Tag: ภาพยนตร์

ยุคนี้ต้องเรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่จริงๆ เพราะต่างค่ายต่างก็สร้างภาพยนตร์ออกมาประชันกันอย่างสุดเฤทธิ์สุดเดช ทำให้ทั้งปี 2018 และปี 2019 นั้นมีตารางภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่แน่นเอี้ยด แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่สิ่งที่วงการภาพยนตร์จะขาดไม่ได้เลยก็คือ ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ที่กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะความกลัวนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของความสุขเช่นกัน สำหรับใครที่รอคอยภาพยนตร์แนวระทึกขวัญหรือสยองขวัญอยู่นั้น รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะปี 2019 มีภาพยนตร์แนวนี้รออยู่เพียบ! ไปชมกันเลยกับ 15 ภาพยนตร์แนวสยอง/ระทึกขวัญ ที่มาแน่ๆ ในปี 2019   1. Annabelle 3 (กรกฎาคม 2019) ภาพยนตร์ภาคต่อของ Annabelle เนื้อเรื่องโดย James Wan เขียนและกำกับโดย Gary Dauberman   2. The Curse of La Llorona (เมษายน 2019) การละเลยต่อคำเตือนของแม่ ทำให้นักสังคมสงเคราะห์คนหนึ่งและลูกเล็กของเธอต้องถูกดึงเข้าสู่โลกลึกลับเหนือธรรมชาติ   3. Pet Sematary (เมษายน 2019) ครอบครัวหนึ่งย้ายที่อยู่อาศัยไปยังเขตชนบท ที่นั่นชาวเมืองพูดกันถึงเรื่องของ “ป่าช้าสัตว์เลี้ยง” ที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านของพวกเขา เมื่อแมวของครอบครัวพวกเขาตายเพราะอุบัติเหตุ มันจึงถูกนำไปฝังยังป่าช้าแห่งนั้น นั่นเป็นเหตุทำให้ครอบครัวนี้ต้องพบเจอกับความสยองของป่าช้าจนต้องรู้สึกว่าตายเสียยังดีกว่ามีชีวิต…

ภาพยนตร์หลายๆ เรื่องที่อิงจากประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงนั้น ก็จะมีการใช้นักแสดงในยุคนั้นๆ มารับบทบุคคลในประวัติศาสตร์ จึงทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า “ตัวจริง” ของบุคคลในประวัติศาสต์เหล่านี้มีหน้าตาอย่างไรกันแน่? เอาล่ะวันนี้ เรามาชม 20 ภาพเปรียบเทียบ ระหว่างบุคคลในประวัติศาสตร์กับดาราที่รับบทเป็นบุคคลผู้นั้น มาดูกันซิว่าจะมีความคล้ายความเหมือนขนาดไหนกันเชียว!   1. Ray Liotta รับบทเป็น Henry Hill ในเรื่อง Goodfellas   2. Daniel Brühl รับบทเป็น Niki Lauda ในเรื่อง Rush   3. Benedict Cumberbatch รับบทเป็น Alan Turing ในเรื่อง The Imitation Game   4. Charlize Theron รับบทเป็น Aileen Wuornos ในเรื่อง Monster   5. Hugh Jackman รับบทเป็น Phineas Taylor Barnum หรือ P.T. Barnum ในเรื่อง The…

โปสเตอร์ภาพยนตร์นั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีการโปรโมตที่ดี เพื่อชักชวนให้ผู้คนมาชมภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ กันมากขึ้น ทั้งนี้ภาพยนตร์แต่ละเรื่องก็จะมีสไตล์การออกแบบโปสเตอร์ที่สวยงามแตกต่างกันออกไป แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากหนังแต่ละเรื่องจะมีโปสเตอร์ต่างกันแล้ว หนังเรื่องเดียวกันแต่เพียงแค่ฉาย “คนละประเทศ” ก็มีโปสเตอร์ต่างกันด้วย อย่างเช่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่เรียกได้ว่ามีโปสเตอร์ภาพยนตร์เป็นเอกลักษณ์เอามากๆ เลยทีเดียว ไม่ว่าจะหนังสไตล์ไหน ประเทศอื่นมีโปสเตอร์อย่างไร พี่เกาหลีแกมาแบบแหวกแนวตลอด ถ้าอยากรู้ว่ามันแหวกแนวขนาดไหน เชิญไปชมพร้อมๆ กันเลย!   1. Call Me By Your Name (ต้นฉบับ)   Call Me By Your Name (เกาหลี)   2. The Neon Demon (ต้นฉบับ)   The Neon Demon (เกาหลี)   3. Frank (ต้นฉบับ)   Frank (เกาหลี)   4. Guardians of the…

