นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า
-
บริษัทจีนคิดก้าวหน้า “เปลี่ยนจักรยานให้กลายเป็นแหล่งโฆษณา” เพื่อเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจ
ปกติเราจะเห็นการโฆษณามีอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นบนรถยนต์ บนถุงสินค้า บนถนน และอื่นๆ อีกมากมาย ล่าสุดในประเทศจีน ก็เกิดไอเดียทำป้ายโฆษณาบนจักรยาน เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ ธุรกิจเช่าจักรยานในจีนนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนมีหลายๆ บริษัทเปิดแข่งขันกัน ดังนั้น Ofo ในฐานะหนึ่งในบริษัทให้เช่าจักรยานที่ใหญ่ที่สุดของจีน จึงได้ใช้ไอเดียการโฆษณาโดยใช้จักรยาน เพราะเป็นยานพาหนะที่ผู้คนในประเทศนิยมใช้สูงมากๆ Ofo เป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้เช่าจักรยานรายใหญ่ของจีน โดยมีจักรยานจำนวนมากที่ถูกตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนมินเนียน เพื่อโปรโมทภาพยนตร์ Despicable Me 3 ของ Universal Pictures ในประเทศจีน ส่วนภาพที่เราเห็นกันอยู่นี้ถ่ายในย่านธุรกิจของกรุงปักกิ่ง โดยนาย Edmond Lococo ผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีในประเทศจีน จะเห็นได้ว่าจักรยานของบริษัท Ofo นั้น เป็นสีเหลืองอยู่แล้ว ดังนั้นจึงแทบจะไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมาก แค่ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยลายของมินเนียนเท่านั้นเอง ทางด้านบริษัท Ofo เปิดเผยว่าจักรยานของทางบริษัทถูกเช่ามากที่สุดเป็นจำนวน 10 ล้านครั้งต่อวัน ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจการโฆษณา โดยมีค่าเช่าแค่ 30 บาทต่อคันเท่านั้น หากจักรยานถูกเช่าเป็นจำนวนมากต่อวันในราคาที่ไม่แพงแบบนี้ แน่นอนว่ามันคุ้มค่ามากที่จะทำการโฆษณาผ่านตัวจักรยาน เพราะถ้าเทียบกับการโฆษณาด้วยวิธีอื่นแล้วมันมีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก อย่างไรก็ตามตอนนี้หลายๆ…
-
หนุ่มคุกเข่าขอสาวแต่งงาน และเซอร์ไพรส์น้องสาวเธอ ให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคู่ด้วย…
ความรักนอกจากจะเกิดจากความเข้าใจกันแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือการยอมรับในตัวตนของอีกหนึ่งคนนั่นเอง อย่างเช่นในเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายนั้นมอบความรักให้กับแฟนสาวของเธอและยอมรับทุกสิ่งที่เป็นเธอ… ย้อนไปเมื่อปี 2010 ในงานมอเตอร์โชว์งานหนึ่ง คุณ Will Seaton ได้พบกับแฟนสาวของเขาคุณ Ashley Schaus จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มทำความรู้จักกันและเริ่มสานสัมพันธ์ของความรัก แต่ก่อนที่จะเริ่มความสัมพันธ์กันแบบคู่รัก หญิงสาวได้บอกกับชายหนุ่มว่าเธอนั้นมีน้องสาวที่ป่วยเป็นโรคดาวน์ซินโดรมและเธอจำเป็นจะต้องดูแลน้องสาวอย่างใกล้ชิด “น้องสาวของฉันเป็นโรคดาวน์ซินโครมและเบาหวาน ฉันจำเป็นจะต้องดูแลเธออย่างใกล้ชิด ดังนั้นถ้าหากคุณรักฉัน คุณก็ต้องรักเธอด้วยเช่นกัน” คุณ Ashley กล่าว คุณ Ashley และ Hannah น้องสาวของเธอนั้นรักกันมาก ทั้งสองไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดตั้งแต่เด็กๆ และมักจะทำกิจกรรมด้วยกันอยู่บ่อยๆ ดังนั้นน้องสาวจึงมีความสำคัญกับคุณ Ashley มาก และแล้วเมื่อทั้งคู่ทำความรู้จักกันมาจนถึงจุดที่พร้อมจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ในวันที่ 8 มีนาคมปี 2016 ชายหนุ่มตัดสินใจของเธอแต่งงาน แต่ไม่เพียงเท่านั้นคุณ Will ยังขอให้น้องสาวของคุณ Ashley กลายมาเป็นเพื่อนร่วมชีวิตคู่ของพวกเขาอีกด้วย ชายหนุ่มคุกเขาต่อหน้าน้องสาวของคู่หมั้น และขอให้เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคู่ของพวกเขา “มันเป็นวินาทีทีน่าประทับใจมากๆ น้องสาวของฉันดูมีความสุขสุดๆ เราอาจไม่รู้ว่าในอนาคตเธอจะเจอผู้ชายที่แสนดีหรือเปล่า แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกประทับใจที่เธอได้รับช่วงเวลาดีๆ แบบที่ผู้หญิงคนหนึ่งควรจะได้รับ” คุณ Ahsley กล่าว นอกจากนี้ในงานแต่งงานของทั้งสอง น้องสาวของคุณ…
-
ชาวเน็ตเทียบช็อตต่อช็อต MV เพลง “เจ้านาย” กับ “จัสตินบีเบอร์” แรงบันดาลใจแบบเป๊ะมาก?
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาถ้าให้พูดถึงประเด็นที่เผ็ดร้อนมากๆ ในวงการเพลงบ้านเราก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวของ “เจ้านาย” หรือ “จิณเจษฎ์ วรรธนะสิน” ลูกชายของศิลปินระดับตำนาน “เจ เจตริน” ที่ตอนนี้ได้ถูกชาวเน็ตยกให้เป็นจัสตินบีเบอร์เมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!? ทว่าการถูกยกย่องในครั้งนี้กลับไม่ใช่ในเรื่องของงานเพลง เพราะเมื่อชาวเน็ตจากเว็บไซต์พันทิป สมาชิกหมายเลข 863203 ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัว MV เพลง “คนละชั้น” ที่ดันไปคล้ายคลึงกับ I’ll Show You ของพ่อหนุ่มจัสตินนั่นเอง ส่วนใครที่ยังไม่เคยได้ดู MV ทั้งสองเพลงนั้น ก็ลองเชิญดูกันก่อนจากคลิปด้านล่าง แล้วค่อยมานั่งเทียบกันทีละชั้น… เปิดมาที่เพลงของเจ้านายกันก่อนในชื่อเพลงว่า “คนละชั้น” ตามด้วย I’ll Show You ของจัสตินบีเบอร์ เอาล่ะ หลังจากฟังเพลงทั้งสองรวมถึงรับชมเอมวีกันไปแล้ว ในด้านงานเพลงถือว่าแตกต่างนะ แต่เราลองมาดูงานภาพแต่ละช็อตที่ชาวเน็ตนำมาเทียบให้ดูกันว่ามีความคล้ายคลึงกันตรงไหนบ้าง!? เปิดมากับความเหมือนในช็อตแรกที่ทั้งคู่นอนลอยน้ำเหมือนกัน ตามมาด้วยช็อตที่เดินไปบริเวณหน้าผา ต่อด้วยช็อตที่โชว์ให้เห็นวิวข้างหลัง นั่งอยู่บนหน้าผา ส่วนช็อตนี้ก็ดูใกล้เคียง แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวเพราะมองกันไปคนละทิศทาง ในช็อตนี้ก็จะเป็นการใช้โดรนถ่าย เพื่อให้มองเห็นวิวที่สวยงามไกลๆ …
-
ศิลปินญี่ปุ่นเปลี่ยนยุงจอมจิ้ม ให้ดูน่ารักใสๆ สไตล์อนิเมะ จะดูดเลือดแกให้หมดอีตาบ้า!!
ยุง สิ่งมีชีวิตที่แสนน่ารำคาญมากที่สุดในโลก หลายๆ คนอาจจะเกลียดเจ้าสัตว์จอมดูดนี้เข้าไส้กันเลยทีเดียว แต่เคยคิดกันบ้างหรือเปล่าว่าจริงๆ แล้วพวกมันอาจจะน่ารักเหมือนสัตว์ตัวอื่นๆ ก็ได้นะ อืม… แทบมองไม่เห็นภาพเลยใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นลองไปชมภาพของเจ้ายุงที่เรานำมาฝากกันในวันนี้เลย.. รับรองคุณจะรู้สึกดีกับพวกมันมากขึ้นแน่นอน เจ้ายุงลายตัวนั้น… บรื๋ออออ มันจะไปน่ารักได้ยังไงฟระ!? ศิลปินชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งได้เปลี่ยนให้ยุงสัตว์ที่ใครหลายๆ คนเกลียดให้กลายเป็นหนูน้อยสุดน่ารักและอัพเดทลงบนทวิตเตอร์ @bionekojita ของเขา ภาพดังกล่าวคือภาพของยุงในร่างของสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ที่มาพร้อมชุดยูนิฟอร์มสุดเท่ ทำเอาหลายๆ คนที่เป็นแฟนการ์ตูนต้องยอมให้กับความน่ารักของเจ้ายุงตัวนี้เลยทีเดียว จากนั้นไม่นานภาพของสาวน้อยยุงก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตในญี่ปุ่นอย่างมาก ภาพดังกล่าวถูกรีทวีตมากถึง 8,000 ครั้งและมีผู้ถูกใจอีกจำนวนมาก ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย หลายๆ คนอยากรู้จักชื่อของเจ้ายุงตัวนี้ ชาวเน็ตท่านหนึ่งบอกว่า “ผมชอบการออกแบบจริงๆ รายละเอียดต่างๆ สวยงามมาก” ในขณะที่บางคนก็บอกว่า “ฉันไม่อยากโดนยุงตัวนี้กัดเลย” เจอยุงแบบนี้ตบไม่ลงเลยทีเดียวนะเนี่ย!? แหม๊… อยากจะรู้จังว่าเป็นยุงพันธุ์อะไรน้าาาา?? เจอยุงแบบนี้พูดได้คำเลยเลยว่า “อยากโดนกัด!!” ที่มา rocketnews24
-
ตามส่องบรรยากาศในงานเทศกาล Rainbow Gatherings มนุษย์ ‘ฮิปปี้’ ในยุค 2017
เมื่อกล่าวถึงเหล่า ‘ฮิปปี้’ เพื่อนหลายคนคงจะคิดถึงกลุ่มวัยรุ่นในช่วงยุคช่วง 100 ปีก่อน ที่ต้องขอบอกเลยว่ายุคนั้นผู้คนให้ความสนใจกับวิถีชีวิตแบบ ‘บุปผาชน’ เป็นจำนวนมาก แต่ปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าแทบจะหายไปหมดแล้ว หลงเหลือไว้เพียงแค่ภาพถ่ายและอุดมการณ์เรื่องเสรีภาพในการใช้ชีวิตอันแรงกล้าเท่านั้น สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับ กลุ่มที่มีชื่อว่า Rainbow Gathering หรือ ‘การรวมตัวของสายรุ้ง’ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นกลุ่มฮิปปี้ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในยุคปัจจุบัน ที่นี่จะเป็นศูนย์รวมของ ความรัก ความมีอิสรภาพ ไม่มีกฎ ไม่มีค่าเข้าร่วม และไม่มีลำดับชั้นหรืออำนาจใดๆ ระหว่างผู้คน ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะได้ทำการเต้นรำ ตีกลอง มีการทำเวิร์คช็อป นั่งสมาธิ กุมมือกัน ทำโยคะ หรือแม้แต่เสพยาหลอนประสาท เพราะทุกคนมีอิสระในการกระทำสิ่งต่างๆ แต่นั่นก็หมายความว่าจะต้องรับผิดชอบผลการกระทำของตัวเองด้วย และช่างภาพ Denis Vejas เองก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่ม Rainbow Gatherings มานานกว่า 8 ปีแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้มาใช้ชีวิตกันอยู่แบบนี้ไปตลอด แต่จะมีการกำหนดการจัดงานคล้ายกับเป็นเทศกาล ซึ่งจะมีการสลับสับเปลี่ยนไปเป็นแต่ละสถานที่ทั่วโลกเลยล่ะ …
-
ช่างภาพตั้งกล้องไว้ที่โคนต้นไม้ เพื่อสังเกตพฤติกรรมน่ารักๆ ของเหล่าสัตว์ป่าทั้งปวง…
เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมว่าในผืนป่าที่แสนกว้างใหญ่นั้นจะมีสัตว์อยู่กันซักกี่ตัวกันเชียว!? หลายๆ ครั้งที่เรามีโอกาสได้เข้าไปในป่า ก็มักจะไม่ค่อยได้พบกับเหล่าสัตว์ป่าตัวเป็นๆ ซักเท่าไหร่ จนบางครั้งก็เข้าใจไปว่าบางทีประชากรสัตว์ป่าอาจจะเหลือน้อยเต็มทีแล้วก็ได้ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมชีวิตของเหล่าสัตว์ป่าผ่านการตั้งกล้องของ ForestBeat ที่ตั้งไว้ตลอดระยะเวลา 1 ปี ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และสัตว์ชนิดต่างๆ ที่เดินผ่านไปผ่านมา รวมไปถึงพฤติกรรมลับๆ ของพวกมันอีกด้วย!! เจ้ากล้องนี้ถูกติดตั้งไว้ที่บริเวณต้น Beech ในอุทยานแห่งชาติ Abruzzo National Park ในประเทศอิตาลี ด้วยฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนไป เผยให้เห็นถึงสัตว์ชนิดต่างๆ มากมายที่วนเวียนกันมาเยี่ยมเยียนที่ต้น Beech แห่งนี้ บ้างก็เดินผ่านเฉยๆ บ้างก็แวะมาทำธุระปะปัง เช่นเจ้ากวางตัวนี้ที่แวะมาถ่ายรูปออกกล้องซักหน่อย แชะ!! เจ้าหมาป่าที่แวะมาชิ้งฉ่อง (คิดว่าไม่มีคนเห็นล่ะซิ อิอิ) เจ้าหมีที่แวะมาเกาหลัง ฮั่นแน๊ะ!! มีสะดุด คิดว่าไม่มีใครเห็นล่ะสิ 555+ ลองไปชมคลิปวิดีโอที่ถูกบันทึกเอาไว้แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า…. ที่มา : Parco Abruzzo,…
-
หมารึแมวน้ำ!? Lu-Seal ชิวาว่าอ้วนฉุ ต้องเข้าคอร์สลดน้ำหนักจริงจัง เพื่อให้กลับมาผอมสุขภาพดี
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Lu-Seal หมาพันธุ์ชิวาว่า ที่ดูไปดูมาแล้วอาจไม่ใช่หมาแต่มันคือแมวน้ำตัวอ้วนฉุชัดๆ!!… เจ้า Lu-Seal วัย 9 ปี กำลังตกที่นั่งลำบากเพราะป่วยเป็น ‘โรคอ้วน’ มีน้ำหนักตัวพุ่งสูงขึ้นไปถึง 7.2 กิโลกรัมเลยทีเดียว (ทั้งๆ ที่เป็นหมาตัวเล็กแท้ๆ) ด้วยความที่เป็นหมาอ้วน จะเดิน หรือขยับตัวไปทำอะไรก็ลำบาก วันๆ เอาแต่นอนและก็กินอย่างเดียว ก็เลยทำให้เจ้าของคนก่อนของมันเบื่อ และพามันไปทิ้งที่สถานสงเคราะห์ ความอ้วนของมันส่งผลให้ข้อต่อ และเอ็นบริเวณหัวเข่าฉีกขาด จนทำให้มันเดินได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน แต่ก็ต้องขอขอบคุณคุณ Julia Morley ที่ได้ให้โอกาสในการมีชีวิตใหม่กับมันอีกครั้งหนึ่ง และนอกจากจะให้บ้านใหม่กับมัน เธอยังช่วยมันลดน้ำหนักเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องสุขภาพที่เจ้า Lu-Seal ต้องพบเจออีกด้วย ด้วยการควบคุมอาหาร จำกัดให้ทานวันละไม่เกิน 200 แคลอรี่ต่อวัน และเข้าคอร์สออกกำลังกาย ในช่วงแรกๆ มันก็อาจจะลำบากไปบ้าง แต่ด้วยความพยายามในที่สุดเจ้า Lu-Seal ก็เริ่มกลับมาเดินได้อีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้มันมีน้ำหนักอยู่ที่ 3.6 กิโลกรัม แถมยังได้สุขภาพที่ดีกลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้คุณ…
-
โอ้วววเชร๊ดดด!! ชาวเน็ตเผยภาพ “ลูกนกฟลามิงโก้” ถึงกับกระจ่างที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง
สำหรับใครที่ไม่เคยเห็นลูกนกฟลามิงโก้มาก่อน ขอบอกเลยว่าคุณเข้ามาถูกทางแล้ว เพราะวันนี้เราจะพาทุกท่านไปไขข้อสงสัยพร้อมๆ กันว่า แท้จริงแล้วพวกมันมีหน้าตาเป็นยังไง ปกติแล้วถ้าพูดถึงลูกนก เราก็คงจะมีภาพคอนเซ็ปท์ของมันที่คล้ายๆ กันใช่มั้ยล่ะ? มันก็จะเป็นนกตัวเล็กๆ หน่อย มีขนปุกปุย ปีกก็ยังไม่แข็งแรงแถมดูยังไงก็น่ารักน่าชัง หรือไม่ก็อาจจะนึกถึงภาพลูกนกแบบนี้… ผ่างง!! แต่คราวนี้ต้องขอยกความดีความชอบให้กับชาวเน็ตจากทวิตเตอร์ Celesse ที่นำภาพของลูกนกฟลามิงโก้วัยแบเบาะหาชมยาก มาให้เราได้ชมกัน ถ่ะแด๊มมม..!! นี่แหละลูกนกฟลามิงโก้ที่มีลักษณะไม่เหมือนลูกชาวบ้านเค้าเลย แต่เดี๋ยวกัน!! แน่ใจนะว่านั่นขาลูกนก แม่มมเอ้ยยใหญ่อย่างกับโต๊ะสนุ๊ก นอกจากจะมีขาที่ใหญ่แบบบิ๊กโอ้ดแล้ว อีกความแปลกก็คือมันสามารถพับได้!! (ถ้าพับไม่ได้สิแปลก) บางทีเมื่อลูกนกฟลามิงโก้เริ่มโตขึ้น มันอาจจะตั้งคำถามกับตัวเองก็ได้นะว่า “นี่ตูจะทำอะไรกับขาคู่นี้ได้บ้างฟร๊ะ!?” และดูเหมือนว่าตัวมันเองก็แทบจะไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมธรรมชาติต้องสร้างขาให้ตูใหญ่ขนาดนี้ พอพวกมันเริ่มโตเป็นวัยรุ่นแตกหนุ่ม ขาทั้งสองข้างของมันก็วิวัฒนาการให้แปลกยิ่งขึ้นไปอีก ลองนึกภาพดูว่าเราสามารถหักเข่าไปด้านหลัง และใช้เข่าเดินแทนเท้าได้ แอบหลอนเบาๆ นะเนี่ย แต่ใครจะเชื่อละว่าพอพวกมันโตเต็มวัย ก็กลายเป็นอีกสายพันธุ์ที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ที่สุด ได้เห็นแล้วว่าลูกนกฟลามิงโก้เป็นยังไง ตอนนี้ก็ตายตาหลับแล้วล่ะ ที่มา: Buzzfeed
-
27 ภาพของเจ้าตูบ ที่ชอบลงไปมุดในโคลนจนกลายเป็นหมาเคลือบช็อกโกแลตไปแล้วววว
ใครที่เลี้ยงเจ้าจูบแสนซนเอาไว้ในบ้าน คงจะรู้เป็นอย่างดีว่ามันทั้งแสบ ทั้งซน และไฮเปอร์มากขนาดไหน บางครั้งก็ชอบออกไปเล่นนอกบ้านจนทำให้เนื้อตัวเลอะเทอะเต็มไปหมด หรือบางตัวที่เจ้าของเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ยังไม่ทันไร ก็ไปมุดดินมุดโคลนซะจนตัวเปื้อน เฮ้อ…งานนี้เล่นเอาเจ้าของถึงกับต้องกุมขมับกันอยู่เรื่อยเลย และนี่คือ 27 ภาพของเจ้าหมาสุดแสบ ที่เห็นโคลนเป็นไม่ได้ ต้องขอลงไปมุดแล้วชุบตัวให้เปื้อนซะหน่อยยยยยย เย้ยยยย นี่มันหมาเคลือบช็อกโกแลตชัดๆ ขอเลอะครึ่งหน้าก็ยังดี เจอะแบบนี้ฟินเลย บ่องตงชอบจุงเบย ยิ่งเลอะ… ก็ยิ่งเยอะประสบการณ์นะจ๊ะ เจอแบบนี้จะมีวิธีจัดการกับเจ้าสุดแสบยังไงดีน้า ผมเปล่าไปเล่นโคลนมานะงับ ต้องได้อาบน้ำอีกครั้งซะแล้วเรา เรื่องมุดดินมุดโคลนขอให้บอก เพราะมันคืองานถนัดของพวกเรา เลอะหมดแล้วลูกเอ้ย นี่มันสวรรค์ชัดๆ แอบไปเล่นโคลนที่ไหนมาละเนี่ย เห็นโคลนมันน่าจะเย็นชื่นใจ หนูก็เลยขอไปเกลือกกลิ้งซะหน่อย คงไม่ว่ากันนะจ๊ะนายจ๋า นั่งนิ่งๆ ในโคลนช่วยสงบสติอารมณ์ได้ ขนขาวๆ เลอะไปหมดแล้ว …
-
คุณพ่อไอเดียสร้างสรรค์ ตัดต่อรูปภรรยาขณะตั้งครรภ์ ให้ไปทำกิจกรรมสุดหวาดเสียว
ช่วงชีวิตหนึ่งที่สำคัญ และยากลำบากที่สุดของผู้หญิง คงหนีไม่พ้นการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน และในหลายๆ ครั้งเราก็มักจะได้เห็นว่าที่คุณแม่มือใหม่ มาพร้อมกับภาพถ่ายสวยๆ อันอบอุ่นขณะที่พวกเธอกำลังตั้งครรภ์ แต่สำหรับ Jady คุณแม่ท่านนี้ กลับมีภาพถ่ายช่วงเวลาขณะตั้งครรภ์ในแบบที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งภาพทั้งหมดที่เราจะนำมาให้คุณได้รับชมนี้ Robby Klein สามีผู้มีอาชีพเป็นช่างภาพเป็นผู้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดขึ้นมา โดยเขาได้ทำการตัดต่อภาพภรรยาตอนตั้งครรภ์ ขณะกำลังทำกิจกรรมสุดหวาดเสียวต่างๆ ซึ่งภาพชุดดังกล่าวมีชื่อว่า “สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อคุณตั้งครรภ์” ว่าแล้วก็มารับชมภาพผลงานของเขากันเลยดีกว่า ชกมวย (31 สัปดาห์) ไปทำสงคราม (32 สัปดาห์) จับจระเข้ (33 สัปดาห์) ฟันดาบ (34 สัปดาห์) Rattlesnake Hunting (35 สัปดาห์) ขี่กระทิง (36 สัปดาห์) ปีนหน้าผา (37 สัปดาห์) Motorcycle Stunts (38 สัปดาห์) กระโดดร่ม (39…
-
ตำรวจรับอุปการะเด็ก 8 ขวบ ผู้เคราะห์ร้ายจากคดีทำร้ายร่างกาย ที่เขาต้องตามจับ!!
อีกเรื่องราวของนายตำรวจผู้ใจบุญ Jody Thompson จากเมือง Poteau ในรัฐโอคลาโฮม่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กลายเป็นความประทับใจให้ชาวเน็ตส่งต่อกันไปทั่วโลก ก่อนหน้านี้ Jody ได้รับแจ้งเกี่ยวกับคดีทารุณกรรมเด็ก เมื่อเขาไปถึงยังที่เกิดเหตุเขาก็ไม่รู้มาก่อนเลยว่า นั่นจะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขาได้ช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่งออกมาจากความโหดร้าย และได้พบกับลูกชายของเขาเองในอนาคต Jody Thompson ทันทีที่เขาเห็นเด็กหนุ่มผู้ถูกทำร้ายร่างกาย เขาก็รู้ตัวทันทีว่าต้องช่วยเหลือเด็กคนนี้อย่างสุดความสามารถ และจะไม่ปล่อยให้เด็กหนุ่มต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวแน่นอน “สภาพแรกที่ผมไปเห็นคือเขาถูกมัดมือมัดเท้าและถูกขังไว้ในถังขยะ พวกเขาไม่ให้อาหารเด็กหนุ่มเลยสภาพของเขาดูอิดโรยมากและร่างกายก็เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ” นายตำรวจเล่า หลังจากสิ้นสุดเรื่องคดีความ ทั้ง Jody และภรรยาของเขาก็พยายามทำทุกวิถีทางตามกฎหมาย เพื่อยื่นเรื่องขอรับอุปการะ John Thompson เด็กหนุ่มที่ต้องเผชิญกับชีวิตในวัยเด็กอันแสนโหดร้าย “เขาเป็นเหมือนลูกสุดที่รักของเราอีกคนหนึ่ง เขามีความหมายกับครอบครัวเรามาก และเราก็ยินดีที่จะทำให้เขาเติบโตมาเป็นคนดีของสังคมและรู้จักที่จะส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้สังคมต่อไป” ภรรยาเล่า เมื่อนักข่าวเดินทางไปถามถึงผลการเรียน และพฤติกรรมของหนุ่มน้อย John Thompson ทางโรงเรียนก็ได้ชี้แจงว่า เด็กน้อยคนนี้เป็นคนที่ขยันตั้งใจเรียน มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และมีสมาธิตั้งใจเรียนดีมาก “เขาเป็นเหมือนทุกอย่างในชีวิตของผมเลยครับ และเขาก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมยังมีชีวิตอยู่ตรงนี้ได้…” John พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อพ่อบุญธรรม เพราะเด็กไม่สมควรที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย และพวกเขาก็สมควรที่จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้องเช่นกัน ที่มา:…
-
บริษัทการ์ตูนในญี่ปุ่น โปรโมทอนิเมะ “Love and Lies” ด้วยการแจกถุงยางอนามัย!!
ปกติแล้วบริษัทการ์ตูนในญี่ปุ่นมักจะทำโฆษณาโปรโมทอนิเมะเรื่องใหม่ ด้วยการทำโฆษณาลงตามหน้าสื่อต่างๆ ทำเป็นไวรัลออนไลน์ หรือไม่ก็แผ่นโปสเตอร์ติดตามร้านขายหนังสือการ์ตูน แต่การตลาดของทีมงาน ‘Love and Lies’ นั้นแตกต่างออกไปจากการโปรโมทอนิเมะเรื่องอื่นๆ เพราะพวกเขาทำการโฆษณาให้ตรงกับเนื้อหาของอนิเมะด้วยการแจกถุงยางอนามัยรุ่นพิเศษ ให้หนุ่มสาวได้เอาใช้กันฟรีๆ!! ภาพส่วนหนึ่งจากตัวอย่างอนิเมะ Love and Lies เนื้อหาโดยย่อของอนิเมะเรื่องนี้ก็ประมาณว่า เมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศบังคับหาคู่ให้กับเด็กหนุ่มที่อายุครบ 16 ปีบริบูรณ์เพื่อเพิ่มจำนวนประชากรในประเทศ ตัวเอกของเรื่อง Yukari เป็นหนุ่มอายุ 16 ปีที่ถูกทางการบังคับให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ชื่อว่า Ririna และนั่นทำให้เขาต้องแยกทางกับแฟนสาว Misaki แต่ด้วยความรักก็ทำให้ทั้ง Yukari และ Misaki แอบมาเจอกันภายใต้สภาพสังคมที่อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายได้ ตัวอย่างรูปภาพที่จะติดอยู่หน้ากล่องถุงยางอนามัยแจกฟรี ทว่าหลังจากที่มีการประกาศว่าจะแจกถุงยางอนามัยเพื่อเป็นการโปรโมท ก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตในญี่ปุ่นมากมาย หลายๆ คนมองว่า “ถ้าหากแฟนอนิเมะคนนั้นมีคู่รักให้ใช้ถุงยางอนามัยด้วยได้ละก็… พวกเขาคงไม่ใช่แฟนอนิเมะตั้งแต่แรกแน่ๆ” แต่ถึงกระนั้นแฟนการ์ตูนหลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่า เนื้อเรื่องเป็นการพูดถึงญี่ปุ่นในยุคที่ต้องการเร่งเพิ่มจำนวนประชากร ทว่าถุงยางอนามัยกลับเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเครื่องคุมกำเนิด หรือนี่อาจเป็นกิมมิคที่ผู้ผลิตต้องการสื่อนัยยะออกมากันแน่? โดยทางบริษัทประกาศว่าจะแจกถุงยางอนามัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ให้กับแฟนๆ ทุกคนที่มาเที่ยวชมร้าน Akihabara ทั้ง 3…
-
แนะนำ 7 หนังน่าดูประจำเดือนกรกฎาคม ฮีโร่ แอ็คชั่น สยองขวัญ ที่จะมากระชากเงินของคุณ!!
เมื่อเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ของต่างประเทศทีไร ก็ดูเหมือนจะยิ่งใกล้เวลาที่กระเป๋าตังค์ของเราจะขาดสะบั้นลงทุกทีๆ… เพราะมันมีหนังหนุกๆ ยกขบวนกันมาให้เราดูกันแบบไม่ขาดสายเลย แต่เนื่องจากมันมีเยอะจนไม่รู้จะเลือกดูอะไรดี#เหมียวฟิ้นก็เลยจะมาแนะนำเฉพาะหนังเด็ดที่น่าจับตามองกัน เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าควรดูเรื่องไหนก่อนหลัง และเรื่องไหนที่เหมาะกับคุณบ้าง? ว่าแล้วก็ลุย!! 1. Spider – Man: Homecoming การกลับมาของไอ้แมงมุมรอบที่ร้อยแปด (เข้าฉาย 6 กรกฎาคม) เนื่องจาก Spider-Man เป็นซุปเปอร์ฮีโร่อันดับต้นๆ ที่คนทั่วโลกรู้จัก (อันที่จริงสมัยหนังสือการ์ตูนหรือแอนิเมชั่นนี่ ดังกว่า Ironman อีกนะ) จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่จะมีการเข็นเอาตัวละครนี้มาทำเป็นหนังซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม้สถาณการณ์มันจะแย่ลงเรื่อยๆ ก็ตาม แต่หลังจากที่ Marvel ได้ตกร่องปล่องชิ้นกับ Sony Picture ได้สำเร็จ มันก็เลยทำให้สไปดี้ได้กลับมาโลดแล่นบนหน้าจออีกครั้งแบบที่เหล่าคนดูพอจะไว้วางใจได้ ซึ่งจากการปรากฎตัวในหนัง Captain America 3 ก็ทำให้เราเห็นว่า เออไอ้หนุ่ม Tom Holland นี่น่าจะเป็น Spider-Man ได้แหละน่า เรื่องราวในภาค Homecoming (ที่ถือเป็นการรีบูทรอบที่ 2) จะไม่ได้เล่าเรื่องของลุงเบนที่ตายซ้ำตายซาก หรือชีวิตที่น่าอดสูของเจ้าหนู Peter Parker อีกแล้ว…
-
18 บันไดประหลาด ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกแบบ พอเห็นแล้วก็ได้แต่เกาหัวยิกๆ อะไรว๊ะ!?
หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า ‘บันได’ เป็นหนึ่งในสุดยอดสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยทำให้ชีวิตของเราสบายขึ้นอีกเยอะ ลองนึกดูสิว่าถ้าโลกนี้ไม่มีบันได มันก็คงจะไม่มีตึกที่มากกว่า 2 ชั้นจริงมั้ย? บันไดที่ดีก็มักจะมาคู่กับการออกแบบที่ดี แต่บางทีการออกแบบมั่วๆ ก็ทำให้บันไดหมดประโยชน์ไปได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น 18 บันไดประหลาดที่เอามาให้ชมกันนี่แหละ บันไดปีศาจลวงตาแบบนี้ เป็นอันต้องหกล้มกันทุกรายไป บันไดสู่ประตูห้องน้ำคนพิการ ที่ไม่มีคนพิการคนไหนได้เข้าไปใช้เลย!? บันไดที่ไม่รู้ว่าจะมีไอ้เหล็กกั้นนั้นไว้ทำไม เป็นบันไดที่ต้องเสี่ยงตายทุกครั้งที่ใช้งาน เคยเห็นบันไดประหลาดมาก็มาก แต่บอกเลยว่าอันนี้เจ๋งที่สุด ถ้าไปเดินซ้ายคุณก็จะได้เจอกับทางยกระดับ แต่ถ้าขึ้นบันไดข้างขวามันไม่มีทางยกระดับนะ!! จะขึ้นบันไดเลื่อนได้ ก็ต้องเดินขึ้นบันไดก่อน เพื่อ..!? เป็นบันไดที่เหมือนตั้งใจจะวางกับดักไว้ให้คนหกล้ม บันไดที่ไม่รู้ว่าจะสร้างมาทำไม เฮ้อ…. นี่ก็เหมือนกัน… จะทำทางชันลงมาให้ชนกับบันไดทำไมละนั่น ว่ากันว่านี่คือสไตล์การสร้างบันไดแบบรัสเซีย ถ้าลงบันไดเลื่อนแล้วต้องเดินขึ้นบันไดอีก ก็ไม่ต้องสร้างบันไดเลื่อนแล้วก็ได้มั้ง? เป็นบันไดที่เอิ่ม… แบบนี้บ้านจะขายออกมั้ยล่ะเนี่ย บันไดที่ไม่เมคเซ้นส์เอาซะเลย เพราะทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะสร้างมาทำไม!? ขอยินดีต้อนรับคุณเข้าสู่…. ที่นี่ที่ไหนว่ะ?…
-
ภาพถ่ายโคลสอัพของ “ด้วงงวงมะพร้าว” ลักษณะเหมือนสวมนวม พร้อมจะต่อยให้ตาบวม
นี่เป็นภาพถ่ายระยะปะชิดของ “ด้วงงวงมะพร้าว” ที่นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงรายละเอียด และสีสันอันงดงามของมันแล้ว เรายังได้เห็นว่าเจ้าด้วงดังกล่าวกำลังทำท่าทางต่อสู้เหมือนกับ Anthony Joshua สุดยอดนักมวยแชมป์โลกแห่งเกาะอังกฤษอีกด้วย สำหรับภาพถ่ายดังกล่าว ทางเว็บไซต์ The Sun ได้นำมาเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2560 โดยระบุว่า ภาพถ่ายดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นโดย Javier Ruperez ชายวัย 56 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพมาโคร จาก Almachar ประเทศสเปน ภาพถ่ายของด้วงงวงมะพร้าว ที่กำลังทำท่าทางเหมือนกับ Anthony Joshua เหมือนไหมละ ทางด้าน Javier ได้ออกมาเผยว่า “แมลงสายพันธุ์นี้ เป็นแมลงชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่และสามารถเจริญเติบโตได้ยาวถึง 4 เซนติเมตร อีกทั้งมันยังมีลักษณะที่โดดเด่น โดยสามารถยืดขยายศีรษะที่มีรูปแบบคล้ายกับจะงอยปากได้ ซึ่งหนวดของมันจะอยู่ในรูปแบบของคทา เมื่อเราได้มองเห็นมันใกล้ๆ หนวดจะมีลักษณะคล้ายกับนวมของนักมวยนั่นเอง” สำหรับด้วงงวงมะพร้าว เป็นดวงขนาดกลางที่แพร่กระจายอยู่ทั่วเอเชีย แต่ปัจจุบันได้แพร่กระจายเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นไปในทวีปต่าง ๆ ของโลก โดยด้วงงวงชนิดนี้ถือเป็นแมลงศัตรูพืชที่สำคัญอีกชนิดหนึ่ง โดยเฉพาะพืชจำพวกปาล์ม…
-
พบกับ “ห้องสมุดแห่งความลับ” สถานที่อ่านหนังสืออันเงียบสงบ สวรรค์ชั้น 7 ของนักอ่าน
โดยปกติแล้ว เวลาที่เราจะหาสถานที่ในการพักผ่อนหย่อนใจ หรืออ่านหนังสือ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่คงต้องการสถานที่ที่เงียบสงบ ยิ่งถ้าอยู่กลางป่าแถมมีบรรยากาศดีๆ คงต้องร้องดังๆ ว่า โอ้โห!! นี่มันสวรรค์ชัดๆ เลย และสถานที่เหล่านั้น มันอาจไม่ได้อยู่ในจินตนาการของเราเสมอไป เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงมีสถานที่เหล่านั้นอยู่ด้วยนะ และนี่คือ ห้องสมุดที่ตั้งอยู่กลางป่า สร้างขึ้นมาเพื่อเอาใจคนรักสงบโดยเฉพาะ สำหรับห้องสมุดอันเงียบสงบแห่งนี้ ตั้งอยู่ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกออกแบบขึ้นมาโดยบริษัท US firm Studio Padron โดยมีชื่อว่า “The Hemmelig Rom” ซึ่งในภาษานอร์เวย์แปลว่า “ห้องแห่งความลับ” นั่นเอง ใครที่ต้องการสถานที่อันเงียบสงบในการอ่านหนังสือ บอกเลยว่าห้องสมุดแห่งนี้สามารถตอบโจทย์ให้คุณได้ เพราะนอกจากจะเงียบสงบแล้ว บรรยากาศนั่งน่ารื่นรมย์ เหมาะแก่การอ่านหนังสือ และจิบกาแฟเบาๆ ไปพร้อมกัน ในขณะที่ภายในถูกสร้างขึ้นมาให้ดูอบอุ่น ในทางกลับกันโครงสร้างภายนอกกลับถูกออกแบบขึ้นมาให้มีลักษณะคล้ายกับกล่องธรรมดาๆ สร้างโดยใช้ไม้โอ๊ค ซึ่งจะมีเพียงหน้าต่าง 2 บานใหญ่ และประตูเท่านั้น แต่บอกเลยว่ามันดูทันสมัย และเรียบง่ายเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นห้องสมุดที่สร้างขึ้นมาได้อย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากจริงๆ…
-
ครั้งหนึ่งของ “ชุดชั้นในหัวกระสุน” เคยเป็นที่นิยมของสาวๆ ในอดีต ยิ่งแหลมยิ่งเร้าใจ!!
แฟชั่นกับผู้หญิงมักเป็นของคู่กันอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าแต่ละยุคแฟชั่นจะเป็นอย่างไร ผู้หญิงก็มักจะไม่พลาดที่จะตามกระแสนั้น แล้วรู้มั้ยครั้งหนึ่งในอดีตราวๆ ยุค 1940-1950 ชุดชั้นในหัวกระสุนได้รับความนิยมในหมู่สาวๆ เป็นอย่างมาก ใครที่ไม่ใส่ถือว่าเอาท์สุดๆ เลยหละ ชุดชั้นในหัวกระสุนนี้มีชื่อเสียงมาจากกลุ่มดาราสาวฮอลลีวูดในยุคนั้น โดยที่พวกเธอจะนิยมสวมใส่เสื้อกันหนาวแบบรัดๆ เพื่อให้เห็นหน้าอกทรงกรวยหรือชุดชั้นในทรงหัวกระสุน ที่สำคัญ Madonna ยังเคยสวมชุดชั้นในหัวกระสุนที่ออกแบบโดย Jean Paul Gaultier ในระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต Blond Ambition ในปี 1990 ด้วยนะเออ ต่อมา What Katie Did ก็กลายเป็นบริษัทแรกที่นำเอาชุดชั้นในหัวกระสุนเข้าสู่การบวนการผลิตในยุคสมัยใหม่ และวางจำหน่ายในปี 1999 ตั้งแต่นั้นมาบริษัทชุดชั้นอื่นๆ ก็แห่ทำตามและสร้างเป็นชุดชั้นในหัวกระสุนในแบบของตัวเอง จนได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายในหมู่สาวๆ ส่วนการใส่ให้ดูสวยน่ะเหรอ? ต้องใส่กับเนื้อรัดรูปหรือเสื้อฟิตๆ เพื่อให้เห็นทรงหัวกระสุนได้ชัดเจน ยิ่งหัวยกทรงแหลมมากเท่าไรก็จะเพิ่มความเซ็กซี่ให้สาวๆ มากขึ้นเท่านั้น . . . . ต้องใส่ให้พุ่งแบบนี้ถึงจะดูสวย พุ่งให้สุดค่ะ เซกซี่ไปอีก นี่แหละแฟชั่นที่คนยุคปัจจุบันอาจเข้าไม่ถึง…
-
ว่าไงนะ?? สายการบินโคลอมเบียผุดไอเดียนำเก้าอี้ออก ให้ผู้โดยสารยืนตลอดเที่ยวบินแทน
ทุกวันนี้สายการบินต่างๆ มักแข่งขันกันเพื่อเรียกลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่น การเพิ่มบริการ เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย เพื่อจะได้รับการไว้วางใจผู้โดยสารให้มากที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน สายการบิน VivaColombia กลับเตรียมเปิดแนวคิดใหม่ด้วยการนำเก้าอี้ออกจากเครื่องทั้งหมด แล้วให้ผู้โดยสารยืนแทน ทางสายการบินเผยว่า การพิจารณาเตรียมนำเก้าอี้ออกจากเครื่องบิน ก็เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายสำหรับแต่ละเที่ยวบิน อีกทั้งยังสามารถรับจำนวนผู้สารต่อเที่ยวได้เพิ่มมากขึ้นด้วย ตามรายงานของเว็บไซต์ Miami Herald กล่าวว่าในปัจจุบัน ประเทศโคลอมเบียประสบความสำเร็จด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยมีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 43% จากช่วง 4 เดือนแรกของปี เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ดังนั้นเที่ยวบินสำหรับยืนจะเป็นอีกหนึ่งบริการที่จะทำให้รองรับผู้โดยสารมากขึ้น เพื่อเพิ่มกำไรให้สายการบิน โดยมีแนวโน้มในการนำมาใช้กับเที่ยวบินที่มีระยะเวลาในการเดินทางหนึ่งชั่วโมง William Shaw ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร VivaColombia บอกว่า “ตอนนี้เรากำลังมองหาทางเลือกที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ได้ประสบการณ์การเดินทางในราคาที่เหมาะสม” “ดังนั้นหากใครไม่สนใจเรื่องบริการบนเครื่องบิน ไม่สนใจของว่าง ไม่สนในที่นั่งนุ่มๆ รวมทั้งระบบความบันเทิงอื่นๆ สายการบินสำหรับยืนนี้ก็คงจะเหมาะกับคุณที่สุดแล้ว” เขาบอก จริงๆ ก่อนหน้านี้ในปี 2010 สายการบิน Ryanair ก็มีแนวคิดที่จะทำเที่ยวบินในเชิงการยืนเหมือนกัน โดยจะเป็นในลักษณะของเก้าอี้ที่นั่งสูงพร้อมกับเข็มขัดนิรภัย ที่จะออกมาในแนวบังคับยืนกลายๆ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่การบินพลเรือนก็ไม่อนุญาตทำแบบนั้น Alfredo Bocanegra ผู้อำนวยการฝ่ายการบินพลเรือน บอกว่า “มนุษย์ต้องเดินทางในแบบมนุษย์…
-
ลุยกินเนื้อย่างที่ “焼肉スタジアムJAN” อร่อยโคตรๆ จนต้องบอกต่อ (#ประธานเหมียว in Japan EP. 2)
หลังจากที่เราได้ไปทดสอบหนังโป๊แบบ VR กันจนหมดแรงไปแล้วในบทความก่อน: ไปลองดูหนัง AV ในแบบ VR จะสยิวกิ๋วถึงใจแค่ไหน!? (#ประธานเหมียว in Japan EP. 1) เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาเติมแรงกันสักหน่อย ด้วยการหาอะไรมาใส่ท้อง ซึ่งเป้าหมายของเราวันนี้ก็ตกลงกันว่าจะไปร้านเนื้อย่าง.. แต่จะไปร้านไหนนี่สิ!? พอดีว่าที่พักของผมอยู่แถวสถานี Ikekuburo ก็เลยกะว่าไม่อยากไปไกล ขอหาร้านแถวๆ นั้นล่ะกัน ว่าแล้วก็เปิดอินเตอร์เน็ตหาข้อมูล โดยที่ไม่คาดหวังหรอกว่ามันจะอร่อยมาก ขอแค่อิ่มก็พอเนอะ… ร้านอยู่ไม่ไกลสถานีครับ เดินออกมาทางตะวันออก (East Exit) แปปเดียวเท่านั้น… แต่แล้วเราก็ไปเจอเข้ากับร้านนี้ 焼肉スタジアムJAN ซึ่งมีรีวิวบอกว่าเป็นร้านเนื้ออร่อยแถมราคาย่อมเยา ว่าแล้วก็เลยลองไปสักหน่อย ตัวร้านนั้นสามารถหาได้บน Google Maps เลยครับ แต่จะซ่อนตัวอยู่ชั้นใต้ดิน ซึ่งทางเข้าก็จะมีป้ายเขียนเอาไว้เลย ตอนที่ผมไปนั้นก็งงว่าทำไมทางเข้าแคบมาก จนไม่นึกว่าข้างในจะเป็นร้านที่คุณภาพดีอยู่ด้วย ทางเข้าร้าน สภาพภายในร้าน (ทั้ง 2 ภาพนี้เอามาจากเว็บไซต์ของทางร้านนะครับ) เมื่อเข้าไปก็ไม่รอช้า รีบสั่งเมนูต่างๆ มาลองทันที ในส่วนของเครื่องดื่มนั้นก็มีหลากหลายชนิด รวมถึงเบียร์วุ้นเย็นจัดมาในแก้มโลหะแบบเฉพาะของร้าน…
-
ชายผู้ถึงจุดสุดยอดวันละ 100 ครั้ง ถึงขั้นต้องเปลี่ยนแปลงเพศ เพื่อลดให้เหลือแค่ 8 ครั้งต่อวัน…
การมีอารมณ์ทางเพศหรือการมีเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และคุณก็สามารถระบายมันออกมาได้ตามต้องการ แต่ถ้ามันบ่อยมากจนเกินไป ก็จะเป็นอันตรายกับร่างกายได้เหมือนกันนะ!! นี่คือเรื่องราวของคุณแม่ข้ามเพศที่เคยใช้ชีวิตเป็นผู้ชายมาก่อน แต่เพราะเขาต้องเจอกันฝันร้ายที่ทำให้ถึงจุดสุดยอดถึงวัน 100 ครั้ง และต้องพยายามทำให้จำนวนครั้งลดน้อยลงไปด้วยการเปลี่ยนแปลงเพศของตัวเอง!! Dale Decker ปัจจุบันคือ Christine Decker ในวัย 40 ปี จากเมือง Two Rivers รัฐวิสคอนซิน เขาเกิดมาเป็นผู้ชายตั้งแต่กำเนิด เธอต้องต่อสู้กับความผิดปกติที่เรียกว่า Persistent Genital Arousal Syndrome (PGAS) หรือโรคถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ ตั้งแต่ปี 2012 หลังจากประสบอุบัติเหตุ อาการของความผิดปกตินี้ทำให้เธอถึงจุดสุดยอดมากถึง 100 ครั้งต่อวัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Christine ต้องเริ่มต้นใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว และเพิ่มเติมฮอร์โมนเพศหญิงเข้าไปในร่างกาย เพื่อลดจำนวนการถึงจุดสุดยอดจนเหลือเพียงแค่ 8 ครั้งต่อวัน Dale Decker ปัจจุบันคือ Christine Decker อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Christine ก็ยังคงอยู่กับภรรยาวัย 36 ปี กับลูกชายสองคนคือ Christian…
-
รวม 20 ภาพของเหล่าผู้คนที่ชอบแหกกฎ ทุกข้อห้ามไร้ความหมาย เหมือนไม่มีตัวตน…
บ่อยครั้งที่เรามักจะเคยเห็นป้ายห้ามต่างๆ ที่ติดอยู่ตามสวนสาธารณะหรืออาคารหลายๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นป้ายห้ามเดินลัดสนาม หรือห้ามสูบบุหรี่ แล้วเคยรู้สึกกันบ้างหรือเปล่าว่าป้ายพวกนั้นมันเหมือนกำลังเรียกร้องเราอยู่?? ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม่เวลาที่เห็นข้อห้ามต่างๆ แล้วมันรู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมาทันที และวันนี้เราก็ได้รวบรวมเหล่าผู้คนที่ชอบแหกทุกกฎเกณฑ์มาฝากกัน การแหกคอกของแต่ละคนจะฮาแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. ห้ามเอาออกจาสำนักงานใช่มั้ย?? พาออกไปเที่ยวแม่มเลย 2. อ่านบนเสื้อไม่ออกหรือไงว่า “หยุดถ่ายเซลฟี่” ได้แล้วว้อยย 3. เจ้าหนูจอมดื้อที่ไม่ยอมประทับฝ่ามือลงบนแผ่นไม้กระดาน 4. อ่อ กำลังคิดที่จะจับเครื่องนี้อยู่ใช่ไหมล่ะพ่อหนุ่ม?? 5. อย่าปาหินใส่ป้ายว้อยย!! 5. ห้ามกิน ห้ามสูบ ห้ามโทร ห้ามพี่เค้าไม่ได้จริงๆ 6. อย่าใช้ของมีคมเปิดหีบห่อ… พี่แกเล่นแผ่นหนัง Blade แทน ฮร่าาาา 7. ห้ามดำน้ำใช่ไหม?? ได้เลยจัดให้ 8. เอ่อ.. จะมีใครกล้าบอกลุงคนนี้ไหมเนี่ยว่าเขาห้ามถ่ายรูปน่ะ 9. ไอ้..!$@#!$#% ก็บอกแล้วว่าห้ามกล้บด้านโว้ยยยย …
-
Stormtrooper ใช่มั้ย!? รัสเซียเปิดตัวต้นแบบชุดเกราะไฮเทคล้ำยุค เพิ่มเขี้ยวเล็บให้กองทัพ
ถ้าหากใครที่เป็นแฟนๆ หนังสตาร์วอร์คงจะคุ้นเคยกับเหล่าตัวประกอบทหารสีขาวหรือพวก Stormtrooper กันเป็นอย่างดี และด้วยความไฮเทคบอกกับความเท่ของชุด ก็กำลังจะกลายมาเป็นชุดเกราะของทหารรัสเซียแล้ว!! ตัวอย่างของชุดเกราะจากโลกอนาคตนี้ พึ่งเปิดตัวในประเทศรัสเซียเมื่อช่วงวันพฤหัสที่ 29 มิถุนายน 2017 โดยจัดแสดงในมหาวิทยาลัย National University of Science and Technology MISiS ณ กรุงมอสโก ชุดสุดไฮเทคนี้ประกอบก้วยเกราะด้านนอกที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับผู้สวมใส่ ในส่วนของหมวกนั้นก็มีระบบไฟ Night Vision สำหรับใช้งานในตอนกลางคืนติดตั้งมาให้ด้วย ส่วนของแขนจะมีผ้าที่เป็นลายพรางและเกราะที่ติดธงชาติของรัสเซีย และส่วนของรองเท้าจะมีลักษณะคล้ายกับรองเท้าสกีที่ทำจากวัสดุที่ทนทาน ช่วยปกป้องกระสุนและระเบิดได้ อีกทั้งยังมีเซนเซอร์ตรวจกับระเบิดอีกต่างหาก นอกจากนี้ตัวชุดเกราะนั้นก็มาพร้อมกับโครงเหล็ก Exoskeleton ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถแบกอาวุธหนักได้เป็นระยะเวลานานมากยิ่งขึ้น รายละเอียดของชุดทหารแห่งอนาคตจากรัสเซีย ชุดดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในสถาบันวิจัยและค้นคว้าอาวุธของรัสเซีย Central Research Institute for Precision Machine Building ซึ่งทางด้าน Oleg Chikarev หัวหน้าของทีมค้นคว้ากล่าวว่า “การเปิดตัวชุดเกราะนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของเราสำหรับการพัฒนาชุดเกราะในอีกสองปีข้างหน้า” โดยชุดดังกล่าวเป็นการพัฒนาร่วมกับบริษัทต่างๆ ภายในประเทศรัสเซียที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน …
-
12 เกร็ดความรู้เกี่ยวกับ “คนโลกส่วนตัวสูง” และทำให้เรา เข้าใจพวกเขามากยิ่งขึ้น!!
