Author:

  • ประเทศเนเธอร์แลนด์ เตรียมฝึก ‘อีกา’ คาบบุหรี่ เพื่อแก้ปัญหาก้นบุหรี่เกลื่อนเมือง

    ประเทศเนเธอร์แลนด์ เตรียมฝึก ‘อีกา’ คาบบุหรี่ เพื่อแก้ปัญหาก้นบุหรี่เกลื่อนเมือง

    สิงห์อมควันบางคนเวลาที่สูบบุหรี่เสร็จแล้วก็ทิ้งก้นลงบนพื้นจนเป็นความเคยชิน จนทำให้มองไปทางไหนก็จะมีแต่ก้นบุหรี่เกลื่อนพื้นเต็มไปหมดเช่นเดียวกับเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่พวกเขาได้หาแนวทางการแก้ปัญหานี้เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้นักออกแบบ Ruben van der Vleuten และ Bob Spikman ได้คิดค้นหุ่นยนต์เก็บก้นบุหรี่ออกมาให้ได้เห็น แต่สุดท้ายโปรเจคท์นี้ก็ต้องสลายไปเพราะไม่สามารถตั้งโปรแกรมให้มันหลบคนเดินผ่านไปมาได้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ยอมและได้ไอเดียใหม่ออกมาโดยการใช้สัตว์ที่เราเห็นได้ทั่วไปในเมืองอย่างนกกระจอกหรือนกพิราบ แต่พวกมันก็ติดที่มีสติปัญญาที่น้อยทำให้ฝึกยาก จนกระทั่งเขาไปเจอกับสัตว์ปีกชนิดหนึ่งที่มีความฉลาดเอามากๆ นั่นก็คือ อีกา     อีกาถูกจัดว่าอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่มีความฉลาดมากที่สุดในโลก พวกมันสามารถเรียนรู้จากการสังเกตหรือวางแผนใช้เครื่องมือได้และยังสามารถพบเห็นได้ทั่วไปอีกต่างหาก ดังนั้นมันจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับงานนี้ นอกจากนั้นตัวช่วยของพวกเขาที่ทำให้แผนออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดก็คือเครื่องมือที่มีชื่อว่า Crow Box จากความคิดของ Joshua Klein เป็นอุปกรณ์ที่มีไว้ฝึกอีกาให้ไปคาบเงินมาแลกกับอาหาร เพราะฉะนั้นเพียงแค่เปลี่ยนจากเงินให้กลายเป็นก้นบุหรี่แทนเท่านี้ก็เรียบร้อย     จากนั้นทั้งสามก็ได้เริ่มฝึกอีกาไปตาม 4 ขั้นตอนที่ Joshua ได้คิดเอาไว้ ขั้นตอนแรกคือทำให้พวกมันเห็นว่ามีอาหารและก้นบุหรี่วางอยู่บนถาดในเครื่องมือเพื่อให้มันจดจำความเชื่อมโยงของทั้งสองสิ่ง ขั้นตอนต่อมาคือปล่อยอาหารลงมาจากเครื่องทุกครั้งที่อีกาบินกลับมาเพื่อให้มันรู้ว่าอุปกรณ์นี้เอาอาหารมาให้มันได้ ขั้นตอนที่สามคือวางก้นบุหรี่ทิ้งไว้บนถาดเครื่องมือเพียงอย่างเดียว เมื่อพวกมันไม่เห็นว่ามีอาหารอยู่มันก็จะเริ่มโวยวายก่อนที่จะดันก้นบุหรี่ลงไปในเครื่องทำให้อาหารหล่นลงมาและพวกมันก็จะเริ่มเข้าใจได้ ขั้นตอนสุดท้ายจะให้คนมายืนสูบและทิ้งก้นบุหรี่เอาไว้ใกล้ๆ กับเครื่องมือ เหล่าอีกาทั้งหลายที่ผ่านการเรียนรู้มาทั้งหมดก็จะมาหยิบก้นบุหรี่มาแลกอาหารด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าผ่านขั้นตอนนี้ไปได้พวกมันก็พร้อมออกไปเก็บก้นบุหรี่จากด้านนอกกลับมาได้แล้ว     ถึงแม้ว่าทุกอย่างดูเหมือนจะพร้อมใช้งานได้จริงแต่ก็มีคำถามที่ว่าแล้วการให้อีกาไปคาบก้นบุหรี่จะไม่ส่งผลเสียกับสุขภาพของพวกมันหรือ? คำถามนั้นผู้คิดค้นได้ให้คำตอบไว้ว่า “อีกาจะคาบแค่ส่วนปลายๆ ทำให้มีโอกาสเกิดผลกระทบน้อยที่สุดรวมถึงการควบคุมจำนวนอีกาในแต่ละจุดที่จะนำเครื่องมือไปตั้งไว้ให้มีจำนวนไม่มาก ยิ่งไปกว่านั้นพวกผมจะยังคงศึกษาเรื่องผลกระทบกันต่อไปเพราะหากพบผลเสียที่เกิดขึ้นกับพวกมัน เราจะเปลี่ยนวิธีทันที”…

  • 14 เทคนิคการเอาตัวรอดและ ‘ป้องกันตัว’ ที่อาจช่วยให้คุณรอดชีวิตได้ในยามคับขัน!!

    14 เทคนิคการเอาตัวรอดและ ‘ป้องกันตัว’ ที่อาจช่วยให้คุณรอดชีวิตได้ในยามคับขัน!!

    อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยที่เราไม่สามารถรู้ตัวได้ว่าจะถูกคนอื่นเข้ามาจู่โจมเมื่อไหร่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นที่สำคัญก็คือการป้องกันตัวเองจากอันตรายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้เราสามารถยื้อชีวิตและทรัพย์สินเอาไว้ให้อยู่กับเราไปนานๆ และนี่ก็คือ 14 เทคนิคที่ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเพื่อช่วยให้ป้องกันตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม   กำหมัดให้ถูกวิธี   อย่าปล่อยให้นิ้วโป้งโผล่ออกมาด้านข้างและอย่าไปซ่อนมันเอาไว้ข้างในเพราะมันอาจทำให้กระดูกหัวแม่มือแตกได้ ดังนั้นให้กดมันลงไประหว่างนิ้วอื่นตามในภาพ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและดีกว่าการตบหลายเท่าตัวเลย   วิธีการแก้ปัญหาเวลาถูกมัดด้วยเชือก   สิ่งสำคัญคือต้องพยายามสร้างช่องว่างระหว่างร่างกายกับเชือก ถ้าถูกมัดข้อมือเอาไว้ก็จงกำหมัดให้แน่นหรือถ้าถูกมัดร่างกายเอาไว้ก็พยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้กะบังลมขยายตัว เพราะมันจะยิ่งทำให้เชือกมีการคลายตัวออกมากขึ้นจนเพิ่มโอกาสหนีของคุณได้   วิธีการแก้ปัญหาเวลาถูกมัดด้วยเทปกาว   ให้ยกมือขึ้นไว้เหนือศีรษะก่อนที่จะกระชากลงมาแรงๆ เพียงเท่านั้นก็จะสามารถหลุดออกมาได้และยังสามารถใช้วิธีการเดียวกันเวลาที่ถูกมัดจากด้านหลังได้อีกด้วย   จดจำจุดตายเอาไว้   ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาโจมตีมักจะมีพละกำลังมากกว่าเราดังนั้นให้จดจำจุดสำคัญเอาไว้จากนั้นโจมตีเข้าไปแรงๆ และแม่นยำในครั้งเดียว แต่ต้องต่อยเข้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ศัตรูรู้ตัวและป้องกันได้   ใช้แอพช่วยเรื่องความปลอดภัย   ปัจจุบันเชื่อว่าทุกคนต้องมีสมาร์ทโฟนฉะนั้นการโหลดแอพเช่น Family Locator หรือ bSafe ก็สามารถช่วยเราได้เพื่อให้คนรอบข้างรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนรวมถึงสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปให้พวกเขาได้   คิดโค้ดลับขึ้นมา   แน่นอนว่าเรื่องเล็กๆ แบบนี้สามารถช่วยคุณได้เยอะมากอย่างเวลาที่คนร้ายบังคับให้คุณบอกว่าไม่เป็นอะไร คุณก็อาจจะมีโค้ดลับบางอย่างเช่น “ฉันไม่เป็นอะไร” แปลว่า “ฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย” เท่านี้คนใกล้ตัวก็จะสามารถเข้ามาช่วยได้ทัน หรืออยากให้เหนือกว่านั้นก็อาจมีโค้ดลับที่บอกสถานที่ที่คุณอยู่ก็ได้   ใช้สิ่งที่มีติดตัวให้เป็นประโยชน์   อย่างกระเป๋าหรือกระเป๋าเงินที่ใช้แทนโล่ได้แต่ต้องอย่าเอามาบังใกล้ตัวเดี๋ยวมีดแทงทะลุ หรือของอื่นๆ…

  • 20 คุณปู่คุณตาวัยเก๋าที่จะทำให้คุณรู้ว่าแก่แล้วก็ยังเฟี้ยวได้ ชิดซ้ายไปเลยไอ้หนุ่ม!!

    20 คุณปู่คุณตาวัยเก๋าที่จะทำให้คุณรู้ว่าแก่แล้วก็ยังเฟี้ยวได้ ชิดซ้ายไปเลยไอ้หนุ่ม!!

    แต่ละช่วงวัยก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันตอนเราเป็นวัยรุ่นเราก็จะมีความเฟี้ยวหรือความบ้าระห่ำที่มากกว่าวัยอื่น ส่วนวัยสูงอายุก็จะดูนิ่งๆ รักสงบ แต่ถ้าหากว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปละ ลองคิดดูว่าถ้าหากคุณปู่อายุ 90 ใส่ขาม้าแล้วออกมาเต้นสามช่ามันจะเจ๋งขนาดไหน เราจึงมาพาทุกคนไปดู 20 คุณปู๋สุดเก๋าที่อายุขนาดไหนก็ไม่สามารถทำอะไรความคูลของพวกแกได้เลยจริงๆ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยยย   แบทแมนขอลงไปตรวจตราเมือง Gotham ก่อนนะ   ทำขนาดนี้แล้วจะมีที่นั่งสำหรับคนชราไว้ทำไมละเนี่ย   เมื่อคุณปู่เล่นเฟซบุ๊กครั้งแรกแล้วเซลฟี่หน้าตัวเองเป็นรูปโปรไฟล์   ธีมงานแต่งแบบย้อนยุค คุณปู่ขอจัดเต็ม   1 สัปดาห์ก่อนที่คุณปู่จะจากโลกนี้ไป พร้อมกับเบียร์ขวดสุดท้าย   คุณปู่ก็ชอบคอสเพลย์นะ แต่งเป็นเจ้าหญิง Leia ในสตาร์วอร์สเหมื๊อนนนเหมือน   บ้านพักคนชรากับฮาเร็มของคุณปู่   เป็นการฉลองวันเกิดอายุครบ 95 ปีที่เฟี้ยวฟ้าวจริงๆ   ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกับแผงควบคุมของเขา   หลานก็ไม่น่าไปบังคับให้ปู่มาเรียนเลยยย   ไอแอมแบทแมน ผู้ซ่อนตัวอยู่ในเงามืด   กลัวอะไรกัน เป็นอะไรกันไปหมดน่ะห๊ะ?!   คิดว่าแบรดพิทตอนชราเลยนะเนี่ย   อย่ามาซ่าเดี๋ยวป๋าก็ฟันขาดเป็นสองท่อนหรอก   จะรับไก่กรอบหรือไก่หนุ่มดีละครับ?   ถ้ามันเอนล้มลงมาก็คงไม่ต้องถามเลยว่าเจ็บมั้ย…

  • พิธี Quinceañera ของชาวเม็กซิกัน แม้จะเป็นชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ แต่ก็เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่

    พิธี Quinceañera ของชาวเม็กซิกัน แม้จะเป็นชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ แต่ก็เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่

    พิธี Quinceañera ซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวละตินอเมริกันที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับการก้าวข้ามจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ของสาวๆ ที่มีอายุครบ 15 ปี งานดังกล่าวนี้จะต้องถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และอลังการ แน่นอนว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่มากพอสมควร ถึงอย่างนั้นแทบทุกครอบครัวก็ยังคงเลือกที่จะจัดงานดังกล่าวขึ้นมาอยู่ดี วันนี้ #เหมียวตะปู จึงมาชวนเพื่อนทุกคนไปดูบรรยากาศภายในงานของชาวเม็กซิกัน ในนครนิวยอร์ก งานเฉลิมฉลองนี้เป็นอย่างไรไปดูกันเลยยย   ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพที่ชื่อ Cinthya Santos Briones   หญิงสาวอายุ 15 ต้องเลือกชุดที่เหมือนกับเจ้าหญิงเพื่อใช้ในพิธี   แน่นอนว่าชุดเหล่านี้ย่อมมีราคาที่ค่อนข้างแพง แต่พ่อแม่ของพวกเธอก็ยอมที่จะสละเงินที่มีด้วยความเต็มใจ .   พ่อแม่จะเข้ามาอวยพรเพื่อให้สาวๆ ได้โตขึ้นไปเป็นผู้หญิงที่ดี   การแต่งกายที่ดูโดดเด่นเป็นอย่างมากเหมือนกับการไปเข้าพิธีแต่งงาน   ในงานครั้งนี้จะต้องฟุ่มเฟือยไปกับการเช่ารถลีมูซีน เช่าสถานที่หรืออาหารจัดเลี้ยง   แต่ทุกครอบครัวยินดีที่จะช่วยให้พวกเธอได้สวยที่สุดในพิธีกรรมครั้งนี้   ในช่วงแรกจะเป็นเรื่องของการเข้าพิธีกรรมกับคนในครอบครัว   แค่ช่วงพิธีการก็เห็นได้ถึงความอลังการแล้ว   หลังจากนั้นก็จะเป็นการเฉลิมฉลองที่มีผู้มาร่วมงานมากมาย   ซุ้มดอกไม้ที่เหมือนกับงานแต่งบ้านเราชัดๆ   การสร้างฉากหลังเอาไว้ในบ้านให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก   เค้กแต่งงานที่จะต้องไม่ซ้ำใคร   ในการฉลองจะมีการเต้นรำที่ให้พวกเธอได้จับคู่กับนักเต้นมืออาชีพ   ในวันนั้นสาวๆ เหล่านี้เปรียบได้กับเจ้าหญิงในเทพนิยาย   แขกมากหน้าหลายตาที่มาร่วมแสดงความยินดี .…

  • คุณหมอโต้คนไข้รุนแรง ‘ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้’ เพราะคนไข้ทนรอคิวที่นานเป็นชั่วโมงไม่ไหว

    คุณหมอโต้คนไข้รุนแรง ‘ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้’ เพราะคนไข้ทนรอคิวที่นานเป็นชั่วโมงไม่ไหว

    ความไม่พอใจของคนสองคนสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายสถานการณ์และบางครั้งมันอาจบานปลายจนถึงกับแสดงความก้าวร้าวออกมา เมื่อ Jessica Stipe ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในคลินิก Gainesville After Hours เธอรู้สึกไม่สบายหนักกว่าเดิมเพราะต้องรออยู่เป็นเวลานานจนทำให้เธอเลือกที่จะขอค่าใช้จ่ายที่เสียไปคืน สิ่งนั้นจึงทำให้นายแพทย์ Peter Gallogly รู้สึกไม่พอใจและออกมาต่อว่ารวมถึงไล่เธอออกไปด้วยว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!!”     คลิปคุณหมอไล่คนไข้ให้ออกไป   เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่คลินิก Gainesville After Hours เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา เธอบอกว่าตอนแรกคุณหมอรายนี้นัดเธอไว้ตอน 18.30 แต่เมื่อถึงเวลา 19.45 เธอก็ยังคงไม่ได้รับการตรวจรักษาใดๆ จนทำให้เธอรู้สึกป่วยหนักกว่าเดิม และในตอนที่เธอขอกำลังขอเงินค่ารักษาคืนคุณหมอหนุ่มคนนี้ก็ออกมาบอกเธอว่า “พวกผมกำลังตรวจตัวอย่างปัสสาวะของคุณอยู่รู้บ้างมั้ย”   .   เธอจึงอธิบายว่าเธอไม่รู้ว่ามันต้องรอนานขนาดไหน ก่อนที่เขาจะตะคอกถามเธอว่า “นี่คุณต้องการเข้าพบหมอหรือไม่” จึงตอบกลับไปว่าเธอต้องการที่จะกลับไปนอนอยู่บนเตียงที่บ้านแล้ว เขาจึงตะคอกกลับมาอีกว่า “โอเค งั้นก็หยิบเงินของคุณและไสหัวออกไปได้แล้ว” และย้ำอย่างรุนแรงกว่าเดิมว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!!”     ระหว่างที่กำลังจะออกไปจากคลินิกลูกสาวของเธอที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้ชี้กล้องไปที่คุณหมอคนนั้นและถามว่าเขาชื่ออะไร เขาเลือกที่จะไม่ตอบและกระชากเอามือถือที่ถ่ายอยู่ไป ถึงอย่างไรคลิปที่ถ่ายไว้ก็ได้ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัวของเธอจนเกิดเป็นกระแสและมีการแชร์ออกไปมากถึง 2,300 ครั้ง ลูกสาวของเธอบอกเอาไว้ในโพสต์ว่า “ฉันไม่ต้องการให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นอีก” นอกจากนั้นตำรวจในเมือง Gainesville…

  • เด็กหนุ่มวัย 13 ปีสร้างบ้านหลังเล็กๆ ได้ด้วยตัวเอง ใช้งบไป 45,000 บาท แต่น่าอยู่โพดดด!!

    เด็กหนุ่มวัย 13 ปีสร้างบ้านหลังเล็กๆ ได้ด้วยตัวเอง ใช้งบไป 45,000 บาท แต่น่าอยู่โพดดด!!

    สำหรับเด็กวัย 13 ปีส่วนใหญ่ก็คงกำลังสนุกสนานอยู่กับเพื่อนๆ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านหรือเหน็ดเหนื่อยกับการเรียน แต่สำหรับ Luke กลับแตกต่างออกไป วันหนึ่งที่เขากำลังรู้สึกเบื่อในฤดูร้อนก็ได้เกิดไอเดียหนึ่งขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาว่างไปกับการสร้างบ้านเป็นของตัวเอง!!   เด็กชายวัย 13 ปีที่สร้างบ้านด้วยตัวเอง!!   เด็กชายเริ่มที่จะเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ การขึ้นโครงบ้านหรือแม้แต่การโยงสายไฟซึ่งเขาเป็นเขาทำเองเกือบทุกอย่าง รวมถึงการตัดสินใจในเรื่องของเงินที่ต้องใช้ ค่าใช้จ่ายที่ใช้มาจากการทำงานพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ที่พอสามารถทำได้อย่างเช่นการตัดหญ้าภายในสวน หรืองานทั่วๆ ไป นอกจากนั้นเขาก็ยังหาวัสดุต่างๆ จากสิ่งของที่คนในครอบครัวไม่ใช่แล้วมาช่วยลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย   เขาทำแทบทุกอย่างในการสร้างมันขึ้นมาด้วยความพยายาม   รับงานพิเศษต่างๆ เพื่อให้มีงบประมาณในการลงทุนครั้งนี้   ความพยายามอย่างหนักเกือบ 1 ปีทำให้บ้านที่เขาสร้างเองกับมือในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์พร้อมให้เข้าไปอยู่ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้เงินไปเพียงแค่ราวๆ 45,000 บาทเท่านั้นเอง   บ้านหลังเล็กๆ ในพื้นที่ประมาณ 8 ตารางเมตรตามที่เขาต้องการ   แม้ตอนนี้จะเล็กไปบ้างและยังขาดระบบประปา แต่เขาก็ตั้งใจเก็บเงินต่อไปเพื่อในอนาคตจะได้ขยายต่อเติม หรือสร้างรถบ้านเป็นของตัวเองซะเลย   สำคัญที่สุดก็คือเขารู้สึกขอบคุณพ่อของเขามากที่คอยสอนและช่วยเหลือเขาในหลายๆ เรื่อง “ถึงแม้ว่าคุณพ่อจะยุ่งอยู่กับงานแต่ก็พยายามหาเวลามาช่วยผมอยู่เสมอ” เขากล่าว   คุณพ่อผู้ที่เป็นเบื้องหลังในความสำเร็จของลูก   ลักษณะภายในและภายนอกของบ้านหลังนี้…

  • เรื่องราวของสองพี่น้องบ้านเดียวกัน แต่กลับต้องแข่งฮอกกี้ในโอลิมปิกฤดูหนาวให้คนละประเทศ

    เรื่องราวของสองพี่น้องบ้านเดียวกัน แต่กลับต้องแข่งฮอกกี้ในโอลิมปิกฤดูหนาวให้คนละประเทศ

    หากใครมีพี่มีน้องก็คงจะเคยทะเลาะกันมาบ้างหรือในบางครั้งก็อาจจะมีการแข่งขันกันเองอย่างเช่นสองพี่น้องสาวคู่นี้ ที่พวกเธอต้องแข่งขันกันในระดับชาติเลยทีเดียว เมื่อสองพี่น้อง Marissa วัย 24 ปี และ Hannah Brandt วัย 23 ปี สองพี่น้องที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้จะอยู่บ้านเดียวกันแต่กลับต้องแข่งขันกีฬาโอลิมปิกให้กับประเทศที่แตกต่างกันซะงั้น   .   จุดเริ่มต้นของความสับสนนั้นเกิดขึ้นเพราะว่า Greg และ Robin Brandt สองสามีภรรยาในสหรัฐอเมริกา ได้รับเลี้ยงเด็กคนหนึ่งนั่นคือ Marissa เด็กสาวชาวเกาหลีใต้ที่มีอายุเพียงแค่ 4 เดือน หลังจากนั้นเธอก็มีน้องสาวที่อายุห่างกันหนึ่งปีชื่อ Hannah ซึ่งในวัยเด็กทั้งคู่จะได้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอยู่เสมอเช่นการเต้น เล่นสเกตลีลา หรือยิมนาสติก รวมถึงการเข้าค่ายฝึกวัฒนธรรมเกาหลีที่แม่ของพวกเธอพาไป ในขณะที่คนพี่ตอนนั้นอายุ 10 ขวบรู้สึกไม่ค่อยชอบการไปค่ายนั้นเท่าไหร่แต่น้องสาวกลับรู้สึกชอบมันเอามากๆ นอกจากนั้นผู้คนรอบข้างก็มักจะไม่เชื่อว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ยังคงอยู่เคียงข้างกันมาตลอดจนกระทั่งเข้าเรียนวิทยาลัยและต้องแยกทางกัน   .   เมื่อทั้งสองได้เล่นฮอกกี้น้ำแข็งและรู้สึกชอบมากๆ โดยเฉพาะ Hannah ที่มีความฝันจะเป็นนักกีฬาโอลิมปิก ส่วน Marissa เองในตอนนั้นขณะที่กำลังศึกษาอยู่ปีสุดท้ายที่วิทยาลัยศิลปศาสตร์ Gustavus Adolphus ในรัฐมินนิโซตา เธอก็ได้ถูกชักชวนให้ไปอยู่ในทีมชาติของเกาหลีใต้ โดยโค้ชผู้รักษาประตูของเกาหลีใต้ Rebecca…

  • Born With It หนังสั้นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเด็ก ‘ผิวสี’ ในสังคมญี่ปุ่นที่ไม่ยอมรับในเชื้อชาติ

    Born With It หนังสั้นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเด็ก ‘ผิวสี’ ในสังคมญี่ปุ่นที่ไม่ยอมรับในเชื้อชาติ

    การเหยียดเชื้อชาติในประเทศญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดภายในสังคมและเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนอย่างมาก เรื่องนั้นทำให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาศึกษาวัฒนธรรมอันสวยงามไม่ได้รับการต้อนรับจากคนในประเทศนี้ซักเท่าไหร่ ซึ่งพวกเขาบอกว่ามันเกิดจากความไม่รู้ถึงความแตกต่างไม่ใช่ความเกลียดชังอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เพราะอย่างนั้นจึงทำให้นักทำหนังชาวแอฟริกัน-อเมริกันจากเท็กซัสที่ชื่อว่า Emmanuel Osei-Kuffour ได้ใช้ประสบการณ์กว่า 6 ปีที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมาถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่เขาต้องเจอมาตลอดผ่านหนังสั้น     Born With It (生まれつき) หนังสั้นที่พูดถึงเรื่องราวของเด็กประถมผิวสีคนหนึ่งที่ต้องเจอกับเพื่อนร่วมห้องที่แสดงถึงการเหยียดเชื้อชาติตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าไปในโรงเรียน โดยในหนังเด็กคนนี้ต้องพยายามพิสูจน์ให้เพื่อนเห็นว่าสีผิวไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจ   คลิปที่ถูกตัดมาจากตอนต้นเรื่องของหนัง   เขาบอกว่าการที่เขาถ่ายทอดผ่านมุมมองของเด็กก็เพราะเวลาที่เราเห็นใครสักคนสูญเสียความความไร้เดียงสาของตัวเองไป มันคือสิ่งที่มีพลังต่อความรู้สึกเราอย่างมาก “เป็นเรื่องราวของอคติและการได้เห็นเด็กๆ แสดงพฤติกรรมออกมาเหมือนกับผู้ใหญ่หลายคนที่ทำกับผมมาโดยตลอด เพียงเพราะผมเป็นนักท่องเที่ยวต่างเชื้อชาติจึงทำให้ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจนเหมือนกับว่าผมไม่ใช่มนุษย์” เขากล่าว     นอกจากนั้นชาวญี่ปุ่นหลายคนคิดว่าเขาไม่สามารถเข้าใจถึงแนวคิดและวัฒนธรรมของที่นี่ได้ในเมื่อไม่ได้เป็นคนญี่ปุ่น ซึ่งเขาสามารถสังเกตได้จากเวลาไปประชุมกับบริษัท งานเลี้ยง หรือการพูดคุยกับหลายๆ คน จากเรื่องราวสะท้อนสังคมทำให้หนังสั้นความยาว 17 นาทีเรื่องนี้ได้รับรางวัลจากงานเทศกาลหนังต่างๆ ทั่วโลกเช่นรางวัล The Best Film & Social Impact จากเทศกาลหนังสั้น NBC-Universal     แม้ว่าเราจะเกิดมาแตกต่างกันแต่เราต้องไม่ลืมว่าถึงอย่างไรเราก็คนเหมือนกัน   ที่มา: nextshark , japansubculture

  • ใจคอไม่ดีเลย.. กับทางเดินกระจกใส ที่มีระบบสร้าง ‘รอยร้าวปลอมๆ’ เมื่อคุณเดินไปเหยียบมัน

    ใจคอไม่ดีเลย.. กับทางเดินกระจกใส ที่มีระบบสร้าง ‘รอยร้าวปลอมๆ’ เมื่อคุณเดินไปเหยียบมัน

    เวลาที่เราเห็นกระจกแตกหรือกระจกร้าวเราก็คงจะกลัวว่ามันจะบาดมือทำให้เกิดแผลเอาได้ แต่ถ้าเราต้องไปยืนอยู่บนพื้นกระจกที่มีความสูงเหนือพื้นจนอาจทำให้เราตกไปตายได้เหมือนกับชายคนนี้ละ ตอนที่มันเกิดรอยร้าวขึ้นมามันจะทำให้รู้สึกหวาดเสียวขนาดไหนกัน? เมื่อนักท่องเที่ยวหนุ่มคนหนึ่งได้ไปเจอกับพื้นทางเดินทำมาจากกระจกในประเทศจีนอยู่สูงเหนือพื้นกว่า 1,000 เมตร ที่เมื่อเขาเหยียมลงไปปุ๊บก็เกิดรอยร้าวขึ้นมาอย่างน่ากลัว   ปฏิกิริยาของนักท่องเที่ยวหนุ่มเมื่อเหยียบลงไปแล้วเกิดรอยร้าว   ทางเดินที่เห็นกันในคลิปนั้นอยู่ที่ประเทศจีน ยื่นออกมาจากด้านข้างของภูเขา Taihang แหล่งธรรมชาติอันสวยงามในมณฑลเหอเป่ย์ ซึ่งรอยแตกที่เกิดนั้นเป็นเพียงแค่ของปลอมที่มีเอาไว้แกล้งผู้คนเท่านั้นเอง ด้านล่างจะมีจอภาพติดตั้งเอาไว้เมื่อมีคนเดินไปเหยียบก็จะเห็นเป็นรอยและเสียงเหมือนกระจกกำลังแตก ทำให้นักท่องเที่ยวหน้าใหม่ต้องรู้สึกหวาดเสียวเพราะกลัวที่จะตกไปกลายเป็นผีไร้ญาติ   เป็นใครก็กลัวถ้ามันจะน่าหวาดเสียวขนาดนี้   แล้วใครมันจะไปดูออกละว่าเป็นจอภาพ   แม้จะเข้าใจกันได้ว่าการทำแบบนี้ก็เพื่อเสริมในเรื่องของการท่องเที่ยว แต่หลายคนก็บอกว่ามันอาจทำให้บางคนต้องหัวใจวายตายไปได้เลย ภายหลังผู้บริหารการท่องเที่ยวของภูเขาลูกนี้ได้ออกมากล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้มีแผนที่จะเอาเจ้ารอยแตกปลอมๆ นี้ออกหรอกนะ     ก่อนหน้านี้ที่ภูเขา Yuntai Mountain ในมณฑลเหอนานก็เคยมีรอยแตกอยู่บนสะพานกระจกเหมือนกัน แต่พวกเขาทำเพื่อทดสอบความแข็งแรงเฉยๆ   ไม่รู้ว่าแกล้งกันแรงขนาดนี้จะช่วยดึงดูดหรือไล่นักท่องเที่ยวกันแน่นะ ถ้าใครกลัวความสูงก็อย่าคิดจะไปเที่ยวที่นี่เชียว   ที่มา: shanghaiist

  • ชายหนุ่มพยายามเปิดตู้เซฟเก่าแก่สมัยปู่ทวด ที่ข้างในไม่ใช่ทองแต่เป็นกระดาษมูลค่าสูง!!

    ชายหนุ่มพยายามเปิดตู้เซฟเก่าแก่สมัยปู่ทวด ที่ข้างในไม่ใช่ทองแต่เป็นกระดาษมูลค่าสูง!!

    ในบางครั้งเราอาจได้ค้นพบกับของที่คาดไม่ถึงจากการรื้อค้นหรือจัดของในบ้านของเราเองที่มีอายุเก่าแก่ เป็นที่อยู่อาศัยของตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่า เช่นเดียวกับผู้ใช้ Imgur ชื่อว่า Jacob ที่ไปเจอกับเซฟปริศนาที่แอบซ่อนเอาไว้อยู่ในบ้านของเขาเอง จนทำให้ต้องหาคำตอบกันว่าภายในนั้นมันจะมีอะไร แต่ก่อนที่จะเปิดดูได้เขาจำเป็นต้องขนมันออกมาจากชั้นใต้ดินเสียก่อน เพราะบ้านหลังนั้นกำลังจะมีการรื้อทิ้งในอีกไม่ช้านี้แล้ว หลังจากที่มีอยู่มาตั้งแต่สมัยปู่ทวด เราไปดูกันว่าภารกิจการขนย้ายตู้เซฟจะสำเร็จหรือไม่และภายในนั้นมันมีอะไรกันแน่   ขณะที่กำลังเก็บข้าวของภายในบ้านอันเก่าแก่สมัยปู่ทวดได้มีตู้เซฟแอบซ่อนเอาไว้อยู่ลับๆ   ก่อนที่บ้านจะถูกทำลาย Jacob และเพื่อนอีกคนได้พยายามใช้รถเข็นเฟอร์นิเจอร์มานำมันออกไป ด้วยน้ำหนักของตู้เซฟกว่า 450 กิโลกรัม ทำให้ความพยายามครั้งแรกไม่สำเร็จ   ต่อมาพ่อของเขาก็เข้ามาช่วยโดยพยายามใช้รถมาลากเจ้าเซฟตัวปัญหานี้ขึี้นมาจากทางลาดที่ทำเอาไว้ตรงบันได   ใช้สายพ่วงผูกกับโซ่เอาไว้และใช้แรงจากรถดึงขึ้นไป   ด้วยความพยายามในหลายๆ แบบก็ทำให้มันสามารถขึ้นมารับแสงแดดได้ในที่สุด   จากนั้นพวกเขาก็นำมันมาไว้ในโรงรถและเล่าเรื่องของตู้เซฟให้ปู่ของเขาฟัง ทำให้คุณปู่นึกขึ้นได้ก่อนที่จะรีบกลับบ้านไปเอากระดาษที่บอกวิธีการปลดล็อคตู้ดังกล่าวนี้มาให้   เขาบอกว่า “ถ้าไม่มีกระดาษแผ่นนั้นรับรองว่าคงไม่สามารถเปิดตู้เซฟนี้ได้แน่นอน เพราะมันมีความซับซ้อนอย่างมากและต้องเปิดเข้าไปถึง 4 ชั้น”   “เปิดเข้าไปต้องเจอประตูอีกชั้นตอนแรกก็ถึงกับท้อกันเลย แต่พอสังเกตดีๆ มันมีกุญแจเสียบเอาไว้พร้อมให้เราได้เปิดเข้าไปดูกัน” เขากล่าว   ในตอนแรกพวกเขาไม่ได้หวังจะเจอของมีค่าอะไรเพราะทราบดีว่าปู่ทวดของเขาใช้เงินไปกับการเล่นหุ้นหรือตลาดหลักทรัพย์เป็นหลัก และมีรายได้หรือเงินปันผลที่ไม่มากนักจากการประกอบอาชีพเป็นชาวไร่   อย่างไรก็ตามแม้ภายในตู้จะมีแต่เอกสารแต่เมื่อได้ลองตรวจสอบดูก็พบว่ากระดาษเก่าๆ เหล่านั้นมันมีค่ามากกว่าทองเสียอีก   เพราะมันคือเอกสารรับรองว่าปู่ทวดของเขาเคยถือหุ้นอยู่กับบริษัท Disney เป็นจำนวน 30 หุ้นก่อนถูกปิดไปหลังจากที่เสียชีวิต…

  • ชาวเน็ตต่างชาติสั่ง ‘ผัดไทย’ ขอเน้นแบบเผ็ด พ่อครัวก็จัดให้เผ็ดนรกแตกอย่างสาสม!!

    ชาวเน็ตต่างชาติสั่ง ‘ผัดไทย’ ขอเน้นแบบเผ็ด พ่อครัวก็จัดให้เผ็ดนรกแตกอย่างสาสม!!

    เราคงทราบกันดีว่าวัฒนธรรมของบ้านเราแตกต่างกับหลายประเทศโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินที่หากชาวต่างชาติได้มาลองบางคนอาจถึงกับทานไม่ได้และต้องเข้าโรงพยาบาลกันเลย หนุ่มผู้ใช้ Reddit ที่ชื่อ Logan Doan ก็ต้องพบกับบทเรียนที่แสนสาหัสไม่น้อย เมื่อเขาตัดสินกิน ผัดไทย โดยที่บอกพ่อครัวไว้ก่อนว่า “ขอเผ็ดๆ” เท่านั้นเองเขาก็ต้องเจอกับความเผ็ดแบบจัดหนักจัดเต็ม เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมือง Jacksonville รัฐฟลอริด้า ซึ่งมีถนนคนเดินชื่อ Hawkers Asian Street Fare ที่เต็มไปด้วยอาหารจากหลากหลายประเทศในเอเชีย     ไม่กี่วันที่ผ่านมาในช่วงพักเที่ยงชายคนดังกล่าวได้สะดุดตาเข้ากับร้านอาหารไทยร้านหนึ่งก่อนที่จะสั่งผัดไทยมาหนึ่งจาน โดยเน้นย้ำไว้ตอนสั่งว่า “ขอเพิ่มความเผ็ดนะ” เขาคนนี้เชื่อมาตลอดว่าตัวเองสามารถกินเผ็ดได้แบบสบายๆ แต่เมื่ออาหารมาถึงเขาก็ต้องถึงกับสยองเพราะที่เขาได้รับคือ ”ผัดไทยที่คลุกเคล้าด้วยพริกป่นและความเผ็ดร้อนที่พร้อมจะเผาไหม้ระบบทางเดินอาหารทันทีที่กลืนลงไป” นั่นคือสิ่งที่เขาบอกไว้ ต่อมาเขาก็ได้โพสต์ภาพของใบเสร็จสั่งอาหารจากร้านที่มีคำว่าเผ็ดมากถึง 17 คำ เรียกได้ว่าเป็นความเผ็ดแบบ 17 เท่าเลย อีกทั้งยังมีตรงข้างล่างที่เขียนเอาไว้ว่า “ทำให้เขารู้สึกเสียใจที่เกิดมาซะ!!”   เผ็ดจนไม่รู้จะเผ็ดยังไงแล้วสินะ   กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตเข้ามากดไลค์ถึง 124,000 ครั้งและอีก 3,000 ความคิดเห็น ซึ่งบางอันก็มาเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองจากการเจอความเผ็ดแบบไทยเข้าไป “ผมเคยสั่งเพิ่มความเผ็ดเป็นภาษาไทยอยู่ครั้งหนึ่งมันทำให้ผมต้องเจอกับหายนะ หลังจากกินเข้าไปขนาดจะเดินกลับรถเองก็ยังไม่ได้จนต้องให้เพื่อนมาช่วยมาพยุง” “ร้านอาหารไทยแถวบ้านจะเขียนให้เลือกความเผ็ดได้เลยว่าจะเอาปานกลาง เผ็ด หรือเผ็ดแบบไทย ซึ่งบอกเลยว่าอันหลังนี่มันคือการเอาชีวิตไปทิ้งชัดๆ”  …

  • งานวิจัยเผยกว่า 80% ของโรคจิตเภท ไม่ได้มาจากสิ่งแวดล้อม แต่ “พันธุกรรม” เป็นสาเหตุหลัก!?

    งานวิจัยเผยกว่า 80% ของโรคจิตเภท ไม่ได้มาจากสิ่งแวดล้อม แต่ “พันธุกรรม” เป็นสาเหตุหลัก!?

    โรคจิตเภท เป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่งที่ผู้ป่วยจะเกิดความผิดเพี้ยนในเรื่องของความคิด ไม่สามารถรับรู้ความเป็นจริงได้อย่างถูกต้องจนเกิดผลเสียกับการใช้ชีวิต การวินิจฉัยโรคนี้เป็นไปได้ค่อนข้างยากเพราะจะมีอาการแสดงออกมาในช่วงอายุที่ไม่แน่นอน แต่โดยเฉลี่ยแล้วอาการจะแสดงออกชัดเจนตอนที่ช่วงอายุประมาณ 28.9 ปีและยังสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุจึงทำให้สังเกตได้ยาก แต่ในปัจจุบันได้มีงานวิจัยออกมาระบุแล้วว่าแม้เราจะเข้าใจว่าสิ่งแวดล้อมคือสิ่งสำคัญ แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้เป็นโรคดังกล่าวจริงๆ แล้วก็ก็คือ “พันธุกรรม” ที่เราได้รับมาจากพ่อแม่และมีติดตัวมาแต่กำเนิด     งานวิจัยดังกล่าวถูกตีพิมพ์ในวารสาร Biological Psychiatry โดยแรกเริ่มเดิมที มีการวิจัยขึ้นเพื่อสังเกตว่าระหว่างสิ่งแวดล้อมกับพันธุกรรม สิ่งไหนจะมีอิทธิพลต่อความเสี่ยงของการเกิดโรคจิตเภทมากกว่ากัน จากการศึกษากับฝาแฝดในเดนมาร์กที่เกิดตั้งแต่ปี 1870 จำนวนกว่า 30,000 คู่ในข้อมูลทะเบียนประชากรฝาแฝดควบคู่กับข้อมูลด้านจิตเวชศาสตร์ พบว่ากว่า 79 เปอร์เซนต์ของกลุ่มตัวอย่างนั้น พันธุกรรม ที่เด็กได้รับมาจากพ่อแม่เป็นสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคจิตเภทมากกว่า     นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาเพิ่มเติม นำข้อมูลดังกล่าวไปศึกษาให้กว้างขึ้น จนได้ตัวเลขประมาณที่ 73 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของพันธุกรรม ที่เป็นสาเหตุหลักมากกว่าหลายๆ สิ่ง ดอกเตอร์ John Krystal บรรณาธิการของหนังสือที่ตีพิมพ์งานวิจัยดังกล่าวบอกว่า “ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า พันธุกรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการทำให้เกิดโรคจิตเภท”     อย่างไรก็ตามโรคดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เพราะแม้ว่าพ่อแม่จะป่วยเป็นโรคจิตเภท แต่ก็ไม่ได้แปลว่าลูกทุกคนจำเป็นที่จะต้องป่วยเป็นโรคนี้เสมอไปเช่นกัน นอกจากนั้น เรื่องความแตกต่างของประชากรในแต่ละประเทศ ก็อาจมีส่วนทำให้ผลการวิจัยไม่สามารถอธิบายคนทั้งโลกได้ว่าจะเป็นเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ได้มีงานวิจัยในลักษณะนี้จากหลายประเทศที่มีผลลัพธ์ออกมาต่างกันไป     นอกจากจะรู้สาเหตุแล้วสิ่งที่เราคาดหวังคือ อยากให้มีการรักษาหรือป้องกันไม่ให้เกิดโรคจิตเภทมากกว่า…

  • การตัดสินใจครั้งสำคัญของคู่พ่อลูกข้ามเพศ ซึ่งทั้งสองต่างเคยเป็นอีกเพศหนึ่งมาก่อน!!

    การตัดสินใจครั้งสำคัญของคู่พ่อลูกข้ามเพศ ซึ่งทั้งสองต่างเคยเป็นอีกเพศหนึ่งมาก่อน!!

    การแปลงเพศในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ได้รับการยอมรับทำให้เรามีทางเลือกที่จะเป็นไปตามที่ตนเองต้องการได้มากขึ้น แต่การตัดสินใจที่จะทำสิ่งนั้นก็ยังคงเป็นเรื่องยากเพราะมันถือว่าเป็นสิ่งที่จะติดตัวเราไปอีกนาน เด็กชายวัย 11 ขวบชื่อ Corey Maison เป็นคนหนึ่งที่ต้องติดอยู่กับความไม่แน่ใจว่าตนเองจะแปลงเพศดีหรือไม่ แม้ว่าเขาจะรู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าต้องการเป็นผู้หญิง เหตุผลหลักของปัญหานั้นก็คือเขากลัวว่าครอบครัวจะรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าคุณแม่ Erica สังเกตเห็นว่าเขามีความต้องการที่จะเปลี่ยนไปเป็นอีกเพศหนึ่งมากขนาดไหน และตัวคุณแม่เองก็ไม่ได้อยากเป็นผู้หญิงซักเท่าไหร่   คุณแม่ของลูกๆ 5 คนที่รู้สึกเกลียดการตั้งท้องอย่างมาก   หนุ่มน้อยที่รู้ตัวเองว่าไม่ได้ต้องการเกิดมาเป็นผู้ชาย   4 ปีผ่านไปคนเป็นแม่จึงตัดสินใจแปลงเพศไปพร้อมๆ กับลูกชายเสียเลย เพราะเธอเองก็คิดว่าไม่ได้ต้องการจะเป็นผู้หญิงอยู่แล้วและทำให้ลูกของเธอเกิดความกล้าและทำการแปลงเพศในที่สุด ปัจจุบันทั้งคู่ได้เปลี่ยนสถานะจาก “แม่กับลูกชาย” ให้กลายเป็น “พ่อกับลูกสาว” ซะแทน ซึ่งถึงแม้ตอนแรกทั้งสองจะกลัวคนในครอบครัวคนอื่นรับไม่ได้แต่สิ่งนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะทุกคนยังคงมอบความรักให้ทั้งคู่ได้เหมือนเดิม   จากชายกลายเป็นหญิงจากหญิงกลายเป็นชาย ตามที่ทั้งสองคนต้องการ .   เมื่อกลายเป็นผู้หญิงก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างมั่นใจ . .   ความฝันที่กลายเป็นจริงและเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต .   ตอนนี้คุณแม่ Erica ได้กลายเป็นคุณพ่อ Eric แล้ว   ในตอนแรกทั้งสองก็ยังคงกลัวกับการตัดสินใจครั้งนี้   พวกเธอไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์และอนาคตจะเป็นอย่างไร   อย่างไรก็ตามความวิตกกังวลได้หายไปหมด เมื่อทั้งคู่ได้รับความรักจากทุกคนในครอบครัว  …

  • 22 ภาพเบื้องหลังหลุดๆ น่ารักๆ จากภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง ที่เชื่อเลยว่าคุณไม่เคยเห็น

    22 ภาพเบื้องหลังหลุดๆ น่ารักๆ จากภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง ที่เชื่อเลยว่าคุณไม่เคยเห็น

    ภาพที่เราเห็นผ่านจอหนังภาพยนตร์ทั้งหลายเป็นเพียงสิ่งที่ผู้กำกับและนักแสดงทุกคนอยากให้เราเห็นเท่านั้น แต่ว่าเบื้องหลังของความสำเร็จเหล่านั้นมันจะดูเป็นอย่างไรกันนะ? วันนี้#เหมียวตะปู จึงนำภาพของเบื้องหลังการถ่ายทำจากหนังดังที่เชื่อว่าหลายคนต้องไม่เคยเห็นมาก่อน เราไปดูกันดีกว่าว่าหนังแต่ละเรื่องจะมีความลับอะไรกันบ้าง?   ปีศาจจากหนังเรื่อง It ที่กำลังยืนสูบบุหรี่ท่ามกลางความหนาวเย็น   นักแสดงที่มาคัดตัวสำหรับหนังเรื่อง X-Men: Days of Future Past   แกนดาล์ฟที่เผลอนั่งหลับระหว่างถ่ายทำ สงสัยจะขี่ม้ามาไกล   รอยยิ้มของ Black Swan   ฉากโคลสอัพของหนังเรื่อง Requiem for a Dream   ผู้กำกับและเหล่าฮอบบิท   ฉากดังจากหนัง The Matrix ที่มองจากสายตาคนถ่ายทำ   ต้องส่งอีเมลล์บอกโฟรโด้ซะหน่อยแล้ว   พระนางของหนัง La La Land กำลังซ้อมเต้น   ฉากอันยิ่งใหญ่ในหนังเรื่อง The Grand Budapest Hotel   ฉากด็อบบี้ตายนี่จริงๆ แอบมีคนร่วมเสียใจกันเยอะแยะเลยนะ   ผู้กำกับรางวัลออสการ์กับนักแสดงในหนังที่ได้รางวัล Birdman  …

  • น้องหมาชิบะ Yu ตัวแสบ ที่พอไม่ได้ดั่งใจก็จะลงไปนอนประท้วงเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น!!

    น้องหมาชิบะ Yu ตัวแสบ ที่พอไม่ได้ดั่งใจก็จะลงไปนอนประท้วงเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น!!

    หลายคนคงเคยเห็นเด็กๆ งอแงร้องไห้อยากได้ของเล่นหรือไม่อยากกลับบ้านซะจนลงไปนอนอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่ตามใจ วิธีนี้เองที่กลายเป็นเอกลักษณ์ให้กับน้องหมาชิบะในประเทศญี่ปุ่นตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Yu จนกลายเป็นกระแสและมียอดติดตามในทวิตเตอร์มากกว่า 14,000 คนเลยทีเดียว   แง่ก.. ไม่อยากกลับบ้านเลยอ่ะ   เจ้าของของเจ้า Yu เล่าให้ฟังว่า เวลาเขาพามันออกไปเดินเล่น แล้วมันไม่อยากกลับบ้าน มันก็จะทิ้งตัวลงนอนดื้อๆ แบบภาพข้างบนนั่นแหละ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมขยับ จนเขาไม่รู้จะโกรธหรือว่าจะขำดี ยิ่งไปกว่านั้นก็คือมันไม่ได้นานๆ แสดงพฤติกรรมนี้ออกมาทีเหมือนหมาตัวอื่น แต่มันกลับทำเป็นกิจวัตรประจำวันเลย!! ไม่รู้ว่าที่บ้านมันไม่มีแอร์หรือว่าอะไรถึงทำให้มันไม่ยากกลับขนาดนั้น   ธรรมชาติที่นี่สวยมากเลย หนูขออยู่ต่อเถอะนะ   ถึงจะหันมายิ้มยังไงก็ต้องกลับบ้านนะ   ปราสาทนาริตะก็ยังไม่เว้นเลยนะเจ้า Yu   เดี๋ยวคนอื่นเขาก็เข้าใจผิดคิดว่าโดนรถชนมาหรอก   ถ้ามันไม่ยอมลุกเองจะออกแรงขนาดไหนก็ไม่ยอมไป   จะอุ้มก็เห่าแล้วแม่ควรทำยังไงดี   สถานที่เปลี่ยนแต่พฤติกรรมของเจ้าหมาก็ยังไม่เปลี่ยนจริงๆ เป็นอย่างนี้สงสัยคงต้องตัดค่าขนมแล้วแหละ ไม่งั้นไม่ยอมกลับบ้านแน่นอน   หากใครอยากติดตามความน่ารักของน้องหมาตัวนี้ก็สามารถเข้าไปอินสตาแกรม always_with_yu หรือทวิตเตอร์ @always_with_yu ได้เลยน้าาา   ที่มา: rocketnews24

  • พิธี Quinceañera การฉลองวันเกิดสาวชาวละตินวัย 15 ปี ที่ครอบครัวต้องเสียสละกับความฟุ่มเฟือย

    พิธี Quinceañera การฉลองวันเกิดสาวชาวละตินวัย 15 ปี ที่ครอบครัวต้องเสียสละกับความฟุ่มเฟือย

    บนโลกของเรามีวัฒนธรรมประเพณีแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทำให้มีวัฒนธรรมอีกเป็นร้อยๆ แบบที่เราอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน เช่น Quinceañera หรืออีกชื่อคือ Fiesta de quince años ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวละตินอเมริกัน ประเพณีดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเด็กสาวในวันเกิดอายุครบ 15 ปีของพวกเธอ โดยในงานเธอจะได้แต่งตัวราวกับเจ้าหญิงท่ามกลางคนจำนวนมาก ได้เต้นรำกับหนุ่มๆ และมีอาหารมากมายพร้อมกับเค้กก้อนโต แต่งานที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นก็ต้องแลกมาด้วยเงินจำนวนมหาศาล ทว่าแทบทุกครอบครัวก็พยายามจัดงานนี้ให้ได้แม้จะต้องทำงานหนักเพื่อเก็บเงินนานเป็นปีก็ตาม     ประเพณีที่ว่านี้มีความสำคัญต่อครอบครัวและเด็กสาวมากขนาดนั้นเลยหรือ? คำถามนี้ทำให้ช่างภาพสาวชื่อ Delphine Blast ออกเดินทางไปถึงโคลัมเบีย เพื่อหาคำตอบ นั่นจึงทำให้เธอนำเสนอผลงานที่ให้ทุกคนเห็นระหว่างการจัดงานที่ดูฟุ่มเฟือยกับครอบครัวที่มีฐานะยากจนว่าทั้งสองอย่างนั้นมันขัดแย้งกันมากเพียงใด เธอได้ถ่ายรูปเด็กสาวจำนวน 15 คนในชุดราตรีที่พวกเธอใส่กันภายในงาน เราลองไปดูเรื่องราวส่วนหนึ่งของพวกเธอเหล่านั้นกัน   Laura Cristina Zarta   เธอเป็นคนที่ชอบเล่นฟุตบอลมากจนได้ไปอยู่ในทีมเยาวชนทีมชาติ และเมื่อโตขึ้น เธออยากเป็นตำรวจสืบสวน พ่อของเธอขายผลไม้ซึ่งเป็นรายรับเดียวภายในบ้าน ทำให้พวกเขาต้องเก็บเงินเป็นเวลาถึง 6 เดือนเพื่อจัดงานนี้ให้กับเธอและผู้คนในงานอีก 200 คน   Luna Valentina Arias Beltrán   หญิงสาวผู้ฝันจะเป็นนางเอกละครคนนี้ พ่อของเธอเป็นช่างทำรองเท้า ส่วนแม่เป็นคนเก็บขยะมารีไซเคิล…

  • หญิงสาวลงทุนบินไปหาแฟนหนุ่มถึงอัมสเตอร์ดัม ก่อนโดนปฏิเสธ “ก็แค่แกล้งขำๆ ไม่ได้อยากคบ!!”

    หญิงสาวลงทุนบินไปหาแฟนหนุ่มถึงอัมสเตอร์ดัม ก่อนโดนปฏิเสธ “ก็แค่แกล้งขำๆ ไม่ได้อยากคบ!!”

    ความรักที่เหมือนจะเป็นสิ่งสวยงามของใครหลายคนบางครั้งอาจต้องพังทลายลงไปเพียงเพราะว่า อีกฝ่ายมองว่าสิ่งนี้เป็นเพียงเครื่องมือไว้เล่นสนุกเท่านั้นเอง เมื่อหญิงสาวชาวอังกฤษวัย 24 ปีชื่อ Sophie Stevenson ยอมเสียเงินจำนวนกว่า 15,000 บาทเพื่อไปหาแฟนหนุ่มของเธอถึงกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก่อนพบว่าความรักที่เขามีให้นั้นเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่น     เรื่องราวของทั้งสองเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอได้ไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทของเธอที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในตอนที่เกิดเหตุนองเลือดขึ้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา จากเหตุการณ์นั้นทำให้เธอและเพื่อนที่พักอยู่ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุต้องเก็บตัวอยู่แต่ในโรงแรมและนั่นจึงทำให้เธอได้พบกับ Jesse Mateman หนุ่มวัย 21 ปีชาวเนเธอร์แลนด์กับเพื่อนของเขาอีกสามคน หลังจากนั้นความรักของทั้งคู่ก็ได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้นอนด้วยกันและพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ จนกระทั่งเธอถึงกำหนดต้องกลับไปประเทศอังกฤษ ทั้งสองก็ยังคงติดต่อหากันอยู่ตลอดทุกวัน   สองคนที่ยืนอยู่คือ Jesse และ Sophie   ความรักทางไกลอันหวานชื่นได้ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเธอตั้งใจจะไปหาเขาที่อยู่ห่างไปกว่า 600 กิโลเมตร จากนั้นจึงจองโรงแรมกับตั๋วเครื่องบินและนัดหมายกับเขาเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย เมื่อถึงวันเดินทาง 29 กันยายน เธอก็ยังคงส่งข้อความคุยกับเขาอยู่เรื่อยๆ ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินจนไปถึงที่หมายและพบว่าแฟนหนุ่มของเธอไม่ได้ยืนรออยู่ที่นั่น เธอรีบโทรหาเขาไปหลายสายแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับอะไรและเธอก็นั่งรออยู่ที่สนามบินไปนานถึง 2 ชั่วโมง ในความรู้สึกที่แทบจะอยากเป็นบ้าที่ต้องมาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยนี้คนเดียว     หลังจากนั้นเธอก็นั่งรถประจำทางมาที่โรงแรม 6 ชั่วโมงต่อมาแฟนหนุ่มของเธอก็ส่งข้อความมาบอกว่า “เธอเป็นหมู…

  • 21 ภาพความเท่ห์ของ ‘แก๊งไบค์เกอร์สาวแห่ง New Orleans’ ชมรมนี้มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นนะ!!

    21 ภาพความเท่ห์ของ ‘แก๊งไบค์เกอร์สาวแห่ง New Orleans’ ชมรมนี้มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นนะ!!

    วิถีไบค์เกอร์หรือการขี่รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นผู้ชายหลายคนชื่นชอบ แต่ในครั้งนี้กลับไม่ได้มีแต่หนุ่มๆ เพราะ #เหมียวตะปู จะพาทุกคนไปเจอกับแก๊งไบค์เกอร์ของสาวๆ ในเมือง New Orleans แก๊งนี้มีชื่อว่า Caramel Curves เป็นการรวมกลุ่มของเหล่าไบค์เกอร์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 มีชื่อเสียงอย่างมากจากการที่แก๊งจะมีแต่ผู้หญิงเท่านั้น!! ด้วยการแต่งตัวและรองเท้าส้นเข็มที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเธอก็ทำให้ช่างภาพชื่อ Akasha Rabut รู้สึกหลงใหลไปกับสิ่งเหล่านี้ ถึงขนาดใช้เวลาถึง 3 ปีเพื่อเข้าไปเก็บภาพและเป็นส่วนหนึ่งในแก๊ง เราไปดูกันดีกว่าว่าสาวๆ กลุ่มนี้มีความเท่มากขนาดไหน   จุดเริ่มต้นในการเก็บภาพครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่างภาพสาวได้ไปเจอกับผู้หญิง 2 คนที่กำลังนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์   กลุ่มสุดเท่ห์นี้จะมารวมตัวกันในทุกวันอาทิตย์ และจะแต่งตัวให้เหมือนกันบวกกับรองเท้าส้นเข็มที่เป็นเอกลักษณ์   ช่างภาพสาวได้ถูกชวนให้ไปพบปะกับสาวๆ ภายในแก๊งทั้ง 28 คนที่ร้านทำเล็บของสมาชิกกลุ่ม ก่อนที่เธอจะตัดสินใจตามถ่ายภาพทั้งหมดนี้   พวกเธอคือหญิงแกร่งผู้ขึ้นมาอยู่บนสังเวียนที่หนุ่มๆ เป็นใหญ่   ความน่าหลงใหลและเสน่ห์ของพวกเธอเมื่อได้อยู่บนมอเตอร์ไซค์   เป็นแก๊งที่มีจุดยืนอันแข็งแกร่งในเรื่องของค่านิยมที่มักมองว่าบิ๊กไบค์เป็นเรื่องของผู้ชายเท่านั้น   ช่างภาพสาวบอกว่าทุกภาพล้วนแล้วแต่มีคุณค่าที่ไม่อาจประเมินได้   รถคันนี้ที่มองดูก็รู้เลยว่ามันมีมาเพื่อเธอจริงๆ   รถที่มีขนาดใหญ่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเธอ   ย้อมสียางก่อนที่จะเอามาเบิร์นให้เป็นสีประจำแก๊ง   เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าใครเป็นสมาชิก เพราะพวกเธอแต่งตัวเหมือนกันซะขนาดนี้   ขนาดรองเท้าส้นเข็มบางทีก็มีธีมเดียวกันด้วยนะ   พวกเธอได้ระดมทุนจากผู้คนเพื่อนำไปช่วยในงบของการก่อสร้างสิ่งต่างๆ…

  • เจ้าแมวหนุ่มออกจากบ้านทุกวันจนเจ้าของสงสัย สะกดรอยตามเกือบ 10 กิโล พบว่าเอ็ง… ติดสาว!!

    เจ้าแมวหนุ่มออกจากบ้านทุกวันจนเจ้าของสงสัย สะกดรอยตามเกือบ 10 กิโล พบว่าเอ็ง… ติดสาว!!

    เคยเป็นมั้ยเวลาที่คิดถึงใครสักคนจนต้องหยิบโทรศัพท์รีบโทรหาหรือไม่ก็เฟซไทม์เห็นหน้ากันซะหน่อย แต่ถ้าหากเราเป็นแมวละเราจะทำอย่างไรเวลาคิดถึงคนที่เรารัก? เมื่อเจ้าเหมียวหนุ่มตัวหนึ่งชอบวิ่งหายออกไปจากบ้านทุกวันจนเจ้าของของมันรู้สึกสงสัยว่ามันไปไหนของมันกันนะ เขาจึงตัดสินใจที่จะลองหาคำตอบของเรื่องนี้ดู   แหน่ะ!! แอบวิ่งออกไปไหนน่ะ   ด้วยการสะกดรอยตามเจ้าเหมียวทำให้พบว่าที่มันหายออกไปตลอดก็เพราะมันวิ่งไปหาแฟนสาวของมันที่อยู่บ้านอีกหลังหนึ่งนี่เอง สิ่งที่น่าทึ่งก็คือมันวิ่งในระยะทางถึง 8 กิโลเมตรเลยทีเดียวเรียกว่าไม่ธรรมดาสำหรับภารกิจวิ่งเพื่อเธอในครั้งนี้เลยจริงๆ   ถึงขาจะล้าแต่ใบหน้าของเธอฉันต้องไปเจอให้ได้เลย สู้โว้ยยย   น่าพาไปวิ่งมาราธอนจริงๆ เลยนะเจ้าเหมียว   เมื่อเป็นอย่างนั้นแล้วผู้ที่เป็นคนเจ้าของจึงตัดสินใจปล่อยให้มันอยู่ที่บ้านหลังนั้นไปซะเลย เพราะเขาก็คงไม่อยากที่จะพรากคู่รักให้ห่างจากกันแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จะขับรถไปเยี่ยมหาหรือซื้ออาหารไปให้มันกับแฟนสาวอยู่บ่อยๆ   รักกันขนาดนี้แล้วใครจะไปแยกมันทั้งสองได้ลงคอกันละ   นอกจากที่เจ้าของแมวสาวตัวนั้นจะยอมให้มันได้มาเจอและเข้ามาอยู่ด้วยแล้ว สิ่งที่สำคัญก็คือเจ้าเหมียวมันมีลูกน้อยที่น่ารักอยู่ด้วยถึง 2 ตัวเรียกว่าครบความเป็นครอบครัวเรียบร้อยแล้ว   เหมียวน้อยอีก 2 ตัวก็ตั้ลล๊ากกก   วิดีโอของยอดเหมียวหนุ่มผู้วิ่งไกลถึง 8 กิโลเมตรเพื่อรักแท้   เห็นแล้วก็รู้สึกอมยิ้มให้กับความพยายามและรักอันหวานชื่นของเจ้าเหมียวตัวนี้จริงๆ ไม่ว่าตัวจะอยู่ไกลกันแค่ไหนแต่ใจก็ไม่เคยห่างกันเลยยย   วิ่งมาไกลขนาดนี้ก็ขอพักซักหน่อยนะ.. คร่อกกก   ที่มา: SBS TV동물농장x애니멀봐

  • คู่รักนักปีนเขาร่วมใจทำภารกิจช่วยเหลือชีวิต ‘น้องหมา’ ที่ติดอยู่บนเขามานานถึง 6 สัปดาห์

    คู่รักนักปีนเขาร่วมใจทำภารกิจช่วยเหลือชีวิต ‘น้องหมา’ ที่ติดอยู่บนเขามานานถึง 6 สัปดาห์

    สัตว์เลี้ยงของเราไม่ได้เป็นเพียงสิ่งของที่เราครอบครองเท่านั้น แต่พวกมันคือส่วนหนึ่งของครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่มันต้องหายไปจากชีวิตนั่นคงเป็นสิ่งที่เราทำใจกันไม่ได้แน่นอน แต่ในบางครั้ง เราอาจได้รับความช่วยเหลือที่คาดไม่ถึง จนทำให้เราได้พบกับพวกมันอีกครั้ง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อในกลุ่มเฟซบุ๊กสำหรับนักปีนเขาที่ชื่อว่า 14ers มีโพสต์หนึ่งเขียนบอกว่าได้ยินเสียงน้องหมาร้องไห้อยู่บนภูเขา Bross   .   เมื่อหญิงสาวชื่อ Trinity Smith เห็นข้อความนั้นก็ไม่รอช้าที่จะเริ่มภารกิจปีนขึ้นไปบนเขาดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือมัน และเธอก็พบว่าเธอได้ยินเสียงนั้นจริงๆ แต่ในเวลานั้นฟ้าก็เริ่มมืดทำให้การเดินอยู่ข้างบนอยู่คนเดียวเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เธอจึงตัดสินใจลงจากเขามาและพาแฟนหนุ่มของเธอ Sean Nichols กลับขึ้นไปบนเขาลูกนั้นอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น   .   เมื่อไปถึงทั้งสองก็พยายามร้องเรียกหาน้องหมานานหลายชั่วโมงถึงแม้ว่าเจ้าหมาจะหยุดส่งเสียงแล้วก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ จนกระทั่งได้ยินเสียงของมันเห่าออกมาเบาๆ ก็ได้ไปเจอมันเข้าในที่สุด จากจุดที่มันอยู่คาดว่ามันน่าจะลื่นตกลงไปจากตรงโขดหินทำให้ต้องลงไปนอนเจ็บอยู่ด้านล่าง เห็นอย่างนั้นพวกเธอก็ไม่รอช้ารีบพามันไปร้านสัตว์เลี้ยงใกล้ๆ ในทันที     หลังจากนั้นทั้งคู่ก็นำอาหารมาให้มันกิน เพราะมันอยู่ในสภาพอิดโรยเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ได้แจ้งข่าวไปยังเจ้าของของมัน เมื่อ Larry Osborne เจ้าของหมาตัวดังกล่าวได้มาเจอมันอีกครั้ง เขารู้สึกตื้นตันและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาพยายามตามหามันมาตลอด 6 สัปดาห์ที่มันหายตัวไป   .   Larry ได้ขอบคุณคู่รักทั้งสองที่พาสุนัขของเขากลับมา ต่อมาเขาได้พามันไปหาสัตวแพทย์และเขาพบว่ามันเหลือน้ำหนักเพียง 11 กิโลกรัมจากตอนแรก 38 กิโลกรัม และมันต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอจากการขาดน้ำและสารอาหาร   ร่างกายที่ซูบผอมจากน้ำหนักที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ…

  • ทำไมการได้ยินคำว่า ‘ใจเย็น’ ยิ่งทำให้คุณรู้สึกโมโหมากขึ้น ในระหว่างการพูดคุยโต้เถียงกัน

    ทำไมการได้ยินคำว่า ‘ใจเย็น’ ยิ่งทำให้คุณรู้สึกโมโหมากขึ้น ในระหว่างการพูดคุยโต้เถียงกัน

    เวลาที่เราโต้เถียงหรือพูดคุยด้วยอารมณ์ที่โกรธอยู่หลายคนต้องเคยได้ยินคำว่า “ใจเย็นๆ ก่อน” อย่างแน่นอน แต่ทำไมคำพูดที่เหมือนจะทำให้เราดีขึ้นมันถึงกลับทำให้รู้สึกแย่ยิ่งกว่าเก่าละ? นักจิตวิทยาคลินิกที่ชื่อ Amanda Tadrous ได้ทำการอธิบายเกี่ยวกับสาเหตุและแนวทางแก้ไขของเรื่องนี้เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอได้อธิบายว่าสาเหตุที่ทำให้คำว่า “ใจเย็น” ทำให้เรามีความรู้สึกในด้านลบมากกว่าเดิมก็เพราะว่า การที่มีคนมาพูดอย่างนั้นมันเหมือนกับว่าเขาคนนั้นไม่ได้ให้ความสนใจกับเรื่องที่เราเป็นอยู่หรือเล่าให้ฟัง     การที่คนฟังเมินเฉยต่อเรื่องที่เรากำลังพูดหรือเล่าให้ฟังหลายคนจะต้องเจอกับสถานการณ์เหล่านี้มาก่อนตั้งแต่เด็ก เช่น เรานำเรื่องไม่สบายใจในตอนนั้นไปเล่าให้ผู้ปกครองฟัง แต่พวกเขากลับมองว่ามันเป็นเรื่องเด็กๆ และมีท่าทีไม่สนใจกับเรื่องของเราซะอย่างนั้น ดังนั้นคำว่า “ใจเย็นก่อน” ก็จะเหมือนกับปล่อยเรื่องของเราไปโดยที่ไม่ได้สนใจ ปฏิเสธที่จะรับฟังและทำให้เรามีความรู้สึกเหมือนกับที่เคยเป็นในครั้งอดีตจนทำให้ยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม โดยเฉพาะหากใครที่มีประสบการณ์แย่ๆ ต่อการถูกมองข้ามแบบหนักหน่วงด้วยแล้วจะยิ่งทำให้สิ่งนั้นย้อนกลับมาและเราก็จะมีอารมณ์ฉุนเฉียวมากยิ่งขึ้น     การแก้ไขคือหากได้ยินคำๆ นี้เมื่อไหร่เราก็ควรพูดกับคนที่เราคุยด้วยอยู่ตรงๆ ว่า “การได้ยินคำนี้มันยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่มากกว่าเดิม” เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและหาวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีวิธีการปรับและวิธีที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแตกต่างกัน เช่น เลิกคุยแล้วรอให้อารมณ์สงบก่อน ในตอนที่ถอยออกมาเราก็สามารถมองหาสิ่งอื่นรอบตัวที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นก่อนที่กลับไปพูดคุยกันใหม่อีกครั้ง แต่หากว่าผู้ฟังหรือคู่กรณีของเรายังไม่สนใจกับสิ่งที่เราพูด และตอบมาแต่คำว่า “ใจเย็นๆ ก่อนนะ” หรือ “สงบสติอารมณ์ก่อน” บางทีการหันไปพูดคุยกับคนอื่นแทนก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร     เพราะฉะนั้นแทนที่เราจะพูดแบบนั้น ก็เปลี่ยนมาเป็นการใส่ใจรับฟังและโต้ตอบดีกว่า เพราะคงไม่มีใครชอบเวลาต้องถูกเมินเฉยในเรื่องที่เราต้องการพูดด้วยหรอก   ที่มา: metro

  • 18 สถานที่ที่เราไม่คิดว่าจะมีสัตว์ไปอยู่หรือไปทำกิจกรรมอะไรกันแปลกๆ แบบนี้กันด้วย!?

    18 สถานที่ที่เราไม่คิดว่าจะมีสัตว์ไปอยู่หรือไปทำกิจกรรมอะไรกันแปลกๆ แบบนี้กันด้วย!?

    เวลาที่เราออกไปเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติ สิ่งที่คิดว่าจะได้เห็นก็คือสัตว์น้อยใหญ่ที่อาศัยอยู่ตามที่ต่างๆ นกบินอยู่บนท้องฟ้า ปลาอยู่ในน้ำ สัตว์อื่นๆ ก็วิ่งเล่นกันอยู่บนพื้น แต่ถ้าความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปล่ะ? จะเป็นยังไงถ้าหากว่าสัตว์บางชนิดมันดันสลับแหล่งที่อยู่อาศัยไปมา หมูว่ายอยู่ในน้ำหรือสัตว์ 4 ขาที่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้อะไรอย่างนี้มันจะทำให้เรารู้สึกสับสนได้ขนาดไหน แน่นอนว่าธรรมชาติย่อมมีความพิเศษที่แปลกใหม่คาดไม่ถึงซ่อนเอาไว้อยู่แล้ว งั้นเราไปดูความพิสดารเหล่านั้นที่ว่ามากันเลยดีกว่า   แพะต้นไม้ ประเทศโมร็อกโก .   พืชชนิดพิเศษที่มีแต่ในประเทศนี้ชื่อว่าต้น Argania เป็นสิ่งที่หาพบได้ยากและผลของมันคงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าแพะจำนวนมาก จนทำให้พวกมันยอมปีนขึ้นไปกินด้วยตัวเองเลยทีเดียว นอกจากพวกมันจะอิ่มอร่อยกันแล้วก็ยังช่วยให้เกษตรกรได้รับเมล็ดที่ดีขึ้นจากการย่อยของมันอีกด้วยนะ   ถ้ำงูห้อยหัว ประเทศเม็กซิโก   ถ้ำนี้จะเต็มไปด้วยงูแรทสเนคเหลืองแดงจำนวนมากที่ห้อยหัวลงมาจากเพดานถ้ำแทนการเลื้อยอยู่บนพื้นแทน เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่านอกจากจะมีพวกมันอาศัยอยู่ในถ้ำแล้วก็ยังมีฝูงค้างคาวขนาดเล็กที่อยู่กันอย่างเยอะแยะ นั่นจึงทำให้เจ้างูตัดสินใจไปอยู่ด้านบนเพื่อเวลาที่ฝูงค้างคาวบินผ่านพวกมันก็จะโฉบกินได้อย่างง่ายดาย   เกาะ Lambay ไอร์แลนด์   เจ้าตัววัลลาบีที่มาอาศัยอยู่กันที่เกาะนี้ไม่ได้มีขึ้นเองตามธรรมชาติเพราะความเป็นจริงที่นี่ห่างจากบ้านเกิดมันมากกว่า 16,000 กิโลเมตร เมื่อย้อนกลับไปในช่วง 1980’s สวนสัตว์ Dublin ได้นำพวกมันมาปล่อยเอาไว้ที่นี่เพราะไม่สามารถควบคุมจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นได้และตอนนี้เองพวกมันก็มีโอกาสที่จะล้นเกาะแล้ว   น้ำตก Akaka ฮาวาย   สถานที่แห่งนี้หากใครได้ไปก็จะเห็นกลุ่มวงศ์ปลาบู่ที่พยายามใช้ปากกระดึ๊บๆ จากลำธารข้างล่างขึ้นไปด้านบน เพราะว่ากระแสน้ำ Kolekole ที่อยู่เหนือน้ำตกขึ้นไปเป็นแหล่งวางไข่ของพวกมัน เพื่อให้ไข่ได้รับการพัดออกไปสู่มหาสมุทรก่อนที่ปลาเล็กปลาน้อยจะฟักและเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นปลาบู่รุ่นต่อไป  …

  • ลองเลือก 1 ใน 4 คนจากภาพนี้ “ใครโง่ที่สุด” ตัวเลือกนั้นมันบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน!?

    ลองเลือก 1 ใน 4 คนจากภาพนี้ “ใครโง่ที่สุด” ตัวเลือกนั้นมันบ่งบอกได้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน!?

    ชีวิตของเราจะต้องเจอกับตัวเลือกอยู่ตลอดเช่นวันนี้จะกินอะไร? ชอบสีอะไร? หรือแต่งตัวอย่างไรดี? ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันก็จะสามารถบอกได้ว่าคุณเป็นคนยังไง วันนี้เราจึงมีตัวเลือกง่ายๆ มาให้ได้ลองทำกันดูเพื่อช่วยอธิบายได้ว่า คุณจะมีลักษณะของความคิดในการแก้ปัญหาต่างๆ ไปในทิศทางใดกันแน่ เพียงแค่ให้คุณเลือกคนที่คุณรู้สึกว่า “โง่ที่สุด” เพียงหนึ่งเดียวจาก 4 คนในภาพนี้ โดยไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกสบายๆ แล้วเราไปดูกันว่าสิ่งที่คุณเลือกนั้นอธิบายออกมาได้ว่าอย่างไรบ้าง   ใครโง่ที่สุดสำหรับคุณ!? เลือกคำตอบแรกในใจได้เลย…   เลือกคนที่ 1 หากคุณคิดว่าคนที่นั่งรออยู่เฉยๆ ตรงปลายกิ่งไม้เป็นคนที่โง่ที่สุด แสดงว่าคุณเป็นคนที่ชอบยอมแพ้อยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะมีความคิดเห็นส่วนตัวว่ากำลังคิดอะไรอยู่ อยู่แต่คุณก็ไม่มีกำลังมากพอที่จะเข้าไปพูดได้ คุณจึงเลือกที่จะยอมรับในสิ่งที่ได้มามากกว่า นั่นจึงทำให้คุณไม่ค่อยมีการโต้เถียงหรือออกความคิดเห็น กลายเป็นคนดูเหมือนคนจิตใจดีที่รักความสงบคนหนึ่ง   เลือกคนที่ 2 คุณเป็นคนที่ดีแต่มักจะด่วนตัดสินใจไปโดยไม่ได้ใช้เวลาคิดให้ดีก่อนจนทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ และคนรอบข้างอาจมองว่าคุณเป็นคนดื้อที่ดันทุรังทำเรื่องต่างๆ มากจนเกินไป     เลือกคนที่ 3 ทุกครั้งคุณพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความเชื่อของตัวเองจนถึงวินาทีสุดท้ายและแทบจะไม่คิดยอมแพ้เลย อีกทั้งคุณอาจมีความสามารถในการเป็นนักธุรกิจที่ดี เพราะนิสัยการชอบต่อสู้และไม่ยอมแพ้ของคุณ นอกจากนี้คุณยังเป็นนักแก้ปัญหาที่ดี คุณมักจะมีแนวทางการวางแผนที่แตกต่างกันไปในแต่ละปัญหา   เลือกคนที่ 4 คุณคือสุดยอดนักปฏิวัติอย่างแท้จริงที่สามารถต่อสู้กับทุกสิ่งรวมถึงตัวเองได้เพียงเพราะพิสูจน์ในจุดยืนของตน บางครั้งคุณอาจลืมคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล จนถึงกับทำร้ายตัวเองลงไปบ้าง คุณอาจจะเป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ หรือคุณอาจจะเป็นแค่คนหัวดื้อที่พยายามเถียงทุกคนก็เป็นไปได้     เป็นอย่างไรกันบ้างเพื่อนๆ…

  • เน็ตไอดอลสาวแคนาดาสุดแซ่บ เปิดตัวแฟนเป็น ‘หนุ่มเอเชีย’ เจอกระแสชาวเน็ตวิจารณ์เพียบ!?

    เน็ตไอดอลสาวแคนาดาสุดแซ่บ เปิดตัวแฟนเป็น ‘หนุ่มเอเชีย’ เจอกระแสชาวเน็ตวิจารณ์เพียบ!?

    ความรักของคนสองคนแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสิ่งสวยงาม แต่ในบางครั้งผู้คนโดยรอบอาจไม่ได้คิดเช่นนั้น จนถึงกับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเลยก็มี นี่เป็นเรื่องราวของสาวแคนาดาสุดฮอต Lisa Vannatta เธอเป็นเน็ตไอดอลผู้โด่งดังจากการสตรีมวิดีโอเกมบวกกับความแซ่บของหุ่นอันเซ็กซี่ที่ทำให้มีผู้ติดตามอินสตาแกรมเธอมากกว่า 400,000 คน แน่นอนว่าเธอจะต้องเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ หลายคน แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอก็ได้โพสต์คลิปตอนที่เธอไปงาน Anime Expo ที่แคลิฟอร์เนีย จนทำให้ทุกคนได้เห็นกันว่าเธอมีแฟนหนุ่มที่รักกันมากอยู่แล้ว!!     แต่สิ่งที่กลายเป็นกระแสจนทำให้ชาวเน็ตต้องออกมาแสดงความไม่พอใจก็เพราะว่า Jay แฟนหนุ่มของเธอเป็นคนเอเชีย จากนั้นมาเธอและหนุ่มเกาหลีคนนี้จึงต้องเจอกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรง เช่นเรื่องความแตกต่างของรูปร่างและเชื้อชาติ “ทำไมเธอถึงออกเดทกับหนุ่มเอเชียที่สูงแค่ 172 เซนติเมตรเองละ? ฉันคงรู้สึกแย่ถ้าพวกเขามีลูกพันธุ์ผสมออกมา” “ผิวเหลืองเป็นที่นิยมขนาดทำให้เธอไปเดทกับชาวเอเชียเลยหรอ?”   .   หรือแม้แต่การแสดงความคิดเห็นที่บอกว่าเธอคบกับเขาเพียงเพราะเรื่องเงิน   “ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนุ่มเอเชียหน้าตาขี้เหร่จะไปเป็นแฟนกับสาวผิวขาวสุดเซ็กซี่คนนี้ได้ ทั้งคู่ต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยนะเพราะฉะนั้นเขาต้องรวยมากแน่นอน” อีกความคิดเห็นหนึ่งก็บอกว่าชายผิวขาวจะคบสาวเอเชียก็ไม่แปลก แต่หนุ่มเอเชียจะคบกับสาวผิวขาวน่ะมันไม่ได้ “ตรรกะความเป็นจริงบนโลกคือชายผิวขาวสามารถคบสาวเอเชียได้ แต่หนุ่มเอเชียจะมาคบกับสาวผิวขาวมันเป็นไปไม่ได้”   .   จากความคิดเห็นส่วนใหญ่บอกได้เลยว่า การเหยียดเชื้อชาติและสีผิวยังคงมีอยู่เสมอไม่ว่าโลกจะหมุนไปไกลแค่ไหน แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นอย่างนั้น คนที่เห็นด้วยกับทั้งสองอยู่ก็มี “ทั้งสองเป็นคู่รักที่น่ารักมากขอให้รักกันให้นานๆ นะ คนที่เกลียดชังคุณเขาจะพยายามดึงคุณลงมาเพียงเพราะว่าเขาอิจฉา เพราะฉะนั้นก็อย่าไปสนใจพวกเขาเลย”   คลิปวิดีโอไปงาน Anime Expo และเปิดตัวแฟนหนุ่มของเธอ .   การจะแสดงความคิดเห็นกับเรื่องอะไรต้องทำลงไปอย่างมีสติและเหตุผลจะใช้แต่อารมณ์อย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ…

  • ชาวเน็ตร่วมแชร์ความเฟลจาก ‘สินค้าออนไลน์’ ถ้าไม่เช็คดูดีๆ คุณอาจได้พบกับเรื่องแบบนี้

    ชาวเน็ตร่วมแชร์ความเฟลจาก ‘สินค้าออนไลน์’ ถ้าไม่เช็คดูดีๆ คุณอาจได้พบกับเรื่องแบบนี้

    วิธีการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์คงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะด้วยความสะดวกสบายที่เพียงแค่คุณมีคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนอยู่ในมือพร้อมกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตแค่นั้นก็สามารถชอปปิ้งกันได้แล้ว แต่แน่นอนว่าวิธีการต่างๆ ย่อมมีข้อเสียในตัวของมันเอง เมื่อคุณไม่สามารถเห็นสินค้าจริงได้ก่อนและต้องรอลุ้นว่ามันอาจมาพร้อมกับความคาดไม่ถึงเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ก็ได้ และนี่ก็คือตัวอย่างของความจริงที่บอกว่าการสั่งสินค้าออนไลน์อาจไม่ได้ดีเสมอไป ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย   ลายดอกสุดกิ๊บเก๋กลายเป็นแฟชั่นอาหมวยซะงั้น   ผ้าใบแบบนี้คงจะกล้าใส่ออกไปข้างนอกอยู่หรอกนะ   มันก็เกือบจะดีอยู่แล๊ววว   สงสัยจะทิ้งไว้นานโตมาเป็นต้นเลย แถมเกาะกับมอเตอร์ไซค์มาให้อีกด้วย   หมดกันความน่ารัก กลายเป็นแมวเอเลี่ยนทันที   ถุงน่องบ้านใครเนี่ยเล็กกว่าถุงเท้าซะอีก   ที่ชั่งน้ำหนักนิ้วชี้สินะ   ความระยิบระยับคงร่วงระหว่างทางไปหมดแล้ว   วัชพืชกินไปหมดแล้วหรือไง   อันนี้พูดยากนะว่าเป็นเพราะหุ่นหรือชุดกันแน่   แหนบนี่ไว้ถอนขนจมูกหรือขนหน้าแข้ง   แหมมม ก็ไม่ต้องบูดบึ้งขนาดนั้นก็ได้   จิ๊กซอว์ที่ส่งมาในสภาพสมบูรณ์ เหมือนกลัวว่าลูกค้าจะต่อไม่เป็น   อารมณ์เหมือนใส่เสื้อแต่ได้กางเกง   นางเงือก Ariel อาจดูสก๊อยไปหน่อยนะ   ส่งผ้าม่านมาให้เลยก็ได้   แถมท้าย: ความผิดพลาดมันอาจเริ่มต้นมาจากเจ้าของร้านแล้วก็ได้นะ ดูสิ..   เห็นอย่างนี้แล้วเวลาจะสั่งสินค้าออนไลน์ก็ต้องเช็คของและแหล่งที่มากันให้ดีๆ หน่อยนะ ไม่งั้นมีหวังได้ร้องไห้เสียใจเหมือนกับคนเหล่านี้แน่ๆ   ที่มา: brightside

  • ความน่ารักใสซื่อของคุณยายวัย 91 ปี เมื่อต้องมานั่งทายชื่อของเหล่า ‘โปเกมอน’

    ความน่ารักใสซื่อของคุณยายวัย 91 ปี เมื่อต้องมานั่งทายชื่อของเหล่า ‘โปเกมอน’

    เคยเป็นกันบ้างมั้ยเวลาที่เราเห็นสิ่งที่ไม่รู้จักอย่างเช่นสิ่งของแปลกๆ หรือสัตว์หน้าตาประหลาดแล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะเรียกสิ่งเหล่านั้นว่าอะไร เหมือนกับอาการของคุณยายท่านนี้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2017 แชนแนลยูทูบที่ชื่อว่า Our Epic Life ซึ่งเป็นช่องของหญิงสาวคนหนึ่งถ่ายคลิปวิดีโอเรื่องราวต่างๆ สุดน่ารักในครอบครัวของออกมาให้ได้ชมกัน ในครั้งนี้เธอก็ได้ทำการโพสต์คลิปคุณยายของเธอวัย 91 ปีมานั่งทายชื่อของสิ่งมีชีวิตในจินตนาการที่มีชื่อว่า โปเกมอน เกมและการ์ตูนที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี   คลิปวิดีโอความน่ารักของคุณยายวัย 91 ปีกับการทายชื่อโปเกมอน   แต่แน่นอนว่าในยุคสมัยของคุณยายสิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีให้เห็นมาก่อนและนั่นก็ทำให้การเดาชื่อของเจ้าสัตว์ประหลาดเหล่านี้มันออกมาได้ผิดเพี้ยนไปอย่างมาก   ยายตั้งชื่อให้มันเองก็มีนะ “ฉันจะเรียกนายว่า Hamilton” อย่างนี้ก็ได้หรอ?!   อย่างไรก็ตามหญิงชราท่านนี้ก็เต็มไปด้วยความน่ารักที่สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมทุกคนได้ โดยเฉพาะเวลาที่พยายามอธิบายให้หลานสาวเข้าใจคุณยายก็จะมีท่าทีคล้ายกับเด็กที่กำลังแย้งผู้ใหญ่เลย   เจ้า Blastoise (บลาส-ทอยส์) ที่คุณยายเถียงว่ามันไม่ได้สีดำเพราะคิดว่ามันชื่อ Black Toy (แบล็ค-ทอยส์) โถ่วววยายยย..   เพราะความใสซื่อของคุณยายท่านนี้นี่เองที่ทำให้คลิปดังกล่าวมียอดผู้เข้าชมมากกว่า 1,700,000 คนเลยทีเดียว คุณยายจะกลายเป็นเน็ตไอดอลเลยมั้ยเนี่ย   คุณยายแอบหลุดคำหยาบมานิดหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะแกก็ยังหยุดไว้ได้ทันนะ อุ๊บส์!!   เห็นแล้วก็รู้สึกได้ว่าครอบครัวนี้ต้องมีแต่รอยยิ้มกันแน่เลยยย   ที่มา: Our Epic…

  • 11 ภาพวาดการ์ตูนหลากหลายพฤติกรรมที่หนุ่มๆ ทุกคนจะเข้าใจได้เป็นอย่างดี

    11 ภาพวาดการ์ตูนหลากหลายพฤติกรรมที่หนุ่มๆ ทุกคนจะเข้าใจได้เป็นอย่างดี

    ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าผู้ชายกับผู้หญิงมีความแตกต่างกันมากตั้งแต่เกิดมาอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของกายภาพ สังคมที่ต้องเติบโตมาส่วนใหญ่รวมถึงพฤติกรรมที่แสดงออกมา แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเพศตรงข้ามหลายๆ คนก็อาจไม่ได้แสดงให้ได้เห็นทุกอย่างก็ได้ โดยเฉพาะหนุ่มๆ อย่างเราที่ดูเหมือนจะเป็นคนเปิดเผยแต่แท้จริงอาจมีหลายสิ่งที่ผู้หญิงไม่มีวันเข้าใจ และต่อไปนี้คือภาพวาดการ์ตูนที่มีเพียงแค่ผู้ชายเท่านั้นถึงจะสามารถเข้าใจมันได้อย่างลึกซึ้ง เราไปดูกันเลยยย   การดูแลความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะจุดที่สำคัญด้วยนะ   ทุกสิ่งทุกอย่างต้องถูกเคลื่อนย้ายในรอบเดียว ร่างกายกำยำขนาดนี้ยังไงก็ไหว   เป็นหวัดนิดหน่อยก็รู้สึกเหมือนกำลังจะตายเอาได้เลย   5 นาทีของการรอคอยสาวๆ เวลาไปช็อปปิ้งบางทีมันก็อาจจะนานเกินไป   บางครั้งหนุ่มๆ กำลังรอที่จะให้ผู้หญิงเข้ามาหา มากกว่าที่จะเข้าไปเองนะ   ตอนวัยรุ่นเวลามีขนยาวรุกรังก็รู้สึกรำคาญ พอถึงเวลาที่โหยหามันตอนนั้นก็สายเกินไปเสียแล้ว   การโกนหนวดก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากอยู่เหมือนกันนะในความเป็นจริง   เรื่องง่ายๆ บางครั้งพวกเขาก็ไม่เข้าใจ อย่างเช่น “สูทตัวนี้ดูเยี่ยมมากสำหรับคุณโดยเฉพาะเมื่อตอนที่ได้อยู่บนเวที” “ทำไมละ? อย่างนั้นมันก็ยับหมดนะสิ..” (On the floor แปลได้ทั้งบนเวทีและวางบนพื้น)   ผู้ชายอาจไม่ได้คิดนอกใจหรืออะไรให้มันยุ่งยาก บางความคิดอย่าง “การจะโหลดหนังเถื่อน” พวกเขายังคิดกันอย่างจริงจังเลย   สาวๆ อาจเพลิดเพลินกับการนอนแช่อ่างฟองสบู่แล้วจิบไวน์ซักแก้ว รู้มั้ยหนุ่มๆ เองก็เช่นกันนะ   ท้ายสุดแล้วพวกเขาก็มักจะทำตัวสบายๆ กลบเกลื่อนความกลัวที่ซ่อนอยู่ เรียกว่าเป็นชายทั้งแท่งต้องมาดแมนไว้ก่อนล่ะนะ   รู้อย่างนี้แล้วหนุ่มๆ…

  • คุณพ่อสายเมาพาเพื่อนมาขุดดินหลังบ้าน เมียรู้สึกไม่ปลื้มก็เลยจัดสระว่ายน้ำให้แทนเลย

    คุณพ่อสายเมาพาเพื่อนมาขุดดินหลังบ้าน เมียรู้สึกไม่ปลื้มก็เลยจัดสระว่ายน้ำให้แทนเลย

    ในบางครั้งเวลาที่เราเมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์อาจทำให้เราได้ทำอะไรแปลกๆ ลงไปโดยไม่รู้ตัว จนบางครั้งมันอาจเป็นเรื่องที่ทำให้คนรอบข้างไม่ปลื้มซักเท่าไหร่เช่นเดียวกับเขาคนนี้ เมื่อชายวัย 59 ปีที่ชื่อว่า Andrew Ellery ได้ชวนเพื่อนมาดื่มกันที่บ้านในปี 2015 พวกเขาดื่มกันจนเมาได้ที่และตัดสินใจยกโขยงกันไปขุดดินตรงสวนหลังบ้าน เพียงเพื่อความสนุกเท่านั้นเอง เช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ต้องตื่นมารับชะตากรรมของตัวเองจาก Stella ภรรยาที่ไม่ปลื้มกับหลุมที่เขาขุดทิ้งไว้ซักเท่าไหร่ แต่แทนที่เขาจะกลบหลุมให้เหมือนเดิม ไอเดียสุดเจ๋งก็เกิดขึ้นมาในหัวและเลือกที่จะสร้างเป็นสระว่ายน้ำไปซะเลย   ทำอะไรเอาไว้ตื่นมาก็ต้องรับผิดชอบ   นักดื่มตัวจริงทำสระว่ายน้ำไป จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ไป ชื่นใจนะ!!   ในสัปดาห์ต่อเขาก็เปลี่ยนเจ้าหลุมขนาดใหญ่ให้กลายเป็นสระว่ายน้ำด้วยเงินราว 13,000 บาท นอกจากนั้นเขายังนำเงินจำนวน 26,000 บาทไปซื้อท่อนไม้ เครื่องทำความร้อน และอ่างน้ำเพื่อมาสร้างเป็นห้องซาวน่าราคาประหยัดเอาไว้หลังสนามหญ้าอีกด้วย   กลายเป็นสระว่ายน้ำด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง   สร้างความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว   สิ่งประดิษฐ์ที่เขาสร้างขึ้นมาเองเหล่านี้ทำให้บ้านของเขาในเมือง Cardiff ประเทศเวลส์ กลายเป็นที่รู้จักของผู้คนโดยรอบ ชวนให้เพื่อนบ้านหรือคนรู้จักอยากเข้ามาดูผลงานของเขากัน   บ้านหลังไม่ได้ใหญ่มากแต่จุดเด่นคือมีสระว่ายน้ำอยู่ในสวนหลังบ้านนี่แหละ   เขายังบอกอีกว่าเขาได้ลงไปเล่นน้ำในสระบ่อยมากเพราะการที่ต้องออกไปทำงานมาทั้งวัน เขาก็จะรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งเวลาที่กลับมาบ้านแล้วเข้าไปในห้องซาวน่า หลังจากนั้นก็ลงไปในสระว่ายน้ำเพื่อให้ร่างกายเย็นลง เขาเสริมอีกว่า “และไม่ได้มีเพียงแค่ผมที่ชอบสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ หลานๆ ของผมเองก็ชอบที่จะลงไปเล่นด้วยเหมือนกันและหลานผมคนหนึ่งก็เรียนว่ายน้ำจากสระหลังบ้านแห่งนี้อีกด้วย”   ห้องซาวน่าขนาดย่อมเยา  …

  • 17 ภาพพฤติกรรมที่จะยืนยันได้ว่าคนคนนั้นคือ ‘เพื่อนแท้’ ของคุณอย่างแน่นอน

    17 ภาพพฤติกรรมที่จะยืนยันได้ว่าคนคนนั้นคือ ‘เพื่อนแท้’ ของคุณอย่างแน่นอน

    เชื่อว่าแทบทุกคนบนโลกจะต้องมีเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเราอย่างแน่นอนอาจต่างกันที่จำนวนว่ามีมากหรือน้อย แต่ที่สำคัญก็คือพวกเขาเหล่านั้นรักและคอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างคุณหรือเปล่า แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีวิธีการที่แตกต่างกันไปแต่คำว่า “เพื่อนแท้” คือเพื่อนที่จะไม่ทิ้งกันและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนรอบข้างของเขาได้มีความสุขแม้จะต้องเสียสละบางสิ่งบางอย่างไปบ้างก็ตาม เราลองไปดูกันดีกว่าว่าคนเหล่านั้นเขาได้ลงทุนลงแรงเพื่อเพื่อนของเขามากขนาดไหน   ความพยายามทุกอย่างเพื่อความสำเร็จของเธอ   แม้อาจต้องกลายเป็นหนุมานคลุกฝุ่น แต่เพื่อเพื่อนเราทำได้   อุ่นใจทุกครั้งที่ต้องเจอกับความท้าทาย   ไม่ว่าจะต้องเสี่ยงแค่ไหนนั่นก็ไม่ใช่ปัญหา   เพื่อนที่คอยเติมเต็มในทุกสิ่งของชีวิต ถ้านายเป็นเด็กเราก็จะยอมเป็นเป็ดที่เกาะติดอยู่กับนาย   การใช้เวลาทำบางสิ่งบางอย่างร่วมกัน ก็สามารถสร้างความสุขให้กับทุกคนได้   เวลาที่มีปาร์ตี้หนักๆ ก็อาจไปตะโกนให้ชาวบ้านได้รับรู้บ้างว่า “มึงเนี่ยแหละคือเพื่อนแท้ของกูคนเดียวเลยจริงๆ “ แต่ถ้าเมาก็กลับไปนอนก่อนก็ได้..   เพื่อนที่จะมีคุณอยู่เคียงข้างไม่ว่าเวลาไหน   การแบ่งปันคือสิ่งสำคัญเมื่อเพื่อนต้องลำบาก   หากคุณคิดว่าการเข้าฟิตเนสมันเป็นเรื่องที่น่าอาย เพื่อนจะช่วยทำให้คุณคลายความรู้สึกนั้นลงได้เอง เพราะเขาคือเจได!!   เอาจริงๆ นี่น่าจะรู้สึกเขินมากกว่าเดิมอีกนะ   ไม่ว่าจะสูงงง แค่ไหนก็ไปถึงงง   การต้องเสียสละกางเกงขายาวเพื่อให้เพื่อนสาวได้เข้าห้องเรียน ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร (แม้ต้องรออยู่ในห้องน้ำไปนานถึง 50 นาทีอ่ะนะ)   บางครั้งชีวิตก็อาจต้องแขวนอยู่บนบานประตูบ้าง   โอเคๆ ท่าได้ละ แต่ช่วยยิ้มหน่อยสิ   มิตรภาพจะมีที่ว่างสำหรับคุณอยู่เสมอ…

  • สุดซาบซึ้ง.. เมื่อแม่แมวจรจัดยอมอดอาหารเพื่อให้ลูกน้อยทั้ง 5 ของมันทุกตัวได้อิ่มท้อง

    สุดซาบซึ้ง.. เมื่อแม่แมวจรจัดยอมอดอาหารเพื่อให้ลูกน้อยทั้ง 5 ของมันทุกตัวได้อิ่มท้อง

    คนเป็นแม่แน่นอนว่าจะไม่ยอมเห็นลูกของตัวเองต้องเจอกับความลำบากหรืออันตรายใดๆ ด้วยความรักและสัญชาตญาณของพวกเธอไม่ต่างกับเจ้าแมวตัวนี้ เรื่องที่เรากำลังจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องของเจ้าเหมียวจรจัดที่ต้องดูแลลูกน้อยมากถึง 5 ตัวและด้วยสิ่งแวดล้อมโดยรอบมีอาหารไม่เพียงพอให้กับทุกตัว คุณแม่ตัวนี้ถึงกับยอมอดอาหารเพื่อให้ลูกๆ ของมันได้อิ่มท้องและช่วยป้องกันไม่ให้พวกมันต้องเป็นโรคต่างๆ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเมือง Terrey Hills ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเมื่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ภายในเมืองที่ชื่อว่า CatRescue 901 ทราบข่าว พวกเขาก็รีบเข้าไปช่วยเหลือพวกมันในทันที   ความยากลำบากที่ทำให้เจ้าเหมียวตัดสินใจสละอาหารทั้งหมดให้กับลูกๆ   สภาพที่แทบจะหมดเรี่ยวหมดแรงกันทุกตัว   ในตอนนั้นพวกเขาต้องไปเจอเจ้าเหมียวทั้งหลายอยู่ในสภาพผอมแห้งไม่มีแรง เพราะถึงแม้ว่าแม่ของพวกมันจะยอมอดอาหารแต่ด้วยสิ่งแวดล้อมที่มีจำกัด ทำให้เหล่าลูกน้อยวัย 6 สัปดาห์ได้รับอาหารเพียงแค่มื้อหรือสองมื้อต่อวันเท่านั้นเอง นอกจากนั้นอาหารที่พวกมันได้กินกันก็ยังมีคุณภาพที่ต่ำมากอีกด้วยทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงกันมากนัก ทีมช่วยเหลือจึงต้องรีบเคลียร์พื้นที่เพื่อรองรับการดูแลเจ้าเหมียวกลุ่มนี้ทันที ทุกคนในทีมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างมากที่เจ้าแมวตัวนี้สามารถอดอาหารมาได้นานขนาดนี้ รวมถึงดูแลให้ลูกๆ ทุกตัวสามารถมีชีวิตรอดมาได้ในสภาพแวดล้อมที่แทบจะไม่มีอาหารให้พวกมันกินได้เลย   ลูกแมวทั้งหลายได้รับการช่วยเหลือเพื่อให้สามารถมีชีวิตที่ดีได้   ในตอนแรกการดูแลพวกมันจะมีความยากลำบากอยู่เล็กน้อยเพราะคุณแม่แมวไม่ยอมที่จะเข้าใกล้ผู้ดูแล เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้มันและลูกๆ ต้องไปนอนอยู่ข้างถนนโดยที่ไม่มีมนุษย์คนไหนในละแวกนั้นเลยที่จะเข้ามาสนใจช่วยเหลือพวกมัน ดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เดินออกจากห้องไปมันถึงจะยอมเอาอาหารไปให้ลูกๆ ของมันกิน     ยังคงมีอาการกล้าๆ กลัวๆ กันบ้างในช่วงแรก   แต่เมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นมันเริ่มที่จะเข้าหาเจ้าหน้าที่อย่างเป็นมิตร แรกสุดน้องเหมียวทุกตัวจะได้รับวิตามินเสริมรวมถึงอาหารเปียกสำหรับลูกน้อยและอาหารแห้งสำหรับคุณแม่ที่มีคุณภาพมากที่สุด เพื่อช่วยพัฒนาสภาพร่างกายและโภชนาการ   เวลาผ่านไปน้องเหมียวก็เริ่มจะร่าเริงมากขึ้นแล้ว   ด้วยความสามารถของเจ้าหน้าที่ในกลุ่มช่วยเหลือที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือแมวมาโดยตลอดและลงแรงทำกันอย่างเต็มที่ ทำให้แม่เหมียวและลูกๆ เริ่มมีร่างกายที่แข็งแรง น้ำหนักเพิ่มขึ้นและร่าเริงแล้ว…

  • ขุ่นแม่จับลูกๆ มาแต่งตัว ‘แบบเดียวกัน’ กลายเป็นครอบครัวสุขสันต์ น่ารักจริงๆ เลย

    ขุ่นแม่จับลูกๆ มาแต่งตัว ‘แบบเดียวกัน’ กลายเป็นครอบครัวสุขสันต์ น่ารักจริงๆ เลย

    เราคงเคยเห็นเสื้อคู่หรือการแต่งตัวเหมือนๆ กันซึ่งคงทำให้ใครหลายคนรู้สึกว่ามันน่ารักดี เหมือนกับคุณแม่ลูกสองคนนี้ที่ได้นำไอเดียนั้นมาใช้ Dominique คุณแม่สาวชาวอังกฤษและลูกสาวทั้งสองคนของเธอ Amelia กับ Penny วันหนึ่งพวกเธอตื่นนอนมาและพบว่าทั้งสามแต่งตัวเหมือนกันเป๊ะ! จนต้องตกใจและสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน และความบังเอิญนั้นก็ได้ทำให้คุณแม่สาวสวยคนนี้เกิดไอเดียจับลูกๆ มาแต่งตัวเหมือนกันแล้วถ่ายลงอินสตาแกรมซะเลย ภายใต้ชื่อหัวข้อว่า All that is three ที่มียอดไลก์กว่าหมื่นครั้งและทำให้คนที่มาเห็นต้องอมยิ้ม เรามาดูกันดีกว่าว่าพวกเธอสามารถถ่ายทอดรอยยิ้มและความสุขของพวกเธอในตอนนั้นออกมาได้มากขนาดไหน   สงสัยชาคงจะฝาดลิ้นไปสำหรับหนูน้อยวัย 4 ขวบ   หลับฝันดีราตรีสวัสดิ์น้าาา   สำรวมหน่อยสิเจ้าตัวเล็ก   แฟชั่นยุค 90′ ของสาวๆ   ชุดไม่เหมือนแต่มาในธีมเดียวกันคือ Game of Thrones   มุ่งไปยังจักรวาล สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนน   สงสัยไปยืนอยู่กลางป่านาน นกมาทำรังเอาไว้หมดแล้ว   หญิงแกร่งสามแม่ลูก   ออกแรงเป่ากันหน่อย เอ้า ฟู่ววว..   กินทางปากนะจ๊ะ ไม่ใช่ทางจมูก   สามสาวตะลุยไร่อ้อย   เป็นการแต่งตัวที่ประหยัดงบประมาณดีจริงๆ  …

  • สาวเจ้าทำโทรศัพท์ตกในเขตของเพื่อนบ้าน แถมไม่มีใครอยู่ ก็เลยต้องทำภารกิจกู้ชีพขึ้นมา

    สาวเจ้าทำโทรศัพท์ตกในเขตของเพื่อนบ้าน แถมไม่มีใครอยู่ ก็เลยต้องทำภารกิจกู้ชีพขึ้นมา

    เวลาที่ทำมือถือตกลงพื้นหลายคนจะรีบหยิบขึ้นมาและลุ้นว่าหน้าจอมันจะแตกหรือเปล่า ถ้าแตกนั่นก็ถือว่าเป็นความโชคร้ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สำหรับเธอคนนี้มันกลับแย่ซะยิ่งกว่านั้น เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Liz Bertorelli ดันทำมือถือตัวเองตกลงพื้น แต่ที่สำคัญเลยก็คือมันดันตกลงไปบนพื้นระเบียงของห้องข้างล่าง!! เธอจึงต้องสวมบทบาทเป็นหน่วยกู้ภัยไอโฟนขึ้นมา เธอได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดลงในทวิตเตอร์ของตัวเอง เราไปดูกันเลยว่าภารกิจของเธอนี้มันยากลำบากมากขนาดไหน   คืนวันที่ 3 ตุลาคม เธอทำไอโฟนตกลงไปและรู้สึกอยากจะบ้าตายเมื่อเห็นการแจ้งเตือนมันเด้งขึ้นมาเรื่อยๆ   เช้าวันถัดมาเธอใช้วิธีเขียนเบอร์โทรของอีกเครื่องหนึ่งที่เธอมีลงในโน้ตแผ่นเล็กๆ และหย่อนลงไปบนโต๊ะด้านล่าง   แต่พอผ่านไปแค่ไม่กี่นาที กระดาษโน้ตแผ่นนั้นก็ปลิวลงไปอยู่ตรงพื้นซะแล้ว   จากนั้นก็มีคนมาให้คำแนะนำด้วยนะ อย่างชายคนนี้ที่บอกให้เธอลองเขียนสัญลักษณ์ที่มองเห็นได้ชัดห้อยเอาไว้ หรืออาจจะวาดการ์ตูนลงไปด้วยก็ได้   อีกคนที่แนะให้เธอลองหย่อนเอ็นตกปลากับอะไรเหนียวๆ ไปติดเจ้าไอโฟนขึ้นมา Liz จึงคิดได้ว่าเธอมีไม้ถูพื้นกับเทปกาวอยู่ หวังว่าสิ่งนั้นจะช่วยเธอได้นะ   ตอนนี้เธอก็ลองมาคิดดูอีกว่าเธอจะส่งโดรนลงไปซะเลยดีมั้ยเนี่ย   เวลาผ่านไปไม่นานแต่เธอก็รู้สึกคิดถึงเจ้ามือถือเครื่องนี้มาก แม้ตอนกำลังให้อาหารเจ้าหมาก่อนออกไปทำงาน   หลังเลิกงานกลับมาบ้านเธอก็ต้องพบว่ามือถือดันต้องเปียกฝนซะอีก แถมเจ้าหมาก็ยังรอคอยการกลับมาของไอโฟนไม่ต่างกับเธอเลย   เธอลงไปเคาะห้องด้านล่างนั้นดูถึง 3 ครั้งแต่ก็ไม่มีการตอบรับ สงสัยว่าพวกเขาคงจะออกไปเที่ยวหรือไม่ก็ออกไปทำงานเป็นเวลานาน ไม่อย่างนั้นอาจเป็นคนหลับลึกนอนอยู่ในห้องก็ได้   สุดท้ายเธอก็นำอุปกรณ์ที่มีขนาดยาวออกมาทั้งหมด (รวมถึงโดรนและน้องหมาด้วยนะ)   ขณะนี้ไอโฟนก็ยังทำงานได้ดีอยู่เพราะหน้าจอยังคงมีการแจ้งเตือนให้เห็น เครียดไปตลอดคงจะไม่ไหว โชคดีที่เธอได้สหายและสุราคู่ใจมาดับความหัวร้อนเอาไว้   เธอนำเอ็นมาผูกกับกระเป๋าเพื่อหย่อนลงไปป้องกันไม่ให้มือถือต้องเปียกน้ำ…

  • ศิลปินสาววาดการ์ตูน บอกเล่าช่วงเวลาที่อยู่กับแฟนหนุ่ม + เจ้าหมา เปี่ยมสุขและน่ารักที่สุด!!