ปกติแล้วในวงการของการแสดง บางฉากโดยเฉพาะฉากแอ็กชั่นหรือฉากที่ค่อนข้างอันตราย นักแสดงก็จะมีการใช้  สตั๊นท์แมน หรือ นักแสดงแทน มาช่วยแสดงบทบาทเหล่านั้นให้ เพื่อเลี่ยงความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับนักแสดงตัวจริงนั่นเอง จะว่าไปแล้วนักแสดงตัวแทนนั้นใช่ว่าจะหาใครมาแสดงก็ได้นะ พวกเขาเหล่านั้นจะต้องมีใบหน้าและรูปร่างที่คล้ายและใกล้เคียงกับนักแสดงจริงด้วยเช่นกัน เพื่อที่เวลาฉายจริงจะได้เนียนๆ ยังไงล่ะ ในเมื่อไม่ค่อยมีใครได้เห็นใบหน้าจริงๆ ของเหล่านักแสดงตัวแทน วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปพบกับ เหล่าสตั๊นท์แมน จากหนังดังที่คุณอาจจะไม่เคยเห็น พวกเขาจะดูเหมือนหรือต่างกับนักแสดงตัวจริงขนาดไหน ไปชมกันเลย!!   1. Zoe Saldana และเหล่าสตั๊นท์จาก Guardians of the Galaxy Vol. 2 ใส่หน้ากากแบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าหน้าจะไม่เหมือน   2. Ian McKellen และเหล่าสตั๊นท์จาก Lord of the Rings มีหลายขนาดเสียด้วย   3. Chris Hemsworth และสตั๊นท์คู่กาย Bobby Holland Hanton จาก Thor: Ragnarok ดูแว๊บๆ ก็คล้ายอยู่นะเอ้อ!   4. สตั๊นท์แมนของ Johnny Depp ใน Pirates of the…

อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การถ่ายทำภาพยนตร์’ กว่าจะเสร็จสิ้นออกมาให้เราได้ชมกันสักเรื่องนึงต้องผ่านกรรมวิธีต่างๆ ทั้งการถ่ายทำไม่รู้กี่ฉาก กี่เทคกันเข้าไป หรือจะเป็นการตัดต่อ ใส่เพลง ใส่ CG และอื่นๆ อีกมากมาย แสดงว่ามันต้องมีเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์อันแสนยากลำบากนี้ และสำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมความจริงที่เกิดขึ้นเบื้องหลังภาพยนตร์ดัง รับรองเลยว่าทุกคนจะต้องไม่เคยรู้มาก่อนอย่างแน่นอน!!   1. Guardians Of The Galaxy   Chris Pratt แอบขโมยชุดของ Star Lord ที่ใช้ในการถ่ายทำกลับบ้านไป เพื่อใส่มันออกไปเยี่ยมเด็กๆ ที่ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล เพราะคิดว่าเด็กๆ คงอยากที่จะเจอ Star Lord แบบตัวเป็นๆ สักครั้ง   2. Armageddon   NASA เปิดหนังเรื่องนี้ในช่วงสอนพนักงานใหม่ และให้พนักงานทุกคนนั่งจับผิดความผิดพลาดจากหนังเรื่องนี้เท่าที่จะทำได้ และพบว่ามีข้อผิดพลาดไม่ต่ำกว่า 168 จุดด้วยกัน   3. Forrest Gump   Tom…

อย่างที่รู้กันดีว่าประเทศ ‘อัฟกานิสถาน’ เป็นประเทศที่ต้องตกอยู่ภายใต้ภัยสงครามมาอย่างยาวนาน ทำการเปิดเผยชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศอัฟกานิสถานถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากๆ แม้ว่าในปัจจุบันเหตุการณ์จะซบเซาลงบ้างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีการก่อการร้าย และสงครามปรากฏให้เห็นกันอยู่เนืองๆ จากสื่อต่างประเทศ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องหนึ่ง ที่บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครเด็กผู้หญิงที่เป็นชาวอัฟกานิสถาน ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมบางอย่างที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน อนิเมชั่นเรื่องนี้มีชื่อว่า The Breadwinner เป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายที่ขายดีที่สุดเขียนโดย Deborah Ellis      ภาพยนตร์อนิเมชันเรื่องนี้กำกับโดย Nora Twomey มีโปรดิวเซอร์สองคนคือ Mimi Polk Gitlin และ Angelina Jolie ตัวภาพยนตร์จะเป็นเรื่องราวของ Parvana เด็กสาวชาวอัฟกานิสถานที่อาศัยอยู่ในเมืองอิสตันบูล ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มตาลิบัน     พ่อของ Parvana ถูกจับกุมตัวเพราะการเข้าใจผิดโดยสมาชิกของกลุ่มตาลิบัน ขณะที่เธอกับพ่อกำลังขายของอยู่ในเมือง     ในหนังทำให้เห็นว่าชีวิตการเป็นผู้หญิงของเธอนั้นช่างยากลำบาก การจะออกบ้านไปไหนมาไหน จะต้องมีญาติผู้ชายออกไปด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้ยังต้องมีการปกปิดใบหน้าให้มิดชิดอีกด้วย     ด้วยเหตุนี้เอง Parvana จึงตัดสินใจที่จะปลอมตัวเป็นผู้ชาย เพื่อที่จะช่วยเหลือพ่อของตัวเองให้จงได้ ส่วนเธอจะทำสำเร็จหรือไม่นั้น ก็คงต้องติดตามกันในภาพยนตร์เต็มๆ แล้วล่ะครับ…