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยคลุกคลีหรือรู้จักกับคนที่ชอบปลีกตัวไม่ชอบยุ่งกับใครบ้างแน่ ซึ่งเรามักจะเรียกพวกเขาเหล่านั้นว่า พวกโลกส่วนตัวสูง และก็มักจะคิดว่าพวกเขารังเกียจเราหรือ ไม่อยากที่จะรู้จักกับเราแน่ๆ แต่วันนี้เราจะมาทำให้คุณเปลี่ยนความคิดที่มีต่อพวกเขาใหม่ โดย 12 ข้อต่อไปนี้เป็นสิ่งที่คนรักสันโดษอยากที่จะบอกให้คุณรู้และเข้าใจพวกเขา จะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย 1. คนที่โลกส่วนตัวสูงไม่ใช่คนขี้อาย แต่พวกเขามักจะมีลักษณะเป็น “มนุษย์เงียบ” มากกว่า จากข้อมูลระบุว่า เหล่าคนโลกส่วนตัวสูง จะมีอาการ “กลัวถูกตัดสินจากสังคมรอบข้าง” นั่นทำให้พวกเขาไม่ค่อยกล้าแสดงออกตัวตนในที่ไม่คุ้นเคย เป็นที่มาของอาการชอบเก็บตัว 2. นั่นหมายถึงว่า พวกเขามักจะเป็นผู้ฟังที่ดี และจะไม่พูดขัดกับคุณ 3. เวลาที่มีการประชุมหรือถกเกียงกัน พวกเขามักจะถูกลืม เพราะพวกเขาจะนั่งนิ่งๆ เพื่อคิดให้รอบครอบก่อนที่จะพูดออกมา นั่นคือสิ่งที่คุณควรจะซักถาม เพื่อเปิดโอกาสให้เขาพูดด้วย 4. ถึงแม้จะเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นคนที่เฉยชา เอาแต่อยู่กับที่นะ 5. จริงๆ แล้วพวกเขามักจะพูดหรือนำเสนองาน ต่อคนจำนวนมากได้เป็นอย่างดี เพราะเหล่าคนโลกส่วนตัวสูง มีแนวโน้มที่จะพยายามเตรียมงานอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะก่อนการขึ้นนำเสนองานต่อหน้าคนหมู่มาก 6.แต่เมื่อพูดเสร็จแล้ว พวกเขามักจะไม่อยากพบปะกับใคร พวกเขาจะชอบการสนทนายืดยาวในเรื่องเฉพาะด้าน และไม่ค่อยอยากจะสนทนาแบบสั้นๆ ทั้งการทักทายกับผู้ฟังในงาน หรือการถูกชมว่านำเสนอดี พวกเขาจะพยายามบอกปัดมันด้วยการเขินอาย…
-
หนังสั้นอบอุ่นใจ “เดอะรียูเนี่ยน” จาก “โต้ง บรรจง” หวนให้คุณคิดถึงเพื่อนในวัยเด็กอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่#เหมียวฟิ้นกลายเป็นคนที่ชอบดูโฆษณาตามเฟซบุ๊กและอินเตอร์เน็ต (เอ่อ แต่พวกโฆษณาตามหาคนเข้าทำงานหรือหาคนเล่นเน็ตวันละ 2-3 ชั่วโมงนี่ไม่นับนะ) เพราะว่ากันจริงๆ แล้วโฆษณาสมัยนี้ทำดีมากกว่าเมื่อก่อนเยอะ จนกลายเป็นหนังสั้นดีๆ ให้เราดูจนจบได้เลย อย่างโฆษณาตัวล่าสุดที่เราได้ดูมาเป็นหนังสั้น 10 นาทีที่ชื่อว่าเดอะรียูเนี่ยน ซึ่งเป็นงานกำกับของโต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล บอกตรงๆ ว่ามันดีเสียจนอยากจะเอามาเล่าให้ทุกๆ คนไปตามดูกันเลย หนังสั้นเรื่องนี้พูดถึงกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่พยายามจะนัดเจอกันเท่าไหร่ก็มีอันต้องล่มทุกที จนสุดท้าย “เอ็ม” หนึ่งในสมาชิกเพื่อนก็ได้จากไปด้วยโรคร้ายและนั่นคือเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้กลุ่มเพื่อนที่รวมตัวกันยากเย็นได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แต่ถึงตัวจะจายไปเจ้าตัวก็ได้ฝากวิดีโอเอาไว้ตัวหนึ่งเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาเป็นครั้งสุดท้าย จากวิดีโอตัวนี้เอ็มได้ถามสารทุกข์สุกดิบเพื่อนๆ และชวนรำลึกถึงความหลังในวัยเด็ก ช่วงเวลาที่การเจอกับเพื่อนๆ เป็นเรื่องที่ง่ายดาย ช่วงเวลาที่ทุกๆ คนเป็นตัวของตัวเองและสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ การรวมกลุ่มเพื่อนในวันสำคัญ ที่ไม่มีอยากมาเจอกันด้วยเหตุผลนี้เลย ลองชมหนังสั้นที่ว่านี้ด้วยกันเลย ถ้าใครได้ยินชื่อของโต้ง บรรจงมาบ้างแต่นึกผลงานไม่ออก เขาคือหนึ่งในผู้กำกับเรื่องแฝด, กวนมึนโฮ, พี่มากพระโขนง และล่าสุดอย่างแฟนเดย์ (ที่ทำเราเสียน้ำตามาก) ในหนังสั้นเดอะรียูเนี่ยนก็ยังคงลายเซ็นของเขาไว้ได้ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นตลกร้ายอย่างการพูดถึงความตายในแบบจิกกัด ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่สุดแสนจะกวนโอ๊ย มุกตุ้งแช่ที่แอบใส่เข้ามาอย่างแนบเนียน (นี่หนังสั้นหรือหนังผีกันแน่เนี่ยะ) หรือจะเป็นมุกแบบ “นี่ไม่ใช่โฆษณาประกันนะเว้ย” “พวกมึงจำความรู้สึกนั้นได้ป่าววะ ความรู้สึกที่แม่งไม่กลัวอะไรกันเลย…
-
“12 เรื่องจริงไปทั่ว” ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ แต่ถ้ารู้แล้วรับรองว่าจะดูฉลาดขึ้นมาทันที..!!
ใครที่ชอบอ่าน Facts แบบเป็นข้อๆ ที่ย่อมาให้ย่อยกันแบบง่ายๆ ขอบอกเลยว่าวันนี้เรามีเรื่องจริงหลายอย่างที่จะมาบอกเล่า ให้คุณได้เก็บเอาไปโม้ให้เพื่อนฟังต่อได้ ทั้งหมดนี้เป็น 12 Facts น่ารู้จากเว็บไซต์ Lifebuzz ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลย และเราก็ไม่รู้ว่าจะอยากรู้ไปทำไม แต่เชื่อเถอะว่ามันจะทำให้เราดูเป็นคนมีความรู้ขึ้นมาทันทีเลยล่ะ 1. สภาพเล็บของคุณอาจบ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมทั้งหมดได้ 2. กระเป๋าเป้ห้อยหลังแบบที่มีสายสะพายข้างเดียว และมีเชือกรัดข้างบน เรียกว่า ‘Duffel Bag’ เป็นชื่อของเมืองหนึ่งในประเทศเบลเยียม ซึ่งในช่วงกลางศตวรรษที่ 17 หมู่บ้านแห่งนี้ผลิตเสื้อผ้าและกระเป๋าเป็นสินค้าหลัก 3. ไม่ว่าคุณจะหลับ เดิน วิ่ง นอน ทำงาน หรือแม้แต่นั่งขี้ หัวใจของคุณไม่เคยหยุดพักเลย ในทางวิทยาศาสตร์หัวใจของคนทั่วไปอัตราการเต้นต่อปีเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านครั้ง/ปี 4. ที่อังกฤษมีห้างดังชื่อ ‘Harrods’ ที่มักจะขายของสวยหรู และกิ๊ฟช็อปต่างๆ ทว่าในสมัยช่วงปี 1916 ห้างแห่งนี้เป็นหนึ่งในบริษัทที่ขายส่งโคเคน และมอร์ฟีนไปทั่วเกาะอังกฤษ 5. Sally Ride เป็นหญิงชาวอเมริกันคนแรกที่ได้ไปเยือนอวกาศ เมื่อปี 1983…
-
เด็กหนุ่ม 10 ขวบ ถูกเพื่อนๆ รังแก กลุ่มบิ๊กไบค์ 200 กว่าคัน ขับไปส่งถึงหน้าโรงเรียนเลย!!
เป็นปัญหาของทุกโรงเรียนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ที่มักจะมีเด็กๆ จับกลุ่มกันรังแกเพื่อนคนอื่น ถึงแม้ว่าดูเผินๆ อาจจะเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่อันที่จริงแล้วถือว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่มากเลยล่ะ เช่นเดียวกับ Xander เด็กหนุ่มวัย 10 ขวบลูกชายของ Katie Laybolt ซึ่งคุณแม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเด็กๆ ทุกคนในโรงเรียนประถม Harbourside ในแคนาดา มักจะรวมตัวกันกลั่นแกล้งลูกชายของเธอเป็นประจำ “มันเป็นอะไรที่บ้ามาก เกือบทุกวันลูกชายของฉันจะกลับบ้านมาพร้อมกับสภาพถูกรังแก แถมยังมีเด็กคนอื่นใช้คำพูดไล่ให้เค้าไปตายด้วย” ด้วยความไม่สบายใจคุณแม่ก็ได้พยายามประสานงานกับทางโรงเรียน และผู้ปกครองของเด็กคนอื่นๆ ทว่ากลับไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย เธอจึงลองติดต่อกลุ่มเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Defenders of Children ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่จัดตั้งขึ้นจากกลุ่มไบค์เกอร์เพื่อลดปัญหาการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้นในโรงเรียน ชาวไบค์เกอร์ก็ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี พวกเขารีบติดต่อสมาชิกเครือข่ายในท้องถิ่นให้รวมตัวปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือหนุ่มน้อย Xander ทันที เช้าวันต่อมาพวกเขาก็ได้ยินเสียงรถบิ๊กไบค์กว่า 200 คัน มาจอดรออยู่หน้าบ้าน พวกเขาไม่ใช่แก๊งค์อันธพาลหรือนักเลงหัวโต แต่พวกเขาคือขบวนคาราวานที่จะพาหนุ่มน้อย Xander ไปประกาศศักดาถึงหน้าโรงเรียน Xander Rose ดูเท่สุดๆ เมื่อเขามาโรงเรียนโดยมีไบค์เกอร์กว่า 200 ชีวิตตามมาส่ง Mike Basso หนึ่งในสมาชิกกลุ่มให้สัมภาษณ์ว่า…
-
คู่รักซื้อรถเมล์เก่าในราคาแค่ 5 หมื่นนิดๆ ก่อนจะดัดแปลง ให้เป็นบ้านน่ารักระดับแสน!!
สำหรับคู่รักหลายๆ คู่ อาจจะมีความใฝ่ฝันว่าต้องการมีบ้านหลังใหญ่ๆ สักหลัง แต่สำหรับ Tom Grantham และ Kay Barnes สองสามีภรรยาคู่นี้ บ้านหลังใหญ่ราคาแพงๆ อาจจะไม่ได้เป็นที่ต้องการสำหรับพวกเขา เพราะเพียงแค่มีรถคันบ้านคันเล็กๆ เท่านี้ก็สามารถสร้างความสุขให้กับทั้งคู่ได้แล้ว และนี่คือภายในของรถบัส Stagecoach ที่มีอายุกว่า 23 ปี ถูกดัดแปลง และสร้างสรรค์ให้หลายเป็นรถบ้าน หรือมอเตอร์โฮมได้อย่างหรูหรา และสวยงามเป็นอย่างมาก สำหรับรถบัสคันนี้ ทาง Tom ได้สั่งซื้อมาจาก eBay ในราคาเพียงแค่ 1,200 ปอนด์ (1,500 เหรียญ) หรือราวๆ 51,000 บาทเท่านั้น จากนั้นเขาและภรรยาก็ทุ่มเงินอีกเป็นจำนวน 10,000 ปอนด์ (13,000 เหรียญสหรัฐ) หรือราวๆ 441,000 บาท มาปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นบ้านหลังเล็ก ที่มีทั้งเตียงคู่ ห้องครัวเล็กๆ ห้องอาบน้ำ หรือแม้กระทั่งเตาผิง Tom…
-
พ่อแม่ยอมจ่ายเงินกว่า 2 แสนบาท ให้ลูกสาวไปเสริมหน้าอก ถ้าหากลดน้ำหนักได้!?
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Jayne คุณแม่วัย 44 ปี และ Terence คุณพ่อวัย 45 ปี จากแมนเชสเตอร์ ได้สังเกตเห็นว่า Hollie Modlinsky ลูกสาววัย 23 ปีของพวกเขาดูไม่มีความสุขเอาซะเลย งานนี้ผู้เป็นพ่อแม่จึงได้ทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อให้ลูกสาวกลับมามีความสุขอีกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2015 Hollie ได้ออกมาเผยว่า เมื่อตอนที่เธอได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอียิปต์ เธอได้จ่ายเงินเป็นจำนวน 150 ปอนด์ หรือราวๆ 6,700 บาทต่อสัปดาห์ เพื่อการกินและดื่มอย่างหนักจนทำให้น้ำหนักของเธอพุ่งพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้ เธอมีน้ำหนักเพียง 95 กิโลกรัม แต่หลังจากนั้นเพียง 9 เดือน น้ำหนักตัวของเธอก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 117 กิโลกรัมอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมันยังทำให้เธอรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเวลาที่ได้ใส่กระโปรงตัวเก่งเป็นอย่างมาก และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอตัวใหญ่เกินไปสำหรับเสื้อผ้าของเธอซะแล้ว หลังจากที่ Hollie ได้กลับมาถึงบ้าน พ่อแม่ของเธอก็ได้บอกว่า เธอมีน้ำหนักที่มากเกินไป…
-
โดมิโนพิซซ่า เปิดตัวเมนูใหม่ล่าสุด “พิซซ่าช็อกโกแลต” พร้อมเสิร์ฟความฟินให้คุณถึงที่
เมื่อพูดถึง “พิซซ่า” หลายคนคงจะนึกถึงภาพของขนมปังอบแผ่นใหญ่ ที่มีลักษณะกลมๆ พร้อมกับตกแต่งหน้าด้วยวัตถุดิบแสนน่ากินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชีสเยิ้มๆ ไส้กรอก เบค่อน ฯลฯ แต่สำหรับพิซซ่าที่เราจะพาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักในวันนี้ละก็ บอกเลยว่ามันสามารถลบภาพพิซซ่าในแบบฉบับของคาวไปได้หมดเลยละ เพราะนี่คือ Lotta-Chocca พิซซ่าช็อคโกแล็ต เมนูของหวานใหม่ล่าสุดจากแบรนด์โดมิโน พิซซ่า ที่ใครเห็นก็เป็นอันต้องอยากลิ้มลอง เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า แบรนด์พิซซ่าชื่อดังอย่างโดมิโน พิซซ่า ได้เอาใจคนรักขนมหวานโดยการเปิดตัวเมนูพิซซ่าใหม่ล่าสุดนั่นก็คือ Lotta-Chocca พิซซ่าช็อคโกแล็ต ที่ถูกเสิร์ฟบนฐานแป้งขนาด 6 นิ้วในแบบฉบับของโดมิโนแบบดั้งเดิม พร้อมราดด้วยช็อกโกแลตนมฟินๆ กินแล้วละลายในปาก โดยมาในราคาเพียงแค่ถาดละราวๆ 200 บาท สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้า และสั่งแบบออนไลน์ได้ทั่วสหราอาณาจักร และหลังจากที่พิซซ่าดังกล่าวได้ถูกเปิดตัวออกไป ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดาแฟนๆ ขนมหวานบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก ซึ่งก็มีผู้ใช้ Twitter รายหนึ่งออกมายอมรับว่า “ไม่สามารถหยุดคิดถึงพิซซ่าช็อกโกแลตของโดมิโนได้เลยจริงๆ” ขณะที่อีกคนหนึ่งเขียนว่า “พิซซ่า Lotta-Chocca จาก @dominos…
-
Ekaterina Lisina หญิงสาวจากประเทศรัสเซีย ที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีขาเรียวยาวที่สุดในโลก!!
เราเชื่อว่า สาวๆ หลายคนอาจจะหลงใหล และใฝ่ฝันว่าอยากจะมีขาที่เรียวยาว และสวยเหมือนกับนางแบบ แต่ถ้าหากคุณได้เห็นภาพของสาวรัสเซียคนนี้ บางทีคุณอาจภูมิใจที่อย่างน้อยไม่ต้องเกิดมามีขายาวแบบเธอก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์เดลีเมล์ได้เผยภาพ พร้อมเรื่องราวของ Ekaterina Lisina สาววัย 29 ปี จาก Penza ประเทศรัสเซีย ที่มีความสูงมากถึง 6 ฟุต 9 นิ้ว หรือประมาณ 2 เมตร ทั้งนี้ เธอยังขึ้นชื่อได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สูงที่สุดในประเทศรัสเซียในตอนนี้อีกด้วย สำหรับ Ekaterina เธอเคยเป็นอดีตนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก และนักบาสเกตบอลจาก Penza โดยในปัจจุบันเธอมีอาชีพเป็นนางแบบสาวที่มีขาที่ยาวมากที่สุดในโลก โดยสามารถวัดความยาวของขาถึง 52.4 นิ้วเลยทีเดียว “ฉันอยากจะมีชื่อเป็นนางแบบที่สูงที่สุดในโลกในสถิติของ Guinness Book of World Records และยากจะมีโอกาสได้เป็นผู้หญิงที่มีขาที่ยาวที่สุดในโลก โดยขาของฉันมีความยาวถึง 52.4 นิ้ว ซึ่งยาวกว่าสถิติที่ถูกบันทึกไว้ในปัจจุบัน” Ekaterina กล่าว…
-
ก็ใจมันรัก!! หนุ่มเม็กซิกันหลอกเมียว่าไปซื้อบุหรี่ แล้วก็บินไปเชียร์บอลที่รัสเซียหน้าตาเฉย
ฟุตบอลหนึ่งในกีฬาโปรดของผู้ชายหลายๆ คน การได้ดูฟุตบอลทีมีรักในช่วงสุดสัปดาห์นี่มันสวรรค์ชัดๆ แล้วยิ่งถ้าได้ดูติดขอบสนามอีกนะ โอ้โห.. ฟินสุดๆ บางคนถึงกับยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชมการแข่งขันของทีมฟุตบอลที่ตนเองรัก และชายคนนี้ก็คือหนึ่งในตัวอย่างของผู้คลั่งไคล้ฟุตบอลมากๆ มากจนถึงขนาดที่ว่ายอมโกหกเมียว่า ออกไปซื้อบุหรี่แค่เดี๋ยวเดียว แล้วก็ลงทุนบินลัดฟ้าไปตามเชียร์ทีมชาติที่กำลังฟาดแข้งในต่างประเทศ!? ในรายการ Confederations Cup ระหว่างเม็กซิโกและเยอรมนีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ชายหนุ่มท่านหนึ่งนามว่าคุณ Antonio Garcia ได้ลงทุนบินลัดฟ้าจากเม็กซิโกเพื่อไปเชียร์ทีมชาติเม็กซิโกถึงขอบสนามที่ประเทศรัสเซีย โดยชายหนุ่มคนดังกล่าวกลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน หลังจากที่คลิปวิดีโอสัมภาษณ์ของเขาถูกปล่อยในโลกอินเตอร์เน็ต ชายหนุ่มบอกว่าเขาขอภรรยาออกไปซื้อบุหรี่ข้างนอก แต่หลังจากนั้นก็แอบขึ้นเครื่องแล้วเดินทางมาเชียร์ฟุตบอลที่รัสเซีย “ผมบอกเมียว่าจะออกไปซื้อบุหรี่ที่ร้านสะดวกซื้อ Oxxo แต่ผมไม่ได้บอกเธอว่าจะมาดูบอลที่นี่ เพราะผมคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าเธอไม่รู้ และเธอคงไม่คิดหรอกว่าผมจะแอบขึ้นเครื่องมาที่นี่” คุณ Garcia กล่าว “ค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้นไม่สำคัญ แต่การได้ชมทีมรักแบบใกล้ชิดนั้นสำคัญกว่า” แฟนบอลท่านนี้กล่าวเสริม ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วภรรยาของแฟนบอลตัวจริงท่านนี้จะรู้ว่าเขานั้นแอบขึ้นเครื่องมาถึงรัสเซีย และแน่นอนว่าตอน ขากลับคุณ Garcia คงจะต้องมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดมือไปฝากภรรยาบ้างแล้วล่ะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะได้นอนนอกบ้านก็เป็นได้นะ ฮ่าๆ ที่มา odditycentral, sports.ru
-
ช่างภาพมืออาชีพ เปลี่ยนมุมธรรมดาๆ ที่คนมองข้าม ให้กลายเป็นผลงานภาพถ่ายสุดสวย!?
การถ่ายรูปนั้นใครๆ ก็ทำได้ แค่เพียงมีกล้อง แต่จะถ่ายรูปยังไงให้ดูน่าสนใจนั้นใช่ว่าทุกคนจะทำได้ เพราะจะต้องฝึกฝีมือในการถ่ายภาพมามากพอสมควร ทั้งการเรียนรู้มุมกล้องและองค์ประกอบภาพต่างๆ Vijce เป็นช่างภาพมืออาชีพจากเยอรมันที่เคยได้รับรางวัลการประกวดถ่ายภาพมาแล้ว เขาเป็นช่างภาพที่สามารถเปลี่ยนมุมธรรมดาๆ ให้ดูน่าสนใจขึ้นได้ บันไดของสถานีรถไฟที่อาจจะดูน่าเบื่อหรือน่าเกลียด ตอนนี้เขากลับมาอีกครั้งกับผลงานการถ่ายภาพสถานีรถไฟใต้ดิน ที่ผู้คนมักเดินผ่านไปผ่านมาโดยไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่เขาทำให้เห็นว่ามันมีความงดงามซ่อนอยู่ Vijce ได้เขียนให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ PetaPixel ไว้ว่า “ผมชื่อชอบการถ่ายภาพตามท้องถนน โดยเฉพาะสถานที่ที่ผู้คนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่” “แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะหาความน่าสนใจจากสถานที่ธรรมดา และก็ใช่ว่าการถ่ายรูปบนถนนจะสวยงามเสมอไป” เขาบอก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้เวลาสังเกตภายในสถานีรถไฟใต้ดิน แล้วมองหาแหล่งที่ผู้คนส่วนใหญ่มักมองข้ามหรือไม่ทันสังเกตเพื่อเผยให้เห็นมุมมองที่แตกต่าง แต่ช่างภาพมองเห็นความสวยงามซ่อนอยู่ในความน่าเกลียดเหล่านั้นได้ . . สิ่งที่ช่างภาพทุกคนต้องทำคือการดูตำแหน่งและเล่นกับมุมกล้อง . . . ที่นี่เคยเป็นเพียงสถานว่างเปล่า แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยมนุษย์และชีวิตมากมาย . ช่างภาพได้เผยเคล็ดลับการถ่ายภาพในสถานที่ธรรมดา ให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยนะ ที่มา boredpanda l PetaPixel
-
หญิงสาวรับเลี้ยงอีกาพิการ ไว้ใจจนโดนยึดบ้านทั้งหลัง ไหนจะเรียกร้องความสนใจอีก!?
ทุกวันนี้เราเห็นอีกาบินว่อนเต็มหมดจนกลายเป็นภาพชินตาและไม่มีความรู้สึกพิเศษกับพวกมันแต่อย่างใด แต่สำหรับคนรักสัตว์แล้วอีกาก็คือสัตว์เลี้ยงที่น่ารักไม่ต่างจากหมาแมวเลย Helen Motteram ได้รับเลี้ยงอีกาตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามธรรมชาติได้ จนตอนนี้มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวไปแล้ว และได้ตั้งชื่อให้มันว่า Russell Crow ตอนที่พบกับเจ้า Russell เป็นครั้งแรก มันได้รับบาดเจ็บจนบินไม่ได้ เธอก็เลยพามันไปที่ศูนย์ช่วยเหลือใกล้ๆ แล้วก็พบว่ามันเป็นอีกาพิการที่ไม่สามารถบินได้ และไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วย เธอจึงตัดสินใจรับมันไปดูแลต่อที่บ้านตั้งแต่นั้นมา เธอยอมรับว่าตอนแรกๆ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเจ้าอีกายังคงมีความกังวลและไม่ไว้ใจมนุษย์เลย อย่างไรก็ตามเธอและสามีก็ช่วยกันดูแล และเสียค่ารักษามันไปจำนวนมาก บางวันพวกเขาต้องกลับมาบ้านระหว่างวันเพื่อเช็คอาการของมันด้วย ในที่สุด Russell ก็กลับมาฟื้นตัวเต็มที่ มันไว้ใจมนุษย์มากขึ้น และรู้ว่ามนุษย์รักมันแค่ไหน ดังนั้นจึงถึงเวลาที่มันจะเผยธาตุแท้ออกมา ไม่ใช่แค่เป็นสมาชิกในครอบครัวธรรมดา แต่ Helen บอกว่าเจ้าอีกาตัวนี้มันต้องการความสนใจจากเธอตลอดเวลา และไม่ยอมอยู่ห่างเลย ตั้งแต่มาอยู่ในบ้าน Russell ได้สร้างวีรกรรมไว้มากมาย เช่น ขโมยที่ชาร์จโทรศัพท์ ปากกา ขโมยบัตรเครดิตจากกระเป๋าตังและเครื่องประดับ ทั้งยังฉีกหนังสือพิมพ์และทำลายรูปภาพบนผนังด้วย ยังค่ะ ยังไม่พอแค่นี้ เวลาที่ Helen คุยกับสามี มันก็จิกกัดสามีของเธอด้วยความหึงหวง เพราะไม่อยากให้เจ้าของให้ความสนใจคนอื่นมากกว่ามัน เวลาที่หญิงสาวนั่งดูทีวีกับสามี เจ้าอีกาจะเดินมาเกาะที่ขาหรือไม่ก็ที่ไหล่…
-
กระแสของชายชาวญี่ปุ่น หันหน้ามาพึ่งตุ๊กตายางแทน เพราะเริ่มเบื่อความสัมพันธ์แบบเดิม…
หลังจากที่เริ่มต้นชีวิตคู่มาช่วงหนึ่ง คุณ Masayuki Ozaki หนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่นท่านนี้กลับได้พบความรักครั้งใหม่ในแบบที่เขากำลังตามหาอยู่หลังจากที่ได้รู้จักกับตุ๊กตายาง!? ในทุกๆ วัน Ozaki จะแบ่งเตียงนอนส่วนหนึ่งของเขาให้กับตุ๊กตายางสาวน้อยที่ตั้งชื่อให้ว่า Mayu และปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นภรรยาและลูกสาวคนหนึ่ง โดยที่เขาให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “หลังจากที่ภรรยาผมให้กำเหนิดลูกคนแรกเธอก็เลิกมีเซ็กส์กับผม และด้วยเหตุนี้ทำให้ผมรู้สึกเหงาเหลือเกิน” คุณ Masayuki Ozaki กำลังร่วมอาบน้ำกับตุ๊กตายางของเขา แต่หลังจากที่เขาได้รู้จักกับ Mayu ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ความเหงาในจิตใจของคุณลุงได้ถูกเติมเต็ม หลังจากที่เขาซื้อตุ๊กตาตัวดังกล่าวมาแล้ว ก็ให้ความดูแลเป็นอย่างดี รวมไปถึงการซื้อเสื้อผ้าต่างๆ ให้ “ภรรยาผมโกรธมากหลังจากที่เห็นผมซื้อตุ๊กตาตัวนี้เข้าบ้าน ทุกวันนี้ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ค่อยพอใจอยู่เหมือนกัน และลูกสาวของผมก็เช่นกัน เธอไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่หลังจากที่รู้ว่า Mayu ไม่ใช่ตุ๊กตายางธรรมดา “ คุณลุงกล่าว คุณ Ozaki คือหนึ่งในชาวญี่ปุ่นที่หลงรักกับตุ๊กตายาง นอกจากนี้คุณลุงยังยอมรับอีกด้วยว่าตัวเองนั้นเริ่มถูกปิดกั้นจากผู้อื่นแล้ว “ผู้ชายส่วนมากมักต้องการแม่บ้านที่ไม่ค่อยบ่น และพร้อมจะรับฟังในเวลาที่กลับจากการทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน ตอนนี้ผมมี Mayu อยู่ข้างๆ ผมมีความสุขมาก และอยากจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต” คุณ Ozaki กล่าว กระแสการใช้ชีวิตกับตุ๊กตายางของชายชาวญี่ปุ่นกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เทคโนโลยีของการผลิตตุ๊กตายางนั้นก้าวหน้าจากยุคก่อนอย่างมาก ทั้งพื้นผิวและรูปร่างของเซ็กส์ทอยชิ้นนี้ดูใกล้เคียงกับผู้หญิงจริงๆ มาก…
-
Kila เจ้าหมาตาบอดกับชีวิตอันแสนสุข หลังเคยเจอมรสุมครั้งใหญ่ ก่อนได้รับการช่วยเหลือ
นี่เป็นเรื่องราวของ Kila น้องหมาตาบอดพันธุ์ผสมตัวหนึ่ง ที่ชีวิตต้องพบเจอแต่เรื่องราวอันเลวร้ายมาตั้งแต่สมัยที่มันยังเด็ก โดยในตอนนั้นมันเป็นเพียงลูกสุนัขตัวหนึ่งที่ถูกเด็กๆ และคนเมาขว้างปาก้อนหินใส่ แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่ได้เจอเรื่องราวอันแสนเลวร้ายเสมอไป เพราะอย่างน้อยชีวิตของมันก็มีเรื่องดีๆ เข้ามา หลังจากที่ทางมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Forever Home Pet Rescue เข้ามาช่วยเอาไว้ หลังจากทางมูลนิธิก็ได้นำรูปของเจ้า Kila ไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ซึ่งก็ทำให้ Alexis Magoo แม่ในอนาคตของมันตกหลุมรักเจ้าหมาน้อยตั้งแต่แรกเห็น ก่อนหน้านี้ Alexis กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของชีวิต และเธอก็คิดว่าการที่ได้รับสุนัขอย่างเจ้า Kila มาเลี้ยง อาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น และแน่นอนว่าเธอก็คิดถูกจริงๆ “ฉันกำลังมีปัญหาส่วนตัว ฉันรู้สึกเศร้ามาตลอด และมีความวิตกกังวลเอามากๆ มันรู้สึกเป็นทุกข์ และลำบากใจมากเลยละ แต่เจ้าหมาก็สามารถนำความสุขกลับมาให้ฉัน และคนรอบข้าง มันมีแต่ความรักที่ส่งมอบออกมาจากดวงตาของมัน” Alexis กล่าว Alexis ได้รับเจ้า Kila มาเลี้ยง เมื่อตอนที่มันมีอายุได้เพียง 9 เดือนเท่านั้น และครั้งแรกที่เธอได้พบกับมัน Alexis ก็รู้ว่าเจ้าหมาตัวนี้ต้องมีอะไรที่พิเศษแน่ๆ…
-
Justin Bieber โยนรองเท้ากลางคอนเสิร์ต คนที่เก็บได้ประมูลขาย แค่ข้างเดียวได้ถึง 2 แสน!?
สาวๆ คนไหนที่เป็นแฟนคลับของศิลปินดังระดับโลกอย่าง Justin Bieber คุณคงพอจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า เขานั้นเป็นหนึ่งในศิลปินวัยโจ๋ที่ชอบทำอะไรห่ามๆ เซอร์ไพรส์แฟนคลับอยู่เสมอ และล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ในขณะที่ศิลปินหนุ่ม Justin Bieber กำลังแสดงคอนเสิร์ต ที่จัดขึ้นที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี อยู่นั้น จู่ๆ เขาก็ได้ถอดรองเท้า Adidas สีขาว รุ่น Yeezy Boost 350 V2 ทั้งสองข้างแล้วโยนให้แฟนเพลงที่อยู่ด้านล่าง งานนี้บอกเลยว่าเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนๆ ได้กระหึ่มไปทั่วทั้งฮอลล์เลยล่ะ ซึ่งหลังจากที่ศิลปินหนุ่มคนดังได้โยนรองเท้าให้กับบรรดาแฟนเพลงแล้ว แฟนคลับผู้โชคดีที่ได้รับรองเท้าของเขากลับไม่ได้เก็บเอาไว้เชยชมแต่อย่างใด เพราะมีคนหนึ่ง ที่สามารถเก็บรองเท้าข้างขวาของเขาได้ เอาไปประมูลขายในเว็บไซต์ eBay โดยเริ่มประมูลที่ราคากว่า 5,000 ยูโร หรือราวๆ 200,000 บาทเลยทีเดียว นอกจากนี้ ทางผู้ขายได้เผยว่า “เราชอบ Justin Bieber และเพลงของเขา แต่เราคิดว่าน่าจะมีคนอยากได้รองเท้าข้างนี้ของเขามาก…
-
พ่อชาวจีนจับลูกมัดกับบันได จับกดลงในน้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อทำโทษในฐานที่ลูกดื้อเกินไป!!
เป็นธรรมดาของเด็กที่จะมีความซุกซน และต่อให้ดื้อมากแค่ไหนก็ไม่ควรลงโทษเกินความเหมาะสม มิฉะนั้นอาจกลายเป็นการทำทารุณเด็กจนอาจทำให้เกิดบาดแผลทางจิตใจได้ อย่างกรณีนี้ ที่พ่อชาวจีนคนหนึ่งทำโทษลูกด้วยการทำให้เขาหวาดกลัว เพื่อไม่ให้ลูกทำผิดซ้ำอีก… นี่เป็นคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายในเมือง Yueyang จังหวัดหูหนานของจีนตอนกลาง ในคลิปจะเห็นเด็กชายคนหนึ่งถูกผูกติดไว้กับบันได อยู่ในสภาพที่ทั้งร้องไห้และสำลักน้ำ เพราะถูกพ่อผลักบันไดลงไปใต้น้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก เด็กชายพยายามตะโกนบอกพ่อว่า “ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ไม่ทำแล้ว” แต่พ่อก็ยังคงทำโทษต่อไปเรื่อยๆ ตามรายงานบอกว่า เด็กชายคนนี้กระทำความผิดในโรงเรียน เขาทำการขโมยของและชกต่อยกับเพื่อน ผู้เป็นพ่อจึงตัดสินทำโทษลูกด้วยการทำให้เขาหวาดกลัวเพื่อที่จะไม่ทำผิดซ้ำอีก แต่ทว่ายังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าการกระทำของผู้เป็นพ่อในครั้งนี้ ได้มีการสอบสวนจากตำรวจแล้วหรือไม่ เพราะเป็นการกระทำที่มีความรุนแรงกับเด็กเป็นอย่างมาก การลงโทษที่แรงเกินเหตุ นอกจากไม่ทำให้เด็กจำแล้วอาจกลายเป็นการสร้างปมในใจให้เด็กก็ได้นะ ที่มา dailymail
-
ยอมแล้วทูลหัว!! 20 ภาพเหล่าแรคคูนตัวจ้อย แต่ความน่ารักไม่ด้อยไปกว่าใครเลยนะ
สำหรับใครที่ชื่นชอบเหล่าสัตว์ขนปุยคงจะรู้จักกับเจ้าแรคคูนแน่ๆ เจ้าตัวเล็กขนสีน้ำตาลตาแป๋วที่ดูยังไงก็น่ารัก แถมยังชอบทำอะไรแปลกๆ ชวนให้เราขำอยู่บ่อยๆ หลายๆ คนที่ชื่นชอบในความซุกซนของเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆ เหล่านี้ก็คงชอบที่จะดูภาพของพวกมันอยู่บ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพของเจ้าขนปุยตัวน้อยเหล่านี้มาฝากกัน แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าแววตาของพวกมันอาจทำให้คุณใจละลายได้… 1. เจ้าแรคคูนตัวน้อยกับลูกพี่ตูบของมัน ดูแล้วน่าร๊าก น่ารัก 2. มองอะไรจ๊ะ!? 3. ทำตาแป๋วเชียวนะแกน่ะ 4. เล่นซ่อนแอบอยู่หรือไงเจ้าหนูน้อย?? 5. ตื่นๆ เจ้าหนูน้อย 6. ว้าว!! อาหาร 7. เหนื่อยจังเลยฮะ ขอนอนก่อนนะครับ 8. ต๊ะเอ๋!? 9. น่ารักแบบคู่เลยทีเดียวนะเนี่ย 10. อ๋อย.. เจ็บแขนหรอลูก?? 11. ผมชอบสายสมและแสงแดดฮะ 12. มีอะไรน่าสงสัยหรือเจ้าแรคคูน?? 13. อ่า..…
-
คุณหมอผ่าตัดให้นายทหารผ่านศึก เพื่อนำกระสุนที่ฝังในร่างตั้งแต่ช่วงสงครามโลกออกมา!!
