10 เหตุการณ์จากหนังที่สร้างจากเรื่องจริง ที่บางทีก็ไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด อ้าว!?

ในการที่จะสร้างภาพยนตร์ที่อ้างอิงมาจากเรื่องจริงนั้น ผู้กำกับและผู้เขียนบทจะต้องทำการศึกษาหาข้อมูลซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีๆ เลยทีเดียว

แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ นั้นจะถูกปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับตัวละคร สถานที่และความจริงบางอย่างที่เป็นความลับเฉพาะสำหรับผู้กำกับเอง

 

1. Catch Me If You Can

 

เรื่องราวของอาชญากรอัจฉริยะ Frank Abagnale ผู้ที่มีความผิดข้อหาปลอมแปลงเอกสารขึ้นมา แม้ว่าจะใช้ความสามารถอย่างสุดฝีมือจากเจ้าหน้าที่ FBI ที่ฉลาดที่สุด Frank ก็มักจะนำพวกเขาอยู่หนึ่งก้าวเสมอ

ความจริงแล้ว Frank ตัวจริงไม่ได้พบพ่อตั้งแต่ตอนที่หนีออกจากบ้าน แต่ผู้กำกับ Stephen Spielberg ได้เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนนี้ในภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่จะแสดงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกให้คนดูได้เห็นว่า Frank นั้นพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อภูมิใจ ทำให้ Frank ตัวจริงนั้นชอบไอเดียที่เขานำเสนอและสนับสนุนให้เขาใส่ลงไปในภาพยนตร์

ตอนที่ Frank อยู่ในคุก เขาได้ปลอมแปลงเอกสารเป็นเจ้าหน้าที่ FBI นอกเครื่องแบบ ทำให้เขาได้รับความไว้ใจจากผู้คุมคุก เขาได้หลบหนีออกจากคุกโดยการแกล้งทำเป็นนัดพบเจ้าหน้าที่ FBI อีกคน แต่ Spielberg ไม่ได้ใส่เนื้อหาเหล่านี้ลงในภาพยนตร์ อาจเป็นเพราะเขาไม่อยากทำลายภาพพจน์และชื่อเสียงของ FBI ก็ได้

 

2. Terminal

 

เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับชายหนุ่มชาวยุโรปตะวันออกนามว่า Viktor Navorski ที่ติดอยู่ที่สนามบิน John F. Kennedy รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาไม่สามารถเดินทางเข้าอเมริกาได้และไม่สามารถกลับบ้านเกิดได้เนื่องจากมีรัฐประหาร

ความจริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้อ้างอิงมาจากเรื่องราวของผู้อพยพชาวอิหร่านชื่อ Mehran Karimi Nasseri เขาถูกขโมยเอกสารที่สนามบิน ทำให้เขาต้องใช้เวลากว่า 18 ปีอาศัยอยู่ที่สนามบิน

หลังจากที่ได้เอกสารคืนแล้ว Mehran ก็ไม่อยากที่จะออกจากสนามบิน แต่ในปี 2006 เขาสูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาออกมาแล้วเขาย้ายมาอาศัยในโรงแรมที่ตั้งอยู่ข้างๆ สนามบินและซื้ออพาร์ตเมนต์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในภายหลัง แต่ในภาพยนตร์เขาได้รับตั๋วเครื่องบินกลับบ้านเกิดหลังจากที่สงครามในประเทศเขาจบลง

 

3. Untouchable

 

เรื่องราวแนวตลกดราม่าของความสัมพันธ์ระหว่าง Philippe ชายผู้รักการผจญภัยที่เกิดอุบัติเหตุจนต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิตและ Driss ผู้ช่วยของเขา

ต้นแบบของตัวละคร Driss นั้นมาจากชายชาวอาหรับจากประเทศแอลจีเรียชื่อ Abdel Sellou ที่ได้ออกจากบ้านเมื่ออายุ 4 ขวบและย้ายไปอยู่กับญาติที่ปารีส เมื่อเขาอายุ 23 ปี เขาก็ได้ทำงานเป็นผู้ดูแล Philippe