แฟนๆ ภาพยนตร์ได้ทราบกันไปทั่วทั้งจักรวาลแล้วว่า อาณาจักรของ Marvel กำลังแผ่ขยายจากระยะที่ 3 สู่ระยะที่ 4 หลังจากประสบความสำเร็จกับ Infinity Wars ไปแล้ว ก็จะเป็นคิวฉายของ Ant-Man and the Wasp และ Captain Marvel   Captain Marvel มีแผนเข้าฉายช่วงมีนาคม 2019   คำเตือน: เนื้อหาตรงนี้มีการสปอยล์เอนด์เครดิตเล็กน้อย   ฉากท้ายเครดิตของ Infinity Wars เราจะได้เห็น Nick Fury คว้าอุปกรณ์สื่อสารบางอย่างที่มีหน้าตาโบราณคล้ายเพจเจอร์ ทำการขอความช่วยเหลือจากใครบางคน? ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นคิวของ Captain Marvel ออกมากอบกู้โลกกับเหล่า The Avengers และถัดจาก Captain Marvel เราอาจจะได้ชมภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่หญิงชาวมุสลิมคนแรกของโลก นั่นก็คือ Ms. Marvel นั่นเอง   Ms. Marvel   แล้วในส่วนของ…

หลายๆ คนอาจได้ชมความมันของ Avengers: Infinity War ภายในโรงภาพยนตร์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงต้องการแสวงหาความสนุกของหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่กันอยู่ ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในนั้น เราขอแนะนำให้ลองไปเจอกับหนังทั้ง 7 เรื่องนี้ ทั้งหมดนี้อาจกลายเป็นเป้าหมายใหม่ในการเก็บเงินสำหรับไว้ไปดูหนังกันในปี 2018 เพราะนี่คือ 7 ภาพยนตร์แนวซูเปอร์ฮีโร่ที่กำลังจ่อรอเข้าโรงภาพยนตร์ในช่วงเวลาอันใกล้ มีเรื่องอะไรกันบ้างและมันน่ารอชมมากขนาดไหน ลองไปดูกันเลย   1. Deadpool 2 (กำหนดเข้าฉายวันที่ 16 พฤษภาคม 2018) ซูเปอร์ฮีโร่มาดเกรียน เซียนเรื่องความกวนบาทาคนนี้ เป็นหนึ่งในตัวละครจากจักรวาล Marvel ซึ่งจากคลิปตัวอย่างของภาคนี้เผยให้เห็นศัตรูหน้าใหม่สุดโหด เก่งกาจถึงขั้นทำให้ Deadpool ต้องตั้งทีมขึ้นมาเลยทีเดียว ว่าแล้วก็ลองไปชมตัวอย่างของภาคนี้กัน    2. The Incredibles 2 (กำหนดเข้าฉายวันที่ 14 มิถุนายน 2018) ภาคต่อของครอบครัวที่มีพลังพิเศษกันทุกคน แม้แต่ทารกคนสุดท้อง (ที่ดูจะเหนือกว่าชาวบ้านเขา) เองก็ตาม สำหรับในภาคนี้ Elastic Girl (คนแม่) จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น และเจาะลึกไปในแง่มุมอื่นๆ ของการเป็นฮีโร่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย รับประกันความสนุกอย่างแน่นอน …

ในการที่จะสร้างภาพยนตร์ที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริงนั้น ผู้กำกับและผู้เขียนบทจะต้องทำการศึกษาหาข้อมูลซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีๆ เลยทีเดียว แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ นั้นจะถูกปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตัวละคร สถานที่และความจริงบางอย่างที่เป็นความลับเฉพาะสำหรับผู้กำกับเอง   1. Catch Me If You Can   เรื่องราวของอาชญากรอัจฉริยะ Frank Abagnale ผู้ที่มีความผิดข้อหาปลอมแปลงเอกสารขึ้นมา แม้ว่าจะใช้ความสามารถอย่างสุดฝีมือจากเจ้าหน้าที่ FBI ที่ฉลาดที่สุด Frank ก็มักจะนำพวกเขาอยู่หนึ่งก้าวเสมอ ความจริงแล้ว Frank ตัวจริงไม่ได้พบพ่อตั้งแต่ตอนที่หนีออกจากบ้าน แต่ผู้กำกับ Stephen Spielberg ได้เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนนี้ในภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะแสดงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกให้คนดูได้เห็นว่า Frank นั้นพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อภูมิใจ ทำให้ Frank ตัวจริงนั้นชอบไอเดียที่เขานำเสนอและสนับสนุนให้เขาใส่ลงไปในภาพยนตร์ ตอนที่ Frank อยู่ในคุก เขาได้ปลอมแปลงเอกสารเป็นเจ้าหน้าที่ FBI นอกเครื่องแบบ ทำให้เขาได้รับความไว้ใจจากผู้คุมคุก เขาได้หลบหนีออกจากคุกโดยการแกล้งทำเป็นนัดพบเจ้าหน้าที่ FBI อีกคน แต่ Spielberg ไม่ได้ใส่เนื้อหาเหล่านี้ลงในภาพยนตร์ อาจเป็นเพราะเขาไม่อยากทำลายภาพพจน์และชื่อเสียงของ FBI ก็ได้   2. Terminal…

