Author:
-
ผลกระทบจากสงคราม สวนสัตว์กาซ่าขาดการดูแลและไม่มีอาหาร จนสัตว์ป่าต้องอดตาย
ภาพของเหล่าสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่อยู่ในสภาพมัมมี่ในสวนสัตว์ Khan Younis zoo ในพื้นที่ฉนวนกาซ่า ได้เผยให้เห็นการจากไปอย่างน่าอนาถใจของพวกมัน ซึ่งการสูญเสียครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในผลพวงของสงครามระหว่างรัฐปาเลสไตน์และประเทศอิสราเอลนั่นเอง ย้อนกลับไปในปี 2007 นาย Mohammed Awaida ได้ลงทุนกว่าหลายล้านเหรียญในการเปิดสวนสัตว์แห่งนี้ แต่หลังจากนั้นเพียง 1 ปี เม็ดเงินที่เขาลงทุนไปก็กลับสูญสลายไปอย่างน่าเสียดาย ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ของการโจมตีรัฐบาล Hamas ของอิสราเอล Awadida เล่าว่าเขาไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่สวนสัตว์ของตัวเองได้เลย และนั่นจึงเป็นเหตุให้พวกมันต้องอดตายอย่างน่าเศร้า และนอกจากนี้ในปี 2014 ประวัติศาสตร์ก็กลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง หลังจากที่เกิดการสู้รบกันในฉนวนกาซ่า ซึ่งเป็นเหตุให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากถึง 1,960 คน และสัตว์กว่า 80 ตัวของสวนสัตว์ Al-Bisan zoo ในพื้นที่ Beit Lahia ต้องตายไป แต่เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของที่นี่ และไม่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์ในพื้นที่นี้ ทำให้สวนสัตว์ Khan Younis zoo นั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด ภาพถ่ายเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เผยให้เห็นซากของพวกสัตว์ที่ตายหลังจากการเกิดสงคราม ซากเสือ ลิง และกระดูกของพวกสัตว์ป่าอื่นๆ ที่อยู่ภายในสวนสัตว์แห่งนี้ . หลังจากที่สงครามสงบลง Awaida ได้เริ่มใช้ทักษะในการสตาฟสัตว์ของเขา เพื่อเก็บรักษาร่างของพวกสัตว์ที่ตายระหว่างช่วงสงครามเอาไว้ ซึ่งซากสัตว์เหล่านั้นก็ได้แก่…
-
20 ความรู้สึกที่คน “จัดฟัน” ต้องเคยเจอ กว่าจะได้ฟันสวยแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ!!
การจัดฟันนั้นนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากสำหรับบางคนแล้ว หลายๆ คนที่อยากจะมีฟันที่เรียงตัวสวยและรอยยิ้มที่กระชากใจก็มักจะเลือกใช้วิธีนี้เพื่อเสริมบุคลิกเช่นกัน แต่สำหรับใครที่เคยดัดฟันมาแล้วคงจะทราบกันเป็นอย่างดีว่า กว่าที่จะได้ฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเหมือนกับเม็ดข้าวโพดเจียไต๋นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย และคุณเองก็อาจจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้… 1. เริ่มจากขั้นตอนแรก คุณจะต้องเจอเจ้าแม่พิมพ์ฟัน กับรสชาติและกลิ่นที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี 2. ตอนที่เริ่มพิมพ์ฟันล่ะก็ อือหือนี่มันคือ 45 วินาทีที่สุดแสนจะทรมานชัดๆ 3. และปัญหาต่อมาของคุณก็คือการเลือกสีของที่ดึงฟันนี่แหละ อืม… กว่าจะหาสีที่มันเข้ากับเราไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมล่ะ 4. ส่วนขั้นตอนในการเริ่มดัดครั้งแรกนั้นก็ช่างยาวนานซะเหลือเกิ๊น!! ไหนจะเอ็กซ์เรย์ฟันเอย ขูดหินปูนเอย และหนักสุดก็คงจะเป็นการถอนฟันกรามนี่แหละ!! 5. ตอนอยู่ในช่วงใส่เหล็กดัดฟัน การจะกัดอะไรให้ขาดในครั้งเดียวนั้นช่างเป็นเรื่องยากซะจริงจริ๊ง 6. คุณจะเข้าใจความเจ็บปวดที่แท้จริงก็ตอนใส่ที่ดึงฟันนี่แหละ 7. หลังจากที่จัดฟันเสร็จใหม่ๆ รอยยิ้มของคุณก็อาจจะมีลักษณะแบบนี้ 8. และนี่คือสิ่งที่คุณเห็นกับความรู้สึกจริงๆ ของคุณ!! 9. แต่ตอนที่ได้ตกแต่งเหล็กดัดฟันของคุณ มันช่างเป็นอะไรที่สนุกจริงๆ เลยว่าไหม?? 10. พนันได้เลยว่าในหนึ่งวันคุณจะต้องถูกเหล็กดัดฟันเกี่ยวอย่างน้อย 2 ครั้งแน่ๆ …
-
15 ภาพวาดบอกเล่าความเป็นไปของโลกปัจจุบัน จากฝีมือศิลปินชาวสวิตเซอร์แลนด์
“ภาพหนึ่งภาพอาจจะแทนความหมายได้นับล้านคำ” หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินประโยคนี้กันมาบ้างแน่ๆ ซึ่งนอกจากการใช้ภาพเพื่อสื่อความหมายต่างๆ แล้ว บางครั้งภาพภาพเดียวกันนั้นก็อาจจะตีความหมายได้แตกต่างกันด้วยก็ได้ และวันนี้เราก็มีภาพศิลปะของคุณ Stephan Schmitz ศิลปินชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพที่มีความหมายอันลึกซึ้งและสื่อความหมายถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกของเราได้ออกมาอย่างดีเยี่ยม ซึ่งผลงานแต่ละภาพของเขาจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. บางครั้งการใช้รถใช้ถนนก็อาจจต้องควบคุมอารมณ์กันบ้างนะ 2. ถึงแม้ว่าจะมีคนรอบข้างมากมาย แต่บางครั้งเราก็รู้สึกโดดเดี่ยว 3. ในยุคปัจจุบัน คุณสามารถเลือกดูรายการโปรดของคุณอยู่ที่บ้านได้ง่ายๆ 4. ความโดดเดี่ยวในเมืองใหญ่ 5. ปัญญาประดิษฐ์ อาจจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราอีกต่อไป 6. หลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง ด้วยการหันหน้าเข้าหาธรรมชาติ 7. โลกจะสวยงามได้และน่าอยู่ได้ ถ้าหากทุกคนไม่หวังแต่กอบโกย 8. สิ่งที่อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ตนั้นน่ากลัวกว่าที่คุณคิด 9. มีบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ใต้ความสุขของผู้หญิงคนนี้ 10. ครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ และความโดดเดี่ยวที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน 11. บางทีเธอก็อาจจะอยากได้สามีของเธอคืนมาจากสงคราม 12. ชีวิตอาจจะมีปัญหาถ้าขาดเงิน …
-
Sheana น้องหมาแสนเศร้า ที่ถูกส่งตัวกลับมายังสถานสงเคราะห์ที่เดิมถึง 11 ครั้ง
นี่คือเรื่องราวของเจ้า Sheana น้องหมาแสนเศร้าที่ต้องถูกส่งตัวกลับมายังสถานสงเคราะห์สัตว์ที่เดิมถึง 11 ครั้ง เริ่มตั้งแต่มันถูกส่งตัวเข้ามาอยู่ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Hempstead Town Animal Shelter ในรัฐนิวยอร์ก เมื่อปี 2014 Sheana นั้นเป็นหมาน้อยที่น่าสงสารมาก ในตอนที่ถูกพามายังสถานสงเคราะห์แห่งนี้ เนื้อตัวของมันเต็มไปด้วยบาดแผล และร่องรอยของการถูกทำร้าย โดยคนที่พามันมาส่งนั้นบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าร่องรอยเหล่านั้นเกิดจากการทำร้ายโดยมนุษย์ และก็เหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไปที่ถูกย้ายมายังบ้านหลังใหม่ เจ้า Sheana นั้นมีปัญหาในการปรับตัว แต่หลังจากนั้นไม่นานมันก็ยอมที่จะเข้ามาอยู่ในกรง และทำให้เจ้าหน้าที่สามารถดูแลมันได้อย่างใกล้ชิด เพื่อรอคอยให้มันได้พบกับครอบครัวใหม่ในเร็ววัน แต่สุดท้ายความหวังที่จะได้ออกจากสถานสงเคราะห์ของเจ้าตูบก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ มันถูกส่งตัวกลับมาที่นี่ครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งมากถึง 11 ครั้งเลยทีเดียว พาผมไปอยู่บ้านด้วยนะครับ “พวกเราช่วยกันฝึกและดูแลมันเพื่อเตรียมร้อมสำหรับออกไปสู่บ้านหลังใหม่ แต่มันก็ถูกส่งตัวกลับมาหลังจากที่ออกไปเพราะไม่มีบ้านหลังไหนเลยที่เหมาะกับมัน Sheana เป็นสุนัขที่น่ารักและฉันคิดว่ามันเป็นเพื่อนที่ดีได้” คุณ Melissa เจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์กล่าว ครอบครัวแรกที่รับเจ้าตูบไปเลี้ยงนั้น จำเป็นต้องส่งมันกลับมาเพราะ Sheana ได้เข้าไปรื้ออาหารในตู้เย็นที่พวกเขากำลังเตรียมสำหรับทำบาร์บีคิวเสียหาย ส่วนครอบครัวที่สองนั้นพวกเขากำลังวางแผนจะไปเที่ยว ซึ่งไม่สามารถนำมันไปด้วยได้จึงได้ส่งตัวมันกลับมา ถึงแม้จะซนไปบ้าง แต่เจ้า Sheana นั้นก็น่ารักและเป็นเพื่อนที่แสนดีไม่แพ้กับสุนัขตัวอื่นๆ เลย . เจ้า Sheana นั้นก็เหมือนกับสุนัขทั่วๆ…
-
ชาวสวนอึ้ง!! เห็นแอปเปิ้ลนับหมื่นลูกหล่นเกลื่อนกลาด หลังจากถูกพายุเฮอร์ริเคนถล่ม
ถึงแม้ว่าพายุนั้นจะสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและทำลายพืชผลทางการเกษตรอย่างมาก เพราะหลังจากที่พายุจากไปนั้นมักจะทิ้งไว้เพียงแค่ซากของพืชผลต่างๆ แต่ภาพของผลแอปเปิ้ลนับหมื่นลูกที่ร่วงลงในสวนผลไม้แห่งหนึ่งของเมืองทิปเปอร์แรรี ประเทศไอซ์แลนด์ หลังจากที่ถูกพายุเฮอร์ริเคน Ophelia กลับดูแตกต่างจากภาพหลังจากการพัดถล่มของพายุทั่วๆ ไป เพราะพื้นที่ส่วนมากของสวนแห่งนี้เต็มไปด้วยสีเหลืองและสีแดงของลูกแอปเปิ้ลดูสวยงามและน่าทึ่งอย่างมาก และนี่คือภาพของสวนแห่งนี้หลังจากที่ถูกพายุพัดถล่ม พายุเฮอร์ริเคน Ophelia นั้นได้พัดเขาถล่มพื้นที่การเกษตรหลายพื้นที่ และหลังจากที่มันจากไป เกษตกรเจ้าของไร่แอปเปิ้ลแห่งนี้ก็ต้องถึงกับตกใจมาก หลังจากที่เขาได้เห็นลูกแอปเปิ้ลที่ร่วงลงมานั้นเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ แอปเปิ้ลเหล่านี้กำลังจะถูกเตรียมไว้สำหรับจำหน่ายให้กับบริษัท C&C Group เพื่อใช้ในการผลิตน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ยี่ห้อ Bulmers Irish cider ซึ่งตอนนี้ทางบริษัทเองกำลังหารือกับเกษตกรเพื่อหาทางจัดการกับแอปเปิ้ลที่ร่วงเหล่านี้ “พวกเรากำลังร่วมมือกับเกษตรกรเพื่อให้แน่ใจว่าแอปเปิ้ลเหล่านี้มีคุณภาพเพียงพอและเหมาะสำหรับนำไปผลิตสินค้าของเรา” ตัวแทนจากบริษัท C&C กล่าว และนี่คือภาพมุมสูงของสวนแอปเปิ้ลแห่งนี้ พายุเฮอร์ริเคน Ophelia นั้นมีความเร็วลมมากกว่า 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันได้เข้าทำความเสียหายในหลายๆ พื้นที่ของเกาะอังกฤษ และตอนนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตในประเทศไอซ์แลนด์จากพายุลูกนี้แล้วถึง 3 ราย ที่มา dailymail
-
พาชมพรมแดนเขตปลอดทหารของสองเกาหลี (DMZ) ระหว่างแดนเหนือและแดนใต้
ความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในช่วงปี 1950 จนนำมาสู่การแบ่งประเทศออกเป็น 2 ฝ่าย และหลังจากการทำสนธิสัญญาหยุดยิงเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมปี 1953 ก็ได้มีการกำหนดเส้นแบ่งเขตแดน พร้อมกับเขตปลอดทหารหรือ Demilitarized Zone (DMZ) เขตปลอดทหารนั้นถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว และหนึ่งใน Demilitarized Zone ที่น่าสนใจและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อนั่นก็คือ Joint Security Area (JSA) ในหมู่บ้านปันมุนจอมนั่นเอง Eric Lafforgue ช่างภาพที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวที่สถานที่แห่งนี้ถึงสามครั้ง ได้บันทึกภาพความสวยงามพร้อมกับเล่าเรื่องราวต่างๆ ของ Joint Security Area (JSA) ทั้งจากฝั่งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ และนี่คือผลงานการถ่ายภาพของเขาที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ภาพประตูทางเข้าของเขตปลอดทหารนี้จากประเทศเกาหลีเหนือ ที่ตั้งอยู่ในเมืองแคซ็อง ที่เชื่อมต่อกับทางหลวงของประเทศเกาหลีใต้ ประตูซีเมนต์ขนาดใหญ่นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันผู้รุกราน ส่วนนี่คือทางหลวงในประเทศเกาหลีใต้ สำหรับการเดินทางเข้าไปใน JSA ของทั้งสองประเทศนั้นจะมีทหารคอยนั่งไปกับนักท่องเที่ยวด้วยตลอด แต่สำหรับในเกาหลีเหนือคุณสามารถถ่ายภาพได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตจากทหารเท่านั้น และนี่คือกฎข้อห้ามต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับก่อนออกเดินทางไปยัง JSA นอกจากนี้ยังมีการระบุถึงเครื่องแต่งกายที่ห้ามสวมใส่เข้ามาในพื้นที่นี้อย่างเสื้อยืดคอกลมไม่มีปก กระโปงสั้น และเสื้อผ้าสีฉูดฉาดอีกด้วย ภาพของทหารฝ่ายเกาหลีเหนือ . . ก่อนที่จะพาไปเยี่ยมชมในพื้นที่ DMZ จะมีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับเขตปลอดทหารแห่งนี้…
-
อ.โกโช อะโอะยะมะ ผู้ให้กำเนิด “โคนัน” ทำงานหนักถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
สำหรับใครที่เป็นแฟนของยอดนักสืบจิ๋วโคนัน คงจะคุ้นเคยกับชื่อของอาจารย์โกโช อะโอะยะมะ ผู้ในกำเนิดการ์ตูนเรื่องนี้กันเป็นอย่างดี แต่หลายๆ คงอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมาบนอาชีพนักเขียนการ์ตูนนั้นอาจารย์โกโชของเราทำงานหนักมากแค่ไหน?? แน่นอนว่าการจะประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่สิ่งที่ได้มาง่าย และอาจาย์โกโชเองก็ทำงานหนักไม่น้อยเลยทีเดียว ในหนึ่งสัปดาห์เขาจะใช้เวลาในการวาดการ์ตูน 5 วัน และเขาใช้เวลาทำงานมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อวัน และพักกินข้าวแค่ 15 นาทีเท่านั้น!! และนอกจากการทำงานอย่างหนักแล้ว เขายังมีเวลานอนเพียงแค่วันละ 3 ชั่วโมงเท่านั้น หรือบางวันก็ถึงขั้นไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของทำสตอร์รี่บอร์ดนั้นค่อนข้างจะแตกต่างกัน โดยอาจารย์โกโชของเราจะใช้เวลาในการร่างส่วนเนื้อเรื่องเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น และการทำงานในส่วนนี้จะค่อนข้างสบายและผ่นอคลายมากกว่า อาจารย์โกโชได้เล่าเอาไว้ในหนังสือ Aoyama Gosho 30-Shūnen Hon หนังสือฉลองครบรอบ 30 ปีในการทำงานของเขาว่า เขาใช้เวลาในการทำงานส่วนของสตอร์รี่บอร์ดเพียงแค่วันละ 8 ชั่วโมงเท่านั้น และพักผ่อนวันละ 12 ชั่วโมง แถมยังใช้เวลาว่างกับเกมอีกด้วย ส่วนในการสร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนของอาจารย์นั้นก็ยังมีผู้ช่วยอีกมากว่า 6 คนเลยทีเดียว แต่ตารางการทำงานของพวกเขานั้นไม่ได้เหมือนกับอาจารย์โกโชของเราหรอกนะ ซึ่งในหนังสือได้บอกเอาไว้ว่าพวกเขาอาจจะได้พักระหว่างที่อาจารย์เข้านอนหรือประมาณตี 1 นั่นเอง โดยก่อนการเริ่มร่างตอรรี่บอร์ดและลงมือวาดนั้น อาจารย์โกโชยังได้มีการประชุมร่วมกับผู้ช่วยในทุกๆ…
-
เปิดตำนานดาบต้องสาป “มุรามาสะ” ดาบแห่งความบ้าคลั่งและเรื่องราวความเป็นมาของมัน
สำหรับใครที่เป็นคอเกม หรือว่าชอบศึกษาประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นคงจะรู้จักกับดาบซามูไรเป็นอย่างดี และหนึ่งในชื่อดาบที่พวกเราคุ้นหูมากที่สุดนั่นก็คือดาบมุรามาสะนั่นเอง!! มุรามาสะ เซ็นโง ช่างตีดาบในสมัยมุโระมะชิ (ช่วงศตวรรษที่ 14-16 ) ตามตำนานเล่าว่าช่างตีดาบผู้นี้เป็นหนึ่งในลูกศิษของสำนักตีดาบมาซามุเนะ ก่อนที่จะแยกตัวออกมา ในตัวของมุรามาสะเองนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความบ้าคลั่ง และเขาเองก็ได้ถ่ายทอดความเป็นตัวตนของเขาเองลงไปในดาบที่สร้างขึ้น นั่นจึงทำให้ผู้ที่ครอบครองดาบของมุรามาสะนั้นกลายเป็นนักรบที่บ้าคลั่งและโหดร้าย เหมือนกับตัวของมุรามาสะเอง แต่ดาบของมุรามาสะนั้นแตกต่างจากดาบของอาจารย์เขาโดยสิ้นเชิง ครั้งหนึ่งมุรามาสะได้ท้าประลองดาบที่เขาสร้างกับดาบของสำนักมาซามุเนะ เพื่อหาสุดยอดดาบที่ดีที่สุดในสมัยนั้น โดยในการทดสอบครั้งนี้ทั้งสองสำนักได้นำดาบที่พวกเขาสร้างขึ้นไปปักไว้ในลำธาร และหันคมดาบขึ้นต้านกระแสน้ำ ผลจากการแข่งขันพบว่าดาบของสำนักมุรามาสะนั้นสามารถตัดได้ทุกอย่างที่ไหลผ่านคมมีดของมัน ไม่ว่าจะเป็นปลา ใบไม้ หรือแม่กระทั่งอากาศเองก็ตาม แต่ดาบจากสำนักมาซามุเนะนั้นตรงกันข้าม แต่อย่างไรก็ตามกลับเป็นดาบจากสำนักมาซามุเนะที่ชนะการประลองครั้งนั้นไป เพราะเนื่องจากคมดาบของมุรามาสะนั้นมีความกระหายเลือดและสามารถทำลายได้ทุกอย่าง แต่ดาบของมาซามุเนะนั้นกลับเป็นดาบแห่งความเมตตาและไม่ทำลายล้างโดยไม่จำเป็น มีดสั้นจากศตวรรษที่ 14 ที่สลักชื่อของมุรามาสะไว้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับตำนานอาถรรพ์ของดาบจากช่างตีดาบผู้นี้อีกว่า มีการใช้ดาบของมุรามาสะในการฆ่าสมาชิกของตระกูลโทคุงาวะ หนึ่งในตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในญี่ปุ่นสมัยนั้น และหลังจากนั้นการครอบครองดาบของมุรามาสะนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ผิดและถ้าหากใครที่ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษอย่างหนัก และหนึ่งในการลงโทษผู้ครอบครองดาบของมุรามาสะที่โด่งดังมากที่สุดในปี 1634 นั่นก็คือกรณีของ Takanak Ume ผู้พิพากษาจากเมืองนะงะซะกิที่ครอบครองดายของมุรามาสะมากถึง 24 เล่ม เขาถูกสั่งให้ทำการ “เซ็ปปุกุ” หรือฆ่าตัวตายโดยคว้านท้อง (หรือจะเรียกอีกอย่างว่า “ฮาราคีรี” ก็ได้) เนื่องจากมีการกวาดล้างดาบของมุรามาสะอย่างหนัก หลายๆ คนที่ครอบครองดาบอยู่จึงได้พยามที่จะซ่อนดาบไว้และมีการลบสัญลักษณ์ชื่อของมุรามาสะที่อยู่บนดาบเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ในปัจจุบันนั้นการจะหาดาบของมุรามาสะแบบแท้ๆ…
-
คุณแม่ยอมเสี่ยงทำผิดกฎหมาย ใช้ ‘น้ำมันกัญชา’ เพื่อรักษาลูกที่ป่วยเป็นโรคลมชัก
“ฉันเลือกที่จะยอมทำผิดกฎหมายดีกว่าที่จะต้องฝังศพลูกสาวของฉัน” Katrina Spraggon คุณแม่ใจเด็ดที่ยอมสกัดน้ำมันจากกัญชาด้วยตัวเองเพื่อนำไปใช้รักษาอาการป่วยเรื่อรังของลูกสาวเธอ หลังจากที่ยาแผนปัจจุบันนั้นใช้ไม่ได้ผล Katrina บอกว่าอาการป่วยเรื้อรังของ Kaitlyn ลูกสาวเธออย่างเช่นอาการลมชัก อัมพาตสมอง และโรคกระดูกพรุนอย่างรุนแรงนั้นค่อนข้างดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้ใช้สารสกัดจากกัญชา “ครั้งแรกที่ฉันเริ่มใช้น้ำมันสกัดจากกัญชา อาการของลูกสาวฉันก็เริ่มดีขึ้นหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน” Katrina กล่าว แต่ถึงแม้ว่าการใช้สารสกัดจากกัญชานั้นอาจจะทำให้เธอถูกจับในฐานทำผิดกฎหมายได้ แต่ทว่าเพื่อแลกกับอาการที่ดีขึ้นของลูกสาวเธอ คุณแม่ท่านนี้กลับยอมกล้าที่จะเสี่ยง สาวน้อย Kaitlyn ในขณะที่เข้ารับการรักษาโรคลมชักและกระดูกพรุนอย่างรุนแรง “ตอนนี้ลูกสาวของฉันยังคงอยู่ดี เธอเริ่มตอบสนองได้ดีขึ้นและอาการลมชักของเธอก็ลดลง เธอเริ่มพูดคุยกับฉันได้มาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และการได้เห็นรอยยิ้มของลูกสาวฉันอีกครั้งก็เป็นอะไรที่พิเศษสุดๆ ” คุณ Katrina กล่าว นอกจากนี้คุณแม่ยังได้กล่าวอีกว่าการใช้น้ำมันสกัดจากกัญชานั้นแทบไม่มีผลข้างเคียงใดๆ กับลูกสาวของเธอเลย สาวน้อยแค่มีอาการหิวนิดหน่อย รู้สึกกระหายน้ำ และหัวเราะบ้างเล็กน้อย Katrina นั้นเคยทำงานด้านการดูแลเด็กที่เมือง Ningi ประเทศออสเตรเลียมาก่อน เธอได้ใช้กัญชาถึง 3 สายพันธ์ในการทำสารสกัดเพื่อรักษาอาการป่วยของลูกสาวเธอ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนของเธอที่อยู่ในรัฐที่กัญชาถูกกฎหมาย และการลักลอบซื้อจากตลาดมืด โดยในการทำสารสกัดแต่ละครั้งเธอจะต้องใช้เงินประมาณ 7,500 บาท ซึ่งสามารถผลิตสารสกัดที่ใช้ได้นานประมาณ 2 ถึง 3 เดือน Katrina เล่าว่าเธอจะหยดน้ำมันสกัดจากกัญชาลงที่เหงือกของลูกสาวเธอเพียงแค่หนึ่งหยด เวลาที่สาวน้อยมีอาการลมชักกำเริบ ซึ่งมันก็สามารถช่วยให้อาการของ Kaitlyn…
-
2 ตำรวจนิวยอร์กโดนตั้งข้อหา “ข่มขืนสาววัย 18 ปี” ทั้งที่ใส่กุญแจมือ อยู่ในรถหน่วยงานด้วย!!
นายตำรวจจากสถานีตำรวจนิวยอร์ก 2 นาย ตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนหลังจากที่ทั้งสองได้ทำการข่มขืนหญิงสาวที่ถูกใส่กุญแจมือในท้ายรถตู้ของพวกเขา เจ้าหน้าที่ Eddie Martins และ Richard Halls ถูกกล่าวหาว่าได้ทำการข่มขืนเด็กสาววัย 18 ปี หลังจากที่ได้ทำการจับกุมเธอในทางใต้ของบรูคลิน จากการรายงานของหนังสือพิมพ์ The New York Post กล่าวว่า นายตำรวจทั้งสองถูกตั้งข้อหาข่มขืนระดับ 1 ตามคำตัดสินของคณะลูกขุนเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ต้องหาถูกจับในข้อหามีกัญชาในครอบครอง ซึ่งตามกฎหมายแล้วในเมืองนิวยอร์กนั้นอนุญาตให้ใช้เพื่อการแพทย์ได้เท่านั้น ทั้งสองพาตัวเหยื่อไปยังที่จอดรถของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน Coney Island ก่อนที่ทั้งสองจะบังคับให้เธอทำออรัลเซ็กส์ และจากนั้นนาย Martins ก็เริ่มลงมือข่มขืนเธอก่อน ทั้งสองได้ยอมรับกับเพื่อนร่วมงานว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆ แต่ทางผู้ต้องหานั้นเป็นฝ่ายยินยอมไม่ได้มีการใช้กำลังบังคับแต่อย่างใด ส่วนทางด้านฝ่ายทนายความของผู้เสียหาย ได้เรียกร้องให้ทางสถานีตำรวจนิวยอร์กลงโทษทางวินัยอย่างหนักกับนายตำรวจทั้งสอง “เราคาดหวังว่าทางสถานีตำรวจต้นสังกัดควรจะดำเนินการเรื่องนี้ทันที และให้พวกเขาออกจากราชการ” คุณ Michael David ทนายความของเหยื่อสาวกล่าว และนอกจากนี้ทางทนายความของเหยื่อยังได้ออกมาโต้แย้งในกรณีที่ว่าลูกความของเขายินยอมและเธอไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายใดๆ เลย และตอนนี้คดีความของนายตำรวจ 2 คนนี้กำลังอยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐาน และพิจารณาคดีในชั้นศาลต่อไป และทั้งสองยังต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในชั้นศาลอีกครั้งในสัปดาห์หน้าซึ่งถ้าหากมีความผิดจริงพวกเขาจะถูกจำคุกเป็นเวลา 25 ปี ที่มา independent
-
หุ่นยนต์ Sophia ได้รับสิทธิการเป็นพลเมืองของประเทศซาอุฯ ตัวแรกของโลก
นับวันเทคโนโลยีของโลกเรานั้นดูเหมือนจะกลายเป็นหนังไซไฟเข้าไปทุกทีๆ แล้ว อย่างล่าสุดก็ได้เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ประเทศซาอุดิอาราเบียได้มอบสถานะพลเมืองให้กับหุ่นยนต์ตัวหนึ่งเป็นที่เรียบร้อย เมื่อมันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า Sophia หุ่นยนต์ AI ที่หน้าตาคล้ายมนุษย์จากบริษัท Hanson Robotics ได้ประกาศตัวบนเวทีงาน the Future Investment Initiative ที่ผ่านมาว่าเธอเองนั้นได้รับมอบสถานะพลเมืองซาอุดิอาราเบียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางด้านบริษัทผู้ผลิตได้ออกมาเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ของพวกเขาว่า หุ่นยนต์ตัวนี้เป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์อัจฉริยะที่พวกเขาสร้างขึ้น และเธอเองก็สามารถที่จะพัฒนาระบบความคิดและจดจำเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ “ภารกิจของพวกเราคือการสร้างหุ่นยนต์แบบ Sophia เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับมนุษย์และทำให้หุ่นยนต์สามารถเข้าใจและดูแลพวกเราได้” นาย David Hanson กล่าว นี่คือส่วนระบบปฏิบัติการที่ถูกเก็บไว้ในส่วนหัวของเธอ ที่ทำหน้าที่คล้ายกับสมองของมนุษย์ และนอกจากนี้เธอยังสามารถเรียนรู้ และแสดงออกทางสีหน้าได้อีกด้วย . ขณะนี้ทางบริษัท Hanson นั้นกำลังมีแผนที่จะพา Sophia ไปเปิดตัวยังที่ต่างๆ ของโลก และในอนาคตพวกเขาวางแผนที่จะสร้างหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ เพื่อเป็นเพื่อนกับ Sophia และหวังจะสร้างสังคมของเธอ และทาง Hanson เองก็เชื่อว่าในอนาคตนั้นหุ่นยนต์จะสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้ นี่คือการให้สัมภาษณ์บนเวทีและความมารถในการแสดงออกทางอารมณ์ของเธอ ที่มา businessinsider
-
เรื่องราวหลังภาพ ‘ม้าน้ำตัวน้อย’ ที่เผยให้เห็นว่าโลกของเรากำลังถูกทำร้ายมากแค่ไหน??
บางครั้งภาพของเหล่าสัตว์ป่าที่เราได้เห็นกันในสารคดีหรือตามโลกอินเตอร์เน็ต อาจจะบ่งบอกบางสิ่งบางอย่างได้มากกว่าพฤติกรรมของมันที่พวกเรากำลังเห็นกันอยู่ เหมือนกับภาพของเจ้าม้าน้ำตัวน้อยที่กำลังใช้หางของมันพันกับแท่งคอตตอนบัดที่โด่งดังบนโลกอินเตอร์เน็ต ภาพถ่ายดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยสารคดี Our Planet หนึ่งในโปรเจคโดย BBC Earth ซึ่งเป็นผลงานการถ่ายภาพของช่างภาพสัตว์ป่าชื่อดังคุณ Justin Hofman และนี่คือภาพของเจ้าม้าน้ำตัวนั้น คุณ Hofman ได้ออกมาเปิดเผยที่มาของภาพเจ้าม้าน้ำตัวนี้ผ่านทางอินสตราแกรมของเขา โดยเขาได้โพสภาพพร้อมกับแคปชั่นว่า “นี่คือภาพที่ผมไม่อยากให้มันมีอยู่เลย แต่ตอนนี้ผมอยากให้ทุกๆ คนได้เห็น สิ่งที่น่าเศร้าใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผมกำลังจะถ่ายภาพของม้าน้ำตัวน้อย และจากนั้นก็มีขยะกับสิ่งปฏิกูลนับไม่ถ้วนตามมา ภาพนี้คงจะอธิบายถึงสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคตของท้องทะเลได้ พวกเราต้องการอนาคตแบบไหน?? และการกระทำของพวกเราจะเปลี่ยนแปลงดาวดวงนี้ได้อย่างไร” นอกจากก้านคอตตอนบัดแล้ว คุณ Hofman และเพื่อนช่างภาพของเขายังพบขยะอื่นๆ อย่างเช่นเศษอวน ถุงพลาสติก และเศษผ้าลอยมาพร้อมกับเจ้าม้าน้ำอีกด้วย “สิ่งที่ผมเจอ มันเป็นสภาพแวดล้อมที่แทบไม่น่าเชื่อเลย” ช่างภาพหนุ่มกล่าว และนี่คือบทสัมภาษณ์ของช่างภาพหนุ่มแบบเต็มๆ ภาพและเรื่องราวของเจ้าม้าน้ำตัวนี้ อาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ท้องทะเลและพื้นที่อื่นๆ บนโลกของเรานั้นกำลังถูกทำร้ายมากแค่ไหน?? ที่มา designtaxi
-
เฉลย!! ทริคโดมิโนขั้นสุดยอด ที่หลอกลวงทั้งตาและสมองของเราได้แบบแนบเนียน
การดูคลิปล้มโดมิโนอาจเป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่างสุดโปรดของหลายๆ คน เพราะนอกจากได้เห็นอะไรที่มันล้มระเนระนาดแบบฟินๆ ลูกตาแล้ว ทริคต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในทำคลิปวิดีโอนั้นยังน่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย และเมื่อไม่นานมานี้นักต่อโดมิโนมืออาชีพเจ้าของช่องยูทูป Kaplamino และ Hevesh5 ได้ช่วยกันออกแบบและสร้างชุดโดมิโนที่เต็มไปด้วยเทคนิคต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่ามีทั้งความสวยงามและน่าทึ่งสุดๆ ไปชมคลิปวิดีโอที่ว่านั้นกันได้เลย… จากคลิปวิดีโอที่เราได้ชมกันไป นอกจากการล้มของโดมิโนแบบธรรมดาๆ แล้ว ยังมีการใช้เทคนิคต่างๆ และอาศัยการคำนวนที่แม่นยำเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย โดยในช่วงหนึ่งของการล้มตัวต่อนั้นมีสิ่งที่น่าสนใจมากๆ นั่นก็คือแถวของตัวสีส้มที่มีการล้มถึง 2 ครั้ง ซึ่งทำเอาหลายๆ คนถึงกับงงกันเลยทีเดียว อ่า… มันน่าสงสัยมากเลยใช่ไหมล่ะ?? และดูเหมือนว่าทริคนี้จะไม่ได้มีแค่เซียนโดมิโนทั้งสองที่นำมาใช้เท่านั้นนะ เหล่าพี่ๆ ช่างก่อสร้างเองเค้าก็ทำได้เหมือนกันนะเออ!! อ่า… และเพื่อเป็นการคล้ายความสงสัย เราก็ได้ไปค้นหาคลิปวิดีโอที่จะมาอธิบายถึงหลักการนี้กันแบบง่ายๆ แล้ว โดยคลิปวิดีโอจากช่องยูทูปที่ชื่อว่า standupmaths นั้นได้อธิบายถึงเทคนิคการล้มแบบ 2 ต่อนี้เอาไว้ว่า มันเกี่ยวข้องกับการจัดวางโดมิโนและหลักคณิตศาสตร์นั่นเอง “ผมสามารถทำมันได้ถึงแม้ว่าพื้นที่วางก้อนอิฐนั้นจะไม่เรียบ มันเป็นหลักการของโดมิโนแบบง่ายๆ เลย” ชายหนุ่มเจ้าของคลิปวิดีโอกล่าว เขาได้สาธิตวิธีการจัดวางก้อนอิฐ โดยวางทุกๆ ชิ้นไว้ติดกันและนำมันตั้งขึ้น โดยเขาได้อธิบายว่าอิฐแต่ละก้อนนั้นจะตกลงบนขอบของอีกก้อนพอดี และเมื่อก้อนสุดท้ายหล่นลงกับพื้นขอบของมันก็จะเลื่อนออกมานิดหน่อย ทำให้อิฐทั้งหมดตกพื้นอีกครั้ง เหมือนกับทิคโดมิโนที่เราเห็น จากนั้นเขาได้อธิบายตามหลักทางคณิตศาสตร์ว่าอิฐแต่ละก้อนนั้นมีความยาว 21 เซนติเมตร และมีความกว้าง…
-
เด็กน้อยวัย 7 ขวบนอนหลับยาว 11 วัน โดยที่แพทย์ก็ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด
เรื่องราวสุดประหลาดนี้เกิดขึ้นกับเจ้าหนู Wyatt Shaw หนูน้อยวัย 7 ขวบจากเมือง Elizabethtown รัฐเคนทักกี หลังจากที่เขานอนหลับไปนานถึง 11 วัน!! คุณ Amy แม่ของหนุ่มน้อยเล่าว่า ลูกชายของเธอเข้านอนหลังจากที่กลับมาจากงานแต่งงานของน้าสาวของเขา แต่หลังจากนั้นเจ้าหนูก็นอนยาวถึง 11 วันเลยทีเดียว และถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะพยายามเรียกเท่าไหร่ Shaw ก็ไม่รู้สึกตัวและไม่มีการตอบสนองใดๆ เลย “เขาดูปกติมากในงานแต่ง เขาร่าเริงและเต้นรำเหมือนกับเด็กๆ ทั่วไป แต่เมื่อวันจันทร์ตอนที่ฉันไปปลุก เขาก็ไม่ยอมตื่น และถึงแม้ว่าจะเรียกนานเท่าไหร่เขาก็ยังคงนอนอยู่ ตอนนั้นมันน่ากลัวมากๆ เลย” คุณ Amy กล่าว หลังจากที่เริ่มเห็นความผิดปกติกับเจ้าตัวเล็ก คุณ Amy จึงพาลูกของเธอไปหาหมอ เด็กชายถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเด็ก Norton ในเมืองลุยส์วิลล์ แพทย์สันนิฐานว่าเจ้าหนูอาจจะโดนเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียเล่นงาน เนื่องจากเจ้าหนูบ่นว่ามีอาการปวดหัวและปวดท้องก่อนที่จะหลับยาว แต่อย่างไรก็ตามแพทย์กลับไม่พบสาเหตุใดๆ เลย คุณ Amy ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า สิ่งที่ทำให้ลูกชายของเธอนั้นนอนหลับนานถึง 11 วันนั้นก็เพราะว่าสารสื่อประสาทในสมองของเขาไม่ทำงาน แต่แพทย์ก็พยายามใช้เครื่องมือและวิธีการรักษาที่ทันสมัยจนสามารถช่วยลูกของเธอได้หลังจากที่นอนหลับไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้เจ้าหนู Wyatt ยังคงมีปัญหาในการพูดอยู่บ้าง และยังคงเดินไม่ได้เหมือนปกติ แต่ว่าอาการของเค้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด …
-
เป็นเรื่องจริงแล้วจ้า… งานวิจัยเผย เมื่อคนเราเมาแล้วจะพูดภาษาที่ 2 ได้ไหลลื่นขึ้น
ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการสังสรรค์ เชื่อแน่ว่าคุณเองจะต้องมีเพื่อนอย่างน้อยหนึ่งคนที่ชอบพูดภาษาที่สองตอนที่เมาได้ที่แล้ว บางคนอาจจะแค่พูดคุยทักทาย แต่เพื่อนของคุณบางคนอาจหนักถึงขั้นสั่งก๋วยเตี๋ยวเป็นเมนูภาษาอังกฤษเลยก็ได้!! ซึ่งอันที่จริงแล้วเมื่อไม่นานมานี้ได้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Psychopharmacology ได้เปิดเผยว่า การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อยนั้นจะช่วยให้พูดภาษาที่ 2 ได้คล่องยิ่งขึ้น ในการศึกษาครั้งนี้ได้เลือกนักศึกษาที่ใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสารเป็นหลักจำนวน 50 คนจากมหาวิทยาลัย Maastricht University ในประเทศเนเธอแลนด์ที่อยู่ใกล้กับชายแดนเยอรมัน ในการทดสอบทีมวิจัยได้แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสองกกลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้ทำการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนที่จะเริ่มการให้สัมภาษณ์กับผู้ใช้ภาษาดัตช์ในการสื่อสาร ส่วนกลุ่มที่สองนั้นให้ดื่มน้ำเปล่าก่อนเริ่มการให้สัมภาษณ์ โดยปริมาณของแอลกอฮอล์ที่ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบดื่มนั้นจะแตกต่างกันตามน้ำหนักตัว ซึ่งผู้ชายที่มีน้ำหนักตัว 68 กิโลกรัมจะได้ดื่มเบียร์ประมาณ 450 มิลลิลิตร แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้ภาษาดัตช์ที่เข้าร่วมการสัมภาษณ์ครั้งนี้จะไม่ทราบมาก่อนว่ากลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มนั้นได้ดื่มอะไรเข้าไปก่อนการสัมภาษณ์ ผู้ทำการสัมภาษณ์ทั้งสองคนจะเป็นคนให้คะแนนความสามารถในการใช้ภาษาของผู้เข้าร่วมการทดสอบทั้ง 50 คน การให้คะแนนในการทดสอบนั้นจะแบ่งออกเป็นหลายหมวดหมู่ทั้งความคล่องแคล่วในการสื่อสาร ความถูกต้อง และการออกเสียง ผลจากการศึกษาพบว่าผู้สัมภาษณ์ชาวดัตช์ให้คะแนนความคล่องแคล่วในการพูดของผู้ทดสอบที่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่ม แต่อย่างไรก็ตามผู้ที่ดื่มน้ำก่อนการทดสอบกลับได้คะแนนในการออกเสียง การเรียงประโยค และคำศัพท์ที่ดีกว่า การทดลองก่อนหน้านี้ที่ช่วยสนับสนุนว่าการทดลองดังกล่าวไม่ได้มีผลเพียงแค่การสื่อสารภาษาดัตช์เท่านั้น แต่ผลการศึกษาในปี 1972 ก็ได้แสดงให้เห็นว่าการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณน้อยนั้นช่วยให้ชาวอเมริกันออกเสียงภาษาไทยได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการงานวิจัยที่ตีพิมพ์นั้นได้กล่าวเอาไว้ว่าการดื่มแอลกอฮอล์ที่มากเกินไปนั้นอาจจะมีผลในทางตรงกันข้าม นอกจากนี้ทางนักวิจัยก็ได้กล่าวว่าการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณปานกลางอาจจะช่วยลดความวิตกกังวลในการสื่อสารและทำให้กล้าพูดมากขึ้น ที่มา time, nextshark
-
สาวทุ่มงบ 800,000 บาทสร้าง “ห้องลับ” หลังชั้นวางหนังสือ พร้อมกลไกการเปิดสุดคูล!!
การมีห้องลับในบ้านเหมือนในหนังสายลับอาจจะเป็นหนึ่งในความฝันของหลายๆ คน เช่นเดียวคุณ Sara Nainzadeh คนนี้ก็เช่นกัน คุณ Sara เริ่มรีโนเวทอพาร์ทเม้นท์ที่เธอซื้อมาเมื่อปี 2009 หญิงสาวคิดว่าห้องดังกล่าวน่าจะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับห้องเล็กๆ อีกห้องหนึ่ง “ตอนที่ฉันได้ห้องนี้มา ฉันรู้ว่าฉันสามารถใช้ประโยชน์จากห้องนอน 2 ห้องจากทั้งหมด 3 ห้องได้ และฉันคิดว่าฉันอยากได้พื้นที่เพิ่มสำหรับห้องทำงาน” และแล้วในที่สุด คุณ Sara ก็ได้ห้องทำงานอย่างที่เธอตั้งใจ แถมยังเป็นห้องสำหรับสังสรรค์กับเพื่อน และเป็นห้องอ่านหนังสือและพักผ่อนได้อีกด้วย โดยผลการงานก่อสร้างครั้งนี้เป็นของบริษัท Home Engineering โดยพวกเขาได้ทำการสร้างห้องลับของเธอไว้หลังชั้นวางหนังสือในอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ ชั้นหนังสือถูกสร้างที่โรงงานของ Creative Home Engineering ที่รัฐแอริโซนา มันถูกออกแบบมาให้พอดีกับอพาร์ทเม้นท์ของคุณ Sara เธอใช้เงินในการสร้างห้องลับแห่งนี้ไปมากถึง 25,000 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 800,000 บาท!! “ผู้คนมากมายที่เห็นฉันทำแบบนี้บอกว่าฉันนั้นบ้า แต่ฉันก็ไม่สนใจเพราะว่ามันคือความชอบของฉัน” หญิงสาวกล่าว นี่คือมุมทำงานของเธอในห้องลับ ส่วนนี่ก็คือมุมผ่อนคลาย และสังสรรค์กับเพื่อนๆ ของเธอ ภายในห้องลับ สวิตซ์ที่ใช้ปิดเปิดประตูของห้องลับ แต่นอกจากนั้นมันก็ยังมีทางออกทางอื่นที่ซ่อนไว้อยู่ด้วยเช่นกัน!! …
-
โถ่หมดกันความสนใสวัยเด็ก!! เกมกระดาษที่ดูน่ารัก แต่พอเปิดออกมาแล้วถึงกับร้อง
ในตอนเด็กๆ เชื่อแน่ว่าแต่ละคนย่อมจะมีตัวการ์ตูนในดวงในอย่างน้อย 1 ตัวแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ?? บางคนอาจจะชอบแฮมทาโร่ หรือบางคนก็อาจชอบโดราเอม่อน และเมื่อไม่นานมานี้ศิลปินโอรากามิจากประเทศญี่ปุ่นท่านหนึ่งจากทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อว่า @doppen3 ได้สร้างผลงานการพับเป็นรูปหน้าเจ้า อันปังแมน ฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ ญี่ปุ่น แต่ทว่าเมื่อเขาอัพเดทภาพผลงานดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์ ชาวเน็ตกลับไม่คิดว่ามันน่ารักเหมือนในการ์ตูนซะนี่!? และนี่คือผลงานการพับกระดาษของเขา อืม… ดูยังไงก็คือเจ้าอันปังแมนธรรมดาๆ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย?? แต่… เดี๋ยวๆ อืม… เข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไมชาวเน็ตถึงไม่ค่อยชอบ!! โถ่… จบกันความสดใสในวัยเด็ก ใครกันนะช่างทำกับ Anpanman ของเด็กๆ ได้ลงคอ!! ภาพของเจ้าอันปังแมนเวอร์ชั่นสยองนี้ทำเอาชาวเน็ตหลายๆ คนที่ได้ชมถึงขนลุกกันทีเดียว ก็เพราะฟันแหลมๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้มของเจ้าฮีโร่ขนมปังนั้นมันทำให้ดูน่ากลัวมากเลยทีเดียว และหลังจากที่ได้เห็นผลงานของคุณ @doppen3 ชาวเน็ตหลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก และนี่ก็คือหนึ่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ต “เดี๋ยวนะ!! นี่มันทำร้ายกันชัดๆ “ “ฉันเข้าใจมาตลอดเลยนะเขาไม่มีฟัน แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วว” ส่วนชาวเน็ตบางท่านก็บอกว่านี่มันไม่ใช่อันปังแมนแล้ว มันคือปรสิตชัดๆ !! อ่า… และสำหรับใครอยากลองฝึกทำเล่นๆ ที่บ้าน ก็ลองไปชมวิธีการทำแบบง่ายๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย ที่มา rocketnews24
-
รวม 15 คลิปวิดีโอ ความยาวไม่เกิน 1 นาที ที่จะมาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคน
การนั่งดูคลิปวิดีโอบนอินเตอร์เน็ตอาจจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมโปรดของหลายๆ คน และในทุกๆ วันนี้ก็มีคลิปวิดีโอมากมายหลายประเภทที่ให้เราได้เลือกรับชมกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคลิปวิดีโอตลกนั่นเอง และสำหรับใครที่ชื่นชอบคลิปวิดีโอฮาๆ แบบขำจนท้องแข็งแล้วล่ะก็ วันนี้เราก็ได้คัดคลิปวิดีโอสุดฮาแบบสั้นๆ ที่มีความยาวไม่เกิน 1 นาทีมาฝากกัน ซึ่งแต่ละคลิปนั้นรับรองได้เลยว่าคุณจะฮากันจนหยุดไม่อยู่เลยทีเดียว!! 1. จับตาดูวินาทีที่ 4 ไว้ให้ดี ความฮามันอยู่ตรงนี้!! 2. อื้ม… ผมไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวผมขอตัวก่อนละกันนะ 3. A : หน้าฉันดูจืดๆ นะแกว่าไหม?? B: ออนแอร์แล้วเว้ย! 4. กร้าวร้าวจังเลยนะลูก!! 5. ชีวิตจริงกับในการ์ตูนมันช่างแตกต่างกันเสียจริงๆ 6. มาที่ห้างของเรา ที่นี่มีทุกอย่างสำหรับวันเปิดเทอมของเจ้าตัวเล็ก 7. โถ่… จบกันเจ้าหมา!! 8. อ่ะทุกคนพูดตามครูนะ ไม่มีทับทิมเล๊ยยย!! 9. ก่อนที่จะไลฟ์ ช่วยไปล้างห้องน้ำก่อนได้ไหมจ๊ะ!! 10.…
-
19 วิถีความเพี้ยนแห่งรัสเซีย มีอะไรให้เราเซอร์ไพรส์ได้ตลอด แบบนี้ก็มีบนโลก
ถ้าหากพูดถึงประเทศรัสเซีย นอกจากจำนวนประชากรที่มากมายมหาศาล และพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมักจะนึกถึงนั่นก็คือ ความโหดและความดุดันของผู้คนที่นี่นั่นเอง แต่นอกจากความโหด-ัสรัสเซียแบบที่เราเคยได้ยินกันมาบ่อยๆ แลัว ในบางมุมผู้คนจากเมืองหนาวนี้เองก็มีความฮาๆ กับเค้าด้วยเหมือนกันนะ และวันนี้เราก็มีภาพ 19 วิถีความเพี้ยนแห่งรัสเซียมาให้ได้ชมกัน แต่ละภาพจะฮาแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. รู้แล้วจ้าว่าตู้เสีย แหม่… แค่เขียนป้ายติดก็พอมั้ง?? 2. ฝนตกแล้วหาที่หลบเร็วเจ้าหนู…ได้เลยฮะ!! 3. อื้ม…แบบนี้ก็เขินแย่เลยนะสิเจ้าหมี!? 4. จ่าเฉยก็จ่าเฉยเถอะ เจอทหารรัสเซียนายนี้เข้าไปซะก่อน!! 5. เสียงเพลงอันไพเราะ จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตได้ดีนะ รู้รึเปล่า?? 6. นี่คือการแอบมาเจอสาวแบบชาวรัสเซียสินะ?? 7. เอิ่ม… สงสัยจะอยู่ในช่วงปรับปรุงสนามสินะ 8. ตะแกรงปิ้งมันหายาก ก็เลยใช้ด้ามปืนก็แล้วกันนะ!! 9. ชาลาลาปั๊บ ชาลาล่าปั๊บ!! 10. ถึงแม้ว่าอากาศจะหนาวเหน็บแค่ไหน แต่แค่มีกางเกงบอลกับเสื้อวอร์มบางๆ ก็พอแล้ว 11. กะจะใส่ชุดนี้ขึ้นประกวดเพื่อเรียกคะแนนสินะ??…
-
จากชีวิตที่เคยติดยา เปลี่ยนตัวเองให้มีคุณค่า ด้วยทักษะแห่งศิลปะกะโหลกควาย
“ผมเดาว่าทุกคนหลงใหลในความตาย” คุณ Victor ศิลปินผู้เป็นเจ้าของงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับความตาย อย่างงานแกะสลักกะโหลกสัตว์ ศิลปินจากทรานซิลเวเนีย ดินแดนทางตอนกลางของประเทศโรมาเนีย ผู้นี้เริ่มต้นงานศิลปะของเขาหลังจากที่ถูกจับกุมข้อหาครอบครองยาเสพย์ติดเมื่อ 4 ปีก่อน “ผมเริ่มต้นงานแกะสลัก ในตอนที่ผมถูกส่งตัวไปบำบัดสารเสพย์ติด มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมยังสามารถมีสติ และสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในตอนนั้น” ศิลปินหนุ่มกล่าว ถึงแม้ว่าจะไม่เคยฝึกฝนทางด้านนี้มาก่อน แต่คุณ Victor ก็ไม่ได้ท้อถอยแต่อย่างใด ในตอนแรกนั้นเขาแทบจะทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ศิลปินหนุ่มก็พยายามและตั้งใจที่จะฝึกฝนฝีมือการแกะสลักของเขา และหลังจากผ่านไป 1 ปี ศิลปินของเราก็เริ่มลงทุนซื้อเครื่องมือชิ้นใหม่ มอเตอร์เล็กๆ ที่เขาซื้อมาใหม่นั้นช่วยในการทำงานแกะสลักของเขาได้เป็นอย่างดี และจากนั้นฝีมือของเขาก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนผลงานของเขาเป็นที่ต้องการของลูกค้าจากทั่วโลก “ผมขายมันให้กับผู้คนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชาติหรือศาสนาไหนก็ตาม และแน่นอนว่าจุดประสงค์ของคนที่ซื้อไปแต่ละคนนั้นก็ไม่เหมือนกัน” คุณ Victor กล่าว โดยกะโหลกที่เป็นวัสดุหลักในการสร้างงานศิลปะของคุณ Victor นั้นมีที่มาจากแหล่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากโรงฆ่าสัตว์ หรือบางครั้งเขาก็ได้มันมาจากเกษตรกรในท้องถิ่น กะโหลกที่ได้มาจากแหล่งต่างๆ ถูกนำมาทำความสะอาดและฟอกขาวโดยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ก่อนที่จะถูกนำไปแกะสลักอย่างประณีต . . . . . . . ในขั้นตอนการแกะสลักที่ต้องใช้ความตั้งใจเป็นพิเศษ . . .…
-
ทางม้าลาย 3 มิติ ในหมู่บ้านจากประเทศไอซ์แลนด์ หวังช่วยให้ผู้คนขับช้าๆ ลดอุบัติเหตุ
ในบางครั้งการใช้รถใช้ถนนที่ผ่านในเขตชุมชนหรือหมู่บ้านเล็กๆ นั้นอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ แต่นอกจากความระมัดระวังของผู้ขับขี่แล้ว บางครั้งการใช้สัญลักษณ์จราจรเข้าช่วยนั้นก็อาจจะเพิ่มความปลอดภัยได้ด้วยเช่นกัน เหมือนกับหมู่บ้านเล็กๆ จากประเทศไอซ์แลนด์ แห่งนี้ที่นำเทคนิคการสร้างภาพ 3 มิติมาช่วยในการลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนน หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ อย่าง Ísafjörður ในเมือง Westfjords ได้เกิดไอเดียสุดเจ๋ง โดยการสร้างทางม้าลายแบบ 3 มิติขึ้นเป็นแห่งแรกในเมือง เพื่อหวังช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์ชะลอความเร็วลง และลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุภายในเมือง โครงการนี้เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของบริษัท Vegmálun GÍH โดยสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่าทางม้าลายแบบ 3 มิตินี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย และจากนั้นพวกเขาจึงนำมันมาปรับใช้กับที่นี่ พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ในการสร้างทางม้าลายแบบ 3 มิตินี้ หลังจากที่เริ่มทำการขออนุญาตกับทางกรมขนส่งและตำรวจจราจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณ Ralf Trylla ผู้นำไอเดียทางมาลาย 3 มิติมาใช้กับที่เมืองนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอันที่จริงนั้นภายในหมู่บ้านเองก็ได้มีการจำกัดความเร็วอยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่นั่นก็ยังสูงไปสำหรับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงหาวิธีที่จะชะลอความเร็วของรถยนต์โดยการสร้างทางม้าลายที่ว่านี้ อย่างไรก็ตามหากวิธีนี้ได้ผล และสามารถลดปัญหาอุบัติเหตุทางท้องถนนได้จริง ทางสภาเทศบาลของเมืองเองก็มีแผนที่จะทำทางม้าลาย 3 มิตินี้เพิ่มยังจุดต่างๆ ของเมืองด้วยเช่นกัน . . . . ไปชมเจ้าทางม้าลาย 3 มิติแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย……
-
รวม 12 ภาพสะพานยักษ์ใหญ่ของจีน เชื่อมการขนส่งสู่พื้นที่ห่างไกล จนความเจริญไปทั่วถึง
ประเทศจีน หนึ่งในยักษ์ใหญ่จากทวีปเอเชียที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทในด้านต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือแม้แต่ในด้านเทคโนโลยีในการก่อสร้างเองก็ตาม แน่นอนว่านอกจากรถไฟความเร็วสูงแล้ว ในแดนมังกรแห่งนี้เองก็เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างขนาดยักษ์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารพาณิชย์ สนามกีฬา เขื่อน และรวมถึงสะพานด้วยเช่นกัน และในวันนี้เราก็ได้รวบรวม 12 สะพานยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ที่แสดงให้เห็นว่าถึงความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมของที่นี่… 1. สะพานซื่อตู้เหอในเมืองเอินซือ มณฑลหูเป่ย ท่ามกลางไอหมอก 2. สะพานข้ามอ่าวเจียวโจวในเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง สะพานที่มีระยะทางยาวกว่า 40 กิโลเมตร และใช้เงินในการก่อสร้างมากถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ 3. สะพานจาหนาง ข้ามแม่น้ำยาลุงซังโปร์ ในอำเภอจาหนาง เขตซานหนาน เขตปกครองตนเองทิเบต ที่มีความยาวทั้งหมด 5.7 กิโลเมตร 4. สะพานข้ามแม่น้ำเป่ยผานเจียงที่เชื่อมมณฑลกุ้ยโจวกับมณฑลยูนนานเข้าไว้ด้วยกันมีความยาวทั้งหมด 1.24 กิโลเมตร 5. สะพานข้ามแม่น้ำต้าตู้ในเสฉวน 6. ไซต์ก่อสร้างส่วนหนึ่งของสะพานข้ามทะเลเชื่อมฮ่องกง จูไห่ มาเก๊า…
-
7 เรื่องราวที่เหล่า “สาวๆ ไบเซ็กส์ชวล” อยากบอก และจะทำให้คุณเข้าใจพวกเธอมากขึ้น
ในปัจจุบันนั้นมีการเปิดกว้างทางเพศมากขึ้น และทุกวันนี้ เรามีคำที่ใช้เรียกกลุ่มผู้คนที่มีรสนิยมทางเพศที่แตกต่างกันออกไปตามรสนิยมของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเกย์ ทอม หรือหญิง-ชายข้ามเพศ และหนึ่งรสนิยมทางเพศที่เรามักจะคุ้นหูและได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นั่นก็คือ ไบเซ็กส์ชวลนั่นเอง ซึ่งอย่างที่เข้าใจกันดีว่าไบเซ็กส์ชวลนั้นคือการหลงใหลผู้คนมากกว่า 1 เพศ แต่ผู้คนส่วนมากยังมีความเข้าใจผิดกับพวกเขาอยู่ ซึ่งวันนี้เราก็มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ 7 เรื่องราวของเหล่าสาวๆ ไบเซ็กส์ชวล ที่จะทำให้คุณเข้าใจพวกเธอมากขึ้น จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย… 1. พวกเธอไม่เคยต้องการกิจกรรมบนเตียงแบบเรา 3 คน ถึงแม้ว่าพวกเธอจะมีความสนใจในทั้งสองเพศ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะชื่นชอบกิจกรรมบนเตียงแบบ 3 คนหรอกนะ และสาวๆ ไบเซ็กส์ชวลก็มักจะชอบความสัมพันธ์แบบจริงจังมากกว่า 2. ไบเซ็กส์ชวลนั้นไม่ได้เป็นๆ หายๆ หรอกนะ!! สาวๆ ที่เป็นไบเซ็กส์ชวลนั้นจะรู้สึกหัวเสียอย่างมากที่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนบอกพวกเธอว่ารสนิยมทางเพศของพวกเธอนั้นเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วความชอบทั้งสองเพศของพวกเธอนั้นเป็นเรื่องที่จริงจังและมันจะอยู่กับเธอตลอดไป ถึงแม้ว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม 3. สาวๆ ไบเซ็กส์ชวลไม่ใช่พวกชอบนอกใจนะ!! ถึงแม้ว่าจะมีความเชื่อว่าสาวๆ ไบเซ็กส์ชวลนั้นอาจจะมีแนวโน้มที่จะนอกใจสูงเนื่องจากรสนิยมทางเพศของพวกเธอ แต่อันที่จริงแล้วเรื่องดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริงเลย 4. พวกเธอมักจะเปิดเผยตัวตนกับคนที่รู้ใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเธอเจอคนที่รู้ใจ เธอจะยอมบอกพวกเขาเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของตัวเอง ซึ่งอันที่จริงนั้นสาวๆ ไบเซ็กส์ชวลไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิดตัวตนของพวกเธอหรอก แต่เธอแค่อยากที่จะบอกมันกับคนที่ยอมรับพวกเธอได้ก็เท่านั้นเอง 5. เธอไม่ได้คบใครเพียงแค่หวังเรื่องอย่างว่าเท่านั้นนะ…
-
คุณลุงป่วยโคม่า ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ หลังได้ฟังเพลงเชียร์ของทีมฟุตบอลสุดรัก
“ฟุตบอลมันอยู่ในสายเลือด” คำพูดสั้นๆ ที่หลายๆ คนคงจะเคยได้ผ่านหูกันมาบ้างแม้ว่าคุณเองจะไม่ใช่แฟนฟุตบอลตัวยงเองก็ตาม และเรื่องราวของชายคนนี้ก็คงจะทำให้เราเข้าใจความหมายของประโยคนี้ได้มากขึ้น คุณ Tony Kemp แฟนบอลวัย 59 ปีของทีม Plymouth Argyle FC ซึ่งกำลังแข่งขันอยู่ในลีกวันของประเทศอังกฤษ ถูกนำตัวเข้ารับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนหลังจากที่เขาเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก จนต้องอยู่ในสภาวะโคม่า โดยคุณ Danna Kemp ภรรยาของชายคนดังกล่าวกล่าวว่า ทางครอบครัวมีเวลาเพียงแค่ 2 วันก่อนที่แพทย์จะทำการถอดเครื่องช่วยชีวิตของ Tony ออก แต่แล้ว Danna ก็ทำบางอย่างเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อสามีของเธอ หญิงสาวเปิดเพลงเชียร์ของทีมรักผ่าน iPad และให้สามีของเธอดู “ฉันถูกเรียกให้เข้าไปดูอาการของเขา และพูดคุยกับเขา ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาคงจะจากไปแล้วจริงๆ ” Danna กล่าว “เราเข้าไปในห้อง ICU และพวกเขาก็บอกเราว่าถ้าหากเขาไม่มีอาการตอบสนองใดๆ เลยภายใน 48 ชั่วโมง แพทย์จำเป็นต้องถอดเครื่องช่วยชีวิต ตอนนั้นเราพยายามทำทุกอย่างทั้งบีบมือและพูดคุยกับเขา จนสุดท้ายฉันพาลูกๆ เข้ามาและเริ่มร้องเพลงเชียร์ของทีม Plymouth Argyle และจากนั้นเขาก็เริ่มลืมตา” Danna กล่าว คุณ Tony แฟนบอลตัวจริงของทีม Plymouth Argyle FC จากลีกวัน…
-
บริษัทเฟอร์นิเจอร์จากญี่ปุ่น เปิดตัวเฟอร์นิเจอร์ “แมว” แบบครบชุด ดูซิ๊จะสู้กล่องลังได้ไหม
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องบรรณาการสำหรับท่านเหมียวที่บ้าน เพราะว่าวันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับที่นอนแมวสุดครีเอทจากประเทศญี่ปุ่นมาฝากกัน!! ผลงานการออกแบบนี้เป็นความร่วมมือของบริษัท Hiromatsu Furniture และบริษัท Tateno Wood Art Co พวกเขาได้ออกแบบที่นอนของเจ้าเหมียวที่สุดแสนจะครีเอท และถ้าหากดูเผินๆ มันก็คล้ายกับที่นอนของมนุษย์ไม่มีผิดเลย… และนี่คือภาพของที่นอนน้องเหมียวดังกล่าว เป็นไงล่ะ นึกว่าเตียงนอนกันใช่ไหม?? จากคลิปวิดีโอเปิดตัวของเจ้าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ แสดงให้เห็นถึงเตียงนอนขนาดเล็ก พร้อมกับการตกแต่งฉากรอบๆ ที่ดูเหมือนกับห้องนอนมากกว่าที่จะเป็นเตียงของเจ้าเหมียว และแล้วหลังจากนั้นไม่นานพี่เหมียวพระเอกของเราก็เข้ามาในฉาก และทันใดนั้นดูเหมือนว่ามันกำลังจะถูกพลังดึงดูดแห่งเตียงนอนเข้าไปเต็มๆ จนเจ้าแมวลายเสือค่อยๆ ล้มตัวลงนอนและเหมือนว่ามันจะชื่นชอบเตียงนอนชิ้นนี้มากๆ เลยล่ะ ไปชมคลิปวิดีโอสาธิตการใช้งานเตียงแมวชิ้นนี้กันได้เลย… และแน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับบ้านของเจ้าเหมียวนั้นก็ไม่ได้มีเพียงแค่เตียงนอนเท่านั้น แต่ยังมีโซฟาอีกด้วยนะเออ แหม่… เห็นแบบนี้แล้วเริ่มรู้สึกอิจฉาพี่เหมียวขึ้นมาทันทีเลยนะเนี่ย รายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ทางผู้ผลิตทำออกมาได้อย่างปราณีตสุดๆ . นอกจากนี้ทางบริษัท Hiromatsu และ Tateno ยังได้อธิบายถึงที่มาที่ไปของเจ้าคลิปวิดีโอนี้ว่า “ถ้าหากพวกเราสามารถสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่ทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกสะบายได้แบบนี้ พวกเราก็สามารถสร้างเฟอร์นิเจอร์ที่มอบความสบายให้คุณได้เช่นกัน” ตอนนี้เฟอร์นิเจอร์สำหรับเจ้าเหมียวนี้ยังไม่ได้มีการผลิตออกมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากคลิปวิดีโอเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์สำหรับแมวเหมียวนี้ได้เสียงตอบรับที่ดี ทางผู้ผลิตเองก็มีแผนที่จะพัฒนาเพื่อจัดจำหน่ายต่อไป ที่มา rocketnews24
-
ความสามารถอีกด้านหนึ่งของเหล่านักแสดงชื่อดังทั้ง 14 คนที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ความสามารถพิเศษนั้นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะซ่อนอยู่ในตัวของพวกเราทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป การเล่นดนตรีหรือแม้แต่การแสดงต่างๆ แต่บางครั้งความสามารถเหล่านี้ก็อาจจะมาจากการฝึกฝนและความสนใจที่นอกเหนือจากสิ่งที่เราทำเป็นประจำในทุกๆ วัน และแน่นอนเหล่านักแสดงดังๆ จากต่างประเทศเองนั้นก็มีความสามารถอีกด้านหนึ่งที่ซ่อนไว้นอกเหนือจากการแสดงของพวกเขาเช่นกัน และวันนี้เราก็ได้รวบรวมความสามารถอีกด้านหนึ่งของเหล่านักแสดงชื่อดังทั้ง 14 คนที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน อ่า… แต่ละคนจะมีความสามารถอะไรซ่อนอยู่นั้นไปชมกันเลย… 1. Neil Patrick Harris นอกจากจะเป็นหนุ่มนักแสดงมากความสามารถแล้ว Neil ยังชื่นชอบในการเล่นมายากล และตัวเขาเองก็เป็นเจ้าภาพในการจัดงานมอบรางวัล The Magic Awards อีกด้วย 2. Bruce Willis ก่อนหน้าที่จะผันตัวมาเป็นนักแสดงนั้น นักแสดงคิวบู๊มากความสามารถผู้นี้เคยเล่นฮาร์โมนิกาให้กับวง Loose Goose มาก่อน และตอนนี้เขาเองก็กำลังออกทัวร์คอนเสิร์ตกับวง The Accelerators อยู่!! 3. Emma Roberts หนึ่งในความสามารถพิเศษของนักแสดงและนักร้องสาวชาวอเมริกันผู้นี้ ก็คือการแกล้งร้องไห้เหมือนเด็กทารกนั่นเอง เห็นหน้าสวยๆ แบบนี้ก็ขี้เล่นเหมือนกันนะเนี่ย 4. Colin Farrell ก่อนที่จะมาเป็นนักแสดงและมีผลงานภาพยนตร์มากมายนั้น หนุ่มชาวไอริชผู้นี้เคยเป็นคุณครูสอนเต้นให้กับเหล่าเด็กๆ มาก่อนนะเออ!! 5. Jennifer Garner อีกหนึ่งนักแสดงหญิงผู้มากความสามารถ และนอกจากฝีมือการแสดงแล้ว เธอยังสามารถเล่นเครื่องดนตรีอย่างแซ็กโซโฟนได้อีกด้วย 6. Christopher Walkin ถึงแม้จะเริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่ตอนอายุน้อยๆ แต่นักแสดงใหญ่วัย…
-
ชมผลงานสุดยอดศิลปะกระดาษป๊อบอัพ จากศิลปินชาวเยอรมัน พร้อมสอนวิธีการทำแบบฟรีๆ
งานกระดาษแบบบ๊อบอัพ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งงานฝีมือที่ทำให้เราต้องทึ่งในความสวยงามได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากความสร้างสรรค์ของผลงานแล้ว บางครั้งมันยังทำให้ภาพสองมิติธรรมดาๆ ที่อยู่บนหน้ากระดาษดูสมจริงขึ้นมาอีกด้วย และวันนี้เราก็มีผลงานศิลปะที่ว่านี้จากคุณ Peter Dahmen ศิลปินผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทำงานศิลปะประเภทนี้มากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งผลงานของเขานั้นบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ และนี่ก็คืออาคารขนาดใหญ่ หนึ่งในผลงานศิลปะป๊อบอัพขนาดใหญ่ของเขา ศิลปินชาวเยอรมันคนนี้ได้เริ่มต้นงานศิลปะป๊อบอัพนี้ตั้งแต่ตอนที่เขาเริ่มศึกษาด้านกราฟิกดีไซน์ เพื่อใช้ในการสร้างงานออกแบบ 3 มิติของเขาเพื่อส่งอาจารย์ และจากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นั้นมันก็ทำให้เขาเริ่มพัฒนาฝีมือการออกแบบ และกลายมาเป็นหนึ่งในศิลปินป๊อบอัพที่มีฝีมือมากที่สุดคนหนึ่งเลย นอกจากนี้ในช่องยูทูบ Peter Dahmen Papierdesign ของเขายังได้มีการสอนเทคนิคการทำป๊อบอัพกระดาษแบบสามมิติง่ายๆ ให้สำหรับผู้ที่สนใจได้ลองทำตามอีกด้วย หนึ่งในผลงานที่สวยงามและน่าทึ่งของเขา และนี่คือคลิปวิดีโอที่รวบรวมผลงานศิลปะป๊อบอัพของเขาเอาไว้ล่ะ และสำหรับใครที่อยากฝึกทำงานศิลปะป๊อบอัพแบบนี้ ทางคุณ Peter Dahmen ก็ได้เปิดเว็บไซต์เพื่อสอนวิธีการทำป๊อบอัพแบบง่ายๆ ฟรีๆ กันอีกด้วยนะ โดยสามารถเข้าไปดูวิธีการทำได้ที่เว็บไซต์ peterdahmen ของเค้ากันได้เลย ที่มา thisiscolossal
-
ชายรุ่นพ่อทำร้ายร่างกายและข่มขืนหญิงสาวอย่างหนัก ทั้งขวด ทั้งไม้คิว ถึงขั้นต้องแท้งลูก!!
เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ผู้หนึ่ง เธอตกเป็นเหยื่อของการข่มขืนและทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง หลังจากที่นาย Michael Banks Gray ชายวัย 50 ปีได้ใช้สิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำ ไม้พูล ยัดเข้าไปในช่องคลอดเธอ จนเป็นสาเหตุให้เธอแท้งลูกในไม่กี่วันหลังจากนั้น หญิงสาวผู้โชคร้ายรายนี้เป็นหนึ่งใน 8 เหยื่อที่ถูกนาย Gray ข่มขืนและทำร้ายร่างกาย ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา นาย Gray ถูกตั้งข้อหาทั้งสิ้น 18 ข้อหาซึ่งประกอบไปด้วยการข่มขืน การทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ระหว่างปี 1987 ถึงปี 2012 และจะถูกพิพากษาในเดือนมกราคม ปีหน้า ตามการรายงานของสื่อต่างประเทศ หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อคนล่าสุดได้กล่าวว่าเธอรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมของชายคนนี้ แต่ก็รู้สึกโชคดีที่เรื่องเกี่ยวกับการเปิดโปงการล่วงละเมิดทางเพศนักแสดงหญิงของนาย Harry Weinstein นั้นทำให้เธอกล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ “ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือใครก็ตามที่กำลังใช้กำลังและทารุณพวกคุณ คุณควรที่จะออกมาพูดถึงสิ่งที่พวกเขาทำ ฉันพยายามรวบรวมความกล้า ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่กล้าที่จะออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะกลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด” หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อกล่าว นอกจากนี้หญิงรายนี้ยังได้เผยอีกว่า เธอถูกนาย Gray นั้นทำร้ายร่างกายมาเป็นเวลานานกว่า 7 ปีแล้ว หลังจากที่พบเขาครั้งแรกเมื่อปี 1998 ที่บ้านของเพื่อนเธอ ชายวัย 50…
-
หนุ่มมอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้คนไร้บ้าน หลังเห็นเขาต้องเดินเท้าเปล่า
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นที่เมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษหลังจากที่หนุ่มใหญ่คนหนึ่ง ได้มอบรองเท้า Nike Air Max มูลค่ากว่า 4,500 บาทให้กับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่ง หลังจากที่เห็นชายคนดังกล่าวเดินเท้าเปล่าอยู่บนถนน ในระหว่างที่ Craig Wells ชายวัย 36 ปีกำลังทานอาหารอยู่ในร้าน Wagamama ในเมืองนอตทิงแฮม พร้อมกับภรรยาและลูกๆ ทั้ง 3 คนของเขา ชายหนุ่มได้สังเกตเห็นหนุ่มไร้บ้านคนดังกล่าวเดินผ่านเขาไป Wells จำชายไร้บ้านคนนั้นได้ เขาชื่อ Mark คุณพ่อลูก 3 จึงรีบวิ่งออกไปจากร้านด้วยเท้าเปล่าพร้อมกับทักทายหนุ่มไร้บ้านคนนั้นทันที หลังจากที่ได้พูดคุยกัน คุณ Wells ก็ทราบว่าหนุ่มไร้บ้านคนนั้นใส่รองเท้าเบอร์เดียวกันกับเขา และด้วยความมีเมตตาคุณพ่อวัย 36 ปีจึงได้ถอดรองเท้าออกกำลังการคู่โปรดของเขาให้กับหนุ่มไร้บ้านทันที “นี่อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดูหุนหันไปหน่อย แต่หลังจากที่ผมมองเห็นเขาผ่าหน้าต่าง สภาพของเขานั้นดูแย่มาก เขาสวมเพียงแค่ถุงเท้าขาดๆ เท่านั้น” คุณ Wells เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น คุณพ่อผู้ใจดีเล่าว่าชายไร้บ้านคนดังกล่าวรู้สึกทราบซึ้งอย่างมากที่ได้รองเท้าคู่ใหม่ ” Mark ร้องไห้และบอกกับผมว่าไม่เคยมีใครทำอะไรแบบนี้กับเขามาก่อน ผมรู้สึกว่าเขาต้องการรองเท้าคู่นั้นมากกว่าผม” Wells กล่าว ภาพของทั้งสองถูกผู้คนในร้านอาหารถ่ายเอาไว้ได้ และจากนั้นเรื่องราวของคุณพ่อลูก 3 ก็ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ “ผมไม่ต้องการคำยกย่องอะไรสำหรับสิ่งที่ผมทำ สิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกๆ คนก็คือ ความรักเป็นเหมือนของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด…
-
10 เรื่องแปลกที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต แต่หารู้ไม่ว่าบางอย่างอันตรายถึงชีวิตเลยนะ!!
ถ้าหากว่าคุณกำลังคิดว่าบางสิ่งบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆ ตัวคุณนั้นมันช่างดูแปลกตา และบางครั้งคุณอาจจะตั้งคำถามกับสิ่งที่เห็นนั้นก็ได้ว่า “นี่มันบ้าไปกันใหญ่แล้วกระมัง??” แต่เชื่อแน่ๆ ว่าสิ่งแปลกๆ ที่คุณพบเห็นอยู่นั้นคงไม่เท่ากับ 10 อันดับของสิ่งที่ทำกันจนเป็นปกติในอดีต จากเว็บ brightside ที่เรานำมาฝากกันวันนี้แน่ๆ 1. การรักษาด้วยโคเคน เมื่อประมาณ 100 ปีก่อน นั้นคุณสามารถหาซื้อเจ้ายาเสพย์ติดชนิดนี้ได้ตามร้านขายยาทั่วไป และนอกจากนี้บนฉลากข้างขวดนั้นยังเขียนอธบายไว้ว่า โคเคนนั้นช่วยแก้อาการไปและปวดฟัน นอกจากนี้ยังมีการใช้โคเคนเป็นยากล่อมประสาทสำหรับเด็กอีกด้วย และมีการโฆษณาถึงสรรพคุณกันอย่างมากมายในสมัยนั้น 2. ส่งเด็กน้อยผ่านทางบริการส่งจดหมาย นี่อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่มันเกิดขึ้นจริงในศตวรรษที่ 20 ในสมัยนั้นบริการส่งเด็กผ่านทางบุรุษไปรษณีนั้นเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย และมีค่าบริการที่แสนถูก โดยเริ่มต้นเพียงแค่ 4 บาทเท่านั้นเอง!! 3. กรงเลี้ยงเด็กแบบนอกบ้าน ในช่วงปี 1930 กรงเลี้ยงเด็กแบบนอกบ้านนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในครอบครัวของชาวอังกฤษ ถึงแม้ว่ามันจะดูอันตรายไม่น้อย แต่ว่ามันก็ช่วยให้เจ้าตัวน้อยได้สูดอากาศบริสุทธิ์ในระหว่างที่แม่ของพวกเขากำลังยุ่งกับการเตรียมอาหารเย็นอยู่ 4. สวนของฤๅษี สวนของฤๅษีนั้นเป็นหนึ่งในรสนิยมของเศรษฐีในช่วงศตวรรษที่ 18 การมีฤาษีส่วนตัวไว้ที่บ้านเพื่อดูเล่นนั้นเป็นเหมือนความภาคภูมิใจของเศรษฐียุคนั้น และนอกจากนี้พวกฤาษีที่อาศัยอยู่ในสวนแห่งนี้จะไม่ได้รับอนุญาติให้ตัดผมและเล็บ และนอกจากนี้ยังต้องอาศัยอยู่ในถ้ำที่ทางเจ้าของบ้านสร้างไว้ให้อีกด้วย 5. การรักษาโรคแบบแปลกๆ ในสมัยก่อนนั้นเราสามารถพบเห็นการรักษาโรคแบบแปลกๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกรีดเลือดเพื่อเอาเชื้อโรคออก…
-
ปฏิวัติวงการ!! แคนาดาคิดค้น ‘Arctic Apple’ แอปเปิ้ลที่ไม่เปลี่ยนสี แม้จะถูกผ่าหรือทำให้ช้ำ!!
