที่อากาศร้อนๆ สถานที่แรกที่หลายคนนึกถึงก็คงจะเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาอยู่แทบจะทุกหย่อมหญ้าของประเทศอย่างร้าน 7-11 หรือที่เราเรียกกันย่อๆ ว่าไปเซเว่นกันใช่ไหมล่ะ แต่หากใครไปบ่อยๆ หรือสังเกตดีๆ ก็จะพบว่าที่โลโก้ของร้านสะดวกซื้อแห่งนี้มีความผิดปกติอยู่หลายอย่างทั้งการใช้เลข 7 กับตัวหนังสือ ELEVEn รวมกันเป็น ‘7-ELEVEn’ แล้วอาจเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่าทำไมนะมันถึงได้เป็นอย่างนั้น ดังนั้นแล้วในวันนี้ #เหมียวจิวยี่ จะมากไขข้อกระจ่างให้เพื่อนๆ ได้รู้ไปพร้อมๆ กันเล๊ย!!     จริงๆ แล้วธุรกิจนี้ได้เริ่มขึ้นในปี 1937 จากบริษัทผลิตและขายน้ำแข็งในเมืองดัลลัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อว่า Southland Ice ซึ่งในเวลานั้นทางบริษัทนี้เห็นว่าลูกค้าของเขาหลายคน ต้องเดินทางเป็นเวลาที่ค่อนข้างนานในการไปซื้อสินค้าเครื่องใช้ต่างๆ พวกเขาจึงได้เริ่มเปิดกิจการร้านขายของชำขึ้นโดยใช้ชื่อว่า Tote’m ซึ่งโลโก้ของร้านขายของชำแห่งนี้ก็คือโลโก้ง่ายๆ อย่างการใช้ตัว T เพียงตัวเดียวเท่านั้น และกิจการของพวกเขาก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา     ในปี 1946 บริษัท Southland ก็ได้มีร้านค้าหลายแห่งภายใต้ชื่อว่า Tote’m กับ City Ice โดยในตอนนี้เองที่พวกเขาคิดว่าควรจะหาชื่อที่เป็นทางการและรวมทั้ง 2 ชื่อที่ว่านี้เข้าด้วยกันเป็นชื่อเดียว และพวกเขาก็ได้ตั้งชื่อว่า ‘7-11’ ตามเวลาการให้บริการตั้งแต่ 7 am –…

ว่ากันว่าคนเรานั้นต่างก็ต้องมีวันดีๆ และวันร้ายๆ เกิดขึ้นในชีวิตผสมปนเปกันได้อย่างไม่รู้วันจบ ซึ่งในวันที่ดีๆ ทุกอย่างเป็นใจเราก็อาจจะมีความสุข แต่สำหรับในวันแย่ๆ แล้วล่ะก็บางทีมันอาจจะทำให้เรารู้สึกหดหู่ หมดหวัง รวมถึงเบื่อหน่ายที่จะใช้ชีวิตต่อไปในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลใบนี้ ดังนั้นแล้วเรื่องของกำลังใจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ ในวันเช่นนี้ โดยเราก็อาจจะได้รับจากครอบครัว พี่น้อง เพื่อนฝูงหรือคนรู้จัก แต่ใครจะไปคิดว่าคนแปลกหน้าก็สามารถมอบสิ่งนี้ให้กับเราได้เช่นเดียวกัน และที่สำคัญคือมันยังทำให้จิตใจของคนคนหนึ่งเปลี่ยนจากย่ำแย่ให้สดใสขึ้นในทันตาได้เลยด้วย…     เรื่องราวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้นี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้งานเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า ktbluesnow โดยเธอเล่าว่ากำลังเดินไปโรงเรียน ตามปกติก็จะต้องมีการผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ทว่าในวันนี้มันกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะเธอได้ไปสะดุดตาเข้ากับดอกไม้ที่วางเอาไว้อยู่บนม้านั่งตัวหนึ่ง เมื่อเธอเดินเข้าไปสำรวจดอกไม้สีสวยดังกล่าวก็พบว่ามันยังมีกระดาษโน๊ตแผ่นหนึ่งวางเอาไว้ข้างๆ ด้วย และกระดาษใบนี้เองที่ได้เปลี่ยนให้โลกของเธอดูสดใสขึ้นราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงถ้อยคำง่ายๆ ที่มีความว่าดังนี้ก็ตาม     “สวัสดีฉันชื่อว่า Luna ฉันทิ้งดอกไม้พร้อมกับกระดาษโน๊ตนี้ไว้เพื่อจะอยากบอกคุณว่า คุณเป็นคนที่พิเศษและโดดเด่นในสิ่งที่คุณเป็นเสมอมา อย่าลืมว่าเราเป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆ คนหนึ่งดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่โอเคมากๆ ถ้าหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นบ้างในบางครั้ง ฉันเชื่อมาเสมอว่าแม้แต่คนที่เลวร้ายที่สุดก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ถ้าหากมีความพยายามที่มากพอและได้รับการช่วยเหลือจากคนที่พร้อมให้โอกาส ถึงแม้ว่าในวันนี้มันเป็นวันธรรมดาที่อากาศร้อนและไม่มีความพิเศษอย่างใด แต่ฉันก็อยากให้คุณ ‘คนแปลกหน้า’ คนที่เจอข้อความนี้ได้รู้ว่า คุณคือสิ่งที่งดงามที่สุดในสิ่งที่คุณเป็นเสมอ หวังว่าวันนี้จะเป็นวันที่ดีของคุณนะ”     ข้อความง่ายๆ ไม่มีคำพูดที่อาจตีความยากนี้ อาจจะเปลี่ยนวันแย่ๆ ของใครบางคนให้กลายเป็นวันดีๆ ขึ้นมาได้ทันตาเห็นเลยใช่ไหมล่ะ และถ้าหากดูจากลายมือที่เขียนแล้วจะพอเดาได้ไม่ยากว่า Luna อาจจะเป็นเพียงเด็กเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สำคัญว่าอายุของเธอจริงๆ…

หลังจากที่มีข่าวเรื่องการโกงอาหารกลางวันเด็กในโรงเรียนออกมา ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ เลยทีเดียว แถมยังมีการออกมาเปิดเผยอีกด้วยว่าเด็กๆ ในโรงเรียนเหล่านั้นได้กินอาหารเพียงแค่ขนมจีนกับน้ำปลาเพียงเท่านั้น ในตอนนี้ทางหลายฝ่ายก็กำลังตรวจสอบถึงเรื่องราวเหล่านี้อยู่ว่าเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่ แต่ว่านอกจากการตรวจสอบของทางรัฐแล้วคนธรรมดาอย่างเราๆ ต่างก็มาแสดงออกกันถึงความไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ อย่างการแชร์หรือเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างจริงจัง     แต่สำหรับ เพจโยชิ 300 แล้วล่ะก็งานนี้เขาได้ร้องเพลงออกมาให้แฟนๆ ได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้กันด้วยแหละ สำหรับเพจๆ นี้ใครหลายคนอาจจะเคยเห็นกันผ่านหน้าผ่านตาแล้วก็คงจะจำได้ดี เพราะพี่แกชอบที่จะร้องเพลงเสียดสีในแบบฮาๆ และที่สำคัญเอกลักษณ์ของเขาผู้นี้ก็คือหน้านิ๊งนิ่ง นิ่งซะจนนึกว่าโดนบังคับมาร้อง แต่เอาเป็นว่าเพลงของพี่แกก็สามารถสะท้อนให้เห็นอะไรหลายอย่างในสังคมได้เป็นอย่างดีในหลายๆ ครั้งเหมือนกัน     ในครั้งนี้เขาได้ออกซิงเกิลใหม่ออกมาชื่อว่า ‘1,095 วันกับขนมจีนน้ำปลา’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลง ‘365 วันกับเครื่องบินกระดาษ’ ของน้องๆ วง BNK48 ส่วนในเรื่องเนื้อหาก็เป็นอย่างชื่อเพลงนั่นแหละ เอาเป็นว่าไปฟังเพลงของเขากันดีกว่าแล้วจะรู้ว่าชายผู้นี้มีดีขนาดไหน     เพลง ‘1,095 วันกับขนมจีนน้ำปลา’ จะสะเด็ดสะแด่วสะท้านใจสะท้อนสังคมขนาดไหนลองไปชม   หลังจากเพลงนี้ถูกปล่อยออกไปก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของแฟนๆ กันซะเหลือเกิน และก็มีหลายความเห็นถาโถมกันเข้ามา ซึ่งส่วนมากมักจะบอกว่าอยากจะขำก็ขำไม่ออกจริงๆ ที่ต้องมาเจอเรื่องจริงอย่างนี้ อย่างเช่น . . . . .   ฟังแล้วเป็นยังไงกันบ้างล่ะ…