ผู้กำกับนั้นไม่ได้ใส่บางเหตุการณ์ที่ Abdel ได้ทำในชีวิตจริงเข้าไปด้วย เช่น เมื่อหลานของ Philippe อายุได้ 18 ปี เขาได้จ้างนักเต้นเปลื้องผ้ามางานปาร์ตี้ที่บ้าน ทำให้ Philippe โมโหอย่างมาก

 

4. Eddie the Eagle

 

เรื่องราวนี้สอนให้คนดูได้ทำตามความฝันแม้ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ ก็ตาม Eddie Evans เป็นนักสกีชาวอังกฤษ เขามีความฝันที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจความฝันเขาเลย และคณะกรรมการโอลิมปิกก็ไม่สนับสนุนเขาด้วยเช่นกัน เขาได้อันดับสุดท้ายจากผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด

ความจริงแล้วเขาเป็นนักแข่งสกีชาวอังกฤษคนแรกที่ได้เข้าร่วมแข่งกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว แต่ไม่เหมือนกับในภาพยนตร์ เขานั้นเคยมีประสบการณ์อยู่บ้างจากการเล่นสกีกระโดดข้ามรถยนต์และรสบัส และสกีลงมาจากภูเขา

เขามีน้องสาวที่บริจาคไขกระดูกที่ช่วยเหลือเขาในการผ่าตัด

เขาได้ใช้เวลาอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชที่ประเทศฟินแลนด์เพราะเขาไม่สามารถหาที่อยู่อื่นได้ ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เขาค้นพบว่าตัวเองนั้นมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิก

 

5. Hachi: A Dog’s Tale

 

เรื่องราวของศาสตราจารย์วิทยาลัยได้พบกับสุนัขพันธุ์อะกิตะบริเวณสถานีรถไฟจนทำให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ เจ้าฮาจินั้นมารอเขาทุกวันที่สถานีรถไฟ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาไม่กลับมา

เรื่องราวสุดซึ้งของเจ้าหมาผู้ซื่อสัตย์นี้จริงๆ แล้วเกิดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งศาสตราจารย์คนหนึ่งได้รับสุนัขพันธุ์อะกิตะที่เขาได้ตั้งชื่อมันว่าฮาจิ ที่หมายความว่าเลข 8 เพราะมันเป็นสุนัขตัวที่ 8 ที่เขาได้รับมาเลี้ยง

ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีรูปปั้นอนุสรณ์เจ้าฮาจิที่สร้างขึ้นมาตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ เรื่องราวของมันนั้นเป็นแรงบรรดาลใจให้ชาวญี่ปุ่นอย่างมากเลยทีเดียว

 

6. Dunkirk

 

Dunkirk นั้นเป็นเขตในประเทศฝรั่งเศส ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เล่าเรื่องราวของทหารชาวอังกฤษที่ได้รับการช่วยเหลือในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในตอนนั้นเหล่าทหารถูกล้อมด้วยศัตรูบนชายหาด Dunkirk

ถึงแม้ว่าผู้กำกับจะพยายามสร้างให้ตรงตามเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง เนื่องจากมีฉากหนึ่งที่มีทหารทำความเคารพโดยไม่สวมหมวก ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎ

ในภาพยนตร์เราจะพบว่ามีทหารชาวฝรั่งเศสและชาวอินเดียอยู่เยอะมาก แต่ในความจริงแล้วมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น และ Dunkirk นั้นถูกทำลายก่อนที่จะเริ่มภารกิจด้วยซ้ำ

 

7. We Bought a Zoo

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อหม้ายนามว่า Benjamin Mee ที่ได้ซื้อสวนสัตว์เก่าที่ทรุดโทรม และได้ตั้งเป้าหมายกับครอบครัวไว้ว่าจะปรับปรุงให้ดีขึ้นและเปิดให้บริการใหม่อีกครั้งให้ได้

เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมชาวตะวันตกมากขึ้น ผู้กำกับได้เปลี่ยนแปลงประวัติของทางครอบครัวให้ย้ายจากเมืองเล็กๆ ในประเทศอังกฤษมายังประเทศสหรัฐอเมริกาแทน

ในภาพยนตร์นั้นลูกชายของตัวละครหลักของเรื่องไม่ชินกับการใช้ชีวิตในสวนสัตว์ เขาจึงต้องการที่จะย้ายไปอยู่ในเมือง แต่ความจริงแล้วในตอนนั้น Dylan มีอายุเพียงแค่ 6 ขวบเท่านั้น และสถานการณ์ระหว่างพ่อลูกเป็นการแต่งขึ้นมาจากผู้กำกับ

ในชีวิตจริงภรรยาของตัวละครหลักของเรื่องได้เสียชีวิตหลังจากที่พวกเขาซื้อสวนสัตว์และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะซื้อที่นั่น เขาได้ใช้เวลากว่า 2 ปีถึงจะซื้อได้สำเร็จ และพวกเขาก็ไม่มีประสบการณ์ในการดูแลสัตว์แปลกๆ เลย

 

8. Dallas Buyers Club

 

ภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์นั้นมาจากเรื่องจริงของช่างไฟฟ้านามว่า Ron Woodroof ที่ได้ใช้วิธีการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐานในการรักษาโรคเอดส์ และเขาก็ได้ตั้งธุรกิจขายยาและการรักษาให้กับผู้ป่วยคนอื่นๆ

ตัวละครในภาพยนตร์นั้นแตกต่างกับในชีวิตจริงอย่างสิ้นเชิง เขามีภรรยา ลูกสาวและน้องสาว ซึ่งไม่ได้มีการพูดถึงในภาพยนตร์เลย เขาไม่ใช่คนหยาบคายและไม่เคยมีปัญหากับคนรอบข้างอีกด้วย นอกจากนั้นตัวละครอื่นๆ นั้นก็เป็นแค่คนที่เขารู้จักและจำได้แค่ลางๆ เท่านั้น

 

9. Hidden Figures

 

3 สาวชาวแอฟริกัน-อเมริกัน Katherine, Dorothy และ Mary ได้รับคัดเลือกเข้าทำงานกับองค์กร NASA ซึ่งพวกเธอนั้นเคยถูกดูหมิ่นเหยียดหยามทั้งเรื่องเพศและเชื้อชาติ

ความจริงแล้วผู้กำกับได้ใส่ไข่เติมแต่งเรื่องราวของการเหยียดสีผิวในที่ทำงานในภาพยนตร์ แต่ในชีวิตจริงแล้วพวกเธอนั้นไม่เคยประสบปัญหาพวกนี้เลย ซึ่งพวกเขาก็ได้พูดเรื่องนี้ไปแล้วในตอนที่มีนักข่าวมาสัมภาษณ์

 

10. The Revenant

 

นักล่าผู้มากประสบการณ์อย่าง Hugh Glass นั้นบาดเจ็บอย่างหนักจากการสู้กับหมีท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ และมีนักล่าอีก 2 คนนามว่า John Fitzgerald และ Jim bridger พวกเขาฆ่าลูกชายของ Hugh และทิ้งเขาไว้ท่ามกลางป่าในฤดูหนาว

ถึงแม้ว่าจะสร้างมาจากเรื่องจริง แต่ก็มีข้อผิดพลาดหลายอย่างเช่นตอนที่เขาสู้กับหมีนั้นจริงๆ แล้วอยู่ในช่วงฤดูร้อน

มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ไม่มีหลักฐานว่าเขานอนในซากศพของสัตว์จริงๆ และลูกชายของเขาไม่ได้ถูกฆ่าตาย เพราะเขาไม่มีลูกสักคน

ฉากล้างแค้นนั้นไม่ใช่ความจริง ถึงแม้ว่าเขาจะไล่ตาม Fitzgerald และ bridger ได้สำเร็จ แต่เขาก็ให้อภัยทั้งคู่กับสิ่งที่พวกเขาได้ทำลงไป

 

ที่มา Brightside

Comments

Leave a Reply