Author:
-
ศิลปินผู้เปลี่ยนผลงานขนหัวลุก ให้กลายเป็นรอยสักที่จะฝังความน่ากลัวเอาไว้บนเรือนร่าง
หากใครชื่นชอบการสร้างงานศิลปะบนเรือนร่างแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้ได้รู้จักกับช่างสักชาวฝรั่งเศสที่ใช้ชื่อว่า Jeanchoir เจ้าของร้านสัก Sombre Tache ในเมือง Marseille ประเทศฝรั่งเศส ผู้มากด้วยความสามารถและได้ฝากผลงานอันสวยงามเอาไว้มากมาย ความพิเศษของรอสักที่เขาสร้างขึ้น คือรูปร่างที่เกิดมาจากจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด ผสมผสานกันระหว่างแรงบันดาลใจจากผลงานแนวสัตว์ประหลาดต่างดาวของศิลปิน HR Giger บวกกับความเป็นตัวของตัวเอง ทำให้ Jeanchoir สามารถให้กำเนิดความหลอนที่จะฝังอยู่บนร่างกายได้อย่างหลากหลาย ด้วยความเชื่อของเขาที่ว่าพระเจ้านั้นไม่มีอยู่จริง ทำให้เขาสร้างผลงานที่ออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ชวนขนหัวลุกแบบแปลกๆ แต่ก็ยังคงเอาไว้ซึ่งความสวยงาม และนี่ก็คือตัวอย่างผลงานอันน่าประทับใจของช่างสักคนนี้ รูปแบบที่เกิดจากจินตนาการที่มีความหลอนซ่อนอยู่ด้านใน ภาพวาดเหล่านั้นถูกนำไปฝังเอาไว้บนร่างกายของมนุษย์ สิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวและโหดร้าย แต่ยังคงความสวยงามเอาไว้ เมื่อได้มาอยู่บนเรือนร่าง การสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จบ ทำให้ผลงานของเขาเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก เขาไม่เชื่อเรื่องของสวรรค์หรือพระเจ้า และสิ่งนั้นก็ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านรอยสักเหล่านี้ การเก็บรายละเอียดทุกอย่าง ทำให้ผลงานดูสมจริงและตระการตา ผลงานรอยสักที่จะทำให้ทุกคนสงสัยว่ามันคือตัวอะไร? นับว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินผู้มากไปด้วยฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ หากใครอยากได้รอยสักผลงานของเขามาฝากเอาไว้บนเรือนร่างก็คงต้องเดินทางไปไกลถึงประเทศฝรั่งเศสกันเลยทีเดียว โดยทุกคนสามารถติดตามผลงานของเขาได้ที่อินสตาแกรม jeanchoir_tattoo ที่มา: sobadsogood
-
หนุ่มผิวสีถูกร้านกักตัว กล่าวหาว่าขโมยเสื้อกันหนาว แม้บริสุทธิ์แต่ไม่มีคำขอโทษสักคำ!?
ในปัจจุบัน คนบางกลุ่มยังคงยึดถือในเรื่องของความแตกต่าง มองว่าตนเองอยู่เหนือกว่าผู้อื่นเพียงเพราะเรื่องของเชื้อชาติหรือสีผิว ทำให้เกิดการเหยียดคนที่เป็นเชื้อชาติอื่นๆ เหมือนอย่างเหตุการณ์ที่ชายคนนี้ต้องเจอเพียงเพราะว่าเขาเป็นคนผิวดำ เขาคนนี้มีชื่อว่า James Conley III วัย 29 ปี หนุ่มผิวสีที่เป็นลูกค้าประจำของแบรนด์เสื้อผ้า Old Navy แต่วันหนึ่งเขาก็ต้องเจอกับการโดนดูถูกจากร้านเสื้อผ้าที่ตนเองชื่นชอบ James ได้โพสต์สิ่งที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2018 เรื่องราวมีอยู่ว่าในวันนั้น เขาได้เข้าไปเลือกซื้อเสื้อผ้าของร้าน Old Navy สาขาหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า Jordan Creek รัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา ซึ่งในตอนนั้นเขาก็ใส่เสื้อแบรนด์เดียวกันไปด้วย โพสต์ของเขาที่พูดถึงการโดนเหยียดสีผิว จากนั้นเขาก็ถูกผู้จัดการร้านที่ชื่อ Beau Carter เรียกตัวไป เพื่อจะตรวจสอบเสื้อหนาวสีน้ำเงินตัวที่เขาใส่อยู่ เพราะเกิดการตั้งข้อสงสัยว่าเขาได้ขโมยเสื้อตัวนี้ไปหรือเปล่า ทั้งๆ ที่จริงเสื้อตัวนี้ James ได้มาเป็นของขวัญวันคริสต์มาสในปีที่ผ่านมานี่เอง James (คนซ้าย) ถูกผู้จัดการร้านเรียกไปตรวจสอบว่าเสื้อที่เขาใส่คือตัวของทางร้านหรือเปล่า ผู้จัดการร้านชี้แจงกับเขาว่า “เวลาที่มีลูกค้าใส่เสื้อของ Old Navy เดินเข้ามาในร้าน…
-
ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ หลังหนุ่มใช้แมวเป็นฟองน้ำ จุ่มน้ำแล้วเอาไปทำความสะอาดรถ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Metro ได้มีการรายงานเกี่ยวกับคลิปวิดีโอที่กำลังกลายเป็นกระแสในประเทศรัสเซีย ภายในคลิปเผยให้เห็นภาพของชายคนหนึ่งที่กำลังกลั่นแกล้งแมวจรจัด ด้วยการเอามันมาใช้แทนฟองน้ำล้างรถ คลิปของเจ้าเหมียวที่ถูกใช้แทนฟองน้ำล้างรถ <span data-mce-type=”bookmark” style=”display: inline-block; width: 0px; overflow: hidden; line-height: 0;” class=”mce_SELRES_start”></span> จากการรายงานบอกว่าเจ้าแมวจรจัดตัวนี้ไปเดินอยู่บนกระโปรงหน้าของรถคันสีดำที่เห็นภายในคลิป ซึ่งจอดอยู่ในเมือง Krasnodar ทำให้ชายที่เป็นเจ้าของรถไม่พอใจและจับมันมาเล่นสนุก โดยการเอามันจุ่มลงไปในน้ำแล้วใช้ล้างรถของตัวเอง เหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายเก็บไว้โดยเพื่อนของเขาที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน เพราะตลกกับคำพูดของเพื่อนที่กำลังใช้แมวล้างรถที่บอกว่า “นี่เป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับการล้างไฟหน้าเลย” พวกเขาได้นำคลิปวิดีโอนี้โพสต์ลงไปในโลกโซเชียล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ชาวเน็ตบางคนถึงกับพยายามโทรแจ้งตำรวจ และนั่นจึงทำให้ชายทั้งสองคนยอมลบคลิปออกไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต พร้อมกับความคิดเห็นที่ไม่พอใจในสิ่งที่พวกเขาทำ Ashlea Wolff “น่าเศร้าเสียจริงที่ต้องมาเห็นคนให้ความสำคัญกับสิ่งของมากกว่าสิ่งมีชีวิต หวังว่าพวกเขาจะได้ชดใช้สิ่งที่ทำอยู่ในคุกเข้าซักวัน นั่นคือโทษที่เบาที่สุดแล้วที่เขาควรได้รับ” Zoe Ann “เอาจริงๆ ฉันเป็นคนเกลียดแมวนะ แต่ฉันก็ไม่มานั่งทำร้ายมันอย่างป่าเถื่อนแบบนี้หรอก พวกเขาเหล่านั้นสมควรที่จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป” Chris Lane “ชายใจทรามที่มัวแต่ยืนถ่ายวิดีโอก็สมควรถูกจับเหมือนกัน เพราะความเลวร้ายแบบนี้ไม่สมควรที่จะได้รับการให้อภัยใดๆ…
-
เจ้าเหมียวเพื่อนแท้ คอยดูแลเด็กสาวมนุษย์ตัวน้อยตั้งแต่ตอนที่เธอยังไม่เกิด
บางคนอาจจะมีเพื่อนในวัยเด็กที่เล่นด้วยกันมาตลอด ตัวติดกันไม่ยอมห่างไปไหน เรียกว่าเป็นเพื่อนซี้ที่ไปไหนไปกัน เหมือนอย่างเด็กคนนี้ที่มีเพื่อนสนิทตัวติดกันมาตั้งแต่ตอนก่อนที่เธอจะเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกเสียอีก เพื่อนสนิทตัวนี้มีชื่อว่า Tiger มันคือเจ้าเหมียวแสนซนที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่ตอนยังเป็นเพียงลูกแมว ก่อนที่นาย Stefano De Munari จะไปเจอมันที่สวนของตัวเองในประเทศอิตาลี เจ้าเหมียว Tiger ได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ตั้งแต่ตอนเล็กๆ Stefano เล่าว่าเขารู้สึกเหมือนกับถูกเลือกโดยเจ้าเหมียวตัวนี้ยังไงยังงั้น มันเป็นแมวถูกทิ้งที่เข้ามาหาและปรับตัวเข้ากับเขาและภรรยาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้น Tiger ก็อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขามาโดยตลอด จนกระทั่งมันได้ทำความรู้จักกับเพื่อนสนิทเป็นครั้งแรก ซึ่งนั่นก็คือเด็กน้อยที่ชื่อว่า Sofia ลูกสาวของเขา โดยเจ้าเหมียวนั้นพยายามเข้าไปตีสนิทกับเด็กสาวตั้งแต่ตอนที่เธอยังอยู่ในท้องแม่ ตอนที่ภรรยาเริ่มตั้งครรภ์เด็กสาว เจ้าเหมียวก็จะชอบมานอนอยู่ตรงท้องของเธอเสมอ วันเวลาผ่านไป ในที่สุด Sofia ก็ได้ลืมตาออกมาดูโลก และได้เจอกับเจ้า Tiger เพื่อนซี้ที่เฝ้ารอคอยเธอมาตลอด ช่วงเวลาของทั้งสองก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น เจ้าเหมียวไม่ยอมออกห่างจากเด็กสาวเลยแม้แต่นิดเดียว Stefano บอกว่า “ตั้งแต่ที่ลูกของเราเกิดมา เจ้าเหมียวก็จะคอยดูแลปกป้องเธอไม่ยอมห่างเลย ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันทุกเวลาจริงๆ” มันคอยปกป้องเด็กสาว แม้ว่าเธอจะกำลังหลับอยู่ในรถเข็น เจ้าเหมียวคอยดูแล Sofia เพื่อนซี้ทุกช่วงเวลา มันพร้อมจะทำทุกอย่างที่ทำให้เด็กสาวมีความสุข…
-
กระแสเกมเสมือนจริงในญี่ปุ่น ให้ผู้เล่นตัดขาดจากโลก เข้าไปสัมผัสความสนุกแบบเต็มตัว
ในยุคสมัยนี้ เกือบทุกคนจะต้องเคยเล่นวิดีโอเกมกันมาบ้างแล้วผ่านเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ในสมาร์ตโฟน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถเข้าไปเป็นผู้เล่นในนั้นได้โดยตรง เหมือนกับว่าเราอยู่ในเกมนั้นจริงๆ ไอเดียดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่น กับเหล่าเกมเสมือนจริง ที่ท้าทายให้เราพาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของเกมในชีวิตจริง ใช้ร่างกายเป็นตัวตัดสินว่าเราจะสามารถผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้หรือไม่ เกมเสมือนจริงในลักษณะนี้มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2007 ในตอนที่เด็กนักเรียนคนหนึ่งพูดความรู้สึกเกี่ยวกับการที่ตัวเองได้เล่นเกมแนวหลบหนีหรือไขปริศนาว่ามันสนุกมากขนาดไหน ทางบริษัท Scrap ผู้พัฒนาเกมของประเทศญี่ปุ่นได้ฟังความรู้สึกของเด็กคนนั้นก็เกิดไอเดียที่จะดึงเอาเกมมาอยู่ในโลกของความเป็นจริง เพื่อให้เหล่าผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมสามารถรับเอาประสบการณ์เหล่านั้นได้โดยตรง เหมือนกับเข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง หลังจากนั้นเกมเสมือนจริงแนวการหลบหนีไขปริศนาก็ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคม 2007 ในพื้นที่จังหวัดเกียวโต ซึ่งในตอนนั้นผลตอบรับที่ได้ก็เป็นไปอย่างดีเยี่ยม ทำให้ทางบริษัทเริ่มที่จะกระจายเกมประเภทนี้ออกไปเป็นวงกว้าง มีการจัดงานนำเสนอเชิญชวนผู้เล่นไปทั่วประเทศ เวลาผ่านไป ทางบริษัทก็ได้กระจายเกมเสมือนจริงนี้ออกไปให้ชาวญี่ปุ่นได้เล่นกันกว่า 15 แห่งทั่วประเทศ และยังมีบางเกมที่ถูกส่งไปตั้งให้ได้เล่นกันในต่างประเทศอีก 7 แห่ง ได้แก่ นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส โตรอนโต้ และอีกหลายๆ ที่ โดยมีภาษาอังกฤษรองรับให้กับเหล่าผู้เล่นจากทั่วโลก Akira Baba อดีตศาสตราจารย์นักประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว ก็บอกว่า ความสนุกของเกมเสมือนจริงเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้เทคโนโลยีล้ำๆ แต่มันคือการที่ทำให้ผู้เล่นได้เข้าไปสัมผัสด้วยร่างกายและสมองของตัวเอง เขาทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนที่จะเริ่มมีคนเอามาทำจริงๆ โดยเขาเสริมว่า หนึ่งในความสนุกที่สุดของการได้เข้าไปเล่นเกมด้วยตัวเองก็คือตอนที่ผู้เล่นรู้สึกประสบความสำเร็จหลังจากจบเกม บวกกับความรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากชีวิตจริงที่การพัฒนาในเรื่องต่างๆ จะเห็นผลได้ช้า…
-
ว่าไงนะ!? คู่รักอ้างพลังพิเศษ สามารถสื่อสารกับเหล่าสัตว์เลี้ยงได้ แค่มองตาก็รู้ใจ
เหล่าคนที่มีพลังพิเศษมักจะปรากฏตัวให้เราได้เห็นแต่ในภาพยนตร์หรือการ์ตูนที่ถูกสร้างจากจินตนาการ แต่ใครจะไปเชื่อว่าความสามารถเหนือมนุษย์แบบนั้นอาจจะมีอยู่จริงๆ บนโลกของเรา เหมือนอย่างคู่รักสองคนนี้ที่บอกว่าตนเองมีพลังจิตสามารถติดต่อสื่อสารกับสัตว์นานาชนิดได้ Susie Shiner วัย 50 ปี และแฟนหนุ่ม Paul Braithwaite วัย 43 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Chepstow ประเทศเวลส์ ทั้งคู่คือคนที่บอกว่าตัวเองมีพลังจิตสามารถติดต่อสื่อสารกับสัตว์หลายๆ ชนิดได้ ผ่านรูปและชื่อของสัตว์ตัวนั้นๆ Paul และ Susie คู่รักที่บอกว่าตัวเองมีพลังจิต สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ Susie บอกว่าขอแค่เพียงเธอได้เห็นภาพของสัตว์ตัวนั้นและได้รู้จักชื่อของมัน เธอก็สามารถรับรู้ความรู้สึก ความคิด คำพูด หรือแม้แต่ภาพในหัวของสัตว์ตัวดังกล่าวได้ และเธอก็จะส่งต่อสิ่งนั้นกลับไปหาเจ้าของของมันผ่านการบอกเล่า เธอเล่าให้ฟังถึงการสื่อสารกับสัตว์หลายๆ ครั้ง อย่างเช่นเจ้าหมาสายพันธุ์ English Bull Terrier ตัวหนึ่งที่เคยบอกกับเธอว่า มันรู้สึกอายมากแค่ไหนที่ต้องแต่งชุดเหมือนกับหมาตัวเมีย ม้าตัวหนึ่งก็เคยทำให้เธอได้เห็นภาพของเจ้าของมันที่กำลังร้องไห้อยู่ตรงขนของมัน เพราะเสียใจที่ต้องเสียคนในครอบครัวไป หรือแม้แต่สัตว์ที่ตายไปแล้ว Susie ก็สามารถติดต่อกับมันได้ อย่างกรณีของเจ้าหมาที่นอนอยู่ในหลุมศพ มันได้ส่งชื่อๆ หนึ่งมาให้กับเธอผ่านทางความคิด ซึ่งนั่นเป็นชื่อของหมาอีกตัวที่อาศัยอยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับมัน Susie…
-
ผู้เชี่ยวชาญเผยวิธีการสังเกตว่าอีกฝ่ายกำลัง ‘โกหก’ อยู่หรือไม่ ภายในเวลา 5 วินาที
การโกหก เป็นสิ่งที่แทบจะทุกคนบนโลกต้องเคยทำกันมาก่อน โดยจากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าคนเราจะโกหกประมาณ 11 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 2 ครั้งต่อวันเลยทีเดียว การโกหกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องใหญ่ๆ เสมอไป แต่อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการพูดโกหกเกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอง เช่น บางครั้งที่เรารู้สึกหงุดหงิด แต่ก็เลือกที่จะบอกเพื่อนว่าเราไม่ได้เป็นอะไร แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายกำลังโกหกเราอยู่? วันนี้เราจึงมาพูดถึงวิธีการจับโกหกได้ใน 5 วินาที โดยนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ดอกเตอร์ Paul Ekman ข้อสังเกตแรกที่เราจะสามารถเช็กได้ว่าอีกฝ่ายโกหกอยู่หรือไม่ คือให้เราลองสังเกต การขยับศีรษะ ของคนคนนั้นในตอนที่เขากำลังปฏิเสธเรื่องอะไรซักอย่าง Paul อธิบายว่าหากอีกฝ่ายส่ายหัวซ้ำไปซ้ำมา นั่นอาจหมายถึงว่าเขากำลังโกหกอยู่ เพราะคนเรามักจะไม่ทำอย่างนั้นในตอนที่กำลังพูดความจริง ต่อมาคือเราต้องสังเกตการแสดงออกทางสีหน้า เพราะว่าคนเราทุกคนจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่เผยสีหน้าความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองออกมา ซึ่งบางครั้งมันก็อาจจะขัดกับสิ่งที่เขาพูดอยู่ในตอนนั้นก็ได้ อย่างที่สามคือการสังเกตลักษณะการขยับมือ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งอย่างที่เราสามารถสังเกตได้ง่าย โดยให้เราดูว่าอีกฝ่ายได้ทำมือออกมาเป็น เชิงสัญลักษณ์ ในตอนที่กำลังพูดอยู่หรือไม่ เช่น การชี้นิ้ว เอามือปาดเหงื่อ หรือเอามาปิดบังใบหน้าของตัวเอง เมื่อไหร่ที่เป็นอย่างนั้นก็ขอให้เดาเอาไว้ในใจเลยว่าเขากำลังโกหกอยู่ สัญญาณสุดท้ายก็คือวิธีการพูดหรือบทสนทนาที่กำลังพูดกันอยู่ ให้เราสังเกตว่าอีกฝ่ายมีการพักช่วงหรือทำให้บทสนทนาขาดตอน…
-
เจ้าเหมียวพลังจิตแห่งรัสเซีย ผู้คนต่างให้ความสนใจ จนมีค่าตัวสูงถึง 2,600,000 บาท!!
บางคนอาจจะไม่ได้เชื่อเรื่องของพลังจิตหรือว่าญาณทิพย์ ทำให้ไม่เชื่อในคำพูดของหมอดูหรือผู้ที่อ้างตัวว่ามีพลังพิเศษ แต่สำหรับเรื่องราวนี้มันยิ่งกว่าคำว่าน่าเหลือเชื่อไปอีกขั้น เพราะพลังพิเศษในลักษณะเดียวกันนั้นมันกลับไม่ได้อยู่ในตัวของมนุษย์ แต่ดันไปอยู่ในตัวแมวซะได้ นี่คือเรื่องราวของเจ้าแมวพลังจิตที่ชื่อว่า Charles Utkins ซึ่งถูกบอกเล่าผ่านเจ้าของเก่าของมัน Dmitry R ชายชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในเมือง Blagoveshchensk ประเทศรัสเซีย ผู้ต้องเจอกับความอัศจรรย์หลายๆ อย่างที่เขาบอกว่ามันเกิดขึ้นมาจากความสามารถของเจ้าเหมียว เจ้าแมวพลังจิต Charles Utkins Dmitry ได้รับเลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้ต่อจากน้าของเขาที่ตายไป แล้วหลังจากนั้นเขาก็ต้องเจอกับความพิศวงหลายๆ อย่างของมัน เขาเล่าว่าเจ้าเหมียวสามารถเข้าไปอยู่ในห้องที่ถูกปิดตายเอาไว้ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่มีใครไปเปิดประตูให้มันเลย ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเจ้าเหมียวยังมีความสามารถในการอ่านใจอีกด้วย และที่หนักกว่าการอ่านความคิดของเขาได้ก็คือ การที่มันสามารถกำหนดความคิดของเขาให้เป็นไปตามที่มันต้องการ เจ้าของเก่าที่ชื่อว่า Dmitry R เขาเล่าว่า “ก่อนที่ผมจะได้มาเจอกับ Charles ผมไม่เคยเชื่อเรื่องพลังเหนือธรรมชาติเลย แต่เจ้าแมวตัวนี้กลับสามารถบังคับและควบคุมความคิดของผมได้ เพื่อคอยเติมเต็มความสุขให้กับมัน และทำให้ผมรู้สึกอับอายมากที่ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ” เขายกตัวอย่างถึงเหตุการณ์หนึ่งที่ถูกเจ้าแมวควบคุมความคิด เขาบอกว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ชอบกินปลาและไส้กรอกอย่างมาก แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับต้องลุกขึ้นมาตั้งแต่ตี 5 โดยที่ในหัวมีแต่ความต้องการอยากจะกินปลากับไส้กรอกมากๆ จากนั้นเขาจึงออกไปซื้อทั้งสองอย่างนั้นกลับมา ก่อนที่จะเอามาใส่จานให้เจ้าแมวกิน และเมื่อ Charles เริ่มกิน…
-
หนุ่มชาวจีนหัวใส ลงทุนขโมย ‘ถนนคอนกรีต’ ความยาวกว่า 800 เมตรไปขาย
ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นอะไรก็สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้เกือบทั้งหมด นั่นจึงทำให้เราต้องคอยเฝ้าระวังดูแลทรัพย์สินต่างๆ เอาไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกฉกฉวยไปได้โดยไม่รู้ตัว เหมือนอย่างพื้นถนนแห่งหนึ่งในประเทศจีน จากการรายงานข่าวภายในประเทศจีนเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 บอกว่าได้มีชายแซ่ Zhu ลงทุนขโมยถนนคอนกรีตความยาวกว่า 800 เมตรไปขายซะอย่างนั้น ทำเอาชาวบ้านถึงกับงงไปพักหนึ่งเลยว่าถนนดังกล่าวมันหายไปได้อย่างไร การหายไปของถนนคอนกรีต ในตอนแรกนั้น ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของมณฑลเจียงซู เริ่มเกิดความสงสัยว่าถนนคอนกรีตเส้นดังกล่าว จู่ๆ ก็กลายเป็นเส้นทางโล่งๆ ซะอย่างนั้น พวกเขาจึงทำให้การแจ้งไปที่ภาครัฐตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2018 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะพบว่าถนนเส้นนี้ถูกขโมยไปอย่างผิดกฎหมายโดยฝีมือของชายแซ่ Zhu หัวขโมยในครั้งนี้ได้ไปยืมรถตักหินและรถบรรทุกขนาดใหญ่มารื้อเอาพื้นคอนกรีตความยาวกว่า 800 เมตรออกไป ก่อนที่จะนำมันไปขายให้กับโรงงานหิน ซึ่งคอนกรีตจำนวนกว่า 500 ตันที่เขาขโมยไปได้ถูกขายไปในราคาแค่ประมาณ 25,000 บาทเท่านั้นเอง นาย Zhu บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าถนนเส้นดังกล่าวยังคงใหม่อยู่ แล้วมันก็ดันมาเปิดใกล้ๆ กับบ้านของเขา ทำให้ตัวเองมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ การโจรกรรมในครั้งนี้ได้กลายเป็นที่กล่าวขวัญของชาวเน็ตในประเทศจีนหลายๆ คน โดยส่วนใหญ่ก็ต่างรู้สึกทึ่งกับไอเดียของโจรหนุ่มคนนี้ “ถ้าผมสามารถเอาถนนความยาว 800…
-
สรุปการชี้แจงจากสองฝ่าย ในคดีรถเก๋งชนท้ายมอเตอร์ไซค์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจโดนเด้ง!?
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2018 ได้มีคลิปวิดีโอที่กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลจากเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ต๊ะ เม็กเกอร์ โดยภายในคลิปเผยให้เห็นภาพของพยาบาลสาวกำลังจอดรถมอเตอร์ไซค์ติดไฟแดงอยู่ จู่ๆ ก็มีรสเก๋งนิสสันสีขาวพุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็ว ชนเข้าอย่างจังจนทำให้ร่างของเธอกระเด็นไปไกลหลายเมตร คลิปภาพเหตุการณ์รถเก๋งชนมอเตอร์ไซค์อย่างแรง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านดอนหาดสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู มีผู้พบเห็นอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจับปรับเหล่าผู้ที่กระทำผิดตามกฎจราจรบริเวณสี่แยกนั้นอยู่พอดี ทำให้ชาวบ้านต่างพากันลงไปช่วยเหลือและรีบนำตัวพยาบาลสาวไปรักษาอาการโดยด่วน ภายหลังจึงทราบว่าพยาบาลสาวที่จอดติดไฟแดงอยู่ คือ นางสาวพัชนก โพยนอก อายุ 23 ปี พยาบาลประจำห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ส่วนผู้ที่ขับรถมาชนคือ นางวรรณนภัสสร ลากุล วัย 38 ปี ต่อมาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ได้มีการรายงานว่า พยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บขณะนี้อยู่ในอาการปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยย้ายจากห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลหนองบัวลำภู ไปเข้าพักในห้องไอซียู แผนกศัลยกรรมทั่วไป โรงพยาบาลอุดรธานี เพื่อพักรักษาอาการแผลผ่าตัดตรงช่องท้องหลังจากที่ได้รับการกระแทกอย่างแรง แม้ว่าเธอจะยังมีอาการฟกช้ำบริเวณร่างกายและศีรษะที่ไม่รุนแรงมากนัก แต่เธอก็ยังมีสติรับรู้และสามารถโต้ตอบได้ตามปกติ อาจยังมีอาการมึนงงนิดหน่อย แต่สมองก็ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนแต่อย่างใด สำหรับตัวของผู้กระทำผิดนั้นก็ได้ออกมาให้การสารภาพว่า เธอไม่ชินกับเส้นทางดังกล่าว บวกกับแสงอาทิตย์ตอนช่วงเย็นที่สาดเข้ามาทำให้เธอมองไม่เห็นสัญญาณไฟแดงหรือรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ตรงนั้น…
-
“ผมไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด” พ่อนักยิมนาสติกสาวกล่าว หลังพุ่งเข้าชกหมอที่ล่วงละเมิดเธอ
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2018 ได้มีการพิพากษาโทษของนาย Larry Nassar อดีตแพทย์ผู้ดูแลนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในข้อหาล่วงละเมดทางเพศเด็กสาวจำนวนมากกว่า 150 คน ตลอดระยะเวลาการทำงานกว่า 20 ปี แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก โดยเฉพาะกับครอบครัวของเหยื่อที่ต้องมารับรู้กับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของพวกเขา เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้คุณพ่อคนหนึ่งถึงกับฟิวส์ขาด พุ่งเข้าใส่ผู้ต้องหาด้วยความโมโห ในขณะที่เขากำลังให้การกับศาล Larry ผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวกว่า 150 คน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในศาลเขต Eaton รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา โดยคุณพ่อ Randall Margraves รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากหลังจากที่ได้ทราบว่าลูกสาวทั้งสามคนของเขาเคยถูกผู้ต้องหาลวนลามและคุกคามทางเพศ Randall ได้ถามผู้พิพากษา Janice Cunningham ว่าเขาขออยู่ในห้องเพียงลำพังกับผู้ต้องหา (ที่เขามองว่าเป็นปีศาจ) ซัก 5 นาทีได้หรือไม่ คำตอบที่ได้ก็คือไม่อย่างแน่นอน จากนั้นเขาจึงต่อเวลาขออยู่กับผู้ต้องหาแค่ 1 นาที แต่คำตอบก็ยังคงเป็นไม่อีกเหมือนเดิม Randall คุณพ่อของลูกสาวที่ตกเป็นเหยื่อ หลังจากที่ถูกปฏิเสธไม่ให้อยู่กับผู้ต้องหา ทันใดนั้นอารมณ์ที่พุ่งพล่านของคนเป็นพ่อก็เกิดปะทุขึ้นมา Randall รีบพุ่งเข้าไปหานักโทษก่อนที่จะง้างมือขึ้นเหนือหัว…
-
รูปปั้นเด็กยืนฉี่ในสถานีรถไฟของญี่ปุ่น กับความเป็นเจ้าพ่อแฟชั่น เปลี่ยนทุกแบบ ได้ทุกแนว!!
ก่อนหน้านี้เราอาจเคยเห็นน้ำพุมาอย่างหลากหลาย ซึ่งหนึ่งในรูปแบบของน้ำพุที่น่าจดจำมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น “รูปปั้นน้ำพุเด็กยืนฉี่” เพราะมันช่างน่ารักเสียเหลือเกิน แถมยังสามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่ได้พบเห็น ในสถานีรถไฟ Hamamatsuchō กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็มีรูปปั้นแบบนี้อยู่เช่นเดียวกัน แต่มันกลับมีความพิเศษมากกว่าที่ไหนๆ เพราะเจ้ารูปปั้นตัวนี้มันยังสามารถเปลี่ยนชุดเพิ่มสีสันให้กับตัวเองได้ด้วย จนเรียกว่าเป็นเจ้าพ่อแฟชั่นของเด็กยืนฉี่เลยก็ได้ เจ้ารูปปั้นตัวนี้จะเปลี่ยนการแต่งตัวไปตามเทศกาลหรือวันสำคัญต่างๆ ทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร เรียกความสนใจได้ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นด้วยกันเอง มันจะเจ๋งและน่ารักขนาดไหน เราลองไปดูกันเลย รูปปั้นเด็กยืนฉี่กับคอสตูมดอกทานตะวันรับหน้าร้อน ในเทศกาลคริสต์มาส เราก็จะได้เจอกับซานต้าตัวน้อย ชุดรับลมหนาว ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังใกล้เข้ามา การแต่งกายสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นก็มีมาให้เห็น อยู่สถานีรถไฟ จะไม่มีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลมันก็กระไรอยู่ เมื่อไหร่ที่มีสัตว์ประหลาดโผล่ขึ้นมา ข้าจะไปจัดการกับมันเอง เจ้าชายตัวน้อยหนีวังมาเดินเล่น หน้าร้อนทั้งที ก็ต้องมีพัดคู่กายมาช่วยดับความร้อน พนักงานดับเพลิงจิ๋ว มีสายยางฉีดน้ำเป็นของตัวเอง แต่งตัวแบบนี้ ไม่ต้องกลัวเปียกฝนนะ น่าจะต้องกลัวเปียกฉี่มากกว่า นอกจากการแต่งตัวแล้ว ยังมีของมาตกแต่งที่จัดเต็มไม่แพ้กัน การแต่งกายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน โดดเด่นและไม่ซ้ำกันเลย นับว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ช่วยเติมเต็มรอยยิ้มให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดีเลยจริงๆ …
-
สถาปนิกหนุ่มรีโนเวท ‘โรงงานร้าง’ อายุกว่า 100 ปี ให้กลายเป็นคฤหาสน์สุดแสนอลังการ
โรงงานร้างหลายๆ แห่งถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าชวนหลอน จนทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้สถาปัตยกรรมเหล่านั้นกันซักเท่าไหร่ แต่สำหรับเขาคนนี้กลับคิดต่างออกไป เพราะเขาเลือกที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวและเปลี่ยนแปลงให้มันกลายเป็นบ้านอันยิ่งใหญ่ของตัวเอง เรากำลังพูดถึงหนุ่มสถาปนิกที่ชื่อว่า Ricardo Bofill โดยในปี 1975 ชายหนุ่มได้ไปปีนเขาอยู่แถวเขต Sant Just Desvern นอกเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน จนบังเอิญไปพบเข้ากับโรงงานร้างแห่งหนึ่ง โรงงานร้างอันเก่าแก่ ปัจจุบันมีอายุมากกว่า 100 ปี สถานที่แห่งนั้นคือโรงงานซีเมนต์อันเก่าแก่ที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ 100 ปีก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะถูกปล่อยให้ร้างเอาไว้จนกลายเป็นสถาปัตยกรรมชวนหลอน ซึ่งแม้จะเป็นอย่างนั้น Ricardo ก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรเลย แต่เขากลับตัดสินใจซื้อตึกนั้นเอาไว้เป็นของตัวเองทันที สถาปนิกหนุ่มเคยเล่าว่า เขาหลงใหลไปกับความสวยงามของพื้นผิวและโครงสร้างของอาคาร ทำให้เกิดไอเดียที่จะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้มันกลายเป็นคฤหาสน์ส่วนตัว สถาปนิกหนุ่มตัดสินใจดัดแปลงโรงงานดังกล่าวให้กลายเป็นบ้าน หลังจากที่เขาทำสัญญาซื้ออาคารเป็นที่เรียบร้อย การก่อสร้างก็ได้เริ่มต้นขึ้นทันที ระหว่างนั้นเขาก็ได้พบกับความลับหลายๆ อย่างที่ซ่อนอยู่ในสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็น ปล่องควันที่เป็นเอกลักษณ์ ห้องปฏิบัติการ หรือแม้แต่อุโมงค์ใต้ดินที่มีความยาวหลายกิโลเมตร Ricardo ใช้เวลานานกว่า 2 ปีเต็มในการรีโนเวทอาคารทั้งหมด โดยที่ยังรักษาโครงสร้างเดิมเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เหตุผลหนึ่งก็เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และอีกเหตุผลก็เพื่อรักษาความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเอาไว้ การก่อสร้างดำเนินไปจนเสร็จสิ้น และอาคารนี้ก็ได้ถูกเรียกว่า La…
-
คุณแม่คนแคระกล่าวตัดพ้อ หลังโดนศาลสั่งปรับข้อหา ‘พาลูกไปโรงเรียนสาย’
ความผิดปกติของร่างกายอาจเป็นสิ่งที่ส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตมากกว่าที่เราเคยคาดคิดกันเอาไว้ เหมือนอย่างคุณแม่คนนี้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาเพียงเพราะว่าร่างกายของเธอไม่เหมือนกับคนทั่วไป เธอมีชื่อว่า Michelle Harris สาวแคระวัย 32 ปี ผู้ถูกแจ้งขอกล่าวหาว่าเธอคือสาเหตุที่ทำให้ลูกชายวัย 7 ขวบต้องไปโรงเรียนสาย และเธอต้องขึ้นให้การต่อศาลในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2018 ที่จะถึงนี้ ข้อกล่าวหาดังกล่าวถูกแจ้งโดยผู้อำนวยการโรงเรียนประถมไนติงเกล เขต South Woodford ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ลูกชายของเธอกำลังศึกษาอยู่ Michelle และลูกชาย Michelle ผู้เป็นนักเขียนอิสระและเป็นคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกชายเพียงลำพังได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “ฉันเป็นคนแคระ ฉันไม่สามารถไวกว่านี้หรือวิ่งเหมือนคนอื่นๆ ได้ ปกติฉันก็ตื่น 6 โมงครึ่งทุกวัน และเมื่อไหร่ที่ฉันตื่นขึ้นมา สะโพกของฉันก็จะเกิดอาการเจ็บอยู่เสมอ” หลายๆ คนแนะนำให้เธอตื่นให้เช้ากว่าเดิม เพื่อพาลูกมาถึงโรงเรียนให้ตรงเวลา แต่ปัญหาร่างกายคือสิ่งที่ทำให้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ เธอมีส่วนสูงแค่ราวๆ 1 เมตร มีปัญหาในเรื่องของข้อเสื่อมที่เป็นส่วนหนึ่งของอาการ Pseudoachondroplasia ทำให้กระดูกต่างๆ ของเธอโตมาผิดปกติ กระดูกสันหลังโค้งงอ หัวเข่าผิดรูป และจะต้องเข้ารับการผ่าตัดบริเวณสะโพกอยู่เสมอ ร่างกายที่ย่ำแย่ทำให้เธอต้องเจอกับความเจ็บปวดแสนสาหัส ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาเธอจำเป็นต้องอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายอาการเจ็บเหล่านั้น ไม่สามารถจะทำอะไรได้รวดเร็วเหมือนคนอื่นๆ คุณแม่แคระต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง…
-
ประสบการณ์ขนหัวลุก ของชายที่บีบเอาตุ่มของเหลวออกจากใบหน้าด้วยตนเอง
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] พวกเม็ดสิวหรือตุ่มแปลกปลอมที่มาผุดขึ้นบนในหน้าของเรา คือสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะมีไว้ประดับกันอย่างแน่นอน พวกเราจึงเลือกที่จะกำจัดมันออก บางคนอาจจะไปใช้บริการของคลินิก หรือบางคนก็อาจจะกำจัดมันด้วยตัวเองเหมือนอย่างเขาคนนี้ ชายคนนี้มีชื่อว่า Fred Ward วัย 23 ปีจากเมือง Ontario ประเทศแคนาดา เขาคนนี้มีอาการติดเชื้อ Staphylococcal (หรือรู้จักกันในชื่อแบคทีเรีย Staph) ทำให้เขาต้องเจอกับปัญหาตุ่มไขมันที่เกิดขึ้นมาตามร่างกาย อาการติดเชื้อบนผิวหนัง ทำให้มีตุ่มของเหลวโตขึ้นมา ในครั้งนี้เขาต้องเจอกับตุ่มที่ดูเหมือนกับสิวหัวช้างผุดขึ้นมาบริเวณใบหน้าของเขาอยู่อย่างนั้นนานถึง 4 วัน ซึ่งถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาก็คงเลือกที่จะไปให้หมอเอามันออก แต่เขาเกิดเปลี่ยนใจเลือกที่จะบีบมันออกมาด้วยสองมือของตัวเอง Fred เข้าไปในห้องน้ำที่บ้านเพื่อจะบีบเอาเจ้าสิ่งแปลกปลอมนี้ออกมา ก่อนที่เพื่อนของเขาจะถ่ายภาพทุกอย่างเอาไว้ ซึ่งชวนให้กินข้าวกันไม่ลงเสียเหลือเกิน เขาพยายามบีบมันออกมาอยู่หลายนาที แต่เนื้อในก็ยังออกมาไม่หมดแล้วก็ห้อยต่องแต่งอยู่ตรงคางของเขาอย่างนั้น ชายหนุ่มจึงตัดสินใจใช้แหนบดึงหัวมันออกมาซะเลย คราวนี้แหละเราจึงได้เห็นก้อนของเหลวทะลักออกมาอย่างน่ากลัว สุดท้ายก็เหลือเพียงบาดแผลเล็กๆ ที่ไม่ได้เห็นชัดอะไรมาก ก็เรียกว่าเป็นผลลัพธ์ที่ค่อนข้างน่ายินดีแหละนะ ลิงก์วิดีโอ การบีบสิวของเขาแบบจัดเต็ม Fred เล่าว่าก่อนหน้านี้เขาเคยมีตุ่มในลักษณะเดียวกันผุดขึ้นมามากกว่า 10 ครั้ง โดยเขาก็จะไปให้ผู้เชี่ยวชาญกำจัดมันออกตลอด ซึ่งมันก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เลย และทำให้เขาต้องกินยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งมาโดยตลอด พอเมื่อมีตุ่มเกิดขึ้นมาอีก เขาก็ไม่อาจทนรอจะไปหาหมอได้…
-
12 เรื่องราว ‘ความน่ารัก’ เต็มพิกัด หัวใจของคุณจะต้องทนรับมันไว้ไม่ไหว แน่ๆ แอร๊ยยย!!
บนโลกของเรายังคงมีเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจเกิดขึ้นอยู่เสมอ ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม แต่ในบางเวลาพวกเราอาจจะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป และใช้ชีวิตไปอย่างเรียบง่ายโดยปราศจากรอยยิ้ม เพื่อไม่ให้ทุกคนลืมคิดถึงสิ่งที่เรียกว่าความสุข #เหมียวตะปู จึงชวนให้เพื่อนๆ ได้มารับรู้ภาพประกอบกับเรื่องราวน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกของเรา และหวังให้มันเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มความสวยงามของชีวิตเพื่อนๆ ทุกคนกันต่อไปได้ อย่ารอช้า เราไปร่วมรับรู้พร้อมๆ กันเลย น้องหมาเกลียดการอาบน้ำ มันเลยกลัวว่าเจ้าของของมันจะเป็นอะไรหรือเปล่า และเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วงทุกครั้งขณะที่เธอกำลังอาบน้ำอยู่ เด็กน้อยคนหนึ่งบอกกับแม่ว่า เขาอยากออกไปรอรถบัสเร็วกว่าปกติ เพราะเขาเห็นว่ามีเด็กอีกคนกำลังยืนตากฝนจนเปียกโชกไปหมดแล้ว หมอนไม่ใช่สิ่งที่เจ้าหมาตัวนี้ต้องการ แม้พื้นที่ตรงนี้จะแคบมากขนาดไหน แต่มันก็ไม่เคยหวั่น เพราะสิ่งที่เจ้าหมาต้องการคือได้อยู่ใกล้กับคนที่มันรักมากที่สุด บริกรผู้คอยดูแลลูกน้อยให้กับมารดาที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ สุนัขสายพันธุ์ Shar-Pei ที่ดูเหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างหมีกับหมา ค้างคาวกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะหนาวตายในออสเตรเลีย ได้รับการช่วยเหลือจากเหล่าเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลท้องถิ่น “เมื่อ 4 วันก่อนผมยังเกลียดหมาอยู่เลย แต่ผมและแฟนตัดสินใจซื้อมันมาเซอร์ไพรส์ลูกของเรา จนตอนนี้ผมไม่อยากอยู่ห่างจากเจ้าตูบน้อยตัวนี้เลยจริงๆ” น้องหมาวิ่งเตลิดไปโผล่ที่ร้านค้าใกล้บ้าน ก่อนที่มันจะได้รับความรักและความอบอุ่นจากทุกคน “ทุกๆ เช้า คุณพ่อจะเอาอาหารนกมาวางไว้แบบนี้ตรงสวนหลังบ้าน เพื่อให้คุณแม่ตื่นขึ้นมาเห็น” เจ้านกน้อยที่ได้รับการช่วยเหลือให้รอดออกมาจากใยแมงมุม ความใส่ใจเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนอย่างการป้องกันไม่ให้น้ำเข้าหูน้องหมาตัวนี้…
-
นวัตกรรม ‘อูเบอร์มนุษย์’ สิ่งที่จะทำให้คุณสามารถไปทุกงานได้ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
พวกเราส่วนใหญ่อาจต้องเคยเจอกับความรู้สึกที่ไม่อยากออกจากบ้าน แต่จำเป็นที่จะต้องออกไปทำอะไรซักอย่างหนึ่ง จนสุดท้ายก็ต้องจำใจออกไปเองอยู่ดี ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปหากคุณได้มาลองใช้เจ้าสิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Chameleon Mask นี่คือสิ่งประดิษฐ์ของนักวิจัยชาวญี่ปุ่น Jun Rekimoto ที่ได้นำมันออกมาเปิดตัวในงาน MIT Tech Review’s EmTech เมื่อเดือนมกราคม 2018 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยถ้าจะอธิบายง่ายๆ เลย สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มันก็คือ “อูเบอร์มนุษย์” นั่นแหละ นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้คุณไปร่วมงานต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องออกจากบ้าน เหตุผลที่มันเปรียบเป็นอูเบอร์มนุษย์ก็เพราะว่า มันคือสิ่งที่ช่วยให้คุณไม่ต้องออกไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง แต่สามารถร่วมงานหรืออีเวนต์ต่างๆ ได้แม้จะนอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งการทำงานของมันก็เข้าใจได้แบบง่ายแสนง่าย คือให้คนคนหนึ่งเป็นตัวแทนของเราสวมหน้ากากที่มีการแสดงผลแบบเฟซไทม์อยู่ตลอดเวลาเท่านั้นเอง เมื่อตัวแทนได้สวมหน้ากาก Chameleon Mask เป็นที่เรียบร้อย หลังจากนี้เราก็จะสามารถสั่งการในเรื่องของทิศทางผ่านการเชื่อมต่อระยะไกล แถมเรายังสามารถรับรู้ทุกอย่างผ่านหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ แล้วเวลาพูดคุยกับใครมันก็จะออกมาเป็นเสียงของตัวคุณเองจริงๆ หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องพลาดงานสำคัญอะไรที่เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว Jun บอกว่า สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้สามารถให้คุณเข้าร่วมงานสำคัญต่างๆ ได้ อย่างเช่นวันรายงานตัวของลูกๆ หรือการประชุมของบริษัท แม้ว่าคุณอาจจะกำลังอยู่ต่างประเทศก็ตาม ก่อนหน้านี้หลายๆ คนอาจเคยเห็นหุ่นยนต์ควบคุมระยะไกลที่ใช้เป็นตัวแทนของเรากันไปก่อนแล้ว แต่ Jun บอกว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาสามารถทำให้ลูกค้าทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมและสมจริงมากกว่านั้นอย่างแน่นอน…
-
คนขับรถบรรทุกขับรถตะลุยลงไปสร้างความเสียหายให้กับ ‘มรดกโลกที่มีอายุ2พันปี’
หากพูดถึงหนึ่งในมรดกโลกที่มีชื่อเสียงอย่างมาก เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องเคยได้ยินชื่อของ เส้นนัซกา (Nazca Line) หนึ่งในมรดกโลกที่เต็มไปด้วยปริศนาและความอัศจรรย์ ซึ่งปรากฏอยู่บนทะเลทรายนัซกา ประเทศเปรู กินพื้นที่ไปมากกว่า 520 ตารางกิโลเมตร ภาพของสัตว์หรือพืชพันธุ์ที่แสดงออกมาให้เห็น ถูกพิสูจน์ว่ามันมีอายุมานานถึง 1,500 – 2,000 ปีเลยทีเดียว นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มันได้กลายเป็นมรดกโลกอันล้ำค่าในปี 1994 มรดกโลกเส้นนัซกา ลวดลายที่ถูกวาดลงบนทะเลทราย มีอายุราวๆ 2,000 ปี แต่ในช่วงเดือนมกราคม 2018 ก็ได้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อคนขับรถบรรทุกที่ชื่อว่า Jainer Flores ตัดสินใจขับรถลุยลงไปในเขตพื้นที่มรดกโลกดังกล่าว จนสร้างความเสียหายให้กับลายเส้นอันเก่าแก่เหล่านั้น ก่อนที่จะถูกจับไปดำเนินคดีด้วยข้อหาละเลยป้ายเตือน Jainer คนขับรถบรรทุกที่สร้างความเสียหายให้กับมรดกโลกชิ้นนี้ จากการรายงานบอกว่า เขาขับรถเข้าข้างทางเพื่อจะลงไปเช็กดูล้อรถของตัวเอง ซึ่งเขาอ้างว่าไม่เห็นป้ายที่บอกว่าพื้นที่นี้เป็นเขตหวงห้าม จึงขับรถลงไปในที่สุด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความปลอดภัยโดยรอบเองก็พยายามเข้ามาเตือนเขา แต่นั่นมันก็สายไปเสียแล้ว รถบรรทุกที่ดันตะลุยเข้าไปในเขตหวงห้าม . กระทรวงวัฒนธรรมของเปรูได้ออกมาบอกว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ฝากร่องรอยเอาไว้เป็นรอยล้อยาวประมาณ 100 เมตร สร้างความเสียหายให้กับเส้นนัซกาถึงสามส่วนด้วยกัน”…
-
ส่องความสามารถนอกเวที ‘เฌอปราง’ นอกจากสวยใส ยังพ่วงความเจ๋งแบบไอดอลตัวจริง!!
ปัจจุบันเชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องเคยได้ยินชื่อ BNK48 เกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา ด้วยเพลงยอดฮิตติดหูอย่าง “คุกกี้เสี่ยงทาย” ที่ไม่ว่าจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหน เราก็จะได้ยินเสียงจังหวะดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์ดังก้องขึ้นมา วง BNK48 นอกจากความดังของทั้งวงแล้ว แฟนคลับแทบทุกคนก็จะต้องมีสมาชิกวงในดวงใจกันอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงหนึ่งในสมาชิกและเป็นกัปตันของวง BNK48 เธอคนนั้นก็คือ เฌอปราง อารีย์กุล สาวผู้มาพร้อมกับรอยยิ้มและความน่ารักที่เปี่ยมล้น สาวเฌอปราง กัปตันวง BNK48 เฌอปรางคือสมาชิกที่กลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสมาชิกคนอื่นและแฟนคลับจำนวนมาก ด้วยความน่ารัก และดูเป็นกันเอง ทำให้เธอครองใจทั้งชายและสาวไทยไปในพริบตา สิ่งที่เราจะได้เห็นในสื่อต่างๆ คือภาพของเธอที่กำลังทั้งร้องทั้งเต้น หรืออาจเป็นรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะเวลาที่ถูกเรียกสัมภาษณ์ แต่นอกจากความสดใสของเธอแล้ว เธอยังเต็มไปด้วยความสามารถอันหลากหลาย ปัจจุบันเฌอปรางกำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ เอกเคมี โทฟิสิกส์ ซึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบวิทยาศาสตร์มาก จึงทำให้เธอเข้ามาเรียนในคณะนี้และเธอยังสามารถทำมันออกมาได้ดีอีกด้วย ระหว่างที่เรียนอยู่นั้น เธอได้ทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัยควบคู่ไปด้วย และงานวิจัยชิ้นนั้นก็ได้ถูกตีพิมพ์ใน Royal Society Open Science ซึ่งเป็นวารสารสัญชาติอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงทักษะความรู้ที่มีความโดดเด่นของเธอ ไม่ใช่แค่เรื่องของการเรียนเพียงอย่างเดียว เพราะเธอยังมีความสามารถในด้านของภาษา เธอเข้าใจทั้งภาษาไทย…
-
ความงามของน้ำตกไนแอการายามค่ำคืน ท่ามกลางอากาศอันหนาวเย็น ติดลบกว่า 20 องศา
น้ำตกไนแอการา คือหนึ่งในสถานที่อันแสนสวยงามและมีชื่อเสียงในเขตประเทศแคนาดา เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งความสวยงามของมันนั้นสามารถแสดงออกมาให้เห็นได้ในหลากหลายรูปแบบ แม้แต่ตอนที่อากาศหนาวจัดจนแทบจะจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ในยามค่ำคืนได้ถูกถ่ายเอาไว้โดยฝีมือของช่างกล่องจากเมืองโตรอนโต้ Adam Klekotka ซึ่งเขาได้ใช้เวลากว่า 2 สัปดาห์ในการออกมาเก็บภาพความสวยงามของสถานที่แห่งนี้ ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบกว่า 20 องศาเซลเซียส น้ำตกไนแอการายามค่ำคืน ที่มีทั้งความสวยงามและอลังการในเวลาเดียวกัน เขาเล่าว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเห็นความสวยงามของมันในยามค่ำคืนในช่วงเดือนมกราคม 2018 สิ่งที่เจอมันช่างสวยงามตระการตาและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก น้ำตกยังคงไหลผ่านลงมา แม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะแสดงให้เห็นถึงความหนาวเหน็บมากขนาดไหน Adam ยังบอกอีกว่าความหนาวเย็นคืออุปสรรคที่ทำให้เขาต้องถูกน้ำแข็งกัดไปทั่วมือ เพราะตอนถ่ายรูปไม่สามารถใส่ถุงมือกดปุ่มเล็กๆ ได้ อีกทั้งยังต้องคอยเช็ดเลนส์อยู่ทุกๆ 2 วินาที เนื่องจากมีหยดน้ำมาเกาะติดเต็มไปหมด บรรยากาศที่ดูเหมือนอยู่บนดาวดวงอื่น แม้การเก็บความทรงจำครั้งนี้จะยากลำบากมากขนาดไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ได้ภาพอันสวยงามและมีความหมายกลับมาเป็นของรางวัลจากความทุ่มเท นับว่าเป็นสิ่งที่คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม . เพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบผลงานของช่างภาพผู้มากฝีมือและความพยายามคนนี้ ก็สามารถเข้าไปติดตามเข้าได้ในอินสตาแกรม Xar เลยนะครับ ที่มา: thisiscolossal
-
‘ปลาจู๋’ สิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่ดันเกิดมามีรูปร่างคล้ายบางอย่าง แถมยังมีน้ำพุ่งออกมาอีกด้วย
บนโลกของเรายังคงเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกประหลาดอีกมากมายที่เราอาจไม่เคยเห็นกันมาก่อน เหมือนอย่างสัตว์โลกใต้น้ำตัวนี้ ที่ดูแล้วมันก็ดันไปเหมือนกับอะไรซักอย่างที่ผู้ชายทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี จนทำให้มันได้รับฉายาว่า “ปลาจู๋” แม้มันจะถูกเรียกว่าปลาจู๋ แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นปลา แต่มันคือสัตว์น้ำที่อยู่ในตระกูล Echiura หรือว่า หนอนช้อน มีชื่อเรียกว่า Urechis Unicinctus เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้เป็นอันตรายกับเราแต่อย่างใด แถมยังมีผิวสัมผัสที่ดึงดูดพวกเราให้อยากจะลองจับต้องมันดูซักครั้ง ปลาจู๋ ที่ดูก็รู้ว่าได้ชื่อนี้มาอย่างไร นอกจากมันจะไม่ได้เป็นอันตรายแล้ว มันยังกลายเป็นอาหารชื่อดังของทางฝั่งเอเชีย โดยเฉพาะกับประเทศเกาหลีใต้ โดยพวกเขามักจะนำไปกินแบบสดๆ โรยเกลือหรือจิ้มน้ำมันงา แต่ในบางครั้งก็จะนำมันไปประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย คลิปรีวิวการนำปลาจู๋ไปประกอบอาหารในประเทศเกาหลีใต้ นักชีววิทยาชาวสวีเดนวัย 37 ปี Igor Adameyko บอกว่าเจ้าปลาจู๋นั้นไม่มีฟันที่แหลมคมหรือพิษที่ร้ายแรง จึงทำให้หมดห่วงเรื่องของความอันตราย ซึ่งเราสามารถพบมันได้ในโคลนหรือทรายตามพื้นที่ใต้ท้องทะเล โดยมันจะกางตาข่ายไว้สำหรับดักแพลงก์ตอนมากินเป็นอาหาร ในตอนที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ ร่างกายจะมีการปั้มแรงดูดน้ำเข้าไปในร่างกาย นอกจากเรื่องของหน้าตาที่ช่างดูโดดเด่นเป็นสง่าแล้ว มันยังกลายเป็นที่พักพิงให้กับสัตว์มีชีวิตขนาดเล็กหลายๆ ชนิดอีกด้วย เพราะด้านในตัวของมันจะมีโพรงลึกที่สามารถรองรับการแวะเข้ามาพักอาศัยของสิ่งมีชีวิตอื่นในน้ำ จนมันได้รับฉายาว่า เจ้าของโรงแรมตัวอ้วน เมื่อมีน้ำอยู่ในร่างกาย พอเอามันขึ้นมาจากน้ำ ก็จะทำให้มีน้ำพุ่งออกมาจากโพรง ในตอนที่โตเต็มวัย…
-
Cape Town หนึ่งในเมืองใหญ่ของโลกที่กำลังจะเจอกับปัญหา ‘ขาดน้ำ’ เป็นเมืองแรก
Cape Town เมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและธรรมชาติอันสวยงาม บวกกับความเจริญก้าวหน้าที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่ทั้งผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยงต่างพากันชื่นชอบ แต่หนึ่งในเมืองอันยิ่งใหญ่ของโลกตอนนี้กลับต้องเจอกับปัญหาใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ปัญหาที่ว่านั้นคือ “ปัญหาการขาดแคลนน้ำ” ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่การคาดเดาโดยไม่มีที่มาที่ไป แต่พวกเขาถึงกับสามารถคำนวณได้เลยว่าจะไม่มีน้ำให้ใช้กันตั้งแต่วันที่เท่าไหร่ จากการวัดผลและทดสอบหลายๆ อย่าง ทำให้ผู้เชี่ยวชาญออกมาประกาศว่าเมืองแห่งนี้จะไม่มีน้ำใช้ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2018 เป็นต้นไป หรือก็คือเหลือเวลาให้เตรียมใจอีกเพียงแค่ประมาณ 3 เดือนเท่านั้นเอง โดยพวกเขาเรียกวันนั้นว่าเป็นวัน Day Zero วันที่ประชากรกว่า 4 ล้านคนจะไม่มีน้ำไว้ใช้สำหรับสาธารณูปโภค สำหรับสาเหตุของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ เป็นผลมาจากการที่อ่างเก็บน้ำใหญ่ที่สุดของเมืองได้แก่ เขื่อน Theewaterskloof กำลังประสบปัญหาน้ำแห้งในเร็ววัน เขื่อนแห่งนี้คือสถานที่ที่สามารถจุน้ำได้มากถึง 480,000 ล้านลิตร แต่ปัจจุบันน้ำในเขื่อนกลับเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 13 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณน้ำทั้งหมด เรื่องของปริมาณน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญได้เล็งเห็นมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2014 จากการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทดสอบดูว่า น้ำที่มีอยู่เต็มเขื่อนจะสามารถใช้ได้นานขนาดไหน ผลก็คือมันสามารถทำให้ประชากรในเมืองมีน้ำใช้ได้แค่ประมาณ 1 ปี จากการคาดการณ์ของเหล่าผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่าปัญหานี้เกิดขึ้นได้จาก 3 สาเหตุ…
-
หนุ่มทดลองหลับวันละประมาณ 4 ชั่วโมง ตามเหล่าอัจฉริยะ ด้วยการนอนแบบ Polyphasic!!
พวกเราส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่า เราควรจะต้องนอนหลับให้ได้อย่างต่ำ 6-8 ชั่วโมงเพื่อการพักผ่อนที่เพียงพอ แต่เราอาจไม่เคยรู้กันมาก่อนว่าอัจฉริยะหลายๆ คนที่มีชื่อเสียงในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็น Leonardo Da Vinci หรือ Nikola Tesla นั้นใช้เวลาในการนอนต่อวันแค่ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้หนุ่มนักเขียนในเว็บไซต์ Bright Side ตัดสินใจลองนอนหลับเหมือนอย่างอัจฉริยะเหล่านั้นดูบ้าง เพื่อต้องการทราบว่าสุดท้ายแล้วมันจะส่งผลต่อการทำงานของร่างกายและสมองมากขนาดไหน Da Vinci หนึ่งในอัจฉริยะที่บอกว่าตนเองนอนแค่ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน การนอนหลับของเหล่าอัจฉริยะนั้นถูกเรียกว่าการนอนหลับแบบ Polyphasic หรือการแบ่งให้ตัวเองนอนหลายๆ ครั้งต่อวัน ชายหนุ่มจึงแบ่งเวลาการนอนของตัวเองเป็น 3 ครั้ง นั่นคือการนอนตอนกลางคืนเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ตี 1 ครึ่ง ถึงตี 5 ครึ่ง จากนั้นก็จะนอนพัก 25 นาทีตอนช่วงหลังอาหารกลางวัน และหลังจากการทำงานกลับมาบ้าน ชายหนุ่มเริ่มต้นแผนการนอนหลับของตัวเอง โดยเขาจำเป็นต้องพกที่อุดหูและผ้าปิดตาไปทำงานด้วย เพื่อใช้ในการบังคับให้ตัวเองนอนหลับตอนหลังกินข้าวกลางวันไป ซึ่งเขาก็เคยถูกเตือนมาแล้วว่าการวางแผนในครั้งนี้จะทำให้เขาต้องตกอยู่ใน “ภาวะซอมบี้” ซัก 2…
-
เจ้าของบ้านเถียงกับช่างไฟ ‘ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก’ ผลลัพธ์โดนไฟช็อตเกือบตาย
พวกเราทุกคนทราบกันดีว่า ระบบไฟฟ้าภายในบ้านคือสิ่งสำคัญที่ควรจะต้องให้ความใส่ใจ เพราะมันอาจจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นการรักษาความปลอดภัยของเจ้าสิ่งนี้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้วช่างไฟทั้งหลายย่อมมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้กันทั้งนั้น เช่นเดียวกับช่างไฟคนนี้ที่ได้ไปช่วยปรับปรุงและเปลี่ยนระบบกระแสไฟฟ้าให้กับบ้านหลังหนึ่ง โดยในระหว่างการทำงาน เขาก็ได้เตือนเจ้าของบ้านในเรื่องของความปลอดภัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับถูกโต้แย้งใส่ด้วยคำพูดที่ว่า “ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก” เรื่องราวนี้ถูกบอกเล่าผ่านเว็บไซต์ BoredPanda เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2018 เมื่อทีมงานช่างไฟฟ้าได้เดินทางไปช่วยกันเปลี่ยนแปลงระบบไฟให้กับบ้านของหญิงสาวที่น่าจะค่อนข้างมีฐานะ เรื่องมีอยู่ว่าสาวเจ้าของบ้านต้องการที่จะให้ช่างไฟกลุ่มนี้ช่วยออกแบบเส้นทางการไลน์สายไฟที่ดูซับซ้อนภายในบ้านของเธอ และต้องการที่จะให้พวกเขาติดตั้งแผงระบบโซลาร์เซลล์โดยไม่ให้เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าโดยรวม เพราะเธอไม่ต้องการที่จะเสียเงินให้กับบริษัทผู้ให้บริการที่คอยจ่ายไฟมาให้ที่บ้านของเธอ โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น ในตอนนั้นช่างไฟมองว่าความต้องการของเธอมันช่างเป็นเรื่องที่ดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย พวกเขาแนะนำเธอไปว่าการทำอย่างนั้นมันคือการสิ้นเปลืองพลังงานและฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ แต่แล้วสาวเจ้าของบ้านก็กลับพูดออกมาว่า “ฉันรวย ฉะนั้นฉันเป็นฝ่ายถูก” เมื่อเป็นอย่างนั้นพวกเขาจึงต้องทำตามในสิ่งที่เธอบอก เมื่อติดตั้งทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อย ช่างไฟก็หันไปเตือนเธอว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งหรือไปแตะอะไรก็ตาม เพราะพวกเขายังติดตั้งกันไม่เสร็จ เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง แต่หญิงสาวกลับเลือกที่จะไม่สนใจคำเตือนของพวกเขา เพราะหลังจากที่ช่างไฟจากไป เธอก็ดันไปเปิดใช้งานระบบไฟต่างๆ ซะอย่างนั้น หลังจากนั้นเธอก็ส่งอีเมล์มาหาเหล่าช่างไฟด้วยความโมโห บอกว่าเธอต้องเกือบตายหลังจากที่เปิดใช้ระบบไฟเหล่านั้น อีกทั้งยังกล่าวหาว่าพวกเขาไม่เอาใจใส่และขาดจรรยาบรรณต่อหน้าที่การทำงาน ทั้งๆ ที่พวกเขาก็บอกเธอไปแล้วว่าอย่าเพิ่งไปยุ่งกับพวกระบบไฟฟ้าเหล่านั้น เจ้าของบ้านสาวคนนั้นไม่สนใจในคำพูดของพวกเขาเลย เธอตัดสินใจยื่นฟ้องร้องต่อศาลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งช่างไฟฟ้าก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร และพวกเขาก็พร้อมที่จะยื่นหลักฐานตามสัญญาที่คุยกับเธอเอาไว้ในตอนแรกว่าห้ามไปยุ่งกับระบบไฟเหล่านั้นเด็ดขาด จนกว่าจะติดตั้งเสร็จ …
-
ภาพสีสันสุดตระการตาของ ‘เจ้าหนอนผีเสื้อ’ สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เติมเต็มความสวยงามให้กับโลก
หนอนผีเสื้อ คือสิ่งมีชีวิตที่พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กในฐานะที่มันเป็นตัวอ่อนของผีเสื้อสีสันสวยงามทั้งหลาย แต่พวกเราอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพวกมันเองก็สามารถดึงดูดสายตาของเราได้ไม่ต่างกับตอนที่โตเต็มวัยเลย เพื่อพิสูจน์ว่ามันมีความสวยงามมากขนาดไหน วันนี้ #เหมียวตะปู จึงชวนให้เพื่อนๆ ได้ไปเห็นผลงานของนักวิทยาศาสตร์และช่างภาพ Igor Siwanowicz ชายผู้คอยตามเก็บภาพสิ่งมีชีวิตที่แสนสดใสในรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาได้ถ่ายเข้าไปชัดระดับมาโคร ทำให้เราได้เห็นใบหน้าของพวกมันแบบใกล้ชิดมากจริงๆ เขาได้ทำงานอยู่ในสถาบันการแพทย์ Howard Hughes และนั่นจึงทำให้เขาได้มีโอกาสมาเจอกับเจ้าหนอนเหล่านี้ ที่เต็มไปด้วยสีสัน เติมเต็มความสวยงามให้กับโลก ว่าแล้วเราก็ลองไปชื่นชมความงามของพวกมันกันเลย ทั้งสี ลวดลาย และผิวสัมผัส เหมือนกับว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก บางสายพันธุ์ก็มีหน้าตาที่พิลึกกึกกืออย่างบอกไม่ถูก ฝั่งไหนเป็นหัว ฝั่งไหนเป็นหาง ช่วยบอกผมที เห็นตอนเป็นหนอนแล้ว ก็ยิ่งทำให้อยากรู้เลยว่าพอโตเป็นผีเสื้อแล้วจะมีหน้าตาอย่างไร นี่มันหนอนหรือว่าต้นกระบองเพชร ตะไมหนามเยอะขนาดน้านนน ถ้าไปโผล่ในหนังแฟนตาซีวิทยาศาสตร์ เราก็คงจะคิดว่ามันเป็นเอเลี่ยนจริงๆ นะ นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังมีการโชว์ท่าพิสดารซะด้วย ภาพซ้ายดูเหมือนว่ามันกำลังจะกลายเป็นผีเสื้อแล้วจริงๆ นะ ขนปุกปุย น่าจับไปแหย่หูเพื่อนเหลือเกิน เราอาจไม่เคยคิดเลยว่าการได้มองเข้าไปดูพวกมันลึกๆ แล้วจะทำให้เราได้เจอกับความสวยงามที่มากขนาดนี้ เรียกว่าเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสรรค์สร้างออกมาได้อย่างลงตัวเสียจริง…
-
เจ้าสิงโตยอดนายแบบ หล่อโคตรๆ หล่อสุดๆ ราวกับหลุดมาจากหนังไลอ้อนคิง!!
การโพสท่าถ่ายภาพเป็นสิ่งที่เรามักจะทำกันอยู่เสมอ เพื่อให้ได้รูปที่ทำให้เราออกมาดูดีมากที่สุด แต่สำหรับเจ้าสิงโตตัวนี้กลับมีความพิเศษมากกว่านั้น เพราะการโพสท่าของมันเกิดขึ้นมาจากสัญชาตญาณการเป็นนายแบบล้วนๆ นี่คือภาพของเจ้าสิงโตหนุ่มสุดหล่อที่อาศัยอยู่บนที่ราบ Namiri ในอุทยานแห่งชาติเซเรนเกตี ประเทศแทนซาเนีย ซึ่งมันได้กลายมาเป็นขวัญใจของช่างภาพชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่ชื่อว่า Alex Kirichko สิงโตหนุ่มที่ได้กลายเป็นขวัญใจของช่างกล้อง Alex หนุ่มช่างกล้องวัย 52 ปีบอกว่า “ผมตั้งใจมาถ่ายรูปโดยรอบของบริเวณพื้นที่ราบแห่งนี้ เพื่อเก็บภาพของเหล่าสิงโตและเสือชีตาห์จำนวนมาก” ชายคนนี้เลือกที่จะเก็บภาพสิ่งต่างๆ ในเช้าวันใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่มีลมพายุพัดผ่านมาพอดี และแรงลมอันมหาศาลก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับเจ้าสิงโตตัวนี้ ลีลาท่าทางเหมือนกับกำลังถ่ายโฆษณาแชมพู เขาเล่าว่า “ตอนที่ผมได้เจอกับมัน ผมคิดได้อย่างเดียวคือว่าเจ้าสิงโตคงกำลังโพสท่าให้ผมอยู่แน่นอน ตอนนั้นผมรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นช่างภาพสายแฟชันยังไงยังงั้นเลย” จะไม่ให้เขาคิดอย่างนั้นได้อย่างไร ก็ลองดูภาพของเจ้าสิงโตตัวนี้ดูสิ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแววตา ท่าทางการยืน หรือแม้แต่แผงคอที่ปลิวไสวไปกับสายลม ทุกอย่างนั้นล้วนแต่ทำให้มันกลายเป็นสิงโตที่ดูดี มีสง่าราศีเสียจริงเชียว สายตาที่แสนดุดัน ถ้าเป็นผู้ชายก็คงทำสาวๆ ใจละลายได้ในพริบตา สมแล้วที่มันได้ฉายาว่า จ้าวป่า เพราะเป็นสัตว์ที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามจนทำให้สัตว์อื่นต้องยอมสยบ บวกกับความหล่อเหลาเอาเรื่องขนาดที่ตัวเมียที่ไหนมาเห็นก็คงต้องใจละลายอย่างแน่นอน ที่มา: metro
-
ศิลปินวาดภาพการ์ตูน เล่าเรื่องราวชีวิตคู่ของตัวเอง มันช่างอบอุ่น และน่ารักซะจริงๆ!! (ภาคต่อ)
ก่อนหน้านี้เพื่อนๆ อาจจะได้เห็นผลงานของศิลปินชาวอิสราเอล Yehuda Adi Devir กับชุดภาพการ์ตูนของเขาที่มีชื่อว่า One of those days ไปบ้างแล้วไม่มากก็น้อย โดยเขาได้ถ่ายทอดเรื่องราวความน่ารักของการใช้ชีวิตคู่กับ Maya ภรรยาของเขาที่อยู่ด้วยกันมานานกว่า 8 ปี ผ่านลายเส้นอันแสนอบอุ่นหัวใจ อ่านข่าวเก่าได้ที่: คุณสามีวาดภาพการ์ตูน ล้อชีวิตประจำวันของเขาและภรรยา ที่มันทั้งฮาและเรียลแบบสุดๆ นี่คือภาพการ์ตูนที่ทั้งสองยังคงช่วยกันวาดและเติมเต็มความสุขให้กันละกันอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม แต่ความรักของทั้งคู่ก็จะยังคงเบิกบานและหรรษาไม่เปลี่ยนแปลง ว่าแล้วเราก็ไปชมความน่ารักของพวกเขากันเลยยย “สิ่งไหนที่ผมสามารถทำได้ เธอจะทำได้ดีกว่าผมเสมอ” รู้นะว่าอยากเติมความหวาน แต่ช่วยยกแขนขึ้นก่อนได้มั้ย!! จะใช้ไม้เกาหลังไปทำไม ในเมื่อยังมีเธอที่คอยอยู่ด้วยกัน รอแปปนึงสิ ผมยังเบ่งไม่ออกเลย สำหรับผู้ชายแค่นี้จิ๊บจ๊อย.. แต่ผู้หญิงนี่คงจะคิดหนักหน่อยนะ สุขสันต์วันเกิดจ้ะ ที่ร้ากกก มาจัดปาร์ตี้กันเร๊ววว ถ้ามันจะขนาดนี้ก็อย่าเรียกว่าการทำอาหารเลย เทศกาลงานลดราคาครั้งใหญ่ มีหรือที่พวกเราจะพลาด!! ซื้อมาให้ไม่ใช่เหรอ? เค้าขอเล่นบ้างสิ.. ครึ่งหนึ่งของชีวิตที่ผมฝากเอาไว้กับเธอ บางครั้งสิ่งที่เราคิดก็อาจจะไม่ตรงกันซักเท่าไหร่…
-
หญิงสาวผู้รักความเป็นระเบียบมากที่สุดในโลก จนกลายเป็นที่ปรึกษาด้านความเป็นระเบียบ
บางคนอาจมองข้ามเรื่องของความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยของสิ่งต่างๆ รอบตัว ซึ่งมักจะเป็นเพราะความขี้เกียจหรือการที่บอกว่าตนเองไม่ค่อยมีเวลา แต่สำหรับเธอคนนี้กลับไม่อาจละเลยในสิ่งเหล่านั้นจนทำให้เธอได้รับสมญานามว่า “สาวที่มีความเป็นระเบียบมากที่สุดในโลก” เธอคนนี้มีชื่อว่า Marie Kondo สาวชาวญี่ปุ่นผู้รักในความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยมาตั้งแต่อายุได้เพียง 5 ขวบ เธอเล่าว่าในตอนนั้นเธอมักจะใช้เวลาอยู่กับการจัดบ้านของตัวเองแทนที่จะออกไปเล่นกับเพื่อนๆ Kondo สาวชาวญี่ปุ่นผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่รักความสะอาดมากที่สุดในโลก ตอนที่เธอเรียนอยู่ชั้นประถม ทุกๆ วันเธอจะคอยจัดชั้นหนังสือในห้องเรียนตอนเวลาพัก และเมื่อกลับถึงบ้านเธอก็จะแยกสิ่งต่างๆ ของตัวเองว่าจะเก็บอันไหน หรือจะทิ้งอันไหน ในตอนนั้นเธอจะทิ้งทุกอย่างที่เริ่มดูเก่าและไม่สะอาด ทำให้เธอมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งของใดๆ จนกระทั่งตอนที่เธอเรียนมัธยมปลาย เธอก็เริ่มเข้าใจในสิ่งนั้นและรับรู้ว่าตนเองทำผิดมาโดยตลอด Kondo เริ่มเรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าในสิ่งต่างๆ เธอเข้าใจแล้วว่าสิ่งของทุกอย่างมีความหมาย และถ้าหากสิ่งนั้นยังสามารถทำให้เธอรู้สึกถึงความสุขได้ เธอก็จะยังคงเก็บมันเอาไว้และดูแลรักษามันเป็นอย่างดี เธอบอกว่า “เมื่อไหร่ที่คุณจับสิ่งๆ หนึ่งอยู่ สิ่งสำคัญคือการรับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีให้กับสิ่งๆ นั้นว่า คุณยังรู้สึกมีความสุขกับมันอยู่หรือไม่” นั่นหมายควาว่าความรู้สึกและการรับรู้ของตัวเองคือสิ่งสำคัญ พอตอนที่เธออายุ 18 ปี เธอได้เข้าไปทำงานพาร์ตไทม์ในศาลเจ้าชินโต ตามลัทธิที่เธอนับถือ และยังเป็นสิ่งที่ช่วยฝึกฝนการจัดระเบียบสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เธอรู้สึกพึงพอใจกับงานที่ทำเป็นอย่างมาก Kondo เล่าว่า “เรามักจะรู้สึกสดชื่นเวลาเดินผ่านประตูศาลเจ้า นั่นเป็นเพราะว่าบริเวณนั้นจะถูกจัดให้มีความเป็นระเบียบอยู่และสะอาดอยู่เสมอ และฉันคิดว่าบ้านของเราเองก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นแบบนั้นได้เช่นเดียวกัน”…
-
เผยตัวเลขถุงยางในโอลิมปิกฤดูหนาว 110,000 ชิ้น จะแจกให้นักกีฬาได้ใช้คนละ 37 ชิ้น!!
กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว คือการแข่งขันกีฬาหลากหลายประเภท ซึ่งประเทศเกาหลีใต้ถูกรับเลือกให้เป็นเจ้าภาพในปีนี้และกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ทำให้นักกีฬาจากประเทศต่างๆ เริ่มทยอยเดินทางไปเตรียมตัวกันเป็นที่เรียบร้อย สำหรับในปีนี้ ทางเจ้าภาพก็ได้เตรียมความพร้อมไว้หลายๆ อย่าง เช่น หมู่บ้านนักกีฬาที่ตั้งอยู่ในเมือง Pyeongchang และ Gangneung ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก สาธารณูปโภคครบครัน นอกจากความสะดวกสบายของที่พักอาศัยแล้ว เจ้าภาพยังมีการบริการอีกหนึ่งสิ่งที่เรียกได้ว่าสำคัญอย่างมากเหมือนกัน นั่นคือการแจกจ่ายถุงยางให้กับเหล่านักกีฬาไปใช้กันแบบฟรีๆ รวมแล้วกว่า 110,000 ชิ้น เมื่อลองนำจำนวนถุงยางอันมหาศาลมาหารด้วยจำนวนของนักกีฬาที่จะเข้ามาประมาณ 3,000 คน ทำให้เฉลี่ยแล้วนักกีฬาทุกคนจะได้รับถุงยางไปใช้กันประมาณ 37 ชิ้นเลยทีเดียว เรียกว่าสุขกายสบายใจทั้งชายและหญิงจริงๆ ทุกคนสามารถหยิบไปใช้ได้จากตะกร้าที่แขวนเอาไว้ตามห้องน้ำในหมู่บ้านนักกีฬา ถุงยางเหล่านี้ได้รับการบริจาคโดยบริษัทผู้ผลิตยาง Convenience Co ทำให้มั่นใจได้ว่ามันจะปลอดภัยต้องสุขอนามัยทางเพศสัมพันธ์ของทุกคนอย่างแน่นอน จุดประสงค์ของการแจกจ่ายถุงยางในครั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ HIV และแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดี นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการแจกถุงยางในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพราะความเป็นจริงมันมีการแจกจ่ายแบบนี้มาตั้งแต่การแข่งขันในปี 1992 ซึ่งภายหลังก็เริ่มมีการแจกในปริมาณที่เยอะขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าน่าจะเป็นผลกระทบมาจากการที่แอปนัดเดตสาวได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา แต่นอกจากนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว มันยังเป็นการแจกจ่ายที่เยอะที่สุดของงานโอลิมปิกฤดูหนาวอีกด้วย โดยครั้งที่มีการแจกจ่ายเยอะที่สุดในโอลิมปิกฤดูร้อน คือตอนที่บราซิลเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันเมื่อปี 2016 ซึ่งจากการรายง่านข่าวของประเทศบอกว่าพวกเขาได้แจกถุงยางไปมากกว่า 450,000 ชิ้นเลยทีเดียว…
-
แฟนสาวฉุนขึ้นหน้า ตัดจู๋ของฝ่ายชายทิ้ง จากการที่เขาชื่นชมผู้หญิงคนอื่นว่าสวย…
สาวๆ หลายคนอาจเคยเกิดความรู้สึกไม่พอใจเล็กๆ น้อยๆ เวลาที่แฟนหนุ่มของตัวเองชื่นชมผู้หญิงคนอื่น จนบางครั้งก็เกิดความน้อยใจหรืออาจจะเปลี่ยนไปจนกลายเป็นความโกรธแล้วทำในสิ่งที่รุนแรงเกินกว่าที่ใครเคยคาดคิด เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 สำนักข่าว Daily Mail ได้รายงานข่าวของหญิงสาวสุดโหดที่ตัดไอ้จ้อนของแฟนหนุ่ม เพียงเพราะว่าเขาดันไปชื่นชมหน้าตาและรูปร่างของผู้หญิงคนอื่น สาวโหดผู้โกรธจัดจนตัดไอ้จ้อนของแฟนหนุ่ม เธอคนนี้มีชื่อว่า Zhanna Nurzhanova ช่างเสริมสวยวัย 36 ปี ที่อาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มในเมือง Astana ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งในวันหนึ่งเธอก็พบว่าแฟนหนุ่มของตัวเองได้ส่งรูปผู้หญิงคนอื่นไปให้น้องสาวของเขาดู แฟนหนุ่มไม่ได้แค่ส่งรูปไปทางโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว แต่เขายังพูดชื่นชมเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นอีกด้วย ซึ่งฝ่ายชายก็ยังบอกว่าคนในรูปเป็นเพียงแค่คนรู้จักเท่านั้นเอง สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ Zhanna รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจวางยานอนหลับแฟนของเธอ ก่อนที่จะฉีดยาชาให้กับบริเวณหว่างขา แล้วจึงใช้กรรไกรตัดไอ้จ้อนของเขาซะ หลังจากนั้นเธอจึงขับรถพาแฟนหนุ่มไปโรงพยาบาลใกล้ๆ หวังจะให้แพทย์ช่วยดูอาการบาดเจ็บของเขา หมอที่โรงพยาบาลจึงทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาจับกุมตัวเธอไป จากการรายงานข่าวท้องถิ่น ไม่มีการแจ้งว่าเธอต้องเสียค่าปรับไปเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ คือเธอโดนโทษจำคุก 3-6 ปี และที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือ ไอ้จ้อนของแฟนหนุ่มไม่สามารถนำกลับมาต่อใหม่ได้ เนื่องจากบาดแผลที่สาหัสจนเกินไป Astana เมืองหลวงของประเทศคาซัคสถาน …
-
‘สัญญาจะขุนอย่างดี’ นศ.หนุ่มรับเลี้ยงแมววันตรุษจีน รับรองว่าสบายยิ่งกว่าโรงแรม 5 ดาว!!
สำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2018 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ หลายๆ คนที่มีเชื้อสายจีนคงกำลังเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัว แต่สำหรับนักศึกษาหนุ่มในมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง เขาเลือกที่จะหารายได้เสริมแบบน่ารักๆ เรียกได้ว่าเป็นงานที่ตอบโจทย์อย่างมากสำหรับเหล่าทาสแมวทั้งหลาย เด็กหนุ่มคนนี้ใช้นามแฝงว่า Xiao Tang ปัจจุบันเรียนอยู่ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน และเขาก็ได้เกิดไอเดียที่จะหารายได้พิเศษเสริมจากการเลี้ยงแมวในช่วงวันหยุดยาว 7 วันของเทศกาลตรุษจีน นักศึกษาหนุ่มผู้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวในช่วงวันหยุดตรุษจีน เขาได้ประกาศลงไปทางโลกออนไลน์ว่า ในช่วงวันหยุดนั้น ตนเองจะไม่กลับบ้านเกิดที่มณฑลยูนนาน จึงเปิดรับดูแลลูกแมวแลกกับค่าขนมนิดๆ หน่อยๆ โดยที่สัญญาว่าเขาจะดูแลพวกมันอย่างดีเหมือนกับเป็นลูกของตัวเองยังไงยังงั้น เขารับประกันเลยว่าเหล่าเจ้านายเหมียวทั้งหลายจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน เพราะเขาจะดูแลพวกมันเหล่านั้นด้วยอาหารเลิศรสทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ ปลา โยเกิร์ต ข้าวโพด และสลัด บริการทุกระดับประทับใจ ราวกับว่าพวกมันได้เข้ามาพักในโรงแรม 5 ดาว อาหารเลิศรสแต่ละอย่าง จะถูกเสิร์ฟให้กับเจ้าเหมียวไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน . นอกจากเรื่องของอาหารแล้ว เขายังสัญญาอีกว่าจะดูแลเจ้าแมวทุกตัวอย่างทะนุถนอม ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม โดยที่เขาบอกว่าสามารถรับดูแลได้มากที่สุดแค่ 4 ตัวเท่านั้น เพื่อการบริการที่ยอดเยี่ยม รับประกันเลยว่า เจ้านายเหมียวของทุกคนจะต้องพึงพอใจกับการมาพักผ่อนในครั้งนี้อย่างแน่นอน นับว่าเป็นอีกหนึ่งลู่ทางการหารายได้ที่ดูน่าสนใจไม่ใช่น้อย…
-
คุณแม่ลูก 9 ตัดสินใจทิ้งครอบครัว ออกเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่ชาวแอฟริกัน
ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จนทำให้บางครั้งเราอาจจะต้องเลือกที่จะทำสิ่งหนึ่งและต้องทิ้งอีกสิ่งไป เหมือนกับสิ่งที่คุณแม่คนนี้ต้องเจอ และเธอก็ตัดสินใจเลือกที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่แทนที่จะอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวเดิมของตัวเอง นี่คือเรื่องราวการตัดสินใจของคุณแม่ลูก 9 ในเมือง Tyneside ประเทศอังกฤษ ที่ชื่อว่า Heidi Hepworth วัย 44 ปี ผู้ตัดสินใจทิ้งครอบครัวของตัวเองไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักใหม่ชาวแกมเบีย Mamadou Salieu Jallow วัย 32 ปี ในเมือง Banjul ประเทศแกมเบีย Heidi และ Mamadou คนรักใหม่เชื้อสายแอฟริกัน Heidi เล่าว่าเธอได้เริ่มคุยกับ Mamadou ครั้งแรกในเฟซบุ๊กเมื่อเดือนมกราคม 2017 ด้วยสถานะเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งระหว่างนั้นเธออาศัยอยู่กับ Andrew ผู้เป็นสามีและลูกๆ อีก 9 คนของเธอ ทั้งสองคุยกันผ่านโซเชียลเป็นเวลานานกว่า 3 เดือน ในขณะที่ความสัมพันธ์ของเธอกับสามีเริ่มแย่ลงไปทุกทีและจบลงด้วยการแยกทางในเดือนพฤษภาคม พอเวลาผ่านไป เธอและคนรักใหม่ยังคงพูดคุยกันอยู่เสมอ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เกินกว่าคำว่าเพื่อน และเธอเองเชื่อว่านี่คือรักแท้อย่างแน่นอน ในเดือนตุลาคม Heidi จึงตัดสินใจตีตั๋วเดินทางไปหา Mamadou…
-
ภาพความน่ารักของแม่เสือที่ สั่งสอนลูกตัวเองท่ามกลางหนองน้ำ อย่างน่ารักน่าเอ็นดู…
เสือ คือสัตว์ป่าที่พวกเรามักจะเห็นแต่ในด้านของความดุร้าย คอยล่าสัตว์อื่นกินเป็นอาหารอยู่เสมอ ทำให้เราอาจจะไม่เคยเห็นสัญชาตญาณการใช้ชีวิตอันแสนน่ารักของพวกมัน อย่างเช่นการที่แม่เสือฝึกฝนและสั่งสอนลูกๆ เหมือนอย่างเหตุการณ์ต่อไปนี้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอุทยานเสือแห่งชาติ Tadoba Andhari อุทยานที่ใหญ่ที่สุดในรัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย เมื่อแม่เสือ Maya กำลังสั่งสอนและฝึกฝนลูกของตัวเองด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูอยู่กลางหนองน้ำ แม่เสือที่ตัวเล็กกว่า กำลังสั่งสอนลูกชายของตัวเอง . ภาพของสองแม่ลูกนี้ถูกถ่ายเก็บเอาไว้ได้โดยฝีมือของ Pratik Humnabadkar ชายหนุ่มวัย 29 ปีผู้ทำงานในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้มาเจอกับเหตุการณ์นี้ เพราะมันเป็นภาพที่หาชมได้ยากมากจริงๆ เพื่อนๆ บางคนอาจคิดว่าเสือสองตัวในภาพกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ความจริงแล้วมันคือการที่แม่เสือสั่งสอนลูกของตัวเอง ก่อนที่ลูกเสือหนุ่มตัวนี้จะต้องออกไปใช้ชีวิตละสร้างแหล่งที่อยู่เพียงลำพัง มันจึงจำเป็นต้องฝึกฝนการป้องกันตัวเอาไว้ เสือสองตัวที่เล่นต่อสู้กันท่ามกลางความชุ่มฉ่ำ . Pratik อธิบายว่า “ปกติแล้วเสือจะทิ้งแม่ของมันไปในตอนที่อายุได้ประมาณ 2-3 ขวบ เพื่อหาไปสร้างแหล่งอาศัยของตัวเอง ทำให้เราได้เห็นภาพการต่อสู้กันระหว่างมันกับแม่ เพื่อเป็นการฝึกให้เสือหนุ่มค่อยๆ เรียนรู้การเอาตัวรอดจากการถูกจู่โจมในสถานการณ์ต่างๆ ได้” เสือทั้งสองตัวต่อสู้กันยาวนานถึง 20 นาที และจบลงโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ กันเลย ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะถูกเผยแพร่ผ่านสำนักข่าว Daily…
-
รู้จักกับเมือง Monowi ในอเมริกา เมืองแสนเหงาเต็มไปด้วยความว่างเปล่า และผู้อยู่อาศัย 1 คน
หากเพื่อนๆ คนไหนต้องการจะหลีกหนีความวุ่นวาย มุ่งสู่การใช้ชีวิตแบบเงียบสงบ เพลิดเพลินไปกับความเรียบง่าย เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับเมือง Monowi รัฐเนแบรสกา สหรัฐอเมริกา ซึ่งบอกเลยว่ามันตรงกับความต้องการของคุณมากๆ อย่างแน่นอน เพราะเมืองนี้มีประชากรอาศัยอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น!! เมื่ออ้างอิงตามข้อมูลประชากรของอเมริกาในปี 2010 ยืนยันแล้วว่าที่นี่มีคนอาศัยอยู่แค่คนเดียวจริงๆ เธอคนนั้นมีชื่อว่า Elsie Eiler สาววัย 84 ปี ผู้ที่ยังคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางเมืองเล็กๆ อันแสนเดียวดาย ป้ายชื่อเมือง และจำนวนประชากรที่เหลืออยู่ Elsie เล่าว่าเมือง Monowi ไม่ได้เป็นเมืองที่เงียบเหงามาตั้งแต่แรก หากย้อนกลับไปในช่วง 1930s ที่นี่เคยมีประชากรอาศัยอยู่ด้วยกันกว่า 150 คน และเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างเส้นทางรถไฟ Elkhorn ทำให้มีผู้คนสัญจรไปมาอยู่เสมอ ภายในเมืองตอนนั้นประกอบด้วยร้านขายของชำ 3 แห่ง ร้านอาหารอีกมากมาย หรือแม้แต่คุกที่นี่ก็ยังมี ซึ่งในยุคนั้น Elsie อาศัยอยู่ในฟาร์มที่ตั้งอยู่เขตรอบนอกของเมืองและได้เจอกับ Rudy สามีในอนาคตของเธอ ตอนที่ทั้งคู่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถม เมื่อทั้งสองเรียนจบมัธยม พวกเขาก็ต้องแยกย้ายกันไป Rudy ได้ไปเป็นทหารรับใช้ชาติช่วงสงครามเกาหลี ในขณะที่ Elsie มุ่งหน้าสู่เมืองแคนซัส…
-
นักแสดงสาวผู้เปลี่ยนแปลงไปด้วย ‘การแต่งหน้า’ จนเหมือนกับเธอทำศัลยกรรมมายังไงยังงั้น
การแต่งหน้า คือสิ่งที่ช่วยทำให้สาวๆ (หรือหนุ่มๆ บางคน) สามารถเพิ่มความมั่นใจและความสวยงามให้กับใบหน้าของตัวเองได้มากยิ่งขึ้น แต่ใครจะไปคิดว่าในวันหนึ่งการแต่งหน้าจะสามารถทำให้คุณดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้อย่างชัดเจน เหมือนกับเธอคนนี้ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2018 สื่อญี่ปุ่นได้มีการพูดถึงเรื่องราวของหญิงสาวที่รู้จักกันในชื่อ Univers Hara นักแสดงตลกวัย 28 ปี ซึ่งเธอได้มีโอกาสปรากฏตัวลงในนิตยสาร CanCam ของประเทศญี่ปุ่น ฉบับเดือนมีนาคม ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นต่างพากันตกตะลึงในสิ่งที่เธอได้ทำลงไป นิตยสาร CanCam ฉบับเดือนมีนาคม ทุกคนไม่ได้ตกใจกับการที่เธอได้มาโผล่ในนิตยสาร แต่ที่น่าตกใจจริงๆ คือการที่เธออกมาเผยให้เห็นวิธีการแต่งหน้าที่เรียกว่า Seikei Kyu Make (整形級メーク) หรือเรียกเป็นภาษาไทยคือการแต่งหน้าขั้นศัลยกรรม ที่เปลี่ยนให้ใบหน้าของเธอกลายเป็นคนละคนจากที่เคยเห็นมาโดยตลอด การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการแต่งหน้าขั้นศัลยกรรม เธอเล่าเอาไว้ในนิตยสารว่า “ฉันคิดเสมอว่าถ้าฉันไม่เผยความน่ารักสดใสตั้งแต่ตอนอายุ 20 กว่าๆ แบบนี้ ฉันก็คงจะรู้สึกเสียดายแย่ ก็เลยตัดสินใจอัปภาพการแปลงโฉมของตัวเองลงในโซเชียล ซึ่งมันเกิดจากการที่ฉันอยากจะลองจนกลายเป็นความความจริงจังและเพียรพยายามมาโดยตลอด” หญิงสาวเล่าต่อไปว่า “ฉันดูน่ารักขึ้นกว่าเดิมมากจนตัวเองยังคิดเลยว่า ‘ฉันนี่มันช่างหลอกลวงจริงๆ’ (ฮา) จากนั้นมาฉันก็เริ่มชื่นชอบการแต่งหน้าสไตล์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ” …
-
จะเป็นอย่างไรเมื่อนักวาดการ์ตูนมืออาชีพ มาสอนวิธีการวาดภาพให้เรา ทำเอางงเป็นไก่ตาแตก
เราอาจเคยเห็นการวาดรูปในหลากหลายรูปแบบ บางคนก็อาจจะวาดโครงสร้างขึ้นมาก่อน บางคนก็เลือกที่จะวาดลวดลายลงไปเลยตั้งแต่เริ่มต้น แต่สำหรับนักวาดการ์ตูนชาวญี่ปุ่นคนนี้ เขากลับมีวิธีการที่เหมือนกับว่าเราจะทำตามได้ง่ายๆ แต่ก็รู้สึกว่ามันยากซะเหลือเกิน ผลงานวิธีการวาดรูปของเขาได้ถูกแชร์ลงไปในเว็บไซต์ 9GAG เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2018 ซึ่งบอกเลยว่าเห็นตั้งแต่ต้นจนจบแล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่น่าทำตามเขาได้เลยจริงๆ หน้าตาวิธีการและผลลัพธ์ของเขาเป็นอย่างไร ลองไปดูกันเองเลยจ้าาา อย่างแรกที่ต้องทำคือขีดเส้นให้เป็นโครงร่างซะก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ ลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เริ่มมองออกกันแล้วสินะว่ามันคืออะไร สิ่งที่ได้ออกมา แท่น แท่น แท๊นนน .. ยังงงอยู่ว่ากลายเป็นแบบนี้ได้เยี่ยงไร ไปดูที่รูปต่อไปกัน ดูจากลวดลายแล้วหรือว่าเขาจะวาดลูกวอลเล่ย์หรือเปล่า ไม่น่าใช่ละมั้ง อ้าวเฮ้ย!! กลายเป็นพงหญ้าเฉ้ย นี่น่าจะเป็นภาพกระดาษปลิวไปตามลม ปลิวไปปลิวมาแล้วไปเลอะหมึกเอาตอนไหน? กำาา กลายเป็นคลื่นซะอย่างนั้น นี่มันอะไรอีกฟระเนี่ย!? พระผู้เป็นเจ้าช่วยบอกข้าที มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง!? ไม่น่าใช่ทักษะวาดภาพแล้วมั้ง ออกแนวมายากลมากกว่า …
-
ถึงกับงง… “หมีด่าง” ส่วนผสมของน้ำตาลและขาว บนเกาะห่างไกลของญี่ปุ่น-รัสเซีย
เรารู้ดีว่าหมีน้ำตาลก็ต้องมีสีน้ำตาล หมีขาวก็ต้องมีสีขาว แต่ภาพของหมีบนเกาะ Kunashir นี้จะทำให้คุณรู้สึกสับสนอย่างมาก เพราะนี่คือหมีน้ำตาลที่มีขนสีขาว!! ภาพดังกล่าวถูกถ่ายโดยช่างภาพที่ชื่อว่า Viktor Nikiforov ขณะที่เขากำลังเดินทางลงใต้ไปเก็บภาพสิ่งต่างๆ บนฝั่งอาร์กติก เขาก็ได้เจอเข้ากับหมีตัวหนึ่งบนเกาะอันห่างไกล ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ว่าขนของมันตรงช่วงบนจะเป็นสีขาว ในขณะที่ช่วงล่างจะออกเป็นสีดำ หมีด่าง ที่ถูกพบว่ามีสีต่างกัน เกาะ Kunashir Viktor ถึงกับงงจนคิดว่าเจ้าหมีสีน้ำตาลตัวนี้อาจเป็นผลมาจากการผสมพันธุ์กันกับหมีขั้วโลกก็เป็นได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่พิเศษพอๆ กับเรื่องของสีขนก็คือ เกาะ Kunashir นั้นเป็นเกาะเล็กๆ ที่ไม่น่าจะมีหมีสีน้ำตาลมาอาศัยอยู่ได้เลย เกาะที่ว่านี้ตั้งอยู่บริเวณใจกลางระหว่างญี่ปุ่นกับรัสเซีย จึงทำให้ทั้งสองประเทศเริ่มตั้งข้อสงสัยกันว่าหมีสีน้ำตาลเหล่านี้มันโผล่มาได้อย่างไร แผนที่ที่ตั้งของเกาะดังกล่าว . ฝั่งหนึ่งบอกว่าชาวญี่ปุ่นเป็นคนอพยพมันมาไว้บนเกาะ ส่วนอีกฝั่งก็บอกว่าเจ้าหมีเดินเท้าข้ามทะเลมาในตอนที่น้ำเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง เพื่ออพยพออกมาจากแถวคาบสมุทรคัมชัตคา ทางด้านศาสตราจารย์ Noriyuki Ohtaishi จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโดได้ออกมาอธิบายว่า สีขนของเจ้าหมีน่าจะเกิดจากการแบ่งแยกและกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ เพราะมันมาโผล่ที่เกาะ Kunashir และ Iturup ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสองประเทศ นี่จึงอาจเป็นการปรับตัวรูปแบบหนึ่ง ศาสตราจารย์ Noriyuki Ohtaishi . …
-
กองทัพผีในสมรภูมิ Gallipoli ในช่วง WWI ทำเหมือนยังมีคนยิงอยู่ ทั้งๆ ที่หนีกันไปหมดแล้ว
หากย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม 1915 ตอนนั้นหลายๆ ที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสมรภูมิรบที่มีการยิงปืนใส่กันตลอดเวลา ซึ่งคาบสมุทร Gallipoli ในเขตประเทศตุรกี ก็นับว่าเป็นหนึ่งจุดที่มีการห้ำหั่นกันอยู่เรื่อยๆ ในตอนนั้นทางฝ่ายกองกำลัง ANZAC (กองทหารที่รวมตัวกันของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์) ต้องการที่จะล่าถอยออกจากสมรภูมิ นั่นจึงกลายเป็นต้นกำเนิดของสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า Drip Rifle หรือ ไรเฟิลหยดน้ำ สิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Drip Rifle เจ้าสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวเกิดจากไอเดียของนายทหารชาวออสเตรเลียคนหนึ่งที่มีชื่อว่า สิบตรี William Scurry และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนของเขา Bunty Lawrence ที่ช่วยทำให้สร้างเจ้าสิ่งนี้ออกมาได้สำเร็จ การทำงานของ Drip Rifle คือเจาะรูในกระป๋องน้ำให้หยดใส่ลงถังด้านล่าง โดยถังที่รองอยู่จะมีเชือกผูกติดเอาไว้กับไกปืน ทำให้พอน้ำหยดลงมามีน้ำหนักที่มากพอ ไกปืนก็จะถูกดึง เป็นการยิงปืนแบบที่ไม่ต้องใช้คนนั่นเอง สิบตรี Willam Scurry ผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ การทำงานแบบสุ่มเวลา ทำให้ปืนแต่ละกระบอกยิงออกไปไม่พร้อมกัน กลวิธีดังกล่าวจึงทำให้ฝ่ายศัตรูชาวออตโตมันคิดว่ายังคงมีทหารฝั่ง ANZAC คอยยิงปืนอยู่เรื่อยๆ และพวกเขาก็ไม่กล้าโผล่ออกมาดูด้วยตาของตัวเอง แต่ถึงแม้จะมองไปที่บังเกอร์ฝั่งตรงข้ามในความมืดจากระยะไกล พวกเขาก็จะเห็นเหมือนเงายืนอยู่…
-
หนุ่มคอสเป็น ‘เมาอิ’ จากเรื่อง Moana ได้เหมือนสุดๆ แถมยังแชร์วิธีทำอีกด้วย เอาไปทำตามได้เลย
หากใครชื่นชอบอนิเมชั่นจากค่ายดิสนีย์มากๆ แล้วล่ะก็ เราเชื่อว่าคุณจะต้องรู้จักกับหนังการ์ตูนที่เต็มไปด้วยความน่ารักและแฟนตาซีอย่างเรื่อง Moana แน่นอน และหากรู้จักหนังเรื่องนี้ คุณก็จะต้องได้เห็นตัวเอกที่ีมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างเข้า เมาอิ ชายผู้มากไปด้วยพลังวิเศษต่างๆ ตัวละครเมาอิ จากหนังเรื่อง Moana หนุ่มคอสเพลย์จากกลุ่ม Sledgehammer Cosplay ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เขาก็เป็นคนที่ชื่นชอบตัวละครตัวนี้อย่างมากเหมือนกัน และนั่นจึงทำให้เขาคอสเพลย์เป็นเมาอิซะเลย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นเรียกว่ามีความเหมือนแทบทุกอย่าง อีกทั้งเขายังเอาวิธีการมาแชร์กันด้วยนะเออ เราลองไปดูกันเลย นี่คือผลลัพธ์ที่ได้จากการคอสเพลย์ของเขา เก็บทุกรายละเอียดของตัวละครต้นฉบับ ขั้นตอนการคอสเพลย์ของเขา หารูปในอินเตอร์เน็ตเพื่อใช้เป็นโครงร่างของอาวุธ ซึ่งต้องดูจากสัดส่วนให้เข้ากับขนาดตัวด้วย การใช้อุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบาทำให้สามารถถือไปไหนมาไหนได้ตลอด เขาจึงใช้โฟมมาตัดตามโครงร่างก่อนที่จะประกบด้วยไม้ที่ถูกตัดด้วยความร้อน เขาเคลือบตัวเบ็ดด้วยกาวไม้หลายๆ ชั้น เพื่อช่วยให้รูปร่างที่เขียนเอาไว้ในตอนแรกยังคงอยู่ ก่อนที่จะทำการลงสี จากนั้นก็เพิ่มความสมจริง ด้วยการทำให้มันดูผุกร่อนไปบ้าง ในส่วนของเชือก เขาต้องการให้มันดูเข้มกว่าสีปกติ เขาจึงนำไปแช่เอาไว้ในน้ำชา เขาออกแบบใบไม้แต่ละใบที่จะใช้เป็นกางเกงให้มีความแตกต่างกัน จากนั้นจึงนำแบบที่ตัดไว้มายึดกับแผ่นโฟมอีกที เพื่อให้เหมือนมากที่สุด เขาจึงต้องแยกเฉดสีของใบไม้ให้เหมือนกับในการ์ตูน ซึ่งมันมีเยอะเอามากๆ …
-
เด็กน้อยผู้รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังจากที่เกิดมามีสมองอยู่ข้างนอก
เราอาจเคยได้ยินกันมาก่อนว่าเด็กที่คลอดออกมาไม่ได้หมายความว่าจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ทุกคน เพราะยังมีบางคนที่อาจเกิดมาแล้วต้องเสียชีวิตไปจากความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งเด็กคนนี้ก็เกือบจะได้เป็นหนึ่งในนั้น แต่เขาก็สามารถรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์และโตขึ้นมาอย่างมีความสุข เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Jamie Daniel จากเมือง Nuneaton เขตวาร์วิคเชอร์ ประเทศอังกฤษ เขาเกิดเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2008 แต่ในวันเดียวกันนั้นก็เกือบจะเป็นวันตายของเขา เพราะความผิดปกติที่ติดตัวมาเกือบทำให้เขาต้องตายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง Jamie เด็กที่เกิดมามีความผิดปกติ และเกือบต้องเสียชีวิตในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงหลังคลอด Jamie คลอดออกมาพร้อมกับพี่สาวฝาแฝด Lucy หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ครบ 32 ประการ แต่ในขณะเดียวกัน Jamie กลับเกิดมามีน้ำหนักตัวแค่ประมาณ 1 กิโลกรัมเท่านั้นเอง แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาเกือบเสียชีวิตลงตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกก็คือ ความผิดปกติที่เรียกว่า Encephalocele ทำให้สมองของเด็กน้อยออกมาอยู่ด้านนอกกะโหลกศีรษะ แพทย์ที่ทำคลอดทำใจไว้แล้วว่าเด็กคนนี้คงไม่มีโอกาสรอดแน่ๆ Leanne Daniel แม่ของเด็กน้อยเล่าว่ามีการพบความผิดปกติของ Jamie ตั้งแต่ตอนที่ไปตรวจครรภ์ในสัปดาห์ที่ 31 ซึ่งตอนนั้นหมอบอกว่าเด็กอาจจะเกิดมาแล้วตายเลย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจมีความผิดปกติที่ร้ายแรงมากๆ และแนะนำให้เธอทำแท้งเอาเด็กคนนี้ออก แต่ทว่าน้ำคร่ำของเธอไหลออกมาก่อนเวลาที่กำหนด…
-
แมลงสาบเป็นเหตุ!? เมื่อคุณป้ากลัวจนขาดสติ หักพวงมาลัยพุ่งเข้าชนสะพานอย่างจัง
แมลงสาบ คือสิ่งมีชีวิตที่หลายๆ คนทั้งเกลียดและกลัวจนเข้าไส้ ยิ่งตอนมันบินนี่ทำให้รู้สึกอยากจะสิ้นใจตายไปตรงนั้นเอาซะเลย ซึ่งสำหรับเธอคนนี้เองก็คงจะกลัวมันมากเหมือนกัน มากพอที่ทำให้เธอตกใจจนขาดสติได้เลยทีเดียว เหตุการณ์ของหญิงสาววัย 61 ปีคนนี้เกิดขึ้นในเมือง Jurong East Central ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 โดยจากการรายงานแล้วในตอนนั้นเธอกำลังขับรถไปตามถนน Science Centre Road ตอนประมาณ 7 โมงครึ่ง ก่อนที่จะได้จ๊ะเอ๋กับสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมตัวน้อยที่แอบเข้ามาในรถ ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอคนนี้ เธอได้เจอเข้ากับน้องปีเตอร์ หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเจ้าแมลงสาบ สิ่งที่เธอกลัวนักกลัวหนา จนทำให้เธอตกใจสุดขีด หักพวงมาลัยไม่มองทาง แล้วรถ Masda สีแดงคันงามของเธอก็พุ่งชนเข้ากับบันไดทางขึ้นสะพานลอยอย่างจัง จากการรายงานของสำนักข่าว The Straits Times บอกว่า หญิงสาวที่ขับรถมาคนเดียวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล Ng Teng Fong General ซึ่งไม่มีใครทราบเลยว่าเจ้าปีเตอร์ตัวนั้นตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากเกิดอุบัติเหตุเพียงไม่นาน ลูกชายของเธอก็รีบตรงมาดูที่สถานที่เกิดเหตุ และในปัจจุบันยังคงอยู่ในช่วงการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกันต่อไป ไม่แปลกที่เราทุกคนจะต้องมีสิ่งที่กลัวเป็นธรรมดา…
-
ร้านซูชิในประเทศญี่ปุ่น ต้อนรับเทศกาลแห่งความรักด้วย ซูชิช็อกโกแลตตต!!
สำหรับวาเลนไทน์ที่จะมาถึงในอีกไม่ช้านี้ หลายๆ คนอาจกำลังคิดว่าจะซื้ออะไรไปมอบให้กับคนที่เรารักดี และแน่นอนว่าในทุกปีสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับของขวัญที่เราจะต้องเจออย่างแน่นอนนั่นก็คือช็อกโกแลต และเจ้าช็อกโกแลตเองก็ได้กลายเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารแนวใหม่จากร้านซูชิชื่อดังในญี่ปุ่น Kura Sushi ซูชิสายพานที่ทุกเมนูมีราคาแค่ 100 เยน หรือประมาณ 28 บาทเท่านั้น!! นอกจากเรื่องของความถูกแล้วร้านนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของเมนูสุดพิสดาร เหมือนอย่างเมนูใหม่นี้ที่มีชื่อว่า Tiramisushi หรือก็คือ ซูชิช็อกโกแลตตต!! Tiramisushi หรือ ซูชิช็อกโกแลตตต!! นี่คือการผสมผสานกันระหว่างซูชิ กับขนมหวานที่มีส่วนผสมหลักเป็นช็อกโกแลตอย่างเจ้า Tiramisu โดยภายในของเมนูใหม่นี้ประกอบด้วยพุดดิ้งช็อกโกแลตที่ขดตัวอยู่ด้านใน คั่นด้วยโนริสาหร่ายและข้าว ก่อนที่จะนำมาสคาโปนชีสมาโปะด้านบนเพื่อเพิ่มความหอมหวาน รสชาติของชีสและพุดดิ้งช็อกโกแลตจะทำให้คุณได้รับรสที่เหมือนกับกิน Tiramisu อยู่ยังไงยังงั้น แล้วเพิ่มความแปลกใหม่ด้วยรสชาติของข้าวสวยผสมน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ซึ่งทางร้านออกมายืนยันเลยว่ามันเข้ากันแบบสุดๆ อย่างที่หากินจากที่ไหนไม่ได้นอกจากที่นี่ที่เดียว ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะพวกเขาได้แนะนำเพิ่มเติมว่าเจ้าของหวานตัวใหม่นี้ หากได้ลองนำไปกินกับกาแฟด้วยแล้วล่ะก็ จะยิ่งทำให้รสชาติมันกลมกล่อมอร่อยถูกปากมากขึ้นไปอีก เหมาะกับการจิบกาแฟ กินของหวาน พูดคุยกับคู่รักของคุณอย่างสุดๆ ไปเลย สินค้าชิ้นนี้จะถูกวางขายในช่วงเวลาจำกัด คือจะขายแค่เฉพาะวันที่ 9 – 15 กุมภาพันธ์…
-
ไอเดียเสริมพลังใจ หนุ่มใช้ไม้ไอติมเขียนข้อความให้กำลังใจแฟนต่อสู้กับโรคซึมเศร้า
ข้อมูลสถิติขององค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่า มีคนมากกว่า 300 ล้านคนทั่วโลกป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โดยสิ่งที่ต้องกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยดังกล่าวกลับไม่ใช่เรื่องของจำนวนผู้ป่วย แต่เป็นเรื่องของวิธีการรับมือกับผู้ป่วยเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงเป็นเรื่องที่หลายๆ คนคิดกันไม่ตก หลายๆ คนที่มีคนใกล้ตัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าพยายามหาทางที่จะช่วยเหลือพวกเขาให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ใช้ชื่อใน Reddit ว่า Bovadeez เพราะแฟนสาวของเขาเองก็จมอยู่กับอาการของโรคซึมเศร้ามาอย่างยาวนานเช่นเดียวกัน เขาจึงคิดวิธีที่จะหาทางช่วยเหลือเธอ จนกลายมาเป็นของขวัญชิ้นนี้ นี่คือขวดโหลที่เต็มไปด้วยข้อความต่างๆ มากมายเขียนลงไปบนไม้ไอติม เป็นสิ่งที่เขาต้องการสื่อให้แฟนสาวได้รับรู้ว่าเขารู้สึกเป็นห่วงและรักเธอมากขนาดไหน ชายหนุ่มแยกข้อความออกมาเป็น 4 ประเภทตามสี ได้แก่ สีส้ม คือคำคมหรือวลีต่างๆ ที่มีความหมายในแง่บวก ไว้สำหรับการให้กำลังใจ จากบทประพันธ์ของนักเขียนชื่อดังหลายๆ คนที่เขาชื่นชอบ สีเหลือง คือคำพูดหรือความคิดเชิงบวกจากตัวเขาเอง เพื่อคอยเตือนใจให้แฟนสาวได้รับรู้ว่าเธอสำคัญและมีความหมายมากขนาดไหน ยกตัวอย่างข้อความที่เขียนว่า “เธอสวยมาก” , “ฉันรักเธอ” หรือประโยคที่ว่า “อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ” สีม่วง คือแนวทางที่จะช่วยทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย อย่างเช่นข้อความที่บอกให้เธอ “หยุดพักบ้าง” ในตอนที่เธอกำลังฝืนตัวเอง หรือ “ลองฟังเพลงที่เธอชอบดู” ไม่มีสี คือไม้ไอติมว่างๆ ที่มีไว้ให้แฟนสาวเขียนช่วงเวลาที่เธอมีความสุขมากที่สุดในชีวิตลงไป เพื่อหวังว่าในอนาคตที่เธอกลับมาหม่นหมอง ขอเพียงให้เธอกลับมาดูเรื่องราวที่เคยเขียนไว้และกลับมายิ้มได้อีกครั้ง…
-
เมื่อการหยอกล้อกันในเกม นำไปสู่การพรากชีวิตชายคนหนึ่ง จากการแจ้งความเท็จกับตำรวจ
บางครั้งการเล่นกันขำๆ อาจจะเกิดผลลัพธ์ที่ตามมามากกว่าที่เราได้คาดคิดเอาไว้ และนั่นอาจหมายถึงการพรากชีวิตของคนคนหนึ่งไปโดยไม่มีเหตุผล เหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 ธันวาคม 2017 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงชายคนหนึ่งเสียชีวิต เพราะได้รับการแจ้งความเท็จ เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นจากการเล่นเกม Call of Duty World War II แบบออนไลน์ของเด็กสองคนที่ชื่อว่า Shane Gaskill จากรัฐแคนซัส และ Casey Viner จากรัฐโอไฮโอ เกม Call of Duty World War II เด็กทั้งสองเล่นเกมอยู่ทีมเดียวกัน แต่ Shane กลับไปยิงตัวละครของ Casey ตาย จึงทำให้เขารู้สึกโมโหที่โดนทีมเดียวกันในเกมฆ่า Casey จึงติดต่อไปหาอีกฝ่ายผ่านทางทวิตเตอร์และขู่ว่าจะให้ตำรวจไปล้อมจับที่บ้าน Shane ไม่ได้คิดอะไรและตอบกลับมาว่า “ก็ลองดูเซ่” ก่อนที่เขาจะส่งที่อยู่ปลอมๆ ไปให้กับ Casey และนั่นจึงทำให้เด็กที่กำลังโมโหอยู่ติดต่อไปหาชายคนหนึ่งที่ชื่อว่า Tyler Barriss วัย 25 ปี Tyler…
-
งานปักทรงอาหารขนาดจิ๋ว พร้อมลูกเล่นที่หยิบจับสัมผัสได้ เสียอย่างเดียวมัน ‘กิน’ ไม่ได้นี่สิ
เราอาจเคยเห็นงานศิลปะขนาดจิ๋วที่นำเอาของต่างๆ รอบตัวมาย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงไว้ซึ่งความสมจริงเหมือนกับตัวต้นแบบ เหมือนอย่างผลงานของเธอคนนี้เองที่นำเอาอาหารหรือเครื่องดื่มที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ให้กลายเป็นผลงานศิลปะขนาดจิ๋วที่ใช้เพียงแค่เข็มกับด้าย บวกกับฝีมือการวาดภาพเท่านั้นเอง ผลงานที่สร้างขึ้นมาจากเข็มและด้าย ศิลปินสาวคนนี้ใช้ชื่อว่า Ipnot ซึ่งเป็นชื่อที่เพื่อนๆ เรียกกันมาตั้งแต่เด็ก ผลงานของเธอใช้การเย็บปักถักร้อย สร้างสรรค์อาหารที่ทำมาจากด้ายหลากสี บวกกับทักษะการวาดภาพของเธอที่ช่วยทำให้ผลงานออกมาดูสวยงามและน่ากินมากยิ่งขึ้น กินได้กินเลย ไม่อ้วนแน่นอน สโนว์ไวท์อาจกินลูกนี้เข้าไปแล้วติดคอจนสลบหรือเปล่า หยิบกินได้เลยจ้าาา เธอเล่าว่าได้รับแรงบันดาลใจการฝึกฝนเรื่องเย็บปักมาตั้งแต่ตอนที่คุณย่าของเธอสอนให้ตั้งแต่เด็ก หลังจากนั้นเธอก็เริ่มหันไปให้ความสนใจกับการปักดุมแบบฝรั่งเศส เธอจึงใช้เวลาฝึกฝนฝีมืออยู่นานหลายปี จนกลายเป็นศิลปินที่มีความเชี่ยวชาญและมีผลงานสวยๆ ออกมาให้เราได้เห็นกัน มีการใส่ลูกเล่นแบบคีบเส้นขึ้นมาได้เสมือนจริง เมื่อวาดชามเข้าไปในภาพ บวกกับแสงเงาซักเล็กน้อย ทำให้ดูมีมิติมากกว่าเดิม ผลงานทั้งหมดสร้างขึ้นมาจากเส้นด้ายที่มีสีต่างกันมากกว่า 500 สี เพื่อเพิ่มมิติให้กับอาหารแต่ละจานที่เธอสร้างขึ้นมา จนบางครั้งเราอาจเผลอเข้าใจผิดคิดว่ามันกินได้จริงๆ เลย ลูกเต็มๆ น่ะของจริง แต่ที่ผ่าออกมาอ่ะของปลอม เห็นอย่างนี้อาจจะหยิบผิดได้เลยนะเนี่ย น่าเอาไปแกล้งเพื่อนนะ เวลามาขอชิมขนมเราอะไรแบบนี้ (สังเกตดีๆ มีแท่งแปลกปลอมซ่อนอยู่) ซูชิที่เหมื๊อนนนเหมือน…
-
18 เหตุผลที่คุณควรไปเยือน ‘ไอซ์แลนด์’ และย้ายไปอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไปปป…
ประเทศไอซ์แลนด์ คือหนึ่งในสถานที่ที่คนในบ้านเราอาจไม่ค่อยนิยมเดินทางไปเที่ยวกันมากเท่าไหร่นัก จึงอาจทำให้หลายๆ คนยังไม่รู้ว่าธรรมชาติและวัฒนธรรมของประเทศนี้มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่นเลยเหมือนกัน เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพและเข้าใจไปพร้อมๆ กันว่าที่นี่น่าอยู่มากขนาดไหน เราจึงชวนให้เพื่อนๆ ไปทราบถึง 18 เหตุผลที่จะบอกว่าคุณควรไปเที่ยวไอซ์แลนด์ซักครั้งหรือไม่ก็อาศัยอยู่ที่นั่นซะเลยยย 1. แช่น้ำอุ่นๆ ใน Blue Lagoon Blue Lagoon คือหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของประเทศนี้ คุณจะได้ลงไปแช่น้ำที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุดีต่อสุขภาพ เยียวยาสุขภาพกายและสุขภาพใจไปพร้อมๆ กัน 2. เสื้อกันหนาวของชาวไอซ์แลนด์ เสื้อหนาวขนสัตว์แบบเฉพาะของชาวไอซ์แลนด์มีชื่อเรียกว่า Lopapeysa มีความเป็นเอกลักษณ์และจะช่วยให้คุณได้เข้าถึงบรรยากาศแบบไอซ์แลยด์ไปอีกขั้น ใครไปเที่ยวก็อย่าลืมหามาใส่กันซักตัวนะ 3. ภาพของแสงเหนือที่น่าหลงใหล หากคุณต้องการจะสัมผัสปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าจดจำแบบนี้ เราขอแนะนำให้ไปเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของไอซ์แลนด์ (กลางเดือนกันยายน – กลางเดือนเมษายน) แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่รับประกันว่าคุณจะมีโอกาสได้เห็นมันอย่างแน่นอน ถือซะว่าเป็นการวัดดวงไปในตัวด้วยละกัน 4. ฮอตดอกจากร้าน Bæjarins Beztu Pylsur เรียกว่าเป็นร้านฮอตดอกเจ้าดังที่สุดในไอซ์แลนด์เลยก็ว่าได้ เพราะบางคนถึงกับบอกว่าฮอตดอกร้านนี้อร่อยที่สุดในโลกเลยจริงๆ หากใครอยากชิมก็คงต้องมีความอดทนซักเล็กน้อย เพราะคุณจะต้องยืนต่อคิวนานเป็นชั่วโมงๆ 5. ม้าสายพันธุ์ไอซ์แลนดิก ม้าสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อว่ามีความเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดและยังเป็นมิตรต่อคนมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีแผงคอที่น่ารัก สวยงามมากที่สุดอีกด้วย…
-
อ่านได้แต่ห้ามหัวเราะ!? ก็แค่กด “ปุ่มขำ” เฉยๆ เจอคนหัวร้อนทักมาด่ารัวๆ นี่ตรูทำอะไรผิด
ทุกคนรู้ดีว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แต่บางครั้งอากาศที่ว่าร้อนแล้วหัวของคนบางคนอาจจะร้อนซะยิ่งกว่า เหมือนอย่างเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Pongsakorn Noisiri ที่โพสต์เล่าเรื่องเอาไว้ในวันที่ 28 มกราคม 2018 เมื่อเขาต้องถูกต่อว่าและหาเรื่องอย่างหนัก เพียงเพราะการไปกดหัวเราะในสเตตัสของเพื่อนในเฟซบุ๊ก โพสต์ที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง หลังจากที่คู่กรณีทักมา เขาก็ถูกแฟนของฝ่ายหญิงเข้ามาโจมตีอย่างหนัก ด่าเขาเสียๆ หายๆ โดยที่เขาตอบกลับไปว่า ก็แค่กดผ่านๆ แม้จะไม่ได้รู้จักกันจริงๆ แต่ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ภาพจากห้องแชทของทั้งสองฝ่าย . . . ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะทางฝั่งคู่กรณีถึงกับกล้าท้าให้เจ้าของเรื่องไปถามคนอื่นๆ ดูเลยว่า การที่มาทำแบบนี้มันเป็นเรื่องที่สมควรมั้ย . . . . . . . จบงานก็ทำเอาเจ้าของเรื่องถึงกับปวดหัว ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแค่กดหัวเราะให้กับเพื่อนในเฟซบุ๊ก จะกลายเป็นเรื่องราวที่เขาบอกว่า “มาเป็นซีรีส์” ได้ถึงขนาดนี้ โพสต์เล่าเหตุการณ์ของเจ้าของเรื่อง คราวหลังเวลาจะเข้าไปตอบโพสต์ใครในเฟซบุ๊ก ก็คงต้องดูกันให้ดีๆ แล้วแหละนะ ไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่เหมือนอย่างเรื่องนี้ก็เป็นได้ ที่มา: facebook
-
คุณพ่อชาวจีนหัวเก่า สนับสนุนให้ลูกคบกับคนผิวขาว แทนที่จะคบกับคนผิวสี
เรื่องของเชื้อชาติหรือสีผิวยังคงเป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันอยู่ตลอด ไม่ใช่เพียงเพราะความแตกต่างในเรื่องของภาษาหรือวัฒนธรรม หากแต่ยังมีคนบางกลุ่มที่มองว่า เชื้อชาตินี้ดีกว่าอีกเชื้อชาติหนึ่ง เหมือนอย่างความคิดของคุณพ่อชาวจีนคนนี้ ที่อยากให้ลูกสาวของตัวเองคบกับคนผิวขาว และไม่ให้คบกับคนผิวสี แนวคิดของคุณพ่อคนนี้ถูกนำเสนอออกมาผ่านการพูดคุยกับลูกสาวของตัวเอง และเธอก็ทำการถ่ายคลิปแบบให้ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นหน้า ก่อนที่จะนำมาโพสต์ใน Reddit เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ภายในคลิปหญิงสาวถามพ่อของเธอว่า “ถ้าน้องสาวคบกับคนผิวสีพ่อจะโกรธใช่มั้ย แต่ถ้าเป็นคนผิวขาว-” แล้วพ่อเธอก็ตอบแทรกมาว่า “ใช่ เพราะปกติแล้วคนจีนไม่ชอบคนผิวสี” ลูกสาวยังถามพ่ออีกว่า “ไม่ใช่แค่ผิวสี แต่รวมถึงคนแขกฝั่งอินเดียด้วยหรือเปล่า” พ่อเธอก็ตอบว่า “ใช่ พ่อไม่ชอบพวกเขาเหล่านั้นเลย” เธอจึงถามหาเหตุผลว่าทำไมพ่อของเธอถึงคิดเช่นนั้น เขาจึงตอบกลับมาแบบคลุมเครือว่า “พ่อจะอธิบายว่ายังไงดี คนพวกนั้นทำให้พ่อรู้สึกไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่” หญิงสาวจึงมุ่งประเด็นไปว่าทำไมพ่อของเธอถึงคิดว่าคู่รักชาวจีนกับคนผิวขาว ถึงดีกว่าคู่รักชาวจีนกับคนผิวสี แล้วคุณพ่อจึงอธิบายว่า “พ่อไม่ได้บอกว่าคนขาวดีกว่าคนจีน แต่คู่รักคนจีนกับคนผิวขาวยังไงก็ดีกว่าคนจีนที่คบกับคนผิวสีหรือคนแขก” จากนั้นลูกสาวจึงถามประโยคสุดท้ายว่า “พ่อคิดว่าลูกครึ่งชาวจีนกับผิวขาวดูสวยงามมากที่สุดแล้วใช่มั้ย?” พ่อเธอจึงยกตัวอย่างถึงคนคนหนึ่งที่ชื่อว่า Gabby และบอกว่าคนคนนั้นมีใบหน้าที่ขี้เหร่เมื่อตอนเป็นเด็ก แต่พอโตขึ้นมากลับน่ารัก ซึ่งคาดว่าคนที่พ่อของเธอพูดถึงจะเป็นลูกครึ่งชาวจีนกับคนผิวขาว วิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นที่พูดถึงเกี่ยวกับความคิดที่หลายๆ คนมองว่าเป็นการถูกปลูกฝังของคนในยุคเก่า ที่มองว่าเชื้อชาติหนึ่งดีกว่าอีกเชื้อชาติหนึ่ง ซึ่งในที่นี้หมายถึงคนขาวดีกว่าคนผิวสี แน่นอนว่าเชื้อชาติที่ต่างกัน…
-
อพาร์ตเมนต์ตกแต่งพร้อมอยู่ ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก MUJI ดูดีน่าอยู่อย่าบอกใครเชียว
MUJI คือชื่อของบริษัทขายสินค้าเกี่ยวกับพวกของใช้ในบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์จากประเทศญี่ปุ่น มีความน่ารัก เก๋ไก๋ และเป็นสไตล์แบบมินิมอล เหมาะกับการตกแต่งบ้านหรือหอพักที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งปัจจุบันก็มีการขยายสาขาจนมีหน้าร้านในบ้านเราแล้ว หลายๆ คนที่เคยเห็นสินค้าของที่นี่ ก็อาจจะอยากมีบ้านในฝันแบบที่เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก MUJI ซึ่งถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ฝันเอาไว้แบบนั้นแล้วละก็ เราเชื่อว่าคุณจะต้องชอบโปรเจกต์ใหม่ของบริษัทนี้แน่นอน เพราะนี่คือห้องที่ถูกออกแบบและติดตั้งด้วยเฟอร์นิเจอร์จาก MUJI แทบทั้งสิ้น นี่คือโปรเจกต์ที่ชื่อว่า MUJI x UR Estate Renovation Project เป็นโครงการที่จะดัดแปลงอพาร์ตเมนต์เก่าๆ ดูไม่ค่อยน่าอยู่ ให้กลายเป็นอพาร์ตเมนต์ที่มีความเรียบง่าย สวยงาม ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก สัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันแสนสงบสุขใจกลางเมือง จุดเริ่มต้นในตอนแรก พวกเขาได้ดัดแปลงบ้านตามโครงการเอาไว้ 13 หลัง ต่อมาทางทีมงานก็ได้มีการรับรีโนเวทบ้านเพิ่มเติม ทำให้ปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยในลักษณะเดียวกันนี้มากถึง 41 แห่ง กระจายออกไปในแต่ละจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น . อย่างที่เรารู้กันว่าสินค้าของ MUJI จะมีความกะทัดรัด ใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เรารู้สึกสบายตาอยู่เสมอ ซึ่งทั้งหมดนั้นคุณจะสามารถสัมผัสได้กับทุกส่วนของบ้านที่พวกเขาดัดแปลงเอาไว้อย่างแน่นอน และบ้านที่พวกเขาทำการรีโนเวทเอาไว้ก็สามารถพร้อมเข้าอยู่ได้เลย เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่มีเรียกว่าครบทุกองค์ประกอบแล้วจริงๆ .…
-
‘ป๋าเดปป์ มิเรอร์AAA’ โผล่ห้างเมืองไทย คนแห่รุมขอลายเซ็น-เพจแฟนคลับชี้นั่นตัวปลอม
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ได้เกิดเรื่องราวที่ทำให้ฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียล หลังจากที่มีคนโพสต์ข้อความและภาพถ่ายบอกว่า มีโอกาสได้เจอกับ Johnny Depp นักแสดงชื่อดังระดับ Hollywood ที่เดินทางมาโชว์ตัวภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทย ภาพถ่ายจากคนที่บอกว่าได้เจอ Johnny Depp ตัวเป็นๆ ในประเทศไทย นักแสดงคนนี้มีชื่อเสียงจากการได้รับเป็น Jack Sparrow จากหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean และอีกหลายๆ เรื่อง ทำให้ผู้คนที่ได้พบเห็นเขาต่างรู้สึกดีใจ เข้าไปถ่ายรูปและขอลายเซ็นกันอย่างล้นหลาม จนกระทั่งเริ่มมีการตั้งข้อสงสัยว่าชายคนนี้ใช่ Johnny Depp ตัวจริงหรือไม่ ซึ่งทางคนที่อยู่ในเหตุการณ์และถ่ายภาพมาโพสต์ไว้ในโซเชียลนั้น ยืนยันว่าเขาคือตัวจริง สังเกตจากการที่มีผู้ติดตามและบอดี้การ์ดคอยดูแลตามติดอยู่ไม่ห่าง โพสต์และความคิดเห็นจากคนที่บอกว่าเจอ Johnny Depp มาโชว์ตัวอยู่ในห้างดังแห่งหนึ่งที่ประเทศไทย . อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายแฟนคลับของพี่ดาราดังคนนี้ก็ออกมาบอกว่า ชายที่เห็นในรูปนั้นไม่ใช่ Johnny Depp ตัวจริงอย่างแน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์ …
-
น้องหมาน้อยน่าสงสารถูกมัดติดกับที่ทิ้งขยะไว้เพียงลำพัง เพื่อจะปล่อยให้มันตาย
เราอาจเคยเห็นน้องหมาถูกทิ้งให้ต้องออกมาเร่ร่อนอยู่ตามข้างถนน แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือการที่เอาน้องหมาไปผูกไว้ในที่ลับตาคนเพื่อปล่อยให้มันหิวตาย เหมือนอย่างสิ่งที่เจ้าหมาตัวนี้ต้องเจอนับว่าเป็นความโหดร้ายอย่างมาก นี่คือเรื่องราวของเจ้า Charlie สุนัขสายพันธุ์พิทบูลผสมวัย 2 ปี มันถูกจับมัดติดกับบริเวณที่ทิ้งขยะในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ทำให้ไม่สามารถขยับไปไหนได้และอาจจะต้องอดอาหารตายอยู่ตรงนั้นไปแล้ว แต่โชคดีที่มีคนใจดีสองคนบังเอิญไปเห็นมันเข้าและรีบพาตัวส่งโรงพยาบาล สภาพของ Charlie ถูกผูกติดกับบริเวณที่ทิ้งขยะ มันถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลสัตว์ประจำเมือง สัตวแพทย์จึงทำการตรวจเช็กรอยแผลบนใบหน้าที่เกิดจากการถูกตีของมันดู และสิ่งที่พบก็ทำให้รู้ว่ามันมีอาการบาดเจ็บมากกว่าที่คิด Adria Rebbecchi ผู้อำนวยการกลุ่มดูแลโรงพยาบาลสัตว์บอกว่า “เรายกกรามของมันขึ้นมาพบว่ามีการติดเชื้ออยู่บริเวณของแก้มและริมฝีปาก อีกทั้งยังมีหนอนชอนไชอยู่เต็มไปหมด อาการบาดเจ็บรุนแรงซะจนมันไม่อยากที่จะขยับไปไหนเลย” แพทย์ทุกคนรีบพาตัวเจ้าหมาเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะอาการติดเชื้อของมันไม่สามารถปล่อยเอาไว้ได้ ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือเจ้าหมาอย่างเต็มที่ แม้แต่พ่อของ Adria ที่ตัดสินใจรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลของมันทั้งหมด เนื้อเยื่อบริเวณแก้มของ Charlie มีอาการติดเชื้ออย่างหนัก ทำให้แพทย์จำเป็นต้องตัดส่วนนั้นออกไป อีกทั้งพวกเขายังต้องทำในสิ่งที่โหดร้ายแต่จำเป็น โดยต้องผ่าตัดน้องหมาทุกๆ อาทิตย์ เพื่อช่วยให้มันกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม อาการบาดเจ็บของ Charlie ทำให้มันกินอะไรได้ยาก เจ้าหน้าที่จึงใช้วิธีการให้อาหารมันเล็กๆ น้อยๆ แต่หลายๆ มื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าหมาจะสามารถฟื้นคืนกลับมาแข็งแรงได้ดังเดิม หลังจากที่อาการของมันเริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นที่รักของทุกคนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
-
ชายผู้สร้างเสียงดนตรีด้วยวิธีการที่ไม่ซ้ำใคร เพราะเขาใช้ผึ้งเป็นส่วนประกอบหลักของเพลง
หนึ่งในแนวดนตรีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน คือการแต่งเพลงโดยใช้เครื่องมือหรือคอมพิวเตอร์ในการแปลงเสียงต่างๆ ให้ออกมามีจังหวะแบบตื้ดๆ แดนซ์ๆ จนบางครั้งก็อาจดูลึกลับน่าค้นหา ซึ่งเราจะเรียกกันว่าแนวอิเล็กทรอนิกส์ แนวเพลงดังกล่าวนั้นได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้หนุ่มนักดนตรีและคนเลี้ยงผึ้งชาวอังกฤษที่ใช้ชื่อว่า Bioni Samp ลุกขึ้นมาสร้างเพลงแนวเดียวกันแต่ใช้วิธีการที่ไม่ซ้ำใคร เพราะเขาใช้ผึ้งมาเป็นส่วนประกอบในการสร้างเสียงเพลง นักดนตรีผู้คลั่งไคล้ผึ้ง และดัดแปลงรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน Bioni คือชายผู้คลั่งไคล้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผึ้งมาอย่างยาวนาน เขาจึงเกิดความคิดที่จะช่วยรณรงค์และกระตุ้นให้ทุกคนเริ่มมาสนใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาเผ่าพันธุ์ของพวกมันเอาไว้ หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์รังผึ้งล่มสลาย (CDC) ที่ทำให้จำนวนประชากรผึ้งลดลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ ในช่วงปี 2006 ไม่ใช่เพียงแค่ปรากฏการณ์ดังกล่าว เพราะจากภาวะโลกร้อนและการต้องเจอกับยาฆ่าแมลง ทั้งสองอย่างก็นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผึ้งมีโอกาสที่จะสูญพันธุ์มากยิ่งขึ้น ทำให้คนที่รักผึ้งอย่างเขาไม่สามารถอยู่เฉยๆ อีกต่อไปได้ แต่การที่จะให้ไปเดินป่าวประกาศ ออกพูดรณรงค์แบบทั่วๆ ไปนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดว่ามันจะสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เขาจึงคิดหาวิธีที่จะทำให้การกระตุ้นผู้คนในครั้งนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เขาจึงเกิดความคิดที่จะใช้ดนตรีเข้าไปเป็นสื่อกลางในการดึงดูดความสนใจ จากนั้นมาตั้งแต่ปี 2006 เขาก็เริ่มที่จะเก็บข้อมูลของรังผึ้งในแต่ละวัน ศึกษาเกี่ยวกับเสียงและคลื่นความถี่ที่พวกมันส่งออกมา เพื่อใช้ในการนำไปประกอบเพลงที่เขาจะสร้างขึ้นมา เขาศึกษาและฝึกควบคุมเหล่าผึ้งทุกชนชั้นให้เป็นไปตามทิศทางที่เขาต้องการ มีการใช้ในเรื่องของตัวเลขในการจดสถิติการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของผึ้งเหล่านี้ เก็บข้อมูลผ่านการสอดถาดเข้าไปในรังเพื่อดูว่าไรศัตรูผึ้งตกลงมาตายมากน้อยเพียงใด ด้วยความกระตือรือร้นของเขา Bioni จึงตัดสินใจสร้างเครื่องมือแปลงเสียงต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่นการใช้น้ำผึ้งเป็นตัวต้านทานไฟฟ้าเพื่อจำกัดแรงไฟที่วงจรต่างๆ ได้ ซึ่งเขาเรียกชุดเครื่องมือสร้างเสียงเพลงนี้ว่า Hive Synthesizer …
-
สิ่งของรอบตัวที่เหมือนกำลังจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับเรา หรือว่าแท้จริงแล้วมันจะมีชีวิตกันนะ?!
ทุกคนรู้ดีว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดสามารถสื่อสารกันได้ด้วยวิธีการที่เหมือนหรือแตกต่างกันออกไป แต่ใครจะไปคิดว่าแม้แต่สิ่งไม่มีชีวิตเองก็สามารถทำอย่างนั้นได้เหมือนกัน ภาพเหล่านี้คือสิ่งที่จะพิสูจน์ว่าสิ่งของต่างๆ รอบตัวอาจกำลังพยายามสื่อสารกับเราอยู่ สิ่งเหล่านั้นใช้วิธีการใด แล้วพวกมันต้องการจะสื่ออะไรถึงเรากันแน่ เราลองไปดูกันเลย เป็นหวัดหรือเปล่า? น้ำมูกไหลไม่หยุดเลยนะ หน้าตาของหนุ่มๆ เวลาที่แอบเหลือบมองหน้าอกสาวๆ ดีใจจะได้ออกไปเที่ยวนอกบ้านแล้ว เจ้าควายที่ได้มาทำงานในคลินิกทันตกรรม Wall-E มาอยู่ตรงนี้ได้เยี่ยงไร ไม้ถูพื้นจอมเกรี้ยวกราด เปิดเข้ารถมาแบบกะทันหัน มันก็เลยตกใจ นี่แหละที่เรียกว่าขำจนกรามค้าง หลุดมาจากหนังเอเลี่ยนแน่ๆ เจ้าเก้าอี้ดูจะชอบการเรียนการสอนของคลาสนี้นะ รถมอเตอร์ไซค์ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม บันไดหนีไฟแห่งความสุข ขอให้ทุกคนสนุกกับการวิ่งหนีเพลิงไหม้ เก็บลิ้นเข้าไปเดี๋ยวนี้เลยนะ เบาะเปียกหมดแล้วเนี่ย ผักโขมนี่มันอร่อยจริงๆ เลยให้ตายเถอะ เซ็งจัง.. อยากขึ้นไปดูวิวทิวทัศน์ผ่านหน้าต่างบนเครื่องบ้าง ห๊ะ!! ทำไมกลับมาไวจัง แอบโดดงานมาหรือเปล่าเนี่ย วันๆ ยืนเฉยๆ ไม่ได้ทำไร มันก็มีความรู้สึกเบื่อบ้างเป็นเรื่องธรรมดา …
-
8 การค้นพบวัตถุโบราณที่มีมาตั้งแต่อดีตกาล และทำให้ทั่วทั้งโลกต้องตกตะลึง!!
อดีตกาลเมื่อนานมาแล้ว หลายๆ สิ่งบนโลกมีความแตกต่างจากที่เราใช้ชีวิตกันในปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของวิทยาการ สังคม หรือแม้แต่สัตว์บางชนิดที่เชื่อว่าเคยมีอยู่จริงในสมัยก่อนและสูญพันธุ์ไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นคงไม่อาจพิสูจน์ได้หากปราศจากการทำงานของเหล่านักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ จากการออกตามหาร่องรอยสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของยุคก่อน ทำให้มีการค้นพบวัตถุโบราณมากมาย และวันนี้เรากำลังพูดถึงวัตถุโบราณเก่าแก่ 8 อย่างที่ทำให้คนทั้งโลกต้องตกตะลึง แต่ละอย่างจะน่าสนใจมากเพียงไหน เพื่อนๆ ลองไปดูกันเองเลย 1. สมองไดโนเสาร์ ใครจะไปคิดว่าหินที่เจอในเมือง Sussex ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2004 แท้จริงแล้วมันคือฟอสซิลสมองของไดโนเสาร์ที่มีอายุราวๆ 133 ล้านปี จากการพิสูจน์ด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดพิเศษ ทำให้พวกเราได้รับรู้กันว่าสมองของสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เคยอาศัยอยู่บนโลกสมัยก่อนมีหน้าตาเป็นอย่างไร 2. งานแฮนด์เมดจากฝีมือของทหารแนวหน้าในระหว่างสงครามปรัสเซีย 1870 และสงครามอังกฤษที่สู้รบในกันในแอฟริกาใต้กับอินเดีย ผ้าห่มที่เป็นเอกลักษณ์หลายผืนถูกปักโดยเหล่าทหารหนุ่ม แสดงให้เห็นถึงความสวยงามท่ามกลางสงครามอันโหดร้าย เชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นจะใช้เวลาทำงานฝีมือในตอนที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามได้มีงานวิจัยออกมาชี้ว่า ผลงานทั้งหมดถูกสร้างขึ้นกลางสมรภูมิระหว่างหยุดพักวางแผนขณะทำภารกิจ ผลงานที่สวยงามและมีความหมายเหล่านี้ถูกจัดแสดงไปเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา 3. ซากมนุษย์โบราณที่เก่าแก่มากที่สุดในโลก นี่เป็นโครงกระดูกของมนุษย์ในยุค Australopithecus ซึ่งถูกจัดแสดงในปี 2017 ความพิเศษของเจ้าสิ่งนี้คือมีอายุนานกว่า 3.6 ล้านปี แต่ยังคงสภาพเอาไว้แทบจะไม่มีการแตกหักในแต่ละส่วน แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ในยุคนั้นมีลักษณะใกล้เคียงกับพวกเราในปัจจุบันมากขนาดไหน ซากศพดังกล่าวถูกค้นพบในถ้ำ Sterkfontein…
-
แบ่งปันรอยยิ้ม.. ด้วยภาพน่ารักๆ ของเจ้าเหมียวที่ตกหลุมรักกับเครื่องทำความร้อน
ในช่วงต้นปีแบบนี้ แทบทุกที่บนทั่วโลกต้องเผชิญกับความหนาวเย็น บางที่อากาศติดลบ บางที่ก็ถึงกับมีหิมะตกลงมา เช่นเดียวกันกับในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อประชาชนทุกคนและทุกตัวต้องเจอกับความหนาวจนทำให้เมืองที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ไม่ใช่มีแค่คนเท่านั้นที่มองหาแหล่งพักใจอุ่นๆ ไว้คลายความหนาว เพราะเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Busao ก็พยายามมองหาสิ่งที่จะช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายไม่ต่างกัน และนั่นจึงทำให้มันได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าเครื่องทำความร้อน แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา ~ เมื่อเจอกับไออุ่นของเจ้าเครื่องนี้เข้าไป ทำให้เจ้าเหมียวแทบจะไม่ลุกไปไหนเลย นั่งๆ นอนๆ กลิ้งๆ อยู่ตรงนี้ทั้งวัน ภาพที่เราได้เห็นจึงเหมือนกับว่ามันได้เจอเนื้อคู่ที่จะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาล วันนี้ที่รอคอย เจ้านี่เองที่ข้าตามหามาตลอด ประทับรอยจูบแสดงความรักเอาไว้เลยนี่แหนะ นั่งไปนั่งมาเริ่มเคลิ้ม… หลับตาพริ้มเลยนะเจ้าเหมียว มันช่างจ้าซะเหลือเกิน!! ใจคอแกจะไม่ลุกไปเดินเล่น ไปทำอย่างอื่นเลยใช่มั้ยเนี่ย สุดท้ายแล้วเราสองจะไม่พรากจากกัน ฉันจะนั่งอยู่กับเธออย่างนี้ตลอดไป เป็นความอบอุ่นที่หาจากที่ไหนไม่ได้เลย เอาจริงๆ ไม่ต้องมีเครื่องทำความร้อน ตัวแกก็น่าจะอุ่นอยู่แล้วนะเจ้าเหมียวเอ๋ย.. หากใครชื่นชอบเจ้าเหมียวตัวนี้ก็สามารถไปติดตามการใช้ชีวิตของมันกันได้ที่อินสตาแกรม tanryug ซึ่งหลักๆ ก็จะมีแต่รูปที่มันอยู่กับเครื่องทำความร้อนคู่รักเนี่ยแหละนะ ที่มา: boredpanda
-
15 เรื่องราวเกี่ยวกับ ‘Jack The Ripper’ ที่พิสูจน์ว่าเขาคือฆาตกรที่แสนโหดเหี้ยมและลึกลับ
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] หากพูดถึงฆาตกรต่อเนื่องที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลทั่วโลก คงจะหนีไม่พ้นกับชื่อของ Jack The Ripper ฆาตกรผู้สังหารคนไปเป็นจำนวนมากในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นอย่างมาก ชื่อเสียงของเขานั้นไม่ได้ขึ้นชื่อแค่ในเรื่องความโหดเหี้ยมอำมหิต แต่ความลึกลับก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นอย่างมาก และวันนี้ #เหมียวตะปู เลยชวนให้เพื่อนๆ มารู้จักกับ 15 เรื่องราวที่น่าสนใจของฆาตกรที่เป็นปริศนาคนนี้กัน มีอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย 1. วันที่ 31 สิงหาคม 1888 มีชายสองคนบังเอิญไปพบร่างของ Mary Ann Nichols เหยื่อคนแรกที่ถูกปาดคอไปหลายต่อหลายครั้ง 2. วันที่ 8 กันยายน 1888 มีชายแก่ไปเจอศพของ Annie Chapman ที่ถูกปาดคอและถูกฆาตกรตัดเอามดลูกของเธอไป เหยื่อรายนี้ทำให้มีการสันนิษฐานว่า ฆาตกรมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของกายวิภาค เมื่อดูจากลักษณะการตัดเอามดลูกของเหยื่อสาวออกไปแล้ว 3. วันที่ 27 กันยายน 1888 ฆาตกรส่งจดหมายมาหาตำรวจ ซึ่งภายหลังรู้จักกันในชื่อ “จดหมายถึงเจ้านายผู้เป็นที่รัก”…
-
ความเจ๋งบนความเฟล เมื่อโปรแกรมช่วยเหลือของ Google รวมภาพแนวใหม่ ราวกับการตัดต่อขั้นเทพ
ปัจจุบันเราจะสามารถใช้โปรแกรมตัดต่อภาพต่างๆ ออกมาได้อย่างอิสระ อยากเจอเพิ่มสีสัน เปลี่ยนรูปร่าง ทำให้ดูมิติขึ้นก็สามารถทำได้หมดตามความต้องการของตัวเอง แต่สำหรับผลงานภาพถ่ายของชายคนนี้ดูแล้วจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาต้องการซักเท่าไหร่ เพราะมันชวนพิลึกเสียเหลือเกิน นี่คือภาพถ่ายของผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อว่า MalletsDarker เมื่อเขาได้ไปเล่นสกีอยู่บนทะเลสาบ Louise ประเทศแคนาดา และเขาต้องการที่จะเก็บภาพความสวยงามของทริปนี้เอาไว้ ก่อนที่โปรแกรมช่วยเหลือจาก Google จะยื่นข้อเสนอรวมภาพทั้งหมดเข้าด้วยกัน จนผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้ ภาพที่ได้จากการรวมภาพของโปรแกรม Google Assistant เขาเล่าว่าตนเองได้ถ่ายรูปเอาไว้สามภาพ แล้วเมื่อกำลังเลื่อนดูรูปอยู่นั้น โปรแกรม Google Assistant ก็เสนอที่จะรวมเอาทั้งสามภาพของเขามาไว้ในภาพเดียว ซึ่งตอนนั้นเขาคิดว่ามันจะออกมาเป็นภาพแบบพาโนรามา ที่เป็นภาพยาวเห็นวิวทิวทัศน์ทั้งหมด แต่สุดท้ายภาพที่ได้กลับเหมือนว่าเขาเป็นเซียนเรื่องการแต่งภาพยังไงยังงั้น ภาพแรกที่เขาถ่ายเก็บความทรงจำเอาไว้ ภาพที่สองเก็บวิวทางด้านซ้ายซะหน่อย ต่อมาจึงเลื่อนมาเก็บทางด้านขวาซักเล็กน้อย ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นจึงโพสต์ภาพฮาๆ นี้ลงไปในโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2018 ผ่านไปวันเดียว ภาพดังกล่าวก็ได้กลายเป็นกระแสโด่งดัง มีคนเข้ามาคอมเมนต์มากกว่า 1,000 ข้อความ บางคนก็ติดตลกบอกว่า “นี่คือ Attack on Titan ซีซั่น…
-
จากโพสต์รับซื้อ “คีย์บอร์ด” ไปสู่เรื่องราวให้กำลังใจสุดซึ้ง ของชายหนุ่มผู้ไม่ย่อท้อ
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2018 ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Manakit Thawlom ได้โพสต์ข้อความลงไปในเพจ ExtremePC Market 2 เพื่อขอรับซื้อคีย์บอร์ดเพื่อนำมาใช้ในการทำงานของตัวเอง สิ่งที่น่าสนใจสำหรับโพสต์ของชายคนนี้กลับไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องการซื้อคีย์บอร์ดมือสองจากคนอื่นๆ แต่เขายังพูดถึงประวัติความเป็นมาของตัวเองที่ทำให้เขาต้องใช้ปากกาในการจิ้มปุ่มคีย์บอร์ด และเรื่องราวของชายคนนี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างรู้สึกซาบซึ้งไปตามๆ กัน ชายผู้มีความพิการและเป็นคนที่โพสต์รับซื้อคีย์บอร์ดมือสอง เขาคนนี้รถพลิกคว่ำมาตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี ตอนพ.ศ. 2539 จนทำให้หมอนรองกระดูกต้นคอหักทับเส้นประสาท จนทำให้ตั้งแต่คอลงมาไม่มีแรงและความรู้สึกใดๆ หลังจากนั้นเขาได้ทำกายภาพกับทางโรงพยาบาลนานเกือบปี จนกระทั่งแขนเริ่มมีแรงพอจะขยับได้บ้าง และทางโรงพยาบาลก็ได้ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือบริเวณมือของเขา แม่ต้องคอยดูแลเขาในทุกๆ ด้าน แน่นอนว่าความพิการของเขาทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พ่อแม่และน้องสาวจึงต้องคอยดูแลเขาอยู่เสมอ โรงเรียนผู้พิการก็ไม่รับเขาเข้าเรียนเพราะอวัยวะที่ใช้ได้จริงๆ มีแค่หัวกับคอเท่านั้นเอง เขาจึงเรียนรู้สิ่งต่างๆ ผ่านหนังสือที่น้องยืมมาให้อ่าน หลังจากนั้นเขาก็ได้เจอกับผู้ใจดีที่บริจาคคอมพิวเตอร์มาให้ ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นเพียงแค่ Windows 3.1 เรียกว่าเป็นยุคแรกๆ ที่เริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์เลยจริงๆ ครอบครัวที่มีอยู่ด้วยกัน 4 คน ผ่านไป 10 ปี เขาก็เริ่มที่จะหาอะไรทำผ่านคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น…
-
เด็กชายที่อ้วนที่สุดในโลก ตอนนี้ลดน้ำหนักสำเร็จแล้ว ออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ได้สมใจอยาก
ไม่มีใครสามารถเลือกได้ว่าเราอยากจะเกิดมามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ทำให้บางคนต้องเจอกับปัญหาที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด เหมือนอย่างเด็กหนุ่มคนนี้ที่เกิดมาแตกต่างจากคนทั่วไป จนทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กในวัยเดียวกันได้ เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า Arya Permana วัย 12 ปี ผู้อาศัยอยู่ในจังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเขามีน้ำหนักมากกว่า 190 กิโลกรัมจนได้รับตำแหน่งเด็กหนุ่มที่อ้วนที่สุดในโลก Arya เด็กชายที่ประสบปัญในเรื่องของความอยากอาหาร สิ่งที่เขามีมาตั้งแต่กำเนิด คือความผิวกระหายที่ผิดแปลกไปจากปกติ ทำให้เขาต้องกินข้าววันละ 5 มื้อ แต่ละมื้อมีปริมาณมากกว่าที่คนวัยผู้ใหญ่กินกันทั่วไปถึงสองเท่า ประกอบด้วยข้าว แกงต่างๆ เนื้อสัตว์ ซุปผัก และ Tempah ที่เป็นอาหารประจำชาติของประเทศอินโดนีเซีย แม้ว่าเขาจะกินไปเยอะมากขนาดไหน แต่เขาก็ยังคงรู้สึกหิวอยู่เสมอ รวมถึงรู้สึกเหนื่อย หายใจไม่ทั่วท้องตลอด ทำให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน ออกไปโรงเรียนหรือเล่นกับเพื่อนๆ ไม่ได้มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แต่ละวันเด็กชายจะทำแค่กิน นอน เล่นมือถือ หรือแช่น้ำระบายความร้อนของร่างกายเพียงเท่านั้น ใส่เสื้อผ้าเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้ ใส่ได้แต่ผ้าโสร่งผืนใหญ่เพียงอย่างเดียว พ่อแม่ของเด็กหนุ่มไม่มีเงินมากพอที่จะพาเขาไปรักษาได้เลย เงินเก็บทั้งหมดที่เคยมีอยู่ก็ต้องสูญไปกับการซื้ออาหารมาให้ลูกชายของพวกเขากิน เพื่อประทังความหิวกระหาย แน่นอนว่าสำหรับเด็กในวัยนี้ การที่ไม่ได้ออกไปโรงเรียนหรือเล่นสนุกกับเพื่อนๆ…
-
ชาวปากีสถานรวมตัวเรียกร้อง ‘ประหารแขวนคอ’ ผู้กระทำชำเราเด็ก หลังเกิดเหตุเด็กวัย 6 ขวบเสียชีวิต
เมื่อช่วงต้นเดือนมกราคม 2018 ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดใจขึ้นในประเทศปากีสถาน มีการพบร่างไร้วิญญาณของเด็กสาววัย 6 ขวบที่ถูกลักพาตัวไปนานถึง 5 วัน และเหตุการณ์นี้ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากลุกขึ้นมายื่นเรื่องขอเปลี่ยนแปลงประมวลกฎหมาย เด็กสาวคนนี้มีชื่อว่า Zainab Ansari เธออาศัยอยู่ในเมืองคาเซอร์ ฝั่งตะวันออกของประเทศปากีสถาน ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเธอต้องอยู่ภายใต้การดูแลของคุณลุง คุณป้า ขณะที่พ่อและแม่ของเธอเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย รูปภาพของ Zainab เด็กสาวที่ถูกลักพาตัวและจากโลกนี้ไปในที่สุด วันหนึ่งขณะที่เธอกำลังเดินไปเรียน เธอก็ถูกชายคนหนึ่งลักพาตัวไปนานกว่า 5 วัน ระหว่างนั้นญาติๆ ก็ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการหายไป แต่พวกเขาบอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมทำอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ญาติของเด็กสาวลงมือตามหาเธอด้วยตัวเอง จนไปพบเข้ากับภาพจากกล้องวงจรปิดที่เผยให้เห็นว่ามีคนร้ายมาลักพาตัวเด็กสาวไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้พบศพของเธอบริเวณที่ทิ้งขยะห่างจากบ้านไปหลายกิโลเมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมตัวนาย Imran ผู้ต้องสงสัยของคดีนี้ ก่อนที่จะปล่อยตัวชายคนนี้ไปเพราะว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอ แต่สุดท้ายแล้วตำรวจก็ตรวจพบว่าดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยนั้นตรงกับดีเอ็นเอที่หลงเหลืออยู่บนตัวศพเด็กสาว ทำให้เขาถูกจับมาดำเนินคดีในที่สุด อย่างไรก็ตามประมวลกฎหมายอาญาของประเทศปากีสถานก็คงจะไม่รุนแรงพอสำหรับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เพราะพวกเขาได้ออกมาประท้วงและยื่นเรื่องเปลี่ยนแปลงประมวลกฎหมายมาตรา 364-A ประจำปี 1860 ให้ลงโทษผู้กระทำผิดที่ข่มขืนหรือลักพาตัวเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ด้วยการประหารแขวนคอกลางที่สาธารณะไปเลย ข้อเสนอของประชาชนเหล่านี้ยังคงอยู่ในช่วงของการพิจารณาในรัฐสภาของประเทศปากีสถาน ซึ่งหากว่ามันผ่านและสามารถใช้ได้จริงเมื่อไหร่ นาย Imran จะกลายเป็นตัวอย่างของการถูกลงโทษคนแรกอย่างแน่นอน …
-
เจ้าหมาเกือบตายหลังเจ้าของย้อมสีขนมันให้เป็นสีม่วง โชคดีที่ได้รับการรักษาทันจนรอดมาได้
หลายๆ คนอาจรู้สึกไม่พอใจกับสีผมเดิมของตัวเอง จึงใช้น้ำยาย้อมผมเปลี่ยนสีไปตามที่ตัวเองต้องการ แต่สิ่งนั้นไม่สามารถใช้เพื่อการเปลี่ยนสีขนของน้องหมาเราได้ เพราะสิ่งที่พวกมันต้องเจอกับการถูกย้อมสีไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเลยแม้แต่น้อย เหมือนอย่างน้องหมาตัวนี้ที่ชื่อว่า Violet เรื่องราวของน้องหมาน้อยตัวนี้ถูกแชร์ลงในโลกโซเชียลโดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Pinellas County Animal Services จากรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2018 Violet เจ้าหมาที่ถูกย้อมเป็นสีม่วง Violet นั้นถูกเจอตัวเมื่อปีก่อน ในสภาพที่อิดโรย ร่อแร่ และมีบาดแผลไปทั่วทั้งตัว หลังจากที่มันถูกเจ้าของเก่าใช้น้ำยาสารเคมีสำหรับย้อมสีผมมาย้อมสีขนของมัน ก่อนที่จะนำมันมาปล่อยไว้ให้กลายเป็นหมาจรจัด เจ้าหมามีน้ำหนักตัวแค่ราวๆ 2 กิโลกรัม ทั่วร่างกายเต็มไปด้วยแผลไหม้จากสารเคมี และดวงตาของมันข้างหนึ่งก็มีอาการบวมจนแทบจะลืมตาขึ้นมาไม่ได้ ทีมช่วยเหลือที่มาเห็นสภาพของมันในตอนนั้นก็กลัวว่าเจ้าหมาจะไม่สามารถมีชีวิตรอดผ่านพ้นคืนนั้นไปได้ เจ้าหน้าที่ศูนย์รับเลี้ยงที่คอยดูแลเจ้าหมาเล่าว่า “เราทำทุกวิถีทางในการรักษามัน ทั้งให้ยาและอาบน้ำเจ้าหมาอย่างนุ่มนวลเพื่อล้างเอาสารเคมีย้อมผมออกไปเท่าที่จะทำได้ แล้วเราจึงพันผ้าพันแผลเอาไว้รอบๆ บาดแผลเหล่านั้น หลังจากนั้นสิ่งที่เราทำได้คือฝากเอาไว้กับสัตวแพทย์ รอดูอาการของมันกันต่อไป” เป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อเจ้าหมาสามารถรอดพ้นค่ำคืนนั้นมาได้และเริ่มจุดประกายความหวังให้กับทุกคนที่ดูแลมันอีกครั้งหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงทำได้เพียงนอนนิ่งเพราะร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลจากสารเคมีที่รุนแรง ทางทีมช่วยเหลือตัดสินใจโกนขนของน้องหมาออก ทำให้พวกเธอพบว่าความรุนแรงของสิ่งที่เจ้าหมาต้องเจอนั้นมีมากกว่าที่คิดเอาไว้ ผิวหนังรอบๆ มีการหลุดลอกออกมาเป็นคราบ เห็นแล้วก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เจ้าหมาน้อยต้องเจอ แม้ว่าบาดแผลจะสาหัสมากเพียงใด แต่ Violet…
-
หนุ่มรัสเซียก่อเหตุโหดกับแฟนเก่า ก่อนจะสารภาพขั้นตอนให้พ่อแม่ได้รู้ และจบชีวิตตามไป…
ในบางครั้งเราอาจรู้สึกเหมือนกับถูกครอบงำด้วยความคิดด้านลบ จนเกิดความรู้สึกสับสนในตัวเองและมีปัญหาต้องการตัดสินใจในเรื่องผิดชอบชั่วดี เหมือนอย่างชายชาวรัสเซียคนนี้ที่ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่โหดร้าย เพราะว่าจมไปกับด้านมืดของจิตใจตัวเอง นี่คือเรื่องราวสุดสะเทือนใจของฆาตกรหนุ่มวัย 19 ปีที่ชื่อว่า Artyom Iskhakov เขาอาศัยอยู่กับแฟนเก่าของเขา Tatiana Strakhova ก่อนที่จะฆาตกรรม ข่มขืนศพของเธอ และเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้พ่อแม่ของเขาและเธอฟัง จากนั้นจึงฆ่าตัวตายตามไป Tatiana และ Artyom วัย 19 ปี ผู้เคยคบหาเป็นแฟนกันมาก่อน เรื่องราวอันแสนเศร้านี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนที่ Artyom หนุ่มโปรแกรมเมอร์ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัย Bauman เลิกคบกับแฟนสาวของเขา Tatiana สาวหัวกะทิจากมหาวิทยาลัยวิจัยนานาชาติมอสโก แม้จะเลิกกันแล้วแต่ทั้งคู่ยังคงแชร์ห้องเช่าด้วยกัน หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็มีแฟนใหม่เป็นหนุ่มจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ชื่อว่า Igor ความอึดอัดที่ต้องอยู่ด้วยกันในสถานะที่เปลี่ยนไป Artyom จะถูกปฏิเสธเสมอเวลาที่เขาชวนเธอไปดื่มด้วยกัน แถมยังต้องทนเห็นแฟนเก่าของตัวเองจู๋จี๋อยู่กับแฟนใหม่ที่เป็นเพื่อนของเขา นั่นจึงทำให้เขารู้สึกรำคาญและโมโหอย่างมาก จนไม่อาจเก็บอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้ ชายหนุ่มต้องการที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเธออย่างมาก มันจึงกลายเป็นแรงขับให้เขาทำสิ่งที่โหดร้ายลงไปในวันหนึ่ง ตอนที่หญิงสาวกลับมาที่ห้องเช่า เขาพุ่งเข้าไปหาเธอ ต่อยเข้าไปที่หน้าของเธออย่างจัง จนหญิงสาวล้มลงไปนอนกับพื้น จากนั้นเขาก็ต่อยเธอไปอีกหลายครั้ง ทำให้มีเลือดไหลออกมาจากปากของเธอ Tatiana บอกให้เขาลุกออกไป…
-
งานวิจัยเผย ‘วิดีโอเกม’ ไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้เล่นมีพฤติกรรมเกรี้ยวกราด
เราอาจเคยได้ยินหรือเชื่อว่า วิดีโอเกม คือสิ่งที่กระตุ้นเหล่าผู้เล่นให้มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว และยิ่งเกมมีความสมจริงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้คนเหล่านั้นมีความก้าวร้าวเพิ่มมากขึ้นตามไป แต่จากงานวิจัยในมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษได้ออกมาบอกว่า ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกนะ นี่เป็นงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย York ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Computers in Human Behavior เหล่านักวิจัยได้ศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,000 คน เพื่อต้องการทราบว่า เกมเป็นสิ่งสำคัญที่เพิ่มความก้าวร้าวของคนได้จริงหรือไม่ การทดลองของพวกเขากำหนดให้กลุ่มตัวอย่างแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม และต้องเจอกับเกมที่มีความหลากหลายต่างกันไป โดยในการทดลองแรกแบ่งให้กลุ่มหนึ่งเล่นเกมขับรถที่ต้องคอยหลบสิ่งกีดขวาง ส่วนอีกกลุ่มเล่นเกมที่ได้สวมบทบาทเป็นหนูที่คอยหลบไม่ให้ถูกแมวจับได้ จากนั้นผู้เข้าร่วมจะได้ทำแบบทดสอบที่ให้พวกเขาแยกรูปภาพของสิ่งต่างๆ ว่าจัดอยู่ในประเภทของยานพาหนะหรือว่าสัตว์ ซึ่งหากผู้เข้าร่วมสามารถทำการแยกประเภทได้ไวกว่าปกติ นั่นหมายความว่าเกมที่พวกเขาเล่นสามารถส่งผลกับความคิดของพวกเขาได้จริง แต่ผลการทดลองที่ออกมากลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้เล่นเกมขับรถที่มีบางคนแยกหมวดหมู่ของภาพที่เห็นได้ช้ากว่าปกติมากเลยทีเดียว สำหรับการทดสอบครั้งแรก แสดงให้เห็นว่าเกมไม่ได้ส่งผลต่อตัวผู้เข้ารับการทดสอบ หลังจากนั้นจึงเข้าสู่การทดลองต่อไป ให้คนเหล่านั้นได้มาเล่นเกมที่มีความสมจริงเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์มากยิ่งขึ้น อย่างเกมแนวที่เรียกว่า Ragdoll Physics ที่สมจริงในลักษณะทางกายภาพ เกมที่พวกเขาได้เล่นในครั้งนี้มีความสมจริงทั้งตอนหกล้ม ตกบันได หรือตอนที่ตกลงมาจากตึก ร่างกายของหุ่นในเกมจะตอบสนองเหมือนกับมนุษย์จริงๆ เช่นอาการบาดเจ็บต่างๆ นอกจากนั้นพวกเขายังได้เล่นเกมต่อสู้ หรือเกมการรบอื่นๆ อีกด้วย เกมในรูปแบบ Ragdoll Physics ดอกเตอร์ David…
-
คุณปู่ผู้สูญเสียบ้านไปจากไฟไหม้ กอดเจ้าเหมียวร่ำไห้ ตอนนี้ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมบ้านใหม่
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2018 #เหมียวขี้ส่อง ได้นำเสนอเรื่องราวของคุณปู่ Ali Meşe ที่สามารถหนีรอดออกมาจากอุบัติเหตุเพลิงไหม้ในเขตจังหวัด Ordu ประเทศตุรกี แม้ว่าเขาและทุกคนในครอบครัวจะสามารถหนีรอดออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่เขาก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะพวกเขาต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน สมบัติอันล้ำค่าที่เหลืออยู่เพียงอย่างเดียวของพวกเขาคือน้องแมวน้อย และนั่นจึงทำให้เขาเลือกที่จะหันไปรับไออุ่นจากมันไว้ในอ้อมกอด คุณปู่ตั้งใจจะจุดเตาไฟ แต่กลับเกิดความผิดพลาดจนกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้ ด้วยความเสียใจจากการสูญเสียบ้านของตัวเอง ทำให้คุณปู่หันไปรับไออุ่นจากเจ้าเหมียวตัวน้อยที่เขาเลี้ยงไว้ ซึ่งเหลือรอดมาเพียงแค่ตัวเดียว คลิปการโอบกอดกันของคุณปู่กับเจ้าเหมียวเป็นการแสดงถึงความอบอุ่นที่ได้รับในยามที่เราต้องเจอกับปัญหา และกลายเป็นกระแสให้กับโลกโซเชียล มีชาวเน็ตเข้ามากดไลก์ มากกว่า 800,000 คน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอ้อมกอดของคุณปู่ที่มีให้กับเจ้าเหมียว หลายๆ คนที่ได้เห็นคลิปหรือรับรู้เรื่องราวของคุณปู่คนนี้อาจกำลังสงสัยว่า หลังจากนั้นคุณปู่และเจ้าเหมียวเป็นตายร้ายดียังไงกันบ้าง? บ้านไฟไหม้หมดทั้งหลังแล้วพวกเขาจะไปอยู่กันที่ไหน? หลังจากเรื่องราวสะเทือนใจ ตอนนี้คุณปู่และเจ้าเหมียวจะเป็นอย่างไร้กันบ้างนะ? . เพื่อคลายความสงสัย เว็บไซต์ Love Meow ก็ได้ออกมารายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018 ว่า ในตอนที่คุณปู่และเจ้าเหมียวกำลังได้รับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนั้นพวกเขาก็ได้รับข่าวดีและการช่วยเหลืออันแสนประทับใจ เจ้าหน้าที่จากกลุ่ม…
-
ประเทศจีนแบนเพลงแรป เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หยาบคาย
พวกเราบางคนอาจเคยรู้กันมาก่อนแล้วว่า ใน ประเทศจีน นั้นจะมีการควบคุมและสั่งห้ามสิ่งต่างๆ เอาไว้หลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาของภาพยนตร์ที่จะถูกนำเข้าไปฉาย หรือแม้แต่การสั่งห้ามเครื่องเล่นเกมคอนโซลทุกชนิดมาตลอดจนถึงปี 2014 จากบรรดาข้อห้ามมากมายของพวกเขานั้น ในวันนี้รัฐบาลจีนตัดสินใจออกมาประกาศผ่านทางสื่อต่างๆ ในประเทศว่า พวกเขาจำเป็นต้องแบน เพลงแรป ไม่ให้มีในโทรทัศน์หรือในวิทยุอีกต่อไป เนื่องจากเนื้อหาของเพลงที่มีความหยาบคายมากเกินไป การประกาศนี้กลายเป็นที่จับตามองของคนทั้งประเทศ เพราะเพลงแรปในประเทศจีนก็ถือว่าได้รับความนิยมอยู่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ทางการบอกว่า “พวกเราจะทำการสั่งห้ามดาราคนดังที่มีรอยสัก วัฒนธรรมฮิปฮอป (รวมถึงการแรป) และเนื้อหาแปลกๆ ทุกอย่าง ไม่ให้มีการเผยแพร่ในโทรทัศน์หรือวิทยุอีกต่อไป” พวกเขาให้เหตุผลว่า เพลงแรปนั้นมีเนื้อหาที่หยาบคาย มีการพูดถึงเรื่องการใช้สารเสพติด เนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศและการเหยียดเพศตรงข้าม ข้อห้ามใหม่ทำให้เหล่าแรปเปอร์ทุกคนต้องเจอกับปัญหาที่ว่า ผลงานของตัวเองไม่สามารถถูกเผยแพร่ออกไปทางทีวีหรือวิทยุได้อีกต่อไป ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ PG One แรปเปอร์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เขาก็จะไม่ได้โผล่ออกมาในทีวีให้ทุกคนได้เห็นเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แรปเปอร์ชื่อดังในจีน PG One ในขณะที่มีการแบนแรปเปอร์ในประเทศของตัวเอง ทางรัฐบาลก็ยังแบนเพลงป็อปที่มีท่อนแรปใส่เข้าไปอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับไม่มีการประกาศออกมาว่าจะแบนเหล่าดาราฮิปฮอป แรปเปอร์ต่างประเทศที่นำผลงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม ผู้คนอีกฝั่งหนึ่งมองว่า เนื้อหาที่หยาบคายเป็นเพียงของอ้างของรัฐบาล เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาสั่งห้ามเพราะเนื้อหาของเพลงมีการพูดถึงการต่อต้านความคิดระบบเผด็จการ ทำให้คนใหญ่คนโตของประเทศรู้สึกไม่ค่อยพอใจกันซักเท่าไหร่ การควบคุมสื่อภายในประเทศจีน…
-
หนุ่มแต่งตัวเหมือนหมอ พร้อมหลอกทุกคนในโรงพยาบาลเพื่อที่จะตรวจภายในให้กับผู้หญิง
พวกเราหลายๆ คนอาจเคยมีความคิดที่ว่าอยากจะปลอมตัวเป็นคนคนหนึ่ง เพื่อหาโอกาสทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ หรือประกอบอาชีพที่เราวาดฝันเอาไว้ ซึ่งชายหนุ่มคนหนึ่งในประเทศรัสเซียก็คงตั้งใจเอาไว้แบบนั้นเหมือนกัน เขาจึงทำเนียนปลอมตัวเป็นหมอหลอกคนทั้งโรงพยาบาลซะเลย ชายคนนี้มีชื่อว่า Anton Yarin ชายผู้ปลอมตัวเป็นหมอในโรงพยาบาล Pervouralsk city และสามารถทำให้ทุกคนเชื่อสนิทใจไปหลายวันเลยว่าเขาคือหมอประจำโรงพยาบาลแห่งนี้จริงๆ กล้องวงจรปิดจับภาพ Anton ชายผู้ปลอมตัวเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาล จากการรายงานข่าวของ UNILAD เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2018 เล่าว่า Anton สมัครงานเข้ามาในตำแหน่งช่างประปา ก่อนที่เขาจะสวมบทบาท แต่งชุดขาวออกไปหลอกคนไข้และหมอคนอื่นๆ ว่า เขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนรีแพทย์ การผ่าตัด และด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน สวมบทเป็นนรีแพทย์ก็คงทำให้หลายๆ คนเริ่มมองเห็นแล้วว่าจุดประสงค์เขาไปในทิศทางใด ซึ่งการปลอมตัวของเขาก็เป็นไปได้ด้วยดี เข้าตรวจคนไข้ราวกับเป็นหมอจริงๆ ซะอย่างนั้น ในคลิปเผยให้เห็นว่าเขากำลังเรียกเด็กสาวคนหนึ่งเข้าคิวรอรับการตรวจ ที่น่าตกใจก็คือ ในตอนแรกไม่มีใครผิดสังเกตเลยว่าเขาไม่ใช่หมอจริงๆ ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมในความสามารถอันแนบเนียน อ้างว่าตัวเองเป็นแพทย์คนใหม่ที่จะเข้ามาประจำ และ Anton ก็เคยเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลแห่งนี้มาก่อน เขาจึงพอจำชื่อของแพทย์ทุกคนได้เป็นอย่างดี Nikolay Shaydurov หัวหน้าแพทย์ประจำโรงพยาบาล บอกว่า Anton เดินไปรอบโรงพยาบาลด้วยความมั่นใจ…
-
6 สัญญาณบ่งบอกว่า “ตับ” ไม่สามารถทนรับ “ไลฟ์สไตล์” คุณได้อีกต่อไป เปลี่ยนด่วน!!