สงครามโลกครั้งที่สองถือได้ว่าเป็นหนึ่งในความขัดแย้งที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตประมาณ 50-85 ล้านคน ในระหว่างปี 1939-1945 ที่น่าแปลกใจคือมีรายงานว่ามีทหารผ่านศึกที่รอดตายเพียง 900 คนเท่านั้นจากทั่วโลก และหนึ่งในนั้นยังคงมีกระสุนฝังในร่างกายโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่ง 70 ปีผ่านไป เมื่อ Baltabay Kaziev วัย 92 ปี จากคาซัคสถาน รู้สึกมีอาการปวดบริเวณสะโพก เขาจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ แล้วสิ่งที่เห็นทำเอาทุกคนเซอร์ไพรส์หนักมาก เพราะสิ่งที่ทีมแพทย์เห็นหลังทำการผ่าตัดคือ มีกระสุนอายุประมาณ 73 ปี ฝังอยู่ในสะโพกของเขา Saule Hamzina หมอผู้ผ่าตัดบอกว่า… “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Baltabay ไม่เคยมีปัญหาสุขภาพเลย แต่เมื่อไม่นานมานี้ เขามาหาหมอในโรงพยาบาลทหารผ่านศึก เพราะมีอาการบวมที่สะโพก” แต่เมื่อทำการสแกนด้วย MRI ก็พบว่ามีกระสุนฝังอยู่จริง ซึ่ง Baltabay คาดว่าน่าจะถูกยิงฝ่ายศัตรูยิงในปี 1944 และฝังอยู่ในร่างกายมากว่า 7 ทศวรรษ ก่อนจะใช้เวลาเพียง 7 นาทีในการผ่าเอากระสุนดังกล่าวออกมา สำหรับตัว Baltabay นั้น เขาเคยอยู่ยูเครนช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนนั้นเขาเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญในการยิงปืนกลมาก และมีส่วนร่วมในการปลดแอกเมืองหลายแห่งรวมทั้งเมืองหลวง Kiev…
-
น้ำตาซึม!! คู่รักตัวน้อยวัย 9 ขวบโผกอดร่ำลา เมื่ออีกฝ่ายต้องย้ายบ้านจากไปไกลแสนไกล…
การที่จะต้องจากกันย่อมทำให้เกิดความรู้สึกที่เศร้าเสียใจ ซึ่งหลายๆ คนนนั้นคงจะเข้าใจเป็นอย่างดี และดูเหมือนคู่รักตัวน้อยท้งสองคนนี้ก็เช่นกัน ทั้งคู่ร้องไห้อย่างหนักพร้อมกับกอดกัน หลังจากที่ฝ่ายเด็กชายต้องย้ายตามครอบครัวไปอยู่ที่อื่น Merce และ Mylee ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่อายุ 2 ขวบในคอร์สสอนเต้นโดยคุณยายของ Merce ในเมือง Gonzales รัฐลุยเซียนา และแล้วความรักของเด็กน้อยทั้งสองก็เกิดขึ้น นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพวกเขาก็ไม่สามารถแยกออกจากกันได้อีกเลย พ่อของ Merce เล่าว่า “ตั้งแต่ที่จำได้ ผมก็เห็นพวกเขาเรียกกันว่าแฟนมาตลอดนะ” แต่แล้ววันที่ต้องจากกันก็มาถึง เมื่อครอบครัวของหนุ่มน้อยกำลังจะย้ายไปที่แคลิฟอร์เนีย หลังจากที่คุณพ่อของเขาได้งานใหม่ที่นั่น “ตอนที่ Mylee รู้ว่าพวกเราจะย้ายไป เธอร้องไห้อย่างหนักแล้วพูดว่า ชีวิตฉันจบแล้ว ฉันควรจะแต่งงานกับ Merce ฉันจะแต่งงานกับเขาได้ยังไงถ้าเขาย้ายไปแคลิฟอร์เนียร์” คุณ Gle พ่อของหนุ่มน้อยเล่า ภาพของทั้งคู่ที่กำลังบอกลากัน . และแล้วเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันจริงๆ เรื่องราวสุดน่าประทับใจของทั้งสองก็เกิดขึ้น เมื่อ Merce ได้เข้าไปกอดแฟนสาวตัวน้อยของเขาเพื่อบอกลา สาวน้อยกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เธอสะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าเสียใจ แต่หนุ่มน้อยก็พยายามปลอบและทำให้เธอเข้าใจ ความน่ารักของทั้งคู่ทำเอาหลายคนที่ได้เห็น ต้องอินไปตามๆ กัน หลังจากเหตุการ์นั้นพี่สาวของ Mylee ได้ถ่ายรูปหนูน้อยทั้งสองและอัพเดทลงบนทวิตเตอร์ของเธอ พร้อมกับบอกว่า “แฟนหนุ่มตัวน้อยของน้องสาวฉันกำลังเข้ามาใกล้ๆ…
-
Eva นางแบบชุดชั้นในผู้เข้าใจความสำคัญของชีวิต มอบเงินจากการถ่ายแบบเพื่อการกุศล
ถึงแม้จะผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่น แต่หญิงสาวกลับไม่ยอมแพ้ เธอต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ และกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เธอเข้าใจถึงคุณค่าของชีวิต และเป็นจุดเริ่มต้นของการทำประโยชน์เพื่อมอบให้กับผู้อื่น เรื่องราวของ Eva McGauley สาวน้อยวัย 19 ปีที่สามารถกลับมามีชีวิตปกติและได้ทำตามความฝันของเธออีกโดยการทำกิจกรรมเพื่อการกุศล!! Eva McGauley สามน้อยผู้หนึ่งที่ฝันอยากจะมีชีวิตที่แสนสวยงามและมีความสุขแบบคนอื่นๆ แต่แล้วก็เหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าใจความต้องการของเธอ ในปี 2015 เมื่ออายุได้ 17 ปี หญิงสาวก็ได้รับข่าวร้ายโดยแพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นมะเร็งที่โพรงจมูก จากนั้นไม่นานสาวน้อยจากนิวซีแลนด์ ต้องเข้ารับการรักษาโดยการฉายแสงและเคมีบำบัด แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเรื่องที่น่าประหลาดใจเกิดขึ้นกับเธอ เมื่อเธอได้ทราบข่าวว่าการวินิจฉัยนั้นมีความผิดพลาด อันที่จริงแล้วมะเร็งโพรงจมูกของเธอนั้นเป็นแค่เนื้องอกเท่านั้น.. หลังจากที่ผ่านเรื่องร้ายมาได้และเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของชีวิต หญิงสาวเริ่มที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับผู้อื่น จากสถิติทำให้เธอพบว่าในประเทศของเธอนั้นมีการทารุณทางเพศอย่างมาก เด็กหญิงหนึ่งในสามและเด็กผู้ชายหนึ่งในเจ็ดคนถูกคุกคามทางเพศตั้งแต่อายุไม่ถึง 16 ปี Eva จึงตัดสินใจที่จะหาเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่ถูกคุกคามทางเพศเหล่านั้น ในเดือนกรกฏาคมปี 2016 เธอเริ่มลงมือหาเงินสนับสนุนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแห่งหนึ่งในเมือง Auckland ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือเด็กและสตรี จากนั้นไม่นานก็เริ่มมีคนสนใจที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเธอ บริษัทชุดชั้นใน Lonely ได้เสนอให้สาวน้อยมาถ่ายแบบชุดชั้นในกับพวกเขา และยืนยันจะมอบรายได้ทั้งหมดจากการจำหนายชุดชั้นในคอลเลคชั่นชั่นดังกล่าวให้กับองค์กรการกุศลทั้งหมด และแทบไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ยอดการจำหน่ายพุ่งสูงถึง 30,000 ยูโรหรือประมาณ 1,000,000 บาทแล้ว!!…
-
หนุ่มถูกปฏิเสธเข้าร่วมชมรมรักบี้เพราะ ‘แห้งเกินไป’ จุดไฟให้หันมาฟิตหุ่นจนแน่นเปรี๊ยะ
แม้ว่ารูปร่างอาจจะไม่สำคัญเท่าความสามารถ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางทีมันก็มีผลต่อการใช้ชีวิตเหมือนกันนะ เหมือนกับหนุ่มคนนี้ที่ไม่ได้เข้าชมรมรักบี้เพราะผอมแห้งและตัวเล็กเกินไป เมื่อตอน Jamie Wykes-Hobday อายุ 17 ปี เขามักจะถูกเพื่อนว่าล้อว่าเป็นคนผอมเกินไป แถมสภาพร่างกายในตอนนั้นก็ดูย่ำแย่จากการไม่ดูแลตัวเองเลย นอกจากนี้เขายังมีความใฝ่ฝันที่อยากเป็นนักกีฬารักบี้ แต่แล้วความฝันก็สลายทันทีเมื่อเขาไปสมัครเข้าชมรมรักบี้แล้วถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า “ผอมแห้งเกินไป” ทั้งหมดนี้ทำให้ Jamie รู้สึกท้อแท้ในชีวิต ถึงกับไม่อยากทำอะไรแล้ว เขาเมา 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ทานแต่อาหารฟาสฟุ๊ดปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนดูโทรม และกลายเป็นคนไม่มีเป้าหมายในชีวิต แต่แล้วพอถึงจุดจุดหนึ่ง ชายหนุ่มก็คิดได้ว่าควรหยุดใช้ชีวิตไร้สาระแบบนี้เสียที แล้วเขาก็หันมาดูแลตัวเองด้วยการเริ่มออกกำลังกายอย่างจริงจัง จนกระทั่งปัจจุบัน Jamie อายุ 23 ปี เขาประสบความสำเร็จจากการออกกำลังกายอย่างมาก ด้วยการละทิ้งทุกอย่างทั้งเพื่อนสนิทมิตรสหาย รวมไปถึงขอเลิกกับแฟน เพื่อทำตามความตั้งใจของตัวเอง และทำให้เขารู้สึกว่าไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจไปแบบนี้ เพราะในตอนนี้เขาสนใจแค่การออกกำลังกายเท่านั้น ชายหนุ่มบอกว่า “ตอนที่เจอมรสุมชีวิต ผมไม่มีความสุขและไม่มีเป้าหมายในชีวิตเลยครับ แต่พอเริ่มออกกำลังกายและทานอาหารที่มีประโยชน์ ผมกลับไม่เสียใจกับสิ่งที่ผ่านมาเลยครับ” หลังจากที่เขาออกกำลังกายดูแลตัวเองผ่านไปสองปี Jamie ก็สามารถเพิ่มน้ำหนักจาก 60 กิโลกรัม เป็น 88 กิโลกรัมพร้อมกับมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากแต่ก่อนที่ใช้ชีวิตตกกลางคืนในการออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ เขาก็หันมาใช้เวลาเหล่านั้นในการวางแผนอาหารการกิน และการออกกำลังกายแทน…
-
กรีดร้องอยากได้!! Hot Toys ปล่อยภาพฟิกเกอร์ Wonder Woman เซ็ทล่าสุดก่อนขายจริง
สำหรับใครที่อยู่ในแวดวงของเล่นหรือเป็นนักสะสมแล้วล่ะก็ ชื่อของ Hot Toys คงจะเป็นชื่อที่คุ้นหูพวกคุณอย่างแน่นอน เพราะนี่คือบริษัทผลิตของเล่นที่ออกแบบและผลิตได้เหมือนกับมนุษย์จริงๆ มากที่สุดเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่าราคามันก็กระฉูดเช่นกัน แต่ถึงจะมีราคาสูงอย่างไร เหล่าแฟนๆ ก็ยังคงให้การตอบรับเป็นอย่างดี อย่างล่าสุดทางเฟซบุ๊กเพจอย่างเป็นทางการของ Hot Toys ได้ปล่อยภาพ Final Product (สินค้าต้นแบบตัวสุดท้ายก่อนวางจำหน่าย) ของโมเดล Wonder Woman ออกมาให้ยลโฉมกันด้วย สวยงามและน่าเป็นเจ้าของสุดๆ!! อันที่จริงแล้วโมเดล Wonder Woman ของ Hot Toys นั้นได้เคยถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เนื่องจากมีเสียงร้องเรียนเข้ามาหนาหูว่าตัวโมเดลนั้นมีหน้าตาที่ไม่เหมือนกับ Gal Gadot ตัวจริง เลยต้องมีการออกแบบกันใหม่ให้ใกล้เคียงยิ่งกว่าเดิม โมเดลตัวนี้จำลองมาจากชุดของ Wonder Woman ที่ปรากฎตัวในหนังเรื่อง Batman v Superman: Dawn of Justice มีขนาดอยู่ที่ 1/6 ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ราคาก็อยู่ที่ราวๆ 7 – 8 พันกว่าบาท (แล้วแต่ร้าน)…
-
จีนสั่งตัดสินโทษประหารชีวิต 13 พ่อค้ายา ต่อหน้าผู้คนนับหมื่น หวังกวาดล้างอย่างจริงจัง!!
อีกหนึ่งข่าวที่กำลังโด่งดังและถูกวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่านักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เมื่อรัฐบาลจีนประกาศกวาดล้วงกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง และหนึ่งในวิธีการนั้นก็ต้องมีการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ Beijing News รายงานว่าเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2017 ได้มีการนำตัวนักโทษคดีค้ายาเสพติดจำนวน 18 คนมาตัดสินโทษต่อหน้าประชาชนนับหมื่นชีวิต ที่เมืองซานเหว่ย มณฑลกวางตุ้ง ก่อนเริ่มการตัดสินมีการนำตัวนักโทษทั้ง 18 คนมาเดินขบวนท่ามกลางฝูงชนเพื่อเป็นแบบอย่างไม่ให้ประชาชนทำตาม ศาลตัดสินให้มีนักโทษ 13 คนต้องถูกส่งตัวไปประหารชีวิตทันที!! ทางด้านของสื่อท้องถิ่นจีนได้รายงานว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ทางการจีนต้องการจะกวาดล้างมาโดยตลอด และไม่นานมานี้ได้มีการออกมาตรการปราบกลุ่มพ่อค้ายาอย่างจริงจัง ทว่าการตัดสินต่อหน้าฝูงชนนับหมื่นของทางการ ถูกนักสิทธิมนุษยชนและกลุ่มแอคทิวิสต์จากทั่วโลกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก William Nee จากองค์กรนิรโทษกรรมนานาชาติได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การนำผู้กระทำผิดมาตัดสินต่อหน้าผู้คนแบบนี้ นับว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายและป่าเถื่อนที่สุด” การตัดสินในครั้งนี้คาดว่ามีประชาชนมาเข้าชมมากกว่า 10,000 ชีวิต จากผลงานการกวาดล้างในปี 2014 อ้างอิงโดย Daily Telegraph พบว่าภายในหนึ่งวันมีเจ้าหน้าที่กว่า 3,000 นายของจีนสามารถกวาดล้างแล็ปทำยาเสพติดในบริเวณเมืองหลูเฟิ่งได้ถึง 77 แห่ง เช่นเดียวกับเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ทางการจีนสามารถสกัดจับการขนส่งยาเสพติดกว่า 640 กิโลกรัม ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าสู่มาเลเซียได้สำเร็จ นักโทษที่ถูกตัดสินในวันนั้น…
-
‘ซอลลี’ อดีตสมาชิกวง f(x) กับกระแสภาพยนตร์ “REAL” หนัง 19+ ที่ใครๆ ก็พูดถึง
กลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับภาพหลุดจากการแสดงของ ‘ซอลลี’ เมื่อเธอยอมทุ่มหมดหน้าตัก เปลือยหน้าอกเข้าฉากเลิฟซีนสุดฮ็อตในหนังเรท 19+ เรื่อง ‘REAL’ Choi Jin-Ri หรือชื่อในวงการว่า Sulli สำหรับใครที่ไม่รู้จักเราจะขอเล่าแบบหยาบๆ ให้ว่า เดิมทีเธอเป็นศิลปินสาวเชื้อสายเกาหลีใต้ และสร้างชื่อเสียงจากการเป็นหนึ่งในสมาชิกวง f(x) ทว่าเมื่อช่วงสองปีก่อนเธอได้ออกมาประกาศยุติบทบาทการเป็นศิลปิน และหันมาเดินบนเส้นทางการเป็นนักแสดงหนังอย่างเต็มตัว ซอลลีสมัยยังอยู่ในวง f(x) ทว่าผลงานการแสดงชิ้นล่าสุดจากเรื่อง REAL ของเธอ ก็เล่นเอาแฟนคลับถึงกับตาค้างไปตามๆ กัน หลังจากที่มีภาพหลุดออกมาจากในโรง ซึ่งเป็นภาพฉากที่เธอยอมทุ่มเทถึงกับเปลื้องผ้าเปลือยกายออกกล้องกันเลยทีเดียว ลองไปชมตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้กันก่อนเลย (คลิปนี้ไม่ติดเรทนะ) ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิต CJ Entertainment ก็ได้ออกมาชี้แจงว่ากรณีการแอบถ่ายภาพในโรงภาพยนตร์นั้น ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และทางบริษัทจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีถ้ามีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีก แต่เอาเข้าจริงๆ ดูเหมือนว่าแฟนคลับจะไม่ค่อยสนใจประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ภาพในโรงหนังซักเท่าไหร่ เพราะภาพของซอลลีที่หลุดออกมามันแซ่บซะจนแม้แต่แก๊งเหมียวของเราก็ยังใจสั่นกันเลยทีเดียว และนี่คือภาพหลุดส่วนหนึ่งที่กลายเป็นกระแส ถ้าในแง่ของการแสดงแล้วต้องบอกว่าเธอมีสปิริตนักแสดงสูงมาก ยอมเทหมดหน้าตักกันเลยทีเดียว ยอมแล้วแม่คุ๊ณณ แซ่บจริงอะไรจริง ถ้าใครอยากชมภาพยนตร์ ก็คงต้องพยายามกันเองนะ…
-
ทำเป็นเล่นไป!! ไปรษณีย์แคนาดา “ถูกอีกาคุกคาม” จนถึงขั้นต้องหยุดทำงานเลยทีเดียว
อุปสรรคอย่างหนึ่งที่บุรุษไปรณีย์มักจะเจอคือการต้องไปส่งจดหมายหรือของในบ้านที่มีสุนัขดุ ไม่ว่าจะเจอกี่ครั้งๆ ก็เห่าอยู่นั่นแหละ จนถึงขั้นเป็นคู่ปรับที่ไม่อาจจะอยู่ร่วมด้วยกันได้เลย แต่ใครจะคิดละว่านอกจากสุนัขแล้ว นกก็เป็นอุปสรรคในการทำงานของบุรุษไปรณีย์เหมือนกันนะ ร้ายแรงถึงขั้นต้องหยุดงานกันเลยทีเดียว อีกาตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Canuck มันเป็นอุปสรรคหลักของไปรษณีย์ในย่านตะวันออกของเมือง Vancouver ประเทศแคนาดาเลยล่ะ ทำเอาเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ จนกว่าเจ้าอีกาจะหายไปจากตรงนั้นเสียก่อนถึงจะกลับมาทำงานส่งจดหมายต่อได้!? ส่วนความร้ายกาจของมันก็มีทั้งจิกกัด ขโมยของที่มีความแวววาวอย่างเช่น ‘มีด’ ที่ขโมยมาจากจุดเกิดเหตุคดี นอกจากนั้นก็ชอบมาก่อกวนการเดินทางของเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์อีก นี่เอ็งจะร้ายกาจเกินกว่าจะเป็นนกแล้วนะ!! สิ่งที่สามารถระบุตัวเจ้าอีกานี้ได้ก็คือ แท็กสีแดงที่ติดกับขาของมัน ซึ่งชาวบ้านในละแวกนั้นต่างก็ติดตลกกับการติดแท็กของมันก็ด้วยนิสัยที่ก้าวร้าวจนต้องติดเครื่องติดตามตัว ฮร่าาา Darcia Kmet โฆษกของไปรษณีย์แคนาดาบอกว่า “พนักงานของเขาถูกโจมตีจากอีกา จนได้รับบาดเจ็บในขณะที่พยายามไปส่งจดหมายในละแวกถิ่นที่อยู่อาศัยใน Vancouver” เจ้าอีกา Canuck กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ล่าสุดมีบ้าน 3 หลังที่ไม่ได้รับจดหมาย เพราะมันอยู่ในเขตที่เจ้าอีกาครองอยู่ และไม่ปลอดภัยสำหรับพนักงานของเรา” โฆษกบอก เขาบอกอีกว่า “ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ถ้าเจ้าอีกาไม่อยู่หรือมีความปลอดภัยเมื่อไหร่ บ้านทั้ง 3 หลังก็จะได้รับจดหมายครับ” และด้วยความร้ายแสนจะแสนของเจ้าอีกา มันก็มีเพจเป็นของตัวเองด้วยนะในชื่อ Canuck and I ที่สร้างขึ้นโดย Shawn Bergman ผู้เล่าถึงการผจญภัยของอีกาตัวนี้…
-
จีนเตรียมสร้าง ‘เมืองป่า’ แห่งแรกของโลกในปี 2020 หวังช่วยลดปัญหามลพิษในอากาศ
ในขณะที่โลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลง อาคารบ้านเมืองต่างๆ กำลังขยายตัวขึ้น สิ่งหนึ่งที่ตามมาจากการพัฒนานี้ก็คงหนีไม่พ้นปัญหาด้านมลพิษทางอากาศอย่างแน่นอน และหนึ่งในประเทศที่เรียกได้ว่ามีมลพิษทางอากาศสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกนั่นก็คือประเทศจีน แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางการจีนมีแผนที่จะจัดการกับปัญหาดังกล่าว โดยพวกเขาได้วางแผนสร้างเมืองต้นไม้เพื่อหวังแก้ปัญหามลพิษที่ว่านี้ สำหรับโครงการเมืองต้นไม้นี้ ทางการจีนกำลังวางแผนจะสร้างในเมือง Liuzhou ในเขตปกครองตนเอง Guangxi ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเมืองแห่งนี้จะเป็นเมืองแห่งป่าที่แรกของโลกเลยทีเดียว!! การออกแบบดังกล่าวเป็นผลงานของคุณ Stefano Boeri สถาปนิกชื่อดังที่เคยฝากผลงานการออกแบบอาคารต้นไม้ในเมือง Milan มาแล้ว เมืองเล็กๆ แห่งนี้จะมีพื้นที่ในการก่อสร้างทั้งหมดราวๆ 1,750,000 ตารางเมตร และจะประกอบไปด้วยที่พักอาศัยของผู้คนประมาณ 30,000 คน ในเมืองต้นไม้แห่งนี้จะมีการนำพลังงานเชื้อเพลิงที่สะอาดอย่างความร้อนจากใต้พื้นโลก พลังงานแสงอาทิตย์ มาใช้ทดแทนพลังฟอสซิล และนอกจากเมืองดังกล่าวยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และโรงพยาบาล โปรเจกต์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในความต้องการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศของรัฐบาลจีน ที่นี่จะเต็มไปด้วยต้นไม้ถึง 40,000 สายพันธุ์มากกว่า 1,000,000 ต้น โดยแต่ละปีต้นไม้เหล่านี้จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ได้เกือบ 10,000 ตันและสารพิษอื่นๆ อีก 57 ตัน และนอกจากนี้พื้นที่สีเขียวเหล่านี้ยังสามารถสร้างก๊าซออกซิเจนได้มากถึง 900 ตันต่อปีเลยทีเดียว นอกจากประโยชน์ในเรื่องของการลดปัญหามลพิษและให้ความร่มรื่นกับมนุษย์แล้ว พันธุ์ไม้หลากชนิดในเมืองสีเขียวแห่งโลกอนาคตนี้ยังอาจช่วยพื้นฟูระบบนิเวศต่างๆ และเป็นที่อยู่ของพวกแมลงและสัตว์ต่างๆ อีกด้วย…
-
นี่ไงเพื่อนเกลอรูปเธอแฟนฉัน Messi & Antonella ตำนานรัก 25 ปี ลงเอยด้วยการแต่งงาน
เรื่องราวความรักของใครหลายๆ คนอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็พบเจอกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยลัย บ้างก็เจอกันตอนทำงาน แต่มีน้อยคู่นักที่จะพบเจอกันตั้งแต่วัยเด็กและได้ลงเอยกันด้วยการแต่งงาน ชีวิตรักของสตาร์ฟุตบอลชื่อดังกระฉ่อนโลกอย่าง Lionel Messi ที่มีโอกาสได้พบเจอกับสาวๆ มากหน้าหลายตา กลับมั่นคงต่อความรักที่มีกับเพื่อนสาววัยเด็กที่คบหากันมานานกว่า 25 ปี และลั่นระฆังวิวาห์กันไปเมื่อวานนี้ Lionel Messi และ Antonella Roccuzzo รู้จักกันตั้งแต่วัย 5 ขวบ ทั้งคู่อาศัยอยู่ในเมือง Rosario ที่อยู่ห่างออกไปจากเมืองหลวง Buenos Aires ของประเทศอาร์เจนติน่าออกไปประมาณ 300 กิโลเมตร ย้อนชีวิตกลับไปในวัยเด็ก Messi เกิดในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง มีครอบครัวที่แสนอบอุ่น ประกอบไปด้วยพี่ชาย 2 คน และ น้องสาวอีก 1 คน ส่วนฝ่ายเจ้าสาวนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเพื่อนสนิทของ Messi จึงทำให้พวกเขามีโอกาสได้พบเจอกันอยู่บ่อยๆ Messi และ Roccuzzo ได้แยกจากกันไปหลังจากที่ ฝ่ายชายต้องเดินทางข้ามทะเลไปเล่นฟุตบอลที่ประเทศสเปนเมื่อตอนอายุได้ 13 ปี จนในที่สุดก็มาเริ่มตกลงคบหาเป็นแฟนกันในช่วงปลายปี 2000 และความรักของทั้งคู่ก็เบ่งบานเสมอมาจนมีสัญญารักด้วยกันถึงสองคน…
-
‘Dating AI’ แอพหาคู่ที่ทำให้ได้พบกับคนหน้าคล้าย ผ่านการวิเคราะห์จากรูปดาราที่เราชื่นชอบ
ด้วยความชื่นชอบในตัวดารานักแสดงดังก็คงจะเคยฝันถึงการได้ออกไปเดทกับดาราคาที่ชอบกันบ้าง แต่ก็คงทำได้แค่ฝันเท่านั้น ถ้าหากมาใช้แอพฯ Dating AI แอพหาคู่ที่จะช่วยให้คุณได้เจอกับคนที่มีใบหน้าคล้ายกับดาราที่ชอบได้!! Dating AI เป็นแอพหาคู่แนวใหม่ ที่จะให้คุณได้เดทกับคนที่มีใบหน้าดาราที่เราชื่นชอบ โดยการวิเคราะห์จากรูปภาพดาราที่เราเลือก แล้วก็จะทำการคัดบุคคลที่มีใบหน้าใกล้เคียงกับดาราคนนั้นมาให้คุณทันที!! แอพจะให้เราเลือกภาพดาราที่ชื่นชอบแล้วจะหาคนที่หน้าคล้ายดาราคนมาเป็นคู่เดทของเรา โดยจะวิเคราะห์จากจากฐานข้อมูลของแอพฯ เดทชื่อดังอย่าง Tinder และ Bumper ส่วนหากใครยังทำใจลืมแฟนเก่าไม่ได้ แอพยังสามารถหาคนที่มีหน้าคล้ายแฟนเก่าได้ด้วย หรือจะเป็นการค้นหาคนที่หน้าคล้ายตัวเราเองในเพศตรงข้ามก็ได้ จากการอัพโหลดรูปเข้าไปในระบบ Dating.ai ได้เปิดตัวเมื่อ 2 เดือนที่ผ่าน คุณสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ฟรีใน Google Play และ App Store ในแอพจะมีรูปดารามากมายให้คุณเลือก แต่จะมีค่าบริการเดือนละประมาณ 300 บาท Heath Ahrens ผู้ก่อตั้ง Dating.ai มองว่าประเด็นของการใช้รูปเหล่านั้นไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย ” เพราะเมื่อคุณเข้ามาใช้แอพนี้แล้ว คุณก็อยากจะให้คนอื่นมาเจอคุณบ้างเช่นกัน” นอกจากนี้ทางผู้คิดค้นยังบอกอีกว่าการจะเจอคนที่ใช่นั้นต้องเริ่มจากการมีรสนิยมความชื่นชอบที่คล้ายกัน และจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการมีเรื่องให้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันทุกวันโดยไม่มีเบื่อ คนโสดจะรออะไร ดาวน์โหลดมาใช้เลยสิ…
-
เผยผลงานการ “ตัดต่อชั้นเซียน” จาก 19 ภาพตัดต่อที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังทั่วโลกมาแล้ว!!
แทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาของโลกอินเตอร์เน็ตไปแล้วก็ว่าได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนโพสต์ภาพคน สัตว์ หรือสิ่งของ จากอริยาบถต่างๆ ที่ดูแล้วมันช่างน่าจับไปตัดต่อซะให้เข็ด ซึ่งแน่นอนว่าไม่พลาดสายตาของชาวเน็ตมือบอนผู้มากฝีมือไปได้… ตลอดหลายปีที่ผ่านมามีภาพตัดต่อมากมายที่กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลก และวันนี้เราจะพาไปย้อนชม 19 ภาพตัดต่อที่ยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่และมีความอีพิคมากที่สุดแห่งวงการโฟโต้ช็อป ที่แท้แล้วทรัมป์ไม่ได้เซ็นเอกสารหรอก เล่นไดโนเสาร์อยู่ต่างหากล่ะ จำได้มั้ยกับทีมกู้ภัยที่เคยช่วยสล็อต ตอนนี้มันกลายเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ไปแล้วนะ เจ้านกอินทรีย์ที่ดูมีความ Thug Life สุดๆ และมันก็ Straight Outta Compton ด้วยเว้ยเฮ้ย ตอนแรกหมีมาไม่น่ากลัวหรอก แต่รูปตัดต่อนี่เอาซะน่ากลัวจริงอะไรจริง ใครบอกว่าเจ้าตูบมาเดินเล่นตัวเดียวกันล่ะ จริงๆ แล้วมีคนที่คุณก็รู้ว่าใครมาด้วยนะ เจ้าอัลปาก้าและผู้สาวขาเลาะที่ไม่รู้ว่าจะตกใจใส่กันทำไม กลายเป็นภาพศิลปะไปซะงั้น ลุงโลแกนแกไม่ได้เศร้าอย่างที่คิด ไม่เชื่อก็ดูป้ายที่เขียนติดไว้สิ… แกแค่นั่งชิลเฉยๆ ภาพสมัยทรัมป์ยังเป็นหนุ่มๆ และการตัดต่อภาพนี้ก็มาแบบเหนือชั้นมาก ยังจำสองตูบเพื่อนบ้านผู้น่ารักได้มั้ย? ตอนนี้มันกลายเป็นโจรปล้นไปซะแล้ว ครั้งหนึ่งสองคนนี้เคยจับมือกัน และมันก็กลายเป็นภาพที่ยังไงก็หนีไม่พ้นการตัดต่อจริงๆ (สงสัยชาวเน็ตอยากให้รักกันนะ) บ้านไฟไหม้ที่เราเห็นกันบ่อยๆ แท้จริงแล้วไม่ใช่เด็กผู้หญิงเป็นคนเผาหรอก มันเป็นฝีมือของเจ้าตัวนี้ต่างหาก…
-
คุณปู่ทุ่มเวลากว่า 5 ปี เพื่อซ่อมเรือยอร์ชเก่า พอเอาไปลงน้ำไม่ถึงนาที กลายเป็นเรือดำน้ำ!!
เมื่อเราตั้งใจทำสิ่งใดแล้ว.. บางทีเราอาจจะต้องทุ่มเททั้งเวลา เงินทอง และหยาดเหงื่อแรงกายให้กับสิ่งที่เราต้องใจอยู่นานหลายปี อย่างเช่นเรื่องราวของคุณปู่วัย 75 ปีคนนี้ ด้วยความชื่นชอบที่มีต่อเรือและการเดินทาง มันเป็นตัวจุดประกายให้คุณปู่เลือกที่จะใช้ช่วงชีวิตวัยเกษียณในแต่ละวัน ให้หมดไปกับการรีโนเวทเรือยอร์ชอายุเก่าแก่กว่า 80 ปี ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง!! ถ้าถามว่าชีวิตวัยเกษียณคุณปู่ต้องการอะไร แกก็จะตอบว่า… นอกจากอยากให้เมียตายไวๆ แล้วก็มีแค่การต่อเรือนี่แหละที่แกสนใจ (ล้อเล่น) คุณปู่ชาวสกอตแลนด์ใช้เวลาวันละ 8 ชั่วโมงไปกับการฟื้นฟูบูรณะเรือเก่า โดยมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้ง 2 คนคอยทำหน้าที่เป็นลูกมือให้ เจ้าตัวบอกว่าที่ผ่านมาเสียหายไปหลายแสนกับการสร้างเรือ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยยอดเงินตัวเลขได้เพราะไม่อยากมีปัญหากับภรรยา… และวันที่เขาเฝ้ารอก็มาถึง วันที่จะได้พาเรือสุดที่รักลงไปสัมผัสผืนน้ำและการออกเดินทางสู่โลกกว้างเป็นครั้งแรก ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นปกติ แต่ชีวิตก็ไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น เพราะหลังจากนั้นไม่ถึงนาทีเรือก็จมบุ๋งงง~ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามยื้อเรือไว้เท่าไหร่ แต่ดูเหมือนแม้แต่นาซ่าก็พาเธอกลับขึ้นมาไม่ได้ เธอจมหายวับไปกับตา “ถึงเรือจะจมแต่นั้นก็ไม่ทำให้เราย่อท้อ ตอนนี้ผมได้ย้ายมาอาศัยกินนอนในรถใกล้ชายฝั่ง เพื่อที่จะได้ดูแลเรือให้ดีมากกว่าเดิม และเมื่อไหร่ที่น้ำเริ่มลดผมถึงจะค่อยกลับบ้านไปหาภรรยา” คุณปู่เล่าถึงช่วงเวลาอันยากลำบาก ซึ่งเรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่ตกทอดมาจากสมัยสงครามนาซี ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1936 และมันก็เคยผ่านสนามรบมาแล้วจริงๆ จากความผิดพลาดในครั้งแรกทำให้คุณปู่ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง และนำมาปรับใช้กับการซ่อมแซมเรืออีกครั้ง…
-
รู้จักกับหมาป่าทะเล สุนัขชาวเลผู้อาศัยอยู่กับมหาสมุทร แถมยังว่ายน้ำได้นานเป็นชั่วโมง!!
ตามแนวเส้นชายฝั่งแปซิฟิกของรัฐบริติชโคลัมเบีย แห่งประเทศแคนาดา ได้มีประชากรหมาป่าชนิดหนึ่งที่มีวิถีชีวิตแตกต่างออกไปจากสุนัขในถิ่นอื่นๆ Ian McAllister ช่างภาพผู้ตามถ่ายเรื่องราวของหมาป่าทะเล ได้เผยว่า “จากการศึกษาผ่าน DNA พบว่าปัจจุบันสายพันธุ์ที่แท้จริงของหมาป่าได้หายไปหมดแล้ว และเราจะได้เห็นพฤติกรรมการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไปของพวกมัน พวกมันเริ่มเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อออกไปจับปลา และในทางโครงสร้างต้องถือว่ามันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากสายพันธุ์สุนัขจิ้งจอกดั้งเดิม” เราลองตามไปชมภาพถ่ายของ Ian MaAllister ที่จะมาเผยให้เห็นถึงวิถีชีวิตอันน่าแปลกใหม่ของพวกมันกันเลยดีกว่า พวกมันเคลื่อนที่ปราดเปรียวและเงียบเชียบดั่งภูตผี สำหรับหมาป่าทะเลนั้นพวกมันจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ ด้วยกัน อย่างแรกคือหมาป่าที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินใหญ่ พวกมันมักจะมีสกิลในการหาอาหารทะเลได้น้อยกว่า ระยะว่ายน้ำสั้นกว่า และมักจะหากินเฉพาะตามชายหาด อีกประเภทคือหมาป่าทะเลชาวเกาะ สุนัขชนิดนี้จะสามารถว่ายน้ำข้ามเกาะเพื่อหาอาหารได้อย่างคล่องแคล่ว ทีมนักวิทยาศาสตร์เคยเข้ามาศึกษาด้วยการเก็บ DNA และนำไปเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม พวกเขาก็ต้องพบว่ามันมีความแตกต่างอย่างน่าแปลกใจ “เดิมทีหมาป่าเป็นสัตว์นักผจญภัย พวกมันมีเขตถิ่นที่อยู่อาศัยกว้างมาก และมีความสามารถในการปรับตัวตามแหล่งอาหารได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน” Erin Navid นักวิจัยกล่าว สำหรับสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ตามเกาะนั้น พวกมันสามารถว่ายน้ำได้ไกลถึง 12 กิโลเมตร และปัจจุบันสัตว์ทะเลกลายเป็น 90% ของปัจจัยในการอยู่รอดของพวกมันไปซะแล้ว นี่อาจจะเป็นสัญญาณบอกเราว่า การรุกรานธรรมชาติของมนุษย์ทำให้พวกมันต้องมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปก็ได้นะ… ที่มา:…
-
บริษัทในญี่ปุ่น ออกกฎให้พนักงานยืนทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสุขภาพที่ดีกว่า..!!
แต่ละบริษัทอาจจะมีวิธีการกระตุ้นกำลังใจของพนักงาน หรือหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แก่พวกเขาที่แตกต่างกันไป และคราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับวิธีใหม่ของบริษัทแห่งหนึ่งจากญี่ปุ่น Iris Ohyama หนึ่งในบริษัทส่งออกวัสดุพลาสติกขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ออกกฎระเบียบการทำงานใหม่ที่เชื่อว่าจะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพ และเป็นผลดีต่อสุขภาพของพนักงานด้วยการ ‘ยืนทำงาน’ โดยกฎระเบียบใหม่ที่เพิ่งออกมาบังคับใช้กับพนักงานนี้ มีใจความระบุไว้ว่า: ‘ขอประกาศห้ามมิให้พนักงานนั่งใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน และทางบริษัทขอเสนอให้ใช้คอมพิวเตอร์จากโต๊ะทำงานขนาดเล็กที่ถูกติดตั้งเพิ่มเข้ามาแทน’ แต่ก็ใช่ว่าบริษัทจะบังคับให้พนักงานยืนเมื่อยขาทั้งวันทั้งคืน เพราะพนักงานแต่ละคนจะมีสิทธิ์ใช้คอมพิวเตอร์แค่คนละ 45 นาทีต่อรอบเท่านั้น ประมาณว่าถ้างานเอกสารก็ใช้โต๊ะขวามือนั่งทำงานได้ แต่ถ้าอยากใช้คอมพิวเตอร์ก็ต้องยืนแทน ฝ่ายผู้บริหารเชื่อว่าการจำกัดช่วงเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์ จะช่วยทำให้พนักงานเห็นคุณค่าของเวลาในการทำงานมากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น ตั้งใจทำงานมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นผลดีในระยะยาวต่อสุขภาพของพวกเขาอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้นก็คือไม่ใช่แค่พนักงานเท่านั้นที่ต้องทำตามกฎนี้ เพราะภาพจากแผนผังของบริษัทเผยให้เห็นรูปแบบการจัดวางโต๊ะของฝ่ายผู้บริหารที่ต้องยืนทำงานเฉกเช่นเดียวกับพนักงานทุกคน ภาพแผนผังการจัดวางโต๊ะทำงานใหม่ อย่าคิดนะว่าถ้าบริษัทห้ามแบบนี้เราก็พกโน๊ตบุ๊กมาทำงานเองเลยไม่ดีกว่าเหรอ? เพราะตั้งแต่ปี 2007 บริษัท Iris Ohyama ได้ออกกฎห้ามมิให้พนักงานใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวในที่ทำงานด้วยเช่นกัน แต่สำหรับพนักงานที่มีเงื่อนไขทางการแพทย์ ทางบริษัทก็ยินดีที่จะยืดหยุ่นกฎดังกล่าวให้สอดคล้องกับเงื่อนไขปัจจัยต่างๆ ของพนักงานแต่ละคนด้วยเช่นกัน บรรยากาศการทำงานคงคึกคักขึ้นน่าดูเลยเนาะ ที่มา: Rocketnews24
-
แม้แต่นกก็ยังมีวินัย!? มหาลัยญี่ปุ่นติดป้าย “ห้ามอีกาเข้า” หลังจากนั้นมันก็ไม่มาอีกเลย…
นอกจากประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นชื่อเรื่องความครีเอทีฟและเทคโนโลยีสุดล้ำแล้ว ประชากรของประเทศนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องของความมีระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดอีกด้วยนะเออ แต่ไม่ใช่แค่เพียงชาวญี่ปุ่นเท่านั้นที่จะมีวินัย เพราะล่าสุดได้มีข่าวมาว่ามหาวิทยาลัยในเมือง Otsuchi ได้แก้ไขปัญหาการรุกรานของอีกาด้วยการติดป้าย ‘ห้ามเข้า’ และไม่น่าเชื่อว่าพวกมันจะอ่านรู้เรื่อง แถมยังยอมทำตามกฎอีกด้วย!! ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยต้องเจอกับปัญหาการรุกรานของอีกา เพราะพวกมันมักจะเข้ามาทำลายทรัพย์สินภายในอาคารต่างๆ อยู่เป็นประจำ ฝ่ายบุคลากรในมหาวิทยาลัยก็พยายามที่จะหาทางแก้ปัญหา จนกระทั่งอาจารย์ Katsufumi Sato ได้คำแนะนำจาก Tsutomu Takeda เพื่อนผู้เชี่ยวชาญด้านอีกาให้ลองเขียนป้ายคำว่า ‘ห้ามอีกาเข้า’ โดยผู้เชี่ยวชาญได้ให้เหตุผลว่า จริงๆ แล้วอีกามันไม่สามารถอ่านภาษาคนออกหรอก ทว่าเมื่อมีการติดป้ายแล้วผู้คนที่สัญจรไปมาก็จะอ่านป้าย และแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าเพื่อชี้นิ้วไปที่พวกมัน ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้อีการู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย และไม่กล้าที่จะเข้ามายุ่งอีก เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วทางมหาวิทยาลัยก็ได้มีคำสั่งให้ติดป้ายเตือนอีกาทันที และไม่น่าเชื่อว่าวิธีการนี้จะใช้ได้ผลจริงๆ โดยบุคลากรได้ช่วยกันนำป้ายเตือน ‘ห้ามอีกาเข้า’ ไปติดในบริเวณที่ได้รับความเสียหายการจากฝีมือของพวกมัน ไม่ว่าจะเป็นกระจก ท่อน้ำ บานประตู หรือแม้แต่บนต้นไม้ที่พวกมันชอบไปอาศัยอยู่ คุณ Takeda ให้สัมภาษณ์ว่า “มันเป็นกลอุบายที่ใช้จัดการกับปัญหาอีกานักเลงทั้งหลายได้ดีมากๆ คุณลองนึกภาพดูสิว่าหลังจากที่เราติดป้ายนี้ไปแล้ว ด้วยความที่มันเตะตาไม่ว่าใครก็ตามที่มาเยือนสถาบันแห่งนี้ก็จะได้อ่านป้าย จากนั้นพวกเขาก็มักจะแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าและชี้นิ้วใส่อีกา ซึ่งวิธีนี้ทำให้พวกมันรู้สึกกลัวคนที่มาเยือนสถาบันของเรา และมันก็ช่วยลดปัญหาความวุ่นวายได้จริง” ช่างเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ฉลาดล้ำลึกยิ่งนัก แถมยังใช้งานได้ดีอีกด้วยนะ…
-
ชาวเน็ตแซว Chris Pratt หุ่นอ้วนตุ๊บเหมือนกับกระบือน้ำ แต่แล้วไงสตาร์ลอร์ดไม่แคร์อ่ะ!?
เป็นธรรมดาแหละที่หลังจากดาราดังโหมงานหนักในกองถ่ายอยู่หลายเดือน พวกเขาก็ต้องขอปลดปล่อยกันบ้าง แต่บางคนอาจจะทานอาหารอร่อยไปหน่อยในช่วงปลดปล่อย หุ่นเลยอ้วนตุ๊บกลายเป็นหมูทุบแบบรวดเร็ว แต่พอดีว่าวันนี้เรามีเรื่องจะมาเหลา เอ้ยย เล่า (ผ่างง!!) เมื่อพ่อสตาร์ลอร์ด Chris Pratt ออกมาเล่นน้ำทะเลแล้วโชว์หุ่นอันอวบอั๋น ชาวเน็ตผู้ที่มีทั้งปั๊กและเชาเชาอยู่ในปาก ก็อดไม่ไหวที่จะต้องออกมาแขวะให้ได้… นี่เป็นภาพของ Chris Pratt ตอนไปเล่นน้ำทะเล ดูๆ ไปสงสัยจะกินดีอยู่ดี พ่อสตาร์ลอร์ดหุ่นเสี่ยขึ้นเป็นกอง หลังจากนั้นก็มีชาวเน็ตคนหนึ่ง Matt Stopera ซึ่งเป็นผู้เขียนของเว็บไซต์ Buzzfeed ได้พยายามสร้างกระแสด้วยการโพสต์ภาพจากแชทลับกลุ่มเพื่อนของเขา แน่นอนว่าชาวคณะสีม่วงของเขาก็ออกมาแซวทำนองว่า อ้วนเหมือนกับควายน้ำ บางคนก็บอกว่าเหมือนลูกหมี น่าจับกินซะไม่มี!! ไหนเราลองมาดูกันชัดๆ สิว่า จะอ้วนตุ๊บอย่างที่พูดจริงรึเปล่า!? อันที่จริงดูดีๆ ก็ไม่ถึงกับอ้วนนะ ยังไงๆ ก็ดูน่ารักน่ากินเหมือนลูกหมีน้อยลอยน้ำ ใครบอกว่าผู้ชายอวบไม่น่ารักเดี๋ยวตีตายเลย ไม่รู้อะไรซะแล้วว่ายุคนี้หุ่นเสี่ยกำลังมาแรง!! แต่ถึงจะมีคนออกมาบ่นว่าพ่อหนุ่มอ้วนขึ้นยังไง แฟนๆ ก็ยังยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า.. แล้วไงใครแคร์!? ดูไปดูมาอกอีแม่จะแตก ขอพักจิบน้ำหน่อยนะลูก… ด้วยความหล่อของพี่คริส…
-
หนุ่มสุดโรแมนติก สั่งทำลูก “Golden Snitch” เป็นของขวัญสุดพิเศษ มอบให้แฟนสาวติ่งแฮร์รี่
หากใครที่เป็นแฟนตัวจริงของภาพยนตร์เรื่อง Harry Potter เพื่อนๆ คงจะรู้จักเจ้าลูก Golden Snitch ในกีฬาควิชดิชเป็นอย่างดี เพราะมันทั้งมีขนาดที่เล็กสุดๆ แถมยังบินได้ว่องไวอย่างกับแมลงปอเลยทีเดียว แต่ด้วยความสวยงามของมันทำให้ใครหลายๆ คนอยากมีมันไว้ในครอบครอง เช่นเดียวกับชายชาวมักเกิลผู้หนึ่งที่อยากจะมอบลูก Golden Snitch ให้กับแฟนสาวอันเป็นที่รัก เขาจึงตัดสินใจสั่งทำเจ้าลูกนี้จากร้านออกแบบเครื่องประดับเพชรพลอยฝีมือดีแห่งหนึ่ง จนเกิดเป็นผลงานที่สวยงามที่ชาวมักเกิลสามารถจับต้องได้ เจ้าลูก Golden Snitch นี้เป็นเซอร์ไพรส์สุดพิเศษที่ลูกค้าท่านหนึ่งเตรียมไว้เพื่อหญิงอันเป็นที่รักของเขา โดยเขาได้ติดต่อไปที่ร้านออกแบบเครื่องประดับเพชรพลอย Freeman Design เจ้า Golden Snitch นี้ไม่ได้ทำขึ้นมาเพื่อให้มันบินหรอกนะ แต่มันคือ “จี้ห้อยคอ” ที่สามารถใส่แหวนเข้าไปได้ เพื่อเป็นการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานนั่นเอง!! จี้ห้อยคอที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ Harry Potter นี้ ใช้วัสดุ Sterling Silver ในการสร้างผลงานโดยมีทองเหลืองที่เคลือบหนาเป็นพิเศษอีกด้วย โดยกลไลการเปิดเจ้าลูก Golden Snitch นี้เป็นความลับสุดยอด ก็เพื่อให้มันเก็บรักษาแหวนหมั้นไว้นั่นเอง ผลงานชิ้นนี้ทางร้านได้ใช้เวลากว่า 60 ชั่วโมงในการทำ ซึ่งเริ่มจากการจำลองแบบสามมิติในคอมพิวเตอร์ และขึ้นรูปวัสดุ Sterling Silver โดยการวิธีการหล่อที่เรียกว่า Lost…
-
บริษัทพานาโซนิคญี่ปุ่นเปิดตัว “ไม้แขวนเสื้อไฮเทคขจัดกลิ่น” กลิ่นแรงแค่ไหนก็เอาอยู่!!