แอปเปิ้ลที่มีรอยช้ำสีน้ำตาล อาจจะดูไม่ค่อยน่าทานสำหรับบางคนมากเท่าไหร่ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทางทีมค้นคว้าของบริษัท Okanagan Specialty Fruits จากประเทศแคนาดา ได้ทำการพัฒนาแอปเปิ้ลที่จะไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แม้ว่าจะอยู่ในสถาพใดก็ตาม และกำลังวางแผนจำหน่ายในร้านค้าทั่วไปเร็วๆ นี้ การเปลี่ยนสีของเนื้อแอปเปิ้ลนั้นเกิดจากเอนไซม์ที่ชื่อว่า polyphenol oxidase (PPO) ในแอปเปิ้ลเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีทำให้เนื้อของแอปเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเวลาที่คุณผ่า กัด หรือโดนลม เจ้า Arctic Apple นี้เป็นหนึ่งในผลงานการคิดค้นของทีมวิศกรรมทางพันธุศาสตร์ของบริษัทดังกล่าว มันสามารถคงความสดได้เป็นเวลานาน ซึ่งทางบริษัท Okanagan Specialty Fruits อ้างว่าการคิดค้นครั้งนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณการบริโภคแอปเปิ้ลและลดปริมาณขยะอาหารลง คุณ Neil Carter ประธานบริษัท Okanagan และ Louisa ภรรยาของเขาใช้เวลานานกว่า 20 ปีในการคิดค้นและพัฒนาเจ้า Arctic Apple นี้ ก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ทำการทดลองปลูกแอปเปิ้ลสายพันธุ์ที่ไม่เปลี่ยนสีอย่าง Golden Delicious และ Granny Smith ในปี 2013 ทั้งสองใช้เวลาพัฒนาและทดสอบอยู่นานหลายปี เพื่อให้แน่ใจว่าผลไม้ที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมของพวกเขาจะปลอดภัยกับทุกคน Arctic Apple นั้นผ่านมาตรฐานของกรมวิชาการเกษตรของสหรัฐ “การลดลงของเอนไซม์ PPO นั้นทำให้แอปเปิ้ลไม่เปลี่ยนสี ต้นของ Arctic Apple นั้นมีการเจริญเติบโตที่เหมือนกับแอปเปิ้ลต้นอื่นๆ แอปเปิ้ลพันธุ์นี้ปลอดภัยต่อสุขภาพ และนอกจากนี้มันยังมีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนกับแอปเปิ้ลพันธุ์ Granny Smith แต่ Arctic Apple…
-
น้องหมาที่เคยถูกรังแกมาก่อน ไม่ยอมเปิดใจรับใครเลย จนกระทั้งได้พบหนูน้อยคนนี้
เรื่องราวของเจ้า Nora น้องหมาสุดเศร้าที่โตมาพร้อมกับการถูกทำร้ายจากเจ้านายคนก่อน มันต้องอยู่กับความหวาดระแวงตลอดเวลา และกลายเป็นน้องหมาที่ไม่ไว้ใจใครเลย จนกระทั่งได้มาเจอเจ้าหนูน้อยคนนี้!! “เราพาเจ้า Nora มาจากสถานสงเคราะห์สัตว์เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ก่อนที่เราจะมีเจ้าตัวเล็ก ถึงแม้ว่ามันจะเจอเรื่องราวเลวร้ายมาก่อน แต่เราก็มั่นใจว่ามันจะสามารถอยู่กับเราในบ้านหลังใหม่และมีความสุขได้” คุณ Elizabeth เจ้านายคนใหม่ของเจ้าตูบกล่าว ครอบครัวของคุณ Elizabeth นั้นเป็นครอบครัวใหญ่ นอกจากเจ้า Nora แล้ว สมาชิกในครอบครัวเธอนั้นยังประกอบไปด้วยเจ้าเหมียว 3 ตัว ลูกๆ 3 คน และเจ้าตูบอีก 3 ตัว และในความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้านทั้ง 11 ชีวิต ดูเหมือนว่าเจ้า Nora นั้นจะเข้ากับเจ้าหนูน้อย Archie ลูกชายของ Elizabeth ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เจ้าหนู Archie และเจ้า Nora “Archie เป็นเด็กที่ร่าเริง และอารมณ์ดี เขาเข้ากันได้ดีกับสัตว์ทุกตัวในบ้าน และดูเหมือนว่าเขาจะสนิทกับเจ้า Nora เป็นพิเศษ เจ้าตูบเติบโตมาพร้อมกับความรุนแรง ดังนั้นมันจึงค่อนข้างที่จะระแวงทุกๆ อย่าง แต่สำหรับลูกชายของเรานั้นมันกลับไม่มีอาการหวาดกลัวเลย” คุณ Elizabeth กล่าว…
-
นักเรียนระดมเงินให้คุณครูผู้ทุ่มเทสอนตั้งแต่วัยหนุ่ม เพื่อนำไปจ่ายค่ารักษาตัวของเขาและภรรยา
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับคุณครู Walter Erickson อาจารย์ผู้ทุ่มเทให้กับการสอนอย่างเต็มเวลาและผันตัวมาเป็นอาจารย์ช่วยสอนหลังจากเกษียณอายุเป็นเวลามานานกว่า 25 ปี ชายวัย 80 ปีผู้เป็นที่รักของนักเรียนจากโรงเรียน Champlin Park High School ถึงแม้ว่าเขาจะถึงวัยเกษียณอายุไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ในทุกๆ วันเขาก็ยังคงทำหน้าที่สอนหนังสืออย่างเต็มที่เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว คุณ Erickson นั้นรักในการสอนมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาต้องการเงินจากค่าจ้างในการสอนนั้นไปเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาภรรยาของเขา และเมื่อ Kelsy Breiter และ Katie Blodgett นักเรียนของเขาทั้ง 2 คนทราบเรื่องนี้ ทั้งคู่จึงพยายามหาทางที่จะช่วยคุณครูของพวกเขา ทั้งสองได้ระดมทุนผ่านเว็บไซต์ GoFundMe โดยตอนแรกพวกเขาตั้งเป้าของยอดบริจาคไว้ที่ 500 เหรียญหรือประมาณ 16,000 บาทเท่านั้น แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 9 วันยอดบริจาคกลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 14,000 เหรียญหรือประมาณ 460,000 บาทเลยทีเดียว . การระดมทุนได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด คุณครูวัย 80 ปีได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย “มันเป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก เขาเป็นครูช่วยสอนที่สนิทกับพวกเรา เขารักในสิ่งที่เขาทำและการสอนของเขานั้นก็ทำให้เราสนใจที่จะเรียนรู้มากขึ้นด้วย” Katie กล่าว ส่วนทางด้านคุณ Erickson นั้นก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณกับสิ่งที่นักเรียนทั้งสองและคนอื่นๆ ได้ทำให้เขา “ผมบอกเรื่องนี้กับภรรยาผมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เธอดีใจมากและรู้สึกชื่นชมพวกเด็กๆ จริงๆ “ คุณครูวัย 80…
-
พาไปดูการสอบข้อเขียนการเป็น “นินจา” ไม่ใช่แค่ว่าใส่ชุดและสู้เป็นเท่านั้น ต้องมีใบรับรองด้วย
บางครั้งการจะประกอบอาชีพบางอาชีพได้นั้น คุณอาจจะจำเป็นต้องผ่านการเรียนรู้และการฝึกฝนทักษะต่างๆ และที่สำคัญบางครั้งคุณเองอาจจะต้องผ่านการทดสอบเพื่อยืนยันว่าคุณมีคุณสมบัติที่พร้อมสำหรับอาชีพนั้นจริงๆ และนินจาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยการจะเป็นนินจาที่สมบูรณ์แบบได้นั้นคุณเองก็จะต้องสอบให้ผ่านข้อเขียนวัดทักษะด้วยเช่นกัน!! นินจา Koga นั้นเป็นกลุ่มนินจาที่อยู่ภายใต้การนำของ Ieyasu Tokugawa นายพลผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงสมัย Edo โดยการทดสอบความรู้ความสามารถของนินจาครั้งนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ที่วัด Zojo-ji วัดพุทธในกรุงโตเกียวที่มีความเกี่ยวข้องกับตระกูล Tokugawa การทดสอบครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 แล้วนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดการทดสอบขึ้นมา ซึ่งในระดับแรกนั้นผู้เข้าร่วมการทดสอบนั้นจะต้องตอบคำถามทั้งหมด 50 ข้อภายในระยะเวลา 30 นาที เมื่อได้คะแนนมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปถึงจะผ่านการทดสอบ จากนั้นผู้ที่ผ่านการทดสอบจะได้เข้ารับการทดสอบในการสวมชุดนินจาและทักษะการใช้อาวุธนินจา และเมื่อผ่านระดับนี้ไปได้คุณก็จะกลายเป็นนินจาเต็มตัวแล้ว และนอกจากการทดสอบความรู้ความสามารถทางด้านนินจาแล้ว ในงานดังกล่าวยังมีการแสดงทักษะพิเศษของเหล่านินจาอีกด้วย โดยการแสดงนั้นจะจัด 2 รอบต่อวัน ในเวลา 11.00 – 11.30 และเวลา 12.00-12.30 ในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคมนี้ และสำหรับใครที่สนใจรายละเอียดงานเพิ่มเติมล่ะก็ สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ koka-kanko กันได้เลยจ้า ที่มา kotaku, moshimoshi-nippon
-
เชฟ Gordon Ramsey พาไปชมกรรมวิธีผลิต “โคเคน” ไม่ได้เอามาทำอาหาร แต่ให้รู้ถึงภัยของมัน
ถ้าหากพูดถึงชื่อของ Gordon Ramsay หลายๆ คนคงจะนึกถึงภาพของเชฟสุดโหดที่ด่าทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ไม่น่าเชื่อว่าพ่อหนุ่มเชฟใหญ่อย่างเขาจะมาทำรายการที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอย่างรายการ Gordon Ramsay on Cocaine โดยสารคดีดังกล่าวจะมีทั้งหมด 2 ตอนด้วยกัน ซึ่ง Gordon Ramsay on Cocaine นั้นจะเป็นหนึ่งในตอนของซีรีย์สารคดีอาชญากรรมอย่าง Crime & Punishment ที่ออกอากาศทางช่อง ITV โดยชื่อของเชฟใหญ่อย่าง Gordon Ramsay กับยาเสพติดชื่อก้องโลกอย่างโคเคนนั้นดูเหมือนจะไม่มีจุดที่เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ทางเชฟของเรานั้นก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขาต้องการที่จะทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้โคเคนเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านอาหาร “ผมอยากเข้าใจโลกของยาเสพติดชนิดนี้ ตั้งแต่ตอนที่ผมเสียพ่อครัวดีๆ คนหนึ่งไปเพราะมัน และผมอยากจะรู้ว่าทำไมมันถึงระบาดไปทั่วโลก และโดยเฉพาะในด้านธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร” Gordon Ramsay กล่าว โดยในรายการนี้พ่อครัวของเราจะเดินทางเข้าไปในป่า เพื่อเจาะลึกการทำยาเสพติดชนิดนี้ และเผยให้เห็นถึงความน่ากลัวของสารตั้งต้นต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตโคเคน “ผมสาบานได้เลยว่าใครที่ดูรายการนี้แล้ว คุณจะไม่อยากนึกถึงโคเคนอีกเลย” เชฟหนุ่มของเรากล่าว รายการ Gordon Ramsay on Cocaine นั้นจะออกอากาศตอนแรกในวันที่ 19 ตุลาคม และตอนที่ 2 ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ทางช่อง ITV…
-
คุณแม่ลูกเจ็ดหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง จนกลับมามีหุ่นสวยเหมือนเป็นพี่สาวของลูกเลยทีเดียว!!
กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังจากที่คุณ Jessica Enslow คุณแม่ลูก 7 ที่ใช้เวลาในการลดน้ำหนักและดูแลตัวเองอย่างเข้มงวดตลอดระยะเวลา 6 เดือน และกลับมาดูดีได้อีกครั้งพร้อมกับเผยหุ่นสุดแซบของเธอบนอินสตราแกรม คุณแม่วัย 43 ปี จากเมือง Salt Lake City รัฐยูทาห์ ได้พยายามต่อสู้กับสภาวะน้ำหนักเกินหลังการคลอดลูก หลังจากที่เธอให้กำเนิดลูกคนแรกเมื่อตอนอายุ 20 ปี โดยแรงบันดาลใจในการลดน้ำหนักของเธอนั้นเริ่มจากการที่เธอสวมกางเกงยีนส์ตัวเก่าไม่ได้ และรู้สึกว่าตัวเองนั้นอ้วนเกินไป หลังจากที่เริ่มลงมือศึกษาการออกกำลังกายตั้งแต่ตอนที่คลอดลูกคนแรกของเธอ แต่มันก็ไม่เป็นผลสำเร็จจนกระทั่งหลังจากที่คลอดลูกคนสุดท้ายของเธอเมื่อปี 2013 คุณแม่วัย 43 ปี จึงเริ่มกลับมาตั้งใจดูแลตัวเองอย่างจริงจังอีกครั้ง หลังจากที่ตั้งท้องลูกคนสุดท้ายคุณ Jessica มีน้ำหนักตัวประมาณ 61 กิโลกรัม แต่ตอนนี้น้ำหนักตัวของเธอนั้นเหลือเพียงแค่ 52 กิโลกรัมเท่านั้น แถมรูปร่างและหน้าตาของเธอยังดูเด็กลงอีกด้วย คุณ Jessica และครอบครัวของเธอ “ฉันรู้สึกตกใจกับร่างกายของฉันหลังจากที่ตั้งครรภ์ลูกคนแรกมาก ฉันจำได้ว่าหลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลฉันพยายามที่จะใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่า แต่มันก็ใส่ไม่ได้ มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันปล่อยตัวเองมากเกินไปแล้วนะ” คุณ Jessica กล่าว และหลังจากคลอดลูกคนที่ 7 คุณ Jessica…
-
ครูสาวสามารถเอาชนะอาการ “เสพติดอาหาร” ได้ และกลับมามีรูปร่างดีได้อีกครั้ง
หลังจากที่ต้องเจอเรื่องราวร้ายๆ ในวัยเด็ก ทำให้คุณ Camila Coelho Nery ครูสาววัย 29 ปีต้องพบกับปัญหาความเครียดและนั่นเป็นหนึ่งในสาเหตุของน้ำหนักตัวที่มากกว่า 91 กิโลกรัมของเธอ แต่เมื่อหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี เพื่อนๆ ของเธอก็แทบจะตกใจ เมื่อคุณครูสาวของเราสามารถลดน้ำหนักไปได้มากกว่า 40 กิโลกรัม และตอนนี้เธอเหลือน้ำหนักเพียงแค่ 58 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจหันมาดูแลตัวเองและลดน้ำหนักนั่นก็คือร่างกายที่ใหญ่โตของเธอนั้นทำให้หาเสื้อผ้าใส่ยากนั่นเอง “ฉันไปที่ร้านขายเสื้อผ้า และเข้าไปในห้องลองเสื้อเพื่อพยายามหาเสื้อผ้าที่พอดีกับตัวฉัน แต่มันก็ไม่มีเลย ฉันเสียใจอย่างมากและคิดว่าต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว” คุณครูวัย 29 ปีกล่าว นอกจากนี้ความอ้วนนั้นยังส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของเธออีกด้วย มันทำให้เธอหายใจลำบากและรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่มีค่า Nery เล่าว่าเธอมักจะตื่นขึ้นมาตอนดึกพร้อมกับอาการเหนื่อยและหายใจแบบสั้นๆ หญิงสาวเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยเริ่มจากการควบคุมอาหาร เธอลดปริมาณพลังงานจากอาหารให้เหลือเพียงแค่ 1,400 กิโลแคลอรี่ต่อวันในวันปรกติ และเพิ่มเป็น 1,900 กิโลแคลอรี่ในวันที่เธอออกกำลังกาย Nery เล่าว่าส่วนที่ยากที่สุดในการลดน้ำหนักของเธอคือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาหารและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แต่หลังจากที่การลดน้ำหนักของเธอเริ่มประสบผลสำเร็จ สุขภาพร่างกายของเธอก็เริ่มกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง “หลังจากการลดน้ำหนัก ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าเดิม” หญิงสาวกล่าว นอกจากนี้ Nery ยังได้ให้คำแนะนำอีกว่าการลดน้ำหนักนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทนทานแต่อาหารที่ไม่ชอบ แต่คุณแค่ต้องปรับปรุงเมนูอาหารบ้างนิดหน่อย และรู้จักเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ …
-
นักชีววิทยาเผย พืชสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวมันเอง แต่ไม่อาจรู้สึกเจ็บปวดได้
เมื่อเร็วๆ นี้ทางศาสตราจารย์ Daniel Chamovitz นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย Tel Aviv University ประเทศอิสราเอลผู้แต่งหนังสือ What a Plant Knows ได้ออกมาเปิดเผยว่าอันที่จริงแล้วพวกต้นไม้ใบหญ้าเองนั้นก็มีความรู้สึกเหมือนกันนะเออ!! โดยศาสตราจารย์ Chamovitz ได้เปิดเผยว่า จริงๆ แล้วพืชนั้นมีความรู้สึก แต่อย่างไรก็ตามความรู้สึกของพวกมันนั้นเป็นเพียงแค่การรับรู้และไม่มีอะไรที่ซับซ้อนเหมือนกับมนุษย์ “พวกไมยราบและว่านกราบหอยแครงนั้น มีอวัยวะพิเศษที่เรียกว่า pulvinus ที่จะทำหน้าที่ตอบสนองต่อการสัมผัส ซึ่งพืชชนิดอื่นๆ นั้นจะไม่มีอวัยวะที่ว่านี้” นักชีววิทยากล่าว แต่นอกจากพืชทั้งสองชนิดแล้ว ศาสตรจารย์ Chamovitz ยังได้กล่าวว่าพืชชนิดอื่นๆ ก็มีการรับรู้ได้ด้วยเช่นกัน โดยเขาได้อธิบายว่า เมื่อมีแมลงหรือศัตรูพืชที่พยายามจะกัดกินใบของพืชนั้น พวกมันจะรับรู้ได้ว่ากำลังมีบางอย่างที่ทำร้ายมันอยู่และจะส่งสัญญาณคลื่นไฟฟ้าและเริ่มสร้างกลไกลขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามพืชนั้นไม่ได้มีระบบประสาทเหมือนกับมนุษย์ และพวกมันก็ไม่มีโนซิเซ็ปเตอร์ หรือเซลล์ประสาทรับความรู้สึกที่จะตอบสนองต่อความเสียหายและแสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาเหมือนกับมนุษย์ นั่นหมายความว่าเวลาที่เราตัดกิ่งต้นไม้พวกมันจะไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่พวกมันสามารถรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่!! ถึงแม้ว่าจะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด แต่อย่างไรก็ตามพวกมันยังคงมีวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอด ซึ่งเป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั่วๆ ไป “สิ่งมีชีวิตทุกชนิดพยายามที่จะดำรงเผาพันธุ์ให้อยู่รอดให้ได้ ไม่ว่าพวกมันจะรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ก็ตาม เหมือนกับต้นไม้ที่อยู่บนยอดเขาก็จะมีกิ่งก้านและใบที่น้อยกว่าต้นไม้ต้นอื่นๆ เพื่อลดแรงต้านของลงนั่นเอง” ศาสตราจารย์ Chamovitz กล่าว ที่มา vice
-
สื่อนอกจัดอันดับ 10 อันดับ “ชาวจ๊าบและแก๊งค์วัยรุ่น” กวนเมืองจากทั่วโลก เฟี้ยวๆ ทั้งนั้น!!
ชาวแก๊งค์หรือกลุ่มวัยรุ่นที่มักจะก่อความวุ่นวายในเมืองนั้น เป็นอีกมุมหนึ่งของสังคมที่เรามักจะเคยได้ยินชื่อเสียงของพวกเขาในด้านไม่ดีอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อความวุ่นวาย หรือการทำลายทรัพย์สินต่างๆ แน่นอนว่าชาวแก๊งค์แบบนี้นั้นไม่ได้มีอยู่แค่ในบ้านเราเท่านั้น แต่ในต่างประเทศเองก็มีเช่นกัน และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 อันดับแก๊งค์วัยรุ่นกวนเมืองจากทั่วโลก จะมีแก๊งค์ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. Racaille จากประเทศฝรั่งเศส สมาชิกของแก๊งค์ Racaille นั้นเป็นชาวฝรั่งเศสทั้งหมด โดยกิจกรรมหลักๆ ของพวกเขาก็คือการออกไปเที่ยวเล่นที่สถานีรถไฟใต้ดิน ฟังเพลงจากโทรศัพท์ ลักขโมยของ และรังแกเด็กๆ นอกจากนี้พวกเขายังชื่นชอบเสื้อผ้ายี่ห้อ Lacoste อีกด้วย 2. White trash จากสหรัฐอเมริกา White trash คือกลุ่มคนระดับล่างของที่นี่ พวกเขามักจะเมากันตลอดเวลา และส่วนมากนั้นไม่มีงานทำ นอกจากนี้กิจกรรมของพวกเขาก็คือการออกไปสังสรรค์ ทะเลาะวิวาท และก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น 3. Chavs จากประเทศอังกฤษ พวกเขานั้นมักจะอยู่ในเขตที่พักอาศัยของผู้มีรายได้น้อย และมักจะแต่งตัวด้วยเสื้อแจ๊กเก็ตกีฬา สวมหมวกไหมพรม และคาบบุหรี่ตลอดเวลา กิจกรรมของพวกเขาโดยส่วนมากแล้วก็การต้มตุ๋น การก่อความวุ่นวายบนถนน และออกไปมั่วสุมกันตามสถานที่ต่างๆ 4. Yankii จากประเทศญี่ปุ่น Yankii คือกลุ่มคนทำงานวัยรุ่นของประเทศญี่ปุ่น แต่พวกเขาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับแก๊งค์ยากูซ่าเลย โดยพวก Yankii นั้นจะชอบก่อความวุ่นวายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับมอเตอร์ไซค์เสียงดัง…
-
14 ความสำราญใจ ของทั้งผู้ใช้บริการและคนขับอูเบอร์ แบบนี้ก็มีด้วยหรือนี่!?
แท็กซี่อูเบอร์ นั้นอาจจะเป็นบริการที่ไม่ถูกกฎหมายในบางประเทศ แต่สำหรับในหลายประเทศนั้นการให้บริการดังกล่าวนั้นป็นเรื่องถูกกฎหมาย และได้รับความนิยมอย่างมากอีกด้วย แน่นอนว่าการให้บริการอูเบอร์นั้นเป็นการนำรถยนต์ส่วนตัวมาให้บริการแทนรถแท็กซี่ ซึ่งคนขับแต่ละคนนั้นก็จะมีเทคนิคการให้บริการที่แตกต่างกันออกไป และวันนี้เราก็มีภาพฮาๆ จากทั้งคนขับและผู้โดยสารรถแท็กซี่นี้จะต่างประเทศมาฝากกัน จะฮาแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. น้องหมาของคนขับอูเบอร์ ที่คอยนั่งเป็นเพื่อนเจ้านาย และผู้โดยสาร เอ่อ… หวังว่าคุณคงจะไม่แพ้ขนหมานะ!? 2. ขึ้นรถคันนี้มีแต่อิ่มกับอิ่ม!! 3. อืม… จะนั่งไปด้วยดีไหมเนี่ย?? 4. ไม่ว่าคุณจะใช้โทรศัพท์รุ่นไหน เราก็เตรียมสายชาร์จไฟไว้บริการคุณทุกแบบ!! 5. แหม่… ดีจังเลยนะ มีเกมให้เล่นด้วย 6. เจอผู้โดยสารแบบนี้ ก็ขอหน่อยสักรูป ฮ่าๆ 7. ในรถอูเบอร์คันนี้ เค้ามีบริการไวไฟฟรีด้วยนะเออ!! 8. ส่วนคันนี้ก็มีตั้งแต่พาสเตอร์ปิดแผล ไปจนถึงที่แคะหูเลยทีเดียว 9. เจอลูกค้าแบบนี้ ตอนดึกๆ แบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าขนลุก!! 10. คันนี้เองก็มีแจกอาหารรอบดึกด้วยนะเออ!! 11. เดี๋ยวพี่ขอแวะไปส่งลูกก่อนนะพ่อหนุ่ม…
-
สื่อนอกเผย 15 อันดับ “คนรุ่นใหม่” ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก เอางี้จริงๆ นะ!!
หลังจากที่ Sebastian Kurz ได้ชนะการเลือกตั้งและกำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของประเทศออสเตรียในเร็วๆ นี้ เขาเปรียบเหมือนหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่นอกจากว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของออสเตรียแล้ว ในโลกเรานั้นยังมีคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ทรงอิทธิพลในโลกอีกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้เราก็ได้นำ 15 อันดับคนรุ่นใหม่ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกจากเว็บไซต์ Business Insider มาฝากกัน แต่ละคนจะเป็นใครบ้างนั้นไปชมกันเลย.. 15. Enrico Carattoni หนุ่มวัย 32 ปี หนึ่งในผู้นำสูงสุดจากประเทศซานมารีโน 14. Oyo Nyimba Kabamba Iguru Rukidi IV กษัตริย์วัย 25 ปีของอณาจักร Toro หนึ่งในราชอาณาจักในประเทศยูกันดา พระองค์ขึ้นครองราชครั้งแรกตั้งตอนอายุ 3 ขวบหลังจากที่พระบิดาสวรรคตในปี 1995 13. Malala Yousafzai หญิงสาววัย 20 ปี เจ้าของรางวัลโนเบลทางด้านสิทธิสตรีที่อายุน้อยที่สุด เธอทำงานอย่างหนักเพื่อต่อสู้เรียกร้องสิทธิในด้านการศึกษาของสตรีในปากีสถานภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลีบัน 12. Beyoncé Knowles-Carter นักร้องสาวชื่อดังวัย 36 ปี ผู้เป็นเจ้าของเพลงฮิตมากมาย 11. LeBron James นักบาสเก็ตบอลวัย 32 ปี หนึ่งในดาวดังจากวงการ…
-
ญี่ปุ่นรณรงค์ให้คน “ขอบคุณ” รถที่จอดให้ข้าม กลายเป็นคลิปไวรัลที่ชาวเน็ตหลงรัก
การโค้งคำนับ ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทักทายของชาวญี่ปุ่นที่ดูอ่อนช้อยและสวยงาม นอกจากจะใช้แทนการกล่าวทักทายกันแล้ว การโค้งคำนับยังยังเป็นการแสดงความขอบคุณอีกด้วยเช่นกัน และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีหนึ่งในแคมเปญรณรงค์อันสุดแสนจะน่ารักของที่นี่ นั่นก็คือการสนับสนุนให้ทุกคนโค้งคำนับให้กับรถที่จอดให้ข้ามถนนเพื่อเป็นการแสดงถึงความขอบคุณน้ำใจของผู้ใช้รถนั่นเอง คลิปวิดีโอไวรัลจาก จังหวัด Iwate ทางต้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น ได้ทำเอาหลายๆ คนรู้สึกดีไปตามๆ กัน หลังจากที่เห็นการแสดงวัฒนธรรมนี้ระหว่างผู้ใช้รถและคนเดินเท้า บริเวณสี่แยกในจังหวัด Iwate เด็กๆ ในเมืองนี้จะได้รับการสอนให้โค้งคำนับแก่ผู้ที่มีน้ำใจบนท้องถนนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ซึ่งการโค้งคำนับนี้ถูกจัดอยู่ในวิชามารยาทของเด็กๆ ในจังหวัดนี้เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะไม่ได้มีข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่นิสัยนี้ก็ติดตัวผู้คนในจังหวัดนี้ และกลายเป็นเหมือนวัฒนธรรมของที่นี่ไปเลยทีเดียว เด็กๆ ที่แสดงการโค้งคำนับเพื่อขอบคุณ คนขับรถที่ยอมให้พวกเขาข้ามถนนก่อน แหม่.. ดูน่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย และเมื่อคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้รับคำชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมาก หลายๆ คนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย “ฉันเห็นการโค้งคำนับนี้ทุกๆ ครั้งที่ฉันจอดให้คนข้ามถนนในตอนที่ไม่มีสัญญาณไฟ และถึงแม้ว่าฉันจอดเพราะติดไฟแดง พวกเขาก็ยังคงโค้งคำนับเช่นกัน” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต “ฉันมาจากจังหวัด Iwate ฉันคิดว่าทุกคนที่นี่ทำแบบนี้ แต่ทำแบบเดียวกันนี้ที่ Yokohama เมื่อ 40 ปีที่แล้ว มันกลับเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับคนที่นั่น” “นี่เป็นสิ่งที่เราควรจะเริ่มทำกันไม่ว่าจะที่ใดก็ตามในประเทศ” นอกจากมารยาทในการใช้รถใช้ถนนแล้ว ที่จังหวัดแห่งนี้ยังมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนที่ต่ำมากๆ อีกด้วย โดยจากการศึกษาในปี…
-
ผมไม่ไหวแล้วนะ!! คุณลุงหนีไปใช้ชีวิตในป่านาน 5 ปี ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียว ‘เบื่อเมีย’
เรื่องราวของคุณลุงวัย 62 ปี จากเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษผู้นี้ กลายเป็นข่าวดังในต่างประเทศทันที หลังจากที่เขาได้หนีเข้าไปใช้ชีวิตในป่านานถึง 5 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในที่พักอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้มาจากสาเหตุเดียวเท่านั้นคือ “เบื่อเมีย” ก่อนหน้าที่จะแต่งงานคุณ Malcolm Applegate เป็นคนที่ชื่นชอบในการทำสวน และมักจะสอนคนอื่นๆ เกี่ยวกับเทคนิคการทำสวนของเขา แต่หลังจากที่เริ่มต้นชีวิตแต่งงาน เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว คุณลุงก็เริ่มพบว่าชีวิตของเขานั้นเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ คุณลุงเล่าว่าในช่วงแรกของการแต่งงานนนั้นทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี และภรรยาของเขาก็เป็นคนดีมากด้วย แต่หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเข้ามาควบคุมชีวิตของเขา บางครั้งเขาต้องงดกิจกรรมโปรดเพื่อเอาใจเธอ และเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ความอดทนถึงขีดสุดเขาจึงตัดสินใจที่จะเก็บข้าวของหนีมาแบบดื้อๆ โดยไม่ได้ทำการหย่าร้างหรือบอกเธอเลย “ผมแต่งงานอยู่กับเธอประมาณ 3 ปี และจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มแย่ลง และหลังจากนั้นผมก็เริ่มเบื่อที่เรามักจะทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ ” คุณลุงเล่าถึงชีวิตคู่ของเขา ในตอนที่หนีออกมา คุณลุงวางแผนที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรอบๆ กรุงลอนดอน แต่ทว่าระหว่างทางรถมอเตอร์ไซค์ของเขากลับถูกขโมยไป คุณ Malcolm จึงต้องเดินเท้าเป็นเวลากว่า 3 สัปดาห์ จนกระทั่งมาถึงป่าแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับเมืองคิงส์ตัน ทางตอนใต้ของลอนดอน คุณลุงตัดสินใจค้างคืนที่นั่นและออกมาทำงานเกี่ยวกับการดูแลสวนให้กับศูนย์ชุมชนใกล้ๆ ในตอนเช้า “มีพวกเรา 3 คนค้างคืนอยู่ตรงนั้น เราไปทำงานที่ศูนย์ชุมชนใกล้ๆ…
-
โหดสัสรัสเซีย… ช่างตัดผมถูกแทงเสียชีวิต หลังตัดให้ผมไม่ถูกใจลูกค้า ได้ทรงคล้ายนักโทษ
บางครั้งคำว่า “เอาออกนิดเดียว” ของเราและช่างตัดผมนั้นมักจะไม่เท่ากัน และบางครั้งคุณอาจจะเกิดอาการเขินนิดหน่อยหลังจากที่ออกมาจากร้านตัดผม แต่ถึงแม้ว่าช่างจะตัดได้ขัดใจแค่ไหน ก็คงไม่มีใครที่จะโกรธถึงขั้นลงไม้ลงมือกับช่างตัดผมเหมือนหนุ่มรัสเซียคนนี้แน่ ภาพจากคลิปวิดีโอของกล้องวงจรปิดบนถนนสายหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงมอสโคได้เผยให้เห็นวินาทีที่นาย Pavel Luzyanin ได้ใช้อาวุธแทงเข้าที่หน้าอกของคุณ Dastan Adkhamov ช่างตัดผมวัย 24 ปี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต หลังจากที่เขาเพิ่งใช้บริการช่างตัดผมผู้โชคร้ายไปหมาดๆ นาย Pavel Luzyanin ลูกค้าผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าตำรวจกล่าวว่า หลังจากที่แทงหน้าอกเหยื่อถึง 3 ครั้ง นาย Luzyanin ได้เดินหนีไปอย่างช้าๆ แต่ทว่าหลังจากที่เขาเห็นว่าคุณ Adkhamov นั้นยังมีลมหายใจอยู่ ชายหนุ่มจึงได้กลับมาทำร้ายเขาอีกครั้ง โดยการใช้เหล็กเสียบบาบีคิวแทงเข้าที่คอจนเสียชีวิตในที่สุด จากคำให้การของเพื่อนผู้ตาย ช่างตัดผมผู้นี้เป็นชาวอุซเบกิสถาน ที่หลบหนีเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมาย และเริ่มต้นอาชีพช่างตัดผมของเขาที่เมืองนี้ และนี่คือวินาทีที่คุณ Adkhamov ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต นาย Luzyanin ได้มาใช้บริการตัดผมเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ในตอนแรกหลังจากที่กลับออกจากร้านตัดผมไป เขามีความสุขกับผมทรงใหม่อย่างมาก แต่ในวันต่อมา ชายหนุ่มกลับมาที่ร้านตัดผมหลังจากที่เขาถูกเพื่อนบอกว่าผมทรงใหม่นั้นเหมือนกับนักโทษเลย Luzyanin บอกกับเพื่อนของเขาว่าเขาไม่สามารถทนต่อคำเยาะเย้ยได้ และจะกลับไปหาช่างตัดผมคนนั้น ถึงแม้ว่าคุณ Adkhamov จะยอมแก้ไขทรงผมให้ใหม่ แต่ชายหนุ่มกลับไล่ทำร้ายเขาจนเสียชีวิต Luzyanin ถูกจับกุมตัวได้ไม่นานหลังจากที่เกิดเหตุ…
-
9 เรื่องที่ทำให้วันเปิด Disney Land ในปี 1955 กลายเป็น “ฝันร้าย” สำหรับหลายคนที่ไปเที่ยว!?
Disney Land หนึ่งในสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่นี่มีการเปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อ วันที่ 17 กรกฎาคม ปี 1955 และแน่นอนว่าในการเปิดตัวครั้งแรกนั้นก็ย่อมมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และวันนี้เราก็ได้รวบรวม 9 เหตุการณ์ที่ทำให้สวนสนุกแห่งนี้กลายเป็นฝันร้ายสำหรับใครหลายๆ คนในวันเปิดตัว Disney Land แห่งแรกจาก BuzzFeed มาฝากกัน ซึ่งแต่ละเหตุการณ์จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. การก่อสร้างบางส่วนของสวนสนุกแห่งนี้ยังไม่เสร็จเรียบร้อย ในวันเปิดทำการวันแรกนั้น การก่อสร้างต่างๆ ภายในสวนสนุกแห่งแรกของ Disney นี้แล้วเสร็จไปเพียงแค่ 3 ใน 4 เท่านั้น และแน่นอนว่าในพื้นที่ส่วนที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จนั้นก็เต็มไปด้วยกองวัสดุและถูกห้ามไม่ให้เข้าชมอีกด้วย 2. และแน่นอนว่า เครื่องเล่นบางอย่างเองก็ยังไม่เปิดให้บริการเช่นกัน เจ้าหนู Jonathan Carr หนูน้อยวัย 9 ขวบหนึ่งในคนที่ได้เข้าร่วมในงานวันเปิดตัวของ Disney Land ในวันนั้นได้เล่าว่า มีเครื่องเล่นหลายเครื่องที่ยังไม่เปิดให้เล่น และใช้เวลาอีกกว่า 1 เดือนหลังจากนั้นถึงจะพร้อมให้บริการ “คุณไม่สามารถทำอะไรได้เลย ไม่มีแม้แต่ที่ให้คุณนั่ง และร้านค้าก็เต็มไปด้วยผู้คน” Jonathan กล่าว…
-
หญิงสาวตอกหน้าทุกคน ที่เคยดูถูกเธอว่า ‘โง่’ ด้วยการคว้าปริญญาตรีเกียรตินิยม
บางครั้งคำดูถูกก็อาจจะเป็นแรงผลักดันให้เราลุกขึ้นมาพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเอาชนะคำสบประมาทเหล่านั้นให้ได้ และหญิงสาวชาวออสเตรเลียผู้นี้เองก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนที่สามารถเอาชนะคำดูถูกและตอกหน้าคนที่เคยทำร้ายจิตใจของเธอ “เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ฉันโดนดูถูกมานานหลายปี แต่ฉันใช้มันเป็นแรงผลักดัน” หญิงสาวที่ชื่อว่า Phoebe ได้เขียนผ่านเฟซบุ๊กของเธอ หญิงสาวต้องทนต่อความอับอายที่หลายๆ คนบอกว่าเธอนั้นไม่ฉลาด เธอมีปัญหาด้านการเรียนรู้หลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความบกพร่องในการอ่านหนังสือ (Dyslexia) ความบกพร่องทางการคำนวน (Dyscalculia) ความบกพร่องทางการเขียน (Dysgraphia) และโรคสมาธิสั้น หลังจากที่สามารถคว้าใบปริญญาพร้อมเกรียรตินิยมมาครองได้สำเร็จ Phoebe ก็เขียนระบายความในใจของเธอผ่านเฟซบุ๊กว่า “ถึงครูที่เคยบอกกับพ่อแม่ของฉันว่าให้ควรให้ฉันเลิกเรียนเพราะฉันจะทำให้เกรดของเด็กคนอื่นๆ ตกไปด้วย ถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ด่าฉันหน้าชั้นเรียนจนฉันแทบร้องไห้ เพียงเพราะว่าฉันสะกดคำผิด ถึงพ่อแม่ของนักเรียนคนอื่นที่เคยบอกครูประจำชั้นว่าอย่าให้ลูกๆ ของพวกเขานั่งใกล้ฉัน เพราะกลัวจะทำให้พวกเขาติดเชื้อโง่ไปด้วย ถึงระบบการศึกษาสุดห่วย ที่บอกว่าฉันมีคะแนน ATAR แค่ 49 (คะแนน ATAR เป็นระบบวัดความรู้ของเด็กนักเรียนออสเตรเลีย คนที่ได้คะแนนเยอะที่สุดในชั้นปีจะมีคะแนน 100 ถ้าได้ 49 คะแนน แปลว่าคุณได้คะแนน 49 เปอร์เซ็นของคนที่ได้เยอะที่สุด) หลังจากที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ฉันก็พบว่าตัวเองป่วยด้วยโรคหลายโรค แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็สามารถจบการศึกษาด้วยเกรดที่สูงที่สุดคนหนึ่งของคณะ สำหรับใครก็ตามที่ทำให้ฉันอับอาย เพราะฉันไม่เหมือนพวกคุณ ระวังให้ดีล่ะ เด็กพิการอย่างพวกเราก็สามารถเอาชนะพวกคุณได้ด้วยวิธีการของพวกเรา” และแน่นอนว่าเรื่องราวของเธอนั้น กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วอินเตอร์เน็ต และหลังจากที่เธอโพสต์ข้อความดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์…
-
ผลงานของศิลปินญี่ปุ่น สรรค์สร้างแมลงขนาดเท่าตัวจริง จาก ‘ไม้ไผ่’ ธรรมด๊าธรรมดา
ผลงานศิลปะนั้นอาจจะไม่ได้ถูกจำกัดอยู่เพีงแค่ภาพวาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงงานภาพพิมพ์ และงานปฏิมากรรมอื่นๆ อีกเช่นกัน และวันนี้เราก็มีผลงานปฏิมากรรมสวยๆ จากฝีมือของศิลปินชาวญี่ปุ่นนามว่าคุณ Noriyuki Saitoh มาให้ได้ชมกัน ศิลปินจากแดนปลาดิบท่านนี้และทีมงานของเขา ได้สร้างสรรค์ผลงานหุ่นจำลองของเหล่าแมลงต่างๆ โดยใช้วัสดุหลักในการทำนั้นเป็นไม้ไผ่ธรรมดาๆ และนอกจากความสวยงามแล้ว ผลงานขนาดเท่ากับแมลงของจริงเหล่านี้ยังเต็มไปด้วยความละเอียดและประณีตอีกด้วย และนี่ก็คือผลงานบางส่วนของเขา “เราได้ทำการวัดขนาดของแต่ละสัดส่วนของส่วนประกอบแต่ละชิ้นอย่างละเอียด ก่อนที่จะนำมันมาประกอบเป็นผลงานเหล่านี้ เราชดเชยสีสันด้วยความรู้ ประสบการณ์ และจินตนาการ” ศิลปินจากเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น กล่าวผ่านเว็บไซต์ของเขา ผลงานของศิลปินท่านนี้เป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้ชมอย่างมาก และด้วยความประณีตบรรจงในการสร้างสรรค์ผลงาน จึงทำให้ปฏิมากรรมเหล่านี้ดูมีคุณค่ามากๆ ตั๊กแตนตัวน้อย ขนาดเท่าของจริงที่ถูกสร้างมาจากไม้ไผ่ . . แม้แต่ลายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ คุณ Noriyuki Saitoh ก็ใส่ใจและทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว . ลองสังเกตุที่ส่วนปีกของด้วงตัวนี้สิ เหมือนของจริงมากๆ เลยนะเนี่ย . . ผลงานเหล่านี้ถูกนำเสนอไว้ในเว็บไซต์ take64 ของเขา และนอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงรายละเอียดของผลงานแต่ละชิ้นไว้อีกด้วย . . . ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของตั๊กแตน ก่อนที่จะถูกนำมาประกอบเข้าด้วยกัน . . .…
-
หนุ่มเกลียดยุง ลงทุนสร้างไม้ช็อตยุงแรงดันไฟสูง 50,000 โวลต์ ถือสองอันนี่นึกว่าปิกาจูมาเอง!!
ยุงและแมลงตัวเล็กๆ อาจจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญใจสำหรับใครหลายๆ คน และแน่นอนว่าปัจจุบันนั้นก็มีอุปกรณ์ต่างๆ มากมายให้คุณได้เลือกใช้กำจัดเจ้าแมลงสุดน่ารำคาญนี้ และไม้ตียุงเองก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ว่านี้ แต่ปัญหาที่พวกเราส่วนใหญ่มักจะเจอกันก็คือไม้ช็อตยุงเจ้าปัญหานี้มันทำให้ยุงแค่สลบเท่านั้น หรือบางทีเจ้าแมลงต่างๆ ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่ากำลังถูกช็อตอยู่ ยูทูบเบอร์หนุ่มที่ใช้ชื่อว่า styropyro ผู้นี้เองก็กำลังประสบปัญหาเดียวกับพวกเราๆ เหมือนกัน ดังนั้นงานนนี้เขาเลยจัดการสร้างไม้ช็อตยุงที่มีแรงดันไฟฟ้ามากถึง 50,000 โวลต์ขึ้นมาเลย เรียกได้ว่าเอากันให้ตายหอมฉุยในไม่กี่วินาทีเลยทีเดียว!! ชายหนุ่มผู้เบื่อหน่ายกับไม้ช็อตยุงแบบเดิมๆ ที่มีแรงดันไฟแค่เพียง 2,750 โวลต์ เขาได้ทำการออกแบบซุปเปอร์ไม้ช็อตที่มีพลังทำลายล้างรุนแรง เพื่อจัดการกับเหล่าแมลงเจ้าปัญหาที่ชอบกวนใจเขา เขาได้ทำการดัดแปลงวงจรไฟฟ้าแบบเดิมของไม้ช็อตยุงที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป โดยทำการเพิ่มตัวเก็บประจุขนาดใหญ่เข้าไปถึง 2 ตัว และได้นำตัวจุดระเบิดจากรถยนต์ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าขนาดมหาศาลในครั้งนี้ เขาอธิบายถึงหลักการสร้างพลังงานของเครื่องกำเหนิดไฟฟ้า ก่อนที่จะออกแบบแผงวงจรและเริ่มลงมือสร้างอาวุธสังหารชนิดนี้ นี่คือไฟฟ้าที่ออกมาจากตัวจุดระเบิดจากรถยนต์ และนี่ก็คือโฉมหน้าของเจ้าไม้ช็อตยุงที่ว่านี้!! ไปชมขั้นตอนการทำไม้ช็อตยุงขนาด 50,000 โวลต์กันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… เจอแบบนี้อย่าว่าแต่ยุงเลยคุณเอ๊ย!! คนเองก็ไม่น่ารอดเหมือนกันนะฮ่าๆ แต่อย่างไรก็ตามขั้นตอนการประดิษฐ์เจ้าไม้ช็อตยุงนี้ค่อนข้างอันตราย ทางที่ดีคุณหนูๆ ไม่ควรลองทำเองที่บ้านนะจ๊ะ ที่มา styropyro
-
เมื่อชาวเน็ตญี่ปุ่น มีเวลาว่างและสกิลวาดภาพมากเกินไป จึงเปลี่ยปิกาจูของเด็กๆ ให้มีกล้ามแน่น…
สำหรับบางคนที่ชื่นชอบการวาดภาพนั้น การมีเวลาว่างที่มากเกินไปนั้นอาจจะทำให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเจ๋งๆ ออกมาได้ และดูเหมือนว่าชาวเน็ตท่านนี้เองก็จะเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่ว่าคุณ @bankokukun ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เรียกเสียงฮาจากชาวเน็ตได้อย่างมาก หลังจากที่เขาอัพเดทภาพผลงาน “ปิกาจูเวอร์ชั่นฤทธิ์หมัดดาวเหนือ” ลงบนโลกออนไลน์ โดยชาวเน็ตท่านนี้ได้ทำการเพิ่มกล้ามให้เจ้าหนูสายฟ้า ให้ล่ำบึกขึ้นมาจนหลายๆ คนชักไม่แน่ในว่าตกลงนี่คือปิกาจูหรือเคนชิโร่ จากฤทธิ์หมัดดาวเหนือกันแน่ เจ้าตายแล้ว!! ภาพวาดดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ โดยมียอดไลก์มากถึง 200,000 ครั้งภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน หลายๆ คนที่ได้ชมผลงานปิกาจูนักกล้ามนั้นก็ต่างพากันชอบใจ และดูเหมือนว่าเหล่าแฟนคลับของค่ายเกมอย่างนินเท็นโดจะโล่งใจที่ไม่ได้เห็นเจ้าหนูไฟฟ้าตัวนี้ออกไปโลดแล่นในเกม ภาพปิกาจูเวอร์ชั่นธรรมดาๆ น่ารักใสๆ แต่หลังจากที่เจอฝีมือการวาดภาพของคุณ @bankokukun ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป และก็ไม่ได้มีแค่ผลงานเดียวเท่านั้น แต่งานนี้ปิกาจูยังได้พาเจ้าเดเด็นเนะมาด้วยอีกตัว!! ส่วนนี้ก็เป็นผลงานอีกชิ้นหนึ่งของเขา แต่รูปนี้ดูเหมือนผ่าพิภพไททัน มากกว่านะ!? ชาวเน็ตท่านหนึ่ง ที่เห็นว่าผลงานของคุณ @bankokukun นั้นยังไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่าไหร่ งานนี้เขาจึงจัดการเติมสีลงไป อื้ม… แบบนี้สิค่อยดูเหมือนปิกาจูขึ้นมาหน่อย โถ่… หมดกันความน่ารักในวัยเด็ก ทำแบบนี้มันแกล้งซาโตชิชัดๆ !! ที่มา rocketnews24
-
เผยภาพของ ‘ทางแยกมหามึน’ จากประเทศจีน ดูจากภาพแล้วจะเข้า จะออกยังไง!?
ทางแยกสุดมึนในมลฑลเหอเป่ย์จากทางตอนเหนือของประเทศจีนแห่งนี้ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเมารถสักเท่าไหร่ เพราะด้วยช่องจราจรที่มีหลายช่องแถมยังดูวกวนน่าสับสนอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้าหากคุณไม่ใช่คนในพื้นที่แล้วล่ะก็ต้องเกิดอาการปวดหัวบ้างแน่ๆ และนอกจากทางแยกที่จะดูงงๆ แล้ว ถนนสายนี้ยังไม่มีป้ายกำกับอีกด้วยว่าช่องไหนเป็นทางเข้า หรือว่าช่องไหนเป็นทางออก ซึ่งทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสถนนที่มีความซับซ้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ถนนสายนี้ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์แสดงนิทรรศการของเมืองจางเจี๋ยโกวใกล้กับกรุงปักกิ่ง โดยก่อนหน้านี้ทางเทศบาลของเมืองเองได้มีการปรับปรุงถนนเส้นนี้ แต่ว่าหลังจากการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วกลับสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนในเมืองอย่างมาก เพราะนอกจากจะมีเส้นสีขาวที่ทำไว้เพื่อแบ่งช่องทางการจราจรแบบดูงงๆ แล้ว ถนนเส้นนี้ยังไม่มีไฟสัญญาณจราจรอีกด้วย ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองจางเจี๋ยโกวได้อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า ตอนนี้ถนนสายดังกล่าวยังทำการปรับปรุงไม่เสร็จ พร้อมทั้งได้บอกให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกกับเรื่องนี้ และขอให้ขับรถตามช่องจราจรที่ได้มีการกำหนดไว้ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ใช้งานถนนคนอื่นๆ ชาวเน็ตท่านหนึ่งจึงได้ทำแผนผังเพื่ออธิบายการใช้งานของถนนเส้นนี้ พร้อมทั้งทำลูกศรแสดงเส้นทางเข้าออกของรถยนต์เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น แถมยังบอกเส้นทางของรถสาธารณะและทางเดินเท้าด้วยลูกศรสีขาวอีกด้วย และหลังจากที่ภาพของถนนเส้นนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก jiege1123 “คนแก่ที่ใช้ถนนเส้นนี้จะต้องปวดหัวแน่ๆ ” nejoujeshe “เดี๋ยวนะ ถ้าเกิดเป็นช่วงที่จัดงานโอลิมปิกฤดูหนาวล่ะ นักท่องเที่ยวจะไม่งงกันใช่ไหม??” Fisherman53 “นักออกแบบทำให้งงสุดๆ ต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้างแหละ” ลองจินตนาการดูว่าคุณเพิ่งหัดขับรถวันแรก แล้วเผลอหลุดเข้ามาในถนนเส้นนี้ดูสิ!! อืม… เหงื่อแตกแน่นอน ที่มา dailymail
-
เผยทฤษฎีการตายของผีน้อย Casper ก่อนจะมาเป็นผีเขาต้องเจอกับเหตุการณ์อะไรมาบ้าง?
ถ้าหากพูดถึงหนึ่งในการ์ตูนสุดคลาสสิคอันเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ หลายๆ คนในช่วงยุค 90’s คงจะต้องมีชื่อของเจ้าผีน้อยแคสเปอร์ แน่ๆ และในช่วงใกล้วันฮาโลวีนแบบนี้เราก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเจ้าผีน้อยน่ารักตัวนี้มาฝากกัน ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยสงสัยกันว่า จริงๆ แล้วเจ้าผีน้อยแคสเปอร์กลายเป็นผีได้อย่างไร? และเค้าเองจะเคยเป็นเด็กบ้างรึเปล่านะ หรือว่าจริงๆ แล้วเขาเกิดมาก็เป็นผีเลย ซึ่งวันนี้เราก็มีทฤษฎีที่จะทำให้คุณคลายความสงสัยนี้มาฝากกัน เริ่มกันที่ทฤษฎีแรกจากหนังของผีน้อยแคสเปอร์ ในปี 1995 กันก่อนเลย ซึ่งในหนังนั้นนางเอกของเรื่องได้พาเจ้าผีน้อยมารำลึกความหลังในห้องนอนในวัยเด็กของเขา และแคสเปอร์ก็เริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเอง ว่าเขานั้นป่วยด้วยอาการปอดบวมจนเสียชีวิต เจ้าผีน้อยบอกว่า “ตอนนั้นทั้งดึก มืด และหนาวและผมก็ป่วยด้วย ผมจำได้ว่าผมไปที่ไหนไม่ได้ และผมอยู่ที่นี่กับพ่อของผม” แต่นอกจากการตายด้วยโรคปอดบวม ของเจ้าผีน้อยในภาพยนตร์ที่ทำให้หลายๆ คนน้ำตาร่วงแล้ว ในเรื่องราวของแคสเปอร์ฉบับหนังสือการ์ตูนช่วงยุค 70’s นั้นได้เล่าว่า เจ้าผีน้อยเองเป็นผีมาตั้งแต่แรกแล้ว เนื่องจากพ่อกับแม่ของเขาเป็นผีและเมื่อแต่งงานกันลูกที่เกิดมานั้นก็ต้องเป็นผีด้วย และในฉบับหนังสือการ์ตูนนั้นยังได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเจ้าผีน้อยในโรงเรียน รวมถึงการใช้ชีวิตแบบเด็กๆ ของเจ้าผีน้อย ซึ่งเหมือนกับว่านี่เป็นโลกของผีและทุกคนก็เป็นผีมาตั้งแต่เกิดเลย แต่ก็ยังมีอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับแคสเปอร์ เพราะในตอนหนึ่งของฉบับแอนิเมชั่นจาก Paramount Picture ในปี 1948 ได้เผยให้เห็นภาพของเจ้าผีน้อยที่กำลังนั่งอยู่บนป้ายหลุมศพของเขา ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ว่าจริงๆ แล้วเขาอาจจะเคยเป็นมนุษย์มาก่อน และนอกจากนี้ในตอนเดียวกันของการ์ตูนเรื่องนี้ แคสเปอร์เองยังเป็นเพื่อนกับเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งที่ถูกฆ่าตาย ซึ่งเรื่องราวในการ์ตูนนั้น…
-
ตำรวจดูไบล้ำหน้าไกล รถสปอร์ตแรงๆ ยังไม่พอ ต้องเสริมกำลังด้วย ‘โฮเวอร์ไบค์’
มหานครดูไบ หนึ่งในเมืองที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก และด้วยความมั่งคั่งนี่เองก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนมากมายสนใจมาเยือนประเทศนี้ และนอกจากความทันสมัยของเมืองและอาคารต่างๆ แล้วที่นี่เขายังเพิ่มความไฮเทคให้กับหน่วยตำรวจอีกด้วย!! หน่วยตำรวจของมหานครแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหน่วยที่มีความทันสมัยมากที่สุด เพราะนอกจากจะมีรถตรวจการสุดหรู โดรนลาดตระเวนแบบไร้คนขับ และตำรวจหุ่นยนต์ พวกเขายังได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับตำรวจอีกด้วย “โฮเวอร์ไบค์” หรือมอร์เตอร์ไซค์ลอยฟ้านั่นเอง พาหนะสุดไฮเทครูปร่างคล้ายกับยานจากหนังเรื่อง Star Wars นี้ถูกนำมาจัดแสดงที่งาน Gitex Technology Week ที่ผ่านมา โดยมันจะถูกนำไปใช้ในสถานะการณ์ฉุกเฉิน และช่วยให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าการจราจรจะติดขัดก็ตาม เจ้าโฮเวอร์ไบค์นี้สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 270 กิโลกรัม และมันยังใช้พลังงานไฟฟ้า โดยใช้เวลาในการชาร์จไฟเพียงแค่ 25 นาทีเท่านั้น มันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถบินได้ไกลถึง 6 กิโลเมตร ทางด้าน CEO จากบริษัท Alexander Atamanov ได้ออกมากล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กว่า บริษัทของเขาและกรมตำรวจของดูไบได้ทำการเซ็นสัญญา และจะมีการนำไปใช้ในมหานครดังกล่าวในเร็วๆ นี้ ก่อนหน้านี้หน่วยดับเพลิงของดูไปนั้นได้มีการนำเครื่องเจ็ทแพ็คมาใช้ในภาระกิจดับเพลิง ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย และการนำโฮเวอร์ไบค์มาใช้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่นั้นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของที่นี่ ไปชมการทำงานของเจ้าโฮเวอร์ไบค์ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา indianexpress, ladbible
-
ญี่ปุ่นสอนทำเสื้อ DIY ลายสวยๆ จากอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ ในบ้าน แถมใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่ชื่นชอบการประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ด้วยตัวเอง หรือชื่นชอบงาน D.I.Y เพราะต่อไปนี้คุณเองก็สามารถทำเสื้อยืดลายสวยๆ ได้จากอุปกรณ์ที่หาได้ง่ายๆ จากภายในบ้าน แถมยังใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีอีกด้วย!! วิธีการดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่ชื่อว่าคุณ @mikantobanana โดยชาวเน็ตท่านนี้ได้วิธีการสกรีนลายเสื้อยืดแบบง่ายๆ นี้จากรายการทีวีรายการหนึ่ง ซึ่งวิธีการทำนั้นก็ง๊ายง่าย โดยเริ่มจากการนำเสื้อยืดที่คุณต้องการจะพิมพ์ลายลงไปมาหนึ่งตัว จากนั้นก็เลือกลายที่คุณต้องการ และใช้ครีมกันแดดทาไปบนกระดาษที่คุณพิมพ์ออกมา ขั้นตอนต่อไปนำกระดาษที่ทาครีมกันแดดเรียบร้อยแล้วไปวางลงบนเสื้อยืด แล้วทำการรีดด้วยเตารีด และแล้วเพียงเท่านี้คุณก็ได้เสื้อยืดลายใหม่ที่ต้องการแล้ว ไปชมขั้นตอนการทำเสื้อยืดด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… และนอกจากนี้คุณ @mikantobanana ยังได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า ควรปริ้นภาพจากหมึกพิมพ์คุณภาพสูงและไม่ควรใช้ภาพที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์แบบอิ้งค์เจ็ททั่วๆ ไป และควรปล่อยให้ครีมกันแดดซึมลงไปในกระดาษซักครู่ก่อนที่จะเริ่มทำการสกรีนเสื้อ และหลังจากทำการพิมพ์เรียบร้อยแล้วควรปล่อยให้เสื้อแห้งอีกประมาณ 2 วันก่อนที่จะนำไปซักตามปกติ และนอกจากจะใช้ในการพิมพ์เสื้อแล้ว ครีมกันแดดนั้นยังสามารถนำไปใช้ลอกสติ๊กเกอร์ที่ติดแน่น หรือลบคราบปากกาจากผิวหนังก็ได้เช่นกัน ที่มา rocketnews24
-
คู่รักรับเด็ก 3 พี่น้องมาเลี้ยง แต่มารู้ภายหลังว่าพวกเขามีน้องเล็กอีกคน เลยขอให้เพื่อนบ้านช่วย!!
หลังจากที่ใช้เวลานานหลายปีในสถานรับเลี้ยงเด็ก Michael, Jess, Camden และ Elijah ก็ได้มีโอกาสพบกับชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากที่พวกเขาได้พบกับสองสามีภรรยาผู้ใจบุญ ถึงแม้ว่าคุณ Julia Washington และสามีของเธอจะมีลูกแท้ๆ อยู่ด้วยกันถึง 2 คนแล้ว แต่ทั้งสองก็ยังได้รับเด็กๆ ทั้ง 3 เข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาเพิ่มอีก และถึงแม้ว่าการมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มจะเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับพวกเขา และหนูน้อย Jess วัย 5 ขวบนั้นจะมีความพิการทางสมอง แต่ทั้งสองก็ได้ยื่นเรื่องขอรับบุตรบุญธรรมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่รับเจ้าหนูทั้ง 3 คนเป็นลูกบุญธรรมเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็พบว่าเด็กๆ ทั้ง 3 ยังมีน้องสุดท้องอีกหนึ่งคนนั่นก็คือ หนูน้อย Elijah วัย 17 เดือนนั่นเอง “เรารู้ดีว่ามีเด็กๆ ประมาณ 2 ถึง 5 คน และหนึ่งในนั้นก็ต้องการการดูแลอย่างเป็นพิเศษ บางคนอาจจะต้องแยกจากพี่น้องของเขาไปอยู่ที่ไกลๆ ถ้าหากเราไม่รับพวกเขาไว้ทั้งหมด” คุณ Julia กล่าว การดูแลเด็กๆ มาถึง 7 คนอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับครอบครัวของ Julia เธอจึงได้ปรึกษากับเพื่อนบ้านและเพื่อนสนิทของเธออย่างคุณ Jay Houston เพื่อช่วยรับดูแลพวกเด็กๆ…
-
นักข่าวลงพื้นที่รายงานสด มีคนพบเห็น ‘เสือ’ ออกมาเพ่นพ่าน ไหงเจอแต่ ‘ไอ้เสือจิ๋ว’ ซะงั้น
กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมากหลังจากที่ชายคนหนึ่งได้อัพคลิปวิดีโอของเจ้าเสือ ในระหว่างที่เขากำลังขับรถอยู่บนถนนสายหนึ่งในรัฐมิสซิสซิปปี ชายคนดังกล่าวได้ถ่ายคลิปของเจ้าเสือตัวนั้นพร้อมกับเขียนข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเขาว่า “เมื่อวันพุธที่ผ่านมาระหว่างที่ผมออกไปเอาอาหารด้านนนอก ผมก็เห็นเจ้าเหมียวตัวนี้ออกมาจากป่า นี่เป็นภาพที่หาชมได้ยาก และเจ้าแมวตัวนี้ไม่ใช่แมวบ้านอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่ามันจะขนาดพอๆ กับสุนัขตัวใหญ่ๆ เลยนะ” คุณ David Sluder โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเขา และนี่ก็คือคลิปวิดีโอที่ว่านั้น และแน่นอนว่าการพบเห็นเจ้าเหมียวยักษ์ตัวนี้ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ แน่ เผลอๆ จะเป็นเสือ คุณ Scott Madaus นักข่าวจากช่อง Fox ถูกส่งไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อรายงานข่าวเกี่ยวกับเจ้าเหมียวยักษ์ตัวนี้ แต่เมื่อนักข่าวหนุ่มของเราไปถึงก็พบว่าเจ้าเหมียวตัวนั้น กลับเป็นแค่แมวน้อยธรรมดาๆ ซะนี่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ไหนๆ ก็มาแล้ว งานนี้นักข่าวหนุ่มก็เลยรายงานภาพของเจ้าเหมียวตัวนี้ไปซะเลย เล่นเอาผู้ชมฮาไปตามๆ กันเลยทีเดียว คุณ Madaus ได้ให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ว่าเขาได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการพบเจ้าเสือดาวในบริเวณดังกล่าว และจากนั้นเจ้าเหมียวตัวนี้ก็โผล่ออกมา “มันออกมาจากพุ่มหญ้าที่อยู่ใต้ต้นไม้นั่นและมายืนตรงหน้าผม ตอนนั้นผมก็เลยคิดว่าเราน่าจะล้อเลียนเกี่ยวกับข่าวการพบเจ้าเหมียวน้ำหนักกว่า 40 กิโลกรัมที่นี่ซะเลย” นักข่าวหนุ่มกล่าว ในตอนที่เจ้าเหมียวโผล่ออกมานั้น นักข่าวหนุ่มของเราได้รีบโทรแจ้งกับทางโปรดิวเซอร์ของทางช่องทันทีว่าให้รีบตัดภาพมาที่เขา ก่อนที่จะเริ่มรายงานข่าวแบบที่เราได้ชมกันในคลิปวิดีโอ “ถ้าหากว่าคุณได้ชมวิดีโอนั้น คุณจะเห็นเจ้าเหมียวจ้องมาที่ผม และเอียงหัวเล็กน้อย เหมือนมันกำลังจะพูดกับผมว่า มีปัญหาอะไรรึเปล่าพวก?? ” นักข่าวหนุ่มพูดแบบติดตลก …
-
คุณตาที่มักจะไปนั่งทานข้าวกับ ‘รูปถ่าย’ ของภรรยาที่จากไป รักแท้มันช่างงดงามเหลือเกิน
เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากทั้งสองพบกันเมื่อปี 1948 ในตอนนั้นคุณตา Clarence Purvis นั้นอายุ 24 ปี ในขณะที่ภรรยาของเขาอายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น และถึงแม้ว่าจะมีอายุต่างกันมากถึง 8 ปี แต่ทั้งสองก็สามารถใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้ และอยู่ด้วยกันมานานถึง 60 ปี ทั้งสองชอบทานอาหารที่ร้าน Smith’s Restaurant ที่บ้านเกิดของพวกเขาในรัฐจอร์เจียอย่างมาก และถึงแม้ว่าภรรยาของคุณตาจะจากไปตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ทุกวันนี้คุณ Clarence ก็ยังคงมาทานอาหารเที่ยงที่ร้านนี้พร้อมกับรูปภาพของภรรยาอยู่เป็นประจำ “เธอยังคงอยู่กับผมตลอดเวลาที่ผมยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้เธอก็ยังคงอยู่ข้างๆ ผม” ชายวัย 93 ปีกล่าว คุณตานั่งทานอาหารโดยมีภาพของภรรยาเขาอยู่ตรงด้านข้าง กรอบภาพแบบตั้งโต๊ะของเธอนั้นช่วยทำให้เขารู้สึกว่าเธอยังคงอยู่กับเขาตลอดเวลา คุณยาย Carolyn Purvis นั้นจากไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมในปี 2013 แต่ถึงแม้ว่าเธอจะจากคุณตาไปแต่สามีของเธอก็ยังคงไม่ลืมเธอ ในทุกๆ วันคุณ Clarence จะเดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของเธอวันละ 4 ครั้ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของเขา ถึงแม้จะมีหลายคนที่แนะนำให้คุณตาหาเพื่อนไว้ดูแลและช่วยให้คลายเหงาสักคน แต่ชายชรากลับปฏิเสธ และเขาก็ยังคงคิดถึงภรรยาอยู่ และความรักอย่างซื่อสัตย์ของเขานั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เขายอมมอบให้ภรรยาสุดที่รักของเขาอย่างเต็มใจ ภาพถ่ายที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากสามีของเธอ ชมเรื่องราวความรักของคุณตาเพิ่มเติมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… …
-
นายแบบหนุ่มหล่อ เซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับพี่สาวผู้ป่วยดาวน์ซินโดรม อย่างมีความสุขสุดๆ
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของนายแบบจากเมืองบอสตันผู้หนึ่ง ที่ทำให้กับพี่สาวที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมของเขา โดยการมอบประสบการณ์การเป็นนางแบบครั้งแรกในชีวิตให้กับเธอ!! คุณ Chris Garafola นายแบบหนุ่มวัย 29 ปี และ Brittany พี่สาววัย 32 ปีของเขา เติบโตมาด้วยกันในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐเวอร์มอนต์ นอกจากจะเป็นพี่น้องกันแล้วทั้งสองยังเป็นเพื่อนซี้กันอีกด้วย คุณ Chris นั้นประสบความสำเร็จในงานนายแบบของเขา โดยตัวเขาเองนั้นเป็นนายแบบให้กับแบรนด์กีฬาชื่อดังอย่างพูม่า และนิวบาลานซ์ นอกจากนี้เขายังติดอันดับหนึ่งใน 25 หนุ่มฮอตจากการจัดอันดับของนิตยสาร Harper Bazaar อีกด้วย Chris คอยดูแลพี่สาวของเขาอย่างดี และในครั้งนี้เองเขาก็ได้ทำบางอย่างเพื่อเธอ “ผมตั้งใจทำเรื่องนี้จริงๆ เพราะผมรักพี่สาวของผมมาก” นายแบบหนุ่มกล่าว Chris นายแบบหนุ่มที่มีผู้ติดตามอย่างมากบนอินสตราแกรม . ในตอนเด็กนั้น คุณ Brittany ต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจอยู่หลายครั้ง เนื่องจากอาการป่วยของเธอ ทางครอบครัวต้องพยายามอย่างมากเพื่อหาเงินมารักษาเธอ แต่อย่างไรก็ตาม Chris กลับบอกว่าความยากลำบากเหล่านั้นทำให้พวกเขาเข้มแข็งขึ้น และทำให้ครอบครัวเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น Chris จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย University of Vermont ชายหนุ่มเริ่มเข้าสู่วงการโฆษณา แต่มันก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก เขาจึงตัดสินใจที่จะลองเป็นนายแบบดู และเซ็นสัญญาการเป็นนายแบบครั้งแรกในปี 2013 และด้วยความสำเร็จในวงการนายแบบของน้องชาย ทำให้พี่สาวของเขาอยากที่จะลองสัมผัสประสบการณ์นั้นดูบ้าง Chris…
-
คุณยายนักเต้นวัย 102 ปี ได้เห็นการเต้นของตัวเองผ่านจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรก
วินาทีอันน่าประทับใจของคุณย่าอดีตนักเต้นวัย 102 ปี ที่ได้มีโอกาสเห็นภาพเคลื่อนไหวจากการแสดงของตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิต!! คุณย่า Alice Barker กำลังมีความสุขอย่างมากหลังจากที่ได้มีโอกาสเห็นการแสดงของเธอในช่วงปี 1930 ที่ Harlem Renaissance คลับชื่อดังในยุคนั้น เธอเคยปรากฏตัวในภาพยนตร์โฆาณาและรายการทีวีในสมัยนั้น แต่โดยส่วนตัวแล้วเธอเองไม่เคยมีภาพหรือของที่ระลึกจากการแสดงของเธอเลย นั่นจึงทำให้คุณย่าท่านนี้ไม่เคยได้เห็นภาพการแสดงของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่หลังจากที่ได้พบกับ David Shuff เมื่อประมาณปีก่อนและได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของเธอ ก็ทำให้คุณย่าท่านนี้ได้มีโอกาสเห็นภาพเคลื่อนไหวของตัวเอง หลังจากใช้เวลาค้นคว้าอยู่นานคุณ Shuff ก็ได้พบกับคุณ Mark Cantor นักสะสมภาพถ่ายเกี่ยวกับดนตรีแจ๊สเจ้าของเว็บไซต์ Jazz on Film ทั้งสองพบว่าคลิปวิดีโอของการเต้นของคุณย่านั้นก็ได้มีการบันทึกไว้เช่นเดียวกัน แต่ทว่ามีการสะกดตัวอักษรผิดทำให้ไม่สามารถค้นเจอได้ คุณ Barker มีความสุขอย่างมากระหว่างที่เธอกำลังชมคลิปวิดีโอดังกล่าว คุณย่าอายุกว่า 100 ปียังจำเพลงที่เธอเต้นวันนั้นได้เป็นอย่างดีเธอร้องเพลงตามด้วยในระหว่างที่ชมวิดีโอนั้น และนอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า วิดีโอนี้ทำให้เธอรู้สึกอยากจะลุกออกจาเตียงและออกไปเต้นอีกครั้งเลยทีเดียว Barker บอกว่าเธอมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักเต้นมาตั้งแต่วัยเด็กแล้ว เธอเล่าว่าวันหนึ่งระหว่างที่แม่ของเธอออกไปด้านนอกเพื่อหาของบางอย่าง ในตอนนั้นเธอได้ยินเสียงวงดนตรีอยู่ใกล้ๆ และจึงตัดสินใจออกไปเต้นกับพวกเขา “เมื่อแม่ของฉันกลับมา เขาก็ไม่พบฉันแล้ว ในตอนนั้นฉันออกไปเต้นด้านนอกทั้งๆ ที่เปลือยกายเลย ฉันอยากจะเต้นต่อทั้งๆ ที่วงเล่นเสร็จไปแล้ว” คุณย่ากล่าว Shuff ได้แชร์เรื่องราวของคุณยายท่านนี้ลงบนโลกอินเตอร์เน็ต เขาบอกว่าเมื่อคุณย่าได้ดูแล้วมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นดาราดังเลยทีเดียว นอกจากนี้เขายังได้กล่าวอีกว่า คุณย่ารู้สึกดีมากๆ…
-
โจรอินหนัก… เรียนรู้วิถีนินจาจาก ‘นารูโตะ’ ได้ไม่นาน ออกไปลองวิชา แต่สุดท้ายไปไม่รอด
เชื่อแน่ว่าในวัยเด็ก หลายๆ คนอาจจะเคยเลียนแบบตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบและอาจจะเคยเชื่อว่าตัวเองมีพลังแห่งจันทราแบบเซเลอร์มูนแน่ๆ แต่บางครั้งการเล่นสนุกแบบเด็กๆ นั้นอาจจะทำให้คุณถูกจับได้ ถ้าหากนำพลังวิเศษเหล่านั้นไปใช้ผิดที่แบบชายคนนี้!! นาย Christopher Zahyeer Atkins ชายหนุ่มเกะนินวัย 25 ปี ผู้ร้อนวิชากำลังอยากจะลองวิชานินจาของเขา แต่ทว่างานนี้พ่อหนุ่มจากหมู่บ้านโคโนฮะของเราทำไม่สำเร็จ หลังจากที่เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจากแอตแลนตา จับกุมตัวได้ เมื่อกลางดึกของวันจันทร์ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวถูกจับกุมตัวได้ระหว่างที่กำลังบุกเข้าไปขโมยของในร้าน Target เมื่อเวลาประมาณตี 1 เจ้าหน้าที่ Anwar Sillah จากสถานีตำรวจ Dunwoody เล่าว่าผู้ต้องหาคนนี้บอกว่าเขากำลังใช้พลังของเขาในการยกประตูขึ้น คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของร้านได้เผยให้เห็นวินาทีที่ชายคนดังกล่าวกำลังพยายามที่จะพังประตูของร้าน และนั่นจึงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจเข้าจับกุมเขา “ชายคนนี้ได้ให้คำให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าหลังจากที่เขาได้อ่านหนังสือการ์ตูนนารูโตะเล่มที่ 5 และได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิชานินจาในการ์ตูนเรื่องนั้น เขาจึงคิดว่าเขาสามาถหลบหนีจากระบบรักษาความปลอดภัยและเข้าไปในร้านค้านั้นได้” เจ้าหน้าที่ Sillah ให้สัมภาษณ์ และเพจของสถานีตำรวจ Dunwoody เอง ก็ได้ออกมากล่าวถึงพ่อหนุ่มเกะนินผู้นี้เช่นกัน นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า นาย Atkins นั้นเป็นหนึ่งในผู้ลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่พบว่าสัมภาระของเขานั้นมีเพียงถุงหนังสือเก่าๆ เครื่องเล่นดีวีดี และของใช้เก่าๆ อีกนิดหน่อยเท่านั้น ขณะนี้ชายคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหาลักขโมยในระดับ 1 และกำลังรอการพิจารณาคดีในขั้นตอนต่อไป และแล้วเส้นทางการเป็นจูนิน ของชายหนุ่มก็จบลงเพียงเท่านี้ โถ่… คุณตำรวจก็!! ที่มา orlandosentinel, fox26houston, nextshark
-
โลกมันอยู่ยาก.. หญิงสาวกลับบ้านตอนกลางคืน แค่คืนเดียวโดนล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้ง!?
บ่อยครั้งที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และโดยส่วนมากนั้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวก็หนีไม่พ้นผู้หญิงนั่นเอง และหญิงสาวผู้นี้เองก็ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศ แต่สำหรับกรณีของเธอนั้นกลับแย่กว่า เพราะในระหว่างการเดินกลับบ้านในตอนดึกนั้นเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้งในคืนเดียว หลังจากที่เดินออกจากไนต์คลับแห่งหนึ่งของเมือง Tower Hamlets ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน เธอก็ตกเป็นเป้าหมายของชายเแปลกหน้าโดยทันที โดยทางตำรวจกล่าวว่าผู้ต้องสงสัยหมดนั้นไม่มีความเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด นักศึกษาสาวผู้ตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าวไม่สามารถจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเธอได้ โดยทางตำรวจคาดว่าในตอนนั้นเธอน่าจะอยู่ในอาการเมาไม่ได้สติ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่หญิงสาวแยกตัวจากเพื่อนๆ ของเธอที่ไนท์คลับ และกำลังเดินทางกลับบ้าน ภาพของเธอปรากฏบนกล้องวงจรปิดประมาณ 5 ทุ่ม 55 นาทีของคืนวันเกิดเหตุ โดยผู้ต้องสงสัยรายแรกนั้นปรากฏตัวขึ้นที่ถนน Cambridge Heath Road ก่อนที่จะพบเสื้อของเธอตกอยู่ในบริเวณดังกล่าว จากนั้นเวลาใกล้เคียงกันกล้องวงจรปิดอีกตัวได้จับภาพของผู้ต้องสงสัยคนที่ 2 ที่กำลังเดินผ่านถนนพร้อมกับจักรยานของเขา ซึ่งทางตำรวจเชื่อว่าชายคนดังกล่าวกำลังเดินตามเธอไปยังสถานีรถไฟ Bethnal Green และหลังจากนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวก็เดินออกมาพร้อมกับสภาพเหมือนถูกข่มขืน ผู้ต้องสงสัยจากภาพของกล้องวงจรปิด จากนั้นไม่นานทางตำรวจเชื่อว่า เธอถูกล่วงละเมิดทางเพศอีกครั้งเมื่อราวๆ เที่ยงคืน 45 นาที ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นหนึ่งในสองผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้ก็ได้ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดได้เผยให้เห็นผู้ต้องสงสัยรายที่ 3 เดินเข้าไปในจุดเกิดเหตุ และเดินออกมาจากพื้นที่นั้น พลเมืองดีที่อยู่บริเวณนั้น ได้พบเห็นหญิงสาวคนดังกล่าวกำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด และได้ทำการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยเหลือเธอ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมากล่าวว่า การล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรง และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และพวกเขากำลังสืบสวนพยานต่างๆ เพื่อจับตัวคนร้ายให้ได้…
-
หนุ่มสร้างสะพานให้แมวข้าม แต่กลับได้รับความนิยม และกลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินให้กับเขา!!