เมื่อพูดถึงภาพยนตร์เราก็คงจะทราบดีว่าภาพยนตร์ที่เราดูนั้นมีหลากหลายแนวมากๆ ทั้งแฟนตาซี ไซ-ไฟ โรแมนติก คอมเมดี้ ฯลฯ แต่ประเภทหนังที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือหนังแนวสยองขวัญ อีกหนึ่งในแนวหนังสุดโปรดที่ใครหลายๆ คนชื่นชอบที่สุด หนังแนวสยองขวัญ อันดับแรกเลยเราก็คงจะนึกถึงหนังที่มีเลือด ผี ฆาตกร เอเลี่ยน ความตายอะไรประมาณนี้ ซึ่งความตื่นเต้นเร้าใจ เนื้อเรื่องชวนลุ้น ทำให้หนังแนวนี้มีคนนิยมมากในอันดับต้นๆ แต่บางครั้งหนังสยองขวัญก็ไม่จำเป็นต้องมีฉากเลือดสาดหรือมีผีโผล่มาแต่อย่างใด #เหมียวบู้บี้ มีหนังสั้นมาแนะนำชื่อเรื่องว่า “Polaroid” หนังสั้นอินดี้ที่มีความยาวประมาณ 3 นาทีที่ถึงแม้ว่าจะไม่มีผีโผล่มาให้ตกใจ แต่เราก็สัมผัสได้ถึงความสยองและความโก๊ดดดดันที่มีอยู่ในเนื้อเรื่อง   ไปรับชมแบบเต็มๆ กันเลย (แต่ขอบอกไว้เลยนะว่า ถ้าใจไม่ถึง อย่าดู)   เปิดมาด้วยพ่อหนุ่มผมยาวสุดหล่อกับกล้องโพลารอยด์ตัวเก่าที่เก็บไว้มานานหลายปี   ถ่ายไปแชะแรก เอ๊ะหรือว่าฟิล์มมันเสียนะ คงเป็นเพราะว่าเก็บไว้นานแล้วแหละ   ฮัลโหล ทายซิใครเอ่ย   สาวคนนี้ก็มีกล้องโพลารอยด์เหมือนกัน   อ้าว ไม่ใช่แล้ว!!   ให้ตายเถอะ หัวใจจะวาย!!!   ที่มา sobadsogood

ในบรรดาหนังฮอลลีวูดหรือซีรีส์ต่างๆ เชื่อแน่ว่าจะต้องมีอย่างน้อยสักครั้งที่คุณต้องร้องอุทานด้วยความตกใจ พร้อมกับเอามือทาบหน้าอกแล้วพูดเบาๆ ว่าเรื่องนี้ นักแสดงคนนี้เล่นด้วยหรือนี่ (ถ้าไม่ได้อ่านรายชื่อนักแสดงมาก่อนอ่ะนะ) แน่นอนว่า เวทมนตร์แห่งพลังการแต่งหน้าของวงการหนังเมืองนอกนั้นสามารถเปลี่ยนดาราที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาให้กลายเป็นตัวละครต่างๆ แล้ว บางครั้งยังเนียนจนคนดูอย่างเราแทบจะแยกไม่ออกเลยทีเดียว และนี่ก็คือภาพของเหล่าดารานักแสดงที่ผ่านการเมคอัพจนคุณแทบจะจำไม่ได้เลย…   1. Ralph Fiennes ในบท Lord Voldemort จากเรื่อง Harry Potter   2. John Travolta ในบท Edna Turnblad จากเรื่อง Hairspray   3. Richard Brake ในบท The Night King จากเรื่อง Game Of Thrones   4. Daveigh Chase ในบท Samara จากเรื่อง The Ring   5. Johnny Depp ในบท James ‘Whitey’ Bulger จากเรื่อง Black Mass   6. Angelina…

หนังสงครามเป็นหนึ่งในรูปแบบของภาพยนตร์ที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยเนื้อหาของหนังที่สามารถดำเนินไปได้อย่างเร้าใจและบางเรื่องก็สร้างขึ้นมาจากเรื่องจริงอีกด้วย จากที่มันได้รับความนิยมค่อนข้างมากจึงทำให้เว็บไซต์ Ranker เชิญชวนให้ผู้คนได้เข้ามาจัดอันดับ โหวตหนังสงครามแต่ละเรื่องว่าเรื่องไหนดีหรือแย่ และจากยอดผลโหวตนับหมื่น เราก็ได้นำ 15 อันดับแรกของหนังสงครามที่ดีที่สุดมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน มีเรื่องอะไรบ้างไปดูกันเลย   15. The Deer Hunter   ภาพยนตร์ในปี 1978 ซึ่งว่าด้วยชีวิตของหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียอเมริกัน กับชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในสมรภูมิสงครามเวียดนาม สะท้อนออกมาให้ชาวอเมริกันเห็นภาพความโหดร้าย ความรุนแรงและทำได้ดีมากในยุคนั้น   14. Tora! Tora! Tora!   หนังปี 1970 ที่ผสมผสานเรื่องราวของทั้งฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่นเข้าไป ในเหตุการณ์การโจมตีฐานทัพอเมริกาบนอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ ซึ่งเป็นเหตุทำให้ประเทศอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 นับว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญและแสดงให้เห็นถึงความกดดันจากรอบด้านที่ผู้นำกองทัพญี่ปุ่นต้องเจอ   13. The Great Escape   ภาพยนตร์ในปี 1963 บอกเล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งพยายามหนีออกมาจากค่ายกักกันเชลยศึกของเยอรมันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของการถูกริดรอนอิสรภาพที่น่าเศร้าในยุคนั้น   12. Das Boot   หนังสัญชาติเยอรมันในปี 1981…