ไลฟ์สไตล์ของเพื่อนๆ บางคนอาจทำให้มีปัญหาสุขภาพตามมาได้ โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่ชอบออกไปสังสรรค์ดื่มแอลกอฮอล์ยามดึกบ่อยๆ แน่นอนว่าอวัยวะที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ก็ย่อมต้องเป็น “ตับ” นั่นเอง วันนี้ #เหมียวตะปู แปลบทความสาระน่ารู้จากเว็บต่างประเทศ ที่พูดถึง 6 สัญญาณอันตรายต่อร่างกายเรา และสามารถสังเกตตนเองได้ว่า ตับของเรากำลังอยู่ในขั้นวิกฤต และควรจะเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของตัวเองกันได้แล้ว… 1. รู้สึกว่าในหัวยุ่งเหยิงไปหมด เวลาที่ตับของเราทำงานหนักจนเกินไป จะทำให้ระบบการกรองเลือดในร่างกายของเราแย่ลง ส่งผลให้มีสารพิษต่างๆ นั้นปะปนไปสู่สมองได้มากกว่าคนปกติ อาการดังกล่าวเราสามารถสังเกตได้จากความรู้สึกสับสน มีปัญหาเกี่ยวกับความจำ และตัดสินใจอะไรต่างๆ ได้ยากยิ่งขึ้น 2. น้ำตาลในเลือดต่ำ หนึ่งในหน้าที่ของตับคือการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นเวลาที่ตับมีปัญหา ระดับน้ำตาลในเลือดของเราก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ ฉุนเฉียวง่าย และไม่มีสมาธิในการทำสิ่งต่างๆ 3. ฮอร์โมนไม่มีความสมดุล ตับคืออวัยวะที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนเพศของเรา การทำงานของตับที่ผิดปกติจึงอาจทำให้ระบบฮอร์โมนเอสโตรเจน และเทสโทสเตอโรนของเรามีความไม่สมดุล จนอาจเกิดปัญหาร้ายแรงอย่างการขาดความต้องการทางเพศไป หรือมีอาการก่อนเป็นประจำเดือนที่รุนแรงมากกว่าเดิม 4. อารมณ์แปรปรวน ปัญหาในเรื่องของความจำและอารมณ์ที่แปรปรวนอาจเกิดจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับตับ อีกทั้งยังอาจส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า ซึ่งหากใครสังเกตอาการของตัวเองแล้วคิดว่าน่าจะเป็น ก็ควรเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในทันที 5. ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน หลายๆ คนอาจเชื่อว่าการที่เราเป็นหวัดได้ง่ายหรือติดเชื้ออยู่บ่อยๆ…
-
มิ้วน้อยผู้ช่วยงานร้านเสริมสวย พอแกร่งกล้าก็สบโอกาสยึดร้าน ทำงานตลอด 4 ปีไม่มีหยุด!!
ในการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราอาจต้องการใครซักคนเข้ามาแบ่งเบาภาระหน้าที่การดูแลลูกค้าหรือการบริหารร้าน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับร้านเสริมสวยแห่งนี้ เพราะสิ่งที่เข้ามาช่วยเหลือเจ้าของร้านไม่ใช่คนแต่กลับเป็นน้องเหมียวสุดน่ารักซะอย่างนั้น นี่คือเรื่องราวของเจ้าแมวที่มีชื่อว่า Betty ซึ่งเมื่อ 7 ปีก่อนมันมีอายุเพียงแค่ 8 สัปดาห์แต่กลับถูกทิ้งเอาไว้ข้างทาง ก่อนที่มันจะได้ไปเจอกับช่างเสริมสวยในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ที่มีชื่อว่า Chris Guglielmi เหมียวน้อยจอมซน Betty สวัสดีงับ ความน่ารักของมันทำให้หญิงสาวถึงกับใจละลาย Chris ตกหลุมรักมันตั้งแต่แรกเห็นและรีบพาเจ้าเหมียวไปรักษาตัวที่คลินิกสัตว์ในทันที หลังจากที่เจ้าเหมียวหายดี มันก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวคนสำคัญของเธอ หลังจากนั้นในปี 2013 หญิงสาวได้เปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเองชื่อร้านว่า Babar Hair และร้านนี้ก็ได้กลายเป็นที่ทำงานของเธอและเจ้าเหมียว พนักงานคนนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับผม Betty จะมาที่ร้านกับเธอทุกๆ วัน และมันไม่ได้แค่มาเดินเล่นไปมาเฉยๆ แต่มันจะคอยบริการลูกค้าด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูอยู่เสมอ ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในร้านจะได้เจอกับบริการหนุนตักของเจ้าเหมียวตัวนี้ เพราะมันจะคอยมองหาว่าตักของลูกค้าคนไหนว่างอยู่ ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหาและหนุนนอนอยู่บนนั้น สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ได้เห็น แง่ะ พอขึ้นมาอยู่บนนี้แล้วรู้สึกง๊วงงงง่วง ไม่ไหวละ หลับดีกว่า แถมโชว์ท่ายากเป็นกรณีพิเศษ จงอย่าให้ตักของเจ้าว่างเชียวละเจ้ามนุษย์ …
-
15 เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ กับการมีประจำเดือนและความขมขื่น ที่ผู้หญิงในอดีตยากจะหลีกเลี่ยง
ในอดีตกาล วิทยาศาสตร์หรือความรอบรู้ยังไม่เจริญก้าวหน้าเท่ากับปัจจุบัน จึงทำให้เกิดความเชื่อหลายๆ อย่างที่ผิดไปจากความเป็นจริง อย่างเช่นความเชื่อในเรื่องประจำเดือนของผู้หญิง ช่วงก่อนศตวรรษที่ 19 แพทย์ในยุคนั้นเชื่อว่าผู้หญิงหลั่งเลือดออกมาเพื่อระบายความร้อน อารมณ์และความรู้สึกที่ผิดปกติ ซึ่งมันผิดไปจากความเป็นจริงที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ แต่คนในยุคนั้นไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้มาก่อน นอกจากความเชื่อแบบนี้แล้ว ยังมีความเชื่อหรือตำนานแปลกๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของประจำเดือน เราลองไปรับรู้พร้อมๆ กันเลยยย 1. ชาวโรมันโบราณเชื่อว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนคือแม่มดมนต์ดำ นักปรัชญาชาวโรมัน Pliny The Elder บอกว่าผู้หญิงที่มีประจำเดือนจะสามารถบังคับพายุฝนฟ้าคะนอง ลมบ้าหมู ฟ้าผ่า และความแห้งแล้งอุดมสมบูรณ์ได้ รวมถึงเวทมนตร์ที่ใช้ป้องกันตัวอย่างการฆ่าสัตว์ที่จะเข้ามาทำร้ายเพื่อแค่การมอง เลือดเมนส์ที่ไหลออกมาก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดหมาบ้าขึ้นมาอีกต่างหาก 2. ชาวอียิปต์โบราณนำกระดาษพาไพรัสแบบอ่อนมาใช้เป็นผ้าอนามัยแบบสอด ชาวอียิปต์ใช้กระดาษดังกล่าวพันรอบๆ แท่งไม้เพื่อใช้เป็นผ้าอนามัยแบบสอดและช่วยในเรื่องของการคุมกำเนิด ในขณะที่ชาวโรมันใช้ขนสัตว์ในการทำผ้าอนามัยแบบเดียวกัน 3. ชาวยุโรปในยุคกลางจะเผาคางคกเพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดียิ่งขึ้น นักประวัติศาสตร์ Amy License บอกถึงวิธีการที่ง่ายมากๆ เพียงแค่จับคางคกมาเผาในหม้อ แล้วนำขี้เถ้าของมันไปใส่ถุงเอาไว้ โดยพกพาถุงที่ใส่ขี้เถ้านั้นให้มันอยู่ใกล้ๆ กับช่องคลอด เท่านี้เลือดลมก็ไหลเวียนดีขึ้นแล้ว 4. ชาวฝรั่งเศสเชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์ตอนที่เมนส์มาจะทำให้มีสัตว์ประหลาดคลอดออกมา ตามข้อมูลจาก The Curse: A Cultural…
-
ชีวิตอีกด้านของ ‘เด็กเสี่ย’ วัย 20 มีตั้งแต่ทริปไปฮาวาย กระเป๋าดีไซน์เก๋ พร้อมเปย์การศึกษา
นักศึกษาหลายๆ คนอาจประสบปัญหาเงินไม่พอใช้ในชีวิตประจำวันหรือไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ทำให้ต้องหางานเสริมทำระหว่างเรียน แต่สำหรับเธอคนนี้กลับมีรายได้ที่ต่างออกไป เพราะเธอไม่ได้รับเงินจากงานแต่เธอรับเงินจาก “ป๊ะป๋า” ที่ช่วยส่งเสียค่าเล่าเรียนให้เธอ ซึ่งเราอาจจำกัดความได้ว่าเธอคือ “เด็กเสี่ย” นั่นเอง นี่คือเรื่องราวของ Jessica นักศึกษาสาววัย 20 ปี ลูกครึ่งออสเตรเลีย-เวียดนาม เธอกำลังศึกษาอยู่ในคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แต่ขณะที่เธอกำลังตั้งหน้าตั้งตาเรียนอยู่นั้น หญิงสาวก็ได้ไปเจอกับเว็บไซต์หนึ่งที่ทำให้การใช้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป Jessica เล่าว่าในตอนแรกนั้นเธอได้เห็นคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการมองหารายได้เสริม ทำให้เธอรู้จักกับเว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับการนัดเดตกันระหว่างเด็กเสี่ย (Sugar Baby) และ ป๊ะป๋า (Sugar Daddy) ซึ่งหมายถึงเสี่ยที่จะคอยช่วยเลี้ยงดูพวกเธอ เธอได้เห็นการใช้ชีวิตของเด็กเสี่ยหลายๆ คนที่ได้รับข้อเสนอในเรื่องการจ่ายค่าเทอมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ทำให้เธอเกิดความสนใจขึ้นมาและสมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์นั้น ด้วยความที่เธอเป็นคนตั้งใจเรียน หุ่นดี เป็นถึงเชียร์ลีดเดอร์และคุณครูสอนร้องเพลง ทำให้ผู้ชายจำนวนมากรู้สึกสนใจและส่งข้อความมาหาเธอ แต่ข้อความส่วนใหญ่นั้นจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เธอต้องการ เพราะผู้ชายบางคนติดต่อหาเธอเพื่อการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด หรือข้อเสนอที่จะจ่ายเงินให้กับเธอทุกครั้งที่ออกไปเดตกับเขาเท่านั้นเอง เธอบอกว่าการจะเป็นเด็กเสี่ยไม่ใช่การรับเงินเป็นครั้งคราวหรือการมีเพศสัมพันธ์กันเพียงอย่างเดียว เพราะเด็กเสี่ยไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการ สิ่งที่สาวๆ อย่างเธอต้องการคือความสัมพันธ์ระยะยาวที่ทำให้พวกเธอสามารถมั่นใจได้ว่า จะมีรายได้จากชายคนนั้นเข้ามาอยู่เสมอ เมื่อหญิงสาวเข้าใจแล้วว่าตัวเองสมัครเข้ามาเพราะอะไร เธอก็ใช้เวลาเป็นเดือนๆ ในการหาคนที่จะเข้ามาดูแลการเงินของเธอได้…
-
มาดูความเห็นชาวเน็ตต่างชาติ กับการที่ทรัมป์ถือร่มให้ตัวเอง แต่ไม่ถือให้ภรรยาและลูก…
เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2018 สำนักข่าว Daily Mail ได้เผยภาพของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปพร้อมๆ กับครอบครัวของเขา ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา ภาพของ Trump ถือร่มกันฝนขณะที่กำลังเดินขึ้นเครื่องบิน ภาพที่ได้เห็นอาจจะดูไม่แปลกอะไร แต่มันกลับทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์กับการที่ Trump ถือร่มกันฝนเดินนำหน้าไปเพียงคนเดียว ในขณะที่ Melanie ภรรยาของเขา และลูกชาย Barron เดินตากฝนตามหลังเขามา สิ่งที่ชาวเน็ตพูดเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขาในครั้งนี้คือ ทำไม Trump ถึงใช้ร่มกันฝนให้ตัวเองเพียงคนเดียว ไม่ยอมกันฝนให้ภรรยาที่เดินตามมาข้างหลัง ทั้งๆ ที่ร่มคันนั้นมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับคน 2 คนอย่างแน่นอน การแสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตทั้งหลายถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือความคิดเห็นของชาวอังกฤษที่พูดถึงเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษและมองว่าผู้นำคนนี้ทำสิ่งที่แย่มากๆ ส่วนอีกฝั่งคือชาวอเมริกันที่มองว่าชายและหญิงก็เท่าเทียมกัน Trump ไม่เห็นจำเป็นต้องไปกางร่มให้ภรรยาซักหน่อย ความคิดเห็นจากฝั่งอังกฤษส่วนใหญ่ที่พูดถึงเรื่องการไม่เป็นสุภาพบุรุษ Jollyboy “ถ้าพูดจริงๆ มันคงจะน่าตกใจกว่านี้ถ้าเราเห็น Trump กางร่มให้ภรรยาและลูกชาย เพราะเขาคือคนที่ไร้มารยาท เติบโตมาด้วยเงินเพียงอย่างเดียว และยังทำตัวหยาบคายราวกับสัตว์เดรัจฉาน”…
-
11 พิธีกรรมการ ‘พรากชีวิตคน’ เมื่อบุคคลเหล่านั้นไม่ได้มองเห็นคนข้างๆ เป็นมนุษย์เหมือนกัน…
การนำสัตว์หรือมนุษย์ไปใช้เป็นเครื่องบูชายัญเป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้จากประวัติศาสตร์เก่าแก่ ซึ่งในปัจจุบันวิธีการทำนองนี้ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่เราสามารถยอมรับได้ ด้วยความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ที่ช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่างได้ บวกกับความโหดร้ายป่าเถื่อน พิธีกรรมเหล่านั้นจึงเริ่มหายสาบสูญไปจนหมด วันนี้เราจะชวนให้ทุกคนลองย้อนกลับไปดูว่า ในสมัยอดีตกาลเคยมีพิธีกรรมหรือวิธีการฆ่ามนุษย์แบบไหนบ้าง และมันเลวร้ายมากขนาดไหน ว่าแล้วก็ลองไปอ่านเรื่องราวทั้งหมดนั้นกันเลย 1. จากคำบอกเล่าของนักคิดชาวโรมันในสมัยก่อนที่ชื่อ Strabo เขาบอกว่าชาวเซลติกโบราณที่อาศัยอยู่บนเกาะอังกฤษ ใช้วิธีการจับสัตว์และมนุษย์มาผูกไว้กับหุ่นฟางแล้วเผาทั้งเป็น โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องบรรณาการบูชาพระเจ้า ซึ่งนักโบราณคดีในปัจจุบันยังไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้ เพราะมันอาจเป็นการเป่าหูทำให้ชาวเซลติกกลายเป็นคนเถื่อนเท่านั้นเอง 2. ชาวโรมันสมัยก่อนได้คิดวิธีการลงโทษผู้คนอย่างโหดร้ายและพยายามทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องตลก โดยจะจำลองให้คนเหล่านั้นตายเหมือนเทพที่อยู่ในตำนานปรัมปรา อย่างการเผาทั้งเป็นให้เหมือนกับ Hercules บางคนถูกล่ามโซ่แล้วฉีกเอาอวัยวะภายในออกมาเหมือนอย่างที่เทพ Prometheus ต้องเจอ ผู้หญิงบางคนถูกบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับกระทิง เหมือนอย่างเทพผู้เป็นมารดาของกระทิงทั้งปวง Pasiphae ซึ่งหากผู้หญิงคนนั้นสามารถรอดชีวิตมาได้ เธอก็จะถูกฆ่าอยู่ดี 3. ชาวกรีกโบราณมีเครื่องประหารชนิดหนึ่งชื่อว่า The Brazen Bull ทำจากทองแดงและมีลักษณะรูปร่างเหมือนกระทิง วิธีการใช้งานก็คือให้คนโดนลงโทษเข้าไปอยู่ข้างใน แล้วจึงจุดไฟเผาจากด้านนอกจนถึงแก่ความตาย ระหว่างนั้นเสียงที่ร้องโหยหวนออกมาจะเหมือนกับเสียงร้องไห้ของกระทิง 4. ในประเทศญี่ปุ่นจะมีความเชื่อที่เรียกว่า Hitobashira โดยจะฝังคนเป็นๆ ลงไปข้างใต้พื้นหรือในกำแพงของสิ่งปลูกสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นสำเร็จลงได้ด้วยดี ซึ่งคนที่ถูกฝังส่วนใหญ่จะเป็นอาสาสมัคร อย่างเช่นเหล่าซามูไรที่ต้องการใช้จิตวิญญาณ อยู่เฝ้ารักษาปราสาทหรือวัดต่างๆ 5. ในหลายๆ…
-
11 ภาพวาดราคาอภิมหาแพง แต่ดูจากเนื้องานที่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว คงจะแพงกว่านี้ได้อีก…
ศิลปะภาพวาดต่างๆ บนโลกของเราสามารถสื่อได้ถึงหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสวยงาม ความประณีตละเอียดอ่อน หรืออาจจะมีความหมายที่ลึกซึ้งอย่างที่คนทั่วไปอาจเข้าไม่ถึง ซึ่งก็อาจจะเหมือนกับภาพวาดเหล่านี้ ภาพทั้งหมดที่เรากำลังจะไปชมคือภาพวาดที่พอเรามองเห็นด้วยตาเปล่าแล้ว อาจทำให้คนส่วนใหญ่สงสัยว่ามันมีความพิเศษที่ตรงไหน? มันแตกต่างจากการลงสีทั่วไปอย่างไร? แล้วทำไมมันถึงได้มีราคาสูงมากขนาดนี้!? เราลองไปดูกันเลยว่าแต่ละภาพมีหน้าตาเป็นอย่างไรและมีราคาที่สูงมากขนาดไหนกัน ภาพ Blood Red Mirror ของศิลปินชาวเยอรมัน Gerhard Richter มีราคาอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านบาท ภาพ Concetto Spaziale ของศิลปินชาวอาร์เจนตินา Lucio Fontano มีราคาอยู่ที่ประมาณ 47 ล้านบาท ภาพ Green White ของศิลปินชาวอเมริกัน Ellsworth Kelly มีราคาอยู่ที่ประมาณ 51 ล้านบาท ภาพ Untitled (Stoffbid) ของศิลปินชาวเยอรมัน Blinky Palermo มีราคาอยู่ที่ประมาณ 54 ล้านบาท ภาพ White…
-
วิกฤตเศรษฐกิจของเวเนซุเอลา ส่งผลทำให้ประชาชนอดอยาก ถึงขั้นต้องแย่งและรุมทำร้ายวัวตัวเดียว…
ปัจจุบันชาวเวเนซูเอลากำลังประสบปัญหาความยากจนและความอดอยาก อาหารมีไม่เพียงพอให้สำหรับทุกคนในประเทศ จนทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านหรือการแย่งชิงอาหาร ซึ่งเราสามารถเห็นตัวอย่างสิ่งที่เกิดได้จากคลิปวิดีโอนี้ นี่เป็นคลิปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเขต Palmarito เมืองเมอริดา ประเทศเวเนซูเอลา ถูกเผยแพร่โดยสำนักข่าว Daily Mail เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 เผยให้เห็นภาพของชาวบ้านจำนวนมาก จับกลุ่มกันไล่ฆ่าวัวเพียงตัวเดียว ชาวบ้านจำนวนมาก ไล่ฆ่าวัวเพียงแค่ตัวเดียว . ภายในคลิปเราจะเห็นชาวบ้านชายถือมีดหรือท่อนไม้วิ่งไล่เจ้าวัวตัวหนึ่ง บางคนก็ปาหินใส่เพื่อให้วัวตัวนั้นล้มลง และพอมันทรุดลงไป พวกเขาก็กรูกันเข้าไปแย่งชิงเนื้อของเจ้าวัวตัวนั้น ในพื้นที่เดียวกันนี้มีวัวถูกฆ่าในลักษณะเดียวกันไปกว่า 300 ตัว ภาพที่เห็นสร้างความสะเทือนใจให้กับคนบางส่วน และสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความขาดแคลนอาหาร ซึ่งเกิดขึ้นไปทั่วประเทศ แม้แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตในเมือง Caracas ที่เป็นเมืองหลวง ไม่มีอาหารหรือของกินให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ชั้นวางต่างๆ เต็มไปด้วยความว่างเปล่า ชั้นวางอาหารที่ว่างเปล่า . เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ Carlos Paparoni ฝ่ายค้านจากสภาคองเกรสออกมาบอกว่า เหตุที่ทำให้ชาวเวเนซูเอลาต้องออกมาทำอะไรแบบนี้เป็นเพราะนโยบายที่ยังคงมีการโต้เถียงและทำให้เกิดความขาดแคลน จากแนวคิดของประธานาธิบดี Nicolas Maduro เจ้าของระบอบสังคมนิยมเผด็จการ …
-
คู่รักปิ๊งไอเดีย รับแมวมาเลี้ยงแบบธรรมดาโลกไม่จำ เลยได้มาเป็นชุดภาพสุดเจ๋งนี้…
ส่วนใหญ่เวลาที่เราแมวมาเลี้ยง เราก็จะถ่ายรูปความน่ารักของมันโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียอวดเพื่อนๆ บ้างเป็นธรรมดา แต่สำหรับคู่รักสองคนนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะพวกเขาได้ถ่ายอวดลูกแมวในธีม “คลอดลูก” นี่คือชุดภาพต้อนรับสมาชิกใหม่ของ Lucy Schultz และแฟนหนุ่มของเธอ เมื่อทั้งคู่รับเลี้ยงลูกเหมียวตัวหนึ่งและต้องการจะเก็บไว้เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ เธอจึงเปลี่ยนการรับเลี้ยงแบบธรรมดาๆ ให้เหมือนกับว่าเธอคลอดมันออกมาเอง อดทนไว้นะจ๊ะที่รัก เราจะผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน . ความน่ารักของทั้งสองคนกับอีกหนึ่งตัวถูกถ่ายทอดผ่านรูปถ่ายสวยๆ น่ารักๆ จากฝีมือช่างภาพ Elizabeth Woods-Darby ที่ช่วยทำให้ไอเดียของพวกเขากลายเป็นความจริงที่ดูสดใสและตลกในเวลาเดียวกัน ชุดรูปทั้งหมดนี้มีชื่อว่า New Baby ถูกโพสต์ลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2018 กลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตหลายๆ คน มียอดไลก์กว่า 13,000 คน และแชร์ออกไปมากกว่า 42,000 ครั้งในชั่วข้ามคืน จะน่ารักและโดดเด่นมากขนาดไหน เราลองไปชมตัวอย่างกันเลย หัวเด็กโผล่ออกมาแล้วครับหมอ โอ๋เอ๋ๆ มานี่มา มาหาพ่อซะดีๆ สู้เขานะที่รัก อีกเพียงแค่อึดใจเดียว จากความเหนื่อยล้าของการเบ่งคลอด ทำให้ลูกเหมียวออกมาดูโลกได้สำเร็จ ใจคอแม่จะไม่ให้พ่ออุ้มบ้างเลยหรือไง น่ารักน่าชังจริงเชียว…
-
ศิลปินสร้างร้านขายแผ่นเสียงขนาดจิ๋ว บอกเลยว่าดีเทลละเอียดยิบ ซูมดูแล้วจะเห็นว่ามันดีงาม!!
ในการแสดงผลงานครั้งล่าสุดที่ศูนย์งานศิลปะ Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ทำให้คนทั่วไปได้เปิดหูเปิดตาไปกับความสวยงามของสิ่งที่ถูกสร้างสรรค์มาโดยฝีมือของศิลปินผู้มีฝีมือ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีผลงานหนึ่งที่กลายเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน ผลงานที่ว่านั้นก็คือ ร้านขายแผ่นเสียงขนาดจิ๋ว จากฝีมือของศิลปินชาวออสเตรเลียที่ชื่อว่า Joshua Smith ผู้หลงใหลในการทำสถาปัตยกรรมย่อส่วน ร้านขายแผ่นเสียงขนาดจิ๋วที่ดูสมจริง สถาปัตยกรรมจิ๋วที่เขาสร้างขึ้นมาในครั้งนี้มีต้นแบบมาจากร้านขายแผ่นเสียงที่ชื่อว่า Discolandia ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งเป็นร้านในตำนานแห่งความทรงจำของเขต Mission District เอกลักษณ์ของร้านนี้คือการตกแต่งอาคารด้วยสีส้ม . ดนตรีแนวละตินกับรูปแบบการฟังเพลงแนวย้อนยุค คือเสน่ห์ประจำร้านที่ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาต่างหลงใหลไปกับเสียงดนตรี โดยร้านนี้เปิดอยู่นานกว่า 30 ปี ก่อนที่จะปิดตัวลงไปในปี 2011 Joshua นำร้านต้นแบบมาทำใหม่ให้กลายเป็นผลงานขนาดจิ๋วที่ช่วยเติมเต็มความทรงจำของทุกคน ซึ่งภาพของร้านที่เราเห็นนี้คือสภาพในปัจจุบัน มีความสมจริง เก็บรายละเอียดในทุกๆ จุด รายละเอียดต่างๆ ถูกทำออกมาอย่างแนบเนียน แม้แต่พื้นผิวของสิ่งก่อสร้างยังเหมือน ป้ายที่ถูกติดไว้เต็มหน้าต่างกระจกก็ถูกเลียนแบบมาเหมือนของจริง ป้ายร้านที่ถูกซ่อมแซมบนหลังคา . ให้อารมณ์สมจริง เหมือนกับเรายืนอยู่หน้าร้านยังไงยังงั้น อีกหนึ่งผลงานที่ทำขึ้นมาพร้อมๆ กับร้านขายแผ่นเสียงจิ๋ว…
-
17 ภาพสำหรับคนที่เคยใช้โทรศัพท์ BB จะเข้าใจ เห็นแล้วน้ำตาไหล คิดถึงสมัยก่อนจัง…
การที่เราใช้แอปพลิเคชันส่งข้อความหากัน อย่างเช่น Line หรือ Facebook Messenger อาจทำให้หลายๆ คนหวนคิดถึงแอปส่งข้อความยุคก่อนและมือถือที่มาพร้อมกับปุ่มกดสุดมันส์อย่าง BlackBerry ที่ตอนนี้แทบจะเรียกว่ากลายเป็นตำนานของบ้านเราไปเสียแล้ว วันนี้เราจึงชวนให้เพื่อนๆ มาลองดูภาพย้อนวันวานมือถือแห่งความทรงจำของหลายๆ คน ว่าก่อนที่เราจะมาใช้สมาร์ตโฟนกันอย่างปัจจุบัน เจ้ามือถือเครื่องนี้เคยสร้างความหรรษากับเรามากแค่ไหน ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลย การขอพินเพื่อนๆ เอาไว้ คือสิ่งแรกที่เราต้องทำหลังจากซื้อมือถือยี่ห้อนี้มา หลังจากนั้นเราก็จะแจกพินไปให้กับทุกคน จะได้คุยกันสะดวกๆ สมัยก่อนไม่มีหรอกขอลงขอไลน์ ต้องขอพินสิยะ บางครั้งอาจเจอกับปัญหารายชื่อหาย เพราะฉะนั้นจึงต้องให้เพื่อนแอดมาใหม่ บางคนก็แข่งขันกับเพื่อนว่า ใครมีพินสาวๆ หนุ่มๆ เยอะกว่ากัน ไม่ใช่แค่แจกเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะขอให้พวกเขาช่วยกระจายพินออกไปเพิ่มเติมด้วยก็ได้ เกมติดเครื่องที่ช่วยให้เราผ่อนคลายได้ยามว่าง ซึ่งก็เทียบกับเกมมือถือยุคนี้ไม่ได้หรอกกกกกก อีกหนึ่งเกมที่ติดมาและสนุกไม่แพ้กัน ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัว เคสหลากสี นุ่มนิ่ม ช่วยทำให้ BB ของเรามีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น เมื่อไหร่ที่เพื่อนตอบช้า เราจะกระหน่ำส่ง Ping!!! ไป ราวกับว่าบ้านไฟไหม้ …
-
หมาหายออกไปจากบ้าน พอกลับบ้านมา มี “กระดาษโน้ต” เล่าวีรกรรมของมันมาด้วย!?
แม้ว่าการทำความดีอาจไม่มีใครเห็น แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกสบายใจและมีความสุข เหมือนอย่างเจ้าหมาตัวนี้ที่ได้ทำเรื่องดีๆ เอาไว้โดยที่คนใกล้ตัวของมันไม่รู้เลยว่า สิ่งที่มันทำคือการช่วยชีวิตน้อยๆ ชีวิตหนึ่งเลยทีเดียว นี่คือเรื่องราวของเจ้าหมาที่มีชื่อว่า Louie ที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของ Marolyn Diver ในประเทศนิวซีแลนด์ ท่ามกลางทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่และธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้เจ้าหมาชอบวิ่งออกไปเที่ยวเล่นอยู่บ่อยครั้ง เจ้าหมาหนุ่ม Louie แต่พอเวลาผ่านไป มันเริ่มแก่ตัวลงเรื่อยๆ ทำให้ตอนนี้มันมีอายุถึง 12 ปี สุขภาพไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน ประสาทสัมผัสของเจ้าหมาก็ลดลง ทำให้ครอบครัวที่คอยดูแลมันรู้สึกเป็นห่วงและพยายามให้เจ้าหมาวิ่งเล่นอยู่ใกล้ๆ บ้านก็พอ จนกระทั่งในวันหนึ่ง Marolyn เข้าไปทำธุระในเมืองแต่พอกลับมาเจ้าหมากลับหายไปไหนก็ไม่รู้ ซึ่งแม่ของเธอไม่คิดว่ามันจะหายไปแบบนี้ เพราะคิดว่ามันเลิกซนเหมือนแต่ก่อนแล้วซะอีก ทั้งสองคนกลัวว่ามันจะจำทางกลับบ้านไม่ได้ เวลาล่วงเลยผ่านพ้นช่วงกลางวันไป ในที่สุดเจ้าหมาก็กลับมา ทำให้ทุกคนรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่พวกเขาจะได้ค้นพบเหตุผลว่าทำไมมันถึงหายไปนานแบบนี้ พวกเธอเห็นว่ามีกระดาษลังแผ่นเล็งๆ ผูกอยู่ตรงปลอกคอของเจ้าหมา โดยมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า “Louie คือสุดยอดฮีโร่ประจำวันนี้เลย มันพาผมไปเจอกับ Maddy ที่นอนขอความช่วยเหลืออยู่ใต้กองกิ่งไม้ เยี่ยมไปเลย, Rob” คนในจดหมายที่ชื่อว่า Rob คือชาวสวนที่อยู่ห่างออกไปประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร โดยเขาเลี้ยงหมาตัวหนึ่งชื่อว่า…
-
เผยคำอำลาสุดซึ้งจาก Daniel Radcliffe เขียนถึง “ศาสตราจารย์สเนป” ในวันครบรอบ 2 ปีที่เขาเสียชีวิต
หากใครเป็นแฟนคลับภาพยนตร์แนวแฟนตาซีที่มีพ่อมดแม่มดอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เชื่อว่าคุณจะต้องเคยดูหนังเรื่อง Harry Potter มาแล้วอย่างแน่นอน โดยในหนังเรื่องนี้ไม่ได้โดดเด่นแค่พระเอก นางเอกเพียงอย่างเดียว แต่ทุกตัวละครล้วนมีเรื่องราวให้น่าจดจำอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น ศาสตราจารย์เซเวอร์รัส สเนป ตัวละครมาดเข้มหน้าตาเคร่งขรึมคนนี้ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน แต่แล้วหลังจากที่ซีรีส์หนังโรงเรียนเวทมนตร์จบไป ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าขึ้น เมื่อ Alan Rickman ผู้รับบทเป็นศาสตราจารย์สเนป ได้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 มกราคม 2016 Alan ผู้รับบทเป็นอาจารย์ในโรงเรียนเวทมนตร์ Alan จากโลกนี้ไปในวัย 69 ปีด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายที่แทบไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่าเขาป่วยเป็นโรคนี้มานานหลายเดือน คนที่รู้มีเพียงแค่เพื่อนสนิทและคนในครอบครัวเพียงไม่กี่คน การจากไปอย่างน่าเศร้าของนักแสดงผู้มากความสามารถคนนี้ ทำให้หลายๆ คนต้องหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อรู้ข่าว โดยเฉพาะกับนักแสดงดังที่เคยร่วมงานกับเขา Daniel Radcliffe ผู้เคยรับบทเป็น Harry Potter Daniel โพสต์คำอำลาอันแสนเศร้าลงไปใน Google+ ว่า “Alan Rickman คือหนึ่งในนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดที่ฉันเคยร่วมงานด้วย เขาเป็นคนคนนึงที่มีความซื่อสัตย์และช่วยสนับสนุนคนอื่นได้ดีที่สุดในวงการภาพยนตร์เลยจริงๆ เขาช่วยให้กำลังใจผมอยู่เสมอ ทั้งในตอนที่แสดงเป็น Harry และหลังจากนั้น” นักแสดงหนุ่มยังบอกอีกว่า Alan…
-
5 ภาพยนตร์เกี่ยวกับ “ครู” เนื่องในวันครูแห่งชาติ ที่แนะนำว่าควรหามาชมให้ครบ..!!
คุณครู คือคนที่ช่วยขัดเกลาความรู้ หยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้กับนักเรียนทุกคน ช่วยส่งเสริมให้เราเป็นคนดี สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์พร้อม เพราะครูไม่ใช่คนที่มอบให้แต่ความรู้จากหนังสือหรือในห้องเรียน แต่พวกเขาคือคนที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้เราสามารถมีชีวิตที่ดีได้ในอนาคต เนื่องในโอกาสวันครูแห่งชาติปี 2018 พวกเราชาวเหมียวจึงอยากชวนให้เพื่อนๆ ไปรับชมภาพยนตร์เกี่ยวกับคุณครู เพื่อรำลึกถึงหน้าที่ที่อาจารย์ทุกคนต้องรับผิดชอบ จนทำให้เราก้าวเข้ามาอยู่ในจุดๆ นี้ได้ จะมีเรื่องอะไรที่เราแนะนำบ้าง ลองไปดูกันเลย 1. School of Rock เรื่องราวของมือกีต้าร์สุดร็อก Dewey Finn ที่จับผลัดจับผลูกลายเป็นครูประจำชั้นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่เต็มไปด้วยลูกคุณสนใจแต่การเรียนเป็นหลัก บางคนยังไม่รู้จักเลยว่าดนตรีร็อกคืออะไร แต่แล้ว Dewey ก็บังเอิญได้เห็นพรสวรรค์การเล่นดนตรีของนักเรียนในห้อง เขาจึงเกิดความคิดที่จะตั้งวงร็อกประจำโรงเรียนขึ้นมา 2. Harry Potter ซีรีส์หนังชื่อดังที่กล่าวถึงโรงเรียนเวทมนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้มีจุดเด่นอยู่ที่แค่ตัวละครพระเอก นางเอ หรือตัวโกงเพียงอย่างเดียว แต่เราจะได้เห็นการสั่งสอนของ ศาสตรจารย์ดัมเบิลดอร์ ซึ่งใช้คำพูดที่นิ่มนวลแต่ล้ำลึก คอยนำพาเหล่านักเรียนทุกคนให้เดินไปตามทางที่ถูกต้อง และพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเด็กๆ อยู่เสมอ อาจารย์อีกคนที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องก็คือ ศาสตราจารย์สเนป ผู้ที่มีใบหน้านิ่งเฉย ดูเคร่งขรึม ดุดัน และน่ากลัว แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังสิ่งเหล่านั้น เขากลับเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนและคอยช่วยเหลือนักเรียนมาโดยตลอด อย่างที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน…
-
ค้นพบ “เครื่องดนตรีโบราณ” ที่มีอายุมานานราวๆ 1,700 ปี แถมยังเล่นได้เหมือนเดิมด้วย…
Jew’s Harp คือสิ่งที่อาจจะไม่ได้รู้จักกันอย่างแพร่หลาย แต่มันคือหนึ่งในเครื่องดนตรีที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคโบราณนานมากแล้ว เพียงแต่ว่าในหลายๆ พื้นที่ไม่ได้นำมันออกมาเล่นโชว์ในการแสดงซักเท่าไหร่ ซึ่งเครื่องดนตรีดังกล่าวจะใช้ปากในการควบคุมเสียงและใช้นิ้วในการดีดให้มีเสียงออกมา หลายๆ คนอาจกำลังสงสัยว่าเครื่องดนตรีดังกล่าวมันมีมานานแล้วหรอ? การค้นพบในครั้งนี้จะทำให้คุณเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2018 สำนักข่าว The Siberian Times รายงานว่านักโบราณคดีค้นพบ Jew’s Harp ชิ้นเก่าแก่ที่มีอายุมานานกว่า 1,700 ปี เครื่องดนตรีเก่าแก่ที่นักโบราณคดีได้ไปเจอมา การได้เจอกับวัตถุโบราณที่ว่ามานั้นเกิดขึ้นบนแถบเทือกเขาอัลไต บริเวณที่ชื่อว่า Chultukov Log 9 พวกเขาได้เจอกับนซากของเครื่องดนตรีชนิดนี้หักครึ่งอยู่ แต่การค้นพบเครื่องดนตรีในสภาพสมบูรณ์แบบนั้น เกิดขึ้นที่เขตบริเวณ Cheremshanka ซึ่งพวกเขาได้พบกับ Jew’s Harp ในสภาพสมบูรณ์ถึง 2 ชิ้นด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นยังสามารถเอามาเล่นให้เกิดเสียงได้ดังเดิมอีกด้วย จากการตรวจสอบเชื่อว่าสิ่งที่ค้นพบในครั้งนี้มีอายุอยู่ในช่วง 1,580-1,740 ปีก่อนหน้า ยุคสมัยของชาว Huns-Sarmatian เครื่องดนตรีที่พบในสภาพสมบูรณ์ที่สุดมีความมยาว 11 เซนติเมตร และความกว้าง 8.6…
-
หนุ่มขับรถบนทางด่วนอยู่ดีๆ ก็เจอลูกหมา 3 ตัว โอ้โห น่ารักซะขนาดนี้ ไม่จอดช่วยก็ใจร้ายเกินไปแล้วล่ะ!!
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 เว็บไซต์ The Dodo ได้รายงานเรื่องราวการช่วยเหลืออันน่าประทับใจของชายหนุ่มที่บังเอิญไปเจอเข้ากับเพื่อนใหม่ตัวน้อยแสนน่ารัก 3 ตัว ขณะที่เขากำลังขับรถกลับบ้าน นี่เป็นสิ่งที่ Andrei Matei ได้เจอระหว่างที่เขากำลังขับรถกลับบ้านหลังจากที่ไปหาแฟนสาวมา ขณะที่กำลังขับอยู่บนถนนไฮเวย์ด้วยความเร็ว ก็ได้เจอกับอะไรซักอย่างข้ามถนนผ่านหน้ารถเขาไป เขาจึงขับรถหลบสิ่งกีดขวางดังกล่าว แต่เมื่อเขาหันไปดูดีๆ เขาก็เห็นว่านั่นมันคือน้องหมาสามตัวที่กำลังเสี่ยงอันตรายกันอยู่บนท้องถนน ชายหนุ่มจึงไม่รอช้ารีบหยุดรถและถอยรถไปหาพวกมันในทันที น้องหมาแสนน่ารักที่ถูกพบบนถนนใหญ่ Andrei ลงจากรถไปหาน้องหมาทั้งสาม เมื่อพวกมันได้เจอกับเขา ทั้งสามตัวก็วิ่งเข้ามากระโดดโลดเต้นอยู่รอบๆ ด้วยความดีใจ โดยที่ไม่รู้เลยว่าก่อนหน้านี้คือวินาทีเฉียดตายของพวกมัน ในตอนแรกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับพวกมันดี แต่ด้วยความน่ารักของน้องหมาทำให้เขาต้องยอมใจอ่อนอุ้มพวกมันขึ้นรถ พากลับบ้านด้วยกันซะเลย ทั้งสามตัวกับอีกหนึ่งคนเดินทางกลับบ้านไปพร้อมๆ กัน ด้วยระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง บวกกับความเหนื่อยล้า ทำให้พวกมันผล็อยหลับไป ในระหว่างการเดินทางกลับบ้าน เขาโพสต์เรื่องราวและรูปของเจ้าหมาลงในเฟซบุ๊ก ทำให้มีคนเข้ามาให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่เขาควรจะทำต่อไป และเขาก็ได้ติดต่อกับเพื่อนของเพื่อนที่มีประสบการณ์ในการช่วยเหลือสัตว์มาก่อน เขาและผู้หญิงที่ติดต่อไปนัดเจอกันที่คลินิกสัตว์ใกล้บ้าน เพื่อมาคุยกันว่าควรจะทำอย่างไรกับเจ้าหมาทั้งสามดี ในตอนนั้น เจ้าหมาก็ได้รับการตรวจร่างกายไปพร้อมๆ กัน จากผลตรวจพบว่า…
-
15 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ‘เบียร์’ ที่แม้แต่นักดื่มเบียร์ตัวยงก็อาจไม่เคยทราบกันมาก่อน!?