บางครั้งจุดเริ่มต้นของธุรกิจบางอย่างก็มาจากความชื่นชอบส่วนตัว และเกิดการต่อยอดจนกลายเป็นสิ่งที่ทำเงินให้กับคุณได้ และเรื่องราวของคุณ CatastrophiCreations ผู้ใช้งานจากเว็บไซต์ Boredpanda เองก็เช่นกัน เมื่อมันเขาได้เริ่มออกแบบของเล่นให้กับเจ้าเหมียวของเขา และหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับเขา!! อ่า… สบายจริงๆ เลยนะเหมียว!! คุณ CatastrophiCreations ชายหนุ่มผู้แพ้ขนแมวอย่างหนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามชีวิตของเขากลับต้องมีเจ้าเหมียววนเวียนเข้ามาตลอด หลังจากที่ได้รู้จักกับแฟนสาวผู้หลงรักแมวและย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยถูกกับแมวมากเท่าไหร่ แต่ชายหนุ่มก็พยายามจะเอาใจเจ้านายของเขาโดยการมองหาของเล่นน่ารักๆ สำหรับพวกมัน ชายหนุ่มอยากได้ของเล่นที่แปลกใหม่สำหรับเจ้าเหมียว เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้ทักษะช่างไม้ที่ร่ำเรียนมาสร้างสะพานเล็กๆ ไว้ในอพาร์ทเม้นท์ของพวกเขาเพื่อให้เจ้านายได้เดินเล่นไปและปีนป่าย “เราสร้างสะพานพวกนี้มาเพื่อให้เจ้าเหมียวได้เดินเล่น เราพยายามออกแบบให้แปลกใหม่และในที่สุดเราก็ได้ของเล่นแมวติดผนังสุดเจ๋งออกมา และดูเหมือนว่าพวกแมวของเราจะชอบมันเอามากๆ ด้วย” ชายหนุ่มกล่าว สะพานแมวของคุณ CatastrophiCreations นั้นมีการออกแบบที่สวยงาม เขาลองนำมันไปขายในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ และได้รับความนิยมอย่างมาก จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่ตอนนี้ของเล่นแมวของเขากลับได้รับความนิยมอย่างมาก และมันก็ทำเงินให้กับเขาได้ดีเลยทีเดียว ชายหนุ่มพยายามปรับปรุงการออกแบบสะพานแมวของเขา และทำให้มันมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้น ตามความต้องการของลูกค้า และนอกจากจะเป็นสะพานแล้ว บางครั้งมันก็ยังกลายเป็นที่นอนของเจ้าเหมียวอีกด้วยนะ!! . . . เค้าให้เดินข้าม โถ่พี่เหมียวพี่!! . “ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้คือความฝันของผม ผมมักจะตื่นขึ้นมาจามตอนกลางคืนเพราะอาการแพ้ขนแมว ผมรักเจ้าเหมียวทั้ง 3 ตัวของผมมากๆ…
-
รู้จักกับ ‘บุราคุมิน’ กลุ่มคนชนชั้นล่างของสังคมญี่ปุ่น ที่ไม่อาจจับต้องและมองเห็นได้
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับความสามัคคีของประเทศญี่ปุ่นผ่านทางสื่อต่างๆ แต่อันที่จริงแล้วอีกมุมหนึ่งของพื้นที่ห่างไกลในประเทศนี้กลับพบว่ามีการแบ่งชนชั้นกันอยู่ โต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยกองจดหมายด่าทอและดูถูกเหยียดหยาม จากมุมหนึ่งในห้องทำงานเก่าๆ ของตลาดเนื้อ Shibaura คงจะเป็นสิ่งที่อธิบายถึงความแบ่งแยกที่มีมาแต่ยุคกลางของประเทศญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี และผู้เป็นเจ้าของกองจดหมายเหล่านั้นก็คือ “บุราคุมิน” กลุ่มคนชนชั้นล่างอันเป็นที่รังเกียจของสังคมญี่ปุ่นนั่นเอง บุราคุมินนั้นมีอาชีพในการแล่เนื้อสัตว์ ฟอกหนัง หรือจัดการกับซากสัตว์ต่างๆ ในตลาดขายเนื้อแห่งนี้ ซึ่งทักษะดังกล่าวต้องใช้เวลาในการฝึกฝนกันนานนับ 10 ปี แต่อาชีพของพวกเขากลับเป็นไม่ถูกพูดถึงอย่างน่ายกย่อง “เมื่อมีผู้คนพูดถึงงานที่เราทำ พวกเรามักลังเลที่จะตอบพวกเขาไปตรงๆ ” คุณ Yuki Miyazaki หนึ่งในคนชำแหละเนื้อกล่าว “นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่อยากให้ครอบครัวของเราได้รับการกระทำที่ไม่ดี พวกเราสามารถทนต่อการกระทำแบบเลือกปฏิบัติได้ แต่ลูกๆ ของเรานั้นอาจจะไม่เหมือนกัน และเราต้องปกป้องพวกเขา” ชายหนุ่มเสริม คำว่า “บุราคุมิน” ในภาษาญี่ปุ่นนั้นหมายถึงคนในหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปในสมัยศักดินาของประเทศญี่ปุ่นนั้น คนในหมู่บ้านเหล่านี้จะมีอาชีพใช้แรงงานที่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งสกปรกหรือความตาย อย่างเช่นเพชฌฆาต คนขายเนื้อ และสัปเหร่อ และในชนชั้นต่ำสุดของกลุ่มคนเหล่านี้เรียกว่า “เอตะ” ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นชนชั้นที่ต่ำสุดของญี่ปุ่น เมื่อไหร่ก็ตามที่เอตะกระทำความผิด ซามูไรสามารถฆ่าพวกเขาได้ทันทีโดยที่ไม่มีความผิด และในศตวรรษที่ 19 พวกเขาถือว่าเอตะนั้นมีค่าเพียงแค่ 1 ใน 7 ของคนธรรมดาเท่านั้น ถึงแม้ว่าระบบศักดินาของญี่ปุ่นจะถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปี 1871 แล้ว แต่การกีดกันทางสังคมและความรังเกียจบุราคุมินนั้นยังคงมีอยู่ในสังคมญี่ปุ่น จากการรายงานของ BBC…
-
รู้จักกับ ‘Bullroarer’ เครื่องดนตรีจากโลกโบราณเมื่อ 1,700 ปี ก่อนคริสต์ศักราช
ดนตรีอาจจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกของมีสีสันมากขึ้น มนุษย์เรานั้นเองก็รู้จักกับการสร้างเสียงเพลงจากสิ่งของต่างๆ มาตั้งแต่ยุคโบราณแล้ว และวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปรู้จักกับเครื่องดนตรีโบราณที่ชื่อว่า Bullroarer เครื่องดนตรีโบราณจากเมื่อ 1,700 ปีก่อนคริสต์ศักราช!! Bullroarer หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Rhombus หรือ Turndun นอกจากมันจะเป็นเครื่องดนตรีแล้ว ในสมัยโบราณผู้คนยังใช้เจ้าสิ่งนี้ในการติดต่อสื่อสารกันจากระยะไกลอีกด้วย และนี่คือเจ้า Bullroarer จากสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย แอฟริกา เอเชีย อเมริกา และออสเตรเลีย Bullroarer เป็นแผ่นไม้ที่มีลักษณะคล้ายกับปีกเครื่องบิน และเจาะรูร้อยเชือกไว้ โดยขอบด้านของแผ่นไม้ดังกล่าวจะมีสลักเป็นรูปฟันปลา หรือรูปทรงต่างๆ ตามเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ โดยขั้นตอนการใช้งานของเครื่องดนตรีโบราณนี้จะต้องทำการหมุนเชือกด้านบนก่อน 2 รอบ และจากนั้นจึงจับปลายของเชือกอีกด้านหนึ่งแล้วหมุมตามแนวนอนหรือแนวดิ่งเพื่อทำให้เกิดเสียง ถ้าหากนึกภาพไม่ออกล่ะก็ ลองไปชมคลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… โดยเสียงที่ได้จากเจ้าเครื่องดนตรีนี้จะได้เสียงแบบ Vibrato ที่มีลักษณะเฉพาะ และนอกจากนี้ลักษณะของเสียงดังกล่าวยังเป็นคลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งสามารถทำให้มันเดินทางได้ไกลมากอีกด้วย นอกจากจะใช้เป็นเครื่องดนตรี อุปกรณ์ในการประกอบพิธีกรรม และเครื่องมือสื่อสารระยะไกลเมื่อกว่า 19,000 ปีที่ผ่านมาแล้ว มันยังถูกพบในวัฒนธรรมโบราณทั้งทางซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้อีกด้วย แต่โดยส่วนมากแล้วผู้คนจะรู้จักมันจากชนเผ่า Aborigines ของออสเตรเลียนั่นเอง โดยชนเผา Aborigines นั้นใช้มันสำหรับทำพิธีให้กับเด็กแรกเกิดและฝังศพของคนตาย โดยเชื่อกันว่า Bullroarer นั้นจะช่วยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายออกไป นอกจากนี้เจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวยังถือว่าเป็นของหวงห้ามสำหรับชายชาว Aborigines บางคน และห้ามมิให้เด็ก…
-
ชาวต่างชาติคิดอย่างไร หลังจากได้เห็นคลิปพนักงานสนามบินในไทย ขโมยของจากกระเป๋าผู้โดยสาร!?
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์กันในต่างประเทศอย่างมาก หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของชายคนหนึ่งที่กำลังขโมยของจากกระเป๋าของผู้โดยสารระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยของสำภาระในท่าอากาศยานภูเก็ต ชายหนุ่มคนดังกล่าวคือลูกจ้างของบริษัท BAGS บริษัทความปลอดภัยที่ทางสนามบินจ้างมาเพื่อจัดการกับสัมภาระของผู้โดยสารระหว่างเที่ยวบินจากประเทศสิงคโปร์ที่ท่าอากาศยานดังกล่าว ชายหนุ่มวัย 27 ปีกำลังค้นกระเป๋าผู้โดยสารอยู่ และจากการรายงานกล่าวว่าเขาได้ขโมยลำโพงบลูทูธออกจากกระเป๋าของผู้โดยสารก่อนที่จะใส่คืนกลับไป คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาโดยทางสายตรวจของสนามบิน ชายหนุ่มไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกถ่ายคลิปวิดีโออยู่ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ของทางสนามบินจับตัวได้ และดำเนินคดีในที่สุด ทางด้านสายการบิน Jetstar ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาไม่ได้ใช้บริการขนสำภาระจากประเทศไทย แต่ได้ใช้บริการจากบริษัท BAGS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการกับสายการบินเจ้าอื่นๆ ในสนามบินภูเก็ตด้วย สายการบินได้ออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าพวกเขาไม่ได้ใช้วิธีการโหลดกระเป๋าแบบที่เห็นในคลิปวิดีโอ แต่มีการใช้ตู้คอนเทรนเนอร์พร้อมกับกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขากำลังประสานงานไปยังท่าอากาศยานไทยเรียบร้อยแล้ว ส่วนทางด้านท่าอากาศยานภูเก็ตเองก็ได้ออกมาชี้เจงถึงคลิปวิดีโอดังกล่าว พร้อมกับบอกว่าได้ทำการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเรียบร้อยแล้ว และได้ทำการตักเตือนบริษัท ISS บริษัทรักษาความปลอดภัยของทางสายการบิน Jetstar ที่เป็นผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว แถลงการณ์จากท่าอากาศยานภูเก็ต และหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีชาวต่างชาติจำนวนมากที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการกระทำของชายคนนี้ เช่น Whitney Pittman “ถ้าหากว่าคุณมาเที่ยวที่เอเชีย และไม่รู้วิธีล็อกกระเป๋าล่ะก็ คุณไม่ควรมาเที่ยวที่นี่” Himex1 “มีกี่คนแล้วล่ะที่ถูกจับข้อหายาเสพย์ติดเพราะวิธีนี้??” Sharky Gothica ก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า “นี่เกิดขึ้นที่ภูเก็ตหรือนี่!? ตายจริง อาทิตย์หน้าฉันจะต้องเดินทางไปที่นั่นด้วย หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับฉันนะ” ส่วนชาวเน็ตท่านนี้ก็บอกในเชิงว่า คลิปยังไม่ได้พิสูจน์ว่าเขาเอาไปจริงๆ เอาอาจจะเห็นกระเป๋ามันเปิด และพยายามจัดอะไรให้มันเข้าที่เข้าทาง เขาอาจจะหวังดีก็ได้นะ… “ถ้าหากว่าเขาเอาอะไรออกไปได้…
-
ทีมช่วยเหลือใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมง ช่วยเหลือวาฬเพชฌฆาตที่ติดอยู่บนโขดหินได้สำเร็จ!!
ภาพจากกล้องของทีมช่วยเหลือ เผยให้เห็นถึงวินาทีที่พวกเขากำลังช่วยชีวิตเจ้าวาฬเพชฌฆาตตัวหนึ่งที่กำลังติดอยู่บนโขดหนึ่ง ในชายหาด Hartley Bay ในช่วงเช้าวันหนึ่งของเดือนกรกฎาคมปีท่าผ่านมา ทีมวิจัยวาฬเพชฌฆาตในพื้นในชายฝั่ง British Columbia ได้ยินเสียงดังประหลาดดังมาจากโขดหินใกล้ๆ และเมื่อเข้าไปสำรวจดูพวกเขาก็พบว่าเจ้าวาฬเพชฌฆาตหนักราวๆ 4-5 ตันตัวหนึ่งกำลังนอนเกยติ้นอยู่บนโขดหินนั้น เจ้าวาฬที่กำลังติดอยู่ในโขดหิน ทีมสำรวจคาดว่าสาเหตุที่เจ้าวาฬเพศเมียตัวดังกล่าวขึ้นมาติดอยู่บนโขดหินนั้น อาจเป็นเพราะมันเข้าไปว่าอยู่ใกล้ๆ กับเรือล่าแมวน้ำก็เป็นได้ และจากนั้นพวกเขาได้ทำการขอความช่วยเหลือจากผู้มีประสบการณ์ และทันใดนั้นคุณ Hermann Meuter นักวิจัยวาฬและผู้ก่อตั้ง Cetacean Lab มูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ทะเล พร้อมกับอาสาสมัครก็มาถึงที่โขดหินนั้น เขาและทีมช่วยเหลือได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ใช้เจ้าวาฬขาดน้ำและเป็นอันตราย และรอจนกว่าน้ำระดับน้ำจะสูงขึ้นจนมันสามารถว่ายออกจากโขดหินนั้นไปได้เอง “ในตอนแรกเจ้าวาฬเพศเมียตัวนั้นดูเครียดมาก เธอหายใจเร็วกว่าปกติเล็กน้อย” คุณ Hermann กล่าว และหลังจากนั้นไม่นาน เจ้าวาฬก็เริ่มมีอาการเครียดมากขึ้น ทางทีมช่วยเหลือจึงจำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ให้น้อยที่สุด “ในตอนแรกมีแค่ผมและวาฬตัวนั้น ตลอด 2 ชั่วโมงแรกผมพยายามทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและไม่เครียด” ชายหนุ่มกล่าว ตลอดระยะเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง ทีมช่วยเหลือได้นำผ้ามาคลุมเจ้าวาฬ และใช้สายยางพร้อมกับถังตักน้ำรดลงที่ตัวมันเพื่อให้ความชุมชื้นและรอจนกว่าน้ำจะขึ้นอีกครั้ง และแล้วความพยายามของพวกเขาก็เป็นผลสำเร็จ เมื่อระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น เจ้าวาฬก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากโขดหินได้ที่ละนิด ทีละนิด จนในที่สุดมันก็สามารถกลับสู่ทะเลได้อย่างปลอดภัย ชมการช่วยเหลือเจ้าวาฬเพชฌฆาตตัวนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา inspiremore
-
ภาพก่อนและหลังใบไม้ผลิจากสถานที่สุดโรแมนติก แค่ดูคนเดียวยังรู้สึกเขินเลยนะจะบอกให้!!
หนึ่งในฤดูกาลที่สุดแสนจะโรแมนติกและอบอุ่นมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นฤดูใบไม้ผลิแน่ๆ เพราะนอกจากอากาศที่อบอุ่นแล้วความสวยงามของสีสันพรรณไม้ต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มความสวยงามให้กับสถานที่ต่างๆ ได้อย่างมาก และถึงแม้ว่าพี่น้องชาวไทยประเทศที่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างเราๆ อาจจะไม่ได้มีโอกาสสัมผัสกับความสวยงามของฤดูใบไม้ผลิเหมือนกับประเทศในเขตหนาวและเขตอบอุ่นอื่นๆ แต่วันนี้เราก็มีภาพความสวยงามของสถานที่ต่างๆ ที่เปลี่ยนไปเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลินั้นมาฝากกัน แต่ละสถานที่จะสวยงามแค่แค่ไหนไปชมกันเลย.. 1. สวนสาธารณะ Central Park, รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา . 2. Grand Island East Channel Light House, รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา . 3. อุธยานแห่งชาติ Shenandoah , รัฐเวอร์จิเนียร์ สหรัฐอเมริกา . 4. Stowe, รัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา . 5. สวน Hitachi Seaside Park, ประเทศญี่ปุ่น . 6. Willamette Valley, รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา . 7. ปราสาท Kilchurn, ประเทศสกอตแลนด์ .…
-
แพทย์เผย การป้อน “แตงกวา” ให้น้องสาวของคุณ มีความเสี่ยงถึงขั้นหนองใน-เอดส์
นี่อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับคุณผู้หญิงที่ชื่นชอบการหาความสนุกกับเหล่าพืชผักและผลไม้ เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ทางคุณหมอได้ออกมาเผยว่า การป้อนแตงกว่าให้น้องสาวของคุณนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกสุขสักษณะ และอาจจะทำให้คุณติดเชื้อได้!! จากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวเกี่ยวกับการทำความสะอาดน้องสาวของคุณด้วยแตงกว่าปอกเปลือกนั้นจะช่วย รักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้นของคุณและทำให้มันกลับมาหอมสดชื่นอีกครั้ง แต่อันที่จริงแล้วแพทย์ได้ออกมาเตือนว่า วิธีการดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำและอาจเพิ่มความเสียงทำให้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างหนองในหรือเอดส์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นของคุณโดยการหาอะไรแหย่เข้าไปนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะว่านอกจากช่องคลอดของคุณจะสามารถทำความสะอาดตัวเองได้แล้ว การสอดใส่สิ่งต่างๆ เข้าไปในนั้นอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรค เนื่องจากจะทำให้เสียสมดุลของค่า pH ในช่องคลอดนั่นเอง ดอกเตอร์ Jen Gunter แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากแคนาดาเตือนว่า “การกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แตงกวาปอกเปลือก หรือยาทำความสะอาดช่องคลอด เป็นเพียงแค่ความเชื่อผิดๆ และเราไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น” “จากผลการศึกษาพบว่าการสวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำเปล่า น้ำสมสายชู น้ำยาล้างช่องคลอด ผลิตภัณฑ์ควบคุมค่า pH ต่างๆ หรือการสอดใส่สิ่งใดๆ ลงไปในช่องคลอดก็ตาม จะเป็นการทำลายแบคทีเรียในนั้นและทำลายผิวเยื่อเมือกในช่องคลอดได้ และนอกจากจะไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้นแล้ว ตรงกันข้ามมันอาจจะทำให้มีกลิ่นเหม็นอีกด้วย” คุณหมอกล่าวเสริม และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำแนะนำดีๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และสำหรับสาวๆ คนไหนที่รู้ตัวว่ากำลังทำแบบนี้อยู่ละก็ รีบหยุดจะดีกว่านะ เดี๋ยวน้องสาวไม่สบายขึ้นมาจะยุ่งเอา!! ที่มา mirror
-
Mr. Walker หมาลาบาดอร์ที่เฟี้ยวที่สุดในโลก กับตำแหน่งเด็กรับกระเป๋าของโรมแรมหรู!!
โดยปรกติแล้ว โรงแรมทั่วๆ ไปมักจะมีกฎข้อห้ามในการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในโรงแรม แต่สำหรับที่ โรงแรม Melbourne Park Hyatt แห่งนี้คุณอาจจะพบเห็นเจ้าตูบเดินไปเดินมาในโรงแรมได้ไม่ยาก เพราะว่าพวกมันคือหนึ่งในพนักงานของที่นี่!! พบกับเรื่องราวของเจ้า Walker น้องตูบพันธุ์ลาบาดอร์วัย 18 เดือน พนักงานสี่ขาตัวแรกของโรงแรมแห่งนี้ ผู้ที่จะคอยดูแลกระเป๋าและสัมภาระของคุณ เจ้า Walker นั้นเข้ามาทำงานที่นี่ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2017 ที่ผ่านมา โดยหน้าที่ทั่วไปของมันก็คือการคอยต้อนรับแขกที่หน้าล็อบบี้ และคอยดูแลพวกเขา นอกจากนี้ทางโรงแรมยังกล่าวว่า แขกสามารถพาเจ้า Walker ออกไปเดินเล่นได้ทุกเช้าในสวนสาธารณะใกล้ๆ โรงแรมได้อีกด้วย Walker หนึ่งในพนักงานของที่นี่ อ่า… ไม่ไหวแล้วว ขอนอนก่อนนะครับบ เช้าแล้ว พร้อมออกไปเดินเล่นด้วยกันรึยังครับ?? และนอกจากเจ้า Walker ทางโรงแรมเองก็ได้รับพนักงงานต้อนรับตัวใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งตัว นั่นก็คือเจ้า Parker นั่นเอง และหน้าที่ของมันก็คือการคอยช่วยโปรโมทโรงแรม และคอยต้อนรับแขกของทางโรงแรมนั่นเอง อื่ม… เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เหมาะสำหรับคนรักน้องหมาเลยทีเดียวนะเนี่ย และถ้าหากใครอยากชมความน่ารักของเจ้า Walker และ Parker เพิ่มเติมล่ะก็สามารถเข้าไปชมได้ที่อินสตราแกรม parkhyattchicago ได้เลย ที่มา mashable
-
ทีมสำรวจพบ “หลุมยุบ” ใจกลางทวีปแอนตาร์กติกา ขนาดใหญ่เท่ากับประเทศสกอตแลนด์
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นหลุมบนถนนต่างๆ และสร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างมาก แต่เชื่อแน่นอนว่าคงไม่มีใครเคยเห็นหลุมบนถนนที่มีความกว้างพอๆ กับประเทศสกอตแลนด์มาก่อนแน่ๆ ซึ่งเจ้าหลุมขาดใหญ่หรือที่เรียกว่า Polynya นี้เกิดขึ้นในทวีปแอนตาร์กติกา โดยทีมนักฟิสิกส์บรรยากาศจากมหาวิทยาลัย University of Toronto ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหลุมที่ว่านี้มีขนาดใหญ่ถึง 80,000 ตรารางกิโลเมตร และถ้าหากไม่มีเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม พวกเขาคงไม่มีทางรู้แน่ๆ ว่ามันอยู่ตรงนี้ Polynya คือพื้นที่ของน้ำที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทะเลน้ำแข็ง โดยในทวีปแอนตาร์กติกานั้นมีการค้นพบพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปี 1970 แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหลุมที่มีการค้นพบใหม่ครั้งนี้มีขาดใหญ่กว่า 5 เท่าของ Polyny ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์กำลังค้นหาสาเหตุของสิ่งที่ทำให้เกิดปรากฎการณ์นี้ หลุมขนาดใหญ่มากกว่า 50 เท่าของกรุงลอนดอนนี้เกิดขึ้นมาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้การศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ดังกล่าวนั้นยังไม่ค่อยได้รับความสนใจมากเท่าไหร่ ศาสตราจารย์ Kent Moore จาก University of Toronto ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การสำรวจทวีปแอนตาร์กติกาในฤดูหนาวนั้นเป็นเรื่องที่ยาก นั่นจึงทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้มีน้อย” แต่อย่างไรก็ตามหลายๆ ฝ่ายก็ยังมีความกังวลว่าการค้นพบ Polynya ขนาดใหญ่ในครั้งนี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทางศาสตราจารย์ Moore เองก็ได้กล่าวว่าการที่พบหลุมดังกล่าวนี้ถึง 2 ครั้งในรอบหนึ่งปี…
-
20 ไลฟ์แฮ็กที่จะทำให้ชีวิตของคุณ “ยากขึ้น” ไปอีกขั้น ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่!!
บางครั้งชีวิตของเราอาจจะง่ายขึ้น ถ้าหากว่าคุณรู้จักการประยุกต์ใช้สิ่งของรอบตัวให้เกิดประโยชน์ เพราะนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณแล้วมันยังช่วยให้คุณประหยัดเงินได้อีกด้วย แต่!! บางทีไอเดียการประยุกต์ใช้สิ่งของต่างๆ เหล่านั้น อาจจะไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเสมอไปเหมือนกับ 20 ไลฟ์แฮ็ก ที่เรานำมาฝากกันวันนี้… 1. ถ้าหากว่าคุณหาที่คั่นหนังสือไม่เจอ แนะนำว่าซอสมะเขือเทศก็ใช้แทนกันได้เหมือนกันนะ!! 2. แค่เอาตาปลอมไปติดที่ตัวของเจ้าเหมียว แค่นี้คุณก็จะรู้สึกว่าพวกมันสนใจคุณขึ้นมาแล้ว 3. ลองใช้สเปรย์แก้ผมพันกันฉีดที่หูฟังก่อนเก็บเข้ากระเป๋าดูสิ อาจจะช่วยแก้ปัญหาหูฟังพันกันได้นะ 4. วันไหนที่แยมบลูเบอร์รี่ของคุณหมด ยาสีฟันก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งได้เหมือนกันนะ 5. อีกหนึ่งวิธีสำหรับการจัดการคราบกาแฟที่เปื้อนกางเกงก็คือ เอาไปแช่ในกาแฟเลยจ้า นอกจากคราบจะหายแล้วยังได้กางเกงสีใหม่อีกด้วย!! 6. ถ้าหากคุณเบื่อที่จะเห็นอ่างล้างจานที่เต็มไปด้วยจานล่ะก็ เอารูปถ่ายของอ่างตอนสะอาดๆ มาวางทับจานดูสิ แค่นี้ก็สบายใจแล้ว 7. เย่!! แค่นี้ก็มีไฟใช้แล้วว้อยย.. 8. อีกหนึ่งวิธี ที่จะช่วยให้คุณเก็บลูกเทนนิสได้มากขึ้น 9. ว๊า!! แย่จังถุงเท้าขาด… ลองวิธีนี้ดูอาจจะช่วยได้นะ ฮ่าๆ 10. อีกหนึ่งวิธีในการแอบกินสปาเก็ตตี้ระหว่างเรียน อื่ม……
-
ตึก São Vito ที่อยู่อาศัยในบราซิล ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “สลัมลอยฟ้า” ที่สูงที่สุดในโลก
ถ้าหากพูดถึงประเทศบราซิล สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนอาจจะรู้จักก็คงจะเป็นกีฬาฟุตบอลหรือการเต้นแซมบ้าแน่นอน แต่นอกจากเรื่องราวเหล่านี้แล้ว ที่นี่เองก็ไม่ต่างจากเมืองหลวงทั่วๆ ไป ที่ยังคงมีชุมชนแออัดหรือสลัมให้ได้เห็นกันตามสถานที่ต่างๆ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ São Vito สลัมลอยฟ้า ที่ได้ชื่อว่าเป็นสลัมที่สูงที่สุดในโลก จากเมืองเซาเปาโลประเทศบราซิล… เซาเปาโลนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่ง ที่นี่มีผู้คนอาศัยอยู่มากกว่า 20 ล้านคน และแน่นอนว่าเมื่อมีการขยายตัวของเมือง ความเจริญจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในเมืองนี้ ทุกวันนี้ในเซาเปลาโลเต็มไปด้วยร้านอาหารสุดหรู โรงภาพยนตร์ และร้านค้าอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ที่นี่ยังเต็มไปด้วยอาคารเก่าหลายๆ แห่ง และหนึ่งในนั้นก็คืออาคาร São Vito ตึกที่มีชื่อเสียงมากที่สุด มันถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1959 จุดประสงค์ของอาคารหลังนี้สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาที่พักอาศัยของผู้คน และตลอดระยะที่ 20 ปีที่เปิดใช้งานอาคาร 27 ชั้นแห่งนี้มีผู้คนอาศัยอยู่มากถึง 3,000 คน ถึงแม้ว่าในสมัยก่อนอาคารหลังนี้ จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาคารที่มีชื่อเสียง และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมสุดหรูชั้นบน หรือร้านค้าในชั้นล่าง แต่สถาปนิกหลายๆ คนต่างลงความเห็นว่า São Vito นั้นคือความผิดพลาดของการออกแบบ เพราะมันซ่อมบำรุงได้ยากนั่นเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยจำนวนของผู้พักอาศัยที่มากขึ้นทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับการอพยพเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ และความปลอดภัยของพวกเขา จนกระทั่งเมื่อปี 2004…
-
16 ภาพวาดสะท้อนสังคมปัจจุบัน ทำให้เราเข้าใจว่าโลกทุกวันนี้มันเป็นอย่างไร…
บางครั้งผลงานศิลปะก็อาจจะเป็นมากกว่าแค่ผลงานศิลปะ มันอาจจะซ่อนความหมายมากมายไว้ภายใต้ความสวยงามเหล่านั้น บางผลงานอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา และในขณะที่บางผลงานอาจจะมอบแง่คิดดีๆ นี่เป็นผลงานของ Stephan Schmitz ศิลปินจากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งผลงานภาพวาดที่สะท้อนให้เห็นสภาพของสังคมปัจจุบันได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว และนี่ก็คือผลงานบางส่วนจากศิลปินท่านนี้ที่เรานำมาฝากกัน… 1. ภาพความสำเร็จที่เราเห็นนั้น อาจจะแลกมากับความผิดพลาดมากมายในอดีต 2. ทุกๆ วันนี้ อาหารการกินของเราส่วนมาก ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับสารเคมีทั้งนั้น 3. มนุษย์ที่ได้ขึ้นหนังสือพิมพ์ ส่วนใหญ่หน้าตาแบบนี้แหละ 4. บางครั้งชีวิตคู่ก็อาจจะต้องมีเรื่องที่ผิดใจกันบ้าง แต่ถ้าทั้งสองพร้อมที่จะหันหน้าเข้าหากันและช่วยกันแก้ปัญหา ความสัมพันธ์ของคู่รักก็อาจจะกลับมาเหมือนเดิมได้ 5. อินเตอร์เน็ต อาจจะเป็นประตูอีกหนึ่งบาน ที่จะช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับคุณได้ 6. ภรรยาที่สมบูรณ์แบบคงมีแต่ในภาพวาด 7. อันที่จริงแล้วคุณอาจจะกำลังถูกขังอยู่ในโลกของความจริงก็ได้ 8. การที่จะลบตัวตนของเรานั้น บางครั้งอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก 9. ตัวตนที่แท้จริง กับภาพที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์นั้นอาจจะไม่เหมือนกันเสมอไป 10. สายใยความรักของแม่และลูก ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ 11. เพื่อนแท้ อาจจะอยู่ใกล้ตัวคุณมากจนคุณอาจจะมองไม่เห็นก็ได้ 12.…
-
สุดแน่น!! คุณลุงชาวจีนหุ่นแซ่บ แม้จะอายุ 62 แต่กล้ามยังแน่นไม่แพ้หนุ่มๆ… สาวๆ ล่ะว่าไง??
การดูแลร่างกายให้ดูดีอย่างสม่ำเสมอนั้นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกคน เพราะนอกจากคุณจะได้สุขภาพที่แข็งแรงแล้ว คุณจะมีรูปร่างที่เพอร์เฟค และถึงแม้ว่าอายุของคุณจะล่วงเลยวัยซุกซนไปแล้ว คุณก็ยังสามารถดูดีได้เหมือนกับคุณลุงท่านนี้!! พบกับ Xu Ji Lin คุณลุงชาวจีนวัย 62 ปี ที่สร้างความฮือฮาบนโลกอินเตอร์เน็ตของประเทศจีน ด้วยซิกแพคและกล้ามเป็นมัดๆ พร้อมกับหุ่นสุดล่ำของเขา… ชายวัย 62 ปีผู้นี้เริ่มต้นออกกำลังกายและดูแลตัวเองอย่างดีเมื่อประมาณ 19 ปีที่แล้ว ตอนที่เขาอายุได้ 40 ปี หลังจากที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานทั้งการดื่มแอลกอฮอลล์เป็นประจำ นอนดึก ทำงานหนัก และกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำลายสุขภาพของเขา คุณ Xu รู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นเริ่มส่งสัญญาณเตือนบางอย่างเกี่ยวกับสุขภาพ และนั่นจึงทำให้เขาตัดสินใจที่จะหันมาดูแลตัวเองในช่วงวัยกลางคน ถึงแม้ว่าการกลับมาฟิตเหมือนเดิมในตอนอายุ 40 ปีอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขา แต่ Xu นั้นก็ไม่ละความพยายามเขาเลือกที่จะออกกำลังกายในฟิตเนสและมีเทรนเนอร์ส่วนตัวคอยให้คำแนะนำ ชายวัย 62 กล่าวว่า “คนหนุ่มหลายๆ คนควรมีเวลาดูแลตัวเอง เพราะเมื่อไหร่ที่คุณอายุมากแล้ว การรักษาร่างกายให้แข็งแรงนั้นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน” โอโห!! ถึงจะอายุมากแล้ว แต่คุณลุงท่านนี้ก็ยังดูดีไม่แพ้หนุ่มๆ นายแบบเลยนะเนี่ย และเรื่องราวของคุณลุงท่านนี้ก็คงจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนที่กำลังจะเริ่มต้นออกกำลังกายได้ไม่น้อยเลยทีเดียวนะ ที่มา excite, recordchina
-
ลืม iPhone X ไปซะ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ 7 เหตุผลที่คุณควรหันไปซื้อ iPhone 7 จะดีกว่า!!
โทรศัพท์ได้กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่หลายๆ คนจะขาดเสียมิได้เลยในปัจจุบัน และหนึ่งในโทรศัพท์รุ่นยอดนิยมที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากก็คงจะหนีไม่พ้น iPhone อย่างแน่นอน และเมื่อเร็วๆ นี้ทางแอปเปิลเองก็เพิ่งเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง iPhone 8 และ iPhone X ซึ่งทำเอาเงินในกระเป๋าหลายคนนั้นสั่นไปตามๆ กัน แต่สำหรับคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างเรา และอยากจะได้โทรศัพที่มีสเปคใกล้เคียงกัน วันนี้เราก็มีข้อเปรียบเทียบดีๆ จากเว็บไซต์ Business Insider ที่อาจจะทำให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้… 1. อย่างแรกเลยก็คือ iPhone 7 Plus นั้นราคาถูกกว่า iPhone 8 Plus และ iPhone X. นี่อาจจะเป็นเหตุผลข้อสำคัญที่ทำให้คุณต้องหันมาสนใจ iPhone 7 Plus แทนที่จะไปซื้อ iPhone 8 Plus หรือ iPhone X นั่นก็คือเรื่องราคานั่นเอง และบางครั้งถ้าซื้อผ่านโปรของค่ายโทรศัพท์อาจจะถูกว่ากันมากกว่าครึ่งหนึ่งเลยนะ!! 2. iPhone 7 และ 7 Plus นั้นมีสีให้เลือกมากกว่า…
-
ชายรุ่นพ่อจับเด็กสาวแต่งานตอนอายุ 12 ขวบ และกักขังเธอนาน 19 ปี พร้อมข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เรื่องราวสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเม็กซิโกได้รับแจ้งว่าชายหนุ่มคนหนึ่งได้ข่มขืนลูกสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของเขา และกักขังเธอไว้นานเกือบ 2 ทศวรรษ นาย Henri Michele Piette ชายวัย 62 ปีถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่เขาถูกตั้งข้อหาข่มขืนและข้อหาหนักอื่นๆ เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ โดยเหยื่อเขานั้นคือ Rosalynn McGinnis หญิงสาวจากเมือง Wagoner รัฐโอกาโฮมาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเขาเอง Rosalynn McGinnis และพ่อเลี้ยงของเธอ ในงานวันเกิดเมื่อตอนที่เธออายุได้ 13 ปี คุณ McGinnis ซึ่งปัจจุบันอายุ 33 ปีให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พ่อเลี้ยงของเธอลักพาตัวเธอตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้ 12 ปี หลังจากที่เลิกกับแม่ของเธอเนื่องจากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น McGinnis ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่าพ่อเลี้ยงของเธอมอบแหวนแต่งงานให้ระหว่างที่อยู่บนรถตู้และขอเธอแต่งงาน พ่อเลี้ยงลักพาตัว McGinnis ไปยังแม็กซิโกและขังเธอไว้ในบ้านเป็นเวลานานถึง 19 ปี แต่ในปี 2016 หญิงสาวและเด็กๆ อีก 8 คนที่ถูกจับตัวไปไว้กับเธอในภายหลัง สามารถหนีจากพ่อเลี้ยงออกมาได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้มีเด็กน้อย 1 คนที่หนีออกมาได้แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเด็กๆ ทั้ง 9 คนนั้นเป็นเหยื่อหรือเกี่ยวข้องกับนาย Piette อย่างไร แต่จากคำให้การในศาล…
-
ชีวิตสุดเศร้าของเจ้า Gumby น้องหมาที่วนเวียนกลับมาในศูนย์พักพิงมากถึง 11 ครั้ง โถ่
สุนัขที่อยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์ บางตัวอาจจะโชคดีได้พบกับเจ้านายคนใหม่และมีชีวิตอันแสนสุข แต่สำหรับเจ้า Gumby นั้นแตกต่างกันออกไป เมื่อมันไม่สามารถอยู่กับครอบครัวใหม่ได้เลยและถูกส่งตัวกลับมาสถานพักพิงถึง 11 ครั้ง เจ้า Gumby นั้นเป็นน้องหมาที่ไม่ค่อยชอบสายจูงสักเท่าไหน เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพยายามจะจับมัน มันมักจะวิ่งหนีและไม่ยอมให้จับได้ง่าย ก่อนหน้าที่มันจะเข้ามาอยู่ในสถานพักพิงสัตว์ Gumby เป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ใน South Carolina มันย้ายมาอยู่ที่สถานที่พักพิงสัตว์ Charleston Animal Society ตั้งแต่อายุได้ 4 ปี และไม่นานหลังจากนั้นเจ้าตูบก็เริ่มแข็งแรงขึ้นและพร้อมที่จะถูกรับไปดูแลต่อแล้ว และถึงแม้ว่าเจ้าตูบและพนักงานของสถานพักพิงสัตว์แห่งนี้จะผูกพันกันมาก แต่ในที่สุดเจ้า Gumby ก็ต้องย้ายไปอยู่กับเจ้านายใหม่ของมัน แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตูบจะไม่พบกับครอบครัวที่เหมาะกับมันเลย ในครั้งแรกมันถูกส่งตัวกลับมาหลังจากย้ายออกไปได้เพียงแค่ 3 วัน และในครั้งที่สองเจ้าตูบใช้เวลาอยู่ในบ้านหลังใหม่เพียงแค่ 6 วัน และไม่มีใครเข้าใจเลยว่าทำไมมันถึงเข้ากับครอบครัวใหม่ไม่ได้ แต่ทางสถานพักพิงก็ยังคงไม่หยุดความพยายามของพวกเขา อีก 2 ปีถัดมาพวกเขาส่งมันไปยังบ้านหลังใหม่อีกครั้งและสุดท้ายทุกอย่างก็จบลงเหมือนเดิม ในบ้านหลังใหม่ทั้ง 8 หลังไม่มีหลังใดเลยที่เจ้าตูบสามารถอยู่ได้นาน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเจอเหมือนกันก็คือเจ้า Gumby นั้นชอบวิ่งหนีออกจากบ้านอยู่บ่อยๆ นั่นเอง ถึงแม้ว่าครอบครัวบุญธรรมจะดูแลและเอาใจใส่เจ้าตูบเป็นอย่างดี แต่มันก็ดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย มันพยายามที่จะหนีออกจากบ้านตลอดเวลาซึ่งนั่นทำให้เจ้านายใหม่ของมันส่ง Gumby กลับมายังสถานที่พักพิงแห่งนี้ เจ้า Gumby ดูเหมือนจะมีความสุขมากกว่าเวลาที่อยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์…
-
8 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ‘อดอล์ฟ ฮิตเลอร์’ ในมุมมองที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลย…
น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกับ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” เพราะนอกจากหนวดอันจุ๋มจิ๋มของเขาแล้ว ความโหดร้ายที่เขาได้ทำไว้นั้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำเขาได้ แต่นอกเหนือจากเรื่องราวการแบ่งแยกเชื้อชาติ และการกระทำอันโหดร้ายของเขาแล้ว ยังมีบางอย่างที่เกี่ยวกับตัวเขาอีกที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบ และวันนี้เราก็มีข้อมูลเกี่ยวกับ 8 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ ‘อดอล์ฟ ฮิตเลอร์’ จากเว็บ Brightside ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนเลยมาฝากกัน 8. อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เคยตกหลุมรักหญิงสาวชาวยิว นี่อาจจะฟังดูเป็นเรื่องแปลก แต่เขาตกหลุมรักสาวชาวยิวผู้นี้ระหว่างที่เรียนอยู่ในโรงเรียน โดยเธอผู้นั้นก็คือ Stephanie Isak ในตอนนั้นเขาอายมากที่จะบอกความรู้สึกกับเธอและเธอเองก็ไม่เคยรู้เลยว่าเขารักเธอ การผิดหวังในความรักครั้งนี้อาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขาเกลียดชาวยิวก็ได้ 7. เขามีปัญหาด้านระบบการย่อยอาหาร ฮิตเลอร์ประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารอย่างรุนแรงในช่วงชีวิตของเขา เขามักจะปวดท้องและมีกรดในกระเพาะอาหารเกินอยู่เสมอ เขาพยายามใช้ยามากกว่า 29 ชนิด แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้เขาหายจากอาการเจ็บปวดนั้นได้ 6. อดอล์ฟ ฮิตเลอร์มีอัณฑะแค่ลูกเดียว!! หลายๆ คนอาจจะไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่หลังจากที่ได้รับบาทเจ็บระหว่างออกรบในสมรภูมิ Somme ตอนปี 1916 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และทำให้แพทย์ต้องตัดลูกอัณฑะเขาออก 1 ข้างเพื่อช่วยชีวิตเขาเอาไว้ 5. เขาเคยมีความฝันอยากเป็นนักบวช เมื่อตอนอายุ 4 ขวบเขาถูกบาทหลวงช่วยชีวิตไว้หลังจากจมลงไปในบ่อน้ำ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากเป็นนักบวช…
-
ภาพมลพิษในอเมริกาครั้งอดีต อุตสากรรมที่กัดกินสิ่งแวดล้อม ราวกับโลกยุคล่มสลาย!!
การพัฒนาทางอุตสาหกรรมเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีต่างๆ และสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศนั้นๆ แต่ทว่าหนึ่งผลพลอยได้ที่ตามมาจากการพัฒนาอุสาหกรรมนั่นก็คือปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมนั่นเอง!! สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐหรือ EPA หนึ่งในองค์กรที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ตั้งแต่ปี 1970 แต่หลังจากที่ Scott Pruitt หนึ่งในทีมงานของทรัมป์ได้เข้ารับตำแหน่งประธาน เขาก็ได้ยกเลิกข้อห้ามการใช้ยาฆ่าแมลง (pesticide) ยาอันตรายที่อาจส่งผลต่อสมองเด็ก รวมทั้งยกเลิกข้อกำหนดการบำบัดน้ำของโรงงานอุสาหกรรม จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว ภาพถ่ายชุด Documerica หนึ่งในโปรเจกของ EPA ที่ถ่ายในช่วงปี 1971 ถึง 1977 โดยมีการบันทึกไว้ด้วยกันทั้งหมด 81,000 ภาพ และถูกเก็บบันทึกไว้ในหอจดหมายเหตุแห่งชาติกว่า 15,000 ภาพ ได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของการละเลยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในช่วงนั้น ชุดภาพชุดดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่าจะเป็นอย่างไรถ้าหากพวกเราไม่ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม กลุ่มหมอกควันหรือ Smog ที่ปกคลุมสะพาน George Washington ในนครนิวยอร์ก ถือเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ในยุคนั้น ควันจากโรงงานผลิตแบตเตอร์รี่รถยนต์ที่ถูกปล่อยออกมาในช่วงปี 1970 และในปัจจุบันถึงแม้จะมีกฎหมายควบคุมการปล่อยมลพิษจากการผลิตแบตเตอร์รี่รถยนต์ แต่ก็ยังคงมีการละเมิดกฎดังกล่าวอยู่ ภาพของคนงานในเมือง Steubenville รัฐโอไฮโอ ถือขวดโหลที่บรรจุน้ำดื่มที่ปนเปื้อนซึ่งเป็นผลกระทบมาจากเหมืองถ่านหิน เธอยื่นฟ้องโรงงานดังกล่าวข้อหาปล่อยมลพิษลงสู่แหล่งน้ำ รถยนต์ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ในอ่าว Jamaica เมืองนิวยอร์กซิตี้เมื่อปี 1973 แสดงให้เห็นถึงมาตรการจัดการขยะที่ไม่ถูกต้อง โรงงานของบริษัท Atlas Chemical ที่ปล่อยควันออกมาท่ามกลางทุ่งหญ้าในเมือง Marshall รัฐเท็กซัส ผู้คนในท้องถิ่นบอกกับช่างภาพว่าสารเคมีและเขม่าควันทำให้วัวของพวกเขาตาย…
-
16 ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในฉากของภาพยนตร์ดัง ที่แฟนคลับตาดีดั๊นเห็นเข้า!!
สำหรับใครที่ชื่นชอบการชมภาพยนตร์เป็นชีวิตจิตใจ คงจะคุ้นเคยกับ Easter egg หรือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ในภาพยนตร์นั้นๆ แน่ๆ ซึ่งสิ่งนี้เองอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหรือหนังในภาคต่อนั่นเอง แต่นอกจาก Easter egg แล้วหนังบางเรื่องยังมีบางจุดที่ทางทีมสร้างเผลอทำผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นตัวประกอบที่ดั๊นใส่ชุดไม่เข้าพวก หรือสีของรถพระเอกที่เปลี่ยนไปทั้งๆ ที่มีแค่คันเดียวทั้งเรื่อง และแน่นอนว่าข้อผิดพลาดเหล่านี้คงหนีไม่พ้นเหล่าแฟนคลับตาดีไปได้แน่ๆ และจะมีหนังเรื่องไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. เงาสะท้อนในกระจกรถจากหนังเรื่อง Twilight 2. ยศของนายทหารจากเรื่อง Inglourious Basterds ที่ไม่อยู่ที่เดิม 3. รถเข็นคนพิการที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาในหนังเรื่อง Avatar 4. เสื้อแจ็คเก็ตหนังที่กลับมาเหมือนใหม่อีกครั้งหลังจากที่เต็มไปด้วยรอยกระสุนจากหนังเรื่อง Terminator 2: Judgement Day 5. รอยแตกของกระจกหน้ารถที่ไม่เหมือนเดิม อีกจุดหนึ่งของหนังเรื่องนี้ที่ชาวเน็ตสังเกตุเห็น 6. รอยบุบที่รถในหนังเรื่อง The Avengers ในฉากต่อสู้ที่จู่ๆ ก็หายไป 7. ภาพของรถ Lamborghini Aventador ที่ออกขายเมื่อปี 2011 ในหนังเรื่อง Dallas Buyers Club ทั้งๆ เรื่องราวของหนังอยู่ในช่วงปี 1985 8. ดาดฟ้าเรือไททานิกที่ไม่เหมือนเดิม…
-
อีกขั้นของวงการแพทย์!! ทีมวิจัยคิดค้นกาวรักษาแผลภายใน 1 นาทีได้สำเร็จ
ปัจจุบันการพัฒนาของเทคโนโลยีนั้นเรียกได้ว่ามีความก้าวหน้าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในวงการไอที การก่อสร้าง และหนึ่งในนั้นก็คือวงการแพทย์นั่นเอง เมื่อไม่นานมานี้ทางทีมวิจัยที่เกิดจากความร่วมมือกันของ University of Sydney, Harvard Medical School และ Northeastern University ได้คิดค้นกาวชนิดพิเศษขึ้นมา ซึ่งเจ้ากาวที่ว่านี้สามารถทำให้บาดแผลสนิทกันได้ภายใน 1 นาที!! MeTro หรือกาวติดบาดแผลที่ถูกคิดค้นนี้จะช่วยให้แพทย์ทำงานได้ง่ายมากขึ้น จากบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Science Transational Medicine ระบุว่า กาวชนิดนี้เป็นไฮโดรเจลที่มีความยืดหยุ่นสูงและเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อของร่างกาย มันถูกปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองได้ดีกับแสงอัลตราไวโอเล็ต เมื่อทากาวชนิดนี้ลงบนบาดแผลและฉายแสงยูวี มันจะสามารถสมานแผลได้ภายใน 60 วินาที ในการทดสอบประสิทธิภาพของมัน ทางทีมวิจัยได้นำกาว MeTro ไปใช้ในการสมานบาดแผลจากการผ่าตัดที่ปอดและหลอดเลือดของหนู ผลการทดสอบเป็นไปด้วยดี บาดแผลที่หลอดเลือดและปอดของหนูไม่มีการรั่วแต่อย่างใด สารประกอบหลักของกาวชนิดนี้ทำมาจากโปรตีน ซึ่งมีส่วนประกอบคล้ายกับโปรตีนในเซลล์ผิวของมนุษย์ และนอกจากนี้เอนไซม์ ที่สามารถปรับตัวได้เพื่อยืดระยะเวลาในการสมานแผลให้เหมาะสมกับแผลแต่ละแบบอีกด้วย “กาว MeTro นั้นดูคล้ายกับของเหลว มันจะเข้าไปเชื่อมในรอยบาดแผล มันมีการตอบสนองที่ดี และตัวของมันเองก็คล้ายกับเซลล์เนื้อเยื่อของมนุษย์และช่วยให้เกิดการฟื้นตัวที่ดีขึ้น ตัวเจลนั้นมีการเก็บรักษาที่ง่ายและสามารถฉีดไปที่บาดแผลโดยตรงได้เลย” คุณ Anthony Weiss หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว ตอนนี้ทางทีมวิจัยได้วางแผนจะทดสอบกาว MeTro ในระยะยาวต่อไป ก่อนที่จะนำไปทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ ทางด้านคุณ Annabi หนึ่งในทีมวิจัยได้กล่าวถึงการคาดการณ์ของเธอว่า ภายใน 3-5 ปีนี้…
-
คู่รักหน่ายกับคำถามคนรอบข้าง ‘เมื่อไหร่จะมีลูก’ เอ้า… ถ้าอย่างงั้นก็จัดให้ไปเลยจ้า!!
“เมื่อไหร่จะมีลูก??” หนึ่งในคำถามยอดฮิตสำหรับคู่รักที่แต่งงานกัน ซึ่งคู่สามีภรรยาอย่าง Jared และ Chelsea Price ก็เป็นอีกคู่รักที่มักเจอคำถามแบบนี้อยู่บ่อยๆ ถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่พวกเขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะมีเจ้าตัวเล็ก แต่ทว่าเมื่อเจอคำถามนี้บ่อยๆ พวกเขาเลยตัดสินใจรับลูกบุญธรรมมาเลี้ยงให้สิ้นเรื่องสิ้นราว แต่ไม่ใช่ลูกบุญธรรมที่เป็นมนุษย์หรอกนะ เพราะมันคือลูกบุญธรรมสี่ขาสุดน่ารักที่ชื่อว่าเจ้า Riley ต่างหาก Jared กับ Chelsea และลูกชายสี่ขาตัวน้อยของพวกเขา Chelsea ได้พบกับเจ้า Riley ในสถานสงเคราะห์สัตว์ Humane Society เจ้าตูบทำให้เธอประทับใจอย่างมาก หญิงสาวตกหลุมรักมันในครั้งแรกที่พบกัน “เขาอยู่ที่นั่นประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนที่พวกเราจะเจอเขา และเมื่อได้พบกันครั้งแรกฉันก็รู้ทันทีเลยว่าเขามีความหมายสำหรับพวกเรา” หญิงสาวกล่าว เจ้าขนปุยสีขาวถูกส่งตัวมายังสถานพักพิงสัตว์ Humane Society ทางตอนเหนือของรัฐไอโอวา หลังจากที่เจ้านายคนเดิมของมันเสียชีวิตไป ในตอนแรกที่มาถึงสถานพักพิงแห่งนี้ เจ้าตูบค่อนข้างเป็นสุนัขที่ขี้อาย แต่คุณ Chelsea และสามีของเธอก็ยังคงชอบเจ้าหมาน้อยตัวนี้ ถึงแม้ว่าจะใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขกับลูกชายตัวใหม่ของพวกเขา แต่ทั้งคู่ก็มักถูกถามถึงเรื่องการมีลูกจริงๆ ตลอดเวลา บางคนถึงกับบอกว่าพวกเขาไม่มีทางเข้าใจความรักที่แท้จริงได้แน่ๆ ถ้าหากไม่มีลูก ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บปวดบ้างที่ได้ยินแบบนั้นแต่คุณ Chelsea และสามีของเธอก็เกิดไอเดียดีๆ ที่จะถ่ายภาพครอบครัวหลังจากที่เคยเห็นคู่รักหลายๆ คู่ที่ถ่ายภาพกับลูกน้อยที่เป็นสัตว์เลี้ยง “ฉันเอาเรื่องนี้ไปคุยกับ Jared และเราก็ตัดสินใจที่จะถ่ายภาพวันครบรอบ 5…
-
เทศกาล ‘Wara Art Festival’ เมื่อฟางข้าวเหลือใช้ เปลี่ยนเป็นศิลปะสัตว์ยักษ์สุดอลังการ
สำหรับประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นถือเป็นฤดูกาลแห่งการเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร และในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้พื้นที่เกษตรกรรมทางตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่นก็ได้จัดงาน Wara Art Festival ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองหลังจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จ เทศกาลดังกล่าวจะจัดขึ้นในช่วงหลังฤดูปลูกข้าว ระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งไฮไลท์ของเทศกาลนี้ก็คือปฏิมากรรมรูปสัตว์ต่างๆ จากฟางข้าวนั่นเอง… เจ้ากอลิล่ายักษ์ หนึ่งในปฏิมากรรมจากงานเทศกาล Wara Art Festival เทศกาลดังกล่าวเริ่มจัดขึ้นที่จังหวัดนีงะตะ ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา และเป็นหนึ่งในแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยทางด้านศิลปะอย่าง Musashino Art University แต่เดิมนั้นฟางข้าวได้รับความนิยมอย่างมากในการนำไปใช้ทำเครื่องจักสาน อย่างเช่นเสื่อทาทามิ แต่ปัจจุบันการทอเสื่อแบบดั้งเดิมนั้นกลับถูกแทนที่ด้วยพลาสติกและไม้ และเพื่อเป็นการให้เห็นความสำคัญของฟางข้าว ในงานเทศกาลนี้เหล่านักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Musashino Art University จึงได้ช่วยกันสร้างสรรค์งานศิลปะจากฟางข้าว และนำไปวางยังที่ต่างๆ ในทุ่งนาของจังหวัดนาริตะ ดูสวยงามและเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างมาก และนี่คือภาพบางส่วนจากงานเทศกาล Wara Art Festival ในปี 2017 ที่ผ่านมา งานศิลปะจากฟางข้าวนี้ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มาสัมผัสความสวยงามของที่นี่ . . นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Musashino Art University กำลังช่วยกันเตรียมฟางข้าวเพื่อนำไปสร้างปฏิมากรรมของพวกเขา . …
-
โอ๊ยอิตาบ้า ชมจังหวะ Kit Harington แกล้งแฟนสาว Rose Leslie เผยความเกรียนแบบเต็มๆ
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักของวงการบันเทิงต่างประเทศ ที่เหล่าแฟนคลับหลายๆ คนดูจะอิจฉาความน่ารักของทั้งคู่ซะเหลือเกิน (โดยเฉพาะคุณผู้หญิง) นอกจากความหวานแหวนในจอที่เราได้เห็นในซีรีส์ดังอย่าง Game Of Throne แล้ว ทั้ง Kit Harington และแฟนสาวอย่าง Rose Leslie ก็มีโมเม้นต์หวานๆ นอกอให้แฟนคลับได้อิจฉากันอยู่บ่อยๆ และเมื่อไม่นานมานี้ระหว่างที่ออกรายการ The Jonathan Ross Show พระเอกหนุ่มของเราได้เล่าถึงคลิปวิดีโอแกล้งแฟนสาวสุดฮาของเขาในวัน April Fools’ Day ที่ผ่านมา ซึ่งเขาบอกว่า… “สำหรับครอบครัวผมการแกล้งกันในวัน April Fools’Day นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่สำหรับ Rose นั้นไม่ใช่” การแกล้งแฟนสาวของเขานั้น พ่อหนุ่ม Kit ของเราได้เอาอะไรบางอย่างไปซ่อนไว้ในตู้เย็น และเมื่อคู่หมั้นของเขาเปิดประตูตู้เย็นออกมาในตอนเช้า… และนี่คืออาการของเธอ…. อุ๊ต๊ะ!!! เธอรีบวิ่งออกจากตู้เย็นอย่างรวดเร็ว แถมยังเกิดอาการกลัวเอามากๆ อีกด้วย อื้ม… อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะว่าหนุ่ม Kit ของเราเอาอะไรซ่อนไว้ในตู้เย็น?? แอ่นแอ๊น!!… และนี่ก็คือสิ่งที่ Kit ซ่อนเอาไว้ในตู้เย็น เพื่อแกล้งแฟนสาวของเขาในวัน April Fools’ Day…
-
ประมวลภาพการเยือนรัสเซียของกษัตริย์ซาอุฯ พร้อมผู้ติดตามกว่า 1,000 และของใช้อีกเพียบ!!
หนังสือเดินทาง โน๊ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือ อาจจะเป็นหนึ่งในสัมภาระที่คุณนำติดตัวไปด้วยเวลาที่เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ของพวกนี้อาจจะธรรมดาไปเมื่อเทียบกับสิ่งที่กษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบียนำติดตัวมาด้วยในระหว่างที่ไปเยือนประเทศรัสเซีย เพราะนอกจากผู้ติดตามกว่า 1,500 คนแล้ว ยังมีเฟอร์นิเจอร์ พรม อาหารเกือบ 1,000 กิโลกรัม และบันไดเลื่อนที่ทำจากทองคำอีกด้วย!! การมาเยือนกรุงมอสโค ประเทศรัสเซียของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานแห่งซาอุดิอาระเบีย เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานั้นถือเป็นการเยือนประเทศรัสเซียครั้งแรกของราชวงศ์ซาอุ ผู้คนที่จองห้องพักไว้ที่โรงแรม Ritz Carlton และ Four Seasons ถูกยกเลิกการจองทั้งหมด นอกจากนี้ผู้ที่พักอยู่เป็นประจำยังถูกย้ายออกจากโรงแรม เพื่อเตรียมจัดเป็นสถานที่ต้อนรับกษัตริย์ซาอุและคณะผู้ติดตามในระหว่างการปฏิบัติราชกรณียกิจจนถึงวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้นประมาณ 3 ร้อยล้านบาท จากการรายงานของ Telegraph คณะผู้ติดตามทั้งหมดประกอบไปด้วยองค์รัชทายาท 25 คนที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ พร้อมกับเชฟอีก 125 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ติดตามส่วนตัว และหน่วยรักษาความปลอดภัยอีกจำนวนมาก รถเบนซ์ S600 ยานพาหนะสำหรับการเดินทางเยือนกรุงมอสโค ของกษัตริย์ซาอุครั้งนี้ การบริการต่างๆ ในโรงแรมยังถูกแทนที่ด้วยคนของกษัตริย์ และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ กับพรมที่นำมาด้วย ก็ถูกใช้ตกแต่งภายในโรงแรมตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์ นอกจากนี้เครื่องบินยังต้องเดินทางไปมาระหว่างกรุงรียาด เมืองหลวงของประเทศซอุดิอาระเบีย ทุกๆ วันเพื่อขนอาหารอย่างเช่นผลไม้ และอาหารฮาลาลจำนวนมากเพื่อใช้ในการประกอบอาหารให้ถูกต้องตามหลักของศาสนา…
-
โฆษณาโลชั่นยี่ห้อดัง ถูกชาวเน็ตวิจารณ์เรื่องการเหยียดผิว เปลี่ยนจากคนดำกลายเป็นขาวได้!?
การเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์กันอย่างมากบนโลกอินเตอร์เน็ต หลังจากที่ทาง Dove ได้ออกโฆษณาครีมทาผิวตัวใหม่ของพวกเขา โดยมีเนื้อหาที่ดูเป็นการเหยียดผิว และล่าสุดทางบริษัทแชมพูชื่อดังก็ได้ออกมาขอโทษต่อการกระทำดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาพโฆษณาดังกล่าวถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กของทาง Dove ซึ่งเป็นภาพของผู้หญิงผิวสีที่เมื่อเธอถอดเสื้อออกก็กลายเป็นผู้หญิงผิวขาวขึ้นมาทันที และนี่คือภาพโฆษณาดังกล่าว ทาง Dove ได้ลบภาพโฆษณาดังกล่าวออกไปทันทีหลังจากที่เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก และได้ทวีตข้อความว่า “สำหรับรูปภาพที่เราโพสต์ไปบนเฟซบุ๊กก่อนหน้านี้ มันเป็นข้อผิดพลาดในการเปรียบเทียบสีผิวของผู้หญิง และเรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น” อย่างไรก็ตามชาวเน็ตบางท่านก็ได้แสดงความคิดเห็นว่า โฆษณาชิ้นนี้ของทาง Dove ทำให้พวกเขานึกถึงโฆษณาสบู่ในสมัยก่อนที่มีการเหยียดผิวแบบนี้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Dove ไม่ใส่ใจเรื่องของการเหยีดผิว โดยข้างขวดโลชั่นของพวกเขายังมีการเขียนข้อความว่า “สำหรับผิวธรรมดาถึงผิวดำ” นอกจากนี้ยังมีโฆษณาอีกชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสีผิวหลังจากการใช้โลชั่นดังกล่าว โดยให้ผู้หญิงผิวสีอยู่ในฝั่งก่อนใช้และให้ผู้หญิงผิวขาวอยู่ในฝั่งหลังใช้ และนี่ก็คือโฆษณาอีกชิ้นที่แสดงให้เห็นถึงการเหยียดผิว ข้อความข้างขวดโลชั่นที่เขียนว่า “สำหรับผิวธรรมดาถึงผิวดำ” หลังจากที่ทางบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ออกมากล่าวขอโทษก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเขามาแสดงความคิดเห็น คุณ La’Quell หนึ่งในชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่า “พวกเขาใส่ใจที่จะอธิบายเรื่องการเหยียดผิวให้กับฉัน” แต่ในขณะที่คุณ Emma Louise Sinclair กลับไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว และรีทวีตข้อความดังกล่าวว่า “นี่คือโฆษณาของ Dove มันแย่จริงๆ ฉันไม่มีทางจะซื้อสินค้าจากบริษัทที่มีการเหยียดผิวแบบนี้แน่ๆ “ ประเด็นเรื่องการเหยียดผิวในต่างประเทศนั้นถือเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวอย่างมาก บางครั้งการนำเรื่องเหล่านี้มาเปรียบเทียบและแสดงออกอย่างไม่ถูกต้องก็อาจจะทำให้กลายเป็นที่พูดถึงได้อย่างเช่นโฆษณาชิ้นนี้ ที่มา metro
-
เจ้าเหมียวที่สูญเสียใบหน้าไปเพราะอุบัติเหตุ แต่ก็ยังคงได้รับความรักจากครอบครัว
สัตว์เลี้ยงนอกจากความรักของพวกมันแล้ว ในบางครั้งพวกมันยังมีความหมายต่อเจ้านายของพวกมัน และอาจเปรียบได้เหมือนกับสมาชิกหนึ่งในครอบครัวเลยทีเดียว การดูแลพวกมันอย่างดีก็เปรียบเสมือนกับการดูแลคนในครอบครัว เหมือนกับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ ที่ถึงแม้ว่ามันจะประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียใบหน้าไป แต่มันก็ยังคงได้รับความรักและความอบอุ่นจากเจ้านายของมันอยู่ เจ้า Chase แมวน้อยผู้โชคร้ายที่ต้องสูญเสียใบหน้าของมันไปตั้งแต่เมื่อปี 2005 ในขณะที่มันอายุได้เพียงแค่ 4 สัปดาห์เท่านั้น แต่เจ้าเหมียวก็สามารถเอาชีวิตรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ด้วยความผิดปกติของใบหน้ามัน ทำให้เจ้าเหมียวต้องใช้ยาเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับดวงตาของมันตลอดเวลา แต่สุขภาพโดยรวมของเจ้าเหมียวนั้นถือว่าแข็งแรงมากๆ เลยทีเดียว ทุกวันนี้เจ้า Chase อาศัยอยู่กับครอบครัวและเจ้านายตัวน้อยที่คอยดูแลมันอย่างดี เจ้า Chase นั้นมีนิสัยเหมือนแมวทั่วๆ ไป มันชอบนอน กิน และเล่นซน แถมยังชอบเอาหน้าไปซุกกับสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขวดโหล กางเกง หรือแก้วน้ำอีกด้วย และที่สำคัญมันยังชอบให้เจ้านายเกาพุงและนอนอาบแดดอีกด้วย เจ้านายตัวน้อยทั้งสองคอยดูแลเจ้าเหมียวอย่างดี พวกเขาคอยเล่นกับมันเหมือนเป็นคู่ซี้กันเลยทีเดียว . แถมยังมอบความอบอุ่นจากการกอดและหอมเจ้า Chase อีกด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่มีใบหน้าที่สมบูรณ์แบบและน่ารักเหมือนแมวตัวอื่นๆ แต่เจ้า Chase ก็ได้รับการดูแลอย่างดี และมีความสุขไม่น้อยกว่าเจ้าเหมียวตัวอื่นแน่ๆ และเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้อาจเป็นกำลังใจให้หลายๆ คนที่กำลังเจอปัญหาและอุปสรรค และทำให้เรารู้ว่าถึงแม้บางครั้งเราอาจจะไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถทดแทนความไม่สมบูรณ์นั้นได้ …
-
ผู้เชี่ยวชาญเตือน “ดูหนังโป๊” ผ่านสมาร์ทโฟน อันตรายต่อมือถือพวกนายนะ!!
การดูหนังโป๊ อาจจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่างสำหรับท่านชายหลายๆ คน หรือบางครั้งอาจรวมถึงคุณผู้หญิงด้วย และแน่นอนว่า หนึ่งในอุปกรณ์ที่เรานิยมใช้ในการดูหนังผู้ใหญ่นั้นก็คือโทรศัพท์มือถือนั่นเอง แต่!!… คุณรู้หรือไม่ว่าการกระทำดังกล่าวนั้นกำลังเป็นอันตราย และอาจทำข้อมูลในโทรศัพท์ของคุณนั้นไม่ปลอดภัย และเสี่ยงต่อการถูกแฮกได้ ผู้เชี่ยวชาญของบริษัท Wandera บริษัทด้านความปลอดภัยของโทรศัพท์มือถือ ได้ตรวจสอบเว็บไซต์สื่อลามกจำนวนมาก และพวกเขาพบสิ่งที่น่าตกใจนั่นก็คือ ประมาณ 1 ใน 4 ของมัลแวร์ที่พบในโทรศัพท์มือถือนั้น มาจากเว็บไซต์เหล่านี้ ซึ่งสาเหตุดังกล่าวนั้นมาจากระบบรักษาความปลอดภัยบนโทรศัพท์ โดยเฉพาะระบบแอนดรอยด์นั้นไม่มีความปลอดภัยเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งแฮกเกอร์เองสามารถอาศัยช่องโหว่นี้ในการขโมยข้อมูลของคุณได้ นอกจากนี้พวกเขายังพบเว็บไซต์มากกว่า 40 เว็บไซต์จากการตรวจสอบทั้งหมด 50 เว็บไซต์ยอดนิยม ว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้ข้อมูลของคุณรั่วไหลได้ อย่างเช่นเว็บ Brazzers, Ashley Madison และ AdultFriendFinder การดูเว็บโป๊บนโทรศัพท์มือถืออาจจะสะดวกและพกเข้าห้องน้ำได้ง่าย แต่คุณอาจจะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงในการถูกขโมยข้อมูลจากแฮกเกอร์ได้ ดังนั้นหันมาดูแผ่นจริง เอ๊ย!! ลองเปลี่ยนไปดูบนคอมพิวเตอร์ดูจะดีกว่านะ ที่มา menshealth
-
เปิดวาร์ป 10 สุดยอดคุณครูดีงาม ที่จะทำให้เราอยากกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง!!
บางครั้งการตั้งใจเรียนอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายๆ คน เพราะนอกจากการขาดแรงบันดาลใจแล้ว ความยากของบางวิชานั้นก็ชวนให้ไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ซะเหลือเกิน และนอกจากสภาพแวดล้มในห้องแล้ว คุณครูเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นความสนใจเรียนของพวกเราได้ และวันนี้เราก็ได้นำภาพของ 10 คุณครูจากเว็บ Bright Side ที่จะทำให้เราอยากกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้งหนึ่งมาฝากกัน แต่ละคนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 10. Dejinay หนึ่งในคุณครูสาวที่รักในการดูแลสุขภาพ ถ้าหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหุ่นของเธอนั้นช่างเป๊ะจริงๆ นอกจากนี้เธอยังมีความตั้งใจในการสอน โดยการตกแต่งห้องเรียนเพื่อทำให้เด็กๆ มีความสนใจในการเรียนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย 9. Nicholas Ferroni อาจารย์ผู้ใจดีที่มีความตั้งใจอย่าแน่วแน่ เขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนหลายๆ คน “เมื่อตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมมีความฝันที่อยากจะเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ นักปรัชญา และนักจิตวิทยา นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงอยากเป็นครู” Nicholas กล่าว 8. Michael Bonner คุณ Bonner เติบโตมาจากครอบครัวที่ยากจน เขาจึงเข้าใจถึงความสำคัญของเงินทุนสำหรับการศึกษาเป็นอย่างดี และจากความพยายามของเขาและเหล่านักเรียนจึงทำให้ทางโรงเรียนได้รับเงินสนับสนุนจาก Ellen DeGeneres พิธีกรชื่อดังมากกว่า 800,000 บาทเลยทีเดียว 7. Patrice Brown คุณครูอีกท่านที่มีหุ่นเป๊ะ และนอกจากนี้เธอยังเป็นคุณครูที่ใจดีและรักเด็กนักเรียนของเธอ แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ปกครองท่านอื่นๆ อีกด้วย 6. Vin Wick นอกจากจะเป็นนายแบบแล้ว…
-
หนุ่มข้ามเพศถ่ายเซลฟี่ตลอด 3 ปี เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหลังใช้ฮอร์โมนเพศชาย
“ก่อนหน้าที่จะเริ่มใช้ฮอร์โมนเพศชาย ฉันไม่มีความสุขเลยเวลาที่มองกระจก แต่ตอนนี้ฉันมีความสุขกับรูปร่างของฉัน” Jamie Raines หนุ่มข้ามเพศให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed หลังจากที่การแปลงเพศนั้นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ยูทูบเบอร์ชื่อดังวัย 21 ปี เริ่มใช้ฮอร์โมนเพศชายตั้งแต่เมื่อตอนอายุ 18 ซึ่งฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ลักษณะร่างกายของเขาเปลี่ยนไปเป็นหนุ่ม ทั้งกล้ามเนื้อ และเสียง และนี่คือภาพของเขาในวันแรกที่เริ่มใช้ฮอร์โมนที่ว่านี้ เขาตัดสินใจเก็บข้อมูลการใช้ยาดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยการถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองในทุกๆ วันเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ตอนแรกเขาคิดไว้ว่าจะถ่ายภาพแค่ปีแรก แต่เมื่อผ่านไปหนึ่งปี การเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเขายังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ Raines จึงตัดสินใจทำมันต่อไปเรื่อยๆ และแล้วหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเข้าปีที่ 2 ใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลง “หน้าของฉันยาวขึ้นเรื่อยๆ และแก้มก็เริ่มตอบลง” เขากล่าว หลังจาก 2 ปีผ่านไป ทุกอย่างก็เริ่มชัดขึ้น “ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว ผมด้านหลังของฉันเริ่มหยิก ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ ” Raines กล่าว และแล้วสีหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เปลี่ยนไป… . จนในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 3 ปี ใบหน้าของ Raines ก็ดูเข้มขึ้น เขามีหนวดและดูเป็นผู้ชายมากขึ้น…
-
รู้จักอาชีพ “ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ” ในบังกลาเทศ ต้องผจญสิ่งสกปรกด้วยตัวเปล่า…
ในการทำงานที่มีความเสี่ยงสูงต่อชีวิตอย่างเช่นการปีนเสาไฟฟ้า การขุดอุโมงค์ หรืองานก่อสร้างต่างๆ ย่อมมีมาตรฐานในการดูแลผู้ปฏิบัติงานกันอยู่แล้ว แต่ว่ามาตรฐานที่ว่านี้จะสูงมากน้อยแค่ไหนอันนี้ก็คงต้องแล้วแต่กฎหมายของประเทศนั้นด้วย และหนึ่งในอาชีพที่ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานนั่นก็คือนักดำน้ำ!! อ่า..หลายคนอาจจะงงว่าอาชีพนักดำน้ำนี่มันอันตรายตรงไหนฟระ?? ใจเย็นๆ ยังบอกไม่หมดเลย กำลังจะบอกว่านักดำน้ำในท่อระบายน้ำเพื่อกำจัดสิ่งปฏิกูลที่เข้าไปติดค้างในท่อต่างหากล่ะ เมื่อไม่นานมานี้ทางเว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเรื่องของชายหนุ่มชาวบังกลาเทศท่านหนึ่ง ซึ่งประกอบอาชีพเป็นพนักงานกำจัดของเสียในบ่อเกรอะของบริษัททำความสะอาดแห่งหนึ่งในเมื่อง Dhaka งานของเขาคือการดำลงไปในท่อระบายน้ำที่เต็มไปด้วยของเสียที่ตั้งอยู่หลายแห่งทั่วเมือง พร้อมกับไม้หนึ่งด้ามเพื่อจัดการกับของเสียอย่างเช่นขยะ เศษอาหาร และสิ่งปฏิกูลมากมายที่ไหลมาจากบ้านเรือนในเมืองนี้ แล้วมันทำให้ท่ออุดตัน ชายหนุ่มต้องดำลงไปในบ่อที่เต็มไปด้วยของเสียต่างๆ และต้องตักของเสียทั้งหมดที่อยู่ในท่อขึ้นมาด้วยมือเปล่า โดยปราศจากเครื่องป้องกันอย่างเช่นหน้ากาก หรือชุดคลุม เมือง Dhaka มีประชากรมากถึง 14 ล้านคน และมักจะประสบกับปัญหาน้ำท่วมอยู่บ่อยๆ เนื่องจากขยะในเมืองที่มากมายทำให้ท่ออุดตัน และระบายน้ำไม่ทัน ตอนนี้ถึงแม้จะมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากอาชีพล้างท่อนี้เป็นจำนวนมาก แต่ทางบริษัทก็ยังคงไม่มีมาตรการในการให้ความปลอดภัยในการทำงานของพวกเขาแต่อย่างไร และต่อไปนี้คือภาพของคนงานที่กำลังทำหน้าที่ของพวกเขา โดยปราศจากเครื่องป้องกัน คนงานมีเพียงไม้ไผ่หนึ่งแท่งและตัวเปล่า เพื่อทำความสะอาดของเสียที่อยู่ในท่อ คนงานยังคงดำลงไปในท่อ ถึงแม้พวกเขาจะรู้ดีว่าสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในท่อนั้นสามารถทำให้เขาตายได้ เขาต้องดำลงไปเพื่อจัดการกับของเสียที่อยู่ในท่อนี้โดยไม่มีหน้ากากหรือชุดเพื่อป้องกันเลย . ความปลอดภัยในการทำงานของพวกเขาต่ำมากจนน่าตกใจ!! แม้จะมีเสียงวิจารณ์ถึงการที่ต้องทำงานเสี่ยงๆ แบบนี้โดยไม่มีเครื่องป้องกันอะไร แต่ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่ต่ำของข้อกฎหมายและบริษัท รวมถึงความจำเป็นในการหาเลี้ยงปากท้องของพนักงาน ทำให้งานเช่นนี้ก็ยังคงอยู่ต่อไป…. ที่มา dailymail
-
คนขับแท็กซี่นำเงินกว่า “ครึ่งล้าน” กลับมาคืนให้คุณตา หลังรู้ว่าเขาถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอก…
การตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋นนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว เพราะบางครั้งคุณเองก็อาจจะเคยตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพได้เหมือนกับคุณตาท่านนี้ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดี เมื่อคุณตาได้พบกับแท็กซี่หนุ่มพลเมืองดีทำให้เขาได้รับเงินทั้งหมดคืน… คุณตา Barry Stone ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลนิรนาม ที่อ้างว่าเขาโทรมาจากสำนักงานตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด เพื่อจะขอทำการตรวจสอบบัญชีของคุณตา เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงในเรื่องของการฉ้อโกงธนาคาร แก๊งมิจฉาชีพได้บอกให้คุณตาถอนเงินเป็นจำนวนประมาณ 12,128 ปอนด์ (ประมาณ 530,000 บาท) โดยแยกเป็นธนบัตรมูลค่า 50 ปอนด์ จำนวน 8,000 ปอนด์ (350,000 บาท) และเงินสกุลยูโรอีกประมาณ 4,128 ปอนด์ (180,000 บาท) โดยมีการบอกขั้นตอนว่าหลังจากที่ถอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำไปมอบให้กับคนขับรถแท็กซี่เพื่อที่จะให้นำส่งตำรวจไปตรวจสอบที่ลอนดอนต่อไป…. หลังจากที่ได้ยินกระบวนการทั้งหมด คุณตาจึงได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากให้กับแท็กซี่ แต่แล้ว Izy Rashid พนักงานขับรถแท็กซี่พลเมืองดี กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล เขาจึงตัดสินใจนำเงินกลับไปส่งคืนให้คุณตาถึงที่บ้าน “ผมรู้สึกไม่ดีเลย มันไม่ใช่เงินจำนวนนน้อยๆ แต่หลังจากที่ได้เงินคืนตอนนี้ผมรู้สึกดีมากๆ และไม่กังวลอะไรแล้ว” คุณตา Stone กล่าว นอกจากนี้คุณตายังได้เล่าถึงเหตุการณ์ต้มตุ๋นในครั้งนี้ว่า “บางครั้งเราก็หลงเชื่อเรื่องพวกนี้นะ พวกเขาบอกผมว่าต้องการตรวจหาลายนิ้วมือจากธนบัตรของธนาคาร เพื่อหาตัวคนร้าย” หลังจากที่ได้ติดต่อกับทางตำรวจจริงๆ คุณ Izy Rashid…
-
ชายหนุ่มสายครีเอทีฟ ร่อนเรซูเม่สมัครงาน นำเสนอตัวเองเป็นตัวต่อโลเก้ เฮ้ย ‘เลโก้’ !?