โรคมะเร็ง หนึ่งโรคร้ายที่มีผู้ป่วยมากเป็นอันดับต้นๆ ปัจจุบันโรึคมะเร็งมีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็ต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ ทำให้ผู้ที่ไม่มีกำลังทรัพย์บางคนต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคร้ายนี้ วันนี้ #เหมียวบู้บี้ มีอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งมาฝาก เป็นข้อมูลจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @topazine ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการนำเส้นผมไปบริจาคเพื่อทำวิกผมเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง   “จากที่ลองสอบถามไปยังรพ. หลายๆ แห่ง พบว่าเขาไม่รับบริจาคเส้นผมแล้ว มีรุ่นพี่แนะนำให้มาร้านนี้ เป็นร้านขายวิกผมชื่อร้านกระต่าย อยู่ในซอยตลาดวังหลัง ที่ร้านรับบริจาคทั้งเส้นผม หรือจะช่วยค่าทอวิกด้วยก็ได้ หัวละ 1200 บาท ถ้าทอเสร็จมีคนไข้มะเร็งมาขอรับวิก ทางร้านก็จะแจ้งเรา”   ผู้บริจาคเส้นผมหรือที่เรียกกันว่า ‘นางฟ้า’ สามารถส่งเส้นผมสภาพดีหรือบริจาคเงินเพื่อการทำวิกผมแท้ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ป่วยโรคมะเร็งจะลงทะเบียนเพื่อรอรับวิกผมฟรี พอได้รับวิกผมก็สามารถติดต่อเพื่อขอบคุณนางฟ้าได้     “ผมที่เอาไปบริจาคก็ใส่ซองซิปไปแบบนี้ เป็นผมของเราและของน้อง @pizzanarra บริจาคร่วมกัน ผู้ที่มาขอรับวิกจากทางร้านต้องมีบัตรผู้ป่วยและใบรับรองแพทย์เพื่อรับรองว่าเป็นผู้ป่วยมะเร็งจริง ป้องกันการแอบอ้างเพื่อนำวิกผมไปขายต่อค่ะ”     “ทางร้านขอชื่อและเบอร์โทรฯ ของผู้บริจาคเส้นผมไว้ด้วย คนที่เคยบริจาคเล่าให้ฟังว่า พอผู้ป่วยได้รับวิกผมไปแล้ว เขาโทรมาขอบคุณเจ้าของเส้นผม เพราะวิกผมที่ทำจากผมจริงๆ ใช้แล้วสบายกว่าวิกผมเทียมที่ใช้เส้นใยสังเคราะห์ ใครสนใจบริจาคผม หรือผู้ป่วยที่จะขอรับวิกผม ลองติดต่อไปที่ร้านได้นะคะ”     ใครสนใจที่อยากจะช่วยเรื่องการจัดทำวิกให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง…

ปัจจุบันบ้านเมืองยิ่งเจริญก้าวหน้า มีตึกรามบ้านช่องถูกสร้างขึ้นมากมาย มันยิ่งทำให้พื้นที่เมืองเหลือน้อยลงเต็มที การจะหาที่ดินปลูกบ้านสักหลังอาจเป็นไปได้ยาก ณ เวลาปัจจุบัน เฉกเช่นเดียวกับกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ปัญหาเรื่องของที่พักอาศัยของผู้คน สิ่งก่อสร้างทั้งหลายมันใช้พื้นที่มากเกินไป จนแทบไม่เหลือที่พักอาศัยให้ผู้คน ทั้งนี้กลุ่มนักออกแบบก็ได้เกิดไอเดียเปลี่ยนบ้านขนาดใหญ่ให้กลายเป็นอพาร์ตเมนต์ขนาดจิ๋วที่มีห้องนอนห้องน้ำเพรียบพร้อม     แม้พื้นที่จะจำกัด แต่ต้นแบบอพาร์ตเมนต์ชิ้นนี้ก็ยังคงมีสิ่งที่จำเป็นครบครัน เช่น เตียงนอน ห้องน้ำ ตู้และชั้นสำหรับเก็บสิ่งของ เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชั่นทั้งหมดจะรวมกันเป็นกล่องไม้ใหญ่ๆ 1 กล่อง ยกเว้นห้องน้ำที่จะเป็นส่วนแยกออกมา ต้นแบบดีไซน์นี้ชื่อว่า 18 SQM Micro-Apartments ออกแบบโดย Laura Encinas สถาปนิกและนักออกแบบจาก Bibloc   . .   การก่อสร้างทั้งหมดใช้งบประมาณราว 25.6 ล้านบาท เปลี่ยนจากบ้านสไตล์วิกตอเรียน 4 ชั้นให้กลายเป็นอพาร์ตเมนต์จิ๋วดีไซน์เยี่ยม 14 ห้อง โดยแต่ละห้องจะมีราคาขายอยู่ที่ราวๆ 15.8 ล้านบาท! ไอเดียนี้เริ่มมาจากการที่ลูกค้ารายหนึ่งต้องการเปลี่ยนบ้านที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ของตนเองให้เป็นห้องเช่าสำหรับชาวลอนดอน ทาง Bicbloc จึงพยายามลดขนาดพื้นที่ และดีไซน์ให้สามารถนำไปปรับใช้กับห้องเช่าอื่นๆ ได้อีกด้วย    …

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดเกิดขึ้นได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลาและความพยายามแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างหนุ่มเกาหลีคนนี้เองก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความพยายามไม่เคยทำร้ายสักคนที่ตั้งใจ พ่อหนุ่มเกาหลีหน้าตี๋คนนี้มีชื่อว่า นัมอูฮยอน ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นหนุ่มพุงพลุ้ยกินเก่งมาก่อน แต่เขาก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ออกกำลังกายบ่อยขึ้น กินอาหารคลีนมากขึ้น จนชั้นไขมันที่หน้าท้องค่อยๆ ลดลง เหลือไว้แต่กล้ามเนื้อล้วนๆ   นี่คือภาพเก่าของเขาเมื่อหลายปีก่อน   นี่คือร่างกายของเขาหลังผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก จะเห็นได้ว่าหน้าท้องของเขาลดลงไปมาก และเริ่มมีไรซิกแพ็กให้เห็นบางๆ   นัมอูฮยอน นำเอาเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงตัวเองของเขามาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง Woohyun Nam เป็นเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกัน พร้อมกับข้อความว่า “ไม่เร็วเท่าไหร่ แม้ว่ามันไม่ได้ดีมาก แต่สิ่งสำคัญก็คือแม้ว่ามันจะช้าและเหนื่อยมาก แต่เป้าหมายรออยู่ข้างหน้า – มันก็ยังไกลอยู่นะ”     ดูกล้ามอกนั่นสิ… . .   จากภาพนี้จะเห็นได้ชัดๆ ว่าไขมันตรงหน้าท้องของเขาหายไปหมดแล้ว . .   นัมอูฮยอน เข้ายิมอย่างสม่ำเสมอ . .   กล้ามเนื้อไบเซ็ปและไตรเซ็ปที่แน่นปั๊ก   ต่อไปเรามาดูหน้าตาอาหารที่เขากินกัน จะเป็นพวกอกไก่ ผัดผักที่แทบไม่มีน้ำมันเลย และแบ่งกินแบบหลายๆ มื้อ เพื่อให้ร่างกายซึมซับสารอาหารตลอดเวลา   เสริมข้าวกล้องและถั่วอัลมอนด์…

เรื่องของการท่องเที่ยวแบบอนุรักษ์ธรรมชาติเป็นเรื่องที่ประชาชนอย่างเราๆ เริ่มตื่นตัวมากขึ้น และพยายามช่วยกันสอดส่องดูแลสถานที่ท่องเที่ยว หากมีใครที่ท่องเที่ยวในเชิงทำลายธรรมชาติก็ต้องมีการตักเตือนกันเพื่อให้รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นไม่ถูกต้อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pongsakorn Deethonglang ได้โพสต์ภาพของนักท่องเที่ยวชาวจีนรายหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวที่เกาะสมุยเมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา ในภาพดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เธอดำน้ำแล้วหยิบประการังและดาวทะเลขึ้นมาถ่ายภาพด้วย ทำให้เจ้าตัวต้องเข้าไปอธิบายว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมันไม่ถูกต้อง     จากข้อความเตือนดังกล่าว มีใจความว่า “สวัสดี ฉันชาวบ้านท้องถิ่นและเห็นโพสต์ที่ไม่ให้เกียติกันของคุณแบบนี้ ฉันอยากให้คุณลบภาพนี้ออกซะเพราะมันผิดกฎหมายที่จะไปหยิบประการังขึ้นมาจากพื้น พวกเราคนไทยอยากจะปกป้องแหล่งธรรมชาติของเราเพื่อคนรุ่นต่อไป ขอร้องช่วยไปสอนเพื่อนและครอบครัวของคุณทีว่าถ้ามาที่ไทย สัตว์น้ำเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อถ่ายรูป”     ทางฝั่งนักท่องเที่ยวจีนรายนี้ เมื่อได้รับข้อความเตือนก็ได้ออกมาตอบโต้ว่าการกระทำของเธอนั้นเป็นสิ่งที่ครูสอนดำน้ำชาวไทยบอกว่าสามารถทำได้ “มีความคิดเห็นสำหรับพฤติกรรมของฉันในรูปนี้? นั่นคือสิ่งที่ครูสอนดำน้ำชาวไทยบอกฉันว่าทำได้ เขาคือคนที่หยิบประการังมาให้ฉันเลย ฉะนั้นพวกคุณคนไทยไม่ต้องถือเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรหรอก แค่สอนคนไทยกันเองก่อนเถอะ และพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองก่อนจะมาคอมเมนต์ระ อ้อที่ฉันพูดแบบนี้คือเจตนาดีนะ”     ล่าสุดนักท่องเที่ยวสาวได้ลบรูปภาพทั้งหมดออกแล้ว และปิดบัญชีอินสตาแกรมของเธอไว้แบบส่วนตัว ซึ่งก็น่าประหลาดใจที่นักท่องเที่ยวอ้างว่าการกระทำเหล่านั้นมาจากคนไทยที่สอนให้พวกเขาทำแบบนั้นเอง เรื่องนี้อาจจะต้องมีการตรวจสอบไปยังผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิธีการของพวกเขาในอนาคต… ที่มา Pongsakorn Deethonglang

