การตอกกลับของเหล่าผู้คนจากกลุ่มประเทศ ที่ผู้นำแห่งสหรัฐเรียกว่า ‘ประเทศหลุมขรี้’

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีคำพูดที่กลายเป็นกระแสในชั่วข้ามคืน จากคำพูดของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump ที่พูดเอาไว้ในการประชุมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องแรงงานข้ามชาติ โดยเขาใช้คำเรียกแทนกลุ่มแรงงานอพยพจากเฮติ เอลซัลวาดอร์ และประเทศแถบแอฟริกันว่าเป็น “กลุ่มประเทศหลุมขรี้” (Shithole)

คำพูดจากปากของผู้นำประเทศมหาอำนาจ ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือแม้แต่ในหลายๆ ประเทศ มองว่ามันแสดงให้เห็นถึง การเหยียดเชื้อชาติในเชิงส่อเสียดที่รุนแรงอย่างแท้จริง

 

 

เหล่าผู้คนที่ถูกสบประมาทก็ไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ พวกเขาจึงตอกกลับด้วยการออกมาพูดถึงความสำเร็จและคุณค่าความหมายในชีวิต เพื่อเป็นการตอบกลับไปว่าความเป็นจริงไม่ได้เหมือนอย่างที่ถูกกล่าวหาเสมอไป และนี่ก็คือโพสต์ต่างๆ ที่มีในโลกโซเชียลจากผู้คนเหล่านั้น

 

นักศึกษาแพทย์จากซูดานใต้ ที่สามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา และมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์

 

ชายหนุ่มจากแอฟริกาใต้ ผู้เรียนจบทางด้านวารสารศาสตร์ สามารถพูดได้ถึง 6 ภาษา และเขาจะก้าวสู่การเป็นบรรณาธิการข่าวในอนาคต

 

นักศึกษาแพทย์ชาวไนจีเรีย ที่มีปริญญาถึง 3 ใบ และยังจะได้เพิ่มอีก 2 ใบ มีความสามารถพูดได้ 3 ภาษา และเป็นคนที่คอยช่วยเหลือมูลนิธิต่างๆ ด้วยจำนวนเงินกว่า 300,000 บาท

 

ลูกครึ่งแอฟริกาที่ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ คอยช่วยเหลือ ดูแล และปลอบประโลมผู้คนจำนวนมาก

 

ชายที่จะกลายเป็นบุรุษพยาบาลในอนาคต นักศึกษาระดับเกียรตินิยมที่พูดได้ 2 ภาษา

 

หญิงสาวจากซูดานใต้คนนี้ได้รับการรับรองว่า มีความเชี่ยวชาญในการสนับสนุนในเรื่องของสุขภาพจิต และเป็นประธานกลุ่มที่คอยผลักดันเหล่าเยาวชนทั้งหลายให้เดินไปตามเส้นทางที่เหมาะสม

 

สาวจากซูดานใต้ที่เข้ามาอาศัยในสหรัฐอเมริกา และเป็นคนแรกของครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในการเรียน เธอสามารถพูดได้หลายภาษา และเชื่อว่าเธอจะกลายเป็นผู้ประกาศข่าวที่ดีได้ในอนาคต

 

หญิงสาวจากซูดานใต้ที่เป็นทั้งนักพูด นักข่าว เป็นที่รู้จักในมหาวิทยาลัยแห่งรัฐไอโอวา และเธอคือสมาชิกของกลุ่มรัฐสภาเยาวชนชาวซูดาน

 

หญิงสาวผู้เติบโตในค่ายอพยพ เธอเคยขึ้นพูดในการประชุมแห่งสหประชาชาติ และเป็นผู้ที่คอยผลักดันเกี่ยวกับความยุติธรรมในสังคม

 

สาวชาวซูดานที่ถึงแม้เธอจะเป็นเพียงนักศึกษา แต่เธอก็ทำสิ่งต่างๆ ให้กับสถาบันมาโดยตลอด และเธอคือตัวแทนที่ทำให้หลายๆ คนเข้าใจถึงเรื่องของความแตกต่าง

 

หนุ่มชาวไนจีเรีย ผู้ที่จะกลายเป็นแพทย์ในอนาคต และตอนนี้เขายังเป็นนักกีฬาบาสอาชีพอีกด้วย

 

สาวชาวซูดานใต้ ผู้ยึดถือในเรื่องของหลักมนุษยธรรม และจะก้าวสู่การประกอบอาชีพทางการแพทย์ในอนาคต

 

สาวลูกครึ่งไนจีเรีย-เคนย่าคนนี้ คือนักศึกษาระดับเกียรตินิยม ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.8 เป็นผู้ช่วยงานวิจัยในหลายๆ ครั้ง และในวันข้างหน้าเธอจะกลายเป็นนักจิตวิทยา

 

หญิงสาวที่อพยพมาจากเฮติ และมาประกอบอาชีพเป็นนักเขียนอิสระ

 

หนุ่มวิศวกรรมโยธาชาวเฮติ เขาคืออาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีผลงานการวิจัยถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร และเขายังคอยช่วยสอนหนังสือให้กับหลานๆ ที่บ้านอีกด้วย

 

สาวไนจีเรียคนนี้เป็นทั้งนักพูด นักเต้น นักร้อง นักเขียน และในอนาคตเธอจะกลายเป็นนักประสาทวิทยา

 

สาวชาวซูดานที่เป็นหนึ่งในคนที่ย้ายเข้ามาอยู่ในอเมริกาเป็นกลุ่มแรก เธอคือผู้สร้างสรรค์เนื้อหา และกำลังจะได้ดำเนินรายการของตัวเองในอนาคต

 

หญิงสาวที่ช่วยสนับสนุนในเรื่องของการศึกษา และจากความรู้ที่เรียนเกี่ยวกับการให้คำปรึกษา จะทำให้เธอกลายเป็นที่ปรึกษาที่ดีของเด็กๆ ได้

 

สาวชาวซูดานใต้ ผู้ได้รับปริญญาตรี 2 ใบ ในระยะเวลา 3 ปี ตอนที่เธออายุ 21 ปี และจะเป็นอัยการในอนาคต

 

สาวชาวเฮติที่จะเป็นนักกฎหมายหลังจากจบการศึกษา เธอได้เข้าร่วมหลายๆ โครงกายเพื่อช่วยเหลือสังคม

 

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ทุกคนอาจจะไม่ได้เกิดมาจากประเทศเดียวกัน หรือมีสีผิวเดียวกัน แต่ทุกคนก็คือมนุษย์ที่สามารถเรียนรู้ พัฒนา ก้าวหน้า และประสบความสำเร็จได้เหมือนๆ กัน

 

ที่มา: boredpanda

Comments

Leave a Reply