    ศิลปินสาววาดการ์ตูน บอกเล่าช่วงเวลาที่อยู่กับแฟนหนุ่ม + เจ้าหมา เปี่ยมสุขและน่ารักที่สุด!!

    การมีชีวิตคู่หลายคนอาจคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ได้สวยงามไปซะทีเดียวเพราะต้องเจอกับเรื่องให้ทุกข์ใจต่างๆ มากมาย แต่ไม่ใช่สำหรับเธอคนนี้เมื่อการ์ตูนที่เธอวาดเกี่ยวกับชีวิตคู่ของเธอมันช่างสวยงามเสียเหลือเกิน ศิลปินสาวในนครนิวยอร์ก ที่ใช้ชื่อว่า Pat หรือ Patabot ได้สร้างผลงานที่บอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตร่วมกับแฟนหนุ่มของเธอ Ray ซึ่งเต็มไปด้วยความน่ารักชวนให้ทุกคนต้องอมยิ้มกัน   พ่อบอกให้ไปปลุกแม่ไง ไม่ใช่ให้ไปนอนด้วย..   นอกจากนั้นยังมีน้องหมาสุดน่ารักของพวกเธอ เจ้า Fifi ที่เข้ามาเติมเต็มให้ทุกอย่างดูสดใสมากยิ่งขึ้นไปอีก เปรียบได้กับเป็นลูกรักของครอบครัวเลย เราไปดูส่วนหนึ่งของการ์ตูน “ฆ่าคนโสด” นี้ดีกว่าว่าชีวิตของทั้งสามนั้นมันน่ารักมากขนาดไหน…   เป็นนิทานของเจ้าชายสุดหล่อที่ตกอยู่ในมนต์สะกดของความง่วง จนกระทั่งทำเอาอัศวินแสนสวยและน้องมังกรขนปุยโดนมนต์สะกดนั้นเข้าไปด้วยเลย ฝันดีนะทุกคน   “ทำอย่างไรดีพลังจะหมดแล้วนะ” หมับเข้าให้! เติมพลังกันหน่อยนะ   มองตาเป็นประกายขนาดนี้แล้วใครละจะอดใจไหว   รู้มั้ยว่าขนมคบเคี้ยวมันไม่ดีต่อสุขภาพ.. ของน้องหมาเท่านั้นนะ แต่เรากินได้ หุหุหุ   “น่ารักจริงๆ เลยนะเจ้าขนปุยตัวเล็ก” “อย่าเอาแต่ชมเจ้า Fifi อย่างเดียวสิ อิจฉานะ!!”   ต้องเข้าใจผู้หญิงผมยาวก็งี้แหละเนาะ   ปากบอกว่าไม่แต่ก็กินไปเต็มคำเลยน้าาา   ถ้าหากฉันแก่ไปจนหนังเหี่ยวเหมือนตอนหลังอาบน้้ำ เธอจะรักฉันอยู่มั้ย?   นาฬิกาปลุกเรือนนี้มันจะช่วยให้เราได้ตื่นมาอย่างสดชื่นด้วยแสงอันเจิดจ้า แต่ฉันว่ามันคงจะใช้ไม่ได้กับเธอ…

  • คลิปสอนเรื่อง ‘จิมิ๊ส์’ เปรียบเปรยเป็นน้องเหมียว เพื่อเรียนรู้ว่าเราควรดูแลน้องสาวกันยังไง…

    คลิปสอนเรื่อง ‘จิมิ๊ส์’ เปรียบเปรยเป็นน้องเหมียว เพื่อเรียนรู้ว่าเราควรดูแลน้องสาวกันยังไง…

    เรื่องเพศศึกษาเป็นเรื่องที่แทบทุกคนจะต้องเคยเจอสมัยตอนเรียนหนังสืออยู่แน่นอน แต่ถ้าหากว่าเราอยากศึกษาเรื่องราวเหล่านั้นให้ลึกลงไปผ่านทางคลิปวิดีโอเราจะทำอย่างไรให้มันออกมาดูน่ารักกันนะ แต่สำหรับตอนนี้มีคำตอบให้คุณแล้ว เมื่อทางองค์กร Planned Parenthood ร่วมกับองค์กรด้านสุขภาพสตรี ทำการปล่อยคลิปวิดีโอที่จะทำให้เราสามารถเข้าใจและเรียนรู้เกี่ยวกับอวัยวะเพศของสาวๆ ได้มากยิ่งขึ้น ซีรีย์การนำเสนอที่ชื่อว่า How To Take Care Of Your Pussy ได้ใช้วิธีการสอนและอธิบายควบคู่ไปกับเจ้าเหมียวทั้งหลายที่จะมาช่วยทำให้ทุกอย่างดูซอฟท์ลง มีความน่าเรียนรู้และทำให้ไม่รู้สึกถึงความทะลึ่งลามกอะไร อีกทั้งเป็นการเล่นคำของคำว่า Pussy ที่แปลได้ทั้งอวัยวะเพศหญิงและแมวเหมียว เราไปดูกันดีกว่าว่าวิดีโอ 3 ตอนนี้ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มมากขึ้นอีกบ้าง…   ตอนที่ 1 มาทำความรู้จักน้องจิมิ๊ส์กันเถอะ   ตอนแรกจะเป็นการพูดถึงความแตกต่างระหว่าง ส่วนแคม (Vulva) กับ ส่วนช่องคลอด (Vaginal) ที่หลายคนอาจเข้าใจผิดกันไปบ้าง โดยส่วนแคมนั้นจะหมายถึงพื้นที่โดยรอบของอวัยวะเพศที่อยู่ภายนอก อย่างเช่น ปุ่มกระสัน แคมใน แคมนอก เป็นต้น แต่ส่วนของช่องคลอดจะเป็นเพียงท่อผิวหนังที่อยู่ภายในคั่นกลางระหว่างส่วนแคมกับปากมดลูก   แมวมีสีหรือลักษณะที่แตกต่างกัน น้องจิมมี่เองก็ด้วย   นอกจากนั้นยังพูดถึงความแตกต่างของจิมิ๊ส์ ซึ่งสามารถมีความแตกต่างกันได้หมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่าง สีสัน หรือขนที่อาจมียาวบ้างสั้นบ้างเป็นเรื่องปกติ   ตอนที่ 2…

  • นักแข่งตัดสินใจหักพวงมาลัยหยุดรถ ยอมเสียโอกาสคว้าชัยชนะ เพื่อไม่ให้น้องหมาได้รับอันตราย…

    นักแข่งตัดสินใจหักพวงมาลัยหยุดรถ ยอมเสียโอกาสคว้าชัยชนะ เพื่อไม่ให้น้องหมาได้รับอันตราย…

    ในทุกการแข่งขันผู้เข้าแข่งทุกคนย่อมพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงชัยชนะอยู่เสมอ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้บางครั้งเราจำเป็นต้องเสียสละสิ่งหนึ่งเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ถึงอย่างนั้นนักแข่งรถแรลลี่ที่ชื่อว่า Carlos Matos กลับเลือกที่จะปล่อยชัยชนะให้หลุดลอยไปในการแข่งขัน เมื่อเขาต้องเจอกับน้องหมาที่วิ่งเข้ามาในเขตสนามแข่งโดยไม่ได้ตั้งใจ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเดือนกันยายนปี 2017 ที่ผ่านมาได้มีการจัดการแข่งขันรถแรลลี่ชื่อ Constalica Rallye Vouzela ใช้เวลาการแข่งขัน 2 วันในประเทศโปรตุเกส   Carlos Matos (ซ้าย)   Carlos Matos เป็นหนึ่งในนักแข่งของรายการนี้และเคยได้แชมป์มาแล้วถึง 3 สมัย และกำลังลุ้นสมัยที่ 4 อยู่ในปีนี้แต่เรื่องราวก็เกิดขึ้นในช่วงพริบตาของสนามสุดท้าย ด้วยความเร็ว 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขณะที่เลี้ยวโค้งมา เขาต้องเจอกับน้องหมาที่วิ่งอยู่บนถนนก่อนที่จะตัดสินใจหักพวงมาลัยเพื่อหยุดรถก่อนที่จะเกิดอันตรายขึ้น จนในที่สุดแล้วน้องหมาก็รอดปลอดภัยมาได้อย่างหวุดหวิด การที่เขาทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าเขาต้องพลาดโอกาสการเป็นแชมป์ของรายการนี้ไปในทันที แต่ถึงอย่างนั้นสัญชาตญาณของเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเลือกชีวิตน้องหมามากกว่าความสำเร็จของตัวเอง   คลิปวิดีโอการสละโอกาสแห่งชัยชนะเพื่อน้องหมา   อย่างไรก็ตามนักแข่งคนนี้ก็ได้ออกมาบอกกับสื่อว่า “แม้ว่าสุนัขตัวนั้นจะตัวเล็กอยู่แต่ทุกชีวิตย่อมมีค่ากว่าทุกสิ่งเสมอ และหากใครรู้จักผมก็จะรู้ว่าผมรักสัตว์มากขนาดไหน” ความรักสัตว์ของเขาพิสูจน์ได้จากน้องหมาที่เลี้ยงไว้มากถึง 5 ตัว ท้ายสุดแล้วเขาก็ยังยืนยันอีกด้วยว่า “ต่อให้เกิดเรื่องเดียวกันนี้ขึ้นมาอีก ผมก็จะยังทำเหมือนครั้งนี้อยู่ดี”     นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยม เปรียบได้กับคำพูดที่ว่า “ชัยชนะไม่ใช่ทุกสิ่งเสมอไป” ที่มา: thedodo

  • ลูกแมวตัวน้อยมาร้อง ‘เมี้ยว’ อยู่หน้าบ้าน ผ่านไปสองปีอยู่ดีกินดี จนกลายเป็นเจ้าของบ้านไปแล้ว

    ลูกแมวตัวน้อยมาร้อง ‘เมี้ยว’ อยู่หน้าบ้าน ผ่านไปสองปีอยู่ดีกินดี จนกลายเป็นเจ้าของบ้านไปแล้ว

    เมื่อมีคนมาส่งเสียงเรียกอยู่หน้าบ้านหรือว่ามาเคาะประตู เราจะต้องออกไปดูกันซะหน่อยว่าเป็นใคร แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่เสียงร้องของคนเนี่ยสิ… เพราะเจ้าแมวน้อยตัวนี้ได้ใช้วิธีเดียวกันนั้นส่งเสียงร้องอยู่ตรงชานบ้านของเด็กสาวคนหนึ่งในปี 2015 เรียกร้องความสนใจของเธอและเจ้าแมวอีกสองตัวที่เธอเลี้ยงเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว เรื่องนี้ถูกถ่ายทอดผ่านผู้ใช้ Reddit ที่มีชื่อว่า hrtofdixie ในตอนที่เธอไปเจอกับสภาพอันผอมแห้งของมัน จึงรีบไปหาอาหารมาให้มันกิน ก่อนที่จะอุ้มมันขึ้นมาและตั้งใจว่าจะดูแลมันไปก่อน เพื่อรอวันที่หาบ้านใหม่ที่ดีและเหมาะสมให้กับเจ้าตัวเล็กได้   ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ยเมี้ยววว   ป๋มเหนื่อยล้ามากเลยอ่ะครับ ขอเข้าไปหน่อยน้าาา   หลังจากนั้นเธอก็พามันไปอาบน้ำให้เรียบร้อยเพื่อล้างคราบสกปรกและหมัดออกไปให้หมด จนตัวหอมฉุยพร้อมที่จะเข้าไปอยู่ในบ้านร่วมกัน เวลาผ่านไปกลับกลายเป็นว่าเจ้าตัวเล็กที่ชื่อ Binx ตัวนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเธอไปเสียแล้ว เพราะมันเริ่มสร้างความสนิทสนมกับเธอและแมวตัวที่เหลือตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน   ได้เข้ามาแล้ว.. เย้ ที่นี่ต้องกลายเป็นฐานทัพใหม่ของป๋มแน่นอน   ตรงนี้นุ่มดีงั้นลงไปนอนเล่นเลยดีกว่าาา   พอเข้าบ้านปุ๊บมันก็รีบไปครอบครองที่นอนเอาไว้เป็นอย่างแรกก่อนที่จะเข้ามากอดมาเล่นกับเธอ รวมถึงเจ้าเหมียววัย 16 ปีที่ชื่อว่า Nickel ที่ตอนแรกยังไม่ค่อยไว้ใจเจ้าตัวเล็กเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ต้องตกหลุมพรางความน่ารักจนเข้ามาคลอเคลียกันอยู่ตลอดนานเป็นสัปดาห์ แต่เมื่อผ่านไป 1 เดือนเจ้าแมวชราตัวนั้นก็ต้องจากไปอย่างน่าเศร้า ทิ้งให้เจ้าแมวน้องใหม่ตัวนี้เป็นสิ่งเยียวยาจิตใจให้กับเจ้าของสาว   เจ้า Nickel (ตัวทางขวา) ที่ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ   แต่ถึงยังไงแม่ก็ยังมีผมอยู่นะครับ   เจ้าเหมียวน้อยคอยใช้เวลาเยียวยาเธอมาตลอด   เวลาผ่านไป…

  • ‘กางเกงในพุงแมว’ ที่จะทำให้คุณแปลงร่างเป็นเจ้าเหมียว ‘สามเหลี่ยมขาว’ ได้อย่างแนบเนียน!!

    ‘กางเกงในพุงแมว’ ที่จะทำให้คุณแปลงร่างเป็นเจ้าเหมียว ‘สามเหลี่ยมขาว’ ได้อย่างแนบเนียน!!

    ปัจจุบันเรื่องเครื่องแต่งกายจะมีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครออกมาให้เราได้เห็นกันอยู่ตลอด ทั้งจากจินตนาการของนักออกแบบทั้งหลายเองหรือลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งรอบตัวอย่างเจ้ากางเกงในตัวนี้ หลายคนคงทราบดีว่าญี่ปุ่นนั้นจะให้ความสนใจกับน้องแมวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหมวกหูแมว พวงกุญแจ ของที่ระลึก หรือแม้แต่กางเกงในสำหรับสาวๆ ที่ครั้งนี้ก็ได้ต้นแบบมาจากลายตรงท้องของเจ้าเหมียวกันเลยล่ะ!! เมื่อบริษัทเสื้อผ้า Felissimo ได้ทิ้งข้อความแปลกๆ เอาไว้ในทวิตเตอร์เมื่อเดือนมิถุนายนว่า “อยากให้ทุกคนช่วยแชร์รูปแมวดำที่มีลวดลายเหมือนกับว่ามันใส่กางเกงในสีขาวมาให้ดูหน่อย” หากงงว่ามันเป็นอย่างไรก็ลองดูได้จากรูปข้างล่างนี้   ลักษณะของแมวที่ทางบริษัทอยากได้   จากคำพูดตอนนั้นจึงทำให้ทาสแมวหลายคนเข้ามาตอบโพสต์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือน้องเหมียวจากโอซาก้า ที่ชื่อว่า Naoko ในท่านอนที่เห็นแล้วก็หมั่นเขี้ยว น่ารักน่าเอ็นดูและมีลักษณะตรงกับที่บริษัทดังกล่าวขอไว้เป๊ะๆ   นอนสบายเกินไปมั้ยเนี่ย Naoko   แต่ทุกคนก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าจะเอารูปแมวที่มีลวดลายแบบนี้ไปทำไมกันนะ? จนกระทั่งเวลาผ่านไปหนึ่งเดือนคำถามนั้นก็ได้รับการคลี่คลายลง… เมื่อมีการโพสต์รูปของกางเกงในสตรีที่มีลวดลายไม่ต่างกับหน้าท้องของแมวตัวนั้นเลย ที่แท้ทางบริษัทคงต้องการที่จะหาแมวต้นแบบไปดีไซน์ต่อให้กลายเป็นสินค้าชิ้นนี้นี่เอง!!   ลวดลายสุดกิ๊บเก๋ เปลี่ยนให้คุณกลายเป็นเจ้าแมวตัวเมื่อกี้ได้ในพริบตาเดียว   รูปทรงคล้ายกับกางเกงขาสั้นแบบรัดรูป   รูปทรงของกางเกงในตัวนี้ในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า Haramaki โดยจะมีความหนาและเนื้อผ้าที่ช่วยสร้างความอบอุ่น เหมาะสำหรับอากาศในช่วงฤดูหนาว โดยปกติกางเกงในชนิดนี้จะมีสีสันที่โดดเด่นแต่สำหรับเจ้าตัวลวดลายพุงแมวกลับมีสีที่เรียบง่าย จะมีเพียงแค่ส่วนของขนสีขาวฟรุ้งฟริ้งที่ดูจะเด่นชัดมากที่สุดเพียงจุดเดียว   ลักษณะแบบขนๆ ฟูๆ หยิกหยอยนี้ช่างดึงดูดสายตาได้ดีจริงๆ   เจ้าสินค้าที่ชื่อว่า Fluffy Black Cat Haramaki ตัวนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 430…

  • 11 เบื้องหลังคอสเพลย์สวยๆ ที่กว่าจะได้มา ต้องผ่านเบื้องหลังความฮามามากขนาดนี้เชียว!!

    11 เบื้องหลังคอสเพลย์สวยๆ ที่กว่าจะได้มา ต้องผ่านเบื้องหลังความฮามามากขนาดนี้เชียว!!

    การถ่ายรูปคอสเพลย์เลียนแบบตัวละครในการ์ตูนอาจเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน และการจะมีลักษณะหรือรูปแบบให้เหมือนมากที่สุดนั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย นั่นจึงทำให้ทุกคนต้องพยายามอย่างหนักเพื่อให้มันออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด แต่ก็ไม่ได้มีเพียงแค่ความยากลำบากเพราะวิธีการเหล่านั้นได้ซ่อนความฮาเอาไว้อีกด้วย ก็แน่นอนล่ะ เพราะในชีวิตจริงเราไม่อาจเสกพลังเหมือนดั่งในการ์ตูนได้ ฉะนั้นก็ต้องบรรจงสร้างฉากด้วยวิธีการที่ใกล้เคียงที่สุดเพื่อให้ได้ภาพตามที่ต้องการ!!   เดี๋ยวพี่จะช่วยหยิบหนังสือเล่มนั้นให้เองนะจ๊ะน้องสาว   ก็ว่าทำไมพี่ชายถึงดูสู๊งสูงงง   ความร้อนแรงของนัยน์ตาช่างเข้ากับสีดอกไม้ซะเหลือเกิน   แต่ก่อนจะห่วงเรื่องความฮอต ก็ช่วยห่วงหัวเข่าน้องเขานิดนึงนะ   น้ำกระจายได้จังหวะอะไรขนาดนี้นะ   ไอ้หนุ่มคนนั้นจะลอยตัวอยู่ทำไมน่ะ?   อ๋อออ.. มันเป็นอย่างนี้นี่เอง   แอปเปิ้ลเต็มต้นขอเก็บมากินซักผลเถอะนะ   เป็นต้นแอปเปิ้ลเวอร์ชั่นไม้เลื้อยหรอกเหรอเนี่ย   ระเบิดกระจุย เศษกระจกแตกกระจาย   ไม่ต้องกลัวเข้าตาหรอกนะ เราจะโยนขึ้นไปตรงๆ เอง   จงรับลูกเตะของข้าไปซะ!!   รีบๆ มารับไปหน่อย เมื่อยแล้วโว้ยยย   คุณพระ!! อะไรจะตัวอ่อนขนาดนั้น   กดชัตเตอร์ให้ไวหน่อยนะ หลังแอ่นไปหมดแล้ว   สวยงามจริงๆ เลยทั้งทิวทัศน์และนางแบบ   แต่ต้องไปช่วยฉุดน้องเขาขึ้นมาหน่อยนะ ป่านนี้ตะคริวคงกินต้นขาไปหมดละ   กิโมโนแบบสดใสน่ารัก มุ้งมิ้งๆ…

  • สุดยอดน้องหมา ผู้ครองตำแหน่งสุนัขที่มี “ลิ้นยาวที่สุดในโลก” โดยยาวกว่า 7.3 นิ้ว!!

    สุดยอดน้องหมา ผู้ครองตำแหน่งสุนัขที่มี “ลิ้นยาวที่สุดในโลก” โดยยาวกว่า 7.3 นิ้ว!!

    หลายคนต้องรู้จักหนังสือ “กินเนสบุ๊ก” กันมาก่อนเพราะมันคือสิ่งที่บันทึกความเป็นที่สุดในแต่ละเรื่องบนโลกเราเอาไว้ ซึ่งครั้งนี้เราก็จะพูดถึงหนึ่งในสถิติที่เจ๋งไม่แพ้อันอื่นเลย นั่นก็คือสถิติของน้องหมาที่มี ‘ลิ้น’ ยาวที่สุดในโลก โดยเจ้าของสถิติในปัจจุบันก็คือสุนัขสายพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดที่ชื่อว่า Mochi วัย 8 ขวบในเมือง Sioux Falls รัฐดาโคตา ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่มันจะได้ตำแหน่งนี้ไปครอง เพราะว่าลิ้นของมันมีความยาวจากระยะของริมฝีปากจนถึงปลายลิ้นวัดออกมาได้ถึง 7.3 นิ้วหรือกว่า 18 เซนติเมตรเลยทีเดียว!!   เจ้าหมา Mochi ครองแชมป์สุนัขที่มีลิ้นยาวที่สุดในโลกตอนนี้   Carla Rickert เจ้าของของมันได้บอกว่า “ฉันรู้สึกภูมิใจกับตำแหน่งที่มันได้รับเป็นอย่างมาก รู้สึกได้เลยว่าช่วงเวลากว่า 6 ปีครึ่งที่ฉันดูแลมันมามันช่างคุ้มค่า” เธอและสามีได้รับช่วยเหลือและพามันกลับมาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 2 ขวบ หลังจากนั้นพวกเธอก็ต้องคอยดูแลมันอย่างใกล้ชิดเพราะความยาวลิ้นที่ผิดปกติทำให้ต้องคอยป้องกันเรื่องฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจติดอยู่บนลิ้นของมัน นอกจากนั้นมันยังได้สอนให้พวกเธอเข้าใจว่าจงภูมิใจกับเอกลักษณ์ในตัวเอง และหวังว่ามันจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนหันมาช่วยเหลือและรับเลี้ยงสัตว์จรจัดทั้งหลาย   คลิปวิดีโอตอนที่เจ้าหมาตัวนี้ได้รางวัล   แม้ว่ามันจะเป็นแชมป์อยู่ในตอนนี้แต่ถ้าหากย้อนกลับไปในอดีต สุนัขที่มีลิ้นยาวที่สุดในโลกจริงๆ มีชื่อว่า Brandy สายพันธุ์บ็อกเซอร์ในรัฐมิชิแกน วัดความยาวลิ้นได้มากถึง 17 นิ้ว หรือกว่า 43 เซนติเมตร แต่เจ้าตัวนี้ได้ตายไปในเดือนกันยายน ปี…

  • เผย 27 ภาพความน่ารัก ‘วัวไฮแลนด์พันธุ์ขนปุย’ สะกดจิตคุณได้ไม่แพ้ทั้งหมาทั้งแมว!!

    เผย 27 ภาพความน่ารัก ‘วัวไฮแลนด์พันธุ์ขนปุย’ สะกดจิตคุณได้ไม่แพ้ทั้งหมาทั้งแมว!!

    เมื่อเราพูดถึงสัตว์ที่มีขนน่ารักปุกปุยหลายคนก็คงจะนึกถึงลูกแมว ลูกหมาหรือเจ้าหมีแพนด้าอะไรทำนองนั้น แต่วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ วัวไฮแลนด์พันธุ์ขนปุย ที่น่ารักน่าชังไม่แพ้สัตว์อื่นๆ เลย เป็นสายพันธุ์ที่มาจากประเทศสกอตแลนด์ เอกลักษณ์คือขนยาวหงิกงอที่พร้อมจะสามารถอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บหรือฝนตกหนักได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งกว่านั้นในตอนที่พวกมันยังตัวเล็กๆ กันอยู่ก็ถือว่ามีความน่าเอ็นดูไม่แพัสัตว์ชนิดอื่นเลย ถ้าไม่เชื่องั้นเราไปดูความน่ารักของเจ้าตัวขนฟูฟ่องนี้ได้เลยยย   สวัสดีฮับ.. แบร่!!   เป็นสาวมั่นต้องเชิดเข้าไว้   หลากเฉดสีให้ทุกคนได้เลือกสรร   มองตาแป๋วเชียวน้าาา   โอ๊ะโอ๋ แก้มน่าหยิกจริงๆ เลยยย   หลับสบายกันทั้งคู่   ทำไมรู้สึกเจ้าตัวนี้มันเหมือนเต่ามากกว่า?   นอนอยู่แบบนี้จะไปกินน้ำก็ไม่ได้   ผมป้ายสไตล์เกาหลี   ใครปิดไฟ?!   เห็นสาวตรงนั้นแล้วก็แทบจะอดใจไม่ไหว   กินนมเยอะๆ นะ โตมาจะได้สูงๆ   ลุกมาเล่นกันก่อนสิ   อยู่อย่างนี้ก็เริ่มง่วงละอ่ะ   แม่จ๋าาา น้ำในหูจะไม่เท่ากันแล้ว   หิว หิว หิ๊ววว!!   หูกางรับลม   พ่อจ๋าาา…

  • มาถึงขนาดนี้แล้วเหรอ!? พบกับอุปกรณ์ที่จะช่วยกรองให้คุณสูดแต่อากาศบริสุทธิ์เข้าไป

    มาถึงขนาดนี้แล้วเหรอ!? พบกับอุปกรณ์ที่จะช่วยกรองให้คุณสูดแต่อากาศบริสุทธิ์เข้าไป

    เครื่องฟอกอากาศที่เราเห็นกันทั่วไปจะมีขนาดที่ใหญ่เหมาะกับการวางไว้ในห้องเพื่อทำให้อากาศในนั้นบริสุทธิ์ แต่สำหรับเครื่องนี้จะทำให้เราได้รับอากาศที่ดีในทุกที่ทุกเวลา มาทำความรู้จักกับ Treepax เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสามารถสูดอากาศหายใจได้แบบสดชื่น เพราะเจ้าสิ่งนี้จะเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นออกซิเจนไม่ต่างกับต้นไม้ ความสามารถนี้มาจากการสกัดเอา DNA ของใบไม้ด้วยวิธีการ CRISPR เพื่อให้ได้ระบบการสังเคราะห์แสงมาใส่เอาไว้ในแท่งทรงกระบอกเล็กๆ และเมื่อเสียบมันเข้ากับตัวเครื่องก็จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนพกพาต้นไม้ส่วนตัวเอาไว้     ไม่ว่าจะเป็นการหายใจทางปากหรือจมูกก็ล้วนแล้วแต่เป็นอากาศอันบริสุทธิ์ทั้งนั้น เพราะท่าทางการใช้งานของมันจะต้องคาบเอาไว้ในปากและจ่อจมูกคาไว้อย่างนั้น ดูไปดูมาก็แอบรู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เกิดจากไอเดียของ Bacho Khachidze และ Lashe Kvantaliani ชาวจอร์เจีย ซึ่งทั้งสองสนใจในเรื่องของการพัฒนาสิ่งแวดล้อม ก่อนหน้านี้พวกเขาได้สร้างแอปฯ ที่ทำให้เราสามารถติดตามพัฒนาการต้นไม้ที่เราปลูกได้ แต่แอปฯ ดังกล่าวก็ไม่ประสบความสำเร็จนัก จนกระทั่งได้เกิดเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมาโดยพวกเขาบอกว่ามันจะทำให้คนเราเข้าใจและตระหนักได้ว่าหากเราปลูกต้นไม้เพิ่มมากขึ้นแล้วจะดีต่อร่างกายอย่างไรบ้าง     อีกทั้งในเมื่อเราไม่สามารถลดการตัดไม้ทำลายป่าลงได้ นี่ก็นับเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีอย่างหนึ่ง ช่วยให้เราสามารถรอดพ้นจากปัญหาอากาศเป็นพิษได้ดี ยิ่งกว่านั้นคุณอาจมีมันไว้เผื่อเวลาเกิดสงครามนิวเคลียร์หรือต้องอพยพไปอยู่บนดาวอังคาร คุณก็จะเป็นคนหนึ่งที่จะมีออกซิเจนไว้หายใจได้อยู่เสมอ นอกจากขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวกแล้วมันยังมาพร้อมกับฟังก์ชันที่จะทำให้ใช้งานง่ายอีก ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จแบบไร้สาย 30 นาทีเต็ม เมื่อชาร์จเต็มก็สามารถอยู่ได้นานถึง 24 ชั่วโมงอีกด้วย รวมถึงหลอดไฟ LED ที่จะบอกได้ว่าเจ้าแกนกรองอากาศมันใกล้หมดแล้วหรือยัง   คลิปโฆษณาและการใช้งานผลิตภัณฑ์   อย่างไรก็ตามเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ยังไม่ได้มีการประกาศวันหรือราคาจำหน่ายแต่อย่างใด จึงเป็นไปได้ว่าการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาจมีขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการปลูกต้นไม้และอากาศบริสุทธิ์เท่านั้นเองก็ได้    …

  • หญิงแก่ถูกจับได้เมื่อพบความจริงว่า ‘ลักพาตัวแมว’ มาเก็บเอาไว้ในบ้านมากถึง 15 ตัว!?

    หญิงแก่ถูกจับได้เมื่อพบความจริงว่า ‘ลักพาตัวแมว’ มาเก็บเอาไว้ในบ้านมากถึง 15 ตัว!?

    คดีการลักพาตัวส่วนใหญ่ที่เราจะเคยได้ยินตามสื่อต่างๆ มักจะเป็นการลักพาตัวเด็กหรือหญิงสาว แต่ความเป็นจริงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่จำเป็นต้องเกิดแค่กับคน เพราะเธอคนนี้คือโจรที่ลักพาตัวแมว!! เมื่อตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านของหญิงสูงวัยคนหนึ่งและพบกับแมวที่หายไปจากเจ้าของมาอยู่ที่นี่ถึง 15 ตัว นั่นก็เพราะเธอคนนี้ได้ไปพรากมันมาจากเจ้าของทั้งหลาย   ที่นี่ที่ไหน? พวกหนูไม่คุ้นเลย   บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในเมือง Stretford เขตแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ โดยตำรวจได้รับแจ้งในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าแมวที่อยู่ในบ้านของเธอคนนี้ดูน่าสงสัย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจดูในวันที่ 4 ตุลาคม เจอกับแมวที่ถูกขโมยมาจริง จากนั้นจึงส่งต่อให้กับ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งประเทศอังกฤษ (ชื่อย่อว่า RSPCA) เพื่อให้พวกมันได้รับการดูแลและตามหาเจ้าของกันต่อไป โดยเจ้าเหมียวที่พบแทบทั้งหมดจะเป็นตัวผู้ มีตัวเมียที่ตาบอดแค่ตัวเดียวและมีการระบุตัวตนของพวกมันกับเจ้าของเดิมได้เพียงแค่ 4 ตัวเท่านั้น   เจ้าของคงต้องกำลังคิดถึงพวกมันอยู่มากๆ แน่เลย   ตอนนี้ทุกคนก็ได้เร่งตามหาเจ้าของเก่าของพวกมันทุกตัว โดยมีการโพสต์ภาพของพวกมันลงไปในโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นสามารถติดต่อมารับตัวพวกมันกลับไปได้ อีกทั้งยังบอกอีกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องการเป็นอยู่หรือสวัสดิภาพของเจ้าเหมียวเหล่านี้ เพราะเจ้าหน้าที่ได้ดูแลเอาไว้อย่างดี สบายใจได้หายห่วง   ป๋มคิดถึงบ้านนน..   อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับเรา เพื่อนๆ ต้องอย่าลืมที่จะดูแลเอาใจใส่น้องเหมียวของเรากันให้ดีๆ นะ   ที่มา: dailymail

  • เมื่อเอาหน้าของเหล่าซุปตาร์ในกีฬาต่างๆ มาซ้อนทับกัน เฉลี่ยแล้วจะมีหน้าตาแบบไหนกันนะ

    เมื่อเอาหน้าของเหล่าซุปตาร์ในกีฬาต่างๆ มาซ้อนทับกัน เฉลี่ยแล้วจะมีหน้าตาแบบไหนกันนะ

    เราเคยคิดกันบ้างหรือเปล่าว่านักกีฬาที่มีฝีมือเก่งกาจส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะมีหน้าตาประมาณไหน และเราจะสังเกตกันได้ยังไง แต่ตอนนี้ได้มีคำตอบสำหรับสิ่งนั้นเป็นที่เรียบร้อยเมื่อผู้ใช้ reddit ชื่อว่า osmutiar ได้นำใบหน้าของเหล่าซุปตาร์คนดังในกีฬาแต่ละประเภทมาซ้อนทับกันเพื่อให้เห็นว่าหน้าตาของพวกเขาส่วนใหญ่นั้นจะออกมาประมาณไหน ผลงานนี้ก็ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตอย่างมาก เราลองไปดูกันดีกว่าว่าหน้าตาเหล่านั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง   ใบหน้าของนักบาสที่เก่งกาจ 200 อันดับแรก   นักฟุตบอลที่โด่งดัง 500 คน   จากนักเทนนิส 100 คนส่วนใหญ่คนเก่งๆ คงต้องมีหน้าตาประมาณนี้แหละนะ   เมื่อดูจากนักกอล์ฟอาชีพ 500 คนแล้ว พวกเขาคงต้องดูเป็นคนมีภูมิฐานหน่อย   นักฮอกกี้น้ำแข็ง NHL 1,200 คน ที่หน้าตาดูยิ้มแย้มแจ่มใสดีจริงๆ   แถมท้าย.. ดาราหนังโป๊ 1,000 คน ไม่รู้ว่านี่จะเป็นใบหน้าที่หนุ่มๆ ชอบกันหรือเปล่านะ   เป็นยังไงกันบ้างมีใครที่เพื่อนๆ รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างหรือเปล่า ถ้ามีก็คอมเม้นท์บอกกันด้านล่างหน่อยน้าาา   ที่มา: reddit , boredpanda

  • หนุ่มจงใจปล่อยเชื้อ HIV ใส่คู่นอนที่เจอกันผ่าน “แอปหาคู่” ถึง 4 คน แถมส่งข้อความเยาะเย้ย

    หนุ่มจงใจปล่อยเชื้อ HIV ใส่คู่นอนที่เจอกันผ่าน “แอปหาคู่” ถึง 4 คน แถมส่งข้อความเยาะเย้ย

    ทุกคนคงรู้จักโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่าง HIV กันอยู่แล้ว และนั่นจึงทำให้ถุงยางมีประโยชน์มากกว่าการคุมกำเนิดเพราะสามารถป้องกันโรคดังกล่าวนี้ได้อีกด้วย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้เองก็ต้องระวังไม่ให้ใครได้รับโรคร้ายนี้ไปด้วย ตรงข้ามกับชายหนุ่มชื่อ Daryll Rowe ที่ถึงแม้จะรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคนี้แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะแพร่เชื้อไปให้กับคนอื่นๆ เรื่องราวของช่างตัดผมวัย 26 ปีคนนี้เริ่มขึ้นเมื่อเขาได้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยติดเชื้อ HIV ในเดือนเมษายน 2015 ที่เมือง Edinburgh ประเทศสกอตแลนด์ หลังจากนั้นเขาจึงกินยาต้านเพื่อไม่ให้ไวรัสเข้าไปทำลายระบบภูมิคุ้มกัน     ต่อมาเขาก็ย้ายไปเมือง Brighton ประเทศอังกฤษ และเนื่องจากเขาไม่มีที่ไหนที่พอจะสามารถพักพิงได้ จึงใช้แอปฯหาคู่ชื่อ Grindr ตามหาการมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน โดยเขาจะพูดคุยกับคนในแอปฯ ก่อนที่จะไปหาพวกเขาเหล่านั้นที่บ้านและมีอะไรกัน เพื่อที่เขาจะสามารถแพร่ไวรัสที่ตัวเองเป็นอยู่ไปให้กับคนอื่นๆ ได้ วิธีการของเขาก็คือหลอกให้ทุกคนตายใจว่าเขาไม่ได้ป่วย HIV และปฏิเสธที่จะใช้ถุงยาง หรือถ้าหากอีกฝ่ายไม่ยอมเขาก็จะใส่แล้วค่อยฉีกถุงในตอนที่กำลังร่วมเพศกันอยู่ ถึงแม้ว่าในตอนแรกเขาจะกินยาต้านแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เลิกกินเพื่อให้คนอื่นๆ มีโอกาสที่ติดเชื้อจากเขาไปได้มากขึ้น     หลังจากนั้นเมื่อแยกย้ายกันไปเขาก็จะโทรหรือส่งข้อความไปเยาะเย้ยให้กับผู้โชคร้ายเหล่านั้นอย่างเช่น “ไม่แน่ว่าคุณอาจจะมีไข้ เพราะว่าผมสอดใส่เข้าไปในตัวคุณและผมเป็น HIV อุ๊บส์!” หรือ ”ตอนนั้นผมฉีกถุงยางโดยที่คุณไม่รู้ เพราะคุณเป็นคนที่โง่มาก” อัยการ Caroline Carberry ได้เล่าว่า ชายคนนี้ได้ทำพฤติกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2015 จนถึงธันวาคม 2016…

  • แนะนำเกมโคตรฮา Untitled Goose Simulator ให้เราเล่นเป็น ‘ห่านเกรียน’ คอยป่วนคนจนสติแตก!!

    แนะนำเกมโคตรฮา Untitled Goose Simulator ให้เราเล่นเป็น ‘ห่านเกรียน’ คอยป่วนคนจนสติแตก!!

    นี่เป็นเกมแนวจำลองสถานการณ์เป็นสิ่งที่จะทำให้เราได้รับบทเป็น “ห่าน” ดำเนินเรื่องหรือภารกิจอันน่าสนุกและมีสีสันภายในเกม หากใครชอบเกมแนวนี้แล้วล่ะก็บอกเลยว่าคุณจะต้องรักเกม Untitled Goose นี้แน่นอน โดยค่าย House House ได้ออกตัวอย่างของเกมนี้มาให้เราได้เห็นกัน ซึ่งเราจะได้รับบทเป็นเจ้าห่านสุดเกรียนที่ต้องทำภารกิจให้สำเร็จตามที่ได้ถูกกำหนดไว้เป็นขั้นตอน   ภาพที่ดูสบายตาและความฮาที่มาแบบอัดแน่น   ความฮาอยู่ตรงที่ภารกิจเหล่านั้นคือการป่วนคนสวนให้หัวปั่นจนต้องสติแตกไปในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการขโมยวิทยุจนทำให้สามารถเข้าไปในสวนด้านในได้ การบังคับให้คนสวนคนนั้นต้องใส่หมวกกันแดด รูปแบบของเกมนอกจากจะให้เราได้กลายเป็นห่านสุดแสบแล้ว เราก็จะต้องใช้ความคิดแก้ปัญหาทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากสิ่งรอบๆ ตัว นอกจากจะสนุกแล้วยังได้เพิ่มพลังสมองของเรากันอีกด้วย   คลิปตัวอย่างเกมห่านสุดเกรียน Untitled Goose   อีกทั้งเจ้าห่านตัวนี้ก็สามารถส่งเสียงร้องทำให้คนสวนต้องตกใจหรือผละหนีได้ด้วย ซึ่งนั่นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะชีวิตจริงห่านมันยังไล่ทำร้ายพวกเราบ้างอยู่เลย ก็คงต้องกลัวกันเป็นธรรมดา   ที่นี่มันถิ่นอั๊วะนะเฟร้ยยย   เกมเจ๋งๆ นี้จะออกมาให้เราได้เล่นกันในปี 2018 โดยที่ทางผู้พัฒนาได้บอกว่ายังสรุปไม่ได้ว่าจะให้เกมนี้ชื่อว่าอะไรดีในตอนที่เผยแพร่ออกไป ดังนั้นเราคงต้องติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ ล่ะนะ   ที่มา: gamespot

  • ผลงานเมคอัพ Body Of Souls สะท้อนอาการ “ไบโพลาร์” ในจิตใจที่กำลังกัดกินมนุษย์

    ผลงานเมคอัพ Body Of Souls สะท้อนอาการ “ไบโพลาร์” ในจิตใจที่กำลังกัดกินมนุษย์

    อาการทางจิตที่มีชื่อเรียกว่า ไบโพลาร์ หรืออีกชื่อคือ โรคอารมณ์สองขั้ว เป็นโรคที่หลายคนรู้จักกันว่ามันจะทำให้ผู้ป่วยต้องจมอยู่กับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปมาอยู่ตลอดเวลา จากร่าเริงอยู่ดีๆ ก็กลายเป็นเศร้าและกลับมาร่าเริงอีกครั้ง สิ่งนั้นจึงได้กลายเป็นไอเดียให้กับศิลปินสาวชาวอังกฤษ Kelly Odell ผู้สร้างผลงานการถ่ายภาพที่สื่อให้เห็นว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวหรืออาการทางจิตอื่นๆ เช่น โรคซึมเศร้ากับสมาธิสั้น พวกเขาเหล่านั้นจะต้องรู้สึกอย่างไรกันบ้าง เธอจึงใช้ยางทำหน้ากากและชิ้นส่วนต่างๆ นานถึง 9 วันให้ออกมาเป็นใบหน้าและมือของปีศาจที่ซ่อนอยู่ภายใน คอยฉุดจิตใจของเราลงไปให้ต่ำลง   ชิ้นส่วนต่างๆ ที่เกิดจากฝีมือและระยะเวลา   แปะติดกับทุกส่วนของร่างกายนางแบบ   จากนั้นทั้งหมดก็จะได้ไปตกแต่งอยู่บนร่างของนางแบบที่ชื่อว่า Suzi Cumming นอกจากนั้นเธอคนนี้ยังมีส่วนร่วมในการออกแนวคิดต่างๆ ให้กับผลงานชิ้นนี้อีกด้วย นอกจากนั้นพวกเธอยังได้ร่วมมือกับ Rick Jones ช่างภาพมืออาชีพของสตูดิโอชื่อ Horrify Me ที่ทำให้การนำเสนอเพิ่มความหลอนมากขึ้นไปอีกจากเทคนิคเพิ่มเติมต่างๆ เช่น การใช้เลือดปลอมแต่งเติมเข้าไป   หน้ากากที่สมจริงสมจัง   เป็นผลงานที่เกิดจากความพยายามของทุกคน   ในระหว่างนั้นทุกคนจะช่วยกันออกความคิดเพื่อเพิ่มให้งานมีความหมายมากยิ่งขึ้น อย่างการใส่หน้ากากเพื่อสื่อถึงการที่เราทุกคนซ่อนความรู้สึกภายในเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ สุดท้ายจากความช่วยเหลือของ Claire Jones ผู้ร่วมงานอีกคนหนึ่งก็ทำให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นลงได้ในเวลาเพียงแค่ 6 ชั่วโมง ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบและน่าดึงดูด ชวนให้ทุกคนค้นหาความหมายจากสิ่งต่างๆ ที่พวกเธอสื่อออกมา…

  • 17 ภาพการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ผู้ป่วย ‘โรคกลัวอ้วน’ ที่พอมีเนื้อมีนวลแล้วดีกว่าเยอะ

    17 ภาพการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ผู้ป่วย ‘โรคกลัวอ้วน’ ที่พอมีเนื้อมีนวลแล้วดีกว่าเยอะ

    ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากผอมกันเป็นเรื่องปกติเพราะค่านิยมปัจจุบันมองว่าผู้หญิงผอมย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แต่หากว่าได้ลองมาเห็นคนเหล่านี้ไม่แน่ว่าอาจจะเปลี่ยนใจกันก็ได้ ผู้ป่วย โรคกลัวอ้วน หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ Anorexia เป็นความผิดปกติทางจิตใจที่ทำให้พวกเขาเชื่อว่าตัวเองอ้วนเกินไปอยู่เสมอและพยายามลดน้ำหนักของตัวเองลงอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ห่วงว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพตนเอง แน่นอนว่าเมื่ออาการทางจิตมันจึงยากที่จะรักษา แต่ถึงจะยากก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้เพราะ 17 คนที่เรานำมาให้ทุกคนได้เห็นพวกเขาสามารถก้าวผ่านปัญหานั้นมาได้แล้ว นี่คือเหล่าคนที่พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ‘หุ่นผอม’ ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป   หุ่นใหม่ไฉไลกว่าเดิม   ไม่มีใครต้องการให้ตัวเองดูแย่หรอก พวกเธอเพียงแค่ผิดพลาดในการรับรู้   สาว Kaitlyn Davidson คนนี้เคยหนักเพียง 37 กิโลกรัมมาก่อน   Linn Strömberg เธอคนนี้เองก็เคยกินอาหารเพียงแค่ 400 แคลอรี่ต่อวัน   เปลี่ยนไปเป็นคนละคน!! เพื่อนสมัยมัธยมก็คงจะจำกันไม่ได้   การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า   หนังหุ้มกระดูกกลายเป็นหนังหุ้มกล้ามแทน   สงสัยเธอจะฟิตหุ่นแข่งกับคนด้านบนแน่เลย   Elle Lietzow สาวสวยผู้เคยป่วยหนักจนถึงขั้นภาวะขาดน้ำ   หนุ่มนักกล้าม Danny Walsh เปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยเวลาเพียง 4 เดือน   หมอเคยบอก…

  • สาวเปิดเผยถึงโรคย้ำคิดย้ำทำของตัวเอง เป็นหนักซะจนต้องสระผมถึง 72 ครั้งภายในวันเดียว!!

    สาวเปิดเผยถึงโรคย้ำคิดย้ำทำของตัวเอง เป็นหนักซะจนต้องสระผมถึง 72 ครั้งภายในวันเดียว!!

    หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ โรคย้ำคิดย้ำทำ กันมาก่อน โดยโรคดังกล่าวเป็นอาการทางจิตของผู้ป่วยที่ชอบทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำๆ มากจนเกินไป แต่ในความเป็นจริงเราจะไม่ค่อยได้พบเห็นผู้ที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวนี้จริงๆ และคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรู้ว่าทำไมพวกเขาจึงมีอาการเช่นนั้น จนเมื่อ Serin Rayer Davies วัย 23 ปีผู้ที่มีอาการของโรคนี้ขั้นรุนแรงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีประเทศอังกฤษ ชื่อว่า This Morning เพื่อเล่าถึงประสบการณ์ที่เธอต้องเจอมาตลอด   หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำขั้นรุนแรง   อาการของโรคเริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนเธออายุได้เพียง 7 ขวบ เธอใช้เวลานานมากกว่าจะออกจากบ้านไปโรงเรียนเพราะเธอมีความคิดขึ้นมาว่าพ่อแม่เธอจะตาย ทำให้เธอเปิดเข้าเปิดออกประตูบ้านเพื่อเช็คดูอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ กระทั่งในตอนนั้น Deny พ่อของเธอก็เข้ามาช่วยอธิบายให้ฟังว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะไม่เกิดขึ้นจนอาการเหล่านั้นหายไป ก่อนที่จะกลับมาเป็นอีกครั้งในตอนที่เธออายุ 18 ปี เธอบอกว่า “อาการเหล่านั้นเกิดขึ้นจากความเครียด บางคนที่มีความวิตกกังวลอยู่ก่อนแล้วหากต้องไปเจอเรื่องเครียดหรือเรื่องแย่ๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือจะต้องพยายามรับมือกับมันอยู่ตลอดเวลา”   พ่อของเธอผู้คอยอยู่เคียงข้างเธอมาตลอด   หลังจากนั้นเธอก็มีอาการของโรคที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอต้องซักผ้าวนไปมาอยู่ถึง 15 ครั้งหรือสระผมตัวเองมากถึง 72 ครั้งภายในวันเดียว เพราะเธอคิดว่าสิ่งรอบตัวมันไม่สะอาดและเต็มไปด้วยเชื้อโรคซึ่งเกิดจากจินตนาการของเธอเองทั้งหมด และทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก   การแต่งงานกับชายในฝัน   อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอได้เข้ารับการรักษาอาการดังกล่าวทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้แต่งงานกับชายในฝันของเธออีกด้วย และถึงแม้ว่าสามีของเธอจะช่วยอะไรเธอไม่ได้เลยแต่อย่างน้อยเขาก็ยอมรับและคอยดูแล จัดการเรื่องต่างๆ เพื่อให้เธอมีอาการของโรคแสดงออกมาน้อยที่สุด…

  • 25 ภาพความงามของ ‘ประเทศลิทัวเนีย’ ขุมทรัพย์ลับในยุโรปที่หลายคนไม่เคยสัมผัส

    25 ภาพความงามของ ‘ประเทศลิทัวเนีย’ ขุมทรัพย์ลับในยุโรปที่หลายคนไม่เคยสัมผัส

    น้อยคนในบ้านเราที่จะรู้จักกับ ประเทศลิทัวเนีย ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป อาจด้วยเหตุผลที่ว่าครั้งหนึ่งมันเคยเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมาก่อนทำให้พอแยกตัวออกมาจะไม่ค่อยมีใครได้รับรู้ว่ามันกลายเป็นประเทศไปแล้ว ถ้าถามเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเอามาพูดในครั้งนี้ นั่นก็เพราะได้มีช่างภาพคนหนึ่งชื่อ Martynas Charevičius เก็บภาพจากบ้านเกิดของตัวเองมาให้ทุกคนได้เห็น โดยบอกเลยว่าภาพวิวทิวทัศน์เหล่านั้นมันช่างงดงามเอามากๆ ความสวยงามบวกกับฝีมือของช่างภาพผู้มากฝีมือคนนี้ทำให้ภาพที่ถ่ายจากโดรนของเขา ไม่ว่าใครได้มาเห็นก็ต้องรู้สึกหลงใหลไปกับมันจนอยากจะตีตั๋วไปเที่ยวประเทศนี้ซะเลย ภาพทั้งหมดถูกถ่ายในปีนี้จากหลายเวลาหลายสถานที่ มันดึงดูดเรามากขนาดนั้นจริงมั้ย? ก็เลื่อนไปดูกันได้เลยยย   ยามเช้ากับพระอาทิตย์อันสดใส   ลานหญ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา   เมื่อพระอาทิตย์ลอยขึ้นมาก็ทำให้เมืองดูสว่างไสว   อากาศดีๆ ในเวลากลางวัน   แม่น้ำและความเขียวขจี   หอคอยที่สูงเด่นเป็นสง่า   ความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำและป่าไม้   เมืองยังคงเจิดจ้าแม้ในเวลากลางคืน   แสงที่สาดเข้ามาทำให้เห็นความสวยงามได้ชัดเจนยิ่งขึ้น   ยังคงรักษาธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างลงตัว   ถนนยาวเป็นเส้นตรงผ่านต้นไม้ที่ห้อมล้อมไว้นับไม่ถ้วน   มองไปทางไหนก็สบายตา   หรือหากเข้าเมืองมาก็จะเจอกับความศิวิไลซ์   เป็นเงาสะท้อนบนผิวน้ำที่แยกไม่ออกเลยว่าส่วนไหนคือท้องฟ้ากันแน่   การใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายท่ามกลางมวลแมกไม้และเมฆหมอก   เหล่านักตกปลาบนสะพานที่เรียบง่าย   น้องม้าที่มีหญ้าให้กินได้ทั้งวัน   สีของผิวน้ำเข้ากันกับบรรยากาศโดยรอบอย่างไม่น่าเชื่อ   รุ่งสางในเช้าวันใหม่   แหล่งพลังงานธรรมชาติช่วยให้ที่นี่น่าอยู่ยิ่งขึ้น…

  • ลองให้ผู้คน 150 คน วาดรูปโลโก้แบรนด์ดังจากความทรงจำ จะเป๊ะได้มากน้อยแค่ไหนกันเชียว

    ลองให้ผู้คน 150 คน วาดรูปโลโก้แบรนด์ดังจากความทรงจำ จะเป๊ะได้มากน้อยแค่ไหนกันเชียว

    แบรนด์สินค้ามากมายต้องทุ่มเงินกันไปหลายล้านเพื่อออกแบบโลโก้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้เราจดจำได้ตั้งแต่แรกเห็น แต่ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปนั้นมันจะคุ้มค่าจริงๆ หรือเปล่านะ? เว็บไซต์ที่มีชื่อว่า Signs จึงได้ทำการทดลองดูว่าผู้คนจะสามารถจดจำโลโก้เหล่านั้นได้จริงหรือเปล่า โดยให้คนจำนวน 156 คนอายุตั้งแต่ 20 ถึง 70 ปีมาวาดโลโก้จากแบรนด์ดังในความคิดของตัวเอง ไม่มีต้นแบบอะไรให้ดูเป็นตัวอย่างออกมาจากความทรงจำของพวกเขาล้วนๆ เราลองไปดูผลลัพธ์กันดีกว่าว่าจะแตกต่างหรือว่าเหมือนเป๊ะกับต้นฉบับกันแน่   นี่คือต้นฉบับโลโก้ของ Apple ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย   ผลลัพธที่ได้มุมซ้ายบนคือไม่เหมือนที่สุด มุมขวาล่างคือใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด   บางอันก็ดูเป็นแอปเปิ้ลอยู่นะ แต่ภาพที่แตกต่างกับของจริงที่สุดนี่ดูไม่ออกเลยว่าคืออะไร.. . .   เปิดเครื่องมาเจอโลโก้แบบใหม่ ไฉไลกว่าเดิม   มาต่อกันด้วยแบรนด์รองเท้าชื่อดังอย่าง Adidas   ไม่รู้วางบางคนเขาไปจำเอาจากไหนกันมา   อันที่สามแถบดำขาวนั่นคืออะไร? . .   บางอันพอมาอยู่บนเสื้อก็ดูสวยดีนะ   วิวัฒนาการโลโก้ร้าน Burger King   สีดูมีความไม่แตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่   ขึ้นชื่อว่า King ก็ต้องมีมงกุฎมาให้เห็นกันหน่อย . .   เอามาดัดแปลงให้ดูสมจริงขึ้นมาหน่อยก็ดูสวยได้…

  • รวม 20 ภาพบรรยากาศ “โกลเด้นวีค” ในประเทศจีน วันหยุดยาวผู้คนเดินทางเพียบ!!

    รวม 20 ภาพบรรยากาศ “โกลเด้นวีค” ในประเทศจีน วันหยุดยาวผู้คนเดินทางเพียบ!!

    วันสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทยจะเป็นช่วงที่ทำให้เราได้หยุดกันแบบยาวๆ ที่อย่างต่ำก็ต้อง 3 วันขึ้นไป ในช่วงนั้นเราก็จะได้เห็นผู้คนเดินทางกลับบ้านหรือไปเที่ยวต่างจังหวัดกันอย่างล้มหลาม แต่ไม่ได้มีเพียงแค่บ้านเราหรอกนะที่จะมีช่วงวันหยุดยาวกันอย่างนั้นเพราะในประเทศจีน พวกเขาก็มีวันหยุดยาวที่ได้พักกันนานกว่าของเราซะอีก เพราะทุกคนในประเทศจะได้หยุดกันไปนานถึง 1 สัปดาห์หรือก็คือ 7 วันนั่นเอง ในจีนจะมีช่วงที่เรียกว่า “โกลเด้นวีค” เป็นสัปดาห์แห่งวันหยุดโดยในหนึ่งปีจะมีสองครั้งคือตอนวันปีใหม่จีนและวันชาติ ซึ่งเป็นวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมานี่เอง   ผู้คนตามสถานีขนส่งในวันสงกรานต์บ้านเรานี่เทียบไม่ติดเลยจริงๆ   ด้วยเหตุนี้ ช่วงดังกล่าวจึงเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 710 ล้านคนได้ออกไปในสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงวันชาตินี้ก็จะมีการจัดงานเทศกาลหรือคอนเสิร์ตอยู่เยอะแยะทั่วประเทศไปหมด จึงไม่แปลกที่ช่วงนี้ชาวจีนจะขยันไปใช้บริการการคมนาคมสาธารณะต่างๆ อย่างเช่นรถไฟหรือรถประจำทางไม่อย่างนั้นก็ขับรถไปเองบนทางด่วน จนทำให้ทุกที่ที่กล่าวมานั้นแน่นขนัดไปกันหมด   ผู้ปกครองคงต้องล่ามโซ่กับบุตรหลานเอาไว้ ไม่อย่างนั้นหายชัวร์   ตอนนี้บางคนอาจเริ่มคิดว่าคนจีนเยอะขนาดไหนจะแห่กันมาไทยกันหมดเลยหรือเปล่า เราขอบอกเลยว่าไม่เพราะด้วยเรื่องของค่าใช้จ่ายและกังวลในความปลอดภัยจึงทำให้พวกเขาเกือบทั้งหมดตัดสินใจที่จะเที่ยวกันแต่ภายในประเทศ จึงเป็นที่น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาจับจ่ายในไทย แต่เอ๊ะ หรือว่าเราควรจะดีใจที่คนจำนวนมากขนาดนี้ไม่มากระจุกอยู่ในประเทศเรา…   เดินชนกันจนไหล่ถลอกหมดแล้วมั้งเนี่ย   เด็กน้อยได้มีโอกาสออกมาดูโลกกว้าง.. หรือว่าความวุ่นวายกันแน่นะ   พื้นที่จริงๆ มันก็กว้างนะ แต่ทำไมรู้สึกว่ามันแค๊บบบแคบ   ตั๋วรถบ้านเขานี่ไม่มีวันหมดหรอ?   ไม่ว่าจะเป็นการคมนาคมแบบไหนก็เต็มไปด้วยผู้คนที่ล้นหลาม   ขยายทางหน่อยมั้ย.. มันน่าจะดีขึ้นนะ  …

  • 9 เหตุการณ์ ‘กราดยิง’ ฆาตกรรมหมู่ ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

    9 เหตุการณ์ ‘กราดยิง’ ฆาตกรรมหมู่ ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

    เราอาจเคยเห็นฉากการกราดยิงกระสุนปืนในหนังหรือการ์ตูน ซึ่งในตอนนั้นเราอาจคิดว่าเป็นฉากแอคชั่นที่สนุกและมันส์มาก แต่ถ้าวันหนึ่งมันต้องมาเกิดขึ้นในชีวิตจริง พวกเราจะรู้สึกกันอย่างไร? ในประเทศสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์แบบนั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อนอยู่หลายครั้ง สร้างความเศร้าโศกไปให้กับคนทั้งประเทศแตกต่างจากที่เราเห็นในหนังอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เกิดขึ้นมากมายเหล่านั้นได้มีการจัดอันดับเหตุการณ์การกราดยิงที่รุนแรงที่สุดในประเทศเอาไว้ 9 อันดับ เราไปดูกันเลยว่ามีเหตุการณ์ใดกันบ้าง     อันดับ 9 เหตุการณ์ในเมือง Edmond รัฐโอคลาโฮมา วันที่ 20 สิงหาคม 1986 คนส่งพัสดุชื่อ Patrick Henry Sherrill ใช้ปืนพก 3 กระบอกสังหารพนักงานไปรษณีย์ไป 14 ศพในเวลาเพียง 10 นาที ก่อนที่จะยิงหัวตัวเองตายตามไป     อันดับ 8 ในเมืองซานเบอร์นาดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย วันที่ 2 ธันวาคม 2015 สามีภรรยาชื่อ Syed Rizwan Farook และ Tashfeen Malik กราดยิงพนักงานที่อยู่ในศูนย์ภูมิภาค Inland ตายไป 14…

  • 15 ภาพประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แม้จะเอาไปจีบสาวไม่ได้ แต่อ่านเป็นความรู้ก็ดีนะ

    15 ภาพประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แม้จะเอาไปจีบสาวไม่ได้ แต่อ่านเป็นความรู้ก็ดีนะ

    เรื่องราวในอดีตประวัติศาสตร์ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนมากมายบนโลกนี้ แม้ว่ามันจะดูเหมือนไม่มีความหมายอะไรกับชีวิตเราในปัจจุบัน แต่สิ่งที่ได้เห็นบางครั้งมันอาจสร้างอะไรบางอย่างให้กับเราก็ได้ ดังนั้นถ้าเราจะมารู้ให้มันมากขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนี่จริงมั้ย? วันนี้ #เหมียวตะปู เลยนำภาพสุดหาดูได้ยากของประวัติศาสตร์ที่จะทำให้ทุกคนได้เห็นภาพในสมัยก่อนเพิ่มมากขึ้น ว่าโลกของเรามีอะไรเกิดขึ้นไปบ้างแล้ว ไปดูกันเลยว่าจะมีภาพอะไรกันบ้างและบางภาพมันดูน่าเหลือเชื่อขนาดไหน   ตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย ในช่วง 1920s   ในตอนต้นของช่วง 1920s บริเวณนั้นเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีความรกร้างมากที่สุด   เหยื่อจากน้ำกรด   Somayeh Mehri และลูกสาวของเธอ Rana คือผู้รอดชีวิตจากการโดนน้ำกรดสาดด้วยฝีมือของสามีที่รับไม่ได้กับการที่เธอต้องการจะหย่า เขาจึงนำน้ำกรดมาเทใส่พวกเธอขณะนอนหลับ   การเปลี่ยนแปลง   ช่างภาพจาก National Geographic ได้ไปเก็บภาพของสาวสวยผู้มีดวงตาอันสดใสเอาไว้ในค่ายอพยพชาวอัฟกานิสถานและปากีสถานตอนปี 1984 เวลาผ่านไปเขาก็ตัดสินใจกลับไปที่เดิมเพื่อตามถ่ายภาพเธออีกครั้ง   ฮิตเลอร์ในปารีส   ในปี 1941 ภายหลังการบุกโจมตีกรุงปารีสเพียงไม่นานเขาก็ได้เดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้นและพูดว่า “นี่เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผม”   Audrey Hepburn   นางแบบสาว ดารา และผู้ที่เป็นสัญลักษณ์ในเรื่องเพศตั้งแต่ช่วง 1950s ถึง 60s เธอคนนี้ถูกเก็บภาพไว้ได้ตอนที่ซื้อของอยู่ในร้านค้ากับกวางที่เธอเลี้ยงชื่อว่า Ip ในเมืองเบเวอร์ลีฮิลส์…

  • คุณหมออเมริกัน เผย 4 เคล็ดลับ สุดยอดวิธีป้องกันอาการ “เมาค้าง” ที่ได้ผลที่สุด!!

    คุณหมออเมริกัน เผย 4 เคล็ดลับ สุดยอดวิธีป้องกันอาการ “เมาค้าง” ที่ได้ผลที่สุด!!

    เหล่านักดื่มทั้งหลายคงต้องเคยเจอกับอาการเมาค้างในวันต่อมาที่ทำให้คุณรู้สึกปวดหัวจนไม่อยากทำอะไรเลยทั้งวัน ชนิดที่ว่าถึงแม้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาจะสนุกแค่ไหน แต่คุณก็รู้สึกไม่คุ้มค่ากับอาการดังกล่าวนี้เลย แต่ไม่ต้องกังวลกันอีกต่อไปเพราะนายแพทย์ Ralph Holsworth ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์และการวิจัยแห่งบริษัทน้ำดื่ม Essentia ได้มีวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้คุณต้องตื่นมาด้วยอาการเหล่านั้นอีกแล้ว เราไปดูกันเลยว่ามีอะไรกันบ้าง   ดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนเริ่มปาร์ตี้   ประชากรกว่า 70 เปอร์เซนต์จะมีปัญหาการดื่มน้ำไม่เพียงพอและการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้อยู่ในภาวะขาดน้ำมากยิ่งขึ้น ทำให้ร่างกายที่ของคุณจะขาดน้ำไปตั้งแต่แรกจนสุดคืน พอตื่นเช้ามาก็ต้องเจอกับอาการแฮงค์ที่หนักหน่วง วิธีป้องกันก็ไม่ยากแค่ดื่มน้ำเข้าไปให้เพียงพอก่อนที่จะเริ่มปาร์ตี้ของคุณ เพียงพอหรือไม่นั้นสังเกตได้จากสีของปัสสาวะ เพราะยิ่งใสมันก็ยิ่งดี   ดื่มน้ำระหว่างการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย   เพื่อรักษาไม่ให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำเวลาที่คุณดื่มเบียร์หรือไวน์เข้าไปก็ต้องดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปในปริมาณที่เท่ากันด้วย แต่ถ้าหากเป็นเหล้าก็จะยากกว่าหน่อยเพราะเมื่อกินเหล้าหนึ่งช็อตคุณจะต้องดื่มน้ำตามเข้าไปหนึ่งแก้ว วิธีนี้นอกจากจะช่วยไม่ให้มีอาการเมาค้างแล้วยังช่วยให้คุณดื่มเหล้าน้อยลงแต่อยู่ได้ทั้งคืนอีกด้วยนะ   รับประทานไขมันดีก่อนดื่ม   การกินไขมันดีจำพวกถั่ว แซลมอน หรือปลาทะเลต่างๆ ไขมันจะไปเกาะอยู่บริเวณลำไส้ทำให้การดูดซับแอลกอฮอล์ลดลง แต่เราไม่แนะนำให้คุณกินเป็นกับแกล้ม เพราะว่าหากคุณกินอาหารมากเกินไปจะทำให้การดูดซับดียิ่งขึ้นและหนีไม่พ้นเมาค้างอีกอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นการกินอาหารจำพวกแป้งก็ไม่ควร เพราะแอลกอฮอล์สมีคาร์โบไฮเดรตอยู่แล้ว มันจะยิ่งไปทับถมกันเข้าไปใหญ่   หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสเค็ม   บอกลาเหล้าป็อกทาเกลือตรงปากแก้วไปได้เลย เพราะโซเดียมจะทำให้มีการดูดซับแอลกอฮอล์มากขึ้นด้วยการเปิดช่องทางลำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้ยิ่งกินเข้าไปมากเท่าไหร่ตื่นเช้ามาก็ยิ่งปวดหัวมากเท่านั้น   และทั้งหมดก็คือวิธีป้องกันที่จะทำให้คุณสามารถสนุกสุดเหวี่ยงไปกับปาร์ตี้ได้ทั้งคืน โดยไม่ต้องกังวลอีกแล้วว่าจะตื่นมาโดยไม่สดชื่น คืนนี้ก็ลุยยย!! ชนนน เอ๊า หมดแก้ววว!!   ที่มา: thisisinsider

  • นี่คือผลงานอันเหลือเชื่อ เมื่อให้ “หุ่นยนต์” ร่วมออกแบบคอนเสิร์ตฮอลล์ แล้วสร้างขึ้นจริงๆ

    นี่คือผลงานอันเหลือเชื่อ เมื่อให้ “หุ่นยนต์” ร่วมออกแบบคอนเสิร์ตฮอลล์ แล้วสร้างขึ้นจริงๆ

    สิ่งปลูกสร้างทั่วโลกที่เราได้เห็นในทุกวันนี้ล้วนเกิดจากจินตนาการและความคิดของมนุษย์เรา แต่ถ้าวันหนึ่งมันไม่ได้เกิดจากฝีมือของมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่กลับเป็นฝีมือของเครื่องจักรล่ะมันจะเป็นอย่างไรกัน? วันนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับสถาปัตยกรรมที่ชื่อว่า Elbphilharmonie คอนเสิร์ตฮอลล์อันแสนยิ่งใหญ่ในเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน ที่นี่คือฮอลล์แห่งใหม่สำหรับการฟังดนตรีภายในเมืองแห่งนี้มีที่นั่งรองรับสำหรับผู้เข้าชมจำนวน 2,100 คน และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่โดดเด่นและสูงที่สุดในเมืองนี้อีกด้วย   กว้างขวางสะดวกสบาย   สถานที่อันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้คุณได้ฟังดนตรีกันอย่างไพเราะยิ่งกว่าที่ไหนๆ   สถาปัตยกรรมชิ้นนี้ต้องใช้เวลาสร้างถึง 10 ปี และค่าใช้จ่ายอีกราว 28,000 ล้านบาทมากกว่าที่ตั้งเอาไว้ถึง 10 เท่า โดยสิ่งนี้เป็นผลงานของนักสถาปนิกชาวสวิสสองคนได้แก่ Jacques Herzog และ Pierre de Meuron ทั้งสองคือผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมที่โด่งดังมาก่อนอย่าง Tate Modern ในกรุงลอนดอน และสนามกีฬาแห่งชาติ Bird’s Nest ซึ่งใช้แข่งขันในกีฬาโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่ง   ในตอนแรกมีการตั้งงบไว้เพียง 2,700 ล้านบาทเท่านั้น   ทางลงบันไดเลื่อนก็ยังสวยงามมากขนาดนี้แล้ว   นอกจากนั้นพวกเขาก็ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียงชาวญี่ปุ่น Yasuhisa Toyota ผู้โด่งดังในเรื่องของการจัดการเรื่องเสียงด้วยผลงานคอนเสิร์ตฮอลล์ของวอลท์ ดิสนีย์ในลอสแอนเจลิส และฮอลล์ Suntory ในโตเกียว แต่ที่เจ๋งและแปลกที่สุดก็คือพวกเขาได้สร้างระบบโปรแกรมสมองกลขึ้นมาและปล่อยให้มันคำนวนออกแบบแผ่นเก็บเสียงกว่า 10,000…

  • หนุ่มจีนไปพักโรงแรม แต่ไม่มีเงินจ่ายเลยสวมวิญญาณ “สไปเดอร์แมน” โตงเตงเหินเวหา

    หนุ่มจีนไปพักโรงแรม แต่ไม่มีเงินจ่ายเลยสวมวิญญาณ “สไปเดอร์แมน” โตงเตงเหินเวหา

    เราอาจเคยได้ยินโจรหลบหนีหรือนักโทษแหกคุกด้วยวิธีที่เหลือเชื่ออย่างการใช้ช้อนขุดอุโมงค์หรือโดดลงทะเลทำนองนั้น แต่บอกเลยว่าชายคนนี้มีวิธีที่น่าหวาดเสียวมากกว่านั้นเยอะ เรื่องเกิดขึ้นในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มนิรนามท่านหนึ่งกำลังปีนสายโทรศัพท์เพื่อหลบหนีออกจากโรงแรม เพียงเพราะว่าเขาไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง!?   ระยะห่างยังพอไหว แต่ความสูงขนาดนี้ก็ยังกล้าอยู่อีกนะ   ด้วยความสูงเกือบ 60 เมตรหรือประมาณตึก 19 ชั้นของสายโทรศัพท์ที่เขาปีนอยู่ทำให้คนเดินผ่านไปมาต้องหยุดดูและรู้สึกหวาดเสียวไปตามๆ กัน เพราะถ้าเกิดพลาดตกลงมารับรองว่าเขาไม่รอดแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นหนทางที่จะปีนข้ามไปยังอีกตึกหนึ่งเขาก็ต้องเจอกับสายไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ห่างตัวเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น คือถ้าแตะโดนปุ๊บก็จะช็อตปั๊บ ซี้แหงแก๋ในพริบตา ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่สายโทรศัพท์เส้นไม่ใหญ่มาก ชายคนนี้จึงต้องพยายามรักษาสมดุลของร่างกายเอาไว้และส่ายไปมาอยู่บ่อยครั้ง ทำเอาซะผู้ที่ดูเหตุการณ์อยู่ด้านล่างใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ   จังหวะไปติดอยู่ระว่างสายสองเส้น ผู้ชมข้างล่างนี่กรี๊ดกันสนั่น   และในที่สุดเขาก็สามารถข้ามไปถึงอีกฝั่งหนึ่งได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้ามาช่วยให้เขาเข้าตึกไปได้อย่างปลอดภัยก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาควบคุมตัวเขาไปที่สถานี ตอนนี้ยังไม่มีการพูดถึงโรงแรมที่เขาเข้าไปพักหรือค่าที่พักที่เขาต้องจ่าย แต่ถึงกับต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้เดาว่าราคามันคงจะไม่ใช่น้อยๆ หรอกเนาะ เมื่อคลิปวิดีโอการหลบหนีครั้งนี้ถูกเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียชื่อ Weibo ของจีน ทำให้มีผู้ชมมากกว่า 7.4 ล้านคนและมีคอมเม้นท์ฮาๆ อันหนึ่งบอกว่า “ไอ้หนุ่มนี่คิดว่าถ่ายหนังแอ็คชั่นอยู่หรือไง?”   คลิปวิดีโอไอ้หนุ่ม ‘สไปเดอร์แมน’ ผู้หลบหนีค่าโรงแรม   อย่างน้อยเรื่องนี้ก็จบลงได้อย่างแฮปปี้เอนดิ้งไม่มีใครต้องบาดเจ็บอะไร เพื่อนๆ เวลาไปพักที่ไหนก็อย่าลืมถามราคาค่าห้องโรงแรมก่อนด้วยนะ   ที่มา: aol

  • นักวิทยศาสตร์คิดค้นสารตัวใหม่ที่ช่วยให้แผลหายไวและลบรอย ‘แผลเป็น’ ได้เร็วขึ้น!!

    นักวิทยศาสตร์คิดค้นสารตัวใหม่ที่ช่วยให้แผลหายไวและลบรอย ‘แผลเป็น’ ได้เร็วขึ้น!!

    ปัญหาแผลเป็นบนร่างกายที่เราอยากให้มันหายไปเร็วๆ คงเป็นสิ่งกวนใจให้กับใครหลายคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องห่วงเรื่องความสวยความงามเป็นธรรมดา แต่ตอนนี้นักวิทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัย Nanyang Technological ประเทศสิงคโปร์ กำลังคิดค้นแผ่นติดผิวแบบใหม่ที่จะช่วยให้แผลเป็นของคุณหายไปได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนั้นมันยังสามารถช่วยให้แผลสดหายเร็วขึ้นอีกด้วยเรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ทำได้เพียงรักษาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น     แผลเป็นนั้นเกิดจากการที่ร่างกายเรามีคอลลาเจนและโปรตีนที่มากเกินและไปสะสมกันอยู่ที่จุดเดียว ดังนั้นการจะลดรอยดังกล่าวลงได้ต้องหาสิ่งที่สามารถควบคุมการผลิตคอลลาเจน เพื่อช่วยแทรกแซงกระบวนการฟื้นฟูให้เร็วยิ่งขึ้น และจากการศึกษา พวกเขาพบว่ามีโปรตีนชนิดหนึ่งชื่อว่า Angiopoietin-like4 (ANGPTL4) สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้จริง เพราะจากการทดลองกับหนูแล้ว สารดังกล่าวสามารถทำให้แผลสดหายเร็วขึ้นถึง 3 เท่าจากปกติ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยผลิตเซลล์เม็ดเลือดและการเจริญเติบโตของเซลล์ทำให้ลดรอยแผลเป็นลงได้อีกด้วย โอ้วว พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก     ที่สำคัญคือเจ้าสารดังกล่าสามารถสกัดออกมาโดยตรงจากเนื้อเยื่อไขมันที่ถูกตัดทิ้งในผู้ป่วยได้ หมายความว่าเมื่อมีผู้ป่วยมาผ่าตัดเราก็สามารถนำเนื้อเยื่อที่ถูกทิ้งมาสกัดสารตัวนี้เพื่อใช้รักษาแผลต่อให้กับเขาได้กลายเป็นโชคสองชั้น แต่ถึงอย่างนั้นการที่สารตัวนี้มีรูปแบบการรักษาที่เข้าไปหยุดการผลิตคอลลาเจนเอาไว้อาจเกิดผลกระทบตามมาได้ เพราะว่าคอลลาเจนมีความจำเป็นสำหรับกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิว ดังนั้นการรักษาจึงต้องเป็นไปเฉพาะจุดที่มีการรวมตัวกันมากของคอลลาเจน และต้องหาคำตอบเพิ่มเติมอีกว่าอะไรเป็นตัวที่ทำให้มีการผลิตโปรตีนมากจนเกินไปในตอนที่เกิดแผล     จนพวกเขาไปพบกับโปรตีนอีกชนิดที่มีชื่อว่า Scleraxis ซึ่งจะทำงานร่วมกับคอลลาเจนในตอนที่มีแผลเกิดขึ้น แต่ความพิเศษคือเจ้า ANGPTL4 สามารถเข้าไปรบกวนการทำงานของโปรตีนชนิดนี้ ผลลัพธ์ก็คือแผลเป็นที่หายไปเร็วยิ่งขึ้น ในอนาคตเหล่านักวิทยาศาสตร์ในสถาบันหวังว่าจะสามารถผลิตเจ้าตัวยาใหม่นี้ให้ออกมาได้สมบูรณ์แบบ และวางแผนเอาไว้ว่าจะทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้ง่ายอย่างเช่นแผ่นเจล ครีม หรือไมโครแคปซูล     เวลาที่ผ่านไปความก้าวไกลของวิทยาศาสตร์ก็จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าด้วย ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจไม่มีแผลเป็นให้เห็นอีกแล้วก็ได้   ที่มา: ibtimes

  • เจ้าเหมียวที่ชอบแต่ “อาหารในถุง” ใส่จานมาไม่เคยสนใจ เพราะจะเอาไปให้ลูกน้อยได้กิน

    เจ้าเหมียวที่ชอบแต่ “อาหารในถุง” ใส่จานมาไม่เคยสนใจ เพราะจะเอาไปให้ลูกน้อยได้กิน

    เวลาที่เราตั้งใจจะให้อาหารแมวหรือหมาจรจัดตามถนน เราคงจะเทไว้ให้ที่พื้นหรือไม่ก็มีถาดอะไรซักอย่างมารองอาหารให้กับมัน แต่เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้กับแมวตัวนี้ เพราะแมวจรจัดที่ชื่อว่า Dong Suk ในประเทศเกาหลีใต้ จะแตะเฉพาะอาหารที่ใส่ถุงพลาสติกเอาไว้เท่านั้น โดยจะมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยเอาอาหารมาให้มันทุกวันเป็นประจำ   เมื่อนำอาหารมาให้มันก็จะคาบไปที่อื่น   และมันจะไม่ได้กินตรงนั้นทันที แต่จะคาบอาหารเดินหายไปที่อื่นแทนสร้างความแปลกใจอย่างมาก เธอบอกว่า “ฉันให้อาหารแมวมา 5 ปี แต่เจ้าเหมียวตัวนี้กลับต่างออกไป เพราะถ้าเป็นแมวตัวอื่นจะกินแต่ที่ใส่จานมา ไม่แตะแบบที่ใส่ถุงมาเลย”   ถ้าไม่ใส่ถุงแต่ใส่จานมาล่ะก็ มันจะไม่แตะเลย   การที่มันเดินหายไปทุกครั้งก็ทำให้เธอสงสัยว่ามันหายไปไหนกันแน่ เธอจึงแอบตามไปดูมัน ภาพที่เห็นคือมันคาบถุงอาหารไปหยุดอยู่ในที่แห่งหนึ่งจนกระทั่งมีลูกแมวตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหา   ที่แท้มันต้องการเอามาแบ่งให้ลูกน้อยของมันนี่เอง   เจ้า Dong Suk ก็แบ่งอาหารให้กับลูกแมวตัวน้อยได้กินอย่างเอร็ดอร่อยขณะที่มันนั่งดูอยู่ใกล้ๆ ภายหลังจึงทราบว่าก่อนหน้านี้มันได้ให้กำเนิดลูกออกมา 5 ตัวและตัวที่เห็นนี้เป็นเพียงตัวเดียวที่เหลืออยู่   ต้องนอนอยู่ข้างถนนอย่างหนาวเหน็บ มีเพียงความอบอุ่นจากอ้อมกอดของทั้งคู่   ความน่ารักและความห่วงใยของคุณแม่เหมียวตัวนี้ทำให้ทุกคนที่เห็นต้องซาบซึ้งไปกับมัน คนที่มาให้อาหารมันทุกวันจึงตัดสินใจพามันและลูกกลับไปอยู่ด้วยในบ้านที่แสนอบอุ่น   บ้านใหม่ที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น   หลังจากนั้นเมื่อเรื่องราวของมันได้ถูกเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดีย ก็ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกซาบซึ้งและประทับใจในความเป็นแม่ของมันอย่างมาก และต่างก็รู้สึกยินดีที่ในที่สุดมันก็ได้มีบ้านที่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข   คลิปวิดีโอความน่ารักของแม่เหมียว Dong Suk  …

  • ชาวเน็ตร่วมกันแชร์ภาพโมเม้นต์แรกที่ได้เจอกับ ‘น้องหมา’ ตัวเอง ช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคน

    ชาวเน็ตร่วมกันแชร์ภาพโมเม้นต์แรกที่ได้เจอกับ ‘น้องหมา’ ตัวเอง ช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคน

    อะไรก็ตามที่เราได้เจอเป็นครั้งแรกจะคงอยู่ในความทรงจำของเราไปเสมอ เพราะความประทับใจที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นจะน่าจดจำกว่าครั้งไหนๆ แล้วการได้เจอเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวน้อยเป็นครั้งแรกละ คุณยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้อยู่หรือเปล่าว่าคุณมีความสุขและดีใจมากขนาดไหน เพื่อช่วยให้คุณได้ย้อนกลับไปคิดถึงโมเม้นต์นั้นอีกครั้ง วันนี้เราจะพาไปดูความทรงจำแรกสุดที่ชาวเน็ตทั้งหลายได้เจอกับน้องหมา จะน่ารักและสะท้อนอารมณ์ในตอนนั้นได้มากขนาดไหนเราลองไปดูกันเลย   สวัสดีครับป๋ม   หลับตาพริ้มยิ้มหวานเลยน้าาา   สบตากันปิ๊งปิ๊ง   เมื่อยคอจังเลยครับแม่   อย่ากินเคราพ่อสิลูก   นี่หิวหรือหาวกันเอ่ย   กินข้าวหน่อยนะ จะเหลือแต่กระดูกอยู่ละ   ปากเปื่อยหมดแล้ววว   กำลังจะกลับบ้านของเราใช่มั้ยฮับ   มันไม่ได้เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง แต่มันเปรียบได้กับลูกน้อย   น่ารักเกินไปมั้ยย?!   ครั้งแรกก็อาจมีกล้าๆ กลัวๆ อยู่บ้าง   ไปโดนคดีอะไรมาล่ะ   ของขวัญวันเกิดที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิต   คร่อกกก ฟรี๊~   จั๊กจี้หมดแล้วเจ้าตัวเล็ก   ไม่เป็นไรนะลูก พี่เขาแค่อยากรู้จักด้วย   หนุ่มพเนจรกับสุนัขขี้อ้อน   นี่ทำอะไรกันอยู่ครับเนี่ย   แม่จ๋า…หนูกลัวความสูง   ตอนเจอกันครั้งแรกยังตัวเท่าฝ่ามือเอง…

  • สาวลดน้ำหนักลงได้ 158 กิโลแต่ยังมี ‘ขาย้วย’ โดนคนหัวเราะเยาะ เธอเลยตอบกลับซะหน้าหงาย!!

    สาวลดน้ำหนักลงได้ 158 กิโลแต่ยังมี ‘ขาย้วย’ โดนคนหัวเราะเยาะ เธอเลยตอบกลับซะหน้าหงาย!!

    บางคนอาจเคยเจอกับสายตาดูถูกหรือเสียงหัวเราะเยาะจากคนอื่นรอบตัวแล้วหลังจากนั้นคุณจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร? คุณรู้สึกสูญเสียความมั่นใจแล้วเลือกที่จะหนีปัญหาไปเลยหรือเปล่า? แต่หญิงสาวชื่อ Jacqueline Adan คนนี้มีวิธีที่แตกต่างออกไป บอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่ดีกว่าวิธีการหนีปัญหาแน่นอน เพราะนอกจากจะสามารถจัดการกับมันได้แล้วยังช่วยให้คุณจัดการกับตัวเองได้อีกด้วย เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเธอผู้เคยหนักมากถึง 231 กิโลกรัมแต่ตอนนี้เธอสามารถลดลงมาเหลือเพียงแค่ 73 กิโลกรัมเท่านั้น หายไปกว่า 158 กิโลกรัมเลยทีเดียว   เธอผู้สามารถลดน้ำหนักไปได้มากกว่า 150 กิโลกรัม   อย่างไรก็ตามด้วยน้ำหนักที่ลดลงอย่างมากของเธอทำให้เธอมีผิวหนังที่เหี่ยวย่นหย่อนยานอยู่ทั่วร่าง เห็นได้ชัดที่สุดก็คือบริเวณต้นขาที่ดูย้วยมากกว่าปกติ แต่ในวันหนึ่งที่เธอออกไปเที่ยวในช่วงวันหยุดที่เม็กซิโก เธอตัดสินใจที่จะใส่ชุดว่ายน้ำอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ใส่มานานมากแล้ว และเธอก็ไม่ได้ใช้ผ้ามาคลุมปกปิดร่างกายเอาไว้เหมือนที่เธอเคยทำมาก่อน   สมัยที่เธอยังหนักถึง 231 กิโลกรัมอยู่   ในตอนนั้นเธอรู้สึกประหม่าและวิตกกังวลไม่ต่างกับตอนที่เธอยังหนักมากเหมือนเมื่อก่อน หลังจากนั้นเมื่อเธอเดินไปในสระว่ายน้ำก็มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งชี้มาที่เธอและเริ่มที่จะส่งเสียงหัวเราะเยาะราวกับเห็นเธอเป็นตัวตลก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะอายมากจนอยากจะหนีออกไปให้ไกล แต่ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปแล้วเธอหายใจเข้าลึกๆ ยิ้มและเดินลงไปในสระด้วยท่าทีที่นิ่งเฉย     เธอบอกว่า “ฉันยังคงรู้สึกกังวลและไม่สบายใจกับเรื่องแบบนี้อยู่มันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญ แต่ฉันตั้งใจว่าจะไม่เอาสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับฉันเข้ามาหยุดการใช้ชีวิตของตัวเองได้” “ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะพูดว่าอย่างไรหรือพวกเขาจะพยายามให้คุณรู้สึกแย่ยังไง การแสดงออกของเราที่มีต่อสิ่งนั้นคือสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องไม่ลืมที่จะรักตัวเองและร่างกายของเราเอง จงก้าวต่อไปด้วยรอยยิ้ม” เธอกล่าวปิดท้าย     เรื่องราวทั้งหมดได้ถูกถ่ายทอดให้ผู้ติดตามเกือบ 60,000 คนของเธอได้เห็นผ่านอินสตาแกรม โพสต์นี้ของเธอก็มียอดไลก์มากกว่า 30,000 คนและเต็มไปด้วยข้อความให้กำลังใจและสนับสนุนเธอ  …

  • หนุ่มอยากพาสาวออกเดท ส่งข้อมูลบัตรเครดิตไปให้ เธอก็เอาเงินไปซื้อ “บ้านลม” ซะเลย!!