การใช้รถใช้ถนนสาธารณะร่วมกัน ก็อาจจะมีบ้างบางครั้งที่เกิดเรื่องไม่พอใจขึ้นมาบ้างจากนิสัยอันแตกต่างกันของผู้ขับขี่ แต่ว่าทางที่ดีก็ไม่ควรจะใช้วาจาที่หยาบคายในการพูดคุยกัน เพราะมันอาจเป็นสิ่งที่พาไปสู่อารมณ์ที่แรงยิ่งขึ้น และอาจเกิดเรื่องบานปลายได้โดยใช่เหตุ เหมือนกับเหตุการณ์ที่นักศึกษาชายคนนี้ต้องเผชิญ เมื่อเขาบังเอิญไปมีข้อบาดหมางกับคนขับรถอีกคนหนึ่ง แต่แทนที่จะพูดจาหาข้อสรุปกันอย่างคนที่มีสัมมาคารวะ เขากลับถูกพูดจาเหยียดเชื้อชาติซะอย่างนั้น   Ali Alghamdi นักศึกษาหนุ่มผู้ถูกโจมตี   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อนาย Ali Alghamdi นักศึกษาวัย 24 ปี คณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Texas A&M ในรัฐเทกซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังขับรถไปทำธุระของเขาในย่าน Kingsville แต่ในระหว่างที่เขากำลังขับรถอยู่นั้นเอง ก็ได้ตามหลังรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเล็ตสีดำคันหนึ่ง ทว่ารถคันนี้ก็เกิดเบรคกะทันหันขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่งเนื่องจากกำลังฝ่าสัญญาณจราจรที่บอกให้หยุด นั่นจึงทำให้ Ali ต้องเบรคตามอย่างช่วยไม่ได้     และในวินาทีนี้นั่นเองที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้น เพราะว่าคนขับรถคันสีดำดังกล่าวได้ขับรถไปจอดที่ริมทางแล้วกล่าวหาว่า Ali ขับรถจี้ตูดพร้อมตะโกนต่อว่า อย่างเสียๆ หายๆ รวมถึงยังพูดจาเหยียดเชื้อชาติอย่างรุนแรงอีกด้วย จึงทำให้นักศึกษาหนุ่มคนนี้ควักโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเอาไว้ “ที่นี่อเมริกาไอ้ตูดหมึก นายควรจะไปเรียนรู้ว่าที่อเมริกาเขาขับรถกันยังไง ที่นี่ไม่ใช่ปากีสถานนะเว้ย และไม่ใช่ประเทศเทือกๆ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน หรือคูเวต พวกเรามีกฎหมายเข้าใจไหมไอ้ซังกะบ๊วย” นี่คือคำพูดของชายใส่หมวกคาวบอย ผู้ขับรถยนต์คันสีดำดังกล่าว     แต่ว่าความหัวร้อนของชายคนนี้ยังไม่ได้จบลงแค่นั้นเพราะเขายังต่อว่า Ali อีกว่ามีสำเนียงที่คล้ายกับชาวอาหรับ…

โดยทั่วไปแล้วเรามักจะเห็นภาพถ่ายส่วนมากเป็นภาพถ่ายแนวระนาบ เป็นภาพถ่ายแบบธรรมดาๆ ที่ไม่ได้ดูแปลกใหม่อะไร มุมเดิมๆ อะไรเดิมๆ ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเราลองปรับทัศนคติ เอ๊ย ลองเปลี่ยนมุมมองมาลองอะไรใหม่ๆ เราจะเห็นได้ว่า ที่จริงโลกนี้มันก็มีอะไรสวยๆ งามๆ เยอะอยู่เหมือนกันนะ อย่างเช่นภาพต่อไปนี้นี่เอง   1. นักศึกษาในวิทยาลัยพยาบาลสอบกลางสนามกีฬา ในจังหวัดเบาจี้  ประเทศจีน   2. เกษตรกรใช้รถแทร็กเตอร์ทำฟางอัดก้อนหลังจากที่เก็บเกี่ยวข้าวสาลีเรียบร้อยแล้ว   3. บ่อบำบัดน้ำเสียในทางตอนเหนือของลอนดอน   4. การเข้าร่วมรำไทเก็กในประเทศจีน   5. เครื่องบินเพื่อการเกษตรหว่านปุ๋ยและสารเคมีกำจัดศัตรูพืช   6. สนามบาสเก็ตบอลที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็คต์   7. รถที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะในลานจอดรถแห่งหนึ่งของจีน   8. ไร่ชาแห่งหนึ่งในประเทศจีน   9. เก้าอี้ริมชายหาดในซาร์ดิเนีย   10. โยคะสวยงาม   11. ผังเมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา เหมือนอย่างกับในเกม   12. คลื่นจากเรือที่เป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี้…

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 ทั่วโลกก็ได้ร่วมกันแสดงความยินดีในพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่และเมแกน มาร์เคิล นับได้ว่าเป็นข่าวที่น่าสนใจและมีผู้ติดตามมากมายไม่ว่าจะเป็นพิธีสำคัญของงานหรือแม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ประกอบรวมกันแล้วทำให้พิธีเสกสมรสออกมาเพอร์เฟ็คที่สุด อีกหนึ่งสีสันของพิธีเสกสมรสนั่นก็คือ แขกผู้มีเกียรติสุภาพสตรีทั้งหลายที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ต่างพากันสวมหมวกสีสันสดใสดีไซน์สวยงามมาอวดโฉมกัน แต่การสวมหมวกนี้ไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องแฟชั่นแต่อย่างใด ตามมารยาทและธรรมเนียมของการแต่งกายแบบเมืองผู้ดีอังกฤษ กำหนดไว้ว่าสุภาพสตรีจะต้องสวมหมวกในงานที่เป็นทางการ และธรรมเนียมนี้ก้มีมาตั้งแต่ปี 1950 จึงเป็นที่มาของหมวกแสนสวยที่ประดับประดาให้สุภาพสตรีทุกท่านดูมีความเป็นชาวอังกฤษมากขึ้น และนี่คือ 29 หมวกที่โดดเด่นและสวยที่สุดส่วนหนึ่งของ 29 ท่านผู้เข้าร่วมงาน   1. Lady Kitty Spencer   2. Karen Spencer   3. Joss Stone   4. Cressida Bonas   5. Catherine Elizabeth Middleton   6. Sarah Ferguson   7. Sarah Rafferty   8. Princess Anne…

หากเราลองคิดไปถึงเมื่อครั้งอดีต สมัยตอนที่ยังไม่มีสื่อโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ต่างๆ และมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับหนุ่มๆ ในการมองหาสื่อบางอย่างที่พอจะสามารถช่วยปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศของหนุ่มๆ ได้ แต่ถึงแม้ว่าสมัยก่อนจะไม่มีเว็บไซต์หรือหนังผู้ใหญ่ให้ได้เชยชม แต่ยังโชคดีที่มีพวกเธอเหล่านี้ไว้คลายเหงา เรียกได้ว่าพวกเธอคงเป็นขวัญใจของใครหลายๆ คนที่ยังคงจำไม่รู้ลืม ว่าแล้วเราก็ลองไปย้อนวันวานชมเหล่าเซ็กซี่สตาร์แห่งเมืองไทยเหล่านี้กันดูนะ พอจะจำคนไหนได้บ้างเอ่ย…   1. เปลวใจ หทัยทิพย์   2. กฤติยาภรณ์ ศรีรัตนพันธ์ .   3. บาหยัน พันธุ์โสภา .   4. เปียทิพย์ คุ้มวงศ์   5. ปรียา รุ่งเรือง   6.ขวัญภิรมย์ หลิน   7. ปริม ประภาพร   8. ชโลมจิต จันเกตุ   9. แก่นใจ มีนะกนิษฐ์   10. ดลนภา โสภี   11. โขมพัสตร์ อรรถยา   12. ดวงชีวัน…

