เรื่องเล่าตำนาน “เรือผีสิง” ลอยลำไปไกลในทะลได้ โดยที่ไม่มีใครอยู่บนนั้นนานถึง 38 ปี!!

หากว่าได้ดูหนังโจรสลัดชื่อดังอย่าง Pirates of The Caribbean ก็คงจะไดเห็นเรือผีสิงที่สร้างความหลอกหลอนให้กับผู้ที่ต้องประสบพบเจอ แต่เรือแบบนั้นกลับมีอยู่จริงในท้องทะเล

เรือ SS Baychimo หรือในชื่อเดิมว่า Ångermanelfven เป็นเรือขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1914 มีไว้เพื่อการส่งสินค้าข้ามทะเลระหว่างเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี กับประเทศสวีเดน

โดยขนาดของเรือมีความยาว 70 เมตร หนักถึง 1,322 ตัน และใช้ถ่านหินในการขับเคลื่อเครื่องยนต์ไอน้ำที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมนีต้องชดใช้หลังสงคราม จึงส่งมอบเรือให้กับบริษัทของอังกฤษในปี 1921 ไปอยู่บ้านใหม่ที่สกอตแลนด์

และได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น Baychimo ไว้สำหรับการล่องเรือรวบรวมขนสัตว์ ในช่วงฤดูร้อนก็จะกลับมาและใช้ขนส่งแลกเปลี่ยน ยาสูบ น้ำตาล ชา และอาวุธตามชายฝั่งของแคนาดา

 

 

ในปี 1924 เรือลำนี้ก็ได้แล่นไปรอบโลกยังคงทำหน้าที่ขนส่งพัสดุเหมือนเดิม จนถึงปี 1931 เมื่อลูกเรือพบว่าได้ติดอยู่กับทะเลน้ำแข็ง ทำให้ทุกคนต้องเดินทางปีนผ่านแนวน้ำแข็งไปขึ้นฝั่งที่ห่างไปไม่ถึงกิโลในอลาสก้า รอให้น้ำแข็งละลายและจึงกลับมานำเรือแล่นสู่จุดหมายต่อไป

ในสัปดาห์ต่อมา เรือก็ได้ไปติดกลางหมู่น้ำแข็งอีกครั้ง พวกเขาจึงส่งข้อความขอให้มีการส่งเครื่องบินมารับพวกเขาออกไป แต่จะทิ้งลูกเรือบางคนไว้ที่ชายหาดใกล้ๆ สร้างกระท่อมคอยสอดส่องดูแลเรือที่ห่างออกไปไม่มาก ตั้งใจว่าจะแล่นเรือกลับในช่วงหน้าร้อนที่กำลังมา

และแล้วเกิดเหตุที่ทำให้ผิดไปจากความตั้งใจ เพราะเกิดพายุหิมะโหมกระหน่ำนานถึง 3 วัน ทำให้พวกเขาไม่สามารถออกจากกระท่อมมาดูเรือได้ จนเมื่อพายุเริ่มเบาลงออกมาก็พบว่าเรือได้หายไปเหลือเพียงแค่แนวน้ำแข็ง จึงสันนิษฐานกันเองว่าเรือคงจมไปแล้ว

จากนั้นไม่กี่วันผ่านไป มีกลุ่มนักล่าแมวน้ำออกมาบอกว่า เรือหลุดจากน้ำแข็งในตอนที่มีพายุและลอยไปไกลจากจุดเดิมถึง 72 กิโลเมตร

 

 

กัปตันเรือ Sydney Cornwell พบว่าเรือนั้นยังคงไม่เป็นอะไร แต่ก็ตัดสินใจว่ามันไม่สามารถแล่นไปในท้องทะเลได้อีก จึงทำการขนของที่อยู่บนนั้นลงมาทั้งหมด ปล่อยให้เหลือเพียงเรือเปล่าๆ

แต่มันก็แสดงให้เห็นว่ามันยังสามารถไปไหนมาไหนได้ เพราะหลายเดือนผ่านไปมันก็ถูกพบห่างออกไปไกลทางทิศตะวันออกกว่า 400 กิโลเมตร

และเรือลำนี้ก็ยังคงถูกพบต่อไปในแต่ละที่ หนึ่งปีผ่านไปได้พบมันมาอยู่ใกล้กับชายฝั่งเหมือนรอให้ลูกเรือขึ้นมา ไม่กี่เดือนผ่านไปก็มีคนบอกว่าเห็นเรือที่ไม่มีคนอยู่แล่นในทะเล

ในปี 1932 ฝ่ายการค้าก็ได้พยายามที่จะขึ้นไปบนเรือในเมือง Wainwright ที่อลาสก้า และหนึ่งปีต่อมาชาวเอสกิโมก็ได้ล่องมันไป แต่ก็ต้องพบกับพายุที่คาดไม่ถึงทำให้ต้องติดอยู่ตรงนั้นนานถึง 10 วัน

ไม่กี่เดือนผ่านไปทางบริษัทเจ้าของเรือ Hudson Bay ได้รับข่าวว่ามันยังคงแล่นอยู่ในท้องทะเลอยู่ แต่ก็เลือกที่จะไม่กู้มันกลับมา เพราะคิดว่าระยะทางที่ห่างกันนั้นมันมากจนเกินไป ในปีต่อมามีนักสำรวจพยายามที่จะพยายามควบคุมมัน แต่สุดท้ายก็ต้องกลับออกมาอยู่ดี

 

 

ในปี 1935 กัปตัน Hugh Polson พยายามที่จะกู้มันอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะว่าน้ำแข็งที่มีอยู่เต็มไปหมด และมีการพบเห็นในปี 1962 อีกครั้งซึ่งเป็นเวลาหลายปีผ่านไป

จนการพบเห็นครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1969 ที่เห็นว่ามันกำลังติดอยู่กับก้อนน้ำแข็งห่างออกไปจากชายฝั่งอลาสก้า ในทะเลชุกชี

จนสิบปีต่อมารัฐบาลของอลาสก้าได้จัดกลุ่มตามหาเรือลำนี้อยู่ทั้งทางทะเล และทางอากาศ แต่จนถึงปัจจุบันมันก็ยังคงไม่ถูกพบและกลายก็ได้เป็นตำนานไปแล้ว แต่ก็ไม่แน่ว่า คุณอาจได้เห็นมันในทะเลเข้าสักวันก็ได้นะ…

ที่มา: thevintagenews

Comments

Leave a Reply