หญิงสาวป่วยเป็นมะเร็ง ปฏิเสธที่จะทำเคมีบำบัด เพื่อให้ลูกในท้องได้คลอดอย่างปลอดภัย…

หลายๆ คนทราบดีว่าหากพบว่าตนป่วยเป็นโรคมะเร็ง หนึ่งในการรักษาและยื้อเวลาผู้ป่วย คือการทำคีโมที่ใช้ยาหรือสารเคมีเข้าไปต่อสู้กับเซลล์ที่เป็นภัย หากว่าควบคู่ไปกับการฉายรังสีด้วยแล้ว จะถือว่าเป็นวิธีช่วยผู้ป่วยได้ดีที่สุด

แม้จะรู้อย่างนั้น แต่ Carrie DeKlyen ก็เลือกที่จะปฏิเสธที่จะใช้วิธีการดังกล่าว จนทำให้เธอต้องจากไปอย่างสงบ เพราะไม่ต้องการให้การรักษากระทบกับลูกในท้องของเธอ

เรื่องนี้เริ่มขึ้นเมื่อเธอได้รับการวินิจฉัยว่า ป่วยเป็นมะเร็งสมองที่มีชื่อเรียกว่า Glioblastoma Multiforme ซึ่งเป็นเนื้อร้ายชนิดเดียวกับที่พบในตัวแทนพรรครีพับลิกันในสหรัฐอเมริกา John Mccain

 

 

ในตอนแรกเธอและสามีไม่ทราบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ จนเมื่อรู้ว่ามีเด็กสาวอยู่ในท้อง จึงละทิ้งการใช้ยาและสารเคมีบำบัดที่จะช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง เพราะหากไม่ทำอย่างนั้นลูกของเธอก็จะไม่มีชีวิตรอดได้

การทำคีโมไปในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ทำให้ลูกของเธอต้องมีกำหนดการคลอดเร็วกว่าปกติ นั่นคือ 28 สัปดาห์ของระยะเวลาตั้งครรภ์

หลังจากที่เธอเลิกใช้ยาช่วยและหันมาใช้แค่รังสี บวกกับการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อร้ายออก และดูดของเหลวออก กลับไม่สามารถช่วยให้สภาพร่างกายของเธอดีขึ้นได้ เจ้าเซลล์ดังกล่าวยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

น้องสะใภ้ของเธอ Sonya ได้ตั้งเพจชื่อว่า Cure 4 Carrie เพื่อเล่าถึงสถานการณ์ทั้งหมดที่เธอเป็นและต้องเจออยู่ ให้กับญาติ เพื่อนๆ หรือคนที่สนับสนุนเธออยู่ได้รับรู้ไปด้วยกัน

.

 

จากสถิติแล้วผู้คนที่ป่วยเป็นมะเร็งสมองขั้นรุนแรง จะมีเพียงแค่ 10% เท่านั้นที่จะสามารถมีชีวิตอยู่รอดนานถึง 5 ปีภายหลังจากการวินิจฉัย

อาการของโรคที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้เธอหมดสติและไม่มีการตอบสนองของร่างกาย ในตอนปลายเดือนกรกฎาคม ทำให้แพทย์ต้องพาเธอเข้ารับการรักษาในอาการโคม่า จากเรื่องของหลอดเลือดในสมอง และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเป็นระยะๆ

จนในที่สุดเธอก็สามารถกลับมาตอบสนองได้อีกครั้ง โดยเริ่มลืมตาและขยับแขนขาได้บ้าง และหวังว่าเธอจะสามารถกลับมามีสติได้อีกครั้ง หากว่าเนื้อร้ายในสมองของเธอมีการหดตัวลง ทว่ามันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะว่ามันก็ยังโตขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ

 

 

แพทย์ต้องทำการตรวจดูเด็กในครรภ์อยู่เสมอ เพราะกังวลว่าจะไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตข้างนอกได้ และในที่สุดก็ต้องตัดสินใจผ่าคลอดเด็กออกมาในสัปดาห์ที่ 24 ซึ่งเป็นการคลอดก่อนกำหนดเอามากๆ เพราะการตั้งครรภ์ตามปกติจะต้องใช้เวลาถึง 40 สัปดาห์

แม้ว่าในตอนที่ลูกสาวของเธอได้ออกมาดูโลกภายนอก เธอก็ยังคงไม่รู้สึกตัว จนในที่สุดเธอก็ได้ถูกนำท่อช่วยหายใจและท่ออาหารออก ในวันหลังจากที่เธอให้กำเนิดเด็กน้อย วันที่ 7 กันยายน

 

เธอกับสามีและลูกๆ ทั้ง 5 คน

 

เธอจากไปท่ามกลางลูกๆ ทั้ง 5 คนและสามีของเธอ Nick DeKlyen ที่ได้พูดกับเธอเป็นประโยคสุดท้ายว่า “เจอกันบนสวรรค์นะ” เขาบอกว่านี่คือเรื่องที่น่าเศร้า แต่นี่คือสิ่งที่เธอเลือกเอง เพื่อช่วยชีวิตลูกสาวคนสุดท้องของเธอ

เขายังบอกเสริมเกี่ยวกับเธออีกว่า “เธอเป็นคนที่ศรัทธาในพระเจ้า และรักลูกๆ มากกว่าสิ่งอื่นใด” ในช่วงที่เธอหมดสติอยู่ เขาก็ได้มาพักอยู่ในเมืองใกล้ๆ กับโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยรัฐมิชิแกนที่เธอเข้ารับการรักษาอยู่

สามีได้ใช้วลีจากคำภีร์ไบเบิ้ล บอกเล่าและแจ้งให้ทุกคนได้ทราบว่าเธอจากไปอย่างสงบแล้ว แต่จิตวิญญาณของเธอจะยังคงอยู่ และหวังว่าจะได้เจอเธออีกครั้งด้วยพลังแห่งศรัทธาต่อความรักและพระเจ้า

.

 

ลูกสาวคนที่ 6 ก็ได้รับการตั้งชื่อสื่อถึงชีวิตใหม่ว่า Life Lynn Deklyen ซึ่งยังคงต้องได้รับการดูแลอยู่ที่โรงพยาบาล นาน 4 ถึง 5 เดือน ด้วยน้ำหนักตอนคลอดที่น้อยเอามากๆ หนักเพียง 0.56 กิโลกรัมเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตามเด็กน้อยก็เริ่มมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและเกือบที่จะหายใจได้ตัวเองแล้ว

การคลอดออกมาที่ไม่เหมือนกับทั่วๆ ไปนี้ก็ได้สร้างของเหลวในสมองของทารก ที่อาจส่งผลกระทบให้กับเธอในภายหลัง รวมถึงเสี่ยงที่จะมีอาการผิดปกติของระบบประสาท และอาจทำให้เธอไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายได้

 

 

น้องสะใภ้ของเธอก็ได้สร้างเพจ GoFundMe ที่ทุกคนสามารถอัปเดตเรื่องราว รวมถึงบริจาคเงินช่วยเหลือ Carrie และการดูแลเด็กน้อย ตั้งแต่ตอนแรก และตอนนี้จำนวนเงินก็สูงกว่า 3 ล้านบาทแล้ว

การตัดสินใจของเธอ แม้ว่าจะต้องทำให้พบการสูญเสีย แต่ก็มาพร้อมกับการให้กำเนิดชีวิตน้อยๆ ขึ้นมาสามารถอยู่ต่อไปได้ด้วยความรักและการเสียสละ จากคุณแม่และครอบครัวอันเป็นที่รัก

ที่มา: dailymail

Comments

Leave a Reply