หนึ่งในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่พวกเราหลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ เบียร์ น้ำเมาที่ใช้ดื่มกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ซึ่งในวันที่ 7 เมษายนของทุกปี ถูกตั้งให้เป็น “วันเบียร์แห่งชาติ” เพื่อเป็นการระลึกถึงช่วงที่สหรัฐอเมริกา อนุญาตให้ผลิตและขายเบียร์ภายในประเทศได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1933 นอกจากประเทศมหาอำนาจแล้ว หลายๆ แห่งรวมถึงบ้านเราก็สามารถบริโภคเครื่องดื่มชนิดนี้ได้อย่างถูกกฎหมาย แต่ถึงแม้ว่าเราจะดื่มมันบ่อยแค่ไหน แต่ความจริงเราอาจยังรู้จักกับมันได้ไม่ดีพอเลยด้วยซ้ำ วันนี้เราเลยมาจะพูดถึง 15 เรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับเบียร์ มีอะไรบ้างนั้นลองไปอ่านกันได้เลย 1. อียิปต์ขึ้นชื่อว่าเป็นอารยธรรมแรกที่มีการเก็บภาษีเบียร์ โดยราชินีคลีโอพัตรา บอกว่าการเก็บภาษีมีขึ้นเพื่อลดจำนวนขี้เหล้าให้น้อยลง แต่หลายๆ คนกลับเชื่อว่าการเก็บภาษีในครั้งนั้นมีไว้หารายได้ในการทำสงครามกับกรุงโรม 2. เบียร์ คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนนิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา จากสถิติปี 2016 มีถึง 43 เปอร์เซ็นต์ของเหล่านักดื่ม ที่ยกให้เบียร์เป็นที่หนึ่งในดวงใจ และในปี 2015 รัฐบาลได้เงินจากการเก็บภาษีเบียร์ภายในประเทศและเบียร์นำเข้า เป็นจำนวนเงินกว่า 114,000 ล้านบาท 3. ในปี 1695 สหราชอาณาจักรทำการขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เบียร์แพงที่สุด ในขณะที่เหล้าจินถูกที่สุด โดยภาษีเหล้าจินอยู่ที่ประมาณ 2 เพนนี (ประมาณ 1 บาท) แต่เบียร์จะอยู่ที่ราวๆ…
-
เผยโฉมหน้าสตั๊นท์แมนของ The Rock เป็นญาติของพี่แกเอง แถมหน้าเหมื๊อนนนเหมือน
Dwayne Johnson หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ The Rock เขาคืออดีตนักมวยปล้ำวัย 45 ปี ไอดอลของใครหลายๆ คน ซึ่งในปัจจุบันเขาได้ออกจากวงการมาเป็นนักแสดงเต็มตัว และกลายเป็นที่ชื่นชอบมากเสียยิ่งกว่าเดิม เราสามารถมองเห็นจุดเด่นในรูปลักษณ์ภายนอกของเขาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์ หรือแม้แต่ร่างกายอันใหญ่โตที่เต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัดๆ ซึ่งเราอาจจะคิดว่าคงไม่มีใครเหมือนเขาได้ แต่ความเป็นจริงแล้วกลับมีคนคนหนึ่งที่ดูเหมือนเขาจนแยกแทบไม่ออก The Rock ดาราฮอลลีวูดชื่อดังแห่งยุคนี้ คนคนนั้นก็คือ Tanoai Reed สตั๊นท์แมนวัย 43 ปี และเป็นลูกพี่ลูกน้องของ The Rock ซึ่งนั่นจึงทำให้ทั้งสองคนดูเหมือนกันเหลือเกิน Tanoai เกิดบนเกาะฮาวาย เขาทำอาชีพเสี่ยงอันตรายมานานกว่า 23 ปี โดยเป็นตัวแสดงแทนให้กับ Dwayne มานานกว่า 16 ปีเลยทีเดียว Tanoai สตั๊นท์แมนประจำตัวที่ดูเหมือนกันราวกับฝาแฝด ด้วยความที่เขาจะต้องดูเหมือนนักแสดงที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอยู่เสมอ ทำให้ไม่ได้มีแค่หน้าตาที่ได้รับจากกรรมพันธุ์ของครอบครัวเดียวกันมา แต่เขายังพยายามออกกำลังกาย เข้าฟิตเนสอยู่สม่ำเสมอ จนร่างกายของเขานั้นใหญ่โตมโหฬารไม่ต่างกัน เขาเล่าว่า “ผมต้องดูแลรูปร่างเพื่อเลียนแบบ Dwayne ถ้าเขาลดน้ำหนัก ผมก็ต้องลดตาม…
-
ภาพของธรรมชาติอันกว้างใหญ่ สวยงามตระการตา ราวกับถูกตัดต่อมายังไงยังงั้น
ธรรมชาติเต็มไปด้วยสิ่งสวยงามมากมายที่รอให้เราไปค้นพบ ซึ่งบางครั้งเราก็อาจได้เห็นสิ่งเหล่านั้นที่ดูเหมือนกับฉากในหนัง ราวกับสิ่งที่เคยจินตนาการเอาไว้ เช่นเดียวกันกับภาพเหล่านี้ ที่สามารถสื่อถึงความวิเศษของธรรมชาติได้ โดยไม่ต้องใช้การตัดต่อใดๆ ความสวยงามที่่เราได้เห็นเกิดจากฝีมือของช่างภาพหลายๆ คนที่บังเอิญไปเจอเข้ากับความสวยงามเหล่านี้ จากหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่ามันจะได้ไปติดตราตรึงใจใครหลายๆ คนไปอีกนาน ว่าแล้วเราก็ลองไปดูกันเลย ต้นไม้ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ความแตกต่างสุดอัศจรรย์ น้ำแข็งที่ใสมากๆ ในรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา ยามเช้าอันหนาวเหน็บ นี่เป็นภาพสี แต่ที่เราเห็นเป็นอย่างนี้เพราะมันคือภาพถ่ายทะเลทรายดำ ในไอซ์แลนด์ ใบไม้ร่วงโรยถูกจัดเอาไว้ให้กลายเป็นเขาวงกตที่ดูสวยงาม เส้นทางน้ำบริเวณเทือกเขาอัลไต บนเขตของรัสเซีย ห่านจำนวนมาก เดินขวักไขว่เต็มไปหมดเลยยย หลอดไฟไว้เครายาวเฟื้อย เมฆฝนที่ทำให้เกิดแสงเงาตอนพระอาทิตย์ตก หิมะที่ปกคลุมไปทั่วพื้น น้ำใสไหลเย็นเห็นทุกอย่าง ซูเปอร์กระรอก ที่ใช้มือทรงตัวเหนือผิวน้ำ บอลหิมะที่เรียงตัวกัน บริเวณอ่าวฟินแลนด์ รอยยิ้มพิมพ์ใจ สดใสทุกครั้งที่ได้มอง อากาศที่แข็งจัด จนกลายเป็นหนามน้ำแข็ง…
-
สื่อนอกรายงานเรื่องทรัมป์ใช้เงินกว่า 4 ล้านบาทปิดปากดาวโป๊ ในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2018 วารสาร Wall Street ได้รายงานเกี่ยวกับความอื้อฉาวของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump โดยเนื้อข่าวบอกเอาไว้ว่า ชายคนนี้เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับดาราหนังผู้ใหญ่ที่ชื่อว่า Stephanie Clifford (หรือรู้จักกันในชื่อ Stormy Daniels) ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะตามรายงานยังบอกอีกว่า Trump ยอมจ่ายเงินให้กับเธอเป็นจำนวนกว่า 4 ล้านบาท เก็บเรื่องที่เกิดขึ้นเอาไว้เป็นความลับในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้ง ภาพของผู้นำคนปัจจุบันที่ถ่ายคู่กับดาราสาว Stephanie เมื่อปี 2006 เรื่องราวอื้อฉาวของทั้งคู่ถูกพูดถึงครั้งแรกในการพิจารณาคดีเมื่อปี 2016 ตอนที่ดาราหนังผู้ใหญ่อีกคนที่ชื่อว่า Jessica Drake ออกมากล่าวหา Trump ว่าเคยจูบเธอโดยที่เธอไม่เต็มใจ และยังตามตื้อจนถึงขนาดเสนอกับเธอว่าจะจ่ายเงินให้เธอกว่า 300,000 บาท พร้อมทั้งให้หญิงสาวนั่งเครื่องบินส่วนตัวของเขามาหาที่ห้อง ในตอนนั้น Jessica บอกว่า เธอรับข้อตกลงและบินไปหา Trump แต่ไม่ได้มีอะไรกับเขาเลย เพราะเธอพาเพื่อนไปด้วยอีกสองคน เพราะเธอรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องไปคนเดียว ในเมื่อตอนนั้น Melanie ภรรยาของผู้นำคนปัจจุบันกำลังตั้งท้องอยู่ Jessica…
-
สงครามแห่งการตัดต่อของชาวเน็ต กับการนำภาพจมูกน้องหมาไปเสริมเติมแต่งให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
เราอาจเคยเห็นการตัดต่อภาพให้ดูอลังการหรือมีสีสันมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับการตัดต่อในครั้งนี้เกิดขึ้นจากฝีมือชาวเน็ตจากเว็บไซต์ Reddit เมื่อพวกเขาได้นำภาพส่วนจมูกของน้องหมาตัวหนึ่งไปตัดต่อ เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับเหล่าผู้ชมบนโลกโซเชียลทุกท่าน ภาพต้นฉบับเป็นของสมาชิกที่ชื่อว่า SvennK โดยเขาได้โพสต์ลงเว็บไว้ในวันที่ 12 มกราคม 2018 ซึ่งกลายเป็นที่สนใจและถูกนำไปตัดต่อซะจนออกมาดูดีไปอีกแบบ มีให้เราเห็นแบบไหนกันบ้าง ลองไปดูกันเลย ภาพต้นฉบับที่ถูกถ่ายเอาไว้ เผยให้เห็นจมูกและปากของเจ้าหมาที่โดดเด่นเห็นได้ชัด แต่ยังไม่น่าสนใจซักเท่าไหร่ แท้จริงแล้วที่เราเห็นอาจไม่ใช่จมูกของสุนัขก็ได้นะ เปลี่ยนจากสิ่งธรรมดาๆ ให้กลายเป็นหน้าตาของปีศาจสุดชิค ไม่ต้องกลัวนะ E.T. ฉันจะพานายกลับยานให้ได้เลย อ้าวเฮ้ย!! มาอยู่ไม่กี่วัน ก็ขยายเผ่าพันธุ์ต่างดาวสำเร็จแล้วเหรอ นี่คือมนุษย์หมา (ร่างกายเป็นคน แต่หน้าเป็นหมา) พอเติมตาให้ซักหน่อยก็รู้สึกน่ารักขึ้นอีกเป็นกอง… น้องหมาคงเป็นสัตว์ที่ลิ้นแข็งมากจริงๆ แข็งชนิดที่ว่ามีคนไปยืนอยู่บนนั้นได้สบายๆ ใช้แอปอะไรอ่ะเธอ ส่งมาให้ฉันเล่นบ้างสิ เป็นหมาได้เหมื๊อนนนเหมือน Wall-E หรือจะมาสู้ Dogg-E ปืนของ John Wick ยิงทีน้ำมูกกระจาย อย่ายิงผมเลย…
-
ช่างภาพไปเจอตึกที่ระบบดับเพลิงแตก มาจ๊ะเอ๋กับอากาศหนาวข้างนอก กลายเป็นศิลปะแบบบังเอิญๆ
ในช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา เราต้องเจอกับปัญหาความหนาวเย็นที่สั่นไปทั้งกาย บางที่มีหมอกลงหนาบดบังสายตาในยามเช้า แต่สำหรับบ้านเราคงจะหนาวสู้สหรัฐอเมริกาไม่ได้ เพราะอากาศที่บ้านเขาเย็นจนเปลี่ยนน้ำเป็นน้ำแข็งได้ในพริบตาเลยทีเดียว น้ำที่ไหลลงมากลายเป็นน้ำแข็งได้ในชั่วพริบตา ภาพที่เราเห็นคือสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมกราคม 2018 ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เมื่อตึกที่ใช้เป็นโรงแรมและสถานที่จัดเก็บแห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์น้ำรั่วเพราะว่าระบบดับเพลิงพัง จนมีน้ำจำนวนมากไหลลงมาตรงบริเวณบันไดหนีไฟ ระยะเวลาแค่ชั่วอึดใจ น้ำที่ไหลลงมาก็จับตัวกลายเป็นน้ำแข็ง จนทำให้ตึก 21 ชั้นหลังนี้มีความสวยงามตระการตา อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตึกที่เคยดูเรียบๆ ไม่โดดเด่นอะไร กลายเป็นสถาปัตยกรรมที่ดูตระการตา บันไดหนีไฟถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นบันไดน้ำแข็งที่ดูสวยงาม ในช่วงเวลานั้นเองที่ช่างภาพหนุ่ม Andrew Hickey เดินผ่านตึกนั้นพอดี เขาจึงถ่ายรูปความสวยงามนี้เก็บไว้ในหลายๆ มุม ก่อนที่มันจะถูกทำความสะอาดหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง กลายเป็นโชคดีของชาวเน็ตที่ได้มีโอกาสมาเห็นอะไรแบบนี้ ความสูงที่ 21 ชั้นทำให้มันดูอลังการซะเหลือเกิน ใครอย่าเผลอไปใช้บันไดตอนนี้เชียว ไม่อย่างนั้นคงหัวเป็นรูกันแน่ๆ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ต้อนรับปีใหม่ ที่ช่วยทำให้เราเห็นว่า อากาศหนาวนอกจากจะทำให้เราเป็นหวัดแล้ว มันยังช่วยให้เกิดสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ ขึ้นมาได้ด้วย ที่มา: thisiscolossal
-
ร้านตอบกลับแบบจัดเต็ม หลังลูกค้าคอมเพลนเรื่องราคาฟิชแอนด์ชิพที่แพงเกิ๊นนน
ร้านอาหารแทบทุกร้านต้องเคยเจอกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งคำชมและการกล่าวถึงข้อบกพร่อง เหมือนอย่างร้านอาหารในเมืองเบอร์เคนเฮด ประเทศอังกฤษ ที่มีลูกค้ารายหนึ่งเข้ามาต่อว่าเกี่ยวกับราคาอาหารที่ดูเหมือนจะแพงจนเกินไป และนั่นจึงทำให้ทางร้านไม่อาจนิ่งเฉยกับคำพูดของเธอได้ ร้านอาหารดังกล่าวมีชื่อว่า Oxton Bar and Kitchen ซึ่งถูกลูกค้ารายหนึ่งเข้ามาเขียนรีวิวเอาไว้ในเพจเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2018 ทางร้านจึงทำการตอบกลับไป และอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่หญิงสาวคนนั้นไม่พอใจ รีวิวนั้นเขียนไว้ว่า “อาหารอร่อย พนักงานบริการเยี่ยมมาก แต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าคุณนำเสนอราคาอาหารแบบนี้ได้ไง ฟิชแอนด์ชิพจานเล็กราคา 8 ปอนด์ (ประมาณ 350 บาท) ได้อยู่หน่อยเดียวเนี่ยนะ?” เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Debbie Davies ได้เขียนรีวิวลงไปบนหน้าเพจร้าน เมื่อเห็นว่าเป็นอย่างนั้น ทางร้านจึงตอบกลับไปในคอมเมนต์เกี่ยวกับราคาสินค้า มองว่ามันก็เป็นราคาที่น่าจะยอมรับได้ และอธิบายว่าทำไมมันถึงมีราคาเท่านั้น พวกเขาเริ่มจากการอธิบายเกี่ยวกับราคาของอาหารจานดังกล่าวว่า ที่มันราคา 8 ปอนด์ เพราะบวกภาษีของรัฐบาลไป 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ทางร้านได้มาจริงๆ แค่ 6.66 ปอนด์ (ประมาณ 291 บาท) และจากที่เราได้มา จะเป็นค่าวัตถุดิบต่างๆ…
-
ชายหนุ่มเผย Nintendo และ Pokemon มีส่วนช่วยให้เขาก้าวผ่านความขมขื่นจากการถูกแกล้งเมื่อวัยเด็ก
ในวัยเด็กของหลายๆ คนต้องเคยได้สัมผัสเครื่องเล่นเกมของบริษัท Nintendo มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น Gameboy Advance หรือ Nintendo 3DS ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว เชื่อว่าจะต้องรู้จักเกมดังขวัญใจของใครหลายๆ คนอย่าง โปเกมอน แน่นอน เกมดังกล่าวไม่ได้มอบความสนุกสนานให้กับผู้เล่นเพียงอย่างเดียว แต่มันยังช่วยให้เด็กคนหนึ่งสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาอันน่าเศร้าจากการถูกกลั่นแกล้งได้ และเด็กคนนั้นก็นำเรื่องราวดังกล่าวกลับมาเล่าให้ฟังผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวที่ชื่อว่า @Piepoki หลังจากผ่านไปนานกว่า 10 ปี โพสต์ของชายที่ได้รับการช่วยเหลือจากบริษัทใหญ่ในญี่ปุ่น เรื่องราวของเขาคนนี้เริ่มต้นขึ้นตอนที่เรียนอยู่ประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 ในปี 2004 เมื่อเขาและเพื่อนเล่นเกมโปเกมอนภาค Fire Red อยู่ในขณะนั้น และเขาก็สามารถจับโปเกมอนที่หายากสุดๆ ได้หนึ่งตัว นั่นก็คือเจ้า Deoxys โปเกมอนในตำนานที่ชื่อว่า Deoxys เป็นตัวที่หายากมากๆ ภายในเกม แต่ดีใจได้ไม่นาน เพื่อนของเขาที่มีเซฟเดียวกันกลับเอาโปเกมอนตัวนี้ไปโอนให้กับเซฟของรุ่นพี่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เด็กหนุ่มจึงรู้สึกโกรธอย่างมาก และไม่คุยกับเพื่อนคนนั้นอีกเลย หลังจากนั้นเขาจึงไปคุยกับรุ่นพี่คนนั้น เพื่อขอโปเกมอนในตำนานกลับคืนมา แต่รุ่นพี่กลับบอกว่า ให้ไปหาโปเกมอนหายากอีกตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Arceus มาแลก ไม่อย่างนั้นก็ไม่คืนให้…
-
คลิปน่ารักๆ ของหนูน้อยง่วงจัด เผลอหลับไประหว่างแสดงบนเวทีถึง 2 ครั้ง อะไรจะหลับง่ายเบอร์นั้น
เราอาจเคยเห็นความผิดพลาดของการแสดงบนเวทีกันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะเรียกว่าความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะมันแฝงด้วยความน่ารักน่าชังของเด็กน้อย ที่เรียกเสียงหัวเราะจากเหล่าผู้ชมได้เป็นอย่างดี นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงต้นเดือนมกราคม 2018 กับการแสดงของเด็กๆ ชั้นเตรียมอนุบาลในเมือง Hulunbuir ประเทศจีน เมื่อเด็กคนนี้เผลอหลับไปขณะที่กำลังโชว์อยู่บนเวที ขุ่นแม่ก็บอกแล้วว่าถ้าไม่ไหวอย่าฝืน หากสังเกตในรูปจะเห็นได้ว่า เด็กวัย 3 ขวบคนหนึ่งฟุบอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกขึ้นมา ซึ่งเธอก็ไม่ได้เป็นลมหน้ามืดหรืออะไรอย่างนั้น แต่เธอแค่กำลังหลับอยู่เฉยๆ.. สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ทีมงานต้องเดินขึ้นมาปลุกเธอให้ตื่นจากฝัน พร้อมทำการแสดงต่อไป กลายเป็นฉากที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับเหล่าผู้ชมจำนวนมาก พอเด็กได้สติกลับมา ก็ถึงคราวที่ต้องเริ่มการแสดงใหม่อีกครั้ง พอเพลงขึ้น เด็กคนอื่นเริ่มลุกขึ้นมา แต่เด็กสาวคนเดิมดันผล็อยหลับไปเป็นครั้งที่สอง ทำเอาขำก๊ากไปตามๆ กัน ข้าวปลาไม่กินไม่เดือดร้อน เหตุใดเธอจึงเอาแต่นอน ทีมงานจึงต้องกลับขึ้นมาบนเวทีเพื่อปลุกเด็กน้อยอีกครั้งหนึ่ง ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเหล่าคนดู ผู้ปกครองทั้งหลาย และสายตาของนักแสดงเด็กคนอื่นๆ ที่มองมาแบบงงๆ คลิปความน่ารักของเด็กสาวที่เผลอหลับไประหว่างการแสดงถึง 2 ครั้ง สุดท้ายแล้วการแสดงในครั้งนี้ก็ผ่านพ้นจบลงไปได้ด้วยดี เป็นที่ชื่นชอบของทุกคนที่ได้เห็นทั้งความสามารถ และความน่ารักของเด็กที่หลับระหว่างการแสดงถึง 2 ครั้ง ช่วยสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้อย่างดีเยี่ยม เหตุผลที่ทำให้เด็กสาวรู้สึกง่วงขนาดนั้น เชื่อว่าเป็นผลมาจากการที่เธอต้องตื่นมาซ้อมการแสดงตั้งแต่หกโมงเช้า ทำให้มีความเหนื่อยล้าอยู่บ้าง…
-
สาวถูกแฟนที่คบได้แค่ 3 เดือนจับขังและข่มขืน เผยสภาพที่โดนทำร้ายหลังจากหลบหนีมาได้
ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา พวกเราหลายๆ คนคงกำลังจะวุ่นอยู่กับการเลี้ยงฉลองเพื่อก้าวเข้าสู่ปี 2018 อย่างสนุกสนาน แต่ช่วงเวลาเดียวกันนั้น มันคือวินาทีแห่งการเอาชีวิตรอดของหญิงสาวคนหนึ่งในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เธอถูกกักขังและทารุณกรรมอย่างหนักหน่วงกว่า 2 วัน เธอคนนี้มีชื่อว่า Kalia Kutzik วัย 22 ปี โดยในวันที่ 31 ธันวาคม 2017 ในที่สุดเธอก็สามารถหนีรอดมาจากเงื้อมมือของแฟนหนุ่ม Bishoy Elkhaliny วัย 30 ปี หลังจากที่ชายคนนี้ใช้ความรุนแรง ทำร้ายร่างกาย และข่มขืนเธอมาตลอด 2 วัน Kalia หญิงสาวที่ถูกแฟนหนุ่มกักขังแและทารุณกรรมอย่างหนักหนาสาหัส หลังจากที่เธอหนีรอดมาได้ เรื่องราวทั้งหมดก็ได้ถูกโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊กของเพื่อนเธอ บอกเล่าถึงความโหดร้ายที่เธอต้องเจอมา โดยที่ไม่มีใครสามารถติดต่อหรือเข้าช่วยเหลือเธอได้เลยในระยะเวลานั้น Kalia เล่าว่า เธอคบกับแฟนหนุ่มคนนี้มาเพียงแค่ 3 เดือน ในช่วงนั้นเธอต้องเจอกับความเลวร้ายของชายคนนี้อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งในวันหนึ่ง เธอถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนัก หนักกว่าทุกครั้งที่เคยเจอมา หญิงสาวบอกว่าตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีหนึ่ง เธอถูกทุบตีจนหน้าของเธอเต็มไปด้วยเลือด มีรอยแตกเต็มไปหมด ฟันหัก และมีแผลฟกช้ำไปอีกทั่วร่างกาย เธอบอกแฟนหนุ่มว่า…
-
การตอกกลับของเหล่าผู้คนจากกลุ่มประเทศ ที่ผู้นำแห่งสหรัฐเรียกว่า ‘ประเทศหลุมขรี้’
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีคำพูดที่กลายเป็นกระแสในชั่วข้ามคืน จากคำพูดของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ที่พูดเอาไว้ในการประชุมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแรงงานข้ามชาติ โดยเขาใช้คำเรียกแทนกลุ่มแรงงานอพยพจากเฮติ เอลซัลวาดอร์ และประเทศแถบแอฟริกันว่าเป็น “กลุ่มประเทศหลุมขรี้” (Shithole) คำพูดจากปากของผู้นำประเทศมหาอำนาจ ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือแม้แต่ในหลายๆ ประเทศ มองว่ามันแสดงให้เห็นถึง การเหยียดเชื้อชาติในเชิงส่อเสียดที่รุนแรงอย่างแท้จริง เหล่าผู้คนที่ถูกสบประมาทก็ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ พวกเขาจึงตอกกลับด้วยการออกมาพูดถึงความสำเร็จและคุณค่าความหมายในชีวิต เพื่อเป็นการตอบกลับไปว่าความเป็นจริงไม่ได้เหมือนอย่างที่ถูกกล่าวหาเสมอไป และนี่ก็คือโพสต์ต่างๆ ที่มีในโลกโซเชียลจากผู้คนเหล่านั้น นักศึกษาแพทย์จากซูดานใต้ ที่สามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา และมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ ชายหนุ่มจากแอฟริกาใต้ ผู้เรียนจบทางด้านวารสารศาสตร์ สามารถพูดได้ถึง 6 ภาษา และเขาจะก้าวสู่การเป็นบรรณาธิการข่าวในอนาคต นักศึกษาแพทย์ชาวไนจีเรีย ที่มีปริญญาถึง 3 ใบ และยังจะได้เพิ่มอีก 2 ใบ มีความสามารถพูดได้ 3 ภาษา และเป็นคนที่คอยช่วยเหลือมูลนิธิต่างๆ ด้วยจำนวนเงินกว่า 300,000 บาท ลูกครึ่งแอฟริกาที่ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ คอยช่วยเหลือ ดูแล และปลอบประโลมผู้คนจำนวนมาก…
-
ฆาตกรสาววัย 18 ปี แก้แค้นให้แฟนหนุ่มพร้อมบอกกับเหยื่อว่า ‘ไว้ไปเจอกันในนรก’
เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เกิดเหตุฆาตกรรมอันแสนโหดร้ายขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อหญิงสาววัย 18 ปี จากแก๊งใหญ่ที่ชื่อว่า MS-13 ทำการทรมานและลงมือฆ่าหญิงสาววัย 15 ปี เพื่อแก้แค้นให้กับแฟนหนุ่มของตัวเอง ฆาตกรสาวคนนี้มีชื่อว่า Venus Romeo Iraheta เธอถูกยื่นเรื่องต่อศาล Fairfax ในวันที่ 8 มกราคม 2018 ในข้อหาฆาตกรรมสาววัย 15 ปีที่ชื่อว่า Damaris Reyes Rivas Venus ฆาตกรสาวสุดโหด สมาชิกแก๊ง MS-13 (ย่อมาจาก Mara Salvatrucha) Damaris เหยื่อของการฆาตกรรมในครั้งนี้ เธอให้การสารภาพว่าทำการฆ่าเด็กสาวคนนั้นจริงๆ เพราะเธอเชื่อว่า Damaris ล่อลวง Christian Sosa Rivas หนึ่งในสมาชิกแก๊ง MS-13 แฟนหนุ่มของ Venus จนต้องพบกับความตาย หญิงสาวเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังแบบชิลๆ…
-
‘พรฮับ’ สรุปภาพรวมปี 2017 เทรนด์ความสนใจในหนังชมพู เป็นข้อมูลเพื่อการศึกษาจริงๆ นะ…
พรฮับ คือเว็บไซต์เผยแพร่วิดีโอแนว 18+ ที่เปิดให้บริการมานานถึง 5 ปี และมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2017 มีการเข้าชมเว็บไซต์มากกว่า 28,000 ล้านครั้ง มีวิดีโอถูกอัปโหลดลงไปมากกว่า 4,000,000 คลิป หน้าตาโลโก้ของเว็บไซต์ พรฮับ ในปีสุดพิเศษที่ผ่านมา ทางทีมงานจึงได้ทำสถิติขึ้นมาว่า ผู้ใช้งานจากทั่วโลกมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง โดยที่พวกเขาได้ทำการจัดอันดับและแบ่งกลุ่มเอาไว้เป็นหัวข้อ และเราได้คัดมาบางส่วนที่น่าสนใจ จะมีอะไรบ้างเราลองไปดูกันเลยยย คำที่ใช้ค้นหาบ่อยที่สุดในปี 2017 อันดับ 1 คือ “หนังโป๊สำหรับผู้หญิง” อันดับ 2 คือชื่อการ์ตูน “Rick and Morty” และอันดับ 3 คือ “Fidget Spinner” !? แนวของคลิปวิดีโอที่มีการค้นหา เยอะที่สุดเลยคือ “เลสเบี้ยน” รองลงมาคือแนวแบบ “Hentai” หมวดหมู่ยอดนิยมประจำปี สูงสุดได้แก่ “เลสเบี้ยน” อีกเช่นเคย…
-
คู่รักที่เก็บความเวอร์จิ้นเอาไว้จนวันแต่งงาน เพื่อรอดื่มด่ำกับการเสียมันไปพร้อมๆ กัน
หลายๆ คนอาจเคยมีความคิดว่า “จะเก็บพรหมจรรย์ของตัวเองไว้มอบให้กับคนที่เราแต่งงานด้วยเท่านั้น” แต่สุดท้ายก็มักจะไปไม่ถึงเป้าหมาย จนทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เป็นไม่ได้ และมักจะพูดกับคนที่มีความคิดแบบนี้ว่า “จะเก็บซิงเอาไว้ชิงโชคหรือไง?” แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครทำสำเร็จเลย เพราะอย่าง Jordan และ Milena Ciciotti ทั้งคู่สามารถเก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ และมาเสียมันไปพร้อมๆ กันหลังจากแต่งงานเป็นสามีภรรยา Milena และ Jordan คู่รักที่เก็บซิงเอาไว้มาใช้หลังแต่งงาน คู่รักจากรัฐมิชิแกน สหรัฐเมริกา ประสบความสำเร็จในการเก็บซิงเอาไว้ โดย Milenna หญิงสาววัย 21 ปีเล่าว่า เธอเริ่มมีความคิดนี้ตอนที่เธออายุได้ประมาณ 12-13 ปี ซึ่งตอนนั้นเธอไปโบสถ์กับครอบครัวและได้รับแหวนพรหมจรรย์ แหวนดังกล่าวคือสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้หลายๆ คนมีความคิดว่าให้เก็บความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้หลังจากแต่งงานเท่านั้น วันเวลาผ่านไป พอหญิงสาวอายุได้ 15 ปี เธอก็ได้เจอกับ Jordan ผู้มีความตั้งใจในเรื่องนี้เหมือนๆ กัน ทั้งสองจึงเริ่มคบกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ทั้งคู่คบเป็นแฟนกัน พวกเขาต้องผ่านอุปสรรคหลายๆ อย่าง เธอเล่าว่าหลายๆ อย่างเกี่ยวกับเรื่องเพศเริ่มถาโถมเข้ามาในช่วงวัยรุ่น…
-
Wisdom เจ้านกอัลบาทรอสที่มีอายุมากที่สุดบนโลก ทุกวันนี้ก็ยังทำหน้าที่สืบเผ่าพันธุ์ ให้ดำรงอยู่ต่อไป
นก Laysan Albatross คือนกทะเลขนาดใหญ่ที่มีการขยายพันธุ์กันอย่างเชื่องช้า จนทำให้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แม้ว่าจะมีอายุยืนได้ถึง 60 ปีก็ตาม แต่สำหรับเจ้านกที่ชื่อว่า Wisdom ตัวนี้ มันคือคุณแม่ผู้อุทิศตนและทำหน้าที่ขยายเผ่าพันธุ์ต่อไป ทั้งๆ ที่ตอนนี้มันมีอายุ 67 ปีแล้วก็ตาม Wisdom แม่นกที่ยังคงทำหน้าที่ขยายเผ่าพันธุ์มาอย่างยาวนาน และในครั้งล่าสุดนี้มันก็กลับมาวางไข่ในรังของตัวเอง เมื่อเดือนธันวาคม 2017 Wisdom คือนกสายพันธุ์นี้ที่ถูกบันทึกเอาไว้ว่ามีอายุมากที่สุดในโลก ซึ่งมันและ Akeakamai คู่รักยังคงบินกลับมาที่รังของตัวเองอยู่เสมอเพื่อวางไข่ขยายเผ่าพันธุ์ ว่ากันว่าตลอดชีวิต พวกมันได้บินมาแล้วนับล้านกิโลเมตร การที่เจ้านกตัวนี้บินกลับมาที่รังของตัวเองใน แหล่งหลบภัยธรรมชาติและอนุสรณ์สงครามแห่งชาติของหมู่เกาะ Midway Atoll ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงทำให้พวกมันสามารถวางไข่และเลี้ยงดูลูกๆ ให้เติบโตขึ้นมาได้แล้วประมาณ 30 ถึง 35 ตัวเลยทีเดียว เพื่อนๆ บางคนอาจกำลังคิดว่า การที่มีลูกนกโตขึ้นมาแค่ประมาณ 30 ตัว ดูเหมือนจะไม่ใช่จำนวนที่เยอะอะไรมากมาย แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่ Wisdom เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก เพราะนกชนิดนี้จะวางไข่แค่หนึ่งฟองและเลี้ยงลูกนกแค่ครั้งละหนึ่งตัวเท่านั้น นั่นจึงหมายความว่าแม่นกตัวนี้บินไปกลับกว่า 30 ครั้ง…
-
22 ภาพแห่งความงงงวย นี่นั่งจ้องตั้งนานกว่าจะรู้ว่าในภาพมันคืออะไร ทำไมมันหลอกตาขนาดนี้
สถานการณ์ที่งุนงงอาจทำให้เรารู้สึกงงงวยจนไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเผชิญอยู่นั้นมันคืออะไรกันแน่?! เช่นเดียวกันกับชาวเน็ตเหล่านี้ เมื่อพวกเขาได้ทำการแชร์ภาพชวนปวดหัวที่จะทำให้คุณต้องใช้เวลาพิจารณากันซักแป๊บ เพื่อให้เข้าใจได้ว่าแท้จริงแล้วมันคือภาพของสิ่งใด ภาพเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกสับสนมากขนาดไหน เราลองไปดูกันเลย อย่าเพิ่งยิ้มอย่างนั้น จริงๆ เธอไม่ได้หันมามองคุณเลยนะ แยกแทบไม่ออก ระหว่างแก้วเครื่องดื่มกับเก้าอี้นั่งบาร์ หากใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง South Park คุณจะเห็นว่ามีตัวละครตัวนึงอยู่ในนี้ ใครเอ่ย ไม่เข้าพวก.. นี่มันสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ชัดๆ !! อ้าว กำ ที่แท้ก็เจ้าหมาหรอกเหรอ.. ชายคนนี้บอกว่าถ่ายนก แต่ดูไปดูมาแล้วหน้าตาเหมือนกับสัตว์ที่อยู่บนยาธาตุน้ำขาวเหมือนกันนะ เบาๆ โหน่ยยย แขนจะหักแว้วว หากใครเคยดูเรื่อง Lion King ก็อาจจะกำลังเห็นพ่อหมอราฟิกิกำลังตกท่ออยู่ นี่มันเจ้าตัวซวยแห่งยุคน้ำแข็งนี่นาาา เจ้ามอเตอร์ไซค์ที่กำลังยกน้ำหนักอยู่ ถ้าเราสังเกตดีๆ คุณครูเขาไม่ได้ฉี่แตกหรอกนะ สุดหลอน!! เดินเข้าป่ามาเจอปีศาจนั่งเกาะต้นไม้อยู่ตอนกลางวันแสกๆ แมลงตัวนี้คงต้องป่าเถื่อนมาก ถึงขนาดเอากะโหลกของเหยื่อมาแขวนไว้แบบนี้ ไม่รู้ทำไม…
-
9 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘อุ้งตรีน’ ของเหล่าเจ้านาย ที่ทาสอย่างคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
เจ้าเหมียวทั้งหลายไม่ได้มีเพียงแค่ความน่ารัก น่าฟัดจากพฤติกรรมหรือหน้าตาของพวกมันเพียงอย่างเดียว แต่เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของพวกมันคืออุ้งเท้าน้อยๆ ทั้ง 4 ข้างของมัน แต่อุ้งเท้าของมันก็ไม่ได้มีเพียงแค่ความน่ารักหรือไว้ใช้เดินเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วมันคือสิ่งสำคัญต่อเจ้าแมวทั้งหลายเป็นอย่างมาก ซึ่งเราอาจไม่เคยรู้กันมาก่อนเลยก็ได้ จะมีอะไรบ้างเราลองไปดูกันเถอะ 1. อุ้งเท้าเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญสำหรับเจ้าเหมียว อุ้งเท้าของพวกมันก็เหมือนกับมือของมนุษย์ เราสามารถสังเกตได้ว่ามันถนัดซ้ายหรือถนัดขวากันแน่ โดยอาจใช้อาหารบางอย่างมาล่อวางไว้ในที่ที่มันเอื้อมไม่ถึง เพื่อดูว่ามันยื่นมือไหนออกไปมากที่สุด ซึ่งถ้าอยากให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ก็ให้ลองสังเกตมันซัก 75 ครั้ง 2. การเดินแบบยกส้นของน้องเหมียว หากเราสังเกตดูเจ้าเหมียวจะเดินได้เงียบมากๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความที่มันเป็นสัตว์ละเอียดอ่อน และอีกส่วนหนึ่งคือเป็นทักษะการเอาชีวิตรอดของพวกมัน การเดินด้วยปลายเท้าทำให้มีความเงียบ และสามารถพุ่งเข้าหาเหยื่อ (จานข้าว) ได้ไวยิ่งขึ้น ในจังหวะที่เราไม่ทันได้รู้ตัว 3. อุ้งเท้ามีความคล่องตัวอย่างมาก เจ้าเหมียวสามารถพลิกแพลงอุ้งเท้าได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะอุ้งเท้าตรงขาหน้าที่จะมีอยู่ส่วนหนึ่งไว้สำหรับเกาะเกี่ยวอยู่บนกิ่งไม้ได้อย่างมั่นคง หรือแม้แต่ตอนลงมาจากต้นไม้ ขาหน้าก็คือส่วนหลักที่จะลงมาสัมผัสกับพื้นก่อน อย่างไรก็ตามขาหน้าจะอ่อนแอกว่าขาหลังที่มีกล้ามเนื้ออยู่มากกว่า 4. อุ้งเท้าคือส่วนสำคัญที่ใช้รับแรงกระแทก บริเวณผ่าเท้าของเจ้าเหมียวสามารถช่วยให้พวกมันรับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยมเมื่อตอนที่กระโดดลงมาจากที่สูง รวมถึงทำให้มันเดินไปไหนมาไหนได้อย่างเงียบเชียบอีกด้วย 5. เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดชั้นเลิศ นอกเหนือจากการเลียแล้ว เจ้าเหมียวมักจะใช้อุ้งเท้าในการทำความสะอาดร่างกายของตัวเอง โดยพวกมันจะเลียอุ้งเท้าก่อนแล้วค่อยเอื้อมไปทำความสะอาดร่างกายในจุดที่มันไม่สามารถเลียได้ เช่น หลังหู หรือบริเวณใต้คาง …
-
หญิงสาวทำการผ่าตัด ‘ผีเสื้อปีกหัก’ เพื่อให้มันสามารถโบยบินได้เหมือนตัวอื่นๆ
ผีเสื้อ จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 5 เดือน แต่โชคร้ายที่บางตัวอาจอยู่ไม่ได้นานขนาดนั้น เหมือนกับผีเสื้อตัวนี้ที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติบริเวณปีก จนไม่สามารถโบยบินได้เหมือนผีเสื้อตัวอื่นๆ และแน่นอน มันคงตายภายในไม่กี่วัน เนื่องจากไม่สามารถออกไปหาอาหารได้ เดชะบุญของผีเสื้อตัวน้อยตัวนี้ที่มันได้เจอกับ Romy McCloskey หญิงสาวผู้หลงใหลในผีเสื้อผ่านมาเห็นพอดี จึงทำให้มันได้รับความช่วยเหลือในทันที เจ้าผีเสื้อน้อยอายุแค่ 3 วัน เกิดมาพร้อมกับปีกที่ฉีกขาดไปข้างหนึ่ง Romy จึงหวังที่จะใช้การผ่าตัดช่วยเหลือมัน ด้วยความที่ผีเสื้อตัวนั้นมีความบกพร่องบริเวณปีก Romy จึงเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้กลายเป็นห้องผ่าตัด หญิงสาวคือดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าระดับมืออาชีพ จึงทำให้ฝีมืการเย็บปักถักร้อยของเธอถือว่าไม่ธรรมดา ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยเจ้าผีเสื้อตัวน้อยนี้ได้อย่างมาก อุปกรณ์ที่ใช้คือ ผ้าขนหนู ไม้แขวนเสื้อ กาวเชื่อม ไม้จิ้มฟัน คอตตอนบัด กรรไกร แหนบ ผงแป้ง และปีกสำรองที่ได้มาจากผีเสื้อที่ตายไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ใช้ไม้แขวนเสื้อล็อคตัวมันไว้ จากนั้นก็เล็มเอาส่วนที่ฉีกขาดออกไป แต่ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเจ็บหรอกนะ เพราะเธอบอกว่าการตัดปีกของมัน ก็เหมือนกับการตัดผมหรือเล็บของเราน่ะแหละ ความประณีตและอดทนใช้เวลาไปอย่างยาวนาน ทำให้เธอสามารถต่อปีกมันมาได้สำเร็จ แม้เราจะเห็นรอยเชื่อมอยู่บ้าง รวมถึงจุดบนปีกที่แสดงถึงเพศของมันก็ไม่ตรงกับปีกที่มีอยู่จริงๆ แต่อย่างน้อยเธอหวังว่ามันจะกลับมาบินได้เหมือนเดิม หลังจากพักรักษาตัว ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องทดสอบแล้วว่า…
-
เจ้าเหมียวอาสาเป็น ‘เด็กน้อย’ เพื่อให้ครอบครัวได้เตรียมตัวต้อนรับสมาชิกใหม่ที่ใกล้เข้ามา
การเตรียมพร้อมเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่กำลังจะก้าวไปเป็นพ่อหรือแม่ หลายๆ คนพยายามหาหนังสือมาอ่านเกี่ยวกับการดูแลลูกน้อย หรืออาจจะไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แต่สำหรับคู่รักสองคนนี้ พวกเขามีวิธีการที่ต่างออกไป โดยได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนซี๊สี่ขา นี่คือเรื่องราวของ Jordan และ Chenoa Gale คู่รักที่อาศัยอยู่ในเมือง Salt Lake City รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งในบ้านของพวกเขาไม่ได้มีแค่คนสองคน แต่ยังมีแมวอยู่ด้วยอีกสองตัว คู่รักและเจ้าเหมียว Eevee (ด้านซ้าย) กับ Sophie (ด้านขวา) หากพูดถึงเจ้า Sophie นั้นมันคือแมวที่ถูกชะตากับ Chenoa ตั้งแต่แรกเจอ ตอนที่เธอได้สบตากับมันครั้งแรกที่สถานรับเลี้ยงดูของเมืองในปี 2015 เธอจึงอุ้มมันขึ้นมา แล้วเจ้าเหมียวก็คลอเคลียพร้อมด้วยน้ำเสียงออดอ้อน จนทำให้เธอต้องตกหลุมรักและตัดสินใจรับเลี้ยงมันในทันที หลังจากนั้นมามันก็ชอบมาคลุกคลีอยู่กับเธอตลอด ชนิดที่ว่าเล่นกับเธอบ่อยกว่าเล่นกับเจ้าเหมียว Eevee เพื่อนของมันซะอีก และหญิงสาวก็คอยมอบความรักให้กับมันอยู่เสมอ จนทำให้ Jordan คิดไปถึงการ์ตูนเรื่องโปเกมอน ว่าทั้งสองสนิทกันมากๆ จนดูเหมือนกับซาโตชิและปิกาจูยังไงยังงั้น สนิทกันจนชอบมานอนซุกอยู่แทบทุกคืนเลย พอเวลาผ่านไปไม่นาน สมาชิกของบ้านก็กำลังจะเพิ่มขึ้นมาอีกคน เพราะ Chenoa ตั้งท้องได้…
-
ชาวเน็ตงง เจอ ‘สเต๊กกะหล่ำดอกสไลด์’ วางขายในห้างดัง แถมแพงกว่าดอกแบบเต็มๆ สองเท่า
เป็นเรื่องปกติของการนำวัตถุดิบที่เรียบง่ายมาประกอบอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับมัน แต่สำหรับอาหารชนิดนี้มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่กลับมองว่านี่มันคือการหลอกเอาเปรียบผู้บริโภคชัดๆ อาหารชนิดนี้ถูกวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตยอดนิยมในอังกฤษ Marks & Spencer ซึ่งมันคือเมนูที่ชื่อว่า “สเต๊กกะหล่ำดอกสไลด์” ถูกห่อด้วยพลาสติกอย่างแน่นหนา พร้อมด้วยราคาที่ทำให้ใครหลายๆ คนสงสัยว่า มันสมเหตุสมผลแล้วจริงๆ หรือ? ภาพที่ถูกถ่ายโดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ Rachel Clarke เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2018 ขณะที่เธอกำลังเลือกซื้อสินค้าอยู่ใน Marks & Spencer สาขาหนึ่ง ความสงสัยของผู้บริโภคเหล่านั้นเกิดจากการที่มันคือดอกกะหล่ำปลีหั่นครึ่ง ปรุงด้วยมะนาวและเครื่องเทศนิดหน่อย แต่กลับมีราคาสูงถึง 2.5 ปอนด์ หรือประมาณ 109 บาท ในขณะที่ดอกกะหล่ำปลีแบบทั้งดอกขายอยู่ในห้างเดียวกันด้วยราคา 1 ปอนด์ หรือประมาณ 43 บาทเท่านั้นเอง ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะดอกกะหล่ำปลีที่ขายตามตลาดทั่วไปแบบไม่มีการหั่นครึ่งนั้นจะมีราคาแค่ 30 บาท ทำให้หลายๆ คนสงสัยว่า หั่นครึ่งไปแล้วทำไมราคาต้องสูงขึ้นถึงกว่าสองเท่า? มันใช่เรื่องที่ถูกต้องแล้วหรอ?? ขนาดตอนที่ลดราคา มันยังมีมูลค่าถึง 2 ปอนด์…
-
สองนักชีววิทยาออกสำรวจป่าฝนอันห่างไกล เพื่อบันทึกความสวยงามของเหล่า ‘เห็ดรา’ หลากสายพันธุ์
นักชีววิทยาคำนวณไว้ว่า มีรากว่า 3.2 ล้านชนิดอาศัยอยู่บนโลกของเรา แต่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์สามารถเก็บบันทึกภาพถ่าย และค้นพบแค่ราวๆ 120,000 ชนิด ทำให้ยังมีราอีกมากที่พวกเราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นคว้าในครั้งนี้ นี่เป็นการค้นคว้าตั้งแต่ปี 2014 ของนักชีววิทยาสองคน ได้แก่ Danny Newman และ Roo Vandergrift ซึ่งทั้งสองได้ออกเดินทางไปศึกษาเกี่ยวกับราใน Reserva Los Cedros ป่าฝนอันห่างไกลที่ยังไม่มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้ ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาแอนดีส ในเขตประเทศเอกวาดอร์ การค้นคว้าของนักชีววิทยาทั้งสองในป่าฝนแห่งนี้ จุดประสงค์ของการค้นคว้าในครั้งนี้ นอกจากจะทำไปเพื่อบันทึกข้อมูลของราที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้ว พวกเขายังทำไปเพื่อแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของสิ่งมีชีวิตดังกล่าวและความสำคัญที่จะอนุรักษ์มันไว้ เนื่องจากว่าทางรัฐบาลของเอกวาดอร์รู้สึกว่านี่เป็นการมีอยู่ที่ผิดปกติและต้องการจะทำลายพวกมันทิ้งไป เพื่อไม่ให้แผนสำรองของรัฐบาลเกิดขึ้นมา พวกเขาจึงพยายามระดมทุนจากสาธารณะไว้ทำการศึกษาสิ่งมีชีวิตเหล่านี้กันต่อไป โดยปัจจุบัน Newman กำลังทำการจัดลำดับดีเอ็นเอของราทั้ง 350 ชนิดที่ได้จากป่าฝนดังกล่าว และนี่ก็คือตัวอย่างของราที่ถูกค้นพบจากโปรเจกต์ของทั้งสองคน ราที่ถูกเก็บภาพมาจากป่าฝนดังกล่าว ความสวยงามของสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ บนโลกนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ไม่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน แม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ แต่มันก็มีคุณค่าในตัวของมันเอง บางสิ่งที่ดูแปลกตาซะจนเราอาจไม่เคยคิดว่าจะมีอยู่บนโลกเราจริงๆ มีทั้งความสวยงาม และดึงดูดสายตาของเราได้เป็นอย่างดี…
-
พ่ออุปถัมภ์ใจทราม ข่นขืนและคุกคามทางเพศลูกเลี้ยงกว่า 900 ครั้ง เพื่อสร้างฮาเร็มของตัวเอง
พ่อแม่อุปถัมภ์ คือคนที่คอยช่วยให้เด็กๆ ที่อ่อนแอหรือกำพร้าได้กลับมามีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง ฟังดูเหมือนกับว่าเด็กเหล่านั้นจะได้อยู่อย่างมีความสุข แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ มันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เหมือนอย่างสิ่งที่เด็กในครอบครัวนี้ต้องเจอ นี่เป็นครอบครัวของนาย Viktor Lishavsky วัย 37 ปี ชาวรัสเซียผู้คอยอุปถัมภ์เลี้ยงดูเด็กกำพร้าและเด็กผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก จนกระทั่งเขาถูกตั้งข้อหาข่มขืนและกระทำทางเพศอย่างรุนแรงกับเด็กสาว 5 คนที่อยู่ในการดูแลของเขามานานกว่า 5 ปี Viktor ชายฟันทองผู้ทำความป่าเถื่อนกับเด็กมานานกว่า 5 ปี เขาถูกจับกุมตัวหลังจากที่ เด็กสาวภายใต้การดูแลนำสิ่งที่เขาทำกับเธอไปบอกอาจารย์ในโรงเรียน ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเขาเอาไว้ในเดือนมิถุนายน 2017 หลังจากนั้นความผิดของเขาก็เริ่มถูกเผยออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนกลางวันเขาคือช่างซ่อมรองเท้า แต่ตกกลางคืนเขาคือคนที่คุกคามเด็กๆ ในการดูแลของตัวเองมานานหลายปี เขาถูกตั้งข้อหาว่า ทำการข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีถึง 248 ครั้ง และกระทำพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงกับเด็กเหล่านั้นอีก 358 ครั้ง ครอบครัวที่รวมเด็กอุปถัมภ์เอาไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมาถูกตั้งข้อหาเพิ่มว่าแสดงพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงกับเด็กสาวอายุต่ำกว่า 14 ปี จำนวน 22 ครั้ง อีกทั้งเขายังมีคดีข่มขืนอีก 11 ครั้ง โดยมีการทำร้ายร่างกายที่รุนแรงจนถูกตั้งเป็นคดีอาชญากรรมและทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย…
-
ดาวโป๊อิตาลีออกมิชชั่นบ๊วบให้ผู้โหวตโนกว่า 400 ราย แต่ต้องพักไปก่อนเพราะโดนหมาฟัดหน้า!?
ก่อนหน้านี้เพื่อนๆ บางคนอาจเคยได้ยินข่าวของดาราหนังชมพูชาวอิตาลีที่ให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ว่า เธอจะออกเดินทางสนองความต้องการทางเพศด้วยปากของเธอให้กับคนที่โหวต “โน” ในการลงประชามติของอิตาลี นั่นจึงทำให้เธอต้องออกทัวร์ไปมอบความสุขให้ผู้ชายกว่า 400 คนเลยทีเดียว เธอมีชื่อว่า Paolo Saulino วัย 28 ปี การออกทัวร์ของเธอเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 หลังจากที่การลงประชามติในอิตาลีสิ้นสุดลง และฝ่ายที่ชนะคือฝ่ายที่โหวต “โน” คิดเป็น 59 เปอร์เซ็นต์ เธอจึงทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับหนุ่มๆ ทั้งหลาย Paolo ดาราสาวแห่งวงการหนังผู้ใหญ่ เธอบินตรงจากลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา กลับมายังประเทศอิตาลีบ้านเกิด แล้วเธอก็ได้โพสต์ลงอินสตาแกรมว่าเธอจะไปตามเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Rome, Florence, Bologna และเมืองอื่นๆ รวมกันเป็น 10 เมือง เธอได้ออกไปมอบความสุขให้กับผู้ชายหลายๆ คน แต่ระหว่างการออกทัวร์ที่ชื่อว่า Pompa (การใช้ปาก) ของเธอ กลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเธอถูกสุนัขของเพื่อนเข้าจู่โจม จนทำให้เธอต้องหยุดพักการเดินทางครั้งนี้เอาไว้ก่อน ภาพที่เธอโพสต์ลงไปในอินสตาแกรม บอกว่าเธอจำเป็นต้องพักการออกทัวร์ไว้ก่อน การถูกโจมตีจากสุนัขครั้งนี้เกิดขึ้นในวันฮาโลวีนเดือนตุลาคม 2017 ขณะที่เธอกำลังไปปาร์ตี้อยู่กับเพื่อนๆ…
-
คู่รักสร้างสนามรถแข่งสูตร 1 บนหิมะให้กับหมา แล้วดูมันวิ่งสิ ซิ่งไปเลยสายฟ้าาาาาาาา
เวลาที่เราเลี้ยงหมา เราจำเป็นต้องพาพวกมันออกไปเดินเล่นบ้าง เพื่อให้น้องหมาของเราได้สดชื่นผ่อนคลาย ไม่เบื่อกับการต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ แต่ถ้าหากเป็นตอนที่ข้างนอกหนาวจัดจนมีหิมะตกล่ะจะทำยังไง นี่จึงกลายเป็นที่มาของการหาทางออกให้กับปัญหาดังกล่าวของคู่รักคู่นี้ ช่วงต้นเดือนมกราคม 2018 เหล่าผู้คนที่อาศัยอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับความหนาวเย็น มีหิมะตกอย่างหนัก จนทำให้ Jay Moschelle และแฟนสาว Rebekah ไม่สามารถพาสุนัขของพวกเขาออกไปเดินเล่นได้ Jay หนุ่มบรรณารักษ์ผู้เลี้ยงสุนัขเอาไว้ที่บ้าน คู่รักในเมืองบอสตันเข้าใจว่าน้องหมาเกรย์ฮาวด์ Vicki และ Rocko ตามสายพันธุ์แล้วทั้งสองตัวไม่ชอบอากาศที่หนาวเย็นเอาซะเลย แต่อย่างน้อยพวกมันก็ต้องออกไปวิ่งด้านนอกบ้างซัก 1-2 นาที Vicki และ Rocko น้องสุนัขทั้งสองตัวของพวกเขา นั่นจึงทำให้หนุ่มบรรณารักษ์และแฟนของเขา ตัดสินใจช่วยกันไปเคลียร์หิมะเพื่อให้เจ้าหมาทั้งสองได้ออกไปวิ่งเล่น เส้นทางที่พวกเขาทำตรงสวนหลังบ้านนั้นมีไว้เพื่อเจ้าหมาที่น่ารักโดยเฉพาะ ซึ่ง Jay และ Rebekah ขุดทางไปตามจุดที่น้องหมาของเขาชอบในบริเวณนั้น พอเสร็จแล้วมันก็เหมือนกับสนามแข่งรถ Formula 1 ยังไงยังงั้น สนามแข่งรถสำหรับน้องหมาแห่งนี้ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของเจ้า Vicki แม้ในตอนแรกมันจะงงๆ อยู่บ้างว่านี่คืออะไร…
-
35 โฆษณาญี่ปุ่นสุดแหวกแห่งปี 2017 ชวนให้เราหัวเราะและซาบซึ้งไปอย่างเพลิดเพลิน
หนึ่งสิ่งที่น่าจดจำของการดูทีวีในประเทศญี่ปุ่นก็คือโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือโฆษณาการบริการต่างๆ ก็ตาม เหตุผลที่มันควรค่าแก่การจดจำก็เพราะ โฆษณาหลายๆ ตัวของประเทศนี้มันช่างแปลกเสียเหลือเกิน ความแปลกของมันทำเอาบางเราดูไม่ออกเลยว่า โฆษณานี้มันต้องการจะขายอะไรกันแน่ และเพื่อทำให้พวกเราเห็นภาพกันมากยิ่งขึ้น ทางช่องยูทูบ JPCMHD ツ ได้รวบรวมโฆษณาเจ๋งๆ ของญี่ปุ่นในปี 2017 มาไว้ในคลิปเดียว มันจะทำให้เราเพลิดเพลินมากขนาดไหนเราไปดูกันเลย คลิปรวมโฆษณาแปลกๆ ของญี่ปุ่นในปี 2017 (คำอธิบายของแต่ละโฆษณาสามารถอ่านได้จากด้านล่างคลิปนะ) 1.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป U.F.O. รสยากิโซบะ : นำเสนอด้วยการต่อสู้ของฮีโร่จากนอกโลก Yakiso-boy ต่อสู้กับเหล่าร้าย แสดงให้เห็นถึงความเผ็ดร้อนในรสชาติบะหมี่ 2.Sugon Chips (0.46) : การพาไปในประเทศฝั่งแอฟริกาตะวันตก ทำให้เรารู้สึกลืมภาพที่เห็นไม่ลงจริงๆ 3.Pocari Sweat (1.16) : หนึ่งในโฆษณาสุดอลังการของปี 2017 ใช้คนแสดงและเบื้องหลังรวมกันหลายร้อยคน 4.Hi-Chew Premium (2.16) : เน้นไปที่ความจ้ำม่ำ นุ่มนิ่ม หอมหวาน เหมือนกับผิวสัมผัสของเยลลี่ 5.Sushi Delivery (2.31)…
-
หนุ่มโชว์วิธีการซัพพอร์ตแฟนสาว ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง!!
ในปัจจุบัน โรคซึมเศร้าคืออาการทางจิตที่พวกเราเริ่มรู้จักกันได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่พวกเรากำลังคิดไม่ตกกันอยู่ก็คือ เราจะทำยังไงถ้าคนใกล้ชิดของเราป่วยเป็นโรคที่ว่านี้ งั้นเราลองมาดูตัวอย่างการรับมือกับอาการโรคซึมเศร้าของแฟนหนุ่มคนนี้กันดู นี่เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ใช้ชื่อใน Imgur ว่า RoastedIguana ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานกว่า 13 ปี และจากอาการของเธอ ทำให้ในบางวันเธอไม่ยอมลุกออกจากเตียงเลย ไม่ว่าจะหิวข้าวหรือต่อให้ปวดฉี่ก็ตาม จนกระทั่งวันหนึ่งที่นอนของเธอก็ได้มีสภาพเป็นอย่างในรูปด้านล่าง ข้าวของจำนวนมากที่กองอยู่บนเตียงของเธอ . เธออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ในวันนั้นเธอตื่นขึ้นมา แต่ก็ยังคงนอนอยู่บนเตียงไม่ยอมไปไหน แล้วพึมพำกับแฟนหนุ่มที่เข้ามาในห้องว่า เธอต้องการยกเลิกแผนที่วางเอาไว้กับเขาสำหรับวันนี้และต้องการจะนอนอยู่แต่บนเตียง หลังจากนั้นแฟนหนุ่มเลยถามเธอว่าอยากดื่มชามั้ย? เธอจึงตอบว่าไม่ แต่เขาก็ยังชงชามาวางไว้ให้เธอตรงปลายเตียงอยู่ดี แล้วหลังจากนั้นความวุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้น ขณะที่เธอกำลังมุดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม แฟนหนุ่มก็ถามเธอว่าอยากจะปิดม่านมั้ย? พอเธอตอบว่าไม่ เขากลับเดินไปปิดซะอย่างนั้น แล้วหันมาถามแฟนสาวอีกว่าต้องการถุงน้ำร้อนมั้ย? หญิงสาวยังคงตอบว่าไม่ แต่เขาก็ยัดถุงน้ำร้อนใส่เข้าไปใต้ผ้าห่มของเธออยู่ดี . ต่อมาเขาถามเธอว่าอยากได้เสื้อผ้าอะไรเพิ่มมั้ย? คำตอบของเธอยังคงเป็นคำว่าไม่ แล้วแฟนหนุ่มก็โยนเสื้อมาบนเตียงเธอแล้วถามว่าต้องการอะไรอีกมั้ย? ซึ่งหญิงสาวก็ตอบแบบเดิม เขาเลยโยนม้วนกระดาษไว้บนเตียงก่อนที่แฟนหนุ่มจะเดินออกไปปล่อยเธอไว้ในห้องคนเดียว . แต่เรื่องราวมันก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะผ่านไปไม่นาน แฟนหนุ่มก็กลับเข้าห้องมาพร้อมกับโยนรองเท้าบูทเปื้อนดินคู่หนึ่งมาไว้บนเตียงของเธอ ทำให้เธอรู้สึกอยากจะบ้าตายที่เขามาทำให้ผ้าห่มของเธอสกปรก …
-
ที่นอนไม่ได้นอน.. เมื่อเหล่าน้องหมาถูกเจ้านายเหมียวขโมยเตียงไปกันแบบหน้าตาเฉย
ทุกคนต้องการที่นอนเพื่อให้การพักผ่อนของเราเป็นไปอย่างสุขสบาย หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ แต่ไม่ใช่แค่มนุษย์หรอกนะที่คิดอย่างนั้น เพราะสำหรับเจ้าแมวเองมันก็ต้องการเตียงนุ่มๆ ให้ได้เพลิดเพลินกับการนอนหลับมากที่สุด จนบางครั้งพวกมันอาจถึงกับไประรานชาวบ้านเขาเลยก็ได้ และนี่คือภาพของเจ้าเหมียวที่ต้องการความอบอุ่น จนถึงขนาดไปแย่งที่นอนของน้องหมาซะเลย แถมเจ้าสุนัขทั้งหลายยังไม่สามารถขัดขืนอะไรได้อีกด้วย สมแล้วที่เป็นเจ้านายเหมียวของเหล่าทาส เราลองไปดูความเกรียนของน้องแมวเหล่านั้นกันเลยยย คุณตำรวจช่วยผมด้วย ผมโดนขโมยเตียงไปแล้ววว ข้าไม่สนใจสายตาวิงวอนขอที่นอนคืนของเจ้าสุนัขหรอก จะพยายามมากขนาดไหน ข้าก็ไม่สนใจใยดีเจ้าหรอกนะ ตัวแค่นี้ยังทำซ่า แล้วโตขึ้นมามันจะขนาดไหน เตียงกว้างพอให้เอามอไซค์มาจอดได้คันนึงเลย เหยียดแข้งเหยียดขา สบายจังเลยโว้ยยย ดูไปดูมา เหมือนแม่หมาผู้เสียสละเตียงนุ่มๆ ให้ลูกแมวเลย เหลือบดูหน่อยสิ เมื่อไหร่มันจะลุกแล้วเดินจากไปซักทีน้าาา น้องหมา “เอามานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!!” น้องเหมียว “ทำอะไรน่ะ? หมั่นเขี้ยวหรอ” ทนไม่ไหวแล้วนะเฟร้ยยย สรุปว่าจะลุกหรือไม่ลุก!? ได้แต่อยู่ห่างๆ ทั้งที่ยังห่วงๆ แต่ฉันมีสิทธิ์หวง เพราะนั่นไม่ใช่ที่นอนเธอ~ อย่าแกว่งสิเจ้าสุนัข แมวจะหลับจะนอน!! เห็นแล้วก็แอบสงสารเจ้าสุนัขเหมือนกันนะ แต่ทาสแมวอย่างเราก็คงไม่สามารถขัดใจเจ้านายเหมียวได้เลยจริงๆ…
-
ชีวิตของลูกสาวผู้โชคดี ที่มีคู่พ่อเศรษฐีเลี้ยงดูมันเป็นยังไง ‘ทั้งเปย์ไม่ยั้งและให้ไม่อั้น’
สาวๆ บางคน เวลาเปิดไปดูไอจีของคนอื่นที่ถ่ายรูปคู่กับเสื้อผ้าราคาแพง ก็จะทำให้รู้สึกแอบอิจฉาอยู่ในใจ แต่สำหรับหญิงสาววัย 18 ปีคนนี้ เธออาจจะไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นมาก่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าราคาแพงขนาดไหน พ่อเธอก็จัดให้ได้แทบทั้งหมดอยู่แล้ว สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า Saffron Drewitt-Barlow หญิงสาวชาวอังกฤษผู้ที่อยู่ในครอบครัวอันแสนร่ำรวยมั่งคั่ง พิสูจน์ได้จากค่าขนมที่เธอได้เดือนละมากกว่า 200,000 บาท และข้าวของในตู้เสื้อผ้าของเธอที่รวมกันเป็นเงินกว่า 43 ล้านบาท Saffron สาวผู้มีเสื้อผ้าและะเครื่องประดับราคาแพงเอาไว้มากมาย เธอและพี่ชายฝาแฝด Aspen คือสองคนแรกที่ถูกบันทึกไว้ในประเทศอังกฤษ ว่ามีพ่อสองคนโดยที่ไม่มีแม่เลยซักคน ซึ่งพ่อของทั้งสองก็คือ Barrie และ Tony คู่เกย์คู่แรกในอังกฤษที่ใช้วิธีการฝากผู้หญิงคนอื่นตั้งครรภ์แทน จนออกมาเป็นฝาแฝดสองคนนี้ พอเวลาผ่านไป คุณพ่อทั้งสองก็ใช้วิธีการแบบเดียวกันในการให้กำเนิดลูกชาย Orlando และฝาแฝด Jasper กับ Dallas ตามกันมา โดยพวกเขายังตั้งใจเอาไว้ว่าอยากมีลูกสาวเพิ่ม เพราะในบ้านมีผู้ชายเยอะเหลือเกิน ครอบครัวมหาเศรษฐีที่มีลูกสาวแค่คนเดียวในตอนนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า มีลูกเยอะขนาดนี้แล้วจะเลี้ยงไหวหรือเปล่า? มีเงินพอส่งเสียลูกทุกคนได้เหรอ? คำตอบคือคุณพ่อสองคนนี้มีมากกว่าที่คุณคิดเยอะ เพราะทั้งสองคือหนึ่งในคนที่ล่ำซำที่สุดแห่งอังกฤษเลยก็ว่าได้ พวกเขามีทรัพย์สมบัติอันมหาศาล เพียงพอที่จะจับจ่ายหาซื้อความสุขให้กับตัวเองและลูกๆ ของพวกเขา…
-
นักมวยฟิลิปปินส์บริจาคบ้านจำนวน 100 หลังให้กับผู้ประสบภัยพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน
ในปี 2013 เกิดเหตุการณ์ พายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน (หรืออีกชื่อคือ Yolanda) ที่คร่าชีวิตผู้คนในประเทศฟิลิปปินส์ไปมากกว่า 3,976 คน เป็นหนึ่งในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ผู้คนในประเทศต้องสูญเสียคนใกล้ชิด กิจการร้านค้า หรือแม้แต่บ้านของพวกเขาไป กลายเป็นบาดแผลในจิตใจของพวกเขาไปตลอดกาล นั่นจึงทำให้นักมวยชาวฟิลิปปินส์ที่ชื่อว่า Nonito Donaire แชมป์ WBA รุ่นฟลายเวท ตัดสินใจที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหล่านั้น Nonito นักมวยแชมป์โลก ที่เข้ามาช่วยเหลือคนเหล่านั้น ชายผู้ได้รับฉายาว่า “เดอะแฟลชแห่งฟิลิปปินส์” คนนี้ใช้เงินจากมูลนิธิของตัวเอง และได้รับความช่วยเหลือจากนักธุรกิจชาวอังกฤษที่ชื่อว่า Greg Secker ร่วมกันสร้างบ้านจำนวน 100 หลัง มอบให้กับผู้ประสบภัยที่ไม่มีแหล่งพักพิง โปรเจกต์ของเขามีชื่อว่า “Build a House, Build a Home” โดยต้องการที่จะให้คนเหล่านั้นได้มีที่อยู่ที่ดี และมีบ้านเป็นของตัวเองอีกครั้ง และได้โพสต์ภาพความสำเร็จของโปรเจกต์นี้ลงไปในเฟซบุ๊กของตัวเอง เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2018 ภาพถ่ายทางอากาศของบ้านจำนวน 100 หลัง เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้สูญเสีย …
-
ดีไซเนอร์ญี่ปุ่นออกแบบเฟอร์นิเจอร์สำหรับแมวโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับบ้านสไตล์มินิมอล
บ้านแมวคือหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์สำคัญสำหรับคนที่เลี้ยงน้องเหมียวเอาไว้ บ้านแมวจะทำให้เจ้าเหมียวมีพื้นที่ปีนป่ายเล่นหรือที่นอนที่แสนสบาย แต่ด้วยพื้นที่ที่จำกัด จึงทำให้บางคนอาจต้องล้มเลิกความคิดนี้ไป ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณยังไม่เคยเห็นบ้านแมวหลังนี้อย่างแน่นอน บ้านแมวแนวใหม่ เรียบง่ายและสวยงาม นี่คือบ้านแมวที่มีชื่อว่า NEKO ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Yoh Komiyama และสร้างขึ้นมาโดยบริษัท Rinn ซึ่งเจ้าบ้านแมวหลังนี้จะทำให้คุณสามารถมอบที่นอนอันแสนสบายให้กับเจ้าเหมียวได้ แม้ว่าบ้านของคุณจะมีพื้นที่ค่อนข้างเล็กก็ตาม กรงรอบๆ คือแผ่นไม้ธรรมชาติจากเมือง Hida โดยการที่พวกเขาแบ่งช่องว่างเอาไว้ก็เพื่อให้เจ้าเหมียวรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับแสงที่ลอดผ่านเข้าไป และช่วยให้พวกเราสามารถมองเห็นพวกมันได้ผ่านช่องเล็กๆ เหล่านี้ แสงสว่างลอดผ่านช่องว่างรอบๆ เข้าไป ในส่วนของฐานด้านล่างเป็นพื้นหินอ่อนที่ช่วยทำให้เจ้าเหมียวรู้สึกเย็นสบายได้ตลอดเวลา เสาแกนกลางของบ้านจะมีเชือกป่านพันไว้รอบๆ ทำให้พวกมันสามารถขีดข่วนได้อย่างเต็มที่ พื้นที่ทำให้รู้สึกเย็นกายได้อยู่เสมอ ภายในบ้านแมวหลังนี้จะแบ่งออกเป็นสามชั้น โดยพื้นของแต่ละชั้นถูกปูด้วยผ้า Kvadret เหมาะสำหรับการนอนหลับ หรือจะวิ่งเล่นไปมาในนี้ก็สามารถทำได้อย่างสนุกสนาน นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์นะ แหน่ะ!! แอบถ่ายอะไรน่ะเจ้ามนุษย์ นี่มันบ้านช้านนน บริษัท Rinn บอกว่า วัสดุที่ใช้คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างไม้ที่เป็นดั่งวัฒนธรรมตะวันออก และหินอ่อนที่เป็นวัตถุดิบของทางตะวันตก เก๋ไก๋ ดูดีมีระดับไปอีกแบบ…
-
Richard Simcott ชายผู้ถูกเรียกว่าเป็น ‘Hyperpolyglot’ รู้และพูดได้ถึง 25 ภาษา!!
ส่วนใหญ่พวกเราเกิดมาจะสามารถใช้ได้แค่ภาษาเดียว ต่อมาก็จะได้เรียนภาษาที่สองและต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะคล่องกับภาษานั้นๆ แต่สำหรับเขาคนนี้กลับต่างออกไป เพราะเขาสามารถเรียนรู้ภาษาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถพูดได้ถึง 25 ภาษา ชายคนนี้มีชื่อว่า Richard Simcott จากเมืองเชสเตอร์ในประเทศอังกฤษ ที่อยู่ติดกับประเทศเวลส์ เขาคือผู้ได้รับฉายาว่า Hyperpolygot ซึ่งหมายถึงผู้ที่สามารถพูดได้หลากหลายภาษามากๆ Richard ชายผู้สามารถพูดได้คล่องกว่า 25 ภาษา เขาเล่าว่าการเรียนรู้ในเรื่องของภาษานั้นเริ่มมาตั้งแต่เขายังเด็ก คนส่วนใหญ่ในเมืองของเขานั้นมักจะพูดภาษาเวลส์ และยังมีภาษาโปแลนด์แว่วมาให้เขาได้ยินบ้างเป็นบางครั้ง Richard จึงเริ่มที่จะพูดในภาษาเหล่านั้นกับคนอื่นๆ และรับฟังมุมมองของคนเหล่านั้นอีกที ว่าภาษาที่เขาพูดไปนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเขาว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการใช้ภาษาท้องถิ่นที่หลากหลาย เขาได้ออกเดินทางไปในหลากหลายประเทศเพื่อการศึกษาและทำงาน ในตอนที่เขาเรียนอยู่ในประเทศสวีเดน เขาได้เรียนรู้ภาษาเพิ่มขึ้นอีก 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาอาหรับ ภาษาญี่ปุ่น และภาษาสแกนดิเนเวีย อีกทั้งเขายังใช้เวลาทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาษาสโลวาเกียแค่สองสัปดาห์เท่านั้น โดยเขาบอกว่า มันเป็นอิทธิพลมาจากการที่เขาสามารถพูดภาษาเช็กและโปแลนด์ได้ และภาษานี้ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น บางภาษาก็เรียนรู้ได้ง่าย แต่บางภาษาก็เรียนรู้ได้ยาก อย่างเช่นภาษาใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมา ภาษา Qureg ก็ทำให้เขาใช้เวลานานกว่า 1 ปีเลยทีเดียว …
-
รู้จักกับ Wotagei รูปแบบการเต้นสไตล์ญี่ปุ่นที่ผสมผสานกับแท่งเรืองแสง ดูแล้วเพลินตาสุดๆ
Wotagei คือรูปแบบการเต้นอย่างหนึ่งของญี่ปุ่น ด้วยการผสมผสานระหว่างแสงสีท่ามกลางความมืดและท่าเต้นที่หนักแน่น แต่ยังคงเอาไว้ซึ่งความอ่อนช้อย ดูลงตัวไปอีกแบบ นักเต้นที่นิยมสไตล์การเต้นแบบดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้คลั่งไคล้ไอดอล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเต้นแต่เพลงของไอดอลในประเทศเพียงอย่างเดียว เพราะแม้แต่เพลงดังอย่าง Shape of You ของ Ed Sheeran ก็สามารถนำมาผสมกับสไตล์การเต้นแบบนี้ได้เหมือนกัน เรากำลังพูดถึงผลงานโชว์กลุ่มนักเต้นที่ชื่อว่า Kita no Uchishi Tachi ที่สร้างผลงานให้หลายๆ คนตื่นตาตื่นใจกันในยูทูบ หนุ่มๆ นักเต้นชาวญี่ปุ่น ที่มีชื่อกลุ่มว่า Kita no Uchishi Tachi ท่าเต้นอันดุดันและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน บวกกับแท่งเรืองแสงสีสันต่างๆ ท่ามกลางความมืด ทำให้ผลงานของเขากลายเป็นที่สะดุดตาอย่างมาก มองไปมองมาก็ดูเหมือนว่าพวกเขาถือไลท์เซเบอร์อยู่เหมือนกันนะ เราไม่ได้เพียงแค่ชื่นชมในฝีมือการเต้น แต่เรายังได้ชื่นชมกับลูกเล่นที่เกิดจากไอเดียของพวกเขา จนบางครั้งคุณอาจจะเผลอหลงระเริงไปกับแสงสีได้อย่างง่ายๆ การเต้นประกอบเพลง Shape of You อันสวยงาม ดึงดูดสายตา การแสดงของพวกเขาได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างมากจากชาวเน็ตญี่ปุ่น เห็นได้จากหลายๆ ความคิดเห็นที่เข้ามาแสดงความชื่นชมผลงานของพวกเขา “พวกเขาคือกลุ่มนักเต้นที่อนาคตไกลมากจริงๆ” “พวกนายเจ๋งไปเลย เป็นการแสดงที่อัศจรรย์มากๆ”…
-
แม่ฟ้องศาลให้ลูกชายจ่ายเงินกว่า 32 ล้านบาท หลังลำบากเลี้ยงดูส่งเสียจนเป็นทันตแพทย์
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2018 สำนักข่าว The New York Times ได้รายงานข่าวของคุณแม่ชาวไต้หวันแซ่ Luo ที่ฟ้องศาลในกรุงไทเป เพื่อต้องการให้ลูกของเธอจ่ายค่าเลี้ยงดูเป็นจำนวนเงินกว่า 54 ล้านบาท เรื่องราวของแม่ลูกครอบครัวนี้กลายเป็นที่สนใจ และกลายเป็นการถกเถียงกันในเรื่องของความกตัญญูที่บุตรควรมีให้กับมารดา อีกทั้งกฎหมายในไต้หวันก็ซัพพอร์ตเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยบอกเอาไว้ว่าคนที่โตเป็นผู้ใหญ่ห้ามละทิ้งพ่อแม่ของพวกเขา ศาลสูงสุดของไต้หวัน ตั้งอยู่ในกรุงไทเป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ คนเป็นแม่ได้เล่าว่า เธอโตมาในครอบครัวของแพทย์ที่มีฐานะร่ำรวย ก่อนที่จะมาแต่งงานและละทิ้งชีวิตอันสุขสบายของตัวเองไป ฝั่งครอบครัวของเธอได้ออกเงินเปิดคลินิกทันตกรรมให้กับเธอและ Chu ผู้เป็นสามี จนกระทั่งทั้งสองหย่าร้างกันไป ตั้งแต่นั้นมาเธอเลยต้องเลี้ยงดูส่งเสียลูกชายสองคนด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองเพียงคนเดียว เธอสามารถส่งเสียลูกชายทั้งสองเข้าเรียนในโรงเรียนทันตแพทย์ได้สำเร็จ แต่เธอกังวลว่าลูกๆ จะไม่เลี้ยงดูเธอในยามแก่ชรา เธอจึงให้ลูกชายเซ็นสัญญาเอาไว้ในตอนที่พวกเขาอายุได้ 20 ปี เพื่อเป็นหลักฐานว่าพวกเขาจะดูแลเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะกลายเป็นหมอฟันในปี 2003 ตามเนื้อหาของสัญญาดังกล่าวบอกเอาไว้ว่า ลูกชายทั้งสองคนจะต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับเธอ เท่ากับ 60 เปอร์เซ็นต์ของกำไรที่พวกเขาหามาได้ รวมเป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือมากกว่า 54 ล้านบาท …
-
เขาบอกว่าผมหน้าตาน่าเกลียด…แต่เจ้าทาสคนใหม่ก็ไม่สนใจ รับผมมาเลี้ยงและมอบชีวิตที่แสนสุขให้
เราไม่สามารถตัดสินสิ่งต่างๆ ได้จากสิ่งที่เราเห็นหรือเพียงแค่เปลือกนอกของมัน เพราะความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในอาจเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายของเราไปเลยก็ได้ เหมือนอย่างเจ้าแมวน้อยตัวนี้ เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Banjo น้องแมวที่มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ อาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงมาเป็นเวลานาน แต่ด้วยความที่หลายๆ คนไม่ค่อยชอบใบหน้าของมันสักเท่าไหร่ มันเลยถูกบางคนมองว่าเป็นแมวที่น่าเกลียดที่สุดในสถานรับเลี้ยงนั้น Banjo เจ้าเหมียวที่มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ Banjo ใช้เวลาอยู่กับการรอคอยให้มีใครซักคนมารับมันไปเลี้ยงและมอบความรักให้กับมัน แต่ว่าคนที่เข้ามาเลือกที่จะหันไปหาแมวตัวอื่นๆ ที่เด็กกว่าและน่ารักกว่า ผมไม่น่ารักเลยจริงๆ หรอครับ? จนกระทั่งวันหนึ่งมันก็ได้เจอกับครอบครัวที่พร้อมต้อนรับมันเข้าสู่บ้านใหม่อันแสนอบอุ่น เจ้าแมวพันธุ์ผสม Devon Rex ก็ได้มีความสุขเหมือนกับน้องเหมียวตัวอื่นๆ บ้างซักที ในที่สุดก็ได้มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ววว เจ้าเหมียวตัวน้อยกลายเป็นขวัญใจของทุกคนในบ้าน พวกเขาถึงกับบอกเลยว่ามันคือแมวที่น่ารักมากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมาเลย และสำหรับเจ้าเหมียวเองมันก็คงเป็นแมวที่มีความสุขมากที่สุดในเวลานี้เช่นเดียวกัน ครอบครัวที่คอยมอบความรักให้กับมันอยู่เสมอ ความน่ารักของเจ้าเหมียวได้ถูกเผยแพร่ลงไปใน Reddit จนทำให้มีคนชื่นชอบมากกว่า 15,000 คน แสดงให้เห็นแล้วว่า สมญาที่มันเคยได้รับว่าน่าเกลียดนั้น มันอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นสำหรับทุกคน มีคนเอามันไปตัดต่อ ก็ดูเหมือนกอลลัมอยู่เหมือนกันนะเนี่ย จากนี้ไป Banjo ก็ได้อยู่กับครอบครัวที่ดี คอยสร้างความทรงจำที่แสนประทับใจกันต่อไปตราบชั่วนิรันดร์…
-
เรื่องราวของ Blanche Monnier สาวผู้ถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ นาน 25 ปี เพราะเลือกผู้ชายไม่ถูกใจแม่
การถูกพรากจากคนที่เรารักเป็นสิ่งที่หลายๆ คนคิดว่ามันเลวร้ายอย่างมาก แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนนี้มันกลับเลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นอีก เพราะเธอต้องถูกกักขังเอาไว้นาน 25 ปี เพียงเพราะแม่ของเธอไม่ถูกใจผู้ชายที่เธอเลือกเท่านั้นเอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า Blanche Monnier เธอคือสาวสวยจากชนชั้นสูงในกรุงปารีส และครอบครัวของเธอก็เป็นที่นับหน้าถือตาอย่างมาก Blanche หญิงสาวที่ถูกกักขังไว้นานถึง 25 ปี ในปี 1876 ตอนนั้น Blanche อายุได้ 25 ปี เธอตกหลุมรักกับทนายความที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ กัน และเธอก็ต้องการจะแต่งงานกับชายคนนี้ แต่ความต้องการของเธอกลับต้องถูกขัดขวางเอาไว้ เมื่อแม่ของเธอรู้สึกไม่ปลื้มทนายความคนดังกล่าว และมองว่าเป็นเพียงแค่ชายที่น่าสมเพชคนหนึ่ง คุณแม่จึงทำทุกวิถีทางเพื่อกีดกันความรักของทั้งสอง ใช้สารพัดกลอุบายหลอกล่อ Blanche ไปต่างๆ นานา หวังให้ลูกสาวของตัวเองเปลี่ยนใจไปหาชายคนใหม่ที่ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่สำเร็จ ลูกสาวของเธอยังคงตั้งใจที่จะแต่งงานกับชายคนนี้ให้ได้ แต่ในขณะที่แม่ลูกกำลังอยู่ในช่วงที่ขัดแย้งกันอยู่นั้น จู่ๆ Blanche ก็หายหน้าไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีใครได้เจอเธออีกเลย แม้แต่เพื่อนสนิทของหญิงสาวก็ไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน ในตอนนั้นแม่และน้องชายของเธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เพียงไม่นานทั้งสองก็กลับมาใช้ชีวิตกันไปตามปกติ และทุกคนก็ได้หลงลืมหญิงสาวที่ชื่อว่า Blanche ไปจนหมด วันเวลาผ่านไป ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าเธอคนนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง จนกระทั่งในปี…
-
9 หนุ่มเป็นอัมพาตเพราะสูด “ผงขาว” จากกล่องไปรษณีย์ปริศนา เพราะนึกว่าเป็นโคเคน!?
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2018 ทางสำนักข่าว BBC ได้รายงานว่า แบ็กแพ็กเกอร์จำนวน 9 คนถูกหามส่งโรงพยาบาลในประเทศออสเตรเลียอย่างเร่งรีบด้วยอาการชัก ร่างกายเป็นอัมพาต และมีอาการเห็นภาพหลอน อาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ทั้ง 9 คนได้สูดเอาผงขาวปริศนาเข้าไป ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามันคือยา Hyoscine เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ หรือที่บางคนอาจรู้จักกันในชื่อของยา Date Rape Drug ที่ไว้ใช้ในการก่ออาชญากรรม แบ็กแพ็กเกอร์ 9 คนนี้มาจากหลากหลายประเทศ มีชาวฝรั่งเศส 5 คน ชาวเยอรมัน 2 คน ชาวอิตาลี 1 คน และชาวโมรอคโคอีก 1 คน โดยมีอายุอยู่ที่ 21-25 ปี จากการบอกเล่าของ Simone หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายครั้งนี้ เขาเล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นมาจากตอนที่พวกเขาพักอยู่ที่บ้านหลังเดียวกันในเขต Victoria Park ระหว่างนั้นก็มีพัสดุถูกส่งมาให้ที่บ้าน จ่าหน้าถึงเจ้าของบ้านคนเก่า เมื่อเปิดดูจึงพบผงสีขาวถูกห่อด้วยกระดาษที่เขียนไว้ว่า Scoop ซึ่งหมายถึงตัวยา Scopolamine…
-
ชาวเน็ตช็อก หลังเห็นคลิปหนูน้อย 4 ขวบขับรถยนต์ขนาดใหญ่บนท้องถนนในรัสเซีย
ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสำหรับการขับรถบนท้องถนน ซึ่งการที่จะให้เด็กอายุ 4 ขวบมาควบคุมพวงมาลัยแบบในคลิปนี้ อาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าความปลอดภัยเลยซักนิด คลิปวิดีโอดังกล่าวคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองมอสโก ประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นเด็กชายวัย 4 ขวบกำลังบังคับพวงมาลัยรถใหญ่ยี่ห้อ Mercedez Benz แล่นไปตามถนนหนทางที่เต็มไปด้วยรถรา ภาพนี้ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรมของผู้ใช้ที่ชื่อว่า @majorka_official ซึ่งเด็กน้อยคนนี้กำลังควบคุมพวงมาลัยอยู่บนมอร์เตอร์เวย์ ด้วยความเร็วของรถที่สูงกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากที่คลิปนี้เผยแพร่ออกไป ทำให้หลายๆ คนตกอกตกใจกันไปตามๆ กัน ทางสำนักข่าว Daily Mail ก็ได้ออกมารายงานว่า เด็กชายคนนั้นนั่งอยู่บนตักของน้าสาวตัวเอง และตอนที่เขาขับแซงคันข้างหน้า เราก็จะสามารถสังเกตเห็นมือของน้าสาวคนนั้นที่ช่วยจับประคองพวงมาลัยเอาไว้ ถึงแม้ว่าน้าจะช่วยบ้างในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วเด็กจะเป็นคนคุมพวงมาลัยเองแทบทั้งสิ้น และเราก็จะได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อวัย 27 ปี ที่คอยบรรยายสิ่งที่เขาถ่ายเอาไว้ตลอด โดยเขาได้พูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “เห็นมั้ยละ นี่คือการขับรถ Gelandewagen” ซึ่งเป็นชื่อรุ่นของรถคันนี้นั่นเอง คลิปการขับรถของเด็กชายวัย 4 ขวบบนถนนมอเตอร์เวย์ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของผู้ปกครองที่ปล่อยให้เด็กมาควบคุมพวงมาลัยอยู่บนท้องถนนแบบนี้ “ไม่มีสมองกันหรือไง พระเจ้าคงช่วยให้รถคันอื่นไม่ชนจนทำให้เด็กตาย ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะนอนหลับลงได้อย่างไร” “ถ้าหากมีใครซักคนขับรถมาชน เด็กก็จะกระเด็นออกไปทางนอกหน้าต่าง…
-
เจ้าเสือน้อยถูกช่วยเหลือมาจากคณะละครสัตว์ในสภาพย่ำแย่ ในที่สุดก็ได้รับความรักเป็นครั้งแรก
เราอาจเคยได้ยินว่า หากเราได้รับความรักและการดูแลจากคนรอบข้างแล้ว หลายๆ อย่างในชีวิตเราจะดีขึ้นไปเอง เหมือนอย่างลูกเสือตัวนี้ที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ให้อยู่อย่างเดียวดาย จนกระทั่งมันได้รับความรักอันสวยงามจากมนุษย์ ทำให้มันสามารถกลับมายืนขึ้นได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง นี่คือเรื่องราวของ Aasha ลูกเสือโคร่งเบงกอลวัย 9 เดือนที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้ในเดือนมีนาคม 2011 ด้วยฝีมือของกรมการเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ขณะที่พวกเขากำลังตรวจสอบคณะละครสัตว์เคลื่อนที่ต่างๆ เจ้าเสือที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ คณะละครสัตว์เคลื่อนที่ที่เดินทางไปตามเมืองต่างๆ ด้วยสภาพร่างกายอันย่ำแย่ของเจ้าเสือตัวนี้ มันจึงถูกส่งไปอยู่ในความดูแลของ Vicky Keahey สัตวแพทย์ผู้ก่อตั้งกลุ่ม In-Syn Exotics ผู้คอยช่วยเหลือแมวยักษ์ทั้งหลายในรัฐเท็กซัส เมื่อ Vicky ได้เจอกับเจ้าเสือน้อยที่ถูกทอดทิ้งตัวนี้ เธอก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เพราะสภาพของ Aasha นั้นทรุดโทรมและย่ำแย่ ผิวของมันแตก คล้ำและแห้ง ขนของมันร่วงไปเป็นหย่อมๆ ซึ่งทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเจ้าเสือกำลังติดเชื้อและเป็นกลากเกลื้อน Vicky หญิงสาวผู้คอยช่วยเหลือเสือเป็นจำนวนมาก เจ้าเสือมีอาการติดเชื้อจนต้องได้รับการดูแลที่เข้มงวด มันไม่ได้แค่ติดเชื้อ แต่เจ้าเสือตัวนี้ยังขาดสารอาหารอีกด้วย มันมีน้ำหนักเพียงแค่ 13 กิโลกรัม ซึ่งแท้จริงแล้วอายุขนาดนี้มันควรที่จะหนักราวๆ 54 กิโลกรัม เห็นได้ชัดเลยว่าก่อนที่เจ้าเสือจะได้มาเจอกับเธอ มันถูกเลี้ยงดูแบบผิดๆ…
-
หนุ่มโตเกียววัย 43 ถูกจับกุม เพราะสักชื่อย่อของตัวเองลงไปที่ก้นของพนักงานเมดสาววัย 19 ปี
ความรักอาจเป็นสิ่งสวยงาม แต่ว่าสิ่งนั้นก็อาจทำให้คนเราเกิดความคิดและการกระทำที่ไม่ดีตามมาได้ เหมือนอย่างความรักของชายคนหนึ่งที่มีให้กับหญิงสาว จนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเขต Taito กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ Naohiro Kobayashi วัย 43 ปี ทำการสักชื่อย่อของตัวเองเอาไว้ลงบนตูดของสาวน้อยวัย 19 ปีที่เขาแอบหลงรัก Naohiro ชายที่ทำความผิดในครั้งนี้ Naohiro เป็นทั้งนักลงทุนและเป็นหุ้นส่วนบริหารร้านเมดคาเฟ่แห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว จึงทำให้เขาได้เจอกับเหยื่อสาวรายนี้ที่ทำงานเป็นลูกจ้างของร้าน จนกระทั่งในเดือนพฤศจิกายน 2017 เขาได้พาเธอกลับไปยังหอพักของตัวเอง ก่อนที่จะมอมเธอด้วยน้ำผลไม้ผสมแอลกอฮอล์ 90 เปอร์เซ็นต์ จนทำให้หญิงสาวเมาแล้วหมดสติไป ในขณะที่เธอไม่รู้สึกตัวอยู่นั้น เขาก็ทำการสักรูปตัว N เอาไว้บนตูดของเธอด้วยหมึกสีดำและเข็มที่สะอาด ซึ่งเขาไม่ได้สักลงไปเพียงรอยเดียว แต่เขาสักเอาไว้ถึง 5 รอยสักเลยทีเดียว จากการรายงานของสำนักข่าว Sora News เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2018 จึงทำให้ทราบว่าชายคนนี้ถูกจับกุมตัวเป็นที่เรียบร้อย และเขาให้การสารภาพว่า “ผมเพียงต้องการแสดงให้เห็นว่าเธอคือผู้หญิงของผม เพื่อยืนยันในความรักของเรา” นอกจากนั้นเพื่อนบ้านของ Naohiro ก็ยังบอกกับเจ้าหน้าที่อีกว่า…
-
21 ภาพความฉิบหายที่เกิดขึ้นในครัว ของแบบนี้มันก็ต้องมีพลาดกันบ้างแหละ อย่าไปคิดม๊ากกกก
ในบางครั้ง ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้เหมือนกับที่เราวาดฝันเอาไว้เสมอไป การทำครัวเองก็เช่นกัน เวลาที่เราทำอาหารและต้องการให้มันออกมามีหน้าตาที่ดูดีน่ากิน แต่ผลลัพธ์ดันออกมาตรงข้ามกันซะอย่างนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ทำให้เราพึงพอใจกันซักเท่าไหร่ เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ ที่นอกจากอาหารจะออกมาดูพิลึกพิลั่นแล้ว บางครั้งมันยังสร้างความวอดวายให้กับห้องครัวของพวกเขาอีกด้วย ว่าแล้วเราก็ลองไปดูภาพเหล่านี้กันเลยว่า แต่ละเหตุการณ์มันออกมาพิสดารและเละเทะมากขนาดไหน ผมผิดไปแล้วจ้ะที่รัก ผมไม่ได้ตั้งจายยย เกิดจากความตั้งใจ ที่อยากจะตัดส่วนที่มีแคลอรี่สูงออกไปบ้าง หมดกันตัวการ์ตูนในวัยเด็กของผม อาหารที่หลุดออกมาจากหนังเอเลี่ยน ขนมปังหน้ายิ้ม ที่เห็นแล้วน่าจะไม่ยิ้มเท่าไหร่ ผิดที่แม่พิมพ์ หรือว่าผิดที่คนทำละนี่ นี่มาทำอาหารหรือว่าทำสงครามกันแน่!? คราวหลังทำให้ผมฟองเดียวก็พอครับพ่อ นี่คงเป็นเค้กวันเกิดที่ฝังอยู่ในความทรงจำของเด็กน้อยไปอีกนานแสนนาน ตอนแรกเหมือนจะทำขนมปัง ทำไปทำมาเหมือนจะได้กินเป็นข้าวแทน ลาซานญ่า!! ลาก่อนนะซานญ่า.. อยากได้ฟองนมเยอะๆ ก็จัดไปให้ล้นแก้วเลยครับ ไม่พอใจอะไรก็บอกกันดีๆ สิคุณ วันนี้เราคงจะนอนฝันดีกันอย่างแน่นวลลล ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนล่ะสินะ เหมือนเอาตั๊กแตนกับกระต่ายมาผสมพันธุ์กัน เป็นตั๊กต่าย สงสัยภาพนี้จะเป็นตอนที่ซุปเปอร์แมนมาเข้าครัว …
-
ทางการจีนเปิดตัว ‘วีซ่าชั้นสูง’ มุ่งเป้าผู้มีความสามารถเฉพาะทาง ใครเก่งก็เข้าประเทศง่าย!!
หลายๆ คนทราบดีว่าการขอวีซ่านั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากพอสมควร แต่มันคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับการเดินทางเข้าไปในหลายๆ ประเทศ แต่มาวันนี้ประเทศจีน ได้ดำเนินการนโยบายใหม่ เพื่อให้ชาวต่างชาติผู้มีความสามารถทั้งหลาย เดินทางเข้าประเทศของพวกเขาได้ง่ายยิ่งขึ้น กระทรวงการบริหารงานด้านผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศของจีน พัฒนาระบบที่จะทำให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างแดนสามารถเข้ามาในประเทศได้อย่างสะดวกรวดเร็วและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ คำว่าผู้เชี่ยวชาญในที่นี้ก็คือ เหล่าผู้นำทางด้านเทคโนโลยีในประเทศอื่นๆ หรือผู้มีความสามารถเฉพาะทางในเรื่องต่างๆ ประเทศจีนนำระบบจัดอันดับรูปแบบใหม่ของแรงงานในต่างประเทศเมื่อปี 2016 เข้ามาช่วยตัดสินว่าใครคือผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถใช้ระบบดังกล่าวได้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็น ผู้ชนะรางวัลโนเบล ผู้วิจัยอาวุโส ผู้บริหารในสถาบันการเงิน นักวิทยาศาสตร์เจ้าของสุดยอดผลงาน หรือแม้แต่ดารากับนักกีฬาเองก็ด้วย วิธีการขอวีซ่าเข้าประเทศจีนสำหรับคนเหล่านั้นก็ง่ายมากๆ เพียงแค่ยื่นเรื่องมาในระบบออนไลน์ หากได้รับอนุมัติปุ๊บ คุณก็จะได้รับวีซ่าเข้าประเทศที่มีอายุใช้งานได้ 5-10 ปี และสามารถอาศัยอยู่ได้นาน 180 วันต่อหนึ่งครั้งที่เดินทางมา ที่สำคัญคือการขอวีซ่าในรูปแบบนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว วีซ่าของประเทศจีน นโยบายใหม่นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้คนเก่งหรือคนมีความสามารถจากต่างประเทศ ได้เข้ามาช่วยพัฒนาในเรื่องของเศรษฐกิจและสังคม และในอนาคตวิธีนี้ยังอาจช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนแรงงานด้านเทคโนโลยีหรือผู้วิจัยในสาขาต่างๆ ได้อีกด้วย เชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะสามารถดึงดูดใจผู้มีฝีมือจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2017 ประเทศจีนก็ได้สร้างนโยบายที่ทำให้คนที่เรียนจบปริญญาโทจากต่างแดน สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยเหตุผลเดียวกันไปแล้ว แถมยังมีการขยายเวลาให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถอาศัยอยู่ในประเทศได้นานยิ่งขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่าง Elon Musk กับ Mark Zuckerberg…
-
ดาราสาวเจอ “เมนูประหลาด” ในร้านดัง พอรู้เป็นผ้าเช็ดปาก เกิดเป็นกระแสโคตรฮอตในเน็ต!!