เรซูเม่ หนึ่งในเอกสารสำคัญสำหรับการสมัครงาน ว่ากันว่าถ้าหากเรซูเม่ที่มีความน่าสนใจและมีจุดเด่นนั้นก็ทำให้คุณมีโอกาสได้งานที่มากกว่าคนอื่นๆ แล้ว และเรซูเม่ของชายหนุ่มคนนี้ก็เจ๋งและไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน คุณ Andy Morris ศิลปินหนุ่มผู้หนึ่งต้องการสร้างความแตกต่างของการแนะนำตัวเองผ่านเรซูเม่ของเขา โดยเขาได้จำลองคาแรกเตอร์ของตัวเอง ลงบนหุ่นเลโก้ตัวจิ๋ว และนี่ก็คือหุ่นเลโก้จำลองของเขาที่ว่านั้น คุณ Andy ได้ออกแบบหุ่นเลโก้ที่เป็นตัวของเขาเองจากงาน ComicCon โดยเขาได้ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเองอย่างเช่น ชื่อ อายุ และทักษะความสามารถพิเศษลงไปในซองที่บรรจุตัวต่อเลโก้ด้วย นอกจากนี้ในกล่องบรรจุหุ่นจำลองของชายหนุ่มผู้นี้ยังมีสโลแกนที่เขียนกำกับไว้ว่า “แกะกล่องลูกจ้างคนใหม่ล่าสุดของคุณ” แหม… แหย่ ขนาดนี้แล้ว จะรับทำงานมั้ยน้ออออ Andy จบการศึกษาทางด้านการออกแบบจากมหาวิทยาลัย University of South Wales ชายหนุ่มหวังว่าการยื่นเรซูเม่แบบนี้ จะช่วยให้เขาสามารถหางานได้ง่ายยิ่งขึ้น และเป็นการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของเขาด้วย “ทุกๆ สิ่งบนโลกควรจะเป็นเรื่องสนุก ไม่เว้นแต่การสมัครงาน” Andy กล่าว “การเขียนเรซูเม่ในรูปแบบเดิมอาจจะเหมาะในการบอกเล่าความสำเร็จที่คุณได้รับมา แต่มันอาจจะแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของคุณได้ไม่เต็มที่ และผมหวังว่าแบบจำลองเลโก้ของผม จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ และผมจะเริ่มส่งเรซูเม่ในสัปดาห์นี้แล้ว” ชายหนุ่มเสริม หุ่นจำลองขนาดจิ๋ว ที่มาพร้อมกับข้อมูลส่วนตัวของนักออกแบบผู้นี้ ช่างเป็นเรซูเม่ที่แตกต่างและไม่เหมือนใครจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการทำเรซูเม่ที่แปลก และไม่ซ้ำใครเลยจริงๆ นะเนี่ย ถ้าหากใครกำลังมองหาเรซูเม่ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร จะลองเอาไอเดียของพ่อหนุ่มคนนี้ไปปรับใช้กับเรซูเม่ของคุณดูก็ได้นะ!! …
-
15 ภาพ ‘แมวป่าคาราคัล’ ที่จะทำให้คุณหลงใหล ในความสวยงามและน่ารักของพวกมัน
สำหรับใครที่เป็นทาสแมว หรือชื่นชอบในความน่ารักของเจ้าเหมียวแล้ว เชื่อแน่ว่าหลายๆ อาจจะรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อเจ้าแมวป่าคาราคัลกันมาบ้างแน่ๆ สำหรับแมวป่าแสนน่ารักนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอชียตะวันตก เอเชียใต้ และทวีปแอฟริกา โดยที่เจ้าเหมียวคาราคัลนั้นถูกจัดเป็นแมวป่าขนาดกลาง ตัวผู้ที่โตเต็มที่นั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 10-18 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร สวัสดีฮะ!! ผมคาราคัลน้อยเอง สำหรับอายุโดยเฉลี่ยของเจ้าเหมียวสายพันธุ์นี้ จะอยู่ที่ประมาณ 8-10 ปี และตามพื้นฐานทางธรรมชาติแล้วพวกมันคือสัตว์นักล่า ซึ่งอาหารของเจ้าเหมียวเหล่านี้ส่วนมากจะเป็นกวางป่า นกกระทา หมูป่า และสัตว์ตัวเล็กๆ วันนี้เราก็มีภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวหูดำตัวนี้มาฝากกัน แต่ละตัวจะน่ารักถูกใจเหล่าทาสแค่ไหน ไปชมกันเลย… ถึงจะเป็นสัตว์ป่า แต่พวกเราก็น่ารักไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?? . . ตัวเล็กน่ารักจริงๆ นะพวกแกน่ะ!! เห็นแล้วอยากกอดจริงๆ เล๊ย ในสมัยโบราณเจ้าแมวสายพันธุ์นี้ มักจะถูกมนุษย์นำมาฝึกให้ใช้ล่าสัตว์โดยเฉพาะนก เนื่องจากมันรวดเร็ว และสามารถกระโดดได้สูง แถมยังเป็นแมวที่ค่อนข้างเชื่องเมื่อเทียบกับแมวป่าอีกหลายสายพันธุ์ ปัจจุบันเจ้าแมวป่าสายพันธุ์นี้กำลังได้รับความนิยมจากเหล่าทาสแมว และในบ้านเราเองก็มีการซื้อขายด้วยเช่นกัน โดยค่าตัวของเจ้าคาราคัล นั้นก็เริ่มต้นเบาะๆ ที่ 150,000 บาทเท่านั้นเอง …
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ… คลิปโปรโมททริป “สยิวกิ้ว” บนเกาะส่วนตัว บุฟเฟ่ต์อาหาร-เซ็กส์ไม่อั้น!!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมกันบนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้มีการปล่อยคลิปวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยวสุดสยิวบนเกาะส่วนตัว พร้อมปาร์ตี้กับเหล่าสาวๆ สุดเซ็กซี่แบบถึงเนื้อถึงตัว… โดยคลิปดังกล่าวนั้นเป็นคลิปวิดีโอจากบริษัท Good Girls Company ที่ได้ทำออกมาเพื่อโปรโมทแพคเกจการท่องเที่ยวของในวันที่ 24 ถึง 27 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงการเดินทางสุดหรูด้วยเรือยอร์ชส่วนตัว พร้อมกับการต้อนรับจากสาวๆ สุดเซ็กซี่ และเมื่อเดินทางมาถึงเกาะคุณก็สามารถที่จะทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเซ็กส์ เหล้า ยา หรือปาร์ตี้กันแบบสุดเหวี่ยง!! โฆษณากันแบบโต้งๆ เลยว่าคุณสามารถมีเซ็กส์ได้อย่างไม่จำกัด!! นอกจากกิจกรรมต่างๆ ที่เราได้เห็นในคลิปวิดีโอแล้ว ทางบริษัท Good Girls Company ยังได้อธิบายเพิ่มเติมผ่านสื่อออนไลน์อีกว่า… “มีสาวๆ ทั้งหมด 60 คน ไว้คอยบริการลูกค้า 30 คน และจะมีผู้หญิงสองคนคอยประกบดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง ราคานี้รวมค่าอาหารทุกมื้อแล้ว” สถานที่จัดงานนนั้นอยู่บนชายหาดของเมือง Cartagena ทางชายฝั่งด้านเหนือของประเทศโคลอมเบีย โดยกำหนดการในวันแรกนั้นลูกค้าสามารถที่จะมีเซ็กส์กับเหล่าสาวๆ ได้ทันทีเลย ส่วนในวันที่ 2 นั้นลูกค้าสามารถใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเพื่อทำอะไรกับสาวๆ 16 คนพร้อมๆ กันได้…
-
หญิงสาวตัดสินใจอยู่เคียงข้างแฟนหนุ่ม แม้ว่าเขาจะเป็น ‘อัมพาต’ พร้อมแต่งงานเพื่อดูแลใจ!!
เรื่องราวความรักสุดโรแมนติกครั้งนี้เกิดขึ้นกับคุณ Brett Greenhill หนุ่มวัย 39 ปี ที่เป็นอัมพาตเนื่องจากอุบัติเหตุเมื่อปี 2016 หลังจากที่มีสภาพร่างกายที่ไม่ปกติเหมือนดั่งเช่นเคย เขาจึงพยายามที่จะบอกเลิกแฟนสาวและขอร้องให้เธอทิ้งเขาไป แต่เธอกลับปฏิเสธและหลังจากนั้น 9 เดือนทั้งคู่ก็เข้าพิธีวิวาห์ด้วยกันต่อหน้าเพื่อนฝูงที่มาเป็นพยานรักของทั้งสอง เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา “มันเป็นวันที่พิเศษมาก หลังจากที่ผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย ต่อไปนี้พวกเราจะไม่ต้องอยู่ลำพังอีกต่อไปแล้ว” คุณ Meg Alexander เจ้าสาววัย 30 ปีกล่าว คุณ Brett ประสบอุบัติเหตุระหว่างเล่นน้ำในงานเลี้ยงรวมรุ่น ชายหนุ่มถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล Lee Memorial Hospital คุณหมอบอกว่ากระดูกสันหลังของเขาแตก ซึ่งส่งผลให้เป็นอัมพาตตั้งแต่ส่วนคอลงมา ในตอนแรกทั้งคู่ได้วางแผนที่จะแต่งงานกันในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2017 พวกเขาแจกบัตรเชิญและเตรียมงานต่างๆ ไว้แล้ว แต่ในระหว่างนั้นฝ่ายเจ้าบ่าวกลับต้องมาประสบอุบัติเหตุ Brett พยายามบอกให้แฟนสาวของเขาตัดใจและทิ้งเขาไปซะ เพราะว่ามันไม่ใช่สิ่งที่แฟนสาวของเขาควรจะได้รับเลย แต่ Meg ก็ไม่ตัดใจ เธอยืนยันที่จะอยู่เคียงข้างเขา งานแต่งงานถูกเลื่อนไปจัดในเดือนกันยายน ทั้งสองเข้าพิธีอย่างเรียบง่ายในธีมแบบย้อนยุค “ทุกๆ คนต่างพูดถึงสีหน้าของเขา วันนั้นเขาดูมีความสุขอย่างมาก” Meg พูดถึงสามีของเธอ ส่วนทางด้านคุณ Brett ก็ได้พูดถึงชีวิตของเขาหลังจากประสบอุบัติเหตุว่า “ชีวิตของผมมันเหมือนรถไฟเหาะเลยล่ะ มีทั้งวันที่ดีและวันที่แย่ๆ ชีวิตก็เหมือนการผจญภัย และตอนนี้บางสิ่งบางอย่างกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว”…
-
คู่รักหัวเสียเพลียเพื่อนบ้าน ฟ้องร้องค่าเสียหายกว่า 83 ล้านบาท เพราะบ้านดั๊นเหมือนกันเป๊ะ!!
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฟ้องร้องแปลกๆ ในต่างประเทศ ที่บางทีเราอาจจะงงว่าเรื่องแบบนี้ถึงกับต้องขึ้นศาลกันด้วยหรือนี่!? และเรื่องราวของครอบครัวจากเมือง Toronto ครอบครัวนี้ ก็เป็นหนึ่งในการฟ้องร้องแปลกๆ เช่นกัน ครอบครัวของคุณ Barbara Ann และ Eric Kirshenblatt จากเขต Forest Hill เมือง Toronto ประเทศแคนาดา ถูกเพื่อนบ้านของพวกเขาฟ้องศาลเรียกค่าเสียหายกว่า 83 ล้านบาท หลังจากที่แบบบ้านของพวกเขานั้นคล้ายกับแบบบ้านของเพื่อนบ้านคนดังกล่าว สองสามีภรรยาต้องต่อสู้กับคดีความดังกล่าวอยู่นานถึง 3 ปี หลังจากที่ครอบครัวของ Jason กับ Jodi Chapnick เพื่อนบ้านของพวกเขาได้ฟ้องศาลเกี่ยวกับเรื่องการลอกแบบบ้าน ครอบครัว Chapnick อ้างว่าคุณ Barbara Ann นั้นได้จงใจปรับปรุงบ้านให้คล้ายกับบ้านของพวกเขา ทางครอบครัว Chapnick ได้เรียกร้องให้มีการชดเชยค่าเสียหายจำนวน 50 ล้านบาท สำหรับการลอกแบบบ้าน 600,000 บาท และอีก 33 ล้านบาทสำหรับค่าเสียหายเชิงลงโทษ พร้อมกันนี้ทางฝ่ายจำเลยยังต้องมีการแก้ไขแบบบ้านใหม่อีกด้วย ทางครอบครัว Chapnick อ้างว่าพวกเขาได้จ้างให้สถาปนิคทำการออกแบบบ้าน และบ้านหลังดังกล่าวก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีชื่อเสียงอย่างมากในย่าน Forest Hill และการสร้างบ้านลอกเลียนแบบก็ทำให้คุณค่าของบ้านพวกเขาลดลงไป เมื่อเปรียบเทียบจากภาพของบ้านทั้งสองหลัง…
-
20 ภาพที่ชาวเน็ตร่วมกันแฉ “พฤติกรรมสุดเกรียน” ของเหล่าสัตว์เลี้ยง แสบกว่านี้มีอีกมั้ย!?
สำหรับใครที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้าน คงจะเคยเห็นพฤติกรรมป่วนๆ ของพวกมันมาบ้างแน่นอน บ่อยครั้งที่พวกมันชอบเล่นซนจนข้าวของเสียหาย แต่ก็กลับทำหน้าตาเฉยๆ พร้อมกับยืนชื่นชมผลงานของตัวเองซะอย่างนั้น หรือบางครั้งก็แอบเข้ามายึดที่นอนของเราไปเป็นห้องน้ำของตัวเอง งานนี้ชาวเน็ตก็เลยทนไม่ไหว ต้องมาช่วยลงรูปแฉพฤติกรรมเหล่านี้ของสัตว์เลี้ยงตัวเอง ว่าแต่ละตัวจะสุดป่วนชวนปวดหัวแค่ไหน ไปชมกันพร้อมๆ เลย… 1. จำไว้นะวันหลังอย่าจับผมใส่กรงอีก!! 2. น้องหมาสุดเกรียน โถ่… แกล้งเพื่อนทำไมล่ะเจ้าตูบ?? 3. นี่ๆ เจ้าตูบ เกรงใจกันบ้างก็ได้นะ!! 4. ถึงว่า… ปลูกต้นไม้ยังไงก็ไม่ขึ้น เพราะแกนี่เองสินะพี่เหมียว!! 5. สงสัยเจ้านายจะชอบรองเท้าคู่นี้จริงๆ สินะ!? 6. ไม่เอาครับบ ผมไม่อยากกินผัก 7. อยากช่วยทาสีใช่มั้ยเจ้าหมา?? 8. ไปฉี่ที่อื่นไป๊!! แมวกำลังจะนอน 9. ใครทำยอมรับมาซะดีๆ นะ!! 10. ทำลายข้าวของอีกแล้วสินะเจ้าเหมียว… แถมยังทำหน้าตาเฉยอีก!! 11.…
-
แก๊งโจรลงทุน 43 ล้านบาทขุดอุโมงค์ลึก หวังปล้นเงินธนาคารหมื่นล้าน แต่ดันไม่ได้ใช้งานซะงั้น!!
ถ้าหากใครที่เป็นแฟนๆ หนังแนวโจรกรรม อาจจะคุ้นเคยหนึ่งในพล็อตสุดคลาสสิคของหนังแนวนี้กันเป็นอย่างดี นั่นก็คือการขุดอุโมงค์เพื่อไปโผล่ในห้องเก็บตู้เซฟของธนาคาร และกวาดเงินหลายล้านหนีไปอย่างไร้ร่องรอย ถึงแม้การขุดอุโมงไปโผล่ใต้ตูเซฟในหนังนั้นอาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่อันที่จริงแล้วการจะทำแบบนั้นได้แค่มีสกิลพระเอกอย่างเดียวคงไม่พอ และดีไม่ดีอาจะถูกตำรวจจับอย่างหนุ่มชาวบราซิลคนนี้อีกต่างหาก!! โทษทีนะคะ คุณไม่ใช่เดอะเฟซค่ะ คุณตำรวจจากเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ได้หยุดยั้งแผนโจรกรรมเงินของธนาคารมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทจากกลุ่มโจรที่พยายามขุดอุโมงค์ใต้ติดเพื่อเข้าไปในธนาคาร เจ้าหน้าที่พบอุโมงที่มีความยาวถึงครึ่งกิโลเมตรอยู่ใต้ดินในเมืองเซาเปาโล พร้อมกับระบบไฟและเครื่องระบายอากาศอยู่ภายในนั้น เจ้าหน้าที่กล่าวว่าผู้ต้องหารับสารภาพว่าพวกเขาวางแผนที่จะขุดอุโมงดังกล่าวจากบ้านเช่า เพื่อขโมยเงินในธนาคาร Banco do Brasil “ถ้าหากแผนการนี้สำเร็จ มันอาจจะเป็นหนึ่งในการปล้นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาเป็นหนึ่งในแก๊งที่อันตรายที่สุดในบราซิล และมีประวัติอาชญากรอย่างโชกโชน “ เจ้าหน้าที่ Fabio Pinheiro Lopes กล่าว เด็กหนุ่มวัย 16 ปี หนึ่งในผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมได้ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ใกล้ๆ กับโกดังแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเมือง ซึ่งเป็นจุดที่พวกเขาเริ่มขุดอุโมงค์ดังกล่าว จากติดตามมาความเคลื่อนไหวของแก๊งนี้มาตลอดระยะเวลา 2 เดือน ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการคนอื่นได้อีกกว่า 20 คน ในการขุดครั้งนี้พวกเขาใช้เงินลงทุนมากถึง 1 ล้าน 3 แสนเหรียญหรือ 43 ล้านบาทเลยทีเดียว อุโมงค์ดังกล่าวใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 4…
-
รวม 20 ภาพถ่ายทางอากาศสุดเจ๋ง ที่ทำให้เรารู้ว่าการโบยบินนั้นน่ามหัศจรรย์ขนาดไหน
ภาพถ่ายทางอากาศ หนึ่งในมุมกล้องที่ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของเมืองและวิวทิวทัศน์ต่างๆ ในมุมมองที่แตกต่างออกไป และบางครั้งมันก็ทำให้คุณเองรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังโบยบินอยู่เหนือพื้นโลกเลยทีเดียว บางครั้งการได้มาซึ่งภาพถ่ายทางอากาศนั้นอาจจะต้องใช้ความสามารถของช่างภาพอย่างสูง เพราะบางมุมมองที่สวยงามอาจจะต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงต่างๆ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพถ่ายมุมสูงที่แสนสวยงามจากทั่วมุมโลกมาให้ได้ชมกัน แต่ละภาพจะสวยงามแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. ภาพมุมสูงของ Muhammad Ali ที่ชนะน็อค Cleveland Williams ในสังเวียน Astrodome เมือง Houston ปี 1966 2. ภาพมุมสูงของมหานครนิวยอร์ก ที่ถ่ายจากหน้าต่างของเครื่องบิน 3. รอยแยกของเปลือกโลกจากน้ำตก Victoria ประเทศซิมบับเว/ประเทศแซมเบีย 4. ภาพมุมสูงของเทศกาล Burning Man ในทะเลทราย Black Rock รัฐเนวาดา 5. ผู้คนกว่า 105,491 ในสนามอเมริกันฟุตบอล Michigan Stadium ที่เข้าชมการแข่งขันไอซ์ฮอกกี้, วันที่ 1 มกราคมปี 2014 6. ภาพถ่ายมุมสูงจากตึก Edgewater Condo ในชายหาดปานามาซิตี้ รัฐฟลอริดา 7. ภาพของบอลลูนที่กำลังบินขึ้นเหนือเทือกเขา Rose Valley…
-
กลุ่มนักวิทย์ฯ เริ่มต้นไขความลับ เพื่อให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับทวีปที่ 8 Zealandia กันมากขึ้น
อย่างที่พวกเราเคยเรียนกันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วว่า โลกของเรานั้นแบ่งออกเป็นทั้งหมด 7 ทวีปด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย ทวีปเอเชีย ทวีปแอฟริกา ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปแอนตาร์กติกา ทวีปออสเตรเลีย และทวีปยุโรป แต่รู้กันหรือเปล่าว่าจริงๆ แล้วแผ่นเปลือกโลกที่แยกออกเป็นทวีปต่างๆ นั้นไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะเออ… แต่ยังมีอีกหนึ่งทวีปที่เพิ่งถูกคนพบซึ่งนั่นก็คือทวีปที่ 8 หรือ Zealandia นั่นเอง ทวีป Zealandia ในอดีตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของทวีปออสเตรเลียและเกิดการแยกตัวของเปลือกโลกเมื่อประมาณ 60 ถึง 80 ล้านปีก่อน พื้นที่ประมาณ 93 เปอร์เซ็นต์ของทวีปนี้จมอยู่ภายใต้มหาสมุทร และพื้นที่ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ที่เชื่อมกันของเกาะ New Zealand และหมู่เกาะ New Caledonia และเมื่อไม่นานมานี้กลุ่มของนักวิทยาศาสตร์ 32 คนจาก 12 ประเทศทั่วโลกได้ออกมาเปิดเผยความลับของทวีปที่ 8 นี้ Jamie Allan ผู้อำนวยการโครงการนี้กล่าวว่า “การศึกษาครั้งนี้จะนำเสนอเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของโลก เกี่ยวกับการสร้างตัวของแนวเขาในประเทศ New Zealand และการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกที่มีผลต่อกระแสน้ำและการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ” ทีมสำรวจได้ใช้เวลาในการลงพื้นที่เป็นเวลานานถึง 9 สัปดาห์…
-
งานหนักฆ่าคนได้… นักข่าวสาวเสียชีวิตจากการ ‘ทำงานล่วงเวลา’ จำนวน 159 ชั่วโมงต่อเดือน
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์เกี่ยวกับกฎหมายแรงงานของประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังจากผู้ประกาศข่าววัย 31 ปีของสำนักข่าว NHK ต้องเสียชีวิตจากการทำงานอย่างหนัก คุณ Miwa Sado ผู้ประกาศข่าวที่ประจำอยู่ในสำนักงานใหญ่ของสื่อดังกล่าวในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ทำงานล่วงเวลาอย่างหนักถึง 159 ชั่วโมงในหนึ่งเดือน และมีวันหยุดเพียงแค่เดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเนื่องจากสภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อปี 2013 โดยการเสียชีวิตของนักข่าวสาวท่านนี้เรียกว่า karoshi หรือการตายจากการทำงานหนัก ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากอดีตนายจ้างของเธอเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา การเสียชีวิตของผู้ประกาศข่าวสาวทำให้เกิดแรงกดดันเกี่ยวกับสวัสดิการของเหล่าพนักงงาน และเรียกร้องให้ภาครัฐมีการจัดการแก้ปัญหาและทำให้หลายๆ คนเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความสมดุลระหว่างเวลาทำงานและชีวิตส่วนตัว การเสียชีวิตจากการทำงานหนักนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของพนักงานชาวญี่ปุ่น แต่ก่อนหน้านี้ Matsuri Takahashi พนักงานสาววัย 24 ปีก็ตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากความเครียดจากการทำงานหนัก ตามการรายงานของสำนักงานมาตรฐานแรงงาน Takahashi ทำงานล่วงเวลามากกว่า 100 ชั่วโมงในหนึ่งเดือนก่อนที่เธอจะเสียชีวิต หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่เธอจะตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในวันที่ 25 ธันวาคม 2015 หญิงสาวได้โพสต์ข้อความว่า “ฉันอยากตาย ตอนนี้ทั้งร่างกายและจิตใจของฉันพังไปหมดแล้ว” การเสียชีวิตจากการทำงานหนักนั้นถือเป็นปัญหาระดับชาติที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ การทำงานหนักนั้นเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทำงานของพนักงานญี่ปุ่น ที่อยากแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและทุ่มเทให้กับบริษัท แต่อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทางการญี่ปุ่นได้ออกกฎห้ามพนักงงานทำงานล่วงเวลาเกิน 100 ชั่วโมงต่อเดือน และมีบทลงโทษสำหรับบริษัทที่อนุญาตให้พนักงงานละเมิดกฎข้อห้ามดังกล่าว …
-
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอมขายรางวัลส่วนตัว “ฟีฟ่าบัลลง ดอร์” เพื่อให้การกุศล 26 ล้านบาท!!
Cristiano Ronaldo หนึ่งในนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก อดีตดาวเตะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดผู้เคยเป็นเจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก สำหรับด้านความสามารถของเขานั้นคงไม่ต้องสงสัย เพราะนอกจากจะยิงประตูได้อย่างมากมายแล้ว เขาผู้นี้ยังกวาดรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของโลก หรือรู้จักกันในชื่อ “ฟีฟ่าบัลลง ดอร์” มาครองได้ถึง 4 สมัยอีกด้วย และล่าสุดเจ้าตัวได้ประกาศขายถ้วยรางวัลดังกล่าวในมูลค่าสูงถึง 26 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้ไปสนับสนุนกับกองทุนเพื่อการกุศล Cristiano ได้ประกาศมอบเงินจากการขายถ้วยรางวัลที่เขาได้รับในปี 2013 ให้กับมูลนิธิ Make-A-Wish Foundation องค์กรการกุศลเพื่อเด็ก เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ดาวเตะชาวโปรตุเกสนั้นได้ให้การสนับสนุนองค์กรดังล่าวมาเป็นเวลานานแล้ว จำนวนเงินที่ได้จากการขายถ้วยรางวัลของเขานั้นถูกนำไปรวมกับเงินระดมทุนของทางสหราชอาณาจักร เพื่อนำไปช่วยเหลือเหล่าเด็กๆ ที่ป่วยด้วยโรคร้ายทั่วโลก ตามวัตถุประสงค์ขององค์กร Make-A-Wish Foundation รางวัลฟีฟ่าบัลลง ดอร์ นั้นเป็นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกที่เป็นการรวมรางวัลฟีฟ่า เวิลด์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ และรางวัลบัลลง ดอร์ หรือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรปเข้าด้วยกัน โดยเริ่มมีการมอบรางวัลดังกล่าวต้นตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา รางวัลฟีฟ่าบัลลง ดอร์ นั้นจะมีการโหวตลงคะแนนเสียงให้กับนักฟุตบอลจากทั่วโลกที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง ซึ่งคะแนนดังกล่าวจะมาจากผู้ฝึกสอนและกัปตันทีมฟุตบอลประเทศต่าง ๆ รวมถึงผู้สื่อข่าวจากทั่วโลก โดย Cristiano นั้นสามารถคว้ารางวัลนี้ได้ในปี 2008, 2013,…
-
ลูกน้องเห็นนายใช้ถุงกระดาษใบเดิมทุกวัน จึงสร้าง “กระเป๋าหิ้วหนัง” สวยๆ เก๋ๆ ให้เป็นของขวัญ
เรื่องราวน่ารักๆ ครั้งนี้เกิดขึ้นในบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อพนักงานของทางบริษัทได้มอบของขวัญชิ้นพิเศษ ให้กับเจ้านายของเขาในวันเกิดอายุ 78 ปีของเขา พนักงานท่านนี้เล่าว่า เขารัก Bob เจ้านายของเขามากๆ เพราะ Bob เป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตนและเรียบง่าย และในทุกๆ วันเจ้านายจะมาทำงานพร้อมกับถุงกระดาษใบเก่าหนึ่งใบ พร้อมกับอาหารมากมายสำหรับแบ่งให้พนักงาน “Bob เป็นเจ้านายที่ดีมากๆ เขาเป็นหนึ่งในคนที่คุณต้องอยากทำงานด้วยแน่ๆ และวันนี้เป็นวันเกิดอายุ 78 ปีของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะอายุมากแล้วแต่ก็ยังคงทำงานอย่างหนัก และพวกเราคิดว่าจะมอบของขวัญชิ้นพิเศษบางอย่างให้กับเขา” พนักงานท่านหนึ่งกล่าว และนี่คือถุงกระดาษใบเก่า ที่ Bob ใช้ใส่ของมาทำงาน ถุงกระดาษใบเก่าถูกใช้เป็นต้นแบบในการสร้างกระเป๋าใบใหม่ ที่ใช้ชื่อว่า “The Bob Tote” พวกเขาลงมือร่างแบบและทำการเตรียมชิ้นส่วนต่างๆ โดยใช้หนังวัวเป็นวัสดุหลักสำหรับเจ้ากระเป๋าใบนี้ . และแล้วก็ได้เป็นโครงคร่าวๆ ของกระเป๋าใบนี้ออกมาแล้ว!! จากนั้นก็เริ่มเจาะรูก่อน ก่อนที่จะนำไปทาสีและประกอบกันในขั้นตอนต่อไป และแล้วก็มาถึงขั้นตอนการย้อมสีหนัง อ่า… จากหนังธรรมดาๆ ตอนนี้เริ่มดูมีสีสันสวยงามขึ้นมาแล้ว น้ำมันย้อมหนัง ช่วยให้หนังที่ได้มีสีสันที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น…
-
รู้จักชายหนุ่มในภาพก้องโลก เอาตัวบังหญิงสาวในเหตุกราดยิง Las Vegas แถมช่วยคนอื่นๆ อีกเพียบ!!
ภาพของชายหนุ่มที่กำลังเอาตัวเข้าปกป้องหญิงสาวผู้หนึ่ง ระหว่างเหตุการณ์กราดยิงที่งานคอนเสิร์ต Route 91 Harvest บริเวณโรงแรม Mandalay Bay Las Vegas ในลาสเวกัส เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา กลายเป็นที่พูดถึงความกล้าหาญของชายคนนี้อย่างมาก Matthew Cobos ทหารหนุ่มจากกองทัพสหรัฐฯ ได้เข้าไปในพื้นที่กราดยิงและช่วยเหลือผู้คนที่กำลังตกอยู่ในอันตราย โดยการเอาร่างกายของตัวเองเป็นเกราะป้องกันกระสุนให้เหยื่อการกราดยิงผู้หนึ่ง Cobos และหญิงสาวคนดังกล่าว นอนหมอบอยู่กับพื้นสนาม ในระหว่างที่ผู้เข้าชมคอนเสิร์ตคนอื่นๆ กำลังตื่นตระหนกและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอยู่ และนี่คือภาพของคุณ Cobos ที่กำลังเข้าปกป้องหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ท่ามกลางความวุ่นวาย Cobs พยายามปกป้องหญิงสาวคนนั้นด้วยร่างกายของเขา และพาเธอเข้าไปหลบในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานว่าหญิงสาวคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด คุณ David Becker ผู้ถ่ายภาพของทั้งสองคนกล่าวว่า หลังจากที่ทั้งสองวิ่งไปหลบที่หลังรถ พวกเขาก็ออกจากที่เกิดเหตุไปเลย คุณ Cobos (ตรงกลาง) นายทหารหนุ่มที่เข้าช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายอย่างกล้าหาญ ทางเว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่าหลังจากที่ช่วยหญิงสาวคนดังกล่าวแล้ว คุณ Cobos ยังได้วิ่งเข้าไปในพื้นที่กราดยิง เพื่อช่วยผู้เคราะห์ร้ายคนอื่นๆ อีกด้วย ชายหนุ่มได้ใช้เข็มขัดของเขาเพื่อช่วยห้ามเลือดให้กับเหยื่อและใช้นิ้วมือของเขาอุดไปที่รูกระสุนของคนที่ถูกยิง Cobos เล่าถึงเหตุการณ์วันนั้นกับคนใกล้ชิดของเขาว่า เขาได้ยินเสียงกระสุน พร้อมกับเห็นวิถีกระสุนที่วิ่งเขาไปขณะที่กำลังวิ่งอยู่ …
-
ตามไปส่องคอนโดใหม่ของ “ลุงโอบามา” มูลค่ากว่า 350 ล้านที่กำลังจะซื้อ ว่าจะน่าอยู่แค่ไหน
เมื่อวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาทางเว็บไซต์ Page Six ได้รายงานว่า อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และครอบครัวของเขานั้นกำลังตัดสินใจที่จะซื้อคอนโดหรูมูลค่ากว่า 350 ล้าน ทางฝั่งตะวันออกของแมนฮัตตัน อาคารดังกล่าวตั้งอยู่ในย่าน Gracie Square หนึ่งในย่านเศรษฐกิจที่สำคัญของเมืองแมนฮัตตัน อาคารดังกล่าวมีด้วยกันทั้งหมด 15 ชั้น และถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1930 มันได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในอาคารที่สวยงามและมีคุณค่ามากที่สุดในนิวยอร์กเลยทีเดียว และนี่คือโฉมหน้าของอาคารที่ว่านี้ ถึงแม้ว่าภายนอกอาจจะดูธรรมดา แต่ที่นี่ก็ประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งห้องโถง สนามกีฬาในร่มอย่างบาสเก็ตบอลกับสวอต ที่สำคัญยังมีที่จอดรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกับบริการด้านความปลอดภัยระดับสูงอีกด้วย และนี่คือภาพจำลองหลังจากการรีโนเวทอพาร์ทเม้นท์ขนาด 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ของอดีตประธานาธิบดีท่านนี้เสร็จเรียบร้อย นอกจากอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ ทางครอบครัวของโอบามายังได้ซื้อที่พักอาศัยไว้อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์มูลค่า 260 ล้านบาที่วอร์ชิงตัน ดี. ซี, บ้านใน Hyde Park ที่ชิคาโก รวมถึงข่าวลือที่ว่าพวกเขากำลังมองหาบ้านพักตากอากาศใน Martha’s Vineyard อีกด้วย ตามรายงานกล่าวว่าเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้รับการออกแบบจากบริษัท Vicente Wolf ส่วนงานตกแต่งภายในนั้นเป็นหน้าที่ของบริษัท Elle Decor อพาร์ทเม้นท์สุดหรูนี้ถูกแบ่งออกเป็น 2…
-
การเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา… 17 ภาพอดีต-ปัจจุบัน ของสมรภูมิรบในสงครามโลกครั้งที่ 2
ถ้าหากจะพูดถึงสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว อีกหนึ่งในการรบที่หลายๆ คนนึกถึงคงหนีไม่พ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างแน่นอน และระหว่างการทำสงครามของฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะ ที่กินเวลายาวนานกว่า 6 ปี (ปี 1939-1945) มีหลายๆ พื้นที่ที่ถูกใช้ในการทำยุธการศึกต่างๆ ซึ่งวันนี้เองเราก็ได้รวมภาพการเปลี่ยนแปลงของสนามรบเหล่านั้นมาฝากกัน และแต่ละที่จะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. สนามรบในยุทธการที่นครสตาลินกราด, 23 สิงหาคม 1942 ถึง 2 กุมภาพันธ์ 1943 ปัจจุบันคือเมืองวอลโกกราด เมืองอุตสาหกรรมสำคัญและเมืองหลวงของมณฑลวอลโกกราด ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย 2. The Ardennes สนามรบในยุทธกาลตอกลิ่ม, 16 ธันวาคมปี 1944 ถึง 25 มกราคมปี 1945 ปัจจุบันที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอนุสรณ์ของสงคราม 3. ท่าเรือเพิร์ล หรือ เพิร์ลฮาร์เบอร์ ในฮาวาย, 7 ธันวาคมปี 1941 และนี่คือโฉมหน้าของ เพิร์ลฮาร์เบอร์…
-
เห้ยยยจริงดิ!! 17 เรื่องจริงเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
มนุษย์ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา โดยประกอบไปด้วยอวัยวะมากมายและซับซ้อน ซึ่งสิ่งเหล่านั้นถือว่าเป็นความน่าอัศจรรย์อย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยล่ะ หลายๆ คนอาจจะเคยทราบกันดีว่าร่างกายของเรานั้นมีความลับหลายๆ อย่างซ่อนอยู่ และบางครั้งก็มีเรื่องบางเรื่องที่เราอาจจะไม่เคยรู้เกี่ยวกับร่างกายเรามาก่อน อย่างเช่นฟันของมนุษย์นั้นมีความแข็งแรงเหมือนฟันของฉลาม หรืออวัยวะบางอย่างของร่างกายเรานั้นสามารถฟื้นตัวเองได้!! อ่า…และวันนี้เราก็ได้รวบรวมเอาความลับของร่างกายจากเว็บไซต์ Brightside มาฝากกัน จะมีอะไรที่น่าทึ่งบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. สมองของคุณสามารถสร้างพลังงานได้เพียงพอที่จะทำให้หลอดไฟดวงเล็กๆ สว่างได้เชียวนะ 2. ฟันของมนุษย์นั้นมีพื้นผิวที่ขรุขระและแข็งแรงเหมือนฟันของฉลาม 3. รู้หรือไม่ กรดในกระเพาะอาหารสามารถกัดกร่อนผิวหนังได้นะเออ!! 4. นอกจากการเผาแล้ว เส้นผมของคุณค่อนข้างที่จะทนทานต่อการทำลายนะ 5. รู้หรือไม่!! มนุษย์สามารถแสดงออกทางสีหน้าได้แตกต่างกันมากถึง 7,000 รูปแบบ 6. เด็กทารกมีกระดูกมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 60 ท่อนเลยนะเออ!! 7. ความละเอียดของภาพที่เรามองเห็นนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 500 เมกะพิกเซลเลยทีเดียว 8. ผิวหนังทั่วร่างกายของเรานั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยประมาณ 16 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวทั้งหมดนั่นเอง 9. กระดูกของมนุษย์จะมีการซ่อมแซมตัวเองทุกๆ 10 ปี…
-
แฟนบอลสี่ขาจอมแสบแอบลงไปในสนามตัวเปล่า แถมยังขโมยลูกบอลไปเล่นเองซะงั๊น!!
โดยส่วนมากแล้วเหล่าน้องหมากับลูกฟุตบอลนั้นดูเหมือนจะเป็นของคู่กันซะเหลือเกิน เรื่องนี้ใครที่เลี้ยงน้องหมาไว้ที่บ้านคงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี และเมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเรื่องราวสุดฮาขึ้นระหว่างการแข่งฟุตบอลที่ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อจู่ๆ แฟนบอลสี่ขาตัวหนึ่งได้วิ่งเข้ามาป่วนการแข่งขัน และโชว์ทักษะการเลี้ยงบอลสุดพลิ้ว งานนนี้เล่นเอานักฟุตบอลและฝ่ายจัดการแข่งขันต้องตามจับกันให้วุ่นเลยทีเดียว และนี่คือโฉมหน้าของแฟนบอลตัวป่วนในครั้งนี้!! หลังจากที่การแข่งขันระหว่างทีม San Lorenzo และทีม Arsenal de Sarandí ในศึกฟุตบอลอาร์เจนติน่า พรีเมร่า ดิวิชั่น เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เริ่มต้นขึ้นเพียง 30 นาที ทันใดนั้นก็มีน้องหมาตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาในสนามพร้อมกับฉกบอลไปเลี้ยงโชว์เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอล เจ้าตูบตัวดังกล่าวได้วิ่งเข้ามาในสนามระหว่างจังหวะลูกเตะมุมของทีมเจ้าบ้านอย่าง San Lorenzo ก่อนที่จะขโมยบอลไปเล่นเป็นของตัวเอง และดูเหมือนงานนนี้เจ้าตูบจะไม่ยอมคืนลูกบอลให้ง่ายๆ มันพาลูกบอลวิ่งไปวิ่งมาที่มุมสนามอยู่นาน ก่อนที่ทีมงานจะพามันออกไปได้ ดูลีลาซะก่อน พลิ้วไหมล่ะ!? และดูเหมือนว่าการปรากฏตัวของเจ้าตูบจะทำให้โชคเข้าข้างทีมเจ้าบ้านอีกด้วย เมื่อหลังจากจบการแข่งขันดังกล่าวทีม San Lorenzo นั้นเป็นฝ่ายเปิดบ้านเอาชนะไปได้ 1 ประตูต่อ 0 จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น เจ้าตูบจอมพลิ้วถูกเจ้าหน้าที่สนามรับไปดูแลต่อ และตอนนี้มันก็ได้งานที่สนามฟุตบอลดังกล่าวในฐานะหน่วยเฝ้ายาม ที่คอยไล่พวกนกที่เข้ามาสนามพร้อมกับเพื่อนตูบตัวอื่นๆ ของมัน ไปชมคลิปของเจ้าตูบแบบเต็มกันเลย… และหลายๆ คนที่ได้เห็นเจ้าตูบก็ต่างเข้ามาคอมเม้นต์ในแฟนเพจของ TyC Sports กันมากมาย…
-
ช่างทำผมช่วยให้สาวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมผมทรงใหม่ของเธอ
โรคซึมเศร้านั้นมีผลต่อสภาพจิตใจของหลายๆ คน และเหมือนที่เราเห็นตามข่าว บางครั้งพวกเขาอาจจะต้องจากไปอย่างน่าเศร้าด้วยอาการที่ว่านี้ แต่หากคนรอบข้างให้ความช่วยเหลือก็อาจทำให้พวกเขาก้าวผ่านเรื่องร้ายๆ นั้นไปได้ อย่างเช่นสาวน้อยวัย 16 ปีผู้นี้!! คุณ Kayley Olsson เจ้าของร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง บอกว่าสาวน้อยคนดังกล่าวได้เข้ามาในร้านของเธอเพื่อทำผมสำหรับการถ่ายรูปที่โรงเรียน และดูเหมือนว่าเธอจะมีอาการซึมเศร้าเนื่องจากสภาพผมของเธอนั้นมีความผิดปกติและดูยุ่งเอามากๆ และนี่คือสภาพผมของสาวน้อยผู้นี้ Kayley โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเธอว่า “เมื่อเธอเดินเข้ามาในร้าน เธอบอกพวกเราว่าให้ตัดผมของเธอออกให้หมด เธอไม่สามารถทนกับความเจ็บปวดนี้ได้แล้ว เธอบอกว่าตัวเธอเองไร้ค่า เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันรู้สึกเศร้ามาก เราจึงพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อเธอ” และหลังจากที่ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงในวันแรก และความพยายามอย่างมาก เพื่อช่วยให้สาวน้อยมีรูปถ่ายที่สวยเหมือนคนอื่นๆ คุณ Kayley ต้องใช้ความสามารถและเทคนิคทั้งหมดที่เธอมี “ปัญหาสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนมากมาย ฉันคิดว่าพ่อแม่ควรให้ความใส่ใจกับลูกๆ ของพวกเขาด้วย อย่างเช่นสาวน้อยคนนี้ไม่ควรที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับผมของเธอเลย” ช่างเสริมสวยกล่าว และแล้วในที่สุดผมของเธอก็กลับมาสวยงามได้อีกครั้ง หลังจากที่ได้ทรงผมให้ที่สวยงาม สาวน้อยรู้สึกขอบคุณ คุณ Kayley อย่างมาก เธอบอกกับช่างเสริมสวยว่า “ฉันมีความสุขมากๆ ที่ได้เห็นรูปของตัวเองวันนี้ คุณทำให้ฉันกลับมายิ้มได้อีกครั้ง” เรื่องราวของสาวน้อยก็ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างมาก มีผู้คนกว่า 1 แสนคนเข้ามาถูกใจภาพของเธอ และมีการแชร์เรื่องราวดังกล่าวถึง 60,000 ครั้ง ชาวเน็ตท่านหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า…
-
ชาวต่างชาติเขียน 20 สิ่งที่ชวนแปลกใจที่คุณสามารถพบเห็นได้เมื่อไปเยือน “ญี่ปุ่น”
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านต่างๆ มากที่สุดในทวีปเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี หรือด้านเศรษฐกิจเองก็ตาม นอกจากความทันสมัยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนอยากที่ไปสัมผัสความสวยงามของประเทศนี้ก็คือวัฒนธรรมและความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นั่นเอง แต่ก่อนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันวันนี้เราก็มีเรื่องแปลกๆ ของชาวญี่ปุ่นจากมุมมองของชาวต่างชาติมาฝากกัน ซึ่งแต่ละอย่างนั้นอาจจะทำให้คุณถึงกับอึ้งเลยทีเดียว ส่วนจะมีอะรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีที่ไฮเทคมากแค่ไหน แต่การใช้แฟกซ์เพื่อส่งเอกสารก็ยังถือเป็นเรื่องปกติของที่นี่ 2. แทนที่ผู้บริหารจะเซ็นเอกสารแบบชาวตะวันตก พวกเขายังคงยึดหลักตราประทับ และใช้กันอย่างแพร่หลาย 3. นอกจากนี้การที่คุณจะได้เจอพิซซ่าหน้าแปลกๆ อย่างข้าวโพด มายองเนส หรือโมจิ นั้นถือเป็นเรื่องปรกติ 4. และอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมของที่นี่ก็คือ “mayo-corn” หรือข้าวโพดผสม มายองเนสนั่นเอง 5. การพบเห็นหนุ่มนักธุรกิจนอนเมาแอ๋ ตามสถานีรถไฟในตอนกลางคืนนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา 6. เมื่อคุณซื้อคุกกี้มาซักถุงหนึ่ง คุณอาจจะเจอห่อขนมซ้อนห่อขนม!! 7. การหาถุงพลาสติกที่นี่ไม่ใช่เรื่องยาก ทุกๆ สิ่งที่คุณซื้อในร้านสะดวกซื้อจะถูกใส่มาในถุงพลสาติก นอกจากนี้ตามอาคารต่างๆ ก็ยังมีถุงพาสติกเอาไว้ในคุณสำหรับใส่ร่มอีกด้วย 8. ถึงแม้จะไม่มีถังขยะสาธาระณะ แต่คุณก็แทบจะมองไม่เห็นขยะแม้แต่ชิ้นเดียวบนถนนเลย 9. ตู้…
-
ดราม่าคลิปนักกอล์ฟหวดวงสวิงให้ “หัวห่าน” ชาวเน็ตเดือด-เจ้าตัวอ้างช่วยฆ่าเพราะมันเจ็บ
กลายเป็นกระแสดราม่ากันบนโลกออนไลน์อย่างหนัก หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของนักกอล์ฟนิรนามท่านหนึ่ง ที่กำลังหวดไม้กอล์ฟใส่เจ้าห่านตัวหนึ่งอย่างรุนแรง คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกโดยเพื่อนของชายหนุ่มท่านดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ในสนามกอล์ฟ Vantaa Golf Club ใกล้ๆ กับเมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ชายหนุ่มคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวเพื่อไปสอบสวนเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นถึงการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการช่วยสงเคราะห์เจ้าห่านตัวนั้นหลังจากที่มันบาดเจ็บสาหัส วินาทีที่ชายหนุ่มกำลังจะหวดไม้กอล์ฟไปที่เจ้าห่าน ชายคนดังกล่าวบอกว่าเจ้าห่านตัวนั้นถูกลูกกอล์ฟอัดเข้าที่หัว และมันกำลังชักอย่างทรมานจากความเจ็บปวด พร้อมกันนี้ที่จมูกและปากของมันก็ยังมีเลือดออกมามากอีกด้วย เขาจึงตัดสินใจที่จะทำให้มันจากไปโดยเร็วที่สุด ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อกับทางสนามกอล์ฟทันทีหลังจากได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าว คุณ Ville Nurmi กรรมการผู้จัดการของสนามกอล์ฟได้ออกมาเปิดเผยว่าทางสนามไม่สามารถระบุชื่อของชายคนดังกล่าวได้เนื่องจากเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ได้ปิดให้บริการแล้ว “ผมคิดว่าถ้าหากเราพบสัตว์ที่กำลังบาดเจ็บ สิ่งที่ถูกต้องคือการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางช่วยเหลือพวกมัน” คุณ Ville กล่าว ทางด้านสมาคมต่อต้านการทารุณสัตว์ของอังกฤษก็ได้ออกมาประณามการกระทำของชายคนดังกล่าวว่า “พวกเราตกใจอย่างมากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของชายคนดังกล่าว มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้และนกตัวนั้นต้องได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพบสัตว์ที่กำลังบาดเจ็บ เราอยากให้คุณโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นองค์กรช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ หรือสัตวแพทย์เองก็ตาม” ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนเรื่องนี้เพิ่มเติมจากสนามกอล์ฟ Vantaa Golf Club เพื่อพิจารณาความผิดของชายคนดังกล่าว พฤติกรรมของชายคนนี้กำลังถูกวิจารณ์อย่างมากบนโลกออนไลน์ ปิดท้ายด้วยคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วเพื่อนๆ มีความเห็นกับพฤติกรรมของชายคนนี้อย่างไรกันบ้างก็คอมเม้นต์กันเข้ามาได้เลย.. ที่มา metro
-
ภาพถ่ายที่หาชมได้ยาก ของเหล่าทหารใน “ชุดเกราะเหล็ก” ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1
การทำสงครามนอกจากจะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการวงแผนการรบและความสามารถของทหารแล้ว หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่อาจจะช่วยให้คว้าชัยชนะในสงครามได้นั้นก็คืออาวุธยุทโธปกรณ์ในการรบ และวันนี้เราก็จะขอพาทุกคนย้อนไปชมหนึ่งในยุทโธปกรณ์ทางทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่หาชมได้ยาก และเป็นหนึ่งในต้นแบบของชุดเกราะในสมัยนี้ นั้นก็คือชุดเกราะเหล็กของเหล่าทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นั่นเอง เจ้าชุดเกราะเหล็กนี้ถูกออกแบบมาสำหรับทหารแนวหน้าได้สวมใส่ เพื่อป้องกันลูกกระสุนและอาวุธของฝ่ายตรงข้าม และแต่ละกองทหารนั้นก็จะมีรูปแบบของชุดเกราะที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นชุดของหน่วยจู่โจมของเยอรมันนายนี้ ที่ประกอบไปด้วยชุดเกราะและระเบิดมืออีก 2 ลูก โดยชุดเกราะนี้สามารถช่วยป้องกันกระสุนปืนกล กระสุนจากปืนไรเฟิล และอาวุธอื่นๆ ได้อีกด้วย ชุดเกราะของนายทหารที่ทำมาจากแผ่นเหล็ก มันช่วยป้องกันช่วงหน้าอกและท้องของเขาในปี 1914 ชุดเกราะหนักของทหารอเมริกันที่ใช้ในสมรภูมิฝรั่งเศสในปี 1917 นายทหารอเมริกัน ที่กำลังลองสวมชุดเกราะของทหารฝ่ายเยอรมันในปี 1918 หมวกเหล็กต้นแบบที่ถูกคิดค้นโดยบริษัท E J Codd จากรัฐแมริแลนด์ แผงโซ่ที่ห้อยลงมานั้นจะคอยป้องกันตาของทหารจากเศษหิน ปลอกระสุน และชิ้นส่วนอื่นๆ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 นายทหารติดอาวุธนายหนึ่งพร้อมกับปืนไรเฟิล กำลังทักทายกับนายทหารในชุดเกราะแบบเต็มยศที่ใช้ขวานเป็นอาวุธ ภาพถ่ายเดือนตุลาคมปี 1917 นักรบชาวจอร์เจียของชนเผ่า Khevsur ในชุดเกราะแบบดั้งเดิมของพวกเขา ภาพถ่ายเดือนพฤษภาคมปี 1918 นายทหารชาวไอริชสามคน ในชุดเกราะของทหารเยอรมันที่กำลังตรวจสอบปืนกล ในสนามรบ Pilckem…
-
สาวใหญ่ตัดสินใจฉีดแบคทีเรียอายุกว่า 3.5 ล้านปีเข้าผิวหน้า เพื่อความอ่อนเยาว์
อาจมีหลายวิธีที่จะช่วยให้ผิวหน้าของคุณดูอ่อนวัยและไร้ริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกครีมดีๆ มาบำรุงผิวหน้า การฉีดโบท็อก หรือการพอกหน้าด้วยขมิ้น แต่คุณผู้หญิงท่านนี้กลับเลือกวิธีเพื่อความอ่อนเยาว์แตกต่างออกไป นั่นก็คือเธอเลือกที่จะฉีดแบคทีเรียอายุโบราณเข้าไปในผิวหน้าตัวเอง!! คุณ Manoush ได้ให้สัมภาษณ์กับทางช่อง This Morning ถึงเคล็ดลับความอ่อนเยาว์ของเธอว่า เธอเลือกที่จะใช้เจ้าแบคทีเรีย Bacillus F แบคทีเรียที่มีอายุกว่า 3.5 ล้านปี ที่ค้นพบในเขตหนาวเย็นของประเทศรัสเซีย ฉีดเข้าไปในผิวหน้าเพื่อทำให้ดูเด็กลง คุณ Manoush สาวใหญ่วัย 48 ปีใช้เงินกว่า 2 ล้านบาทในการทำศัลยกรรมครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามเธอยอมรับว่าหน้าของเธอนั้นไม่ได้ดูเด็กลงถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ “พวกเขาค้นพบแบคทีเรียตัวนี้ มันเป็นตัวที่ช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอของคุณ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองโดยฉีดมันเข้าไปในหนู แล้วพบว่าพวกมันดูอ่อนเยาว์ลง” คุณ Manoush นอกจากนี้คุณ Manoush ยังได้บอกอีกว่าเธอเองนั้นผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับใบหน้า การศัลยกรรมดวงตา ทำตาสองชั้น ทำจมูกอีก 2 ครั้ง ผ่าตัดหน้าอก 6 ครั้ง ทำปาก 6 ครั้ง และทำผิวหน้าอีกหลายครั้ง เมื่อถูกสัมภาษณ์ถึงความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ทำการฉีดแบคทีเรียตัวดังกล่าว คุณ Manoush ให้สัมภาษณ์ว่า “มันค่อนข้างอธิบายได้ยาก แต่ฉันรู้สึกว่าแข็งแรงขึ้น ฉันสามารถทำงานได้นานขึ้นและนอนหลับได้สบายขึ้น และนอกจากนี้ปัญหาไทรอยด์ของฉันยังดีขึ้นอีกด้วย” และนี่คือบทสัมภาษณ์ของเธอในรายการ This Morning …
-
ไปดูคำว่า F**k You ในแต่ละประเทศทั่วโลก รู้เอาไว้ก็ดี แต่อย่าเอาไปทำตามนะจ๊ะ!!
สำหรับใครที่มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ หรือมีโอกาสได้พูดคุยกับชาวต่างประเทศ พนันได้เลยว่าหนึ่งในสิ่งแรกๆ ที่คุณสอนให้พวกเขาได้รู้จักกันนั่นก็คือคำด่าใช่ไหมล่ะ!? ยอมรับมาซะดีๆ นะ ฮ่าๆ แน่นอนว่าคำหยาบนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมแน่ๆ หากจะพูดกับคนที่ไม่รู้จักหรือบางครั้งแม้แต่คนที่สนิทกันมากๆ ก็ไม่ควรพูดเช่นกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้คำหยาบนั้นมีอยู่แทบจะทุกพื้นที่บนโลกใบนี้ ซึ่งถ้าหากใครที่เคยเล่นเกมออนไลน์นั้นก็คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อ่า… และเพื่อเป็นความรู้ไว้กันโดนชาวต่างชาติด่า วันนี้เราก็ได้นำคำว่า F**k You ในแต่ละภาษามาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. ภาษาอาหรับ, ประเทศอียิปต์ 2. ภาษาอาหรับ, ประเทศซีเรีย, รัฐปาเลสไตน์, เลบานอน, จอร์แดน 3. ภาษาอินโดนีเซีย 4. ภาษาพม่า 5. ภาษาจีนกวางตุ้ง, ประเทศจีน และฮ่องกง 6. ภาษาอังกฤษ แบบออสเตรเลีย 7. ภาษาฝรั่งเศส 8. ภาษาเยอรมัน 9. ภาษากรีซ 10.…
-
เซอร์ไพรส์!! ชายหนุ่มตกใจหลังเห็นครอบครัว Lynx ออกมาทักทายหน้าบ้านในตอนเช้า
บางครั้งการปลูกบ้านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ อาจจะทำให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามอย่างใกล้ชิด และบางทีบ้านของคุณเองก็อาจจะมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญโผ่มาทักทายในตอนเข้าเหมือนกับชายหนุ่มคนนี้ก็ได้ คุณ Tim Newton ชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในอลาสก้า ถึงกับตกใจไม่น้อยเมื่อเช้าวันหนึ่งในระหว่างที่เขากำลังจะออกไปรับอากาศอันแสนสดชื่นในยามเข้า แต่จู่ๆ เขาก็ได้พบกับครอบครัวของเจ้าแมวป่า Lynx พร้อมกับลูกๆ ของมันออกมาวิ่งเล่นอยู่ที่ระเบียงบ้าน เจ้า Lynx ตัวน้อยที่ออกมาทักทาย Tim ตั้งแต่เช้า “ตอนนั้นผมได้ยินเสียงแปลกๆ ด้านนอก มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังขูดกับโต๊ะที่ระเบียงบ้านผมอยู่ และเมื่อออกมาดูผมก็พบเจ้าแมวป่าพวกนี้พร้อมกับพี่น้องของพวกมันกำลังยึดโต๊ะของผมเป็นสนามเด็กเล่นกันอย่างสนุกเลย” ชายหนุ่มเล่า มอร์นิ่งฮะ!! และแน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่ 1 หรือ 2 ตัวเท่านั้น แต่พวกเจ้า Lynx ยังพาพี่น้องของพวกมันมาอีกถึง 3 ตัวเลยทีเดียว “พวกมันวิ่งไปวิ่งมาและหยอกล้อกัน ผมเริ่มถ่ายรูปพวกมันและโชคดีมากๆ เลยที่ผมได้มีโอกาสเห็นพวกมันใกล้ๆ แบบนี้” Tim กล่าว จริงๆ แล้วพวกแมวป่าเหล่านี้ค่อนข้างที่จะพบเห็นได้ยาก และชายหนุ่มก็เห็นพวกมันไม่กี่ครั้งในป่า ดังนั้นการที่พวกมันออกมาเล่นที่ระเบียงหน้าบ้านครั้งนี้จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับเขา แหม่… เพลินกันเลยสินะ!! หลังจากที่เล่นกันจนหนำใจแล้ว พวกแมวน้อยก็วิ่งออกไปที่ชานบ้านของเขา ตอนนั้นชายหนุ่มคิดว่าพวกมันคงกำลังจะกลับกันแล้ว แต่ที่ไหนได้เขากลับเจอแม่ของเจ้าตัวน้อยทั้ง…
-
หญิงสาวรู้ความจริงว่าเธอและแม่ของเธอมีพ่อคนเดียวกัน จากจดหมายที่แม่เขียนทิ้งไว้
การข่มขืนและการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญ และบางครั้งปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวอย่างเช่นคนในครอบครัวของคุณ และที่หนักว่านั้นอาจจะมาจากฝีมือของคนที่เรียกตัวเองว่า “พ่อ” ด้วยซ้ำไป เหมือนกับเรื่องราวของหญิงสาวผู้นี้ Jodi Cahill หญิงสาวชาวออสเตรเลียวัย 38 ปี ได้ทราบเรื่องราวสุดสะเทือนใจของแม่เธอ หลังจากที่เธอได้รับจดหมายจากคุณแม่ที่ไม่ได้ติดต่อกันมาเป็นเวลานาน และรู้ความจริงว่าเธอกับแม่ของเธอนั้นมีพ่อคนเดียวกัน!! “แม่บอกฉันว่า ‘มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องบอกเธอว่าพ่อที่แท้จริงของเธอคือใคร อันที่จริงแล้วเธอกับฉันมีพ่อคนเดียวกัน’” หญิงสาวกล่าว Jodi พบว่าแม่ของเธอนั้นถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนและใช้กำลังเมื่อตอนที่แม่ของเธอยังอายุน้อยๆ จากจดหมายที่แม่ของเธอเขียนไว้ “Jodi เธอกับแม่มีพ่อคนเดียวกัน เมื่อตอนที่แม่เด็กๆ แม่ถูกพ่อแท้ๆ ทารุณและทำร้ายร่างกายทุกรูปแบบ คืนหนึ่งแม่ถูกข่มขืนและจากนั้นก็ตั้งครรภ์ แม่ไม่มีทางลืมวันนั้นได้เลย” บางส่วนจากเนื้อหาในจดหมายของแม่ที่เขียนถึง Jodi จากจดหมายดังกล่าวทำให้ Jodi เข้าใจถึงความรู้สึกของแม่เธอ และสิ่งที่แม่ทำกับเธอไม่ดีตอนเด็ก พร้อมกับทิ้งเธอไว้กับคุณยายของเธอ “ฉันคิดว่าเธอเป็นคนที่มีความผิดปรกติทางใจมาตลอด และตอนนั้นฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำกับฉันเลย ฉันคิดว่าเธอคงจะรู้สึกแย่มากๆ ทุกครั้งที่มองมาที่ฉัน และตอนนี้ฉันก็เข้าใจทุกอย่างแล้ว” หญิงสาวกล่าว นอกจากนี้แม่ของ Jodi ยังได้เขียนเล่าถึงความเจ็บปวดของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธออีกว่า “เมื่อถึงเวลาที่ลูกโตพอ ลูกอาจจะคิดว่าแม่บ้า แต่สิ่งที่แม่เป็นอยู่นั้นเค้าเรียกว่าอาการป่วยทางจิตหรือ Post Traumatic Stress ตอนนี้แม่ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วเพราะในเรื่องร้ายๆ เหล่านั้นก็ยังคงมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ นั่นก็คือลูกนั่นเอง Jodi”…
-
รู้หรือไม่? ว่าพาสปอร์ตบนโลกมีแค่ 4 โทนสีเท่านั้น และทำไมแต่ละประเทศจึงแตกต่างกัน
พาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางถือเป็นหนึ่งในเอกสารทางราชการที่มีความสำคัญมากๆ ซึ่งเพื่อนๆ เคยสังเกตกันไหมว่า จริงๆ แล้วพาสปอร์ตของแต่ละชาตินั้นก็จะมีสีที่แตกต่างกันนะ และรู้กันรึเปล่าว่าจริงๆ แล้วพาสปอร์ตเค้ามีกันแค่ 4 สีเท่านั้นนะเออ!! และในวันนี้เราก็มีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับเจ้าหนังสือเดินทางนี้มาฝากกัน ซึ่งแต่ละสีนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… เริ่มกันที่สีแดง นี่คือสีของปกของพาสปอร์ตที่เรามักจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ โดยปกพาสปอร์ตสีแดงนี้มักจะถูกใช้ในประเทศที่ที่มีประวัติศาสตร์การปกครองที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมมิวนิสต์อย่างเช่น สโลวีเนีย จีน เซอร์เบีย รัสเซีย โปแลนด์และจอร์เจีย นอกจากนี้ยังมีบางประเทศในสหภาพยุโรปที่เปลี่ยนมาใช้ปกพาสปอร์ตสีแดงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่าง ตุรกี และแอลเบเนีย สีน้ำเงิน ต่อมาเป็นพาสปอร์ตปกสีน้ำเงิน โดยปกสีนี้มักจะใช้ในกลุ่มของ 15 ประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน รวมทั้งบางประเทศในแถบอเมริกาใต้ ซึ่งพาสปอร์ตสีดังกล่าวยังหมายถึงการเป็นสมาชิกของสหภาพแรงงาน (Mercosur) อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีประเทศอเมริกาอีกด้วยที่เปลี่ยนมาใช้พาสปอร์ตปกสีน้ำเงินนี้ ตั้งแต่ปี 1976 สีเขียว พาสปอร์ตปกสีเขียวนี้ มักนิยมใช้ในประเทศมุสลิม อย่างเช่น โมร็อกโก ซาอุดีอาระเบีย และปากีสถาน รวมถึงหลายชาติในแถบแอฟริกาตะวันตกเอง ก็มีการใช้เอกสารเดินทางปกสีเขียวนี้ ซึ่งหมาถึงธรรมชาติและบ่งบอกว่าพวกเขาเป็นสมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจของประเทศแอฟริกาตะวันตก หรือ ECOWAS นั่นเอง และสุดท้าย สีดำ หนึ่งในสีของพาสปอร์ตที่มักไม่ค่อยได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ซึ่งปกสีดำนี้มีการใช้ในบางประเทศของทวีปแอฟริกา อย่าง บอตสวานา แซมเบีย บุรุนดีและกาบองเป็นต้น นอกจากนี้ประเทศนิวซีแลนด์ เองก็ใช้พาสปอร์ตสีดังกล่าว เพราะว่าสีดำคือสีประจำชาติของพวกเขานั่นเอง…
-
10 เทคนิคการใช้โทรศัพท์จากเว็บ Brightside ที่จะทำให้ ‘แบตเตอรี่’ อยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
โทรศัพท์มือถือ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เพราะมือถือเครื่องหนึ่งนั้นไม่ได้มีไว้แค่โทรเข้าโทรออกอย่างเดียวแล้ว แต่มันยังเป็นตั้งแต่กล้องถ่ายรูปไปจนถึงไฟฉายอีกด้วย และสิ่งหนึ่งที่จะทำให้เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ใช้งานได้ตลอดนั่นก็คือแบตเตอรี่นั่นเอง ซึ่งหลายๆ คนนั้นก็อาจจะเคยประสบปัญหาแบตหมดในตอนเวลาสำคัญๆ กันมาบ้างแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ อ่า ถ้าอย่างนั้นเราลองไปชม 10 วิธีการประยัดพลังงานแบตเตอรี่ จากเว็บ Brightside กันดูดีกว่า… 1. คุณทำความสะอาดรูชาร์จแบตบ้างหรือเปล่า?? ทุกๆ ครั้งที่คุณหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทำความสะอาด อย่าลืมเช็คช่องชาร์จแบตด้วยล่ะ เพราะบางครั้งอาจจะมีเศษกระดาษติดอยู่ และอาจทำให้คุณชาร์จแบตไม่เข้าได้นะ!! 2. ภาพหน้าจอของคุณเป็นโทนสีสว่างใช่หรือเปล่า?? เวลาที่คุณเปิดหน้าจอมือถือ เพื่อเชคอีเมลล์ เฟซบุ๊ก หรือข้อความ ภาพพื้นหลังที่มีโทนสว่างๆ หรือมีสีสันมากเกินไป ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เปลืองแบตเตอรี่ได้เช่นกันนะ 3. คุณชอบถือโทรศัพท์ไว้ตลอดเวลา การถือโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลาในวันที่อากาศร้อนนั้นก็อาจจะทำให้คุณสิ้นเปลืองแบตเตอร์รี่ไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นกัน เพราะอุณหภูมิที่สูงนั้นจะทำให้เครื่องร้อนและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แบตลดลงนั่นเอง 4. เปิดโหมดหมุนหน้าจอ อัตโนมัติไว้ตลอดเวลาหรือเปล่านะ?? ฟังก์ชั่นนี้อาจจะทำให้โทรศัพท์ของคุณสิ้นเปลืองพลังงานได้โดยง่าย เพราะการทำงานของมันนั้นต้องอาศัยเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งแนะนำว่าควรปิดมันแล้วค่อยเปิดในตอนจำเป็นจะดีกว่านะ 5. อ่อ.. แล้วอย่าลืมเช็คแอพพลิเคชั่นที่เปิดค้างไว้ด้วยล่ะ บ่อยครั้งที่เมื่อคุณใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ แล้ว ก็มักจะสลับไปยังหน้าจอหลักหรือแอพพลิเคชั่นอื่นโดยทันที โดยไม่ได้ปิดแอพเหล่านั้น ซึ่งการที่โปรแกรมเหล่านั้นยังคงทำงานอยู่มันจะทำให้แบตคุณลดลงไปด้วยนั่นเอง ดังนั้นหมั่นเคลียร์แอพบ่อยๆ นะจ๊ะ…
-
18 พฤติกรรมแสบๆ ที่ทำให้คุณรู้ “การมีพี่-น้อง” ทำให้ชีวิตวัยเด็กสนุกมากแค่ไหน
บางครั้งการมีพี่น้องก็เปรียบเสมือนคุณมีเพื่อนซี้ต่างวัยเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน เพราะบ่อยครั้งในช่วงวัยเด็กที่คุณและพี่น้องอาจจะเคยทำเล่นพิเรนทร์ๆ ด้วยกันจนทำเอาคุณพ่อคุณแม่ปวดหัวมาแล้วก็ได้ และแน่นอนว่ากว่าที่คุณและพี่น้องของคุณนั้นจะกลายมาเป็นคู่ซี้กันอย่างทุกวันนี้ คงจะต้องผ่านเรื่องราวต่างๆ ในวัยเด็กมาด้วยกันมากมายอย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้เองเราก็ได้รวบรวมเอา 18 พฤติกรรมแสบๆ ที่คุณและคู่หูของคุณเคยทำด้วยกันในวัยเด็ก จะมีข้อไหนที่ตรงกับคุณบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. นี่อาจจะเป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาเจ้าน้องตัวป่วนเวลาที่คุณกำลังสนุกกับการเล่นของเล่นอยู่ 2. และนี่คือสีหน้าของคุณเวลาที่เอาชนะการเล่นเกมได้ ส่วนเจ้าน้องชายน่ะหรือ ฮ่าๆ !! 3. แต่บางครั้งความสามัคคี ก็อาจจะทำให้คุณทั้งสองคนได้ประโยชน์ทั้งคู่นะ 4. บางครั้งการได้สมาชิกใหม่ในบ้านเพิ่มขึ้นมา ก็อาจจะไม่ใช่ข่าวดีเสมอไป เหมือนสาวน้อยคนนี้ 5. และสำหรับใครที่มีพี่น้องหลายๆ คนคงจะเข้าใจความหมายของรูปนี้ดี!! 6. เวลาที่พ่อแม่ บอกให้ช่วยดูเลี้ยงน้องหน่อย คุณก็มักจะหาอะไรมาแกล้งพวกเขาอยู่เรื่อย จริงไหม?? 7. และด้วยความสนิทสนมกัน บางครั้งของขวัญที่คุณมอบให้พี่น้อง ก็อาจจะเป็นอะไรที่ตลกมากๆ แบบนี้!! 8. แน่นอนว่าในวัยเด็ก ใครๆ ก็ห้ามเข้าใกล้ของๆ คุณ โดยเฉพาะขนมหวาน!! 9. ใครเคยแกล้งน้องแบบนี้บ้าง ยอมรับมาซะดีๆ !?…
-
พ่อบ้านตัวจริง!! หนุ่มยอมใส่ส้นสูง ‘สีชมพู’ ของแฟน เพียงเพราะเธอบอกว่าเจ็บเท้า
การดูแลและให้ความสะดวกสบายกับภรรยา ถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่หนุ่มๆ ควรจะทำให้กับคนรู้ใจของคุณ (ไม่เชื่อก็ลองขัดใจดูสิ เดี๋ยวรู้เรื่อง!!) และวันนี้เราก็มีภาพน่ารักๆ ของหนุ่มชาวจีนท่านหนึ่ง ที่ดูแลคู่รักของเขาเป็นอย่างดีจนทำเอาหลายๆ คนอิจฉาเลยทีเดียว… นี่เป็นภาพของชายหนุ่มที่ยอมแลกรองเท้าของเขากับแฟนสาว หลังจากที่เธอมีอาการเจ็บเท้า กลายเป็นภาพที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากบนโลกออนไลน์ในขณะนี้ และนี่คือภาพของพ่อหนุ่มคนนี้ แหม่… น่ารักเชียวนะเนี่ย!! ภาพดังกล่าวถูกถ่ายจากโรงพยาบาล Xinqiao ในเขตเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในระหว่างที่เจ้าของภาพถ่ายดังกล่าวมาถึงที่ชั้น 4 ของโรงพยาบาลดังกล่าว เขาก็สังเกตเห็นคู่รักทั้งสองกำลังรอพบแพทย์อยู่ คุณ Xie เล่าว่าระหว่างที่ทั้งสองกำลังนั่งรออยู่นั้น ฝ่ายหญิงก็มีอาการปวดเท้าและรู้สึกอึดอัด จากนั้นทั้งสองจึงแลกรองเท้ากันใส่ แบบที่เห็นในภาพ “รองเท้าส้นสูงนั่นเป็นสีชมพู มันจึงทำให้เห็นได้ชัดมากๆ เวลาที่ผู้ชายใส่ และถึงแม้ว่าฝ่ายหญิงจะขอให้เปลี่ยนรองเท้าคืน หลังจากที่เธอเริ่มรู้สึกสบายแล้ว แต่ฝ่ายชายกลับปฏิเสธ มันช่างเป็นเรื่องที่โรแมนติกจริงๆ เลย” คุณ Xie กล่าว หลายๆ คนได้เข้ามาชื่นชมชายหนุ่มผู้นี้ และเพื่อนของคุณ Xie บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเธอได้เอาภาพดังกล่าวให้แฟนหนุ่มของเธอดู และบอกให้เขาดูชายคนนี้เป็นตัวอย่าง!! แหม่… เป็นภาพที่น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย แต่ถ้าหากว่าแฟนสาวของคุณเท้าเล็กเกินไปล่ะก็ แนะนำว่าให้ถือเอาดีกว่านะ เพราะถ้าส้นสูงของเธอเกิดหักหรือขยายขึ้นมา ความดีที่คุณทำมาอาจจะกลายเป็นศูนย์ก็ได้…
-
Elon Musk กำลังจะสร้างจรวด BFR ที่ให้คนเดินทางข้ามโลก ได้ภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น!!
ในเวลานี้ถ้าหากพูดถึงบุคคลที่มีบทบาทต่อการพัฒนาของเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ Elon Musk ซีอีโอจาก SpaceX และผู้อยู่เบื้องหลังของยานยนต์ระดับโลกอย่าง Tesla อยู่ในรายชื่อนั้นอย่างแน่นอน และล่าสุดชายคนนี้ได้สร้างความฮืออาขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาได้ประกาศว่ากำลังจะสร้างจรวด ที่ให้คนเดินทางข้ามโลกได้ภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น!! ในงาน International Astronautical Congress 2017 ที่เมือง Adelaide ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา Elon Musk ได้ออกมาประกาศว่าตอนนี้พวกเขากำลังวางแผนสร้างจรวดขนส่งที่ใช้ชื่อว่า BFR ซึ่งมันจะช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปที่ต่างๆ ของโลกได้ภายในเวลาไม่กี่อึดใจ ทางซีอีโอของ SpaceX ได้ออกมากล่าวว่าจรวดลำนี้สามารถทำให้คุณเดินทางจากนิวยอร์กไปยังเซี่ยงไฮ้ได้ภายในเวลาเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น ซึ่งภายในคลิปวิดีโอคอนเซ็ปต์ของจรวด BFR นั้น มันแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งได้ในระยะเวลาอันสั้น ในส่วนของการทำงานนั้น ตัวจรวดนั้นจะจอดอยู่กลางแม่น้ำ จากนั้นผู้โดยสารตั้งนั่งเรือออกไปเพื่อขึ้นจรวดแล้วยิงออกสู่นอกโลก หลังจากนั้นตัวจรวดจะเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด 27,000 กม./ชม. ก่อนกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศพร้อมลงจอดในอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งความเร็วระดับนี้ทำให้คุณสามารถเดินทางจากกรุงเทพไปดูไบภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ ไปชมคลิปวิดีโอคอนเซปต์ของจรวดลำนี้กันเลย “การเดินทางไปยังเมืองสำคัญๆ ในโลกนั้นจะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที และการเดินทางไปยังที่อื่นๆ นั้นจะใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น” Elon Musk กล่าวผ่านอินสตราแกรมของเขาหลังจากเปิดตัวเจ้าจรวด BFR ในงาน International…
-
ตากล้องหนุ่มสร้างผลงานที่ทำให้เห็นว่าอุปรณ์ไม่ถึง ‘10,000 บาท’ ก็สร้างภาพถ่ายสวยๆ ได้
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำงานศิลปะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นนักวาดภาพ นักดนตรี หรือแม้แต่ช่างถ่ายภาพเองก็ตาม แต่บางคนอาจมีความเชื่อที่ว่าอุปกรณ์ที่แพงมักจะได้ผลงานที่ดีไปด้วย แต่ความจริงนั้นอาจจะไม่ใช้แบบที่คุณคิดเสมอไป!! คุณ Phillip Haumesser ช่างภาพหนุ่มที่เบื่อหน่ายกับคอมเม้นท์ของช่างภาพคีย์บอร์ด เขาจึงออกมาทำอะไรบางอย่าง เพื่อแสดงให้เห็นว่าผลงานภาพถ่ายสวยๆ นั้น อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่แพง และนี่คือผลงานการถ่ายภาพของเขาจากกล้องและอุปกรณ์ในราคาไม่ถึง 7,000 บาท!! ช่างภาพหนุ่มท่านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มักจะได้รับคอมเม้นท์จากโลกอินเตอร์เน็ตเวลาที่เขาอัพเดทภาพของตัวเอง ในแนวๆ ว่า “ว้าว กล้องของคุณสวยจริงๆ “ หรือ “ผมไม่สามารถถ่ายภาพแบบนี้ได้แน่ๆ เพราะผมไม่มีกล้องแพงๆ แบบคุณ” ดังนั้น Phillip จึงอยากจะทำอะไรบางอย่าง เพื่อแสดงให้ชาวเน็ตเหล่านั้นได้เห็นว่าพวกเขานั้นคิดผิดแล้ว!! ช่างภาพหนุ่มซื้อกล้อง Canon t2i มือสองจากเว็บไซต์ eBay ในราคา 6,000 บาทและเลนส์ Pentax 50 mm 1.7 ในราคา 500 บาท เพื่อทำการถ่ายภาพลูกๆ ของเขา หลังจากทำการถ่ายภาพเรียบร้อย คุณ Phillip ได้นำภาพทั้งหมดมาตกแต่งด้วยโปรแกรม Photoshop และ Lightroom ก่อนที่จะได้เป็นผลงานเหล่านี้ออกมา …
-
ศิลปินใหญ่เอาชนะโรคร้าย และสร้างผลงานศิลปะจนเสร็จทันกำหนดในเวลา 2 ปีครึ่ง
บางครั้งการทำงานศิลปะสักชิ้นหนึ่ง อาจจะต้องใช้เวลาและความตั้งใจอย่างมากกว่าที่จะได้ผลงานศิลป์ที่สวยงามและมีคุณค่า ซึ่งผลงานของนาย Gabriel Gressie เองก็เช่นกัน เขาใช้เวลาถึง 2 ปีครึ่งในการสร้างภาพผลงานศิลปะชิ้นนี้ด้วยตัวเอง คุณพ่อวัย 58 ปี จากเมือง Stadskanaal ทางตอนเหนือของประเทศเนเธอแลนด์ ผู้หลงใหลในการวาดภาพและมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นศิลปินตั้งแต่เด็กๆ และยังคงฝึกฝนฝีมือการวาดภาพของเขาเรื่อยมาตั้งแต่นั้น Gabriel Gressie และผลงานของเขา คุณพ่อวัย 58 ปีบอกว่าภาพวาดแต่ละภาพนั้นต้องใช้เวลาการสร้างสรรค์ผลงานที่ค่อนข้างยาวนาน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงไม่เคยสร้างผลงานการวาดภาพชิ้นใหญ่ๆ เลย จนกระทั่งเมื่อปี 2014 เขาได้รับงานจากลูกค้ารายหนึ่งผู้คลั่งไคล้ของเล่นโบราณให้วาดภาพขนาด 2×2 เมตร โดยกำหนดเสร็จภายในเดือนเมษายนปี 2017 คุณ Gabriel เริ่มเปลี่ยนอพาร์ทเม้นท์ที่เขาและลูกชายอาศัยอยู่ให้กลายเป็นที่ทำงาน และเริ่มลงมือวาดภาพชิ้นใหญ่นี้ การวาดภาพครั้งนี้เป็นงานที่ท้าทายสำหรับ Gabriel เพราะโดยปกติเขาใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมงในการวาดภาพที่มีขนาด 2 ตารางเซ็นติเมตร นาย Gabriel เริ่มลงมือร่างแบบตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งมาจากคอลเลคชั่นของเล่นที่เขาสะสม ผลงานการวาดภาพของเขาค่อยๆ ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และกว่าจะได้ภาพของเล่นกออกมาแต่ละชั้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่แล้วในปี 2015 ระหว่างเวลากำหนดส่งงานใกล้เข้ามาถึง Gabriel ก็กลับป่วยกะทันหัน…
-
พาไปชม ‘โฆษณานม’ สุดแหวกแนวจากญี่ปุ่น ประเทศนี้นี่มันไอเดียบรรเจิดจริงๆ!!