เดี๋ยวนี้เรื่องของหน้าตาผิวพรรณ ไม่สามารถเป็นตัวกำหนดบ่งบอกอายุได้เลยจริงๆ เพราะว่าบางคนอายุยังน้อย แต่ก็กลับมีร่างกายไปไกลกว่าอายุที่เป็นจริงๆ เพราะขาดการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร แต่กลับบางคนมีอายุอานามที่ปาเข้าไปวัยกลางคนแล้วแต่กลับมีใบหน้าที่เต่งตึงสดใสราวกับก้นเด็กเลยก็อาจจะมีให้เห็นกันได้ และหนึ่งในเหล่าบุคคลเหล่านั้นก็คือนักแสดงชาวเกาหลีชื่อว่า Han Go Eun ที่แม้จะมีอายุเข้าไปถึง 43 ปีแล้ว แต่เธอมักโดนทักว่าอายุ 20 กว่าๆ อยู่บ่อยๆ แถมเธอยังบอกว่าเมื่อเธอบอกอายุจริงๆ ให้กับคนอื่นได้รู้ พวกเขากลับบอกว่าเธอชอบโกหกซะอย่างนั้น และมันจะเป็นเพราะด้วยอะไรก็ไปดูรูปภาพของเธอเองกันดีกว่าแล้วจะรู้ว่าทำไมกันนะ…   https://www.instagram.com/p/BiG8pksHrYu/?utm_source=ig_embed   ด้วยทรวดทรงองค์เอวที่ยังคงเช้งกะเด๊ะ รวมถึงใบหน้าที่สวยงามไร้รอยเหี่ยวย่นราวกับภาพวาดของสาว Han Go Eun ทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดกันมาแล้วหลายครั้ง และในตอนนี้เธอก็กำลังเป็นไอดอลในเรื่องของความอ่อนเยาว์ในโลกอินเทอร์เน็ต   https://www.instagram.com/p/BVCIlHflkKq/?utm_source=ig_embed   สำหรับสาว Han คนนี้ เธอเป็นคนที่ถือสองสัญชาติระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ และได้เริ่มเข้าสู่วงการเมื่อครั้งชนะเลิศการประกวด Super Elite Model Contest ที่ต้องย้อนกลับไปในปี 1995 เลย (ใครหลายคนยังไม่เกิดใช่ไหมล่ะ)     ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอคนนี้ก็เป็นนางแบบให้กับนิตยสารน้อยใหญ่อย่างมากมาย ซึ่งนับว่าเธอเป็นสาวที่ฮอตปรอทแตกคนหนึ่งในวงการสมัยนั้นเลยก็ได้ ซึ่งนอกจากงานถ่ายแบบแล้วเธอก็เริ่มมีชื่อเสียงที่กระฉ่อนเพิ่มขึ้นจากการเล่น MV หลายต่อหลายเพลงในช่วงยุค 90s     ต่อมาเมื่อทุกๆ อย่างลงตัวแล้วเธอก็ขยับตัวเองขึ้นไปเป็นนักแสดงในปี 1995…

ทุกๆ ปี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นักเดินทางจำนวนไม่น้อยต่างมุ่งหน้าไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อชมความสวยงามของดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง เปลี่ยนให้เมืองกลายเป็นสีชมพูทั้งเมือง และเมื่อไม่นานมานี้ ก็ได้มีการนำเสนอความสวยงามของดอกไม้แสนโรแมนติกนี้ออกมาในรูปของตัวต่อเลโก้ แถมยังคว้าสถิติกินเนสบุ๊กไปครองอีกด้วย!!     ตัวต่อเลโก้ต้นซากุระขนาดใหญ่นี้ถูกสร้างขึ้นโดยทีมงาน LEGOLAND จากญี่ปุ่น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 1 ปีของสวนสนุกแห่งนี้ ต้นซากุระตัวต่อนี้มีความสูงถึง 4 เมตร กว้าง 1.5 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 3,333 กิโลกรัม พร้อมครองสถิติต้นซากุระจากตัวต่อเลโก้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากกินเนสบุ๊กไปครองอีกด้วย     ต้นซากุระเลโก้ยักษ์นี้ถูกออกแบบที่สาธารณะรัฐเช็ก ก่อนที่จะถูกนำมาประกอบที่ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เวลาสร้างนานถึง 6,500 ชั่วโมง (ถ้าต่อแบบไม่หยุดพัก ก็ใช้เวลาราวๆ 271 วัน) และใช้ตัวต่อทั้งสิ้นถึง 881,470 ชิ้น และนอกจากความสวยงามของดอกซากุระที่อยู่เต็มกิ่งก้านของต้นไม้นี้แล้ว ยังมีโคมไฟสวยงามที่สร้างจากเลโก้เช่นเดียวกัน ประดับเอาไว้อีกด้วย     ชมความสวยงามและรายละเอียดของต้นซากุระจากเลโก้นี้กันแบบเต็มๆ ได้เลย… .   กว่าจะได้ผลงานที่สวยงามอย่างที่เราเห็นก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ   และนี่คือขั้นตอนการประกอบก่อนที่จะกลายมาเป็นผลงานอย่างที่เราได้ชมกัน  ที่มา mymodernmet

สถิติข้อมูลตัวเลขนั้น ในหลายๆ ครั้งจะถือว่าเป็นข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสูง เนื่องจากข้อมูลแบบนี้นั้นมักที่จะไม่มีตัวแปรอย่างความรู้สึกมาเจือปน จึงทำให้ข้อมูลที่ออกมานั้นไม่ผิดเพี้ยนไปมากนัก แต่มันในขณะเดียวกันข้อมูลแบบนี้กลับไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักอ่านมากนัก ด้วยความที่มันอ่านยาก แถมยังมีแต่ตัวเลขชวนมึนหัว แต่ก็ใช่ว่าข้อมูลสถิตินั้นจะมีแต่ตัวเลขให้ปวดหัวไปเสียทุกอัน เพราะในบางครั้งนั้น ข้อมูลเหล่านี้ก็มีอะไรที่น่าสนใจอยู่กว่าที่คิด ที่ต่อให้คุณเป็นคนไม่ชอบตัวเลยเอาเสียเลย คุณก็อาจจะชอบสิ่งที่มันสื่อออกมาก็ได้   1. บังกลาเทศมีประชากรมากกว่ารัสเซียเสียอีก ตามข้อมูลในปัจจุบัน ประชากรของประเทศเล็กๆ อย่างบังกลาเทศนั้น มีมากกว่าประชากรในประเทศใหญ่โตอย่างรัสเซียถึง 20 ล้านคน ทั้งๆ ที่บังกลาเทศเล็กกว่ารัสเซียถึง 116,000 เท่า   2. เรามีต้นไม้มากกว่าดาวในทางช้างเผือก ตามข้อมูลในทางสถิติโลกเรามีต้นไม้อยู่ราวๆ  300 ล้านล้านต้น ในขณะที่มีดาว 4 แสนล้านดวงทางช้างเผือก   3. ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วเยอรมนีมีประชากรเด็กน้อยที่สุดในโลก มีเด็กอายุระหว่าง 0 ถึง 14 ปีเพียง 12% ของประชากรทั้งหมดในประเทศเยอรมนี น้อยกว่าประเทศญี่ปุ่นที่มีอัตราการเกิดต่ำเสียอีก ในเวลาเดียวกันประเทศเคนยากลับมีประชากรเด็กถึง 40% เลยทีเดียว เรียกได้ว่าแทบจะครึ่งประเทศเป็นเด็ก   4. ชื่อที่มีคนใช้มากที่สุดคือ Mary กับ James จากข้อมูลในปี…