เราอาจเคยเจออาหารที่มาในรูปแบบพิสดาร มีความเป็นศิลปะที่เกิดจากจินตนาการของพ่อครัว กับการจัดจานซะจนเรางงว่า อาหารจานนี้เราต้องกินยังไง? หรือมันเป็นอาหารจริงๆ ใช่มั้ย? ซึ่งนั่นคงเป็นคำถามเดียวกันกับที่นักแสดงสาวคนนี้เกิดความสงสัย เมื่อไปเจอกับร้านอาหารร้านนี้ ดาราสาวชาวอังกฤษ Tracy Ann Oberman และ Rob Cowan สามีของเธอ ทั้งสองได้มีโอกาสไปกินอาหารในร้านที่ได้ดาวมิชลินถึง 3 ดาว จนได้เจอกับความพิสดารของอาหารแต่ละจานที่มาเสิร์ฟให้กับพวกเธอ Tracy Ann Oberman ดาราสาววัย 51 ปี ร้านอาหารแห่งนี้เป็นของเชฟชื่อดังอย่าง Martín Berasategui ผู้มีร้านอาหารกว่า 12 แห่งทั่วประเทศสเปน เม็กซิโก และสาธารณรัฐโดมินิกัน จึงรับรองได้เลยว่าอาหารของที่นี่จะต้องถูกปากอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะได้ลิ้มรสความอร่อยของอาหาร พวกเธอก็เจอเข้ากับความพิสดารของรูปแบบอาหารแต่ละชนิดเสียก่อน เมื่อจานแรกมาถึง มันคืออาหารที่อยู่บนขอนไม้รูปทรงประหลาด จนอาจทำให้หลายๆ คนคิดว่ามันจะกินได้จริงๆ ใช่มั้ย? รูปแบบของภาชนะที่ดูพิลึกชอบกล สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธออดใจไม่ไหว ถ่ายรูปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวพร้อมกับแท็กขอความช่วยเหลือจากผู้ใช้ที่ชื่อว่า WeWantPlates เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอคงต้องการให้อาหารใส่จานมามากกว่าที่จะออกมาในรูปแบบนี้ เธอคงจะอยากให้มันใส่จานมาเสิร์ฟมากกว่าอะไรแบบนี้ และมันยังไม่จบแค่นั้น…
-
แบนเถอะว๊อย!! เชฟดัง Jamie Oliver เรียกร้องห้ามจำหน่าย “เครื่องดื่มชูกำลัง” ให้แก่เด็กๆ
Jamie Oliver คือเชฟชื่อดังที่ไม่ได้มีความสามารถแค่ในการทำอาหาร แต่เขายังเป็นผู้นำหลักที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนามื้ออาหารสำหรับเด็กนักเรียนในประเทศอังกฤษ และในครั้งนี้เองเขาก็ได้นำเสนออีกหนึ่งแนวคิดที่สำคัญสำหรับอาหารการกินของเด็กๆ ในปัจจุบัน Jamie ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการ “ห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี” เพราะเขาพบว่าการที่เด็กดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เข้าไปจะส่งผลเสียให้กับผลการเรียนของพวกเขา Jamie Oliver เชฟชื่อดังผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในหลายๆ โครงการที่เกี่ยวกับอาหาร พวกเราหลายๆ คนอาจเคยชินกับการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเวลาที่ต้องทำงานในตอนเช้า หรือบางคนก็อาจนำไปผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่สำหรับเด็กแล้วอาจไม่เป็นอย่างนั้น เพราะลองคิดกันดูว่าแม้แต่บริษัทผู้ผลิตเอง ยังย้ำให้เราฟังเสมอว่า “เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม” ดังนั้นเราก็ไม่ควรขายให้เด็กไม่ใช่หรอ? แม้เราจะรู้ว่าเด็กไม่ควรจะดื่มอะไรแบบนี้ หรือแม้ว่าฉลากข้างขวดจะบอกเอาไว้ชัดเจนมากขนาดไหน แต่พวกเราก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจ ขายให้เหมือนเป็นเรื่องปกติอยู่ดี และจากการที่เราปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นมาโดยตลอด จึงทำให้มีสถิติการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังของเด็กอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง จากการศึกษาของ หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารในยุโรป พบว่า กว่า 69 เปอร์เซ็นต์ของวัยรุ่นดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีอีก 24 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง จึงทำให้หลายๆ ที่ตระหนักถึงปัญหาและลงมือแก้ไข อย่างเช่นห้างสรรพสินค้า Waitrose ที่ไม่ขายเครื่องดื่มชูกำลังให้กับวัยรุ่น หรือแม้แต่สหภาพครู NASUWT ก็ยังออกมาเรียกร้องเช่นเดียวกันกับเชฟชื่อดังคนนี้ Kevin…
-
17 ภาพ ‘แมวเหมียวขี้เซา’ นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ที่จะทำให้คุณรู้สึกง่วงขึ้นมาซะงั้น ZZz zzz zz
เพื่อนๆ บางคนอาจกำลังประสบปัญหากินไม่ได้นอนไม่หลับ ข่มตาครั้งใดก็ไม่อาจหลับลงได้เลย จนทำให้การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอกระทบเข้ากับการใช้ชีวิตในวันต่อมาของพวกเรา แต่ภาพเหล่านี้อาจสามารถช่วยแก้ไขปัญหานั้นได้เป็นอย่างดี นี่คือภาพของน้องเหมียวตัวน้อยกับความขี้เซาของพวกมันในตอนที่กำลังซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม หลับใหลไปพร้อมกับความน่ารักน่าชัง แล้วท่าทางของพวกมันจะสามารถทำให้เรารู้สึกง่วงได้มากขนาดไหน เราไปพิสูจน์พร้อมๆ กันเลยยย หลับตาพริ้มเชียะ เติมความหวานกันด้วยรอยจูบที่จะทำให้เธอหลับฝันดีไปตลอดทั้งคืน ห่มผ้าให้อย่างนี้แล้วรู้สึกง่วงขึ้นมาเลยแฮะ แสงมันช่างจ้าซะเหลือเกิน แอบก่อนดีกว่า เดี๋ยวเจ้ามนุษย์รู้ว่าเรามาแอบงีบ หลับบนเตียงพิเศษที่มีเพื่อเจ้านายเหมียวโดยเฉพาะ ยังไม่อยากตื่นเลย ปิดม่านก่อนนน สามเกลอเพื่อนซี๊ หลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ อบอุ่นทั้งกายและใจไปเลยยย หลับได้น่ารักจริงๆ เลยน้าาา ดูหนังอะไรกันอยู่น่ะ ขอดูบ้างจิ ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า ฟูกนุ่มๆ กับผ้าห่มอุ่นๆ เท่านั้นก็เกินพอ หลับรอไปก่อนนะ ซักเสร็จแล้วเดี๋ยวจะปลุก มานอนดีๆ เร๊ว เจ้าเหมียวตัวจิ๋ว ก็ต้องคู่กับเตียงจิ๋วๆ เป็นธรรมดา คร่อกกก…
-
25 ภาพความเฟี้ยวเงาะของปู่ย่าตายาย ที่กาลเวลาไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ก็มันอยู่ในสายเลือด!!
เพื่อนๆ บางคนอาจคิดว่าปู่ย่าตายายของเราคงไม่เหลือความเฮฮาอะไรอีกแล้ว พอแก่ตัวไปพวกเขาก็คงจะอยู่เฉยๆ กับบ้านไปเท่านั้น แต่ความไปจริงแล้วพวกเขาทุกคนก็ยังคงมีความน่ารักอยู่ในตัวเสมอน่ะแหละ แม้ว่ากาลเวลาอาจเปลี่ยนไป แต่ถึงอย่างไรความสดใสของพวกเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และนี่ก็คือภาพที่สามารถบ่งบอกให้เราได้รับรู้ถึงความรู้สึกนั้นกันได้เป็นอย่างดี เราลองไปชมกันเลยยย ไม่ต้องห่วงนะหลานรัก ยายจะปกป้องหลานเอง ปู่พร้อมจะไปงานแต่งแล้ว ตรงธีมยุคกลางแบบเป๊ะๆ รูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กสุดเฟี้ยวของย่าเอง เป็นไงเจ๋งมั้ยล่ะหลานๆ ตาเองแหละ ที่เป็นคนปกป้องเมืองก็อทแธมเอาไว้ ถึงเวลาที่ยายต้องบอกให้หลานทุกคนรู้กันแล้วว่า ความจริงคุณตาเขาเป็นถึงดาราดังแห่งยุคเลยนะ ก็ปู่ไม่ชอบวาดดอกไม้ แล้วจะทำไม!? กล้าดียังไงมาจิกหลานชั้นห๊ะ!! โปสการ์ดปีใหม่จากคุณตาที่ดูสดใส๊ สดใส ยามใดที่หลานชายไม่มีชุดนอน ยายก็พร้อมเสียสละชุดให้หลานเสมอ จะมาเยี่ยมตายายก็กดออดกันให้ถูกล่ะ จะได้รู้ว่าคุณตาต้องรีบมาเปิดประตูมากขนาดไหน คุณยายผู้น่ารัก เย็บปิดรอยขาดให้โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันเป็นแฟชั่น ของขวัญสุดน่ารักจากคุณยายผู้มีฝีมือในการเย็บปักถักร้อย สงสัยทริปมาฮาวายครั้งนี้คงจะไม่ค่อยถูกใจซักเท่าไหร่สินะครับ เห็นต้นไม้ในร้าน Walmart แล้วอดไม่ได้ กลัวมันจะเฉาตายซะก่อน คุณตาก็เลยไปคว้าสายยางฉีดน้ำให้ซะเลย การแจกขนมแบบใหม่ของคุณยาย ที่ทำให้หลานๆ เซอร์ไพรส์มากกว่าเดิม…
-
รวมภาพ ‘หูฟัง’ ผู้ช่างน่าสงสาร พวกเอ็งไปผ่านสงครามที่ไหนมา ถึงสภาพเยินขนาดนี้!?
หูฟังที่เราเห็นกันทั่วไปจะเป็นแบบสอดใส่เข้าไปในรูหูของเรา ทำให้เราสามารถรับเสียงได้แบบชัดแจ๋ว ฟังเพลงกันไปแบบเพลินๆ และพกพาสะดวก (แม้ว่าสายมันจะพันกันบ่อยหน่อยอ่ะนะ) แต่ที่แน่ๆ คือถ้าเป็นไปได้ เราคงไม่อยากให้ใครยืมหูฟังเราไปใช้กันซักเท่าไหร่ เหตุผลของบางคนที่ไม่ชอบให้ใครยืมหูฟังอาจเป็นเพราะว่า บางครั้งที่เราได้รับคืนกลับมา เราอาจไม่กล้าใช้มันอีก แต่ว่าแล้วทำไมเราถึงจะไม่กล้าใช้มันอีกล่ะ? ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ก็ต้องลองไปดูภาพเหล่านี้ ไม่รู้ว่าเอาไปใช้ตอนออกรบมาหรือเปล่า ใช้ให้มันพังไปเลย ยังรู้สึกดีกว่าเห็นมันกลับมาในสภาพนี้อีกมั้งเนี่ย ตอนเอาไปใช้เธอรู้หรือเปล่าว่ามันต้องใช้กับหูนะ แนะนำให้ลองไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูนะครับ จุกหลุดคาหูไปแล้วมั้งแบบนี้ เอาไปล้างน้ำมาละสิท่า ชุ่มเชียว ก่อนเอามาคืน ช่วยเช็ดซักหน่อยก็ยังดี ครั้งต่อไปอย่าลืมแคะหูก่อนใช้ด้วยนะ สีน้ำเงินๆ นั่นมันคืออะไรฟระ!? อยากเห็นตอนเอาไปใช้จริงๆ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือไร เลือดออกหูนี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรอ ไม่รู้ว่าเอาไปพรวนดิน ขุดทองที่ไหนมาหรือเปล่า เอาซะจะกลายเป็นฟองน้ำล้างจานไปแล้วเนี่ยยย ถึงว่าทำไมเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน โอ้ววว ซูมให้เห็นกันแบบชัดแจ๋วแหวว เป็นของขวัญวันคริสต์มาสที่วิเศษมากๆ เลย อย่างน้อยถ้าใช้แล้วก็ช่วยทำความสะอาดหน่อยได้มั้ย…
-
คุณพ่อกลายเป็นเซเลบ หลังใส่ชุดฟิตเปรี๊ยะเต้นฉลองร่วมกับลูกๆ ชาวเน็ตชอบใจ๊ ชอบใจ
ในช่วงหยุดยาวนั้น หลายๆ ครอบครัวเลือกที่จะใช้เวลาอยู่ร่วมกัน จัดงานปาร์ตี้เล็กๆ สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มไปด้วยกันในช่วงวันหยุดยาว เช่นเดียวกันกับครอบครัว Haddad ในเมืองมอนโร รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ซึ่งพวกเขาจะมีการประกวดเต้นลิปซิงค์ในทุกๆ ปี แต่สำหรับงานคริสต์มาสและปีใหม่ของปี 2017 ที่ผ่านมานี้ กลับมีความพิเศษมากกว่าครั้งไหนๆ เมื่อคุณพ่อ Steve ได้ออกมาวาดลวดลายโชว์ลีลาการเต้นกับลูกสาวทั้งสอง ด้วยเพลงยอดฮิตสุดเซ็กซี่ที่ชื่อว่า Single Ladies ในชุดรัดรูปสีดำถอดแบบมาจากในเอ็มวี ขุ่นพ่อเปลี๊ยนไป๋!! การเต้นของพ่อลูกสามคนนี้สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมอย่างมาก สำหรับเด็กสาวทั้งสอง พวกเธอมีความสามารถในการเต้น ในขณะที่คุณพ่อมีคือชายที่กล้าแสดงออกและมีความฮาอย่างท่วมท้น Steve ออกท่วงท่าสุดเซ็กซี่ ที่พอมองดูดีๆ แล้วก็ไม่เซ็กซี่ซักเท่าไหร่ โยกย้ายส่ายเอวแบบพลิ้วไหว ราวกับเห็น Beyoncé (ที่อ้วนขึ้นมาอีกหน่อย) มาทำการแสดงเองยังไงยังงั้น โยก โยก โยก โยกเข้าไปให้มันหลุดโลก สิ่งที่เขาทำนี้ได้สร้างเสียงหัวเราะและความสุขให้กับคนอื่นๆ ในครอบครัว จนได้รางวัลแชมป์การประกวดในปีนี้ไปเลย พวกเขาได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดเต้นลิปซิงค์ของตระกูลในปีนี้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจหรอกนะ และความน่ารักของคุณพ่อคนนี้ก็ได้ถูกส่งต่อออกไปให้คนอื่นๆ ได้เห็น เมื่อ Tina…
-
เปิดภาพลับในประเทศเกาหลีเหนือ จากเลนส์ซูม 300 มม. ของช่างภาพที่มีโอกาสไปเที่ยว…
ช่างภาพ Eric Lafforgue คือหนึ่งในช่างภาพที่ออกเดินทางไปทั่วโลก เก็บเรื่องราวต่างๆ มาจากหลากหลายประเทศ ซึ่ง ประเทศเกาหลีเหนือ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชายคนนี้ได้เข้าไปเก็บภาพถึง 6 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 2008 แต่อย่างที่พวกเราหลายๆ คนรู้กันว่า การที่นักท่องเที่ยวจากภายนอกจะเข้ามาถ่ายภาพในประเทศไม่สามารถทำได้อย่างอิสระเหมือนกับที่ือื่นๆ ถึงอย่างนั้น Eric ก็เลือกที่จะแอบถ่ายทุกซอกทุกมุมตามแบบฉบับของตัวเองด้วยกล้องเลนซูม 300 มิลลิเมตร Eric ช่างภาพผู้สร้างสรรค์ผลงานจากหลากหลายมุมมอง หลังจากนั้นเขาก็ถูกทหารจับได้ว่าภาพเหล่านั้นถูกเผยแพร่ลงไปในโลกโซเชียล จนทำให้ในปี 2012 เขาถูกสั่งห้ามเข้าเกาหลีเหนืออีกต่อไป แม้จะไม่ได้เข้าไปในประเทศแห่งนี้แล้ว แต่ภาพความทรงจำอันหลากหลายยังคงมีอยู่ และภาพเหล่านี้ก็เป็นภาพที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะทางเกาหลีเหนือพยายามปกปิดความจริงเหล่านี้เอาไว้มาโดยตลอด สิ่งที่ถูกเก็บงำเอาไว้ภายใต้การปกครองของทหารในประเทศนั้นจะมีอะไรกันบ้าง เราลองไปชมตัวอย่างของภาพชุดนี้กันดูได้เลย การถ่ายภาพของเด็กที่มีคอมพิวเตอร์เป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่นี่ห้ามถ่ายให้เห็นว่าเด็กเหล่านั้นไม่มีไฟฟ้าใช้กัน คนเกาหลีเหนือจำนวนหนึ่งต้องกินหญ้าในสวนสาธารณะเพื่อประทังชีวิต หญิงสาวในชุดพื้นบ้านที่ยืนอยู่ท่ามกลางทหารนับพัน ถนนที่โล่งพอจะให้เด็กไปวิ่งเล่นกันได้อย่างไม่ต้องกังวลใดๆ ในประเทศนี้ นักท่องเที่ยวไม่มีสิทธิ์ถ่ายเด็กที่ดูขาดสารอาหาร แม้แต่ทหารในยามพักผ่อน เราก็ไม่สาามารถถ่ายเก็บไว้ได้ การต่อคิวเป็นเรื่องใหญ่ประจำชาติของพวกเขาเลยจริงๆ ทหารอาจมีสิทธิ์นอนหลับ แต่พวกเราไม่มีสิทธิ์ถ่ายเก็บเอาไว้…
-
พ่อแม่ขังลูกสาวไว้ในห้องขนาดเพียง 3 ตารางเมตรอยู่อย่างอดยาก จนหนาวตายในที่สุด
บางครอบครัวอาจเลี้ยงดูลูกด้วยวิธีการที่แปลกประหลาด หรือในบางครั้งที่รู้สึกว่าบุตรหลานมีอาการป่วยก็ไม่ยอมพาไปหาหมอ แต่เลือกที่จะจัดการปัญหาดังกล่าวกันด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันกับครอบครัวนี้ ที่สุดท้ายผลลัพธ์ออกมาเลวร้ายกว่าที่คาดคิดเอาไว้อย่างมาก ครอบครัวดังกล่าวอาศัยอยู่ในเขตจังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ Yasutaka และ Yukari Kakimoto กักขังลูกสาวของตัวเองเอาไว้นานกว่า 15 ปี เพราะสงสัยว่าเธอป่วยเป็นอาการทางจิตจนทำให้มีพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างหนัก ทั้งสองบอกว่า Airi ลูกสาววัย 33 ปี แสดงอาการผิดปกติทางจิตมาตั้งแต่อายุราว 16-17 ปี เธอเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง จึงขังเด็กสาวเอาไว้ในห้องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ห้องที่เล็กมาก มีเพียงแค่กล้องวงจรปิดคอยสอดส่องพฤติกรรมต่างๆ ห้องน้ำแบบชั่วคราวภายในและสายยางสำหรับไว้ใช้น้ำจากถังเท่านั้นเอง นอกจากจะมีการติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ในห้องที่ขังเธอไว้แล้ว ทั้งสองยังติดกล้องไว้อีกกว่า 10 ตัวรอบบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เธอสามารถหลบหนีออกมาได้เลย พวกเขาจะนำอาหารมาให้ลูกสาวแค่วันละมื้อเท่านั้น นั่นจึงทำให้เธอมีอาการขาดสารอาหารอย่างหนัก มีส่วนสูงเพียงแค่ 145 เซนติเมตร และน้ำหนักแค่ 19 กิโลกรัม การที่ได้รับอาหารเพียงน้อยนิด อาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ แคบๆ และอุณหภูมิที่หนาวเย็น ทำให้ Airi เสียชีวิตลงในวันที่ 18 ธันวาคม…
-
นวัตกรรมตัวใหม่จากนักวิทยาศาสตร์ ช่วยแก้ปัญหา ‘หัวล้าน’ โล่งเตียนของทุกคน
ปัญหาผมร่วงหรือ หัวล้าน คือสิ่งที่ผู้ชายจำนวนมากรู้สึกเป็นกังวล กลัวว่าแก่ตัวไปแล้วผมบนศีรษะจะหายไปหมด แต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้คิดค้นสิ่งที่จะมาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยาตัวนี้ผู้วิจัยบอกว่ามันสามารถช่วยแก้ปัญหาได้จริง จากการทดสอบกับหนูทดลองแล้ว พวกเขาสามารถสร้างเซลล์ต้นกำเนิดขึ้นมาได้ ทำให้มีการเติบโตของผมทั้งด้านบนและข้างใต้ของชั้นผิวหนัง เจ้าเนื้อเยื่อตัวใหม่นี้ เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่สามารถแก้ปัญหาหัวล้านให้กับมวลมนุษยชาติได้ในอนาคต โดยทางมหาวิทยาลัยแพทย์อินดีแอนา รัฐอินดีแอนา สหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาและพัฒนาเพิ่มเติม จนทำให้พบอีกว่า เส้นผมที่เกิดขึ้นมานั้นมีความเป็นธรรมชาติอย่างมาก และสามารถเติบโตขึ้นมาได้จากรูขุมขนทุกรูปแบบ ศาสตราจารย์ Koehler ผู้นำการพัฒนาในครั้งนี้บอกเอาไว้ว่า “ลักษณะการขึ้นของเส้นผมจะเหมือนกับก้อนกลมๆ เล็กๆ ที่ค่อยๆ กระจายตัวออกไปรอบๆ ราวกับดอกแดนดีไลอ้อน” วิธีการการปลูกผมก่อนหน้านี้ เราอาจเคยได้ยินว่าพวกเขาจะทำลายรูขุมขนก่อนที่จะสร้างขึ้นมาอีกครั้ง แต่จากการศึกษาในครั้งนี้พบว่า วิธีการสร้างเซลล์ผมขึ้นมาพร้อมๆ กันในช่วงแรกแทนที่จะทำลาย จะทำให้เส้นผมเติบโตขึ้นมาได้ดีกว่า การศึกษาในครั้งนี้ไม่ได้เพียงแค่บอกว่าประสิทธิภาพของมันดีแค่ไหน แต่พวกเขายังได้วิจัยเกี่ยวกับอาการหัวล้านเพิ่มเติม โดย 95 เปอร์เซ็นต์ของคนที่มีผมบางมาตั้งแต่แรกมักจะประสบปัญหานี้ อาการหัวล้านส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากยีนกรรมพันธุ์ที่เราได้รับมาจากพ่อแม่ มีชื่อว่า DHT จนทำให้ผมที่ร่วงไปจะต้องใช้เวลานานกว่าจะโตขึ้นมาอีกครั้ง จนท้ายที่สุดมันก็จะไม่งอกงามขึ้นมาอีกเลย ผู้ชายที่เจอกับปัญหาผมร่วงมาตั้งแต่วัยรุ่น จะเกิดอาการหัวล้านได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับอาการหัวล้านแบบหัวไข่ดาว ที่จะโล่งเตียนแค่ด้านบน แต่เหลือผมด้านข้างเอาไว้ประปราย อาการหัวล้านแบบไข่ดาว จะเกิดขึ้นไวกว่าล้านทั้งหัว อย่างไรก็ตามงานวิจัยของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้…
-
พนักงานโรงแรมชื่อดังสุดหรูในประเทศจีนใช้ ‘แปรงขัดส้วม’ มาล้างแก้วต่อ!?
เรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับข้าวของเครื่องใช้ในโรงแรม เพราะคงไม่มีลูกค้าคนไหนจะอยากเข้าพักในห้องที่สกปรก โดยเฉพาะกับโรงแรมที่มีชื่อเสียงและมีราคาแพง แต่ในประเทศจีนการให้บริการของโรงแรม 3 แห่งนี้กลับไม่ได้ดีสมราคาเลย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2017 เว็บไซต์ PearVideo ของประเทศจีนได้เผยคลิปการทำงานของพนักงานทำความสะอาดในโรงแรมชื่อดัง 3 แห่งในเมืองฮาร์บิน ที่มีการทำความสะอาดได้แย่มากๆ ชนิดที่ว่าอาจทำให้คุณรู้สึกขยาดกับการเข้าโรงแรมไปอีกนานเลย เมืองฮาร์บิน ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน โรงแรมแห่งแรกคือ โรงแรม Kempinski มี 352 ห้องพัก และค่าเข้าพักที่สูงสุดราวๆ 16,000 บาทต่อคืนเลยทีเดียว แต่จากที่นักข่าวได้เข้าไปถ่ายรูปการทำความสะอาดของโรงแรมแห่งนี้ บอกเลยว่ามันเลวร้ายเอามากๆ โรงแรม Kempinski พนักงานทำความสะอาดของที่นี่ใช้แปรงขัดห้องน้ำล้างถ้วยให้กับลูกค้า อีกทั้งยังใช้แปรงเดียวกันนั้นทำความสะอาดโถส้วมให้เห็นกันแบบต่อหน้าต่อตา ก่อนที่จะนำไปวางเก็บที่เดิมและใช้ผ้าขนหนูอาบน้ำมาเช็ดถ้วยให้แห้ง . หลังจากนั้นเราก็จะได้เห็นภาพของพนักงานจุ่มผ้าขนหนูอาบน้ำลงไปในน้ำโถส้วม แล้วค่อยนำมาเช็ดพื้นห้องน้ำ . เมื่อนักข่าวถามเพื่อนร่วมงานในโรงแรม พวกเขาบอกว่าแม่บ้านทุกคนก็ทำเหมือนกันหมด แต่แค่พวกเขาเลือกที่จะไม่บอกให้ใครรู้เท่านั้นเอง พนักงานที่นี่ไม่เปลี่ยนผ้าปูให้ เพราะเห็นว่ามันยังสะอาดดีอยู่ ต่อมาเป็นภาพของโรงแรม…
-
ครอบครัวชาวจีน ร่วมแรงร่วมใจกันออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพจนหุ่นเป๊ะกันทั้งบ้าน
การลดน้ำหนักเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดี เป็นหนึ่งในเป้าหมายของใครหลายๆ คนสำหรับปีใหม่ 2018 ซึ่งหากใครกำลังคิดว่าตัวเองคงทำไม่ไหวหรือไม่สำเร็จแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณได้มาดูแรงบันดาลใจจากครอบครัวชาวจีนครอบครัวนี้ มาทำความรู้จักกับครอบครัวแซ่ Ding ทั้ง 4 คน ผู้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีสุขภาพที่ดีได้กันทั้งครอบครัว ในเวลาราวๆ 6 เดือน พวกเขาสามารถเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้เลยทีเดียว พ่อแม่ลูกและภรรยาแซ่ Ding จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนักในครั้งนี้ เริ่มมาจาก Jesse Ding วัย 32 ปี รู้สึกเป็นห่วงสุขภาพคุณพ่อของตัวเอง เพราะเวลามีปัญหาเขามักจะเก็บความเครียดไว้กับตัวและนั่นทำให้สุขภาพของคุณพ่อของ Jesse แย่ลง เพื่อต้องการให้คุณพ่อของเขากลับมามีสุขภาพที่ดีอีกครั้ง Jesse จึงตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักของตัวเองมาอีก 10 กิโลกรัม และออกกำลังกายลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กับคุณพ่อซะเลย พวกเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจ และช่วยสนับสนุนกันอยู่เสมอ หนทางอันยากลำบาก ต้องใช้ความพยายามอันหนักหน่วง . จุดเปลี่ยนในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2017 และนั่นจึงทำให้คุณแม่และภรรยาของเขาที่กำลังตั้งครรภ์ เข้ามาร่วมวงด้วย คราวนี้จึงกลายเป็นการลดน้ำหนักกันยกบ้านเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่จะลดน้ำหนักกันเพียงอย่างเดียว เพราะจุดประสงค์หลักของพวกเขาคือการสร้างสุขภาพที่ดี พวกเขาจึงเลิกกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วหันไปประกอบอาหารที่ดีมีประโยชน์…
-
22 ภาพในช่วงจังหวะที่เป๊ะมาก ดูดีๆ แล้วจะกลายเป็นงานอาร์ตไปเลยนะเนี่ย!?
เราอาจเคยเจอกับความบังเอิญที่เรียกเสียงหัวเราะกันมาแล้วนักต่อนัก แต่จะมีซักกี่ครั้งที่เราจะสามารถเก็บภาพเหล่านั้นเอาไว้ได้แบบพอดิบพอดี เหมือนอย่างภาพเหล่านี้ที่เกิดขึ้นมาจากความตั้งใจบ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือมันช่างพอดีเสียเหลือเกิน นี่คือภาพของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบถูกที่ถูกเวลา จนออกมาเป็นภาพที่สร้างเสียงหัวเราะและมีความเป็นศิลปะไปในตัว เราไปยิ้มพร้อมๆ กันได้เลย ต้องนั่งหลังตรงเพื่อป้องกันการปวดหลัง เราเคยรู้จักกันมาก่อนมั้ย ทำไมคุณต้องมาทำร้ายฉันด้วย ถ้าไม่มีกระจกกั้นนี่คงเหลือแต่ช่วงคอลงมาแล้วแหละ แม่จ๋าอย่าดื่มเหล้า นี่คงจะเป็นลูกของไมเคิล แจ็คสันเป็นแน่แท้ เป็นความผิดพลาดที่เรียกเสียงฮือฮาได้ดังมากกว่าเดิมเสียอีก มาแต่หัวยังพอว่า นี่ยังจะกล้ามาขโมยคาเฟอีนจากแก้วข้าไปอีก อย่าเพิ่งดันเข้ามาสิเจ้ามนุษย์ จะต้านเอาไว้ไม่อยู่แล้ว น้องกบที่สามารถกระโดดออกไปได้ราวกับเดอะแฟลช สอยเข้าปลายคาง เจ้าหมาลงไปนอนอ้างว้างนับแสงดาวกันเลยทีเดียว แน่ใจใช่มั้ยว่าเธอกำลังถ่ายกับเพื่อนอยู่ ถึงหัวจะเป็นเด็ก แต่ตัวเขาเป็นผู้ใหญ่ สงสัยจะเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ กายกรรมเปียงยางยังอาย เป็นภาพถ่ายรวมเพื่อนที่น่ารักน่าชังเสียนี่กระไร ไอบีลีฟไอแคนฟลายยย ไอบีลีฟไอแคนทัชเดอะสกายยย มิติใหม่ของการเล่นซ่อนแอบ มายากลพาเพลิน เชิญชมน้องหมาแยกร่าง …
-
10 อันดับภาพของ ‘น้องทราย’ เลเยอร์สาวชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นใครก็แต่งได้หมด
เราอาจเคยเห็นการคอสเพลย์แบบประหยัดงบ หรือที่เรียกว่า โลว์คอสต์คอสเพลย์ (Low Cost Cosplay) กันไปบ้างแล้ว ซึ่งสำหรับวันนี้จะมาพูดถึงหนึ่งในผู้นำแฟชั่นดังกล่าวของไทย เธอมีชื่อว่า เบญจพร เจษฎากานต์ ชื่อเล่นว่า ทราย นอกจากเธอจะมาคอสเพลย์ด้วยราคาสบายกระเป๋าแล้ว เธอยังเพิ่มเติมความฮาเข้าไปพร้อมกับแฮชแท็กน่ารักๆ ว่า #ฟามสุขเล็กๆ จนกลายเป็นที่ชื่นชอบให้กับชาวเน็ต มีผู้ติดตามมากว่า 140,000 คน และจากการคอสเพลย์หลายๆ ครั้งของเธอในปีที่ผ่านมา เธอจึงทำการจัดเป็น 10 อันดับคอสเพลย์แห่งปี 2017 ซะเลย กิจกรรมยามว่างของเธอคนนี้สามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเราได้มากขนาดไหน เราลองไปชมกันเลย อันดับ 10 วันเดอร์วูแมน VS แฟตตี้วูแมน อันดับ 9 ลำไยไหทองคำ VS รำคาญหมอนทองจัง อันดับ 8 BNK48 VS KFC84 อันดับ 7 รอเรียล VS รอรีเอะ อันดับ 6 คนละก้าว VS คนละก้อย …
-
Logan Paul ออกมาขอโทษชาวเน็ตญี่ปุ่น หลังหัวเราะ ‘ศพ’ ที่ตัวเองบังเอิญไปเจอในป่า
Logan Paul คือยูทูบเบอร์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ด้วยความตลกจากการถ่ายคลิปชีวิตประจำวันของตัวเอง จนทำให้มีผู้ติดตามในยูทูบมากกว่า 15 ล้านคน แม้เขาจะสร้างความสนุกไว้ให้กับใครหลายๆ คน แต่คลิปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2017 กลับได้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก ในวันนั้นเขาถ่ายคลิปตัวเองและเพื่อนๆ ที่กำลังเดินอยู่ในป่า Aokigahara ป่าที่รายล้อมอยู่บริเวณเชิงเขาฟูจิ จังหวัด Yamanashi ประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งไปเจอเข้ากับศพคนตาย Logan ยูทูบเบอร์ชื่อดังในอเมริกา ร่างที่พวกเขาพบเป็นศพของคนที่เข้าไปฆ่าตัวตายภายในป่า โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำเขตก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ดังกล่าวเอาไว้ Logan โพสต์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลงในยูทูบ ซึ่งทำให้เขาต้องเจอปัญหาอย่างหนัก เพราะชาวเน็ตจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจกับท่าทางที่เขาแสดงออกมาตอนที่เจอศพ คลิปตอนที่เขาไปเจอศพด้วยความบังเอิญ (หากใครดูไม่ได้ ให้กดที่ลิ้งก์ Twitter) Logan Paul and his friends laughing and smiling after discovering a dead body pic.twitter.com/azY7EAiuC4 — JhbTeam (@JhbTeam) January…
-
รู้จักกับ ‘Bike Batman’ ฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมให้กับเหล่านักปั่นบนท้องถนน
ในสังคมที่เต็มไปด้วยหัวขโมยมากมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ได้กับทุกคน เหมือนอย่างในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ที่มักจะมีจอมโจรขโมยจักรยานอยู่บ่อยครั้ง และนั่นจึงทำให้ฮีโร่คนนี้ไม่สามารถอยู่เฉยได้ เรากำลังพูดถึงฮีโร่ที่ได้รับสมญานามว่า Bike Batman หนุ่มวิศวกรนิรนามวัยประมาณ 30 ปี ผู้ช่วยตามหาจักรยานที่หายไปกลับมาคืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง หนุ่มผู้ช่วยตามหาจักรยานมาส่งคืนให้กับเจ้าของ ชายคนนี้เริ่มปฏิบัติภารกิจดังกล่าวในช่วงต้นๆ ยุค 2000s เมื่อเขาเริ่มรู้ตัวว่าในเมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยโจรขโมยจักรยาน หลังจากที่ล้อทั้งสองข้างของจักรยานเขาเอง ถูกขโมยไปอย่างไร้ร่องรอย เขาทราบดีว่าตำรวจต้องรับมือกับคดีอาชญากรรมต่างๆ มากมาย ทำให้ไม่มีเวลามากพอจะมาจัดการกับปัญหาเล็กๆ แบบนี้ได้ เขาจึงได้เริ่มใช้ฉายาว่า Bike Batman นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อย่างแรกที่เขาทำคือ เขาเริ่มหาข้อมูลจักรยานที่หายไปในเว็บไซต์ Bike Index ซึ่งเป็นเว็บที่เหล่านักปั่นทั้งหลายมาลงทะเบียนจักรยานของตัวเองเอาไว้ หลังจากนั้นภารกิจแรกของเขาก็ได้ถือกำเนิดขึ้น หลังจากที่เขาเสร็จจากการทำงานเป็นวิศวกรแล้ว เขาก็ขับรถกระบะออกไปตามหาจักรยานที่หายไปนพื้นที่ที่ระบุไว้ภายในเว็บไซต์ทันที จนทำให้เขาได้เจอกับจักรยานคันดังกล่าวที่อยู่ในมือของหัวขโมยสามคน เมื่อเจออย่างนั้น เขาจึงพูดกับเหล่าหัวขโมยว่า “ตอนนี้ตำรวจกำลังเดินทางมาแล้ว พวกนายไม่รอดอย่างแน่นอน ขอแนะนำให้ทิ้งจักรยานไว้แล้วไปซะ” โจรเหล่านั้นจึงวิ่งหายไป และเขาก็ยกจักรยานคันนั้นขึ้นกระบะ ก่อนที่จะส่งมอบถึงมือเจ้าของได้ในที่สุด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หน้าที่นี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งบทบาทหลักของเขา ยามกลางวันเขาคือวิศวกรหนุ่ม…
-
พรานหนุ่มโรมาเนียถูกยิงเสียชีวิตในป่า หลังเพื่อนเข้าใจผิด คิดว่าเป็นหมูป่า!?
ในวันคริสต์มาสอีฟปี 2017 อาจเป็นวันที่ใครหลายๆ คนได้เฉลิมฉลองกับเพื่อนหรือครอบครัวกันอย่างมีความสุข แต่มันกลับกลายเป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับของชายคนหนึ่งในประเทศโรมาเนียที่มีชื่อว่า Victor Dinca วัย 31 ปี ในช่วงเทศกาลวันหยุด Victor ต้องการกลับบ้านไปฉลองช่วงคริสต์มาสกับครอบครัวและเพื่อนๆ ในบ้านเกิดที่พ่อของเขาเป็นนายกเทศมนตรีอยู่ แต่แทนที่จะจัดงานเลี้ยงกันเพื่อความสนุกสนานเฮฮา กลายเป็นว่าต้องจัดงานศพให้กับชายคนนี้เสียแทน Victor อาจารย์สอนบัญชีที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในเมือง Bucharest เรื่องราวมีอยู่ว่าในเช้าวันคริสต์มาสอีฟ Victor และเพื่อนอีก 7 คน ตัดสินใจเข้าป่าไปล่าสัตว์ในเขต Dambovita ทางตอนใต้ของประเทศโรมาเนีย ในวันนั้นเขาและเพื่อนตั้งใจจะไปล่าหมูป่ากัน แต่ขณะที่กำลังล่ากันอยู่นั้นเอง เพื่อนวัย 41 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพี่ชายนอกสายเลือดของ Victor ยิงปืนออกไปหมายจะเอาชีวิตหมูป่าที่อยู่ห่างประมาณ 30 เมตร เมื่อวิ่งตามไปดู ศพที่เจอกลับไม่ใช่หมูป่าอย่างที่เขาคิด แต่เป็นร่างของ Victor ที่ถูกกระสุนขนาด 12 มิลลิเมตร พุ่งทะลุหัวใจนอนตายคาที่ จากการเข้าใจผิดของเพื่อน ทำให้นักบัญชีหนุ่มต้องเสียชีวิตลง สร้างความเสียใจให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภรรยาของเขา ซึ่งทั้งสองวางแผนกันเอาไว้ในตอนแรกว่าจะทำพิธีล้างบาปให้กับลูกสาววัย 2…
-
ภาพที่สื่อให้เห็นว่าไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืน ทุกอย่างล้วนเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา
ทุกสิ่งอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ไม่มีสิ่งใดที่จีรังยั่งยืนไปตลอด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือแม้แต่ร่างกายของเราเองก็ตาม การเสื่อมสลายจะเดินทางมาหาเราเองไม่ช้าก็เร็ว ภาพเหล่านี้คือสิ่งที่จะอธิบายให้เราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนั้นอย่างเห็นได้ชัด ทุกสิ่งมีอยู่และเสื่อมสลาย ก่อนที่จะดับไปในที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราลองลงไปดูพร้อมๆ กันเลย เราสามารถมองเห็นช่วงเวลาแห่งประสบการณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างชัดเจน กำแพงอิฐที่ถูกคลื่นทะเลกัดกร่อนมาเป็นเวลานาน ทำให้รูปร่างของมันเปลี่ยนไป ตัวขวาคือตุ๊กตาที่ได้รับความรักมาตั้งแต่ปี 1995 ส่วนด้านซ้ายคือตุ๊กตาแบบเดียวกันที่กำลังจะได้รับความรักหลังจากนี้ไป เปรียบเทียบระหว่างภาพของคุณยายในปัจจุบัน กับเมื่อ 48 ปีก่อน พื้นของร้านตัดผมที่จางลงไป จากการใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน กว่าสิบปีที่เจ้าแมวข่วนขาเก้าอี้ตัวนี้ ทำให้รูปร่างผิดเพี้ยนไปจากเดิม การทำความสะอาดโบสถ์ Trinity Abbey เพียงครึ่งเดียว ทำให้เราเห็นสีที่ต่างกันอย่างชัดเจน จักรยานที่ถูกทิ้งไว้มาตั้งแต่ปี 1914 จนเติบโตขึ้นมาพร้อมกับต้นไม้ น้องหมาตัวใหม่ กับน้องหมาที่มีอายุมานานกว่า 33 ปี กับสภาพที่จำแทบไม่ได้ หลุมศพของคุณแม่ ที่ได้รับอ้อมกอดจากต้นไม้ใหญ่ ความแตกต่างของรองเท้าที่ถูกใส่จากขาจริงและขาเทียม กระสอบทรายที่มีอายุมานานกว่า 40 ปี…
-
เรื่องสุดสลดใจของเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ถูกลักพาตัวไปข่มขืน ในคุกชั้นใต้ดินนานร่วมสัปดาห์
พวกเราส่วนใหญ่เกิดมาได้รับการดูแลจากคนในครอบครัวเป็นอย่างดี แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง เด็กบางคนอาจจะไม่ได้รับความรักหรือความอบอุ่นเสมอไป เพราะพวกเขาต้องเจอกับความโหดร้ายที่มากเกินกว่าใครจะรับรู้ เหมือนอย่างเธอคนนี้ หญิงสาวผู้โชคร้ายที่ชื่อว่า Katie Beers วัย 35 ปี เธอได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวในกระทู้ถามตอบ Reddit AMA เกี่ยวกับการถูกทารุณกรรมทางเพศตั้งแต่เด็ก และการถูกลักพาตัวไปข่มขืนตอนที่อายุเพียงแค่ 9 ขวบ Katie ตอนที่ยังเป็นเด็ก การถูกคุกคามทางเพศเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เธออายุประมาณ 1-2 ขวบ ในตอนนั้นแม่อุปถัมภ์ที่มีศักดิ์เป็นน้า รับเด็กสาวคนนี้ไปเลี้ยงดู แต่แทนที่เธอจะได้เจอกับความรัก ความอบอุ่น มันกลับกลายเป็นความโหดร้ายที่น่าสลด เด็กสาวถูกเลี้ยงดูเยี่ยงทาสและสามีของน้าเธอก็คุกคามเด็กสาวตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา การถูกทารุณกรรมทางเพศเกิดขึ้นยาวนานเกือบ 8 ปีเลยทีเดียว สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นคือ ในวันที่ 28 ธันวาคม 1992 ก่อนวันเกิดครบรอบ 10 ปีของเธอ ในวันนั้นเธอถูกชายผู้เป็นเพื่อนของคนในครอบครัวลักพาตัวเธอไป และขังเอาไว้ในห้องใต้ดิน พร้อมกับข่มขืนเธอซ้ำไปซ้ำมา ในตอนนั้นเธอต้องเจอกับการคุกคามทางเพศจากคนที่เธอไว้ใจ ชายที่ลักพาตัวเธอไปมีชื่อว่า John Esposito เขาคือคนที่เธอเคยเห็นหน้ามาตั้งแต่เด็กและเรียกเขาว่า Big John ทำให้เธอเชื่อใจเขา หลังจากที่เขามาหลอกเธอว่าจะซื้อของขวัญวันเกิดให้…
-
ภาพเหล่าสาวๆ ที่คุณจะต้องหันมามองใหม่อีกครั้ง เพราะจริงๆ แล้วเธอไม่ได้ใส่ ‘เสื้อผ้า’!? แหม มันเนียนจริงๆ
พวกเราแทบทุกคนคงเคยชินกับการใส่เสื้อผ้า ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือออกไปเที่ยวข้างนอก เพราะการที่เราจะไม่ใส่อะไรเลย เดินโทงเทงไปอย่างนั้นมันอาจดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถึงแม้ว่าพวกเธอเหล่านี้จะไม่ใส่เสื้อผ้าอะไรเลยก็ตาม เรากลับไม่ได้คิดว่ามันไม่เหมาะสมหรือแทบแยกความแตกต่างจากตอนใส่เสื้อผ้าไม่ออกเลยทีเดียว หญิงสาวเหล่านี้คือลูกค้าของศิลปินสาวที่ชื่อว่า Jen ผู้ช่วยให้พวกเธอดูเหมือนกับว่าไม่โป๊แม้จะไม่ใส่เสื้อผ้าใดๆ โดยใช้การเพ้นท์สีลงไปร่างกายของสาวๆ เหล่านั้นแทน ทำให้เราเห็นเหมือนกับว่าเธอใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้นซะอย่างนั้น ว่าแล้วเราก็ลองไปชมผลงานเหล่านั้นกันเลย ศิลปินคนนี้ได้วาดชุดต่างๆ ลงบนร่างกายให้กับหญิงสาว ผลงานที่ออกมา เราแทบดูไม่ออกเลยว่าพวกเธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอยู่จริงๆ เนียนกริบ กลมกลืน แม้จะออกมาเดินอยู่ริมทางข้างถนน อยากจะได้ชุดออกงานในลักษณะไหน สามารถเลือกได้ตามใจชอบ มีความสวยงามและเป็นธรรมชาติจริงๆ นอกจากลวดลายแล้ว จะตกแต่งติดเพชรนิดหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหา ดูเหมือนจะไม่โป๊นะ แต่รู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก หนุ่มๆ ที่เดินผ่าน อาจต้องหันมามองซ้ำแล้วซ้ำอีก ช่างเป็นศิลปะที่ดูเซ็กซี่อะไรจะขนาดนี้หนอ โดดเด่นเป็นสไตล์อย่างมีสีสัน จะเรียกว่าชุดแนบเนื้อแบบแนบจริงๆ จะชุดราตรี ชุดหมี ชุดสิงโต อะไรก็ได้แล้วแต่คุณลูกค้าเลย ศิลปินสาวคนนี้สามารถช่วยให้คุณได้ออกงานอย่างเป็นเอกลักษณ์ แต่ถ้าเป็นนักกีฬาแล้วต้องแลกเสื้อกัน พวกเธอจะทำอย่างไรนะ? …
-
น้องเหมียวกรามและขาผิดรูป ใช้ชีวิตที่เหลือกับสาวใจดี 3 ปีต่อมา สดใสขึ้นไปอีก…
บางครั้งช่วงเวลาที่ยากลำบากหรือไร้หนทางอาจทำให้เรารู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไป แต่อย่าเพิ่งไปท้อถอยเพราะความหวังสามารถเกิดขึ้นมาได้เสมอ เหมือนอย่างเจ้าแมวตัวนี้ เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Buggy ได้รับการช่วยเหลือในปี 2014 จากกลุ่ม Cats Protection Belfast Adoption Center ในสหราชอาณาจักร เมื่อตอนที่อายุเพียงแค่ 8 สัปดาห์เท่านั้น เจ้าเหมียว Buggy ที่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มอาสาสมัครผู้แสนใจดี พี่น้องอีกสองตัวที่ได้รับการช่วยเหลือมาพร้อมๆ กัน Claire Harper อาสาสมัครของกลุ่มเล่าว่า “มันมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแมวทั่วๆ ไปในวัยเดียวกันมาก ในตอนนั้นมันป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร และไม่สามารถเดินได้ คอยแต่จะตีลังกาอยู่เสมอ ซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับพี่น้องของมันอีกสองตัว แต่ Buggy มีอาการที่ร้ายแรงมากที่สุดแล้ว” พวกมันเกิดมามีความผิดปกติทางโครโมโซม กรามของ Buggy คดเคี้ยวผิดรูปทำให้ไม่สามารถอ้าได้ตามปกติ และดวงตาใหญ่กว่าแมวทั่วไป จนเมื่อ Claire ได้มาเจอกับเจ้า Buggy ตอนที่อายุได้ 3 เดือนแล้ว เธอก็ตกหลุมรักมันในทันที แต่ในตอนนั้นเจ้าเหมียวกำลังตกอยู่ในช่วงวิกฤต เพราะสัตวแพทย์ตรวจพบว่าข้อต่อทุกจุดของขาหลังมันผิดรูปร่างไปหมดเลย รวมถึงส่วนสะโพกด้วย…
-
คนขับแท็กซี่อัดคลิประบายความในใจ เพื่อนร่วมอาชีพไม่ไปส่งนทท. และเรียกค่าโดยสารแพง
วันที่ 30 ธันวาคม 2017 เพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า คนเลวต้องไม่มีที่ยืน ได้โพสต์คลิปของพี่คนขับแท็กซี่คนหนึ่งออกมาระบายความไม่พอใจเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองเพิ่งไปเจอมา พี่คนนี้มีประสบการณ์ขับแท็กซี่มานานกว่า 17 ปี เขาเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ได้นำรถไปเติมแก๊สที่สายใต้และเจอกับชาวต่างชาติครอบครัวหนึ่งมาติดต่อจะนั่งแท็กซี่ไปกับคุณลุงคนขับที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมสยาม 2 ในเขตพญาไท แต่แทนที่คุณลุงคนนั้นจะพาชาวต่างชาติขึ้นรถ ใช้มิเตอร์ตามปกติ คุณลุงกลับบอกครอบครัวนั้นไปว่าเขาคิดราคา 350 บาท ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ชาวต่างชาติต้องการเลยและตอบลุงคนนั้นไปว่า “No, I want meter.” ลุงคนขับคนดังกล่าวจึงรู้สึกไม่พอใจที่ไม่ได้ในราคาที่ตัวเองต้องการ และใช้ภาษาไทยด่าชาวต่างชาติครอบครัวนั้นไปด้วยคำหยาบคายอย่างมาก ก่อนที่จะเดินจากไปทิ้งครอบครัวต่างชาติไว้ให้ยืนงงไปอย่างนั้น พี่คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงเดินเข้าไปหวังจะกล่าวคำขอโทษและตั้งใจพาครอบครัวนี้นั่งรถแท็กซี่ไปแบบฟรีๆ แต่แน่นอนว่าชาวต่างชาติกลุ่มนี้หมดสิ้นความศรัทธาในตัวคนขับแท็กซี่ไทยไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงใช้วิธีการเรียก Uber มารับแทน เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้พี่แท็กซี่ในคลิปวิดีโอรู้สึกไม่พอใจกับเพื่อนร่วมอาชีพของตัวเองอย่างมาก เขาจึงแสดงความคิดเห็นเอาไว้ 3 ประเด็นด้วยกัน… ประเด็นที่ 1 การท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเพิ่มเม็ดเงินให้บ้านเรา และการที่ลุงคนขับคนนั้นแสดงกิริยาดังกล่าวออกมา ทำให้ภาพลักษณ์ของแท็กซี่บ้านเราเสียหาย และอาจทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเราน้อยลง ประเด็นที่ 2…
-
Rebekah เด็กหญิงข้ามเพศวัย 10 ขวบ ผู้เลือกทำตามหัวใจและใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ
การข้ามเพศอาจเป็นสิ่งที่ใครบางคนยังคงไม่เห็นด้วยซักเท่าไหร่ แต่สำหรับหลายๆ คนแล้ว การได้เลือกเป็นในสิ่งที่ตนเองต้องการ คือสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขยิ่งกว่าสิ่งใด Rebekah Bruesehoff คือเด็กที่อาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา และข้ามเพศมาใช้ชีวิตแบบผู้หญิงตั้งแต่ตอนเธออายุเพียง 8 ขวบ ครอบครัวของ Rebekah (เด็กทางด้านซ้าย) Jamie แม่ของเธอบอกว่า “ลูกของฉันเกิดมาเป็นเด็กผู้ชาย แต่ความไม่สมดุลกันของเพศและสิ่งที่เธอเป็นแสดงออกมาให้เห็นตั้งแต่เธออายุ 2-3 ขวบแล้ว” ตั้งแต่นั้นมา จะสังเกตได้ว่า Rebekah ชอบสีชมพูและม่วง หลงใหลในเสื้อผ้าของผู้หญิง เธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปเดินดูในร้านเสื้อผ้าเหล่านั้น และอีกสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ เธอจะรู้สึกกระวนกระวายใจทุกครั้งเวลาที่ต้องไปจับกลุ่มอยู่กับเด็กผู้ชายคนอื่นๆ หรือต้องรับบทผู้ชายในการแสดงโรงเรียน แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ตอนเธออายุ 7 ขวบ เธอเคยพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยการวิ่งออกไปกลางถนน หรือแม้แต่ต่อยกระจกห้องให้แตกและพยายามจะโดดลงไป เพราะเธอไม่สามารถทนใช้ชีวิตอยู่กับการไม่เป็นตัวของตัวเองได้ เธอเล่าว่าในตอนนั้นเธอไม่มีความสุขเลย ไม่กล้าที่จะออกมาเผชิญหน้าสิ่งต่างๆ เธอรู้ตัวมาตลอดว่าเธอต้องการอะไรแต่กลับไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เป็นเหมือนกับคนที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งครอบครัวได้เข้ารับการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์เกี่ยวกับเรื่องเพศของเธอ และนั่นจึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อเธอได้รู้จักกับคำว่าการข้ามเพศเป็นครั้งแรก ในตอนนั้นมันเหมือนกับแสงไฟแห่งความหวังถูกจุดติดขึ้นมา เธอจึงตัดสินใจที่จะข้ามเพศ พ่อแม่ของเธอจึงพาเธอกลับมาเรียนที่บ้าน รอที่จะย้ายไปเรียนในโรงเรียนใหม่ และเริ่มให้เธอใช้ชีวิตเหมือนผู้หญิง ความแตกต่างของเธอหลังจากนั้นแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน…
-
หนุ่ม “ดิสเล็กเซีย” พิสูจน์ตัวเองจากคำดูถูกของคุณครู จนกลายเป็นนักดนตรีที่มีความสามารถ
ในวัยเด็ก อาจารย์คือคนที่ให้ความรู้กับเราและเป็นคนที่ช่วยนำทางให้เราสามารถเดินต่อไปในอนาคตได้อย่างถูกต้อง แต่บางครั้งก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะอาจารย์ที่ชายคนนี้ต้องเจอในวัยเด็กกลับทำในสิ่งที่ตรงข้ามกัน เขามีชื่อว่า Josh Curnow วัย 26 ปี เขาป่วยเป็นโรค ดิสเล็กเซีย (Dyslexia) หนึ่งในความผิดปกติทางด้านการเรียนรู้ ทำให้มีความบกพร่องในการอ่านเขียน สะกดคำติดขัด ไม่สามารถผสมคำได้ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังต้องการที่จะทำตามความฝันในการเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียง Josh ผู้มีความผิดปกติ แต่ยังคงต้องการก้าวเดินตามความฝันของตัวเอง เมื่อตอนที่อายุ 13 ปี ด้วยความที่เขามีความผิดปกติดังกล่าว อาจารย์สอนดนตรีจึงพูดกับเขาว่า ให้ล้มเลิกความฝันเกี่ยวกับดนตรีไปได้เลย และแนะนำให้เขาตั้งเป้าที่จะทำงานในร้านสะดวกซื้อ คอยวางของจัดสินค้าไปแค่นั้นก็พอ คำแนะนำจากอาจารย์คนนี้ได้ฝังลึกอยู่ในจิตใจและทำร้ายความรู้สึก Josh มาโดยตลอด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงพยายามต่อมา และเข้ามาพิสูจน์ตัวเองในรายการ Britain’s Got Talent ปี 2016 เขาเล่าเรื่องราวที่เจอมาในวัยเด็กให้ทุกคนได้ฟัง ก่อนจะเริ่มเล่นเปียโน หลังจากที่กรรมการได้รับรู้เรื่องราวของชายคนนี้ ทุกคนต่างต้องการให้เขาได้แสดงฝีมือออกมา ไม่จำเป็นต้องไปสนใจคำพูดพล่อยๆ อะไรอย่างนั้น และนั่นจึงทำให้เขาได้แสดงฝีมือของตัวเองออกมาให้ทุกคนเห็น การแสดงฝีมือในเพลง Basket Case…
-
เรื่องราวจาก WWI เมื่อทหารทั้งสองฝั่งหยุดจับปืน แล้วมาร่วมจับมือเฉลิมฉลองคริสต์มาสแทน…
สงครามโลกครั้งที่ 1 คือหนึ่งในสงครามอันแสนเลวร้ายที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ทหารและพลเรือนต้องตายไปหลายล้านคน แต่ท่ามกลางสมรภูมิรบที่แสนหดหู่นั้นกลับมีเรื่องราวที่แสนอบอุ่นหัวใจเกิดขึ้นมาอยู่ด้วย ในปี 1914 ช่วงสงครามดังกล่าว จากความยืดเยื้อของการห่ำหั่นกันอย่างยาวนาน สงครามจึงกินเวลาไปควบในช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสในปีนั้น ทำให้ทหารจากทั้งสองฝ่ายที่ยิงใส่กันมาตลอด วางอาวุธลงและร่วมฉลองวันพิเศษนั้นไปด้วยกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางสมรภูมิ Tennenberg ประเทศโปแลนด์ ในวันคริสต์มาสอีฟปีนั้น ทหารจากอังกฤษและฝรั่งเศสได้ออกไปร่วมเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลกับทหารฝั่งเยอรมันที่เป็นศัตรู จากเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ ทหารอังกฤษนายหนึ่งเล่าว่า “ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส พวกเราและทหารฝั่งเยอรมันวางอาวุธลง เดินขึ้นมาจากหลุมป้องกันภัย มารวมกันอยู่ตรงพื้นที่ที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ระหว่างกองทัพของทั้งสองฝั่ง และพวกเราก็ได้จัดโต๊ะเลี้ยงฉลองไปด้วยกัน” เขาเล่าอีกว่า “เวลาเพียง 5 นาที ลานดังกล่าวก็เต็มไปด้วยทหารจากทั้งสองฝั่ง พวกเราสวมกอดกันและกัน สูบบุหรี่ไปด้วยกัน แลกของที่ระลึกหรือมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่กัน” นอกจากที่พวกเขาจะสนุกไปด้วยกันแล้ว ทหารทุกฝ่ายยังช่วยกันฝังศพให้กับคนที่ตายไปในสมรภูมิดังกล่าวอีกด้วย งานเลี้ยงฉลองยังคงมีต่อไปถึงวันที่ 26 ธันวาคม 1914 เป็นวันที่เรียกว่า Boxing Day พวกเขายังคงเฮฮาไปกับงานเทศกาล ก่อนที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดลงในวันที่ 27 การร่วมใจกันจากทหารของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่นี่ที่เดียว เพราะจากการบันทึกเล่าว่า มีทหารอังกฤษจากกองทัพแพทย์ทหารบกเขียนมาในจดหมายที่ส่งกลับมาลอนดอนว่า พวกเขาได้ไปแข่งเตะบอลกับทหารฝั่งเยอรมันและแพ้ไป…
-
‘ตู้หยอดเหรียญ’ สัญลักษณ์ของญี่ปุ่น สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในประเทศอย่างไร?
ในประเทศญี่ปุ่น ตู้หยอดเหรียญ เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ามีอยู่แทบจะทุกที่ในเมืองและขายสินค้าหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ชา บุหรี่ เบียร์ ซุป ขนมขบเคี้ยว หรือแม้แต่อาหารร้อน ด้วยความสะดวกในการใช้งาน จึงทำให้ประชากรจำนวนมากนิยมมาใช้บริการตู้เหล่านี้ แต่ทว่านอกจากมันจะได้รับความนิยมแล้ว สิ่งนี้สามารถสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้อีกหลายๆ เรื่อง เราสามารถเข้าใจสังคมของประเทศนี้ผ่านตู้หยอดเหรียญได้อย่างไรกันบ้าง ลองไปดูกันเลย ค่าแรง William A. McEachern ศาสตราจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา บอกว่า ญี่ปุ่นอยู่ในช่วงประชากรลดลง ผู้อยู่อาศัยจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุ และขาดแคลนคนอพยพเข้าเมือง จึงทำให้หาแรงงานได้ยากและค่าแรงงานมีราคาสูง Robert Parry ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์จึงบอกว่า ตู้หยอดเหรียญเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งแม้แต่ร้านค้าปลีกเองก็หันมาใช้ตู้เหล่านี้ เพื่อความสะดวกสบายและไม่จำเป็นต้องจ้างแรงงานเพิ่มเติมใดๆ เลย ความหนาแน่นของประชากรสูง และอสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาแพง ญี่ปุ่นคือหนึ่งในประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรอย่างมาก ด้วยประชากรราวๆ 127 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในประเทศเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยภูเขาอีกกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้คนกระจายตัวออกไปได้อย่างมาก จนผู้คนกว่า 93 เปอร์เซ็นต์มาแออัดอาศัยกันอยู่ในเมือง เพราะเหตุนั้นราคาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ในเมืองจึงมีราคาสูงมาก คนส่วนใหญ่จึงต้องอยู่กันในหอพักเล็กๆ…
-
ตำนานของ ‘มิสเซิลโท’ พืชกาฝากที่ผันตัวมาเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและคริสต์มาส
ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส นอกจากที่เราจะได้เห็นต้นสนที่ถูกตกแต่งประดับประดาอย่างสวยงามแล้ว พืชอีกชนิดที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้ก็คือ มิสเซิลโท (Mistletoe) พืชกาฝากที่คอยมาแย่งอาหารต้นไม้ แต่กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักซะอย่างนั้น วันนี้ #เหมียวตะปู จึงชวนเพื่อนมารู้กันว่า ทำไมต้นไม้ที่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความรักและวันคริสต์มาสได้ อีกทั้งจะต้องไปจูบกันใต้พุ่มพืชชนิดนี้เพราะอะไร? หากจะพูดถึงความเป็นมาของเจ้าพืชชนิดนี้ เราคงต้องย้อนกลับไปหลายพันปีเลยทีเดียว ซึ่งชาวกรีกสมัยก่อนเชื่อว่ามันสามารถช่วยรักษาได้ทุกโรค แต่ในความเป็นจริงแล้วพืชชนิดนี้ค่อนข้างจะเป็นพิษกับสัตว์และมนุษย์ เพราะหากบริโภคเข้าไปจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และปวดท้องได้ แต่ต่อมามันก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อในช่วงคริสต์ศักราช 100 นักบวชเซลติกมองว่าพืชชนิดนี้คือสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์ แสดงให้เห็นถึงความชุ่มชื้น เพราะมันจะออกดอกมาตอนช่วงฤดูหนาว ในขณะที่พืชส่วนใหญ่จะล้มตายไปหมด อีกหนึ่งตำนานของพืชชนิดนี้ ถูกบันทึกเอาไว้ในเรื่องราวเทพปกรณัมนอร์ส เมื่อเทพ Baldur บุตรแห่งโอดินถูกทำนายเอาไว้ว่าจะต้องตาย Frigg ผู้ซึ่งเป็นแม่จึงพยายามลงมาขอร้องและทำสัญญากับเหล่าสัตว์และพืชต่างๆ ไม่ให้ไปทำร้ายลูกของเธอ แต่เธอกลับลืมที่จะไปเจรจากับมิสเซิลโท จึงทำให้ Loki ใช้ธนูอาบยาพิษจากพืชชนิดนี้ฆ่า Baldur ต่อมา Baldur ถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง Frigg จึงแต่งตั้งให้มิสเซิลโทเป็นสัญลักษณ์ของความรักและให้คำมั่นไว้ว่าจะจูบทุกคนที่เดินผ่านใต้พืชชนิดนี้ เรื่องราวดังกล่าวยังไม่ใช่จุดเริ่มต้นของเหตุผลที่ว่า ทำไมต้องไปจูบกันใต้มิสเซิลโท เพราะสาเหตุของเรื่องนั้นเริ่มขึ้นมาจากเทศกาลอันเก่าแก่ของกรีกที่ชื่อว่า Saturnalia จัดขึ้นในวันที่ 17-23 ธันวาคมของทุกปี และธรรมเนียมดังกล่าวก็ถูกนำไปใช้ในงานแต่งงานต่างๆ…
-
น้องหงส์หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยพามันกลับไปให้ถึงบ้าน
เมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็นลงในเดือนธันวาคมแบบนี้ ทำให้สัตว์บางชนิดต้องย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราว เพื่อหาสถานที่ที่เหมาะกับพวกมันมากที่สุด แต่ดูเหมือนว่าจะมีเจ้าหงส์อยู่ตัวหนึ่งที่เลือกสถานที่ได้ไม่เก่งเอาซะเลย เจ้าหงส์ตัวนี้หลงฝูงมาไกลกว่า 500 กิโลเมตร จนมาโผล่ที่ทะเลสาบ Finskoye บนเทือกเขาอัลไต ประเทศรัสเซีย ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความหนาวเย็นอย่างมาก จนผิวน้ำจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง เจ้าหงส์ที่หลงฝูงมาซะไกล . แน่นอนว่าในอุณหภูมิติดลบ 40 องศาเซลเซียส แถมน้ำก็ยังกลายเป็นน้ำแข็งไปซะหมดแบบนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะกับเจ้าหงส์ซักเท่าไหร่ มันจึงป้วนเปี้ยนไปมาอย่างไร้ความหวัง โดดเดี่ยวเดียวดาย แถมยังถูกเหล่าสุนัขเจ้าถิ่นไล่อีกต่างหาก ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร โชคดีของมัน เมื่อพนักงานดับเพลิงในละแวกนั้นผ่านมาเจอเข้า จึงช่วยมันเอาไว้และตั้งชื่อให้มันว่า Lev (ในภาษารัสเซียแปลว่าสิงโต) ถึงแม้ว่ามันจะพยายามหนีในตอนแรกเพราะตื่นคน แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถจับมันได้สำเร็จ กลุ่มเจ้าหน้าที่ที่ทำการช่วยเหลือมันเอาไว้ . . . หลังจากนั้น พวกเขาจึงส่งมันให้กับเจ้าหน้าที่เขตสงวนธรรมชาติ Saylyugem ผู้ที่คอยพาเหล่าสัตว์ปีกหลงทางกลับไปหาเพื่อนๆ ของมันในสถานที่ที่เหมาะสม เมื่อพามันข้ามเทือกเขาอัลไตไปแล้ว วันที่ 22 ธันวาคม 2017 มันจึงได้ไปอาศัยอยู่กับเหล่าหงส์จำนวนกว่า 350 ตัว ในทะเลสาบ Svetloe ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการใช้ชีวิตในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ และในพื้นที่ดังกล่าวมีการเพิ่มขึ้นของประชากรหงส์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี…
-
เหมียวตาเขได้พานพบเพื่อนที่เหมือนกัน แม้มองหน้ากันไม่ติด (ก็ตาเขอ่ะ) แต่ก็สัมผัสได้ด้วยใจ
ทุกสรรพสิ่งบนโลกล้วนต้องการความรักและความเอาใจใส่จากใครซักคน ไม่เว้นแม้แต่กับเจ้าเหมียวน้อยตาเขตัวนี้ที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้เมื่อ 4 ปีก่อน จนในที่สุดมันก็ได้รับความอบอุ่นอย่างที่หาจากที่ไหนไม่ได้เลย เจ้าแมวตัวนี้มีชื่อว่า Crosby ที่ถูกพบเดินป้วนเปี้ยนอยู่ในลานจอดรถแห่งหนึ่ง และได้รับการช่วยเหลือเอาไว้จากเจ้าหน้าที่ Valerie จากกลุ่ม Fort Collins Cat Rescue ในรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา Crosby เจ้าเหมียวตาเข ที่ได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ Valerie บอกว่า “ตอนที่ฉันพยายามจะจับมัน ทำให้ฉันรู้ได้เลยว่ามันเป็นมิตรและน่ารักมากขนาดไหน ฉันจึงหวังที่จะให้มันได้พบกับบ้านที่แท้จริง” เธอจึงช่วยพามันไปไว้ในบ้านอุปถัมภ์และมันก็ชอบมานอนหลับบนตักของเธอ ในตอนนั้นเจ้าเหมียวอายุประมาณ 3-5 ขวบ และผ่านไปไม่นาน มันก็ได้เจอกับ Kim Hallowell นักศึกษาสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัย Tufts เจ้าของคนใหม่ที่เข้ามามอบความรักและเปลี่ยนชีวิตมันไปตลอดกาล เจ้าเหมียวได้เจอกับคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างไปกับมัน Kim เล่าว่า “ตลอด 4 ปีที่อยู่ด้วยกันมา มันคือเพื่อนที่เดินทางไปด้วยกันกับฉันตลอด ฉันและ Crosby ได้ออกไปเที่ยวกันมาถึง 4 ประเทศแล้ว” เธอยังบอกอีกว่า “ฉันว่ามันเหมือนหมามากกว่าแมว เวลาฉันเผลอทีไร…
-
ครอบครัวปริ๊นท์รูปลูกแปะบนขวดไวน์แจกครู ‘เพราะลูกๆ คงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ครูต้องดื่ม’
ช่วงเทศกาลแบบนี้ หลายคนคงได้มอบของขวัญให้กับคนที่เรารักในวันคริสต์มาสที่ผ่านมาเหมือนอย่างครอบครัวนี้ เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้นำของขวัญไปมอบให้กับอาจารย์ที่คอยดูแลลูกๆ มาตลอด และนี่ก็เป็นของขวัญที่พิเศษกว่าปีไหนๆ ครอบครัว Sommers จากเมือง Dayton รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ครอบครัวนี้ประกอบด้วยพ่อแม่และลูกๆ อีกสามคน ซึ่งทั้งสามนั้นเข้าเรียนในโรงเรียนเดียวกัน และในปีนี้คือปีสุดท้ายของ Jake ลูกชายคนสุดท้องวัย 14 ปี พวกเขาจึงต้องการที่จะมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับอาจารย์ที่คอยดูแลมาตลอด Jake (คนซ้ายสุด) เด็กแสบประจำโรงเรียน ที่ทำให้คุณครูต้องรู้สึกปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง นี่คือปีสุดท้ายในการเรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ พ่อแม่ของเขาจึงต้องการมอบของขวัญสุดพิเศษให้กับเหล่าคณาจารย์ เพื่อแสดงความขอบคุณที่ดูแลเด็กเกรียนคนนี้มาโดยตลอด Mary ผู้เป็นแม่จึงตัดสินใจ แปะรูปลูกชายของเธอลงบนขวดไวน์องุ่น พร้อมกับข้อความว่า “ลูกๆ ของพวกเราคงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณต้องดื่มไวน์” ก่อนที่จะนำไปแจกให้กับอาจารย์ทุกคน แม่ของเขาบอกว่า “ลูกของฉันเป็นเด็กแสบมาตั้งแต่อนุบาล และนั่นก็ทำให้คุณครูถึงกับต้องกุมขมับกับความซ่าของเขา” มันจึงไม่แปลกอะไรถ้าคุณครูจะอยากยกดื่มลืมความเกรียนของเด็กคนนี้ไปซะ ทั้งครอบครัวคิดว่าของขวัญชิ้นนี้มันดูฮาดี และ DJ พี่ชายวัย 19 ปีได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์ลงในทวิตเตอร์ ทำให้ได้รู้ว่าชาวเน็ตเองก็คิดเหมือนกันกับพวกเขา มีการรีทวีตไปกว่า 6,000 ครั้ง และกดไลก์อีกหลายหมื่น …
-
เคสอันแปลกประหลาดของครอบครัวอิตาลี ‘ไม่รับรู้ความเจ็บปวด’ กับการไขความจริงของนักวิทย์ฯ
หลายคนอาจคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย แต่ครอบครัวนี้กลับมีสิ่งที่เรียกว่าใกล้เคียงกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั้นมากจริงๆ นี่คือครอบครัวของ Letizia Marsili คุณแม่ชาวอิตาลีวัย 52 ปี ผู้ที่รับรู้ความเจ็บปวดไม่เหมือนคนทั่วไป เพราะเธอแทบจะไม่รู้จักกับคำว่าเจ็บเลยแม้แต่น้อย จนกลายเป็นที่มาของความผิดปกติที่ชื่อว่า The Marsili Syndrome Letizia หญิงสาวที่แทบจะไม่รู้จักกับคำว่าเจ็บมาก่อนเลย เธอเล่าว่า เธอและสมาชิกอีก 5 คนที่เป็นเหมือนกันจะแทบไม่รู้สึกถึงอาการเจ็บกับร่างกายใดๆ เลย ต่อให้กระดูกหัก มีดบาด โดนไฟไหม้ พวกเธอจะรู้สึกเจ็บแค่ไม่กี่วินาที แล้วความเจ็บนั้นจะหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างเช่นลูกชายของเธอ Ludovico วัย 24 ปี ที่แม้จะได้รับอาการบาดเจ็บจากการเล่นฟุตบอลมากขนาดไหน แต่เขาก็สามารถลุกขึ้นมาวิ่งต่อได้ด้วยสีหน้าปกติ ซึ่งหากเอ็กซเรย์ดูจะพบว่าแท้จริงแล้วร่างกายของเขาได้รับการบาดเจ็บหลายจุดเลย Bernardo ลูกชายคนสุดท้องวัย 21 ปี ในตอนที่เขาปั่นจักรยานล้มจนกระดูกข้อศอกแตก เขาก็ยังลุกขึ้นมาปั่นต่อไปได้ไกลถึง 14 กิโลเมตร ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหมอก็เพิ่งมาพบว่าเขามีอาการบาดเจ็บก็ตอนที่กระดูกเริ่มฟื้นฟูตัวเอง Maria Elena พี่สาวของเธอก็มักจะถูกกาแฟร้อนลวกปากอยู่เสมอ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร แม้แต่ตัว Letizia เองก็รับรู้ถึงอาการบาดเจ็บของตัวเองได้ยากมาก…
-
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเยอรมันไอเดียดี ปริ๊นท์ลายกระดาษห่อของขวัญสองหน้า ใช้งานได้ทันทีหลังอ่านจบ
ในช่วงเทศกาลเดือนธันวาคมแบบนี้ หลายคนอาจกำลังตามหาของขวัญที่จะมอบให้กับคนที่เรารัก หรืออาจนำไปแลกของขวัญตอนปีใหม่ แต่ถึงแม้ว่าเราจะเจอของขวัญแล้ว อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือกระดาษห่อของขวัญให้ดูสวยงาม ซึ่งผู้คนในเยอรมันไม่จำเป็นต้องลำบากไปตามหากระดาษสวยกันอีกต่อไปแล้ว นั่นก็เพราะว่ากระดาษห่อของขวัญสีสันสวยงามได้ถูกแจกมาพร้อมกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของประเทศ Heilbronner Stimme โดยกระดาษห่อของขวัญดังกล่าวจะถูกคั่นกลางมาให้ถึง 2 แผ่นด้วยกัน และขนาดก็เรียกได้ว่าพอเหมาะพอเจาะกับกล่องของขวัญขนาดทั่วๆ ไป กระดาษห่อของขวัญที่แถมมาในหนังสือพิมพ์ ผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อว่า PlanetGG ได้โพสต์รูปกระดาษห่อของขวัญที่แถมมานี้ลงไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2017 ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย WoodrowShigeru “ในฐานะที่ฉันห่อของขวัญมอบให้คนรู้จักมาทุกปี ฉันรู้สึกยินดีกับสิ่งนี้เป็นอย่างมาก หวังว่าในทุกเทศกาลจะมีอะไรแบบนี้อีกนะ” Kay_McE “ขอบคุณสำหรับสิ่งนี้ ฉันจะได้ไม่ต้องเปลืองตังค์ไปซื้อม้วนกระดาษแผ่นใหญ่ เพื่อมาห่อของขวัญแค่ชิ้นเดียวอีกแล้ว” lisbeth_salander2002 “เป็นไอเดียที่สุดยอดและน่าอัศจรรย์มากจริงๆ” สุขกันไปทั้งคนให้และคนรับ นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ส่งท้ายปี 2017 และก้าวสู่ปี 2018 ได้อย่างมีความสุขกันถ้วนหน้าเลย ที่มา: reddit , twistedsifter
-
ได้จริงอ่ะ!? ชาวไร่พัฒนาหัวหอมรุ่น ‘กันน้ำตาตกใน’ ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำอาหารไปเลย
การหั่นหัวหอมคือหนึ่งในอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายๆ คนขยาดที่จะเข้าครัวไปทำอาหาร เพราะไม่ชอบที่จะต้องหั่นไปร้องไห้ไปอยู่เสมอ แต่ตอนนี้ได้มีหัวหอมรูปแบบใหม่ที่จะทำให้เราไม่เจอกับปัญหานี้อีกต่อไป นี่คือหัวหอมที่ชื่อว่า Sunions เป็นหอมที่จะทำให้เราไม่ต้องหลั่งน้ำตาให้กับการหั่นอีกต่อไปแล้ว ซึ่งภาพของเจ้าหัวหอมชนิดนี้ได้ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรม Suniononion เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2017 หัวหอมสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้เราไม่ต้องหลั่งน้ำตาให้มันอีกต่อไปแล้ว บางคนอาจกำลังคิดว่านี่ต้องเป็นหัวหอมที่ผ่านกระบวนการ ดัดแปลงพันธุกรรม (หรือที่เรียกว่า GMO) อย่างแน่นอน แต่ความจริงแล้วมันเป็นพืชที่เกิดการข้ามสายพันธุ์ตามธรรมชาติ โดยใช้ระยะเวลานานกว่า 30 ปี Rick Watson ผู้เพาะพันธุ์เจ้าพืชชนิดนี้บอกว่า “จากการวิจัยและพัฒนาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้เราได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นหัวหอมชนิดนี้ ซึ่งความพิเศษของมันคือ ลดความแสบร้อนในขณะที่เราเก็บมันเอาไว้” ความแสบร้อนที่ว่าก็คือกลิ่นที่ลอยมาแตะจมูกของเราขณะที่กำลังหั่นมันอยู่ ซึ่งนั่นคือกลไกป้องกันตัวเองอย่างหนึ่งของพืชชนิดนี้ เหมือนกับจะบอกเราว่า “อย่ากินฉันเลยนะ ฉันขอร้อง” และน้ำตาของเราที่ไหลออกมา คงเกิดจากความสงสารอะไรทำนองนั้น สำหรับการค้นพบในครั้งนี้ คงต้องขอขอบคุณความช่วยเหลือจากฟาร์ม L&L AG Production , Hartley Produce และ Perry&Sons ที่ช่วยทำให้เราไม่ต้องกังวลกับปัญหาน้ำตาไหลเวลาหั่นหอมอีกต่อไป ปัจจุบัน…
-
คุณพ่อปฏิเสธการช่วยปลูกถ่าย ‘ไขกระดูก’ ให้ลูกสาวผู้ป่วยเป็นมะเร็ง แม้เขาคือความหวังสุดท้าย…
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้รายงานเกี่ยวกับหญิงสาวชาวจีนผู้ป่วยเป็นลูคีเมียและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ความหวังสุดท้ายของเธอคือการปลูกถ่ายไขกระดูกจากพ่อแท้ๆ ของเธอ แต่ทว่าพ่อของเธอกลับทำให้ความหวังนั้นต้องพังลงไป นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสาวมหาลัยวัย 18 ปีที่ชื่อว่า Xinxin เธอถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นลูคีเมียเมื่อสามเดือนก่อน ทำให้เธอต้องรับยาเคมีบำบัดและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล Henan People’s Hospital เมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน Xinxin เด็กสาวผู้ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว นายแพทย์ Bai Yanliang บอกว่า เธอมีอาการที่หาได้ยากมาก มีการเติบโตของเนื้องอกและเซลล์เม็ดเลือดที่ผิดปกติอยู่ในบริเวณไขกระดูกของเธอ หมอบอกว่า “การรักษาที่ดีที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ คือการปลูกถ่ายไขกระดูกของคนในครอบครัว” แต่เนื่องจากว่าแม่เธอป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบี ส่วนน้องชายก็มีน้ำหนักน้อยจนเกินไป ทำให้ทั้งสองไม่สามารถปลูกถ่ายให้เด็กสาวได้ และความหวังสุดท้ายก็ตกไปอยู่กับพ่อแท้ๆ ที่หย่าร้างกันไป ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ Zhang ผู้เป็นพ่อบุญธรรม ออกตามหาพ่อแท้ๆ ของเธอที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลซานซี และเมื่อได้พบกันพ่อในสายเลือดก็ตบปากรับคำว่าจะช่วยเหลือลูกสาวของตัวเอง พ่อแท้ๆ เดินทางมารับการทดสอบความเข้ากันของไขกระดูก พบว่ามีความเข้ากันมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว Zhang…
-
กองทัพสหรัฐ ทดลองฝังชิปลงในสมองมนุษย์ ซึ่งอาจช่วยให้เราปรับเปลี่ยนอารมณ์ได้ในทันใด
เราอาจเคยเห็นในหนังบางเรื่องที่มีการฝังชิปเอาไว้ในสมองเพื่อควบคุมคนคนนั้นได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งตอนนี้การฝังชิปควบคุมอาจไม่ใช่สิ่งที่เราจินตนาการกันต่อไป เมื่อนักวิจัยในสหรัฐอเมริกาสามารถพัฒนามันขึ้นมาได้จริงๆ นี่คือเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ใน สำนักงานวิจัยชั้นสูงของกระทรวงกลาโหม (DARPA) ของทหารสหรัฐอเมริกา พวกเขากำลังพัฒนาการฝังไมโครชิปลงในสมองของมนุษย์เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ เหล่านักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียและโรงพยาบาล Massachusetts General ผู้ออกแบบเจ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้บอกว่า มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ที่มีความผิดปกติทางอารมณ์ Edward Chang นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียบอกว่า “เรากำลังศึกษาว่าขอบเขตการทำงานของมันสามารถทำได้มากถึงขนาดไหน” จากการทดสอบกับผู้ป่วยลมชักจำนวน 6 คนพบว่า เจ้าชิปดังกล่าวสามารถรับรู้ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นภายในสมองของพวกเขาบ้าง และเมื่อติดตามดูผลไป 1-3 สัปดาห์พบว่า สามารถแกะรหัสเพื่อรับรู้ว่าคนคนนั้นอยู่ในอารมณ์ไหนได้อีกด้วย ซึ่งมันตรงกับที่สีหน้าที่พวกเขาแสดงออกมา ต่อมานักวิจัยได้ทำการส่งกระแสไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นสมองผ่านชิปตัวดังกล่าว ผลที่ได้คือผู้รับการทดลองจะตัดสินใจและทำสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น มีสมาธิมากขึ้น และแสดงออกทางอารมณ์ได้ดีขึ้นอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า การฝังชิปลงไปในสมองแบบนี้จะสามารถช่วยเหลือผู้มีความผิดปกติทางอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นโรคพาร์กินสัน หรือแม้แต่ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง อีกทั้งยังช่วยให้พวกเขาสามารถมีสมาธิ โฟกัสอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ การพัฒนายังคงมีต่อไปเรื่อยๆ โดย Alik Widge ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมจากโรงพยาบาล Massachusetts General บอกว่า “สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ไม่สามารถใช้อ่านใจได้ แต่เราต้องการที่จะพัฒนาให้มันอ่านความรู้สึกของคนคนนั้นได้” อย่างไรก็ตาม เจ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้อาจทำให้หลายๆ คนห่วงในเรื่องของจรรยาบรรณและหลักศีลธรรมว่า มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่กับการฝังชิปอ่านข้อมูลลงไปในสมอง…
-
จินตนาการบรรเจิด!! เปลี่ยนภาพเจ้า ‘ปั๊ก’ นอนอยู่ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตหน้าตา “หลอนๆ”
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้องหมาพันธุ์ปั๊กเป็นสัตว์ที่น่ารักมากขนาดไหน ด้วยใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ รูปร่างแบบตุ้มตะตุ้มตุ้ย ใครเห็นก็อดที่จะอุ้มมันขึ้นมาฟัดไม่ได้หรอก แต่ใครจะไปคิดว่าความน่ารักของมันสามารถทำให้เกิดสัตว์ประหลาดขึ้นมาได้ สัตว์ประหลาดที่ว่านั่นถือกำเนิดขึ้นเมื่อตอนที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @shin_iesaki บังเอิญไปเห็นน้องปั๊กกำลังนอนคว่ำอยู่กับพื้น เขาจึงเกิดจินตนาการเปลี่ยนสิ่งที่เห็นให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดซะเลย จากแค่เห็นเจ้าปั๊กนอนอยู่ กลายมาเป็นตัวการ์ตูนหน้าตาน่ารัก เจ้าตัวประหลาดที่เกิดขึ้นมาจากไอเดียของเขาคนนี้ ภายนอกอาจจะดูน่ารักน่าอุ้มอยู่บ้าง แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เนื่องจากว่าเขาออกแบบให้มันกินเด็กเป็นอาหารแบบกลืนลงไปทั้งตัว (เพราะไม่มีฟัน) ตอนยืนใช้สองขาแต่จะเดินสี่ขา ดูแล้วชวนขนลุกไม่เบา สิ่งที่เขาออกแบบไว้จริงๆ ชวนขนลุกและตรงกันข้ามกับความน่ารักของมันเลย อย่างไรก็ตาม แม้มันจะดูสยองไปหน่อย แต่ความน่ารักของเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตหลายๆ คนอยู่เหมือนกัน “ฉันอยากได้ตุ๊กตาของเจ้าตัวนี้จัง” “ฉันว่ามันดูน่ารักมากกว่าสยองนะ” “นี่ตัวอะไรเนี่ย? น่าร๊ากกกน่ารัก!” เมื่อได้รับความนิยม เจ้าของไอเดียจึงจัดโหวตขึ้นมาว่า อยากให้เจ้าตัวประหลาดนี้ไปอยู่ในรูปแบบไหน ระหว่างให้ทำเป็นการ์ตูนมังงะ หรือเป็นสติ๊กเกอร์ในแอปแชต? จากคำถามของเขาทำให้มีคนเข้ามาโหวตมากถึงเกือบ 13,000 คน ผลที่ได้คือเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้จะถูกนำไปทำเป็นการ์ตูน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เขาเพิ่งออกแบบมาแค่สองวันเท่านั้นเอง แต่หากใครที่รอจะให้มันเป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ ก็อาจจะผิดหวังกันหน่อย เพราะเขาตั้งใจที่จะให้มันเป็นมอนสเตอร์สุดสยองเสียแทน และในอนาคตก็ตั้งใจว่าจะทำออกมาเป็นสติ๊กเกอร์ด้วยนะ ประสบความสำเร็จที่เหนือความคาดหมาย นับว่าเป็นอีกหนึ่งความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการเจ๋งๆ ที่เกิดขึ้นมาจากสิ่งรอบตัวเล็กๆ น้อยๆ ในอนาคตอันใกล้เราคงได้เห็นความก้าวหน้าของผลงานชิ้นนี้ในรูปแบบของการ์ตูนแน่ๆ…
-
จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่เราจะสามารถใช้งานสมองได้แบบ 100% เหมือนในหนังเรื่อง Lucy?
