สาวเปิดเผยถึงโรคย้ำคิดย้ำทำของตัวเอง เป็นหนักซะจนต้องสระผมถึง 72 ครั้งภายในวันเดียว!!

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ โรคย้ำคิดย้ำทำ กันมาก่อน โดยโรคดังกล่าวเป็นอาการทางจิตของผู้ป่วยที่ชอบทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำๆ มากจนเกินไป

แต่ในความเป็นจริงเราจะไม่ค่อยได้พบเห็นผู้ที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวนี้จริงๆ และคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรู้ว่าทำไมพวกเขาจึงมีอาการเช่นนั้น

จนเมื่อ Serin Rayer Davies วัย 23 ปีผู้ที่มีอาการของโรคนี้ขั้นรุนแรงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีประเทศอังกฤษ ชื่อว่า This Morning เพื่อเล่าถึงประสบการณ์ที่เธอต้องเจอมาตลอด

 

หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำขั้นรุนแรง

 

อาการของโรคเริ่มต้นขึ้นเมื่อตอนเธออายุได้เพียง 7 ขวบ เธอใช้เวลานานมากกว่าจะออกจากบ้านไปโรงเรียนเพราะเธอมีความคิดขึ้นมาว่าพ่อแม่เธอจะตาย ทำให้เธอเปิดเข้าเปิดออกประตูบ้านเพื่อเช็คดูอยู่อย่างนั้นซ้ำๆ

กระทั่งในตอนนั้น Deny พ่อของเธอก็เข้ามาช่วยอธิบายให้ฟังว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะไม่เกิดขึ้นจนอาการเหล่านั้นหายไป ก่อนที่จะกลับมาเป็นอีกครั้งในตอนที่เธออายุ 18 ปี

เธอบอกว่า “อาการเหล่านั้นเกิดขึ้นจากความเครียด บางคนที่มีความวิตกกังวลอยู่ก่อนแล้วหากต้องไปเจอเรื่องเครียดหรือเรื่องแย่ๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือจะต้องพยายามรับมือกับมันอยู่ตลอดเวลา”

 

พ่อของเธอผู้คอยอยู่เคียงข้างเธอมาตลอด

 

หลังจากนั้นเธอก็มีอาการของโรคที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอต้องซักผ้าวนไปมาอยู่ถึง 15 ครั้งหรือสระผมตัวเองมากถึง 72 ครั้งภายในวันเดียว เพราะเธอคิดว่าสิ่งรอบตัวมันไม่สะอาดและเต็มไปด้วยเชื้อโรคซึ่งเกิดจากจินตนาการของเธอเองทั้งหมด และทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างยากลำบาก

 

การแต่งงานกับชายในฝัน

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้เธอได้เข้ารับการรักษาอาการดังกล่าวทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้แต่งงานกับชายในฝันของเธออีกด้วย

และถึงแม้ว่าสามีของเธอจะช่วยอะไรเธอไม่ได้เลยแต่อย่างน้อยเขาก็ยอมรับและคอยดูแล จัดการเรื่องต่างๆ เพื่อให้เธอมีอาการของโรคแสดงออกมาน้อยที่สุด เขาเข้าใจและยอมรับว่าการใช้ชีวิตแบบนี้เป็นเรื่องที่ยากแต่เขาก็ยอม

 

คลิปวิดีโอการให้สัมภาษณ์ในรายการทีวี

 

สุดท้ายแล้วเหตุผลที่เธอมาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้เพราะนอกจากที่จะให้ทุกคนได้เข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วยแล้ว เธออยากให้ผู้ที่มีอาการของโรคนี้ทุกคนแสดงตัวและเข้ารับการรักษาเหมือนที่เธอทำเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

เพื่อนๆ ก็อย่าลืมสังเกตคนรอบข้างกันด้วยนะ เพราะบางครั้งพวกเขาอาจช่วยเหลือตัวเองได้ยากแต่อย่างน้อยก็ทำให้เขารู้ว่ายังมีเราอยู่

ที่มา: mirror , ladbible

Comments

Leave a Reply