ภาพที่เหล่าเจ้าของทั้งหลายพากันสงสัยว่าแรกๆ ก็เป็นแมว หลังๆ ทำไมกลายเป็นหมูเฉย!?

หลายคนเวลาที่เล่นกับเจ้าเหมียวก็อยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างเมามัน ยิ่งถ้าเป็นเจ้าตัวที่มีลักษณะอ้วนกลมด้วยแล้วยิ่งแล้วใหญ่เลย เพราะความนุ่มนิ่มของพวกมันและนิสัยที่ดูเฉื่อยๆ ยิ่งทำให้ดูน่ารักมากขึ้นไปอีก

ความชอบเหล่านั้นทำให้มีทาสแมวหลายคนทำการแชร์รูปสัตว์ตัวใหญ่ยักษ์ ที่บางทีก็ดูไม่ออกเหมือนกันว่ามันคือแมวด้วยขนาดตัวของพวกมัน ในท่าทางต่างๆ หรือความพยายามที่เขาเหล่านั้นอุ้มมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก เพราะแน่นอนว่าน้ำหนักจะต้องแปรผันไปกับขนาดอยู่แล้ว

ว่าแล้วก็ลองไปดูก็เลยว่าภาพของพวกมันแต่ละตัวจะออกมาเป็นอย่างไรกันบ้าง

 

นั่งชิลล์ๆ ชมวิวริมหน้าต่าง

 

แน่ใจนะว่าเธอไม่ใช่นักกีฬา

 

เหมือนหัวกับตัวจะสามารถแยกออกจากกันได้

 

กินอิ่มแล้วก็ต้องมานอนพักบนโซฟาซักงีบ

 

ชายหนุ่มพยายามให้แมว(ที่เหมือนเสือมากกว่า) ให้มันลุกมาออกกำลังกายบ้าง

 

พุงห้อยเลยนะคะคุณนาย

 

เอิ๊กกก สงสัยจะกินข้าวเยอะไปหน่อยนะเรา ลุกเดินไม่ไหวแล้ว

 

ขนาดตัวของมันใหญ่พอๆ กับมนุษย์เลยนะนั่น

 

ทำไมถึงเห็นได้แค่ข้างหน้าเพียงข้างเดียวกันละเนี่ย

 

ไม่ได้ตกใจแมว แต่ตกใจว่ากิ่งไม้รับน้ำหนักไหวได้เยี่ยงไร

 

หิวจนทนรอเวลาอาหารเย็นไม่ไหวแล้วโว้ย

 

แน่ใจนะว่าใช่สายพันธุ์เดียวกัน?

 

หน้าตาเหมือนกับแสดงอยู่ในหนังสยองขวัญ

 

กินข้าวยังไงให้ไม่ออกหน้ากันนะ

 

ที่นอนมันเล็ก หรือว่าเจ้าเหมียวตัวใหญ่บอกผมที

 

ทว่าในประเทศอังกฤษได้มีการพูดถึงปัญหาของสัตว์ที่มีน้ำหนักเกินจนอาจทำให้พวกมันป่วยเป็นโรคอ้วนได้ แต่เจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลายก็ยังคงไม่หยุดที่จะโชว์ความน่ารักของพวกมันออกมาให้เห็นกันอยู่

ทางสมาคมสงเคราะห์สัตว์ได้ออกมาบอกถึงวิธีการสังเกตว่าพวกมันอ้วนเกินไปแล้วหรือไม่ อย่างแรกคุณต้องสามารถเห็นและสัมผัสซี่โครง กระดูกสันหลัง และกระดูกสะโพกของพวกมันได้ สองคือต้องสามารถเห็นส่วนเอวได้อย่างชัดเจนเมื่อมองจากด้านบน สุดท้ายคือท้องของมันไม่ควรกองกันอยู่ด้านล่างเพราะนั่นมันคือไขมัน

หากว่าเจ้าเหมียวไม่มีในสามข้อนี้เลยละก็ คงต้องกังวลสุขภาพของพวกมันกันซักหน่อยนะครับ ทางที่ดีพามันไปเช็คที่คลินิกสัตว์ใกล้บ้านคุณเพื่อความแน่ใจ และมันจะได้อยู่กับเราไปนานๆ

ที่มา: dailymail

Comments

Leave a Reply