ชีวิตในหมู่บ้านอุณหภูมิ -60 องศาฯ ความหนาวเหน็บนี้กระทบชีวิตชาวบ้านมากแค่ไหน?

ตอนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว หลายๆ คนอาจบ่นว่าบ้านเราไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ ซึ่งหากใครชอบอากาศแบบหนาวเย็นแล้วล่ะก็ ลองมาทำความรู้จักกับหมู่บ้าน Verkhoyansk ทางตะวันออกของรัสเซีย ในฤดูหนาวของที่นี่มีอุณหภูมิติดลบกว่า 60 องศาเลยทีเดียว

ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพ Brice Portolano ผู้เข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของ Ayal เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้กับแม่ของเขา รอวันที่จะย้ายไปเรียนในเมือง Yakutsk ที่ห่างออกไปกว่า 600 กิโลเมตร ตามรอยพี่ๆ อีก 4 คนของเขา

 

Ayal เด็กหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้

.

.

 

พ่อกับแม่ของเด็กหนุ่มหย่ากัน จึงทำให้เขาอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังในหมู่บ้านที่ได้รับการบันทึกกินเนสเวิลด์เรคคอร์ดว่า เป็นดินแดนที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันมากที่สุดในโลก โดยช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะติดลบที่ 67.8 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูร้อนอุณหภูมิจะเพิ่มสูงถึง 37.3 องศา

ความหนาวจัดเย็นจัดของที่แห่งนี้ ทำให้การใช้ชีวิตของชาวบ้านแตกต่างออกไปจากพื้นที่อื่นๆ บนโลก น้ำที่พวกเขาใช้จะต้องไปตัดเอาน้ำแข็งจากในลำธารมาวางไว้หน้าบ้าน เมื่อไหร่ที่อยากจะใช้ก็แค่ยกมาละลายในบ้าน

ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็มีน้ำประปาเหมือนกัน เพียงแต่น้ำจะมีอุณหภูมิสูงมากเพื่อป้องกันไม่ให้ท่อระเบิด และไม่สามารถนำน้ำนั้นมาดื่มกินได้

 

Stroganina ปลาแช่แข็งเหยาะเกลือกับพริก อาหารขึ้นชื่อของที่นี่

.

.

 

แบตเตอรี่หลายๆ อย่างสามารถใช้ได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น หมึกปากกาเมื่อเจอความเย็นก็แข็งจนไม่สามารถเขียนได้ และการสวมแว่นตากรอบโลหะถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก

ชาวบ้านต้องติดเครื่องรถยนต์ทิ้งเอาไว้จนถึงฤดูใบไม้ผลิ เพราะกลัวว่าอาจจะสตาร์ทไม่ติดขึ้นมา และนอกจากคนผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังมีม้าและสุนัขอาศัยอยู่ด้วย โดยจะมีขนที่หนาบวกกับชั้นไขมันที่สะสมเอาไว้ เพื่อช่วยให้มันสามารถอยู่รอดได้ในอากาศที่หนาวเหน็บ

 

.

.

 

ปัจจุบันมีผู้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียงแค่ 1,131 คน ลดลงไปกว่าครึ่งจากที่เคยมีเมื่อ 15 ปีก่อน เพราะวัยรุ่นส่วนใหญ่เลือกที่จะไปเรียนในเมืองมากกว่า ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็ตาม

การเดินทางเข้าเมืองเป็นสิ่งที่ Ayal ตั้งใจว่าจะทำเช่นเดียวกัน ระหว่างที่เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เขามักจะเล่นวิดีโอเกมกับเพื่อนบ้านวัยใกล้กัน ซึ่งเกมเหล่านี้เป็นสิ่งที่พี่ๆ ของเขาส่งมาให้

บางครั้งเขาชอบไปสำรวจตามอาคารร้างที่มีอยู่เต็มหมู่บ้านไปหมด เด็กหนุ่มคนนี้ตั้งใจว่า พอโตขึ้นเขาจะเป็นนักแสดงหรือนักเขียนให้ได้

 

ม้าของที่นี่จะตัวเล็ก แต่แข็งแรง ไม่ค่อยเชื่อง ส่วนใหญ่เลี้ยงไว้เป็นอาหาร

.

.

 

พี่ๆ ทุกคนจะกลับมาปีละแค่ 1 ครั้งในช่วงครีษมายัน ซึ่งตั๋วเครื่องบินที่จะตรงมาที่นี่มีราคาแพงอย่างมาก อาจจะมีราคาหลายหมื่นบาทสำหรับตั๋วไป-กลับ เพราะเส้นทางที่อันตรายบนสภาพอากาศอันเลวร้ายและมีเครื่องบินตกมาแล้วถึง 6 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2003

 

.

.

 

หากใครอยากหนาวสมใจอยากก็คงต้องเก็บเงิน แล้ววางแผนการเดินทางได้เลย รับรองว่าหนาวสะใจซะยิ่งกว่าไปอยู่บนดอยอินทนนท์อย่างแน่นอน

ที่มา: bbc

Comments

Leave a Reply