ในแต่ละปีมักจะมีหนังสยองขวัญออกมาสร้างความหลอนให้เราได้อย่างไม่หวาดไม่หวั่น ไม่ว่าจะผีไทย ผีฝรั่ง ผีจีน หรือแม้แต่ผีเล่นหัว!? ทว่าวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ The Pughkeepsie Tapes ผลงานภาพยนตร์ของผู้กำกับ John Erick Dowdle จากปี 2007 ที่น่ากลัวซะจนถูกแบนห้ามเผยแพร่สู่ที่สาธารณะมานานนับ 10 ปี!!   ลองไปชมตัวอย่างกันก่อนเลย..   หลังจากที่ได้ชมตัวอย่างหนังแล้ว แม้ไม่ใช่เรื่องจริงแต่เราก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันว่า ภาพยนตร์ชุดนี้เป็นหนังสยองขวัญถ่ายทำเชิงสารคดี ที่มีความคล้ายคลึงกับ The Blair Witch Project (สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย) โดยทั้งหมดจะเป็นเรื่องราวของตำรวจในนิวยอร์ก ที่ได้ค้นพบเทปวิดีโอบันทึกลับกว่า 800 ม้วนของฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาในวิดีโอจะเผยให้เห็นถึงเรื่องราวของเหยื่อแต่ละคนก่อนจะถูกล่อลวงมาฆาตกรรมอย่างโหดร้ายทารุณ     นอกจากนั้นทางผู้กำกับเองก็ได้ชี้แจงว่าเรื่องราวในภาพยนตร์ทั้งหมดอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นที่ Poughkeepsie ในช่วงปี 1996 – 1998 ซึ่งเป็นช่วงที่มีเหตุฆาตกรรมและการลักพาตัวหญิงสาวทั้งหมด 8 คน ก่อนจะสืบทราบว่าเป็นฝีมือของ Kendall Francois ฆาตกรโรคจิตที่ลวงเหยื่อมาทารุณกรรมอย่างโหดร้าย ทว่าในที่สุดเจ้าตัวก็ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และเสียชีวิตไปเมื่อปี…

ในช่วงนี้ ภาพยนตร์เรื่องคิงคองกำลังเข้าฉายในบ้านเรา เพื่อนๆ หลายคนก็คงจะไปรับชมกันมาบ้างแล้ว และถ้าหากใครที่เป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณอาจจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้ง CG ฉากต่างๆ เอย รวมถึงตัวคิงคองที่มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น และด้วยความที่คิงคองเป็นหนังที่มีมานานมาก แถมยังได้รับความนิยมมาโดยตลอด ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยว่าไม่ว่าจะออกมากี่เรื่องๆ ก็มักจะมีผู้คนอยากชมอยู่เสมอมา ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปย้อนชมคิงคองตั้งแต่ยุคแรก มาจนถึงยุคปัจจุบัน มาดูกันเลยว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน     King Kong (1933) คิงคองในปี 1933 ถือเป็นเวอร์ชั่นที่เก่าที่สุด และเป็นต้นฉบับแรกที่ทำให้ผู้คนได้รู้จัก และเห็นภาพลักษณ์ของลิงยักษ์ที่มาพร้อมกับความสูงกว่า 7 เมตรเลยทีเดียว   King Kong vs. Godzilla (1962) ต่อมาในปี 1962 ทางผู้สร้างได้เพิ่มขนาด และความสูงของตัวละครคิงคองให้ดูใหญ่ยักษ์ขึ้น โดยจากเดิมสูง 7 เมตร เพิ่มเป็น 45 เมตร และในปีนี้นี่เองที่ทางผู้สร้างภาพยนตร์ Godzilla ชาวญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกับผู้สร้างเรื่องคิงคองจากอเมริกา พร้อมจับสองตัวละครนี้มาปะทะกัน…

เวลาที่รับชมภาพยนตร์ หลายคนอาจจะโฟกัสไปที่เนื้อเรื่อง หรือตัวละคร ซึ่งจริงๆ แล้วคุณอาจจะคิดไม่ถึงว่าภาพปรากฏตัวในฉากแรก และฉากสุดท้ายของหนังก็มีความน่าสนใจเหมือนกัน โดยทางผู้จัดอาจจะอยากทำให้เราได้เห็นมุมมองของหนังแต่ละเรื่อง ว่ามันแตกต่างกันขนาดไหน ซึ่งบางทีพวกเขาอาจจะแฝงแง่คิดดีๆ หรืออาจจะทำให้คนดูได้คิดว่าตอนเริ่ม หรือตอนจบของเรื่องได้บอกอะไรเกี่ยวกับอุดมคติของภาพยนตร์เรื่องนั้นบ้าง ในครั้งนี้เราได้นำคลิปวีดีโอจากผลงานสุดเจ๋งของ Jacob T. Swinney ได้ที่นำภาพฉากแรกและฉากสุดท้ายของหนังดังมาสร้างสรรค์เป็นคลิปวีดีโอที่ชื่อว่า First and Final Frames ซึ่งคลิปวีดีโอดังกล่าวจะทำให้เราได้เห็นภาพจุดเริ่มต้น และจุดจบของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง เพื่อเล่าบทสรุปที่แตกต่างกัน ว่าแล้วก็ลองมาดูภาพ และทายกันดูสิว่าจะมีภาพยนตร์เรื่องไหนกันบ้าง…   1 The Master   2 Brokeback Mountain   3 No Country for Old Men   4 Her   5 Blue Valentine   6 Birdman   7 Black Swan  …