ไม้แขวนเสื้อต่อให้มีรูปร่างแปลกไปบ้างมันก็คือสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นมาไว้แขวนเสื้อผ้านั่นแหละ โดยล่าสุดนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่นก็ได้ออกแบบไม้แขวนเสื้อไฮเทคที่ไม่ได้มีไว้เพียงแค่แขวนเสื้อ แต่ยังช่วยในเรื่องของการดับกลิ่นด้วย นี่คือ Deodorant Hanger MS ไม้แขวนเสื้อที่ใช้เทคโนโลยี NanoE จากบริษัทพานาโซนิคของญี่ปุ่น ที่จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและจัดการชีวิตคุณให้ง่ายขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องนำไปซักหรือซักแห้ง เพียงเพราะอยากกำจัดกลิ่นเล็กๆ น้อยๆ ทันทีที่คุณเสียบปลั๊ก ไม้แขวนเสื้อไฮเทคจะปล่อยอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าขนาดนาโนให้ซึมซับเข้าไปในเนื้อผ้า เพื่อขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้า แต่หากเสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นแรงมากๆ อาจจะต้องใช้เวลาในการกำจัดกลิ่นนานถึง 5-7 ชั่วโมง อนุภาคเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยการใช้แรงดันและความชื้นในอากาศ โดยจะปล่อยออกมาจากจุดต่างๆ ของไม้แขวนเสื้อ 8 จุด เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและขจัดกลิ่นอย่างทั่วถึง ทางพานาโซนิคญี่ปุ่นบอกว่าพวกเขาได้ทดสอบเทคโนโลยี NanoE กับกลิ่นต่างๆ เช่น กลิ่นเหงื่อ กลิ่นควันบุหรี่ และกลิ่นเนื้อย่าง จากการทดสอบพบว่าไม้แขวนเสื้อไฮเทคสามารถลดความรุนแรงของกลิ่นต่างๆ ได้ดี และช่วยคงสภาพของการกำจัดกลิ่นได้นานหลายชั่วโมงด้วย ทั้งนี้ไม้แขวนเสื้อไฮเทคสามารถปรับการใช้งานได้ 2 โหมด คือโหมดปกติและโหมดระยะยาว โดยโหมดแรกนั้นจะอยู่ได้นาน 5 ชั่วโมง ส่วนหมดหลังอยู่ได้นานถึง 7 ชั่วโมง นอกจากนี้ไม้แขวนเสื้อไฮเทคยังมาพร้อมที่คลุมผ้าเพื่อให้สามารถแขวนเสื้อผ้าได้ครั้งละหลายๆ ตัว โดยที่ไม่ทำให้เสื้อผ้ายับไปกว่าเดิม บริษัทพานาโซนิกกล่าวว่า ไม้แขวนเสื้อ…
-
สาวไทยอาสาถ่ายรูปให้ฟรี เมื่อไปเที่ยวโครเอเชีย แลกกับบริจาคผ้าอนามัยให้องค์กรการกุศล
ประเทศโครเอเชียถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีความสวยงามอยู่มาก ไม่ว่าจะบ้านเมืองที่สร้างมาแบบคุมโทนหรือวิวทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา นั่นจึงไม่แปลกที่มันจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คน และถ้าหากว่าคุณกำลังวางแผนที่จะเดินทางไปที่นั่นแต่ยังไม่มีกล้องแจ่มๆ หรือไม่มีเงินมากพอจะจ้างช่างภาพเดินทางไปกับคุณล่ะก็ #เหมียวฟิ้น อยากจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับช่างภาพคนหนึ่ง ที่อาสาจะไปถ่ายรูปให้กับคุณแบบฟรีๆ โดยมีข้อแลกเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ช่างภาพที่เราพูดถึงนี้เธอมีชื่อว่าคุณโช สาววัย 21 ปี ที่เดินทางไปเรียนต่อที่กรุงซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย และยังเป็นสมาชิกขององค์กร Give Her 5 ในประเทศอินเดียด้วย เธอเล่าว่าภายในองค์กร Give Her 5 นั้นจะผลิตผ้าอนามัยแบบซักได้เพื่อแจกจ่ายให้กับเหล่าหญิงสาวที่ไม่มีเงินมากพอจะซื้อด้วยตัวเอง แต่ถึงจะมีการผลิตเพื่อแจกจ่ายแล้วก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ดี มีการทำผลสำรวจจนพบว่ากว่า 1 ใน 5 ของเด็กสาวในอินเดียถูกทางโรงเรียนบีบให้ออกจากโรงเรียนเนื่องจากขาดเรียนเพราะเป็นประจำเดือนบ่อยครั้ง กว่า 88% ของเด็กสาวในอินเดียต้องใช้เสื้อผ้า เศษขี้เถ้าหรือทรายเพื่อใช้ซับประจำเดือนของพวกเธอ และที่สำคัญก็คือหญิงสาวกว่า 400 ล้านคนในอินเดียไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อผ้าอนามัย จึงทำให้ผ้าอนามัยกลายเป็นของใช้ที่ไม่อาจซื้อมาใช้ได้ง่ายๆ ด้วยเหตุเหล่านี้เองคุณโชก็เลยอยากจะช่วยเหลือองค์กร Give Her 5 ด้วยการอาสาถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวฟรีๆ เพื่อแลกกับการที่เราจะช่วยบริจาคเงินเล็กๆ น้อยๆ เพื่อนำไปผลิตผ้าอนามัยให้กับหญิงสาวชาวอินเดียที่ไม่มีเงินซื้อ หรือหากใครสะดวกจะบริจาคเป็นผ้าอนามัยเลยก็ได้เช่นกัน …
-
ภาพสุดท้าย… พ่อโอบกอดลูกชายที่ป่วยเป็นมะเร็งไว้ เพื่อเติมเต็มความหวังก่อนที่จะจากไป
สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากเห็นมากที่สุดคือการเห็นลูกต้องล้มป่วยด้วยโรคร้าย ถ้าเลือกได้พวกเขาก็อยากจะเจ็บแทนเองด้วยซ้ำ แต่พ่อแม่คู่นี้ต้องเจ็บยิ่งกว่านั้น เพราะต้องทนเห็นลูกจากไปในอ้อมกอดของตัวเอง Braiden Prescott เด็กชายวัย 7 ขวบ ป่วยด้วยโรคมะเร็งชนิดนิวโรบลาสโตมา (Neuroblastoma) ได้เสียชีวิตลงหลังแอดมิทเข้าโรงพยาบาลในเดือนกันยายนปี 2016 ได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น คนที่เจ็บปวดที่สุดจากการเสียชีวิตของเด็กชายก็คงจะเป็นคุณแม่ Steph และคุณพ่อ Wayne Prescott จากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พ่อแม่ได้แชร์ภาพช่วงสุดท้ายของ Braiden ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่แทบใจสลายไปพร้อมๆ ลูก เพราะต้องเห็นลูกชายที่รักจากไปต่อหน้าต่อตา ในวันที่เด็กชายเสียชีวิต คุณแม่ Steph เล่าว่า “ฉันนอนอยู่ข้างเตียงของลูกตลอดทั้งคืน แล้วตื่นมาตอนตี 3 เพราะได้ยินเสียงลูกสำลัก จึงทำการตามพยาบาลมาทันที” หลังจากที่เข้ามาตรวจสอบอาการสักพัก พยาบาลบอกกับเธอว่า “ใกล้จะถึงเวลาที่เขาจะไปแล้ว” แม้คุณแม่จะรู้อยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินแบบนั้น เข่าของเธอแทบจะทรุดลงไปทันที แต่ก็ยังพยายามฮึดสู้แล้วเดินไปปลุกสามี แม่อยากอุ้มลูกชายไว้เพื่อให้เขาจากไปอย่างสงบในอ้อมกอดของเธอ แต่ไม่อาจทำใจได้ เธอจึงปล่อยให้สามีเป็นคนอุ้มแทน ส่วนเธอก็นั่งจับมือลูกอยู่ข้างๆ สำหรับโรคร้ายที่หนูน้อยต้องเจอนั้น เป็นความผิดปกติเนื่องจากมีเนื้องอกที่ขากรรไกร ทำให้เขาไม่สามารถเปิดปากได้หรือพูดได้ พ่อแม่เลยไม่รู้ว่าลูกชายต้องการอะไรเป็นสิ่งสุดท้าย …
-
ชาวนอร์เวย์ร่วมลงเงินบูรณะ ‘ผากระปู๋’ อันเลื่องชื่อ มีมือดีบังอาจมาตัดแท่งหินยื่นออก!!
ประเทศนอร์เวย์ เป็นหนึ่งประเทศที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันแสนสวยงาม รวมไปถึง Trollpikken หน้าผาหินหรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘หน้าผาจู๋’ อันขึ้นชื่อของที่นี่ แต่เมื่อไม่นานมานี้หน้าผาอันแสนลือชื่อนี้ก็ต้องเหลือเป็นเพียงตำนาน หลังจากส่วนหินที่ยื่นออกมานั้นได้หายไปอย่างลึกลับ ทำให้ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้น รวมไปถึงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ถึงกับงงเลยทีเดียว หลังจากที่ทราบข่าวการหายไปของตำนานหน้าผา Trollpikken นักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบสถานที่ดังกล่าวได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก ชายคนนี้ถึงกับอารมณ์เสียเลยทีเดียว เมื่อรู้ว่าหินส่วนที่ยื่นออกมานั้นหายไป อีกหนึ่งเสียงจากชาวเน็ต ที่ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว จากการรายงานของสำนักข่าว Huffington Post บอกว่าการหักของแท่งหินดังกล่าวนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากฝีมือของใครบางคนจากการใช้เครืองมืออย่างสว่านยักษ์ หรือไม่ก็อุปกรณ์ที่ทรงพลังมากๆ เพื่อที่จะตัดหินส่วนที่ยื่นออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตามชาวนอร์เวย์ผู้หวงแหนในแท่งหินดังกล่าว ได้ร่วมกันลงขันเพื่อบูรณะฟื้นฟูหินก้อนนี้ผ่านทางเว็บไซต์ระดมทุน ซึ่งตอนนี้มียอดเงินบริจาคแล้วถึง 20,000 เหรียญหรือประมาณ 600,000 บาท โดยงบประมาณของเงินที่ใช้ไป 1 ใน 3 นั้นจะหมดไปกับค่าเช่าเฮลิคอปเตอร์สำหรับการยกแท่งหินดังกล่าวกลับขึ้นมา และในเงินส่วนที่เหลือจะนำไปใช้สำหรับกระบวนการบูรณะประกอบหินเข้าตำแหน่งเดิม โถสงสารเจ้าหินจริงๆ เลยนะเนี่ย ใครกันหนอมาเฉือนกล่องดวงใจมันได้ลงคอ ฮืออ.. ที่มา distractify, globalnews, huffingtonpost
-
สาวๆ หลบไป พบกับ “20 หนุ่มฝีมือการแต่งหน้าขั้นเทพ” ที่แม้แต่มืออาชีพยังต้องทึ่ง!!
ในโลกโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน ได้ถือกำเนิดบล็อกเกอร์เรื่องความสวยความงามเป็นจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีสาวๆ ที่มีความสามารถด้านการแต่งหน้าอยู่มากมาย โดยพวกเธอก็ได้ทำคลิปวิธีการสอนการแต่งหน้าในธีมต่างๆ ให้ผู้คนได้เข้าไปเรียนรู้เทคนิคกัน แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าไม่ใช่แค่ผู้หญิงเท่านั้นที่มีความสามารถในการแต่งหน้า เพราะวันนี้เราได้ขนเอาหนุ่มๆ สุดเจ๋งที่มีความสามารถในการแต่งเติมใบหน้าให้สวยงามไม่น้อยไปกว่าผู้หญิงเลย หนุ่มๆ เหล่านี้จะฝีมือขั้นเทพขนาดไหนเราไปชมกันเลย 1. aidensempire หนุ่มหน้าเข้มที่มาพร้อมกับฝีมือการแต่งหน้าที่มืออาชีพยังต้องทึ่ง 2. zachzenga หนุ่มผู้มีศิลปะในหัวใจ ทำให้การแต่งหน้าของเขานั้นดูมีมิติและแฟนซีสุดๆ 3. zachcampbel ชายผิวสีที่มีความแซ่บอยู่ในตัวเกินร้อย ทำให้การแต่งหน้าของนางก็เผ็ช!! ไปด้วยเช่นกัน 4. bankselliott ชายผู้ที่มีสไตล์การแต่งหน้าที่ไม่เหมือนใคร 5. adamriotrox สาบานว่าคนนี้เป็นผู้ชาย เพราะหน้านางสวยมาก!! มองเผินๆ ดูเหมือนเป็นผู้หญิงเลยล่ะ 6. sjt_mua แม่คนนี้มีสไตล์การแต่งหน้าที่ดูหรูหราอลังการมากๆ 7. heflawless ชายหนุ่มผิวมีเรียวปากอวบอิ่มเป็นเอกลักษณ์ ทำให้การทาลิปของนางดูปังสุดๆ 8. skelotim หุ่มเครางามแต่หน้าสวยคนนี้ จะมาสอนสาวๆ ว่าแต่งหน้ายังไงให้ดูแซ่บที่สุด 9. jesssusgomez หนุ่มน้อยหน้าใสที่มาพร้อมกับขนตางอนๆ แน่นๆ นางมีฝีมือใช่ย่อยเลยนะ 10. jesuskardashian นอกจากที่หนุ่มคนนี้จะแต่งหน้าเก่งแล้ว นางยังมีรูปติดเรท โชว์เรือนร่างให้เห็นอยู่บ่อยๆ…
-
พ่อแม่ถูกโรงพยาบาลปฏิเสธไม่ให้พาที่ลูกป่วยหนักกลับบ้านใน “ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต”
พ่อแม่ทุกคนอยากหยิบยื่นสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกตั้งแต่เกิดไปจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต เหมือนกับพ่อแม่ของ Charlie Gard ที่อยากให้ลูกกลับไปเสียชีวิตที่บ้าน เพราะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้ลูกได้ เมื่อไม่นานมานี้ลูกชายของ Connie Yates และ Chris Gard ป่วยด้วยโรคร้ายและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงไม่นาน ดังนั้นพ่อแม่จึงอยากทำความปรารถนาสุดท้ายกับลูก สิ่งที่พ่อแม่ต้องการคืออยากพา Charlie กลับไปตายที่บ้าน แต่กลับถูกปฏิเสธจากทางโรงพยาบาลและไม่อนุญาตให้ทั้งคู่ทำเช่นนั้น ทั้งคู่เปรียบลูกชายตัวน้อยเหมือนทหารผู้กล้าหาญ พวกเขาอยากสู้กับโรคร้ายนี้ไปพร้อมๆ กับลูกจนวินาทีสุดท้าย แต่มาตอนนี้กลับถูกปฏิสเสธไม่ให้ทำเช่นนั้น Chris บอกว่า “เราไม่สามารถทำอะไรได้ แม้กระทั่งพาลูกกลับไปตายที่บ้าน” ดังนั้นพ่อแม่คู่นี้จึงทำทุกวิถีทางเพื่อจะพาลูกกลับบ้านให้ได้ แม้ต้องจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็ตาม ในขณะที่ Connie บอกว่า “เราคิดอยู่เสมอว่าอยากให้ลูกกลับไปตายที่บ้านเมื่อถึงเวลา และฉันก็บอกกับเขาทุกวันว่าจะพาเขากลับบ้าน” “มันเป็นคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้กับลูก เราจึงต้องรักษาคำพูดนั้น เพื่อไม่ให้ลูกผิดหวัง ที่สำคัญมันคือสิ่งสุดท้ายที่เราจะทำให้ลูกได้ก่อนที่เขาจะจากไป” ผู้เป็นแม่บอก อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ มีครอบครัวและเพื่อนๆ ของทั้งคู่ที่อยากบอกลาเด็กน้อยเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่สามารถมาได้ ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าที่จะพาลูกกลับบ้านที่มีทุกคนอยู่รอเขาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา พวกเขายังบอกอีกว่าได้ขออนุญาตคุณหมอว่าขออยู่กับลูกในสัปดาห์สุดท้ายของการรักษา แต่คำขอนี้ก็ถูกปฏิเสธอีกครั้ง ที่ผ่านมาพวกเขาได้รับเงินบริจาคกว่า 38 ล้านบาท ผ่านการระดมเงินในเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาให้ลูก และตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการต่อสู้เพื่อพาลูกกลับบ้านต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่พาลูกกลับบ้านให้ได้นะคะ ที่มา metro
-
รู้จักกับมนุษย์ดินโคลน ชนเผ่าใน “ปาปัวนิวกินี” กับวัฒนธรรมใส่หน้ากากเพื่อข่มขวัญศัตรู!!
โลกเรามันกว้างใหญ่มากซะจนอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อน เช่นเดียวกับเรื่องราวของชนเผ่าหนึ่งในปาปัวนิวกินี ที่มีวัฒนธรรมแปลกแตกต่างออกไปจากชนเผ่าอื่นๆ พวกเขามีชื่อเรียกว่า ‘Mud Men’ หรือถ้าแปลไทยก็คงประมาณว่า ‘มนุษย์ดินโคลน’ นั่นเอง ส่วนคำถามที่ว่าทำไมต้องเป็นโคลนหรือพวกเขาอยู่อาศัยอยู่อย่างไรนั้น เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย ชนเผ่ามนุษย์โคลนมักจะอาศัยอยู่ตามพื้นที่ราบสูงของประเทศปาปัวนิวกินี ซึ่งที่นี่มีชนเผ่ามากกว่า 2,000 กลุ่ม รวมถึงมนุษย์โคลนจากหุบเขา Waghi ด้วยเช่นกัน ถ้าคุณอยากจะเจอพวกเขา ก็ต้องเดินทางขึ้นไปยังภูเขา Hagen ซึ่งถูกตั้งชื่อตามชาวเยอรมันที่ครั้งหนึ่งเคยเดินทางมาสำรวจ ณ ที่แห่งนี้ ด้วยความที่บริเวณชายฝั่งมักจะมีสภาพอากาศร้อนชื้น ทำให้พวกเขาต้องย้ายมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ๆ มีฝนตก 3,800 มม. ต่อปี และไม่ต้องคอยห่วงเรื่องโรคมาลาเรีย ในอดีตพวกเขามักจะพรางตัวด้วยโคลนและซ่อนตัวอยู่ตามหนองบึง เพื่อซุ่มโจมตีชนเผ่าอื่นๆ ตามตำนานเล่าว่าพวกเขาเคยเป็นชนเผ่าที่มีวิธีล่าโหดร้ายมากที่สุด พวกเขามักจะออกล่าช่วงพลบค่ำ ด้วยหน้ากากแปลกๆ และการพรางตัว ทำให้ศัตรูมักจะคิดว่าพวกเขาเป็นพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ ชนเผ่าต่างๆ มักจะมีความเชื่อที่กลัวภูตผีปีศาจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และนั่นก็ทำให้ชนเผ่ามนุษย์โคลนมักจะได้รับชัยชนะจากการออกล่าเสมอ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะไม่มีการออกล่าฆ่าแกงกันเหมือนในอดีต ทว่าวัฒนธรรมการใส่หน้ากากดินเผา และการพรางตัวด้วยโคลน ยังคงเป็นจุดสนใจที่เรียกเงินจากนักท่องเที่ยวให้พวกเขาได้ดีเสมอ… ให้อารมณ์เหมือนกองทัพโคลนจากเรื่องสตาร์วอร์เลย เชร๊ดดดด!!…
-
หนุ่มนั่งชิลบนเรือเจอ “นก” ลอยมากับน้ำ คิดว่าช่วยไม่ทันแล้ว… แต่คุณพระมันยังรอดอยู่!!
เป็นเหตุการณ์อันน่าแปลกใจที่เกิดขึ้นกับ Massimo Barberi หนุ่มอิตาลีผู้ชื่นชอบการพายเรือคายัค เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่งเจ้าตัวได้ออกไปพายเรือเล่นที่บริเวณทะเลสาบ Comabbio ทางตอนเหนือของอิตาลี และเขาก็ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่ลอยมากับน้ำ “หลังจากที่ผมพายเรือเข้าไปดู ก็เห็นว่ามันเป็นนกที่จมมากับน้ำ และผมก็คิดว่าร่างกายมันคงไม่รอดอีกแล้ว” Massimo เล่า เมื่อเจ้าตัวอุ้มมันขึ้นมาจากน้ำ เขาก็พบว่ามันยังไม่ตาย!! สังเกตได้จากจะงอยปากที่พยายามชูขึ้นเพื่อหาอากาศหายใจ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะแง่หนึ่งเขาก็กลัวว่าการช่วยเหลือนกจะทำให้อาการมันแย่ลงกว่าเดิม แต่อีกแง่หนึ่งถ้าหากเขาไม่รีบช่วยมัน มันก็อาจจะตายได้เช่นกัน และเจ้าตัวก็ได้ตัดสินใจที่จะนำมันกลับเข้าฝั่ง “ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นนกเหยี่ยวแดง แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับการรีบช่วยชีวิตมัน และผมก็ดีใจมากๆ ที่สามารถทำให้มันกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง” เจ้าของเรื่องเล่า ทันทีที่มาถึงฝั่งเขารีบโทรติดต่อเพื่อนที่เป็นสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้รีบหาผ้ามาซับน้ำให้ร่างกายแห้ง และเขาก็ได้สังเกตเห็นว่าเจ้านกก็เริ่มที่จะสำลักน้ำออกมา จากเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาพลบค่ำทำให้คลีนิครักษาสัตว์หลายๆ แห่งในเมืองปิดให้บริการ แต่ด้วยความเป็นห่วงทำให้พ่อหนุ่มตัดสินใจที่จะนำเจ้านกกลับไปดูแลที่บ้าน เช้าวันต่อมาพ่อหนุ่มได้พานกผู้เคราะห์ร้าย ไปตรวจสุขภาพกับเพื่อนผู้เป็นสัตวแพทย์ ทว่าหลังจากเปิดกล่องออกมาพวกเขาก็ต้องได้เห็นภาพที่ชวนให้รู้สึกชื่นใจสุดๆ เป็นภาพของใบหน้าและสายตาอันสดใสของนกที่ได้รับการช่วยเหลือมา จากการช่วยเหลือของพ่อหนุ่มเพียงชั่วข้ามคืนเจ้านกก็กลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิม และพร้อมจะโบยบินสู่อิสระภาพอีกครั้ง “เช้าวันต่อมาผมพามันไปหาหมอ ทันที่เปิดกล่องออกมามันก็ส่งสายตามาเหมือนพยายามจะขอบคุณ จากนั้นมันก็บินลอยหายไปบนฟ้า เราดีใจมากที่เห็นมันบินได้อีกครั้ง” Massimo เล่า ดูสายตาจากนกน้อยแล้ว…
-
น้องหมาผู้รักในเสียงดนตรี เดินเข้ามากลาง “เวทีออร์เคสตรา” ทำเอาผู้ชมปรบมือให้ระนาว!!
บ่อยครั้งเมื่อเวลาที่เรากำลังทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ก็มักจะมีเหล่ามะหมาที่คอยเข้ามารวมแจมอยู่บ่อยๆ ซึ่งหลายๆ คนอาจจะเคยเจอมาแล้วเช่นกัน และไม่นานมานี้ได้มีเหตุการณ์สุดฮาเกิดขึ้นระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตของวง Vienna Chamber Orchestra ที่โรงละคร Ephesus Antique Theater ในประเทศตุรกี เมื่อจู่ๆ น้องหมาตัวหนึ่งก็ได้หลุดขึ้นมาบนเวทีหน้าตาเฉย ระหว่างที่ทางวงกำลังบรรเลงเพลงอยู่นั้น เจ้าตูบสีครีมตัวหนึ่งได้เดินเข้ามาบนเวที แบบเนิบๆ ด้วยสีหน้าแบบมึนๆ พร้อมกับเข้าไปนั่งข้างๆ กับนักไวโอลินท่านหนึ่ง การปรากฏตัวของมันสร้างเสียงหัวเราและทำเอาผู้ชมในโรงละครดังกล่าวต้องฮาไปตามๆ กัน และดูเหมือนว่าน้องหมาจะรู้งาน เจ้ามันไม่ส่งเสียงเห่าหรือรบกวนการแสดงแต่อย่างไรมันได้แต่นั่งมองเหล่านักดนตรีอย่างเรียบร้อย น้องหมาค่อยๆ นั่งในที่พิเศษแบบซุปเปอร์วีไอพี ชมโมเมนต์น่ารักๆ ของมันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… แหม่ สงสัยจะชอบฟังเพลงมากเลยสินะเจ้าตูบ เอาซะหน้าเวทีสุดๆ เลยนะเนี่ย ฮ่าๆ ที่มา thedodo
-
ชายหนุ่มทำตามคำสัญญา ขอแต่งงานกับสาวผู้เป็น ‘ป๊อบปี้เลิฟ’ รักมั่นคงมาถึง 20 ปี!!
เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘ป๊อบปี้เลิฟ’ กันมาบ้างแน่ๆ ความรักสมัยเด็กๆ ที่แสนจะน่ารักและหลายๆ คนก็อาจจะเคยได้สัมผัสมากับตัวเองบ้างแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ แต่ใครจะไปเชื่อว่าความรักใสๆ แบบเด็กจะอยู่ยืนยงถึง 20 ปีและทำให้ทั้งคู่กลายมาเป็นสามีภรรยากัยในที่สุด พบกับเรื่องราวความรักอันแสนน่าอจฉาของคุณ Laura Scheel และ Matt Grodsky Laura Scheel และ Matt Grodsky คู่รักที่พบกันครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อน ทั้งสองพบกันครั้งแรกตอนช่วงเข้าเรียนชั้นอนุบาล ถ้าหากให้พูดถึงความทรงจำดีๆ ของ Matt นั้นคงต้องย้อนไปถึงช่วงวัยเด็ก ตอนที่เขาเจอกับว่าที่ภรรยาเป็นครั้งแรก “หนึ่งในความทรงจำของผมเกิดขึ้นเมื่อตอน 3 ขวบ มันเริ่มขึ้นตอนเรียนชั้นอนุบาล ตอนนั้นผมลุกขึ้นกลางห้องเรียนแล้วก็บอกกับทุกคนว่าจะแต่งงานกับเธอ” หลังจากเรียนจบชั้นอนุบาลแล้ว ทั้งคู่ต่างแยกย้ายจากกันไป แต่แล้วพรหมลิขิตก็กำหนดเส้นทางให้ทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยเรียนมัธยมและทั้งสองก็เริ่มคบกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Matt เล่าเรื่องราวของเขาผ่านอินสตาแกรม ตอนนี้ผ่านมาแล้วกว่า 20 ปี หลังจากที่พวกเขาพบกันครั้งแรกตอนเด็กๆ ในที่สุดพ่อหนุ่ม Matt ของเราก็อยากจะรักษาคำพูดในวัยเด็กของเขา ชายหนุ่มจึงขอเธอแต่งงานเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา ภาพของ…
-
หนุ่มแปลงโฉมภาพเกม 8 บิตในยุค 90s ขัดเกลาให้มีความสวยงามแบบ HD น่าเล่นมากยิ่งขึ้น
หลายๆ คนที่เคยเล่นเกมบนเครื่องเฟมิคอม หรือมีอายุอานามล่วงเลยวัยเบญจเพศมาคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ เกม 8 บิตชื่อดังหลายๆ เกม ไม่ว่าจะเป็น Super Mario, Contra, Donkey Kong หรือ Battle City (เกมรถถัง) และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีศิลปินรนักวาดภาพประกอบจากนิวยอร์กนามว่าคุณ Andrés Moncayo ได้นำภาพจากเกมดังๆ เหล่านั้นมาปัดฝุ่นให้กลายเป็นภาพที่สวยงามและเหมาะสมกับยุคสมัยใหม่ ชายหนุ่มได้นำภาพจากเกมดังๆ เหล่านั้นมาใส่ลงในโปรแกรมโฟโตช็อป โดยจัดแสงและเงาพร้อมกับปรับภาพต่างๆ ให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น และนี่คือผลงานของศิลปินหนุ่มท่านนี้ที่เรานำมาฝากกัน 1. Contra 2. Punch – Out 3. Duck Hunt 4. Double Dragon 5. Ninja Gaiden แต่ละเกมพอทำให้กลายเป็นภาพแบบชัดขึ้น ก็ดูน่าเล่นไปอีกแบบเหมือนกันนะเนี่ย และถ้าหากใครอยากติดตามผลงานของคุณ Andrés เพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปชมได้ที่ เว็บไซต์ andresmoncayo และเฟซบุ๊ก Andrés Moncayo ของเค้ากันได้เลย ที่มา boredpanda
-
เข้าครัวทำเมนู สำหรับชาร์จยามเช้า “ชีสกรอบไข่ดาว” สัมผัสหอมอร่อย ก่อนไปทำงาน!!
ในช่วงเช้าที่เวลาเร่งด่วน เพื่อนๆ คงอยากหาเมนูอร่อยๆ มาเติมพลังกันซะหน่อย แต่ติดตรงที่ไม่มีเวลานะสิ แถมอาหารแต่ละอย่างก็มีวิธีทำยุ่งยาก ทำให้ช่วงเช้าที่สดใสกลายเป็นช่วงเวลาที่น่าหงุดหงิด และ #เหมียวหน่า ก็เข้าใจหัวอกของสาวๆ ออฟฟิศทุกคน จึงขอจัดเมนูง่ายๆ แต่อร่อยสไตล์ญี่ปุ่นมาทำให้ช่วงเช้าของทุกคนเป็นเวลาที่แสนจะสดใส กับเมนู “ชีสกรอบไข่ดาว” ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ อีกทั้งยังหอมอร่อย เพื่อนๆ จะได้รับพลังงานในยาวเช้าอย่างเต็มที่ ส่วนผสม – มอสซาเรลล่าชีสขูด – ไข่ ลงมือทำกันเลย!!!! 1. อันดับแรกเราก็นำมอสซาเรลล่าชีสขูดมาโรยๆ เป็นวงกลมแบบนี้ เพื่อนๆ อย่างลืมตั้งไฟอ่อนแบบสุดๆ เลยนะ เพราะว่าเดี๋ยวชีสจะไหม้เอาได้ ใครที่กลัวว่าจะติดกระทะก็สามารถเติมน้ำมันพืชซักเล็กน้อยก็ได้นะ 2. เมื่อชีสเริ่มมีกลิ่นหอมและเกรียมนิดๆ ก็ตอกไข่ใส่ลงไปเลย!! โป๊ะ บังเอิญว่าใช้ไข่ฟองใหญ่ไปเลยแตกออกนอกวงไปบ้าง ฮ่าๆๆ ใช้ไฟอ่อนรอจนชีสและไข่นั้นสุกดี โดยสังเกตจากชีสที่อยู่ด้านล่างจะเริ่มเกรียมขึ้นเรื่อยๆ 3. ขั้นตอนนี้ชวนน้ำลายไหลสุดๆ ทั้งไข่ทั้งชีส หอมตลบอบอวลออฟฟิศไปหมด พอชีสด้านล่างเกรียมดีแล้วก็ใช้ตะหลิวตักใส่จานได้เลย เสร้จแล้ววว!! ชีสกรอบไข่ดาว ที่ทำได้ง่ายๆ ทานได้ทั้งตอนเช้าและช่วงเวลาอื่นๆ เพื่อนๆ…
-
แบรนด์แฟชั่น “ไม่ให้รีทัชภาพนางแบบ” เพื่อให้คนได้เห็นถึงความงาม ของลายแตกที่ผิวก้น
ปัญหาที่สาวๆ หลายคนต้องพบเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ก็คือการที่กล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ นั้นขยาย ทำให้เกิดเป็นรอยแตกลายงาที่ดูแล้วมันไม่สวยงามสักเท่าไหร่ ยิ่งในบริเวณก้นนั้นมักมีรอยแตกอยู่มาก เวลาที่อยากใส่บิกินี่หรือกางเกงขาสั้นก็จะไม่ค่อยมั่นใจเอาซะเลย แต่สาวๆ ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เพราะมีแบรนด์เสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งที่ออกมารณรงค์ให้สาวๆ กลับมามองลายแตกที่ก้นเป็นของที่สวยงามตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่านการรีทัชรูปภาพในสื่อโฆษณาอีกต่อไป การรณรงค์ในเรื่องนี้เป็นไอเดียของแบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์ ASOS ที่ได้รับคำชมเชยจากชาวเน็ตยกใหญ่ ที่ออกมาโพสต์เกี่ยวกับเรื่องการมีลายแตกที่ก้นของนางแบบ โดยนางแบบแต่ละคนที่ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำของทางแบรนด์ ได้เผยให้เห็นรอยแตกที่ก้น โดยที่ไม่ผ่านกระบวนการรีทัชภาพใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมันดูเป็นอะไรที่ธรรมชาติสุดๆ โดยมีผู้ใช้ทวีตเตอร์รายหนึ่งที่ชื่อว่า Amy Rowlands เธอได้แชร์ภาพนางแบบที่มีลายก้นตามธรรมชาติและแคปชั่นว่า “ฉันประทับใจกับ @Asos จริงๆ พวกเขาถ่ายภาพนางแบบออกมาโดยไม่มีการรีทัชที่ก้น มันดูสวยงามน่าประทับใจมากๆ” สวยงามแบบไม่ต้องลบหรือเสริมแต่งเติมอะไรลงไป เธอคนนี้ก็ดูชอบการใส่ชุดว่ายน้ำของเหล่านางแบบที่ไม่มีการรีทัช เพราะมันดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งสาวๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะมีรอยแตกแบบนี้ทั้งนั้น . เรียกได้ว่าการรณรงค์เรื่องลายแตกที่ก้นของแบรนด์ Asos นั้น ค่อนข้างที่จะถูกใจสาวๆ เอามากๆ เมื่อลองไปดูความคิดเห็นของชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างก็ชื่นชมไอเดียดังกล่าวนี้ แต่ก็มีบางคนที่ไม่ชอบรอยแตกสีขาวๆ ที่อยู่บนก้นของสาวๆ อยู่บ้างนะ ในตอนนี้ชาวเน็ตในทวิตเตอร์ก็ได้มีการสนับสนุนให้ทางแบรนด์ ASOS ให้ภาพถ่ายที่ไม่ผ่านการรีทัชมาใช้ในเว็บไซต์ออนไลน์ของพวกเขามากขึ้น สาวๆ…
-
เจ้าเหมียวแก่ได้พบกับหมอ Ed Sheehan ทาสผู้เป็นรักแท้ หลังต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยวมาตลอด…
เจ้าเหมียวแก่อายุ 15 ปี เป็นแมวจรจัดมาทั้งชีวิต ถูกพบอยู่ข้างถนนในรัฐ New Jersey ก่อนจะถูกพามาไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Voorhees Animal Orphanage พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Barnaby หลังจากที่มาอยู่ที่สถานสงเคราะห์ได้ไม่นาน เจ้า Barnaby ก็เริ่มภารกิจขโมยหัวใจของทุกคน และสะกดจิตให้กลายเป็นทาสได้อย่างง่ายดาย (ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยแท้ๆ) ไม่เพียงแค่ผู้คนและสัตว์ตัวอื่นๆ ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์เท่านั้นที่ถูกขโมยหัวใจ สัตวแพทย์ Ed Sheehan และภรรยา Clare Sheehan ที่ได้เห็นภาพของเจ้า Barnaby ผ่านทางเฟซบุ๊กก็เกิดตกหลุมรักในทันที “เมื่อพวกเราได้เห็นภาพของมันผ่านทางเฟซบุ๊ก ก็รู้ได้ทันทีว่ามันต้องการการดูแลมากแน่ๆ ก็เลยตัดสินใจที่จะติดต่อไปขอรับตัวมันมาดูแล” คุณ Clare เล่า ได้มีสถานที่ที่เรียกว่าบ้านจริงๆ อยู่กับเค้าซักทีนะ ^^ พอมาถึงปุ๊บคุณหมอ Ed Sheehan ก็จับมันตรวจเลือดก่อนเลย จากนั้นเจ้า Barnaby ก็เดินสำรวจบ้านใหม่จนทั่ว ผลการตรวจเลือดของมันผ่านไปด้วยดี และไม่พบถึงปัญหาที่ร้ายแรงอะไร ส่วนน้ำหนักตัวก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ทางคุณหมอ Sheehan…
-
นั่นนายใช่ไหมโคนัน? หนุ่มวัย 23 ปี ป่วยโรคประหลาด ทำให้ร่างกายยังเป็นเด็ก 13 ขวบ
มีผู้คนมากมายที่พยายามจะทำให้ใบหน้าของตัวเองดูเด็กลงด้วยการซื้อครีมประทินผิวมาโบ๊ะหน้า แต่กับพ่อหนุ่มรายนี้แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะเขาเกิดมาพร้อมกับโรคประหลาดที่ทำให้ตัวเองดูเด็กอยู่ตลอดเวลาราวกับคุโด้ ชินอิจิยังไงยังงั้น ภาพเด็กชายที่คุณได้เห็นอยู่นี้มีชื่อว่า Tomislav Jurčec จากเมืองซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย แม้ภายนอกจะดูเหมือนเด็ก แต่อันที่จริงแล้วเขามีอายุ 23 ปีแล้วนะ!! สาเหตุที่เขามีร่างกายเหมือนเด็กขนาดนี้ก็เพราะเกิดจากความผิดปกติจากต่อมใต้สมองซึ่งควบคุมการเจริญเติบโตและความชราของเขา ฉะนั้นมันก็เลยทำให้ร่างกายของเขายังคงเหมือนเด็กวัย 13 อยู่ แม้ว่าเขาจะมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์กว่าคนอื่นๆ แต่มันก็ทำให้การใช้ชีวิตลำบากอยู่เหมือนกัน อย่างเวลาที่เขาต้องไปซื้อบุหรี่หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ก็จะต้องถูกตรวจบัตรประชาชนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะน้อยคนที่จะเชื่อว่าเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ แต่นั่นก็ทำให้เขาได้รับโอกาสพิเศษๆ แบบที่คนอื่นไม่ได้รับเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ทางช่อง HBO ได้เคยติดต่อมาหาเขาเพื่อให้ไปแสดงเป็นสแตนอินให้กับบท Tyrion Lannister ในซีรี่ส์ Game of Thrones ด้วย Tomislav เองมองว่านี่เป็นข้อดีเพราะในหมู่เพื่อนๆ วัยเดียวกัน เริ่มกังวลกับการทำงาน การแต่งงานและการเลี้ยงลูก แต่เขาเองยังคงใช้ชีวิตแบบเด็กคนนึงได้อีกเป็น 10 ปีเลย ด้านนาย Zvonimir เพื่อนสนิทของ Tomislav กล่าวว่าพวกเขารู้จักกันเมื่อราวๆ 10 ปีที่แล้ว…
-
หนุ่มชาวอังกฤษ ผู้เอา “เบค่อน” ตบหน้าสาวมุสลิม ถูกศาลตัดสินจำคุก 6 เดือนเรียบร้อย!!
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ฮือฮาไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ตหลังจากที่มีหนุ่มใช้เบค่อนทำร้ายร่างกายหญิงสาวชาวมุสลิม โดยผู้กระทำความผิดในครั้งนี้เป็นนาย Alex Chivers วัย 36 ปี ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวถูกศาลตัดสินให้จำคุก 6 เดือน โทษฐานไม่เคารพศาสนาผู้อื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Alex Chivers เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า จากคลิปวิดีโอที่เพื่อนของ Alex Chivers เป็นคนถ่าย เผยให้เห็นภาพของสองแม่ลูกชาวมุสลิมกำลังเดินอยู่ข้างถนน หลังจากนั้นหนุ่มผู้ต้องหาสวมใส่หมวกกันน็อคเพื่ออำพรางใบหน้า และนำเบค่อนปาใส่หญิงสาวแม่ลูกชาวมุสลิม มิหนำซ้ำเจ้าตัวก็ได้ตะโกนออกมาว่า ‘พวกมุสลิมเxี้ย’ และ ‘พวกเอ็งสมควรได้รับสิ่งนี้’ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การในชั้นศาลว่า หญิงสาวทั้งสองคนพยายามที่จะเดินหนีและไม่ต้องการความรุนแรง ทว่าพวกเขากลับรู้สึกกลัวที่จะต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ปกติสุขต่อจากนี้ James Payne จาก Enfield Community Safety Unit ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจมาก โดยผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร และการกระทำดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งภายในสังคม” นอกจากคนร้ายจะถูกสั่งจำคุก 6 เดือนแล้ว ศาลยังสั่งให้เขาต้องทำสาธารณะประโยชน์ให้แก่สังคมอีกเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ต้องจ่ายค่าปรับให้ผู้เสียหาย 115 ยูโร และต้องถูกคุมประพฤติอีก…
-
อดขำไม่ได้… เมื่อแม่เห็น “หมาหลงทาง” แต่คิดว่าเป็นหมาตัวเอง ทั้งที่ไม่เหมือนกันซักกะติ๊ด!!
ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณจำหน้าสัตว์เลี้ยงไม่ได้หลังจากไม่เจอกันนาน เพราะพวกมันก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่ต่างจากเรา อย่างคุณแม่คนนี้ที่จำหมาตัวเองไม่ได้ หลังจากที่มันหายออกจากบ้านไปเป็นเวลานาน Jeff Squires วัย 17 ปี กับคุณแม่ Terri Squires อาศัยอยู่ในเมือง Grafton รัฐโอไฮโอ พวกเขามีสุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลเทอร์เรียชื่อ Duey (ชื่ออาจจะสะกดแปลกๆ เพราะมันได้ชื่อผิดๆ มาตั้งแต่เอกสารที่กรอกในคลินิกสัตว์แล้ว) Jeff บอกว่า “สุนัขของเราน่าจะหนีออกจากบ้านประมาณวันที่ 4 เดือนกรกฎาคม ในช่วงที่มีคนพลุกพล่านที่เทศกาลดอกไม้ไฟ เพราะมันกลัวก็เลยวิ่งไปทั่ว“ จนกระทั่งวันอังคารที่ผ่านมาคุณแม่ได้เห็นโพสต์ในเฟสบุ๊กว่า ‘พบสุนัขสองตัวที่คาดว่าน่าจะหลงทางอยู่ในเมือง’ เธอจึงแคปภาพรูปสุนัขหนึ่งในนั้นแล้วส่งไปให้ลูกชายดู เพื่อให้แน่ใจว่าใช่เจ้า Duey หรือเปล่า หลังจากที่ได้เห็นรูปแล้ว ลูกชายก็ตอบกลับมาว่า ‘ไม่ใช่แม่ หน้าของ Duey จะเป็นสีน้ำตาล’… ‘เอ้าเหรอ อืม แค่เช็คดูน่ะ เผื่อจะใช่มัน’ คุณแม่ตอบกลับ Jeff บอกว่าเขางงมากที่แม่ส่งรูปนั้นมาให้ คือมันไม่เหมือนเจ้า Duey เลยซักนิดเดียว มันขนสีขาวทั้งตัวเหมือนหมีขั้วโลกเลย ส่วนคุณแม่บอกกับสื่อว่า “ตอนที่ฉันออกจากห้องประชุมแล้วเห็นรูปหมาในเฟซบุ๊ก ฉันเห็นว่ามันขนสีขาวเหมือน…
-
รู้จักกับแมงมุม Darwin’s Bark จากมาดากัสการ์ สามารถพ่นใยข้ามแม่น้ำไกลถึง 25 เมตร!!
‘แมงมุม’ เป็นสัตว์นักล่าที่ไม่ว่าใครต่างก็หวาดผวา เพราะนอกจากพิษอันร้ายแรงของมันแล้ว ยังมีขาอีกแปดขาที่เห็นแล้วชวนขนลุกแบบสุดๆ เท่านั้นยังไม่พอ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่ามีแมงมุมชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างใยขนาดใหญ่ ข้ามแม่น้ำที่มีความกว้างกว่า 25 เมตรได้ด้วยนะเออ!! ขอแนะนำให้เพื่อนๆ ทุกคนรู้จักกับแมงมุม Darwin’s Bark ที่ได้ฉายาว่า ‘นักปล่อยใย’ โดยมันสามารถปล่อยใยพาดยาวข้ามแม่น้ำมีความกว้างถึง 25 เมตรได้แบบสบายๆ และขนาดของตาข่ายดักจับแมลงของเจ้าแมงมุมชนิดนี้ก็มีขนาดใหญ่ถึง 2.8 ตารางเมตรเลยทีเดียว!! เจ้าแมงมุม Darwin’s Bark นี้ถูกพบเป็นครั้งแรกที่อุทยานแห่งชาติ Andasibe-Mantadia National Park บนเกาะ Madagascar เมื่อปี 2009 ก่อนที่แมงมุมจะพ่นใยสร้างตาข่ายดักจับแมลง มันจะสังเกตทิศทางลมก่อน ความพิเศษของเจ้าแมงมุมชนิดนี้ก็คือใยของมัน ที่มีความเหนียวแน่นมากที่สุดมากกว่าเส้นใยสังเคราะห์ เคฟล่าร์ (Kevlar) ในปริมาณเท่ากันถึง 10 เท่า!! พอแน่ใจแล้วก็ค่อยพ่นใยออกไปในปริมาณมาก จนไปเกาะติดกับต้นไม้อีกฝั่ง และชื่อ Darwin ของเจ้าแมงมุมนี้ก็เป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกียรติกับผู้คิดค้นทฤษฎีเกี่ยวกับการวิวัฒนาการเพื่อเอาตัวรอดในธรรมชาติ Charles Darwin นั่นเอง จากนั้นมันก็จะทำการสร้างตาข่ายขึ้นมาตรงกลาง…
-
ไอ้หนุ่มแต่ง “ชุดทีเร็กซ์” เสริมความลำบาก ไปแข่งวิ่งสุดทรหด เล่นเอาฮากันทั้งงาน!!