เราอาจเคยได้ยินว่ามนุษย์เราใช้สมองเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงทำให้หลายๆ คนพยายามหาวิธีการที่จะทำให้เราสามารถใช้งานสมองได้มากกว่านั้น หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะใช้ให้มันถึง 100 เปอร์เซ็นต์ไปเลยแบบในหนังเรื่อง Lucy แต่ในความจริงแล้วมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้ก็ได้นะ Marc Ettlinger นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาจากกรมกิจการทหารผ่านศึกในสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาพูดว่า ปัจจุบันหลายๆ คนพยายามหาวิธีการที่จะทำให้เราสามารถใช้สมองได้มากกว่าที่เราเข้าใจ ซึ่งเรายึดติดกับความเชื่อนี้ก็เพราะเราเคยได้ยินหลายๆ วิธีที่บอกว่าสามารถช่วยให้เราทำอย่างนั้นได้จริง อย่างเช่นเราเคยได้ยินว่าการหลับ การจดบันทึก การทำกิจกรรมต่างๆ หรือการฝันกลางวันจะสามารถพัฒนาองค์ความรู้และประสิทธิภาพของการคิดของเราได้ จึงทำให้หลายๆ คนออกไปหาอะไรทำ จินตนาการไปถึงสิ่งต่างๆ หรือพักผ่อนเพิ่มอีกซัก 2-3 ชั่วโมง Marc อธิบายว่าการที่เราไม่ออกไปหากิจกรรมใดๆ ทำนอกบ้าน ไม่ชอบจินตนาการ หรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านั้นจะส่งผลในแง่ลบให้กับกระบวนการการคิดของเราอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นวิธีการแก้ไขที่ว่ามาอาจเป็นเพียงตัวที่ช่วยขจัดปัญหาเหล่านั้นออกไป ไม่ได้เป็นสิ่งที่เพิ่มพูนการใช้งานของสมอง แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความคงที่ของระบบการรู้คิดในสมองเรา แต่ทั้งหมดนั้นก็แสดงให้เห็นว่า มันช่วยในการทำงานของสมองให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น แต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นไปจากเดิมเหมือนที่เราเข้าใจ นั่นหมายความว่าแท้จริงแล้วที่บอกว่าเราสามารถใช้สมองได้แค่ 10 เปอร์เซ็นต์อาจไม่ได้เป็นความจริง แต่เกิดขึ้นจากจินตนาการของเราที่คิดขึ้นมาและสร้างเป็นเป้าหมายให้กับตัวเองเท่านั้น สิ่งนี้อาจเป็นการคาดการณ์แต่ไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไป ยกตัวอย่างถ้าเราเดินทางย้อนเวลากลับไปบอก Aristotle ว่า ในอนาคตเด็ก…
-
สถานีโทรทัศน์ต่างประเทศเซอร์ไพรส์ลูกค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อรับผิดชอบค่าใช้จ่ายแทนพวกเขา
สถานีโทรทัศน์ FOX5 ในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เป็นช่องที่มีชื่อเสียงสำหรับคนท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่การนำเสนอข่าวสารบ้านเมืองเพียงอย่างเดียว แต่หนึ่งในช่วงโปรดของใครหลายๆ คนก็คือ ช่วง Surprise Squad โดยทีมงานจะออกไปหาคนภายในเมืองเพื่อช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้น ทีมงานได้ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับหลายๆ คนมาตลอด และในเทปหนึ่งที่ถูกโพสต์ลงในยูทูบเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2017 เป็นตอนที่ทีมงานตัดสินใจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ชื่อว่า Albertsons เราลองไปดูกันดีกว่าว่าเมื่อเจออย่างนี้เข้าไปแต่ละคนแสดงอาการออกมาอย่างไรกันบ้าง พี่น้องสองคนที่อยู่ในวัยชราทั้งคู่ คือหนึ่งในผู้โชคดีที่ทางทีมงานตัดสินใจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด หญิงสาวคนนี้ที่ถึงแม้หน้าจะดูมึนๆ งงๆ ในตอนแรก แต่เธอก็รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากทางรายการ คุณยายคนนี้ถึงกับบอกว่า “นี่เป็นวันที่ฉันโชคดีมากจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ฉันเล่นเครื่อง Keno ได้รางวัลมาราวๆ 1,300 บาท” แถมยังไม่ต้องจ่ายค่าชอปปิงเองอีกด้วย นี่คือลูกค้าประจำที่มาใช้บริการร้านนี้ตั้งแต่ปี 1964 เรียกว่าเห็นการเปลี่ยนแปลงของร้านมาโดยตลอด เธอจึงไม่แปลกที่ได้รับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ ทหารผ่านศึกผู้ช่วยดูแลสุนัขที่กำลังป่วยด้วยเงินของตัวเอง เธอบอกว่า นี่คือเงินก้อนสุดท้ายของเธอที่มาใช้จ่ายในครั้งนี้ แต่ทางรายการคือคนใจดีที่เข้ามาช่วยชีวิตของเธอและน้องหมาเอาไว้ และคนที่ซาบซึ้งที่สุดสำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ก็คือ Larry ทหารผ่านศึกผู้เคยรับใช้ชาติไปลุยในสงครามเวียดนามมาก่อน นอกจากนั้นเมื่อ 16…
-
บรรยากาศของชาวญี่ปุ่นในฮอกไกโด ที่ต้องผจญกับความหนาวและหิมะปกคลุมไปทั่ว
ในช่วงฤดูหนาวของประเทศญี่ปุ่น จะมีเส้นทางรถไฟสายหนึ่งที่ชื่อว่า Okhotsk no Kaze ช่วยให้คุณสามารถเดินทางไปในเมืองที่ห่างไกลในจังหวัดฮอกไกโดได้ และนั่นก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพสาวชาวจีน Ying Yin เธอขึ้นรถไฟสายนี้ไปจบที่เมือง Abashiri และเก็บภาพการเดินทางท่ามกลางหิมะปกคลุม สร้างลักษณะโดดเด่นที่สวยงามจนออกมาเป็นซีรีส์ภาพชื่อว่า Wind of Okhotsk ซึ่งทำให้เราเห็นสิ่งปลูกสร้างหรือผู้คนภายในเมืองที่กำลังใช้ชีวิตอยู่บนพื้นหลังสีขาวโพลน Yin บอกว่า “หิมะที่ปกคลุมช่วยให้ทุกอย่างดูโดดเด่น และสามารถสื่อถึงอารมณ์ความเงียบเหงาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม” อย่ารอช้า เราลองไปชมภาพเหล่านั้นกันเลยว่ามันมีความสวยงามมากขนาดไหน ฮอกไกโดคือจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ หิมะที่ปกคลุมจึงอาจเยอะกว่าที่อื่น โดดเด่นขึ้นมาราวกับด้านหลังเป็นแค่ฉากสีขาว แต่แท้จริงแล้วมันคือหิมะ สีสันที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีขาว ดูเป็นเอกลักษณ์ หิมะจำนวนมาก ทำให้เราเห็นคนเดินไปมาแทนการใช้รถ . . . รถที่จอดทิ้งเอาไว้เฉยๆ เพราะไม่สามารถนำออกมาขับได้ . ในบางจุดที่จำเป็นจะมีการกวาดหิมะออกไป เพื่อให้รถสามารถวิ่งบนถนนได้ บ้านที่เกือบจมหายไปในหิมะ . เสาไฟฟ้าธรรมดาๆ ที่ดูๆ ไปกลับรู้สึกถึงความไม่ธรรมดา ความโดดเดี่ยวที่สะท้อนออกมาจากภาพต่างๆ …
-
‘กวางหนาวอยู่กลางเขา’ ภาพถ่ายที่สวยงามประหนึ่งโดดออกมาจากในนิยาย
ช่างภาพชาวอังกฤษ John Betts คือผู้ที่สามารถผสมผสานธรรมชาติและสัตว์ป่า ให้กลายเป็นผลงานภาพถ่ายที่ดูสวยงามและลงตัว เขาเดินทางไปในหลายๆ ที่เพื่อเก็บภาพความสวยงามเหล่านั้นไว้ เพื่อช่วยให้สัตว์ป่าสามารถดำเนินชีวิตไปได้ในแบบที่มันเป็นจริงๆ เขาบอกว่า “การอนุรักษ์สัตว์ป่าเป็นเรื่องที่สำคัญกับผมอย่างมาก และผมคิดว่ารูปถ่ายที่สวยงามจะสามารถสื่อให้คนเข้าใจในสิ่งนั้นได้ดีกว่าการออกมาพูดเพียงอย่างเดียว” นี่คือหนึ่งในผลงานของเขา ภาพของกวางที่อาศัยอยู่ในประเทศสกอตแลนด์ช่วงฤดูหนาวปี 2012 ภาพเหล่านี้มีความสวยงามมากขนาดไหน เราลองไปดูกันเลย กวางคือหนึ่งในสัตว์ป่าที่พวกเรารู้จักกันดี ขนที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะบางส่วน ช่วยเพิ่มสีสันให้กับมัน ลักษณะการยืนที่ดูสง่าผ่าเผย . ช่วงเทศกาลคริสต์มาสแบบนี้ ทำให้เราคิดถึงกวางเรนเดียร์อยู่เหมือนกันนะ . สิ่งมีชีวิตบนโลกย่อมมีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับพวกมัน ในส่วนของกวางเหล่านี้ กลางป่ากลางเขาน่าจะเป็นที่ที่เหมาะกับมันมากที่สุด . กลมกลืนไปกับธรรมชาติที่มันอาศัยมาตั้งแต่เกิด . . แม้เราอาจจะไม่รู้ว่าพวกมันคิดไรอยู่ แต่เชื่อว่าเหล่ากวางคงไม่อยากถูกพาออกไปจากที่แห่งนี้ เพราะพวกเราก็คงไม่อยากถูกบังคับให้ออกไปจากบ้านของตัวเองเหมือนกันจริงมั้ย . . . โดดเด่นเป็นสง่า กับการใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติ . . เรียบง่ายแต่ลงตัว เชื่อว่าสิ่งที่ช่างภาพคนนี้ต้องการสื่อจะสามารถช่วยลดการล่าสัตว์ให้น้อยลงได้บ้าง…
-
Sayako Ito สาวแดนปลาดิบ มีดีกรีเป็นถึงไอดอลเซ็กซี่และผู้ประกาศอิสระ อู้วๆๆๆๆ
หลายๆ คนอาจรู้จักกับวงการ กราเวียร์ไอดอล (Gravure Idol) ที่รวบรวทสาวสวยในประเทศญี่ปุ่นเอาไว้ ทำให้หนุ่มๆ ถึงกับใจละลายไปทุกครั้งที่ได้เห็นผลงานการถ่ายแบบของพวกเธอ และวันนี้เราจะมาพูดถึงหนึ่งในระดับท็อปของวงการนี้ Sayako Ito Sayako คือผู้ประกาศอิสระสาวสวยและควบตำแหน่งไอดอลสาวที่มีแฟนคลับอยู่เป็นจำนวนมาก เธอคนนี้เกิดในจังหวัดโอซาก้า เมื่อปี 1994 จึงทำให้ปัจจุบันเธออายุแค่ 23 ปีเท่านั้นเอง ผู้ประกาศสาวสุดเซ็กซี่ Sayako Ito . . ความสวยของเธอโดดเด่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ปี 2013 เธอเรียนเอกวรรณกรรมภาษาญี่ปุ่นในมหาวิทยาลัย Kindai เธอได้รับเลือกให้เป็นดาวมหาวิทยาลัยในปีนั้น และยังได้ตำแหน่งรองชนะเลิศในการประกวด Miss Campus อีกด้วย ในปีถัดไป Sayako รับงานถ่ายแบบให้กับหนังสือพิมพ์กีฬา Sankei Sports แสดงให้เห็นว่านอกจากความสวยแล้ว หุ่นของเธอเองก็แซบไม่แพ้กัน น่ารักใสๆ เห็นแล้วใจสั่นวูบวาบๆ เลยทีเดียว . . หลังจากเรียนจบในปี 2016 เธอได้กลายเป็นผู้ประกาศข่าวในรายการทีวี ควบคู่กับการถ่ายแบบให้กับบริษัท Cent…
-
นักค้นคว้ารัสเซีย ใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์กับสุนัข พบว่ามันมีชีวิตอยู่ในน้ำได้นาน 30 นาที
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้นำเสนอคลิปวิดีโอการทดลองของชาวรัสเซีย เมื่อพวกเขายัดน้องหมาสายพันธุ์ดัชชุนตัวหนึ่งลงไปในขวดที่เต็มไปด้วยน้ำ ภาพที่เราเห็นคือน้องหมาจมอยู่ในน้ำภายในขวดที่ถูกปิดฝาเอาไว้ ด้วยสภาพกลับหัวกลับหาง ก่อนที่นักค้นคว้าจะดึงมันขึ้นมาหลังจากที่เวลาผ่านไปซักระยะหนึ่ง และเจ้าหมาตัวนั้นก็ยังคงมีชีวิตอยู่ การทดลองดังกล่าวมีขึ้นเพื่อต้องการค้นคว้าว่า วิธีการปั๊มออกซิเจนเหลวเข้าไปในปอดจะสามารถทำให้เจ้าหมาตัวนี้จมน้ำอยู่ได้นานมากขนาดไหน ซึ่งผลที่ได้คือมันสามารถอยู่ได้นานถึง 30 นาที แต่ถึงอย่างไร ภาพที่เราได้เห็นก็อาจทำให้บางคนรู้สึกไม่เห็นด้วยกับวิธีการทดลองดังกล่าว เพราะน้องหมามีโอกาสเสี่ยงมากจนเกินไป ซึ่ง Vitaly Davydov รองผู้จัดการกองทุนที่สนับสนุนการทดลองนี้ออกมาบอกว่า “พวกเราเคยทำการทดลองแบบเดียวกันกับหนู หรือสัตว์ที่มีขนาดเล็กกว่านี้มาก่อนแล้ว” ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้สุนัขทุกตัวที่นำมาใช้ในการทดลองรอดชีวิตและใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังจากการทดลอง อีกทั้งพวกมันยังสามารถหายใจภายใต้ของเหลวได้นานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เมื่อผ่านการทดลอง สุนัขส่วนใหญ่จะถูกนักค้นคว้าพากลับไปเลี้ยงที่บ้าน และอีกส่วนหนึ่งจะมอบมันให้กับคนรู้จักไปเลี้ยงแทน เขาบอกอีกว่า ก้าวต่อไปสำหรับการค้นคว้าในเรื่องนี้คือ การทดลองวิธีการเดียวกันกับมนุษย์ อย่างไรก็ตามการทดลองดังกล่าวยังคงติดปัญหาอยู่ 2 อย่าง คือ อุปสรรคในเรื่องของสรีระวิทยาของมนุษย์ และการตามหาอาสาสมัครที่จะเข้ารับการทดลอง ปั๊มออกซิเจนเหลวเข้าไปในปอด วิดีโอแสดงให้เห็นการทดลองดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การทดลองดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ โดยฝั่งคนที่ไม่เห็นด้วยได้ออกมาพูดว่า “น่าสมเพชจริงๆ กับการอ้างถึงเรื่องวิทยาศาสตร์แล้วทำสิ่งเลวร้ายกับสุนัขที่น่าสงสาร เพียงเพราะว่ามันไม่สามารถพูดปฏิเสธออกมาได้”…
-
ผู้บัญชาการนาวิกโยธินอเมริกา บอกให้ประชาชนเตรียมตัวไว้ เพราะอาจมีสงครามใหญ่เร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้เราอาจเคยได้ยินข่าวการทดลองอาวุธหรือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นของประเทศมหาอำนาจมาบ้างแล้ว และบางคนกังวลว่าในอนาคตอันใกล้นี้อาจเกิดสงครามขึ้นมา ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผู้นำทหารในสหรัฐอเมริกาออกมาเตือนว่า ความคิดนั้นอาจกลายเป็นความจริงขึ้นมาก็ได้ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2017 นายพล Robert Neller ผู้บัญชาการนาวิกโยธินแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเอาไว้ในการพบปะกับเหล่าทหารที่ฐานทัพ Norwegian Home Guard ประเทศนอร์เวย์ ว่า “สงครามกำลังจะมา และนี่จะเป็นสงครามครั้งใหญ่” เขาพูดกับสมาชิกทหารแห่งสหรัฐกว่า 300 นายอีกว่า “ผมอาจจะผิด แต่สงครามกำลังจะมา ตอนนี้เราก็กำลังอยู่กับการสู้รบของข้อมูลหรือการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่มาตลอด” นายพล Robert พูดถึงความสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น และเขาเชื่อว่าสงครามในครั้งนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเทศทางฝั่งตะวันออกกลางอย่างอิรัก หรืออัฟกานิสถาน แต่เป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งกับทางฝั่งแปซิฟิกและรัสเซียมากกว่า ความคิดเห็นและการกล่าวเตือนของผู้บัญชาการคนนี้ได้ทำให้มีการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาและรัสเซีย เพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่ารัสเซียทำการแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของอเมริกาครั้งล่าสุด ผู้นำรัสเซีย Vladimir Putin Donald Trump ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐ เคยบอกอยู่บ่อยครั้งว่า เขาต้องการจะตีสนิทกับผู้นำของรัสเซียอย่าง Vladimir Putin ถึงแม้ว่านโยบายของสหรัฐที่ใช้ในประเทศซีเรีย และยูเครน อาจไม่เป็นที่พึงพอใจให้กับรัสเซียมากซักเท่าไหร่ก็ตาม ประเทศรัสเซียเองก็ขึ้นชื่อในเรื่องของข้อมูลจำนวนมากที่มีครอบครองเอาไว้ จนเรียกได้ว่าในยุคปัจจุบันที่ทุกคนเสพโซเชียลมีเดีย สิ่งนี้คือข้อได้เปรียบที่ทำให้เกิดอิทธิพลกับคนทั่วไปได้…
-
‘วิดพื้น ซิทอัพ ยืดกล้ามเนื้อ’ ญี่ปุ่นพัฒนาหุ่นยนต์นักออกกำลังกาย ที่มี ‘เหงื่อ’ ไหลออกมาได้ด้วย
หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ หรือที่เรียกกันว่า Humanoid เป็นสิ่งที่ยังคงมีการพัฒนาต่อไปในหลายๆ สถาบัน ทีมนักวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน ซึ่งในตอนนี้ได้มีการพัฒนาทำให้มันสามารถออกกำลังกายและมีเหงื่อออกได้ ดูไม่ต่างกับมนุษย์เลย นี่เป็นงานล่าสุดที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารของสหรัฐอเมริกา Science Robotics เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2017 นักวิจัย Yuki Asano และเพื่อนร่วมงานของเขาที่จบการศึกษาจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยโตเกียว พวกเขาได้ทำการสร้างหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ขึ้นมาสองตัว ได้แก่ Kenshiro และ Kengoro Kengoro หุ่นยนต์ที่สามารถออกกำลังกายได้เหมือนกับมนุษย์ Kenshiro เป็นหุ่นที่ถูกพัฒนาในช่วง 2011 ถึง 2014 ต่อมาจึงได้สร้าง Kengoro ขึ้นมาและพัฒนาต่อจนถึงปัจจุบัน ซึ่งนั่นก็ทำให้เจ้าหุ่นยนต์ตัวล่าสุดนี้สามารถออกกำลังกายในท่าต่างๆ ได้เหมือนกับมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการวิดพื้น ซิทอัพ หรือยืดกล้ามเนื้อ เจ้า Kengoro มีความสูง 167 เซนติเมตร น้ำหนัก 56.5 กิโลกรัม ลักษณะนิ้วมือ นิ้วเท้า สัดส่วนของร่างกาย ส่วนของกระดูกข้อต่อต่างๆ และกล้ามเนื้อที่ทำมาจากโลหะที่มีลักษณะคล้ายกับฟองน้ำ ลักษณะโดยรวมของมันจึงคล้ายกับมนุษย์ค่อนข้างมากจริงๆ …
-
เจ้านายสุดน่ารัก เห็นน้องหมากลัวช่างตัดขน เลยขึ้นไปตัดขนเป็นเพื่อนซะเลย
คุณจะทำอย่างไรหากว่าน้องหมาคุณเกิดกลัวการตัดขนขึ้นมา? ถ้าหากคุณยังคิดไม่ออกแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณได้ลองมาศึกษาวิธีการของเขาคนนี้ ชายคนนี้มีชื่อว่า Lee Asher ผู้ช่วยเหลือน้องหมาเอาไว้เป็นจำนวนมากในสหรัฐอเมริกา หนึ่งในนั้นคือสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด ชื่อ Lillie ที่ถึงแม้ว่ามันจะตัวใหญ่มากเพียงใด แต่มันก็ยังคงกลัวการตัดขนเหมือนๆ กับน้องหมาอีกหลายๆ ตัว Lee จึงแสดงวิธีการช่วยผ่อนคลายความกลัวของมันผ่านอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2017 ขณะที่เจ้าหมาตื่นกลัวจนไม่ยอมขึ้นไปบนเตียงตัดขน ชายคนนี้ตัดสินใจถอดเสื้อขึ้นไปตัดขนเป็นเพื่อนมันซะเลย ไม่ต้องกลัวไปนะ พ่อขึ้นมาตัดเป็นเพื่อนแล้วลูกรัก ช่างตัดขนก็ช่วยตัดให้กับเขาด้วยเป็นกรณีพิเศษ การกระทำของ Lee ช่วยให้เจ้า Lillie สามารถสงบลงได้ ราวกับรู้สึกอุ่นใจที่ได้มีคนพิเศษมาอยู่เคียงข้างเราในยามยาก ผู้คนภายในร้านต่างพากันยิ้มและหัวเราะให้กับสิ่งที่ชายคนนี้ทำ เพราะเขาสนใจเพียงแค่เจ้าหมาสุดที่รักเท่านั้น ช่างตัดผมยังถึงกับฮาแตกกับเหตุการณ์นี้ สุนัขตัวอื่นๆ ที่ได้เห็นคงพากันอิจฉาเจ้า Lillie ที่มีเจ้านายน่ารักมากขนาดนี้ การเสียสละตัวเอง ยอมทำสิ่งต่างๆ เพื่อมอบความสุขให้กันและกัน น่ารักกันทั้งคู่เลย คลิปเจ้านายผู้เสียสละ ขึ้นไปตัดขนเป็นเพื่อนน้องหมา (หากดูไม่ได้ ให้กดที่ลิ้งก์ Instagram) Lillie…
-
ช่างภาพช่วยขับเน้นความสวยงามในสุนัข เพื่อให้คนเห็นและอยากรับพวกมันไปเลี้ยงมากขึ้น
ในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ใกล้เข้ามา หลายๆ คนต้องการกลับบ้านเพื่อได้รับไออุ่นจากคนในครอบครัว น้องหมาในบ้านพัก Battersea ในประเทศอังกฤษก็เช่นกัน พวกมันยังคงรอคอยความหวังที่จะมีบ้านและครอบครัวที่รักมันในช่วงเวลานี้ และกลายเป็นผลงานของช่างภาพ Jack Taylor นี่คือส่วนหนึ่งของโครงการที่ชื่อว่า In From The Cold โดยภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Jack ผู้ต้องการสื่อให้ทุกคนตระหนักถึงน้องหมาที่ยังคงโดดเดี่ยวและรอคอยที่จะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง Jasmine สุนัขสายพันธุ์ Dogue de Bordeaux วัย 11 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักแห่งนี้มา 37 วัน Thelma สายพันธุ์ ซาลูกิ อายุ 4 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักมานาน 94 วัน Albert สายพันธุ์ Lurcher อายุ 1 ปี อาศัยอยู่ในบ้านพักมานาน 93 วัน Becky Fisher ผู้จัดการฝ่ายสวัสดิการและการฟื้นฟูของบ้านพักดังกล่าว บอกว่า “พวกเราดูแลมันยังดีในช่วงเทศกาลเดือนธันวาคม…
-
เจ้าหน้าที่ ‘หมู’ ประจำสนามบิน ผู้ช่วยคลายความกดดันของมนุษย์ที่กลัวการเดินทางบนท้องฟ้า
ในช่วงเทศกาลวันหยุดเดือนธันวาคม 2016 หลายๆ คนจำเป็นต้องนั่งเครื่องบินกลับบ้าน แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกกลัวกับการขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า ทำให้ทางสนามบินนานาชาติ Albany ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา คิดหาวิธีการช่วยลดความกลัวของพวกเขา ด้วยการนำน้องหมูมาช่วยบรรเทา คุณอาจเคยได้ยินว่าในสนามบินต่างประเทศบางแห่ง จะมีน้องหมามาคอยต้อนรับเพื่อให้เราผ่อนคลายก่อนไปขึ้นเครื่องบิน แต่สำหรับสนามบินแห่งนี้เขาได้ใช้น้องหมูที่ชื่อ Bacon Bits มาทำหน้าที่นั้นแทน ซึ่งผลตอบรับก็ถือว่าดีเกินคาด เจ้าหมูผู้สร้างรอยยิ้มและมอบความสดใส ให้กำลังใจทุกๆ คนในสนามบินแห่งนี้ ป้ายเจ้าหน้าที่ชัดเจน แสดงถึงการทำงานของเจ้าหมูน้อยตัวนี้ Terry Hutchinsen เจ้าของน้องหมูตัวนี้บอกว่า “มันได้รับความนิยมอย่างมาก เดินไปทางไหนก็มีแต่คนให้ความสนใจ เข้ามาเล่นกับมัน เพราะคงไม่ค่อยมีใครได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” คนที่เข้ามาหาไม่ได้มีแค่คนที่ไม่เคยเห็นหรือไม่เคยจับหมูเท่านั้น เพราะบางคนที่เคยเลี้ยงหมูมาก่อนก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนวันวานอีกครั้ง จึงเข้ามาเล่นมากอดมันด้วยรอยยิ้ม พอเราได้มาเล่นกับมัน ความกลัวของเราก็จะหายไปในพริบตา นี่ไม่ใช่หมูตัวแรกที่ช่วยลดความกลัวให้กับคนที่กำลังจะขึ้นเครื่องบิน เพราะสนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก ก็มีน้องหมูอีกตัวที่น่ารักไม่แพ้กัน ชื่อว่า LiLou เจ้าหมูอีกตัวที่ทำหน้าที่ในสนามบินซานฟรานซิสโก ความน่ารักของเจ้า Bacon Bits ไม่ได้สร้างกำลังใจให้กับคนในสนามบินเท่านั้น แต่มันยังออกไปช่วยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้คนจำนวนมากในสถานพยาบาลกว่า 65 แห่ง…
-
19 สิ่งที่แม้ภายนอกมันอาจจะดูติงต๊องไปนิ๊สสสนึง แต่มันใช้งานได้จริงๆ นะว๊อย!!
พวกเราแต่ละคนจะมีวิธีประยุกต์ใช้งานสิ่งของบางอย่างที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้มันสามารถตอบสนองความต้องการของเราให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกันกับคนเหล่านี้ พวกเขาสามารถคิดหาวิธีการนำสิ่งต่างๆ มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหลือเชื่อ และถึงแม้มันจะดูเด๋อๆ ไปหน่อย แต่มันก็สามารถใช้ได้จริงนะเออ เราลองไปดูกันเลย เศรษฐกิจไม่ค่อยดี มันก็ต้องทำควบสองงานเป็นธรรมดา นอกจากจินตนาการจะล้ำเลิศแล้ว ฝีมือช่างไม้ของเขายังเซียนอีกด้วย เมื่อเราติดเกมอยู่ในบ้าน แล้วแม่บอกให้ออกไปเล่นนอกบ้านบ้าง ไม่ใช่แค่นักกีฬาดีเด่น เพราะฝีมือการทำอาหารของเขาก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ถ้าคุณเบื่อรถติด เราขอแนะนำเจ้าสิ่งนี้เลย เพลินอย่าบอกใครเชียว หมดปัญหาถอยไปชนคันอื่นทันที เพราะมีเสียงเตือนอัจฉริยะอยู่ วิ่งๆ มันน่าเบื่อ ขอลองเล่นแบบนอนหงายดูบ้าง ช่วงเวลาเร่งรีบ รองเท้าไม่แห้งนี่เรื่องใหญ่นะ จะดำน้ำทั้งที อย่าลืมพกถังออกซิเจนไปด้วย เจ๋งซะยิ่งกว่าโล่ของกัปตันอเมริกา สามารถป้องกันน้ำมันกระเด็นได้อย่างยอดเยี่ยม จะให้ยกขึ้นไปตัดเองมันก็ไม่ไหวหรอก เตาอบแบบใหม่ สำหรับคนที่ไม่สนใจเรื่องดีไซน์ ที่นั่งสบายๆ แถมประหยัดงบประมาณอีกต่างหาก เดี๋ยวลูกค้าจะรอนาน เชฟเลยต้องเร่งมือหน่อย DIY แบบชิลล์ๆ…
-
กล้องที่สามารถช่วยให้คุณเก็บภาพได้อย่างสวยงาม เพราะมันมีถึง 16 เลนส์!! บ้าบอคอหอยพอก
ปัจจุบันเราจะได้เห็นหลายๆ คนมีกล้องถ่ายรูปเป็นของตัวเอง เพื่อใช้เก็บความทรงจำหรือประสบการณ์ต่างๆ เอาไว้ได้อย่างสวยงาม กล้องส่วนใหญ่ที่เราเห็นจะดูไม่ต่างกันมากนัก แต่สำหรับกล้องตัวนี้เราจะสามารถเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน เพราะมันมีถึง 16 เลนส์มารวมอยู่ในกล้องตัวเดียว นี่คือกล้องที่มีชื่อว่า Light L16 จากบริษัท Light Rumors ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ตุลาคมปี 2015 แต่ยังคงไม่ถูกวางจำหน่าย จนกระทั่งวันที่ 14 กรกฎาคม 2017 พวกเขาได้กลับมาพร้อมประกาศรับพรีออร์เดอร์ คุณพระคุณเจ้า ให้มาตั้ง 16 เลนส์เลยหรือนี่ ความพิเศษของกล้องนี้คือ ด้านหน้าประกอบด้วยเลนส์กล้องจำนวน 16 เลนส์ ให้ความละเอียดมากถึง 52 ล้านพิกเซล เรียกว่าคมชัดยันเซลล์ผิวหนังกันไปเลยทีเดียว ทั้งหมดนั้นจะมี เลนส์ขนาด 150 มิลลิเมตร รูรับแสงขนาด f/2.4 จำนวน 6 เลนส์ , ขนาด 70 มิลลิเมตร รูรับแสง f/2 จำนวน 5 เลนส์…
-
เพราะโลกนี้ยังมีสิ่งสวยงาม…กอริลลาน้อยกำพร้าหัวเราะคิกคัก หลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปเล่นด้วย
กอริลลา คือสัตว์ที่พวกเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เราเคยรู้กันมาก่อนมั้ยว่าพวกมันมีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ได้สูงมาก เพราะยังคงมีเหล่าผู้แสวงหาผลกำไรจากการลักลอบล่าสัตว์ชนิดนี้อยู่ แต่ก็อาจมีบางตัวที่สามารถรอดมาจากเงื้อมมือของคนเหล่านั้นได้ เช่นเดียวกับเจ้ากอริลลาน้อยตัวนี้ Lulinga คือลูกกอริลลากำพร้าที่ถูกช่วยให้รอดจากกลุ่มลักลอบล่าสัตว์ผิดกฎหมายมาได้ ซึ่งมันอาศัยอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Virunga ประเทศคองโก และเห็นพ่อแม่ของตัวเองถูกยิงตายตั้งแต่อายุแค่ 8 เดือน หลังจากที่ทั้งสองพยายามขัดขืนไม่ให้กลุ่มลักลอบล่าสัตว์เอาลูกของพวกมันไป กอริลลากำพร้า ถูกพรากพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก แต่ถึงแม้ว่าเจ้ากอริลลาน้อยตัวนี้จะเคยเจอกับความโหดร้ายของมนุษย์มาก่อน แต่ปัจจุบันมันก็ได้รับความรักและการคุ้มครองจากกลุ่มมนุษย์ผู้หวังดีที่มีชื่อว่า GRACE องค์กรผู้ปกป้องกอริลลาที่อาศัยอยู่ในแอฟริกา ในคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ในวันที่ 21 ธันวาคม 2017 เผยให้เห็นความน่ารักของกอริลลาน้อยตัวนี้ ถูกจั๊กจี้ซะจนดิ้นไปมา พร้อมกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ดูน่ารักน่าเอ็นดู หัวเราะเอิ๊กๆ ชอบอกชอบใจใหญ่เลย คลิปความน่ารักของเจ้ากอริลลาน้อยที่ถูกจั๊กจี้ รอยยิ้มอย่างมีความสุขจากการได้รับความช่วยเหลือจากคนกลุ่มนี้ เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจและมอบรอยยิ้มอิ่มเอมใจให้กับทุกคนที่เห็น ยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า อย่างไรก็ตามจำนวนของกอริลลาในปัจจุบัน เชื่อว่าเหลือเพียงแค่ราวๆ 5,000 ตัวที่อาศัยอยู่ในบ้าน และการที่ยังคงมีคนลักลอบล่าสัตว์อยู่จึงทำให้จำนวนดังกล่าวอาจลดลงอีกในอนาคต แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น องค์กร GRACE ก็หวังที่จะช่วยฟื้นฟูและป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นกับพวกมัน และหวังที่จะให้ Lulinga ได้กลับไปอยู่ตามธรรมชาติ หลังจากที่ปลอดอันตรายแล้ว…
-
น้องเหมียวที่แม้จะเกิดมาตัวเล็กผิดปกติ แต่มันก็ได้รับความรักที่ยิ่งใหญ่มากๆ จากทาสของมัน
ขณะที่กลุ่มช่วยเหลือน้องเหมียว Cat Adoption Team กำลังสำรวจอยู่ในเมือง Sherwood รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ไปเจอกับสองแม่ลูกที่ต้องการความช่วยเหลือ เพราะลูกเหมียวตัวนั้นอายุ 5 วัน แต่กลับมีขนาดเท่ากับตอนแรกเกิด เรื่องราวนี้ถูกรายงานเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2017 ผ่านเว็บไซต์ LoveMeow ว่า ทั้งสองตัวถูกพาไปฝากไว้กับบ้านอุปถัมภ์ชื่อ Mama Muse เพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสม ที่พัก และอาหารแสนอร่อย เจ้าเหมียวตัวจิ๋ว แม่และลูกที่ถูกช่วยมาด้วยกัน เจ้าลูกแมวถูกเรียกว่า Selene อายุ 5 วัน ซึ่งถึงแม้ว่าตามันจะเปิดขึ้นมาได้แล้ว แต่ขนาดตัวเหมือนกับตอนเพิ่งเกิดมาและยังคงมีสายสะดือติดอยู่ และหลังจากที่มันได้มาอยู่ในที่แห่งนี้ แม่ของมันก็ตีตัวออกห่าง ไม่สนใจลูกน้อยเลย แม้ว่าจะได้ยินเสียงลูกร้องออกมาเรียกความสนใจมากขนาดไหนก็ตาม . Selene จึงได้ไปอยู่ในความดูแลของ Shelby เจ้าหน้าที่ผู้หลงใหลเจ้าลูกแมวตัวนี้มากๆ ด้วยความมินิไซส์และน่ารักของมัน บวกกับสายตาบ๊องแบ๊วที่ส่งมาให้อยู่เสมอ เนื่องจากว่าแม่แมวไม่สามารถผลิตน้ำนมออกมาได้แล้ว เจ้าหน้าที่คนนี้จึงเป็นคนป้อนนมให้ลูกแมวทุกๆ ชั่วโมงผ่านหลอดฉีดยา ซึ่งเจ้าเหมียวก็กินอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหิวโซ…
-
22 ภาพความฮาของคุณพ่อผู้หวงลูกสาวซะอย่างกับงูหวงไข่ หนุ่มๆ อย่าหวังจะได้แอ้มเชียว
หากใครกลายเป็นพ่อคนแล้ว แน่นอนว่ายังไงก็ต้องหวงลูกสุดที่รักของเราเป็นธรรมดา ยิ่งถ้าเป็นลูกสาวด้วยแล้วล่ะก็ ความเป็นห่วงและความหวงลูกจะยิ่งเพิ่มพูนทวีคูณไปอีกหลายสิบเท่าเลยทีเดียว นี่คือภาพของเหล่าคุณพ่อผู้ห๊วงงงหวงลูกสาวของตัวเอง ชนิดที่ว่า “ลูกสาวข้าใครอย่าแตะ” อะไรประมาณนั้นเลย จะหวงกันมากขนาดไหนแล้วมันออกมาดูฮาๆ น่ารักเพียงใด เราไปดูกันเลย แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย สิ่งที่เจ้าทำกับลูกสาวข้า ข้าก็จะทำแบบเดียวกันกับเจ้า อยากเห็นชุดชั้นในลูกสาวฉันมากใช่มั้ย.. จัดไปเลยไอ้เสือ “หนูมีแฟนแล้วนะแม่ อย่าบอกพ่อนะ.. แต่คงไม่ทันแล้วอ่ะเนาะ” ใครคิดจะจีบลูกสาวก็อย่าลืมไปอ่านกฎที่เสื้อคุณพ่อก่อนนะ คิดให้ดีก่อนจะเข้ามาจีบนะ คุณพ่อเขาเตือนแล้ว คุณพ่อต้องประลองไอคิวกับว่าที่ลูกเขยซะหน่อย ว่าเหมาะสมกับลูกสาวหรือไม่ ดูแลลูกสาวข้าให้ดีๆ อย่ากลับดึก เข้าใจใช่มั้ยครับ? ก่อนจะพาลูกสาวไปออกเดท รบกวนกรอกแบบฟอร์มให้ครบทุกช่องก่อน นั่งนิ่งกันทำไม ก็กินข้าวกันไปสิ พ่อดูแลเธอดีขนาดนี้ หนุ่มๆ คนไหนจะมาสู้ได้ พ่อขอตั้งชื่อผ้าห่มนี่ว่า “ผ้าห่มปกป้องพรหมจรรย์” ที่ยืนอยู่นี่พ่อไง จะทำอะไรก็เกรงใจกันนิ๊สสสนึง “พ่อหนูมีแฟนใหม่แล้ว” “พ่อก็เพิ่งซื้อปืนใหม่มาเหมือนกัน” …
-
ผู้คนในอินเดียร่วมแรงร่วมใจ ช่วยชีวิตน้องหมา 3 ตัวที่นอนจมอยู่ในบ่อน้ำมันดินจนปลอดภัย
ในเมือง Udaipur รัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ชาวบ้านแถวนั้นบังเอิญไปเจอลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน พวกเขาจึงพยายามช่วยชีวิตพวกมันเอาไว้และรีบติดต่อกลุ่ม Animal Aid ให้เข้ามาช่วยด้วยอีกแรง กลุ่มสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าวจึงได้โพสต์วิดีโอการช่วยเหลือครั้งนี้เอาไว้ในยูทูบ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ทำให้เราได้เห็นการช่วยเหลือเจ้าหมาทั้งสามตั้งแต่ต้นจนจบว่า สุดท้ายแล้วมันสามารถรอดชีวิตมาได้หรือไม่ ลูกหมาสามตัวติดอยู่ในบ่อน้ำมันดิน ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ทำได้แค่ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสงสาร ชาวบ้านที่พบเห็นพยายามช่วยชีวิตพวกมัน ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องงัดบ่อน้ำมันดังกล่าวออกมาทั้งแถบ ความพยายามอย่างยากลำบาก เพื่อให้เจ้าหมาปลอดภัยมากที่สุด ปากล่างของน้องหมาตัวหนึ่งติดอยู่กับบ่อน้ำมัน ทำให้การจะช่วยมันออกมายิ่งยากมากกว่าเดิม เมื่อชาวบ้านสามารถดึงพวกมันออกมาได้แล้ว พวกเขาได้ส่งต่อให้กลุ่มผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลต่อ พวกเขาจำเป็นต้องให้น้ำดับกระหายน้องหมาผ่านเข็มฉีดยา และใช้พวกน้ำมันพืชในการทำให้เศษน้ำมันที่ติดตัวอยู่อ่อนลง พวกเขาทำอย่างนั้นอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อละลายความเหนียว จนกระทั่งสามารถล้างน้ำมันที่ติดตัวพวกมันออกมาได้มากพอสมควรแล้ว เจ้าหมาทั้งสามอยู่ในสภาพอิดโรย น้ำมันที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทำให้ต้องอาบน้ำเจ้าหมาด้วยสบู่ นวดอยู่นานถึง 3 วัน สภาพร่างกายของมันยังคงย่ำแย่ และไม่รู้ว่าหลังจากนี้มันจะสามารถรอดชีวิตไปได้หรือไม่ แต่ด้วยความรักและพลังใจของพวกมัน ก็สามารถช่วยให้กลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง อีกทั้งยังได้เจอแม่ด้วย…
-
ขอโทษนะ… วิทยาศาสตร์บอกว่า ‘รักแรกพบ’ ไม่มีอยู่จริง สิ่งที่เกิดขึ้นคือตัณหาล้วนๆ
“คุณเชื่อในรักแรกพบมั้ย?” เป็นคำถามที่ใครหลายๆ คนต้องเคยเจอกันมาก่อน กับการมองปุ๊บปิ๊งปั๊บ รักเลยอะไรทำนองนั้น แท้จริงแล้วมันก็อาจไม่ใช่ความรักเสมอไป เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาบอกว่า รักแรกพบนั้นส่วนใหญ่แล้วเกิดจากความต้องการทางเพศเท่านั้นเอง การศึกษาในเรื่องนี้ ถูกเผยแพร่ในวารสารงานวิจัย The International Association for Relationship ศึกษาจากการออกเดตกัน 500 ครั้ง ของนักศึกษาชาวดัตช์และชาวเยอรมัน อายุเฉลี่ยที่ 25 ปีจำนวน 200 คน ทุกคนจะถูกกำหนดให้ทำอยู่สามขั้นตอน แรกสุดคือทำแบบสำรวจออนไลน์ ต่อมาจะถูกศึกษาพฤติกรรมในห้องปฏิบัติการ และสุดท้ายจะได้ไปออกเดตแบบเผชิญหน้ากัน โดยทั้งสามขั้นตอนนี้จะมีเวลาให้แค่ 90 นาทีเท่านั้น เมื่อกลุ่มตัวอย่างทำขั้นตอนที่สามคือการออกเดตแบบเผชิญหน้ากันเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจะถูกถามว่ารู้สึกเหมือนกับได้เจอรักแรกพบบ้างหรือเปล่า และให้บอกว่าระดับความเข้ากันได้ทางกายภาพของเขาและเธอนั้นอยู่ที่เท่าไหร่จาก 3 ระดับ ได้แก่ “รู้สึกสนิทสนม” “รู้สึกใกล้ชิด” และ “รู้สึกถึงความต้องการในเรื่องเพศ” จากการพบกันทั้งหมด ผลออกมาว่ามีสิ่งที่เรียกว่ารักแรกพบเกิดขึ้นมาถึง 49 ครั้ง จากผู้ร่วมการทดสอบแค่ 32 คน และเกือบทั้งหมดนั้นเกิดจากความต้องการในเรื่องเพศแทบทั้งสิ้น หลังจากที่หลงใหลในรูปร่างอันสะดุดตาของเพศตรงข้าม และแม้ว่า…
-
มาซักที!! โตเกียวเปิดบริการล็อคกระเป๋า ขี้สบายไม่ต้องกลัวหาย ปล่อยมันไปตามความรู้สึก…
ห้องน้ำในประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่ามีความสะดวกสบายอย่างมาก ทำให้เราสามารถปลดทุกข์กันได้อย่างเพลิดเพลินจนอาจเผลอหลับไปได้เลย แต่หลายคนที่เคยไปใช้บริการอาจต้องประสบกับปัญหาไม่สามารถลากกระเป๋าไปไว้ในห้องน้ำได้ จะวางทิ้งไว้ข้างนอกก็กลัวหายอีก จึงได้เกิดระบบรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่ขึ้นมาแก้ปัญหานี้ นี่คือระบบล็อคกระเป๋าที่เรียกว่า Baggageport นวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยให้คุณสามารถเข้าห้องน้ำได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น นวัตกรรมที่ช่วยปกป้องกระเป๋าของคุณเอาไว้ . เจ้าสิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถล็อคกระเป๋าลากของตัวเองเอาไว้หน้าห้องน้ำ แล้วเดินตัวปลิวเข้าไปปลดทุกข์ได้แบบชิลๆ ด้วยระบบการทำงานที่ง่ายแสนง่าย ขอเพียงแค่เรามีบัตรเติมเงิน IC Card บัตรแทนเงินสดยอดนิยมที่สามารถชำระค่าบริการต่างๆ ภายในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างง่ายดาย เชื่อว่าหลายคนที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นคงจะคุ้นเคยกับเจ้าบัตร IC Card กันบ้างแล้ว เพราะมันอำนวยความสะดวกให้เราอย่างมาก เพียงแค่เติมเงินเข้าไปในบัตร จากนั้นเวลาจะชำระค่าเดินทางหรือสินค้าตามร้านสะดวกซื้อ เราก็ใช้บัตรนี้สแกนแทนเงินสดไปได้เลย รวดเร็วทันใจเสียจริง หน้าตาตัวอย่างบัตร IC Card หากเราอยากใช้บริการ Baggageport ก็เพียงแค่ดึงสายออกมาคล้องกับหูกระเป๋า จากนั้นก็เสียบกลับไปที่เดิม กดปุ่มหนึ่งครั้ง พอมีไฟสีฟ้ากระพริบก็ใช้ IC Card สแกนจนไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง เท่านี้กระเป๋าของเราก็จอดรออยู่หน้าห้องน้ำไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน บางคนอาจสงสัยว่าบริการนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายหรือเปล่า? ขอบอกว่าไม่ต้องเสียเลยแม้แต่สตางค์เดียว เราสามารถใช้มันได้ฟรีๆ ตัวอย่างการทำงานอันแสนง่ายดายของเจ้า Baggageport ไม่ต้องกลัวว่าเราจะใช้ไม่เป็น เพราะเขามีโปสเตอร์อธิบายไว้ให้ทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ปัจจุบันเจ้า…
-
ชายในร่างซานต้า ผู้ทุ่มเทบทบาทมากว่าครึ่งศตวรรษ และยังคงทำหน้าที่ส่งความสุขต่อไป…
ใกล้ถึงวันคริสต์มาสแล้ว สิ่งที่อยู่คู่กับเทศกาลนี้มาตลอดและขาดไม่ได้เลยก็คือซานตาคลอส สวมชุดคลุมสีแดงตัวใหญ่ หน้าตาใจดี คอยแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ซึ่งชายชาวอังกฤษ Ray Hulse ได้สวมบทบาทนี้มานานกว่า 55 ปีแล้ว Ray จะแปลงร่างเป็นคุณลุงซานต้าในทุกคริสต์มาส เขาทำอย่างนี้มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ตั้งแต่ 1962 จนถึงตอนนี้อายุเขาปาเข้าไป 73 ปีแล้ว ลุงซานต้า ผู้มอบความสุขให้กับเด็กๆ มานานกว่าครึ่งศตวรรษ ในครั้งแรกที่เขาได้รับบทซานตาคลอส เขาได้แจกของขวัญให้กับคนในอู่รถยนต์ Ford เล็กๆ จนกระทั่งเขาเริ่มได้รับความนิยมและออกไปแจกของขวัญให้กับเด็กๆ ตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงเรียนที่ตั้งอยู่รอบๆ เขต Shropshire บ้านเกิดของเขา เขาบอกว่า “การได้มอบความสุขและความสนุกให้กับเด็กๆ เป็นสิ่งที่เยี่ยมมากจริงๆ รางวัลที่ผมได้รับก็คือใบหน้าแห่งความสุขของทุกคน” Ray เล่าอีกว่า เขาพยายามให้เด็กๆ ได้สานสัมพันธ์กับผู้ปกครอง เขาจะถามเด็กว่ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีไฟหรือไม่ แล้วแสงสว่างที่เกิดขึ้นนั้นถูกจุดประกายโดยพ่อหรือแม่กันล่ะ? เพื่อให้เด็กได้คิดถึงสิ่งดีๆ ที่ได้รับจากพ่อแม่มาโดยตลอด เขาชอบที่จะแหย่เด็กๆ เล่น และมุกคลาสสิกที่เราเคยได้ยินประมาณว่าคุณลุงซานต้าจะโดดลงมาในปล่องควัน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เขาจึงบอกกับเด็กๆ ว่าลุงซานต้ามีกุญแจวิเศษแทน…
-
21 สุดยอดเทคนิคทางจิตวิทยา ช่วยให้คุณสามารถอ่านความคิดของ “คู่สนทนา” ได้ง่ายๆ!!
ในบางครั้ง คำพูดอาจไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายทุกอย่างได้ทั้งหมด เพราะความจริงแล้วเราสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ผ่านอวัจนภาษา หรือภาษากายของผู้พูดได้ว่า แท้จริงแล้วในตอนนั้นเขารู้สึกหรือว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ การสังเกตภาษากายสามารถทำให้เรารับรู้ข้อมูลของคู่สนทนาได้มากขึ้นถึง 55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชาวออสเตรเลีย Allan Pease ได้แนะนำถึงข้อสังเกตง่ายๆ ที่ทำให้เราเข้าใจฝ่ายตรงข้ามได้มากขึ้น เราลองไปดูกันเลยว่ามันมีอะไรบ้าง 1. การหลับตา ถ้าหากอีกฝ่ายกำลังพูดแล้วหลับตาไปด้วย นั่นหมายความว่าเขากำลังพยายามหลบซ่อนตัวจากโลกภายนอก หรือกำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง แต่ที่ทำอย่างนั้นไม่ใช่ว่าเพราะเขากลัวคุณ ในทางตรงกันข้าม เขาอาจจะแค่เหนื่อยที่ต้องคุยกับคุณ เลยหลับตาเพื่อทำให้คุณหายไปแทน 2. ใช้มือปิดปาก วิธีนี้ก็เหมือนกับตอนยังเป็นเด็ก ยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้เวลาที่เราไม่อยากบอกอะไร อาจจะใช้แค่นิ้วโป้งหรือกำหมัดขึ้นมาปิดเอาไว้ ซึ่งบางทีอาจทำเป็นไอ เพื่อปิดบังว่าเราไม่ต้องการบอกบางสิ่งบางอย่างให้อีกฝ่ายรู้ 3. กัดขาแว่น รวมถึงการคาบปากกาดินสอ คาบบุหรี่ หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง สิ่งเหล่านี้คือการแสดงออกถึงความกังวลที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายใน โดยพฤติกรรมในลักษณะนี้จะทำให้รู้สึกปลอดภัย นักจิตวิทยาเผยว่าพฤติกรรมดังกล่าว คล้ายกับตอนดูดนมแม่สมัยเป็นเด็กนั่นเอง 4. การยื่นหน้าออกมา การเอาคางมาเกยไว้บนมือคือท่าทางเพื่อดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม ให้อีกฝ่ายเชยชมใบหน้าของเราอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นหากผู้ชายคนไหนเห็นสาวๆ ทำท่านี้ก็ควรรับรู้ได้ทันที และกล่าวชมเธอไปในเวลาที่เหมาะสม 5.…
-
เผยสภาพอันย่ำแย่ภายในค่ายลี้ภัย Moria ต้องรองรับผู้ลี้ภัย 7,000 คน สวรรค์ที่ไม่มีจริงอีกต่อไป…
ประเทศซีเรีย ยังคงอยู่ในช่วงของภาวะสงครามมาจนถึงปัจจุบัน จนทำให้ผู้คนจำนวนมากตัดสินใจลี้ภัยออกมา เพื่อหวังจะมาอาศัยอยู่ในค่ายอพยพเพราะเชื่อว่าจะได้พบกับชีวิตที่ดีกว่าเดิม แต่ความเป็นจริงมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว หนึ่งในค่ายที่มีผู้อพยพไปเป็นจำนวนมากคือค่ายลี้ภัย Moria ตั้งอยู่บนเกาะเลสบอส ประเทศกรีซ ค่ายแห่งนี้เคยเป็นคุกมาก่อน เคยจุคนได้ 2,000 คน แต่ในปัจจุบันมันได้กลายเป็นค่ายที่มีผู้อพยพอาศัยอยู่มากกว่า 7,000 คน และได้ชื่อว่าเป็น “ค่ายอพยพที่เลวร้ายที่สุดในยุโรป” ค่ายลี้ภัย Moria สถานที่ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้อพยพในยุโรป เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าการใช้ชีวิตกันอย่างแออัดและถูกล้อมด้วยกำแพงรอบด้านของคนเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เพราะภายในเขตรั้วไม่สามารถนำกล้องเข้าไปได้ สำนักข่าว BuzzFeed เคยพยายามเข้าไปบันทึกภาพภายในสถานที่นี้ แต่ก็ถูกจับกุมตัวโดยเจ้าหน้าที่เสียก่อน ซึ่งให้เหตุผลกับสื่อว่า การเข้ามาถ่ายรูปภายในค่ายอพยพถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย จนกระทั่งผู้อพยพใช้วิธีการส่งต่อภาพภายในนั้นผ่าน WhatsApp ด้วยสัญญาณมือถือ เพื่อให้คนด้านนอกรับรู้ว่าการใช้ชีวิตของพวกเขาเลวร้ายมากขนาดไหน ทางเดินที่เต็มไปด้วยเต็นท์จำนวนมาก (หากดูไม่ได้ ให้กดที่ลิงก์ Twitter) This one taken after a recent rainstorm, shows the pathways of #MoriaCamp lined with ad…
-
‘พ่อพระแห่งสรรพสัตว์’ ผู้ฝ่ากัมมันตรังสีสู่ฟุกุชิมะ คอยเลี้ยงดูชีวิตที่ถูกหลงลืมไว้เบื้องหลัง
เมื่อปี 2011 ได้เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ขึ้นในจังหวัดฟุกุชิม่า ประเทศญี่ปุ่น ทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นเขตหวงห้าม ไร้คนอยู่อาศัย เนื่องมาจากอันตรายของกัมมันตรังสีที่กระจายออกมา แม้ว่าชาวบ้านในละแวกนั้นจะสามารถอพยพออกไปอยู่ที่อื่นได้ แต่สัตว์จำนวนมากกลับถูกทิ้งเอาไว้ในสถานที่แห่งนั้น ไม่มีใครเข้าไปดูแล ยกเว้นชายคนนี้ที่ยอมฝ่ากัมมันตรังสีเข้าไปอาศัยอยู่กับพวกมัน โดยไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง นี่คือ Naoto Matsumura มนุษย์เพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในเขตกัมมันตรังสีที่ชื่อว่า 12.5-mile ในจังหวัดฟุกุชิม่า ในตอนแรกที่เขากลับมา ก็เพื่อจะมาหาสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่เขาพบว่ายังมีสัตว์อีกมากที่ต้องการการดูแลเช่นเดียวกัน เขาจึงตัดสินใจดูแลสัตว์ทุกตัวที่ถูกทิ้งไว้ในบริเวณนี้ทั้งหมด ชายวัย 55 ปีคนนี้รู้ดีว่า การอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมันอันตรายมากขนาดไหน แต่เขากลับไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นซักเท่าไหร่ เขาไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยมานานราว 30-40 ปี และคิดว่าถ้ายังไงก็ต้องตายอยู่ดี แล้วเราจะไปสนใจเรื่องนั้นทำไมให้มากมาย เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2011 และยังคงสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอด ตอนกลับมาเขาได้เจอวัวเป็นพันๆ ตัว ที่ถูกขังและตายอยู่ในโรงนาหลายแห่ง สัตว์หลายๆ ตัวที่ถูกเจ้าของเก่ามัดเอาไว้ เขาก็เป็นคนมอบอิสระให้กับมัน รวมถึงการให้อาหารกับสัตว์ทุกชนิด และถึงแม้รัฐบาลจะห้ามไม่ให้เขาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้ แต่นั่นไม่อาจหยุดความตั้งใจของชายคนนี้ไว้ได้ เขาอาศัยและดูแลสัตว์ทั้งหลาย ด้วยสิ่งของที่ได้รับบริจาคมา…
-
มิติใหม่แห่งการแทง นักสนุ๊กจีนเปิดอัลติ ‘สะบัดไม้คิว’ ใช้สะกิดลูกแดง เช็ดครกแบบนี้ก็ได้เหรอฟะ!?
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2017 ได้มีการแข่งขันสนุกเกอร์รายการ Scottish Open รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง Neil Robertson กับ Cao Yupeng โดย Neil สามารถพลิกกลับมาชนะได้จาก 4-8 เฟรม กลายเป็น 9-8 เฟรม แต่แทนที่คนดูจะพูดถึงการเอาชนะได้อย่างน่าทึ่งของอดีตมือวางอันดับ 1 ชาวออสเตรเลียคนนี้ หลายๆ คนกลับมุ่งประเด็นไปที่ลูกแทงของนักสนุ๊กชาวจีน Cao Yupeng เพราะมีอยู่หนึ่งไม้ที่เขาแทงลูกขาวแบบแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน จนพากันสงสัยว่า “สนุ๊กมันแทงกันอย่างนี้ก็ได้หรอ!?” วิธีการแทงสนุ๊กแบบที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อน วิธีการแทงของเขาในลักษณะนี้ เกิดจากความตั้งใจที่จะป้องกันไม่ให้ Neil สามารถแทงต่อได้ง่ายๆ ป้องกันความต่างของคะแนนเอาไว้ แต่เทคนิคการแทงแบบงงนี้ก็ทำให้นักสนุ๊กระดับตำนานอย่าง Dennis Taylor ถึงกับออกมาบอกว่า “จากที่ผมเล่นสนุกเกอร์มา 60 ปี ผมไม่เคยเห็นการแทงแบบนี้มาก่อนเลย” นักสนุ๊กระดับตำนานยังงง เพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย นอกจากมันจะแปลกตาแล้ว มันยังทำให้หลายๆ คนเกิดความสงสัยว่า วิธีการนี้ถือว่าผิดกติกาหรือไม่?…
-
การใช้ภาษากายเพื่อช่วยเสริมความมั่นใจ และช่วยลดความเครียดได้ภายใน 2 นาทีต่อวัน
หลายๆ คนพยายามหาวิธีการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่เราอาจไม่รู้ว่าวิธีการที่ง่ายและได้ผลนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามากจริงๆ และนอกจากจะเพิ่มความมั่นใจแล้ว มันยังช่วยลดความเครียดให้คุณได้อีกด้วย ก่อนที่จะไปพูดถึงวิธีการ เราจะมาพูดถึงหลักการทำงานของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อความมั่นใจของเรากันก่อน ในงานวิจัยจากหลายสถาบัน เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยออริกอน หรือมหาวิทยาลัยเท็กซัส พวกเขาบอกเอาไว้ว่า การเป็นผู้นำที่ดี นอกจากจะสามารถกระจายรูปแบบความคิดได้แล้ว ฮอร์โมนก็มีส่วนสำคัญเหมือนกัน ฮอร์โมนที่ส่งผลเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ เทสโทสเตอโรน และ คอร์ติซอล ซึ่งถ้าหากเรามีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอยู่มากเท่าไหร่ ความมั่นใจที่เรามีก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และถ้าเราสามารถลดการสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอลลงได้ ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลของตัวเองและรับมือกับความเครียดได้ดียิ่งขึ้น หลักการทำงานของฮอร์โมนทั้งสองตัว สามารถส่งผลกับตัวเราได้อย่างมาก แล้วมันจะมีวิธีการไหนบ้างที่สามารถควบคุมฮอร์โมนเหล่านั้นได้? นั่นแหละคือสิ่งที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ วิธีการดังกล่าวคือการทำท่าทางต่างๆ ใช้ภาษากายง่ายๆ ทั่วไปเท่านั้นเอง โดย Amy Cuddy นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ทำการศึกษาเรื่องของความเชื่อมโยงกันระหว่างความแตกต่างของท่าทางและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน งานวิจัย ของเธอได้จำแนกท่าทางของคนเราออกมาเป็นสองแบบ ได้แก่ “ท่าทางที่ดูมีพลัง” กับ “ท่าทางที่ดูไม่มีพลัง” ซึ่งเราสามารถเห็นความแตกต่างของท่าทางเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน “ท่าทางที่ดูมีพลัง” (ด้านบน) กับ “ท่าทางที่ดูไม่มีพลัง” (ด้านล่าง) กลุ่มตัวอย่างในครั้งนี้คือนักศึกษาจำนวน…
-
ตำนานของ Postnik Yakovlev สถาปนิกผู้สร้างวิหารเซนต์บาซิล กับจุดจบ ‘เสร็จตึกฆ่าคนสร้าง’
St. Basil’s Cathedral คือหนึ่งในโบสถ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม สีสันสดใส ตัววิหารถูกล้อมรอบด้วยโดมรูปหัวหอมทั้ง 8 ที่มีลวดลายแตกต่างกันไป แต่เพราะความสวยงามเหล่านี้ที่ทำให้มีเรื่องราวอันโหดร้ายเกิดขึ้น ตามประวัติศาสตร์แล้ว สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในปี 1555 หลังจากที่ พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย สามารถขับไล่ทหารมองโกลที่มารุกรานเมืองคาซานได้สำเร็จ วิหารแห่งนี้ก็คืออนุสรณ์สถานเพื่อประกาศถึงชัยชนะในครั้งนี้ ก่อนที่การก่อสร้างจะเริ่มต้นขึ้น ด้วยความที่พระองค์ต้องการให้สิ่งก่อสร้างนี้ออกมายิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในโลก เขาจึงใช้เวลาตามหาสถาปนิกที่ดีที่สุด จนได้ไปเจอกับ Postnik Yakovlev Postnik ได้สร้างผลงานนี้ขึ้นมาด้วยระยะเวลากว่า 6 ปี จนสิ่งก่อสร้างดังกล่าวได้ออกมาประจักษ์แก่สายตาทุกคนในปี 1561 และแน่นอนว่าความสวยงามของมันกลายเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนที่พบเห็น โดยเฉพาะพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แต่ด้วยความที่อีวานเป็นกษัตริย์ที่มีความโหดเหี้ยมอย่างมาก จนได้ฉายาว่า “อีวานจอมโหด” จึงทำให้เขาเกิดความคิดว่า ไม่อยากให้มีสิ่งปลูกสร้างไหนๆ สวยกว่าวิหารนี้อีกแล้ว เขาจึงสั่งให้ทหารควักดวงตาของ Postnik เพื่อให้สถาปนิกคนนี้ไม่สามารถไปออกแบบก่อสร้างความสวยงามใดๆ ขึ้นมาได้อีก เรียกว่าเป็นความซวยของชายคนนี้จริงๆ อีกหนึ่งเรื่องที่หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ ชื่อของวิหารแห่งนี้ถูกตั้งตามสมญานามของนักบุญ Vasily Blazhenny ผู้ที่สามารถทำนายปรากฏการณ์ต่างๆ…
-
ชีวิตในหมู่บ้านอุณหภูมิ -60 องศาฯ ความหนาวเหน็บนี้กระทบชีวิตชาวบ้านมากแค่ไหน?
ตอนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว หลายๆ คนอาจบ่นว่าบ้านเราไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ซึ่งหากใครชอบอากาศแบบหนาวเย็นแล้วล่ะก็ ลองมาทำความรู้จักกับหมู่บ้าน Verkhoyansk ทางตะวันออกของรัสเซีย ในฤดูหนาวของที่นี่มีอุณหภูมิติดลบกว่า 60 องศาเลยทีเดียว ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Brice Portolano ผู้เข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของ Ayal เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้กับแม่ของเขา รอวันที่จะย้ายไปเรียนในเมือง Yakutsk ที่ห่างออกไปกว่า 600 กิโลเมตร ตามรอยพี่ๆ อีก 4 คนของเขา Ayal เด็กหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ . . พ่อกับแม่ของเด็กหนุ่มหย่ากัน จึงทำให้เขาอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังในหมู่บ้านที่ได้รับการบันทึกกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดว่า เป็นดินแดนที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมากที่สุดในโลก โดยช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะติดลบที่ 67.8 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อนอุณหภูมิจะเพิ่มสูงถึง 37.3 องศา ความหนาวจัดเย็นจัดของที่แห่งนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของชาวบ้านแตกต่างออกไปจากพื้นที่อื่นๆ บนโลก น้ำที่พวกเขาใช้จะต้องไปตัดเอาน้ำแข็งจากในลำธารมาวางไว้หน้าบ้าน เมื่อไหร่ที่อยากจะใช้ก็แค่ยกมาละลายในบ้าน ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็มีน้ำประปาเหมือนกัน เพียงแต่น้ำจะมีอุณหภูมิสูงมากเพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระเบิด และไม่สามารถนำน้ำนั้นมาดื่มกินได้ Stroganina ปลาแช่แข็งเหยาะเกลือกับพริก อาหารขึ้นชื่อของที่นี่…
-
MIT เผย “โรคเสพติดมือถือ” มีอยู่จริง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ร้ายแรงกว่าที่เราคิด!?
ปัจจุบัน แทบทุกคนจะต้องมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง และการที่เล่นแต่มือถือจนแทบไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย แบบนั้นเราอาจเรียกว่า อาการของคนติดมือถือ แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่าอาการนั้นมันมีอยู่จริงและสามารถส่งผลเสียให้กับสุขภาพเราได้อย่างมาก การเสพติดมือถือจะมีความใกล้เคียงกับการเสพติดโซเชียลมีเดีย เพราะคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น มักจะเล่นโซเชียลมีเดียผ่านมือถือกันทั้งนั้น การโทรคุยกันแทบจะไม่เกิดขึ้น เพราะเราสามารถได้เห็นและสื่อสารกันผ่านโลกโซเชียลได้ นั่นจึงทำให้มีการศึกษาจำนวนมากที่พยายามศึกษาเกี่ยวกับผลเสียที่ตามมาจากสมาร์ทโฟน ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2017 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือรู้จักกันในชื่อ MIT ได้เผยแพร่ การทดลองของอาจารย์โรงเรียนสอนธุรกิจในประเทศอิตาลี และฝรั่งเศส อาจารย์ทั้งสองคนตั้งกฎห้ามไม่ให้นักเรียนใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลาหนึ่งวัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ นักเรียนส่วนใหญ่เกิดความกระวนวายขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าจะเอาเวลาว่างไปทำอะไรดี เนื่องจากปกติพวกเขาจะเช็กโทรศัพท์กันอยู่เสมอ เหมือนอย่างนักเรียนคนหนึ่งที่ปกติจะเช็กมือถือของตัวเองถึง 4 ครั้งในเวลาแค่ 10 นาที การศึกษาในรูปแบบเดียวกันนั้นเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา พบว่าเด็กที่ไม่ได้เล่นมือถือจะทำงานที่ต้องใช้สภาวะทางด้านจิตใจได้แย่ลง รู้สึกสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป และยังส่งผลถึงทางร่างกาย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย มี การศึกษาหนึ่งที่พูดถึงการเพิ่มสูงขึ้นของผู้มีอาการซึมเศร้าและฆ่าตัวตายในปี 2010 – 2015 จากสถิติของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือรู้จักกันในชื่อ CDC ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงได้รับผลกระทบค่อนข้างมากในช่วงที่สมาร์ทโฟนเริ่มเป็นที่นิยม โดยสถิติการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นถึง 65 เปอร์เซ็นต์ และหญิงสาวที่มีอาการซึมเศร้าก็เพิ่มอีกกว่า 58…
-
หนูน้อยรอไฟลท์ในสนามบิน ชวนเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเต้นด้วยกัน น่ารักน่าชังเหลือเกิน
ใกล้เข้าสู่วันปีใหม่กันแล้ว หลายๆ คนในตอนนี้อาจกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน เพื่อไปฉลองเทศกาลวันหยุดนี้กับครอบครัว จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นคนจำนวนมากไปรวมตัวกันตามสถานีขนส่งหรือสนามบินแต่นอกจากผู้คนมากหน้าหลายตาแล้ว เราอาจได้เห็นเหตุการณ์น่ารักๆ อะไรอย่างนี้ด้วยเหมือนกัน นี่คือความน่ารักของสองเด็กสาวและเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในสนามบิน Dallas รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อพวกเขาได้เต้นไปพร้อมๆ กัน สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 15 ธันวาคม 2017 และถูกบันทึกวีดีโอเอาไว้โดย Joe Vaughn พ่อของเด็กทั้งสอง ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังรอขึ้นเครื่องกลับบ้านที่ตั้งอยู่ในเมือง Moore รัฐโอคลาโฮมา ภายในคลิปเราจะได้เห็นเด็กสาวพยายามเลียนแบบท่าเต้นของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่เต้นไปพร้อมๆ กับเธอ และมีเสียงของแม่ที่คอยหัวเราะและเชียร์พวกเธออยู่ข้างๆ คลิปลีลาการเต้นของเด็กน้อยกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินในสนามบิน เจ้าหน้าสุดพลิ้วคนนี้วาดลวดลายออกมาอย่างเต็มที่ มีตั้งแต่ท่าขึ้นลงบันไดเลื่อน ท่าไก่ หรือกางแขนหมุนตัวไปมา ทำให้เด็กสาวสนุกสนานที่ได้เต้นไปพร้อมๆ กับเขา ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็คงสนุกไม่แพ้กันอย่างแน่นอน การเต้นในครั้งนี้ดูไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้เลย เพราะเด็กทั้งสองดูจะไม่เหนื่อยเลยแม้แต่นิดเดียว แต่สุดท้ายด้วยภาระหน้าที่ในตอนนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปลีกตัวออกไปทำงานของเขาต่อ เชื่อว่าลีลาการเต้นของทั้งสามคนจะสามารถสร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆ ได้ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารักๆ ที่แสดงให้เราเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เมื่อไหร่ หรือกับใคร ทุกคนสามารถมอบความสุขและความสนุกให้กับตัวเองได้อยู่เสมอ ที่มา: dailymail
-
จดหมายจากผู้สำนึกผิดหลังจากที่ ‘ชักดาบค่าอาหาร’ ส่งเงินกลับมาให้พร้อมคำขอโทษ
แน่นอนว่าการกินแล้วชักดาบคงทำให้เจ้าของร้านอาหารทุกคนรู้สึกไม่พอใจ ที่ตัวเองต้องสูญเสียรายได้ แต่บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นอาจไม่ได้มาจากความตั้งใจเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ Apollo Apollinaire เจ้าของร้าน Kilimandjaro ในประเทศอังกฤษ ได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2017 เขาได้เจอกับลูกค้าสามคนที่เข้ามากินอาหารในร้านแล้วออกไปโดยไม่ได้จ่ายเงินเลยซักบาท ซึ่งนั่นก็ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แม้ราคาอาหารมันจะไม่มาก แต่นั่นก็ทำให้เขาคิดว่าบนโลกนี้ยังมีคนเห็นแก่ตัวแบบนี้อยู่จริงๆ แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป เมื่อมีจดหมายส่งมาที่ร้าน โดยภายในมีเงินและคำขอโทษจากชายสามคนนั้น Apollo เจ้าของร้านอาหารสไตล์แอฟริกัน-แคริบเบียนแห่งนี้ ในจดหมายเล่าว่า ตอนแรกทั้งสามต้องการจ่ายเงินผ่านบัตรแต่ว่าทางร้านรับแต่เงินสดเท่านั้น พวกเขาจึงเดินออกไปหาตู้ ATM ระหว่างนั้นก็คิดกันได้ว่ารถไฟขบวนสุดท้ายที่จะเดินทางไปเมืองบ้านเกิดของพวกเขากำลังจะออกจากสถานีแล้ว ทั้งสามจึงรีบไปขึ้นรถไฟจนลืมกลับมาจ่ายเงิน พวกเขาจึงส่งเงินประมาณ 1,730 บาท สำหรับจ่ายค่าอาหารที่กินไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ และขออภัยที่ไม่สามารถเดินทางจากเมือง Middlesbrough มาขอโทษเจ้าของร้านด้วยตัวเองได้ แต่ถึงจะไม่ได้มาขอโทษต่อหน้า แค่นี้ก็ทำให้ Apollo รู้สึกปลาบปลื้มและประทับใจกับการแสดงความรับผิดชอบ และคำขอโทษของพวกเขา เจ้าของร้านคนนี้จึงถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว และชาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น “เยี่ยมไปเลย เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็รับผิดชอบและจ่ายค่าอาหาร ยังคงมีคนดีๆ อยู่บนโลกของเราจริงๆ สินะ” “ไม่บ่อยหรอกนะที่จะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นในปัจจุบัน สังคมต้องการคนอย่างพวกเขานี่แหละ” …
-
การที่พวกเราไม่เก่งคณิต ไม่ได้แปลว่าโง่ แต่จริงๆ อาจมีความ ‘อัจฉริยะ’ แฝงอยู่ในตัวก็เป็นได้!?
ในสมัยเรียน หลายๆ คนอาจเคยกังวลกับวิชาคณิตศาสตร์ เพราะมันคือหนึ่งในวิชาที่ยากที่สุดและเวลาสอบทีไรคะแนนที่ออกมามันช่างน้อยนิดเสียเหลือเกิน แต่อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะจากการศึกษาในมหาวิทยาลัย Zurich Technical University บอกว่าการไม่เก่งคณิตศาสตร์อาจไม่ได้แปลว่าคุณไม่ฉลาด แต่คุณอาจมีความเป็นอัจฉริยะแฝงอยู่ในตัว ศาสตราจารย์ Elsbeth Stern บอกว่าความสามารถทางคณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด ทำให้มนุษย์ทุกคนสามารถดูออกได้ว่าอันไหนเยอะกว่า อันไหนน้อยกว่า แต่เหตุผลหลักที่ทำให้หลายๆ คนไม่เก่งคณิตศาสตร์คือความผิดพลาดของระบบการศึกษา ที่ไม่สามารถทำให้พวกเขานำคณิตศาสตร์เหล่านั้นมาใช้ในชีวิตจริงได้ Elsbeth พูดว่า “สิ่งสำคัญคือ เรามักจะขาดความเข้าใจในเรื่องของแนวความคิดโดยรวม แม้แต่นักเรียนที่ฉลาดที่สุดก็มักจะไม่สามารถถ่ายโอนข้อมูลเชิงลึกที่ควรได้รับออกไปได้ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่แตกต่างออกไปจากในห้องเรียน” นั่นหมายความว่าการที่เราไม่สามารถทำคณิตศาสตร์ได้ อาจเป็นเพราะการศึกษาที่ไม่ดึงดูดหรือเรียกความสนใจของเรา หรือระบบการสอนที่ขาดความประสิทธิภาพ Elsbeth กล่าวเสริมอีกว่า “บ่อยครั้งที่เด็กถูกสอนให้ท่องจำการคำนวณต่างๆ และไม่สามารถที่จะเข้าใจถึงรากฐานที่แท้จริงของคณิตศาสตร์ได้” “ในการทดลองก่อนหน้านี้ยังบอกอีกว่า หากมีการสอนให้นักเรียนเรียนเรื่องการบวกและคูณไปพร้อมๆ กัน แทนที่จะเรียนทีละอย่างไป จะช่วยให้เด็กสามารถเข้าใจหลักการของการคำนวณได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาต่างๆ ในอนาคตได้ดีมากกว่าเดิม” อย่างไรก็ตาม แม้เราจะมีความสามารถติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่สิ่งที่สำคัญคือแรงจูงใจและความพยายาม โดย Malcolm Gladwell เคยพูดถึงทฤษฎีที่เรียกว่า “กฎ 10,000 ชั่วโมงเอาไว้” อธิบายไว้ว่า…
-
นักบาสหนุ่มผู้ทุ่มเทชีวิตและความฝันจากข้างถนน กับผลตอบแทนที่ไม่สวยงามดั่งฝัน
ชีวิตที่ยังคงดำเนินต่อไป หลายๆ ครั้งเราจำเป็นต้องเลือกหนทางด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ แต่ทางเดินที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบก็อาจทำให้เราต้องเจอกับความผิดหวังและท้อแท้บ้างในบางครั้ง เหมือนอย่างชายผู้ฝันจะเป็นนักบาสอาชีพคนนี้ สารคดี VICE SPORT ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของนักบาสหนุ่มที่ชื่อว่า Joey Haywood ผู้ใฝ่ฝันที่จะเข้า NBA มาตั้งแต่เด็ก จนทำให้เขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคและพบกับความผิดหวังในหลายๆ ครั้ง Joey ชายผู้ฝันจะเป็นนักบาสอาชีพ ชายคนนี้เล่นบาสมาตั้งแต่อายุแค่ 7 ขวบ ความสามารถอันโดดเด่นบวกกับลีลาการใช้ท่าพลิกแพลงสไตล์สตรีทบาสที่เรียกว่า AND1 เขาจึงทำผลงานได้ค่อนข้างดีในการแข่งขันให้กับทางโรงเรียนมาโดยตลอด แต่การนำสตรีทบาสมาผสมผสานก็ทำให้โค้ชของเขาหลายๆ คนไม่ค่อยชอบใจกันซักเท่าไหร่ เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในชื่อ King Handles นักบาสผู้มีลีลาแพรวพราว แต่ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะชอบ Joey แต่เขายังคงไม่ได้รับคัดเลือกให้เข้าไปเล่นในลีกสูงๆ อยู่ดี ถึงอย่างนั้น Joey ก็ไม่ได้ละทิ้งความฝัน ตัดสินใจเข้าร่วมทีมสตรีทบาสและออกไปแข่งตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ฝึกซ้อมอย่างหนัก หวังว่าซักวันหนึ่งตัวเองจะได้เข้าไปแข่งในลีกอาชีพ และหาเงินจากการเล่นบาส การฝึกซ้อมอย่างหนัก เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ปัจจุบันเขาอายุ 32 ปี มีภรรยาและลูกอีก 2 คนให้ดูแล…
-
จากการศึกษาและงานวิจัยบอกว่า ‘การเสพติดเซลฟี่’ อาจเป็นอาการผิดปกติของจิตใจก็ได้
ในโซเชียลมีเดีย เราอาจได้เห็นเพื่อนๆ เซลฟี่โพสต์ลงในโซเชียลมีเดียกันจนเป็นเรื่องปกติ แต่มันอาจจะไม่ปกติอีกต่อไป เมื่องานวิจัยได้ออกมาเผยว่าการเซลฟี่อาจเป็นความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่ง ย้อนกลับไปในปี 2014 สมาคมจิตเวชอเมริกัน หรือรู้จักกันในชื่อ APA ได้พูดถึงความผิดปกติทางจิตอย่างหนึ่งที่ชื่อว่า Selfitis คือคนที่ถูกการเซลฟี่เข้าครอบงำ ต่อมาในปี 2017 จึงได้มีงานวิจัยออกมาเพื่อยืนยันและจำแนกประเภทของอาการชนิดนี้ งานวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ใน วารสารนานาชาติที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตและการเสพติด เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน โดยนักวิจัยสองคนจากมหาวิทยาลัย Nottingham Trent University ในอังกฤษ และ Thiagarajar School of Management ในอินเดีย พวกเขาต้องการยืนยันว่าอาการทางจิตดังกล่าวนั้นมีอยู่จริงและต้องการแบ่งระดับความรุนแรงออกมาให้เราเห็นภาพกันได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ถูกวางเอาไว้ ทั้งสองใช้กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยจำนวนหลายร้อยคน เพื่อทำการสัมภาษณ์แบบกลุ่ม หลังจากนั้นพวกเขาก็แบ่งระดับความรุนแรงของพฤติกรรมการถูกครอบงำจากเซลฟี่ออกมาเป็น 3 ระดับดังนี้ ระดับ 1 ขั้นเริ่มต้น หมายถึงคนที่ถ่ายเซลฟี่อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง แต่ไม่ได้โพสต์รูปเหล่านั้นลงโซเชียล ระดับ 2 ขั้นรุนแรง หมายถึงคนที่ถ่ายเซลฟี่อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง…
-
ร้าน KFC ขนาดจิ๋วที่สุดในโลก เล๊กกกกกเล็ก แต่มันทำไก่ทอดได้จริงๆ นะเออ!!
หากพูดถึงร้านไก่ทอดที่รู้จักกันไปทั่วโลก หลายๆ คงจะนึกถึงร้าน KFC อย่างแน่นอน ด้วยเอกลักษณ์ด้านรสชาติและราคาที่ไม่แพงนัก ทำให้ไก่ทอดของผู้พันแซนเดอร์ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา มาในครั้งนี้พวกเขาได้เปิดสาขาใหม่ที่ไม่ได้มีเพียงแค่รสชาติที่ดั้งเดิม แต่ขนาดของร้านนั้นกลับดูแปลกตามากกว่าสาขาอื่นอย่างมาก เพราะนี่คือร้าน KFC ขนาดจิ๋ว ที่ขึ้นชื่อว่า “เล็กที่สุดในโลก” ด้วยขนาดที่สูงประมาณหัวเข่าของเราเท่านั้นเอง เจ้าร้าน KFC สุดจิ๋วนี้คือผลงานล่าสุดของยูทูบเบอร์ชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อว่า Bistro Mniature ผู้สร้างผลงานอาหารจิ๋วเอาไว้เป็นจำนวนมาก และถึงแม้ว่าร้านจะมีขนาดเล็กมากก็ตาม แต่มันยังคงสามารถทอดไก่ให้พวกเรากินได้ไม่ต่างจากสาขาอื่นเลย เพียงแต่ไก่ที่เราได้จะมีขนาดเล็กกว่านิ๊สสสนึงเท่านั้นเอง หมดห่วงเรื่องกระดูกไปได้เลย เพราะถ้ามีจริงๆ มันก็คงไหลลงคอเราไปได้อย่างง่ายดาย ไก่ทอดสไตล์มินิ ขนาดประมาณเล็บนิ้วก้อย อุปกรณ์ที่จัดวางทุกอย่างภายในร่างก็ไซส์มินิหมดเลย หนึ่งเมนู เราจะได้รับไก่ทอดจิ๋วสองชิ้น มันบดจิ๋วหนึ่งถ้วย บิสกิตจิ๋วและคุกกี้จิ๋ว แถมด้วยน้ำอัดลมแก้วเล็กๆ อีกหนึ่งแก้ว เพียงเท่านี้เราก็สามารถอิ่มท้องได้นานถึง 5 นาทีอย่างแน่นอน กินอย่างนี้ทุกวัน วันละ 3 เซตพอ รับรองผอมชัวร์!! น้ำอัดลมแก้วจิ๋ว ที่ช่วยให้เราสดชื่น (แต่ไม่หายคอแห้งหรอกนะ) หากใครสนใจก็สามารถตามไปอุดหนุนร้าน KFC…
-
บอสร่วมระดมทุน เพื่อซื้อบ้านให้เมียม่ายของลูกน้อง ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย…
เพื่อนร่วมงานไม่ใช่คนที่จะช่วยเราแค่ในการทำงาน แต่ในชีวิตจริงพวกเขาก็อาจพร้อมช่วยเหลือเราด้วยเหมือนกัน เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ เมื่อเจ้านายพบว่าลูกน้องคนหนึ่งของเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่นาน เขาจึงต้องการที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อตอบแทนการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมดของชายคนนั้น เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2016 เมื่อ Keith Ellick วัย 42 ปี เดินเข้าไปบอกกับเจ้านายของเขา Addam Smith ว่า เขาป่วยเป็นมะเร็งช่องคอระยะสุดท้ายและจะมีชีวิตอยู่ได้แค่เพียง 12 เดือนเท่านั้น Keith (ด้านซ้าย) ผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และ Addam (ด้านขวา) เจ้านายของเขา และนั่นจึงกลายเป็นเหตุผลให้ Addam ผู้อำนวยการบริษัทจัดสวนละรั้วบ้านในประเทศอังกฤษ ต้องการที่จะทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยเหลือลูกน้องของเขาคนนี้ เขาเล่าว่า “Keith คือคนที่ตั้งใจทำงานมานานกว่า 10 ปีที่อยู่ด้วยกัน เขาคิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ แม้ในตอนที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย เขาก็เอาแต่ห่วงว่าภรรยาและลูกชายของเขาจะใช้ชีวิตอยู่กันยังไงเท่านั้นเอง” จากที่ Keith ยังคงห่วงภรรยาอยู่เสมอ ทำให้ Addam เปิดรับเงินบริจาคจนได้มาประมาณ 2,500,000 บาท เพื่อซื้อบ้านในเมืองลินคอล์น ประเทศอังกฤษ ให้กับครอบครัวของ Keith ภรรยาและลูกชายของ…
-
หญิงผู้รอดชีวิตจากการปลิดชีพตัวเอง เผยความรู้สึกกับการต้องมีชีวิตอยู่อีกครั้ง…
ไม่ใช่ทุกครั้งที่การตัดสินใจของเราจะต้องถูกเสมอไป เพราะในบางครั้งเราอาจได้มารู้ทีหลังว่าที่เราทำลงไปนั้นคือการตัดสินใจที่ผิดพลาด แต่อย่างน้อยมันก็อาจเป็นบทเรียนให้กับชีวิตเราในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้เหมือนอย่างหญิงสาวคนนี้.. นี่คือเรื่องราวของ Christen McGinnes วัย 46 ปีจากรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ผู้ที่พยายามฆ่าตัวตายด้วยการยิงปืนเข้าปากตัวเอง จนทำให้สูญเสียกรามขวา ลิ้น ฟันหลายซี่ ปากล่างและตาข้างขวาของเธอไป แต่อย่างน้อยเธอก็รอดมาได้จนพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เธอเล่าว่า ในปี 2009 เธอใช้ชีวิตทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น มีเพื่อนมากมาย รักงานที่ทำและเธอก็ยังสนิทกับคุณย่าของตัวเองเอามากๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานทุกอย่างก็กลับพินาศลงไปในพริบตา เธอตกงาน คุณย่าตายจากเธอไป พอเธอได้คบกับผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง เขาคนนั้นกลับทิ้งเธอไปอีก เธอสูญเสียทุกอย่างแม้แต่เงินเก็บของเธอทั้งหมด ทำให้เริ่มกินเหล้าอย่างหนักและเกิดความคิดว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เธอขอตายซะยังจะดีกว่า ในปีต่อมา หญิงสาวจัดห้องตัวเองให้สะอาดสะอ้าน ก่อนที่จะออกไปตรงระเบียงเตรียมจะยิงตัวตาย วินาทีนั้นเธอไม่ได้กลัวความตายเลย แต่สิ่งที่เธอกลัวคือ กลัวว่ากระสุนจะพุ่งไปห้องข้างๆ จนทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บ เธอเล่าว่า “ฉันรู้สึกสงบเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ตอนนั้นฉันไม่กลัวตายเลย จากนั้นฉันจึงเหนี่ยวไกเข้าที่ศีรษะของฉัน” ในตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนร่วมห้องของเธอก็อยู่ในห้องด้วย เมื่อเสียงปืนดังลั่น เพื่อนคนนั้นจึงรีบวิ่งมาดู ก่อนที่จะนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล หญิงสาวอยู่ในอาการโคม่านานกว่า 3 สัปดาห์ สิ่งที่เธอจำได้เป็นอย่างแรกในตอนที่ตื่นขึ้นมาคือ…
-
รวม 20 ภาพสแนปแชทฮาๆ ส่งท้ายปี 2017 พร้อมกับแคปชั่นภาพที่มันเหลือเกินเสียจริง..
ตอนนี้กลางเดือนธันวาคม 2017 เข้าสู่ช่วงเทศกาลต่างๆ หลายอย่าง และแน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดและรู้จักกันทั่วโลกอย่างแน่นอนก็คือ วันปีใหม่ หนึ่งในเทศกาลจัดงานเฉลิมฉลองให้กับการส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปี 2018 ที่กำลังมาถึงนี้ ก่อนที่เราจะก้าวเข้าสู่ปีถัดไป #เหมียวตะปู อยากลองชวนเพื่อนๆ ให้ได้มาดูภาพสแนปแชทสุดฮาที่เกินขึ้นในปี 2017 เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เดินต่อไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้ม ว่าแล้วเราก็ไปดูกันเลยยย นี่คงเป็นตัวอย่างจากหนังเรื่อง Up ปู่ซ่าส์บ้าพลัง ภาค 2 เมื่อคืนฝนตกหนักมาก แต่ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งไม่รู้ตัวนะ สงสัยคุณพ่อจะพาคุณลูกมาดูสถานที่ทำงาน นี่คงเป็นต้นไม้ที่หยาบคายมากที่สุดในโลกแล้ว บอกผมที ว่านี่หมี มิใช่หมู.. ไหนบอกว่าเป็นครีมบำรุงและฟื้นฟูมือไม่ใช่หรอ ไม่เห็นฟื้นฟูได้จริงเลย ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากการเล่นรักบี้ของเขา ผมแค่อยากจัดปาร์ตี้ที่บ้านบ้างอ่ะแม่ ที่จอดรถสำหรับคนแก่ที่พิการ อย่างน้อยก็ช่วยปัดกิ่งไม้ออกไปก่อนได้มั้ย เป็นสติกเกอร์ยีราฟที่ดูงงๆ นะว่ามั้ย Iron Man ชิดซ้ายไปเลย เมื่อเจอกับ…
-
เรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น หลัง “ฝรั่งเศส” มีกฎหมายห้ามร้านค้าทิ้งอาหารเหลือ ต้องไปบริจาคเท่านั้น!!
ห้างสรรพสินค้าหรือตามร้านค้าหลายๆ แห่งเลือกที่จะทิ้งอาหารที่ใกล้หมดอายุหรือมีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไป เพราะคิดว่าพวกเขาไม่ควรขายต่อไป จนทำให้เกิดปัญหาขยะอาหารจำนวนหลายล้านตันทั่วโลกในแต่ละปี รวมทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะโลกร้อนอีกด้วย แน่นอนว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับทุกประเทศ และเราไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ นั่นจึงทำให้ประเทศฝรั่งเศสเริ่มต้นคิดวิธีการแก้ปัญหาขึ้นมา 1 ใน 3 ของอาหารที่ถูกผลิตมาให้มนุษย์ทั่วโลก ถูกทิ้งไปอย่างไร้ค่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 ประเทศฝรั่งเศส ออกกฎหมายขึ้นมาใหม่ ห้ามไม่ให้ห้างสรรพสินค้าทิ้งอาหารที่ยังสามารถนำมากินได้หรือว่าใกล้หมดอายุเด็ดขาด แต่ให้นำอาหารเหล่านั้นมาบริจาคให้กับธนาคารอาหาร หรือใช้ไปทำปุ๋ยหมักแทน เพื่อช่วยลดจำนวนขยะอาหารที่มีอยู่ให้ลดลง กฎหมายดังกล่าว หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษถูกปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 129,000 บาท ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎที่ตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด นอกจากที่มันจะช่วยให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศที่สามารถลดจำนวนขยะจำพวกอาหารได้มากที่สุดในโลกแล้ว การแก้ไขนี้ยังเป็นประโยชน์กับคนยากไร้ให้ได้มีอะไรกินกัน เพราะปัญหาคนจนไม่มีข้าวกินก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ จากสถิติในปี 2016 มีคนกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกที่ยังคงใช้ชีวิตด้วยความหิวโหย ก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายนี้ Intermache ซูเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศสก็ได้ช่วยเหลือในปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2014 โดยพวกเขาจะเปิดขายอาหาร ผักผลไม้ที่มีรูปร่างหน้าตาผิดเพี้ยนไปจากเดิม จนได้รับความนิยมจากหลายๆ คนทั่วโลก ภายในเดือนเดียวก็มีผู้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากถึง 13 ล้านคน แม้จะมีหน้าตาแปลกประหลาดไปบ้าง แต่มันยังคงกินได้ตามปกติ และนอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว ประเทศฝรั่งเศสตั้งใจว่าจะพัฒนาการแก้ปัญหาต่อไปเรื่อยๆ…
-
มหาวิทยาลัยโตเกียวพัฒนา ‘กระจกซ่อมตัวเองได้’ อีกหนึ่งความก้าวหน้าที่คู่ควรกับสมาร์ทโฟน
เบื่อมั้ยกับปัญหาเวลามือถือตกแล้วหน้าจอแตก ทำให้ต้องเสียทั้งเงินและเวลาพามันไปเปลี่ยนที่ศูนย์หรือให้ร้านซ่อมให้ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ปัญหานั้นอาจหมดไปได้ ด้วยนวัตกรรมใหม่ “กระจกที่สามารถซ่อมแซมได้ด้วยตัวเอง” ความสามารถนี้มีอยู่ในสสารที่ชื่อว่า Polyether Thiourea ซึ่งเป็นสสารแรกของโลกที่มีคุณสมบัติผสมระหว่างความแข็งแกร่งแบบกระจกและความสามารถในการฟื้นฟูตัวเอง สสารชนิดใหม่ที่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็ว เจ้าสิ่งนี้ถูกพัฒนาโดยศาสตราจารย์ Takuzo Aida และผู้ช่วยของเขาที่เป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาสามารถค้นพบเจ้าสิ่งนี้ได้ด้วยความบังเอิญ ในตอนที่กำลังพยายามคิดค้นกาวแบบใหม่กันอยู่ ความพิเศษของเจ้า Polyether Thiourea คือ เมื่อไหร่ที่มันแตกหักหรือแยกจากกัน เพียงแค่เราใช้มือดันส่วนที่แตกออกกลับเข้าไปให้มันอยู่ในสภาพเดิม ไม่กี่วินาทีทั้งสองส่วนนั้นจะติดกันเหมือนเดิม และปล่อยไว้ไม่กี่ชั่วโมงกระจกก็จะคืนตัวอย่างสมบูรณ์เรียบเนียน เพียงแต่จะทิ้งรอยแตกไว้ให้เห็นเท่านั้นเอง แตกเป็นเสี่ยงๆ หรือหักออกมาเป็นสองส่วนก็สามารถซ่อมแซมได้ ในตอนแรกที่พวกเขาเจอความสามารถนี้ก็ยังคงตกใจกันอยู่ เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการฟื้นฟูตัวเองในวัตถุที่มีลักษณะเป็นของแข็ง แต่เมื่อพวกเขาทดสอบมันอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงเหมือนเดิม ทำให้สามารถยืนยันการค้นพบนี้ได้ ลองคิดดูว่าถ้าเรานำสสารตัวนี้มาใช้กับหน้าจอสมาร์ทโฟนของเรา พอจอแตกปุ๊บ เราก็แค่เก็บเศษกระจกมาดันติดกันเข้าไปใหม่เท่านั้นเอง ง่ายๆ สะดวกสบายเป็นยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่มันยังคงทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้เห็นเป็นขีดตรงรอยเชื่อม ซึ่งเชื่อว่าหากแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้เมื่อไหร่แล้วล่ะก็ มันจะต้องได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภทอย่างแน่นอน แค่นำมาประกบกันไม่กี่วินาที มันก็จะต่อกันแน่นเหมือนเดิมแล้ว ถึงแม้มันอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่ชาวเน็ตหลายๆ คนก็ยังคงทึ่งกับความสุดยอดในการฟื้นฟูตัวเองของเจ้าสิ่งนี้ “คุณพระ!? มหัศจรรย์สุดๆ ไปเลย”…
-
อาจารย์สายโหด ปลุกนักเรียนขี้เซาด้วยโมเดล ‘ปืนพลาสติก’ ที่เหมือนจริงเกิ๊น!!
อาจารย์แต่ละท่านจะมีวิธีการกระตุ้นนักเรียนที่แตกต่างกันออกไป บางคนอาจให้รางวัลสำหรับคนที่ตั้งใจเรียน หรือบางคนอาจใช้เรื่องเล่าสนุกๆ ทำให้นักเรียนรู้สึกสนใจ แต่สำหรับครูสอนภาษาอังกฤษในประเทศญี่ปุ่นคนนี้กลับมีวิธีการที่ต่างออกไปนิดหน่อย เพราะเขาใช้ปืนเป็นตัวกระตุ้นให้นักเรียนสนใจ ภาพเหตุการณ์นี้ถูกถ่ายและโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @komathematicsR ในวันที่ 13 ธันวาคม 2017 เมื่อครูสอนภาษาอังกฤษของเขาควักปืนพกขึ้นมาหวังจะให้นักเรียนตื่นตัวและตั้งใจเรียนมากยิ่งขึ้น ทำเอาสะดุ้งโหยงกันไปทั้งห้อง จากมุมกล้องทำให้เราเห็นเหมือนกับว่า คุณครูถือปืนจ่อหัวนักเรียน แต่ความเป็นจริงเขาแค่ถือขึ้นมายืนอยู่หน้าห้องแค่นั้น ไม่ได้ไปจ่อหัวใครแต่อย่างใด ก่อนหน้านั้นคุณครูพูดว่า “เวลานี้นักเรียนคงจะง่วงกันหมดแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้สอน นี่เป็นหน้าที่ของผมที่จะช่วยให้ทุกคนมีสมาธิกับการเรียน” แล้วจู่ๆ เขาก็ควักปืนออกมาจากกระเป๋าพร้อมทั้งยืดแขนออกไปเหมือนเล็งขู่ใครซักคน วิธีการนี้ทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีสมาธิตั้งใจเรียนขึ้นมาทันที และแน่นอนว่าปืนที่ครูหยิบขึ้นมานั้นเป็นเพียงแค่ปืนโมเดลพลาสติกสุดสมจริง ที่ไม่ได้บรรจุกระสุนเอาไว้เท่านั้นเอง อย่าเพิ่งหลับนะจ๊ะเด็กๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นปืนปลอม แต่ก็ได้ผลตอบรับที่ดี นักเรียนคนที่ถ่ายภาพเอาไว้เล่าว่า มันช่วยให้ทุกคนหายจากอาการง่วงนอนแล้วตั้งใจเรียนกันต่อไปได้ แม้บทเรียนในตอนนั้นจะน่าเบื่อขนาดไหนก็ตาม และวิธีการนี้อาจดูไม่เหมาะสมในสายตาของใครบางคน แต่อย่างน้อยนักเรียนคนนี้คงเป็นคนหนึ่งที่เห็นด้วยกับสิ่งที่อาจารย์ของเขาทำมากจริงๆ เขาพูดว่า “อาจารย์คนนี้เป็นคนตลก เขาไม่ได้พยายามคุกคามพวกเรา แต่นี่เป็นแค่หนึ่งในวิธีฮาๆ ที่ช่วยทำให้เรามีสมาธิกับการเรียน ผมรักครูคนนี้เพราะเขาทำให้เราสนุกอยู่เสมอ” นี่คงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ เพื่อกระตุ้นให้ทุกคนตื่นตัวอยู่เสมอ ลองคิดว่าถ้าเราเป็นนักเรียนอยู่ในห้องนั้น มีหวังเราคงช็อกไปก่อนที่ครูจะเฉลยว่าเป็นของปลอมแน่เลย ที่มา: rocketnews24 , nextshark
-
หนุ่มลงทุนบินไปไกลกว่า 1,000 กิโลฯ เพื่อเจอกับสาวที่จีบออนไลน์ ดั๊นได้กินยำบาทาแทนซะงั้น
ในปัจจุบัน การนัดเดตออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียได้รับความนิยมทั่วโลก หลังจากคุยกันถูกคอแล้วก็อาจนัดเจอกันเพื่อสานความสัมพันธ์กันต่อไป เหมือนอย่างหนุ่มชาวจีนคนนี้ที่ลงทุนเดินทางไปไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร หวังจะได้เจอกับสาวที่เขานัดเอาไว้ แต่สิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลยซักนิดเดียว ชายแซ่ Liu คนนี้อาศัยอยู่เขตใจกลางประเทศจีน แม้ว่าเขาจะแต่งงานแล้ว แต่เขาก็ได้พูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ในโลกออนไลน์ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตัดสินใจที่จะเดินทางไปพบเธอคนนั้น ในวันที่ 11 ธันวาคม 2017 เขานั่งเครื่องบินเดินทางไปเมือง Fuyuan มณฑลยูนนาน ด้วยระยะทางกว่า 1,142 กิโลเมตร แต่สิ่งที่รออยู่กลับไม่ใช่สาวแซ่ Duan ที่เขาเฝ้าคุยผ่านโลกออนไลน์ เพราะคนที่ต้องการเจอเขาจริงๆ กลับกลายเป็นสามีของหญิงสาวคนนั้นแทน สามีของเธอพร้อมเพื่อนอีก 4 คนรุมทำร้าย Liu ในที่สาธารณะ ผูกเขาไว้กับต้นไม้และทุบตีด้วยแส้และเข็มขัดหนัง เนื่องจากโมโหที่จับได้ว่าภรรยาตัวเองนอกใจไปคุยกับ Liu ในโลกออนไลน์ แม้จะมีผู้คนเห็นเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่แทนที่จะเข้ามาช่วยพวกเขากลับหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์นี้เอาไว้และโพสต์ลงในโลกโซเชียล และจากคลิปก็ไม่เห็นหญิงสาวแซ่ Duan อยู่บริเวณนั้นเลย คลิปสามีและเพื่อนอีก 4 คนรุมตีชู้รักออนไลน์ของภรรยาตัวเอง . แม้ว่าการใช้กำลังจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม แต่เชื่อว่าเรื่องนี้คงกลายเป็นบทเรียนให้กับ Liu…
-
คุณพ่อไปเที่ยววันหยุดเลยยืมกล้อง GoPro ของลูกไปใช้ แต่ดั๊นถ่ายกลับด้านเกือบทั้งทริป!!
ผู้ใหญ่หลายๆ คนอาจไม่ชำนาญเรื่องเทคโนโลยีได้เท่ากับวัยรุ่นที่เติบโตมาพร้อมๆ กับสิ่งนี้ และนั่นจึงอาจทำให้พวกเขามีข้อผิดพลาดในการใช้งานเทคโนโลยีอย่างที่เราคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างชายวัย 69 ปีคนนี้ ที่ไม่เก่งเรื่องเทคโนโลยีจนถึงกับถ่ายรูปผิดด้านเกือบตลอดการเดินทางเลยทีเดียว ชายคนนี้มีชื่อว่า Howard Newman เขาและ Joan ภรรยาได้ไปเที่ยวกันที่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ก่อนจะไปเขาก็ตัดสินใจยืมกล้อง GoPro ของ Mark ลูกชายของเขาติดตัวไปด้วย แต่แล้วเรื่องราวฮาๆ ก็ได้เกิดขึ้น เมื่อคุณพ่อคนนี้กลับถือกล้องผิดด้านแทบตลอดทั้งทริป จากที่เขาต้องการจะเก็บภาพบรรยากาศวิวทิวทัศน์อันสวยงามระหว่างการเดินทาง มันกลายเป็นการถ่ายภาพเซลฟี่ของตัวเองแทนซะอย่างนั้น คุณพ่อถ่ายหน้าตัวเองทำไมเนี่ย!? เขาถ่ายทุกอย่างในโหมดวิดีโอ ทำให้เราได้เห็นใบหน้า รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของเขาแทบทุกคลิป แต่เรารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ? นั่นก็เพราะคลิปแรกสุดเขาก็พูดออกมาแล้วว่า “ตอนนี้เราอยู่ที่เนเธอร์แลนด์แล้ว เห็นถึงความแตกต่างกันเลยมั้ยล่ะ” จะเห็นความแตกต่างได้ยังไงในเมื่อเห็นแต่หน้าคุณพ่อเกือบทั้งทริป!? ด้วยความที่เขายังคงงงว่าปุ่มของกล้องมันควรต้องอยู่ทิศทางไหน จึงทำให้คลิปที่สองที่เขาถ่าย ภาพที่เราเห็นก็ยังคงเป็นหน้าของชายคนนี้อีกเหมือนเดิม ในส่วนนี้เขาต้องการอวดเส้นทางรถไฟ Great European ให้ประจักษ์แก่สายตาทุกคน หากแต่ว่าคงไม่มีใครได้เห็นอย่างที่เขาเห็นแน่นอน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะถ่ายกลับด้านตลอด เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาควักกล้องมาถ่ายเครื่องบินในด้านที่ถูกต้อง ทำให้เราได้เห็นเครื่องบินบินผ่านไปจริงๆ หลังจากที่เฝ้ารอจะชมวิวกันมานาน แต่สุดท้ายพอเริ่มคลิปใหม่ ก็กลายเป็นหน้าของเขาเหมือนเดิม…
-
อดีตประธานบริษัท Komatsu จัดงานเลี้ยง ‘ปิดฉากชีวิต’ ของตัวเอง หลังจากรู้ว่าอยู่ได้อีกไม่นาน
หากเรารู้ว่าเราเหลือเวลาใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน เราจะทำอย่างไรกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่นั้น บางคนอาจเศร้าโศกเสียใจอยู่กับคนในครอบครัว บางคนอาจออกไปเที่ยวรอบโลก หรือบางคนอาจจัดงานเลี้ยงฉลองให้ยิ่งใหญ่เหมือนกับเขาคนนี้ Satoru Anzaki ชาวญี่ปุ่นวัย 80 ปี อดีตประธานบริษัทเครื่องจักร Komatsu ได้จัดงานเลี้ยงอำลาชีวิตของตัวเองในวันที่ 11 ธันวาคม 2017 บนโรงแรมโตเกียว หลังจากที่เขารู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานหลังจากนี้ ในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้น แพทย์บอกกับเขาว่า มีการตรวจพบมะเร็งถุงน้ำดีระยะสุดท้าย แต่ Satoru เลือกที่จะไม่เข้ารับการรักษา เพื่อรักษาคุณภาพของชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด มีความสุขกับช่วงเวลาที่เหลืออยู่ Satoru อดีตประธานบริษัทเครื่องจักร Komatsu ต่อมาเดือนพฤศจิกายน ได้มีการประกาศเรื่องของงานเลี้ยงดังกล่าวลงในหนังสือพิมพ์ จนทำให้มีการพูดถึงกันเป็นวงกว้าง หลายคนชื่นชมในความกล้าที่จะเผชิญหน้าความตาย บางส่วนก็อยากให้ตัวเองได้รับเชิญไปร่วมงานฉลองนี้ จนกระทั่งในวันเลี้ยงฉลองมาถึง แขกกว่า 1,000 คนที่ได้รับเชิญต่างเดินทางมาร่วมงาน มีทั้งเพื่อนคนสนิทในปัจจุบัน เพื่อนเก่าร่วมชั้นในวัยเด็ก คู่ค้าและหุ้นส่วนทางธุรกิจ รวมถึงพนักงานบริษัทในสังกัด Komatsu ภายในงานถูกตกแต่งไปด้วยสิ่งของแห่งความทรงจำของชายคนนี้ อีกทั้งเขายังจ้างนักเต้นรำสไตล์ดั้งเดิมจากบ้านเกิดของเขาในจังหวัดโทคุชิมะ เข้ามาสร้างสีสันและความบันเทิงให้กับแขกทุกคนในงาน Satoru พยายามเดินทักทายและจับมือกับแขกทุกคนที่มาร่วมงาน เขายังคงยิ้มอย่างสดใสร่าเริง ไม่แสดงอาการเศร้าโศกใดๆ ทั้งสิ้น…
-
ชายไร้บ้านยืนตากฝนนาน 2 ชั่วโมง เฝ้าเงินจำนวน 20,000 บาทที่ตกอยู่จนเจ้าของกลับมาเอาคืน
ทุกคนสามารถทำความดีได้ ไม่เกี่ยวว่าเราจะต้องมีเงินมากมายมหาศาล เพราะแม้แต่ชายไร้บ้านคนนี้เขาก็ได้ทำความดีเอาไว้ให้กับคนแปลกหน้า ด้วยความเสียสละและทุ่มเท เรื่องราวของชายคนนี้ถูกนำเสนอผ่านสำนักข่าว Daily Mail ในวันที่ 15 ธันวาคม 2017 เมื่อชายไร้บ้าน James John McGeown ที่อาศัยอยู่ในเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เขาได้ไปเจอกับกระเป๋าใบหนึ่งที่วางเอาไว้หน้ารถที่เปิดกระจกอยู่ ซึ่งมีเงินเกือบ 20,000 บ้านอยู่ในกระเป๋า James ชายไร้บ้านที่เห็นกระเป๋าพร้อมกับเงินจำนวนมากในนั้น ด้วยความที่เขากลัวว่าจะมีคนมาขโมยกระเป๋าใบนั้นไป เขาจึงยืนเฝ้าเอาไว้นานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา แต่รอไปนานขนาดนั้นเจ้าของก็ยังไม่กลับมาที่รถซักที เขาจึงนำกระเป๋าใบนั้นไปฝากไว้ที่สำนักงานกฎหมายใกล้ๆ พร้อมกับทิ้งกระดาษโน้ตเอาไว้ในรถ เมื่อ John McMonagle เจ้าของรถและ Alyshia Orford เจ้าของกระเป๋าใบนั้นกลับมาที่รถ พวกเขาเจอกับกระดาษโน้ตที่บอกว่ากระเป๋าถูกฝากเอาไว้ที่ไหน เขาจึงเดินทางไปรับคืนพร้อมกับรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด การช่วยเหลือที่น่าประทับใจนี้ ทำให้ John ตั้งรับเงินบริจาคผ่านเว็บไซต์ GoFundMe โดยตั้งเป้าไว้ที่ประมาณ 215,000 บาท เพื่อนำมันไปมอบให้กับ James ชายไร้บ้านที่ช่วยพวกเขาเอาไว้ John…
-
เจ้าเหมียวลายสูททักซิโด้ ร่วงลงมาจากเพดาน และตกลงสู่หัวใจมนุษย์ไปในทันที
ตอนเด็กๆ เราอาจเคยฝันให้มีลูกอมหรือของขวัญที่เราอยากได้หล่นลงมาจากฟ้า ซึ่งมันก็จะคล้ายกับเหตุการณ์ของ Ellie Haywood หญิงสาวผู้ได้รับของขวัญที่หล่นมาจากเพดานบ้านของเธอเอง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถูกบอกเล่าผ่านเว็บไซต์ LoveMeow เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2017 Ellie เล่าว่า เธอและเพื่อนรูมเมทอาศัยกันอยู่ในบ้านพักเก่าๆ หลังหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยแตกและรูตามกำแพง จนทำให้พวกเธอต้องหาโปสเตอร์หรือของตกแต่งเล็กๆ มาปิดรูพวกนั้นเอาไว้ ในส่วนของเพดานก็มีความเก่าไม่แพ้กัน เพราะจะมีน้ำซึมหยดลงมาและมีรอยรั่ว จนทำให้พวกเธอต้องเตรียมถังเอาไว้หลายใบ ไว้รองน้ำที่หยดลงมาในช่วงฝนตก จนกระทั่งในคืนหนึ่งพวกเธอกำลังเตรียมถังไว้รองน้ำ ป้องกันพายุที่กำลังจะมาในวันถัดๆ ไป จู่ๆ ก็มีเสียงน้องเหมียวแว่วเข้ามาจากบนเพดาน พวกเธอคิดได้ทันทีเลยว่านั่นต้องเป็นแม่แมวและลูกแมวอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่ทุกคนจะได้ตามหาว่ามันอยู่ไหน ทันใดนั้นก็มีเสียงเหมือนมีอะไรตกลงมาจากเพดาน รอยแตกที่เกิดจากบางสิ่งบางอย่างที่ตกลงมาจากเพดาน Ellie และเพื่อนได้พบกับรอยแตกบนเพดานที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ที่สงสัยคือเจ้าสิ่งที่ตกลงมาหายไปไหน แล้วพวกเธอก็ได้เจอกับเจ้าเหมียวตัวน้อยและแม่ของมัน พอแม่แมวเห็นพวกเธอปุ๊บ ก็รีบวิ่งหายออกไปจากบ้านทันที ทิ้งลูกแมวตัวน้อยน่ารักเอาไว้ให้พวกเธอ นี่จึงกลายเป็นการพบกันครั้งแรกกับสมาชิกใหม่ตัวนี้ เจ้าเหมียวน้อยที่ตกลงมาพร้อมกับแม่ของมัน . เจ้าเหมียวที่มีลายคล้ายชุดทักซิโด้ ถูกตั้งชื่อให้ว่า Asbestos ในตอนแรกมันมีท่าทีแบบกล้าๆ กลัวๆ อยู่บ้าง เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นมนุษย์หลังจากที่อาศัยอยู่บนหลังคามาตลอด แต่พอเวลาผ่านไปเจ้าเหมียวก็สามารถปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่ได้เป็นอย่างดี…
-
เหมียวแก่วัย 16 อาศัยในศูนย์นานกว่า 210 วัน จนเกิดเป็นเรื่องราวและได้พบกับอิสระเสียที
ทุกคนต้องการบ้าน ต้องการความอบอุ่นจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะในช่วงบั้นปลายชีวิตที่ต้องการเพียงแค่ที่ที่หนึ่งกับคนคนหนึ่งที่จะอยู่เคียงข้างเราไปจนวันสุดท้าย เจ้าเหมียวตัวนี้เองก็เช่นกัน การรอคอยอันยาวนานจนเหมือนกับว่ามันคงไม่ได้รับไออุ่นอย่างที่ฝันไว้ก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาในที่สุด นี่คือเรื่องราวของเจ้าเหมียว Kozal วัย 16 ปี เจ้าของเก่าของมันมีสุขภาพที่ย่ำแย่ ไม่สามารถเลี้ยงมันต่อได้ จึงพามาฝากไว้ที่สถาบันคุ้มครองน้องแมวในเขตซัสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ เพื่อรอให้เจ้าของคนใหม่พามันกลับไปเลี้ยงดู แต่มันคงไม่มีความสุขเท่าไหร่กับการต้องย้ายจากบ้านมาอยู่ในห้องเล็กๆ นี้ มันจึงพยายามจะหนีออกไปอยู่เสมอ คอยเอาเท้าหน้าเล็กๆ ถูกับกระจกเหมือนว่าจะพังออกมาให้ได้เลย เมื่อรู้ว่ามันไม่สามารถพังออกมาเองได้ ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ก็คือรอให้มีคนมารับมันไปเลี้ยง แต่ทว่ากลับไม่มีใครมุ่งความสนใจมาที่มันเลย ทุกคนที่เข้ามาเดินไปหาและรับเลี้ยงแมวตัวอื่นๆ ไปอยู่เสมอ ความน่าสงสารของเจ้าเหมียวชรา (เทียบกับคนอายุประมาณ 80 ปี) ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยกันแชร์เรื่องราวของเจ้าเหมียว หวังว่าจะเป็นแรงผลักดันให้มีคนเข้ามาช่วยมันออกไปจากกำแพงกระจก พวกเขาต่างพูดถึงความน่ารักน่าชังของมัน แม้มันจะแก่และป่วยเป็นโรคไขข้ออยู่เล็กน้อย แต่ก็เป็นเจ้าเหมียวที่สนุกสนานได้อยู่ตลอดเวลา ตอนนี้สิ่งที่มันต้องการก็คือบ้านที่แท้จริงและคนที่จะคอยมอบความรักความเอาใจใส่ให้กับมันเท่านั้นเอง เรื่องที่น่าเศร้าของเจ้าเหมียวคือ ยังคงไม่มีใครมารับมันไปเลี้ยงเลย เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ยังคงโดดเดี่ยวอยู่ในห้องเล็กๆ เพียงลำพังอยู่เหมือนเดิม จนกระทั่งเวลาผ่านไป 210 วันนับจากวันที่มันมาอยู่ที่สถาบัน ในช่วงเดือนธันวาคม 2017 จู่ๆ ก็มีคู่รักที่เดินเข้ามาหา Kozal และพวกเธอได้อ้าแขนรับมันกลับไปเลี้ยงเป็นหนึ่งในสมาชิกใหม่ของบ้านอันอบอุ่น ในที่สุดความฝันของเจ้าเหมียวก็ได้กลายเป็นความจริงขึ้นมาแล้ว…
-
นักท่องเที่ยวฉุนปึ๊ด โดนหลอกขายตั๋วนิทรรศการผีเสื้อปลอม ผู้จัดงานลั่น ‘ปลอมก็เกาะได้เหมือนกัน’
เราอาจเคยเห็นนิทรรศการจัดแสดงสิ่งมีชีวิตนานาชนิด เช่นเดียวกันกับในประเทศจีนที่ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการผีเสื้อ โดยในโฆษณายืนยันเลยว่าจะมีผีเสื้อจำนวนมากเกาะอยู่บนมือและไหล่คุณอย่างแน่นอน นิทรรศการดังกล่าวมีชื่อว่า Dinosaur and Butterfly จัดขึ้นในสวนสาธารณะ Yubai บนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ซึ่งทางสวนสาธารณะดังกล่าวได้ประกาศออกไปในแอป WeChat ว่า “จะมีผีเสื้อเป็นหมื่นๆ ตัวมารวมกันในพื้นที่โล่งกว้าง และจะไปเกาะอยู่บนนิ้วและไหล่ของผู้ที่มาเยี่ยมชม” จากโฆษณา ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมากซื้อบัตรราคาประมาณ 73 บาท เพื่อเข้าชมงานดังกล่าว แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะสิ่งที่รออยู่ด้านในมันไม่ได้เหมือนกับที่หลายๆ คนคาดคิดเอาไว้ ภายในงานคือการจัดแสดง “ผีเสื้อพลาสติก” หลากหลายสีสัน ไม่มีผีเสื้อจริงเลยแม้แต่ตัวเดียว หงายเงิบกันเลยทีนี้ นักท่องเที่ยวคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นว่า เขาเดินทางมาไกลกว่า 100 กิโล เพื่อมาเจอกับการหลอกลวงในครั้งนี้ สำนักข่าว BBC นำเสนอเรื่องนี้เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2017 โดยทางบริษัท Yulin Beishang Exhibition Service ออกมายืนยันว่านี่ไม่ใช่ของปลอมหรือการหลอกลวงแต่อย่างใด “ผีเสื้อพลาสติกก็สามารถมาเกาะบนนิ้วเราได้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” ส่วนพนักงานของสวนสาธารณะก็บอกว่า พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันจะเป็นอย่างนี้ จนกระทั่งได้ไปเห็นด้วยตัวเองในวันจัดงาน และจัดการเคลียร์ทุกอย่างออกไปหมดแล้ว ซึ่งพวกเขาตั้งใจว่าจะไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาอีก…
-
จากคลิปสามีเกาหลีลดน้ำหนักเพื่อภรรยา ทั้งสองกลับโดนคอมเมนต์ต่อว่าจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2017 #เหมียวมู่ทู่ เคยนำเสนอเรื่องราวของ Hugh Gwon หนุ่มเกาหลีผู้เปลี่ยนแปลงตัวเอง พยายามลดน้ำหนักเพื่อเป็นกำลังใจให้ภรรยา Nicholas สาวชาวออสเตรเลียที่ประสบปัญหาการมีลูกยาก (อ่านข่าวเก่าได้ที่ สามีตัดสินใจลดน้ำหนักจนมีซิกแพ็ค เพื่อให้กำลังใจภรรยา ในช่วง ‘ภาวะมีบุตรยาก’) จากการออกกำลังกายและควบคุมอาหารของเขา ทำให้สามารถลดน้ำหนักลงไปได้มากถึง 22 กิโลกรัม ในระยะเวลา 23 สัปดาห์ และภรรยาก็ตั้งท้องได้สำเร็จด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว จากความพยายามของเขา ทำให้เปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ เขาและภรรยารู้สึกยินดีกับผลลัพธ์ในครั้งนี้มาก ฟิตเปรี๊ยะ จำแทบไม่ได้เลยทีเดียว แต่ก็ไม่ได้มีเพียงเรื่องราวดีๆ เท่านั้น เพราะหลังจากที่ทั้งคู่โพสต์คลิปความพยายามและการประสบความสำเร็จของนาย Hugh ลงในโลกโซเชียล จนทำให้ชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ในหลากหลายแง่มุม ทำให้ทั้งสองต้องเจอการโจมตีในแง่ลบจากหลายๆ ความคิดเห็น คลิปความพยายามและการเปลี่ยนแปลงของหนุ่มเกาหลีคนนี้ คอมเมนต์จากชาวเน็ตที่เข้ามาโจมตีพวกเขาในหลายๆ เรื่อง.. เมื่อ Hugh ลดน้ำหนักแล้ว นี่คงถึงตาของคุณภรรยาแล้วแหละ . ชาวเน็ตคนนี้เข้ามาบอกว่า Nicholas ดูอ้วนมากๆ และมองว่านี่คือการกดขี่เรื่องเพศที่เหมือนบังคับให้ผู้ชายต้องมาออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ผู้หญิงที่อ้วนเหมือนกันกลับไม่ต้องทำอะไร …
-
16 ภาพถ่ายสวยๆ จากมุมท้องฟ้า บนโลกอันโหดร้ายยังคงไว้ซึ่งความสวยงาม
ภาพถ่ายที่เราเห็นกันบ่อยๆ อาจเป็นภาพถ่ายเซลฟี่ของคนในโลกโซเชียลหรือภาพวิวทิวทัศน์ที่มองออกไปจากพื้นโลก แต่ถ้าเราลองมองลงจากท้องฟ้าบ้างล่ะ สิ่งที่เราจะได้เห็นมันจะสวยงามและแปลกตามากขนาดไหน ภาพมุมมอง Bird’s Eye View แบบนั้นเราสามารถเห็นได้จากผลงานของช่างภาพจากสำนักข่าว Reuters ที่ออกเดินทางตามเก็บภาพความสวยงามต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก ออกมาเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์และมุมมองที่หลายๆ คนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เราไปลองไปดูกันเลย จักรยานสีรุ้งในที่จอดนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน สถาบันสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติทดแทนของบราซิล เผาป่าเพื่อต่อต้านการตัดไม้ที่ผิดกฎหมายในรัฐอามาโซนัส เครื่องจักรพยายามเคลียร์ถนนตัดผ่านเทือกเขา Sognefjellet ประเทศนอร์เวย์ ผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวว่ายน้ำแถวชายหาด Barra da Tijuca เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ตอนช่วงฤดูร้อน รอยวงกลมบนทะเลสาบเยือกแข็ง ใน Vanhankaupunginlahti กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ หมอกควันที่ปกคลุมเขตเทียนจิน ประเทศจีน คนราวๆ 2,000 คนจับมือลอยตัวในทะเลสาบ Epecuen ประเทศอาร์เจนตินา จนได้ลงบันทึกกินเนสบุ๊ก “คนจับมือลอยตัวเยอะที่สุดในโลก” น้ำเสียในแม่น้ำคงคา เขตคานปูร์ ประเทศอินเดีย Black Rock City กับคนประมาณ 70,000…
-
ช่างภาพสุดทุ่มเท เล่นใหญ่แก้เขินให้ลูกค้าระหว่างถ่ายงาน แถมงานก็ออกมาดีด้วย!!
เป็นเรื่องปกติที่เราจะได้เห็นช่างภาพเปลี่ยนมุมของตัวเองไปเรื่อย เพื่อเก็บความทรงจำจากหลายๆ มุมมอง แต่เชื่อว่าการเปลี่ยนมุมของช่างภาพคนนี้เป็นสิ่งที่หลายๆ คนรู้ได้เลยว่ามันไม่ปกติแน่นอน เพราะเขาเล่นใหญ่ จัดเต็ม วิ่งไปวิ่งมา กระโดดโลดเต้น หรือแม้แต่ม้วนตัว จนทำเอาคนรอบข้างกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ ช่างภาพคนนี้มีชื่อว่า Jonathan Suckling จากประเทศนิวซีแลนด์ เขาบอกว่าเขาทำอย่างนั้นลงไปเพื่อให้คู่บ่าวสาวที่เป็นแบบให้กับภาพของเขาได้หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เพื่อให้พวกเขาได้ยิ้มกันอย่างเป็นธรรมชาติ และแน่นอนว่าเขาไม่ได้กระโดดโลดเต้นไปมาแบบนี้ตลอดทั้งวันที่ถ่ายภาพงานแต่งหรอกนะ คลิปความจัดเต็มของช่างภาพสุดฮา กระโดดโลดเต้นไปมาราวกับละครเวที ความตลกของช่างภาพคนนี้อาจทำให้บางคนสงสัยว่า ดีดเป็นม้าขนาดนั้นแล้วภาพที่ออกมาจะไม่เบลอหรอ? ถ้าสงสัยเราลองไปดูผลงานที่ได้จากรอยยิ้มอันน่ารักของคู่บ่าวสาวคู่นี้กันเลย ความเป็นธรรมชาติของคู่บ่าวสาวถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ารัก รอยยิ้มแห่งความสุขและความสนุกของพวกเขา จะเป็นที่จดจำไปตลอดกาล เชื่อว่านี่คงเป็นอีกหนึ่งความทรงจำแสนประทับใจในการแต่งงานของทั้งสอง ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ได้กระโดดโลดเต้นเฉพาะกับการถ่ายรูปชุดนี้ เพราะก่อนหน้านั้นในการถ่ายภาพแต่งงานของคู่บ่าวสาวอีกคู่ เขาก็เล่นโอเวอร์จัดหนักเป็นละครเวทีแบบนี้เหมือนกัน และแน่นอนว่าภาพที่ออกมากลายเป็นที่พอใจของลูกค้าที่น่ารักของเขาเสมอ คลิปผลงานความฮาระหว่างการถ่ายภาพงานแต่งก่อนหน้านี้ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียน่ารักๆ ในการมอบรอยยิ้มและความสุขให้กับคนรอบข้าง อีกทั้งยังทำให้การทำงานออกมาได้ดีมากขึ้นด้วยนะเนี่ย หากใครชื่นชอบความฮาและผลงานของช่างภาพคนนี้ สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Jonathan Suckling Photography ที่มา: imgur
-
เรื่องราวของ ‘คุกโลมาดำ’ ที่ไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อ เพราะนี่คือคุกที่โหดที่สุดในรัสเซีย
คงไม่มีใครอยากติดคุก การต้องติดอยู่ห้องขังหรือรั้วกั้นที่ทำให้เราไม่ได้รับอิสรภาพและไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ ภายนอกเป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินบรรยาย แล้วยิ่งถ้าเป็นคุกที่ขึ้นชื่อว่า “โหดที่สุด” แล้ว มันก็ยิ่งเลวร้ายมากกว่านั้น เหมือนกับสถานที่แห่งนี้ นี่คือคุกที่ชื่อว่า Black Dolphin หรือแปลไทยก็คือ โลมาดำ ตั้งอยู่บนชายแดนประเทศคาซัคสถาน เป็นคุกที่เรียกได้ว่า “โหดที่สุดในรัสเซีย” และการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเอามากๆ มันโหดขนาดไหนและนักโทษภายในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง เราลองไปสำรวจกันผ่านภาพเหล่านี้ ชื่อของคุกถูกตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ จากนักโทษที่ได้เห็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ในสถานที่แห่งนี้มีผู้ต้องขังอยู่ราวๆ 700 คน ทั้งฆาตกรต่อเนื่อง มนุษย์กินคน หรือผู้ก่อการร้าย ว่ากันว่าจำนวนของเหยื่อที่นักโทษในคุกแห่งนี้ลงมือสังหารมีประมาณ 3,500 คน เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 5 คดีต่อหนึ่งผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังเหล่านี้ส่วนมากถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต อย่างเช่นในภาพคือนักโทษ Vladimir Nikolayev หนึ่งในมนุษย์กินคน เขาได้ฆ่าชายคนหนึ่งแล้วลากไปที่ห้องน้ำเพื่อหั่นศพออกมาเป็นชิ้นๆ เขากินศพไปบางส่วน ก่อนที่จะแบ่งไปให้คนอื่นๆ ที่คิดว่านั่นคือเนื้อจิงโจ้ เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Vladimir คืออีกหนึ่งฆาตกรสุดโหดในรัสเซีย หลังจากที่นักโทษเข้ามาอยู่ในคุกแล้ว พวกเขาจะได้รับการเฝ้าดูผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละห้องขังจะถูกกั้นด้วยกรงเหล็กถึง 3 ชั้น เพื่อให้ผู้ต้องขังรู้สึกเหมือนกับการอยู่ในคุกซ้อนคุก…
-
โมเมนต์แห่งรักบริสุทธิ์ เมื่อชายหนุ่มดาวน์ซินโดรมได้กอดเด็กน้อยอย่างน่าเอ็นดู
การกอดคือหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่เราจะถ่ายทอดความรักความห่วงใยให้แก่กันและกัน ซึ่งมันอาจไม่ได้ทำให้เกิดรอยยิ้มกับแค่คนสองคน เพราะคนอื่นๆ ที่ได้มาเห็นก็อดที่จะยิ้มไม่ได้เช่นเดียวกัน เหมือนกับเรื่องราวอันแสนประทับใจของคุณอาหนุ่มผู้ได้กอดหลานชายเป็นครั้งแรก เขาคนนี้มีชื่อว่า Daniel วัย 20 ปี เขาป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมและนั่นจึงทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสที่จะกอดหรืออุ้มเด็กน้อยมาก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นคนรักเด็กมากก็ตาม จนในที่สุดเขาก็ได้ทำในสิ่งที่ต้องการมาตลอด เมื่อพี่ชายของเขา Kevin เปิดโอกาสให้เขาได้อุ้ม Maysen Ava ลูกสาวตัวน้อยวัย 3 เดือนของตัวเอง สิ่งที่เห็นทำเอาคนเป็นพี่ถึงกับเกือบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ และถ่ายรูปความประทับใจนี้โพสต์ลงใน Reddit เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2017 พร้อมกับข้อความว่า “น้องผมป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม เขาต้องการอุ้มเด็กมาตลอด แต่ก็ไม่เคยได้รับโอกาสนั้น ผมและภรรยาจึงยื่นลูกน้อยของเราให้” เขาบอกอีกว่า “จากนั้นเหตุการณ์นี้ก็ได้เกิดขึ้น เขากอดลูกสาวเราอยู่นาน 5 นาที และมันก็ทำให้ผมเกือบจะร้องไห้ออกมา” นี่คือการพบกันครั้งแรกของอาหลาน และหลังจากนั้น Daniel ก็ได้เดินทางกลับบ้านของตัวเองที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ด้วยความทรงจำอันแสนประทับใจที่เขาได้ฝากเอาไว้ให้ใครหลายๆ คน ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพที่ได้เห็นนี้ “ฉันถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะน้องสาวของฉันก็ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมเช่นเดียวกัน ขอบคุณที่คุณได้ทำอย่างนั้นกับน้องชายของคุณ สิ่งที่เราได้เห็นมันประเมินค่าไม่ได้เลย” “ขอบคุณที่ทำให้เราย้อนคิดได้ว่าความรักคือสิ่งที่เราทุกคนแบ่งปันให้กันอยู่เสมอและเราต้องการมันจริงๆ…
-
ศิลปินสาวผู้มี “เซลล์รูปกรวย” ในดวงตามากกว่าปกติ จนมองเห็นสีได้มากกว่าคนทั่วไป 100 เท่า
หลายๆ คนรู้ว่าดวงตาของเราจะมีเซลล์หนึ่งเรียกว่า เซลล์รูปกรวย (Cone Cell) ที่มีไว้สำหรับการแยกแยะสีต่างๆ ที่เรามองเห็น โดยในคนปกติทั่วไปจะมีด้วยกันอยู่ 3 เซลล์ แต่เธอคนนี้กลับพิเศษยิ่งกว่า เพราะเธอมีอยู่ถึง 4 เซลล์เลยทีเดียว หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Concetta Antico ศิลปินในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เธอคือคนที่มีเซลล์รูปกรวยอยู่ถึง 4 เซลล์ จึงทำให้สามารถแยกแยะสีออกได้มากกว่าคนทั่วไปเกือบ 100 เท่า ลองคิดดูว่าคนปกติมีสามเซลล์ ในหนึ่งเซลล์สามารถแยกแยะได้ 100 เฉดสี และพอมาใช้ร่วมกันก็เลยทำให้เราสามารถแยกได้ราวๆ 1,000,000 เฉดสี แต่เธอคนนี้มีมากกว่าเรา 1 เซลล์ เธอเลยสามารถเห็นสีได้มากราวๆ 99 ล้านเฉดสีเลยทีเดียว นั่นทำให้เธอคนนี้เหมือนอยู่คนละโลกกับเราเลยก็ว่าได้ อย่างเช่น เวลาเรามองสิ่งๆ หนึ่ง เราอาจเห็นแค่สีเดียว แต่สำหรับเธอมันอาจจะมากกว่านั้นและอาจเป็นสีที่เราไม่เคยคิดจินตนาการมาก่อน ถ้าใครจำได้ว่าช่วงปีก่อน เราเคยถกเถียงกันว่าชุดเดรสตัวหนึ่งว่ามันเป็นสีน้ำเงิน-ดำหรือสีขาว-ทองกันแน่ จนกลายเป็นเรื่องราวโด่งดังไปทั่วโซเชียล แต่ Concetta กลับเห็นต่างออกไปมากกว่าเดิม เพราะเธอบอกว่าเธอเห็นเป็นสีเทาเข้มจางๆ…
-
7 สิ่งที่ร่างกายพยายามจะบอก ว่าสุขภาพจิตของคุณนั้นเข้าใกล้ขีดอันตรายแล้ว
ในบางทฤษฎีอาจบอกว่าร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่แยกจากกันโดยสมบูรณ์ แต่เราก็สามารถสังเกตสุขภาพจิตผ่านการตอบสนองของร่างกายเราได้ เพื่อตรวจสอบว่าเรากำลังมีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่อยู่หรือเปล่า นักจิตวิทยา Jenny C.Yip จากลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแนะนำถึง 7 สัญญาณที่สามารถสังเกตตัวเราเองว่ากำลังประสบปัญหาสุขภาพจิตอยู่หรือเปล่า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อการใช้ชีวิตของคุณในระยะยาว มีอะไรบ้าง เราลองไปดูกันเลย 1. หัวใจเต้นแรง อาการใจสั่นหรืออัตราการเต้นของหัวใจที่สูงผิดปกติคือสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังวิตกกังวล และมันยังหมายถึงว่าคุณกำลังตกอยู่ในปัญหาความเครียดเรื้อรัง นั่นเป็นเพราะว่าเวลาที่เรารู้สึกกระวนกระวาย สมองของเราจะปล่อยฮอร์โมนออกมาทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้น 2. มีอาการแปลกๆ เกิดขึ้นกับมือ อาการเหงื่อออกมือคืออีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังจมอยู่กับความวิตกกังวล ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถพบบ่อยเวลาที่คุณถูกกระตุ้นให้ต้องคิดว่า “จะสู้หรือจะถอยหนี” ทำให้ระบบประสาทในร่างกายของเราตอบสนองออกมาอัตโนมัติ 3. รู้สึกว่าภายในร่างกายปั่นป่วนไปหมด การตอบสนองแบบ “จะสู้หรือจะถอยหนี” จะทำให้ร่างกายของเราปล่อยอะดรีนาลีนออกมา จนทำให้การทำงานของระบบย่อยอาหารช้าลงหรืออาจหยุดไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นหากใครตกอยู่ในความเครียดตลอดเวลา ก็จะมีอาการมวนๆ ท้อง จนอาจกลายเป็นอาการของโรคลำไส้แปรปรวน ที่ทำให้รู้สึกปวดท้องท้องผูก หรือท้องเสียได้ 4. รู้สึกปวดหัวตุบๆ อยู่เสมอ หากคุณยังคงมีความเครียดไปเรื่อยๆ อาการปวดหัวเรื้อรังก็จะตามมาอย่างง่ายดาย ซึ่งอาการนี้มักเกิดขึ้นในช่วงสายๆ เที่ยงๆ และจะเป็นอย่างนี้ไปนานหลายเดือน 5. รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา การใช้ความคิดอย่างหนักจะทำให้ร่างกายของเรารู้สึกเหนื่อยตามไปด้วย จิตใจของเราก็เปรียบได้กับจานหนึ่งใบ…
-
คนงานรถไฟใต้ดิน LA บังเอิญเจอซากฟอสซิลอายุ 10,000 ปี คาดว่ามีชีวิตในช่วงยุคน้ำแข็ง
ในลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา มีการขุดเจาะขยายทางรถไฟใต้ดินมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีการค้นพบซากฟอสซิลของชิ้นส่วนสัตว์ดึกดำบรรพ์หลายชนิด อย่างเช่น กรามกระต่าย ฟันของสัตว์ขนาดใหญ่ หรือช่วงขาของอูฐ แต่ถึงแม้ฟอสซิลเหล่านั้นจะมีอายุเก่าแก่มากขนาดไหน ก็ไม่สามารถทำให้ Ashley Leger รู้สึกพึงพอใจได้เท่าครั้งนี้เลย เมื่อลูกทีมของเธอค้นพบฟอสซิลขนาดใหญ่ที่มีอายุมานานกว่า 10,000 ปี การขุดเจาะเพื่อขยายทางรถไฟใต้ดิน . เธอคนนี้คือผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ โดยการขุดเจาะถนนจำเป็นต้องมีเธอเข้ามาร่วมทีมด้วยก็เพราะว่า เมื่อไหร่ที่มีการพบฟอสซิล เธอจะเป็นคนเข้าไปตรวจสอบผลงานดังกล่าวด้วยตัวเอง ระหว่างการขุดเจาะนานเป็นปีๆ คืนหนึ่งลูกทีมของเธอก็ติดต่อมาและบอกว่า ค้นพบฟอสซิลขนาดใหญ่ ซึ่งนั่นทำให้เธอรีบตรงไปยังไซต์งานดังกล่าวในวันต่อมา ฟอสซิลที่ถูกค้นพบในครั้งนี้ก็มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยค้นพบ เพราะมันคือส่วนกะโหลกของแมมมอธ ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่เมื่อ 10,000 ปีก่อน ในช่วงสุดท้ายของยุคน้ำแข็ง ฟอสซิลขนาดใหญ่ที่บังเอิญพบเข้าระหว่างการทำงาน Ashley หญิงสาวผู้ควบคุมปฏิบัติการการขุดฟอสซิลในครั้งนี้ จากการตรวจสอบ น่าจะเป็นกะโหลกของโคลัมเบียนแมมมอธวัยประมาณ 8-12 ปี และความพิเศษของเจ้าสิ่งนี้คือ ส่วนของงามันยังคงติดอยู่กับส่วนหัว ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากมากจากฟอสซิลที่เคยค้นพบก่อนหน้านี้ Ashley บอกว่า “มันเหมือนฝันที่เป็นจริง นี่คือหนึ่งในฟอสซิลที่ฉันอยากค้นพบมากที่สุดตลอดชีวิตการทำงาน” โดยก่อนหน้านี้เธอเคยตามหาฟอสซิลแมมมอธในรัฐเซาท์ดาโคตา แต่เธอก็ไม่เคยเจอฟอสซิลที่มีความสมบูรณ์มากขนาดนี้เลย …
-
ชาวเน็ตขุดคุ้ยคุณแม่น้อง Keaton กุเรื่องกลั่นแกล้งขึ้นมา เพื่อเรี่ยไรเงินมาจุนเจือตัวเอง?
ก่อนหน้านี้เราอาจได้เห็นเรื่องราวของ Keaton Jones เด็กหนุ่มที่ออกมาพูดแสดงความรู้สึกเกี่ยวกับการที่ตัวเองถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด จนทำให้คนดังจำนวนมากเข้ามาพูดให้กำลังใจเขา แต่ในวันนี้ได้มีคนเริ่มพูดถึงอีกหลายๆ ประเด็นที่อาจอยู่เบื้อหลังของเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อชาวเน็ตบางคนได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ Kimberly Jones แม่ของเด็กคนดังกล่าว หลังจากมีคนไปเห็นเพจ GoFundMe ที่เรียกร้องเงินให้ช่วยเหลือ Keaton จากการถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งมีถึง 2 เพจด้วยกัน นั่นจึงทำให้มีคนสงสัยว่าเงินจะสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้จริงหรือเปล่า? ไม่แน่ว่าความจริงแล้วคุณแม่คนนี้อาจกำลังใช้ลูกเป็นเครื่องมือหาเงินก็ได้ คุณแม่ Kimberly ที่ได้กลายมาเป็นประเด็นจากคลิปลูกของเธอ ทาง GoFundMe ออกมาบอกว่า 1 ใน 2 เพจดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมาจากชายคนหนึ่งที่ไม่ได้รู้จักกับ Kimberly เลย ในขณะที่อีกเพจเป็นของคุณแม่ที่เรียกเงินบริจาคสำหรับของขวัญวันคริสต์มาสของ Keaton แต่พอเริ่มมีคนขุดคุ้ยเบื้องหลังของครอบครัวนี้ ทั้ง 2 เพจก็กลับปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หลายๆ คนก็ยังคงสงสัยในตัวคุณแม่คนนี้อยู่ดี เมื่อ Joe Schilling นักศิลปะการต่อสู้แบบผสม (หรือเรียกว่า MMA) ได้พูดคุยกับเธอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เขากลับรู้สึกไม่พอใจอย่างมากหลังจากที่ความหวังดีของเขาถูกปฏิเสธ เพราะ Kimberly ต้องการแต่เงินเท่านั้น ด้วยความที่เขาสงสาร…
-
รู้หรือไม่ว่า ‘การกัดเล็บ’ เผยให้เห็นถึงบุคลิกภายใน ที่ซ่อนอยู่ในตัวตนของคนเราด้วย!?
หลายๆ คนอาจคิดว่าการกัดเล็บคือพฤติกรรมของคนที่รู้สึกวิตกกังวลหรือตื่นเต้น แต่ความเป็นจริงพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ นี้ กลับสามารถเผยให้เห็นบุคลิกภาพที่ซ่อนอยู่ภายในได้เลยทีเดียว การศึกษาพฤติกรรมดังกล่าวถูกเผยออกมาผ่านงานวิจัยในปี 2015 ของมหาวิทยาลัย Montreal ประเทศแคนาดา บอกว่าการดึงผมตัวเอง การม้วนผมเล่น การกัดเล็บ หรือการทำอะไรซ้ำไปซ้ำมา สามารถบ่งบอกได้ถึงลักษณะบุคลิกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน จากงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน Journal of Behavior Therapy and Experimental Psychiatry นักวิจัยบอกว่าพฤติกรรมเหล่านั้นคือการแสดงถึงความเบื่อหน่ายและผิดหวัง ซึ่งเป็นอาการของคนที่มีบุคลิกภาพแบบ Perfectionist ผู้ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ และที่น่าเป็นห่วงก็คือการมีลักษณะบุคลิกภาพแบบนั้นมากจนเกินไป อาจทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลายหรือทำสิ่งต่างๆ ได้เหมือนคนทั่วไป ดอกเตอร์ Kieron O’Connor ศาสตราจารย์จิตเวชหัวหน้าการวิจัยครั้งนี้บอกว่า “คนประเภทนี้มักมีแนวโน้มที่จะรู้สึกสิ้นหวัง ขาดความอดทน และไม่พอใจเวลาที่ไปไม่ถึงเป้าหมาย และพวกเขายังจะมีความเบื่อหน่ายมากกว่าคนปกติอีกด้วย” การกัดเล็บคือพฤติกรรมหนึ่งที่สื่อให้เห็นว่า พวกเขารู้สึกเบื่อหรือผิดหวังกับบางเรื่องจนต้องทำไรซ้ำไปซ้ำมา เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า “อย่างน้อยก็ยังมีอะไรทำ” ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย แต่สิ่งที่หลายๆ คนคิดว่าการกัดเล็บเกิดจากความเครียดก็ไม่ใช่เรื่องผิดซะทีเดียว เพียงแต่ว่าตามงานวิจัยแล้ว การกัดเล็บเพราะว่าความเครียดหรือตื่นเต้นนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับเหตุผลที่พูดมาก่อนหน้านี้…
-
การ์ตูนสั้นจากศิลปินรัสเซีย กับมุมมองที่สื่อถึงชีวิตมนุษย์ บิดเบี้ยวความคิดของเราได้เลย!!
พวกเราอาจเคยชินกับมุมมองของสังคมในปัจจุบัน หลายๆ คนอาจสร้างกรอบความคิดไว้ในหัวบ้างแล้วว่าสิ่งนี้คืออะไรและมันต้องเป็นอย่างไรในสายตาเรา แต่ภาพเหล่านี้จะมาเป็นตัวทำลายและเปลี่ยนความหมายของสิ่งที่เราเคยคิดมาตลอด นี่คือภาพจากศิลปินชาวรัสเซียที่ชื่อว่า Anton Gudim กับรูปวาดการ์ตูนน่ารักๆ เรียบง่ายแต่มีความหมายไปอีกมุมมองหนึ่ง ที่เราอาจไม่เคยจินตนาการมาก่อน และแถมแอบสะท้อนถึงสังคมปัจจุบันอีกด้วย ไปดูกันว่าพอลองมองไปแต่ละภาพแล้ว เพื่อนๆ เข้าใจกันว่าอย่างไรกันบ้าง ชีวิตจริงกับการแต่งภาพที่เริ่มแยกกันไม่ออก ภาพซ้ายอาจทำให้เราคิดว่าเธอนั่งอยู่ในห้อง แต่ความจริงก็อาจไม่เป็นอย่างนั้น เคยมั้ยกับการคลิกที่ดวงตา เพื่อดูว่าพิมพ์รหัสถูกหรือเปล่า บางคนอาจรู้สึกคิดถึงแค่ในโลกโซเชียลเท่านั้นเอง การเติบโตของเรา ขึ้นอยู่กับการรับฟังผู้อื่น หรือปิดกั้นแล้วฟังแต่ตัวเอง สิ่งที่ติดอยู่ สิ่งที่เราคิดว่าน่าจะใช่ ก็อาจไม่ใช่เสมอไปหรอกนะ ก้าวข้ามคำว่าขีดจำกัด เพราะจินตนาการของเรามันไร้ขอบเขต การที่เราเห็นแค่สิ่งๆ หนึ่ง นั่นไม่ได้หมายความว่าเราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เรารับรู้จากความเคยชิน จนอาจลืมรับรู้ความจริงไปเลยก็ได้ เอกลักษณ์ของผลงานชุดนี้อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับลายเส้นหรือการลงสีใดๆ หากแต่จินตนาการคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ผลงานของเขามีความหมาย ซึ่งถ้าใครสนใจก็สามารถตามไปดูผลงานอื่นๆ ของเขาได้ที่อินสตาแกรม gudim_public ที่มา: designtaxi
-
การถ่ายภาพคลื่นที่ซัดสาดเข้ามายังฝั่งด้วยโดรน เผยให้เห็นถึงความงดงามที่เกินบรรยาย
แพริโดเลีย (Pareidolia) คือปรากฏการณ์ทางจิตที่ทำให้เราเห็นสิ่งๆ หนึ่งที่ไม่มีรูปร่างเหมือนกับอีกสิ่งหนึ่ง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือเวลาเรามองก้อนเมฆแล้วเห็นเป็นสัตว์หรือใบหน้า ซึ่งช่างภาพ Peter Adams-Shawn ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าปรากฏการณ์นี้ไม่จำเป็นต้องเห็นแค่ในท้องฟ้าแสมอไป เพราะถ้าเรามองมาบนพื้นดินก็เห็นอะไรแบบนี้ได้เหมือนกัน นี่คือผลงานชื่อว่า From The Deep โดยเขาได้ถ่ายภาพมุมสูงบนชายหาด ผ่านกล้องที่ติดอยู่กับโดรนรุ่น Blade Chroma 4K จนทำให้เขาพบว่าคลื่นที่ซัดขึ้นฝั่งมาก็สามารถมองเห็นเป็นสิ่งอื่นได้เช่นเดียวกันกับที่เราเห็นบนก้อนเมฆ ภาพของคลื่นที่ซัดขึ้นมาเพียงชั่วอึดใจเดียวจะทำให้เราเห็นเป็นอะไรได้บ้าง เราลองไปดูกันเลย เรือผีสิงที่ลอยไปท่ามกลางพายุ นกยักษ์ออกบิน พระแม่มารีแห่งภูผา ฟาโรห์คาเฟร ฟินิกซ์สยายปีก คนยืนเอามือล้วงกระเป๋า ลมหายใจมังกร ใบหน้าของเทพโพไซดอน นางฟ้ามาโปรด นกฮูก.. ใช่มั้ยนะ? ถ้าเพื่อนๆ เห็นว่ารูปไหนดูเหมือนอย่างอื่นมากกว่าที่เราว่ามา ก็มาแชร์มาคอมเมนต์กันได้ด้านล่างเลยน้าาา หากใครชื่นชอบผลงานของเขาก็สามารถเข้าไปดูได้ที่อินสตาแกรม peter_adamsshawn ที่มา: petapixel
-
สาวจีนไม่ซักปลอกหมอนมานานกว่า 5 ปี จนทำให้ใต้ขนตามีไรอาศัยอยู่กว่า 100 ตัว!!
การดูแลตนเองให้มีสุขอนามัยที่ดีเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะมันคือตัวช่วยหลักที่ทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรง ปลอดภัยจากเชื้อโรค ดังนั้นความเป็นอยู่ทั่วๆ ไปและความสะอาดของสิ่งต่างๆ ภายในบ้านก็ควรได้รับการดูแลเอาใจใส่อยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นคุณอาจต้องเจอปัญหาเหมือนกับเธอคนนี้ได้ เรื่องราวนี้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2015 หญิงสาวแซ่ Xu ในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน เธอรู้สึกระคายเคืองและมีอาการตาแดง จึงไปปรึกษากับแพทย์ แต่ด้วยอาการของเธอแพทย์จึงไม่ได้แนะนำวิธีใดๆ ให้มากนัก นอกจากการให้เธอใช้ยาหยอดตาช่วยบรรเทาอาการไป พอเวลาผ่านไป ในเดือนพฤศจิกายน 2017 เธอต้องกลับไปพบแพทย์อีกครั้ง เพราะเธอรู้สึกว่าตาเธอแห้งมาก และขนตาของเธอก็เริ่มที่จะติดกันไปเป็นยวง เมื่อแพทย์ได้ตรวจอีกครั้งก็พบว่า มีไรจำนวนมากอาศัยอยู่ในรูขุมขนบริเวณขนตาของเธอ และนั่นจึงทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม เพราะแม้มันจะไม่ได้อันตรายถึงชีวิต แต่ก็เป็นปัญหาที่ไม่ควรปล่อยผ่านไปได้ หลังจากตรวจผ่านกล้องจุลทรรศน์ ทำให้เห็นว่ามีไรกว่า 10 ตัวอาศัยอยู่ในรูขุมขนของขนตาหนึ่งเส้น นั่นหมายความว่าบริเวณขนตาของเธอมีไรมาอาศัยอยู่มากกว่า 100 ตัวเลยทีเดียว แล้วลองคิดดูว่าไรพวกนั้นอาศัยอยู่ตรงนี้มานานถึง 2 ปีอีกต่างหาก สุดท้ายเธอได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคตาแดงและ Blepharitis หมายถึงสภาพที่เปลือกตาอักเสบเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวไร แต่หลังจากได้รับการรักษาแล้ว หญิงสาวก็กลับมาหายเป็นปกติในที่สุด หมอบอกว่ากรณีของ Xu นั้นมาจากการถ่ายเทอากาศภายในห้องของเธอที่ไม่เพียงพอ รวมถึงสุขอนามัยส่วนตัว ซึ่งนั่นหมายถึงปลอกหมอนของหญิงสาวที่ถูกใช้มากกว่า 5 ปี…
-
หญิงสาวเผยความชอกช้ำในวัยเด็ก กับการถูกพ่อติดเหล้าทรมานกว่า 18 ปี เพื่อให้เธอเป็นยอดมนุษย์
ชีวิตของเราในวัยเด็กของแต่ละคนอาจไม่ต่างกันมากเท่าไหร่นัก บางคนอาจเจอกับปัญหาบางอย่างที่ตอนนั้นเราไม่มีกำลังมากพอจะแก้ไขมันได้ เช่นเดียวกันกับเธอคนนี้ที่ต้องเจอกับปัญหามาตั้งแต่เกิด และสิ่งนั้นก็ยังคงทำร้ายเธอมาจนถึงปัจจุบัน นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวชาวฝรั่งเศส Maude Julien ปัจจุบันอายุ 60 ปี เธอถูกพ่อแท้ๆ ของเธอทรมานทั้งกายและใจมาตั้งแต่เกิด เพื่อทำการทดลองเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นยอดมนุษย์ เธอเล่าว่า Didier พ่อของเธอเป็นคนติดเหล้าหนักมากและแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนบ้าคนหนึ่ง เขาเชื่อว่าโลกกำลังจะถึงจุดจบ เลยจำเป็นต้องฝึกฝนลูกสาวของตัวเองให้กลายเป็นผู้รอดชีวิตและสามารถต่อกรกับปีศาจร้ายได้ ก่อนที่เธอจะเกิด พ่อของเธอได้รับเลี้ยงเด็กสาววัยเพียง 6 ขวบชื่อว่า Jeannine แล้วสองคนนี้ก็ได้แต่งงานกัน จนในปี 1957 ทั้งสองก็มีลูกด้วยกันชื่อว่า Julien ซึ่งก็คือเธอนั่นเอง หลังจากนั้นพอเธอเกิดมา พ่อของเธอจึงเริ่มแผนที่วางเอาไว้ เขาทรมานเธออย่างโหดเหี้ยมเพียงเพราะต้องการให้เธอกลายเป็นยอดมนุษย์ เธอถูกทำร้ายทั้งกายและใจ โดยที่แม่ของเธอกลับทำท่าทีห่างเหิน ไม่สนใจเธอเลย อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นที่เธอได้รับก็มาจากน้องหมาและลูกม้าที่เลี้ยงเอาไว้เท่านั้น เธอบอกว่า “ถ้าตอนนั้นฉันไม่มีสัตว์เลี้ยงพวกนี้อยู่ ฉันก็ไม่รู้เลยว่าจะใช้ชีวิตไปได้อย่างไร” ตอนเธออายุได้ 8 ขวบ พ่อของเธอบังคับให้เธอใช้สองมือเปล่าจับรั้วไฟฟ้าค้างไว้ และห้ามแสดงอาการเจ็บปวดใดๆ ออกมา เธอเคยถูกจับขังไว้ในกรงที่มีหนูติดเชื้ออยู่ด้านใน เพื่อให้เธอมองดูและสำนึกถึงความตายที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งยังถูกบังคับให้ดื่มเหล้าวิสกี้และต้องเดินตัวตรงหลังจากนั้น นอกจากสิ่งที่พ่อเธอทำเอาไว้นับไม่ถ้วนแล้ว เธอยังบอกอีกว่าถูกกรรมกรแถวบ้านล่วงละเมิดทางเพศมาตั้งแต่อายุ 3…
-
ไปรู้จักกับ “เออร์มิน วีเซิล” สัตว์โลกตัวน้อย ที่จะพาความงุ้ย งุ้ย งุ้ย มาทำให้คุณตกหลุมรัก
สิ่งมีชีวิตบนโลกของเรามีความหลากหลายเป็นอย่างมาก บ้างก็ดูน่ากลัว บ้างอาจจะน่ารักน่าชัง น่าฟัดน่ากอด เหมือนอย่างเจ้าสัตว์ชนิดนี้ ที่จะทำให้คุณรู้สึกหมั่นเขี้ยวเหลือเกิน เจ้าตัวที่ว่านั้นก็คือ วีเซิลหางสั้น หรือที่บางคนอาจรู้จักในชื่อ เออร์มิน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกินเนื้อตัวจิ๋ว หน้าตาจิ้มลิ้ม ซุกซน และบ๊องแบ๊ว จนทำให้เรารู้สึกหัวใจละลายได้ในพริบตา . เออร์มิน จะต่างกับวีเซิลชนิดอื่นๆ เล็กน้อย หางของมันจะสั้นในขณะที่ลำตัวยาว ปลายหางมีสีดำ ส่วนหัวยื่นออกมาจากช่วงไหล่ ดวงตามีลักษณะกลมดำทำให้ดูบ้องแบ๊วอย่างที่เห็น ขนของมันมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ในฤดูหนาวจะมีสีขาวยกเว้นแค่ปลายหางของมัน มีความหนาและเนียนนุ่ม แต่ในฤดูร้อนขนบริเวณหลังและศีรษะจะเป็นสีน้ำตาล มีความหยาบกว่า สั้นกว่า และดูกระจัดกระจายมากกว่า เออร์มินจะไม่ค่อยย้ายถิ่นฐานซักเท่าไหร่นัก เราสามารถพบมันได้ในป่าละเมาะ เนินทราย หรือพุ่มหญ้าที่เป็นถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของมัน . ในศตวรรษที่ 15 ขนของมันได้รับความนิยมอย่างมากในการนำไปทำหมวก Mozzetta ให้กับคนใหญ่คนโตในนิกายโรมันคาทอลิก ต่อมาในศตวรรษที่ 19 เจ้าเออร์มินก็ถูกนำไปใช้ในการควบคุมจำนวนประชากรกระต่ายที่มีอยู่มากในประเทศนิวซีแลนด์ แต่ทว่าด้วยความที่มันกินไม่เลือก จึงทำให้การออกล่าของมันกระทบกับการลดลงของประชากรนกในประเทศ เนื่องจากเออร์มินไม่ได้ล่าแค่กระต่ายหรือสัตว์บนพื้นดิน แต่มันยังล่านกและไข่อีกด้วย จากที่มันกินไปซะแทบทุกอย่าง จึงทำให้มันติดในอันดับรายชื่อ 100 ผู้รุกรานที่แย่ที่สุดในโลก…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ประสบการณ์ความบังเอิ๊ญบังเอิญ ที่ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
หากใครที่คิดว่าชีวิตของตัวเองจำเจ น่าเบื่อ ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือทำให้รู้สึกแปลกใจได้เลย นั่นอาจหมายความว่าคุณคงยังไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบชาวเน็ตเหล่านี้ เพราะนี่คือสิ่งที่แทบจะไม่มีใครเคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริง นี่อาจเป็นดวง โชคชะตาฟ้าลิขิต หรืออาจเป็นแค่ความบังเอิญ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ชีวิตมีสีสันและน่าค้นหามากยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งที่ชาวเน็ตเหล่านี้ไปเจอมามีอะไรบ้าง เราลองไปดูกันเลยดีกว่าาา กำลังพายเรือเล่นอยู่เพลิน จู่ๆ ก็มีเพื่อนร่วมทางขึ้นมานั่งด้วยซะงั้น เจ้านกฮูกที่บินเข้าไปอาศัยอยู่ในรถนานถึง 3 ชั่วโมง แม้ว่าเจ้าของรถจะเปิดกระจกและพยายามไล่มันออกมาแล้วก็ตาม ช่วงเวลามันจะเหมาะเจาะอะไรขนาดนี้ ตั้งใจจะถ่ายหญิงสาว แต่แถมได้รูปน้องโลมาสุดน่ารักมาเพิ่มอีก 3 ตัว ใครจะไปคิดว่า Johnny Depp จะเคยมาเล่นดนตรีให้งานแต่งญาติของเขาในปี 1982 ถ้าเจ้าหมาของเขาไม่ปลุก เขาก็คงไม่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ ภาพของคุณพ่อที่ถูกเจ้าเสืองับแขนเข้าให้ วินาทีนั้นเขาคิดว่านี่คงเป็นภาพสุดท้ายที่จะได้เห็นมือของตัวเองแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็สามารถรอดมาได้ ม้าลายสองตัวที่มีลายเข้ากั๊นเข้ากัน สายรุ้งอันสวยงาม บนท้องฟ้าสีชมพูจางๆ นกนางนวลบินเข้ามาจู่โจมถึงในห้องน้ำ กลัวไอติมละลายหรืออะไร ห่อซะสองชั้นเชียว ภาพนี้มีทั้งแสงออโรร่า ดาวตก และรูปหัวใจสีชมพู มารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมาย …
-
เด็กหนุ่มระบายความในใจหลังถูกแกล้งในโรงเรียน จนเหล่าคนดังแห่มาให้กำลังใจ!!
การกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ทำให้เหยื่อหลายคนรู้สึกไม่พอใจและอยากลุกขึ้นมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนอย่างเด็กคนนี้ ที่ถูกกลั่นแกล้งจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข การออกมาพูดถึงเรื่องราวและความรู้สึกของตัวเขาเองจึงกลายเป็นกระแสและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2017 เมื่อเด็กมัธยมต้นในเมืองน็อกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ชื่อว่า Keaton Jones ถูกกลั่นแกล้งซ้ำๆ จนเขาไม่กล้าไปกินอาหารกลางวันในโรงอาหาร แม่ของเขาจึงต้องมารับกลับบ้านไป ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งมากแล้ว คนเป็นแม่เห็นอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ ได้ เธอจึงถ่ายคลิปวิดีโอ ให้ลูกชายของเธอเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อการถูกกลั่นแกล้งหรือคนที่คอยกลั่นแกล้ง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการที่ถูกกลั่นแกล้งซ้ำไปซ้ำมา Keaton เล่าว่า “ผมถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด ทั้งการเทนมใส่อาหารของผมหรือถูกถอดเสื้อผ้าออกกลางโรงอาหาร ไม่เข้าใจเลยว่าคนเหล่านั้นทำแบบนี้กับผมทำไม ไม่เข้าใจว่ามันสนุกนักหรือไงที่ได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์แบบนี้ สำหรับผม ผมรู้สึกไม่โอเคเลย” เมื่อคุณแม่โพสต์คลิปนี้ลงไป เด็กหนุ่มก็ได้รับกำลังใจจากผู้คนในโซเชียล รวมถึงเหล่าคนดังจำนวนมากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของเขา Captain America บอกให้เด็กหนุ่มเข้มแข็งเข้าไว้ อย่าให้คนพวกนั้นมากำหนดชีวิตเรา และเขายังถาม Keaton อีกว่า สนใจพาแม่มาร่วมงาน Avengers Premiere ในลอสแองเจลิส ที่จะจัดขึ้นปีหน้าหรือเปล่า? The Hulk…
-
รวม 10 เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในปี 2017 นี้ และหวังว่าปีหน้ามนุษย์เราจะช่วยกันทำให้ดีขึ้นไปอีก
หลายคนอาจคิดว่าโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งเลวร้าย การดิ้นรนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และคนในสังคมที่ต่างคนต่างใช้ชีวิตกันไป แต่ที่คุณคิดอย่างนั้นอาจเป็นเพราะไม่เคยเห็นเรื่องราวเหล่านี้ก็เป็นได้ ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องราวแสนอบอุ่นหัวใจในปี 2017 ที่จะทำให้คุณรู้ว่าบนโลกของเรายังคงมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ และเชื่อว่าในปีหน้า การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์จะยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีกนะ 1. คนแปลกหน้าจำนวนมากซื้อรถให้กับเด็กหนุ่มที่ทำงานร้านฟาสต์ฟู้ด เหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้น เมื่อ Andy Mitchell ขับรถไปเจอพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดที่ชื่อ Justin Corva กำลังเดินอยู่บนทางเท้าในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา Andy จึงอาสาพาเขาไปส่งยังที่หมาย และได้รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ต้องเดินไกลเกือบ 5 กิโลเมตรทุกวันเพื่อไปทำงาน ชายหนุ่มจึงถ่ายเซลฟี่พร้อมกับโพสต์เรื่องราวของ Justin ลงในเฟซบุ๊ก ทำให้คนในโลกโซเชียลได้เห็นและช่วยกันรวบรวมเงินก้อนหนึ่งเพื่อซื้อรถให้กับเด็กหนุ่มคนนี้ จนในที่สุดเขาก็ได้มีรถเป็นของตัวเอง ประกันภัยรถยนต์ 1 ปี สามารถเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ฟรี 2 ปี และบัตรเติมน้ำมันอีกกว่า 16,000 บาท 2. ชาวเน็ตและคนดังช่วยกันอวยพรวันเกิดให้กับเด็กคนหนึ่งที่ถูกกลั่นแกล้ง คุณพ่อเจ้าของทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @Hopenlesmyth ถามคนในโลกโซเชียลว่ามีใครรู้จักคนดังหรือดาราบ้างมั้ย เพราะเขาต้องการให้คนเหล่านั้นช่วยอวยพรวันเกิดให้กับ Ollie ลูกชายของเขา เขาเล่าว่าเด็กหนุ่มวัย 9 ขวบคนนี้ถูกกลั่นแกล้งจนทำให้รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า…
-
ถ้าคุณโดนหลอกให้ซื้อ ‘แมวแคระ’ เพราะคนขายอ้างว่าตัวไม่โตไปกว่านี้หรอก ยังจะเลี้ยงอยู่ไหม?
หลายคนอยากเลี้ยงสัตว์ แต่ติดปัญหาคือเราไม่มีพื้นที่ที่มากพอให้มันเข้ามาอยู่ด้วยได้ หรือเราอาจอยากได้สัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ มากกว่า เราจึงมักตามหาแมวแคระตัวจิ๋วและมักจะถามคนขายว่า “เลี้ยงยากมั้ย?” หรือ “มันจะตัวใหญ่ไปมากกว่านี้อีกมั้ย” คำตอบที่ได้ก็คือ “เลี้ยงไม่ยากครับ ตัวมันใหญ่สุดก็เท่านี้แหละ” แต่บางครั้งสิ่งที่เจอมันอาจไม่ได้เหมือนกับที่คนขายเขาบอกเรา พอเลี้ยงเจ้าเหมียวไปซักพัก นอกจากมันจะกินเยอะขึ้นแล้ว ขนาดตัวยังจะขยายใหญ่ขึ้นมาซะอย่างนั้น ที่แท้เราก็คงโดนหลอกให้ซื้อน้องเหมียว สายพันธุ์เมนคูน เฉยเลย!! มันมีรูปร่างที่ใหญ่มากขนาดไหน ต่างจากที่คนขายบอกอย่างไร เราลองไปดูกันเลย อยากได้แมวแคระ แต่โดนคนหลอกขายเมนคูนให้ซะอย่างนั้น นี่มันแคระตรงไหนฟะเนี่ย!? หรือจริงๆ มันก็ไม่ได้ตัวใหญ่อะไร แต่คนที่อุ้มมันอาจตัวเล็กเองหรือเปล่า แค่หางของเจ้าเหมียวนี่ก็เกินคำว่าตัวเล็กไปมากแล้วนะ ตัวเล๊กเล็กกก อยู่บนโต๊ะทีนี่หาที่วางจานข้าวไม่ได้เลย ถ้าอยู่หอพักพื้นที่ซัก 25 ตารางเมตร ก็คงพอให้เลี้ยงเจ้าเหมียวแล้วแหละ.. แต่หมายถึงให้มันอยู่ในห้องตัวเดียว เราอยู่ด้วยไม่ไหวหรอกนะ ไอ้หนูรีบๆ โตหน่อยนะ เดี๋ยวจะไม่ทันเจ้าเหมียวเอาได้ ไม่โตขึ้นแล้วจริงแหละ ถ้าโตกว่านี้ก็อย่าเรียกแมวเลย ทับทีก็มีหายใจไม่ออกกันบ้างแหละนะ ผู้หญิงหัวเล็ก หรือว่าเจ้าแมวหัวใหญ่กันหนอ.. อย่าซึมไปเลยสาวน้อย…
-
พ่อเห็นลูกในคลิปขโมยตุ๊กตาจัดงานคริสต์มาส เลยจองตั๋วเครื่องบินข้ามรัฐมาจัดการซะเลย
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2017 กล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่งสามารถจับภาพคนร้ายที่บุกรุกสนามหญ้าหน้าบ้านของเขา ทำลายไฟตกแต่งที่เตรียมไว้สำหรับคริสต์มาส และขโมยตุ๊กตาตกแต่งที่ตั้งเอาไว้ไปด้วย พวกเขาจึงนำคลิปวิดีโอดังกล่าวไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้คนอื่นๆ ช่วยกันตามหาคนร้าย นอกจากในโลกโซเชียลแล้ว ทางสำนักข่าว 9NEWS ก็นำเรื่องนี้ออกเผยแพร่ จนทำให้คุณพ่อท่านหนึ่งรับรู้ได้ในทันทีเลยว่า หนึ่งในผู้ร้ายที่อยู่ในคลิปคือลูกของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาและคนในครอบครัวคนอื่นๆ จึงรีบเดินทางไปสถานที่เกิดเหตุในเมือง Centennial รัฐโคโลราโด ภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นคนร้ายบุกรุกเข้ามาในพื้นที่บ้าน เช้าวันต่อมา ก็ได้มีคน 8 คนจาก 2 ครอบครัวของผู้ร้ายในคดีนี้มาเคาะประตูหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อกล่าวขอโทษและแสดงความรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด คุณพ่อพูดว่า “ถ้าหากเรื่องนี้ไม่ได้ออกข่าว ผมคงไม่รู้ว่าลูกของผมทำอะไรลงไป พวกเขามีเวลาที่จะมากล่าวขอโทษพวกคุณก่อน แต่ก็เลือกที่จะไม่ทำ พวกเราในฐานะที่เป็นผู้ปกครองจึงต้องเข้ามาช่วยในเรื่องนี้” เขาพูดอีกว่า “และถึงจะไม่ได้มีการเอาความใดๆ ผมก็อยากให้นำเรื่องนี้ขึ้นศาล ให้ลูกๆ ของเรารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย” แม้ว่าคุณพ่อและคนในครอบครัวต่างรู้สึกอับอายต่อสิ่งที่ลูกๆ ของพวกเขาทำลงไป แต่พวกเขาเข้าใจว่าทุกคนสามารถผิดพลาดกันได้ จึงให้อภัยลูกๆ และปล่อยให้พวกเขารับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ เพราะถึงจะไม่ได้โกรธลูกๆ แต่พวกเขาก็อายุ 20 กว่าๆ กันแล้ว เลยวัยที่จะมองข้ามการกระทำความผิดเหล่านี้ไปได้…
-
รวม 25 ภาพศิลปะเด็กในยุค ‘ฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ’ ที่ดูแปลกซะเหลือเกิน มันหลอนจริงๆ
เราอาจเคยเห็นภาพงานศิลปะกันมาอย่างหลากหลาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงผลงานศิลปะที่เกิดขึ้นใน ยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (Renaissance) ที่มีความโดดเด่นในหลายๆ เรื่อง จนทำให้ผู้ใช้ Tumblr ที่ชื่อว่า Ugly Renaissance Babies หยิบเอาซีรีส์ภาพวาดอันแปลกประหลาดที่เกิดในยุคนั้นมา ภาพทั้งหมดที่เขาเลือกมา คือผลงานศิลปะเด็กทารกที่ถูกสร้างมาในยุคสมัยดังกล่าว และแต่ละภาพก็ไม่ใช่เด็กธรรมดา เพราะเราจะได้เห็นเด็กหน้าตาแปลกประหลาดบ้าง มีซิกแพ็คบ้าง หรือทำอะไรแปลกๆ ดูไปดูมารู้สึกหลอนมิใช่น้อย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยยย วิธีการให้นมลูกแบบแปลกๆ ทารกแรกเกิดที่ดูมีความเกี่ยวข้องกับศาสนา การทำคลอดตามจินตนาการของผู้วาด เด็กคนนี้มีใบหน้าแก่เกินวัยไปหน่อยหรือเปล่า เข้าฟิตเนสตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เกิดมาไม่กินนม แต่กินเวย์โปรตีนแทน เจ้าหนู เก็ทไฮอยู่หรอลูก ท่าทางที่ดูไม่เด็กเอาซะเลย หน้าตาแบบนี้ ใครทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า แขนขายาวราวกับผู้ที่โตเต็มวัยแล้ว ลำบากแม่บ้านมาทำความสะอาดอีกนะ เด็กติดปีกสุดโหด อย่าทำร้ายผมเลยครับ ผมมีครอบครัวให้ต้องดูแลอยู่ ไม่เข้าใจเล๊ยยย ว่าทำไมต้องมารุมดูกันเยอะแยะขนาดนี้ จะว่าอ้วนก็ไม่ใช่ จะว่าผอมก็ไม่เชิงนะ…
-
เรื่องราวของลูกสาวคนที่ 10 ที่ ‘พระราชินีวิกตอเรีย’ ทรงรับมาเลี้ยง และเธอเป็นคนผิวสี..
หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อดีตราชินีแห่งสหราชอาณาจักร ผู้ได้รับฉายาว่า “สมเด็จย่าแห่งยุโรป” นั่นคือสิ่งที่เราเคยได้ยินมาบ้าง แต่เราเคยทราบกันมั้ยว่าพระองค์ทรงรับเลี้ยงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเป็นลูกบุญธรรม และเด็กคนนั้นก็ยังเป็นเด็กผิวสีอีกด้วย เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 1848 เมื่อตอนที่ Sarah Forbes Bonetta อายุได้เพียง 5 ขวบ เธอเป็นทาสชาวไนจีเรียที่ถูกราชาแห่งประเทศ Dahomey จับกุมพร้อมกับครอบครัวของเธอ Sarah หญิงสาวผู้ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากราชินีวิกตอเรีย สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย อดีตราชินีแห่งสหราชอาณาจักร พ่อแม่ของเด็กสาวถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม และในขณะที่เธอกำลังจะจากโลกนี้ตามพวกเขาไป ทหารเรือชาวอังกฤษ Frederick Forbes ผู้กำลังทำภารกิจเลิกทาสในประเทศดังกล่าว ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็กสาวได้ทันเวลาพอดี ทหารหนุ่มตั้งใจที่จะส่งเด็กสาวไปให้ราชินีวิกตอเรีย เพื่อให้พระองค์ทรงรับเลี้ยงต่อไป เขาจึงพา Sarah เดินทางกลับประเทศอังกฤษ ด้วยเรือที่ชื่อว่า HMS Bonetta นั่นจึงกลายเป็นชื่อของเธอในภายหลัง เมื่อองค์ราชินีได้เจอกับเด็กสาวก็รู้สึกถูกชะตาอย่างมาก เธอได้กลายเป็นลูกคนที่ 10 ของพระองค์ และได้รับการเลี้ยงดูไม่ต่างกับพี่น้องคนอื่นๆ เลย เนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก Sarah จึงถูกส่งไปเรียนในประเทศเซียร์ราลีโอน เพราะองค์ราชินีทรงคิดว่าสภาพอากาศของที่นั่นน่าจะเหมาะกับเธอมากกว่า และเมื่อเรียนจบเด็กสาวก็กลับมาประเทศอังกฤษอีกครั้งในปี…
-
เด็กชายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งทานข้าวอยู่คนเดียว เลยเดินเข้าไปขอกอดเพื่อให้กำลังใจ
ตอนเด็กๆ พวกเราอาจมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคือฮีโร่ในสายตาเรา เพราะพวกเขาคอยดูแลความสงบสุขและความปลอดภัยของทุกคน เด็กคนนี้เองก็เช่นกัน เมื่อเขาได้เจอกับฮีโร่ในดวงใจของตัวเองแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปแสดงความรักและให้กำลังใจ เด็กคนนี้มีชื่อว่า TJ อายุ 3 ขวบ เขาและคุณแม่ Jamie Hubbard ได้เข้าไปกินอาหารในร้าน McDonald’s เมื่อเดือนมีนาคม 2016 ทำให้เขาเจอนายตำรวจคนหนึ่งกำลังกินอาหารอยู่ในร้านเพียงลำพัง หนุ่มน้อยคลั่งไคล้ในอาชีพตำรวจและรถมอเตอร์ไซค์อย่างมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เขาเห็นมีคุณสมบัติดังกล่าวครบถ้วนเลย เด็กน้อยจึงหันไปถามแม่ของเขาว่า “ผมขอเดินไปหาคุณตำรวจคนนั้นได้มั้ยครับ” เมื่อคุณแม่อนุญาต TJ เลยเดินเข้าไปหาตำรวจคนนั้นด้วยท่าทีเขินอาย เมื่อนายตำรวจ Colter เห็นเข้า เขาก็อดยิ้มให้กับท่าทางของเด็กคนนี้ไม่ได้เลย อ้ำๆ อึ้งๆ กันอยู่ซักพัก TJ ก็หันมาขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ เธอจึงตะโกนบอกกับคุณตำรวจว่า “เขาแค่อยากกอดคุณเท่านั้นเอง” ทั้งคู่จึงกอดกันเพื่อเป็นการแสดงความรักและมอบกำลังใจให้กับการทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อยในอาชีพตำรวจ ด้วยความอาย เด็กชายจึงวิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ และหลังจากนั้นทั้งสองก็ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน รักษาความสัมพันธ์เอาไว้เสมอ คลิปเหตุการณ์ที่คุณแม่เป็นคนถ่ายเอาไว้ ทุกครั้งที่ทั้งสองเจอกัน ความอบอุ่นหัวใจก็จะเกิดขึ้นมาเสมอ …
-
เจ้าหน้าที่ดัดเสียงเพื่อช่วยให้น้องแมวสงบจิตสงบใจ ไม่ให้มันกลัวจนวิ่งขึ้นถนนไป
ตอนที่เราเล่นกับเด็ก หลายๆ คนอาจใช้วิธีการดัดเสียงเพื่อช่วยให้เด็กน้อยกล้าเข้าหาคุณมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับนายตำรวจคนนี้ที่ใช้วิธีเดียวกันในการเข้าไปช่วยเหลือเจ้าแมวน้อยออกมาจากพื้นที่เสี่ยงอันตราย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ McGuire จากสถานีตำรวจ Henrico รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา กำลังตรวจตราความปลอดภัยอยู่บนท้องถนนจนไปเจอเจ้าเหมียวตัวน้อยวิ่งเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง ถนนที่นายตำรวจ McGuire ได้เจอกับเจ้าเหมียวน้อยผู้หลงทาง ตำรวจหนุ่มไม่รอช้ารีบจอดและหยุดรถข้างหลังเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าเหมียวถูกเฉี่ยวชน จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปตามหาเจ้าเหมียวน้อยในพงหญ้าอย่างช้าๆ พอเจอตัวปุ๊บ เขาก็ค่อยๆ แหวกพงหญ้าอย่างแผ่วเบา เพื่อไม่ให้ลูกแมวตื่นกลัวจนวิ่งหนีออกไปกลางถนน จากนั้นจึงอุ้มมันขึ้นมาอย่างทะนุถนอม แต่ด้วยความหวาดกลัวของเจ้าเหมียวมันเลยกัดเข้าไปที่มือของนายตำรวจอย่างจัง เขาทำทุกอย่างด้วยความนุ่มนวล จนได้พบกับเจ้าเหมียวที่ซ่อนกายอยู่ใต้พงหญ้า เขาพยายามอดทนกับความเจ็บปวดและพามันกลับไปที่รถ ก่อนที่จะนำผ้าขนหนูผืนเล็กมาห่อหุ้มตัวมันเอาไว้ พร้อมกับดัดเสียงปลอบมันด้วยความเอ็นดูว่า “ไม่เป็นไรแล้วเจ้าหนู ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจนาย ไม่เป็นไรแล้ว..” เสียงสองของนายตำรวจช่วยลดความตื่นกลัวของเจ้าเหมียวลงได้ จากนั้นเขาจึงพามันไปที่ศูนย์คุ้มครองสัตว์ของเมือง เพื่อให้ลูกแมวได้รับการรักษาและตามหาบ้านหลังใหม่ให้มันต่อไป และหลังจากที่คลิปการช่วยเหลือของตำรวจหนุ่มถูกโพสต์ลงไปในเพจเฟซบุ๊กของสถานีตำรวจ ชาวเน็ตหลายคนต่างรู้สึกชื่นชอบในความน่ารักของเขาคนนี้ ภาพเหตุการณ์ถูกถ่ายโดยกล้องที่ติดอยู่กับเครื่องแบบตำรวจ ความเห็นของชาวเน็ตส่งถึงตำรวจผู้ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เธอคนนี้รู้สึกชื่นชมให้กับท่าทางที่เขาแสดงออกมาเมื่อเจอกับเจ้าเหมียว เห็นได้ถึงความแตกต่างในน้ำเสียงเวลาที่ตำรวจพูดกับประชาชน และในตอนที่เขาพูดกับเจ้าเหมียว…
-
พ่อหนุ่มจืดพยายามจีบสาว แอบตัดสายเบรกรถอีกฝ่าย อ้างว่าผมทำไปในนามของ ‘ความรัก’
เชื่อว่าสาวๆ บางคนเคยเจอกับวิธีการจีบอันแสนแปลกประหลาดจากหนุ่มที่พยายามเข้าหา แต่สาวชาวญี่ปุ่นวัย 31 ปีคนนี้กลับเจออะไรที่มันเหนือกว่าคำว่าแปลกไปซะอีก เมื่อเธอได้เจอการจีบในแบบที่เรียกว่าถ้าพลาดขึ้นมาเธออาจถึงกับเสียชีวิตเลยก็ได้ ตอนเช้าวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 เธอกำลังจะขับรถออกไปทำงาน แต่เมื่อเธอสตาร์ทรถปุ๊บ มันก็ดันไหลไปด้านหน้าจนชนเข้ากับกำแพงอิฐ และนั่นจึงทำให้เธอรู้ในทันทีว่าสายเบรกของเธอถูกตัดไปจนเกลี้ยง หญิงสาวจอดรถเอาไว้ในที่จอดรถแห่งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หญิงสาวรีบติดต่อหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสืบหาว่าคนร้ายที่หมายเอาชีวิตเธอคือใคร จนเมื่อเจ้าหน้าที่ได้เปิดเช็กภาพดูจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในที่จอดรถ จึงทำให้สามารถทราบตัวคนที่มาตัดสายเบรกได้อย่างง่ายดาย ภาพจากกล้องวงจรปิดตอนตี 3 ครึ่งของวันนั้น เผยให้เห็นว่านาย Takuya Kawamura วัย 38 ปี เข้ามาตัดสายเบรกของเธอทุกเส้น จนทำให้รถของเธอไหลไปชนกับกำแพงแบบนั้น Takuya หนุ่มวัยกลางคน ผู้ก่อเหตุตัดสายเบรกรถคันดังกล่าว เมื่อสอบถามถึงแรงจูงใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงทำอย่างนั้นลงไป เขาก็ตอบกับเจ้าหน้าที่ว่า “ผมทำสิ่งนี้ลงไปในนามของความรัก!!” ที่แท้นาย Takuya เพียงต้องการจะจีบสาวคนนี้เท่านั้นเอง ด้วยความที่เขาอยู่ในช่วงวัยกลางคนแล้ว การจะใช้วิธีเดินเข้าไปจีบแบบตรงไปตรงมา คิดว่าคงไม่เหมาะสมซักเท่าไหร่ เขาจึงคิดหาวิธีการใหม่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ หวังให้เธอเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเขา และวิธีการของเขาก็สามารถเรียกร้องความสนใจได้ดีจริงๆ ไม่ใช่แค่กับหญิงสาวเท่านั้น แต่รวมถึงคุณตำรวจทั้งหลายอีกด้วย!! เยี่ยมไปเลย กล้องวงจรปิดที่ถ่ายภาพตอนผู้ร้ายเข้ามาตัดสายเบรกเอาไว้ได้ …
-
สื่อญี่ปุ่นตีข่าว ร้านราเม็งในไทยก็อปไอเดียแฟรนไชส์ราเม็งชื่อดังของญี่ปุ่นไปทั้งดุ้น!?
ร้านราเม็ง Ichiran หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ราเม็งข้อสอบ เป็นร้านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องของรสชาติน้ำซุป ซอสสูตรพิเศษ และจุดที่เห็นชัดที่สุดก็คือการตกแต่งร้านหรือรูปแบบการสั่งอาหารที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่าทำข้อสอบอยู่จริงๆ ใครที่เคยลองไปกินราเม็งร้านนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น คงหวังให้ร้านดังกล่าวขยายสาขามาเปิดที่ไทยบ้าง ซึ่งนั่นก็อาจเป็นไปได้ ถ้าไม่ติดที่ว่าตอนนี้ชาวญี่ปุ่นถกเถียงกันว่าร้านราเม็งเจ้าหนึ่งในบ้านเราได้นำเอกลักษณ์ต่างๆ ของ Ichiran มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร้าน Ichiran นั้นมีความเก่าแก่ดั้งเดิม ถือกำเนิดในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 1993 และได้มีการขยายสาขาออกไปต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน และฮ่องกง แต่ที่ไทยกลับมีร้านที่ดูเหมือนกับร้านต้นฉบับมากเหลือเกิน จึงทำให้พวกเขาส่งคนเข้ามาตรวจสอบร้านดังกล่าวดู เมื่อผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นได้เดินทางมาใช้บริการร้านที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ราเม็งข้อสอบในไทย พวกเขาก็ถึงกับบอกเลยว่า เอกลักษณ์ทุกอย่างที่เป็นของร้าน Ichiran มารวมเอาไว้อยู่ในร้านนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเว็บไซต์ของร้านดั้งเดิมได้ออกมาพูดถึง 5 เอกลักษณ์ของทางร้าน ได้แก่ 1. ซอสแดงสูตรเฉพาะ 2. ซุปกระดูกหมูไร้กลิ่นเหม็น 3. ที่นั่งกั้นฉาก 4. กระดาษข้อสอบสั่งอาหาร 5. ระบบสั่งเพิ่มเส้น ทั้งหมด 5…
-
20 ภาพที่แสดงให้เห็นว่า ‘ฮีโร่’ มีอยู่ทุกที่บนโลกใบนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะอยู่ใกล้ตัวคุณก็ได้!!
การช่วยเหลือผู้อื่นหรือทำในสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการของเรา เราอาจเรียกคนที่ทำสิ่งเหล่านั้นว่า ฮีโร่ และหลายๆ คนเชื่อว่าพวกเขามีอยู่แค่ในจินตนาการที่พบเห็นได้ในหนังหรือการ์ตูนเท่านั้น หากแต่ว่าความเป็นจริงแล้ว คนกลุ่มนั้นอาจสามารถพบเห็นได้ทั่วไป นี่คือภาพที่จะพิสูจน์ความจริงว่า ฮีโร่มีอยู่รอบๆ ตัวเราทุกคน ไปดูกันเลยว่าพวกเขาได้ทำอะไรเอาไว้บ้าง ฮีโร่ผู้สามารถตอบสนองกับทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว คนคนนี้ช่วยเตือนให้ทุกคนทราบว่า จงอย่าเสียเงินไปให้กับอาหารที่ไม่อร่อยเลย ความสามารถที่เหนือชั้น จนทำให้คนรอบข้างเลิกสนใจกีฬาและหันมาดูเขาแทน หากใครชอบการเซอร์ไพรส์ ก็ขอแนะนำให้มาใช้บริการตู้กดนี้ เพราะไม่ว่าคุณจะกดเลขอะไรไป ขนมที่ได้ไม่ก็ไม่ตรงกับหมายเลขที่คุณเลือกหรอก ถ้าอยากเล่น Playstation 4 จริงๆ ก็ควรมีทีวีคุณภาพสูงเอาไว้ด้วย ส่งร้อนตรงเวลา ส่งช้ารับฟรี และชายคนนี้ก็คงทำให้ร้านของเขาไม่ต้องขาดทุน คิดไม่ออกเลยว่า เขาทำได้อย่างไร มันคงเป็นพลังพิเศษอย่างหนึ่งแน่นอน ชายผู้สามารถพาสุนัขทุกตัวของเขาเดินทางไปได้ทุกที่พร้อมๆ กัน ซูเปอร์ด็อก ที่คอยรักษาแก้วเบียร์ของเจ้านายเอาไว้เท่าชีวิต มือมืดที่หยิบยื่นการช่วยเหลือมาให้ในยามยาก อยากเห็นตอนที่เรียงขึ้นไปจริงๆ ก่อนใช้บริการห้องน้ำสาธารณะ อย่าลืมตรวจสอบกระดาษชำระให้ดีๆ เมื่อแฟนสาวอยากขี่คอถ่ายรูป คุณลุงบิ๊กไบก์เองก็อยากได้ท่าเดียวกัน …
-
ทดลองเทลูกเต๋า 25,000 ลูกใส่กระบอก ผ่านกระบวนการหมุนจนทำให้มันเป็นระเบียบ!?
Compaction Dynamics คือกระบวนการที่ใช้กับวัตถุดิบที่มีลักษณะโมเลกุลแบบเป็นเม็ด อย่างเช่น หิมะ ถั่ว ทราย ข้าว หรือดิน เพื่อช่วยให้สิ่งเหล่านั้นเกิดการรวมตัวกันแน่นหนามากยิ่งขึ้น จึงทำให้กระบวนการนี้เป็นประโยชน์อย่างมากในอุตสาหกรรมการเกษตรหรืออุตสาหกรรมการผลิตพลังงาน ที่ผ่านมาวิธีการดังกล่าวสามารถใช้ได้ดีกับสิ่งที่มีลักษณะเป็นทรงกลม แต่หากเราใช้กระบวนการเดียวกันกับวัตถุทรงลูกบาศก์บ้างล่ะ ผลที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไร? จากการตั้งคำถามทำให้การทดลองนี้ถือกำเนิดขึ้น นักฟิสิกส์จากประเทศเม็กซิโก และประเทศสเปน ตัดสินใจนำกระบวนการนั้นมาทดลองกับสิ่งที่มีรูปทรงเป็นลูกบาศก์ นั่นก็คือ “ลูกเต๋า” ความกว้างด้านละครึ่งเซนติเมตร จำนวน 25,000 ลูก ผู้ทำการทดลองเทลูกเต๋าทั้งหมดใส่ลงในภาชนะทรงกระบอกเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.7 เซนติเมตร ตั้งอยู่บนเครื่องมือที่ใช้ในการหมุน จากนั้นการหมุนก็เริ่มขึ้น เครื่องจะหมุนทั้งตามและทวนเข็มนาฬิกา หนึ่งวินาทีก็จะหมุนหนึ่งครั้ง ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ภาพที่เห็นคือลูกเต๋ากำลังเริ่มเรียงตัวกันดูลายตาไปหมด . เมื่อหมุนไปได้ประมาณ 300,000 ครั้ง ลูกเต๋าทั้งหมดกลับสามารถเรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยซะอย่างนั้น!! จากนั้นพวกเขาจึงศึกษาเพิ่มเติมทำให้พบว่า ยิ่งหมุนเร็วมากเท่าไหร่ ลูกเต๋าก็สามารถเรียงตัวกันได้เร็วเท่านั้น แต่หากหมุนช้ามากๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือลูกเต๋าจะไม่มีทางเรียงตัวกันได้เลย ผลลัพธ์ดังกล่าวได้รับการอธิบายเอาไว้ว่า แรงหมุนที่เกิดขึ้นทำให้มีแรงผลักลูกเต๋าออกไปอยู่ติดกับผนังของภาชนะ และการเหวี่ยงไปแบบไร้จุดหมายของมันก็นำไปสู่การจัดเรียงโมเลกุลจนออกมาสวยงามอย่างที่เห็น เมื่อวัตถุได้รับแรงกระตุ้นที่มากพอ วัตถุก็จะถูกบีบให้ใช้พื้นที่ภายในให้ได้มากที่สุด หรือก็คือมันพยายามเก็บทุกช่องว่างจนทำให้ลูกเต๋าเรียงตัวกันอย่างแน่นหนาและเป็นระเบียบอย่างนี้…
-
ซานดีเอโกจ่าย 2.7 ล้านบาท ให้อดีตเมียนายกเทศมนตรี กรณีล้มบนทางเท้าจนนมแตก…
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2017 ได้มีการโต้เถียงเกิดขึ้นในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2015 เมื่อ Cynthia Hedgecock วัย 70 ปี ภรรยาของอดีตนายกเทศมนตรี Roger เธอเดินสะดุดล้มจนทำให้หน้าอกของกระแทกกับทางเท้า Cynthia เล่าว่า ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2015 เธอกำลังเดินอยู่บนทางเท้าริมถนน Morrell และสะดุดเข้ากับแง่งที่ยื่นออกมาจากพื้นสูงประมาณ 6 เซนติเมตร ด้วยความที่มือหนึ่งเธอถือเอกสารอยู่และอีกมือก็ถือโทรศัพท์อยู่ บวกกับการที่เธอใส่รองเท้าแตะ จึงไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ล้มลงหน้าอกกระแทกพื้นในที่สุด Cynthia ผู้ได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณหน้าอก เธอรู้สึกเจ็บหน้าอกไปนานถึง 2 สัปดาห์ จนเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2015 แพทย์จากคลินิก Scripps พบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหน้าอกของเธอ เต้าเทียมที่ Cynthia เคยทำเอาไว้ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง และเธอจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนใหม่หลังจากนั้น การผ่าตัดเปลี่ยนเต้าเทียมในเดือนพฤศจิกายน 2015 ทำให้เธอต้องเสียค่าใช้จ่ายไปราวๆ 650,000…
-
คุณพ่อร่อนจดหมายถึงผอ. กรณีกีดกันเด็กจากกิจกรรมที่กำหนดเพศ จิกกัดว่าล้าหลัง..
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2017 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้พ่อคนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก เพราะลูกสาวของเขาถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่านั่นเป็นกิจกรรมสำหรับเด็กผู้ชายเท่านั้น!? เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเล็กๆ ในเขต Wongarbon ประเทศออสเตรเลีย เด็กสาวที่ชื่อว่า Ruby Callghan วัย 12 ปี ถูกบีบให้ต้องทำกิจกรรมที่เธอไม่ชอบ เพราะทางโรงเรียนแบ่งแยกเอาไว้ว่านี่คือกิจกรรมสำหรับผู้หญิง ในขณะที่กิจกรรมที่เด็กสาวต้องการจะทำมีไว้ให้เด็กผู้ชายเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่พอใจให้กับ Stephen พ่อของเธออย่างมาก เขาจึงตัดสินใจส่งจดหมายไปให้ทางโรงเรียน วันต่อมาเขาส่งจดหมายและโพสต์รูปสิ่งที่เขาเขียนลงไปในโลกโซเชียล จดหมายที่พูดถึงความไม่พอใจเรื่องที่ลูกสาวตัวเองถูกแบ่งแยก และกีดกันจากการทำกิจกรรมที่โรงเรียนกำหนดให้ว่า “มีไว้สำหรับเด็กผู้ชายเท่านั้น” เนื้อความของจดหมายที่คุณพ่อเขียนแบบคร่าวๆ คือ “ถึงผู้อำนวยการโรงเรียน ผมต้องการให้คุณตระหนักถึงปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นกับลูกสาวผมที่เรียนอยู่เกรด 6 เมื่อวานเธอออกบ้านไปเป็นปี 2017 แต่ตอนเย็นเธอกลับมาเหมือนอยู่ในปี 1968 เพราะกิจกรรมที่ทางโรงเรียนกำหนดให้” “เด็กผู้หญิงต้องฝึกการแต่งหน้าทำผมอยู่ในห้องสมุด ขณะที่เด็กผู้ชายได้ออกไปดูงานและทำกิจกรรมในโรงงาน Bunnings“ “ช่วยตรวจดูในโรงเรียนให้หน่อยได้มั้ยว่ามีความบกพร่องในเรื่องของมิติเวลา หรือมีเครื่องย้อนเวลาซ่อนเอาไว้อยู่หรือเปล่า” “ผมขอให้คุณแก้ไขการแบ่งแยกเพศที่เกิดขึ้นนี้ซะ ไม่ให้มันเกิดขึ้นกับลูกสาวผมหรือเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ อีก” “ด้วยความเคารพ.. Stephen Callaghan” เขาอธิบายว่า ลูกสาวต้องการเป็นวิศวกร…
-
หญิงสาวเล่าประสบการณ์ ‘เดาะลมเล่นเสียวกับผี’ ติดใจเสียจริง แต่ก็ต้องปล่อยให้ผีไปเกิดใหม่
เราอาจเคยได้ยินข่าวการมีเซ็กซ์แบบพิสดารในหลายรูปแบบ แปลกๆ หน่อยก็คงเป็นข่าวคนมีอะไรกับสัตว์ทำนองนั้น แต่หญิงสาวคนนี้กลับจะทำให้คุณต้องตกใจมากยิ่งกว่านั้นซะอีก เพราะเธอคือคนที่ได้มีเซ็กซ์กับผี!! หญิงสาววัย 26 ปี Sian Jameson ได้ย้ายจากกรุงลอนดอน ไปอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ อันเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ในเมือง Aberystwyth ประเทศเวลส์ และนั่นก็ทำให้เธอได้เจอกับการร่วมรักในแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เธอเล่าว่า เหตุผลที่ย้ายออกจากกรุงลอนดอนก็เพราะไม่สามารถลืมแฟนเก่าที่คบกันมานานกว่า 3 ปีได้ การได้ย้ายมาอยู่ในบ้านเช่าที่ห่างไกลผู้คนแบบนี้ คือสิ่งที่ตอบโจทย์เธอมากที่สุด การตื่นขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่าตนเองอยู่คนเดียว ทำให้เธอรู้สึกเหงาอยู่เสมอ เธอหวังว่าซักวันหนึ่งเธอจะได้เจอกับผู้ชายคนใหม่เดินเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง หญิงสาวใช้เวลาสำรวจไปรอบๆบ้านหลังใหม่ของเธอที่เต็มไปด้วยรูปวาดและหนังสือจากเจ้าของคนเก่า ก็ได้ไปเจอรูปรูปหนึ่งที่สะดุดตาเธออย่างมาก เป็นภาพของหนุ่มหน้าตาดี ที่ถูกวาดเอาไว้ในปี 1820 เมื่อผ่านไปไม่กี่เดือน ชายหนุ่มในรูปภาพนั้นก็กลายมาเป็นสิ่งที่ลบล้างความเหงาของหญิงสาวออกไป เมื่อวันหนึ่งเธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืด และพบกับร่างของชายคนนั้นนอนอยู่ข้างๆ Sian อธิบายว่า “เขามีหน้าตาที่ดูดี ผมสีดำ สวมเสื้อสีขาวตัวหลวม ผ้าพันคอที่ดูเก่าแก่โบราณ ร่างของเขาดูเรืองแสงออกมาเล็กน้อย จนทำให้ฉันรู้สึกว่านี่มันคือความฝันชัดๆ จึงหมุนตัวกลับไปนอนตะแคงอีกฝั่ง หันหน้าเข้ากำแพง” ในตอนนั้นเอง เธอไม่สามารถข่มตาหลับลงไปได้เลย จู่ๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงความกลัวที่แผ่ซ่านเข้ามา รู้สึกถึงมืออันแผ่วเบาและเย็นยะเยือกที่สัมผัสเข้ากับเอวของเธอ…
-
ชมตัวอย่างของอนิเมชั่น The Spider-Verse โลกที่ไม่ได้มีสไปเดอร์แมนเพียงคนเดียว!!
หากใครเป็นแฟนคลับฮีโร่จาก Marvel ผู้มีพลังปล่อยใยแมงมุม ปีนป่ายไปมา พร้อมกับฉายาว่า สไปเดอร์แมน แล้วล่ะก็ เราเชื่อว่าคุณต้องชอบตัวอย่างหนังเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้านี้แน่นอน เมื่อทาง Sony Pictures และ Marvel เผยตัวอย่างหนังอนิเมชันเรื่อง Spider-Man: Into the Spider-Verse กับการได้เห็นฮีโร่อย่างสไปเดอร์แมนในรูปแบบอนิเมชันอลังการงานสร้าง ตัวอย่างนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Comic Con Experience 2017 ที่จัดขึ้นในเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล โดยได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Phil Lord และ Christopher Miller ผู้เคยสร้างผลงาน The Lego Movie และ 21 Jump Street ตัวเอกของสไปเดอร์แมนภาคอนิเมชันนี้ก็คือ Mile Morales เด็กหนุ่มในเมืองบรุคลินจากจักรวาล Marvel เวอร์ชันคอมมิค เข้ามาสร้างสีสันและถูกถ่ายทอดด้วยภาพการ์ตูนที่มีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ คลิปตัวอย่างหนังเรื่อง Spider-Man ในแบบอนิเมชัน ความพิเศษอีกอย่างของภาคนี้ก็คือ ในตัวอย่างได้บอกให้เราทราบว่า เราจะไม่ได้เห็นสไปเดอร์แมนแค่คนเดียวอย่างแน่นอน เพราะ Spider-Verse คือจักรวาลของเหล่าสไปเเดอร์แมนจำนวนมากนั่นเอง …
-
คุณพ่อชาวจีนสั่งสอนลูกชาย ด้วยการคุกเข่าแล้วใช้ไม้เรียวเฆี่ยนตีไปที่หลังของตัวเอง
พ่อแม่แต่ละคนจะมีการสั่งสอนลูกๆ ที่แตกต่างกันไป ในหลายครอบครัวก็จะมีการลงโทษเข้ามาเพื่อไม่ให้เด็กทำเรื่องแย่ๆ อีก อย่างคุณพ่อชาวจีนคนนี้ที่สั่งสอนลูกด้วยการเฆี่ยนตีตัวเขาเอง การสั่งสอนในลักษณะดังกล่าวถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ Weibo เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2017 ขณะที่คุณพ่อชาวจีนท่านหนึ่งกำลังสั่งสอนลูกชายของตัวเอง และลูกสาวของเขาอีกคนก็ได้ถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ เหตุการณ์นี้เริ่มต้นมาจากการที่ลูกชายนำมือถือไปเล่นเกมที่โรงเรียน โดยอ้างกับพ่อว่าคุณครูเป็นคนบอกให้นำมือถือติดตัวไปด้วย พ่อจึงถามเด็กหนุ่มว่า “พ่อไม่เคยสั่งสอนแกหรือไง?” เมื่อเด็กตอบว่าเคย เขาก็ถามอีกว่า “แกถูกสั่งสอน แต่ไม่เคยเรียนรู้สินะ?” เด็กหนุ่มจึงตอบพ่อด้วยสำนวนอันเก่าแก่จากบทความ Sanzijing ว่า “การสอนโดยปราศจากความเข้มงวด คือสิ่งที่เกิดจากความขี้เกียจของผู้เป็นครู” เมื่อเจอประโยคนั้นเข้าไป คนเป็นพ่อก็ยื่นไม้เรียวให้เด็กหนุ่ม พร้อมกับถอดเสื้อนอกลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้น แล้วพูดว่า “ครั้งนี้ความผิดของแกเกิดขึ้นเพราะพ่อเอง พ่อไม่ได้สอนแกดีพอ จึงขอยอมรับความผิดทั้งหมดด้วยตัวเอง” เขาสั่งให้ลูกชายลงโทษเขาด้วยการใช้ไม้เรียวเฆี่ยนมาทีหลังของเขา เด็กหนุ่มปฏิเสธที่จะทำสิ่งนั้น แต่คนเป็นพ่อยังคงตะโกนเร่งให้ลูกชายตีเขาซะ จนเด็กหนุ่มถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา . เมื่อลูกชายไม่ยอมตีเขาสักที คุณพ่อจึงตัดสินใจแย่งไม้เรียวมาเฆี่ยนไปที่หลังของตัวเอง พร้อมกับตะโกนออกมาว่า “ความผิดของพ่อเอง พ่อไม่ได้สอนลูก ความผิดพ่อเอง ความผิดพ่อเอง..” ยิ่งเห็นพ่อทำอย่างนั้นลูกชายก็ยิ่งร้องไห้มากกว่าเดิม ขณะที่ลูกสาวพยายามบอกให้คุณพ่อหยุดตีหลังของตัวเอง จนคุณพ่อหยุดตีและหันไปพูดกับลูกชายว่า “พ่อสอนแกไม่ดีเอง…
-
นักสู้ UFC เติมเต็มความฝันให้กับแฟนคลับผู้ป่วย ‘ดาวน์ซินโดรม’ ให้ได้มาขึ้นสังเวียนด้วยกัน
หนึ่งในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ UFC กับการต่อสู้กันบนสนามแปดเหลี่ยมที่ล้อมรอบไปด้วยกรงเหล็ก ด้วยความมันส์ ดุเดือดและร้อนแรงของการแข่งขันชนิดนี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับชายคนหนึ่งลุกขึ้นมาสานฝันของตัวเองในการเป็นหนึ่งในนักสู้ เขาคนนี้มีชื่อว่า Isaac Marquez หรือรู้จักกันในฉายา The Shemanator วัย 32 ปี ผู้คลั่งไคล้ในการแข่งขัน UFC อย่างมาก แต่ด้วยความที่เขาป่วยเป็น โรคดาวน์ซินโดรม จึงทำให้โอกาสที่จะได้เป็นนักสู้บนสังเวียนนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย Isaac ผู้ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรมและคลั่งไคล้การแข่งขัน UFC อย่างมาก ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมแพ้กับความฝันของตัวเอง เขาเข้ารับการฝึกสอนศิลปะการต่อสู้แบบผสม Jackson Wink ในเมืองแอลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา และนั่นทำให้เขาเจอกับนักสู้แห่ง UFC ที่ชื่อว่า Diego Sanchez วัย 35 ปี ทั้งสองใช้เวลาฝึกฝนไปด้วยกัน จนเป็นเพื่อนรักกันในที่สุด Diego ถามเพื่อนคนนี้ว่า “นายชอบศิลปะการต่อสู้แบบผสมหรือเปล่า?” Isaac ตอบกลับในทันทีเลยว่า “ฉันชอบการต่อสู้” นักสู้หนุ่มจึงถามต่อว่า “แล้วนายมาที่นี่เพื่อดูการต่อสู้หรือเพื่อฝึกฝน?” และเขาก็ได้คำตอบกลับมาว่า “ฉันมาเพื่อฝึกฝน” เมื่อนักสู้ได้ยินแบบนั้นจึงเกิดไอเดียที่จะให้…
-
โชคชะตาของคุณตำรวจนำพามาให้พบกับเจ้าเหมียว และลิขิตให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมงานกัน
เวลาที่เราได้เจอกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ คงต้องใช้เวลาสักพักถึงจะปรับตัวให้เขากันได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเมือง Tryon รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะพวกเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ได้ง่ายเสียเหลือเกิน วันที่ 5 ธันวาคม 2017 ตอนที่ตำรวจสาว Tara Atkins ตื่นแต่เช้าไปทำงานที่สถานีตำรวจ พอเธอเปิดประตูเข้าไป เธอก็ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานใหม่ นั่นคือเจ้าเหมียวน้อยน่ารักอายุเพียง 4 เดือน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่คนอื่นจึงทราบได้ว่า เจ้าเหมียวตัวนี้มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวลานจอดรถในคืนที่ผ่านมา ตำรวจหนุ่มไปเจอเข้าด้วยความบังเอิญ เลยพามันเข้ามาหลบหนาวด้านในสถานีเสียก่อน หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกคนในสถานีได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังทำตัวเหมือนกับว่านี่คือบ้านของมัน และคอยเดินไปเดินมาให้เจ้าหน้าที่คอยอุ้ม คอยกอดอยู่เสมอ โดยเฉพาะ Tara ด้วยความที่เจ้าเหมียวไม่มีอะไรที่ยืนยันได้ว่ามันมีเจ้าของ พวกเธอจึงดูแลมันไว้เป็นการชั่วคราว และนั่นก็ทำให้ Zach ผู้จัดการเมือง แนะนำให้เธอนำเจ้าเหมียวมาเป็นเพื่อนร่วมงานซะเลย Tara ได้ถ่ายรูปของมันตอนทำงานโพสต์ลงหน้าเพจเฟซบุ๊กประจำเมือง เพื่อช่วยตามหาเจ้าของมันอีกทางหนึ่ง ภาพการทำงานระหว่างวันของเจ้าเหมียว ที่ถูกโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก . เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ต่างบอกให้ Tara รับมันไปดูแลซะเลย แต่ที่บ้านของเธอก็มีน้องหมาอยู่สองตัวแล้ว จึงคิดว่าการที่ต้องเลี้ยงดูเจ้าเหมียวอีกตัวคงจะไม่ไหว หน้าที่การดูแลจึงได้ตกไปอยู่ในมือของ David…
-
แค่การจ่ายค่ากาแฟให้กับคนที่ไม่รู้จักกัน แต่กลับสามารถช่วยต่อพลังชีวิตให้กับอีกคนได้
บางคนอาจคิดว่าการทำความดีเล็กๆ น้อยๆ คงไม่สามารถช่วยอะไรใครได้มากนัก แต่ความเป็นจริงแล้ว นั่นอาจเป็นแรงใจที่ทำให้คนๆ สามารถใช้ชีวิตต่อไป ด้วยความช่วยเหลือเล็กๆ ที่เขาได้รับจากเรา เช่นเดียวกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ในวันที่ 18 กรกฎาคม 2017 คนคนหนึ่งตั้งใจให้วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของชีวิต และก่อนที่จะฆ่าตัวตายเขาได้ขับรถไปใช้บริการร้านไดรฟ์ทรูชื่อว่า Tim Hortons ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เขาได้สั่งซื้อกาแฟและมัฟฟินของทางร้าน จากนั้นพอขับต่อไปยังช่องชำระเงิน พนักงานร้านกลับบอกเขาว่า “ชายนิสัยดีคนหนึ่งจ่ายค่ากาแฟให้คุณทั้งหมดแล้ว และเขาฝากมาบอกว่า ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะ” ในตอนนั้นเขารู้ทันทีเลยว่าชายคนดังกล่าวก็คือคนที่ขับรถ SUV อยู่ด้านหน้าเขานี่เอง เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า “ทำไมชายคนนั้นถึงยอมซื้อกาแฟให้คนแปลกหน้า ทำไมต้องเป็นเรา? แล้วทำไมถึงต้องเป็นวันที่ฉันกำลังจะฆ่าตัวตายด้วย? ฉันรู้สึกนี้คือสัญญาณบางอย่างที่บอกกับฉันในวันนี้อย่างแน่นอน” จากนั้นความคิดก็เปลี่ยนไป เขาขับรถกลับบ้านพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา เปลี่ยนแผนทุกอย่างในวันนั้นและเลือกจะทำสิ่งดีๆ ให้กับผู้อื่น เมื่อถึงบ้านแทนที่จะฆ่าตัวตาย เขากลับเข้าไปช่วยเพื่อนบ้านยกของลงจากรถ และนั่นทำให้เขารับรู้ได้ถึงคุณค่าของชีวิตและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมีความสุข ร้านไดรฟ์ทรู Tim Hortons เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกบอกเล่าผ่านจดหมายที่ทางสำนักข่าว Pickering News Advertiser ได้รับมา ก่อนที่พวกเขาจะนำมันออกเผยแพร่ให้กับสาธารณะ จนทำให้ชายหนุ่มผู้ช่วยชีวิตคนคนนั้นเอาไว้ปรากฏตัวขึ้นมา Glen Oliver…
-
ชายหนุ่มถูกตัดสินโทษจำคุก 15 ปี เพราะเอา ‘เบคอน’ ไปวางไว้หน้ามัสยิด
ทุกคนรู้ว่าตามหลักศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิมนั้นไม่สามารถบริโภคหมูได้เลย แต่ชายคนนี้กลับทำในสิ่งที่คุกคามผู้นับถือศาสนาดังกล่าว โดยการนำเบคอนไปวางเอาไว้ด้านหน้าทางเข้ามัสยิดที่ตั้งอยู่ในเมือง Titusville รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา เขาคนนี้มีชื่อว่า Michael Wolfe วัย 37 ปี เขาทำสิ่งนั้นลงไปในวันที่ 2 มกราคม 2016 และถูกกล้องวงจรปิดเก็บภาพสิ่งที่ทำเอาไว้ ก่อนที่เขาจะถูกจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีในการก่ออาชญากรรมคุกคามสถานที่เกิดเหตุ และข้อหาการกระทำความผิดที่มีบ่อเกิดมาจากความเกลียดชัง กล้องวงจรปิดถ่ายภาพขณะที่เขากำลังก่อคดีอาชญากรรมเอาไว้ได้ ภาพชัดๆ จากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นชายคนดังกล่าวนำเบคอนไปวางเอาไว้ที่ประตูหน้าของมัสยิด และใช้มีดเล่มใหญ่ทำลายหน้าต่าง หลอดไฟ และกล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณดังกล่าว ล่าสุดในวันที่ 5 ธันวาคม 2017 หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นกว่า 1 ปี ตัวแทนสำนักงานเขตตุลาการปกครอง Todd Brown ได้ออกมากล่าวว่า ผู้กระทำผิดได้รับการตัดสินโทษจำคุก 15 ปี พร้อมกับคุมความประพฤติหลังจากที่ออกจากคุกมา เพื่อไม่ให้เขาทำแบบนี้อีก สภาความมั่นคงระหว่างอเมริกันกับอิสลามแห่งรัฐฟลอริด้า เห็นด้วยกับสิ่งที่ศาลตัดสินให้จำคุกนาย Michael แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาบอกว่า “ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในรัฐต้องเจอกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังอยู่นับไม่ถ้วน” ปัจจุบันแนวคิดต่อต้านศาสนาอิสลามกำลังแพร่กระจายไปทั่วสหรัฐอเมริกา จนมีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน และหลายครั้งเลยเถิดจนเป็นกลายเป็นเหตุอาชญากรรม…
-
หมอลูกครึ่งเอเชียถูกลงโทษภาคทัณฑ์ เพราะเปิดเผยเรื่องการโดนเหยียดหยามอย่างรุนแรง
ในประเทศสหรัฐอเมริกา การเหยียดเชื้อชาติยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างและในบางครั้งมันก็รุนแรงเสียจนเกิดเป็นการกลั่นแกล้ง จนทำให้ชายหนุ่มที่ตกเป็นเหยื่อคนหนึ่งถึงกับรู้สึกไม่พอใจและยอมให้มีสิ่งนี้ต่อไปไม่ได้ เขาจึงนำเรื่องนี้ออกมาแชร์กับทุกคนและแสดงออกถึงการต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด ชายคนนี้ใช้ชื่อว่า Gu เป็นนายแพทย์เชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัย Vanderbilt รัฐเทนเนสซี โดยเขาได้โพสต์ทวิตเตอร์เรื่องราวการถูกเหยียดเชื้อชาติภายในที่ทำงานของตัวเองเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 เขาต้องเจอกับการกลั่นแกล้งภายในที่ทำงาน เขาเล่าว่าครั้งหนึ่งเขาถูกหัวหน้าทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ศอกกระแทกจนตัวกระเด็น ระหว่างที่กำลังช่วยคนไข้ พยาบาลที่ทำงานด้วยกันก็นำกล่องนมจากถังขยะ มาวางไว้บนโต๊ะของเขา ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เพราะพวกเขาร่ำเรียนและฝึกฝนมาเพื่อช่วยคน แต่สิ่งเหล่านี้ขัดแย้งกับสิ่งที่พวกเขาปฏิญาณโดยตรง หลังจากที่เขานำเรื่องออกมาเผยแพร่ เขาก็ถูกโรงพยาบาลส่งจดหมายเตือนอย่างรุนแรง รวมทั้งกล่าวหาว่าเขากุเรื่องทั้งหมดขึ้นมาเอง และที่สำคัญ หัวหน้างานที่ทำร้ายร่างกายเขาก็ไม่ได้รับบทลงโทษใดๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เจอกับความไม่เป็นธรรมในลักษณะเดียวกันนี้ ในวันแรกที่เขาเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลดังกล่าว ขณะที่กำลังจอดรถเขาก็ได้เจอกับคนที่เหมือนกับต้องการความช่วยเหลือ และเมื่อ Gu หวังดีลงรถไปช่วยกลับถูกเหยียดเชื้อชาติด้วยคำหยาบคาย จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ยังตามมากระชากป้ายห้อยคอของเขา ก่อนที่จะค้นดูประวัติส่วนตัวและรายชื่อคนไข้ที่ Gu พกติดตัวมา เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุหลังจากนั้นไม่นาน ชายที่ทำผิดก็เหมือนจะรอดไปได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เขากลับไม่ได้รับความช่วยเหลืออย่างที่ควรจะได้รับ เขาบอกว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเกาหลีเหนือ พอพูดเรื่องความยุติธรรมก็กลับถูกลงโทษซะอย่างนั้น ผมเรียนจบและอยู่ในอันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัย Stanford และโรงเรียนแพทย์ Duke แต่ผมไม่เคยได้รับการช่วยเหลือใดๆ และต้องเจอกับคนในโรงพยาบาลที่ต้องการทำลายหน้าที่การงานของผม”…
-
เรารู้คุณก็งก… 15 เทคนิคแห่งการประหยัดที่คุณต้องเคยทำ ยอมรับมาซะดีๆ เลยนะ!! ฮร่า
ในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ หลายๆ คนจะมีวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป บางคนอาจจะหยอดออมสิน บางคนอาจตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป และนี่อาจเป็นสิ่งที่เราไม่ค่อยอยากยอมรับกันซักหน่อยว่าเคยทำมาจริงๆ เวลาต้องการประหยัดเงิน อย่าปิดบังกันเลยเพราะไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่ทำ อย่างน้อย #เหมียวตะปู เองก็เคยทำมาหมดแล้วนะ ไปดูกันเลยว่ามีวิธีไหนกันบ้าง คว่ำขวดแชมพูหรือสบู่เหลวเอาไว้เพื่อให้สามารถใช้ได้จนหยุดสุดท้าย และพอมันหมดปุ๊บ ก็ค่อยเติมน้ำเข้าไปในขวดอีกครั้ง ใช้ได้อีกซักรอบสองรอบ ไม่ใช่แค่ของในห้องน้ำ แม้แต่น้ำยาล้างจานก็ใช้วิธีเดียวกัน ยาสีฟันที่จะค่อยๆ ถูกม้วนไปทีละนิดๆ รีดออกมาใช้ให้เกลี้ยง พวกตัวอย่างครีมที่แถมมาหรือแชมพูจากโรงแรม เราก็สามารถเอากลับมาใช้ได้เป็นเดือนๆ ไม่จำเป็นต้องมีไม้แขวนเสื้อ เพราะทุกอย่างในห้องน้ำสามารถแขวนเสื้อผ้าได้ ตอนจะตากก็ไม่จำเป็นต้องใช้ราวตากผ้า เพราะขอแค่มีเก้าอี้ซักตัวหรือเชือกฟางซักเส้นก็เกินพอ เพื่อประหยัดน้ำและน้ำยาล้างจาน ก็กินข้าวมันในกระทะซะเลย เวลาเพื่อนมาหา แน่นอนว่าเครื่องดื่มที่เราจะรินให้เพื่อนๆ ปริมาณมันย่อมต่างกับที่เราจะรินให้กับตัวเองอยู่แล้ว ของกินเล่นอย่างชีสหรือแฮม เราก็เอามาม้วนๆ แล้วค่อยๆ กินไปทีละนิดทีละหน่อย ให้กินได้นานมากที่สุด การทำแซนด์วิชที่แม้จะเหลือแค่ส่วนขนมปังแผ่นปิดท้าย คุณก็ไม่แคร์ อยากประหยัดแบตมือถือแล้วไม่มีหนังสือให้อ่านในห้องน้ำ ขวดแชมพูสบู่ทั้งหลายช่วยคุณได้ ในบางครั้งการไม่อาบน้ำคือหนทางแห่งการประหยัด…
-
งานวิจัยสำหรับหนุ่มๆ กับคำตอบที่ว่าเต้นยังไงให้ “โดนใจ” สาวๆ ในผับได้มากที่สุด
เวลาที่หนุ่มๆ ได้ออกไปท่องราตรีตามผับตามบาร์ การเต้นคือสิ่งที่พวกเขาจะได้แสดงออกมาขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่า การเต้นแบบไหนที่สามารถดึงดูดความสนใจของสาวๆ ได้มากที่สุด? นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของงานวิจัยชิ้นนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Northumbria ประเทศอังกฤษ และมหาวิทยาลัย Gottingen ในเยอรมัน อยากทราบว่า “การเต้นแบบไหนที่ทำให้สาวๆ รู้สึกสนใจและเข้าหาได้มากที่สุด” โดยไม่นับในเรื่องของรูปร่างหน้าตา หรือบทบาททางสังคมของผู้ชาย พวกเขาจึงทำการทดลองให้ชายหนุ่ม 30 คน วาดลวดลายการเต้นกับจังหวะกลองเป็นเวลา 30 วินาที โดยแต่ละคนก็เต้นไปตามสไตล์ของตัวเอง จากนั้นจึงให้ผู้หญิงจำนวน 37 คนเลือกว่าการเต้นของหนุ่มๆ เหล่านั้น แต่ละคนได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 7 ระดับ จากดีไปแย่ ต่อมานักวิจัยก็นำผลที่ได้ไปสรุปลงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และประมวลผลออกมาให้ได้เห็นว่า การเต้นที่สาวๆ ชอบมากที่สุดกับที่ไม่ชอบมากที่สุดนั้นแตกต่างกันอย่างไร ลักษณะการเต้นที่สามารถดึงดูดความสนใจสาวๆ ได้ ลักษณะการเต้นที่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจสาวๆ ได้ จากที่เราเห็นผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าว นักวิจัยได้สรุปเอาไว้ว่า สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้หญิงรู้สึกสนใจคือ การขยับร่างกายช่วงบน คอ และศีรษะ รวมถึงความเร็วในการขยับขาก็ถือว่ามีส่วนสำคัญกับเรื่องนี้ พวกเขาบอกว่าการเต้นที่สามารถดึงดูดความสนใจสาวๆ ได้ คือการขยับร่างกายด้วยท่าทางที่หลากหลาย…
-
แนะนำ InstLife เกมจำลองชีวิตจริงผ่านตัวอักษร บางครั้งโชคชะตาอาจเล่นตลกกับเราก็ได้…
หากเวลานี้ใครกำลังตามหาเกมมือถือโดนๆ ที่สามารถทำให้เราเล่นไปได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกเบื่อ เราขอแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับเกม InstLife เกมจำลองสถานการณ์ที่จะทำให้คุณได้ใช้ชีวิตจริงผ่านตัวหนังสือ เกมนี้ทำให้เราสามารถเลือกทุกช่วงของชีวิตเราได้ว่า เมื่อเจอกับเหตุการณ์หนึ่งแล้วเราจะตัดสินใจทำอย่างไรกับมัน เช่นถ้าเรารู้สึกเบื่องานก็สามารถลาออกไปหางานใหม่ได้ หรือมีคนเข้ามาทำความรู้จักกับเรา เราก็เลือกได้ว่าจะเลือกคบใครเป็นคู่ชีวิต เป็นต้น นอกจากเรื่องที่เราสามารถเลือกทางเดินชีวิตได้เองแล้ว ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของเกมนี้ก็คือ “อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะชีวิตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน” อย่างเช่น ถ้าเราสอบใบขับขี่ผ่านแล้วเราอาจขับรถออกไปโดนชนตายกลางถนนก็ได้ หรืออาจจะอยู่ไปถึงอายุ 99 ปีแล้วตายไปเองก็ได้ทั้งนั้น ว่าแล้วก็ลองไปดูตัวอย่างหน้าตา และระบบการเล่นของเกมกันซักเล็กน้อย การดำเนินชีวิตของเราในทุกย่างก้าวถูกบรรยายออกมาผ่านตัวอักษร พอเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ก็สามารถเลือกได้ว่าแท้จริงแล้วคุณชอบเพศไหน เมื่อเข้าสู่วัยทำงานแล้วรู้สึกเบื่อกับสิ่งที่ต้องทำ ก็ออกไปหางานใหม่กันเถอะ เก็บเงินจากการทำงาน มาเลือกซื้อบ้านให้เป็นของขวัญกับตัวเอง อยากจะทำอะไร อยากมีความสามารถในด้านไหน ก็จิ้มเลือกได้เลย ซื้อหวยมา ถูกรางวัลใหญ่ก็มีเงินให้ใช้กันไปเพลินๆ จุดจบของเกมก็คือความตายของคุณ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาคุณได้ทำอะไรไปบ้าง แม้ว่าเกมนี้จะยังไม่ได้ออกมาเผยแพร่อย่างเต็มรูปแบบ แต่หากใครอยากลองเล่นเกมนี้ดูก็สามารถเข้าไปโหลดได้ผ่านสมาร์ทโฟนของคุณเดี๋ยวนี้เลย โอ๊ะ!! ลืมบอกไปว่าเกมนี้มีแต่ใน Play Store ของระบบ…
-
ความยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองของ “Baiae” เมืองใต้น้ำยุคโรมันที่เคยมีอยู่จริงเมื่อ 1,700 ปีก่อน
Baiae คือชื่อเมืองโรมันที่มีอยู่มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 1 ตามประวัติศาสตร์แล้ว นี่คือเมืองที่ยิ่งใหญ่อลังการและมั่งคั่งไปด้วยเงินตรา เปรียบได้กับหมู่บ้านของเหล่าชนชั้นสูงในยุคนั้น ก่อนที่จะจมลงไปใต้ผิวน้ำเพราะการเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งและการระเบิดของแผ่นดินไหว จนกระทั่งผ่านมาประมาณ 1,700 ปีนับจากวันที่เมืองนี้หายไป ตำนานของมันก็ได้กลับมาถูกเล่าขานอีกครั้ง หลังจากที่มีการค้นพบเมืองแห่งนี้จมอยู่ใต้น้ำใกล้กับชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศอิตาลี . . . ภาพของเมืองโบราณที่ได้รับการค้นพบนี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Antonio Busiello ที่ได้ลงไปเก็บความสวยงามของมันพร้อมกับทีมนักประดาน้ำ พวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่นี้เป็นกลุ่มแรกๆ ข้างใต้นั้นจะพบกับเส้นทางถนน กำแพง กระเบื้องเคลือบ หรือแม้แต่รูปปั้นแกะสลัก ที่สามารถรอดจากช่วงเวลาของการล่มสลายมาได้ และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะพวกเขายังได้พบกับอาคารที่คาดว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของคนรวยในสมัยก่อน แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของคนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองนี้ ภาพแผนผังของเมืองที่เชื่อว่ามีอยู่ในยุคโรมัน รูปปั้นจำนวนมากที่ยังคงรูปร่างเอาไว้ . ซากของอาคารของคนร่ำรวยในสมัยก่อน ในต้นปี 2017 นี้ โปรเจกต์ Rome’s Sunken Secrets ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อการเข้ามาสำรวจและเรียนรู้เมืองดังกล่าวที่จมอยู่ใต้น้ำ เป็นการเปิดหูเปิดตาและเป็นที่สนใจของนักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ทั่วโลก ศาสตราจารย์ Kevin Dicus ได้ให้ข้อมูลเอาไว้ว่า มีการค้นพบสิ่งที่เหมือนกับท่อน้ำที่สลักคำว่า L’Pisonis แสดงให้เห็นว่าอาคารที่ใช้ท่อน้ำดังกล่าวเป็นบ้านของครอบครัวตระกูล Piso นั่นหมายความว่านี่เป็นบ้านของ…
-
ตำรวจโคตรฮีโร่ดึงรถตู้ด้วย ‘มือเปล่า’ เพื่อไม่ให้รถตกสะพานและช่วยชีวิตคนข้างในเอาไว้ได้!!
ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นฮีโร่ผู้เสียสละช่วยเหลือคนอื่นได้ ขึ้นอยู่กับว่าตัวเราจะแสดงสิ่งนั้นออกมาหรือไม่เท่านั้นเอง เช่นเดียวกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ที่ได้แสดงความเป็นฮีโร่ออกมาจนสามารถช่วยให้คนคนหนึ่งรอดพ้นจากความตายมาได้ ในวันที่ 2 ธันวาคม 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้รายงานข่าวของสุดยอดตำรวจที่ใช้แรงแขนของเขาดึงรถเอาไว้นานกว่า 15 นาที เพื่อไม่ให้รถคันนั้นตกลงไปจากสะพาน และช่วยให้คนขับที่ติดอยู่ด้านในรอดชีวิตมาได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่ง ใช้แรงแขนของตัวเองดึงรถเอาไว้ไม่ให้ตกลงไป นี่เป็นเรื่องราวของ Martin Willis ตำรวจทางหลวงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ออกลาดตระเวนในเส้นทางที่เขาได้รับมอบหมาย จนกระทั่งไปเห็นรถคันหนึ่งที่อยู่ในสภาพจะตกลงมาจากสะพานถนนสาย A1(M) ที่อยู่ใกล้ๆ กับเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ เขาจึงไม่รอช้ารีบเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะได้ยินเสียงคนขับรถบรรทุกที่เห็นเหตุการณ์ตะโกนบอกกับเขาว่า ในรถที่กำลังจะตกลงไปนั้นมีคนติดอยู่ด้านใน เมื่อได้ยินอย่างนั้น Martin จึงรีบเข้าไปดึงรถคันนั้นเอาไว้ในทันที เพื่อรักษาบาลานซ์เอาไว้ไม่ให้มันตกลงไปถนนด้านล่าง เพราะจากที่เขาดูแล้ว เชื่อว่าหากรถตกลงไป คนขับคงต้องตายอย่างแน่นอน เจ้าหน้าที่ Martin Willis ฮีโร่ของเหตุการณ์นี้ เขาได้ตะโกนคุยกับคนขับที่ติดอยู่ด้านในว่า “พวกเราจะพยายามเข้าไปช่วยคุณให้ได้ เพราะฉะนั้นอย่าขยับตัวเด็ดขาดเลย” และเขาก็ได้ยินเสียงคนขับตอบกลับมา เขาสูญเสียพละกำลังไปมากของไปกับการดึงรถค้างเอาไว้นานกว่า 15 นาที จนกระทั่งหน่วยกู้ภัย West Yorkshire ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ …
-
21 ภาพถ่ายบุคคลอันทรงพลัง สะท้อนถึงโลกที่ดำเนินไปในรูปแบบที่แตกต่างกัน
หนึ่งในรางวัลอันทรงคุณค่าของการเป็นช่างภาพคือรางวัลที่ชื่อว่า Taylor Wessing Photographic Portrait Prize และรางวัลดังกล่าวทำให้ในปี 2017 นี้มีช่างภาพกว่า 2,423 คนจาก 66 ประเทศทั่วโลก ได้ส่งภาพเข้าประกวดชิงรางวัลดังกล่าว ภาพที่เราจะได้เห็นต่อไปนี้คือภาพถ่ายบุคคลที่ได้รับรางวัลอันมีเกียรตินี้กลับไป และได้จัดแสดงใน National Portrait Gallery ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 แต่ละภาพสื่อได้ถึงอารมณ์และความแตกต่างของผู้คนจากต่างสถานที่ได้อย่างสวยงามและมีความหมาย เราลองไปดูทั้ง 21 ภาพกันเลย ภาพชนะเลิศอันดับ 1 จากฝีมือของช่างภาพชาวสเปน César Dezfuli ที่ได้ถ่ายผู้อพยพวัย 16 ปีในประเทศมาลี ทำให้เขาได้รับเงินรางวัลไปกว่า 650,000 บาท อันดับสองตกเป็นของช่างภาพ Abbie Trayler-Smith หนึ่งภาพในซีรีส์ภาพของเธอที่ชื่อว่า “Women in War: Life After ISIS” นี่คือภาพของ Erica หุ่นยนต์ที่ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Maija Tammi ในชุดภาพที่ชื่อ…
-
แบบนี้ก็มี… “โรงเรียนสอนให้เมียเชื่อฟังผัว” เปิดสอนในจีน สร้างค่านิยมกดขี่ผู้หญิง-โดนสั่งปิด!!
วัฒนธรรมการเหยียดเพศในประเทศจีนยังคงมีอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยความที่คนบางกลุ่มยึดติดกับการให้ผู้หญิงตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชาย และพวกเขาก็ถึงกับเปิดโรงเรียนขึ้นมาสอนเรื่องแบบนั้นเลยทีเดียว โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตฟุชุน มณฑลเหลียวหนิง ก่อตั้งเป็นโรงเรียนสอนวัฒนธรรมของจีน และเน้นไปในเรื่องของการให้ผู้หญิงยอมทำตามผู้ชายทุกอย่าง ไม่ว่าสามีของเธอจะบอกว่าอะไร พวกเธอตอบได้แค่ “ค่ะ” เท่านั้นและต้องลงมือทำทันที ในคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายระหว่างการเรียนการสอนภายในสถาบันแห่งนี้ เผยให้เห็นฉากหนึ่งที่ผู้สอนย้ำกับนักเรียนหญิงทุกคนในนั้นว่าการอยู่ร่วมกันกับสามีของพวกเธอคือ “จงพูดให้น้อย แต่ทำงานให้มากกว่าเดิม” นักเรียนทุกคนถูกบังคับให้ฝึกตื่นตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง เพื่อมาทำงานบ้าน ทำอาหารให้กับสามีและครอบครัว โดยจะมีครูฝึกคอยกำกับดูแลอยู่ข้างๆ คลิปการเรียนการสอนให้ผู้หญิงตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชาย ทุกคนถูกขัดเกลาด้วยความเชื่อหลายๆ อย่าง เช่นห้ามสู้กลับเวลาที่โดนสามีทุบตี การมีเซ็กซ์กับผู้ชายมากกว่า 3 คนในชีวิตจะทำให้พวกเธอตาย หรือแม้แต่การซื้ออาหารจากข้างนอกมาแทนการทำอาหารให้สามีตัวเองเป็นสิ่งที่ผิดหลักคุณธรรม นอกจากนั้นการเสพสื่อทางเพศก็นับเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์สำหรับพวกเธอ ในคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่คุกเข่าก้มลงกับพื้นเพื่อขอโทษที่เคยดูหนัง 20+ มาก่อน และบอกว่าเธอจะกลับบ้านไปลบให้หมด ซึ่งทุกคนในคลาสเรียนต่างเห็นด้วยและปรบมือให้กับสิ่งที่เธอทำ โรงเรียนแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2011 จนกระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม 2017 ทางการของจีนได้สั่งปิดสถาบันดังกล่าว เนื่องจากขัดกับนโยบายคำสอนปัจจุบันในเรื่องของ “หลักคุณค่าของคนในสังคม” เพราะการเรียนการสอนของที่นี่แสดงให้เห็นถึงการบังคับให้ผู้หญิงตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชายอย่างชัดเจน นับว่าเป็นการเหยียดเพศที่รุนแรงมาก วัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมาย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย…