Category: ข่าวคราวรอบโลก
-
เผย 8 อันดับภูเขาไฟที่เคยเกิดการปะทุรุนแรงมากที่สุด เท่าที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
เราสามารถพูดขึ้นมาได้เต็มปากว่า ภูเขาไฟระเบิด เป็นหนึ่งในภัยธรรมชาติที่น่ากลัวมากที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้เกิดความเสียหายมากมายแล้ว มันยังเคยเป็นสาเหตุทำมนุษย์ล้มตายเป็นจำนวนมากอีกด้วย ที่สำคัญหลายๆ ประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งในแถบเพื่อนบ้านของเรา เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ล้วนก็เคยได้รับผลกระทบจากภูเขาไฟระเบิดกันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ในวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับ 8 การระเบิดภูเขาไฟ ที่มีทั้งความรุนแรง และน่ากลัวมากที่สุดที่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ โดยแต่ละลูกนั้นบอกเลยว่าเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่เคยดับ และที่สำคัญเราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะเกิดการปะทุขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ คิดแล้วก็น่ากลัวเหมือนกัน 1.ภูเขาไฟ Eyjafjallajökull ในประเทศไอซ์แลนด์ ภูเขาไฟ Eyjafjallajökull เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งขนาดเล็ก ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ภูเขาไฟแห่งนี้เคยปะทุขึ้นอย่างรุนแรงในปี 2010 เป็นผลให้สภาพทางอากาศเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อประเทศในภาคเหนือของยุโรปกว่า 20 ประเทศ ที่ต้องทำการสั่งปิดน่านฟ้า แถมยังทำให้นักท่องเที่ยวกว่า 100,000 คน ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อีกด้วย 2.ทะเลสาบลาวา ในประเทศคองโก ทวีปแอฟริกาใต้ Nyiragongo เป็นทะเลสาบลาวา ในปล่องภูเขาไฟ Nyiragongo ที่ตั้งอยู่ภายใน Virunga National Park ประเทศคองโก มันเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคงปะทุ และมีความรุนแรงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญกว่า…
-
คลิปแคชเชียร์ทำงานช้า ถูกล้อเลียนเป็นสล็อต แท้จริงเธอมีปัญหาสุขภาพจนเกือบเสียชีวิต…
อีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้เราได้รู้ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควร ‘ตัดสิน’ คนจากภายนอก… เพราะว่าเราไม่รู้ว่ากว่าเขาจะมาเป็นเขาอย่างทุกวันนี้นั้น ต้องผ่านอะไรมาบ้าง และเรื่องราวในวันนี้เป็นคลิปจากสมาชิกเฟซบุ๊คท่านหนึ่งที่ชื่อว่า Balaraju Somisetty ที่มียอดวิวสูงกว่า 10 ล้านครั้งเลยทีเดียว ในคลิปนั้นเผยให้เห็นถึงการทำงานของแคชเชียร์หญิงรายหนึ่งซึ่งกำลังนับเงินของผู้เข้ามาทำธรุกรรม แต่ทว่าการทำงานของเธอนั้นช้ามาก ชาวเน็ตที่เห็นต่างก็แสดงความคิดเห็นในเชิงเปรียบเปรยเหมือนดั่งตัวสล็อต Flash ในเรื่อง Zootopia Flash ใน Zootopia คลิปวิดีโอดังกล่าวที่ถูกแชร์และพูดถึงไปในวงกว้าง… แต่ที่จริงแล้ว เรื่องราวนั้นเป็นแบบนี้เราเห็นรึเปล่า? ชาวเน็ตส่วนมากต่างแสดงความคิดเห็นในเชิงตลกขบขัน แต่แล้วก็มีความเห็นดังกล่าวที่มาชี้แจงในส่วนที่หลายคนยังไม่รู้ ‘นี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ… ชื่อของเธอคือ Premlata Shinde เธอกำลังจะเกษียณในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 ที่จะถึงนี้แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมีปัญหาสุขภาพ ทั้งอาการชักและต้องผ่านภาวะหัวใจล้มเหลวมากว่า 2 ครั้ง เธอพึ่งกลับมาทำงานได้อีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้หลังจากได้รับการบำบัดจนหายดี ที่จริงแล้วเธอมีวันลาหยุดสะสมไว้จนเธอสามารถลาได้จนเกษียณ นั่งรับเงินอยู่บ้านฟรีๆ ได้สบายๆ แต่นั่นไม่ใช่วิธีการของเธอ เธอเลือกที่จะกลับมาทำงาน และเกษียณโดยการทำหน้าที่ของเธอให้สมเกียรติและสมบูรณ์ที่สุด เหล่าพนักงานที่ทำงานในสาขาเดียวกับเธอเลยตั้งเค้าเตอร์พิเศษให้กับเธอขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานเค้าเตอร์ต่างๆ ของสาขาได้ตามปกติ ขณะเดียวกัน เธอก็สามารถทำงานในระดับความเร็วของเธอโดยไม่ต้องกดดันทั้งตัวเธอและลูกค้าผู้เร่งรีบ แต่บางครั้งเหล่าลูกค้าที่ไม่รู้ ก็ได้ไปใช้บริการที่เค้าเตอร์ของเธอ…
-
ทำบุญมาดี!! ภรรยาซื้อหวยประชดสามีว่าสิ้นเปลืองเงิน แต่ดันถูกรางวัลใหญ่ 35 ล้านบาทซะเอง
โบราณเค้าว่าไว้ว่า คนเราจะแข่งกันด้วยเรื่องความสามารถ เรื่องความรู้นั้นพอจะแข่งได้ แต่ถ้าให้แข่งกันเรื่องบุญวาสนา หรือโชคลาภ คงเป็นเรื่องที่แข่งกันไม่ได้จริงๆ เพราะคงไม่มีใครรู้หรอกว่าวันไหนตัวเองจะโชคดี วันไหนจะโชคร้าย เช่นเดียวกับ Glenda Blackwell วัย 57 ปี และสามีของเธอ จากรัฐนอร์ท แคโรไลน่า ประเทศสหรัฐฯ เนื่องด้วยสามีเธอชอบขอเงินไปซื้อล็อตเตอรี่อยู่เป็นประจำ อาทิตย์ละครั้ง บ้างก็สองครั้ง ทำให้คุณภรรยารู้สึกหงุดหงิดใจ และต้องการที่จะประชดเค้าด้วยการ ซื้อล็อตเตอรี่มาหนึ่งใบ พร้อมกับบอกว่ามันไม่มีทางหรอกนะที่เราจะโชคดีขนาดนั้นได้ “บ่อยครั้งที่เค้ามักจะทำให้ฉันโกรธ เพราะมักจะเข้ามาขอเงินไปซื้อหวย ซึ่งฉันมองว่ามันเป็นการใช้เงินที่สิ้นเปลืองสุดๆ เหมือนกับคุณเอาเงินไปทิ้งทุกอาทิตย์ โดยที่ไม่เคยได้อะไรกลับมาเลย” ภรรยากล่าว เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถึงจึงตัดสินใจพาสามีตัวแสบไปที่ร้านขายล็อตเตอรี่ พร้อมกับซื้อมา 1 ชุด จำนวน 300 บาท เพื่อหวังที่จะให้เค้าเลิกตอแยสักที แต่หลังจากนั้นคงไม่มีใครเชื่อว่า คนที่เกลียดการเล่นหวยเข้ากระดูกดำ จะกลายเป็นคนที่ได้รับรางวัลใหญ่จากสิ่งที่เธอเกลียดซะเอง เงินรางวัลทั้งหมดก็เรียกได้ว่าแจ็คพ็อตแตกกันเลยทีเดียว เป็นจำนวนเงินสูงถึง 35 ล้านบาท!! “แหมม จะบอกว่าฉันกลืนน้ำลายตัวเองก็ได้ค่ะ แต่มันถือว่าคุ้มค่าที่ฉันจะยอมเป็นคนผิดคำพูด ฮ่าๆๆ ฉันไม่เคยรู้สึกมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย”…
-
‘กระเป๋าสตางค์’ ของทหารในช่วงสงครามโลกถูกส่งคืนให้กับครอบครัว หลังผ่านไปนาน กว่า70 ปี
เรื่องราวสุดประทับใจ Robin Ashly ชายชาวอังกฤษได้สูญเสียพ่อไปหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สองไม่นาน แต่อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้รับ ‘กระเป๋าสตางค์’ ของคุณพ่อกลับมา ทำให้เขาและครอบครัวมีความสุขเป็นอย่างมาก เรื่องมีอยู่ว่านายทหารชาวอังกฤษ Keneth Ashly ได้จากบ้านเกิดเมืองนอนไปประจำการที่เมือง Haelen ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ในปี 1945 หรือช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และได้ทำกระเป๋าสตางค์หล่นไว้ที่นี่ ต่อมามีคนพบกระเป๋าสตางค์ของเขาและเก็บเอาไว้ จากนั้นมันก็ถูกส่งต่อมายังมือของคุณ Frits van Horne ที่เป็นผู้เกษียณอายุ เมื่อราวๆ 25 ปีก่อน แม้เวลาจะผ่านมาแล้วเกือบ 72 ปีแล้วตั้งแต่ที่เขาทำกระเป๋าสตางค์หล่นหาย คุณปู่ Frits ก็ยังต้องการที่จะส่งกระเป๋าใบนี้กลับคืนให้กับครอบครัวของคุณทหารผู้เป็นเจ้าของกระเป๋าเงินนี้ จึงทำการสืบค้นผ่านทางออนไลน์โดยใช้ข้อมูลจากใบขับขี่ที่อยู่ในกระเป๋า ด้วยการช่วยเหลือของหลานสาว 2 คน ในที่สุดก็พบเบาะแสเป็นสถานที่ตั้งของหลุมฝังศพของคุณ Keneth Ashly ที่เสียชีวิตไปเมื่อปี 1968 ถูกฝังอยู่ที่สุสานในเมือง Godalming ประเทศอังกฤษ คุณปู่และหลานสาวก็เลยรีบติดต่อไปยังสำนักงานหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเมือง Godalming เพื่อขอร้องให้พวกเขาช่วยตามหาครอบครัว Ashly ให้ จนในที่สุดก็ทราบที่อยู่…
-
สาวเดินทางไปเยือน 180 ประเทศ ใช้เวลาเพียง 15 เดือน ใกล้ทำลายสถิติโลกเข้าไปทุกที
‘การเดินทางเที่ยวรอบโลก’ คงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน… เธอคนนี้เองก็มีความใฝ่ฝันอยากเที่ยวรอบโลกเช่นกัน แต่เธอเลือกที่จะทำมันด้วยวิธีที่พิเศษกว่านั้น นั่นก็คือการเดินทางไปทุกประเทศรอบโลกในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อทำลายสถิติโลก!! Cassie De Pecol หญิงสาววัย 27 ปี จากเมือง Connecticut รัฐ Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำวางแผนที่จะดินทางไปทุกประเทศรอบโลกเพื่อทำลายสถิติกลายเป็นคนที่เดินทางไปเยือนทุกประเทศรอบโลกโดยใช้ระยะเวลาน้อยที่สุด โดยสถิติเดิมถูกบันทึกไว้ใน Guinness World Record นั้นอยู่ที่ 196 ประเทศ และใช้เวลา 3 ปี กับอีก 3 เดือน แต่ตอนนี้คุณ Cassie ใช้เวลาเพียง 1 ปี กับ 3 เดือน ก็สามารถเดินทางไปได้ 180 ประเทศแล้ว ยังคงเหลือเวลาอีกประมาณ 45 วันที่เธอจะสามารถเดินทางไปยังประเทศที่เหลืออีก 16 ประเทศได้สำเร็จ การเดินทางของเธอเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคมปี 2015 เธอได้ทำการสร้างเว็บไซต์…
-
นางแบบสาวน้ำหนัก 50 กิโลกรัม ถูกเลิกจ้างกลางคัน เพราะในวงการถือว่าอ้วนเกินไป
เมื่อกล่าวถึง “วงการแฟชั่น” ถือเป็นหนึ่งในสายอาชีพที่หนุ่มสาวหลายคนใฝ่ฝัน ซึ่งแน่นอนว่าภาพเบื้องหน้ามันอาจจะดูสวยหรู และเต็มไปด้วยนายแบบนางแบบหน้าตาดี แต่ใครจะรู้ละว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของวงการนี้ จะดุเดือด และโหดเกินกว่าที่เราจะคาดถึง เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2559 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Delleny Mourao หญิงสาววัย 20 ปี จากเมืองฟอร์ตาเลซ่า ประเทศบราซิล หนึ่งในผู้ที่ต้องเผชิญกับความโหดร้ายของวงการแฟชั่น จนทำให้เธอได้ออกมาเปิดโปงเรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดที่เคยพบเจอ Delleny ก็เป็นหญิงสาว ที่มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเข้าสู่วงการแฟชั่น ซึ่งหลังจากที่เธอได้เซ็นสัญญาร่วมกับบริษัทเอเจนซี่แห่งหนึ่ง ก็ทำให้เธอมีงานถ่ายแบบ และงานเดินแฟชั่นโชว์เข้ามามากมาย เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ เลยทีเดียว แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ถูกบริษัทไล่ออก ด้วยเหตุผลที่ว่า เธออ้วนเกินไป ทั้งๆ ที่เธอผอมมาก แน่นอนว่าอาชีพการเป็นนางแบบ จะต้องดูแลทั้งรูปร่าง และอาหารการกินอย่างอย่างเคร่งครัด ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Delleny มีความรู้สึกว่า เมื่อเธอเคร่งเครียดกับการรักษารูปร่างมากเกินไป มันทำให้ทั้งเธอ และนางแบบคนอื่นๆ รู้สึกกดดัน อีกทั้งสุขภาพของพวกเธอก็ย่ำแย่ลงเป็นอย่างมาก Delleny ได้เผยว่า…
-
แบบนี้ก็มี? สาวโดนขโมยรถ…เช้ามารถอยู่ที่เดิม พร้อมข้อความขอโทษ แถมมีเงินค่าน้ำมันให้
จะว่าก็ว่าเถอะ ในโลกนี้คงไม่มีใครชอบให้ของตัวเองหายแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งของที่เราซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงจากการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ยิ่งถ้าไม่ได้ทำหายเองแต่ดันมีโจรมาขโมยไปด้วยนะ หูยย…โมโหสุดๆ เรื่องราวครั้งนี้เกิดขึ้นกับสาวชาวเมือง Portland เธอมีชื่อว่า Erin Hatzi คืนหนึ่งที่เธอกำลังออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนอย่างสนุกสนาน กลับมาก็ต้องพบว่า รถยนต์คันโปรด Subaru สีแดงของเธอหายไป!! แล้วมันหายไปได้ยังไง? ดังนั้นเธอจึงรีบไปเปิดกล้องวงจรปิดดูทันที ทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ มีโจรมือดีมาแอบเข้ามาย่องเบาขโมยรถของเธอไป นั่นไง…แกนั่นเองเจ้าโจรร้าย งานนี้หนีไม่รอดแน่ ภาพจับไว้ได้หมดแล้ว เมื่อเธอได้ดูวิดีโอจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด ก็พบว่า..โจรคนนี้มันต้องเป็นมือใหม่แน่ๆ เพราะหลังจากที่เข้าไปในรถได้ ดูเหมือนพี่แกจะงงๆกับระบบภายในรถ กว่าจะถอยรถออก และขับต่อไปได้ ก็เล่นใช้เวลาอยู่นานพอสมควร เราลองไปดูวิธีการขับของโจรคนนี้กัน เหมือนว่าเค้าจะมือใหม่อยู่นะเนี่ย หลังจากนั้นเธอและสามีก็รีบเข้าไปแจ้งความกับตำรวจทันที แต่ดูเหมือนกับว่าตดยังไม่ทันหายเหม็น ปัญหาทุกอย่างก็ถูกคลี่คลายลงในเช้าวันถัดไป ทั้งคู่ตื่นมาก็ต้อง งง ยิ่งกว่า เพราะเมื่อคืนโจรพึ่งขโมยรถไป แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงเอามาคืนกันได้ง่ายๆ แถมยังมีข้อความเขียนติดมาให้ด้วย และนี่คือเนื้อหาทั้งหมดในจดหมาย ที่โจรเขียนกลับมาให้เจ้าของรถซูบารุสีแดง “สวัสดีครับ ผมขอโทษจริงๆที่ขโมยรถของคุณมา เพราะผมได้มอบกุญแจรถของผมให้เพื่อน เพื่อให้เค้าช่วยขับรถผมกลับมา เป็นซูบารุสีแดงเหมือนกัน อยู่บนถนน 7802…
-
บริษัทอินเดียแจกโบนัส รถเก๋งกว่า 1,000 คันพร้อมแฟลตให้พนักงาน ดีขนาดนี้ใครจะกล้าออก
สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ก็คงรอคอยช่วงเวลาโบนัสปลายเดือนหรือปลายปี ซึ่งส่วนมากก็จะได้มาเป็นเงิน แต่สำหรับบริษัทส่งออกเพชร Hare Krishna Exports ได้มอบโบนัสเป็นอะไรที่อลังการงานสร้างเป็นอย่างมาก Savji Dholakia มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทได้มอบโบนัสให้กับพนักงานในปีนี้เป็นรถยนต์ตำนวน 1,260 คัน และแฟลตอีก 400 หลัง และเครื่องเพชรอีกจำนวนหนึ่งสำหรับพนักงานที่ทำผลงานได้ดี ถึงบอกไงว่าโบนัสดีขนาดนี้ใครจะกล้าออก? และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแจก เมื่อปีที่แล้ว มีพนักงานได้โบนัสเป็นรถยนต์ 491 คัน และแฟลตอีก 200 หลัง ซึ่งปีนี้แจกหนักแจกมากกว่าเดิมอีก Dholakia เจ้าของบริษัทแห่งนี้เดิมทีเขาเป็นหนุ่มธรรมดาที่มาจากหมู่บ้าน Dudhala แล้วเข้ามาในเมือง Surat หวังเพื่อที่จะหางานทำ แล้วเขาก็ใช้ความขยัน สร้างเนื้อสร้างตัวจนมีบริษัทเพชรแห่งนี้และส่งออกไปต่างประเทศอีกกว่า 75 ประเทศ นอกจากนี้เขายังเป็นเหมือนต้นแบบของผู้คนในละแวกนั้นด้วย จากคนที่ไม่มีอะไร กลายมาเป็นผู้บริหารที่มีลูกจ้างมากมายถึง 5,500 คนได้ ถือเป็นความสำเร็จที่ใครหลายคนฝันอยากจะเป็นทั้งนั้น ที่มา scoopwhoop
-
แรคคูนน้อยตัวติดอยู่ใน ‘รถถัง’ ขาชี้โด่ขึ้นไปบนฟ้า เดือดร้อนถึงพี่ทหารต้องมาช่วยดึงมันออก
เหล่าสัตว์โลกทั้งหลายนั้นบางทีอยากรู้อยากเห็นไปซะทุกเรื่องเสียจริงๆ และด้วยความที่ไม่รู้อะไรนี่แหละ ก็มักจะพาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เช่นเดียวกันกับเจ้าแรคคูนตัวนี้ ที่เอาตัวของมันเข้าไปติดอยู่ใน ‘รถถัง’ จนขาชี้โด่ขึ้นไปบนฟ้า ดูน่ารักน่าชัง เดือดร้อนไปถึงพี่ทหารที่ต้องมาช่วยกันดึงมันออก ฮร่า แฟนเพจเฟซบุ๊ค Whackstar Hunters ได้ทำการแชร์คลิปวิดีโอสุดน่ารัก เมื่อเจ้าแรคคูนกระโดดขึ้นไปเล่นเป็นนักสำรวจบนรถถัง พอตรวจตราข้างเสร็จแล้วก็เลยอยากจะเข้าไปเล่นข้างในบ้าง เห็นรูเล็กๆ คิดว่าตัวเองลอดลงไปได้ ก็กระโจนลงไป (แต่ดันลืมไปว่าเมื่อกี้เพิ่งไปกินบุฟเฟ่ต์มา) ตัวก็เลยติดแหง็กอยู่ตรงรูนั้นในสภาพที่ขาชี้ขึ้นไปบนฟ้า เป็นเดือดเป็นร้อนมาถึงเจ้าหน้าที่ทหารที่ต้องมาช่วยดึงมันออกมา ด้วยความที่กลัวว่ามันจะเจ็บ เขาก็ค่อยๆ ดังมันออกอย่างเบามือ แต่พยายามอย่างไรก็ไม่ได้อยู่ดี เพราะพุงมันใหญ่เกินไป ถึงเวลาต้องใช้แรงงานแล้ว เจ้าหน้าที่อีกคนมาเห็นก็เลยรีบกระโดดเข้ามาช่วย เอ้าฮึบ!! (จากคลิปเราจะเห็นได้ว่าเจ้าแรคคูนนั้นกลัวจนฉี่เลอะเทอะไปหมดเลย) เหมือนว่ามันคงจะตกใจที่มีคนมาจับขาของมันแล้วดึง แต่ที่พี่ทหารเค้าทำไปก็เพื่อช่วยแกนะเจ้าแรคคูนนน ^^ พอดึงออกมาเสร็จไม่มีขอบคงขอบคุณซ๊ากกกก คำ วิ่งแจ้นหนีเข้าไปในป่าอย่างเร็วไวเลยนะเจ้าแรคคูน แล้วพอมาดูรูที่เจ้าแรคคูนเอาตัวเข้าไปติดอยู่ อืมมม ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงติดแน่นซะขนาดนั้น (แล้วคิดอะไรอยู่ถึงได้โดดลงไปล่ะเนี่ย ฮร่า) ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… โดยคลิปความน่ารักนี้มีผู้ให้ความสนใจมากมาย จนตอนนี้มียอดไลค์ถึง 6,100…
-
แม่เหมียวจรจัดถูกช่วยเหลือ จนสามารถคลอดลูกได้อย่างปลอดภัย…กอดลูกไม่ยอมปล่อยเลย
เหล่าสัตว์ทั้งหลายเองก็มีสัญชาตญาณความเป็นแม่อยู่อย่างเต็มเปี่ยมเฉกเช่นเดียวกันกับมนุษย์ และเจ้าแม่เหมียวมือใหม่ตัวนี้ ก็รักและเอ็นดูลูกของมันคอยดูแลไม่ยอมห่างไปไหนเลย… เจ้าเหมียวจรจัดถูกช่วยเหลือได้ทันเวลา และนั่นทำให้ลูกของมันมีชีวิตรอดมาได้ ตอนนี้เจ้าแม่เหมียวก็กอดลูกตัวน้อยของมันไม่ยอมออกห่างเลย มารู้จักกับเจ้าเหมียวสามสี Summer เจ้าเหมียวสามสีรูปร่างหน้าตาสวยงามนี้ถูกพบขณะที่กำลังท้องอยู่โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากองค์กรช่วยเหลือแมว Cat Adoption and Rescue Efforts (C.A.R.E.) เจ้าแม่เหมียวมือใหม่นี้ขี้อายเป็นอย่างมาก และต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน “ฉันช่วยเจ้า Summer ,าจากชุมชนของเหล่าอแมวจรจัด มันมีอายุเพียง 8 เดือนเท่านั้น และก็กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย ในตอนแรกนั้นมันขี้อายเป็นอย่างมาก แต่หลังจากที่ได้เจอกันทุกวันมันก็เริ่มไว้ใจมนุษย์ขึ้นมาบ้างแล้ว” คุณ Kelsey Levine เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจาก C.A.R.E. กล่าว เพราะว่ามันยังมีอายุน้อยอยู่ ทำให้มันต้องเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนเป็นจำนวนมาก “ฉันต้องรีบพามันไปยังโรงพยาบาลสัตว์ เพราะต้องใช้วิธีในการผ่าคลอดเพื่อช่วยลูกของมัน” คุณ Kelsey เล่า “ขณะที่กำลังทำการผ่าตัด ฉันกลัวว่าเหล่าลูกแมวน้อยจะไม่รอด แต่หลังจากที่การผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลูกแมวน้อยทั้ง 3 ตัวก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ สัตวแพทย์แต่ละคนได้ทำหน้าที่กันอย่างสุดความสามารถ และหนึ่งในสัตวแพทย์ที่อยู่ในทีมผ่าตัดก็ปลาบปลื้มจนน้ำตาไหลออกมา” เจ้า Summer ได้ทำหน้าที่ของแม่ด้วยการเลียลูกๆ ของมันทีละตัวๆ…
-
10 บทเพลงที่ได้รับการพิสูจน์โดยนักวิทยาศาสตร์แล้วว่า ช่วยคลายเครียดได้ดีที่สุด!!
ก็อย่างที่เราพอจะทราบกันอยู่แล้วว่าการดูหนังหรือฟังเพลงนั้นสามารถช่วยให้เราเพลิดเพลินใจและช่วยในเรื่องของการบรรเทาความเครียดได้ แต่นี่คือ 10 บทเพลงที่ได้รับการยอมรับและพิสูจน์จากนักวิทยาศาสตร์แล้วว่าสามารถลดความเครียดได้ดีที่สุดล่ะ!! สำหรับการวิจัยนั้นจัดทำขึ้นโดย Dr. David Lewis-Hodgson แห่ง Mindlab International โดยใช้อาสาสมัครหลายๆ คนมาแก้ปริศนาที่ถูกออกแบบมาให้กระตุ้นในเรื่องของความเครียด และระหว่างนั้นให้ฟังเพลงต่างๆ ไปด้วย เพื่อดูผลว่าเพลงนั้นสามารถช่วยลดความเครียด อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือดหรืออัตราการหายใจได้รึเปล่า!? ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเพลงอะไรบ้างหน๊อออ… อันดับ 10. We Can Fly, by Rue du Soleil (Café Del Mar) อันดับ 9. “Canzonetta Sull’aria,” by Mozart อันดับ 8. “Someone Like You,” by Adele อันดับ 7. “Pure Shores,” by All Saints อันดับ 6. “Please Don’t Go,” by…
-
เจ๋ง!! นักศึกษาแคมบริดจ์ รวมตัวถ่ายรูปนู๊ดสวยๆ เพื่อทำเป็นปฏิทินช่วยเหลือการกุศล
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็น นักศึกษา หรือองค์กรต่างๆ ออกมาทำกิจกรรมร่วมกันทางสังคม เพื่อนำกำไร หรือผลประโยชน์ทั้งหมด เข้าไปช่วยเหลือองค์กรการกุศลอีกต่อหนึ่ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อนักศึกษาทั้งชาย และหญิง จากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ในประเทศอังกฤษ ได้ออกมารวมตัวกันถ่ายภาพนู๊ด ที่ไม่ได้ต้องการสื่อถึงความลามกอนาจาร แต่พวกเค้าจะทำเป็นปฏิทิน เพื่อนำเงินช่วยเหลือองค์กรที่เข้าไปดูแลคนลี้ภัย ซึ่งผลงานภาพถ่ายทั้งหมดนี้ นักศึกษาได้รวมตัวกันตามชมรมกีฬาต่างๆ ก่อนที่จะถ่ายภาพออกมาให้ดูเหมือนว่า การโป๊เปลือยกายนั้น เป็นเรื่องปกติ เราตามไปดูผลงานของพวกเค้ากันเลย ทีมนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลประจำมหาวิทยาลัย . ทีมนักมวยสากล . ส่วนคนที่เป็นฝ่ายจัดการเรื่องนี้ทั้งหมดคือ Rowenna McGill นักศึกษาสาววัย 21 ปี ได้เล่าว่า “ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างให้ความร่วมมือกันอย่างดี พวกเค้าดูสนุกสนานกันสุดๆ คุณลองนึกภาพดูสิว่ามีคนจำนวนมากโป๊เปลือยอยู่ในที่เดียวกันแบบไม่ขะเขิน มันเป็นอะไรที่เจ๋งมากเลยหล่ะ” ทีมยิมนาสติกชาย ทีมยิมนาสติกหญิง แต่เห็นแบบนี้พวกเค้าก็ไม่ได้จู่ๆเดินแก้ผ้าไปถ่ายกันโต้งๆหรอกนะ เพราะต้องรอให้ถึงช่วงปิดเทอมซะก่อน เพราะเกรงว่าจะมีคนเดินผ่านมาเห็น แล้วเกิดอาการหัวใจวายเอาได้ ทีมฮ็อคกี้ชาย นักกีฬาโปโล ท่าทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น .…
-
คุณแม่ท้อง 9 เดือน โพสท่าโยคะสุดเฟี้ยว เพื่อแสดงถึงพลังแห่งธรรมชาติในตัวหญิงสาวทุกคน
สำหรับสาวๆที่กำลังจะกลายเป็นแม่คน ไม่มีอะไรจะสำคัญและยิ่งใหญ่ไปกว่าหน้าที่ของการเป็นแม่ ผู้ดูแลลูกน้อยตั้งแต่พวกเค้ายังอยู่ในท้อง เชื่อว่าแม่ทุกคนพร้อมที่จะดูแล ทนุถนอมอย่างดี เพื่อรอวันที่เจ้าตัวน้อยจะได้ออกมาลืมตาดูโลก แต่สำหรับคู่รักชาวนิวยอร์คเกอร์ Claudine Lafond และ Honza สามีของเธอ พวกเขาได้ท้าทายสิ่งที่แตกต่างออกไป ด้วยประสบการณ์การเล่นโยคะมานานกว่า 16 ปี ในช่วงไม่กี่วันก่อนการคลอด เธอและสามีตัดสินใจที่จะร่วมกันโพสท่าโยคะเท่ๆ พร้อมกับถ่ายรูปตอนสถานที่ธรรมชาติ เพื่อสะท้อนให้ผู้หญิงได้เห็นว่า พลังธรรมชาติของความเป็นแม่นั้น ยิ่งใหญ่และแข็งแรงขนาดไหน เดิมทีแล้วทั้งคู่ก็เป็นอาจารย์สอนโยคะ ที่ต้องเดินทางไปสอนตามประเทศต่างๆทั่วโลก แต่เมื่อถึงคราวที่ Claudine ตั้งท้อง เธอไม่อยากจะปล่อยวันและเวลาไปกับการดูแลลูกน้องในท้อง และปล่อยให้ร่างกายอ้วนฉุ เพราะเธอเชื่อว่าโยคะจะไม่ส่งผลร้ายใดๆต่อลูกน้อยในท้อง อีกทั้งยังช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงที่ดี อีกทั้งยังมีรูปร่างที่ดีหลังคลอดอีกด้วย ขณะนี้ทั้งคู่อาศัยอยู่ที่ซิดนีย์ และได้กำหนดการคลอดเจ้าตัวน้อยในวันที่ 30 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งทางคู่ก็วางแผนไว้ว่าจะทำการคลอดลูกในน้ำ ซึ่งถือเป็นวิธีที่กำลังได้รับความนิยม “คนส่วนใหญ่ช็อคกันไปเป็นแถวเลยค่ะ หลังจากที่ได้เห็นภาพถ่ายของฉัน และฉันรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีคนมาบอกว่า เสี่ยงต่ออันตรายมากๆ ซึ่งอันที่จริงฉันสามารถควบคุมร่างกายได้ตามที่ต้องการแหละค่ะ” Claudine ให้สัมภาษณ์ เชื่อมั้ยว่าหลังจากที่ Claudine…
-
กฎแปลกๆ ของโรงเรียนในประเทศญี่ปุ่น ที่บังคับให้นักเรียนสวม ‘กางเกงในสีขาว’ เท่านั้น!!?
เรื่องกฎเรื่องระเบียบต่างๆ ของสถานศึกษานั้น ในประเทศญี่ปุ่นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎเหล่านี้อยู่เยอะมากจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องกฎการแต่งกายเนี่ย!! แต่บางสถานศึกษาในประเทศญี่ปุ่นนั้น เคร่งครัดไปจนถึงเรื่องสีของกางเกงในเลยทีเดียว!! Atsuko Kaizu สมาชิกสภาเทศบาลแห่งกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาเผยกฎที่ว่าของโรงเรียน (ที่ไม่ออกนาม) ในพื้นที่ของเขา เกี่ยวกับกฎการแต่งกาย ที่เขาเผอิญมาสะดุดตาอยู่ข้อหนึ่ง ‘เพื่อสุขอนามัยที่ดี ให้นักเรียนทุกคนสวมกางเกงในสีขาวเท่านั้น ห้ามมิให้สวมกางเกงในสีอื่นๆ หรือสีขาวแต่มีลายเด็ดขาด’ กฎให้สวมเฉพาะกางเกงในสีขาว!? เหตุผลที่ว่าให้ใส่บราสีขาวนั้นเป็นเรื่องที่พอรับได้ เพราะชุดส่วนบนของเครื่องแบบนักเรียนหญิงก็เป็นสีขาวอยู่แล้ว แต่ในส่วนของกางเกงในนั้นเป็นจุดที่ลับสายตาไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทางโรงเรียนก็ได้ให้เหตุผลว่าถ้านักเรียนดูแลความสะอาดของกางเกงชั้นในไม่ดีก็จะเกิดคราบต่างๆ ทำให้นักเรียนสามารถสังเกตได้ด้วยตนเอง แต่กฎนี้มีผู้ที่เห็นต่างมาแย้งซะมากกว่า เช่นในกรณีของคนโรคจิตและพวกถ้ำมอง ที่ถ้าเห็นนักเรียนที่สวมเครื่องแบบอยู่ก็จะจินตนาการแล้วล่ะว่า เธอคนนี้จะต้องใส่ชุดชั้นในสีขาวอย่างแน่นอน เป็นการกระตุ้นให้เกิดความหื่นกระหายเข้าไปอีก แถมพอ Atsuko Kaizu สืบค้นเรื่องนี้เข้าไปอีกก็ยังพบว่ามีโรงเรียนในเขตที่เขาดูแลถึงกว่า 10 โรงเรียนด้วยกันที่ใช้กฎนี้กับนักเรียนกันอยู่ ทำให้ยิ่งรู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่ ‘เอาจริงๆ นะ พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้จะมีประโยชน์อะไรในเชิงวิชาการเหรอ?’ Atsuko กล่าว ก็เข้าใจเหตุผลของทั้งสองฝ่ายล่ะนะ แต่ก็แอบคิดเหมือนกันน่ะแหละว่ามีประโยชน์อะไรในเชิงวิชาการกันหน๊ออออ ที่มา: rocketnews24
-
หมาป่วยเป็น ‘มะเร็ง’ ใกล้ตาย เจ้าของก็เลยทำรถเข็นเดินเล่น จนอาการมันดีขึ้นจริง!!
สำหรับทาสหมาทั้งหลาย ย่อมคิดว่าเจ้าหมานั้นก็คือสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ในเวลาที่มันลำบากเราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือมันทุกวิถีทางโดยไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวสุดประทับใจระหว่างมนุษย์และเพื่อนรักสี่ขาแสนน่ารัก ที่ถึงแม้ว่ามันจะป่วยหนักใกล้ตายแต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือมัน จนมันมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นปาฏิหาริย์ คุณ Joey Maxwell และภรรยา ได้ทำการรับเจ้า Maverick มาเลี้ยง จาก Kill Shelter เมื่อ 8 ปีก่อน ในตอนแรกนั้นเจ้า Maverick มีร่างกายที่ผอมบางมากจนเห็นกระดูก แต่คู่สามีภรรยาก็ได้รับมันมาเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวและดูแลมันเป็นอย่างดี ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนเวลาล่วงเลยผ่านไปถึง 6 ปี จนถึงเมื่อ 2 ปีก่อน เจ้า Maverick ได้มีอาการป่วยร้ายแรงซึ่งก็คือโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่ถึงอย่างนั้นคุณ Joey และภรรยา ก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเพื่อรักสี่ขาของเขาในการต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายนี้ ในช่วงแรกนั้นการทำคีโมเหมือนจะไปได้สวย แต่ 2 เดือนผ่านไปความเจ็บปวดก็กลับมาเยือนอีกครั้ง จนทำให้เจ้า Maverick ไม่สามารถเดินได้ คุณ Maxwell ก็เลยปิ๊งไอเดียแจ่มๆ…
-
‘Caroline’s Cart’ รถเข็นเพื่อคนชราและเด็กพิเศษ ที่จะให้คุณพาพวกเขาช้อปปิ้งแบบไร้กังวล
ใครที่เคยพาคนชราหรือเด็กพิเศษไปห้าง คงจะรู้ดีว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะพวกเค้าเหล่านี้มักจะทำอะไรด้วยตัวเองลำบาก แม้กระทั่งการเดิน ดังนั้นคนชราและเด็กพิเศษไม่มักไม่ค่อยได้ไปเดินห้างเหมือนคนอื่นๆ สักเท่าไรนัก แต่ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อ Drew Ann Long ได้คิดค้นรถเข็นพิเศษสำหรับคนชราและเด็กพิเศษ เพื่อให้ทุกคนได้ช้อปปิ้งอย่างสบายใจและมีความสุข Long มีลูกสาวเป็นเด็กพิเศษ และเธอก็อยากพาลูกสาวไปในทุกๆ ที่เธอไป แต่ดูเหมือนเรื่องนี้จะยากสำหรับเธอ เพราะเธอยังมีลูกชายวัย 2 ขวบอีกคนต้องดูแล เธอจึงคิดที่จะหาอะไรสักมาแก้ปัญหานี้ เธอได้ค้นในอินเตอร์เน็ต แต่ก็ไม่มีอุปกรณ์ชิ้นไหนตอบสนองความต้องการของเธอได้ เธอจึงคิดค้นขึ้นมาด้วยตัวเอง และเรียกสิ่งนั้นว่า “Caroline’s Cart” หรือรถเข็นของ Caroline ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก รถเข็น Caroline ทำขึ้นมาเพื่อคนชราและเด็กพิเศษโดยเฉพาะ โดยมีที่นั่งสำหรับพวกเขา ซึ่งสามารถนั่งได้สบายเหมือนเก้าอี้ตัวหนึ่งเลย Long ได้ก่อตั้ง Parent Solution Group LLC ซึ่งเป็นองค์ที่ทำงานด้านออกแบบ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Technibilt รถเข็น Caroline สามารถเข็นไปรอบๆ โดยไม่ต้องถอดออก คุณสามารถให้คนแก่หรือเด็กนั่งได้สบายๆ โดยที่คุณก็ยังสามารถช้อปปิ้งได้ตามปกติ แม้ต้องผ่านทางเดินแคบๆ ก็ตาม ตอนนี้ รถเข็น Caroline…
-
ด้วยรักและผูกพันธ์… เจ้าเหมียวมาที่ ‘หลุมศพเจ้าของ’ ทุกวัน เหมือนรอคอยจะได้พบอีกครั้ง
ใช่ว่าการที่ต้องจากลากันจะมีแต่มนุษย์เท่านั้นที่เสียใจ บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็นข่าวคราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่จู่ๆ พวกมันก็โดนเจ้าของเอามาทิ้งไว้กลางทาง โดยที่ไม่คิดจะหวนกลับมาอีก เหลือไว้เพียงแต่ชีวิตน้อยๆที่เคยได้รับความรัก ที่ทำได้เพียงแค่เฝ้ารอ หวังว่าซักวันคนที่มันรักจะกลับมาหาอีกครั้ง.. เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสหายแมวเหมียว ผู้เฝ้ารอวันคืนที่จะได้กลับมาอยู่กับเจ้าของอีกครั้ง โดยที่มันอาจจะไม่ทันได้รู้ตัวว่า เจ้าของสุดที่รักของมัน ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา เรื่องราวซึ้งๆระหว่างแมวและคนครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งเธอชื่อว่า Keli Keningau Prayitno ผู้ที่ต้องเดินทางผ่านสุสานแห่งนี้ทุกวัน และเธอก็ได้สังเกตุเห็นเจ้าแมวเหมียวที่นอนอยู่บนหลุมศพที่สลักชื่อไว้ว่า ‘คุณแม่ Kundari’ วันแล้ววันเล่าที่เธอเดินผ่าน และก็พบว่าแมวเหมียวตัวนี้มักจะป้วนเปี้ยนอยู่แถวหลุมศพของคุณแม่ Kundari อยู่เสมอ จนหญิงสาวคิดว่าแมวเหมียวน่าจะต้องการความช่วยเหลือ เธอจึงพยายามที่จะชวนมันกลับบ้าน เพื่อหวังว่าจะได้ช่วยเหลือแมวจรจัดตัวหนึ่ง แต่เจ้าเหมียวก็กลับปฏิเสธทุกครั้ง และยังคงป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆที่เดิมเป็นประจำทุกวัน ไม่เปลี่ยนแปลง Keli จึงตัดสินใจที่จะเฝ้าดู และเป็นห่วงเจ้าเหมียวอยู่ห่างๆ ทุกๆวันเธอนำอาหารมาให้มัน และสังเกตุเห็นว่ามันจะไม่ยอมลุกไปไหน นอกจากจะอยู่ตรงที่หลุมศพเท่านั้น บางครั้งเจ้าเหมียวก็นอนเกลือกกลิ้งไปมาบนหลุมศพ ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังโอบกอด หรือเล่นกับมันอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเจ้าของจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา แต่ก็เชื่อว่าเจ้าเหมียวคงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้รู้สึกใกล้ชิดกับบุคคลอันเป็นที่รักของมัน หลังจากที่ Keli ได้โพสต์เรื่องราวนี้ลงบนเฟซบุ๊ค เธอก็ได้พบความจริงที่ว่า เดิมทีเจ้าเหมียวเป็นของคุณแม่ Kundari จริงๆ และวันหนึ่งเธอจากไปด้วยโรคร้ายอย่างกระทันหัน และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มันยังคงรัก…
-
McDonald’s ฉลองอย่างสมเกียรติ ให้พนักงานหนุ่มดาวน์ซินโดรม ผู้ทำงานมานานกว่า 30 ปี
หลายๆคนอาจจะมองว่า ผู้ที่เกิดมาพร้อมความบกพร่องทางร่างกาย อย่างเช่นโรคดาวน์ซินโดรม อาจไม่เหมาะสมกับการทำงานร่วมกับคนทั่วไปในสังคม ซึ่งเราขอบอกเลยว่าผิดถนัด เพราะสำหรับผู้ป่วยดาวน์ฯแล้ว เมื่อพวกเค้าต้องใจทำอะไรแล้ว ความพยายามของพวกเค้าไม่เป็นที่สองรองใครอย่างแน่นอน เช่นเดียวกับเรื่องราวชีวิตของพนักงานร้าน ‘McDonald’s’ หนุ่มชาวออสเตรเลีย Russell O’Grady วัย 48 ปี ผู้ทุ่มเทเวลายาวนานกว่า 30 ปี ไปกับการทำงานอย่างตั้งใจที่สาขา Northmead เมืองซิดนีย์ นับตั้งแต่ปี 1986 หนุ่ม Russell ผู้ทำงานร่วมกับแมคโดนัลด์ มาเป็นเวลานาน แต่นอกเหนือจากการเป็นพนักงานแมคโดนัลด์ ประจำสาขาแห่งนี้แล้ว เขายังเป็นที่รัก และชื่นชอบของชาวเมืองเป็นอย่างมาก Geoff คุณพ่อให้สัมภาษณ์ว่า “เขาเป็นเหมือนคนดังประจำตำบลเลยหล่ะ ทุกๆวันจะมีคนเข้ามาทักทาย พูดคุย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ หรือแม้แต่เข้ามากอดให้กำลังใจ” เขาวางแผนที่จะเกษียณตัวเองเมื่ออายุ 50 ปี (ขยันจริงๆเลยแฮะ พี่เขาเก่งมากๆ) ซึ่งก่อนหน้านี้ Russell เคยทำงานอยู่ในสายการผลิตมาก่อน แต่ในที่สุดเค้าก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า เค้าสามารถไปทำงานอยู่หน้าร้านได้จริงๆ เขาจึงได้อยู่ในส่วนของแพ็คกิ้ง รวมไปถึงการดูแลทำความสะอาดภายในร้าน…
-
Miss Iceland ขอออกจากการประกวด Miss Grand International หลังผู้จัดให้ ‘ลดน้ำหนัก’ ถ้าอยากชนะ
Arna Ýr Jónsdóttir เธอกำลังประกวด Miss Grand International อยู่ แถมยังพ่วงตำแหน่ง Miss Iceland มาซะด้วย แต่ล่าสุดก็มีเหตุให้เธอต้องออกจากการแข่งขันกลางคัน เพราะเธอถูกสั่งให้ลดความอ้วนนั่นเอง… Arna Ýr Jónsdóttir Daily Beast รายงานว่า ระหว่างการประกวดนั้น เจ้าของการประกวดได้บอกกับเธอว่า ‘ให้เธอหยุดทานอาหารเช้า กินเฉพาะสลัดในตอนกลางวัน และตอนเย็นก็ดื่มแค่น้ำก็พอตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันแข่งขัน ที่ส่งข้อความมาแบบนี้ก็พราะว่าทางผู้จัดน่ะชื่นชอบเธอมาก และอยากให้เธอทำได้ดีในวันแข่งจริง’ ภาพจากทางเพจ Miss Grand International สิ่งที่เธอทำก็คือออกจากการแข่งขัน พร้อมส่งจดหมายนี้ให้กับทางผู้จัด… ‘ฉันยอมรับว่าฉันก็เป็นหญิงแกร่งคนหนึ่ง แต่บางครั้งความแข็งแกร่งที่ฉันมีนั้นก็อาจไม่เพียงพอซะแล้ว… เจ้าหน้าที่ของคุณได้บอกกับฉันว่าฉันต้องลดน้ำหนักเพื่อเข้าแข่งขันในรอบไฟนอล เพราะฉันอ้วนเกินไปและมีไหล่ที่กว้างไป สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือต้องลดอาหารและลดน้ำหนัก เพื่อที่คุณ (ผู้จัด) จะชอบฉันมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ฉันตัดสินใจออกจากการแข่งขันนี้ ฉัน ในฐานะ Miss World ของประเทศไอซ์แลนด์ ได้รับอันดับ 14 ในการแข่งขัน Miss World ผู้ชนะในการประกวด…
-
17 ภาพจาก ‘กล้องจุลทรรศน์’ ทำให้เห็นความงามของสิ่งต่างๆ ในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ในโลกของเรานี้เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ทั้งที่เราเคยเห็นและไม่เคยเห็น บางสิ่งบางอย่างอาจอยู่ใกล้ตัวเราก็ได้ เพียงแต่ว่าเราไม่เคยเห็นเท่านั้นเอง วันนี้เราจะได้เห็นความสวยงามของโลกนี้มากขึ้นผ่านโครงการ Nikon’s Small World ที่จัดประกวดการถ่ายภาพระยะใกล้ หรือภาพที่ถ่ายจากกล้องจุลทรรศ์ (Microphotography) จนเกิดเป็นภาพสวยๆ ที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน 1. เปลือกแอมโมไนต์ (หอยชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว) 2. เกสรดอกเดซี่ 3. ดวงตาของแมงมุมกระโดด 4. ผลึกน้ำผึ้ง 5. ฟองสบู่ 6. จอประสาทตาของหนู 7. ผลึกกาแฟ 8. ปีกผีเสื้อ 9. ดอกของต้น verbascum 10. ฟองอากาศในตากีล่าบางชนิด 11. ใบของต้น Selaginella 12. หินอาเกต 13. ผลึกของเบต้า-อะลานีน และทอรี 14. แมลงวัน …
-
ครอบครัวร่วมอำลาเป็นครั้งสุดท้ายแก่เพื่อนผู้แสนดี ก่อนการุณฆาตให้จากไปอย่างสงบ…
การที่เรามีสัตว์เลี้ยงไว้สักตัว หากเราได้ใช้เวลากับมันทุกวัน เราจะรู้สึกว่ามันเหมือนสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง ดังนั้น ถ้ามันเจ็บมันป่วยขึ้นมา เราเองก็รู้สึกเจ็บไม่แพ้มันเลย เมื่อไม่นานมานี้ Victor Flores วัย 22 ปี จากออสติน รัฐเท็กซัส ได้โพสต์ภาพที่ครอบครัวของเขาทำอาหารที่ดีทีสุดให้สุนัขของพวกเขา พร้อมพามันขึ้นรถขนาดเล็กเพื่อเดินเล่นด้วย สุนัขของพวกเขาชื่อ Daisy ซึ่งได้อยู่ด้วยกันมา 13 ปีแล้ว จนเป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว แต่เพราะมันได้รับบาดเจ็บที่หลัง จึงทำให้ลำตัวช่วงล่างของมันสูญเสียการควบคุมและเดินไม่ได้ Daisy ต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้อย่างทรมาน ทางครอบครัวสงสารมันมาก แต่ก็ช่วยอะไรมันไม่ได้ เพราะมันเองก็แก่เกินกว่าที่จะผ่าตัดได้ ดังนั้นทางครอบครัวจึงตัดสินใจที่จะทำการุณยฆาตเพื่อให้มันหลุดพ้นจากความเจ็บปวดนี้ แต่ก่อนที่จะพามันไปหาหมอเพื่อทำการุณยฆาต พวกเขาได้พา Daisy ทำทุกอย่างที่มันชอบ รวมทั้งอาหารโปรดของมันด้วย แล้วก็ได้นำภาพไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ อาหารมื้อเที่ยงของ Daisy อาหารมื้อเย็นของ Daisy พวกเขาได้ทำทุกอย่างที่ Daisy ชอบ และให้มันเจ็บปวดน้อยที่สุด ในขณะที่สมาชิกในครอบครัวก็พยายามทำใจตลอดทั้งวัน เพราะพวกเค้าเองก็ไม่พร้อมที่จะบอกลามัน แต่แล้วเวลานั้นก็มาถึง เจ้า Daisy ก็ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่าน…
-
15 อันดับ ‘เยาวชนคนเหล็ก’ เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งและพลังกำลังมหาศาล!!
เป็นธรรมดาที่ผู้ใหญ่ต้องคอยให้การช่วยเหลือเด็กๆ เพราะพวกเขายังไม่แข็งแรงพอที่จะยกของหนัก หรือทำอะไรหนักๆ ด้วยตัวเองได้ แต่คงจะไม่ใช่สำหรับเด็ก 15 คนนี้ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กที่แข็งแรงที่สุดในโลก บางคนแข็งแรงกว่าผู้ใหญ่ซะอีก แลไม่ใช่เฉพาะเด็กผู้ชายเท่านั้น แต่มีเด็กหญิงที่ติดมาใน 15 อันนี้ด้วย 15. Andrey Kostash วิดพื้นได้ 6,000 ครั้ง Andre จากยูเครน มีชื่อเสียงในเรื่องความแข็งแรงตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เพราะเขาสามารถวิดพื้นได้ 4,000 ครั้งในเวาลา 2 ชั่วโมงกับอีก 29 นาที จนกลายเป็นสถิติใหม่ของประเทศยูเครน สำหรับ Andre แล้ว การวิดพื้นได้ 4,000 ครั้งนั้นดูเหมือนเขาจะผิดหวังเล็กน้อย เขาจึงพยายามต่อไปจนสามารถวิดพื้นได้ 6,000 ครั้งในเวลาต่อเนื่อง เขาได้รับการฝึกความแข็งแรงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ โดยที่เขาเองก็มีความสนใจและอยากทดสอบความสามารถของตัวเอง แรงบันดาลที่ทำให้เขาอยากแข็งแรงนั้น เป็นเพราะว่าเขาอยาเป็นนักแสดง อยากมีศิลปะการต่อสู้ และอยากเป็นนักยิมนาสติก 14. Yang Jinglong สามารถลากรถตู้ได้ Yang อาศัยอยู่ในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน…
-
เจ้า Beast น้องหมาคู่ใจ Mark Zuckerberg ดูไปมาเหมือน ‘ไม้ถูพื้น’ มากกว่ารึเปล่า อิอิ
เมื่อไม่นานมานี้ ระดับซีอีโอผู้ก่อตั้ง Facebook อย่าง Mark Zuckerberg ได้โพสต์ภาพขณะที่เขากำลังนั่งเล่นเกมอย่างชิวๆ อยู่กับ Beast สุนัขพันธุ์ปูลิ (หรือที่คนไทยชอบเรียกว่าพันธุ์ไม้ม้อบ) แสนรักของเขา ซึ่งถ้าหากใครได้เห็นภาพของเขาแล้ว จะต้องเกิดความสงสัยขึ้นมาทันทีว่า เจ้า Beast อยู่ตรงไหนกันแน่ เพราะไม่ว่าจะกวาดตายังมองเท่าไหร่ ก็ยังไม่เห็นตัวของมันเลย แต่ถ้าหากลองสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่าจริงๆ แล้ว เจ้า Beast ไม่ได้อยู่ไกลเลย มันก็นอนอยู่ข้างๆ หนุ่ม Mark นั่นแหละ เพียงแต่ขนสีขาวที่ดูยาวๆ ของมัน อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่านั่นไม่ใช่หมา แต่เป็นพรมต่างหากละ ฮร่าๆ และนี่คือโฉมหน้าของ Mark น้องหมาขนสีขาว ที่ถึงแม้ว่าอาจจะดูไม่เหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป แต่ความน่ารักของมันก็ไม่เป็นสองรองใครเลยนะ สำหรับเจ้า Beast เรียกได้ว่าเป็นน้องหมาแสนรักที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ Mark มาเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งถ้าหากใครที่ได้ติดตามเฟสบุ๊คของเขา จะเห็นว่า Mark มักจะชอบโพสต์ภาพความน่ารักของมันให้บรรดาแฟนๆ ได้รับชมอยู่เสมอ นอกจากนี้…
-
บ้านหลังนี้ภายนอกดูปกติดี แต่ภายในตกแต่งได้ ‘แปลก’ จนดูหลอน ชวนขนลุกไม่เบา!!
บ้านหลังนี้ ดูจากภาพนอกเรียกได้ว่าเป็นบ้านที่น่าอยู่หลังหนึ่งเลยละ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้ย่างกรายเข้าไปข้างในละก็ เชื่อว่าคุณจะต้องรีบเดินออกมาแน่นอน เพราะด้านในบ้านหลังนี้ มันไม่ธรรมดาซะด้วยสิ!! สำหรับบ้านดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ย่านเอวอน ในฮาร์ตฟอร์ด, สหรัฐอเมริกา มันเป็นบ้านที่เจ้าของเดิมได้ประกาศขายในราคา 339,900 ดอลลาร์ หรือประมาณ 11 ล้านบาท แม้ว่าภายนอกจะดูปกติดี แต่เมื่อได้เห็นสภาพด้านในแล้วกลับทำให้รู้สึกขนลุกขึ้นมาซะอย่างนั้น เพราะแบบนี้สินะ มันถึงถูกเรียกว่าเป็น “บ้านสยองขวัญ” …. ทันทีที่คุณได้เกินก้าวผ่านข้ามประตูเข้าไป มันจะทำให้คุณตะลึงเบาๆ เนื่องจากภายในบ้านมีการตกแต่งได้แปลกซะจนดูหลอน และน่ากลัว งานศิลปะเหล่านี้ ดูเหมือนคล้ายกับเลือด แถมยังมีลายประหลาดๆ อยู่เต็มไปหมด ถึงจะบอกว่ามันเป็นงานศิลปะก็เถอะ ยังไงก็อดคิดว่ามันหลอนไม่ได้ ไม่ทราบว่าเหตุใดเจ้าของเก่าจึงประกาศขาย แม้ว่าจะถูกประกาศขายมาแล้วกว่า 30 วัน แต่ทว่าในตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดสนใจที่จะจับจองมาเป็นเจ้าของเลยแม้แต่คนเดียว แต่ในอนาคตหวังว่ามันคงจะขายออกนะ ภาพอีกมุมจากสวนหลังบ้าน ภายในถูกตกแต่งได้แปลกตา ราวกับว่ามันหลุดมาจากภาพยนตร์สยองขวัญ แปลกเนอะ รู้สึกแปลกๆ มากที่เห็นบ้านตกแต่งลักษณะนี้ …
-
25 ภาพวาดจาก ‘จินตนาการ’ ของเด็กๆ ที่ดูไปดูมา ทำไมมันช่างหลอนแบบนั้นเฮ้ย!!
เด็กๆ เปรียบเหมือนผ้าขาวที่สะอาดบริสุทธิ์ คิดอะไรก็พูดออกมาอย่างนั้น แต่บางทีจินตนาการของเด็กๆ นั้นก็ยากที่ผู้ใหญ่อย่างเราจะคาดเดาได้ โดยปกติแล้ว เด็กๆ มักจะชอบวาดรูป เห็นอะไรมาก็วาดไปตามนั้น ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล หรือต้นไม้ ใบหญ้า แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะหากเราลองสังเกตดูดีๆ มันอาจเป็นภาพที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ 1. จินตนาการของเด็ก 10 ขวบ บางเรื่องเราเห็นเป็นเรื่องสนุก แต่ดูเหมือนเด็กๆ ไม่ได้คิดเหมือนเรานะ 2. วงจรชีวิตในความคิดของเด็ก การที่เราเห็นว่า เด็กได้วาดวงจรของชีวิตนั้น บางทีมันก็ยากที่จะเชื่อว่า พวกเขาคิดเองหรือมีคนบอกมา 3. การคิดในแง่บวกของเด็กๆ จินตนาการของเด็กเกี่ยวกับชีวิตในอนาคต (การทำลายหลุมฝังศพของตัวเอง) 4. ความคิดต่อพี่น้องของตัวเอง เด็กๆ บางคนก็ไม่ชอบพี่น้องของตัวเอง และอยากให้เขาออกไปจากชีวิต 5. เด็กๆ กับด้านมืด ทุกคนมีนิสัยทั้งดีและไม่ดีอยู่ในตัว แต่เด็กบางคนก็ยอมให้มีซาตานอยู่ในใจ 6. สิ่งที่คาดไม่ถึง นี่เป็นจินตนาการของเด็ก ที่ผู้ใหญ่ต้องกังวล เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ถ้าเด็กสามารถวาดรูปนี้ออกมาได้ แล้วยังบอกอีกว่า เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดด้วย 7.…
-
Franco Noriega หนุ่มผู้เข้าครัวกับ ‘บ็อกเซอร์’ เพียงตัวเดียว เล่นเอาสาวน้อยใหญ่น้ำลายหก
ไม่ใช่แค่หนุ่มๆ ที่ชอบดูสาวๆ ในชุดเซ็กซี่ๆ สาวๆ เองก็ชอบดูผู้ชายเซ็กซี่เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ชายหล่อๆ หุ่นล่ำๆ ยิ่งตอนไม่ใส่เสื้อนะ สาวๆ ยิ่งกริ๊ดหนักเข้าไปอีก สาวๆ คนไหนที่ชอบแบบนี้ ต้องไม่พลาดคลิปนี้เลย… กับคลิปของ Franco Noriega วัย 27 ปี ชาวเปรู หนุ่มหล่อล่ำ ฉายา ‘เชฟเปลือย’ เพราะเข้าครัวด้วยการเกงในตัวเดียวเท่านั้น จนทำให้การทำอาหารนั้นน่าสนใจยิ่งขึ้น คลิปนี้เป็นคลิปแรกที่ Noriega ได้อัพโหลดในยูทูป และแน่นอนว่า มันทำให้ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสาวๆ ไม่ว่าจะสาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็แห่เข้ามาชมเพียบ แม้เขาได้อัดคลิปนี้เพื่อเน้นในเรื่องการทำอาหาร แต่ดูเหมือนว่า ผู้คนแทบไม่พูดถึงเรื่องสิ่งที่เขาทำเลย เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับไส้กรอกของเขา ที่น่าดึงดูดมากกว่าอาหารเป็นไหนๆ หล่อจนเป็นดาราได้เลยนะเนี่ย… อ๊ะ อ๊ะ ใช่แล้ว เขาได้ย้ายมานิวยอร์กเมื่อปี 2007 เพื่อเป็นนักแสดงแต่ได้เป็นนายแบบแทนซะงั้น และได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย ก่อนที่จะตัดสินใจไปเรียนทำอาหารตามความฝัน ในที่สุดเขาก็ได้เปิดร้านอาหารเปรูของตัวเองที่ชื่อว่า Baby Brasa ที่เน้นอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ เมื่อใส่ส่วนผสมครบแล้ว ก็ปั่นนะครับ…
-
แซ่บมั้ยล่าาา… คุณยายวัย 86 ปี เข้าพิธีแต่งงาน ด้วยชุดที่เธอออกแบบเองกับมือ
เราเคยคิดภาพมั้ยว่า ถ้าเราอายุ 80 ปี เราจะมีสภาพเป็นอย่างไร หรือเรากำลังทำอะไรอยู่ หลายคนอาจจะทำอะไรได้ไม่มาก เพราะร่างกายคงไม่แข็งแรงพอให้ทำอะไรเหมือนสมัยเป็นหนุ่มสาว แต่คุณยาย Millie Taylor-Morrison วัย 86 ปี ได้เข้าพิธีแต่งงานกับ Harold Morrison ด้วยชุดที่เธอออกแบบเอง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้คุณยาย Taylor เคยแต่งงานมาแล้วเมื่อ 41 ปีที่ผ่านมา แล้วก็เลิกกับสามีเก่าไป ก่อนที่จะมาพบกับ Harold ในอีก 25 ปีต่อมา จนได้ตกลงแต่งงานกัน เธอได้เริ่มต้นออกแบบชุดแต่งงานเมื่อเดือนกรกฎาคม โดย Mathew Purefoy หนึ่งในสมาชิกคริสตจักร เป็นคนวาดแบบให้ตามที่เธอต้องการซึ่งใช้เวลาไม่นานเลย หลังจากนั้นเธอก็เอาแบบนี้ไปให้ดีไซเนอร์ Marco Hall เพื่อตัดชุดให้ คุณยายมีความสุขมากที่ได้ใส่ชุดที่ตัวเองออกแบบในวันพิเศษชุดนี้ ไม่เพียงแต่ด้านหน้าเท่านั้นที่ดูดี แต่ด้านหลังก็เก๋ใช่ย่อยเช่นกัน โฉมหน้าเจ้าบ่าวผู้โชคดี ที่มองว่าที่ภรรยาเดินเข้าสู่พิธีด้วยใบหน้าแห่งความดีใจ หลังจากงานแต่งเพียงไม่นาน Elkharbibi หลานสาวของคุณยายก็ได้แชร์ภาพของเธอลงใน Facebook…
-
สาว ‘ดาวน์ซินโดรม’ ผู้รักเด็ก…มุ่งมั่นจนได้เป็นครูในโรงเรียนสอนเด็กเล็กตามความใฝ่ฝัน
เป็นที่เข้าใจกันดีว่า คนที่เป็นดาวน์ซินโดรมนั้นจะมีการเจริญเติบโตที่ช้ากว่าคนปกติ แต่ก็ใช่ว่าจะเรียนรู้ไม่ได้ ซึ่งบางทีพวกเขาอาจจะเรียนรู้ได้ดีกว่าเราด้วยซ้ำ แต่กว่าพวกเขาจะทำได้เหมือนคนปกตินั้น ต้องใช้ความพยายามมากกว่าเราหลายเท่า และต้องอาศัยการช่วยเหลือจากคนรอบข้างด้วย Noelia Garella วัย 31 ปี กลายเป็นชาวอาร์เจนตินาผู้มีอาการดาวน์ซินโดรมคนแรก ที่ได้เป็นคุณครูสอนในโรงเรียนเด็กเล็ก แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในวัยเด็กเธอถูกโรงเรียนเด็กเล็กปฏิเสธมาก่อน ด้วยเหตุผลจากอาการดาว์นซินโดรมของเธอ และเมื่อเธอโตขึ้น ผู้คนต่างก็มองว่า คนเป็นดาวน์ซินโดรมอย่างเธอจะเป็นคนดูแลเด็กๆ ในห้องเรียนได้อย่างไร ดังนั้นเธอจึงมุ่งมั่น ร่ำเรียน ฝึกฝนเพื่อที่จะได้ทำงานตามความฝันของเธอ จนมีเพื่อนของเธอคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในเรียนเด็กเล็ก ได้เห็นถึงความถึงความพยายามของเธอ จึงได้ชวนมาทำงานด้วยในเมืองกอร์โดบา ประเทศสเปน ทั้งครู ผู้ปกครองและนายกเทศมนตรี ได้เข้าประชุมกันและลงความเห็นว่า Garella นั้นไม่สามารถที่จะสอนเด็กอ่านหนังสือในห้องเรียนได้ แต่ในที่สุด Alejandra Senestrari อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนที่ว่าจ้าง Garella เผยว่า เขาได้ตัดสินใจรับ Garella เข้ามาท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนที่ไม่เห็นด้วย และเมื่อเธอได้เข้ามาทำงาน เพื่อนร่วมงานรวมทั้งผู้อำนวยการต่างก็ได้เห็นถึงความพยายามของเธอ เธอทำในสิ่งที่เด็กส่วนใหญ่ชื่นชอบนั่นก็คือ ‘การทำงานด้วยความรัก’ แม้ว่าโรคดาวน์ซินโดรม จะเป็นความบกพร่องทางพันธุกรรม ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางร่างกายและทางสติปัญญา แต่คงไม่ใช่กับ Garella เพราะเธอมีพัฒนาการที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอบอกว่า…
-
ตูบสุดคิ้วท์ แต่งตัวเป็นแฝดกับเจ้านาย น่ารักน่าเอ็นดูจัง แถมหน้าตาก็พิมพ์เดียวกับเปี๊ยบเลย!!
ปกติแล้ว เรามักจะไม่ค่อยเห็นน้องหมามีลักษณะท่าทางที่คล้ายกับเจ้าของของมันสักเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่แต่งตัวเหมือนกัน หรือชอบไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่กับ Topher Brophy และ Rosenberg เจ้าหมาแสนรักของเขา นอกจากทั้งคู่จะมีหน้าตาที่ดูคล้ายกันมากๆ แล้ว ยังชอบแต่งตัวเหมือนกันอีกด้วย Brophy มักจะชอบจับเจ้าหมาแสนรักมาแต่งตัวให้เหมือนกับเขา ซึ่งแน่นอนว่าเจ้า Rosenberg ก็ยินดีที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมทุกๆ ครั้ง แถมทั้งคู่ก็ดูเข้ากันสุดๆ เลยละ “Rosenberg มีอารมณ์ที่แตกต่างจากสุนัขที่ฉันเคยพบ มันเป็นสุนัขที่มีท่าทางสง่า และค่อนข้างเงียบสงบ เรามีหน้าตาที่เหมือนกันมาก หรือบางทีก็ชอบทำอะไรเหมือนๆ กัน อย่างเช่น การแต่งตัว” Brophy กล่าว สำหรับเจ้า Rosenberg มันเป็นน้องหมาสายพันธุ์ Aussiedoodle เป็นพันธุ์ผสมระหว่าง Australian Shepherd กับ Poodle นั่นเอง ความน่ารักของทั้งคู่ จะต้องทำให้หลายๆ คนมีความสุข และยิ้มตามแน่ๆ เลย พิมพ์เดียวกันเลยนะเนี่ย …
-
เหมียวจรจัดถูกน้ำกรดราดเข้าที่ใบหน้า เดินไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ ใครจะปฏิเสธได้ลง!?
ว่ากันว่ามนุษย์นั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่เห็นแก่ตัว ชอบเอารัดเอาเปรียบสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปหรอกนะ ยังมีมนุษย์อีกมากมายที่พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับเหล่าสัตว์โลกที่ได้รับความลำบาก เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้… เป็นเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรจัดที่มีท่าทางเป็นมิตร ถูกน้ำกรดราดเข้าที่หน้าจนทำให้มันสูญเสียตาไป 1 ข้าง เดินไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ และเขาก็ไม่ปฏิเสธรีบพามันไปรักษาอย่างเร็วไว ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Thomas แมวเหมียวปาฏิหาริย์ “ท่าน Thomas Trueheart (ชื่อนามสกุลเต็มของเจ้าเหมียว) ใช้ชีวิตอยู่ในโลกภายนอกที่แสนกว้างใหญ่ บริเวณที่ราบสูงในพื้นที่ทะเลทราย California ไม่มีใครแยแส และต้องการมัน” คุณ Casey Christopher กล่าว บางคนที่เดินผ่านไปแถวนั้นก็ให้อาหารกับมันบ้างเป็นบางครั้ง “เจ้า Thomas เป็นแมวที่มีอัธยาศัยดี เป็นมิตรกับทุกคน และด้วยนิสัยของมันนั้นทำให้มันสร้างความสุขให้กับใครหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น” อยู่มาวันหนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ใบหน้าของเจ้า Thomas ถูกน้ำกรดราดเข้าแบบเต็มๆ ครึ่งใบหน้าของมันถูกไหม้อย่างรุนแรง ทำให้มันสูญเสียตาข้างหนึ่งไปอย่างสมบูรณ์ “มันต้องอดทนกับความทุกข์ทรมานอยู่หลายวัน จนวันหนึ่งมันสามารถเดินไปยังบ้านของคนที่เคยให้อาหารกับมันเพื่อขอความช่วยเหลือ แน่นอนว่ามนุษย์ผู้ใจดีคนนั้นก็ไม่รอช้ารีบพามันไปยังโรงพยาบาลสัตว์อย่างเร่งด่วน พอถึงที่โรงพยาบาลเจ้าหน้าที่เองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับมันบ้าง” คุณ Casey เล่า เจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลได้ให้ยาปฏิชีวนะกับเจ้า Thomas…
-
ชายหนุ่มบริจาคตับช่วยชีวิตสาวที่ไม่รู้จักกัน จนสุดท้ายลงเอยด้วยการแต่งงานอันหวานชื่น
เพราะมนุษย์นั้นต่างรักชีวิตของตัวเอง ดังนั้น เราจึงหวงอวัยวะของตัวเองมาก และไม่มีใครยอมบริจาคให้คนอื่นง่ายๆ นอกจากเสียชีวิตแล้วเท่านั้น แต่สำหรับชายคนนี้ Canadian Chris Dempsey ได้บริจาคตับให้กับหญิงสาวที่ชื่อ Heather Krueger คนหนึ่งที่เขาไม่เคยไม่รู้จักมาก่อน ซึ่งทำให้เธอรอดชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ Krueger ป่วยด้วยโรคตับระยะที่ 4 และรักษาตัวมาแล้วตลอด 2 ปี จนแพทย์ได้บอกับเธอว่า เธอมีโอกาส 50% ในการอยู่ได้อีก 2 เดือน ถ้าไม่ได้รับการปลูกถ่ายตับ ภายในเวลา 2 เดือนนี้ ครอบครัวของเธอสู้อย่างเต็มที่เพื่อหาผู้บริจาคตับให้กับเธอ แต่เรื่องนี้ไม่ง่ายเลย เพราะมีผู้ป่วยที่รอบรับบริจาคตับถึง 119,000 คน ในขณะเดียวกัน Dempsey ก็ได้ยินเพื่อนร่วมงานของเขาคนหนึ่ง ที่พูดถึงเรื่องญาติของเขาที่กำลังต้องการตับเพื่อปลูกถ่าย เขาจึงเก็บมาคิดว่า ถ้าเขาหรือครอบครัวตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น เขาก็คงต้องการใครสักคนมาช่วยเขาเช่นกัน เขาจึงเข้าไปรับการตรวจร่างกาย และก็โชคดีที่เขาสามารถบริจาคให้ Krueger ได้… ทั้งคู่ได้คุยกันครั้งแรกเมื่อปี 2015 Krueger เล่าให้ฟังว่า เธอกับแม่ร้องให้ออกมาด้วยดีใจ เมื่อรู้ว่ามีคนสามารถที่จะช่วยชีวิตเธอได้…
-
คุณพ่อน้ำตาซึม ได้รับ ‘เอกสารรับเลี้ยงบุตร’ เป็นของขวัญวันเกิด จากลูกสาวบุญธรรม!!
ความรู้สึกของผู้เป็นพ่อเป็นแม่นั้นไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดใดๆ ได้เลย เพราะว่าในสิ่งเหล่านี้หากเราไม่ได้ประสบด้วยตัวเองก็คงจะไม่อินกับมันซักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็รับรู้ได้จากสิ่งที่เห็นไม่มากก็น้อย อย่างในกรณีของคุณพ่อ Jay Pages ที่ได้รับเลี้ยงลูกสาวบุญธรรม โดยที่ยังไม่ได้ใช้นามสกุลเดียวกันกับเขา จนกระทั่งวันนั้นก็มาถึงในวันเกิดของเขาเอง ซึ่งนับว่าเป็นวันที่เขาได้รับของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ของขวัญที่ดีที่สุดชิ้นนั้นก็คือ ‘เอกสารอนุญาตรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม’ ที่ลูกสาวได้รับนามสกุลเดียวกันกับพ่อบุญธรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณพ่อได้รับกล่องของขวัญที่ดูเรียบง่าย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ข้างในนั้นบรรจุซองเอกสารเอาไว้ และเมื่อเขาได้อ่านข้อความในเอกสารนั้นแล้ว เขาถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะนั่นคือเอกสารอนุญาตรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม โดยที่ลูกสาวบุญธรรมของเค้านั้นได้เปลี่ยนนามสกุลเดียวกันกับเขาแล้ว หมายความว่าเธอเป็นลูกสาวของเขาอย่างเต็มตัว แม้จะไม่ใช่ของที่มีมูลค่ามากมาย แต่สำหรับจิตใจนับว่าเป็นของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดสำหรับผู้เป็นพ่อแล้ว ที่มา : Jay Pages
-
รู้จักกับเจ้า ‘Giselle’ แมวเหมียวอายุ 2ปี แต่มีขนาดตัวเท่ากับอายุ 2 เดือน แต่มันก็แฮปปี้สุดๆ
เรื่องราวของเจ้าเหมียวที่มีอายุ 2 ปี แต่มีขนาดเทียบเท่ากับลูกแมวที่มีอายุเพียง 2 เดือนเท่านั้น ถึงจะมีรูปร่างที่ไม่เหมือนกับแมวทั่วๆ ไปแต่มันก็ยังมีชีวิตที่เป็นสุขเพราะมีเหล่ามนุษย์คอยช่วยเหลือ ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Giselle!! เจ้าเหมียวที่มีรูปร่างเล็กกว่าปกตินี้มีน้ำหนักเพียงแค่ 1.1 กิโลกรัมเท่านั้น มันถูกพามาที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ The Massachusetts Society for the Prevention of Cruelty to Animals ที่อยู่ในรัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าเหมียว Giselle นั้นต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยให้มันรอดชีวิต แม้จะมีอาการเจ็บป่วยมากมาย แต่มันก็ไม่ยอมแพ้พร้อมที่จะสู้เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป เมื่อมันมาถึงที่ศูนย์ช่วยเหลือในตอนแรกนั้นรูปร่างของมันดูแย่มาก มีอาการสั่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่ต้องจับมันมาโกนขนออกทั้งตัว ทำให้มันรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง หลังจากที่สัตวแพทย์ได้ทำการตรวจสอบอาการของมันอย่างละเอียดก็ทราบว่าตาของมันนั้นบอดสนิท และสาเหตุที่ร่างกายของมันมีขนาดผิดปกติไปนั้นก็เป็นเพราะความผิดปกติทางพันธุกรรม แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าเหมียวตัวน้อยก็ยังรับรู้ถึงความรักของเหล่ามนุษย์ได้เป็นอย่างดี พวกเขาพามันไปไว้ที่บ้านอุปถัมป์ ทีที่เจ้าเหมียว Giselle จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข มีที่นอนอุ่นๆ ให้นอน และมีอาหารอร่อยๆ ให้ทาน มันก็เลยพลิกตัวขึ้นมาเพื่อโชว์ให้เห็นว่ามันมีความสุขมากขนาดไหน >< เริ่มทานอาหารได้ด้วยตัวเองแล้ว ^^ เจ้าเหมียวน้อย…
-
คุณแม่ชาวอเมริกันเผยความในใจ ลูกชายไม่ควรได้รับโดนัทฟรี เพียงเพราะเขาเป็นคนพิการ
หลายคนอาจมองว่าเด็กพิการ เป็นเด็กที่เกิดมาผิดปกติ และแตกต่างจากเด็กทั่วๆ ไป แต่ถ้าลองมองในมุมของผู้เป็นพ่อแม่ที่มีลูกพิการ พวกเขาคงอยากให้คุณปฏิบัติกับเด็กๆ เหล่านั้นเหมือนเด็กทั่วๆ ไป นั่นคือสิ่งที่ผู้เป็นพ่อแม่ต้องการมากที่สุด Ellen Seidman คุณแม่ลูกสองชาวอเมริกันก็คงอยากให้ทุกคน มองลูกของเธอไม่ต่างจากเด็กปกติทั่วๆ ไปเช่นกัน หลังจากที่ Max ลูกชายที่พิการด้วยโรค Cerebral Pulsy หรือ CP ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้กล้ามเนื้อร่างกายเกร็ง ได้รับโดนัทฟรีจากพนักงานหญิงคนหนึ่ง เพราะเธอเห็นว่าเขาเป็นเด็กพิการ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงใช้พื้นที่เล็กๆ ในโซเชียล มาระบายความรู้สึกที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางคุณแม่ลูกสองได้เผยว่า Dave ลูกชายคนที่ไม่พิการ ได้บอกกับเธอว่า เขาและ Max ได้เดินเข้าไปที่ร้าน Dunkin’ Donuts แห่งหนึ่ง โดย Max ได้พยายามบอกกับพนักงานว่าเขาต้องการนมช็อกโกแลต แต่พนักงานหญิงคนดังกล่าวกลับคิดไปในทางของตัวเองว่า “เขาไม่ได้พูดอะไรเลย” ทั้งๆ ที่ Dave ก็สังเกตเห็นว่า Max กำลังพูดอยู่ หลังจากนั้น เธอก็ได้ถามเด็กชายผู้พิการว่า เขาต้องการโดนัทชิ้นไหน ซึ่ง Max…
-
เมื่อคุณแม่จับลูกน้อยแปลงโฉมเป็น “Harry Potter” ไซส์มินิ น่ารักน่าเอ็นดูที่สุด!!
Kayla Glover คุณแม่ผู้รักการถ่ายภาพจากประเทศสหรัฐอเมริกาคนนี้ เธอเป็นหนึ่งในแฟนตัวยงของภาพยนตร์ในตำนานเรื่อง Harry Potter ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการจับลูกน้อยวัยเพียง 3 เดือน มาแต่งตัวเป็นพ่อมดน้อยแฮร์รี่ซะเลย ว่าแต่มันจะออกมาในรูปแบบไหนกัน… Kayla ได้แต่งองค์ทรงเครื่องให้ลูกน้อยแบบครบครัน มีทั้งให้ถือไม้กายสิทธิ์แบบชิคๆ แว่นตาทรงกลมกรอบสีดำที่เหมือนแฮร์รี่ไม่มีผิด หม้อน้ำใบเล็กๆ รวมไปถึงผ้าพันคอที่บ่งบอกเลยว่ามาจากบ้านกริฟฟินดอร์อีกด้วย “ฉัยเคยเป็นแฟนตัวยง Harry Potter มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ มันเป็นเรื่องปกติที่ฉันจะวางแผนให้ลูกๆ ของฉันหัดจัดชุดกันเป็นตั้งแต่พวกเขายังเล็ก” Kayla กล่าว หลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เธอก็ได้ถ่ายภาพของหนูน้อยในอิริยาบถต่างๆ โดยภาพที่ได้นั้นบอกเลยว่าน่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก ส่วนหนูน้อยก็โพสต์ถ้าสุดเก๋ได้ราวกับเป็นมืออาชีพยังไงยังงั้นเลยละ ดูทำหน้าทำตาเข้า น่าจกพุงเนอะ..!! นอกจากธีม Harry Potter แล้ว คุณแม่ก็ยังเคยจับหนูน้อยมาแต่งตัวในธีมอื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็น… ครูเอลล่า เดอ วิล เวอร์ชั่นจิ๋ว หรือมาในธีมของซาโตชิ ก็ดูน่ารักไม่เบาเลย…
-
คู่รักเลี้ยงลูกคนอื่นมานาน 8 เดือน ก่อนจะรู้ความจริงว่า โรงพยาบาลสลับตัวลูกไป!!
ที่ผ่านมาเราคงเคยได้ยิน เรื่องการสลับทารก หรือทารกหายไปแล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเจอ บางคนพลัดพรากจากลูกจนไม่ได้เจอกันอีกเลยก็มี แต่บางคนก็โชคดีได้เจอกันอีกครั้ง Mercy Casanalles ให้กำเนิดทารกในรัฐเท็กซัส แต่เมื่อพยาบาลอุ้มเด็กมาให้เธอ เธอรีบพูดออกมาทันทีว่า “นี่ไม่ใช่ลูกของฉันค่ะ” เพราะเด็กคนนี้มีผิวสีเข้ม ในขณะที่สองสามีภรรยาเป็นคนผิวขาว แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร Mercy และสามีของเธอ Rich Cushworth จึงได้นำทารกกลับบ้านด้วย แต่ตลอดเวลาทั้งคู่ก็มีความรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ลูกของพวกเขาอยู่ดี ไม่กี่เดือนต่อมา Mercy จึงได้พา Jacob (ที่ไม่ใช่ลูกตัวเอง) ไปตรวจ DNA แล้วก็พบว่า ไม่ใช่ลูกของตัวเองจริงๆ พวกเขารู้สึกเสียใจมาก เพราะถึงแม้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของตัวเอง แต่ทั้งคู่ก็รักและมีความผูกพันกับเด็กคนนี้ไปแล้ว ทั้งคู่กลัวว่า ลูกชายตัวจริงจะตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จึงได้ดำเนินการตามหา ด้วยการออกตามทีวีช่องต่างๆ ซึ่งได้ช่วยให้การตามหาเป็นได้ง่ายขึ้น ในขณะที่นักวิจัยก็ได้ขอให้คุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกมาตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ว่า ใครสลับลูกไปกันแน่ จนไม่นานพวกเขาก็ตามหาเจอ และแน่นอนว่า ทั้งสองครอบครัวต่างร้องไห้เมื่อได้เจอกับลูกตัวเองในครั้งแรก แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกใจหาย เพราะได้อยู่กับเด็กที่ไม่ใช่ลูกตัวเองถึง 8 เดือน จนเกิดเป็นความผูกพัน ตั้งแต่นั้นมา…
-
Lanai Cat Sanctuary สวรรค์อันอุดมไปด้วยเจ้าเหมียวกว่า 500 ตัว ได้ใกล้ชิดยิ่งกว่ายาสีฟัน
สำหรับคนรักแมวแล้ว การได้อยู่ท่ามกลางแมวนับร้อยนั้น นับว่าเป็นสวรรค์ของใครหลายๆ คนเลยล่ะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราคงไม่ได้เลี้ยงแมวจำนวนมากขนาด บางคนจึงเลือกไปคาเฟ่แมวเพื่อได้เล่นกับแมวเยอะๆ แต่มีสถานที่หนึ่งที่เรียกว่า Lanai Cat Sanctuary ตั้งอยู่บนเกาะ Lanai ในฮาวาย ถือว่าเป็นเกาะของคนรักแมวเลยก็ว่าได้ เพราะที่นี่มีแมวถึง 500 ตัว รอให้คุณมาเล่นด้วย จุดเริ่มต้นของแมวเหล่านี้ เกิดจากการพยายามควบคุมดูและแมวบนเกาะ Lanai ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงให้พวกมันมาอยู่รวมกัน เมื่อมีจำนวนมากขึ้น จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนรักแมวไม่ควรพลาด Keoni Vaughn ผู้อำนวยการและ Mike ซึ่งเป็นผู้จัดการของ Lanai Cat Sanctuary ได้เริ่มโครงการนี้เมื่อปี 2004 ในตอนแรก Sanctuary เป็นแค่ที่ที่พวกเขาทำขึ้นเพื่อฆ่าเชื้อโรคให้แมวและควบคุมประชากรแมวบนเกาะเท่านั้น แต่เพียงไม่มันนานมันก็กลายมาเป็นบ้านให้กับแมวจรจัดอย่างรวดเร็ว ในพื้นที่ 25,000 ตารางฟุตนี้ เต็มไปด้วยแมวจำนวนนับร้อยและมีการเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็เลยกลายเป็นบ้านของเหล่าแมวจรจัด แมวที่นี่ไม่ได้ถูกขังไว้ พวกมันสามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ และสามารถเข้ามาใน Sanctuary ได้ทุกเมื่อถ้าต้องการ โดยไม่มีกรงขังไว้ และเมื่อมีนักเที่ยวเข้ามาเยี่ยม พวกมันก็จะปีนป่ายไปตามตัวของนักท่องเที่ยว พร้อมแสดงความรักด้วยวิธีต่างๆ…
-
ใจคนหนอ…หญิงพบคูลเลอร์วางทิ้งไว้ข้างถนน ภายในอัดแน่นไปด้วยลูกหมา 9 ตัว!!
ในทุกๆ วัน มีสัตว์มากมายที่ถูกทิ้ง บางตัวถูกทิ้งตั้งแต่พวกมันยังตัวเล็ก ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ถ้าเป็นบ้านเราก็คงจะเอาไปปล่อยวัดบ้าง หรือใส่กล่องแล้วไปไว้ตามจุดต่างๆ บ้างเพื่อไม่ให้มันกลับมาที่บ้านได้อีก เช่นเดียวกับกรณีนี้ เมื่อหญิงสาวคนหนึ่ง ขับรถมาดีๆ ก็เจอคูลเลอร์ใบหนึ่งอยู่บนถนน เธอจึงจอดรถแล้วลงไปดู แต่เมื่อเปิดฝาออกมา ก็เจอกับภาพที่หดหู่ใจ ภายในคูลเลอร์นั้น มีลูกสุนัขถึง 9 ตัว ที่กำลังนอนเบียดเสียด อบอวลไปด้วยกลิ่นฉี่และอึของพวกมัน ท่ามกลางอากาศร้อนในรัฐเท็กซัส หญิงสาวจึงได้แจ้งไปยังกรมควบคุมสัตว์ Sulphur Springs ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ Karri McCreary และศูนย์ Hunt County Pets Alive ก็เดินทางมาถึง McCreary กล่าวว่า ‘เมื่อฉันไปถึง พวกมันยังคงอยู่ในคูลเลอร์ พวกมันมีลักษณะเหมือนสุนัขพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ด และเมื่อยกพวกมันออกมา แต่ละตัวดูอ่อนแรงมาก เนื่องจากเบียดเสียดอยู่ในนั้นเป็นเวลานานแล้ว’ แต่หลังจากได้ตรวจร่างกายแล้ว ทุกตัวมีสุขภาพแข็งแรงดี และยังมีนิสัยขี้เล่นอีกด้วย… ตอนนี้พวกมันได้รับการช่วยเหลือเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะดำเนินการให้บ้านใหม่ให้พวกมัน แต่ก่อนอื่นต้องให้พวกมันอยู่ในการดูแลของสัตวแพทย์และฉีดวัคซีนเสียก่อน แต่ละตัวยังเด็กมาก อาจจะยังไม่หย่านมด้วยซ้ำ แต่ต้องมาพลัดพรากจากแม่ซะแล้ว พวกมันคงต้องกลายเป็นสุนัขที่ขาดความอบอุ่น ถ้าไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีพอ…
-
น่ากั๋วววว!! สาวสะดุ้งเสียงหมาเห่ากลางดึก พอลุกมาดูพบ ‘โคอาล่า’ เกาะรั้วส่งยิ้มทักทาย
ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าประเทศ ‘ออสเตรเลีย’ นั้นเป็นประเทศที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก ทำให้การที่จะมีเหล่าสัตว์ป่ามาเยี่ยมถึงที่หน้าบ้านนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เช่นเดียวกันกับเรื่องราวสุดน่ารักที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังในวันนี้ Elize Strydom ช่างภาพสาววัย 33 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Sydney ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งล่าสุดเธอได้ไปอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณแม่และก็ต้องดูแลเจ้าหมาพันธุ์ Maltese Shitzu ชื่อว่า Gemma ด้วย คุณ Elize ได้ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed News ว่า บ้านคุณแม่ของเธอนั้นอยู่ในแถบที่เรียกได้ว่าเป็น ‘กึ่งชนบท’ ในออสเตรเลีย “เราเห็นเหล่าจิงโจ้กระโดดไปมารอบๆ บ้านในทุกๆ วัน” เธอกล่าว และเจ้า Gemma นั้นก็เป็นหมาที่ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดในการเฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี ผิดกับรูร่างหน้าตาที่แสนหน้ารักของมัน “มันจะเห่าราวกับเป็นบ้าเมื่อมีคนที่มันไม่รู้จักเดินผ่านหน้าบ้าน หรือได้กลิ่นและเสียงของเจ้าหมาตัวอื่นเดินมาใกล้ๆ บ้าน” เธอเล่า อยู่มาคืนหนึ่งจู่ๆ เจ้า Gemma ก็เริ่มเห่าเสียงดังมาก คุณ Elize ก็รีบออกมาดูเพราะกลัวว่าจะมีคนบุกรุกเข้ามา และก็ได้พบกับแขกที่สุดแสนจะน่ารักปีนมาเกาะที่รั้วอยู่ …
-
นิตยสารอินเดีย ลงภาพนางแบบบิ๊กไซส์ เพื่อชี้ให้เห็น ‘ความงาม’ ในอีกมุมมองหนึ่ง
ต้องขอบอกเลยว่าความสวยความงามนั้นมาคู่กับเหล่าสาวๆ ทั้งหลาย โดยเฉพาะในเรื่องของรูปร่างและสัดส่วน เราเคยเข้าใจมาตลอดว่าแท้จริงแล้วคนที่สวยคือคนที่มีรูปร่างผอม แต่พอเวลาผ่านไปก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าความสวยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปร่างเพียงอย่างเดียว… ล่าสุดนิตยสารชื่อดัง Cosmopolitan ของ India ฉบับประจำเดือนตุลาคมเพิ่งจะวางแผงไป ก็พบว่าในฉบับนี้มีความพิเศษอยู่ที่ภาพของเหล่านางแบบที่มีรูปร่างอวบ 6 คน ที่มาพร้อมกับความมั่นใจอวดส่วนเว้าส่วนโค้งให้ทุกคนได้เห็น โดยการถ่ายภาพเซ็ตนี้มีเป้าหมายเพื่อชี้ให้ทุกคนเห็นว่าความสวยนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับมาตรฐานใดๆ เลย… ลองมาชมเหล่านางแบบทั้งหลายที่จะมาบอกให้ทั้งโลกได้รับรู้ถึงความสวยงามที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะต้องผอม บาง ขาว เท่านั้น ผ่านแฮชแท็ก #EffBeautyStandards Nitya Arora, ดีไซน์เนอร์ “ฉันมีรูปร่างอวบมาทั้งชีวิต และตอนนี้ก็มาอยู่ในจุดที่ตัวใหญ่มากที่สุดแล้วตั้งแต่เคยอวบมา แต่ถ้าเราเข้าใจมัน เราก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่กับมันได้อย่างมีความสุข” Ragini Ahuja, ดีไซน์เนอร์ “คุณสามารถเป็นคนที่มีร่างกายที่ใหญ่และดูสมบูรณ์ หรือ ผอมและดูสมบูรณ์…พลังของฉันไม่สามารถเข้ากันได้กับขนาดร่างกายแบบอื่นๆ ได้!” Angelique Raina, ที่ปรึกษาด้าน Branding (Brand Consultant) “การได้อยู่ในวงการของแฟชั่นนั้นทำให้ฉันรู้ว่าเราต้องใช้ความเป็นทีมเวิร์กสูงมากเพื่อสร้างมโนภาพของคำว่า ‘หุ่นดี’ ขึ้นมา โดยใช้เหล่าดาราและนางแบบทั้งหลาย แท้จริงแล้วมันก็เป็นเพียงกลไกหนึ่งของการโฆษณา” Shyma…
-
เด็กนักเรียนรวมตัวกันร้องเพลง ให้ครูป่วยมะเร็งถึงบ้าน… และเธอก็สิ้นใจเมื่อเพลงจบลง
มีคุณครูจำนวนไม่น้อยเลยนะ ที่นอกจากจะสอนหนังสือแล้ว พวกเขายังสอนบทเรียนชีวิต ให้ความรักความเอ็นดูแก่เด็กๆ ประหนึ่งว่าพวกเขาเป็นลูกเป็นหลาน ทำให้เด็กๆ รักและยกย่องพวกเขา เช่นเดียวกับเรื่องราวของคุณครู Marian Walker ผู้สอนวิชาขับร้องประสานเสียงในโรงเรียนมัธยม Alvin Junior High School ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเป็นที่รักของนักเรียนเอามากๆ แต่แล้วการสอนหนังสือของเธอก็ต้องหยุดลงเมื่อเธอตรวจพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง และมันกำลังเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งเธอได้ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียนเพื่อไปรักษาตัวต่อที่บ้าน เหล่าลูกศิษย์ของเธอรู้ดีว่าการต่อสู้กับโรคร้ายของเธอใกล้จะจบลงในเร็วๆ นี้ พวกเขาเลยรวมตัวกันไปที่บ้านของคุณครู Marian เพื่อร้องเพลงเซอร์ไพรส์เธอที่นอนอยู่ในบ้าน ซึ่งเป็นเพลงที่ครูเคยสอนและคุ้นเคยดี เมื่อครอบครัวของ Marian เห็นเด็กๆ มายืนกันที่หน้าบ้าน พวกเขาจึงเปิดประตูบ้านเพื่อที่เสียงร้องของลูกศิษย์จะได้เข้าไปถึงเธอได้ง่ายๆ ลองฟังเพลงที่เด็กๆ ร้องเพื่อครูของเธอเป็นครั้งสุดท้ายกัน เพลงที่เด็กๆ เลือกมาร้องเป็นเพลง Oceans โดยศิลปิน Hillsong ที่มีเนื้อหาทราบซึ้งกินใจ เมื่อเพลงที่เด็กๆ ร้องจบลงไม่กี่นาที Marian ก็ได้เสียชีวิตลง ทางด้านครอบครัวของเธอเชื่อว่าบทเพลงทั้งหมดช่วยให้เธอผ่อนคลายและจากไปอย่างสงบ ของคุณคุณครูมากเลย ที่ครั้งหนึ่งได้สั่งสอนให้เด็กๆ มีความรู้ความสามารถ และพวกเขาจะจดจำคุณครูตลอดไป ที่มา heroviral , Inside Edition
-
คำสั่งลาจากสาวป่วยโรคมะเร็ง ที่อยากให้ทุกคนได้อ่าน เพราะทำให้เราเข้าใจ ‘ชีวิต’ มากขึ้น…
คนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะพยายามไม่พูดถึงการจากลาอย่างไม่มีวันหวนกลับ หรือที่เรียกว่า ‘ความตาย’ เพราะมันชวนให้เรารู้สึกหดหู่ซะเหลือเกิน แค่คิดถึงการที่ต้องจากกับคนรักก็เศร้าแล้ว ให้ตายเถอะ T_T แต่สำหรับ ‘Sonia Elaine Todd‘ สาววัย 38 จากเมืองมอสโคว์ รัฐไอดาโฮ้ ประเทศสหรัฐฯ หลังจากที่เธอได้ทราบข่าวร้ายจากคุณหมอ ว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง และไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ เธอจึงขอเลือกที่จะอยู่กับมันในช่วงสุดท้ายของชีวิต ทันทีที่โรคร้ายเริ่มกำเริบ อาการของเธอทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนวันที่เธอรู้ตัวว่าจะต้องลาจากโลกไปในอีกไม่ช้า เธอจึงเลือกที่จะจากไปด้วยการเขียนจดหมายลา เป็นครั้งสุดท้าย แต่ทว่าข้อความทั้งหมดที่เธอเขียน มันกลับเป็นทั้งกำลังใจ และการเตือนสติที่ยิ่งใหญ่ให้แก่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ และนี่คือข้อความทั้งหมดในจดหมายฉบับนี้ “ฉันชื่อ Sonia Todd และจากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็ง ตอนอายุ 38 ปี ฉันตัดสินใจที่จะเขียนมรณกรรมด้วยตัวเอง เพราะไม่อย่างนั้นก็จะมีคนอื่นซึ่งอาจจะเป็นครอบครัว หรือเพื่อน มาเขียนบอกว่าทั้งช่วงชีวิตฉันทำอะไรมาบ้าง หรือไม่ก็มีใครซักคน แต่งบทกวีเล่าเรื่องราวชีวิตของฉัน และในบทสุดท้ายก็เล่าว่าได้ไปอยู่กับเทพเจ้า ซึ่งฉันไม่แคร์ซะด้วยสิ” “ที่ฉันไม่ชอบการเล่าย้อนถึงอดีต เพราะเราควรที่จะเผชิญกับสิ่งที่อยู่ข้างหน้า อันที่จริงชีวิตฉันไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันซักอย่าง ยกเว้นก็แต่การได้ให้กำเนิดลูกชายผู้น่ารัก และแสนวิเศษทั้งสอง (James และ…
-
รู้จักโรคหายาก ‘Cyclopia’ ที่ทำให้เด็กทารก มีรูปร่างเหมือนยักษ์ ‘Cyclops’ ในตำนาน!!
หลายๆคนคงเคยได้ยิน หรือรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเทพปกรณัมต่างๆของชาวตะวันตกกันมาบ้าง และถ้าบอกว่าเรากำลังจะพูดกันถึงเรื่องของยักษ์ตาเดียว หรือที่เรียกกันในเทพนิยายว่า ยักษ์ไซคลอปส์ รู้หรือไม่ว่ามันมีโรคนี้อยู่จริงๆ ***คำเตือน รูปอาจจะรุนแรงไปหน่อยนะจ๊ะ**** ตัวอย่างยักษ์ Cyclops จากตำนานเรื่องราวของชาวกรีก ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่าในอดีตกาลจะมียักษ์ตาเดียวจริงรึเปล่า แต่ที่แน่ๆตอนนี้วิทยาการแพทย์ทำให้เรารู้แล้วแหละ ว่ามันมีโรคหายากชนิดนึ่งที่ชื่อว่า ‘Cyclopia’ ซึ่งส่งผลให้เด็กทารกเกิดมาพร้อมความบกพร่องทางร่างกายหลายๆด้าน และที่เด่นชัดที่สุด ก็คงเป็นดวงตา ที่เหลือแค่ดวงเดียวเท่านั้น โรคนี้เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับพัฒนาตัวของตัวอ่อนในครรภ์มารดา ทำให้ไม่สามารถเติบโตได้เต็มที่ อย่างเช่น ดวงตาที่ไม่สามารถพัฒนาให้กลายเป็นสองลูกได้ ส่วนใหญ่แล้ว เด็กทารกที่มีความผิดปกติชนิดนี้ จะเสียชีวิตทันทีหลังให้กำเนิด แต่ก็มีบางกรณีหายาก ที่อาจจะสามารถมีชีวิตอยู่นอกครรภ์ได้นานหลายชั่วโมง หรือหลายวัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถอยู่รอดได้ เป็นเพราะอวัยวะที่ไม่ถูกพัฒนาจนสามารถใช้งานได้จริง ทำให้เกิดระบบการทำงานของร่างกายที่แปรปรวน ความผิดปกติชนิดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับมนุษย์เท่านั้น แต่มีโอกาศเกิด 1 ใน 16,000 เคยพบเจอในฉลาม แมว แกะ หมู หรือแม้แต่กระโหลกม้าอันนี้ ที่ค้นพบได้เมื่อปี 1841 เช่นเดียวกับมนุษย์ สัตว์มีความผิดปกติ มักจะเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์ หรือไม่ก็หลังจากเกิดมาได้ไม่นาน …
-
คุณตาวัย 79 ปี ยังคงทำงาน ‘บริการด้วยรอยยิ้ม’ ผู้คนจึงระดมทุน เพื่อให้คุณตาได้ไปพักผ่อน
หลายครั้งที่เราเห็นคนชราต้องทำงาน แทนที่จะได้พักผ่อน แต่จริงๆ แล้วพวกเขาคงมีเหตุผลที่ต้องทำงาน บางคนอาจต้องหาเลี้ยงชีพเพราะไม่มีใครดูแล บางคนทำเพราะมีความสุขที่ทำงานมากกว่าอยู่เฉยๆ Pensioner John วัย 79 ปี ทำงานอยู่ในศูนย์อาหารที่ Trafford Centre ในแมนเชสเตอร์ มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และเขามักบริการด้วยหน้าตายิ้มแย้มเสมอ โครงการนี้เริ่มขึ้นเมื่อ Akeim Mundell ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของศูนย์อาหารที่ John ทำงาน ได้แชร์ภาพและเรื่องราวของเขาลงในเฟซบุ๊ค โพสต์นี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีผู้คนมากมายได้เข้าร่วมโครงการนี้ ด้วยการบริจาคเงินเข้ามา เพื่อช่วยให้คุณตาได้ไปพักผ่อนในวันหยุดที่แสนพิเศษ ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้คนพากันชื่นชมกับการให้บริการของเขา จนได้มีเพจการระดมเงินเพื่อช่วยให้เขาได้เที่ยวในวันหยุด ที่ตั้งขึ้นโดย Paula Dean ซึ่งตอนนี้ได้ได้เงินมาแล้วประมาณ 99,000 บาท แต่เป้าหมายของพวกเขาคือ 100,000 บาท หรือมากกว่านั้น John เป็นคนรักในอาชีพบริการ และเขาก็ชอบลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการที่นี่ เขาจึงทำให้งานด้วยรอยยิ้มเสมอ บางครั้งมีเด็กทิ้งขยะตามพื้น เขาก็จะเดินไปเก็บแล้วบอกกับเด็กด้วยรอยยิ้มว่า “เล่นให้สนุกนะหนู” John บอกว่า “ผมทำงานที่นี่มาครึ่งชีวิตแล้ว ผมชอบพูดคุยกับลูกค้า จึงทำให้ผมได้รู้จักผู้คนมากมายในหลายปีที่ผ่านมานี้…
-
ตำรวจสละเวลาพักผ่อน นั่งเฝ้า ‘สุนัขจรจัด’ ทั้งคืน หลังเก็บมาได้และพามันไปหาหมอ
เมื่อพูดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรานึกถึงอะไรบ้าง? ใช่อยู่ ตำตรวจมีหน้าที่ปกป้องประชาชน แต่หลายครั้งที่เราได้เห็นว่า ตำรวจได้ทำอะไรมากกว่านั้น และได้สร้างความประทับใจไม่ใช่น้อย เหมือนกับ Kareem Garibaldi เจ้าหน้าที่ตำรวจากกรมตำรวจ Lakeland ในรัฐฟลอริด้า ได้พบกับสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ขณะที่เขาได้ออกลาดตระเวน สุนัขตัวนี้ไม่มีปลอกคอ จึงไม่สามารถตามหาเจ้าของให้มันได้ Garibaldi จึงพามันกลับที่สถานีตำรวจด้วยก่อนที่สุนัขตัวนี้จะได้รับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต วันต่อมา Garibaldi ก็ยังคงพยายามตามหาเจ้าของให้มัน แต่ก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่า สุนัขตัวนี้ปลอดภัยดี หลังจากทำงานมา 3 กะ เป็นเวลา 12 ชั่วโมงเพื่ออยู่เฝ้าสุนัขจรจัดตัวนี้ Garibaldi ก็ตัดสินใจพามันไปที่ SPCA Florida เพื่อไปเช็คร่างกาย ระหว่างรอ Connie Johnson ผู้จัดการศูนย์คุ้มครองสัตว์ ก็เห็นว่า Garibaldi มีความเป็นห่วงเป็นใยสุนัขตัวนี้มาก จึงได้นั่งเฝ้าจนผลอยหลับไป Johnson บอกว่า “เมื่อผมเดินเข้า ผมก็พบกับสุนัขและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งคู่ดูเหนื่อย จึงงีบหลับไปข้างๆ กัน มันเป็นภาพที่สร้างความประทับมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เขามีใจมุ่งมันที่จะช่วยสุนัขตัวนี้จริงๆ” ผ่านไป 3 ชั่วโมง…
-
ทารกคลอด ‘ตัวเล็กที่สุด’ ในอังกฤษ 551 กรัม โตขึ้นมาเป็นสาวน้อยร่าเริงราวกับปาฏิหาริย์
ทารกคลอดก่อนกำหนดนั้น ต้องได้รับการดูและอย่างใกล้ชิด เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีชีวิตรอดได้เสมอไป โดยเฉพาะททารกที่เกิดมีขนาดเล็กกว่าปกติ Macey Micklethwaite เป็นทารกที่ตัวเล็กที่สุดในสหราชอาณาจักร โดยมีขนาดเท่าฝ่ามือพ่อหรืออาจเล็กกว่าด้วยซ้ำ เธอคลอดก่อนกำหนดอายุครรภ์ 25 สัปดาห์เท่านั้น และมีน้ำหนักแรกเกิดเพียง 551 กรัม วินาทีที่พ่อได้กอดลูกสาวครั้งแรก และเป็นภาพแรกที่แม่ได้เห็นหน้าลูก ไม่กี่สัปดาห์ก่อนเกิด พ่อของเธอ Rhys ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถมอเตอร์ไซด์อย่างรุนแรง แต่โชคดีที่เขารอดมา จนได้มาอยู่ข้างภรรยา Karen Dawkins ในวันคลอด ในสองวันแรกที่คลอด ผู้เป็นแม่ไม่ได้เห็นหน้าลูกเลย เพราะเธอต้องพักฟื้นตัว ในขณะที่ลูกสาวก็ต้องรักษาตัวอยู่ในตู้อบ ภาพเดียวที่แม่เห็นคือ ภาพของลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของสามี คุณแม่ทั้งเสียใจและดีใจในเวลาเดียวกัน เพราะแม่จะได้เห็นหน้าลูก แต่ลูกเธอมีขนาดเล็ก จนดูไม่เหมือนทารกด้วยซ้ำ และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ หมอได้แจ้งว่า Macey มีน้ำหนักลดเหลือ 487 กรัมเท่านั้น ทั้งคุณแม่และคุณแม่ต่างกังวลว่า ลูกจะไม่รอด… พวกเค้าเห็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตมากมายอยู่รอบตัวลูกสาว เธอตัวเล็กนิดเดียวแต่ต้องผ่านการต่อสู้ที่หนักเพื่อมีชีวิตรอด ทางโรงพยาบาลเองก็ทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยเธอ ในที่สุด ร่างกายเธอเริ่มดีขึ้น คุณหมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลนานห้าเดือน ตอนนี้ Macey อายุ 8…
-
ชายชาวจีนยอมใช้ชีวิตข้างถนน 10 ปี เพื่อดูแล ‘สุนัขจรจัด’ ที่ไม่มีคนใส่ใจพวกมัน
ตามข้างถนนเต็มไปด้วยสุนัขจรจัดมากมาย ที่มีทั้งคนรังเกียจและคนเอ็นดู มีน้อยคนนักที่จะเอาพวกมันไปเลี้ยง เพราะส่วนกก็ให้การช่วยเหลือด้วยการเอาข้าวเอาน้ำให้มันเป็นบางครั้ง แล้วก็ปล่อยให้พวกมันเผชิญชีวิตข้างถนนต่อไป แต่ที่ประเทสจีน มีชายคนหนึ่ง ที่มีใจรักสัตว์ จนยอมใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนนานกว่า 10 ปี เพื่อทำหน้าที่ดูแลเหล่าสุนัขจรจัดที่ไม่มีใครเหลียวแล Cui Hengyi วัย 58 ปี เริ่มให้การช่วยเหลือสุนัขที่ได้รับบาดและถูกทอดทิ้งตามข้างถนนเมื่อ 28 ปีที่แล้ว โดยที่ตัวเขาเองไม่ใช่คนจรจัดไร้บ้าน ดังนั้นเขาจึงได้พาเหล่าสุนัขเหล่านั้นกลับไปอยู่บ้านด้วย จนมีสุนัขมากมายอยู่ที่บ้านของเขา แต่ต่อมาก็ถูกเพื่อนบ้านร้องเรียน เพราะรำคาญเสียงสุนัขและกลัวว่าจะติดโรคจากพวกมัน และได้กดดันให้เขานำสุนัขเหล่านี้ไปอยู่ที่อื่น Cui คิดว่า การมีบ้านนั้นไม่ได้มีค่ากว่าการได้ดูแลสุนัขเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกจากบ้าน จากครอบครัวมา เพื่อไปอยู่ข้างถนนทำหน้าที่ดูแลสุนัขจรจัด แต่เขาก็ยังคงติดต่อกับครอบครัวเป็นบางครั้งบางคราว ตอนนี้ Cui อาศัยอยู่ในกระท่อมเล็กๆ ที่ทำขึ้นจากเศษขยะเท่านั้น ในขณะที่แต่ละเดือนนั้น เขาต้องใช้เงินมากกว่า 20,000 บาท เพื่อเป็นค่ายาและค่าอาหารสำหรับสุนัข และอีกประมาณ 3,000 บาทเพื่อตัวเอง ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเขามีรายได้ต่อเดือนแค่เดือนละ 3,500 บาทเท่านั้น แต่เขาบอกว่า สุนัขต้องมาก่อนเสมอ…
-
15 นางแบบผู้ก้าวสู่วงการด้วย ‘ใบหน้าอันโดดเด่น’ จนมีชื่อเสียงในระดับโลก
การจะเป็นนางแบบได้นั้น นอกจากหุ่นแล้วหน้าตาก็เป็นปัจจัยสำคัญนะ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นต้องไปทำหน้าให้เหมือนคนอื่นเพื่อให้ได้เป็นก็ได้ แต่ใช้หน้าธรรมชาติของตัวเองนั่นแหละ จะได้ไม่เหมือนใคร และยังเป็นเอกลักษณะเฉพาะตัวด้วย เหมือนกับเหล่านางแบบทั้ง 15 คนนี้ ที่ไม่ได้มีหน้าสวยอย่างที่หลายคนคิด แต่นี่คือใบหน้าธรรมชาติ ที่มีความโดดเด่น จนกลายเป็นคนโด่งดังในวงการแฟชั่นที่ผู้คนต้องจดจำ 1. Daphne Groeneveld เป็นนางแบบให้กับน้ำหอม Dior Addict และยังทำงานร่วมกับ Calvin Klein, Dior, Miu Miu, Gucci และ Prada ในปี 2011 เธอได้ชื่อว่าเป็น ‘นางแบบที่ดีที่สุดของดัตช์’ ในงานประกาศรางวัลแฟชั่นของ Marie Claire 2. Julia Zimmer นางแบบที่มีใบหน้าเหมือนชาวเยอรมันดั้งเดิม ดูอ่อนโยนและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน ทำให้ใบหน้าเธอมีเสน่ห์ที่พิเศษ ปัจจุบันเธอทำงานร่วมกับ Vivienne, Westwood และ Prada ซึ่งในสองสามปีที่ผ่านมานี้ เธอกลายเป็นวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง 3. Liza Ostanina Liza มีพื้นเพมาจาก Izhevsk ในรัสเซีย เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองสวย แต่แล้วทางหน่วยงานที่ปั้นนางแบบที่มีชื่อเสียง ก็เห็นความโดดเด่นของเธอ จึงได้ดึงตัวเธอมาร่วมงานด้วย…
-
หนุ่มฝรั่งเศสตกแต่งร้านดอกไม้ ด้วย ‘บัวรดน้ำ’ กว่า 800 อัน นาน 15 ปี ดูแปลกตาไม่ซ้ำใคร
เคยสังเกตมั้ยว่า ไม่ว่าเทศกาลไหนหรือวันพิเศษไหนๆ ผู้คนมักมอบดอกไม้ให้แก่กัน นั่นอาจเป็นเพราะดอกไม้ แสดงให้เห็นถึงความรักก็ได้ ผู้คนจึงมักใช้ดอกไม้เพื่อแทนความรู้สึก Bruno Geyer เป็นคนหลงรักดอกไม้ จึงได้เปิดร้านดอกไม้ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ Rougemont Le Chateau ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีการตกแต่งร้านด้วยบัวรดน้ำมา 15 ปีแล้ว ตอนนี้มีบัวรดน้ำประมาณ 800 อัน อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร้าน มีทั้งที่อยู่บนหลังคา ห้อยลงมาจากหน้าต่าง วางใว้หน้าร้าน หรือแม้กระทั่งที่เนินเขาข้างร้าน ทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เมื่อน้องสาวของ Bruno ให้บัวรดน้ำเป็นของขวัญคริสต์มาส ทำให้เขาได้คิดถึงความสำคัญของน้ำ ที่หล่อเลี้ยงสรรพสิ่งบนโลกนี้ทั้งสิ่งมีชีวิตและพืช Bruno จึงซื้อบัวรดน้ำเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองอัน สามอัน รู้ตัวเอง ก็กลายเป็นคนเสพติดการซื้อบัวรดน้ำไปซะแล้ว ดังนั้นเมื่อไปเจอบัวรดน้ำที่ไหน เขามักจะซื้อกล้บมาด้วย ทั้งตามตลาดทั่วไป หรือแม้แต่ในตลาดออนไลน์อย่าง eBay นอกจากนี้ เมื่อผู้คนรู้ว่า เขาสะสมสิ่งนี้ พวกเขาก็ได้นำบัวรดน้ำเก่ามาให้เขาด้วย ร้านของ Bruno จึงเป็นที่รู้จักในนาม L’arroisoir หรือ…
-
8 ภาพเปรียบเทียบฝาแฝด ‘สูบบุหรี่ และ ไม่สูบบุหรี่’ เพื่อฉุกให้คนเห็นถึงพิษภัยบางอย่าง
ในตอนเด็ก ผู้ใหญ่หลายๆ คนมักจะสอนว่า การสูบบุหรี่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดี แม้กระทั่งจนเราเติบโตขึ้นมา เราก็ยังคงเห็นการรณรงค์ต่อการสูบบุหรี่อยู่เสมอ แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีคนหลงผิดยอมที่จะสูบต่อไป เพื่อความสุข และความต้องการของตัวเอง โดยรู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ที่จะทำลายทั้งตัวเองและคนรอบข้างก็ตาม ช่างภาพได้ลองนำ 8 คู่แฝด ที่ถูกจับมาถ่ายภาพเปรียบเทียบระหว่างคนที่สูบ และไม่สูบบุหรี่ ซึ่งมันจะทำให้เราเห็นได้ความแตกต่างของแต่ละคู่ได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าที่เลือกฝาแฝด เพราะแต่ละคนมักจะมีไลฟ์สไตล์เหมือนๆ กัน ชอบทำอะไรคล้ายกัน แต่การคัดเลือกแฝดที่สูบและไม่สูบบุหรี่นั้นทำได้ยากมาก ซึ่งแน่นอนว่านอกจากการสูบบุหรี่แล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่เหมือนกันอาจจะมีปัจจัยปลีกย่อยอีกมากมายเช่นกัน… 1.ภาพความแตกต่างระหว่างฝาแฝดที่สูบบุหรี่ และไม่สูบบุหรี่ โดยหญิงทางด้านซ้ายสูบบุหรี่มานานกว่า 17 ปี 2.ชายคนทางขวาสูบบุหรี่มานานกว่า 14 ปีแล้ว 3.ผู้หญิงทางขวาสูบบุหรี่ติดต่อกันมานานกว่า 16 ปี เป็นความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน 4.ผู้หญิงทางซ้ายสูบบุหรี่มานานกว่า 14 ปี 5.คุณมองออกไหมว่าใครเป็นคนสูบบุหรี่…ใช่แล้ว!! ผู้หญิงทางด้านขวาสูบบุหรี่วันละ 2 มวน 6.แม้จะดูไม่บค่อยแตกต่าง แต่เราก็พอจะรู้ว่าผู้หญิงทางด้านขวาเป็นคนสูบบุหรี่ 7.หญิงทางด้านขวาเป็นคนสูบบุหรี่ …
-
เผยตัวตน “ลุงมหาเศรษฐีรัสเซีย” ผู้โด่งดังใน IG ที่แท้ก็แค่การสร้างภาพ ให้คนเชื่อสนิทใจ
ในโลกแห่งโซเชียล เรามักจะเห็นผู้คนมากมายโพสต์ภาพ หรือแชร์เรื่องราวต่างๆ ของตัวเองกันอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่า เราก็จะได้พบปะกับผู้คนในหลากหลายประเภทด้วยกัน หนึ่งในนั้นจะต้องมีกลุ่มคนประเภทที่ชอบโพสต์สิ่งหรูหรา ดูดี เพื่อนำมาแชร์ไลฟ์ไตล์ของตัวเองในทุกๆ วัน แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วเราคงไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เห็นมันอาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป บางทีมันอาจจะเป็น ภาพที่ “ถูกสร้าง” ขึ้นมาก็ได้นะ เหมือนดังเช่น Boris Kudryashov คุณลุงจากมอสโก ประเทศรัสเซียคนนี้ หากใครที่ได้เห็นภาพของเขา คุณจะต้องคิดว่าคุณลุงคนนี้เป็นมหาเศรษฐีที่รวยโคตรๆ อย่างแน่นอน เพราะเขามักจะชอบแชร์ไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่สุดหรูหรา ที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่งของตัวเองลงในอินสตาแกรมอยู่เสมอ จนทำให้ตอนนี้มีผู้คนเข้าไปติดตามมากกว่า 26,000 คนแล้ว นอกจากนี้ เขายังเคยไปปรากฏตัวในเอ็มวีเพลงของวงดนตรีที่เป็นที่นิยมในมอสโกอีกด้วย อู้ววววว ธรรมดาที่ไหนกันละ แต่ถ้าเราจะบอกว่าภาพทั้งหมดของคุณลุงคนนี้ มันก็แค่ภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาละ เชื่อว่าหลายคนจะต้องอึ้ง และมีคำถามมากมายว่า…แล้วเขาคนนี้เป็นใครกันแน่ จริงๆ แล้ว คุณลงคนนี้ก็คือ ลุงวัยเกษียณราชการคนหนึ่ง ที่ Roman Zaripov นักการตลาด วัย 23 ปี พร้อมกับเพื่อนของเขา…
-
คาเฟ่อังกฤษเปิดขาย ‘นมสกัดกัญชา’ ระบุว่าดีมีประโยชน์ แถมคลายเครียดได้อีกด้วย
วันนี้ #เหมียวบ็อบ จะขอพาเพื่ิอนๆไปรู้จักกับ ประโยชน์อีกแง่มุมหนึ่งของพืชสมุนไพรที่เรียกว่า ‘กัญชา’ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยออกมาแล้วว่า เจ้าสาร ‘เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล'(THC) ที่สกัดได้จากกัญชานั้น สามารถนำไปใช้เป็นยารักษาผู้ป่วงบางรายได้อย่างเหลือเชื่อ (ทางการแพทย์นะ ไม่ใช่ที่ดูดๆกัน อย่าเข้าใจผิดล่ะ) และล่าสุด ร้านคาเฟ่เพื่อสุขภาพจากลอนดอน Rawligion ได้นำเสนอเมนูใหม่ ‘นมกัญชา’ เพื่อเอาใจเหล่าสายเขียวผู้รักสุขภาพทั้งหลาย แน่นอนว่าสำหรับลูกค้าคนไหนที่เหนื่อยล้า รู้สึกร่างกายไม่สดชื่น นอนไม่หลับ หรือรู้สึกว่าเครียดมากเป็นพิเศษ นมรสชาติใหม่นี้ จะช่วยฟื้นฟูความสดชื่น และทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งเจ้านมกัญชานี้ มีประกอบไปด้วยส่วนผสมของ น้ำมันสกัดจากเมล็ดกัญชง, มะม่วงหิมพานต์, น้ำด่าง, ผลอินทผลัม, วานิลลา และ น้ำมันแคนนาบินอยด์ที่สกัดจากกัญชา นอกจากผู้บริโภคจะได้รับสารอาหารมากมายจากน้ำมันสกัดเมล็ดกัญชงแล้ว ยังได้รับสารที่ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด หรือลดอาการเจ็บปวดต่างๆ และไม่มีผลต่อการเสพติดใดๆทั้งสิ้น (เหมือนดื่มนมทั่วไปนั่นแหละ) ทางด้านไมเคิล อิสเทด นักบำบัดด้วยพืช ได้ออกมากล่าวว่า “สำหรับนมตัวนี้ ที่มีการสกัดสารแคนนาบินอยด์ มันจะสามารถช่วยให้คุณผ่อนคลาย และรู้สึกสบายขึ้นได้จริง แต่จะไม่มีผลใดๆต่อระบบประสาท ซึ่งแน่นอนว่ามันจะไม่ทำให้รู้สึกเมา แต่อย่างใด” …
-
คุณแม่แท้งลูก แต่ไม่ยอมท้อถอย ‘บริจาคน้ำนม’ เพื่อช่วยเหลือเด็กทารกยากไร้คนอื่นๆ ต่อ
เวลาที่แม่รอคอยคือการได้เห็นหน้าลูก ได้เห็นการเติบโตของลูก แต่น่าเสียดายที่แม่บางคนไม่ได้มีโอกาสเห็นลูกได้เติมโตขึ้นมา จนทำให้ต้องจมอยู่กับความทุกข์ แต่ก็มีบางคนที่ความสูญเสียเป็นแรงผลักดันให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ขณะที่ Wendy Cruz-Chan ตั้งท้องได้ 19 สัปดาห์ คุณหมอได้บอกกับเธอว่า เธอเป็นการติดเชื้อในมดลูก ซึ่งเป็นเคสที่หายาก ส่งผลให้ลูกคลอดออกมาเสียชีวิต ตั้งแต่นั้นมาเธออยู่กับความโศกเสร้า เพราะทำใจไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน Cruz-Chan ก็สังเกตว่า ร่างกายเธอกำลังมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับทารก หน้าอกใหญ่ขึ้น และมีน้ำนมไหลออกมา ดังนั้นเธอจึงคิดว่า จะไม่ทำให้ความรู้สึกเสียใจมาครอบงำเธอ เธอจะใช้โอกาสนี้ทำสิ่งดีๆ ด้วยการบริจาคน้ำนมให้กับแม่คนอื่นๆ ที่มีน้ำนมไม่เพียงพอสำหรับลูก “ฉันรู้สึกว่า ไม่ได้ทำหน้าที่แม่ให้ลูก ฉันไม่ได้แต่งตัวให้เขา ไม่ได้กอดเขา ไม่ได้ป้อนนมให้ และไม่ได้เห็นการเติบโตของเขา ดังนั้นฉันต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อเติมเต็มความเป็นแม่ให้กับฉัน” สามีของ Cruz-Chan ก็สนับสนุนเธอในเรื่องนี้ด้วย พวกเขาจึงเริ่มปั๊มน้ำนม เพื่อเอาไปบริจาคให้กับคุณแม่และทารกที่ต้องการน้ำนม จากนั้นเธอก็ติดต่อไปยังคุณแม่ในท้องถิ่นผ่านสื่อออนไลน์ และบอกพวกเขาว่า เธอมีน้ำนมที่พร้อมจะบริจาคให้ ถ้าต้องการก็ติดต่อมาได้เลย ขั้นตอนการบริจาคน้ำนมนั้นค่อนข้างเหนื่อย เธอต้องปั้มนมในเวลากลางดึก เพราะเป็นช่วงที่หน้าอกเธอบวมได้ที่ ซึ่งจะทำให้ได้น้ำนมในปริมาณมาก แต่เธอบอกว่า ‘มันก็คุ้มค่ากับความเหนื่อยนี้นะ’ ภายในสามเดือน เธอได้บริจาคน้ำนมไปแล้ว 72…
-
18 ‘ภาพถ่ายสุดท้ายของคนรัก’ ที่ถูกโพสต์เพื่อคิดถึงความทรงจำดีๆ ที่เคยมีร่วมกัน
การที่เราต้องสูญเสียใครซักคนที่เรารัก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมสร้างความปวดร้าวทรมาณใจให้เราเหลือเกิน แต่มันก็เป็นสัจธรรมที่ทุกคนต้องเผชิญ.. และนี่คือเหตุผลที่ชาวเน็ตแห่งเว็บไซต์ Reddit ต่างร่วมใจกันออกมาแชร์ภาพถ่ายสุดท้าย ของบุคคลอันเป็นที่รัก พร้อมเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะไม่ได้เจอกันอีก เพื่อเป็นการระลึกถึงคนรัก และความทรงจำดีๆที่เคยมีร่วมกันมา “ภาพถ่ายลูกสาวคนสวยของฉัน ก่อนที่เธอจะนอนหลับโดยไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย เธอเสพยาเกินขนาดและจากไปอย่างเดียวดาย และฉันจะไม่มีวันให้อภัยแก่ตัวเองอีกเด็ดขาด” “ผมแต่งงานเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ส่วนคนข้างหลังคือพ่อของผม 2 วันต่อมา หัวใจเค้าหยุดทำงานเฉียบพลัน” “นี่คือภาพสุดท้ายที่ฉันถ่ายกับคุณตา สองวันต่อมามะเร็งคพรากเค้าไปจากพวกเรา” “นี่อาจเป็นการใช้วันสุดท้ายร่วมกันของฉันกับพ่อที่ดีที่สุด เรานั่งดูการแข่งขันเบสบอลด้วยกัน” “ภาพสุดท้ายที่ฉันถ่ายกับพี่ชาย เขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุบนถนนในหนึ่งอาทิตย์ต่อมา” “นี่คือเพื่อนสนิทของผมตั้งแต่สมัยอนุบาล วันหนึ่งเค้าออกไปเที่ยวหาเพื่อน และไม่มีโอกาสได้กลับเข้าบ้านอีกเลย” “ภาพสุดท้ายของพวกเรากลุ่มเพื่อนสนิท หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เพื่อนผมเกิดอุบัติเหตุ ตกหน้าผา” “น้องสาวของผมจากไปด้วยอุบัติเหตุบนถนน เมื่อ 15 ปีก่อน ในวันเดียวกันนี้ นี่คือภาพถ่ายใบสุดท้ายของเธอ ตอนที่พวกเราไปตั้งแคมป์กัน” “ช่างสองคนกอดกันอยู่บนกังหันลมที่กำลังลุกเป็นไฟ และแน่นอนทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาต่อมา” …
-
เพลย์บอยตัวพ่อ!! ผู้เฒ่า 92 ปี แต่งงาน 107 ครั้ง และไม่หยุดเพราะบอกว่า ‘พระเจ้าสั่งมา’
ได้ข่าวว่าชายไทยเรานี่ขึ้นสถิติติดอันดับต้นๆของผู้ชายเจ้าชู้จากทั่วโลก ก็คงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆนั่นแหละ เพราะบ่อยครั้งเหลือเกินที่เรามักจะได้เห็นข่าวประเภทนี้บ่อยๆ จนเหมือนจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้ว แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เสือผู้หญิงลายไทยที่ว่าแน่ ก็ต้องแพ้ให้กับผู้เฒ่าวัย 92 ปีคนนี้ และทุกคนควรจะซูฮกเค้าในฐานะปรมาจารย์เพลย์บอยตัวพ่อ เพราะเค้าแต่งงานมาแล้วมากถึง 107 ครั้ง และจะยังคงแต่งงานต่อไปเรื่อยๆให้ได้มากที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า!! (โอ้ววมายยก็อดดด) โดยเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดยเว็บไซต์ OddityCentral เกี่ยวกับนาย ‘Mohammad Bello Abubakar’ คุณปู่ชาวไนจีเรีย ที่เคยผ่านภรรยามาแล้วนับร้อย และปัจจุบันยังคงหลงเหลือลูกเมียที่อาศัยอยู่กับเค้าทั้งหมด 97 คน ลูกอีก 185 คน ถึงแม้ว่ากฏของชาวมุสลิม จะจำกัดให้ผู้ชายมีภรรยาได้สูงสุดแค่ 4 คน แต่สำหรับคุณปู่แล้ว เขาเลือกที่จะไม่สนใจเสียงรอบข้าง อีกทั้งเจ้าตัวยังเชื่อว่า ผู้ชายจะมีภรรยากี่คนก็ได้ตราบใดที่เขาคนนั้นสามารถเลี้ยงดูไหว “ทั้งหมดที่ผมทำไปมันเป็นความศรัทธานะ เป็นพระประสงค์จากพระผู้เป็นเจ้า และผมจะทำต่อไปเรื่อยๆจนกว่าชีวิตจะหาไม่” เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังแนะนำหนุ่มๆทั่วโลกว่า อย่าได้เอาเป็นเยี่ยงอย่างเลย เพราะผู้ชายทั่วไปไม่ควรจะมีภรรยาเกิน 10 คน และเค้าเชื่อว่าเค้าสามารถควบคุมภรรยาทุกคนให้เชื่อฟังได้ เพราะพลังที่พระอัลเลาะห์ทรงมอบให้ แต่สิ่งที่น่าแปลกสำหรับครอบครัวนี้ก็คือ พวกเค้าหาเลี้ยงชีพกันอย่างไร? เพราะครอบครัวนี้ไม่มีรายได้เข้ามาอย่างเป็นทางการ…
-
จากฐานทัพอากาศเก่าเยอรมัน ถูกเปลี่ยนเป็นสวนน้ำเขตร้อนสุดเจ๋ง ดึงดูดคนไปเที่ยวเพียบ
ในสมัยก่อน การจะทำสงครามแต่ละประเทศจำเป็นที่จะต้องมีฐานทัพ สำหรับรองรับยุทโธปกรณ์ หรือใช้เป็นศูนย์บัญชาการ และอย่างที่เรารู้กันว่า ในช่วงสงครามโลกนั้น เยอรมันถือว่ามีบทบาทในสนามมวยโลกมากๆ มีทั้งเครื่องบิน ทั้งรถถัง เรียกได้ว่าโหดสุดๆ และเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับสงครามก็มักจะถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง บ้างก็ถูกสนิมกินจนเอาไปใช้งานต่อไม่ได้อีก แต่ที่เยอรมันนี้แตกต่างออกไป เพราะเค้าเปลี่ยนฐานทัพอากาศที่ใช้ในช่วงสงคราม ให้กลายเป็นชายหาดจำลอง เสมือนได้อยู่ในช่วงหน้าร้อนตลอดเวลา เป็นที่ชื่นชอบของชาวเมืองสุดๆ เราตามไปดูกันเลย!! ฐานทัพอากาศเก่าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Bradenburg ประเทศเยอรมัน ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเฉยๆ ไม่น่าตื่นเต้นอะไร แต่ภายในนั้นคนละเรื่องกันเลย เมื่อเข้ามาก็จะพบว่า ที่แห่งนี้คือ ‘Tropical Island Resort’ ชายหาดจำลอง เสมือนกับว่าเราได้ไปเที่ยวเกาะพักร้อนต่างประเทศจริงๆ เนื่องจากเยอรมันเป็นเมืองหนาว ข้างในโดมขนาดใหญ่แห่งนี้จึงปรับอากาศให้อุ่นขึ้นมากกว่าข้างนอก ไม่ว่าหิมะจะตกหนักขนาดไหน ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเกาะแห่งนี้ อันที่จริงโดมแห่งนี้ถูกออกแบบไว้สำหรับจอดเครื่องบินรบ ด้วยพื้นที่ขนาดกว้าง ทำให้มันกลายเป็นชายหาดรองรับคนได้จำนวนมากเช่นกัน มันใหญ่มากพอที่จะก่อให้เกิดระบบนิเวศน์ภายในได้ ด้วยขนาดความยาว 1,200 ฟุต กว้าง 700 ฟุต และสูง 350 ฟุต …
-
คุณพ่อไม่ยอมหนีจากบ้านไฟไหม้ เพื่อช่วยลูกสาวคนโต แต่จุดจบไม่แฮปปี้เอนดิ้ง…..
ถึงแม้ว่าบางครั้งจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด และไม่อยากให้เกิด อย่างเช่นไฟไหม้บ้าน แน่นอนว่าทุกคนก็จะต้องพายายามหนีเอาตัวรอด เพราะใครก็รักชีวิตตัวเองทั้งนั้น เช่นเดียวกับครอบครัว Broadhand เมื่อบ้านของพวกเขาเกิดเหตุไฟไหม้ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการวางเพลิง เหตุเกิดขึ้นในเมือง West Yorkshire ประเทศอังดฤษ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้งเหมือนทุกครั้ง เพราะฮีโร่ในชีวิตจริงไม่ได้มีพลังวิเศษเหมือนในหนัง มีแต่หัวใจเท่านั้นที่เปี่ยมล้นไปด้วยความดี ในคืนเกิดเหตุ ลูกสาวคนเล็ก Mia และภรรยา Sara สามารถหนีออกมาจากบ้านได้ทัน แต่ทว่าสามี และลูกสาวคนโตของครอบครัวยังติดอยู่ภายใน ทันทีที่คุณพ่อวัย 42 ‘Andrew’ รู้ว่า ‘Kiera’ ยังติดอยู่ข้างใน เค้าก็เลือกที่จะไม่หนี แต่เข้าไปกลางกองเพลิง เพื่อช่วยเหลือลูกสาว แต่ไม่สำเร็จ… Sara และ Mia ที่ยังรอดชีวิตมาได้ หลังจากที่ทุกคนทราบเหตุการณ์นี้ พวกเขาต่างก็ยกย่องให้คุณ ‘Andrew Broadhand’ เป็นฮีโร่ผู้กล้าหาญ ที่ไม่กลัวความตาย และกล้าเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือลูกสาว “ถึงพ่อ และพี่สาว Kiera ฉันรักพวกคุณยิ่งกว่าดวงจันทร์ และสิ่งใดในโลกหล้า และคิดถึงพวกคุณมากกว่าสิ่งอื่นใด ได้โปรดกลับมา…
-
อุ่นจัง… ลูกม้ากำพร้าติดตุ๊กตาหมีมาก แม้จะผ่านไป 3 ปี ก็นอนกอดตุ๊กตาหมีเหมือนเดิม
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ต้องการความรักความอบอุ่นกันทั้งนั้น ยิ่งเป็นสัตว์อายุน้อยๆ ยิ่งต้องการการเอาใจใส่จากพ่อแม่มันมาก เช่นเดียวกับเรื่องราวของลูกม้าตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2013 เกี่ยวกับลูกม้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Breeze ที่มีคนพบว่ามันเดินอยู๋โดดเดี่ยวตัวเดียวในอุทยานแห่งชาติ Dartmoor ในประเทศอังกฤษ ผู้พบเห็นเหตุการณ์บอกว่าก่อนที่มันจะถูกทิ้งให้เหลืออยู่ตัวเดียวนั้น มันได้พยายามเดินเข้าไปขอดูดนมจากม้าตัวอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครยอมให้มันเข้าใกล้เลย เจ้า Breeze จึงค่อยๆ ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความหิวโหย เมื่อเห็นดังนั้นจึงได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่จากสถานอนุบาลภัยสัตว์ Mare and Foal Sanctuary จากเมืองเดวอนมารับมันไปปฐมพยาบาลและให้อาหารมัน หลังจากผ่านไป 24 ชั่วโมง เจ้า Breeze ก็เริ่มมีอาการที่แข็งแรงขึ้น แต่ด้วยความที่มันยังเป็นลูกม้าอยู่ จึงต้องการความอบอุ่นเหมือนกับลูกม้าตัวอื่นๆ ทีมงานก็เลยนำตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่มาวางไว้ในคอกของมัน เพื่อให้ลูกม้าผู้น่าสงสารได้กอดและหนุนนอน ทดแทนอ้อมกอดของแม่มัน หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของเจ้า Breeze กำลังนอนกอดตุ๊กตาหมีลงในอินเตอร์เน็ต ผู้คนก็พากันคลั่งไคล้ในความน่ารักน่าเอ็นดูของมันมาก “ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลมันตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวันกลางคืน เราก็เลยเอาตุ๊กตามาเป็นเพื่อนปลอบประโลมมัน เพื่อให้มันกอดนอนได้ตอนกลางคืน” Stacy หนึ่งในทีมดูแลเจ้า Breeze เล่าผ่านคลิปวิดีโอ ปัจจุบันเวลาผ่านไปแล้ว 3 ปี เจ้า Breeze…
-
ชาวประมงพบอภิมหา “ล็อบสเตอร์” แห่งเบอร์มิวด้า อายุ 70 ปี น้ำหนัก 6 กิโลกรัม!!
โอกาสที่ชาวประมงจะสามารถจับ “ล็อบสเตอร์” วัยผู้เฒ่าที่มีขนาดใหญ่ยักษ์ได้นั้น เรียกได้ว่าแทบจะมีโอกาสน้อยมากเลยก็ว่าได้ เว้นแต่…หลังพายุเฮอร์เคนสงบลง!! และนี่คือภาพของ Tristan Loescher ชาวประมงคนหนึ่ง ที่ได้ออกไปหาปลาตามปกติในเขตเบอร์มิวดา แต่ทว่าเขากลับพบกับเจ้าล็อบสเตอร์อายุราว 70 ปี ที่มีขนาดไซส์มหึมา และมีน้ำหนักมากถึง 6 กิโลกรัมตัวนี้ได้โดยบังเอิญ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดพายุเฮอร์ริเคนนิโคล บริเวณเกาะเบอร์มิวดา ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงกว่ากระแสน้ำปกติถึง 6-8 ฟุต แถมยังมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ซึ่งหลังจากที่พายุสงบลง Loescher ก็ได้พบกับเจ้าล็อบสเตอร์ยักษ์ตัวนี้ ภาพถ่ายของล็อบสเตอร์ยักษ์ ได้ถูกนำไปโพสต์บนเฟสบุ๊คในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมมีคำบรรยายประกอบใต้ภาพอีกว่า “พายุเฮอร์ริเคนพัดสัตว์ประหลาดในทะเลมาหาเรา” หลังจากที่ภาพถูกโพสต์ในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ชาวเน็ตต่างเข้ามากดไลค์พร้อมกับกดแชร์ออกไปกว่า 6,000 ครั้ง และเมื่อ Loescher ได้ภาพถ่ายของมันเสร็จ เขาก็ปล่อยมันกลับคืนสู่มหาสมุทรดังเดิม ทางด้านผู้เชี่ยวชาญทางทะเล ได้เผยว่า ล็อบสเตอร์ยักษ์ตัวนี้ น่าจะมีอายุราวๆ 70 ปี แต่มันไม่ได้มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเขาพบมา ซึ่งล็อบสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดนั้น ถูกพบในปี 1977…
-
นักว่ายน้ำโอลิมปิกถูกช่วยชีวิตจากมะเร็ง หลังแฟนคลับเห็นสิ่งผิดปกติ จากรูปถ่ายล่าสุดของเขา
เมื่อเราพูดถึงคำว่า “ช่วยชีวิต” หลายๆ คนน่าจะนึกถึงการกระทำที่ยิ่งใหญ่ แต่บางครั้งมันก็สามารถเกิดขึ้นได้จากการกระทำที่เล็กเพียงนิดเดียวเช่นกัน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้นำเสนอเรื่องราวของนักกีฬาโอลิมปิก Mack Horton ชาวออสเตรเลียวัย 20 ปี ที่เพิ่งจะได้รับเหรียญทองมาจากงาน Rio Games 2016 ที่ผ่านมา แต่ถึงจะเป็นนักกีฬาระดับประเทศก็ตาม เขาก็ยังถูกโจมตีด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็ง และที่น่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ เขาเองไม่รู้ตัวด้วยว่าตัวเองกำลังป่วยและใกล้ถึงระดับอันตรายเข้าไปทุกทีๆ แต่โชคดีเหลือเกิน ที่หลังจากจบการแข่งขันโอลิมปิกไปได้ไม่นาน ก็มีแฟนตาดีที่นั่งชมเขาอยู่ที่บ้านสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบนร่างกายของเขา มันคือไฝจุดเล็กๆ บนหน้าอก ที่หากดูเผินๆ แล้วทุกคนคงคิดว่ามันคือไฝทั่วๆ ไป แต่แฟนกีฬารายนี้ดันจำได้ว่าเมื่อตอนปี 2012 ที่นาย Horton ไปแข่งว่ายน้ำที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไฝที่หน้าอกของเขายังไม่ใหญ่ขนาดนี้ แฟนกีฬารายนี้จึงเริ่มเอะใจ แล้วรู้ว่ามันอาจเป็นสัญญาณอันตรายแก่สุขภาพของนักกีฬา เขาจึงรีบเขียนอีเมลส่งไปยังสโมสรนักกีฬาว่ายน้ำในประเทศออสเตรเลีย เพื่อเตือนให้นาย Horton รู้ตัวแล้วรีบไปตรวจร่างกาย นี่คือภาพเมื่อปี 2012 ของนาย Horton หลังจากที่ได้รับการเตือนเขาก็รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อออก ต่อมานาย Horton ก็โพสต์ภาพของตัวเองพร้อมกับผ้าพันแผลบริเวณหน้าอก พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “ผมตะโกนออกมาเมื่อได้อ่านอีเมล์ที่มีคนส่งมาถึงแพทย์ประจำทีมว่ายน้ำของเราและบอกให้ผมไปเอาไฝนั่นออก เป็นการเตือนที่ดี…
-
24 ภาพถ่ายแนวสตรีทจากญี่ปุ่น ในมุมมองแปลกๆ อีกด้านของแดนอาทิตย์อุทัย!!
มีสถานที่ในโลกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่จะสามารถดึงดูดให้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางไปเที่ยวชมได้เหมือนกับญี่ปุ่น ในตอนกลางวันสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่จะดูสวยงามราวกับในหนังหรือซีรี่ส์ที่เราเคยดู พอตกตอนกลางคืนเองก็สวยไม่แพ้กัน เช่นตามตรอกซอกซอยของกรุงโตเกียว โอซาก้า หรือเมืองอื่นๆ จะเต็มไปด้วยแสงนีออนที่สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพยามค่ำคืนมาก แต่อย่างหลังผู้คนจะไม่ค่อยได้เห็นกัน #เหมียวฟิ้นก็เลยขอนำภาพของช่างภาพชาวญี่ปุ่น 2 คนอย่าง Masashi Wakui และนาย Takeshi Yasui ที่มีมุมมองในการถ่ายภาพที่แปลกแตกต่างกับคนอื่น จนเหมือนว่าภาพทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นในญี่ปุ่น แต่เป็นสถานที่ชวนฝันที่ไหนสักที่ หากคุณเป็นคนที่ไม่เคยเดินทางไปญี่ปุ่นมาก่อนล่ะก็ ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณอยากแพ็คกระเป๋าแล้วเดินทางไปเดือนหน้าเลยล่ะ ภาพถ่ายยามค่ำคืน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหนังเรื่อง Blade Runner . มินิมอล . . ในยามที่สัตว์ต้องหลบหิมะ ความต่างระหว่างชนชั้น เมืองแห่งร่ม . . . . . เมืองซากุระ . . ถือกันไปยาวๆ . . . . .…
-
นี่คือ 18 ภาพถ่ายที่ดูเหมือนของปลอม แต่ถ้ามองดีๆ จะเห็นว่าเป็นของจริงทั้งหมด
ในยุคที่โปรแกรม Photoshop เป็นที่แพร่หลาย บางครั้งก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันนะที่จะบอกว่าภาพไหนเป็นภาพจริง ภาพไหนเป็นภาพที่ถูกแต่งเติม ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้เห็นภาพที่สวยเกินจริง มักจะอนุมานหรือคาดเดาไปก่อนว่าภาพๆ นั้นไม่มีอยู่จริง แต่ในการถ่ายภาพจริงๆ แล้ว มันมีองค์ประกอบหลายอย่างมากที่ทำให้ภาพๆ หนึ่งออกมาดูสวยงาม เช่นมุมมอง การปรับแสง จังหวะที่ดี สถานที่ที่ดี และหากองค์ประกอบเหล่านั้นมีครบสมบูรณ์ มันก็อาจช่วยให้ภาพที่ได้สวยงามยิ่งกว่าการปรับแต่งใดๆ เสียอีก เช่นภาพที่#เหมียวฟิ้นจะพาไปชมต่อไปนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นภาพถ่ายที่เกิดขึ้นจริงทั้งนั้น ลองไปชมกันเลย 1. นี่อาจดูเหมือนภาพวาด แต่จริงๆ แล้วมันคือภาพของแม่น้ำแห่งหนึ่งในรัฐเม็กซิโก ที่กำลังเหือดแห้ง 2. บางคนอาจจะมองว่าภาพนี้ผ่านการโมเสคมาหรือเปล่า? แต่ความจริงแล้วทั้งหมดนี้เกิดจากการแข็งตัวของบ่อน้ำโดยธรรมชาติ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 2. นี่ไม่ใช่ภาพถ่ายจากภาพยนตร์เรื่องไหน แต่นี่คือถ้ำน้ำแข็งในไอซแลนด์ ที่เกิดขึ้นจากการละลายของน้ำแข็ง แล้วกลับมาจับตัวกันเป็นก้อนอีกครั้ง 3. ดูเผินๆ อาจจะเหมือนหญิงสาวคนนี้ลอยได้ แต่ความจริงเธอใส่กะโปรงที่ท่อนกลางเป็นสีดำ 4. สะพานสายรุ้งที่เห็นนี้ไม่ได้มาจากหนังเรื่อง Thor แต่เป็นผลงานศิลปะแบบจัดวางของศิลปินที่ชื่อว่า Yvette Mattern 5. หากดูแบบไม่ตั้งใจ บางคนอาจจะนึกว่าถนนเส้นนี้มี 2…
-
สาวผู้ได้รับฉายา ‘ราชินีปลากระเบน’ ว่ายน้ำถ่ายแบบกับสัตว์ทะเล จนโด่งดังไปทั่วโลก
ใต้ท้องทะเลนั้น เต็มไปด้วยสัตว์หลายชนิดทั้งที่สวยงามและสัตว์ที่เป็นอันตราย ดังนั้น เมื่อไปทะเล เราจึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย โดยเฉพาะปลาฉลามหรือแม้กระทั่งปลากระเบน แต่สำหรับ Rava Ray จากเกาะเล็กๆ ในแปซิฟิกใต้ เป็นที่รู้จักในฐานะ ‘ราชินีปลากระเบน’ เพราะเธอมักจะถ่ายรูปกับเหล่าสัตว์ใต้ท้องทะเล ที่มีความสวยงามจนทำให้เธอโด่งดังไปทั่วโลก Ray บอกว่า “การได้สัมผัสกับสัตว์ใต้ทะเล มันไม่ได้เหมือนกับที่เราดูในหนัง อย่างปลาฉลาม หรือปลากระเบน เราอาจจะไม่ว่าน่ากลัว แต่คุณอาจต้องเปลี่ยนความคิด ถ้าได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง” หลังจากที่คุ้นเคยกับสัตว์ที่เกาะนี้แล้ว เธอก็ย้ายไปที่เกาะ Hawaii เพื่อถ่ายรูปกับเต่า ฉลาม และปลาโลมา เธอยังบอกว่าอีกว่า “ฉันไม่เคยรู้สึกกังวลเมื่อต้องอยู่ใกล้กับสัตว์ทะเล และฉันก็ไม่เชื่อด้วยว่า มันมีสัญชาตญาณโหดร้ายอย่างที่คิด ที่สำคัญฉันไม่เชื่อว่ามันจะทำร้ายมนุษย์ในครั้งแรกที่เห็นด้วย” เวลาที่ลงไปถ่ายรูป จะมีช่างภาพ 3 คนที่คอยตามถ่ายรูปให้ และเป็นคนที่เธอไว้ใจที่สุด เพราะเธอจะต้องแก้ผ้าถ่ายรูปกับปลากระเบนด้วย เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม เธอเข้าหาเหล่าสัตว์เหล่านี้ด้วย การลูบตามตัวของมัน เหมือนการลูกสุนัขหรือแมว “เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ ฉันจึงเปลือยกายในหลายๆ ครั้ง ที่ลงไปว่ายน้ำกับปลากระเบน การเปลือยกายในน้ำ จะทำให้เธอเพลิดเพลินกับการว่ายน้ำมากขึ้น และยังเป็นการหลีกเลี่ยงการโฆษณาแบรนด์ชุดว่ายน้ำด้วย” …
-
ชายหนุ่มที่ ‘ไม่ชอบเลี้ยงสัตว์’ เจอท่าไม้ตายของ ‘สุนัขขนฟู’ ทั้งรักทั้งหลงจนถอนตัวไม่ขึ้น
คนเลี้ยงสัตว์ทุกคนไม่ใช่จะเป็นคนรักสัตว์เสมอไป เพราะบางครอบครัวถึงมีสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้าน ก็ใช่ว่าจะเป็นความต้องการของทุกคนในบ้าน แต่บางทีการอยู่ด้วยกันนานๆ อาจเกิดความผูกพันแบบไม่รู้ตัวก็ได้ Charles เป็นคนไม่ชอบสัตว์ตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นเมื่อครอบครัวรับเลี้ยงตัวไหนก็ตาม มันจึงต้องให้มันอยู่แต่นอกบ้าน และไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบ้าน ทำให้เขากับสุนัขแทบไม่ได้ใกล้ชิดกันเลย เขามักจะรู้สึกว่าสุนัขเป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่งเท่านั้น และรู้สึกตลกเมื่อเห็นมีใครมาแต่งตัวให้สุนัข หรือมีใครมาคุยกับมันเหมือนเด็กๆ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อ Charles เจอกับ Hogan สุนัขพันธุ์เยอรมันเชิฟเพิร์ดหนัก 27 กิโลกรัมตัวนี้ ที่ทางครอบครัวได้รับมาเลี้ยง ไม่น่าเชื่อว่า Hogan จะเป็นหมาตัวแรกที่เปลี่ยนทัศนคติของ Charles ที่มีต่อสุนัข… Hogan รัก Charles มาก และมักจะวิ่งเข้าไปทักทายเมื่อเขากลับมาจากการทำงาน และทั้งคู่ก็ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งช่วงเวลาที่วิเศษสุดๆ ก็คือเวลากินข้าว นอกจากนี้มันยังไม่หยุดแค่นี้ แต่มันพยายามทำคะแนนทุกครั้งที่มีโอากาส ทำขนาดนี้มีรึว่าพ่อหนุ่มจะไม่ใจอ่อน จนทั้งคู่กลายเป็นคนสำคัญของกันและกัน Jackie ภรรยาของ Charles บอกว่า ความผูกพันของ Hogan และ Charles ดีเกินกว่าที่คาดไว้ซะอีก ทั้งคู่มาถึงจุดที่ว่าเจ้าหมาจะไม่ยอมกินข้าว ถ้าไม่มีเจ้านายอยู่ที่นั่นด้วย จากคนที่ไม่ชอบสัตว์ กลับกลายเป็นคนป้อนข้าวให้สุนัขซะงั้น… Charles ที่ไม่เคยอยากได้สุนัขมาก่อน กลับต้องมายอมแพ้ให้กับเจ้า Hogan…
-
ล้ำไปอีกขั้น.. นักวิทย์คิดค้น ‘ยาคุมกำเนิดท่านชาย’ ที่ทำให้สเปิร์มว่ายน้ำไม่ได้!?
เป็นเวลากว่าทศวรรษที่นักวิจัยพยายามคิดค้นทางเลือกในการคุมกำเนิดหลายๆ แบบ เช่นถุงยางอนามัน การทำหมัน หรือยาคุมกำเนิดในผู้หญิง แต่ล่าสุดโลกเรากำลังจะก้าวไปอีกขั้นแล้ว เพราะเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมาเว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่านักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษประสบความสำเร็จในการค้นคว้าตัวยา เพื่อคุมกำเนิดในเพศชายได้สำเร็จแล้ว!! ตามบันทึกของศาสตราจารย์ John Howl หัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Wolverhampton University แห่งประเทศอังกฤษ ผู้คิดค้นเซลล์เจาะสารประกอบเปปไทด์ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จากโปรตุเกสได้กล่าวว่า \ มันจะทำงานโดยลักลอบเอาตัวเองเข้าไปอยุ่ในสเปิร์มและทำให้พวกมันหยุดว่ายน้ำทันที นั่นก็หมายความว่าสเปิร์มเหล่านั้นจะไม่สามารถเข้าไปผสมกับไข่ของผู้หญิงจนเกิดเป็นตัวอ่อนได้นั่นเอง ศาสตราจารย์ John ได้อธิบายถึงประสิทธิภาพของยาตัวนี้ว่า “ผลของมันเป็นที่น่าพอใจมาก และเกือบจะออกฤทธิ์ในทันทีเมื่อคุณได้รับสารตัวนี้เข้าไปในร่างกาย ภายในเวลาไม่กี่นาทีสเปิร์มก็จะไม่สามารถขยับตัวได้” ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายตัวนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการทดสอบอยู่ แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ยาตัวนี้จะสามารถวางขายได้ภายในปี 2021 แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะไว้ใจให้ผู้ชายเป็นฝ่ายกินมันเข้าไป เพราะมีการศึกษากับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย Anglia Ruskin University ในเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงยังคงไม่ปลอดภัย 100% จากยาตัวนี้ แต่ถ้ามันได้ผล ยาคุมกำเนิดผู้ชายจะมีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะกับคู่ที่ฝ่ายหญิงไม่สามารถกินยาคุมกำเนิดได้เพราะปัญหาด้านสุขภาพ หากตัวยานี้กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคู่รักที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรได้อีกเยอะเลย ที่มา metro , dailymail
-
หญิงโมโหเกรี้ยว เรียกค่าเสียหาย KFC 700 ล้านบาท เหตุให้ไก่ไม่เต็มถังเหมือนในโฆษณา!?
อันการโฆษณาสินค้าประเภทอาหารนั้น มักจะมีตัวอักษรน้อยๆ แปะไว้ให้คนได้อ่านกันประมาณว่า ‘ภาพนี้ตกแต่งเพื่อการโฆษณา’ หรือ ‘สินค้าอาจแตกต่างจากโฆษณา’ อะไรทำนองนี้ ซึ่งนั่นก็เป็นการป้องกันด่านแรกของผู้จำหน่ายเอง เพราะฉะนั้นแล้วในโลกแห่งความเป็นจริง เราก็ต้องยอมรับข้อตกลงกันไป ว่าสินค้าจริงๆ อาจจะไม่เหมือนในโฆษณาซะทีเดียว จะให้ไปฟ้องศาลเรียกร้องความเป็นธรรมก็เกรงจะเสียทั้งเงินทั้งเวลา แต่ทว่าในต่างประเทศ หรือบางคนนั้นก็จริงจังกับเรื่องนี้มาก.. เพราะในกรณีของ Anna Wurtzburger จากนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการเรียกร้องค่าเสียหายจากร้านไก่ทอด KFC เป็นมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท (20 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) อันเนื่องมาจากจำนวนไก่ในถังที่สั่งมานั้นได้มาเพียงแค่ครึ่งถัง ได้เป็นไก่ชิ้นเล็กๆ ไม่เต็มถังเหมือนกับในรูปโฆษณา เธอกล่าวกับ New York Post ว่า ‘ฉันสั่งไก่ขนาดสำหรับครอบครัว ในโฆษณานั้นไก่ล้นถังเลยนะ แต่ที่ได้มาจริงๆ มีแค่ครึ่งถัง นี่มันโฆษณาหลอกลวงชัดๆ ให้กินทั้งครอบครัวไม่อิ่มแน่นอน เพราะได้ชิ้นเล็กมากกกก’ ตัวอย่างภาพโฆษณาชุดไก่ทอด ที่มีไก่ล้นออกมาจากถัง จากเรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ เธอบ่นไปถึงสำนักงานใหญ่ของ KFC ในรัฐจอร์เจีย และได้รับคำตอบที่ทำให้เธอหัวร้อนยิ่งกว่าเดิมนั่นก็คือ ‘เพื่อให้คนทั่วไปมองเห็นภาพไก่ได้ชัดๆ‘ แม้ทาง KFC…
-
อุทาหรณ์ใส่ชุดตัวตลกเดินแกล้งชาวบ้าน โดนไล่เข้าป่า เหยียบกับระเบิดเสียชีวิต..
ช่วงที่ผ่านมาไม่นานนั้น มีข่าวของกลุ่มบุคคลใส่ชุดตัวตลกพร้อมกับพฤติกรรมน่ากลัวๆ ออกอาละวาดไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา จนทำให้หลายคนรู้สึกหวาดผวากันมาแล้ว อีกทั้งยังกลายมาเป็นกระแสที่ลุกลามไปยังไปประเทศอื่นๆ อีกด้วย และล่าสุดนี้สื่อนอกมีรายงานเกี่ยวกับกรณีนี้ในประเทศกัมพูชา เมื่อมีนักศึกษาอายุประมาณ 25 ปี ที่ไปเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกาเพื่อกลับมาเยี่ยมญาติภายในประเทศ ได้ทำการสวมชุดตัวตลก เดินหลอกชาวบ้านในเขตเมืองสำโรง ประเทศกัมพูชา ภาพบุคคลในชุดตัวตลกประกอบเนื้อหา ทำให้ชาวบ้านต่างรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นที่เชื่อว่าเป็นวิญญาณทูตผีร้าย อย่างไรก็ตามชาวบ้านก็ได้ทำการไล่ตัวตลกเข้าไปในป่าลึกที่เต็มไปด้วยกับระเบิด และภายหลังก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จากแรงระเบิดทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเขาเป็นใคร เป็นที่รู้กันว่าบางพื้นที่ของประเทศกัมพูชายังเต็มไปด้วยกับระเบิด และชาวบ้านย่อมรู้ดีว่าบริเวณไหนที่พวกเขาไม่ควรเข้าไป แต่นั่นไม่ใช่ที่สิ่งที่คนนอกรู้ ทางด้าน Times of Cambodia รายงานไว้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าชาวบ้านแห่กันออกมาจากบ้าน และไล่ล่าชายคนที่สวมชุดตัวตลกนั้น พวกเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้าย แต่ต้องการรู้ว่าเป็นใคร และอยากให้มาขอโทษชาวบ้านที่ถูกเขาหลอกก็เท่านั้น แต่เมื่อเห็นว่าเขาวิ่งเข้าไปในป่าที่เต็มไปด้วยกับระเบิด ชาวบ้านก็หยุดไล่ตาม พร้อมกับตะโกนเตือนว่ามีกับระเบิดอยู่ภายในนั้นให้เขาได้ยิน แต่ทว่าเขาไม่หยุดวิ่งหนี จนในที่สุดแล้วเสียงที่ทุกคนไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้นมา กับระเบิดที่หลงเหลืออยู่ในประเทศกัมพูชาจำนวนมากมายนั้น เป็นผลพวงมาจากสงครามกว่า 3 ทศวรรษ ที่ไม่อาจกำจัดออกไปได้ง่ายๆ อีกทั้งยังส่งผลทำให้มีผู้พิการแขนขามากถึง 40,000 ราย นับว่าเป็นอัตราที่สูงมากๆ …
-
ยอดคุณพ่อ!! เปลี่ยนภาพวาดตลกๆ ที่ลูกวัย 6 ขวบวาด ให้กลายเป็นสิ่งของที่สมจริง…เอิ่ม
เด็กๆ ในช่วง 5-7 ขวบเป็นวัยที่กำลังซนเลยล่ะนะ พวกเขาจะเรียนรู้แล้วก็ชอบขีดเขียนข้อความหรือภาพต่างๆ (หากบ้านใครมีกำแพงขาวๆ ล่ะก็น่าจะทราบกันดี) แต่จะเป็นยังไงหากภาพวาดบิดๆ เบี้ยวๆ ของพวกเขาจะกลายเป็นสิ่งของที่ดูสมจริงขึ้นมา? เรื่องที่#เหมียวฟิ้นกำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นผลงานภาพวาดของหนูน้อย Dom วัย 6 ขวบ ที่ชื่นชอบการวาดภาพไม่ต่างอะไรจากเด็กคนอื่นๆ แต่ที่พิเศษกว่าหน่อยก็คือ พ่อของเขามีความสามารถในการ Photoshop พอตัว เขาเลยเกิดไอเดียแปลกๆ อย่างการหยิบเอาภาพของลูกชายมาเปลี่ยนให้กลายเป็นสัตว์ สิ่งของ ยานพาหนะที่ดูสมจริง แล้วเผยแพร่มันลงในอินสตาแกรม เราลองมาเดากันเล่นๆ ดีกว่าว่าแต่ละตัวคืออะไร? ดูคล้ายช้าง กลายเป็นแบบนี้… เหมือนแมลงหรือหนอนอะไรสักอย่าง เอ่ออออ ใกล้เคียงที่สุดก็น่าจะเป็นม้า ใช่จริงๆ ด้วย… นี่ยีราฟแน่ๆ ใช่แน่ๆ!! โว้ยยยยย ดูคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นนก… นกก็นกฟระ!! จักรยาน นี่ก็คือจักรยาน… เหมือรรถยนต์…
-
‘กระรอกแดง’ ได้รับการช่วยเหลือ มนุษย์เลี้ยงเหมือนลูก กลายเป็นเซเล็บแฟนคลับเพียบ
โดยปกติแล้ว กระรอกแดงมักจะถูกรังแกโดยเหล่ากระรอกสีเทา แต่ดูเหมือนเจ้ากระรอกแดงน้อยตัวนี้ ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมารังแก Declan Andersen วัย 37 ปี อาศัยอยู่ในประเทศเดนมาร์ก ได้พบกับกระรอกแดงขณะที่มันกำลังได้รับบาดเจ็บอยู่ที่สวนหลังบ้าน เขาจึงช่วยมันด้วยการพาไปหาสัตวแพทย์ในโรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้เคียง ตั้งแต่นั้นมา Declan ก็รับกระรอกตัวนั้นมาเลี้ยงและตั้งชื่อให้มันว่า Tintin และเลี้ยงดูมา 2 ปีแล้ว ซึ่งถูกเลี้ยงเหมือนลูกชายคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ Declan บอกว่า “มิตรภาพของเราเหมือนพ่อกับลูกเลยครับ” ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาก็จะพามันไปด้วยทุกที่ Tintin เองก็รู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับเจ้าของ เพราะรอบๆ ตัวมันนั้น เต็มไปด้วยสุนัข เหยี่ยว และสัตว์อื่นๆ อีกมากมายที่จ้องจะเขมือบมันทุกเมื่อ พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันในทุกๆ วัน ตื่นเช้ามา Declan จะชงกาแฟกินสักแก้ว แล้วก็ส่งลูกสาววัย 11 ขวบไปโรงเรียน จากนั้นก็ออกไปเดินเล่นกับ Tintin ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ช่วงกลางวัน ก็จะพากันงีบหลับ พอตื่นขึ้นมา ก็ออกไปเดินเล่นอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง เช่นเดิม …
-
จีนเปิดตัว ‘บันไดเลื่อน’ ยาวที่สุดในโลก 680 เมตร ให้ชมความงามธรรมชาติแบบไม่เมื่อยขา!!
ต้องขอบอกเลยว่าช่วงนี้พี่จีนของเรานี่ท็อปฟอร์มซะจริง โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างสิ่งก่อสร้างเพื่อทำลายสถิติโลก เมื่อช่วงก่อนก็เพิ่งสร้างลิฟต์ที่มีความสูงมากที่สุดในโลก ไป และเมื่อล่าสุดก็เพิ่งเปิดตัวบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลกไปอีก และนี่ก็คือบันไดเลื่อนแบบเปิดที่มีความยาวมากที่สุดในโลก ที่พี่จีนของเราเพิ่งจะเปิดให้บริการไปเมื่อไม่นานนี้เอง โดยเจ้าบันไดเลื่อนนี้ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Enshi Grand Canyon ในมณฑลหูเป่ย บันไดเลื่อนแห่งนี้ทางการของจีนใช้ทุนสร้างไปมากมายกว่า 184 ล้านบาท มีความยาวมากถึง 680 เมตรเลยทีเดียว โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถจุนักท่องเที่ยวได้มากถึง 7,300 คนใน 1 ชั่วโมง และ 600,000 คนต่อปี ซึ่งก่อนหน้านั้นที่อุทยานแห่งชาติ Enshi Grand Canyon ได้ใช้บันไดทางเดินธรรมดาๆ ทำให้กว่าจะเดินทางเที่ยวชมความงดงามทางธรรมชาติจากต้นทางสู่ปลายทางด้านบนนั้นต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่พอบันไดเลื่อนสำเร็จนักท่องเที่ยวจะใช้เวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น แถมยังเป็นบันไดเลื่อนแบบเปิดอีกต่างหาก ทำให้ทุกคนสามารถชมธรรมชาติที่แสนงดงามระหว่างทางได้อย่างเต็มที่โดยไม่เมื่อยขาอีกต่อไป… ค่าใช้จ่ายในการใช้บริการบันไดเลื่อนแห่งนี้จะอยู่ที่ประมาณ 100 บาท ต่อคนเท่านั้น ไม่แพงเลยใช่มั้ยล่ะ?? โดยคอนเซ็ปต์ของเจ้าบันไดเลื่อนนี้ทางสถาปนิคที่เป็นคนออกแบบได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “การออกแบบทั้งหมดนั้นมีเป้าหมายไว้ว่าจะมุ่งเน้นไปที่การอนุรักษ์ระบบนิเวศ จึงได้ใช้ไม้เป็นโครงส้รางหลัก และใช้กระเบื้องสีเทาในการให้ร่มเงา” ทางโฆษกของ Enshi…
-
ที่นี่รัสเซีย!! ศาลตัดสินให้อดีตคู่รักแบ่งทรัพย์สินคนละครึ่ง ด้วยการ ‘ก่อกำแพง’ ขึ้นกลางบ้าน!?
ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าฉายา ‘โหดสึสรัสเซีย’ นั้นไม่ได้มาง่ายๆ เพราะว่าชาวรัสเซียนั้นเขามักจะทำอะไรที่มันโหดสึสซะจริงๆ อย่างเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้ คุณ Margarita Tsvitnenko หญิงชาวรัสเซียวัย 45 ปี เพิ่งจะทำการหย่าร้างกับสามีกันไปหมาดๆ ศาลจึงตัดสินให้ทั้งคู่แยกทรัพย์สมบัติออกเป็นสองส่วนและแบ่งกันอย่างละครึ่ง รวมไปถึงแมนชั่นสุดหรูมูลค่า 85 ล้านบ้านด้วย ซึ่งตามวิธีปกติธรรมดาก็คือเราจะต้องเอาไปขายและนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน หรือถ้าไม่อยากขายบ้านก็ต้องให้ฝ่ายที่เก็บบ้านไว้หาเงินมาทดแทน แต่ศาลที่นี่กลับใช้วิธีที่โหดสึสรัสเซีย โดยให้เจ้าหน้าที่เอาอิฐมาก่อแบ่งเขตกันกลางบ้านเท่านั้นเอง!!? หลังจากสิ้นสุดการตัดสินไม่นาน เจ้าหน้าที่จากศาลก็เข้ามาพร้อมกับเทปูนก่ออิฐกั้นที่กลางบ้าน และปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือส่วนของบันไดที่มีอยู่เพียงที่เดียวในบ้านนั้นดันไปอยู่ในฟากที่เป็นของสามี นั่นทำให้เธอและลูกๆ ไม่สามารถเดินขึ้นไปใช้งานห้องข้างบนได้เลย ด้วยความอัดอั้นตันใจก็เลยโพสต์เรื่องราวลงบนโซเชียลมีเดีย เธอเล่าว่า “จู่ๆ มาวันหนึ่ง Sergey (อดีตสามี) ก็มาบอกว่าเขาจะทิ้งฉันไป ก่อนหน้านั้นเรามีปัญหากันเพราะเหมือนว่าธุรกิจของเขากำลังมีปัญหา” “ฉันพยายามปฏิเสธเขาเพราะว่าฉันรักเขา และก็คิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีหากลูกๆ ต้องอยู่โดยที่พ่อแม่แยกจากกัน” “แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งฉันไปอยู่ดี เพื่อไปหาสิ่งที่ดีกว่า และฟ้องหย่ากับฉัน” ศาลได้ตัดสินให้ทั้งคู่แยกทางกันและแบ่งทรัพย์สินกันคนละครึ่ง รวมไปถึงแมนชั่นสุดหรูที่ตั้งอยู่ในเมือง Moscow ด้วย พนักงานของศาลได้เดินทางมายังแมนชั่นของพวกเขาแล้วก็จัดแจงแบ่งพื้นที่กันเรียบร้อย จากนั้นก็ลงมือจัดการก่อกำแพงขึ้นมาซึ่งบันไดที่มีเพียงที่เดียวในบ้านนั้นดันไปอยู่ในฝั่งของอดีตสามีเธอทั้งหมด อันที่จริงแล้วศาลก็ได้บอกว่าให้เธอสร้างบันไดในฝั่งของตัวเองแล้วแต่ คุณ…
-
หญิงสาวเข้าใจผิดว่า ‘Richard Gere’ เป็นคนไร้บ้าน ก็เลยเอาพิซซ่าไปให้ด้วยความสงสาร
ว่ากันว่า ‘การช่วยเหลือ’ นั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้โลกของเราสดใสขึ้นมาทันตา เพราะนอกจากคนที่ได้ช่วยหรือคนที่ช่วยจะได้รับความสุขแล้ว แต่คนอื่นๆ ที่ได้รับรู้เรื่องราวเองก็มีความสุขและมีความรู้สึกที่อยากจะช่วยต่อๆ ไปด้วยเช่นกัน… ย้อนกลับไป เคยมีเรื่องราวสุดน่ารักเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้เข้าใจผิดเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่ง ด้วยความสงสารเธอก็เลยตัดสินใจที่จะมอบพิซซ่าให้ 1 ชิ้น ซึ่งจริงๆ แล้วชายไร้บ้านคนนั้นก็คือนักแสดง Richard Gere กำลังถ่ายทำหนังอยู่นั่นเอง ฮร่า เรื่องมีอยู่ว่าสาวชาวฝรั่งเศสชื่อว่า Karine Gombeau ที่ได้ไปเที่ยวที่ New York ในช่วงวันหยุด ขณะที่เธอและลูกชายวัย 15 ปี กำลังออกไปเดินเล่นในเมืองอยู่นั้นจู่ๆ ก็เห็นว่ามีชายคนหนึ่งท่าทางน่าสงสารกำลังขุดคุ้ยถังขยะอยู่ที่ข้างถนน พอเห็นดังนั้นก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นคนไร้บ้าน เธอและลูกชายก็รีบเดินเข้าไปหาชายคนนั้นพร้อมกับเอาพิซซ่าที่เธอเพิ่งซื้อมาจากร้านมอบให้เขา 1 ชิ้น “เขาถามว่า ‘อะไรอยู่ในถุงนี้น่ะ’ แล้วฉันก็พยายามที่จะตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ฉันดันตอบกลับไปเป็นภาษาฝรั่งเศษปนกับภาษาอังกฤษซะงั้น บอกเขาไปว่า ‘ขอโทษนะแต่พิซซ่ามันน่าจะเย็นแล้วล่ะ’ แล้วเขาก็ตอบกลับมาว่า ‘ขอบคุณมาก ขอให้พระเจ้าคุ้มครองนะ’” คุณ Gombeau เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น คุณ Gombeau…
-
พ่อถูกตำรวจรวบ หลังพาลูกสาวออกไป ‘ทิ้งไว้นอกบ้าน’ ตอนกลางคืน เพื่อตัวเองได้แอบไปเสพยา
คำกล่าวที่ว่า “พ่อแม่ทุกคนรักลูก” ดูจะขัดกับความเป็นจริงอยู่สักหน่อยนะ เพราะในสังคมทั่วไปแล้ว มีทั้งพ่อแม่ที่รัก ดูแลเอาใจใส่ห่วงใยลูก และพ่อแม่ที่ไม่ใยดีไม่สนว่าลูกของตัวเองจะเป็นตายร้ายดียังไงเหมือนกัน เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่น่าตกใจคลิปหนึ่งของนาย Adrian Justin Sanchez วัย 41 ปีจากรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทิ้งลูกสาวตัวน้อยไว้ที่ด้านนอกอาคารของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวจัด ชมคลิปได้ที่นี่ ตามรายงานบอกว่านาย Justin ได้พา Acelynn ลูกสาววัย 5 ขวบ ออกมาเดินแถวๆ หน้าวิทยาลัย Ogden Weber Applied Technology College ในเมืองอ็อกเดน รัฐยูทาห์ ในช่วงเวลาประมาณตี 5 จากนั้นเขาก็ทำท่าเหมือนมองหาอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินหนีลูกสาวไป ปล่อยให้เธออยู่อยู่ท่ามกลางอากาศอุณหภูมิ 3.8 องศา พร้อมกับเสื้อกันหนาวและผ้าห่มผืนเล็กๆ จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าหนูน้อย Acelynn เอาแต่เดินไปเดินมา บางครั้งก็หยุดลงนอนกับพื้นบ้าง จนเธอทนไม่ไหวร้องไห้อยู่คนเดียวท่ามกลางความหนาวเหน็บ ต่อมาในเวลา…
-
หญิงสาวบังเอิญเซลฟี่ใน ‘ห้องน้ำ’ ของหนุ่มที่ไม่เคยรู้จัก ชาวเน็ตร่วมเชียร์ให้เป็นแฟน
สำหรับคนโสดแล้ว การจะหาแฟนสักคนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บางคนต้องใช้แผนมากมายเพื่อให้ใจคนที่แอบรัก ในขณะที่บางคนรอแล้วรออีกก็ไม่มีแฟนสักที แต่กับบางคน ความบังเอิญอาจทำให้พวกเขาได้มาเป็แฟนกันได้ เหมือน Kowalczyk ที่บังเอิญเจอภาพของ Zagrodniczek ที่ถ่ายในห้องน้ำของเขา ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และแล้วเส้นทางความรักจึงได้เริ่มต้นขึ้น… Mark Kowalczyk วัย 19 ปี จากมหาวิทยาลัย West Virginia University และนี่คือ Jenna Zagrodniczek วัย 19 ปี กำลังเรียนที่มหาวิทยาลัย West Virginia University เช่นกัน เมื่อไม่นานนี้ ทั้งคู่ได้แชร์รูปภาพในสถานที่เดียวกัน ทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน สถานที่ที่ว่านี้คือ ห้องน้ำของ Kowalczyk มันจึงเป็นเรื่องแปลกสำหรับเขามาก ที่อยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงแปลกหน้ามาถ่ายรูปให้ห้องเขา Kowalczyk มั่นใจว่านี่เป็นห้องน้ำของตัวเอง เพราะที่มุมซ้ายด้านล่างมีกองเสื้อผ้า ที่รูมเมทของเขามักจะทิ้งไว้ในนั้น ทั้งแปลกใจและอยากรู้ด้วยว่าเธอคือใคร ว่าแล้ว Kowalczyk ก็นำรูปหญิงสาวกับรูปตัวเองในมุมเดียวกัน แชร์ลงในทวิตเตอร์ โดยแคปชั่นว่า ผมไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อนแต่ภาพนี้ถ่ายในห้องน้ำของผม เรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก…
-
12 อุปกรณ์ที่ ‘นักโทษ’ ในคุกทำขึ้นมา หยิบของใกล้ตัว มาสร้างสรรค์ได้ขนาดนี้เลย!!
การขังนักโทษไว้ในเรือนจำนั้น แน่นอนว่าต้องไม่ให้นักโทษเอาอะไรติดตัว หรือถ้าจะเอาของนั้นต้องไม่เป็นอันตรายและต้องได้รับการตรวจสอบเป็นอย่าง เพื่อไม่ให้นักโทษเอาไปทำเป็นอาวุธทำร้ายคนอื่น หรือหลบหนีได้ แต่ถึงแม้ว่าถูกห้ามและมีการตรวจอย่างเข้มงวด ก็ยังมีนักโทษที่แอบทำอาวุธขึ้นมาเอง ซึ่งแสดงให้เห็นความคิดสร้างสรรค์าอย่างเหลือเชื่อ เพราะพวกเขาได้สร้างอุปกรณ์เป็นชิ้นเป็นอัน ทั้งๆ ที่ไม่มีเครื่องมือใดๆ เลย โดยเฉพาะในประเทศเยอรมันนี ที่ดูเหมือนผู้คนจะมีฝีมือด้านงานช่างเป็นพิเศษ ไม่เว้นแม้กระทั่งนักโทษ… 1. ผู้ต้องขังจากเยอรมัน ทำปืนลูกซองนี้จากขาเตียง เหล็กและตะกั่วจากเทปติดผ้าม่าน และจุดปืนนี้ด้วยแบตเตอรี่ขนาด AA กับเศษหลอดไฟที่แตก 2. เชือกนี้มีความยาว 16 เมตร ซึ่งทำจากผ้าขนหนูเช็ดจาน นักโทษพยายามจะใช้เชือกนี้เพื่อหลบหนีจากคุกชั้น 6 3. เป็นอุปกรณ์ที่นักโทษในเรือนจำเยอรมนี ทำขึ้นมาเพื่อกลั่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เอาเข้าไป 4. นักโทษ 2 คนจากคุก Hamburg ใช้ที่วางหนังสือมาทำเป็นบันไดเพื่อที่จะใช้หลบหนี 5. อุปกรณ์ที่ทำจากหนังและเชือก ที่ทำให้นักโทษ 2 คนจากคุก Ludwigsburg ในเยอรมนี หลบหนีไปได้ โดยใช้ตะขอนี้เกี่ยวไว้กับกำแพง 6. สนับมือที่ทำขึ้นเองจาก ตะไบ ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกขโมยมาจากโรงงานนักโทษในปี 1993 …
-
เพื่อนบ้าน ร่วมจัดงานคริสมาสต์ล่วงหน้า ให้ ‘คุณยายป่วยมะเร็ง’ เพราะเธออาจอยู่ไม่ถึงคริสมาสต์ปีนี้
ปกติแล้วเทศกาลคริสมาสต์จะจัดในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองการมาเกิดของพระเจ้าในศาสนาคริสต์ ผู้คนจะพากันตกแต่งบ้านหรือที่ทำงานเกือบตลอดทั้งเดือน แต่เมืองคองคอร์ด รัฐแคโรไลนา ได้เริ่มตกแต่งบ้านของตัวเองตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ ทั้งๆ ที่กำลังจะเข้าสู่เทศกาลฮาโลวีนอยู่ แต่ทุกอย่างถูกจัดขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว สาเหตุที่ต้องจัดก่อนเวลาเพราะ วันคริสมาสต์เป็นเทศกาลโปรดของ Michelle Fadel หนึ่งในชาวเมืองนี้ ที่กำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะที่สี่ ซึ่งเธอเป็นมะเร็งเต้านมมาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว ที่ผ่านมาเธอเคยผ่าตัด ทำเคมีบำบัด จนหายเป็นปกติ แต่แล้วสามปีต่อมา โรคมะเร็งก็กลับมาอีกและลามไปทั่วปอด กระดูกและสมองของเธอ Fadel รู้ดีว่าเธออาจจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงเทศกาลคริสมาสต์ที่จะมาถึงในปีนี้ ซึ่งเป็นเทศกาลที่เธอชื่นชอบมากที่สุด เธอบอกว่า “ฉันชอบเทศกาลคริสมาสต์เพราะมันทำให้ครอบครัวได้มาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา และทุกคนก็มีความสุขในวันนี้” ด้วยเหตุผลนี้ ครอบครัวจึงตัดสินใจจัดคริสมาสต์ให้เธอ ก่อนเวลาจริง เพื่อให้เธอได้มีความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิต Fadel เองก็ไม่ต้องการที่จะพลาดเทศกาลสำคัญนี้เช่นกัน Fadel บอกว่า “ฉันชอบเวลาได้อยู่กับลูกหลานของฉัน รวมทั้งสามีด้วย” เพื่อบ้านที่เห็นครอบครัวนี้ตกแต่งบ้านด้วยธีมคริสมาสต์ต่างก็แปลกใจ เพราะนี่มันเทศกาลฮาโลวีน แล้วทำไมจัดคริสมาสต์ล่ะ? สามีของ Fadel จึงบอกพวกเขาว่า ภรรยาของเขาอาจจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงวันคริสมาสต์แล้วก็ได้ และไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาจึงจัดให้ก่อนกำหนด เมื่อเพื่อนบ้านรู้เรื่องนี้ มีบ้านประมาณ 15…
-
10 วัตถุที่มีคุณสมบัติสุดเจ๋งทางวิทยาศาตร์ เปิดหูเปิดตา ให้เราเห็นอะไรใหม่ๆ มากขึ้น
บางทีนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ต่างจากนักมายากล เพราะมักจะมีการทดลองในสิ่งที่ท้าทายกฏฟิสิกส์ ยากต่อการอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนรูปทรงของวัตถุตามสภาพอากาศ การเปลี่ยนก๊าซเป็นโลหะหนัก หรือแม้จะกระทั่งการทำให้วัตถุแข็งตัวในอุณภูมิสูง เช่นเดียวกับการทดทองทั้ง 10 เหตุการณ์นี้ ช่วยเปิดหูเปิดตาให้เราสนุกกับอะไรที่เป็นวิทยาศาสตร์ได้อย่างมากเลย… 1. วัตถุที่น้ำเข้าไม่ได้ นี่เป็นวัตถุที่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถป้องกันไม่ได้น้ำเข้าได้รวมทั้งของเหลวอื่นๆ หรือสิ่งสกปรก วัตถุนี้สร้างขึ้นบนพื้นฐานของอนุภาคนาโนของซิลิคอนไดออกไซด์และไทเทเนียม การทดลองนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสิ่งของในชีวิตประจำวันของเราได้ หากเราไม่อยากให้สิ่งเหล่านั้นโดนของเหลว เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ผ้าปูโต๊ะ วัสดุก่อสร้าง และแม้กระทั่งการทำความสะอาดมหาสมุทร 2. ก๊าซที่ทำให้วัตถุลอยได้ ราวกับเป็นน้ำ Sulfur Hexafluoride หรือก๊าซ SF6 มีความหนาแน่นมากกว่าอากาศ 5 เท่า เมื่อนำวัตถุลอยอยู่ทำให้มันไม่จม ก๊าซนี้มียังความสามารถเปลี่ยนเสียงของคุณให้เหมือน Darth Vader หากกลืนลงไปเพียงอึกเดียว 3. โลหะที่ละลายในมือ ปกติเราเคยเห็นการละลายโลหะแค่ในห้องทดลองฟิสิกส์เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมีโลหะบางชนิดที่สามารถละได้ในอุณภูมิห้อง และไม่ใช่เพียงเท่านั้น วัสดุที่ทำจากแกลเลียมสามารถละลายในน้ำร้อนอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทันเลยทีเดียว ถ้าอลูมิเนียมสัมผัสกับแกลเลียมมันจะกลายเป็นสิ่งของที่กรอบ ซึ่งอัลลอยแกลเลียมมักจะถูกนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยี 4. ผงระเบิด ไนโตรเจน ไอโอไดด์ และ Fulminating…
-
เพราะความหิว ‘หนูจรจัด’ เอาหัวมุดรูถังขยะ แต่ดึงออกไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาช่วย
เป็นปกติอยู่แล้วที่หนูชอบหากินตามถังขยะ เพราะนั่นอาจเป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดของพวกมัน เรียกได้ว่า หิวเมื่อไรก็มา ดังนั้น การเห็นหนูตามถังขยะจึงกลายเป็นภาพชินตาสำหรับมนุษย์ไปซะแล้ว แต่มีหนูตัวหนึ่งในเขตบรุกลิน ในนครนิวยอร์ก ที่หากินในขยะเหมือนกัน แต่ก็ไม่รู้ไปทำท่าไหน ทำให้หัวตัวเองไปติดอยู่ในก้นถึงขยะจนดึงออกไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้ามาให้การช่วยเหลือ อาจจะเป็นเพราะความหิวจัด มันเลยวิ่งไปรอบๆ ถังขยะเพื่อหาอาหาร แต่แล้วก็ไปเจอกับรูที่ก้นถัง คงคิดว่าต้องมีอาหารซ่อนอยู่แน่ๆ จึงมุดหัวเข้า แต่กลับไม่เจออะไรเลย ว่าแล้วก็จะดึงหัวออก แต่ดึงเท่าไรก็ไม่ออก… จนกระทั่งมีคนมาเจอเข้า ช่างภาพ Lucas Jackson จึงได้เก็บภาพเหตุการณ์ของหนูตัวนี้ขณะที่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ น้องหมาก็มาให้กำลังใจนะ เอ้าาา ตอนมุดทำไมง่ายจัง แต่พอจะออกเท่าไหน มันยากจังแฮะ ดีนะ มีคนมาเห็นซะก่อน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วย ถ้าไม่มีคนมาเห็น คงได้คาในสภาพแบบนี้อีกนานแน่ แหม่ คงจะหิวมากจนลืมคิดไปว่า รูนี้อาจจะเล็กเกินไปสำหรับหัวมันก็ได้ แต่สงสัยจังว่าทำไมตอนมุดมันลื่นปื๊ดๆ? ที่มา designyoutrust
-
เด็กๆ ซีเรีย ถือภาพ ‘The Avengers’ ขอความช่วยเหลือจากฮีโร่ ที่ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษ
ที่ผ่านมาเราคงได้ยินได้ติดตามเรื่องราวของสงครามในประเทศซีเรียมาแล้ว ที่ก่อให้เกิดความสูญมากมาย โดยเฉพาะภาพเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ แน่นอนว่าพวกเขากำลังรอใครสักคนที่จะมาช่วยให้หลุดพ้นจากสถานการณ์เช่นนี้ ล่าสุด Revolutionary Forces of Syria (RFS) ได้จัดทำแคมเปญเพื่อเป็นการสะท้อนให้โลกได้เห็นถึงชะตากรรมของเด็กซีเรีย ภายใต้ชื่อ #AvengersInAleppo แคมเปญนี้เป็นการแสดงให้เห็นเหล่าเด็กๆ ซีเรียที่ถือภาพของเหล่า ซุปเปอร์ฮีโร่ที่พวกเขาเคยดูมาจากภาพยนต์ เพื่อรอคอยให้พวกเขามาช่วย แคมเปญ ‘Avengers in Aleppo’ กำลังจะบอกผู้คนทั่วโลกว่า ทุกวันนี้พวกเขามีชีวิตอยู่ได้เพราะคนภายนอก และหากคุณเพิกเฉยต่อคำขอเด็กๆ เหล่านี้ ก็เท่ากับคุณกำลังฆ่าเขาทางอ้อม องค์กร RFS พยายามจะช่วยเหลือเด็กซีเซียทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ จากที่ผ่านมาก็มีเคมเปญลักษณะนี้ ตอนที่เกมโปเกมอนโด่งดัง องค์กรได้ใช้โอกาสนั้นทำให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นว่าในขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินกับเกม ยังมีเด็กกลุ่มหนึ่งที่อยากคุณสละเวลานั้นสักนิดเพื่อช่วยต่อชีวิตให้พวกเขา ปีนี้เป็นปีที่ห้าแล้วสำหรับสงครามซีเรีย ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปนับล้าน และมีผู้คนอพยพออกจากประเทศมากมาย โดยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลยุโรป แต่การเดินทางอพยพก็ทำให้ประชาชนเสียชีวิตนับหมื่นคน เพราะเส้นทางที่ยากลำบาก และต้องเจอกับอันตรายต่างๆ ระหว่างเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ร้ายกว่านั้นคือ บางประเทศยังไม่ต้อนรับพวกเขาอีก เด็กบางคนเกิดมาก็เจอกับภาวะสงครามทันที โดยที่ยังไม่เคยเห็นโลกที่ปราศจากสงครามด้วยซ้ำ ดังนั้น จึงมีองค์กรต่างๆ ที่พยายามยื่นมือเข้าไปช่วย แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยงมากแค่ไหน…
-
Nelson เม่นน้อยไร้หนาม ที่ต้องได้รับการนวดทุกวัน เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย
โดยปกติแล้วเม่นจะมีหนามที่แหลมคมอยู่ประมาณ 500 เส้น เพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายรอบด้าน และยังเป็นการให้ความอบอุ่นกับตัวเองด้วย แต่เม่นที่ชื่อ Nelson กลับไม่มีอะไรห่อหุ้มตัวมันเลย มันจึงต้องอยู่แต่ในห้องที่อุณหภูมิสูงและต้องได้รับการนวดทุกวันโดยเหล่าอาสาสมัครจาก Foxy Lodge Wildlife Rescue ความผิดปกติของ Nelson มาจากความบกพร่องทางพันธุกรรม จึงต้องได้รับการรักษาโดยขัดผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและการนวดน้ำมัน Nelson ได้รับการดูแลอย่างดี และเจ้าหน้าที่ของ Foxy Lodge Wildlife Rescue ก็พยายามช่วยให้มันมีหนามงอกขึ้น เพื่อที่จะปล่อยให้มันกลับส่ป่าได้ แต่หากทำแล้วหนามยังไม่ขึ้น พวกเขาก็จะดูแลมันต่อไปที่นี่ เพราะมันดูแลตัวเองไม่ได้ หากไม่มีหนาม Tonia Gardner ผู้ที่คอยดูแล Nelson มาตลอด และจะไม่ปล่อยมันกลับสู่ป่า จนกว่าหนามจะขึ้นเหมือนเม่นปกติ Nelson ไม่ใช่เม่นไร้หนามตัวแรกที่ศูนย์ Foxy Lodge Wildlife Rescue ให้การช่วยเหลือ เพราะในปี 2009 ก็มีเม่นที่ชื่อ Baldrick ได้รับการช่วยเหลือ แต่เพียงไม่นานมันก็เสียชีวิต ในปี 2010 ก็มีเม่นไร้หนามอีกตัวชื่อ Betty ตอนแรกมันมีน้ำหนักแค่ 124 กรัม แต่หลังจากได้รับการดูแล มันจึงกลายเป็นเม่นที่มีสุขภาพดี…
-
Khoudia นางแบบชาวแอฟริกัน ผู้มี ‘สีผิวดำสนิท’ โดดเด่นจนประสบความสำเร็จในวงการแฟชั่น
ไม่ว่าเราจะมีสีผิวแบบไหน #เหมียวขี้ส่อง คิดว่าต่างก็มีความงามในตัวเองนะ คนผิวขาวใช่ว่าจะสวยทุกคนเสมอ เช่นเดียวกับคนผิวดำก็ไม่ใช่ไม่สวยเสมอไป Khoudia Diop เป็นนางแบบชาวเซเนกัล เธอกลายเป็นคนโด่งดังหลังจากได้ถ่ายรูปโชว์สีผิวในแคมเปญ Colored ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการมีสีผิวที่แตกต่างของมนุษย์ Khoudia เป็นคนที่ถูกสื่อตั้งว่า ‘melanin-rich skin’ จนได้รับความสนใจโลกอินเตอร์เน็ตอย่างแพร่หลาย และได้รับผลตอบรับในทางบวกอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Instagram ของเธอ ที่ได้ถ่ายรูปของตัวเองเพื่อแสดงให้เห็นถึงความงามของคนผิวดำ หากคนที่ไม่เคยเห็นรูปภาพของเธอมาก่อน คงคิดว่า คนดำสนิทแบบนี้ คงมีน้อยที่จะมีสวย แต่ Khoudia ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ดำสนิทแบบนี้แหละสวย และเธอก็มั่นใจมากที่มีสีผิวที่แตกต่างแบบนี้ ตอนนี้ Khoudia ก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบมืออาชีพแล้ว ซึ่งเธอก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาตลอด และเพราะสีผิวที่โดดเด่นนี้ ทำให้เธอเป็นที่ต้องการในวงการแฟชั่นมากมาย มีการโพสต์ภาพในเฟซบุ๊คมีทั้งคนชื่นชมและคนที่เหน็บแนม โดยชาวเน็ตได้ตั้งฉายาให้เธอที่หลากหลาย เช่น ‘ดำ’ ‘นางแห่งความมืด’ ‘แม่แห่งวงการ’ เป็นต้น เธอบอกว่า “บางคนตั้งฉายาที่แย่ๆ ให้กับฉัน พวกเขาคงคิดว่าฉันจะรู้สึกแย่ แต่เปล่าเลย ฉันกลับชอบทุกชื่อที่พวกเขาตั้งให้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ฉันไม่ได้สนใจในสิ่งที่พวกเขาคิดเลย” และเพราะทัศนคติแบบนี้แหละ ที่ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจคนหนึ่ง ค่านิยมของโลกมักจะกำหนดว่า…
-
ยุโรปเปิดตัว โรงหนัง VR แห่งแรกของโลก มิติใหม่แห่งการรับชมภาพยนตร์เสมือนจริง!!
เมื่อไม่นานมานี้เราจะเริ่มเห็นบทบาทของเจ้าเครื่อง VR หรือชื่อเต็มๆที่เรียกว่า’Virtual Reality’ ในโลกแห่งเทคโนโลยีมากขึ้น และดูเหมือนว่ายังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ขณะนี้มันสามารถใช้ได้ทั้งเล่นเกมส์ ดูหนัง หรือใช้สำหรับการรักษาผู้ป่วยในบางประเภท แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราได้ชมภาพยนตร์พร้อมๆกัน อีกทั้งยังสามารถทำให้เรารู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งภาพยนตร์จริงๆด้วย!!! ‘Virtual Reality Cinema’ โรงภาพยนตร์ที่ฉายหนังในรูปแบบที่แตกต่างออกไปแห่งนี้ ตั้งอยู่ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยผู้เข้าชมจะได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สามารถหมุนได้รอบตัว 360 องศา และภาพยนตร์จะถูกฉายเสมือนว่าผู้ชมอยู่กึ่งกลางของเรื่อง สามารถหันไปมองได้ทุกทิศทางรอบตัว ราวกับว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังจริงๆ ส่วนอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่โรงหนังมีให้ผู้เข้าชม จะเป็นเครื่อง VR ติดกับโทรศัพท์มือถือ Samsung S6 พร้อมด้วยหูฟังดีๆจาก Sennheiser ซึ่งการันตีเลยว่าทั้งภาพและเสียง มาเต็มแน่นอน!! แต่น่าเสียดายที่โรงหนังแห่งนี้ เค้าไม่ได้ฉายหนังทั่วๆไปเหมือนที่เราดูในโรงธรรมดา แต่จะเป็นหนังพิเศษที่ทำขึ้นมาเพื่อรองรับเฉพาะการชมด้วยเครื่อง VR เท่านั้น โดยจะเปิดให้เข้าชมเพียงรอบละ 50 คนโดยประมาณ ส่วนระยะเวลาก็เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30 นาที ซึ่งทางโรงหนังบอกมาว่าเป็นเวลากำลังดี ไม่มากและไม่น้อยเกินไป ค่าบัตรเข้าชมก็ตกอยู่ที่ใบละ €12.50 (เกือบ 500…
-
ร้านอาหารจีน กล้าเปิดโปรฯ ‘จ่ายตามใจ’ เพียงอาทิตย์เดียว.. ขาดทุน 500,000 บาท!!!
“จะทำธุรกิจทั้งทีต้องทำให้มันเจ๊ง” ไม่มีใครกล่าวไว้หรอกสำหรับประโยคนี้ และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะการจะเปิดร้านทั้งที ต้องลงทุนทั้งเงิน เวลา ไหนจะแรงกายอีก แต่น่าเสียดายที่ประโยคดังกล่าว มันดันเกิดขึ้นจริงๆกับร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองกุ้ยหยาง ประเทศจีน ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นยั่วตายั่วใจ “จ่ายเท่าไหร่ก็ได้” เว็บไซต์ OddityCentral รายงานว่า เดิมทีร้านอาหารแห่งนี้เกิดจากการรวมหุ้นกันระหว่าง นางหลิว เสี่ยวจุน และเพื่อนหุ้นส่วนอีกสองคน พวกเขาต้องการจะโปรโมทร้านของตัวเองให้โด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จึงจัดโปรโมชั่นดังกล่าวขึ้นมา เพราะพวกเขาเชื่อว่าถ้าหากทำอาหารให้อร่อย มีคุณภาพ สุดท้ายแล้วเมื่อลูกค้าประทับใจ พวกเขาจะต้องเห็นใจและจ่ายในราคาที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน ซึ่งโปรโมชั่นดังกล่าวก็ทำให้ร้านอาหารแห่งนี้โด่งดังขึ้นมาจริงๆ มีผู้คนเข้ามาทานอาหารกันอย่างล้นหลาม เรียกได้ว่าบริการกันแทบจะไม่ทันเลยทีเดียว แต่ความจริงไม่เป็นอย่างนั้น…เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เลือกที่จะจ่ายเป็นเงินเฉลี่ยเพียง 10 เปอร์เซนต์ของราคาอาหารเท่านั้น หลายๆครั้งที่ร้านจะต้องเจอลูกค้าสั่งอาหารแบบไม่อั้น แต่จ่ายเงินกลับมาเพียงแค่ 1 หยวน (5 บาท) เปิดร้านไปได้แค่ 7 วัน พวกเขาก็ขาดทุนยับไปแล้วมากกว่า 100,000 หยวน!! (คุ้มมั้ยเนี่ย) หนึ่งในหุ้นส่วนผิดหวังถึงขั้นขอลาจากเมืองนี้ และไม่หวนกลับมาอีกเลย ทั้งนี้ทางด้านนางหลิว ได้ให้สัมภาษณ์กับ ThePaper ว่า “ฉันผิดหวังและไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาฟีดแบ็คที่ดีจากลูกค้าทั้งเรื่องการบริการ และคุณภาพของอาหาร…
-
ชาวนาเจอแมวกำลังใกล้ตาย สงสารจึงเก็บมาเลี้ยง สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ตื่อดึง ตื่อดึง ♬
ชาวนาคนหนึ่งมีชีวิตลำพัง ไปเจอแมวเหมียวตัวหนึ่งกำลังใกล้ตาย สงสารจึงเก็บเอามาเลี้ยงโดยไม่รู้ สุดท้ายจะเป็นอย่างไร….?? (ไปอ่านเรื่องราวพร้อมๆ กันได้เลยจ้า อิอิ) ชาวนาคนหนึ่งได้พบเจ้ามิ้วน้อยที่กำลังนอนกอดกับพี่น้องตัวอื่นๆ อยู่ ตัวของมันสั่นเพราะความหนาว แต่น่าเศร้าที่พี่น้องตัวอื่นๆ ของมันได้ตายลงไปซะแล้วเหลือเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิต “ในตอนนั้นแฟนของฉันกำลังซ่อมโรงนาในฟาร์มอยู่ ซึ่งก็มีเจ้าเหมียวจรจัดได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่นั่นหลายตัว แต่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็พบว่ามีลูกมิ้วน้อยหลายตัวถูกแม่ของมันเอามาทิ้งไว้ที่ฟาร์ม” คุณ bluetractor สมาชิกเว็บไซต์ imgur เล่า โดยมีทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน แต่น่าเศร้าที่มันรอดชีวิตมาเพียงตัวเดียวเท่านั้น มันมีร่างกายที่อ่อนแอมากแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ที่จะเอาชีวิตรอด “แฟนของฉันรอจนถึงตอนพลบค่ำเพื่อรอดูว่าแม่ของมันจะกลับมาหาหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไร้วี่แวว เขาก็เลยตัดสินใจที่จะพามันกลับมาที่บ้านด้วย” เขาเอาเสื้อโค้ทพันตัวของมันไว้เพื่อมอบความอบอุ่นให้กับมัน “เจ้ามิ้วน้อยหนาว และหิวมาก เขาก็เลยเอาเสื้อโค้ทหนาๆ ห่มเอาไว้ขณะที่อยู่ในรถตู้” คุณ bluetractor เล่า “และนี่ก็เป็นอาหารมื้อแรกของมันในตอนนั้น น่าแปลกใจเหมือนกันที่มันสามารถทานอาหารเองได้แล้ว แสดงว่าแม่ของมันอาจจะประสบกับเหตุบางอย่างจนทำให้ต้องทิ้งลูกๆ เอาไว้อย่างแน่นอน” T T “ผ่านไปแล้วกว่า 1 เดือน ตอนนี้เราได้เปลี่ยนจากให้นมมาเป็นอาหารสำหรับลูกแมวแล้วล่ะ” เธอกล่าว จากการดูแลให้ความอบอุ่น และอาหารเป็นอย่างดี เจ้ามิ้วน้อยก็มีท่าทางที่ดูดีขึ้นมามากกว่าตอนแรกแล้วล่ะ และตอนนี้มันก็กลายมาเป็นเจ้านายในบ้านของคุณ bluetractor เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทุกคนก็ให้การต้อนรับและดูแลเป็นอย่างดี ^^ อย่าไปทำลายความไว้ใจของชาวนาเค้าล่ะเจ้าเหมียว…
-
รอยยิ้มที่สดใสของหนูน้อย หลังรับการผ่าตัด “ลิ้น” ที่ใหญ่กว่าช่องปากถึงสองเท่า
Paisley Morrison-Johnson ทารกน้อยวัยเพียง 16 เดือน จาก South Dakota ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีความน่ารักเหมือนเด็กทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้หนูน้อยดูแตกต่างก็คือ เธอเกิดมาพร้อมกับลิ้น ที่มีขนาดใหญ่กว่าปากถึงสองเท่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Buzzfeed มีรายงานว่า สาเหตุที่ทำให้หนูน้อยเกิดมามีลิ้นขนาดใหญ่ เป็นผลมาจากโรค Beckwith-Wiedemann syndrome ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม ที่ทำให้อวัยวะบางส่วนของร่างกายเจริญเติบผิดปกติ และยังเป็นโรคที่พบได้ยากมาก จะเกิดเพียงแค่ 1 ใน 13,700 คนของทารกแรกเกิดทั่วโลกเท่านั้น ทางด้าน Madison Kienow ผู้เป็นแม่ได้เผยว่า “เธอไม่เคยรู้มาก่อน ว่าลูกของเธอมีสภาพผิดปกติตั้งแต่อยู่ในท้อง แต่มาทราบภายหลังจากที่ปวดท้อง และได้คลอดลูกออกมา” หลังจากที่หนูน้อย Paisley เกิดมามีขนาดลิ้นใหญ่ผิดปกติ เธอต้องอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อวินิจฉัยโรค เป็นเวลานานกว่า 3 เดือนครึ่งเลยทีเดียว “ฉันไม่เคยได้ยินเสียงร้องของเธอเลย” ผู้เป็นแม่กล่าว …
-
หนุ่มทำโทรศัพท์หายที่ ‘ญี่ปุ่น’ จนไปโผล่ที่ ‘อินโด’ สุดท้ายก็ได้คืนพร้อมกับได้เพื่อนเพิ่ม!!
ไม่น่าเชื่อว่าเพียงโทรศัพท์เครื่องเดียวก็นำมาซึ่งมิตรภาพที่แสนงดงามได้… เรื่องราวของหนุ่มที่ทำโทรศัพท์หายในประเทศญี่ปุ่น แต่ดันไปโผล่ที่ประเทศอินโดนีเซีย (หนีเที่ยวไปไกลซะหน่อยมั้งน่ะ ฮร่า) พอมีคนเก็บได้ก็รีบติดต่อคืนให้เจ้าของและทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด Shota Noda เป็นนักศึกษาชาวญี่ปุ่นวัย 21 ปี จากจังหวัด Kanagawa เมื่อเดือนธันวาคมในปีที่ผ่านมา Noda ได้เดินทางโดยรถไฟสาย Nanbu ที่ญี่ปุ่น และเขาก็ได้ทำโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ของตัวเองหาย พอรู้ตัวก็รีบไปแจ้งที่สถานีแต่ก็ไม่ได้กลับคืนมา หลังจากนั้นไม่นาน Syahri Rochmat วัย 24 ปี พนักงานการรถไฟที่ทำงานอยู่ในเมืองจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ได้มาทำหน้าที่ในการตรวจเช็คสภาพรถไฟที่ถูกปลดประจำการจากประเทศญี่ปุ่น ส่งต่อมาใช้ที่อินโดนีเซีย รถไฟชบวนนั้นได้ทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายในประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 5 ธันวาคมเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ Rochmat กำลังตรวจสอบสภาพของรถไฟก็ได้พบกับโทรศัพท์และบัตรประชาชนหล่นอยู่ที่พื้น หลังจากนั้นเขาก็ได้ทำการโพสต์ลงรูปของบัตรนักศึกษาลงบนทวิตเตอร์ เผื่อว่าจะมีคนสามารถช่วยเขาหาทางในการคืนบัตรและโทรศัพท์ให้กับเจ้าของ ทันใดนั้นเอง 1 ในผู้ติดตามของ Rochmat ก็ได้ติดต่อไปยังมหาวิทยาลัยที่อยู่ในบัตรนั้น จนในที่สุดก็เจอเฟซบุ๊คของ Noda Rochmat ได้ทราบข่าวก็ติดต่อไปยัง Noda ทันที เพื่อจะทำการคืนโทรศัพท์และบัตรนักศึกษาให้กับเขา แต่เนื่องจากว่าการส่งของไปต่างประเทศนั้นจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก และการที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกันทำให้การพูดคุยนั้นยากลำบากพอสมควร…
-
มองโลกผ่านเลนส์ของคน “ตาบอดสี” 8 แบบ จะทำให้คุณ เข้าใจสิ่งที่คนเหล่านี้เห็นมากขึ้น
คำว่า “ตาบอดสี” คงจะเคยผ่านเข้ามาในหูของหลายๆ คน ซึ่งคนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าคนที่มีภาวะตาบอดสี ก็เหมือนกับอยู่ในโลกที่ขาดสีสัน เพราะมองเห็นแต่ภาพขาว-ดำ แต่ความจริงแล้ว โรคตาบอดสี ไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดนั้น เนื่องจากคนที่เป็นภาวะดังกล่าว ยังสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่เป็นสีอยู่ เพียงแต่มีความบกพร่องในการแยกเฉดสีเท่านั้น ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ Iflscience ได้เผยว่า 1 ใน 12 คนจากผู้ชาย และ 1 ใน 200 คนจากผู้หญิงทั่วโลก เป็นโรคตาบอดสี แต่สำหรับคนที่สามารถมองเห็นสีได้ตามปกติ คงจินตนาการไม่ออกว่าโลกในสายตาของคนตาบอดสีเป็นอย่างไร ในวันนี้เหมียวขี้อ้อน ได้นำภาพที่แสดงให้เห็นถึงภาวะคนเป็นตาบอดสีมาให้ชมแล้ว และคุณจะเข้าใจคนเหล่านี้มากขึ้นอย่างแน่นอน (ด้านล่างเป็นภาพเคลื่อนไหว Gif เปรียบเทียบกัน สามารถกดดูได้ค่ะ) 1.Protanopia (red-blind) Protanopia (red-blind) หรือตาบอดสีแดง เป็นภาวะตาบอดสีที่จะถูกพบมากที่สุด ซึ่งจะเห็นสีแดงเป็นสีเหลืองตุ่น และเห็นสีเขียวเป็นสีน้ำตาล 2.Protanomaly (red-weak) Protanomaly เป็นความบกพร่องในการเห็นสีแบบไม่รุนแรง เกิดจากเซลล์ประสาทตารับสีแดงรับรู้ช่วงคลื่นสีผิดปกติไป ทำให้แยกแยะสีแดง-เขียวไม่ได้ …
-
เจ้าเหมียวน้อยถูกคนปฏิเสธรับไปเลี้ยง เพราะมีหน้าตา ‘อัปลักษณ์’ ในที่สุดก็ได้บ้านใหม่แล้ว!!
ความน่ารักของเหล่าแมวเหมียวนั้นมีพลังสามารถสะกดใจมนุษย์ทุกคนได้อย่างง่ายดาย และถึงแม้ว่ามันจะมีหน้าตาที่ไม่น่ารักเหมือนแมวเหมียวตัวอื่นๆ แต่มันก็ยังสามารถชนะใจมนุษย์ได้ เรื่องราวของเจ้าเหมียวสีเหลืองตัวน้อยที่ไม่สามารถหาบ้านใหม่ได้เพราะมีคนบอกว่าหน้าตาของมันนั้น ‘อัปลักษณ์’ เกินไป แต่ก็ยังมีคนที่เห็นในความน่ารักที่แท้จริงของมันจากข้างใน และตัดสินใจที่จะรับมันไปเลี้ยง ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Romeo เจ้าเหมียว Romeo นั้นเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางพันธุกรรม ซึ่งส่งผลให้มันแตกต่างไปจากแมวตัวอื่นๆ เล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมีนิสัยขี้เล่น และเป็นที่รักใคร่ของใครหลายๆ คนเช่นเดียวกันแมวตัวอื่นๆ สถานสงเคราะห์ต้องทำงานหนักเป็นอย่างมากเพื่อหาบ้านให้กับมัน เจ้า Romeo ถูกปฏิเสธจากทาสหลายๆ คน เพราะรูปร่างหน้าตาของมัน ทั้งเจ้าหน้าที่ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ และตัวของเจ้าเหมียวเองต่างก็รออย่างมีความหวัง จนในที่สุดก็มีคนให้ความสนใจ…อยู่มาวันหนึ่งมีคนใจดีจากศูนย์อนุรักษ์สัตว์ Santuario Compasión Animal (ที่อยู่ในสเปน) ได้ยินข่าวคราวของเจ้าเหมียว Romeo เขาก็ตัดสินใจที่จะรับมันมาอยู่ด้วยที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ “จากที่พวกเราเคยออกไปทำการช่วยเหลือสัตว์ ในเคสที่มันมีรูปร่างหน้าตาแปลกออกไปจากแมวตัวอื่นๆ และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ใครๆ ก็ไม่อยากที่จะแยแสมัน” เจ้าหน้าที่ในศูนย์อนุรักษ์สัตว์ Santuario Compasión Animal กล่าว “พวกเขา (เจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์สัตว์) บอกว่าไม่มีใครต้องการมันก็เพราะว่ามันมีหน้าตาอัปลักษณ์ แต่สำหรับเราแล้ว เจ้า Romeo นั้นไม่ได้น่าเกลียดแต่อย่างใด มันเป็นแมวเหมียวที่มีความน่ารัก และชื่นชอบที่จะเล่นสนุก เช่นเดียวกับแมวตัวอื่นๆ…
-
พบกับ Kanga และ Roo สุนัขสองพี่น้องที่มีแค่ ‘สองขา’ แต่มันก็มีความสุขกับชีวิตได้นะ
เวลาเราเลี้ยงสุนัข เราก็อยากให้มันอยู่กับเรานานๆ ดังนั้น เราจึงต้องดูแลมันให้ดีที่สุด แต่บางครั้งแม้จะดูแลดีแค่ไหน ถ้าถึงเวลา มันก็จากเราไปอยู่ดี จนอาจทำให้หลายๆ คนไม่กล้าที่จะเลี้ยงสุนัขอีกเลย Therese Vu และ Duc Tran สองสามีภรรยาเคยเลี้ยงสุนัข 2 ตัวและอยู่ด้วยกันมานานถึง 16 ปี แต่ทั้งสองตัวก็จากไปด้วยโรคไตวายเหมือนกัน ในเวลาไล่เลี่ยงกัน ทั้งคู่เสียใจมาก จนไม่คิดว่าจะเปิดใจรับเลี้ยงสุนัขตัวอื่นได้อีก แต่แล้วาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อ พวกเขาได้เจอกับ Kanga และ Roo สุนัขสองพี่น้อง ที่เกิดมามีแค่ขาหลังเท่านั้น คาดว่าน่าจะมาจากพันธุกรรม พวกมันได้รับการดูแลจาก Angels Among Us มาประมาณเกือบปีแล้ว เมื่อ Vu และสามีมาเห็นทั้งสองตัว ก็เกิดตกหลุมรัก จนตัดสินใจรับสองพี่น้องนี้ไปเลี้ยง Vu บอกว่า “ทันที่ที่ฉันเห็น Kanga และ Roo ฉันรู้เลยว่า มันต้องเกิดมาเพื่อเราแน่ๆ” ก่อนจะรับมาเลี้ยง Vu และสามี ได้ทำการศึกษาวิธีการเลี้ยงสุนัขพิเสษเป็นอย่างดี จนกระทั่งวันที่ไปรับ Kanga กับ Roo ทั้งรู้เลยว่าพร้อมที่จะดูมันตลอดไป ตั้งแต่สุนัขสองตัวนี้เข้ามาอยู่กับสองสามีภรรยามันก็ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตองพวกเขา…
-
หน่วยกู้ภัยช่วย ‘สุนัขถูกทิ้ง’ จากเหตุการณ์น้ำท่วม พร้อมประกาศตามหาเจ้าของจนเจอ
เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก จนทำให้ต้องอพยพ หลายคนจะเลือกนำสิ่งมีค่าติดตัวไปด้วย หรืออาจจะเอาของสำคัญไปเท่าที่จะเอาไปได้ แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกทิ้งไว้คือ สัตว์เลี้ยงของพวกเขานั่นเอง… เมื่อไม่นานมานี้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมที่ลัมเบอร์ตัน ในรัฐคาโรไลน่า Mildred Davis หนึ่งในผู้ประสบภัยน้ำท่วม กำลังอพยพไปพร้อมครอบครัว รถที่มารับนั้นเต็มไปด้วยผู้อพยพ ซึ่งกำลังจะทำพื้นที่ว่างให้หญิงชราวัย 78 ปี คนหนึ่ง และข้าวของของเธออีกบางส่วน เธอยังมีสุนัขชื่อ Jake ด้วย แต่ทว่าตอนนี้ ไม่มีเวลาแล้ว ในรถก็ไม่มีที่แล้วด้วย และลำพังคนที่ต้องอพยพไปตอนนั้นก็แทบจะไม่มีที่เหลือ พวกเขาต่างก็มาเฉพาะตัวเปล่าและจำต้องจากกับสัตว์เลี้ยงมาทั้งนั้น งานนี้เธอเลยต้องจำใจขึ้นไปเฉพาะเธอเอง มันเป็นที่ตัดสินใจยาก เพราะ Jake ไม่ใช่แค่สัตว์เลึ้ยง แต่เป็นเหมือนคนในครอบครัว ถ้ามันหายไปนั่นก็เท่ากับว่า ความทรงจำดีๆ ที่มีร่วกมกันนั้นก็หายไปด้วย นอกจากนี้มันยังเป็นสุนัขที่พ่อที่จากไปแล้วของเธอรักมากด้วย แต่ในที่สุด ก็ต้องทิ้งมันไว้ที่ระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งเป็นมุมที่มองเห็นได้ชัดที่สุด ครั้งแรกที่ตัดสินใจทิ้งมันไว้ที่นั่น เพราะระดับน้ำยังขึ้นมาไม่ถึงระเบียง แต่พอเวลาผ่านไประดับน้ำเริ่มสูงขึ้น จนท่วมไปทุกพื้นที่ของหมู่บ้านและบริเวณโดยรอบ แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ ทำให้ Mildred และครอบครัวรู้สึกเศร้าอย่างมาก วันต่อมา Tina ลูกสาวของ Mildred ได้ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่มีเรือ เพื่อให้กลับไปที่บ้านของเธอ แต่เรือไม่สมารถเข้าใกล้เขตน้ำท่วมได้ ในขณะที่อาสาและเจ้าหน้ากู้ภัยจาก Federal Emergency Management…
-
เด็กชายวัย 14 ปี อ้อนวอนคุณแม่ ‘ทำอาหารเที่ยง’ เพิ่ม เพื่อนำไปแบ่งเพื่อนที่ยากไร้…
ถึงแม้ว่าช่วงนี้หลายคนจะต้องพบเจอแต่เหตุการณ์เศร้าๆ เราขอพาเพื่อนๆทุกคนไปรับรู้อีกเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นจากเด็กชายตัวน้อยผู้มีจิตใจอ้อบอ้อมอารีกันบ้าง เรื่องราวดีๆ ในครั้งนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในรัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา เขาเกิดความสงสารและตะขิดตะขวงใจที่ต้องเห็นเพื่อนร่วมชั้น ไม่ได้รับการดูแลด้านอาหารอย่างพอเพียงเหมือนตัวเอง Josette Duran โค้ชวอลเล่ย์บอลสาวและเป็นคุณแม่ของหนุ่มน้อย Dylan ได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวของเธอ โดยมีข้อความดังนี้ ” Dylan: แม่ครับวันนี้ช่วยเตรียมอาหารเที่ยงให้ผม สองชุดเลยได้มั้ย? คุณแม่: ทำไมล่ะ กินไม่อิ่มเหรอ? Dylan: ใช่ครับ สำหรับเด็กคนนี้ เขากินแค่ผลไม้ถ้วยเดียวทุกวันตอนพักที่ยง แม่ช่วยทำให้เค้าเพิ่มได้มั้ยครับ? ผมคิดว่าเขาอาจจะไม่มีเงินสำหรับซื้ออาหารดีๆกิน “ “Dylan อธิบายให้ฉันฟังค่ะ ว่าในห้องจะมีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขามักจะนั่งอยู่ตัวคนเดียวไม่ค่อยสุงสิงกับใคร แล้วทุกๆเที่ยงเค้าจะได้ทานแค่ผลไม้ถ้วยเดียวเท่านั้น” คุณแม่ให้สัมภาษณ์กับ US Magazine หลังจากวันนั้น ทุกๆ วันหนุ่มน้อยวัย 14 ปี จะพกมื้อเที่ยงไปที่โรงเรียนด้วย 2 ชุดเสมอ จนกลายเป็นเรื่องปกติไปในที่สุด ทั้งคู่พบว่าสาเหตุที่ทำให้เพื่อนร่วมชั้นคนนั้นได้ทานมื้อเที่ยงเพียงแค่ผลไม้ถ้วยเดียว สาเหตุเพราะที่บ้านกำลังตกอยู่ในปัญหาสภาวะการเงินขัดข้องอย่างหนัก จึงไม่สามารถจ่ายเงินค่าอาหารเที่ยงให้ได้ ซึ่งปัญหานี้ตัวคุณแม่เธอเองก็เข้าใจดี…
-
ภรรยานำชุดแต่งงาน มาสวมใหม่ทุกปี สื่อให้ทุกคนตระหนักถึง ‘การรักษาความหวาน’ ของชีวิตคู่
ชุดเจ้าสาวนั้น ถึงแม้จะเป็นความทรงจำดีๆ ของผู้หญิง แต่ส่วนหนึ่งลึกๆ แล้วนั้นเราก็ต้องยอมรับล่ะว่า เป็นการใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองใช่เล่น เพราะตลอดชีวิตคงได้ใส่กันแค่ครั้งเดียว หรืออาจจะสองครั้งเท่านั้นน่ะแหละ (ก็ใส่เฉพาะวันแต่งงาน หรือถ่ายพรีเวดดิ้งนั่นไง) แต่สำหรับ Samantha Burns คงเรียกได้ว่าใส่คุ้มแล้วล่ะ เพราะเธอนำชุดแต่งงานของเธอกลับมาใส่ทุกๆ ปี Samantha Burns สาวที่นำชุดแต่งงานกลับมาสวมใหม่ทุกๆ ปี ตอนเธอแต่งงานกับสามีของเธอในปี 2010 นั้น เธอบอกไว้ก่อนแล้วว่าเธอจะนำชุดแต่งงานกลับมาสวมใหม่ทุกๆ ปี เธอมีความเชื่อว่าการนำชุดแต่งงานกลับมาใช้ใหม่นั้นจะเป็นการทำให้ทั้งตัวเองและคู่รักของเธอนั้นมีความสุขในชีวิตคู่ ราวกับเป็นการสร้างความหวานให้แก่กันและกันอีกด้วย เหตุผลที่เธอนำชุดกลับมาสวมทุกๆ ปีหลักๆ แล้วก็สรุปได้ว่า… 1. เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป 2. เป็นการเช็คหุ่นของตัวเองว่ายังเชพบ๊ะอยู่รึเปล่า!? 3. เพิ่มความหวานให้กับความรักของคนสองคน ราวกับเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน 4. และในระหว่างนั้นก็ถือโอกาสสร้างความทรงจำดีๆ ใหม่ๆ ซะเลย 5. รู้สึกถึงความเป็นเซเลปเบาๆ พอหยิบชุดแต่งงานมาใส่เพื่อไปดินเนอร์ในเย็นนั้นๆ ‘ถึงแม้มันจะดูงี่เง่าและตลกขนาดไหน เราเชื่อว่าเราทำสิ่งนี้ตามตำราเลยนะเออ เพราะการเติมความหวานให้กันเรื่อยๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตคู่…
-
ตามติดชีวิต ‘พรานล่าแมมมอธ’ แห่งไซบีเรีย กับคำกล่าวว่าเป็นทั้ง ‘โจร’ และ ‘นักล่าสมบัติ’
อีกหนึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่น้อยคนนักที่จะรู้ กับเหล่าโจรสลัด พรานล่า ‘แมมมอธ’ จากดินแดนทางตอนเหนือของไซบีเรีย… หลังจากที่การล่างาช้างถูกแบน พวกเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากการล่างาจากช้างตัวเป็นๆ ไปเป็นการค้นและขุดซากศพของเหล่าแมมมอธแทน และเหล่าผู้ซื้อก็เต็มใจที่จะซื้อเสียด้วย งานนี้นั้นเต็มไปด้วยความอันตราย ทั้งจากสภาพแวดล้อม อาการป่วยไข้ และสภาพอากาศที่หนาวยะเยือก แต่รายได้น่ะงามสุดๆ จนสามารถล่อใจเหล่าพรานล่าแมมมอธได้!! ธุรกิจนี้มีมาอย่างยาวนาน และตอนนี้ธุรกิจนี้ก็กำลังเฟื่องฟู Chapple คือช่างภาพหนุ่มที่ไปทำงานในแถบนั้นพอดี และได้รับคำแนะนำจากคนในละแวกว่า ‘ลองไปหาเหล่าพรานล่าแมมมอธดูสิ’ เขาเลยลองทำตามดูสักครั้ง และพบว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างน่าประทับใจเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้ถ้าจะเทียบแล้วคงคล้ายๆ กับ Gold Rush ในประเทศสหรัฐอเมริกายุคก่อนๆ ที่เวลามีผู้ขุดค้นพบทองคำ บริเวณโดยรอบๆ นั้น ก็จะมีการจัดตั้งชุมชนขึ้น เพราะผู้คนที่หลั่งใหลจาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อแสวงโชค แต่ครั้งนี้ มาในรูปแบบของซาก และโครงกระดูกของแมมมอธ ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ Chapple ก็ต้องทำสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยชื่อ หรือตำแหน่งของสถานที่ๆ เขาจะได้ไปเจอกับเหล่าคณะสำรวจ เมื่อเขาได้รับให้ติดตามไป เขาเลยได้รับโอกาสอันหายากยิ่งในการร่วมแคมป์กับเหล่านายพรานนักล่าแมมมอธมือฉมังของบริษัทหนึ่ง ช่วงสัปดาห์แรกนั้น เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพแม้แต่ภาพเดียว แต่พอได้เริ่มทำความคุ้นเคยกับเหล่านักล่าและทีมงานซักพัก เขาจึงได้รับความไว้วางใจให้เริ่มเก็บภาพไว้ได้ ซากแมมมอธนั้นมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ขณะที่สภาพอากาศนั้นหนาวเย็นมาก และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมซากของแมมมอธถึงยังอยู่ในสภาพที่ดีอยู่!!…
-
ช่างภาพเอา รูปอดีตอาชญากรใน Los Angeles มาลบรอยสัก ให้พวกเขาหวนคิดถึงชีวิต
เพราะคนทุกคนต่างมีที่มา และเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป… (เนื้อหานี้ไม่ได้เจตนาว่าการสักเป็นอาชญากรรม แต่พูดถึงการรวบรวมอาชญากรที่มีรอยสัก และลบออกเพื่อให้พวกเขาคิดถึงตัวเองในวัยอดีต) Steven Burton ช่างภาพชาวอังกฤษที่ใช้เวลากว่า 400 ชั่วโมงเต็มกับโปรเจ็คต์ของเขา Skin Deep ถ่ายภาพของอดีตสมาชิกแก้งค์อาชญากรรมต่างๆ ใน Los Angeles สมาชิกแก้งค์อาชญากรรมแนวนี้จะถูกเรียกว่า Homeboys หรือ โฮมบอยส์ ที่นอกจากจะเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและความรุนแรงต่างๆ แล้ว พวกเขายังนิยมการสัก รอยสักต่างๆ ทั้งชื่อแก้งค์และเพื่อความสวยงามจนเต็มร่างกายของพวกเขา โปรเจ็คต์ Skin Deep โปรเจ็คต์ Skin Deep นั้น Steven ได้ทำการติดต่ออดีตสมาชิกแก้งค์กลับใจเพื่อขอถ่ายรูปของเขา แล้วนำมาโฟโต้ช็อปลบรอยสักให้หายไปทั้งหมด และนำรูปนั้นๆ มาให้พวกเขาดูเพื่อดูรีแอคชั่นของอาสาสมัครคนนั้นๆ มีสมาชิกเข้าร่วมโปรเจ็คของเขาถึง 27 คนด้วยกัน ความต้องการของเขาก็คือการที่อยากจะตีแผ่ชีวิตของเหล่า Homeboys ว่าพวกเขาก็ต้องดิ้นรนอย่างยากลำบากเช่นกัน โดยเฉพาะการถูกตราหน้าจากสังคมว่าพวกเขาเป็นผู้ร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไปและเรื่องราวของพวกเขาเลย… ‘พอผมได้มีโอกาสไปรู้จักพวกเขา ทุกๆ คนต่างมีเรื่องราวที่น่ารันทดมาก ผมไม่ค่อยสนใจนักเรื่องอาชญากรรมที่พวกเขาเคยทำ แต่สนใจในเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการที่พวกเขาดำเนินชีวิตมากกว่า’ Steven กล่าว …
-
จะโหดไปไหน!! ‘Salem Khan’ หนุ่มผู้ช่วยชีวิตงู นำส่งคืนกลับสู่ผืนป่ามาแล้วนับไม่ถ้วน
‘งู’ นับว่าเป็นสัตว์โลกที่ไม่มีใครอยากจะเข้าไปทักทาย หรือรู้จักมักจี่ด้วย แค่เห็นภาพของงูขนาดใหญ่ผ่านอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้เรารู้สึกขนลุกได้ง่ายๆ และยิ่งถ้าดันไปเจองูในที่สาธารณะ เชื่อว่าใครๆก็ต้องหนีกันทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ใช่สำหรับหนุ่มชาวอินเดียคนนี้ เพราะเขาคือชายเพียงคนเดียวที่หลงรักงู และเดินทางไปทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือพวกมัน สำหรับ ‘Salem Khan’ จากเมือง Bhopal ประเทศอินเดีย เป็นระยะเวลากว่า 30 ปีแล้ว ที่เขาทุ่มเทออกเดินทางจับงู เพื่อนำพวกมันไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ดั่งที่รู้กันว่าประเทศอินเดีย เป็นที่ๆ งูพิษอาศัยอยู่เยอะมาก ทุกๆ ปีจะมีงูมากกว่า 500 ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น งูเห่า งูเหลือม งูหลาม สารพัดงูที่มีอยู่ในอินเดีย จะถูกชายคนนี้ช่วยเหลือ และนำมาปล่อยสู่ป่าดิบชื้น ‘Parchmarhi’ “งูไม่ใช่ศัตรูของเรา พวกมันเป็นเพื่อนของเรา” เขาให้สัมภาษณ์ ซึ่งเดิมทีไม่มีใครรู้เรื่องราวที่แกทำ จนกระทั่งมีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถึงชายอินเดียคนหนึ่ง ใจกล้าสุดๆ ถือถุงกระสอบขนาดใหญ่ ก่อนที่จะปล่อยงูเป็นจำนวนมากออกมาจากถุง หลังจากนั้นชาวเน็ตจึงออกตามหาที่มาของวิดีโอ และได้พบกับเรื่องราวของชายคนนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าโลกนี้จะมีคนที่ออกเดินทางช่วยเหลือสัตว์โลกอย่าง งู อยู่ด้วย แต่ถึงแม้ว่าชายคนนี้จะเปรียบดั่งหมองูในบ้านเรา ถึงกระนั้นเค้าก็เคยโดนงูเห่าฉกมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง…
-
หญิงสาวอเมริกัน ขับรถผ่านเห็น ‘แมววิเชียรมาศ’ นอนอยู่ข้างถนน เลยต้องช่วยแล้วล่ะงานนี้!!
เหล่าทาสแมวทั้งหลายจะรู้กันดีว่าแมวเหมียวทั้งหลายนั้นมีความน่ารักมากมาย จนทำให้ใครหลายๆ คนต่างก็ตกหลุมรักมัน แน่นอนว่าพอเห็นมันลำบากเราก็อยากที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมเมื่อปีที่แล้ว เจ้าเหมียวพันธุ์วิเชียรมาศตัวน้อยถูกพบเจออยู่ที่ข้างถนน ไม่มีใครแยแสและไม่มีใครสนใจ แต่มันก็ยังคงดั้นด้นพยายามที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้ว่าโลกภายนอกจะแสนโหดร้ายก็ตาม “ฉันกำลังขับรถกลับบ้านหลงัจากที่ไปทำธุระที่ไปรษณีย์มา จู่ๆ ก็เห็นแมวเหมียวตัวน้อยกำลังนอนคดคู้อยู่ตรงบริเวณต้นหญ้าที่ขึ้นอยู่ข้างถนน” คุณ Mercedes Tyson เล่า คุณ Mercedes รีบจอดรถในทันทีเพื่อลงไปเช็คดู เมื่อเดินเข้าไปถึงตัวของมันเธอก็พบว่าดวงตาของมันนั้นเต็มไปด้วยความกลัว แถมยังมีร่างกายที่อ่อนแอ หลังจากนั้นคุณ Mercedes ก็พยายามที่จะช่วยเหลือมันด้วยการอุ้มขึ้นรถ แต่ด้วยความกลัวเจ้าเหมียวน้อยใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพยายามดิ้นหนีจากมือของผู้ช่วยเหลือ เธอค่อยๆ ปลอบมัน ในที่สุดก็ยอมให้อุ้มออกมาด้วยดี “เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันอ่อแอแค่ไหน เพราะร่างกายของมันนั้นผมจนสามารถเห็นโครงกระดูกได้ชัดเจน แถมยังมีหมัดเกาะอยู่เต็มตัวไปหมด” คุณ Mercedes เล่า “ในตอนแรกนั้นมันไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะเดินไปใช้งานกระบะทรายด้วยตัวเอง เนื่องจากว่าหมัดที่เกาะตัวมันอยู่นั้นทำให้มีอาการโลหิตจาง สัตวแพทย์บอกว่าเหงือกของมันนั้นแทบจะเป็นสีขาวเลยทีเดียว” เธอกล่าวเพิ่มเติม พวกเขาคอยให้การดูแลเจ้าเหมียวอย่างใกล้ชิดทุกๆ ชั่วโมง หลังจากที่ผ่านไปเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จากค่ำคืนที่ต้องคอยหวาดระแวงต่อภัยอันตรายจนทำให้นอนไม่หลับ เจ้าเหมียวตัวน้อยก็เริ่มเงยหน้าขึ้นมาด้วยตัวเองได้แล้ว เป็นอาการบ่งบอกว่ามันดีขึ้นแล้ว…
-
คู่รักรีโนเวทบ้าน แต่ขุดเจอ ‘กระเป๋าสมบัติ’ มีเงินเกือบล้าน ตัดสินใจ ‘บริจาคการกุศล’ ทั้งหมด
เงินทองเป็นของหายาก เพราะกว่าจะได้มาแต่ละบาทแต่ละสตังค์นั้น ต้องใช้เวลา ต้องใช้กำลัง ทั้งแรงกายแรงใจ และถ้าใครโชคดีหน่อยก็อาจถูกหวยจนได้เงินก้อนโตมาโดยไม่ต้องลงแรงอะไรเลยก็ได้ แต่ใครจะไปรู้ว่า บางคนอาจมีสมบัติอยู่ในบ้านโดยไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้ เหมือนผู้ใช้งาน Imgur ที่ใช้ชื่อว่า Branik12 และภรรยาของเขา ได้ค้นพบหีบสมบัติขณะที่กำลังปรับปรุงบ้าน และนี่คือสิ่งที่พวกเขาเจอ… Branik12 เล่าว่า “เราเพิ่งซื้อบ้านนี้มาได้ไม่กี่ปี แต่คาดว่า มันน่าจะถูกสร้างช่วงปลายปี 1940 แต่ตอนนี้ผมก็กำลังจะปรับปรุงบ้านใหม่ทั้งชั้นแรกและชั้นสองเพื่อทำห้องใต้ดิน” แล้วพวกเขาก็ได้เจอกับกระเป๋าใบหนึ่งที่มีเงินจำนวน และหนังสือ ทั้งหมดนี้น่าจะมาจากปี 1928-1934 แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสมบัติเหล่านี้ เพราะมันไม่ใช่ของพวกเขา แต่มันอยู่ในบ้านที่ทั้งสองได้ซื้อไว้ จึงได้ปรึกษาทนายเพื่อจัดการกับสมบัติเหล่านี้ ในขณะที่รอดำเนินการตามกฏหมาย พวกเขาก็ได้นำเรื่องราวนี้มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ว่า พวกเขาเจอสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจในบ้านของตัวเอง เงินทั้งหมดที่เจอในกระเป๋านี้ มีมูลค่าประมาณ 820,000 บาท ล่าสุดพวกเขาบอกว่า หากมีสิทธิในสมบัติเหล่านี้ พวกเขาจะนำเงินทั้งหมดบริจาคให้กับองค์กรการกุศล ฝาผนังของห้อง ถูกขีดเขียนไว้ด้วยลวดลายต่างๆ พวกเขาตั้งใจจะเอาของทุกอย่างออกจากห้อง แล้วก็ได้เจอกับกระเป๋าแปลกๆ ใบหนึ่ง ที่ถูกซ่อนไว้ใต้หลังคา และข้างๆ กันน้้น ยังเจอกล้วยของเล่นชิ้นหนึ่งด้วย เมื่อเปิดดูข้างใน…
-
ล้ำไปอีก ‘แหวนคลื่นเสียง’ ทำเป็นคลื่นเสียงคำพูดต่างๆ ส่งความในใจให้คนพิเศษ
หากจะเลือกแหวนในคนพิเศษสักวง แน่นอนว่า มันต้องเป็นแหวนที่พิเศษ ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ดังนั้น หลายคนจึงใช้วิธีสั่งทำ โดยออกแบบด้วยตัวเอง แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่า จะออกแบบยังไงให้พิเศษสุดๆ นี่เลย แหวนคลื่นเสียง ที่เป็นการบันทึกคลื่นเสียงของบุคคลนั้น แล้วนำคลื่นเสียงนั้นมาทำเป็นแหวน รับรองไม่เหมือนใครแน่ๆ แหวนคลื่นเสียง ออกแบบโดยนักออกแบบญี่ปุ่น เพื่อเป็นของขวัญสุดพิเศษในวันสำคัญ ใครที่สนใจ สามารถบันทึกเสียงของคนที่คุณรัก หรือเสียงตัวเองแล้วส่งมาที่เว็บไซต์ Encode Ring ทางดีไซต์จะจับคลื่นเสียงนั้นประมาณ 2 -3 วินาที แล้วสร้างขึ้นเป็นรูป 3 มิติ ก่อนจะทำให้เป้นวงแหวนที่สมบูรณ์ ตัวอย่างคลื่นเสียงของคำว่า aishiteru yo หรือ ฉันรักเธอ Itsumo arigatou หรือ ขอบคุณนะ zutto isshou dayo หรืออยู่ด้วยกันตลอดไป ราคาแหวนคลื่นเสียงธรรมดาอยู่ที่ประมาณ 4,300 บาท สำหรับแหวนสแตนเลส และสแตนเลสเคลือบทอง ราคาอยู่ที่ประมาณ 380,000 บาท…
-
มิติใหม่แห่งไอเดีย ‘ห้องนอนวันพีซ’ ให้คุณได้ใกล้ชิดกับเหล่าโจรสลัด อย่างกับการ์ตูนในฝัน
โกมุ โกมุ โนนนนนนน ไหนใครเป็นสาวกวันพีซบ้าง? ใครที่เคยดูวันพีซมา คงจะติดกันงอมแงมตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่หลายๆ คน ที่สำคัญเรายังสรรหาสินค้าวันพีซมาสะสมกันอีก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ ตุ๊กตา หรือแม้แต่โมเดลวันพีซ จะบอกว่าสิ่งเหล่านั้นจะกลายเป็นของจิ๊บๆ ไปเลย เมื่อเจอห้องนอนวันพีซ (Onepiece) เสมือนเนรมิตโลกวันพิซให้มาอยู่ในห้องนอนห้องเดียว ห้องนอนวันพีซ ออกแบบโดยบริษัท OscarC Studio ซึ่งเป็นบริษัทในฮ่องกง ที่ออกแบบห้องต่างๆ โดยมีผลงานที่แตกต่างหลากหลาย รวมทั้งการทำห้องตามโลกการ์ตูนเพื่อเอาใจแฟนๆ ด้วย เช่นห้องนอนคุมะและห้องนอนวันพีซ ห้องนอนวันพีซ ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับโลกวันพีซมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเตียงสองชั้นที่ทำเหมือนกับเรือแมรี่ประตูทุกบานในห้อง ไม่ว่าจะเป็นประตูตู้เก็บของ ตู้เสื้อผ้า ต่างก็เป็นรูปวันพีซทั้งนั้น นอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งห้องด้วยตัวการ์ตูนวันพีซ เช่น มีหมวกฟางของลูฟี่ ผ้าปูที่นอนลายวันพีซ รูปติดผนังเป็นภาพค่าหัวของเหล่าโจรสลัดหมวกฟางทุกคน มีโมเดลวางตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะหันไปทางไหน คุณก็จะเจอกับวันพีซ วันพีซ แล้วก็วันพีซ นี่มันห้องนอนในฝันของสาวกวันพีซเลยนะเนี่ย เตียงที่เหมือนเรือแมรี่ น่านอนสุด หรือใครชอบเรือซันนี่มากกว่า ก็จัดได้เลย ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็ห้อง คุณก็จะรู้สึกว่ามีแก๊งหมวกฟางอยู่ข้างๆ…
-
หญิงสาวสร้าง “วิมานนก” ติดกระจกหน้าต่าง เพื่อจะได้เฝ้ามอง และถ่ายภาพมันตลอดเวลา
สัตว์หลายชนิดได้รับอภิสิทธิ์พิเศษให้มีบ้านเป็นของตัวเองเช่นหมา แมว หรือแม้แต่หนูแฮมสเตอร์ แล้วทำไมสัตว์อย่างนกจะมีบ้านเป็นของตัวเองบ้างไม่ได้? วันนี้เหมียวฟิ้นจะขอชวนเพื่อนๆ ไปชมการตกแต่งบ้านนกแสนอบอุ่น ที่ถูกคิดค้นและสร้างสรรค์โดยนาง Jada Fitch นักวาดภาพสัตว์ป่า ต้องท้าวความก่อนว่าเธอเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ในการชมนกมาก เธอจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้หยุดดูและถ่ายรูปพวกมันเกาะตามกิ่งไม้ บินเข้ารังของมัน แต่อย่างที่รู้กันว่านกนั้นเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างระวังตัว พวกมันจะไม่ค่อยเข้าใกล้มนุษย์สักเท่าไหร่ Jada จึงไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพมันได้ใกล้ๆ เธอจึงตัดสินใจสร้างบ้านนกเล็กๆ ขึ้นมาจากกล่องกระดาษ แล้วตกแต่งภายในกล่องให้เหมือนกับบ้านคนจริงๆ มีทั้งประตู หน้าต่าง เก้าอี้ รูปภาพครอบครัวนก และเมล็ดทานตะวันล่อให้พวกมันเข้ามา หลังจากที่เธอออกแบบและวาดภาพภายในบ้านนกเสร็จแล้ว เธอก็นำมันไปแปะไว้กับกระจกนอกบ้าน ต่อมาพวกนกก็บินเข้ามาในบ้านที่เธอทำไว้เพื่อมากินเมล็ดทานตะวัน กลายเป็นว่าเธอสามารถเฝ้าดูพวกมันได้ใกล้ชิดเท่าที่จะใกล้ได้เลย “มันใช้เวลาพอสมควรเลย กับการที่นกพวกนั้นจะเข้ามาสำรวจบ้านที่ทำไว้ ฉันตั้งกล้องมือถือไว้บนหนังสือเพื่อถ่ายรูปพวกมัน แล้วใช้หูฟังในการลั่นชัตเตอร์เพื่อถ่ายภาพพวกมันทุกเวลา มีภาพนึงพวกมันโผล่หัวเข้ามาที่หน้ากล้องด้วย” Jada กล่าว หากใครเป็นคนรักนกหรือสนใจผลงานศิลปะอื่นๆ ของเธอล่ะก็ สามารถเข้าไปกดดูเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม @jadafitch หรือเฟซบุ๊ก Jada Fitch Illustration ได้เลยนะจ๊ะ ที่มา thedodo
-
บาริสต้าผิวสี โดนลูกค้าบอก ‘ขอกาแฟที่คนผิวขาวชง’ เธอตอกกลับลูกค้า เป็นกระแสทั่วเน็ต!!
ก็อย่างที่รู้กันว่า ‘การเหยียดผิว’ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ตาม แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังคงมีความคิดในเรื่องของการเหยียดผิวอยู่ ปัจจุบันโลกของเราเปลี่ยนไปแล้ว สิทธิเสรีภาพในการมีชีวิตของทุกคนย่อมมีเท่ากัน ไม่ว่าจะมีผิวสีไหน หรือจะมีรูปร่างอย่างไรก็ตาม และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็มีเรื่องราวสุดประทับใจมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เป็นเรื่องราวของผู้จัดการร้านกาแฟที่ถูกเหยียดผิว พอชาวเน็ตได้รับรู้เรื่องราวต่างก็เข้ามาให้กำลังใจกับเธอกันอย่างล้นหลาม คุณ Josie Ajak หญิงสาวชาวซูดานใต้ ที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย พร้อมกับพ่อแม่ของเธอตั้งแต่เธออายุได้ 8 ขวบ และตอนนี้เธอก็เป็นผู้จัดการร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในเมือง Cairns ทางตอนเหนือของ Queensland เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังชงกาแฟอยู่นั้นๆ จู่ๆ คุณ Ajak ก็โดนลูกค้าคนหนึ่ง ‘ปฏิเสธที่จะรับการเสิร์ฟกาแฟจากคนผิวดำ’ “หญิงคนนั้นบอกว่า ให้พาพนักงานผิวขาวมาเสิร์ฟให้ฉัน!! ฉันก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไรค่ะ ด้วยรอยยิ้ม หลังจากนั้นเธอก็เขยิบเพื่อออกไปรอพนักงานผิวขาวมาเสิร์ฟกาแฟให้ แต่ฉันเดินเข้าไปบอกพนักงานของฉันว่า เธอคนนี้มีทัศนคติเหยียดสีผิว และเราก็จะไม่เสิร์ฟกาแฟให้กับเธอ ขณะที่ทุกคนก็เสิร์ฟลูกค้าคนอื่นไปตามปกติด้วยรอยยิ้ม” คุณ Ajak ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed News คุณ Ajak ก็ดำเนินการเสิร์ฟกาแฟ และให้บริการกับลูกค้าท่านอื่นๆ ต่อไป จนกระทั่งหญิงที่ทำการเหยียดผิวกับเธอเดินออกจากร้านไป “เธอมองมาที่ฉัน…
-
10 ตำนานเกี่ยวกับปีศาจ และสิ่งมีชีวิตลี้ลับจากทั่วโลก ต้อนรับวันฮัลโลวีนที่กำลังจะถึง!!
ช่วงนี้ก็ใกล้เทศกาลฮัลโลวีน หรือที่เรียกกันอย่างติดปากว่า ‘เทศกาลปล่อยผี’ กันเข้ามาทุกที วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับ 10 ตำนานปีศาจจากรอบโลก มาฝากเพื่อนๆ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศกันซักหน่อย ลองมาฟังกันดูนะ หึหึหึหึ!! Clurichaun หรือภูติแคระแห่งไอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในประเภทของภูติแคระตามตำนานของไอร์แลนด์ ชอบสร้างความวุ่นวายและโกลาหลตามไร่นาต่างๆ ทั้งทำลายพืชผล ก่อกวน และขี่สัตว์เลี้ยงเล่นๆ นอกจากนี้ก็ยังชอบแอบเข้าไปดื่มเหล้าและไวน์ที่ชาวบ้านหมักไว้จนหมดอีกด้วย (อาจเกิดจากคนที่ชอบดื่มเหล้าจนเมาแล้วสร้างความป่วนกลบเกลื่อนก็เป็นได้ -*-) Death Worm หนอนมรณะแห่งมองโกเลีย ตามตำนานแล้วเจ้าหนอนมรณะนี้ฝังตัวอยู่ในที่ไหนสักแห่งของทะเลทรายโกบี มีขนาดราวๆ 1 – 1.5 เมตร สามารถพ่นกรดที่ฆ่ามนุษย์ได้ หรือช็อตด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อสังหาร กล่าวกันว่าภายในปากของหนอนมรณะนั้นเต็มไปด้วยเขี้ยวนับพัน Bakhtak แห่งเปอร์เซีย มีชื่อเรียกต่างๆ กันในแต่ละวัฒนธรรม อาจเรียกได้ว่าเป็นปีศาจฝันร้ายนั่นเอง มีความเชื่อว่าอาการผีอำนั้นเกิดขึ้นจากปีศาจชนิดนี้ โดยเจ้า Bakhtak จะมานั่งบนตัวของเหยื่อและทำให้เกิดฝันร้าย เป้าหมายของมันคือการฆ่าเหยื่อให้ตายในขณะนอนหลับ และถ้ามันล้มเหลวล่ะก็ มันจะกลับมาทุกๆ คืนจนทำสำเร็จ!? Blemmyes จากตำนานกรีกโบราณ หรือ เบลมเมยส…
-
ไม่ใช่ภาพคุณยายกอดหลาน… แต่เป็นผลงานประติมากรรม ที่ทำของปลอมให้สวยยิ่งกว่าจริง!!
นี่เป็นภาพถ่ายที่ใครได้ดูครั้งแรก ก็คิดว่าเป็นคนจริงๆ แน่นอน แต่ถ้าหากเราเฉลยว่านี่เป็นภาพผลงานประติมากรรม เชื่อว่าหลายคนจะต้องอ้าปากด้วยความงงงวย… ใช่แล้ว!! มันคือผลงานประติมากรรม ที่ถูกจัดแสดงภายในงาน Hyperrealist Sculpture 1973-2016 exhibition at Museo de Bellas Artes de Bilbao โดยทางพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้จัดโชว์ผลงานประติมากรรมที่สมจริง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของผลงานศิลปะในแต่ละยุคแต่ละสมัยยังไงละ ภาพของชายผู้ซ่อนอยู่ในกล่อง ผลงานประติมากรรมของหญิงวัยกลางคน ที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินใส่ใจในผลงานของเขามากแค่ไหน เพราะรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า ริ้วรอย รวมไปถึงส่วนต่างๆ ของร่างกาย มันดูสมจริงเหลือเกิน คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นภาพที่ดูโป๊เปลือย แต่ความจริงแล้ว นี่คืองานประติมากรรม 3 มิติ ที่เผยให้เห็นถึงความละเอียดของชิ้นงาน ทั้งผิวหนัง เลือดเนื้อ และเส้นผม เมื่อได้เห็นภาพเหล่านี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะสัมผัสว่ามันจะเหมือนคนจริงๆ หรือเปล่า งานประติมากรรมทั้งหมดนี้ ถูกสร้างขึ้นมาจากซิลิโคน งานนี้ไม่แปลกใจเลยว่าทุกอณูรูขุมขน และเนื้อสัมผัสของผิว ทำไมถึงดูสมจริงอย่างที่เราเห็น เรียกได้ว่าเป็นผลงานประติมากรรมที่น่าทึ่งมากจริงๆ และแม้ว่าผลงานจะถูกสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน แต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันสุดๆ…
-
เจ้าหนูเด็กแฝดว่านอนสอนง่าย แม่บอกให้ไปนอน ก็วิ่งแจ้นไปทันที ไม่ขัดคำสั่งเลย!!
คนเป็นพ่อแม่คงเข้าใจดีว่า กว่าจะกล่อมลูกนอนได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปกติแค่ลูกคนเดียวก็ใช้เวลานานแล้ว ถ้ายิ่งมีลูกแฝดคงจะยิ่งยากเข้าไปอีก แต่เรื่องนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณแม่ลูกแฝดคนนี้ ที่ฝึกให้ Zac และ Chris เข้านอนด้วยตัวเอง แถมพวกเขาก็เชื่อฟังและทำตามที่แม่บอกอย่างดีด้วย ขณะที่เด็กเล่นกันอยู่ เมื่อได้ยินคุณแม่สั่งให้ไปนอน พวกเค้ารีบวิ่งไปที่ห้องทันที ถึงที่นอนปุ๊บ ปาขวดนมเข้าไปก่อน จากนั้นก็ปีนโลด แข็งแรงมากจ่ะลูก อึ๊บๆ เรียบร้อยแล้วฮะแม่ เอาล่ะ เด็กๆ จะโชว์สเตปการเข้านอนให้ดูนะ ปัจจุบันทั้งคู่โตเป็นหนุ่มน้อยแล้วนะ ฉายแววหล่อซะด้วย… เดี๋ยวนี้ไม่ต้องปีนขึ้นไปนอนแล้ว จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ช่างผ่านไปรวดเร็ว และทั้งสองก็เปลี่ยนไปซะเยอะเลยนะ ^^ ที่มา boredomtherapy
-
‘ชายไร้บ้าน’ ประกาศขอให้ช่วย ‘สุนัขเพื่อนรัก’ ที่ถูกจับตัวไป เพราะมันคือสิ่งมีค่าสุดในชีวิต
ไม่ว่าจะยากดีมีจน เมื่อได้เลี้ยงสัตว์แล้ว ก็จะมีความผูกพันและเกิดเป็นมิตรภาพที่ไม่มีเงื่อนไข สำหรับบางคน สัตว์เลี้ยงอาจไม่ใช่แค่เพื่อน แต่มันอาจเป็นโลกทั้งใบของเขาเลยก็ได้ Patrick เป็นคนไร้บ้านที่เลี้ยงสุนัขเอาไว้ตัวหนึ่งชื่อ Franklin แต่แล้วทั้งคู่ก็ถูกจับในข้อหาบุกรุกในสถานที่ต้องห้าม (น่าจะเป็นเพราะการเข้าไปหาที่นอนในสถานที่หลังเวลาปิดทำการ) ทำให้ต้องแยกจากกัน เพียงวันเดียว Patrick ก็ถูกปล่อยตัวออกมา แต่สำหรับ Franklin ไม่ได้ถูกปล่อยตัว หากอยากได้คืนต้องมาไถ่ด้วยเงินประมาณ 4,000 บาท แน่นอนว่า คนไร้บ้านไม่มีเงินจำนวนนี้แน่ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ Patrick พยายามช่วยสุนัขออกมา ด้วยการเขียนป้ายประกาศขอความช่วยเหลือว่า “สุนัขผมถูกจับไปขัง ช่วยผมด้วย” คุณ Wilma Price ซึ่งเป็นคนรักสัตว์และเป็นเจ้าของสถานดูแล MrKs Halfway House บังเอิญผ่านไปเจอป้ายนี้เข้า เธอรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเป็นการช่วยเหลือ เพราะรู้สึกถึงความรักที่เขามีให้หมาจรจัดตัวนี้ จึงตัดสินใจช่วยเขาทันที ทำให้พวกเขาได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง… แต่ Price ไม่ได้หยุดแค่นี้ เธอยังนำเรื่องราวของ Patrick และ Franklin ไปเผยแพร่ เพื่อระดมทุนช่วยเหลือพวกเขา เพื่อไม่ให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกันอีก คลิปวิดีโอขณะที่นำ Franklin กลับไปหาเจ้าของ เรื่องราวที่เธอโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ค เพื่อหาเงินบริจาคช่วยเหลือเขา เผื่อจะทำให้สามารถตั้งต้นชีวิตใหม่ และดูแลหมาของเขาต่อไปได้อีก… ต่อให้ลำบากแค่ไหน หากมีเพื่อนแท้ข้างกายไว้สักคน ก็เหมือนมีทุกอย่างแล้ว…
-
ยอมใจ!! เด็กจีนวัย 13 ปี ติดในลิฟท์นาน 5 ชั่วโมง ไม่รู้ทำไง เลยหยิบการบ้านมาทำจนเสร็จ
นี่เป็นข่าวที่#เหมียวฟิ้นไม่รู้ว่าจะอึ้ง หรือขำ หรือรู้สึกยินดีกันแน่ เพราะความรู้สึกแต่ละอย่างมันปนกันไปหมดเลย… เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าเด็กนักเรียนหนุ่มชาวจีนนามว่า ซุน ยี่เสี่ยว วัย 13 ปี ได้ติดอยู่ในลิฟท์ระหว่างที่เขากำลังเดินทางกลับบ้าน อันที่จริงแล้วเขาสามารถกรีดร้องหรือพยายามทุบประตูเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนภายนอกได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะใจเย็นมากกว่าเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ เด็กชายซุนจึงกดปุ่มไปยังชั้นต่างๆ เพราะเชื่อว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ลิฟท์ตกลงไปข้างล่าง จากนั้นเขาก็พยายามที่จะใช้ระบบอินเตอร์คอมเพื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ภายนอก แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอะไรเลย ไม่มีเสียงใครตอบรับกลับมา เป็นคุณจะทำยังไงต่อ!? เขาก็เลยหยิบเอากระดาษออกมาจากกระเป๋าแล้วเริ่มเขียนข้อความร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย โดยมีข้อความว่า “มีคนอยู่ในลิฟท์ ขอร้องช่วยติดต่อคนดูแลตึกนี้หน่อย” จากนั้นก็พยายามหย่อนมันเข้าไปในช่องระหว่างประตูลิฟท์ และหวังว่าจะมีคนมาเห็นเข้อ แล้วเมื่อไม่มีอะไรให้ทำนอกจากการนั่งรอคอยความช่วยเหลือแล้ว เด็กชายซุนก็หยิบเอาการบ้านออกมา แล้วนำกระเป๋านักเรียนมาวางไว้ที่ตักเพื่อทำเป็นโตะ ก่อนจะลงมือทำการบ้านที่คุณครูสั่งอย่างใจเย็น ตั้งแต่วิชาคณิต ต่อด้วยวิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาภาษาจีน เวลาล่วงเลยผ่านไปได้สักพักจนเด็กชายซุนทำการบ้านได้เสร็จหมดทั้ง 3 วิชาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือเขาสักที หลังจากที่ผ่านไป 5 ชั่วโมง ก็มีนักดับเพลิงเปิดประตูเข้ามาพาเขาออกไปจนได้ แถมยังทึ่งที่พบว่าเขาทำการบ้านอย่างใจเย็นจนเสร็จหมดทุกวิชา เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปในโรงเรียน เด็กชายซุนก็ได้รับสมญาจากเพื่อนๆ ว่า “นักเรียนหัวเย็น” น้องทำใจเย็นอยู่ได้ไงเนี้ยะ!! ที่มา rocketnews24
-
โถ ทำไปได้… ชายหนุ่มขโมย ‘มู่ลี่’ ในห้าง พร้อมหนีได้อย่างแนบเนียน (เหรอ!?)
ต้องขอบอกเลยว่าปัจจุบันเหล่าหัวขโมยทั้งหลายนั้นนับวันยิ่งมีความสามารถในการลักขโมยมากเข้าไปทุกวัน เช่นเดียวกันกับพ่อหนุ่มหัวขโมยคนนี้ที่มีสกิลในการขโมยของ ที่เรียกได้ว่า ‘ขั้นเทพ’ (เหรอ!?) แบบสุดๆ สำนักข่าว Metro ของอังกฤษรายงานว่าพบชายหนุ่มคนหนึ่งได้ทำการเข้าไปขโมย ‘มู่ลี่’ ขนาดใหญ่ออกมาจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ หัวขโมยเกือบจะหนีออกไปโดยที่ไม่ถูกจับได้แล้วแท้ๆ แต่ไอ้เจ้าเสื้อฮู้ดที่มันดันตั้งตรงดูผิดลักษณะไปจากเดิมนั่นแหละคือตัวปัญหากลายเป็นจุดสังเกตและทำให้เขาถูกจับได้ว่ามาขโมยของ ก็แน่นอนสิเพราะเจ้ามู่ลี่ขนาดใหญ่ที่เขาขโมยไปนั้นมีความยาวมากถึง 2.1 เมตรเลยทีเดียว จะเอาแอบซ่อนไว้ในตัวอย่างไรมันก็จะมีความยาวเลยส่วนสูงขึ้นมาอยู่ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าผู้ต้องสงสัยได้เข้ามายังร้านขายเฟอร์นิเจอร์ Dunelm Mill ประมาณบ่าย 2 โมงในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะแอบขโมยมู่ลี่ขนาดใหญ่ยักษ์ซ่อนไว้ในตัว โดยซุกไว้ในขากางเกงพาดยาวขึ้นไปตามลำตัว แต่ปัญหามันติดอยู่ตรงที่ว่าเจ้ามู่ลี่นั้นมันยาวมากกว่าสวนสูงของตัวเขาเอง ทำให้ส่วนปลายของมันนั้นยาวเลยหัวขึ้นไป ก็เลยต้องซ่อนไว้ในฮู้ดแบบที่เห็นในภาพ เจ้าหน้าที่ในร้านขายเฟอร์นิเจอร์ก็สังเกตเห็นความมีพิรุธที่เสื้อฮู้ดของเขา ก็รีบตามออกไปจนถึงเส้นทางเลียบคลองที่อยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้นก่อนที่หัวขโมยจะโยนมู่ลี่ที่ขโมยมาทิ้งไว้ แล้วหนีไปตัวเปล่า เมื่อวานที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจ Northamptonshire Police ได้ทำการปล่อยภาพจากกล้องวงจรปิดของผู้ต้องสงสัยที่ทำการขโมยมู่ลี่จากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ โดยเป็นภาพขณะที่เขากำลังยืนอยู่ในลิฟต์พร้อมกับสวมเสื้อที่มีรูปร่างแปลกๆ ส่วนฮู้ดตั้งตรงขึ้นเลยหัวขึ้นไป ตอนนี้ยังตามจับตัวของหัวขโมยไม่ได้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังคงดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยในภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ได้… โฆษกของทางตำรวจได้กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ต้องการที่จะสอบสวนชายที่อยู่ในภาพ หากใครมีข้อมูลเกี่ยวกับเขาก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ Northamptonshire Police ได้ตลอดเวลา” แหม่ ทำไปได้นะ…
-
คุณแม่สอนให้ ‘ลูกชาย’ ทำงานบ้าน เพื่อให้เรียนรู้ความเท่าเทียม แต่กลับมีดราม่าเช่นเคย…
ถ้าพูดถึงงานบ้านแล้ว หลายคนคงคิดว่านี่เป็นหน้าที่ของผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วเมื่อเราอยู่ด้วยกัน การทำงานบ้านควรเป็นงานที่ต้องช่วยกันทำ เหมือนอย่างคุณแม่ Nikkole Paulun จากรัฐมิชิแกน เธอได้เขียนลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ฉันสอนลูกชายให้ทำอาหารและทำงานบ้าน ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะว่างานบ้านไม่ใช่เรื่องเฉพาะของผู้หญิงน่ะสิ” ภาพที่คุณแม่โพสต์เป็นภาพของลูกชายวัย 6 ขวบ Lyle กำลังซักผ้า ล้างจาน และทำอาหารจากเตา ทำให้โพสต์นี้โด่งดัง มีคนกดไลค์กว่า 143,000 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 57,000 ครั้ง แต่หลังจากมันแพร่ไปสู่คนมากมาย ก็ได้รับกระแสที่ต่างออกไป เนื่องจากว่าคุณแม่ต้องการจะทำงานภาพลักษณ์การทำงานบ้านแบบเก่าๆ ที่คิดว่าต้องเป็นเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้คนกลับคิดว่าการทำแบบนี้เหมือนเป็นการปฏิบัติต่อลูกเหมือนเป็นคน “ทาส” ที่ต้องรับใช้ คุณแม่วัย 22 นี้ ครั้งหนึ่งเธอเคยออกรายการช่อง MTV ก็ได้ออกมาตอบโต้บ้าง แต่ก็ดูเหมือนว่าความคิดเห็นก็เยอะมาก คุณแม่ได้โพสต์ภาพนี้ลงไปในเฟซบุ๊ก จนกลายเป็นที่โด่งดัง โพสต์ของเธอก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดูจากยอดไลค์และยอดแชร์ แต่หลังจากนั้นก็มีดราม่า เมื่อมีคนมาบอกว่า อย่าทำให้เด็กเป็นเหมือน “ทาส” หรือทำงานบ้านในส่วนที่แม่ไม่อยากทำ แต่เธอก็ตอบกลับไปว่าลูกของเธอไม่ใช่ทาส บางคนก็ถามว่าจะให้ลูกสาวไปตัดหญ้าบ้างไหม เธอก็ตอบกลับไปว่า…
-
สาวน้อยชาวรัสเซียวัย 20 หน้าตาจิ้มลิ้มมาก แต่กล้ามเธอก็โตม๊ากมากเช่นกัน!!
เดี๋ยวนี้ ใครๆ ก็นิยมเล่นกล้ามกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะนอกจากจะได้สุขภาพแล้ว ยังได้หุ่นเฟิร์มอีกต่างหาก แต่หากใครติดใจก็อาจพัฒนาไปจนมีกล้ามโตๆ เลยก็ได้ Julia Vins นักกล้ามชาวรัสเซีย วัย 20 ปี มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมถึง 325,000 คน เพราะใบหน้าที่น่ารักราวกับตุ๊กตา และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ เธอมีกล้ามที่ใหญ่โต แข็งแรง จนผู้ชายบางคนต้องอิจฉา Julia เล่าให้ฟังว่า “ตอนอายุ 15 ฉันเข้าฟิตเนสเพื่อออกกำลังกายเท่านั้น แต่ฉันไม่มีความรู้เรื่องการยกน้ำ ฉันก็เลยทำตามคนข้างๆ ที่มีกล้ามใหญ่โต” “แต่วันนี้ ฉันภูมิใจกับหุ่นของฉันมาก และยังเป็นแบบอย่างให้ใครหลายๆ คนด้วย เพราะฉันเห็นผู้หญิงหลายคนในรัสเซีย มักจะใช้วิธีการที่ผิดๆ อย่างฉีดสเตียรอยเข้าร่างกาย จนทำให้ทั้งใบหน้าและเสียงเปลี่ยนไปด้วย” “ฉันอยากพิสูจน์ให้เพื่อนๆ เห็นว่า ความน่ารักและกล้ามใหญ่สามารถไปด้วยกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้สเตียรอย” ปัจจุบัน Julia นั้นมีแฟนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คบหาดูใจกันมาได้ 4 ปี แถมเขายังคอยเป็นโค้ชที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วย เธอบอกว่า “เพราะแฟนฉันเป็นโค้ชให้ ทำให้ฉันประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้” …
-
ไม่ต้องรอนาน บริษัทจีนผลิตเครื่องเล่นเกมคล้าย Nintendo Switch วางขายตั้งแต่ปีก่อน
เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเครื่องเล่นเกมตัวใหม่จาก Nintendo ในชื่อรุ่นว่า Nintendo Switch ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลกเลยทีเดียว เพราะมันคือเครื่องเล่นเกมแบบไฮบริด ที่ผสมผสานระหว่างเครื่องคอนโซลแบบปกติ กับเครื่องเล่นเกมพกพาเอาไว้ด้วยกัน จุดเด่นๆ ของมันเลยก็คือตัวจอยเกม ที่สามารถถอดปุ่มบังคับออกมาจากตัวจอยได้ แล้วนำมันมาเสียบเข้ากับหน้าจอ (ที่คล้ายกับแท็บเล็ต) มันก็จะกลายร่างเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาอีกเครื่องหนึ่งไปเลย ต่อกันแล้วออกมาแบบนี้ นอกจากนี้เจ้าปุ่มคันบังคับที่ถอดเข้าถอดออกได้นี้ มันยังสามารถแยกร่างกันทำงาน เพื่อให้กลายเป็นจอยเล็กๆ 2 อัน เหมาะสำหรับการเล่นเกม 2 คนได้อย่างน่าทึ่ง เรียกได้ว่างานนี้เอาใจตลาดกลุ่มคนเล่นเกมแบบครอบครับจริงๆ แต่สิ่งที่#เหมียวฟิ้นจะนำเสนอจริงๆ ไม่ใช่ความตื่นตะลึงที่มีต่อเครื่องเกม Nintendo Switch หรอกนะ แต่เป็นเครื่องเล่นเกมจากอีกบริษัทหนึ่ง ที่ดั๊นนนมีหน้าตาเหมือนกันมาก เครื่องเล่นเกมที่ว่านี้มีชื่อว่า Morphus X300 ผลิตโดยบริษัท Aikun Electronics ส่งตรงจากประเทศจีน ที่มีคุณลักษณะในการถอดจอยออกได้เหมือนกับ Nintendo Switch โดยจะต่างจากแท็บเลตทั่วไปตรงที่เจ้าตัวนี้ทำมาเพื่อเป็น Gaming Machine โดยเฉพาะ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเครื่อง Morphus X300 ได้ก็อปปู่นินนะ เพราะว่าเจ้าเครื่องนี้วางขายมาตั้งแต่เมื่อปี 2015 แล้ว และยังทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ…
-
23 โมเม้นท์เหนื่อย สนุก ฮา ที่พ่อแม่ต้องเลี้ยงลูก มีหลายอารมณ์ แต่ที่แน่ๆ คือ ‘ความสุข’
เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่เมื่อรู้ว่าจะมีลูก ต่างก็ตื่นเต้น อยากให้เวลานั้นมาถึงเร็วๆ แต่หลังจากที่มีลูกแล้ว จะรู้เลยว่า การเลี้ยงลูกนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่การได้เลี้ยงลูกนั้น จะทำให้พ่อแม่ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันจากลูก อาจะมีร้องให้บ้าง หัวเราะบ้าง แต่ทุกอย่างก็ทำให้พ่อแม่อบอุ่นหัวใจ และบางความรู้สึก ก็มีแต่พ่อแม่แค่นั้นที่จะเข้าใจ 1. การเลี้ยงลูกจะทำให้คุณได้นอนน้อยลง ดังนั้น บางทีคุณก็แอบงีบบ้างแม้จะในตอนกลางวันก็ตาม 2. บางครั้งกว่าจะกล่อมลูกนอนได้ ก็เล่นซะเพลียเหมือนกันนะ 3. ลูกบางคนไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน จนคุณแม่ต้องชิ่งหลับก่อน 4. หรือบางทีก็หลับไปทั้งพ่อ แม่ ลูก แบบนี้แหละ 5. แล้วคุณจะรู้ว่า ทารกมีความสามารถในการร้องให้เป็นชั่วโมง และไม่ว่าจะปลอบเท่าไรก็ไม่ยอมหยุดร้อง 6. หลังจากอดนอนมานาน พอลูกหลับ ของีบด้วยละกัน ไม่สนแล้วว่าลูกจะนอนท่าไหน 7. เวลาอาบน้ำให้ลูก มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยนะ คุณอาจจะสนุกกับการให้เด็กอาบน้ำกับฟองเยอะๆ แต่ทารกไม่ได้แฮปปี้ด้วยหรอกนะ 8. แม้แต่การกินข้าว ก็ดูจะกลายเป็นเรื่องยากซะแล้ว 9.…
-
ซวยทั้งหน้าหลัง… ลูกค้าเผลอทำทีวีจอโค้งล้ม ตกใจไปชนข้างหลังล้มอีกมูลค่ากว่า 2 แสน!!
หากคุณคิดว่าวันนี้เป็นวันที่แย่ที่สุดในชีวิตของคุณแล้วล่ะก็ อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะว่าวันนี้ #เหมียวฟิ้น เจอคนที่ซวยยิ่งกว่าคุณแล้วล่ะ… เมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่เดินเข้าไปเลือกซื้อทีวีในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในเขตปกครองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ แต่ในระหว่างที่เขากำลังก้มๆ เงยๆ เลือกดูทีวีจอโค้ง OLED ขนาดใหญ่อยู่ตัวนึง จู่ๆ เขาก็เผลอทำมันล้มลงไป เท่านั้นยังไม่พอ มันยังล้มไปโดนเข้ากับทีวีอีกเครื่องที่วางติดกันจนเหมือนกับโดมิโน่ยังไงยังงั้น ความซวยของเขายังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อเขาเกิดอาการตกใจ จึงถอยหลังออกไปเล็กน้อย แล้วชนเข้ากับทีวีอีก 2 เครื่อง กลายเป็นว่าเขาทำทีวีจอโค้งรุ่นใหม่ร่วงลงไปกับพื้นถึง 4 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าแล้วกว่า 5,000 ปอนด์ หรือราวๆ 215,300 บาท!! เมื่อพนักงานในบริเวณนั้นเห็นเข้าก็ถึงกับยกมือป้องปากด้วยความสะพรึง ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาช่วยลูกค้าหน้าเจื่อนเก็บทีวีที่ตกอยู่บนพื้น ด้านนาย Mike Collins ผู้ช่วยผู้จัดการของร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “มันเป็นช่วงที่ช็อคมากและเห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่ดีเอามากๆ ที่เราสูญเสียทีวีในสต็อกไปมากขนาดนี้” “ทีวีได้รับความคุ้มครองจากประกันและตอนนี้เราส่งพวกมันกลับไปที่ศูนย์ซ่อมแล้วเพื่อดูว่ามันเสียหายตรงไหนบ้าง ซึ่งแค่ละเครื่องมีค่าซ่อมมากกว่า 43,000 บาทเลย” …
-
ฉีกขอบเดิมๆ!! นี่คือ 17 พิซซ่าหน้าแปลกจากรอบโลก ที่คนไทยอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
เราชาวไทยอาจจะคุ้นเคยกับพิซซ่าหน้าตาปกติ ที่เป็นแผ่นแป้งกลมๆ และเต็มไปด้วยเครื่องเคียงเช่นกุ้ง สับปะรด เห็ด ปูอัด และอีกมากมาย แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะขอพาทุกคนไปฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ ด้วย 17 พิซซ่าหน้าตาแปลกจากรอบโลกที่มีขายอยู่จริง และคนไทยอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน ว่าแล้วก็ไปเปิดหูเปิดตากันเลย 1. พิซซ่าเนื้อจระเข้ เมนูพิเศษที่หากินได้เฉพาะที่โรงแรม The Rocks กรุงซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย 2. พิซซ่าขวดโหล ใช้ขวดโหลบรรจุพิซซ่า พกพาไปกินได้สะดวกกว่าเดิม 3. พิซซ่าแบล็คเบอร์รี่และใบยี่หร่า ผลไม้กับของคาวสามารถเข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ 4. พิซซ่าอมยิ้ม ปั้นพิซซ่าเป็นก้อนกลมแล้วเสียบไม้ 5. พิซซ่าจั๊กจั่น ถึงจะหน้าตาแปลกหน่อย แต่มีขายจริงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในรัฐมิซซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา 6. พิซซ่าถั่วกระป๋อง ร้านอาหารในอังกฤษได้นำถั่วกระป๋องสำเร็จรูปมาดัดแปลงจนเกิดเป็นพิซซ่า 7. พิซซ่าเป็ปเปอโรนีแบบพัฟ นี่อาจจะเป็นพิซซ่าหน้าตาแปลกไปสักหน่อย เพราะมันออกจะเป็นการม้วนๆ ให้กลายเป็นก้อน แล้วค่อยจิ้มกับซอสมะเขือเทศแทนที่จะเป็นการราดแล้วเอาไปอบ 8. พิซซ่ามันฝรั่งทอด นี่น่าจะเป็นพิซซ่าที่ไม่น่าเรียกตัวเองว่าพิซซ่าที่สุด เพราะมันคือมันฝรั่งที่ราดด้วยชีส เป็ปเปอโรนีแล้วก็ใบออริกาโน่ 9. พิซซ่าดิป…
-
พ่อค้าหล่อวัย 18 ปี ถูกถ่ายภาพขณะ ‘ชงชา’ โด่งดังไปทั่วโลก จนได้เซ็นสัญญาเป็นนายแบบ
ความสวยความหล่อไม่เข้าใครออกใคร บางทีคนหล่อๆ สวยๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นดาราหรือคนดังเสมอ เพราะพ่อค้าบางคน หล่อโดดเด่นกว่าดาราซะอีก เหมือน Arshad Khan วัย 18 ปีคนนี้ ที่ทำอาชีพเป็นพ่อค้าชงชาอยู่ในตลาดเล็กๆ ของกรุงอิสลามาบัด ปากีสถาน จนกระทั่งถูกช่างภาพ Jiah Ali ถ่ายรูปเขาขณะชงชา ทำให้เขากลายเป็นคนดัง จนได้เซ็นสัญญาเป็นนายแบบ หลังจากถ่ายรูป ช่างภาพก็ได้มานำโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า jiah_ali ตั้งแคปชั่นว่า ‘Hot-tea’ เพียงเวลาไม่กี่นาที ก็มีคนเข้ามากดไลค์ถึง 15,200 คน และมีคนแสดงความคิดเห็นอีกประมาณ 2,000 ความคิดเห็น นี่คือภาพที่ทำให้ Arshad กลายเป็นคนโด่งดังไปทั่วโลก ตั้งแต่อินเดียยันลอนดอน ส่วนที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดก็คือ ดวงตาของเขา ที่สาวๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มันช่างดึงดูดเหลือเกิน บางคนบอกว่า เขาเป็นหนุ่มหล่อที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ในขณะที่อีกหลายคนก็คลั่งจนบอกว่า จะไปปากีสถานเดียวนี้เลย หลังจากได้ไลค์และคอมเม้นจนถล่มทลาย Jiah จึงได้ตัดสินใจไปหาเขาอีกครั้ง พร้อมถ่ายรูปและโพสต์ลงอินสตาแกรมเหมือนครั้งก่อน ไม่ใช่แค่ช่างภาพเท่านั้นที่ไปหาเขา Arshad บอกว่า ตั้งแต่รูปนั้นถูกเผยแพร่ไปกี่ชั่วโมง ก็มีสาวๆ ประมาณ…
-
สาวน้อยแต่งชุดซุปเปอร์แมนแบบจัดเต็ม เพื่อไปถ่ายรูปติด ‘บัตรนักเรียน’ ชั้นอนุบาล!!
ก็อย่างที่รู้กันว่า ‘บัตรนักเรียน’ จะเป็นบัตรที่มีรูปถ่ายติดอยู่เพื่อใช้ยืนยันความเป็นนักเรียนของแต่ละคน แต่ในต่างประเทศการถ่ายรูปติดบัตรนักเรียนนั้นจะอนุญาตให้เด็กๆ สามารถครีเอทรูปถ่ายได้อย่างอิสระ และหนูน้อยชั้นอนุบาลคนนี้เองก็มาพร้อมกับชุดซุปเปอร์ฮีโร่แบบจัดเต็ม ดูน่ารักไม่เบาเลยล่ะ ^^ มารู้จักกับหนูน้อย Kaylieann Steinbach วัย 3 ขวบ กำลังเรียนอยู่ในชั้นอนุบาล ที่ชื่นชอบเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่เป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าเธอเองก็มีชุดของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ที่ชื่นชอบด้วย เช่น Superman, Batman, Spiderman, Hulk, Thor, Wonder Woman และชุดอื่นๆ อีกมากมาย และซุปเปอร์ฮีโร่ตัวที่เธอโปรดปรานที่สุดนั่นก็คือ Superman เมื่อถึงวันที่ทางโรงเรียนจะทำการถ่ายรูปติดบัตรนักเรียนชั้นอนุบาล เธอก็เลือกที่จะแปลงร่างเป็นซุปเปอร์แมนเพื่อไปถ่ายรูป “ผมมักจะให้เธอเลือกชุดสำหรับตัวเองในทุกๆ วัน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พวกเราได้ไปร่วมงาน Comic Con ที่ San Francisco และเธอก็เลือกที่จะสวมชุด Supergirl ไปเที่ยวงาน พอเสร็จงานก็ไม่อยากถอดมันซะอย่างนั้นเลย” คุณ Austin คุณพ่อของหนู Kaylieann ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed News และภาพติดบัตรนักเรียนของเธอก็กลายเป็นภาพที่อีปิคมาก…
-
นักผจญภัยในป่าเจ้าเดิม ทดลองจับ “ทารันทูล่าฮอว์ค” ต่อยแขนตัวเอง เพื่อดูว่าอึดได้แค่ไหน
หากใครยังจำกันได้ ในคราวก่อน#เหมียวฟิ้นได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่านาย Coyote Peterson ผู้ดำเนินรายการเกี่ยวกับการบุกป่าฝ่าดงบนยูทูบที่ชื่อ Brave Wilderness นาย Peterson มักจะชอบนำเอาแมลงหรือสัตว์ชนิดต่างๆ ที่ได้ชื่อว่าต่อยหรือกัดเจ็บสุดๆ มาลองกับตัวเอง เพื่อดูว่าเขาจะสามารถทนต่อความเจ็บนั้นได้มากน้อยแค่ไหน ในบทความก่อนหน้านี้เขาได้จับเอามด Cow Killer Ant (มดนักฆ่าวัว) มาต่อยตัวเอง ผลปรากฏว่าตอนนั้นเขากรีดร้องเสียงหลงกันเลยทีเดียว แถมพิษของมันแล่นลงสู่แขนจนเกิดเป็นรอยแดงๆ ไปทั่ว ล่าสุดดูเหมือนว่าความซาดิสม์ของเขาจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เขาได้ปล่อยคลิปตัวใหม่ คราวนี้เขาได้จับเอาตัว Tarantula Hawk (ทารันทูล่าฮอว์ค) แมลงที่ได้ชื่อว่ามีเหล็กในที่เจ็บที่สุดเป็นอันดับสองของโลก สาเหตุที่มันได้ชื่อว่าทารันทูล่าฮอว์คเป็นเพราะว่าพวกทารันทูล่าฮอว์คตัวเมียมักจะบินไปในอากาศเพื่อตามกลิ่นสารเคมีของแมงมุมทารันทูล่า จากนั้นก็ทำการล่าพวกมันแล้วนำมาให้ลูกๆ ของมันกินเป็นอาหาร จากการศึกษาพบว่าเหล็กในของพวกมันสามารถสร้างความเจ็บปวดได้มากเกือบจะที่สุดในโลก เป็นรองก็เพียงแค่ Bullet Ant (มดกระสุน) เท่านั้น ในคลิปนี้ก็เหมือนกับคลิปก่อนๆ นาย Coyote จับแมลงมาไว้ในขวดแก้ว จากนั้นก็จับมันมาต่อยที่แขนของตัวเอง ทันทีที่เหล็กในเข้าไปในแขนเขาก็เริ่มกรีดร้องออกมาทันที ในระหว่างที่ความเจ็บปวดกำลังแทรกซึมเข้าไปในแขนของเขา เจ้าตัวก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย บอกได้เพียงว่า “นั่นคือความเจ็บปวดที่ผมเคยเจอมาเลย” …
-
มาเลเซียเตรียมเปลี่ยนชื่อ “ฮอตดอก” เพราะอาจขัดต่อแนวทางอิสลาม เรื่องสุนัขเป็นสิ่งสกปรก
ทางรัฐบาลในมาเลเซียเตรียมที่จะเปลี่ยนชื่อ “ฮอตดอก” หรือบางทีอาจจะถูกแบนไปเลยก็ได้ เนื่องจากว่าเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และเคร่งเรื่องฮาลาลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าฮอตดอกจะเป็นอาหารจากตะวันตก แต่ทางมาเลเซียก็ได้ปรับปรุงอาหารชนิดนี้ใหม่ จากเดิมทีที่ใช้เนื้อหมู ก็เปลี่ยนมาใช้เนื้อไก่แทน Sirajuddin Suhaimee อธิบดีกรมการพัฒนาอิสลามมาเลเซีย กล่าวว่าเขาได้รับข้อร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวมุสลิมมากมายเกี่ยวกับการใช้ชื่อฮอตดอกนี้ ผลิตภัณฑ์ฮาลาลนี้จะทำให้คนสับสน จึงต้องเปลี่ยนชื่อ อีกทั้งสุนัขในศาสนาอิสลามถือเป็นสัตว์ที่สกปรก ดังนั้นชื่อของมันไม่ควรได้รับเครื่องหมายฮาลาล นอกจากนี้ร้านอาหารแห่งไหนที่ไม่ยอมทำตามกฎอาจจะไม่ได้รับเครื่องหมายฮาลาลและถูกแบนได้ หลังจากข่าวนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปก็ได้มีเสียงวิจารณ์เป็นอย่างมาก เช่น “ควรเคร่งที่เรื่องศาสนา.. อย่าทำตัวเป็นที่ปรึกษาภาษาอังกฤษ” หรือ “งั้นร้านสัตว์เลี้ยงก็ต้องเปลี่ยนชื่อสุนัขเป็นไส้กรอกด้วยอ่ะดิ” ซึ่งส่วนมากผู้คนต่างก็คิดไปในแนวที่ว่าควรที่จะจริงจังกับวัตถุดิบที่ใช้มากกว่าการเปลี่ยนชื่ออาหารเพื่อให้ได้รับฮาลาล ที่มา dailymail
-
20 ‘ภาพประวัติศาสตร์’ หาดูยาก สะท้อน ‘สังคมในอดีต’ ที่คนรุ่นหลังควรได้เห็นสักครั้งในชีวิต
เรื่องเล่าจากผู้ใหญ่อาจทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีต แต่เราคงจะนึกภาพไม่ออก หากไม่มีภาพหรือรูปถ่ายมาประกอบด้วย ดังนั้น รูปในประวัติศาสตร์ต่อไปนี้ จำทำให้เราได้เห็นและเข้าใจวิถีชีวิตในอดีตมายิ่งขึ้น แน่นอนว่า ภาพที่เห็นอาจจะแปลกๆ บ้าง แต่ต้องเข้าในว่า ในสมัยยังไม่มีเทคโนโลยีทีทันสมัยเหมือนอย่างตอนนี้ 1. Salvador Dali และ Coco Chanel Salvador Dali เป็นจิตรกรชาวสเปน มีชื่อเสียงจากผลงานภาพวาดแนวเหนือจริง ส่วน Coco Chanel เป็นเจ้าแม่แฟชั่นในตำนาน และคำว่า Chanel กลายเป็นชื่อแบรนด์แฟชั่นที่โด่งดังจนถึงปัจจุบัน 2. การใช้หมีรักษาอาการปวดหลังในโรมาเนีย ปี 1946 3. การบันทึกสถิติใหม่ของโลก เกี่ยวกับความเร็วของมอเตอร์ไซค์ในปี 1948 ซึ่งเป็นภาพที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์รถจักรยานยนต์ 4. ในคาบเรียนเพศศึกษา ปี 1929 5. เหล่าคนตัดไม้ในช่วงปี 1900 6. William Harley และ Arthur Davidson ผู้ก่อตั้งบริษัท Harley Davidson Motorcycle หรือบริษัทรถจักรยนต์…
-
คู่รักยอมเสียสละชีวิตส่วนตัว รับหมามาเลี้ยงกว่า 46 ตัว และดูแลให้พวกมันมีชีวิตที่แสนสุข!!
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับคุณ Mark และคุณ Sharon Starmer คู่รักที่มีความรักให้กับเหล่ามะหมาอย่างแท้จริง!! ทั้งสองคนรักหมาเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันพวกเขาอาศัยอยู่ร่วมกันกับเหล่ามะหมากว่า 46 ตัว!! ซึ่งบางตัวก็ถูกรับมาเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์ต่างๆ บ้างก็รับมาเลี้ยงหลังจากที่เจ้าของเก่าทิ้งไปเพราะอาการเจ็บป่วย หรืออายุที่มากเกินไป แน่นอนว่าคุณ Mark และคุณ Sharon ปฏิเสธไม่ลงก็เลยตัดสินใจรับมาเลี้ยงหมดทุกตัว ย้อนกลับไปในปี 2004 คู่รักชาวแคนาดาคู่นี้ได้เริ่มรับเจ้าหมาตัวแรกมาเลี้ยง หลังจากนั้นไม่นานก็รับอีกหลายๆ ตัวเข้ามาเพราะคุณ Mark และ Sharon ได้ทราบเรื่องราวอันแสนเศร้าของพวกมัน ความโดดเดี่ยวความเหงาที่เกิดขึ้นขณะอาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์ พอรับไปรับมาตอนนี้ก็มีเหล่ามะหมาอาศัยอยู่ที่บ้านของพวกเขามากกว่า 46 ตัวแล้วล่ะ ประกอบไปด้วย…Siberian Huskies 10 ตัว, Leonberger 9 ตัว, St Bernard 4 ตัว, พันธุ์ผสม 5 ตัว, Great Dane 2 ตัว, Standard Poodle 2 ตัว, Moyen Poodle 2…
-
ครอบครัวแอบพบ ‘ภาพวาดสุดเศร้า’ ของลูกสาว 5 ขวบ หลังถูกบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศ
นี่คือเรื่องราวสุดเศร้าที่เกิดขึ้นกับพ่อและแม่ชาวบราซิลเมื่อได้พบภาพที่ลูกสาววัย 5 ขวบได้วาดไว้ เผยให้เห็นความจริงว่าลูกของพวกเขาถูกบาทหลวงล่วงละเมิดทางเพศ บาทหลวง Joao da Silva วัย 54 ปี เล่าว่าสารภาพผิดต่อพ่อของเด็กหญิง หลังจากโดนเค้นอย่างหนัก ในการพบกันที่โบสถ์ในเมือง Minas Gerais และได้รู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น ครอบครัวของเด็กสาวได้พบภาพวาดหลังจากที่ลูกสาวปฏิเสธกระทันหัน ที่จะเข้าเรียนคลาสภาษาอังกฤษซึ่งทางโบสถ์จัดขึ้น พวกเขาได้พาลูกสาวไปหานักจิตวิทยาเด็ก จากการพูดคุยทำให้ทราบว่าอาจจะมีการล่วงละเมิดทางเพศ และได้แนะนำให้พ่อแม่ไปค้นหาหลักฐานเพิ่มในห้องเด็ก ภาพวาดนี้ถูกพบเจออยู่ในหนังสือ ซึ่งเธอวาดไว้ทั้งหมด 6 ภาพ เผยรายละเอียดถึงการถูกล่วงละเมิดทางเพศสุดแสนสลด ส่วนตัวเด็กเองก็รู้สึกกังวลใจหลังจากที่รู้ว่าพ่อแม่จะพาเธอไปหานักจิตวิทยาเด็ก ตัวอย่างของภาพที่ถูกเปิดเผยออกมาทางสำนักข่าวต่างประเทศ ภาพเหล่านี้นำไปสู่การเค้นความจากบาทหลวง และการจับกุมในที่สุด จากในรูปสามารถเล่าถึงความน่ากลัวที่เด็กสาววัย 5 ขวบได้เจอมาได้อย่างครบถ้วน ซึ่งใครเห็นก็ต้องรู้สึกหดหู่ไปกับพฤติกรรมนี้ หลังจากที่พ่อได้โทรหาบาทหลวงคนนี้ก็ได้บอกเขาว่าเขาแจ้งตำรวจเรียบร้อย ทำให้บาทหลวงยอมรับสารภาพทั้งหมด ***มีรายงานอัพเดทเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ตำรวจก็ได้ทำการคุมขังบาทหลวงคนนี้แล้ว และเตรียมที่จะสอบสวนต่อไปในกรณีล่วงละเมิดทางเพศเด็กครั้งนี้ ที่มา dailymail
-
ตัวแทนแห่งดวงจันทร์!! ญี่ปุ่นผลิตชุดเครื่องสำอาง “เซเลอร์มูน” แด่สาวแฟนคลับทุกคน
บริษัทผู้ผลิตของเล่นหลายแห่งมักจะมีวิธีในการดูดเงินออกจากกระเป๋าของเราได้ แม้ว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม… เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Premium Bandai ได้คิดหาวิธีดูดตังค์จากสาวๆ…ด้วยของใช้ที่เป็นลวดลายแบบเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในการ์ตูน Sailor Moon และ Sailor Moon S ของใช้ที่ว่านั่นก็คือเครื่องสำอางรูปแบบต่างๆ นั่นเอง เครื่องสำอางแต่ละชิ้นถูกออกแบบให้เหมือนกับอุปกรณ์แปรงร่างของตัวละคร ประหนึ่งว่าคุณคืออุซางิ กำลังแปรงร่างเป็นเซเลอร์มูนยังไงยังงั้นเลย อุปกรณ์ในเซ็ทที่ถูกปล่อยออกมามีตั้งแต่จอกพระจันทร์สายรุ้ง, เซเลอร์มูนสติ๊ก และคฑาเซเลอร์มูน ทีนี้ล่ะมันจะทำให้พวกคุณเสียเวลากับโต๊ะเครื่องแป้งมากขึ้นไปอีก (เพราะมัวแต่ยืนวาดลวดลายแปรงร่างอยู่นานสองนาน) ตอนนี้คุณสามารถพรีออเดอร์สินค้าต่างๆ ได้แล้ว ผ่านเว็บไซต์ p-bandai.jp (จอก และ คฑา) แน่นอนว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ใครอ่านไม่ออกก็คงต้องใช้วิทยายุทธกันนิดนึงนะ ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 1,170 บาท ถึง 1,700 บาท โดยจะเริ่มจัดจำหน่ายและส่งให้กับลูกค้าในช่วงเดือนธันวาคม ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเซเลอร์มูนไม่ควรพลาดเด็ดขาด ที่มา rocketnews24
-
เมาฟรีลูกหมาป่า!! ไร่องุ่นอิตาลี เปิดตัว “น้ำพุไวน์” ให้ทุกคนดื่มฟรีๆ ตลอด 24 ชั่วโมง
หากคุณคิดว่าความสุขของคุณคือการได้นั่งจิบไวน์อย่างสบายอารมณ์ ในบรรยากาศร่มรื่นแล้วล่ะก็ สถานที่ต่อไปนี้นี่แหละ คือสวรรค์ที่แท้จริงของคุณเลยล่ะ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่าที่ไร่องุ่น Dora Sarchese เมือง Caldari di Ortona แห่งแคว้น Abruzzo ประเทศอิตาลี ได้สร้างน้ำพุสุดแหวกแนวขึ้นมา ที่มันแปลกกว่าน้ำพุอื่นๆ ก็เพราะว่าน้ำที่ออกมานั้นไม่ใช่น้ำประปาธรรมดาๆ แต่มันคือน้ำพุไวน์!! ที่จะทำให้คุณได้ลิ้มรสชาติของมันแบบตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว ตอนนี้มีหน่วยงานที่ไม่หวังผลกำไร เข้าไปตรวจสอบและจัดทำสถานที่ให้เหมาะแก่การเป็นสถานที่บริการสำหรับนักปีนเขา นักเดินทางและนักท่องเที่ยวที่รู้สึกกระหายแล้ว ทางไร่องุ่นเองก็ได้ออกมาบอกว่าการสร้างน้ำพุไวน์แห่งนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อให้คนมาเมากันแบบฟรีๆ ตั้งแต่แรก มันถูกสร้างขึ้นเพื่อนักแสวงบุญที่เดินทางไปที่นั่น แต่ก็อนุญาตให้คนทั่วไปดื่มได้เช่นกัน แม้จะดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่มันก็ได้เกิดขึ้นจริงแล้วแถมยังอนุญาต ให้คุณได้นำแก้วไปรองกินกันแบบฟรีๆ เลยด้วย มีใครอยากจะลองไปเที่ยวที่ไร่องุ่นแห่งนี้สักครั้งบ้างไหม? ที่มา metro
-
คุณตาชาวญี่ปุ่น เปิดประตูร้านขายของไว้ 2 ปี เพื่อรอลูกค้าที่ ‘ลืมกระเป๋าไว้’ มาเอาคืน
ความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติที่ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมไหน ก็เป็นที่ต้องการทั้งนั้น โดยเฉพาะร้านค้าต่างๆ ที่ต้องมีความซื่อกับลูกค้า เช่น การไม่โกงราคา และหากลูกค้าลืมของไว้ ก็ต้องส่งคืน ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น มีร้านเล็กๆ ร้านหนึ่ง เขียนป้ายติดหน้าร้านว่า “Chocolate, Chewing Gum: Uchiyama Candy Store” หลายคนจึงเข้าใจว่าเป็นร้านขนม โดยจะแง้มประตูไว้เล็กน้อยตลอดเวลากว่า 2 ปีแล้ว ร้านขนมนี้เป็นของ Yoshio Uchiyama คุณตาวัย 90 ปี แม้หน้าร้านจะเขียนว่า ร้านขนม แต่ภายในร้านกลับไม่มีขนมเลยสักชิ้น เพราะมีแต่บุหรี่เต็มไปหมด อ่าว งงล่ะสิ!? เมื่อสอบถามคุณตา Uchiyama จึงได้คำตอบว่า เขาเคยเปิดเป็นร้านขนมเมื่อ 50 ปีที่แล้ว แต่ตอนนี้แก่แล้ว เรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยมี เลยขายแต่บุหรี่เท่านั้นเอง เหตุผลที่ยังคงใช้ป้ายเดิม และแง้มประตู้ไว้ตลอดนั้น เป็นเพราะว่า เมื่อ 2 ปีก่อน มีลูกค้าลืมกระเป๋าไว้ที่ร้าน…
-
คุณแม่ออกแบบแฟชั่นเก๋ๆ ให้ลูกน้อย Leia และ Lauren ฝาแฝดจ้ำม่ำ จนมีแฟนคลับเพียบ
เวลาเห็นเด็กน้อยหน้าตาจ้ำม่ำทีไร อดใจไม่ได้ทุกที ต้องเข้าไปหยิกแก้ม ต้องเข้าไปเล่นด้วยตลอด แหม่ก็น่ารักซะขนาดนั้น ใครละจะอดใจไหว Leia และ Lauren เด็กน้อยฝาแฝดที่ใครเห็นก็บอกว่าน่ารัก ทั้งคู่เกิดตอนคุณแม่ตั้งท้องได้ 32 สัปดาห์ คนหนึ่งหนัก 1.5 กิโลกรัม อีกคนหนัก 1.6 กิโลกรัม และต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเกือบเดือนกว่าจะได้กลับบ้าน แม้จะคลอดก่อนกำหนด แต่ทั้งคู่โตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์อย่างไม่น่าเชื่อ คุณแม่จึงได้แบ่งปันรูปของหนูๆ ในอินสตาแกรม และเพียงไม่นานก็มีคนเข้ามาติดตามถึง 260,000 คนแล้ว เพื่อเข้ามาชื่นชมความน่ารักของทั้งคู่ ตอนนี้ไม่เพียงแค่แชร์รูปน่ารักๆ เท่านั้น แต่คุณแม่ยังได้ออกแบบเสื้อผ้าให้ทั้งคู่ในแบบที่ไม่ซ้ำกัน นอกจากนี้ยังได้จำหน่ายให้ช้อปกันอีกด้วยในร้านออนไลน์ leialauren โดยให้หนูน้อย Leia และ Lauren เป็นแบบให้ ทำให้หนูน้อยทั้งสองกลายมาเป็นนายแบบนางแบบจำเป็น ขณะที่คุณแม่ก็สร้างรายได้จากการขายชุดเพื่อมาเลี้ยงลูกน้อยได้อีกต่างหาก …
-
คุณยายโชว์เฟี้ยว อยากฉลองวันเกิด 95 ปี ให้ตื่นเต้นไม่ซ้ำใคร ด้วยการกระโดดร่มซะเลย!!
เค้าว่ากันว่า คนเราเกิดมาครั้งเดียว ตายแค่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้นถ้าใครอยากจะทำอะไร ก็ควรจะรีบทำในสิ่งที่หวังไว้ให้ได้ซักครั้งในชีวิต ก่อนที่มันจะสายเกินไป และเราก็คิดว่าคุณยายคนนี้ คงเชื่อในหลักคิดนี้เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าอายุแกจะใกล้เข้าหลักร้อยแล้ว แต่แกก็ยังคงแสวงหาความตื่นเต้นให้กับชีวิตอยู่เสมอ คุณยายหัวใจวัยรุ่นคนนี้ชื่อว่า Bettie Butler อายุอานามของเธอก็เกือบจะกระทบกับเลขร้อย ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 95 ปีแล้ว แต่ครั้นจะให้ฉลองวันเกิดด้วยการนั่งเป่าเทียนบนเค้กอยู่ที่บ้าน แกก็คงจะเบื่อเพราะทำมาแล้วทั้งชีวิต คราวนี้แกเลยอยากเพิ่มสารอะดรีนาลีนให้แก่ร่างกายตัวเองซักหน่อย แกเลยตัดสินใจฉลองวันเกิดด้วยการกระโดดร่มมันซะเลย ด้วยความสูงระดับ 13,000 ฟุต ไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยนะเนี่ย เห็นแบบนี้คุณยายแกก็ไม่ได้มากระโดดคนเดียวแต่อย่างใด เพราะบรรดาลูกๆหลานๆ และเพื่อนๆรวมกว่า 40 ชีวิตต่างมาร่วมให้กำลังใจ ยืนรอกันอยู่ข้างล่าง พร้อมกับเค้กวันเกิดของคุณยาย แถมคุณยาย Butler ยังให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ WTHR อีกด้วยว่า “เป็นอะไรที่วิเศษมากเลย ฉันได้แรงบันดาลใจมาจากประธานาธิบดี เพราะตอนนั้นฉันเห็น จอร์จ บุช กระโดดได้ ฉันก็คิดว่าตัวเองต้องกระโดดได้” อีกทั้งหลานสาวเธอยังเล่าอีกด้วยว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณยายทำอะไรที่มันท้าทายแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยฉลองวันเกิดด้วยการ ขี่เจ็ทสกี หรือนั่งบอลลูนท่องไปบนฟากฟ้าอีกด้วย …
-
รักสายฟ้าแล่บ!! คู่รักชาวอินโดนีเซียเจอกันผ่านแอพฯ จีบกัน และแต่งงานกัน ภายใน 7 วัน!!
ความรักของคู่รักแต่ละคู่มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปนะ บางคนอาจจะใช้เวลาศึกษากันนานเป็น 10 ปี บางคู่ปีเดียว บางคู่ 6 เดือน แต่คงจะไม่มีคู่รักคู่ไหนที่คบกันได้รวดเร็วและแต่งงานกันได้เร็วเท่าคู่รักชาวอินโดนีเซียคู่นี้แน่ๆ (ถ้ามีก็คงน้อยมาก) นี่เป็นเรื่องราวของนักธุรกิจหนุ่มชาวอินโดนีเซียผู้ร่ำรวยที่ชื่อว่า Pablo Putera Benua วันหนึ่งเขาได้ลองดาวน์โหลดแอพฯ หาคู่ Tinder มาลองใช้ดู ทำให้เขาได้รู้จักกับ Rey Utami ดาราและพิธีกรสาวที่มีชื่อเสียงของอินโดนีเซีย แต่แทนที่พวกเขาจะเสียเวลาศึกษาดูใจกันนานเป็นเดือนหรือเป็นปีแบบคู่รักคู่อื่น พวกเขากลับใช้ทุกวินาทีได้อย่างคุ้มค่า (?) ยกตัวอย่างเช่น วันที่ 1 พวกเขาได้เจอกันและคุยกันในเดทแรก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี วันที่ 2 พวกเขาไปออกเดทกันอีกครั้ง ฝ่ายชายซื้อรก Honda HRV มูลค่า 976,900 ให้กับเธอ วันที่ 3 คราวนี้ฝ่ายชายซื้อนาฬิกาเรือนละ 10 ล้านบาทให้เป็นของขวัญกับเธอ วันที่ 4 ฝ่ายชายขอดาราสาวแต่งงาน วันที่ 5 ทั้งคู่ไปพบหน้าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเพื่อขอลูกสาวและตกลงเรื่องงานแต่ง วันที่ 6 ทำวิดีโอพรีเซ้นท์งานแต่งงาน วันที่ 7…
-
ดั่งฮีโร่!! เด็กหญิงป่วยมะเร็ง ปฏิเสธความฝันเที่ยวดิสนีย์แลนด์ เพื่อนำเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้
เพราะทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายในชีวิตต่างกัน สำหรับบางคนอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อแลกกับมันมา และเช่นเดียวกันกับบางคนที่อาจจะต้องรีบทำความฝันให้สำเร็จ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป Emma Allred สาวน้อยวัย 13 ขวบ เธอต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งมาตลอด 3 ปีเต็ม และความฝันเดียวที่เธออยากจะทำให้สำเร็จ นั่นก็คือการเก็บออมเงินวันละเล็กน้อย เพื่อเป็นทุนสำหรับการได้ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ ซึ่งอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต วันหนึ่งสาวน้อยฮีโร่ผู้กล้าจากรัฐ Idaho ประเทศสหรัฐฯ ได้รับการติดต่อจากแคมเปญ ‘Make-A-Wish’ รายการที่เสนอให้เธอได้ออกไปเที่ยวตามความฝัน พร้อมกับจ่ายเงินให้ทุกบาททุกสตางค์แบบฟรีๆ แม่ของเธอได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Inside Edition ไว้ดังนี้ “ฉันอยากจะพาเธอไปที่ดิสนีย์แลนด์อีกครั้ง เพราะทริปครอบครัวของเราครั้งแรก ก็คือการไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ เป็นช่วง 1 เดือนก่อนหน้าที่เราจะพบว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง” ซึ่งคุณแม่ก็หวังว่า ความช่วยเหลือจากรายการดังกล่าว จะช่วยสานฝันให้เป็นจริงอีกครั้ง ถึงแม้ว่าโอกาสความฝันของเธอจะเข้ามาแบบฟรีๆ แต่สิ่งที่เธอตัดสินใจกลับแตกต่างออกไป กลายเป็นสิ่งที่เซอร์ไพรส์คนทั้งครอบครัว และทุกคนต่างภูมิใจในตัวลูกสาวผู้เสียสละคนนี้ เธอเลือกที่จะนำเงินที่ทางรายการจัดสรรมาให้ ใช้ไปกับการจัดปิคนิคขนาดใหญ่ ที่ๆเธอและครอบครัวจะนำอาหาร น้ำดื่ม หรือสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เข้าไปแจกจ่ายช่วยเหลือคนไร้บ้าน งานนี้ได้ระดมเงินทั้งหมดเป็นจำนวนมากถึง £13,000 (ประมาณ 5 แสนบาท) และทุกบาททุกสตางค์ ถูกนำไปซื้อของใช้จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้…
-
ช่างกล้า…แมวโดดขึ้นโต๊ะผู้ประกาศข่าวขณะออกอากาศสด จนโด่งดังและมีคนรับไปเลี้ยงต่อ
คำพูดที่เราชอบแซวกันว่าแมวจะครองโลกนั้น ดูท่าจะจริงนะ เพราะไม่ว่าที่ไหนๆ ในโลกมันก็สามารถเข้าถึงได้แบบง่ายๆ แม้จะเป็นโต๊ะข่าวที่กำลังออกอากาศสดก็ตาม… เรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะนำมาเสนอในวันนี้ เป็นคลิปรายการข่าว Good Morning Denizli ของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศตุรกี โดยมี Kudret Çelebioğlu เป็นคนทำหน้าที่รายงานข่าว แต่ในระหว่างที่รายการดำเนินอยู่ กลับมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาในรายการ แขกที่ว่านี้คือเจ้าเหมียวเร่ร่อนตัวหนึ่ง ที่ดันหลุดเข้าไปในสตูดิโอโดยไม่มีใครทันสังเกต จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่าเจ้าแมวไม่ได้มีความเกรงกลัวผู้ประกาศข่าว แต่ยังโดดขึ้นไปบนโต๊ะทำงานหน้าตาเฉย ทำให้มันได้ออกรายการทีวีไปทั่วประเทศ แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของนาย Çelebioğlu เมื่อเห็นแมวเข้ามาในรายการ แทนที่จะหยุดชะงักไปเขากลับแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงความน่าสงสารและเห็นอกเห็นใจต่อแมวเร่ร่อนในชุมชนมากขึ้น ผู้ประกาศข่าวหนุ่มพูดในรายการว่า “อย่างที่คุณรู้ ฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามาและอากาศเย็นก็กำลังจะพัดผ่านมา เจ้านี่คือแขกที่เข้ามาโดยเราไม่ได้ตั้งตัว แต่เราควรโอบกอดมันไว้ เราควรเปิดประตูบ้านเพื่อพวกแมวเร่ร่อนและให้น้ำให้ข้าวพวกมัน เราทุกคนควรดูแลมันบ้างเหมือนกันนะครับ” ชมคลิปเจ้าเหมียวบุกสตูดิโอข่าวได้ที่นี่เลยจ้า หลังจากที่รายการข่าวจบลง เจ้าแมวตัวนี้ก็ได้รับอาหารจากเจ้าหน้าที่สตูดิโอข่าวไปจนอิ่มแปล้ และได้นอนที่อุ่นๆ ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ หนึ่งในพนักงานของสตูดิโอแห่งนั้นยังเสนอที่จะรับมันไปเลี้ยงต่อที่บ้านด้วย และตั้งชื่อให้มันว่า Hüsnü (ฮูสนู) แหม่งานนี้ ทั้งได้ออกทีวี ได้อาหารกิน ได้ที่อยู่ ได้เจ้านายใหม่ ช่างเข้าใจคิดเหลือเกินนะ…
-
เอาจริง? ร้านอาหารนำแก้วน้ำที่ “Justin Bieber” ดื่ม มาขายต่อในเน็ตในราคา 2.8 ล้านบาท!!
หากพูดถึงศิลปินนักร้องชายต่างประเทศที่ดังๆ ในตอนนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักพ่อหนุ่มชาวแคนาดา Justin Bieber อย่างแน่นอน เพราะเขาเข้าวงการมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นหน้าละอ่อน จนตอนนี้แตกเนื้อหนุ่มกลายเป็นผู้ชายที่สาวๆ เกือบทั่วโลกใฝ่ฝันหา และด้วยความหล่อเหลานี่เอง ทำให้กลายเป็นที่จับตามองมาก ว่าเขาจะคบกับใคร จะเดินทางไปไหน หรือแม้กระทั่งใช้ข้าวของอะไร ก็ดูจะเป็นที่สนใจไปเสียหมด ล่าสุดเว็บไซต์ต่างประเทศหลายแห่งได้รายงานว่าพ่อหนุ่ม Justin Bieber พร้อมด้วยบอดี้การ์ด ได้เดินทางไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารในโรงแรม Kings Oak มณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ตามรายงานบอกว่า Bieber ได้สั่งแซลมอน 1 จาน และนม 1 แก้ว แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เขาเรียกเก็บเงินและออกจากร้านไปแล้ว ทางร้านได้เก็บแก้วใบนั้นที่มีรอยริมฝีปากของ Bieber มาประมูลผ่านเว็บไซต์ eBay แบบขำๆ เพื่อดูปฏิกิริยาของแฟนๆ ด้านผู้ช่วยผู้จัดการ Amy Potter ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เขาเป็นคนดีมากๆ และดูเป็นกันเอง แต่จากนั้นเขาก็ต้องรีบไปต่อ เพราะถ้ามีคนถ่ายภาพเขากินอาหารที่ร้านนั้นแล้วนำไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต ผู้คนและเด็กๆ จะแห่กันมาที่ร้านนับร้อย” แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Bieber ย่อมเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ที่จะให้คนอื่นๆ ได้แก้วใบนั้นไป ทุกคนจึงพยายามประมูลด้วยราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ …
-
แม่วัย 37 เป็นโรคอ้วน ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย เพียงปีเดียวก็ได้ผลลัพธ์อันคุ้มค่า!!
อะไรที่มันมากเกินไป หรือน้อยเกินไปก็มักจะไม่ดี เช่นเดียวกับภาวะโรคอ้วน ที่เกิดจากการได้รับสารอาหารมากเกินความจำเป็นที่ร่างกายใช้ จนติดเป็นนิสัยรักการกินไปในที่สุด และนี่คือเรื่องราวของคุณแม่วัย 37 ปี เธอประสบปัญหาน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ เธอจึงลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ด้วยความหวังที่อยากจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง กับเวลา 1 ปีที่เธอทุ่มเทให้กับการออกกำลังกาย เราตามไปดูเรื่องราวของเธอกัน Karen Sharpe น้ำหนักตัวของเธอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอย่างฉุดไม่อยู่ การกินเปรียบได้ดั่งอาชีพ ของเธอในขณะนั้น นอกเหนือจากการเป็นแม่บ้านเต็มตัวที่ต้องดูแลลูกทั้ง 4 แล้ว เธอยังเป็นแฟนพันธุ์แท้ร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดอีกด้วย ทุกคืนกลางดึกเธอจะต้องแวะซื้อของกินก่อนเข้านอนอยู่เป็นประจำ แต่แล้วเวลานั้นก็มาถึง เธอเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของเธอไม่เอื้ออำนวยในการทำกิจกรรมใดๆเลยในชีวิตประจำวัน ตลอดระยะเวลา 6 ปี ที่เธอต้องรู้สึกอึดอัด และเหนื่อยง่ายมากกว่าคนอื่นๆ “ฉันอยากจะขยับ ฉันอยากจะเต้น ฉันอยากจะเคลื่อนที่ได้เหมือนคนอื่น แต่ฉันทำไม่ได้” เธอให้สัมภาษณ์ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอรู้สึกว่าตัวเองน่าเบื่อ และขาดความมั่นใจในตัวเอง หลังจากที่เธอคิดได้ เธอจึงเริ่มเข้าพบคุณหมอเพื่อขอคำแนะนำ เกี่ยวกับการปรับสภาพร่างกาย รวมไปถึงนิสัยการกิน หลังจากที่เธอรู้ว่าจะต้องรอคุณหมอกว่าปี ในการผ่าตัดดูดไขมัน เธอก็ไม่ได้อยู่เฉยๆนิ่งนอนใจแต่อย่างใด แต่คุณแม่กลับลุกขึ้นมาออกกำลังกายด้วยตัวเอง เมื่อออกกำลังกายไปได้เรื่อยๆ เธอก็พบว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดใดๆอีกแล้ว สิ่งที่เธอทำมีเพียงแค่การควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น…
-
ทหารอเมริกัน ได้รับการปลูกถ่ายแขนคู่ใหม่ หลังต้องสูญเสียแขนทั้ง 2 ข้างไปจากสงคราม!!
ถึงแม้ว่าสงครามจะเต็มไปด้วยสถานการณ์แห่งความโหดร้าย ตึงเครียด และความน่ากลัว แต่อย่างน้อยหลังจากที่สงครามได้จบลงไปแล้ว ก็มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นบ้าง และมันก็ได้สร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนอีกด้วย เรื่องราวของ John Peck นาวิกโยธินสหรัฐ วัย 31 ปี ผู้ที่ได้สูญเสียทั้งแขน และขาทั้งหมดจากเหตุระเบิดในอาฟกานิสถาน เมื่อปี 2010 เขาต้องใช้เวลากว่า 6 ปี ในฐานะทหารผ่านศึกผู้ไร้แขน และนั่นทำให้ชีวิตเขายากลำบากอย่างมาก.. แต่เหมือนโชคดีจะเข้าข้างเขา เมื่อมีทหารผู้เสียชีวิตในสงครามเช่นกัน ได้ลงชื่อยินยอมพร้อมบริจาคร่างกาย และชิ้นส่วนแขนที่สมบูรณ์ดีจากศพของเขา สามารถช่วยชีวิต John ให้กลับมายิ้มอีกครั้ง เมื่อตรวจสอบความเข้ากันได้ เขาก็พร้อมที่จะเข้ารับการผ่าตัดใส่แขนใหม่นี้แล้ว หลังจากนั้นอีก 6 ปีต่อมา เขาก็กลับมามีกำลังใจในการดำเนินชีวิตอีกครั้ง หลังจากที่ได้เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายแขนใหม่ จากครอบครัวของผู้เสียชีวิตรายหนึ่ง สำหรับการปลูกถ่ายแขนของ John ทางศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึง 12 คน จากโรงพยาบาล Boston’s Brigham and Women’s Hospital ในบอสตัน ได้ใช้เวลาในการดำเนินการผ่าตัดเป็นเวลาเกือบ 14…
-
เมื่อ ‘เจ้าเหมียวขาหัก’ คลานมาขอความช่วยเหลือจากหญิงสาว แล้วใครจะปฏิเสธได้ลงล่ะ!!
โดยส่วนมากแล้วเมื่อมีเหตุการณ์แมวเหมียวมาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ ไม่ว่าใครก็ต้องยอมใจอ่อนไปซะทุกคน เช่นเดียวกับทาสแมวสาวคนนี้… เมื่อ 1 ปีก่อนหน้านี้ มีหญิงสาวคนหนึ่งได้หยุดชะงักเมื่อกำลังจะเดินผ่านเจ้าเหมียวสีเหลืองตัวหนึ่งซึ่งขาของมันกำลังหักอยู่ เธอตกหลุมรักเข้าเต็มเปา!! พร้อมกับให้ความช่วยเหลือกับมัน ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้าเหมียว Todd คุณ Brianna Walker ได้ทำการช่วยเหลือสัตว์มาแล้วมากมายที่โรงพยาบาลสัตว์ แต่เจ้าเหมียวสีเหลืองตัวน้อยที่จู่ๆ ก็โผล่มาตรงหน้าเธอในวันนั้นได้ขโมยหัวใจของเธอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ในวันเกิดเหตุฉันได้พาเจ้าหมาของลูกค้าออกไปเดินเล่นข้างนอก และจู่ๆ มันก็เริ่มเห่า ฉันก็เริ่มออกตามหาว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรอยู่แถวนั้นรึเปล่า และก็เจอเจ้าเหมียวตัวน้อยมาสะดุดอยู่ที่เท้าของฉัน” คุณ Walker กล่าว “ฉันพาเจ้าหมากลับเข้าไปไว้ในคลีนิค และก็เดินออกมาอีกรอบเพื่อช่วยเจ้าเหมียวตัวน้อย” พอมาตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าขาหลังของมันนั้นมีอาการบาดเจ็บอยู่ และอีกข้างก็เหมือนว่าจะหัก ด้วยความที่เป็นทาสแมวเธอก็รู้ได้ทันทีว่าจะต้องช่วยเหลือเจ้าตัวเล็กนี้ “ฉันรีบโทรหาบอส และเธอก็รีบมาหาฉันที่คลีนิค” คุณ Walker เล่า ก่อนการผ่าตัด ก็ต้องเตรียมพร้อมกันก่อนด้วยการเอกซเรย์ ขาของเจ้าเหมียวน้อยนั้นบาดเจ็บหนักมาก แต่ทีมสัตวแพทย์ก็ไม่ยอมแพ้ “พวกเราทำการผ่าตัดศัลกรรมด้วยการใช้หมุดปักเพื่อดามขาของมัน” ขณะที่อยู่ในคลีนิคนั้นเจ้า Todd จะแสดงท่าทีที่น่ารักอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนที่คุณ Walker มาตรวจเช็คอาการ มันก็จะหายใจเป็นเสียงกรนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสบายใจอยู่เสมอ “มันจะเดินมาคลอเคลียกับฉัน แล้วก็หายใจดังเป็นเสียงกรนอยู่ตลอด” คุณ Walker เล่า…
-
กรุงปารีสออกกฎ อนุญาตชาวเมือง ‘ทำสวน’ ได้อย่างอิสระ เพิ่มความงดงามให้กับเมือง
ก็อย่างที่เรารู้กันดีว่ากรุงปารีส นั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลก ทั้งการวางแผงเมืองและสถาปัตยกรรมเองก็มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงกลิ่นอายฝรั่งเศส จนเป็นที่มาของชื่อเสียงอันเลื่องลือไปทั่วโลก และล่าสุด!! ความงดงามของเมืองนี้คงจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะล่าสุดกฎหมายใหม่ก็เพิ่งร่างผ่านไป โดยสามารถอนุญาตให้ประชากรสามารถทำสวนเป็นของตัวเองในพื้นที่ของเมืองได้แล้ว เหล่าผู้คนที่อยู่อาศัยจะได้รับใบอนุญาตเป็นเวลา 3 ปี ในการปลูกผัก ผลไม้ ดอกไม้ และ พืชพรรณอื่นๆ จากตัวบทกฎหมายแล้ว สวนเหล่านี้จะต้องใช้วิธีการดูแลรักษาอย่างยั่งยืนเท่านั้น นั่นหมายความว่าจะไม่มีการใช้ยาฆ่าแมลง หรือสารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช!! และทางกรุงปารีส เองก็ได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อแจกจ่ายอุปกรณ์ในการทำสวน อันประกอบไปด้วย เมล็ดพันธุ์ และดิน และนี่เองก็เป็นการริเริ่มโปรเจคเปลี่ยนกรุงปารีสให้เป็นสีเขียว โดยท่านนายกเทศมนตรี Anne Hidalgo มีเป้าหมายไว้ว่าจะเปลี่ยนพื้นที่เป็นบริเวณ 10,000 ตารางเมตร ให้กลายเป็นสีเขียวภายในปี 2020 คาดว่านโยบายนี้จะดึงดูดคนให้สร้างพื้นที่สีเขียวบนที่พักอาศัย บนอาคาร รวมถึงบริเวณบ้านของตนเองมากยิ่งขึ้น แหม่ ต้องขอบอกเลยว่าอะไรที่เป็นสีเขียวๆ นี่มันช่างดูร่มรื่นแล้วก็สวยงามไปซะหมดเลยนะเนี่ย ^^ ที่มา : boredpanda
-
รักสามสุข… ‘ชาย 1 หญิง 2’ ใช้ชีวิตร่วมกัน แบบสามีภรรยา เข้ากันได้ไม่มีปัญหาใดๆ!!
เรามักจะได้ยินคำพูดที่ว่า ‘ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน’ นั่นหมายความว่า ต้องมีคนแค่สองคนเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชาย หญิง, หญิง หญิง, หรือ ชาย ชาย แต่ก็ไม่เสมอไป เพราะความรักนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนคนเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น อย่างเช่น พวกเขา 3 คนนี้ ที่พร้อมจะแต่งงานงาน และใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะคนรัก DeAnna Manny และ Melissa ทั้งสามเป็นคนรักกันจากรัฐฟลอริด้า ซึ่งการแต่งงานกับคนมากกว่า 1 นั้น เป็นเรื่องผิดกฏหมายสำหรับที่นี่ แต่ทั้งสามก็ยืนยันจะใช้ชีวิตด้วยกัน เดิมนั้น DeAnna อยู่กับ Manny ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน โดยมี Melissa หรือ MJ เป็นคนดูแลลูกให้ DeAnna บอกว่า “ก่อนหน้านี้ ฉันรู้สึกเหมือนขาดอะไรในชีวิต แต่เมื่อมีผู้หญิงอีกคน เหมือนเธอได้มาเติมเต็มส่วนที่ขาดนั้นให้” แต่ครั้งแรกที่ DeAnna บอกกับ Manny เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่พอใจอย่างมาก เพราะรู้สึกเหมือนถูกทรยศ ที่ภรรยาอยากไปอยู่กับคนอื่นมากกว่า!? DeAnna ต้องใช้เวลากว่า 4 ปี เพื่อโน้มน้าวสามีให้ยอมรับเรื่องนี้ ในขณะที่ทั้งสามคนก็อยู่ด้วย เพราะ Melissa…
-
งานงอกแล้วเหมียว.. นักวิจัยฮาวายพบว่า ‘อึแมว’ เป็นสาเหตุการตายของ ‘แมวน้ำ’ ใกล้สูญพันธุ์!!
ถ้าเพื่อนๆ ยังจำกันได้ ครั้งก่อน #จ่าสิบเหมียว ได้เคยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเกาะแมวในฮาวายไป พาเที่ยวเกาะ Lanai ในฮาวาย สวรรค์ของเหล่าแมวเหมียว ที่คนรักแมวก็ไม่ควรพลาด!!! … แต่กลายเป็นว่าน้องแมวกว่าพันตัวในละแวกนี้จะตกอยู่ในสถานะผู้ต้องสงสัยและมีแนวโน้มเป็นฆาตกรไปซะแล้ว เมื่อล่าสุดมีรายงานว่าพวกมันอาจทำให้สัตว์ในละแวกทั้งแมวน้ำมังค์ฮาวาย โลมาปากขวด และนกท้องถิ่นอีกหลายชนิด และต้นเหตุก็คือ ‘อึ’ ของพวกเจ้าเหมียวนี่แหละ!! Hawaiian Monk Seal (แมวน้ำมังค์ฮาวาย) จากการโต้เถียงกันของนักวิจัยในแถบนั้น เพราะอึกของเจ้าเหมียวนั้นมีเชื้อโรคตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Toxoplasmosis ที่สามารถเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ได้ในร่างกายของสัตว์ แต่สาเหตุที่มันอันตรายนั่นก็เพราะว่าในพื้นที่เปิดโล่งหรือใต้ผืนน้ำก็ตาม ปรสิตตัวนี้จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 18 เดือนเต็มเลยทีเดียว และถ้าเข้าสู่ร่างกายสัตว์อื่นได้ล่ะก็ อาจทำให้เกิดอาการป่วยจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยล่ะ!! นอกจากนี้ศูนย์ควบคุมโรค หรือ Center for Disease Control ก็ยังแนะนำคุณแม่ด้วยว่า ช่วงตั้งท้องพยายามหลีกเลี่ยงการตักอึของแมวเพราะว่าเชื้อโรคตัวนี้ยังสามารถแพร่ไปสู่ลูกในครรภ์ได้ด้วยเช่นกัน!! ไอ่เหมียวววว แก๊!!! ในกรณีของหมู่เกาะฮาวายนี้ มีแมวน้ำมังค์ฮาวายตัวแรก ที่ถูกชันสูตรโดย National Oceanic And Atmospheric Administration แล้วพบว่าตายด้วยเชื่อโรคดังกล่าวในปี 2004 และตอนนี้จากการรายงานและสถิติก็พบว่ามีแมวน้ำมังค์ฮาวายตายไปด้วยเชื้อโรคชนิดนี้แล้วกว่า…
-
ยิ่งกว่าถูกหวย!! หนุ่มรื้อใต้ตู้เสื้อผ้าเจอ ‘กรุสมบัติล้ำค่า’ ของบรรพบุรุษ ที่ซ่อนไว้เนิ่นนาน
เราคงเคยได้ยินว่า คนโบราณนั้นมักจะฝังสมบัติไว้ใต้ดินเพื่อความปลอดภัย แต่ปัจจุบันนี้เรามีธนาคาร มีวิธีเก็บที่ทันสมัย ดังนั้น การรักษาสมบัติด้วยการฝังนั้น ก็ค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา แต่ชายหนุ่มชาวเว็บเรดดิทนามว่า evilenglish ที่ชอบอ่านเรื่อง ‘เกาะสมบัติ’ กับคุณปู่ตตั้งแต่เด็ก จนกลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกตามล่าสมบัติของเขา ทั้งๆ ที่เขาเองก็ไม่รู้เลยว่ามันจะมีจริงหรือไม่ เมื่อปู่ย่า ตายาย ได้จากเขาไปแล้ว เรื่องหีบสมบัติจึงกลายเป็นแค่ความทรงจำในอดีต ที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้เจอจริงๆ จนกระทั่งได้เข้าไปในห้องของคุณปู่ และเปิดตู้เสื้อผ้าออกมา… เขาสังเกตความผิดปกติเมื่อเปิดตู้เสื้อผ้าในบ้าน และที่พื้นนั้น มีพรมเก่าๆ ปูอยู่ เขาจึงตั้งใจจะเอาไปทิ้ง แต่พอเปิดปุ๊บก็เห็นบางอย่างแปลกๆ และเมื่อเปิดฝาออก เขาก็พบตู้เซฟที่ใส่รหัสไว้ แต่ก็นึกไม่ออกว่า รหัสอะไรกันแน่ เขาจึงได้เรียกช่างทำกุญแจมาเปิดให้ ในที่สุดก็เปิดได้ แล้วก็ค่อยๆ เปิดออก สิ่งแรกที่เห็นคือ ก้อนอิฐเปียกๆ ที่น่าจะเกิดตอนน้ำรั่วในบ้าน พอเอาอิฐออก ก็เจอหนังสือเก่าๆ หลายเล่ม แม้หนังสือจะเสียหาย แต่เหรียญที่อยู่ภาบในยังคงมีสภาพดี …
-
คุณแม่สนับสนุนลูกชายวัย 13 ปี ‘แปลงเพศ’ พร้อมรณรงค์ให้ยอมรับ ‘เพศที่สาม’ มากขึ้น
ปัจจุบันการแปลงเพศนั้น มีให้เห็นกันมากขึ้น แม้ว่าหลายๆ คนยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้สักเท่าไรก็ตาม โดยเฉพาะคนเป็นพ่อเป็นแม่ ที่มักจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่ก็มีพ่อแม่ไม่น้อยเช่นกัน ที่ยอมรับการแปลงเพศของลูก และคอยสนับสนุนในสิ่งที่เขาเป็น Rosa Zambonini วัย 34 ปี เป็นสมาชิกสภาของสกอตแลนด์ ได้โพสต์เรื่องราวของ Charlie ลูกชายวัย 13 ปี ที่ตัดสินใจแปลงเพศเป็นผู้หญิง โดยเธอไม่ได้ขัดขวางแต่อย่างใด แต่เธอภูมิใจด้วยซ้ำที่ลูกกล้าทำในสิ่งที่ตัวเองรัก คุณแม่บอกว่า ‘Charlie ไม่ใช่เด็กผิดปกติ แต่เขาแค่เกิดมาในร่างกายที่ไม่ใช่เท่านั้น เพราะจริงๆ แล้ว เขาควรจะเกิดมาเป็นผู้หญิงตั้งแต่แรกมากว่า’ ตอนแรกคุณแม่ก็กังวลว่า ผู้คนรอบตัว Charlie จะรับไม่ได้ แต่เปล่าเลย เพราะนอกจากคุณแม่แล้ว ครูและเพื่อนๆ ที่โรงเรียนต่างก็ยอมรับและให้การสนับสนุนเขาเป็นอย่างดี แต่ก็มีเพื่อนของ Zambonini บางคนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่า Charlie ยังเด็กเกินไปบ้าง มันไม่เข้าท่าบ้าง หรือบางคนบอกว่า Charlie ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ดีพอ เขายังตัดสินใจเองไม่ได้บ้าง บางคนก็บอกว่าเป็นเรื่องทางการเมือง แต่จริงๆ มันไม่ได้เกี่ยวกันเลย ส่วนเรื่องรายละเอียดของการแปลงเพศลูกชายนั้น เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่คาดว่า กว่าจะทำให้ก็คงต้องใช้เวลานาน…
-
Huangxi Village หมู่บ้านการเกษตรที่ร่ำรวยสุดในประเทศจีน มีคุณภาพชีวิตดีจนน่าอิจฉา!!
จีนเป็นประเทศที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่มาก เรียกได้ว่าใหญ่กว่าไทยเราหลายเท่า ไม่แปลกใจที่ประชากรจีนจะกระจัดกระจายกันอยู่แทบจะทุกประเทศบนโลก แต่คราวนี้เราพาไปชมเรื่องราวที่อันซีนไชน่าสุดๆ เชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยรู้จักมาก่อนกับ ‘Huangxi Village’ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยมากที่สุด จากการทำอุตสาหกรรมด้านการเกษตร เสมือนเป็นสมาคมของคนรวยย่อมๆ เราตามไปดูกันเลย หมู่บ้าน Huangxi แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Jiangyin แถบตะวันออกของจีน ใกล้กับเมืองเซี่ยงไฮ้ ว่ากันว่าถ้าหากใครได้เข้ามาเป็นสมาชิกหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ชีวิตจะดีสุดๆ ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย การศึกษา การอยู่อาศัย แต่ที่นี่เค้าก็มีวิธีการคัดสรรคนเหมือนกัน เพราะปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นเจ้าของบ้านราว 2,000 คน และเหตุผลที่ทำให้กลายเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยที่สุดเพราะ แต่ละครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 1 แสนยูโรต่อปี (ประมาณ 3.8 ล้านบาท) ทั้งหมดเริ่มต้นมาจากนาย Wu Renbao หนึ่งในคณะกรรมการจากพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน เขาได้เล็งเห็นอนาคตที่จะเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านเกษตรกร ให้กลายเป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมการเกษตร ก่อนที่จะสามารถพาบริษัทใหญ่ของหมู่บ้านเข้าสู่ตลาดหุ้นได้ในช่วงปี 1990 Wu Renbao เสียชีวิตไปเมื่อปี 2013 ในขณะที่เขาอายุได้ 85 ปี หมู่บ้านแห่งนี้ส่วนใหญ่แล้วจะส่งออกผ้าไหม เหล็ก สินค้าทางการเกษตรอื่นๆ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปโดยปริยาย…
-
ลองไหม!? ญี่ปุ่นนำกระแสเซ็กซี่ “Tawawa Challenge” วางโทรศัพท์ลงบนหน้าอกตามการ์ตูน
ต้องขอขอบคุณการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่กำลังออกอากาศที่ญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้เลย เพราะมันได้สร้างปรากฏการณ์ “ดูมๆ” ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ การ์ตูนเรื่องนั้นมีชื่อว่า Getsuyoubi no Tawawa เป็นหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ที่โด่งดังจนถูกนำไปสร้างเป็นแอนิเมชั่น และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างสั้นๆ ออกมาให้ชมกันแล้ว ซึ่งในแอนิเมชั่นตัวนี้ก็ได้มีฉากๆ หนึ่ง ที่เผยให้เห็นภาพตัวละครหญิง (ที่มีหน้าอกค่อนข้างใหญ่) กำลังวางมือถือลงบนหน้าอกของเธอแล้วดูหน้าจอ จนสาวๆ หลายคนในโลกออนไลน์อดไม่ได้ที่จะทำตาม และเกิดเป็นกระแส “Tawawa Challenge” ขึ้นมา กิจกรรม Tawawa Challenge ที่ว่านี้ก็ง่ายมาก เพียงแค่สาวๆ วางมือถือลงบนหน้าอก (หรือจะเป็นอะไรก็ได้ที่คุณอยากเอามาใช้) แล้วทรงตัวไว้ให้ดีๆ ไม่ให้มันหล่น เกิดเป็นปรากฏการณ์ดูมๆ ในเครือข่ายสังคมของญี่ปุ่นเลย นอกจากสาวๆ แล้ว ยังมีหนุ่มๆ ออกมาทำกิจกรรมนี้ผ่านทวิตเตอร์กันด้วย เช่นชายหนุ่มบางคนที่เล่นกล้ามจนมีหน้าอกที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยแบบนี้ แต่ก็มีสาวๆ หลายคนออกมาแสดงความสนุกสนานเกี่ยวกับกิจกรรมนี้ โดยที่ไม่ได้โชว์ความเซ็กซี่เพียงอย่างเดียว เช่นสาวคนนี้ ที่หาวิธีวางมือถือลงบนหน้าอก (เหรอ)…
-
16 ศิลปินรอบโลก ผู้สร้างสรรค์ ‘ภาพวาดเหมือน’ สมจริงเป๊ะๆ ราวกับเป็นภาพถ่าย..!!
ต้องยอมรับคนที่สามารถสร้างผลงานศิลปะออกมาได้นั้น นอกจากต้องมีพรสวรรค์แล้ว การฝึกฝนก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะการวาดภาพ เพราะบางคนนั้นแม้จะวาดภาพเหมือน แต่เราก็ยังดูออกว่าเป็นภาพวาด ในขณะที่บางคนสามารถวาดออกมาเหมือนราวกับภาพถ่าย เหมือนกับผลงานของศิลปินทั้ง 16 คนนี้ ที่มีฝีมือในการวาดภาพ ไม่ว่าจะใช้สีน้ำมัน สีอะคริลิค ถ่าน ปากกา หรือแม้กระทั่งดินสอธรรมดา พวกเขาก็สามารถนำเสนอภาพวาดที่เหมือนภาพถ่ายอย่างไม่น่าเชื่อ 1. Diego Fazio Diego วาดภาพเหมือนโดยใช้ดินสอและถ่าน และกว่าจะได้แต่ละภาพนั้น ต้องใช้เวลากว่า 200 ชั่วโมงเลยทีเดียว 2. Omar Ortiz Omar ถ่ายทอดสีและเงาของรูปภาพที่กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา เขาสามารถวาดภาพร่างกายมนุษย์ออกมาได้เหมือนเป๊ะ โดยใส่ใจทุกรายเอียด ไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกายมนุษย์ก็ตาม 3. Gregory Thielker Gregory สร้างภาพฝนโดยใช้สีน้ำและสีน้ำมัน ดูเหมือนภาพตอนนั่งอยู่ในรถเวลาที่ฝนตกเลย 4. Ruth Tyson Ruth Tyson เป็นศิลปินชาวอังกฤษ เธอไม่ได้มีพื้นฐานในงานศิลปะมาตั้งแต่แรก ที่ทุกอย่างมันเกิดจากความสมารถเฉพาะตัว และสร้างสรรค์ภาพโดยผสมเทคนิคต่างๆ เช่น กราไฟท์ ดินสอ Aquarel และบางครั้งก็ใช้สีด้วยเช่นกัน 5. Roberto Bernardi…
-
10 ภาพแปลกๆ ของ ‘วิธีการเลี้ยงทารก’ ในอดีต สะท้อนสังคมที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
ปัจจุบันการเลี้ยงลูกนั้น มีหลากหลายวิธี บางคนเลี้ยงตามความเชื่อโบราณ ในขณะที่หลายครอบครัวเลี้ยงแบบสมัยใหม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน ก็คงเป็นทางที่พ่อแม่คิดว่าดีที่สุดสำหรับลูกแล้ว เราคงเคยเห็นแต่การเลี้ยงลูกแบบปัจจุบัน แล้วเคยสงสัยมั้ยว่าในอดีตนั้น มนุษย์เลี้ยงลูกกันอย่างไรบ้าง เราลองย้อนไปดูกันสักหน่อยว่าพวกเขามีวิธีการเลี้ยงลูกแตกต่างจากปัจจุบันหรือไม่ ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ทารกมักถูกเลี้ยงในกรง และนำไปห้อยไว้ที่หน้าต่าง เพื่อให้เด็กๆ ได้รับอากาศบริสุทธิ์ และได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติกลางแจ้ง ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ทารกมักจะถูกเลี้ยงในกรง กรงที่ออกแบบให้เด็กออกไปสูดอากาศ ที่ยุคนี้ดูแล้วหวาดเสียว ต่อมาในปี 1940 ค่านิยมเลี้ยงลูกในกรงแล้วห้อยหน้าต่างแบบนี้ก็หมดไป และไม่เคยมีใครนำกลับมาใช้อีกเลย หลังจากนั้น การเลี้ยงลูกก็มีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นวิธีการแปลกๆ และเข้าใจยาก แต่เชื่อว่า พวกเขาเองก็คงหาวิธีที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆ เช่นกัน ที่สำคัญ วิธีการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันก็คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความเชื่อของยุคสมัยนั้นๆ ด้วย ภาพการเลี้ยงลูกใน 100 ปีที่ผ่านมาต่อไปนี้ คงสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมได้บ้าง… เป็นอีกหนึ่งวิธีในการพาลูกออกไปสัมผัสอากาศข้างนอก วิธีที่ปลอบทารกในปี ค.ศ. 1920 ความกลัวแก๊สพิษระบาดในช่วงสงครามโลก ต้องใช้รถเข็นที่ป้องกันแก๊สพิษอย่างดี รถเข็นสำหรับเด็กเป็นกลุ่ม ผู้ปกครองบางคน…
-
‘แม่ไปแล้วนะ…’ ช่างภาพรัสเซีย บันทึกภาพวินาทีแม่หมีทิ้งลูกริมแม่น้ำ เพื่อให้เผชิญชีวิตเอง!!
ถือเป็นช่วงเวลาเจ็บปวดหัวใจมากทีเดียว เพราะเรื่องราวที่ #เหมียวฟิ้น จะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่สัตว์ ที่ดันทอดทิ้งลูกของตัวเองต่อหน้าต่อตาของช่างภาพ เพื่อให้ลูกๆ ของมันได้ใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ภาพเหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ผ่านช่างภาพผู้ไม่เปิดเผยตัวตนรายหนึ่งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ในวันนั้นเขาได้ไปอยู่ที่แม่น้ำเยนีเซย์ ในเขตเมืองครัสโนยาสค์ ประเทศรัสเซีย และดันเห็นภาพสุดสลดของครอบครัวหมีครอบครัวหนึ่ง ภาพที่เขาเห็นคือภาพของแม่หมีกำลังยืนอยู่กับลูกหมี 2 ตัว อายุราวๆ ขวบครึ่ง ที่บริเวณแม่น้ำเยนีเซย์ คล้ายกับกำลังทำพิธีอะไรสักอย่าง จากนั้นแม่หมีก็เดินลงไปในแม่น้ำโดยไม่หันกลับไปมองลูกๆ ของมันอีก ก่อนจะว่ายน้ำหายลับไป นั่นถือเป็นการอำลากันครั้งสุดท้ายของแม่หมี นี่ถือเป็นการเลือกสถานที่ได้เหมาะมาก เพราะเมื่อแม่หมีลงแม่น้ำไปแล้ว ลูกๆ ก็จะไม่สามารถตามกลิ่นของแม่มันได้เลย ในตอนแรกนั้นลูกหมีทั้ง 2 ยังไม่รู้ตัวว่าแม่หมีพยายามทำอะไรกันแน่ จนกระทั่งแม่ของค่อยๆ หายลับไปจากตา แต่พวกมันก็ไม่ได้ว่ายน้ำตามแม่ของมันไป อาจจะเพราะว่ายน้ำไม่แข็ง หรือไม่รู้ว่าแม่หมีจะไม่กลับมาอีกแล้ว ได้แต่นั่งรอแม่ของมันที่ริมแม่น้ำ ตกค่ำพวกมันก็กลับเข้าป่าไปหาที่นอน พอรุ่งเช้ามันก็ออกมานั่งรอแม่หมีที่เดิมเป็นแบบนี้อยู่หลายวัน ช่างภาพที่เผยแพร่ภาพนี้ออกมาได้ให้ความเห็นว่า “ผมไม่เคยเห็นครอบครัวหมีทำแบบนี้มาก่อนเลย พวกมันยืนอยู่ด้วยกันเพื่อนัดแนะอะไรบางอย่าง จากนั้นแม่ของมันก็ลงน้ำแล้วหายไปเลย” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการรายงานข่าวว่ามีลูกหมีถูกพ่อแม่ของมันทิ้ง เพราะเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2015 เว็บไซต์ของเราก็เคยได้รายงานเรื่องเกี่ยวกับลูกหมีที่ถูกทอดทิ้งไว้กลางแม่น้ำมาแล้ว ตามธรรมชาติแล้วแม่หมีจะเลี้ยงลูกไปราวๆ 15-30 เดือน…
-
นาฬิกาตั้งโต๊ะ ‘แมวเหมียว’ เอาใจคนนอนดึก ให้อยู่เป็นเพื่อนคุณได้ตลอดทั้งคืน..!!
ยิ่งดึกยิ่งเหงา… คนนอกดึกทั้งหลายคงคุ้นเคยกับคำนี้ดี แต่บางทีก็อยากมีเพื่อนอยู่ด้วยสักคนนะ เวลานั่งทำงานดึกๆ แต่ต้องเข้าใจว่า คนส่วนใหญ่เค้านอนกันหมดแล้ว แต่ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ดูเหมือนคุณสามารถหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนได้แล้ว ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน โดยทีม Kitan Club ได้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ พวกเขาจึงได้สร้างสรรค์พวกงานเพื่อคนนอนดึกขึ้นมา ทั้งน่ารักและมีประโยชน์ด้วย มาครั้งนี้พวกเขาได้ออกแบบ ‘นาฬิกาตั้งโต๊ะแมวเหมียว’ ขนาดเล็ก โดยมีน้องแมวน้ำลายยืดนั่งทำงานอยู่อยู่บนโต๊ะนั้น แน่นอนมันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ทั้งคืนเลยล่ะ สำหรับคอเล็คชั่นนี้มีชื่อว่า All Night Cat Watch โดยมีน้องแมว 5 แบบให้คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็นแมวดำ แมวตาลาย สะท้อนอาการของคุณตอนดึกได้เหมือนเป๊ะ แมวเหมียวทำงานอยู่บนกล่ององุ่น ทำงานไปง่วงไป ไม่เป็นไร มีเหมียวง่วงเป็นเพื่อน ดึกๆ เข้า เริ่มตาลายละ หรือถ้าเบื่อแมวขาวล้วน ลองเปลี่ยนเป็นแมวสีเทาแบบนี้มั้ย มีให้เลือกถึง 5 แบบ อยากได้เพื่อนแบบไหน เลือกเล๊ยยยยยย สำหรับใครที่อยากจะจับจองเป็นเจ้าของเจ้าเหมียวเหล่านี้ ราคาตัวละ 300 เยน (ประมาณ 100 บาท) อีกทั้งยังสามารถหาได้ตามตู้กาชาปองทั่วประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่…
-
น่ารักได้อีก.. เกมเมอร์รุ่นจิ๋วชั้น ป.5 เขียนจดหมายจีบสาว ‘เธอเปรียบดั่งโปเกม่อนของฉัน’ !!?
รักครั้งแรกมักจะเกิดขึ้นในวัยเด็ก และอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับคนไกลตัวที่ไหน ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเพื่อนผู้หญิงที่ต้องเรียนอยู่ในห้องเดียวกันนั่นแหละ แล้วเพื่อนๆยังจำความรู้สึกตกหลุมรักครั้งแรกในวัยเยาว์ได้อยู่มั้ย? ถ้าเราชอบใครก็คงอยากจะเข้าไปแกล้ง หรือเนียนตีซี้อยู่ใกล้ๆบ่อยๆ แต่ถึงแม้ผู้ใหญ่จะมองว่า ความรักแบบเด็กๆมันเป็นเรื่องไร้สาระ เราขอบอกเลยว่าไม่เสมอไป เพราะอย่างน้อยพ่อหนุ่มชั้น ป.5 คนนี้ เค้าก็โรแมนติคมากที่สุดเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะทำได้แล้วล่ะ… เรื่องราวมันมีอยู่ว่าคุณลุงคนหนึ่งเป็นผู้ใช้งาน Reddit ได้โพสต์ผ่านยูเซอร์ dreichert87 เป็นภาพกระดาษโน๊ตน่ารักๆที่หลานสาวของเขาได้รับมาจากหนุ่มน้อยที่แอบตกหลุมรักเธออยู่ห่างๆ ที่โรงเรียน เชื่อว่าหลายคนต้องมีปัญหากับการอ่านลายมือของเด็กแน่ๆ แต่ไม่ต้องห่วง ข้อความในจดหมายน้อยมีดังนี้ “ถึง Abby ดวงตาของเธอทำให้ฉันคิดถึงฟากฟ้ายามเย็น หัวใจของผมมันแตกสลายเป็นเสี่ยงๆเมื่อได้พบกับคุณ คุณช่างเติมเต็มให้ผม ราวกับว่าผมได้สะสมโปเกม่อนครบทุกตัว ผมชอบเหลือเกินเวลาที่คุณเล่นเกมส์ Zelda ถึงแม้ว่าคนอื่นจะมองว่ามันแปลก และดูน่าตลกก็ตาม และถ้าหากคุณก็ชอบผม มันคงกลายเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้” อยากจะรู้เหลือเกินว่าหนุ่มน้อยคนนี้ ไปเรียนรู้เอาสำบัดสำนวนหล่อๆจากไหนมาจีบสาว เพื่อนๆลองสังเกตุดูในจดหมายสิ แม้แต่ส่วนหัวของตัว ‘I’ ยังถูกเปลี่ยนให้เป็นรูปหัวใจแทนทั้งหมด เรื่องราวน่ารักๆในครั้งนี้ถูกอกถูกใจชาวเน็ตซะเหลือเกิน นอกจากจะได้เห็นความโรแมนติคของเด็กน้อยแล้ว เชื่อว่ามันยังชวนให้หลายๆคนคิดย้อนไปถึงช่วงเวลาของตัวเองในวัยเด็กบ้างใช่มั้ยล่ะ… “ยิ่งกว่าได้รวบรวมโปเกม่อน สาวน้อยคนนั้นต้องพิเศษมากแน่ๆ” “ทำให้ฉันคิดถึงความรักในวัยเด็กเลย ตอนนั้นฉันได้โน๊ตที่เขียนว่า ผมรักคุณมากกว่าที่ Mr.Krabs รักเงินซะอีก จำได้ว่าตอนนั้นเพื่อนๆผู้หญิงต่างอิจฉาไปตามๆกัน…
-
พาชมภาพ ‘มุมมองที่ทำงาน’ จาก 17 อาชีพทั่วโลก กับสิ่งที่พวกเขาต้องเจอเป็นประจำทุกๆ วัน..!!
ในการทำงาน โดยเฉพาะงานประจำ แน่นอนว่า สิ่งที่เราเห็นในแต่ละวัน มักจะเป็นภาพซ้ำๆ ที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี แรกๆ อาจจะตื่นเต้น แต่เมื่อพบเห็นบ่อยๆ อาจกลายเป็นความเบื่อหน่ายก็ได้ โดยเฉลี่ยแล้ว เราทำงานประมาณ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และตลอด 40 ชั่วโมง เราก็เห็นแต่ภาพเดิม จนบางทีก็อยากเห็นมุมมองของอาชีพอื่นบ้าง ดังนั้นเราจึงนำภาพของอาชีพอื่นมาให้ดูว่า พวกเขาต้องเห็นภาพแบบไหนกันบ้าง 1. คนควบคุมเครน 2. นักบินอาวกาศ 3. คนขับรถไฟ 4. กะลาสี 5. นักดนตรี 6. ช่างซ่อมรองเท้า 7. นักพากย์ฟุตบอล 8. สัตวแพทย์ 9. คนงานก่อสร้าง 10. นักบิน 11. แคชเชียร์ร้านสะดวกซื้อ ภายในสนามบิน …
-
ศูนย์ประชุม “Javits Center” จ้างแมวเหมียวเร่ร่อน มาช่วยกำจัดหนู ให้ที่พัก-อาหารฟรี!!
เมื่อหนู เริ่มทำการก่อกวนมนุษย์ ทำให้เหล่าแมวเหมียวทั้งหลาย ขอทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ลงมากำจัดหนูด้วยตัวเองซะเลย เห็นทีมนุษย์จะได้อยู่อย่างเป็นสุขก็คราวนี้แหละ เพราะมีแมวมาช่วยจับหนูแล้ว รายงานข่าวนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ dnainfo มีรายงานว่า หลังจากที่ Rebecca Marshall ผู้จัดการด้านการบริการสิ่งแวดล้อมของศูนย์ประชุม “Javits Center” ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับหนูในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอย่างมาก ทางศูนย์จึงต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหา และกำจัดหนูให้หมดไป แต่ด้วยความที่ราคาของบริษัทกำจัดหนูได้พุ่งสูงขึ้น ประกอบกับจะต้องการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีเพื่อฆ่าหนู ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้หันไปขอความช่วยเหลือจากบรรดา “แมวเหมียว” เพื่อมากำจัดหนูแทน อื้มมมม เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย!! สำหรับแมวเหมียว ที่มารับหน้าที่ในการล่าหนูนั้น ถูกส่งมาจากองค์กรช่วยเหลือแมวเร่ร่อน ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ เจ้า Sylvester, Alfreda, Mama Cat และ Ginger และก่อนที่จะเข้ารับปฏิบัติหน้าที่ในการจับหนูรอบๆ ศูนย์ประชุม พวกมันได้ผ่านการฝึก พร้อมกับฉีดวัคซีน…
-
ทำความรู้จักกับ “นางเงือกเกาหลี” วิถีชีวิตของหญิงชาวเล ยุคสุดท้ายแห่งการออกทะเล!!
คิม มีจู ช่างภาพจากนิวยอร์ก ได้ตัดสินใจที่จะถ่ายภาพบันทึกเรื่องราวในเกาลีใต้เกี่ยวกับ “หญิงชาวเล” ที่ถูกขนามนามว่ามารดาแห่งท้องทะเล ตามภาษาท้องถิ่นแล้ว เขาเรียกกันกว่าแฮนโย เป็นการรวมตัวของหญิงสูงวัยผู้กล้าหาญที่ได้ลงไปว่ายน้ำในทะเลลึกกว่า 20 เมตร เพื่อไปเก็บหอยเป๋าฮื้อ หอยเม่น แตงกวาทะเล และปลาหมึก โดยที่พวกเธอไม่ใช้ถังออกซิเจนช่วย ซึ่งในบางครั้งก็สามารถกลั้นหายใจได้ 2 นาทีในน้ำที่เย็นสุดขั้วได้ด้วย นางเงือกเหล่านี้อายุเกิน 70 ปีทั้งนั้น และจำนวนคนที่มาทำแบบนี้ก็น้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากว่าหนุ่มสาวสมัยใหม่นิยมเข้าไปทำงานและไปเรียนที่เมืองใหญ่กันทั้งนั้น ช่างภาพคิมได้เล่าว่า “ผู้หญิงกลุ่มนี้จะเป็นนักประดาน้ำรุ่นสุดท้ายที่จะใช่วิธีแบบดั้งเดิม ถือเป็นยุคสุดท้ายของแฮนโยเลยก็ว่าได้” พวกเขาทำแบบนี้มานานกว่า 5 ศตวรรษแล้ว ถือเป็นอีกงานหนึ่งที่ต้องใช้ความแข็งแรงและกล้าหาญอย่างมาก เพราะว่าต้องผ่านการฝึกฝนและเสี่ยงชีวิตด้วย และเราอาจจะได้เห็นอาชีพนี้อีกแล้ว ที่มา boredpanda
-
ไม่ให้เลี้ยงก็ไม่ง้อ!! ชายหนุ่มสร้าง ‘บันไดแมว’ ให้น้องเหมียวแอบย่องมาหาได้แบบชิลๆ
การเลี้ยงแมวนั้น ไม่ใช่ว่าอยากเลี้ยงก็เลี้ยงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในอาคารที่เช่าอยู่ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เลี้ยงแมวก็ได้ เพื่อความสะอาดและไม่ไปรบกวนคนอื่นด้วย เช่นเดียวกับ Tariq Khoyratty นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คนของมหาวิทยาลัย Oxford University ที่อยากเลี้ยงแมว แต่เจ้าของบ้านเช่าไม่อนุญาต เขาจึงวางแผนเพื่อให้เจ้าแมวเหมียวมาหาแทน Tariq อาศัยอยู่กับแฟนสาว Nikki พวกเค้าเคยมีแมวอยู่ด้วยตัวหนึ่งชื่อ Nelson แต่ทางเจ้าของบ้านไม่อนุญาต พวกเขาจึงวางแผนทำบันไดแมว เพื่อให้น้องแมวมาหาได้ง่ายๆ โดยทำบันไดไว้หลังห้องแล้วเปิดหน้าต่างไว้ให้ Tariq บอกว่า “ตอนแรกผมก็กลัวว่า มันจะใช้บันไดไม่เป็น และกลัวว่ามันจะตกลงไปด้วย” พวกเขาจึงทำบันไดที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมให้ เจ้าเหมียวจึงวิ่งเข้ามาหาแบบง่ายๆ เลย บันไดแมวนี้มีความยาว 7 เมตร ซึ่งใช้เงินไปทั้งหมดประมาณ 900 บาท โดยทำให้ขึ้นจากข้างล่างขึ้นไปถึงหน้าต่างชั้นสอง ภายในห้องนั้นจะมีโซฟาอยู่ เมื่อ Nelson ขึ้นไปถึง มันรู้ว่ามันต้องกระโดดลงไปบนโซฟา แต่ Tariq ก็กลัวว่ามันจะพลาดและตกลงไปบนพื้นแข็งๆ พวกเขาจึงปูพรมไว้ทั่วห้อง เผื่อเวลาที่มันพลาดตกลงมา มันจะได้ไม่เจ็บมาก แม้แรกๆ จะเกร็ง แต่ตอนนี้สบายแล้ว…
-
เมนูใหม่ ‘ข้าวไข่เจียววิปครีม’ จากญุี่ปุ่น เพิ่มความละมุนด้วยครีมฟูๆ น่ากินขึ้นไหม!?
พูดถึง ‘ข้าวไข่เจียว’ เราคงนึกถึงเมนูอาหารง่ายๆ ที่ทำกินเองยังได้เลย หรือถ้าไปกินตามร้านอาหาร ก็จะมีการตกแต่งให้ดูน่ากินขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการนำไข่เจียวห่อข้าว ไข่เจียวห่อกุ้ง หมู หรืออื่นๆ ใครที่คิดว่า ข้าวไข่เจียว เป็นเมนูธรรมดา ทิ้งความคิดนี้ไปได้เลย เพราะ Mr. Sato จากเว็บไซต์ Rocketnews24 ได้พาเราไปชมข้าวไข่เจียวโฉมใหม่ ที่มีความน่ากินมากขึ้น รับรองคุณต้องอยากลองแน่ๆ เขาได้มีโอกาสไปยังคาเฟ่เล็กๆ สไตล์ฝรั่งเศส ในประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีเมนูขึ้นชื่อคือข้าวไข่เจียว ซึ่งผู้คนมักจะเรียกว่า ‘ข้าวปุยๆ’ ตามลักษณะของอาหาร ร้านอาหารนี้ตั้งอยู่ในในเขต Koenji ของโตเกียว หากเดินมาจากสถานีรถไฟ JR Koenji ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เป็นร้านคาเฟ่แห่งนี้ค่อนข้างอัดแน่นไปด้วยลูกค้า และมียังมีอีกหลายคนที่นั่งรออยู่นอกร้าน เมื่อเขาได้เข้าไปข้างใน ก็ได้เห็นเมนูที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ข่าวห่อไข่ราดซอสแบบปกติ เมนูนี้มีลักษณะคล้ายกับข้าวไข่เจียว แต่บางทีมันดูเหมือนแพนเค้กมากกว่า แล้วราดด้วยวิปปิ้งครีมข้างบน แต่เขาคิดว่า จะไม่ตักกินวิปปิ้งครีมนี้หมดก่อนที่จะได้เห็นไข่เจียวที่ซ่อนอยู่ข้างใน ว่าแล้วเขาก็รีวิวมาให้เราดูแบบใกล้ชิด เริ่มตั้งแต่ตักฟองให้ดูก่อนว่าหนาแค่ไหน จากนั้นก็ตักไข่เจียวห่อข้าวขึ้นมาคำหนึ่ง…
-
คุณยายวัย 84 ปี ยังคงไปทำงาน ‘ดูแลผู้สูงอายุ’ ทุกวัน เพราะเธอรักในงานที่เธอทำ
ในการทำงาน แน่นอนต้องมีเวลาเกษียณเมื่อถึงเวลา เพื่อให้เราได้พักผ่อนในช่วงบั้นปลายของชีวิต หลังทำงานมาหนักมามากแล้ว แต่สำหรับ Eileen Haysham แม้จะอายุ 84 ปีแล้ว แต่เธอไม่อยากเกษียณเหมือนคนอื่นๆ เธอยังคงไปทำงานเป็นประจำทุกวันเหมือนเคย Eileen ทำงานมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1965 เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลผู้คนตามบ้าน โดยเฉพาะคนแก่ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ลูกค้าบางรายอายุน้อยกว่าเธอก็มี เธอมักจะไปเยี่ยมพวกเขา 6 วันต่อสัปดาห์ และจะไปหาลูกค้า 5 คนต่อวัน ตลอดระยะเวลา 50 ปี ของการทำงาน เธอได้พักแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น และตอนนี้เธอก็ยังไม่มีแพลนที่จะเกษียณด้วย เพราะเธอรักในงานของตัวเองเป็นอย่างมาก เวลาออกบ้านนั้น เธอจะปั่นจักรยานไป ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ และเธอก็ชอบการพบปะผู้คนด้วย ดังนั้นเธอจึงตั้งใจจะไปเยี่ยมลูกค้าที่บ้านและดูแลแบบนี้ไปเรื่อยๆ เท่าที่จะทำได้ “ฉันรักทุกอย่างที่ฉันทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด ทำอาหาร ซักผ้า และอื่นๆ มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉันเลย” เธอมีความสุขกับการได้ดู และทำในสิ่งที่ลูกค้าทำไม่ได้ ในขณะที่ลูกค้าบางคนบอกว่า “ถ้าวันหนึ่ง Eileen หายไป ฉันต้องรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปแน่ๆ…
-
พบกับ ‘แพนด้าสีน้ำตาล’ ตัวเดียวในโลก ถูกทอดทิ้งไว้กลางป่า เพราะสีไม่เหมือนตัวอื่น
เมื่อเรานึกถึงแพนด้า เชื่อว่าทุกคนน่าจะนึกถึงเจ้าหมีตัวสีขาวๆ ดำๆ แน่นอน แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าในโลกนี้ยังมีหมีแพนด้าสีอื่นนอกจากขาวดำด้วยนะ นี่คือเรื่องราวของเจ้า Qizai หมีแพนด้าเพศผู้วัย 2 เดือนที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติ ทำให้มันมีสีขาวปนน้ำตาล และเนื่องจากที่มันมีสีแตกต่างจากแพนด้าทั่วไป ทำให้มันมักจะถูกแพนด้าตัวอื่นแกล้งอยู่บ่อยครั้ง วันหนึ่งเจ้า Qizai ก็ถูกแม่ของมันทอดทิ้งไว้กลางป่าบนภูเขา Qingling ที่ประเทศจีน อาจเนื่องมาจากการที่มันมีสีแตกต่างจากแพนด้าตัวอื่น ทำให้แม่ของมันรู้สึกว่าลูกของตัวเองแปลกแยกจากครอบครัวก็เป็นได้ นักวิทยาศาสตร์กล่าวถึงเหตุผลที่มันมีสีสันแปลกไปว่า นี่อาจเป็นการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม และนั่นทำให้แพนด้าตัวอื่นๆ ปฏิเสธมัน จนกระทั่งมันถูกทอดทิ้งให้ใช้ชีวิตเพียงลำพัง แต่มันก็เร่ร่อนอยู่ได้ไม่นาน เพราะมีเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ไปเจอเข้า จึงช่วยเหลือมันและนำกลับมาเลี้ยงดูต่อที่ศูนย์ช่วยเหลือแพนด้าต่อไป ปัจจุบันเจ้า Qizai มีอายุได้ 7 ขวบแล้ว และกลายเป็นแพนด้าสำหรับศึกษาสายพันธุ์อย่างดี เพื่อที่นักวิทยาศาสตร์จะได้ไขปริศนาว่าทำไมมันถึงมีขนสีน้ำตาล ตอนนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญแพนด้าในจีนได้วางแผนที่จะหาคู่ให้กับมันแล้ว และดูเหมือนว่ามันจะมีความสุขกับชีวิตขึ้นเรื่อยๆ ที่หมู่บ้านแพนด้าในจีน เจ้า Qizai มีผู้ดูแลส่วนตัวที่คอยเอาใจใส่มันตลอดเวลา ผู้ดูแลจะต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าและเข้านอนเวลาเที่ยงคืน เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะกินอิ่มและนอนหลับอย่างสบายที่สุด แม้จะแตกต่างจากแพนด้าทั่วไป แต่บางคนก็บอกว่า มันมีความน่ารักมากกว่าแพนด้าปกติเสียอีก …
-
วินาทีระทึก เมื่อ “ฉลามขาว” หลุดเข้าไปในกรงนักท่องเที่ยว จนเกือบเกิดเหตุสลด!!
การไปเที่ยวทะเล สิ่งหนึ่งที่เราอยากเห็นอย่างหนึ่งก็คือการใกล้ชิดสัตว์ทะเล แต่ #เหมียวสามสี เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากใกล้ชิดมากเหมือนอย่างในคลิปนี้แน่ คลิปนี้ถ่ายโดยGabe และ Garrett ซึ่งเป็นยูทูบเบอร์ชื่อดัง คุณพ่อได้พาลูกไปพักร้อนที่เกาะ Guadalupe Island และสามารถถ่ายภาพสุดระทึกกลับมาได้ เมื่อฉลามขาวตัวหนึ่งหลุดเข้าไปในกรงของนักท่องเที่ยว เดิมทีกรงที่ติดอยู่ที่เรือนั้นจะให้นักท่องเที่ยวได้ดำลงไปสัมผัสบรรยากาศใต้ท้องทะเลได้อย่างปลอดภัย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่อฉลามขาวจู่ๆ ก็พุ่งมาจากไหนไม่รู้ แล้วก็เข้าไปในกรงได้อย่างง่ายดาย สร้างความตื่นตะลึงให้กับนักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์อยู่บนเรือ ครั้งนี้ถือเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ เมื่อฉลามเข้าใกล้มาเพื่อกินเหยื่อ แต่ดูเหมือนว่ามันจะโมโหมากและพยายามที่จะทำลายกรง จากการที่มันว่ายมากินเนื้อทูน่าที่มัดกับเชือกไว้ แต่เวลามันพยายามที่จะพุ่งเข้ามาหรือกัดอะไรบางอย่าง ก็จะทำให้มันมองไม่เห็นชั่วคราว และว่ายกลับหลังไม่ได้ มันจึงว่ายพุ่งมาที่กรงโดยตรงและทะลุเข้ามา ในตอนนั้นก็ได้มีนักประดาน้ำคนหนึ่งที่อยู่ในกรงพอดี เขาพยายามตั้งสติแล้วหนีไปที่ก้นของกรง สุดท้ายฉลามขาวก็ดิ้นจนหลุดจากกรงในที่สุด การอยู่ก้นกรง จะทำให้ฉลามโจมตีได้ยาก เพราะฉลามเป็นสัตว์ที่พุ่งขึ้นโจมตีจากด้านล่าง หลังจากนั้นนักประดาน้ำก็ว่ายกลับขึ้นมาอย่างปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เราไปชมคลิปเหตุการณ์สุดระทึกนี้ งานนี้ต้องชื่นชมทั้งคนที่อยู่บนเรือและนักประดาน้ำที่มีสติ จัดการปัญหาได้อย่างดี ทำให้ไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น หลังจากนั้นทุกคนบนเรือก็ได้กลับเข้าฝั่งในวันถัดมา ถือเป็นประสบการณ์สุดหวาดเสียวที่หาดูได้ยากมากๆ แถมคุณพ่อยังบอกอีกว่าอยากจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้ง แม้จะเจอประสบการณ์สุดเสียวนี้แล้วก็ตาม… ที่มา Gabe and Garrett
-
ประติมากรรมขนาดใหญ่ 7.6 เมตร ที่สร้างจากภาพถ่าย “จูบในตำนาน สงครามโลกครั้งที่ 2”
เมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่สองให้กับอเมริกา ฝ่ายชาวอเมริกันจำนวนมาก ได้ออกไปเฉลิมฉลองกันที่ย่านไทม์สแควร์ ในมหานครนิวยอร์ก และนี่คือหนึ่งในภาพที่ถูกถ่ายขึ้นมาจากสถานที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นภาพของทหารเรือหนุ่ม George Mendosa กำลังก้มลงจุมพิตกับ Greta Zimmer Friedman นางพยาบาลสาวลูกครึ่งอเมริกา-ออสเตรเลียวัย โดยในตอนนั้น เธอมีอายุเพียง 21 ปี เธอเปิดเผยภายหลังว่า เธอยอมให้ทหารเรือซึ่งดีใจจากการชนะสงครามโลกครั้งที่สองจูบเธอ เพื่อเป็นรางวัลสำหรับการที่ทหารเรือดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อชาวอเมริกันในสงคราม สำหรับภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นโดย Alfred Eisenstaedt ช่างภาพนิตยสาร LIFE ซึ่งถ่ายขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี Harry S. Truman ได้ประกาศสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 1945 เขาบอกว่า “เห็นพยาบาลสาวคนนี้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย เขาเลยโฟกัสไปที่เธอเพื่อจะจับภาพ ขณะกำลังรอจังหวะดีๆ ก็มีทหารเรือหนุ่มเข้ามาดึงเธอไปจูบ กลายเป็นภาพสำคัญชิ้นนี้” หลังจากนั้น ภาพดังกล่าวก็ได้เป็นภาพขาวดำระดับตำนาน ที่ถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ในการเฉลิมฉลองชัยชนะของอเมริกา และยังถูกนำไปตีพิมพ์เป็นปกนิตยสาร Life อีกด้วย ที่สำคัญนอกจากภาพถ่ายแล้ว ศิลปินชาวอเมริกันอย่าง Seward Johnson…
-
วินาสุดซึ้ง… เด็กหญิงวัย 4 ขวบที่ถูกลักพาตัวไป ได้กลับมาสู่อ้อมกอดพ่อแม่อีกครั้ง
พ่อแม่หลายคนมักสอนลูกว่า อย่าไว้ใจคนแปลกหน้าและให้อยู่ห่างเอาไว้ แต่ด้วยความเป็นเด็ก บางทีอาจโดนหลอกได้ง่ายๆ หากไม่อยู่ในสายตาพ่อแม่ แต่บางที แม้จะเป็นคนใกล้ตัวก็ไว้ใจไม่ได้เสมอไป เหมือนกับ Rebecca Lewis เด็กน้อยวัย 4 ขวบ ถูกลักพาโดย Hogs หรือ Matthew Clark Pybus ซึ่งเป็นเพื่อนกับครอบครัวของ Rebecca และสนิทกันมากด้วย (แต่พวกเขาไม่ได้ติอต่อกันนานกว่า 2 ปีแล้ว) Hogs ใช้รถที่ขโมยจากแม่ของเขา ลักพาตัว Rebecca ไป และเมื่อได้รับแจ้งคนหาย ตำรวจจากหลายหน่วยงาน จึงได้รวมกำลังออกตามหาเด็กหญิงทันที ทางญาติๆ ของ Rebecca เล่าให้ฟังว่า “ก่อนเกิดเหตุ Hogs มีอาการคล้ายคนเป็นโรคซึมเศร้า และมีอารมณ์แปรปรวน” และเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้ Karen Rudolph หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจเมมฟิส บอกว่าได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลว่า มีคนพบชายต้องสงสัยกับเด็กหญิง Rebecca ที่นั่น ตำรวจจึงรีบไปที่โรงพยาบาลนั้นทันที แล้วก็พบรถที่ใช้ก่อเหตุ โดยมี Hogs และ Rebecca นั่งอยู่ข้างใน ตำรวจได้เข้าไปควบคุมตัวคนร้ายและช่วยเหลือเด็กไว้ โดยที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย หลังจากนั้น…
-
คลิปวินาทีสุดเศร้า เมื่อคุณพ่อบอกลูกชายว่า ‘แม่เสียชีวิตแล้ว’ จากการเสพยาเกินขนาด
คงไม่ใครอยากให้เกิดเหตุการณ์สูญเสีย แต่ชีวิตมันก็ต้องเป็นไป เมื่อคุณพ่อ Brenden Bickerstaff-Clark จากรัฐโอไฮโอ ได้ตัดสินใจที่จะทำเรื่องที่อาจจะกระทบจิตใจลูก เมื่อต้องบอกความจริงกับเขาว่าแม่ได้เสียชีวิตแล้ว คลิปนี้มียอดวิวกว่า 23 ล้านครั้งในเฟซบุ๊ก จนทำให้มีข้อถกเถียงว่าสิ่งที่คุณพ่อได้ทำลงไปนั้นถูกหรือไม่ ลองไปชมคลิปกันก่อนเลย คุณพ่อให้ได้คำอธิบายใต้คลิปไว้ว่า “คลิปนี้ให้สำหรับคนที่ติดยาที่อยู่กับลูกหลาน วันนี้ผมได้บอกลูกชายวัย 8 ขวบไปว่าแม่ของเขาเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดเมื่อคืนนี้ มันคือการตระหนักถึงความเป็นจริงของสิ่งที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเรา อย่าให้ความเลวร้ายนี้ต้องทำให้ใครไปบอกลูกว่าคุณตายเพราะว่าใช้ยาเลย นี่เป็นสิ่งที่ยากมากที่จะทำ ลูกของผมต้องไม่มีแม่เนื่องจากเฮโรอีน มันอาจจะทำใจยาก แต่คุณต้องได้ยินสิ่งที่เราพูด ได้โปรดช่วยกันเพื่อไม่ให้ลูกหลานของเราต้องทรมาน” ส่วนคนที่ได้ดูคลิปนี้ก็แตกออกเป็นหลายเสียง บางคนก็เศร้าไปกับคลิปและให้กำลังใจกับครอบครัวที่สูญเสีย แต่บางคนก็ตั้งแง่เกี่ยวกับการถ่ายคลิปความรู้สึกของเด็กแล้วมาแชร์ลงในอินเตอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว ตัวอย่างคอมเม้นท์จากชาวเน็ตเช่น “ฉันเพิ่งดูเสร็จ แล้วก็จบลงด้วยน้ำตา ฉันเข้าใจความเจ็บปวดของเด็กคนนี้ “มันเศร้ามาก ฉันจินตนาการไม่ได้เลยว่าเขาจะผ่านไปได้ยังไง” “นี่เป็นช่วงที่เป็นส่วนตัวมากๆ สำหรับชีวิตของเด็กคนนี้ และมันก็แพร่ไปทั่วอินเตอร์เน็ตแล้ว” “ฉันคงจะโกรธมากถ้าใครมาอัดคลิปตอนที่ฉันร้องไห้อยู่ตอนที่ฉันเพิ่งเสียแม่ไป ใครที่โพสค์คลิปนี้บอกได้เลยว่าเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องมากๆ” ทางคุณพ่อก็ได้ออกมาบอกเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่าเขาก็คือคนหนึ่งที่เป็นคนติดยา แต่ตอนนี้ได้รับการบำบัดและลาจากสิ่งเสพติดมา 3 เดือนแล้ว เขาจึงอยากให้ทุกคนช่วยแชร์คลิปนี้เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้กับใครหลายๆ คนด้วย… ที่มา distractify
-
Haugen ชายผู้ออกเดินทางพร้อมกับ ‘สุนัข-แมว’ 37 ตัว เพื่อหาบ้านใหม่ให้พวกมัน…
หากมองไปรอบๆ จะเห็นว่า มีสัตว์มากมายที่ต้องการดูแล โดยเฉพาะตามศูนย์พักพิงสัตว์ต่างๆ ที่รอให้คนใจดีรับเหล่าสัตว์เหล่านั้นไปเลี้ยง แต่การรออยู่เฉยๆ นั้น โอกาสที่คนจะมาดูและรับไปเลี้ยงนั้นมีน้อย พวกเขาจึงต้องทำทุกวิถีทางในการช่วยให้มันมีเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซต์ให้พวกมัน หรือการทำกิจกรรมให้คนได้มาใกล้ชิดกับพวกมัน Rick Haugen กลายเป็นฮีโร่ของสัตว์มากมาย หลังได้ช่วยเหลือเหล่าสุนัขและแมวด้วยการพาพวกมันขึ้นรถและขับไปตามถนน เพื่อหาบ้านให้กับพวกมัน Haugen ได้ออกเดินพร้อมสุนัข 29 ตัว ลูกหมา 8 ตัวและแมวอีก 1 ตัว โดยเดินทางจากชิคาโก ไปยังวิสคอนซิน เพื่อส่งมอบให้กับคนที่อยากรับไปเลี้ยง ระหว่างเดินทาง เหล่าสัตว์เลี้ยงไม่ได้สร้างปัญหาให้เลย แต่เมื่อไรที่รถจอด พวกมันจะเริ่มซนบ้างเล็กน้อย Haugen เป็นอาสาสมัครร่วมกับ Alabama Rescue Relay (ARR) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ดูแลสุนัขและแมวที่ไม่มีเจ้าของ Haugen บอกว่า “ผมมาจากครอบครัวที่ให้การช่วยเหลือสุนัขโดยเฉพาะ ตอนนี้ผมจึงอยากตอบพวกเขาบ้าง” นี่คือสุนัขบางส่วนที่ Haugen ช่วยไว้… แม่หมากับลูกๆ นี่เป็นภารกิจการเดินทางครั้งแรกของ Haugen ในการหาบ้านให้สัตว์เหล่านี้ และเขาก็มีแพลนที่จะทำงานร่วมกันศูนย์ช่วยเหลือสัตว์อื่นๆ ในอนาคตด้วย Haugen บอกว่า “ผมมักจะทำงานอาสาสมัครเป็นประจำอยู่ แต่ครั้งนี้ ผมรู้สึกว่ามันคุ้มค่ามากที่สุดเท่าที่ผมเคยทำเลยล่ะ” …
-
ผู้จัดการโรงแรม ‘ช่วยชีวิตสุนัข’ ได้อย่างหวุดหวิด หลังถูกผูกเชือก ติดในลิฟท์ที่กำลังขึ้น..!!
การเลี้ยงสุนัขนั้น เราไม่ได้เพราะความอยากเลี้ยงหรือเพราะความน่ารักของมันเท่านั้น แต่คนเลี้ยงต้องมีความรับผิดชอบในระดับหนึ่ง เพราะนอกจากต้องคอยระวังอันตรายรอบด้านแล้ว ยังต้องระวังอันตรายที่คาดไม่ถึงด้วย Ben Duke ผู้จัดการโรงแรมและผู้ที่ช่วยชีวิตสุนัขจากลิฟท์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ที่บันทึกได้โดยกล้องวงจรปิดของโรงแรม ในกรีนวิล รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่เจ้าของสุนัขกำลังจับเชือกที่ผูกสุนัขเอาไว้ แต่ยังไม่ทันนำสุนัขเข้าไปข้างใน ประตูลิฟท์ดันปิดซะก่อน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ระทึกนี้ขึ้น สุนัขถูกเลื่อนขึ้นไปตามลิฟท์ แต่โชคดีที่ผู้จัดการโรงแรมเปิดประตูออกมาเจอพอดี จึงได้เข้าไปจับเชือกสุนัขไว้ และพยายามดึงเชือกออกอย่างยากลำบาก เพราะลิฟท์กำลังถึงสุนัขให้สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในที่สุดเชือกก็หลุดอย่างหวุดหวิด Ben เล่าให้ฟังว่า “หลังจากนั้นเจ้าของสุนัข ก็มาขอบคุณผม เขาเองก็ตกใจกลัวไม่น้อยเช่นกัน เพราะสุนัขตัวนี้เปรียบเหมือนลูกของเขาเลย” โชคดีที่สุนัขไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร นอกจากรอยขีดข่วนเล็กน้อย คลิปจากกล้องวงจรปิด วินาทีการช่วยเหลือนี้… Ben พยายามดึงเชือกสุนัขออกจากคอของมัน แต่ลิฟท์ยังคงเลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก ในที่สุดเชือกก็หลุด สุนัขจึงวิ่งหนีด้วยความกลัว ต้องขอบคุณผู้จัดการคนนี้ที่เข้ามาเห็นและช่วยมันได้ทันพอดี แต่หวังว่า เรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนเลี้ยงสุนัขให้ระวังมากขึ้นนะคะ ที่มา thesun
-
ตำรวจหญิงแม่ลูกอ่อนวัย 4 เดือน ถูกยิงเสียชีวิต… คุณแม่คนอื่นๆ ร่วม ‘บริจาคน้ำนม’ ให้แทน
พูดถึงตำรวจนั้น แน่นอนว่า ต้องมีหน้าที่ดูแลประชาชน คอยปกป้องเมื่อเกิดเหตุร้าย ดังนั้นพวกเขาเป็นผู้เสียสละที่สมควรได้รับการยกย่อง และเมื่อเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ครอบครัวที่เหลืออยู่ก็ควรได้รับการดูเป็นการตอบแทน เหมือนกับตำรวจหญิงคนหนึ่งที่ถูกยิงเสียชีวิตในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ คนในชุมชนจึงช่วยกันดูแลครอบครัวที่เหลืออยู่ของเธอ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีคนก่อก่อความวุ่นวายในแคลิฟอร์เนีย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 คน หนึ่งในนั้นคือ Lesley Zerebny วัย 27 ปีถูกยิงเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้สามีของเธอ Zachary ต้องอยู่กับ Cora ลูกสาววัย 4 เดือนเพียงลำพัง Cora ยังอยู่ในวัยแค่ 4 เดือนเท่านั้น และเธอก็ยังไม่หย่านม ด้วยความเอ็นดู เหล่าคุณแม่ในท้องถิ่นจึงช่วยกันบริจาคน้ำนมให้กับเธอ และตอนนี้ก็ได้มากกว่า มากกว่า 31 ลิตรแล้ว Claudine Wang จากสำนักข่าว KTVU ได้โพสต์ลงในเพจ Claudine Wong KTVU เมื่อมีเพื่อนส่งรูปภาพคูลเลอร์ที่เต็มไปด้วยนมบริจาค ซึ่งมาจากคุณแม่ทั้งหลายในเขตพื้นที่ Monterey เพื่อนำไปให้กับ Cora Wang ได้เขียนไว้ว่า “นี่ไม่ใช่แค่การบริจาคน้ำนมเท่านั้น แต่มันแสดงให้เห็นถึงน้ำใจของผู้คน ที่มีหัวใจแห่งการให้” นอกจากน้ำนมแล้ว ก็มีผู้ให้การช่วยเหลือครอบครัวนี้ผ่าน GoFundMe…
-
สื่อนอกรายงาน Great Barrier Reef แนวปะการังใหญ่ที่สุดในโลก แทบจะตายหมดแล้ว
อย่างที่เราได้เคยเห็นผ่านการ์ตูนและสารคดีมาแล้วมากมาย ว่าแนวปะการังตามพื้นที่ต่างๆ ในทะเล นอกจากจะมีความสวยงามแล้วยังช่วยสร้างระบบนิเวศและเป็นที่อยู่อาศัยของปลาตัวเล็กตัวน้อยได้ด้วย ล่าสุด#เหมียวฟิ้นมีข่าวเศร้ามารายงานให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน เพราะเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Unilad ได้รานงานว่าแนวปะกางรังเก่าแก่ที่ประเทศออสเตรเลีย ได้ตายลงแล้วหลังจากเป็นที่อยู่อาศัยของปลามานานกว่า 25 ล้านปี ตามรายงานของนักเขียนเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมอย่างนาย Rowan Jacobsen บอกว่าแนวปะการังแห่งนี้มีปลากว่า 1,625 สายพันธุ์ หอย 3,000 สายพันธุ์ และวาฬอีกกว่า 30 ชนิดอาศัยอยู่ที่นี่ แนวปะการังขนาดใหญ่นี้ค่อยๆ เปลี่ยนจากปะการังสีสันสวยงามกลายเป็นเพียงซากกระดูกสีขาว ที่เรียกว่าภาวะปะการังฟอกขาว อันเนื่องมาจากผลกระทบทางมลภาวะหลายอย่าง ผลกระทบเหล่านี้ทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างแนวปะการัง เป็นเพราะภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ตะไคร่น้ำจึงสร้างออกซิเจนมากเกินไป มันจึงกลายเป็นพิษที่เข้มข้นสูง ปะการังจึงต้องสลัดเอาตะไคร่น้ำเหล่านั้นออกไปเพื่อความอยู่รอด และเมื่อไม่มีตะไคร่น้ำแล้ว ปะการังเองก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นกระดูกสีขาวและอดอาหารตายไปในที่สุด จากการเปิดเผยคำสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์ Tim Flannery ระบุว่า “เรากลับมาเพื่อดูว่าแนวปะการังนั้นฟื้นฟูไปได้มากน้อยเพียงใด แต่แนวปะการังที่เราคิดว่าจะฟื้นฟูเมื่อหลายเดือนก่อน กลับตายไปเกือบหมด” “ถ้าแนวปะการังนี้เป็นคน เขาก็กำลังอาการร่อแร่อยู่ในเครื่องช่วยชีวิตแล้วล่ะ” ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ที่แนวปะการังแห่งนี้พากันเหี่ยวตายมาแล้วในปี 1998 และปี 2002 โชคดีที่ตอนนั้นอุณหภูมิลดลงได้ทันเวลา…
-
Michiyo Yasuda ผู้สร้างสรรค์การ์ตูน “Spirited Away” เสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 77 ปี
หนึ่งในแอนิเมชั่นที่โด่งดังและเป็นที่พูดถึงแม้จะผ่านเวลามานานเป็น 10 ปีแล้วก็ตามอย่าง Spirited Away แต่ปัจจุบันก็ยังคงเป็นที่พูดถึงและแนะนำต่อๆ กันมา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแอนิเมชั่นน้ำดี ล่าสุดดูเหมือนจะมีข่าวเศร้าให้แฟนๆ ใจหายกัน เพราะเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Comicbook ได้รายงานว่า Michiyo Yasuda แอนิเมเตอร์และนักออกแบบให้กับแอนิเมชั่นเรื่องนี้ได้เสียชีวิตลงแล้ว ตามรายงานบอกว่า Yasuda เกิดและเติบโตขึ้นที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และกลายมาเป็นหัวหน้าแผนกลงสีและแอนิเมเตอร์ของบริษัท Studio Ghibli ตั้งแต่เมื่อปี 1985 ต่อมาในปี 2001 Yasuda ก็กลายเป็นที่จดจำและถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะได้เข้าไปร่วมสร้างสรรค์แอนิเมชั่น Spirited Away จนสามารถทำรายได้ทั่วโลกไปทั้งสิ้น 289.1 ล้านดอลลาร์ แถมยังได้รับรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมในปีนั้นด้วย นอกจากผลงาน Spirited Away ที่โด่งดังแล้ว เธอยังได้ทำหน้าที่เป็นแอนิเมเตอร์ให้กับแอนิเมชั่นดังๆ อีกหลายเรื่อง เช่น – Future Boy Conan (1978) – Laputa: Castle In The Sky (1986),…
-
แปลคำไว้อาลัยจากผู้นำประเทศต่างๆ ร่วมแสดงความเสียใจ ‘ในหลวง’ ทรงเสด็จสวรรคต…
จากเหตุการณ์การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ถือเป็นความสูญเสีย และความเศร้าโศกเสียใจของปวงชนชาวไทยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ หลังจากที่ข่าวนี้ถูกนำเสนอออกไป ผู้นำประเทศทั้งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีในประเทศต่างๆ ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจต่อพระมหากษัตริย์และประชาชนชาวไทยอย่างมากมาย นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย Malcolm Turnbull “พวกเรารู้สึกเศร้าใจอย่างสุดซึ้งโดยการจากไปของพระเจ้าอยู่หัว และเราขอแสดงความเสียใจถึงพระบรมวงศานุวงศ์และปวงชนชาวไทยทุกคน” “พระองค์คือแบบอย่างของชาวเอเชียสมัยใหม่ ภายใต้การปกครองของพระองค์ ประชาชนชาวไทยเติบโตจาก 20 ล้านคนกลายเป็น 67 ล้านคน และแน่นอนว่าความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทางสังคมศาสตร์ได้พัมนาไปอย่างมากมายเพราะพระองค์” นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ John Key “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลถือเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชนานที่สุดในโลก และเป็นผู้นำในช่วงของการเติบโตการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่เห็นได้ชัดในประเทศไทย” ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย Joko Widodo “ในนามของรัฐบาลและประชาชนอินโดนีเซีย ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โลกได้สูญเสียผู้นำที่ใกล้ชิดกับประชาชน ผู้นำสันติภาพ ความสามัคคี และผู้นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประชาชนชาวไทย” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา Bill Clinton “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความสัมพันธุ์อันดีระหว่างไทยและสหรัฐ เป็นพันธมิตรแรกของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พระองค์คือผู้นำที่แท้จริง ทรงปฏิบัติหน้าที่ด้วยสติปัญญา ความเข้มแข็ง ความอ่อนน้อมถ่อมตน และความห่วงใยต่อประชาชนทุกคนอย่างแท้จริง” ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ได้แสดงความเสียใจต่อการจากไปของของพระมหากษัตริย์ไทยว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประธานในการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จและมีส่วนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของประเทศไทยในต่างประเทศ ที่มา nytimes
-
เอาใจสาวกโปเกมอนด้วย ‘ตุ๊กตาปิกาจูในถุงนอน’ ต้อนรับฤดูหนาว ให้คุณอบอุ่นหัวใจ..!!
โปเกม๊อน โปเกม่อน บีบมะนาวฆ่างู!! ลืมกันรึยังจ๊ะ!? เมื่อไม่นานมานี้เราคงจำได้ว่า เกมโปเกมอน กลายเป็นเกมฮิต ที่เราเล่นกันทั่วไปทั่วเมือง ตั้งแต่เด็กน้อยยันผู้ใหญ่ จนทำให้โปเกมอนมีแฟนคลับมากมายตั้งแต่นั้นมา ตอนนี้แม้กระแสโปเกมอนจะลดลงไปแล้ว แต่เชื่อว่า แฟนกคลับหลายคน ยังคงคลั่งไคล้ในโปเกมอนอยู่ไม่น้อย และเชื่อว่า หลายคนคงสะสมสินค้าโปเกมอนอยู่แน่ๆ นี่เลยสินค้าตัวใหม่ “ปิกาจูในถุงนอนโปเกมอน” ที่มีหลายสี หลายแบบให้เลือก และยังสามารถถอดออกได้ด้วย เรียกได้ว่า ทั้งน่ารักและอบอุ่นมากๆ แต่บอกไว้ก่อนว่า ผลิตภันฑ์ ไม่สามารถหาสื้อได้เหมือนสินค้าอื่นๆ ที่ผ่านมานะ แต่ต้องจับเอาจากเกมแบบตู้กาชาปองที่เรียกว่า Ichiban Kuji ซึ่งสามารถไปเล่นได้ในห้างที่มีศูนย์โปเกมอน ร้าน Animate สาขาต่างๆ ร้านเช่าวิดีโอ Tsutaya ร้านหนังสือและร้านอื่นๆ ที่เข้าร่วมรายการ และก่อนจะเล่นได้นั้น คุณต้องซื้อบัตรราคา 200 บาท เพื่อเอาไปใส่ในกล่องสุ่มจับรางวัล แล้วมาลุ้นกันอีกทีว่า คุณจะได้รางวัลไหน ตัวอะไร มีให้เลือกตั้งแต่ A-K โดย A และ B ใหญ่สุด เป็นตัว Pikachu หรือ…
-
ท่ามกลางเหตุการณ์ “ตัวตลกป่วนเมือง” ทำให้ลุงแม็คถูกหมายหัวไปด้วย เพราะว่าเข้าข่าย!!
จากเหตุการณ์ล่าสุดที่ได้มีตัวตลกออกมาป่วนเมืองในสหรัฐฯ และลามไปยังประเทศอังกฤษ ทำให้คนเกิดกลัวการเดินทางในตอนกลางคืน ล่าสุดทางตำรวจต้องออกมาตั้งมาตรการป้องกันต่างๆ ออกมา.. ภาพจากเหตุการณ์ที่เป็นข่าวในรอบเดือนที่ผ่านมา แถมตัวนี้ก็คล้ายลุงแม็คมาก มองไกลๆ อาจจะเข้าใจผิดได้ ล่าสุดมาสคอตของร้านอาหารอย่าง McDonald’s ที่เรารู้จักกันในชื่อลุง Ronald McDonald ก็ได้ถูกหมายหัวไปด้วย เนื่องจากว่าเป็นตัวตลกและอาจจะเข้าข่ายป่วนเมืองได้ เพราะบางส่วนก็แต่งตัวลักษณะคล้ายกับลุงแม็คจริงๆ จากเหตุการร์นี้ทำให้ชุดตัวตลกถูกแบนในหลายๆ สถานที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อร้านอาหารเฟรนไชน์ McDonald’s อีกด้วย จนทำให้เจ้าของต้องออกมาแถลงการ และนี่คือจดหมายจากโฆษก Terri Hickey ของ McDonald’s ถึงสำนักข่าว CNN “McDonald’s และสาขาต่างๆ ในพื้นที่ท้องถิ่นได้ตระหนักถึงเหตุการณ์ที่ได้มีคนพบเห็นตัวตลกออกมาในแหล่งชุมชน และอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องถึง Ronald McDonald ด้วย จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบว่ากิจกรรมที่ Ronald McDonald ทำอยู่ในขณะนี้ไม่ได้มี่ส่วนเกี่ยวข้อกับเหตุการณ์ดังกล่าว และ Ronald McDonald ก็กำลังมีกิจกรรมที่หลากหลายอยู่ในเขตชุมชนอยู่ตอนนี้” การออกมาพูดเรื่องนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตัวมาสคอตที่อยู่มานานกับ McDonald’s จากเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ ไม่น่าเชื่อว่าจากเหตุการณ์ที่มีคลิปคนแกล้งแต่เป็นตัวตลก มันจะกลายมาเป็นเรื่องป่วนเมืองจริงๆ แบบนี้ ฮาโลวีนนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ที่จะใส่ชุดตัวตลกออกไปเดินข้างนอกสินะ..!! ที่มา cnn
-
ชาวเน็ตพากันตกหลุมรัก ‘เหมียวน้อยสวมเสื้อกันหนาว’ หลังถูกช่วยชีวิตจากพายุเฮอร์ริเคน..!!
ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประสบกับปัญหาพายุเฮอร์ริเคนถล่ม ทำให้มีผู้คนบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอบ้านเรือนและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ในเรื่องร้ายๆ นั้นก็ยังมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น… ขณะนี้ผู้คนในโลกออนไลน์กำลังตกหลุมรักเจ้าเหมียวตัวน้อยที่ถูกช่วยเหลือมาจากเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคน Matthew เจ้าหน้าที่ได้ทำการสวมใส่เสื้อกันหนาวทำมาจากถุงเท้าเพื่อมอบความอบอุ่นให้กับมัน และก็ดูน่ารักน่าชังแบบสุดๆ (ใครจะไปอดใจไหว) ภาพสุดน่ารักนี้ถูกถ่ายไว้โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า Sarah ที่ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงในเมือง Raleigh รัฐ North Carolina คุณ Sarah ได้ให้สัมภาษณ์ว่าในวันเกิดเหตุซึ่งก็คือวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจากช่วงพายุเข้าเธอได้ยินข่าวเรื่องราวของแมวจำนวนมากถูกช่วยเหลือจากเหตุการณ์พายุเข้า ก็เลยเดินทางมายังร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง เธอบอกว่าในวันนั้นเธอตัดสินใจที่จะไปรับมันมาเลี้ยงซักตัวสองตัว และเธอก็ได้พบกับคุณพ่อคนหนึ่งพร้อมกับลูกๆ อีกสองคนที่จะมารับแมวไปเลี้ยงด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่ที่ร้านก็ได้บอกกับครอบครัวที่มาถึงว่าเจ้ามิ้วน้อยตัวนี้ถูกช่วยเหลือมาจากพายุเฮอร์ริเคน หากจะรับไปเลี้ยงก็สามารถเอาไปได้เลย แน่นอนว่าเด็กๆ และคุณพ่อต่างก็ตกหลุมรักเจ้ามิ้วน้อยตัวนี้ในทันที คุณ Sarah กล่าว นอกจากนี้เธอยังเล่าต่ออีกว่าเสื้อกันหนาวเล็กๆ ที่ทำมาจากข้อถุงเท้านั้นเป็นฝีมือของครบอครัวที่น่ารักเพราะพวกเขากลัวว่ามันจะหนาว และในที่สุดเรื่องราวก็จบลงตรงที่เจ้ามิ้วน้อยตัวนั้นถูกครอบครัวที่แสนจะน่ารักรับไปเลี้ยง คุณ Sarah เห็นว่ามันน่ารักดีก็เลยขอถ่ายรูป 1 แชะพร้อมกับเอาไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ และมันก็กลายเป็นที่ถูกใจของชาวเน็ตหลายๆ คน และตอนนี้ก็มีผู้คนเข้ามากดไลค์กันเป็นจำนวนกว่า 130,000 ไลค์ และรีทวิตไปถึง 72,000 ครั้งเลยทีเดียว!! แหม่…
-
คุณพ่อไอเดียเจ๋ง เปลี่ยนวีลแชร์เด็กๆที่ป่วย ‘กล้ามเนื้อลีบ’ ให้กลายเป็นรถแฟนซีสุดเท่!!
เมื่อถึงวันฮาโลวีน บรรดาชาวชาติตะวันตกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างก็พากันแต่งตัวเป็นภูตผีปีศาจสุดหลอนกันใช่ไหมละ!? แต่สำหรับ Ryan Weimer สุดยอดคุณพ่อคนนี้ เขามีไอเดียการทำชุดฮาโลวันที่เจ๋งกว่าคนอื่นๆ โดยได้สร้างสรรค์ชุดฮาโลวีนให้กับลูกชายของตัวเองในแบบที่ไม่เหมือนใคร บอกเลยว่ามันเป็นผลงานที่สุดยอด Ryan และ Lana Weimer สองสามีภรรยา ที่มีลูกชายป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อลีบมาตั้งแต่เกิด และต้องพึ่งพาวีลแชร์ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา เมื่อวันฮาโลวีนมาถึง Ryan ผู้เป็นพ่อจึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการนำวีลแชร์ของลูกชาย มาเนรมิตให้กลายเป็นชุดเรือโจรสลัดสุดเท่นั่นเอง หลังจากที่สร้างเสร็จ เรื่องชุดฮาโลวีนสุดเท่ของลูกชายก็ได้เผยแพร่ออกไป แถมยังได้รับความสนใจจากผู้ปกครองทั่วโลกเป็นอย่างมาก โดยทางผู้ปกครองยังร้องขอให้ Ryan ช่วยเปลี่ยนวีลแชร์ให้กับลูกๆ ของพวกเขาบ้าง จนกระทั่งในปี 2015 Ryan และ Lana จึงได้ตัดสินใจที่จะสร้างแคมเปญ เพื่อระดมทุนในการเปลี่ยนรถเข็นธรรมดาๆ ให้กลายเป็นชุดน่ารักๆ สำหรับเด็กๆ นอกจากนี้ พวกเขายังได้เป็นส่วนหนึ่งของ “Magic Wheelchair” องค์กรไม่แสวงหากำไร ในการสร้างรถเข็นเวทมนตร์ให้แก่เด็กที่ใช้วีลแชร์ โดยมีวัตถุประสงค์คือ การสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าให้กับเด็กๆ ทุกคนนั่นเอง สำหรับแคมเปญดีๆ…
-
ซ่านักต้องเจอนี่!! ชายปริศนาสวมชุด Batman ออกมาจัดการ ‘กลุ่มตัวตลก’ ที่ทำให้ทุกคนตื่นกลัว
ก็อย่างที่รู้ว่าช่วงนี้เทรนด์แต่งเป็นตัวตลกออกมาป่วนเมืองกำลังระบาดในต่างประเทศ อย่างเช่นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีกลุ่มคนที่ออกมาแต่งเป็นตัวตลกแล้วออกมาไล่ทำร้ายพร้อมปล้นชิงทรัพย์ในทางเปลี่ยวๆ บ้างก็แต่งออกมาแกล้งหลอกประชาชนให้เกิดการตื่นตระหนก จนไม่กล้าออกไปไหนมาไหนตอนกลางคืน นั่นเป็นเพราะว่าในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมจะเป็นวันปล่อยผีหรือวัน Halloween จึงทำให้มีวัยรุ่นพากันออกมาเล่นพิเรนทร์ๆ ให้เข้ากับกระแสกันอย่างที่เห็น และล่าสุดมันก็ได้ลามไปถึงที่ประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเหล่าตัวตลกทั้งหลายนั้นจะสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าเด็กๆ จนถึงขั้นทำให้บางคนนอนฝันร้าย และไม่กล้าไปโรงเรียนกันเลยทีเดียว แต่สำหรับเด็กๆ ที่อยู่ในเมือง Whiteheaven เขต Crumbria ประเทศอังกฤษ คงไม่ต้องผจญกับความหวาดกลัวต่อเหล่าตัวตลกที่แสนชั่วร้ายอีกต่อไปแล้วล่ะ เพราะทางแฟนเพจเฟซบุ๊คของสำนักข่าวท้องถิ่นของเขต Cumbria BBC Cumbria ได้ทำการแชร์รูปภาพของชายหนุ่มปริศนาที่แต่งตัวเป็น ‘Batman’ มาไล่ปราบเหล่าตัวตลก เพื่อช่วยให้เหล่าเด็กๆ และชาวเมืองให้พ้นจากความหวาดกลัว ภายหลังทราบว่าเป็นผลงานของบริษัท Cumbria Superheroes ที่ทำเครื่องแต่งกายชุดซุปเปอร์ฮีโร่ที่ตั้งอยู่ในเขต Cumbria เป็นคนส่งซุปเปอร์ฮีโร่นี้ออกมาไล่จัดการกับเหล่าตัวตลกป่วนเมือง คนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าในคืนนั้น Batman ได้ออกมาเดินตรวจตราตามถนน และตรอกซอยต่างๆ ในเมือง Whiteheaven และพอได้พบกับเจ้าตัวตลกเขาก็รีบวิ่งไล่จับทันที และตัวตลกเห็นดังนั้นแล้วก็วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ในวันต่อมาพอเด็กๆ ได้ทราบข่าวก็ได้ทักไปหาแฟนเพจชุดซุปเปอร์ฮีโร่เพื่อทำการขอบคุณซุปเปอร์ฮีโร่ที่ออกมาไล่เหล่าตัวตลกชั่วร้ายออกไปด้วยข้อความสุดน่ารัก “สวัสดี Batman ผมชื่อว่า… ผมก็เริ่มรู้สึกกลัวเหตุการณ์ตัวตลกป่วนเมืองอยู่เหมือนกัน…
-
นายทหารอังกฤษ ลักลอบพาหนูน้อยอัฟกันหนีเข้าประเทศ หวังให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น..!!
ปัจจุบันโลกของเรานั้นกำลังอยู่ในยุคที่ไม่ว่าอะไรก็รวดเร็วไปหมด ต้องทำงานแข่งกับเวลา แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันไม่สนว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไรเอาตัวเองให้รอดไว้ก่อน ทำให้คนเห็นแก่ตัว และใส่ในความรู้สึกของคนอื่นน้อยลง แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นไปซะทั้งหมดหรอกนะ…และนี่ก็คือเรื่องราวสุดประทับใจที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตใจ และคอยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กัน คุณ Rob Lawrie นายทหารชาวอังกฤษวัย 49 ปี ได้อาสาสมัครไปช่วยเหลือสร้างค่ายอพยพให้กับผู้คนที่อพยพมาจากประเทศอัฟกานิสถาน ในเมือง Calais ประเทศฝรั่งเศส ก็อย่างที่บอกว่าเป็นค่ายอพยพ สภาพความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นแร้นแค้นเป็นอย่างมาก ด้วยงบของรัฐบาลที่มีจำกัด และด้วยความที่ผู้คนที่ทำการอพยพนั้นเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ ไม่ว่าจะทำการทำงานอะไรหรือจะเดินทางเข้าไปในประเทศไหนก็ไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นทำให้เหล่าผู้อพยพทั้งหลายต้องอดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างแร้นแค้นรอวันตายอยู่ในศูนย์อพยพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในระหว่างที่ปฏิบัติภารกิจคุณ Rob Lawrie ก็ได้สนิทสนมกับเหล่าผู้อพยพทั้งหลายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคุณ Reza และลูกสาวตัวน้อยน้อย Bahar และในตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันคุณ Reza ก็ได้คะยั้นคะยอขอให้คุณ Rob พาลูกสาวไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษด้วย แต่ก็ถูกปฏิเสธทุกๆ ครั้ง ก็แหงล่ะ เพราะการลักลอบพาคนเข้าเมืองนั้นจะต้องโทษหนัก ทั้งติดคุกและถูกปรับเป็นเงินหลักล้านบาทเลยทีเดียว… รูปของคุณ Reza และหนูน้อย Bahar แต่ในคืนหนึ่งฝนได้ตกลงมาหนักมากหนูน้อย Bahar ได้นอนหนุนตักของคุณ Rob และนั่นเองก็ทำให้เขาใจอ่อนตกลงรับปากที่จะพาเธอกลับไปที่อังกฤษด้วย…
-
ตามถ่าย “ป้ายรถเมล์” ที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ยุคสหภาพโซเวียต เศษซากจากอดีตแห่งความรุ่งเรือง!!
เวลาที่เราจะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ สิ่งที่ทุกคนจะต้องใช้ก็คือ “ป้ายรถเมล์” ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ คน จะต้องรู้จักกันดีอยู่แล้ว ว่ามันมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร? แต่สำหรับป้ายรถเมล์ที่เราจะนำมาให้รับชมในครั้งนี้ มันอาจจะดูไม่ค่อยคุ้นตาสักเท่าไหร่ เพราะมันคือสิ่งที่หลงเหลือมาจากยุคก่อนที่สหภาพโซเวียตจะล่มสลายนั่นเอง โดยภาพทั้งหมด เป็นผลงานของ Christopher Herwig ช่างภาพชาวแคนาดา ผู้ที่เดินทางมากกว่า18,000 ไมล์ เพื่อไปบันทึกภาพป้ายรถเมล์จากอดีตประเทศในโซเวียต เรียกได้ว่า มีทั้งสีสันฉูดฉาดที่ดูแปลกตาเป็นเอกลักษณ์ มีความคลาสสิคอยู่ในตัว และในบางที่ก็เก่าทรุดโทรมลงไปมาก ในขณะที่บางที่ก็ยังดูสมบูรณ์อยู่ ประเทศคาซัคสถาน ประเทศยูเครน ประเทศคีร์กีซสถาน ประเทศอุซเบกิสถาน ประเทศทาจิกิสถาน ประเทศมอลโดวา ประเทศอาร์มีเนีย อับฮาเซีย ประเทศลิทัวเนีย ประเทศเติร์กเมนิสถาน ประเทศเอสโตเนีย แม้จะดูแปลกตา และไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นกันบ่อยๆ แต่ชุดภาพถ่ายเหล่าได้ ก็ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนทั่วโลกเป็นอย่างมาก เมื่อได้รับชมแล้ว ทำให้รู้สึกราวกับว่า ยังคงได้รับกลิ่นอายของความเป็นคอมมิวนิสต์ที่ไม่เคยจางหายไปอยู่ไม่น้อย ที่มา : weirdrussia
-
14 เซเลปฟิตเนสทเผยไต๋ ที่จริงแล้วพวกเธอก็ไม่ได้ ‘หุ่นเป๊ะ’ ตลอดเวลาหรอกนะ..!!!
เพราะสิ่งต่างๆ ที่เราเห็นในโลกโซเชียลนั้น เป็นอะไรที่สามารถ ‘สร้าง’ ขึ้นมาได้ ฉะนั้นเวลาเราไปเห็นอะไรก็อย่าลืมใช้วิจารณญาณไต่ตรองให้ดีกันเสียก่อนนะจ๊ะ อย่างพวกไอจีของเหล่าเซเลปและคนดังต่างๆ ก็เช่นกัน บางครั้งบางทีสิ่งที่เราเห็นก็ไม่ใช่เนื้อแท้ของพวกเขาก็เป็นได้ และวันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มี 14 เซเลปฟิตเนสที่มีผู้ติดตามมากมายในอินสตาแกรมเพราะหุ่นที่เป๊ะเวอร์ของพวกเธอ แต่แท้จริงแล้วมันไม่ได้เพอร์เฟ็คต์เหมือนที่ทุกๆ คนเห็นหรอกนะ และพวกเธอเหล่านี้ก็ได้ออกมายอมรับ และแสดงให้เห็นว่า สามารถ ‘สร้าง’ ภาพเหล่านี้ออกมาได้ขนาดไหน!? Anna Victoria เซเลปที่มีผู้ติดตามมากว่า 1 ล้านคน!! แน่นอนว่าตื่นเช้ามาออกกำลังกายใหม่ๆ ก็แชะลงสักหน่อย แต่พอกินข้าวอิ่มๆ คนเราก็มีพุงได้เป็นธรรมดา เวลานั่งก็พุงปลิ้นเหมือนๆ กันหมดนั่นแหละ เพราะฉะนั้นอย่าซีเรียสไปเลย แค่ท่าโพสต์ดีก็สามารถได้ภาพดีๆ แล้ว ความภูมิใจในตัวของตัวเองนั้นสำคัญที่สุด ขอเพียงแค่เราดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่มากไม่น้อยเกินไป พวกเธอก็ชื่นชอบในการกิน และถึงขั้น ‘กินแหลก’ แบบเรานี่แหละ!! และนี่ก็คือเรื่องราวที่พวกเธออยากแชร์ให้ทั้งโลกได้เห็นกัน… ไม่ได้ท้องนะในภาพน่ะ แค่กินอิ่มแล้วพุงป่องแค่นั้นเอง…
-
ปั๊มน้ำมันรัสเซียประกาศ ‘ใส่บิกินี่เติมน้ำมันฟรี’ ชาวเมืองร่วมสนุกเพียบ ผู้ชายก็เอาด้วย ฮร่า!!
หลายๆครั้งเรามักจะเจอโปรโมชั่นทั้งลด แลก แจก แถม จากแบรนด์สินค้าชั้นนำต่างๆ หรือถ้าเป็นสถานีเติมน้ำมันก็อาจจะมีโปรโมชั่นรับส่วนลด จากบัตรเครดิต เป็นต้น แต่สำหรับปั๊มน้ำมันท้องถิ่นของสาธารณรัฐตาตาร์สถาน แห่งนี้ ขอบอกเลยว่าโปรโมชั่นพี่แกจัดได้จี๊ดจ๊าด และไม่ซ้ำใครแน่นอน เพราะเค้าประกาศเลยว่า ใครก็ตามที่กล้าใส่บิกินี่มาเติมน้ำมัน ถือว่าทางปั๊มเติมให้ฟรีๆไปเลย!! งานนี้ชาวเมืองต่างออกมาเติมน้ำมันกันอย่างพร้อมเพรียงใจ โดยมิได้นัดหมาย แต่ทุกคนรู้เหมือนกันว่าต้องใส่บิกินี่เท่านั้น… 1. งานนี้พี่เบิ้มบอกจัดไปเต็มๆครับ 2 ลิตร!!! 2. ถ้าเธอกล้าใส่ ปั๊มน้ำมันก็กล้าให้ฟรีนะจ๊ะ 3. โหววพี่ เล่นมาแบบนี้ ไม่ให้ฟรีก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว 4. งานนี้สาวๆชอบ ได้ทั้งน้ำมันฟรี แถมยังได้โชว์ความเซ็กซี่อีก 5. แต่ถึงพ่อหนุ่มคนนี้จะไม่เซ็กซี่ แต่เค้าก็ยังได้น้ำมันฟรีอยู่เหมือนกัน 6. ภาพสาวสวยใส่บิกินี่เติมน้ำมันรถ ไม่ใช่ภาพที่เห็นได้ง่ายแน่ๆ 7. งานนี้ปั๊มน้ำมันเต็มไปด้วยบิกินี่ บิกินี่ และบิกินี่ 8. แม้แต่พี่ชายคนนี้ ก็ยังเลือกที่จะใส่บิกินี่ แต่พี่ขอเป็นสปอร์ตบรานะ…
-
15 แมวเหมียวที่มาสะท้อนชีวิต “มนุษย์เงินเดือน” เอาความจริงล้อเล่นกันใช่มั้ยเนี่ย!?
เคยสังเกตมั้ยว่า บางทีมนุษย์กับแมวก็มีพฤติกรรมหลายๆ อย่างที่เหมือนกันนะ พวกมันมีอารมณ์โกรธเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่ชอบ และจะอารมณ์ดีเมื่อเจอสิ่งที่มันชอบ แน่นอนว่าเราเองก็ไม่ต่างจากแมวเหมียวเลย โดยเฉพาะในการทำงานที่เราต้องเจอเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งชอบและไม่ชอบ ไหนจะเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน รวมถึงปัญหาสุขภาพที่ตามมาจากการทำงาน ลองมาดูแมวเหมียว 15 ตัวนี้ ที่เลียนแบบและสื่ออารมณ์ในการทำงานต่างๆ ของเราได้เป๊ะเลย 1. เมื่อเราได้เริ่มไปทำงานใหม่ๆ และยังจำชื่อใครไม่ได้สักคน 2. เมื่อเจ้านายมีลูกน้องคนโปรดที่ไม่ใช่เรา 3. เมื่อมีเพื่อนร่วมงานมากระซิบบอกความลับของอีกคนให้คุณรู้ 4. เมื่อเจ้านายพยายามจะเล่าเรื่องตลก (ที่ไม่ตลก) ให้คุณฟัง 5. และหน้าของคุณเมื่อรู็ว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันหยุดแล้ว 6. แต่เมื่อมีข่าวว่า เดือนนี้จะได้เงินเดือนช้านะ 7. วันเงินเดือนออก 8. แอบขำเบาๆ เมื่อเพื่อส่งเรื่องตลกของเจ้านายให้เราดู 9. แต่คุณดันเผลอกดผิด ส่งต่อไปให้เจ้านายคุณซะงั้น อิ๊บอ๋าย 10. อุตส่าห์นั่งทำงานมานาน แต่จู่ๆ…
-
โปรเจ็คสร้าง Instagram สาวสวยให้มีแฟนคลับเยอะ เคล็ดลับง่ายๆ คือ ‘แอลกอฮอล์’ สะท้อนสังคม
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติของวัยรุ่นปัจจุบันนี้ไปซะแล้ว (และก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายหรือผิดมากอะไร) แต่ด้วยเหตุนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือวัยรุ่นหลายคนจึงเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังตั้งแต่อายุยังน้อย และปัญหานี้กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ทาง BETC ซึ่งเป็นเอเจนซี่โฆษณาได้ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้ จึงได้ออกมารณรงค์ให้หนุ่มสาวได้เห็นถึงความร้ายแรงของโรคพิษสุรานี้ภายใต้องค์กรที่ชื่อว่า Addict Aide พวกเขาเลยคิดโปรเจ็คสร้างอินสตาแกรมหญิงสาว Louise Delage เพื่อทดลองทางสังคมอะไรสักอย่าง ในอินสตาแกรมของเธอเราจะเห็นภาพที่ไม่ต่างจากวัยรุ่นทั่วไป ไม่ว่าจะสังสรรค์ เที่ยว ช้อปปิ้ง ไปตามร้านอาหาร หรือแม้กรทั่งวันพักผ่อนธรรมดา อินสตาแกรมของเธอได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มีคนนับหมื่นมาติดตามหญิงสาวคนนี้ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงๆ และเป็นเพียงตัวละครสมมติ แต่ไม่มีใครรู้เท่านั้นเอง แน่นอนว่าหากเราไม่รู้เบื้องหลังของอินสตาแกรมนี้ เราคงจะคิดว่า Louise มีชีวิตที่ดีจนน่าอิจฉา แต่ลองสังเกตดูดีๆ มันมีอะไรที่เหมือนกันอยู่ทุกภาพนะ!? ลองดูสิ… เห็นกันใช่ไหม… ในทุกๆ รูปจะต้องมีมันอยู่เสมอ… ในทุกๆ รูปที่เธอโพสต์นั้น จะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ บางครั้งถือไว้ในมือบ้าง วางไว้บ้าง แต่ทุกภาพจะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งของรูปอยู่เสมอ คนส่วนใหญ่มักมองแค่ด้านสวยงามของเธอ แต่ลืมคิดไปว่า ความสุขเหล่านี้ต้องพึ่งพาแฮลกอฮอล์อยู่เสมอ ดังนั้นอินสตาแกรมของ Louise จึงแสดงให้เห็นว่า แฮลกอฮอล์กายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวัยรุ่น แต่พวกเขามักจะมองข้ามปัญหานี้ การดื่มสุราเป็นเรื่องปกติ…
-
‘พิพิธภัณฑ์ศิลปะใต้น้ำ’ แห่งแรกของโลก ดูสวยปนน่ากลัว กระตุ้นให้คนใส่ใจในสิ่งแวดล้อม..!!
ปัจจุบันธรรมชาติใต้ทะเลนั้น ถูกคุกคามโดยมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงทำให้พันธุ์สัตว์และพืชลดน้อยลงตามกาลเวลาและอาจสูญพันธุ์ได้ในที่สุด Jason deCaires Taylor เป็นศิลปินที่ชอบสำรวจธรรมชาติใต้ท้องทะเลมาเป็นเวลานาน จนได้เห็นถึงความเปลี่ยนที่เกิดขึ้นมากมาย เขาจึงได้สร้างสวนประติมากรรมใต้น้ำแห่งแรกของโลกในปี 2006 ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตะวันตกของเกรเนดาในหมู่เกาะอินเดียตะวันตก โปรเจคนี้เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและธรรมชาติ โดยการสร้างปากะรังเทียมขนาดขนาดใหญ่ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติใต้ทะเล ทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ ในขณะเดียวกันก็เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้ระบบนิเวสทางทะเลด้วย เขาพยายามกระตุ้นให้เกิดการตระหนักด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และเราเองก็สามารถไปชื่นชมความงามของธรรมชาติที่งดงามของโลกใต้น้ำนี้ได้ด้วย ปัจจุบันนี้ผลงานชิ้นนี้ติดหนึ่งใน 25 อันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ทาง National Geographic จัดไว้ด้วย ที่สำคัญยังเป็นประโยชน์ในการสร้างพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลแห่งชาติโดยรัฐบาลท้องถิ่นด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นรูปปั้นของมนุษย์และวิถีชีวิตในสังคมยุคปัจจุบัน ราวกับว่าโลกของเรากำลังถูกท่วมด้วยน้ำทะเลไปหมด สะท้อนปัญหาโลกร้อนและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่ามันมีความสวยงามแบบเฉพาะตัว ขณะเดียวกันก็ดูน่ากลัวแบบแปลกๆ เช่นกัน ลองคิดว่าเรามาดำน้ำเล่นแล้วเจออะไรแบบนี้โดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน อาจจะคิดว่าหลงมาในอาณาจักรใต้น้ำอันลึกลับก็เป็นได้ ไม่ใช่แค่ศิลปะที่สวยงาม แต่ยังเป็นการช่วยสร้างความตระหนักให้ผู้คนช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย ที่มา designyoutrust ข้อมูลเพิ่มเติม Jason deCaires Taylor Instagram Facebook
-
21 ภาพชุดฮัลโลวีนในอดีต ที่แม้จะไม่ฟู่ฟ่าเท่าปัจจุบัน แต่กลับดูหลอนและน่ากลัวแบบแปลกๆ
หลายคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าในวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกๆ ปี คือ “วันฮัลโลวีน” ซึ่งเป็นวันที่ชาวตะวันตกนิยมแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจ เพื่อออกไปงานเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว และในครั้งนี้เราจะพาคุณมารัยชมภาพการแต่งกายชุดฮัลโลวีนในอดีต ซึ่งต้องบอกเลยว่าการแต่งชุดฮัลโลวีนของคนในสมัยนั้น ไม่ได้มีรายละเอียดซับซ้อนอะไรมาก แต่น่าแปลกที่มันดูหลอน และน่ากลัวกว่ากันหลายเท่า นั่นอาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่น่าขนลุก บวกกับการการถ่ายภาพขาวดำ ทำให้ภาพที่ออกมาดูสยดสยองและน่ากลัวกว่าในปัจจุบันเป็นไหนๆ ว่าแล้วก็มารับชมภาพไปพร้อมๆ กันเลย ต้องยอมรับเลยว่า ถึงชุดฮัลโลวีนในอดีตอาจจะไม่ได้ดูเว่อร์วังอลังการเหมือนในปัจจุบัน แต่ถ้าพูดในเรื่องของความหลอน และความน่ากลัวนั้น บอกเลยว่ามาเต็ม!! ที่มา : canyouactually
-
World Homeless Day รวม 14 ภาพชีวิตความลำบากของ “คนไร้บ้าน” จากทั่วทุกมุมโลก
ทุกวันที่ 10 ตุลาคม ในทุกๆ ปี หลายคนอาจจะคิดว่ามันคงเป็นวันธรรมดาๆ ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วคือวัน “World Homeless Day” (วันผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะโลก) หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า วันคนไร้บ้านหรือคนเร่ร่อนนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ photocrowd.com จึงได้จัดการประกวดถ่ายภาพคนไร้บ้าน เพื่อทำให้ผู้คนได้เห็นถึงความยากลำบากของคนเร่ร่อน และให้สังคมให้ตระหนักถึงปัญหาคนไร้บ้าน ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุดเสียที และทั้งหมดนี้คือภาพถ่ายการใช้ชีวิตของคนไร้บ้านจากประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก ที่ถูกบอกเล่าผ่านการประกวดในครั้งนี้ ชายไร้บ้านบนถนนในเมืองฮาราร์ ประเทศเอธิโอเปียตะวันออก ช่างภาพบันทึกภาพของหญิงขอทาน ในกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับเธอ ภาพของชายไร้บ้าน ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ถึงแม้ว่าเขาจะแทบไม่มีอะไร และต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเอง แต่ก็ยังหาอาหารมาเลี้ยงฝูงนกพิราบอยู่เสมอ ชายไร้บ้านกำลังนั่งเผากระดาษ ในคิงสตัน อัพพอน ฮัลล์ ประเทศอังกฤษ เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงคนไม่มีที่อยู่อาศัย ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ชายไร้บ้าน ที่นั่งอยู่ระหว่างคำว่าสุขภาพ และความงาม ในนิวยอร์กซิตี้ คนเก็บขยะได้เหลียวมองมาที่ชายคนหนึ่ง…
-
สาวน้อยที่สูญเสียขาไปเพราะ ‘มะเร็งร้าย’ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอหยุด ‘เต้นบัลเล่ต์’ ได้!!
เรื่องราวของสาวน้อยที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งเป็นเหตุให้เธอต้องเสียขาข้างหนึ่งไป แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอยอมแพ้และเลิกล้มความตั้งใจในการเป็นนักบัลเล่ต์ สาวน้อย Gabi Shull จากรัฐ Missouri เมื่ออายุได้เพียง 9 ปี เธอต้องเสียขาข้างหนึ่งไปเพราะโรคมะเร็งกระดูกที่เกิดขึ้นบริเวณเข่า แต่ก็มันก็ไม่สามารถหยุดยั้งเธอจากการเต้นบัลเล่ต์ได้ คลิปบอกเล่าเรื่องราวชีวิตเธอ จากทางชานแนล Barcroft TV เจ้ามะเร็งร้ายนี้ถูกพบเจอจากการเอ็กซ์เรย์ตอนที่เธอได้รับบาดเจ็บจากการเล่นไอซ์สเก็ต เหมือนกับว่าเธออาจจะไม่ได้เต้นอีกต่อไป แต่ตอนนี้หนูน้อย Gabi อายุ 15 ปีแล้วแต่ก็ยังคงได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบต่อไปได้อย่างมีความสุข นั่นก็ต้องขอขอบคุณศัลยแพทย์ที่ช่วยเหลือเธออย่างสุดความสามารถ พวกเขาไม่ได้ตัดช่วงขาทิ้งออกไปทั้งหมด แต่ได้นำส่วนปลายของขามาต่อเข้าไปแบบกลับด้านนั่นทำให้เธอสามารถบังคับขาเทียมให้สามารถเต้นอย่างอิสระ แต่อาจจะต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติ เพราะการขยับขาที่กลับด้านจากเดิมนั้นมันเป็นอะไรที่ยากมากๆ เพราะต้องขยับเป็นคนละทาง และไม่เพียงแค่เฉพาะแนวบัลเล่ต์เท่านั้นเธอยังสามารถเต้นแนวอื่นๆ อีก ทั้งฮิปฮอป แท็ป และแจ๊ส ต้องขอบอกเลยว่าเธอเป็นคนที่ชื่นชอบการเต้นเป็นชีวิตจิตใจเลยล่ะ แถมเธอยังทำหน้าที่เป็นโฆษกให้กับองค์กรที่ช่วยเหลือเด็กๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระดับนานาชาติที่ชื่อว่า The Truth 365 อีกด้วยนะ ลองไปชมคลิปวิธีการใช้ขาเทียมของเธอแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า……
-
เด็กน้อยป่วย ‘ลูคีเมีย’ ต้องเดินทางคนเดียว 400 กิโล เพื่อไปรักษา และกลับมาเรียนให้ทันเวลา..!!
เรื่องราวของเจ้าหนูน้อยที่ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย (หรือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว) และต้องเดินทางไป-กลับเป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ระหว่างโรงเรียนและโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาและเรียนในเวลาเดียวกัน Shi Luyao หนุ่มน้อยวัย 11 ปี ได้รับการตรวจพบว่าเป็นโรคลูคีเมียเมื่อปี 2013 ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลามากพอสมควรในทำคีโมเพื่อทำการรักษา และต้องได้รับการตรวจกระดูกสันหลังอย่างละเอียด ในเรื่องของการรักษานั้นเจ้าหนุ่มน้อยได้รับการช่วยเหลือจากประกันภัยสังคมเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เป็นเพราะว่าเขาต้องย้ายตามคุณพ่อจากเมืองเกิด Guizhou ไปทำงานที่เมือง Anhui (หลังจากที่แม่ทิ้งไปเมื่อตอนเขาอายุได้เพียง 2 ขวบ) และด้วยเหตุนี้เองทำให้คุณพ่อของหนุ่มน้อย Luyao นั้นต้องพยายามหาเงินทุกวิถีทาง กว่า 1 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นค่ารักษาส่วนต่างที่ประกันไม่ได้จ่ายให้ การหาเงินระดมทุนนั้นเองก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ในประเทศจีนนั้นการขอเรี่ยไรเงินเพื่อนำไปรักษาโรคมะเร็งนั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก (เอาจริงๆ ก็ยากหมดเกือบทุกประเทศแหละนะ ถ้าเราเกิดมาแล้วมีสุขภาพที่ย่ำแย่ แต่ช่วงหลังมีเว็บระดมทุนพวกนี้ในโลกฝั่งตะวันตกเยอะกว่าทางฝั่งเอเชียนั่นเอง) เมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ คุณพ่อของหนูน้อย Luyao ได้ทำการสวมใส่หน้ากากม้าและให้คนมาขี่หลังเพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับลูกชาย และเมื่อสองปีก่อนเขาก็ได้ไปคุกเข่าอยู่หน้าบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งใน Sichuan ร่วมกับกลุ่มนักเรียนที่เป็นเพื่อนของลูกชายเพื่อขอยืมเงินจากผู้อำนวยการไปใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล และในที่สุดการรักษาก็เริ่มขึ้น Luyao ต้องย้ายกลับไปอยู่ในเมือง Guizhou ที่เป็นบ้านเกิด เพื่อรับสิทธิ์ในการรักษาเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมเมื่อปีที่ผ่านมา…
-
เมื่อ ‘Justin Bieber’ ปลอมตัวใส่หนวด เมื่อไปเที่ยวอัมสเตอร์ดัม ก็กลายมาเป็นข่าวดัง!?
เมื่อกล่าวถึงหนุ่มสุดฮ็อตที่เป็นขวัญใจของสาวๆ หลายคนแล้ว Justin Bieber ก็คงเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน และล่าสุดพ่อหนุ่มจัสตินของเราก็ได้ไปพักร้อนเดินเล่นในอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์พร้อมกับการใส่วิกผม หนวดแล้วก็แว่นดำ เหมือนสูตรการปลอมตัวในละครเป๊ะๆ เลย แต่พูดก็พูดเถอะด้วยดีกรีความหล่อที่สามารถครองใจสาวๆ ทั้งโลกได้ การที่จะมีคนจำได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ขนาดปลอมตัวก็ยังโดนปาปารัสซี่ (หรืออาจจะเป็นแฟนคลับ) ถ่ายมาได้ซะอีก… เดินถือแก้วน้ำพร้อมกับเลียขอบปากไปด้วย >< ใส่ชุดสีแดง นี่นึกว่ามาริโอ้มาเก็บเห็ด… ยิ่งเลียขอบปากด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ความลับแตกง่ายยิ่งขึ้นไปอีก!! ซูมชัดๆ เข้าไปอีก!! ไม่เหมือนจัสตินตรงไหนให้เอาปากกามาวง ขนาดว่าแฟนคลับยังจำได้และขอเข้าไปถ่ายรูป ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมพ่อหนุ่มจัสตินถึงได้แต่งตัวแบบนี้ออกไปเดินเล่นในเมืองอัมสเตอร์ดัม แต่ขอบอกเลยว่ามันช่างดีต่อใจซะเหลือเกิน อิอิ ลองไปชมคลิปที่ชาวเน็ตของพ่อหนุ่มจัสตินที่ชาวเน็ตถ่ายไว้ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… Vídeo de Justin disfarçado em Amsterdã, Holanda (07/10) ?? pic.twitter.com/svuZ8n3CDi — Portal Bieber Brasil (@portal_bieberBR) 7 ตุลาคม…
-
ช่างภาพสำรวจโรงพยาบาลร้าง ที่ปิดทำการมา 15 ปี ราวกับแคปซูลเวลา ที่ถูกแช่แข็งเอาไว้…
ภาพของไซริงค์ที่ตกอยู่บนพื้น เอกสารทางการแพทย์ที่ยังคงวางไว้เป็นตั้งๆ และร่องรอยของความยุ่งเหยิงอลหม่านที่ยังมีให้เห็นกันในห้องผ่าตัด… นี่คือสิ่งที่ช่างภาพเข้าไปถ่ายได้ในโรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่งในรัฐ Georgia ประเทศสหรัฐฯ โรงพยาบาลแห่งนี้รู้จักกันในสมญานามว่า ‘Bad Debt Hospital’ ด้วยสาเหตุที่ทางโรงพยาบาลไม่สามารถจ่ายหนี้สินที่ท่วมท้นได้ พวกเขาเลยต้องปิดทำการในช่วงปี 1974 ซึ่งหลังจากนั้นราวๆ 10 ปี พวกเขาก็เปิดทำการอีกครั้ง แต่ด้วยหนี้สินที่ไม่มีจ่าย จึงต้องปิดตัวลงถาวรในปี 2001 เป็นต้นมา… 15 ปีหลังจากนั้น สถานที่แห่งนี้ไร้ผู้ใดย่างกรายเข้าไป ข้าวของภายในยังอยู่เหมือนเดิม ราวกับทั้งตึกเป็นแคปซูลเวลาขนาดใหญ่เลยทีเดียว!! ภาพชุดนี้ถูกถ่ายไว้ได้โดยช่างภาพชื่อ Leland Kent สภาพต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม ตั้งแต่ที่ถูกทิ้งไว้… และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่โรงพยาบาลต้องปิดตัวลงเพราะภาระหนี้สิน ในแถบนี้ของประเทศ มีโรงพยาบาลปิดไปแล้วกว่า 9 แห่ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา!!? จนผู้นำของชุมชนแต่ละแห่งรวมตัวกันเพื่อก่อตั้ง Hospital Corp. องค์กรเงินทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลในแถบนี้ขึ้นในช่วงปี 1980 แต่สุดท้ายก็ช่วยไม่ไหวอยู่ดี ผลที่ออกมาก็ตามภาพที่เราได้เห็นนี้… โรงพยาบาลที่เคยรับและดูแลคนในพื้นที่กว่า 9,000 คน ถูกทิ้งร้างเอาไว้ สภาพเหมือนไม่ได้วางแผนว่าจะปิดตัว…
-
หนุ่มอังกฤษโอดครวญ อดกิน ‘ฟิชแอนด์ชิปส์’ อาหารโปรด หลังถูกตั้งข้อหาเป็น ISIS ในซีเรีย
ข่าวคราวเกี่ยวกับกลุ่ม ISIS ก็มีมาได้สักพักแล้ว และเพื่อนๆ คงพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ากลุ่ม ISIS หรือ กลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย (Islamic State of Iraq and Syria) นั้น เปิดรับให้ผู้มีความสนใจจากทั่วโลกสามารถเข้าร่วมกับพวกเขาได้ Sajid Aslam หนุ่มมุสลิมชาวอังกฤษวัย 34 ปีคนนี้ก็เช่นกัน เขาเคยอาศัยอยู่ใน Walsall แถบ West Midlands ก่อนจะไปเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เขากลับคิดถึงบ้านและมีอาการโฮมซิคสุดๆ แต่เขาก็กลับไม่ได้เพราะตอนนี้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อการร้ายที่ทางการอังกฤษต้องการตัวมากที่สุดไปเสียแล้ว!! Sajid Aslam ล่าสุดเขาเกิดอาการจิตตกเนื่องจากการคิดถึงบ้านอย่างหนัก โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่น ‘Fish and Chips’ หรือปลาทอดและเฟรนฟรายส์ อาหารยอดฮิตของเมืองผู้ดีประเทศอังกฤษนั่นแหละ เขาส่งอีเมล์หา Express and Star หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่เขาเคยอาศัยอยู่เป็นประจำ ซึ่งหนึ่งในจดหมายได้เขียนระบุไว้ว่า ‘Walsall นั้นมีร้านปลาทอดและมันฝรั่งอร่อยๆ มากมาย ผมคิดถึงจริงๆ ทั้งอาหาร และ Walsall เมืองที่โคตะระน่าเบื่อและไม่เคยมีอะไรตื่นเต้นเกิดขึ้นเลย’ ‘ผู้ก่อการร้าย ISIS มีชีวิตแบบนี้หรือ?’ เขาโพสต์ภาพพร้อมกับเกมของเขา…
-
ดีต่อผู้สูงอายุ!! รัฐบาลจีนแจก “สายรัดข้อมืออัจฉริยะ” ช่วยลดปัญหาผู้ป่วยอัลไซเมอร์หลงทาง
ปัญหาของผู้ป่วยอัลไซเมอร์นั้นค่อนข้างที่จะเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากทีเดียว ในหลายๆ ประเทศกำลังประสบกับปัญหาที่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์สูญหาอยู่จำนวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือประเทศจีน ตามรายงานจากเพจอ้ายจง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม บอกว่าประเทศจีนมีผู้ป่วยอัลไซเมอร์มากถึง 9.5 ล้านคน ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะมันทำให้ความจำของเราแย่ลง จำบุคคลหรือเส้นทางต่างๆ ไม่ได้ สำหรับประเทศจีน.มีจำนวนผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 9.5ล้านคน.หรือคิดเป็น4.75%ของผู้สูงอายุทั้งหมดในจีน ซึ่ง… โพสต์โดย อ้ายจง บน 9 ตุลาคม 2016 นั่นจึงส่งผลให้มีผู้ป่วยอัลไซเมอร์หลายๆ คนหลงทางหรือหายตัวออกไปจากบ้าน และที่ประเทศจีนเองก็มีผู้สูงอายุหายตัวไปถึง 1,370 คนต่อปี ทำให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันหาทางแก้ไขกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้ทางรัฐบาลจีนได้เริ่มต้นโครงการผลิตสายรัดข้อมืออัจฉริยะมาตั้งแต่ปี 2012 เพื่อแจกจ่ายมันให้กับผู้ป่วยอัลไซเมอร์นำไปใช้กันแบบฟรีๆ โดยในสายรัดข้อมือจะมีข้อมูลเช่นชื่อ ที่อยู่ หรือเบอร์ติดต่อญาติๆ ให้มารับกลับบ้าน โครงการที่ว่านี้มีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาตลอด จนล่าสุดในปี 2016 ก็ได้มีการนำเอาเทคโนโลยี QRcode มาใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายคนสามารถสแกนแล้วโทรหาญาติได้ทันที ลดระยะเวลาในการโทรแจ้งตำรวจหรือประกาศหาคนหาย นอกจากหน่วยงานรัฐแล้ว ก็ยังมีบริษัทเอกชนหลายแห่งผลิตสายรัดข้อมือแบบนี้ เช่น องค์กรอาสาสมัครยุวชนกวางโจว (Guangzhou Young Volunteers Association) องค์กรที่ว่า…
-
ชายอเมริกัน ‘เบื่อเมีย’ ขับรถไปปล้นธนาคาร ให้ตำรวจจับ บอกขอติดคุกดีกว่าอยู่บ้าน!!?
คงไม่มีใครในโลกรู้สึกดีกับคำว่า “คุก” หรือ “เรือนจำ” หรอกนะ เพราะมันคือสถานที่ที่ไม่มีใครอยากไปอยู่ เป็นสถานที่ที่สงวนไว้สำหรับผู้ที่กระทำความผิดเท่านั้น แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าในโลกใบนี้ยังมีคนที่อยากจะเข้าไปอยู่ในนั้นแบบจับใจเลยทีเดียว… เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Washingtonpost เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของนาย Lawrence John Ripple ชายชาวอะเมริกันจากรัฐแคนซัส วัย 70 ปี เขาตัดสินใจที่จะปล้นธนาคาร โดยอ้างว่าเขาทำไปเพื่อที่จะได้หนีเมียไปติดคุก!? ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยนาย Ripple ได้เข้าไปปล้นธนาคารแห่งหนึ่ง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว แต่เขาไม่ได้พยายามหนีหรือหาข้อแก้ตัวใดๆ เลย ต่อมาในวันพุธที่ 5 ตุลาคม เขาได้ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ Leavenworth ในรัฐแคนซัส ซึ่งเป็นสถานที่เจ้าตัวบอกว่าอยากไปตั้งแต่แรก เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะนาย Ripple มักมีปัญหาทะเลาะกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง วันหนึ่งเขาทะเลาะกับภรรยาเรื่องไดร์เป่าผมที่เสีย เธอจึงบอกให้เขาซ่อมมัน แต่ข้อโต้เถียงระหว่างพวกเขาก็รุนแรงขึ้นเหมือนอย่างทุกครั้ง จนเขาทนไม่ไหว ตะโกนใส่ภรรยาไปว่า “ไปติดคุกยังดีกว่าอยู่ที่บ้านอีก!!” และดูเหมือนว่านาย Ripple จะเป็นคนรักษาสัญญาเสียด้วย เพราะหลังจากที่ลั่นวาจาไป เขาก็ขับรถตรงไปยังธนาคารทันที…
-
‘ผมไปนะพ่อ…’ คลิปชีวิตจริงๆ ของมือระเบิดพลีชีพ ISIS วัย 11 ขวบ กับภารกิจสุดท้ายของเขา!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม] ณ วันนี้ผู้คนทั่วโลกคงได้รู้กันแล้วว่ากลุ่มก่อการร้าย ISIS นั้นเลวร้ายขนาดไหน มีกองทัพหน้าตาเป็นยังไง และสามารถทำอะไรให้โลกตกตะลึงได้บ้าง แต่จะมีสักกี่คนที่ได้เห็นถึงกระบวนการในการสร้างนักรบพลีชีพของพวกเขา!? เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นได้หยิบมานำเสนอในวันนี้เป็นคลิปวิดีโอชวนเชื่อที่ถูกปล่อยโดยผู้สนับสนุน ISIS เป็นคลิปเกี่ยวกับ Abu Imara al Omri เด็กชายวัย 11 ขวบ แน่นอน ความพิเศษของเขาอยู่ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กๆ ทั้วไป วิ่งเล่น ดูการ์ตูน ไปโรงเรียน เจอเพื่อนๆ แต่ถูกฝึกให้กลายเป็นผู้เสียสละ และนักรบพลีชีพให้แก่กองทัพผู้ก่อการร้าย คลิปวิดีโอตัวนี้ถูกทำให้เหมือนกับเป็นการสัมภาษณ์กึ่งสารคดี โดยผู้ชมจะได้เห็นภาพของเด็กชาย al Omri ขณะถือปืนและแสดงสีหน้ามุ่งมั่นไปยังสนามรบ ก่อนที่เขาจะก้มลงจูบมือผู้เป็นพ่อและสตาร์ทรถที่บรรจุระเบิดไว้เต็มคันรถ แล้วขับมันออกไประเบิดที่เมือง Ghazl ใกล้กับเมือง Aleppo ในซีเรียเพื่อเป็นการแสดงการต่อต้านต่อประธานาธิบดีซีเรีย Bashar al-Assad ในช่วงท้ายของวิดีโอจะเห็นเด็กชายและพ่อของเขา กำลังตรวจสอบว่ารถของพวกเขาใช้การได้หรือไม่ ก่อนที่พ่อของเขาจะสอนวิธีในการจุดระเบิดให้กับลูกชาย และจากลากันแบบไม่สะทกสะท้านอะไร ซึ่งภาพทั้งหมดจบลงด้วยการถ่ายจากระยะไกล เผยให้เห็นลูกไฟและควันโพยพุ่ง เป็นสัญญาณที่บอกว่าเด็กชาย al Omri ได้จากโลกนี้ไปแล้ว มีนักวิจัยได้ทำการศึกษากรณีของ Omri และเด็กๆ…
-
4 พี่น้อง ช่วยตัดหญ้าให้คุณยายที่ไม่รู้จัก หลังเธอจะถูกตำรวจจับ ข้อหาหญ้าขึ้นสูงเกิน!!!
เราคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า บางประเทศนั้น หาปล่อยให้บ้านรกหรือทรุดโทรมจนเกินไป อาจต้องเสียค่าปรับหรืออาจถูกจับเข้าคุกได้ Gerry คุณยายวัย 75 ปี อาศัยอยู่ที่รัฐเท็กซัส เธอกำลังถูกออกหมายจับ เนื่องจากหญ้าหน้าบ้านเธอนั้นสูงเกิน และเธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะตัดเอง รถตัดหญ้าไม่มี และตัวเองไม่มีเงินไปจ้างบริษัทรับทำสวนซึ่งเกินกำลังทรัพย์ของเธอ ฟังดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อใช่ไหม!? แต่ต้องเข้าใจว่า มันคือกระบวนการทางกฏหมายของที่นี่ เพราะหญ้าสูงมันจะก่อเกิดทัศนียภาพที่ไม่สบายตา บดบังสายตาคนขับรถ เกิดความรกรุงรัง เสี่ยงต่อไฟไหม้ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์มีพิษเช่น งู บางท้องถิ่นเลยถือเป็นกฎหมายว่าต้องตัดให้สั้นตลอด และเมื่อสี่หนุ่มที่เป็นพี่น้องกันได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาไม่นิ่งนอนใจ จึงตัดสินใจที่จะช่วยคุณยายทันที ว่าแล้ว พวกเขาก็นำรถตัดหญ้าขึ้นรถบรรทุก แล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านของคุณยาย Gerry แล้วลงมือตัดหญ้าให้เธอ ทั้งๆ ที่สี่พี่น้องนี้ไม่เคยรู้จักกับเธอมาก่อน Blaine Reynolds หนึ่งในสี่พี่น้องนี้บอกว่า “เราไม่เคยรู้จักกับเธอเลย แต่เมื่อเรารู้ว่าคุณยายต้องการความช่วยเหลือ เราจึงช่วยเหลือเธอในส่วนที่ทำได้” และเมื่อคนอื่นๆ ในชุมชนเห็น พวกเขาก็เข้ามาช่วยพี่น้อง 4 คนนี้ โดยใช้เวลาในการตัดหญ้าไปประมาณ 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว Brandon Reynolds บอกว่า “เราไม่ต้องการให้เธอออกจากที่นี้ หรือต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้อยู่ที่นี่ ในเมื่อเราเองสามารถช่วยให้เธอได้อยู่แบบฟรีๆ ได้”…
-
สุดยอด ‘ซิงเกิ้ลแด๊ด’ ลงทุนเข้าคอร์สเรียน ‘เปียผม’ จนสร้างสรรค์ทรงผมให้ลูกสาวไม่ซ้ำกัน
คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหลายๆ คนสามารถทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้คนเป็นแม่เลย แม้ว่าต้องมาดูแลลูกสาวก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับคุณพ่อนั่นก็คือ การเปียผมให้ลูกสาวนั้นเอง Greg Wickherst คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่อยู่กับลูกสาว Izzy เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาวิทยาลัย IntelliTec College ในขณะเดียวกันเขาต้องทำทุกอย่างให้ลูกสาว และเขาก็อยากให้มันออกมาดูดีไม่แพ้กับลูกคนที่อยู่กับแม่เลยล่ะ ตั้งแต่ Wickherst แยกทางกับภรรยา เขาก็รับลูกสาวมาอยู่ด้วย และทำทุกอย่างให้เธอ ตั้งแต่ทำอาหาร อาบน้ำ แต่งตัว และการเล่น สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่ยกเว้นอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ การทำผมให้เธอนั่นเอง ครั้งแรกที่คุณพ่อพยายามจะทำผมให้ลูกสาว เขาตัดผมให้เธอด้วยกรรไกร ก็ไม่ยากเท่าไรนะ แต่เรื่องที่ดูจะยากที่สุดสำหรับเขา ก็คงจะเป็นการถักเปียมากกว่า Wickherst เล่าว่า “ผมเคยตัดผมให้ลูกสาว แต่ก็ไม่ออกมาดูดี ต่อมาผมก็พยายามถักเปียให้เธออีก แต่มันก็ยากเช่นกัน ผมพยายามทำแล้วทำอีก แต่มันก็ไม่ดีขึ้นเลย” เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา เขาจึงตัดสินใจใช้เวลาช่วงพักกลางวันไปที่แผนกเสริมสวย IntelliTec College ซึ่งตั้งอยู่ในที่ที่เขาทำงานอยู่ และขอให้พวกเขาสอนวิธีทำผมให้ลูกสาว Wickherst มีความสุขกับการเรียนทำผมนี้มาก และตั้งแต่นั้นมา ทรงผมของ Izzy ก็มีความหลากหลายมากขึ้น เพราะฝีมือคุณพ่อล้วนๆ เมื่อเวลาผ่านไป…
-
เด็กชายญี่ปุ่น แต่งเป็นโฮสต์คลับฉลองวันเกิดอายุ 8 ปี ชาวเน็ตตั้งคำถามเหมาะสมหรือไม่?
วันที่ 10 ตุลาคม 2559 ทางเว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอการฉลองวันเกิดของ Ryuchalo เด็กชายวัย 8 ขวบ จากประเทศญี่ปุ่น ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกออนไลน์ ณ ขณะนี้ หลังจากที่ Chiimelo ผู้เป็นแม่ หนึ่งในบล็อกเกอร์ความงามที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ที่มักจะจับลูกชายของตัวเองมาแต่งองค์ทรงเครื่องสุดเว่อร์วัง ตั้งแต่ 4 ขวบ ได้จัดงานปาร์ตี้วันเกิดให้กับลูกชายแบบยิ่งใหญ่มากกกกก!! โดยรูปแบบการจัดงานนั้น ไม่ได้เป็นแบบน่ารักมุ้งมิ้งเหมือนกับงานวันเกิดของเด็กทั่วๆ ไป แต่เป็นงานฉลองวันเกิดแบบผู้ใหญ๊ผู้ใหญ่ ที่จัดขึ้นในคลับแห่งหนึ่ง ณ คาบุกิโจ ซึ่งเป็นย่านเริงรมย์ยอดนิยมอันเลื่องชื่อของกรุงโตเกียว จากคลิปวีดีโอได้ปรากฏเป็นภาพของหนูน้อยที่ถูกจับมาแต่งตัวในชุดสไตล์โฮสต์คลับ ซึ่งเป็นการแต่งตัวของอาชีพบริการอย่างหนึ่ง ที่จะต้องกิน ดื่ม และเทคแคร์สาวๆ ที่เข้ามาใช้บริการในบาร์ และที่สำคัญในคลิปวีดีโอยังเผยให้เห็นภาพของหนูน้อย Ryuchalo ขณะกำลังปาร์ตี้วันเกิดอย่างสนุกสนานอีกด้วย และเมื่อภาพดังกล่าวได้ไปปรากฏบนสื่อต่างๆ ก็เกิดคำถามระหว่างผู้ปกครองว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่? นอกจากนี้ หลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ลงในโลกโซเชียล ก็รับได้รับความสนใจจากชาวเน็ตญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก อีกทั้งคลิปวีดีโอดังกล่าวก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเช่นกัน โดยบางคนก็ได้แสดงความเห็นว่า… “ผู้ปกครองป่วยจิต น่าสงสารเด็กจัง” “ในฐานะผู้ปกครองคนหนึ่ง มันน่ารังเกียจมาก” “อย่าพาพวกเด็กๆ…
-
เจ้าเหมียวถูกรถชนกรามแตกน่าเวทนา แต่ถูกคนใจดีชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ จนแทบจำหน้าไม่ได้
ในโลกนี้มีสัตว์ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกทารุณ หรือได้รับอุบัติเหตุอยู่มากมาย มีจำนวนน้อยมากที่ได้รับความช่วยเหลือเมื่อเทียบกับสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วไม่มีใครเหลียวแล เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าแมวตัวหนึ่งในสหรัฐอเมริกา มันถูกรถชนจนกรามแตก ทั่วเนื้อตัวของมันเต็มไปด้วยบาดแผลและหนอง มันเดินเร่ร่อนไปตามถนนอยู่หลายวันโดยที่ปิดปากของตัวเองไม่ได้ แต่แล้วความหวังของมันก็ปรากฏขึ้นเมื่อในระหว่างที่มันกำลังเดินอยู่ข้างถนนหลวง จู่ๆ ก็มีหญิงสาวที่ชื่อว่า Melissa ขับรถผ่านมาเห็นมันพอดี จึงจอดรถเข้าไปดูอาการของมัน เมื่อเห็นแผลทั้งตัวของมันแล้วเธอก็ตกใจมากจึงพามันไปที่คลีนิคสัตว์ใกล้ๆ เพื่อวิเคราะห์อาการและหาทางรักษา แต่ดูเหมือนว่าสัตวแพทย์จะมองไม่เห็นทางเลย เนื่องจากมันยังตัวเล็กไม่แข็งแรงพอสำหรับการผ่าตัด แต่ Melissa ก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เธอพยายามขอร้องให้สัตวแพทย์รักษามัน เธอซื้ออาหารแมวกระป๋อง แบบที่เจ้าเหมียวพอจะกินได้มาให้มัน และตั้งชื่อให้มันว่า Smeagol นั่นคือการเริ่มต้นการเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวนี้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่รับเจ้า Smeagol มาเลี้ยงได้ประมาณ 1 เดือน แผลที่ปากของมันก็เริ่มเข้าที่เข้าทางเอง จนไม่ต้องทำการผ่าตัดใดๆ แล้ว แถมตอนนี้มันก็ดูจะเข้าขากับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ อีก 5 ตัวที่ Melisa เลี้ยงไว้ก่อนหน้านี้ด้วย ปากเบี้ยวไปหน่อยแต่แบ๊วอยู่นะ กินอิ่ม มีที่ให้นอน เท่านี้ก็รอดตายแล้ว …
-
ไม่ใช่แค่ไทย…ชาวลิทัวเนียรวมตัวกันถ่ายภาพคู่ถนนชำรุด ว่ายน้ำ แปรงฟันกันสนุกสนาน
ต้องบอกเลยว่าภาพของหญิงสาวไทยที่ลงไปอาบน้ำกับหลุมบนถนนในจ.ตากนั้น ค่อนข้างจะได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์มากทีเดียว ทำให้ภาครัฐถึงกับต้องลงมาแก้ไขกันแบบเร่งด่วนกันเลย จนขนาดที่ว่านายกของบ้านเราต้องออกมาเตือนเลยว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมและอย่าทำให้เห็นอีกเพราะจะทำให้เสื่อมเสียไปถึงภาพลักษณ์ แต่เราอยากจะบอกว่าไม่ใช่แค่ที่ไทยเท่านั้นหรอกนะ ที่ทำอะไรแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากภาครัฐ เพราะที่ประเทศลิทัวเนียเองก็มีมาแล้วเหมือนกัน ภาพที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นี้เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มเพื่อน (พวกเขาเรียกแก๊งของตัวเองว่า Z999) ได้ตัดสินใจที่จะเรียกร้องความสนใจจากเจ้าหน้าที่รัฐ ให้หันมาสนใจความเสียหายของถนนหลายเส้นในเมืองเคานัส ประเทศลิทัวเนีย ภาพทั้งหมดถูกถ่ายทอดโดยช่างภาพ 2 คน ที่ชื่อว่า Arturas Artiusenka และ Eurika Balciute ในบรรดาภาพนี้ก็จะมีทั้งกิจกรรมตลกๆ เช่นแต่งชุดว่ายน้ำลงไปว่ายในบ่อ นั่งล้างหน้าแปรงฟัน ตกปลา หรือเป็นสถานที่โรแมนติกมานั่งดูดาวกันก็มี แทบไม่ต่างอะไรจากบ้านเราเลย ตื่นเช้าเราก็มาล้างหน้าแปรงฟัน รู้สึกเหมือนอยู่ริมชายหาด ดิสอิสเดอะเว๊ เค ชั่น ไทม์… ครีเอทดีนะ#เหมียวฟิ้นว่า ที่มา boredpanda
-
ลองป่ะล่ะ ญี่ปุ่นเปิดตัวเกม “จีบเจ้าชายม้า” ร่างกายเป็นม้า แต่หัวยังเป็นเจ้าชาย!?
หนึ่งในความฝันของสาวๆ หลายคนก็น่าจะเป็นการที่มีหนุ่มหล่อๆ สักคนเข้ามาจีบใช่ไหมล่ะ เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเธอคือเจ้าหญิงที่รอเจ้าชายมาพาพวกเธอออกจากปราสาทแห่งความเหงาเปล่าเปลี่ยว แต่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะสมหวัง มันจึงต้องมีการสร้างเกมจีบหนุ่มขึ้นมา เพื่อให้สาวๆ ได้สัมผัสกับการพูดคุยหยอกล้อกับหนุ่มหล่อได้ตามที่พวกเธอต้องการ แต่เกมจีบหนุ่มพวกนั้นมันเชยไปแล้ว มันไม่สามารถตอบสนองความสนุกตื่นเต้นได้เหมือนกับในยุคแรกๆ วันนี้#เหมียวฟิ้นเลยถือโอกาสพาสาวๆ ไปรู้จักกับเกมใหม่ที่ชื่อว่า The Horse Prince (เจ้าชายม้า) ตัวเกมถูกออกแบบและพัฒนาโดยบริษัท Usaya ในญี่ปุ่น ความแปลกของเกมนี้ก็คือ คุณจะไม่ได้จีบคนธรรมดา แต่คุณจะต้องไปจีบม้า (แต่ส่วนหัวยังเป็นคนอยู่นะ) และพิชิตใจเขาให้ได้ แม้จะแปลกไปหน่อย แต่นี่คือเรื่องราวแบบในเทพนิยายที่ซึ้งจับใจล่ะ โดยตัวเกมได้ให้คำอธิบายเอาไว้ว่า “ม้าที่มีหัวของหนุ่มหล่อปรากฏอยู่ตรงหน้าคุณ ในชะตากรรมที่บิดเบี้ยว คุณจะช่วยเขาได้ด้วยการฝึกฝนเขา นี่มันเป็นเพียงความฝันหรือว่าฝันร้ายกันแน่นะ? ชีวิตสุดแปลกประหลาดในฟาร์มของคุณกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว” กฎของเกมนี้มีอยู่ว่า 1. จะมีไอเท็มโผล่ขึ้นมาให้เก็บได้แค่บางเวลาเท่านั้น 2. เมื่อแตะที่ไอเท็มพวกนั้นจะเป็นการเก็บแต้ม 3. แต้มจะเยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับความกระตือรือร้นเวลาที่คุณกด (กดให้เร็วนั่นแหละ) 4. หากค่าความกระตือรือร้นลดลง คุณสามารถเพิ่มมันได้ด้วยการคุณกับเจ้าชายม้า 5. สะสมแต้มให้ได้เยอะๆ เพื่อผ่านไปยังด่านต่อๆ ไป ใครสนใจก็ไปตามโหลดมาเล่นกันได้นะ ทั้งของ googleplay และ itunes นะ ที่มา rocketnews24
-
โรงแรม Villa Honegg ฉายา ‘บันไดสู่สวรรค์’ สระว่ายน้ำวิวสวยที่สุด ในสวิตเซอร์แลนด์
ใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอยู่ #เหมียวขี้ส่อง อยากรู้จังเลยว่า เพื่อนๆ คิดถึงสถานที่แบบไหนกันนะ? แต่แน่นอนว่ามีหลายคนที่กำลังมองหาแหล่งธรรมชาติอยู่แน่ๆ ที่เทือกเขาแอลป์ในสวิตเซอร์แลนด์ บนความสูง 900 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ที่นั่นคุณจะได้พบกับ Villa Honegg ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่โอบล้อมไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ Villa Honegg มีห้องพักทั้งหมด 23 ห้อง โดยมีอุณหภูมิตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 34 องศาเซลเซียส และจุดเด่นของโรงแรมนี้คือ สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ที่จะทำให้คุณผ่อนคลายได้ดีที่สุด เพราะทัศนียภาพที่สวยงามนี้ ทำให้แขกที่เคยมาที่นี่ ถึงกับตั้งฉายาให้ว่า “บันไดสู่สวรรค์” จะน่าไปแค่ไหน ไปชมภาพฟินๆ ด้านล่างนี้ และนี่คือมุมที่จัดว่าเด็ดที่สุด สระว่ายน้ำกับวิวอันสวยตระการตา เพียงแค่ก้าวเดินลงไป มันก็ช่างน่าลงไปแหวกว่ายแล้ว อ่างน้ำวนที่ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย แถมยังมีมุมจากรอบทิศทาง ตามความพึงพอใจเลยล่ะ บรรยากาศของส่วนอื่นๆ และวิวนอกโรงแรมก็สวยไม่เบานะ …
-
โรงพยาบาลสัตว์ในโรมาเนียแจก ‘วีลแชร์’ ให้สุนัขพิการทุกตัว เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดให้
เก้าอี้วีลแชร์ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับสัตว์ที่มีปัญหากับการเดิน แต่ก็อย่างที่รู้ว่า กว่าจะได้วีลแชร์แต่ละตัวนั้น ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย แต่มีโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในโรมาเนีย ได้จัดหาวีลแชร์ให้กับสุนัขทุกตัว ที่มีปัญหากับการเดิน เพื่อให้พวกมันได้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ แม้ว่าพวกมันจะพิการก็ตาม Adăpostul Speranța ร่วมกับ Four Paws International ได้ทุ่มเทให้กับการช่วยเหลือสุนัขจรจัด ด้วยการให้ที่พักพิงกับพวกมัน และคอยให้การดูแลอย่างดี ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขายังหาวีลแชร์ให้พวกมันด้วย ทางโรงพยาบาลเผยว่า “ที่ Speranța เรายืนยันว่าจะไม่ทิ้งพวกมันไป แม้ว่าเราจะลำบากแค่ไหน แต่เราได้ให้สิ่งดีๆ กับพวกมัน และให้การดูแล นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกมันมีความสุขแล้ว” Florina Tomescu ประธาน Fundatia Speranta องค์กรที่ทำงานร่วมกับโรงพยาบาล บอกว่า “สุนัขเหล่านี้ ต้องการการดูแลแบบนี้ เพื่อที่พวกมันไม่ต้องกลับไปเป็นสุนัขข้างถนนอีก” แม้ว่าจะทำวีลแชร์ให้พวกมันทุกตัว แต่เมื่อเวลาผ่านไป สุนัขก็ตัวใหญ่ขึ้น ทำให้รถเข็นเล็กเกินไปจนใช้ไม่ได้ ในขณะที่บางคันก็พังไปแล้วก็มี ตอนนี้ทางโรงพยาบาลจึงต้องการวีลแชร์เพิ่มอีก 11 คัน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความเปลี่ยนแปลงของพวกมันในอนาคต เหตุผลที่ทางโรงพยาบาลต้องให้การช่วยเหลือพวกมันเช่นนี้ เพราะตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของพวกมันต้องผ่านความลำบากมามาก ดังนั้น ทางโรงพยาบาลจึงอยากเติมเต็มส่วนที่ขาดให้พวกมันด้วยการมอบความสุขให้พวกมัน …
-
บรรยากาศ “ดิสนีย์เวิลด์” ไร้ซึ่งผู้คน หลังถูกเฮอริเคนแมทธิวถล่ม จนต้องปิดบริการในรอบ 11 ปี
ถ้าพูดถึงดิสนีย์เวิลด์แล้ว ก็คงนึกถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสุข ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสเมื่อได้อยู่กับตึวการ์ตูนที่พวกเขารัก พร้อมกับเครื่องเล่นมากมายที่ไม่มีหยุดพัก ดิสนีย์เวิลด์ถือเป็นสวนสนุกดิสย์ที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ มีการวันหยุดให้บริการ ดังนั้นผู้คนก็สามารถมาเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ ทางดิสนีย์เวิลด์ได้ออกประกาศว่าจะทำการปิดสวนสนุกในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี จากที่ที่เราจะได้เห็นเด็กๆ และผู้ปกครองเดินไปมาอย่างมีความสุข ตอนนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นภาพของดินแดนแห่งนี้ว่างเปล่า ไร้ซึ่งผู้คน และนี่คือภาพของดิสนีย์เวิลด์ในวันที่ปิดบริการ ซึ่งเราจะเห็นไม่กี่คนที่เดินอยู่ ถือเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ กับสวนสนุกที่ไม่เคยปิดบริการแห่งนี้ เมื่อเทียบกับวันปกติ ที่มา distractify
-
‘ถ้าเยอรมนีมีฮิตเลอร์ ฟิลิปปินส์ก็มีผม’ 100 วันของประธานาธิบดี Duterte กับจำนวนผู้เสียชีวิต 3,700 ราย!!
ถ้าจะพูดถึงปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดล่ะก็ คงจะเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในเกือบทุกๆ ประเทศ และหนึ่งในประเทศที่เจอทั้งปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ก็คือประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานี่แหละ ประธานาธิบดีคนล่าสุดอย่าง Rodrigo Duterte (โรดริโก ดูเตร์เต) จึงสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งได้ด้วยนโยบายที่เน้นในด้านการปราบปรามยาเสพติด แต่มาถึงตอนนี้ที่เขาดำรงตำแหน่งมา 100 วันพอดี มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3,700 คน ถ้านับกันเล่นๆ ก็วันละ 37 คนเลยล่ะ!!? นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้ถูกจับกุมเพราะอาจมีส่วนเกี่ยวข้องอีกกว่า 26,000 ราย ทำเอาเหล่าพ่อค้ายาต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดผวา Rodrigo Duterte (โรดริโก ดูเตร์เต) แน่นอนว่านโยบายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เพราะนโยบายของเขาไม่ใช่ว่ามีแต่ด้านดี ปัญหาการฆาตกรรมและความรุนแรงของการปราบปราม รวมถึงการตัดตอนหรือความขัดแย้งส่วนบุคคล แต่ถูกทำให้เป็นคดียาเสพติดก็มีเช่นกัน แต่ก็ดูเหมือนว่าเขายังไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าใดนัก เพราะยังคงมีเสียงสนับสนุนจากสังคม จากผู้คน และจากตัวของเขาเองให้นโยบายนี้ดำเนินต่อไป และถึงแม้จะได้รับการต่อต้านจาทั้ง EU, สหรัฐฯ, โบสถ์คริสเตียน และรวมถึง UN ผลสำรวจบางแห่งก็พบว่าตอนนี้เขายังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนในประเทศ ราวๆ 8/10 เลยทีเดียว โรดริโก…
-
หัวเราะทั้งน้ำตา รวม 26 ภาพตีแผ่ชีวิตเด็กสถาปัตย์ฯ ใครเรียนสายนี้มาจะเข้าใจดี….
สำหรับใครก็ตามที่เรียนจบมาทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ น่าจะมีความรู้ความเข้าใจกันดีว่าการเรียนในคณะนี้ค่อยข้างยาก อาจจะไม่ได้ยากมากหรือน้อยไปกว่าคณะอื่นๆ แต่ “ยาก” ในที่นี้คือการฝ่าฟันการทำแบบ การทำโมเดล และงานอีกร้อยแปดไปให้ได้นั่นเอง ยิ่งพอเรียนจบไปแล้ว ต้องไปเจอกับสังคมการทำงานจริงๆ ที่ต้องแข่งขันกับเวลา ยิ่งทำให้คนที่เรียนสายสถาปัตย์มาต้องใช้ชีวิตอย่างลำบ๊ากลำบาก ถ้าไม่เชื่อ งั้นไปชมภาพยืนยันกันเลย… สลบกันแบบนี้เลย? . . ทุกที่คือห้องนอน . . บางทีก็ทำกันหามรุ่งหามค่ำ . . อดหลับอดนอนเพื่อต่อโมเดลไปส่งอาจารย์ . นี่แหละผ้าห่มชั้นดี . ท่ายากยังไงก็ต้องปรับตัวให้ได้ . . . คืนนี้ยาวไป . . . . แบบทั้งนั้น นี่จะแต่งงานกับแบบแล้ว . มีใครมาจากสายสถาปัตย์บ้างไหม? ตรงหรือไม่ตรงยังไงลองบอกเราหน่อยสิ ที่มา Funny Architect
-
แทบจำไม่ได้ “ลุงกะลาสี” นักคอสเพลย์ชาวญี่ปุ่น ถูกจับมาใส่สูท นึกว่าเป็นเจ้าพ่อแก๊งสเตอร์
ใครที่ติดตามดูรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่น (หรือแค่เล่นอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ) ก็น่าจะเคยเห็นภาพคุณลุงหนวดเฟิ้มคนหนึ่ง ที่แต่งชุดคอสเพลย์เป็นชุดกะลาสีคล้ายกับเด็กนักเรียนสาวม.ปลายญี่ปุ่น จนกลายเป็นเน็ตไอดอลไปแล้ว ลุงคนนั้นก็คือ Kobayashi Hideaki วัย 53 ปี แม้มันจะดูขัดกันมากแต่ก็กลายเป็นของดีของญี่ปุ่นไปแล้ว ว่ากันว่าหากใครได้ไปที่เที่ยวกรุงโตเกียวแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับคุณลุงกะลาสีในตำนานล่ะก็ ถือว่าไปไม่ถึงโตเกียวเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้จับเอาคุณลุง Kobayashi มาแต่งเนื้อแต่งตัวใหม่ เพราะที่ผ่านๆ มาทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวไทยเองจะคุ้นหน้าคุ้นตาของเขาจากการเป็นนักเรียนม.ปลาย แต่แทบจะไม่เคยเห็นเขาในชุดอื่นๆ เลย เริ่มแรกทางทีมงานได้จับเขามาแต่งหน้าให้เนียน แกะหนังยางที่มัดหนวดและเล็มออกเล็กน้อย ยืดมันให้ตรง จากนั้นก็จับให้เขาใส่สูท แท่นแทน!! นี่คือลุคใหม่ของลุงกะลาสีที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนคล้ายกับคุณครูใหญ่จากโรงเรียนประถมที่ไหนสักที่ แม้จะดูเขินๆ ไปหน่อย แต่เมื่อเขาถือหมวกหรือดอกไม้ มันก็ทำให้ดูหล่อเข้มประหนึ่งว่าเป้นเจ้าพ่อแก๊งสเตอร์ยังไงยังงั้นเลย แต่…ก็ยังไม่ลืมความแบ๊วแบบตอนที่เป็นลุงกะลาสีนะเออ… ถึงจะเป็นผู้ชายสีชมพูด แบ๊วๆ ขนาดนี้ แต่จริงๆ…
-
หนุ่มมัธยมถ่ายรูปจบการศึกษา สะท้อนชีวิตใน ‘มหาวิทยาลัย’ ว่ามันจะสุดเหวี่ยงขนาดไหน!!
ในทุกๆ ปีเราคงได้เห็นบัณฑิตกับการถ่ายภาพกับชุดครุยในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะสวย เท่ ฮา หรือแม้จะกระทั่งแนวแปลก แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน ไม่ใช่แค่บัณฑิตเท่านั้น แต่นักเรียนที่กำลังจะจบมัธยมเอง ก็นิยมถ่ายเช่นกัน อย่างเช่น Kris Costello กับการถ่ายรูปช่วงจบมัธยมฉบับฮาๆ ที่ทำเอาชาวเน็ตอดที่จะพูดถึงไม่ได้ อย่างที่เรารู้กันว่า ชีวิตมหาลัยนั้นเป็นช่วงที่เรามีอิสระสุด อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป จนทำให้หลายคนเสียการเรียนมามากมายแล้ว การที่ Costello ถ่ายรูปฮาๆ นี้ เป็นเพราะว่า เขาอยากทำอาชีพเป็นตลกนั่นเอง ดังนั้นจึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเขาในการทำให้ฝันตัวเองเป็นจริง และแน่นอนว่า หลังจากจบมัธยมแล้ว เขาต้องก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัย ดังนั้นแม้จะถ่ายรูปฮาๆ แต่ภาพของเขาก็สื่อถึงความคิดของเขาที่มีต่อชีวิตในมหาลัย เพราะชีวิตในมหาวิทยาลัยมีอิสระมากขึ้น จึงมีปาร์ตี้กันบ่อยๆ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเขาเองต้องการสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตมหาวิทยาลัยเท่านั้น แล้วเขาได้นำรูปเหล่านั้นมาโพสต์ในโซเชียลมีเดียรวมทั้งทวิตเตอร์ด้วย งานนี้ทำเอาชาวเน็ตพากันชื่นชมไม่น้อยเลย มันคือศิลปะ!! เยี่ยมไปเลย โลกต้องการคนแบบนี้แหละ นอกจากนี้ ยังมีคนนำรูปเขาไปตัดต่อกับดาราดังอย่าง Nicki Minaj ด้วย …
-
แบบนี้ก็มีเหรอ? หัวหน้างานบริษัทในปักกิ่ง บังคับพนักงานสาวทุกคนเข้าแถวจูบตัวเองทุกเช้า
ในหลายๆ บริษัทมักมีวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน เมื่อเราต้องเข้าไปเป็นพนักงานเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับกฎเกณฑ์ที่นั่น แต่…กฎเกณฑ์หรือวัฒนธรรมบางที่มันก็ดูแปลกเกินกว่าที่บางคนจะรับได้จริงๆ… เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายได้โดยพนักงานออฟฟิศในบริษัทขายเครื่องชงกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อตีแผ่เรื่องราวในที่ทำงานของเขาว่ามีกิจกรรมที่แปลกประหลาดขนาดไหน ตามรายงานบอกว่าในทุกๆ เช้า เวลา 9 โมงถึง 9 โมงครึ่ง หัวหน้างานจะเรียกให้พนักงานสาวทั้งแผนกมายืนเรียงแถวกัน จากนั้นก็บอกให้พวกเธอเหล่านั้นจูบเขาทีละคนๆ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในที่ทำงานเหมือนปลากับน้ำ หัวหน้างานรายนี้บอกว่าพนักงานบางคนจะรู้สึกคิดถึงเขาเมื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนถึงขั้นส่งข้อความไปหาเขาผ่าน WeChat เลย แถมยังบอกอีกว่าเขาได้ไอเดียนี้มาจากตอนที่เดินทางไปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีพนักงานสาวหลายคนยอมทำตามคำสั่งของหัวหน้ารายนี้ แต่ก็มีบางรายที่ทนไม่ได้และเซ็นลาออกในที่สุด (เพราะวัฒนธรรมการจูบแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติในเอเชีย) ชมคลิป หลังจากที่ภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่างเว็บไซต์ Weibo ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา เช่น “พนักงานสาวทั้งหมดนี้ยอมรับได้ยังไง? พวกแฟนๆ หรือสามีของพวกเธอรู้เรื่องกันบ้างหรือเปล่า?” “ฉันอยากจะถามพนักงานสาวพวกนี้มากว่า พวกคุณไม่มีเงินกันเหรอ? คุณจะอดตายไหมถ้าต้องเปลี่ยนงาน?” “ไอ้หัวหน้าคนนี้มันโรคจิตมาก แต่พนักงานพวกนี้โง่เง่ายิ่งกว่า” แบบนี้ก็ได้เหรออออ ที่มา shanghaiist
-
เผยภาพจำลองเครื่องสำอางธีม ‘Harry Potter’ ดูดีงามมาก จนอยากจะให้มีขายจริงๆ!!
แฮรี่ พอตเตอร์ เป็นภาพยนต์ที่หลายคนชื่นชอบมาก จึงได้มีการผลิตสินค้าหรือสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่เลียนแบบให้เหมือนในหนัง เพื่อให้แฟนคลับได้ครอบครอง หรือแม้กระทั่งการดัดแปลงให้เป็นสิ่งของที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ล่าสุดมีการเผยภาพตลับเครื่องสำอาง ที่เป็นสัญลักษณ์บ้านแต่ละหลังในฮอกวอต โดยแต่ละตลับก็จะมีสีเฉพาะของตัวเอง ที่มาพร้อมกับแปรงขนนก แต่ต้องบอกก่อนและว่า นี่ไม่ใช่ของจริงนะ เป็นแค่การจำลองขึ้นมาเท่านั้น Spellsandstars ได้โพสต์ภาพคอลเลกชันเครื่องแต่งหน้า ที่แม้จะเป็นแค่การจำลอง แต่แฟนคลับหลายๆ คนก็อยากให้มันเกิดขึ้นจริงๆ หน้าตลับเครื่องสำอางจะมีสัญลักษณ์ของบ้านแต่ละหลังติดอยู่ มาดูภายในของแต่ละตลับดีกว่า… และนี่คือตลับแต่งหน้าของบ้านสลิธีริน บ้านเรเวนคลอ บ้านกริฟฟินดอร์ และบ้านฮัฟเฟิลพัฟ อย่าว่างั้นงี้เลยนะ อยากเหมาเก็บไว้ทุกตลับเลยจริงๆ แต่จะผลิตขึ้นจริงๆ หรือไม่ต้องรอกันต่อไปนะ ที่มา metro
-
‘PurePods’ บ้านพักกระจกอันโดดเด่นท่ามกลางภูเขา ให้ความเป็นส่วนตัวเต็มเปี่ยมด้วยธรรมชาติ
หากจะหาที่พักผ่อนชิลๆ สักที่ เพื่อนๆ นึกถึงที่ไหนบ้างเอ่ย? หลายคนที่ใช้ชีวิตในสังคมเมืองมานาน คงจะรู้สึกเบื่อสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยตึกราบ้านช่อง ดังนั้น จะดีกว่ามั้ยหากมีที่พักผ่อนที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ให้คุณได้พักผ่อนชิลๆ นี่เลย PurePods บ้านพักเล็กๆ ที่ทำด้วยกระจกรอบด้าน ตั้งอยู่ในชนบทที่เงียบสงบในประเทศนิวซีแลนด์ โอบล้อมด้วยต้นไม้ ภูเขา พุ่มไม้ พร้อมฟังเสียงสัตว์เล็กน้อยที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ดีทีเดียว บ้านหลังนี้สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสถึงความงามของธรรมชาติแบบใกล้ชิด เพราะที่นี่มีพืชพันธุ์ต่างๆ ที่ไม่ซ้ำกัน ทั้งยังมีเสียงนอกร้องให้คุณได้รู้สึกผ่อนคลายสุดๆ ทั้งหมดนี้หาได้แค่ที่นี่เท่านั้น ในเวลากลางคืน คุณก็สามารถชมดาวนับล้านได้อย่างชัดเจน ที่นี่จึงเหมาะสำหรับทุกคนที่อยากผ่อนคลาย หรือใครที่กำลังเครียดอยู่ หากได้สัมผัสกับธรรมชาติที่นี่แล้ว จะช่วยคลายเครียดได้อย่างดีเลย เหมือนได้อยู่ในอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว ที่สำคัญบ้านหลังนี้ใช้พลังงานธรรมชาติล้วนๆ วันไหนที่รู้สึกร้อน ก็เปิดประตูรับลมเย็นๆ ได้ และหากรู้สึกหนาว ก็สามารถก่อไฟอุ่นๆ นั่งผิงได้สบายเลย ส่วนน้ำนั้น ต่อมาจากแหล่งน้ำของท้องถิ่นแห่งนี้ อีกหนึ่งจุดประสงค์ก็คือ หากผู้คนได้สัมผัสถึงธรรมชาติแล้ว จะทำให้รู้สึกหวงแหนและอยากอนุรักษ์ธรรมชาติมาก เพื่อลดการบุกรุกธรรมชาติให้น้อยที่สุดนั่นเอง …
-
‘Tuli Cinema’ โรงหนังที่เพื่อคู่รักสีสันสดใส เพิ่มความใกล้ชิดให้มากขึ้น นอกเหนือจากการดูหนัง!!
เวลาไปดูหนังคนเดียว เราสามารถเลือกที่นั่งตรงไหนก็ได้ แต่ถ้าไปกับเพื่อนหรือคนรัก แน่นอนว่า เราส่วนใหญ่ต้องอยากนั่งติดกันใช่มั้ย แต่ก็มีอีกหลายคู่ที่ไม่อยากแค่นั่งติดกันเท่านั้น โรงหนัง Tuli Cinema ในสโลวาเกีย เป็นโรงหนังที่ออกแบบมาเพื่อคู่รักโดยเฉพาะ ให้คุณได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นระหว่างดูหนัง แบบว่าจะนอนซบกัน คลอเคลียกัน ก็แล้วแต่ตามต้องการ แต่อย่ามากไปกว่านั้นเลย!! Tuli Cinema สร้างโดยนักออกแบบ Michal Stasko โดยตั้งอยู่ภายในของโรงแรม X-Bionic Sphere Resort โรงหนังปกติ แม้จะเอนเก้าอี้ได้ แต่อาจจะมีที่วางแขนที่กั้นคุณกับคนที่รักไว้ ซึ่งคุณรักคงทำได้แค่นั่งจับมือกันเท่านั้น แต่โรงหนัง Tuli Cinema ได้ทำเก้าอี้นุ่มๆ ที่คู่รักสามารถนอนกอดกันได้ เหมือนเป็นการนอนดูหนังอยู่บนเตียง นอกจากนี้ ทั้งสีเก้าอี้และการตกแต่งภายในโรงภาพยนต์นี้ได้ทำให้เป็นสีสดใส เพื่อให้คุณรู้สึกดีเหมือนอยู่บ้าน และด้านข้างนั้น จะมีกระเป๋าเล็กๆ ที่สามารถวางป๊อปคอร์นและเครื่องดื่มได้ด้วย แต่เพราะมันน่าไปขนาดนี้ มันก็มีข้อเสียอยู่บ้างคือ เพราะมันอยู่สโลวาเกีย ดังนั้นหากไปจะต้องจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าก่อน และหากคุณไปคนเดียวอาจจะรู้สึกอึดอัดหน่อย เพราะรอบๆ ตัวนั้น มีแต่คู่รักที่กำลังจู๋จี๋กันอยู่ #เหมียวขี้ส่อง แนะนำว่าคนโสดดูหนังในโรงธรรมดาก็พอ เห็นคู่รักมานั่งด้วยกันก็อิจฉาแย่แล้วววว แหม่ ถ้าได้ไปกับแฟนคงจะฟินน่าดู…
-
พาไปรู้จักกับโรค Thalassophobia หรือ ‘อาการกลัวทะเล’ แล้วคุณเป็นหนึ่งในนั้นด้วยรึเปล่า!!?
ก่อนอื่นเลยเพื่อนๆ อาจจะงงว่า เอ๊ะ…โรคแบบนี้ก็มีอยู่จริงๆ บนโลกด้วยเหรอ? กับ Thalassophobia หรือโรคกลัวทะเล วันนี้ #จ่าสิบเหมียว เลยอยากจะเข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้ และท้าพิสูจน์ไปพร้อมๆ กันเลย Thalassophobia นั้นมาจากภาษากรีก นั่นก็คือ ‘Thalassa’ ซึ่งหมายถึงภูตผีในทะเลตามความเชื่อโบราณ และอย่างที่เราทราบกัน ‘Phobia’ แปลว่าอาการกลัว ซึ่งผันมาจากภาษากรีก ‘Phobos’ อีกนั่นน่ะแหละ รวมๆ แล้วก็คืออาการกลัวทะเลนั่นเอง อาการก็มีทั้งการที่ต้องไปอยู่ในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ หรือกลัวความกว้างของทะเล กลัวว่าจะมีสัตว์ประหลาดอะไรใหม่ๆ หรือแปลกๆ ใต้ผืนน้ำหรือเปล่า กลัวการออกจากผืนที่ยืนอยู่และต้องไปลอยเคว้งคว้าง ถ้าเพื่อนๆ มีอาการเหล่านี้ ก็ใช่แล้วล่ะ!! วันนี้เราเลยมี 19 ภาพทดสอบเพื่อนๆ ว่ามีอาการ ‘กลัว’ กันรึเปล่า?? ลองชมไปทีละภาพ ถ้ามีหลอนๆ ล่ะก็ ใช่แน่นอน!! …
-
Highteen เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่แห่งเกาหลีใต้ บุกเบิกกฎห้ามไม่ให้คนในวง ‘ศัลยกรรม’ !!
ถ้านึกถึงการศัลยกรรมความสวยความงามล่ะก็ แน่นอนว่าประเทศแรกที่แว๊บเข้ามาในหัวของเพื่อนๆ ก็คงจะไม่พ้นเกาหลีใต้นี่แหละ เรียกได้ว่าผู้คนในประเทศเค้านั้นนิยมทำศัลยกรรมมาก แถมคุณหมอของประเทศนี้ก็เจ๋งจนต่างประเทศต้องมาศึกษาดูงานกันเลยล่ะ ในขณะที่เทรนด์การศัลยกรรมนั้นเป็นที่นิยมไปทั่วเกาหลีอันเนื่องมาจากเหล่าป๊อปสตาร์ทั้งหลายในประเทศที่ผ่านมีดหมอกันมาหมด ก็ยังมีอีกหนึ่งเกิร์ลกรุ๊ปที่นำเสนอความเป็นตัวตนโดยแท้จริงของพวกเธอโดยไร้การศัลยกรรมใดๆ กรุ๊ปของพวกเธอมีชื่อว่า Highteen ที่ภาคภูมิใจนำเสนอความเป็นตัวตนของพวกเธอผ่านความสามารถทางการแสดงล้วนๆ ซึ่งทั้งกรุ๊ปนั้นไม่มีใครผ่านการศัลยกรรมมาแม้แต่น้อย!!? Highteen เกิร์ลปรุ๊ปเกาหลีใต้ที่ต่างจากเจ้าอื่นๆ สมาชิกในวงมี 4 คนด้วยกัน คือ Hye Joo, Hye Bin, Eun Jin และ Se-A เพราะไร้ซึ่งการศัลยกรรมความสวยความงาม พวกเธอเลยโฟกัสไปในเรื่องของการแสดง การออกแบบท่าเต้น การเมคอัพ และคอสตูมต่างๆ เสียมากกว่า ถึงแม้ว่าการแสดงจุดยืนของพวกเขานั้นจะเป็นการส่งเสริมความงามตามธรรมชาติ หรือเป็นการตีตลาด K-Pop ของประเทศด้วยแนวที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ตามที… สิ่งนี้ก็ทำให้พวกเธอดูโดดเด่น มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนเกิร์ลกรุ๊ปอื่นๆ น่ารักแบบใสๆ ไม่พึ่งมีดหมอ แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบนะเนี่ย ชมวิดีโอของวงนี้กันได้ที่นี่ มีช่วงหนึ่งด้วยนะที่มีสมาชิกถึง 5 คนด้วยกัน และถ้าใครอยากติดตามผลงานและความเคลื่อนไหวของพวกเธอล่ะก็ เข้าไปดูได้ที่ @highteen_2016 เลยน้าา …
-
ฆ่าคนได้จริงๆ? สื่อนอกรายงาน 1 ใน 5 ของชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตจากการ “ทำงานหนัก”
ในชีวิตการทำงานมันช่างแตกต่างจากชีวิตในมหาวิทยาลัยเสียจริงๆ เพราะไม่มีใครมาคอยชี้นำคุณว่าควรใช้ชีวิตยังไง เก็บเงินเท่าไหร่ ทำงานยังไงให้ไม่กระทบสุขภาพ หรือควรจะทุ่มเทให้กับงานมากน้อยแค่ไหน ทุกอย่างล้วนเกิดจากการตัดสินใจของตัวเองแทบทั้งสิ้น แต่ไม่ว่ายังไงคุณก็ควรนึกถึงประสิทธิภาพตัวเองก่อน แล้วใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองให้มากๆ นะ เพราะหากคุณทำงานแบบไม่ลืมหูลืมตาล่ะก็ คุณอาจจะเสียสุขภาพจนถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย เพราะในเว็บไซต์ต่างประเทศเช่น Emirates-business ได้มีการเปิดเผยผลสำรวจจากรัฐบาลญี่ปุ่น ว่าตอนนี้ชาวญี่ปุ่นกว่า 1 ใน 5 กำลังเสี่ยงที่จะเสียชีวิต เนื่องจากการทำงานหนักและสังคมการทำงานที่เคร่งเครียดมากเกินไป มีรายงานว่าผู้ที่เสียชีวิต 100 คนจากการสำรวจครั้งนี้ที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำงานหนัก พวกเขาจะมีอาการเช่นหัวใจวาย หลอดเลือดในสมองแตก หรือฆ่าตัวตาย ซึ่งในแต่ละปีจะมีคนฆ่าตัวตายด้วยเหตุผลนี้ราวๆ 200 คน แต่ในปีล่าสุดกลับพุ่งสูงถึง 392 คน เหตุการณ์แบบนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก และเริ่มจะมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับชาวญี่ปุ่นที่ทำงานหนักจนตายหลายรายแล้ว เช่นเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2016 เว็บไซต์ Washingtonpost ได้นำเสนอเรื่องของนาย Kiyotaka Serizawa ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 34 ปี พนักงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ทุ่มเทเวลาการทำงานให้บริษัทของเขากว่า 90 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ยิ่งกว่าเจ้าของบริษัทจริงๆ เสียอีก เป็นเหตุนำเขาไปสู่ความเครียม…
-
อยากเล่นมั้ย!? ชมภาพบรรยากาศสุดวังเวงของ “สวนสนุกร้าง” ในเมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น
มีคำพูดที่ว่า “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา” สวนสนุกก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลามันก็ต้องปิดตัวลง ทิ้งไว้แต่ความทรงจำ แต่พอนานๆ เข้าสวนสนุกที่ถูกทิ้งไว้นานๆ กลับกลายเป็นภาพบรรยากาศที่ดูวังเวงไปซะนี่ ช่างภาพ Romain Veillon เขาได้ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นและมีโอกาสได้ไปเยือนสวนสนุกที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังอย่าง Nara Dreamland ซึ่งตอนนี้มันถูกทิ้งร้างแต่ก็ยังมีคนไปเยือนเพื่อถ่ายภาพบรรยากาศเก็บไว้ สวนสนุกแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1961 ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสนุกแบบ “ดิสนีย์” ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งดูได้จากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ก็จะทำให้เห็นว่ามีความคล้ายอยู่ แต่หลังจาก Disneyworld เปิดตัวที่โตเกียวและ Universal Studios ที่โอซาก้าก็ทำให้มีคู่แข่งมากยิ่งขึ้น ทำให้ต้องปิดตัวลงในปี 2006 จนตอนนี้ธรรมชาติได้เริ่มกลืนกินแล้ว เราไปชมกันเลย ถือว่าเป็นสวนสนุกแห่งหนึ่งที่อยู่คู่ญี่ปุ่นมานานเกือบ 50 ปี เลยทีเดียว แต่ก็ต้องยอมแพ้ให้กับสวนสนุกที่ใหญ่กว่า แต่ดูไปดูมาบางเครื่องก็น่าเล่นมากๆ นะ โดยเฉพาะรถไฟเหาะเป็นเกลียว คงจะน่าตื่นเต้นมากๆ ที่มา boredpanda
-
การต่อสู้แย่งชิงอาหารระหว่าง นกกระสา ปะทะ นกอินทรี นึกว่าหลุดมาจากหนังจีน!!
ตามระบบนิเวศของธรรมชาตินั้น มีทั้งสัตว์น่าล่าและสัตว์ที่เป็นเหยื่อ แต่สิ่งที่พวกมันมีเหมือนกันนั้นคือ การพยายามเอาตัวรอดท่ามกลางระบบนิเวศแบบนี้ อย่างที่รู้กันดีกว่า นกอินทรีเป็นหนึ่งในสัตว์นักล่าที่น่ากลัวและแข็งแรงที่สุด และเมื่อมันไปอยู่ท่ามกลางสัตว์มากมายอย่างในแอฟริกาใต้ แน่นอนว่ามีสัตว์มากมายที่สามารถตกเป็นเหยื่อของมันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะปลาในน้ำ และแล้วการต่อสู้ของมันก็กำลังจะเริ่มขึ้น เมื่อนกกระสาที่หากินอยู่แถวนั้นเช่นกัน กำลังย่องเข้ามาเพื่อทำร้ายมัน และเหตุการณ์เหล่านี้ได้ถูกบันทึกโดยช่างภาพ Max Waugh วัย 40 ปี แม้จะรู้ว่า กำลังจะถูกโจมตี แต่อินทรียังคงนิ่ง แต่คงนิ่งต่อไปไม่ได้ เมื่อพบว่า มันเป็นนกกระสายักษ์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่สูงที่สุดในบรรดานกกระสา แทนที่จะบินหนี เจ้านกอินทรีเลือกที่จะเผชิญหน้ามากกว่า เพื่อตอบสนองความอยากสู้ของเจ้านกกระสายักษ์ตัวนี้ จากนั้น การต่อสู้ก็เริ่มขึ้น นกกระสากางปีกออกและบินขึ้นไปต่อสู้กลางอากาศกับนกอินทรี ราวกับกังฟูแหน่ะ นกอินทรีไม่ยอม มันกางกรงเล็บออกและพยายามจิกไปที่หัวของนกกระสา แต่ดูเหมือนนกกระสาจะเสียการทรงตัวเล็กน้อยจากการใช้ท่ากังฟู จึงต้องลงไปเหยียบพื้นก่อน และคาดว่าหลังจากนั้น นกอินทรีคงบินหนีไป เพราะต่อให้มันสู้ต่อไป ก็คงต้องใช้เวลานาน อีกอย่างเจ้านกกระสายักษ์นี้ มีน้ำหนักตัวมากกว่ามันเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว เพื่อความอยู่รอด ก็คงต้องทำทุกวิถีทางสินะ ต่อให้ต้องใช้ทักษะการต่อสู้พิเศษอย่างกังฟู…
-
‘MORPHotel’ โครงการโรงแรมลอยน้ำ สะดวกครบครัน มีทุกอย่างในที่เดียว!!
ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่า มีโรงแรมต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย พร้อมนวัตกรรมต่างๆ ที่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเอาใจลูกค้า ยิ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น โรงแรมนี้ชื่อว่า MORPHotel ที่ออกแบบโดย Gianluca Santosuosso ดีไซเนอร์วัย 32 ปี จากลอนดอน ได้ออกแบบโรงแรมที่มีรูปทรงคล้ายกับกระดูกสันหลัง โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โรงอาหาร สวน สระว่ายน้ำ และโรงหนัง นอกจากนี้ยังมีชั้นดาดฟ้า ที่จะทำให้คุณได้เห็นธรรมชาติรอบด้าน พร้อมรับลมชมวิวแบบจุใจ ที่สำคัญ มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เพื่อรับนักท่องเที่ยวที่จะมาพักกับโรงแรมแห่งนี้ ส่วนประกอบตรงปลายของโรงแรมแต่ละข้างนั้น สามารถที่แยกออกได้ เพื่อใช้เป็นพาหนะในการนำนักท่องเที่ยวชมธรรมชาติตามน่านน้ำโดยรอบ Santosuosso ผู้ที่ออกแบบบอกว่า “โรงแรมนี้จะเป็นอีกทางเลือกสำหรับการล่องเรือ โดยแขกที่มาพัก จะได้เที่ยวชมสถานที่ใหม่และที่ไม่เคยเห็นมาก่อน” เขายังบอกอีกว่า “โรงแรม MORPHotel อาจจะเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ได้ แต่ยังก็ต้องรอดูกันในอนาคตต่อไปครับ” จะเจ๋งแค่ไหน คงต้องรอดูกันต่อไปในอนาคตนะคะ ที่มา edition l dailymail
-
ขอแนะนำ ‘กระเป๋าแคปซูล’ สำหรับเจ้าเหมียว ให้คุณพาน้องแมวไปเที่ยวชิลๆ
ใครเลี้ยงแมวคงเข้าใจดีว่า การจะพาแมวออกไปข้างนอกนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เจ้าาของส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะให้น้องแมวอยู่แต่ในบ้านมากกว่า และแน่นอนว่า น้องแมวต้องไม่พอกับการอยู่แต่ในบ้านแน่ แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว เพราะล่าสุดได้มีการออกแบบกระเป๋าแคปซูล ที่จะทำให้คุณสามารถพาน้องเหมียวเที่ยวไปกับคุณได้ทุกที่แบบชิลๆ กระเป๋าแคปซูลนี้ มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อน้องแมวโดยเฉพาะ แม้จะมีรูปร่างเหมือนเป้ แต่มีการทำกระจกไว้ เพื่อให้น้องแมวสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ ราวกับไม่ได้อยู่ในกระเป๋า ใครสนในกระเป๋าแคปซูลนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่ Amazon และ Amazon Japan โดยมีหลายสีให้คุณได้เลือกช้อป รวมทั้งลายม้าลายด้วย ต่อไปนี้น้องแมวจะได้อออกไปเที่ยวแบบสบายใจแล้ว ลายม้าลายก็น่าสนใจนะ เจ้าของน้องแมวพลาดไม่ได้เด็ดขาดนะ น้องแมวจะได้ไม่ต้องอยู่แต่ในบ้านอีกต่อไป ที่มา rocketnews24
-
ห่วงยิ่งกว่าลูก? ห่างกันครั้งแรกหลังแต่งงาน เมียเขียนป้ายคล้องคอผัว บอกรายละเอียดยิบ
การที่คนสองคนจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างยาวนาน นอกจากจะอาศัยความรักแล้ว ยังต้องอาศัยความเข้าใจ และการเปิดใจยอมรับซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับสามีภรรยาคู่นี้ ทั้งคู่อยู่กินร่วมกันมาตลอด เรียกได้ว่าถ้าภรรยาจะไปไหน สามีจะขอตามไปด้วย ดูแลกันเป็นอย่างดี แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อสามีของเธอ ได้ตัดสินใจที่จะออกทริปไปเที่ยว Las Vegas แบบชายล้วน งานนี้ภรรยาก็กลัวว่าสามีจะเอาตัวไม่รอด เลยเขียนป้ายคล้องคอให้ซะน่ารักเลย ซึ่งงานนี้ก็ไม่ใช่คนไกลตัวที่ไหน ที่โพสต์เรื่องราวน่ารักๆแบบนี้ลงบน Twitter คนนั้นก็คือ Brandon Gip ลูกชายของทั้งคู่นั่นเอง “แม่ผมทำสิ่งนี้ไว้ให้พ่อ เพราะว่าเขากำลังจะไปเที่ยวเวกัสในวันหยุด โดยไม่มีเธอ ฮ่าๆๆๆ” “สวัสดีผมชื่อ Jim ถ้าผมดูเหมือนกำลังหลงทาง รบกวนช่วยติดต่อภรรยาผม Kim Gip ได้ที่เบอร์ xxxxx และถ้าหากว่าเห็นผมนั่งจ้องเมนูอยู่ในร้านอาหาร ช่วยสั่งอาหารเอเชียให้ผมที โดยเฉพาะเมนูที่มีข้าวขาว ผมไม่เคยอยู่ห่างจากภรรยาสุดที่รัก ผู้ที่ทำทุกอย่างให้ผมมาโดยตลอด” และนี่คือคุณสามี Brandon Gip งานนี้ดูสีท่าพี่แกจะชื่นชอบป้ายจากภรรยาเหลือเกิน แต่เรื่องไม่ได้จบเพียงเท่านี้ เพราะงานนี้ป้ายที่ภรรยาเขียน น่ารักโดนใจชาวเน็ตไปตามๆกัน “@thegip03 แม่นายโรแมนติค และน่ารักมากๆเลย” “โอ้ยยนี่มันเรื่องจริง…
-
เจ้าเหมียวท้องแก่ถูกทารุณกรรมจนบาดเจ็บสาหัส ถูกช่วยเหลือไว้ได้จนปลอดภัย!!
เรื่องราวของแมวเหมียวที่เอาชีวิตรอดจากโชคชะตาอันแสนน่ากลัว มันต้องพยายามอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับความโชคร้ายเพื่อดูแลลูกของมัน มารู้จักกับเจ้าเหมียว Sweetie ในเช่วงเดือนมีนาคมปี 2016 ที่ผ่านมา เจ้าแมวเหมียวไร้บ้านที่ชื่อว่า Sweetie นั้นถูกพามาที่องค์กรช่วยเหลือแมว Save Cats & Obliterate OverPopulation, Inc (SCOOP Inc.) ที่เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จากเมือง Cincinnati รัฐ Ohio หลังจากที่มันถูกทารุณกรรมอย่างรุนแรง “ปากของมันนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่วนคางของมันก็หลุดออกจากกันและห้อยลงมาดูน่ากลัว สัตวแพทย์ต้องทำการผ่าตัดศัลกรรมส่วนคางที่เสียหายให้กับมัน ทำให้เจ้า Sweetie นั้นจะต้องได้รับการเย็บแผลถึง 35 เข็มเลยทีเดียว” คุณ Brab Wehmann ผู้บริหารของ SCOOP Inc. เล่า แม้ว่าจะมีอาการเจ็บปวดมันก็ไม่ได้หยุดกินอาหารแต่อย่างใด มันพยายามเป็นอย่างมากที่จะเอาชีวิตรอดให้ได้ 1 เดือนผ่านไปร่างกายของเจ้าเหมียวก็ฟื้นฟูไปรวดเร็วมาก ทำให้ทุกคนในองค์กรช่วยเหลือและสัตวแพทย์ต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน เท่านั้นยังไม่พอ อีก 1 เรื่องที่เจ้าเหมียว Sweetie ได้ทำการเซอร์ไพรส์ทุกคนก็คือมันได้ให้กำเนิดเจ้ามิ้วน้อยออกมา 1 ตัว และมีน้ำหนักเพียง 52…
-
แม่บ้านถูกกลุ่ม ISIS พรากทุกอย่างไปจากชีวิต เธอจึงจัดตั้งกลุ่มต่อต้านเอง ถึงไหนถึงกัน!!
เพราะความแค้นของผู้หญิงนั้นรุนแรง และอาจจะฝังลึกกว่าเหล่าผู้ชายอกสามศอกเสียอีก ล่าสุดทางเว็บไซต์ของเราก็ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ สตรองมาก!! สาวจีนใช้เวลา 17 ปี ในการตามล่าแก๊งคนร้ายที่ฆ่าสามีของเธอทีละคนๆ จนครบ แต่ครั้งนี้เราจะยกขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ในสเกลของสงครามเลยล่ะ กับสาวใหญ่สุดสตรองคนนี้ Wahida Mohamed หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า Um Hanadi ผู้เป็นหัวหน้าของกองกำลังชายฉกรรจ์กว่า 70 คนในแถบ Shirqat ประเทศอิรัก และทำการต่อสู้กับกลุ่ม ISIS มานับแรมปี!! Um Hanadi และทหารใต้บังคับบัญชาของเธอ กองกำลังของเธอมีฐานะเป็นทหารอาสา ล่าสุดก็ยังเป็นส่วนสำคัญในการให้ความร่วมมือกับกองทัพของประเทศในการขับไล่เหล่าผู้ก่อการร้ายออกจากเมือง ซึ่งถ้าจะพูดถึงในอิรักแล้วล่ะก็ ทหารหญิงนั้นนับได้ว่าหายากยิ่ง และทหารหญิงที่ยังเป็นผู้บังคับบัญชาด้วยล่ะก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่!! เธอเริ่มต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายมาตั้งแต่ปี 2004 กับหน่วยรบพิเศษของประเทศอิรัก ทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มอัลกออิดะฮ์ในตอนนั้น (ภายหลังกลายมาเป็น ISIS) จากผลงานของเธอทำให้เธอถูกตั้งฆ่าหัวโดย Abu Bakr ผู้นำ ISIS เลยทีเดียว และมีการพยายามฆ่าหลายครั้ง เพราะเขาต้องการตัวเธออย่างมาก ‘ฉันอยู่ในลิสต์ต้นๆ ของรายชื่อที่พวกมันต้องการเลยล่ะ จะว่าไปแล้วก็พอๆ กับนายกรัฐมนตรีของประเทศในตอนนั้นๆ เลยก็ว่าได้’ เธอกล่าว สาเหตุที่ทำให้เธอจัดตั้งกองกำลังนี้? ตลอดระยะเวลาที่เธอถูกหมายหัว…
-
อเมริกาออกกฎ ห้ามขับรถคนเดียวบนถนนเลนพิเศษ ตุ๊กตาหน้ารถจึงถือกำเนิดขึ้นมา!!
กฎจราจร เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าหากคุณฝ่าฝืนกฎ หรือไม่ทำตาม ก็อาจจะส่งผลให้คุณ หรือผู้ร่วมทางคนอื่นๆ เดือดร้อนได้ และเมื่อ Carpool lane หรือ HOV lane ถนนเลนพิเศษที่อยู่ทางซ้ายสุดของทางด่วน ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการออกกฎว่า จะอนุญาตให้เฉพาะรถที่มีผู้โดยสารตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป วิ่งอยู่บนถนนได้ ซึ่งถ้าหากฝ่าฝืน และไม่ทำตาม จะก็ต้องจ่ายค่าปรับกันไปตามระเบียบ แน่นอนว่า การตั้งกฎดังกล่าวขึ้นมา จะต้องมีผู้ที่ทำตาม และผู้ที่ฝ่าฝืน โดยผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามก็เกิดปิ๊งไอเดียสุดประหลาดขึ้นมา โดยการแกล้งเอาหุ่นมาใส่เสื้อผ้าทำเหมือนมีคนมานั่งในรถด้วย หรือเอาตุ๊กตามานั่งข้างๆ แบบนี้… แต่ทว่าดูเหมือนวิธีที่ใช้มันอาจจะไม่ค่อยเนียนสักเท่าไหร่ เพราะผู้คนหัวสุดครีเอท ดั๊นนนนนถูกตำรวจจับได้ซะอย่างนั้น ว่าแล้วก็มาดูกันเลยว่าสิ่งที่พวกเขาแกล้งทำเป็นคนมานั่งข้างๆ จะออกมาในรูปแบบไหนบ้าง โถ่วววว เกือบจะเนียน แต่สุดท้ายก็ไม่รอด บางคนก็ดูเนียน แต่เห็นแบบนี้แล้วจบกัน ใครกันละใส่หมวกในรถ งานหลอนก็มา ผมยุ่งไปหน่อยนะ ก็ออกกฎห้ามขับรถคนเดียว…
-
สองพี่น้อง ป่วยเป็นภาวะนอนไม่หลับอย่างรุนแรง พบเพียง 1 ใน 10 ล้านคนเท่านั้น!!
Fatal Familial Insomnia (FFI) หรือภาวะนอนไม่หลับ เรียกได้ว่าเป็นโรคทางพันธุกรรม ที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง ซึ่งจะพบได้ยากมากเพียง 1 ใน 10 ล้านคน Hayley ในวัย 30 ปี และ Lachlan วัย 28 ปี สองพี่น้อง จากรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย คู่นี้ พวกเขาได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นภาวะนอนไม่หลับ ซึ่งเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาได้ โดยในช่วงวัยรุ่น ทั้งคู่ได้เริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติของตัวเอง และนับตั้งแต่นั้นมาพวกเขาทั้งคู่ ก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคนี้มานานหลายปีจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญ ยาย และแม่ของพวกเขาต่างก็ป่วยเป็นโรคนี้ด้วย โดยหลังจากที่คุณยายได้เสียชีวิตลงในวัย 69 ปี ผู้เป็นแม่ก็เริ่มแสดงอาการคล้ายกับโรคที่ยายเป็น ในปี 2011 โดยเธอมักจะเห็นภาพหลอน และเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ไม่สามารถนอนหลับลึกได้ จนส่งผลทำให้ร่างกายไม่ได้พักผ่อน สมรรถภาพทางร่างกายและทางจิตของเธอลดลง ซึ่งหลังจากนั้นอีก 6 เดือนต่อมา เธอก็เสียชีวิตและจากโลกนี้ไปอย่างสงบ Hayley และ…
-
เผยภาพ ‘วิถีชีวิตของคนไร้บ้าน’ สะท้อนความจริง และปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมอเมริกา
‘American Dream’ ถ้าใครที่ยังไม่รู้จักคำนี้ เราขออธิบายให้เข้าใจตรงกันอย่างสั้นๆง่ายๆว่า เป็นคำที่ใช้อธิบายถึงแบบชีวิตในฝันที่อเมริกาเคยโฆษณาให้คนเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศ ชีวิตในฝันที่ว่า ก็คือชีวิตในแบบที่ใครหลายๆคนอยากจะมีกันนั่นก็คือ การมีบ้าน มีรถ มีครอบครัว มีเงินซื้อสินค้าแบรนด์แนม ฯลฯ แต่ความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป เมื่อช่างภาพสาว ‘Suzanne Stein’ ต้องการจะสะท้อนปัญหาของสังคมในอุดมคติของคนทั่วโลกที่เกิดขึ้นจริงในย่าน Skid Row แหล่งเสื่อมโทรมของเมืองลอส เองเจลิส เพราะบางทีความฝันอาจอยู่ตรงข้ามกับความจริง… Doreen หนึ่งในสาวไร้บ้าน กำลังสูบบุหรี่อยู่บนถนนแห่งหนึ่งในแหล่งเสื่อมโทรม เธอกำลังจะแต่งหน้า เพื่อความสวยประจำวัน… ผู้หญิงไร้บ้านคนหนึ่งกำลังทะเลาะกับตำรวจ เหตุการณ์แบบนี้มักจะมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ เธอคนนี้ชื่อ Victoria กำลังโพสท่าเพื่อถ่ายรูปบนถนนในย่าน Skid Row อย่างเต็มใจ Suzanne มักจะเรียกหญิงสาวคนนี้ว่า ‘สาวรองเท้าแดง’ Genevine เธอคือหนึ่งในผู้หญิงหลายๆ คนที่ไร้บ้าน และต้องอาศัยอยู่ตามตรอกบนถนน และตอนนี้เธอกำลังมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 เข้ามาพัวพันกับแฟนหนุ่มของเธอที่อาศัยอยู่ด้วยกัน เธอกำลังถ่ายรูปคู่กับที่อยู่ของเธอ ซึ่งอยู่ข้างถนนแห่งหนึ่งในย่านใกล้ๆ…
-
ซี๊ดอาห์…นักวิทย์ฯ ค้นพบ “ต้นกัญชา” ในหลุมศพมนุษย์โบราณ ช่วยยืนยันว่าเราคุ้นเคยกับมันดี
ยังคงมีเรื่องราวในอดีตอีกมากมายที่ไม่มีการค้นพบหรือไม่ถูกหยิบยกมานำเสนอ ซึ่งแต่ละเรื่องนั้นก็ชวนให้คนในยุคปัจจุบันได้เรียนรู้ว่าในสมัยก่อนเกิดเรื่องอะไรกันบ้าง หรือมีความเป็นอยู่อย่างไร เมื่อไม่นานมานี้ได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศว่านักโบราณคดีชาวจีน Hongen Jiang และทีมงานได้ค้นพบหลุมศพของชายผิวขาวในเมืองโบราณเต๋อป่าน เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ในหลุมศพนั่นพวกเขาพบโครงกระดูกมนุษย์นอนอยู่ในนั้นบนเตียงไม้และหมอน แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ มีต้นกัญชาขนาดยาวเกือบ 1 เมตรถูกฝังไว้กับเขาด้วยถึง 13 ต้น การค้นพบครั้งนี้จึงเป็นการยืนยันถึงทฤษฎีที่นักวิทยาศาสตร์เคยตั้งเอาไว้ว่า กัญชาเป็นสิ่งที่มอบความบันเทิงให้แก่ชาวยูเรเซียมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ (มนุษย์ที่อาศัยอยู่บนทวีปยูเรเซีย ที่เกิดจากทวีปยุโรปและเอเชียอยู่ติดกันเมื่อสมัยหลายล้านปี) มีการวิจัยและการศึกษามานานแล้วว่ากัญชานั้นช่วยในเรื่องของระบบประสาทและสามารถเป็นยารักษาโรคได้ นี่จึงพออนุมาณได้ว่ามนุษย์เราเริ่มรู้จักและใช้กัญชามาตั้งแต่สมัยอดีตแล้วนั่นเอง เพื่อนกัญ เพื่อนตายตลอดไปปปปป ที่มา distractify
-
ครั้งแรกของ ‘ทหารรักร่วมเพศ’ เข้าพิธีแต่งงานในฐานทัพอังกฤษ เพื่อนๆ ร่วมยินดี!!
ปัจจุบันการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันนั้นนับว่าเป็นเรื่องปกติและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เราเองก็คงจะเคยได้ยินว่า ในค่ายทหารนั้นมักจะมีเกย์เป็นจำนวนมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ล่าสุดนี้ ได้มีการจัดพิธีแต่งงานระหว่างทหารหนุ่ม 2 นายคือ Alastair Smith วัย 36 ปี แห่งกองพันที่ 2 และคู่เกย์ของเขา Aaron Weston เป็นคู่แรกที่จัดงานแต่งขึ้นในฐานทัพอังกฤษ ที่เมือง Dhekilia สาธารณรัฐไซปรัส งานแต่งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โดยได้รับการอนุมัติจากพลอากาศตรี Mike Wigston ซึ่งเป็นผู้บัญชาการและผู้บริหารของฐานทัพแห่งนี้ ในงานทั้งคู่ได้แต่งชุดทหารพลเรือน ประดับด้วยเข็มกลัดดอกไม้สีชมพู พร้อมโบว์สีชมพูเช่นกัน และจัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกตามแนวชายฝั่ง โดยมีเพื่อนในกองทัพและครอบครัวของทั้งสองเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน แม้ว่าก่อนหน้านี้ Smith ก็เคยผ่านการแต่งงานมาแล้วกับผู้หญิง และมีลูกด้วยกันแล้วก็ตาม เมื่อภรรยาและลูกรู้ว่าเขาเป็นเกย์ พวกเขาก็ยอมรับ และยินดีกับงานแต่งงานในครั้งนี้ด้วย เขาได้กล่าวในงานแต่งว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ทางฐานทัพอังกฤษอนุญาติและสนับสนุนให้ผมได้แต่งงานกับสามีที่นี่ ผมรู้สึกภูมิใจจริงๆ ที่ได้มาอยู่ในประเทศที่มีการยอมรับเพศที่สามเช่นนี้” ในตอนแรกที่ Smith รู้ตัวว่าเป็นเกย์ เขาไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวจะถูกทำโทษตามกฏระเบียบของทหารอังกฤษ แต่แล้วก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้ เขาจึงตัดสินใจเปิดเผยว่าตัวเองเป็นเกย์ และต่อมาก็ได้ตัดสินใจคบกับ Aaron Weston เมื่อทางกองทัพรู้ จึงได้นำตัวทั้งสองคนมาลงโทษตามกฏ…
-
คู่หูเด็กและหมาร่วมต้อนรับเจ้า แฮมสเตอร์น้อยเข้าแก๊ง ทวีคูณความน่ารักได้อีก!!
เมื่อพูดถึงเด็กน้อยและสัตว์เลี้ยงนั้น คงจะเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หลายคนคิดว่าพวกเขาเข้ากันไม่ได้ แต่เมื่อพวกเขาได้อยู่ด้วยกันแล้ว คุณต้องไม่เชื่อเลยว่า จริงๆ แล้ว เด็กกับสัตว์เป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีสุดๆ เหมือนกับหนูน้อย George ที่มีคู่หูเป็นหมาแสนรู้อย่าง Toby ซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดตั้งแต่เขาเกิดมาเลยล่ะ เพราะ Toby นั้นคอยดูแลปกป้องเขาอยู่เสมอตามคำบอกเล่าของ Emma Lowe แม่ของเด็กน้อย ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่รักกันมาก และไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือทำอะไรก็จะทำด้วย เวลานอน Toby ก็จะนอนอยู่ข้างๆ หนู เพื่อคอยระวังความปลอดภัยให้ และแล้ววันหนึ่ง Tom ก็มาปรากฏตัวขึ้น มันเป็นหนูแฮมสเตอร์ที่ครอบครัวของเขารับมาเลี้ยง คุณแม่ปล่อยให้ Tom อยู่กับ George และ Toby จนพวกเขาสนิทกันรวดเร็ว ว่าแล้วทั้งคู่จึงรับ Tom เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของแก๊งด้วยซะเลย หลับฝันดีนะ เดี๋ยวพี่จะเฝ้าอยู่ข้างๆ George ชอบเล่นกับ Tom แบบน่ารักๆ ในขณะที่ Toby เองก็อ่อนโยนกับ Tom มากและปล่อยให้มันวิ่งเล่นบนตัวพร้อมคอยปกป้องมันเหมือนที่ปกป้อง George ด้วย เหมือนเป็นน้องชายตัวใหม่ของมันยังไงอย่างงั้น ตอนนี้หนูน้อย George จึงตอบโตท่ามกลางเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาทั้ง 2 ตัว และแน่นอนว่า จะหาเพื่อนที่ดีกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว หนูน้อยต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างอบอุ่น…
-
2 โจรงัดบ้านผิดหลัง เจอเจ้าของบ้านล็อค “อัดประตูหลัง” 5 วันเต็ม ที่แท้เป็นข่าวลวง
จาก#เหมียวฟิ้นได้นำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับหนึ่งไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เกี่ยวกับ 2 หัวขโมย Garfield Morgan วัย 54 ปี และ Kim Gorton วัย 36 ปี ย่องเข้าไปขโมยของในบ้านของนาย Harry Harrington ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา แต่กลับถูกนาย Harry (ที่มีส่วนสูง 204 เซ็นดิเมตร หนัก 136 กิโลกรัมและยังเป็นเกย์ที่มีชื่อฉาวโฉ่ในหมู่เกย์ด้วยกัน เพราะเคยถูกตัดสินจำคุกอยู่พักหนึ่งเนื่องจากไปก่อคดีข่มขืนเข้า) จับมัดเอาไว้แล้วทำการตุ๋ยพวกเขาเป็นเวลา 5 วัน 5 คืน หนังสือพิมพ์ยังได้รายงานอีกว่า เหตุการณ์นี้จบลงตรงที่มีเพื่อนบ้านมาได้ยินเสียงของพวกเขาเข้าจึงโทรเรียกให้ตำรวจเข้ามาดู ซึ่งนาย Harry ยังให้การกับตำรวจอีกว่า “พวกเขาพังเข้ามาทางประตูด้านหน้าของผม ผมเลยพังประตูหลังของพวกเขาซะเลย!” หลังจากที่ได้รายงานข่าวไป เริ่มมีผู้อ่านบางคนส่งข้อความเข้ามาท้วงติงว่าข่าวดังกล่าวอาจเป็นข่าวลวงที่เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเองของหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ เราจึงได้ทำการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและเจอเข้ากับเว็บบอร์ด Spacebattles ที่มีการถกเถียงกันว่าเรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องจริง และเมื่อค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Snopes ที่เป็นเว็บไซต์สำหรับพิสูจน์ข่าวจริงข่าวลวงในต่างประเทศ ยิ่งเป็นการยืนยันว่านี่คือข่าวปลอม เพราะหนังสือพิมพ์ที่ตีพิมพ์เรื่องนี้คือ Sunday Sport ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ชอบลงข่าวปลอมๆ ให้คนเข้าใจผิด นอกจากนี้ยังมีข้อมูลยืนยันว่าภาพของนาย Harry…
-
‘Smog Free Tower’ เครื่องฟอกอากาศขนาดยักษ์ เพื่ออากาศอันบริสุทธิ์ในประเทศจีน
เป็นที่รู้กันดีว่า ประเทศจีนนั้นประสบกับปัญหาหมอกควันพิษที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปแล้วมากมาย และแน่นอนว่า เรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน Daan Roosegaarde นักออกแบบชาวดัชต์ ผู้ก่อตั้ง Studio Roosegaarde จึงได้พัฒนาเครื่องฟอกอากาศ Smog Free Tower เพื่อฟอกอากาศในเขตเมือง โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการตระหนักถึงปัญหามลพิษในประเทศจีน เครื่องฟอกอากาศนี้ได้ติดตั้งครั้งแรกในเมือง Rotterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่นั้นเขาก็มีแพลนจะนำไปติดตั้ในอีกหลายประเทศทั่วโลกที่ประสบปัญหามลพิษทางอากาศ และเมื่อเร็วๆ นี้ Daan Roosegaarde ก็ได้ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ Smog Free Tower ที่ประเทศจีนแล้ว โดยตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีมลพิษมากที่สุดดังที่กล่าวไว้ เครื่องฟอกอากาศนี้มีความสูง 7 เมตร ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการทำงานที่คล้ายกับเครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะใช้กำลังไฟเพียง 1,400 วัตต์เท่านั้น โดยสามารถฟอกอากาศได้ถึง 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เครื่องนี้จะทำงานโดยการจะดูดควันผ่านทางช่องลม 6 จุด ที่ติดตั้งโดยรอบของหอคอยนี้ หลังจากนั้นก็จะปล่อยไอออนประจุบวกเพื่อออกไปตรวจละอองฝุ่นในอากาศ ในขณะเดียวกัน ไอออนประจุลบจะทำหน้าที่รวมไปออนประจุบวกกับอนุภาคของฝุ่นละอองเข้าไว้ด้วยกันภายในเครื่อง จากนั้น ก็นำฝุ่นควันที่ดักจับมาได้ มาบีบอัดเป็นทรงลูกบาศก์เล็กๆ แล้วนำไปทำเป็นแหวนและ Cufflinks (กระดุมข้อมือที่ติดตรงปลายเสื้อเชิ้ต)…
-
ไม่เท่ากัน…ต่างชาติสลดครอบครัวอินโดนีเซีย บังคับแม่บ้านให้นั่งดูพวกเขาทานอาหาร
ในทุกวันนี้เราจะเห็นได้ว่าทั่วโลกมีการตื่นตัวในเรื่องของความเท่าเทียมกันมาก ไม่ว่าจะเป็นความเท่าเทียมของชายหญิง ความเท่าเทียมกันของอาชีพ หรือความเท่าเทียมกันของชนชาติต่างๆ แต่ก็ยังคงมีความแตกต่างกันระหว่างชนชั้นที่เห็นได้ชัดอยู่ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของนาย Michael Fanny ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในตอนนั้นเขาดันได้พบเห็นเหตุการณ์น่าสลดใจของครอบครัวชาวอินโดนิเซียครอบครัวหนึ่ง ขณะนั่งรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มกันอยู่ในร้านอาหาร สิ่งที่ทำให้นาย Michael รู้สึกหดหู่ใจคือ ครอบครัวนี้ได้พาพี่เลี้ยง (หรือคนรับใช้) มาที่ร้านอาหารด้วย แต่บังคับให้เธอนั่งอยู่อีกโต๊ะหนึ่งแล้วดูพวกเขากินอาหารโดยที่โต๊ะของเธอไม่มีอาหารหรืออะไรวางอยู่เลย เขาทนไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงถ่ายภาพแล้วนำมาเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กพร้อมกับข้อความระบายความรู้สึกของตัวเองว่า “คนรับใช้ของคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณเหมือนกัน นี่มันคือกระจกสะท้อนมนุษยธรรมของคุณ ลองจินตนาการว่าคุณอยู่ในจุดเดียวกับเธอสิ ไม่มีมือถือให้เล่น ไม่ได้รับเชิญให้ทานอาหาร ได้แต่มองไปรอบๆ” “เราต้องให้ความเคารพและรักแม่บ้านของเรา คนขับรถของเรา คนทำสวนของเรา ชีวิตมันไม่ได้มีแค่ผลประโยชน์อย่างเดียวนะ มันไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ตัวของเราคนเดียว” ตามรายงานยังระบุเพิ่มเติมอีกว่าคนที่ทำอาชีพเป็นแม่บ้านหรือทำงานภายในบ้านนั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนเริ่มเข้ามาทำงานนี้ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นสาว หลายคนมาจากชนบทที่ห่างไกลเพื่อหาเงินไปเลี้ยงดูครอบครัวของตัวเอง ล่าสุดภาพนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตในต่างประเทศมาก เพราะเรื่องของศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมกันของมนุษย์ถือเป็นเรื่องใหญ่ในประเทศที่เจริญแล้ว จนมีการแชร์ไปถึง 60,000 ครั้งเลยทีเดียว การมีพี่เลี้ยงหรือคนทำงานบ้านอยู่ที่บ้านเราไม่ใช่เรื่องแปลกนะ แต่การแบ่งแยกชนชั้นแบบนี้มันคือการลดคุณค่าความเป็นคนของเขา #เหมียวฟิ้นเห็นแล้วรู้สึกสลดใจแทนเลย ที่มา dailymail
-
ก็ตรงเกิ๊น!! รายงานข่าวพยากรณ์อากาศ บอกความจริงอันโหดสึสของพายุ ที่ทุกคนไม่น่ารอด
เมื่อกล่าวถึงการรายงานข่าวแบบเดิมๆ แล้วเพื่อนๆ ก็จะรู้กันดีว่ามันไม่ค่อยน่าสนใจอีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นทางเหล่าผู้ประกาศข่าวทั้งหลายก็เลยต้องหันมาเปลี่ยนแปลงวิธีการอ่านข่าวเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ้งขึ้น แต่นาย Shepard Smith ที่ทำหน้าที่เป็นผู้รายงานสภาพอากาศของช่อง Fox News ได้มีวิธีการรายงานข่าวในแบบใหม่ ที่ต้องขอบอกเลยว่าโหดสึส!! เรื่องมีอยู่ว่าในช่วงรายงานสภาพอากาศของ Fox News ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น นาย Shepard Smith ได้รายงานสถานการณ์ของพายุเฮอริเคนที่ชื่อว่า Matthew ที่กำลังพัดผ่านไปทางชายฝั่งตะวันออกของรัฐ Florida แต่ถ้าเจ้าพายุเฮอริเคน Matthew นั้นดันเปลี่ยนเส้นทางพัดเข้ามาที่ชายฝั่งแทนล่ะก็ จะสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งผู้คนและที่อยู่อาศัยจะต้องได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก แต่พี่แกดันมีวิธีการพูดที่โหดสึส โดยบอกว่า “ถ้าพายุพัดเข้ามาก็ไม่มีใครรอด คุณและทุกคนที่คุณรู้จักต้องตายหมด และลูกๆ ของคุณก็ต้องตายด้วย ไม่มีทางรอดอย่างแน่นอน มันเป็นไปไม่ได้!!” พร้อมกับทำหน้าตายิ้มแย้มตามมาดของผู้ประกาศข่าว เดี๋ยวก่อนนะ!? อีตา Shepard Smith เพิ่งจะบอกว่าลูกๆ ของทุกคนจะตาย พร้อมกับทำหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเนี่ยนะ? และ…ลูกๆ…ของทุกคน…ก็ต้องตายด้วย!! ลาก่อย RIP พายุทอร์นาโดจะต้องพรากชีวิตของทุกคนรวมไปถึงลูกๆ…
-
‘Velma’ เจ้าเหมียวแก่ตาเกือบบอด ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งได้ทาสเข้ามาเปลี่ยนชีวิต!!
เจ้าเหมียวที่มีอายุครบ 15 ปี แต่ด้วยความโชคร้ายที่ดวงตาของมันเกือบจะบอดสนิทซะทีเดียว แต่มันก็พาตัวเองไปยังสถานีตำรวจกับน้องสาวของมัน เพื่อหาบ้านอยู่ มารู้จักกับเจ้าเหมียว Velma เจ้า Velma นั้นมีอายุ 15 ปี และดวงตาของมันก็ใกล้ที่จะบอดสนิทเต็มที สองพี่น้องถูกพามาไว้ที่สถานีตำรวจ หลังจากที่ทสของมันเสียชีวิต คุณตำรวจได้พาพวกมันไปให้เจ้าหน้าที่ในศูนย์ช่วยเหลือคอยดูแล และที่นั่นก็กลายเป็นสถานที่ที่พวกมันจะสามารถอาศัยได้อย่างปลอดภัย ในระหว่างที่รอให้มีทาสคนใหม่มารับมันไปเลี้ยง “คุณตำรวจสามารถหาสถานที่ปลอดภัยให้กับเจ้าเหมียวทั้งสองตัวได้ โดยเป็นศูนย์ช่วยเหลือเหล่ามะหมา แต่มันก็ไม่ได้มีสถานที่ไว้สำหรับแมวตาบอด แต่พวกเขาก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือเจ้าเหมียวทั้งสองอย่างเต็มที่” คุณ Karyn Poplin จากศูนย์ช่วยเหลือ Kitty Adventure Rescue League & Sanctuary แต่หลังจากนั้นไม่นานตัวน้องก็ถูกรับไปเลี้ยงในที่สุด แต่เจ้า Velma ยังคงต้องรอต่อไป มันไม่ได้ถูกมองข้ามแต่อย่างใด… เจ้า Velma นั้นมองเห็นได้ไม่ค่อยชัดทำให้มันต้องก้มหัวลงต่ำอยู่ตลอดเวลา แต่พอมันรู้ว่ามีบางคนมารับเพื่อนๆ ของมันไปเลี้ยง มันก็จะแสดงความรักให้กับผู้คนด้วยการหายใจดังเป็นเสียงกรน ผ่านไปเป็นเวลาหลายเดือนของการรอคอย เจ้า Velma ก็เริ่มที่จะยอมรับชะตากรรมของตัวเอง ทางศูนย์ช่วยเหลือมะหมาก็เริ่มที่จะขอความช่วยเหลือและหวังว่าจะมีใครซักคนที่จะมารับมันไปเลี้ยงและมอบความสุขให้กับมัน พวกเขาติดต่อไปยังคุณ…
-
#TakeHerHoodie หนุ่มๆ ร่วมกัน ‘ทวงคืนเสื้อกันหนาว’ จากแฟนสาวที่ยืมไปแล้วไม่คืน!!
นี่ใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว เพื่อนๆ เตรียมเสื้ออุ่นๆ ไว้หรือยัง? สำหรับสาวๆ คงสบายเลยสินะ เพราะถ้าอยากได้เสื้อกันหนาวที่สบายสักตัว ก็แค่หยิบเสื้อของแฟนมาใส่ แค่นี้ก็ไม่ต้องเปลืองตังซื้อแล้ว แต่ดูเหมือนปีนี้ หนุ่มจะไม่ได้มีความสุขด้วยนะ เมื่อผู้ใช้ทวิเตอร์ YoungAdolf_ ได้แชร์เรื่องราวของแฟนที่หยิบเอาเสื้อตัวเองไปใส่และไม่ยอมคืนให้ แล้วทีนี้แฟนหนุ่มจะใส่อะไรล่ะ เขาจึงเริ่มทำอะไรบางอย่างภายใต้แฮชแท็ก #TakeHerHoodie ว่าแล้ว เขาก็นำเสื้อกันหนาวของแฟนมาใส่ แล้วถ่ายรูปโพสต์ทวิเตอร์พร้อมแคปชั่นว่า “พอกันทีสาวๆ ปีนี้คุณจะไม่ได้เอาเสื้อเราไปใส่แบบไม่คืนอีก เราจะสู้เพื่อเอาเสื้อคืน #TakeHerHoodie “ โพสต์นี้มีคนเข้ามากดไลค์กว่า 70,000 คน และแชร์อีก 40,000 ครั้ง จนทำให้ผู้ชายมากมายเข้าร่วมการเคลื่อนไว้ด้วยแฮชแท็กนี้ เพื่อทวงคืนเสื้อกันหนาวของพวกเขา พวกเขาจะเคลื่อนไว้กันอย่างไรบ้าง ตามไปดูซิ… สาวๆ เห็นแบบนี้แล้ว จะคืนเสื้อให้มั้ยนะ จะคืนดีๆ หรือจะให้ใส่แบบนี้ออกไปข้างนอก แหม่ เอวลอยมาเชียว แฟนสาวคงไม่อยากเห็นแฟนหนุ่มเดินออกบ้านสภาพแบบนี้นะ เอิ่มมมมม แถมโพสต์ท่าให้ด้วย หุ่นล่ำ แต่ต้องมาใส่เสื้อแฟนตัวนิดเดียว …
-
พักผ่อนชิวๆ บนเกาะเล็กๆ ในสกอตแลนด์ที่มีม้าแคระนับร้อย แต่มีคนเพียง 30 คนเท่านั้น!!
อยู่ในสังคมเมือง มีความเจริญ ได้พบปะผู้คนมากมาย แต่บางทีหลายคนอาจจะรู้สึกเบื่อกับสิ่งแวดล้อมแบบนี้ก็ได้ ดังนั้น หลายครั้งที่เราอยากไปหนีไปพักผ่อนที่ไหนสักที่ เช่นที่ที่สงบ และไม่มีคนพลุกพล่าน ต้องนี่เลย เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งใน Foula ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นที่ที่มีม้าแคระอาศัยอยู่นับร้อย และมีประชากรประมาณ 30 คนเท่านั้น Foula เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะเช็ต โดยเหล่าม้าแคระจะอาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่ยุคสำริดแล้ว จนผู้คนต่างพากันเรียกว่า ม้าเช็ต และตอนนี้ มันกลายเป็นสายพันธุ์ม้าที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก ม้าเช็ตจะมีขนหนาดก ขาสั้น และมีความฉลาด นอกจากนี้ พวกมันยังถูกฝึกให้เป็นม้านำทางเช่นเดียวกับสุนัขด้วย เมื่อมองโดยรวมแล้ว มันเป็นหนึ่งในม้าที่น่ารักไม่น้อยเลยล่ะ แต่กว่าจะไปถึงเกาะนี้ได้ คุณจะต้องนั่งเรือข้ามฟาก หรือนั่งเครื่องบินไป แต่มีเที่ยวบินเพียงไม่กี่เที่ยวต่อสัปดาห์เท่านั้น และเมื่อคุณมาถึงเกาะแล้ว คุณสามารถเช่าห้องพักเล็กๆ ของ B & B ซึ่งเป็นบังกะโลของท้องถิ่น เพียงเท่านี้ คุณก็จะพบว่า ตัวเองอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงาม อุดมไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด มีหน้าผาสวยๆ เนินเขาสีเขียว นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินสำรวจความงามของชายฝั่ง ดูปลาวาฬเพชฌฆาต นก หรือแม้กระทั่งการคุยกับใครสักคนบนเกาะแห่งนี้ที่มีเพียง 30 คนเท่านั้น …
-
วิถีชีวิตของชนเผ่า ‘Gurung’ พรานล่ารังผึ้งยักษ์แห่งผาสูงหิมาลัย ที่สืบทอดกันมายาวนาน
ในโลกนี้เต็มไปด้วยชนเผ่ามากมาย มีทั้งที่เราเคยรู้จัก และที่ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน และที่ผ่านมาจะเห็นว่า แต่ละชนเผ่านั้น มักมีวิถีชีวิตที่น่าสนใจไม่น้อยเลย โดยเฉพาะชนเผ่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติหรือในป่า Gurung เป็นอีกหนึ่งชนเผ่าที่มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มพรานล่ารังผึ้งขนาดใหญ่ โดยไม่เกรงกลัว มีเพียงอุปกรณ์ป้องกันตัวเพียงไม่กี่ชิ้น ชนเผ่า Gurung อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กในหุบเขาทาพรัง (Taprang) หรือที่เป็นที่รู้จักกันว่า หมู่บ้านนักเก็บผึ้งใน เมืองกาสกี (Kaski) ที่ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาล พวกเขาล่าน้ำผึ้ง โดยมีอุปกรณ์ป้องกันเพียงไม่กี่ชิ้น ในช่วงแห่งฤดูกาลล่าน้ำผึ้ง ชนเผ่า Gurung จะเดินทางไปยังภูเขาที่สูงชันในแถบหุบเขาทาพรังหรือหุบเขาแห่งน้ำผึ้งหลวง (Apis dorsata frabicius) เพื่อล่าน้ำผึ้งตามวิถีดั้งเดิมของชนเผ่าที่สืบทอดกันมายาวนาน แน่นอนว่าพวกเขาต้องมีความชำนาญในระดับหนึ่ง เพื่อเก็บน้ำผึ้งจำนวนมาก ตั้งแต่การรมควัน การทรงตัวบนที่สูง และการไล่ผึ้งเพื่อเก็บน้ำผึ้ง แต่ก่อนไปล่านั้น ต้องมีพิธีบวงสรวงเทพเจ้า โดยการนำเนื้อสัตว์ ผลไม้ ดอกไม้มาถวาย และขอให้เทพประทานความปลอดภัยให้ เมื่อไปถึง จะมีคนคอยอยู่ด้านล่างและรมควันให้ผึ้งออกจากรัง ส่วนพรานล่าผึ้งจะโหนตัวด้วยบันไดเชือก และไล่ควันไปหารังผึ้ง ทำให้ผึ้งออกมาจากรัง จากนั้นก็สามารถนำรังผึ้งออกมาจากหน้าผาได้ ในการล่าน้ำผึ้งนี้ พวกเขาต้องปีนขึ้นไปสูงถึง 250 ฟุต…
-
หนุ่มอินโดนีเซียเบื่อเกินไป เลยแอบแฮ็คป้ายโฆษณา ฉายหนังโป๊กลางสี่แยกมันซะเลย!!!
ผู้ชายและหนังโป๊เป็นของคู่กัน เหมือนลิ้นกับฟันยังไงยังงั้น แต่จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องที่ควรจะเก็บไว้ดูเป็นการส่วนตัวดีกว่าเนาะ แต่สำหรับพนักงานสาย IT หนุ่มชาวอินโดนีเซียคนนี้ เค้าไปไกลกว่านั้น สงสัยพี่แกคงเบื่อที่จะดูคนเดียว เลยเปิดมันกลางสี่แยกช่วงเวลารถติดซะเลย!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่กรุงจาการ์ตา ไม่ใกล้ไม่ไกลบ้านเรานี่เอง ทางสำนักข่่าว Dailymail รายงานว่า หนุ่มวัย 24 ปีคนนี้ ถูกตำรวจจับ โทษฐานแอบแฮ็คเข้าสู่ระบบหน้าจอป้ายโฆษณาอิเล็คทรอนิค หลังจากที่แฮ็คเข้าสู่ระบบได้แล้ว พี่แกก็แอบฉายหนังญี่ปุ่นชื่อเรื่องว่า ‘Tokyo Hot’ แค่ชื่อก็รู้แล้วล่ะว่ามันเป็นหนังแนวไหน เห็นหน้านางเอกบนจอ อย่าพึ่งเข้าใจว่าเป็นหนังเศร้านะ เป็นเวลานานกว่า 10 นาที หนังโป๊เรื่องนี้ถูกฉายต่อสาธารณชน ในช่วงเย็นวันศุกร์ (ช่วงเวลาเร่งรีบซะด้วย) กลางสี่แยกใกล้กับสำนักนายกเทศมนตรีของประเทศ!! หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็รีบเข้ามาปิดระบบทุกอย่างของป้ายโฆษณา ไม่ให้ฉายภาพออกไปได้อีก เราไปชมคลิปที่ชาวเมืองถ่ายไว้ได้กันเลย..โจ่งครึ้มสุดๆ ดูเผินๆแล้วเรื่องนี้เหมือนจะไม่มีอะไร เป็นแค่การกระทำไปเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่ความเป็นจริงมันแย่กว่านั้น… ประเทศอินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีความอนุรักษ์นิยมสูงพอสมควร ทางการเคยสั่งแบนเว็บโป๊ทุกชนิด และบ่อยครั้งที่ภาพยนตร์ หรือรายการทีวี จะถูกเซ็นเซอร์ หรือตัดฉากที่เห็นว่าไม่สมควรออก ซึ่งงานนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เค้าถือว่าเป็นการก่ออาชญกรรมทางไซเบอร์อย่างรุนแรงเลยหล่ะ หนุ่มคนนี้ก็ต้องรับโทษไปเต็มๆนานถึง 7 ปี!!! (โหดมาก)…
-
ช่างสักบริการแบบไม่คิดเป็นเงิน ขอเพียง ‘อุปกรณ์การเรียน’ ไปบริจาคให้เด็กๆ ผู้ขาดแคลน
ถ้าเผื่อเพื่อนๆ ยังไม่ทราบ ตอนนี้ประเทศเวเนซูเอล่านั้นเป็นประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจหนักมาก ถึงขั้นที่ว่าประชาชนต้องออกมาคุ้ยหาอาหารเพื่อประทังชีวิตกันเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องอุปกรณ์การเรียนสำหรับเด็กๆ เลย โรงเรียนหลายแห่งถึงขั้นต้องปิดตัวลงเพราะขาดเงินสนับสนุน ไม่สามารถดำเนินการสอนต่อได้ อีกหลายแห่งขาดแคลนอุปกรณ์ สอนแบบขาดแคลนไปวันๆ แต่กระนั้นก็มีกลุ่มศิลปินช่างสักอยู่กลุ่มหนึ่ง ได้ออกมาใช้ทักษะของพวกเขา เพื่อแลกกับการให้ลูกค้าซื้ออุปกรณ์การเรียนไปให้เด็กๆ แทน ช่างสักบริการสักแลกกับอุปกรณ์การเรียนสำหรับเด็กๆ โครงการนี้มีเหล่าช่างสักมาร่วมกว่า 14 คน ซึ่งมีผู้เข้ามาใช้บริการมากมายเช่นกัน Oriana Herrera หนึ่งในผู้ใช้บริการสักคนหนึ่งกล่าวว่า… ‘มันเป็นวิธีการช่วยเหลือที่ดีมาก เพราะตอนนี้ประเทศของเราประสบปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรง อะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปซะหมด โดยเฉพาะเด็กๆ ที่นี่ก็ต้องการอุปกรณ์ในการเรียนอย่างมาก เพื่อนำไปเล่าเรียนหาความรู้กัน’ เธอกล่าว โครงการนี้ตั้งอยู่ในเมือง Petare ประเทศเวเนซูเอล่า โดนมีความหวังว่าจะนำอุปกรณ์การเรียนเหล่านี้ไปแจกให้กับเด็กๆ ในสลัมของเมือง ได้ทั้งรอยสักได้ทั้งบุญแบบนี้มีผู้สนใจมากมาย เด็กในพื้นที่นี้มีจำนวนกว่า 500 คน และนี่คือเรื่องราวของช่างสักทั้ง 14 คนที่อุทิศเวลาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา… ชมวิดีโอกันได้ที่นี่ เรื่องดีๆ แบบนี้แหละที่ทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นล่ะ ^^ ที่มา: Aplus
-
คิดถึง…เจ้าหมาสุดอาลัยถึงเจ้านายผู้ล่วงลับ ล้มตัวลงนอนข้างหลุมศพทุกครั้งที่ไปเยี่ยม
เป็นเรื่องจริงที่ว่าหมานั้นรักเจ้านายมาก แต่ส่วนใหญ่แล้วเราจะพบเจอแต่เหตุการณ์ที่พวกมันจากเราไปก่อน เพราะเนื่องจากพวกมันอายุสั้นกว่ามนุษย์ น้อยครั้งมากที่เราจะได้เห็นมนุษย์จากไปก่อนสัตว์เลี้ยง แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วกลับน่าเศร้ายิ่งกว่าที่พวกมันจากไปเสียอีก เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นกำลังจะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้า Zozo สุนัขตัวหนึ่งในประเทศตุรกีที่ถูกรับมาเลี้ยงโดยชายชาวตุรกีคนหนึ่ง แต่แล้วเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นเมื่อเจ้านายของมันได้เสียชีวิตลงในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 ทำให้ทั้งครอบครัวรวมถึงเจ้า Zozo ตกอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก ภายหลังเจ้า Zozo ถูกส่งไปอยู่กับนาย Billow Ye ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้านายที่เพิ่งเสียชีวิตไป แต่ถึงจะผ่านเวลาไป 2 ปี มันก็ยังไม่เคยลืมเจ้านายคนแรกของมัน ในแต่ละวันนาย Billow กับเจ้า Zozo จะไปเยี่ยมหลุมฝังศพพ่อของเขา ทุกครั้งที่เจ้าหมาเห็นหลุมฝังศะเจ้านาย มันก็จะล้มตัวลงนอนและแสดงท่าทีสิ้นหวังและอาลัยถึงเจ้านายของมันเสมอ ด้านนาย Billow Ye เองบอกว่าเขาก็รู้สึกหัวใจแตกสลายทุกครั้งที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน พวกเขาคงมีสายสัมพันธ์บางอย่างมราตัดไม่ขาดจริงๆ เห็นแล้วก็พลอยเศร้าไปด้วย ที่มา heroviral
-
สตรองมาก!! สาวจีนใช้เวลา 17 ปี ในการตามล่าแก๊งคนร้ายที่ฆ่าสามีของเธอทีละคนๆ จนครบ
เวลาเราดูหนังที่ตัวละครหลักใช้เวลานานๆ ในการตามล่าคนร้ายหลายปีกว่าจะเจอ เช่น (Old Boy หรือหนังสืบสวนสอบสวนหลายๆ เรื่อง) เราอาจจะคิดว่ามันมีแค่ในหนัง แต่เรื่องที่ว่านั่นได้เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว!! เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณแม่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่สุดสตรองหลี กุ้ยอิง วัย 59 ปี ที่ถูกแก๊งเพื่อนบ้าน 5 คนรุมทำร้ายและฆ่าสามีของเธอไปเมื่อ 17 ปีก่อน เธอจึงสาบานกับตนเองว่าจะออกตามล่าแก๊งคนชั่วมาลงโทษให้จงได้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 หลี กุ้ยอิงมีอาชีพเป็นครูอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในมณฑลเหอหนานร่วมกับสามีฉี หยวนเตอ ถูกเพื่อนบ้านฉี เซวซาน กล่าวหาว่าพวกเขาเป็นคนเอาเรื่องที่เซวซานมีลูกเกิน 1 คน ไปฟ้องทางการ (จีนมีนโยบายให้มีลูกแค่คนเดียว) เซวซานเริ่มทำร้ายนางกุ้ยอิงด้วยก้อนอิฐก่อนที่จะเรียกพรรคพวกอีก 4 คนมาช่วยกระทืบสามีของเธอ ก่อนที่จะพยายามใช้ปังตอฟันนางกุ้ยอิงแต่เธอก็รอดมาได้และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสามีของเธอกลับไม่ได้โชคดีแบบเธอ เขาถูกแทงด้วยมีดจนเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คนก็หนีไปอย่างลอยนวล ต่อมาเมื่อนางกุ้ยอิงออกจากโรงพยาบาล เธอก็ปฏิญาณตนว่าจะตามหาคนร้ายให้ได้และจะขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับสามีของเธอ…
-
ตลกไม่ตลก!! สหรัฐฯ วุ่นหนัก พบคนแต่งชุดตัวตลกออกทำร้าย ปล้นทรัพย์ผู้คนยามค่ำคืน
ตัวตลก (Clown) ที่เรามักจะเห็นกันตามงานเทศกาลหรือสวยสนุกในต่างประเทศ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นตัวตลกผู้ให้ความสนุกสนาน แต่หน้าตาของมันก็ไม่ได้ทำให้เราอยากเข้าใกล้มันซะเลย และนอกจากจะไม่น่าเข้าใกล้แล้ว เครื่องแบบตัวตลกยังเป็นสิ่งที่ตำรวจในสหรัฐออกมาสั่งห้ามไม่ให้ใส่ด้วย เพราะเนื่องจากมีคนแต่งตัวแบบนี้เพื่อใช้ก่อเรื่องไม่ดีเข้าจนเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนจริงอันไหนเล่น เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของคุณ Keetapong Namwat GS ชาวไทยที่ไปศึกษาต่อในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนถึงชาวไทยที่อยู่ที่นั่นว่า ในขณะนี้ได้มีกลุ่มคนสวมใส่ชุดตัวตลกออกมาทำร้ายร่างกายผู้คนและชิงทรัพย์ในยามค่ำคืน ล่าสุดมีรายงานว่าโรงเรียนหลายแห่งในอเมริกาได้มีการสั่งห้ามไม่ให้ใส่ชุดตัวตลกกันแล้ว จึงมีการส่งต่อข่าวสารกันในหมู่ชาวไทยที่ไปเรียนต่อที่อเมริกาให้ตื่นตัวถึงเรื่องนี้ ว่าพยายามอย่ากลับบ้านดึก ใส่หูฟังเดิน หรือเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวในตอนกลางคืน ส่วนหนึ่งที่มีผู้คนแต่งตัวเป็นตัวตลกออกมาแกล้งผู้คนเพราะว่าวันที่ 31 ตุลาคม เป็นวันฮาโลวีน แต่ในบางแห่งจะเริ่มเล่นกันตั้งแต่ต้นเดือน ทำให้มีตัวตลกออกมาแกล้งผู้คนอยู่เรื่อยๆ แต่เนื่องจากมีผู้อาศัยจังหวะนี้ในการก่อเรื่องจึงไม่สามารถแยกได้ว่าคนไหนแกล้งและคนไหนทำจริงๆ หากชาวไทยคนไหนพบเจอหรือมีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแผนกฉุกเฉินได้ที่ +1 (866) 283-9090 หรือสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน แผนกฉุกเฉิน ได้ที่ +1 (202) 944-3600 หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกมากมายเข้ามากแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยหลายความเป็นเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นหรือได้ยินข่าวคราวของตัวตลกฆาตกรมาบ้าง Ruetat Wannarat “อินเดียน่าเกิดได้สักพักแล้ว รู้สึกกฎหมายรัฐจะอนุญาตให้ทำการป้องกันตัวเบื้องต้นจากบุคคลเหล่านี้” Rinrada Sriharuethai…
-
19 ผลงานประติมากรรมสุดแปลก ที่คุณจะได้สัมผัสถึงความหลอน และความน่ากลัว
เพราะจินตนาการของมนุษย์ เป็นสิ่งที่ไร้ขีดจำกัด ดังนั้น เมื่อเกิดจินตนาการ….มนุษย์ผู้เป็นศิลปิน ก็มักที่จะสร้างสรรค์ผลงานศิลปะขึ้นมาตามรูปแบบที่ตนเองต้องการ เหมือนดังเช่นผลงานประติมากรรม และรูปปั้นเหล่านี้ ที่คนดูธรรมดาๆ อย่างเราก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าบรรดาศิลปิน ได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหน ถึงได้ทำการสร้างผลงานประติมากรรมที่ทั้งแปลก และหลอนแบบนี้ขึ้นมา เห็นแล้วก็ขนลุกไม่น้อย รูปปั้นที่มีลักษณะเหมือนกับเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าตาย เมื่อได้เห็นรูปปั้นหัวขาดแบบนี้ในเวลากลางคืน อาจจะทำให้คุณรู้สึกขนลุกขึ้นมาได้ แม้จะเป็นรูปปั้นที่ดูแปลก แต่ขณะเดียวกันก็สวยงามไม่น้อย โครงกระดูกที่อยู่บนหลังคา ดูหลอน และน่ากลัว เหมือนมือของวิญญาณ ที่กำลังพยายามหลบหนี มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนตื่นกลัว โอ้วววว เล่นเอาขนลุกกันเลยทีเดียว เจอแบบนี้มีวิ่งแน่นอน รูปปั้นของเด็กที่ดูแปลกพิลึก เห็นที่ไหนขนลุกที่นั่นแน่นอน ดูลึกลับ และน่ากลัว ถ้าจะหลอนขนาดนี้ ทำเอาขนลุกขนพองเลย เป็นรูปปั้นที่น่าเกลียด และสยองมาก เมื่อซานตาผู้ใจดีของเด็กๆ มาอยู่ในสภาพแบบนี้ นึกสภาพไม่ออกเลยว่าหากเจอในที่มืดๆ ในตอนกลางคืนจะเป็นอย่างไร …
-
“What’s Your Excuse?” แคมเปญหุ่นฟิตของ ‘คุณแม่ลูก 3’ ยังสวยได้ไม่ขาดหน้าที่แม่
การเป็นแม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะนอกจากดูแลลูกแล้ว อาจจะต้องทำงานอย่างอื่นในเวลาเดียวกันด้วย ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่มีลูกแล้วส่วนใหญ่จึงไม่มีเวลาดูแลตัวเอง บางคนปล่อยให้ดูโทรมเลยก็มี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนเสมอไป Maria Kang วัย 32 ปี แม้จะมีลูกแล้วถึง 3 คน แต่เธอก็ยังฟิตร่างกายให้ดูเฟิร์มเหมือนสมัยสาวๆ ในขณะเดียวกัน ก็ทำหน้าที่แม่อย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง Maria ได้ภูมิใจนำเสนอหุ่นของเธอในชุดบิกินี่ พร้อมลูกๆ อีก 3 คน เพื่อสร้างแรงบันดาลให้กับผู้หญิงในการทำงานและการมีหุ่นเฟิร์ม Maria ในปี 2013 กับลูกชายทั้ง 3 คน ที่อายุ 3 ขวบ 2 ขวบ และ 8 เดือน ผู้หญิงที่มีลูกแล้วหลายคน มักจะไม่ดูแลตัวเอง และอ้างว่า เพราะต้องดูแลลูกจึงไม่มีเวลาให้กับตัวเอง แต่ Maria นั่นเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เธอจึงจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ถึงเป็นแม่แต่ก็หุ่นดีได้ สามปีต่อมา Maria ก็ได้โพสต์รูปตัวเองในชุดบิกินี่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีกระแสตอบรับมากขึ้น พร้อมได้รับการสนับสนุนจากแม่คนอื่นๆ ด้วย เธอจึงได้เผยวิธีการลดหุ่นในฉบับของเธอให้ผู้หญิงทั่วโลกภายใต้หัวข้อ “What’s Your Excuse?”…
-
สาวเตือนภัย ‘เซกส์ทอย’ หลุดเข้าไปในท้อง อย่าอายที่จะไปหาหมอ ก่อนจะสายเกินแก้
ปัจจุบันการมีเซกส์นั้น มีลูกเช่นที่มากขึ้น ไม่เพียงแต่สถานที่แปลกๆ เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงอุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มความสุข และแน่นอนว่า อุปกรณ์เหล่านี้อาจเป็นอันตรายได้ อย่างเช่น หากมันหลุดเข้าไปในท้อง Emma Phillips วัย 24 ปี จาก Merseyside ได้ใช้เซกส์ทอยในการร่วมรักกับสามี แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเซกส์ทอยหลุดเข้าไปในท้อง พวกเขาหาวิธีหาเอาออกแต่ก็ไม่ได้ผล จนต้องไปโรงพยาบาลให้หมอช่วย Emma เล่าให้ฟังว่า “เรามองไปรอบๆ เตียงเพื่อหาอุปกรณ์ในการเอาเซกส์ทอยออก แล้วเมื่อฉันโน้มตัว ฉันก็รู้สึกว่า มันสั่นๆ อยู่ในท้อง แล้วมันก็ค่อยไหลต่ำลงๆ จนฉันรู้สึกว่ามันติดอยู่ตรงก้น” Lee สามีของเธอจึงพยายาม หาอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเอาเซกส์ทอยออกมา เขาได้ใช้ส้อมเพื่อนำมาออกมา แต่ก็ไม่ได้ผล เขาบอกว่า “ผมสัมผัสโดนมันนะ แต่มันอยู่ลึกเกินไป” เขาเลยเปลี่ยนมาใช้ง่ามที่ใช้ปิ้งบาบีคิวแทน แต่หลังจากที่ลองมาเป็นชั่วก็ไม่สามารถเอาออกได้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปโรงพยาบาล Emma เผยว่า “คือนั้นเราดื่มกันทั้งคู่เลยขับรถไม่ได้ จึงต้องมาหาหมอตอน 7 โมงเช้า” เธอยังบอกอีกว่า “ตอนนั้นฉันแทบไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะกำลังอยู่ในอาการช็อคมากกว่า” คุณหมอได้ทำการเอ็กซ์เรย์ให้ ในขณะที่เซกส์ทอยนั้นยังคงสั่นอยู่ และพบว่า…
-
Capcom เปิดตัว ‘หมอนหนุ่มหล่อ Haruto’ พร้อมฟังก์ชั่นเปลื้องผ้าได้ เพิ่มความฟิน!!
ใครที่เป็นสาวโสด คงจะรู้ดีว่าการต้องอยู่คนเดียวนั้น มันเหงาแค่ไหน ดังนั้นหากได้คลั่งไคล้ดารา หรือตัวละครสักคน และเก็บไปเพ้อฝันก็คงไม่แปลก แต่ต่อไปนี้คุณจะได้เข้าใกล้ความฝันมากขึ้น… เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัท Capcom ได้เปิดตัว Incarcerated Palm ซึ่งเป็นเกมที่เอาใจสาวๆ ด้วยการให้ผู้เล่นได้สวมบทบาทผู้ให้คำปรึกแก่หนุ่มหล่อ Haruto ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีอาชญากรรม แต่ด้วยความหล่อของ Haruto นี่แหละ ทำให้ทางบริษัท Capcom ทำผลิตภัณฑ์ออกมาในรูปแบบหมอน Haruto huggy ที่มาคู่กับปลอกหมอนที่มีให้เลือกหลายลาย หมอนนี้ได้ออกแบบให้มีขนาดเท่าคนจริงๆ คือความสูง 180 เซนติเมตร ซึ่งออกแบบโดย Chisato Mita หมอนยาวขนาดนี้ จึงต้องใช้ปลอกหมอนถึง 2 ผืน แต่ขอเตือนว่า หมอนนี้ไม่ใช่หมอนธรรมดาที่ใช้นอนกอดเท่านั้นนะ เพราะถ้าเมื่อไรที่คุณถอดปลอกหมอนออก คุณอาจจะไม่ได้นอนเลยก็ได้ แน่นอนว่า ทันที่คุณถอดปลอกหมอนออก หมอน Haruto จะเหลือแค่กางเกงในเพียงตัวเท่านั้น เท่านี้สาวๆ ก็ได้เห็นเรือนร่างของหนุ่มหล่อในฝันแล้ว ตอนนี้คนในประเทศได้ญึ่ปุ่นสามารถสั่งซื้อได้แล้ว และทาง Capcom จะเปิดให้ช้อปออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 31 เดือนตุลาคมเป็นต้นไปที่เว็บไซต์ e-capcom ในราคา 8,400 บาท …
-
แอร๊ย!! ‘ชุดรัดรูป’ สำหรับสุนัข ไม่ได้มีดีแค่อวดหุ่น แต่ช่วยป้องกันขนกระจายด้วยนะ
แน่นอนว่า ใครที่เลี้ยงสุนัข บางทีเราก็อยากจับมันแต่งตัวหล่อๆ สวยๆ เราจึงสรรหาเสื้อผ้าแบบต่างๆ ให้มัน แต่บางทีเสื้อผ้าเหล่านั้น มักจะทำให้ขนของมันออกมาข้างนอก ดูแล้วไม่พอดียังไงไม่รู้ ล่าสุดได้มีการออกแบบเสื้อผ้าให้น้อง โดยไม่ต้องมีขนชึ้ฟูออกมาข้างนอกอีกต่อไป เพราะชุดที่ว่านี้ เป็นชุดรัดรูป ที่จะเข้ากัลรูปร่างของน้องหมาได้พอดี ไม่ว่าจะจะตัวใหญ่หรือตัวเล็ก แถมยังเบาบาง ใส่สบายด้วย ไอเดียนี้เป็นผลงานของ Tyson Walters ผู้ก่อตั้งบริษัท Shed Defender ซึ่งเป็นเจ้าหมาขนฟูที่มีชื่อว่า Harley ด้วย Walters มักจะเจอปัญหาเมื่อพาน้องหมาขึ้นรถ เขาจึงอยากแก้ไขปัญหาเหล่านี้ที่เกิดจากเสื้อผ้าของพวกมัน “เมื่อผมพา Harley มันมักจะสะบัดขนจนกระจายเต็มรถ ดังนั้นผมจึงอยากแก้ไขสิ่งนี้ เพื่อไม่ให้ขนของมันเต็มรถอีก ผมได้หาเสื้อผ้าตามร้านต่างๆ แต่ก็ไม่มีชุดไหนตอบโจทย์ได้เลย” นอกจากนี้ยังเสื้อผ้ารัดรูปของน้องหมานี้ ยังสามารถช่วยคนที่แพ้ขนหมาได้อีกด้วย เพราะมันจะทำให้ขนกระจายน้อยลง แต่ต้องเข้าใจว่า มันไม่ได้ป้องกันไม่ให้ขนหมาร่วง แต่เป็นการป้องกันไม่ให้ขนหมายกระจายในยามจำเป็นเท่านั้น Shed Defender บอกว่าชุดนี้ออกแบบให้ใส่ในเวลาสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นหลังจากถอดชุดแล้ว คุณต้องแปรงขนให้มันด้วย และไม่ต้องกลัวว่า ใส่ชุดนี้แล้วน้องหมาจะอึดอัด เพราะเป็นผ้าที่ถ่ายเทอากาศได้ดี และไม่ทำให้เกิดความร้อนมากเกินไปด้วย ที่สำคัญอย่างลืมรูดซิบให้มัน เพื่อใหัมันขับถ่ายด้วยล่ะ Walters บอกว่า…
-
เจ้าเหมียวน้อยถูกโยนออกมาจากรถ เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่คนใจดีไม่ยอมแพ้!!
เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยที่ถูกทิ้งไว้โยนทิ้งออกมาจากรถขณะที่กำลังขับมาด้วยความเร็ว และมันก็ถูกช่วยเหลือโดยหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอไม่ยอมแพ้ที่จะช่วยเหลือให้มันรอดชีวิต แม้สัตวแพทย์จะแนะนำให้ปล่อยมันตายก็ตาม… มารู้จักกับเจ้าเหมียว Blu “นี่คือเจ้าเหมียว Blu พวกเราช่วยมันขึ้นมาจากกลางถนนหลังจากที่มันถูกโยนลงมาจากรถขณะที่กำลังวิ่งอยู่ด้วยความเร็ว” คุณ ashleycarter88 สมาชิกของเว็บไซต์ imgur เล่า “หลังจากนั้นเราก็ให้อาหารและน้ำกับมัน เจ้าเหมียวน้อยก็รีบกินด้วยความหิวกระหาย แต่ดูเหมือนว่ามันจะกินไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เพราะมันถูกโยนลงมาจากรถขณะที่ใช้ความเร็ว ทำให้มันได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณคาง” เธอกล่าวเสริม เจ้าเหมียวตัวน้อยมีรูปร่างที่ผอมบางมาก แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ที่จะเอาชีวิตรอด “มันไม่เคยยอมแพ้ถึงแม้ว่าสัตวแพทย์จะบอกว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะช่วยเหลือเจ้าเหมียวตัวนี้ เพราะอาจจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก และอาการของมันก็หนักสุดๆ” แต่หญิงสาวผู้ใจดีก็ปฏิเสธที่จะยอมแพ้ “ใครจะไปยอมแพ้ และปล่อยให้เจ้าตัวน่ารักๆ พรรค์นี้ตายไปทั้งอย่างนี้กันล่ะ?” เธอกล่าว เธอคอยดูแลเจ้าเหมียวพร้อมกับให้ความรักเป็นอย่างดี และก็เหมือนว่าเจ้า Blu นั้นก็รับรู้ถึงความรักและความอบอุ่นที่มนุษย์มอบให้ มันก็เลยกอดเธอจนไม่ยอมปล่อยเลย “ขาซ้ายด้านหน้าของมันนั้นมีอาการหนักมากกระดูกแตกเป็นเสี่ยงๆ ทางสัตวแพทย์จึงต้องจำใจตัดทิ้ง เท่านั้นยังไม่พอฟันซี่บนที่หักนั้นเข้าไปทิ่มอยู่ในลิ้นของมันอีกด้วย ทำให้มันเดินเข้ามาที่ข้างฟุตบาทอย่างยากลำบาก” แต่ตอนนี้เจ้าตัวน้อยก็เริ่มที่จะฟื้นฟูตัวเองแล้ว มันมีความสุขอยู่ตลอดเวลาที่ได้รับความรักและความสนใจ แม้ว่าจะไม่มีขา แต่มันก็ยังร่าเริงและหายใจดังเป็นเสียงกรนตลอดเวลา ไม่กี่สัปดาห์หลังจากการผ่าตัด เจ้า Blu ก็เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับได้เพื่อนใหม่เป็นเจ้าหมาในบ้านหลังใหม่ที่แสนสุข 3 ปีผ่านไป…
-
หนุ่มมีติ่งเนื้องอกคล้ายหางตั้งแต่เกิด พ่อแม่เชื่อว่านำโชค แต่ทรมานจนต้องตัดออก!!
ตอนเด็กๆ หลายๆ คนคงเคยมีความฝันว่าอยากจะลองมีหางเหมือนกับสัตว์ดู มันคงจะน่ารักไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีหรอกนะ เอาล่ะเราลองไปชมเรื่องราวของเด็กหนุ่มผู้มีหางติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดกันเลยดีกว่า… หนุ่มอินเดียวัย 18 ปี ใช้ชีวิตมากับติ่งเนื้อที่งอกออกมาบริเวณหลังคล้ายกับหางยาวประมาณ 18 เซนติเมตรมาตลอดชั่วชีวิต เชื่อว่านี่เป็นติ่งเนื้อที่ยาวที่สุดที่เคยพบเห็นกันมาเลยทีเดียว ผู้ปกครองของเขานั้นพยายามที่จะซ่อนเจ้าหางนี้เอาไว้เพราะเชื่อว่ามันเป็นเหมือนเครื่องรางที่จะช่วยให้โชคดี แต่เมื่อช่วงวนที่ 29 เดือนกันยายน ที่ผ่านมา หนุ่มรายนี้ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลในเมือง Nagpur รัฐ Maharashtra ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศอินเดีย ก็เพราะว่าตรงส่วนที่เป็นหางน่ะมันเริ่มที่จะสร้างความเจ็บปวดให้กับเขาแล้ว และในที่สุดมันก็ถูกผ่าออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!! อาการเจ็บป่วยนี้ทางการแพทย์เรียกว่าเป็นอาการผิดปกติของการพัฒนาระบบประสาทและบีบอัดจนทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้อคล้ายหางออกมาที่บริเวณหลังของเขา จริงๆ แล้วถ้าตรวจพบตั้งแต่เด็กๆ ก็สามารถรักษาได้ตั้งแต่ตอนนั้นเลย แต่ในกรณีนี้ทางครอบครัวของเด็กหนุ่มนั้นปกปิดเอาไว้ไม่ให้คุณหมอและทางโรงพยาบาลรู้ คุณหมอ Pramod Giri หัวหน้าทีมแพทย์ที่ทำการผ่าตัดศัลยกรรม ที่โรงพยาบาลได้กล่าวว่า “มันเป็นเคสที่หาได้ยากมากๆ และพวกเราก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” “เขาถูกแอดมิทเข้าโรงพยาบาลในทันทีที่บอกว่ามีอาการเจ็บปวดที่บริเวณหลังอย่างรุนแรง ซึ่งมันสร้างปัญหาให้กับเขาในเวลานั่งและนอนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เด็กหนุ่มยังได้รับผลกระทบทางจิตใจอีกด้วย เพราะเจ้าติ่งเนื้อที่มีลักษณะคล้ายหางนั่นน่ะมันโตขึ้นในทุกๆ วัน เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องแอบซ่อนมันเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้” “พ่อแม่ของเขานั้นรู้เรื่องนี้มาตลอด แต่พวกเขาก็ปฏิเสธที่จะพาลูกชายไปหาหมอ เพราะคิดว่าเจ้าหางนั่นน่ะเป็นเครื่องรางที่จะให้โชคกับเด็กหนุ่ม” คุณหมอกล่าว …
-
พาไปรู้จัก ‘Chloe’ สาวเอวบางซูเปอร์สลิม ผู้ทุ่มเงินล้านกับศัลยกรรม กำจัดปมในวัยเด็ก
ผู้หญิงและความสวยงามเป็นของคู่กัน ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะนิสัยห้าว โหด ฮา หรือ ป่วง แค่ไหนเชื่อว่ายังไงลึกๆแล้วพวกเธอก็ต้องห่วงความสวยงามอยู่แหละหน่าาา เช่นเดียวกันกับ Chloe Munnings สาววัย 24 เธอคนนี้ก็รักสวยรักงามไม่แพ้กัน ก่อนหน้านี้เธอเคยถูกกลั่นแกล้ง และหยอกล้อในวัยเด็กเพราะว่าเธออ้วน แต่มาวันนี้เธอเลยทุ่มเงินล้านไปกับการศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนได้ชื่อว่าเป็นสาวเอวบางแบบ Super-Slim เธอทุ่มเงินไปแล้วมากถึง 27,000 ยูโร (ประมาณล้านบาท) ไปกับการยกระดับความงามทั้งเรือนร่างและใบหน้า แถมยังทำให้เธอมีแฟนคลับคอยติดตามบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพิ่มมาเป็นพันๆคน (เน็ตไอดอล) แต่ถึงกระนั้นเธอก็บอกว่าจะยังไม่หยุดศัลยกรรม จนกว่าเธอจะมีใบหน้าและรูปร่างแบบในฝันของเธอเอง “ฉันมีแบบไอเดียในอุดมคติอยู่ค่ะ ฉันอยากจะมีหน้าอกใหญ่ ริมฝีปากที่พอเหมาะ จมูกเรียวงาม และเอวบางๆ แต่ฉันก็ไม่ได้พยายามทำตัวเป็นผู้หญิงสวยไร้สมองนะ แค่ทำในสิ่งที่ต้องการโดยการใช้ศัลยกรรมแพทย์เท่านั้นเอง” แถมเธอยังเล่าอีกด้วยว่า ในช่วงที่เธอเป็นสาว เธอมักจะโดนล้อเรื่องน้ำหนักอยู่เสมอ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียด จนเธอเริ่มลดน้ำหนัก ยิ่งนานวันเข้า เธอกลับยิ่งรู้สึกว่าตัวเองดูจะสนใจ และใส่ใจในรูปร่างมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เธอเริ่มหันมาสนใจการทำศัลยกรรม “อันที่จริงมันก็เป็นเรื่องยากนะคะ สำหรับการลดน้ำหนักและทำศัลยกรรม ถึงแม้ว่าชีวิตฉันจะเปลี่ยนไปก็จริง แต่ฉันก็ต้องกังวลกับเรื่องใหม่อยู่ดี เพราะบ่อยครั้งมักจะมีคนอื่นๆมาวิจารณ์ฉันอยู่เสมอ” เธอกระชับสัดส่วนเอวด้วยการใส่…
-
ISIS กลับลำ สร้างภาพลักษณ์ด้านบวก หันมาผูกมิตรกับแมว เพื่อต้องการให้คนมาเข้าร่วมมากยิ่งขึ้น!!??
ในช่วงยุคสมัยนี้ถ้าจะพูดถึงเรื่องกลุ่มก่อการร้ายที่มาแรงสุดๆ คงหนีไม่พ้นกลุ่ม ‘ISIS’ ที่มักจะปล่อยภาพสื่อเชื้อเชิญให้คนไปเป็นทหาร และปล่อยวิดีโอการประหารชีวิตผู้ที่ขัดต่อหลักศาสนาในอุดมคติของพวกเขาทั้งหลาย แทบจะกลายเป็นข่าวร้ายต่อสมาพันธ์แมวทั่วโลกไปแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ทางผู้นำศาสนาของ ISIS ได้ประกาศ ‘ฟัตวา’ (คำชี้ขาดทางศาสนา) ว่าแมวเป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักศาสนา เพราะฉะนั้นจะต้องกำจัดทิ้งให้หมด!! และในช่วงเวลานั้นเอง ชาวบ้านทุกคนที่ยังคงอาศัยอยู่ในเขตการปกครองของ ISIS เมือง Caliphate ได้ถูกสั่งห้ามละเมิดกฏข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีรายงานมาว่า เหล่าทหาร ISIS ต่างออกค้นหาแมวเหมียวตัวน้อยในบ้านแต่ละหลัง เพียงเพราะพวกเขาเชื่อว่ามันขัดต่อหลักศาสนา ตามที่ผู้นำได้กล่าวไว้ สงสัยจะถึงคราวซวยของพวกเราแล้วเหมียวเอ๋ยยย แต่แล้วเมื่อไม่นานมานี้ ผลที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม!! แมวทั่วโลกต่างคิดว่า พี่น้องเหมียวที่อยู่ในแถบนั้นต้องตกอยู่ในอันตราย และกำลังถูกไล่ล่าอยู่แน่ๆ แต่แล้วจู่ๆก็กลายเป็นว่า เหล่าทหารนักรบของ ISIS พากันโพสต์ภาพตัวเองคู่กับแมวเหมียวตัวน้อยทั้งหลาย แถมในรูปพี่น้องแมวของเราก็ดูอ้วนท้วน สุขภาพสมบูรณ์ดีอีกด้วย หนึ่งในนักรบ ISIS สุดโหด กับภารกิจการดูแลแมวเหมียวของเค้า (สงสัยจะกลายเป็นทาสแมวกันไปแล้วแน่ๆ) ดูอย่างในรูปนี้สิ เพื่อนเหมียวตัวน้อยของเรานอนสบายใจเฉิบเลย ไว้ใจถึงขนาดที่ยอมปล่อยอาวุธคู่กาย ให้เหมียวดูแลแทน แต่ทั้งนี้ทาง…
-
กำเนิดทารกแฝดชาย 2 หัวในร่างเดียวกัน แต่พ่อแม่ไม่เชื่อฟังหมอ พาเด็กกลับบ้าน จนเสียชีวิต!!
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า หญิงชาวอินเดียวัย 20 ปีรายหนึ่งได้ให้กำเนิดทารกแฝดชาย ที่เกิดมามีภาวะผิดปกติ คือ มี 2 หัวในร่างเดียวกัน ด้วยความสามารถของแพทย์จากวิทยาลัยแพทย์ Jawaharlal Nehru เมืองอัจเมอร์ ในรัฐราชสถาน ที่ทำคลอดออกมาได้สำเร็จ ทำให้เด็กรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์ โดยเด็กแฝดมีอายุครรภ์ที่สมบูรณ์ และมีน้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม ทางด้าน Dr. Jaiprakash Narayan ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ ได้เผยว่า “ทารกเกิดมามีสุขภาพที่แข็งแรงดี แต่มีปัญหาในเรื่องการหายใจ” “และถึงแม้ว่าเด็กจะมีอวัยวะภายใน 2 ชุด แต่อวัยวะภายนอก นอกจากศีรษะ เช่น แขน และขาต้องใช้ร่วมกันทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่สามารถผ่าตัดแยกทั้งคู่ออกจากกันได้ แม้ในบางกรณีจะสามารถทำได้ แต่สำหรับกรณีนี้มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย” ด้วยเหตุนี้ ทางแพทย์จึงต้องให้เด็กอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดกับทางโรงพยาบาลก่อน แต่ทว่าผู้เป็นพ่อในวัย 24 ปี และแม่วัย…
-
‘Jaxson’ หมาแสนรู้ กลายเป็นฮีโร่ ด้วยการช่วยชีวิตเจ้าของ ให้รอดพ้นจากเหตุไฟไหม้
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมผู้คนถึงชอบเลี้ยงสุนัข เพราะนอกจากเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์แล้ว มันยังพร้อมที่ปกป้องเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เล็กน้อย หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่เกินความสามารถของมันก็ตาม Jaxson หมาปั๊กวัย 11 ปี จากเมืองเมอรีเดียน รัฐไอดาโฮ ได้แสดงให้เห็นถึงความภักดีของมัน หลังจากที่ได้ช่วยครอบครัวมนุษย์ให้รอดพ้นจากเหตุไฟไหม้บ้าน โฆษกของเมือง Meridian รัฐไอดาโฮ บอกว่า “เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมาเจ้า Jaxson สังเกตเห็นประกายไฟที่เต้าเสียบ มันจึงเริ่มเห่าด้วยน้ำเสียงที่ผิดปกติ เหมือนเป็นสัญญาณเตือน Todd Lavoie และ Mikaela Sebree ผู้เป็นเจ้าของของมัน” เมื่อได้ยินเสียงเห่าแปลกๆ ของมัน พวกเขาจึงรีบลงมาดู แล้วก็พบต้นตอที่ทำให้ Jaxson เห่าเช่นั้น ว่าแล้ว Lavoie จึงรีบไปสับคัตเอาท์ลง เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า และติดต่อหน่วยดับเพลิงให้มาดูทันที เพื่อให้แน่ใจว่าบ้านปลอดภัยแล้วจริงๆ เมื่อนักดับเพลิงมาเช็คดู เขาก็บอกว่า “ถ้าไม่ได้ Jaxson ช่วยเอาไว้ ป่านนี้ไฟคงจะลุกไหม้และสร้างความเสียหายมากมายแน่” และในเมื่อไม่นานนี้ Jaxson ก็ได้รับรางวัล ‘Hometown Hero Award’ หรือ รางวัลฮีโร่ของท้องถิ่น เพื่อเป็นเกียรติให้มันในฐานะที่เป็นสุนัขที่กล้าหาญ…
-
เสริมสร้างความรู้นอกตำรา นักเรียนร่วมกันสร้างบ้าน ให้กับสุนัขและแมว เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต
หลายคนมักพูดว่า การเรียนนั้น ควรให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วย เพื่อให้พวกเขาได้พัฒนาทักษะต่างๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะในตำราเท่านั้น ดั่งเช่นกลุ่มนักเรียนจากโรงเรียน Jacksonville กลุ่มนี้ ที่ได้เรียนรู้นอกตำรา และยังเกิดประโยชน์ต่อสังคมด้วย ที่สำคัญพวกเขาได้กลายเป็นฮีโร่ของเหล่าสุนัขและแมว เพราะได้สร้างบ้านให้กับพวกมันนั่นเอง ครู Barry Stewart ผู้สอนนักเรียนในวิชาการงานอาชีพ ได้เกิดไอเดียนี้เมื่อ 14 ปีที่แล้ว ขณะที่เขาสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน North Carolina และเขาก็ได้ยินเกี่ยวกับโครงการบริจาคบ้านให้คนเลี้ยงสัตว์ที่มีรายได้ต่ำ นี่คือนักเรียนที่สร้างบ้านแล้วเอาไปบริจาคให้กับสุนัขในที่พักพิง และแมวจรจัดด้วย ดังนั้น เพื่อให้ไอเดียนี้บรรลุผล เขาจึงได้นำมาสอนนักเรียนในคลาสของเขาด้วย โดยในแต่ละปีนั้น จะมีนักเรียนที่รักสัตว์ และพวกเขาก็พยายามที่จะช่วยสัตว์เหล่านั้น แม้จะเล็กน้อยก็ตาม แต่พวกเขาต้องการให้ทุกอย่างออกมาดี ดังนั้นจึงได้ทุ่มเทเวลาและใส่ใจในงานที่ทำเสมอ การทำบ้านให้กับสุนัขและแมว นักเรียนจะเรียนรู้ทักษะในการสร้างบ้านจริงๆ ด้วย แต่มันมีขนาดเล็กกว่าแค่นั้นเอง ที่สำคัญคือ พวกเขายังได้รู้ทักษะการแก้ปัญหา ทั้งยังช่วยกระตุ้นกระบวนการคิดด้วย หลังจากนั้น Stewart และนักเรียนของเขาก็ได้บริจาคบ้านให้สุนัขกว่า 600 หลัง และแมวอีก 100 หลัง นับว่าเขาได้ประสบความสำเร็จในการสอนนี้อย่างที่ตั้งใจไว้แล้วจริงๆ พวกเขาเป็นนักเรียนส่วนน้อยที่ใส่ใจและทุ่มเทให้กับสัตว์ แต่พวกเขาก็สามารถสร้างบ้านให้กับสุนัขมากกว่า 600 หลังและบ้านแมวอีก 100…
-
หนูน้อย ‘พิการขา’ ใฝ่ฝันอยากไป ‘ดิสนีย์เวิลด์’ องค์กรการกุศล ช่วยสานฝันเธอให้เป็นจริง!!
ทุกชีวิตไม่สามารถเลือกเกิดได้ ซึ่งถ้าหากเลือกได้ เราทุกคนคงอยากเกิดมาสมบูรณ์จะไม่มีอุปสรรคในการดำเนินชีวิต แต่สำหรับบางคนนั้นก็โชคร้ายที่เกิดมาพร้อมกับโรค หรือไม่ก็เกิดมาพร้อมกับความพิการ Emberlyn เกิดมาพร้อมโรค Caudal Regression Syndrome (CRS) ชนิดที่ 4 (ชนิดที่รุนแรงที่สุด มีศัพท์ทางการแพทย์ว่า T-12) ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่มีพัฒนาการของกระดูกสันหลังส่วนปลาย ทำให้มีความผิดปกติของเชิงกรานและขา Emberlyn ไม่มีกระดูกสะโพก และไม่มีกระเชิงกราน แม้จะเกิดมามีขา แต่ขาของเธอนั้นไม่สามารถใช้การได้เลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ขาของ Emberlyn กลายเป็นสิ่งที่อันตรายต่อสุขภาพ ทางด้านคุณแม่ Joanie เคยเห็นเด็กที่เป็นโรคเดียวกันนี้ มีการติดเชื้อที่ขาจนมีปัญหากับการเคลื่อนไหว ดังนั้นการตัดขาออก ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว แม้จะมีขาเทียมคอยรองรับ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Emberlyn เลย เพราะไม่รู้ว่าจะนำขาเทียมไปยึดกับส่วนไหนของร่างกายเธอ และนี่คือภาพหลังการผ่าตัดของ Emberlyn ผู้เป็นแม่บอว่า “ลูกสาวแค่อยากนอนแล้วก็นอน และฉันก็ไม่อยากอยู่ห่างจากเธอด้วย เมื่อไรที่เธอตื่นมา เธอก็จะเห็นฉันนอนอยู่ข้างๆ เพื่อให้เขาไม่ต้องหวาดกลัว” หกเดือนต่อมา Ellyna พี่สาวของ Emberlyn ก็ได้ฉลองวันเกิด 3 ขวบ ด้วยการพาเธอไปทานอาหารที่สนามเด็กเล่นของ McDonald ในเมืองลิงคอล์น รัฐเนบราสก้า…
-
งูเหลือมสองตัวบุกเข้ามาซัดกันนัวในบ้าน เจ้าของบ้านยืนถ่ายคลิปแบบชิลๆ ไม่กลัวไง๊!?
ต้องขอบอกเลยว่า ‘งู’ น่ะเป็นสัตว์ที่ไม่ว่าใครหลายๆ คนก็คงไม่อยากเจอ ยิ่งรู้ว่ามันเลื้อยเข้ามาในบ้านแล้วด้วยล่ะก็คงต้องรีบวิ่งไปหยิบโทรศัพท์เพื่อโทรแจ้งให้กู้ภัยมาจับตัวมันไป ยิ่งมาเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเลยล่ะ แต่ไม่ใช่กับครอบครัวนี้อย่างแน่นอน!! เพราะพวกเขาคิดว่าการมีงูเข้ามาในบ้านนั้นทำให้รู้สึกกว่าใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้นไปติดตามชมกันได้เลยจ้า… Fiona Sheen อาศัยอยู่ใน Noosa Heads เมือง Queensland ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการถ่ายคลิปเจ้างูเหลือมสองตัวกำลังปลุกปล้ำกันอย่างเมามันที่สระว่ายน้ำและลานปิ้งบาร์บีคิวในสวนหลังบ้านของเธอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “เจ้าตัวใหญ่ที่เห็นในคลิปนั้นได้มาวนเวียนอยู่แถวบ้านของเราเพื่อจีบงูสาวมานานหลายสัปดาห์แล้ว ส่วนเจ้าตัวเล็กในคลิปนั้นโผล่ออกมาเพื่อต่อสู้แย่งชิงสิทธิ์ในการจีบงูสาวด้วย” คุณ Sheen เล่า คุณ Sheen ได้ทำการถ่ายคลิปเจ้างูสองตัวกำลังต่อสู้กันอย่างเมามัน ถึง 7 คลิปด้วยกัน และผลก็คือเจ้างูตัวเล็กนั้นเป็นฝ่ายชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ และเจ้าตัวเล็กก็ไล่ตามจีบงูสาวต่อไป แต่เจ้าตัวใหญ่ได้หนีไปและไม่โผล่มาอีกเลย “ที่บ้านของเรานั้นมีเจ้างูเหลือมแวะมาเยี่ยมเยียนป้วนเปี้ยนที่บ้านอยู่บ่อยครั้งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยที่โผล่มาทีเดียวถึง 3 ตัว แถมยังมาเล่นละครฉากเด็ดแย่งผู้หญิงกันซะด้วย” คุณ Sheen เล่าแบบชิลๆ (ไม่กลัวเลยเหรอฟร๊ะ?) จากคลิปวิดีโอนั้นเจ้างูเหลือมตัวเล็กใช้วิธีการกัดเจ้าตัวใหญ่กว่า และนั่นเองก็เป็นเหตุผลที่ทำให้มันสามารถเอาชนะไปได้อย่างสบาย คุณ Sheen บอกว่าเธอมีความสุขมากๆ ที่มีงูอยู่ในสวนหลังบ้านของเธอ และก็จะไม่โทรหาเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาจับพวกมันออกไปด้วย…
-
มารู้จักกับ ‘Nano’ มิ้วน้อยที่มีขนาดตัวเล็กกว่าปกติ ถูกช่วยเหลือไว้และดูแลจนแข็งแรง!!
เรื่องราวการช่วยเหลือเจ้ามิ้วน้อยที่มีอายุเพียง 5 สัปดาห์ แต่ตัวของมันนั้นเล็กมาก โดยมีขนาดตัวเพียง 1 ในสามเมื่อเทียบกับพี่น้องที่คลานตามกันออกมา แต่มันก็ไม่ยอมแพ้พยายามต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด โดยมีแม่ของมันคอยช่วยอยู่ข้างๆ มารู้จักกับเจ้ามิ้วน้อยปาฏิหาริย์ชื่อว่า Nano ทีมช่วยเหลือจากองค์กร TinyKittens ที่ตั้งอยู่ในท่าเรือ Fort Langley รัฐ British Columbia ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียวจรจัดที่อยู่ในบริเวณนั้น และก็ได้พบว่ามีครอบครัวเหมียวครอบครัวหนึ่งที่ต้องได้รับการช่วยเหลือโดยด่วน แม่เหมียวและลูกๆ อีก 5 ตัวอาศัยอยู่ในบ้านไม้ร้างที่ใกล้จะผุพังลงมาเต็มที “เมื่อฉันเข้าไปใกล้ๆ เจ้าแม่เหมียวก็รีบวิ่งหนีไปหลบใต้ซากไม้ และตรงนั้นก็มีเจ้ามิ้วน้อย Nano กำลังนอนคลอเคลียกับมิ้วตัวอื่นๆ อยู่” หนึ่งในทีมช่วยเหลือกล่าว เจ้าแมวเหมียวตัวน้อยนั้นมีขนาดตัวที่เล็กกว่าพี่น้องตัวอื่นๆ ของมันมาก “มันมีน้ำหนักเพียง 0.15 กิโลกรัม ทั้งๆ ที่มีอายุ 5 สัปดาห์ ขณะที่พี่น้องอีก 4 ตัวของมันนั้นมีน้ำหนักถึง 0.65 กิโลกรัมเลยทีเดียว” เจ้ามิ้วน้อยตัวจิ๋วนี้มีหมัดอยู่เต็มตัว เท่านั้นไม่พอยังมีอาการเซื่องซึม โลหิตจาง ขาดน้ำ และ มีรูปร่างที่ผอมกระหร่อง แต่มันก็ยังมีชีวิตรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์…
-
งานศพในธีมซุเปอร์ฮีโร่ เพื่ออำลาหนูน้อยผู้เคราะห์ร้าย จากเหตุการณ์ระดมยิงในสหรัฐฯ
เมื่อไม่นานมานี้ เรามักจะได้เห็นข่าวเกิดเหตุรุนแรง หรือว่าการก่อจลาจลบางพื้นที่ในสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากปัญหาต่างๆ ก่อให้เกิดผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือเด็กชาย Jacob Hall หนุ่มน้อยวัย 6 ขวบ ผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ระดมยิงในโรงเรียนอนุบาล เมือง Townville รัฐเซาธ์ แคโรไลนา เขาเป็นหนึ่งในสามผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จนบาดแผลรุนแรงเกินกว่าเด็กชายคนหนึ่งจะรับไหว… หนุ่มน้อยผู้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และความสดใสแบบเด็กๆ ในช่วงเวลาที่เขายังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่ Jacob ชื่นชอบและสนใจมากที่สุดคือการ์ตูนซุเปอร์ฮีโร่ อาจเป็นเพราะว่าเขาเกิดมาพร้อมโรคหอบหืด และสายตาสั้น จึงทำให้เขาสนใจในเรื่องพลังวิเศษมากเป็นพิเศษ Rebecca Hunniicutt คุณป้าของหนุ่มน้อยได้เล่าว่า “เขามักจะเล่นเป็นซูเปอร์แมน และเวลาที่ใส่แว่นเขาจะสวมบทเป็น Clark Kent เขาเป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักสดใส ซุ่มซ่าม และมักจะมองว่าตัวเองเห่ยอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสนใจที่จะเป็นซูเปอร์ฮีโร่ต่อไป” ถึงแม้ว่าความใฝ่ฝันที่อยากจะได้เป็นซูเปอร์ฮีโร่ ของหนูน้อยจะไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่ในงานศพเรื่องราวดีๆก็เกิดขึ้น เมื่อทุกคนทั้งครอบครัว เพื่อน ชาวบ้านในละแวกนั้น ต่างร่วมใจกันแต่งตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เพื่ออำลาหนูน้อยเป็นครั้งสุดท้าย…. ถึงแม้ว่าการแต่งตัวมางานศพในครั้งนี้ ช่วยให้บรรยากาศของงานดูไม่เศร้าหมองเกินไป แต่ทุกคนต่างก็รู้สึกเสียใจกับโศกนาฏกรรมที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับเด็กผู้ชายตัวน้อยคนนี้ …
-
ช่างภาพชาวมาเลย์ เดินทางกว่า 5 พันกิโลฯ รวบรวมภาพถ่ายจากเกาหลีเหนือ ในมุมมองที่ต่างออกไป
ว่ากันว่าการได้ไปเยือนเกาหลีเหนือซักครั้งในชีวิต เป็นประสบการณ์ที่แตกต่าง เหมือนเป็นอะไรที่มากกว่าการท่องเที่ยว ได้ไปออกสำรวจในดินแดนต้องห้าม ที่ๆ เราไม่เคยได้รับรู้ข่าวสารใดๆ ของพวกเขามาก่อน เช่นเดียวกันกับ Reuben Teo ช่างภาพชาวมาเลเซีย เขาก็ไม่เคยได้รับรู้เรื่องราวใดๆ ของเกาหลีเหนือมาก่อน จนเขาตัดสินใจที่จะเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ ในการเดินทางไกลกว่า 5 พันกิโลเมตร และได้รวบรวมภาพถ่ายสถานที่สำคัญในเมืองเปียงยาง มาให้เราได้ชมกัน ในมุมมองที่แตกต่างออกไป เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกว่า ‘เกาหลีเหนือ’ เป็นอีกประเทศที่น่าลองไปเที่ยว (ย้ำว่าไปเที่ยว) มากๆ เลยเหมือนกันนะเนี่ย 1. ประตูชัยเปียงยาง เหมือนประตูอะไรซักของประเทศหนึ่งในยุโรป 2. อนุเสาวรีย์ Chollima 3. หอสมุดเปียงยาง 4. ลานน้ำพุ Hakdanggol 5. หอคอยชูเช อีกแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนี้เลย 6. วังสุริยะคึมซูซัน เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึง คิม จ็อง อิล และ คิม อิล…
-
พาไปรู้จัก ‘Junior’ หนูน้อยผู้เกิดมาพร้อม ผมยาวผิดปกติ เท่ไม่ซ้ำใครอีกด้วย!!
ทรงผมเป็นเรื่องสำคัญของคนที่ชอบดูแลตัวเอง เพราะทรงผมที่เข้ากับรูปหน้าเราได้ดี ย่อมทำให้เราดูดีตาม ไม่ว่าใครๆต่างก็ต้องหาแบบทรงผมที่เข้ากับรูปหน้าของตัวเอง แต่ไม่ใช่กับหนูน้อยคนนี้ เด็กทารกวัย 2 เดือน กับฉายา ‘Baby Bear’ ผู้เกิดมาพร้อมความผิดปกติกว่าเด็กทั่วไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใช้ชีวิตลำบากนะ แค่ทำให้มีผมยาวเกินวัยเท่านั้น!! แต่ความผิดปกตินี่เองที่ทำให้หนูน้อยดูน่ารักน่าชังซะยิ่งกว่าใครๆ ลูกชายตัวน้อยของคุณแม่ Chelsea Noon วัย 32 ปี ด้วยทรงผมของเด็กน้อยที่โก้เก๋ไม่เหมือนใคร เวลาไปไหนมาไหนกับคุณแม่ ก็มักจะมีชาวบ้านเข้ามาทักทายอยู่เสมอ “ตอนที่เขาเกิด เขาเกิดมาพร้อมกับเส้นผมจำนวนมาก ตอนแรกหลายๆคนบอกว่ามันจะค่อยๆร่วง และกลับเป็นปกติ แต่ที่ไหนได้ ผมของเขายาวและชี้ฟูขึ้นเรื่อยๆเลยค่ะ” Chelsea กล่าว และไม่ว่าใครที่ได้เห็นทรงผมของหนูน้อย ต่างก็เกิดอาการหันควับกลับมาดูเป็นรอบที่สองกันแทบจะทุกรายไป เพราะใครจะเชื่อละว่า เด็กน้อยวัย 2 เดือน จะมีทรงผมที่เฟี้ยวได้ซะขนาดนี้ ปกติแล้วก่อนหน้านี้คุณแม่ใช้เวลาไปกับการช็อปปิ้งซื้อของใช้เข้าบ้านประมาณ 1 ชั่วโมงต่ออาทิตย์เท่านั้น แต่หลังจากที่เธอพาลูกชายตัวน้อยไปด้วย กลายเป็นว่า การช็อปปิ้งแต่ละทียาวนานกว่าเดิม ใครก็ตามที่เจอหนูน้อยคนนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาทักทาย และลูบไล้เส้นผมของเขา ก็แหมหน้าตาช่างน่ารักยียวนกวนใจเหลือเกิน อีกทั้งเคสที่เกิดขึ้นกับหนูน้อย ดูเหมือนจะเป็นเคสที่หายากมากๆ เพราะแม้แต่คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินารี ก็ไม่เคยเจอเคสนี้มาก่อนเช่นกัน …
-
แบบนี้ก็ได้หรา!? ร้านขายอัญมณีในจีน ผุดไอเดียการตลาด ให้พนักงานสาวเปลื้องผ้าขาย
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นโปรโมชั่นดีๆจากร้านค้าต่างๆ ทำออกมาเพื่อยั่วยวนกิเลศของเราให้เค้าไปจับจ่ายใช้เงินกันอย่างสนุกสนาน กว่าจะรู้ตัวอีกทีกระเป๋าก็แบนไปซะแล้ว เรื่องของการตลาด และการขาย เป็นของคู่กัน เช่นเดียวกับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ในจีน ร้านค้าต่างต้องขยันออกโปรโมชั่นใหม่ๆเพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าอยู่เสมอ แต่สำหรับร้านขายอัญมณีแห่งนี้ ไอเดียการตลาดของแกล้ำ (หรือร่วง) กว่านั้นมาก เพราะหลักการขายคือการทำให้คนสนใจ พี่แกเลยจัดการให้พนักงานสาวเปลื้องผ้าขายของซะเลย แบบนี้ไม่สนใจกันก็ให้มันรู้ไป!!! อื้อหืออ!!! ให้มันรู้กันไปเลยว่าวิธีนี้จะทำให้ขายดีรึเปล่า วิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายโดยชาวเมืองคนหนึ่ง ก่อนที่จะนำมาโพสต์ลงในโลกอินเตอร์เน็ต เป็นภาพของหญิงสาว(พนักงาน) ยืนอยู่หลังตู้โชว์เครื่องประดับต่างๆ พร้อมกับไม่ใส่เสื้อผ้า แต่โชคดีหน่อยตรงที่ยังมีสติ๊กเกอร์รูปเพชรมาแปะไว้บนหัวนม ไม่อย่างนั้นละมีหวังเลือดกำเดาชายจีนได้พุ่งกันเป็นแถบ ดูอีกภาพให้เห็นกันชัดๆ ไม่ได้ลามกนะ แค่อยากให้เห็นภาพข่าวเฉยๆ (บอกว่าไม่ได้ลามกจริงๆไงล่ะ) หลังจากที่วิดีโอกลายเป็นที่โด่งดังในประเทศจีน ทางสำนักข่าวของจีนก็ได้สืบทราบมาว่า ร้านอัญมณีแห่งนี้ อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ‘Lukfook Jewellery’ ร้านค้าอัญมณีชื่อดังที่มีสาขาตามเมืองต่างๆทั่วประเทศจีน ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่ร้านใช้วิธีการตลาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2013 Oriental Daily ได้รายงานว่า ร้านค้าชื่อดังเคยใช้สาวเปลื้องผ้า พร้อมกับเพ้นท์ร่างกาย ในการประชาสัมพันธ์มาแล้ว เราไปดูคลิปเต็มๆกันบ้างดีกว่า…. งานนี้ก็เล่นเอาชาวเน็ตหลายๆคนบ้างก็ไม่พอใจ บ้างก็รู้สึกดี (โดยเฉพาะหนุ่มๆ) บ้างก็อดแซวไม่ได้ว่า สงสัยร้านจะขายไม่ได้จนไม่มีงบซื้อชุดให้พนักงานใส่…
-
หนุ่มออสเตรเลียโพสต์เล่าเรื่อง ‘หมาปั๊กหาย’ ได้กลับมาเป็นหมาของคนอื่น แถมฮาซะอีก!!
ใครที่เลี้ยงหมาอยู่ คงเคยมีประสบการณ์ทำหมาหายบ้าง และสิ่งที่เราหวังไว้คือ อยากให้มันกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย และที่สำคัญคือ อยากได้สุนัขตัวเดิมของคุณ ไม่ใช่สุนัขที่มีลักษณะเหมือน หรือสุนัขตัวอื่นๆ เพื่อมาแทนหมาของเรา เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Luke Neville ได้ทำหมาปั๊กที่ชื่อว่า Bella หายไป เขาและน้องชายจึงได้ออกตามหา พร้อมทั้งโพสต์ภาพ Bella ลงในเฟซบุ๊คด้วย Luke อาศัยอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ในเมือง Culburra ทั้งเขา น้องชาย รวมทั้ง Bella เพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ปีเดียวเท่านั้น Luke ได้บอกว่า “วันนั้นเราทานข้าวกันหน้าบ้าน และเปิดประตูไว้ Bella น่าจะวิ่งออกจากบ้านตอนนั้นแหละฮะ หลังจากนั้น เราออกตามหามัน” ความฮามันเริ่มจากตรงนี้ และไม่นานหลังจากนั้น… เมื่อเพื่อนของเขาเห็นการประกาศตามหาเจ้าของของหมาปั๊กตัวหนึ่ง เขาได้ติดต่อไปยังคนลงประกาศ และเมื่อแน่ใจว่าเป็น Bella เขาจึงตัดสินใจไปรับมันกลับบ้านของ Luke ทันที โดยที่เจ้าของไม่ทันได้ไปดูด้วย แต่ปรากฏว่า มันดันไม่ใช่ Bella ซะงั้น… Luke จึงได้ประกาศตามหาเจ้าของหมาปั๊กตัวนี้ ในระหว่างนี้ก็ให้มันอยู่ที่บ้านของตัวเอง พร้อมตั้งชื่อให้มันว่า Not-Bella แต่เขาก็ยังคงตามหา Bella ต่อไปด้วย ต่อมามีคนในพื้นที่ได้ติดต่อมายัง Luke และบอกว่า มีหมาที่ลักษณะเหมือน Bella และคนนั้นเองก็ทำหมาปั๊กหายเช่นกัน และกำลังตามหาอยู่ เขาจึงมั่นใจว่า เจ้าปั๊กที่อยู่กับเขาตอนนี้ ต้องเป็นของคนนั้นแน่ๆ…
-
โรงพยาบาลยอมให้คู่รักจัด ‘งานแต่งงาน’ ภายในห้องคนไข้ เพื่อใกล้ชิดคุณพ่อป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
สำหรับผู้หญิงทุกคน ‘การแต่งงาน’ ถือว่าเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ช่วงเวลาที่พวกเธอจะได้เป็นเจ้าหญิงคนสำคัญของงาน พร้อมกับการประกาศคำมั่นสัญญาความรักที่จะมีให้กันอย่างนิรันดร์ กับเจ้าบ่าวในฝันของเธอ และด้วยความที่มันเป็นวันสำคัญครั้งเดียวในชีวิต สถานที่ เสื้อผ้า ภาพถ่าย และการจัดงานต่างๆจะต้องออกมาเป๊ะและปังมากที่สุด เพื่อเก็บเป็นภาพความทรงจำดีๆครั้งหนึ่งในชีวิต เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าสาว Lisa Wilson ลูกสาวคนสวยเพียงคนเดียวของคุณพ่อ David ก่อนหน้านี้เธอมีแพลนที่จะจัดงานแต่งงานอย่างสมเกียรติเพื่อตัวเองและครอบครัว แต่แล้วสิ่งที่หลายคนไม่อยากให้เกิดก็ต้องเกิดขึ้น เมื่อคุณพ่อล้มป่วยลง และดูเหมือนว่าอาการของเขาจะแย่ลงเรื่อยๆ จนตรวจพบว่าเข้าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย คุณพ่อผู้ถูกมะเร็งเล่นงาน ต้องนอนเฝ้ารักษาอาการอยู่ที่โรงพยาบาล แต่หัวใจของเขากลับหวนคำนึงคิดถึงวันแต่งงานของลูกสาวที่จะจัดขึ้นในไม่ช้า Lisa ลูกสาวเพียงคนเดียวของครอบครัว เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนแผนงานแต่งทั้งหมด และย้ายมาจัดเป็นงานเล็กๆในโรงพยาบาลแทน เพราะงานแต่งของเธอคงไม่มีค่าใดๆ หากไม่มีพ่อสุดที่รักของเธอร่วมงานอยูด้วย… หลังจากที่ทั้งคู่ได้ให้คำมั่นสัญญาต่อกันและกันแล้ว ว่าจะรักและอยู่ดูแลเคียงข้างกันไปตลอด ทั้งคู่ก็เริ่มงานฉลองเล็กๆน้อยๆ ด้วยการเต้นรำกับคุณพ่อ ซึ่งนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้มีช่วงเวลาครั้งสำคัญของชีวิต ร่วมกับ ‘พ่อ’ ชายผู้เป็นทุกอย่างของชีวิต และอยู่เคียงข้างเธอมาเสมอ เราไปชมคลิปวิดีโองานแต่งงานครั้งนี้กัน ช่างเป็นงานแต่งงานที่ซึ้งและกินใจสุดๆ เล่นเอา #เหมียวบ็อบ น้ำตาซึม ชวนให้คิดถึงหัวอกคนเป็นพ่อ คงไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่และสำคัญไปกว่าวันแต่งงานของลูกสาว วันที่คุณพ่อจะได้เดินจับมือส่งลูกสาวสู่ประตูวิวาห์ ก่อนที่เธอจะได้ออกไปใช้ชีวิตคู่…