ก่อนที่ #เหมียวฟิ้น จะเล่าข่าวต่อไปนี้ คงต้องเท้าความกันสักเล็กน้อยว่าในทุกๆ ปี จะมีการจัดการแข่งขัน Tough Mudder หรือการแข่งขันวิ่งทรหดผ่านโคลนและอุปสรรคมากมายขึ้นที่นิวยอร์ก รวมระยะทางราวๆ 16 – 19 กิโลเมตร แต่สิ่งที่ทำให้การแข่งขัน Tough Mudder ปีนี้ดูพิเศษและฮากว่าปีไหนๆ ก็เพราะว่า มันดันมีพ่อหนุ่มคนหนึ่งใส่ชุดคอสเพลย์เป็นไดโนเสาร์ทีเร็กซ์เข้าร่วมการแข่งขันด้วย!! ภาพและวิดีโอการแข่งขันที่ว่านี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เผยให้เห็นเจ้าทีเร็กซ์กำลังปีนป่ายอย่างทุลักทุเล โดยมีเพื่อนมนุษย์คอยช่วยฉุดและดึงให้เขาผ่านสิ่งกีดขวางไปได้ ตามรายงานไม่ได้ระบุว่าภายใต้ชุดสุดฮานั่นคือใครกันแน่ แต่ก็มีผู้คนตะโกนส่งเสียงเชียร์ให้กับเขาอยู่อย่างเนืองแน่น ด้าน Zac Hancock หนึ่งในทีมงานผู้จัดงานกล่าวว่า “น่าเสียดายที่เราไม่รู้จักว่าพ่อหนุ่มคนนี้เป็นใคร แต่เราหวังว่าจะรู้ในสักวันหนึ่งล่ะนะ การแต่งตัวประหลาดๆ มางานวิ่งถือเป็นเรื่องปกติ แต่นี่เราคิดว่ามันน่าจะเป็นชุดที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วล่ะ” นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าการแข่งขัน Tough Mudder นั้นไม่ใช่การแข่งขันเพื่อเอาชนะซึ่งกันและกัน ไม่มีการจับเวลาเพื่อหาว่าใครเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก แต่เป็นการแข่งขันกับตัวเอง การร่วมแรงร่วมใจกับคนอื่นๆ เพื่อผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน ชมคลิปการแข่งขันเอาตัวรอดของเจ้าไดโนเสาร์ตัวนี้กันเลย นี่อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ร่วมงานและโลกอินเตอร์เน็ตพอสมควร SonOfBeavis “ฉันกะแล้วว่าไดโนเสาร์ยังไม่สูญพันธุ์” miss kc “โอ้พระเจ้า นี่ฉันต้องวนดูซ้ำแล้วซ้ำอีก”…
-
10 ภาพความพังพินาศเมื่อคุณ “ทิ้งลูกไว้เพียงลำพัง” ผลงานไร้เดียงสาที่คุณจะลืมไม่ลง…
วัยเด็กเป็นวัยที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น เห็นอะไรก็อยากหยิบอยากจับไปหมด ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องคอยดูแลเพื่อไม่ให้ลูกน้อยเล่นซุกซนจนได้รับบาดเจ็บหรือสร้างความเสียหายได้ แล้วถ้าพ่อแม่ปล่อยให้ลูกๆ อยู่กันตามลำพังล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น… แน่นอนเวลาที่พ่อแม่ไม่อยู่นั้น มันคือช่วงเวลาแห่งอิสระของเด็กๆ เลยล่ะ แล้วคิดเหรอว่าพวกเขาจะอยู่นิ่งๆ โดยไม่ทำอะไรเลย!? 1. เผลอแป๊บเดียว บ้านเกือบกลายเป็นทะเลฟองแล้ว 2. ศิลปินตัวน้อยช่วยแต่งบ้านให้พ่อแม่ เหนื่อยจนเผลอหลับไปเลย 3. เด็กอะเนาะ ทำอะไรก็ไม่ผิด ก็ไม่แปลกที่เธอจะนั่งยิ้มกับผลงานตัวเอง 4. มีเด็กที่ไหนความสนุกอยู่ที่นั่น อืม สนุก สนุกกันเองนะ… 5. เมื่อปล่อยเด็กสองคนไว้กับสี 4 ถัง… 6. โลกศิลปะมักไร้ขอบเขต ไปให้สุดค่ะลูก เต็มที่เลย 7. มีคนอยู่เต็มบ้านแต่ไม่มีใครสนใจ เด็กน้อยเลยใช้วิธีนี้ซะเลย จะได้ผลมั้ยนะหรอ ดูเอาเอง 8. หนูชอบแปรงฟันมากเลยค่ะ เล่นยาสีฟันทาซะทั่วขาเชียวนะ 9. รู้สึกว่าในบ้านเงียบจนเกินไป โผล่มาเจออีกทีในห้องนอน เละเทะสภาพนี้เลย…
-
ขอร้องให้ชาวเน็ตช่วยตัดต่อ ‘ชายร่างท้วม’ ออกให้หน่อย จัดไปสิครับ ไม่เคยได้ตามคำขอ…
เวลาที่เราถ่ายรูปในที่สาธารณะ ก็เป็นธรรมดาที่อาจจะมีคนแปลกหน้า โผล่เข้ามาร่วมเฟรมโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่บางคนนี่นอกจากโผล่มาร่วมแจมในเฟรมแล้วกลายเป็นการแย่งซีนหนักกว่าเจ้าของรูปเสียอีก เห้ออ ไม่รู้จะว่ายังไงเลย เช่นเดียวกับคู่รักคู่นี้ที่ตั้งใจถ่ายรูปคู่โชว์ความหวาน พอถ่ายเสร็จปุ๊บก็พบว่าในรูปไม่ได้มีแค่พวกเขาสองคนแต่มีชายร่างท้วมไม่ใส่เสื้อคนหนึ่งมาร่วมเฟรมด้วย แถมยังดูเด่นกว่าทั้งคู่อีกแหนะ!? และแล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพื่อที่จะกำจัดชายร่างท้วมออกไปจากรูปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มาขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต (อีกแล้ว) เพื่อช่วยตัดต่อภาพดังกล่าวให้หน่อย เพราะรูปนี้เป็นรูปพี่สาวของเพื่อนสนิทของเธอ เพิ่งจะถูกขอหมั้นในช่วงเวลานั้น และอยากจะเก็บภาพนี้เอาไว้ โดยที่ไม่มีชายร่างท้วมคนนี้อยู่ในภาพ!! เรื่องตัดต่อกับชาวเน็ตเป็นของที่คู่กันเสียเหลือเกิน เพราะหลังถูกขอให้ช่วยแล้ว ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น แต่กลับยำภาพกันซะเละเทะ ไม่เน้นเนียน ไม่เน้นสวย แต่เน้นตลกอย่างเดียว นี่จะเอาฮากันไปถึงไหนเนี่ย!? 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. …
-
ครบรอบ 10 ปี “ไอโฟน” ย้อนดูไอโฟนตั้งแต่รุ่นแรกจนรุ่นล่าสุด คุณได้ครอบครองรุ่นไหนบ้าง?
ปัจจุบันมีสมาร์ทหลายรุ่นให้ผู้คนได้เลือกใช้ หนึ่งในนั้นคือ Apple ที่ได้เปิดตัวโทรศัพท์ไอโฟน และไม่ว่าจะออกมากี่รุ่นๆ ก็ได้รับความนิยมเสมอ และในปีนี้ก็เป็นที่ 10 แล้วสำหรับไอโฟน ทำให้หลายคนนึกย้อนไปถึงตอนที่ Apple เปิดตัวไอโฟนรุ่นแรกจนกระทั่งรุ่นล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกหรือลูกเล่นของไอโฟนแต่ละรุ่นที่มีความแตกต่างกัน เรามาดูดีกว่าเพื่อนๆ เคยครอบครองไอโฟนรุ่นไหนบ้าง iPhone – 2007 เรียกได้ว่าเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกๆ ที่มาในรูปแบบจอสัมผัส ความกว้าง 3.5 นิ้ว ราคาจะขึ้นอยู่กับหน่วยความจำ คือ 8GB ราคา 20,000 บาท 4GB ราคา 17,000 บาท นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. นั่นหมายความว่าคุณจะไม่สามารถเสียบหูฟังขนาดอื่นได้ อีกอย่างหนึ่งคือแบตโทรศัพท์รุ่นนี้ค่อนข้างอยู่ได้ไม่นาน ที่สำคัญคือไม่มี 3G ส่วนตัวเครื่องภายนอกนั้นทำด้วยหินอลูมิเนียมอย่างสวยงาม iPhone 3G – 2008 รุ่นนี้มีการดีไซน์ที่ค่อนข้างดูดี ด้านหลังทำจากพลาสติกสีดำเงาแทนอลูมิเนียม รองรับ 3G ทำให้สามารถใช้เน็ตผ่าน WiFi ได้ และได้ปรับปรุงหูฟังกับแบตเตอร์รี่ให้ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีกล้องความชัด…
-
เมนูสีสันสดใสจากญี่ปุ่น “แตงโมสอดไส้ไอศกรีม” น่ารักและน่าทาน มีความชุ่มฉ่ำมาก!!
ในช่วงนี้ถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น คงจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะฤดูร้อนของญี่ปุ่นนั้น นอกจากอากาศจะปลอดโปร่งเหมาะกับการเดินช้อปปิ้งและยังเป็นเทศกาลแห่งการ กิน!! กิน!! กิน!! ของอร่อยของญี่ปุ่นเอง หากใครที่กำลังเดินเหนื่อยๆ อยู่ที่โตเกียวล่ะก็ เราขอแนะนำร้านขนมฉ่ำๆ ที่จะทำให้หน้าร้อนของญี่ปุ่นสดชื่นขึ้นเป็น 10 เท่า เพราะเมนูที่เรานำมาให้อยากกินวันนี้มันคือ “ผลไม้สอดไส้ไอศกรีม” !!! หากเพื่อนๆ เดินเตร็ดเตร่หลงเข้าไปในเมืองโตเกียว ก็จะได้พบกับร้านขนมอยู่ร้านหนึ่งที่มีชื่อว่า Dominique Ansel Bakery ซึ่งทางร้านเพิ่งได้เปิดตัวเมนูใหม่ที่แสนจะฟรุ้งฟริ้งกุ้งกิ้งสุดๆ เพราะมันคือผลไม้ฉ่ำสอดไส้ไอศกรีมเย็นๆ ที่จะช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดี เมนูสุดฉ่ำนี้มีชื่อว่า What-a-Melon ทางร้านได้นำแตงโมแบบที่สุดฉ่ำน้ำเยอะ มาสอดไส้ไอศกรีมเย็นๆ ที่กัดเข้าไปซักคำต้องรู้สึกสดชื่นขึ้นมาแน่นอน ที่เห็นสีดำๆ เป็นเมล็ดแตงโมนั้นไม่ใช่ของจริงนะ แต่มันคือช็อกโกแลตที่ทำออกมาเป็นรูปเมล็ดแตงโมนั่นเอง คราวนี้ก็ทานได้เต็มที่แบบไม่ต้องคายเมล็ดออกมาแล้วล่ะ และที่ขาดไม่ได้ก็คือเกลือสมุทรที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะทานคู่กับแตงโม เพื่อเพิ่มรสอร่อยมากขึ้น ลองลิ้มรสไอศกรีมซักคำ อ่าาาาาห์ ฟินนนน นอกจากเมนูแตงโมแล้ว ก็ยังมีเมนูข้าวโพดที่ชื่อว่า Crème de la Corn โปะไอศกรีมลงไป น่ากินไม่แพ้เลย ข้าวโพดย่างหอมๆ…
-
ทำเองก็ได้ “เค้กชิฟฟ่อนสตรอเบอร์รี่” เนื้อเค้กนุ่มเด้ง สีสันละมุนนี ชุ่มฉ่ำเต็มคำ!!
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ออกจากบ้านไม่ได้เลย เพราะว่าฝนตกบ่อยเหลือเกิน สาวๆ ที่ชอบทานขนมอร่อยๆ ก็คงหมดสิทธิ์ออกไปซื้อข้างนอกแน่ๆ งั้นจะดีไหมถ้าเราลองมาทำเค้กอร่อยๆ สีสันสดใส ทานเองที่บ้าน #เหมียวหน่า จึงอยากจะนำเสนอ “เค้กชิฟฟ่อนสตรอเบอร์รี่” ซึ่งเป็นสูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ที่บอกเลยว่าสาวๆ ต้องชอบกันอย่างแน่นอน เพราะเนื้อเค้กชิฟฟ่อนนุ่มๆ กับกลิ่นหอมสตรอเบอร์รี่ตลบอบอวลอยู่ในปาก จะทำให้เราหายนอยด์ได้ในฤดูฝนนี้ได้ ใครที่ยังว่างอยู่เราไปลงมือทำพร้อมกันเลยนะ “เค้กชิฟฟ่อนสตรอเบอร์รี่” ส่วนผสมเนื้อเค้ก ขนาดพิมพ์ถาด 10×10 นิ้ว ส่วนผสมของไข่แดง – ไข่แดง 3 ฟอง – น้ำตาลทราย 35 กรัม (ประมาณ 1/4 ถ้วยตวง) – แป้งเค้ก 80 กรัม (2/3 ถ้วยตวง) – ผงฟู 1 ช้อนชา – สีผสมอาหาร สีชมพู – น้ำมันพืช 35 กรัม(ประมาณ1/4 ถ้วยตวง) – น้ำ 60 กรัม(1/3 ถ้วยตวง) – กลิ่นสตรอเบอร์รี่ 1/2…
-
21 ไอเดีย “เสื้อคู่” สุดน่ารัก ที่แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพวกเขา
ถ้าพูดถึงวิธีการแสดงความสัมพันธ์กับคนสนิทนั้น เราก็มักจะมีวิธีการมากมายหลากหลายวิธีเลยก็ว่า แต่หนึ่งในวิธีที่คนมักจะนิยมใช้ และเห็นได้บ่อยมากๆ กับคู่รักนั่นก็คือ ‘การสวมใส่เสื้อคู่’ นั่นเอง ทว่าเสื้อคู่นั้นก็ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องใส่เฉพาะคู่รักเท่านั้น เพราะคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท ก็สามารถสวมใส่เสื้อคู่ได้เหมือนกันนะเออ ฉะนั้นวันนี้เราจึงจะมาดูสุดยอดเสื้อคู่สุดเจ๋งที่ยอมใจคนคิด ว่าพวกเขาคิดกันมาได้ยังไง ว่าแต่มันจะเจ๋งยังไงลองมาดูกันเลยดีกว่า!! เสื้อคู่ของคุณพ่อกับคุณลูกสุดน่ารัก คุณพ่อเป็นรุ่นดั้งเดิม ส่วนคุณลูกเป็นรุ่นผสมระหว่างพ่อกับแม่ ถ้าปู่หายเมื่อไหร่ อย่าลืมเอาตัวไปส่งคืนคุณยายแจนด้วยนะ เสื้อคู่ที่บ่งบอกว่าคุณปู่คุณย่า คบกันมาตั้งแต่ 1961 แล้ว กดก็อปปี้คุณพ่อ แล้วก็กดวางจนได้เป็นคุณลูกออกมา เหมือนกันเป๊ะ ต่อให้ผู้ชายเป็นฝ่ายถูกยังไง แฟนก็เป็นฝ่ายถูกเสมอสินะ แม่มังกรกับลูกมังกร จอย 1 จอย 2 เสื้อแม่ไปไหนหนูไปด้วย พ่อหมีกับลูกหมี มาแนวคู่รักระหว่างมิกกี้กับมินนี่ หรือจะเป็นเพื่อนรักอย่างเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟรายส์ที่ขาดกันไม่ได้ แม้รูปในเสื้อจะไม่เป๊ะเพราะส่วนสูง แต่ก็ยังบ่งบอกว่าเป็นเสื้อคู่ได้อยู่นะ เสื้อเพื่อนรักที่จะเติมเต็มในส่วนที่หายไป ให้ตัวเลขบ่งบอกถึงความเป็นคู่…
-
สนามบาสในเมืองปารีส ถูกเปลี่ยนโฉมให้มีสีสดโทนนีออน สะดุดตาโดดเด่นยิ่งกว่าใคร!!
จะเป็นยังไงถ้าอยู่ดีๆ สนามบาสประจำในเมืองของเพื่อนๆ อยู่ดีๆ ก็มีสีสันสดใสดุจดั่งมาจากโลกอนาคต จนเปลี่ยนให้เมืองที่โทนสีหม่นหมองและจืดชืดให้กลายเป็นเมืองที่มีสีสันอีกครั้ง? สนามบาสแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมือง Rue Duperré ประเทศฝรั่งเศส และถูกจัดการแปลงโฉมโดยอเจนซี่ Ill-Studio ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยแบรนด์ Nike จนออกมาเป็นสนามสุดอลังการแห่งนี้ สีสันจี๊ดจ๊าดสุดๆ อยากให้บ้านเรามีบ้างจัง ทว่าการพ่นสีแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก เพราะทาง Ill-Studio เคยย้อมสีสนามแห่งนี้ไปแล้วเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา และการย้อมสีในครั้งนี้จึงดูจะเป็นการอัพเกรดเสียมากกว่า แต่ก็สวยไม่หยอกเลยใช่ไหมล่ะ? ฉะนั้นถ้าใครได้แวะไปที่เมืองแห่งนี้ก็อย่าลืมถ่ายรูปมาแชร์ให้ดูบ้างนะ ว่าแต่บ้านเราใครจะทำแบบนี้บ้างรึเปล่าหนอ? โทนสีแบบนีออนเทคโนยุค 80 หน่อยๆ สวยใช่เล่นเลยนะ ว่าแต่ตอนเล่นจะไม่งงเอาเหรอเนี่ย สีสันมันดูกลมกลืนกันไปหมดเลย สีของแป้นบาสแสบสันดีจริงๆ และด้วยสีของตัวกำแพงรอบๆ สนาม ก็ยิ่งทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า เอาเป็นว่าสวย ให้ 10/10 เลยก็แล้วกัน ที่มา boredpanda
-
ชาวต่างชาติตั้งฉายาเกาะเต่า “Murder Island” จากเหตุนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 7 รายในรอบ 3 ปี
หลังจากที่มีข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยี่ยมวัย 30 ปีที่เกาะเต่าออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ และมีผู้สนใจเกี่ยวกับข่าวการเสียชีวิตของเธอเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวถึง 7 รายแล้วที่ต้องจบชีวิตบนเกาะแห่งนี้ และล่าสุดทางสื่อต่างประเทศก็ได้รวบรวม 6 คดีการเสียชีวิตบนเกาะเต่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยในบางคดีนั้นยังไม่ทราบถึงตัวจริงของฆาตรกร และเป็นอย่างที่รู้กันว่าในทุกคดีนั้น ได้รับความสนใจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก Hannah Witheridge และ David Miller คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 และได้รับความสนใจจากสำนักข่าวแทบจะทุกสำนักในบ้านเรานั่นก็คือคดีของคุณ Hannah Witheridge หญิงสาววัย 23 ปี และคุณ David Miller ชายวัย 24 ปี สองนักท่องเที่ยวที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายระหว่างที่ออกมาเดินในด้านนอกโรงแรม ในวันที่ 15 กันยายน 2014 จากการชันสูตรศพพบว่าทั้งคู่ถูกทำร้ายที่ศีรษะจนเสียชีวิตและนอกจากนี้คุณ Witheridge ยังมีร่องรอยการถูกข่มขืนอีกด้วย Luke Miller คดีต่อมาคือนาย Luke Miller ช่างก่อสร้างจากประเทศอังกฤษ ที่ถูกพบศพในสระว่ายน้ำเมื่อวันที่ 8 มกราคมปี 2016…
-
วัดญี่ปุ่นประกาศแบนแมว เพราะพวกมัน ‘น่ารักเกินไป’ เป็นต้นเหตุให้พระจิตใจไม่สงบ…
บางครั้งอะไรที่มันดีเกินไปก็กลายเป็นเหตุเริ่มต้นของเรื่องแย่ๆ ได้ อย่างเรื่องราวของเจ้าเหมียวในญี่ปุ่นก็เช่นกัน เมื่อวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดวะกะยะมะ ได้ประกาศแบนห้ามนำแมวเหมียวเข้ามาในบริเวณวัดเป็นอันขาด เพราะพวกมันน่ารักเกินห้ามใจ และทำให้พระในวัดขาดสติในการทำสมาธิ!! วัดแห่งหนึ่งบนภูเขา Koyasan ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดดังกล่าว ถือเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการฝึกสมาธิอย่างสันโดษ ถ้าใครต้องการฝึกสมาธิหรือบวชเป็นพระเพื่อจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเรียบง่าย วัดแห่งนี้ถือเป็นสถานที่อันเหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง แต่ทว่าไม่นานมานี้ทางวัดเหมือนจะทนไม่ไหวกับสิ่งเร้าหน้าขนชนิดหนึ่ง ที่มีอำนาจร้ายแรงเกินกว่าพระที่จำวัดอยู่จะสามารถต้านทานมันได้ เจ้าสิ่งเร้าที่ว่านั้นก็คือ “แมว” ใช่แล้ว แมว นี่แหละ!! เรื่องนี้ได้รับการรายงานผ่านรายการทีวีที่ชื่อว่า Sekai Ichi Uketai Jugyo ซึ่งในรายการได้รายงานว่า ปกติแล้วที่วัดดังกล่าวจะทำการแบนผู้หญิงอยู่แล้ว แต่ล่าสุดแมวก็เข้าไปอยู่ในรายชื่อสิ่งต้องห้ามของวัดเป็นอย่างที่สอง เพราะเจ้าสิ่งมีชีวิตหน้าขนสี่ขานี้ มันมีความน่ารักที่มากเกินไป และมันทำให้พระในวัดอดใจไม่ไหวที่จะต้องเข้าไปเล่นกับพวกมัน และเมื่อลองขุดค้นดูก็พบว่า จริงๆ แล้ววัดดังกล่าวมีเรื่องการแบนสัตว์พวกนี้มานานตั้งแต่ปี 1908 แล้ว นอกจากนี้ทางวัดก็ไม่ได้แบนแค่แมวเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการให้อาหารนกด้วย จากเรื่องราวทั้งหมดมันทำให้เรารู้ว่า พระที่วัดดังกล่าวดูจะอดทนต่อความน่ารักของสิ่งเร้าพวกนี้ไม่ไหวเลย แต่เอาจริงๆ ใครจะอดใจไหวที่จะไม่เข้าไปเล่นกับแมวเหมียวกันล่ะ ก็มันน่ารักนี่หว่า… ที่มา rocketnews24
-
แฟนๆ จะว่ายังไงถ้าอยู่ดีๆ ก็มี “สไปเดอร์แมน” ห้อยหัวลงมาสั่งกาแฟถัดจากพวกเขา!!?
ถือว่าเป็นช่วงที่โปรโมทกันหนักมาก กับการกลับมาของ Spider-Man: Homecoming ซึ่งล่าสุดก็ได้มีการโปรโมทผ่านการแกล้งแฟนคลับในร้านสตาร์บัคส์กันแล้ว เล่นมาแบบไม่ทันตั้งตัวกันเลยล่ะ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในสตาร์บัคส์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ซึ่งทีมงานก็ได้ทำการเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้แล้วก่อนที่ร้านจะเปิดให้บริการ มีทั้งกล้องที่แอบไว้ ทั้งสลิงที่ห้อยลงมาจากเพดาน รวมถึงการเตรียมคิวกับพนักงานในร้านด้วย เรียกว่ากะเอาให้แฟนๆ อึ้งกันสุดๆ เลยก็ว่าได้ เมื่อถึงเวลาเริ่มปฏิบัติการแกล้งแฟนๆ พนักงานก็จะทำงานไปตามปกติจนถึงช่วงจังหวะหนึ่ง พนักงานก็จะพูดขึ้นมาว่ากาแฟแก้วนี้เป็นของ ‘สไปเดอร์แมน’ ลูกค้าที่เข้ามาซื้อกาแฟก็ออกอาการงงไปตามๆ กัน คนบ้าอะไรจะมาสั่งสตาร์บัคส์ในชื่อสไปเดอร์แมน!? แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เป็นสไปเดอร์แมนตัวจริง ที่ห้อยหัวลงมาจากเพดานเพื่อรับกาแฟตามที่พนักงานเรียก หลายคนถึงกับเงิบทำตัวไม่ถูกเลย ส่วนเด็กๆ ก็ดูจะชอบมากที่มีซุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจโผล่มาเซอร์ไพรส์ถึงที่ ส่วนใครที่คิดว่าสไปดี้ที่ห้อยหัวลงมานั้นจะเป็นพ่อหนุ่ม Tom Holland ตัวจริงรึเปล่า? เพราะได้ข่าวว่าเขาเล่นเองแทบไม่ใช้สตั้นท์เลย ก็คงต้องแสดงความเสียใจด้วย เพราะข้างในชุดสไปเดอร์ก็เป็นสตั้นท์ของเขาที่ชื่อว่า Chris Silcox นะจ๊ะ ที่ต้องเป็นพ่อหนุ่มคนนี้ก็เพราะว่า Tom นั้น มีงานโปรโมทแบบโชว์ตัวคิวเต็มไปหมดเรียกว่าเดินสายกันไม่หยุดเลยล่ะ ฉะนั้นพ่อหนุ่ม Chris ก็เลยมารับหน้าที่แทนนั่นเอง . ส่วนพอถามความรู้สึกของพ่อหนุ่ม Chris ว่ารู้สึกยังไงกับการมาเป็นสตั้นท์ช่วยโปรโมทหนังในครั้งนี้ เขาก็บอกว่าเขาแฮปปี้มากที่ได้มาทำอะไรแบบนี้…
-
อดีตครูสาววัย 24 ปีถูกจับ หลังมีเซ็กส์กับนักเรียนชายวัย 17 ปีบ่อยครั้ง ทั้งในรถและในบ้าน…
เข้าใจว่าปัจจุบันนี้เซ็กส์มีหลากหลายรูปแบบ และสามารถทำกันได้ทุกเพศทุกวัย แต่บางทีก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมและกฎหมายบ้านเมืองด้วย อย่างกรณีของ Loryn Barclay อดีตครูสาววัย 24 ปี จาก Washburn รัฐ Missouri ถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนชายวัย 17 ปี ในข่าวระบุว่าเธอกับลูกศิษย์ได้มีเพศสัมพันธ์กันหลายครั้งบนรถของฝ่ายชาย ในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2016 และในเดือนมกราคม 2017 ทั้งคู่ก็มีเซ็กส์กันที่บ้านของนักเรียนชายถึง 2 ครั้ง ในขณะที่เธอเป็นครูอัตราจ้างของโรงเรียน Monett High School ใน Lawrence County หลังจากที่ถูกสอบสวน Barclay ให้การสารภาพว่าเธอมีเพศสัมพันธ์กับนักเรียนจริงตามที่ถูกกล่าวหา ทางโรงเรียนจึงปลดเธอออกจากตำแหน่งหน้าที่การงาน และปล่อยให้เธอถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังจากที่ถูกจับกุมแล้ว Barclay ก็ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว หลังจากยื่นเงินประกันตัวเป็นจำนวน 800,000 บาท แต่ต้องกลับมาขึ้นศาลเพื่อพิจารณาคดีอีกในวันที่ 24 กรกฎาคม 2017 ส่วนข้อมูลของฝ่ายนักเรียนชายคนดังกล่าวนั้นสื่อไม่ได้ระบุเอาไว้แต่อย่างใด ที่มา dailymail
-
ฝรั่งเศสทดลอง “หมักไวน์ใต้ทะเลลึก” เพื่อพิสูจน์ความกลมกล่อม ที่มากกว่าการหมักทั่วไป!?
กระบวนการและวิธีการหมักไวน์นั้นถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลกับรสชาติของไวน์ แต่ในเมื่อความอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน วิธีการหมักจึงแตกต่างกันไป เมื่อ 2 ปีที่แล้ว สมาคมผู้ผลิตไวน์ในฝรั่งเศสก็ได้นำไวน์แดง ไวน์ขาว และไวน์กุหลาบ จำนวน 120 ขวด ไปแช่ไว้ใต้ทะเลเมดิเตอเรเนียน เพื่อพิสูจน์ว่ามันจะมีรสชาติดีกว่าการหมักไว้ในห้องใต้ดินแบบดั้งเดิมหรือไม่ สมาชิกสมาคมผู้ผลิตไวน์ของ Les vins de Bando บอกว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจจากการค้นพบขวดโหลขนาดใหญ่ที่อยู่ในท้องทะเลเป็นร้อยๆ ปี ที่สำคัญในขวดโหลนั้นมีไวน์หลงเหลืออยู่นิดหน่อย ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกทิ้งลงทะเลในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่รสชาติของมันยังคงกลมกล่อมอย่างไม่น่าเชื่อ ตามทฤษฎีนี้ พวกเขาต้องนำไวน์ไปแช่ทะเลในความลึก 40 เมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่น่าจะมีผลต่ออายุของไวน์มากที่สุด แต่ทั้งนี้ต้องดูที่สภาพแวดล้อมด้วย ดังนั้นในช่วงฤดูร้อนของปี 2015 พวกเขาจึงได้นำไวน์ที่ดีที่สุด 120 ขวด ลงไปแช่ในทะเลเมดิเตอเรเนียน และมีแผนที่จะทดสอบรสชาติของมันในปีถัดไป Philippe Faur-Brac ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ และเป็นผู้ครองตำแหน่งซอมเมอลิเยร์ (Sommelier) หรือปราชญ์ผู้รอบรู้เรื่องไวน์ที่ดีที่สุดในโลกในปี 1992 บอกว่า “ไวน์ทุกชนิดสามารถแช่น้ำได้ โดยจะมีผลต่ออายุของมันในเชิงบวก” นอกจากนี้เขายังได้อ้างถึงการทดลองที่คล้ายกันเมื่อ 20 ปีก่อน ที่มีการทดลองกับไวน์ขาวใน…
-
นักเรียนประดิษฐ์รถยนต์ 5 ที่นั่ง ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และยกย่องให้เป็นรถแห่งอนาคต!!
ทุกวันนี้พลังงานทดแทนได้รับความนิยมมากขึ้นเกือบทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในภาคอุสาหกรรมต่างๆ และได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ล่าสุดที่มหาวิทยาลัย Eindhoven University of Technology ในประเทศเนเธอร์แลนด์ กลุ่มนักเรียนได้พัฒนารถพลังงานแสงอาทิตย์ ที่อาจเปลี่ยนการขับขี่ของเราในอนาคตได้แล้ว นี่คือ Stella Vie เป็นรถพลังงานแสงอาทิตย์ที่มี 5 ที่นั่ง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 999 กิโลเมตรในแต่ละวันช่วงฤดูร้อน พวกเขาจึงเรียกมันว่า “รถแห่งอนาคต” นอกจากนี้ยังได้มีการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ที่จะทำให้คนขับเร่งความเร็วและเบรกได้อย่างราบรื่น เมื่อต้องการจอดระบบจะนำทางให้ไปจอดในตำแหน่งที่แสงอาทิตย์ตก เพื่อเป็นการชาร์จพลังงานในระหว่างจอด นอกจากนี้รถ Stella Vie ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์การจราจร การแจ้งเตือนคนขับ และสามารถประหยัดพลังงานได้โดยการทำตามคำแนะนำของระบบที่ติดตั้งในรถ Stella Vie จะช่วยผู้ขับขี่ให้มีสมรรถนะในการขับขี่อย่างปลอดภัยมากที่สุดโดยการให้ข้อเสนอแนะที่ละเอียดผ่านระบบไฟในตัว มันจะขึ้นไฟเตือนสีแดงในกรณีที่คนขับเบรกกระทันหันหรือเหยียบคันเร่งเร็วเกินไป สำหรับรถคันดังกล่าวนี้ กลุ่มนักเรียนจะนำไปแข่งขันในเวที Bridgestone World Solar Challenge ที่ประเทศออสเตรเลีย ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ และหวังว่าจะสามารถนำมาพัฒนากับระบบรถยนต์ในอนาคตได้จริงๆ เสียทีนะ เจ๋งโคตรๆ อะ ที่มา aplus
-
ภารกิจ “ขโมยปลาหมึก” ของเหล่าแมวจร ที่ต้องเอาตัวรอดเพื่อเลี้ยงลูก แล้วจะสำเร็จมั้ยเนี่ย!?
สำหรับคทั่วไปแล้ว การลักเล็กขโมยน้อยนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย ทว่าสำหรับเหล่าสัตว์ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าจะให้อภัยมันได้มากน้อยแค่ไหน และบางครั้งการแอบจิ๊กของกินของพวกมันก็มักจะมีเหตุผลดีๆ มารองรับเสมอ เช่นเดียวกับในคลิปจากเพจ SBS TV동물농장x애니멀봐 ซึ่งเป็นคลิปจากทางฝั่งเกาหลีที่แสดงให้เห็นถึงแผนการอันแยบยลของเจ้าแมวเหมียวสองตัวที่พยายามจะขโมยปลาหมึกไปกิน เราเจอเป้าหมายแล้ว พร้อมลุย!! ดูต้นทางไว้นะ ขอหยิบหมึกแพ๊พ หมึกนี่มันอาหย่อยสุดๆ ไปเลยล่ะ งั่มๆ ในครั้งแรกนั้นพวกมันทั้งสองตัวสามารถที่จะขโมยปลาหมึกไปกินได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ด้านเจ้าของปลาหมึกคาดว่าเจ้าแมวหัวขโมยทั้งสองจะต้องกลับมาอีกแน่ๆ งานนี้ก็เลยไปหาเจ้าตูบมาเฝ้ายามซะเลย ชอบขโมยหมึกนักใช่ไหม…แบบนี้มันต้องเจอเจ้าตูบเฝ้ายามซะหน่อยแล้ว ดูผ่านๆ เราก็จะคิดว่าเจ้าตูบจะสามารถปกป้องปลาหมึกจากแก๊งแมวขโมยได้ ทว่าเจ้าเหมียวกลับฉลาดกว่าที่คิด เมื่อมันเห็นเจ้าหมากำลังเฝ้าหน้าบ้านอยู่และยังสังเกตเห็นมันอีก เจ้าเหมียวเลยใช้วิธีรอจนกว่าเจ้าหมาจะง่วงและหลับไป พอเจ้าหมาเริ่มง่วงจนหลับ งานนี้ก็ได้โอกาสแล้วล่ะ!! เจ้าเหมียวรีบเข้าไปในบ้านอย่างไม่รอช้าหยิบปลาหมึกผู้โชคร้ายออกมาหนึ่งตัวแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เฮ้ย มียามมาเฝ้าแล้วว่ะ ไม่เป็นไรเรามีแผนสำรอง!! พอยามหลับปุ๊บ ก็เข้าไปฉกปั๊บ… มิชชั่นคอมพลีท ได้หมึกแล้วเผ่นได้ ด้านเจ้าของก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าเหมียวพวกนี้ ทำไมถึงต้องมาขโมยหมึกของเขาทุกวี่ทุกวันขนาดนี้ ซึ่งพอเข้าตามไปดูก็พบว่า เจ้าเหมียวสองตัวที่มาแอบขโมยหมึกนั้นกำลังมีลูกเล็กๆ ด้วยกัน แถมยังน่ารักสุดๆ ด้วยเหตุนี้เจ้าของหมึกก็เลยจัดการหาอาหารให้พวกมันเป็นกิจลักษณะเสียเลย เพื่อที่จะได้กลับไปเลี้ยงลูกตัวน้อยของพวกมัน แค่หมึกที่ขโมยมากินอย่างเดียวก็คงจะไม่พอสำหรับเจ้าเหมียวหรอก ที่พวกมันต้องขโมยหมึกก็เพราะ…
-
พี่น้องได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังเข้าใจว่าอีกฝ่ายตายแล้ว ทั้งที่อยู่ห่างกันแค่ 16 กิโลเมตร
คุณไม่รู้ตัวหรอกว่าในแต่ละวันแต่ละปีนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง บางทีอาจมีเซอร์ไพรส์แบบไม่รู้ก็ได้ เหมือนพี่น้องคู่นี้ที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังจากที่ต่างเข้าใจว่าอีกฝ่ายได้ตายจากไปแล้ว Dennis Whiting วัย 81 ปี และน้องสาวของเขา Betty Glenville ขาดการติดต่อกันนานกว่า 54 ปี เพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายตายไปแล้ว ทั้งที่ความจริงอยู่ห่างกันแค่ 16 กิโลเมตรเท่านั้น ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันเมื่อ Janet Thompson ลูกสาวของ Dennis ถ่ายภาพของพ่อที่อยู่ข้างเรือประมง Hull ซึ่งมีความสำคัญกับเขามาก ลูกสาวก็ได้อัพโหลดรูปที่ถ่ายลงในโซเชียล เป็นรูปตอนที่พ่ออายุ 24 ปี จนมีหญิงคนหนึ่งชื่อ Elaine ส่งข้อความมาหาลูกสาวแล้วบอกว่าเธอเป็นพี่น้องกับผู้ชายในรูปนี้ นั่นทำให้สองพี่น้องได้กลับมาจากกันอีกครั้ง หลังจากที่พบกันครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี 1963 ตอนที่ Dennis อายุ 27 ปี ส่วน Betty อายุ 25 ปี Janet บอกว่า “พ่อของฉันมีพี่น้อง 4 คน ประกอบด้วยพี่ชาย 1 คน และน้องสาว 2 คน แต่ขาดการติดต่อตั้งแต่ตอนแม่ของพวกเขาเสียชีวิตเมื่อ 54…
-
รู้จักกับ 12 สายพันธุ์ “สัตว์หายาก” จากทั่วโลก ที่ทุกวันนี้ใกล้จะสูญพันธุ์มากขึ้นทุกที…
ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเรื่องราวของ ‘ซูดาน’ แรดขาวตัวสุดท้ายของสายพันธุ์ ที่นักวิทยาศาสตร์ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ของมันให้ดำรงอยู่ต่อไป แต่นั่นอาจจะเป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะยังมีสัตว์อีกหลายชนิดทั่วโลกที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างก็เช่นทั้ง 12 สายพันธุ์ดังต่อไปนี้… 1. Amur Leopard หนึ่งในสายพันธุ์เสือดาวที่หาเจอได้ยากที่สุด โดยปัจจุบันคาดว่ามีประชากรเสือดาวชนิดนี้อยู่เพียง 70 ตัวทั่วโลกเท่านั้น ลักษณะนิสัยของพวกมันชอบอาศัยอยู่ในป่าหิมะเช่นทางตอนเหนือของรัสเซีย ตอนเหนือของจีน และเกาหลี อีกทั้งมันยังสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 370 กม./ชั่วโมง เลยทีเดียว 2. Hawaiian Crow น่าเศร้าที่อีกาสายพันธุ์นี้ได้ถูกขึ้นบัญชีให้เป็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อปี 2002 แต่ถึงแม้ว่าจะมีการเก็บไข่ของพวกมันมาเพาะพันธุ์เป็นอย่างดี ทว่าสุดท้ายธรรมชาติกลับไม่เอื้ออำนวยให้มันสามารถอยู่รอดต่อไปได้อีก 3. Hainan Gibbon เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์เอป (ลิงไม่มีหาง) ที่หาเจอยากที่สุดในโลก เพราะมันอาศัยอยู่บนเกาะฮ่ายหนานในประเทศจีนเท่านั้น โดยสถิติจากปี 2003 พบว่ามันมีจำนวนประชากรทั้งหมด 13 ตัว แต่ปัจจุบันได้มีองค์กรอนุรักษ์ท้องถิ่นมากมายเข้าไปดูแล และช่วยกันรักษาเผ่าพันธุ์ของพวกมันให้สืบต่อไป ทว่าปัญหาสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนไป ก็ส่งผลต่อการดำรงชีวิตของพวกมันเช่นกัน 4. Santa Catarina Guinea Pig…
-
สายการบินญี่ปุ่นออกมาขอโทษ หลังปล่อยให้ “ผู้โดยสารพิการ” คลานขึ้นเครื่องด้วยตัวเอง..!?
กลายเป็นกระแสดราม่าโด่งดังไปทั่วโลกของสายการบิน Vanilla Air จากประเทศญี่ปุ่น หลังมีข่าวออกมาว่าลูกเรือของสายการบิน ปล่อยให้ผู้โดยสารที่ใช้วีลแชร์ต้องคลานขึ้นบันไดเพื่อไปนั่งบนเครื่องบินสูงกว่า 17 ชั้นด้วยตัวเอง!! โดยเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับนาย Hideto Kijima ผู้โดยสารหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 44 ปี ที่ได้เดินทางไปพักผ่อนบนเกาะ Amami ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น Hideto Kijima ด้วยความที่เขาเป็นอัมพาตตั้งแต่เอวลงไป ทำให้เขาจำเป็นที่จะต้องใช้วีลแชร์ช่วยเหลือในการเดินทางอยู่เสมอ ทว่าเมื่อถึงเวลาไฟลท์ขากลับเจ้าตัวก็ต้องอึ้งกับบริการที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ หลังสิ้นเสียงประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง นาย Kijima พยายามที่จะขอความช่วยเหลือจากพนักงาน ทว่าเขากลับถูกปฏิเสธ และได้รับคำตอบที่ว่า ‘ทางเราไม่มีนโยบายที่จะช่วยเหลือคนพิการ ถ้าคุณอยากจะขึ้นเครื่องก็ต้องช่วยเหลือตนเอง หรือไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเสียสิทธิ์ในการเดินทางได้’ และล่าสุดทางสายการบิน Vanilla Air ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสัญญาว่าจะพัฒนาบริการเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าผู้มีความต้องการพิเศษให้ดียิ่งขึ้นในภายภาคหน้า ซึ่งทาง Kijima ผู้เสียหายก็ได้ออกให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวมาแล้วหลายประเทศ และได้ใช้บริการจากหลากหลายสายการบิน “ผมเคยเดินทางมาแล้วก็บ่อย ที่ผ่านมาผมไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาก่อน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจออะไรแบบนี้ซึ่งผมก็แอบสงสัยไม่ได้ว่า… เจ้าหน้าที่ของเค้าไม่รู้สึกผิดลึกๆ ในใจบ้างเหรอ? หรือเค้าไม่มีใจรักงานบริการกันนะ?” ที่มา: BBC
-
คุณพ่อถ่ายภาพกับ “สับปะรด” อย่างภาคภูมิใจ และก็เป็นอีกครั้งที่ชาวเน็ตตัดต่อซะฮาเลย!!
อีกหนึ่งเรื่องราวฮาๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมออนไลน์บนเว็บไซต์ Reddit หลังจากที่มีชาวเน็ตคนหนึ่งได้เข้าไปโพสต์ภาพคุณพ่อของเขาเอง ซึ่งเป็นภาพที่คุณพ่อนั่งอยู่กับลูกสับปะรด ที่พยายามปลูกมานานนับปีอย่างภาคภูมิใจ แต่ด้วยอริยาบถของทั้งคุณพ่อและลูกสับปะรด มันช่างเย้ายวนใจให้ชาวเน็ตเกิดอาการคันไม้คันมือขึ้นมา ซึ่งผลสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เราทราบกันดีนั่นแหละว่า ภาพของคุณพ่อได้กลายเป็นภาพตัดต่อสุดฮาไปซะแล้ว “คุณพ่อของฉันพยายามปลูกสับปะรดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และนี่เป็นวันแรกที่เขาทำสำเร็จ ดูสิว่าพ่อฉันภูมิใจมากขนาดไหน…” เจ้าของภาพเล่า งานนี้ชาวเน็ตก็จัดไปสิครับ ตัดต่อกันมันส์มือเลยนะฮร่าา เย้ยยคุณพ่อ… มีฝาแฝดตัวจิ๋วกับเค้าด้วยเหรอ นี่อาจเป็นความลับที่พ่อไม่เคยบอก… ว่าพ่อเป็นสัปปะรด!! และดูเหมือนว่าภาพตัดต่อจะออกทะเลไปไกลขึ้นเรื่อยๆ คงจะจริงอย่างที่เค้าว่า… หากชาวเน็ตได้เห็นภาพน่าตัดต่อของคุณแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเขา หรือจะมาเป็นคุณพ่ออินเซปชั่นก็มีนะ ส่วนนี่ก็อะไรล่ะเนี่ย!? สงสัยคนทำคงจะว่างจัด หลังจากนั้นไม่กี่วันเจ้าของภาพคนเดิมก็ได้กลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มาพร้อมกับกรอบรูปของคุณพ่อ เพราะหลังจากที่ภาพตัดต่อของเขากลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วอินเตอร์เน็ต ครอบครัวก็รู้สึกว่า… เป็นเวลาอันสมควรแล้วที่พวกเขาจะต้องบันทึกเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของครอบครัว จารึกไว้บนฝาผนังให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดเจตนารมณ์กันต่อไป ไม่ต้องบอกก็รู้ว่างานนี้คุณพ่อจะภูมิใจกับผลสับปะรดมากขนาดไหน ที่มา: Twsitedsifter
-
นักเบสบอลหนุ่ม ได้เข้าไปถ่ายรูปกับทรัมป์ทั้งที… งานนี้ต้องใช้โอกาสชูนิ้วกลางซักหน่อย!!
ครั้งแรกสุดที่เราได้เห็นข่าวนี้ เราก็รู้สึกได้เลยว่าพ่อหนุ่มคนนี้ช่างมีความกล้าเสียยิ่งกะไร เพราะถ้ามีใครมาชูนิ้วกลางแบบนี้ถ่ายรูปกับนายกแถวๆ นี้บ้างละก็… รับรองว่าเรื่องใหญ่แน่นอน!! และภาพเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อทีมนักเบสบอล และผู้จัดการทีมส่วนหนึ่งได้มีสิทธิ์เข้าไปพยปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สุดเอ็กซ์คลูซีฟถึงข้างในห้องทำงานกันเลยทีเดียว ในฐานะที่ทีม Chicago Cubs สามารถคว้าแชมป์ World Series ได้ พวกเขาก็ได้ทำการมอบของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่ประธานาธิบดี บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกคนจับมือทักทายกันอย่างสุภาพชนก่อนที่จะถ่ายภาพรวมหมู่ และช่วงที่ถ่ายภาพหมู่นั้นเองก็ได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น ให้สังเกตนาย Albert Almora Jr. ไว้ให้ดี… เพราะในระหว่างที่กำลังจะถ่ายรูปนั้น จู่ๆ พ่อหนุ่มคนนี้ก็แอบชูนิ้วกลางขึ้นมาแบบเนียนๆ ต่อหน้าประธานาธิบดีซะเลย ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่โดย Chicago Sun Times และมันก็กลายเป็นกระแสไวรัลไปทั่วโลก เมื่อมีนักข่าวไปสัมภาษณ์เจ้าตัวก็อธิบายว่า “ต้องบอกตามตรงว่ามันไม่ใช่ทุกวันของชีวิต ที่คุณจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคนที่เป็นถึงประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา แต่ก็อย่างว่าแหละ… บางทีเราต้องลองทำอะไรห่ามๆ ดูบ้าง” โถ่ววพ่อหนุ่มทำเอาเราตื่นเต้นไปด้วยเลย ลองมาทำแบบนี้ที่บ้านเราสิ…. ที่มา : dailymail
-
Emma Watson แอบซ่อน “นวนิยาย” กว่า 100 เล่มทั่วกรุงปารีส หวังให้ทุกคนรักการอ่าน
หากให้พูดถึงชื่อของสาวฮอต หนึ่งในนั้นคงจะหนีไม่พ้นชื่อ Emma Watson แน่ๆ ก็ทั้งความสวยและความสามารถรอบด้านยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับสาวคนนี้ จนเป็นที่รักของแฟนคลับทั่วโลก บ่อยครั้งที่เธอมักจะเข้าร่วมงานการกุศลต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นองค์กรสิทธิสตรี หรือการช่วยแชร์หนังสือในโครงการ Books on the Underground (อ่านข่าวเก่า Emma Watson สุ่มทิ้งหนังสือเล่มโปรด ไว้ตามสถานีรถไฟ เพื่อให้ผู้คนหยิบไปอ่านฟรีๆ ) แ ละล่าสุดเธอได้ช่วยการโปรโมทหนังสือเล่มหนึ่ง โดยการนำไปซ่อนยังสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นักแสดงสาววัย 27 ปี ได้นำหนังสือเรื่อง The Handmaid’s Tale ไปซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ ทั่วมหานครในฝรั่งเศส หลังจากที่แฟนหนังสือและนักเขียนต่างๆ ทราบข่าวนี้ พวกเขาได้ร่วมกันตามหาหนังสือนิยายสุดคลาสสิคของ Emma ซ่อนไว้ ซึ่งมีริบบิ้นสีเขียวผูกอยู่ นักแสดงสาวได้ทวีตข้อความว่า “ฉันซ่อนหนังสือเล่มนี้ไว้ในปารีส” ทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส นิยายสุดคลาสสิคเล่มนี้เป็นงานเขียนของ Margaret Atwood ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1985 ถูกนำมาสร้างเป็นบทละครแนวดราม่าที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในเว็บไซต์ Hulu ซึ่งนำแสดงโดย Elisabeth Moss ทางด้านบริษัท Book Fairies ผู้ริเริ่มการจัดกิจกรรมดังกล่าวนี้ บอกว่า “แฟนๆ หนังสือโชคดีมากๆ ที่จะได้หนังสือเล่มนี้กลับบ้านฟรีๆ…
-
ทัวร์โรงงาน “M&M” ชมขั้นตอนการผลิต กว่าจะมาเป็นขนมหวานยอดฮิต เขาทำกันอย่างไร!!