ปกติแล้วเมื่อภาพยนตร์กำลังจะเข้าโรงภาพยนตร์หรือเพิ่งเข้าใหม่ๆ ก็จะมีการโปรโมทเป็นปกติธรรมดา แต่ใครจะไปคิดว่าการโปรโมทหนังจะทำให้เกิดความโกลาหลชุลมุนขึ้นมาได้ เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่ทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่งดันเข้าไปโปรโมทภาพยนตร์ในห้างสรรพสินค้า ด้วยการแต่งตัวเป็นกลุ่มทหาร ISIS เท่านั้นยังไม่พอยังแสดงซะสมจริงจนผู้คนต่างวิ่งหนีกันอย่างอลหม่านเลยด้วย…     การโปรโมทหนังแปลกๆ นี้เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า Kourosh Complex ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของประเทศอิหร่าน เมื่อมีทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง ‘Damascus Time’ ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับ Ebrahim Hatamikia เข้ามาโปรโมทเชิญชวนให้ผู้คนเข้าไปดูหนังกัน โดยภาพยนตร์เรื่อง ‘Damascus Time’ นี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อลูกคู่หนึ่งที่เดินทางไปที่ประเทศซีเรีย เพื่อจะส่งมอบสิ่งของดำรงชีพให้กับชาวบ้าน แต่ในท้ายที่สุดแล้วทั้งคู่กลับถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่ม ISIS นั่นเอง     เหตุการณ์การโปรโมทภาพยนตร์เรื่องนี้ในแรกเริ่มนั้น ทีมนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็เข้ามาที่ห้างสรรพสินค้าด้วยการแต่งกายเป็นชุดทหาร ISIS ดั่งเช่นเรื่องราวในภาพยนตร์ และก็มีการโปรโมทแบบธรรมดาทั่วไปนั่นคือ การถ่ายรูปกับแฟนๆ รวมถึงโพสท่าทางต่างๆ ด้วยความสนุกสนาน แต่ว่าจู่ๆ ทีมนักแสดงนี้ก็ผุดความคิดพิสดารขึ้นมาด้วยการโชว์การสวมบทบาทแสดงเป็นตัวละครที่อยู่ในเรื่องให้ผู้ชมได้ดู และเพื่อความสมจริงก็มีการตะโกน การแกว่งอาวุธปืน มีดดาบต่างๆ ไปมา แถมยังมีอยู่คนหนึ่งที่ขี่ม้าจริงๆ เข้ามาในห้าง ทว่าดูเหมือนกับยังไม่สาแก่ใจทีมนักแสดงชุดนี้ เพราะสิ่งร้ายแรงที่สุดที่พวกเขาทำก็คือการแกล้งต่อสายไฟเข้ากับระเบิดปลอมที่ได้เตรียมมาไว้อีกด้วย   https://www.instagram.com/p/BievB6tF-Pb/?utm_source=ig_embed   การแสดงที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ผู้คนในห้างบางส่วนก็รับรู้ได้ว่าเป็นการแสดงอย่างหลอกๆ เพียงเท่านั้น ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่ไม่รู้และคิดว่านี่เป็นการก่อการร้ายจริงๆ จึงวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอย่างโกลาหลวุ่นวาย เนื่องจากกลุ่ม ISIS ก็เคยโจมตีเมืองเตฮะรานมาแล้วถึง…

ในยามที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เราคงไม่ต้องการอะไรนอกจากกำลังใจจากใครสักคน ด้วยเหตุนี้ เมื่อสุนัขสองตัวถูกพาเข้าไปในกรงโล่งๆ ไม่มีอะไรนอกจากพื้นคอนกรีต พวกมันหวาดกลัวมาก จึงได้หันมากอดกันและกัน แม้ว่าจะไม่เคยเจอกันมาก่อนก็ตาม สุนัขทั้งสองตัวนี้เพิ่งจะถูกพาเข้ามาในศูนย์พักพิง (ที่มีอัตราการการุณยฆาตสูง) โดยเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ในเท็กซัส ก่อนจะถูกจัดอยู่ในลิสต์การุณยฆาต เพราะทางศูนย์พักพิงมีทรัพยากรไม่พอที่จะดูแลพวกมัน     หลังจากที่เข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงสักพัก พวกมันคงจะเหนื่อย Neal สุนัขตัวที่ใหญ่กว่าจึงเอนกายนอนลงด้วยความอ่อนเพลีย ส่วน Jeremiah สุนัขตัวสีดำก็จะนอนเหมือนกัน แต่มันเลือกหาที่ที่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจด้วยการขึ้นไปนอนบนตัวของสุนัขที่ตัวใหญ่กว่า และ Neal ก็ยอมให้มันนอนบนตัวแต่โดยดีด้วย จากนั้น พวกมันก็หลับไปด้วยกัน Stacey Silverstein ผู้ก่อตั้งศูนย์พักพิง Rescue Dogs Rock NYC บอกว่า “Jeremiah หาที่ที่ทำให้มันนอนสบาย และ Neal ก็ยอมให้มันทำแบบนั้น พวกมันต่างรู้ดีว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย”     สุนัขทั้งสองตัวไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ด้วยชะตากรรมเดียวกัน ทำให้พวกมันเข้ากันได้อย่างเป็นธรรมชาติ และนั่นกลายเป็นภาพที่ทำให้เจ้าหน้าที่หนักใจที่จะการุณยฆาตพวกมัน ด้วยเหตุนี้หลังจากที่ภาพของพวกมันถูกแพร่ในโซเชียล ทางศูนย์พักพิงสัตว์สาธารณะต้องการที่จะช่วยพวกมัน พวกเขาจึงได้ติดต่อไปหา Silverstein เพื่อถามว่าจะช่วยเจ้าหมาสองตัวนี้ได้หรือไม่ แน่นอนว่าเธอไม่ปฏิเสธ     นอกจากนี้ Silverstein ยังช่วยสุนัขอีกตัวหนึ่งชื่อ Jagger ซึ่งมาจากศูนย์พักพิงสำหรับการุณยฆาตสัตว์ที่เดียวกับ Jeremiah และ Neal…

มนุษย์เรานั้นอาศัยอยู่บนโลกที่เติมไปด้วยเรื่องที่ไม่รู้จัก ว่ากันว่ายังมีสัตว์อีกมากมายบนโลกที่ยังไม่มีการถูกค้นพบโดยมนุษย์ และถึงแม้ว่าจะมีการค้นพบสัตว์ใหม่ๆ อยู่ทุกวัน คนธรรมดาก็ยังมีสัตว์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่อีกมากมายอยู่ดี ดังนั้นการที่ได้รู้จักสัตว์ใหม่ๆ จึงกลายเป็นอะไรที่น่าสนใจ โดยเฉพาะกับสัตว์ที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตสุดแปลก อย่างสัตว์ 10 อย่างต่อไปนี้ด้วยแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมคนเขาถึงชอบบอกกันว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกเยอะ   หอยที่สร้างเกราะได้ Chrysomallon squamiferum เป็นชนิดของหอยทากที่อาศัยอยู่ลึกลงไปในบริเวณที่มีลาวา มันพัฒนาเปลือกของตัวเองจนมีสภาพเป็นเกราะโลหะเพื่อป้องกันตัวเองจากความร้อนของแมกม่า   ปลาหมึกที่หน้าตาเหมือนหมูและว่ายน้ำกลับหัว มันมีชื่อว่า Piglet Squid อาศัยอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทร มันว่ายน้ำกลับด้านเมื่อเทียบกับปลาหมึกพันธุ์อื่น แถมยังพ่นน้ำออกมาจากจมูกได้เหมือนช้างอีกด้วย   สัตว์ที่แสดงความลังเลใจโดยการเปิดปาก ตัว Tasmanian devil จะอ้าปากกว้างคล้ายกับการหาว เมื่อรู้สึกไม่แน่ใจ หรือกลัวอะไรบางอย่าง นอกจากนี้มันยังเก็บไขมันส่วนใหญ่ของมันไว้ที่หางอีกด้วย   แมงมุมที่จ้างกบมาปกป้องไข่ของมัน อ่านไม่ผิดหรอก แมงมุม Xenesthis immanis จะปกป้องกบ Chiasmocleis ventrimaculata และหาอาหารมาให้มัน โดยแลกกับการที่เจ้ากบจะดูแลไม่ให้มดมากัดแมงมุม และไข่ของแมงมุม   แมลงวันที่มีชุดประดาน้ำ ขนของแมลงวัน Ephydra hians สามารถเก็บอากาศได้ ดังนั้นเวลามันดำน้ำในทะเลสาบ California Mono เพื่อกินสาหรายตัวของมันจะมีสภาพคล้ายกับถูกห่อไว้ด้วยฟองอากาศเลย   สัตว์ที่ปลูกสาหร่ายไว้บนตัวของมัน ใช่แล้วมันคือตัวสลอธนั่นเอง มันจะลงมาจากต้นไม้ราวๆ สัปดาห์ล่ะครั้งเพื่อทิ้งสิ่งปฏิกูลที่มีไข่ของผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่งเอาไว้ จากนั้นผีเสื้อเหล่านั้นจะบินไปเกาะที่ขนของสล็อต…