การดื่มนมอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กๆ บางคน แต่หนึ่งสิ่งที่อาจจะจูงใจพวกเขาให้หันมาชอบดื่มนมนั่นก็คือการโฆษณานั่นเอง และเมื่อไม่นานมานี้บริษัทนมของประเทศญี่ปุ่นได้ออกโฆษณาตัวใหม่ ที่เรียกได้ว่านอกจากจะน่าสนใจแล้วยังฮามากๆ เลยทีเดียว!! ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 30 วินาทีของเจ้าโฆษณาตัวนี้เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะใครจะไปคิดกันล่ะว่าพวกเขาจะโผล่กันมาเฉยๆ ด้วย U.F.O พร้อมกับเต้านมวัวขนาดใหญ่!! แล้วก็เล่นปล่อยน้ำนมวัวลงมาแบบดื้อแบบนี้… ไปชมความฮาของคลิปวิดีโอนี้กันเลย… จุกนมของแม่วัวที่มากับ U.F.O อืม… เอากันแบบนี้เลยเนี่ยนะ!! โฆษณาชุดนนี้เป็นของบริษัทนม Rakunoh Mother จากเมืองคุมะโมะโตะ และหลังจากที่พวกเขาปล่อยคลิปวิดีโอดังกล่าว มันก็กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากบนโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนได้เข้ามาถกเถียงกันเกี่ยวกับความเชื่อโยงกันระหว่า “หัวนม” และ “U.F.O” หนึ่งในคอมเม้นท์ของชาวเน็ตกล่าวว่า “นี่มันบ้ามากๆ เลยนะเนี่ย” ในขณะที่บางคนก็บอกว่า “อืม.. ชั้นว่าหัวนมแม่วัวนี่มันยาวไปหน่อยนะ” แต่บางคนกลับมองว่ามันไม่ค่อยเหมาะสม พร้อมกับบอกว่าน่าจะเซ็นเซอร์หัวนมแม่วัวหน่อยนะ!! แต่ทางบริษัทเองก็ไม่ได้ปล่อยให้หัวนมของแม่วัวเป็นที่สงสัยอยู่นานนัก เมื่อพวกเขาได้ออกคลิปวิดีโออีกตัวเพื่ออธิบายเรื่องนี้!! จะเป็นอย่างไร… ไปชมกันเลย นอกจากคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่านมของพวกเขามาจากวัวจริงๆ แล้ว ก็ยังมีคลิปวิดีโออีกตัวที่ออกมาเพื่อยืนยันว่านมของ Rakunoh Mother นั้นมีแคลเซียมและช่วยเสริมสร้างกระดูได้จริงๆ นะเออ และนี่คือคลิปวิดีโอที่ว่าล่ะ อื้ม……
-
ใช่แน่ๆ มันต้องใช่แน่ๆ 22 ภาพทดสอบความหื่นในตัวคุณ มาดูกันว่าคุณเป็นคนหื่นแค่ไหน
หลายๆ ครั้งภาพที่เราเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด บางครั้งแค่ภาพถ่ายเฉยๆ ก็อาจจะทำให้คุณเผลอคิดลึกไปไกลถึงเรื่องใต้สะดือ แต่สำหรับบางคนก็อาจจะไม่เคยคิดลึกจนเลยเถิดเป็นเรื่องทะลึ่งเลยก็ได้ อ่า… และสำหรับใครที่มั่นใจในความใสๆ ของตัวเองละก็ เราขอท้าคุณด้วยภาพถ่ายเหล่านี้เลย ลองไปดูกันดีกว่าว่าคุณเห็นมันเป็นอะไรนอกจากภาพถ่ายธรรมด๊า ธรรมดา… 1. บอกมานะว่าคุณเห็นอะไรนอกจากคนเอาขาพาดกันเฉยๆ !? 2. อะไรมันจะพอดีกันขนาดนั้น!! 3. โถ่… ลูกสาวแบบนี้พ่อก็เขินแย่เลยสิ 4. ก็แค่เท้าเองน่า… อย่าคิดมาก 5. กินมันกันไหม?? 6. ดูดีๆ นะ มันอาจไม่ใช่อย่างที่คุณคิดก็ได้!! 7. มือที่อยู่ถูกที่ถูกเวลา 8. เลื่อนผ่านไวๆ คุณอาจจะเห็นเป็นรูปอย่างอื่นก็ได้นะ 9. กฎข้อแรกของการถ่ายรูปคือ… อย่าเอาหว่างขาไปใกล้กับจักกะแร้ 10. แหม่… เนียนเลยนะพ่อหนุ่ม 11. เฮ้ย!! ทำอะไรกันน่ะ?? 12. ใจเย็นๆ…
-
25 คำถามวัดความรู้ด้าน “ภูมิศาสตร์” แบบโคตรยาก.. คุณรู้รึเปล่า ว่าประเทศนี้อยู่ตรงไหน!?
หนึ่งในคำถามยอดฮิตสมัยประถมที่พวกเรามักจะถูกคุณครูถามกันบ่อยๆ นั่นก็คือ “หนูๆ รู็กันบ้างไหมคะว่าประเทศไทยอยู่ตรงไหนของแผนที่โลก” และสำหรับใครที่หาประเทศไทยบนลูกโลกเจอล่ะก็จะดูเท่ขึ้นมาทันที แต่คุณอาจจะเท่กว่านั้นอีกถ้าหากบอกคุณครูได้ว่าประเทศโซมาเลียอยู่ตรงไหน อ่า… และเพื่อเป็นการทบทวนความรู้รอบตัว วันนี้เราก็มีแบบทดสอบสนุกๆ เกี่ยวกับแผนที่โลกมาให้ทุกคนได้ประลองฝีมือกัน หากคุณมั่นใจในความรู้รอบตัวล่ะก็เราขอท้าคุณด้วยแบบทดสอบทั้ง 25 ข้อนี้เลย และถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยว่าคุณจะตอบถูกทั้งหมดหรือเปล่า?? อ๊ะๆ แล้วอย่าแอบเปิดดูเฉลยก่อนล่ะ!! เริ่มจากทวีปทวีปยุโรปก่อนเลย… 1. ประเทศเยอรมนี อยู่ไหนน้า?? เฉลย!! 2. ไหนลองหาประเทศกรีซซิ?? เฉลย 3. ประเทศโรมาเนีย เฉลย 4. ประเทศไอร์แลนด์ 5. ประเทศฟินแลนด์ เฉลย อ่า…ทวีปยุโรปอาจจะยากไป งั้นลองดูทวีปแอฟริกาบ้างดีกว่า 6. ประเทศอียิปต์ เฉลย 7. ประเทศมาดากัสการ์ เฉลย 8. ประเทศโมร็อกโก เฉลย …
-
ภาพหาดูยากของ David Bowie กับอดีตภรรยา พาลูกชายเดินเล่นในปี 1971 มันคูลเหลือเกิน!!
ถึงแม้ว่าร็อคสตาร์ชื่อดังอย่าง David Bowie จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ว่าผลงานเพลงและลุคสุดเท่ของเค้ายังคงอยู่ในความทรงจำของเหล่าแฟนคลับอย่างแน่นอน และสำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก David Bowie เค้าผู้นี้ก็คือศิลปินเจ้าของเพลงฮิตที่อยู่คู่วงกาลเพลงมานานถึง 4 ทศวรรษ และเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความสำคัญในวงกาลเพลงและศิลปะอย่างมาก นอกจากนี้ผลงานของเขายังเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นหลังๆ อีกมากมาย และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยภาพที่หาดูได้ยากของร็อคสตาร์ผู้ล่วงลับกับอตีดภรรยาของเขาอย่าง Angie ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังออกไปเดินเล่นนอกบ้านกับพร้อมกับลูกน้อยวัย 3 สัปดาห์อย่าเจ้าหนู Zowie แต่สิ่งที่สำคัญนอกจากนี้ก็คือสไตล์การแต่งตัวสุดเท่ของพวกเขานั่นเอง และนี่คือภาพถ่ายชุดที่ว่านี้ ภาพถ่ายชุดดังกล่าวเป็นผลงานของช่างภาพนิตยสารชื่อดังอย่างคุณ Ron Burton ที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนปี 1971 นอกจากความคูลแล้ว ภาพถ่ายชุดนี้ยังทำให้เห็นว่า ถึงแม้จะเป็นร็อคสตรา์ชื่อดังแต่ David ก็ให้ความสำคัญกับครอบครัวของเขาไม่น้อยเลยทีเดียว และแน่นอน สิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็น David Bowie ได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือความเป็นแฟชั่นนิสของเขานั่นเอง ลองทายกันดูซิว่าคนไหน David Bowie ?? เป็นภาพครอบครัวที่ดูมีสไตล์และน่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย ที่มา boredpanda
-
จัดอันดับ 25 ค็อกเทลที่ขายดีที่สุดในโลก ข้อมูลเด็ดสำหรับขาดริ้งค์ ที่ไม่ควรพลาด!!
ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ คุณจะต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อเครื่องดื่มอย่าง “ค็อกเทล” กันอย่างแน่นอน!! เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทางเว็บไซต์ Drinks International ได้จัดอันดับเครื่องดื่มค็อกเทลที่มียอดขายมากที่สุดจากทั่วโลก โดยการจัดอันดับครั้งนี้ทางเว็บไซต์ได้จัดอันดับจากเครื่องดื่มที่มียอดขายในบาร์ที่ 108 แห่งที่อ้างอิงจากบาร์ดีที่สุดในโลก 50 อันดับ และนี่คือ 25 อันดับค็อกเทลที่มียอดขายดีที่สุดในโลกที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 25. Caipirinha 24. TomCollins 23. GinFizz 22. AperolSpritz 21. RumOld Fashioned 20. Zombie 19. Penicillin 18. PiscoSour 17. Aviation 16. Gimlet 15. EspressoMartini 14. Dark’N’ Stormy 13. Boulevardier 12. BloodyMary 11. MaiTai 10. Sazerac ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของ วิสกี้ บิทเทอร์ และน้ำตาล พร้อมเสิร์ฟในแก้วเคลือบแอบแซ็งธ์ 9. Mojito …
-
ค้นพบ “นครที่สาบสูญ” ของอเล็กซานเดอร์มหาราช อายุกว่า 2,000 ปี ริมทะเลสาบประเทศอิรัก
ถ้าหากใครที่สนใจในประวัติศาสตร์กรีกโบราณ คงจะรู้จักกับอเล็กซานเดอร์มหาราชกันเป็นอย่างดี พระองค์เป็นหนึ่งในจักพรรดิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคโบราณ ผู้ขึ้นชื่อทั้งในเรื่องของการรบ และการปกครอง ล่าสุดได้มีการค้นพบที่น่าสนใจเกี่ยวกับมหาราชพระองค์นี้!! นักโบราณคดีชาวอังกฤษได้ค้นพบซากเมือง Qalatga Darband เมืองโบราณอายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งเชื่อกันว่าที่นี่ได้สร้างขึ้นโดยอเล็กซานเดอร์มหาราช หลังจากการสำรวจด้วยโดรนในบริเวณทะเลสาบทางตอนเหนือของประเทศอิรัก จากการรายงานของสำนักข่าว The Times นักโบราณคดีจากพิพิธพันธ์แห่งชาติของอังกฤษ ได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวทันที หลังได้วิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมที่บันทึกโดยกองทัพของสหรัฐเมื่อปี 1960 ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ในเขตสงคราม แต่มันก็ปลอดภัยพอที่ทีมสำรวจจะทำการขุดกู้ซากเมืองโบราณดังกล่าวได้ ภาพแผนที่และกราฟฟิคของเมืองโบราณแห่งนี้ คุณ John MacGinnis นักโบราณคดีผู้รับผิดชอบในการขุดซากเมืองโบราณครั้งนี้กล่าวว่า ในอดีตนั้นเมือง Qalatga Darband ถือเป็นหนึ่งเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 และ 2 เมื่อเริ่มทำการสำรวจและทำการวิเคราะห์ภาพถ่ายจากโดรน ทีมสำรวจพบว่าที่นี่เต็มไปด้วยอาคารและสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ที่ซ่อนตัวอยู่ในทุ่งข้าว วัตถุโบราณของชาวกรีกอย่างเหรียญและรูปปั้น ที่พบในพื้นที่สำรวจ ดอกเตอร์ MacGinnis กล่าวว่า “การสำรวจด้วยโดรนมันได้ผลอย่างยิ่ง มันทำให้เราได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากการสำรวจด้วยโดรนและนำภาพมาวิเคราะห์ เราเห็นความแตกต่างของค่าสะท้อนของสีในช่วงการเจริญเติบโตของพืช” เป็นไปได้ว่าเมือง Qalatga Darband นั้นถูกสร้างขึ้นราวๆ 300 ปีก่อนคริสตกาล ในตอนที่อเล็กซานเดอร์มหาราชยกทัพมาสู้รบกับดาเรียส ไอที่ 3 ก่อนที่จะเอาชนะได้ในศึกที่กอกามีลา…
-
หมอมุสลิมที่อาสาช่วยคนเจ็บในแมนเชสเตอร์ โดนทำร้ายร่างกายปางตาย แต่ยังพร้อมให้อภัย!!
ถึงแม้ว่าเรื่องของการเหยียดเชื้อชาติและศาสนาอาจจะดูเป็นเรื่องที่ล้าหลัง แต่ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน ก็ยังมีคนที่รู้สึกเกลียดชังคนอื่นเพียงเพราะว่าเองนับถือคนละศาสนาเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะให้อภัยกับการกระทำเหล่านี้ และกล้าที่จะกล่าวคำว่า “ไม่เป็นไร” ได้อย่างเต็มใจ แม้สิ่งที่พวกเขาถูกกระทำนั้น อาจพรากชีวิตของพวกเขาไป เหมือนอย่างคุณหมอชาวมุสลิมท่านนี้… คุณหมอ Consultant Nasser Kurdy ศัลยแพทย์ชาวจอร์แดน ได้ออกมากล่าวให้อภัยกับคนร้ายที่เข้ามาแทงเขาด้วยมีด ระหว่างที่กำลังเดินอยู่ในมัสยิด Altrincham ในเมือง Cheshire ประเทศอังกฤษ เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็นของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ศัลยแพทย์วัย 58 ปีถูกคนร้ายเข้ามาแทงจากทางด้านหลังด้วยมีดลึกถึง 3 เซนติเมตร และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตอนนี้อาการบาดเจ็บของเขาเริ่มหายดีแล้ว และกำลังเตรียมตัวที่จะกลับไปทำงานตามเดิม คุณหมอ Kurdy เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “ผมต้องขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ที่เมตตาผม โชคดีที่มีดนั่นไม่ได้โดนเส้นประสาท หรือหลอดเลือดที่คอของผมตอนที่ผมถูกแทงผมล้มลงที่พื้นด้วยความเจ็บปวด ผมเห็นชายคนนั้นกำลังยืนขู่ผมอยู่ด้วยท่าทางที่น่ากลัวมาก“ คุณหมอเล่าว่าเขาจำไม่ได้ว่าคนร้ายพูดอะไรกับเขา แต่เขารู้สึกได้ว่าการทำร้ายร่างกายครั้งนี้มาจากความเกลียดชังชาวมุสลิมของชายคนดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามเขากลับบอกว่าไม่ได้รู้สึกโกรธชายคนดังกล่าวเลยและพร้อมที่จะให้อภัยเขา “ชายคนที่ทำร้ายผมไม่ใช่ตัวแทนของคนทั้งหมดในเมืองนี้ ผมพูดจากใจจริงเลยว่าผมไม่ได้โกรธหรือแค้นเขาเลยแม้แต่น้อย และผมเองก็ให้อภัยกับสิ่งที่เขาทำ“ คุณหมอกล่าว คุณ Kurdy เติบโตมาในครอบครัวชาวมุสลิม และในแต่ละวันเขาจะเดินทางไปที่มัสยิดเพื่อทำการประกอบพิธีทางศาสนา นอกจากนี้คุณ Kurdy ยังรองประธานของสมาคมอิสลามอย่าง Altrincham and Hale Muslim Association และเคยเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุระเบิดในเมืองแมนเชสเตอร์อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามคุณหมอท่านนี้ก็ยังคงรู้สึกเกลียดชังต่อการก่อการร้าย และการที่ชาวมุสลิมต้องตกเป็นแพะรับบาปจากเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ อย่างการระเบิดสนามกีฬาหรือการโจมตีที่ Parsons Green “ทุกวันนี้เหตุก่อการร้ายมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น มันสร้างความกังวลให้กับพวกเรามากๆ และความเกลียดชังที่มีต่อชาวมุสลิมก็มากขึ้นด้วย “ “ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ถึงผมจะเป็นมุสลิม แต่ผมก็เหมือนทุกๆ คนนั่นแหละ…
-
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อใส่ “โซเดียม” ลงไปในแตงโม&โค้ก พร้อมคำอธิบายแบบวิทย์ๆ
หลายๆ ครั้งที่การทดลองทางวิทยาศาสตร์มักทำให้เราประหลาดใจได้บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองทางฟิสิกส์ หรือการทดลองทางเคมี ก็ดูน่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับการนำสาร 2 ชนิดมาผสมซึ่งให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่แปลกใหม่ (อ่านข่าวเก่า ชั่วโมงวิทย์กับจารย์เหมียว 14 ภาพอันน่าสนใจ จะเป็นอย่างไร เมื่อสสาร 2 ชนิดมาเจอกัน) และวันนี้เราก็มีอีกการทดลองที่น่าสนใจมาฝากกัน นั่นก็คือการใส่ “โซเดียม” ลงไปในแตงโม&โค้ก นั่นเอง ส่วนผลที่ได้จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย… โซเดียมพระเอกของงานนี้!! เมื่อไม่นานมานี้ทางช่องยูทูบ The Q ได้อัพเดทคลิปวิดีโอการทดลองวิทยาศาตร์ โดยการนำโซเดียมไปใส่ลงในของทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ น้ำอัดลม แตงโม และนำผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งผลที่ได้ออกมานั้นก็คือการระเบิดนั่นเอง!! เริ่มต้นจากการหย่อนโซเดียมลงในแก้วโค้กเล็กๆ ก่อน จากนั้นจึงขยับมาที่ขวดโค้กขนาดใหญ่ขึ้น และก็… บู้มม!! เกิดเป็นระเบิด จากนั้นก็มาต่อกันที่แตงโม และผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ!! ไปชมการทดลองนี้แบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… การทดลองนี้จะได้ผลกับกลุ่มของโลหะอัลคาไลน์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือธาตุแถวแรกในตารางธาตุนั่นเอง โดยในธรรมชาติแล้วธาตุเหล่านี้จะมีความไวในการทำปฏิกิริยากับธาตุอื่นๆ มาก แถมยังมีความอันตรายอีกด้วย คุณ Pavel…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นแนะเทคนิค “ลดความเจ็บปวดจากการใส่ส้นสูง” แต่ต้องพึ่งของจากญี่ปุ่นหน่อยนะ!!
สำหรับคุณสาวๆ การสวมรองเท้าส้นสูงนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยเสริมบุคลิกแล้ว มันยังทำให้คุณดูดีอีกด้วย แต่การจะสวมรองเท้าส้นสูงออกไปข้างนอกทุกวันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่สาวๆ บางคนเลือกแน่ๆ เพราะความเจ็บปวดอันแสนสุดจะทรมาณนั่นเอง แต่!! วันนี้เรามีข่าวดีสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการสวมรองเท้าส้นสูงมาฝากกัน นั่นก็คือไอเดียการแก้ปัญหาลดความเจ็บปวดจากการใส่ส้นสูง จากประเทศญี่ปุ่นด้วยซิลิโคนกันสะเทือนจากแผ่นดินไหวนั่นเอง!! และนี่ก็คือโฉมหน้าของเจ้าแผ่นซิลิโคนที่ว่านี้ ไอเดียที่ว่านี้จะช่วยให้ทำให้คุณรู้สึกนุ่มสบายเท้าระหว่างที่คุณใส่ส้นสูง และมันจะช่วยให้คุณใส่ส้นสูงได้นานยิ่งขึ้น แต่ก่อนจะไปดูวิธีการแก้ปัญหาที่ว่านี้ เรามาทำความรู้จักกับเจ้าแผ่นซิลิโคนกันความสะเทือนจากแผ่นดินไหวนี้กันก่อนดีกว่า เจ้าซิลิโคนที่ว่านี้จะถูกนำไปติดไว้ใต้ของใช้ต่างๆ อย่างเช่นทีวี หรือเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันร่วงลงมา โดยมันสามารถรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ถึงระดับ 7 แมกนิจูดเลยทีเดียว!! ไปชมการทำงานของเจ้าแผ่นซิลิโคนนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… คุณ @_wnut เจ้าของไอเดียดังกล่าวยืนยันว่าวิธีการนี้ใช้ได้ผลอย่างมาก โดยเขาจะนำแผ่นซิลิโคนที่ว่านี้ไปติดไว้ที่ในบริเวณพื้นของรองเท้าส้นสูง ซึ่งมันสามารถช่วยลดความเจ็บปวดได้อย่างมากเลยทีเดียว นอกจากนี้เธอยังแนะนำอีกว่าควรติดแผ่นยางกันสะเทือนนี้อีกแผ่นหนึ่งในแนวขวางไว้ที่ด้านในสุดของรองเท้า เพื่อให้การทำงานของมันเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น แอ่นแอ๊น!! แหม่… คงจะถูกใจสาวๆ หลายคนเลยใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ แต่อย่างไรก็ตามการใส่รองเท้าส้นสูงออกบ้านทุกวันก็อาจทำให้เสียสุขภาพได้นะจ๊ะ ทางที่ดีควรสลับใส่กับรองเท้าประเภทอื่นบ้างก็ได้นะ… ที่มา rocketnews24
-
แม้มะเร็งจะพรากเส้นผมของเธอไป แต่ก็ได้ “เจ้าเหมียว” มาเป็นผมทรงใหม่ที่อบอุ่นเหลือเกิน
หลังจากที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม หญิงสาวท่านนี้ก็เริ่มที่จะมองหาสิ่งที่จะช่วยดูแลสภาพจิตใจของเธอหลังจากเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด และในที่สุดเธอก็ได้มาพบกับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ พบกับเรื่องราวอันน่าประทับใจของผู้ใช้งานเว็บไซต์ imgur คุณ MyKittentotoro และเจ้า Totoro เหมียวน้อยเพื่อนซี้ของเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะกลายมาเป็นเพื่อนซี้กัน เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ถูกช่วยชีวิตมาจากยุ้งฉางในฟาร์มของเธอ เมื่อประมาณช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา “เรามีแมวที่เลี้ยงไว้ในบ้านอยู่แล้ว 2 ตัว แต่เราก็รับมันเขามาเป็นสมาชิกใหม่เพราะว่าเราชอบแมวมากๆ “ หญิงสาวกล่าว ในตอนที่พบกันครั้งแรกหญิงสาวและคู่หมั้นของเธอ ได้ยินเสียงร้องของลูกแมวดังออกมาจากในฟาร์ม จากนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจเข้าไปดู แล้วก็พบกับเจ้าเหมียวตัวนั้น ทั้งสองพาเจ้าแมวมาอยู่ด้วย ซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่หญิงสาวเริ่มเข้ารับการรักษามะเร็งของเธอ “มันเหมือนเป็นตัวช่วยในการบำบัดให้ฉันเลย ในตอนที่ฉันผมร่วงจากการทำคีโม” เธอกล่าว เจ้า Totoro เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้ หลังจากที่พวกเขาเพิ่งสูญเสียเจ้าเหมียวตัวเก่าไป เมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา และดูเหมือนว่ามันจะเป็นส่วนเติมเต็มให้กับครอบครัวนี้ได้ดีเลยทีเดียว “มันยอมเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา ถึงแม้ว่ามันจะเคยใช้ชีวิตอย่างอิสระภายนอกมากนาน และเจ้าเหมียวทั้งสองตัวของเราก็เข้ากับมันได้ดีเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนมันจะสนิทกับเจ้าแมวตัวผู้มากกว่านะ” หญิงสาวกล่าว และดูเหมือนว่าตอนนี้มันเริ่มมีฝีมือในการอ้อนมากขึ้นแล้วหล่ะ!! ทุกๆ วันเจ้าเหมียวจะเข้ามาคลอเคลียกับหญิงสาวและเล่นกับเธออยู่เป็นเวลานาน “เจ้า Totoro ชอบเข้ามาเกาะที่ไหล และอ้อนฉัน แถมยังชอบเข้ามาอยู่ด้วยเวลาฉันนอนอีกด้วย“ หญิงสาวกล่าว และเมื่อเธอต้องเข้ารับการทำคีโมต่อ เจ้าเหมียวก็คอยให้กำลังใจเธอเสมอและอยู่ไม่ห่างจากเธอเลย และทุกๆ คืนเจ้าเหมียวจะนอนบนหมอนของเธอ เพื่อมอบความอบอุ่นให้กับหญิงสาว “ถึงแม้ว่าคีโมจะทำให้ผมฉันร่วงหมด แต่เจ้าเหมียวก็ยังคอยให้ความอบอุ่นกับฉันแทนผมที่ร่วงไป ขอบคุณมากนะเจ้า Totoro ” หญิงสาวกล่าวทิ้งท้าย ที่มา lovemeow
-
รวม 11 ห้องลับจากสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าที่แบบนี้มันมีอยู่จริงๆ นะ
โดยปรกติแล้วตามสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ มักจะมีเรื่องราวหรือตำนานที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาเป็นเวลานาน และบางสถานที่ก็อาจจะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ภายในนั้นก็ได้ และหนึ่งในความลับที่ว่านั้นก็คือ “ห้องลับ” นั่นเอง!! วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปพบกับ 11 ห้องลับที่ถูกซ่อนไว้ในสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงทั่วโลก จะมีที่ไหนบ้างนั้นไปชมกันเลย… แต่!! ขอบอกไว้ก่อนนะว่าไม่มีโรงเรียนฮอกวอตส์ แน่นอนจ้า 11. อพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวของ Gustav Eiffel, กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ห้องลับแห่งนี้ถูกสร้างไว้ในชั้นที่ 3 ของหอไอเฟล ซึ่งแต่เดิมห้องพักส่วนตัวของ Gustav Eiffel นั้นจะใช้เป็นที่พักรับรองสำหรับแขกคนสำคัญเท่านั้น แต่ปัจจุบัน ได้มีการเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้าชมแล้ว 10. อาคารร้างกลางจัตุรัส Time Square, นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าเจ้าของอาคาร One Times Square จะมีรายได้มากกว่า 23 ล้านเหรียญต่อปีจากการเปิดให้เช่าพื้นที่โฆษณา แต่จริงๆ แล้วอาคารที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1992 นี้เป็นแค่ตึกเปล่าๆ และมีเพียงแค่ร้านค้าที่อยู่ชั้นล่างสุดเท่านั้น 9. อาคารศูนย์ราชการที่ถูกทิ้งร้างไว้ใต้สถานีรถไฟใต้ดิน, นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อาคารดังกล่าวถูกใช้งานระหว่างปี 1904 ถึงปี 1945 และต้องปิดตัวลงหลังจากที่หลังจากที่มีการเปิดใช้ขบวนรถไฟสายใหม่ 8. ห้องลับที่ภูเขา Rushmore, สหรัฐอเมริกา ห้องลับแห่งนี้ซ่อนอยู่ภายใต้รูปสลักหินของประธานาธิบดีทั้ง 4 คนของสหรัฐอเมริกา และว่ากันว่าห้องลับแห่งนี้เป็นที่เก็บซ่อนเอกสารสำคัญต่างๆ รวมถึงคำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย 7. คุกลับในอาคาร Doge’s Palace, เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี …
-
ยิ่งนอนน้อย ยิ่งอายุสั้น.. นักวิทย์ฯ เผย “นอนไม่พอ” คือสาเหตุของโรคต่างๆ ที่เราอาจคิดไม่ถึง
การนอนหลับไม่เพียงพออาจจะเป็นเรื่องปรกติสำหรับใครหลายๆ คน แต่รู้หรือไม่ว่ามันกำลังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณอยู่ แถมยังอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ อย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย!! ศาสตราจารย์ Matthew Walker จากมหาวิทยาลัย University of California และผู้เชี่ยวชาญทางด้านการนอนหลับได้ออกมาเปิดเผยว่าการนอนหลับไม่เพียงพอนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก และเป็นสาเหตุของโรคเสื่อมต่างๆ อย่างเบาหวาน โรคหัวใจ โรคอ้วน และมะเร็ง ศาสตราจารย์ Matthew ได้เปิดเผยว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอหรือประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวันนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก “ร่างกายของเรานั้นจะถูกทำลายด้วยการพักผ่อนไม่เพียงพอไปทีละนิด“ เขาได้ทำการศึกษาในเรื่องของการนอนและสิ่งที่จะตามมาจากการนอนหลับไม่เพียงพอมาเป็นเวลานานกว่า 2 ทศวรรษ โดยเขากล่าวว่าการเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุสาหกรรมและการทำงานที่หนักขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์มีระยะเวลาการนอนที่น้อยลง จากการศึกษาพบว่ามีประชากรมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่นอนหลับเพียงแค่ 6 ชั่วโมงต่อคืนหรือน้อยกว่านั้นซึ่งมากกว่าในปี 1942 ที่มีเพียงแค่ 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนี้ส่งผลกระทบต่อการปล่อยกระแสไฟฟ้าเวลานอนหลับ และเป็นผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าความเครียด ความกังวล และพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระยะเวลาในการนอนหลับของเราสั้นลงเช่นเดียวกัน และท้ายที่สุด ศาสตราจารย์ Matthew ได้ให้คำแนะนำสำหรับทุกคนว่า ควรพักผ่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงหรือมากกว่า นอกจากนี้การอดนอนเพื่อทำงานหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอีกด้วย ที่มา news-medical, theguardian
-
17 โมเม้นท์สุดหวานของ Kit Harington ที่จะทำให้คุณอิจฉา Rose Leslie แบบไม่ไหวแล้วววว
ก็จบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับมหาศึกชิงบัลลังก์ หรือ Game Of Throne ซีซั่นล่าสุด และนอกจากเนื้อเรื่องอันแสนจะเข้มข้นแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ร้อนแรงไม่แพ้เนื้อเรื่องเลยนั่นก็คือความแซ่บของพ่อหนุ่มจากแดนเหนืออย่าง Jon Snow หรือพี่ Kit Harington ของเรานั่นเอง วันนี้เราไม่ได้มีภาพอวดหุ่นล่ำๆ ของหนุ่มคนนี้มาฝากกันหรอกนะ แต่เป็นอะไรที่จี๊ดกว่านั้นอีก นั่นก็คือ… โมเม้นท์สุดหวานของ Kit Harington กับแฟนสาว Rose Leslie ยังไงล่ะ บอกได้เลยว่างานนี้สาวๆ มีอิจฉากันแน่นอน.. 1. พ่อหนุ่ม Kit Harington ของเรายอมรับออกมาตรงๆ เลยว่า “ผมตกหลุมรักประเทศไอซ์แลนด์ ผมตกหลุมรักเพื่อนนักแสดงด้วย” 2. เมื่อไหร่ที่ทั้งคู่ออกไปเต้นรำด้วยกัน พวกเขามักจะทำท่าแบบนี้… 3. ว่าไงจ๊ะ แม่คนเถื่อนของฉัน!? 4. ฮั้นแน่!! มีแอบส่งสายตาปิ๊งๆ ให้กันอีกด้วยนะ 5. แค่อยู่ใกล้ๆ กัน Kit Harington ก็ทำให้แฟนสาวของเขายิ้มออกมาได้อย่างธรรมชาติแล้ว 6. ไหล่พี่…
-
ชมความล้ำหน้าเทคโนโลยี Virtual Camera จาก Canon ถ่ายทอดทุกมุม ราวกับหลุดจากหนังไซไฟ
ขณะนี้การถ่ายภาพนั้นได้รับความนิยมมากเรื่อยๆ และในขณะที่เรายังอยู่ในโลกของการถ่ายภาพปี 2017 ตอนนี้ทางบริษัทกล้องยักษ์ใหญ่อย่าง Canon เค้าไปที่ปี 2027 แล้ว ด้วยระบบการถ่ายแบบ Free Viewpoint แล้ว!! ทาง Canon เองได้ออกมาประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่า ตอนนี้พวกเขากำลังพัฒนาระบบการถ่ายภาพดังกล่าวอยู่ ซึ่งมันจะทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพเสมือนจริงได้แบบ 360 องศา โดยคาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬา ซึ่งการถ่ายภาพแบบ Free Viewpoint นี้จะทำให้คุณได้สัมผัสมุมมองที่สมจริงเหมือนกับเป็นผู้เล่นหนึ่งคนในสนามเลยทีเดียว ระบบดังกล่าวจะมีการติดตั้งกล้องความละเอียดสูงไว้รอบๆ สนาม โดยกล้องแต่ละตัวจะเชื่อมต่อกันและควบคุมด้วยระบบปฏิบัติการ หลังจากนั้นภาพที่ได้จะถูกนำไปประมวลผลและออกมาในรูปแบบของภาพสามมิติ “ผู้ใช้สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ โดยที่จะมีกล้องคอยจับภาพอยู่รอบๆ ซึ่งจะทำให้ได้ภาพที่สมจริงและเราสามารถมองเห็นได้หลายมุมมอง ระบบดังกล่าวจะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และนอกจากนี้เพื่อสนับสนุนให้การแข่งเข้มข้นมากขึ้น ทางเราได้วางแผนที่จะพัฒนาแอพลิเคชั่นเพื่อใช้ในการพัฒนานักกีฬาและทีมของพวกเขาอีกด้วย” บริษัทกล้องชั้นนำกล่าว ตอนนี้ทาง Canon กำลังวิจัยและพัฒนาให้การบันทึกภาพนั้นมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น และทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าพวกเรากำลังเล่นวิดีโอเกมอยู่ นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าทาง Canon เองก็กำลังเตรียมพัฒนาในอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นหูฟังเพื่อให้การชมภาพวิดีโอแบบ Free Viewpoint นี้สมจริงมากขึ้น ไปชมความเจ๋งของการถ่ายภาพแบบนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย ที่มา petapixel
-
ชีวิตอันแสนมหัศจรรย์ กับ 30 วันบนเรือสินค้าในทะเล บอกเล่าผ่านคลิปไทม์แลป 10 นาที
หนึ่งในความใฝ่ฝันที่อยากจะเดินทางรอบโลก อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งอยากทำสำหรับใครหลายคนที่ชื่นชอบการเดินทาง การได้ออกไปสัมผัสบรรยากาศที่แปลกใหม่ และชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่แปลกตาคงจะเป็นอะไรที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว และวันนี้สำหรับใครที่ชื่นชอบการเดินทางแบบเรือ เราก็มีภาพความสวยงามจากคลิปไทม์แลปของการเดินทางตลอดระยะเวลา 1 เดือนบนเรือสินค้า โดยช่างภาพหนุ่มชาวแคนาดามาฝากกัน… ภาพบางส่วนในคลิป ที่เผยให้เห็นถึงความสวยงามในการเดินทางครั้งนี้ คุณ Jeffrey Tsang ช่างภาพและนักเดินทางหนุ่ม ผู้ถ่ายทอดความสวยงามของการเดินทางท่องทะเลด้วยเรือขนส่งสินค้า มาให้พวกเราได้ชมในครั้งนี้ ช่างภาพหนุ่มได้ใช้เวลากว่า 30 วันเพื่อบันทึกภาพถึง 80,000 ภาพ และทำเป็นคลิปวิดีโอแบบไทม์แลปที่มีความยาว 10 นาที “การแล่นเรือในน่านน้ำเปิดครั้งนี้ เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับผมเลยทีเดียว และผมหวังว่าทุกคนจะชอบมันเหมือนกันนะ” คุณ Jeddrey กล่าว การเดินทางในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ทะเลแดง ก่อนที่เรือจะแล่นไปตามมหาสมุทรอินเดีย ผ่านท่าเรือโคลัมโบประเทศศรีลังกาและประเทศสิงคโปร์ เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ฮ่องกง คุณ Jeddrey เล่าถึงทริปการเดินทางครั้งนี้ของเขาว่า “มันน่ามหัศจรรย์มาก ฉากของท้องฟ้าเปลี่ยนไปทุกๆ วัน เรือกำลังแล่นไล่เส้นขอบฟ้าแบบไม่มีที่สิ้นสุด บางวันท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาวและทางช้างเผือก บางวันท้องฟ้าก็ดูปลอดโปร่ง และเมื่อถึงท่าเรือ การขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ก็ดูเหมือนกับว่าเรากำลังเล่นเกมตัวต่ออยู่เลยทีเดียว” ชายหนุ่มใช้กล้อง Nikon D750 ในการบันทึกภาพความสวยงามระหว่างการเดินทางครั้งนี้ และภาพทั้งหมดนี้ใช้ความจุมากถึง 1.5 เทราไบต์เลยทีเดียว ไปชมความมหัศจรรย์ของท้องทะเลในคาบสมุทรอินเดียตลอดระยะเวลา 30…
-
คุณลุงสร้างสระไว้หลังบ้านเมื่อ 24 ปีก่อน พัฒนาเป็นสระ 1.8 ล้านลิตร ชาวบ้านมาเที่ยวเพียบ!!
การมีสระว่าน้ำส่วนตัวไว้ที่บ้านอาจจะเป็นความฝันของหลายๆ คน รวมถึงชายหนุ่มผู้นี้ด้วยเช่นกัน คุณ Micky Thornton ตัดสินใจทำตามความฝันในวัยเด็กของเขาโดยการสร้างสระว่ายน้ำขนาดยักษ์ไว้ที่สวนหลังบ้าน เพื่อเติมเต็มความฝันในวัยเด็กของตัวเอง เมื่อตอนที่อายุได้ 39 ปี หลังจากที่ย้ายมายังเมือง Covington รัฐเทนเนสซี คุณ Micky เริ่มทำตามความฝันของตัวเองโดยการสร้างสระว่ายๆ น้ำเล็กๆ ไว้ที่สวนหลังบ้าน ในปี 1993 และจากสระว่ายน้ำเล็กๆ ที่ลึกแค่ 6 เมตรในวันนั้น มันก็กลายมาเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มีความจุมากถึง 1.8 ล้านลิตรเลยทีเดียว และนี่คือสระว่ายน้ำหลังบ้านของคุณ Micky และนอกจากความใหญ่โตของสระว่ายน้ำแล้ว คุณ Micky ยังได้ตกแต่งสระว่ายน้ำของเขาด้วยก้อนหินต่างๆ พร้อมกับสร้างน้ำตกจำลองขนาดเล็กขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งดูๆ ไปแล้วที่นี่น่าจะเรียกว่าสวนน้ำมากว่าสระว่ายน้ำซะอีก!! และนอกจากนี้ทางครอบครัว ยังเปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้ามาใช้บริการในสระว่ายน้ำของพวกเขาอีกด้วย โดยรายละเอียดการจองและค่าบริการนั้นสามารถเข้าไปดูได้ที่เฟซบุ๊ก Thornton’s Pool ได้เลย นอกจากคนในครอบครัวจะได้สนุกสนานกับสระว่ายน้ำขนาดยักษ์แล้ว ทางคุณ Micky และภรรยาของเขายังเปิดให้เช่าทำกิจกรรมอื่นๆ อย่างเช่นงานเลี้ยง งานวันเกิด และเขายังเคยให้โบสถ์มาใช้บริการในการทำพิธีล้างบาปแบบฟรีๆ อีกด้วย ดูยังไงก็นี่มันสวนน้ำชัดๆ ไปชมบรรยากาศของสระว่ายน้ำแห่งนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย…
-
20 สุดยอดสถานที่ชม “ใบไม้เปลี่ยนสี” จากรอบโลก คุณต้องตามไปเก็บให้ครบ!!
ช่วงฤดุใบไม้ร่วง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่สุดแสนจะอบอุ่นและโรแมนติก ซึ่งถ้าหากใครที่มีโอกาสได้ชมซีรีส์เกาหลีเรื่อง ออทัม อิน มายฮาร์ท ก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี และวันนี้เราก็มีสถานที่สวยๆ ที่ให้คุณได้ไปสัมผัสความสวยงามของช่วงฤดูใบไม้ร่วงจากทั่วทุกมุมโลกมาฝากกัน ซึ่งแต่ละที่จะน่าไปแค่ไหนนั้นไปชมกันเลย… 1. ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส หนึ่งในช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเที่ยวที่มหานครปารีสนั่นก็คือช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั่นเอง เพราะทั้งความสวยงามของสีใบไม้ที่อยู่รอบๆ ถนน แถมยังเป็นช่วงที่ผู้คนไม่หนาแน่นอีกด้วย!! 2. Million Dollar Highway (ถนนสาย 550), รัฐโคโลราโด ฤดูใบไม้ร่วงในรัฐโคโลราโดนั้นเป็นอะไรที่แสนจะโรแมนติกสุดๆ ที่นี่เปรียบเหมือนกับฤดูร้อนของชาวอินเดียแดง การขับรถตามถนนสาย 550 ที่รายล้อมไปด้วยต้นแอสเพนสีแดงส้มถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว 3. เกียวโต, ประเทศญี่ปุ่น เกียวโตเป็นเมืองขึ้นชื่อของญี่ปุ่นเรื่องการชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยเฉพาะที่วัดไดโกจิ ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นสถานที่งดงามจนแทบหยุดหายใจเชียวล่ะ 4. Napa Valley, รัฐแคลิฟอร์เนียร์ ที่ Napa Valley นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของการทำไวน์แล้ว ที่นี่ก็ยังขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย 5. Hallstätter See, ประเทศออสเตรีย ทั้งความสวยงามของแม่น้ำที่ตัดกับสีของฤดูใบไม้ร่วง จึงทำให้ Hallstätter See ประเทศออสเตรีย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว …
-
17 ภาพจากหน่วยรบพิเศษสหรัฐ “Green Berrets” ที่จะทำให้คุณรู้จักพวกเขามากขึ้น
กองทัพสหรัฐได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกองกำลังที่แข็งแกร่งมากกองกำลังหนึ่ง และอีกหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่โด่ดเด่นและหน่วยที่ว่าแข็งแกร่งสุดๆ ของกองทัพสหรัฐนั่นก็คือหน่วยรบพิเศษ Green Berrets นั่นเอง หน่วยรบดังกล่าวเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนปี 1952 โดยผ่านสมรภูมิรบมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม อิรัก อาฟกานิสถาน และล่าสุดซีเรีย ซึ่งกว่าที่จะเป็นหน่วยรบพิเศษและออกปฏิบัตการในสมรภูมิรบได้นั้นพวกเขาจะต้องผ่านการฝึกฝนกันมาอย่างเข้มข้น และเพื่อเป็นการรู้จักกับหน่วยรบพิเศษ Green Berrets นี้ให้มากขึ้นวันนี้เราจึงมีภาพการฝึกและภารกิจต่างๆ ของพวกเขามาฝากัน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. พวกเขาคือมืออาชีพและชำนาญการรบในสมรภูมิทุกรูปแบบ 2. หลังจากเหตุการณ์ 9/11 พวกเขาคือหน่วยแรกที่ถูกส่งตัวไปยังอัฟกานิสถาน 3. ภารกิจของพวกเขาคือการจู่โจมด้วยทีมเล็กๆ แบบกองโจร 4. โดยแต่ละหน่วยมักจะประกอบไปด้วยทหาร 12 นาย ซึ่งแต่ละคนจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป และมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นหัวหน้าหน่วยย่อยๆ นั้น 5. ในทีม 12 คนจะประกอบไปด้วย หัวหน้าทีม หน่วยจู่โจม หน่วยสื่อสาร และแพทย์ทหาร 6. พวกเขาจะทำการคัดเลือกนายทหารที่ดีที่สุด จากการฝึกและคัดสรรหน่วยรบพิเศษ หรือ SFAS 7. การฝึกนั้นเข้มข้นมาก…
-
เปรียบเทียบจุดแข็งจุดอ่อน 5 ว่าที่ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2017-2018 ใครคือตัวเต็ง!!
หนึ่งในลีกฟุตบอลระดับโลกและเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คนคงจะหนีไม่พ้นลีกฟุตบอลจากประเทศอังกฤษหรือพรีเมียร์ลีก อย่างแน่นอน และผ่านมาแล้วกว่า 6 สัปดาห์ บรรดาหลายๆ คนก็ได้มีโอกาสเชียร์ทีมรักกันอย่างเมามัน และนอกจากความสนุกของเกมแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นก็คือตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของลีคนั่นเอง และวันนี้เราก็ได้ทำการเปรียบเทียบ 5 ว่าที่ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2017-2018 ซึ่งใครมีจุดแข็งจุดอ่อนอะไร และใครน่าจะคว้าตำแหน่งนี้ปครองได้นั้นไปชมกันเลย แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นของ #เหมียวเวจจี้ เท่านั้นถ้าหากไม่ถูกใจแฟนบอลก็ต้องขออภัยด้วยจ้า… 5. Harry Kane: 6 นัด 4 ประตู จุดแข็ง: สำหรับจุดแข็งของศูนย์หน้าชาวอังกฤษผู้นี้คงจะเป็นในเรื่องของความแข็งแกร่ง การเข้าทำ และความสามารถในการทำประตูไปทั้งเท้าซ้าย ขวา และลูกโหม่ง เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ครบเครื่องคนหนึ่งเลยทีเดียว จุดอ่อน: ส่วนสำหรับจุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของศูนย์หน้ารายนี้นั้นน่าจะเป็นในเรื่องของความเร็วที่ด้อยกว่าคนอื่นๆ ในลิสต์นี้นั่นเอง 4. Jamie Vardy: 6 นัด 5 ประตู จุดแข็ง: Vardy เป็นหนึ่งในศูนย์หน้าตัวเป้าที่มีการจบสกอร์ได้เฉียบคม และมีความรวดเร็วที่สามารถวิ่งแซงกองหลังได้สบายๆ และมักจะทำประตูสำคัญๆ ได้เสมอ จุดอ่อน: สำหรับศูนย์หน้าชาวอังกฤษผู้นี้ก็คงจะเป็นในเรื่องของการจ่ายบอล และการดวลลูกกลางอากาศ และเพื่อนร่วมทีมที่อาจจะไม่สามารถปั้นเขาได้เท่าปีที่ผ่านๆ มา 3. Álvaro Morata: 6 นัด 6…
-
ท้าทายความกล้า กับคลิปผ่าตัดก้อนซีสต์ที่แก้ม ไม่เหมาะสำหรับคนชอบกินไข่!!
สำหรับใครที่ชื่นชอบความซาดิสม์ และเสพย์ติดความเจ็บปวดล่ะก็ เราขอท้าทายคุณด้วยคลิปวิดีโอที่เรานำมาฝากกันวันนี้เลย เพราะทั้งความหวาดเสียวและดีกรีความโหดนั้นต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เมื่อไม่นานมานี้ช่องยูทูบที่ใช้ชื่อว่า Dr. Sandra Lee ได้อัพเดทคลิปวิดีโอของชายคนหนึ่งที่เข้ามารักษาอาการเกี่ยวกับก้อนไขมันใต้ผิวหนัง sebacous cyst ซึ่งสามรถพบได้ทั่วไปบริเวณลำคอและลำตัว แต่อย่างไรก็ตามมันสามารถพบได้ในทุกส่วนของร่างกาย และนี่คือก้อน sebacous cyst ของชายคนนี้ โดยอาการกล่าวเกิดจากการทำงานที่ผิดปรกติของเซลล์ผิวในชั้นหนังแท้ และเกิดอาการอักเสบ โดยภายในก้อนดังกล่าวจะประกอบไปด้วย macerated keratin หรือเซลเปียกซึ่งมีลักษณะคล้ายเนยแข็งและมีกลิ่นเหม็น แต่อย่างไรก็ตามอาการดังกล่าวนั้นไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่มันอาจจะทำให้ผู้ป่วยสูญเสียความมั่นใจและไม่กล้าออกนอกบ้าน และถ้าหากปล่อยไว้จนเกิดการแตกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อและทำให้กลายเป็นฝีได้ การผ่าตัดเป็นวิธีเดียวที่จะรักษาก้อนไขมันนี้ได้ แพทย์ได้ทำการกำหนดจุดที่จะผ่าตัด เพื่อนำไขมันที่อยู่ภายใต้ผิวหนังชายคนนี้ออกมา ถ้าใครไม่สะใจอยากดูขั้นตอนการทำงานของแพทย์ก็สามารถเข้าไปชมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… (คำเตือน: คลิปวิดีโอต่อไปนี้อาจมีภาพที่ทำให้คุณกินไข่ไม่อร่อย) และนี่คือสิ่งที่อยู่ใต้ผิวหนังของชายคนนี้ อื่ม… อร่อย!! หลังจากที่เอาก้อนไขมันเจ้าปัญหาออก แก้มของชายคนนี้ก็กลับมายุบได้อย่างปรกติ จากนั้นแพทย์จึงทำการเย็บปิดปากแผล เป็นอันเสร็จเรียบร้อย และสำหรับใครที่อยากชมคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการักษาสิวแบบอื่นอีก ก็สามารถเข้าไปชมได้ที่ช่อง Dr. Sandra Lee (aka Dr. Pimple Popper) ได้เลย ที่มา unilad
-
10 ประตูสวยงามที่สุดในวงการฟุตบอล ตลอดปีที่ผ่านมา เข้าชิงรางวัลปุสกัส 2017
กีฬาฟุตบอล หนึ่งในกีฬาที่น่าตื่นเต้นอันเป็นที่ชื่นชอบของชายหนุ่มหลายๆ คน และบางครั้งอาจรวมถึงคุณผู้หญิงด้วย และแน่นอนว่าเสน่ห์ของกีฬาชนิดนี้ก็คือ การทำประตู นั่นเอง!! และเมื่อวันศุกร์ที่ 22 กันยายนที่ผ่านมาทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้เปิดโผ 10 ลูกยิงยอดเยี่ยมที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าชิงรางวัลปุสกัสอวอร์ด 2017 โดยทางฟีฟ่าได้ทำการคัดเลือกการทำประตูสุดสวยในการแข่งขันจากทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนปี 2016 ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2017 ซึ่งแต่ละลูกจะสวยงามแค่ไหนนั้นไปชมกันเลย… 1. Kevin Prince Boateng: Las Palmas vs Viallarreal 2. Alejandro Camargo: Universidad de Conception vs O’Higgins 3. Deyna Castellanos: Venezuela U-17 Women Vs Cameroon U-17 ดูคลิปวิดีโอไม่ได้กด ที่นี่ 4. Moussa Dembélé: Celtic FC vs St Johnstone ดูคลิปวิดีโอไม่ได้กด…
-
16 สายพันธุ์แมวเหมียวหายากจากรอบโลก มาดูสิว่าคุณรู้จักมันหมดทุกตัวรึเปล่า…
เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนที่เป็นทาสแมวคงจะรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อสายพันธุ์ของเหล่าน้องเหมียวกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น อเมริกันช็อตแฮร์ เปอร์เซีย หรือแมวยักษ์อย่างเจ้าแมวเมนคูน แต่เชื่อแน่ว่ายังมีเจ้าเหมียวอีกหลายสายพันธุ์ที่เหล่าทาสแมวตัวจริงอย่างคุณต้องไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินชื่อมาก่อนแน่ๆ อย่างพวกแมวป่าเหล่านี้…. 1. Black-footed cat หนึ่งในแมวสายพันธุ์ที่เล็กที่สุด ซึ่งสามารถพบได้แค่เพียงทวีปแอฟริกาใต้เท่านั้น น้ำหนักตัวของเจ้าเหมียวสายพันธุ์นี้อยู่ที่ประมาณ 2.5 กิโลกรัมและมีความยาวของลำตัวเพียงแค่ 17 นิ้วเท่านั้น 2. Fishing cat Fishing cat หรือเสือปลา หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อเจ้าเหมียวชนิดนี้กันมาบ้างแล้ว โดยลักษณะนิสัยของมันนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างจากแมวทั่วไปนั่นก็คือพวกมันชอบน้ำ พวกมันหากินโดยการจับสัตว์น้ำและสัตว์ป่าตัวเล็กๆ อย่างกระรอก และไก่ป่า 3. Iberian lynx เจ้าเหมียวสายพันธุ์นี้ ถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวป่าที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ขณะนี้พวกมันถูกอนุรักษ์และอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติ Doñana ทางตอนใต้ของประเทศสเปน 4. Jaguarundi พวกแมวสายพันธุ์นี้สามารถพบได้ในประเทศเม็กซิโกและทางแอฟริกาใต้ แมวป่าอีกสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกมันมากนัก แต่อย่างน้อยเราก็รู้ว่าพวกมันน่ารักไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ 5. Kodkod เจ้าแมวป่าขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในประเทศชิลีและในบางพื้นที่ของประเทศอาร์เจนตินา คนท้องถิ่นอาจเรียกเจ้าเหมียวชนิดนี้ว่า “แวมไพร์” เพราะพวกมันมักจะกัดที่เหยื่อแค่ 2 ครั้งเท่านั้นก่อนที่จะปล่อยเหยื่อไป 6. Margay เพื่อนบ้านของเจ้าเหมียว Kodkod พวกมันอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาใต้เช่นกัน โดยส่วนมากแล้วพวกมันจะใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้และปีนป่ายไปมาคล้ายกับกระรอก …
-
ไอเดีย “ชุดว่ายน้ำแหวกหน่มน๊ม” จากญี่ปุ่น ให้สาวๆ เฉิดฉาย เมื่อไปเที่ยวทะเล
บางครั้งการได้ออกไปเที่ยวทะเลในช่วงวันหยุดยาวอาจจะเป็นวันพักผ่อนที่แสนสบายสำหรับใครหลายๆ คน และแน่นอนว่าหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคุณสาวๆ ในการออกไปรับลมทะเลนั่นก็คือ ชุดว่ายน้ำนั่นเอง!! และวันนี้เราก็มีเทรนชุดว่ายน้ำแบบใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สาวๆ ญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้มาฝากคุณผู้หญิงกัน ส่วนหนุ่มๆ จะลองเข้ามาส่อง เอ๊ย!! ดูเป็นแบบเผื่อไว้ไปหาเลือกซื้อให้แฟน ก็ไม่ว่ากันนะ และนี่ก็คือโฉมหน้าของชุดว่ายน้ำที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้!! ชุดว่ายน้ำแบบแหวกกลาง ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะทำให้สาวๆ ได้เฉิดฉายความสวยงามเวลาที่คุณกำลังเดินอวดหุ่นอยู่ริมชายหาดจนหนุ่มๆ ต้องหันมามองกันเลยทีเดียว เจ้าชุดว่ายน้ำที่ว่านี้อาจจะเป็นข่าวดีๆ สำหรับสาวๆ ที่มีต้นทุนมาเยอะ เพราะนอกจากมันจะทำให้คุณได้เผยหุ่นสวยแล้ว คุณอาจจะไม่ต้องทนอึดอัดกับชุดว่ายน้ำแบบเดิมๆ อีกด้วย แต่สำหรับสาวๆ ที่มีเจ้าของแล้วอาจจะต้องทำเรื่องขออนุญาตกับคุณสามีก่อนล่ะนะ ฮ่าๆ เพราะชุดว่ายน้ำที่ว่านี้มันดูจะเซ็กซี่ซะเหลือเกิ๊น แต่สำหรับแก๊งค์สาวโสดอาจจะไม่มีปัญหานะ ฮ่าๆ น่ารักและน่าเป็นเจ้าของจริงๆ เลยใช่ไหมล่ะคุณสาวๆ !? เรียกได้ว่าเป็นชุดว่าน้ำอีกแบบที่จะเพิ่มความร้อนแรงให้กับคุณผู้หญิงได้อีกมากเลยทีเดียว โอยยย ตายแล้ววว หรือจะใส่มาเป็นเกิร์ลกรุ๊ป แบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ใจเย็นๆ พ่อหนุ่ม รู้นะว่าคิดอะไรอยู่?? อื่ม… น่าสวมใส่จริงๆ เล๊ยย โอยน่อออ… ช่างเป็นชุดว่ายน้ำที่ร้อนแรงเสียนี่กระไร…
-
ทดสอบอาการ ‘Pareidolia’ กับ 17 ภาพของใช้ในทั่วไป ที่หน้าเหมือนเหล่าเซเลบคนดัง
คุณเคยมองไปบนท้องฟ้าแล้วเห็นก้อนเมฆเป็นรูปร่างต่างๆ บ้างไหม ซึ่งอันที่จริงแล้วการมองเห็นภาพเหมือนเหล่านั้นเค้าเรียกกันว่าอาการ Pareidolia หรือปรากฏการณ์ทางจิตที่มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าอย่างภาพและเสียง ซึ่งพูดง่ายๆ ก็คือจะทำให้เราเห็นภาพของวัตถุหรือสิ่งของต่างๆ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับคนนั่นเอง และวันนี้เราก็มีภาพจากเว็บไซต์ Bored Panda ที่จะมาทดสอบอาการ Pareidolia ของคุณกัน ซึ่งแต่ละภาพนั้นจะมีหน้าตาคล้ายกับเหล่าเซเลบแค่ไหนนั้นไปชมกันเลย… 1. กองพลาสติกบนหลังรถบรรทุกที่ดูเหมื๊อนเหมือนคุกกี้ มอนสเตอร์ 2. ดูยังไงก็โดนัลด์ ทรัมป์ชัดๆ !! 3. นั่นนายใช่ไหม Scrat ?? 4. ลาก่อนน้าาา โทมัส 5. เฮ้.. นั่นมัน ไมค์ วาโซว์สกี้ กับ ซัลลีย์ นี่น่า!? 6. อืม… เหมือนแค่ไหนถามใจเธอดู 7. ใบไม้ที่คล้ายกับหน้ากาก scream หยึ๋ย!? เห็นแบบนี้ก็หลอนเหมือนกันนะเนี่ย 8. ว่าไง Raphael นั่นนายใช่ไหม?? 9. ตู้เก็บสายไฟที่คล้ายกับงานศิลปะระดับโลกของ Edvard Munch 10.…
-
คู่รักนักวิทย์ Harvard-MIT ค้นพบอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญ ที่นำไปสู่การเป็นออทิสติก
ปัจจุบันวิทยาการทางการแพทย์นั้นเรียกได้ว่ามีความก้าวหน้าอย่างมาก และความก้าวหน้าเหล่านั้นก็นำมาซึ่งการค้นพบสิ่งใหม่ๆ อย่างเช่นการค้นพบของคู่รักนักวิทยาศาสตร์จาก Harvard คู่นี้เกี่ยวกับโรคออทิสติก เมื่อไม่นานมานี้คุณ Jun-ryeol Huh ศาสตราจารย์จากคณะแพทย์มหาวิทยาลัย Harvard และคุณ Gloria Choi ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านสมองจากมหาวทิยาลัย MIT ได้คนพบอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่โรคออทิสติก ถือเป็นการค้นพบที่ฮือฮาอย่างมาก นับตั้งแต่มีการศึกษาโรคดังกล่าวในช่วงปี 1940 เลยทีเดียว!! ทั้งสองได้ออกมายืนยันว่าความผิดปรกตินี้ไม่ได้เป็นผลมากจาการพัฒนาของสมองเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความผิดปรกตินี้อีก หลังจากที่ได้ทดลองและสังเกตุจากหนู ผลการวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ลงในวารสารวิทยาศาสตร์ Nature ผ่านทาง MIT New เมื่อวันที่ 14 กันยายนปี 2017 ซึ่งทั้งสองพบว่ามีแบคทีเรียบางสายพันธุ์ในระบบทางเดินอาหารของแม่ ที่อาจทำให้เกิดพฤติกรรมที่คล้ายกับโรคออทิสติก โดยคุณแม่ที่มีภาวะติดเชื้อที่รุนแรงและต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ในระหว่างตั้งครรภ์นั้นจะมีความเสี่ยงที่ลูกจะมีความผิดปรกติทางสมองมากกว่า ซึ่งจากการศึกษาในเด็กๆ เดนมาร์กเมื่อปี 2010 พบว่าอาการติดเชื้อรุนแรงเหล่านั้นได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ กระเพาะและลำไส้อักเสบ และการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะอย่างรุนแรงนั่นเอง นอกจากนี้คุณ Choi ยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่าพวกเขาสามารถระบุได้ว่าส่วนของสมองนั้นมีผลต่อการเกิดอาการผิดปรกตินี้ “เราระบุได้ว่ามีสมองหลายส่วนที่มีผลต่อพฤติกรรมและเกี่ยวกับการพัฒนาที่ผิดปรกติของระบบประสาท” คุณ Choi กล่าว จากผลการศึกษาที่ตีพิมเมื่อปี 2016 ของทั้งคู่ที่ศึกษาเกี่ยวกับการตอบสนองของสมองแต่ละส่วนต่อโรคดังกล่าว โดยพวกเขาแบ่งแต่ละส่วนออกเป็นส่วนย่อยๆ แล้วพบว่าในส่วนที่ได้รับผลกระทบจากโมเลกุลของเซลล์ภูมิแพ้ หรือ Th 17 Cell นั้นมีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็ก ซึ่งถูกปล่อยออกมาระหว่างที่ผู้เป็นแม่มีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง…
-
เสือโคร่งขาวหายาก ถูกเสือเบงกอลรุมทำร้ายจนสิ้นใจ เหตุเพราะเจ้าหน้าที่ “ลืมปิดประตู…”
ข่าวนี้อาจจะมีภาพหรือเนื้อหาที่รุนแรง และไม่เหมาะกับบางคน ภาพจากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นเหตุการณ์อันน่าเศร้า กับโชคร้ายของเจ้าเสือโคร่งขาวพันธุ์หายากจากอุทยานแห่งหนึ่งในเมืองบังคาลอร์ ประเทศอินเดีย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่าน หลังจากที่เจ้าเสือโคร่งขาว 2 ตัวที่ชื่อว่า Amar และ Shreyas ได้หลุดเข้าไปในกรงของเสือเบงกอล เนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลลืมปิดประตูกรง โชคดีที่ทางฝั่งเจ้า Amar สามารถหนีออกมาจากรงเสือเบงกอลได้สำเร็จ แต่ทว่าเพื่อนของมันเจ้า Shreyas เสือโคร่งขาววัย 9 ปี กลับไม่สามารถหนีออกมาได้และถูกพวกเสือเบงกอลรุมทำร้ายจนเสียชีวิต เจ้า Shreyas ที่กำลังถูกเสือเบงกอลรุมทำร้าย ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงความพยายามในการเอาชีวิตรอดของเจ้าเสือ Shreyas มันพยายามต่อสู้ ขณะที่เหล่าเจ้าหน้าที่เองก็พยายามที่จะหยุดการต่อสู้นั้น โดยการกดแตรรถและตะโกนดังๆ แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ มันโดนรุมขย้ำจนบาดเจ็บหนัก แต่ก็ไม่ตายโดยทันที หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้า เจ้าหน้าที่ได้พา Shreyas ไปทำการรักษา แต่บาดแผลที่รุนแรงทำให้มันต้องจากไปอย่างน่าเศร้าเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา คุณ Jayaram เจ้าหน้าที่จากหน่วยพิทักษ์ป่ากล่าวว่าตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว “ตอนนี้เราได้มีการสั่งการให้ตรวจสอบถึงสาเหตุของเรื่องดังกล่าว เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เราจำเป็นต้องมีการลงโทษผู้ที่ละเลยหน้าที่” เจ้าเสือโคร่งขาวนี้จัดเป็นสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ และคาดการณ์ว่าไม่สามารถพบเห็นพวกมันได้ในป่าทั่วไป พวกเสือโคร่งขาวนี้ไม่ปรากฏตัวให้เห็นในธรรมชาติมานานกว่า 50 ปีแล้ว สาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากรของพวกมันก็คือการรุกรานถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันโดยมนุษย์นั่นเอง คลิปวิดีโอการต่อสู้ของเจ้า Shreyas (คำเตือน: คลิปวิดีโอต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม) เสือโคร่งขาวนั้นเกิดจากความผิดปรกติของยีนจากเสือเบงกอล ซึ่งโดยปกติแล้วการที่พวกมันจะผสมพันธุ์กันตามธรรมชาตินั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก…
-
พบซากเรือไวกิ้งโบราณพร้อมสมบัติอายุ 1,000 ปี ซ่อนอยู่ใต้ตลาดเล็กๆ ของประเทศนอร์เวย์
หลายครั้งที่การค้นพบวัตถุโบราณทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ซ่อนอยู่ภายใต้สิ่งของชิ้นนั้น และอาจทำให้เราค้นพบความลับอะไรบางอย่างด้วยเช่นกัน เหมือนกับการค้นพบซากเรือโบราณที่เพิ่งเจอล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์สื่อต่างประเทศ ได้รายงานว่ามีการขุดค้นพบซากเรือไวกิ้งอายุ 1,000 ปีที่มีขนาดยาวกว่ากว่า 4 เมตรในประเทศนอร์เวย์ พร้อมกับพบซากกระดูกและแผ่นโลหะทองแดงจำนวนมากด้วยกัน ซากเรือที่ถูกขุดพบในครั้งนี้ ซากเรือดังกล่าวคือเรือสำหรับฝังศพของชาวไวกิ้ง ซึ่งถูกค้นพบระหว่างการรื้อถอนตลาดในเมือง Trondheim จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 7 ถึง 10 สภาพทั่วไปของเรือและศพที่ถูกฝังด้วยกันนั้นยังคงมีความสมบูรณ์ เรือถือเป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาวไวกิ้ง และการฝังศพพร้อมๆ กับเรือนั้นก็มีความสำคัญและถือเป็นพิธีที่ศักสิทธิ์ ผู้ที่จะได้รับการประกอบพิธีนี้จะเป็นชนชั้นสูงอย่างหัวหน้าเผ่าหรือนักรบเท่านั้น ศพของพวกเขาจะถูฏฝังไปพร้อมกับอาวุธและข้าวของเครื่องใช้ อย่างเครื่องปั้นดินเผา และเหล้านั่นเอง ภาพของไซท์ก่อสร้าง ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นไซท์ขุดค้นไปแล้ว ซากเรือที่มีการค้นพบในครั้งนี้ มีวางตัวของเรือในแนวทิศเหนือ-ใต้ และโครงกระดูกดังกล่าวก็มีการวางเอาไว้ในทิศเดียวกัน ซึ่งผลพิสูจน์ดีเอ็นเอจากผู้เชี่ยวชาญนั้นยืนยันว่าเป็นโครงกระดูกของมนุษย์อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีการค้นพบแผ่นทองแดงเล็กๆ และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของผู้ตายที่ถูกฝังไปพร้อมกันด้วย “เราพบกุญแจและกล่องเล็กๆ ใบหนึ่งในหลุมศพดังกล่าว ถ้าหากว่ามันถูกฝังไปพร้อมๆ กับศพนั้น มันจะยืนยันได้ว่าหลุมศพดังกล่าวน่าจะถูกสร้างราวๆ ปี ค.ศ. 600 ถึง 900 ” คุณ Julian Cadamarteri หนึ่งในทีมสำรวจจากสถาบันการศึกษาด้านวัฒนธรรมแห่งชาติของนอร์เวย์กล่าว สถานที่ฝังศพดังกล่าวตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือของเมือง Trondheim ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันอาจอยู่ในช่วงยุคเหล็กหรือในยุคอนารยชน…
-
25 ความจริงน่ารักๆ เกี่ยวกับสัตว์โลก จะทำให้คุณอ่านไปยิ้มไป แม้วันนี้มันจะแย่แค่ไหนก็ตาม..
ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ทางธรรมชาติจนทำให้หลายๆ คนเกิดอาการกลัว แต่อย่างไรก็ตามธรรมชาตินั้นก็ยังมีอีกด้านที่สวยงามและน่าค้นหาอยู่เช่นกัน ซึ่งวันนี้เราก็มีเรื่องราวลับๆ เกี่ยวกับเหล่าสัตว์โลกมาฝากทุกคนกัน และแน่นอนความลับที่ว่านี้อาจจะทำให้คุณต้องแอบอมยิ้มกันเลยทีเดียว!! ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. จริงๆ แล้วเสือชีตาห์ไม่สามารถคำรามได้หรอกนะ พวกมันจะส่งเสียงร้องคล้ายๆ กับลูกแมวต่างหากล่ะ ไม่เชื่อก็ลองไปดูในคลิปนี้เลย… 2. แพนกวินตัวผู้จะใช้ก้อนหินเพื่อขอสาวแต่งงาน!! 3. จากการศึกษาพบว่าสุนัขสามารถรับรู้เสียงมนุษย์ และมีการตอบสนองทางด้านอารมณ์ด้วย 4. นอกจากนี้พวกเจ้าตูบยังรับรู้เวลาที่เจ้าของทำไม่ดีกับมัน แถมยังเมินอีกด้วย 5. รู้หรือไม่!! ตอนนี้เสือดาวหิมะและแรดขาวนั้นไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์แล้ว 6. เวลาที่เจ้าช้างรู้สึกเครียด เพื่อนๆ ในโขลงของมันจะเข้ามาใกล้ๆ แล้วใช้งวงกอดพวกมันไว้ พร้อมกับร้องเสียงเล็กๆ เพื่อเป็นการปลอบ 7. และเวลาที่ลูกช้างกำลังดูดงวงของพวกมันนั้น ก็เหมือนกับเวลาที่เด็กน้อยกำลังดูดหัวแม่มือตัวเองอยู่นั่นแหละ 8. ที่ประเทศนอร์เวย์ เคยมีเพนกวินที่ได้ยศอัศวินด้วยนะ นั่นก็คือ Sir Nils Olav นั่นเอง!! 9. เมื่อไหร่ที่เจ้ากากำลังตกอยู่ในอันตราย เพื่อนของมันจะบินเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เพื่อคอยเป็นกำลังเสริมให้…
-
ภาพน่ารักๆ ของเจ้า Rui แมวน้อยตาโตที่จะทำให้ความเศร้าของคุณหายไปในพริบตา!!
เจ้าเหมียวสัตว์เลี้ยงขนปุยที่พร้อมจะกระชากหัวใจคุณได้ทุกเมื่อ เพราะทั้งความน่ารักน่าชังและนิสัยอันแสนซนของพวกมันที่ทำเอาหลายๆ คนถึงกับยอมสมัครเป็นทาสแมวกันเลย และวันนี้เราก็มีน้องเหมียวสุดน่ารักอีกตัวหนึ่งมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน นั่นก็ก็คือเจ้า Rui แมวน้อยตาโตที่มาไกลจากญี่ปุ่นเลยทีเดียว!! อ่า… อยากเห็นแล้วใช่ไหมล่ะว่าจะน่ารักแค่ไหน ถ้าอย่างนั้นไปทำความรู้จักกับผมพร้อมๆ กันเลยฮะ!! Rui ลูกแมวพันธุ์สกอตติชโฟลด์ วัย 3 เดือน ที่อาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นอกจากความน่ารักของมันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนสมัครเป็นแฟนคลับของเจ้าเหมียวตัวนี้ก็คือ คลิปวิดีโออันแสนน่ารักของมันนั่นเอง น่ารักแค่ไหนไปชมกันเลย… ชมคลิปวิดีโอไม่ได้กด ที่นี่ バンザイ寝?? . . ルイ♀/3ヶ月/スコティッシュフォールドレッドタビー . . #スコティッシュフォールド #スコティッシュ #レッドタビー#茶トラ#北斗の拳 #みんねこ #cat #scottish #scottishfold #redtabby #scottishfoldworld #kittylookbook #neko #picneko #catsofinstagram #ig_catclub #catstagram #catoftoday #instagramcats #sweetcatclub #happycatclub #bestmeow #cutecatcrew #bestcats_oftheworld…
-
ห๊ะ… รายงาน EU ระบุว่า การดาวน์โหลดไฟล์ผิดกฎหมาย ไม่ได้ทำให้ยอดขายลดลง
หลายๆ ครั้งเราอาจจะเคยได้ยินกันว่า พวกไฟล์เถื่อนหรือละเมิดลิขสิทธิ์นั้นอาจจะทำให้ยอดขายของซีดี วิดีโอเกม หรือหนังเหล่านั้นลดลง แต่แท้จริงแล้วอาจไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อทางสหภาพยุโรปได้เปิดเผยผลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้!! สหภาพยุโรปได้ทุ่มงบกว่า 360,000 ยูโรหรือประมาณ 14 ล้านบาทในการศึกษาถึงผลกระทบของการดาวน์โหลดไฟล์เถื่อนที่มีผลต่อยอดขายของสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์อย่าง เพลง หนัง หนังสือ และวิดีโอเกม ซึ่งผลการศึกษาพบว่าปัจจัยดังกล่าวไม่ใช่สาเหตุหลักที่ส่งผลต่อการลดลงของยอดขายสินค้าเหล่านี้ บริษัท Ecory ผู้รับผิดชอบในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ได้รายงานผลการศึกษาครั้งนี้ออกมาเป็นหนังสือเล่มหนาถึง 304 หน้าซึ่งสรุปได้ว่า “โดยทั่วไปแล้วไม่มีหลักฐานทางสถิติที่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นส่งผลต่อยอดขาย แต่ในความจริงแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่เราแค่ยืนยันไม่ได้จากผลวิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้นเอง” นอกจากนี้พวกเขายังพบว่าการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และระบบสตรีมมิ่ง จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์อีกด้วย ตามรายงานพบว่าการละเมิดลิขสิทธิ์นั่นส่งผลแค่ในสินค้าประเภทภาพยนตร์เท่านั้น โดยจากการงานกล่าวว่า “ในภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมพบว่า มี 4 ใน 10 เรื่องที่มีการเข้าชมอย่างถูกกฏหมาย” งานวิจัยดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยคุณ Julia Reda สมาชิกสภายุโรปซึ่งเป็นตัวแทนจากประเทศเยอรมนี ได้เปิดเผยเอกสารฉบับเต็มในบล็อกส่วนตัวของเธอ หลังจากที่เธอได้สิทธิในการเข้าถึงเอกสารดังกล่าวจากสหภาพยุโรป แต่อย่างไรก็ตามทางองค์กรด้านสิทธิ์ทางดิจิตอลของยุโรปได้ออกมากล่าวว่าเอกสารฉบับเต็มของรายงานดังกล่าวถูกระงับไปแล้ว พร้อมกับกล่าวว่ารายงานเล่มดังกล่าวเป็นบทความของเจ้าหน้าที่ 2 ท่านที่พูดถึงเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และการลดลงของยอดขายในยุโรป ซึ่งไม่ใช่การศึกษาของ Ecory แต่อย่างใด ที่มา gizmodo
-
สื่อญี่ปุ่นเผย โครงการรถไฟฟ้าสร้างโดยจีนในเวียดนาม ด้อยคุณภาพ ล่าช้าแถมทำงบบาน!!
เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมาทางสื่อต่างประเทศอย่าง Nikkei Asian Review ได้รายงานว่าทางรถไฟฟ้ายกระดับแห่งแรกในกรุงฮานอยที่จะมีการเปิดทดลองใช้ในเดือนกันยายนนี้ถูกเลื่อนออกไป หลังจากมีปัญหาในการก่อสร้างกับบริษัทรับเหมาจากจีน เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา ทางการเวียดนามได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า โครงการดังกล่าวจะไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกว่าทางการจีนจะจ่ายเงินสนับสนุน(ODA) มูลค่า 250 ล้านเหรียญตามที่ให้สัญญาไว้เมื่อปีที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายแรกในเมืองหลวงของเวียดนาม ซึ่งมีแผนในการสร้างเริ่มต้นที่ปี 2008 และแล้วเสร็จในปี 2013 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 552 ล้านเหรียญโดยมีการกู้เงินจากรัฐบาลจีน 419 ล้านเหรียญ และบานปลายเป็น 868 ล้านเหรียญในปี 2011 โดยโปรเจกต์ดังกล่าวประสบปัญหาต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการเบิกกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลจีนที่มีความซับซ้อนทำให้การก่อสร้างล่าช้า ปัญหาวัสดุด้อยคุณภาพ และความผิดพลาดของแรงงานที่ไม่ได้รับการฝึกฝน ซึ่งตอนนี้ทางเวียดนามได้ประสานไปทางสถานฑูตจีนเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าว Nikkei Asian Review ได้เผยว่าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงฮานอยนี้เป็นหนึ่งในโครงการใหญ่ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนที่กำลังประสบปัญหา นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้เช่นกันไม่ว่าจะเป็นโครงการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติในกรุงฮานอย โรงเหล็กมูลค่า 360 ล้านเหรียญสหรัฐในเมืองท้ายเงวียน รวมถึงโครงการบำบัดขยะและอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกจำนวนมาก โดยปัญหาต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้ความเชื่อมันของบริษัทรับเหมาต่อจีนในเวียดนามนั้นลดลง และปัจจุบันมีโครงการใหญ่ๆ ถึง 17 โครงการที่ต้องถูกพิจารณาใหม่โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม…
-
แม่เป็ดอดทนปกป้องไข่ของตัวเอง แม้ต้องเจอกับพายุเฮอร์ริเคนอันแสนรุนแรง
สำหรับใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา ก็คงจะทราบข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่พัดถล่มในหลายพื้นที่ของสหรัฐอเมริกา และถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านไปแล้ว แต่เราก็ยังมีเรื่องราวอันน่าประทับใจเกี่ยวกับเจ้าเป็ดตัวหนึ่งและความเป็นแม่ของมันมาฝากกัน พบกับแม่เป็ดเทศจากรัฐฟลอริดา ที่ไม่ยอมทิ้งรังและไข่ของมันไปไหน ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับพายุเฮอร์ริเคนก็ตาม คุณ Trent ผู้พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐฟลอริด้า เล่าถึงความกล้าของเจ้าเป็ดตัวนี้ว่า “พวกเรากำลังเป็นกังวลกันอย่างมากว่าบ้านของเราอาจจะได้รับอันตรายจากพายุ มีรายงานว่าพายุจะพัดเข้ามาทางชายฝั่งตะวันออก และพวกเรากำลังเตรียมตัวเพื่อย้ายไปยังที่ปลอดภัย เราพบเจ้าเป็ดตัวนี้อยู่หน้าบ้าน เราจึงพยายามพามันพร้อมกับไข่เข้ามาไว้ในบ้าน แต่มันกลับไล่พวกเราให้ออกห่างจากรัง” เมื่อมีเวลาไม่มาก คุณ Trent และครอบครัวของเธอไม่มีทางเลือกจึงต้องปล่อยเจ้าเป็ดให้เผชิญชะตากรรมตามธรรมชาติ ถึงแม้ว่าพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา นั้นจะมีความรุนแรง แต่มันก็ไม่อาจเทียบได้กับความรักที่แม่เป็ดมีให้กับลูกๆ มันได้ คุณ Trent และครอบครัวของเธอเข้าไปอยู่ในบ้าน ระว่างที่พายุกำลังพัดกระหน่ำเข้ามา และพวกเขาเองก็คิดว่าเจ้าเป็ดคงจะหาที่ปลอดภัยเพื่อหลบพายุเรียบร้อยแล้ว แต่เปล่าเลย!! เมื่อฝนกตกลงมาเจ้าแม่เป็ดยังคงอยู่ที่เดิมและอดทนปกป้องลูกๆ ของมันอย่างที่แม่ควรจะทำ “พวกเราแปลกใจกันมากๆ เจ้าแม่เป็ดไม่ทิ้งรังของมันไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว” คุณ Trent กล่าว และแล้วพายุฝนก็ผ่านพ้นไป โชคดีที่แม่เป็ดและลูกๆ ของมันไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย “เมื่อพวกเราออกไปดูเจ้าเป็ดในตอนเช้าหลังจากที่พายุสงบ พวกเราก็เห็นมันอยู่ที่เดิมพร้อมกับรังและไข่ของมัน พวกเราพยายามสังเกตดูรอบๆ มันและพบว่ามันไม่ได้รับอันตรายใดๆ เลย” หญิงสาวกล่าว ถึงแม้ว่าจะต้องทนตากฝนและอาจจะต้องสูญเสียขนบางส่วนของมันไป แต่แม่เป็ดก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องไข่ทั้ง 13…
-
ความเศร้าที่อยู่ใต้รอยยิ้ม… คลิปวิดีโอ 36 ชั่วโมงก่อนที่ Chester Bennington จะฆ่าตัวตาย
เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้วที่ Chester Bennington นักร้องนำของวงดนตรีชื่อดังอย่าง Linkin Park ได้จากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า และยังคงอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คน ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมาทางภรรยาสุดที่รักของ Chester เองได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอของอดีตสามีเธอ ที่อัดไว้ประมาณ 36 ชั่วโมงก่อนที่เขาจะจากโลกนี้ไป Talinda Bentley ได้เขียนอธิบายผ่านทวิตเตอร์ของเธอก่อนที่จะโพสต์คลิปวิดีโอว่า “ข้อความที่ฉันจะทวีตต่อไปนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด มันจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคนที่มีภาวะซึมเศร้านั้นอาจไม่แสดงออกทางสีหน้าก็ได้” ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นนักดนตรีชื่อดัง กำลังเล่นกับลูกๆ ของเขาอย่างมีความสุข และดูไม่เหมือนคนที่มีสภาวะซึมเศร้าใดๆ เลย “มันเป็นเรื่องที่เศร้า นี่คือใบหน้าของเขาเมื่อ 36 ชั่วโมงก่อนที่เขาจะตาย เขารักเรามาก และพวกเราก็รักเขาเช่นกัน” เธอทวีตข้อความดังกล่าว และนี่คือคลิปวิดีโอเมื่อ 36 ชั่วโมงก่อนที่ Chester จะเสียชีวิต คลิปวิดีโอของนักร้องชื่อดังนี้ อาจจะทำให้เราเข้าใจผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าได้อีกมาก พวกเขากำลังพยายามที่จะต่อสู้กับสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และบางครั้งพฤติกรรมกับรอยยิ้มของพวกเขาก็ไม่อาจบอกถึงความทุกข์ที่ซ่อนอยู่ภายในได้ ข้อความจากทวิตเตอร์ของ Talinda Bentley . . นอกจากคลิปวิดีโอแล้ว ก่อนหน้านี้เธอยังได้โพสต์ภาพของ Chester ระหว่างที่กำลังมีความสุขในวันหยุดกับครอบครัวอีกด้วย เธออยากจะให้เราทุกคนเข้าใจว่า ว่าอาการเหล่านี้คือภัยเงียบแค่ไหน…
-
หน้าผา ‘Chan Da Ya’ ในจีนที่จะปล่อยไข่ออกมาทุกๆ 30 ปี เฮ่ยยยมันเป็นไปได้ไง!?