    หนุ่มอยากพาสาวออกเดท ส่งข้อมูลบัตรเครดิตไปให้ เธอก็เอาเงินไปซื้อ “บ้านลม” ซะเลย!!

    ผู้ชายทุกคนจะมีวิธีเอาชนะใจสาวแตกต่างกันไป บางคนจะพาพวกเธอไปดูหนังต่อด้วยเลี้ยงข้าวหรืออาจมีเซอร์ไพรส์ที่จะทำให้เธอคนนั้นรู้สึกประทับใจในตัวคุณ เหมือนกับชายคนหนึ่งที่พยายามจะเอาชนะใจสาววัย 17 ปีที่ชื่อว่า Leagan Wilson และดูเหมือนเขาจะชอบเธอมากถึงขนาดส่งข้อมูลบัตรเครดิตให้เธอเอาไปใช้ได้ตามสบายเลย เรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา หญิงสาวเล่าว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่เธอเจอเมื่อ 2 ปีก่อนตอนที่ไปเข้าค่ายด้วยกัน   ข้อมูลบัตรที่สามารถนำไปใช้จ่ายอะไรก็ได้   เมื่อทั้งสองคุยกันผ่านแชทออนไลน์และเธอบอกเขาไปตรงๆ ว่าไม่ได้รู้สึกเหมือนกันกับเขา ชายคนนั้นก็ตอบกลับมาว่าจะออกไปจากชีวิตของเธอ แต่กลับส่งภาพบัตรเครดิตมาให้เพื่อพยายามชวนเธอไปออกเดทด้วยให้ได้ แม้เขาจะบอกว่าให้เธอสามารถเอาบัตรไปซื้ออะไรก็ได้ที่เธอต้องการ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงปฏิเสธเขาอยู่ดีและรู้สึกว่านี่ไม่ใช่การกระทำที่ฉลาดเอาซะเลย นอกจากนั้นเธอก็ได้ทิ้งของขวัญสุดวิเศษเอาไว้ให้กับเขาอีกด้วย   สีสันสดใสดึงดูดเหมาะสำหรับงานวันเด็ก   เพราะเธอได้เอาข้อมูลบัตรไปซื้อปราสาทลมสีสันสนใสที่พอใครเห็นแล้วก็คงจะอยากพาเด็กๆ มาเล่นแน่นอน น่าเอาไปไว้ในสนามหญ้าหลังบ้านจริงจริ๊งงง สิ่งที่เธอซื้อนี้ทำเอาเจ้าของบัตรถึงกับเอ๋อรับประทานและรีบส่งข้อความว่า “นี่มันคืออะไรกัน?” ไปหาเธอทันทีเมื่อเห็นอีเมลยืนยันการชำระเงิน เธอบอกว่า “ฉันขับรถผ่านเจ้าสิ่งนี้และนึกขึ้นได้ว่ามีบัตรเครดิตอยู่ แล้วทำไมฉันจะไม่ลองซื้อปราสาทลมนี้ดูละ? ที่จริงฉันก็ได้ใช้ซื้อนักเก็ตไปด้วยนะ แต่ก็มีเพียงแค่สองอย่างนี้เท่านั้นแหละ”   งงสิครับ ส่งข้อความมาให้ไวเลย   เหวอไปเลยสิคะคุณผู้ชม   ชายคนนั้นเป็นคนบอกเธอเองว่าซื้ออะไรก็ได้นี่นา จะซื้อปราสาทลมก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่ได้คุยกันอีกและตอนที่เธอเอาเรื่องนี้มาโพสต์ลงในทวิตเตอร์ เขาก็เพียงขอไม่ให้เธอเปิดเผยตัวตันของเขาเท่านั้นเอง หลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เธอทำว่าเธอเปรียบได้กับ “ฮีโร่” และ “ไอดอล” ของสาวๆ ทั้งหลาย ที่หาวิธีแก้เผ็ดได้อย่างเจ็บแสบเอาไม่น้อย    …

  • รู้หรือไม่ว่า 8 สิ่งเหล่านี้ สำหรับผู้หญิงในประเทศซาอุฯ ห้ามกระทำโดยเด็ดขาด!!

    รู้หรือไม่ว่า 8 สิ่งเหล่านี้ สำหรับผู้หญิงในประเทศซาอุฯ ห้ามกระทำโดยเด็ดขาด!!

    บางคนอาจทราบกันบ้างแล้วว่าประเทศซาอุดิอาระเบียห้ามไม่ให้ผู้หญิงขับรถแต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวออกมาแล้วว่ากษัตริย์ Salman ได้ทรงอนุมัติให้ผู้หญิงสามารถทำสิ่งนี้ได้แล้ว สร้างความยินดีให้กับทั้งคนในประเทศและทั่วโลก อย่างไรก็ตามผู้หญิงของประเทศนี้ยังคงต้องใช้ชีวิตภายใต้ “ระบบการปกครองโดยเพศชาย” อยู่ ซึ่งทำให้คนที่เป็นสามี ลูกชาย หรือพ่อพวกเธอเป็นคนควบคุมอิสระต่างๆ เกือบทุกเรื่องในชีวิต ฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดถึง 8 ข้อห้ามที่ผู้หญิงในประเทศนี้ไม่สามารถตัดสินใจลงมือทำได้ด้วยตัวเอง มาดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรกันบ้าง   การแต่งงาน การแต่งงานของพวกเธอต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองเท่านั้น หากต้องการจะแต่งงานกับชาวต่างชาติก็จะต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงกิจการภายในประเทศ ที่สำคัญคือการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้เป็นชาวมุสลิมแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย   เปิดบัญชีธนาคารเป็นของตัวเอง เนื่องจากประเทศนี้มีเพียงไม่กี่อาชีพที่ผู้หญิงสามารถทำได้โดยไม่ต้องให้ผู้ชายอนุญาตก่อนอย่างเช่น งานผู้ช่วยร้านค้าหรือการขายของในตลาดนัด จึงทำให้พวกเธอไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารเป็นของตัวเองได้โดยไม่ได้รับอนุญาต   การแบ่งสัดส่วนอย่างเท่าเทียม ตามกฎหมายแล้วผู้หญิงจะมีสิทธิ์เท่ากับครึ่งหนึ่งของผู้ชาย และนั่นจึงทำให้พวกเธอได้รับมรดกเพียงแค่ครึ่งเดียวของที่พี่น้องผู้ชายเธอได้รับ แสดงให้เห็นความไม่เท่าเทียมกันอย่างชัดเจน   การเดินทาง พาสปอร์ตและบัตรประจำตัวของผู้หญิงจะต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ดูแลฝ่ายชายของเธอซะก่อนถึงจะสามารถมีได้ และไม่อนุญาตให้พวกเธอออกจากบ้านไปเพียงลำพัง   การแต่งกายตามที่ตัวเองต้องการ การแต่งตัวเพื่อความสวยงามเป็นสิ่งผิดกฎหมายประเทศนี้ผู้หญิงต้องใส่ชุดอาบายา (Abaya) เพื่อปกปิดร่างกายเวลาที่ออกมาข้างนอกเท่านั้น แต่ปัจจุบันเรื่องของสีสัน การตกแต่ง และรูปแบบของผ้าคลุมศีรษะสำหรับชุดดังกล่าวก็เริ่มปล่อยให้มีความหลากหลายมากขึ้นแล้ว   การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชาย การพูดคุยหรือใช้เวลาร่วมกันชายคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวจะมีช่วงเวลาที่จำกัด ในที่สาธารณะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือมหาวิทยาลัยก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งสำหรับการมานั่งเป็นครอบครัว อีกส่วนแบ่งไว้ให้สำหรับผู้ชายเท่านั้น   การรักษาทางการแแพทย์ที่สำคัญต่อชีวิต ทั้งกระบวนการหรือการผ่าตัดเพื่อช่วยชีวิตของผู้หญิงจะต้องมีลายเซ็นของผู้ชายที่มีความสัมพันธ์กันก่อน ถึงจะสามารถเริ่มการรักษาได้…

  • 12 ของเล่นแบบเฟลๆ ที่เด็กอาจไม่คิดอะไร แต่ผู้ใหญ่น่ะคิดไปไกลถึงดาวอังคารแล้ว!!

    12 ของเล่นแบบเฟลๆ ที่เด็กอาจไม่คิดอะไร แต่ผู้ใหญ่น่ะคิดไปไกลถึงดาวอังคารแล้ว!!

    ตอนที่เรายังเป็นเด็กสิ่งที่เราจะต้องเจออย่างแน่นอนก็คือของเล่นต่างๆ ที่จะทำให้เราได้เล่นสนุกพร้อมทั้งเสริมสร้างการเรียนรู้ให้กับตัวเราอีกด้วย แต่ในตอนนั้นของเล่นบางชิ้นอาจมีรูปร่างที่แปลกประหลาดซักหน่อย ถึงแม้ว่าตอนนั้นเราอาจไม่ได้คิดอะไรแต่พอโตขึ้นมาและกลับไปดูของเล่นเหล่านั้นมันก็น่าคิดจริงๆ แหละนะ เราลองไปดูตัวอย่างของเล่นสุดเฟลที่ถึงแม้ว่าเด็กจะไม่คิด แต่ผู้ใหญ่ทั้งหลายก็จะสามารถเข้าใจตรงกันได้   สิ่งที่คาใจมีแค่เรื่องเดียวว่า มันทำปากอย่างนั้นเพื่อจุดประสงค์อันใดกันนะ?!   กล่องเดียวแต่ได้ตั้ง 3 ชิ้น คุ้มค่าจริงๆ   ฟองฟ่อดเลยนะวันเดอร์วูแมน…   เข้าใจหาที่สำหรับเสียบหลอดเนาะ อะดูดน้ำเลยสิ   นอกจากจะมีแสงแล้ว ยังมีขนาดที่ยาวพร้อมผิวขรุขระน่าจับต้อง   เอาไว้ให้เด็กไปเรียนรู้วิธีการปล้นธนาคารสินะ   เหมือนจริงๆ.. เหมือนเจ้า Olaf ในเรื่อง Frozen มากจริงๆ   เป็นรถเข็นของเล่นที่ต้องตรวจบัตรก่อนว่าอายุเกิน 20 ปีหรือเปล่า   เต่านินจาหัวมนเชียะ   ตรงถุงบอกว่าเป็น “เครื่องดนตรี” ไม่ทราบว่าวิธีเล่นต้องดีดหรือเป่ากันแน่   ไมค์มิกกี้เมาส์พร้อมฐานตั้ง ชอบตรงที่มันเป็นสีดำเนี่ยแหละ   เจ้า Olaf อีกแล้ว แต่ครั้งนี้มีไว้เพื่อผลิตหิมะแทนนะ สีขาวขุ่นไหลมาเต็มเลย   ครั้งต่อไปเวลาจะไปเลือกของเล่นให้กับเด็กๆ เราต้องดูกันดีๆ หน่อยละนะ…

  • พ่อพระของเหล่าสุนัข ผู้ช่วยเหลือพวกมันมาแล้วกว่า 700 ตัว ตลอดระยะเวลา 8 ปี

    พ่อพระของเหล่าสุนัข ผู้ช่วยเหลือพวกมันมาแล้วกว่า 700 ตัว ตลอดระยะเวลา 8 ปี

    สุนัขจรจัดสามารถพบเห็นได้ทั่วไปและยังคงมีอยู่ในทุกประเทศซึ่งน้อยครั้งที่จะเห็นว่าพวกมันได้รับการช่วยเหลือหรือถูกเก็บไปเลี้ยง เพราะทุกคนต่างมีเหตุผลที่พามันกลับไปด้วยไม่ได้กันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่สำหรับหนุ่มชาวจีนชื่อ Zhou Yusong ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเจิ้งโจว และเปรียบได้กับ “พ่อพระของเหล่าสุนัข” คอยช่วยเหลือพาพวกมันกลับไปดูแลตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ด้วยระยะเวลาอันยาวนานหากลองนับดูพบว่าเขาได้ช่วยน้องหมาจรจัดไปมากกว่า 700 ตัวแล้ว แทบจะเรียกได้ว่าถ้าเดินไปในเมืองที่เขาอาศัยอยู่เราคงจะแทบไม่เห็นพวกมันมาอยู่ตามท้องถนนแน่ๆ   เห็นอาหารละมากันไวเลยนะ   จุดเริ่มต้นมาจากในปี 2008 ที่เขาไปเจอน้องหมานอนบาดเจ็บคล้ายกับถูกรถชนอยู่ข้างถนนโดยไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเลย ยกเว้นชายคนนี้ที่รีบพามันไปโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงใกล้ๆ ในทันที ในตอนนั้นเขามีเพียงอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ จึงคิดว่าถ้าจะพามันกลับไปอยู่ด้วยคงไม่สะดวกเท่าไหร่ เลยตัดสินใจพามันไปไว้ที่สถานรับเลี้ยงดูสุนัขแทน แต่เมื่อไปถึงเขาก็รู้สึกตกใจกับจำนวนที่ของหมาจรจัดที่มีอยู่แล้วเยอะมาก จากนั้นมาเขาจะบริจาคเงินให้กับสถานรับเลี้ยงดูเป็นเงินประมาณ 1,000 บาททุกเดือนสำหรับค่าอาหารและค่ารักษาของเหล่าสุนัข   ตัวไหนไม่อิ่มก็กินเข้าไปเยอะๆ ได้เลย   แต่เขาก็คิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันยังไม่เพียงพอจึงไปชวนเพื่อนคนหนึ่งลงทุนเปิดศูนย์ให้ความช่วยเหลือสุนัขจรจัดขึ้นมาเอง จากงบประมาณกว่า 4 ล้านบาทสิ่งที่เขาต้องการก็กลายเป็นจริง ตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำฮวงโห หลังจากนั้นเขาก็ลาออกจากงานเพื่อให้สามารถมาดูแลเหล่าสุนัขได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงปัจจุบันเขาไม่หยุดพักเลยแม้แต่วันเดียว ระยะเวลาเกือบ 3,000 วันที่เขาต้องดูแลน้องหมาไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยหรือท้อถอยกับสิ่งที่ได้ทำอยู่เลย นอกจากนั้นเขายังประหยัดค่าใช้จ่ายโดยการทำทุกอย่างด้วยเองเช่นซ่อมกรงหรืองานทำความสะอาดทุกอย่าง   ลงงานทำทุกอย่างด้วยตัวเอง   ชายผู้ทำงานหนักคนนี้แม้ว่าจะมีสิ่งที่ต้องให้ทำเยอะแค่ไหนแต่เขาก็จะหาเวลาสำหรับการอยู่ร่วมกันระหว่างตัวเองกับเหล่าสุนัข เล่นกับพวกมันหรือไม่อย่างน้อยที่สุดก็จะลูบหัวมันเบาๆ เพื่อสื่อให้น้องหมารู้ว่าเขารักพวกมันมากขนาดไหน   งานหนักเพียงใด เขาก็ไม่ลืมที่จะให้ความรักกับพวกมัน  …

  • นักเรียนญี่ปุ่นถีบ-กระชากคอเสื้ออาจารย์ หลังโดนยึดแท็บเลต กลายเป็นประเด็นร้อนแรง!!

    นักเรียนญี่ปุ่นถีบ-กระชากคอเสื้ออาจารย์ หลังโดนยึดแท็บเลต กลายเป็นประเด็นร้อนแรง!!

    สำหรับโรงเรียนในประเทศญี่ปุ่นหลายๆ แห่งแล่ว พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถปล่อยให้เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการแอบงีบหลับหรือการกลั่นแกล้งกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคลิปวิดีโอความรุนแรงที่เกิดขึ้นในห้องเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายฟุกุโอะกะ ถึงได้กำลังเป็นกระแสอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อโรงเรียนนี้อนุญาตให้นักเรียนใช้แท็บเล็ตเพื่อช่วยในการเรียนรู้ แต่มีเด็กคนหนึ่งกลับใช้มันเปิดหนังดูในห้องซึ่งเป็นสิ่งที่ออกจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่     เมื่ออาจารย์วัย 23 ปีที่กำลังทำการสอนอยู่เห็นเข้าจึงได้ตักเตือนเด็กคนนั้นอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดเมื่อคำเตือนของเขาใช้ไม่ได้ผล ก็เลยยึดเอาแท็บเล็ตของเด็กคนนั้นมาแทน สิ่งที่เขาทำลงไปสร้างความไม่พอใจให้เด็กหนุ่มคนนั้นอย่างมาก เขาจึงเดินเข้าไปหาคุณครูเพื่อหวังจะเอาแท็บเล็ตคืนมา แต่อาจารย์คนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรและยิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกโมโหมากยิ่งกว่าเดิม ถึงขนาดที่ว่าเขาถีบไปที่หลังครูคนนั้นถึง 4 ครั้งด้วยความแรงที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เพื่อนร่วมห้องคนอื่นกลับนั่งหัวราะและให้กำลังใจกับสิ่งที่เขาได้ทำ   ปล่อยลูกถีบใส่อาจารย์ขณะที่คนอื่นๆ ก็นั่งหัวเราะกัน   ยิ่งไปกว่านั้นคือเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อครู และอาจจะชกต่อยไปแล้วถ้าหากว่าอาจารย์คนนั้นไม่ได้ส่งเสียงร้องประท้วงออกมาซะก่อน   กระชากคอเสื้อจนอาจารย์ต้องส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่จะถูกต่อย   คลิปวิดีโอนักเรียนถีบอาจารย์   คลิปดังกล่าวมียอดวิวรวมกันกว่า 1.2 ล้านครั้งทั้งในญี่ปุ่นเองและจากหลายๆ ประเทศทั่วโลก ถึงแม้ชื่อคลิปจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เชื่อว่าชาวต่างชาติที่ไม่เข้าใจภาษานี้ก็พอจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นนี้โรงเรียนเลือกที่จะไม่แจ้งความกับตำรวจ เพราะเห็นว่าครูคนนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกายอะไร แต่การตัดสินใจของโรงเรียนและคลิปที่เผยแพร่ออกมาก็สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตอย่างมาก   “เป็นความผิดของเด็กลงมือและนักเรียนคนอื่นที่นั่งหัวเราะอยู่ ทางโรงเรียนควรรายงานเรื่องนี้ให้กับตำรวจ”   “ผู้ปกครองของเด็กคนนั้นคงจะเป็นยากูซ่า”   “นี่ไม่ควรที่จะรายงานตำรวจหรอ? นักเรียนมัธยมควรได้เข้าใจว่าความรุนแรงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ปล่อยให้เด็กถูกจับไปเลย!!”   “ลืมเรื่องที่ตำรวจจะมาจับเด็กคนนี้ไปเลย เพราะแม้แต่นักเรียนคนอื่นที่ไม่ลงมือทำอะไรก็สมควรถูกต่อว่าเหมือนกัน มันหมดยุคสมัยที่ลูกศิษย์จะเคารพอาจารย์ไปนานแล้ว”  …

  • ตำรวจนิวยอร์กจับกุมสาววัย 18 ปี ใส่กุญแจมือ พาไปยังที่ลับตาคน แล้วลงมือข่มขืน…

    ตำรวจนิวยอร์กจับกุมสาววัย 18 ปี ใส่กุญแจมือ พาไปยังที่ลับตาคน แล้วลงมือข่มขืน…

    เราทุกคนรู้ดีว่าตำรวจมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองประชาชนและบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบ แต่บางครั้งก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปเพราะเจ้าหน้าที่กลายเป็นคนก่อคดีขึ้นมาซะเอง เมื่อหญิงสาววัย 18 ปีแจ้งว่าถูกตำรวจแห่งเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา 2 นาย ข่มขืนเธอหลังจากที่เธอถูกจับกุมตัว เธอเล่าว่าในวันนั้นช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาเธอกำลังขับรถเล่นอยู่กับเพื่อนอีก 2 คนบริเวณเกาะ Coney พื้นที่ของนิวยอร์ก หลังจากนั้นก็มีตำรวจมาดึงเพื่อนของเธอออกไปเพราะถูกสงสัยว่าครอบครองสารเสพติดผิดกฎหมายเอาไว้     ต่อมาตามที่เธอได้บอกกับทนายของเธอ Michael David เล่าว่าหญิงสาวถูกจับใส่กุญแจมือและนั่งรถอยู่กับตำรวจสองนายที่พาเธอไปที่ลับตาคน หลังจากนั้นก็บังคับเธอให้มีอะไรกับพวกเขา หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาเธอก็เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเมือง ไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายของเธอที่ได้รับผลกระทบแต่ที่สำคัญคือเรื่องของจิตใจ เธอบอกว่า “การถูกข่มขืนในครั้งนั้นกระทบกระเทือนต่อจิตใจฉันอย่างมาก ตอนนี้ทุกครั้งที่ฉันมองเห็นคนใส่ชุดตำรวจก็จะรู้สึกกลัวไปหมด”     ในขณะนี้ คดีที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในช่วงตรวจสอบภายในและตำรวจทั้ง 2 กับผู้บังคับบัญชาของเขาก็ได้ถูกยึดตราและปืนเอาไว้ ระหว่างช่วงที่ยังคงสอบสวนคดีนี้อยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้อาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็คือนายตำรวจ 2 คนนั้นยอมรับว่ามีอะไรกับเธอจริง แต่บอกว่าไม่ใช่การข่มขืนแต่เป็นการยินยอมของทั้งสองฝ่าย คำให้การพวกเขาทำให้กรมตำรวจนิวยอร์กออกมาพูดว่า “ปัจจุบันคดีนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและสืบสวนว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติดที่มีอยู่ทางตอนใต้ของ Brooklyn”     คงต้องรอดูต่อไปว่าแท้จริงแล้วคดีนี้จะเกิดจากความผิดของใครกันแน่ เพราะหากเจ้าหน้าที่ผู้ปกป้องไปก่อคดีร้ายแรงซะเอง คงจะเป็นเรื่องที่รับไม่ได้อย่างมากแน่นอน   ที่มา: independent

  • ใบหน้าของผู้ป่วยเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ความเจ็บปวดที่มองไม่เห็นและไม่อาจสังเกตได้

    ใบหน้าของผู้ป่วยเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ความเจ็บปวดที่มองไม่เห็นและไม่อาจสังเกตได้

    โรคซึมเศร้า คือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทำให้รู้สึกเศร้าหรือหดหู่ใจอย่างรุนแรงมากกว่าปกติทั่วไป แต่คนรอบข้างกลับดูไม่ออกว่าพวกเขาเป็นอย่างนั้นในบางครั้ง เพราะอาการของโรคไม่จำเป็นที่จะต้องมีการแสดงออกทางสีหน้าจนทำให้เราคิดว่าพวกเขาก็ดูมีความสุขดี แต่แท้จริงอาจคิดถึงเรื่องในแง่ลบอย่างเช่นการฆ่าตัวตายอยู่ก็ได้ การสนับสนุนและช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรักษาเยียวยาให้ทุกอย่างสามารถผ่านไปได้ด้วยดี เพราะไม่อย่างนั้นบางทีทุกอย่างมันอาจสายเกินไป เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ เราลองไปดูกันว่าใบหน้าของคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะออกมาเป็นอย่างไร?   ในตอนที่ไปหาหมอเธอกลับต้องเจอคำพูดว่า “คุณดูไม่เหมือนเป็นโรคซึมเศร้าเลยนะ” ทำให้เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะเธอไม่สามารถรับการรักษาหรือสั่งยามากินได้ ตอนนั้นเธอคิดว่า “คนที่เป็นโรคนี้จำเป็นที่จะต้องมีใบหน้าอมทุกข์ด้วยอย่างนั้นหรอ?”   ไม่กี่วันก่อนที่นักร้องหนุ่มชื่อดัง Chester Bennington ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะจากโลกนี้ไป   ภาพของเด็กชายก่อนที่เขาจะเดินไปหาวิธีการแขวนคอตายในคอมพิวเตอร์ และทำมันใน 2 วันหลังจากนั้น   รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่เขากำลังเผชิญกับโรคนี้ที่ทำลายความสุขของเขาไปจนหมด หลังจากนั้นไม่นานจึงจบชีวิตตัวเองลงไปอย่างน่าเศร้า   สาวน้อยวัย 8 ขวบที่แม่ของเธอบอกว่าดูไม่ออกเลยว่าเด็กคนนี้จะทำการฆ่าตัวตาย ในคืนเดียวกันกับที่เธอยังคงเล่นสนุกอยู่กับครอบครัว ถึงอย่างนั้นเธอก็ถูกพาไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา   ใบหน้าของคุณพ่อและสามีที่ดีคนหนึ่ง ไม่มีใครรับรู้ได้เลยว่าสองอาทิตย์ต่อมาเขาจะแขวนคอตัวเอง   ชายเสื้อแดงวัย 60 ปีคือคุณพ่อที่คอยเตือนลูกทุกคนไม่ให้ฆ่าตัวตายอยู่เสมอ กระทั่งเขาทำสิ่งนั้นด้วยตัวเองโดยที่ลูกๆ ไม่มีสามารถรู้ล่วงหน้าก่อนได้เลย   รอยยิ้มของเด็กหนุ่มที่ถ่ายรูปกับคุณแม่ในคืนก่อนที่เขาจะตัดสินใจจากโลกนี้ไปด้วยความวิตกกังวลและความเสียใจของคนในครอบครัว   หน้าตาของคนที่จมอยู่กับโรคนี้มานานถึง 4 ปี ดูไม่ออกเลยว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นเธอต้องทุกข์ขนาดไหน   คนมากมายแทบไม่เชื่อเลยว่าเธอเป็นโรคซึมเศร้า…

  • จัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ!! เมื่อตำรวจเข้าผับแต่ไม่ได้มาสั่งปิด โดดเข้าบูธดีเจไปเปิดแผ่นซะงั้น

    จัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ!! เมื่อตำรวจเข้าผับแต่ไม่ได้มาสั่งปิด โดดเข้าบูธดีเจไปเปิดแผ่นซะงั้น

    เหล่านักดื่มผู้ชื่นชอบการเที่ยวกลางคืนทั้งหลายอาจต้องเจอกับคุณตำรวจเดินเข้ามาในสถานบันเทิงแล้วบอกให้ปิดเพลง จบความสนุกของเราเอาไว้แต่เพียงเท่านั้น ทำเอาเซ็งกันไปหมด แต่เหตุการณ์นี้กลับต่างกันออกไปเมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้ามาเพื่อทำสิ่งนั้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าง Benjamin Simmons กลายมาเป็นดีเจไม่ได้รับเชิญอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เขาผู้อยู่ในกรมตำรวจ West Midlands ได้ขึ้นไปรีมิกซ์เพลงที่ชื่อว่า Sound of Da Police ซึ่งเนื้อหามีความขัดแย้งกับงานที่เขาทำอยู่เล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับทุกคนได้อย่างมาก   The strangest thing just happened! Massive shoutout to the coolest police force! @SaferStudents @WMPolice pic.twitter.com/EQRtBNwBCT — PRYZM Birmingham (@PryzmBirmingham) September 29, 2017 สามารถดูวิดีโอตำรวจเปิดแผ่นแบบเต็มๆ ได้ที่ PRYZM Birmingham   ภาพของดีเจจำเป็นนี้ถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์คลับ PRYZM Birmingham ทำให้ชาวเน็ตหรือแม้แต่เจ้าของคลับต้องตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ และพากันชื่นชมความเท่ห์ของเขาอีกด้วย ต่อมาทางสถานีตำรวจก็ได้ออกมาชี้แจงว่าชายคนนี้และเพื่อนร่วมงานของเขา เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ตั้งขึ้นมาใหม่ชื่อว่า Safer Student ที่จะช่วยให้คำแนะนำกับวัยรุ่นมหาลัยได้ใช้ชีวิตกันอย่างปลอดภัย   จัดไปชุดใหญ่ เหนียวไก่ใส่กระติ๊บ!!…

  • จัดไปครับ…ครูบอกสามารถนำโน้ตขนาด 3×5 เข้าสอบได้ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็น ‘นิ้ว’ หรือ ‘ฟุต’!!

    จัดไปครับ…ครูบอกสามารถนำโน้ตขนาด 3×5 เข้าสอบได้ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็น ‘นิ้ว’ หรือ ‘ฟุต’!!

    ในบางวิชาที่จะต้องเจอกับสูตรตัวเลขเยอะๆ ชนิดที่ว่าเรียนซ้ำซัก 3 ปีก็คงจะจำไม่หมด ปัจจุบันผู้สอนทั้งหลายก็จะใจดีอนุญาตให้นักเรียนสามารถนำกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ จดข้อมูลบางส่วนเข้าห้องสอบได้ เช่นเดียวกับอาจารย์หนุ่มชื่อว่า Reb Beatty ที่ยอมให้นักเรียนในวิชาบัญชีการเงินของเขาสามารถนำกระดาษโน้ตขนาด 3×5 นิ้วเข้าไปในห้องสอบได้ แต่เมื่อถึงวันสอบเขาก็ต้องพบว่าเขาได้ลืมสิ่งสำคัญไปซะแล้ว เมื่อนักเรียนชายคนหนึ่งของเขาชื่อ Elijah Bowen ได้นำกระดาษโน้ตขนาด 3×5 ฟุตมาในวันสอบด้วย! นั่นมันมากกว่า 10 เท่าที่ควรจะเป็นในความคิดของเขาเลย   โต๊ะยังไม่ใหญ่เท่าโน๊ตของไอ้หนุ่มนี่เลย   เหตุผลที่นักเรียนคนนั้นทำอย่างนี้ก็เพราะว่าในตอนที่อาจารย์บอกให้นำโน้ตเข้าได้ พูดเพียงว่า “สามารถนำโน้ตขนาด 3×5 เข้าห้องสอบได้นะ” แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าใช่หน่วยวัดเท่ากับเท่าไหร่ ขนาดของกระดาษโน้ตอันมหึมาทำเอาอาจารย์หนุ่มต้องถึงกับกุมขมับ หลังจากนั้นก็รีบไปค้นหาแบบข้อมูลการเรียนการสอนที่แจกให้นักเรียนในต้นเทอมและพบว่าเขาไม่ได้เขียนบอกหน่วยวัดเอาไว้เลย เมื่อเป็นอย่างนั้นจึงทำให้นักเรียนสุดแสบสามารถใช้โน้ตนั้นได้โดยไม่ผิดกฎ สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนภายในห้องโดยเฉพาะกับเจ้าหนุ่มคนนั้น   นี่คือหน้าตาของอาจารย์หนุ่มกับลูกๆ ที่น่าร๊ากกก   ครูคนนี้ได้สอนวิชานี้ในวิทยาลัย Anne Arundel รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกามานานหลายปีและอนุญาตให้เด็กสามารถนำโน้ตเข้าห้องสอบได้เสมอ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ต้องเจอกับอะไรแบบนี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกยินดีที่ได้เห็นนักเรียนมีความคิดเป็นของตัวเอง มีจินตนาการกล้าคิดนอกกรอบ และเขาก็บอกว่า “ผมชมเชยให้กับคนที่สามารถรับรู้ปัญหาที่มีอยู่ซ้ำๆ นี้ได้ และมีความกล้าที่จะทำสิ่งนั้นออกมาตรงๆ”     นับว่าเป็นบทเรียนให้กับความรอบคอบของคุณครูทั้งหลายเลยนะ เพราะจุดเล็กจุดน้อยอาจตามมาด้วยสิ่งที่ใหญ่กว่าที่คิดไว้เลยก็ได้ ที่มา: buzzfeed

  • แมวน้อยไม่ยอมห่างจากเจ้าของ นอนอยู่ข้าง ‘หลุมฝังศพ’ ไม่มีใครพรากทั้งคู่ให้จากกันได้

    แมวน้อยไม่ยอมห่างจากเจ้าของ นอนอยู่ข้าง ‘หลุมฝังศพ’ ไม่มีใครพรากทั้งคู่ให้จากกันได้

    หลายคนคงไม่อยากยอมรับกับเรื่องการจากไปของคนที่เรารักและต้องจมอยู่กับความเสียใจไปนาน ไม่ต่างกับเจ้าเหมียวตัวนี้ที่มันเองก็คงจะทำใจไม่ได้เหมือนกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ในงานศพของนาย Ismail Mat วันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ผู้คนที่มาร่วมงานต่างเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของเขารวมถึงสัตว์เลี้ยงแสนรักอีกตัวหนึ่งด้วย   เจ้าเหมียวสัตว์เลี้ยงแสนรักของผู้ตาย   เมื่อเจ้าเหมียวที่เขาเลี้ยงเอาไว้คงยังไม่พร้อมสำหรับการจากไปในครั้งนี้ เมื่อพิธีในงานเริ่มขึ้นมันก็เดินเข้ามาที่หลุมฝังศพของเจ้าของมัน เกลือกกลิ้งไปมาหรือพยายามขุดดินตรงนั้นไม่ยอมไปไหน เหมือนกับว่าอยากจะปลุกให้เจ้านายลุกขึ้นมาอีกครั้ง   มันทำได้เพียงแต่ไว้อาลัย แม้ว่าจะยังทำใจไม่ได้ก็ตาม   ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Soffuan CZ เขียนบอกเอาไว้ในโพสต์ว่า “ปู่ของผมเป็นคนเดียวที่คอยดูแลเจ้าแมวมาโดยตลอด” จึงอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงได้ผูกพันและแสดงออกมาแบบนี้ ผู้คนที่อยู่ในงานพยายามจะอุ้มมันออกไปจากตรงนั้น แต่มันก็ขัดขืนจะอยู่ตรงข้างหลุมศพให้ได้ ภาพที่เห็นทำให้ผู้ร่วมงานต้องรู้สึกซาบซึ้งไปกับความรักที่เจ้าเหมียวมีให้กับผู้ตาย   คลิปวิดีโอของเจ้าเหมียว ที่แม้ความตายก็ไม่อาจพรากมันจากเจ้าของได้   ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคลิปวิดีโอพฤติกรรมของมันได้ถูกเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดียในวันต่อมา ก็มีคนเข้ามาชมมากกว่า 6 ล้านครั้ง คอมเม้นท์ต่างๆ มีทั้งไว้อาลัยผู้ตายและรู้สึกเสียใจที่ต้องเห็นเจ้าแมวเป็นอย่างนั้น   ยังคงไม่สามารถก้าวไปไหนได้เลย   เราคงไม่สามารถไปบังคับให้มันไม่เศร้ากับเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เพราะมันก็ยังคงมีความผูกพันกับเจ้านายของมันไม่ต่างกับผู้ร่วมงานคนอื่นหรอก   ที่มา: nextshark

  • ชายหนุ่มผู้เปลี่ยน “รองเท้าแตะเก่า” ให้กลายเป็น “หุ่นฟิกเกอร์” สร้างกระแสดัง

    ชายหนุ่มผู้เปลี่ยน “รองเท้าแตะเก่า” ให้กลายเป็น “หุ่นฟิกเกอร์” สร้างกระแสดัง

    รองเท้าแตะหูหนีบที่เราใส่กันอยู่ทุกวัน เมื่อสายมันขาดหรือขนาดเท้าเราใหญ่เกินไปก็จะกลายเป็นเพียงขยะ ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรอการย่อยสลายไป แต่มีหนุ่มชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งมีทางออกที่ดีกว่าให้กับมันแล้ว หนุ่มก่อสร้างพ่อลูกสองชื่อว่า Elmer Padilla อาศัยอยู่ในกรุงมะนิลา ผู้ที่เปลี่ยนซากรองเท้าแตะเก่าๆ ธรรมดาให้กลายเป็นฟิกเกอร์สุดเท่ ด้วยกรรไกรกับมีดบวกเข้ากับความสามารถของเขา ของเล่นที่เขาสร้างขึ้นนั้นมีต้นแบบมาจากตัวละครในหนังดังหลายเรื่องเช่น Star Wars, Transformers หรือแม้แต่เหล่าฮีโร่จาก Marvel เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ในละแวกนั้น   ศิลปินข้างถนนผู้เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเด็กๆ ทั้งหลาย   นอกจากสิ่งนี้จะสามารถเสริมรายได้ให้กับครอบครัวของเขาแล้ว เพื่อนของเขา Adrian Soriano Bernabe ก็ได้ทำให้ช่างฝีมือคนนี้กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลขึ้นมา หลังจากที่โพสต์ภาพลงในกลุ่มเฟซบุ๊กจนมียอดแชร์สูงกว่า 5,000 ครั้ง ยิ่งกว่านั้นยังได้รับยอดโหวตใน Reddit สูงกว่า 86,000 คนอีกด้วย เรียกว่ากลายเป็นคนดังไปในทันที ถึงขนาดที่มีคนต้องการซื้อผลงานของเขาหรือไม่ก็อยากช่วยสนับสนุนให้เขาได้เปิดร้านขายในเว็บ Etsy   ผลงานที่พร้อมให้ลูกค้าได้เข้ามาเลือกหยิบ   หุ่นยนต์กันดั้มพร้อมตะลุยศึก   ถึงอย่างนั้นชายคนนี้ก็ยังไม่แสดงออกมาว่าคิดอย่างไรที่ตอนนี้ตัวเองกลายเป็นคนมีชื่อเสียงไปแล้ว หรือเขาอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ละมั้ง แต่ผลงานของเขาก็บอกได้เลยว่ามีความคิดสร้างสรรค์และฝีมือจริงๆ เลยนะเนี่ย   ตัวละครจากหนังแอ็คชั่นต่างๆ   ทุกชิ้นทำจากรองเท้าแตะและสองมือของเขา   เท่ๆ…

  • เทศกาลสุดแปลก ที่ทุกคนในหมู่บ้านกว่า 20,000 คนจะต้องออกมากินข้าวร่วมกันในทุกๆ ปี

    เทศกาลสุดแปลก ที่ทุกคนในหมู่บ้านกว่า 20,000 คนจะต้องออกมากินข้าวร่วมกันในทุกๆ ปี

    บนโลกของเรามีงานเทศกาลแตกต่างจัดขึ้นแตกต่างกันไปทั่วโลก ขึ้นอยู่กับค่านิยมและวัฒนธรรมของแต่ละแห่ง ซึ่งในบางครั้งก็อาจทำให้เราต้องแปลกใจว่าอะไรแบบนี้ก็มีด้วยหรอ?! เรามาดูตัวอย่างของหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะมาจอร์กา ประเทศสเปน เมื่อทุกวันศุกร์ที่ 3 ในเดือนกันยายนทุกคนในหมู่บ้านจะหยุดทุกอย่างและออกมารับประทานอาหารเย็นร่วมกัน   ทั้งหมู่บ้านเลยจริงๆ นะเออ   มื้อเย็นประจำปีที่จัดขึ้นนี้มีชื่อว่า Sopar a la fresca โดยในวันนั้นจะได้เห็นภาพของคนจำนวนมากจัดโต๊ะยาวเหยียดเพื่อนั่งกินข้าวและดื่มไวน์กันอย่างสนุกสนาน   แน่นขนัดขยับกันแทบไม่ได้   ทางเทศบาลของเมืองบอกว่าจำนวนคนนั้นเยอะจนน่าตกใจเป็นอย่างมาก เพราะคาดว่ามีผู้มาร่วมงานมากถึง 20,000 คน ทั้งๆ ที่ประชากรในเมืองมีแค่ราว 8,000 คนเท่านั้นเอง สงสัยว่าคนที่เหลือจะมาจากหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ๆ จะมาร่วมงานด้วย แต่ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนทุกคนในหมู่บ้านก็ยินดีต้อนรับ   ยิ้มกันแบบนี้ จริงๆ แอบหิวกันอยู่หรือเปล่านะ?   ทุกอย่างในงานมาจากแรงกายแรงใจของทุกคนที่นำเก้าอี้และโต๊ะออกมาตั้งกันเอง ส่วนเรื่องอาหารหรือการตกแต่งต่างๆ ทุกคนก็จะช่วยเหลือกัน เป็นความอบอุ่นที่เกิดขึ้นมาอย่างเรียบง่าย   เป็นงานที่ตกแต่งด้วยฝีมือของพวกเขาเองทุกคน   นอกจากนั้น งานนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลกินไวน์ที่ยิ่งใหญ่จัดขึ้นในทุกเดือนกันยายนชื่อว่า Festa des Vermar อีกด้วย เรียกได้ว่ากว่า 20,000 คนนี่ยังแค่จิ๊บๆ   มีโต๊ะแยกไว้สำหรับพูดคุยกันตามประสาเด็กด้วยนะ…

  • ผบ.โรงเรียนทหารสหรัฐฯ เดือด หลังมีนักเรียนเขียนเหยียดคนดำว่า “กลับบ้านไปซะ ไอ้มืด!!”

    ผบ.โรงเรียนทหารสหรัฐฯ เดือด หลังมีนักเรียนเขียนเหยียดคนดำว่า “กลับบ้านไปซะ ไอ้มืด!!”

    การเหยียดผิวหรือการเหยียดเชื้อชาตินั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรถูกยอมรับในสังคม แต่ก็ต้องเข้าใจว่ายังคงมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอยู่บ้าง ไม่เว้นแม้แต่ในโรงเรียนเตรียมนายเรืออากาศแห่งรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นพูดถึงอย่างมาก เมื่อในวันอังคารที่ผ่านมามีนักเรียนมือบอนคนหนึ่งในสถาบัน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใคร เขียนข้อความเอาไว้บนกระดานข้อความของนักเรียนเตรียมทหารผิวสี 5 คนว่า “กลับบ้านไปซะ ไอ้มืด“ จึงทำให้ผู้บังคับบัญชาในสถานศึกษาแห่งนั้นรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก สองวันต่อมาจึงมีการเรียกรวมนักเรียนทั้งหมด 4,000 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทั้งหมดอีกกว่า 1,500 คนเข้ามารับฟังสิ่งที่ผู้กำกับการแห่งนั้นต้องการพูดสิ่งที่เกิดขึ้นนี้     พลโทอากาศ Jay Silveria ผู้กำกับการโรงเรียนแห่งนี้ ได้พูดโดยมีใจความสำคัญว่า “ถ้าหากคุณรู้สึกโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นหมายความว่าคุณคือส่วนหนึ่งของพวกเรา เพราะที่เราโมโหไม่ใช่เพียงในฐานะทหารอากาศ แต่ในฐานะความเป็นมนุษย์” “ใครที่ปฏิบัติต่อคนอื่นที่มีเชื้อชาติหรือสีผิวต่างกันอย่างมีศักดิ์ศรีและความเคารพไม่ได้ ก็ไสหัวออกไป!!” เขากล่าวทิ้งท้าย เป็นการประกาศกร้าวถึงจุดยืนได้อย่างองอาจและน่าเกรงขาม   “ใครไม่สามารถปฏิบัติกับคนอื่นได้อย่างเท่าเทียม ก็ออกไปซะ!!” Silveria กล่าว   นอกจากนั้นเขายังบอกให้นักเรียนทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนติดตัวอยู่ หยิบขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอการพูดครั้งนี้ของเขาไว้ เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้กับการกระทำของนักเรียนทุกคน เขาบอกว่าเหตุผลที่ออกมาพูดในครั้งนี้เพราะต้องการแสดงให้นักเรียนทุกคนเข้าใจว่า พวกเขาทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และที่นี่คือสถาบันที่จะรักษาความเป็นสิ่งนั้นเอาไว้   คลิปวิดีโอการพูดของพลโทคนนี้แบบเต็มๆ ซึ่งเราจะสังเกตได้ถึงอารมณ์ร่วมของเขาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว   หลังจากนั้นเหตุการณ์นี้ได้ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อสำนักข่าวภายในรัฐ จนทำให้ชายคนนี้ได้รับคำชื่นชมจากคนในหน่วยงานเดียวกัน รวมไปถึงชาวเน็ตที่พูดถึงความยอดเยี่ยมในเรื่องการเป็นผู้นำที่ดีของเขา   “เป็นคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงพลัง…

  • 15 ภาพของเจ้าเหมียวที่มีนิ้วเกินมา 1 นิ้ว แล้วคุณจะเห็นว่าพวกมันน่ารักไม่หยอกเลย

    15 ภาพของเจ้าเหมียวที่มีนิ้วเกินมา 1 นิ้ว แล้วคุณจะเห็นว่าพวกมันน่ารักไม่หยอกเลย

    เวลาที่เราลองมองไปที่มือของเราเองจะเห็นได้ว่านิ้วโป้งจะเหมือนกับเป็นนิ้วที่โผล่ออกมาจากข้างมือ ไม่ใช่ในทิศทางเดียวกับนิ้วอื่นๆ ที่เรียงตัวกัน แต่สิ่งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่กับมนุษย์เพียงอย่างเดียว เพราะเจ้าเหมียวทั้งหลายที่เกิดมามีอาการที่เรียกว่า Polydactyl ก็จะมีนิ้วที่เกินออกมานิ้วหนึ่ง จนเหมือนกับว่ามีนิ้วโป้งเหมือนกัน แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นความผิดปกติทางกายภาพแต่กำเนิด แต่มันก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไรเลย มันกลับดูน่ารักซะมากกว่าอีกเพราะเหมือนว่ามันคอยชมทาสอย่างเราว่า “ยอดเยี่ยม” อยู่ตลอดเวลา เราไปดูกันดีกว่าว่าเจ้าเหมียวที่มีอาการนี้เนี่ยจะน่ารักขนาดไหนกัน   เอามือวางทาบไปกับพื้นนะ เดี๋ยวจะขอตรวจเล็บซะหน่อย   เพิ่มการทรงตัวให้เจ้าเหมียวมากขึ้น 40 เปอร์เซนต์.. เดาดูอ่ะนะ   เหมือนกับใส่ถุงมือในหน้าหนาวที่เห็นนิ้วโป้งโผล่ออกมา   นิ้วเจ้าช่างอ้วนกลมมากมายยิ่งนัก   โจ้ว โจ้ว !! มีนิ้วโป้งไว้สแครชแผ่นไงดู๊ด   เล็บมันเยอะเลยขี้เกียจตัด   แย่งของเล่นป๋มไปไม่ได้หรอก เพราะผมมีนิ้วโป้งล็อกเอาไว้   เมื่อคืนใช้นิ้วเปิดกระป๋อง กินเยอะไปหน่อยแฮงก์เลยยย   นั่นมันคือของเล่นอะไรกันนะ? รูปทรงแปลกๆ   แม่ครับชอบมือผมมั้ย?   มีนิ้วเกินมาก็สะดวกอย่างนี้แหละ แชทกับสาวได้แบบชิลล์ๆ   ปีนขึ้นมาเร็วเจ้าหนู   นี่มันท่าเต้นเพลง “อยากได้แฟนเก่าเพิ่มมั้ย” ของโฟร์มดนี่นา .   ผมจะกางปีกแล้วครับหม่าม๊า..…

  • เจ้าเหมียวน้อยนอนห่อตัวส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนเรือ ทาสมนุษย์จึงพากลับบ้านซะเลย!!

    เจ้าเหมียวน้อยนอนห่อตัวส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนเรือ ทาสมนุษย์จึงพากลับบ้านซะเลย!!

    เมื่อคุณต้องบังเอิญเจอเข้ากับสัตว์ตัวน้อยสุดแสนน่ารัก จะอดใจกันไหวมั้ยที่จะไม่พามันกลับบ้านไปอยู่ด้วยกัน ยิ่งถ้าที่บ้านไม่ได้มีข้อห้ามอะไรด้วยอยู่แล้วก็คงจะทิ้งมันไว้ตัวเดียวไม่ลงหรอก เหมือนกับชายคนนี้ที่กำลังไปทำความสะอาดเรือของตัวเอง ก็ต้องพบเข้ากับลูกแมวตัวน้อยกำลังนอนตัวขดอยู่ในมุมหนึ่งของเรือ พร้อมทั้งส่งเสียงแหลมออกมาเหมือนว่าอยากให้เขาพามันกลับไปด้วย เห็นอย่างนั้นจึงไม่รอช้าและรีบพามันกลับบ้านมาให้ไว ก่อนที่จะทราบภายหลังว่าเจ้าเหมียวตัวนี้เกิดในโรงรถที่ห่างไปจากบ้านของเขาไม่มากนัก   ซาบซึ้งอะไรขนาดนั้นละเจ้าเหมียววว   ตัวเล็กนิดเดียวเอง   Louise Scofield ภรรยาของชายที่ไปเจอเจ้าเหมียวเล่าว่า “ในเมืองเล็กๆ แห่งนี้มีกลุ่มแมวจรจัดที่ดุร้ายอยู่ โดยในวันที่มันเกิดได้พบศพพี่น้องของมันบนถนน จากนั้นชายที่เป็นเจ้าของโรงรถก็ได้ออกตามหาแม่ของมันกับลูกแมวตัวอื่นๆ แต่ก็ไม่พบทำให้ชายคนนั้นคิดว่ามันตายหมดแล้ว”   เจ้าตัวเล็กจะฝันถึงอะไรอยู่นะ?   ชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ ชูมือขึ้นโบกไปมา   ทั้งหมดนั้นคือเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่ครอบครัวนี้จะไปพบเจ้าลูกแมวบนเรือเข้า จากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้พวกเขาคิดว่าในละแวกบ้านไม่มีความปลอดภัยให้กับเจ้าตัวน้อย จึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูมันเองและเริ่มให้อาหารมันทุก 2 ชั่วโมง พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า Whisker และทำเหมือนกับว่าเป็นแม่ของเจ้าเหมียวที่คอยให้อาหาร พาไปเข้าห้องน้ำ ให้ความรักหรือให้ความอบอุ่นกับมัน ทำทุกอย่างที่แม่ควรทำให้กับลูกน้อย   โตขึ้นมาหน่อยแล้วครับผม   เส้นผมบนศีรษะของเจ้ามนุษย์นี่ช่างสบายเสียจริง   เวลาผ่านไปมันก็โตขึ้นพร้อมกับความรักที่มีให้กับเจ้าของของมัน มันชอบที่จะไปนอนเล่นอยู่บนร่างกายของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นคอ หัว บนตัก หรือที่ไหนก็ตามที่มันรู้สึกสบายใจและอบอุ่นและชอบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของทาสมนุษย์   ยิ่งบนพุงด้วยยิ่งรู้สึกว่านุ่มนิ่ม   นอกจากนั้นมันยังสามารถปรับตัวเข้ากับแมวในบ้านอีก 3 ตัวได้เป็นอย่างดี…

  • หรูไปละ.. เมื่อเจ้าหน้าที่สัตว์ในคลินิก ทำบ้านจากกระดาษลังหลายแบบเพื่อเอาใจเจ้าเหมียว

    หรูไปละ.. เมื่อเจ้าหน้าที่สัตว์ในคลินิก ทำบ้านจากกระดาษลังหลายแบบเพื่อเอาใจเจ้าเหมียว

    ทุกคนที่เลี้ยงสัตว์ก็อยากจะให้พวกมันได้มีที่หลับที่นอนเป็นของตัวเอง เพื่อให้มันมีความสุขและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต่างกับสัตวแพทย์ในคลินิกแห่งหนึ่งที่ยอมลงทุนสร้างบ้านอันน่าอัศจรรย์ให้กับเจ้าเหมียว เมื่อในปี 2011 มีคนพบเจ้าเหมียวออกมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวที่พักอาศัยในสิงคโปร์ เธอคนนั้นจึงอุ้มมันมาให้พนักงานในโรงพยาบาลของกลุ่มสัตวแพทย์ Mount Pleasant ช่วยหาบ้านให้กับมัน ตอนแรกเหมือนว่ามันจะจรจัด แต่ในความเป็นจริงมันมีเจ้าของเป็นเด็กชายคนหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งเขาคนนั้นไม่มีเวลาดูแลเจ้า Tisoy เหมียวน้อยตัวนี้ และคิดว่าหากฝากไว้ให้เหล่าสัตวแพทย์ดูแลจะทำให้มันได้รับความเอาใจใส่และชีวิตที่ดีกว่าเดิม   ผม Tisoy เองครับ .   ให้มันรู้ซะบ้างว่าที่นี่ใครใหญ่   เมื่อเด็กตัดสินใจยกให้พนักงานที่นี่ดูแล มันจึงกลายเป็นเจ้าเหมียวตัวแรกและตัวเดียวที่ได้อาศัยอยู่ในคลินิก และด้วยความน่ารักทำให้กลายเป็นที่รักของทุกคนในทันที แต่มันก็แอบเลี้ยงยากอยู่นิดหน่อยเพราะมีความจู้จี้จุกจิกในสิ่งที่ชอบและไม่ชอบอยู่ ในตอนแรกมันได้เตียงนุ่มและผ้าขนหนูไว้สำหรับเป็นที่พักผ่อน ทว่ามันกลับเอาสิ่งเหล่านั้นไปยัดไว้ในกล่องๆ หนึ่งเฉยเลย   มาปลุกทำไมแมวจะนอน   ครอกกก ฟรี้ ~   ต่อมาสองสาวสัตวแพทย์ Dorothy Tsang และ Gillian Koh ตัดสินใจยกลังกระดาษให้เป็นที่นอนของมัน และดูเหมือนมันจะชอบซะด้วย รีบกระโดดเข้าไปนอนข้างในอย่างไว ถึงอย่างนั้นเธอทั้งสองก็ไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านี้ เพราะพวกเธอใช้เวลาว่างมาดัดแปลงลังกระดาษให้กลายเป็นบ้านสุดเก๋ไก๋ในหลายรูปแบบ   ไอเดียแรกกับร้านกาแฟสไตล์ฮิปสเตอร์   ก่อนสร้างเสร็จมันจะชอบมองลอดหน้าต่างออกมา หลังจากนั้นจึงเริ่มที่จะเปิดประตูรับแขกได้ด้วยตัวเอง เวลาที่มีคนมาเคาะ  …

  • 7 อวัยวะในร่างกายที่ดูเหมือนจะไร้ค่า แต่มันสร้างประโยชน์ให้กับเราได้โดยที่ไม่รู้ตัว

    7 อวัยวะในร่างกายที่ดูเหมือนจะไร้ค่า แต่มันสร้างประโยชน์ให้กับเราได้โดยที่ไม่รู้ตัว

    เราทุกคนคงจะรู้จักกับอวัยวะต่างๆ ในร่างกายกันเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นภายในหรือภายนอกเช่น ตับ ไต ม้าม แขน ขา เป็นต้น ยิ่งกว่านั้นนอกจากจะรู้จักชื่อแล้ว เกือบทุกคนก็จะรู้ว่ามันทำงานให้เราอย่างไรบ้างอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่มีประโยชน์กับตัวเราไม่ได้มาจากอวัยวะที่เรารู้จักกันดีเพียงอย่างเดียวหรอกนะ เพราะยังมีพื้นที่ที่คาดไม่ถึงบนร่างกายของเราที่แม้ว่าจะดูเหมือนไม่มีประโยชน์อะไร แต่หารู้ไม่ว่ามันสามารถช่วยเหลือเราได้ในหลายๆ ทาง เราลองไปดูกันเลย ว่าจะมีส่วนไหนกันบ้าง   Grabella มันคือบริเวณตรงกลางระหว่างคิ้วสองข้างของเรา ตรงจุดนี้แพทย์สามารถวัดความตึงตัวของผิวหนังในผู้ที่เป็นภาวะอาการขาดน้ำได้ นอกจากนั้นตบตรงจุดนี้เบาๆ หลายๆ ครั้ง จนมีการกระพริบตาเกิดขึ้นก็จะบอกได้ว่าการตอบสนองของระบบประสาทเรายังทำงานได้ดีอยู่   Tragus มันคือติ่งขนาดเล็กที่ช่วงหลังมีคนนิยมไปเจาะหูตรงนั้น ซึ่งจะช่วยในเรื่องการได้ยินเสียงที่มาจากด้านหลังและแยกแยะที่มาของเสียงได้ มีความสำคัญกับการรับเสียงที่มีความถี่สูงและเพิ่มความไวในการตอบสนองอีกด้วย   Span มือของเราสามารถเป็นเครื่องวัดความยาวได้ โดยมีการใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้มาตั้งแต่อดีตวัดระยะจากนิ้วโป้งถึงนิ้วชี้ และเมื่อวัดความห่างจากนิ้วโป้งถึงนิ้วก้อยจะอยู่ที่ประมาณ 7 ถึง 9 นิ้ว ช่วยเหลือเราได้แบบคร่าวๆ   Levator labii superioris ชื่อที่เรียกอย่างง่ายคือกล้ามเนื้อส่วนริมฝีปากบน เป็นส่วนช่วยให้สามารถดึงริมฝีบากบนขึ้นแสดงรอยยิ้มออกมาได้ ลักยิ้มที่หลายคนมีก็มาจากกล้ามเนื้อส่วนนี้เนี่ยแหละ   ส่วนที่ยึดลิ้นและริมฝีปากเอาไว้ เป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและช่วยทำให้การทำงานของสองส่วนนี้ดีขึ้น เพราะมันจะให้เราสามารถขยับลิ้นได้ตามที่ต้องการและยึดเอาไว้เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป คนที่มีเจ้าสิ่งนี้สั้นกว่าปกติจะทำให้พูดเป็นคำออกมาได้อย่างยากลำบาก   Hallux มันคืออีกชื่อหนึ่งของคำว่าเท้าหรือเฉพาะเจาะจงก็คือส่วนของหัวแม่โป้งเท้า เป็นอวัยวะที่ช่วยให้เราสามารถรักษาการทรงตัวเอาไว้ได้…

  • เมื่อสถาปัตยกรรมโคจรมาเจอกับหนังโป๊ มันก็จะออกมาดู Abstract อย่างที่เห็นนี่แหละ

    เมื่อสถาปัตยกรรมโคจรมาเจอกับหนังโป๊ มันก็จะออกมาดู Abstract อย่างที่เห็นนี่แหละ

    ภาพโป๊ที่เราเคยเห็นอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่ชอบกันเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะสำหรับบ้านเราที่มีเรื่องของความเหมาะสมตามขนบประเพณีที่สืบทอดต่อกันมา แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการเปิดกว้างในเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้น จนทำให้ศิลปินสาวชื่อ Giulia สร้างผลงานภาพสาวเปลือยที่มีความเป็นศิลปะ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ก่อนหน้านี้เธอเคยรู้สึกแย่กับรูปร่างของตัวเองมาก่อน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอรู้สึกภูมิใจในร่างกายของตน ไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นมองว่ามันคือพื้นฐานที่ผู้หญิงควรมีแต่ยึดความเป็นตัวเองเข้าไว้ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานชิ้นนี้ ทั้งหมดเป็นการนำภาพสาวเปลือยกายมารวมกับสถาปัตยกรรม ทำให้ดูน่าดึงดูดมากกว่าที่จะเป็นสิ่งปลุกเร้าอารมณ์   ดึงดูดสายตาและมีเสน่ห์   งานนี้เป็นการขยายขอบเขตการมองเรื่องเพศให้กว้างขึ้นและเป็นรูปแบบใหม่ของการเซ็นเซอร์เรือนร่างของหญิงสาวทั้งหลาย ทำให้เธอสามารถโพสต์ลงอินสตาแกรมได้โดยไม่ผิดกฎ อย่างไรก็ตามเธอบอกว่าการนำเสนอเรื่องราวแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะก่อนหน้านี้ภาพของเธอเคยถูกลบจนถึงกับลบไอดีเธอเลยก็มี เนื่องจากความเร้าอารมณ์ในเนื้อหาที่มีมากจนเกินไป เธอบอกว่า “โซเชียลมีเดียไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ แต่มีความเป็นประชาธิปไตย เราจึงควรที่จะหยุดคุกคามสิ่งเหล่านั้นไปมากกว่านี้” เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้   กลายเป็นภาพที่ดูไม่ลามกอีกต่อไป   เป็นความเข้ากันของสิ่งที่ธรรมชาติสร้างและสิ่งที่มนุษย์สร้าง   สิ่งปลูกสร้างที่ดูไม่มีอะไร กลับดูสวยงามได้เมื่อรวมเข้ากับเรือนร่างของหญิงสาว   เพดานที่มีความสวยงาม ช่วยทำให้ภาพดูมีสีสัน   มีความกลมกลืนเมื่อนำมาผสมกัน   เป็นการตัดต่อที่เติมให้มีความสมจริงเพิ่มขึ้นไปหน่อย   โมเดิร์นอาร์ทที่นำมาประกอบกันได้อย่างลงตัว   เปลี่ยนความหมายของภาพออกไปอย่างชัดเจน .   ซุ้มดอกไม้ในงานแต่งงาน   แม้จะเป็นตาข่ายเธอก็สามารถหาภาพมาเข้าคู่ด้วยได้   เป็นซีทรูแบบไม่ได้เซ็กซี่   ศิลปะที่หลอมรวมกัน . .…

  • นักจิตวิทยาแนะนำ 12 เทคนิคแก้ปัญหา Impostor Syndrome โรคที่ “คิดว่าตัวเองด้อยค่า”

    นักจิตวิทยาแนะนำ 12 เทคนิคแก้ปัญหา Impostor Syndrome โรคที่ “คิดว่าตัวเองด้อยค่า”

    บางคนที่ทำงานมาอย่างหนักและประสบความสำเร็จมาโดยตลอด แต่กลับไม่รู้สึกยินดีกับสิ่งนั้น มองว่าตัวเองไม่คู่ควรกับสิ่งที่ได้มา คิดว่าตัวเองไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย หากว่าเป็นอย่างนั้นหมายความว่าคุณอาจกำลังมีอาการของ Imposter Syndrome อยู่ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่มองตัวเองในแง่ลบและรู้สึกด้อยค่า จนบางครั้งมันอาจกระทบเข้ากับการทำงาน การเรียน หรือการใช้ชีวิตของคุณได้ ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาพูดถึงแนวทางการแก้ไข เพื่อให้ทุกคนที่ป่วยเป็นอาการนี้สามารถกลับมาดีขึ้นได้อีกครั้ง เราลองไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง   เขียนบันทึกไดอารี่สำหรับงานหรือสิ่งที่ได้ทำลงไป เขียนสิ่งที่ได้ทำสำเร็จและเป้าหมายที่เราสามารถก้าวไปถึงแล้วลงไปในสมุดซักเล่ม เพราะบางครั้งคุณอาจปล่อยให้ความรู้สึกแง่ลบในตัวครอบงำ จนไม่สามารถรับรู้ได้ว่าในวันนั้นคุณทำสิ่งดีๆ อะไรลงไปบ้าง   พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงาน พยายามหาโอกาสที่เหมาะสมพูดคุยกับเพื่อนในที่ทำงานเดียวกันในเรื่องงานที่ได้ทำ เพราะการพูดอย่างตรงไปตรงมาถึงข้อบกพร่อง ความท้าทาย หรือความสำเร็จของแต่ละคน อาจทำให้รับรู้ได้เองว่าความสามารถและสิ่งที่ต้องเจอของคุณ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนทั่วไปเลย   วางเป้าหมายที่ต้องการจะเป็นในอนาคต การวางแผนเอาไว้ว่าในอนาคต 2 ปี, 5 ปี และ 10 ปีข้างหน้าตัวคุณอยากให้มันเป็นอย่างไร จะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้ สามารถรู้ได้แล้วว่าสิ่งที่ต้องทำเพื่อไปให้ถึงแผนที่วางไว้ในอนาคตอันใกล้ต้องทำอะไรบ้าง แผนอีก 10 ปีข้างหน้าที่คุณต้องค่อยเป็นค่อยไปก็จะทำให้คุณไม่รู้สึกว่าตัวเองตกต่ำ ในเมื่อมันต้องใช้เวลาและคุณก็ยังไม่สามารถทำอะไรกับมันได้มากนัก จงพยายามและประสบความสำเร็จไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน   อย่าคิดว่าไม่สามารถเปลี่ยนแผนที่วางไว้ได้ เพราะจะกลายเป็นการทรมานตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าแผนที่วางเอาไว้และดำเนินการอยู่ไม่สามารถทำให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ ก็จงกล้าตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงมันใหม่ เพราะสิ่งนั้นแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนมีวุฒิภาวะ การวางแผนสำหรับมาทดแทนอันเดิมจะช่วยให้การตัดสินใจของคุณนั้นง่ายขึ้น   ถามหาคำติชม ความรู้สึกไม่แน่ใจกล้าๆ…

  • ผู้ป่วยโรคมะเร็งวัย 82 ปี บาดเจ็บหนักจากการถูกแก๊งวัยรุ่นรุมทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์

    ผู้ป่วยโรคมะเร็งวัย 82 ปี บาดเจ็บหนักจากการถูกแก๊งวัยรุ่นรุมทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์

    ปัจจุบันการปล้นชิงทรัพย์จะมีให้เห็นตามท้องถนนเป็นเรื่องปกติในหลายพื้นที่ นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นและควรมีการป้องกันปัญหาให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นอาจบานปลายมากเกินไปเหมือนกับที่ชายคนนี้ต้องเจอ ชายแก่วัย 82 ปีที่ชื่อว่า Ahmet Dobran ต้องนอนพักฟื้นตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมาตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม เนื่องจากเขาถูกโจรวัยรุ่นสามคนทำร้ายและชิงทรัพย์ไป ทำให้อาการป่วยที่เป็นอยู่ต้องทรุดตัวลง เรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองนิวแฮมทางตะวันออกของลอนดอน โดยเขาเพิ่งออกไปเจอเพื่อนมาและกำลังจะกลับที่พัก เมื่อกำลังเดินเข้าไปในหอพักของตัวเอง ก็ถูกวัยรุ่นสองคนเข้ามาชกบริเวณแขนและหลังของเขา ก่อนที่จะยึดร่างของเขาไว้กับพื้นและกระชากกำไลทองกับนาฬิกาเขาไป     กล้องวงจรปิดได้เก็บภาพของคนร้ายเอาไว้พบว่ามีด้วยกันอยู่สามคน มีหนึ่งคนที่ยืนดูต้นทางอยู่หน้าหอพักและอีกสองคนที่เข้าไปทำร้าย เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ 30 วินาที หลังจากนั้นทั้งสามก็วิ่งหนีไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า โจรทั้งสามอาจมองว่าเรื่องที่พวกเขาทำเป็นเพียงความสนุก แต่ไม่ใช่สำหรับชายแก่คนนี้เลย เพราะเขาต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานเป็นเดือนด้วยอาการที่ไม่สู้ดีนัก โรคมะเร็งและพาร์กินสันที่เขาเป็นอยู่ก่อนหน้านี้ก็ทรุดตัวลง จนต้องเข้าออกห้องฉุกเฉินอยู่ตลอด จนถึงกับต้องเจาะคอเพื่อช่วยในการหายใจ Sam Bush เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังสืบคดีนี้อยู่บอกว่า “แม้ว่าผู้เสียหายจะยังสามารถพูดได้แต่อาการของเขาก็ยังไม่ดีขึ้น และทางครอบครัวก็รู้สึกว่าสิ่งที่ชายแก่ต้องเจอตอนนี้ คือหายที่ร้ายแรงอย่างมาก” เสริมอีกว่า “เขาคือคนที่ชอบเดินออกไปไหนมาไหนข้างนอก เพื่อนบ้านในละแวกนั้นรู้จักเขาเป็นอย่างดี ดังนั้นการที่เขาต้องมานอนอยู่โรงพยาบาลไม่ได้ออกไปไหนอย่างนี้ ก็ไม่ต่างกับตายทั้งเป็นเลย”     ปัจจุบันแม้ว่าจะยังไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้ แต่จากพยานและหลักฐานในกล้องวงจรปิดหลายตัวที่ติดอยู่รอบที่เกิดเหตุเชื่อว่าจะสามารถจับคนร้ายได้ในเร็ววัน “เราจำเป็นต้องรีบจับพวกเขามาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะหากลองคิดดูว่าคนเหล่านั้นคิดว่าการชิงทรัพย์คนแก่วัย 82 ปีเป็นเรื่องตลกได้ แสดงว่าพวกเขาไม่รู้สึกผิดที่จะทำร้ายใครอีกแล้ว ซึ่งผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” Bush กล่าว…

  • 40 ภาพเซ็ต “ปิศาจในตัวหญิงสาว” สะท้อนแง่คิดสังคมปัจจุบัน ที่ต้องอยู่กับสิ่งล่อใจมากมาย

    40 ภาพเซ็ต “ปิศาจในตัวหญิงสาว” สะท้อนแง่คิดสังคมปัจจุบัน ที่ต้องอยู่กับสิ่งล่อใจมากมาย

    ผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยาก และยิ่งในปัจจุบันรอบตัวเต็มไปด้วยสิ่งล่อใจที่เข้ามาเปลี่ยนการใช้ชีวิต กระตุ้นความต้องการหรือจิตใต้สำนึกของคนที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ให้แสดงออกมา นั่นจึงกลายเป็นไอเดียให้กับศิลปินจากกรุงลอนดอนที่ชื่อว่า Polly Nor ได้วาดภาพสิ่งที่เธอคิดเกี่ยวกับผู้หญิงในปัจจุบัน รวมทั้งเรื่องของกิเลสตัณหาที่อยู่ในคราบปีศาจ โดยทุกภาพเกิดจากแรงบันดาลใจของข้อความตลกๆ คำบ่นหรือด่า และภาพเซลฟี่ที่เธอเห็นในโลกโซเชียล กลายมาเป็นผลงานที่ดูมืดมน สะท้อนถึงภายใต้จิตใจมนุษย์ได้อย่างชัดเจน และแม้ว่าจะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบตัวการ์ตูนสีสันสดใส แต่สิ่งที่สื่อออกมาจากภาพของเธอ อาจทำให้งานนี้ไม่ค่อยเหมาะให้เด็กดูซักเท่าไหร่   เราใส่เสื้อผ้าเพื่อปิดบังร่างกาย และร่างกายเองก็กำลังปิดบังปีศาจที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา   ช่วงเวลาอยู่คนเดียว คือการเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด ปลดเปลื้องทุกอย่าง   วันนี้จะแต่งอะไร และจะปั้นหน้าอย่างไร   ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับความชั่วร้ายของเราให้เหมาะสม   สิ่งที่เราอยากให้คนอื่นเห็น คือเปลือกนอกที่ดูดี   บางครั้งเราก็จะต้องเผชิญหน้ากับเบื้องลึกของตัวเอง   ผ่อนคลายและสบายใจให้กับความต้องการของตัวเอง   เป็นตัวของตัวเองเข้าไว้   อาจต้องสร้างความสุขให้กับตัณหาบ้าง   อยู่กับเพื่อนสาว อยากทำอะไรก็ได้ทำ   สิ่งล่อใจและปีศาจในตัวคุณ จะทำให้คุณไม่สามารถหลับลงได้เลย   ความขี้เกียจที่กักขังคุณไว้ ไม่ให้ออกมาทำสิ่งต่างๆ ที่จำเป็น   แต่ถ้าเราฝืน และชนะสิ่งนั้นได้ หลายอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น   สิ่งที่กำลังกลืนกินเราอยู่ทุกวันนี้   ความฟุ่มเฟือย…

  • ส่องเทศกาลเล่นโคลน Boryeong Mud จากเกาหลีใต้ ที่หนุ่มๆ เห็นละต้องอยากไปแน่นอน

    ส่องเทศกาลเล่นโคลน Boryeong Mud จากเกาหลีใต้ ที่หนุ่มๆ เห็นละต้องอยากไปแน่นอน

    ในช่วงฤดูร้อนบ้านเราก็จะมีเทศกาลสงกรานต์ ที่จะทำให้ทุกคนได้คลายร้อนด้วยการสาดน้ำตัวเปียกปอนกันไป ไม่ต่างกับเกาหลีใต้ที่ในช่วงนั้นพวกเขาก็จะมีเทศกาลที่ทำให้ได้ชุ่มฉ่ำกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากเปียกน้ำเป็น “เปื้อนโคลน” แทน เทศกาล Boryeong Mud จัดขึ้นทุกๆ หน้าร้อน ในเมืองโพเรียง ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้เล่นโคลนกันได้มากตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นโคลนต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น สระโคลน สไลเดอร์โคลน หรือแม้แต่สกีโคลนก็มี โคลนที่เห็นเยอะขนาดนี้จะถูกขนส่งมาไว้ที่ชายหาดแทชอน เพื่อเปลี่ยนจากหาดทราย ให้กลายเป็นหาดโคลน   แต่งองค์ทรงเครื่องกันซะหน่อย   นอนทับกันอย่างนี้ผมใจคอไม่ดีเลยครับ   จุดเริ่มต้นของเทศกาลนี้เกิดขึ้นเพราะว่า บริษัทเครื่องสำอางบอกว่า โคลนที่มีอยู่ในเมืองนี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุมากมายที่ดีต่อสุขภาพผิว ทำให้ในปี 1996 เริ่มมีการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอย่างแพร่หลาย ต่อมาในปี 1998 เทศกาลเปื้อนโคลนนี้ได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรก ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการโฆษณาเครื่องสำอางต่างๆ มากมายที่มีมาขายภายในงาน และช่วยให้ผู้คนได้เข้ามาสนุกสนานกันอีกด้วย   หุ่นดี มีความเป็นนักกีฬา   จะพ่นโคลนใส่เพื่อนทำไมละนั่น   จนทำให้ปี 2007 เทศกาลดังกล่าวก็สามารถดึงดูดให้มีคนมาเข้าร่วมได้มากถึง 2.2 ล้านคนเลยทีเดียว โดยงานนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ นอกจากนั้นชาวตะวันตกในเกาหลีมักจะมาเล่นกันเยอะในช่วงสัปดาห์สุดท้าย ก็คือสัปดาห์ที่สองของเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีคนมาเยอะที่สุด  …

  • พาทัวร์ ‘สุสานรถถัง’ ที่ถูกทิ้งร้างในยูเครน เผยความยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียตในอดีต

    พาทัวร์ ‘สุสานรถถัง’ ที่ถูกทิ้งร้างในยูเครน เผยความยิ่งใหญ่ของสหภาพโซเวียตในอดีต

    บางสิ่งบางอย่างเมื่อล้าหลังไปแล้ว ผู้คนก็จะเลิกให้ความสนใจ ปล่อยให้มันทิ้งร้างไว้อย่างนั้น อาจมีการผุกร่อนไปบ้างตามกาลเวลา แต่ว่าบางอย่างก็ยังคงไม่หายไปไหน ไม่ต่างกับ “สุสานรถถัง” ในเมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน ใกล้กับชายแดนรัสเซียในปัจจุบัน ซึ่งสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยรถถังมากมายที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครเข้ามาแยแส แต่การมีอยู่ของพวกมันก็ได้ไปกระตุ้นความสนใจให้กับนักสำรวจชื่อ Patvel Itkin เข้าไปเก็บภาพแห่งความทรงจำที่มีมาตั้งแต่ยุค 1960s ในตอนที่ยูเครนยังเป็นหนึ่งในสหภาพโซเวียตอยู่   กว้างพอให้สร้างโรงเรียนได้เลยนะ   รถถังเต็มไปหมด   เขาได้แอบเข้าไปในขณะที่ไม่มีคนเห็น ซึ่งปกติแล้ว สถานที่แห่งนี้จะถูกปิดไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไป และเมื่อได้ลองเดินไปรอบๆ เขาก็รู้สึกอึ้งกับความกว้างใหญ่ของสถานที่นั้น สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยรถถังที่คาดว่าจะมีมากถึง 450 คัน พร้อมกับเครื่องยนต์อีกมากมาย และชายคนนี้ก็ต้องใช้เวลาอยู่หลายเดือนเพื่อให้ได้เห็นในทุกซอกทุกมุม   เรียงกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เหมือนกับทหารกำลังยืนเข้าแถว   มองมุมนี้แล้วดูไม่ออกเลยว่า รถถังมีจำนวนมากขนาดไหน   และที่พบได้เยอะที่สุดก็คือ รถถังรุ่น T-62 อันมีชื่อเสียงของโซเวียต เคยผ่านสมรภูมิมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สงครามเย็น สงครามเกาหลี รวมถึงสงครามเวียดนาม สถานที่แห่งนี้เมื่อก่อนเคยเป็นจุดซ่อมบำรุงรถถังมาก่อน และรถถังมากมายที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ บางส่วนก็มาจากโรงงาน Malyshev ใกล้กันนั้นเอง   เครื่องยนต์ที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ไม่ต่างกัน   คงจะน่าเศร้ามากแน่ๆ…

  • เมื่อผัวแสบแอบนินทาเมีย ร่วมกันโพสต์ภาพความเปิ่นๆ เป๋อๆ ของภรรยา จนฮาทั่วเน็ต

    เมื่อผัวแสบแอบนินทาเมีย ร่วมกันโพสต์ภาพความเปิ่นๆ เป๋อๆ ของภรรยา จนฮาทั่วเน็ต

    หลายคนเชื่อว่าผู้หญิงสามารถทำงานบ้านหรือจัดการเรื่องต่างๆ ภายในบ้านได้ดีกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะเมื่อแต่งงานเป็นภรรยาไปแล้ว ก็คงจะมีทักษะในด้านนี้มากพอสมควร แต่บอกได้เลยว่าไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะต้องเป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะบางทีพวกเธอก็อาจทำเรื่องเปิ่นๆ ที่ชวนให้ คุณพ่อบ้านทั้งหลายต้องปวดกันไปเลย และนี่ก็เป็นตัวอย่างของพวกเธอที่กับเรื่องไม่น่าพลาดแต่กลับวืดซะงั้น ลองไปดูกันดีกว่า ว่าจะฮาขนาดไหน   เมื่อเมียผมไม่รู้ว่าเค้าห้ามเอาไข่ทั้งใบไปต้มในไมโครเวฟ มันเลยออกมาเละแบบนี้ ปั๊ดโถ้วจะมีใครเค้าทำกันละแม่คุ๊ณณณ   กล่องมันคงจะแกะยาก และเธอคงจะตื่นเต้นกับสายชาร์จใหม่นี้มาก เลยอยากเปลี่ยนแบบมีสายให้กลายเป็นไร้สายแทน.. พ่อบ้านใจกล้าอย่างเราจะไปว่าอะไรเธอได้ จริงมั้ย?   ที่รักจ๋าาา เราไม่ได้เลี้ยงสุนัขกันเป็นฟาร์มนะ เราเลี้ยงแค่ตัวเดียวเอง ลืมไปแล้วหรอ?!   เธอคนนี้คงคิดว่าน้องหมานำทางได้ดีกว่าคุณสามีกระมัง   วันนี้ภรรยาของผมได้ลงมือทำอาหารเย็นสุดโรแมนติกด้วยตัวของเธอเอง ผมขอเรียกมื้อนี้ว่า “ชุดแฮปปี้มีล” (ไม่มีของเล่นแถมมาหรอ)   กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินออกไปก็ไปไม่ถึง ~ ช่วยด้วยคะปั๋วค๋าาา   เธอคงจะเกรงใจไม่อยากเปิดฝาขึ้นมาโดยพลการ ก็เลยวางไว้ข้างๆ แทน   รู้ว่ารักกันดี แต่ว่าเมื่อไหร่พี่จะได้กินผัดกะเพราไข่เยี่ยวม้าของโปรดละจ๊ะเมียจ๋าาา   แต่ถึงแม้พวกเธอจะซุ่มซ่าม ป่ำๆ เป๋อๆ ขนาดไหน เหล่าสามีทั้งหลายก็ตกหลุมรักเธอจนหัวปักหัวปำอยู่ดีน่ะแหละเนาะ   ที่มา:diply

  • ชาวเน็ตร่วมแชร์ 18 ความฮาความป่วนของคุณหมอ ใครว่าหมอไม่มีอารมณ์ขัน มันไม่ใช่เล๊ยยย

    ชาวเน็ตร่วมแชร์ 18 ความฮาความป่วนของคุณหมอ ใครว่าหมอไม่มีอารมณ์ขัน มันไม่ใช่เล๊ยยย

    หนึ่งในอาชีพที่ต้องเจอกับความกดดันและความเครียดอยู่ทุกวันก็คือ อาชีพหมอ เพราะหากพวกเขาทำอะไรพลาดไป นั่นอาจหมายถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับคนไข้ของเขาได้ แต่ถึงแม้ว่าจะต้องเคร่งเครียดกับงานขนาดไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องเป็นคนนิ่งๆ เคร่งขรึมไปซะทีเดียว เพราะยังไงทุกคนก็จะต้องมีความตลกและขี้เล่นอยู่ในตัว จึงได้มีกระแสชาวเน็ตออกมาแชร์ภาพความฮาของพวกเขาให้เราได้เห็นกัน เราลองไปดูกันเลยดีกว่า ว่าภาพเหล่านั้นจะทำให้คุณอมยิ้มได้มากขนาดไหน   นางฟ้าฟันน้ำนมกำลังจะมาถอนฟันของหนูแล้วนะ   ภาพติดผนังในคลินิกหมอฟันแห่งหนึ่ง กอลลัมจะได้กินปลาให้อร่อยขึ้นนะ   ผู้หญิงต้องระวังอย่าเข้าใกล้เชียวละ   เพดานเอาไว้เล่นเกมส์ “ตามหา Wally” ถอนฟันไป แล้วก็มองหาไปเพลินๆ   ตัวใหญ่ขนาดนี้ คงจะแข็งแรงน่าดู   ใครเอาช่างซ่อมรถเข้ามารักษาฟันตรูเนี่ย   ตอนเย็บคงจะตลกมากมั้งเนี่ย   จะทำทุกทางให้ผอม ยกเว้นออกกำลังกายกับควบคุมอาหาร..   เป็นบัตรนัดคนไข้ที่เจ๋งมาก “ถึงเวลาย้อนกลับไปเจอหมอฟันแล้ว”   ต้องเขียนติดไว้ “ห้ามใช้กับช่องคลอด” กลัวสาวๆ เข้าใจผิด คิดว่าปรอทวัดไข้   เจอหมอก็เคี้ยวหมากฝรั่งซักหน่อยมั้ยครับ ดับกลิ่นปาก   อยากให้ผลักขนาดนี้ ขอถีบเข้าไปเลยได้มั้ยครับ   พักการตรวจแล้วออกไปเล่นเบสบอลก่อนมั้ย   คนไข้ผ่าตัดหัวใจรอแปปนึงนะ ขอหมอเล่นให้จบก่อน   เป็นการแจ้งข่าวร้ายที่น่ารักจริงๆ “คุณเป็นซิฟิลิส”…

  • เผยโฉมออฟฟิศใหม่ Facebook ใจกลางซานฟรานซิสโก ด้วยค่าเช่ากว่า 1,000 ล้านบาท

    เผยโฉมออฟฟิศใหม่ Facebook ใจกลางซานฟรานซิสโก ด้วยค่าเช่ากว่า 1,000 ล้านบาท

    ปัจจุบันคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ที่ชื่อว่า เฟซบุ๊ค แน่นอน เพราะมันเรียกได้ว่าเป็นสังคมอีกแห่งหนึ่งที่พวกเราสามารถเชื่อมเข้าหากันได้โดยง่าย แต่ความอลังการไม่ได้มีเพียงแค่ชื่อเสียงที่โด่งดังไปทั่วโลก เพราะตอนนี้บริษัทได้ทำการเซ็นสัญญาเช่าออฟฟิศใหม่เป็นที่เรียบร้อย ด้วยราคามากกว่า 1 พันล้านบาท โดยตึกสูงเสียดฟ้าแห่งนี้มีชื่อว่า 181 Fremont ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ เมืองซานฟรานซิสโก มีพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร ทั้งหมด 70 ชั้น ถือว่าเป็นตึกที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในเขตชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา สร้างขึ้นด้วยงบประมาณมากกว่า 22,000 ล้านบาท!!     สูงขนาดนี้ ไกลแค่ไหนก็ยังมองเห็น   และในอีก 3 ปีข้างหน้า ก็จะมีพนักงานของเฟซบุ๊คและอินสตาแกรม จำนวน 2,000 ถึง 3,000 คน ย้ายเข้ามาทำงาน กินพื้นที่ไปมากถึง 33 ชั้นเลยทีเดียว ปัจจุบันตึกดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างที่จะเสร็จในสิ้นปีนี้ ซี่งจะมีส่วนของคอนโดหรู 67 ห้อง มาพร้อมกับความสะดวกสบายครบครัน ที่ไม่รู้ว่าพนักงานที่กำลังเตรียมย้ายเข้ามา จะมีโอกาสได้เข้าไปใช้ส่วนนี้หรือเปล่า   การก่อสร้างกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ   ส่วนที่พักอาศัยในชั้น 52 กับวิวทิวทัศน์ที่งดงามรอบด้าน   ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องความปลอดภัยของที่นี่ก็ชั้นหนึ่ง…

  • ไปชมความอลังการจากบ้าน 11 หลัง ของเซเลบชื่อดังทั้งหลาย ว่าจะเว่อร์วังขนาดไหน

    ไปชมความอลังการจากบ้าน 11 หลัง ของเซเลบชื่อดังทั้งหลาย ว่าจะเว่อร์วังขนาดไหน

    บ้านที่เราพักอาศัยกันอยู่ทั่วไป จะไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะหมู่บ้านหรือบ้านจัดสรร แต่ละหลังก็จะดูเหมือนกันไปหมด แต่สำหรับเหล่าคนดังมากมายที่มีรายรับและรายได้มากหลายล้านบาทต่อปีละ บ้านของพวกเขาเหล่านั้นจะดูเป็นอย่างไรกันบ้าง มันจะยิ่งใหญ่อลังการมากแค่ไหนกัน วันนี้ #เหมียวตะปู จึงจะพาทุกคนไปชมบ้านหรือคฤหาสน์ของเหล่าคนดัง ที่มีการออกแบบและเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร บวกกับความหรูหราจากเม็ดเงินที่น่าจะมหาศาลเลยทีเดียว ว่าแล้วเราก็ลองไปดูเลยดีกว่าว่าจะมีใคร และแต่ละหลังจะดูเป็นอย่างไร   คฤหาสน์ของ Rihanna ในเบเวอร์ลีฮิลล์ แคลิฟอร์เนีย .   เป็นสิ่งปลูกสร้างที่มองไกลๆ แล้วจะเห็นเป็นโอเอซิสท่ามกลางทะเลทราย หรูหราน่าพักผ่อน บวกกับสระว่ายน้ำและเก้าอี้นอน ที่เหมือนกับรีสอร์ทซะมากกว่าบ้านนะ   นอกจากนั้นเธอคนนี้ยังมีบ้านอีกหลังในประเทศบาร์เบโดส ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน .   บ้าน Lady Gaga ในไมแอมี ฟลอริด้า .   เป็นบ้านที่อยู่ติดกับมหาสมุทร โดยภายนอกอาจดูไม่มีอะไรแปลกเท่าไหร่ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยสิ่งให้ความบันเทิงมากมายเช่น โรงหนังขนาดย่อม ลานโบว์ลิ่ง เป็นต้น   บ้านของ Julia Roberts ที่ฮาวาย .   เธอคนนี้ซื้อคฤหาสน์ที่อยู่ติดกันสองหลังมารวมเป็นหนึ่ง และทำหลังคาจากกระดานดำรีไซเคิล อีกทั้งพื้นบ้านก็ทำมาจากต้นไผ่ สมกับที่เป็นคนรักในธรรมชาติจริงๆ…

  • ชาวเน็ตชื่นชม เจ้าบ่าวสวมบทฮีโร่ กระโดดช่วยเด็กจมน้ำทั้งชุดสูท ในวันแต่งงานของเขาเอง

    ชาวเน็ตชื่นชม เจ้าบ่าวสวมบทฮีโร่ กระโดดช่วยเด็กจมน้ำทั้งชุดสูท ในวันแต่งงานของเขาเอง

    อุบัติเหตุคือสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา โดยที่เราไม่อาจรู้มาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เหมือนกับที่เด็กน้อยคนหนึ่งต้องเจอกับอุบัติเหตุที่อาจพรากชีวิตของเขาไป แต่โชคดีที่มีฮีโร่หนุ่มเข้ามาช่วยไว้ทัน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองคิตเชเนอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อระหว่างที่คู่บ่าวสาวกำลังถ่ายรูปหลังจบพิธีแต่งงานไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ระหว่างนั้นก็มีเด็กตกลงไปในบ่อน้ำใกล้ๆ Clayton Cook ผู้เป็นเจ้าบ่าวและผู้เห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก จึงรีบลงไปช่วยในทันที ขณะที่เจ้าสาว Brittany ยังคงงงอยู่ว่าเขาลงไปในน้ำทำไม     ฝ่ายชายได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนั้นเด็กน้อยหัวจมลงไปในน้ำแล้ว และพยายามตะเกียกตะกายอย่างหนัก โชคดีที่เป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ จึงทำให้ผมสามารถอุ้มเขาขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย” หลังจากนั้นเด็กน้อยก็ได้กลับไปพร้อมกับพี่ชายที่มารับและไม่ได้พูดอะไรกับทั้งคู่เลย ต่อมาทั้งสองก็ได้พูดคุยกับเด็กอีกสองคน โดยพวกเขาบอกว่ากำลังเล่นกับเด็กคนนั้นอยู่ จนเผลอผลักตกน้ำไป ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าเป็นความไม่ตั้งใจหรือกลั่นแกล้งกันแน่     สิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างได้ถูกจับภาพไว้ จากฝีมือของตากล้องที่มาถ่ายรูปแต่งงานให้กับพวกเขา Darren Hatt และได้ทำการเผยแพร่สู่โลกโซเชียล ทำให้ฮีโร่หนุ่มของเรื่องได้รับคำชมจากชาวเน็ตมากมาย และมีการแชร์ต่อกันไปอย่างล้นหลาม   โพสต์เล่าเรื่องราวของเขา ที่มีคนแชร์ไปเกือบพันครั้งในตอนนี้…   ภรรยาของเขายังบอกอีกว่า เรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจเลย เพราะสิ่งที่เขาได้ทำคือสิ่งที่เขาเป็นมาตลอดอยู่แล้ว นับว่าเธอเป็นเจ้าสาวที่โชคดีไม่น้อยเลยจริงๆ สิ่งที่ชายคนนี้ได้ทำนอกจากจะเป็นการช่วยให้เด็กน้อยมีชีวิตรอดแล้ว เขายังถือว่าเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจที่ดี ที่จะทำให้ทุกคนช่วยเหลือกัน และทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ที่มา: theloop

  • ‘แมวน้อย’ ผู้รอดชีวิตจากเฮอร์ริเคน ได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่มจนกลับมาแข็งแรงดังเดิม

    ‘แมวน้อย’ ผู้รอดชีวิตจากเฮอร์ริเคน ได้รับการช่วยเหลือจากชายหนุ่มจนกลับมาแข็งแรงดังเดิม

    ปัญหาที่เกิดขึ้นจากลมพายุที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงของเฮอริเคนเออร์ม่า ทำให้มีฝนตกหนักและน้ำท่วมตามมาจากเหตุการณ์นั้น ผู้คนต้องพบทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอดผ่านไปให้ได้ สัตว์ทั้งหลายเองก็เช่นกัน เมื่อทุกอย่างจบลงเหลือเพียงซากความเสียหาย ที่ทำให้บ้านของ Chad Mitchell ไม่มีไฟฟ้าใช้ ชายคนนี้จึงต้องปั่นจักรยานออกไปที่สถานีพลังงานสำรองใกล้บ้าน แต่ระหว่างทางเขาก็ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เขาได้ยินเสียงแหลมๆ ดังอยู่ไม่ไกล ซึ่งตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเสียงของจักรยานที่ปั่นมา แต่เมื่อลงไปเช็คก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ทำให้เขาเริ่มสงสัยและออกเดินดูโดยรอบ จนพบเข้ากับลูกแมวตัวหนึ่งในสภาพเปียกโชก นอนแน่นิ่งอยู่ในพงหญ้า ขาหน้ายื่นออกมา และแทบไม่หายใจ   สภาพเปียกปอนไปหมดทั้งตัว เพราะเหมือนกับว่าจมน้ำฝนอยู่อย่างนั้นมานาน   ต้องรีบให้ความอบอุ่นในทันที   ในตอนแรกเขาคิดว่ามันตายไปแล้ว จนกระทั้งได้ยินเสียงของมันดังออกมาอย่างแผ่วเบา เขาจึงรีบอุ้มมันใส่ไว้ในหมวกเบสบอล และพามันกลับมาที่บ้านในทันที ระหว่าทางก็พยายามทำทุกทางให้มันตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงบ้าน เขาและ Carre ภรรยา ก็ช่วยกันใช้ไฟฉายส่องหาอะไรก็ตาม ที่สามารถช่วยยื้อชีวิตของแมวน้อยตัวนี้ไว้ให้ได้ ด้วยร่างกายที่เย็นเฉียบของพวกมัน พวกเขาจึงรีบทำให้มันแห้งและอบอุ่นด้วยผ้าขนหนู ถึงแม้ว่ามันเหมือนจะไม่รอดแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้   พ่อครับป๋มหนาววว   ผ่านไป 2 ชั่วโมงก็เริ่มเห็นความหวัง เพราะมันเริ่มที่จะเงยหน้าขึ้นมา ส่งเสียงร้องบ้างแล้ว จากนั้นพวกเขาจึงนำอาหารกระป๋อง น้ำ และข้าวโอ๊ตมาผสมรวมกันให้มันกิน และแมวน้อยก็แสดงท่าทางดีใจออกมา ที่ได้มีอะไรตกถึงท้อง แต่มันก็ยังคงมีอาการสั่นอยู่…

  • เรื่องราวอบอุ่นของ ‘เจ้าเหมียวคูจัง’ ยังจำเสียงเจ้าของเก่าได้ แม้ไม่เจอกันมานาน 2 ปี

    เรื่องราวอบอุ่นของ ‘เจ้าเหมียวคูจัง’ ยังจำเสียงเจ้าของเก่าได้ แม้ไม่เจอกันมานาน 2 ปี

    บางคนอาจเคยได้ยินมาก่อนว่า แมวไม่ได้มีความรู้สึกผูกพัน เหมือนอย่างที่หมามีให้กับเจ้าของที่ดูแลมันมา และก่อนหน้านี้ก็เคยมีประโยคที่ว่า “ช่วงเวลา 3 ปีที่อยู่ด้วยกัน เจ้าเหมียวสามารถลืมได้ใน 3 วัน” จนเมื่อได้มีงานวิจัยออกมาบอกว่าแท้จริงแล้ว เจ้าเหมียวทั้งหลายมันสามารถจำเสียงเจ้าของของมันได้ ทำให้ Kalkan ผู้ผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง นำตัวอย่างการทดลองดังกล่าว มานำเสนอในรูปแบบของหนังสั้นสารคดี ที่น่าประทับใจนี้ โดยเป็นเรื่องราวของเจ้าแมวที่มีชื่อว่า Kuro กับ Ono ชายวัย 63 ปีเจ้าของคนเก่าของมัน ซึ่งทั้งสองไม่ได้เจอกันมานานถึง 2 ปีแล้ว อย่างนี้เจ้าแมวมันจะยังจำเสียงเขาได้อยู่มั้ยนะ?   ผม Kuro หรือเจ้าของเก่าเรียกว่า คูจัง วัย 10 ปีครับป๋ม   คุณ Ono เจ้าของที่ไม่ได้เจอมันมานาน 2 ปี   เหตุผลที่ทำให้ชายคนนี้ต้องยกเจ้าเหมียวให้กับคนอื่น ก็เพราะว่าเขาต้องเข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้ไม่สามารถปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังได้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงคิดถึงเจ้าเหมียวที่เขาเรียกว่า คูจัง ตัวนี้มาก เขาเล่าถึงประสบการณ์ที่มีร่วมกันมากมายตั้งแต่ในตอนที่มันยังเป็นลูกแมวตัวเท่าฝ่ามือ   นี่เจ้ามนุษย์มาถ่ายทำอะไรกันละเนี่ย   จนเมื่อถึงเวลาที่เขาจะต้องอัดเสียงส่งไปให้มันได้ฟัง เขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมา กลัวว่าเจ้าเหมียวจะจำเสียงเจ้าของเก่าอย่างเขาไม่ได้ เพราะผู้เชี่ยวชาญเองก็บอกว่า…

  • 23 สุดยอดไอเดียสิ่งประดิษฐ์จากรอบโลก ที่ทำให้ชีวิตรู้สึกเจ๋งและคูลขึ้นอีกเยอะเลย

    23 สุดยอดไอเดียสิ่งประดิษฐ์จากรอบโลก ที่ทำให้ชีวิตรู้สึกเจ๋งและคูลขึ้นอีกเยอะเลย

    ของที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน ก็จะมีลักษณะรูปร่างเหมือนเดิม ไม่ค่อยมีความแปลกใหม่กันเท่าไหร่นัก บางครั้งอาจทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งๆ นั้นไปก็ได้ แตกต่างกับสิ่งประดิษฐ์ที่เราจะได้เห็นกันต่อไปนี้ ที่นอกจากจะมีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้มีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้งาน ของบางชิ้นก็มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งาน ที่ทำให้เราสะดวกบายมากขึ้นอีกด้วย ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลยจ้าาา   แมวกระเป๋า   เป็นแมวที่อยู่ตรงกระเป๋าเสื้อแบรนด์ Ripndip มองผ่านๆ เหมือนไม่มีอะไร พอเปิดไปเห็นข้างในก็แจ็คพอตเลย!   โคมไฟดวงจันทร์   ใครบอกว่าการไปดวงจันทร์เป็นเรื่องยาก ดูจากในรูปแค่กระโดดก็ถึงแล้วมั้ยล่ะ   ทัพพีเนสซี .   นักออกแบบของบริษัท Ototo ทำให้เจ้าสัตว์ประหลาด ย้ายจากทะเลสาบล็อกเนสส์ มาอยู่ในแกงกะหรี่ซะแทน   ก้อนเมฆรดน้ำต้นไม้ .   กระถางต้นไม้ที่จะดูไม่น่าเบื่ออีกต่อไป เพราะมันแถมเมฆจิ๋วสุดน่ารักมาให้ โดยเราสามารถสร้างน้ำฝนได้เองอีกด้วย   โคมไฟจากขวดเปล่า .   เพียงแค่มีจุกก๊อกนี้ ก็เปลี่ยนให้ขวดเปล่าๆ กลายเป็นโคมไฟสุดเท่ห์! กันน้ำและชาร์จไฟด้วย USB สะดวกสบายสุดๆ   เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถชาร์จแบตมือถือได้ในตัว   เป็นซีรีส์เฟอร์นิเจอร์จาก IKEA ที่มาพร้อมกับแท่นชาร์จไร้สาย สำหรับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ  …

  • นักวิจัย Oxford เผยวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการ “เลิกบุหรี่” จากการทดสอบกับคน 700 คน

    นักวิจัย Oxford เผยวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการ “เลิกบุหรี่” จากการทดสอบกับคน 700 คน

    หลายคนที่อยากเลิกบุหรี่ อาจกำลังคิดไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหนดี ที่จะทำให้ตัวเองไม่กลับมาติดเหมือนตอนแรกอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้หาคำตอบมาให้คุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากงานวิจัยของ Nicola Lindson-Hawley ผู้วิจัยแห่งมหาวิทยาลัย Oxford ได้บอกไว้ว่า วิธีการเลิกบุหรี่ที่ดีที่สุด คือให้เลิกแบบทันทีทันใด หรือที่เรียกว่าหักดิบไปเลย แม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จากผลลัพธ์ของการศึกษาที่เขาได้รับ บอกได้เลยว่าวิธีการนี้จะทำให้คุณสามารถหายขาดจากอาการติดบุหรี่ได้ดีกว่าการค่อยๆ ลดจำนวนบุหรี่ที่สูบ     โดยเธอทำการศึกษากับสิงห์อมควันจำนวน 700 คน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นเป็นคนที่สูบอย่างต่ำ 15 มวนต่อวัน และเธอได้ท้าให้พวกเขาลองเลิกสูบบุหรี่ดู จึงมีการกำหนดวันสุดท้ายที่จะสูบเอาไว้ในสองสัปดาห์ข้างหน้า และได้มีการแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเท่ากันอย่างชัดเจน คือกลุ่มหนึ่งที่จะสูบตามปกติแล้วค่อยไปหักดิบเอาทีเดียว กับอีกกลุ่มที่จะค่อยๆ ลดจำนวนลงในแต่ละวัน ก่อนที่จะไปหยุดตอนวันสุดท้าย     หลังจากนั้นจึงทำการเก็บข้อมูลของทั้งสองกลุ่มพบว่า เมื่อผ่านไป 4 สัปดาห์ที่พวกเขาเลิกบุหรี่ กลุ่มที่หักดิบมีผลลัพธ์ที่ดีกว่ากลุ่มที่ค่อยๆ เลิก เมื่อดูจากสถิติ 49 เปอร์เซนต์ของคนในกลุ่มแรก สามารถหยุดสูบบุหรี่ได้สำเร็จ ในขณะที่กลุ่มสองทำได้เพียง 39 เปอร์เซนต์ และเมื่อผ่านไป 6 เดือน เหล่าผู้ที่หักดิบ 22 เปอร์เซนต์จากทั้งหมดไม่กลับมาสูบอีก ส่วนกลุ่มที่ค่อยๆ ลดจำนวนลง…

  • มารู้จักกับอาการ Philophobia หรือ ‘โรคกลัวความรัก’ สำรวจตัวเองว่า คุณก็เป็นรึเปล่า!?