การที่ได้เป็นเจ้าของครอบครองหุ่นอันดีงาม เป็นสิ่งที่ปรารถนาของสาวๆ หนุ่มๆ หลายคนจึงตั้งใจและตั้งหน้าตั้งตาออกกำลังกายเพื่อให้ได้หุ่นที่เป๊ะปังไปให้ผู้คนได้ชื่นชม ทว่าบางทีออกกำลังกายอย่างหนักก็แล้วควบคุมอาหารก็แล้วก็ยังไม่เห็นผลสักที นั่นอาจเป็นเพราะว่าคุณมักที่จะดื่ม ‘เครื่องดื่มแอลกอฮอล์’ แล้วคิดว่าไม่เป็นไร ซึ่งในเรื่องนี้บล็อกเกอร์สาวคนหนึ่งจะมาแสดงให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเธอเอง ว่าตั้งแต่เลิกดื่มแล้วชีวิตของเธอมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง!!     Jelly Devote ฟิตเนสบล็อกเกอร์สาวผู้มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 570,000 คนจะเป็นคนที่ทำให้คุณรู้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มันมีพิษร้ายแรงขนาดไหน ซึ่งถ้าใครไม่เชื่อล่ะก็ ดูได้จากหุ่นในปัจจุบันของเธอที่มันแน่นเซี๊ยะ ซะจนสามารถเป็นนางแบบได้เลย และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้เธอบอกว่ามีความสุขกับชีวิตเอามากๆ “ฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่กินของหวานเลยนะฉันชอบที่จะกินโดนัทและตามมาด้วยสลัด แต่ว่าฉันไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ซึ่งฉันว่านี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันเลย ในวันนี้ฉันเปลี่ยนจากคนที่เกลียดตัวเองกลายเป็นคนที่รักตัวเองมากๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ” Jelly กล่าว   จุดเริ่มต้นของการเลิกดื่มของเธอนั้น เกิดขึ้นจากความที่เธอเริ่มมีน้ำหนักที่มากเกินกว่าจะรับไหวในช่วงต้นๆ ปี 2000 ซึ่งในเวลานั้นเธอก็ได้ตาสว่างว่า จริงๆ แล้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย แต่คือผลจากความมึนเมาของมันมากกว่า ที่ทำให้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป ทั้งการทำให้เธอเกิดอาการแฮงก์ในทุกๆ เช้า รวมถึงสร้างความรู้สึกขี้เกียจเกินกว่าที่จะออกกำลังกาย และที่มันร้ายแรงที่สุดก็คือมันทำให้การควบคุมอาหารของเธอเสียระเบียบไปโดยปริยาย     เธอจึงตัดสินใจตัดการดื่มลงจากที่เคยดื่มสัปดาห์ละ 3 ครั้งลดลงเหลือเพียงไวน์สัปดาห์ละแก้วเพียงเท่านั้น และมุ่งมั่นออกกำลังไปควบคู่ไปกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในเวลาไม่นานนักผลจากการกระทำของเธอก็ผลิดอกออกผล เป็นหุ่นสุดแซ่บที่ใครๆ ก็อยากมีกัน “คนส่วนใหญ่มักจะถามว่าฉันลดน้ำหนักลงไปเท่าไหร่กันเนี่ย แต่เอาจริงๆ ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าเคยมีน้ำหนักตัวมากที่่สุดเท่าไหร่ สิ่งที่ฉันจำได้คือในตอนนั้นฉันเกลียดตัวเองเอามากๆ และฉันไม่สามารถอยู่ในสภาพนั้นได้อีกต่อไปแล้ว”     Jelly…

อาชีพครู เป็นอาชีพที่ต้องสั่งสอนให้เด็กๆ ได้รู้ถึงผิดชอบชั่วดี เพื่อที่จะได้ออกไปใช้ชีวิตในโลกภายนอกได้ จึงเป็นธรรมดาที่จะต้องมีการว่ากล่าวตักเตือน หรือว่าทำโทษกันบ้าง แต่ว่าบางทีการทำโทษก็อาจจะรุนแรงเกินไปกว่าที่ใครจะรับไหว เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่ครูสั่งให้เด็กๆ สิบกว่าคนไปถุยน้ำลายใส่เด็กเพียงคนเดียวเพื่อเป็นการทำโทษ!!   สภาพของเด็กชายผู้ที่ต้องรับกรรมที่เกิดขึ้นนี้   โดยเรื่องอันน่ารังเกียจนี้เกิดขึ้นในเมือง Pingdingshan มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เมื่อคุณครูที่มีนามสกุลว่า Zhang ได้สั่งให้นักเรียนหญิงของเธอจำนวน 17 คนตั้งแถวกันแล้วถุยน้ำลายใส่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีพฤติกรรมซุกซนไปหน่อย… เหตุผลที่มีการกระทำอย่างนี้เกิดขึ้น นั่นก็เพราะว่าคุณครูอนุบาลคนนี้อยากจะสั่งสอนให้เด็กผู้ชายผู้ตกเป็นเหยื่อได้หลาบจำและรู้ซึ้งถึงบทเรียนอันมีค่า เพราะว่าเขานั้นไปถุยน้ำลายใส่นักเรียนหญิงร่วมชั้นคนหนึ่งนั่นเอง   ขณะเด็กหญิงเดินมาถ่มน้ำลายใส่   ในวิดีโอที่ได้ออกมาเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตทำให้เห็นว่า ขณะที่มีการลงโทษถุยน้ำลายโดยเด็กผู้หญิงแต่ละคนนั้น คุณครูคนดังกล่าวก็ให้เด็กๆ ปรบมือสรรเสริญการลงโทษนี้ และเมื่อการรับโทษเสร็จสิ้นลง เนื้อตัวเด็กชายคนดังกล่าวก็เต็มไปด้วยคราบน้ำลายพร้อมกับน้ำตาที่นองทั่วใบหน้า… หลังจากที่พ่อแม่ของเด็กผู้ชายได้รู้เรื่องนี้เข้า พวกเขาก็รีบรุดไปแจ้งเรื่องกับสำนักการศึกษาท้องถิ่นให้จัดการกับเรื่องนี้ ซึ่งในระยะเวลาต่อมาคุณครู Zhang ก็ถูกพักงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว   วิดีโอที่แสดงให้เห็นการลงโทษนี้    แต่อย่างไรก็ตามคุณครู Zhang ก็ได้ออกมาปกป้องทั้งตัวเองและมาตรการที่เธอใช้ลงโทษ โดยเธออ้างว่าในตอนนั้นไม่ได้ให้นักเรียนหญิงถ่มน้ำลายใส่นักเรียนผู้ชายจริงๆ แต่เพียงให้แสร้งทำเพียงเท่านั้น ในขณะเดียวกันทางพ่อแม่ของเด็กผู้ชายก็ไม่พอใจกับการลงโทษคุณครูคนนี้ที่เพียงโดนพักงานเพียงเท่านั้น พวกเขาจึงได้ยื่นฟ้องต่อทางโรงเรียนซะเลย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เป็นที่พูดคุยกันในโลกอินเทอร์เน็ตของชาวจีน ซึ่งก็มีความเห็นที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็มีผู้คนจำนวนมากที่บอกว่าการลงโทษของคุณครู Zhang ไม่เห็นจะมีอะไรที่ผิดปกติและพวกเขาก็เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาๆ เพียงเท่านั้น…   น่าสงสารเด็กคนนี้จริงๆ…

เพื่อนๆ เคยคิดบ้างมั้ยว่าอะไรหลายๆ อย่างรอบตัวของเรานั้นมีแต่ความน่าค้นหาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างทำไมคนเราถึงมีนิ้วมือ นิ้วเท้าแต่ละข้างเพียงแค่ห้านิ้ว และเคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าทำไมเวลาเราเป่าลมออกจากปากแบบที่ทำปากจู๋กับทำปากอ้า ทำไมมันถึงมีอุณภูมิต่างกัน บางทีไอลมที่ออกมาก็เย็น บางทีไอลมที่ออกมาก็อุ่นๆ เสียอย่างนั้น ถ้าหากเพื่อนๆ เกิดความสงสัยในสิ่งเดียวกับ #เหมียวโคบี้ แล้วล่ะก็ วันนี้เราก็ได้พยายามค้นหา รวบรวมข้อมูลเพื่อมาไขความสงสัยที่มีกันครับ     โดยปกติแล้วเวลาเราเป่าลมออกมาจากปาก มักจะมีอยู่สองแบบคือแบบที่ทำปากจู้และอีกแบบคือการอ้าปากเหมือนกับที่เราทำให้ช่วงหน้าหนาว ลองทดลองนำมือมาอังห่างจากปากประมาณ 15 เซนติเมตรและลองเป่าลมโดยอ้าปากดูเพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าลมที่มากระทบกับมือของเรานั้นมีความอุ่นอย่างเห็นได้ชัด และลองอีกครั้งโดยการเป่าลมโดยการทำปากจู๋ไปที่มือ คราวนี้เพื่อนๆ จะสังเกตได้ว่าลมที่ออกมานั้นมีความเย็นมากกว่าครั้งแรกที่เป่าแบบอ้าปาก     นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อเป่าลมจากปากที่อ้าออกมาจะมีแรงดันน้อยและลมจะมีการเคลื่อนตัวที่ช้า ทำให้ลมนั้นมีเวลาที่ได้รับความร้อนจากร่างกายของเรามากกว่าจึงทำให้เรารู้ถึงความอุ่นได้   ในทางกลับกัน หากเราเป่าลมด้วยการทำปากจู๋จะมีความดันที่สูงกว่า และทำให้ลมนั้นเคลื่อนตัวไปได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ช่วงเวลาที่กระแสลมจะรับอุณภูมิจากร่างกายของเรานั้นน้อยลงกว่าการอ้าปากมากๆ ลมจึงมีความเย็นมากกว่านั่นเอง     หากเพื่อนๆ ยังงงอยู่ เราจึงขอยกตัวอย่างคอมเมนต์ของคุณสมาชิกหมายเลข 1532099 จากบอร์ดพันทิปมาให้ได้ชมกันครับ “ปากจู๋ หมายถึง Pressure (ความดัน) สูง–> ลมออกมามีความเร็วสูง –> ลม Flow Rate มาก…

