พาชมบ้านที่ “น่ากลัวที่สุด” ในเบลารุส ที่ทำเอาเพื่อนบ้านขนหัวลุกจนไม่อยากเข้าใกล้!!

บ้านที่เราสามารถเห็นได้ในปัจจุบันก็คงจะมีความคล้ายกันหมดไม่ได้แตกต่างมากซักเท่าไหร่ ที่จะเพิ่มมาก็คือการตกแต่งจากไอเดียของแต่ละคน เหมือนกับบ้านหลังนี้ที่มีไอเดียแหวกแนว จนเพื่อนบ้านถึงกับต้องตกใจและไม่อยากอยู่ร่วมพื้นที่กันไปเลย

ในเมืองหลวงของประเทศเบลารุส มีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่ทำให้คุณต้องหลบเลี่ยงที่จะเดินผ่านโดยเฉพาะในตอนกลางคืน เพราะความน่ากลัวจากลวดลายการตกแต่งที่เห็นแล้วชวนให้คุณขนหัวลุกเอาได้ง่ายๆ

เต็มไปด้วยมือยื่นออกมาจากรั้วบ้าน หัวกระโหลกที่ถูกวางเรียงกันไว้ทั่วหลังคาสิ่งก่อสร้าง และปีศาจอีกมากมายในแต่ละท่วงท่าที่เกาะอยู่ตามหลังคาบ้าน เพียงแค่นี้ก็ทำให้คนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ ไม่อยากย่างกรายผ่านบ้านหลังนี้กันแล้ว

 

.

 

ภาพถ่ายบ้านหลังนี้ได้กลายเป็นกระแสในประเทศทันที แต่ไม่ใช่เพราะเพียงความแปลก ความหลอนของรูปลักษณ์บ้านเท่านั้น ประเด็นหลักคือสถานที่นี้ได้สร้างความลำบากให้กับผู้อยู่อาศัยรอบๆ ที่เกิดความรู้สึกกลัวจนถึงขนาดไม่กล้าเดินผ่านทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม

 

.

 

บางคนที่ถ่ายรูปเอาไปให้เพื่อนร่วมงานดูก็จะรีบลบทันทีเพราะไม่อยากให้มีปีศาจมาอยู่ในมือถือ ได้มีผู้ให้สัมภาษณ์ว่า “มองไกลๆ มันก็ดูสวยโดดเด่นจนหลานสาวของฉันบอกว่าเหมือนประสาทในเทพนิยาย แต่เมื่อเข้าไปเห็นใกล้ๆ เจอกับมือที่ยื่นออกมา และปีศาจมากมาย ฉันก็ไม่พาหลานไปเดินทางนั้นอีกเลย”

 

.

 

ยิ่งตอนกลางคืน แสงไฟจะสะท้อนกับรูปปั้นเหล็กเหล่านั้นก็ยิ่งทำให้ดูน่ากลัวมากกว่าเดิม บ้านข้างๆ ก็ยังบ่นกับหลังคาที่เต็มไปด้วยหัวกระโหลกจนดูเหมือนที่ฝังศพ อีกทั้งรูปปั้นบนหลังคาที่หันธนูมาทางหน้าต่างบ้านของเขา ที่ทำให้อยู่กันไม่เป็นสุขเลย

จากคำบอกเล่าของคนละแวกนั้นบอกว่า เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเป็นนักธุรกิจทั่วไป เริ่มสร้างบ้านตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อน และหายไป 8 ปีจนกลับมาสร้างต่อในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ค่อยๆ เติมความสยดสยองจากการตกแต่งแปลกๆ นี้ออกมาเป็นบ้านที่น่ากลัวที่สุดในเมือง

 

 

ยกกันมาทั้งกองทัพ

.

 

ดูแล้วมันก็แอบหลอนไม่เบา ถ้าหากลองคิดภาพว่าปีศาจแต่ละตัวเป็นพวกภูติผีในไทย อย่างผีกระหัง ผีเปรต หรือผีกระสือ แล้วเราต้องอยู่ข้างกับบ้านหลังนี้ก็คงจะใช้ชีวิตได้ยากอยู่เหมือนกัน

แม้จะเป็นสิทธิ์ของเจ้าของที่ในอิสระของการออกแบบ้านของตน แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นรบกวนชาวบ้านในละแวกนั้นให้อยู่กันไม่ได้ ก็คงต้องรอพิจารณากันต่อไปเพื่อหาจุดกลางให้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย

 

ที่มา: odditycentral

Comments

Leave a Reply