    มารู้จักกับอาการ Philophobia หรือ ‘โรคกลัวความรัก’ สำรวจตัวเองว่า คุณก็เป็นรึเปล่า!?

    หลายคนคงเข้าใจว่าความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่ก็ยังคงมีคนบางกลุ่มที่มองว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ซึ่งบางทีอาจเกิดมาจากประสบการณ์ในอดีตที่ยังคงฝังใจเรื่อยมา และไม่กล้าที่จะมีความรักกับใครอีก หากว่าคุณเป็นคนที่คิดอย่างนั้นอยู่ มันอาจเป็นสิ่งที่บอกได้ว่า คุณกำลังเป็น โรคกลัวความรัก หรือที่เรียกว่า Philophobia ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วไป เป็นหนึ่งในอาการความกลัวทางจิตเวชที่มีผู้ป่วยมากเป็นอันดับต้นๆ วันนี้เราจึงจะพาไปให้ทุกคนรู้จักกันว่ามันคืออะไร เกิดจากสาเหตุใด อาการของโรคเป็นอย่างไร และจะรักษาด้วยวิธีการใดได้บ้าง   Philophobia คืออะไร? คำว่า Philo ที่มาจากภาษากรีก แปลว่า ความรัก ดังนั้นมันก็คือ โรคกลัวความรัก นั่นเอง ซึ่งผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความรัก พยายามที่จะไม่ให้ตัวเองรู้สึกว่ารักใคร หรือรู้สึกพิเศษกับใครเลยสักคน ต่อให้ในบางครั้งจะรู้สึกดีกับใครขึ้นมาบ้าง แต่สุดท้ายก็จะไม่ยอมเปิดใจและถอยห่างออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง? สิ่งที่สามารถทำให้เราเป็นโรคนี้ได้ อาจเกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย ดังนี้ 1.เหตุการณ์ในแง่ลบที่ฝังใจมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะคนที่โตมาในครอบครัวที่มีความแตกแยกเกิดขึ้น พ่อแม่หย่าร้าง ทะเลาะตบตีกันให้เห็น หรือคนใกล้ตัวที่มีชีวิตรักไปในทางที่ไม่ค่อยดีนัก จะทำให้เราจำภาพนั้นและฝังเข้าไปในความคิดของตัวเองได้โดยไม่รู้ตัว 2.วัฒนธรรม หรือศาสนา ที่มีข้อห้ามเกี่ยวกับความรัก ศาสนาหรือขนบประเพณีของบางแห่ง อาจมีข้อห้ามหรือกรอบกฎเกณฑ์บังคับเอาไว้ให้กับความรักอย่างชัดเจน เหมือนอย่างที่เราเคยเห็นในละคร เวลาที่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงกีดกัน ทำให้ไม่สามารถรักกันได้ สิ่งนั้นอาจสร้างความกลัวและทำให้เราไม่กล้าเสี่ยงที่จะมีความรักกับใครอีก 3.การล้มเหลวในความรักซ้ำๆ มีรักเมื่อไหร่ก็ต้องเจ็บปวดและเลิกรากันไปทุกที เมื่อต้องเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอด…

  • เมื่อผลการศึกษาระบุว่า 2 ใน 3 ของสาวๆ มีสเปคอย่างหนึ่งเหมือนกันคือ “ชอบหนุ่มรอยสัก”!?

    เมื่อผลการศึกษาระบุว่า 2 ใน 3 ของสาวๆ มีสเปคอย่างหนึ่งเหมือนกันคือ “ชอบหนุ่มรอยสัก”!?

    เราทุกคนก็คงจะมีสเปกที่ชอบในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของความรัก กับคำถามยอดฮิตที่เราทุกคนจะต้องเคยได้ยินว่า “ชอบผู้หญิงหรือผู้ชายแบบไหนหรอ?” แต่ละคนก็คงจะมีคำตอบไม่เหมือนกันซักเท่าไหร่ ผู้หญิงบางคนอาจชอบคนสูง ขาว กล้ามเป็นมัดๆ ส่วนผู้ชายก็อาจชอบผู้หญิงสวย ขาเรียว หรือไม่ก็มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ชัดเจน แม้ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร แต่ได้มีผลการศึกษาออกมาแล้วว่าสาวๆ ส่วนใหญ่จะมีความชอบที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ พวกเธอจะชอบผู้ชายที่มีรอยสัก!!     เมื่อแอปพลิเคชั่นหาคู่ที่มีชื่อว่า Type ได้ทำการวิจัยและพบว่า ผู้หญิงจำนวน 64 เปอร์เซนต์ หรือประมาณ 2 ใน 3 ของทั้งหมด เลือกที่จะออกเดทกับคนที่มีรอยสัก และสำหรับผู้ชายที่ชอบผู้หญิงสักจะมีอยู่ 39 เปอร์เซนต์ ซึ่งก็อยู่ในระดับที่ไม่มากไม่น้อย ค่านิยมความชอบนี้ก็ยังรวมไปถึงคู่รักที่เป็นเพศเดียวกันด้วยนะ ผู้ใช้หนึ่งในนั้นที่ชื่อว่า Steve Bryson ได้พูดว่า “ผมชอบผู้หญิงที่มีรอยสักมานานตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ที่ผมได้ออกเดทกับสาวคนหนึ่ง ที่มีรอยสักอยู่เต็มหลัง ความรู้สึกเหมือนกับมันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนยังไง ร่าเริง เป็นกันเอง และมีช่วงเวลาดีๆ อยู่เสมอ” เขาเสริมอีกว่าผู้หญิงที่มีรอยสักเยอะๆ จะยิ่งทำให้ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะในตัวเอง เพราะไม่มีรอยสักไหนที่จะซ้ำกัน     การสักลายถือว่าเป็นการสร้างเอกลักษณ์อย่างหนึ่ง หากว่าเราได้ลองมองดูที่รอยสักของแต่ละคน เราก็จะเข้าใจความหมายและสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ รวมทั้งบุคลิกที่คนเหล่านั้นมีอยู่ในตัวได้ง่ายยิ่งขึ้น…

  • ศิลปินชาวจีนสร้างผลงาน ‘หญิงสาวในท่วงท่าอันงดงาม’ ด้วยเทคนิคการปั้นแบบยุโรปสมัยก่อน

    ศิลปินชาวจีนสร้างผลงาน ‘หญิงสาวในท่วงท่าอันงดงาม’ ด้วยเทคนิคการปั้นแบบยุโรปสมัยก่อน

    รูปปั้นมากมายที่เราเคยได้เห็นกัน นอกจากที่จะสื่อถึงความแปลกใหม่ และไอเดียที่สร้างสรรค์ของศิลปินแล้ว บางทีก็อาจมีความสวยงามที่ดึงดูดสายตาของทุกคนได้ เหมือนกับงานของเธอคนนี้ ศิลปินชาวจีนที่มีชื่อว่า Luo Li Rong ได้สร้างผลงานรูปปั้นทองแดง แกะสลักขนาดเท่าตัวคน สื่อถึงความสง่างามที่มีอยู่ในรูปร่างของมนุษย์   การทำงานที่พิถีพิถันของเธอ ออกมาเป็นผลงานที่สวยงาม   แม้จะยังไม่เสร็จ แต่แค่นี้ก็ดูสมจริงแล้ว   โดยจะมีลักษณะของผู้หญิงในที่อยู่ในท่วงท่าต่างๆ และมีความพลิ้วไหวในส่วนของผมและเสื้อผ้า ทำให้ดูเหมือนว่ารูปปั้นกำลังยืนรับสายลมที่พัดมาอย่างแผ่วเบา จะเห็นได้ว่าผลงานของเธอเต็มไปด้วยรายละเอียด เกิดจากความประณีตในทุกพื้นผิวที่เธอแกะสลักลงไป เพื่อให้มีความสมจริงและแสดงออกถึงองค์ประกอบที่น่าอัศจรรย์อื่นๆ เช่น ก้อนเมฆ หรือหยดน้ำฝน   ท่ายืนแบบนี้ ดูมีความเป็นไทยนิดๆ เหมือนกันนะ   หยดน้ำฝน ที่ทำออกมาได้ลงตัวกับรูปปั้น   ผิวคล้ำแต่ก็ยังดูดี   ทั้งหมดที่เราได้เห็นเกิดจากฝีมือที่เธอได้เรียนรู้มาจากวิทยาลัยวิจิตรศิลป์ในปักกิ่ง และนำเทคนิคที่นิยมใช้ในช่วงฟื้นฟูศิลปะของยุโรป และสไตล์บารอกมาผสมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นผลงานร่วมสมัยเหล่านี้ขึ้นมา   ท่วงท่าอันสง่างามและพลิ้วไหว . .   ลักษณะที่ทำออกมาได้เหมือนกับว่า รูปปั้นกำลังเดินอยู่บนท้องถนนจริงๆ   สายลมที่พัดเข้ามา เหมือนกับยืนอยู่บนหน้าผา   การเปลือยที่ดูไม่โป๊ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นความสวยงามที่ต้องการจะสื่อ .…

  • คู่รักนักเดินทางรีโนเวท “เรือเก่าๆ” เป็นเรือรักแสนหวาน ล่องทะเลเที่ยวกันกว่า 4,000 กม.

    คู่รักนักเดินทางรีโนเวท “เรือเก่าๆ” เป็นเรือรักแสนหวาน ล่องทะเลเที่ยวกันกว่า 4,000 กม.

    หากใครชื่นชอบการท่องเที่ยว นอกจากจะชอบจุดหมายปลายทางแล้ว ก็คงจะต้องชอบระหว่างทางที่เดินทางไปด้วยอย่างแน่นอน และยิ่งเมื่อไปถึงจุดหมาย ปลายทางก็จะยิ่งมีความหมายให้กับคุณมากขึ้นไปอีก จนบางทีอาจเคยคิดกันว่า ย้ายไปอยู่ที่นั่นซะเลยดีมั้ย? เหมือนกับคู่รักสองคนนี้ที่ไม่ได้แค่คิด แต่พวกเขาตัดสินใจทำมันจริงๆ เลย มารู้จักกับ Kelsey และ Joey Coleman กับเรื่องราวความรักที่แสนหวาน และการฮันนีมูนที่สุดแสนประทับใจ จนถึงกับทำให้ทั้งคู่ต้องย้อนกลับไปเก็บข้าวของจากบ้านที่ซานดีเอโก ย้ายไปประเทศนิการากัวกันเลย     การผจญภัยสุดมันส์ของทั้งสอง   เรื่องราวของทั้งสองเริ่มต้นขึ้นในตอนที่เรียนมหาลัยเดียวกัน ก่อนที่ความรักในการออกเดินทางของฝ่ายชาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า ปีนเขา สิ่งเหล่านั้นได้กลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้หญิงสาวออกมาผจญภัยไปด้วยกันกับเขา พวกเขาสาบานกันมาตั้งแต่ตอนนั้นว่า จะออกเดินทางไปรอบโลกด้วยกัน จนเมื่อเวลาผ่านไป 8 ปี พวกเขาก็ได้ทำมันสำเร็จ และ Joey ก็ได้ขอเธอแต่งงานที่นครวัด ประเทศกัมพูชา และจัดพิธีขึ้นในบ้านเกิดของเขารัฐโคโลราโด ปี 2014 ทั้งคู่ได้ตัดสินใจจะไปฮันนีมูนกันที่โคลัมเบีย แต่ก็ต้องเกิดปัญหากับเที่ยวบินขึ้นซะก่อน ทำให้ต้องเปลี่ยนแผนและเดินทางไปนิการากัว ตามคำแนะนำของคนในครอบครัวแทน   ทั้งคู่เดินทางกันไปรอบโลกแล้ววว .   เมื่อไปถึงพวกเขาก็ได้พบกับความอัศจรรย์ชวนให้หลงใหลมากมาย ทั้งเด็กที่กำลังขี่ม้าไปโรงเรียน ชายขายนมบนรถที่ใช้วัวลาก และวิวทิวทัศน์ของชายหาดกับภูเขาไฟสวยๆ มากมาย…

  • อลังการ!! คฤหาสน์หลังใหม่ของ Floyd Mayweather ราคา 850 ล้าน ในย่านหรูเบเวอร์รี่ฮิลล์

    อลังการ!! คฤหาสน์หลังใหม่ของ Floyd Mayweather ราคา 850 ล้าน ในย่านหรูเบเวอร์รี่ฮิลล์

    นักมวยชื่อดังอย่าง Floyd Mayweather วัย 40 ปี ผู้สร้างตำนานไม่เคยแพ้ใคร จาก 50 นัดที่ขึ้นชกอาชีพมาทั้งหมด และเป็นแชมป์มวยสากลถึง 5 รุ่นน้ำหนักด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นแมตช์ล่าสุดที่ต้องขึ้นชกกับ Conor McGregor แชมป์ UFC เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ชัยชนะของเขาก็ยิ่งกลายเป็นที่จดจำให้กับคนทั่วโลก แม้ว่าตอนนี้จะแขวนนวมแล้ว แต่ใครๆ ก็ยังคงลืมเขาคนนี้ไปไม่ได้เลย และที่สำคัญก็คือเงินรางวัลที่มากกว่า 8 พันล้านของเขาจากการชกครั้งนั้นเพียงครั้งเดียว ทำให้กลายเป็นนักมวยคนแรกของโลกที่มีรายได้รวมตลอด 21 ปีสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 33,000 ล้านบาทไปแล้ว     เขาจึงนำเงินส่วนหนึ่งมาซื้อบ้านหลังใหม่ให้กับตัวเอง แม้ว่าจะมีคฤหาสน์อันหรูหราอยู่ในลาสเวกัส หรือในไมแอมีที่มีราคาสูงถึง 250 ล้านบาทแล้วก็ตาม แน่นอนว่าเมื่อมันใหม่กว่า มันก็ต้องเหนือกว่าหลังเก่าแน่นอน เพราะราคามันพุ่งสูงเกือบ 850 ล้านบาทเลยทีเดียว มากกว่าในไมแอมีเกือบ 4 เท่าเข้าไปแล้ว เราลองมาดูกันดีกว่าว่าบ้านหลังใหม่จากชัยชนะ และเพื่อให้ได้ใช้ชีวิตเกษียณของชายคนนี้ มันจะอลังการงานสร้าง ยิ่งใหญ่สมราคาขนาดไหนกัน…

  • ผู้กล้าหนุ่มพบแมวหลงติดอยู่กลางบึง แถมส่งสายตาอ้อนแบบนี้ จะอดใจไม่ช่วยได้ยังไง…

    ผู้กล้าหนุ่มพบแมวหลงติดอยู่กลางบึง แถมส่งสายตาอ้อนแบบนี้ จะอดใจไม่ช่วยได้ยังไง…

    เฮอร์ริเคน Harvey ได้สร้างความเสียหายเอาไว้มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ในเท็กซัส แต่ยังกระจายไปถึงรัฐลุยเซียนาอีกด้วย ที่ถึงแม้ว่าจะลดลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ก็ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมไม่ต่างกัน เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Randall Kolb คนของกลุ่มที่คอยช่วยเหลือแมวทั้งหลาย ได้รับแจ้งจากบ้านพักสำหรับสัตว์ที่ชื่อ CARA ว่า นักส่องนกท่านหนึ่งพบเห็นแมวติดอยู่กลางบึง และต้องการให้เขาไปช่วย     เมื่อได้ยินดังนั้นเขาจึงหยิบเครื่องมือต่างๆ ทีจำเป็นและรีบออกไปพร้อมกับภรรยาของเขา ด้วยความรวดเร็ว เพราะเป็นห่วงว่าแมวตัวนั้นจะเป็นอะไรไปซะก่อน ในเมื่อหากลองสันนิษฐานดู แมวตัวนี้ต้องติดอยู่ตรงนั้นมาอย่างต่ำ 4 วัน จากปัญหาฝนตกหนักจนทำให้น้ำท่วม หรือไม่แน่ว่ามันอาจมากกว่านั้นก็ได้     เมื่อไปถึงสถานที่ดังกล่าว เขาและ Judy ภรรยา ก็พยายามตามหาเจ้าเหมียว จากรูปที่ถูกถ่ายโดยนักส่องนกคนนั้น พวกเขาพยายามเรียกหามัน จนผ่านไปไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียงตอบกลับมา แต่ถึงแม้ว่ามันจะส่งเสียงร้องให้ได้ยินแล้ว แต่ด้วยพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย ที่รายล้อมไปด้วยน้ำเต็มไปหมด จึงทำให้ยากต่อการรับรู้ว่า เสียงของมันดังมาจากทางไหนกันแน่ เขาจึงตัดสินใจควักเอากล้องส่องทางไกลมาเป็นตัวช่วย และในที่สุดก็พบเจ้าเหมียว ที่ยืนอยู่บนตอไม้ ขยับไปไหนไม่ได้เพราะว่าที่ตรงนั้นสูงเหนือน้ำเพียงแค่ 60 เซนติเมตรเท่านั้น     พวกเขาไม่มีเรืออะไรเลยที่จะสามารถพายข้ามไปได้ Randall จึงตัดสินใจเดินลุยน้ำไปหามัน พร้อมกับท่อนไม้ที่ใช้ในการทรงตัว และป้องกันอันตรายจากงูหรือจระเข้ที่อาจโผล่มา และตอนที่เดินลงไป เขาก็รู้ได้เลยว่าน้ำลึกมาก…

  • เรื่องราวของหมู่บ้านในอินเดีย ที่แต่ง “เมีย” หลายคน แท้จริงเพื่อมาใช้ในการขนน้ำ!??

    เรื่องราวของหมู่บ้านในอินเดีย ที่แต่ง “เมีย” หลายคน แท้จริงเพื่อมาใช้ในการขนน้ำ!??

    โดยทั่วไปหลายคนจะเข้าใจกันว่า การแต่งงานคือการยินยอมพร้อมใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันกับใครอีกคน หรือในบางครั้งก็อาจจะมากกว่านั้น อย่างเช่นศาสนาอิสลาม หรือกษัตริย์ในบางพื้นที่ที่มีภรรยาหลายคน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีอำนาจ แต่สำหรับหมู่บ้าน Denganmal ในประเทศอินเดีย หมู่บ้านเล็กๆ ประชากรเพียงแค่ 500 คน ที่แต่ละครอบครัวก็นิยมมีภรรยาอยู่มากกว่าหนึ่ง ทว่ากลับเป็นเกิดจากเหตุผลแตกต่างจากความรัก หรือการแสดงอำนาจ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะผิดกฎหมายในอินเดีย เพราะพวกเขาไม่ใช่คนอิสลาม แต่การมีภรรยาเยอะของที่นี่ ก็เพื่อให้พวกเธอได้ออกไปตักน้ำกลับมา ซึ่งนับว่าเป็นความจำเป็นและสำคัญอย่างมากในการใช้ชีวิต   .   ลองคิดดูว่าถ้าหากมีภรรยาแค่คนเดียว เธอคนนั้นก็จะต้องทำงานบ้าน ทำอาหาร และเลี้ยงลูกในขณะที่สามีกำลังไปทำงาน แทบไม่มีเวลาได้หยุดพักเลย และปัญหาสำคัญที่สุดก็คือในหมู่บ้านจะต้องออกไปเติมน้ำมาใช้กันเอง โดยถ้าหากจะต้องทิ้งลูกเอาไว้เพียงลำพัง และเดินออกไปตักน้ำกลับมาด้วยระยะเวลานานถึง 12 ชั่วโมง อย่างนั้นก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีซักเท่าไหร่     ดังนั้นเหล่าสามีจึงตัดสินใจแต่งงานมีภรรยาเพิ่ม เพื่อให้คนที่เข้ามาใหม่ แบ่งเบาภาระในเรื่องนี้ พวกเธอเหล่านั้นจึงต้องออกไปตักน้ำกลับมาทุกวัน เพราะพวกเธอสามารถขนน้ำกลับมาได้ในปริมาณที่จำกัดเพียง 30 ลิตรเท่านั้น เพียงพอสำหรับการใช้ดื่ม ใช้อาบ หรือซักผ้าล้างจานเพียงแค่วันเดียว นับเป็นหน้าที่ที่ทรหดอย่างมาก เพราะการเดินในระยะทางที่ไกลขนาดนั้น บวกกับการแบ่งถังน้ำสองถังเอาไว้บนหัว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย การช่วยเหลือเดียวที่พวกเธอาจได้รับ คือช่วงมรสุมที่ทำให้ลำธารขยายใหญ่ขึ้น และการเดินทางก็จะสั้นลง     ตอนนี้บางคนอาจเริ่มสงสัยแล้วว่า ทำไมผู้หญิงเหล่านั้นจึงต้องยอมแต่งงานใหม่ด้วย?…

  • 10 ประเภท “การถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง” (Orgasm) ตามหลักวิทยาศาสตร์ สาระจัดเต็ม!!

    10 ประเภท “การถึงจุดสุดยอดของผู้หญิง” (Orgasm) ตามหลักวิทยาศาสตร์ สาระจัดเต็ม!!

    การถึงจุดสุดยอดเป็นเรื่องที่ทุกคนมีเหมือนกันหมด ซึ่งเรื่องนั้นผู้ชายก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่สำหรับผู้หญิงบางคนอาจคิดว่ามันคืออะไร? เพราะตัวเองไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมีงานวิจัยบอกไว้ว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงทั้งหมด ไม่ได้ถึงจุดสุดยอดจากการมีเพศสัมพันธ์ จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนไม่เข้าใจจุดนี้ก็ได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะการถึงจุดสุดยอดนั้น เมื่อแบ่งออกมาตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว มีมากถึง 10 แบบกันเลย เราลองไปดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรกันบ้าง และแบบไหนที่จะเป็นแบบที่ใช่สำหรับคุณกันนะ     Clitoral มันก็คือการถึงจุดสุดยอดจากการถูกกระตุ้นบริเวณคริตอริสหรือปุ่มกระสันนั่นเอง เพราะมันอยู่ด้านนอกจึงทำให้สามารถเข้าใจกันได้ง่าย และเป็นการถึงจุดสุดยอดแบบพื้นฐานของใครหลายคน หากถูกกระตุ้นระบบประสาท Pudendal ก็จะทำงาน ทำให้คุณรู้สึกฟินกันไปเลย เสริมอีกอย่างคือหากมีการกระตุ้นตรงจุดนี้แบบผิวเผิน ควบคู่กับการเสียดสีในผนังช่องคลอดแล้ว ผลลัพธ์ก็จะยอดเยี่ยมเอามากๆ เลยแหละ   G-spot เป็นชื่อที่คุ้นหูกันดีอยู่แล้วนะ เพราะมันก็เป็นการถึงจุดสุดยอดของใครหลายคนอีกเช่นเดียวกัน จุดที่จะต้องถูกกระตุ้นจะอยู่บริเวณผนังช่องคลอดด้านบน ลึกเข้าไปประมาณ 2 นิ้ว และหากถูกกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอซัก 15 นาที ก็จะทำให้ระบบประสาทบริเวณกระดูกเชิงกรานกับท้องน้อย ทำงานจนเหมือนว่าทั้งร่างเราสั่นสะท้าน และอาจมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะ     Blended คือจุดสุดยอดแบบผสมกันของสองแบบแรก ที่ถูกกระตุ้นทั้งส่วนภายในและภายนอก สังเกตได้ไม่ยาก เพราะเมื่อไหร่ที่รู้สึกฟินแบบจัดหนักมากกว่าปกติแล้วละก็ นั่นแหละคือการถึงจุดสุดยอดในแบบนี้…

  • หนุ่มหมั่นไส้ชายหญิงแปลกหน้า จอดรถทิ้งไว้หน้าบ้านเขา 2 วัน เลยบรรจงห่อให้สวยๆ เล้ย!!

    หนุ่มหมั่นไส้ชายหญิงแปลกหน้า จอดรถทิ้งไว้หน้าบ้านเขา 2 วัน เลยบรรจงห่อให้สวยๆ เล้ย!!

    หลายคนอาจเคยเห็นหรือเคยเจอ กระดาษเขียนบอกหรือต่อว่าให้กับคนที่จอดรถไม่เหมาะสม เพื่อให้เจ้าของรถกลับมาแล้วจะไม่ทำอย่างนั้นอีก ไม่ต่างกับชายคนนี้ที่ต้องเจอกับใครก็ไม่รู้มาจอดรถทิ้งไว้หน้าบ้านของเขานานถึง 2 วัน ยังไม่ยอมกลับมาเอา ทำให้เขาทนไม่ไหวที่จะต้องทิ้งคำเตือนเอาไว้ด้วยพลาสติกใส ห่อหุ้มให้ทั่วทั้งคันไปซะเลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เมื่อขณะที่ Neil Junglas วัย 36 ปี กำลังทำอาหารให้ลูกสาว จู่ๆ ก็มีรถคันหนึ่งขับมาจอดหน้าบ้านของเขา ก่อนที่จะมีชายหญิงเดินลงจากรถมาพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อีก 2 ใบ     หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ขึ้นแท็กซี่ออกไป ทิ้งรถเอาไว้อย่างนั้น ทำให้เขาพอจะเดาได้ว่า สองคนนั้นน่าจะไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินใกล้ๆ นี้ และไม่ต้องการเสียค่าจอดรถ จึงเอามาจอดไว้ที่นี่นั่นเอง แต่สิ่งที่พวกนั้นทิ้งไว้ให้เขามันสร้างความลำบากให้กับการใช้ชีวิตอย่างมาก เมื่อข้างบ้านก็มีรถอยู่สองคัน ทำให้มีที่ว่างที่จำกัดอยู่แล้ว นี่เขาก็ยังไม่สามารถนำรถของตัวเองมาจอดหน้าบ้านได้อีกต่างหาก และมันก็นานถึง 2 วันแล้ว   คลิปวิดีโอของรถที่ถูกห่อด้วยแผ่นฟิล์มใส   เมื่อตามตำรวจให้มาช่วยดูและแก้ไขเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากว่ารถคันนี้ไม่ได้จอดอย่างผิดกฎหมาย ดังนั้นเขาจึงคิดว่าพฤติกรรมที่มักง่ายนี้ ควรได้รับเซอร์ไพรส์อะไรเจ๋งๆ ซะหน่อย จึงได้ไปซื้อแผ่นฟิล์มใสที่ใช้ถนอมอาหาร ซึ่งมีขนาดใหญ่และยาวในระดับเดียวกับที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม มาห่อหุ้มรถที่จอดทิ้งไว้ทั่วทั้งคัน เหมือนกลัวว่าอาหารในรถจะบูดซะอย่างนั้น     สิ่งที่เขาทำดึงดูดสายตาของผู้ผ่านไปมาอย่างมาก มีหลายคนที่หยุดถ่ายรูปก็มี แต่หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าถ้าเจ้าของรถกลับมาเห็นเข้า…

  • 17 ภาพสิวเสี้ยนบนใบหน้า จัดเต็มผ่านกล้องจุลทรรศน์ เปรียบเทียบก่อนและหลังล้างหน้า

    17 ภาพสิวเสี้ยนบนใบหน้า จัดเต็มผ่านกล้องจุลทรรศน์ เปรียบเทียบก่อนและหลังล้างหน้า

    ปัญหาสิวเสี้ยนที่เกิดขึ้นบนรูขุมขนตรงใบหน้าของเรามากมาย ทุกคนก็คงจะต้องเคยเจอกันมาอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย และแน่นอนว่าเราจะต้องส่องกระจกเห็นมันอย่างชัดเจนกันเลยทีเดียว หรือบางคนอยากเห็นชัดกว่านั้น ก็อาจใช้แว่นขยายมาเป็นตัวช่วยเสริม แต่ถ้าอยากชัดกว่านั้นอีกละคุณจะทำอย่างไร จนเมื่อมีผู้ใช้ Imgur ท่านหนึ่งโพสต์ภาพของรูขุมขนบนใบหน้าที่เห็นชัดซะเหลือเกิน เพราะว่าเขาถ่ายมันผ่านกล้องจุลทรรศน์ ชัดชนิดที่ว่าต่อให้เป็นโฆษณาโฟมล้างหน้า เขาก็คงไม่เอาภาพเหล่านี้มาใช้กันหรอกนะ โดยเขาได้ทำการเปรียบเทียบรอยสิวเสี้ยน ก่อนและหลังที่จะทำความสะอาดใบหน้าด้วยผลิตภัณฑ์กำจัดสิว เราลองไปดูกันดีกว่าว่าความแตกต่างจะเห็นชัดมากขนาดไหนกันนะ     รูขุมขนบริเวณแก้ม ก่อนทำความสะอาดผิว .   เห็นได้ถึงความอุดตัน และรูขุมขนที่เปิดกว้างเลย   ดำๆ นั่นคือขนใช่มั้ย   ต่อมาเป็นบริเวณจมูก ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะเป็นส่วนที่รูขุมขนใหญ่ที่สุดบนใบหน้า .   ปิดท้ายคือตรงหน้าผาก ที่แม้จะไม่ค่อยมีการอุดตัน แต่รูขุมขนก็ยังคงเปิดกว้าง   เห็นแล้วคิดว่าเป็นภาพถ่ายจาก NASA บนดาวดวงหนึ่งเหมือนกันนะ   หลังจากนั้นเราลองมาดูกันดีกว่าว่าหลังจากที่เขาทำความสะอาดใบหน้าแล้วจะเป็นอย่างไรกันบ้าง   เริ่มจากการใช้แผ่นทำความสะอาดบริเวณจมูกก่อนเลย เห็นได้ว่ามันสามารถทำความสะอาดรูขุมขนได้ลึกๆ เลย   แต่ตรงบริเวณพื้นผิวอาจไม่ดีเท่าไหร่นักนะ   ต่อมาคือการใช้มาสก์ เริ่มจากแก้มหลังจากที่ลอกออกแล้ว รูขุมขนปิดและผิวเต่งตึงมากยิ่งขึ้น .   บางส่วนมีการฟื้นฟูสภาพได้ชัดเจนมากเลย  …

  • ญี่ปุ่นออกคอลเลคชั่นกาชาปอง “หมวกแมวเหมียว” ในธีมฮาโลวีน น่ารักๆ กันทั้งน๊าน!!

    ญี่ปุ่นออกคอลเลคชั่นกาชาปอง “หมวกแมวเหมียว” ในธีมฮาโลวีน น่ารักๆ กันทั้งน๊าน!!

    หลายๆ คนก็คงจะมีเครื่องแต่งกายให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงของเราทั้งหลาย เพื่อนอกจากจะทำให้พวกมันอบอุ่นขึ้นในหน้าหนาวด้วยแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มความน่ารักได้อีกด้วย ถ้าหากคุณต้องการอย่างนั้นแล้วละก็ สิ่งนี้สามารถช่วยคุณได้อย่างแน่นอน เพราะมันคือ “หมวกเจ้าเหมียว” สุดน่ารัก ในธีมฮาโลวีน ชวนให้เหล่าทาสทั้งหลายต้องหลงใหลในความเหมียวมากขึ้นอีก 80 เปอร์เซนต์ พร้อมที่จะต้อนรับเทศกาลวันปล่อยผีเดือนหน้ากันไปเลย โดยเจ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นจากไอเดียของบริษัทกาชาปองในญี่ปุ่นที่ชื่อว่า KITAN CLUB โดยทุกคนสามารถไปกดสุ่มเอาได้จากตู้กาชาปองทั่วญี่ปุุ่นเลย ก่อนหน้านี้ซีรีส์ของหมวกน้องเหมียวเคยออกมาหลายรูปแบบแล้ว อย่างเช่นธีมกระต่าย ผลไม้ หรือสัตว์น้ำ     และความน่ารักน่าสะสมนี้เอง จึงทำให้ยอดขายกาชาปองหมวกน้องเหมียวรวมทั้งหมดมากถึง 2.5 ล้านชิ้นเข้าไปแล้ว ไม่รู้ว่าถ้าเพิ่มธีมฮาโลวีนเข้าไปแล้วจะถึง 3 ล้านไปเลยมั้ยละเนี่ย แน่นอนว่าเมื่อออกมาใหม่ ความพิเศษของรุ่นนี้ก็ต้องมากขึ้นกว่าแบบเก่าแน่นอน เพราะเขาบอกว่าได้เพิ่มรายละเอียดเอาไว้ทั้งในเรื่องของเนื้อผ้า และจุดเล็กจุดน้อยที่จะทำให้เราต้องหลงใหลไปพร้อมๆ กับน้องเหมียวสุดรักของเรา เราลองไปดูกันดีกว่าว่าทั้ง 4 แบบในคอลเลคชั่นนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้างงง   แม่มดเหมียวมาแล้ว แบร่!!   ตายแล๊ววว!! ผีหลอก.. มาให้กอดซะเดี๋ยวนี้เลยนะ   นี่มันแบทแมวนี่นาาา ปีกแค่นั้นจะบินขึ้นมั้ยละเนี่ย   ถ้ามีฟักทองออกมาหน้าตาเป็นอย่างนี้จริงๆ แล้วใครจะไปกินลงกันละ   เห็นแล้วหลายคนอาจเริ่มเดาราคากันแล้วว่า น่ารักขนาดนี้มันจะเท่าไหร่กันนะ?…

  • 11 สาเหตุของอาการ “เซ็กส์เสื่อม” อาจจะเกิดจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต โดยคุณไม่รู้ตัว…

    11 สาเหตุของอาการ “เซ็กส์เสื่อม” อาจจะเกิดจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต โดยคุณไม่รู้ตัว…

    อารมณ์ทางเพศเป็นเรื่องปกติที่มีอยู่ในตัวทุกคน และการมีเพศสัมพันธ์ก็ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ต้องอย่าลืมว่าทำกันด้วยความยินยอมของทั้งสองฝ่ายเท่านั้นนะ แต่สำหรับบางคนอาจบอกว่าตัวเองไม่คิดและไม่รู้สึกถึงเรื่องนั้นเลย แม้กับคนที่คุณรัก ซึ่งสิ่งนี้ก็อาจเป็นไปได้ เกิดจากสาเหตุหลายๆ อย่างที่ทำให้คุณอยู่ในจุดที่เรียกว่า “ความต้องการทางเพศต่ำ” แบบนั้นก็อาจไม่ค่อยส่งผลดีกับชีวิตคู่ของคุณเท่าไหร่ งั้นเราลองมาดูกันดีกว่าว่า สาเหตุที่ทำให้คุณมีความรู้สึกอย่างนั้น มันเกิดมาจากอะไรบ้าง เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณกลับมาซู่ซ่าอีกครั้ง   รู้สึกเหนื่อยแบบไม่ไหวแล้ว   นี่คงเป็นสาเหตุปกติที่เรารู้ๆ กัน แต่มันกลับส่งผลมากกว่าที่คุณคิด เมื่อการศึกษาจากมูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติ พบว่า 1 ใน 4 ของคู่แต่งงานจะรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องมีอะไรกับคู่ของตัวเอง หลังจากที่ผ่านงานมาทั้งวัน และมีงานศึกษาในวารสารการแพทย์ที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ ออกมาบอกว่า การพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลในแง่ลบให้กับความต้องการทางเพศ ดังนั้นนอกจากจะวุ่นวายไปกับงานแล้ว ต้องอย่าลืมมาวุ่นวายกันบนเตียงบ้างนะ   ความเครียดพุ่งสูง   หากคุณรู้สึกกดดัน มีปัญหากับเรื่องงานหรือคนรอบตัว จะทำให้ระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นสูง ตามความเครียดของคุณ ซึ่งมันคือตัวทำลายอารมณ์ในทุกด้าน จนบางครั้งอาจไปยับยั้งการสร้างฮอร์โมนบางตัว ทำให้คุณไม่รู้สึกอยากจะมีอะไรกับใครเลย   ฮอร์โมนของคุณหายไปหมดแล้ว   หากว่าคุณมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนน้อยมาตั้งแต่เกิด สิ่งนั้นจะส่งผลให้กับความต้องการทางเพศอยู่แล้ว ไม่ว่าชายหรือหญิง แต่หากว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิด เปลี่ยนตัวยา หรือว่าเลิกใช้ยาเองก็ตาม สิ่งนั้นก็จะส่งผลให้กับฮอร์โมนเช่นเดียวกัน และอาจมีความแปรปรวนในเรื่องเพศสัมพันธ์อีกด้วย ปัญหาเหล่านี้ทางที่ดีที่สุดคือการพบแพทย์ เพื่อให้หมอวินิจฉัยและช่วยคุณหาทางออกต่อไป…

  • ติดตามเหมือนได้รับประสบการณ์จริง กับชีวิต “นักบินสาว” ผู้โด่งดังในอินสตาแกรม

    ติดตามเหมือนได้รับประสบการณ์จริง กับชีวิต “นักบินสาว” ผู้โด่งดังในอินสตาแกรม

    อาชีพนักบินคงเป็นหนึ่งในอาชีพที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะสามารถทำให้เราได้เดินทางไปตามที่ต่างๆ มากมายทั่วโลก เหมือนนักบินสาว Eva Claire Marseille วัย 31 ปี ที่ตัดสินใจทำตามความฝันของเธอ แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะเรียนจบวารสารศาสตร์ และชอบการเขียนเอามากๆ ก็ตาม วันหนึ่งเธอเกิดความสงสัยว่า อาชีพนักเขียนเป็นสิ่งที่เธออยากทำจริงๆ หรือเปล่า และการใช้ชีวิตแบบนั้นคือความต้องการสุดท้ายของเธอหรือไม่? จากนั้นเธอจึงตัดสินใจเรียนต่อในโรงเรียนการบินแทน   นี่คืองานที่มอบความท้าทายและการเดินทางไปรอบโลก อย่างที่เธอต้องการ   เป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่ามากที่สุดในชีวิตของเธอ   เธอใช้เวลาถึง 2 ปีเพื่อทำให้ความฝันตัวเองเป็นจริงหลังจากเรียนจบ มาจนถึงตอนนี้เธอได้ถ่ายรูปในขณะที่เธอปฏิบัติหน้าที่ ภาพวิวทิวทัศน์ที่ได้เห็นในห้องคนขับ รวมถึงไลฟสไตล์การได้ไปเที่ยวในที่ต่างๆ จากงานของเธอ ทั้งหมดนั้นทำให้ผู้คนชื่นชอบและติดตามเธอในอินสตาแกรมมากกว่า 76,000 คน และยังมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองชื่อว่า Fly With Eva ที่คอยถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์และทัศนคติที่เธอมีให้กับทุกคน   แม้จะต้องเสียเวลาไปบ้าง แต่มันก็ทำให้เธอมีความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใดแล้ว   ปัจจุบันการใช้เพศเป็นตัวตัดสิน ไม่ค่อยมีให้พบเห็นกันแล้ว   และแม้ว่าในยุคที่เธอเติบโตมา คนส่วนใหญ่มักจะมองว่านักบินหญิงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่นัก แต่เธอก็หวังว่าสิ่งที่เธอได้แสดงให้เห็นนี้ จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทุกคน ในการก้าวตามความฝันของอาชีพนี้ได้   งานของเธอตามมาด้วยการเดินทางมากมายทั่วโลก   การต้องนั่งอยู่กับที่เฉยๆ…

  • 19 ภาพแสดงให้เห็นความดีงามในตัวมนุษย์ ที่แม้โลกมันจะโหดร้าย แต่ก็ยังคงสวยงาม

    19 ภาพแสดงให้เห็นความดีงามในตัวมนุษย์ ที่แม้โลกมันจะโหดร้าย แต่ก็ยังคงสวยงาม

    โลกของเราอาจไม่ได้มีเพียงแต่ความสวยงามเสมอไป อย่างที่เราได้เห็นในสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภัยพิบัติธรรมชาติ และข่าวของโศกนาฏกรรมที่มีอยู่ทุกวัน บางคนอาจกำลังคิดว่า โลกเรามันช่างโหดร้าย และทุกอย่างก็น่ากลัวเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่อยากให้คุณลืมว่า ภายใต้สิ่งแย่ๆ เหล่านั้น ก็ยังคงมีความประทับใจอีกมากที่ซ่อนอยู่ ช่วยตอกย้ำให้เข้าใจว่า การมีชีวิตอยู่บนที่แห่งนี้ มันก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ความหดหู่ไปซะทีเดียว ภาพของพวกเขาเหล่านี้ จะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวเดินต่อไปพร้อมรอยยิ้ม   ชายแก่คนหนึ่งกำลังตัดหญ้าอยู่ก่อนที่โรคหัวใจจะกำเริบ และได้นักผจญเพลิงเหล่านี้เข้ามาช่วยไว้ทัน อีกทั้งพวกเขายังช่วยให้งานของชายคนนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี   ตำรวจหนุ่มคนนี้ลงแรงทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากเฮอร์ริเคน Harvey ในเท็กซัส โดยที่เขาไม่ได้พักเลยแม้แต่น้อย กระทั่งสลบไปเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาหลายชั่วโมง   ป้ายเตือนในแอฟริกาใต้ ช่วยให้คนพิการสามารถมีที่จอด ไม่มีใครกล้ามาแย่งที่พวกเขาอีก   ช่างตัดผมชื่อว่า Mark Bustos ใช้เวลาในวันหยุดของเขา มาตัดผมให้กับคนไร้บ้านทั้งหลายแบบฟรีๆ   เป็นพนักงานที่ใส่ใจกับงานตัวเองมากๆ เมื่อเขาได้นำกล่องเครื่องดื่มในร้านมาเรียงต่อกันเป็นรูปตุ๊กตาหิมะ สร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้าได้อย่างดี ในช่วงคริสมาสต์   เธอคนนี้ใช้เวลา 3 ปีไปกับการทำงานในบ้านพักสำหรับน้องหมา และดูแลเจ้าตัวนี้มานานถึง 6 เดือน ก่อนที่เธอจะได้งานใหม่ แต่ต้องบอกว่าเธอทำงานที่นี่ได้ดีมากแน่ๆ เพราะเมื่อเธอกลับมาหลังจากหายไป 3 สัปดาห์ เจ้าสุนัขก็ดีใจออกนอกหน้าซะขนาดนี้เลย  …

  • เก็บตก 24 ภาพสาวๆ สุดคาวาอี้ จากงาน Tokyo Game Show 2017 ที่ยังไง๊ก็ต้องดู

    เก็บตก 24 ภาพสาวๆ สุดคาวาอี้ จากงาน Tokyo Game Show 2017 ที่ยังไง๊ก็ต้องดู

    Tokyo Game Show 2017 คืองานที่จะรวมสุดยอดเกมส์ต่างๆ จากทั่วทุกมุมโลกมากระจุกไว้ในที่เดียว ให้ผู้คนสามารถเข้ามาเดินชมกันได้อย่างจุใจ ตระการตา และเพลิดเพลินไปกับความสวยงามภายในงาน งานนี้จัดขึ้นที่หอประชุมนานาชาติ Makuhari Messe จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของหอประชุมในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ไม่อย่างนั้นก็คงจะรับมือกับจำนวนบูธ และคนเข้าชมที่เยอะมากไม่ไหวหรอก โดยงานจะเปิดให้สำหรับทุกคนในวันที่ 23 กันยายน แต่ก่อนหน้านั้น 2 วัน ได้มีการเปิดรอบสื่อมวลชน ทำให้ทางสำนักข่าว SoraNews24 มีโอกาสได้ไปเดินดูงานก่อนใครๆ และสร้างความตื่นเต้นให้พวกเขาอย่างมากกก แต่ก็ไม่มีใครจะรู้สึกแฮปปี้ไปมากกว่า Mr.Sato หนึ่งในทีมงานของพวกเขา ชนิดที่ว่าพอรู้ปุ๊ปก็เร่งหน้าไปรออยู่ที่งานพร้อมกล้องคู่ใจก่อนใครเพื่อน นับเป็นผู้คลั่งไคล้ในเกมส์ของจริง จนกระทั่งออกจากงาน เขาก็ได้ยื่นกล้องให้กับคนที่เหลือได้เช็คภาพว่าออกมาเป็นอย่างไรบ้าง งั้นเราลองไปดูกันเลยดีกว่า ว่าบรรยากาศภายในงานจะเป็นอย่างไร   ภาพของฮอลล์ที่ใช้จัดงาน   ภายในงานกว้างขวางพร้อมรองรับผู้ร่วมงานที่จะมีมากมาย   มีเพียงแค่ 2 ภาพข้างบนเท่านั้น ที่ถ่ายบรรยากาศโดยรวมของรอบสื่อมวลชน แต่แท้จริงแล้วยังมีภาพอีกเยอะมาก ที่เห็นแล้วก็รู้เลยว่า เขาคนนี้ช่างมีเป้าหมายที่แน่วแน่ในการมาร่วมงานนี้จริงๆ เหอๆๆ   สาวประจำบูธสุดน่ารัก   นี่ก็สาวๆ จากค่าย…

  • 12 สิ่งสำคัญที่เราทุกคน ‘ไม่ควรทำ’ เมื่อได้มีโอกาสไปเที่ยวในประเทศ ‘ญี่ปุ่น’

    12 สิ่งสำคัญที่เราทุกคน ‘ไม่ควรทำ’ เมื่อได้มีโอกาสไปเที่ยวในประเทศ ‘ญี่ปุ่น’

    ประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นที่ที่พวกเราให้ความสนใจ และอยากไปเที่ยวกันในอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากที่จะไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าเพื่อเข้าไปแล้ว ความสวยงามของธรรมชาติ สิ่งปลูกสร้าง และวัฒนธรรมต่างๆ เองก็มีผลเช่นกัน แน่นอนว่าในแต่ละที่ ก็จะมีกฎระเบียบทางสังคมที่แตกต่างกันไป เวลาไปเที่ยวไหนก็ควรศึกษากันให้ดี จะได้หลีกเลี่ยงกิริยาที่ไม่เหมาะสมออกไป วันนี้เราจึงได้นำ 12 ข้อที่คุณไม่ควรทำเมื่อได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาให้ได้รู้กัน ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลยยย   อย่าแหกกฎระเบียบ มารยาทในการใช้ตะเกียบ   แน่นอนว่าพวกเขาเคยชินกับการใช้ตะเกียบ และจะรู้สึกประทับใจหากคุณใช้มันได้ดี แต่ก็มีข้อห้ามบางอย่างที่คุณควรรู้ไว้ คือห้ามปักตะเกียบลงไปตรงๆ ในชามข้าว ใช้ที่วางตะเกียบจะดีกว่า เพราะมันเป็นการกล่าวถึงงานศพ การส่งต่ออาหารผ่านตะเกียบตัวเองไปใส่ตะเกียบคนอื่นก็ไม่ควร หากว่าสั่งเป็นกับข้าวมากินร่วมกัน ให้ใช้ตะเกียบหยิบอาหารมาวางบนจานเราก่อนแล้วค่อยกิน ที่สำคัญอย่าเอามตะเกียบมาถูกัน เพราะว่ามันหยาบคาย   อย่าใส่รองเข้าไปในบ้าน   ไม่ใช่แค่ในบ้านแต่รวมถึง โรงแรม วัด โรงเรียนหรือโรงพยาบาลบางแห่ง โดยเขาจะให้คุณเปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะในบ้านแทน ยกเว้นร้านอาหารบางที่ที่ต้องนั่งไปบนพื้นเสื่อทาทามิ จะต้องถอดรองเท้าอย่างเดียว ไม่มีแตะให้เปลี่ยน รวมถึงการเข้าห้องน้ำในหลายๆ ที่ คุณก็จะต้องเปลี่ยนรองเท้าแตะด้านหน้าห้องน้ำ และอย่าลืมเปลี่ยนกลับด้วยละ   อย่าคิดจะแซงคิวเป็นอันขาด   คุณจะได้เจอการเข้าแถวตอนเรียงหนึ่งในทุกที่ ทั้งตอนรอรถบัส การใช้ลิฟท์ หรือการขึ้นรถไฟ ซึ่งในสถานีจะมีเส้นขีดบอกไว้ตรงพื้น…

  • รัสเซียออกโรงเหน็บ “ทรัมป์” ทะเลาะ “คิม จ็อง-อึน” เหมือนเด็กอนุบาลตีกันในสนามเด็กเล่น!!

    รัสเซียออกโรงเหน็บ “ทรัมป์” ทะเลาะ “คิม จ็อง-อึน” เหมือนเด็กอนุบาลตีกันในสนามเด็กเล่น!!

    จากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-เกาหลีเหนือ และเรื่องที่เกาหลีเหนือออกมาพูดถึงการทดสอบขีปนาวุธของตนเอง ทำให้ทั่วโลกไม่สามารถอยู่เฉยได้ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถึงกับออกมาบอกว่า อาจต้องมีสงครามกันเลยทีเดียว ล่าสุดเมื่อเขาได้ขึ้นพูดที่องค์การสหประชาชาติเอาไว้ว่า พร้อมจะทำลายเกาหลีเหนือทั้งหมด หากตกอยู่ในสถานการณ์บังคับที่ต้องปกป้องตัวเองและพันธมิตรของตน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือเอาไว้ว่า เป็น “คนปล่อยจรวดที่กำลังอยู่ในภารกิจฆ่าตัวตาย” นับว่าเป็นการดูถูกและแสดงถึงความไม่เกรงกลัวใดๆ   โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา   คลิปวิดีโอการออกมาพูดของเขา ที่องค์การสหประชาชาติ   สิ่งนั้นทำให้ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จ็อง-อึน ออกมาตราหน้าว่าทรัมป์คือ “ผู้วิกลจริต” และมีสติเลอะเลือน และกล่าวสุนทรพจน์ในเชิงว่า เกาหลีเหนือมีสิทธิ์ที่จะพัฒนาอาวุธอยู่แล้ว เขาบอกว่าประธานาธิบดีสหรัฐออกมาดูถูกประเทศของตนต่อหน้าสายตาของทุกคนทั่วโลก และพยายามบีบให้ทุกคนเชื่อไปตามสิ่งที่ตัวเองพูด ยัง ยังไม่จบ.. คิมยังเสริมอีกว่าทรัมป์จะต้องเจอกับบทเรียนราคาแพงอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากคำพูดของตัวทรัมป์เองที่บอกว่า “เป็นความรุนแรงที่ไร้สาระในประวัติการณ์”   และนี่คือการออกมาพูดต่อหน้าสื่อมวลชนต่างชาติโดยตรงเป็นครั้งแรกของชายคนนี้ เรื่องที่เขาพูดจึงควรเก็บไปคิดและพิจารณาอย่างมาก เพราะการตัดสินใจในวันข้างหน้าอาจตามมาด้วยความรุนแรงที่เกินคาดอย่างที่เขาบอกไว้ ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้นำประเทศเท่านั้น เพราะรัฐมนตรีต่างประเทศของเกาหลีเหนือก็ได้ออกมาเตือนอีกว่า พวกเขาสามารถที่จะทดสอบระเบิดไฮโดรเจน ในมหาสมุทรแปซิฟิกก็ได้ เพื่อตอบโต้การถูกคุกคามจากผู้นำสหรัฐ   ภาพในวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ของผู้นำเกาหลีเหนือตอบโต้กับเรื่องที่เกิดขึ้น   แต่……

  • ผลงานสุดล้ำ!!! หากสมมุติว่าความเชื่อแบบไทยไปอยู่ในยุคกรีก-โรมัน ก็คงจะเป็นแนวๆ นี้

    ผลงานสุดล้ำ!!! หากสมมุติว่าความเชื่อแบบไทยไปอยู่ในยุคกรีก-โรมัน ก็คงจะเป็นแนวๆ นี้

    ภาพของการถวายขนม น้ำแดง มีธูปเทียน ตุ๊กตาช้างม้าวัวควาย หรือมีผ้าเจ็ดสีพันอยู่รอบๆ คงเป็นเรื่องปกติที่เราสามารถพบเห็นได้ในสังคมไทย จากสื่อต่างๆ ไมว่าจะเป็นข่าวในทีวีหรือหนังสือพิมพ์ รวมถึงโซเชียล โลกออนไลน์เองก็ด้วย ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่แถวบ้าน จอมปลวก หลักกิโล หมาสามขา วัวสองหัว ทุกอย่างล้วนแล้วแต่สามารถเป็นสิ่งศักดิ์สิทธื์ได้ทั้งสิ้น เพราะมันเกิดจากการผสานกันระหว่างความเชื่อและศาสนาของคน โดยที่บางครั้งก็ไม่สามารถรับรู้เหตุผลได้ว่า ทำไมสิ่งเหล่านี้ถึงต้องเป็นที่เคารพกันด้วยนะ   .   “แต่เอ๊ะ เรื่องที่เราเห็นจนชินตาเหล่านี้ มันเกิดขึ้นแค่เพียงภายในประเทศเราหรือเปล่านะ? ประเทศอื่นเขาก็ไม่ได้มีอะไรแบบนี้กันนี่นา ถ้าอย่างนั้นนี่ก็เป็นเรื่องที่เจ๋งมากเลยน่ะสิ” นี่คือความคิดของหนุ่มวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า Sakkarin Suttisarn เขาจึงได้สร้างผลงานที่มีชื่อว่า Transformation of Object to Worshiping จากความสงสัยที่ว่า ถ้าหากนำความเชื่อไทยสไตล์เหล่านี้ไปรวมเข้ากับ รูปปั้นชื่อดังในโรม อิตาลี หรือที่อื่นๆ แล้ว มันจะออกมาเป็นอย่างไร   .   ที่เราได้เห็นกันนี้คือการใช้โปรแกรมตัดต่อภาพของวัตถุที่มีผู้คนสักการะ รวมเข้ากับประติมากรรมที่เลือกมาจำนวน 9 แห่ง ในตอนแรกเขาเพียงโพสต์ภาพทั้งหมดลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ก่อนที่มันจะกลายเป็นการจัดแสดงนิทรรศการในรอบ 5 ปีของเขา ร่วมกับศิลปิน Apiwat Singharach ในงานที่มีชื่อว่า…

  • Nikki Cormier นางแบบสาวเซ็กซี่ ที่แม้อายุจะแตะ 30 แล้ว ก็ยังคงความแซ่บเซียะอยู่เสมอ

    Nikki Cormier นางแบบสาวเซ็กซี่ ที่แม้อายุจะแตะ 30 แล้ว ก็ยังคงความแซ่บเซียะอยู่เสมอ

    “30 ยังแจ๋ว แจ๋วซะจนน่า… จีบ” เนื้อเพลงลูกทุ่งยอดฮิตติดหูเรามาเป็นเวลานาน เหมาะมากที่จะพูดถึงเธอคนนี้ Nikki Cormier ที่แม้ว่าอายุจะเข้าสู่เลขสามแล้ว ดีกรีความร้อนแรงของเธอก็ยังคงกระหน่ำ มาจนแทบอดใจไม่ไหวกันเลย ด้วยอาชีพหลักการเป็นนางแบบและเทรนเนอร์ในฟิตเนสของสาวลูกครึ่ง 4 เชื้อชาติ เยอรมัน อิตาลี ไอร์แลนด์ และแคนาดาคนนี้ อีกทั้งยังเคยเป็นนักกีฬาฟุตบอลมาก่อน ทำให้เธอมีรูปร่างดินระเบิด และสัดส่วนอันแสนเย้ายวน 36 – 25 -34 หน้าอกคัพ D ที่เห็นแล้วรู้สึกจะปวดหลังแทนเลยจริงๆ   ฮ็อตขนาดนี้ เดินในหน้าหนาวได้สบายๆ เลย   ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะงานอดิเรกของเธอนอกจากการเข้าฟิตเนสและเตะบอล ส่วนใหญ่จะเป็นการปีนเขา เล่นฟุตบอล โต้คลื่น หรือชกมวย รักษาความฟิตแอนด์เฟิร์มได้เข้ากับไลฟ์สไตล์สายลุยของตัวเอง ทำให้ใครที่คบกับเธอแล้วนอกใจละก็ คงจะไม่จบแค่โดนตบแน่ๆ ล่ะนะ   ไม่ทราบว่านี่ต้นอะไรหรอครับ แตงโม? หรือว่าส้มโอ?   เธอชอบใส่เสื้อกล้ามแบบโนบรา เพราะรู้สึกมั่นใจและเซ็กซี่มาก (เห็นด้วยนะ)   ตอนเล่นบอลจะไม่สับสนหรอ ว่าต้องเตะลูกไหนกันแน่?!   แต่ไม่ใช่เพียงแค่รูปร่างที่น่าดึงดูดเท่านั้น…

  • 22 ภาพล้อเลียน กว่าจะมาเป็นรูปสุดสวยให้ได้อิจฉา ต้องผ่านความฮาอะไรมาบ้าง!!

    22 ภาพล้อเลียน กว่าจะมาเป็นรูปสุดสวยให้ได้อิจฉา ต้องผ่านความฮาอะไรมาบ้าง!!

    เหล่าผู้มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ยุคนี้ ที่ทุกคนเรียกกันว่า “เน็ตไอดอล” พวกเขาเหล่านั้นเกิดขึ้นได้จากการมีคนติดตามและชื่นชอบกันอย่างล้นหลาม จนบางครั้งก็เป็นต้นแบบที่มีอิทธิพลกับใครหลายคนเลยทีเดียว ภาพการใช้ชีวิตที่ถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นความหรูหรา สุขสบาย น่าอิจฉา แท้จริงแล้วมันอาจมีเบื้องหลังที่ไม่น่าเชื่อและเหนือความคาดหมาย ซ่อนอยู่ภายใต้ความเพอร์เฟ็กต์ดังกล่าวก็ได้ มันคงไม่ง่ายเลยที่จะอยากทำให้ใครๆ ต้องเกิดอาการตาร้อนไปกับทุกเรื่องที่เราทำ งั้นเราลองมาดูกันดีกว่าว่าความเป็นจริง กับสิ่งที่เราได้เห็นนั้น มันจะแตกต่างกันมากขนาดไหน   รีบถ่ายหน่อยเร็ว เลือดจะไหลลงหัวหมดแล้ว   วันนี้ที่นิวยอร์กอากาศดีมากๆ เลยแหละ ขอบอก   อากาศร้อนอย่างนี้ ทะเลสิถึงจะตอบโจทย์   “เพิ่งถอย BMW มาขับ” แต่เอ๊ะ แล้วกุญแจกับขาของคนขับหายไปไหน   รักกันดีในโลกโซเชียล ต่อไปคงจะขอแต่งงานผ่าน IG นี่แหละ   พร้อมที่จะจัดปาร์ตี้สระว่ายน้ำกันแล้ว   ดิชั้นเป็นคนกินคลีนจริงจริ๊งงง   ปารีสสไตล์!! ยืนชิ้งฉ่องดูหอไอเฟลกันอย่างสบายใจ   ปรับมุมกล้องสักนิด ก็เปลี่ยนใจกลางเมืองให้กลายเป็นชนบทได้   สร้างซิกแพ็คได้ง่ายๆ ภายในสามนาที   ปากกาเพิ่มความอึ๋ม ดูใหญ่ขึ้นจริงแบบไม่ติงนัง   ลมฟ้าอากาศช่างเป็นใจอะไรเยี่ยงนี้   ภาพสุดชิคที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ แต่ก็อาจทำไม่ได้ยาก…

  • 20 ‘สุดยอดเจ้าเหมียว’ ที่ไม่สนต่อกฎเกณฑ์ของโลก และระบบความเป็นไปใดๆ ทั้งสิ้น

    20 ‘สุดยอดเจ้าเหมียว’ ที่ไม่สนต่อกฎเกณฑ์ของโลก และระบบความเป็นไปใดๆ ทั้งสิ้น

    บนโลกใบนี้ของเราจะมีระบบระเบียบที่ถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่แรก เรียกว่าเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวที่ทุกคนเข้าใจตรงกัน แต่สิ่งนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรเจ้าเหมียวเหล่านี้ได้เลย เพราะความไม่สนโลกของมัน อยากทำอะไรก็ทำ เอาตัวเองเป็นใหญ่ และไม่รู้ว่าจุดประสงค์เพื่อความน่ารักหรือว่ากวนอวัยวะส่วนล่างกันแน่ ลองไปดูพวกมันกันดีกว่า ว่าจะน่าหมั่นเขี้ยวและเปรี้ยวซ่าส์กันขนาดไหน   เนี่ย!! เห็นมั้ย ก็ไม่ได้ขึ้นไปเหยียบโต๊ะแล้วไง   เจ้าเหมียวตัวนี้ รักการอยู่ในน้ำถึงขนาดไม่ยอมออกไปไหนเลย   นางวันทองสองใจ ใครว่าไม่มีอยู่จริงในยุคนี้   ข้าเนี่ยแหละที่อยู่บนจุดสูงสุด เหนือข้าไปก็เป็นหลังคาแล้ว   โยคะน้องเหมียวสไตล์ใหม่ ในระดับยากโพดๆ   ไวน์น้องเหมียวปุกปุยวัย 10 ขวบ ได้แล้วนะครับ   อยากออกไปซิ่งอ่ะป๋า แต่ว่าขาหนูไม่ถึง   นี่ไม่ได้ปลูกดอกไม้นะ มันคือดอกแมวต่างหาก   นี่คือสัมผัสใหม่แห่งการนอนเลยสินะ   ไอ้เธอนั้นคือนางแมวยั่วสวาท เธอนั้นคือปีศาจสุดเซ็กซี่   ขี้เกียจขนาดนี้ ระวังจะคอเคล็ดเอานะเกลอ   เจ้านกพิราบกลับเข้าบ้านเถอะ อย่าเพิ่งคิดสั้นเลยนะ พวกเราขอ   อั๊วเคยขับสิบล้อมาก่อน เพราะฉะนั้นอย่ามาซ่าส์แถวนี้ เข้าใจ๊?!   นินจาฮาโตริมาแล้วจ้าาา  …

  • รวม 26 ภาพแมวเปียกน้ำสุดฮา เนื่องในโอกาส “วันสงกรานต์แห่งชาติ” 22 กันยายน!!

    รวม 26 ภาพแมวเปียกน้ำสุดฮา เนื่องในโอกาส “วันสงกรานต์แห่งชาติ” 22 กันยายน!!

    วันนี้วันดี 22 กันยายน เป็นวันที่เราคงจะไม่สามารถลืมกันได้เลย ในเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญมากมายเกิดขึ้น ขนาดที่เรียกได้ว่าสะเทือนทุกสื่อสังคม โดยเฉพาะวงการบันเทิงกันไปเลยทีเดียวเชียว ก็เพราะว่ามันก็คือ “วันสงกรานต์” อย่างไรละ แม้ว่าอาจไม่ใช่วันปีใหม่ไทย แต่ก็นับว่าเป็นชื่อที่ตรงความหมายซะยิ่งกว่าในเดือนเมษายนอี๊กกก พูดง่ายๆ ก็แบบสงกรานต์คือสงกรานต์อ่ะ เข้าใจตรงกันนะ     ไม่ว่าจะเป็นกระแสดราม่าการแยกกันอยู่ ชาวเน็ตตามไปสืบเสาะบอกว่ามีมือที่สาม เกิดการรุมต่อว่าขึ้น หรือแม้แต่ย้อนกลับไปดูการพบกันครั้งแรกก็ยังมี เป็นที่ฮือฮาเปิดข่าวมา เจอชื่อคนดังวนเวียนอยู่แค่สามชื่อนี้เลยจริงๆ เริ่มมีคนสงสัยแล้วสินะ “ว่านี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?” วิธีการก็ไม่ยาก เพียงแค่พิมพ์คำว่า “สงกรานต์” ลงในกูเกิ้ล เท่านั้นเองคุณก็จะสามารถเข้าใจสถานการณ์ และติดตามความคืบหน้าของวันสำคัญนี้ได้อย่างง่ายดาย คิดไปคิดมาเรื่องนี้อาจดังกว่าการจำนำข้าวก็ได้นะ     ขอให้ทุกคนมีความสุขและสนุกไปกับวันสำคัญนี้นะครับ ที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อพูดถึงสงกรานต์ ความเปียกปอนก็จะตามมา ไหนๆ แล้วเราก็ถอนตัวถอนใจจากดราม่า ไปดูภาพเจ้าเหมียวกันหน่อยดีกว่า ว่าถ้ามันมาอยู่ในวันสงกราต์ละ สภาพจะเป็นอย่างไรกันบ้าง   . . . . . . . . . . . .…

  • บ้านสุดอัศจรรย์สไตล์ ‘ฮอบบิท’ ที่คุณเองก็สัมผัสมิดเดิลเอิร์ธได้ในราคา 25 ล้านบาทเอง

    บ้านสุดอัศจรรย์สไตล์ ‘ฮอบบิท’ ที่คุณเองก็สัมผัสมิดเดิลเอิร์ธได้ในราคา 25 ล้านบาทเอง

    สมัยนี้บ้านแบบปกติธรรมดาทั่วๆ ไป หรือจะเป็นสไตล์โมเดิร์น คงไม่อาจต้อมโจทย์ความต้องการของเราได้ แต่จะให้ความสนใจกับที่พักอาศัยที่แปลกตาสักหน่อย มีเอกลักษณ์ในตัวเองมากกว่า ถ้าหากคุณเป็นอย่างนั้นเหมือนกันแล้ว รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องแอบรู้สึกถูกใจบ้านหลังนี้ขึ้นมาแน่นอน เพราะนี่คือไอเดียจากหนังไตรภาคชื่อดังถึง 2 เรื่อง อย่าง The Hobbit และ The Lord of the Rings ไม่ใช่ประสาทเอลฟ์แต่อย่างใด มันคือบ้านของ ฮอบบิท เผ่าประจำของตัวเอกทั้งสองเรื่อง ดูน่ารักในไซส์มินิ น่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงามในรัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกา     แต่หลังนี้ก็ไม่ใช่หลังที่ใช้ถ่ายทำจริงหรอกนะ เพราะของจริงมันอยู่ที่นิวซีแลนด์โน่น ทว่าเจ้าบ้านหลังนี้ก็สร้างออกมาได้แบบที่เหมือนจนแยกไม่ออกเลยเหมือนกัน ความพิเศษของมันเห็นได้อย่างชัดเจน เพราะความสูงของขอบประตู กับเพดานที่เรียกว่าอาจเป็นอุปสรรคเล็กๆ ให้กับคนตัวสูงทั้งหลาย แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเอกลักษณ์ที่แปลกไม่ซ้ำใคร และทำให้คุณประหยัดไฟได้ง่ายๆ เพราะแค่ดวงเล็กๆ มันก็จะสว่างไปทั่วบ้านแล้ว     ถูกตกแต่งด้วยเตาผิง และงานหินต่างๆ มากมาย พร้อมเพิ่มความโมเดิร์นอีกซักหน่อยกับตู้เย็น บาร์นั่งไว้รับประทานอาหารเช้า เตาอบ และตู้แช่ที่บางทีก็แอบดูขัดๆ ไปบ้าง แต่ก็เพื่อความสะดวกสบายแหละนะ ไม่เพียงเท่านั้นเพราะมันยังแถมอ่างน้ำร้อน ห้องสปา ประตูไฟฟ้าอัตโนมัติ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้อีกด้วย…

  • 16 ประวัติฆาตกรต่อเนื่องสุดสยอง ที่จะทำให้คุณต้องกลัวการอยู่คนเดียวไปอีกนาน

    16 ประวัติฆาตกรต่อเนื่องสุดสยอง ที่จะทำให้คุณต้องกลัวการอยู่คนเดียวไปอีกนาน

    ฆาตกรต่อเนื่องคือคนที่พรากชีวิตเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายไปมากมาย และในประวัติศาสตร์โลกเรา ก็มีฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังมากมาย และวันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับพวกเขาเหล่านั้นกันหน่อยดีกว่า ว่าได้สร้างความน่ากลัวและหวาดผวาให้กับผู้คนไปมากแค่ไหนแล้ว โดยทั้ง 16 คนนี้ไม่ใช่ทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกของเรา แต่ประวัติการฆาตกรรมของพวกเขา เรียกว่าอยู่ในแนวหน้าของวงการเลยทีเดียว ไปดูกันเลยดีกว่าว่า เรื่องราวเหล่านั้นจะชวนขนลุกขนาดไหน   Leonarda Cianciulli   หญิงอิตาลีคนนี้ได้ฆ่าผู้หญิงวัยกลางคนไป 3 คนในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี และมีหนึ่งศพที่เธอนำมาทำเป็นสบู่ก้อน แจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้านและคนรู้จักของเธอเอง เธอเคยบอกเอาไว้ว่า “เนื้อของเธอคนนั้นอวบอ้วนและขาวเหลือเกิน เมื่อมันเริ่มละลายฉันจึงนำมาใส่ขวดโคโลญจน์เอาไว้ ก่อนที่จะนำไปต้มเป็นระยะเวลานาน ออกมาเป็นสบู่ก้อน เอาไปแจกจ่ายให้กับคนมากมาย”   Anthony Sowell   ในตอนนั้นร้านอาหารที่มีชืื่อว่า Ray’Sausage เมืองคลีฟแลนด์ สหรัฐอเมริกา ต้องทุ่มเงินไปเกือบ 1 ล้านบาท เพื่อพยายามกำจัดกลิ่นเหม็นที่ลอยมาจากบริเวณใกล้เคียง ภายหลังจึงพบว่ากลิ่นเหม็นนั้น ลอยมาจากบ้านข้างๆ ที่เก็บศพอันเน่าเฟะของเหยื่อที่ถูกชายคนนี้ฆ่าตายไป และทำให้เขาถูกตัดสินประหารชีวิต ด้วยคดีฆาตกรรมหญิงสาวมากถึง 11 คน   Rodney Alcala   เขาคนนี้เคยไปออกรายการทีวีหาคู่มาก่อน และถูกสงสัยว่าได้ฆ่าคนไปมากถึง 130 คน…

  • ความน่ารักของคุณแม่ ‘หมา’ ที่เลี้ยงเจ้า ‘หมู’ มากถึง 8 ตัว ด้วยนมจากเต้าของตัวเอง

    ความน่ารักของคุณแม่ ‘หมา’ ที่เลี้ยงเจ้า ‘หมู’ มากถึง 8 ตัว ด้วยนมจากเต้าของตัวเอง

    การช่วยเหลือซึ่งกันและกันนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ที่ไม่ใช่แค่ผู้รับ แต่ผู้ให้และคนรอบข้างเองก็จะรู้สึกแฮปปี้ไปด้วย เหมือนกับเรื่องราวของสัตว์ต่างสายพันธุ์ ที่ไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เห็นภาพแบบนี้ เมื่อ Wes Trevor เจ้าของฟาร์ม Spectrum Plants Gold Coast ในออสเตรเลีย ไปเจอเข้ากับลูกหมู 8 ตัวในสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาจึงไม่ลังเลที่จะพามันกลับมาทันที ในตอนแรกเขาจะมีอาหารพิเศษให้พวกมันกิน เพื่อให้สุขภาพของพวกมันแข็งแรงขึ้น แต่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่ออดีตเจ้าหมาจรจัดสายพันธุ์บ็อกเซอร์ที่ชื่อว่า Treasure เข้ามาแทรกแซงการดูแลเจ้าลูกหมูทั้งหลาย   เข้ากันได้ดีทั้งคนทั้งหมาทั้งหมูเลยนะ   เล่นกันเหมือนกับว่าเป็นหมาเหมือนกันเลยนะ เจ้าหมูน้อยยย   เมื่อมันรับรู้ได้ถึงการมาของหมูน้อยเหล่านี้ เหมือนไปกระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นแม่ของมันให้ทำงาน เพราะมันเริ่มดูแลลูกหมูเหมือนกับลูกแท้ๆ ของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นมันยังผลิตน้ำนมของตัวเองให้ลูกหมูได้ดื่มกินกันอีกด้วย   ไม่ต้องแย่งกัน มีพอสำหรับทุกตัว   แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะพบเห็นได้ทั่วไป และในตอนแรกเขารู้สึกกังวลอยู่บ้าง ว่าการปล่อยให้มันทำอย่างนี้จะดีต่อทั้งสองฝ่ายหรือเปล่า แต่เมื่อเขาพาพวกมันไปหาสัตวแพทย์ ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่า ทั้งเหล่าลูกหมูและน้องหมาไม่มีอาการผิดปกติอะไร ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าหมูยังได้รับสารอาหารเพิ่มเติม ในขณะที่เจ้าหมาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรที่เต้านมอีกด้วย   ซบหัวกันด้วยความห่วงใย   เป็นที่รักของลูกหมูทั้งหลายไปแล้วนะคุณแม่   กลายมาเป็นภาพความน่ารักเหล่านี้ และเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า น้องหมามีจิตใจแห่งความห่วงใยและดูแลผู้อื่นมากเพียงใด   ที่มา: boredpanda

  • 21 ภาพน่าร๊ากกกกก ของเหล่า “เสือดาวหิมะ” ยินดีกับการพ้นภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ ที่ได้รับมา 45 ปี

    21 ภาพน่าร๊ากกกกก ของเหล่า “เสือดาวหิมะ” ยินดีกับการพ้นภาวะเสี่ยงสูญพันธุ์ ที่ได้รับมา 45 ปี

    ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวออกมาว่า เสือดาวหิมะ มีโอกาสที่จะไม่สูญพันธุ์ หลังจากที่มันเสี่ยงต่อเรื่องนี้มานานถึง 45 ปี นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี สำหรับการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ดูเป็นเอกลักษณ์สายพันธุ์นี้ โดยจากการสังเกตการณ์เรื่องของจำนวนประชากรที่ลดลงของพวกมันมานานถึง 3 ปี ทำให้ สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) ได้เปลี่ยนสถานะการมีอยู่ของพวกมันให้สูงขึ้นมาระดับนึง ถึงอย่างไรก็ตามนักอนุรักษ์ที่มีชื่อว่า Tom McCarthy ได้ออกมาบอกว่า แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นแต่พวกมันก็ยังคงมีความเสี่ยงที่สูงมากว่าจะสูญพันธุ์ รวมถึงแนวโน้มของประชากรที่ยังคงลดต่ำลงอยู่   หกสูงโชว์ซะเลย   หืม เรียกป๋มหรอ?   ส่วนหนึ่งเพราะว่าสัตว์ชนิดนี้ได้รับความนิยมในการล่า เพื่อผิวที่หนาและกระดูกของพวกมัน ทำให้จำนวนประชากรของตัวที่โตเต็มวัยลดลงอย่างรวดเร็ว   แม่จ๋ามาเล่นกันก่อน   หิวง่ะ!!   นอกจากนั้นพวกมันยังเป็นสัญลักษณ์ประจำชนเผ่าในหลายประเทศ เช่น คีร์กีซสถาน คาซัคสถาน และบางแห่งในรัสเซีย เนื่องจากเสือดาวหิมะเหล่านี้ มักพบได้ในแถบเอเชียกลาง   แบร่!! ตกใจมั้ยล่าาา   คร่อกกก ฟรี๊   และแม้ว่าพวกมันจะยังคงไม่ได้อยู่ในจุดที่ปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์ แต่อย่างน้อยเราก็ลองมาดูกันดีกว่าว่า พวกมันมีความน่ารักน่าเอ็นดูมากขนาดไหน ถือซะว่าเป็นการฉลองให้กับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของพวกมันละกันนะ   แม่จ๋าสระผมบ้างนะ…

  • หนุ่มชาวอังกฤษสุดโหด พานักท่องเที่ยวไปนอนค้างคืนข้างปล่องภูเขาไฟที่ยังระอุอยู่

    หนุ่มชาวอังกฤษสุดโหด พานักท่องเที่ยวไปนอนค้างคืนข้างปล่องภูเขาไฟที่ยังระอุอยู่

    หากพูดถึงภูเขาไฟเราก็คงจะนึกถึงความน่ากลัวของลาวา ที่ยังคงปะทุด้วยความร้อนอันมหาศาล โดยเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า มันจะระเบิดออกมาเมื่อไหร่ แค่คิดอย่างนั้นก็รู้สึกร้อนวูบวาบกันไปหมดแล้ว แต่ว่าสิ่งนั้นก็ไม่ใช้อุปสรรคของช่างภาพและไกด์นำทางที่ชื่อว่า Christopher Horsley เลยแม้แต่น้อย หนุ่มชาวอังกฤษคนนี้ตัดสินใจที่จะพานักปีนเขา ภายใต้การดูแลของตัวเอง ไปนอนค้างคืนกันข้างทะเลสาบลาวา Marum ด้านในภูเขาไฟ Ambrym ประเทศวานูอาตู ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่บ้าระห่ำเอามากๆ   แค่เห็นยังหวาดเสียว   อีกทั้งเขาก็ได้เก็บภาพเอาไว้มากมาย ด้วยความที่เป็นช่างกล้องมืออาชีพและนักบังคับโดรน ช่วยให้เราสามารถได้เห็นบรรยากาศของบริเวณนั้นในหลากหลายมุมมอง และสวยงามแบบที่ไม่เคยมีใครเคยเข้าไปถ่ายได้ใกล้ขนาดนี้มาก่อน แน่นอนว่าต้องไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อนอย่างแน่นอน เพราะการที่ต้องไปอยู่ข้างใต้ปล่องภูเขาไฟ ที่ล้อมรอบไปด้วยกำแพงหิน และลาวาที่กำลังปะทุอยู่ในพื้นที่ความกว้าง 70 เมตร ไม่   ปล่องภูเขาไฟมีอยู่ด้วยกันสองจุดคือ Marum และ Benbow พวกเขาทั้งหมดอยู่กันในจุดแรก   สถานที่ตั้งแคมป์บนพื้นดินที่เต็มไปด้วยขี้เถ้า   ผู้ที่ร่วมทางไปกับเขานั้นมีด้วยกันทั้งหมด 3 คน สองคนเป็นนักท่องเที่ยว และอีกหนึ่งคนคือ Geoff Mackley ผู้บุกเบิกการเดินทางในครั้งนี้ สำหรับ Chirstopher ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเดินทางมาภูเขาไฟแห่งนี้ นี่คือครั้งที่ 3 รวมทั้งหมดเท่ากับว่าเขาใช้เวลามาอยู่บนภูเขาไฟเกือบ 4 เดือนแล้ว   สถานที่นี้ทำให้เหมือนกับอยู่บนดาวอังคารได้เลย…

  • ความเมาเป็นเหตุ…ชายหนุ่มสักรูปแฟนเปลือยอกไว้ที่กลางหลัง ก่อนที่จะเลิกกันไม่กี่วันต่อมา

    ความเมาเป็นเหตุ…ชายหนุ่มสักรูปแฟนเปลือยอกไว้ที่กลางหลัง ก่อนที่จะเลิกกันไม่กี่วันต่อมา

    เวลาที่คนเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป บางครั้งเราอาจจะเมาและทำอะไรลงไปโดยที่ไม่ทันยั้งคิดกันก่อน และผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ เลย อย่างเช่นสิ่งที่ชายหนุ่มชื่อว่า Malakye Brooks ทำลงไป เมื่อเขาตัดสินใจสักรูปแฟนสาวของตัวเอง ลงไปบนแผ่นหลัง ก่อนที่จะมาเสียใจในตอนท้าย เพราะไม่กี่วันทั้งคู่ก็เลิกกันซะแล้ว จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือ การพักผ่อนในช่วงวันหยุดของเขา บนเกาะอีบีซา และนั่นก็ทำให้เขาได้พบกับแฟนสาวคนนี้ที่กำลังไปปาร์ตี้กับเพื่อนอยู่เหมือนกัน     จนกระทั่งมีคืนหนึ่งที่ทั้งคู่พบกัน พวกเขาได้ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ก่อนที่จะตัดสินใจกันว่า เขาต้องการที่จะสักรูปอะไรสักอย่างที่เห็นแล้วจะทำให้คิดถึงความทรงจำครั้งนี้ได้ เมื่อเขาตัดสินใจไม่ถูกว่าจะสักลายไหนดี แฟนสาวจึงแนะนำให้สักรูปของเธอที่กำลังเปลือยหน้าอกอยู่ และเมื่อถึงร้านก็ได้ยื่นรูปของเธอให้กับช่าง หญิงสาวจ่ายค่าสักให้เป็นจำนวนเงินเกือบ 20,000 บาท ก่อนที่จะละเลงหมึกลงบนผิวหนังของเขานานร่วม 4 ชั่วโมง หลังจากที่สักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่ได้ไปดื่มกันต่อในคลับที่มีชื่อว่า Hi และเขาก็ได้นั่งถอดเสื้ออยู่ตรงบาร์ ทำให้ทั้งพนักงานและคนเดินผ่านไปมาต่างให้ความสนใจ และเข้ามาบีบนมบนรอยสักเล่นกัน     เขาพูดว่า “นับตั้งแต่นั้นมาทำให้ทุกคนต่างมองมาที่หลังของผม ด้วยสายตาที่คิดว่านี่เป็นเรื่องตลกหรือไม่ผมก็คงเป็นตัวประหลาดไปแล้ว ผมเพิ่งไปเที่ยวเมืองเบนิดอร์มมา มีเด็กคนหนึ่งเดินอยู่บนชายหาดและหันไปบอกกับแม่ว่า ‘ดูนั่นสิแม่! นม!’ “ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน เขาและแฟนสาวก็ได้เลิกราและแยกทางกันไป คงไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะเสียใจกับรอยสักมากแค่ไหน เพราะมันคงจะอธิบายได้ยากมากจริงๆ     อย่างไรก็ตามปัจจุบัน เราสามารถลบรอยสักได้แล้ว แต่แน่นอนว่ามันจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม และต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดกับค่าใช้จ่ายที่มากกว่าตอนสักลงไปอีกต่างหาก แหม..น่าสงสารเขานะครับ…

  • สัตวแพทย์เถื่อนชาวจีน เปิดซุ้มในตลาดรับตัดเส้นเสียงน้องหมา เพื่อไม่ให้พวกมันเห่า

    สัตวแพทย์เถื่อนชาวจีน เปิดซุ้มในตลาดรับตัดเส้นเสียงน้องหมา เพื่อไม่ให้พวกมันเห่า

    การเห่าของน้องหมานั้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะน้องหมาทุกตัวย่อมเห่าอยู่แล้ว จะเห่ามากเห่าน้อยก็ว่ากันไป แต่การเห่านี้บางครั้งก็อาจทำให้ใครบางคนรู้สึกไม่พอใจกันสักเท่าไหร่ หลายบ้านอาจใช้วิธีการนำตะกร้อมาครอบปาก ทำให้พวกมันไม่สามารถเห่าได้ แต่นั่นก็จะทำให้น้องหมามีอาการเครียดและหงุดหงิดได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ในประเทศจีนใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็วกว่านั้น เมื่อมีคลิปวิดีโอถ่ายภาพการทำงานของชายคนหนึ่ง ที่ใช้วิธีการตัดเส้นเสียงของพวกมัน ทำให้ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีกเลย ด้วยราคาเพียงแค่ 200 หรือ 500 บาทเท่านั้นเอง     ต่อมามีการเผยแพร่ออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง Qingbaijiang มณฑลเสฉวน ได้ลงพื้นที่เพื่อสืบหาความเป็นมาของชายคนดังกล่าว ทำให้รู้ว่าเขาคนนั้นมีชื่อว่า Zeng แต่สิ่งสำคัญก็คือ เขาและผู้ช่วยอีกคนไม่มีใบอนุญาตในการประกอบอาชีพเกี่ยวกับการรักษาสัตว์ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากทางการ เพราะกระบวนการผ่าตัดนี้ต้องมีการใช้ยาชา อีกทั้งการง้างปากและใช้อุปกรณ์ตัดเส้นเสียงของพวกมันอีก นับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้น้องหมาเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก   คลิปวิดีโอการตัดเส้นเสียงสุนัข ของสัตวแพทย์เถื่อน   เรื่องของสถานที่เองก็เช่นกัน เพราะพวกเขาเล่นตั้งโต๊ะซะกลางตลาดดอกไม้ กลางวันแสกๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องของผู้คนพลุกพล่าน แต่เป็นเรื่องของเชื้อโรคที่อาจทำให้สุนัขที่เข้ารับการผ่าตัดติดเชื้อได้ ที่สำคัญที่สุดเลยคือ เขาคนนี้จะใช้อุปกรณ์เดิมที่มีอยู่เพียงชุดเดียว ในกการตัดเส้นเสียงให้กับสุนัขทุกตัว ทำให้พวกมันติดเชื้อกันง่ายมากกว่าเดิมเสียอีก     แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มองว่า วิธีการนี้เป็นความโหดร้ายหรือป่าเถื่อน ในขณะที่หญิงสาวเจ้าของหมาพุดเดิ้ลคนหนึ่งบอกว่า เธอเพียงต้องการทำให้มันไม่เห่าเท่านั้น โดยวิธีการดังกล่าวเขาบอกว่า เป็นสิ่งที่ชายคนนี้ได้เรียนรู้มาจากตอนที่ทำงานอยู่ในร้านสัตว์เลี้ยงเมื่อนานมาแล้ว     ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดอุปกรณ์ของเขาทั้งหมด และกำลังอยู่ในช่วงสืบสวนกันต่อไป คาดว่าอย่างน้อยจะต้องโดนข้อหาการดำเนินงานที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างแน่นอน…

  • เรื่องราวของ Stanislav Petrov นายทหารผู้หยุดยั้งไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 เมื่อปี 1983

    เรื่องราวของ Stanislav Petrov นายทหารผู้หยุดยั้งไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 เมื่อปี 1983

    ทหารผู้ปกป้องประเทศทั้งหลาย นอกจากการที่ต้องออกไปรบกับข้าศึกโดยตรงแล้ว ภายในห้องสั่งการเองก็ยังต้องพบกับความตึงเครียดต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องการวางแผนการรบและการบริหารจัดการกองทัพของตนเอง และสิ่งที่สำคัญคือการตัดสินใจที่ต้องเด็ดขาดและรอบคอบ เพราะไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาอาจเลวร้ายมากไปกว่าเดิมก็ได้ เหมือนกับชายคนนี้ที่มีชื่อว่า Stanislav Petrov ผู้ที่สามารถหยุดยั้งไม่ให้เรื่องราวบานปลายจนอาจเกิดเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้ เขาคือหนึ่งในทหารอากาศแห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เขาได้ทำลงไปก็คือ ในวันที่ 26 กันยายน 1983 เรื่องราวที่อาจทำให้มหาอำนาจอย่างโซเวียตและอเมริกาในขณะนั้น ต้องห่ำหั่นกันจนเกิดเป็นสงครามได้     ในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน ดาวเทียมของโซเวียตสามารถจับสัญญาณเจอขีปนาวุธจำนวนมาก ที่ถูกยิงมาจากฝั่งอเมริกา ทำให้เกิดความแตกตื่นและโกลาหลเป็นอย่างมาก ตอนนั้นเขาสงสัยว่าระบบคอมพิวเตอร์อาจมีความบกพร่อง ทว่ามันไม่ใช่เรื่องที่แน่นอน 100 เปอร์เซนต์ เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจมีการยิงมาจริง จะทำให้โซเวียตต้องถูกโจมตีก่อนและเป็นฝ่ายเสียเปรียบ อีกทั้งเชื่อว่าถ้าหากยิงสวนกลับไป ขีปนาวุธมากมายอีกหลายร้อยลูกจะต้องตามมาจากฝั่งโน้นแน่นอน เพราะอย่างนั้นจึงทำให้การตัดสินใจในครั้งนี้เป็นเรื่องที่สร้างความกดดันให้กับตัวเขาเองเป็นอย่างมาก     เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ในปี 2013 ว่า “สิ่งที่ผมต้องทำทั้งหมดตอนนั้นมีเพียงแค่ โทรหาผู้บัญชาการสูงสุดโดยตรง ทว่าผมกลับไม่สามารถขยับตัวได้เลย ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนกระทะร้อน” ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจโทรไปเพื่อแจ้งเรื่องความผิดปกติของระบบ หลังจากนั้นผ่านไป 23 นาทีเขาก็ยังคงไม่ได้รับข่าวสารใดเพิ่มเติม ซึ่งหากมีการโจมตีกันจริง พวกเขาที่อยู่ที่นั่นจะต้องรับรู้ได้แล้ว สุดท้ายจึงพบว่าสัญญาณที่เจอเข้านั้นเป็นเพียงแค่ความผิดพลาดของดาวเทียม ที่เห็นเงาสะท้อนบนก้อนเมฆเป็นขีปนาวุธ แสดงให้เห็นถึงข้อผิดพลาดในระบบเตือนภัยล่วงหน้าของโซเวียต และถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจทำลงไปนี้จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่ก็ต้องถูกตำหนิเพราะไม่สามารถบันทึกอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ลงในรายงานได้…

  • สุดยอดคุณครูใช้เวลากว่า 70 ชั่วโมง สร้างห้องเรียนสไตล์ ‘ฮอกวอตส์’ เพื่อลูกศิษย์ของเขา

    สุดยอดคุณครูใช้เวลากว่า 70 ชั่วโมง สร้างห้องเรียนสไตล์ ‘ฮอกวอตส์’ เพื่อลูกศิษย์ของเขา

    ในตอนที่เรายังเป็นเด็ก การที่ต้องไปโรงเรียน เจอกับสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ในทุกๆ วันที่ดูแล้วไม่มีอะไรโดดเด่นดึงดูดใจ อาจทำให้รู้สึกเบื่อและไม่มีกำลังใจที่จะเรียนอยู่บ้าง เพราะอย่างนั้นจึงทำให้ Kyle Hubler ครูโรงเรียนมัธยมต้น Evergreen ประเทศอเมริกา ลงทุนลงแรงสร้างห้องเรียนที่จะช่วยให้ลูกศิษย์ของเขา สามารถสนุกไปกับการเรียนได้มากยิ่งขึ้น ส่วนตัวของเขาเองเป็นแฟนคลับอันดับหนึ่งของนิยายและภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เพราะเขาคิดว่าเรื่องราวเหล่านั้นเป็นตัวช่วยที่ทำให้เขาผ่านอุปสรรคต่างๆ และกลายเป็นคนที่มีเพื่อนมากมาย เข้าสังคมได้ดีอย่างในปัจจุบัน     ยินดีต้อนรับสู่ฮอกวอตส์   ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวที่เขาได้อ่านไป ก็กลายมาเป็นหลักปรัชญาสำคัญในการใช้ชีวิตของเขาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการอยู่ร่วมกันกับนักเรียนและเพื่อนของเขาก็สามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนหน้านี้เขาเคยนำเรื่องราวในแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ไปประยุกต์กับการสอนมาก่อนบ้างแล้ว จึงทำให้เกิดไอเดียที่จะทำในสิ่งที่มันยิ่งใหญ่มากกว่านั้น เมื่อรู้ว่าตนเองได้ย้ายห้องสอน เขาจึงตัดสินใจเนรมิตรห้องเรียนใหม่ของตัวเอง ให้กลายเป็นฮอกวอตส์ขนาดย่อม ซึ่งต้องใช้เวลามากถึง 70 ชั่วโมง     หมวกคัดสรรก็มี มาดูสิว่านักเรียนจะได้อยู่บ้านไหน   สิ่งของต่างๆ มากมายที่ใช้ในการตกแต่งห้องเรียนนี้ ส่วนหนึ่งเป็นของสะสมที่เอามาจากบ้าน และอีกส่วนหนึ่งคือของที่เขาหาซื้อตามร้านค้าด้วยเงินของตัวเองทั้งหมด ซึ่งเพื่อประหยัดงบประมาณ บางชิ้นจึงเป็นของมือสองที่เขาหาซื้อได้ตามรถเปิดท้ายขายของ หรือจากเพจเฟซบุ๊ค   สมเป็นโต๊ะอาจารย์ของฮอกวอตส์เลยจริงๆ .   จนเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เหล่านักเรียนที่ได้เข้ามาเจอกับสภาพห้องรูปแบบใหม่นี้ก็ถึงกับต้องตะลึงงันอ้าปากค้างกันไปเลย ก่อนที่จะเริ่มวิ่งเล่นดูโน่นดูนี่กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาพึงพอใจอย่างมาก…

  • นิตยสาร Time ถ่ายภาพเหล่าวีรสตรีผู้เปลี่ยนค่านิยมต่างๆ ในสังคม ด้วยกล้อง iPhone