รู้หรือไม่ว่าทำไมเจ้าพวกแมวเหมียวนั้นถึงได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ “โนสน โนแคร์” ไม่ว่าจะเกิดอะไร หรือมนุษย์จะทำขอร้องแค่ไหน มันก็ไม่สนใจเด็ดขาด ย้อนกลับไปในอดีต ครั้งหนึ่งประธานาธิบดีลินคอล์น แห่งสหรัฐอเมริกา เคยรับแมวเข้ามาเลี้ยงในทำเนียบ 2 ตัวนั่นก็คือแท้บบี้ และดิ๊กซี่ย์     พวกมันมีสิทธิ์เหนือว่าสมาชิกสภาทุกคน สามารถเข้าออกได้ทุกที่ แม้กระทั่งห้องทำงานของลินคอล์นโดยไม่ต้องขออนุญาต มีสิทธิ์ร่วมโต๊ะอาหาร และกินอะไรก็ได้ที่มันอยากกิน และถูกเอาใจราวกับเป็นเจ้านายของท่านลินคอล์น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกแมวเหมียวอาจจะสอนกันมาตั้งแต่ครั้งอดีต ว่าระดับแมวสามารถมีอำนาจเหนือผู้นำแห่งสหรัฐอเมริกาได้ แมวทุกตัวบนโลกก็ต้องมีสิทธิ์เหนือมนุษย์ทุกคน ตามกฎแห่งแมว 6 ข้อนี้!!!     เอาล่ะ ถ้าพวกมนุษย์ยังจำไม่ขึ้นใจ แมวจะสรุปให้ฟังอีกครั้งชัดๆ   1. ผู้นำต้องน่าเกรงขาม และต้องอยู่เหนือมนุษย์ตลอดเวลา ไม่ว่าจะช่วงเวลาสำคัญขนาดไหน ก็ห้ามมีอะไรสำคัญไปกว่าแมว!!   2. ผู้นำต้องกล้า อย่าใจปลาซิว แมวสามารถทำทุกอย่างกับมนุษย์ได้ แต่มนุษย์จะต่อต้านแมวไม่ได้   3. ยอมหัก ไม่ยอมงอ ถ้าเลือกที่จะยืนอยู่ตรงนี้ จะไม่หลีกทางให้เด็ดขาด อยากให้หลีกก็อุ้มเองสิมนุษย์!!   4. อยากรุ่นใหญ่…

โลกใบนี้มีคนอยู่สองประเภทใหญ่ๆ คือคนที่อยากมีชีวิตคู่ กับคนที่อยากใช้ชีวิตอยู่แบบโสดๆ แต่ละแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียในตัวของมันเอง อย่างการใช้ชีวิตคู่แน่นอนเราก็มีความหวานในชีวิต มีคนที่ให้อยู่ด้วยคลายความเหงา ส่วนใช้ชีวิตแบบโสดๆ เราก็อาจจะได้ใช้ชีวิตสบาย ไม่ต้องตามใจใคร ไม่ต้องรอใคร สามารถทำอะไรตามใจเราได้ ถ้าเพื่อนๆ ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตแบบโสดๆ แล้วล่ะก็ ต้องสนใจในหัวข้อที่ Bella DePaulo นักจิตวิทยาสังคมจะพูดต่อไปนี้แน่นอน โดย Bella Depaulo ได้รับเชิญให้บรรยายที่งาน TEDx Talk ในเดือนพฤษภาคม 2017 โดยที่เธอแย้งว่าสังคมในปัจจุบันนี้มักจะให้คุณค่าการใช้ชีวิต ความสัมพันธ์ และเรื่องราวของคนโสดต่ำไป ผู้คนมักจะเล่าแต่เรื่องราวโรแมนติกของคนสองคน ทำนองว่าพบกันได้ไง หรือแต่งงานกันอย่างไร มากกว่าเรื่องราวของผู้คนที่อยู่เป็นโสด     เธอได้อ้างไปถึงเรื่องของการศึกษาในปี 2015 ที่ตีพิมพ์ในวารสารสังคมและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ว่าข้อเท็จจริงแล้วหากคุณเป็นโสด คุณจะมีพันธะสัมพันธ์ทางสังคมและแนวโน้มที่จะช่วยเหลือคนอื่นมากกว่าคนที่แต่งงานแล้ว คนที่แต่งงานแล้วจะถูกจำกัดการเข้าสังคมมากขึ้น และมันก็ไม่ได้จบสวยงามหมือนที่เราเข้าใจมาตลอด การเป็นโสดจะสามารถติดต่อกับสังคมได้บ่อยครั้งกว่า และมีแนวโน้มให้ความช่วยเหลือหรือได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ พี่น้อง ญาติๆ และผองเพื่อนมากกว่าผู้ที่แต่งงานแล้ว   วินาทีที่ Bella พูดถึงเกี่ยวกับความโสด    การศึกษาพบว่าการเป็นโสดจะเพิ่มความสัมพันธ์ทางสังคมทั้งผู้ชายและหญิง นักวิจัยได้สรุปว่าแทนที่จะสนับสนุนเรื่องการแต่งงาน นโยบายสาธารณะควรจะยอมรับข้อจำกัดของสังคมการแต่งงาน และยอมรับบทบาทของคนโสดที่มีส่วนร่วมกับสังคมอย่างกว้างขวางมากกว่า   ส่วนใครที่อยากดู TEDx…

สำหรับคนที่มีโอกาสได้เดินทางอยู่บ่อยๆ เชื่อว่าโรงแรมหรือห้องเช่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณคุ้นเคยและต้องใช้บริการทุกครั้งในระหว่างที่คุณท่องเที่ยว แต่เชื่อเลยว่าน้อยคนนักที่จะได้เข้าพักใน “โรงแรมน้ำแข็ง” ที่ไม่ว่าจะเป็นเตียง ผนัง แก้วน้ำ หรือเครื่องใช้ต่างๆ ล้วนก็สร้างขึ้นมาจากน้ำแข็งทั้งสิ้น Icehotel หรือโรงแรมน้ำแข็งแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 ในเขต Lapland ดินแดนทางตอนเหนือของประเทศสวีเดน โดยโรงแรมนี้สร้างขึ้นในฤดูหนาวของทุกๆ ปี โดยใช้น้ำแข็งจากแม่น้ำในท้องถิ่น ห้องพักแต่ละห้องนั้นได้รับการออกแบบโดยศิลปินจากทั่วโลก โดยมีห้องสวีทจำนวน 35 ห้อง และในปีนี้มีความพิเศษตรงที่มีห้องธีมนักบินอวกาศและราชินีน้ำแข็งเพิ่มขึ้นมา ห้องสวีททั้ง 35 ห้องนั้นออกแบบโดยศิลปิน 36 คน จาก 17 ประเทศ เช่นห้องคิงคองก็จะออกแบบโดย Lkhagvadorj Dorjsuren   โรงแรมน้ำแข็งแห่งนี้ใช้น้ำแข็งในการสร้างไปกว่า 30,000 ลูกบาศก์เมตร และใช้น้ำแข็งใสๆ จากธรรมชาติ มาสร้างเป็นประติมากรรมรูปร่างต่างๆ ที่ตกแต่งอยู่ภายในอย่างสวยงาม อย่างเช่นห้องกระต่ายขาวนี้ สร้างขึ้นโดยศิลปินชื่อว่า AnnaSofia Mååg และ Niklas Byman   Icehotel จะมีห้องรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกปี โดยห้องนี้มีชื่อว่า Ground Rules ซึ่งเป็นหอยทากน้อยรูปร่างสวยงาม สร้างขึ้นโดย Carl Wellander…

แผ่นทองบางๆ หรือที่เราเรียกกันว่าทองคำเปลวนั้นอาจจะเป็นสิ่งของที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับใครที่ชื่นชอบการเข้าวัดทำบุญ และสำหรับในประเทศญี่ปุ่นนั้นเจ้าแผ่นทองที่ว่านี้เค้าเรียกกันว่า “Kinpaku” นั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อติดยี่ห้อเมดอินเจแปนแล้ว ย่อมจะต้องมีความพิถีพิถันในการทำอย่างไม่ต้องสงสัยกันเลยทีเดียว และวันนี้เราก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแผ่นทองเล็กๆ และกรรมวิธีการทำของชาวญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมากว่า 400 ปีมาฝากกัน จะน่าสนใจแค่ไหนไปชมเลย…     จุดเริ่มต้นของ Kinpaku นั้นเริ่มขึ้นที่เมืองคะนะซะวะ ในเมืองแห่งนี้ถือเป็นแหล่งผลิตทองคำเปลวมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว คุณ Kenichi Matsumura ช่างทำ Kinpaku เล่าว่าเจ้าแผ่นทองบางๆ เหมือนกระดาษนี้ถือกำเนิดมาจากวัตถุดิบ 2 อย่างนั่นก็คือทองคำและเงิน โดย Kinpaku แต่ละแผ่นนั้นจะมีความบางเพียงแค่ 0.0001 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าบางสุดๆ!!     และนอกจากเมืองนี้จะเป็นแหล่งผลิต Kinpaku ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่เองก็ยังมีงานฝีมือระดับเทพมากมายที่เกิดจากเจ้าแผ่นทองคำเปลวนี้ และมีช่างฝีมือมากกว่า 40 คนเลยทีเดียว โดยผลงานศิลปะที่ทำจาก Kinpaku ส่วนมากนั้นจะถูกวางจำหน่ายอยู่ในร้านค้าของเมือง ซึ่งมีผลงานต่างๆ ก็เช่นตุ๊กตาแมวนำโชค ตะเกียบ หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เคลือบด้วย Kinpaku   และนอกจากจะนำไปใช้ในงานฝีมือแล้ว มันยังถูกใช้ในเครื่องสำอางและอาหารอีกด้วย…