เมื่อกล่าวถึง M&M หลายคนคงรู้จักกันดีในนามของ “ช็อกโกแลตเม็ดเคลือบน้ำตาล” ที่มีสีสันสวยสดใส มีให้เลือกทานหลากหลายรูปแบบ ทั้งช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาล, อัลมอนด์ ช็อกโกแลต แคนดี้ รวมไปถึงช็อกโกแลตนมไส้ข้าวพอง และช็อกโกแลตนมไส้ถั่วลิสง ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะเคยทานกันมาแล้วอย่างแน่นอน และนอกจากรสชาติที่หอมหวาน นุ่มละลายในปากแล้ว M&M ยังถือเป็นช็อคโกแลต ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ช็อกโกแลตยี่ห้ออื่นๆ เลยละ ด้วยความที่เป็นช็อกโกแลตที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จนทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ไอ้เจ้าช็อกโกแลตเม็ดเล็กๆ ที่เราทานกันอยู่บ่อยๆ นี้ เขามีวิธีการผลิตอย่างไร? ในวันนี้เราจะพาคุณไปรับชมเอง สำหรับ M&M ได้กำเนิดขึ้นในปี 1941 โดย Forrest E. Mars ผู้เป็นเจ้าของกิจการช็อกโกแลต และขนมหวานอันโด่งดัง และนี่คือ โรงงานช็อกโกแลต The Mars Chocolate North America ในเมือง Hackettstown รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตช็อกโกแลต M&M รวมไปถึงช็อกโกแลตยี่ห้อดังอีกมากมาย ได้แก่…
-
คนแปลกหน้ายอมควักเงินซื้อรถ เพื่อมอบให้ชายที่ต้องเดินไปทำงาน 10 กิโลฯ ในทุกวัน!?
เรื่องราวสุดซึ้งเมื่อกลุ่มคนแปลกหน้าในรัฐเท็กซัส ได้มอบของขวัญให้กับชายแปลกหน้าอีกคนเป็นรถยนต์คันงาม โดยที่ประเด็นเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้แม้ว่าทั้งสองฝ่ายไม่เคยรู้จักกันเลย!! เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อ Andy Mitchell ได้บังเอิญเห็น Justin Korva ชายผิวสีที่สวมใส่เครื่องแบบร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง เดินในเส้นทางเดิมทุกวัน ด้วยเหตุนี้เขาก็อาสาจะไปส่งยังจุดหมาย ซึ่งเขาก็เลยถามกับ Justin ระหว่างทางว่าทำไมเขาถึงต้องเดินแบบนี้ทุกวัน? โฉมหน้าของ Andy และ Justin Justin ก็ตอบว่าเขาต้องเดินไปทำงานทางนี้ทุกวัน เพราะเขาต้องเก็บเงินเพื่อซื้อรถให้กับตัวเอง การเดินจึงเป็นวิธีลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ดีที่สุด แม้ว่าอากาศจะร้อนและระยะทางไกลกว่า 10 กิโลเมตรก็ตาม เมื่อ Andy ได้ยินเรื่องราวในครั้งนี้เขาก็ไม่อยู่เฉย เขาและเพื่อนๆ ได้ทำการเงินเรี่ยไรจากผู้คนในชุนชนละแวกนั้น เพื่อช่วยเหลือชายผู้มีเป้าหมายอันแน่วแน่คนนี้ พวกเขาใช้เวลาเพียง 48 ชั่วโมงเท่านั้นเพื่อรวบรวมเงินจนถึงเป้าที่ตั้งเอาไว้ ตอนที่ทุกคนมาเซอร์ไพรส์ Justin เจ้าตัวแทบจะไม่เชื่อเลยล่ะ ซึ่งรถที่ Andy ซื้อให้เป็น Toyota Camry ปี 2004 สีขาว นอกเหนือจากนั้น ด้วยจำนวนเงินที่รวมมาได้มีจำนวนมากและเหลือจากการซื้อรถอีกมากพอสมควร พวกเขาจึงจัดการเรื่องเอกสาร เรื่องประกันภัย พร้อมกับมอบบัตรเติมน้ำมันมูลค่าอีกประมาณ 17,000 บาท มอบให้แก่เขาไปด้วย แม้จะไม่ใช่รถหรูอะไร…
-
นักช้อปออนไลน์ 4 ประเภท – ตัวคุณเองล่ะเป็นแบบไหน!?
บทความนี้สนับสนุนโดย: Shopcoupons ปัจจุบัน อตุสาหกรรม E-Commerce เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเติบโตอย่างมากใน 6-7 ปีที่ผ่านมา โดยมีสิงคโปร์เป็นประเทศผู้นำด้านนี้ ประเทศอื่นใน ASEAN อย่างประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนิเซียและฟิลิปปินส์ก็ลงทุนทั้งเงินและเวลาไปมากพอสมควรในอุตสาหกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์นี้ ในขณะที่อุตสาหกรรมเติบโตขึ้น จำนวนลูกค้าก็มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักช้อปออนไลน์ก็มากขึ้นเช่นเดียวกัน เราได้กำหนดประเภทหลักๆ ของนักช้อปออนไลน์ คุณคิดว่าตัวเองเป็นนักช้อปแบบไหน นักช้อปคุ้มค่า นอกจากชื่อสินค้าแล้ว นักช้อปประเภทนี้ไม่ได้มองหาแค่ของถูกเท่านั้น เพราะของราคาถูกไม่ได้หมายถึงคุณภาพที่ดีเสมอไป ปัจจุบัน ลูกค้าที่มองหาแค่ของที่ถูกที่สุดมีให้เห็นน้อยลงเรื่อยๆ เพราะทุกคนรู้ดีว่าของที่ถูกมากๆ อาจเป็นของปลอมก็ได้ นักช้อปคุ้มค่ามักมองหาโปรโมชั่นซื้อคู่กัน 1 แถม 1 สำหรับสินค้าและรับของฟรีต่างๆ นักล่าดีล คล้ายๆ กับนักช้อปคุ้มค่าเมื่อสักครู่ นักช้อปประเภทนี้จะรู้ดีกันว่าเป็นนักช้อปที่มีประสิทธิภาพมากๆ ในโลกการช้อปปิ้งออนไลน์ พวกเขารอเทศกาลลดครั้งใหญ่เพื่อมองหาดีลที่ดีที่สุด แต่นักช้อปหน้าใหม่หลายคนไม่รู้เว็บไซต์อย่าง Shopcoupons ที่มี Voucher และคูปองส่วนลดให้เลือกมากมายจากร้านค้าออนไลน์ชื่อดังในประเทศไทย ซึ่งคุณสามารถหา ส่วนลด Lazada, ส่วนลด Konvy และอีกมากมาย ด้วยโอกาสเหล่านี้ นักล่าดีลจะประหยัดเงินทุกสตางค์ที่เขาช้อปและได้สินค้ามาด้วยส่วนลดมากมาย …
-
สื่อต่างชาติรายงาน พบสาวเบลเยียมเสียชีวิต เหลือเพียงครึ่งตัวที่ “เกาะเต่า” อีกแล้ว!!
เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นในบ้านเราอีกครั้ง เมื่อทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่ามีการพบศพของหญิงสาวผู้หนึ่งบนเกาะเต่า แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งในประเทศไทย นาง Elise Dallemange ถูกพบศพเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาในป่าแห่งหนึ่งบนเกาะ อวัยวะบางส่วนของศพถูกสัตว์ป่ากินเหลือเพียงครึ่งตัวเท่านั้น ตามรายงานข่าวระบุว่าเธอคือผู้เสียชีวิตรายที่ 7 ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา โดยทางตำรวจออกมายืนยันว่าหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย แต่อย่างไรก็ตามแม่ของเธอคุณ Michele กลับไม่เชื่อตามข้อสันนิษฐานของตำรวจ เธอบอกว่า “ฉันไม่เชื่อตามที่ตำรวจบอกเรา ฉันคิดว่าคำอธิบายของพวกเขานั้นไม่ถูกต้อง และฉันเกรงว่าจะต้องมีคนอื่นเกี่ยวข้องกับการตายของลูกสาวฉัน” นอจากนี้แม่ของคุณหญิงสาวผู้เสียชีวิตวัย 30 ปี ยังบอกอีกว่าการตายของลูกเธออาจไม่ได้ความสนใจหากไม่มีการเรียกร้องจากเธอ และตอนนี้เธอยังไม่ได้รับผลการชันสูตรของลูกสาวแต่อย่างใดด้วย ก่อนหน้านี้นาง Elise เคยเข้าร่วมลัทธิ Sathya Sai Baba และอาศัยร่วมกับผู้หนึ่งที่เรียกตัวเองว่าอาจารย์ ที่เกาะพพงัน หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 17 เมษานที่ผ่านมาเธอได้เตรียมเดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศเบลเยี่ยม จากบันทึกการโทรของผู้ตายแสดงให้เห็นว่าเธอได้ติดต่อกับแม่ของเธอผ่านสไกป์เมื่อวันที่ 17 เมษายน ก่อนที่จะออกจากเกาะพะงันเมื่อวันที่ 19 เมษายน แต่ไม่มีใครทราบว่าทำไมหญิงสาวถึงเดินทางไปที่เกาะเต่า!? แม่ของผู้ตายบอกว่าเธอใช้ชื่อปลอมเพื่อเข้าพักในบังกะโลแห่งหนึ่งใกล้กับท่าเรือแม่หาด ในเกาะเต่า ก่อนที่ตามแผนการเดินทางนั้น เธอจะเดินทางผ่านเรือโดยสารไปที่จังหวัดชุมพร และเดินทางเข้ากรุงเทพ แต่จู่ๆ บ้านพักที่เธออยู่ก็กลับเกิดไฟใหม่อย่างไม่ทราบสาเหตุ หญิงสาวจึงได้ย้ายไปอยู่ที่พักอีกแห่งใกล้กับหาดตะโหนด…
-
สะพานในเคนย่าที่สร้างโดยบริษัทจีน “พังเละ” หลังประธานาธิบดีเปิดใช้ได้แค่ 11 วัน เท่านั้น!!
ก่อนหน้านี้หลายๆ คนอาจจะได้เห็นกระแสดราม่ากรณีที่มีการเปิดให้บริษัทจีนเข้ามาก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย ซึ่งสร้างความลำบากใจให้แก่ผู้ที่ไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แค่กับประเทศไทยเท่านั้นที่มีบริษัทจีนเข้ามาก่อสร้าง เพราะที่ประเทศเคนย่าก็ได้มีการก่อสร้างสะพาน ‘Sigiri’ ซึ่งถูกสร้างขึ้นให้เป็นสะพานแด่มิตรภาพจีน – แอฟริกา ทว่าล่าสุดสะพานดัวกล่าวกลับถล่มลงมาซะงั้น!? สะพานแห่งนี้พังถล่มลงมาหลังจากเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรได้เพียง 11 วันเท่านั้น โดยสะพานขนาดระยะ 100 เมตร ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศเคนย่า ถูกสร้างโดยบริษัท China Overseas Engineering Co ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ China Railway อีกทีหนึ่ง โดยอุบัติเหตุในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่มีพิธีเปิดสะพานโดยประธานาธิบดีได้เพียงแค่ 11 วัน และทำให้มีคนงานบาดเจ็บมากถึง 28 คน ทางบริษัทของจีนก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด สะพาน Sigiri ใช้งบประมาณสร้างทั้งหมด 11.5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่ประธานาธิบดี Uhuru Kenyatta ชูว่าจะสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้นได้ นอกเหนือจากสะพานที่เพิ่งถล่มไป ในช่วงหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ นักการเมืองคนนี้ก็ได้ชูนโยบายสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อเชื่อมต่อจากเมือง Mombasa สู่เมืองหลวง Nairobi ภาพจากการหาเสียงของประธานาธิบดีเคนย่า ทว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวอย่าง Raila Odinga…
-
พบกับ 15 ไอเดียการ “เขียนตาโทนยูนิคอร์น” สีสันละมุนละไม เก๋ไก๋เหมือนดั่งโลกนิยาย
เมื่อพูดถึงสีที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้ คงจะหนีไม่พ้นสีแบบเจ้ายูนิคอร์น ที่มันช่างตอบโจทย์ของสาวๆ ซะเหลือเกิน เพราะมันเป็นสีสันสุดละมุน ทั้งชมพู ม่วง ฟ้า สาวทั้งหลายจึงอดไม่ได้ที่จะนำธีมสียูนิคอร์นมาเป็นแรงบันใจในการแต่งตัว สีผมหรือแม้แต่สีเล็บ ซึ่งในครั้งนี้เราก็ได้นำไอเดียการเขียนตาของสาวๆ ในธีมยูนิคอร์น ที่สีสันละลานตาเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยาย ให้สาวๆ ไม่ต้องเบื่อกับการเขียนตาแบบเดิมอีกแล้ว การแต่งเปลือกตาแบบยูนิคอร์นนี้จะสวยงามแค่ไหน ไปชมกัน ปกติแล้วในแต่ละวันสาวๆ จะเขียนตาด้วยอายไลน์เนอร์สีดำและตกแต่งสีสันด้วยอายแชโดว์นิดๆ หน่อยๆ แต่ถ้าต้องออกงานแฟนซี ก็ลองหันมาแต่งเป็นแบบแฟนซีสีพาสเทลสวยๆ อย่างยูนิคอร์นดูสิ มันจะให้ให้คุณดูโดดเด่นสุดๆ . เขาของยูนิคอร์นจงมาเป็นหางตาของฉันซะ!! . ฟรุ้งฟริ้งดีจัง . . หรือจะลองเป็นสีดำก็ดูลึกลับดีนะ . . สีสันน่ารักสุดๆ . . เหมือนเป็นตัวการ์ตูนเลยแฮะ . ใครที่ชมแล้วชอบในไอเดียนี้ ก็ลองนำไปแต่งกันดูนะ ที่มา boredpanda
-
ยูทูปเบอร์ถามคน 100 คน ถึงประโยคจีบที่ชอบ จะเสี่ยวแบบไทยๆ ต่างชาติก็ใช้เหมือนกัน!?
ถ้าพูดถึงมุกจีบสาวแบบเสี่ยวๆ หรือเพจเสี่ยวๆ คำคมเกลือๆ ที่เราหาได้ทั่วไปนั้น เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่าวัฒนธรรมอะไรแบบนี้มันจะมีแต่ที่ประเทศไทยเรา แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วมุกเสี่ยวอย่าง “เธอไม่เหนื่อยเหรอ ที่เข้ามาวิ่งในใจเราทั้งวันเลย” หรือพวกมุกอะไรทำนองนี้ มันใช้กันทั่วโลกเลยนะเว้ยเฮ้ย!!? เพราะทางช่องยูทูปที่ชื่อว่า WatchCut Video ได้ทำคลิปที่ถามคนจำนวน 100 คนเกี่ยวกับประโยคที่ใช้ในการเปิดฉากจีบที่พวกเขาชอบที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นการจีบแบบฝรั่งๆ หน่อย แต่ก็ไม่ต่างกับทางฝั่งไทยมากตรงมุกที่ใช้แม่มเสี่ยวสุดๆ เลยก็ว่าได้ เช่นพ่อหนุ่มคนนี้ที่บอกว่า “เธอรู้ป่ะว่ามีอะไรอยู่ในเมนู ฉันกับเธอไง” (Me’n’u – มีแอนด์ยู แหม่…) หรือจะแบบเธอคนนี้ที่บอกว่า “นี่เธอเป็นหนังสือในห้องสมุดใช่ป่ะ ฉันเห็นแล้วอยากจะลองอ่านดูจัง” ไม่ก็ “เจ็บมากไหม ที่ต้องตกลงมาจากสวรรค์” ประมาณว่าชมผู้หญิงเป็นนางฟ้า ของบ้านเราก็มุกขอดูบัตรประชาชน นางสาว หรือ นางฟ้า ครับเนี่ย (ปรากฎว่าเป็น ‘นาย’ ผ่าม ผ่าม ผ๊ามมม) คลาสสิคหน่อยก็จะเป็น “เธอไม่เหนื่อยบ้างเหรอ ที่มาวิ่งอยู่ในหัวฉันทั้งวันเลย (ในใจก็ได้นะ)” อีกอันที่คลาสสิคไม่แพ้กันก็คือ “ขอเข้าไปนั่งในใจได้ป่ะ หรือว่ามีคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว”…
-
เรื่องราวของ Kahn คุณพ่อผู้อยากอวดลูก สู่นวัตกรรม “มือถือติดกล้อง” เครื่องแรกของโลก!!
อาจจะฟังดูน่าแปลกที่หนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญในชีวิตเราอย่างกล้องสมาร์ทโฟน จะมีที่มาจากหัวอกคุณพ่อผู้อยากแชร์ภาพแรกเกิดของลูกสาว และนวัตกรรมก็ได้เกิดขึ้นครั้งแรกที่ห้องทำคลอดด้วยเช่นกัน!! ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของ Philippe Kahn ชายผู้คิดค้นโทรศัพท์ติดกล้องเป็นเครื่องแรกของโลก อีกทั้งยังได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Time ให้ภาพลูกสาวของเขา เป็นหนึ่งในภาพถ่ายทรงอิทธิพลตลอดกาลอีกด้วย หน้าตาของโทรศัพท์ติดกล้องเครื่องแรก ที่มีจุดกำเนิดจากห้องคลอด ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 เป็นช่วงเวลาที่ตอนนั้น Kahn ยังอาศัยอยู่กับภรรยาในทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สมัยนั้นเขายังเป็นเพียงผู้ประกอบการด้านซอฟท์แวร์ขนาดเล็ก แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อถึงเวลาที่ Sophie ลูกสาวผู้อยู่ในครรภ์ใกล้จะออกมาลืมตาดูโลก ด้วยความที่เขาอยากจะแชร์ภาพลูกสาวไปให้เพื่อนๆ ได้เห็นแบบรวดเร็วที่สุด ทำให้เขาได้ริเริ่มที่จะวิธีทำให้โทรศัพท์และกล้องสามารถเชื่อมต่อกันได้ Philippe Kahn และโปรเจกต์ของเขา การสร้างนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกโดยไม่รู้ตัวของเขาเป็นไปแบบหยาบๆ เขาใช้วิธีการนำกล้องดิจิตอลมาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือแบบพับได้ จากนั้นเจ้าตัวก็ทำการซิงค์ข้อมูลผ่านโค้ดที่เขาเขียนขึ้นมาเองระหว่างเฝ้าครรภ์ภรรยาในโรงพยาบาล และนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนอันยิ่งใหญ่ที่แม้แต่เจ้าตัวก็อาจจะไม่รู้ เขาสามารถใช้กล้องเครื่องนั้นถ่ายภาพลูกสาวพร้อมทั้งส่งเป็นอีเมล์แชร์ไปให้เพื่อนๆ ได้แบบเรียลไทม์!! แต่คุณพ่อผู้เปลี่ยนโลกไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาใช้เวลาพัฒนาโทรศัพท์ติดกล้องต่อไปเรื่อยๆ จนได้รุ่นต้นแบบที่ดูเหมือนจะเตะตากลุ่มนักลงทุน และบริษัทยักษ์ใหญ่จากทั่วโลกเข้าให้แล้ว เพราะต่อมาไม่นานในปี 2000 บริษัท Sharp ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้กับตลาดมือถือในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก จากนั้นไม่กี่ปีให้หลังก็เริ่มโทรศัพท์มือถือแบบมีกล้องก็เริ่มเข้าไปตีตลาดอเมริกา และได้รับความนิยมจนแพร่หลายไปทั่วโลก ภาพของลูกสาวที่ถูกส่งผ่านทางข้อมูลดิจิตอลเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่านวัตกรรมชิ้นเล็กๆ ที่เกิดจากความรักของพ่อที่มีต่อลูก…
-
คุณแม่ขาดเรียนเพราะสถานดูแลเด็กปิด แต่ความเป็นห่วงของอาจารย์ก็ชนะใจชาวเน็ตสุดๆ!!
เหตุการณ์อันน่าประทับใจในครั้งนี้เกิดขึ้นกับคุณแม่วัย 21 ปี Morgan King นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี เธอเป็นซิงเกิ้ลมัมที่คอยดูแลลูกสาว Korbyn เพียงลำพัง ทว่าวันหนึ่งจู่ๆ อาจารย์ก็ต้องแปลกใจเมื่อนักศึกษาที่ตั้งใจเรียนมาโดยตลอดอย่างเธอ ไม่มาเข้าเรียนคลาสที่มีการสอบเก็บคะแนน และนั่นอาจมีผลกระทบต่อผลการเรียนของเธอได้เช่นกัน Morgan King และลูกสาวของเธอ Korbyn ซึ่งเธอก็ได้ส่งอีเมล์ไปขอโทษอาจารย์ และอธิบายสาเหตุไม่สามารถเข้าเรียนได้เพราะสถานดูแลเด็กไม่เปิด และเธอจำเป็นที่จะต้องอยู่ดูแลลูกน้อย ลึกๆ แล้วเธอรู้สึกผิดต่ออาจารย์ที่ไม่ไปเข้าเรียน แต่เมื่ออาจารย์ตอบอีเมล์กลับมา มันก็ได้กลายเป็นสิ่งที่สร้างกำลังใจและความรู้สึกดีๆ ให้เธอได้อย่างท่วมท้น ‘สวัสดีมอร์แกน… เราสงสัยมากเลยทำไมเธอถึงไม่เข้าเรียนในเช้าวันนี้ ครูเสียใจด้วยนะที่ได้ทราบถึงสาเหตุเกี่ยวกับเรื่องสถานดูแลเด็กของเธอ และในอนาคตถ้าเธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะต้องหาคนมาดูแล Korbyn ละก็ ขอให้เธอทำตัวตามสบายที่จะพาลูกสาวมาที่คลาสเรียนได้เลยจ๊ะ ครูสัญญาแน่นอนว่าจะอุ้มเธอไปด้วยระหว่างสอน และคุณแม่ก็จะได้เต็มที่กับการเรียน ครูทำงานให้กับแผนกการศึกษาด้านเด็กและครอบครัว มันคงจะเป็นเรื่องเลวร้ายมากถ้าหากครูจะไม่อนุญาตให้พ่อแม่พาลูกมานั่งเรียนด้วยจริงไหม? ครูจริงจังนะเนี่ย… อย่าลืมเอาลูกเธอมาเรียนด้วยล่ะ ส่วนเรื่องการสอบเก็บคะแนนวันนี้ก็ไม่ต้องกังวลไป และเรื่องการขาดเรียนครูได้แจ้งเหตุผลว่าเป็นเหตุสุดวิสัยไปให้แล้วนะ ถ้าหากเธอต้องการความช่วยเหลือด้านใดก็สามารถบอกครูได้เลย’ – เนื้อหาในอีเมล แต่หลังจากที่คุณแม่สาวได้โพสต์ภาพอีเมล์ของอาจารย์แล้ว มันก็กลายเป็นกระแสไวรัลโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเรื่องราวนี้จะโดนใจชาวเน็ตกันขนาดไหน… หลายคนออกมาให้กำลังใจ และบอกว่านี่แหละคือครูผู้ให้ที่แท้จริง…
-
เด็กน้อยผู้ประสบกับโรคร้าย พยายามต่อสู้อย่างที่สุด กับเวลาที่เหลือน้อยลงไปทุกที…
พบกับเรื่องราวการต่อสู้กับโรคมะเร็งนิวโรบลาสโตมาของเด็กชาย Bradley Lowery วัย 6 ขวบจากประเทศอังกฤษ ซึ่งแม้เด็กชายจะอายุน้อยมากๆ แต่เขาก็สามารถสู้กับโรคร้ายได้อย่างกล้าหาญ Bradley นั้นก็เหมือนกับเด็กปกติทั่วไปที่เกิดมามีสุขภาพแข็งแรง แต่แล้วเมื่อเขาอายุได้ 18 เดือน ก็ต้องพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งนิวโรบลาสโต ทว่าเด็กชายก็ไม่ยอมแพ้รวมถึงครอบครัวของเขาก็เป็นกำลังใจจนเด็กชายมีอายุอานามมาได้จนถึง 6 ขวบ!! แม้จะรู้ว่าตัวเองป่วย Bradley ก็ยังยิ้มได้!! ในช่วงเวลาที่เขาต้องสู้กับโรคร้ายนั้น มีครั้งหนึ่งที่ Bradley สามารถจะเอาชนะกับมะเร็งได้ เพียงแต่ว่าในปี 2016 โรคร้ายก็กลับมาหาเขาอีกครั้งและอาการในครั้งนี้ก็แย่กว่าเดิมเสียอีก ในช่วงเวลาที่เด็กชายต้องสู้กับมะเร็งนั้น เขาเป็นแฟนตัวยงของทีมฟุตบอล Sunderland และเป็นแฟนคลับนักเตะ Jermain Defoe นอกจากนั้นเขายังได้เป็นมาสคอตให้กับทีมอีกด้วย Bradley เป็นแฟนตัวยงของทีม Sunderland เลยล่ะ และก็ยังได้ลงไปเป็นมาสคอตคู่กับนักบอลขวัญใจของเขา Jermain Defoe พอถึงวันเกิดของเจ้าหนู Bradley เหล่านักฟุตบอลจากทีมโปรดอย่าง Jermain Defoe และ Vito Mannone ก็มาร่วมฉลองวันเกิดกับเขาด้วย ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ ทีมแพทย์ของเด็กชายก็ได้บอกข่าวร้ายกับครอบครัวว่า โรคร้ายที่ลูกชายของพวกเขากำลังเผชิญอยู่ กำลังมีอาการที่แย่ลงเรื่อยๆ และทำร้ายสุขภาพของ Bradley…
-
แรงจนฉุดไม่อยู่… ‘GlowFYourself’ แม้แต่เซ็กซ์ทอยที่เสียบตูด ก็ยังเป็นฟิดเจ็ทสปินเนอร์ได้..!!
ได้ข่าวว่าช่วงนี้กระแสฟิดเจ็ทสปินเนอร์กำลังมาแรงสุดๆ ประมาณว่าถ้าไปเดินตลาดนัดก็จะเห็นพ่อค้าแม่ขายเอาของเล่นชิ้นนี้มาวางบนแผงกันให้เพียบ ถึงแม้ว่าเดิมทีมันจะถูกออกแบบมาใช้เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนที่ป่วยเป็นสมาธิสั้น และผู้ป่วยโรควิตกกังวล แต่ดูเหมือนว่าวินาทีนี้จะไม่มีใครสนใจจุดนั้นแล้วล่ะ โดยเฉพาะเมื่อเราได้ค้นพบกับสปินเนอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสียบตูด!! สู่สัมผัสใหม่แห่งการหมุน ไม่ต้องถามนะว่าจะรู้สึกอย่างไร… เพราะเราก็ไม่เคยคิดจะลองเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสแปลกๆ ที่มาคู่กับฟิดเจ็ทสปินเนอร์มาแล้วเช่น หนังโป๊สปินเนอร์ที่กลายเป็นคำค้นหายอดฮิตติดลมบนอยู่ช่วงหนึ่ง หรือไม่ก็การเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ โดยใช้เจ้าสปินเนอร์ ซึ่งอันที่จริงเจ้าสปินเนอร์รุ่นเสียบทางทวารหนักนี่ก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นของเล่นสุดเพี้ยนหรอก หากแต่ว่ามันก็คือเซ็กส์ทอยรุ่นหนึ่งที่มีการติดสปินเนอร์ไว้ด้านบนเท่านั้นเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่าเจ้าของคิดไอเดียคิดอะไรอยู่ ถึงได้สร้างของสุดแปลกชิ้นนี้ขึ้นมา ซึ่ง Frank หนุ่มเจ้าของ ‘GlowFYourself’ ได้อธิบายว่า สินค้าชิ้นนี้ถูกออกแบบมาให้เราโฟกัสกับรูทวารได้ดียิ่งขึ้น (อะไรของมันฟร๊ะ!?) ‘ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ นี่คืออุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณต่อสู้กับอาการสมาธิสั้น และโรคทางจิตทุกประเภท ด้วยการผจญภัยไปกับเครื่องหมุนสุดหรรษา’ คำอธิบายจากหน้าเว็บไซต์สินค้า เอาเป็นว่าถ้าใครอยากจะซื้อมาลองใช้กับจุดประสงค์อะไรก็แล้วแต่… สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ Etsy.com ขอบอกเลยว่ามีหลายรุ่น หลายดีไซน์ และหลายขนาดให้เลือกช็อปปิ้งกันตามใจ และใครที่สั่งมาใช้แล้ว… อย่าลืมเขียนรีวิวพร้อมภาพประกอบมาให้เราดูด้วยนะ อึ๋ยยยย ที่มา: Metro
-
แฟชั่นใหม่ “เต้านมกากเพชร” จากเทศกาลดนตรี Glastonbury สร้างสีสันระยิบระยับสนุกยิ่งขึ้น!!
เมื่อเราพูดถึงเรื่องงานเทศกาลดนตรีนั้น สิ่งที่จะอยู่คู่กันเสมอก็คือเรื่องของแฟชั่น โดยไม่ว่าเทศกาลดนตรีที่ไหนๆ ผู้ชมอย่างเราๆ ก็ต้องขอจัดหนักจัดเต็มกับเครื่องแต่งกายซะหน่อย เพื่อให้การชมดนตรีนั้นทั้งสนุกและมีสีสันมากขึ้น โดยในสัปดาห์ที่แล้วในประเทศอังกฤษ ก็ได้มีจัดงานเทศกาลดนตรี Glastonbury Festival ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีจัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการและเป็นเวทีการแสดงบนผืนหญ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในงานนั้นก็จะมีทั้งการแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องและวงดนตรีร่วมสมัย อีกทั้งยังมีงานศิลปะ การเต้นรำ การแสดงตลก ละครสัตว์และศิลปะอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนจำนวนผู้คนที่เข้าร่วมในงานนี้ก็มีกว่าแสนคนในทุกๆ ปี และในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปชมแฟชั่นของเหล่าคนรักศิลปะในงาน Glastonbury Festival กัน โดยแฟชั่นใหม่ที่โดดเด่นมากที่สุดในงานก็คงจะเป็น Glitter boobs นี่แหละ โดยจะเป็นการนำการเพชรมาประดับประดาปกคลุมหน้าอกไว้ โดยที่ไม่มีเครื่องแต่งกายใดๆ เรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นที่ทั้งระยิบระยับและเซ็กซี่มากๆ เลยทีเดียว ไม่ใช่แค่เพียงสาวๆ เท่านั้นจะที่จะทากากเพชรติดหน้าอก คุณผู้ชายก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยแฟชั่นนี้ได้มีกระแสฮอตสุดๆ มาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว ซึ่งเราจะเห็นได้จากงานเทศกาลดนตรี Coachella Festival ที่จัดในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ผ่านมา การที่ผู้คนออกมาตกแต่งร่างกายด้วยแฟชั่นนี้ ก็คงเป็นเพราะแสงแดดที่ทำให้กากเพชรนั้นดูเฉิดฉาย อีกทั้งยังช่วยระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย คราวนี้ก็สะดวกที่จะกระโดดโลดเต้นไปกับวงดนตรีวงโปรดได้ทั้งวันแล้ว สาวๆ ในงานเทศกาลก็ดูชื่นชอบกับการทากากเพชรไปที่หน้าอกเอามากๆ อีกทั้งยังสามารถทาไปที่ก้นได้อีกด้วย เรียกว่าแสงออกตัวแบบสุดๆ ไปเลย…
-
เด็กชายอยากได้ตุ๊กตาแพนด้า แต่แม่ไม่ยอมซื้อให้เลยเขียนจองเอาไว้ ‘ถ้ามีเงินจะมาซื้อ’
เมื่อเด็กๆ เจอตุ๊กตาที่ชื่นชอบ พวกเขามักจะอ้อนพ่อแม่ให้ซื้อให้ แต่บางทีการอ้อนก็ไม่ได้ทำให้เด็กๆ ได้สิ่งที่ต้องการเสมอไป พวกเขาก็เลยต้องใช้วิธีอื่น เหมือนกับเด็กชายวัย 10 ขวบคนนี้ ที่อยากได้ตุ๊กตาหมีแพนด้ามากๆ แต่แม่ไม่ซื้อให้ เขาก็เลยเขียนจองไว้ที่ข้างกล่องว่าห้ามใครซื้อ มีเงินเมื่อไหร่เขาจะมาซื้อเอง Leon Phillips ได้ไปเจอเข้ากับตุ๊กตาที่เรียกว่า Lovable Huggable Panda วางอยู่บนชั้นวางของร้าน Asda ในย่านชานเมืองลิเวอร์พูลขณะที่ไปช้อปปิ้งกับแม่ เด็กชายอยากได้ตุ๊กตาหมีแพนด้าตัวนี้มาก แต่ Debbie คุณแม่วัย 35 ปี ทำอาชีพพยาบาลบอกกับลูกว่า “โห ราคาตั้ง 500 บาท แม่ซื้อให้ไม่ได้หรอก ยังไม่เอาเนาะ” นั่นไม่ได้หมายความว่าแม่จะไม่ซื้อให้ เธอบอกลูกชายว่าจะจะกลับมาซื้อให้ครั้งหน้า… แต่ Leon กลัวว่าจะมีเด็กคนอื่นมาซื้อไปซะก่อน เขาก็เลยนำตุ๊กตาหมีแพนด้าใส่กล่องพร้อมเขียนจองเอาไว้ เด็กชายเขียนไว้ว่า “แม่ผมยังไม่มีเงินซื้อให้ แต่เธอจะกลับมาซื้อตุ๊กตาหมีแพนด้าให้ผมอาทิตย์หน้า วันที่ 15 มิถุนายน ดังนั้นขอร้องอย่าเพิ่งซื้อมันไปนะ ไม่งั้นผมต้องร้องไห้แน่ๆ ขอบคุณมากครับ จากเจ้าของในอนาคต แพนด้าตัวนี้มีชื่อว่า Pandy” เมื่อพนักงานของ Asda…
-
มาดู 15 เรื่องเล็กๆ แต่กระแทกความรู้สึกสาวๆ มีทั้งปังและพัง นี่แหละชีวิตของผู้หญิง!?
ในชีวิตประจำวันของสาวๆ แต่ละคนนั้นก็คงจะได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ที่ทั้งทำให้มีความสุขจนบ้าคลั่ง หรือเหตุการณ์ที่ทำให้หงุดหงินจนหัวร้อน ซึ่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ผู้ชายไม่มีทางรับรู้ถึงความรู้สึกนี้ได้หรอก แต่หากอยากรู้เรื่องลับๆ ของสาวๆ ล่ะก็ ลองมาชม 15 ภาพเรื่องเล็กๆ ที่ทำให้สาวๆ ทั้งรู้สึกฟินเบอร์แรงและหงุดหงิดโมโหเอาได้ง่ายๆ เผื่อว่าจะเอาไปใช้มัดใจสาวๆ ก็ได้นะ 1. การเอาผมที่พันในหวีกว่า 10 ปีออก เป็นอะไรที่ฟินมาก 2. เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว เมื่อมันพันกันจนแยกออกมาไม้ได้ 3. จะมีอะไรฟินไปกว่าการถอนขนคุด 4. เมื่อคุณกรีดอายไลน์เนอร์ได้คมเป๊ะๆ 5. คุณมักลืมตัวค้นหาของในกระเป๋า หลังจากทำเล็บเสร็จใหม่ๆ 6. มีวิธีแก้ลิปสติกติดฟันบ้างมั้ยเนี่ย!? 7. ไม่ง่ายเลยที่จะทาลิปบนรถ 8. การยัดอาหารเข้าปากมันยากสุดๆ ถ้าคุณไม่อยากให้ลิปสติกหลุด 9. อิแม่จะไม่โชคดีแบบนี้ไปตลอด 10. เมื่อคุณต้องเข้าห้องน้ำปั๊มนอกเมือง …
-
นักคอสเพลย์สาว Alyson จะเป็นชายก็ได้หญิงก็ดี ไม่ว่าตัวละครไหนก็เป็นได้ทั้งนั้น!!
ขอเชิญพบกับ Alyson Tabbitha นักคอสเพลย์สาวมากความสามารถ ผู้สามารถที่จะกลายเป็นตัวละครตัวไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เธอคนนี้ก็กลายร่างให้เหมือนตัวละครนั้นๆ ได้เหมือนแทบทุกรายละเอียดเลย!! ประวัติของ Alyson นั้น แรกเริ่มเดิมทีเมื่อตอนเธอยังเด็ก คุณแม่ของเธอทำงานรับบทเป็นตัวละครต่างๆ อยู่แล้ว ฉะนั้นในช่วงเทศกาลฮาโลวีนเธอจึงได้รับคอสตูมแปลกๆ จากคุณแม่อยู่เป็นประจำ นั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเข้าสู่วงการคอสเพลย์ในปี 2014 จนตอนนี้เธอก็กลายเป็นที่รู้จักในวงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในด้านผลงานนั้นเธอใช้ระยะเวลาไม่นานในการสร้างชื่อเสียง เพราะด้วยคุณภาพของงานและตัวละครที่เธอสามารถจะคอสเพลย์ได้นั้น การันตีผลงานในระดับ AAA กันเลยล่ะ!! โดยปกติแล้วนักคอสเพลย์ก็มักจะจำกัดวงในการคอสของตัวเองอยู่ที่ตัวละครหญิง ชาย หรือหุ่นยนต์ไม่ก็ปีศาจอย่างเต็มตัว แต่สำหรับ Alyson แล้ว เธอสามารถจะแปลงกายเป็นได้ทุกตัวละครเลยทีเดียวล่ะ บรรยายกันมายาวแล้ว ลองมาดูผลงานของเธอกันเลยดีกว่า ว่าที่คุยมันจริงมากน้อยแค่ไหน เอ้ามาดูกันเลย!! Edward Scissorhands Captain Jack Sparrow Vampire หนุ่ม Leeloo จาก The Fifth Element ไททันหญิง จากเรื่อง…
-
คู่รักชาวซิกข์ ถูกปฎิเสธไม่ให้รับ “ลูกบุญธรรม” ที่เป็นคนผิวขาว แถมไล่ให้ไปรับจากอินเดียแทน
ทุกวันนี้การเหยียดเชื้อชาติ สีผิวและศาสนาถูกต่อต้านจากผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังคงมีหลายๆ ประเทศที่มีความขัดแย้งในเรื่องนี้อยู่ อย่างกรณีของ Sandeep และ Reena Mander คู่รักชาวซิกข์ จากอังกฤษ อาศัยอยู่ใน Berkshire ที่ถูกปฏิเสธไม่ให้รับเด็กเลี้ยงทารกผิวขาว เพียงเพราะวัฒนธรรม และให้ไปรับเด็กจากอินเดีนมาเลี้ยงแทน ทั้งคู่เป็นนักธุรกิจและได้บอกหน่วยงานการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมว่าพวกเขาพร้อมและยินที่จะรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมจากทุกเชื้อชาติ หลังจากที่ตรวจสอบประวัติแล้ว ทั้งคู่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมทุกประการ แต่ทางหน่วยงานบอกว่ายกเว้นเด็กผิวขาวที่พวกเขาไม่สามารถรับเลี้ยงได้ ทางด้าน Adopt Berkshire หน่วยงานที่ดำเนินการโดย Royal Borough of Windsor และ Maidenhead บอกว่าพ่อแม่ชาวอังกฤษหรือยุโรปต้องรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมที่มีเชื้อชาติเดียวกันเท่านั้น สำหรับคู่รัก Mander นั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับอินเดียเลย แค่นับถือศาสนาซิกข์ พวกเขาคิดว่ามันเป็นการเลือกปฏิบัติในการให้บริการ ดังนั้นทั้งคู่จึงตัดใจดำเนินคดีกับหน่วยงานดังกล่าว Reena พยายามตั้งครรภ์ตลอด 7 ปี และเข้ารับการ IVF อีก 16 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถมีลูกได้ ก็เลยตกลงกับสามีว่าจะรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยไม่เกี่ยงเชื้อชาติ เพราะทั้งคู่อยากมีลูกจริงๆ Sandeep บอกว่า “เราตั้งใจจะรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม แต่กลับถูกปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะเรื่องความพร้อมของครอบครัวแต่เป็นเพราะเรื่องวัฒนธรรมของเรา พวกเขาเลยให้รับเลี้ยงเด็กผิวขาวแต่ให้ไปรับจากอินเดียหรือปากีสถานแทน” …
-
อย่าจับหมากรูว์… Jennifer Lawrence ฉุนนักข่าว ที่พยายามจะแตะเจ้า Pippi สุนัขของเธอ
นอกจากในโลกนี้จะมีทาสแมวอยู่จำนวนมากแล้วยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ตกเป็นทาสของสุนัข ที่ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องมีเจ้าสุนัขตามไปด้วยตลอด หรือรีบเลิกงานเพื่อไปหาเจ้าตูบที่รออยู่บ้าน ซึ่งใครที่เป็นทาสหมาก็จะเข้าใจถึงความรู้สึกนี้ดี และไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือดาราดังอย่าง Jennifer Lawrence ก็มีอารมณ์หวงน้องหมาเหมือนกันทั้งนั้น โดยเราจะพาไปชมเหตุการณ์ที่เธอนั้น หวงน้องหมาแบบสุด เรียกได้ว่า หมาข้าใครอย่างแตะ!!! เมื่อไม่นานมานี้สำนักข่าว TMZ ได้โพสต์คลิปการตามสัมภาษณ์ดาราสาวมากความสามารถ Jennifer Lawrence ที่เธอเพิ่งลงจากเครื่องบิน LAX ที่ต้องลงจอดฉุกเฉิน ทำให้เธอไม่ค่อยสบอารมณ์ที่จะให้สัมภาษณ์เท่าไหร่นัก โดยนอกจากเธอและบอดี้การ์ดแล้ว ก็ยังมีเจ้าหมาตัวน้อยที่ชื่อว่า Pippi ลงมาด้วย ซึ่งในขณะนั้นนักข่าวก็ตามสัมภาษณ์เธออย่างไม่ลดละ แต่เจ๊เจนลอว์ ก็ยังคงเดินต่อไปโดยไม่สนที่จะตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น หนุ่มนักข่าวสุดกวนคนนี้จึงคิดไอเดียดีๆ ออก เผื่อว่าดาราสาวจะหันมาสนใจบ้าง โดยฮีคนนี้ก็ได้เอื้อมมือไปเล่นกับน้องหมาและทักทายว่า “หวัดดี!! เจ้าหมาน้อย” “ว่าไงงงง เจ้าหมาน้อยย” !! และแล้วเธอก็หันมาจริงๆ แต่เจ๊เจนลอว์กลับหันมาอุ้มหมาของเธอไป แล้วตอกหน้านักข่าวไปว่า “อย่ายุ่งกับหมากรูนะ ไอ่ขี้เผือก” พูดเบาๆ แต่เจ็บจี๊ดๆ คราวนี้ก็คงรู้แล้วนะ ว่าหมาข้าใครอย่าแตะ อ้าว พูดแรงไปเหรอขอโทษที คราวหลังก็อย่ามาแตะ Pippi…
-
ช่างภาพทำโปรเจคถ่ายภาพ “คนผิวเผือก” เพื่อเผยให้เห็นถึงความงดงามของพวกเขา
ผิวเผือก หรือ Albinism เกิดจากยีนด้อย ที่มีอยู่ในพันธุกรรม ทำให้ผู้ที่เป็นโรคนี้ มีสีผิวขาว ผมขาว ตาสีขาว ม่านตาสีเทาและโปร่งแสง รูม่านตาสะท้อนแสงออกมาเป็นสีแดง ร่างกายอ่อนแอติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ดังนั้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีแล้ว Yulia Tait ได้ทำโปรเจกต์ที่มีชื่อว่า Porcelain Beauty เพื่อเผยให้เห็นความงดงามของคนผิวเผือก จนได้รับความสนใจจากทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะคนผิวเผือก Yulia บอกว่า “คนผิวเผือกจำนวนมากส่งข้อความหาฉัน บอกว่าโปรเจกต์ของฉันทำให้พวกเขารู้สึกมีพลังและมีความมั่นใจมากขึ้นกับสิ่งที่เป็น” Tair กับ Gili นี่เป็นปัจจัยที่ทำให้ Yulia ตัดสินใจทำ Porcelain Beauty Volume 2 เพื่อเป็นกำลังใจคนผิวเผือกทุกคนบนโลกใบนี้ และเพื่อทำให้สังคมเข้าใจพวกเขามากขึ้นด้วย เธอได้บอกคนผิวเผือกทุกคนว่า “ขอบคุณที่ชอบและสนับสนุนผลงานของฉัน เพราะถ้าไม่มีพวกคุณฉันก็ไม่สามารถสร้างภาพที่มีพลังและสวยงามเช่นนี้ได้เหมือนกัน” Shira Ortal Yali Neta Nitay Michal Ofek Rafael Noa …
-
ภาพความประทับใจ ความรักระหว่างคุณตาและคุณยาย แม้จะผ่านมา 70 ปี รักก็ยังไม่จืดจาง
คู่รักหลายๆ คู่ เมื่ออยู่กินกันไปนานๆ ก็จะมีความรู้สึกเบื่อและไม่แสดงความรักให้กันเหมือนตอนคบกันแรกๆ แต่กับบางคู่เวลาไม่อาจทำลายความรักของพวกเขาได้เลย เหมือนกับคุณตาคุณยาย Ollie และ Donald King ที่แต่งงานกันมา 68 ปี แล้วแต่ความรักของพวกเขายังคงเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันยังไงอย่างงั้น เมื่อต้นเดือนที่ผ่าน หลานสาวรู้ว่าใกล้จะถึงวันครบรอบของคุณตาคุณยาย เลยได้จัดให้ทั้งคู่ถ่ายรูปโชว์ความหวานโดยช่างภาพ Paige Franklin การถ่ายรูปในครั้งนี้แทบจะไม่ต้องจัดฉากอะไรมาก เพราะคุณตาคุณยายได้แสดงออกมาตามความรู้สึก ดูแล้วน่ารักน่าอิจฉามาก และ Paige ยังได้แชร์ภาพของคู่ลงในเพจเฟซบุ๊ก Love What Matters ด้วย ช่างภาพบอกว่า “ฉันรักการถ่ายรูปมากขึ้นหลังจากที่ได้เห็นคุณตากับคุณยายแสดงความรักให้กัน และกำลังจะครบรอบ 68 ปี ในเดือนกันยายนนี้ค่ะ” เมื่อถามคุณตาว่าประทับใจอะไรในตัวคุณยายมากที่สุด เขาหันไปมองหน้าช่างภาพและมองไปที่คุณยายแล้วตอบว่า “เธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่งกว่าอะไรทั้งปวงในโลกนี้” แม้เวลาจะผ่านไปนานเกือบ 70 ปี แต่คุณตาคุณยายก็ยังเป็นคนพิเศษของกันและกันเสมอ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมความรักของทั้งคู่ถึงไม่จืดจางเลย . . . . . …
-
พบกับ “เบอร์เกอร์สุดล้ำ!!” ที่ไม่ใช่เบอร์เกอร์ธรรมดาๆ เพราะคุณต้องให้เวลาในการดื่มด่ำมัน
เมื่อเพื่อนๆ หิวจนท้องบิด อาหารจากด่วนที่ง่ายที่สุดคงจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ เพราะแค่ขับรถเข้าไปซื้อไม่กี่นาทีก็ได้กินของอร่อยๆ ที่อิ่มอยู่ท้องกันแล้ว แต่ในปัจจุบันเบอร์เกอร์มันไม่ได้เป็นแค่เบอร์เกอร์เท่านั้น พวกเราปรับสูตรให้มันกลายเป็นอาหารจานอร่อยและอยากใช้เวลากับมันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใส่ชีสจนเยิ้ม หรือการใส่ไข่ให้ชุ่มฉ่ำ ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เราคลั่งใคล้ในความอร่อยของแฮมเบอร์เกอร์มากขึ้น ครั้งนี้จึงจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับเบอร์เกอร์ล้ำๆ ที่เห็นแล้วต้องน้ำลายไหล จนต้องไปหาซื้อมาทานเดี่ยวนี้กันเลย 1. เบอร์เกอร์ชิ้นพอดีคำบวกกับชีสละลายเยิ้มๆ ทำเอาหิวไปตามๆ กัน 2. สาวกชีสต้องกรี๊ดกับเมนูนี้แน่ๆ ก็ดูปริมาณชีสที่ราดลงไปสิ ทานหมดไม่พอก็เลียนิ้วด้วย 3. เบอร์เกอร์ที่มีราคาถึง 2000$ หรือตีคราวๆ ก็ประมาณ 67,000 บาท ราคานี้อาจจะดูถูกลงถ้าคุณรู้ว่าในเบอร์เกอร์นี้มีทั้ง ลอปสเตอร์ คาเวียร์ ทรัฟเฟิล และเคลือบด้านบนด้วยทองคำเปลวหนาๆ 4. แมคแอนด์ชีสก็สามารถมาเยิ้มอยู่ในเบอร์เกอร์ได้นะ 5. เบอร์เกอร์ที่เพิ่มความกรุบกรอบด้วยชีโตสและไม่ลืมที่จะราดชีสแบบจัดหนัก 6. ถ้าคุณเลือกไม่ถูกว่าจะทานอะไรดี เบอร์เกอร์ชิ้นนี้ได้รวมชมทั้งแมคแอนด์ชีส ชีโตสและเนื้อฉ่ำๆ ไว้ให้คุณแล้ว 7. เบอร์เกอร์ 10 ชั้น ที่ทานมากๆ ต้องหัวใจวายแน่นอน…
-
ชาวฮิปปี้เฮ!! CEO โฟล์คยืนยันมีผลิตและจำหน่าย ‘ID Buzz’ รถตู้แห่งอนาคตแน่นอน..
