รีวิว: “มิสเตอร์เฮิร์ท” หนังซัดมุกกระจายดูเพลินๆ ที่บท (เกือบ) ดี แต่เรื่องไม่ค่อยเดินไปไหน

เรื่องย่อของมิสเตอร์เฮิร์ท มือวางอันดับเจ็บมีอยู่ว่า ดอน สีชัง (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เป็นนักกีฬาแบดมินตันมือวางอันดับ 10 ของโลก แถมยังมีแอนนา (มารี เบิร์นเนอร์) ดาราระดับซุปตาร์เมืองไทยเป็นแฟนด้วย

แต่แล้วชีวิตของดอน สีชังก็ต้องเจอกับความเฮิร์ทแบบคอมโบ เมื่อแฟนสาวของเขาปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเขาและบอกเลิกไปแบบงงๆ ทำให้ดอนรู้สึกเฮิร์ทมาก

ในระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับดิว (หลิน มชณต) เพื่อนวัยเด็กที่ไม่ได้เจอกันมาสิบกว่าปี ดิวเข้ามาช่วยให้ดอนกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้งและวางแผนช่วยให้ดอนและแอนนากลับมาคืนดีกันให้ได้

 

 

สิ่งที่ดึงดูดให้#เหมียวฟิ้นอยากเข้าไปดูหนังเรื่องนี้เลยคือการได้เห็นซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ กลับมารับบทกวนๆ ฮาๆ แบบที่เราคิดถึงเขาในซีรี่ส์เนื้อคู่ประตูถัดไปอีกครั้ง

และมีนักแสดงอย่างเผือก พงศธรมาร่วมแจมในบทนักร้องวงร็อคอีก แค่เห็นจากตัวอย่างหนังก็ทำให้ความอยากดูพุ่งพรวดแล้ว

 

 

แต่หลังจากที่เข้าไปดูก็พบว่าตัวหนังไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดหวังสักเท่าไหร่ เพราะถึงตัวอย่างหนังจะดูมีความเป็น GTH (หรือ GDH ในปัจจุบัน) แต่เหมือนบทภาพยนตร์จะยังไม่แน่นพอ

มันยังมีความไม่สมเหตุสมผลในหลายๆ ด้าน ทั้งเหตุการณ์ที่นำพาให้ตัวละครไปในทิศทางต่างๆ หรือการที่ตัวละครเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น

 

 

จากเรื่องย่อเราจะเข้าใจว่าหนังพยายามนำเสนอเรื่องราวความเจ็บปวดของพระเอก และเราก็จะได้เห็นพระเอกลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างเพื่อให้ตอนจบของเรื่อง เขาไม่ต้องเป็นมิสเตอร์เฮิร์ทอีกต่อไป

แต่ทั้งเรื่องดูจะวนไปเวียนมาอยู่กับเรื่องราวของพระเอกจำความเจ็บช้ำซ้ำๆ เดิมๆ มากไปหน่อย จนคนดูอย่างเหมียวเบื่อ เบื่อในที่นี้คือ ‘เมื่อไหร่เรื่องมันจะเดินไปข้างหน้าสักที?’ เหมือนกับเราดูคนพายเรืออยู่ในอ่างไม่ยอมไปไหน

 

 

อย่างที่บอกไปว่าข้อเสียของหนังเรื่องนี้คือความไม่สมเหตุสมผล เช่นตัวละครขี่รถขึ้นเขาลงห้วย แล้วน้ำมันหมด ในระหว่างทางเจอแก๊งค์มาเฟียกำลังขุดดินฝังศพอยู่เลยต้องวิ่งหนีกันอุตลุด ทั้งๆ ที่ฉากก่อนหน้านี้ยังขี่มอเตอร์ไซค์หวานแหววกันอยู่เลย!? นี่เรากำลังดูการ์ตูนกันอยู่เหรอ?

เมื่อดูไปจนจบทำให้เรารู้สึกว่าผู้กำกับมีมุกและไอเดียอยู่ในหัวเยอะมาก คิดอะไรได้ก็ใส่ๆ เข้ามา บางฉากที่ตัวละครเล่นมุกกันก็ขยี้นานมาก บางฉากที่ควรจะยาวกว่านี้อีกนิดก็ดันตัดซะสั้นเลย มันเลยกลายเป็นความขาดๆ เกินๆ ให้หงุดหงิดตลอดทั้งเรื่อง

 

 

สิ่งที่เราพอจะชื่นชมได้บ้างเห็นจะเป็นการแสดงของซันนี่ ที่เรื่องนี้ต้องมารับบทเป็นนักเทนนิส ซึ่งเขาก็แสดงออกมาได้ดี จากรูปร่างที่เขาไปฟิตมาทำให้รู้สึกเชื่อว่าเขาเป็นนักกีฬาจริงๆ การแสดงอารมณ์ถือว่าเป็นมาตรฐานเหมือนกับเรื่องก่อนๆ ที่แสดงมา

อีกสิ่งหนึ่งคือนางเอกของเรื่องที่รับบทโดยหลิน มชณต ที่ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมอะไรก็จะดูน่ารักไปหมด แต่น่าเสียดายที่การแสดงของเธอดันแข็งไปหน่อย เราเลยไม่รู้สึกเอาใจช่วยเธอเท่าที่ควรจะเป็น

 

 

หากใครยังไม่เคยดูตัวอย่างล่ะก็ เชิญทัศนาเพื่อประกอบการตัดสินใจได้เลย

 

สรุปแล้ว#เหมียวฟิ้นรู้สึกว่าหนังยังตอบสนองเราได้ไม่ทั้งหมด มีขาดๆ เกินๆ ในหลายๆ ส่วน แต่ก็ถือเป็นมาตรฐานที่ดีอยู่

หวังว่าทาง Transformation Film ผู้ผลิตหนังเรื่องนี้จะพัฒนาขึ้นไปอีกนะ เพราะเราอยากให้มีผู้ผลิตหนังไทยหลายๆ เจ้ามาแข่งขันกันอีก

เรียบเรียงโดยเหมียวฟิ้น

Comments

Leave a Reply