ต้องยอมรับเลยว่านี่คือยุคของหนังซุปเปอร์ฮีโร่ครองโรงภาพยนตร์จริงๆ เพราะไม่ว่าจะเดือนไหนปีอะไร ก็ต้องมีภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ออกมาให้เราชมกันอย่างน้อย 3-5 เรื่อง และในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา สตูดิโอภาพยนตร์หลายๆ ค่ายได้มีการประกาศสร้างหนังซุปเปอร์ฮีโร่ ทั้งภาคต้น ภาคต่อกันออกมามากมาย #เหมียวฟิ้นเลยขอหยิบเอามาสรุปให้เพื่อนๆ ได้รู้กันว่า นับตั้งแต่วันนี้ไปจนสิ้นปี 2018 จะมีหนังเรื่องอะไรออกมาให้เราชมกันบ้าง? (เอาแค่ 2 ปีก็ดูกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว)     1. Logan (3 มีนาคม 2017) เป็นหนังภาคที่ 3 แล้ว สำหรับหนังเดี่ยวของ Wolverine โดยภาคนี้ใช้ชื่อสั้นๆ เพียง “Logan” เนื่องด้วยตัวหนังน่าจะโฟกัสความสำคัญไปที่ตัวละคร Logan โดยเฉพาะ ซึ่งหากใครได้ดูตัวอย่างแล้วก็จะพบว่าในภาคนี้ดูมีความแฟนตาซีน้อยกว่าที่ผ่านๆ มา แต่เพิ่มความเป็นหนังดราม่าเวสเทิร์นเข้ามาอยู่ไม่น้อย โดยในภาคนี้จะเกิดขึ้นในอนาคตอันไกล หลังจากเหตุการณ์ทุกๆ เหตุการ์ณใน X-Men เราจะได้เห็นตัวละครที่น่าสนใจอย่างหนูน้อย Laura Kinney หรือ X-23 (นำแสดงโดย Dafne Keen) ที่มีพลังและความสามารถคล้ายกับ Logan ทั้งกรงเล็บและการฟื้นฟูร่างกายของตัวเอง แม้ว่าทั้ง 2 ภาคก่อนหน้านี้จะไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจแฟนๆ หรือนักวิจารณ์เท่าไหร่ แต่เราก็หวังว่าภาคนี้มันจะออกมาดีนะ…

อาจจะไม่ใช่หนังที่ถูกคอเหล่าแฟนๆ เท่าไหร่ แต่สำหรับเหล่านักวิจารณ์แห่ง Metacritic นั้น นี่คือภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว!! และนี่ก็คือ 10 สุดยอดหนังที่ได้รับเรทติ้งดีที่สุดจากบรรดาเหล่านักวิจารณ์ มาดูกันเลยว่าใน 10 อันดับนี้ จะมีหนังเรื่องโปรดของเพื่อนๆ กันบ้างรึเปล่า…   10. “Ratatouille” (2007) คะแนนจากนักวิจารณ์: 96/100  คะแนนจากผู้ชมทั่วไป: 8.6/10 ผลงานของ Pixar เรื่องราวของหนูตัวน้อย Remy ที่เผอิญเกิดมาไม่เหมือนพี่น้อง พร้อมกับความสามารถในการแยกแยะกลิ่นและความลุ่มหลงในการทำอาหารเนื่องจากสมัยยังเด็กไปเจอหนังสือทำอาหารของ Auguste Gusteau ยอดเชฟมือทองของฝรั่งเศส เส้นทางของเขามาบรรจบกับ Alfredo เจ้าหนุ่มที่ฝึกงานอยู่ในร้านอาหารชื่อดังในเส้นทางของการเป็นยอดกุ๊กที่กำลังลำบาก และมันได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเขา!!   9. “Dr. Strangelove or: How I Learned to Stop Worrying and Love the Bomb” (1964) คะแนนจากนักวิจารณ์: 96/100  คะแนนจากผู้ชมทั่วไป: 8.3/10 เมื่อชะตากรรมของโลกตกอยู่ในมือของเหล่าผู้วิตถาร นั่นคือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ เหตุเกิดขึ้นในสมัยสงครามเย็นที่ทั้งฝั่งประชาธิปไตยตะวันตกและคอมมิวนิสต์ตะวันออก ต่างสะสมหัวรบนิวเคลียร์เพื่อเตรียมห้ำหั่นกัน…

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะโด่งดังมาจากบทนั้นๆ แต่แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่ได้ชอบตัวละครที่พวกเขาต้องแสดงเลยแม้แต่น้อย…#จ่าสิบเหมียว จะพาเพื่อนๆ ไปรู้เบื้องหลังเรื่องราวของทั้ง 14 นักแสดงชื่อดังที่พวกเขาเกลียดบทนั้นๆ กันซะจนเข้าไส้ แล้วเพื่อนๆ จะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองกันเลยล่ะ!!   Carrie Fisher — “Star Wars” ในปี 2008 เธอเคยได้ให้สัมภาษณ์กับทาง The Today Show ว่า ถ้าเธอรู้มาก่อนว่าบทบาทของเจ้าหญิง Leia จะทำให้เธอโด่งดังขนาดนี้ เธอจะไม่เลือกรับมันหรอก แถมล่าสุดเธอก็ให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัว Star Wars: The Force Awakens ว่า ที่เธอรับงานนี้ในตอนนั้นก็เพราะ ‘ดาราสาวอายุเลข 3 ขึ้นไปน่ะ หางานกันยากน่ะสิ’   Sean Connery — ‘James Bond’ หนึ่งใน James Bond ผู้โด่งดังที่สุด เขาเริ่มเล่นครั้งแรกในปี 1962 ตอน Dr. No ซึ่งเขารู้สึกตอนนั้นว่าเขาได้รับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง แต่ก็ยัแสดงอยู่ จนมาถึงหนัง James Bond เรื่องที่ 6 ของเขา “Diamonds…

ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่หรือเล็กจ้อยขนาดไหน ทุกๆ คนย่อมเคยผ่านจุดเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘ก้าวแรก’ กันมาทั้งนั้น และกว่าจะมาเป็นคนดังในวงการภาพยนตร์ขนาดนี้ พวกเขาก็เคยผ่านการเป็นนักแสดงฝึกหัด จนได้รับบทบาทแรกเช่นกัน!!! วันนี้ #จ่าสิบเหมียว เลยอยากพาเพื่อนๆ ไปชมบทบาทแรกในภาพยนตร์ ของทั้ง 27 นักแสดงชื่อดังระดับโลก มาดูกันซิว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหนกันเมื่อเทียบกับตอนนี้ อิอิ   George Clooney: ‘Grizzly II: The Concert’ (1983)   Johnny Depp: ‘A Nightmare on Elm Street’ (1984) ใครจะไปรู้ละเนี่ยว่าโตมาเขาจะกลายเป็นโจรสลัด…   Leonardo DiCaprio: ‘Critters 3’ (1991) ป๋าลีโอของเราตอนเด็กๆ นี่หล่อเฉียบขาดมาก!!!   Kerry Washington: ‘Our Song’ (2000)   Amy Adams: ‘Drop Dead…

ปัจจุบันนี้มีหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่ออกมามากมาย ถือเป็นหนังเฟรนไชน์ที่ทำออกมาไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ประสบความสำเร็จแน่ๆ เพราะว่ามีแฟนๆ รอต้อนรับอยู่มากมาย (ถ้าทำออกมาดีนะ) แต่ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้ เมื่อก่อนก็เคยมีหนังฮีโร่ออกมาเหมือนกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้า ทำให้ไม่สามารถสร้างอะไรที่มันอลังการได้ขนาดนี้ แต่มันก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ยกตัวอย่างเช่นหนังของ Superman ในช่วงยุค 70s จนกระทั่ง Marvel ได้ทำการจับจักรวาลหนังมารวมกันได้ ทำให้แฟนๆ เริ่มติดตตามอย่างจริงจังและทางฝั่ง DC ก็ทำตามๆ กันมา และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปดูหนังฮีโร่ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราไปดูกันว่าจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง *รายได้ดังกล่าว เปิดเผยจากทาง Box Office Mojo โดยมีการปรับตามอัตราเงินเฟ้อ เพื่อให้เท่าเทืยมกันทั้งเรื่องเก่าและใหม่   10. “Iron Man 3” (2013) — กวาดรายได้ $422,680,300 เหรียญ   9. “Spider-Man 3” (2007) — กวาดรายได้ $423,597,700 เหรียญ   8. “Avengers: Age of Ultron” (2015)…

ดูท่าจะเป็นประเด็นร้อนให้ชาวเน็ตและกลุ่ม LGBT (กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ) ได้ถกเถียงกันอยู่ในเฟซบุ๊กขณะนี้เลย สำหรับกรณีที่มีทีมงานภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง สร้างแคมเปญแจกกางเกงว่ายน้ำของนักแสดงชายให้กับคนทางบ้าน เพื่อโปรโมทหนัง!?   เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทีมงานของภาพยนตร์เรื่อง Sweet Boy ได้โพสต์ภาพโปรโมทหนังเพื่อให้ชาวเน็ตได้มาร่วมสนุกลุ้นรับรางวัลเป็นกางเกงว่ายน้ำทั้ง 7 ตัว ของ 7 นักแสดง ที่ใช้ใส่ถ่ายภาพยนตร์จริงๆ โดยจะมีกติกาอยู่ว่า ต้องโพสต์รูปตั๋วภาพยนตร์ ‘สวีทบอย’ จำนวนที่นั่งติดกันตั้งแต่ 10 ใบขึ้นไปมาที่เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และทวิตเตอร์   แต่หลังจากที่ภาพแคมเปญนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ดูจะได้รับกระแสตอบรับจากชาว LGBT และคำวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบอยู่มากทีเดียว โดยในหลายๆ ความเห็นมองว่ากิจกรรมแบบนี้เป็นกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ฝ่ายการตลาดของภาพยนตร์เรื่องนี้ควรจะปรับปรุงวิธีการโปรโมทให้ดูดีกว่านี้ เพราะการทำแบบนี้ยิ่งส่งผลเสียและภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของชาว LGBT เข้าไปอีก .   .   หารกันไม่ลงตัว…เดี๋ยวๆ!!   และนี่คือคอมเม้นท์ที่เราคิดว่าน่าสนใจมากที่สุด…   การโปรโมทด้วยการแจกสิ่งของให้กับแฟนๆ ทางบ้านแบบนี้ก็ไม่ถือเป็นเรื่องที่ผิดอะไร แต่อย่างที่ชาวเน็ตออกมาบอกว่ามันทำให้ภาพลักษณ์ของชาว LGBT ดูไม่ดีในสายตาของคนอื่นๆ นะ ใครมีความเห็นว่ายังไงลองแลกเปลี่ยนความเห็นกันดูได้นะ ที่มา Facebook