หลังจากในงาน Detroit Motor Show 2017 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทางบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากเยอรมันได้เปิดตัวคอนเซ็ปต์การนำรถตู้สุดคลาสสิก มาปรับปรุงใหม่และพัฒนาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น (อ่านข่าวเก่า Volkswagen เปิดตัว ‘I.D.Buzz’ ผสมผสานความวินเทจกับความล้ำสมัย ได้อย่างลงตัว!!) และล่าสุดเหมือนความฝันของผู้ที่หลงรักในความคลาสสิกนี้ใกล้จะเป็นจริงแล้ว เมื่อทางคุณ Herbert Diess CEO ของบริษัทดังกล่าวได้ออกมายืนยันแล้วว่าพวกเขานั้นจะพัฒนารถคันดังกล่าวและทำออกมาจำหน่ายอย่างแน่นอน!! คุณ Herbert Diess กล่าวว่า “อารมณ์ความรู้สึกของรถนั้นเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ตอนนี้เรายังคงจำหน่ายรถรุ่น Beetles ในประเทศอังกฤษ ที่ผ่านมาเราเพิ่งเปิดตัวรถตู้จากโลกอนาคตอย่าง ID Buzz และเราตัดสินใจที่จะผลิตมันในเร็วๆ นี้” นี่คือโฉมหน้าของเจ้า ID Buzz ที่ทาง Volkswagen ได้ยืนยันว่าจะมีการพัฒนาและผลิตออกมาจำหน่ายแน่นอน ส่วนทางด้านสมรรถนะของเจ้ารถคันนี้ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆ นอกจากรูปร่างที่ถอดโครงมาจากรถตู้รุ่นคูณปู่แล้ว มันยังมีเทคโนโลยีที่เจ๋งๆ อีกด้วย ทั้งการใช้กระแสไฟฟ้า การขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการประมวลผลสภาพถนนแบบเรียลไทม์ ทางบริษัทผู้ผลิตบอกว่าบริมาณแบตเตอร์รี่ 80 เปอร์เซ็นนั้น จะใช้เวลาชาร์จไฟเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น และสามารถเดินทางไกลได้ถึง 482 กิโลเมตรเลยทีเดียว และนี่คือภาพภายในของเจ้ารถตู้แห่งอนาคตนี้ .…
-
10 เรื่องจริงเกี่ยวกับการคลอดลูก ที่ถึงจะดูน่ากลัว แต่คุณก็อยากรู้เกี่ยวกับมันใช่มั้ยล่ะ?
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนอาจจะวาดภาพความฝันในอนาคตไว้เป็นภาพของครอบครัว โดยมีตัวเองเป็นคุณแม่ที่คอยเลี้ยงดูลูกๆ และสามีด้วยความรัก หากแต่ว่าการคลอดลูกเนี่ยสิที่จะทำให้สาวๆ หลายคนรู้สึกกลัว และวันนี้เราจะพาทุกคนไปอ่าน 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับการคลอดลูกที่ถูกเปิดเผยโดยคุณหมอ Mary Jane Minkin ผู้เชี่ยวชาญด้านสูตินารีจากมหาวิทยาลัยเยล 1. เรื่องขับถ่ายระหว่างการคลอด สาวๆ หลายคนอาจจะกังวลว่าระหว่างที่เรากำลังเบ่งลูกน้อยออกมา ร่างกายของเรามันจะเบ่งสิ่งปฏิกูลจากช่องทวารหนักออกมาด้วยรึเปล่า? คำตอบคือ.. ‘ใช่’ โดยคุณหมอได้อธิบายว่า “เป็นเรื่องธรรมชาติที่การคลอดบุตรหญิงสาวจะเบ่งอุจจาระออกมาด้วย ซึ่งนั่นถือว่าเป็นสัญญาณของการคลอดลูกที่ดี” 2. ความกังวลถึงรูปร่างของน้องสาวที่อาจเปลี่ยนไป เป็นเรื่องจริงที่ลักษณะภายนอกของน้องสาวเราอาจเปลี่ยนไปหลังการคลอดลูก แต่ปัจจุบันมีคอร์สที่เรียกว่า ‘perineal massage’ ซึ่งก็คือการนวดบริเวณตรงนั้นนั่นแหละ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณหมอก็ให้ความเห็นว่า ถึงแม้ว่าหมอผู้ทำคลอดจะไม่เปิดบริเวณช่องคลอดให้ ตามธรรมชาติแล้วอวัยวะส่วนนั้นก็จะขยายตัวและฉีกขาดได้เองอยู่ดี 3. อาจจะต้องมีการสอดท่อเพื่อช่วยปัสสาวะ ถ้าหากว่าระหว่างคลอดคุณหมอได้ต่อสายยาแก้ปวดให้ ส่วนใหญ่แล้วหลังคลอดกล้ามเนื้อส่วนนั้นจะไม่สามารถขยับได้หากเราต้องการปัสสาวะ เพราะฉะนั้นในบางกรณีหญิงสาวบางคนอาจจะจำเป็นต้องสอดท่อปัสสาวะ เพื่อช่วยให้พวกเธอสามารถขับถ่ายได้หลังคลอด 4. หญิงสาวหลายคนอาเจียนระหว่างทำคลอด ระหว่างการทำคลอดสาวๆ หลายคนอาจจะมีความรู้สึกพะอืดพะอมและอยากจะอาเจียนออกมา ถ้าหากคุณรู้สึกแบบนี้ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะในทางการแพทย์นั้นถือว่าเป็นสัญญาณความพร้อมสำหรับการทำคลอดนั่นเอง 5. หลังจากที่คุณคลอดลูกแล้ว ร่างกายคุณจะคลอดพลาเซนต้าออกมาด้วย คุณหมอเล่าว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้หญิงที่หลังจากคลอดลูกแล้ว ร่างกายจะทำการขับสิ่งที่เรียกว่า…
-
ไอ้หมาเห็นแก่กิน!! สองตูบหายหัวไป 4 วัน เจ้าของเอาไส้กรอกมาย่าง จู่ๆ ก็โผล่มาเฉย!!
เจ้าของสุนัขสองตัวรู้สึกใจคอไม่ดี เมื่อสุนัขของเขาทั้งสองตัวอยู่ดีๆ ก็หายไปจากบ้านนานกว่า 4 วันก็ยังไม่กลับมาสักที ด้านเจ้าของออกตามหายังไงก็ไม่พบ จนเจ้าของต้องงัดไม้ตายออกมาด้วยการย่างไส้กรอก แว๊บเดียวเท่านั้นแหละหมาสองตัวที่หายไปก็กลับมาทันที!!? Charlie และ Theo คือชื่อของเจ้าหมาพันธุ์ชเนาเซอร์สองตัว ที่อยู่ดีๆ ระหว่างออกไปเดินกับ Liz กับ Graham Hampson ผู้เป็นเจ้าของ พอพวกเขาเผลอแปปเดียวเจ้าตูบทั้งสองก็หายไปทันที งานนี้เล่นเอาหากันวุ่นเลยทีเดียว Charlie และ Theo สองตูบต้นเรื่อง ด้านเจ้าของนั้น พอรู้ว่าสุนัขสุดที่รักของตัวเองสองตัวหายไป พวกเขาก็ไม่รอช้ารีบออกตามหาพวกมันทันที จนแล้วจนรอดพวกเขาก็ยังหาสุนัขทั้งสองไม่เจอสักที พวกเขาจึงขยายสเกลการตามหาเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นการตั้งแคมเปญช่วยตามหาสุนัขขึ้น อาสาสมัครกับทีมงานมากกว่า 120 คนและโดรนอีกสองตัว ต่างช่วยกันตามหาเจ้าตูบทั้งสองกันอย่างสุดความสามารถ จนการค้นหากินเวลาไปกว่า 96 ชั่วโมง พวกเขาก็ยังหามันไม่เจอสักทีจนพวกเขาเริ่มจะหมดกำลังใจ แต่ว่า Graham ผู้เป็นสามีกลับเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ เขานึกได้ว่าสุนัขทั้งสองของเขามันชอบไส้กรอกมากๆ เขาจึงอยากจะลองวิธีของตนดู โดยการไปใกล้ๆ กับจุดที่พวกมันหาย จากนั้นก็ทำการตั้งเตาบาบีคิวพร้อมย่างไส้กรอกให้กลิ่นหอมลอยออกไป เชื่อไหมว่าในเวลาไม่นานเจ้าตูบสองตัวมันก็โผล่ออกมาทันที!! งานนี้เล่นเอาเงิบกันทั้งขบวน ซึ่งมันทำให้ทุกคนรู้ทันทีว่าสุนัขสองตัวนี้มันเห็นแก่กินแค่ไหน ฮร่าๆ ยังไงก็ตามพวกเขาก็ดีใจที่สุนัขของพวกเขากลับมา…
-
หมาโดนย้อมสีแล้วเอาไปทิ้ง เพราะหมดประโยชน์ ไม่อาจสร้างเงินให้เจ้าของได้แล้ว..!!
เป็นอีกครั้งที่เราจะได้เห็นความน่าสงสารของหมาน้อย 2 ตัว ที่โชคร้ายไปเจอกับเจ้าของเก่าผู้ใจร้ายเอามันไปย้อมสีเพื่อหวังใช้พวกมันสร้างรายได้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย เว็บไซต์ TheSun รายงานว่ามีชาวบ้านพบเห็นสุนัขถูกย้อมเป็นสีสองตัว ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างน่าสงสารที่บริเวณ Gelendzhik สำหรับเรื่องนี้จะโทษคนเพาะเลี้ยงอย่างเดียวก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะก่อนหน้านี้เทรนด์การเลี้ยงสุนัขย้อมสีได้รับความนิยมสูงมากในประเทศรัสเซีย ทว่าปัจจุบันความต้องการทางตลาดอาจลดลง ทำให้มีข่าวคราวแบบนี้มาให้เราเห็นกันมากขึ้น ถึงแม้จะไม่มีการชี้ชัดว่าสุนัขผู้น่าสงสารทั้งหลาย ถูกมนุษย์จับย้อมสีขนด้วยวิธีการใด แต่ทีมสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวเหลือพอจะดูออกว่าวิธีการและสีที่ใช้นั้นมีคุณภาพที่ต่ำมาก Mark Protsenko ผู้ประกอบการเจ้าของฟาร์มสุนัขหลากสี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเทรนด์การจับหมามาย้อมสีว่า “เอาจริงๆ นะ พวกสัตว์ไม่ต้องทำงานหาเงินเพื่อซื้อสิ่งของภายนอก มันต้องการก็แค่อาหารและที่อยู่ เรายอมรับว่าเราเพาะพันธุ์ลูกสุนัขย้อมขนขาย แต่มันก็ไม่แฟร์เอาซะเลยที่จะมาโทษเรากับเรื่องที่พวกมันถูกเจ้าของคนที่ซื้อไปทิ้งอย่างไร้เยื่อใย” นอกเหนือจากเพาะพันธุ์ลูกสุนัขย้อมสีแล้ว บ่อยครั้งที่ Mark Protsenko และภรรยามักจะพาลูกสุนัขคอกใหม่ออกไปเดินเล่นในเมืองเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคน และทำรายได้ให้เขาสูงถึงวันละ 10,000 บาทเลยทีเดียว “คู่รักสองคนนี้มักจะออกมาเดินตามท้องถนนพร้อมกับลูกสุนัขคอกใหม่เสมอ ทั้งสีชมพู สีน้ำเงิน หรือบางตัวก็ถูกทาสีให้ดูเหมือนสิงโต” กลุ่มอนุรักษ์ออกมาแฉพฤติกรรมดังกล่าว นอกจากนั้นพวกเขายังได้ตามสังเกตการณ์และพบว่า สองสามีภรรยาคู่นี้มักจะเดินทางไปตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ เช่นอาทิตย์ที่แล้วพวกเขาไปปรากฎตัวที่ Novorossiysk และล่าสุดก็ที่เมือง Gelendzhik ถึงแม้ว่าตามข้อกฎหมายจะยังไม่สามารถเอาผิดผู้ประกอบการด้านนี้ได้ แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้สองตูบสีชมพูผู้ถูกทิ้งไว้กลางทางได้รับการช่วยเหลือแล้ว น่าสงสารจริงๆ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่…
-
หญิงสาวสร้างภาพสัตว์เสมือนจริงขึ้นมา ด้วยอุปกรณ์ฟรุ้งฟริ้งขนาดจิ๋ว สไตล์ผู้หญิ๊งผู้หญิง…
ในสมัยที่ Sarah Jane Connors ยังเป็นเด็ก เธอค้นพบว่าสวนหลังบ้านเธอเปรียบดั่งแหล่งที่ขุดสมบัติชั้นเลิศ เพราะมันเต็มไปด้วยเศษเครื่องปั้นดินเผา และเศษแก้วที่ดูระยิบระยับตา พอโตขึ้นเธอก็ได้รู้ว่าร้านขายของมือสองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของการกุศล หรือร้านเปิดท้ายขายของ เป็นเสมือนกล่องสมบัติล้ำค่าของเธอ และวันนี้เธอก็ได้นำสองสิ่งที่ชอบมารวมกันเป็นงานศิลปะอันล้ำค่า เธอจัดการนำวัสดุขนาดจิ๋วต่างๆ มาเรียงร้อยกันให้ออกมาเป็นภาพสัตว์ต่างๆ เมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นว่ามันถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีบรรจง ผลงานแต่ละชิ้นใช้เวลานานกว่า 1 – 2 เดือนเลยทีเดียว เพราะเธอต้องใช้เวลาในการรวบรวมวัสดุแบบผู้ญิ๊งผู้หญิงทั้งหมดนี้ จากนั้นก็ต้องใช้เวลาในการออกแบบ และสิ่งที่ยากสุดก็คือขั้นตอนการเรียงร้อยอย่างบรรจง จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่แล้วลูกปัดและกระดุมจะเป็นวัสดุหลักของเธอ นอกจากเว็บไซต์ส่วนตัวของเธอ Sarahjaneconnors.com ที่นำผลงานมาโชว์แล้ว เธอก็มักจะเผยแพร่ภาพผลงานผ่านอินสตาแกรม @sarahjaneconnors ด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกวิธีการสร้างงานศิลปะที่แปลกใหม่ และยังต้องใช้ทั้งฝีมือ ความใจเย็นและความปราณีต เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจผลงานของเธอก็สามารถไปติดตามชมเพิ่มเติมกันได้เลย ผลงานสวยเหมือนคนทำเลยอ๊ะ >< ที่มา: Boredpanda
-
10 ความจริงเกี่ยวกับหน่มน๊ม ที่แม้แต่คุณผู้หญิงทั้งหลายเอง ก็อาจจะไม่เคยรู้มาก่อน!?
หน้าอกหน้าใจ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงได้อย่างชัดเจน และแน่นอนว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คงจะให้ความสำคัญกับจุดๆ นี้มากที่สุด เพราะมันเป็นสิ่งที่สร้างความสนใจ และสร้างความมั่นใจให้กับสาวๆ ยังไงละ แม้ว่า “นม” จะเป็นหนึ่งในอวัยวะที่ผู้หญิงต้องดูแล และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีเรื่องราวต่างๆ อีกมากมายของนมที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และนี่คือ 10 ความจริงเกี่ยวกับหน่มน๊ม ที่แม้แต่ผู้หญิงเองก็อาจจะไม่เคยรู้ มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง!! 1.เรื่องของหัวนม รู้หรือไม่? 2 ถึง 6 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิง และ 1 ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ของผู้ชาย จะมีหัวนมที่ 3 ด้วยนะเออ และมันก็สามารถปรากฏได้ในที่ต่างๆ ตามร่างกายรวมถึงเท้าด้วยนะ 2.นมแม่มีความหวานมากกว่านมวัว มีผู้คนจำนวนมากที่ได้ลิ้มรสนมจากเต้า และค้นพบว่านมแม่มีรสชาติคล้ายกับแคนตาลูปหวานๆ 3.ทรวงอกของผู้หญิงมีขนาดไม่เท่ากัน ผู้หญิงส่วนใหญ่เผยว่า พวกเธอสามารถมองเห็นความแตกต่างระหว่างขนาดของหน้าอกทั้งสองข้างได้ และแน่นอนว่ามันสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ 4.ขนาดของยกทรง จากการศึกษาพบว่า กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงมักจะสวมชุดชั้นในผิดไซส์ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่นอาการปวดหลัง และอาการท้องอืดท้องเฟ้อ 5.กาแฟสามารถทำให้หัวนมไวต่อความรู้สึกมากขึ้น…
-
หมาโคลนนิ่งที่เกิดจาก “ใบหูของแม่” ในที่สุดทั้งคู่ก็ได้มาเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรกเสียที…
การโคลนนิ่งในยุคนี้เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นเรื่องธรรมดาแล้วก็ว่าได้ เพราะการโคลนนิ่งสัตว์ได้สำเร็จเราก็สามารถเห็นกันได้อยู่บ่อยๆ แต่ว่าการโคลนนิ่งแล้วให้ตัวต้นแบบกับตัวโคลนมาเจอกันนั่นไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยๆ นั่นเอง เรื่องราวในครั้งนี้จึงเป็นการพบกันระหว่างสุนัขที่เป็นร่างต้นจากรัสเซีย กับสุนัขร่างโคลนที่เกิดจากใบหูของร่างต้นที่เกาหลีใต้ และแน่นอนว่าทั้งคู่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนมีลูกหรือมีแม่อยู่ ส่วนสาเหตุที่ลูกสุนัขถูกโคลนนิ่งขึ้นมานั้นก็เพื่อเป็นการรักษาพันธุ์สุนัขลากเลื่อนที่เริ่มหายไปทุกๆ วันไว้ ส่วนวิธีการนั้นพวกเขาก็ใช้ชิ้นส่วนเล็กๆ จากใบหูของตัวแม่สุนัขจากนั้นก็ส่งต่อไปให้ทีมนักวิจัยเพื่อทำการโคลนนิ่งที่ประเทศเกาหลีใต้ Dr. Hwang Woo Suk คือหัวหน้าทีมวิจัยจาก Sooam Biotech Research Foundation ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่วิจัยและโคลนนิ่งลูกสุนัขขึ้นมาจนสำเร็จและตั้งชื่อมันว่า Belekh เมื่อลูกสุนัขโคลนนิ่งมีสุขภาพที่แข็งแรงจนมีอายุครบ 3 เดือน พวกเขาก็ตัดสินพามันกลับไปหาตัวแม่สุนัขผู้เป็นร่างต้นแบบที่ประเทศรัสเซีย ทางด้านของ Dimitry ผู้เป็นเจ้าของแม่สุนัขเมื่อพบว่าทีมแพทย์ได้พาลูกสุนัขกลับมาเจอแม่มันอีกครั้ง เขาก็พูดขึ้นว่า “ผมไม่อยากเชื่อเลยว่า ลูกสุนัขตัวนั้นเป็นสุนัขที่เกิดขึ้นจากการโคลนนิ่ง มันดูเหมือนกันมากๆ ราวกับว่าเกิดมาจากท้องจริงๆ เลย” สุดท้ายแล้วเมื่อทั้งคู่ได้เจอกัน พวกมันก็ได้ใช้เวลาด้วยกันหลายวันเลยทีเดียว และพวกมันก็ดูจะมีความสุขมากๆ เลยล่ะ ที่มา mirror
-
ความแตกต่างจากภาพยนตร์ที่อ้างมาจากเรื่องจริง ในความแท้ทรูกลับกลายเป็นคนละเรื่อง!!?
หลายคนที่ชื่นชอบดูหนังน่าจะเคยเห็นหนังที่มาพร้อมกับคำที่ว่า “สร้างจากเรื่องจริง” หรือ “สร้างจากเหตุการณ์จริง” กันอยู่บ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ แต่เชื่อไหมว่าหนังที่มีคำเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนมีการแต่งเติมแทบทั้งสิ้น ฉะนั้นในครั้งนี้เราก็เลยจะมาดูหนัง 5 เรื่องที่บอกว่าสร้างจากเรื่องจริง แต่เรื่องจริงที่หนังบอกกลับเป็นเรื่องแต่งเสริมขึ้นมาเพื่อความอรรถรสความบันเทิง แล้วเรื่องจริงที่แท้ทรูนั้นจะเป็นอย่างไร มาตามอ่านกันได้เลย… Captain Phillips ถ้าใครที่ยังไม่ได้ดูเรื่องนี้แนะนำให้ไปหามาดูเลย เพราะเป็นหนังที่สนุกมากๆ โดยเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าถึงตัว Captain Phillips (รับบทโดย Tom Hanks) ผู้เป็นหัวหน้าของเรือสินค้าที่เดินเรืออยู่ในคาบสมุทรโซมาเลีย นอกจากนั้นในหนังยังเล่าถึงเหตุการณ์ความกล้าหาญของตัว Captain Phillips ที่ช่วยให้ตัวเองและลูกเรือรอดจากการถูกเหล่าโจรสลัดเข้าปล้นอีกด้วย ทว่าความจริงจากปากของลูกเรือในเหตุการณ์จริงกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น ที่สำคัญมันทำลายภาพคนดีในหนังไปทันที เพราะลูกเรือบอกว่าตัวจริงของ Captain Phillips นั้นเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก และเขาไม่เคยสนใจลูกเรือเลยด้วยซ้ำ นอกจากนี้หลังจากเหตุการณดังกล่าว ลูกเรือก็เข้าฟ้องตัวบริษัทของตนเป็นมูลค่าเกือบ 170 ล้านบาทเลยทีเดียว The Last King of Scotland หนังที่บอกเล่าถึงนายแพทย์ Nicholas Garrigan ที่รับบทโดย James McAvoy ซึ่งพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร Nicholas กับ Idi Amin…
-
มาชม 10 ภาพ “อาหารสุดแปลก” ที่คนหิวจัดๆ มาเห็น ต้องหัวร้อนเป็นแน่แท้!!
เมื่อเราหิวจนท้องกิ่วท้องร้อง คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้ทานอาหารอร่อยๆ ฉ่ำๆ แล้ว ยิ่งถ้าหน้าตาของอาหารดูสวยงามน่าทานก็ถือว่าเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ แต่เพื่อนๆ เลิกจินตนาการถึงอาหารเหล่านั้นไปได้เลย เพราะครั้งนี้เราไม่ได้พาไปชมอาหารหน้าตาดีแบบเดิมๆ อีกแล้ว เราจะพาเพื่อนๆ ไปพบอาหารที่เห็นแล้วต้องหายอยากอาหาร หรือใครเห็นเข้าก็อาจจะโมโหหงุดหงิดเอาได้ 1. เบอร์เกอร์ผักดอง เมื่อแตงกวาดองไม่ใช่เครื่องเคียงอีกต่อไป มันเหมาะกันคนรักของดองที่ซู้ดดด!! 2. ไอศกรีมขี้ เอาจริงๆ เมนูนี้ก็ดูน่ารักดี ก็พราะเจ้าอุนจิที่ยิ้มแฉ่งนี่แหละ 3. นักเก็ตถั่วลันเตาและปลาลวก บางทีอาหารก็ทำให้เราเลิกหิวได้เหมือนกัน นอกจากที่มันจะไม่เข้ากันแล้ว เจ้านักเก็ตยังมีตาสีเขียวที่ดูน่ากลัวสุดๆ อีกด้วย 4.อาหารคุณแม่ บางทีแม่ก็อยากให้เราทานของที่มีในตู้เย็นให้หมดๆ ไป โดยไม่แคร์ว่ามันจะเข้ากันได้หรือเปล่า 5. เมื่อคุณหิวมากๆ แต่ข้าวยังหุงไม่สุก กรวยไอศกรีมนี่แหละ มีอะไรก็กินๆ ไปก่อน 6. ค็อกเทลเร่งด่วน บางทีการกินน้ำสับปะรดจากกระป๋องก็ทำให้เราดูฮิปสเตอร์ได้มากกว่า 7. อยากสวยต้องงดแป้ง แต่ไม่ได้ให้ทำแบบนี้โวยยยย!!! พิซซ่าที่ไม่มีแป้ง คิดได้ไงเนี้ย?? 8. ทำอาหารให้แฟนกันดีกว่า ให้รางวัลแฟนสุดน่ารักที่ขยันไปดื่มกันเพื่อนทุกคืน…
-
ศิลปินสร้างหน้าปกคอมมิกส์ขึ้นมาใหม่ ด้วยการใช้ลูกโป่งเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญเป๊ะสลัด!!
Phileas Flash ศิลปินที่ใช้เวลาในการฝึกฝนและสร้างผลงานด้วยลูกโป่งมานานกว่า 13 ปี จนล่าสุดเขาได้เลือกจะสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ที่เหล่าแฟนๆ คอมมิกส์ฝั่งตะวันตกได้เห็นแล้ว จะต้องรู้สึกปลื้มปลิ่มอย่างแน่นอน ผลงานที่ว่านั้นก็คือ การบิดลูกโป่งเป็นรูปหน้าปกหนังสือคอมมิกส์ทั้งจากค่าย DC และ Marvel ซึ่งเขายังบอกว่าตอนที่เขาได้อ่านคอมมิกส์เป็นครั้งแรก เขาก็รู้สึกว่าเขาชอบในงานอาร์ตของหน้าปกมากๆ เขาจึงอยากจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วยฝีมือของเขานั่นเอง โฉมหน้าของ Phileas Flash และผลงานดั้งเดิมของเขา ส่วนนี่ก็คือหน้าปกคอมมิกส์ทั้งหมดที่เขาสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยการบิดลูกโป่ง งานชิ้นแรกเป็นรูปหน้าปกจาก Batman: The Killing Joke ตามมาด้วย Superman Vs Muhammed Ali หน้าปก Amazing Spider-man, Vol. 1, #2 มี Vulture ด้วยเข้ากับกระแส Homecoming เลยนะเนี่ย Wonder Woman ฉบับที่ 72 แม้หน้าจะแปลกๆ หน่อยแต่ก็โอเคอยู่ The Fantastic 4…
-
ครูอนุบาลโดนไล่ออก เพราะเธอปฏิเสธที่จะล้มเลิกความฝันในการเป็น “ดาราหนังโป๊”
เชื่อว่าเราทุกคนมีความฝันที่แตกต่างกันไป และทุกคนก็อยากทำตามความฝันของตัวเองอย่างที่ตั้งใจ ซึ่งบางคนก็สามารถไขว่คว้ามาได้ แต่บางคนก็เลือกที่จะปล่อยให้มันหลุดมือไป เช่นเดียวกันกับคุณครูคนนี้ Nina Skye เธอก็มีความฝันเหมือนกับพวกเราทุกๆ คน แต่ความฝันของเธอนั้นมันสวนทางกับอาชีพที่เธอกำลังทำอยู่อย่างมาก Nina Skye เป็นคุณครูอนุบาลของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอถูกไล่ออกจากงานเพราะงานอดิเรกของเธอในฐานะ “ดาราหนังโป๊” นั่นเอง เหตุผลที่ทำให้เธอถูกไล่ออกจากงานการเป็นคุณครูก็เพราะว่างานอดิเรกอย่างการเป็นดาราหนังโป๊นั้นมันผิดต่อจริยธรรมทางสังคม มันอาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่เด็กๆ ได้ Nina กล่าวว่า “การถ่ายงานแต่ละครั้งนั้น ฉันได้เงินถึง £2,000 หรือประมาณ 87,000 บาท ซึ่งฉันชอบทั้งการสอนและรักในเรื่องเซ็กส์ ” เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมงานอดิเรกของเธอในการเป็นดาราภาพยนต์มันถึงเป็นเรื่องที่ผิด เพราะงานอดิเรกของเธอทำให้เธอถูกห้ามเข้าห้องเรียน เธอกล่าวว่า “ฉันรักการเรียนการสอนและเรื่องเซ็กส์ ถ้าฉันสามารถทำทั้งสองงานนี้ควบคู่กันไปได้ ฉันก็จะทำ” และเธอยังกล่าวเสริมว่าเธอรู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่ และเธอสามารถเป็นครูที่ดีได้ ในครั้งแรกที่เธอทำงานถ่ายหนังโป๊ Nina ได้เงินถึง £2,000 หรือประมาณ 87,000 บาท ซึ่งเธอไม่เคยมีเงินมากเท่านี้มาก่อน มันเป็นเงินก้อนแรกในชีวิตของเธอ เธอกล่าวว่าเธอเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้าง ที่เราทุกคนควรได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ในบางทีสังคมนั้นผูกติดกับความคิดทางจริยธรรมมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ดูเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเอามากๆ เพราะสิ่งที่ครูต้องเป็นนั้น คือการเป็นตัวอย่างให้เด็กๆ…
-
ข่าวดี!! ‘Jason Statham’ ได้ฤกษ์เป็นพ่อคน ภรรยาสาวคลอดลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า
ใครที่ติดตาม Jason Statham นักแสดงหนังแอคชั่นมาดดุดันวัย 49 ปีคนนี้ คงจะรู้กันดีแล้วว่าเขานั้นมีคนคบหาดูใจกันอยู่แล้ว ซึ่งเธอก็คือ Rosie Huntington-Whiteley นางแบบสาววัย 30 ปีนั่นเอง โดยย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2017 Rosie ได้ประกาศข่าวดีกับทุกคนว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกกับแฟนหนุ่ม Jason หลังจากที่คบหาดูใจกันมานานถึง 7 ปี และเมื่อไม่นานมานี้ Rosie ก็ได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมความเคลื่อนไหวล่าสุด เพื่อประกาศว่าเธอคลอดลูกชายคนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2017 โดยที่พวกเขาตั้งชื่อให้ลูกว่า Jack Oscar Statham น้ำหนักแรกเกิด 3,900 กรัม และมีสุขภาพแข็งแรงดี สำหรับ Rosie นั้น เธอรู้สึกว่าชีวิตเพิ่งเริ่มต้นเมื่อรู้ว่ากำลังตั้งท้องลูกคนแรก เพราะลูกคือสิ่งที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต และเขาก็ทำให้เธอมีความสุขจนยากจะบรรยายเป็นคำพูด ซึ่งหลังจากคลอดลูกได้ไม่นาน เธอก็ได้โพสต์ภาพที่ลูกน้อยจับนิ้วของเธอ เป็นภาพที่ไม่ต้องมีคำบรรยายก็เข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง โดยมีแฟนคลับมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่ง ทั้งคู่ได้บอกกับสื่อว่าก่อนหน้านี้พวกเขาทุ่มเทให้กับงานเสมอ แต่หลังจากที่มีลูกแล้ว พวกเขาจะให้เวลาและดูแลลูกเป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่นๆ จะให้ความสำคัญรองลงไป …
-
แก๊งมิจฉาชีพซวย เจอโปรแกรมเมอร์เขียนโค้ดให้โทรกลับ 28 ครั้ง/วินาที เอาคืนซะเละเลย!!
ไม่ใช่แค่บ้านเราเท่านั้นที่มักจะมีแก๊งมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อ แสร้งทำเป็นโทรมาตามหนี้ให้คนที่รู้ไม่เท่าทันรู้สึกกลัว และตกเป็นเหยื่อด้วยการโอนเงินไปให้พวกมันในที่สุด ปัญหานี้ได้เกิดขึ้นกับชาวเน็ตคนหนึ่งผู้เป็นทั้งโปรแกรมเมอร์และยูทูปเบอร์ งานนี้เจ้าตัวเลยหวังเอาคืนแก๊งมิจฉาชีพด้วยการเขียนโค้ดขึ้นมาเพื่อก่อกวนสายโทรศัพท์ และเรียกการกระทำครั้งนี้ว่า… ‘Project Mayhem’ (เชร๊ดดอย่างกับในเรื่อง Fight Club) เรื่องมันมีอยู่ว่าวันหนึ่งเขาได้ไปเจอกับเว็บไซต์ซัพพอร์ตของไมโครซอฟท์เวอร์ชั่นของปลอม เจ้าตัวจึงลองโทรไปสอบถามและพบว่าเป็นเว็บไซต์ที่แก๊งมิจฉาชีพสร้างขึ้นมาหลอกให้โอนเงินจริงๆ โดยเขาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าหมายเลขการติดตั้ง (License Key) ได้หมดอายุลงแล้ว และสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการไปซื้อบัตรเติมเงิน iTunes ราคา 200 เหรียญ ทันทีที่รู้ว่าเขาได้เจอกับแก๊งค์มิจฉาชีพ โปรแกรมเมอร์คนนี้ก็ได้ตัดสินใจที่จะเขียนโค้ดหวังแก้แค้นเอาคืนทันที ปฏิบัติการ Project Mayhem จึงได้เริ่มขึ้น… เขาทำการเขียนโค้ดโปรแกรมขึ้นมา โดยตั้งค่าให้โทรศัพท์กระหน่ำโทรที่เบอร์ของมิจฉาชีพเป็นจำนวนทั้งหมด 28 ครั้งต่อวินาที ทุกครั้งที่แก๊งมิจฉาชีพรับสาย พวกเขาก็จะได้ยินข้อความที่ว่า ‘สวัสดีไอ้พวกมิจฉาชีพ วันนี้อาจเป็นวันดีของคุณที่จะสร้างทางเลือกใหม่ ถอดหูฟังออก กลับบ้านไปซะ แล้วเรื่องทั้งหมดนี้จะจบลงอย่างรวดเร็ว หรือ… ถ้าคุณยังไม่หยุดละก็ เราก็จะก่อกวนคุณไม่หยุดจนกว่าคุณจะเลิกเช่นเดียวกัน’ อีกทั้งเจ้าตัวยังได้ติดตั้งโปรแกรมให้บันทึกเสียงจากปลายสาย และส่งกลับไปให้พวกมิจฉาชีพฟังกันเองอีก เรียกได้ว่าวิธีนี้ทำให้เหล่ามิจฉาชีพถึงกับหัวร้อนประสาทกินกันไปข้างหนึ่งเลย อันที่จริงนี่ก็ไม่ใช่ผลงานครั้งแรกของเขา เพราะเจ้าตัวมักจะอัพวิดีโอแก้เผ็ดเหล่ามิจฉาชีพให้เราดูกันผ่านแชนแนล ProjectMayhem เป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าใครอยากได้ยินเสียงหัวร้อนของแก๊งสแกมเมอร์…
-
หนุ่มสาวลองเล่นเซ็กส์ทอย 4 นิ้ว ยัดเข้า “รูตรู๊ด” คิดว่าจะออกมาเองได้ แต่สุดท้ายไม่พ้นมือหมอ!!
จากค่ำคืนอันเสียวซ่านกลายเป็นค่ำคืนสุดทรมาน เมื่อหญิงสาวและคู่นอนอยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่เพื่อเพิ่มรสชาติเซ็กส์ของพวกเขา โดยแฟนหนุ่มจัดการใช้เซ็กส์ทอยยัดเข้าไปที่ก้น ทว่าเรื่องกลับผิดพลาด เซ็กส์ทอยดันติดอยู่ในรูก้นเอาออกมาไม่ได้ซะอย่างนั้น!!? Emily Georgia หญิงสาววัย 20 ปี จากประเทศอังกฤษ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์หลังจากที่เซ็กส์ของเธอและคู่นอนไม่เป็นไปอย่างที่คิด เธอได้เล่าถึงช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า คู่นอน “วันไนท์สแตน” ของเธอแนะนำให้เอาเซ็กส์ทอยอันนี้ยัดเข้าไปที่ก้น เดี๋ยวมันก็ออกมาเองตามธรรมชาติ แต่ว่าเวลาผ่านไปมันกลับติดอยู่ข้างใน ออกมาไม่ได้เลย ซึ่งคู่นอนเธอก็ไม่รู้จะช่วยยังไงพร้อมกล่าวอ้างว่าต้องทำงานตอนเช้า ก็เลยทิ้ง Emily ไว้กลับเซ็กส์ทอยขนาด 4 นิ้วในก้นของเธอ… จากนั้นเธอต้องทุกข์ทรมานอยู่กับเครื่องเล่นเสียวที่อยู่ในร่างกายของเธออยู่พักหนึ่ง จนเพื่อนสนิทของเธอเข้ามาเจอเข้าและรีบนำตัว Emily ส่งโรงพยาบาลทันที ทีมแพทย์ก็ทำการเอ็กซ์เรย์ช่วงล่างของเธอก็พบว่า เจ้าเซ็กส์ทอยเจ้าปัญหามันเข้าไปลึกมากๆ ที่สำคัญตัวเซ็กทอยยังทำมาจากเหล็กพร้อมกับมีเพรชอยู่ตรงท้ายซึ่งคมมากๆ ถ้าดึงออกมาเฉยๆ จะเกิดปัญหาตามมาได้ ที่สำคัญมันเกือบจะสร้างแผลให้กับลำไส้ของเธอแล้วด้วย ทีมแพทย์จึงตัดสินใจว่าการผ่าตัดจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด พวกเขาต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อช่วยรูทวารและลำไส้ของ Emily ให้ปลอดภัย . สุดท้ายหลังจากผ่าตัดเธอก็พักฟื้นที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งวัน จากนั้นก็กลับบ้านได้ เธอเล่าว่าถ้าใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่ารอช้าให้รีบมาหอหมอทันทีและมันก็ไม่น่าอายอย่างที่คิดด้วย ที่สำคัญเธอก็คงจะเข็ดกับอะไรแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่งเลยล่ะ ทีหลังก็แทงแต่พอดีนะหนู อย่าเอาเข้าไปหมดแบบนั้น!! . …
-
รวมภาพ 10 ปีให้หลัง เหล่าทหารผ่านศึกชาวอเมริกัน กับความสูญเสียจากสมรภูมิตะวันออกกลาง
สำหรับทหารที่ออกรบมาแล้วนั้น สงครามของพวกเขาก็มีทีท่าที่ไม่จบสิ้นเสียที เพราะในทุกๆ วันของพวกเขาต้องต่อสู้กับบาดแผลที่ได้รับมาจากสงครามไม่ว่าจะหนักหรือเบาเพียงใด ทั้งภายนอกทางด้านร่างกายรวมไปถึงภายในจิตใจด้วย David Jay และ James Nachtwey สองตากล้องได้บันทึกภาพของเหล่าทหารอเมริกันที่กลับจากสมรภูมิในอิรักและอัฟกานิสถาน โดยชุดภาพนี้มีชื่อว่า “Unknow Soldier” ซึ่งได้เข้ารอบสุดท้ายประเภท Portrait ของ Magnum Photography Awards ในปี 2016 ที่ผ่านมาด้วย Bobby Henline ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวหลังจากที่รถลาดตระเวนที่เขาโดยสารโดนระเบิดโจมตี Jerral Hancock เป็นพลขับรถถัง เขาเสียแขนทั้งสองข้าง ด้วยแรงระเบิดจากการปะทะของศัตรู Jason Park สูญเสียขาทั้งสองข้าง อันเป็นผลจากระเบิดแสวงเครื่อง แต่มันไม่อาจทำให้เขาสูญเสียความร่าเริงแต่อย่างใด Shilo Harris รอดชีวิตจากการลาดตระเวน เขาสูญเสียคนในทีมไป 3 คนจากแรงระเบิดครั้งนั้น Joel Tavera ตาบอด มีบาดแผลไฟไหม้ และสูญเสียขาไปจากสงครามนี้ Bo Reichenbach เคยอยู่หน่วย…
-
สไนเปอร์สาวถูก ISIS ยิงเฉียดหัวไปนิดเดียว แต่กลับหัวเราะออกมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!?
คงไม่มีใครยิ้มออกหากต้องอยู่ในสนามรบที่มีการต่อสู้อย่างดุเดือด แต่สไนเปอร์สาวชาวเคิร์ดกลับหัวเราะออกมา ทั้งที่กระสุนจาก ISIS เพิ่งจะเฉียดหัวเธอไปไม่ถึงนิ้ว… ผู้สื่อข่าว Hemze Hamza ได้แชร์วิดีโออันน่าตกตะลึงนี้ผ่านทวิตเตอร์ เผนให้เห็นภาพของมือสไนเปอร์หญิงคนหนึ่งจากหน่วย Women’s Protections Units (YPG – Yekîneyên Parastina Jin) ที่กำลังร่วมรบอยู่ในสมรภูมิกลางเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ในประเทศซีเรีย ในคลิปดังกล่าวจะเห็นสไนเปอร์สาวกำลังลอบยิงฝ่ายศัตรูจากส่วนหนึ่งของอาคาร โดยที่เธอโผล่หัวออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหลังจากที่เธอยิงไปแล้ว ในขณะเดียวกันก็มีกระสุนสไนเปอร์จากฝ่ายตรงข้ามยิงสวนกลับมา โดยที่เฉียดฉิวไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น แทนที่หญิงสาวจะตกใจหรือกลัว แต่เธอกลับแลบลิ้นและหัวเราะออกมาซะงั้น แถมยังนั่งพูดคุยกับคนในนั้นต่อราวกับไม่มีอะไรเกินขึ้นเลย แม้จะเป็นช่วงเวลาเฉียดตายของเธอก็ตาม!? หลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโซเชียลก็มีผู้เข้าชมอย่างล้นหลามและถูกรีทวิตไปอีกหลายครั้ง Hamza นักข่าวผู้ที่ได้ทำการทวีตโพสต์ดังกล่าวได้ให้แคปชั่นเอาไว้ว่า “การปะทะกันระหว่างมือสไนเปอร์ในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ขอบคุณพระเจ้าที่ ISIS ยิงพลาด” เขาบอกอีกว่า “หญิงชาวเคิร์ดผู้ไม่รู้จักความกลัว ใครอยู่ในสถานนี้ก็ต้องกลัวทั้งนั้น แต่เธอกลับหัวเราะออกมาได้” นอกจากนี้ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยกย่องในความกล้าหาญของเธอ วินาทีที่สไนเปอร์สาวถูกยิงเฉียดหัวไปนิดเดียว เธอก็ยังยิ้มได้อยู่เลยแฮะ หรือเธออาจจะรู้สึกดีที่รอดมาได้!? ที่มา dailymail
-
ครอบครัวออกไปเที่ยว กลับมาเจอ “ไก่งวง” ทุบกระจกเข้ามาในบ้าน ทำตัวชิลซะเหลือเกิน!!
นี่คือเรื่องราวที่ไม่คาดฝันเมื่อ Barry Peterson และภรรยาของเขากลับมาถึงบ้านหลังจากไปเที่ยวกันมา ซึ่งเมื่อทั้งคู่เปิดบ้านเข้ามาก็ต้องต๊กกะใจเมื่อบ้านของพวกเขากลับมีแขกไม่ได้รับเชิญมาอาศัยอยู่ซะอย่างนั้น ทางด้านภรรยาไม่รอช้ารีบโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เธอก็บอกว่า “ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะแจ้งตำรวจไหม แต่ฉันว่ามันน่าจะเป็นปัญหานะเพราะไก่งวงป่ามันบุกบ้านของเราโดยการพังกระจกเข้ามา แถมยังพังข้าวของอีกด้วย ยังไงก็ช่วยมาจัดการให้หน่อย” ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังรอตำรวจนั้น พวกเขาก็ได้ถ่ายภาพเหตุการณ์เก็บไว้ พร้อมกับไม่รู้จะจัดการกับเจ้าไก่งวงป่าขนาดใหญ่ยักษ์นี้ยังไง เพราะแม้มันจะเป็นแค่ไก่งวงแต่ด้วยขนาดตัวมันก็ดูจะลำบากแน่ๆ ยิ่งเข้าไปจับสุ่มสี่สุ่มห้าก็คงจะลำบากกว่า สิ่งที่ทำได้คือรอตำรวจมานั่นเอง กลับมาบ้านถึงกับเซอร์ไพรส์ โจรแม่มเล่นตูแล้วแน่ๆ เปิดเข้ามา พ๊างง!! ไม่ใช่โจรที่เป็นคน แต่เป็นโจรที่เป็นไก่งวงป่าต่างหาก เดินบนโซฟาสบายใจเฉิบดุจดั่งบ้านตัวเอง เปิดประตูให้แล้ว แกจะออกหรือไม่ออก!!? ตูไม่ออก!! อ้าว เฮ้ยตำหนวดมา!! ไปก็ได้ เห๊อะ ไม่เห็นต้องเรียกพวกเลย ปั๊ดโถ่ ไปแล้วอย่ากลับมาอีกนะ เจ้าไก่งวงตัวแสบ ที่มา boredpanda
-
คนเก็บขยะช่วยเหลือทารกน้อย ที่ถูกพ่อแม่ใจร้ายนำมาทิ้ง เพียงเพราะเขาคลอดก่อนกำหนด!?
