น้องเหมียวกรามและขาผิดรูป ใช้ชีวิตที่เหลือกับสาวใจดี 3 ปีต่อมา สดใสขึ้นไปอีก…

บางครั้งช่วงเวลาที่ยากลำบากหรือไร้หนทางอาจทำให้เรารู้สึกท้อแท้และหมดกำลังใจที่จะก้าวเดินต่อไป แต่อย่าเพิ่งไปท้อถอยเพราะความหวังสามารถเกิดขึ้นมาได้เสมอ เหมือนอย่างเจ้าแมวตัวนี้

เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Buggy ได้รับการช่วยเหลือในปี 2014 จากกลุ่ม Cats Protection Belfast Adoption Center ในสหราชอาณาจักร เมื่อตอนที่อายุเพียงแค่ 8 สัปดาห์เท่านั้น

 

เจ้าเหมียว Buggy ที่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มอาสาสมัครผู้แสนใจดี

 

พี่น้องอีกสองตัวที่ได้รับการช่วยเหลือมาพร้อมๆ กัน

 

Claire Harper อาสาสมัครของกลุ่มเล่าว่า “มันมีขนาดตัวที่เล็กกว่าแมวทั่วๆ ไปในวัยเดียวกันมาก ในตอนนั้นมันป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร และไม่สามารถเดินได้ คอยแต่จะตีลังกาอยู่เสมอ ซึ่งเป็นอาการเดียวกันกับพี่น้องของมันอีกสองตัว แต่ Buggy มีอาการที่ร้ายแรงมากที่สุดแล้ว”

พวกมันเกิดมามีความผิดปกติทางโครโมโซม กรามของ Buggy คดเคี้ยวผิดรูปทำให้ไม่สามารถอ้าได้ตามปกติ และดวงตาใหญ่กว่าแมวทั่วไป

 

 

จนเมื่อ Claire ได้มาเจอกับเจ้า Buggy ตอนที่อายุได้ 3 เดือนแล้ว เธอก็ตกหลุมรักมันในทันที แต่ในตอนนั้นเจ้าเหมียวกำลังตกอยู่ในช่วงวิกฤต เพราะสัตวแพทย์ตรวจพบว่าข้อต่อทุกจุดของขาหลังมันผิดรูปร่างไปหมดเลย รวมถึงส่วนสะโพกด้วย จึงทำให้มันต้องเข้ารับการเอ็กซเรย์และผ่าตัดในที่สุด

วันเกิดปีแรกของเจ้าเหมียวจึงกลายเป็นการนอนรักษาตัวแทนที่จะได้ออกไปเล่นกับเพื่อน เพราะอาการของเข่าที่เสื่อมลงไปเรื่อยๆ และมีอาการเจ็บปวดที่รุนแรงอยู่เสมอ

 

 

ความน่ารักปนน่าสงสารของเจ้าเหมียวได้ทะลุเข้าไปอยู่ในใจของ Claire จนทำให้เธอต้องการที่จะรับเลี้ยงมัน แม้ว่ามันอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนก็ตาม

เธอบอกว่า “ถึงแม้ตอนนี้เจ้าเหมียวอาจมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่เดือน แต่ฉันต้องการให้ช่วงเวลาทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยความรักและความสุขที่ฉันพร้อมจะมอบให้”

ซึ่งในปีนั้นมันยังคงไม่สามารถถูกรับไปเลี้ยงได้ Claire จึงเดินทางไปเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสกับเจ้าเหมียวในสถานรับเลี้ยง คอยไปอยู่เป็นเพื่อนกับเจ้าเหมียวอยู่เสมอ

 

 

จนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2015 ในที่สุดเจ้าเหมียวก็ได้ย้ายเข้ามาในบ้านของเธอ บ้านที่จะเป็นของกันละกันตลอดไป แต่ถึงแม้เธอจะมอบความรักหรือดูแลมันมากขนาดไหน แต่อาการของขาเจ้าเหมียวก็ยังคงทรุดตัวลงเรื่อยๆ อยู่ดี

หญิงสาวพาเจ้าเหมียวไปหาสัตวแพทย์ทั่วเกาะไอร์แลนด์ แต่ทุกที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อาการของมันน่าเป็นห่วงอย่างมากและคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน

Claire รู้สึกสะเทือนใจอย่างมากเมื่อได้ยินคำพูดจากสัตวแพทย์ทุกคน ตอนที่เธออยู่ในร้านสัตว์เลี้ยง เธอไม่รู้เลยว่าควรจะซื้ออาหารอะไรไปให้มันดี เพราะในอีกสองเดือนข้างหน้า เจ้าเหมียวอาจจะไม่ได้อยู่บ้างมันอีกต่อไปแล้ว

 

.

 

แต่ความหวังของเธอและเจ้าเหมียวก็ถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเธอคิดไปถึงสัตวแพทย์คนหนึ่งที่ชื่อว่า Noel Fitzpatrick ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดศัลยกรรมกระดูกและระบบประสาท ซึ่งสามารถช่วยเหลือสัตว์มากมายให้รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์

เมื่อคิดได้อย่างนั้น หญิงสาวจึงพามันเดินทางไกลใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมง เพื่อพาเจ้าเหมียวไปพบสัตวแพทย์คนนั้นในเมือง Cairnryan ประเทศสกอตแลนด์

 

 

หลังจากที่คุณหมอ Noel ได้ตรวจอาการของเจ้าเหมียวเป็นที่เรียบร้อย เขาก็บอกกับ Claire ว่าอาการของเจ้าเหมียวสามารถรักษาให้หายได้ นับว่าเป็นข่าวดีที่สุดในชีวิตของหญิงสาวเลย

การผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตเจ้าเหมียวเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2015 โดยคุณหมอได้ทำให้ร่องเข่าของมันลึกลงไปมากกว่าเดิม และเชื่อมกระดูกส่วนที่สึกหรอเข้าด้วยกัน ทำให้มันสามารถกลับมาเดินได้ ไม่ต้องตีลังกากลับหลังอีกต่อไป

 

 

เจ้าเหมียวยังรู้สึกกลัวอยู่บ้างภายหลังการผ่าตัด ในเดือนถัดมาคุณหมอจึงถอดเหล็กที่ฝังดามเอาไว้และเริ่มให้มันทำท่าบริหารต่างๆ เหมือนเป็นการกายภาพบำบัด

นอกจากการรักษาในครั้งนี้จะช่วยให้เจ้าเหมียวมีชีวิตอยู่ต่อไปได้แล้ว สิ่งนี้ยังช่วยให้มันสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ราวกับแมวทั่วๆ ไปอีกด้วย ทำให้ปัจจุบันมันสามารถออกไปวิ่งเล่น โดดขึ้นต้นไม้ หรือจะออกไปเที่ยวเล่นกับแมวตัวอื่นๆ บ้างก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

ตอนนี้ Claire เลี้ยงเจ้าเหมียวมาได้ 3 ปี เธอบอกเลยว่า “Buggy คือเพื่อนแท้ของฉันและทำให้ฉันสามารถผ่านพ้นสิ่งเลวร้ายหรือความยากลำบากในชีวิตมาได้ มันช่วยให้ฉันเข้าใจได้ว่า ตัวฉันเองแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้อยู่เสมอ”

 

.

.

 

ในวันคริสต์มาสปี 2017 นี้ เจ้าเหมียวก็ไม่ต้องนอนซมในสถานรับเลี้ยงดูอีกต่อไปแล้ว เพราะมันมีบ้านที่เต็มไปด้วยความรัก ความอบอุ่น มี Claire ที่คอยอยู่เคียงข้างมันเสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็ทำให้มันสามารถมีชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุขมากเกินพอแล้วล่ะ

 

ที่มา: lovemeow

Comments

Leave a Reply