ดูแล้วมาโม้!! Deepwater Horizon ภาพยนตร์จากเหตุการณ์จริง ที่ปูเรื่องนานจนหลับ…

รู้สึกว่าในช่วงหลังเราจะได้ชม “หนังที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง” ซะเยอะ บางเรื่องเชิดชูคุณงามความดีที่ตัวบุคคล บางเรื่องเน้นไปที่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และบางเรื่องก็พยายามตีแผ่ความเสียหายของประวัติศาสตร์

หนังเรื่องล่าสุดที่ #เหมียวฟิ้น ไปดูมาเป็นประเภทหลังสุดล่ะ เรื่องที่ว่านี้มีชื่อว่า Deepwater Horizon ที่เล่าเรื่องราวจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2010 เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดของแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก

ทำให้ทีมงานทั้งผู้บริหาร วิศวกร ช่างเทคนิคที่อยู่บนแท่นขุดเจาะต้องหนีตายเอาชีวิตรอด จากอุบัติเหตุครั้งนั้นส่งผลให้มีน้ำมันรั่วไหลออกมากว่า 780 ล้านลิตร นับเป็นอุบัติเหตุครั้งที่ร้ายแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นของสหรัฐฯ เลยก็ว่าได้

ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริง จะต้องมีตัวละครและรายละเอียดของเหตุการณ์จริงๆ มารวมเอาไว้ในหนังด้วย แต่เนื่องจากเป็นหนังเกี่ยวกับแท่นขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งเป็นงานที่คนทั่วไปไม่คุ้นเคยหรือไม่รู้รายละเอียดมากเท่าไหร่ หนังจึงต้องประเคนรายละเอียดเข้ามาให้เราแบบเต็มสตรีม

ตลอดระยะเวลา 30 – 40 นาทีแรกของหนัง เต็มไปด้วยบทพูด พูด พูด แล้วก็พูด แล้วก็มีแต่ศัพท์เทคนิคเต็มไปหมด แม้ว่า #เหมียวฟิ้น จะตั้งใจและพยายามดูแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถจับใจความได้ทั้งหมดว่าหน่วยงานไหนดูแลตรงไหน เกิดเกมการเมืองระหว่างใครบ้าง จนมันเข้าขั้นน่าเบื่อและหลับในที่สุด…

แต่หลังจากผ่านช่วงปูเรื่อง (ที่นานโคตร) ไปแล้ว หนังก็เริ่มมีฉากแอ็คชั่นให้เราได้เห็นกันบ้าง เราถึงได้กลับมาสะดุ้งตื่นแล้วติดตามหนังอีกครั้ง

แต่ถึงอย่างนั้นเราก็จำตัวละครหลายๆ ตัวไม่ค่อยได้ เนื่องจากการตัดสลับไปๆ มาๆ และบทบาทที่โผล่มาเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เรามองไม่ค่อยออกว่าใครเป็นใคร จะมีที่จำได้แม่นๆ ก็คือตัวละครของ Mark Wahlberg, Kurt Russell และ Dylan O’Brien

ต้องบอกว่าก่อนหน้าที่เราจะได้ดู Deepwater Horizon ประมาณ 1 สัปดาห์ เราได้ไปดูเรื่อง Sully มาก่อน ซึ่งเรื่องนั้นก็ทำมาจากเรื่องจริงเหมือนกัน และเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพที่คนทั่วไปเข้าใจยากเช่นกัน

แต่!! เรื่อง Sully กลับอธิบายให้เราเข้าใจได้ง่ายกว่า และหากเทียบเป็นกราฟเรื่องนั้นก็เป็นกราฟที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง (แม้จะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมาก) แต่กับเรื่องนี้กลับเป็นกราฟที่ราบเรียบมากในช่วงต้นเรื่อง แล้วค่อยพุ่งขึ้นในช่วงกลางๆ

หนังแนวนี้เหมาะกับใคร?

หนังเรื่องนี้เหมาะกับแฟนคลับของ Mark Wahlberg ชอบเสพหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริง ชอบหนังเกี่ยวกับอุบัติเหตุหรือมหันตภัย หรือหาหนังตื่นเต้นดูในช่วงนี้ไม่ได้

หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับใคร?

หนังเรื่องนี้ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหนังพูด ไม่ชอบจำรายละเอียดเยอะๆ จำหน้าตัวละครไม่ค่อยได้ และไม่เหมาะกับคนที่หวังจะไปดูหนังแอ็คชั่นตูมตาม

ใครที่ยังไม่เคยเห็นตัวอย่างหนังผ่านตามาล่ะก็ ลองกดชมแบบซับไทยได้ที่นี่เลย

นี่เป็นเพียงความเห็นบางส่วนจาก #เหมียวฟิ้น เท่านั้นนะ

ใครที่ตั้งตารอและอยากจะดูจริงๆ ก็ไปพิสูจน์กันด้วยตาของคุณเอง

เรียบเรียงโดย เหมียวฟิ้น