บ่อยครั้งที่ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติมักจะสร้างความประหลาดใจให้กับเรา ไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของแสงเหนือ หรือปรากฏการณ์สุริยุปราคา และเรื่องราวที่เรานำมาฝากวันนี้เองก็น่าทึ่งไม่แพ้ปรากฏการณ์เหล่านี้เช่นกัน นั่นก็คือหน้าผาที่สามารถออกไข่ได้นั่นเอง!! หน้าผา Chan Da Ya หน้าผามหัศจรรย์จากประเทศจีนแห่งนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก เพราะมันสามารถออกไข่ได้ทุกๆ 30 ปี หน้าผา Chan Da Ya และไข่ของมัน หน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต Qiannan Buyi และ Miao Autonomous ของมณฑลกุ้ยโจว หน้าผา Chan Da Ya หรอืที่รู้จักกันในชื่อหน้าผาไข่สร้างความน่าประหลาดใจให้กับนักธรณีวิทยามานาหลายศตวรรษแล้ว ลักษณะของหน้าผาแห่งนี้มีความสูง 2 เมตรและกว้าง 19 เมตร บริเวณพื้นผิวของมันเต็มไปด้วยการกัดเซาะมากมายและหินกลมๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับไข่ เมื่อเวลาผ่านไป ธรรมชาติจะกัดเซาะหน้าผาไปเรื่อยๆ จนทำให้หินกลมเหล่านั้นหลุดออกมาในที่สุด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Gulu บอกว่าก้อนหินเหล่านั้นจะใช้เวลาประมาณ 30 ปี จึงจะหล่นลงมา ปรากฏการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากมากๆ นักธรณีมากมายได้เดินทางมายังหุบเขาที่ห่างไกลแห่งนี้เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับการออกไข่ของหน้าผา พวกเขาพบว่าภูเขา Gandeng โดยส่วนมากแล้วมีลักษณะเป็นตะกอนที่ทับถมกัน และหินที่นี่ส่วนมากเป็นหินปูน ซึ่งถูกกัดกร่อนได้ง่าย ไข่เหล่านี้ถูกสร้างมาจากหินที่แข็ง ซึ่งแต่ละก้อนอาจจะใช้เวลาในการสร้างที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแร่ธาตุ และสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่ผ่านหินเหล่านั้น แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีใครที่สามรถอธิบายได้ว่าชั้นหินปูนที่ก่อตัวมาตั้งยุคแคมเบรียนสามรถคงอยู่มาได้ถึง 500…
-
ตำรวจมหาวิทยาลัย รวบ ‘หนุ่มหื่น’ ที่บุกเข้าไปในบ้านหญิงสาวเพื่อข่มขืนพวกเธอ
การช่วยตัวเองไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย ถ้าหากว่าคุณทำร้ายตัวเองอย่างเงียบๆ อยู่ในห้องน้ำหรือห้องนอน แต่เมื่อไหร่ที่ทะลึ่งเข้าไปตำในที่สาธารณะหรือบุกเข้าไปในบ้านคนอื่นล่ะก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ในระหว่างที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจดูความเรียบร้อยในมหาวิทยาลัย Ohio State University อยู่นั้น จู่ๆ เขาก็ได้รับแจ้งว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งได้บุกเข้าบ้านของหญิงสาวสองคน และพยายามจะข่มขืนพวกเธอ ภาพจากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นวินาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าบุกเข้าจับกุมไอ่หนุ่มหื่นที่กำลังช่วยตัวเองอย่างเมามันอยู่บนโซฟาในบ้านพักของหญิงสาวสองคน นายตำรวจท่านหนึ่งได้ส่องไฟฉายไปยังชายหนุ่มที่กำลังเพลิดเพลินกับน้องชายของตัวเอง และเผยให้เห็ยชายอีกคนหนึ่งที่ไม่สวมเสื้อและกำลังนอนอยู่บนโซฟาในบ้านหลังดังกล่าว และแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รอช้ารีบบุกเข้าไปในบ้าน และจับกุมหนุ่มหื่นที่ช่วยตัวเองอยู่ แล้วจับเขากดลงกับพื้นพร้อมกับถามว่า “มีใครอยู่ในบ้านนอกจากนายอีกไหม??” คลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นการบุกจำหนุ่มหื่นรายนี้ จากข้อมูลบัตรประชาชนของชายคนดังกล่าวพบว่า เขาคือนาย Calvin Bishop Lynn หนุ่มวัย 22 ปีที่อาศัยอยู่ในเมือง Lexington รัฐเคนทักกี ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุถึง 3 ชั่วโมง สื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า ชายหนุ่มคนดังกล่าวถูกตั้งข้อหาบุกรุก และกระทำอนาจารในที่สาธารณะ และหญิงสาวเจ้าของบ้านทั้งสองคนก็ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด วินาทีที่เจ้าหน้าที่บุกรวบชายหนุ่ม เจ้าหน้าที่ Jennifer Knight ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ฝ่ายหญิงทั้งสองคนไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อน เขาได้บุกเข้ามาในบ้านและพยายามที่จะข่มขืนพวกเธอ พวกเรามีเจ้าหน้าที่กว่า 12 คนที่ตรวจตราและดูแลนักศึกษาอยู่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้นักศึกษามั่นใจในความปลอดภัยของพวกเขาได้แน่นอน” …
-
ของเล่นใหม่จากญี่ปุ่น “คริสตัลทำมือ” ไม่ต้องบินไปไกลถึงดาวคริปตันก็มีได้ง่ายๆ
ถ้าหากจะพูดถึงเรื่องความคิดสร้างสรรค์และความแปลกใหม่แล้วล่ะก็ หลายๆ คนอาจจะนึกถึงประเทศญี่ปุ่นแน่นอน และวันนี้เราก็จะขอพาทุกคนมารู็จักกับของเล่นชิ้นหนึ่งจากประเทศญี่ปุ่น ที่เจ๋งและแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าของเล่นที่ว่านั้นก็คือ… Magic Crystal อุปกรณ์สร้างคริสตัลแบบทำมือง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ต้องไปไกลถึงดาวคริปตัน คุณก็สามารถมีผลึกแก้วสวยๆ นี้ไว้ที่บ้านได้แล้ว!! นี่คือโฉมหน้าของเจ้า Magic Crystal ที่ว่านี้ และแน่นอนวันนี้เราก็ได้นำวิธีการเล่นเจ้า Magic Crystal นี้จากเว็บไซต์ Buzzfeed มาฝากทุกคนกัน และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบอุปกณ์ทั้ง 5 อย่างที่มีมาให้ อ่า… เริ่มต้นจากเทผงคริสตัลลงในถังก่อนเลย จากนั้นเติมน้ำร้อนลงไป แล้วก็คนจนกระทั่งผงคริสตัลละลายเข้ากับน้ำ เมื่อเข้าที่ดีแล้วใส่แผ่นกระดาษรองพื้นลงไป และตามด้วยเม็ดคริสตัล เม็ดคริสตัลจะทำปฏิกริยากับผงคริสตัล และกลายเป็นผลึกจับอยู่ตรงกระดาษรองพื้น จากนั้นก็รออีกประมาณ 10 วัน และแล้วหลังจากผ่านไป 1 วัน แท่งคริสตัลก็เริ่มออกมาให้เราเห็นแล้ว!! และเมื่อ 4 วันผ่านไป คริสตัลน้อยของเราก็เริ่มโตอย่างช้าๆ วันที่ 7 ผ่านไป…
-
นักโบราณคดี ค้นพบรถบรรทุกสินค้าอายุกว่า 100 ปี จมอยู่ใต้ทะเลสาบดีทรอยต์
บางครั้งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิประเทศก็มักจะเผยให้เห็นสิ่งต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ อย่างเช่นเมืองที่จมอยู่ใต้ทะเล หรืออารยธรรมโบราณที่ซ่อนอยู่ในหุบเขา ซึ่งนอกจากจะเผยให้ความสวยงามทางประวัติศาสตร์แล้ว บางครั้งยังมีโบราณวัตถุและเรื่องราวต่างๆ ให้พวกเราได้เรียนรู้อีกด้วย เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2015 หลังจากที่ระดับน้ำในทะเลสาบดีทรอยต์ได้ลดลง มันได้เผยให้เห็นซากของเมืองโบราณที่จมอยู่ในนั้นมาเป็นเวลานาน เมืองเก่าแห่งนี้ถูกจมลงได้ทะเลสาบ หลังจากที่มีการสร้างเขื่อนดีทรอยต์ เมื่อช่วงปี 1880 ซากของรถขนส่งสินค้าที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบแห่งนี้ “ผมถือโอกาสมาที่ในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ระดับน้ำลดลง การได้เห็นข้าวของต่างๆ ที่จมอยู่มันเหมือนกับได้เห็นขุมทรัพย์เลยทีเดียว ผมเห็นวัตถุโบราณชิ้นหนึ่งที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ได้ดีเลย” คุณ Dave Zahn รองนายอำเภอของเมือง Marion County กล่าว ผู้คนกว่า 200 คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ถูกอพยพออกไประหว่างปี 1880 ถึง 1952 ทิ้งไว้แต่เพียงเครื่องมือและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ และการสร้างเขื่อนในครั้งนั้นก็ทำให้ที่นี่กลายเป็นทะเลสาบดีทรอยต์ ในทุกๆ ช่วฤดูหนาวจะมีการระบายน้ำในเขื่อน ซึ่งจะเผยให้เห็นซากของเมืองเก่าที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบแห่งนี้ ปริมาณของออกซิเจนที่ต่ำช่วยรักษาสภาพของวัตถุต่างๆ ที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามรถบรรทุกสินค้าที่พบในครั้งนี้ไม่มีบันทึกว่าเคยถูกค้นพบมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งระดับน้ำที่ลดต่ำนี้ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1969 เลยทีเดียว สภาพของเมืองเก่าที่ถูกทิ้งไว้ใต้ทะเลสาบ ก่อนจะมีการสร้างเขื่อน “เท่าที่ผมรู้รถบรรทุกสินค้าคันนี้ยังไม่ถูกค้นพบมาก่อน น้ำในทะเลสาบไม่เคยลดลงมาเยอะขนาดนี้มาก่อน คงไม่มีใครเคยเห็น หรือย้ายเอามันมาทิ้งไว้ที่นี่แน่ๆ ” คุณ Cara Kelly นักโบราณคดีชาวสหรัฐกล่าว…
-
หน่วยฝึกสุนัขตำรวจจากอังกฤษ ประกาศความสำเร็จ ฝึกให้ค้นหา “คนโรคจิต” ได้ด้วย
โดยปรกติแล้ว เรามักจะได้ยินแต่การฝึกให้น้องหมาสามารถตรวจจับหาวัตถุระเบิด หรือสิ่งของผิดกฏหมายต่างๆ แต่ไม่น่าเชื่อว่าที่ประเทศอังกฤษนั้นเขาล้ำไปอีกขั้นแล้ว เมื่อคุณตำรวจที่นั่นสามารถฝึกให้เหล่าน้องหมาสามารถตรวจหาบุคคลต้องสงสัยอย่างเช่นผู้ก่อการร้าย นักต้มตุ๋น หรือแม้กระทั่งพวกโรคจิตก็ได้นะเออ!! เจ้า Tweed น้องหมาพันธ์ุอิงลิช สปริงเกอร์ สเปเนียลอายุ 19 เดือนและเจ้า Rob สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์สีดำวัย 20 เดือน ได้เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหากับหน่วยตำรวจของสหราชอาณาจักรแล้วหลังจากที่มันสำเร็จการฝึก คุณ Jim Nye ผู้บังคับการจากสถานีตำรวจ Devon and Cornwall กล่าวว่า “นี่ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการตำรวจของเราเลยทีเดียว พวกเจ้าหมาสามารถช่วยเราตรวจหาตัวผู้ก่อการร้าย นักต้มตุ๋น และพวกขาหื่นได้ ทั้งสองตัวจะถูกส่งไปปฏิบัติการทั่วประเทศอังกฤษ” เจ้าหมาทั้งสองตัวจะถูกใช้ดมกลิ่นเพื่อค้นหาอุปกรณ์บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟ หรือไม่โครเอสดีการ์ด คุณ Mike Real เจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจ Connecticut ผู้ก่อตั้งการฝึกนี้และเจ้าหน้าที่พิเศษ Jeffrey Calandra ครูฝึกสุนัขสำหรับตรวจหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จาก FBI ได้รับเชิญให้มาเป็นผู้ช่วยฝึกเจ้าตูบทั้ง 2 ในครั้งนี้ โดยเจ้า Tweed และ Rob นั้นเริ่มฝึกตั้งแต่ตอนที่พวกมันอายุได้เพียง 15 เดือน โดยมีคุณ Graham Attwood และคู่หูของเขาเป็นครูฝึกประจำ “ตอนนี้การฝึกสุนัขเพื่อตรวจหาตัวเก็บข้อมูลดิจิตอลของเรานั้นประสบความสำเร็จแล้ว และได้รับการรับรองจากทั่วประเทศ ครั้งหนึ่งเจ้า Tweed ได้แสดงให้เราเห็นว่าวัตถุต้องสงสัยที่อยู่ในกระป๋องโค้กนั้น คือไมโครเอสดีการ์ดที่ซ่อนอยู่…
-
ปากหวาน!! Chris Pratt เปิดใจพูดถึงอดีตภรรยาครั้งแรก หลังจากประกาศแยกทางกัน
หลังจากที่ก้าวผ่านช่วงเวลาอันแสนเศร้าของชีวิตคู่ที่ต้องหย่ากับภรรยาที่คบกันมาถึง 8 ปีมาได้ (อ่านข่าวเก่า Chris Pratt กลับสู่สายตาประชาชนอีกครั้ง หลังเก็บตัวจากข่าวการหย่านานหลายวัน…) ล่าสุดหนุ่มสตาร์ลอร์ดของเราก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอดีตภรรยาของเขาเป็นครั้งแรกแล้ว หลังจากห่างหายไปนานล่าสุด Anna Faris อดีตภรรยาของหนุ่ม Chris ได้ออกปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นครั้งแรกในงาน Primetime Emmy Awards ที่วันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา และแน่นอนงานนนี้พ่อหนุ่ม Chris ของเรานั้นไม่ได้ไปด้วยหรอก แต่ทางนักข่าวจาก TMZ report นั้นได้ไปดักสัมภาษณ์พระเอกหนุ่มของเราเกี่ยวกับอดีตภรรยาของเขา และงานนี้นักข่าวก็ได้รับคำตอบแบบหวานๆ กลับไปเต็มๆ เลย ซึ่งพ่อหนุ่ม Chris พูดถึงอดีตภรรยาของเขาว่า “ผมรู้ว่าเธอทำได้ดี Anna ทำหน้าที่ของเธอได้เยี่ยมมากๆ เธอและ Janney ก็ดูดีจริงๆ ถ้าไม่เชื่อคุณลองไปดูในซีรีย์เรื่อง Mom ทางช่อง CBS ดูสิ“ แหม่… เห็นหนุ่ม Chris ออกมาพูดแบบนี้แล้วก็นึกถึงตอนที่ทั้งคู่ยังหวานซึ้งเลยนะเนี่ย ถึงแม้ว่าสาเหตุการหย่าร้างกันของทั้งคู่นั้นจะไม่มีฝ่ายใดออกมาเปิดเผย แต่ทั้งสองก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และทำหน้าที่พ่อและแม่ให้อย่างเต็มความสามารถ และนอกจากนี้จากการให้สัมภาษณ์ของเพื่อนสนิทของทั้งคู่ ก็เผยว่าว่าทั้ง Chris และ Anna…
-
พาไปชมกระท่อมกลางป่าในสวีเดน ที่ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อ 200 กว่าปีที่แล้ว เอาใจคนรักธรรมชาติ
การได้ออกไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติต่างๆ หรือได้ออกไปนอนค้างคืนในป่าอาจจะเป็นกิจกรรมโปรดสำหรับหลายๆ คนที่หลงใหลในการใช้ชีวิตกลางแจ้ง คงจะดีไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ ถ้าหากเราได้ห่างจากเทคโนโลยีซักพักและสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มขั้วปอด และวันนี้เราก็มีที่พักดีๆ สำหรับคนที่รักธรรมชาติมาฝากกัน ซึ่งที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่กลางป่าแห่งหนึ่งของประเทศสวีเดน โดยไฮไลท์ของที่นี่นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้วก็คือความเก่าแก่ของที่กระท่อมที่มีอายุมากกว่า 200 ปีเลยทีเดียว และนี่คือโฉมหน้าของกระท่อมเล็กกลางป่าใหญ่แห่งนี้ สถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกในภาษาสวีเดนว่า “backstuga” หรือแปลเป็นภาษาอังกฤษก็คือ earth cabins (กระท่อมใต้ดิน) นั่นเอง โดยแต่เดิมกระท่อมหลังนี้ถูกใช้เป็นที่พักอาศัยของคุณ Little Jon เมื่อช่วงปี 1800’s กระท่อมแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมือง Småland ประเทศสวีเดน โดยตัวกระท่อมนั้นจะฝั่งอยู่ใต้ดิน และสร้างจากวัสดุที่หาได้ทั่วไปอย่างไม้ และหิน ตัวกระท่อมที่ฝังอยู่ใต้ดิน และในส่วนของทางเข้าที่ต้องเดินลงไป โดยปรกติแล้วเราสามารถพบเห็นกระท่อมในลักษณะนี้ได้ทั่วไปในป่าลึกของประเทศสวีเดน มันถูกสร้างขึ้นราวๆ ช่วงปี 1600 ถึง 1800 ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะเป็นที่พักอาศัยของคนยากจน คนแก่ หรือบางครั้งก็เป็นเหล่าโจรป่า กระท่อมหลังนี้สร้างขึ้นระหว่างที่ดินของเจ้าของสองคน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ให้เช่าผืนเล็กๆ ที่แทบจะไม่มีพื้นที่ให้ทำกิจกรรมใดๆ เลยนอกจากการปลูกบ้าน และผู้ที่อาศัยในกระท่อมนี้ก็ทำงานให้กับเจ้าของที่ดินเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน โดยครอบครัวของ Jon นั้นต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากที่นี่ หลังจากนั้นเมื่อระหว่างช่วงปี 1970 กระท่อมหลังดังกล่าวได้รับการปรับปรุงใหม่ และถูกใช้เป็นที่หลบภัยสำหรับผู้คนในหมู่บ้าน หลังจากมีข่าวว่ากองทัพโซเวียตในสมัยนั้น มีแผนจะบุกสวีเดน และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา…
-
17 บุคลิกของสาวๆ ที่ดาเมจรุนแรงจนเกินห้ามใจ เจอแบบนี้หนุ่มๆ ถึงกับไปไม่เป็นเลย
โดยปรกติแล้วสาวๆ ที่ดูดีมีเสน่ห์นั้น อาจจะมีแรงดึงดูดสำหรับหนุ่มๆ แต่คำว่า “เสน่ห์” สำหรับแต่ละคนนั้นก็อาจจะแตกต่างกันออกไป เพราะหนุ่มๆ คงไม่ได้ชอบสาวๆ ที่หน้าเหมือนกันหรอกจริงไหม?? และวันนี้เราก็ได้รวบรวม 17 บุคลิกของสาวๆ ที่ดาเมจรุนแรงจนทำให้หนุ่มถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว ส่วนข้อไหนจะตรงใจท่านชายกันบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. สาวๆ ที่ชอบกัดริมฝีปาก เวลาที่สาวๆ กำลังอยู่ในอาการตื่นเต้น หรือกำลังรู้สึกกลัวจนบางครั้งพวกเธอจะเผลอกัดที่ริมฝีปากเบาๆ อืม… ช่วงจังหวะนี้แหละคุณเอ๊ย!! มันช่างน่าดึงดูใจจริงๆ นะว่าไหมหนุ่มๆ 2. ผิวพรรณอันเรียบเนียน สำหรับหนุ่มแล้วคงจะไม่มีอะไรที่จะน่าสัมผัสไปกว่าผิวหนังอันเรียบเนียนของสาวๆ อีกแล้วสินะ และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้สาวๆ หลายคนต้องคอยดูแลผิวพรรณกันให้ดูดีอยู่ตลอด 3. ทรงผมแบบมัดรวบ บางครั้งทรงผมแบบไม่ค่อยเป็นทางการอย่างการมัดรวบ ก็สามารถดึงดูดสายตาหนุ่มๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเผยให้เห็นต้นคอและใบหูแล้ว เส้นผมที่ไม่ค่อยเรียบร้อยยังทำให้พวกเธอดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีก 4. สาวๆ ในลุคที่โดดเด่น บางครั้งเวลาที่หนุ่มๆ สังเกตุเห็นหญิงสาวในลุคที่โดดเด่นนั้น มันยิ่งทำให้พวกเขาอยากจะทำความรู้จักกับพวกเธอมากขึ้น และบางครั้งรอยสักหรือสีผมแปลกๆ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ก็ได้ เหมือนที่ #ประธานเหมียว เคยบอกไว้ “สาวรอยสักนี่มันน่าจริงๆ “ 5.…
-
เอาจริงดิ่!! ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังแมนยู เผยเตรียมผันตัวเองสู่เส้นทางนักมวยอาชีพ
สำหรับใครที่เป็นสาวกปีศาจแดง คงจะรู้จักตำนานกองหลังอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์กันเป็นอย่างดี ล่าสุดอดีตกองหลังสุดแกร่งผู้นี้ ได้ออกมาประกาศแล้วว่าเขากำลังเตรียมตัวที่จะเป็นนักมวยอาชีพ!! เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ The Sun ได้รายงานว่าตำนานกองหลังทีมปีศาจแดงและทีมชาติอังกฤษได้เตรียมตอบรับข้อเสนอร่วมโปรเจ็คต์ Defender to Contender ของ Betfair บริษัทรับพนันถูกกฎหมาย เพื่อต่อยอดในการเป็นนักดวลกำปั้นอาชีพต่อไป อื่ม… มาดได้อยู่นะเนี่ย อดีตกองหลังปีศาจแดงกล่าวว่า “ตอนที่บริษัท Betfair เข้ามาปรึกษาผมเกี่ยวกับความ้ทาทายครั้งใหม่นี้ ในโปรเจคดังกล่าว มันทำให้โอกาสที่ผมจะพิสูจน์ตัวเองในกีฬาชนิดใหม่นี้เป็นจริง กีฬาชกมวยเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก มันเป็นเรื่องของการใช้พละกำลังและจิตใจ ผมมีความมุ่งมันอย่างมากที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่ามันเป็นไปได้ ความท้าทายครั้งใหม่ที่จะก้าวเป็นนักมวยอาชีพนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญของทีม Betfair ผมคิดว่ามันจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน” ตอนนี้ริโอกำลังเข้ารับการฝึกกับทีมงานของอดีตแชมโลกในรุ่นซุปเปอร์ มิดเดิลเวทอย่าง Richie Woodhall ที่รับหน้าที่เป็นโค้ชให้กับทีมชกมวยของสหราชอณาจักร โดย Richie Woodhall ได้ออกมาพูดถึงลูกศิษของเขาว่า “พูดกันจริงๆ เลยนะ ผมคิดว่าเขาสามารถเป็นนักมวยอาชีพได้ เขามีหมัดขวาที่หนักหน่วงและมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าอาจจะต้องพัฒนาเรื่องสไตล์การชกนิดหน่อย แต่ผมคิดว่าเขาดูมีอนาคตแน่นอน” โค๊ช Richie Woodhall จากทีมชกมวยของสหราชอณาจักรที่ช่วยเป็นครูฝึกให้ …
-
จีนผุด QR Code ยักษ์ในมณฑลเหอเป่ย์ ให้สแกนข้อมูลระหว่างบิน หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว
ปัจจุบันเรียกได้ว่าเทคโนโลยีนั้นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะอย่างน้อยๆ ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนจะต้องมีการข้องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน!! และเมื่อไม่นานมานี้หมู่บ้านแห่งหนึ่งของประเทศจีนได้ผุดไอเดียเจ๋งๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของพวกเขา โดยการสร้างคิวอาร์โค้ดขนาดยักษ์ไว้กลางหมู่บ้าน!! และนี่คือคิวอาร์โค้ดที่ว่านั้น พื้นที่ด้านของของหมู๋บ้าน Xinlinshui ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับนครเป่าติ้งในมณฑลเหอเป่ย์ ได้เปลี่ยนต้นไม้กว่า 130,000 ต้นให้กลายเป็นคิวอาร์โค้ดขนาดยักษ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถหยิบโทรศัพท์มาสแกนได้ ระหว่างที่กำลังบินผ่านไปยังเมืองหลวง โดยคิวอาร์โค้ดดังกล่าวจะลิ้งค์ไปที่หน้าแอพลิเคชั่น WeChat ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างๆ ในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการจะสแกนได้นั้นคุณอาจจะต้องใช้ความสามารถหน่อยล่ะนะ ฮ่าๆ อื่ม… เป็นไอเดียที่เจ๋งดีเหมือนกันนะเนี่ย แต่เปิดกูเกิลแมพแล้วสแกนเอาน่าจะง่ายกว่านะเหมียว!! ที่มา shanghaiist
-
เจ้าตูบที่หายตัวไป 2 สัปดาห์ได้กลับบ้านอีกครั้ง หลังอาสาสมัครพบมันติดอยู่ในภูเขา
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของเจ้าตูบที่หายตัวไปจากบ้านกว่า 2 สัปดาห์ แต่ทว่าด้วยโชคดีของมัน จึงทำให้เจ้าตูบได้กลับบ้านที่แสนอบอุ่นของมันอีกครั้ง เจ้า Zeus สุนัขพันธุ์ด็อจ เด บอร์โดซ์ ที่หายตัวไปในภูเขาแห่งหนึ่งของเมืองเลกดิสตริกต์ ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ ได้มีโอกาสกลับบ้านอีกครั้งหลังจากที่คุณ Jez Starkey และคุณ Adam Briggs พบมันเข้า เจ้าหมาน้อยได้กลับไปหาเจ้าของอีกครั้ง หลังจากติดอยู่ในป่านานกว่า 2 สัปดาห์ ชายหนุ่มทั้งสองตัดสินใจช่วยค้นหาเจ้าตูบหลังจากที่เห็นแคมเปญช่วยค้นหาสุนัขหายในอินเตอร์เน็ต พวกเขาพบมันกำลังติดอยู่กับกอต้นเฟิร์นแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะเข้าช่วยเหลือมันและพาไปพบกับเจ้าของ “พวเราพบเจ้าตูบติดอยู่กับต้นเฟิร์นที่สูงกว่า 4 ฟุต ซึ่งตัวมันเองไม่สามารถออกมาได้ ถ้าหากว่าไม่มีฝนนตกลงมา เราไม่แน่ใจเลยว่ามันจะสามารถมีชีวิตรอดได้ไหม มันดูผอมมากๆ ” คุณ Jez กล่าว เจ้าตูบสามารถเอาชีวิตรอดได้จากการดื่มน้ำฝน จนกระทั่งชายทั้งสองคนมาพบมันเข้า “ตอนที่เราเจอมัน มันดูตื่นกลัวอย่างมาก แต่หลังจากได้อาหารไปมันก็เริ่มสงบลง เราดีใจจริงๆ ที่เจอมัน ถ้าหากว่ามันไม่ติดอยู่ตรงนี้ ตอนนี้มันอาจจะไปไกลกว่านี้แล้วก็ได้” คุณ Jez เสริม ส่วนทางด้านคุณ Adam เองก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่าเจ้าตูบสามารถมีชีวิตรอดได้ เขาบอกว่าที่ที่มันติดอยู่นั้นห่างจากลำธารมากกว่า 100 เมตรและที่นั่นก็ไม่มีอาหารเลย แต่โชคดีที่ฝนตกลงมามันจึงสามารถอาศัยน้ำที่ขังอยู่บนพื้นประทังชีวิตได้ หลายๆ คนที่เห็นประกาศตามหาเจ้า Zeus ผ่านทางอินเตอร์เน็ตพยายามที่จะช่วยค้นหาเจ้าตูบแต่ก็ไม่สำเร็จ…
-
ชมตัวอย่างหนัง ‘The Shape of Water’ นิยามรักอันมืดมน ระหว่างหญิงสาวกับพรายน้ำ…
สำหรับใครที่เป็นแฟนหนังรักโรแมนติกส์ และกำลังมองหาหนังดีๆ ซักเรื่องล่ะก็ วันนี้เราก็มีอีกหนังน่าสนใจเรื่องหนึ่งจากสตูดิโอ Fox Searchlight Pictures มาแนะนำกัน ด้วยพล็อตเรื่องที่แปลกและแตกต่างจากหนังรักทั่วไป #เหมียวเวจจี้ จึงขอนำเสนอ The Shape of Water ผลงานใหม่ล่าสุดของผู้กำกับ Guillermo del Toro ที่เคยโชว์ฝีไม้ลายมือไว้กับ Hellboy และ Pan’s Labyrinth มาแล้ว สำหรับ The Shape of Water จะเป็นเรื่องราวของ Elisa (รับบทโดย Sally Hawkins) ภารโรงสาวผู้เป็นใบ้หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง เป็นผู้ทำงานอยู่ในศูนย์วิจัยของสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามเย็น ซึ่งภายในห้องทดลองแห่งนี้เต็มไปด้วยการทดลองแปลกๆ และความลับต่างๆ มากมายที่คนทั่วไปไม่อาจรับรู้ได้ แต่แล้ววันหนึ่งเธอชีวิตอันแสนน่าเบื่อของเธอก็เปลี่ยนไป เมื่อ Elisa และ Zelda (รับบทโดย Octavia Spencer) เพื่อนร่วมงานของเธอได้ค้นพบความลับบางอย่างของศูนย์วิจัย จนทำให้เธอได้รู้จักกับสัตว์ทดลองที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์พรายน้ำเข้า และจากการพบกันของสองตัวละครที่ไม่อาจสื่อสารถึงกันได้โดยตรง แต่แสดงด้วยการกระทำอันบริสุทธิ์ใจ จึงก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย…
-
Nutmeg เจ้าแมวที่ ‘อายุเยอะ’ ที่สุดในโลก เสียชีวิตแล้วในวัย 32 ปี หรือเท่ากับคน 144 ปี…
หลังจากที่ต้องจากไปด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวในวัย 32 ปี ทำให้เจ้า Nutmeg แมวเหมียวจากเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษกลายเป็นเจ้าแมวที่อายุมากที่สุดในโลก หรือเทียบได้กับมนุษย์ที่มีอายุมากกว่า 144 ปี!! และถึงแม้ว่าเจ้าเหมียวตัวนี้จะไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วก็ตาม แต่เรื่องราวของมันก็ทำให้หลายๆ คนต้องประหลาดใจไม่น้อยเลยทีเดียว และนี่คือโฉมหน้าของคุณปู่ Nutmeg แมวใหญ่วัย 32 ปี คุณ Liz และคุณ Ian Finlay เจ้านายของ Nutmeg เล่าถึงการพบกันครั้งแรกกับเจ้าเหมียวว่า พวกเขาพบมันอยู่ในสวนเมื่อประมาณปี 1990 พร้อมกับแผลที่คอ ก่อนที่จะพามันไปพบสัตวแพทย์เพื่อดูแลต่อไป ซึ่งขณะนั้นคุณหมอบอกกับพวกเขาว่าเจ้าเหมียวมีอายุแค่ประมาณ 5 ปีเท่านั้น โดยที่เจ้าเหมียวตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นแมว 9 ชีวิตของจริง มันเริ่มเข้ารับการรักษาเมื่อปี 2015 ที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในเมืองนิวคาสเซิลเนื่องจากอาการแทรกซ้อน ก่อนที่จะต้องต่อสู้กับโรคร้ายอีกมากมาย ซึ่งหลังจากที่เจ้า Nutmeg เสียชีวิตลงในปี 2017 มันก็ได้รับการบันทึกโดยกินเนสส์บุ๊กว่า เป็นแมวที่อายุมากที่สุดในโลก คุณ Finlay และสามีของเธอเสียใจต่อการจากไปของเจ้าเหมียวอย่างมาก คุณ Finlay บอกว่า “ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ มันเป็นเหมือนดวงใจของพวกเราเลยทีเดียว” ในขณะที่ฝ่ายสามีของเธอเองก็เสียใจไม่แพ้กัน พร้อมกับบอกว่าการจากไปของเจ้าเหมียว ทำให้พวกเขารู้สึกเศร้าไปหลายสัปดาห์เลยทีเดียว ทางด้านสัตวแพทย์ Jason…
-
ว่ายังไงนะ!? ทีมผู้สร้างน้อมรับอ้อมๆ Breaking Bad จะอยู่ในจักรวาลเดียวกับ Walking Dead
สำหรับใครที่เป็นแฟนๆ ของซีรี่ส์ในค่าย AMC คงจะรู้จักซีรี่ย์ดังทั้ง 2 เรื่องอย่าง Breaking Bad และ The Walking Dead แต่บางคนอาจจะคิดไม่ถึงแน่ๆ ใช่ไหมล่ะว่าทั้ง 2 เรื่องนี้ จะถูกนำมาอยู่ในจักรวาลเดียวกันได้!! แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะทางโปรดิวเซอร์ของฝั่งซีรีส์ผีดิบ ได้ออกมาแง้มถึงซีรีส์ดับเครื่องชนคนดีแตกที่อาจจะมีจุดเชื่อมโยงในจักรวาลเดียวกันกับซีรีส์ผีดิบด้วย ซึ่งหลักฐานล่าสุดที่ช่วยเสริมประเด็นนี้ได้นั้น ก็มาจากเพลงเปิดตัวในซีซั่น 2 ของ Breaking Bad อย่าง The Ballad of Heisenberg ได้โผล่ออกมาในซีรีส์ Fear the Walking Dead ในฉากที่ตัวละครกำลังเดินอยู่ในตลาดนั่นเอง โดยทางคุณ Dave Erickson โปรดิวเซอร์ของซีรีส์ Fear the Walking Dead ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่า “ผมพยายามจะใส่มันลงไปอย่างแนบเนียนแล้วนะ ซึ่งตอนนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าผมกำลังนึกถึง Breaking Bad ในตอนที่พวกเขากำลังทำมิวสิควิดีโอเปิดตัวนั้น ขณะนี้เรากำลังมองหาจุดเชื่อมต่อทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน และมันจะต้องเป็นการเชื่อมโยงที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการให้เกียรติกับโปรดิวเซอร์ Vince Gilligan ด้วย” …
-
ผลวิจัยชี้… หนุ่มที่มีหนวดเคราสวยงาม จะมีความดึงดูดเพศตรงข้าม ที่มากกว่าหนุ่มหน้าใส!?
ปัจจุบันกระแสการแต่งตัวแนววินเทจกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และหนึ่งแฟชั่นที่มาพร้อมกับการแต่งตัวแบบย้อนยุคนั่นก็คือการไว้หนวดและเคราของท่านชายนั่นเอง!! และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ เกี่ยวกับผมบนหน้าของคุณผู้ชายนั่นก็คือ ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Queensland จากประเทศออสเตรเลียชี้ว่า การไว้หนวดนั้นมีผลต่อการดึงดูดเพศตรงข้าม แถมมันก็มีผลต่อความสัมพันธ์ในแบบชั่วคราวและระยะยาวอีกด้วย!! โดยในการศึกษาครั้งนี้ได้ทำการเก็บข้อมูลจากผู้หญิงถึง 8,520 คน ผู้ทดสอบจะได้ดูภาพของหนวดเคราแบบต่างๆ ก็ได้ผลการศึกษาที่แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มนั้นมีความชอบในหนวดของผู้ชายที่แตกต่างกันออกไป และความยาวกับความแข็งของหนวดก็มีผลต่อแรงดึงดูดทางเพศอีกด้วย!! ซึ่งผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Evolutionary Biology กล่าวว่า ผู้หญิงส่วนมากนั้นชื่นชอบผู้ชายที่มีหนวดแข็งๆ มากที่สุด ถัดมาก็เป็นผู้ชายที่มีหนวดเป็นตอๆ คล้ายกับเพิ่งโกนเสร็จใหม่ ส่วนพ่อหนุ่มเคราดกและคนที่หนวดเครายาวเฟื้อยนั้นกลับได้รับความนิยมน้อยที่สุด นอกจากนี้หนวดเครายังมีความเกี่ยวข้องกับระดับความสัมพันธ์ จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงส่วนมากมักจะมองหาความสนุกจากผู้ชายที่มีหนวดเคราบางๆ และตามมาด้วยผู้ชายที่มีหนวดเครารุงรังดูไม่เรียบร้อย แต่จะไม่ค่อยอยากสานสัมพันธ์ต่อสักเท่าไหร่ ในขณะที่ชายหนุ่มที่มีเคราดกและรู้จักการดูแลผมบนใบหน้าของตัวเองนั้น จะเป็นพวกที่ได้รับความมั่นใจจากฝ่ายหญิงและทำให้พวกเธออยากจะฝากชีวิตไว้ด้วยมากกว่า ศาสตราจารย์ Barnaby Dixson หนึ่งในทีมวิจัยอธิบายเพิ่มเติมว่า ชายที่ไว้หนวดนั้นจะดูเป็นคนที่มีประสบการณ์ มีความเป็นผู้ชาย ตั้งใจจริงและมีความมั่นใจในตัวเองมากกว่า รู้แบบนี้แล้ว สงสัยต้องลองหาน้ำยาปลูกหนวด มาลองใช้บ้างแล้วล่ะ!! ที่มา nytimes
-
นักวิจัยเผย… ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ในระยะยาว จะมีความสนใจเรื่อง ‘เซ็กส์’ ลดน้อยลง
สำหรับใครที่คบกันมานานและเริ่มรู้สึกว่ารสชาติแห่งความรักนั้นเริ่มจะจืดจางลงไปทุกที หลายๆ ครั้งเรื่องบนเตียงก็ไม่ได้รู้สึกสนุกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถ้าหากว่าคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ล่ะก็ วันนี้เรามีคำตอบดีๆ จากงานวิจัยมาฝากกัน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีผลการศึกษาที่น่าสนใจชิ้นหนึ่ง เผยว่าหลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่กันมาอย่างยาวนานแล้ว ฝ่ายผู้หญิงจะมีความสนใจในเรื่องบนเตียงลดลงมากกว่าฝ่ายชาย!! ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการอย่าง BMJ Open ที่ได้ทำการสำรวจจากประชากรชาวอังกฤษในช่วงอายุ 16-74 ปี โดยแบ่งเป็นชาย 4,839 คน และหญิง 6,669 คน โดยพบว่าผู้ชายมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์และผู้หญิงอีกกว่า 34.2 เปอร์เซ็นต์ มีความสนใจทางเพศลดลงเมื่อผ่านไปแล้ว 3 เดือนหรือหลังจากคบกันในปีแรกๆ ซึ่งสาเหตุในดังกล่าวนั้นเป็นผลมาจากเรื่องของอายุ สุขภาพ และสภาพจิตใจของกลุ่มตัวอย่าง นอกจากนี้นักวิจัยยังพบว่าผู้หญิงส่วนมาก จะหมดความสนใจเรื่องเพศหลังจากที่คบหาฝ่ายชายมาได้ประมาณ 1 ปี แต่อย่างไรก็ตามนักวิจัยแนะนำว่าปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ โดยการหันหน้าเข้าหากัน ซึ่งพวกเขาพบว่าการพูดคุยเรื่องกิจกรรมเข้าจังหวะระหว่างคู่รักนั้น จะช่วยให้ปัญหาดังกล่าวลดลงได้ ทางด้านคุณ Cynthia Graham หนึ่งในทีมวิจัยจากศูนย์วิจัยสุขภาพทางเพศของ University of Southampton ได้ออกมาอธิบายถึงปัจจัย ที่มีผลต่อความสนใจเรื่องเพศของชายและหญิงว่า “สำหรับผู้หญิงแล้วสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เรื่องเพศนั้นยังคงเป็นที่สนใจอยู่นั้นก็คือคุณภาพและความความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน นอกจากนี้ยังรวมถึงการพูดคุยกับคู่รักอีกด้วย และอีกสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ การแก้ปัญหาเรื่องความสนใจทางเพศ โดยคู่รักนั้นจะต้องมองหลายๆ…
-
หนุ่มหื่นกามวัย 25 ปี พยายามล่อลวงเด็กสาววัย 15 แถมอ้าง “ผมหน้าตาดีเกินกว่าจะเข้าคุก”
การระบายความกำหนัดอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เมื่อไหร่ที่ดันทะลึ่งไปทำเรื่องแบบนี้กับคนอื่นที่เขาไม่ได้ยินยอมหรืออายุไม่ถึงเกณฑ์ล่ะก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ เหมือนกับหนุ่มหื่นคนนี้ ที่พยายามล่อลวงสาวน้อยวัย 15 ปี แถมบอกอีกว่า “ผมหล่อเกินไปที่จะเป็นนักโทษนะครับ” Ryan Kirk หนุ่มหื่นวัย 25 ปีถูกตัดสินจำคุก 4 ปี หลังจากที่ใช้ความพยายามกว่าครึ่งปี เพื่อล่อลวงสาวน้อยผ่านทางเฟซบุ๊ก ชายหนุ่มรับสารภาพว่าได้ใช้โซเชียลมีเดียดังกล่าวในทำกิจกรรมทางเพศกับเด็กสาวมาแล้วถึง 3 ครั้ง ชายคนดังกล่าวถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง ถึงแม้ว่าเขาจะปฏิเสธคำให้การก็ตาม ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจเมือง South Yorkshire ก็ได้ออกมายกย่องความกล้าของเหยื่อที่ออกมาเปิดเผยพฤติกรรมของหนุ่มหื่นรายนี้ “เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่นาย Kirk พยายามที่จะล่อลวงสาวน้อยคนนี้ และพยายามบังคับให้เธอมีเซ็กส์กับเขา โดยที่ Kirk รู้จักกับเด็กหญิงคนดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้ 22 ปี แต่หลอกเธอว่าเขาอายุแค่เพียง 19 ปีเท่านั้น… และหลังจากที่เริ่มสนิท ชายคนดังกล่าวก็เริ่มชักชวนเหยื่ออกไปข้างนอก และขอมีเพศสัมพันธ์กับเธอ โดยอ้างว่าเธออายุมากพอที่จะทำเรื่องแบบนี้แล้ว พร้อมกับพูดจาลวนลามเธอต่างๆ นานา” คุณ Lee Corker เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก South Yorkshire กล่าว ชายหนุ่มคนดังกล่าวทั้งข่มขู่และใช้ประโยชน์จากเด็กหญิง และเมื่อเขารู้ว่าเธอเริ่มติดต่อกับตำรวจ…
-
Ziggy เจ้าตูบพี่เลี้ยงสุดเข้ม ผู้ไม่ยอมละสายตาจากเจ้านายน้อย ตลอดการเดินทางไกล…
สุนัข เป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความซื่อสัตย์ หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเคยได้ยินวีรกรรมเกี่ยวกับการปกป้องเจ้านายของเหล่าเจ้าตูบ และสำหรับเจ้า Ziggy เองก็เช่นกัน เมื่อมันคอยดูแลเจ้านายตัวน้อยของมันอย่างไม่ละสายตาเลย!! เรื่องราวอันน่าประทับใจของเจ้าตูบตัวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่บ้านของมันและเจ้านายที่อยู่ทางใต้ของรัฐฟลอริดา กำลังจะเผชิญกับพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ตามการรายงานของพยากรณ์อากาศ ทางครอบครัวตัดสินใจย้ายออกจากบ้านของพวกเขาที่รัฐฟลอริดา ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังรัฐเทนเนสซี และแล้วเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้า Ziggy ก็เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางอันแสนยาวนานในครั้งนี้ ทางครอบครัวเตรียมขนข้าวของทุกอย่างขึ้นรถ โดยมีเจ้า Ziggy และสุนัขตัวอื่นๆ นั่งไปในรถกับพวกเขาด้วย การจากบ้านไปทางตอนเหนืออาจจะเป็นเรื่องที่ทำใจลำบากสำหรับครอบครัวนี้ แต่ความปลอดภัยของชีวิตครอบครัวนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน ภายในรถมีสมาชิกทั้งหมด 3 คนและอีก 3 ตัว โดยมีคุณ Nick เป็นคนขับรถ และมีเจ้าตูบอีก 2 ตัวนั่งเป็นเพื่อนคนขับ ส่วนที่เบาะหลังมีเจ้า Ziggy และคุณ Dezzy แม่ของเจ้าหนูน้อย Arabella นั่งด้วยกัน เจ้า Ziggy กับเจ้านายน้อยของมัน การเดินทางไกลครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกของเจ้าตูบ มันดูมีอาการตื่นเต้นเล็กน้อย และพวกเขาก็ค่อนข้างกังวลว่าเจ้าตูบอาจจะไม่คุ้นเคยกับสมาชิกใหม่ก็ได้ “เจ้า Ziggy นั้นเป็นลูกสุนัขและเราก็ไม่เคยเห็นมันเข้าใกล้กับลูกสาวของพวกเรามาก่อน และเราก็มีความกังวลนิดหน่อยว่ามันอาจจะไม่คุ้นเคยกับเธอ แต่ว่าเมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปกลับไม่เป็นอย่างนั้น มันคอยดูแล Arabella ตลอดทางเลย” คุณ Nick กล่าว …
-
พบกับ ‘ลุงสม’ ขายขนมหวานเย็นๆ กับลีลาเด็ดโชว์ ‘ไอศกรีมลอยฟ้า’ แม้จะอายุมากแล้ว…
สำหรับใครที่ชื่นชอบการทานไอศกรีมโบราณ การได้สัมผัสเนื้อกระทิเนียนๆ กับข้าวเหนียวมูนหวานๆ ในวันที่อากาศร้อนๆ คงจะเป็นอะไรที่ฟินไม่น้อยเลยทีเดียว แต่จะดีแค่ไหนถ้าหากการดื่มด่ำกับรสชาติอันแสนอร่อยนั้น มีโชว์เจ๋งๆ ให้เราดูอีก!! เมื่อไม่นานมานี้คุณ Warinthon Mint ได้โพสต์เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุณลุงท่านหนึ่ง ที่มีลีลาการตักไอศกรีมที่แปลกและหาชมได้ยากสุดๆ คุณ Warinthon Mint เล่าว่าคุณลุงท่านนี้ชื่อลุงสม เป็นคนอัธยาศัยดี โดยการเสิร์ฟไอศกรีมของแกนั้นก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะบางครั้งลุงเองจะโชว์ท่าไม้ตาย ‘ไอศกรีมลอยฟ้า’ ซึ่งหาชมได้ยากมากๆ ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าได้ชมกันฟรีๆ คุณ Mint เล่าว่าคุณลุงยึดอาชีพนี้มากกว่า 50 ปีโดยแกเริ่มขายไอศกรีมครั้งแรกตั้งแต่อายุ 21 จนปัจจุนแกมีอายุกว่า 71 ปีแล้ว และในทุกๆ วันแกจะตระเวนไปขายไอศกรีมในหลายๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้า BTS บางหว้า หรือเวลาประมาณ 5 โมงเย็นก็สามารถเจอแกได้ที่ใต้บันได BTS ฝั่งตลาดบางแค ลองดูลีลาคุณลุงซะก่อน ส่วนหน้าตาไอศกรีมก็น่ากินไม่แพ้ลีลาคุณลุงเลยนะเนี่ย เรื่องราวของคุณลุงสมที่กำลังเป็นที่โด่งดังอยู่บนโลกออนไลน์ขณะนี้ และสำหรับใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยไอศกรีมลอยฟ้า ก็ลองแวะเวียนไปหาคุณลุงกันได้ทุกๆ วัน ในเวลาประมาณ 17.00 น.…
-
มือปืนโหดพาเด็กออกจากที่เกิดเหตุ ก่อนลงมือกระหน่ำยิงเหยื่อจนเสียชีวิต
เรื่องราวเกิดขึ้นในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเมืองมาราไกโบ ประเทศเวเนซุเอล่า เมื่อชายหนุ่มนิรนามสวมหมวกและปกปิดหน้าตาผู้นี้ เดินเข้ามาในร้าน ก่อนที่จะดึงแขนสาวน้อยที่กำลังเดินเข้ามาในที่เกิดเหตุออกไป และลงมือกระหน่ำยังเป้าหมาย โดยมือปืนพุ่งเป้าไปที่นาย Climaco Segundo Uriana หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี และลงมือยิงไปทั้งสิ้น 4 นัดด้วยกัน หลังจากที่เหยื่อล้มลงกับพื้น ผู้คนในร้านต่างตื่นตกใจกันอย่างมาก ฆาตกรอาศัยจังหวะดังกล่าวหลบออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพอันน่าสยดสยองของมือปืนคนหนึ่ง กำลังเดินเข้ามาในร้านกาแฟ เพื่อจัดการเหยื่อของเขา แต่บังเอิญมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ภายในร้านด้วย เขาจึงตัดสินใจดึงตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ออกไปก่อน จากนั้นก็กระหน่ำยิงไปที่เหยื่อถึง 4 นัด ก่อนที่จะหลบนีไปอย่างไร้ร่องรอย อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจับกุมมือปืนคนดังกล่าว แต่ทางตำรวจท้องถิ่นสันนิฐานว่านาย Uriana อาจมีส่วนเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนของประเทศ ที่มา dailymail
-
25 เหตุผลดีๆ จากงาน Open House ที่ทำให้ “ม.กรุงเทพ” เป็นสถาบันน่าเรียนแห่งยุค
สำหรับใครที่ได้มีโอกาสผ่านไปแถวๆ มหาวิทยาลัยกรุงเทพเมื่อช่วงประมาณวันที่ 31 สิงหาคมถึง 2 กันยายนที่ผ่านมา อาจะเกิดความสงสัยว่าทำไมช่วงนี้คนเยอะเป็นพิเศษ ไม่ต้องแปลกใจกันหรอกก็เพราะว่าที่นี่เค้าเพิ่งมีงานมหกรรมการศึกษาที่น่าสนใจอย่าง Open House ประจำปี 2560 ของชาว BU ที่มีน้องๆ นักเรียนและผู้ที่สนใจมาร่วมงานกว่า 20,000 คนกันเลยทีเดียว และในงานนี้ก็เป็นโอกาสอันดีให้ทางนักศึกษา ม.กรุงเทพ ได้แสดงศักยภาพ และนำเสนอสิ่งดีๆ ที่ทางสถาบันได้ให้แก่พวกเขา มาถ่ายทอดให้น้องๆ อีกต่อหนึ่ง ได้เห็นภาพบรรยากาศในงานแล้วหลายคนอาจจะอยากไปเรียนสถาบันแห่งนี้ก็เป็นได้ 1. เริ่มต้นกันที่หนุ่มหล่อสาวสวยจากคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยวที่ออกมาเดินอวดโฉมให้กับน้องๆ ผู้ร่วมงานได้ชมกันอย่างจุใจ 2. สาวๆ และหนุ่มๆ ที่มาในมาดของแอร์โฮสเตส สจ๊วต และพนักงานภาคพื้นดิน ดูดีไม่เบา 3. ยังมีเชฟจากพี่ๆ สาขาวิชาการจัดการการโรงแรม มาแจกขนมอร่อยที่พวกเขาทำขึ้นมาเอง 4. ข้ามมาที่ฝั่งของภาควิชาศิลปะการแสดง งานนี้พี่ๆ เค้าลงทุนเนรมิต Black Box Theater โรงละครของคณะให้กลายเป็นเวทีคอนเสิร์ตขนาดย่อมๆ เพื่อโชว์ศักยภาพ 5. พี่ๆ ชาว BU ขนฝีมือการแสดง ออกมาให้เหล่าน้องๆ ที่สนใจได้ดูเป็นทั้งความบันเทิงและแรงบันดาลใจ …
-
หนุ่มจืดมีเฮ!! งานวิจัยล่าสุดเผย ผู้หญิงยุคใหม่ชอบ “ผู้ชายไม่ค่อยหล่อ” มากขึ้นแล้วนะ
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับหนุ่มจืดผู้ที่ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นมาเท่าไหร่ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Florida State University ได้เผยว่าชีวิตคู่หลังจากการแต่งงานนั้นจะราบเรียบและไม่มีปัญหาถ้าสำหรับหญิงที่แต่งงานกับหนุ่มจืด!! ในงานวิจัยครั้งนี้ได้ทำการเก็บข้อมูลจากคู่รักจำนวน 113 คู่ที่แต่งงานแล้วอย่างน้อย 4 เดือนในพื้นที่ของเมือง Dallas ซึ่งการวิจัยครั้งนี้ได้ทำการสำรวจโดยใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับความพอใจและความรักหลังจากแต่งงานแล้ว จากการสำรวจพบว่าผลลัพธ์ที่น่าสนใจอยู่ 2 แบบ อย่างแรกนักวิจัยพบว่าชายหนุ่มมักจะรู้สึกมีความสุขเมื่อพวกเขาได้คู่รักที่ดูดี ในงานวิจัยกล่าวว่าสามีดูเหมือนจะมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในเรื่องต่างๆ มากขึ้นเมื่อพวกเขาได้คู่ครองที่พอใจ ส่วนผลการศึกษาอีกข้อนั่นก็คือ พวกเขาพบว่าฝ่ายผู้หญิงที่ได้สามีที่เพอร์เฟ็คนั้นพวกเธอจะต้องพยายามอย่างมากเพื่อให้ตัวเองดูดี และมีความกดดันที่จะต้องพยายามทำตัวให้เซ็กซี่ตลอดเวลา คุณ Tania Reynolds หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า “ผลการศึกษาพบว่าสามีที่ดูดีและน่าดึงดูดนั่นอาจส่งผลเสียต่อภรรยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากฝายหญิงเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ ที่ไม่น่าสนใจ ซึ่งอาจมีบทบาททางสังคมอื่นๆ ที่ทำให้พวกเธอมีพฤติกรรมที่แปลกไป” นอกจากนี้ฝ่ายชายที่ดูดีเมื่อคบกับผู้หญิงที่ธรรมดานั้นก็อาจจะมีผลในเรื่องของแรงจูงใจในการทำบุคลิกให้ดูดี “ผู้ชายดูเหมือนจะไม่มีแรงจูงใจที่จะช่วยภรรยาเมื่อพวกเขาดูดีกว่าเธอ” คุณ Tania กล่าว ที่มา thechive
-
จ่า John Clem ทหารหนุ่มวัย 10 ปี ผู้เป็นฮีโร่ในสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา
ขึ้นชื่อว่าสงครามแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมานั้นต้องไม่ใช่เรื่องที่น่าดีใจแน่ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่ชนะหรือว่าผู้แพ้นั้นก็ย่อมต้องสูญเสียด้วยกันทั้งนั้น และหนึ่งในสงครามที่มีเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียของชาวอเมริกันนั่นก็คือสงครามกลางเมืองนั่นเอง ในสงครามครั้งนี้สงผลกระทบต่อพลเมืองชาวอเมริกันทุกๆ คน ไม่เว้นแม้แต่พวกเด็กๆ วัยรุ่นนับพันคนถูกเกณฑ์เข้าร่วมรบในสงคราม หลายคนมีอายุไม่ถึง 18 ปีและหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าหนู John Clem ทหารหนุ่มที่มีอายุเพียงแค่ 10 ขวบเท่านั้น!! และนี่ก็คือโฉมหน้าของหนูน้อยผู้นี้ เมื่อตอนอายุได้เพียง 9 ขวบเจ้าหนู Johnny ได้แอบหนีออกจากบ้านเพื่อมาสมัครเข้ากับกองทัพเพื่อร่วมรบในสงครามกลางเมือง ถึงแม้ว่าในตอนแรกความต้องการของเจ้าหนูจะถูกปฏิเสธ แต่ด้วยความพยายามอยู่หลายครั้งในที่สุดเด็กน้อยก็ได้เข้าร่วมกับกองทหารราบที่ 22 ของมิชิแกน จนกระทั่งเมื่อปี 1862 เจ้าหนูได้เข้าสังกัดในกองดุริยางค์ทหาร เขาทำหน้าที่เป็นพลลั่นกองและได้รับเงินเดือนครั้งแรกประมาณ 450 บาท จากนั้นจึงได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมกองทัพอย่างเป็นทางการเมื่อปี 1863 สมรภูมิแรกที่เขาได้มีส่วนร่วมคือสมรภูมิไชโลห์ เขาได้เข้าไปอยู่ในจุดที่มีการปะทะดุเดือนที่สุด และทันใดนั้นเอง บังเอิญมีกระสุนลูกหนึ่งพุ่งมาตกใกล้ๆ เขา แม้เขาจะไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรง แต่สะเก็ดกระสุนก็พุ่งทะลุกลองและปะทะเข้ากับตัวเขาจนสลบเหมือดไป โชคดีเขาถูกช่วยเหลือได้ทันเวลาและถูกนำตัวออกนอกสมรภูมิไป นับแต่นั้นมาเขาก็ถูกตั้งฉายาว่า จอห์นนี่แห่งไชโลห์ (Johnny Shiloh) แต่การต่อสู้ของเจ้าหนูน้อยคนนี้ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ หนึ่งในวีรกรรมอันกล้าหารของเจ้าหนูก็คือการไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของฝ่ายศัตรู ครั้งหนึ่งในสมรภูมิแห่งชิคามัวกา เขาได้เข้าไปอยู่ในกองทหารปืนคาบศิลาแทนการถือกลอง ในระหว่างการสู้รบ…
-
บทเรียนจาก The Rock หมาป่วยเพราะกินเห็ดพิษ พร้อมแนะ 10 อาหารที่หมาควรเลี่ยง
สำหรับใครที่ติดตามอินสตราแกรมของ Dwayne Johnson หรือพี่ The Rock ของเราอยู่ ก็คงจะทราบกันเป็นอย่างดีว่าพ่อหนุ่มกล้ามโตท่านนี้ได้เลี้ยงเจ้าตูบไว้เป็นเพื่อนเช่นกัน!! และเมื่อไม่นานมานี้ก็เกิดเรื่องอันแสนเศร้าขึ้นกับเจ้าตูบของเขา หลังจากที่มันถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนและจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า เพราะดันเผลอกินเห็ดพิษเข้าไป!! สำหรับใครที่เลี้ยงเจ้าตูบอยู่นั้นก็อาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า ไม่ใช่อาหารทุกประเภทหรอกนะที่จะเอาเข้าปากสุนัขได้ และเพื่อเป็นการย้ำเตือนหรือเผื่อใครที่ยังไม่รู้วันนี้เราก็มีอาหาร 10 ชนิดที่ควรเอาออกห่างๆ น้องหมามาฝากกัน 1. ช็อกโกแลต นี่อาจจะเป็นอาหารต้องห้ามพื้นฐานที่คนเลี้ยงสุนัขทุกคนคงจะทราบกันดีอยู่แล้ว สาเหตุที่ทำให้ขนมหวานชนิดนี้เป็นอันตรายสำหรับเจ้าตูบนั่นก็คือส่วนผสมของคาเฟอีนและธีโอโบรมีนที่อยู่ภายในนั่นเอง ซึ่งอาจจะทำให้น้องหมาอาเจียร ชัก และอาจเสียชีวิตได้ 2. ต้นปาล์มสาคู พืชชนิดนี้เป็นอันตรายต่อเหล่าน้องหมาอย่างมาก เพราะเพียงแค่เม็ดเดียวก็อาจทำอันตรายให้กับตับของพวกเจ้าตูบได้แล้ว 3. แป้งโดว์สำหรับทำขนมปัง โดยทั่วไปแล้วกระเพาะอาหารของน้องหมาหรือเจ้าเหมียวนั้นมีอุณหภูมิที่พอเหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของยีสต์ ดังนั้นถ้าหากว่าพวกมันเผลอกินแป้งโดว์สำหรับทำขนมปังหรือยีสต์เข้าไปล่ะก็ อาจจะทำให้เกิดอาการท้องอืด และทำให้เลือดไหลเวียนได้ยาก 4. ฮ็อป สำหรับใครที่กำลังตื่นเต้นกับการทำคราฟเบียร์ล่ะก็ เราขอเตือนให้คุณเก็บฮ็อปเอาไว้ไกลๆ เหล่าเจ้าตูบและน้องเหมียวกันเลย เพราะพืชที่มีกลิ่นหอมนี้อาจจะทำให้พวกมันมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงในระดับอันตรายได้เลย 5. ถั่วแมคาเดเมีย ถั่วแสนอร่อยนี้อาจจะเป็นของโปรดสำหรับใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่สำหรับเหล่าเจ้าตูบแน่ๆ เพราะมันสามารถทำให้พวกน้องหมามีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง อาเจียร และอุณหภูมิร่างกายสูงในระดับอันตรายได้ภายใน 12 ชั่วโมง 6.…
-
มอร์นิ่งของจริง!! คุณย่าวัย 61 ปี ถึงกับอึ้งเมื่อตื่นเช้ามาพบกับฝูงวัวกว่า 40 ตัวอยู่หน้าบ้าน
บางครั้งสิ่งแปลกๆ มักเกิดขึ้นในตอนเช้าในขณะที่คุณกำลังเปิดประตูบ้านเพื่อออกไปทำงาน และสำหรับคุณย่าท่านนี้เองก็มีเช้าอันแสนสดใสที่แปลกๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่เธอพบว่ามีฝูงวัวกว่า 40 ชีวิตออกมาเดินอยู่หน้าบ้าน!! ในขณะที่คุณ Janis Wilson คุณย่าวัย 61 ปี กำลังเตรียมกาแฟสำหรับเช้าวันใหม่ของเธอเสร็จเรียบร้อย และกำลังจะเปิดออกไปสูดอากาศยามเช้าข้างนอก แต่ทันใดนั้นเธอก็แทบสำลักกาแฟทันที เมื่อเจ้าวัวหลายสิบตัวออกมาต้อนรับเธอแต่เช้า มอร์นิ่งจ้าา คุณย่า!! คุณปู่ Steve Loxam คู่ชีวิตของเธอพร้อมกับเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ต้องรีบออกไปต้อนฝูงวัวเพื่อไม่ให้พวกมันเข้ามาในพื้นที่บ้านของพวกเขา และไล่พวกมันให้เดินไปตามถนนจนกระทั่งคุณตำรวจมาถึงในที่สุด คุณย่า Janis เล่าว่า “พวกมันกำลังเดินกินหญ้าที่อยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนนสร้างความวุ่นวายให้กับผู้คนแถวนี้มาก ฉันว่าพวกมันน่าจะมีประมาณ 30-40 ตัว และฉันไม่รู้จริงๆ ว่าพวกมันมาจากไหน” หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึงและสามารถควบคุมฝูงวัวที่กำลังเดินอย่างไร้จุดหมายได้สำเร็จ “เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากหลายๆ คนในเมือง Bollington ว่ามีฝูงวัวออกมาเดินอยู่บนท้องถนน หลังจากที่ตำรวจไปถึง พวกเขาได้ช่วยกันต้อนฝูงวัวทั้งหมดเข้าไปในสนามหญ้า” โฆษกจากสถานีตำรวจ Cheshire กล่าว จะเพลินเกินไปแล้วนะเจ้าวัว!! จนสุดท้ายแล้วก็ยังไม่มีใครทราบว่าฝูงวัวดังกล่าวมาจากที่ไหนและใครเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คงต้องพึ่งพาคุณตำรวจให้สืบหาเจ้าของกันต่อไป โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ที่มา mirror
-
ครอบครัวยูทูบเบอร์ถูกศาลสั่งตัดสินสั่งจำคุก 5 ปี หลังทำคลิปวิดีโอแกล้งลูกแรงเกินเหตุ
บางครั้งการเล่นสนุกก็ควรจะมีขอบเขตและอยู่ในกรอบบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้คุณต้องกลายเป็นผู้ต้องหาแบบครอบครัวนี้ก็ได้!! Michael และ Heather Martin สองสามีภรรยาจากรัฐแมริแลนด์ เจ้าของช่องยูทูบ DaddyOFive ได้ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี หลังจากที่ถูกแจ้งข้อหาทารุณกรรมเด็กเมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยคลิปวิดีโอที่เป็นต้นเหตุเรื่องครั้งนี้ก็คือคลิปวิดีโอที่ใช้ชื่อว่า “Kids Prank” ซึ่งภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นเผยให้เห็นถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับเด็กๆ ในบ้านของเขา ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าสองสามีภรรยานั้นได้ตะคอกใส่พวกเด็กๆ อย่างรุนแรงจนพวกเขาร้องไห้ออกมา และนอกจากนี้ยังมีการลงมือทำร้ายร่างกายเด็กน้อยคนหนึ่งด้วยการผลักจนกระทั่งเจ้าหนูมีเลือดออกที่จมูก ทางสำนักงานตำรวจจาก Frederick County และศูนย์คุ้มครองเด็กภายในพื้นที่รัฐแมรี่แลนด์ จึงได้เริ่มทำการสืบสวนหาข้อเท็จริง หลังจากที่ถูกหลายๆ ฝ่ายร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของสามีภรรยาคู่นี้ คุณ Lindy Angel ผู้ช่วยอัยการเขตกล่าวว่า ทางครอบครัว Martins พร้อมกับเด็กๆ อีก 5 คนได้เข้ารับการประเมินทางด้านจิตวิทยา และพบว่าเด็กน้อย 2 จาก 5 คนนั่นก็คือหนูน้อย Cody วัย 10 ขวบและ Emma วัย 11 ขวบได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจซึ่งเป็นผลมาจากคลิปวิดีโอดังกล่าว นอกจากนี้ในคลิปวิดีโอส่วนใหญ่ของพวกเขาแล้ว เจ้าหนูน้อย Cody มักจะตกเป็นคนที่ถูกด่าและทำร้าย โดยหนึ่งในคลิปวิดีโอที่ถูกลบไปนั้น เผยให้เห็นตอนที่คุณ Heather ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของ Cody และ Emma กำลังด่าเด็กน้อยอย่างรุนแรงหลังจากที่เขาทำหมึกหกใส่พรหม…
-
เอาใจคนรักการอ่านกับ 12 หนังสือชุดน่าสะสม อ่านสนุกไม่รู้จบ หนอนหนังสือควรมีเก็บไว้!!
สำหรับใครที่เป็นหนอนหนังสือตัวจริง การได้ใช้เวลาในวันหยุดกับหนังสือเล่มโปรดสักเล่มนี่มันสวรรค์ชัดๆ และยิ่งถ้าหากได้อ่านนวนิยายดีๆ ซักหนึ่งชุด ก็สามารถนั่งอ่านเพลินๆ ได้ทั้งวันโดยที่ไม่ต้องลุกไปไหนเลยล่ะ ถ้าหากว่าคุณเป็นหนอนหนังสือ รักการอ่าน แต่ไม่รู้ว่าจะอ่านอะไรในช่วงนี้ #เหมียวมู่ทู่ ก็มีหนังสือชุดเหมาะแก่การอ่านและเก็บสะสมไว้มาแนะนำกัน ส่วนจะมีเรื่องไหนที่น่าซื้อมาสะสมบ้างนั้นไปชมกันได้เลย… 1. A Song of Ice and Fire ผู้แต่ง George R. R. Martin (ต้นกำเนิดทีวีซีรีส์ Game of Thrones อันโด่งดัง) ถ้าหากใครที่เป็นแฟนซีรีส์เรื่องดังอย่างมหาศึกชิงบัลลังก์ ขอแนะนำเลยว่าห้ามพลาดหนังสือชุดนี้เด็ดขาด เพราะมันจะทำให้คุณได้รู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่อง 2. Harry Potter ผู้แต่ง J.K. Rowling เรื่องราวของพ่อมดน้อยแฮร์รี่ และการผจญภัยในโลกเวทย์มนตร์ คงไม่ต้องเล่าถึงความสุดยอดของหนังสือเล่มนี้กันให้เสียเวลา เอาเป็นว่าชาวมักเกิ้ลอย่างเราๆ ควรมีเก็บไว้ก็แล้วกัน!! 3. Sherlock Holmes ผู้แต่ง Sir Arthur Conan Doyle เรื่องราวของยอดนักสืบและคู่หูของเขาคุณหมอ จอห์น เอช. วอตสัน ที่จะคอยไขคดีความยากๆ ทั้งสนุกและน่าตื่นเต้น ใครที่ชอบนิยายแนวสืบสวนสอบสวนล่ะก็บอกเลยว่าห้ามพลาด…
-
เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ลั่นไกใส่ท้ายทอยคุณแม่ขณะนอนหลับ เหตุเพราะทะเลาะกันเรื่องหมา
เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้น เมื่อชายหนุ่มวัย 19 ปีได้เกิดความโมโห คว้าอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะของแม่ตัวเองในขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่ หลังจากที่เธอไม่ยอมให้เขาเลี้ยงลูกหมา!! เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา นาย Andrew Wilson ถูกรวบตัวและตั้งข้อหาฆาตกรรมหลังจากที่เขาใช้อาวุธปืนทำร้ายคุณ Lisa Marie Wilson หญิงสาววัย 51 ปีผู้เป็นแม่แท้ๆ ของตัวเอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สัมภาษณ์ว่า เด็กวัยรุ่นคนดังกล่าวเป็นคนโทรแจ้งตำรวจด้วยตัวเอง เมื่อประมาณ 7 โมงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา เด็กหนุ่มในการกับตำรวจว่าเขากลับมาถึงบ้านในตอนเช้าและพบแม่ของตัวเองถูกฆาตกรรมภายในบ้าน จากนั้นตำรวจรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ และพบกับร่างของคุณ Lisa Marie Wilson นอนแน่นิ่งอยู่ภายในห้องของเธอ เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าหญิงวัย 51 ปีถูกยิงเข้าที่ด้านหลังของศีรษะ 1 นัด คุณ Charles Buckland นักสืบจากสถานีตำรวจ Ingham กล่าวว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านของพวกเขาเลยนอกจากเด็กหนุ่มและแม่ของเขา นักสืบ Buckland กล่าวว่า คุณ Lisa Marie Wilson ได้บอกให้ลูกของเธอดูแลและพาเจ้าหมาที่พวกเขาเพิ่งพบในบ้านของพ่อเด็กหนุ่มในเมือง Dansville เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาให้ดี เด็กหนุ่มให้การสารภาพว่าหลังจากในคืนที่ก่อเหตุเขาได้นำปืน .22 แม็กนั่มจากตู้เก็บของออกมา จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องและยิงเข้าที่ด้านหลังของศีรษะคุณแม่ ก่อนที่จะขับรถออกไปเพื่อทำลายอาวุธปืน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเล็ดลอดสายตาของคุณตำรวจไปได้ …
-
นางแบบนู้ดเบลเยี่ยมเกือบถูกจับเข้าคุกอียิปต์ หลังจากถ่ายภาพเปลือยในโบราณสถาน
บางครั้งการถ่ายภาพนู้ดก็มีอะไรที่มากกว่าเรื่องเพศ นอกจากความสวยงามของเรือนร่างนางแบบแล้ว มันยังเปรียบเสมือนกับศิลปะอีกแขนงหนึ่งอีกด้วย แต่บางครั้งการออกไปถ่ายภาพนู้ดนอกสถานที่นั้นก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องได้ เหมือนกับกรณีของนางแบบท่านนี้ คุณ Marisa Papen นางแบบนู้ดชาวเบลเยี่ยมเกือบจะต้องเปลี่ยนที่นอนและย้ายไปค้างคืนในเรือนจำของอียิปต์แล้ว หลังจากที่เธอและทีมงานได้เข้าไปถ่ายแบบในโบราณสถานแห่งหนึ่งของเมือง Luxor นางแบบสาวอ้างว่าการถ่ายภาพเปลือยของเธอนั้นเป็นการปลดปล่อยจิตวิญญาณและเข้าถึงธรรมชาติ เธอและช่างภาพคุณ Jesse Walker ได้เดินทางไปที่ทวีปอเมริกาเหนือเพื่อถ่ายภาพนู้ดในสถานที่อันมีชื่อเสียงของอียิปต์ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโบราณสถานแห่งนั้นจะไม่เข้าใจการปลดปล่อยจิตวิญญาณของเธอ เมื่อเขาได้เข้ารวบตัวเธอและช่างภาพหลังจากที่เห็นถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมนี้ คุณ Papen นั้นเคยเดินทางไปถ่ายรูปนู้ดคู่กับช่างภาพของเธอมาแล้วมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และทริปการถ่ายภาพของเธอก็มักจะจบลงในลักษณะแบบนี้ แม้ว่าเธอจะทราบดีถึงความแตกต่างด้านวัฒนธรรมและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลือยกายในอียิปต์และชาติตะวันตก แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดเธอและช่างภาพคู่ใจได้ หลังจากที่ทั้งคู่เดินทางมาถึงอียิปต์เมื่อประมาณช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา สถานที่แรกที่พวกเขาเลือกก็คือบริเวณหน้าพีระมิด Giza เธอบอกว่าได้ให้เงินใต้โต๊ะกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าไปถ่ายภาพเปลือยในนั้น “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ พวกเราพยายามอธิบายว่าเรามาทำงานศิลปะที่แสดงถึงความเคารพอย่างสูงสุดกับวัฒนธรรมอียิปต์ และจ่ายเงินประมาณ 15 ปอนด์ให้กับพวกเขา” แต่สำหรับการถ่ายภาพในวิหารแห่ง Karnak นั้นไม่ง่ายเหมือนกับการแอบเข้าไปในพื้นที่ของพีระมิด ทั้งคู่ตัดสินใจแอบอยู่ในวิหารจนกระทั่งถึงเวลาปิดทำการ ก่อนที่จะออกมาถ่ายภาพในผลงานชุดตามรอยคลีโอพัตรา และถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าจับกุมตัวและส่งตัวไปยังสถานีตำรวจ โชคดีที่เจ้าหน้าที่ไม่เห็นภาพนู้ดของเธอ เพราะช่างภาพคู่หูของเธอดันลบภาพดังกล่าวไปก่อนที่พวกเขาจะตรวจพบ และในที่สุดตำรวจก็ส่งตัวทั้งสองกลับออกมา “ฉันรู้ดีว่าคุกที่อียิปต์นั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างกับที่เบลเยี่ยม ที่นั่นฉันได้เห็นภาพที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ และโชคดีจริงๆ ที่ไม่ได้ติดอยู่ในนั้น” คุณ Papen กล่าว แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถกู้ไฟล์ภาพที่ลบไปแล้วได้ด้วยโปรแกรมพิเศษเมื่อกลับถึงโรงแรม และก็เป็นโชคดีของเธอกับคู่หูจริงๆ ที่ไม่ต้องย้ายที่นอนในคืนนั้น!! ที่มา dailymail
-
เจ้าหนูวัย 8 ขวบเกือบตาย!! หลังถูกเด็กวัยรุ่น “เหยียดเชื้อชาติ” พร้อมกับจับแขวนคอ
ปัญหาความแตกต่างของเชื้อชาตินั้นดูเหมือนว่านับวันจะมีความรุนแรงมากขึ้น และในครั้งนี้มันได้รุกลามไปถึงเด็กตัวน้อยๆ แล้ว หลังจากที่เจ้าหนูวัย 14 ปี ที่พยายามจะแขวนคอเจ้าหนูลูกครึ่งวัย 8 ขวบ เพียงเพราะว่าเขาเป็นคนละเชื้อชาติกัน เมื่อวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา เด็กชาย Quincy หนูน้อยวัย 8 ขวบถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนพร้อมกับรอยแผลที่คอของเขาหลังจากที่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งพยายามจะแขวนเจ้าหนูไว้กับเชือก คุณ Cassandra ผู้เป็นแม่ของเจ้าหนูได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กของเธอเพื่อประณามการกระทำของเด็กวัยรุ่นคนดังกล่าว “ลูกชายของฉันถูกส่งตัวมาโรงพยาบาล Dartmouth หลังจากที่เด็กไว้รุ่นวัย 14 ปี พยายามที่จะแขวนคอเขา ฉันไม่สนว่านี่มันเป็นอุบัติเหตุหรือไม่ แต่ลูกของฉันเกือบตายเพราะเด็กคนนั้นแล้ว” ส่วนทางด้านคุณ Lorrie Slattery คุณย่าของเจ้าหนูน้อยได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าหลานชายของเธอได้เล่นกับเด็กวัยรุ่นหลุ่มหนึ่งอยู่บริเวณสนามหญ้าเมื่อประมาณ 5 โมงเย็น จากนั้นกลุ่มเด็กวัยรุ่นก็เริ่มล้อหลานชายของเธอเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติและเริ่มเอากิ่งไม้และก้อนหินมาขว้างใส่เขา หลังจากนั้นเด็กคนหนึ่งก็ได้ปีนขึ้นไปบนโต๊ะพร้อมกับแกว่งเชือกเส้นหนึ่งไปมา จากนั้นเด็กชายคนดังกล่าวก็พูดขึ้นมาว่า “ดูนี่!!” พร้อมกับเอาเชือกเส้นดังกล่าวมาพันที่รอบคอของเจ้าหนู Quincy จากนั้นเด็กชายวัยรุ่นคนนั้นจึงถีบเจ้าหนูน้อยลงมาจากโต๊ะพร้อมกับกระตุกเชือกขึ้น!! ถึงแม้ว่ากลุ่มเด็กวัยรุ่นดังกล่าวจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ แต่ทางคุณยายของเจ้าหนูไม่คิดแบบนั้น และเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการจงใจของพวกเขา คุณ Cassandra ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่เธอยอมเผยแพร่ภาพของลูกชายลงบนโลกออนไลน์นั่นก็เพราะว่าเธออยากจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า การเหยียดเชื้อชาติและการเหยียดผิวนั้นยังคงมีอยู่ในสังคม และตอนนี้มันได้รุกลามมาถึงพวกเด็กๆ แล้ว ที่มา dailymail
-
ผู้เชี่ยวชาญศึกษาเหล่า “เศรษฐีอายนุ้อย” เป็นเวลากว่า 5 ปี เพื่อไขเคล็ดลับว่า พวกเขามีอะไรเหมือนกัน!?