    นิตยสาร Time ถ่ายภาพเหล่าวีรสตรีผู้เปลี่ยนค่านิยมต่างๆ ในสังคม ด้วยกล้อง iPhone

    ตั้งแต่อดีตส่วนใหญ่ที่เราจะเคยได้ยินชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียง แทบทั้งหมดล้วนแล้วแต่จะเป็นเพศชายมาโดยตลอด ด้วยเรื่องของการแบ่งแยกเพศในสมัยก่อน จึงอาจทำให้ไม่มีการพูดถึงวีรสตรีกันซักเท่าไหร่ แต่ในปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้หญิงมีสิทธิ์เท่าเทียมกับผู้ชายมากยิ่งขึ้น และทำให้พวกเธอสามารถแสดงความสามารถที่มีอยู่กันได้อย่างเต็มที่ กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงให้เรารู้จักกันมากมาย นิตยสาร Time ของสหรัฐอเมริกา ได้มีโปรเจคท์พิเศษเกิดขึ้น ในการตามเก็บภาพของเหล่าสตรีผู้มีชื่อเสียงในปัจจุบัน ผู้ที่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องราวต่างๆ ให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกด้วยฝีมือของพวกเธอ มาเป็นหน้าปกหนังสือ   Oprah Winfrey ผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เป็นเจ้าของและผลิตทอล์คโชว์ของตัวเอง   Serena Williams นักเทนนิสคนแรกที่ชนะทัวร์นาเม้นท์ Grand Slam มากถึง 23 ครั้ง และแม้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ในหลายเรื่อง แต่เธอก็ยังคงผ่านมันมาได้อย่างมั่นใจ   ด้วยความร่วมมือของช่างภาพที่ชื่อว่า Luisa Dörr ถ่ายรูปของพวกเธอเหล่านั้นด้วยความเรียบง่าย และตรงไปตรงมา เธอบอกอีกว่า “คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นกันเองจากทุกคน เหมือนกับอยู่ตามลำพังกับพวกเธอเลย”  การนำเสนอของเธอก็เรียบง่ายเอามากๆ เพราะเธออยากให้คุณได้รู้จักคนเหล่านี้ หลังจากที่พวกเธอทำลายกำแพงแห่งการแบ่งแยกดูถูกจนประสบความสำเร็จ ผ่านทางภาพถ่ายอันแสนเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหมาย   Selena Gomez ผู้บุกเบิกและนำแฟชั่น มีผู้ติดตามเยอะมากที่สุดในอินสตาแกรม   Barbara Walters ผู้หญิงคนแรกที่เป็นเสาหลักให้กับรายการข่าวภาคค่ำ   ยิ่งไปกว่านั้นทุกภาพที่เธอถ่ายใช้เพียงแค่กล้องจากโทรศัพท์ ไอโฟน เท่านั้น ทว่ากลับสามารถให้ผลรับที่ดีเอามากๆ เธอคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่และสามารถนำมาใช้ให้เกิดภาพอย่างมืออาชีพได้ อีกทั้งยังทำให้สามารถใกล้ชิดกับคนที่เธอไปถ่ายมาได้อย่างดีอีกด้วย…

  • ทาสมนุษย์ลงแรงช่วยเหลือ เจ้าเหมียว ‘เอเลี่ยน’ หน้าตาประหลาดให้หายกลับมาเป็นปกติ

    ทาสมนุษย์ลงแรงช่วยเหลือ เจ้าเหมียว ‘เอเลี่ยน’ หน้าตาประหลาดให้หายกลับมาเป็นปกติ

    ภาพของน้องหมาหรือเจ้าเหมียวจรจัดทั้งหลาย คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนจะต้องเคยเห็นกันมาบ้าง หากตัวไหนโชคร้ายก็ได้รับบาดเจ็บจากการใช้ชีวิตข้างนอกเพียงลำพังหรือไม่ก็อาจป่วยเป็นโรคอย่างน่าสงสาร ไม่ต่างกับลูกแมวตัวนี้ที่เกิดมาต้องทุกข์ทรมานกับอาการผิดปกติมากมาย เรียกว่า Fading Kitten Syndrome ทำให้มันท้องร่วง ไข้ขึ้นสูง และมีน้ำหนักที่น้อยเอามากๆ อายุ 3 สัปดาห์ หนักเพียงแค่ 215 กรัมเท่านั้น ที่สำคัญคือมันอยู่ในฝูงแมวจรจัดโดยที่ไม่มีแม่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ อาการต่างๆ จึงยิ่งเลวร้ายลงไปอีก แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือในตอนที่เจ้าหน้าที่กำลังวางกับดักเพื่อพาแมวจรจัดไปทำหมัน แต่ตอนนั้นสภาพของมันก็ไม่สู้ดีนัก และมีรอยแผลที่คาดว่าจะเกิดจากการกัดหรือโดนเล็บข่วน อีกด้วย     ต่อมา Susan Spaulding หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มลูกแมวแห่งชาติ (องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ในเมืองเกนส์วิลล์ รัฐฟลอริด้า) ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะพามันกลับไปดูแล แต่การรักษาและการเลี้ยงดู Gaia แมวน้อยตัวนี้ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างง่ายดาย เมื่อการทดสอบและการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่ามันเป็นอะไร อาการป่วยของมันยังคงมีอยู่ รวมถึงความเฉื่อยช้าที่ไม่ทราบสาเหตุ     ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณความสามารถที่ Susan มี เพราะคือคนที่คอยอบรมคนอื่นๆ ให้ดูแลแมวที่มีอาการเดียวกันกับเจ้า Gaia จึงทำให้เธอมีความคุ้นเคยและสามารถดูแลมันได้อย่างดี รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันให้ด้วย แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นใน 1 สัปดาห์ต่อมา อาการของมันก็ยังไม่คงที่ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย และมันก็ยังมีขนที่หลุดลอกออกไปตรงบริเวณใบหน้า ทำให้มันดูเหมือนกับ…

  • ภาพวาด Illustrator แนวไซไฟ สู่โลกอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจริงได้ในอีก 100 ปีข้างหน้า

    ภาพวาด Illustrator แนวไซไฟ สู่โลกอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจริงได้ในอีก 100 ปีข้างหน้า

    ปัจจุบันเราคงจะเคยเห็นภาพวาดแนวไซไฟ ที่จะกระตุ้นความคิดและจินตนาการ ด้วยโปรแกรม Illustrator ทำให้มีความสมจริงและสวยงาม กลายเป็นผลงานที่อยู่เหนือความคิดของใครหลายคน และน้อยคนที่เชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นไปได้จริงๆ ภาพเหล่านี้เป็นฝีมือของ Jonathan Ching ศิลปินอิสระผู้วาดภาพอนิเมชั่นดิจิตอล ในแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ โดยเขาคนนี้มีสิ่งที่สามารถการันตีความสามารถของเขาได้ เพราะเขาจบด้านนี้มาโดยตรง ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 นี่เองที่ทำให้เราเข้าใจได้ว่าทำไมภาพของเขาที่ได้น่าหลงใหลขนาดนี้ ลองไปดูกันเลยดีกว่า ว่าแต่ละภาพจะออกมาเป็นอย่างไรกันบ้าง   ชุดทหารในโลกอนาคต   เฮลิคอปเตอร์แบบไม่มีใบพัด   ภายในของสิ่งก่อสร้าง ที่เหมือนกับหลุดมาจากในหนัง   ต้องขอบคุณทักษะในการสื่อภาพตัวละคร ยานพาหนะ สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ออกมาได้อย่างสมจริงสมจัง จนทำให้เรารู้สึกเข้าถึงภาพต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม   หุ่นยนต์เดินกันอยู่ในเมือง   การเดินทางที่ทุกอย่างจะเริ่มเป็นไปอย่างง่ายๆ แม้จะเป็นการเดินทางออกนอกโลก   คราวนี้ตำรวจก็คงจะทำงานได้ง่ายขึ้น   เมื่อได้เห็นภาพของเขากันแล้ว หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นเพียงภาพวาด ไม่น่าเกิดขึ้นได้จริงหรอก แต่ทุกอย่างมันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก ลองคิดดูสมมุติว่าเราย้อนเวลากลับไป บอกผู้คนในอดีตเมื่อร้อยปีที่แล้วว่า ในอนาคตจะมีรถที่สามารถขับเคลื่อนได้โดยไม่ต้องมีคนขับ พวกเขาเหล่านั้นก็คงจะคิดว่ามันเหลือเชื่อไม่ต่างจากที่เราคิดตอนนี้   พงษ์ศักดิ์นายเห็นสิ่งใดข้างหน้าบ้างเล่า   การสร้างหุ่นยนต์จะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป…

  • เตรียมเข้าสู่โลกเวทมนตร์…เมื่อ “ฮอกวอตส์” กำลังรับสมัครบุคลากรเพิ่มเติม แฟนแฮรี่พลาดได้ไง

    เตรียมเข้าสู่โลกเวทมนตร์…เมื่อ “ฮอกวอตส์” กำลังรับสมัครบุคลากรเพิ่มเติม แฟนแฮรี่พลาดได้ไง

    หนังเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ คงเป็นหนังที่หลายคนรู้จักและต้องผ่านตากันมาบ้างแล้ว ด้วยพล็อดเรื่องที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ กับโรงเรียนเวทมนตร์และจินตนาการไม่มีที่สิ้นสุด เป็นที่ชื่นชอบของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มาตั้งแต่เมื่อ 16 ปีที่แล้ว จะเป็นอย่างไรถ้าเราสามารถเข้าไปทำงานที่นั่นได้จริงๆ ลองคิดภาพกันดูว่าถ้าเรามีโอกาสได้เข้าไปในฮอกวอตส์ เราคงจะได้ปรุงยาแปลกๆ เจอกับสัตว์วิเศษต่างๆ หรือได้เสกให้สิ่งของลอยได้ แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว และตอนนี้โอกาสของทุกคนมาถึงแล้ว เพราะว่าโรงเรียนฮอกวอตส์ที่มีอยู่จริงของ Warner Brothers Studio Tour ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษกำลังเปิดรับสมัครพนักงานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนในฝัน ดัมเบิลดอร์จ๋าาา เรากำลังจะไปหาแล๊ววว   แน่นอนว่างานความเป็นจริงคงไม่ได้มีเวทมนตร์ให้เราได้สัมผัสกัน ทว่าหากใครที่ชื่นชอบหนังเรื่องนี้มากจริงๆ ก็คงอยากทำงานในสถานที่ในฝันแห่งนี้ใช่ไหมล่ะ โดยในวันที่ 22 กันยายนที่จะถึงนี้ ทางสตูดิโอได้เปิดรับสมัครตำแหน่งพนักงานขาย พนักงานคลังสินค้า และพนักงานคอยให้ความรู้กับผู้เข้ามาเยี่ยมชม เพื่อมาปฏิบัติงานในสตูดิโอดังกล่าว     ในช่องบรรยายคุณสมบัติผู้สมัครได้เขียนไว้ว่า “การต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพนักงานของเรา จะช่วยสร้างความสนุกสนานและความตื่นเต้นให้กับผู้เข้าชม ถ้าคุณเป็นคนที่กระตือรือร้นและรักงานบริการ นี่อาจเป็นงานที่เหมาะกับคุณ “ เสริมอีกด้วยว่า “งานทุกอย่างในนี้มีความสำคัญอย่างมาก อย่างเช่นพนักงานงานให้ความรู้ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องราวที่เห็นได้ในหนัง แต่มันรวมไปถึงเบื้องลึกเบื้องหลังที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน แต่เราพร้อมที่จะเล่าให้คุณฟังในทุกเรื่อง หรือแม้แต่พนักงงานขายที่พร้อมจะช่วยให้ทุกคนที่เข้ามา ให้กลับไปพร้อมกับของฝากที่ดีที่สุดจากเรา”     งานทั้งหมดนั้นเปิดรับสมัครทั้งแบบเต็มเวลา พาร์ทไทม์ หรือจะเป็นการจ้างงานชั่วคราวก็ยังได้ และกิจกรรมที่กำลังจะมาถึง ก็คืองานฮาโลวีนแบบแฮรี่ พ็อตเตอร์ที่จะชวนให้ทุกคนไปพบกับความหลอนในแบบฉบับของโรงเรียนเวทมนตร์ พร้อมด้วยกิจกรรมแจกของรางวัลต่างๆ มากมาย…

  • ไอเดียสุดเจ๋ง!! ชายหนุ่มเซลฟี่ตัวเองร้องเพลง ‘ทุกวัน’ นาน 3 ปี บอกถึงเวลาที่ล่วงเลยไป

    ไอเดียสุดเจ๋ง!! ชายหนุ่มเซลฟี่ตัวเองร้องเพลง ‘ทุกวัน’ นาน 3 ปี บอกถึงเวลาที่ล่วงเลยไป

    เวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน เราต้องพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงและสิ่งแปลกใหม่อีกมากมาย บางครั้งเราอาจไม่ได้สังเกตเลย ว่าสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมเหล่านั้น มันแตกต่างจากเมื่อก่อนเพียงใด แต่ไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มคนนี้ที่ใช้ชื่อยูทูปว่า oOtoke เพราะเขาถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองอยู่ทุกวัน แต่ความไม่ธรรมดามันอยู่ที่ นอกจากเขาจะถ่ายในมุมเดิมทุกครั้งแล้ว เขายังร้องเพลงลิปซิงค์เรียงต่อกันมาในทุกคลิปที่เขาถ่ายอีกด้วย     เขาเริ่มต้นการถ่ายเซลฟี่ดังกล่าวนี้ในเดือนมีนาคม 2012 ทุกวันยาวมาจนถึงเดือนเมษายน 2015 รวมเป็นระยะเวลานานกว่า 3 ปีเลยทีเดียว จนได้ออกมาเป็นวิดีโอเซลฟี่ราวๆ 1,000 คลิป หลังจากนั้นนำทั้งหมดมาตัดต่อให้กลายเป็นคลิปวิดีโอความยาวเพียงแค่ 2 นาทีเศษเท่านั้นเอง การเปลี่ยนแปลงที่เราจะได้เห็นมันช่างชัดเจนและเพลินตาเอามากๆ ทำให้มียอดวิวพุ่งสูงเกิน 1 ล้านวิวไปแล้ว นอกจากฝีมือการตัดต่อและเซลฟี่แล้ว ยังทำให้รู้ด้วยว่าไอเดียนี้ก็ไม่เลวเลยทีเดียวที่จะบันทึกความทรงจำมากมาย เอาไว้ดูเล่นในตอนแก่เฒ่าแบบเจ๋งๆ ใครเห็นก็ต้องชอบอกชอบใจ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย   คลิปวิดีโอเวลาที่ล่วงเลยผ่านไป ของชายหนุ่มที่เซลฟี่ตัวเองมานาน 3 ปี   เพลงที่เขาใช้มีชื่อว่า Halo, Džozefina (Hello Josephine) โดยศิลปินรุ่นเดอะสมัยคุณปู่คุณย่า อย่าง  Đorđe Marjanović  หากใครชื่นชอบก็สามารถเอาไปทำกันดูได้นะ ในอนาคตเรากลับมาย้อนดูอีกครั้งจะได้รู้ว่าเมื่อก่อนเราเป็นอย่างไรกันบ้าง   ที่มา: petapixel

  • การค้นพบโดยบังเอิญ… เมื่อเฮอร์ริเคนเออร์ม่าพัด ‘เรือแคนูโบราณ’ ของอินเดียนแดงขึ้นฝั่ง!?

    การค้นพบโดยบังเอิญ… เมื่อเฮอร์ริเคนเออร์ม่าพัด ‘เรือแคนูโบราณ’ ของอินเดียนแดงขึ้นฝั่ง!?

    เฮอร์ริเคนเออร์มาสร้างความเสียหายให้กับรัฐฟลอริดา ประเทศอเมริกา เอาไว้อย่างมาก เต็มไปด้วยซากปรักหักพังอันเกิดจากลมพายุที่รุนแรง รวมถึงน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นติดต่อกันหลายวัน แต่ท่ามกลางผลกระทบจากภัยพิบัติเหล่านั้น กลับมีการค้นพบที่น่าทึ่งอยู่ เมื่อช่างภาพหนุ่มผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์นามว่า Randy Lathrop ได้พบกับเรือแคนูโบราณของชนเผ่าอินเดียนแดงโดยบังเอิญ ในขณะที่เขากำลังปั่นจักรยานไปตามท้องถนน ลมพายุทำให้เรือโบราณลำนี้ ถูกพัดขึ้นมาจากใต้แม่น้ำ Indian River และในตอนนั้นเอง เขาก็คิดเพียงแค่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อรักษาให้มันอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด ระหว่างรอให้เจ้าหน้าที่รัฐมาเก็บไปตั้งไว้ในพิพิธภัณฑ์หลังจากนี้     เขาบอกว่าน้ำหนักที่แท้จริงของมันจะอยู่ที่ประมาณ 317 กิโลกรัม แต่จากการที่จมอยู่ในน้ำมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ดูดซับน้ำเข้าไปจนมีน้ำหนักมากถึง 453 กิโลกรัม การค้นพบครั้งนี้เขาได้ถ่ายรูปและอัพลงในเพจเฟซบุ๊คส่วนตัว จนในที่สุดเจ้าหน้าที่จากฝ่ายทรัพยากรทางประวัติศาสตร์รัฐฟลอริดา ได้เข้ามาเก็บกู้มันกลับไปในวันต่อมา และเริ่มรู้สึกได้ว่าความหวังที่มันจะถูกสืบทอดให้ลูกหลานได้เรียนรู้กันต่อไปกำลังจะเป็นจริง     ปัจจุบันเรือลำดังกล่าวก็ได้เข้าไปอยู่ในอ่างน้ำควบคุมอุณหภูมิเป็นที่เรียบร้อย เพื่อรักษาให้มันอยู่ในสภาพเดิมหลังจากที่กู้กลับไป Sarah Revell โฆษกจากหน่วยเก็บกู้ทรัพยกรประวัติศาสตร์ประจำรัฐฟลอริดา ได้กล่าวว่า การสืบหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี จะช่วยทำให้ทราบรายละเอียดของเรือ 15 ฟุต ที่เต็มไปด้วยลักษณะเด่นลำนี้ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก หรือแม้แต่การสังเกตจากโครงสร้างแปลกๆ บางอย่างเช่น ตะปูที่เป็นแบบหัวตัด ซึ่งเป็นสิ่งที่มีการคิดค้นครั้งแรกในยุคศตวรรษที่ 19 ก็สามารถทำให้ตีกรอบอายุได้แคบลงมากขึ้น     และพื้นที่ที่เรือถูกพัดขึ้นมาเกยฝั่ง ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่า…

  • ผลกระทบจากความหลอนของเรื่อง IT ทำให้เหล่า ‘ตัวตลก’ ทั้งหลายได้รับงานน้อยลง…

    ผลกระทบจากความหลอนของเรื่อง IT ทำให้เหล่า ‘ตัวตลก’ ทั้งหลายได้รับงานน้อยลง…

    ในตอนนี้คงมีหลายคนที่ได้เข้าไปสัมผัสกับความสยองของภาพยนตร์เรื่อง IT กันมาแล้ว และทุกคนก็ทราบกันดีตั้งแต่แรกว่า ปีศาจอย่างเจ้า Pennywise ทำให้เรารู้สึกขนหัวลุกกับตัวตลกได้มากขนาดไหน     ทว่านอกจากความรู้สึกเหล่านั้นที่ได้ทิ้งไว้ให้ผู้ชมทุกคน มันกลับได้สร้างความปวดหัวให้กับเหล่าตัวตลกในชีวิตจริง ที่ต้องเจอกับปัญหาการว่าจ้างงานที่ลดลงไปมาก จากการรายงานของเว็บไซต์ Hollywood Reporter ได้กล่าวถึงประเด็นที่โรงเรียนและห้องสมุดหลายแห่ง ต่างยกเลิกการจ้างงานตัวตลกมืออาชีพ และจนถึงขั้นที่ สมาคมตัวตลกโลก (World Clown Association) ได้ออกมาชี้ว่า เหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเช่นนี้ก็อันเนื่องมาจากภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว…   ส่วนหนึ่งของเอกสารจากทางสมาคมตัวตลกโลก ที่เผยว่าตัวตลกนั้นก็ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้คนยิ้มได้ ไม่ใช่ทำให้รู้สึกกลัว   Pam Moody ผู้ที่ทำงานให้กับองค์กรดังกล่าวออกมาพูดว่า เด็กทุกคนจะรู้สึกระแวงกับตัวตลกกันเป็นเรื่องธรรมดา และเมื่อพ่อแม่พยายามที่จะให้เด็กเข้าไปเล่นด้วย ก็อาจทำให้เกิด โรคกลัวตัวตลก (Coulrophobia) ขึ้นได้ แต่เขาก็ยังบอกอีกว่า อย่างไรก็ตามจากที่กระแสสังคมได้สัมผัสภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ของตัวตลกที่เปลี่ยนไปจากเดิม เป็นการสร้างตัวตลกให้กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัว มากเกินกว่าที่จะพบเจอในชีวิตจริง พวกเขาเพียงแค่ต้องการสร้างความสนุกและเล่นกับเด็กๆ เท่านั้นเอง     แต่ก็ได้มีการโต้แย้งออกมาว่า หากลองคิดกลับกัน ภาพลักษณ์ของตัวตลกที่แต่งกายประหลาด อีกทั้งการแต่งหน้าทาปากที่เป็นเอกลักษณ์ ดูยังไงก็มีความรู้สึกไม่ค่อยดีด้วยอยู่แล้ว… เมื่อมองย้อนกลับไปก่อนที่จะมีหนังเรื่องนี้ ก็ได้มีการพูดถึงตัวตลกในแง่ลบมากมาย อย่างเช่น…

  • ช่างภาพเก็บบรรยากาศ เทศกาล ‘ดอกไม้ไฟ’ จากทั่วญี่ปุ่น ความงดงามค้างฟ้าสุดอลังกาล…

    ช่างภาพเก็บบรรยากาศ เทศกาล ‘ดอกไม้ไฟ’ จากทั่วญี่ปุ่น ความงดงามค้างฟ้าสุดอลังกาล…

    ดอกไม้ไฟความงดงามที่เกิดขึ้นเพียงแวบเดียวก่อนที่จะเลือนลางหายไป เหลือไว้เพียงความทรงจำ หนทางหนึ่งที่จะเก็บรักษาความประทับใจนั้นเอาไว้ได้ก็คือ ‘ภาพถ่าย’ นั่นเอง ทุกช่วงฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่น จะมีเทศกาลดอกไม้ไฟมากมายถูกจัดขึ้นทั่วประเทศ กว่า 200 แห่ง และเพื่อให้ทุกคนทั่วโลกได้เห็นถึงความงดงามของมันจึงได้มีการเก็บภาพเหล่านี้เอาไว้ออกมาให้เราได้เห็น   ภาพที่สะท้อนผิวน้ำก็ยังคงความสวยงามเอาไว้ได้   แสงที่ตกลงมาช่วยเพิ่มความสวยงาม   โดยช่างภาพที่มีชื่อว่า Keisuke ใช้ช่วงเวลาในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมา ออกเดินทางไปในงานเทศกาลของแต่ละเมือง เพื่อเก็บแสงแห่งความทรงจำนั้นไว้มาเผยแพร่ในอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา   ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง   อยู่นอกเมืองก็ยังคงมองเห็น   แม้ว่าเขาจะมีอายุเพียงแค่ 25 แต่เขาก็ได้รับรางวัลมามากมายฝีมือการถ่ายภาพทิวทัศน์ และสิ่งนั้นเองที่ทำให้เรามีโอกาสได้เห็นว่า ดอกไม้ไฟเหล่านี้มีความสวยงามและน่าอัศจรรย์มากเพียงใด เห็นอย่างนี้แล้วปีหน้าก็อยากจะเปิดกระเป๋ายัดเสื้อผ้า ซักครั้งในชีวิตอยากไปดูด้วยตาตัวเอง   เรียงสว่างกันเต็มฟ้าเลย   ต้นมะพร้าวสไตล์   ความน่าดึงดูดของฝีมือและสิ่งที่เขาไปบันทึกมาได้ ทำให้ยอดผู้ติดตามของเขาพุ่งสูงขึ้นไปเกือบ 29,000 คนแล้ว   ส่วนนี่ก็ต้นปาล์มนี่เอง   สีสันสดใสชวนชม   รายละเอียดรอบๆ ทำให้ดึงดูดสายตามากขึ้นไปอีก   เหมือนกับเปลือกเงาะวางอยู่บนพื้นเลย   นี่ยิงกันไปกี่นัดเนี่ย   หากใครชื่นชอบผลงานของเขาคนนี้ ก็สามารถเข้าไปติดตามดูเพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม…

  • เจ้าเหมียวเกิดมาตัวเล็กผิดปกติ แต่มีพลัง ‘แลบลิ้น’ สุดน่ารัก แล้วแบบนี้ใครจะทนไหว…

    เจ้าเหมียวเกิดมาตัวเล็กผิดปกติ แต่มีพลัง ‘แลบลิ้น’ สุดน่ารัก แล้วแบบนี้ใครจะทนไหว…

    แต่ละคนก็จะมีเทคนิคการอ้อนหรือทำให้คนรอบข้างยิ้มได้แตกต่างกันไป เช่นเดียวกันกับเจ้าแมวตัวนี้ ที่เรียกได้ว่ามันสามารถเรียกร้องความสนใจด้วยพฤติกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่เกิดเลยทีเดียว มาทำความรู้จักกับ Winifred เจ้าเหมียวที่เกิดมามีขนาดตัวเล็กเพียงแค่ครึ่งเดียวจากที่ควรจะเป็น ประมาณนิ้วโป้งของเราเท่านั้นเอง มันถูกพามาคลินิกหลังจากที่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไป แม้ว่าจุดเริ่มต้นจะน่าเศร้า แต่มันก็สามารถรอดชีวิตมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ   ขนาดตัวประมาณนิ้วโป้งเท่านั้นเอง   น่ารักเกิ๊นนน   การมารักษาของมันในครั้งแรกทำให้มันได้รับแม่บุญธรรมคนใหม่ในทันที เธอก็คือ Ellen Carozza ผู้เชี่ยวชาญสัตวแพทย์ที่ได้รับการจดทะเบียน พามันกลับไปเลี้ยง และต้องขอบคุณความสามารถของเธอที่สามารถดูแลมันได้ แม้ว่ามันจะต้องการการดูแลที่ต่างจากลูกแมวทั่วไป ด้วยขนาดตัวที่เล็กเอามากๆ ในตอนแรกมันจึงต้องรับอาหารผ่านหลอดเท่านั้น จนเมื่อผ่านไปสองสัปดาห์จึงสามารถกินนมจากขวดได้ตามปกติ และมีขนาดเท่ากับแมวแรกเกิดทั่วไปแล้ว   ดวงตาช่างบ๊องแบ๊ว   ตัวเล็กน่าเก็บใส่กระเป๋า   ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าตัวน้อยยังสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่พบเห็น เพราะว่ามันมีพลังงานในการวิ่งเล่น และเติบโตที่สูงมาก รู้เลยว่ามันดีใจแค่ไหนที่ได้มีชีวิตอันสดใส ทว่าความพิเศษของมันอีกอย่างที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดก็คือลิ้นน้อยๆ ที่มักจะแลบออกมาทุกครั้งที่ต้องการการสนใจ หรือมีความสุข ทำให้คนรอบข้างต้องยิ้มให้กับท่าทางอันแสนน่ารักน่าเอ็นดู   ฉลองคริสมาสต์ครั้งแรกของเจ้าเหมียว   ดูง่วง แต่ก็ยังแลบลิ้นออกมาอยู่   ชอบอยู่ในกระเป๋าเวลาที่ทาสมนุษย์กำลังทำงาน   เวลาผ่านไป 3 เดือน ขนาดตัวของก็เท่ากับครึ่งหนึ่งของแมวทั่วไปแล้ว และมีน้ำหนักเกือบ 1…

  • นักประวัติศาสตร์เกลาตำนาน ‘โจรสลัดเคราดำ’ เผยความจริงที่ว่า เขาไม่ได้ชั่วร้ายอย่างที่คิด…

    นักประวัติศาสตร์เกลาตำนาน ‘โจรสลัดเคราดำ’ เผยความจริงที่ว่า เขาไม่ได้ชั่วร้ายอย่างที่คิด…

    หนึ่งในโจรสลัดมีชื่อเสียงที่เหล่าแฟนคลับในเรื่องนี้หรือคนทั่วไปบางคนจะรู้จักกันดีอย่าง เคราดำ ชื่อเสียงของเขาคือความโหดร้าย ป่าเถื่อน ไล่ฆ่าและถล่มเรือไปหลายลำ แท้จริงแล้วกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ชื่อของเขาจริงๆ คือ Edward Thatch ไม่ใช่ Teach อย่างที่ทุกคนเข้าใจมาตลอด ยิ่งไปกว่านั้นได้มีการกล่าวถึงเขาว่าในความเป็นจริงเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง ไม่เหมือนกับที่ถูกแต่งเรื่องขึ้นมามากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อนักประวัติศาสตร์ชื่อ Collin Woodward ออกมาบอกว่า หากย้อนกลับไปดูความจริงที่เกิดขึ้นในสมัยก่อน ไม่มีหลักฐานชิ้นไหนบอกได้เลยว่า… โจรสลัดคนนี้เคยฆ่าใครมาก่อน นอกจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่เขาถูกตัดหัวเท่านั้นเอง แถมยังเป็นคนที่สามารถใช้อำนาจจัดการปัญหาได้อย่างมีความยุติธรรมอีกด้วย     ความโหดร้ายป่าเถื่อนทั้งหมด เป็นเพียงการกุข่าวขึ้นมาของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องการจะจับเขาอย่างถูกกฎหมายเท่านั้นเอง ทำให้ตำนานเหล่านั้นเล่าต่อกันมาให้เขาเป็นตัวร้ายในการ์ตูน หนัง หรือแม้แต่เกมดังอย่าง Assassin’s Creed Black Flag ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นการของชายคนนี้ที่เกิดในเมืองบริสตอล ประเทศอังกฤษ ปี 1680 ชีวิตในช่วงแรกไม่มีการกล่าวถึงกันมากนัก จนเมื่อเขาตัดสินใจนำเรือของตัวเองออกทะเลในฐานะโจรสลัดที่ถูกกฎหมาย ในช่วงสงครามสืบราชบัลลังก์ของสเปน และได้เข้าปล้นเรือหลายลำแถวหมู่เกาะอินเดียตะวันตก กระทั่งกลายเป็นโจรสลัดที่ผิดกฎหมายจริงๆ เมื่อสงครามจบลงในปี 1713   การ์ตูนดังอย่าง One Piece ก็มีเคราดำเหมือนกันนะเออ   ต่อมาปี 1716 ได้เข้าไปเป็นลูกน้องของโจรสลัด Benjamin…

  • เด็กสมบูรณ์ของจริง!? สาวอังกฤษให้กำเนิดลูกชาย มีน้ำหนักแรกเกิดมากถึง 5.4 กิโลกรัม

    เด็กสมบูรณ์ของจริง!? สาวอังกฤษให้กำเนิดลูกชาย มีน้ำหนักแรกเกิดมากถึง 5.4 กิโลกรัม

    ผู้ชายทุกคนไม่มีโอกาสที่จะรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นอย่างมากจากการคลอดลูก เป็นเหตุผลหนึ่งที่บอกได้ว่าชีวิตของสาวๆ ต้องเจอกับความยากลำบากมากเพียงใด ความทรมานที่มากมายของพวกเธอที่กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดในตอนนั้น แลกมาด้วยชีวิตใหม่ที่เกิดออกมา และเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากสำหรับทุกคน เช่นเดียวกับเธอคนนี้ Paula Brown ที่ได้ให้กำเนิดลูกชายออกมาอย่างยากลำบาก และอาจต้องเจ็บมากกว่าคุณแม่หลายๆ คน เมื่อเด็กคลอดออกมาตัวใหญ่กว่าปกติ และมีน้ำหนักมากถึง 5.4 กิโลกรัมเลยทีเดียว     เธอถึงกับต้องทิ้งเสื้อผ้าสำหรับเด็กที่ซื้อรอไว้ให้ก่อนคลอดไปเกือบทั้งหมด เพราะหุ่นแบบเด็กสมบูรณ์ของ Theo ลูกของเธอไม่สามารถใส่ได้ ลองคิดภาพว่าน้ำหนักของเด็กแรกเกิดเพศชายโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2.8 – 3.9 กิโลกรัม เรียกได้ว่าแทบจะเป็นครึ่งเดียวของเจ้าหนูคนนี้เลย Gareth Brown พ่อของเด็กและเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้กำเนิดในเมืองแบล็คเบิร์น ประเทศอังกฤษ ถึงกับตกใจอย่างมากในตอนแรกที่ได้เห็น และพวกเขายังบอกอีกว่านี่เป็นเด็กทารกที่ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาก่อน   จ้ำม่ำเสียจริงนะน้องเอ๋ย ไม่เคยเห็นใครจ้ำม่ำเท่า   อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีขนาดตัวและน้ำหนักที่ผิดปกติไปบ้าง แต่เด็กน้อยก็มีสุขภาพแข็งแรง ได้กลับไปอยู่บ้านหลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เป็นที่รักของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะพี่สาวของเขา Rose วัย 5 ขวบ ถึงอย่างนั้นทารกน้อยคนนี้ก็ยังไม่ใช่เด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักมาที่สุดในอังกฤษ เมื่อปี 2013 มีการบันทึกทารกน้ำหนักมากถึง 6.8 กิโลกรัมในเมืองกลอสเตอร์ และเด็กที่คลอดออกมาน้ำหนักเยอะที่สุดในโลกหนักถึง 9.9…

  • บุคคลที่มีอายุมากที่สุดในโลก เสียชีวิตในวัย 117 ปี สิ้นสุดผู้รอดคนสุดท้าย จากยุคราชินีวิคตอเรีย…

    บุคคลที่มีอายุมากที่สุดในโลก เสียชีวิตในวัย 117 ปี สิ้นสุดผู้รอดคนสุดท้าย จากยุคราชินีวิคตอเรีย…

    เคยคิดกันมั้ยว่าเราจะมีอายุกันไปได้ถึงกี่ปี 80? 90? หรือว่าจะซัก 100 ปีไปเลย หลายคนคงคิดว่าเรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้หรอก ใครจะไปมีอายุได้มากขนาดนั้นกัน แต่เธอคนนี้ยืนยันแล้วว่าสามารถทำได้จริง เธอมีชื่อว่า Violet Mosse Brown เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ปี 1900 ในเมือง Trelawney ประเทศซิมบับเว อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมมาตลอดจนกระทั่งเสียชีวิตลงในเดือนกันยายนปี 2017 ด้วยระยะเวลาการใช้ชีวิตของเธอที่นานมากถึง 117 ปี ทำให้เธอได้รับสมญานามว่าเป็น “บุคคลที่แก่ที่สุดในโลก” ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล้มแชมป์เจ้าของสถิติเก่า Emma Morano ชาวอิตาลีที่เกิดในปี 1899 อยู่ข้ามผ่านมาถึง 3 ศตวรรษและใช้ชีวิตอยู่คนเดียวกินไข่ดิบทุกวัน ก่อนที่จะเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้     เธอบอกเอาไว้ในตอนอายุครบ 110 ปีว่า มีคนมากมายถามว่ากินอะไรถึงได้มีอายุยืนยาวขนาดนี้ เธอบอกว่ากินทุกอย่างที่ต้องการยกเว้นเพียงแค่หมูกับไก่ และเครื่องดื่มมึนเมาต่างๆ เท่านั้น “ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองมีอายุมากถึง 110 ปีแล้ว เพราะไม่รู้สึกเป็นแบบนั้นเลย” เธอกล่าวในงานวันเกิดตอนนั้นของเธอ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าตนเองเป็นสาวกของพระเจ้า ปฏิบัติตนและเชื่อฟังคำสั่งสอนในพระคัมภีร์มาโดยตลอด จึงทำให้เธอสามารถมีอายุที่ยืนยาวได้มากขนาดนี้ ตลอดชีวิตที่ไม่ย้ายบ้านไปไหนของเธอ เปลี่ยนอาชีพมาแล้วถึง…

  • เผย 13 พฤติกรรมแบบสาวๆ ที่ผู้ชายเองก็แอบทำเป็นประจำ จนเผลอไปโดยไม่รู้ตัว…

    เผย 13 พฤติกรรมแบบสาวๆ ที่ผู้ชายเองก็แอบทำเป็นประจำ จนเผลอไปโดยไม่รู้ตัว…

    ความแตกต่างกันในเรื่องของเพศชายและหญิง สามารถเห็นได้ชัดเจนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก หรือพฤติกรรมนิสัยใจคอเองก็ด้วย แต่มันก็ไม่แน่เสมอไปเพราะบางทีผู้ชายแมนๆ ทั้งแท่ง ก็ทำบางสิ่งบางอย่างเหมือนที่สาวๆ ทำ โดยที่พวกเธอยังไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้ ลองไปดูกันดีกว่าว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ที่ช่วยปลุกความเป็นสาวในตัวหนุ่มๆ อิอิ   ผู้ชายเองก็ชอบเม้าท์มอยอยู่เหมือนกัน เวลาที่อยู่กับสมาคมพ่อบ้าน โดยเฉพาะในหัวข้อศรีภรรยาตัวเอง   ก็ต้องมีออกไปช็อปปิ้ง นั่งลองรองเท้ากันบ้าง   เต้นยั่วยวนนี่ของถนัดเลย ยิ่งถ้าดื่มมาสักกรึ๊บสองกรึ๊บนะ บอกเลยว่ายับ   หนุ่มๆ เชื่อว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าการนอนแช่อยู่ในอ่าง พร้อมกับไวน์ซักแก้ว หลังจากที่ต้องผ่านพ้นวันอันเหน็ดเหนื่อยมา   ผิวหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ว่าจะใช้แค่น้ำเปล่าล้างได้   สังเกตดีๆ จะเห็นว่าพวกเขาจะชอบเอามือเท้าเอวอยู่เหมือนกัน   จุดอ่อนของหนุ่มๆ คือค็อกเทลสำหรับสาวๆ นี่แหละ กินง่ายดี…   ผู้ชายชอบใช้พวกครีมบำรุงผิว แชมพู หรือโลชั่นสำหรับผู้หญิง ที่บางทีกลิ่นมันก็น่ากินซะเหลือเกิน   การดูหนังโรแมนติกคอมเมดี้เองก็เป็นเรื่องที่ผู้ชายชื่นชอบ และอินไปกับมันจนบางครั้งถึงกับต้องเช็ดน้ำตากันเลย   ปฏิเสธไม่ได้เลย ที่อยากจะถ่ายรูปเจ๋งๆ ออกมาอัพลงโซเชียลบ้าง   การมองบนไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงเพียงอย่างเดียว   ลองไปแอบดูตอนพวกเขาสระหรือหวีผมอยู่คนเดียวสิ…

  • เบื่อการนอนกรน!? ขอเสนอวิธีบริหารช่องคอเพียง 5 นาทีต่อวัน ช่วยขจัดปัญหาของคุณได้ง่ายๆ

    เบื่อการนอนกรน!? ขอเสนอวิธีบริหารช่องคอเพียง 5 นาทีต่อวัน ช่วยขจัดปัญหาของคุณได้ง่ายๆ

    ปัญหาการนอนกรนคือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ในคนทุกเพศทุกวัย ตามสถิติ 60 เปอร์เซนต์ของประชากรทั้งหมด จะส่งเสียงกรนออกมาในเวลากลางคืน แน่นอนว่าคนที่นอนอยู่กับคุณคงจะต้องไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ ที่ต้องถูกปลุกหรือทำให้หลับไม่ลง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าคุณมีสุขภาพที่ไม่ดีในช่วงนั้นๆ ด้วย เพราะว่าสิ่งนี้เกิดจากอาการติดๆ ขัดๆ ของการนำอากาศเข้าไปในเวลานอน เป็นปัญหาส่วนของเนื้อเยื่อที่อยู่ในลำคอ และบริเวณใต้ลิ้น     แน่นอนว่าถ้าหากคุณมีน้ำหนักที่มากเกินไปด้วยแล้ว ก็จะเกิดปัญหานี้ได้ง่ายกว่าปกติอย่างมาก รวมทั้งการดื่มแอลกอฮอล์เองก็เช่นกัน เพราะว่ามันจะทำให้กล้ามเนื้อในส่วนนั้นของคุณผ่อนคลายมากเกินไป คนที่นอนอยู่ข้างๆ จะต้องเสียเวลาถึง 90 นาทีในช่วงของการนอนหลับ ทำให้เกิดปัญหาพักผ่อนไม่เพียงพอ ตามมาด้วยอาการป่วยทั้งกายและใจ ก่อให้เกิดอารมณ์เสียได้ง่ายๆ     ดังนั้นคนที่ยังคงนอนกรนและไม่ใส่ใจในเรื่องนี้อยู่ ต้องรีบหันมาแก้ไขโดยด่วน แต่ไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อยา หรือเครื่องมือที่บอกว่าช่วยได้มาใช้ เพราะแท้จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องเสียเงินเลย ขอเพียงแค่คุณออกกำลังกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ หรือไม่อย่างนั้นเราขอแนะนำวิธีนี้ ที่ใช้เวลาเพียง 5 นาทีต่อวันเท่านั้นเอง     นี่คือการบริหารช่องคอของคุณแบบง่ายๆ สามารถทำได้ตอนแปรงฟันเช้าเย็น เพื่อบรรเทาอาการนอนกรนได้ ซึ่งผู้ให้คำปรึกษาและคนไข้หลายๆ ราย ในอังกฤษได้ยืนยันแล้วว่ามันช่วยได้จริง ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลย 1.แลบลิ้นออกมาให้มากที่สุด พยายามเอาปลายลิ้นไปแตะจมูก คาง และแก้มซ้ายขวา ทำอย่างรวดเร็ว…

  • ประโยชน์ 15 อย่างของ “มะนาว” ทำให้คุณรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดในโลก

    ประโยชน์ 15 อย่างของ “มะนาว” ทำให้คุณรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุดในโลก

    สิ่งที่เราพบเห็นกันในชีวิตประจำวันบางทีอาจมีประโยชน์ในการใช้งานมากกว่าที่คุณคิดหรือคาดไม่ถึงก็ได้ อย่างเช่นที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้คือ มะนาว ผลไม้ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี แน่นอนว่ามันสามารถกินได้ ผ่านการประยุกต์ใช้ให้มันกลายเป็นเครื่องปรุงรสในอาหารต่างๆ มากกว่าที่จะบีบมันเข้าปากเพียวๆ ไม่อย่างนั้นก็คงจะเปรี้ยวจี๊ดขึ้นสมองกันแน่ๆ แต่หลักๆ ที่จะมาพูดในวันนี้ ไม่ได้จะบอกว่ามันสามารถนำไปกินอย่างไรได้บ้าง เราจะพูดถึงประโยชน์อีกมากมาย ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนของเจ้าสิ่งนี้ว่ามันเจ๋งขนาดไหน ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลย   สุดยอดแห่งการเป็นน้ำยาทำความสะอาด   ปอกเปลือกมะนาวแช่ไว้ในน้ำส้มสายชูปริมาณ 150 มิลลิลิตร ทิ้งไว้ข้ามคืน เช้ามานำน้ำเปล่ามาเทผสมไปอีก 150 มิลลิลิตร เท่านี้ก็เรียบร้อย แบ่งใส่ขวดฟ็อกกี้ คุณก็สามารถไล่ฉีดทำความสะอาดได้ทั่วบ้านแล้ว   ทำความสะอาดเขียง   หากคุณต้องการรักษาอายุการใช้งานของเขียงที่มีเอาไว้ วิธีการก็ไม่ยาก เพราะมะนาวช่วยคุณได้ เพียงแค่หั่นมะนาวครึ่งลูกใช้แทนแปรงขัด และโรยเกลือลงไปบนเขียงให้ได้ทำหน้าที่เป็นตัวจัดการความสกปรก จากนั้นขัดให้ทั่วเลย พอเรียบร้อยให้ทิ้งไว้ 10 – 15 นาที ทำซ้ำตามเดิม เป็นอันเรียบร้อย   ทำให้ผ้าขาวสะอาดกระจ่างใส   ถ้าอยากให้ผ้าของเราคงความขาวเอาไว้ ขอเพียงแค่คุณมีน้ำมะนาวกับเบกกิ้งโซดา นำทั้งสองอย่างมาผสมรวมกัน และเอาผ้ามาแช่ไว้ในนี้ 30 นาทีก่อนที่จะนำไปซัก เท่านี้ก็หมดปัญหาผ้าเหลืองแล้ว   ดูแลเล็บให้มีสุขภาพดี   การรักษาเล็บให้แข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี…

  • เส้นทางเดินรถไฟ 12 สาย ที่จะกระชากหัวใจของคุณไป หากได้ลองนั่งสักครั้งอาจจดจำไม่รู้ลืม

    เส้นทางเดินรถไฟ 12 สาย ที่จะกระชากหัวใจของคุณไป หากได้ลองนั่งสักครั้งอาจจดจำไม่รู้ลืม

    การเดินทางบนรถไฟ อาจไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบสำหรับใครหลายคน เพราะระยะเวลาที่ใช้และความรู้สึกที่ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่นัก แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป คุณอาจเปลี่ยนความคิดนั้นไปทันทีเลยก็ได้ หากคุณมีโอกาสได้มานั่งรถไฟสายใดสายหนึ่งใน 12 สายนี้ เพราะว่าทุกที่มีความสวยงาม และดึงดูดใจทำให้คุณไม่อาจลืมได้เลยชั่วชีวิต ไม่ใช่แค่เพียงความสวยงามระหว่างทางเพียงอย่างเดียว รถไฟแต่ละขบวนก็จะมีเอกลักษณ์ความพิเศษแตกต่างกันไป อย่ารอช้าเราลองไปดูกันเลยดีกว่าว่ารถไฟแต่ละสายที่ National Geographic Traveler เอามานำเสนอนั้นจะเป็นอย่างไร และมีที่ไหนกันบ้าง   ทางรถไฟ The Belgrade to Bar ที่จะพาคุณข้ามสะพาน 435 แห่งกับ 254 อุโมงค์ ในระยะเวลาเพียง 10 ชั่วโมง จากเมืองหลวงของเซอร์เบีย มุ่งสู่ท่าเรือในมอนเตเนโกร   เส้นทางรถไฟ California Zephyr ทางที่ดีที่สุดในการรับชมวิวทิวทัศน์อันแสนสำคัญของอเมริกา พาขึ้นเทือกเขาร็อกกี้และ Sierra Nevada ก่อนที่จะลงไปชายฝั่งแปซิฟิก รถไฟขบวนนี้จะทำให้ทุกคนได้พบกับทุ่งหญ้าสีทอง ประเทศแห่งทะเลสาบ และเมืองอันน่าจดจำสวยเหมือนภาพวาด เห็นได้ตลอดทางภายใต้โดมกระจก เดินทางจากโตรอนโต้ ไปแวนคูเวอร์ ด้วยระยะเวลา 3 วัน   รถไฟขบวน Royal Rajasthan on Wheels คือความหรูหราที่แท้จริง…

  • 15 สิ่งที่คุณควรทำให้เป็นกิจวัตรในตอนเช้า เพราะมันจะช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

    15 สิ่งที่คุณควรทำให้เป็นกิจวัตรในตอนเช้า เพราะมันจะช่วยให้ชีวิตของคุณดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

    หลายคนมักจะตื่นมาและออกไปข้างนอกเลย โดยที่ไม่ได้ใช้เวลาช่วงเช้าอย่างเต็มที่ เพราะเพียงแค่อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันก็อาจทำให้ไปโรงเรียนหรือที่ทำงานสายเสียแล้ว แต่ในความเป็นจริงช่วงเวลาในตอนเช้ามีความสำคัญ เพราะมันคือจุดเริ่มต้นการใช้ชีวิตของคุณในแต่ละวัน ซึ่งวันนี้เรามีสิ่งที่คุณควรทำในช่วงเวลาที่ตื่นนอนขึ้นมา เพราะมันจะช่วยให้คุณกลายเป็นคนใหม่ได้ง่ายๆ ลองไปดูกันว่าจะมีอะไรกันบ้าง   เข้านอนในขณะที่ผ้าม่านเปิดไว้ครึ่งนึง   เปลี่ยนจากการตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก มาเป็นการรับแสงแดดกันดีกว่า เพราะว่ามันจะช่วยหยุดยั้งการหลั่งสารเมลาโทนินได้ ซึ่งเจ้าสารตัวนี้จะทำให้เรารู้สึกเฉื่อยชาและไม่ค่อยตื่นตัว ยิ่งไปกว่านั้นแสงอาทิตย์ยังจะช่วยกระตุ้นให้เราหลั่งอะดรีนาลีนอีกด้วยนะ สมองนี่แล่นปรื๊ดลื่นปรื๊ดเลย   เริ่มต้นวันใหม่ให้เร็วกว่าปกติสัก 1 ชั่วโมง อย่างน้อยในวันหยุดก็ได้   โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ค่อยตื่นเช้าเท่าไหร่ด้วยแล้วจะเห็นผลได้ดีมาก เพราะคุณจะได้มีเวลามาออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ เพลิดเพลินกับอาหารเช้าได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งจะได้ลดความกระวนกระวายใจที่จะต้องรีบไปทำงาน เพื่อให้อารมณ์เราดียิ่งขึ้น   ชะโลมร่างกายและจิตใจของตัวเอง และรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ตนมีอยู่   ช่วงเวลาที่คุณได้อาบน้ำ ทานอาหารเช้า แต่งตัว ลองพยายามคิดถึงสิ่งที่ตนเองเป็นในแง่บวก เพราะอย่างน้อยคุณก็มีงานทำ มีเงินมาซื้อข้าวและเครื่องแต่งกาย ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้รวยมหาศาล แต่คุณก็ยังมีชีวิตที่ดีกว่าหลายๆ คนนะ   เริ่มต้นตอนเช้าด้วยการออกไปเดินเล่นสักนิดหน่อย ก่อนไปทำสิ่งอื่นๆ   การออกไปเดินรับแสงอาทิตย์ในยามเช้าจะช่วยรีเซ็ตนาฬิกาชีวิตของคุณ ให้กลับมาเริ่มใหม่และมีพลังงานเพียงพอให้สามารถใช้ชีวิตผ่านไปได้ทั้งวัน และมากกว่านั้นคือหากว่าใน 1 สัปดาห์คุณใช้เวลาในการเดินรวมกันมากกว่า 3 ชั่วโมง จะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้มากถึง 35…

  • นักเรียนมัธยมพากันแปะ “โพสต์อิทให้กำลังใจ” ไปทั่วโรงเรียน หลังเกิดเหตุเด็กฆ่าตัวตาย

    นักเรียนมัธยมพากันแปะ “โพสต์อิทให้กำลังใจ” ไปทั่วโรงเรียน หลังเกิดเหตุเด็กฆ่าตัวตาย

    การฆ่าตัวตายอาจเกิดขึ้นได้ในทุกสังคม ดังนั้นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะเราก็คงไม่อยากให้มีใครต้องจากไปโดยที่ยังไม่ได้เตรียมใจเอาไว้หรอก เหมือนกับโรงเรียนมัธยม Walnut Hills ในสหรัฐอเมริกา ที่มีเด็กในโรงเรียนเพิ่งฆ่าตัวตายไปในวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้ทั้งโรงเรียนต่างเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะหดหู่กันไปซะหมด เพราะเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก นักเรียนจึงมีชมรมชื่อว่า Be Happy ขึ้นมา ไล่แปะกระดาษโพสต์อิทไปทั่วโรงเรียน เพื่อให้กำลังใจทุกคนและเป็นการรำลึกถึงผู้ที่จากไป   ล็อกเกอร์ของเด็กที่ตายไป นักเรียนที่เดินผ่านไปมาช่วยกันแปะโพสต์อิทเพื่อรำลึกถึงเขาคนนั้น   มีการตกแต่งล็อกเกอร์ไปในบางส่วน   ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายโดยนักเรียนคนหนึ่ง และนำมาโพสต์ไว้ในโซเชียลมีเดีย เหตุผลที่ภาพเหล่านี้ออกจะเบลอๆ หน่อย เพราะว่าเขาถ่ายเอาไว้ขณะที่กำลังเดินไปเรียน   โพสต์อิทยังคงมีแปะอยู่ในทุกที่ .   Walnut(ชื่อโรงเรียน) ยังคงต้องการคุณ จงเข้มแข็งเข้าไว้   จากโพสต์ของเขาก็เกิดเป็นกระแสชาวเน็ตมากมาย เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงการกระทำดังกล่าวนี้ “นี่คงเป็นเรื่องที่สายเกินไปหน่อยว่ามั้ย? เพราะหากว่าคนในโรงเรียนสนับสนุนกันอย่างนี้ตั้งแต่แรก เขาคนนั้นอาจยังมีชีวิตอยู่ก็ได้” “การฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากมาก โดยเฉพาะในวัยรุ่นนี้ ฉันหวังว่าคำพูดเหล่านี้ที่คุณมอบให้กันและกัน จะช่วยให้ใครคนหนึ่งพบกับวันที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่าการจากไปของเขาช่วยให้เกิดผลกระทบที่ดีได้ยาก แต่ก็จงคิดในแง่บวกกันเข้าไว้นะ!!” “เรื่องราวนี้เป็นการให้กำลังใจที่ดีมาก ในตอนที่ฉันอายุเท่าคุณ ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าตัวฉันเองหดหู่และปลีกตัวออกมาจากสังคม ไม่มีใครพูดอะไรหรือแม้แต้รับรู้ได้เลย และฉันก็เคยเป็นเด็กที่คิดว่าตัวเองแย่และแตกต่างกับคนอื่นมาก่อน สู้ต่อไปนะ พวกคุณทำในสิ่งที่ยอดเยียมมากๆ แล้ว”…

  • หญิงสาวเกิดมาพร้อมกับไฝทั่วตัว ผ่านชีวิตวัยเด็กอันยากลำบากจนพบว่าเธอเป็นคนที่โชคดีแล้ว

    หญิงสาวเกิดมาพร้อมกับไฝทั่วตัว ผ่านชีวิตวัยเด็กอันยากลำบากจนพบว่าเธอเป็นคนที่โชคดีแล้ว

    เรามักจะคิดว่าปมด้อยคือเรื่องบางเรื่องเราแตกต่างจากผู้คนส่วนใหญ่ และพยายามหลีกเลี่ยงที่จะแสดงออกมาให้ใครได้รับรู้ แต่สำหรับหญิงสาวชาวสเปนที่ชื่อว่า Maria Isabel Olivieri วัย 22 ปีคนนี้ แม้ว่าเธอจะมีรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่ตอนนี้เธอก็ไม่ได้คิดเช่นนั้น และมองว่านี่คือความโชคดีซะด้วยซ้ำ เธอเกิดมาพร้อมกับไฝนับไม่ถ้วนทั่วร่างกาย ซึ่งตั้งแต่ที่เธอคลอดออกมา พ่อของเธอก็เอาแต่โทษว่านี่เป็นความผิดของแม่ผู้ให้กำเนิด และพยายามให้เธอซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้านตลอด จนทำให้เธอรู้สึกละอายใจในสิ่งที่เป็นอย่างมาก   .   อีกทั้งต้องผ่านช่วงเวลาวัยเด็กที่ยากลำบาก เพราะต้องใช้เวลาในทุกๆ วันหยุดไปกับการเข้าโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาเจ้าสิ่งนี้จนถึงอายุ 13 ปี โดยเฉพาะบริเวณหลังเข่าของเธอที่มีไฝขนาดใหญ่มาก จึงต้องเข้ารับการผ่าตัดมากกว่า 40 ครั้ง เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก ทั้งนี้เธอรู้สึกขอบคุณการเต้นบัลเลต์ที่ทำให้เธอสามารถมาถึงในจุดที่เป็นอยู่นี้ได้   .   เธอรู้สึกดีกับตัวเองอย่างมาก ที่สามารถผ่านความยากลำบากที่ต้องใช้ชีวิต ในรูปลักษณ์อันไม่เป็นที่พึงพอใจนี้พร้อมกับการตั้งคำถามมากมายที่ถาโถมเข้ามา แต่ละคนก็จะแสดงออกถึงสิ่งที่เธอเป็นแตกต่างกันไป ไปที่ไหนเธอจะเป็นจุดสนใจอยู่เสมอ แต่ว่าโชคดีที่เธอมีเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้าง ไม่ให้ใครสามารถเข้ามาว่าร้ายหยาบคายใส่เธอได้ เธอพูดอีกว่า “การตีความคุณค่าของคนที่แตกต่างจากปกติเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก แต่ฉันก็ได้รู้ว่าการเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะสุดท้ายแล้วจะไม่มีใครที่มีชีวิตอยู่เพื่อคุณเลย”   .   และเธอไม่เคยโอดครวญเลยกับสิ่งที่เป็น เพราะเธอคิดว่ามีอีกหลายคนบนโลก ที่ต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายมากยิ่งกว่านี้ สิ่งนั้นเองที่ทำให้เธอคิดว่าเธอเป็นคนที่โชคดีแล้ว ยังคงมีชีวิต มีสองแขนสองขา สามารถขยับไปไหนมาไหนได้  …

  • สีสันแห่งการเลือกตั้ง เมื่อ ‘หมา’ เข้าร่วมชิงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีประจำเมืองแคนาดา!!

    สีสันแห่งการเลือกตั้ง เมื่อ ‘หมา’ เข้าร่วมชิงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีประจำเมืองแคนาดา!!

    การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีประจำเมือง หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกคนก็คงจะเคยเห็นกันมาแล้ว หรือหากว่าอายุเกิน 18 ปี ก็คงจะต้องเคยไปลงคะแนนเลือกตั้งกันมาบ้าง ทว่าการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่เกิดขึ้นในเมืองเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดานั้น กลับมีความแปลกออกไป เมื่อมีเจ้าหมาตัวหนึ่งได้ลงชื่อเข้ามาสมัครชิงตำแหน่งกับเค้าด้วย!? สุนัขตัวนี้มีชื่อว่า Finn เป็นสุนัขสายพันธุ์ออสเตรเลียน แคทเทิล วัย 5 ปี ผู้ลงสมัครตัวใหม่ของเมือง พร้อมกับมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอประกาศการลงเลือกตั้งครั้งนี้เอาไว้ในเฟซบุ๊คอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แถมยังมีการเอ่ยถึงนโยบายของตัวเองอีกต่างหาก     แต่ว่าไม่ต้องตกใจไปหรอก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเจ้าหมาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากผู้เป็นเจ้าของนามว่า Glenn Redmond และตากล้อง Garry Smyth โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นแบบอย่างให้ผู้ลงสมัครคนอื่นๆ ได้เห็นถึงปัญหา และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นั่นก็คือการชี้ให้เห็นถึงปัญหาถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือการเก็บกวาดหิมะในช่วงฤดูหนาว โดยปัญหาทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นจะหมดไป ถ้าหากว่าได้เจ้าหมามาคอยดูแลเป็นนายกเทศมนตรี (ก็ว่าไปนั่น) ที่คอยออกเดินตรวจตราไปตามบ้านเรือน และบนท้องถนนเท่าที่จะทำได้     ทั้งนี้เจ้าหมาก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะได้รับการฝึกฝนมาจากเจ้าของ ที่เป็นทั้งครูฝึกสุนัขและสตั้นท์แมน ทำให้มันเคยได้ออกหน้ากล้อง โชว์ตัวอยู่ในหนังมาบ้าง ไม่มีอาการตื่นกล้องอีกต่อไป…     หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปสู่โลกออนไลน์ ก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมากๆ ซึ่งทางด้าน Glenn…

  • นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษา อธิบายว่า “การถูกบอกเลิก” แบบไหนที่ทำให้เราเจ็บที่สุด

    นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษา อธิบายว่า “การถูกบอกเลิก” แบบไหนที่ทำให้เราเจ็บที่สุด

    ในตอนที่เราอกหักครั้งแรกตอนนั้นรู้สึกอย่างไรกันบ้าง กินไม่ได้นอนไม่หลับ รู้สึกทรมาน มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างยากลำบาก ประมาณนั้นหรือเปล่า? แล้วครั้งนั้นเป็นครั้งที่เจ็บที่สุดมั้ย? เราสามารถถูกบอกเลิกได้หลากหลายเหตุผล ทว่าแล้วเหตุผลไหนที่เจ็บที่สุดล่ะ? นี่จึงกลายเป็นคำถามให้กับนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Cornell ได้ออกมาหาคำตอบกัน     การถูกบอกเลิกก็คือการที่ถูกอีกฝ่ายบอกปฏิเสธนั่นเอง ผู้วิจัยจึงได้ทำการทดลองกับคน 600 คน โดยการทดลองแรกนั้นจะมีหน้าม้าเป็นผู้หญิงสองคน และผู้ชายอีกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอยู่รวมกัน จากนั้นพวกเขาจะมอบหมายงานบางอย่างให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง และเธอคนนั้นต้องเลือกว่าจะทำงานกับผู้หญิงอีกคน ทำงานกับผู้ชาย หรือว่าทำคนเดียว ซึ่งเธอเลือกที่จะทำกับผู้หญิงอีกคนหรือทำคนเดียวเท่านั้น และเมื่อผู้ชายไม่ได้อยู่ในการตัดสินใจของเธอเลย นั่นจะทำให้พวกเขาสามารถรับรู้ความรู้สึกของการถูกปฏิเสธได้ ส่วนการทดลองอื่นจะให้ผู้เข้าร่วมอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ใช้เวลาร่วมกันและกระตุ้นให้พวกเขาเหล่านั้นแสดงความรู้สึกออกมาว่า รู้สึกอย่างไรกันบ้างเมื่อตนเองต้องถูกปฏิเสธด้วยสาเหตุต่างๆ ในขณะที่ผู้วิจัยจะทำการสังเกตร่วมด้วย       การศึกษาทั้งสองนี้เผยให้เห็นว่าการที่ต้องถูกปฏิเสธและไปเลือกคนอื่น สร้างความรุนแรงได้มากกว่าปฏิเสธด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่มีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหากว่าอกหักเพราะอีกฝ่ายไปกับอีกคน จะยิ่งสร้างความทรมานใจได้มากกว่าสิ่งอื่นใด นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “การถูกปฏิเสธจากการเปรียบเทียบ” เหตุผลที่มันมีความรุนแรงมากที่สุดก็เพราะ การปฏิเสธคือการทำให้รู้สึกถูกตัดทิ้งออกไปและลดความเป็นเจ้าของลง นั่นยิ่งทำให้รู้สึกแย่เมื่อพบว่าตนเองเป็นตัวเลือกที่แย่กว่า     จากการสังเกตอื่นๆ ของผู้วิจัยพบว่า หากคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองถูกปฏิเสธเพราะอะไร ก็จะพยายามหาคำตอบให้ได้ แม้ว่าสิ่งที่ได้อาจทำให้เจ็บกว่าเดิมก็ตาม แต่ถ้าหากหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ  พวกเขาจะตีความไปเองว่าคนใหม่ที่โผล่มาในรูปของเธอคนนั้นคือคนที่เธอเลือก นักวิทยาศาสตร์เสริมให้อีกว่า มันเป็นเรื่องดีที่จะบอกให้ผู้ที่ถูกปฏิเสธรับรู้ว่าคุณไม่ได้เลิกกับเขาเพื่อไปมีคนอื่น ซึ่งจะทำให้เขาเหล่านั้นรู้สึกดีขึ้น แต่หากว่าไปมีคนอื่นจริงๆ การแสดงออกว่าคนๆ นั้นดีกว่าคนเดิมก็ควรจะเก็บเอาไว้เป็นความลับให้มากที่สุด…

  • หมู่บ้านอายุ 250 ปีที่ยังคงสวยงามไร้การเปลี่ยนแปลง แม้จะอยู่มานานและถูกทิ้งร้างไว้

    หมู่บ้านอายุ 250 ปีที่ยังคงสวยงามไร้การเปลี่ยนแปลง แม้จะอยู่มานานและถูกทิ้งร้างไว้

    เมืองที่มีมาอย่างยาวนานและถูกทิ้งร้างไป มักจะเต็มไปด้วยสภาพที่ทรุดโทรม ไม่น่าเข้าไปใกล้หรืออยู่อาศัยกันในละแวกนั้นซักเท่าไหร่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับหมู่บ้าน Batsto เพราะถึงแม้ว่าจะถูกสร้างมานานมากแล้ว ตั้งแต่ในปี 1766 ยาวนานมาจนถึงผู้อยู่อาศัยคนสุดท้ายที่ออกไปจากที่นี่ในปี 1989 ทว่ามันก็ยังคงความสวยงามและเก่าแก่อยู่เสมอ ตึกรามบ้านช่องต่างๆ นอกจากจะยังคงดูพร้อมใช้งานเหมือนกับมีคนอยู่อาศัยมาตลอดแล้ว ทุกสิ่งก่อสร้างยังคงมีความคลาสสิค ไม่มีความร่วมสมัยเหมือนกับตึกในสมัยนี้เลยแม้แต่น้อย เหมือนกับที่หมู่บ้านนี้เป็นมาตั้งแต่แรก   อาคารนอกประจำหมู่บ้าน   หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์แห่งชาติเมือง Pinelands และได้รับการปกป้องโดยกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สวนสาธารณะและป่าไม้ของรัฐ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เมืองนี้ยังคงน่าอยู่เสมอ ปราศจากคนเข้ามารุกราน ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของสถานที่นี้เริ่มต้นมาจาก Charles Read ช่างตีเหล็กผู้โด่งดัง เข้ามาสร้างโรงงานเป็นของตัวเองใกล้กับแม่น้ำ Batsto ในเวลานั้นพื้นที่โดยรอบถูกเต็มไปด้วยแร่หินต่างๆ ตามธรรมชาติมากมาย   แม่น้ำ Batsto ที่ตัดผ่านหมู่บ้าน   นอกจากนั้นทรัพยากรที่จำเป็นก็หาได้ง่ายมาก ใช้น้ำจากแม่น้ำหรือตามบึงรอบๆ ไม้เยออะแยะที่มีอยู่ในป่าใหญ่ และสิ่งจำเป็นสำหรับการตีเหล็กมีอยู่ที่นี่ทั้งหมด ทำให้โรงงานเติบโตได้ดีจนต้องมีลูกจ้างเข้ามาช่วย สิ่งปลูกสร้างเป็นอันดับแรกนอกเหนือจากที่ทำงาน จึงเป็นบ้านพักอาศัยของคนเหล่านั้น และเป็นจุดเริ่มต้นให้กลายเป็นหมู่บ้านที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จากตอนแรกที่สร้างเพียงแค่ของใช้ภายในบ้าน แต่โรงงานแห่งนี้ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น จน John Cox ได้เข้าซื้อโรงงาน และเปลี่ยนให้เป็นโรงงานผลิตยุทโธปกรณ์ทั้งหลายให้กับกองทัพภาคพื้นทวีป ในช่วงปฏิวัติอเมริกา…

  • การจากไปที่แสนเศร้า ของเจ้า “หมีแพนด้า” ที่แก่ที่สุดในโลกเสียชีวิตด้วยวัย 37 ปี

    การจากไปที่แสนเศร้า ของเจ้า “หมีแพนด้า” ที่แก่ที่สุดในโลกเสียชีวิตด้วยวัย 37 ปี

    การจากไปของคนที่เรารู้จักหรือสัตว์ที่เรารัก สร้างความเศร้าโศกเสียใจและความเจ็บปวดให้กับคนใกล้ชิดอย่างมากมาย ยิ่งหากว่าเป็นที่รักของใครหลายคนด้วยแล้ว เรื่องราวต่างๆ ก็จะถูกเก็บไว้ไม่จางหายไปไหน หมีแพนด้า เป็นสัตว์ที่เราทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยความน่ารักน่าชัง สีสันที่เป็นเอกลักษณ์ ถึงขนาดที่บ้านเราเองมีช่องที่สามารถส่องตามติดชีวิตมันได้เลยทีเดียว หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าเจ้าสัตว์ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน จึงทำให้คนนประเทศนั้นรักพวกมันเป็นอย่างมาก และต้องแลกมาด้วยความเศร้าใจอย่างมากเช่นเดียวกัน เมื่อ Basi หมีแพนด้าที่อายุมากที่สุดในโลกได้ตายลงไป     ในปัจจุบันยังคงไม่มีการพูดถึงอายุเฉลี่ยของแพนด้า ทว่าตามสถิติเจ้านี่คือตัวที่มีอายุยืนยาวที่สุด ซึ่งอยู่มานานถึง 37 ปี และตลอดเวลานั้นมันก็สามารถมีชีวิตได้อย่างเต็มที่ และสร้างความสุขให้กับใครหลายคน ตัวมันถูกช่วยเหลือมากจากบริเวณแม่น้ำที่เย็นจนจับตัวเป็นน้ำแข็งในมณฑลเสฉวน ปี 1984 ก่อนที่จะพามันไปอยู่บ้านใหม่ นั่นคือศูนย์วิจัยและแลกเปลี่ยนแพนด้ายักษ์ช่องแคบฝูโจว   กายกรรมก็ไม่ใช่ปัญหา   ต่อมาในปี 1990 มันก็ได้รับเลือกเป็นมาสค็อตให้กับกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ และได้เดินทางไปโชว์ตัวในสวนสัตว์แซนดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา   การเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ดูตื่นเต้นไม่น้อย   ช่วงชีวิตของมันหากเทียบกับมนุษย์แล้ว เรียกได้ว่ามันแก่กว่า 100 ปีเลยทีเดียว การจากไปของมันเป็นไปอย่างสงบและอบอุ่น ภายในบ้านที่คุ้นเคยที่เมืองฝูโจว วันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ทำท่านั่งได้คล้ายกับมนุษย์เลย   ทุกคนที่เคยพบเห็นความน่ารักของมันและทางสถาบันที่เลี้ยงดูมันมาเอง…

  • หนุ่มไร้บ้านที่มีความสุขที่สุดในโลก เปิดให้คนมาเช่าตัวเองในราคา 15 บาท มานาน 4 ปี

    หนุ่มไร้บ้านที่มีความสุขที่สุดในโลก เปิดให้คนมาเช่าตัวเองในราคา 15 บาท มานาน 4 ปี

    คนไร้บ้านส่วนใหญ่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกโดยไม่มีหลักแหล่งที่แน่นอน อีกทั้งอาชีพการงานที่ไม่มีความมั่นคงไม่สามารถหาที่อยู่จริงๆ เป็นของตัวเองได้ ถ้าหากว่าเลือกได้นี่คงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากจะเป็น แต่นั่นไม่ใช่ความคิดของดาราตลกชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Kotani Makoto คนนี้ ที่ต้องออกมาใช้ชีวิตไร้บ้าน แต่กลับสามารถหาความสุขได้จากรายได้เพียง 15 บาทต่อวัน มายาวนานถึง 4 ปี เรื่องราวของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน ย้ายเข้ามาในเมืองโตเกียวเพื่อเส้นทางการเป็นนักแสดงตลก จนรู้ตัวว่าไม่อาจจ่ายค่าเช่าห้องได้ด้วยเองคนเดียว และย้ายไปอยู่กับดาราตลกอีกคนที่รู้จักในชื่อ King Kong Nichino     หลังจากนั้นเพียง 2 เดือน เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ของเขาก็ทนไม่ไหวกับพฤติกรรมเหลวไหล และไม่เป็นระเบียบ ทำให้พูดกับเขาว่า “นับจากวันนี้เป็นต้นไป นายควรเป็นคนไร้บ้านซะ แล้วชีวิตของนายจะดีขึ้น” จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต การต้องออกมานอนอยู่ข้างถนนเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เขาพยายามหางานพิเศษทำ แต่การสัมภาษณ์งานก็ไม่ได้เป็นไปในทางที่ดีนัก จนกระทั่งคนที่บอกให้เขาออกมาอยู่อย่างไร้ที่อยู่อาศัยนี้ ได้ให้คำแนะนำที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ นั่นคือเขาได้โพสข้อมูลและช่องทางติดต่อลงบนทวิตเตอร์และอนุญาตให้คนแปลกหน้าสามารถว่าจ้างเขาทำอะไรก็ได้ในราคา 15 บาท ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้มีลูกค้ามากมายติดต่อกลับมา     ในตอนแรกก็ยังคงมีข้อสงสัยอยู่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร ด้วยเงินจำนวนเพียงน้อยนิด แต่เมื่อได้ลองทำเขาก็รู้ได้เลยว่ามันเป็นไปได้จริงๆ ในเมื่อเงินค่าตอบแทนที่น้อยมากๆ จึงทำให้ลูกค้าทั้งหลายเลือกที่จะตอบแทนเป็นอย่างอื่นเพิ่มเติมทุกอย่างที่เขาจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ค่าเดินทาง อาหาร หรือแม้แต่ชวนไปนอนบ้านก็ยังมี…

  • สุดสลดใจ… เจ้าม้าล้มพับกลางทาง จากการลากรถคู่บ่าวสาว ผ่านเนินสูงและแดดร้อนระอุ

    สุดสลดใจ… เจ้าม้าล้มพับกลางทาง จากการลากรถคู่บ่าวสาว ผ่านเนินสูงและแดดร้อนระอุ

    การเดินทางโดยรถม้านั้นมีมาอย่างยาวนาน และยังคงสามารถพบเห็นได้ในบางพื้นที่ ยังคงมีเสน่ห์และความโรแมนติกที่ทำให้สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากนั่ง เหมือนกับได้เป็นเจ้าหญิงในเทพนิยาย ตัวแปรสำคัญที่ใช้ในการขับเคลื่อนอย่าง ‘ม้า’ ก็ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตมีร่างกายและจิตใจไม่ต่างไปจากสิ่งอื่นๆ เพราะถึงแม้ว่าจะดูแข็งแรง ในบางครั้งพวกมันอาจจะอ่อนเพลียมาก แต่ไม่อาจบอกให้เรารับรู้ได้เช่นนั้น… อย่างภายในคลิปวิดีโอของเจ้าม้าสีขาวที่ดูสง่างาม กำลังทำหน้าที่ลากรถพาเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าสู่พิธีสมรส แต่อยู่ดีๆ มันก็นอนล้มพบกลางถนน ทำให้เจ้าบ่าวและแขกเหรื่อที่อยู่ใกล้ๆ ต้องเข้ามาช่วยกันยกโครงลากเลื่อนที่ยังติดกับตัวมันออกไป     เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในแคว้นซิชิลี ประเทศอิตาลี ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกถ่ายมาโดยผู้อยู่อาศัยในบริเวณนั้น ก่อนที่จะนำมาเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ เหตุผลที่ทำให้เจ้าม้าลงไปนอนอยู่กับพื้นนั้น อาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าที่ต้องวิ่งกลางแสงแดดอันร้อนระอุ อีกทั้งยังต้องลากรถเลื่อน ที่มีน้ำหนักรวมกับผู้โดยสารมากถึง 400 – 800 กิโลกรัม โดยผ่านเส้นทางขึ้นเนินตรงไปยังโบสถ์ ซึ่งถ้าจะหนักหนาขนาดนี้ ก็คิดว่าคงไม่น่าแปลกใจที่มันจะล้มลงไป…   คลิปวิดีโอผู้คนกำลังช่วยกัน ถอดโครงเหล็กลากรถเลื่อนออกจากตัวม้า   แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ก็สร้างความไม่พอใจให้กับใครหลายคน พวกเขาจึงออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมายในโลกโซเชียลในทำนองว่า… “พวกเขาทำในสิ่งที่น่าอับอาบขายหน้าเป็นอย่างมาก” “เป็นเรื่องที่น่าตกใจจริงๆ!! เพราะไม่ควรมีม้าตัวไหน ที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ดำเนินคดีพวกเขาไปซะเลย” “เป็นเรื่องที่แย่จริงๆ เพราะปัจจุบันพวกมันไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องมาวิ่งอยู่บนถนนแล้ว”     ทางด้านโฆษกกรมคุ้มครองสัตว์แห่งอิตาลี ก็ออกมาพูดถึงกรณีดังกล่าวไว้ว่า “เราได้ทำการเขียนหนังสือถึงเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อให้พวกเขารายงานสภาพของเจ้าม้ากลับมาทางเรา”…

  • ชาวประมงรัสเซียนำ ‘ปลามูนฟิช’ ขนาด 1.2 ตัน ไปเป็นอาหารหมี แทนที่จะมอบให้พิพิธภัณฑ์

    ชาวประมงรัสเซียนำ ‘ปลามูนฟิช’ ขนาด 1.2 ตัน ไปเป็นอาหารหมี แทนที่จะมอบให้พิพิธภัณฑ์

    ขนาดที่ใหญ่โตผิดธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตมากมายบนโลก น้อยครั้งที่เราจะได้เห็นกัน เหมือนกับเจ้าปลาตัวนี้ที่ถูกจับโดยชาวประมงในรัสเซีย ซึ่งมันมีน้ำหนักมากกว่า 1 ตันเลยทีเดียว สิ่งมีชีวิตที่มาพร้อมกับขนาดอันมโหฬารตัวนี้ คือ ปลามูนฟิช ที่ถูกจับได้บริเวณชายฝั่ง Iturup หมู่เกาะคูริล ประเทศรัสเซีย ในช่วงวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา โดยทั่วไปที่จะพบเห็นกันน้ำหนักของปลาชนิดนี้จะอยู่ที่ราวๆ 300 กิโลกรัม และน้ำหนักของตัวที่ใหญ่ที่สุดก็คือ 2.2 ตัน ถูกจับขึ้นมาในปี 1908     ทว่าเจ้าตัวนี้กลับมีขนาดอยู่ที่ 1.2 ตันซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้นเลยทีเดียว โดยที่ Arthur Balkarov หนึ่งในชาวประมงท้องถิ่นกล่าวว่า… “แถวๆ นี้ไม่ค่อยจะมีปลาตัวใหญ่ขนาดนี้หรอก อย่างพวกตระกูลปลาหนังที่พบก็มีขนาดตัวเฉลี่ยทั่วๆ ไป และมีความยาวสุดๆ ก็ 1.5 เมตร ทว่าเจ้าตัวนี้กลับเป็นปลามูนฟิชตัวเดียวในละแวกนี้ ที่มีน้ำหนักมากกว่า 1 ตัน” และเมื่อจับเจ้าตัวนี้ขึ้นมาได้ชาวประมงกลับแขวนมันทิ้งไว้นานกว่า 1 วัน จนในที่สุดมันก็ตายลงไป หลังจากนั้นก็ตัดแบ่งเนื้อของมันทั้งหมด และไปโยนทิ้งไว้เพื่อเป็นอาหารให้กับหมีในป่าแทน   ถูกแขวนทิ้งไว้จนกลายเป็นซากที่ไร้ชีวิต   ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่พวกเขาได้ถ่ายโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากชาวเน็ตเยอะมากๆ…

  • มารู้จักกับ Pyrosomes สิ่งมีชีวิตใสๆ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล”

    มารู้จักกับ Pyrosomes สิ่งมีชีวิตใสๆ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล”

    สิ่งมีชีวิตบนโลกของเรายังมีอีกมากมายที่มีความน่าดึงดูด ทว่ากลับไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก อย่างเช่นเจ้าตัวนี้ที่มีความน่าสนใจขนาดที่ว่ามีคนไปตั้งฉายา “ยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล” ให้กับมันเลยทีเดียว โดยล่าสุดนี้เมื่อ Jay Wink นักดำน้ำจากกลุ่ม ABC Scuba Diving ได้ดำลงไปนอกชายฝั่งของเมือง Port Douglas รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ต้องพบเข้ากับสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดและสีสันที่ชวนให้หลงใหลใต้น้ำ แน่นอนว่าเขาจะต้องไม่พลาดที่จะควักกล้องสำรวจมาถ่ายรูปเก็บไว้ และนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กพร้อมกับคำถามว่า “ใครพอจะสามารถตั้งชื่อให้กับเจ้าตัวประหลาดนี้ได้บ้าง?”     เจ้าสิ่งนี้บางคนอาจดูแล้วเห็นว่ามันใสๆ เรืองแสงสีชมพูซะ ดูเหมือนกับเกลียวคลื่นมากกว่า แต่ถึงอย่างไรมันก็คือสิ่งมีชีวิตจริงๆ มีชื่อเรียกว่า Pyrosome เป็นสัตว์น้ำที่อยู่ในกลุ่มสัตว์มีแกนสันหลัง ถ้าจะพูดให้ถูกคงต้องบอกว่ามันคือ การรวมตัวของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ลักษณะคล้ายแมงกระพรุนที่เรียกว่า Zooids นับพันตัว จนกลายมาเป็นขบวนทรงกระบอกขนาดใหญ่ยาว 3 เมตร ตามปกติความยาวเฉลี่ยของสิ่งนี้จะอยู่ที่ 30 – 60 เซนติเมตร ทว่าก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้ค้นพบ พวกมันในขนาดที่ยาวถึง 30 – 35 เมตร เทียบเท่ากับวาฬได้เลย แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดใหญ่ ก็ไม่ได้จะสร้างอันตรายให้กับพวกเราเลย นอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับอุตสาหกรรมการประมง อย่างเช่นการไปติดกับแหตกปลาในประเทศสหรัฐอเมริกา    …

  • 11 เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถสังเกตได้ว่าคุณอ่ะ… กำลัง “ตกหลุมรัก” เข้าแล้ว

    11 เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถสังเกตได้ว่าคุณอ่ะ… กำลัง “ตกหลุมรัก” เข้าแล้ว

    ความรักมีได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรักกันในครอบครัว รักแบบพี่น้อง รักเพื่อน รักสัตว์ รักสิ่งของต่างๆ หรือรักแบบคนรักเองก็เช่นกัน แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่าได้รักใครไปแล้ว คุณคิดไปเองหรือว่ามันเกิดขึ้นจริงกันแน่นะ? นอกเหนือจากสิ่งที่คุณเดาเอาจากความคิดความรู้สึกแล้ว เรื่องนี้ยังสามารถทราบได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ เพราะร่างกายของคุณเองก็เกิดปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน ว่าแล้วก็ลองไปดูกันซะหน่อยว่าจะมีข้อสังเกตอะไรกันบ้าง   มองแต่เธอหรือเขาอยู่ตลอด   หากคุณถูกจับได้ว่าแอบมองใครสักคนอยู่ อาจหมายความว่าคุณกำลังตกหลุมรักเขาหรือเธอคนนั้นไปแล้ว เพราะว่าการที่เราจ้องอะไรสักอย่างอยู่ นั่นคือกำลังให้ความสนใจกับสิ่งๆ นั้น กับคนที่เรารักเองก็เช่นกัน การศึกษาพบอีกว่าคู่รักที่มักจะสบตากันไม่ยอมละสายตาไปไหน แสดงว่าทั้งสองคนมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกว่าคู่ที่ไม่ได้ทำ ขณะเดียวกันหากคนแปลกหน้าสองคนสบตากันนานกว่า 1 นาที ความรักของทั้งสองอาจกำลังเบ่งบานอยู่ก็เป็นได้ รู้สึกเหมือนกำลังมึนเมา   เมามายและหลงใหลไปกับความรักนั้นคือเรื่องจริง เพราะจากการศึกษาของสถาบัน Kinsey บอกไว้ว่า สมองของผู้ที่กำลังมีความรักจะดูเหมือนสมองของคนที่เสพโคเคน ส่วนหนึ่งเกิดจากสารโดพามีน (Dopamine) ที่หลั่งออกมาเหมือนกัน ข้าวใหม่ปลามันทั้งหลายถึงได้ดูเหมือนรักกันปานจะกลืนกินยังไงละ   คิดถึงแต่คนคนนั้น   เวลาที่รักใครสักคนก็เป็นเรื่องยากที่จะเอาเขาออกไปจากสมองของเราได้ นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะก็เป็นสิ่งที่ร่างกายทำให้เราเป็นแบบนั้น เมื่อสมองหลั่งสารฟีนิลเอธิลามีน (Phenylethylamine) หรืออีกชื่อคือสารแห่งความรัก เจ้าตัวนี้แหละที่ทำให้คุณหลงใหลในตัวของคนๆ นั้น และอาจคุ้นเคยกันดีสำหรับบางคน ในเมื่อมันเป็นสารเดียวกันกับที่มีในช็อกโกแลต ที่จะทำให้คุณไม่อาจหยุดกินมันได้เลย   ต้องการให้เขาหรือเธอมีความสุข   ความรักคือความเท่าเทียม…

  • ภาพการเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจของคุณตา “เขี้ยวเหล็ก” ผู้เสพติดการกินแก้วมานานกว่า 32 ปี

    ภาพการเคี้ยวเพลินเกินห้ามใจของคุณตา “เขี้ยวเหล็ก” ผู้เสพติดการกินแก้วมานานกว่า 32 ปี

    พวกเราทุกคนมีความชอบในเรื่องของอาหารการกินที่แตกต่างกันไป บางคนชอบกินปลา ชอบผัก หรือว่าชอบเนื้อก็คงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าชอบกินแก้วอย่างคุณตาคนนี้คงไม่ใช่จะได้เห็นกันง่ายๆ คุณตาคนดังกล่าวมีชื่อว่า Liu Zundun วัย 71 ปี ผู้มีงานอดิเรกและความสามารถที่แปลกประหลาด เพราะเขาชื่นชอบในการกินแก้วมานานกว่า 32 ปีแล้ว มีภาพแสดงให้เห็นเขาหยิบแก้วน้ำขึ้นมา กัดเข้าปาก เคี้ยวดังกรุ๊บๆ เหมือนกับมันเป็นอาหารที่คนเรากินได้ทั่วไป ก่อนที่จะกลืนน้ำตามลงไป โดยไม่มีอาการอะไรเลย     และถึงแม้ว่าตัวเขาจะชื่นชอบสิ่งนี้ โดยเฉพาะการกินแก้วเบียร์ ทว่าเขากลับไม่ดื่มแอลกอฮอล์เลยแม้แต่น้อย ในขณะที่คนอื่นๆ กำลังดื่มด่ำและเมามายไปกับพิษของสุรา ตัวเขาก็จะนั่งเคี้ยวแก้วไปแบบสบายใจ ความสามารถพิเศษของเขานี่เองที่ทำให้เวลาไปไหนมาไหน ผู้คนก็จะขอให้เขาช่วยแสดงให้ดูจนกลายเป็นความเคยชิน ถึงขนาดที่ว่าผู้อยู่อาศัยในเมืองเดียวกันกับเขา บอกว่าเขาจะถูกขอแสดงให้ดูในทุกงานแต่งเลยทีเดียว   งั่มๆๆ   แน่นอนว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นี้คงจะไม่แปลกหากเขาจะมีอาการป่วยที่ท้องหรือลำคออยู่บ้าง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีความผิดปกติเหล่านั้นเลย เขาบอกว่าสิ่งเดียวที่แปลกไปในตัวเองคือฟันซี่หนึ่งที่แข็งแรงกว่าซี่อื่น ทั้งที่ควรจะอ่อนแอไปตามอายุ และสิ่งนี้ก็ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “เขี้ยวเหล็ก”     ทั้งหมดนี้อาจเป็นไปได้ว่านี่คืออาการที่เรียกว่า Pica ซึ่งทำให้มีนิสัยชอบกินในสิ่งที่ไม่ใช่อาหาร เหมือนกับกรณีของเด็กออทิสติกชาวอังกฤษวัย 4 ขวบชอบกินพลาสติก และแรงงานในอินเดียที่ชอบกินทราย     ใช้ฟันกัดซะแหว่งเลย  …

  • 8 วิธีทางวิทยาศาสตร์ ที่จะช่วยให้คุณ ‘มีเสน่ห์’ สามารถดึงดูดใจคนรอบข้างได้มากยิ่งขึ้น

    8 วิธีทางวิทยาศาสตร์ ที่จะช่วยให้คุณ ‘มีเสน่ห์’ สามารถดึงดูดใจคนรอบข้างได้มากยิ่งขึ้น

    ความมีเสน่ห์และดึงดูดใจคนรอบข้าง คงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนอยากมี ทำให้ดูน่าคบหาทั้งกับเพื่อนและเพศตรงข้าม ซึ่งแน่นอนว่าการแต่งกายก็เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดเมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาบอกแนวทางที่จะพัฒนาเรื่องนี้ได้มากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องความแตกต่างในตัวบุคคล เพราะวิธีการเหล่านี้ทุกคนสามารถทำได้ไม่แตกต่างกัน จะมีอะไรกันบ้างก็ลองไปดูกันได้เลย   มีอารมณ์ขัน   ทุกคนคงทราบกันแล้วว่าหากคุณเป็นคนตลกก็จะสามารถดึงดูดคนรอบข้างได้ดี ซึ่งหากคุณมีอารมณ์ขันในเรื่องที่ตัวเองสร้างขึ้น ไม่ใช่ตลกในเรื่องของคนอื่นจะเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวเองอย่างมาก จากการศึกษาพบว่าผู้หญิงจะชอบผู้ชายที่สามารถทำให้เธอหัวเราะได้ ส่วนผู้ชายไม่ได้มองเรื่องนั้นเพราะเพียงแค่รอยยิ่มของเธอแค่นั้นก็เกินพอ   สนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว   นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่าผู้คนจะดูน่าสนใจมากขึ้นเมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม เหตุผลเพราะว่าการทำงานของสมองจะรวมหน้าตาของคนในกลุ่มไว้ด้วยกัน ทำให้แต่ละคนดูเฉลี่ยพอๆ กันหมดผลลัพธ์ก็คือ คุณจะดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น   กริยาท่าทาง   จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การแสดงท่าทางที่เปิดเผยและมั่นใจจะช่วยให้คุณดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นกับคนที่เจอกันครั้งแรก อย่างการโอบกอดคนที่เจอกันทุกคนด้วยความอบอุ่นก็อาจเป็นวิธีการที่ไม่เลวเลยทีเดียว   การสื่อสาร   การศึกษาจากฮาร์วาร์ดพูดว่าเมื่อเวลาที่คุณพูดถึงแต่ตัวเองเพียงอย่างเดียว คนที่ฟังจะรู้สึกไม่มีความสุขและไม่สนใจในเรื่องเหล่านั้น บางครั้งคุณก็ต้องถามแปลกๆ หรือในเชิงลึกของพวกเขาดูบ้าง คุณจะรู้ได้เลยว่าพวกเขารู้สึกโอเคมากขึ้นขนาดไหน   ความเป็นผู้นำ   เป็นธรรมชาติของเราที่จะมองว่าผู้นำมีแรงดึงดูดความสนใจ การศึกษาบอกว่าคนที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มจะรู้สึกว่าคนที่เป็นผู้นำในกลุ่มของตัวเองมีเสน่ห์ที่มากกว่าที่จะสร้างแรงดึงดูดให้กับคนนอกกลุ่ม เหมือนกับที่ CEO จะทำให้พนักงานในบริษัทเห็นถึงเสน่ห์ได้มากกว่าคนภายนอก   การแสดงออกทางสีหน้า   นักวิจัยชาวสวิสทำการศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างเสน่ห์กับรอยยิ้ม สิ่งที่พบคือใบหน้าที่ยิ้มแย้มออกมาอย่างจริงใจจะสามารถดึงดูดคนรอบข้างได้มากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่สังเกตได้หากเราเป็นคนที่แสดงออกถึงความสุขได้ง่าย จะทำให้คลี่คลายเรื่องต่างๆ…

  • ความรู้สึกแรกพบ ของหนูน้อยกับเจ้าหมาขนปุย จะช่วยให้คุณหวนนึกถึงสัตว์เลี้ยงตัวแรก…

    ความรู้สึกแรกพบ ของหนูน้อยกับเจ้าหมาขนปุย จะช่วยให้คุณหวนนึกถึงสัตว์เลี้ยงตัวแรก…

    ยังจำกันได้มั้ยในครั้งแรกที่เราได้เลี้ยงสัตว์ซักตัว ความรู้สึกของเราตอนนั้นเป็นอย่างไร เราดีใจ ตื่นเต้น หรือว่ามีความสุขมากแค่ไหนกันนะ หากว่ายังคิดกันไม่ออก งั้นต้องลองมาดูสาวน้อยวัย 6 ขวบชื่อ Ava คนนี้ดูว่า เมื่อความฝันที่จะเลี้ยงลูกสุนัขซักตัวของเธอเป็นจริงขึ้นมา จะแสดงออกมาอย่างไรบ้าง แม่ของเธอบอกว่า “เด็กคนนี้อยากที่จะเลี้ยงสุนัขเอามากๆ ทำกับตุ๊กตาเหมือนกับเป็นน้องหมาจริงๆ วางชามข้าวและน้ำเอาไว้ให้ หรือแม้แต่ลากตุ๊กตาสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้าน”   ใครก็ได้บอกพ่อหนูให้หน่อย ว่าหนูอยากเลี้ยงหมา   เธอถึงขนาดประกาศขอความช่วยเหลือในทวิตเตอร์ ให้ใครก็ได้บอกพ่อของเธอหาหมามาเลี้ยงสักตัว ไม่รู้ว่าวิธีนั้นประสบความสำเร็จหรือว่าครอบครัวพร้อมที่จะเลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว เพราะในที่สุดเมื่อพ่อของเธออ้างว่าจะออกไปหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ แต่เขาดันกลับมาพร้อมกับเจ้าขนปุยตัวน้อย สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับเธอเป็นอย่างมาก!!     เธอเข้าไปวิ่งเล่นกับมันทันทีด้วยความน่ารักสดใสร่าเริงอย่างมาก ถึงแม้ว่าในตอนแรกมันจะดูตื่นกลัวอยู่บ้าง แต่ก็สามารถปรับตัวเข้ากับเธอได้โดยง่าย     เธอยังบอกอีกว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป และคงจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน เพราะทั้งสองเข้ากันได้มากเลยทีเดียว ทุกคนก็อย่าลืมโมเม้นต์ความประทับใจและรักษามันไว้ให้ดีๆ นะ   คลิปความน่ารักการพบกันของทั้งคู่ ที่มา: viralnova

  • พาไปดู “เครื่องแบบตำรวจ” ใน 14 ประเทศทั่วโลก ดูซิว่าพวกเขาจะเท่ห์กันขนาดไหน!

    พาไปดู “เครื่องแบบตำรวจ” ใน 14 ประเทศทั่วโลก ดูซิว่าพวกเขาจะเท่ห์กันขนาดไหน!