เวลาพูดถึงงานสตรีทอาร์ตนั้น เราก็จะนึกถึงการทำงานจำพวกกราฟฟิตี้ หรือการวาดอะไรบางอย่างลงไปบนกำแพงเพื่อให้มันเกิดเป็นศิลปะที่น่าดึงดูดใจ แต่ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นงานสตรีทอาร์ตแจ๋วๆ ที่เกิดจากการแกะสลักกำแพง… Alexandre Farto หรือที่คนในวงการจะรู้จักกันในชื่อ Vhils เขาเป็นศิลปินชาวโปรตุเกสที่มีฐานการสร้างผลงานอยู่ที่เกาะมาเก๊า ประเทศจีน โดยเขามีวิธีการสร้างผลงานที่คนอื่นๆ ไม่ค่อยทำนักนั่นก็คือการแกะสลักกำแพงให้เป็นใบหน้าของคนดังต่างๆ     Vhils เล่าว่าเขาเริ่มงานสายสตรีทอาร์ตมาตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยตอนแรกเริ่มจากการทำภาพกราฟฟิตี้ตามกำแพงของเมืองและแน่นอนว่ามันผิดกฎหมาย แต่เมื่ออายุมากขึ้นประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นเขาก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำมันมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งทำให้งานปัจจุบันของเขาแตกต่างจากการพ่นสีกราฟฟิตี้ทั่วไป     แนวคิดการทำงานศิลปะของเขามันเริ่มจากวันหนึ่งเขาคิดว่าได้ ทำไมตัวเองจะต้องเพิ่มอะไรลงไปบนกำแพง ทำไมไม่สร้างผลงานขึ้นมาจากอะไรที่มันมีมาก่อนอยู่แล้ว วินาทีนั้นเขาจึงเปลี่ยนแนวทางในการสร้างผลงานของเขาจนเกิดเป็นการแกะสลักในปัจจุบัน     ส่วนสาเหตุที่เขาเลือกมาเก๊าเป็นสนามสร้างสรรค์งานของเขานั่นก็เพราะว่า ที่มาเก๊ามีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากที่อื่นๆ โดยตัวเมืองนั้นเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างทั้งเก่าและใหม่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ซึ่งมันสามารถรับรู้ได้ทุกครั้งที่เขาเริ่มสร้างผลงาน ขั้นตอนการทำงานของ Vhils นั้นมีขั้นตอนที่ไม่มากนักแต่ต้องคิดให้ดี เขาออกเดินทางไปตามจุดต่างๆ ของเมืองถ่ายภาพและสเกตจุดต่างๆ ออกมา จากนั้นก็เลือกภาพใบหน้าของคนแตกต่างกันไป ซึ่งเมื่อได้แบบแล้วขั้นต่อไปคือเลือกกำแพงที่จะสร้างผลงาน ปิดท้ายด้วยการบรรเลงเพลงแกะสลักของเขา แน่นอนว่าทุกแห่งได้รับอนุญาตแล้ว     สุดท้าย Vhils บอกว่าความสนุกในการทำงานแกะสลักกำแพงนี้มันมีผลออกมาสองแบบ อย่างแรกคือตอนที่ได้ลงมือทำ ซึ่งเขาบอกว่าตัวเขาเองไม่รู้เลยว่าผลงานที่ทำนั้นจะมีผลลัพธ์แบบไหน มันจะออกมาดีหรือแย่เพราะกำแพงทุกที่นั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันไป     ส่วนความสนุกอย่างที่สองของเขาคือผลลัพธ์ที่ตามมา ผลที่เกิดจากปฏิกิริยาของผู้ที่ชมผลงานของเขา เพราะว่าทุกคนล้วนมีความรู้สึกมีความคิดในแบบของตัวเองที่มีให้แก่งานของเขา…

การเลี้ยงลูกคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีนั้นอาจจะดูว่าเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายมากๆ เหล่าบรรดาพ่อแม่ต้องปวดหัวกับวีรกรรมของลูกๆ ในวัยเด็กที่ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ และนี่คือภาพของ 14 พ่อแม่สุดซวยส่งท้ายปี 2017 กับวีรกรรมของลูกๆ ที่ต้องกุมขมับตั้งแต่ต้นปียันท้ายปี เห็นแล้วสะเทือนใจแทนเลยล่ะ   1. ตอนแรกก็คิดว่าเป็นเสื้อลายคริสต์มาสธรรมดาๆ แหละจนกระทั่งเห็นซานต้าเข้า   2. คนที่ปกป้องและทำร้ายเราในเวลาเดียวกัน เอ้าก็พ่อบอกให้จับดีๆ ไงลู๊กกกก   3. ถ้าแม่เห็นภาพนี้แม่ตีตายแน่ๆ   4. อืม พ่อเพิ่งทำความสะอาดไปเองลูก T^T   5. เมื่อคุณครูสั่งให้วาดรูปในหัวข้อ แม่ของฉัน   6. หลังจากที่ลูกกลับมาจากโรงเรียนพ่อแม่ก็ได้จดหมายขอโทษจาก Demi (ไม่แน่ใจคำแปล)   7. แม่พาลูกมาเที่ยวสวนสัตว์พอคลาดสายตาปุ๊บก็มีตัวลีเมอร์เข้ามาช่วยดูแลเด็กน้อยให้   8. ไม้เรียวอยู่ไหน เอามาด่วนๆ เลย   9. คุณลูกทดลองวิทยาศาสตร์จำลองภูเขาไฟระเบิดแล้วนำมาอวดแม่ รูปทรงภูเขาไฟมันคุ้นๆ นะ   10. แม่ไม่เปิดประตูให้หนูใช่มั้ย ได้!!!  …

หลังจากที่มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าจาก Tesla ไปหลายรุ่น พร้อมข่าวลือว่าทาง Elon Musk ผู้บริหารชื่อดังกำลังวางแผนจะขยายไปถึงรถบรรทุก เพื่อสร้างรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าแบบไร้คนขับขึ้นมา ล่าสุดมีการเปิดตัวรถบรรทุกดังกล่าว ภายใต้ชื่อ Tesla Semi เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหน้าตาของรถก็ออกมาในแนวล้ำยุค ราวกับว่าหลุดออกมาจากโลกอนาคตจริงๆ     “กระจกหน้านั้นจะออกแบบมาให้ทนต่อแรงกระแทก ขณะที่ปัญหาสำคัญที่รถบรรทุกคันยาวๆ ต้องเจอก็คือการถ่ายของตัวรถ ซึ่งระบบเซ็นเซอร์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ จะตอบสนองทั้งในแง่บวกและลบ เพื่อทำให้ล้อแต่ละอันนั้นทำงานให้รถขับเคลื่อนได้นิ่งที่สุด ที่สำคัญคือเบรกของแต่ละล้อ จะทำงานแยกกันอย่างสมบูรณ์อีกด้วย” ตัวแทนของทาง Tesla กล่าว     นอกจากนี้ Tesla ยังเน้นไปในเรื่องของการออกแบบภายใน ที่ออกแบบมาอำนวยความสะดวกแก่คนขับเป็นกรณีพิเศษ มีพื้นที่พอจะให้คนขับสามารถยืนได้ รวมถึงมุมมองการมองเห็นที่กว้างขึ้นกว่ารถทั่วไป ภายในมีหน้าจอทัชสกรีน 2 จอ อยู่แต่ละด้านของที่นั่ง ซึ่งนอกจากจะใช้ควบคุม ดูแผนที่ ยังแสดงจุดบอดของรถผ่านทางกล้องที่ติดอยู่อีกด้วย     ส่วนอีกสิ่งที่สำคัญคือระบบ Autopilot ซึ่งจะติดตั้งมาด้วย แม้มันจะไม่สามารถเป็นรถไร้คนขับสมบูรณ์แบบได้ แต่ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ก็ดีเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ของบริษัท กล้องที่ติดไว้ตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะจุดบอด ก็จะมีหน้าที่คอยวิเคราะห์ข้อมูลการจราจรโดยรอบ และเตือนคนขับเมื่อมีความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ…