ถ้าจะพูดถึงปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดล่ะก็ คงจะเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในเกือบทุกๆ ประเทศ และหนึ่งในประเทศที่เจอทั้งปัญหายาเสพติดและอาชญากรรมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ก็คือประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานี่แหละ
ประธานาธิบดีคนล่าสุดอย่าง Rodrigo Duterte (โรดริโก ดูเตร์เต) จึงสามารถขึ้นสู่ตำแหน่งได้ด้วยนโยบายที่เน้นในด้านการปราบปรามยาเสพติด แต่มาถึงตอนนี้ที่เขาดำรงตำแหน่งมา 100 วันพอดี มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3,700 คน ถ้านับกันเล่นๆ ก็วันละ 37 คนเลยล่ะ!!?
นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้ถูกจับกุมเพราะอาจมีส่วนเกี่ยวข้องอีกกว่า 26,000 ราย ทำเอาเหล่าพ่อค้ายาต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดผวา
Rodrigo Duterte (โรดริโก ดูเตร์เต)

แน่นอนว่านโยบายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เพราะนโยบายของเขาไม่ใช่ว่ามีแต่ด้านดี ปัญหาการฆาตกรรมและความรุนแรงของการปราบปราม รวมถึงการตัดตอนหรือความขัดแย้งส่วนบุคคล แต่ถูกทำให้เป็นคดียาเสพติดก็มีเช่นกัน
แต่ก็ดูเหมือนว่าเขายังไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าใดนัก เพราะยังคงมีเสียงสนับสนุนจากสังคม จากผู้คน และจากตัวของเขาเองให้นโยบายนี้ดำเนินต่อไป
และถึงแม้จะได้รับการต่อต้านจาทั้ง EU, สหรัฐฯ, โบสถ์คริสเตียน และรวมถึง UN

ผลสำรวจบางแห่งก็พบว่าตอนนี้เขายังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชนในประเทศ ราวๆ 8/10 เลยทีเดียว

โรดริโก ดูเตร์เตขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีด้วยนโยบายกำปั้นเหล็กในการจัดการกับขบวนการยาเสพติด

เพราะเขาเชื่อว่ามีประชากรของประเทศราวๆ 3.7 ล้านคนกำลังติดยาอย่างงอมแงม ซึ่งในภาษาท้องถิ่นเรียกกันว่า ‘Shabu’ หรือ ชาบู

นอกจากนี้ก็ยังขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปให้ร่วมช่วยตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยด้วย ซึ่งถ้ามีการพยายามที่จะขัดขืนล่ะก็ สามารถ ‘สังหาร’ ได้ทันที!!

นอกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนแล้ว ยังมีการว่าจ้างมือสังหารเพื่อเข้าถึงตัวและสังหารผู้ค้ายารายใหญ่อีกด้วย (ส่วนมากเป็นผู้หญิง เพราะสามารถเข้าถึงตัวได้ดีกว่าผู้ชาย)

ถึงแ้ว่านโยบายจะทรงประสิทธิภาพ แต่ก็มีข่าวคราวเกี่ยวกับการโดนลูกหลงเช่นกัน กรณีหนึ่งก็มีสาวน้อยวัย 5 ขวบที่เสียชีวิต หลังมีคนกราดยิงพ่อและปู่ของเธอที่ใช้สารเสพติด

ด้วยความกลัวที่จะถูกวิสามัญทั้งจากทางภาครัฐและประชาชน มีพ่อค้ายาหลายรายเลยทีเดียวที่เข้ามาให้ความร่วมมือกับตำรวจแต่โดยดี

มีคนนำเขาไปเปรียบเทียบกับฮิตเลอร์ ที่สังหารหมู่ชาวยิวไปกว่า 3 ล้านรายกับกรณีนองเลือดของเขา

‘ฮิตเลอร์สังหารหมู่ชาวยิวกว่า 3 ล้านราย ตอนนี้มีคนติดยาในประเทศอยู่กว่า 3.7 ล้านราย ผมยินดีกำจัดพวกเขาทั้งหมดนะ’ โรดริโก ดูเตร์เตให้สัมภาษณ์

‘อย่างน้อยเยอรมนียังมีฮิตเลอร์ใช่มั้ยล่ะ ส่วนฟิลิปปินส์ก็คงจะเป็น…’ เขากล่าวพร้อมชี้นิ้วไปที่ตัวเอง

ภาพการถูกจับกุม

และภาพการถูกสังหาร

ตอนนี้เป็นภาพที่สามารถเห็นได้ทั่วไปในประเทศฟิลิปปินส์

และถึงจะได้รับแรงกดดันจากนานาประเทศ รวมถึงผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่างสหรัฐฯ โรดริโก ดูเตร์เต ก็ยังประกาศกร้าวที่จะดำเนินนโยบายนองเลือดแต่ทรงประสิทธิภาพนี้ต่อไป

ถึงขั้นบอกให้ประเทศและองค์กรต่างๆ ที่มายุ่มย่ามเรื่องในประเทศของเขาว่า ‘ไปตายซะ’ เลยทีเดียว!!

และนี่ก็คือเรื่องราวของสถานการณ์ในประเทศฟิลิปปินส์ตอนนี้…

ที่มา: Dailymail

Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.