ในยุคปัจจุบันเรามักจะเห็นหนุ่มสาวมากมายที่ประสบความสำเร็จกันตั้งแต่อายุน้อยๆ หลายคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีกันตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปีก็มีให้เห็นอยู่มากมาย และแน่นอนว่าพวกเราก็คงอยากจะรู้กันใช่ไหมล่ะว่าวัยรุ่นเหล่านั้นเค้ามีเคล็ดลับอะไรกันนะ?? เมื่อไม่นานมานี้คุณ Thomas C. Corley นักข่าวจาก ฺBusinessinsider ได้สัมภาษณ์เศรษฐีอายุน้อยถึง 233 คน และมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์นั้นสามารถสร้างทรัพย์สินขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเศรษฐีแต่ละคน ที่เข้ามารับการสัมภาษณ์นั้น มีรายได้ขั้นต่ำต่อปีมากกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป และมีทรัพย์สินมากถึงหนึ่งหมื่นล้านบาทเลยทีเดียว!! คุณ Thomas กล่าวว่าเขาได้เรียนรู้จากเศรษฐีหลายๆ คนว่าการประสบความสำเร็จนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน และคุณลักษณะนิสัยก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ ซึ่งหนึ่งในคุณสมบัติที่หลายๆ คนมีนั่นก็คือ นิสัยของการมองไปที่อนาคต นั่นเอง การตัดสินใจและการเลือกทำอะไรบางสิ่งบางอย่างจะส่งผลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของพวกเขา และการเสียสละบางสิ่งบางอย่างในปัจจุบัน เพื่อผลลัพธ์ในอนาคตนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย และอาจต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด บางครั้งพวกเขาอาจจะต้องเสียสละความสุขในปัจจุบันอย่างเช่นการใช้จ่าย การใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อน เพื่อทำตามความฝันของตัวเอง พวกเขาเลือกที่แลกเพราะว่ามันจะได้ในสิ่งที่คุ้มค่า การเลือกที่จะประสบความสำเร็จนั้นคุณจำเป็นจะต้องออกจากพื้นที่ปลอดภัย คุณจะต้องเอาชนะอุปสรรค์มากมายที่เข้ามา และอาจจะมีหลายอย่างที่ไม่เป็นไปตามแผนของคุณ สิ่งที่คุณกำลังตั้งใจอยู่ในทุกวันนี้ส่งผลกระทบกับอนาคตคุณหรือไม่ และสิ่งที่คุณกำลังจะตั้งใจผ่านมันไปให้ได้ในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ มันส่งผลกับอนาคตในระยะยาวของคุณอย่างไร?? สำหรับใครที่กำลังพุ่งเป้าไปที่วันพรุ่งนี้ และเดิมพันกับความสำเร็จในอนาคตของคุณ ซึ่งสิ่งที่ใช้ในการเดิมพันกับอนาคตนั้นอาจจะเป็นเงิน เวลา หรือความสุขทางใจ คุณ Thomas กล่าวว่าเหตุผลที่ทำให้คนส่วนน้อยก้าวขึ้นมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและเป็นคนที่ร่ำรวยนั้นก็เพราะว่าพวกเขากล้าที่จะวางเดิมพันเพื่ออนาคตตัวเอง ซึ่งอันที่จริงแล้วเดิมพันที่ว่านี้อาจจะไม่ใช่เงินที่คุณต้องจ่ายเพียงอย่างเดียว แต่มันคือสิ่งที่คุณแลกมันเพื่อความฝันของตัวเองและเพื่อทำให้ฝันนั้นเป็นความจริงในที่สุด…
-
เก็บตกบรรยากาศงาน Open House ม.กรุงเทพ จัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก จนรู้สึกน่าไปเรียนม๊ากมาก!!
ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงาน Open House ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพประจำปี 2560 เรียกได้ว่างานนนี้ชาว ม.กรุงเทพ เค้าได้ยกมหกรรมความรู้คู่ความบันเทิงมาเสิร์ฟให้น้องๆ นักเรียนแบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว ถึงแม้ว่างานจะผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ความอลังการและนิทรรศการต่างๆ นั้นยังคงเป็นที่พูดถึงกันอย่างไม่ขาดสาย และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพกิจกรรมต่างๆ จากงานวันนั้นมาฝากทุกคนกัน จะอลังกาลงานสร้างแค่ไหนนั้นไปชมกันเลย… เริ่มต้นกันที่โชว์จากคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยวกันที่ยกขบวนพาเรดของหนุ่มหล่อสาวสวยของคณะ มาเดินแฟชั่นโชว์เครื่องแบบอาชีพต่างๆ ให้ผู้ร่วมงานได้ชมกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดเป็นแอร์โฮสเตส สจ๊วตและพนักงานภาคพื้นดิน รวมไปถึงชุด Front Officer ชุดบาร์เทนเดอร์ และชุดเชฟ ที่ขนมากันแบบจัดเต็มสุดๆ หนุ่มหล่อสาวสวยจากที่ออกมาเดินอวดโฉมให้กับน้องๆ ผู้ร่วมงานได้ชมกันอย่างจุใจ ว้าววว!! น้องๆ จากภาควิชาการจัดการธุรกิจสายการบิน ที่มาในชุดของแอร์โฮสเตส สจ๊วตและพนักงานภาคพื้นดิน เท่านั้นยังไม่หมดนะ!! ยังมีชุดเชฟจากน้องๆ สาขาวิชาการจัดการการโรงแรมอีกด้วย ส่วนอีกหนึ่งโชว์ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่แพ้กันเลยนั่นก็คือคณะนิติศาสตร์ ที่งานนนี้พวกเขาได้จำลองการพิจารณาคดีฆาตกรรมสุดระทึกมาให้ชมอย่างสมจริง เพื่อให้น้องๆ ได้สัมผัสบรรยากาศห้องพิจารณาคดีในศาลและการชิงไหวชิงพริบกันเหมือนเป็นหนังแนวสืบสวนเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และเท่านั้นยังไม่พอ ยังมีโชว์ของภาควิชาศิลปะการแสดงที่เนรมิต Black Box Theater โรงละครของคณะนิเทศศาสตร์ ให้กลายเป็นเวทีคอนเสิร์ตแสงสีตระการตา พร้อมกับการแสดงของน้องๆ นักศึกษา เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกรอบการแสดงเพื่อแขกผู้เข้าชมกันเลยทีเดียว การแสดงบนเวทีแบบจัดเต็ม เหมือนกับอยู่ในห้องส่งรายการประกวดร้องเพลงเลยนะเนี่ย นอกจากการแสดงสุดอลังการแล้ว งานนี้ยังมีการขนผลงานทางวิชาการและสิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆ มากมายออกมาให้น้องๆ และผู้ร่วมงานได้ชมกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ได้ขนสุดยอดนวัตกรรมมออกมาแสดงให้เห็นเพียบ ทั้ง ไม้เท้าตาวิเศษสำหรับผู้พิการทางสายตา ที่จะส่งสัญญาณเตือนเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง…
-
หนุ่มออสซี่ เข้าคิวรอกว่า 10 วันเพื่อหวังเป็นเจ้าของ ‘iPhone รุ่นใหม่’ คนแรกของโลก!!
สำหรับใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวงเทคโนโลยีอยู่ตลอด ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าในวันที่ 12 กันยายนนี้จะมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่จากค่ายผลไม้อย่าง Apple นั่นก็คือรุ่น iPhone 8, iPhone 8s และ iPhone X และแน่นอนว่าการที่ได้เป็นเจ้าของคนแรกๆ นั้นก็อาจจะทำให้หลายๆ คนฟินกันสุดๆ เหมือนกับพ่อหนุ่มคนนี้ที่ยอมเข้าคิวรอนานถึง 10 วันเพื่อเป็นเจ้าของโทรศัพท์รุ่นนี้คนแรก!! Mazen Kourouche ชายหนุ่มที่เดินทางมาไกลกว่า 12,000 กิโลเมตร เพื่อเข้าคิวรอซื้อ iPhone X อยู่ที่บริเวณหน้าแอปเปิลสโตร์ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย หนุ่มวัย 20 ปีที่มาเข้าแถวรอเป็นคนแรก!! ชายหนุ่มวัย 20 ปีที่ศึกษาอยู่ในคณะวิศวะกรรมซอฟแวร์ ในมหาวิทยาลัย University of New South Wales เชื่อว่าการรอคอยของเขานั้นจะต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน ซึ่งเขากำลังพยายามเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้คนแรกของโลก เพื่อเหล่าแฟนคลับในช่องยูทูบของเขา “ผมเป็นยูทูบเบอร์ และผมกำลังจะไลฟ์สดเพื่อเหล่าแฟนๆ ของผมที่จะได้เห็นว่าผมได้เป็นเจ้าของ iPhone รุ่นใหม่คนแรก” ชายหนุ่มกล่าว ชายหนุ่มมารออยู่ที่นี่เป็นคนแรก และเขามั่นใจว่าจะไม่ยอมเสียเอกราชของเขาให้ใครแน่นอน “มีบางคนถามผมถึงที่นั่งตรงนี้ และผมก็ตอบพวกเขาไปว่า ได้สิแลกกับเงิน 50,000 เหรียญ…
-
‘Idol School’ รายการเรียลลิตี้โชว์จากแดนกิมจิ ที่ทำให้เห็นว่าการเป็นไอดอลไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ถ้าหากพูดถึงอุตสาหกรรมที่ขึ้นชื่อของประเทศเกาหลี นอกจากซีรีส์แล้วอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนชื่นชอบไม่แพ้กันนั่นก็คือดนตรีป๊อบแบบเกาหลีหรือ K-Pop นั่นเอง อุตสาหกรรมดนตรีจากแดนกิมจินี้สร้างมูลค่าให้ประเทศมากถึง 4.7 พันล้านเหรียญต่อปีเลยทีเดียว และแน่นอนว่าการเป็นไอดอลนี้ก็คงจะเป็นหนึ่งในอาชีพที่ใฝ่ฝันของเด็กสาวหลายๆ คนแน่ๆ แต่กว่าจะได้เป็นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เหมือนกันนะ รายการ Idol School รายการเรียลลิตี้ตามติดชีวิตของเหล่าสาวๆ ระหว่างการแข่งขันในโรงเรียนฝึกไอดอลตลอดระยะเวลา 11 สัปดาห์ โดยในแต่ละวันพวกเธอจะได้ทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเต้น การยิ้ม การควบคุมอาหาร และการฝึกด้านจิตวิทยา รายการดังกล่าวได้ออกอากาศในช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา โดยรายการนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการผลักดันดนตรี K-Pop กลายเป็นปรากฏการณ์ที่โด่งดังไปทั่วโลก ภาพบางส่วนจากรายการที่เผยให้เห็นการฝึกฝนท่าเต้นของพวกสาวๆ ทุกๆ ครั้งของการฝึก จะมีอาจารย์คอยดูแลพวกเธออยู่ ในทุกๆ สัปดาห์จะมีการเปิดให้ลงคะแนนโหวตให้กับสาวๆ แต่ละคน ซึ่งผลคะแนนนั้นก็มีผลในการคัดเลือกผู้ชนะแต่ละสัปดาห์ด้วย ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะได้รับประทานอาหารอย่างดี ที่ทางรายการเตรียมไว้ให้ และแล้วมื้อกลางวันของพวกเธอก็มาถึง หลังจากที่เสร็จจากการรับประทานอาหาร พวกเธอก็ต้องมาเตรียมตัวเพื่อฝึกซ้อมต่อ และเช่นเคยในทุกครั้งที่มีการฝึก จะมีคุณครูคอยสอนและดูแลพวกเธอ โดยจากผู้เข้าแข่งขันทั้ง 41…
-
ร่วมรำลึกเหตุการณ์ 9/11 กับภาพเหตุการณ์วันมหาวิปโยคในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน!!
ถึงแม้จะผ่านมาแล้วกว่า 16 ปี แต่เหตุการณ์ 9/11 นั้นยังคงเป็นภาพเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ยังคงติดอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คนแน่นอน และเพื่อถือโอกาสร่วมไว้อาลัยกับการครบรอบ 16 ปี โศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญครั้งนี้ เราก็มีภาพจากฝีมือของช่างภาพทั้งสมัครเล่นและมืออาชีพผู้บันทึกเหตุการณ์ในวันมหาวิปโยคนั้นไว้ได้มาฝากกัน… 1. ภาพของผู้คนบนถนน Beekman ที่กำลังมองไปยังตึกอีกฝั่งที่กำลังพังทลายลงมา 2. ภาพของเครื่องบินลำที่สองที่กำลังพุ่งเข้าชนตึก South tower 3. ภาพของนักท่องเที่ยวสาวที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน และหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของเธอ 4. ผู้คนกำลังวิ่งหนีฝุ่นควันที่มาจากการถล่มของอาคาร World Trade Center บนถนน Broadway 5. ภาพถ่ายจากอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ตรงข้ามกับตึก เผยให้เห็นกลุ่มควันที่มาจากอาคาร North Tower หลังจากที่ถูกเครื่องบินลำแรกพุ่งชน 6. ชายหนุ่มและงานของเขา 7. เศษซากของอาคาร South Tower ที่ร่วงลงมาบริเวณโบสถ์ Trinity 8. ภาพของอาคาร South Tower ที่กำลังถล่มลงมา 9.…
-
นักสถิติเผย มนุษย์ไม่สามารถมีอายุยืนได้ถึงหมื่นๆ ปี แต่สูงสุดได้แค่ 115 ปีเท่านั้น!!
หนึ่งในคำถามที่หลายๆ คนมักจะสงสัยเกี่ยวกับชีวิตของคนเรา นอกจากตายแล้วไปไหน ก็น่าจะเป็นคำถามที่ว่าคนเราสามารถมีอายุอยู่บนโลกใบนี้ได้นานแค่ไหน และเพื่อเป็นการคลายข้อสงสัยที่ว่านี้ วันนี้เราก็มีผลการศึกษาเกี่ยวกับอายุของมนุษย์ที่น่าสนใจมาฝากกัน จากการศึกษาของ John Einmahl ศาสตราจารย์ทางสถิติได้ชี้ให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมนุษย์เรานั้นสามารถมีอายุยืนได้สูงสุดถึง 115 ปีเลยทีเดียว!! โดยงานวิจัยชิ้นนี้ได้ศึกษาเกี่ยวกับอายุขัยของชาวดัตช์ถึง 75,000 คนในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และพวกว่าจริงๆ แล้วคนเราสามารถมีอายุยืนได้ร้อยกว่าปีเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าในช่วงกว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมาค่าเฉลี่ยของอายุมนุษย์จะมีการเพิ่มขึ้น แต่เขาเชื่อมนุษย์นั้นมีอายุยืนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นอกจากนี้ในการศึกษายังพบว่าผู้หญิงสามารถมีอายุยืนได้ถึง 115.7 ปี ในขณะที่ผู้ชายนั้นสามารถมีอายุยืนได้ที่ 114.1 ปี “โดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์สามารถมีอายุที่ยืนยาว และค่าเฉลี่ยของอายุคนในช่วง 30 ปีที่ผ่านมาก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด คนที่มีอายุยืนที่สุดในตอนนี้ ก็มีอายุพอๆ กับเมื่อ 30 ปีก่อน” ศาสตราจารย์ John Einmahl กล่าว แต่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าคุณปู่ Mbah Gotho จากประเทศอินโดนีเซียท่านหนี่งมีอายุมากถึง 146 ปีเลยทีเดียวโดยจากข้อมูลที่ปรากฎในเอกสารบอกว่าคุณปู่ท่านนี้เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคมปี 1870 แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการพิสูจน์ถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เพราะทางอินโดนีเซียนั้นเพิ่งเริ่มมีการเก็บข้อมูลประชากรเมื่อปี 1900…
-
ช่างสักหนุ่มออกแบบลายสักจากภาพในอตีด เก็บความทรงจำในวัยเด็กไว้บนร่างกาย
รอยสักนอกจากจะเป็นงานศิลปะบนเรือนร่างแล้ว บางครั้งในรอยน้ำหมึกที่อยู่บนร่างกายนั้น อาจบันทึกเรื่องราวที่มีความหมายหรือเป็นภาพที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจให้กับการใช้ชีวิตก็ได้ และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีช่างสักจากเมืองอิสตันบูล ผู้หนึ่งได้เกิดไอเดียเจ๋งๆ โดยการนำภาพที่ย้อนความทรงจำในวัยเด็กของแต่ละคน มาทำเป็นรอยสักจำลองที่เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ในอดีต ภาพบางส่วนจากผลงานของคุณ Alican Gorgu คุณ Alican Gorgu ได้เริ่มนำภาพเก่าๆ มาลดรายละเอียดต่างๆ ลงให้เหลือแต่โครงเส้นหลักๆ นั่นจึงทำให้ผลงานรอยสักที่ออกมานั้นดูมีเอกลักษณ์และสวยงามน่ารักไม่เหมือนใคร ภาพเจ้าตูบ ที่คุณ Alican Gorgu นำมาดัดแปลงและจำลองให้เป็นลายสักที่ดูน่ารักและไม่เหมือนใคร “ผมพยายามจะเข้าใจถึงอารมณ์ของผู้คนที่อยากจะเปลี่ยนภาพความทรงจำในวัยเด็กให้กลายเป็นรอยสักที่เรียบง่ายและมีความหมาย” ช่างสักหนุ่มกล่าว โดยคอนเซ็ปต์หลักในงานของคุณ Gorgu ก็คือความทรงจำของวัยเด็กที่เลือนหายไปนั้น ก็เหมือนกับรายละเอียดของภาพที่ถูกตัดทอนลงไป และเหลือเพียงเส้นโครงไม่กี่เส้นที่ยังคงอยู่กับเราไปตลอดกาลเปรียบเหมือนความทรงจำดีๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่นั่นเอง และนี่คือผลงานจากช่างสักท่านนี้ . . . “ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจดจำในสิ่งที่จำเป็น เพราะว่ามันคือสิ่งที่มีค่ามากๆ และมันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่” คุณ Gorgu สรุป สำหรับใครที่อยากชมผลงานของช่างสักท่านนี้เพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปชมได้ที่อินสตราแกรม pigmentninja ของเขาได้เลย ที่มา sobadsogood
-
รวม 9 หนังดีๆ ที่คุณอาจพลาดไป อย่าเพิ่งร้องไห้ เพราะเว็บ Bright Side เค้ารวบรวมมาให้แล้ว
ในแต่ละปี มีภาพยนตร์มากมายที่ถูกปล่อยออกมาให้พวกเราๆ ได้เลือกชมกัน และแน่นอนว่าคงจะมีหนังดีๆ หลายเรื่องเลยทีเดียวที่เผลอหลุดรอดสายตาพวกเราไป แต่ไม่ต้องเสียใจกันไปหรอก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ทางเว็บไซต์ Bright Side เค้าได้รวบรวม 9 อันดับภาพยนตร์ดีๆ ที่คุณอาจจะพลาดไปมาให้พวกเราได้เลือกไปชมกัน ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้างนั้น ไปชมกันเลย… 1. Café Society เรื่องราวของ Bobby (Jesse Eisenberg) หนุ่มน้อยที่เข้ามาหางานทำในฮอลลีวูด ก่อนที่จะตกหลุมรักกับเรขาสาวของคุณอาและชีวิตที่หรูหรา ทั้งบทหนังและเพลงประกอบภาพยนตร์ทำให้เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องของผู้กำกับอย่าง Woody Allen ที่คุณไม่ควรพลาด 2. The Nice Guys ภาพยนตร์แอ็คชั่น-คอมเมดี้เรื่องเยี่ยมจากฝีมือการกำกับของ Shane Black จาก Iron Man 3 เรื่องราวของคู่หูจำเป็นที่ดูไม่น่าจะไปด้วยกันได้อย่าง Holland March (รับบทโดย Ryan Gosling) นักสืบเอกชน และขาลุยเลือดร้อนอย่าง Jackson Healy (รับบทโดย Russell Crowe) ทั้งคู่ต้องช่วยกันตามหาหญิงสาวที่หายตัวไปอย่างปริศนา 3. Swiss Army Man อีกหนึ่งภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมของพ่อมดน้อยแฮรี่ หรือ Daniel Radcliffe ที่บางคนอาจจะพลาดไป เรื่องราวการเดินทางสุดฮาของชายติดเกาะกับศพพูดได้ ซึ่งความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการคว้ารางวัลในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม จากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ มาแล้วนั่นเอง…
-
Stronger ภาพยนตร์จากเรื่องจริงของชายผู้ถูกระเบิดจนขาขาด ในงานมาราธอนบอสตันปี 2013
สำหรับใครที่กำลังมองหาหนังดีๆ ซักเรื่องไว้ดูกับคนรู้ใจล่ะก็ วันนี้เราขอแนะนำเรื่องนี้เลย Stronger ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของชายหนุ่ม ผู้ตกเป็นเหยื่อระเบิดในการวิ่งมาราธอนที่เมืองบอสตันเมื่อปี 2013 ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 เมษายนปี 2013 ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นระหว่างงานวิ่งมาราธอนในเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคุณ Jeff Bauman ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึง เรื่องราวของคุณ Jeff Bauman (รับบทโดย Jake Gyllenhaal) ชายหนุ่มผู้ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะต้องสูญเสียขาไปทั้งสองข้าง หลังจากที่กำลังวาดอนาคตอันสวยงามกับแฟนสาวของเขา ความฝันทั้งหมดของ Jeff ต้องพังทลายลงไปหลังจากที่ตัวเขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันที่ 16 เมษายน และพบว่าตัวเองได้กลายเป็นคนพิการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่พักรักษาตัวจนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปรกติ Jeff กลายมาเป็นหนึ่งในพยานที่ช่วยเจ้าหน้าที่สืบหาตัวคนร้ายทั้ง 2 ที่ลงมือก่อการร้ายในครั้งนี้ได้ ถึงแม้ว่า Jeff จะต้องสูญเสียขาทั้ง 2 ข้างของเขาไป แต่เขากลับไม่ยอมแพ้ และสามารถเอาชนะร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ได้ เป็นอีกหนึ่งหนังสร้างแรงบันดาลใจที่อยากเชิญชวนทุกคนไปชมกัน . . ไปชมตัวอย่างกันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย เป็นอีกเรื่องที่น่าดูเหมือนกันนะเนี่ย…
-
18 ภาพถ่ายทางทหารที่ได้รับคัดเลือกว่าดีที่สุด จากวันชาติสหรัฐอเมริกาปีล่าสุด
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นวันประกาศอิสระภาพและวันชาติของสหรัฐอเมริกา ในวันดังกล่าวได้มีการจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองกันในหลายพื้นที่ และหนึ่งในผู้ที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับวันสำคัญอย่างนี้ก็คือ เหล่าทหารที่คอยช่วยปกป้องประเทศของพวกเขานั่นเอง และวันนี้เราก็มีภาพถ่ายทางทหารที่ได้รับคัดเลือกว่าดีที่สุด จากวันประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกาปีล่าสุด มาฝากกัน ลองไปชมเลยดีกว่าว่าทหารต่างประเทศเค้าทำอะไรกันบ้าง… 1. ภาพของนายทหารที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหน่วย Black Knights ของฝูงบินขับไล่ยุทธวิธี (VFA) 154, ถ่ายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2017 2. ปืนกลขนาด 0.5 ที่ติดตั้งอยู่บนเรือขีปนาวุธนำวิถี Arleigh Burke – USS Ross (DDG 71) ระหว่างที่กำลังแล่นข้ามมหาสมุทรนอร์เวย์, ถ่ายเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2017 3. เปลวไฟที่ออกมาจากเครื่องบิน Strike Eagle F-15E ระเข้าสนับสนุนปฏิบัติการแก้ปัญหาถาวร (Operation Inherent Resolve), ถ่ายเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2017 4. ลูกเรือของเฮลิคอปเตอร์ MH-60 Jayhawk กับภารกิจช่วยลูกเรือประมงในอลาสก้า, ถ่ายเมื่อวันที่…
-
ชั่วโมงวิทย์กับจารย์เหมียว 14 ภาพอันน่าสนใจ จะเป็นอย่างไร เมื่อสสาร 2 ชนิดมาเจอกัน
ในชีวิตประจำวันของพวกเรามีสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ อย่างเช่นพลาสติกทั้งหลาย เมื่อเจาะลึกลงไปแล้วมันถูกสร้างมาจากสร้างเคมีหลายๆ อย่างนั่นเอง และบางครั้งเมื่อสสาร 2 ชนิดเข้าใกล้กันก็อาจจะทำให้เกิดฏิกริยาเคมีได้ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพของการทำปฏิกริยาเคมีระหว่างสสารทั้ง 2 ชนิดมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ซึ่งแต่ละชนิดนนั้นก็ไม่ธรรมดาเลย ส่วนจะน่าทึงแค่ไหนนั้นไปชมกันได้เลยจ้า… 1. ปรอทและอลูมิเนียม 2. เทเลือดลงบนไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 3. เหล็กในสารละลายจุนสี หรือ คอปเปอร์(II)ซัลเฟต 4. โคล่าและคลอรีนผง 5. การตกผลึกของโซเดียมอะซิเตรต 6. ฟอสฟอรัส กับ ออกซิเจน 7. แกลเลียมและกระป๋องอลูมิเนียม 8. p-Nitroaniline และกรดซัลฟิวริกเข้มข้น 9. ปรากฏการณ์ elephant toothpaste ที่เกิดจากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยมีตัวกระตุ้นคือโพแทสเซียมไอโอไดด์ 10. นี่ก็คือปรกฏการณ์ elephant toothpaste เช่นกัน แต่คราวนี้ใช้ ด่างทับทิมละลายน้ำเป็นตัวกระตุ้นแทน 11. โซเดียมโพลิอะคริเลต (สารดูดซับความชื้น) กับน้ำ 12. แกลเลียมและอินเดียม 13. ไอโซไซยาเนตและโพลีออล…
-
ึระยะทางไม่ใช่ปัญหา!! พบกับ 7 บุคคลที่มีวิธีการเดินทางไปทำงานแบบ ชิคๆ คูลๆ
บางครั้งการเดินทางไปทำงานในแต่ละวันนั้นอาจจะไม่ใช่ปัญหาสำหรับหลายๆ คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆ หรือพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีปัญหาการจราจรสักเท่าไหร่ แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาทางด้านร่างกายหรือใครที่อาศัยอยู่เมืองหลวงแล้วบางครั้งการเดินทางไปทำงานในแต่ละวันนั้นอาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย และวันนี้เราก็มีตัวอย่างการเดินทางจากเหล่าผู้คนที่เลือกวิธีไปทำงานที่แตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนจะมีวิธีการเดินทางไปทำงานอย่างไรกันบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. ชายหนุ่มผู้พายเรือคายัคไปทำงานในทุกๆ วัน สำหรับชาวออฟฟิศในเมืองหลวง การเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนอาจจะเป็นสิ่งที่สะดวกและช่วยประหยัดเงินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทว่าบางครั้งปัญหารถติดก็อาจจะทำให้เราไปถึงที่ทำงานสายได้ง่ายๆ คุณ Zach Schwitzky หนุ่มออฟฟิศท่านนี้จึงเลือกใช้วิธีการพายเรือคายัคข้ามแม่น้ำแมนฮัตตันเพื่อไปทำงานแทนทุกๆ วันเขาจะใช้เวลาพายเรือประมาณ 20 นาทีก่อนที่จะเดินเท้าต่ออีกประมาณ 45 นาทีจนถึงที่ทำงาน 2. หนุ่มเยอรมันที่ว่ายน้ำไปทำงานทุกๆ วัน คุณ Benjamin David หนุ่มเยอรมันวัย 40 ปีผู้เบื่อหน่ายกับปัญหารถติด เขาจึงเลือกใช้วิธีการว่ายน้ำแทน!! ในทุกๆ เข้าเขาจะกระโดดลงแม่น้ำ Isar และว่ายเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรเพื่อไปทำงาน (อ่านข่างเก่า หนุ่มเยอรมันจิตหงุดเงี้ยว ไปทำงานก็รถติดทุกวัน เลยตัดสินใจว่ายน้ำไปออฟฟิศแม่มเลย..!!) 3. ชายหนุ่มที่ลงทุนสร้างเครื่องบินเพื่อย่นระยะเวลาการเดินทาง คุณ Frantisek Hadrava หนุ่มวัย 45 ปีจากหมู่บ้านเล็กๆ ทางตะวันตกของสาธารณรัฐเช็ก ใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อสร้างเครื่องบินลำเล็กที่ชื่อว่าเจ้า Vampira โดยใช้ต้นแบบจากเครื่องบินเล็กของสหรัฐ ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวช่วยให้เขาย่นระยะเวลาการเดินทางลงถึง 7 นาทีเลยทีเดียว!! 4. ชายชาวจีนที่เดินทางข้ามแม่น้ำไปทำงานด้วยไม้ไผ่แค่ท่อนเดียว คุณ Fang…
-
นักโทษกว่า 100 คนในหมู่เกาะ British Virgin หนีออกจากคุกไปได้ หลังเฮอร์ริเคนเออร์มาเข้าถล่ม…
ณ เวลานี้สำหรับใครที่ได้มีโอกาสติดตามข่าวต่างประเทศอย่างใกล้ชิด คงจะทราบกันดีว่าในหลายๆ พื้นที่นั้นกำลังประสบกับภัยพิบัตรทางธรรมชาติอย่างพายุเฮอร์ริเคนอยู่ และหนึ่งในนั่นก็คือหมู่เกาะ British Virgin ด้วย นอกจากอาคารบ้านเรือนต่างๆ จะได้รับอันตรายแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหาใหญ่นั่นก็คือ หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนเออร์ม่าได้พัดเข้าถล่มหมู่เกาะ British Virgin คาดว่ามีนักโทษมากกว่า 100 คนที่อาศัยช่วงจังหวะที่เรือนจำได้รับความเสียหายหลบหนีออกไปได้!! จากการรายงานของ Sky News คาดกันว่านักโทษราวๆ 120 คนได้พากันหลบหนี โดยอาศัยเส้นทางของอาคารที่ได้รับความเสียหาย หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนดังกล่าวได้พัดเข้ามาที่เกาะ Tortola ทางด้านคุณ Paul Exner ผู้ประกอบกิจการด้านเรือสำราญที่อาศัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหล่าผู้ต้องขังที่นั้นถูกคุมตัวด้วยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ แต่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากจนเจ้าหน้าที่ยอมปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยพวกเขาไป หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกไป จึงได้มีการส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสหราชอาณาจักรไปยังในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าไปจัดการและตามตัวของเหล่านักโทษกลับมา โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 นาย พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 53 นาย จากสถานีตำรวจทั้ง 14 แห่ง ได้เดินทางออกจากสนามบิน Brize Norton เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อไปสมทบกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้ว รายงานระบุเป็นการปิดท้ายว่าพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่พัดถล่มทะเลแถบแคริเบียนครั้งนี้ถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุดอีกลูกหนึ่ง ซึ่งมูลค่าความเสียหายบนเกาะ British Virgin ครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านปอนด์ หรือกว่า…
-
‘Vespa TAP 150’ เวสป้ามหาประลัย พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ทำลายได้แม้กระทั่งรถถังหุ้มเกราะ!!
สิ่งที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้อาจจะไม่ใช้รถเวสป้าที่คุณเคยเห็นทั่วๆ ไป แต่มันคือ “Bazooka Vespa” ยานพาหนะที่พร้อมทำลายได้แม้กระทั่งรถถัง!! หลังจากที่เริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตรถบรรทุกและเครื่องบินเมื่อปี 1884 และย้ายฐานการผลิตมาที่เมืองปิซาเมื่อปี 1917 คุณ Rinaldo Piaggio ต้องฟันฝ่าปัญหาและอุปสรรคค์ต่างๆ มากมายจนสามารถก่อตั้งบริษัท Piaggio ขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี 1946 และก้าวมาเป็นบริษัทผลิตสกู๊ตเตอร์ชั้นนำของอิตาลี สกู๊ตเตอร์ของ Piaggio นั้นถูกผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1944 ในชื่อรุ่น MP5 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Paperino ก่อนที่รุ่นถัดมาจะมีการพัฒนาขึ้นใหม่ในชื่อรุ่น MP6 และเรียกสกู๊ตเตอร์รุ่นนั้นว่า Vespa ซึ่งในภาษาอิตาเลี่ยนนั้นแปลว่า ตัวต่อนั่นเอง จากนั้นพวกเขาจึงมีการพัฒนาสินค้าขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้รับความนิยมอย่างมาก และแล้วด้วยความแข็งแรงและทนทานของมัน ทำให้เป็นที่ถูกใจกองทัพฝรั่งเศสอย่างมาก พวกเขาสั่งซื้อรถ Vespa TAP 150 ในช่วงปี 1950 เพื่อนำไปใช้ในกองทัพ รถ Vespa TAP 150 นั้นถูกผลิตขึ้นโดยบริษัท Ateliers de Construction de Motocycles et Automobiles (ACMA) ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้ซื้อลิขสิทธิ์ของทางบริษัทแม่…
-
จากการเดินทางรอบโลก ของเด็กหนุ่มวัย 15 ปี คือแรงบันดาลใจสู่ Tintin ที่ตีพิมพ์กว่า 200 ล้านเล่ม!!
สำหรับใครที่ชื่นชอบการอ่านวรรณกรรมสำหรับเด็ก คงจะคุ้นเคยกับเจ้าหนู Tintin กันเป็นอย่างดี หนุ่มน้อยผู้ทำหน้าที่เป็นนักข่าวสายสืบสวนสอบสวนที่มาพร้อมกับเจ้า Snowy หมาน้อยคู่ใจ ที่พร้อมออกไปผจญภัยและสืบหาความจริงกับเขาทุกๆ ที่ Tintin และ Snowy ออกปรากฎตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มกราคมปี 1929 ในหน้าเสริมสำหรับเด็กของหนังสือพิมพ์ Le Vingtième Siecle จากนั้นเขาและเจ้าตูบก็กลายเป็นที่นิยมอย่างมาก จนกระทั่งกลายมาเป็นหนังสือนิยาย การ์ตูนและ ภาพยนตร์ในที่สุด Tintin และเจ้า Snowy Georges Prosper Remi หรือรู้จักกันในนามปากกา Hergé ได้เริ่มให้กำเนิดตัวการ์ตูนนี้ในปี 1929 และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมคอมมิคในยุโรป ตั้งแต่ปี 1929 การ์ตูนในชุด Tintin ผจญภัยนั้นถูกตีพิมพ์มาแล้วมากว่า 200 ล้านเล่ม และกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคอมมิคอีกหลายเรื่อง ซึ่งแรงบันดาลใจจากการเขียนเรื่องราวของ Tintin นั้นยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า Hergé นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหนกันแน่ บางคนก็บอกว่าเป็นนักข่าวชื่อดัง แต่ส่วนมากแล้วกลับยอมรับว่ามาจากเรื่องราวของเจ้าหนู Palle Huld เด็กหนุ่มชาวเดนมาร์กวัย 15 ปีมากกว่า โดยก่อนหน้าที่ Tintin จะออกมาปรากฎตัวในหนังสือพิมพ์ Le Vingtième Siecle…
-
สาวแชมป์โลกด้านความจำ สามารถจำแคตตาล็อก IKEA ทั้งหมด 328 หน้าได้ภายใน 1 สัปดาห์!!
บางครั้งการจดจำเรื่องราวต่างๆ อาจจะเป็นปัญหาสำหรับใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่กับ Yaanja Wintersoul สาววัย 23 ปีแชมป์โลกด้านความจำถึง 2 สมัยคนนี้แน่ๆ เพราะล่าสุดเธอเพิ่งใช้เวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์ก็สามารถจดจำทุกอย่างที่อยู่ในแคตตาล็อกของ IKEA กว่า 328 หน้าได้แล้ว!! Yaanja เล่าว่า “IKEA ได้ส่งแคตตาล็อกของปี 2018 มาให้ฉัน และท้าให้ฉันจำสิ่งที่อยู่ภายในให้ได้ทั้งหมดภายใน 1 อาทิตย์” ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ชื่นชอบความท้าทาย หญิงสาวจึงตอบรับคำท้านั้น เธอเริ่มเปิดแคตตาล็อกทีละหน้า จากนั้นก็เริ่มใช้เทคนิคการจำของเธอ จนในที่สุดแชมป์โลกด้านความจำก็ใช้เวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น สามารถจดจำรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ได้ทั้งหมด!! นอกจากสินค้าทั้งหมดกว่า 4,818 รายการแล้ว Yaanja ยังสามารถจำคุณสมบัติการใช้งาน ราคา หรือแม้แต่ของตกแต่งต่างๆ ที่อยู่ในหน้าแสดงสินค้านั้นๆ ได้อีกด้วย ทีมงานจากเว็บไซต์ Mashable ก็ได้ร่วมทำการทดสอบเกี่ยวกับความจำของเธอ โดยถามเกี่ยวกับรายละเอียดแคตตาล็อกในหน้า 92-93 จากนั้นเธอก็ตอบมาว่า “มันคือห้องครั้ว ที่มีชั้นวางติดกับผนัง มีพื้นกระเบื้องลายตารางหมากรุกและมีถังขยะ…
-
19 ภาพของคนที่มีสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน มากกว่า 3 ตัวขึ้นไป งานนี้จะหฤหรรษ์แค่ไหนกันนะ!?
การมีสัตว์เลี้ยงไว้ที่บ้าน นอกจากจะช่วยคลายเหงาได้เป็นอย่างดีแล้ว บางครั้งพวกมันยังทำให้เรามีความสุขได้อีกไม่น้อยเช่นกัน สำหรับบางคนนั้นก็อาจจะตกหลุมรักเหล่าน้องหมาและเจ้าแมว จนบางครั้งเมื่อรู้ตัวอีกทีที่บ้านก็กลายเป็นฟาร์มสัตว์ไปเรียบร้อยแล้ว ฮ่าๆ และสำหรับใครที่มีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 3 ตัวขึ้นไปก็คงจะเข้าใจความรู้สึกจากภาพที่เรานำมาฝากกันวันนี้ได้เป็นอย่างดีแน่ๆ 1. คุณลุงและเจ้าหมาไซบีเรียน ฮัสกี้หลายตัว งานนี้บอกได้คำเดียวเลยว่าปวดหัวแน่นอน!! 2. เจ้าเหมียวทั้ง 3 และเจ้าตูบอีกหนึ่ง ที่คอยดูแลเจ้านายของมัน 3. บ้านใครที่มีสภาพแบบนี้บ้าง ยอมรับมาซะดีๆ นะ!! 4. เอาโซฟาชั้นคืนมานะเจ้าตูบ!! 5. เจ้านายๆ พวกเรายังไม่ได้กินข้าวเลยฮะ!! 6. สำหรับคุณผู้ชายที่มีน้องหมามากกว่า 3 ตัว คงจะเข้าใจสภาพนี้ดี 7. จะไปไหนหรอครับเจ้านาย?? 8. เลี้ยงสัตว์ไว้หลายๆ ตัวมันก็ดีแบบนี้นี่เอง มีทั้งหมอน มีทั้งผ้าห่ม!! 9. รออยู่น้าา เมื่อไหร่จะเสร็จ?? 10. ความสงบที่มีอยู่จริง ฮ่าๆ …
-
คุณพ่อสร้างอ่างแช่น้ำส่วนตัวในบ้านสำหรับลูกสาวตัวน้อย ด้วยงบแค่ 8,000 บาท!!
สำหรับใครที่กำลังมองอ่างแช่น้ำกลางแจ้งดีๆ ไว้ที่บ้าน แต่บังเอิ๊ญบังเอิญว่างบประมาณดันมีจำกัด อย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะวันนี้เรามีวิธีการสร้างอ่างน้ำกลางแจ้งแบบเจ๋งๆ มาฝากกัน เอาไว้เป็นไอเดียสำหรับใครที่กำลังอยากได้อ่างน้ำส่วนตัวไว้ที่บ้าน คุณ Steve Grogan จากเมือง Redditch ประเทศอังกฤษ ได้ใช้วัสดุที่หาได้ไม่อยาก อย่างโครงเหล็ก ผ้าใบ อ่างว่ายน้ำเก่า และไม้อัด ในการสร้างอ่างแช่น้ำส่วนตัวไว้กลางแจ้ง คุณ Steve ใช้เวลาในช่วงวันหยุด กับลูกสาววัย 5 ขวบของเขาในการสร้างอ่างน้ำส่วนตัวที่ว่านี้ “เรามีอ่างว่ายน้ำเล็กๆ ที่ไม่ได้ใช้อยู่ในห้องเก็บของ และผมคิดว่าเราน่าจะเอามันมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง” คุณ Steve กล่าว โครงไม้ เหล็ก และแผ่นผ้ายางเก่า ถูกนำมาสร้างเป็นโครงสำหรับอ่างแช่น้ำส่วนตัวของคุณพ่อ คุณพ่อบอกว่าเขาไม่ได้มีแบบแปลนของอ่างแช่น้ำนี้ที่ตายตัว หลังจากที่ขึ้นโครงเรียบร้อยแล้วคุณ Steve ได้ตัดสินใจทำด้านขอบของอ่างน้ำให้กว้างนิดหน่อยเพื่อความเหมาะสม จากนั้นเขาจึงเริ่มทำในส่วนของหลังคา และเริ่มมุงกระเบื้องจากนนั้นไม่นานอ่างแช่น้ำของเขาก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น “ผมใช้เวลทำมันแค่ในวันหยุด และได้ลูกสาววัย 5 ขวบคอยหยิบอุปกรณ์ให้ ผมใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ก็สามารถทำมันเสร็จเรียบร้อย” และแล้วอ่างน้ำของคุณ Steve และลูกสาวเขาก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง นอกจากนี้คุณพ่อ ยังได้ติดตั้งตัวกรองน้ำและระบบทำความร้อนให้อ่างแช่น้ำของเขาอีกด้วย โดยทั่วไปแล้วอ่างแช่น้ำแบบนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงมาก แต่คุณ Steve…
-
เมื่อผลงานมือบอนบนผนัง ถูกนำมาปรับฟร้อนท์ให้อ่านง่ายชัดเจน ดูแล้วสบายตาขึ้นเยอะ!!
จริงๆ แล้ว ศิลปะกราฟฟิกตี้กับความมือบอนนั้นมีเส้นบางๆ กันอยู่ บางครั้งคำที่ถูกพ่อนออกมาลอยๆ และไม่ได้มีการแต่แต้มให้ดูสวยงามก็อาจจะไม่ถูกเรียกว่าศิลปะแบบกราฟฟิกตี้ ซึ่งนอกจากจะไม่สวยงามแล้วยังดูเหมือนจะหนักไปทางสกปรกอีกด้วย และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีศิลปินชาวฝรั่งเศสท่าหนึ่งชื่อว่าคุณ Mathieu Tremblin ได้นำภาพของตัวหนังสือยึกยือเหล่านั้นมาปรับฟร้อนท์เสียใหม่ ให้อ่านง่ายและเข้าใจคำที่พี่ๆ จอมพ่อนเค้าอยากจะสื่อออกมากันได้สะดวกยิ่งขึ้น และนี่ผลงานบางส่วนของศิลปินท่านนี้ที่เรานำมาฝากกัน จากคำที่อ่านย๊ากยาก คุณ Mathieu ก็ปรับซะใหม่ ให้สามารถอ่านได้ง่ายยิ่งขึ้น!! . แต่ถึงจะอ่านง่ายขึ้นแค่ไหน ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่พี่เค้าจะสื่อกันอยู่ดีล่ะนะ ฮ่าๆ . . ของเก่าที่ถูกทาสีทับ และปรับตัวหนังสือซะใหม่ . อื่ม… ช่างเป็นงานศิลปะที่เจ๋งและแปลกไม่น้อยเลยนะเนี่ย!! ที่มา boredpanda
-
เลาจน์แบบโคตรวีไอพี ของสนามบิน LAX กับค่าบริการครั้งละ 70,000 บาท ไม่รวยพอคงขอเลี่ยง
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบการบริการระหว่างการเดินทางที่แสนสบายล่ะก็ ไม่แน่คุณอาจจะชื่นชอบเลาจน์วีไอพีสุดหรูจากสนามบินนานาชาติ Los Angeles ที่กำลังจะได้ยลโฉมต่อไปนี้ ห้องรับรองส่วนตัวระดับไฮคลาสที่เพิ่งเปิดให้บริการในสนามบินนานาชาติ Los Angeles เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ ทางสนามบินได้เตรียมไว้สำหรับให้บริการผู้โดยสารในระดับชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่ง โดยภายในห้องรับรองจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่เพรียบพร้อมเหมือนอยู่บ้านกันเลยล่ะ โดยสนนราคาเริ่มต้นสำหรับค่าบริการต่อครั้งนั้นอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท โดยสิ่งที่แขกระดับวีไอพีจะได้รับก็คือ การเชคอินและการตรวจสอบความปลอดภัยของด่านศุลกากรแบบส่วนตัว จากนั้นพวกเขาจะมีรถ BMW มารอรับเพื่อไปส่งยังห้องรับรองสุดหรู หรือถ้าหากว่าคุณอยากจะเลือกจ่ายแบบรายปี ที่นี่ก็มีให้บริการเหมือนกัน โดยจะคิดค่าบริการรายปีอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาท แต่สำหรับสมาชิกรายปีนั้นจะมีบริการพิเศษให้ อย่างเช่นบริการนวดฟรีก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งค่าธรรมเนียมในการใช้บริการต่อครั้งก็จะอยู่ในช่วงราคา 70,000 – 140,000 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทห้องรับรองที่คุณเลือกด้วย โดยจะมีทั้งแบบเป็นส่วนตัวและแบบแชร์ห้องร่วมกับลูกค้ารายอื่น คุณสามารถหลีกเลี่ยงปัญหารถติด และเดินทางไปยังสนามบินด้วยบริการรถยนต์ส่วนตัว . สนามบินจะเป็นผู้ให้บริการนี้ด้วยตัวเอง โดยได้รับความร่วมมือในด้านความปลอดภัยและการบริการระดับวีไอพีจากบริษัทชั้นนำ มีช่องบริการเช็คอินและการตรวจสอบความปลอดภัยของด่านศุลกากรแบบส่วนตัว คุณแทบจะไม่ต้องรอคิวใดๆ เลย ในส่วนของห้องรับรองสุดหรู ที่สามารถรองรับแขกได้มากถึง 10…
-
หนุ่มบรรจงวาดภาพ ‘ภรรยาตัวเอง’ ในอริยาบทของทุกวัน เพื่อมอบเป็นของวัญวันเกิดสำหรับเธอ
การจดจำวันพิเศษของภรรยาให้ขึ้นใจนั้นเป็นสิ่งที่คุณสามีหลายๆ ท่านจำเป็นต้องทำ เพราะเมื่อไหร่ที่เธอดันถามคุณว่าวันนี้วันอะไร แล้วคุณเกิดอ้ำอึ้งไปสัก 3 นาที หรือถ้าตอบไม่ถูกนะคุณเอ๊ย… ไม่อยากจะนึกภาพตามเลย แต่นอกเหนือจากจะจำวันสำคัญต่างๆ ได้แล้ว การเตรียมของขวัญสุดพิเศษเพื่อมอบให้กับเธอ ก็เป็นอีกสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยทีเดียว และวันนี้เราก็มีของขวัญจากศิลปินหนุ่มท่านหนึ่งที่ได้มอบให้กับภรรยาของเขามาฝากกัน ซึ่งบอกเลยว่าของขวัญชิ้นนี้ไม่ธรรมดาและไม่เหมือนใครเลยจริงๆ คุณ Ben Pannell นักวาดภาพประกอบที่อาศัยอยู่ในเมืองฟิลาเดลเฟีย ได้ลงมือทำของขวัญสุดพิเศษนี้เพื่อมอบให้กับคุณ Adrienne ผู้เป็นภรรยาในวันเกิดของเธอ “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ผมต้องการจะมอบภาพทั้งหมดนี้ให้เธอด้วยตัวเอง มันตื่นเต้นมากๆ เลยล่ะ” นักวาดภาพประกอบหนุ่มกล่าว ศิลปินหนุ่มได้เริ่มวาดภาพเหล่านี้เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเขาได้ใช้ฝีมือการวาดภาพและโปรแกรมต่างๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานถึง 3 โปรแกรมด้วยกัน นั่นก็คือโรปแกรม Adobe Photoshop, Illustrator CS6 และ Clip Studio Paint โดยคุณ Ben Pannell ได้เริ่มร่างภาพของภรรยาเขาลงในโปรแกรม Clip Studio ก่อน เพื่อให้ได้ลายเส้นที่สวยงามและดูนุ่มนวล และเริ่มวาดจริงๆ ใน Photoshop ก่อนที่จะลงรายละเอียดต่างๆ ด้วยโปรแกรม Illustrator ภาพของคุณ Adrienne และท่าทางของเธอจะเปลี่ยนไปทุกๆ วัน ซึ่งทั้งหมดนั้นจะมาจากจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินหนุ่ม “ผมตื่นขึ้นมาวาดภาพของเธอในทุกๆ…
-
หนุ่มเจ้าของสุนัขอ้าง บริษัทขนส่งทำสุนัขตายระหว่างทาง แต่พบ ‘ยาเกินขนาด’ ในกระเพาะ…
กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ในขณะนี้เลยล่ะ เมื่อสัตวแพทย์ท่านหนึ่งได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของน้องหมา หลังจากที่เจ้าของนำมันมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา คุณ Jakkarin Riangngoen ได้เล่าถึงเหตุการณ์การเสียชีวิตอย่างผิดปกติ ของสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน วัย 7 เดือน น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ที่เจ้าของสุนัขนำมาให้สัตวแพทย์ตรวจร่างกายของน้องหมา หลังจากที่เดินทางมาพร้อมกับบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง โดยคุณ Jakkarin Riangngoen ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า สัตวแพทย์ท่านหนึ่งได้รับกระเป๋าน้องหมามาจากเจ้าของซึ่งเป็นนักศึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจ แต่เมื่อเปิดกระเป๋าดังกล่าวกลับพบว่าน้องหมาได้เสียชีวิตไปแล้ว พร้อมพบยาน่าสงสัยตกอยู่ในกระเป๋า 1 เม็ด ยาหนึ่งเม็ดที่ตกอยู่ในกระเป๋า เบาะแสความผิดปกติที่เริ่มก่อตัวขึ้น จากนั้นเมื่อทางสัตวแพทย์ผู้ทำการตรวจได้แจ้งกับเจ้าของว่าน้องหมาได้เสียชีวิตแล้ว ทางเจ้าของก็ได้เดินออกไปเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกับบริษัทขนส่ง โดยชี้ชัดว่าเป็นความผิดของบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง แต่เพื่อความกระจ่างในกรณีนี้ ทางบริษัทขนส่งจึงได้ขอให้ทางโรงพยาบาลทำการผ่าพิสูจน์ซากน้องหมาเพื่อหาสาเหตุการตาย ก่อนการผ่าพิสูจน์ทางสัตวแพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายภายนอก และพบคราบสีชมพูในซอกฟันน้องหมา และเมื่อเริ่มทำการผ่าแล้ว ก็พบว่าในกระเพาะของเจ้าตูบนั้น มีเม็ดยาเป็นจำนวนมาก คราบสีชมพูที่สัตวแพทย์พบ หลังจากนั้นไม่นานทางเจ้าของสุนัข ได้โทรมาถามการผ่าน้องหมากับทางโรงพยาบาล พร้อมกับบอกว่าเม็ดยาในกระเพาะน้องหมานั้นเป็นวิตามิน แต่เมื่อทางโรงพยาบาลถามถึงขวดยาเพื่อยืนยัน ทางเจ้าของก็ได้บอกว่าทิ้งขวดดังกล่าวไปหมดแล้ว พร้อมกับขอให้เขียนผลชันสูตรว่าไม่พบสาเหตุการตาย แต่ทางโรงพยาบาลไม่สามารถทำตามที่เจ้าของขอร้องได้ จึงได้แจ้งผลชันสูตรไปว่าน้องหมาเสียชีวิตเพราะได้รับยาเกินขนาด พร้อมกับแจ้งผลการตรวจให้กับบริษัทขนส่งทราบ เม็ดยาที่พบในกระเพาะน้องหมา ตอนนี้ทางคุณ Jakkarin Riangngoen ยังคงอัพเดทสถานการณ์ของเจ้าของสุนัขท่านนี้บนเฟซบุ๊กของเขาเรื่อยๆ…
-
ทางการญี่ปุ่นเลือกใช้ ‘อนิเมะ’ เพื่อโปรโมทเข้าถึงผู้คน ให้มาเข้าร่วมกองกำลังป้องกันตนเอง!!
ประเทศญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีความคิดสร้างสรรค์มากที่สุดประเทศหนึ่ง และบ่อยครั้งที่พวกเรามักจะเห็นชาวแดนปลาดิบนั้นหยิบเอาวัฒนธรรมเจ๋งๆ ของพวกเขามาใช้ในการโปรมทกิจกรรมต่างๆ อย่างล่าสุดนี้ที่พวกเขาเลือกที่จะใช้การ์ตูนอนิเมะ เพื่อประกาศรับสมัครบุคคลมาเข้าร่วมกองกำลังป้องกันตนเอง หรือ Japan’s Self-Defense Forces (JSDF) และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางการญี่ปุ่นได้นำไอเดียนี้มาใช้ประกาศรับสมัครคนเข้ากองกำลังป้องกันตนเอง เพราะเมื่อประมาณปีที่แล้ว พวกเขาได้มีการโฆษณาเชิญชวนในลักษณะนี้มาก่อน และในปี 2017 นี้ ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับการ์ตูนเรื่องใหม่!! อนิเมะชุด The Irregular at Magic High School (พี่น้องปริศนาโรงเรียนมหาเวท) ที่ใช้ในการโปรโมทครั้งนี้ โดยตัวเอกของอนิเมะเรื่องนี้มีชื่อว่า Tatsuya Shiba ตัวละครหนุ่มที่ออกมาพร้อมกับคาร์แรคเตอร์ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีข้อความเล็กๆ ใต้รูปพระเอกของเราอีกด้วย โดยสโลแกนดังกล่าวแปลเป็นไทยว่า “ปกป้องปัจจุบัน ปกป้องอนาคต กองกำลังป้องกันตัวเองกำลังต้องการคุณ!!” ซึ่งเนื้อเรื่องของการ์ตูนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 3 ระหว่างกองทัพจากอเมริกาเหนือ สหภาพโซเวียตใหม่ และฝ่ายพันธมิตรเอเชีย โดยทางญี่ปุ่นเองก็กำลังพยายามรักษาเสถียรภาพของประเทศ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นั้นสามารถใช้พลังเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่งได้ เรื่องที่ใช้โปรโมทของปีที่ผ่านมาก็คือเรื่อง GATE ในส่วนของเนื้อเรื่องอนิเมะ GATE ที่เคยปล่อยออกมานั้น ได้พูดถึง Takumi เด็กมัธยมปลายผู้เป็นตัวเองของเรื่องนี้ ที่ต้องการจะพิสูจน์ตนเองให้กองกำลัง JSDF ได้เห็นถึงศักยภาพของเขา ถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะมีอายุไม่ถึงเกณฑ์ แต่ทว่าหัวใจและร่างกายนั้นก็พร้อมสำหรับการรับใช้ชาติแล้ว ไปชมตัวอย่างของอนิเมะใหม่ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่ทางการญี่ปุ่น…
-
สิงโตหนุ่มถึงกับเซ็ง เมื่อเจ้าแรดจอมยุ่งดั๊นเข้ามาขัดจังหวะ ขณะฟีทเจอริ่งกับแฟนสาว…
เรื่องราวฮาๆ นี้เกิดขึ้นที่แอฟริกาใต้ เมื่อภาพจากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นเจ้าแรดตัวหนึ่งที่เข้าไปขัดจังหวะของสิงโต 2 ตัวที่กำลังจะทำการรวมร่างเพื่อเป็นหนึ่งเดียว ทำเอาพี่สิงโตหนุ่มของเราถึงกับเซ็งเลยทีเดียว!? หลังจากที่เห็นเจ้าแรดพุ่งเข้ามาแล้ว ทันใดนั้นสิงโตหนุ่มสาวทั้งสอง ก็ต้องหยุดทำกิจกรรมเข้าจังหวะของพวกมันทันที และกระโดดแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง แต่ดูเหมือนว่าพี่แรดของเราจะยังไม่พอใจ มันยังคงไล่เจ้าสิงโตคู่นี้ให้ออกไปให้ไกลกว่านี้ การได้ทำลายความสุขของคนอื่น อาจจะเป็นความชอบของพี่แรดตัวนี้ก็เป็นได้ เพราะหลังจากที่สิงโตทั้งสองแยกย้ายกันนั้น เจ้าแรดก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้รักสิงโตต้องมานั่งมองหน้ากันแบบงงๆ แต่เมื่อตัวขัดจังหวะได้ออกไปจากชีวิตเจ้าสิงห์ทั้งสอง พวกมันก็เริ่มบรรเลงบทเพลงรักกันต่อในยกที่ 2 และก็เป็นฝ่ายสิงโตตัวเมียที่ขึ้นนำไปก่อน 1 แต้ม ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายบ้านใครบ้านมัน… ฮั่นแน่!! ทำอะไรกันน่ะ?? พวกเอ็งจะมาทำแบบนี้ไม่ได้นะ!! เจ้าแรดพยายามจะไล่เจ้าสิงโตตัวผู้ให้ออกไปไกลๆ หลังจากที่แรดจอมยุ่งจากไป พวกมันก็เริ่มปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อ ก่อนที่จะลงเอยด้วยแต้มนำของฝ่านหญิง ไม่มีอะไรจะทำลายความรักของพวกแกได้จริงๆ เลยสินะพี่สิงโต ที่มา dailymail
-
ความน่ากลัวของแบคทีเรียและพยาธิทั้ง 5 ชนิด มาพร้อมกับความสยดสยองจนคุณรู้สึกขนลุก…
พยาธิอาจะเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการเจ็บป่วยต่างๆ และบางครั้งพวกมันก็อาจจะอยู่ใกล้ๆ ตัวคุณก็ได้เกินกว่าที่คุณคิดก็ได้ ศาสตราจารย์ James Maguire ศาสตราจารย์ทางด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์ BuzzFeed ไว้ว่า บางครั้งอาหารและน้ำดื่มก็อาจเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อจากพวกวายร้ายตัวเล็กเหล่านี้ และวันนี้เราก็จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับเหล่าปรสิตจอมวายร้ายทั้ง 5 ชนิด ที่ต้องขอบอกไว้เลยว่าแต่ละประเภทนั้นอันตรายสุดๆ 1. พยาธิในสมอง พยาธิชนิดนี้สามารถพบได้ในเขตร้อนชื้น อย่างเช่นในทวีป เอเชีย ออสเตรีเลีย กลุ่มประเทศในแถบแคริบเบียน และในหมู่เกาะแปซิฟิก ศาสตราจารย์ Sue Jarvi จากมหาวิทยาลัยฮาวายกล่าวว่า เจ้าพยาธิเหล่านี้จะติดอยู่ในตัวของหอยทาก และพวกมันอาจจะออกมาพร้อมกับเมือกของหอยทากและติดอยู่ที่ใบของพืชผัก จากนั้นจะเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์และไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายตามกระแสเลือดจนกระทั่งเข้าไปอยู่ในสมอง ความผิดปกติของร่างกายนั้นอาจเกิดได้หลายอาการ ตั้งแต่อาการปวดท้อง ยกแขนลำบาก ไปจนกระทั่งถึงขั้นเนื้อเยื่อสมองอักเสบเลยทีเดียว 2. เชื้ออะมีบาในสมอง โดยปรกติแล้วเจ้าสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวนี้จะอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำจืด และมันมักจะเข้าสู่ร่างกายของเราทางปากและจมูก จากนั้นจะตรงไปที่สมองเพื่อทำลายเนื้อเยื่อและทำให้เกิดอาการสมองอักเสบ ส่วนอาการหลังจากที่เจ้าพวกมันเข้าไปในร่างกายแล้ว จะเริ่มต้นจากการมีไข้ รู้สึกคลื่นไส้ และอาจรุนแรงถึงขั้นโคม่าได้เลยทีเดียว โดยจากสถิติพบว่ามีผู้รอดชีวิตเพียงแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น พวกปรสิตเหล่านี้อาจจะพบได้ยาก แต่จากการรายงานของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 1962…
-
รถพังแต่หน้าไม่พังนะคะ!! สาว “อวดหน้าแบบจัดเต็ม” หลังประสบอุบัติเหตุรุนแรง
สำหรับใครที่เป็นแฟนละครไทย อาจจะคุ้นเคยกับความตะขิดตะขวางใจของการแต่งหน้าแบบจัดเต็มในทุกๆ เวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนตื่น ตอนนอน ตอนเข้าโรงบาล หรือบางทีอุบัติเหตุรุนแรงๆ ก็ไม่อาจจะทำให้สีลิปติกของพวกเธอหลุดได้เลย แต่ก็ใช้ว่าเรื่องแบบในละครนี้ใช่ว่าจะเกิดขึ้นจริงไม่ได้นะเออ!! เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ภาพของเธอระหว่างที่กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากประสบอุบัติเหตุรถชน พร้อมกับใบหน้าแบบจัดเต็ม แค่รถชน ทำอะไรมาสคาร่าฉันไม่ได้หรอก!! Alice Brewer สาวน้อยวัย 19 ปี บอกกับผู้สื่อข่าวว่าเธอขับรถมาด้วยความเร็วกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และชนประสานงาเข้าอย่างจังกับรถอีกคันหนึ่ง จนเป็นเหตุให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาล แพทย์รีบสวมอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้เธออย่างเร่งด่วน จากการวินิจฉัยของแพทย์พบว่าเธอได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง ทั้งกระดูกไหปลาร้าและกระดูกหน้าอกหัก แต่อย่างหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุเลยนั่นก็คือเครื่องสำอางของเธอนั่นเอง อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนครบรอบวันเกิดอายุ 19 ปีของเธอ หญิงสาวได้อัพภาพของเธอระหว่างการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพร้อมกับข้อความตลกๆ ว่าเครื่องสำอางบนใบหน้าของเธอยังแข็งแรงกว่ากระดูกซะอีก “ใบหน้าของฉันเหมือนมีถุงลงนิรภัยคอยช่วยอยู่ และหน้าฉันก็ยังคงดูสดใสอยู่ถึงแม้ว่ามันจะผ่านไปเกือบ 12 ชั่วโมง” หญิงสาวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว นี่คือสภาพรถยนต์ของเธอหลังจากประสบอุบัติเหตุ หลังจากนั้นเธอได้แชร์ข้อความของเธอไปยังแฟนเพจ Urban Decay Cosmetics ยี่ห้อเครื่องสำอางที่เธอใช้ และได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก หลายๆ คนบอกว่าการลงทุนแต่งหน้าของเธอครั้งนี้ช่างคุ้มจริงๆ…
-
เลโก้เตรียมเปิด ‘เลโก้เฮ้าส์’ ในประเทศเดนมาร์ก มอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้ผู้เข้าชม
เลโก้คงจะเป็นหนึ่งในของเล่นที่ชื่นชอบของเด็กๆ หลายๆ คน การได้ต่อตัวเลโก้นั้นนอกจากจะเป็นการเสริ้มสร้างพัฒนาการแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับพวกเด็กๆ อีกด้วย และวันนี้เราก็มีสถานที่สวยๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวต่อยอดฮิตนี้มาฝากกัน นั้นก็คือเลโก้เฮ้าส์นั่นเอง โดยสถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Billund ประเทศเดนมาร์ก นอกจากความสวยงามและสีสันที่สดใสแล้ว เลโก้เฮ้าส์แห่งนี้ยังเป็นเหมือนสวรรค์ของคนรักตัวต่อยี่ห้อนี้อีกด้วย ภาพมุมสูงระหว่างการก่อสร้าง บ้านเลโก้แห่งนี้เป็นผลงานการออกแบบของคุณ Bjarke Ingels สถาปนิกชื่อดังชาวเดนมาร์ก ที่มีผลงานการออกแบบมาแล้วมากมาย โดยตัวอาคารนั้นจะมีโครงสร้างเป็นลักษณธของลูกบาศก์จำนวน 21 ชิ้นเรียงต่อกันแบบสลับซับซ้อน ซึ่งทำให้ที่นี่ดูกว้างใหญ่มากๆ ภายในบ้านมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้ผู้เข้าชมได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการชมวิวบนดาดฟ้า สนามเด็กเล่น หรือทะเลตัวต่อเลโก้ นอกจากนี้ที่นี่ยังรวบรวมผลงานศิลปะจากเลโก้ของศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย และผู้เข้าชมยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของบริษัทตัวต่อขวัญใจหนูๆ นี้อีกด้วย ตัวอาคารที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวต่อเลโก้ . ทางเลโก้ หวังว่าเลโก้เฮ้าส์แห่งนี้จะมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับพวกเด็กๆ ที่มาเที่ยวชมที่นี่ ทางเว็บไซต์เลโก้ ได้ออกมายืนยันว่าบ้านเลโก้ที่ประเทศเดนมาร์กแห่งนี้จะเปิดให้เข้าชมในวันที่ 28 กันยายนปี 2017 และพวกเขาหวังว่าผู้เข้าชมไม่ว่าจะเป็นเด็กๆ หรือผู้ใหญ่จะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และค้นพบความลับต่างๆ เกี่ยวกับตัวต่อของพวกเขามากยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่สนใจอยากจะลองไปเที่ยวชมหรือมีโอกาสไปเที่ยวที่เดนมาร์กจะลองแวะไปก็สามารถหาข้อมูลกันได้ที่เว็บไซต์ legohouse กันได้เลย ว้าว…สวยงามและน่าไปจริงๆ เลยนะเนี่ยย ที่มา sobadsogood
-
ที่มาของภาพ “มาลิริน มอนโร” กระโปรงบิน และเรื่องราวเกี่ยวกับชุดเดรสสีขาวของเธอ!!
เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนคงจะเคยเห็นภาพของดาราสาวผู้มากับชุดสีขาวและไฝที่ข้างแก้มของเธอ ที่กำลังโพสต์ท่าปิดหวออันแสนเซ็กซี่กันมาบ้างแน่ๆ ภาพอันโด่งดังของ “มาริลิน มอนโร” นี้ถูกถ่ายได้ในระหว่างที่เธอกำลังยืนอยู่หน้าสถานีรถไฟของเมืองนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 15 กันยายนปี 1954 ถึงแม้ว่าจะหลายๆ คนจะคุนเคยกับภาพที่ว่านี้กันเป็นอย่างดี แต่ #เหมียวเวจจี้ คิดว่ายังมีบางคนที่อยากจะรู้ที่มาที่ไปของภาพนี้แน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย… ภาพถ่ายสุดอมตะนี้ปรากฏครั้งแรกในหนังเรื่องดังของเธออย่าง The Seven Year Itch ซึ่งทางผู้กำกับอย่าง Billy Wilder เองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าภาพดังกล่าวจะกลายมาเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ ผู้กำกับอธิบายว่า ในฉากนั้นมาลิรินและดาราคู่พระของเธออย่างทอม อีเวลล์ กำลังยืนอยู่ที่ถนนสาย Trans-Lux 53nd และเมื่อทั้งคู่ได้ยินเสียงรถไฟมาถึง นางเอกสาวของเราก็ได้ก้าวเท้าออกไป และจังหวะนั้นก็มีลมจากรถไฟพัดเข้ามาที่กระโปรงของเธอ และแฟนหนังจำนวนมากมารอชมการถ่ายทำของเธอและสามารถบันทึกภาพแห่งประวัติศาสตร์นี้ไว้ได้ และนอกจากภาพรอยยิ้มของเธอกับท่าปิดกระโปรงสุดเซ็กซี่จะกลายเป็นภาพแห่งศตวรรษที่ 20 แล้ว ชุดเดรสสีขาวที่เธอใส่วันนั้นก็เป็นอีกตำนานหนึ่งเช่นกัน โดยชุดสีชาวตัวดังกล่าวเป็นผลงานของ William Travilla นักออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมที่เคยกวาดรางวัลออสก้าในสาขานี้มาแล้ว มารับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบชุดตัวนี้ให้เธอให้อีกด้วย ชุดเดรสสีขาวตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานออกแบบชิ้นเยี่ยมของนักออกแบบท่านนี้เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว มันยังเผยให้เห็นสัดส่วนอันสวยงามและผิวที่เรียบเนียนของดาราสาวอีกด้วย และเรื่องราวของเจ้าชุดเดรสที่ว่าก็ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ มันยังเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุการหย่าร้างระหว่างดาราสาวกับโจ ดิมาจกิโยนักเบสบอลชื่อดังอีกด้วย ซึ่งสาเหตุก็จากชุดที่เธอสวมและการถ่ายภาพที่วาบหวิวของเธอในครั้งนี้และเขาก็เป็นคนออกมาบอกอีกด้วยว่าภาพกระโปรงบินของเธอนั้นไม่ค่อยจะน่าชื่นชมสักเท่าไหร่เลย และหลังจากที่ดาราสาวเสียชีวิตลง ชุดเดรสสีขาวของเธอก็ถูกเก็บไว้อย่างดีในพิพิธภัณฑ์…
-
Didier Drogba บุรุษนักฟุตบอล ผู้ดับไฟสงครามกลางเมืองไอวอรีโคสต์ อันยาวนานกว่า 5 ปี
สำหรับแฟนๆ สิงห์บลู “เชลซี” คงไม่ต้องอธิบายถึงความเก่งกาจของนักเตะจากทวีปแอฟริกาคนนี้ให้ยืดยาว แต่นอกจากจะเป็นดาวเตะขวัญใจมหาชนแล้ว Didier Drogba ยังเป็นขวัญใจของชาวโกตติวัวร์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อไอวอรีโคสต์ หลายๆ สิ่งที่เขามอบให้กับบ้านเกิดของตัวเองนั้น นอกจากจะเป็นการบริจาคเงินเพื่อการกุศลต่างๆ แล้ว ตัวเขาเองยังมีส่วนในการช่วยหยุดยั้งสงครามกลางเมืองของประเทศที่ยาวนานถึง 5 ปีอีกด้วย หลังจากที่ประเทศเริ่มเข้าสู่สภาวะถดถอยในปี 2002 ปัญหาต่างๆ ถูกขุดคุ้ยขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเศรษฐกิจ และเชื้อชาติ จนนำไปสู่ความขัดแย้งและกลายเป็นสงครามกลางเมืองในที่สุด หลังจากที่ต้องทนกับปัญหาความขัดแย้งอยู่นานหลายปี ก็เริ่มมีชาวโกตติวัวร์บางส่วน ที่เริ่มเบื่อหน่ายกับเรื่องนี้และออกมาทำอะไรบางอย่างเพื่อประเทศชาติของพวกเขา และหลังจากที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2006 ที่ประเทศเยอรมันได้อย่างปาฏิหาริย์ Didier Drogba และเพื่อนร่วมทีมของเขาก็ถือโอกาสส่งข้อความถึงเพื่อนร่วมชาติและขอร้องให้ยุติความขัดแย้งครั้งนี้ หลังจากจบการแข่งขันรอบคัดเลือกนัดสุดท้าย ดาวเตะสิงโตน้ำเงินได้กล่าวผ่านคลิปวิดีโอ เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดสงครามกลางเมืองและรวมกันเป็นหนึ่งเดียว “ชายและหญิงชาวโกตติวัวร์ ไม่ว่าจะทางเหนือ ทางใต้ ภาคกลาง หรือภาคตะวันออก วันนี้เราได้พิสูจน์แล้วว่าชาวไอโวรีโคสต์ทุกคนนั้นสามารถอยู่ร่วมกัน เล่นฟุตบอลร่วมกัน และมีเป้าหมายเดียวกันได้ โดยการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกครั้งนี้ เราสัญญาว่าการเฉลิมฉลองนั้นจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นปึกแผ่นของพวกเรา และวันนี้เราจะขอคุกเข่า และอยากให้พวกคุณพูดว่า ‘ให้อภัย’ หนึ่งในประเทศที่ยิ่งใหญ่และมั่งคั่งแห่งแอฟริกา ไม่สมควรจะมีสงครามแบบนี้ ได้โปรดวางอาวุธลง แล้วจัดการเลือกตั้งเสียเถิด เพื่อชีวิตที่ดีของพวกเราทุกคน” …
-
สาวชาวจีนผู้หลงใหลดินสอ เผยคอลเลคชั่นกว่า 1,000 แท่ง ที่ใช้เวลาสะสมกว่า 20 ปี
ดินสอ คือหนึ่งในอุปกรณ์การเรียนที่เราใช้ในการจดบันทึกสิ่งต่างๆ รวมไปถึงการวาดภาพ และสร้างงานศิลปะต่างๆ ซึ่งนอกเหนือจากความงามจากปลายดินสอแล้ว ลวดลายที่ประดับอยู่บนดินสอก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ประทับใจได้เช่นกัน และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปพบกับคอลเลคชั่นดินสอ จากนักสะสมดินสอชาวจีนคุณฝู่ หญิงสาวหุ้นส่วนร้านกาแฟแห่งหนึ่งในเมืองเซินเจิ้น มลฑลกวางตุ้ง เธอใช้เวลานานถึง 20 ปีในการสะสมดินสอมากกว่า 1,000 แท่ง!! คุณฝู่ หญิงสาวผู้หลงใหลในความสวยงามของเครื่องเขียน คุณ Fu เคยเป็นนักศึกษาด้านศิลปะมาก่อน และเริ่มสนใจที่จะเก็บสะสมดินสอจากทั่วโลกตั้งแต่ปี 1997 โดยในตอนแรกเธอเริ่มจากการสะสมดินสอที่มีสีและรูปร่างที่แตกต่างกันก่อน จนกระทั่งตอนนี้ดินสอที่เธอเก็บสะสมมาทั้งหมดนั้น สามารถนำมาจัดแสดงในตู้กระจกได้เลยทีเดียว คอลเลคชั่นสะสมบางส่วนของเธอ ดินสอรูปแบบต่างกันจากทั่วโลก ที่อยู่ในคอลเลคชั่นของคุณ Fu . บางลายอาจจะเคยเห็นในบ้านเราก็ได้นะ . ดินสอไม้แบบนี้ คุ้นๆ กันบ้างไหมเอ่ย?? แล้วแบบมีตุ๊กตาแบบนี้ล่ะ?? . เห็นดินสอที่คุณฝู่สะสมแล้วทำให้นึกถึงตอนสมัยประถมเลยนะว่าไหม?? ที่มา designyoutrust
-
รู้จักกับ ‘วัดเสียนคง’ อายุกว่า 1,500 ปี ถูกสร้างไว้บนหน้าผา ด้วยฝีมือของพระสงฆ์เพียงรูปเดียว…
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้พาคุณไปพบกับความหวาดเสียวกับทางเดินริมหน้าผาหัวซาน (อ่านข่าวเก่า ปลุกความกล้าในตัวคุณ สัมผัสทางเดินสุดหวาดเสียวบน “หน้าผาหัวซาน” ประเทศจีน) และครั้งนี้เรากลับมาอีกครั้ง พร้อมกับวัดโบราณจากประเทศจีนที่น่าหวาดเสียวไม่แพ้กัน!! วัดดังกล่าวมีชื่อว่า “วัดเสียนคง” วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาของหุบเขาเหิงซาน ในมณฑลซานซี ซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินเกือบ 100 เมตรเลยทีเดียว ความน่าทึ่งของวัดยังไม่หมดแค่เพียงเท่านี้ เพราะวัดอันแสนเก่าแก่นี้ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในปีคริสต์ศักราชที่ 491 หรือเมื่อกว่า 1,500 ปีที่แล้ว และตามตำนานเล่าว่าวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่ชื่อว่า เล่าเหลียน ในช่วงสมัยของราชวงศ์เว่ย วัดเก่าแก่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 15 ศตวรรษ เสาค้ำยันอาคารที่ถูกเพิ่มเข้ามาไม่กี่ศตวรรษที่ผ่านมา เพราะเหตุผลในเรื่องของความปลอดภัย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปมาก แต่การจะสร้างสิ่งก่อสร้างที่เหมือนกับวัดเสียนคง ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่ดี ส่วนสาเหตุหลักของการสร้างวัดแห่งนี้ก็คือ การหลีกเลี่ยงปัญหาน้ำท่วม และการใช้ประโยชน์จากหน้าผาเหิงซาน เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติอื่นๆ อย่างเช่นฝนและหิมะ และนอกจากความน่าทึ่งทางด้านวิศวกรรมแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงในด้านของมรดกโลกที่สำคัญอีกด้วย ซึ่งวัดเสียนคง นั้นเหมือนเป็นตัวแทนของหลักความเชื่อจากทั้ง 3 ศาสนาได้แก่ พุทธ ขงจื้อ และลัทธิเต๋า ในวิหารแขวนที่ยาวกว่า 300 เมตรนี้ ประกอบไปด้วยห้องโถงกว่า 40 ห้อง…
-
เด็กชาย 9 ขวบ เดินข้ามภูเขาสองลูกไปโรงเรียนทุกวัน แม้จะเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวก็ตาม…
บางครั้งอุปสรรคของการศึกษาก็อาจจะมาในรูปที่หลายคนคาดไม่ถึง อย่างเช่นในเรื่องของระยะทาง หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเห็นข่าวของเหล่าเด็กที่ต้องขาดโอกาสทางการศึกษาไป เพียงเพราะว่าพวกเขาอยู่ห่างไกลจากสถานศึกษา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเด็กๆ อีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคเหล่านี้ พวกเขายังคงหาทางมาโรงเรียนให้ได้ถึงแม้ว่าเส้นทางนั้นจะยากลำบากเพียงไหน เหมือนกับเจ้าหนูน้อยจากประเทศจีนคนนี้!! พบกับเรื่องราวของ หลี่เจี้ยนเวิ่น และเรื่องราวการเดินทางฝ่าอุปสรรคเพื่อทำตามความฝัน เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2017 เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของโรงเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ของโรงเรียนประถมต้าเหยียนต้ง อำเภอหลิวเฉิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยหนูน้อยวัย 9 ขวบ ต้องออกเดินจากบ้านของเขาไปตามถนนหนทางเพียงลำพัง เพื่อไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เขาจะต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เพื่อเดินตามเส้นทางผ่านภูเขาถึง 2 ลูก เจ้าหนูบอกว่า “การเดินป่าสำหรับผมนั้นไม่ใช่เรื่องยากและน่ากลัวสักเท่าไหร่ เพราะความใฝ่ฝันของผมก็คือการได้เรียนหนังสือ และวันหนึ่งผมหวังว่าจะได้มีโอกาสไปได้ไกลกว่านี้” เส้นทางระหว่างการไปโรงเรียนของหลี่เจี้ยนเวิ่น หมู่บ้านของเจ้าหนูน้อยนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยในหมู่บ้านดังกล่าวมีผู้คนอาศัยอยู่เพียงแค่ 360 คนเท่านั้น และหลังจากจบภาคเรียนเมื่อปีก่อน นักเรียนชั้น ป.3 ของที่นี่ก็ทยอยไปเรียนที่อื่นจนหมด เหลือแค่เด็กชายหลี่ที่อยู่ชั้น ป. 1 ซึ่งเป็นนักเรียนเพียงคนเดียวของโรงเรียนแห่งนี้ หลี่เจี้ยนเวิ่นนักเรียนเพียงคนเดียวของโรงเรียนแห่งนี้ . คุณครูปุ้นซิง อาจารย์เพียงคนเดียวของโรงเรียนประถมแห่งนี้…
-
18 ภาพสีหน้าอาการของผู้คนที่ได้เจอ “ประสบการณ์ครั้งแรก” ในสถานการณ์ที่ต่างกัน!!
การได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ ครั้งแรก อาจจะเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และสร้างความตื่นเต้นให้กับพวกเราแน่ๆ บางครั้งคุณอาจจะถึงขั้นอุทานออกมาว่า “โอ้พระเจ้า!!” เลยก็ได้ และแน่นอนว่าการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ นั้นนอกจากจะทำให้หลายๆ คนต้องตกตะลึงนความอึ้งทึ่งเสียวแล้ว บางครั้งคุณเองก็ยังเคยเผลอทำหน้าแบบว่าฮาสุดๆ ออกมาอีกด้วย และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพของเหล่าผู้คนที่เคยลองทำเรื่องบางเรื่องเป็นครั้งแรก แต่ละคนจะฮาแค่ไหน ไปชมกันเลย… 1. คุณยายที่เพิ่งเจอเครื่องเล่นเกมแบบ VR ครั้งแรก 2. ว้าว!! พุงแมววว 3. แหม่!! อยากกินเบค่อนสินะเจ้าหนู 4. ฉลองวันเกิดครั้งแรก แต่จากนั้นอีก 5 นาทีก็อย่างที่เห็นล่ะครับ ฮ่าๆ 5. อืม… อร่อยย 6. ว้าว!! แม่ฮะๆ เจ้าหมาตัวใหญ่จริงๆ เลยฮะ 7. โอ้ววว!! สุดยอดไปเลยครับผมม 8. คุณยายและการถ่ายภาพเซลฟี่หน้ากระจกครั้งแรก สงสัยแกจะไม่รู้สินะว่ามันถ่ายยังไง!? 9. ไม่เคยจับเจ้าหมูมาก่อนสินะ…
-
เอางี้เลยนะ!? ชาวมะกันตั้งแคมเปญ “หันพัดลมไปที่พายุ” ไล่พายุเฮอร์ริเคนออกไปไกลๆ!!
หลายๆ ครั้งที่ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นเกิดความเครียดและความกังวล แต่ดูเหมือนว่าชาวมะกันผู้นี้จะมีวิธีรับมือกับความเครียดเหล่านั้นได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว คุณ Joshua Stanaland เจ้าของแคมเปญสุดฮานี้ ได้สร้างกิจกรรมตลกๆ บนเฟสบุ๊กเพื่อเชิญชวนชาวอเมริกามาร่วมใจกันเปิดพัดลมพร้อมกันและเป่าพายุเฮริเคนให้ไปไกลๆ จากพื้นที่ของพวกเขา โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นที่นิยมอย่างมากและมีผู้สนใจเข้าร่วมถึง 4 หมื่นคนเลยทีเดียว!! มาช่วยกันเถอะพวกเรา!! โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 7 กันยายนนี้ที่สหรัสอเมริกา ซึ่งในคำอธิบายคุณ Joshua ได้อธิบายไว้ว่า “นี่ทุกๆ คน ออกไปนอกบ้านของพวกคุณและเปิดพัดลมเพื่อไล่พายุเฮอริเคนไอม่า และไล่มันออกไปจากอเมริกากันเถอะ แต่ถ้าใครไม่มีพัดลมจะใช้เครื่องเป่าลม หรือว่าปืนลม หรือไดร์เป่าผมอะไรก็ได้นะ วันเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ปล. แต่เราจะไม่รับผิดชอบต่อปอดของคุณ ถ้าหากคุณเลือกใช้ปากเป่าลม” หลังจากนั้นเหล่าชาวมะกันที่จะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวก็ได้เข้ามาคอมเม้นต์กันเป็นจำนวนมาก อย่างคนนี้บอกว่า เดี๋ยวเอาพัดลมทั้งบ้านไปช่วยเป่าเลย เดี๋ยวก่อน ถ้าเกิดพัดลมไปเพิ่มพลังให้เฮอร์ริเคนล่ะ จะทำไง? “ผมอาศัยอยู่ประเทศไทยแต่อยากร่วมด้วย ผมจะช่วยยังไงดี ผมมีพัดลมห้าตัว มันจะแรงพอมั้ยอ่ะ” ชาวเน็ตอีกท่านก็เข้ามาตอบว่า “ลองใช้เข็มทิศจัดตำแหน่งดูนะ พยายามให้ชัวร์ว่ามันจะไม่เป่ากันเอง” “โอเค เดี๋ยวผมจับพวกมันเชื่อมต่อกับ GPS จะได้ไม่เป่ากันเองจนเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์” แต่ในขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครต้อนรับเจ้าเฮอริเคนไอม่านี้เลย จนมีชาวยุโรปการออกแคมเปญมาต้าน พร้อมกับบอกว่า…
-
ชายหนุ่มดวงซวย ลองชิมเมนูพิสดาร ‘ปู(หนีบ)ไข่’ งานนนี้บอกเลยว่าครั้งเดียวพอ!!
บางครั้งการฝันเห็นปูอาจจะเป็นเรื่องที่แย่เพราะมันอาจจะทำให้คุณไม่ได้พบกับเนื้อคู่แบบที่เนโก๊ะจั๊มเคยกล่าวไว้ แต่คงไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่าการถูกปูเป็นๆ หนีบที่กล่องดวงใจของคุณหรอก!! ภาพจากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นวินาทีแห่งชีวิตของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังถูกเจ้าปูตัวใหญ่หนีบเข้าที่ถุงอัณฑะของเขาเข้าอย่างจัง แต่เท่านั้นยังไม่พอดูเหมือนว่าเจ้าปูตัวนี้คงแค้นน่าดู เพราะมันเล่นใช้กล้ามทั้ง 2 หนีบเข้าไปเต็มๆ เลย เด็กหนุ่มคนดังกล่าวได้ลงไปเล่นน้ำในหนองน้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในประเทศเวียดนาม และหลังจากที่เขาลงไปในน้ำได้ไม่ถึงนาที เด็กหนุ่มผู้น่าสงสารก็ต้องสะดุ้งและรีบลุกออกจากน้ำทันที่ เมื่อปูเจ้ากรรมดั๊นมาหนีบเข้าที่กล่องดวงใจของเขา เด็กหนุ่มร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด จนชาวบ้านแถวนั้นต้องเข้ามาช่วยเหลือเขา และหลังจากที่ต้องทนทรมาณกับความเจ็บปวดอยู่นานถึงเกือบนาที ในที่สุดชาวบ้านก็สามารถนำปูออกจากจุดซ่อนเร้นของชายหนุ่มได้ ไปชมวินาทีแห่งชีวิตของหนุ่มน้อยผู้น่าสงสารคนนี้ได้เลย อ่า… ในที่สุดความเจ็บปวดก็จากหนุ่มน้อยไป ยังถือว่าโชคดีจริงๆ เลยนะเนี่ยพ่อหนุ่มที่ใส่กางเกงในลงไปเล่นน้ำด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะคุณเอ๊ยย!! ที่มา dailymail
-
รวม 18 ภาพของเหล่าผู้คนที่เคยบอกว่า ‘ได้โปรดเอาเจ้าเหมียวไปไกลๆ ฉันหน่อยได้ไหม’
ถึงแม้ว่าปัจจุบัน จะมีเหล่ามนุษย์ที่ยอมสมัครเข้ามาเป็นทาสเจ้าเหมียวจำนวนไม่น้อย แต่ในอีกด้านของจักรวาลคู่ขนานนั้นก็ยังมีผู้คนที่เกลียดเจ้าเหมียวเช่นกัน แต่หลายๆ คนที่ถึงแม้ว่าบอกว่าไม่ชอบแมวมากแค่ไหน แต่ถ้าแค่ได้ลองสัมผัสขนนุ่มหรือลูบพุงเจ้าเหมียวแบบฟินๆ แล้วล่ะก็เป็นอันต้องเสร็จทุกรายแน่นอน และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพของเหล่าผู้คนที่เกลี๊ยดเกลียดเจ้าเหมียวมาฝากกัน แต่ละคนจะไม่ชอบพวกมันแค่ไหนนั้นไปชมกันเลย… 1. ชายหนุ่มที่เคยบอกว่าไม่อยากเข้าใกล้เจ้าเหมียว แต่ดูตอนนี้สิ!! 2. เอาเจ้าแมวไปไกลๆ ฉันนะ!! ได้เลยจ้าา 3. บอกแล้วไงว่าไม่ชอบแมว!! ม่ะ… มานอนบนนี้เลยเจ้าเหมียว 4. ในอตีดคำว่าแมวอาจจะเป็นคำต้องห้ามสำหรับพี่คนนี้ แต่ดูตอนนี้ซะก่อน!! 5. ไหนบอกว่าไม่ชอบผมไงเล่า!? กอดซะแน่นเลยนะลุง!! 6. หลับปุ๋ยกันน้าา พี่เหมียว 7. แหม่… ยิ้มเลยน้าาา 8. หลังจากที่ลูกๆ ออกบ้านไป คุณแม่ก็ส่งรูปนี้มาให้ดู!! อ่าวไหนว่าไม่ชอบแมวไงล่ะคุณพ่อ?? 7. นอนด้วยกันนะเจ้าตัวเล็ก 8. อยู่นิ่งๆ นะเจ้าเหมียว!! 9. จริงๆ ท่านอนแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย…
-
ภาพบรรยากาศจากงาน ‘2017 World Beard and Mustache’ เวทีประกวดเครางามระดับโลก
นอกจากกาiแข่งขันเพาะกายแล้ว อีกหนึ่งการประกวดของผู้ชายที่เรียกได้ว่าเจ๋งไม่แพ้กันนั่นก็คือการประกวดชายหนวดเครางามนั่นเอง!! และวันนี้เราก็มีภาพจากการประกวดหนวดเคราจากงาน 2017 World Beard and Mustache Championships มาฝากกัน ซึ่งงานนี้ท่านชายที่ชื่นชอบการเลี้ยงขนบนใบหน้า ต่างนำหนวดเคราของตัวเองที่เลี้ยงไว้เป็นแรมปีออกมาจัดแต่งและอวดกันอย่างเต็มที งานนี้ไม่มีใครยอมใครเลยจริงๆ ภาพของผู้เข้าประกวดในงานครั้งนี้!! โดยในการประกวดนี้ได้จัดขึ้นที่เมืองออสติน ในรัฐเท็กซัส ซึ่งได้รับความสนใจจากชายเคราดกอย่างมากจนมีผู้เข้าร่วมประกวดกว่า 1,000 คนเลยทีเดียว และในส่วนของการคัดเลือกผู้ชนะนั้นจะแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน โดยมีผู้ชนะในแต่ละประเภทดังนี้ คุณ Jason Kiley ที่มาพร้อมกับหนวดทรงสวยของเขาคว้ารางวัล Best in Show ไปครอง ส่วนในรางวัลประเภทเคราแบบข้างแก้มอันดับ 1 ตกเป็นของคุณ MJ Johnson ตามด้วยคุณ Norbert Topf ที่คว้าอันดับ 1 ในประเภทเคราแบบไม่เต็มแก้ม และสุดท้ายคุณ Michael Wollin ผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทเคราธรรมชาติซึ่งเคราของเขามีความยาวมากถึง 60 เซนติเมตรเลยทีเดียว!! คุณ MJ Johnson (ด้านซ้าย) และคุณ Norbert Topf (ด้านขวา) ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 ท่านที่สามารถค้วารางวัลในประเภทฟรีสไตล์ การประกวดดังกล่าวจัดขึ้น ที่หอศิลป์ในเมืองออสติน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา …
-
10 อันดับการฆ่าสุดโหด ที่จะทำให้คุณขวัญผวา ขนลุกขนพองและนอนไม่หลับเลยทีเดียว
บางครั้ง เรื่องราวผีๆ หรือเรื่องเร้นลับก็อาจไม่น่ากลัวเท่ากับเรื่องของการฆาตกรรมโหด เพราะเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ตำนานแต่มันคือเรื่องจริงๆ ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว และเผลอๆ บางครั้งมันก็อยู่แถวๆ บ้านคุณนั่นเอง!! และสำหรับใครที่ชื่นชอบเรื่องราวหลอนๆ ล่ะก็ บอกไว้ก่อนเลยว่าท่านจะไม่ผิดหวังกับเรื่องราวที่เรานำมาฝากกันวันนี้แน่นอน อ่า… ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็ไปชมกันเลยย แต่!! ถ้าอยากได้อารมณ์ล่ะก็ลองอ่านแบบโทนเสียงพี่ป๋องดูนะ ฮ่าๆ 10. Carl Panzram ฆาตกรโหดผู้นี้ให้สารภาพว่าเขาได้ทำการฆาตกรรมเหยื่อไปมากกว่า 21 ราย พร้อมกับข่มขืนเด็กและผู้ชายไปอีกกว่า 1,000 คน หนึ่งในการฆ่าที่โหดร้ายที่สุดของเขาก็คือ เมื่อปี 1920 เขาได้ฆ่าลูกจ้างชายทั้ง 6 คนด้วยปืนจากนั้นก็โยนพวกเขาให้จระเข้กิน 9. Christopher Porco ในปี 2004 พ่อของ Porco ถูกพบอยู่ในสภาพนอนจมกองเลือดของตัวเองในบ้าน และถัดจากนั้นไม่ไกลเจ้าหน้าที่ก็พบแม่ของเขานอนร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียง พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยขวาน ซึ่งสาเหตุนั้นมาจาการแก้แค้นของ Porco ที่ถูกพ่อแม่ตำหนิเรื่องปลอมแปลงลายเซ็นต์เพื่อกู้เงินและซื้อรถคันใหม่ 8. Paul Bernardo และ Karla Homolka ฐานะที่ร่ำรวยและบุคลิกที่ดูดี ก็ไม่อาจจะแยกระหว่างคนดีและฆาตกรได้ ทั้งสองคนได้ทำการฆ่าข่มขืนหญิงสาวไปถึง 3 คน รวมถึงน้องสาวตัวน้อยของ Homolka ด้วย…
-
หนุ่มปิ๊งไอเดียแก้ปัญหา “แชทเงียบ” โดยการใช้รูปตัวเองตอนใกล้ตายเป็นภาพโปรไฟล์
ปัจจุบันการหาคู่ทางอินเตอร์เน็ตนั้นกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น แอพพลิเคชั่นมากมายที่ถูกสร้างชิ้นมาเพื่อตอบสนองความกระสัน เอ๊ย!! ความเหงาของเรา และหนึ่งในแอพพลิเคชั่นที่ทำขึ้นมาเพื่อการนี้ก็คือ Tinder นั่นเอง เจ้าแอพพลิเคชั่นที่ว่านี้จะช่วยหาคู่ให้คุณด้วยระบบที่เรียกว่า แมทช์ (Match) และสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณกลายเป็นคู่แมทช์กับคนอื่นๆ นั่นก็คือรูปโปรไฟล์นั่นแหละ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะสร้างปัญหาให้กับหนุ่มชาวมาเลเซียคนนี้ไม่น้อยเลย.. พบกับ Darren Go และการตามหารักแท้บนโลกออนไลน์ของเขา ขณะที่หลายคนกำลังเมามันในการแชทกับคู่แมทช์ แต่ Tinder ของหนุ่มน้อยวัย 20 ปีผู้นี้กลับไม่มีการแจ้งเตือนอะไรเลย ดังนั้นพ่อหนุ่มน้อยของเราจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ เพื่อเรียกสาว “รูปโปรไฟล์ธรรมดาๆ มันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ ผมจึงลองเปลี่ยนเป็นอะไรที่มันดูตลกร้ายหน่อย ซึ่งมันอาจจะทำให้คนอื่นสนใจบ้าง” หนุ่มน้อยกล่าว และนี่คือรูปโปรไฟลโฉมใหม่ของเขา ผ่างงง!! “ผมอยากพบคุณแทบตายแล้ว เมื่อไหร่จะได้เจอน้า??” แคปชั่นสุดกวนพร้อมกับภาพของตัวเองที่กำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ที่ทำให้หลายๆ คนถึงกับสงสัยว่า นี่แกเอาจริงหรือนี่พ่อหนุ่ม?? แต่อันที่จริงแล้วภาพนี้อาจจะไม่ค่อยขำสักเท่าไหร่ เพราะเป็นภาพระหว่างที่ Darren กำลังเข้ารับการผ่าตัดโรคหัวใจเมื่อปี 2012 เด็กหนุ่มกล่าวว่า “ผมชอบเรื่องตลกร้ายนะ มันทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้น” และแล้วภาพดังกล่าวก็ถูกชาวเน็ตมือไวแคปไว้ได้ และถูกนำไปโพสต์ในทวิตเตอร์ และเมื่อกลายเปป็นที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมาก บางคนบอกว่า “เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย??”…
-
พบกับผู้ประกาศข่าวที่มาในชุดฮันบกสีชมพู เห็นเธอเมื่อไหร่เรื่องร้ายๆ ตามมาแน่นอน!!
ทุกครั้งที่เราได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ โดยส่วนมากแล้วมักจะเป็นข่าวที่ไม่ค่อยจะสบายใจเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบ การยิงขีปนาวุธไปที่นู่นที่นี่ และสิ่งที่มาพร้อมกับการรายงานข่าวในการประกาศแสนยานุภาพของชาวโสมแดงนั่นก็คือคุณย่าในชุดฮันบกสีชมพูผู้นี่นี่เอง!! Ri Chun-hee ผู้ประกาศสาววัย 74 ปี ที่เปรียบเสมือนฝันร้ายของผู้ที่ติดตามข่าวต่างประเทศ เพราะเมื่อไหร่ที่เห็นคุณย่าแกออกมา หลายๆ คนต้องเตรียมใจไว้เลยว่า วันนี้ตูจะได้ฟังเรื่องจรวด รถถัง และการยิงอะไรซักอย่างอีกแล้วแน่ๆ ถึงแม้ว่าจะเกษียณอายุการทำงานของตัวเองไปตั้งแต่ปี 2012 แล้ว แต่ทุกวันนี้คุณย่าผู้นี้ก็ยังคงทำหน้าที่ของแกอยู่เช่นเคย และข่าวล่าสุดที่เธอได้ประกาศออกมานั่นก็คือ การทดสอบหัวรบนิวเคลีย์ของเกาหลีเหนือนั่นเอง “การทดสอบหัวรบนิวเคลียร์ที่มีการออกแบบใหม่ของเราเพื่อนำไปติดกับขีปนาวุธนำวิถี ที่สามารถยิงข้ามทวีปได้คือความสำเร็จของพวกเรา นี่เป็นหนึ่งในความข้าวหน้าของโครงการอาวุธนิวเคลียร์แห่งชาติ” คุณ Ri Chun-hee รายงาน คุณ Chun-hee นั้นเริ่มต้นงานผู้ประกาศข่าวครั้งแรกเมื่อปี 1971 โดยหลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Pyongyang University เธอก็ถูกทางสถานีโทรทัศน์ KCTV หรือสถานีโทรทัศน์กลางบนแผ่นดินเกาหลีเหนือดึงตัวเข้าไปทำงาน นอกจากชุดประจำตัวที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว อีกสึ่งหนึ่งที่น่าจดจำของเธอก็คือน้ำเสียง คุณ Jason Strother ผู้เชี่ยวชาญทางการทูตสหรัฐกล่าวว่า “ผู้ประกาศข่าวนั้นเปรียบสเมือนสิ่งเครื่องมือของเกาหลีเหนือ และน้ำเสียงของพวกเขาเองก็สำคัญเช่นกัน อย่างเช่นน้ำเสียงของ Chun-hee นั้นจะดูสูงและสั่นเพื่อเป็นการสรรเสริญผู้นำของประเทศ” พูดง่ายๆ ก็คือเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเห็นเธอผ่านหน้าจอ ข่าวร้ายๆ ก็จะตามมานั่นเอง ที่มา ladbible
-
กล้องวงจรปิดเผยภาพเจ้าหน้าที่กว่า 15 นายเข้าควบคุมนักโทษ ‘หนึ่งคน’ ที่กำลังคลั่ง
ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นวินาทีที่เจ้าหน้าที่กว่า 15 นายต้องเข้าช่วยกันระงับเหตุนักโทษอาละวาด ซึ่งในเหตุกาณ์ชุลมุนวุ่นวายครั้งนี้มีนักโทษก่อเหตุเพียงแค่ 1 คนเท่านั้น!! โดยต้นเหตุของความวุ่นวายครั้งนี้เกิดจากนักโทษคนหนึ่งที่ถูกคุมตัวอยู่ใน สถานีตำรวจในเมืองชิคาโก เกิดอาละวาดและเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ 2 นายที่พยายามจะเจรจากับเขา นักโทษคนดังกล่าวเข้าคว้าที่คอเสื้อของนายตำรวจท่านหนึ่งกล่อนที่จะผลักตัวเขาลงกับพื้นและพยายามจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ท่านนั้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ท่านอื่นๆ ที่เข้ามาเห็นเหตุการ์จึงพยายามที่จะเข้าระงับเหตุดังกล่าว พวกเขาใช้สเปย์พริกไทยฉีดไปที่หน้าของนักโทษเพื่อเป็นการระงับเหตุ แต่ดูเหมือนว่าชายคนดังกล่าวจะไม่ยอมหยุดง่ายๆ เขายังคงวิ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่คู่กรณี จนในที่สุดตำรวจกว่า 15 นายต้องเข้ารุมนักโทษคนนั้นและใช้กำลังถึงจะสามารถควบคุมเหตุการณ์ทั้งหมดได้ และนี่คือภาพเหตุการณ์ดังกล่าวจากกล้องวงจรปิด หลังจากนั้นคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก และกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก โดยมีผู้เข้าชมคลิปวิดีโอดังกล่าวมากถึง 1.6 ล้านครั้ง และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากถึง 15,000 ความคิดเห็นเลยทีเดียว ความเห็นจากชาวเน็ตท่านหนึ่งกล่าวว่า “อะไรกันนี่ ตำรวจทั้งโรงพักกับชายแค่คนเดียวที่ไม่มีอาวุธ ฉันเห็นสามคนในพวกเขามีกระบอง แต่ก็ไม่สามารถหยุดชายคนนี้ได้เลยเนี่ยนะ” และอีกท่าหนึ่งก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่น่าจะจับเขาใส่กุญแจมือตั้งแต่แรกก่อนที่มันจะวุ่นวายขนาดนี้ แล้วเพื่อนๆ มีความคิดเห็นกับเหตุการณ์นี้อย่างไร ก็สามารถคอมเม้นต์เข้ามากันได้เลยนะ ที่มา mirror
-
18 ภาพยืนของเหล่าแมวเหมียว ที่จะทำให้คุณเห็นความน่ารักของเจ้านายตัวน้อยๆ ตัวนี้
ถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้าน เชื่อแน่ว่าหลายๆ ครั้งที่คุณมักจะเห็นพวกมันทำท่าทางแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดขึ้นไปนอนบนที่นอนคุณและยึดเป็นที่นอนตัวเอง หรือเจ้าตูบที่ช๊อบชอบเข้ามาดมเท้าเวลาที่คุณมาถึงบ้าน นอกจากนี้เหล่าเจ้าเหมียวเองก็เป็นสัตว์อีกชนิดที่ชอบทำท่าทางแปลกๆ ให้เห็นอยู่บ่อยๆ เช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือท่ายืนนั่นเอง บางครั้งท่าทางของเจ้านายก็อาจจะดูน่ารักแต่ขณะเดียวกันก็ทำให้คุณฮาได้อีกด้วยนะ และภาพต่อไปนี้ก็คงจะยืนยันถึงความน่ารักของท่ายืนนั้นได้เป็นอย่างดี 1. เจ้าทาสเก็บปลาทูน่าไว้ที่ไหนน้าา?? 2. จะซักผ้าซักหน่อย ทำไมผงซักฟอกมันหายากจังนะ!? 3. โห!! ยืนตรงเชียวน้าเจ้าเหมียว 4. ใครมาหรือพี่เหมียว?? 5. เอ๊าเพื่อน!! ช่วยกันหน่อย อาหารมันซ่อนอยู่แถวนี้แหละ 6. ฉันว่าฉันเห็นอะไรบางอย่างนะบี 1 !? 7. เดี๋ยวผมช่วยเลี้ยงน้องเองฮะ!! 8. มองอะไรน่ะพี่เหมียว?? 9. อื่ม… เช้าๆ แบบนี้ก็ต้องออกมายืดเส้นยืดสายกันหน่อย 10. ก๊อกๆ ขอเข้าไปหน่อยครับผม 11. สงสัยกำลังทำสมาธิอยู่สินะ?? 12.…
-
อีกขั้นหนึ่งของวงการดนตรี!! เมื่อชาวเน็ตจากญี่ปุ่นบรรเลงเพลงจาก “เครื่องคิดเลข”
เครื่องคิดเลข หนึ่งในอุปกรณ์ที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดวิชาคณิตศาสตร์หรือเวลาที่เราต้องการความรวดเร็วในการคิดคำนวน แต่รู้กันหรือเปล่าว่านอกจากจะใช้คิดเลขแล้วบางรุ่นยังสามารถใช้สร้างเสียงเพลงได้อีกด้วยนะ!! เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการโพสต์คลิปวิดีโอการทำเสียงเพลงด้วยเครื่องคิดเลขลงบนทวิตเตอร์ โดยชาวเน็ตท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @zk_oj ซึ่งในคลิปวิดีโอดังกล่าวเขาได้บรรเลงบทเพลงของดิสนีย์ด้วยเครื่องคิดเลขพร้อมกันถึง 2 ตัว คุณ @zk_oj บรรเลงเพลงด้วยเครื่องคิดเลขเหมือนกับว่ามันเป็นเปียโนเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่แค่การกดทีละตัวเท่านั้น แต่เขาใช้สองเครื่องประสานเสียงกัน และนอกจากเพลงเจ้าหญิงดิสนีย์แล้วยังมีเพลงอื่นๆ อีกด้วย เพลง Despacito ที่เล่นด้วยเครื่องคิดเลข หรือจะเป็น Shape Of You ก็มีนะเอ่อ โดยเครื่องคิดเลขที่คุณ @zk_oj ใช้ในการสร้างเสียงเพลงครั้งนี้ก็คือเครื่องคิดเลขจากจีนที่ชื่อว่า Dragon Night AR7778 ซึ่งถ้าหากใครสนใจอยากจะลองทำเพลงที่บ้านก็เข้าไปสั่งซื้อกันที่เว็บไซต์ amazon กันได้เลย และนอกจากการบรรเลงเพลงของคุณ @zk_oj แล้ว ก็ยังมียูทูปเบอร์อีกท่าหนึ่งที่ชื่อว่าคุณ Ryon ก็ได้ใช้เครื่องคิดเลขยี่ห้อนี้ในการสร้างเสียงเพลงเช่นกัน โดยเพลงที่เขาทำออกมานั้นก็เจ๋งไม่แพ้กับของคุณ @zk_oj เลยทีเดียว แถมยังมีโน๊ตไว้ให้อีกด้วยนะ!! ไปชมผลงานของยูทูปเบอร์ท่านนี้กันเลยดีกว่า เพลง Let it Go ก็มาเหมือนกัน อืมม… เจ๋งจริงๆ เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ…
-
American Horror Story ซีซั่นใหม่ การรวมความสยองขวัญจาก “โรคกลัวรู” น่ากลัวแบบคูณ 2
American Horror Story หนึ่งในซีรีส์สยองขวัญที่สั่นประสาทผู้ชมมากที่สุด ถ้าหากใครที่เคยชมแล้วคงไม่ต้องเล่าถึงความน่ากลัวกันให้เสียเวลา และล่าสุดพวกเขาได้กลับมาสร้างความสยองอีกครั้งด้วยซีซั่นใหม่ที่เกี่ยวกับอาการกลัวรู หรือโรค Trypophobia ซีรีส์ตอนล่าสุดนี้จะใช้ชื่อว่า Cult โดยจะเข้าฉายตอนแรกในวันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งภาพโปรโมทต่อไปนี้อาจจะทำให้คุณต้องขนลุกเลยก็ว่าได้ ดังนั้นถ้าใครใจไม่แข็งแนะนำว่าหยุดตรงนี้ดีกว่านะ!! อย่างที่รู้กันดีกว่าโรคกลัวรูนั้นเป็นอาการกลัวเมื่อเห็นสิ่งของหรือรูต่างๆ ผู้ป่วยจะมีอาการเหงื่อออกและเริ่มใจสั่น และเมื่อเอาความหลอนของรูมารวมกับบรรยากาศและสถานการณ์ที่สุดแสนจะกดดันในซีรีส์เรื่องนี้ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีก และนี่คือภาพบางส่วนจากคลิปโปรโมตซีรีส์เรื่องนี้ ไปชมตัวอย่างเต็มๆ กันได้ที่คลิปวิดีโอนี้เลย และหลังจากทวิตเตอร์ทางการของซีรีส์เรื่องนี้ได้ปล่อยตัวอย่างออกมา ก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก ซึ่งหลายๆ คนก็ออกมาบอกว่านี่มันฝันร้ายชัดๆ ชาวเน็ตท่านหนึ่งได้บอกว่า “ฉันจะไม่มีวันดูซีรีส์เรื่องนี้แน่ๆ “ ในขณะที่หญิงสาวอีกท่านหนึ่งก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า “ฉันสามารถฟ้องศาลเกี่ยวกับโปสเตอร์ที่ทำให้คนป่วยโรค trypophobia กลัวได้ไหมเนี่ย??” แต่สำหรับใครที่ใจแข็งหรืออยากลองของก็รอชมกันได้เลยนะ!! ที่มา unilad
-
Adidas เตรียมออก “รองเท้ากันเบียร์และอ้วก” สำหรับใส่ลุยในงาน ‘Oktoberfest’
สำหรับสายดื่ม อาจจะเคยได้ยินชื่อเทศกาลเบียร์ระดับโลกอย่าง Oktoberfest กันมาบ้างแน่ๆ เทศกาลนี้เรียกได้ว่าเปรียบเหมือนยูโทเปียของสายเมาเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่าการไปเทศกาลแบบนี้พร้อมกับรองเท้าคู่ใจคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ ที่สนี๊กเกอร์คู่โปรดของคุณจะต้องแปดเปื้อนไปด้วยมอล์สกัด แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะสปอร์ตแบรนด์ชื่อดังจากเยอรมนีอย่าง Adidas ได้ออกรองเท้าเพื่อแก้ปัญหาสำหรับงานนี้โดยเฉพาะแล้ว!! โดยสำหรับงาน Oktoberfest ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ตุลาคมนี้ ทาง Adidas เองก็ได้ออกแบบรองเท้ารุ่น Adidas Originals München “Oktoberfest” สนี๊กเกอร์สุดเท่เอาใจสายดื่ม สำหรับใส่ไปเที่ยวในงานเทศกาลดังกล่าว โดยตัวรองเท้านั้นจะทำออกมาในโทนสีน้ำตาลทอง แสะใช้วัสดุหนังเคลือบสาร DPBR สำหรับป้องกันอ้วกและเบียร์ที่จะซึมเข้าไปในรองเท้าของคุณ ในระหว่างงานเทศกาลนั่นเอง . คำว่า “PROST” ตรงด้านข้างของรองเท้าแปลว่า “ชนแก้ว” ในภาษาเยอรมัน นอกจากภายนอกแล้ว ด้านในก็ยังมีลูกเล่นอย่างการนำวัสดุผ้าที่คล้ายกับสีของผ้าปูโต๊ะมาบุด้านในอีกด้วย . โดยรองเท้า Adidas Originals München “Oktoberfest” นี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 พฤษจิกายน 2017 และสำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปเช็กราคาและรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ 43einhalb ได้เลย… ที่มา vinepair
-
พาทัวร์โลกกับความสวยงามของ ‘Kelimutu’ ทะเลสาบ 3 สีจากประเทศอินโดนีเซีย
ถ้าหากพูดถึงประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่ก็คือการเดินป่าศึกษาธรรมชาตินั่นเอง และวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจมาแนะนำกัน นั่นก็คือภูเขาไฟ Kelimutu นั่นเอง Kelimutu คือภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเกาะ Flores ในประเทศอินโดนีเซีย ความอัศจรรย์ของที่นี่ก็คือแอ่งน้ำทั้งสามแห่งที่อยู่ในปากปล่องของภูเขาไฟนั่นเอง โดยแอ่งน้ำที่ว่านี้จะมีสีสันที่แตกต่างกันซึ่งเกิดจากการปฏิกริยาเคมีที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยแต่ละทะเลสาบจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไป ประกอบด้วยทะเลสาบแห่งแรกซึ่งห่างจากทะเสสาบอีกสองแห่งประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีชื่อว่า Tiwu Ata Mbupu หรือแปลว่าทะเลสาปแห่งจิตวิญญาณบรรพบุรุษ ส่วนแห่งที่สองชื่อว่า Tiwu Nuwa Muri Koo Fai หรือทะเลสาบจิตวิญญาณของคนหนุ่ม และแห่งสุดท้ายคือ Tiwu Ata Polo หรือทะเลสาบแห่งจิตวิญญาณอันชั่วร้าย ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยหน้าผาหินสูงประมาณ 100 เมตร โดยสีในทะเลสาบทั้ง 3 แห่งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงตลอด โดยปรากฏการณ์อันแสนน่ามหัศจรรย์นี้ เกิดจากปริมาณของก๊าซที่อยู่ใต้ดินอย่าง คาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไฮโดรเจนคลอไรด์และไฮโดรเจนซัลไฟด์ ที่ปะทุออกมาจากรอบแตกบริเวณก้นทะเลสาบและแร่ธาตุอื่นๆ แต่ทางตำนานกล่าวไว้ว่าสีของทะเลสาบที่เปลี่ยนไปนั้นเกิดพลังเหนือธรรมชาติของบรรพบุรุษ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ที่นี่ก็ยังคงสวยงามอยู่ดี โดยเวลาที่เหมาะที่จะชมความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้มากที่สุดนั่นก็คือช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินนั่นเอง โดยในตอนเช้าคุณอาจจะต้องลุกออกจากที่พักประมาณตี 3 ครึ่งและเดินตามเส้นทางเพื่อมาถึงที่นี่ ส่วนใครที่อยากจะเดินทางมาเที่ยวที่สะเลสาบแห่งนี้ ก็สามารถหาที่พักในเมือง Moni เมืองเล็กๆ ที่ใกล้กับทะเลสาบแห่งนี้ และนอกจากนั้นที่เมืองนี้ยังมีกิจกรรมทางธรรมชาติที่น่าสนใจอย่างการเดินป่า และเล่นน้ำตกอีกด้วย ภาพมุมสูงของทะเลสายทั้ง 3…
-
ทัวร์จีน 6 ล้านคน เตรียมเที่ยว “ไทย” เป้าหมายอันดับหนึ่งในช่วงสัปดาห์ทองนี้!!
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่มีกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพราะอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้จะเป็นช่วงสัปดาห์ทองของประเทศจีน ซึ่งจะมีวันหยุดติดกันนานถึง 8 วันเลยทีเดียว!! โดยในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ทองของชาวจีนเลยก็ว่าได้ เพราะทางการได้ออกมาประกาศให้เป็นวันหยุดยาว เนื่องจากเป็นงานเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติของพวกเขานั่นเอง จากการรายงานมีการคาดการกันว่าในช่วงหยุดยาวนี้จะมีชาวจีนออกมาเที่ยวภายในประเทศมากถึง 650 ล้านคน และอีกกว่า 6 ล้านคนที่จะเดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศอีกด้วย โดยปกติแล้วชาวจีนจะนิยมวางแผนเที่ยววันหยุดยาวในต่างประเทศประมาณ 4-6 วัน แต่อย่างไรก็ตามในช่วงปีหลังๆ ระยะเวลาในการท่องเที่ยวในต่างประเทศนั้นกลับมีตัวเลขเพิ่มสูงถึง 10 วันต่อทริปเลยทีเดียว ส่วนจากการสำรวจพบว่า 3 ประเทศที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมไปมากที่สุดในปีนี้ได้แก่ ประเทศไทย ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา แน่นอนว่าประเทศไทยนั้นเป็นเป้าหมายหลักในฝันของชาวจีนหลายๆ คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขของนักท่องเที่ยวในประเทศ ญี่ปุ่น ไทย อินโดนีเซีย และกัมพูชา จะมีการเพิ่มสูงขึ้นอีก หลังจากที่มีการปรับให้การขอวีซ่านั้นง่ายขึ้น และนอกจากความนิยมในการท่องเที่ยวแล้ว บางพื้นที่ในประเทศจีนเองก็เป็นสถานที่ยอดนิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่นจังหวัดต่างๆ ในมลฑลกานซู่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ประเทศมองโกเลีย เนื่องจากมีความสะดวกในการเดินทางนั่นเอง แบบนี้ใครที่กำลังมีแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศจีนในช่วงเดือนตุลาคม ก็คงจะต้องวางแผนกันดีๆ ล่ะนะ แต่สำหรับใครที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวหรือค้าขายล่ะก็อาจจะเป็นข่าวดีก็ได้นะ!!ที่มา chinadaily
-
สำนักราชวังญี่ปุ่นยืนยัน เจ้าหญิงมาโกะเตรียมสละฐานันดรศักดิ์ เพื่อสมรสกับหนุ่มสามัญชน
หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเจ้าหญิงมาโกะ หลานสาวคนโตของสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เตรียมที่จะหมั้นหมายกับหนุ่มสามัญชน (อ่านข่าวเก่า เจ้าหญิง Mako แห่งญี่ปุ่น สละสถานะราชวงศ์ เพื่อแต่งงานกับหนุ่มธรรมดาที่พบรักในร้านอาหาร…) ล่าสุดดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนแล้ว หลังจากที่ทางสำนักราชวังของญี่ปุ่นได้มีการประกาศยืนยันเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2017 และอย่างที่ทราบกันดีว่าพระองค์นั้น จะต้องสละฐานันดรศักดิ์และกลายเป็นเพียงแค่สามัญชน เหมือนดั่งพระสหายคนสนิท ‘เคอิ โคมุโระ’ จากงานแถลงข่าวต่อสาธารณะชน ณ สำนักราชวัง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าหญิงมาโกะกล่าวว่า “ในครั้งแรกที่พบกัน ฉันตกหลุมรักเพราะรอยยิ้มที่สดใสราวกับดวงตะวันของเขา” พระองค์เผยว่าได้พูดคุยกับฝ่ายคู่หมั้นครั้งแรกในงานที่จัดขึ้น สำหรับนักเรียนที่กำลังเตรียมตัวจะไปศึกษาต่อต่างประเทศเมื่อห้าปีก่อน และเมื่อเวลาผ่านไป เจ้าหญิงมาโกะ และคุณเคอิ โมคุโระ ก็ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น พระองค์กล่าวว่าคู่หมั้นของพระองค์นั้นเป็นคนที่มีความจริงใจ ตั้งใจทำงานและมีหัวใจที่เข้มแข็ง ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะอยู่คนละที่ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ยังคงหนักแน่น จนกระทั่งพระองค์ได้แนะนำให้ฝ่ายชายได้รู้จับกับพระบิดาและพระมารดา และกล่าวว่า ‘ผู้ชายคนนี้คือชายที่เธออยากจะร่วมสร้างอนาคตด้วย’ ทางด้านฝ่ายชายเองก็ได้กล่าวว่า เขารู้สึกขอบคุณพระองค์และเขามีความสุขอย่างมาก ที่ได้รับการยอมรับจากพระบิดาและพระมารดาของเจ้าหญิง รวมถึงสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะด้วย ทางฝ่ายชายได้ให้คำมั่นสัญญาว่าเขาพร้อมที่จะดูแลคู่ชีวิตของเขาอย่างดี พร้อมกับมอบความรักที่แสนจะอบอุ่นให้กับเธอ “การมีครอบครัวยังคงเป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้ แต่ฉันหวังว่าบ้านของเราจะมีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม” ฝ่ายเจ้าหญิงมาโกะกล่าว…
-
‘Gunung Kemukus’ หุบเขาแห่งเซ็กส์ในอินโดนีเซีย ที่ผู้คนจะเดินทางไปมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้า!?
อินโดนีเซียหนึ่งในประเทศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ที่นี่ยังมีอีกหนึ่งสถานที่แปลกๆ ที่เราอยากจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จัก นั่นก็คือหุบเขา Gunung Kemukus หรือหุบเขาแห่งเซ็กในจังหวัดชวากลาง นั่นเอง ในทุกๆ ปี ผู้แสวงบุญจากทั่วทุกสารทิศในประเทศอินโดนีเซีย จะเดินทงมาที่หุบเขาแห่งนี้ เพื่อร่วมรักกับคนแปลกหน้า ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในพิธีกรรมทางศาสนาของพวกเขา คุณ Patrick Abboud ช่างภาพผู้คนพบพิธีกรรมสุดแปลกนี้และมันทำให้เขาต้องประหลาดใจเลยทีเดียว ช่างภาพหนุ่มบอกว่าในทุกๆ 35 วัน คุณจะต้องมีเซ็กส์ติดต่อกัน 7 ครั้งเพื่อเป็นการประกอบพิธีของที่นี่ “มันน่าประหลาดใจมาก ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย บางทีมันอาจจะมากเกิน 8,000 คนเลยด้วยซ้ำ มันยากที่จะเชื่อว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ พิธีกรรมที่ว่านี้จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกัน” คุณ Abboud กล่าว พิธีกรรมโบราณนี้ไม่ได้เพิ่งมีเป็นครั้งแรก แต่มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 แล้ว และผู้เข้าร่วมพิธีกรรมนี้ก็เชื่อว่าการร่วมเพศกับคนแปลกหน้านั้นจะทำให้พวกเขาพบเจอกับโชคดี ที่หุบเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายทั้งชายที่แต่งงานแล้ว แม่บ้าน นักการเมือง หรือแม้กระทั่งโสเภณี แต่สำหรับประเทศที่มีข้อห้ามเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสอย่างดินโดนีเซีย พิธีกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาๆ “ย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 16 มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีเพศสัมพันธ์กับแม่เลี้ยงของเขา และจากนั้นทั้งคู่จึงหนีออกไปจากภูเขาแห่งนี้ และถูกตามฆ่าพร้อมกับฝังศพไว้ยังที่แห่งนี้ จากนั้นผู้คนจึงมาสร้างศาลเพื่อกราบไหว้ทั้งคู่ และมีความเชื่อว่าถ้าหากใครมาที่นี่และทำแบบพวกเขาก็จะเจอแต่เรื่องดีๆ ” ช่างภาพหนุ่มเล่าถึงตำนานของที่นี่…
-
จักรวาลคู่ขนานมีจริง!! 14 ภาพที่น่าหงุดหงิดและฟินสุดๆ แบบนี้มันตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ
บ่อยครั้งที่ในชีวิตประจำวันของเรามักจะเจอเรื่องราวให้ปวดหัวอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหารถติด ปัญหาที่ทำงาน หรือบางครั้งเรื่องเล็กๆ อย่างทิชชู่หมดระหว่างทำศึกเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แต่นอกจากเรื่องที่ยกตัวอย่างมากแล้ว บางครั้งความไม่พอดีของอะไรบางอย่างก็ทำให้เรารู้สึกเซ็งได้เช่นกัน ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นหัวร้อน แต่มันก็รู้สึกขัดใจยังไงไม่รู้ใช่ไหมล่ะ?? และวันนี้เราขอท้าความใจเย็นของคุณด้วย 14 รูปสุดขัดใจ ซึ่งถ้าหากคุณทนดูมันได้ล่ะก็เราก็มีภาพฟินๆ เป็นของแถมให้ด้วยนะ แล้วคุณจะรู้ว่าจักรวาลคู่ขนามีอยู่จริง ฮ่าๆ 1. ตื่นเช้ามาเจอขนมปังแบบนี้ บางคนอาจจะถึงกับอยากกลับไปนอนต่อเลยทีเดียว โคตรฮา!! แต่ถ้าแบบนี้ล่ะ!? นี่มันคือการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสชัดๆ 2. โถ่พี่เหมียว!! ทำไมไม่หย่อนตูดให้แม่นๆ ล่ะเนี่ย แต่ขอโทษละกันนะครับผมม เอารูปอุ้งเท้าในแผงไข่ไปฟินๆ ละกันน้าา 3. อื่ม… รู้นะว่าหงุดหงิดๆ งั้นเอานี้ไป!! วงกลมสยบความเครียด อ่า… 4. เจอยาสีฟันแบบนี้ก็เซ็งเลยสิครับ!? แต่ถ้าแบบนี้ล่ะค่อยยังชั่ว 5. อื่ม… ลูกนี้มันหลุดมาได้ยังไงนะเนี่ย?? ของจริงมันต้องกลมๆ แบบนี้สิ!! 6.…
-
‘เปรตเดินดินกินเนื้อคน’ หนังโหดยุค 80 ที่สมจริง จนผู้กำกับถูกตั้งข้อหาฆ่านักแสดงจริงๆ!?
ถ้าหากพูดถึงหนังสยองขวัญที่มีความเหมือนจริงสุดๆ เรื่องหนึ่งคงจะต้องยกให้เรื่อง Cannibal Holocaust กันเลยทีเดียว อ่า… งงใช่ไหมล่ะว่ามันคือเรื่องอะไร ถ้าบอกว่าเรื่อง ‘เปรตเดินดินกินเนื้อคน’ ละก็พวกคุณจะต้องร้องอ๋อกันแน่ๆ หนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญจากยุค 80 ที่เต็มไปด้วยความสยดสยองเล่าถึงเรื่องราวของ Dr.Harold Monroe (รับบทโดย Robert Kerman) ที่ออกเดินทางตามหาการหายตัวไปของกลุ่มนักศึกษาที่มาถ่ายทำสารคดีในป่าแถบอเมริกาใต้ เขาได้ค้นพบม้วนเทปวีดีโอที่ของนักถ่ายทำสารคดีทั้ง 4 ที่บันทึกเรื่องราวการเดินทางอันแสนวิปริต พฤติกรรมของชนเผ่ากินคนอันโหดเหี้ยมในตำนาน และด้วยความเหมื๊อนเหมือนของภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้หลายๆ คนถึงกับเชื่อว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหนังนั้นเป็นเรื่องจริง และหนักข้อจนถึงกับมีการลือกันว่าผู้กำกับได้ลงมือฆ่านักแสดงชายของเรื่องนี้จริงๆ เลยนะเออ!! นอกจากตำนานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความโหดและความสมจริงแล้ว ทางด้านผู้กำกับชาวอิตาเลี่ยนอย่าง Ruggero Deodato เองก็เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาอนาจารและฆาตกรรมทันทีหลังจากการฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ภาพบางส่วนจากหนัง โดยนักนักวิจารณ์หลายคนได้ให้ความเห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความรุนแรง และคิดว่า Deodato นั้นได้ฆ่านักแสดงของเขาจริงๆ อย่างน้อยหนึ่งคน แต่ทางผู้กำกับก็ได้ออกมาแสดงถึงความบริสุทธิ์ของตัวเองทันที พร้อมกับพานักแสดงทุกคนในเรื่องมาปรากฎตัวต่อหน้าศาล ในวันพิจารณาคดี พร้อมกับยืนยันว่าเขาใช้เทคนิคพิเศษในการถ่ายทำ และกรูไม่ได้ฆ่าคนแม้แต่คนเดียวเลยจ้า Ruggero Deodato ผู้กำกับหนังในตำนานเรื่องนี้ นอกจากนี้หนึ่งในนักแสดงของเรื่องยังให้สัมภาษณ์อีกว่า ผู้กำกับอย่าง Ruggero Deodato นั้นเป็นคนที่อ่อนโยน…
-
เปิดจดหมาย “รักต้องห้าม” ของทหารหนุ่ม 2 นาย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงามและพร้อมจะเบ่งบานได้ทุกๆ ที่ แม้แต่ควันปืนจากสงครามเองก็ไม่อาจจะขัดขวางสิ่งที่สวยงามนี้ได้ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการค้นพบจดหมายของนายทหารหนุ่มท่าหนึ่งนามว่า Gilbert Bradley ที่เขียนโต้ตอบกับคู่รักของเขาโดยใช้ลายเซ็นต์ว่า G ซึ่งภายหลังมีการสืบจนทราบว่าตัวอักษรดังกล่าวนั้นหมายถึงชายที่ชื่อว่า Gordon และทหารหนุ่มผู้นี้กำลังตกหลุมรักเพศเดียวกันอยู่ โดยจดหมายดังกล่าวถูกนำมาเปิดเผยหลังจากที่ Bradley เสียชีวิตไปเมื่อปี 2008 จากข้อมูลที่ปรากฎบอกว่า Bradley นั้นไม่ได้ต้องการที่จะเป็นทหารตั้งแต่แรก เขาแกล้งป่วยเป็นโรคลมชักเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นทหาร แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ในปี 1939 เขาถูกส่งตัวไปประจำอยู่ที่ Park Hall Camp ในเมือง Shropshire ประเทศอังกฤษ แต่ก่อนหน้าที่เขาจะถูกส่งไปประจำการในพื้นที่ดังกล่าว ในปี 1938 เขาและนาย Gordon Bowsher ได้พบรักกันก่อนแล้วหลังจากที่ทั้งสองไปท่องเที่ยวในวันหยุดด้วยกัน ฝ่าย Bowsher นั้นมาจากครอบครัวนักธุรกิจ โดยพ่อของเขาได้เปิดบริษัทขนส่งและเป็นเจ้าของไร่ชา ในช่วงสงคราม Bowsher ได้เข้ารับการฝึกทหารและถูกส่งไปประจำการทั่วประเทศ สาเหตุที่พวกเขาต้องสื่อสารกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ ก็เพราะว่า ณ เวลานั้นการรักร่วมเพศถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย และถ้าหากมีการสืบทราบว่าชายในกองทัพมีพฤติกรรมดังกล่าวอาจมีโทษสูงถึงขั้นถูกยิงเป้าเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ความรักของพวกเขาจบลงแบบที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ เพราะในระหว่างการรบ Bradley ถูกส่งตัวไปยังสก๊อตแลนด์ และที่นั่นเขาได้พบรักกับนายทหารหนุ่มคนอื่นอีก 2 คน ชายหนุ่มเขียนเล่าถึงความรักครั้งใหม่ของเขาให้คุณ Bowsher…
-
เจ้าหมาได้รับอิสระเป็นครั้งแรก หลังถูกล่ามโซ่มาตลอดชีวิต ไปไกลสุดก็แค่หน้าบ้าน (สุนัข)
หลังจากที่ต้องทนวิ่งเล่นอยู่ในพื้นที่จำกัดตั้งแต่เล็กๆ ในที่สุดชีวิตของเจ้า Peanut หมาน้อยวัย 3 ขวบก็เปลี่ยนไปหลังจากที่มันได้พบกับมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ เจ้าตูบถูกล่ามโซ่เอาไว้ในสวนหลังบ้านของมันตั้งแต่ตอนที่มันอายุได้เพียงแค่ 1 เดือน ซึ่งทางเจ้าของเก่าเองนั้นไม่ได้ใส่ใจและดูแลมันสักเท่าไหร่ โลกของเจ้าตูบกว้างเพียงแค่รัสมีของโซ่เท่านั้น แต่หลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือเจ้า Peanut ก็ได้มีโอกาสพบกับอิสระภาพอีกครั้ง!! เจ้า Peanut ในบ้านหลังเล็กๆ และโซ่ที่ล่ามมันไว้เกือบ 3 ปี ผู้คนที่อยู่ในละแวกเดียวกันรู้สึกสงสารเจ้าตูบและทนที่จะเห็นมันต้องทรมานกับสายโซ่ที่ล่ามมันอยู่ไม่ไหว พวกเขาจึงได้โทรแจ้งไปยังมูลนิธิสัตว์ HOPE for Erie Animal Wellness และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของทางมูลนิธิก็เดินทางมาช่วยเจ้าตูบโดยทันที คุณ Russelline Steinbuhler หนึ่งในเพื่อนบ้านของเจ้าตูบเล่าว่าเธอมักจะเดินไปเยี่ยมมันอยู่บ่อยๆ และวันหนึ่งเธอก็เริ่มสังเกตเห็นว่าอาการของมันเริ่มทรุดลง จึงทำให้เธอตัดสินใจแจ้งไปยังมูลนิธิเพื่อขอความช่วยเหลือ “ฉันเดินออกไปเยี่ยมมันบ่อยๆ ฉันเห็นเจ้าตูบอยู่ในบ้านหมาโทรมๆ หลังนั้น สภาพแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่ดูแย่มากๆ เลย และฉันก็ไม่สามารถทนเห็นภาพนั้นได้” หญิงสาวกล่าว Steinbuhler ได้เข้าไปพูดคุยกับเจ้านายของ Peanut เพื่อขออนุญาตช่วยเหลือสุนัขของพวกเขา ซึ่งทางเจ้าของก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร พร้อมกับชี้แจงว่าที่พวกเขาต้องล่ามเจ้าตูบไว้อย่างนั้นก็เพราะไม่รู้ถึงวิธีการดูแลเจ้าตูบที่เหมาะสม “มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่เลี้ยงพวกสุนัขไว้โดยการล่ามโซ่ พวกเขาไม่เข้าใจถึงธรรมชาติและการดูและพวกมันอย่างถูกต้อง” Steinbuhler กล่าว ในที่สุดเจ้านายของเจ้า Peanut ก็ยอมให้ให้ทางมูลนิธิเข้าช่วยเหลือเจ้าตูบ พร้อมกับรับคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับวิธีการดูแลสัตว์…
-
เมื่อซากตุ๊กตาเด็ก กลายมาเป็นบ้านของเหล่าต่อแตน สู่กระทู้ความสยองขนพองต่อชาวเน็ต…
โดยปกติทั่วไปแล้ว ถ้าหากไม่มีความจำเป็นหรือบังเอิญจริงๆ คงไม่มีใครอยากเข้าใกล้พวกแมลงมีพิษอย่างผึ้งหรือตัวต่อหรอก เพราะนอกจากความเจ็บปวดที่พวกเจ้าตัวเล็กมอบให้เราแล้ว บางครั้งแค่เห็นพวกมันรวมตัวกันเป็นฝูงๆ เหมือนกำลังจะเตรียมตัวไปงานฤดูหนาวบางคนก็เกิดอาการขนลุกซู่แล้วใช่ไหมล่ะ?? ซึ่งนอกเหนือจากจะสร้างรังกันเองแล้ว พวกต่อแต่นก็ยังเข้ายึดพื้นที่ทิ้งร้างจากซากอารยธรรมของมนุษย์ด้วย เพราะเจ้าแตนเกิดไอเดียสุดบรรเจิดร่วมร่างกับตุ๊กตาเด็กสุดหลอนจนทำเอาชาวเน็ตหลายๆ คนถึงกับกลัวเลยทีเดียว… และนี่คือภาพรังแตนที่ถูกเผยแพร่บนทวิตเตอร์โดยคุณ Eric Weiss และเมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ บรึ๋ยยย นี่มันหนังสยองขวัญชัดๆ แต่สำหรับบางคน มันอาจจะไม่น่ากลัวเท่ากับตุ๊กตาตะขาบตัวนี้ก็ได้ และหลังจากนั้นภาพดังกล่าวก็ได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก กลายมาเป็นการเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา และบางคนก็เคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้มาแล้ว ชายคนนี้ก็เคยเจอรังแตนที่สยองไม่น้อยไปกว่าของคุณ Eric ดูเหมือนว่าการรวมร่างกับตุ๊กตาไม้จะน่ากลัวกว่าตุ๊กตาเด็กอีกนะเนี่ย!? และแล้วจากนั้นก็กลายเป็นกระทู้เล่าเรื่องสยองขวัญไปทันที ชาวเน็ตร่วมแชร์ภาพการรวมร่างของตุ๊กตาเด็กกับสัตว์ต่างๆ แหม่… บางครั้งก็แอบสังสัยเหมือนกันนะ ว่ามันใช่ของเล่นเด็กจริงๆ หรือนี่?? ถ้าใครบังเอิญเจอรังแตนแบบนี้ล่ะก็ บอกได้คำเดียวเลยว่า… นี่มันฝันร้ายชัดๆ ที่มา distractify
-
คุณแม่ลงมือฆ่าชายวัยรุ่น เพื่อทำการแก้แค้นให้กับลูกสาววัย 6 ขวบ ที่ถูกข่มขืน…
เหตุการณ์อันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อนาง Connie Serbu หญิงสาวจากรัฐฟลอริดา ต้องตกเป็นผู้ต้อหาคดีฆาตกรรม หลังจากที่ลงมือสังหารชายหนุ่มที่เคยก่อคดีข่มขืนลูกสาวของเธอด้วยตัวเอง คุณตำรวจเจ้าของคดีสะเทือนขวัญนี้กล่าวว่า หญิงคนดังกล่าวได้ทำการล่อลวง Xavier Sierra เด็กหนุ่มวัย 18 เข้าไปในป่าแห่งหนึ่งในเมืองเนเปิลส์ และทำการปลิดชีวิตเขาด้วยปืน นาง Connie Serbu (ซ้าย) และ Xavier Sierra (ขวา) เด็กหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อ หลังจากที่จัดการกับเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ว นาง Serbu ได้โทรเรียกตำรวจมายังที่เกิดเหตุ และบอกกับตำรวจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด “ ‘ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น เขาข่มขืนลูกสาวฉัน ฉันไม่สน เขาทำลูกสาวฉัน’ เธอบอกผมทุกอย่างกับเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากที่ผมมาถึง” นายตำรวจเจ้าของคดีกล่าว เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมปี 2016 ตำรวจพบศพของนาย Sierra อยู่ในที่เกิดเหตุ และถัดจากจุดที่พบศพแรกพวกเขายังพบร่างของนาย John Vargas น้องชายวัย 29 ปีของนาง Serbu อีกด้วย โดยจากข้อมูลบอกว่านาง Serbu และนาย Vargas น้องชายของเธอได้ร่วมกันฆ่าเด็กหนุมคนดังกล่าวหลังจากที่เธอทราบว่าลูกสาวถูกชายคนดังกล่าวข่มขืนมาเป็นเวลานาน ผู้เป็นแม่ได้ส่งข้อความหานาย Sierra เพื่อให้มาสร้างเตียงสองชั้นให้ที่บ้าน ก่อนที่ทั้งสองจะพาเด็กหนุ่มเข้าไปในป่าแล้วใช้อาวุธปืนสังหารเขา แต่ทางเหยื่อขัดขืนจึงป็นเหตุให้น้องชายของเธอถูกยิงเข้าที่ท้องและเสียชีวิตในที่สุด ถึงแม้ว่าลูกสาวจะขอร้องแม่ของเธอไม่ให้ทำการตามล่าตัวเขา แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ผู้เป็นแม่ยังคงตั้งใจจะแก้แค้นให้กับลูกสาวของเธอ จนเป็นเหตุสะเทือนขวัญในที่สุด…
-
พาชมบ้านที่ถูกเก็บรักษาอย่างดีจากยุค 90 ความสวยงามที่ชวนให้นึกถึงยุคอนาล็อก
บ้านเก่าๆ อาจจะเป็นสถานที่น่าขนลุกและสร้างความผวาให้พวกเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากสภาพภายนอกที่ไม่น่าจะเข้าไปเยี่ยมชมสักเท่าไหร่แล้ว บางหลังยังเต็มไปด้วยเรื่องผีๆ อีกด้วย แต่ถึงแม้บ้านจะเก่าแค่ไหนแต่ถ้าได้รับการดูแลเป็นอย่างดีล่ะก็อาจจะทำให้มุมมองเกี่ยวกับบ้านหลังนั้นเปลี่ยนไปทันที เหมือนกับบ้านหลังนี้ของคุณ Mark Z Properties อย่างแน่นอน บ้านหลังเก่าที่ถูกดูแลไว้อย่างดี จนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีอายุเกือบ 30 ปีแล้ว!! บ้านเก่าจากยุค 90 นี้ตั้งอยู่ที่เมือง Waterford รัฐมิชิแกน และถึงแม้มันจะถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1996 แล้ว แต่ทั้งโครงสร้างและการตกแต่งภายในทุกอย่างยังคงถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี ส่วนของห้องโถงของบ้านที่ตกแต่งด้วยสีชมพูเข้มและสีดำ ที่ยังคงสภาพเดิมไว้อย่างสวยงาม . นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่นสำหรับคุณหนูๆ พร้อมกับขนมสุดอร่อยสำหรับพวกเขาอีกด้วย ถัดจากห้องรับแขกก็จะเป็นส่วนของห้องครัวที่มีการตกแต่งสไตล์เดียวกัน และนี่คือส่วนของห้องนอน ที่ทั้งกว้างขวางและสวยงาม และยังคงโทนสีชมพูเข้มเช่นเคย . . รูปทรงเรขาคณิต ถูกนำมาใช้เป็นคอนเซปต์หลักในการออกแบบและตกแต่งภายใน . และที่สิ่งอำนวยความสะดวกที่จะขาดไม่ได้สำหรับบ้านหรู นั่นก็คือห้องโฮมเทียร์เตอร์ และสระว่ายน้ำเล็กๆ สำหรับทุกคนในบ้านนั่นเอง ว้าวว สวยงามจริงๆ เลยนะเนี่ย และส่วนใครที่อยากเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ เตรียมเงินไว้ได้เลยจร้า เพราะราคาเบาะๆ แค่…
-
รู้จักกับความหมายของคำว่า “Roger That” มันคืออะไรกันนะทำไมถึงได้ยินบ๊อยบ่อย!!
โดยปรกติแล้วแฟนๆ หนังสงครามหรือหนังที่เกี่ยวกับตำรวจ อาจจะคุ้นเคยกันกับประโยคที่พวกเขามักจะพูดกันบ่อยๆ เวลาวิทยุสื่อสารกัน อย่างคำว่า “Roger That” และหลายๆ คนก็อาจจะงงกันใช่ไหมล่ะว่าคำนี้มันความหมายว่าอย่างไร ซึ่งวันนี้เพื่อเป็นการคลายความสงสัยของเพื่อนๆ เราจึงได้ไปค้นหาข้อมูลที่มาของคำคำนี้มาฝากกัน… หลังจากที่มีการคิดค้นเครื่องบินเครื่องแรกของโลกขึ้นโดยสองพี่น้องตระกูลไรท์เมื่อปี 1903 จากนั้นการเดินทางในอากาศของมนุษย์ก็ไม่ใช่เรื่องในฝันอีกต่อไป และสิ่งที่ตามมาพร้อมกับการบินนั่นก็คือการสื่อสารกันระหว่างนักบินและศูนย์ควบคุมภาคพื้น ในยุคแรกๆ ที่เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ยังไม่ทันสมัยนั้น การสื่อสารระหว่างการบินนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นการที่จะแทนคำพูดยาวๆ ให้ได้ใจความที่สำคัญนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องสร้างรหัสต่างๆ เพื่อมาสื่อสารกัน ในช่วงแรกๆ ของการติดต่อสื่อสารนั้นจะมีการใช้รหัสมอสในการรับส่งข้อความ และตัว R จะแทนคำว่า Received หรือได้รับข้อความแล้ว และโดยก่อนหน้านี้การออกเสียงแทนตัวอักษรในการวิทยุสื่อสาร หรือ phonetic alphabet จะมีการใช้คำว่า Romeo แทนตัว R แต่หลังจากนั้นในปี 1927 องค์กรวิทยุแห่งสหประชาชาติได้ใช้คำว่า Roger แทนตัวที่ตัว R และจากนั้นคำว่า Roger และจากนั้นเป็นต้นมาคำว่า Roger จึงหมายความว่าได้รับข้อความแล้วนั่นเอง จากนั้นในช่วงสงครามโลกคำว่า Roger จึงกลายเป็นคำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการสื่อสารวิทยุการบินและไม่ใช่แค่ทหารที่พูดภาษาอังกฤษเท่านั้นแต่ยังเป็นทหารในหลายๆ เชื้อชาติอีกด้วย …
-
พยาบาลสาวใช้ความถนัดและความชอบของตัวเอง สร้างสรรค์ภาพวาดจาก “เข็มฉีดยา”
คุณ Kimberly Joy Magbanua หญิงสาวที่พบว่าตัวเธอเองมีความสามารถในการทำงานศิลปะ แต่ด้วยหน้าที่การงานของเธอ ทำให้ความสามารถทางด้านศิลป์ของเธอนั้นกลับไม่ได้รับการฝึกฝนมากเท่าไหร่ และวันหนึ่งเธอก็ตัดสินใจที่จะใช้ความสามารถทางด้านศิลปะที่เธอมีผสมผลานเข้ากับอาชีพของเธอนั่นก็คือพยายาบาลนั่นเอง คุณ Kimberly จึงตัดสินใจสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของเธอขึ้นมาโดยใช้เข็มฉีดยาแทนพู่กัน และนี่ก็คือผลภาพวาดจากปลายเข็มของเธอ พยาบาลสาววัย 24 ปีจากเมือง Valladolid ประเทศฟิลิปินส์บอกว่าเธอได้ไอเดียนี้มากจากการทำงานของเธอเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว หลังจากที่เธอลองใช้เข็มฉีดยาในการลงสีแทนแปรง พยาบาลสาวกล่าวว่า “เครื่องมือทั้งสองชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่คล้ายกัน ถึงแม้ว่าเข็มฉีดยาจะดูไม่มีความเกี่ยวข้องกับศิลปะเลย” พยาบาลสาวเริ่มร่างภาพของเธอบนผืนผ้าใบด้วยดินสอก่อน จากนั้นจึงทำการลงสีด้วยเข็มฉีดยา หลังจากที่ลองฝึกฝนและผ่านความล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดผลงานศิลปะจากปลายเข็มฉีดยาของเธอก็ประสบความสำเร็จและออกมาได้สวยงามไม่แพ้กับงานศิลป์ชิ้นอื่นๆ “ฉันใช้เข็มฉีดยาในขนาดที่แตกต่างกันเพื่อให้ผลงานมีรายละเอียดที่มากขึ้น ฉันต้องคอยเปลี่ยนเข็มอยู่บ่อยๆ และทำงานให้เร็วขึ้นเพื่อแข่งกับเวลา เพราะสีนั้นจะแห้งเร็วมาก” ศิลปินสาววัย 24 ปีกล่าว ถึงแม้ว่าจะยังทำงานเดิมไปด้วย แต่ผลงานศิลปะของเธอก็ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศฟิลิปินส์ และเมื่อเร็วๆ นี้ผลงานของเธอยังถูกนำไปแสดงในเว็บไซต์ทางศิลปะชื่อดังของประเทศฟิลิปินส์อีกด้วย หญิงสาวใช้เวลาประมาณ 3 ถึง 5 ชั่วโมงในการสร้างสรรค์ชิ้นงานศิลปะของเธอ แต่การวาดภาพด้วยเข็มของเธอนั้นก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายๆ คนคิด ศิลปินสาวต้องควบคุมความแรงของการกดเข็มฉีดยา พร้อมกับการตวัดข้อมือให้ได้ลายเส้นที่ดูสวยงามอีกด้วย เพราะบางครั้งทิศทางหรือปริมาณของสีที่ผิดพลาดอาจทำให้ผลงานของเธอเสียหายได้เลยทีเดียว . …
-
“คลื่นเหงาสาวข้างหอ” เขียนข้อความขออาหาร หนุ่มชั้นล่างถามกลับ แต่ดั๊นไม่ใช่เรื่องข้าว
สำหรับใครที่เคยผ่านช่วงชีวิตในมหาวิทยาลัยมา คงจะเข้าใจถึงความยากลำบากในการขยับร่างกายออกไปจากหอกันเป็นอย่างดี และหลายๆ คนก็คงจะต้องคุ้ยเคยกับคำว่า “ฝากซื้อหน่อย” และดูเหมือนว่า Em สาวมหาลัยเท็กซัสคนนี้ก็ไม่ต่างจากพวกเราหลายๆ คนสักเท่าไหร่ เมื่อเธอและเพื่อนร่วมห้องของเธอ ตัดสินใจขอความช่วยเหลือฝากซื้อข้าวจากผู้คนที่ผ่านไปมา ด้วยการส่งสัญลักษณ์เป็นตัวอักษรต่างๆ ประมาณว่า “ช่วยซื้อข้าวให้ฉันหน่อย” ออกมาทางหน้าต่างของห้องเธอ!! และนี่คือข้อความของเธอ “ซื้อข้าวมาส่งหน่อยจร้าา” และแล้วก็ดูเหมือนว่าจะมีคนเห็นข้อความของเธอ ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจึงส่งป้ายตอบกลับมาว่า “อยากได้ข้าวอะไรล่ะ??” และแล้วฝ่ายสาวก็ตอบกลับไปว่า “อะไรก็ได้ ตอนนี้เราอ้วนแล้ว!!” แล้วเธออ้วนแค่ไหนล่ะ?? และจากนั้นบทสนทนาก็เปลี่ยนไป จากเรื่องข้าวก็กลายเป็นเรื่องอื่นเฉ๊ย!? ไหนล่ะข้าว โถ่พ่อหนุ่ม!! และหลังจากนั้น Em จึงตัดสินใจแชร์เรื่องฮาๆ นี้ลงบนทวิตเตอร์ของเธอ และดูเหมือนว่าชาวเน็ตหลายๆ คนจะชอบเรื่องราวน่ารักๆ นี้เช่นกัน โดยมีโพสต์ดังกล่าวถูกรีทวีตมากถึง 93,000 ครั้งและมีผู้ถูกใจอีกกว่า 3 แสนคนเลยทีเดียว แต่ก็มีชาวเน็ตขี้สงสัยบางคน ก็ถามกลับหญิงสาวว่าพวกเขาเห็นข้อความนั้นได้อย่างไรกันน่ะ?? แต่ทางฝ่ายเจ้าของโพสต์ก็ออกมาอธิบายว่า พวกเธอถ่ายภาพพวกนี้จากถนนด้านล่างต่างหากล่ะ แถมตอนนี้พวกเธอก็ยังไม่ได้ข้าวอีกด้วย!! อืม……
-
‘เมสซี’ เรียกแฟนบอลรุ่นจิ๋วเข้ามาถ่ายรูปด้วย หลังจากที่เจ้าหนูถูกการ์ดลากตัวออกไป
การได้ใกล้ชิดกับนักฟุตบอลระดับโลก คงเป็นหนึ่งในความฝันในวัยเด็กของหลายๆ คน และแน่นอนว่าสำหรับใครที่มีนักเตะในดวงใจซักคนล่ะก็ เมื่อเห็นพวกเขาอยู่ตรงหน้าและมีโอกาสได้ใกล้ชิด คงไม่อยากจะพลาดช่วงเวลาดีๆ แบบนี้แน่นอน เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับแฟนบอลรุ่นจิ๋วของนักเตะระดับโลกอย่าง Lionel Messi ระหว่างที่เขากำลังจะเตรียมตัวลงทำศึกฟุตบอลรอบคัดเลือกระหว่างอาร์เจนติน่าและอุรุกวัย เจ้าหนูน้อยได้มารอนักฟุตบอลคนโปรดของเขาถึงหน้าโรงแรม และในระหว่างที่ดาราดังจากสโมสรบาร์เซโลน่ากำลังจะเดินทางเข้าพักที่โรงแรมในประเทศอุรุกวัย เจ้าหนูก็พยายามจะเดินเข้าไปขอถ่ายรูปกับนักฟุตบอลคนดังด้วยความดีใจทันที แต่ทว่าความฝันของเจ้าหนูต้องจบลง เมื่อเขาถูกฝ่ายรักษาความปลอดภัยลากตัวออกไป พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้เข้าใกล้กับดาวเตะระดับโลก แต่ Messi กลับไม่เห็นด้วยที่ไล่เด็กน้อยคนนั้นออกไป ดาวเตะอาร์เจนติน่าเรียกเจ้าหนูน้อยเข้ามาใกล้ๆ เขาพร้อมกับลูบหัวด้วยความเอ็นดูและยอมให้เจ้าหนูถ่ายภาพร่วมกับเขา ก่อนที่ลูกทีมของ Jorge Sampaoli จะเข้าไปพักผ่อนกันภายในโรงแรม เพื่อเตรียมลงแข่งขันฟุตบอลโลกคัดเลือกกับทีมชาติอุรุกวัยในวันที่ 1 กันยายน เวลา 6 นาฬิกาตามเวลาประเทศไทย แหม่… น่าอิจฉาเจ้าหนูน้อยคนนี้จริงๆ เลยนะเนี่ยยย ที่มา dailymail
-
วอร์เนอร์สนใจอยากได้ Leonardo DiCaprio มารับบท The Joker ในหนังภาคเดี่ยว!?
ถ้าหากให้พูดถึงตัวร้ายจากฝั่งดีซีขึ้นมาซักหนึ่งตัว เชื่อแน่ว่าชื่อแรกที่แว๊บเข้ามาในหัวหลายๆ คนคงต้องเป็นโจ๊กเกอร์แน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ เพราะนอกจากพี่แกจะเป็นคู่ปรับตัวสำคัญของแบทแมนแล้ว ในส่วนของคาร์แรกเตอ์นั้นก็สุดแสนจะจัดจ้านและน่าจดจำไม่น้อยเลยทีเดียว และสำหรับใครที่เป็นแฟนเจ้าตัวตลกวายร้ายตัวนี้ล่ะก็ ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นเค้ากลับมาป่วนอีกครั้ง หลังจากที่ทางเว็บไซต์ Hollywoodreporter ได้ออกมารายงานว่าทาง Warner Brother ได้เตรียมทาบทามดาราดังอย่าง Leonardo DiCaprio มารับบทโจ๊กเกอร์ในหนังภาคเดี่ยว!! โดยก่อนหน้านี้ทางเว็บไซต์ uproxx ได้รายงานว่าทางบริษัทผู้ถือลิขสิทธิ์มีแผนที่จะเตรียมสร้างหนังภาคเดี่ยวของเจ้าตัวตลกวายร้ายนี้ ซึ่งจะได้ Todd Phillips ผู้กำกับจาก The Hangover มานั่งแท่นผู้กำกับและเขียนบท และนอกจากนี้ยังจะได้ Martin Scorsese ผู้กำกับและเขียนบทที่กวาดรางวัลออสก้ามาแล้วมากมายจาก Taxi Driver, Raging Bull, และ Goodfellas มาเป็นผู้อำนวยการสร้างอีกด้วย โดยหนังภาคแยกของโจ๊กเกอร์ที่กำลังมีแผนว่าจะสร้างนี้ จะไม่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกันกับภาค SUICIDE SQUAD ที่รับบทโดย Jared Leto แต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ทางเจ้าตัวอย่าง DiCaprio ยังไม่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด และก็ยังไม่มีการรับประกันว่าพระเอกเจ้าของรางวัลออสก้าจาก The Revenant จะตอบรับเล่นบทที่ว่านี้หรือไม่ อื่ม… ไม่แน่นะ ถ้าหากว่าทางทีมสร้างเอาจริงล่ะก็ พ่อหนุ่มแจ๊คของเราอาจจะยอมรับบทนี้ก็ได้ ฮ่าๆ ที่มา uproxx
-
วินาทีระทึกขวัญของนักบินที่นำเครื่อง “ลงจอดฉุกเฉิน” ท่ามกลางพายุทอร์นาโดหลายลูก
ภาพเหตุการณ์ระทึกขวัญที่ถูกถ่ายจากสถานี Sochi filmed ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นวินาทีที่นักบินเครื่องเจ็ทกำลังพยายามนำเครื่องลงจอดท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกิดเหตุการสภาพอากาศแปรปรวณขึ้นที่บริเวณชายฝั่งของทะเลดำ ในเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้ภาพของ Water Spouts หรือกระแสน้ำวันที่ออกมาจากทะเลมากถึง 12 แห่ง เป็นเหตุให้นักบินต้องนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิน Anapa and Krasnodar เหตุการณ์พายุในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ โดยสาเหตุของการเกิดนั้นมาจากมวลอากาศ 2 กลุ่มที่มีความเร็วแตกต่างกันเคลื่อนที่เข้าปะทะกัน ซึ่งส่วนมากแล้วเกิดจากสภาพอากาศอย่างเช่นพายุทอร์นาโด กระแสลมกรด (Jet Streams) เครื่องบินที่กำลังแล่นลงจอดฉุกเฉิน เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศอันเลวร้าย และนี่คือคลิปวิดีโอการลงจอดของเครื่องบินลำดังกล่าวจากผู้เห็นเหตุการณ์ ภาพจากผู้โดยสารบนเครื่องบิน เผยให้เห็นถึงความเลวร้ายของสภาพอากาศภายนอก แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นสถานะการณ์เดียวกันกับในคลิปวิดีโอหรือไม่ ภาพของพายุที่กำลังก่อตัวเหนือทะเลดำ ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้พบเห็นและผู้โดยสาร กัปตันต้องใช้ความสามารถอย่างสูงเพื่อนำเครื่องลงจอดฉุกเฉิน แต่โชคดีพวกเขาสามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย ซึ่งโดยปรกติแล้วการเกิดสภาพอากาศแปรปรวนนี้เป็นสาเหตุของการเกิดหลุมอากาศ แต่อย่างไรก็ตามความรุนแรงและความแปรปรวนก็ทำให้เกิดความแตกต่างของชนิดหลุมอากาศเช่นกัน ทางด้านกัปตัน Steve Allright จากสายการบิน British Airways ได้ออกมาเปิดเผยว่าหลุมอากาศนั้นจะมีหลายประเภท ปรกติแล้วมันจะเกิดขึ้นจากสภาพอากาศที่สดใสซึ่งเป็นหลุมอากาศที่พวกเรามักเจอกันบ่อยๆ และไม่มีอันตราย แต่กระแสลมกรดนั้นจะเป็นสภาพอากาศที่รุนแรง ซึ่งนักบินมักจะวางแผนเส้นทางบินก่อนหน้าเพื่อหลีกเลี่ยง แต่อีกปัญหาของกระแสลมกรดก็คือมันมักจะทำให้เกิดมวลน้ำขึ้นมาในบริเวณที่มีความแตกต่างของความเร็วลมนั่นเอง ที่มา dailymail
-
ชาวเน็ตตั้งคำถาม “บริการย้อมสีน้องหมา” ความสวยงามที่ปลอดภัยจริงหรือ??
ปัจจุบันวงการสัตว์เลี้ยงนั้นได้การพัฒนาไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสัตว์แปลกๆ หรือเครื่องมือในการดูแลพวกสัตว์ต่างๆ ก็มีให้เห็นหลายรูปแบบมายิ่งขึ้น สำหรับใครที่เลี้ยงน้องหมากันอยู่ก็อาจจะคุ้นเคยกับบริการตัดแต่งและดูแลขนของเจ้าตูบกันเป็นอย่างดี แต่ตอนนี้วงการตัดแต่งทรงขนของน้องหมานั้นได้ก้าวไปอีกขั้นแล้ว เมื่อได้มีการคิดค้นสีย้อมขนสำหรับเจ้าตูบขึ้นมา!! เจ้าตูบที่ผ่านการย้อมสีให้กลายเป็นหมีน้อย ตอนนี้บริการที่ว่ากำลังได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นในยุโรป อเมริกา จีนและญี่ปุ่น ซึ่งการแปลงโฉมเหล่าเจ้าตูบนั้นก็มีมากมายหลายรูปแบบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำสีขนแบบแพนด้า ยีราฟ หรือแม้แต่นกแก้วก็ได้นะเออ น้องหมาตัวน้อยที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการแปลงโฉม แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีกลุ่มคนรักสัตว์อีกจำนวนหนึ่งที่มองว่าบริการดังกล่าวนั้นอาจเป็นอันตรายต่อเหล่าน้องหมาและมองว่าพวกสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเสมือนคนในครอบครัวไม่ใช่ของเล่น โดยทางแฟนเพจ Pet Pet Express ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับบริการย้อมสีนี้ “สำหรับเราต้องยอมรับว่าบริการนี้จะช่วยทำเงินและทำให้พวกเจ้าตูบดูน่ารักขึ้น แต่เราคิดว่าการทำสีขนนี้ไม่ค่อยจะเหมาะกับพวกน้องหมาเท่าไหร่เพราะมันเต็มไปด้วยสารเคมีและความร้อน ซึ่งอาจทำให้พวกเค้าเกิดอาการแพ้ได้” ทางแฟนเพจกล่าว นอกจากนี้ทางแฟนเพจดังกล่าวซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงยังได้กล่าวอีกว่า “ในฐานนะที่อยู่ในวงการนี้ เราคิดว่าการจะสร้างสรรค์นวัตกรรมใดๆ ขึ้นมาควรเริ่มต้นด้วยความรักและความเข้าใจเหล่าน้องหมา เราคิดว่าพวกเขาไม่ควรตกเป็นเครื่องมือของการทำกำไรแบบนี้” นอกจากนี้ชาวเน็ตผู้รักสัตว์ท่านอื่นๆ ยังได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกเป็นจำนวนมาก บางคนบอกว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการทารุณสัตว์ชัดๆ แต่ในขณะที่บางคนกลับมองว่ามันก็ดูน่ารักดีนะ ส่วนเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่เลี้ยงเจ้าตูบมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ก็ลองคอมเมนต์เข้ามากันได้เลยนะ ที่มา Pet Pet Express