หลังจากที่เพิ่งจะหลอนไปกับ The Conjuring 2 ของผู้กำกับ James Wan ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดเราจะได้หลอนอีกครั้งกับหนังที่เขาเป็นผู้อำนวยการสร้างอย่าง Lights Out โดยมี David F. Sandberg มาเป็นผู้กำกับให้ จะหลอนแค่ไหน หรือควรค่าแก่การพาคนสนิทของคุณไปกรี๊ดหรือไม่? ลองมาฟังความเห็นของ #เหมียวฟิ้น หลังจากที่เพิ่งออกจากโรงกันเลย     Lights Out (มันออกมาขย้ำ) เป็นหนังที่ถูกดัดแปลงมาจากหนังสั้นในชื่อเดียวกัน ว่าด้วยเรื่องราวของโซฟีคุณแม่ผู้มีอาการทางประสาท เธอพูดคุยกับตัวเองบ่อยครั้งจนลูกๆ เริ่มเป็นกังวล วันหนึ่งฝันร้ายก็เริ่มกลายเป็นรูปร่างเด่นชัด เมื่อบุคคลปริศนาที่เธอชอบพูดคุยด้วยอยู่บ่อยๆ เริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์มากขึ้น และหมายจะเอาชีวิตลูกๆ ของเธอ ทำให้รีเบ็คก้าและมาร์ติน ต้องต่อสู่กับสิ่งลี้ลับที่มักจะออกมาในช่วงที่ไร้แสงไฟเท่านั้น…     แม้หนังเรื่องนี้จะเล่นกับความมืดเหมือนกับหนังผีหลายๆ เรื่อง แต่ในหนังเรื่องนี้ใช้ความมืดได้อย่างเป็นประโยชน์ต่อตัวผี ต่อตัวผู้ชม และต่อตัวละคร ดังเช่น ประโยชน์ต่อผี ความมืดช่วยเอื้อให้ตัวละครผีในการปรากฏตัวแต่ละครั้ง ผีในเรื่องนี้จะไม่ได้โผล่มาตุ้งแช่พร้อมกับเสียงดังลั่น แต่จะโผล่มาเงียบๆ ในชั่วพริบตา เหมือนกับที่คุณได้เห็นมันจากตัวอย่างนั่นแหละ ประโยชน์ต่อผู้ชม มันทำให้คนดูพยายามสอดส่องไปทั่วจอ เหมือนได้สำรวจไปพร้อมๆ กับตัวละคร และหวาดกลัวทุกครั้งที่ตัวละครต้องอยู่ในที่มืดๆ ประโยชน์ต่อตัวละคร ความมืดช่วยให้ตัวละครรู้สึกหวาดกลัวก็จริง แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เห็นถึงพัฒนาการที่ตัวละครพยายามจะหาวิธีต่างๆ มาต่อสู้กับผี  …

“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” เป็นประโยคสุดคลาสสิคที่เอาไว้ใช้เปรียบเปรยหญิงสาว ว่าจะสวยงามได้ก็ต้องเกิดจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางน่ะนะ แล้วยิ่งเป็นดารานักร้องด้วยแล้ว ภาพลักษณ์ยิ่งเป็นสิ่งสำคัญเข้าไปใหญ่   แต่จะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเธอเหล่านั้นไมได้แต่งหน้า? พวกเธอจะยังสวยอยู่หรือไม่? หรือแฟนๆ จะยังจดจำพวกเธอได้หรือเปล่า? ถ้าอยากรู้เราลองไปชมภาพของ 18 เซเลบเหล่านี้กันเลย   1. Uma Thurman อดีตดาราสาวเซ็กซี่ยุคก่อน   2. Jennifer Lawrence นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์   3. Kim Kardashian เซเลบคนดัง ผู้ชอบแต่งตัวเซ็กซี่…จำแทบไม่ได้   4. Emilia Clarke แม่มังกรจากซีรี่ส์ Game of Thrones   5. Hillary Duff นักแสดงสาวผู้แจ้งเกิดจาก Disney   6. คุณแม่ Beyonce   7. Kirsten Dunst นางเอกจากไตรภาค Spider-Man   8. Cameron Diaz หน้าเปลี่ยนไปเยอะ   9.…