    ผู้พิทักษ์สันติราชหรืออาชีพที่เรารู้จักกันดีอย่าง “ตำรวจ” เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องเคยเจอเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย อยู่ในทุกที่ที่เราไป ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องครอบคลุมดูแลประชาชนทุกคน ภาพของตำรวจบ้านเราในชุดสีกากี ตั้งด่าน ตรวจตราความเรียบร้อย ไล่จับผู้ร้าย คือสิ่งปกติที่เกิดขึ้นในไทย แล้วเครื่องแบบตำรวจของประเทศอื่นๆ ล่ะ จะเป็นอย่างไร เคยสงสัยกันหรือเปล่าเอ่ย? พูดไปก็คงจะไม่เห็นภาพ งั้นลองไปดูภาพของพวกเขากันเลยดีกว่า ว่าแต่ละที่จะมีเครื่องไม้เครื่องมือ และการแต่งกายอย่างไรบ้าง   เจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ประเทศอิตาลี   นายตำรวจ Ben Sinclair ในชุดตำรวจนครบาลและเสื้อสะท้อนแสง ลอนดอน ประเทศอังกฤษ   เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปราบปรามผู้ก่อการร้ายพิเศษ นครเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย   ตำรวจนครบาลหน่วยสำรองรัฐบาลกลาง พร้อมอุปกรณ์ควบคุมการก่อจราจล ที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย   ตำรวจแห่งเมืองนิวยอร์ก ยืนเฝ้ายามพาเหรดเฉลิมฉลองวันอินเดียตะวันตก ที่บรูคลิน สหรัฐอเมริกา   ภาพของนายตำรวจ เมืองคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน   สมาชิกกองกำลังความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ด้านหน้าสำนักงานใหญ่ของฝั่งยุโรป นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์   เจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษ ในจุดฝึกซ้อม…

  • สาเหตุที่ “หมาลาบราดอร์” ตะกละตะกลามและหิวโหย แท้จริงแล้วนิสัยของมันเกิดจากยีนส์นี่เอง

    สาเหตุที่ “หมาลาบราดอร์” ตะกละตะกลามและหิวโหย แท้จริงแล้วนิสัยของมันเกิดจากยีนส์นี่เอง

    เหล่าผู้ชื่นชอบน้องหมาทั้งหลายคงจะต้องรู้จักสายพันธุ์ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ กันเป็นอย่างดีแน่นอน ด้วยหน้าตาน่ารักน่าชัง ชอบกระดิกหางดุ๊กดิ๊กไปมา จะเลี้ยงจะฝึกให้เชื่องก็ง่าย แต่ที่สำคัญเลยก็คือมันกินแบบตะกละเอามากๆ ทำเอาเจ้าของทั้งหลายต้องพากันกลัดกลุ้ม ไม่รู้ว่ามันจะรักการกินอะไรขนาดนั้น แต่ไม่ต้องห่วงแล้วเพราะนักวิทยาศาสตร์ได้มีผลการวิจัยออกมารองรับเป็นที่เรียบร้อย มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์พบว่าสิ่งที่ทำให้เจ้าลาบราดอร์และแฟลตโค้ทรีทรีฟเวอร์ มีอาการหิวและร้องขออาหารอยู่แทบจะตลอด หากว่าในมือคุณมีขนมด้วยแล้วละก็นะ จริงๆ แล้วเรื่องทั้งหมดมาจากพันธุกรรม ไม่ใช่ว่ามันเสียนิสัยแต่อย่างใด     ทางมหาวิทยาลัยหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยทำให้เจ้าของทั้งหลาย เลิกว่ามันเป็นจอมตะกละกันซักที และขอเตือนไว้ว่าอย่าคิดที่จะดึงเอายีนส์ดังกล่าวออกจากลูกที่กำลังจะเกิดมาของพวกมัน เพราะบางทีอาจทำให้เสียเอกลักษณ์ไป เช่นจมูกน้อยๆ และอุ้งเท้าอันแสนน่ารักก็เป็นได้     การศึกษาในครั้งนี้กับสุนัข ที่ถึงแม้ว่ามันจะพูดไม่ได้ ทำได้แค่ชั่งน้ำหนักเพียงอย่างเดียว แต่จากการสอบถามข้อมูลจากเจ้าของพวกมันทั้ง 310 ตัวแล้ว ผู้วิจัยได้บันทึกไว้ว่าหนึ่งในสี่ของเจ้าหมามียีนส์ก็อปปี้ที่เรียกว่า POMC อยู่ ยีนส์ดังกล่าวเป็นยีนส์ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดโรคอ้วน สุนัขที่มีเจ้าของคอยควบคุมการออกกำลังกายและอาหารที่จะได้รับ เฉลี่ยแล้วจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าทั่วไป 1.9 กิโลกรัม ทำให้เห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากยีนส์มากกว่าวิธีการเลี้ยงดู ที่ทำให้พวกมันน้ำหนักเพิ่มขึ้น     Dr Eleanor Raffan หัวหน้าการศึกษาในครั้งนี้บอกว่า “นี่เป็นจุดสำคัญและปกติที่ช่วยอธิบายได้ว่า ทำไมลาบราดอร์ถึงมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักมากกว่า เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ” แต่ไม่ได้ยืนยันให้กับสายพันธุ์แฟลตโค้ทรีทรีพเวอร์ได้โดยตรง ในเมื่อพวกมันไม่มีแนวโน้มที่จะอ้วนมาก่อนเลย     แถมท้ายว่าปัญหาโรคอ้วนของสุนัขเป็นเรื่องสำคัญ…

  • หนุ่มรักสัตว์ของแท้ ผู้เลี้ยง “นก” กว่า 3,000 ตัว ทุกวันๆ แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    หนุ่มรักสัตว์ของแท้ ผู้เลี้ยง “นก” กว่า 3,000 ตัว ทุกวันๆ แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    หลายคนมีสัตว์เลี้ยงที่เราคอยดูแลพวกมันอยู่เสมอ ทั้งเจ้าหมาเจ้าเหมียวทั้งหลาย หรือแม้แต่นกสายพันธุ์ต่างๆ ชายคนนี้เองก็เป็นผู้ชื่นชอบนกและเลี้ยงไว้เช่นเดียวกัน ทว่าความเจ๋งก็คือเขาไม่ได้เลี้ยงแค่ตัวเดียวเนี่ยสิ Harsukh Bhai Dobariya หนุ่มชาวอินเดียผู้โด่งดังอย่างมาก โดยเฉพาะกับนกแล้วละก็ เขาเป็นที่รู้จักพอสมควรเลย เพราะจะมีนกแก้วและนกกระจอกราวๆ 3,000 ตัวมาหาเขาที่บ้านทุกๆ วัน เรื่องแบบนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2000 ในตอนที่เขาขาหัก ต้องนอนอยู่บนเตียงแทบจะตลอดเวลา จนเมื่อคนแถวบ้านมาซื้อข้าวฟ่างมุกจากเขา ทำให้เกิดไอเดียนำซังข้าวฟ่างวางล่อตาเจ้านกให้มากินตรงระเบียงบ้านของตัวเอง วันต่อมาพบว่ามีนกแก้วสองตัวกำลังกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ผ่านไปจำนวนของพวกมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งภายในหนึ่งเดือน ก็มีนกขาประจำมาราว 200 ตัวทุกๆ วัน     ด้วยพื้นที่ที่จำกัด จึงนำเอาท่อน้ำเก่าๆ มาวางเรียงกันและเอาฝักไปห้อยไว้ ทำให้เจ้านกทั้งหลายที่มาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สามารถกินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ที่พักใจกลางของเขาที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเหล่านกมากมาย สร้างความเดือดร้อนให้คนข้างบ้านและผู้สัญจรไปมา ด้วยเสียงร้องที่มีให้ได้ยินกันตลอด แล้วยังเรื่องของขี้นกอีกก็เป็นปัญหาสำคัญ ทำให้เขาและครอบครัวตัดสินใจย้ายออกไปอยู่นอกเมืองในปี 2012 บนพื้นที่กว่า 16,000 ตารางเมตร และมั่นใจว่าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ทำให้สามารถให้อาหารพวกนกได้อย่างเต็มที่ เรียกว่าเป็นฟาร์มนกไปแล้ว     ปัจจุบันเขาและครอบครัวให้อาหารนกราว 3,000 ตัวต่อวัน ที่บินกันมาเป็นระยะๆ เกาะอยู่บนแผงทรงตัวที่พวกเขาสร้างให้ จำนวนที่มากขนาดนี้ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนซักข้าวฟ่างสองครั้งต่อวันกันเลย…

  • นี่สิ “หุ่นหมี” ของจริง ความอ้วนกลมน่ารักน่าฟัดน่ากอด พร้อมจำศีลตะลุยความหนาวกันแล้ว

    นี่สิ “หุ่นหมี” ของจริง ความอ้วนกลมน่ารักน่าฟัดน่ากอด พร้อมจำศีลตะลุยความหนาวกันแล้ว

    เมื่อฤดูหนาวมาถึง พวกเราทุกคนก็คงจะต้องหาเครื่องแต่งกายสร้างความอบอุ่นเอาไว้ เพราะไม่อย่างนั้นมีหวังป่วยจนไม่ได้ทำอะไรกันพอดี สัตว์หลายๆ ชนิดเองก็เช่นกัน อย่างเจ้าหมีที่เราคงจะต้องเคยได้ยินวลีที่ว่า “หมีจำศีล” เป็นวิธีการที่จะช่วยให้มันสามารถเอาชีวิตรอดผ่านพ้นช่วงนั้นไปได้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมพวกมันก็จะกินอาหารไว้ให้มากที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และช่วงนี้เองที่บอกได้เลยว่าความน่ารักของพวกมันจะต้องทำให้ใครหลายคนหมั่นเขี้ยวแน่ๆ ไม่เชื่อก็ต้องลองไปดูภาพที่โพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @IDIOT_TEEN กับตัวอย่างของเจ้าหมีส่วนหนึ่งว่ามันกลมดิ๊กขนาดไหน และใครๆ ต่างก็รักมันในตอนนี้กันทั้งนั้น   เอนหลังล้มไปจะลุกไม่ขึ้นเอานะ   มองไปไม่เห็นขาแล้วนะแม่คุณ   ดูต้วมเตี้ยม แน่นพุงไม่ค่อยอยากขยับไปไหน   ช่วยผมหน่อย ผมลุกไม่ขึ้นง่ะ   โอ๊ะพุงติดหิน ออกไม่ล่ายยย   เห็นอย่างนี้ก็คงจะเข้าใจคำว่าหมั่นเขี้ยวน่าฟัดน่ากอดกันชัดเจนขึ้นแล้วสินะ แน่นอนว่าเหมือนทุกครั้งที่ผู้คนมากมายต่างรู้สึกชอบ ในสิ่งที่สะท้อนตัวเราออกมา เกิดเป็นกระแสเข้ามามากมาย   “ฤดูกาลของเด็กอ้วน”  “นี่มันฉันตอนแต่งชุดดำชัดๆ”   “ใครมาเห็นฉันในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้กัน”   “บอกตรงๆ ว่านี่มันนายชัดๆ”  “ผมรักพวกมัน มันคือผมชัดๆ”   แล้วเพื่อนละมีความคิดเห็นกับเจ้าหมีตัวอ้วนกลมเหล่านี้บ้าง ยังไงก็คอมเม้นท์กันไว้ด้านล่างเลย   ที่มา: distractify

  • เรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากการถูก “สาดน้ำกรด” สะท้อนถึงความโหดร้ายในตัวมนุษย์

    เรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากการถูก “สาดน้ำกรด” สะท้อนถึงความโหดร้ายในตัวมนุษย์

    ความทรมานจากบาดแผลที่ถูกสาดด้วยน้ำกรด ไม่ได้ทิ้งไว้เพียงแค่แผลเป็นบนร่างกาย ที่สำคัญคือจิตใจที่จะต้องใช้ชีวิตต่อไปด้วยสภาพแบบนั้น ช่างภาพชาวเยอรมัน Ann-Christine Woehrl จึงเดินทางไปเอเชียและแอฟริกา เพื่อถ่ายภาพของหญิงสาวผู้รอดชีวิตจากสิ่งนั้น โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า IN / VISIBLE ซึ่งจัดขึ้นในนามขององค์กรการกุศล ASTi คอยช่วยเหลือเหยื่อจากสารเคมีชนิดนี้ทั่วโลก ในอูกันด้า กัมพูชา ปากีสถาน เนปาล อินเดีย และบังกลาเทศ คือสถานที่เธอเข้ามาถ่าย เพราะประเทศเหล่านี้เกิดเหตุการณ์ถูกทำร้ายประเภทนี้เยอะมาก เหยื่อมากมายต้องเสียโฉม ตัดขาดการเข้าสังคม บางคนถึงกับยอมรับว่าต้องการที่จะฆ่าตัวตายไปเลยเสียด้วยซ้ำ ภาพที่ไม่ได้แสดงให้เห็นเพียงรูปลักษณ์ของพวกเธอ แต่สื่อให้เห็นความรู้สึกภายในลึกๆ และเหตุการณ์อันเลวร้ายที่ต้องเจอมา มาร่วมรับรู้ส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านั้นกัน   Sokneang ชาวกัมพูชา   เธอถูกทำร้ายเมื่อปี 2005 จากหญิงสาวที่อิจฉาในความสัมพันธ์ของเธอและสามี ขณะที่เธอนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ก็ต้องพบกับอาการแสบร้อน ไหม้ใบหน้าและร่างกายด้านซ้ายของเธอ   Makima สาวชาวอินเดีย   หนุ่มข้างบ้านต้องการแต่งงานกับเธอ แต่เธอปฏิเสธไป ทำให้ขณะที่เธอหลับอยู่ในคืนหนึ่ง แม่ของฝ่ายชายเอาน้ำกรดมาเทไปทั่วหน้า ผู้กระทำผิดเพียงแค่จ่ายค่าทำขวัญให้กับเธอ และรอดจากการถูกจับกุมไปได้ เรื่องนี้เองที่ทำให้เธอต้องการเป็นตำรวจ ต่อสู้เพื่อความถูกต้องให้มากกว่านี้   Chantheoun ชาวกัมพูชา   มีหญิงสาวและญาติๆ ของเธอขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าเธอไป พร้อมกับสาดน้ำกรดจำนวน 2…

  • เหล่านักเดินทางข้ามกาลเวลา เพราะหน้าตาดันไปเหมือนภาพในพิพิธภัณฑ์อันเก่าแก่

    เหล่านักเดินทางข้ามกาลเวลา เพราะหน้าตาดันไปเหมือนภาพในพิพิธภัณฑ์อันเก่าแก่

    ในบางครั้งเวลาที่เราเดินไปไหนมาไหน ก็อาจเจอเข้ากับคนที่หน้าเหมือนเราหรือเพื่อนเราเอามากๆ ชวนให้คิดกันว่านั่นเป็นฝาแฝดที่พลัดพรากจากกันมานานหรือเปล่านะ บางทีไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เดินสวนไปมาก็ได้ แต่เรากลับสามารถเห็นหน้าตัวเองผ่านภาพอันเก่าแก่ ภายในพิพิธภัณฑ์ที่มีอายุมามากกว่า 10 ปี หรือ 100 ปี เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ ที่ไม่แน่ว่าความจริงแล้วเขาอาจเดินทางข้ามกาลเวลามาก็ได้นะ เพราะว่ามันช่างเหมือนกันซะเหลือเกิ๊นนน   เธอเองไงในวัยเด็ก เมื่อ 100 ปีที่แล้วอ่ะนะ   หันมามองที ต้องขยี้ตากันเลย นี่เบลอไปเองป่ะเนี่ย   การแตกตัวที่แตกต่างคนละยุคสมัย   ก็คิดว่าแฝดสอง แท้จริงมีแฝดพี่ สีกางเกงคืออยู่ไกลไป 1 กิโล ก็ยังเห็น   “ภาพของตัวข้าเมื่อครั้งยังหนุ่ม 111 ปีที่แล้ว ออกรบในคราบซามูไร ปัจจุบันจึงกลายมาเป็นนักสะสมของเหล่านี้” ประจวบเหมาะเกิ๊นนน   เชิดได้อีก เชิดเลยลุง เชิดเข้าไว้   ผ่านกาลเวลามานาน สีผมก็ต้องมีซีดลงบ้าง   นี่ภาพคุณย่าทวด ของคุณย่าทวด ของฉันแน่ๆ เลย   ผมสลวยได้ เพราะข้าใช้ซันซิลค์มากว่า 100…

  • 27 ภาพที่จะทำให้คุณต้องเกือบลืมหายใจ สวยงามได้โดย “ไม่ต้องใช้โฟโต้ช็อป”

    27 ภาพที่จะทำให้คุณต้องเกือบลืมหายใจ สวยงามได้โดย “ไม่ต้องใช้โฟโต้ช็อป”

    การถ่ายภาพในบางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะระดับมืออาชีพ ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจสวยงามเกินความคาดหมายของคุณไปได้ ด้วยจังหวะที่เหมาะเหม็ง กดชัตเตอร์ปุ๊ปออกมาเป็นภาพสุดประทับใจ ไม่ต้องใช้โปรแกรมแต่งภาพหรือสเปเชียลเอฟเฟกต์ ก็สามารถเอาไปอวดเพื่อนๆ ให้อ้าปากค้างกันได้ หากคุณยังไม่เชื่อ ก็ต้องลองมาดูภาพเหล่านี้ ที่ออกมาจากจินตนาการ มุมกล้อง และเวลาที่เหมาะสม   ภาพหลังจากนี้ น้ำคงซัดเธอกระเด็นไปแล้ว   แค่กั้งในกระบะเหล็กนะ ไม่ใช่ว่ามันกำลังยึดครองดาวดวงหนึ่งอยู่   ภูเขาไฟระเบิดในชิลี ที่ทั้งสวยงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน   การเฉลิมฉลองของทหารเรือในสหราชอาณาจักร   ปล่อยให้ไหลไป ให้ลอยลงสู่ทะเล   ใช้วิธีเปิดรับแสงเป็นเวลานาน แค่นั้นก็ออกมาเป็นภาพอันน่าประทับใจนี้ได้   สุดยอดคลื่นทะเล ในฮาวาย   รูปปั้นพระเยซูที่เต็มไปด้วยปะการัง ใต้น้ำในรัฐฟลอริด้า   หนึ่งในน้ำท่วมที่รุนแรงที่สุดของสโลวีเนีย มาพร้อมกับความอัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่   เหมือนกับเกสรดอกไม้ที่กระจายตัวกันออกไป   หากว่าคุณยืนถ่ายอยู่ตรงนั้น จะรู้สึกอย่างไรกันบ้างนะ   ใบเบิร์ชที่ถูกแช่แข็งในบ่อน้ำ   การเย็บแหตกปลาในเวียดนาม   ภูเขาไฟ Bromo ที่ยังคงระอุอยู่ถึงทุกวันนี้   ฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิในโคโลราโด   แสงเหนือที่นอร์เวย์…

  • ท้าความตายกับ 10 ถนนหนทางที่อันตรายที่สุดในโลก มองไกลๆ ยังหวาดเสียว

    ท้าความตายกับ 10 ถนนหนทางที่อันตรายที่สุดในโลก มองไกลๆ ยังหวาดเสียว

    สำหรับคนที่ต้องใช้รถใช้ถนนทุกวัน อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แม้ว่าคุณขับรถดีแล้ว ก็ต้องสังเกตรถคนอื่นด้วย และถึงแม้ว่าคันอื่นจะขับกันดีแล้ว อย่าลืมที่จะดูเรื่องถนนด้วย เพราะบางทีเส้นทางที่เราใช้มันก็อาจไม่สะดวกสบายอย่างที่เราคิด เพราะ #เหมียวตะปู จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ 10 ถนนที่ขึ้นชื่อว่า อันตรายที่สุดในโลก บอกเลยว่าถ้าเป็นอย่างนี้ยอมจ่ายเงินนั่งเครื่องบินเดินทางไป อาจดีกว่ากันเยอะเลยนะ   ถนนไฮเวย์เสฉวน – ทิเบต ในประเทศจีน   ถนนเส้นนี้จะพาคุณขึ้นไปบนภูเขาสูงและลาดชัน อีกทั้งยังมีปัญหาดินและหินถล่มลงมาเป็นเรื่องปกติ และหากคุณคิดว่าก็ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ จากสถิติพบว่า 1 แสนคนที่ขับรถผ่านทางนี้ จะมีคนตาย 7,500 คน ซึ่งไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย   ถนนตัดผ่าน Stelvio ในอิตาลี   ถนนที่มีความยาวและสูงเป็นอันดับสองในบรรดาถนนบนเทือกเขาแอลป์ทั้งหมด ซึ่งสูงกว่า 2 กิโลเมตร รูปร่างเหมือนกับเด็กมาวาดอะไรเล่นขยึกขยือเต็มไปหมด ความอันตรายของมันก็คือความเร็วขณะที่ต้องขับลงมา ทางโค้งในมุม 180 องศา และที่กั้นคอนกรีตเตี้ยๆ รวมแล้วคือหายนะชัดๆ   ถนนตัดผ่าน Los Caracoles ประเทศชิลี .   เป็นถนนตัดผ่านเทือกเขาแอนดีส อยู่ระหว่างประเทศชิลีและอาร์เจนตินา เต็มไปด้วยทางสูงชันและโค้งหักศอกมากมาย…

  • มาดูกันว่า “พายุ” แต่ละลูกที่เคยเกิดขึ้นบนโลก มันยิ่งใหญ่และรุนแรงขนาดไหน

    มาดูกันว่า “พายุ” แต่ละลูกที่เคยเกิดขึ้นบนโลก มันยิ่งใหญ่และรุนแรงขนาดไหน

    ช่วงนี้เพื่อนๆ คงได้ยินข่าวพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์ม่าที่ได้เข้าโจมตีหลายๆ ประเทศในช่วงที่ผ่านมากันไปแล้ว จนสร้างความเสียหายมูลค่านับไม่ถ้วน แล้วเราเคยรู้กันบ้างหรือเปล่าว่าเจ้าพายุที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง มีขนาดและความรุนแรงขนาดไหน เมื่อเทียบกับที่เคยเกิดขึ้นมาบนโลกของเราทั้งหมด แชนแนลยูทูปที่มีชื่อว่า Reigarw Comparisons ก็ได้ออกมาให้คำตอบ และเรียงลำดับให้เราดูกันไปเลย ว่าพายุที่ใหญ่ที่สุด มันจะซักแค่ไหนกันเชียว     ดูจากด้านบนเริ่มจากขนาดเล็กที่สุดคือพายุโซนร้อน Marco เส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 37 กิโลเมตร นับว่าอยู่ในกลุ่มที่ 1 ทำได้เพียงแค่ ถอนรากต้นไม้เล็กๆ ส่วนเฮอร์ริเคน Andrew ใหญ่สุดในรูปด้านบน เส้นผ่านศูนย์กลางยาว 300 กิโลเมตร เพิ่มขึ้นมาเกือบ 10 เท่า และอยู่ในระดับ 5 เป็นกลุ่มที่รุนแรงที่สุด สามารถยกรถบรรทุก ทำลายอาคารขนาดเล็ก และทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ได้ ทว่าที่น่ากลัวที่สุดในภาพนั้นคงเป็นไซโคลน Bhola แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า เส้นผ่านศูนย์กลาง แต่มันก็ได้คร่าชีวิตคนไปมากถึง 5 แสนคน ซึ่งสูงที่สุดที่เคยมีมาแล้ว     ตอนนี้เราก็จะได้เห็นขนาดของเฮอร์ริเคน Harvey กันแล้ว เส้นผ่านศูนย์กลาง 400 กิโลเมตร…

  • 19 การแก้ปัญหาของคนขี้เกียจทั้งหลาย บอกได้เลยว่าล้ำกว่าที่คุณคิดเอาไว้เยอะ

    19 การแก้ปัญหาของคนขี้เกียจทั้งหลาย บอกได้เลยว่าล้ำกว่าที่คุณคิดเอาไว้เยอะ

    วิธีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ นั้น นอกจากทักษะความสามารถและฝีมือความเชี่ยวชาญแล้ว บางครั้งมันขึ้นอยู่กับระดับความขี้เกียจของพวกคุณด้วย หลายคนคงไม่อยากที่จะต้องออกไปซื้ออุปกรณ์ใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่าจะหาที่ตรงสเป็คได้รึเปล่า จึงทำให้เกิดไอเดียแปลกๆ พิลึกๆ ที่ทำให้ต้องคิดกันว่า แบบนี้ก็ได้หรอ? เราลองไปดูตัวอย่างวิธีการแก้ปัญหาแบบมักง่ายๆ แต่ได้ผลดีซะเหลือเกิน   อย่าหมุนแรงนะลูก เดี๋ยวสายยางหลุดแล้วน้ำจะพุ่งออกมา   ก็ถ้าการล้างจานมันยากมากขนาดนั้นอ่ะนะ   แม่! แล้วผมจะต้มมาม่ากินยังไงอ่ะ   ตู้เย็นพลังธรรมชาติ ลดโลกร้อน   ถ้าหลับตาซ้ายแล้วดูหนังละก็ สมจริงกว่าในโรงอีกนะ เห็นยันสิวเสี้ยน   ชอบวิ่งผ่านช่องเล็กๆ ของรั้วออกไปดีนัก แค่นี้ก็หายห่วงแล้ว   ถ้ามีกันเกินสิบนี่ต้องใช้นิ้วเท้าช่วยด้วยมั้ยเอ่ย   เท่านี้ก็เรียบร้อย กลับไปนอนดูหนังต่อได้อย่างสบายใจ   เดินอยู่ในร่มเห็นอย่างนี้ก็อุ่นใจ   สงสัยจะชอบดูการ์ตูนจอมพลังอะไรแบบนั้นนะ   ไม่เอาแบบใหญ่ๆ กว่านี้ล่ะ จะได้กวาดให้ทั่วๆ หน่อย   อย่างนี้ไม่เรียกขี้เกียจนะ แต่โคตรขยันเลยแหละ   ตอนซื้อหวีีต้องรอบคอบ ซื้อแบบเงาๆ สะท้อนแสงหน่อย   ประเด็นคือนั่นมันโฟมใช่มั้ย   จะกำจัดหมากฝรั่งติดผมนี่ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วหรอ?…

  • ตั้ลล๊ากกก!! ความใสซื่อของน้องหมาคอร์กี้ ที่ยอมแบ่งกระดูกให้กับ “เงาในกระจก” ของตัวเอง

    ตั้ลล๊ากกก!! ความใสซื่อของน้องหมาคอร์กี้ ที่ยอมแบ่งกระดูกให้กับ “เงาในกระจก” ของตัวเอง

    เจ้าหมาน้อยคอร์กี้ ถือสุนัขที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยช่วงขาที่สั้นจุ๊ดจู๋ ชอบวิ่งเล่นดุ๊กดิ๊กไปมา เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่น่ารักน่าฟัดเอามากๆ เลย พวกมันชอบที่จะเล่นสนุกไปกับทุกๆ สิ่ง และทำให้เรายิ้มได้อยู่เสมอ เหมือนกับเจ้าตัวนี้ที่นอกจากจะชอบความสนุกสนานแล้วก็ยังจะใสซื่อเอามากๆ อีกด้วย     ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Eric Smith ได้โพสต์คลิปวิดีโอความน่ารักของมันให้ทุกคนได้เห็น เมื่อเจ้าคอร์กี้กำลังพยายามแบ่งกระดูกอันหวานฉ่ำ ให้กับเงาสะท้อนตัวมันเอง เรื่องมันเริ่มจากวันหนึ่งเจ้าหมาน้อยได้เดินผ่านตู้เย็นไป พบเข้ากับเพื่อนคอร์กี้อีกตัวในกระจก ด้วยความอัธยาศัยดีไม่อยากให้เพื่อนต้องจากไปมือเปล่า เลยแบ่งกระดูกของตัวเองให้ซะเลย   ความน่ารักของเจ้าคอร์กี้ แบ่งปันกระดูกให้กับเงาสะท้อนของตัวเอง   เอามาวางเขี่ยๆ ให้เหมือนกับจะบอกว่า “เอาไปได้เลยนะไอ้เกลอ” ส่วนท่าทางของมันก็น่ารักซะจริงๆ ทำอยู่อย่างนั้นโดยไม่รู้เลยว่านั่นคือตัวมันเอง ชักจะใสซื่อบริสุทธิ์ผุดผ่องเกินไปแล้ววว     คลิปดังกล่าวทำให้เห็นว่ามันเป็นสัตว์ที่ใจดีขนาดไหน จนชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเห็นเข้ามามากมาย อย่างเช่น “ใบหน้ายิ้มแย้มของมันที่มีให้กับเพื่อน เป็นความบริสุทธิ์ที่สุดบนโลกใบนี้ที่ฉันเคยเห็นเลย” “คุณพระ ช่างน่ารักมากๆ ฉันอดใจไม่ไหวที่จะเลี้ยงพวกมันสักตัวหนึ่ง มันคงจะวิ่งเล่นไปทั่วอย่างแน่นอน” “ฉันชอบตอนจบ มองเข้าไปในกระจก เห็นตัวเองแล้วยิ้ม” ผมอยากกินอ่ะครับคุณพ่อ   และเหล่าคนรักคอร์กี้ก็เข้ามาโพสต์รูป อวดความน่ารักของแต่ละตัวกันในคอมเม้นท์   พวกมันสุดยอดมาก ทำให้ลูกสาวของฉันอาการดีขึ้นเยอะมาก ฮีโร่ของพวกเรา   แน่นอนว่าฉันเข้าใจความรู้สึกเดียวกันเลย…

  • ชวนชมเสน่ห์ของ 11 สถานที่ที่ถูกทิ้งร้าง งดงามดึงดูดใจราวกับฉากหนึ่งในหนังวันสิ้นโลก

    ชวนชมเสน่ห์ของ 11 สถานที่ที่ถูกทิ้งร้าง งดงามดึงดูดใจราวกับฉากหนึ่งในหนังวันสิ้นโลก

    สถานที่ที่ถูกทิ้งร้างเกือบทุกแห่ง ด้วยความเก่าแก่และไม่มีใครมาคอยดูแล จึงทำให้ดูไม่น่าเข้าไป หมดความสวยงาม หรือชวนให้รู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบกันอยู่บ้างก็มี ทว่าพื้นที่รกร้างใช่จะเป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะถึงแม้จะไม่มีใครได้คอยทำดูแล แต่ที่เหล่านั้นก็สามารถสร้างเสน่ห์ขึ้นมาได้เอง หนังสือภาพของ Kieron Connolly จะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพของสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้งานโดยมนุษย์ แต่ปัจจุบันถูกทิ้งร้างไปแล้ว จนเกิดเป็นความงดงามที่หาที่ไหนอีกไม่ได้   ประภาคาร Rubjerg Knude ประเทศเดนมาร์ก   ประภาคารนี้ถูกสร้างอยู่บนหน้าผาในปี 1900 และเลิกการใช้งานในปี 1968 ด้วยปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งกับการเคลื่อนที่ของหาดทรายอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าพื้นที่จะถูกกัดเซาะทำให้หอคอยจมทะเลไปในปี 2023   ห้องโถงทรงกลมในโรงงานผลิตก๊าซ Wola ประเทศโปแลนด์   สถานที่แห่งนี้เปิดใช้ในปี 1888 ก่อนที่จะถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังสงครามจบลง จนในที่สุดก็เลิกใช้ไปในช่วงต้นยุค 1970 เพราะว่าในเมืองหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทน ปัจจุบันส่วนหนึ่งของโรงงานถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ แต่บางจุดอย่างเช่นห้องโถงนี้ อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมไปแล้ว   สถานีรถไฟใต้ดิน ของศาลากลางเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา   ถูกออกแบบมาเพื่ออวดโฉมระบบรถไฟใต้ดินแบบใหม่ของนิวยอร์ก เปิดใช้เมื่อปี 1904 ด้วยการตกแต่งอันหรูหราสไตล์ย้อนยุคแบบโรมัน มีความสวยงามอย่างมาก ทว่าต้องถูกเลิกใช้ในปี 1945 เพราะว่าทางโค้งมันแคบจนเกินไป รถไฟที่มีขบวนยาวจึงไม่สามารถจอดได้   หมู่บ้านออราดูร์ ซู…

  • 10 กฎเหล็กอันแสนประหลาดสำหรับโจรสลัดในยุคก่อน เพื่อให้มีชีวิตรอดในแต่ละวัน

    10 กฎเหล็กอันแสนประหลาดสำหรับโจรสลัดในยุคก่อน เพื่อให้มีชีวิตรอดในแต่ละวัน

    โจรสลัด เป็นสิ่งที่แทบทุกคนจะต้องรู้จักในฐานะของหัวขโมยแห่งท้องทะเล โดยยุคที่โจรสลัดได้รับความนิยมอย่างมากคือในช่วงศตวรรษที่ 16 จนมีโจรสลัดนับร้อยนับพันออกโลดแล่นบนท้องทะเล แม้โจรสลัดจะเหมือนมีอิสระแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว การอยู่ร่วมกันย่อมต้องมีกฎสร้างขึ้นมาเป็นธรรมดา โดยทุกข้อพวกเขาทั้งหมดต้องปฏิบัติตามอย่างเข้มงวด ความไม่ธรรมดาก็คือสำหรับบางข้อ เราก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามีไว้เพื่อโจรสลัดจริงๆ ลองไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง   ยิ่งมีอันดับสูงๆ ก็จะยิ่งได้รับสิทธิพิเศษ   ทุกครั้งที่ออกไปปล้นสะดมกลับมา สมบัติและของที่ขโมยมาทั้งหมด จะถูกแบ่งและแจกจ่ายให้กับแต่ละคน มากน้อยแล้วแต่อันดับที่ถือครองอยู่บนเรือ หากเป็นกัปตันก็ย่อมได้มากกว่าคนอื่นเป็นธรรมดา   หนึ่งคน หนึ่งเสียง   ทุกครั้งที่มีการตัดสินใจร่วมกันบนเรือ คนทั้งหมดจะมีสิทธิ์ออกเสียงกันอย่างเท่าเทียม แต่ไม่ได้แปลว่านี่คือความเป็นประชาธิปไตย เพราะยังคงมีการลงโทษซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกัปตันอยู่ดี   อาหารและน้ำมีไว้เพื่อทุกคน   ในท้องทะเลสิ่งที่น่ากังวลใจและสำคัญที่สุดคืออาหารและน้ำดื่ม เป็นเหตุผลที่ต้องแบ่งให้ทุกๆ คนเท่ากันหมด รวมถึงเหล้าสุราทั้งหลายอีกด้วย เพราะว่าบางครั้งความเมามายก็สำคัญกว่าการมีชีวิตอยู่ของพวกเขา   การขโมยของจะต้องถูกปล่อยเกาะ หรือไม่งั้นก็ต้องพบกับความตาย   หากว่าสามารถบุกปล้นได้สำเร็จ ทุกคนจะได้รับสิทธิ์ในการหยิบของบนเรือลำนั้นไปได้ตามต้องการ ยกเว้นของมีค่าอย่างทอง เพชรพลอยต่างๆ ที่ต้องใส่รวมกันไว้และไปแบ่งทีหลัง ซึ่งหากว่าไปหยิบของพวกนั้นเข้ากระเป๋าตัวเองเมื่อไหร่ละก็ จงเตรียมใจรับผลที่จะตามมาได้เลย   ห้ามต่อสู้กัน   การต่อสู้กันระหว่างโจรสลัดบนเรือลำเดียวกัน เป็นเรื่องต้องห้ามที่สำคัญอย่างมาก หากฝ่าฝืนจะต้องโดนกัปตันฟาดด้วยแส้ถึง 40 ครั้ง…

  • สปิริตแรงกล้า!! นักข่าวสาว CNN ยืนหยัดรายงานข่าว ท่ามกลางลมพายุจนตัวเกือบจะปลิว…

    สปิริตแรงกล้า!! นักข่าวสาว CNN ยืนหยัดรายงานข่าว ท่ามกลางลมพายุจนตัวเกือบจะปลิว…

    จะเป็นยังไงหากเราต้องไปยืนอยู่ในรัศมีของพายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงอย่างมาก แน่นอนว่าหากเราไม่เคยเจอเข้ากับตัวเองคงยากที่จะพูดได้ แต่หากได้ดูคลิปนี้แล้วจะทำให้คุณเห็นภาพได้ดีขึ้นมากเลยแหละ เมื่อนักข่าวภาคสนามแห่งสำนักข่าว CNN ที่ชื่อว่า Sara Sidner ลงพื้นที่ไปยังชายหาดเดย์โทนา รัฐฟลอริด้า สถานที่ซึ่งกำลังรับผลกระทบจนทำให้ผู้คนต้องอพยพออกไป ผลกระทบดังกล่าวเกิดจากเฮอร์ริเคนเออร์มา ทำให้เกิดแรงลมที่โหมกระหน่ำ พัดพาเอาข้าวของต้นไม้ลอยไปคนละทิศละทาง และน้ำท่วมไปทั่วท้องถนนเพราะฝนที่ตกอย่างหนัก     โดยในตอนที่เธอกำลังยืนทำข่าวอยู่ แรงลมและขนาดของเฮอร์ริเคนนั้นอยู่ในระดับที่ 2 จาก 5 ระดับ แต่ในคลิปวิดีโอสามารถเห็นได้เลยว่า ลมที่พัดเข้ามาทำให้เธอแทบจะยืนไม่อยู่เลยทีเดียว   คลิปวิดีโอการลงภาคสนามของนักข่าว CNN   ต้องขอบคุณเธอที่ลงทุนลงแรงไปยังสถานที่จริง พร้อมทั้งกล่าวเตือนทุกคนให้ระวังอุบัติเหตุ หากว่ายังอยู่ใกล้กับพื้นที่ของพายุ แต่ถึงอย่างไรก็ตามกระแสตอบรับของผู้ชมที่ตอบกลับมาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะหลายคนมองว่าการให้นักข่าวต้องไปเสี่ยงชีวิตขนาดนี้ มันเป็นอะไรที่มากจนเกินไป ชาวเน็ตจึงได้ออกมาคอมเม้นท์กันในทำนองไม่ค่อยเห็นด้วย “ฝากถึง CNN นักข่าวของคุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ ช่วยบอกให้พวกเขาหยุดทีเถอะ และหวังว่าจะไม่ได้ทำไปเพราะเรตติ้งของช่องหรอกนะ ให้พวกเขาได้อยู่ด้านใน เรารู้แล้วว่าลมมันแรงขนาดไหน” “ฉันเพิ่งดูคลิปนี้จบและอยากจะบอกเลยว่า นักข่าวคนนี้โหดมาก พวกเขาสมควรที่จะได้รับสิ่งตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อทำอย่างนี้น่ะหรอ? ฉันไม่คิดว่าอย่างนั้นนะ” “ทำไมเธอต้องถูกพาไปเสี่ยงอันตรายอย่างนี้ด้วย!?? เธอยังสามารถที่จะรายงานข่าวได้ แม้ว่าไม่ต้องออกไปอยู่ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้”   เพียงแค่ยกมือขึ้น ตัวก็แทบจะปลิวไปตามแรงลมแล้ว… ที่มา: CNN

  • ช่วงเวลาแห่งการ ‘ลงอ่าง’ ของเหล่าสัตว์เลี้ยง ดูแฮปปี้ซะยิ่งกว่าโฆษณาสบู่ในทีวีอีกแหนะ!?

    ช่วงเวลาแห่งการ ‘ลงอ่าง’ ของเหล่าสัตว์เลี้ยง ดูแฮปปี้ซะยิ่งกว่าโฆษณาสบู่ในทีวีอีกแหนะ!?

    การอาบน้ำนอกจากจะทำให้เรารักษาความสะอาดของผิวกายได้ ยังช่วยทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า หรือหากว่าที่บ้านคุณมีอ่าง ก็สามารถเพลิดเพลิกับการนอนแช่ผ่อนคลายไปแบบสบายๆ บางคนถึงกับชอบหรือคลั่งไคล้สิ่งนี้ ขนาดที่ว่าอาบน้ำวันหนึ่งมากกว่าสองรอบไปเลย แต่ไม่ใช่กับคนเท่านั้น เหล่าสัตว์ทั้งหลายเองก็ชอบที่จะได้ลงไปแช่น้ำเหมือนกัน และนี่คือภาพที่จะยืนยันได้ว่า พวกมันเองก็เพลิดเพลินกับการอาบน้ำเหมือนกันนะ!!   ขัดหลังให้ข้าหน่อยสิเจ้าทาสมนุษย์   คุณแม่อาบน้ำให้กับคุณลูก   ลงอ่างมาด้วยกันสิครับป๊ะป๋า   เช็ดตัวซะหน่อยนะ เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอาได้   ผมตั้งแล้วเท่ห์มั้ยฮะ   ผมอยากอาบอีกอ่ะครับ   สบายจัดซะจนหลับตาพริ้มเลยนะ   เอาจริงๆ นี่ไม่เมาหัวหรอ   อย่าหยุดสิเจ้ามนุษย์   อาบแบบเป็นหมู่คณะ   แต่ถ้ามันแน่นไปก็แบ่งกันอาบมั้ย   อันนี้ก็นอนแช่ กินกับแกล้มชิลล์ๆ ซะอย่างกับในหนังเลย   ตาจะปิดแล้วง่ะ   โอ๊ยยย ดาเมจช่างรุนแรงซะเหลือเกิน   คอร์สสอนว่ายน้ำในอ่างล้างหน้า   จะตื่นเต้นดีใจอะไรขนาดนั้นหนู   ที่ใครเขาเคยบอกกันว่าหมาแมวไม่ชอบอาบน้ำ คงใช้ไม่ได้กับทุกตัวหรอก ว่าแล้วก็อย่าลืมดูแลความสะอาด อาบน้ำให้กับเจ้าสัตว์เลี้ยงทั้งหลายด้วยนะจ๊ะ ที่มา: distractify

  • หญิงสาวป่วยเป็นมะเร็ง ปฏิเสธที่จะทำเคมีบำบัด เพื่อให้ลูกในท้องได้คลอดอย่างปลอดภัย…

    หญิงสาวป่วยเป็นมะเร็ง ปฏิเสธที่จะทำเคมีบำบัด เพื่อให้ลูกในท้องได้คลอดอย่างปลอดภัย…

    หลายๆ คนทราบดีว่าหากพบว่าตนป่วยเป็นโรคมะเร็ง หนึ่งในการรักษาและยื้อเวลาผู้ป่วย คือการทำคีโมที่ใช้ยาหรือสารเคมีเข้าไปต่อสู้กับเซลล์ที่เป็นภัย หากว่าควบคู่ไปกับการฉายรังสีด้วยแล้ว จะถือว่าเป็นวิธีช่วยผู้ป่วยได้ดีที่สุด แม้จะรู้อย่างนั้น แต่ Carrie DeKlyen ก็เลือกที่จะปฏิเสธที่จะใช้วิธีการดังกล่าว จนทำให้เธอต้องจากไปอย่างสงบ เพราะไม่ต้องการให้การรักษากระทบกับลูกในท้องของเธอ เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อเธอได้รับการวินิจฉัยว่า ป่วยเป็นมะเร็งสมองที่มีชื่อเรียกว่า Glioblastoma Multiforme ซึ่งเป็นเนื้อร้ายชนิดเดียวกับที่พบในตัวแทนพรรครีพับลิกันในสหรัฐอเมริกา John Mccain     ในตอนแรกเธอและสามีไม่ทราบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ จนเมื่อรู้ว่ามีเด็กสาวอยู่ในท้อง จึงละทิ้งการใช้ยาและสารเคมีบำบัดที่จะช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง เพราะหากไม่ทำอย่างนั้นลูกของเธอก็จะไม่มีชีวิตรอดได้ การทำคีโมไปในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ทำให้ลูกของเธอต้องมีกำหนดการคลอดเร็วกว่าปกติ นั่นคือ 28 สัปดาห์ของระยะเวลาตั้งครรภ์ หลังจากที่เธอเลิกใช้ยาช่วยและหันมาใช้แค่รังสี บวกกับการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อร้ายออก และดูดของเหลวออก กลับไม่สามารถช่วยให้สภาพร่างกายของเธอดีขึ้นได้ เจ้าเซลล์ดังกล่าวยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง น้องสะใภ้ของเธอ Sonya ได้ตั้งเพจชื่อว่า Cure 4 Carrie เพื่อเล่าถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เธอเป็นและต้องเจออยู่ ให้กับญาติ เพื่อนๆ หรือคนที่สนับสนุนเธออยู่ได้รับรู้ไปด้วยกัน .   จากสถิติแล้วผู้คนที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองขั้นรุนแรง จะมีเพียงแค่ 10% เท่านั้นที่จะสามารถมีชีวิตอยู่รอดนานถึง 5 ปีภายหลังจากการวินิจฉัย อาการของโรคที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้เธอหมดสติและไม่มีการตอบสนองของร่างกาย…

  • เปิดมุมมองของกรุงลอนดอน บรรยากาศบนท้องถนนในยามค่ำคืน อุดมความเงียบที่แตกต่าง…

    เปิดมุมมองของกรุงลอนดอน บรรยากาศบนท้องถนนในยามค่ำคืน อุดมความเงียบที่แตกต่าง…

    ภาพถ่ายในยามค่ำคืนหลายคนคงจะเคยเห็นมาบ้าง แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาไร้ผู้คนอย่างตอนหลังเที่ยงคืน แล้วยิ่งเป็นภาพจากลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษด้วยแล้ว มันคือสิ่งที่น้อยคนนักจะได้เห็น และสังเกตถึงเสน่ห์ของมัน ช่างภาพชื่อว่า Edo Zollo ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของท้องถนนในลอนดอน ผ่านรูปภาพที่ไม่มีการจัดวางใดๆ ทุกสิ่งคือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ชวนให้สงสัยและดูลึกลับ ไม่สามารถบอกได้ว่าแท้จริงแล้วผู้คนที่ปรากฎในรูป กำลังคิดอะไรอยู่ หรือว่ามีความตั้งใจที่จะทำอะไรกันแน่ เกิดมาเป็นเสน่ห์อันน่าอัศจรรย์ ที่จะชวนให้คุณได้ดูและคิดหาคำตอบไปด้วยกัน และเว็บไซต์ MyModernMet ก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์เขา ว่าทำไมผลงานชิ้นนี้ถึงได้เกิดขึ้น     เขาได้รับต้นแบบในการเป็นช่างภาพมาตั้งแต่เด็ก เพราะมันคือสิ่งที่พ่อเขาทำมาตลอด ความทรงจำที่ได้เห็นการล้างรูป ทำให้กระดาษแผ่นเล็กๆ มีรูปปรากฎให้เห็น เป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับตอนเป็นเด็กของเขาเอามากๆ ยังจำได้ดีที่เห็นพ่อของตัวเองภูมิใจ กับงานถ่ายรูปคู่บ่าวสาว และรอยยิ้มที่มีให้กันของทั้งสองคน ภาพถ่ายครอบครัวของเขาเองก็มีอยู่เต็มไปหมด และเมื่อนึกย้อนกลับไปมันคือสิ่งที่หาอะไรมาเปรียบไม่ได้เลย     การที่ได้อยู่ในเมืองนี้มานานถึง 15 ปี ทำให้เขาเห็นความแตกต่างที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก มักจะมีสิ่งใหม่เข้ามาเปลี่ยนความคิดบางเรื่องคุณไป แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเบื่อเมืองนี้ เพราะทุกอย่างที่เป็นลอนดอนสามารถทำให้คุณเกิดจินตนาการต่อสิ่งต่างๆ อย่างไร้ข้อจำกัด     จุดเริ่มต้นของผลงานชิ้นนี้คือเขามีเวลานอนที่ไม่ปกติ เพราะว่าก่อนจะเป็นช่างภาพหลายปีนั้น เขาได้ทำงานหลายอย่าง ที่ต้องทำเป็นกะกลางคืนทั้งสิ้น เมื่อสังเกตตัวเองจึงรู้ว่าในตอนดึก สามารถทำงานและตื่นตัวมากกว่ากลางวัน ในวันหนึ่งเขาเริ่มเบื่อการนอนดูทีวี จึงออกมาข้างนอกในตอนกลางคืนบ่อยครั้ง และเริ่มที่จะเสพติดกับการทำแบบนี้ เมื่อพบว่าทุกสิ่งมันแตกต่างจากตอนกลางวันไปหมด…

  • ศิลปินอิสราเอล ลองวาดภาพการ์ตูนลงบนร่างกาย แต่ละส่วนจะกลายเป็นอะไรได้บ้าง?

    ศิลปินอิสราเอล ลองวาดภาพการ์ตูนลงบนร่างกาย แต่ละส่วนจะกลายเป็นอะไรได้บ้าง?

    ความเป็นศิลปะสามารถพบเจอได้จากทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติรอบตัว สิ่งก่อสร้างต่างๆ หรือแม้แต่ร่างกายเราเอง ก็มองและตีความออกมาเป็นงานศิลป์ได้มากมาย เหมือนกับเธอคนนี้ ศิลปินสาวชาวอิสราเอลใช้ร่างกายตัวเองแทนผืนผ้าใบ ใช้เป็นพื้นหลังของสิ่งต่างๆ ที่เธอสามารถจินตนาการได้จากหลายๆ ส่วนในร่างกายของเรา Sophia Weisstub วาดตั้งแต่สัตว์น่ารักๆ ไปจนถึง ท่าทางที่สื่อถึงเรื่องเพศ โดยส่วนต่างๆ บนร่างกายอย่างหู ขนตา ปาก หรือว่าจมูก ก็สามารถเป็นส่วนประกอบให้กับสิ่งที่เธอวาดได้เป็นอย่างดี   .   เธอได้อธิบายไว้ในนิตยสาร Sleek ว่าเธอต้องการให้โลกใบนี้สามารถทำให้ทุกคน แสดงออกในเรื่องต่างๆ อย่างอิสระ โดยเฉพาะเรื่องเพศด้วยแล้ว บางภาพจึงเป็นการสื่อให้เห็นเรื่องนั้นอย่างชัดเจน ตามเนื้อแท้แล้วมีความหมายให้ทุกคนได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับร่างกายของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนรูปร่างที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติ มองว่าเรื่องเพศทั้งหลายก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินั่นเอง   เป็นเม่นที่ขนนุ่มมาก   ลิ้นไก่เธอใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว   “เพศมีความชัดเจนและมีด้านที่ดีอยู่ในตัวของมันเอง ทว่าวัฒนธรรมกลับตีความมันออกมาในแง่ลบ เช่นหนังโป๊ที่ลดเกียรติของผู้หญิง และแสดงถึงบางอย่างที่ผู้หญิงทุกคนไม่พึงปรารถนา” เธอกล่าว การใช้ร่างกายของเธอเองคือสิ่งตัวเลือกพื้นฐานที่เธอตั้งใจจะเลือก และมีความแม่นยำกับความต้องการของเธอมากที่สุด หมายความว่าเธอเองก็สามารถเลี่ยงปัญหาจากการ นำความคิดของเธอไปใช้กับสิ่งอื่นได้อีกด้วย   หลับสบายๆ อยู่บนเตียงที่นุ่มเอามากๆ .   ตอนคลอดออกมาคงจะจั๊กจี๋แย่เลย  …

  • เรื่องราวรักแท้ที่เกิดขึ้นจริงบนเรือ ‘ไททานิค’ แม้แต่ความตาย ก็ไม่อาจแยกพวกเขาจากกันได้

    เรื่องราวรักแท้ที่เกิดขึ้นจริงบนเรือ ‘ไททานิค’ แม้แต่ความตาย ก็ไม่อาจแยกพวกเขาจากกันได้

    หนังเรื่อง Titanic คงเป็นเรื่องโปรดของใครหลายคน เพราะความรักของแจ็คกับโรสมันช่างสวยงามเสียเหลือเกิน ขนาดที่ว่าตายแทนกันได้เลย แต่ว่าทั้งคู่ก็เป็นเพียงตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวความรักอันสุดแสนประทับใจแบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นจริงไปซะทีเดียว วันนี้ #เหมียวตะปู จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับความรักอันน่าจดจำ ของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ไม่อาจพรากกันได้ แม้ว่าความตายจะรอพวกเขาอยู่ก็ตาม     “เราอยู่ด้วยกันมานานหลายปี เธอไปไหน ฉันก็จะไปด้วย” เป็นประโยคที่ Rosalie Ida Strauss พูดกับสามีของเธอ Isidor Strauss ในวันสุดท้ายของชีวิตพวกเธอ ทั้งคู่แต่งงานกันตั้งแต่อายุเพียง 20 กว่าๆ มีลูกด้วยกันถึง 7 คน โดยสามีนั้นทำงานเป็นนักธุรกิจ และต้องเดินทางออกไปทำงานทั้งในอเมริกา หรือแม้แต่ข้ามไปยุโรป ทว่าทั้งสองก็แทบจะไม่ได้แยกห่างจากกันเลย เพราะภรรยาจะเดินทางไปด้วยกับเขาอยู่เสมอ เรียกได้ว่าติดกันเป็นปาท่องโก๋เลย หรือถ้าหากว่าจำเป็นต้องอยู่ห่างกันจริงๆ ก็จะใช้วิธีการส่งจดหมายพูดคุยกันอยู่ตลอด     ชีวิตคู่ของทั้งสองที่แต่งงานกันมา 40 ปี ฟังดูเหมือนจะไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจากคู่อื่นเท่าไหร่นัก ทว่าสิ่งพิเศษในความรักของทั้งคู่ได้เกิดขึ้นในฉากสุดท้ายของชีวิต ในปี 1912 ทั้งคู่ออกเดินทางหนีหนาวไปที่ยุโรป ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่แหลม Martin ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส จนถึงช่วงต้นเดือนเมษายน ก็ตัดสินใจที่จะกลับบ้านในนิวยอร์ก…

  • เจ้าเหมียวจรยอมเข้ากรงแต่โดยดี เพราะเป็นห่วงเหล่ามิ้วน้อย ที่อยู่ภายใต้การดูแล…

    เจ้าเหมียวจรยอมเข้ากรงแต่โดยดี เพราะเป็นห่วงเหล่ามิ้วน้อย ที่อยู่ภายใต้การดูแล…

    การเอาใจใส่ดูแลคนรอบข้างไม่ได้เกิดขึ้นเพียงกับมนุษย์เท่านั้น กับแมวเองก็มีความรักความเมตตาให้กับเพื่อนตัวอื่นเช่นเดียวกัน เหมือนกับเจ้าตัวนี้ที่ดูแลเอาใจใส่เพื่อนตัวน้อยของมัน ถึงแม้ว่าจะป่วยอยู่ก็ตาม เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย เมื่อสองสาว Sarah Chelskea และ Crystal Mackey พบกลุ่มลูกแมวจรจัด จึงได้พยายามจับมันไว้ และพบว่าแท้จริงแล้วพวกมันมีผู้ปกครองแสนน่ารักอยู่   .   เพราะในขณะที่พวกเธอกำลังทำการล้อมจับลูกเหมียว 6 ตัวและแม่ของพวกมัน ได้มีแมวจรจัดอีกตัวโผล่เข้ามา และเข้าไปในกรงดักด้วยตัวเอง เพื่อเดินทางไปพร้อมกับตัวที่เหลือที่มันเป็นเพื่อนด้วย เธอทั้งสองที่อยู่ในทีม CatRescue 90 จึงได้พาลูกแมวทั้งหมดรวมถึง Ali เจ้าเหมียวที่คอยดูแลตัวอื่นๆ แม้ว่าจะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน และเข้ามาโดนจับด้วยตัวเอง กลับไปที่สถานที่ดูแลแมวจรจัด   เจ้าเหมียวที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Ali .   และจากการตรวจดูพบว่ามันป่วยเป็นโรค FIV+ ที่ทำให้มันมีภูมิต้านทานบกพร่อง และเชื้อไวรัสนี้สามารถกระจายสู่แมวตัวอื่นๆ ได้ ผ่านรอยแผลที่เกิดขึ้น ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติที่เวลาเจ้าเหมียวเล่นกัน แล้วจะเกิดรอยแผลขึ้นมาบ้าง แต่นั่นไม่ใช่สำหรับมันเลย ด้วยนิสัยอ่อนโยนและมีความสุภาพ ทำให้มันคอยดูแลและเล่นกับตัวอื่นๆ รวมถึงมนุษย์เองได้อย่างนิ่มนวล     จะน่ารักเกินไปละนะ .   ความน่ารักและขี้อ้อนของเจ้าเหมียว…

  • พบตัวตลกออกอาละวาดอีกครั้ง ทำตัวมีพิรุธอยู่ตามบ้านในสหรัฐฯ คาดเพราะกระแสเรื่อง ‘IT’

    พบตัวตลกออกอาละวาดอีกครั้ง ทำตัวมีพิรุธอยู่ตามบ้านในสหรัฐฯ คาดเพราะกระแสเรื่อง ‘IT’

    ในตอนนี้คงมีใครหลายคนได้ไปรับชมภาพยนตร์หลอนแห่งปีเรื่อง IT กันมาแล้ว และจำกันได้กับความหลอนของ Pennywise ปีศาจตัวตลกภายในเรื่อง ซึ่งสามารถสร้างผลกระทบได้มากกว่าความน่ากลัวภายในเรื่อง เมื่อกล้องจากกริ่งหน้าบ้านหลังหนึ่งในรัฐ Wisconsin ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถจับภาพคนแต่งหน้าและสวมชุดตัวตลกคล้ายกับในหนัง พร้อมกับถือลูกโป่งสีดำ เดินไปเดินมาอยู่บริเวณสวนหน้าบ้าน ก่อนที่จะมองเข้ามาในบ้านอย่างมีพิรุธ   การแต่งตัวแต่งหน้าทาปาก และภาพในลักษณะขาวดำ ทำให้ดูไม่ออกเลยว่าบุคคลนี้เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง .   เหตุการณ์นี้จึงทำให้ตำรวจคาดการณ์ว่า หนังเรื่องดังกล่าวจะทำให้ “อาชญกรรมในคราบของตัวตลก” กลับมาอีกครั้ง เพราะเจ้าหน้าที่ในรัฐเพนซิลเวเนีย ได้ทำการออกมาแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังภัยของตัวตลกชวนขนหัวลุกเหล่านี้ ที่จะกลับมาออกอาละวาดในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่หนังเรื่อง IT กำลังจะเข้าฉายพอดี   Pennywise ปีศาจตัวตลกจากหนังเรื่อง IT   วิดีโอที่ถูกถ่ายโดยกล้องจากกริ่งหน้าบ้านหลังหนึ่ง   บุคคลในคลิปวิดีโอที่ถ่ายมาได้ คาดว่าน่าจะเป็น Gags ตัวตลกในเมือง Green Bay แห่งนี้ ซึ่งมีผู้พบอยู่บ่อยครั้งในช่วงสิงหาคมที่ผ่าน มีรูปที่แชร์ผ่านเพจเฟซบุ๊คของตัวตลกตัวดังกล่าว เผยให้เห็นลักษณะการแต่งตัวและถือลูกโป่งในแบบเดียวกันที่เห็นในคลิป   ตัวตลกที่รู้จักกันในชื่อ Gags มีผู้พบเจอไปทั่วเมือง .   หนึ่งในผู้วิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่า ตัวตลกที่ออกมากลั่นแกล้งสร้างความน่ากลัวในเมืองนี้…

  • ชมการสร้างสะพานรถไฟจากไม้ในช่วงศตวรรษที่ 19 ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่

    ชมการสร้างสะพานรถไฟจากไม้ในช่วงศตวรรษที่ 19 ในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าเท่าไหร่

    ในยุคนี้เราก็คงจะได้เห็นสะพานต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมาจากเหล็กหรือคอนกรีตกันหมดแล้ว ทว่าสมัยก่อนในยุคที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าขนาดนี้ สิ่งเหล่านั้นกลับถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุธรรมชาติที่พบเห็นได้ง่าย อย่างต้นไม้ทั้งหลายเท่านั้นเอง เจ้าสะพานไม้นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปี 1830s โดยเฉพาะการสร้างสะพานรถไฟ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากใครบางคนที่นำขอนไม้มาวางเรียงกันสำหรับไว้ข้ามลำธาร ทว่าในสะพานไม้เหล่านี้กลับไม่ได้รับความนิยมในยุโรปสักเท่าไหร่ ตรงกันข้ามกับทางฝั่งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาที่เป็นผู้นำสำคัญในการเริ่มต้นสร้างสะพานไม้อย่างแพร่หลาย ใช้วัสดุจากพื้นที่ป่ารอบๆ เกิดเป็นดีไซน์ที่แตกต่างกัน 2 แบบ เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่และการใช้งานที่ต่างกัน   ชาวบ้านสร้างสะพานด้วยตัวเอง และมีคนขึ้นไปวัดโครงสร้างอยู่ด้านบน   สะพานในวอชิงตันสูงกว่า 61 เมตร เป็นหนึ่งในสะพานที่สูงที่สุด   โดยส่วนใหญ่ที่ใช้จะเรียกว่า Pile Trestle เป็นการนำไม้มาวางเรียงกัน ให้เป็นเหมือนขาหยั่งเอียงเข้าหากัน ในระยะห่าง 3 ถึง 5 เมตร ในแต่ละขาหยั่งที่ยื่นขึ้นไปจะประกอบด้วยเสาไม้ 3 ถึง 5 ต้น ถูกปักลงไปกับพื้นด้วยเครื่องตอก เสาที่อยู่นอกสุดจะมีองศาที่ค่อนข้างกว้าง เพื่อความมั่นคงที่มากขึ้น ส่วนบนสุดก็จะถูกตัดให้พอดีในระหว่างการก่อสร้าง และขาหยั่งที่ต้องใช้สำหรับสะพานที่อยู่สูง ก็จะใช้ไม้ที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม แตกต่างจากไม้ที่ใช้เป็นเสาให้กับสะพานที่ไม่สูงมาก แต่ยิ่งไปกว่านั้นหากเป็นสะพานที่สูงมากๆ จะสร้างฐานแบ่งเป็นชั้นต่อกันขึ้นไปทีละชั้นซ้ำไปมา   .   สะพานไม้ส่วนใหญ่จะเป็นสะพานทางตรง ไม่ค่อยมีทางโค้งเท่าไหร่ ทั้งนี้เพราะต้องใช้ขาหยั่งมาเรียงกันเป็นจำนวนมาก และเพื่อการเลี้ยวของรถไฟให้เป็นไปได้อย่างนุ่มนวล ซึ่งโครงสร้างสะพานไม้ที่ใหญ่ที่สุดคือเส้นทาง Mile…

  • ตามสบายเลยจ้า…สามีจัดงานวันเกิดให้ภรรยา แต่ดั๊นมีหมีโผล่มาฟาดเค้กซะเกลี้ยง

    ตามสบายเลยจ้า…สามีจัดงานวันเกิดให้ภรรยา แต่ดั๊นมีหมีโผล่มาฟาดเค้กซะเกลี้ยง

    งานวันเกิดของหลายๆ คน จะมีช่วงเวลาที่ทุกคนในงานรอคอย นั่นคือการเป่าเทียนและกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย และร่วมสนุกพูดคุยทำกิจกรรมร่วมกัน ทว่าไม่ใช่สำหรับงานนี้ เมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามา หญิงสาวชื่อว่า Jennifer ได้ฉลองวันเกิดครบรอบ 35 ปีิิอย่างยิ่งใหญ่เอามากๆ เพราะนี่คือ 1 ปีหลังจากที่เธอรู้ตัวว่าป่วยเป็นมะเร็ง ดังนั้นทั้งหมดก็เพื่อทำให้เธอเข้มแข็งและสามารถยืนหยัดผ่ายไปให้ได้ โดยในงานมีผู้มาให้กำลังใจและมาเฉลิมฉลองสาวใจแกร่งคนนี้มากถึง 125 คน โดยแท้จริงแล้วคงต้องบอกว่า 126 คนมากกว่า แต่บังเอิญแขกที่ไม่ได้รับเชิญรายสุดท้ายนี้ กลับไม่ใช่คนเนี่ยสิ     ไม่รู้อะไรไปเชิญชวนให้เจ้าหมีตัวใหญ่สีดำเข้ามาร่วมงานกับเขาได้ พอมันมาถึงเท่านั้นแหละ ผู้คนในงานก็พร้อมใจกันเล่นซ่อนหาโดยไม่ได้นัดหมาย แตกกระจายหายไปคนละทิศคนละทาง (ใครจะอยู่ล่ะพ่อ) นอกจากจะมาทำให้ทุกคนแตกตื่นกันไปหมดแล้ว ก็ยังจะไม่วายกินเค้กในงานที่เหลือไว้ได้อย่างหน้าตาเฉย ถ้าจะขนาดนี้ทำไมไม่เตรียมของขวัญมาให้เจ้าภาพด้วยเลยละ   แขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามารับประทานเค้กซะเกลี้ยงเลย   เรียกได้ว่าอิ่มหนำ เพราะมันเล่นฟาดเค้กที่เหลือเอาไว้เยอะแยะซะเรียบ ขนาดที่ว่าเผลอทำตกพื้นก็ยังจะไปหยิบมากินต่ออีีก ไปอดยากปากแห้งจากไหนมาละเนี่ย สุดท้ายแล้วมันก็จากไปด้วยความสงบ และไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ เหลือทิ้งไว้เพียงเค้กอันน้อยนิด ที่คงไม่มีใครจะเอามากินแล้วแหละนะ     เป็นการเซอร์ไพรส์วันเกิดที่ยอดเยี่ยมวิธีหนึ่งเลย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มาจากความตั้งใจของใครก็ตาม ใครชอบก็ลองไปจ้างหมีแถวบ้านรับบทนี้กันเอาเองนะ   เชื้อโรคคงยังไม่ทันเห็นหรอกเนาะ   ที่มา: viralnova

  • หญิงสาววอนให้ทุกคนหยุดที่จะตัดสินเธอว่า “โง่” เพียงเพราะหน้าตาที่ไม่เหมือนคนอื่น

    หญิงสาววอนให้ทุกคนหยุดที่จะตัดสินเธอว่า “โง่” เพียงเพราะหน้าตาที่ไม่เหมือนคนอื่น

    สิ่งที่เรามองเห็นแต่เพียงภายนอก ไม่อาจตัดสินได้ว่าภายในแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่ เหมือนกับเธอคนนี้ แม้ว่าใบหน้าจะไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป แต่เราไม่สามารถบอกได้ว่าภายในของเธอจะมีความผิดปกติตามไปด้วย Katie Whicker หญิงสาววัย 21 ปีผู้เกิดมาพร้อมกับข้อบกพร่องทางกรรมพันธุ์ โครงหน้าของเธอจึงมีความแตกต่างกับคนอื่นๆ ครั้งหนึ่งเธอเคยถูกถามว่าประสบอุบัติเหตุมาหรือเปล่า หน้าตาถึงได้เป็นแบบนี้ การอยู่ในสังคมเลยต้องเจอกับการถูกกลั่นแกล้ง และคนมากมายตัดสินว่าเธอ “โง่” แท้จริงแล้วโรค Treacher Collins จะสร้างผลกระทบให้กับกระดูกกระโหลกและใบหน้าเท่านั้น จึงหมายความว่ามันไม่ได้เกิดผลกระทบต่อความคิดหรือจิตใจแต่อย่างใด     หลายคนมักคิดว่าเธอขาดความสามารถในความคิด ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่สิ่งที่ผิด เธอรู้สึกเจ็บปวดกับการถูกผู้คนตัดสินไปในทางที่ไม่ดี ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าทำงานเพราะคิดว่าเธอไม่ฉลาด และสังคมรอบข้างเองก็คิดอย่างนั้น ความผิดปกติที่เกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ เมื่อคลอดออกมาเธอไม่สามารถหายใจทางจมูกได้ ร่างกายเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเพราะขาดอากาศ แพทย์จึงต้องทำการเจาะคอเพื่อช่วยให้สามารถรอดชีวิตมาได้ นอกจากนั้นเธอยังมีปัญหาในเรื่องของการสื่อสาร เธอต้องใช้ภาษากายในการพูดคุยกับคนอื่นๆ จนถึงอายุสามขวบ ในช่วงนั้นแม้แต่เสียงร้องไห้ก็แผ่วเบาเอามากๆ ทำให้พ่อแม่ของเธอต้องดูจากการแสดงออกทางสีหน้า ว่าเธอร้องไห้หรือหัวเราะอยู่กันแน่ แต่ในที่สุดตอนอายุ 5 ขวบ เธอก็สามารถพูดได้เหมือนคนปกติ     ชีวิตในโรงเรียนที่ต้องเจอนั้นไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ จากการที่ต้องถูกกลั่นแกล้ง และน้อยคนที่จะถามว่าทำไมถึงมีหน้าตาแบบนี้ เพราะส่วนใหญ่ตัดสินว่าเธอไร้สมองตั้งแต่แรกเห็นไปแล้ว เธอจึงกำราบพวกนั้นด้วยการตั้งใจเรียนและทำคะแนนสอบหลายๆ วิชา ให้เหนือกว่าคนพวกนั้นซะเลย ขณะเดียวกันเธอก็มีเพื่อนๆ ดีไม่ทำให้เธอเสียใจ จึงช่วยให้เธอสามารถผ่านเวลานั้นมาจนสำเร็จการศึกษาได้    …

  • ชวนตีความจากสิ่งที่เห็นในภาพ ว่าแท้จริงแล้วมีอะไรซ่อนอยู่ในบุคลิกภาพของคุณกันแน่

    ชวนตีความจากสิ่งที่เห็นในภาพ ว่าแท้จริงแล้วมีอะไรซ่อนอยู่ในบุคลิกภาพของคุณกันแน่

    การตีความภาพกำกวม กำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้คนในโลกโซเชียล และนั่นก็ทำให้นักจิตวิทยาดึงเรื่องนี้มาให้เราทดสอบกันบ่อยๆ หลักการของมันก็ง่ายมาก ขอเพียงแค่คุณให้ความสนใจกับสิ่งที่เห็นในตอนแรกก็พอ และที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ก็ใช้วิธีเดียวกัน มันจะช่วยให้รับรู้ได้ว่าในบุคลิกภาพของคุณมันมีอะไรซ่อนอยู่ด้านใน หมายความว่ามันก็ไม่ได้บอกทุกอย่างที่เป็นคุณ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง อย่าลืมว่าให้ยึดมั่นกับสิ่งที่เห็นในตอนแรกเท่านั้นนะ! ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลย       สิงโต แสดงว่าคุณชอบที่จะมองเข้าไปถึงเบื้องลึกหรือรอจุดเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเอง นี่แหละคนจริง! นกแปลกๆ คุณเป็นคนที่เวิ่นเว้อ ชิลล์ๆ ซะจนบางทีก็ขาดความรับผิดชอบในบางเรื่อง ขณะเดียวกันคุณเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และคอยตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงโลกของเราให้มันดีขึ้น     เป็ด เป็นไปได้ว่าชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วยแรงกระตุ้นทางอารมณ์ ทำให้รู้สึกว่ามันขึ้นๆ ลงๆ หรือว่าแปรปรวนอยู่บ่อยครั้ง และมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจเรื่องต่างๆ อย่างรวดเร็วในทันที กระต่าย คุณชอบที่จะพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในทุกๆ การกระทำ เหตุและผลคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเป็นคนที่เย็นชาหรือว่าตายด้านหรอกนะ     จระเข้ 2 ตัว ชอบที่จะพุ่งเข้าใส่ในทุกเรื่องและพยายามให้สถานการณ์ต่างๆ อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณ อย่างไรก็ตามคุณก็ไม่ใชคนเผด็จการอะไร แต่เป็นผู้นำที่เอาใจใส่กับสิ่งรอบข้าง นก คุณไม่แคร์ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคหรือความเหน็ดเหนื่อยเพื่อไปให้ถึงฝั่งฝัน บ่อยครั้งที่จะอ่อนข้อและสร้างความประนีประนอมกับคนรอบข้าง แต่ไม่ได้แปลว่าคุณเป็นคนที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง นั่นจึงทำให้มีความตรงไปตรงมาและเข้าสังคมได้เก่ง     ใบหน้าสุนัข แสดงว่าคุณวิเคราะห์รูปภาพตามปกติจากซ้ายไปขวา ไม่ใช่ว่าคุณเป็นคนธรรมดา…

  • 21 ภาพอันสุดแสนจะงุนงงชวนสงสัย ทำให้คุณต้องหันมามองซ้ำถึงสองครั้งสองครา

    21 ภาพอันสุดแสนจะงุนงงชวนสงสัย ทำให้คุณต้องหันมามองซ้ำถึงสองครั้งสองครา

    เคยบางมั้ยเวลาที่คุณเผลอมองรูปๆ หนึ่ง แล้วก็เกิดสะดุดใจจนต้องกลับมาจองมองอีกครั้ง เพราะภาพที่เห็นนั้นดูเหมือนจะมีนัยยะอะไรบางอย่างซ่อนไว้ อย่างเช่นภาพที่ #เหมียวตะปู นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้ ขอแนะนำว่าให้คุณมองที่ภาพเหล่านี้ดีๆ เพราะว่าแท้จริงแล้วมันอาจมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ในภาพก็ได้นะ หน้าท้องอันแบนราบ   นั่งสบายๆ แต่ว่ามันดูแปลกๆ นะ   ทำไมต้องยกถนนสูงขึ้นมา   เหมือนกับว่ากำลังลอยอยู่เลยนะ   ปั่นจักรยานกายกรรมบนท้องถนน   เป็นบ้านที่ไม่เจอปัญหาหลังคารั่วแน่นอน   สรุปนี่คือกลางวันหรือกลางคืน   มหัศจรรย์สัตว์สองหัว   กลับหัวถ่ายแล้วรากมันชี้ฟ้าหรือเปล่า   เธอโดดลอยขึ้นมาสูงขนาดนี้ได้เยี่ยงไร   น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวเธอ   เห็นแล้วเมาหัว   รางรถไฟหรือว่าหอไอเฟลกันแน่   The Mist มฤตยูหมอกกินมนุษย์ มั้ยละคุณผู้ชม   น้องหมีที่น่าสงสาร หัวกับตัวถูกแยกออกจากกัน   ไอบีลีฟ ไอแคนฟลาย   ต้นไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ   ผีไม่มีหัว   สะพานกำลังระเหยขึ้นไปบนอากาศแล้ว   ใครเอาเรือมาแขวนไว้เต็มเลย…

  • ครูสุดโหด ตบหน้านักเรียนกว่า 20 คนหน้าชั้นเรียน ทั้งที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรก

    ครูสุดโหด ตบหน้านักเรียนกว่า 20 คนหน้าชั้นเรียน ทั้งที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรก

    การว่ากล่าวตักเตือนหรือลงโทษนักเรียน ก็ควรจะมีขอบเขตและกรอบที่เหมาะสม การกระทำเกินกว่าเหตุหรือการล่วงล้ำสิทธิในตัวของเด็กนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำร้ายร่างกายเหมือนกับที่อาจารย์คนนี้ทำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในเมืองหลวงของมณฑลอานฮุย ประเทศจีน กับคลิปวิดีโอที่อาจารย์คนหนึ่งตบหน้าเด็กถึง 20 คนในวันเปิดเทอมวันแรก   คลิปวิดีโอคุณครูตบนักเรียนหน้าห้อง   ว่ากันว่าเสียงที่เกิดจากการตบนั้นดังมากขนาดที่ว่านักเรียนที่อยู่ห้องข้างๆ ยังได้ยิน โดยจากการรายงานของสำนักข่าวปักกิ่งเล่าไว้ว่า คุณครูคนนี้เดินทางมาจากย่านชนบทและให้นักเรียนเขียนบทกวีเก่าแก่ที่อยู่ในความทรงจำมาส่ง ถ้าหากว่าเขียนผิดก็จะถูกตบหน้าห้องเรียนเหมือนในคลิปที่ได้เห็น เป็นการลงโทษที่ไม่ว่าใคร ก็ไม่สมควรที่จะได้รับ เพราะไม่ใช่เป็นเพียงการกระทำที่เกินกว่าเหตุ แต่นี่คือการทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา กระแสของชาวเน็ตมากมายรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นและออกมาคอมเม้นท์ถึงการศึกษาในจีนเอาไว้อย่างเช่น “ผู้ชายในจีนเป็นคนที่อ่อนแอ จึงเอาความก้าวร้าวมาลงกับเด็กที่ไม่มีทางสู้” “การปฏิวัติทางวัฒนธรรมที่ทำให้ครูฉลาดๆ หายไปกันหมด” “เฮ้อออ.. นี่แหละนะการศึกษาที่ดีในประเทศที่ดี”     หลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป เขาก็ถูกเชิญออกจากโรงเรียนทันที ปิดฉากอาชีพครูแต่เพียงเท่านี้ แน่นอนว่านั่นคือความรุนแรงที่ไม่สมเหตุสมผล จึงไม่แปลกที่ทุกคนจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมดังกล่าว ดังนั้นหากจะทำอะไรก็อย่าลืมที่จะตระหนักถึงความเหมาะสม หรือหนทางที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงจะดีกว่า   ที่มา: shanghaiist

  • พาชมหมู่บ้านสุดแปลกในเดนมาร์ก ที่ถูกออกแบบมาหมู่บ้าน “วงกลม” แห่งเดียวในโลก

    พาชมหมู่บ้านสุดแปลกในเดนมาร์ก ที่ถูกออกแบบมาหมู่บ้าน “วงกลม” แห่งเดียวในโลก

    ปกติเวลาเรามองภาพมุมสูงของเมืองต่างๆ คงเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าที่นั่นคือที่ไหน เพราะแต่ละเมืองต่างมีผังเมืองี่คล้ายๆ กันหมด แต่นั่นไม่ใช่กับที่นี่ รับรอบว่าแค่มองครั้งเดียว คุณจะรู้แน่นอนว่าที่นี่คือที่ไหน เพราะหมู่บ้านนี้มีการวางผังเมืองอย่างมีเอกลักษณ์และแปลกไม่ซ้ำใคร เมื่อบ้านเรือนของหมู่บ้านนี้จับกลุ่มเรียงกันเป็นวงกลมเล็กๆ และแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน จนดูเหมือนกับว่ามีล้อรถมาวางเรียงรายอยู่เต็มพื้นที่สีเขียวไปหมด     หมู่บ้านดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตของเมือง Brøndby ทางตะวันออกของประเทศเดนมาร์ก ที่ครอบคลุมพื้นที่โดยรอบกว่า 20 ตารางกิโลเมตรและปีประชากรอยู่อาศัยกันกว่า 35,000 คน โดยส่วนใหญ่จะอยู่อาศัยกันแบบเป็นครอบครัวเดี่ยวพ่อแม่ลูก     ซึ่งหมู่บ้าน Brøndby Haveby นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนที่มีลักษณะเป็นวงกลมชื่อว่า Runde Haver ของสถาปนิกที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก Carl Theodor Sørensen ทำให้รูปร่างของหมู่บ้านมีความคล้ายคลึงกับการออกแบบนั้นมาก (Runde Haver)     โดยวงกลมในแต่ละวงจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 24 ส่วนและปลูกไม้พุ่มเอาไว้เพื่อกั้นเป็นรั้ว เป็นการสร้างความเท่าเทียมให้กับพื้นที่ใช้สอยของบ้านแต่ละหลังได้อย่างสวยงาม และเห็นได้ว่ายังคงรักษาพื้นที่สีเขียวไว้ได้อย่างชัดเจน     นับว่าเป็นไอเดียที่ไม่ใช่แค่แปลกหรือดูสวยงาม แต่การแบ่งสันปันส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สะดวกในการไปมาหาสู่กันและรู้จักกับเพื่อนบ้านได้ง่าย สร้างความสัมพันธ์ให้กับคนในเมืองได่ดีเลยทีเดียว   ที่มา: สำรวจโลก , wikipedia

  • คุณแม่สะเทือนใจ เมื่อทราบว่าลูกสาววัย 12 ถูกข่มขืน หลังอ่านไดอารี่ที่เธอเขียน

    คุณแม่สะเทือนใจ เมื่อทราบว่าลูกสาววัย 12 ถูกข่มขืน หลังอ่านไดอารี่ที่เธอเขียน

    ในตอนเด็กหลายคนอาจชื่นชอบการเขียนไดอารี่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละวันลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เหมือนกับเด็กสาวคนนี้ที่เขียนแม้กระทั่งเรื่องราวอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ และเป็นหลักฐานสำคัญในการจับกุมผู้ที่กระทำผิดนั้น คุณแม่ของเด็กสาววัยเพียง 12 ปีบังเอิญไปอ่านเรื่องราวในไดอารี่ของเธอจนพบว่า สาวน้อยได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวถูกวัยรุ่นชายคนหนึ่งขมขื่น ซึ่งเขาคนนั้นมีชื่อว่า Taylor James Dusen อายุ 18 ปี เด็กหนุ่มจากเขต Muskegon ในรัฐมิชิแกนคนนี้ถูกจับในเดือนกรกฎาคมและโดนจำคุกอย่างต่ำ 5 ปีในข้อกล่าวหาที่ว่าเขากระทำการรุกล้ำทางเพศกับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีนับเป็นความผิดพฤติกรรมอาญาในทางเพศระดับที่หนึ่ง     การสืบสวนของคดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อแม่ของเด็กสาวได้นำเรื่องที่อ่านเจอในไดอารี่มาเล่าให้ตำรวจฟัง ซึ่งอัยการเขต Timothy Maat ได้ออกมาบอกว่าทั้งสองคนนั้นรู้จักกันมาก่อนในปี 2016 โดยเด็กสาวเป็นเพื่อนของเพื่อนเด็กหนุ่มอีกที และเขาก็ได้กระทำการข่มขืนในเดือนมีนาคมปี 2017 ที่ผ่านมาภายในบ้านของเธอเอง อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มก็ไม่เคยถูกจับในข้อหาใดๆ มาก่อนหน้านี้ การจำคุกของเขาสามารถถูกยืดเวลาไปได้มากที่สุด 25 ปีขึ้นอยู่กับแนวทางของรัฐ     แม้ว่าจะเป็นความผิดพลาดหรือไม่ก็ตาม แต่หากว่าทำผิดกฎระเบียบของสังคมก็จำเป็นที่จะต้องได้รับโทษที่ก่อไว้ เพราะการอยู่ร่วมกันก็จะต้องมีกรอบที่สามารถดูแลให้เกิดความเรียบร้อยภายในพื้นที่ได้   ที่มา: dailymail

  • ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่า บ้านเรือนถูกเผาไปกว่า 700 หลัง

    ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพม่า บ้านเรือนถูกเผาไปกว่า 700 หลัง

    ความรุนแรงและป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นบนโลกยังมีอีกมากที่เราไม่สามารถรับรู้ได้ อย่างเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของพม่า ที่ต้องเจอกับปัญหาความรุนแรงจากความแตกต่างทางศาสนาตั้งแต่ปี 2012 จนปัจจุบันก็ได้บานปลายมาอย่างมาก มีภาพถ่ายจากดาวเทียมออกมาให้เห็นหมู่บ้านหนึ่งของชาวโรฮิงยาที่เป็นชาวมุสลิมถูกเพลิงไหม้ไฟลุกโชน สร้างความเสียหายกว่า 700 หลังคาเรือนจนเหลือเพียงแค่เถ้าธุลี ซึ่งคาดว่านี่เป็นหนึ่งในการกวาดล้างฆาตกรรมหมู่ เหตุการณ์นี้เพิ่งผ่านมาเพียงไม่กี่วัน และในช่วงเวลาเดียวกันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็ต้องอพยพไปยังชายแดนประเทศบังคลาเทศ     Chris Lewa ผู้อำนวยการโปรเจคท์ Arakan องค์กรสิทธิมนุษยชนที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เข้าไปสังเกตการณ์สิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐดังกล่าวและบอกว่ามีชาวโรฮิงยามากมายถูกฆ่าโดยทหารพม่าหรือกลุ่มชาติพันธุต่างๆ และมากกว่า 130 คนอย่างแน่นอน ทว่ากลับไม่พบหลักฐานเลยแม้แต่น้อย เพราะทหารและคนที่ลงมือฆ่านำศพไปเผาไฟอย่างไม่เหลือร่องรอยอยู่เสมอ และจากเรื่องราวเหล่านี้ก็ทำให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนกังวลว่าความรุนแรงของเรื่องทั้งหมดในรัฐนี้จะแย่กว่าที่คิดไว้ตั้งแต่ต้น     และนี่เป็นเพียงแค่ 1 ใน 17 แห่งที่บ่งบอกได้ว่าถูกเผา การลงพื้นที่สังเกตการณ์อย่างอิสระจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเปิดเผยและกระตุ้นให้ทุกคนได้รับรู้ว่า ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นที่นั่นบ้าง รัฐยะไข่ได้เกิดเหตุจราจลมาอย่างยาวนาน ชาวโรฮิงยาถูกสังหารนับพันคนซึ่งส่วนใหญ่ในนั้นก็จะเป็นชาวมุสลิม ทำให้พวกเขาต้องพากันหนีออกมา จนกลายเป็นคนไร้บ้าน อย่างเหตุการณ์ล่าสุดนี้ก็ทำให้ชาวบ้านราว 1 แสนคนลี้ภัยออกไปจากฝั่งตะวันตกของพม่าที่กำลังเผชิญกับความป่าเถื่อนอยู่     ความรุนแรงรอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มก่อการร้ายโรฮิงยาโจมตีแบบกองโจรฆ่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกลไป 15 คนและเผาหมู่บ้านนั้นอีกด้วย หัวหน้ากองทัพพม่ากล่าวว่าตั้งแต่นั้นมามีผู้เสียชีวิตเกือบ 400 รายโดยในนั้นมีผู้ก่อการร้ายโรฮิงญา 370 คน กองกำลังรักษาความปลอดภัยของพม่าได้มีปฏิบัติการกวาดล้างผู้ก่อการร้ายภายในประเทศ ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นผู้ก่อการร้าย แต่ภาพจากดาวเทียมที่ได้เห็นกันนี้ก็เป็นสิ่งยืนยันได้แล้วว่าทำไมถึงควรอนุญาตผู้ตรวจสอบนานาชาติลงไปสำรวจพื้นที่ในรัฐนี้  …

  • นิตยสารท่องเที่ยวยก “สก็อตแลนด์” เป็นประเทศที่สวยงามน่าเที่ยวที่สุดในโลก

    นิตยสารท่องเที่ยวยก “สก็อตแลนด์” เป็นประเทศที่สวยงามน่าเที่ยวที่สุดในโลก

    โลกนี้มีสถานที่ที่สวยงามเยอะแยะไปหมด ถ้าหากมีคนถามคุณว่าอยากไปเที่ยวไหนแล้วละก็ คำตอบที่ออกมาคงไม่ได้มีแค่สถานที่เดียวอย่างแน่นอน แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมว่า คนส่วนใหญ่คิดว่าสถานที่ไหนบนโลก คือสถานที่ที่สวยที่สุด มีการสำรวจความคิดเห็นจากผู้อ่านคู่มือการท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีชื่อว่า Rough Guide คนส่วนใหญ่ก็ได้ลงคะแนนให้ว่าสก็อตแลนด์เป็นประเทศที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลก เหนือกว่าอันดับสองอย่างแคนาดา และนิวซีแลนด์ ทางเว็บไซต์ของบริษัทที่จัดทำการลงคะแนนี้ขึ้นมา ก็ได้เขียนคำอธิบายเกี่ยวกับสก็อตแลนด์เอาไว้ว่า “ประเทศที่สวยงามที่สุดในโลกคือสก็อตแลนด์ ไม่ว่าใครก็คงปฏิเสธไม่ได้กับชายหาดธรรมชาติ ทะเลสาบอันสวยงาม และปราสาทที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมุมมองอันแสนอัศจรรย์บนดาวดวงนี้”     Malcolm Roughead ผู้บรหารระดับสูงของ VisitScotland รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น เขาได้ออกมาบอกว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศของเราได้รับรางวัลอันน่าทึ่งนี้จากผู้อ่าน แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็คงจะไม่ได้ทำให้ใครหลายคนที่มาประเทศของเราต้องรู้สึกแปลกใจ” “ด้วยพื้นที่ทางธรรมชาติอันสวยงาม ประวัติศาสตร์ที่น่าดึงดูดใจกลางเมืองที่คึกคัก และความมีสีสันของเรา จะทำให้คุณต้องหลงใหลจนลืมหายใจกันไปเลย ที่สำคัญคือความรับผิดชอบต่อความสวยงามนี้ ที่ทั้งผู้มาเที่ยวและผู้อยู่อาศัยให้ปกป้องอนุรักษ์ธรรมชาติเหล่านี้เอาไว้ให้ลูกหลานรุ่นต่อไปๆ จะได้มีโอกาสมาชมความงามนี้เช่นกัน”     และนี่คือ 20 อันดับแรกของการจัดอันดับโดยผู้อ่านนิตยสาร Rough Guide เราลองมาดูกันดีกว่าว่าคนส่วนใหญ่เขาคิดว่าที่ไหนน่าเที่ยวกันบ้าง 20. Vietnam 19. Croatia 18. Ireland 17. Norway 16. Peru 15. Switzerland 14.…

  • ออสเตรเลียเกิดไอเดีย “ป้ายหรรษา” ลดปัญหา หลับในบนถนนที่ยาวที่สุดในประเทศ

    ออสเตรเลียเกิดไอเดีย “ป้ายหรรษา” ลดปัญหา หลับในบนถนนที่ยาวที่สุดในประเทศ

    เวลาที่เราขับรถอยู่บนถนนเพียงลำพังหรือต้องอยู่บนถนนอันแสนยาวเหยียดที่มีแต่ทางตรง สิ่งหนึ่งที่หลายคนต้องระวังคืออาการหลับใน ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ ด้วยเหตุนี้เอง กรมทางหลวงออสเตรเลียจึงปิ๊งไอเดียเจ๋งๆ ขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว ในประเทศออสเตรเลียนั้นมีถนนเส้นหนึ่งที่เชื่อมต่อเมือง Balladonia และ Caiguna เข้าด้วยกัน ซึ่งถนนเส้นดังกล่าวมีความยาวมากกว่า 140 กิโลเมตร แถมยังจะเป็นทางตรงล้วนๆ ไม่มีทางเลี้ยวทางโค้งใหญ่ๆ เจือปนเลยแต่อย่างใด แน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นประจำคืออุบัติเหตุที่เกิดจากอาการหลับใน ด้วยเหตุนี้เอง กรมทางหลวงออสเตรเลียจึงได้ปิ๊งไอเดีย นำป้ายคำถามมาติดระหว่างทาง เพื่อให้เหล่านักขับได้ขบคิดไประหว่างขับรถ จะไปยังไงลองไปชมกันเลย   ป้ายเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณตื่นตัวได้   เล่มเกมส์จากป้ายนี้ไปเรื่อยๆ บางทีอาจทำให้คุณรักษาชีวิตเอาไว้ได้   มีการเล่นปัญหาถามตอบเกี่ยวกับเอกลักษณ์ประจำเมืองต่างๆ พร้อมคำเฉลย   ทุกคำถามจะเป็นความรู้รอบตัวทั้งสิ้น   และหากว่าคุณคิดไม่ออกละก็แค่คุณขับต่อไปก็จะเจอกับเฉลยได้ง่ายดาย   “ยอดเขาที่สุดที่สุดในรัฐควีนส์แลนด์คือยอดเขาอะไร”   นอกจากจะเป็นการช่วยให้สมองได้ทำงานแล้ว ก็ยังจะได้รับความรู้กลับไปด้วย   อย่างไรก็ตาม อย่ามัวแต่อ่านป้ายจนลืมดูถนนหนทาง   ไม่งั้นอุบัติเหตุก็คงจะเกิดขึ้นเหมือนเดิม   แล้วคุณคิดว่าเกมนี้สามารถช่วยให้คุณตื่นตัวได้จริงหรือไม่ ?   หลังจากมีการเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตคิดอย่างไรกับป้ายเหล่านี้บ้างนะ   ฉันเป็นชาวออสเตรเลีย สามารถยืนยันได้เลยว่า ความเหนื่อยล้าในการขับรถนั้นคือฆาตกรบนท้องถนนของแท้เลย   คุณมีโอกาสที่จะเผลอหลับไปได้เลยจริงๆ…

  • แอร์กีต้าร์ตกรุ่นไปแล้ว เมื่อต้องเจอกับการแข่งขัน “กระเด้าลม” ชิงแชมป์ในประเทศอเมริกา

    แอร์กีต้าร์ตกรุ่นไปแล้ว เมื่อต้องเจอกับการแข่งขัน “กระเด้าลม” ชิงแชมป์ในประเทศอเมริกา

    ก่อนหน้านี้เราคงจะได้รู้จักกับการแข่งขันกีต้าร์ลมหรือแอร์กีต้าร์กันไปบ้างแล้ว ซึ่งเป็นการแข่งขันที่แปลกและได้รับความนิยมไม่ใช่น้อยจากทั่วโลก แต่ถ้าคิดว่าการแข่งกีต้าร์ลมว่าแปลกแล้ว ต้องมาเจอกับการแข่งขันอันนี้ รับรองว่าคุณจะต้องอึ้งไปเลย การแข่งขันที่ว่านั่นก็คือการแข่งขัน Air Sex Championships หรือเข้าใจกันง่ายๆ ก็คือ การแข่งขันชิงแชมป์กระเด้าลมนั่นเอง ซึ่งจัดขึ้นกันเป็นปีที่ 9 เข้าไปแล้ว และการแข่งขันนี้จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เป็นการผสมผสานกันระหว่างกีฬา ศิลปะ และความตลกจากผู้เข้าแข่งขันมากมายที่ขึ้นไปทำท่าเหมือนกับว่ามีอะไรกับคนอื่นอยู่ ด้วยลีลาที่มีทั้งแบบพิสดารและสมจริง ชวนให้ผู้ชมสามารถคิดภาพตามกันได้ง่ายๆ     ผู้เข้าแข่งขันบางคนก็จะใส่เสื้อผ้าครบปกติ หรือบางคนก็อาจจะมีถอดบ้างเป็นบางชิ้น แต่ยังไม่มีใครถึงกับเปลือยมาแข่ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะบางทีเราคงไม่อยากเห็นกันหรอกเนาะ รูปแบบของานหลักๆ ได้บอกไว้ว่า “Air Guitar คือการแข่งทำท่าทางการเล่นเครื่องดนตรีแบบเดิมๆ ที่ผมบอกเลยว่าน่าเบื่อ คุณต้องมาเจอกับการแข่งขันนี้ที่รับรองว่าคุณต้องอ้าปากค้างกับการทำท่ามีเซ็กซ์ระหว่างผู้เข้าแข่งขันกับคู่ขาล่องหน โดยไม่ต้องใช้อะไรเลยนอกจากศิลปาการเล่าเรื่อง และจินตนาการอย่างแท้จริง”     Chris Trew ดาราตลกและเจ้าของงานนี้ได้ออกมาบอกว่า “เราเริ่มต้นจัดการแข่งขันนี้ขึ้นมา เพราะพวกเราคิดว่าโลกเราต้องมีอะไรเจ๋งๆ แปลกๆ ท้าทาย แข่งขันในเรื่องของเพศที่มาพร้อมกับความตลกขึ้นมา ซึ่งผู้คนที่ได้ขึ้นมาบนเวทีก็จะเต็มไปด้วยพลังงานอันเหลือล้น ความตลก และความแปลกที่หาดูไม่ได้จากที่ไหนบนโลก” การแข่งขันนี้เป็นการชักชวนให้ทุกคนได้ขึ้นมาร่วมสนุกกันโดยไม่สนเรื่องเพศ อายุ เชื้อชาติ ความพิการหรืออะไรก็ตามทั้งสิ้น ทำให้เกิดโชว์ที่หลากลายที่แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นกัน   ไฮไลท์ในงานจาก Portland…

  • บริษัทในจีนผลิตตัวต่อ ที่ทำให้คุณสามารถสร้าง “ซ่อง” เป็นของตัวเองได้ง่ายๆ

    บริษัทในจีนผลิตตัวต่อ ที่ทำให้คุณสามารถสร้าง “ซ่อง” เป็นของตัวเองได้ง่ายๆ

    ตัวต่อถือว่าเป็นหนึ่งในของเล่นยอดนิยมสำหรับเด็กๆ ด้วยรูปแบบที่หลากลาย สามารถต่อได้ทั้งตามรูปแบบที่กำหนด หรือจะต่อตามจินตนาการของตนเองก็ได้ แต่อย่าคิดว่าตัวต่อทุกรุ่นจะเหมาะสมกับเด็กๆ เพราะล่าสุด บริษัทในจีนได้ปล่อยชุดตัวต่อแบบผู้หญ้ายผู้ใหญ่ออกมา จะเป็นยังไง เราลองไปชมกัน     เจ้าตัวต่อสไตล์เลโก้ตัวนี้ผลิตโดยบริษัท Xingbao พวกเขาได้ร่วมมือกับแฟนๆ ตัวต่อเลโก้สายฮาร์ดคอร์เพื่อออกแบบตัวต่อชุดใหม่ ที่อาจทำให้แฟนๆ เลโก้ที่มีศีลธรรมอันดีดีงามต้องกุมขมับนั่นก็คือ ชุดตัวต่อ “ซ่องสไตล์จีนโบราณ” ชุดตัวต่อดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของของเล่นชุด “ท้องถนนจีนโบราณ” ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปในอดีต ราวกลับหลุดเข้าไปอยู่ในหนังจีนโบราณ พร้อมคำพูดคุ้นหูว่า “เสี่ยวเอ้อ! จัดนางโลมให้ข้าซักคนซิ” แน่นอน ด้วยความที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเลโก้ ตัวต่อชุดนี้ไม่ได้มีเพียงสิ่งปลูกสร้างให้คุณต่อเท่านั้น ตัวต่อที่เป็นมนุษย์ก็มีให้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหนุ่มกลัดมัน หรือ สาวขายบริการแสนยั่วยวน (ทุกตัวยังมีเสื้อผ้าใส่นะ ไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะเล่นไม่ได้)     ตอนนี้ตัวต่อชุดดังกล่าวมีขายในชื่อว่า “สวนหน้าบ้าน Yihong” บนเว็บไซต์ Brick Fanatics โดยตอนแรกพวกเขาตั้งชื่อมันว่า “ซ่องโสเภณี Yihong” ซึ่งทางผู้จัดจำหน่ายคงคิดได้ว่ามันฮาร์ดคอร์เกินไป เลยเปลี่ยนชื่อเป็นเป็นสวนหน้าบ้านแทน ที่ประหลาดอีกอย่างคือแม้ทางผู้ผลิตจะบอกว่าออกแบบมาเพื่อผู้ใหญ่ แต่ในรายละเอียดของมันกลับเขียนว่า มีไว้เพื่อการศึกษา แถมเหมาะกับด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป สงสัยอีกไม่นานเราคงได้เห็นตัวต่อชุดนี้ในโรงเรียนอนุบาลแน่นอน     ก็ถือว่าเป็นไอเดียแปลกๆ ที่ดันมีขายจริงๆ  แฟนๆ ที่ชอบสะสมเลโก้แปลกๆ ก็ลองหาซื้อไปต่อกันได้นะฮะ แต่ซื้อแล้วอย่าลืมเก็บให้พ้นมือเด็กล่ะ เดี๋ยวจะได้ตอบคำถามกันวุ่นวายอีก ฮาาาา…

  • 21 ภาพของน้องหมาก่อนและหลังที่มันจะได้รับคำชม มาดูสิว่าจะแตกต่างกันขนาดไหน

    21 ภาพของน้องหมาก่อนและหลังที่มันจะได้รับคำชม มาดูสิว่าจะแตกต่างกันขนาดไหน

    ใครๆ ก็คงจะชอบที่ได้รับคำชมจากคนรอบข้าง หรือว่าเวลาที่ทำงานและได้รับคำชมจากผู้ที่เข้ามาดูงานของเรา ก็สามารถทำให้เรารู้สึกดี มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขได้มากยิ่งขึ้น เปรียบได้กับรางวัลแห่งความสำเร็จ และเรารู้หรือไม่ ไม่ใช่แค่กับมนุษย์เท่านั้นที่ตอบสนองต่อคำชม เจ้าหมาเองก็อยากได้คำชื่นชมไม่แพ้กัน ไม่เชื่อลองมาดูกันว่า สภาพของเจ้าหมาก่อนและหลังที่เจ้าของพูดว่า “ดีมากเจ้าหมา” จะแตกต่างขนาดไหน   หลับตาพริ้มยิ้มหวานเชี๊ยะ   จากที่เหมือนหมีขั้วโลก ก็กลายเป็นหมีขั้วโลกที่น่ารักกว่าเดิม   อย่าไปเครียดให้มันมาก มาหัวเราะไปด้วยกันดีกว่า   ยิ้มจนเห็นลิ้นหมดแล้ว   เป็นรอยยิ้มที่แอบน่ากลัวนิสส์ๆ   น่ารักอยู่แล้วก็เพิ่มให้มากยิ่งขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ   พูดชมบ่อยๆ เข้าก็อดใจไม่ไหวที่จะเผยรอยยิ้มออกมาเหมือนกันแหละ   ห๊ะ! ชมผมหรอครับเจ้านาย   ดีใจซะจนหูตั้งเลยนะเรา   ยิ้มอ่อนๆ พร้อมกับแลบลิ้นเล็กๆ   สีหน้างงๆ แต่ก็คงจะดีใจ   ยิ้มไม่พอ แถมหามุมกล้องประจำตัวเอาไว้ซะหน่อยนึง   หืมมม.. เย้!!   นี่ก็เล่นยิ้มซะไม่หุบเลย   รอยยิ้มชวนสยองเล็กๆ นะ หึหึหึ   นี่สิที่เขาเรียกว่ายิ้มจนจมูกบานเลย  …

  • 7 ข้อสังเกตสุดอัศจรรย์ที่บอกได้ว่าแท้จริงแล้วคุณอาจเป็น “คนฉลาด” อยู่ลึกๆ

    7 ข้อสังเกตสุดอัศจรรย์ที่บอกได้ว่าแท้จริงแล้วคุณอาจเป็น “คนฉลาด” อยู่ลึกๆ

    เราอาจเคยเห็นแบบทดสอบวัดผลระดับสติปัญญามาหลายแบบ บางอันแค่ต้องการให้เราตอบคำถาม บางอันอาจให้เราแก้ปัญหารูปภาพ บางอันอาจถามปัญหาเชาว์ แต่มันจะดีขนาดไหน หากเรามีหลักการณ์ง่ายๆ ที่ช่วยให้เรารู้ได้ทันทีว่าใครเป็นอัจฉริยะตัวจริง ล่าสุดเว็บไซต์ต่างประเทศได้รวบรวม 7 ข้อสังเกตสุดอัศจรรย์ ที่จะทำให้คุณรู้ทันทีว่านี่แหละคืออัจฉริยะที่โลกตามหามานาน จะมีอะไรบ้าง ลองไปชมกันเลย   เป็นคนใช้ยาเสพติด   คุณคงเคยได้ยินพ่อแม่หรือพวกผู้ใหญ่พูดว่าการเล่นยาในช่วงมหาลัยเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ แต่อ้างอิงจากงานวิจัยของ James White และ David Batty เรื่องนั้นอาจไม่จริงเท่าไหร่ พวกเขากล่าวว่า คนที่เล่นยามักเป็นคนที่เปิดกว้างพร้อมรับประสบการณ์ใหม่ๆ และเป็นพวกขี้เบื่อ แต่อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้ใช้ได้กับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ฉะนั้น หนุ่มๆ ควรเชื่อฟังที่พ่อแม่ผู้ปกครองบอกหน่อยล่ะนะ   เป็นพวกลิเบอร่อล   มีการบอกว่าพวกลิเบอร่อลจะมี IQ สูงกว่าคนที่เป็นอนุรักษ์นิยม เพราะว่าความเชื่อเสรีนิยมจะเป็นการสวนกระแสสัญชาตญาณวิวัฒนาการของพวกเรา ด้วยความรู้ที่มากกว่า นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสมากกว่าที่จะเอาชนะพวกเขาเหล่านั้นได้   เป็นคนสันโดษ   คนส่วนใหญ่มองว่าความสุขเกิดจากการเข้าสังคม พบปะเพื่อนฝูง ใช้ชีวิตร่วมกัน หัวเราะไปด้วยกัน แต่สำหรับคนอัจฉริยะแล้ว การเข้าสังคมอาจทำให้พวกเขาเป็นทุกข์ยิ่งขึ้น งานวิจัยพบว่ายิ่งคนเหล่านั้นอยู่ในสังคมกลุ่มเพื่อนมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้ความสุขในชีวิตของพวกเขาลดน้อยลงมากเท่านั้น ดังนั้นอัจฉริยะจึงชอบอยู่อย่างสันโดษมากกว่า   เป็นคนนอนดึก   สำหรับพนักงานบริษัทแล้ว การตื่นสายอาจไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ แต่สำหรับอัจฉริยะแล้ว…

  • สุดสยอง กับ 10 เรื่องราวของ “ตุ๊กตา” ที่ถูกผีสิง ชวนขนหัวลุกและน่ากลัวมากที่สุดในโลก

    สุดสยอง กับ 10 เรื่องราวของ “ตุ๊กตา” ที่ถูกผีสิง ชวนขนหัวลุกและน่ากลัวมากที่สุดในโลก

    หนังแนวตุ๊กตาผีสิงได้สร้างความหวาดผวาให้กับใครหลายคนมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นแอนนาเบล ชักกี้ หรือตุ๊กตาจ๋าของเขา ในเรื่องมักเล่าว่าตุ๊กตาเหล่านั้นถูกวิญญาณหรือปิศาจร้ายสิ่งสู่ ทำให้ชอบออกอาละวาดสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คน ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ เรื่องราวส่วนใหญ่ที่เราได้ชมกัน มักถูกดัดแปลงหรือได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง รู้แบบนี้บางคนถึงกับไม่อยากมีตุ๊กตาติดบ้านกันไปเลย เราลองมาดูเรื่องราวของตุ๊กตาที่ว่ากันว่ามีผีสิงและน่ากลัวมากที่สุดในโลก 10 อันดับกันบ้าง ว่ามันจะเป็นอย่างไร   Joliet   ตุ๊กตาโจเลียตตัวนี้เป็นตุ๊กตาประจำครอบครัวของครอบครัวหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปก็มันก็ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ว่ากันว่าตุ๊กตาตัวนี้ได้มอบคำสาปบางอย่างให้กับสมาชิกผู้หญิงทุกคนในครอบครัว พวกเธอจะต้องมีบุตรสองคน หนึ่งชาย หนึ่งหญิง  หลังคลอดได้สามวัน เด็กชายทุกคนจะเสียชีวิตอย่างปริศนา สมาชิกหลายคนในครอบครัวเล่าว่า พวกเขาได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ออกมาจากตุ๊กตาโจเลียตตัวนี้ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าวิญญาณของเด็กชายที่เสียชีวิตทั้งหมด ถูกกักขังอยู่ภายในตุ๊กตาตัวนี้   Mercy   มีคนเล่าว่าตุ๊กตาตัวนี้มีวิญญาณของเด็กสาววัย 7 ขวบสิงสถิตอยู่ เจ้าของหลายคนบอกว่าเห็นตุ๊กตายืนขึ้นมาเอง และขยับออกจากที่ที่พวกเขาวางไว้ บางคนก็บอกว่าวิทยุหรือว่าทีวีจะเปลี่ยนช่องไปเองหากว่ามีตุ๊กตาตัวนี้อยู่ใกล้ๆ   Mandy   ตุ๊กตาพอร์ซเลนตัวนี้นับว่าเป็นหนึ่งในตุ๊กตาผีสิงที่น่ากลัวที่สุดในโลก มันได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1910 ก่อนที่ปัจจุบันจะถูกบริจาคให้กับนพิพิธภัณฑ์บริติชโคลัมเบีย เจ้าของตุ๊กตาคนเก่าบอกว่าเธอได้ยินเสียงร้องไห้ออกมาจากตุ๊กตาตัวนี้ในตอนกลางคืน และเมื่อนำมาส่งต่อให้พิพิธภัณฑ์เสียงนั้นก็หายไป ความน่ากลัวของมันยังคงเกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์นี้ เพราะมีคนได้ยินเสียงฝีเท้าดังอยู่ในโถงทางเดินทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่เลย หลอนไปอีก!   Amanda   ประวัติความเป็นมาของตุ๊กตาตัวนี้ไม่อาจทราบได้ แต่ตำนานของมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อนที่มีการวางขายอยู่ใน…

  • รวมภาพที่จะบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า แท้จริงแล้วหมาแมวก็อยู่ด้วยกันได้นะ…(เหรอ) ?!

    รวมภาพที่จะบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า แท้จริงแล้วหมาแมวก็อยู่ด้วยกันได้นะ…(เหรอ) ?!

    เจ้าหมาและเจ้าเหมียวเกิดมาก็มีลักษณะพฤติกรรมและบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ยิ่งหากคุณเป็นคนที่เลี้ยงเจ้าสัตว์สองสายพันธุ์นี้ไว้ในบ้านหลังเดียวกันแล้วละก็ คงจะรู้เป็นแน่ว่ามันวุ่นวายขนาดไหน อย่างในหนังก็มักทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งสองนี้เป็นคู่กัดกัน หรือมีสำนวนฝรั่งที่บอกว่า “ต่อสู้กันให้เหมือนหมากับแมว” แต่ในบางทีเราก็เห็นภาพพวกมันเล่นกันบ้าง ดูรักกันบ้าง ตกลงพวกมันเป็นเพื่อนกันหรือเป็นคู่กัดกันแน่เนี่ย งั้นเราลองมาดูกันบ้างดีกว่า ว่าชาวเน็ตเขาได้แชร์ภาพการอยู่ด้วยกันของพวกมันไว้ยังไงกันบ้าง ลองไปชมกันเลย   อยากมีใครสักคนที่หันมามองเราอย่างนี้บ้าง   ท่าทางการพบกันครั้งแรกกับเจ้าเหมียวคงจะไม่ดีเท่าไหร่   นี่ก็กอดซะแน่นไม่ยอมให้ไปไหนกันเลย   จ่าครับคนร้ายล็อกคอเจ้าตูบไว้เป็นตัวประกันแล้วครับผม   เจ้าหมอนี่มันเอาแต่นอนอย่างเดียวเลยนะเหมียว   โลกสดใสของสัตว์สองสายพันธุ์   มีหมอนให้หนุนกันสบายเลยเชียว   น่ารักเกิ๊นนน   อย่ามาซ่ากับอั๊วนะเฟ้ยยย   แง่ะ เข้ามาใกล้มากๆ หนูก็กลัวนะ   นั่นมันตัวไร๊น่ะ   สุดท้ายแล้วก็ยังคงหาคำตอบไม่ได้อยู่ดีว่าแท้จริงแล้วพวกมันรักกันหรือไม่กันแน่ หากใครมีโมเม้นต์น่ารักๆ แบบนี้ก็อย่าลืมเอามาแชร์กันให้ได้เห็นบ้างนะ   ที่มา: boredpanda

  • ประชาชนและตำรวจร่วมไว้อาลัยสุนัข K-9 หลังจากปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันมาตลอด 10 ปี

    ประชาชนและตำรวจร่วมไว้อาลัยสุนัข K-9 หลังจากปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันมาตลอด 10 ปี

    สุนัขตำรวจถือว่าเป็นหนึ่งในทีมงานที่สำคัญในการปัญหาต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บกู้ระเบิดหรือตามจับยาเสพติด ทำให้มันเป็นที่รักของทั้งตำรวจและประชาชน และเมื่อถึงวันที่สุนัขเหล่านี้ต้องจากโลกนี้ไป นั่นจึงกลายเป็นความเสียใจสำหรับผู้คนจำนวนมาก อย่างเช่นเรื่องราววันนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ Hunter สุนัขตำรวจที่เข้ารับการฝึกฝนและเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีม K9 ต้องประสบปัญหาสุขภาพขั้นรุนแรงจนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลสัตว์ อาการของมันไม่ค่อยสู้ดีอยู่ร่วมสัปดาห์ จนกระทั่งผลตรวจออกมาว่ามันป่วยเป็นโรคมะเร็งตับขั้นรุนแรง แพทย์จึงแนะนำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ Michael D’Aresta คู่หูคนสำคัญของเจ้าหมา ตัดสินใจให้มันได้หลับไปตลอดกาล     สุดท้ายแล้วในวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา เจ้า Hunter ก็ได้จากไปอย่างสงบในเมืองมิดเดิ้ลทาวน์ รัฐคอนเนตทิคัต ประเทศอเมริกา เมืองที่มันปฏิบัติหน้าที่มาตลอด 10 ปี โดยในพิธีศพของเจ้า Hunter มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนเข้ามาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ซึ่งค่าใช้จ่ายภายในงานทางสถานีตำรวจมิดเดิ้ลทาวน์เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด Michael และ Hunter ได้เข้าเป็นหน่วยพิเศษและปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2007 ในเมืองมิดเดิ้ลทาวน์ โดยทั้งคู่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด การจากไปครั้งนี้ทำให้ครอบครัวของ Michael รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาคอยดูแลมันมาตั้งแต่ยังเล็กๆ     ปัจจุบันในสถานีตำรวจมิดเดิ้ลทาวน์มีรูปของเจ้า Hunter ติดอยู่พร้อมกับข้อความเขียนว่า “Hunter และเจ้าหน้าที่ D’Aresta เป็นส่วนสำคัญในการทำงานตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ความทุ่มเทที่มีให้ในฐานะทีม K-9…

  • ความหลอนจากหนังเรื่อง IT ทะลุออกมานอกจอ กับลูกโป่งสีแดงลอยเต็มเมืองซิดนีย์

    ความหลอนจากหนังเรื่อง IT ทะลุออกมานอกจอ กับลูกโป่งสีแดงลอยเต็มเมืองซิดนีย์

    ตอนนี้คงมีใครหลายคนรอที่จะได้รับชมภาพยนตร์สยองขวัญแห่งปีที่มีชื่อว่า IT เพราะกระแสการตอบรับจากรอบสื่อออกมาค่อนข้างดี แม้แต่ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้อย่าง Stephen King ถึงกับออกมาบอกว่ามันดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้มากจริงๆ เรื่องราวของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ถูกมองว่าแปลกแยก เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่ากลุ่มของคนขี้แพ้ ต้องเข้าไปเผชิญและต่อสู้กับปีศาจที่ไม่มีวันตายในคราบตัวตลกที่ชื่อว่า Pennywise รับบทโดย Bill Skarsgard     เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดของมันก็คือ จะมีลูกโป่งสีแดงติดตัวไปไหนมาไหนและมันจะใช้ลูกโป่งสีแดงนี้หลอกล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ สิ่งนั้นได้กลายมาเป็นไอเดียของการโปรโมตหนังไปในปริยาย ตอนนี้ท่อระบายน้ำในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย มีลูกโป่งสีแดงผูกไว้เต็มไปหมด พร้อมกับประโยคชวนหลอนว่า “มันอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด” ซึ่งทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต้องรู้สึกขนหัวลุกไปตามๆ กัน     สิ่งนี้ได้รับกระแสตอบรับในทวิตเตอร์ออกมามากมาย “ตอนนี้มีลูกโป่งแดงลอยเต็มเมืองไปหมด และฉันก็จะเป็นบ้าอยู่แล้ว” “จากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้มาก่อนแล้ว ฉันอยากแนะนำว่าอย่าที่จะไปเข้าใกล้เจ้าลูกโป่งนี่เด็ดขาด” “ไม่ได้อย่างแน่นอน ลูกโป่งสีแดงบ้าๆ นี่มีอยู่ให้เห็นเต็มซิดนีย์ไปหมด และคุณเองจะลอยขึ้นฟ้าไปเหมือนกัน”   .   ถ้าใครจำได้ ช่วงสัปดาห์ก่อน Eagan Tilghman ไม่รู้เบื่ออะไรมา จึงเกิดปิ๊งไอเดียจับน้องของเขาเองมาแต่งหน้าทาปากและยัดลูกโป่งแดงเข้ามือ เป็นความหลอนแบบน่ารักๆ     ถือว่าเป็นไอเดียเจ๋งๆ ในการโปรโมตหนังจริงๆ ใครที่สนใจรอชมหนังเรื่องนี้กันในวันที่ 7 กันยายนเลยจ้าาา   ที่มา: ladbible

  • ด้วยรักของพี่ ที่แม้จะ “พิการไม่มีปลายแขน” ก็พยายามปลอบประโลม ไม่ให้น้องร้องไห้…

    ด้วยรักของพี่ ที่แม้จะ “พิการไม่มีปลายแขน” ก็พยายามปลอบประโลม ไม่ให้น้องร้องไห้…

    ความรักในครอบครัวที่มีให้กันทำให้ทุกคนจะคอยช่วยเหลือกันอยู่เสมอในยามที่มีปัญหา เหมือนกับเด็กสองคนนี้ที่ถึงแม้ว่าคนพี่จะไม่ได้เกิดมาสมบูรณ์พร้อมแต่ด้วยความที่โตกว่า เขาก็ยินดีที่จะช่วยเหลือน้องของเขาอย่างเต็มที่ คลิปวิดีโอของเด็กน้อยที่เกิดมาพิการไม่มีแขนท่อนล่าง กำลังช่วยปลอบประโลมน้องชายทารกของตัวเองที่นอนอยู่ข้างๆ กัน โดยพยายามนำจุกหลอกให้เขาได้ดูดไว้ส่งคืนให้ เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก     ซึ่งในตอนแรกนั้นทั้งคู่ก็ยังคงดูสนุกสนานร่าเริงอยู่บนเตียง จนเมื่อจุกปลอมที่ดูดอยู่ได้หลุดออกจากปากของทารกและทำให้เขาเริ่มร้องออกมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่โชคดีที่พี่ชายของเขาที่อยู่ข้างๆ ได้เข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ทั้งหมดให้คลี่คลายลงในที่สุด พี่ชายที่โตกว่าไม่มากและไม่มีปลายแขนหรือมืออย่างคนปกติทั่วไป หมุนตัวไปหาทารกน้อยและใช้แขนขวาเล็กๆ กับคางของเขาดันให้สามารถจับเจ้าจุกหลอกนั้นขึ้นมาได้ และพยายามขยับตัวเข้าไปใกล้น้องของเขาที่กำลังร้องไห้ พร้อมกับดันเจ้าจุกนั้นเข้าไปในปากอย่างนิ่มนวล และทำให้ทารกผู้น้องสงบลงได้ในที่สุด คลิปวิดีโอความรักของพี่ที่มีให้กับน้องชาย   และภาพความน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในเมือง Jabriya ประเทศคูเวต ก็ได้ถูกโพสต์ลงไปในอินสตาแกรมและทำให้ผู้คนเข้ามารับชมความน่าเอ็นดูของทั้งคู่กับพฤติกรรมที่ชวนอมยิ้มของคนเป็นพี่ที่มีให้กับน้อง ทำให้มียอดวิวมากกว่า 150,000 วิวเลยทีเดียว     มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย อย่างเช่น “ขอให้พระเจ้าคุ้มครองด้วยนะ” หรือ “พวกเขาน่ารักมากจริงๆ” แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่าภาพที่ได้เห็นนี้ทำให้รู้สึกอย่างไรกันบ้าง คอมเม้นท์กันไว้ได้เลยนะ ที่มา: dailymail , shnshoona_almzyoona

  • คุณตาวัย 91 ปี ลื่นล้มจนสาหัสหนัก จากเหตุออกมาต่อว่าเด็กวัยรุ่น ที่ขว้างปาข้าวของเข้าบ้าน…

    คุณตาวัย 91 ปี ลื่นล้มจนสาหัสหนัก จากเหตุออกมาต่อว่าเด็กวัยรุ่น ที่ขว้างปาข้าวของเข้าบ้าน…

    ในตอนเด็กๆ บางคนอาจจะเล่นสนุกจากการกดกริ่งหน้าบ้านของคนที่ไม่รู้จักและวิ่งหนีไป โดยไม่ได้คิดร้ายหรืออะไรแต่อย่างใด แต่นับว่าเป็นการกวนใจเจ้าของบ้านอยู่พอสมควร จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ก็มีความคล้ายคลึงกัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับเกินความคาดหมายไปอย่างมาก… เมื่อเด็กผู้หญิงสองคนมาคอยสร้างความกวนใจให้กับบ้านหลังหนึ่ง ด้วยการขว้างหินและลูกแอปเปิ้ลใส่กำแพงหรือกระจกบ้าน แน่นอนว่ามันจะต้องเกิดเสียง หรือว่าเสี่ยงที่จะทำให้กระจกแตก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าของบ้านไม่พอใจ George Roscoe ชายแก่วัย 91 ปี ผู้เป็นเจ้าของบ้านตั้งใจที่จะออกมาต่อว่าเด็กทั้งสองให้เลิกทำสิ่งที่พวกเธอทำมานานเป็นสัปดาห์ซะที แต่ในตอนที่เขาเดินออกมาก็ได้ลื่นล้มจนทำใบหน้ากระแทกเข้ากับพื้นทางเดินบนระเบียงเกิดเป็นแผลขนาดใหญ่บริเวณตาขวา มีเลือดออกตรงหน้าแข้ง และกระดูกซี่โครงหัก     เหตุการณ์ทั้งหมดภรรยาของเขาได้เป็นคนเล่าให้ฟังว่า “ฉันเคยเห็นเด็กสาวทั้งสองคนมาก่อนหน้านี้ อยู่กับวัยรุ่นผู้ชาย และสิ่งที่พวกเธอทำก็ทำมาตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว ฉันทนไม่ไหวและได้ออกไปบอกต่อว่าเด็กพวกนั้น แต่เด็กคนหนึ่งก็กลับยิ้มเยาะเย้ยฉัน ฉันจึงกลับเข้าไปข้างในและบอกสามีไม่ต้องออกไปข้างนอก” ทว่าเด็กเหล่านั้นก็ไม่ยอมหยุด ทำให้ชายชราลุกออกไปดุด่าพวกเธออีกเช่นกัน ในขณะที่ภรรยาไม่ทราบว่าเขาเดินออกไปข้างนอก หลังจากนั้นเขาก็จำไม่ได้ว่าเขาล้มลงไปในตอนไหนตอนนั้นมันดูเลือนลาง ภาพที่จำได้อีกครั้งคือตอนที่รถพยาบาลมาถึงแล้ว     ในตอนที่พวกเด็กสาวคู่กรณีวิ่งหนีไป มีคนสองคนเดินผ่านมาพอดีพบว่าเขากำลังนอนอยู่บนพื้นมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะ ทำให้รีบเรียกรถพยาบาลและเข้าไปบอก Dorothy ภรรยาของเขาที่อยู่ด้านใน ในตอนนั้นเธอตกใจเป็นอย่างมากและได้รีบโทรหาลูกๆ ของพวกเธอ ในตอนนั้นเธอก็ได้แต่คิดสิ่งต่างๆ เต็มไปหมด เธอรู้สึกกังวลและตกใจ จนไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นต่อจากนี้ หลังจากทั่วพื้นที่เต็มไปด้วยแอปเปิ้ลมากมาย ตำรวจที่ควรจะอยู่รอบๆ หายไปไหน ทุกอย่างกลับไร้วี่แววของคำตอบ…     สิ่งนี้จึงทำให้ Lisa Gerrard…

  • หนุ่มกลับมาเจอเจ้าเหมียว นอนอ้าซ่าต้อนรับในบ้าน แต่เดี๋ยวนะ… กรูไม่ได้เลี้ยงแมวนี่หว่า!?

    หนุ่มกลับมาเจอเจ้าเหมียว นอนอ้าซ่าต้อนรับในบ้าน แต่เดี๋ยวนะ… กรูไม่ได้เลี้ยงแมวนี่หว่า!?

    หลายคนก็คงไม่อยากให้มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา ในเวลาที่เราไม่อยู่บ้านออกไปทำธุระข้างนอกต่างๆ กลับมาต้องเจอกับคนหรือสิ่งที่ไม่คาดฝัน แต่ไม่ใช่สำหรับชายคนนี้เพราะดูเหมือนเค้าจะแฮปปี้กับแขกตัวนี้ซะเหลือเกิน เรื่องราวของชายหนุ่มที่มีชื่อว่า Nigel ในวันหนึ่งที่เขากัลบมาบ้านหลังจากเลิกงาน ก็ต้องเจอกับแขกที่ไม่เคยคาดคิดนั่งอยู่บนเก้าอี้พับภายในบ้าน จนเกิดเป็นเรื่องราวสุดแสนจะน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้แหละ!!   “ผมกลับมาจากการทำงาน ก็ได้เจอกับเจ้าขนปุยตัวเล็กๆ กำลังนอนชิลล์อยู่ในบ้านของผม มันคงจะเข้ามาจากทางหน้าต่างที่เปิดไว้ เพราะว่าผมไม่ได้เลี้ยงแมวซักกะตัว!!”   “มันไม่มีปลอกคอและส่งเสียงร้องอย่างหนักหน่วง ผมจึงตัดสินใจไปร้านค้าซื้ออาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ ทำให้มันรู้สึกมีความสุข ส่งเสียงร้องไปกินข้าวไปอย่างเอร็ดอร่อย”   “พอผมเดินถามคนแถวบ้าน แต่ดันได้คำตอบว่า ไม่มีใครแถวนี้เลี้ยงแมวเลย ห๊ะ…?”   “วันต่อมาผมได้พามันไปหาสัตวแพทย์ พบว่ามันไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร นอกจากพยาธิหรือไรต่างๆ ในที่สุดก็ได้รับการฉีดยาและรักษาเรียบร้อย”   “เจ้าเหมียวสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ในทันที และจะมานั่งอยู่รอบๆ ตัวผม ในตอนที่พักจากการวิ่งทำลายข้าวของรอบๆ บ้าน อย่างกับเป็นแมวปีศาจจริงๆ”   “ตลอดสัปดาห์ถัดมา ผมก็ได้ลองไปถามเพื่อนบ้านอีกละแวก แต่ก็ไม่มีใครประสบกับปัญหาแม่แมว หรือว่าลูกแมวหายไปเลย”   “ผมตั้งชื่อมันว่า Buddy และดูแล้วมันคงจะชอบบ้านใหม่ของมันนะ”   “เจ้า Buddy ตอนนี้มันกลายเป็นลูกบุญธรรมของผมไปแล้ววว”   เรื่องราวที่ชายคนนี้ไม่เคยคาดคิดมาก่อน กับแขกที่เขาคาดเดาไม่ได้เลยว่าจะเจอ ทำให้ตอนนี้ทั้งคู่ได้กลายเป็นเพื่อนรักกันไปเสียแล้ว อะไรจะโชคดี(หรือร้าย)ขนาดนี้เนี่ย…

  • ผลงานภาพถ่ายของ ‘สแตนลีย์ คูบริก’ กับวิถีชีวิตของปุถุชนคนนิวยอร์ก จากช่วงยุค 1940s

    ผลงานภาพถ่ายของ ‘สแตนลีย์ คูบริก’ กับวิถีชีวิตของปุถุชนคนนิวยอร์ก จากช่วงยุค 1940s

    ภาพถ่ายต่างๆ ก็สามารถบอกเล่าเรื่องราวได้ผ่านเลนส์ของช่างภาพแต่ละคนที่ต่างกันออกไป ทั้งเรื่องของฝีมือและสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมา ยิ่งหากเป็นเรื่องราวในอดีตที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นด้วยแล้ว นี่ก็คงจะเป็นสิ่งที่เราไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้และต้องขอบคุณภาพเหล่านี้ที่ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศเหล่านั้นโดยที่ไม่ต้องจินตนาการ Stanley Kubrick (สแตนลีย์ คูบริก) เป็นผู้กำกับหนังชาอเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 19 และเป็นทั้งนักเขียน โปรดิวเซอร์ ช่างภาพ ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษช่วง 40 ปีสุดท้ายในสายอาชีพของตัวเอง การทำงานของเขาในตอนนั้นเต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ความหลากหลายและความสามารถในการควบคุมศิลปะต่างๆ ให้ออกมาเป็นไปตามที่เขาต้องการ แต่ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นผู้สร้างหนังต่างๆ มามากมาย เขาได้ทำงานเป็นช่างภาพให้กับนิตยสาร Look ในนิวยอร์ก จากจุดเริ่มตั้งแต่ปี 1945 ที่เขาได้ขายภาพให้กับทางนิตยสารเป็นครั้งแรก และได้เริ่มเข้าทำงานที่นี่ในปี 1946 จนถึงปี 1950 ตลอดการทำงานเขาได้เก็บประสบการณ์และมุมมองของคนในเมืองไว้มากมายกว่า 300 ชิ้นงาน เพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองนิวยอร์กแห่งนี้   การแต่งตัวในชุดลายจุด Polka Dot ของผู้หญิงในยุคนั้น   เด็กหนุ่มกับการปีนข้ามรั้วเหล็กในเมือง   การพลอดรักแบบไม่แคร์สายตาประชาชีบนบันไดหนีไฟ   ไม่รู้ว่าหันมามองไกล หรือว่าการลงบันไดเลื่อนคนเดียวมันแปลกกันแน่   ภาพการเขียนระบายอารมณ์ของหญิงสาว   เด็กหนุ่มทำงานรับขัดรองเท้าตามข้างถนน   การทำงานหนักโดยไม่สนเรื่องของอายุ  …

  • เคล็ดลับอิสระในการทำงานของสาววัย 23 ปี ที่หารายได้ผ่านไอจี ได้มากกว่าการเป็นนางแบบ…

    เคล็ดลับอิสระในการทำงานของสาววัย 23 ปี ที่หารายได้ผ่านไอจี ได้มากกว่าการเป็นนางแบบ…

    ปัจจุบันการสร้างรายได้ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็สามารถเห็นกันได้เป็นเรื่องปกติ อย่างเช่นการเปิดราคาให้คนสามารถเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันในโลกออนไลน์ การทำโฆษณา หรือแม้แต่การมีสปอนเซอร์ให้เราช่วยโปรโมทสินค้าต่างๆ เหมือนกับเธอคนนี้ที่บอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว Gabby Epstein หญิงสาววัย 23 กับการทำงานในฝันของใครหลายคน ที่ตอนนี้เธอมีรายได้จากการโปรโมทสินค้าให้กับผู้ที่เป็นสปอนเซอร์ให้ต่างๆ มากมายผ่านอินสตาแกรมกับยอดติดตามมากกว่า 1.8 ล้านคน และบอกเลยว่าการเป็นนางแบบอาชีพที่เธอทำควบคู่กัน รายได้การทำงาน 4 วันในการเป็นนางแบบของเธอยังไม่เท่ากับสปอนเซอร์ที่เข้ามาจ่ายค่าโฆษณาในโซเชียลมีเดียเพียงรายเดียวเลย   .   และครั้งนี้เธอก็ได้ออกมาบอกเล่าสาวๆ ทั้งหลายว่า เธอมาถึงจุดที่สามารถนำการทำงานมาผนวกเข้ากับการไปเที่ยว ความสวยงาม ชุดว่ายน้ำ แฟชั่น หรือแม้แต่การใช้ชีวิตไปรอบๆ โลกอย่างนี้ได้อย่างไรห ย้อนกลับไปในตอนที่เธอยังเรียนมหาวิทยาลัยสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ เธอก็ได้มาทำความรู้จักกับอินสตาแกรมผ่านการแนะนำของเพื่อนๆ ซึ่งในตอนนั้นนอกจากเรื่องเรียนแล้วเธอยังทำงานพาร์ทไทม์ และเป็นนางแบบอีกด้วย การเป็นนางแบบแน่นอนว่าต้องออกเดินทางไปตามที่ต่างๆ ที่สวยงาม จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอได้ถ่ายรูปและโพสต์ลงอินสตาแกรม เพื่อนๆ ของเธอมากมายก็ได้เข้ามาเห็นว่าเธอได้ออกมาเจอกับอะไรบ้างในชีวิต     จนเมื่อทางแบรนด์สินค้าหรือบริษัทต่างๆ ติดต่อเข้ามายื่นข้อเสนอให้เธอได้รับเสื้อผ้าฟรีๆ ผลิตภัณฑ์หรือแม้แต่ทริปท่องเที่ยว เพื่อแลกกับการโปรโมทสินค้าให้กับพวกเขาเหล่านั้นลงในหน้าเพจของเธอ จนกระทั่งมันเติบโตกลายเป็นอาชีพหลักของเธอไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงตอบรับกับข้อเสนอที่ได้รับจากโรงแรมหรือบริษัทท่องเที่ยวเพื่อออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ มากมาย โดยเมื่อช่วง 2 ปีก่อน เธอกล่าวว่า “ฉันได้ใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนในการทัวร์ยุโรปและถ่ายภาพในเนื้อหาที่เหมาะกับคู่รัก…

  • ภาพที่เหล่าเจ้าของทั้งหลายพากันสงสัยว่าแรกๆ ก็เป็นแมว หลังๆ ทำไมกลายเป็นหมูเฉย!?

    ภาพที่เหล่าเจ้าของทั้งหลายพากันสงสัยว่าแรกๆ ก็เป็นแมว หลังๆ ทำไมกลายเป็นหมูเฉย!?

    หลายคนเวลาที่เล่นกับเจ้าเหมียวก็อยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างเมามัน ยิ่งถ้าเป็นเจ้าตัวที่มีลักษณะอ้วนกลมด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่เลย เพราะความนุ่มนิ่มของพวกมันและนิสัยที่ดูเฉื่อยๆ ยิ่งทำให้ดูน่ารักมากขึ้นไปอีก ความชอบเหล่านั้นทำให้มีทาสแมวหลายคนทำการแชร์รูปสัตว์ตัวใหญ่ยักษ์ ที่บางทีก็ดูไม่ออกเหมือนกันว่ามันคือแมวด้วยขนาดตัวของพวกมัน ในท่าทางต่างๆ หรือความพยายามที่เขาเหล่านั้นอุ้มมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก เพราะแน่นอนว่าน้ำหนักจะต้องแปรผันไปกับขนาดอยู่แล้ว ว่าแล้วก็ลองไปดูก็เลยว่าภาพของพวกมันแต่ละตัวจะออกมาเป็นอย่างไรกันบ้าง   นั่งชิลล์ๆ ชมวิวริมหน้าต่าง   แน่ใจนะว่าเธอไม่ใช่นักกีฬา   เหมือนหัวกับตัวจะสามารถแยกออกจากกันได้   กินอิ่มแล้วก็ต้องมานอนพักบนโซฟาซักงีบ   ชายหนุ่มพยายามให้แมว(ที่เหมือนเสือมากกว่า) ให้มันลุกมาออกกำลังกายบ้าง   พุงห้อยเลยนะคะคุณนาย   เอิ๊กกก สงสัยจะกินข้าวเยอะไปหน่อยนะเรา ลุกเดินไม่ไหวแล้ว   ขนาดตัวของมันใหญ่พอๆ กับมนุษย์เลยนะนั่น   ทำไมถึงเห็นได้แค่ข้างหน้าเพียงข้างเดียวกันละเนี่ย   ไม่ได้ตกใจแมว แต่ตกใจว่ากิ่งไม้รับน้ำหนักไหวได้เยี่ยงไร   หิวจนทนรอเวลาอาหารเย็นไม่ไหวแล้วโว้ย   แน่ใจนะว่าใช่สายพันธุ์เดียวกัน?   หน้าตาเหมือนกับแสดงอยู่ในหนังสยองขวัญ   กินข้าวยังไงให้ไม่ออกหน้ากันนะ   ที่นอนมันเล็ก หรือว่าเจ้าเหมียวตัวใหญ่บอกผมที   ทว่าในประเทศอังกฤษได้มีการพูดถึงปัญหาของสัตว์ที่มีน้ำหนักเกินจนอาจทำให้พวกมันป่วยเป็นโรคอ้วนได้ แต่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายก็ยังคงไม่หยุดที่จะโชว์ความน่ารักของพวกมันออกมาให้เห็นกันอยู่ ทางสมาคมสงเคราะห์สัตว์ได้ออกมาบอกถึงวิธีการสังเกตว่าพวกมันอ้วนเกินไปแล้วหรือไม่ อย่างแรกคุณต้องสามารถเห็นและสัมผัสซี่โครง กระดูกสันหลัง และกระดูกสะโพกของพวกมันได้ สองคือต้องสามารถเห็นส่วนเอวได้อย่างชัดเจนเมื่อมองจากด้านบน…

  • ภาพถ่ายของทะเลสาบน้ำแข็งที่กว้างที่สุด ลึกที่สุด และเก่าแก่ที่สุดบนดาวดวงนี้

    ภาพถ่ายของทะเลสาบน้ำแข็งที่กว้างที่สุด ลึกที่สุด และเก่าแก่ที่สุดบนดาวดวงนี้

    ทะเลสาบที่เราเคยเห็นกันเป็นเรื่องปกติคงจะถูกล้อมรอบไปด้วยแนวเขาหรือธรรมชาติอันสวยงามต่างๆ มากมาย ทว่าสำหรับทะเลสาบแห่งนี้ความสวยงามนั้นไม่ได้เกิดจากการเชื่อมโยงระหว่างพื้นน้ำและความเขียวขจีรอบข้าง แต่ความสวยงามของมันสามารถรับรู้ได้แม้เพียงแค่ตัวทะเลสาบเพียวๆ เพียงอย่างเดียว ที่พูดอยู่นี้คือทะเลสาบ Baikal ที่ซึ่งมีความพิเศษไม่เหมือนที่ใดในโลก ครองสถิติความเป็นที่สุดของทะเลสาบบนดาวดวงนี้ 3 อย่างได้แก่ ความกว้างใหญ่ ความลึก และการที่มันบรรจุน้ำจืดเอาไว้มากถึง 20 เปอร์เซนต์จากที่มีทั้งหมดบนโลกใบนี้     ความกว้างใหญ่ของมันเท่ากับ 31,722 ตารางกิโลเมตร ใหญ่กว่าบางประเทศอย่าง เบลเยี่ยม เฮติ อิสราเอล และการ์ตาซะอีก นอกจากความกว้างที่มากที่สุดแล้วความลึกเองก็เช่นกัน เพราะมันลึกลงไปถึง 1,642 ตารางเมตร ซึ่งบนโลกนี้มีเพียงแค่ 3 แห่งเท่านั้นที่มีความลึกมากกว่า 1 พันเมตร     ไม่ใช่เพียงเท่านั้นเพราะที่แห่งนี้ถูกคำนวนว่ามีอายุมานานมากถึง 25 ล้านปี และเป็นที่พักอาศัยให้กับสิ่งมีชีวิตกว่า 2,000 ชนิดที่รอให้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบอยู่ เป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์กร UNESCO เป็นที่เรียบร้อย และได้รับความนิยมจากช่างภาพและเหล่าผู้ที่ชอบการผจญภัยเป็นอย่างมาก     ความสวยงามที่มากยิ่งกว่าสามารถหาดูได้จากปรากฎการณ์ที่ผิวน้ำจับตัวเป็นน้ำแข็ง 5 ครั้งต่อปี และพื้นผิวที่หนาของมันสามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 15 ตัน…

  • ชายหนุ่มบังเอิญพบดินแดนและซากอารยธรรม ที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

    ชายหนุ่มบังเอิญพบดินแดนและซากอารยธรรม ที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

    เราคงจะเคยเห็นภาพสถานที่ที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ต่างๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสุสานรถเก่า หรือตึกร้างที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แม้แต่พื้นที่ในประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และเคยมีความหมายเมื่อครั้งอดีต บางครั้งก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าจะมีภูติผีวิญญาณอาศัยอยู่บริเวณนั้นก็ได้ เหมือนกับที่ชายหนุ่มสมาชิกเว็บไซต์ Imgur ที่มีชื่อว่า CanadaSpeedoMan ได้ไปพบและสำรวจพื้นที่สนามบินเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บนเกาะกรีนแลนด์ ที่ดูรกร้างทิ้งสิ่งปลูกสร้างเอาไว้มากมาย ชวนให้คิดถึงสภาพสงครามในยุคนั้น เขาได้เก็บภาพเหล่านั้นมาเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้ไปเจอมา บอกอีกว่าเขาใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ก็ยังสำรวจพื้นที่แห่งนี้ไม่ทั่วเลย   เขาและภรรยามีโอกาสเดินทางไปเขตทุรกันดารแถบตะวันออกเฉียงใต้ในกรีนแลนด์   พวกเขาเคลื่อนที่ไปตามอ่าวแคบๆ จนพบเข้ากับ “Bluie East Two” ซึ่งห่างไกลจากคำว่าอารยธรรมอย่างมาก ชวนให้ขนลุกไม่ใช่น้อย   มันเป็นที่สำหรับเติมน้ำมันเครื่องบินของอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 .   จะเดินทางเข้ามาที่นี่ต้องล่องเรือมาเป็นเวลาหลายเดือนเท่านั้น เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถเข้ามาได้เลยจากปัญหาทะเลน้ำแข็ง .   มีถังน้ำมันทิ้งเอาไว้มากมาย และบางถังยังคงมีน้ำมันหลงเหลืออยู่ด้านใน   ในสถานที่นี้ยังคงมีสิ่งต่างๆ ทิ้งร้างเอาไว้เพียบ อย่างเช่นโรงเก็บรถและเครื่องบิน   ชาวเอสกิโมเดินเท้าหรือเรือหาปลาเล็กเข้ามากู้ซากต่างๆ ที่สามารถใช้ได้ไป   เตาไฟสำหรับพลังงานและความร้อนของโรงเก็บนี้   หอสัญญาณวิทยุเก่า   ภรรยาของเขากำลังเดินข้ามสะพานเก่า ซึ่งไม้ที่ใช้ถูกลำเลียงมากจากไซบีเรียด้วยเรือ เพราะแถวนั้นไม่มีต้นไม้ที่สามารถนำมาใช้ได้เลย   ความแห้งแล้งรอบข้างที่เห็นได้ชัด…

  • หญิงสาวส่งต่อชุดแต่งงานให้กับว่าที่เจ้าสาวอีก 12 คน เพื่อเติมเต็มความฝันให้พวกเธอ

    หญิงสาวส่งต่อชุดแต่งงานให้กับว่าที่เจ้าสาวอีก 12 คน เพื่อเติมเต็มความฝันให้พวกเธอ

    ผู้หญิงแทบทุกคนก็คงจะวาดฝันถึงงานแต่งงานของตัวเองกันเอาไว้มากมายตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสวยงาม วงดนตรีบรรเลงอันไพเราะเพื่อให้ซาบซึ้งกับบรรยากาศความรักของคนสองคน และที่สำคัญก็คือชุดเจ้าสาวแสนสวยสีขาวสะอาดตา ที่ทำให้แขกในงานต้องพากันออกปากชม เมื่อถึงวันที่เราจะต้องจัดงานขึ้นมาจริงๆ ก็จะรู้ได้เลยว่าสิ่งเหล่านั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เยอะมาก ดับความฝันของใครหลายคนไป แต่เธอคนนี้มีความต้องการที่จะช่วยทุกคนให้ได้มากที่สุดจึงเกิดเป็นไอเดียนี้ขึ้นมา     Dawnetta Heinz หญิงสาวที่เมื่อไม่นานมานี้ยังคงไร้บ้านและต้องอาศัยอยู่ในกับสามีในอนาคตของเธอ จนเมื่อเธอได้มีงานแต่งอย่างที่เธอต้องการเรียบร้อยแล้ว ขณะที่กำลังเก็บข้าวของเพื่อย้ายไปอยู่บ้านใหม่ก็ได้เจอกับชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ เธอจึงตัดสินใจที่จะส่งต่อชุดนี้ให้กับเจ้าสาวคนอื่นๆ ต่อไป เธอเข้าใจความรู้สึกของการแต่งงานด้วยงบประมาณที่จำกัดเป็นอย่างดี จึงตัดสินใจมอบให้ฟรีๆ แทนที่จะขายไป จากนั้นก็โพสต์ลงในเฟซบุ๊กประกาศหาผู้ที่จะมารับชุดเจ้าสาวนี้ไปดูแลต่อไป ทว่ากลับไม่ได้มอบให้กับคนคนเดียว เธอเลือกที่จะส่งต่อไปเรื่อยๆ ให้กับเจ้าสาวมากถึง 12 คนด้วยกัน   นี่เป็นโพสต์ที่เธอประกาศตามหาผู้ที่จะมาสวมใส่ชุดแต่งงานต่อจากเธอ   ผู้หญิงคนแรกที่ได้รับชุดของเธอไปใส่มีชื่อว่า Arianna ซึ่งมีพิธีแต่งงานไปในวันที่ 23 สิงหาคม เธอคนนี้ไม่สามารถใส่ชุดแต่งงานอย่างที่เธอต้องการได้ในการแต่งงานครั้งแรกของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นการได้แต่งชุุดเจ้าสาวสวยๆ ก็ช่วยทำให้เธอรู้สึกมีกำลังใจมากยิ่งขึ้นหลังจากที่เธอต้องแท้งลูกของเธอไป     เธอรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่ได้รับประสบการณ์อันสวยงามนี้ เธอบอกอีกว่า “มันก็เหมือนการเป็นพี่น้องกัน เราทุกคนได้สร้างสายสัมพันธ์ที่ไม่มีวันแตกสลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกคนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกันเลย”     เจ้าสาวคนที่สองก็คือ Valarie Fitzgerald ที่เธอและสามีต้องใช้ชีวิตกันแบบเดือนชนเดือนด้วยรายได้ที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้เธอไม่มีงบเพียงพอสำหรับราคาชุดหนึ่งชุด เธอจึงรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้สวมชุดแต่งงานในวันที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา…

  • ศิลปินญี่ปุ่นวัย 5 ขวบสร้างงานศิลปะพร้อมกับตั้งราคาสุดกวนโอ๊ย “คุณไม่มีปัญญาซื้อหร๊อก”

    ศิลปินญี่ปุ่นวัย 5 ขวบสร้างงานศิลปะพร้อมกับตั้งราคาสุดกวนโอ๊ย “คุณไม่มีปัญญาซื้อหร๊อก”

    ปัจจุบันศิลปินหรือผู้ประกอบการนับวันก็จะยิ่งมีอายุน้อยลงไปทุกที อย่างเช่นเถ้าแก่น้อยที่หลายคนรับรู้จุดเริ่มต้นของธุรกิจของเขาได้จากหนังเรื่องวัยรุ่นพันล้าน ในญี่ปุ่นเองก็มีที่คล้ายๆ กันอยู่ แต่พูดเลยว่าจุดเริ่มต้นของเด็กคนนี้แหวกแนวม๊าก! นี่คือเรื่องราวของเด็กชายวัย 5 ขวบชาวญี่ปุ่นที่สร้างงานศิลปะขึ้นมาหลายๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็น การพับกระดาษ โมเดลแฮนด์เมด หรือภาพวาดจากสีเทียนต่างๆ มากมาย ก่อนจะนำลงไปขายในเว็บไซต์ร้านค้าส่วนตัวของเขาเองที่คนรอบข้างช่วยทำให้     อย่างชิ้นนี้มีชื่อผลงานว่า “การโจมตีปลาหมึกยักษ์ตัวอ้วนกลม”  โดยในช่องราคาเขียนเอาไว้ว่า “การโจมตีปลาหมึกยักษ์ตัวอ้วนกลมเยน” ก็ไม่รู้ว่าจะแปลงเป็นสกุลเงินไทยอย่างไรเลย…   แต่ความเจ๋งของเด็กคนนี้ก็คือเขาเป็นคนคิดราคาเองทั้งหมด และมูลค่าของแต่ละงานก็ไม่ใช่ว่าจะถูกๆ เลยเพราะต่ำสุดเริ่มจาก 15 บาทไปจนถึงมากกว่า 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว!! และในบางชิ้นยังมีราคาที่ไม่อาจตีเป็นค่าเงินได้ด้วยนะ นอกจากเรื่องของราคาแล้ว หากเราต้องการจะสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทั่วๆ ไปก็คงจะเจอกับปุ่ม “หยิบใส่ตะกร้า” แต่คุณจะไม่ได้เจอคำนั้นในเว็บนี้ เพราะเมื่อเลือกสินค้าที่ต้องการจะสั่งซื้อเรียบร้อยจะมีปุ่มให้กดที่เขียนว่า “ราคาอันแสนอัศจรรย์ คุณไม่มีปัญญาซื้อมันหรอก” ซะงั้น…   ผลงานที่ถูกที่สุด ดาวกระจาย ราคา 15 บาท   และผลงานที่แพงที่สุด กับไดโนเสาร์ Liliensternus พร้อมราคาที่ทำให้บางประเทศล้มละลายกันได้เลย สนนราคามากกว่า 2 แสนล้านบาท!!   แต่ในหลายผลงานก็มีราคาที่สามารถยอมรับได้กับผลงาน ด้วยทักษะการประกอบการที่แปลกใหม่และความรู้อันน่าประทับใจเกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่น้อยคนจะรู้จักพวกมัน…

  • 22 ภาพที่สื่อไม่นำเสนอ น้ำท่วมครั้งใหญ่ในแถบอินเดีย ที่คร่าชีวิตคนไปกว่า 1,200 ราย…

    22 ภาพที่สื่อไม่นำเสนอ น้ำท่วมครั้งใหญ่ในแถบอินเดีย ที่คร่าชีวิตคนไปกว่า 1,200 ราย…

    ในขณะที่ทั่วโลกกำลังมุ่งประเด็นไปที่ผลกระทบจากเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาพร้อมกับน้ำท่วมครั้งใหญ่ ทว่าที่แห่งนั้นไม่ได้เป็นเพียงพื้นที่เดียวที่ต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะสำนักข่าวนานาชาติเริ่มมีการพูดถึงอีกพื้นที่หนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบหนักไม่แพ้กัน… สำหรับปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศแถบทวีปเอเชียตอนใต้ ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย เนปาล ปากีสถาน และบังกลาเทศ ต้องเจอกับฝนตกหนักเกือบตลอดทั้งเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมและดินถล่มสร้างความเสียหายให้กับอาคารที่อยู่อาศัยกว่า 1,000 หลังคาเรือน นอกเหนือจากนั้นก็เกิดปัญหาขาดแคลนอาหารและยาตามมา เป็นเหตุที่คร่าชีวิตชาวบ้านในละแวกนั้นมากถึง 1,200 คน โดยในจำนวนนี้รวมถึงเด็กด้วย และยังมีคนกว่าอีกล้านคนที่ต้องอพยพออกมา โดยไม่มีที่อยู่อาศัยและต้องการความช่วยเหลืออย่า่งเร่งด่วน ซึ่งภาพเหล่านี้จะสามารถบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นกันชัดเจนมากยิ่งขึ้น…   ชายคนหนึ่งต้องปล่อยหลานสาวให้ลอยไปตามแม่น้ำ Koshi ในเนปาล เพราะไม่สามารถหาพื้นที่โล่งเพื่อฝังเธอได้   หนุ่มเนปาลแบกแพะของตนไว้บนบ่า ขณะที่กำลังเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัยในหมู่บ้าน Topa ภูมิภาค Saptari   ชาวเนปาลสองคนกำลังว่ายน้ำพร้อมลากห่วงยางขนาดใหญ่ในภูมิภาค Parsa   เด็กหนุ่มใช้แพจากต้นกล้วยในการลำเลียงหนังสือของตนออกมา จากรัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย   หญิงสาวเดินอยู่กลางน้ำท่วมในหมู่บ้าน Motihari ประเทศอินเดีย   แรดอินเดียเดินลุยน้ำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ารัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย   ผู้คนยืนต่อแถวเพื่อบรรจุน้ำดื่มจากแท็งค์น้ำเทศบาล ในพื้นที่น้ำท่วมเมืองอาห์เมดาบัด ประเทศอินเดีย   หญิงสาวเดินลุยน้ำในหมู่บ้านที่น้ำท่วมสูงรัฐพิหาร…

  • 17 สถิติโลกในเรื่องของ “การกิน” ที่แปลกจนแทบจะไม่อยากเชื่อว่ามันมีอยู่จริงๆ

    17 สถิติโลกในเรื่องของ “การกิน” ที่แปลกจนแทบจะไม่อยากเชื่อว่ามันมีอยู่จริงๆ

    หลายคนคงจะเคยเห็นการแข่งขันกินจุ กินไวต่างๆ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งดูแล้วก็สุดแสนจะมหัศจรรย์ว่าพวกเขาทำกันไปได้อย่างไร เช่นเดียวกับสถิติที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ที่จะชวนให้ต้องทึ่งกับสิ่งที่พวกเขาทำได้ ต่างกันที่ว่าการแข่งกินเหล่านี้จะมีความพิเศษกว่าตรงที่ความไม่ธรรมดาของรูปแบบอาหาร หรือวิธีการที่ทำให้คิดกันว่า อาหารประเภทนี้เขามีการบันทึกสถิติกันด้วยหรือ?! ว่าแล้วก็อย่ารอช้าเราลองไปดูกันเลยดีกว่าว่า 17 อย่างทั้งหมดนั้นจะมีอะไรกันบ้าง   ได้มีการบันทุกไว้ว่ามีคนสามารถกินนักเก็ตไก่ ในเวลา 3 นาทีได้ 642.12 กรัม หรือประมาณ 37 ชิ้น   ได้มีการบันทึกไว้ว่ามีคนสามารถกินแซนวิชชีสย่าง ในเวลา 1 นาทีได้ 13 อัน   จากสถิติชายหนุ่มสามารถกินพิซซ่าขนาด 12 นิ้ว หมดภายใน 32.28 วินาที ขนาดว่าใช้ส้อมนะเนี่ย   หนุ่มญี่ปุ่นทำสถิติกินแฮมเบอร์เกอร์ ในเวลา 3 นาทีได้ 12 ชิ้น   มีการบันทึกไว้ว่ามีคนสามารถกินเค้กเนยถั่วยี่ห้อ Reese โดยไม่ดื่มน้ำหมดไป 30 ชิ้นในเวลา 2.57 นาที   สถิติชายหนุ่มกินพริกปีศาจที่เผ็ดเอามากๆ ได้ 10…

  • ชมหนังสั้นสุดประทับใจ เมื่อไฟรักมันสุมอก จนชายหนุ่มไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ได้…

    ชมหนังสั้นสุดประทับใจ เมื่อไฟรักมันสุมอก จนชายหนุ่มไม่สามารถเก็บซ่อนไว้ได้…

    เวลาที่เราแอบรักใครเราก็คงจะเขินไม่กล้าที่จะพูดด้วยหรือมองหน้าตรงๆ แต่ว่าบางทีพฤติกรรมที่เราแสดงออกมันอาจยังดูไม่ชัดเจน แต่ถ้าหากคุณได้เป็นตัวละครในการ์ตูนสั้นเรื่องนี้ละก็ รับรองว่าคุณคงไม่อาจปิดความความรู้สึกเอาไว้ได้ง่ายๆ เลยแหละ กับอนิเมชั่นความยาวไม่ถึง 4 นาทีที่มีชื่อเรื่องว่า Extinguished ที่เพียงแค่เปิดเข้าไปดูปุ๊ปก็จะสามารถรู้ได้เลยว่า นี่มันต้องเป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้แน่นอน จากลายเส้นและฉากต่างๆ ที่ทำออกมาได้สนุกสนานและน่ารัก สรรค์สร้างขึ้นมาโดย Ashley Anderson และ Jacob Mann     เหมือนกับหนังสั้นส่วนใหญ่ที่มักจะไม่มีบทให้ต้องพูดอะไรกันเลย แต่เราสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้ผ่านท่าทางของตัวเอก และการนำเสนอในรูปแบบต่างๆ ที่ชัดเจน โดยเรื่องมันมีอยู่ว่าทุกคนจะมีช่องอยู่ตรงกลางอก และหากว่าใครกำลังมีความรักแล้วละก็จะมีดวงไฟผุดขึ้นมาที่ช่องนั้น และทุกคนสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายเอามากๆ     ทีนี้พระเอกของเรื่องก็กำลังเจ็บปวดกับความรักที่ไม่สมหวังจากคนเก่า เพราะเป็นการรักเขาข้างเดียว ตอนเอาดอกไม้ไปให้ก็มีแค่เพียงพนะเอกที่มีดวงไฟติดขึ้นมา ทว่าขณะที่กำลังทุกข์ใจอยู่ก็ได้มีหญิงสาวมาเคาะประตูห้องของเขา เมื่อเปิดออกไปก็ต้องยืนงงกับท่าทีที่ไม่รู้จักกันของทั้งคู่ ที่แท้เธอคนนี้ต้องการมาหาคุณยายที่อยู่ห้องข้างๆ แต่เมื่อจังหวะที่กำลังจะเข้าห้องของทั้งคู่ก็ได้สบตากัน จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้กับรักครั้งใหม่และนางเอกของเรื่อง     เรื่องราวก็ดำเนินไปเรื่อยโดยแสดงออกมาว่าพระเอกยังคงไม่กล้าที่จะบอกรักนางเอก เพราะกล้วว่าจะเจ็บปวดเหมือนรักก่อนหน้านี้ ทำให้ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ ทำตัวเปิ่นๆ ดูแล้วก็ชวนให้อมยิ้มกับท่าทีเหล่านั้น ท้ายที่สุดแล้วเมื่อนางเอกกำลังจะกลับบ้านโดยนั่งแท็กซี่ออกไป เพราะเอกก็ฮึดสู้ไล่ตามเธอไปสารภาพเสร็จสรรพ พร้อมกับจัดให้อีกหนึ่งดอก..ไม้ และนั่นเองก็ได้จุดประกายไฟให้กับนางเอก จนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง     คลิปวิดีโออนิเมชั่นหนังสั้นเรื่อง Extinguished…

  • จากเหตุการณ์คลิปวิดีโอ “พยาบาลถูกตำรวจจับ” เพราะทำหน้าที่ ตอนนี้ได้บทสรุปแล้ว

    จากเหตุการณ์คลิปวิดีโอ “พยาบาลถูกตำรวจจับ” เพราะทำหน้าที่ ตอนนี้ได้บทสรุปแล้ว

    จากเหตุการณ์ขอความเป็นธรรมของพยาบาลสาวในเหตุการณ์ที่เธอปฏิเสธเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเพราะเธอไม่อยากเจาะเลือดของคนไข้รายหนึ่งออกมาในขณะที่เขาหมดสติอยู่ ทำให้เธอถูกเจ้าหน้าที่คนนั้นจับใส่กุญแจมือและดึงออกไปขังไว้ในรถก่อนที่จะทำการปล่อยตัวออกมาเมื่อผ่านไป 20 นาที เมื่อมีคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวออกมา ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตและนายกเทศมนตรีเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำในการรักษาสิทธิ์ของคนไข้ อีกทั้งไม่พอใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำลงไปนั้นกลับไม่ได้รับโทษใดๆ เลยและออกตรวจพื้นที่ตามปกติได้อย่างหน้าตาเฉย จากทั้งหมดนั้นจึงทำให้เกิดข้อสรุปออกมาแล้วในตอนนี้ อ่านข่าวเก่า : เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมพยาบาลสาว หลังเธอปฏิเสธไม่ให้เขาเจาะเลือดผู้ป่วยหมดสติ     นายตำรวจ Brandon Shearer ได้ออกมาบอกว่าหัวหน้าของพวกเขาได้เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย และเขาก็ได้บอกด้วยอีกว่าเรื่องข้อระเบียบของการเจาะเลือดผู้ป่วยนั้นไม่ได้รับการอัปเดตให้ทุกคนได้ทราบกันอย่างถ้วนหน้า แต่หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเรื่องนี้ก็ได้ถูกเพิ่มเติมในข้อระเบียบให้กับตำรวจทุกนายแล้ว นอกจากนั้น Payne นายตำรวจในเหตุการณ์แม้ว่าในตอนแรกจะได้รับปล่อยตัวให้กลับไปทำหน้าที่ตามปกติ แต่ก็ได้ถูกระงับเอาไว้และกำลังอยู่ในช่วงการดำเนินการตรวจสอบภายใน     แต่เรื่องที่ควรจะกังวลมากกว่านั้นก็คือสิ่งที่เขาได้พูดกับนายตำรวจอีกคนในคลิปวิดีโอเกี่ยวกับอีกอาชีพหนึ่งของเขา ในการเป็นคนขับรถฉุกเฉินว่า “ฉันจะออกไปรับทุกคนอย่างรวดเร็ว และจะพาคนไข้ไปหาโรงพยาบาลอื่น” และกลายเป็นอีกเรื่องที่พวกเขายังคงต้องตรวจสอบกันต่อไป     สุดท้ายแล้วเมื่อมีการถามคำถามกับพยาบาลสาว Wubbles ผู้เสียหายในเรื่องนี้ว่าเธออยากให้ทำอย่างไรกับเจ้าหน้าที่คนนี้ เธอก็ได้ตอบกลับมาว่า “ฉันคิดว่าเขาจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการอบรมที่เข้มงวด” แม้ว่าจะยังเหลือการตรวจสอบภายในอยู่ ทว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพยาบาลคนนี้ก็ได้รับการคลี่คลาย และทางตำรวจได้ออกมาอธิบายเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงแค่ว่านายตำรวจคนดังกล่าวจะได้รับโทษสถานหนักหรือเบา   ที่มา: dailymail

  • Stephen King ยกหนัง IT เวอร์ชั่นใหม่ สยองเกินกว่าที่เขาคาดไว้ซะอีก

    Stephen King ยกหนัง IT เวอร์ชั่นใหม่ สยองเกินกว่าที่เขาคาดไว้ซะอีก

    หากใครชอบนวนิยายแนวหลอนๆ น่ากลัวๆ แล้วละก็คงจะต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อ Stephen King กันมาบ้าง ด้วยผลงานการเขียนอันโดดเด่น ทำให้มีการหยิบมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งแต่ละครั้งก็สร้างความสยดสยองให้กับผู้ชมซะจนบางครั้งต้องเก็บไปฝันกันเลยทีเดียว และล่าสุด มีการหยิบผลงานของ Stephen King มาทำเป็นภาพยนตร์อีกครั้ง ซึ่งรับประกันว่าคุณจะต้องทำให้คุณขนหัวลุกอย่างแน่นอน   ภาพยนตร์ดังกล่าวมีชื่อว่า IัT ดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อเดียวกันที่วางแผงเมื่อปี 1986 และเคยมีการดัดแปลงเป็นภาพยนต์แล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 1990 โดยเนื้อเรื่องของหนังเกิดขึ้นในเมืองๆ หนึ่งเมื่อมีเด็กหายตัวไปอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เหล่าผู้ปกครองต่างวิตกกังวลต่อบุตรหลานของตนเอง แน่นอนว่าเมื่อมีคำถามก็ต้องมีคนที่ต้องการหาคำตอบอย่างแน่นอน ทำให้เด็กๆ ทั้ง 7 คนต้องเผชิญหน้ากับความน่ากลัวและสยดสยองเกินกว่าที่จะรับไหวของปิศาจที่มาในคราบของตัวตลกชื่อว่า Pennywise ซึ่งจะปรากฎตัวในทุก 30 ปี และเด็กเหล่านั้นกำลังจะเป็นเหยื่อรายใหม่ของมัน     หลายคนอาจเคยผิดหวังกับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากนวนิยายหรืองานเขียนชื่อดัง แต่สำหรับเรื่องนี้อาจไม่เป็นอย่างนั้น เพราะล่าสุด Stephen King เจ้าของผลงานได้ชมภาพยนตร์ดังกล่าวไปแล้วถึงสองรอบ และเขาถึงกับบอกว่าหนังเรื่องนี้ทำมาได้ดีกว่าความคาดหมายของเขาเป็นอย่างมาก     “ในหนังคุณจะสามารถเชื่อมโยงเข้ากับตัวละครได้เป็นอย่างดี และหากว่าคุณสนใจและชื่นชอบตัวเอกเหล่านั้น รับรองว่าความกลัวจะต้องวิ่งเข้าหาคุณอย่างแน่นอน ผมต้องดูรอบสองเพื่อเก็บรายละเอียดที่ตกไปในตอนแรก และเชื่อว่าแฟนคลับของผมก็ต้องทำอย่างนั้นเช่นเดียวกัน” เขากล่าวเอาไว้ นอกจากนี้เขายังชื่นชมฝีมือของผู้กำกับ Andy Muschietti  เป็นอย่างมากที่ทำหนังออกมาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมทั้งของสมัครเป็นแฟนคลับติดตามผลงานของ Andy ในอนาคตอีกด้วย…

  • พฤติกรรมแปลกๆ ของเจ้าเหมียวที่แลบลิ้นออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ถึงยังไงก็น่าร้ากกก

    พฤติกรรมแปลกๆ ของเจ้าเหมียวที่แลบลิ้นออกมาโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ถึงยังไงก็น่าร้ากกก

    ความน่ารักของเจ้าเหมียวที่เราสามารถสัมผัสได้ พวกคุณแน่ใจแล้วหรือว่าพวกมันจะเป็นอย่างนั้นกันจริงๆ แท้จริงแล้วสิ่งที่มันคิดและต้องการจะแสดงออกอาจเป็นไปในทิศทางที่หลากหลายจนเราคาดไม่ถึงก็ได้ การที่แมวตัวน้อยมุดเข้าไปในรองเท้า ทำลายข้าวของ การเข้ามาคลอเคลียอ้อนโน่นอ้อนนี่ หรือแม้แต่การสงเสียงร้องเรียกคะแนนความน่ารัก คงจะเป็นพฤติกรรมทั่วๆ ไปที่เราได้เห็นซึ่งก็พอเดากันได้บ้างว่ามันทำกันไปเพราะอะไร แต่การมาแลบลิ้นอย่างเจ้าเหมียวเหล่านี้เนี่ยสิ ที่ไม่อาจเดาได้เลยว่าทำทำไม แต่ยังไงก็ครองใจทาสแมวไปเต็มๆ   อยากกินก็เข้ามาเอาเองสิ   อย่ามาเก๋า ถ้าเจ้ายังไม่เจ๋งพอ   ไม่ให้นอนหรอก แบร่!!   มองหน้าทำไม แลบลิ้นใส่เลย   ขนาดหลับตาก็ยังไม่วายจะแผลบออกมาซักเล็กน้อย   แฮร่ !! อย่าหวังจะได้ทำงานสบายๆ นะเจ้าทาส   อย่าหวังว่าจะจับข้าได้   แถวนี้พี่จองแล้วไอ้หนุ่ม   อึ๋ย! แสบตา   ส่งไอ้นั่นมาเดี๋ยวนี้เลยนะเจ้ามนุษย์   ช่วยอั๊วล่วย อั๊วหายใจไม่ออก   อ้วนแล้วจะทำไม   แลบลิ้นออกมารับลม   แม้ว่าเราคงไม่สามารถรู้ความคิดของมันได้ทั้งหมด แต่ถึงยังไงความน่ารักของมันก็ยังคงสำคัญกว่าสิ่งนั้นและเป็นแกนหลักที่เหนี่ยวรั้งใครหลายคนให้ตกเป็นทาสของมันกันต่อไป   ที่มา: distractify

  • ปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ของเรือดำน้ำที่จมลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อ 150 ปีก่อน

    ปริศนาที่หาคำตอบไม่ได้ของเรือดำน้ำที่จมลงไปอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อ 150 ปีก่อน

    มีหลายเหตุการณ์ที่ยังคงหาคำตอบไม่ได้มาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต และยังเป็นปริศนามาจนถึงปัจจุบัน เหมือนกับเรือดำน้ำความยาว 12 เมตรที่มีชื่อว่า H.L. Hunley ได้จมหายไปในมหาสมุทรนอกชายฝั่งเมืองชาร์ลตัน รัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศอเมริกา วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1864 ระหว่างสงครามกลางเมืองสหรัฐอเมริกา ในวันนั้นเองที่เรือดำน้ำดังกล่าวได้ทำการยิงตอร์ปิโดเพื่อจมเรือคู่ต่อสู้ชื่อ USS Housatonic ได้สำเร็จ หลังจากนั้นจึงได้ส่งสัญญานกลับมายังชายฝั่งว่าภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว ก่อนที่จะหายไปโดยไม่มีลูกเรือคนไหนได้กลับมาขึ้นฝั่งเลย   .   เวลาผ่านไปกว่า 150 ปีกับปริศนาที่ยังคงคาใจ เพราะถึงแม้ว่าจะมีการกู้เรือลำนี้ขึ้นมาได้ในปี 2000 ก็ไม่พบร่องรอยความเสียหายภายนอกแต่อย่างใด อีกทั้งสาเหตุการตายของลูกเรือเองก็ยังคงไม่แน่ชัดแม้ว่าจะทำการสืบหาจากในห้องลูกเรือแล้วก็ตาม นั่นจึงทำให้เกิดข้อสันนิษฐานต่างๆ มากมาย อย่างเช่นการถูกเรือลำอื่นเข้ามาชนทำให้ต้องดำดิ่งสู่พื้นใต้น้ำ หรือลูกเรืออาจจะมีการคำนวนที่ผิดพลาดจึงทำให้ดำลงไปในจุดที่ระดับออกซิเจนไม่เพียงพอและขาดอากาศหายใจตายในที่สุุด   .   ทฤษฎีที่สามก็บอกว่ามีกระสุนวิ่งผ่านช่องข้างเรือไปฆ่ากัปตัน ทำให้ลูกเรือไม่สามารถพาเรือกลับเข้าสู่ชายฝั่งได้ นักวิทยาศาสตร์บางคนก็ยังบอกว่า แรงระเบิดที่ได้รับจากตอร์ปิโดที่จมเรือศัตรูได้มีความรุนแรงจนทำให้ลูกเรือต้องถึงแก่ชีวิต     แรงระเบิดที่ว่าได้มีการทดลองของนักชีวกลศาสตร์ที่ชื่อว่า Rachel Lance ออกแบบโมเดลขนาดเล็กของเรือดำน้ำเดียวกัน และให้สัมผัสแรงระเบิดที่เกิดขึ้นภายในบ่อน้ำ ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เขาและผู้วิจัยคนอื่นๆ เชื่อว่าคลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นมีความเป็นไปได้สูงที่จะคร่าชีวิตของเหล่าลูกเรือไปได้จากผลกระทบทำให้เลือดออกในปอด เขาบอกว่า “การระเบิดทุกแบบจะสร้างแรงอัดกระแทกอย่างรุนแรง ซึ่งอาการบาดเจ็บแบบนี้จะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายในทันที”   .…

  • ความแปลกใหม่สำหรับการชมดนตรี ในการแข่งขัน “กีต้าร์อากาศ” ชิงแชมป์โลกที่ฟินแลนด์

    ความแปลกใหม่สำหรับการชมดนตรี ในการแข่งขัน “กีต้าร์อากาศ” ชิงแชมป์โลกที่ฟินแลนด์

    เราคงเคยเห็นการแสดงดนตรีหรือการแข่งขันวงดนตรีที่จัดขึ้นกันมาหลายต่อหลายงาน ทว่ามันมีการแข่งขันดนตรีประเภทหนึ่งอยู่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีใดๆ ในการแสดงนั่นก็คือ “การแข่งขันกีต้าร์อากาศชิงแชมป์โลก” หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าเจ้ากีต้าร์อากาศนั้นมันคืออะไร จริงๆ มันก็คือการที่เราทำท่าทางเหมือนกับว่าเล่นกีต้าร์อยู่โดยที่ในมือของเราแท้จริงมันว่างเปล่า การตัดสินของคณะกรรมการจึงไม่มีคะแนนให้สำหรับความไพเราะหรือเสียงที่ออกมา แต่จะตัดสินจากลีลาและความมันส์เร้าใจชวนให้ผู้คนต้องสนุกไปพร้อมๆ กัน ด้วยเพลงประกอบท่าทางแนวร็อคหรือเฮฟวี่เมทัล     ดังนั้นความเว่อร์วังอลังการของผู้เข้าแข่งขันจึงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้คว้าชัยชนะไปได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมจังหวะความเข้ากันระหว่างลีลาท่าทางและเพลงประกอบ เพื่อทำให้รู้สึกได้เหมือนกับว่าเล่นกีต้าร์อยู่จริงๆ นอกจากนั้น คะแนนบางส่วนก็จะมาจากเทคนิคการแสดงท่าทางให้เหมือนกับว่ามีกีต้าร์จริงๆ อยู่ในมือ รวมถึงเทคนิคการเอนเตอร์เทนคนดู และการแสดงอย่างมีศิลปะในตัวเอง     การแข่งขันกีตาร์อากาศเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสวีเดนและสหรัฐอเมริกาในช่วงยุค 80 โดยช่วงแรกมันเป็นแค่การแสดงตลกๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับงานดนตรีเท่านั้น จนในปี 1996 ก็มีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลก Air Guitar World Championships ขึ้นเป็นครั้งแรกในเทศกาลดนตรี Oulu Music Video Festival ในเมืองโอวลุ ประเทศฟินแลนด์ และจัดเรื่อยมาทุกปีจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบัน มีการจัดการแข่งขันกีตาร์อากาศในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ บราซิล หรือแม้แต่ประเทศไทยของเราก็มีชื่ออยู่ในนั้น   แชมป์ชาวอเมริกันในการแข่งขันระด้บโลก   ซึ่งในปีนี้ก็เพิ่งจบการแข่งขันไปเพียงไม่กี่วัน โดยผู้แข่งขันชาวอเมริกัน Matt “Aristotle” Burns ก็ได้รักษาตำแหน่งแชมป์เอาไว้ได้เป็นปีที่ 2 ไม่แน่ว่าในงานดนตรีใหญ่ๆ…

  • หอสมุดแห่งชาติอังกฤษเผยภาพ HD สมุดโน้ตของ Leonardo da Vinci กว่า 570 หน้า

    หอสมุดแห่งชาติอังกฤษเผยภาพ HD สมุดโน้ตของ Leonardo da Vinci กว่า 570 หน้า

    เช่ื่อว่าทุกคนคงจะเคยได้ยินชื่อ ลีโอนาร์โด ดา วินชี อัจฉริยะผู้มากความสามารถชาวอิตาลีที่เป็นทั้งนักดนตรี นักกายวิภาค นักประดิษฐ์ ประติมากร นักวิทยาศาสตร์ และอีกมากมาย เขามีชีวิตอยู่ในยุคเรอเนซ็องส์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา มีคนกล่าวว่าไอเดียของเขาหลายอย่างทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์มากมายในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น รถถัง เฮลิคอปเตอร์ หรือร่มชูชีพเองก็ตาม และหากจะถามหาผลงานที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเขาแล้ว ก็หนีไม่พ้นภาพโมนาลิซ่าและภาพพระกระยาหารมื้อสุดท้าย ที่ทำให้ทั่วโลกสามารถจดจำเขาได้มาถึงปัจจุบัน     ล่าสุด หอสมุดแห่งชาติของอังกฤษได้ทำการเผยแพร่สมุดบันทึก The Codex Arundel เวอร์ชั่นดิจิตอลที่เขียนโดยลีโอนาโด้ออกมา ซึ่งทุกคนสามารถดูได้แบบฟรีๆ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ของคุณได้ สมุดบันทึกดังกล่าวนับว่าเป็นหนึ่งในผลงานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยในสมุดบันทึกมีสิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของลีโอนาโด้ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการเขียนด้วยมือซ้าย และการอ่านจากขวาไปซ้าย แกนหลักของสมุดเล่มนี้คือองค์ประกอบต่างๆ มากมายที่เกิดจากจินตนาการของตัวเขาเองทั้งสิ้น เต็มไปด้วยภาพวาด แผนผัง และข้อความสั้นๆ ที่ครอบคลุมในเรื่องของวิทยาศาสตร์และศิลปะ   .   คอลเลคชั่นนี้เริ่มเขียนเมื่อช่วงปี 1508 ในบ้านของ Piero di Braccio Martelli ที่เมืองฟลอเร้นซ์ ประเทศอิตาลี สมุดเล่มนี้ก็ได้ถูกเพิ่มเอกสารรวมๆ หลายอย่างที่ถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดตลอดชีวิตทำงานของเขาอีกด้วย ซึ่งเพียงแค่ไม่กี่หน้าที่เราได้เห็นก็คงจะพอทราบได้แล้วว่าตัวเขานั้นรอบรู้มากขนาดไหน   .   ความสุดยอดของเขาคนนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์และนักวิชาการมากมายมองว่าเขาเป็นแบบอย่างสำคัญของ “ผู้ฟื้นฟูศิลปะและวิทยาการ” และ “อัจฉริยะรอบด้าน”…

  • อนาคตแห่งวิทยาศาสตร์อันก้าวไกล กับ 14 สิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆ พร้อมความสามารถสุดวิเศษ

    อนาคตแห่งวิทยาศาสตร์อันก้าวไกล กับ 14 สิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆ พร้อมความสามารถสุดวิเศษ

    ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ก็เปรียบได้กับเวทมนตร์ที่มีการอธิบายเอาไว้อย่างชัดเจน และในทุกๆ วัน เรายังคงตื่นตาตื่นใจกับสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เมื่อการผสมโน้นผสมนี้สามารถสร้างความอัศจรรย์ให้กับสสารต่างๆ บนโลก ก่อให้เกิดเป็นประโยชน์ที่มนุษย์เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้กันได้มากมาย หรืออย่างน้อยๆ มันก็สามารถทำในสิ่งที่เราคิดไม่ถึงกันได้อย่างแน่นอน เราลองมารู้จักสสารหรือส่วนประกอบเจ๋งๆ ที่มีกันอยู่ตอนนี้และหลายคนไม่เคยได้ยินกันมาก่อนว่า 14 อย่างนั้นมันมีอะไรกันบ้าง   1.Hydrophobic materials .   เจ้าสิ่งนี้จะช่วยป้องกันฝุ่นละออง น้ำหรือของเหลวต่างๆ เอาไว้ไม่ให้ซึมผ่านเข้าไปได้ โดยมีการสร้างมาจากพื้นฐานอนุภาคนาโนของซิลิคอนไดออกไซด์และไทเทเนี่ยม ปัจจุบันพบเจอได้ในสเปรย์ที่มีไว้ฉีดเคลือบเสื้อผ้าและรองเท้าต่างๆ ทำให้ไม่เปื้อนหรือเปียกน้ำ   2.ก๊าซที่ทำให้วัตถุสามารถลอยได้เหมือนกับอยู่บนน้ำ   ก๊าซซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไรด์ หรือ SF6 มีน้ำหนักมากกว่าอากาศถึง 5 เท่า โดยมันจะไม่สามารถลอยออกไปจากภาชนะที่มันอยู่ได้และช่วยทำให้วัตถุขนาดเบาสามารถลอยตัวได้เหมือนกับอยู่ในน้ำ อีกความพิเศษของมันก็คือหากเราสูดเข้าไปจะทำให้เรามีโทรเสียงต่ำลงเหมือนกับเสียงดาร์ธเวเดอร์กันได้ในทันที   3.โลหะที่สามารถละลายได้ในมือคุณ .   มันก็คือโลหะที่สามารถละลายได้ด้วยอุณหภูมิห้อง แต่ที่เจ๋งยิ่งกว่านั้นก็คือเมื่อมันโดนจุ่มไปในน้ำร้อน การละลายของมันจะเร็วมากอย่างน่าตกใจกันไปเลย และถ้าหากว่าอลูมินเนียมสัมผัสเข้ากับแกลเลียมจะทำให้มันเปราะบางเอามากๆ เหมือนกับรูปด้านล่าง และถึงแม้จะมีปัญหาดังกล่าว แต่เทคโนโลยีขั้นสูงก็มักจะนำแกลเลียมอัลลอยไปใช้อยู่บ่อยครั้ง เช่นในอุตสาหรกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น     4.ผงระเบิด .   Nitrogen triiodide และ Fulminating…

  • ชายหนุ่มเท็กซัสช่วยสัตว์กว่า 70 ชีวิตในช่วงพายุเข้า ที่ไม่ได้มีแค่หมาแมว แต่มีหมูจรด้วย

    ชายหนุ่มเท็กซัสช่วยสัตว์กว่า 70 ชีวิตในช่วงพายุเข้า ที่ไม่ได้มีแค่หมาแมว แต่มีหมูจรด้วย

    พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สร้างผลกระทบอย่างรุนแรงให้กับรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะภัยน้ำท่วมอันแสนรุนแรง ที่ส่งผลต่อยอดทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมายที่ไม่เพียงกระทบกับมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่มันรวมถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในละแวกนั้น เดือดร้อนชายคนหนึ่งต้องยื่นมือเข้าไปช่วยสัตว์ทั้งหลายในเมืองฮุสตัน เพราะว่าพวกมันไม่สามารถหนีออกมาจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง และเขาก็ได้บอกเล่าเรื่องราวดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย   .   ทหารหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Josiah Meherg ได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก หลังจากแชร์รูปที่เขาได้ช่วยสัตว์เลี้ยงมากมายกว่า 70 ตัวในช่วงที่เกิดภัยพิบัติขึ้น มียอดไลค์สูงกว่า 2 แสนเข้าไปแล้ว เขาเล่าว่าเขาต้องการทำให้ผู้คนสบายใจว่าสัตว์ที่ถูกทิ้งอยู่เบื้องหลังจะได้รับการช่วยเหลือออกไป และการได้เห็นหลายๆ คนรู้สึกสบายใจ ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้น หลังจากที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงหลายๆ ตัวได้ทันเวลา   สัตว์ที่ถูกช่วยเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ .   เขาและทีมงานประมาณ 12 คน ถือว่าเป็นทีมช่วยเหลือกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย เป็นกลุ่มแรกๆ ที่ยื่นมือเข้ามา แม้ปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และฝนที่ตกหนักจนพวกเขาตัวเปียกเป็นวันๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้พวกเขาหมดกำลังใจ สัตว์ที่ได้รับการช่วยเหลือส่วนมากจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชิซุ เยอรมันเชฟเฟิร์ด และพิตบูล อย่างไรก็ตาม เขาก็พบแมวบ้างเล็กน้อยระหว่างทาง รวมทั้งหมูด้วย   เจ้าหมูอู๊ดๆ .   เขายังบอกอีกว่า “หลายคนอาจไม่อยากทิ้งบ้านของตนเองไปไหน เพราะกลัวว่าข้าวของที่พวกเขาหามาจะเสียหายหรือถูกขโมยไป แต่ทันทีที่พวกเขาออกมา แล้วเห็นปริมาณของน้ำ พวกเขาก็เปลี่ยนใจในทันที หลายคนที่เฝ้าอยู่ที่บ้านแล้วเราเพิ่งไปช่วยมาไม่มีใครตื่นตระหนกหรือหวาดกลัวเลย แสดงให้เห็นว่าชาวเท็กซัสอย่างพวกเรานั้นเข้มแข็งขนาดไหน”   .  …

  • ความสุขอันเปี่ยมล้นของหญิงสาว ที่กลายมาเป็นเพื่อนกับเหล่าฮัมมิ่งเบิร์ดเกือบ 200 ตัว

    ความสุขอันเปี่ยมล้นของหญิงสาว ที่กลายมาเป็นเพื่อนกับเหล่าฮัมมิ่งเบิร์ดเกือบ 200 ตัว

    เหล่านกน้อยน่ารักบินเข้ามาเล่นกับเราคงไม่ได้เป็นภาพที่หาดูกันได้ง่ายๆ เพราะพวกมันเป็นสัตว์ที่รักอิสระและขี้หวาดระแวง แต่สำหรับเธอคนนี้กลับเป็นข้อยกเว้น นอกจากพวกมันจะไม่กลัวแล้ว แต่ยังชอบมาอยู่เป็นเพื่อนเธอในทุกๆ วันอีกด้วย Melanie Barboni ผู้ช่วยวิจัยที่มหาวิทยาลัย UCLA รู้จักกันในฉายา “เพื่อนรักของเหล่าฮัมมิ่งเบิร์ด” สาเหตุมาจากเธอได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกับนกกว่า 200 ตัวที่อาศัยกันอยู่นอกออฟฟิศ เธอกับพวกมันได้เกิดสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น สนิทกันขนาดที่ว่าถ้าเธอให้อาหารมันสาย พวกมันก็จะมาส่งเสียงร้องโวยวายให้เธอฟัง ทำให้ใครที่มาพบเห็นต้องพากันอมยิ้มกับสิ่งที่เกิดขึ้น   .   สำหรับเธอแล้ว การจะบอกว่าเธอเกิดมาเพื่อนกฮัมมิ่งเบิร์ดเลยก็ไม่ถือว่าผิดนัก เพราะนี่เป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็ก เธออยากเป็นเพื่อนกับนกฮัมมิ่งเบิร์ดมาตลอด แต่ในสวิตเซอร์แลนด์บ้านเกิดของเธอ กลับเป็นเรื่องยากมากที่จะได้เห็นนกพันธุ์นี้ซักครั้ง จนภายหลังเธอก็ได้เข้ามาทำงานในลอสแองเจลิส ที่ซึ่งมีนกเหล่านี้อยู่เต็มไปหมด ความฝันได้รับการเติมเต็มจึงทำให้เธอมีความสุขและดีใจที่จะได้มาทำงานนีี้อย่างมาก   .   เธอถึงกับพูดว่า “ฉันไม่สามารถไปในที่ที่ไม่มีพวกมันได้ มันอาจฟังดูน้ำเน่าไปหน่อยแต่นั่นก็เพราะฉันได้เห็นว่ามันคอยช่วยเหลือผู้คนทำให้ชีวิตมีความสุข ไม่จำเป็นต้องกังวลในวันที่เลวร้าย เมื่อเรามีนกเหล่านี้อยู่รอบๆ ตัวไปหมด และในตอนที่มีความสุขพวกมันก็จะทำให้สุขยิ่งขึ้นไปอีก”   .   คลิปวิดีโอความน่ารักของฮัมมิ่งเบิร์ดราว 200 ตัว .   ด้วยความชอบหลงไหลและรักในตัวพวกมัน จึงทำให้เธอได้มีเพื่อนเพิ่มขึ้นเยอะมาก ก่อให้เกิดความสุขกันทั้งสองฝ่ายอย่างที่ไม่สามารถหาสิ่งใดมาเทียบได้เลย   ที่มา: boredpanda

  • ภาวะโลกร้อนทำให้ “หมีกริซลี่” ต้องกลายเป็นมังสวิรัติ กระทบต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก

    ภาวะโลกร้อนทำให้ “หมีกริซลี่” ต้องกลายเป็นมังสวิรัติ กระทบต่อระบบนิเวศเป็นอย่างมาก

    เจ้าหมีกริซลี่ที่หลายคนจะรู้กันดีว่าพวกมันจะกินปลาแซลมอนที่ว่ายทวนน้ำขึ้นมา ทำเอาหลายคนที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะปลาชนิดนี้ต้องรู้สึกอิจฉากันไปบ้าง ทว่าตอนนี้เราคงไม่ได้ต้องรู้สึกอย่างนั้นกันอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าพวกมันเลิกกินแซลมอนแล้วหันไปกินเอลเดอร์เบอรรี่กันแทนแล้ว แต่จุดเริ่มต้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่าพวกมันเลือกเอง หากเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศของโลกเรา ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นทำให้เบอรร์รี่สามารถสุกได้เร็วกว่าปกตินั่นเอง ในขณะเดียวกันนั้นก็ทำให้ลำธารน้ำใสบนเกาะ Kodiak ในอลาสก้าเต็มไปด้วยแซลมอนว่ายกันมากมาย ซึ่งปกติแล้วเจ้าหมีจะได้กินแซลมอนตัวแรกในช่วงต้นฤดูร้อน ตามด้วยการหันไปกินเบอร์รี่แทนในช่วงท้ายๆ ของฤดูเดียวกัน นั่นคือช่วงสิงหาคมและกันยายน     William Decay นักชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัยรัฐ Oregon ผู้ทำการศึกษาปรากฏการณ์ดังกล่าวได้ออกมาพูดว่า “นี่คือการจัดการแบ่งตารางเวลา เพราะมันก็เหมือนกับคุณกินมื้อเช้าและมื้อเที่ยงพร้อมกันทำให้จะไม่มีอะไรกินจนกว่าจะถึงเย็น คุณจึงต้องเลือกระหว่างสองมื้อนั้นเพราะคุณสามารถกินได้เต็มที่ได้เพียงละระยะเวลาเดียว” จากการศึกษาก็พบว่าในช่วงอากาศร้อนที่ผิดปกติของหน้าร้อนในปี 2014 เจ้าหมีจะต้องมาล่าแซลมอนมากกว่า 75 เปอร์เซนต์ กลับไม่มีให้เห็นในเขตลำธารเลย พวกมันไปให้ความสนใจในการกินเบอร์รี่อยู่ในป่าที่ให้โปรตีนน้อยกว่า แต่ก็สูญเสียพลังงานในการกินที่น้อยกว่าเช่นเดียวกัน ทำให้พวกมันอ้วนขึ้นมากกว่าเดิม     นอกจากนี้ยังได้ออกมาเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะสร้างปัญหาให้กับระบบนิเวศทั้งหมดเอาได้ เพราะปุ๋ยธรรมชาติที่เกิดจากซากศพปลารอบๆ แม่น้ำ จะไม่เกิดขึ้นทำให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่นั้น และจำนวนปลาแซลมอนที่จะมีเยอะมาก ค่าเฉลี่ยของการสุกของต้นเบอร์รี่จะเร็วขึ้น 2 วันครึ่งในทุกๆ 10 ปี และอนาคตต่อไปข้างหน้ามีการทำนายไว้ว่า แซลมอนจะมีมากขึ้นทับซ้อนกันในปี 2070 ทั้งหมดคือการศึกษาที่ได้รับการตีพิมพ์ใน Proceedings of the National Academy of Sciences…

  • ไม่หายแน่นอนกับ กระเป๋าเดินทางลาย “หน้าตัวเอง” เดินลากไปที่ไหนก็มีแต่คนจำได้!!

    ไม่หายแน่นอนกับ กระเป๋าเดินทางลาย “หน้าตัวเอง” เดินลากไปที่ไหนก็มีแต่คนจำได้!!

    คุณเคยประสบปัญหาเวลาที่เดินทางไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินหรือรถประจำทาง แล้วหากระเป๋าไม่เจอมั้ย? นั่นก็เพราะว่าบางทีกระเป๋าเดินทางของคุณมันอาจมีหน้าตาเหมือนของคนอื่นแล้วเขามาหยิบสลับไปเนี่ยสิ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะปัญหานี้มีทางแก้ออกมาแล้ว ต้องเจอกับ Head Case ที่พูดเลยว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ สามารถเดาทางออกมาได้ตามชื่อมันเลย กับการให้เราสกรีนหน้าของตัวเองหรือใครก็ตามลงไปซะเลย เป็นเอกลักษณ์ฉีกๆ ไปอีกแบบ     ตัดปัญหาไปได้แบบง่ายๆ เพราะคราวนี้ทุกคนที่เห็นก็จะพอเดาได้แล้วว่ากระเป๋าใบนี้มันน่าจะเป็นของใคร ก็หน้าที่อยู่ติดกับฝากระเป๋ามันดันส่งรอยยิ้มมาด้วยใบหน้าที่เหมือนคุณอย่างกับแกะ ต่างกันแค่ใหญ่กว่าหน้าจริงหน่อยนะ   กิ๊บเก๋ยูเรก้ามั้ยล่ะคุณ   ราคาของมันก็มีตั้งแต่เล็กสุดราคาประมาณ 660 บาท และใหญ่สุดจะอยู่ที่ประมาณ 1 พันบาท หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูกันได้ที่เว็บไซต์ firebox   สามขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ .   เป็นอีกหนึ่งไอเดียเจ๋งๆ ที่นอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังจะดูตลกและสร้างสรรค์กันไปอีกแบบด้วยนะ เยี่ยมจริงๆ   ที่มา: sobadsogood

  • เมื่อหญิงสาวต้องเลือกระหว่าง ชีวิตของลูกหรือของเธอเอง และเธอก็เลือกมอบชีวิตให้ลูก…

    เมื่อหญิงสาวต้องเลือกระหว่าง ชีวิตของลูกหรือของเธอเอง และเธอก็เลือกมอบชีวิตให้ลูก…

    ในหลายครั้งเราจำเป็นต้องเลือกสิ่งหนึ่งเพื่อแลกกับอีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งบางทีตัวเลือกที่เราได้รับนั้นก็คงจะทำให้รู้สึกรักพี่เสียดายน้อง เพราะว่ามันก็สำคัญกับตัวเราทั้งนั้น เหมือนกับเธอคนนี้แตกต่างกันที่ว่าเธอไม่มีความลังเลใดๆ เลย เมื่อว่าที่คุณแม่อย่าง Tasha Trafford วัยเพียง 33 ปี ประสบกับโรคมะเร็งกระดูกในขณะที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ ซึ่งในช่วงเวลา 16 สัปดาห์นั้น เธอจำเป็นต้องทำการฉายรังสีเพื่อรักษาตัวเองให้หายจากโรคร้าย แต่เธอก็ได้ปฏิเสธที่จะทำการรักษา เพราะว่าหากเธอต้องการเช่นนั้น นั่นหมายความว่าเธอจำเป็นที่จะต้องเอาลูกออก ไม่อย่างนั้นก็จะเริ่มการรักษาไม่ได้ จากการที่เธอคอยพยาบาลและดูแลตัวเองมาโดยตลอดทราบดีว่า เธอมีโอกาสที่จะทำให้ตัวเองสามารถมีชีวิตต่อไปได้นานยิ่งขึ้นจากการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ แต่เธอก็ตั้งใจและมีความคิดที่แน่วแน่ว่า เธอต้องการให้ลูกได้ออกมาลืมตาดูโลก…   คุณแม่ Tasha และลูกชาย Cooper   เธอพูดว่า “การทำสิ่งใดก็ตามที่จะสร้างอันตรายให้กับลูก ไม่เคยมีอยู่ในความคิดของฉันเลย” จากสิ่งที่เธอเลือกก็ทำให้เด็กชายได้คลอดออกมาในวันที่ 12 ธันวาคม 2015 แน่นอนว่าโรคร้ายของเธอก็ยังคงไม่หายไปไหน ทำให้เธอมีเวลาได้อยู่กับลูกเพียงแค่ 11 เดือน ก็ต้องจากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า หวังเพียงต่อการจะให้ตัวเองได้อยู่ครบรอบวันเกิดของเด็กน้อยในปีแรก แต่ก็ไม่สำเร็จ เรื่องสะเทือนใจนี้ทำให้พ่อของเธอ Dai Gallivan ตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปยังภูเขาคิลิมันจาโร เพื่อการปีนขึ้นไปสู่ยอดเขาสำหรับการกุศลที่จะมอบเงินให้ศูนย์ดูแลมะเร็ง Tenovus     เขาได้เข้ามาดูแลลูกสาวของเขาในหนึ่งเดือนก่อนที่เธอจะจากไป แทนที่ลูกชายอีกคน David และในวันที่เธอจากไปเขาก็ได้โทรบอกลูกชายคนนี้พร้อมกับออกเดินทางไปภูเขา ถึงแม้รู้ดีว่าเมื่อเขากลับมาจะไม่มีเธออยู่ตรงนี้อีกต่อไปแล้วก็ตาม…

  • ไปดูระบบการศึกษาของเนเธอร์แลนด์ อีกประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการปฏิรูปการศึกษา

    ไปดูระบบการศึกษาของเนเธอร์แลนด์ อีกประเทศที่ประสบความสำเร็จด้านการปฏิรูปการศึกษา

    ระบบการศึกษาแต่ละประเทศก็จะมีความแตกต่างกันไปบ้าง เพื่อทำให้ตนเองก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในการให้ความรู้กับเยาวชนทั้งหลาย ซึ่ง เนเธอร์แลนด์ ก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับต้นๆ ของเรื่องนี้เลยทีเดียว ปัญหาในเรื่องของการเมืองที่ยาวนานไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับความตั้งใจที่จะพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศแต่อย่างใด เพราะหลังจากเรื่องนั้นจบลงรัฐบาลก็ได้มุ่งเป้ามาที่การสร้างความเท่าเทียมให้กับทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชน เพื่อการศึกษาที่ดีในทุกที่ทั่วประเทศ การศึกษาที่ดีไม่ถือว่าเพียงพอ เพราะจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือทำให้มันอยู่ในระดับดีเยี่ยม จึงใส่ใจให้กับทุกสิ่งที่เป็นส่วนประกอบของการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน คุณครู หรือทางโรงเรียนเองก็ตาม     ความเป็นอิสระถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะเป็นแกนหลักให้เด็กสามารถเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้อย่างเต็มที่ คุณครูสามารถใช้วิธีการสอนได้ตามที่ตนถนัด และเรื่องของการบริหารก็จะปล่อยให้ทางโรงเรียนเป็นคนจัดการโดยที่รัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงใดๆ     ถึงอย่างนั้นการพัฒนาก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอาจารย์ที่จะจะต้องมีประสิทธิภาพในการถ่ายทอดความรู้และทำให้เด็กมีแรงจูงใจกับการเรียนการสอน จึงได้เกิดวิธีการให้ครูผู้สอนสังเกตการณ์การเรียนการสอนของครูผู้สอนคนอื่นๆ และนำมาพัฒนาการเรียนการสอนของตัวเอง หรือแม้แต่การเข้าไปดูการสอนของอีกท่านเพื่อเป็นการชี้แนะและแนะนำให้เป็นไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นวิธีการที่สามารถสร้างได้ทั้งประสิทธิภาพและความสัมพันธ์ระหว่างกันได้อย่างดีเยี่ยม มองว่าคุณครูทุกคนก็เปรียบเสมือนทีมเดียวกันที่จะช่วยกันผลักดันให้ก้าวต่อไป     ผู้อำนวยการวิทยาลัยไทลิงเกนในเนเธอร์แลนด์ ได้พูดว่า “แน่นอนว่าความสำคัญอย่างแรกของการเป็นครูคือความเชี่ยวชาญในเรื่องที่สอน และอย่างที่สองคือการเปิดรับเพื่อพัฒนาตนเองให้สามารถเข้าถึงนักเรียนได้ดีที่สุด เพราะว่าเรื่องที่สอนเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดทักษะความรู้”     นอกจากนั้นกระทรวงศึกษาธิการของประเทศก็ได้จัดตั้งโปรแกรม School ann Zet ขึ้นเพื่อให้คุณครูในแต่ละภาควิชาที่แตกต่างกัน เข้ามาพูดถึงแผนการสองในอนาคตของตัวเองทุกเดือน และปรึกษาร่วมกันเพื่อให้มีผลสัมฤทธิ์ทางสอนและการเรียนรู้อย่างแท้จริง และแม้ว่าวิชาจะแตกต่างกัน แต่วิธีการหรือแนวทางการสอนก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาการสอนของตัวเองได้อีกด้วย เป็นทั้งการรับความรู้และการให้คำแนะนำในเวลาเดียวกัน   คลิปวิดีโอที่มาและการจัดการระบบการศึกษาในเนเธอร์แลนด์   จากวิธีการของระบบดังกล่าวทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นสนใจที่จะพัฒนาศักยภาพในตัวบุคคลทั้งหมด เพราะว่าในขณะที่นักเรียนเป็นผู้รับ อาจารย์เองก็เป็นตัวกลางที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับนักเรียนอย่างมีประสิทธิภาพอีกเช่นเดียวกัน และอิสระที่เท่าเทียมกับการช่วยเหลือกัน…

  • สื่อต่างชาติแนะนำ 15 แอพสุดเจ๋งบน iPhone ใช้ดีกว่าแอพที่ Apple ให้ติดเครื่องมาซะอีก!!

    สื่อต่างชาติแนะนำ 15 แอพสุดเจ๋งบน iPhone ใช้ดีกว่าแอพที่ Apple ให้ติดเครื่องมาซะอีก!!

    มือถือสมาร์โฟนชื่อดังจากค่าย Apple อย่างเจ้า iPhone เป็นที่นิยมกันอย่างมากและหลายคนก็คงจะต้องใช้ยี่ห้อนี้กันอย่างแน่นอน และด้วยเหตุผลว่าแอพพื้นฐานที่ทางผู้ผลิตให้มาในตอนแรกอาจไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานทั้งหมดสำหรับคุณ ทางเว็บไซต์ BusinessInsider ก็เลยแนะนำแอพเด็ดๆ โดนๆ ให้คุณมาใช้แทนแอพพื้นฐานติดเครื่องเหล่านั้น   ใช้ Google Calendar แทนแอพปฏิทิน แอพนี้สามารถใส่ข้อมูลจากใน Google, Facebook และ iCloud ได้เหมือนกับแอพปฏิทินที่ติดเครื่องมาแต่แรก ทว่าความเจ๋งของมันก็คือหน้าตาที่ดูง่ายยิ่งขึ้นแบ่งเป็นสัดส่วน ช่วงบนคือของทั้งเดือน เลื่อนลงมาคือสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น กดมุมขวาบนกลับมาดูว่าวันนี้มีอะไรที่สำคัญอีกบ้าง เรียกว่าสะดวกสบายกว่ากันมากพอควร ส่วนราคาของแอพนี้ก็คือฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ   ใช้ Email (แอพของ Edison) แทนแอพ Mail ความพิเศษที่มีมากกว่าแอพดูอีเมล์ทั่วไปก็คือ มันสามารถสแกนเมล์ของคุณได้ว่าเป็นการใช้จ่าย สลิปเงินสด สิ่งที่แนบมา ปฏิทิน และอีกมากมาย พร้อมทั้งแยกหมวดหมู่ให้ชัดเจนเรียบร้อยง่ายดายสะดวกรวดเร็ว และแอพนี้ก็ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ อีกเช่นกัน   ใช้ Evernote แทนที่แอพโน้ตที่ติดมากับเครื่อง ความสุดยอดในการจัดการไม่ว่าจะเป็นการเตือนความจำ รูปภาพ สิ่งที่พิมพ์บันทึกเอาไว้ต่างๆ และแค่คุณถ่ายรูปไฟล์ข้อมูลลงอัพลงไปในแอพ มันก็จะช่วยหาไฟล์ที่ใกล้เคียงกันหรือเหมือนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าแอพนี้สามารถใช้กับเครื่องอื่นๆ ได้ด้วยไอดีเดียวกัน  …

  • ภาพที่หาดูยาก ของ “ร่างทรงคนสุดท้าย” ในคาซัคสถานและพิธีล้างบาปให้กับสาวก

    ภาพที่หาดูยาก ของ “ร่างทรงคนสุดท้าย” ในคาซัคสถานและพิธีล้างบาปให้กับสาวก

    พิธีกรรมต่างๆ ที่มีขึ้นแตกต่างกันไปในทั่วโลกก็คงจะสร้างความประหลาดใจให้กับคนต่างถิ่นที่ได้เข้ามาสัมผัสหรือพบเห็น ไม่ต่างกับช่างภาพคนนี้ที่มีชื่อว่า Denis Vejas ที่เข้าไปเก็บภาพพิธีกรรมที่ไม่ธรรมดาในคาซัคสถาน เขาได้ใช้ช่วงฤดูหนาวเก็บเอาเรื่องราวต่างๆ จากการเดินทางของร่างทรงที่เปรียบได้กับผู้นำทางศาสนาของ Sufism นับเป็นแขนงหนึ่งในศาสนาอิสลาม กับหน้าที่ในการออกเดินทางไปเรื่อยเพื่อการรวมศาสนาลึกลับต่างๆ และวัฒนธรรมพเนจรเข้าด้วยกัน ก่อให้เกิดการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์   .   เธอคนนั้นมีชื่อว่า Bifatima Dualetova เรียกได้ว่าเธอนั้นเป็นหนึ่งในร่างทรงที่เหลืออยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายในประเทศนี้ และหาได้ยากยิ่งมาก แม้ว่าภาพที่ได้มาอาจดูน่าตกใจอยู่บ้าง แต่นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่ผูกขาดให้เกิดความเคารพและยำเกรงอย่างมากในพื้นที่นั้นๆ   .   การนับถือความยากจนทำให้เธอใช้วิธีการเดินไปหมู่บ้าน Scared ท่ามกลางความหนาว เพื่อการประกอบพิธีชำระบาปให้กับเหล่าผู้ติดตาม พิธีดังกล่าวต้องทำการตัดหัวแกะออกและอาบเลือดของมันในห้วยน้ำที่เย็นยะเยือก จากข้อมูลที่เธอให้มาก็ได้มีพิธีกรรมที่เลียนแบบเกิดขึ้น เมื่อมาถึงก็ถูกปลกคลุมไปด้วยเลือดและจึงจะล้างตัวด้วยน้ำ   . .   ช่างภาพที่ติดตามเธอไปได้บอกว่า “มันก็เหมือนกับการเดินทาง แต่มันคือการเดินทางที่ต้องเจอกับคนที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาใช้ชีวิตอยู่กับหลักปรัชญาที่เป็นแกนหลักของชีวิตชุมชน” เขาบอกอีกว่าผู้ติดตามบางคนก็จะมาอยู่กับเธอเพียงไม่กี่วัน แต่บางคนที่มองว่าเธอเป็นผู้รอบรู้ก็จะมาอยู่กับเธอนานเป็นปี มันเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์อย่างแท้จริงทำให้เขาต้องตกอยู่กับความอัศจรรย์ และเกือบที่จะบังคับให้จิตใจตัวเองเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวได้   เธอและผู้ติดตาม . . . . . . . . . .…

  • ชมภาพของ “คู่รักจ้าวป่า” ที่อาศัยอยู่ในไม้ป่าเดียวกัน ความโรแมนติกที่แสนจะดุดัน!!

    ชมภาพของ “คู่รักจ้าวป่า” ที่อาศัยอยู่ในไม้ป่าเดียวกัน ความโรแมนติกที่แสนจะดุดัน!!

    สัตว์ที่ทุกคนจะรู้จักกันเป็นอย่างดีในเรื่องของความน่าเกรงขาม สง่าผ่าเผย มีสมญานามสุดเท่ว่าจ้าวป่า แน่นอนว่ามันก็คือสิงโตนั่นเอง แต่สิ่งที่เราเห็นภาพและเข้าใจมาตลอดบางทีมันก็มีพฤติกรรมแปลกๆ งงๆ ซ่อนอยู่เหมือนกัน เมื่อช่างภาพมือสมัครเล่นผู้ชื่นชอบการถ่ายรูปสัตว์ป่าอย่าง Russ Bridges ได้เก็บภาพของสิงโตตัวผู้ตัวหนึ่งที่กำลังขึ้นคร่อมตัวผู้อีกตัว ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า Yorkshire ประเทศอังกฤษ   .   สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำเอาซะตัวเมียที่อยู่ข้างๆ แสดงอาการฉุนเฉียวพร้อมกับเบือนหน้าหนีไปเลยทีเดียว คนที่ผ่านไปมาเห็นเข้าถึงกับต้องหัวเราะให้กับความอีโรติกดราม่าของพวกมัน ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าสิงโตที่ขึ้นคร่อมอยู่ก็ได้แลบลิ้นออกมาแสดงความภาคภูมิใจกับสิ่งที่มันทำ เขาที่ถ่ายภาพนี้มาได้จึงคิดว่ามันอาจเป็นความเข้าใจผิดของเจ้าสิงโตตัวนั้นว่าเจ้าตัวข้างล่างมันเป็นตัวเมีย     เขาเสริมอีกว่า “เวลาที่ตัวผู้เดินเข้าไปหาตัวเมียข้างๆ เธอก็จะคำรามออกมาพร้อมกับตบหน้าด้วยอุ้งมือแถมไปให้อีก” ก็ไม่แน่ว่านั่นอาจเป็นเหตุผลให้เจ้าตัวผู้ตัวนี้เปลี่ยนใจมาสร้างประสบการณ์ใหม่ก็ได้นะ แต่เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่าเรื่องนี้แท้จริงแล้วเกิดขึ้นเพราะอะไร อาจเป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อต้าน หรือพวกมันอาจแค่เล่นกันก็ได้ แต่ที่แน่ๆ คือเรื่องนี้ไม่ได้มีให้เห็นกันง่ายๆ อย่างแน่นอน     คนที่ทำอาชีพเป็นผู้จัดการคลังสินค้าก่อนหน้านี้ก็เคยเข้ามาถ่ายรูปสัตว์ในที่แห่งนี้อยู่บ้าง ส่วนใหญ่ที่มาเจอเจ้าสิงโตก็จะเห็นว่าพวกมันแค่นอนเล่นเฉยๆ ไม่มีอะไร แต่ว่าครั้งนี้ก็แปลกออกไปอย่างมากนอกจากจะได้ภาพทั้งหมดกลับไป รูปที่เขาชอบที่สุดก็จะเป็นรูปที่เจ้าสิงโตอยู่ตัวเดียวแล้วแลบลิ้นออกมาเลียจมูกซะเล็กน้อย     “ผมเป็นคนรักสัตว์เอามากๆ ขนาดที่ว่าจะฆ่าแมลงหรือแมงมุมตัวเล็กๆ ก็ยังไม่ทำเลย อีกสิ่งที่ผมรักก็คือการอนุรักษ์พวกมันเอาไว้เหมือนอย่างที่แห่งนี้ได้ทำ” เขากล่าวทิ้งท้าย สุดท้ายการที่พวกมันทำสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าสัตว์ป่าอาจไม่ได้มีเพียงแค่สัญชาตญาณ แต่ความคิดของพวกมันอาจทำให้เราไม่สามารถเดาใจมันได้เลยก็ได้นะ   ที่มา: dailymail

  • คลิปวิดีโอสุดป่าเถื่อน แสดงให้เห็นการต่อสู้เยี่ยงสุนัขของ “นักโทษที่ติดยาเสพติด”

    คลิปวิดีโอสุดป่าเถื่อน แสดงให้เห็นการต่อสู้เยี่ยงสุนัขของ “นักโทษที่ติดยาเสพติด”

    สารเสพติดต่างๆ ก็จะมีฤทธิ์ร้ายแรงแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพหลอน หรือสั่งการให้สมองทำงานได้ช้าหรือเร็วขึ้น แน่นอนว่าผลกระทบของมันที่หากว่าใช้ไปอย่างไม่เหมาะสมหรือมากจนเกินไป สิ่งที่ตามมาก็อาจเป็นได้มากกว่าที่เราคาดคิด เมื่อได้มีคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายในเรือนจำ Forest Bank ในแกรนด์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นนักโทษชายสองคนคลานสี่ขาตะโกนใส่กันและกัดกันเหมือนหมาสองตัวที่ต่อสู้กัน     ทั้งสองคนถูกฤทธิ์ยาที่มีชื่อว่ายาซอมบี้ ซึ่งเป็นตัวยาที่จะทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งได้ และสภาพของพวกเขานั้นเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าปิดหน้ากับปลอกคอผ้าที่เอาไว้ให้ชายอีกสองคนคอยควบคุมเอาไว้เวลาที่สู้กัน ระบบการสังเคราะห์กัญชาที่สร้างแรงกดดันให้กับเรือนจำดังกล่าวเป็นอย่างมาก ทำให้มีนักโทษหลายร้อยคนที่เสพยาเสพติด นำไปสู่การทำร้ายร่างกายและนำส่งโรงพยาบาล   คลิปวิดีโอการต่อสู้กันเยี่ยงสุนัขของนักโทษทั้งสอง   ท่าทีของทั้งสองคนที่โดนบังคับเอาไว้เปรียบได้กับสุนัขอย่างมาก เพราะมีการแนะนำตัวชื่อสายพันธุ์ของพวกเขาก่อนที่จะเริ่มต่อสู้ เมื่อกล้องซูมเข้าไปก็มีท่าทีจะพุ่งใส่กล้อง เหมือนสัตว์ที่บ้าคลั่ง มีการขู่คำราม แต่ทว่าจากการสังเกตจะมีให้เห็นการแต่งกายของชายชุดดำสองคนที่คอยควบคุมเอาไว้ เสื้อผ้าในชุดลำลอง อีกทั้งยังมีโน๊ตบุ๊กและขวดโหลเมล็ดกาแฟ จึงทำให้ไม่แน่ใจได้ว่าแท้จริงแล้วสถานที่นั้นอยู่ไหนกันแน่     และในคลิปชายคนหนึ่งก็ได้บอกกลับกล้องอีกว่า “เรากำหนดให้หนึ่งในสัตว์สองตัวนี้ต้องมีเลือดออก นั่นหมายความว่าผู้ที่แข่งแกร่งที่สุดจะเป็นผู้ชนะ” จากประโยคแสดงถึงการกลั่นแกล้ง และความหละหลวมของการดูแลเรือนจำดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่มีให้เห็นในทุกวัน ด้วยจำนวนของผู้คุมที่มีกันไม่เพียงพอที่จะจัดการปัญหา และนักโทษติดยาก็มีอยู่มาก ทำให้ต้องมีหลายคนที่ร่างกายทรุดตัวลงเพราะเสพมากจนเกินไป เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมทั้งสิ้น     เรือนจำแห่งนี้จัดอยู่ในกลุ่มบี มีผู้ต้องหาอยู่ภายใต้การดูแลเกือบ 1,500 คน และบริหารจัดการโดยบริษัทเอกชน Sodexo การบริหารจัดการเพื่อให้ทุกคนได้อยู่ในความเรียบร้อยนับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นนักโทษแต่พวกเขาก็ยังมีสิทธิ์ได้รับทุกอย่างเทียบเท่ากับมนุษย์ รวมถึงความปลอดภัยที่พึงมีด้วย  …

  • มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นเปิดสอน “วิชานินจา” หนทางการเป็นโฮคาเงะเปิดออกแล้ว!!

    มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นเปิดสอน “วิชานินจา” หนทางการเป็นโฮคาเงะเปิดออกแล้ว!!

    นินจาคือชื่อที่แทบทุกคนจะรู้จักกันในภาพของกลุ่มคนที่แต่งตัวปิดหน้าปิดตา และสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างเงียบเชียบด้วยวิชาต่างๆ มากมาย พร้อมกับดาวกระจายที่เป็นอาวุธคู่ใจ สิ่งเหล่านั้นจะเห็นได้จากหนังและการ์ตูน แล้วจะเป็นอย่างไรหากคุณสามารถเป็นแบบนั้นได้จริงๆ เมื่อมหาวิทยาลัย Mie ในอิงะ ประเทศญี่ปุ่น จะเพิ่มวิชานินจาและนินจุสึเข้าไปในข้อสอบในตอนที่รับสมัครนักศึกษาเข้ามา นั่นจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินว่าทางมหาลัยจะรับคุณหรือไม่ หากว่าคุณไม่สามารถปล่อยกระสุนวงจักร หรือเดินบนน้ำได้แล้วละก็คงจะเป็นเรื่องยากแล้วแหละ     หากใครคิดว่าต้องทำอย่างนั้นจริง ขอบอกเลยว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เพราะขอเพียงแค่คุณมีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ความสามารถในการอ่านเอกสารทางประวัติศาสตร์ และทักษะการสื่อสารโดยรวม เท่านี้ก็สามารถทำให้คุณสอบผ่านวิชาดังกล่าวไปได้เกินครึ่งแล้ว และความต้องการในเรื่องสมรรถภาพก็จะมีแค่บางส่วนให้เพียงพอต่อความจำเป็นเท่านั้น จากข่าวที่ออกมานี้ก็ได้รับการตอบรับมากมายในหลากหลายรูปแบบ “ฟังดูแล้วน่าจะเป็นหนทางที่ดีในการก้าวไปเป็นโฮคาเงะนะ” “มหาวิทยาลัย Mei นี่คุณทำอะไรลงไปเนี่ย?” “ยังไงก็เหมือนว่าเราคงต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 อยู่แล้ว นี่อาจเป็นหนทางที่เหมาะสมในวันข้างหน้านะ” “ว้าววว ฟังดูน่าตื่นเต้นดีนะ”     ถึงอย่างไรหลักสูตรการเรียนการสอนดังกล่าวก็เป็นเพียงหลักสูตรเสริมที่ไม่บังคับ ดังนั้นคุณก็ยังคงมีสิทธิ์เลือกได้อยู่ และวิชาเลือกนี้ก็มีมานานเป็นปีแล้ว เมื่อปี 2012 มหาลัยได้จ้าง Jinichi Kawakami หัวหน้ารุ่นที่ 21 ของกลุ่มนินจา Koga มาเป็นผู้สอน หากคุณกำลังคิดว่ามันฟังดูเป็นเรื่องตลกแล้วละก็ ไม่ใช่สำหรับเมืองนี้เลย เพราะว่าอิงะนั้นมีประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับนินจามาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญในเรื่องดังกล่าวอีกด้วย ขนาดที่ว่าหากคุณรู้วิชานินจุสึสักอย่างสองอย่าง ก็สามารถต่อยอดเป็นการประกอบอาชีพได้เลยทีเดียว…

  • นานเกิ๊นนน!! ไฟล์ GIF ที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลามากถึง 1000 ปี กว่าจะเล่นจบ!?

    นานเกิ๊นนน!! ไฟล์ GIF ที่ยาวที่สุดในโลก ใช้เวลามากถึง 1000 ปี กว่าจะเล่นจบ!?

    เวลาที่เราดู GIF ทั่วๆ ไปที่จะมีระยะเวลาไม่กี่วินาที ต่างกับคลิปหรือวิดีโอที่ใช้เวลามากกว่า เป็นเรื่องปกติที่เราทุกคนเข้าใจตรงกัน แต่ว่าตอนนี้ได้มีสิ่งที่เหนือความเข้าใจของเรามากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น เมื่อมันไม่ได้เล่นให้เห็นแค่แป๊บเดียว แต่กลับยาวนานถึง 1000 ปีกันเลยทีเดียว นับเป็นศิลปะแบบหนึ่งที่ศิลปิน Juha Van Ingen ได้สร้างสรรค์ขึ้นมาคู่กับผู้ที่ทำเรื่องเสียง Janne Särkelä ทำให้เกิดการเดินทางสู่โลกอนาคตของเจ้าสิ่งนี้   .   สิ่งที่มันแสดงออกมาให้เห็นก็จะไม่ได้มีอะไรมากมาย แต่จะเป็นตัวเลขสีขาวบนพื้นหลังสีดำสนิท นับไปเรื่อยๆ ทุก 10 นาที จากเลข 1 ไปสิ้นสุดที่เลข 48140288 รวมระยะเวลาเท่ากับ 1000 ปี ซึ่งเขาได้เริ่มเล่นเจ้านี่ไปเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ที่พิพิธภัณฑ์ KIASMA ในเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ และแน่นอนว่ามันก็จะไปจบเอาในตอนปี 3017 และหวังที่จะให้มันเดินทางต่อไปให้ได้ไกลที่สุด     มีผู้เข้ามาพูดถึงโปรเจกต์ As Long As Possible นี้ไว้มากมายว่ามันเปรียบได้กับความคงที่ของเทคโนโลยีที่จะยังคงก้าวต่อไปโดยมีความเป็นนิรันดร์ประกอบควบคู่ และเมื่อเทียบกับตัวเราแล้วชีวิตของคนนั้นช่างสั้นเสียเหลือเกิน     ถึงตรงนี้แล้วก็คงมีคนสงสัยกันว่าแล้วถ้าหากไฟดับหรือมีปัญหาอะไรขึ้นมามันก็ต้องนับใหม่หรือเปล่า แน่นอนว่าพวกเขาก็จะต้องเตรียมการป้องกันสำหรับปัญหานี้เอาไว้กันแล้วอย่างแน่นอน เพราะหากว่าตัวหลักที่มีอยู่นั้นถูกทำลายจากสงครามหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ…

  • 26 พฤติกรรมสุดแสนจะซกมก แต่ทุกคนต้องเคยทำกันบ้าง ยอมรับมาซะดีๆ!!

    26 พฤติกรรมสุดแสนจะซกมก แต่ทุกคนต้องเคยทำกันบ้าง ยอมรับมาซะดีๆ!!

    คุณคงเคยคิดว่าพฤติกรรมซกมกทั้งหลายนั้น คนปกติเขาไม่ทำกันหรอก ขอบอกเลยว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะเราเชื่อว่าทุกคนแต่เล็กจนโตก็ต้องมีกันไม่มากก็น้อยนั่นแหละ หากว่าคุณยังไม่เชื่อกับสิ่งที่บอกไป คงต้อลองลงไปดูกันเองแล้วว่าพฤติกรรมที่ทุกคนหรือแม้แต่คุณก็ทำกันมันมีอยู่ในนี้หรือไม่   1.ครั้งหนึ่งคุณต้องเคยเอาขี้ไคล ขี้หู หรือขี้มูกมาปั้นเป็นก้อน วางเรียงกันแล้วนั่งชื่นชมมันด้วยความภาคภูมิใจ     2.หรืออัปรีย์กว่านั้นก็คือ การเอาก้อนในข้อแรก ดีดใส่เพื่อนที่คุณไม่ชอบหน้า   3.เช่นเดียวกับการดมขี้หู ดมขี้มูก ดมขี้สะดือ หรือกระทั่งดมจู๋ดมจิ๋มตัวเอง ทำไมมันช่างฟินยิ่งนัก   4.แป้งคือผู้ช่วยที่เจ๋งมาก มันสามารถทำให้ผมคุณมีความมันน้อยลง เมื่อคุณตื่นสายแล้วไม่ได้อาบน้ำ   5.อีกทั้งแป้งยังสามารถช่วยบรรเทาอาการอับของจุดซ่อนเร้นได้อย่างดีเยี่ยม     6.เมื่อคุณไปเที่ยวกับเพื่อนและลืมของ คุณสามารถแชร์กันได้ตั้งแต่เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือกระทั่งแปรงสีฟัน!!   7.หรือบางครั้งความขี้เกียจก็จะชนะ ทำให้คุณไม่ยอมแปรงฟัน ดีกว่าจะไปซื้อที่ร้านหน้าปากซอยใกล้ๆ   8.ชอบดมจุดอับทั้งหลายอย่างเป็นสุข ไม่ว่าจะเป็นจั๊กแร้ ข้อพับ หรือกระทั่งขาหนีบ   9.พยายามเบ่งตดออกมาเพื่อเช็คว่าตัวเอง “หายท้องเสีย” แล้วหรือยัง.. แต่สุดท้ายก็ไม่รอด แปร๊ดเต็มกางเกง!!     10.การแกล้งแฟนที่แสนสนุกอย่างหนึ่งก็คือ เอามือกำตดที่ปล่อยจากรูตรู๊ด แล้วเอาไปปล่อยตรงหน้าของเขา   11.บอกตัวเองว่าจะซักกางเกงใน…

  • ครอบครัวยอมใช้ชีวิตใน “ห้องน้ำสาธารณะ” พื้นที่ 4 ตร.ม. เพื่อหวังให้ลูกได้เรียนที่ดีๆ

    ครอบครัวยอมใช้ชีวิตใน “ห้องน้ำสาธารณะ” พื้นที่ 4 ตร.ม. เพื่อหวังให้ลูกได้เรียนที่ดีๆ

    ที่อยู่อาศัยของแต่ละคนก็คงจะแตกต่างกันไป บางคนก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่ บางคนก็อยู่คอนโด หรือก็อาจมีที่อาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าหลังเล็กๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เหมือนกับครอบครัวนี้ พ่อแม่ลูกได้อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองหวังจะให้ได้รับชีวิตที่ดีขึ้นและไม่อย่างทิ้งลูกชายอาศัยอยู่บ้านเกิดตามลำพัง เธอสองคนเลือกงานทำความสะอาดห้องน้ำ เพราะว่าจะทำให้ลูกไม่ต้องจ่ายค่าเทอมสำหรับโรงเรียนในมณฑลกวางตุ้ง ทว่าพวกเธอจำเป็นที่จะต้องอาศัยอยู่ในที่ทำงาน นั่นก็คือห้องน้ำสาธารณะนั่นเอง เพราะไม่อย่างนั้นลูกของเธอจะไม่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐบาลในเมืองที่พวกเธอทำงานอยู่ได้ เนื่องจากว่าเป็นผู้อพยพกันทั้งหมด     แน่นอนว่าบ้านหลังใหม่นี้จะต้องไม่มีความสะดวกสบายอย่างที่ทุกคนพอเห็นภาพกันได้แน่นอน ทางเดินเข้าไปห้องน้ำดังกล่าวจะเป็นเพียงช่องเล็กๆ คั่นกลางระหว่างร้านค้ากับป้ายบิลบอร์ด เล็กขนาดที่คิดภาพไม่ออกเลยว่าคนอ้วนจะผ่านยังไง และเมื่อคุณเดินผ่านเข้าไปก็จะได้เห็นกับห้องเล็กๆ ขนาด 2×2 เมตรนั่นแหละคือบ้านของพวกเขา     ห้องน้ำสาธารณะที่แสนสะอาดจากความรับผิดชอบของสามีภรรยา Liao Xiaoming กับ Wang Xuanna แลกมากับรายได้รวมประมาณ 15,000 บาทพร้อมกับห้องพักที่เล็กเอามากๆ มีชั้นลอยไว้สำหรับนอนและการพักผ่อนหย่อนใจ ด้านล่างไว้สำหรับการกินหรือทำอาหารต่างๆ เป็นชีวิตที่แสนลำบากของครอบครัว โชคยังดีที่สามารถใช้ห้องน้ำคนพิการในการทำธุระส่วนตัวกันได้     เงินเดือนของพวกเขาไม่เพียงพอสำหรับเช่าห้องธรรมดาทั่วไปเพื่อเลี้ยงลูกเลยด้วยซ้ำ และสามีก็ยังบอกอีกว่าถ้าไม่ใช่เพราะการศึกษาของลูก พวกเขาจะกลับไปใช้ชีวิตที่สุขสบายที่บ้านเกิดก็ยังได้ รายได้ก็ดีกว่าที่พักอาศัยก็สบายกว่า แต่ Wang ผู้เป็นภรรยาผู้มองโลกในแง่ดีก็บอกว่า “ความสุขไม่ใช่เรื่องเงิน แต่คือครอบครัวที่แสนอบอุ่นเป็นห่วงซึ่งกันและกัน ลูกชายของฉันเองก็เป็นเด็กดี” สิ่งที่เธอต้องการเพียงอย่างเดียวคือให้ลูกจบการศึกษา มีการมีงานที่ดีทำ แค่นั้นเธอและสามีก็จะหมดห่วงกันได้    …

  • คู่รักเก็บ GoPro ได้ตอนไปฮันนีมูน และได้พลังโซเชียลช่วยให้สามารถหาเจ้าของเจอ

    คู่รักเก็บ GoPro ได้ตอนไปฮันนีมูน และได้พลังโซเชียลช่วยให้สามารถหาเจ้าของเจอ

    เวลาที่เราเจอของตกแล้วเก็บได้ หวังจะเอาไปคืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง ก็คงจะต้องเดินหากันให้วุ่น ไม่ก็เอาไปทิ้งไว้ที่ตำรวจหรือประชาสัมพันธ์ให้เขาช่วยตามหา แต่ทว่าสองสามีภรรยาคู่นี้กลับมีอีกวิธีหนึ่งมานำเสนอ และได้ผลจริง เมื่อคู่รักเดินทางไปฮันนีมูนกันในซิชิลี ประเทศอิตาลี เพื่อเก็บเกี่ยวความทรงจำความหวานต่างๆ เอาไว้ให้มากที่สุดจึงทำให้นอกจากที่จะไปกินไปช็อป หรือไปดูธรรมชาติทั่วไปโดยรอบแล้ว พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะปีนภูเขาไฟ Etna กันด้วย พวกเขายังคงตื่นเต้นกับการเดินทางปีนภูเขาลูกนี้ขึ้นไปเพราะว่าบรรยากาศที่ใหม่ ซะจนเหมือนกับว่าอยู่บนดวงจันทร์หรือดาวดวงอื่นนั่นเอง แต่ขณะที่กลับพวกเขาก็ได้เจอกับไอโฟนที่ตกอยู่และเมื่อเก็บขึ้นมา เขาก็เห็นว่ามีคนกำลังทำท่าทางหาของอยู่พอดี เธอจึงได้มือถือกลับไปอย่างง่ายดาย   คู่รักที่รักกันม๊ากกก   ทว่าเมื่อเดินไปอีกประมาณร้อยก้าวก็ได้เจอกับกล้อง GoPro ตกอยู่ถามคนรอบๆ และระหว่างทางกลับก็ไล่ถามไปเรื่อยๆ ก็ไม่สามารถพบเจ้าของได้ ด้วยความที่พวกเธอคิดว่าเจ้าของกล้องนี้ก็ควรจะได้รับความทรงจำดีๆ จากการมาเที่ยวครั้งนี้กลับไปด้วยเช่นเดียวกับพวกเธอ จึงได้พยายามกันอย่างไม่ย่อท้อ   พวกเขาในตอนที่ปีนภูเขาไฟ   สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ตัดสินใจโพสต์เรื่องราวทั้งหมด และรูปสุดท้ายในกล้องดังกล่าวลงในเว็บไซต์ BoredPanda ด้วยหวังว่ากลุ่มสังคมโลกออนไลน์จะสามารถช่วยให้เจอกับเจ้าของกล้องที่แท้จริงได้   ภาพสุดท้ายภายในกล้อง GoPro   ภาพก่อนสุดท้าย   จนในที่สุดก็ได้เจอกับเจ้าของตัวจริงแล้ววว   นั่นคือโพสต์ที่เจ้าของกล้องได้บอกว่า “นั่นคือฉันเอง ขอบคุณมากกก ฉันกำลังพักอยู่ในซิชิลีและก็มีบางคนพูดว่ารูปในโพสนี้หน้าเหมือนฉัน ฉันทำกล้องนั่นหายไปไม่กี่อาทิตย์ก่อน ในวันต่อจากนั้นที่ฉันทำหายก็ได้กลับไปหา แต่ไม่เจอ (ฉันปีนขึ้นลงถึง 2 รอบ)…

  • Netflix ออกสินค้าสำหรับสัมผัสใหม่แห่งการดูซีรีส์ กับ “กัญชา” หลากหลายสายพันธุ์

    Netflix ออกสินค้าสำหรับสัมผัสใหม่แห่งการดูซีรีส์ กับ “กัญชา” หลากหลายสายพันธุ์

    หากเราพูดถึงผู้ให้บริการซีรีส์และภาพยนตร์ออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์ เรียกง่ายๆ ว่าเว็บดูหนังออนไลน์ถูกกฎหมายแล้วละก็ หลายคนคงจะรู้จัก Netflix กันมาบ้างแล้ว นอกจากจะมีให้ดูกันอย่างจุใจแล้ว เขายังได้มีการสร้างสัมผัสใหม่แห่งการดูซีรีส์ให้กับคุณอีกด้วย เมื่อมีซีรีส์ใหม่มาลงชื่อว่า Disjointed ได้ดาราชื่อดังอย่าง Kathy Bates มาเป็นนักแสดงนำ ด้วยโครงเรื่องหลักที่มีความเกี่ยวข้องกับสมุนไพรที่ทุกคนรู้จัก จึงทำให้พวกเขานำมาเป็นสินค้าใหม่ก็คือ กัญชา นั่นเอง     ทางบริษัทได้บอกว่า “แต่ละสายพันธุ์ถูกเพาะปลูกอย่างเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างกันไปในซีรีส์แต่ละเรื่อง ตัวอย่างเช่น หากว่าเป็นโชว์ที่ไม่ได้มีสาระอะไรก็จะเน้นไปที่กัญชาพันธุ์ Indica แต่ถ้าเป็แนวตลกดราม่าก็จะใช้พันธุ์ Sativa เป็นหลัก เพื่อช่วยสำหรับฉากที่เปี่ยมไปด้วยพลังที่เราจะสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น”     สองชื่อที่ได้เห็นไปนั้นคือกลุ่มสายพันธุ์ใหญ่ที่พวกเขาก็ได้แบ่งออกมาแยกย่อยให้กับซีรีส์หรือหนังแต่ละเรื่อง อย่าง Orange is the New Black ที่จะใช้สายพันธุ์ Poussey Riot สำหรับมุขตลกหนักๆ ปนความมันส์ในเรื่อง     และก็ยังมีอีกมากมายที่เรียกได้ว่าจัดให้กับซีรีส์ดังไปหลายเรื่อง และแน่นอนว่าสำหรับซีรีส์ที่เป็นแรงบันดาลใช้ให้กับผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ก็ต้องมีความพิเศษที่มากกว่า โดยมีถึง 3 สายพันธุ์ในรูปด้านล่าง ตอบโจทย์ให้กับ Disjointed ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับกัญชาโดยเฉพาะ     น่าเสียดายที่การจำหน่ายกัญชาจากทาง…

  • ภาพความสนุกสนานในปาร์ตี้สระว่ายน้ำ ของเหล่า “นกฮัมมิ่งเบิร์ด” กว่า 30 ตัว

    ภาพความสนุกสนานในปาร์ตี้สระว่ายน้ำ ของเหล่า “นกฮัมมิ่งเบิร์ด” กว่า 30 ตัว

    พวกเราก็คงอยากมีปาร์ตี้สระว่ายน้ำให้ได้ไปสนุกกับเพื่อนๆ ที่นอกจากจะได้กระโดดโลดเต้นแล้ว ยังสามารถลงไปเล่นน้ำในสระสุดชิลล์กับบรรยากาศโดยรอบอย่างเพลิดเพลิน แต่รู้หรือไม่ว่าไม่ได้มีแค่มนุษย์หรอกนะที่ทำ เพราะนกมันก็ทำได้เหมือนกัน กับคลิปวิดีโอการของเจ้านกฮัมมิ่งเบิร์ดที่ลงไปเล่นน้ำกันมากมายราว 30 ตัวเลยทีเดียว แต่ละตัวก็จะมีท่าทางการเล่นน้ำที่แตกต่างกัน อย่างบางตัวก็จะเกาะอยู่นิ่งๆ พักผ่อนสบายๆ แต่บางตัวก็จะลงไปเล่นน้ำอย่างตื่นเต้นสนุกสนาน     ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะว่านกสายพันธุ์นี้จะค่อนข้างมีเขตแดนแต่ละตัวชัดเจน จนอาจไม่มีภาพแบบนี้ให้เห็นมาก่อนเลยก็ได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณสวนหลังร้านที่ชื่อว่า Wild Wings พวกเขาบอกว่า “คุณไม่เคยรู้หรอกว่าพวกมันจะกลั่นแกล้งกันอยู่เสมอในทุกๆ 5 นาทีเลยแหละ” น่าเสียดายที่ในคลิปวิดีโอมีระยะเวลาที่สั้นไปหน่อย จะเห็นว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นเราคงจะได้ลองดูศึกษาพฤติกรรมบุคลิกภาพของนกแต่ละตัว   คลิปวิดีโอปาร์ตี้สระว่ายน้ำของเจ้าฮัมมิ่งเบิร์ด   ร้านดังกล่าวก็ได้มีอ่างอาบน้ำพิเศษที่จะสามารถให้คุณได้มีปาร์ตี้สระว่ายน้ำของนกเองได้ที่สวนของคุณ หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปบอกพวกเขาได้ในเว็บไซต์ wildwingsla     ความสนุกสนานความน่ารักและอะไรอีกหลายๆ อย่างของสัตว์ต่างๆ ยังมีอีกมากที่เราเองก็ไม่อาจรู้ได้ จึงกลายเป็นความสนุกอย่างหนึ่งเมื่อเราได้พบกับความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นในตัวของพวกมัน   ที่มา: wildwingsla

  • ผู้คนพากันแบนร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพียงเพราะว่ามีกฎ “ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 เข้าร้าน”

    ผู้คนพากันแบนร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพียงเพราะว่ามีกฎ “ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 เข้าร้าน”

    เวลาที่คุณไปร้านอาหารหรือร้านกาแฟก็คงจะเคยเห็นป้ายที่บอกกฎเอาไว้ว่าร้านนี้ห้ามไม่ให้คุณทำอะไร หรือนำอะไรเข้าไปบ้าง แต่สำหรับร้านของ Bob Hiiginson วัย 61 ปีที่เปิดร้านกาแฟภายใต้ข้อห้ามที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เขาได้เปิดร้านที่มีชื่อว่า Chart Room เพิ่งเปิดมาราวๆ 1 เดือนในเมือง Brixham ประเทศอังกฤษ พร้อมกับกฎที่ว่า อนุญาตให้พาสุนัขเข้าร้านมาได้ แต่สำหรับเด็กอายุที่ต่ำกว่า 12 ปีแล้วจะไม่ให้เข้า ทำให้ผู้อยู่อาศัยในที่ไม่พึงพอใจและพากันแบนไม่เข้าร้านของเขา เพราะมองว่านี่ถือเป็นการแบ่งแยก สิ่งที่เขาทำนั้นได้บอกเหตุผลเอาไว้ว่า กลุ่มเป้าหมายหลักคือเพื่อคนที่มีอายุค่อนข้างสูง และพวกเขาส่วนใหญ่ต้องการความสงบ     เขาเสริมอีกว่า “ผมอยากให้คนที่เข้ามาได้พูดถึงวันเก่าๆ หรือการสนทนากันโดยที่ไม่มีเด็กมารบกวน อีกทั้งของตกแต่งภายในร้านมีราคาแพงและไม่ได้มีกระจกมากั้นไว้เหมือนพิพิธภัณฑ์ ในอดีตเคยมีเด็กมาพังของในร้านไปแล้ว แต่สำหรับสุนัขนั้นมันไม่ได้กระโดดไปมา มันอยู่กันโดยไม่ทำลายข้าวของและผมไม่เคยเจอสุนัขนิสัยไม่ดีมาก่อน” ชาวบ้านที่ไม่โอเคกับเรื่องนี้ Wendy Moore ได้ออกมาประท้วงและคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นการแบ่งแยกอย่างมากและชัดเจน ที่มองว่าเขามีสิทธิ์อะไรมาห้ามเด็กๆ ไม่ให้เข้าร้านของเขา Lee Knight ก็ได้มาเสริมอีกว่า “ผมมักจะไปในที่ที่เต็มไปด้วยความสุุข เด็กวิ่งเล่นกันไปมา มากกว่าที่จะไปร้านที่ดูมืด เงียบ ดูไม่น่าเข้า โดยที่ทุกคนนั่งบ่นพึมพำและจิบชากันไป แต่นั่นก็เป็นเพียงทางเลือกของผมนะ”     ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ก็มีอีกกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนกับความคิดนี้ของเขา ที่ออกมาบอกว่า…

  • 12 ภาพถ่ายจากมุมสูง แสดงให้เห็นความแตกต่างของการทำงานในอาชีพที่หลากหลาย

    12 ภาพถ่ายจากมุมสูง แสดงให้เห็นความแตกต่างของการทำงานในอาชีพที่หลากหลาย

    การทำงานในชีวิตประจำวันของเราเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถแยกแยะตัวเราเอง กับบุคคลอื่นที่ทำงานคนละอย่างกันได้ และเราก็คงจะเคยชินกับภาพการทำงานเดิมๆ แต่การทำงานของอาชีพอื่นเราเคยเห็นพื้นที่การทำงานของพวกเขากันชัดๆ หรือเปล่า Sanwal Dean ช่างภาพในโอไฮโอ ได้ทำการถ่ายภาพมุมสูงของพื้นที่การทำงานในหลากหลายอาชีพ เพื่อบอกถึงความสัมพันธ์ของการทำงานและหน้าที่ที่ต้องทำ เขามีความคิดที่ว่าการทำงานของแต่ละคนนั้นจะมีสิ่งที่เป็นสากลมีในตัวของทุกคนอยู่ เปรียบเหมือนกับภาพของคนขายเนื้อที่แม้จะอยู่ในประเทศและสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน แต่ท่าทางที่แสดงออกมาก็ยังคงเหมือนกัน ใช้มือแทบจะเหมือนกันหมด บอกได้ว่าเราไม่ได้แตกต่างกันเหมือนกับที่เราชอบคิดกันอยู่เสมอ   Kristen คนขายดอกไม้   เขาหลงใหลในพื้นที่ทำงานต่างๆ ที่มีสเน่ห์และตั้งใจว่าจะไปถ่ายรูปจากหลายๆ ประเทศในอนาคต เพราะปัจจุบันภาพที่ออกมานั้นล้วนแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น อย่างไรก็ตามความยากของการถ่ายภาพชุด Work นี้ก็คือการที่ต้องรีบตั้งกล้องและรีบถ่ายโดยที่ไม่สร้างปัญหาให้กับการทำงานของพวกเขา จึงออกมาเป็นภาพจากหลากหลายอาชีพให้พวกเราได้เห็นกันนี้   ตัวเขาเอง ช่างภาพและนักเขียน   Perry คนทำขนมปัง   Martha นักเปียโน   Nicholas ช่างเรียงพิมพ์   Ralph ช่างซ่อมรองเท้า   The Fish นักตีกลองไทโกะญี่ปุ่น   Greene คนขายเนื้อ   Stone ช่างเครื่องยนต์   Maggie นักเขียนและนักประวัติศาสตร์…

  • ตำรวจจับกุมคู่รัก “คาชุดแต่งงาน” จากคืนวิวาห์ กลายเป็นคืนวิวาท เมาหัวทิ่มซัดกันนัว…

    ตำรวจจับกุมคู่รัก “คาชุดแต่งงาน” จากคืนวิวาห์ กลายเป็นคืนวิวาท เมาหัวทิ่มซัดกันนัว…

    งานเลี้ยงภายในงานแต่ง เราก็คงจะคิดว่าได้ใส่ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวพร้อมแขกเหรื่อมากมาย ที่มาร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีให้กับทั้งคู่ มีพิธีตัดเค้กโน่นนี่นั่น แต่สิ่งที่พิเศษกว่านั้นคือเมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่นี้ได้รับการเซอร์ไพรส์ จากแขกที่ไม่คิดจะรับเชิญเลยเนี่ยสิ… เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมคู่บ่าวสาวภายในห้องจัดเลี้ยง Denizen Hall ณ ตัวเมืองเอ็ดมันตัน ประเทศแคนาดา เหตุเกิดจากค่ำคืนการฉลองวิวาห์กลายเป็นคืนแห่งการวิวาทแทน!?   .   พวกเธอได้ไปอยู่ตรงบาร์เพื่อดื่มเลี้ยงฉลองกับการแต่งงาน จากการบอกเล่าของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ได้บอกว่า “ผมเห็นว่ามีการต่อยตีกันที่บาร์ แต่สิ่งที่แปลกไปกว่าเดิมก็คือ หญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวกำลังอยู่ในวงนั้นด้วย ผมคิดว่านี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับการเลี้ยงฉลองงานแต่ง เหมือนพวกเขาจะอยู่ตรงนี้มาทั้งวัน บางคนดูเมามากแล้ว” ผู้จัดการบาร์ดังกล่าว Matthew Machado บอกว่าเขาเห็นประตูถูกพังออกมาพร้อมกับผู้คนที่กำลังตบตีกัน และออกมาซัดกันต่อข้างถนน เป็นภาพของเจ้าสาวที่กำลังเหวี่ยงแขนอย่างเมามัน และไม่สามารถบอกอะไรได้มาก เพราะเหตุการณ์นั้นชุลมุนวุ่นวายเต็มไปด้วยผู้คนมากมายในชุดราตรี…     แต่แล้วภายในพื้นที่ทะเลาะวิวาท ก็เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยืนล้อมเจ้าสาวเอาไว้ และเขาก็เห็นว่าเจ้าบ่าวก็กำลังพุ่งจะไปเอาเรื่องกับบาร์เทนเดอร์ อีกทั้งหนึ่งในเพื่อนของเจ้าบ่าวก็ยังจะต่อยกระจกอีก แต่ความตลกร้ายของเรื่องนี้อีกอย่างก็คือ พวกเขานั้นเพิ่งจะมาถึงที่งานฉลองคืนวิวาห์เพียงแค่ 15 นาที ก่อนที่เจ้าสาวจะถูกจับในคดีทำร้ายร่างกาย และเจ้าบ่าวก็โดนคดีทำลายข้าวของ แถมยังถูกปรับเงินหลักแสนอีกต่างหาก…   คลิปวิดีโอจับกุมเจ้าบ่าวและเจ้าสาว .   งานรื่นเริงที่รอคอยและตั้งใจจะเก็บเป็นความทรงจำก็ได้จบลงเพียงเท่านี้ กลายเป็นบทเรียนให้กับใครที่ชื่นชอบการดื่มเลี้ยงฉลองไปอีกนานแสนนานกันเลยทีเดียว… ที่มา: torontosun, dailymail

  • รถหุ่นยนต์ O-R3 ตำรวจสมองกลแห่งดูไบ ออกตรวจตามท้องถนน พร้อมประจำการในปีหน้า!!

    รถหุ่นยนต์ O-R3 ตำรวจสมองกลแห่งดูไบ ออกตรวจตามท้องถนน พร้อมประจำการในปีหน้า!!

    เทคโนโลยีนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดดจริงๆ หลายสิ่งหลายอย่างที่ก่อนหน้านี้ที่เคยคิดว่าจะเป็นไปไม่ได้ ก็เริ่มมีผุดออกมาได้เห็นกันในชีวิตจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบัน อย่างเช่นรถตำรวจที่ขับเคลื่อนด้วยสมองกลคันนี้ เมื่อนครดูไบ แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้นำเทคโนโลยีมาช่วยให้การทำงานของตำรวจ ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือเจ้า O-R3 หรือรถตำรวจที่สามารถไล่ตามคนร้ายได้ผ่านสมองกลของมันเอง!!     สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เป็นของบริษัท OTSAW Digital จากประเทศสิงคโปร์ และที่ดูไบจะกลายเป็นเมืองแรกของโลกที่จะใช้รถตำรวจสมองกลในตอนสิ้นปี หากใครได้ไปเที่ยวที่ดูไบในปีหน้า ก็คงจะมีโอกาสได้เห็นพวกมันออกปฏิบัติหน้าที่แน่ๆ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้มีไว้มาแทนที่คุณตำรวจแต่อย่างใด หากมีไว้เพื่อช่วยให้จัดการความเรียบร้อยภายในเมืองได้ดียิ่งขึ้น (งานตรวจตรายิบย่อยเล็กๆ ประจำวัน) ถึงแม้ว่าขนาดของมันจะเล็กเหมือนของเล่นเด็ก แต่มันมีฟังก์ชั่นมากมายที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการไล่ตามผู้ร้ายได้ อย่างเช่น โดรนที่จะบินออกมาถ่ายภาพของคนร้ายเอาไว้ แล้วส่งกลับไปสำนักงาน   คลิปวิดีโอโชว์ประสิทธิภาพการทำงานของ O-R3   ผู้บัญชาการกรมตำรวจแห่งดูไบได้ออกมาเสริมอีกว่า การที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างการใช้หุ่นยนต์ เพื่อที่ว่าจะทำให้เกิดความปลอดภัยในท้องถนนมากที่สุด และช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการลาดตระเวนอย่างหนักหน่วงของเจ้าหน้าที่ด้วย     เจ้ารถหุ่นยนต์ตัวนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนการที่จะใช้เทคโนโลยีสมองกลเข้ามาช่วยปฏิบัติหน้าที่ โดยคาดว่าในปี 2030 จะมีเหล่าสมองกลมาช่วยทำงานมากถึง 25% โดยไม่เฉพาะเจาะจงเป็นหุ่นยนต์เพียงอย่างเดียว… ประโยชน์ของความก้าวหน้าในสิ่งประดิษฐ์มากมาย ก็ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และจะยังคงพัฒนากันต่อไปเพื่อตอบโจทย์เราอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้จบ ที่มา: gulfnews, theverge

  • เรื่องเล่าตำนาน “เรือผีสิง” ลอยลำไปไกลในทะลได้ โดยที่ไม่มีใครอยู่บนนั้นนานถึง 38 ปี!!

    เรื่องเล่าตำนาน “เรือผีสิง” ลอยลำไปไกลในทะลได้ โดยที่ไม่มีใครอยู่บนนั้นนานถึง 38 ปี!!

    หากว่าได้ดูหนังโจรสลัดชื่อดังอย่าง Pirates of The Caribbean ก็คงจะไดเห็นเรือผีสิงที่สร้างความหลอกหลอนให้กับผู้ที่ต้องประสบพบเจอ แต่เรือแบบนั้นกลับมีอยู่จริงในท้องทะเล เรือ SS Baychimo หรือในชื่อเดิมว่า Ångermanelfven เป็นเรือขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1914 มีไว้เพื่อการส่งสินค้าข้ามทะเลระหว่างเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี กับประเทศสวีเดน โดยขนาดของเรือมีความยาว 70 เมตร หนักถึง 1,322 ตัน และใช้ถ่านหินในการขับเคลื่อเครื่องยนต์ไอน้ำที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีต้องชดใช้หลังสงคราม จึงส่งมอบเรือให้กับบริษัทของอังกฤษในปี 1921 ไปอยู่บ้านใหม่ที่สกอตแลนด์ และได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น Baychimo ไว้สำหรับการล่องเรือรวบรวมขนสัตว์ ในช่วงฤดูร้อนก็จะกลับมาและใช้ขนส่งแลกเปลี่ยน ยาสูบ น้ำตาล ชา และอาวุธตามชายฝั่งของแคนาดา     ในปี 1924 เรือลำนี้ก็ได้แล่นไปรอบโลกยังคงทำหน้าที่ขนส่งพัสดุเหมือนเดิม จนถึงปี 1931 เมื่อลูกเรือพบว่าได้ติดอยู่กับทะเลน้ำแข็ง ทำให้ทุกคนต้องเดินทางปีนผ่านแนวน้ำแข็งไปขึ้นฝั่งที่ห่างไปไม่ถึงกิโลในอลาสก้า รอให้น้ำแข็งละลายและจึงกลับมานำเรือแล่นสู่จุดหมายต่อไป ในสัปดาห์ต่อมา เรือก็ได้ไปติดกลางหมู่น้ำแข็งอีกครั้ง พวกเขาจึงส่งข้อความขอให้มีการส่งเครื่องบินมารับพวกเขาออกไป แต่จะทิ้งลูกเรือบางคนไว้ที่ชายหาดใกล้ๆ สร้างกระท่อมคอยสอดส่องดูแลเรือที่ห่างออกไปไม่มาก ตั้งใจว่าจะแล่นเรือกลับในช่วงหน้าร้อนที่กำลังมา…

  • เจ้ามนุษย์ชั้นเลือกนาย… น้องเหมียวเดินวนไร่ข้าวโพด เจอคนที่ถูกใจปุ๊บ ก็สะกดจิตเข้ายึดบ้านซะ!!

    เจ้ามนุษย์ชั้นเลือกนาย… น้องเหมียวเดินวนไร่ข้าวโพด เจอคนที่ถูกใจปุ๊บ ก็สะกดจิตเข้ายึดบ้านซะ!!

    หลายคนคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าเจ้าเหมียวจะเลือกเองว่าใครบ้างที่สามารถเล่นหรือกลายเป็นคู่ซี้กับมันได้ เหตุการณ์นี้จะเป็นสิ่งตอกย้ำให้คุณเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น เมื่อมีสมาชิกจากเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า NebulonsStyle บอกเล่าเรื่องราวการเจอกันครั้งแรกของเขาและลูกแมวจรจัดที่เดินวนอยู่รอบๆ ไร่ข้าวโพด   .   ก่อนหน้านี้เขาเห็นแม่แมวอยู่ในบริเวณเดียวกัน จึงรู้ได้ทันทีว่าเจ้าแมวน้อยตัวนี้จะต้องเป็นหนึ่งในลูกของมัน แม้ว่าจะหลงกับแม่ แต่เจ้าลูกเหมียวก็ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวอะไรเมื่อเห็นเขา เจ้าแมวสามสีตัวนี้ก็ได้เดินเข้าหาเขาพร้อมกับเสียงร้องเพื่อเป็นการทักทายและบอกว่า “มาเป็นเพื่อนกันเถอะ” ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวก็ได้อุ้มมันขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนซะแล้ว อีกทั้งยังกระแซะเขาเล่นด้วยความน่ารัก   .   เนื่องจากในตอนนั้นมันเป็นลูกแมวเพียงตัวเดียวในบริเวณ เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ปล่อยมันไว้และพาไปหาสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายมันเสียก่อน “เรารู้ว่าเจ้าเหมียวที่หลงมาจากแม่มัน ไม่มีใครที่จะมีสิทธิ์ในตัวของมัน แต่ว่าผมต้องการทำให้แน่ใจเสียก่อน จนกระทั่งตอนนี้มันก็เป็นเพื่อนซี้ของผมไปแล้ว” เขากล่าว   และตอนนี้มันก็ได้โตขึ้นมากแล้ว   ชีวิตในบ้านกับครอบครัวที่มันเลือกด้วยตัวเอง   แล้วเพื่อนๆ ละ ตอนที่เจอกับสัตว์ที่เลี้ยงกันในตอนแรกเจอกันได้อย่างไรบ้างเอ่ย เอามาบอกเล่ากันได้ด้านล่างเลยยย ที่มา: lovemeow

  • โรงน้ำชากับเส้นทางสุด “หฤโหด” บนยอดเขาหัวซาน ที่คุณต้องลงแรงขึ้นไปด้วยตัวเอง

    โรงน้ำชากับเส้นทางสุด “หฤโหด” บนยอดเขาหัวซาน ที่คุณต้องลงแรงขึ้นไปด้วยตัวเอง

    หลายคนเวลาปีนเขาหรือขัยรถขึ้นดอยก็มักจะแวะจิบชากาแฟ สูดบรรยากาศอันแสนสดชื่นแบบสบายๆ แต่ถ้าหากว่ากลับกันบ้างเมื่อคุณต้องลงทุนลงแรงปีนขึ้นเขาไปเพื่อการกินชาเพียงถ้วยเดียว เพราะว่าร้านน้ำชาที่ประเทศจีนนั้นมีความไม่ธรรมดา ตรงที่ดันไปตั้งร้านอยู่บนยอดเขาอันสูงชัน โดยใช้พื้นที่ของวัดลัทธิเต๋าในสมัยก่อน อันห้อมล้อมไปด้วยหมู่มวลดอกไม้     หากว่าคุณต้องการจะไปจิบชาที่โรงน้ำชาแห่งยอดเขาหัวซาน มันจะไม่เป็นเรื่องง่ายเหมือนที่เราเจอกันทั่วไป อย่างที่บอกว่าที่ตั้งไปอยู่ซะสูงขนาดนั้น คุณก็ต้องออกแรงปีนขึ้นไปด้วยความยากลำบาก อย่าลืมว่ามีความเสี่ยงว่าอาจตกลงไปกลางทางก็ได้อีกนะ     ในตอนแรกคุณก็จะได้ชมบรรยากาศโดยรอบอยู่ในกระเช้าลอยฟ้าที่จะพาคุณไปปล่อยเอาไว้ หลังจากนั้นที่เหลือคุณก็ต้องหาทางไปต่อกันเอง แต่เขาก็ยังมีอุปกรณ์ช่วยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโซ่เหล็กเส้นไม่ใหญ่มากบวกกับไม้แผ่นเล็กๆ แถมรูเอาไว้สำหรับให้เท้าเหยียบ     ถ้ากลัวความสูงก็คงไม่ได้ลิ้มลองรสน้ำชาแล้วล่ะ…   และถ้าโชคยังเข้าข้างคุณอยู่ในที่สุดคุณก็จะได้มาเดินขึ้นบันไดซักที แต่หากคิดว่ามันชิลล์ละก็ บอกเลยว่าไม่เพราะบันไดที่ว่านี้มีความลาดชันมากที่สุดในโลก แต่ไม่ต้องกลัวเพราะยังมีราวจับไว้ช่วยพยุงตัวอยู่ แต่ก็ยังหวาดเสียวอยู่ดี…   ราวจับหรือเชือกฟาง ซะเล็กเชียว   สุดทางก็จะได้พบกับร้านน้ำชาแล้ว จงดื่มด่ำความสำเร็จไปกับชาสักถ้วยอย่างเต็มที่ เพราะว่าเมื่อคุณดื่มเสร็จแล้วก็ต้องรีบเดินลงกันซะหน่อย ไม่งั้นมีหวังฟ้าจะมืดเอาซะก่อนแล้วมันจะลำบาก หากใครอยากที่จะลดน้ำหนัก ออกกำลังกายได้แบบครบวงจรแล้วละก็ ขอแนะนำให้ได้ไปลองดื่มชาร้านนี้กันได้ที่เมืองหัวยิน ประเทศจีนเลย แต่อย่าลืมไปกันแต่เช้าด้วยนะเดี๋ยวไม่มีเวลาเพราะกว่าจะไปถึงร้านอาจปิดไปซะก่อน ที่มา: ranker

  • รวม 18 ข้อความบนเสื้อผ้า ที่เอ่อ…นั่นแหละ พวกคุณรู้กันใช่มั้ยว่า มันหมายถึงอะไรบ้าง?

    รวม 18 ข้อความบนเสื้อผ้า ที่เอ่อ…นั่นแหละ พวกคุณรู้กันใช่มั้ยว่า มันหมายถึงอะไรบ้าง?

    เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเรานอกจากจะมีลวดลายกันแล้ว สมัยนี้ก็ยังนิยมเป็นประโยคคำพูด คำคมต่างๆ เมื่อนำมาใส่แล้วก็จะเหมือนการแสดงจุดยืนดูดีไปอีกแบบ เหมือนกับที่เราจะได้เห็นในภาพเหล่านี้ เมื่อได้มีอินสตาแกรมที่ชื่อว่า shanghaiobserved ตั้งใจรวมภาพถ่ายประสบการณ์ตลกๆ น่ารักๆ ของการใช้ชีวิตอยู่ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และเป็นเรื่องราวที่ทุกคนสามารถเข้าใจและเข้าถึงมันกันได้ และนี่ก็เป็นคอลเลคชั่นหนึ่งของเขา ในเรื่องของเครื่องแต่งกายต่างๆ ที่มาพร้อมกับข้อความที่ชวนให้คุณคิดว่า นี่คนที่ใส่อยู่เขาจะได้อ่านและเข้าใจกับความหมายของมันกันบ้างมั้ยนะ?   การตกแต่งเสื้อที่น่ารักกับข้อความเหมือนไปคนละทางกันเลยนะ   อย่าใส่หมวกใบนี้บ่อยนะครับ เกรงว่าจะไม่ถึงวัยชรา   ชีวิตมันก็คงจะแย่จริงๆ น่ะแหละ   ถ้าเกิดว่าป่าวประกาศขนาดนี้ จะมีการเข้าไปถามว่า ‘เท่าไหร่’   เราควรจะทำดีกับใครต้องแยกให้ออกนะ   นั่นน่ะสิ เขาเป็นใครกัน?   พื้นหลังซะอย่างกับ VISA   เขาจะต้องกลายเป็นคนที่ใช่ของใครสักคนแน่นอน   ต้องรอ 20 ก่อนนะหนู…   เป็นเสื้อคู่ที่ดูดีมีระดับ Just Do It   คุณยายเป็นงี้แล้วคุณตาจะไม่หน้ามืดหรอ   A B C D E…

  • สุดงง!! ภาพวาดปี 1937 เผยให้เห็นชนพื้นเมืองกำลังถือ “สมาร์ทโฟน” หรือเป็นเพียง “กระจกเงา”

    สุดงง!! ภาพวาดปี 1937 เผยให้เห็นชนพื้นเมืองกำลังถือ “สมาร์ทโฟน” หรือเป็นเพียง “กระจกเงา”

    สิ่งประดิษฐ์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนาจากรุ่นสู่รุ่น มีความก้าวหน้าสร้างความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้นให้กับเรามากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับเครื่องมือสื่อสารอย่างโทรศัพท์มือถือ ที่ถูกออกแบบพัฒนาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเรามาโดยตลอด แต่ความเป็นจริงสมาร์ทโฟนที่เราใช้กันในปัจจุบันอาจมีใช้กันมานานมากแล้วก็ได้ เมื่อมีภาพวาดของจิตรกรชาวอิตาลีที่ได้ถูกวาดเอาไว้ในปี 1937 แสดงให้เห็นถึงการค้าขายระหว่างผู้อยู่ใต้อาณานิคมของอเมริกาที่แต่งตัวกันอย่างมีสีสัน กับชนพื้นเมืองในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยปิดส่วนต่างๆ ด้วยผ้าหนังสัตว์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาพอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 17 สื่อถึง William Pynchon ผู้ที่เกิดในปี 1590 ที่รัฐแมสซาชูเซตต์ และประสบความสำเร็จจากการค้าขายขนสัตว์     นั่นหมายความว่าจิตรกร Umberto Romano ได้สื่อภาพนี้ไปยังเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 400 ปี ทว่าสิ่งที่ทำเอาหลายคนต้องตกใจกับภาพนี้ก็คือ การที่มีชายชนพื้นเมืองนั่งจ้องสิ่งของในมือที่มีลักษณะเหมือนกับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เกิดคำถามที่ว่าทำไมสิ่งประดิษฐ์ของศตวรรษที่ 21 ถึงไปอยู่ในภาพวาดที่ถูกวาดขึ้นมาก่อนหน้าที่จะมีการคิดค้นนานเกือบ 70 ปีได้ ทำให้มีคนออกมาพูดเกี่ยวกับสิ่งนี้เอาไว้มากมาย Dr Margaret Bruchac ได้ออกมาพูดว่า “มันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความคล้ายคลึงอันน่าประหลาด กับท่าทางการถือและการเพ่งความสนใจจนเหมือนกับการใช้สมาร์ทโฟน และคิดว่าสิ่งนั้นน่าจะเป็นใบมีดเหล็กมากกว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพแบบจินตนาการนิยม จึงทำให้ยากที่จะคาดเดาได้”     มีหนึ่งความเป็นไปได้ว่า สิ่งที่ชนพื้นเมืองกำลังถืออยู่เป็น “กระจกเงา” ที่มีการนิยมใช้อย่างแพร่หลายในช่วงยุคนั้นพอดี และความเป็นไปได้อีกอย่างก็คืออาจเป็นตำราศาสนาที่เกิดจากการเผยแพร่ หรืออาจเป็นการเดินทางข้ามเวลาที่ทำให้สมาร์ทโฟนไปอยู่ในตอนนั้น (แนวคิดสุดท้ายออกจะเพ้อเจ้อเกินไป) ความคลุมเครือของภาพที่ไม่อาจรู้ได้ว่ามาจากความตั้งใจของตัวจิตรกรหรือเปล่านั้น อาจต้องการแสดงถึงความทันสมัยให้กับในยุคที่ผู้คนยังคงล้าหลัง…

  • ร้านค้าที่เต็มไปด้วยผักมากมาย นั่นก็มะเขือเทศ นี่แครอท โน่นต้นหอม นั่นแมว เฮ้ยแมว!!

    ร้านค้าที่เต็มไปด้วยผักมากมาย นั่นก็มะเขือเทศ นี่แครอท โน่นต้นหอม นั่นแมว เฮ้ยแมว!!

    ร้านขายผักบ้านเราก็คงจะเต็มไปด้วยผักผลไม้พร้อมกับการโฆษณาของแม้ค้าทั้งหลาย แต่ถ้าหากว่าเป็นประเทศญี่ปุ่นกันบ้างละ จะมีความเหมือนหรือว่าแตกต่างกับเรายังไงบ้างนะ… เราลองมาดูแผงร้านขายผักในเมืองอิชิกะวะ จังหวัดชิบะ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับประตูทางออกฝั่งเหนือของสถานีรถไฟ Honhachiman กันเถอะ ก็คงจะไม่มีอะไรแปลกปลอมไปมากกว่านี้หรอกม๊างงงง…   นี่ก็คือต้นหอม   ส่วนนี่คือมันฝรั่ง   ส่วนนี่แมว…   อันนี้คือหัวหอม   นี่หัวไชเท้า   ส่วนนี่ก็แมว.. อ้าวเฮ้ย!! นี่มันแมวนี่หว่า   ใช่แล้วมันก็คือเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Toro กำลังนอนอยู่ในตะกร้าขายผักผลไม้ของร้านขายผัก Miyagi   หัวหอมราคา 45 บาท มันฝรั่งถุงละ 60 บาท แล้วเจ้าแมวตัวนี้นี่ราคาเท่าไหร่กัน   ความน่ารักน่าเอ็นดูของมันทำให้เหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปมาหรือลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยภายในร้านก็จะชอบเข้ามาเล่นด้วย และทางเจ้าของร้านก็คิดว่า ถ้ามันออกไปเล่นด้านหน้าร้านก็จะส่งผลดีกับทางร้านมากๆ เพราะมันก็เป็นแมวที่นิสัยดีตัวหนึ่งเลย     ท่านอนแบบชิลล์ๆ ก็ยังจะน่ารัก   แหล่งพักพิงที่ดีที่สุดก็คือ ตะกร้าหรือกล่องลังทั้งหลาย .   หากว่าใครชื่นชอบความน่ารักของมันแล้วละก็ จงบินไปเล่นกับมันได้ที่ประเทศญี่ปุ่นเลยจ้าาา ที่มา: buzzfeed

  • ความฮาขั้นสุดของแมวและหมา ลองมาดูซิว่า… คุณจะกลั้นหัวเราะกับภาพเหล่านี้ได้นานแค่ไหน!!

    ความฮาขั้นสุดของแมวและหมา ลองมาดูซิว่า… คุณจะกลั้นหัวเราะกับภาพเหล่านี้ได้นานแค่ไหน!!

    เจ้าเหมียวและเจ้าตูบของเรามักจะมีความตลกอยู่ในตัวของพวกมันเองกันทั้งนั้น ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับเราได้มากมายเสมอ คุณอาจเคยเห็นคลิปตลกที่มาท้าทายให้คุณกลั้นยิ้มหรือหัวเราะให้ได้ ภาพเหล่านี้เองก็จะชวนให้คุณได้มาลองกลั้นขำกันบ้าง เอาเป็นว่าอย่ามัวแต่ลีลา ไปชมความน่ารักบวกกับกวามฮาของพวกมันกันได้เลย!!   ดื่มน้ำอย่างไรให้มันเข้าตา   ถ้าเล่นซ่อนหาก็คงจะเจอนายเป็นตัวแรก   เลือกไม่ถูกว่าจะนั่งหรือจะนอนดี   วันนี้คงจะเหนื่อยมามากแล้ว อยากหลับให้สบายกันซักหน่อย   ผมก็อยากจะมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง   เอาหมอนมั้ย เดี๋ยวปวดคอนะ   มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับการหลับนอนของผม   ปลุกความเป็นแมวในตัวคุณ   ถ้าคุณหามันไม่เจอ มันจะออกตามหาคุณเอง   ไม่รอแล้วโว้ยยย   พ่อครับอย่าขังผมไว้   ชอบสีเหลืองมากกว่าสินะ   นี่ก็สนิทกันเกิ๊นนน   ร้อนหรอไอ้หนุ่ม   ลืมคิดเรื่องขนาดตัวกันไปหรือเปล่า   หิวแล้วโว้ยยย   พ่อครับผมหาบอลไม่เจอ ก็เลยยกมาทั้งแผงเลย   เจ้าหมาไร้กระดูก   ถ้ามันนิ่มมากก็ไปนอนเองซิเจ้ามนุษย์   ความน่ารักของพวกมันนี่ไร้ขีดจำกัดจริงๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไรกันอยู่ถึงได้ออกมาเป็นภาพเหล่านี้กันได้ หวังว่าทุกคนจะชอบและสนุกไปพร้อมๆ กันนะ ยังไงก็คอมเม้นท์บอกกันได้เลยจ้าาา ที่มา: brightside

  • วัยรุ่นท้องแก่ ถูกศูนย์อนามัยปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ ปล่อยให้เธอคลอดเพียงลำพังอยู่ข้างถนน…

    วัยรุ่นท้องแก่ ถูกศูนย์อนามัยปฏิเสธให้ความช่วยเหลือ ปล่อยให้เธอคลอดเพียงลำพังอยู่ข้างถนน…

    ในบางครั้งบางสถานการณ์เราก็ต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง หรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถทำในสิ่งที่คนทั่วๆ ไปไม่สามารถทำกันได้ง่ายๆ อย่างเช่นการทำคลอดที่มันเป็นเรื่องที่ยากเอามากๆ หากต้องคลอดลูกออกมาด้วยตัวเอง แต่เพราะว่าเด็กสาววัย 17 ปีท้องแก่ ถูกทางศูนย์อนามัยท้องถิ่นปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ นการให้กำเนิดบุตรของเธอ จึงกลายเป็นภาพที่ดูแล้วหดหู่ และน่าสลดเป็นอย่างมากในรัฐฌารขัณฑ์ ประเทศอินเดีย หญิงสาวรายนี้ถูกแฟนหนุ่มทอดทิ้งหลังจากที่รู้ว่าเธอตั้งท้อง และถูกทางครอบครัวไล่ออกจากบ้าน เพราะรู้สึกอับอายกับเรื่องที่เธอท้อง จากคำบอกเล่าของคนในละแวกนั้น เธอได้ใช้ชีวิตอยู่ตามท้องถนนมาเป็นเวลานานถึง 4 เดือนแล้ว     จนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2017 เวลาประมาณ 1 ทุ่มเธอได้ไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์อนามัยของโรงพยาบาล Chandil แต่เจ้าหน้าที่ก็ปฏิเสธให้การช่วยเหลือ เพราะว่าเธอไม่มีผู้ปกครองมาคอยกำกับ จากนั้นเมื่อตอนตี 5 เช้าตรู่ของอีกวันหนึ่งเธอก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวที่ข้างถนน ห่างจากจุดที่เธอไปขอให้ช่วยมาเพียง 30 เมตรเท่านั้น คนที่ผ่านไปมาก็สามารถสังเกตได้จากเลือดที่ชุ่มไปหมด และเด็กเล็กที่คลอดมาโดยยังไม่ได้ตัดสายสะดือ     คลิปวิดีโอของเรื่องที่เกิดขึ้นกับสาวน้อยท้องแก่คนนี้   Om Prakash Sharma ชาวบ้านละแวกนั้นได้นำสิ่งกีดขวางมาวางไว้บนถนน เพื่อไม่ให้รถขับเข้ามาชนเธอที่นอนกองอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่จะวิ่งไปขอความช่วยเหลือในที่ที่เธอไปมาแต่ก็ต้องถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลเดียวกัน จนกระทั่งนายแพทย์ Lakhindra Hansda ที่ทำงานอยู่ที่ศูนย์ดังกล่าวได้ออกมาตัดสายสะดือให้ ก่อนที่ Om…

  • ชาวเมืองรู้สึกผวา หลังพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่ม พัดพาจระเข้ออกมาป้วนเปี้ยนเต็มเมือง…

    ชาวเมืองรู้สึกผวา หลังพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ถล่ม พัดพาจระเข้ออกมาป้วนเปี้ยนเต็มเมือง…

    ภัยพิบัติตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นมักจะมาคู่กับความรุนแรงก่อให้เกิดความสูญเสียในหลายๆ อย่าง เห็นได้ชัดสุดก็คือเหล่าต้นไม้ ตึกรามบ้านช่องที่ได้รับผลกระทบ แต่เฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ ที่เกิดขึ้นในชายฝั่งรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา กลับมีอะไรที่เพิ่มขึ้นมามากกว่าการทำลายล้างเนี่ยสิ พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์มีความรุนแรงมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เคลื่อนตัวเข้าโจมตีทำความเสียหายให้กับพื้นที่โดยรอบมากมาย     ภาพความรุนแรงของเฮอร์ริเคน Harvey ที่ทำซะหลังคาปลิว   และจากเหตุการณ์เคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งก็ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนักด้วย แต่สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนหวาดผวากันเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากพายุสงบลง เพราะเหล่ากองทัพจระเข้ได้ออกมาเดินเล่นป้วนเปี้ยนอยู่ตามท้องถนน หรือไม่ก็ซ่อนตัวกันอยู่ใต้รถบ้าง บางตัวก็อัธยาศัยดีแวะไปทักทายตามหน้าบ้านของผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้นกันเลยทีเดียว     ใครเจอแบบนี้เข้าไปในตอนแรกก็คงจะตกใจกันเป็นธรรมดา ทว่าพวกมันกลับไม่ได้น่ากลัวหรือเป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะพวกมันเพียงแค่หนีขึ้นที่สูงหลบน้ำท่วมเท่านั้นเอง ตัวแทนจากสำนักงานนายอำเภอมณฑล Fort Bend ได้ออกมาพูดว่า “คาดว่านี่เป็นการพลัดถิ่น เพื่อมองหาพื้นที่สูงเพียงเท่านั้น ก็ปล่อยให้มันอยู่ไปก่อนจนกกว่าน้ำจะลง”     ทีมงานอนุรักษ์จระเข้ในเท็กซัสก็ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กไว้ว่า “เป็นเรื่องที่รู้กันว่าพวกมันจะหาที่อยู่ในตอนน้ำท่วม แม้ว่าจะเป็นไปได้ยากกับที่มันมาอยู่ตามถนน ตามชานบ้าน หรือใต้รถของคุณ แต่มันก็ไม่ขึ้นมาเพื่อมองหาอาหารหรือมีอาการก้าวร้าว หากคุณปล่อยให้มันไดัพักและกลับสู่ภูมิลำเนาหลังจากที่น้ำลดแล้ว เราควรอยู่ห่างจากพวกมันประมาณซัก 10 เมตร และอย่าไปแหย่ทำให้มันตกใจกลัว หรือการจะพยายามย้ายที่มันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ”   .   ความแตกตื่นตกใจกับสัตว์ที่เรามองว่าพวกมันดูโหดร้ายก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากว่ามันไม่ได้ทำร้ายหรือเบียดเบียนเรามากจนเกินไป ก็ถือซะว่าเป็นการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไปเถอะนะครับ…

  • เผยภาพ “สุนัขจิ้งจอกตัวอ้วนกลม” ชีวิตที่มีค่าเพียงแค่ขน จากฟาร์มขนสัตว์ในฟินแลนด์

    เผยภาพ “สุนัขจิ้งจอกตัวอ้วนกลม” ชีวิตที่มีค่าเพียงแค่ขน จากฟาร์มขนสัตว์ในฟินแลนด์

    การเจริญเติบโตของมนุษย์ในเรื่องของร่างกายและรูปลักษณ์ภายนอกส่วนหนึ่งมาจากอาหารการกิน ที่ได้รับมาจากคนที่คอยเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เกิด ส่งต่อมาเป็นความปกติของเราในปัจจุบัน และเหล่าสัตว์เองก็เช่นกัน แต่เมื่อมันถูกกำหนดให้เป็นในสิ่งที่เหนือกว่าคำว่าธรรมชาติ แน่นอนว่าผลกระทบที่ตามมา จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของมันไปตลอดกาล… อย่างเช่นสุนัขจิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงดูในฟาร์มขนสัตว์ประเทศฟินแลนด์ ที่มีภาพเผยให้เห็นความอ้วนกับเนื้อหนังที่ติดกันเป็นชั้นๆ ทั่วร่างกาย เป็นหนักถึงขนาดที่ว่าส่วนของไขมัน ได้ไปปิดตาของมันเลยทีเดียว     คลิปวิดีโอการใช้ชีวิตอยู่ในกรงของจิ้งจอกที่ถูกเลี้ยงดูผิดปกติ   กรมคุ้มครองสัตว์ได้ออกมาบอกอีกว่าน้ำหนักตัวของพวกมันในฟาร์มจะหนักกว่าจิ้งจอกทั่วไปถึง 5 เท่า เมื่อจิ้งจอกป่าตัวเมียจะหนัก 3.5 กิโลกรัม แต่สำหรับสุนัขจิ้งจอกที่เห็นนั้น มีน้ำหนักมากกว่า 19 กิโลกรัม จากการตรวจสอบพบว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้น เป็นผลมาจากการเจริญเติบโตเกินขีดจำกัดของสายพันธุ์ พวกมันจะได้รับอาหารที่มีไขมันสูงเพื่อให้มีขนาดตัวใหญ่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นับว่าเป็นการทำผิดกฎหมายภายในประเทศฟินแลนด์ ในเรื่องของการเลี้ยงปศุสัตว์อย่างทรมาน   .   Claire Bass กรรมการบริหารจากองค์กรต่อต้านการใช้ขนสัตว์ได้ออกมากล่าวว่า “ฟาร์มขนสัตว์ไม่สามารถทำสิ่งผิดจรรยาบรรณได้ นั่นคือเรื่องที่ผิดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้สัตว์ที่ดูสวยงามต้องมาทนทุกข์ทรมานในการเคลื่อนที่อย่างยากลำบาก รวมถึงการมองเห็น” เธอเสริมว่า “สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้สนใจเพียงแค่ผลประโยชน์โดยมองข้ามการใส่ใจดูแลพวกมัน และจะเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากขนของสัตว์เหล่านี้”   .   จากสถิติประเทศอังกฤษนำเข้าขนสัตว์จากฟินแลนด์เป็นมูลค่ากว่า 1 ร้อยล้านบาทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากรัฐบาลสั่งห้ามไม่ให้มีฟาร์มขนสัตว์ภายในประเทศเมื่อปี 2000 จากการทำผิดจรรยาบรรณ ทำให้ต้องใช้ขนสัตว์จากประเทศอื่นมากมาย…

  • นี่คือเหตุผลและแนวทางว่าทำไม “คนโรคจิต” ถึงประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆ

    นี่คือเหตุผลและแนวทางว่าทำไม “คนโรคจิต” ถึงประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆ

    คำว่าโรคจิตคงเป็นคำที่เกือบทุกคนเข้าใจตรงกัน กับพฤติกรรมที่ดูแล้วจะต่อต้านกับสิ่งที่สังคมเป็นอยู่ ซึ่งไม่มีใครชอบเรื่องแบบนั้นซักเท่าไหร่ แต่มันมีความจริงที่น่าเหลือเชื่อจากสิ่งที่เป็นนั้นอยู่ ในประชากรทั้งหมดบนโลกของเรานั้นจะมี 1 เปอร์เซ็นต์ที่มีแนวโน้มจะมีอาการดังกล่าว เกิดจากการพัฒนาที่ผิดปกติของสมอง แต่เรื่องที่น่าตกใจจริงกลับไม่ใช่เรื่องนี้ มันคือเรื่องที่ว่าคนเหล่านั้นมีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็คือการมีชื่อเสียง ทำเงินได้มากมาย หรือได้อยู่ในตำแหน่งสูงๆ ของบริษัท     สิ่งที่พอบอกเราได้ว่านั่นอาจหมายถึงการสะท้อนให้เห็นสถานะของมนุษย์ ไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญอะไร แต่เรามาลองทำความเข้าใจกันดีกว่าว่าทำไมพวกเขาถึงประสบความสำเร็จ และนำมาพัฒนาตัวเราเองกันเถอะ อย่างแรกขอให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าคนโรคจิตนั้นหมายถึงคนที่บกพร่องในการทำความเข้าใจกับบางสิ่งบางอย่าง ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่าคนที่เป็นโรคจิตจะต้องเป็นฆาตกรต่อเนื่อง หรือคนบ้าเหมือนที่เราเห็นกันในหนัง     อาการโดยสรุปที่สามารถเข้าใจได้ง่ายคือ ไม่มีความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำ ขาดความเห็นใจผู้อื่น มีแนวโน้มชอบที่จะชักใยและใช้ประโยชน์จากคนรอบข้าง มีความมั่นใจและมั่นหน้าที่สูง รักตัวเองมองว่าตัวเองมีคุณค่า ขาดความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเอง จึงอาจมีทักษะในการเลียนแบบความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อื่นที่สูงมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือมีแนวโน้มที่จะเป็นคนหุนหันพลันแล่นและมองว่ากฎเกณฑ์ บรรทัดฐานของสังคมเป็นเรื่องที่ไร้สาระ เมื่อเราพอเข้าใจอาการของโรคดังกล่าวแบบคร่าวๆ แล้ว ก็มาดูเหตุผลที่พวกเขามักจะประสบความสำเร็จกันเลย   ความมั่นใจคือทุกสิ่ง   คนกลุ่มนี้จะมีความมั่นใจที่สูงมาก ด้วยสิ่งนั้นจะทำให้ผู้คนรู้สึกไว้ใจและเชื่อใจพวกเขาได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถพูดจูงใจผู้อื่นในการเจรจาต่อรองได้ดี แน่นอนว่ามันจะทำให้พวกเขาดูฉลาดและมีความสามารถมากกว่าผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาหรือผู้อยู่เบื้องล่าง การพัฒนาเรื่องนี้นั้นไม่ยาก เราเพียงแค่แสดงความมั่นใจออกมาเวลาที่อยู่ข้างนอก ก็จะสามารถสร้างความเคารพจากเพื่อนร่วมงานได้เป็นอย่างดี และหากกลัวว่าจะดูมั่นใจในตัวเองมากเกินไปก็ไม่ต้องกังวล เพราะความมั่นใจยังคงแตกต่างกับความเย่อหยิ่งอย่างเห็นได้ชัด   รู้วิธีการเข้าหาผู้อื่น   คนประเภทนี้จะมีทักษะในการชักใยผู้อื่น โดยการแสร้งทำเป็นเข้าใจและเห็นอกเห็นใจ…

  • ตกใจ!! เมื่อ “วาฬสีเทา” หลงฝูงมาว่ายน้ำเล่นกับมนุษย์ที่ชายหาดลากูน่าแบบชิลล์ๆ

    ตกใจ!! เมื่อ “วาฬสีเทา” หลงฝูงมาว่ายน้ำเล่นกับมนุษย์ที่ชายหาดลากูน่าแบบชิลล์ๆ

    เวลาที่เราไปว่ายน้ำเล่นกันตามชายหาดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เจอกับสิ่งมีชีวิตในน้ำแหวกว่ายกันอยู่รอบตัวเรา และยากกว่าหากจะได้เจอวาฬตัวเป็นๆ มาว่ายน้ำโชว์ตัวอยู่ใกล้กับชายหาดขณะที่เราเล่นน้ำกันอยู่เหมือนกับเหตุการณ์นี้ เมื่อมีคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายมุมสูงจากกล้องที่ติดกับโดรนบินขึ้นไปเห็นเจ้าวาฬสีเทากำลังว่ายน้ำ ผุดๆ โผล่ๆ บริเวณห่างจากชายหาดลากูน่าไปไม่มากนัก ในรัฐแคลิฟอร์เนีย     วาฬตัวดังกล่าวถูกพบที่ท่าเรือ Dana Point ก่อนที่มันจะหลงทางอยู่บริเวณนั้นเป็นเวลา 2 ชั่วโมง สร้างความตกตะลึงและงุนงงกับสัตว์ขนาดใหญ่ที่แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการที่จะได้เห็นวาฬสีเทาที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 9 ของวาฬทั้งหมดว่ายมายังชายหาดที่มนุษย์กำลังเล่นน้ำกันอยู่ แถมยังมาแบบชิลล์ๆ อีกต่างหาก   คลิปวิดีโอวาฬหลงฝูงมาชายหาดลากูน่า ที่ถ่ายได้จากโดรน   และท้ายที่สุดมันก็ได้ว่ายกลับขึ้นฝั่งและตรงไปยังอลาสก้าที่ซึ่งกำลังมีการให้อาหารกลุ่มปลาวาฬสีเทาอยู่ในขณะนั้น   ภาพของวาฬสีเทา สายพันธุ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 จากวาฬทั้งหมด .   การที่มันต้องว่ายมาให้เราเห็นกันแบบสบายๆ อย่างนี้ก็ทำให้เข้าใจได้ว่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่อย่างมันไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร แต่ถึงอย่างไรก็คงต้องระวังกับการตีหางของมันอย่างในวิดีโอซะหน่อย โดนไปคงสลบจมน้ำได้เลยทีเดียว   ที่มา: iflscience

  • 21 ภาพของช่างกล้องมือฉมังที่ถ่ายออกมาถูกที่ถูกเวลาซะเหลือเกิน ในเวอร์ชั่นวินเทจ

    21 ภาพของช่างกล้องมือฉมังที่ถ่ายออกมาถูกที่ถูกเวลาซะเหลือเกิน ในเวอร์ชั่นวินเทจ

    ความพอเหมาะพอเจาะของท่าทางและมุมกล้องที่ช่างภาพกดชัตเตอร์ถ่ายออกมาเป็นภาพ บางครั้งก็อาจไม่ได้ออกมาอย่างที่ใครได้คาดหวังเอาไว้ กลับกลายเป็นรูปภาพที่สร้างความสนุกสนานให้เพราะบางทีมันก็พอดีจนดูแปลกไป จนไม่รู้เลยว่านี่ต้องโฟกัสไปที่จุดไหนของภาพกันแน่เนี่ย เราจะรู้กันหรือเปล่าว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นมานานตั้งแต่อดีตกาลแล้วความวินเทจกับภาพฮาๆ เลยออกมาเป็นแบบนี้   รถสตาร์ทไม่ติดก็ไม่ต้องเข็นกันละ ยกกลับบ้านเลยละกัน   คุณแม่สุนัขกำลังจะพาคุณลูกไปเดินเล่น   วันนี้ใส่ลายดอกมาหรอครับ   กายกรรมเปียงยาง   เอาตุ๊กตามาอวดเพื่อนซะหน่อย   ขยับมานี่เลย เขาห้ามจอดขวางทางเข้า   เจออย่างนี้ตอนพลบค่ำ ผมจะวิ่งให้ไวเลย   ที่แท้ก็ทำหัวตกไว้ตรงบันไดนี่เอง   ขาเรียวจังเลยนะเธอ   ทาสีหอไอเฟลไม่ใช่เรื่องยาก   ดีนะมีหลังคารองรับ ไม่งั้นคงตกลงไปละ   แม่นาคสไตล์   ถ่ายรูปคู่กับเทพีเสรีภาพได้อย่างใกล้ชิด   แขนซ้ายเป็นเนื้องอกกันเหรอไอ้หนุ่ม   แป๊บนะ พอดีลืมเอาไฟแช็กมา   ทะลึ่งจริงๆ ไปยืนทำไมตรงนั้นน่ะ   เป็นการโชว์ตัวอย่างเดียว เอาหัวออกไปก่อน   เปิดข้างหน้าทำไมเห็นตูดได้ละ   อันนี้ก็เอาซะหลอนเลย แล้วสีของภาพก็เหมาะเหลือเกิน   สนุกสนานน่ารักใสๆ กับเจ้าตูบ…

  • ความรักของคุณยายวัย 72 กับสามีชาวไนจีเรียวัย 27 ที่พยายามขอวีซ่าให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ความรักของคุณยายวัย 72 กับสามีชาวไนจีเรียวัย 27 ที่พยายามขอวีซ่าให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน

    ความรักคือสิ่งที่ไร้ขอบเขตพรมแดนใดๆ มาขวางกั้นคงเป็นความคิดของใครหลายคนที่มองว่าสามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ยึดติดแม้อายุจะต่างกันมากขนาดไหน แต่ชีวิตรักของทั้งสองคนนี้กลับต้องถูกขวางกั้นจากกฎหมายที่ตั้งเอาไว้ คุณแม่ลูก 6 ที่มีชื่อว่า Angela วัย 72 ปีที่ต้องผิดหวังกับชีวิตคู่ หย่าร้างจนต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายก่อนที่จะได้พบกับ CJ Nwachukwu ชายผู้สามารถเติมเต็มความสุขให้เธอได้อีกครั้ง เด็กหนุ่มชาวไนจีเรียที่มีอายุเพียงแค่ 27 ปีซึ่งห่างกับเธอมากถึง 45 ปีนั้นได้เริ่มพูดคุยกันในตอนที่เขาเพิ่มเพื่อนเธอในเฟซบุ๊ก จนกระทั่งแต่งงานกันในปี 2015 เกิดขึ้นหลังจากที่เจอหน้ากันเพียงแค่สองครั้งและเวลาผ่านไปแค่สามเดือนเท่านั้นเอง     เธอบินไปไนจีเรียเพื่อการแต่งงานดังกล่าว หลังจากที่เขาขอเธอแต่งงานผ่านวิดีโอคอล เธอบอกว่า “เขาเป็นคนที่หน้าตาดี เราคุยกันเป็นชั่วโมงเหมือนกับว่าเรารู้จักกันมาก่อนเป็นปี จนเมื่อรู้ตัวอีกทีฉันก็คุยกับเขาทุกวัน เราเข้ากันได้ดีมากแม้อายุจะห่างกันเยอะ แต่ฉันก็ตกหลุมรักเขาจนไม่อาจห้ามตัวเองเอาไว้ได้” การมีความรักก็ต้องเจอกับอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเมื่อเด็กหนุ่มจะย้ายเข้ามาอยู่กับเธอในประเทศอังกฤษ ก็ต้องติดกับปัญหาวีซ่าไม่ผ่าน หน่วยงานคิดว่าเขาไม่มีการเงินรองรับที่เพียงพอ ไม่อาจเข้ามาในประเทศได้ เธอจึงต้องเสียเงินมากกว่า 8 แสนบาทในเรื่องของทนายที่จะช่วยสำหรับการเข้าประเทศ และค่าเครื่องบินไปหาเขาที่ไนจีเรีย แต่ก็ยังบอกอีกว่าเด็กหนุ่มนั้นจะช่วยครึ่งหนึ่งทุกครั้งที่เขาสามารถช่วยได้เสมอ เธอยังเสริมอีกว่าการแต่งงานที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการหลอกลวงแต่อย่างใด เพราะเธอก็ไม่ใช่คนมีเงินอะไรอยู่แล้วซึ่งเป็นสิ่งที่รู้กันทั้งสองฝ่าย     ตอนนี้ก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้างที่เขาจะสามารถทำวีซ่าสำหรับนักศึกษาในการมาศึกษาต่อปริญญาโท และเพื่อมาอยู่กับเธอ นอกจากนั้นประชากรอังกฤษสามารถทำเรื่องขอวีซ่าครอบครัวให้กับการย้ายเข้ามาของญาติพี่น้องหรือว่าคู่ครองของตนได้อีกด้วย แต่ว่ากระบวนการดังกล่าวนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมากในประเทศอังกฤษ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองบอกเอาไว้ว่าหากต้องการให้คนจากนอกประเทศเข้ามาอยู่ในฐานะครอบครัวเดียวกัน ต้องเสียเงินมากกว่า 6 หมื่นบาทสำหรับ 2…

  • พาชมบ้านที่ “น่ากลัวที่สุด” ในเบลารุส ที่ทำเอาเพื่อนบ้านขนหัวลุกจนไม่อยากเข้าใกล้!!

    พาชมบ้านที่ “น่ากลัวที่สุด” ในเบลารุส ที่ทำเอาเพื่อนบ้านขนหัวลุกจนไม่อยากเข้าใกล้!!

    บ้านที่เราสามารถเห็นได้ในปัจจุบันก็คงจะมีความคล้ายกันหมดไม่ได้แตกต่างมากซักเท่าไหร่ ที่จะเพิ่มมาก็คือการตกแต่งจากไอเดียของแต่ละคน เหมือนกับบ้านหลังนี้ที่มีไอเดียแหวกแนว จนเพื่อนบ้านถึงกับต้องตกใจและไม่อยากอยู่ร่วมพื้นที่กันไปเลย ในเมืองหลวงของประเทศเบลารุส มีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่ทำให้คุณต้องหลบเลี่ยงที่จะเดินผ่านโดยเฉพาะในตอนกลางคืน เพราะความน่ากลัวจากลวดลายการตกแต่งที่เห็นแล้วชวนให้คุณขนหัวลุกเอาได้ง่ายๆ เต็มไปด้วยมือยื่นออกมาจากรั้วบ้าน หัวกระโหลกที่ถูกวางเรียงกันไว้ทั่วหลังคาสิ่งก่อสร้าง และปีศาจอีกมากมายในแต่ละท่วงท่าที่เกาะอยู่ตามหลังคาบ้าน เพียงแค่นี้ก็ทำให้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ ไม่อยากย่างกรายผ่านบ้านหลังนี้กันแล้ว   .   ภาพถ่ายบ้านหลังนี้ได้กลายเป็นกระแสในประเทศทันที แต่ไม่ใช่เพราะเพียงความแปลก ความหลอนของรูปลักษณ์บ้านเท่านั้น ประเด็นหลักคือสถานที่นี้ได้สร้างความลำบากให้กับผู้อยู่อาศัยรอบๆ ที่เกิดความรู้สึกกลัวจนถึงขนาดไม่กล้าเดินผ่านทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม   .   บางคนที่ถ่ายรูปเอาไปให้เพื่อนร่วมงานดูก็จะรีบลบทันทีเพราะไม่อยากให้มีปีศาจมาอยู่ในมือถือ ได้มีผู้ให้สัมภาษณ์ว่า “มองไกลๆ มันก็ดูสวยโดดเด่นจนหลานสาวของฉันบอกว่าเหมือนประสาทในเทพนิยาย แต่เมื่อเข้าไปเห็นใกล้ๆ เจอกับมือที่ยื่นออกมา และปีศาจมากมาย ฉันก็ไม่พาหลานไปเดินทางนั้นอีกเลย”   .   ยิ่งตอนกลางคืน แสงไฟจะสะท้อนกับรูปปั้นเหล็กเหล่านั้นก็ยิ่งทำให้ดูน่ากลัวมากกว่าเดิม บ้านข้างๆ ก็ยังบ่นกับหลังคาที่เต็มไปด้วยหัวกระโหลกจนดูเหมือนที่ฝังศพ อีกทั้งรูปปั้นบนหลังคาที่หันธนูมาทางหน้าต่างบ้านของเขา ที่ทำให้อยู่กันไม่เป็นสุขเลย จากคำบอกเล่าของคนละแวกนั้นบอกว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเป็นนักธุรกิจทั่วไป เริ่มสร้างบ้านตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน และหายไป 8 ปีจนกลับมาสร้างต่อในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ค่อยๆ เติมความสยดสยองจากการตกแต่งแปลกๆ นี้ออกมาเป็นบ้านที่น่ากลัวที่สุดในเมือง     ยกกันมาทั้งกองทัพ…