14 เทคนิคการเอาตัวรอดและ ‘ป้องกันตัว’ ที่อาจช่วยให้คุณรอดชีวิตได้ในยามคับขัน!!

อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยที่เราไม่สามารถรู้ตัวได้ว่าจะถูกคนอื่นเข้ามาจู่โจมเมื่อไหร่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย

เพราะฉะนั้นที่สำคัญก็คือการป้องกันตัวเองจากอันตรายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้เราสามารถยื้อชีวิตและทรัพย์สินเอาไว้ให้อยู่กับเราไปนานๆ

และนี่ก็คือ 14 เทคนิคที่ทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเพื่อช่วยให้ป้องกันตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม

 

กำหมัดให้ถูกวิธี

 

อย่าปล่อยให้นิ้วโป้งโผล่ออกมาด้านข้างและอย่าไปซ่อนมันเอาไว้ข้างในเพราะมันอาจทำให้กระดูกหัวแม่มือแตกได้ ดังนั้นให้กดมันลงไประหว่างนิ้วอื่นตามในภาพ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและดีกว่าการตบหลายเท่าตัวเลย

 

วิธีการแก้ปัญหาเวลาถูกมัดด้วยเชือก

 

สิ่งสำคัญคือต้องพยายามสร้างช่องว่างระหว่างร่างกายกับเชือก ถ้าถูกมัดข้อมือเอาไว้ก็จงกำหมัดให้แน่นหรือถ้าถูกมัดร่างกายเอาไว้ก็พยายามหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้กะบังลมขยายตัว เพราะมันจะยิ่งทำให้เชือกมีการคลายตัวออกมากขึ้นจนเพิ่มโอกาสหนีของคุณได้

 

วิธีการแก้ปัญหาเวลาถูกมัดด้วยเทปกาว

 

ให้ยกมือขึ้นไว้เหนือศีรษะก่อนที่จะกระชากลงมาแรงๆ เพียงเท่านั้นก็จะสามารถหลุดออกมาได้และยังสามารถใช้วิธีการเดียวกันเวลาที่ถูกมัดจากด้านหลังได้อีกด้วย

 

จดจำจุดตายเอาไว้

 

ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาโจมตีมักจะมีพละกำลังมากกว่าเราดังนั้นให้จดจำจุดสำคัญเอาไว้จากนั้นโจมตีเข้าไปแรงๆ และแม่นยำในครั้งเดียว แต่ต้องต่อยเข้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้ศัตรูรู้ตัวและป้องกันได้

 

ใช้แอพช่วยเรื่องความปลอดภัย

 

ปัจจุบันเชื่อว่าทุกคนต้องมีสมาร์ทโฟนฉะนั้นการโหลดแอพเช่น Family Locator หรือ bSafe ก็สามารถช่วยเราได้เพื่อให้คนรอบข้างรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนรวมถึงสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปให้พวกเขาได้

 

คิดโค้ดลับขึ้นมา

 

แน่นอนว่าเรื่องเล็กๆ แบบนี้สามารถช่วยคุณได้เยอะมากอย่างเวลาที่คนร้ายบังคับให้คุณบอกว่าไม่เป็นอะไร คุณก็อาจจะมีโค้ดลับบางอย่างเช่น “ฉันไม่เป็นอะไร” แปลว่า “ฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย” เท่านี้คนใกล้ตัวก็จะสามารถเข้ามาช่วยได้ทัน หรืออยากให้เหนือกว่านั้นก็อาจมีโค้ดลับที่บอกสถานที่ที่คุณอยู่ก็ได้

 

ใช้สิ่งที่มีติดตัวให้เป็นประโยชน์

 

อย่างกระเป๋าหรือกระเป๋าเงินที่ใช้แทนโล่ได้แต่ต้องอย่าเอามาบังใกล้ตัวเดี๋ยวมีดแทงทะลุ หรือของอื่นๆ ก็สามารถโยนใส่หน้าผู้ร้ายได้เพื่อทำให้คุณมีเวลาซักเล็กน้อยสำหรับการหนี ตัวช่วยที่สำคัญอีกอย่างคือกุญแจที่เรานำมาใช้แทนสนับมือได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

 

เก็บสเปรย์พริกไทยเเอาไว้ให้ถูกที่

 

เลิกคิดที่จะเก็บเอาไว้ในกระเป๋าถือเลยเพราะกว่าจะหาเจอคุณมันก็คงจะสายเกินไป แนะนำให้เก็บเอาไว้ตามกระเป๋าเสื้อหนาวหรือกระเป๋ากางเกงเพื่อสามารถหยิบขึ้นมารับมือกับอันตรายได้ในทันที

 

เมื่อถูกจับที่ข้อมือ

 

ให้หมุนข้อมือขึ้นมาด้านหัวแม่มือของอีกฝ่ายด้วยความรวดเร็วก็จะสามารถคลายออกมาได้ แต่ถ้าศัตรูรู้ตัวและกำข้อมือเอาไว้แน่นเราก็ต้องใช้ตัวช่วยด้วยการเตะไปที่หัวเข้าหรือลูกป๋องแป๋งอีกฝ่ายให้สุดแรง ไม่อย่างนั้นก็กระทืบเท้ามันหนักๆ ไปเลย

 

หากถูกกระชากผมเอาไว้

 

จับข้อมือของอีกฝ่ายเอาไว้เพื่อให้คุณได้กลับมามีแรงอีกครั้งจากนั้นก็ลองพยายามหาจุดที่เขายืนอยู่และเตะเข้าไปในจุดสำคัญต่างๆ หรือไม่ก็กระทืบเท้าเข้าไปแรงๆ ก่อนที่จะรีบวิ่งหนีไป

 

หนีจากการถูกบีบคอ

 

เตะผ่าหมากไปเลยหรือไม่ก็เอานิ้วจิ้มเข้าไปที่ตาอีกฝ่ายๆ เพื่อให้มือของเขาคลายออกมาด้วยความเจ็บปวด

 

เวลาอยู่ในลิฟต์

 

เวลาที่ต้องขึ้นลิฟต์กับคนแปลกหน้าหรือน่าสงสัยให้หันหลังเข้าหากำแพงที่มีปุ่มกดอยู่ และเป็นคนกดปุ่มให้กับเขามากกว่าที่จะให้เขากดเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เขากดหยุดลิฟต์เอาไว้ได้และช่วยให้เขาอยู่ในสายตาตลอดเวลา

 

เวลาอยู่ในรถ

 

เมื่อต้องขึ้นรถไปกับคนแปลกหน้าอย่างเช่นการนั่งแท็กซี่ ต้องไม่ลืมที่จะบอกคนใกล้ตัวว่ารถที่เรานั่งทะเบียนอะไร สีอะไร และสถานที่ที่เราอยู่ตอนนั้นเป็นที่ไหน เพื่อให้คนขับของคุณได้เห็นว่าเราได้แจ้งคนอื่นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเขายังเข้ามาจู่โจมคุณอยู่ดีก็จงอย่าลืมจุดสำคัญอย่างหว่างขา จมูกหรือตาเพื่อให้เราพร้อมรับมือกับการโจมตี

 

เรียนรู้การปฐมพยาบาล

 

การปฐมพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเพราะหากเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ และต้องรอรถฉุกเฉินหากเราเรียนรู้ที่จะปฐมพยาบาลผู้อื่นหรือตัวเองเอาไว้ก็จะยิ่งทำให้สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้

 

เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย

สังเกตสิ่งรอบตัวอยู่ตลอดอย่ามัวแต่หมกมุ่นกับเพลงในหูฟังหรือหน้าจอมือถือ รักษาระยะห่างแต่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการเข้ามุมหรือไปในทางเปลี่ยวและอย่าก้าวถอยหลังแต่ให้ขยับไปมา ยกฝ่ามือขึ้นมาไว้ด้านหน้าซึ่งนอกจากจะทำให้คุณพร้อมสู้แล้วคุณอาจยกมือขึ้นมาประนีประนอมกันก่อนก็ได้

ที่สำคัญคือต้องกล้าหนีเพราะถึงยังไงคุณก็ไม่ใช่ยอดมนุษย์นี่นาจะได้เก่งเหนือกว่าผู้ร้ายเสมอไป

 

ที่มา: brightside

Comments

Leave a Reply