ทุกวันนี้เรามักจะได้ยินหรือได้เห็นข่าวพ่อแม่นำลูกไปทิ้ง โดยอ้างด้วยเหตุผลต่างๆ นานา อย่างในกรณีนี้ก็มีพ่อแม่คู่หนึ่งนำลูกตัวเองไปทิ้ง เพียงเพราะด้วยเหตุที่ว่าเขาคลอดออกมาก่อนกำหนด เรื่องนี้เกิดขึ้นบริเวณโรงพยาบาล Fuling Centre Hospital เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2017 โดยชายเก็บขยะได้พบทารกน้อยถูกทิ้งไว้ในถังขยะสาธารณะ จึงได้นำตัวเด็กส่งกลับไปยังโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสภาพร่างกาย และตามหาพ่อแม่ที่ทิ้งเด็กไป ทางโรงพยาบาลจึงได้ประสานกับเจ้าที่ตำรวจเพื่อหาตัวพ่อแม่ของทารก เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบว่าพ่อเด็กเป็นคนนำลูกไปทิ้งในถังขยะ ทั้งๆ ที่ผู้เป็นแม่ยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ตำรวจจึงได้เรียกทั้งสองคนมาสอบสวน ทั้งคู่อ้างว่าได้นำลูกไปทิ้งหลังจากคลอด เพราะชื่อว่าเด็กที่คลอดก่อนกำหนดจะอายุไม่ยืน สุขภาพไม่แข็งแรง พวกเขายังบอกอีกว่าตอนตัดสินใจไปทิ้งก็ไม่ได้คิดให้รอบคอบด้วย และเสียใจต่อสิ่งที่ได้ทำลงไป ส่วนเรื่องที่เด็กคลอดก่อนกำหนดนั้นเป็นเพียงความเชื่อส่วนตัว เพราะคุณหมอที่ทำคลอดบอกว่าแม้ลูกของทั้งคู่จะคลอดก่อนกำหนด แต่เขามีสุขภาพแข็งแรงดีและอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หลังจากที่รับสารภาพแล้ว พวกเขาก็รับปากกับตำรวจว่าจะดูแลลูกต่อจากนี้และไม่คิดจะทิ้งอีก ตำรวจจึงให้โอกาสพวกเขาได้ทำหน้าที่พ่อแม่ให้เด็กคนนี้อีกครั้ง โดยไม่ได้มีการปรับใดๆ เพียงแต่ตักเตือนด้วยวาจาเท่านั้น สำหรับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดนั้นมีโอกาส 1 ใน 13 คน เด็กที่คลอดก่อน 34 สัปดาห์ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในตู้อบจนกว่าเด็กจะแข็งแรงเป็นปกติ โชคดีที่ทารกถูกช่วยเหลือไว้ทัน ไม่งั้นพ่อแม่อาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเลยล่ะ ที่มา dailymail
-
“เสือชีต้าขี้อาย” ได้เจอกับเจ้าตูบที่สวนสัตว์จัดให้ และทั้งคู่ก็โตไปด้วยกันจนซี้ปึ๊ก!!
ในสายตาของคนแล้ว เสือชีต้าถือเป็นเสือที่น่ากลัวและวิ่งไวสุดๆ แต่เราจะรู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเจ้าเสือพวกนี้มันเป็นสัตว์ขี้อายมากๆ ที่สำคัญพวกมันยังไม่เก่งในเรื่องของการเข้าสังคมด้วย ทำให้ลูกชีต้าบางตัวมีปัญหาในเรื่องดังกล่าว ทางสวนสัตว์ St. Louis ในรัฐมิสซูรี ก็ต้องประสบปัญหาการเลี้ยงลูกชีต้าอย่างยากลำบากมานานเช่นกัน จนกระทั่งพวกเขาพบทางออกว่าสุนัขสามารถจะเป็นทั้งเพื่อนและพี่เลี้ยงให้กับพวกมันได้ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดการส่งลูกโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ให้ไปอยู่กับลูกชีต้า ซึ่งชีต้าหนึ่งตัวก็จะได้บัดดี้สุนัขไป 1 ตัวด้วยกัน และใครจะเชื่อว่าพอลูกชีต้ากับลูกสุนัขมาอยู่ด้วยกัน พวกมันจะน่ารักได้ขนาดนี้ ไม่เชื่อดู!! เฮ้ หวัดดีเพื่อนใหม่ เราชื่อโกลเด้น นายชื่อไรหยอ? เราชื่อชีต้า ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ โกลเด้น!! โกลเด้นกับชีต้าก็เริ่มเข้าขากันจนกลายเป็นเพื่อนซี้กัน คอยดูแลกันและกันตลอดเวลาไม่ห่าง เวลาผ่านไป จากเสือนักล่ากับเจ้าหมาขี้เล่น ก็กลายเป็นเพื่อนซี้ในสวนสัตว์ แถมมีลานวิ่งเล่นขนาดใหญ่!! ภาพนี้เล่นเอาลบความคิดเกี่ยวกับเสือนักล่าลมกรดในทุ่งหญ้าไปเลยนะเนี่ย น่ารักสุดๆ ที่มา boredpanda
-
รู้จักกับ “นางแบบชาวมุสลิมคนแรก” ที่สวมฮิญาบถ่ายภาพลงปกนิตยสาร ALLURE
เมื่อพูดถึงชาวมุสลิมแล้วสิ่งที่เราคุ้นตากันดีก็คือชาวมุสลิมที่เป็นผู้หญิงจะใส่ผ้าฮิญาบปกคลุมศีรษะไปจนถึงหน้าอก เพื่อเป็นการปกปิดร่างกายให้มิดชิดตามบทบัญญัติของศาสนา ซึ่งในปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมแฟชั่นเพื่อชาวมุสลิมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดเดรสมุสลิมหรือฮิญาบที่มีรูปแบบหลากหลายมากขึ้น และไม่ใช่แค่แฟชั่นเครื่องแต่งกายของชาวมุสลิมที่ได้เข้ามามีบทบาทในอุสาหกรรรมแฟชั่น แต่ในตอนนี้ได้มีนางแบบสาวชาวมุสลิมคนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับแบรนด์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ และแน่นอนว่าเธอนั้นสวมฮิญาบด้วย Halima Aden เธอเป็นสาวมุสลิมคนแรกที่ได้สวมฮิญาบถ่ายแบบในนิตยสาร ALLURE ในขณะที่เธออายุได้เพียง 19 ปีเท่านั้น เธอได้เซ็นสัญญากับแบรนด์ IMG และได้เดินแฟชั่นโชว์ของ Yeezy Season 5 ในการสัมภาษณ์เธอได้เล่าเรื่องราวของที่มาในการสวมใส่ฮิญาบว่า เธอเกิดมาในค่ายผู้ลี้ภัยในประเทศเคนย่า และได้เข้ามาในสหรัฐอเมริกาตอนเธออายุได้ 7 ปี เมื่อเธออายุได้ 8 ปี เธอเห็นว่าแม่ของเธอที่สวมใส่ฮิญาบนั้นเป็นเหมือนกับฮีโร่ และเมื่อเธอเติบโตขึ้นก็ได้มองว่าการสวมใส่ฮิญาบนั้นมีความหมายและยังคาบเกี่ยวไปถึงความเชื่อของศาสนามุสลิม ซึ่งการใส่ฮิญาบของเธอนั้นจึงเป็นการแสดงตัวตนของเธอนั่นเอง Aden กล่าวว่า “สังคมสร้างแรงกดดันมากๆ ต่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แตกต่าง” เธอยังกล่าวเสริมอีกว่า “ฉันมีอะไรมากกว่าที่จะนำเสนอรูปลักษณ์ภายนอกอย่างร่างกายของฉันฮิญาบช่วยปกป้องฉันจากจากคำว่า คุณผอมเกินไป คุณอ้วนเกินไปและพวกคนที่จ้องมองสะโพกของเธอหรือต้นขา ฉันแทบไม่ต้องกังวลกับเรื่องพวกนี้เลย” การใส่ฮิญาบนั้นเป็นวิธีการตีความศาสนาของเธอ ซึ่งในตอนนี้ก็มีแบรนด์ดังอย่าง Dolce & Gabbana และ H&M รวมทั้ง Nike ที่ผลิตสินค้าสำหรับชาวมุสลิมอย่าง “Pro Hijab” ขึ้นมา สาวคนนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ว่า คุณสามารถแสดงความเป็นตัวเองและความสามารถได้ทุกที่ ที่มา sobadsogood
-
ชีวิตไม่มีทางเลือก… หนุ่มไร้บ้านตั้งถิ่นตกปลาข้างคลอง เพื่อประทังชีวิตรอดในเมืองใหญ่
คนไร้บ้านส่วนใหญ่มักจะมีชีวิตรอดด้วยการขอทาน แต่ก็ใช่ว่าจะขอได้ทุกวันเสมอไป ดังนั้นคนไร้บ้านบางคนจึงต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองมากกว่ารอการช่วยเหลือจากคนอื่น เหมือนกับ Stuart Potts ชายไร้บ้านที่อาศัยอยู่ข้างคลอง Bridgewater Canal เมือง Eccles ต้องเอาตัวรอดด้วยการตกปลาจากคลองแห่งนี้ โดยที่ผ่านมานั้น Stuart กับแฟนสาว Georgia Twemlow เคยอาศัยอยู่ในบริเวณป้ายรถมเล์ ก่อนที่จะย้ายข้าวของไปอยู่ใกล้กับลำคลอง พวกเขามีสมบัติติดตัวเพียงเล็กน้อย อย่างโซฟาหนึ่งตัว เก้าอี้สองตัว ตู้หนังสือ และเตียงเก่าๆ ที่คนขายเฟอร์นิเจอร์ในบริเวณใกล้เคียงนำมาทิ้งเอาไว้ แต่การตั้งถิ่นฐานของพวกเขากลับสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ผ่านไปผ่านมา และถูกร้องเรียนกับหน่วยงานตำรวจท้องถิ่น PCSO ถึง 14 ครั้ง ภายในเวลาแค่ 2 วันที่พวกเขาย้ายมา แม้จะถูกร้องเรียน แต่ทั้งคู่ปฏิเสธที่จะย้ายออกไป เพราะไม่มีที่ให้ไปแล้ว นอกจากนี้พวกเขายังมีเพื่อนที่ชื่อ John อาศัยอยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นจึงวอนให้สังคมเข้าใจด้วย Stuart บอกว่าเขาเคยมีชีวิตที่มั่นคงมาก่อน แต่แล้วก็ถูกขับไล่ออกจากอาคารบ้านเอื้ออาทร ทำให้ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนในทุกวันนี้ เขายังบอกอีกว่าพยายามขอความช่วยเหลือจากสภาเมือง Salford แล้ว แต่ถูกตอบกลับไม่ใช่สิ่งที่ทางสภาจะต้องมาทำการแก้ไขปัญหาเหล่านี้… ในสถานการณ์เช่นนี้ Stuart จึงตัดสินใจปลูกพริก…
-
ส่องความสวยของ “สามพี่น้องจากไต้หวัน” ที่มีอายุขึ้นเลขสี่แล้ว แต่ใบหน้าอ่อนเยาว์นัก
เมื่อไม่นานมานี้เราเคยนำเสนอถึงเรื่องความสวยของสาวคนหนึ่ง ที่แม้ว่าอายุจะย่างเข้า 42 แล้ว แต่เธอยังคงมีใบหน้าที่สดใสและอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงอย่าง Lure Hsu ที่ตอนนี่เธอกำลังเป็นที่โด่งดังสุดๆ ในไต้หวัน และไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่มีใบหน้าที่ดูเด็กกว่าอายุจริง แต่เมื่อลองไปส่องดูรูปภาพที่เธอโพสต์แล้วกลับพบว่าครอบครัวของเธอทั้งหมดนั้นมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์สุดๆ แม้กระทั่งแม่ของพวกเธอที่มีอายุถึง 63 ปีแล้ว ก็ยังดูเหมือนเป็นสาววัย 30 ต้นๆ ครอบครัว Hsu มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยทั้งหมดเป็นสาวสวยที่มีใบหน้าที่ดูเด็กแบบสุดๆ อย่างในภาพนี้เป็นภาพของ Lure Hsu 41(ซ้าย)และน้องสาวของเธอ Sharon 36 ปี (ขวา) และแม่ของเธอ(กลาง)ที่มีอายุ 63 ปี เรียกได้ว่าหน้าเด็กกันทั้งครอบครัวจริงๆ ส่วนภาพนี้เป็นภาพของสามพี่น้องตระกูล Hsu ที่มีอายุกันตั้งแต่ 41, 40 และ 36 (เรียงจากซ้ายไปขวา) ทำเอาชาวเน็ตตกอกตกใจกับความอ่อนเยาว์ที่พวกเธอมี ซึ่งไม่นานมานี้สาว Fayfay Hsu น้องสาวคนกลาง เพิ่งฉลองครบรอบอายุ 40 ไปหมาดๆ ตอนนี้เธออายุขึ้นเลขสี่ที่มีลูกสาว 2 คนแล้ว ในขณะที่พี่สาวของเธอ Lure ทำอาชีพเป็นนักออกแบบภายในและน้องสาวคนสุดท้อง Sharon…
-
สาวป่วยพาน้องหมาไปงานพรอม ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัว คอยช่วยเตือนก่อนอาการกำเริบ
การเลี้ยงสุนัขเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก เพราะนอกจากเป็นเพื่อนกับมนุษย์ เป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์กับเจ้าของแล้ว พวกมันยังทำหน้าที่เป็นหมอที่คอยเตือนปัญหาสุขภาพให้ด้วย อย่างน้องหมา Percie ที่เข้ามาอยู่ในบ้านของ Claire ตั้งแต่เด็กๆ โดยที่มันได้รับการฝึกให้เป็นสุนัขคอยให้ความช่วยเหลือ และเมื่อโรคประจำตัวของ Claire กำเริบขึ้นเมื่อไหร่ เจ้า Percie ก็จะคอยดูแลคอยเตือนให้เธอได้รับรู้ก่อนอยู่เสมอ แต่ตั้งแต่ Percie เข้ามาในชีวิต หญิงสาวก็ไม่ค่อยมีอาการทรุดหนักอีกเลย เพราะน้องหมาจะทำหน้าที่เตือนก่อนอาการจะกำเริบทุกครั้ง ทำให้เธอสามารถเดินทางไปหาหมอได้ทันเวลา Claire บอกว่า “ปัญหาสุขภาพของฉันส่วนใหญ่เกิดจากความวิตกกังวลค่ะ และถ้าอาการกำเริบมันจะทำให้ฉันชัก จนมีอาการคลั่งและทำร้ายตัวเองได้” “แต่ Percie จะรู้ว่าเมื่อไรที่อาการของฉันจะกำเริบ มันจึงทำหน้าที่คอยเตือนฉันก่อนที่อาการจะออกทุกครั้งค่ะ เพราะการได้รู้ก่อนอาการกำเริบขึ้น ก็ช่วยลดความรุนแรงให้น้อยลงได้ค่ะ” หญิงสาวบอก ตอนนี้ Claire กำลังจะเรียนจบช่วงมัธยมแล้ว และเธอก็ตื่นเต้นกับการงานพรอมเหมือนคนอื่นๆ เธออยากจะควงแฟนหนุ่มไปงานพรอม อยากจะไปเจอเพื่อนๆ ในปาร์ตี้ และที่สำคัญที่สุดก็คือ เธออยากพาเจ้า Percie ไปร่วมงานด้วย ดังนั้นเมื่อถึงวันงานจริงๆ หญิงสาวจึงควงแฟนหนุ่มพร้อมจูงน้องหมาเดินเข้างานไปด้วยกัน จนกลายเป็นจุดเด่นของงานเลยก็ว่าได้ แม้จะตื่นเต้นที่ได้ออกงานครั้งแรก แต่น้องหมาก็ยังคงทำหน้าที่เฝ้าระวังอาการให้หญิงสาวตลอดเวลา เธอบอกว่า “ตอนอยู่ในงาน Percie…
-
สาวมีไฝเต็มตัว ไม่แคร์คำวิจารณ์ เดินหน้าเข้าสมัคร “Miss Universe Malaysia” ทำฝันให้เป็นจริง!!
ทุกคนนั้นก็ล้วนแล้วแต่มีความฝันที่แตกต่างกันออกไป โดยบางคนก็เลือกที่จะเดินตามความฝันอย่างไม่ลดละ แม้จะมีอุปสรรคแค่ไหนก็ตาม เช่นกันกันสาวคนนี้ที่เราจะไปเพื่อนๆ ไปรู้จัก สาวงามคนนี้มีชื่อว่า Evita Delmundo เธอเป็นสาวชาวมาเลเซียที่มีอายุเพียง 2 ปี เธอเกิดมาพร้อมกับไฝจำนวนมากที่ปกคลุมไปตามบริเวณใบหน้าและร่างกายของเธอ Delmundo เป็นลูกสาวคนที 2 ของพี่น้อง 5 คนในครอบครัว แม่ของเธอเป็นคนฟิลิปปินส์และพ่อของเธอเป็นชาวมาเลเซียบนเกาะบอร์เนียว เธอเติบโตขึ้นมาในสังคมโรงเรียนที่ค่อนข้างโหดร้ายกับเธอมากๆ เพราะถูกมองว่าเป็นคนที่แปลกแยก เธอมักโดนเพื่อนร่วนชั้นล้อว่าเป็น “สัตว์ประหลาด” หรือ “คุกกี้ช็อคโกแลตชิพ” อยู่บ่อยๆ ในช่วงเวลาที่เรียนชั้นประถมไม่มีใครที่อยากเป็นเพื่อนกันเธอ มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เธอเสียใจมากๆ คือ ครูไปบอกเด็กนักเรียนสองคนว่าให้มาเล่น มาเป็นเพื่อนกับเธอหน่อย… แต่เด็กนักเรียนสองคนนั้นกลับกระซิบกันว่า “ทำไมฉันต้องปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นเจ้าหญิงด้วย” แต่เมื่อเธอเริ่มเป็นวัยรุ่น เธอก็เข้ามาอยู่ในสังคมของเพื่อนใหม่ๆ และถือว่าเป็นเรื่องดีที่คราวนี้หลายคนให้การยอมรับเธอ ทำให้เธอมีความั่นใจมากขึ้นในการใช้ชีวิต ซึ่งในตอนนี้เธอกำลังทำตามความฝันที่จะเป็น Miss Universe Malaysia โดยปฎิเสธที่จะกำจัดไฝและศัลยกรรมเพราะเธอภูมิใจที่เธอเป็นตัวของตัวเอง แล้วก็อยากให้ทุกคนยอมรับในตัวเธอแบบนี้ ไฝที่เธอมีอยู่อยู่ทั่วบริเวณร่างกายนั้น แพทย์ได้ยืนยันว่าเป็นไฝธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้มีอันตายต่อตัวเธอ ซึ่งภาวะนี้จะพบได้ใน 1 ใน 50,000 คนเท่านั้น ผู้เชียวชาญกล่าวว่าไฝที่เธอมีนั้นเกิดขึ้นจากการผิดพาดของยีนและการกลายพันธุ์ของเอนไซม์บางชนิด…
-
ศิลปินหนุ่มวัย 18 ปี “สร้างโลกแห่งความฝัน” ผสานสรรพสิ่งเข้าด้วยกัน ให้เป็นศิลปะเหนือจริง!!
การจะประสบความสำเร็จาทางศิลปะนั้นนอกจากพรสวรรค์แล้วเรายังต้องอาศัยการฝึกฝนเพื่อพัฒนาฝีมือ แต่บางทีฝีมืออย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ควบคู่กันไปด้วย เหมือนกับศิลปิน Luisa Azevedo จากประเทศโปรตุเกสผู้นี้ ที่เริ่มหลงใหลการถ่ายรูปตั้งแต่อายุเพียงแค่ 15 ปี ที่เริ่มต้นด้วยการถ่ายรูปผ่านแอพฯ อินสตาแกรม และได้ทำการฝึกฝนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งนำไปสู่การพัฒนาทักษะขั้นสูงภายในวัย 18 ปี เขาเริ่มจากการถ่ายรูปด้วยกล้องโทรศัพท์จากนั้นก็อัพลงอินสตาแกรม แต่ต่อมาเขาก็คิดที่จะทำให้ภาพดูน่าสนใจยิ่งขึ้นด้วยการเรียนรู้การใช้เทคนิคการตัดต่อจากโปรแกรม Photoshop โดยภาพแรกที่เขาตกแต่งนั้นก็ได้รับการเผยแพร่ออกมาในเดือนมีนาคม ปี 2015 และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาอยากสร้างสรรค์งานศิลปะต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งทุกๆ อย่างที่กลั่นออกมาเป็นผลงานนั้น เขาเรียนรู้ด้วยตัวเองจากการศึกษาวิดีโอสอนตัดต่อจาก YouTube เขาบอกว่า “ทุกงานที่ผมทำ ผมคิดและเรียนรู้ด้วยตัวเองครับ ส่วนการใช้โฟโต้ช้อปก็เรียนกับยูทูปครับ” ดังนั้นในทุกๆ วันเขาจึงพยายามที่จะพัฒนาตัวเองและเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงสองปีหลังนี้ เขาได้สร้างผลงานแนวเหนือจินตนาการ เพื่อสร้างโลกแห่งความฝันที่อะไรๆ ก็เป็นได้หมด เพราะเขาเชื่อว่าจิตนาการและความคิดสร้างสรรค์นั้นไม่มีขีดจำกัด ปัจจุบันศิลปินคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในลิสบอน ประเทศโปรตุเกส และกำลังศึกษาในสาขาศิลปะมัลติมีเดีย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัย University of Lisbon ส่วนใครที่สนใจผลงานของเขาก็สามารถติดตามได้ที่ heyluisa.com l Instagram l Facebook นะคะ . . .…
-
โตเกียวเปิดร้าน “ทุบแผ่นกระเบื้อง” ให้นักท่องเที่ยวได้ฝึกศิลปะต่อสู้ พร้อมกับระบายอารมณ์!?
หากใครเคยไปโตเกียวคงจะรู้จักย่านอะซะกุซะเป็นอย่างดี เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในโตเกียว อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของวัดที่สำคัญที่สุดของเมืองด้วย แต่หากคุณไม่ค่อยสนใจสถานที่ท่องเที่ยวหรือวัฒนธรรมเก่าแก่เหล่านั้นก็ไม่เป็นไร เพราะในย่านอะซะกุซะแห่งนี้ยังมีบริการแปลกใหม่ที่เรียกว่า Kawarana ที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม สำหรับร้านบริการ Kawarana นี้ตั้งอยู่ข้างถนนที่ดูภายนอกแล้วเหมือนจะไม่มีอะไร จะมีแต่ป้ายที่วางตรงทางเข้าเขียนไว้ว่า “KAWARA SMASH” อย่างไรก็ตามถ้าคุณไม่คุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่นก็คงจะเกิดคำถามอีกว่า แล้วคำว่า ‘Kawara’ มันคืออะไรกันแน่ ซึ่งคำตอบก็คือ กระเบื้องหลังคาแบบดั้งเดิมที่ทำจากดิน ซึ่งศิลปินจะนำมาใช้ในศิลปะการต่อสู้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของร่างกายให้คนรุ่นหลังได้ดู ที่ร้าน Kawarana แห่งนี้ลูกค้าสามารถเลือกจำนวนกระเบื้องหลังคาได้ตามกำลัง โดยจะมีทีมงานคอยจัดให้ตามต้องการ จากนั้นให้ลูกค้าทำลายกระเบื้องทั้งหมดภายในครั้งเดียวด้วยมือเปล่า ส่วนราคาแห่งการทำลายจะเริ่มต้นที่ 150 บาท ต่อกระเบื้องหลังคา 1 แผ่น และยิ่งซื้อมากก็จะยิ่งมีส่วนลดมาก ในการใช้บริการแต่ละครั้งจะมีถุงมือและเสื้อโค้ทกันเปื้อน รวมทั้งชุดสำหรับการต่อสู้ให้ด้วยถ้าหากลูกค้าต้องการ เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำลายแผ่นกระเบื้องหลังคา ทางร้านก็จะนำผ้ามาวางไว้บนกระเบื้อง โดยมีวงกลมสีแดงเพื่อให้ชี้เป้าให้ลูกค้าได้ทุบกำปั้นได้ตรงจุด แต่เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดกับร่างกายของลูกค้า ก่อนทำลายกระเบื้องจริงๆ จะมีทีมงานคอยสอนว่าต้องใช้ตำแหน่งไหนของมือในการทุบ หรือต้องทุบด้วยท่าไหนเพื่อไม่ให้เจ็บตัว ก่อนที่จะลงมือทุบ ให้คุณจำไว้ว่ามีโอกาสแค่ครั้งเดียวเท่านั้นในการทำลายแผ่นกระเบื้องเหล่านี้ เปรียบได้เหมือนดั่งการทำลายศัตรูในชีวิตจริง ที่ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวเป็นครั้งที่สองนั่นเอง เมื่อลูกค้าทุบแล้วไม่แตกภายในครั้งเดียว…
-
20 สิ่งของราคาบรมโคตะระแพง มีเงินอย่างเดียวคงซื้อไม่ได้… ต้องมีเงินมากๆ ด้วย
รวมข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ที่มีราคาแพงบรมโคตรแพง ที่มีแต่คนบรมโคตรรวยเท่านั้นที่ซื้อได้ ใครที่มีเงินมากๆ จนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรมาทางนี้เลย… อันดับที่ 20 น้ำบรรจุขวด มูลค่า $60,000 (2,000,000 บาท) Verachi Acqua di Cristallo’s “Tributo a Modgliani” คือน้ำบรรขวดที่ทำขึ้นเพื่อยกย่องศิลปินขาวอิตาเลียน Amedo Clemente Modigliani ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ภายในบรรจุด้วยน้ำแร่ธรรมชาติจากฟิจิและฝรั่งเศส ผสมผสานด้วยน้ำจากธารน้ำแข็งจากไอซ์แลนด์และผงทองคำจำนวน 5 มก. ขวดทำมาจากทองคำ 24 กะรัต ออกแบบและผลิตโดย Fernando Altamirano และ Paulo di อันดับที่ 19 เคสโทรศัพท์ iPhone 5 มูลค่า $100,000 (3,400,000 บาท) The Natural Sapphire Company ผลิตเคส iphone 5 ที่ตัวโครงผลิตด้วยทองคำขาว 18 กะรัต และประดับด้วยอัญมณีซัฟไฟร์ซีลอนทั้งอัน มีสีให้เลือกหลายสีด้วยกัน และมีทับทิมสีแดง 38 เม็ด กับพลอยเขียวส่องเป็นรูปโลโก้ ถ้าคุณใช้เคสนี้…
-
ถึงกับเข่าทรุด!! สาวจีนลอง “กำไลหยก” เล่นๆ แต่เผลอทำแตก โดนปรับเงิน 1.5 ล้านบาท
บ่อยครั้งที่เราอาจจะเห็นการตั้งกฎของร้านค้าว่า ‘หากสินค้าชำรุด ต้องซื้อเต็มราคา’ แน่นอนว่าถ้าเห็นป้ายนี้เราก็คงไม่อยากจะเข้าไปใกล้เท่าไหร่เพราะกลัวเสียเงิน แต่ไม่ใช่กับสาวจีนคนนี้ เรื่องราวทั้งหมดนี้ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ Shanghaiist โดยรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนคนหนึ่งได้เดินทางมาที่แหล่งค้าหยกในเมือง Ruili มณฑลยูนาน เมื่อเดินทางมาถึงร้านขายหยกแห่งหนึ่ง เธอได้ตัดสินใจขอลองสวมใสกำไลชิ้นนั้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น… ด้วยความที่เธออยากจะลองกำไลวงอื่นแต่เธอรีบร้อนที่จะถอดกำไลวงเก่ามากเกินไป กำไลหยกแท้ทรงคุณค่าก็ตกลงพื้นแตกออกเป็นสองเสี่ยงทันที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเรื่องนี้จะลงเอยเช่นไร เธอเริ่มหน้ามืดตัวมัวคล้ายจะเป็นลมแม้จะพกยาขึ้นมาดมมันก็ไม่ช่วยอะไรเลย เพราะหลังจากที่เจ้าของร้านบอกว่า เธอต้องจ่ายเงินค่ากำไลนั้นเป็นราคาสูงถึง 3 แสนหยวน เธอก็เป็นลมล้มพับไปทันที คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ 1.5 ล้านบาทเอง สำหรับกำไลหยกที่แตกออกเป็นสองชิ้น ชาวบ้านและลูกค้าคนอื่นๆ ต้องช่วยกันพยายามปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาเผชิญกับความจริงอันโหดร้าย แต่หลังจากที่ชาวบ้านนำเธอไปส่งที่โรงพยาบาล คุณหมอก็ได้วินิจฉัยออกมาว่าร่างกายเธอไม่ได้ผิดปกติอะไรเลย และสาเหตุของการหน้ามืดเป็นลมอาจจะเกิดจากยอดหนี้ที่เข้ามาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ถึงกระนั้นเรื่องราวดังกล่าวก็ยังเป็นที่ถกเถียงของชาวเน็ต เพราะบางคนก็มองว่าเจ้าของร้านปรับเงินสูงเกินราคาจริงของสินค้า ในขณะที่ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าทางครอบครัวยื่นข้อเสนอจะจ่ายเงินชดเชยให้แค่ 70,000 หยวนเท่านั้น ลองไปชมคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบสั้นๆ กันเลย ไม่รู้ว่างานนี้จะจบยังไง แต่ที่รู้ๆ คือต่อไปนี้จะไม่หยิบจับอะไรไปเรื่อยอีกแล้ว บรึ๋ยยย!! ที่มา: Shanghaiist
-
ร้านขนมหวานญี่ปุ่นเปิดตัว “บุฟเฟ่ต์ชาเขียว” ที่มีทั้งขนมหวาน ไอศกรีมและเครื่องดื่มสุดพรีเมี่ยม
เมื่อพูดถึงกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่น แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ก็ต้องเป็น “ชาเขียวมัตฉะ” ที่เป็นเครื่องดื่มต้นตำรับจากญี่ปุ่นที่คนทั่วโลกต่างชื่นชอบ เพราะความหอมกรุ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ชาเขียวเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำขนมหวาน และเพื่อเป็นการตอกย้ำแฟนๆ ที่ชื่นชอบในรสชาติของชาเขียว เราจึงจะนำเพื่อนๆ ไปพบกับร้านบุฟเฟต์ชาเขียว ที่มีทั้งขนมหวานละลานตาและไอศกรีมรสละมุนกว่า 50 รสชาติ ใครที่เป็นแฟนตัวจริงของชาเขียวพลาดไม่ได้เลย ร้านบุฟเฟ่ต์ชาเขียวสุดหรูหรานี้มีชื่อว่า Matcha Sweets Garden Buffet ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรม Kyoto Century Hotel ที่ใจกลางเมืองเกียวโต เปิดให้บริการเฉพาะในวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน แต่สำหรับเดือนกรกฎาคมนี้ร้านจะเปิดให้บริการทุกวัน โดยทางร้านนั้นก็เตรียมและคัดสรรชาเขียวที่ดีที่สุดจากจังหวัดอุจิ ของญี่ปุ่น มารังสรรค์เป็นขนมหวานกว่า 30 เมนู และยังมีไอศกรีมอีกกว่า 50 รสชาติด้วยกัน Chestnut and matcha shortcake Matcha Mont Blanc รสครีมเกาลัด Layered matcha opera cake Petit matcha fondue Matcha ganache…
-
ชม 27 ภาพอาหารนานาๆ ชนิด ที่ “คนจิตใจสกปรก” เท่านั้นจะมองเป็นอย่างอื่น!!
ใครที่ยังไม่รู้ว่าวันนี้จะกินอะไร ลองมาดูบทความนี้แล้วคุณอาจจะอยากทานเมนูใดเมนูหนึ่งขึ้นมาก็ได้ ซึ่งอาหารที่เรานำมาเสนอในครั้งนี้ ก็มีอยู่หลากหลายชนิดทั้งของหวาน ของคาว ผลไม้ อาหารทะเล ต่างๆ นาๆ ซึ่งถ้าดูเผินๆ อาหารเหล่านี้ก็เป็นอาหารธรรมดาๆ ที่เรารับประทานกันเป็นปกติ จะมีก็แต่คนจิตใจสกปรกเท่านั้นที่คิดเป็นอย่างอื่น เราไปชมกันเลยว่าจะมีอาหารอะไรกันบ้าง 1. เนยถั่ว 2. แซนวิช 3. เมื่อเปิดฝากล่องของเนยที่ซื้อมา 4. มื้อเย็นแบบมังสวิรัติ 5. มะม่วงอบแห้ง 6. ส้มธรรมดาๆ 7. หอยนางรมสดๆ 8. โคนไอศกรีมเปียกๆ 9. สตรอเบอร์รี่ธรรมด๊า ธรรมดา 10. เจลลี่ น้องหมีกับน้อง… 11. ไข่แดงทะลั่ก 13. เมล็ดมะม่วงที่งอกใหม่ 14. ถั่วแระที่โดนอ้าเปลือก…
-
ความหวังสุดท้าย!! นักวิทย์ลองอีกครั้ง ช่วยสืบพันธุ์ให้เจ้า ‘ซูดาน’ แรดขาวตัวสุดท้ายของโลก
‘ซูดาน’ เป็นแรดขาวตัวสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ และเป็นความหวังสุดท้ายที่จะสืบทอดเผ่าพันธุ์ของพวกมันไม่ให้สูญพันธุ์ เรียกได้ว่าตอนนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ต้องต่อสู้กับเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆ โดยมีความหวังเป็นการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์แรดขาวที่กำลังจะหมดจากโลกนี้ไป ‘ซูดาน’ แรดขาวเพศผู้ตัวสุดท้ายวัย 43 ปี ที่อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรรักษาสัตว์แห่งหนึ่งในประเทศเคนย่า Zacharia Mutai หนึ่งในเจ้าที่ผู้คอยดูแลซูดานตลอด 12 ชม./วัน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ซูดานเป็นแรดที่วิเศษที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา พวกเราต่างพยายามดูแลมันให้ดีที่สุด แต่ด้วยวัยที่ชราอาจทำให้มันจากเราไปได้ทุกเมื่อ” ซูดานถูกค้นพบครั้งแรกโดยทีมอนุรักษ์ซาฟารี Chipperfield จากประเทศเซาธ์ซูดานเมื่อปี 1975 ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปอาศัยอยู่ในสวนสัตว์ที่เมือง Czechoslovakia สหภาพโซเวียต ก่อนหน้านี้ซูดานเคยทำหน้าที่เป็นพ่อคนมาแล้ว มันเคยให้กำเนิดลูกน้อยมากถึง 3 ตัวด้วยกัน ทว่าด้วยปัจจัยบางอย่างทำให้ลูกๆ ของมันเสียชีวิตไปอย่างน่าสงสาร และนั่นก็อาจจะเป็นปมในใจ เพราทุกวันนี้ไม่ว่านักวิทยาศาสตร์จะพยายามให้มันผสมพันธุ์ด้วยวิธีไหนก็ตาม ดูเหมือนว่าซูดานจะไม่ได้สนใจหรือมีความรู้สึกอยากจะสืบทอดเผ่าพันธุ์อีกต่อไปแล้ว อย่างไรก็ตามทุกวันนี้ทีมนักวิทยาศาสตร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะสืบทอดเผ่าพันธุ์แรดขาวต่อไปด้วยวิธี ‘IVF’ โดยพวกเขาได้ทำการเก็บตัวอย่างสเปิร์มจากซูดาน และจะถูกนำมาผสมกับรังไข่ของแรดขาวตัวเมียตัวสุดท้าย ถึงแม้ว่าวิธีผสมพันธุ์ดังกล่าวยังไม่ถูกนำมาใช้กับสัตว์ที่มีขนาดใหญ่อย่างแรดมาก่อน แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีแห่งความหวังที่พวกเขาเชื่อว่าจะช่วยรักษาเผ่าพันธุ์ของพวกมันไว้ได้ “เราจะรักษาสปีชีส์สัตว์ไว้ได้อย่างไรถ้าในมื่อมันกำลังถูกจัดให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่สูญพันธุ์แล้ว และนั่นเป็นสาเหตุที่วิทยาศาสตร์ต้องเข้ามาช่วยจัดการ” ศาสตราจารย์ Thomas Hildebrandt ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ให้สัมภาษณ์ ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้พวกเค้าสามารถรักษาเผ่าพันธุ์มันไว้ได้ละกันนะ ที่มา: Mirror
-
ชีวิตน่าอิจฉาของหนุ่มวัย 20 ปี นักทดสอบเครื่องบินรุ่นใหม่ เที่ยวรอบโลกแบบเฟิร์สคลาส!!
หลายคนมีความใฝ่ฝันที่อยากจะทำงานเกี่ยวกับสายการบิน สาเหตุหลักๆ ก็อาจจะเป็นเพราะได้ทั้งเที่ยวต่างประเทศและทำงานไปพร้อมๆ กัน แต่เชื่อเถอะว่าสำหรับคนวัย 20 ต้นๆ ไม่มีใครจะน่าอิจฉาเท่ากับ Alex Macheras อีกแล้วล่ะ เพราะเขาเป็นนักทดสอบเครื่องบินรุ่นใหม่ ที่ได้เที่ยวรอบโลกในระดับเฟิร์สคลาสอยู่เป็นประจำ!! Alex Macheras ชายหนุ่มผู้หลงใหลในการบินมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันงานหลักของเขาก็คือทดสอบเครื่องบินรุ่นใหม่ เขาต้องตรวจสอบทุกซอกมุมบนเครื่องก่อนจะส่งต่อให้ลูกค้า แน่นอนว่าการทดสอบเครื่องบินที่ได้ผลมากที่สุด ต้องทดสอบออกเดินทางจริงๆ และคนที่จะไปกับเครื่องก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากพ่อหนุ่มคนนี้นี่แหละ เขาจะอยู่กับเครื่องบินลำนั้นตั้งแต่ออกจากโรงงาน ได้เป็นหนึ่งในผู้ทดสอบระบบการบินคู่กับกัปตัน เป็นคนส่งเครื่องบินให้ถึงมือลูกค้าด้วยตนเอง… ได้ทดสอบทุกระบบที่นั่งบนเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็นชั้นประหยัด ชั้นธุรกิจ ไปจนถึงเฟิร์สคลาส ในขั้นตอนการทดสอบเขาจะเป็นคนเดียวที่อยู่บนเครื่อง ลองนึกภาพดูสิว่าการเดินทางของเขาจะเอ็กซ์คลูซีฟมากขนาดไหน ก่อนรอขึ้นเครื่องเขาก็ได้รับสิทธิ์ให้ใช้เลานจ์ได้ทั้งของชั้นธุรกิจ และชั้นเฟิร์สคลาส อาหารการกินก็ถูกจัดเรียงอย่างดีแทบจะทุกมื้อจากสายการบิน เรื่องเครื่องดื่มนี่ไม่ต้องพูดถึง อะไรที่สายการบินมีให้บริการลูกค้าพ่อหนุ่มก็ได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนกันทุกอย่าง แม้แต่ห้องพักรับรองในสนามบิน ก็ยังเป็นห้องที่วีไอพีสุดๆ ระหว่างการเดินทางอาหารการกินก็มีให้อย่างดีไม่เคยขาด แทบจะไม่ได้ควักเงินในกระเป๋าตังค์ตัวเองเลยก็ว่าได้ ได้สนิทชิดเชื้อกับนางฟ้าจากทุกสายการบิน เพราะพวกเธอจะคอยมอบบริการอย่างดีในขั้นตอนการทดสอบ…
-
คุณแม่บริทนีย์ ผันตัวมาเป็นตากล้อง ถ่ายภาพอวดปั๋วแบบสุด ทำเอาสาวๆ อิจฉาตาร้อน
ไม่นานมานี้เพื่อนๆ คงจะได้ยินข่าวคราวของการแสดงคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ของคุณแม่ Britney Spears ที่ประเทศไทยเรา โดยกระแสครั้งนี้ก็ทำเอาแฟนคลับของอิแม่พลาดไม่ได้ที่จะไปชมการแสดงสุดอลังการที่นานๆ ที นางหอบมาโชว์ถึงที่ไทย โดยในคอนเสิร์ตที่ผ่านไปนั้นก็ได้สร้างความประทับใจให้แก่แฟนเพลงชาวไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเต้นสุดแรงหรือการร้องแบบที่เราได้ยินกันในข่าว แต่อิแม่ก็ยังคงความแซ่บไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย แต่ในวันนี้เราไม่ได้มาพูดเรื่องความเผ็ชของนางหรอกนะ แต่เราจะมาทอล์กกันเรื่องที่นางอวดซะมีของนางแบบที่น่าหมั่นไส้สุดๆ เพราะว่าแฟนหนุ่มคนนี้ของแม่มันทั้งแซ่บ ทั้งเผ็ช เห็นแล้วน้ำลายมันไหลเป็นทาง ตาก็ร้อนขึ้นมาทันที หนุ่มรู้ใจของอิแม่ผู้นี้มีชื่อว่า Sam Asghari น้องมีอายุอานาเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น แต่หน้าตาและรูปร่างของน้องดูโตกว่าอายุ โตทุกส่วนเลยก็ว่าได้ เมื่อส่องๆ ดูอินสตาแกรมของ Sam แล้วก็จะสังเกตได้ว่านางเป็นชายหนุ่มที่รักการออกกำลังกายเป็นอย่างมาก ก็ดูสิแต่ละภาพมันฟ้องขนาดนี้ พนันได้เลยว่าต้องเป็นชายที่มีพลังกำลังแข็งแรง!!! เป็นอย่างมาก “Sam ยิงฉันเลยสิ ยิงเลย!!!” แววตาที่เซ็กซี่และดึงดูด โดยคู่นี้น่าหมั่นไส้ตรงที่คุณแม่บริทนี่ย์นางแปลงร่างเป็นช่างภาพมือโปร ถ่ายรูปของแฟนหนุ่มได้อย่างเซ็กซี่ นอตี้ บิตชี่ สุดๆ ทำเอาสาวๆ ทุกคนนั้นอิจฉาตาร้อนในแต้มบุญที่อิแม่มี โดย Sam นั้นได้โพสต์รูปภาพที่ตนนั่งแช่ในอ่างน้ำอย่างสบายอารมณ์และมีแคปชั่นว่า “Shot by better half…
-
สองหนุ่มถ่ายภาพเล่นๆ เห็นคนสวนมาแอบมาดู ก็ชวนมาร่วมแจม จนได้ภาพโคตรเฟี้ยว..!!
ว่ากันว่าเมื่อโอกาสแจ้งเกิดคนมันมาถึง ไม่ว่าจะเอาอะไรมันก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวของคุณลุงช่างทำสวน Ranga Chitombo ที่ดูเหมือนกำลังจะแจ้งเกิดในวงการนายแบบโลกเข้าให้แล้ว!! เรื่องน่ารักๆ นี้เกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง Tinotenda Nyandoro ช่างภาพวัย 26 ปี กำลังถ่ายภาพกับน้องชายในสวนหลังบ้าน ที่ประเทศซิมบับเว ทันทีที่เขาเห็นว่าลุงช่างทำสวนยืนดูอยู่ เขาก็ไม่รอช้าที่จะชวนลุงมาร่วมสนุกด้วย Tinotenda Nyandora จังหวะที่เจ้าตัวกำลังถ่ายแฟชั่นสนุกๆ กับน้องชาย พวกเขาก็สังเกตเห็นว่ามีคนแอบซุ่มดูอยู่จากพุ่มไม้ด้านหลัง… “ผมต้องขออธิบายให้ฟังก่อนนะครับว่า… การที่คุณมีคนสวนแบบนี้ในประเทศซิมบับเว ไม่ได้หมายความว่าคุณรวยหรอกเพราะมันเป็นเรื่องที่ธรรมด๊า ธรรมดามากๆ สำหรับที่นี่” Nyondora ให้สัมภาษณ์ เขาเอาแว่นดำให้ลุงใส่ จากนั้นก็ให้ลุงโพสท่าตามสบายแบบเท่ๆ และนี่คือภาพสุดเฟี้ยวที่ได้มา เท่ซะยิ่งกว่าหน้าปกลุ๊คบุ๊คซะอีก ดูการโพสท่าของคุณลุงซะก่อน บอกเลยว่าไม่ธรรมดาสุดๆ ราวกับหน้าปกนิตยสารสตรีทแฟชั่นยังไงยังงั้นเลย นอกจากพวกเขาจะถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานแล้ว ทางฝ่ายช่างภาพหนุ่มก็ได้ปิ๊งไอเดียที่จะเซอไพรส์ครอบครัวของคุณลุง ด้วยการส่งภาพถ่ายสุดจ๊าบไปให้ครอบครัวของแก “ลุงแกเป็นคนที่ใจดีมากเลยครับ เราเคยทำงานด้วยกันมานานแล้วและเราก็สนิทกันมาก ชาวบ้านแถวนี้ใครๆ เค้าก็รักแกกันทั้งนั้น” ช่างภาพหนุ่มเล่าเสริม หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกโพสต์ลงทวิตเตอร์ ก็มีชาวเน็ตออกมาไลค์แอนด์แชร์กันให้เพียบ บางคนก็กล่าวชมเชยว่ารอยยิ้มของคุณลุงน่ารักมาก มันเป็นรอยยิ้มที่ใครเห็นเป็นต้องยิ้มตาม …
-
เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ อธิบายว่าทำไมคุณถึงรู้สึก “เหงา” และจะส่งผลอย่างไรบ้าง!?
เป็นธรรมดาที่เราอาจจะรู้สึก ‘เหงา’ ในบางเวลา น่าแปลกเหมือนกันนะ… เพราะโลกเรามีประชากรตั้งไม่รู้กี่หลายล้านคน แถมในชีวิตเราได้รู้จักผู้คนก็อีกตั้งมากมาย ทว่าสุดท้ายความเหงาก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในใจเราเสมอ แต่ใช่ว่าเรื่องของความเหงาจะเป็นเพียงความรู้สึกลอยๆ ที่จับต้องไม่ได้เท่านั้น เพราะงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก ที่ศึกษากันมาตั้งแต่ปี 2006 จะมาช่วยอธิบายให้เราเห็นภาพว่าทำไมเราถึงรู้สึกเหงา และจะแก้ไขความอ้างว้างที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร งานวิจัยของ Stephanie Cacioppo และ Hsi Yuan Chen นักประสาทวิทยาที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Personality and Social Psychology Bulletin โดยทีมวิจัยได้ได้ใช้เวลานานกว่า 11 ปี ในการเก็บข้อมูลระดับความรู้สึกเหงา และสังเกตระดับนิสัยการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ของอาสาสมัครชาวเมืองชิคาโก 230 คน ซึ่งอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 50 – 68 ปี จากการตามเก็บข้อมูลเป็นประจำทุกปีทีมวิจัยได้ค้นพบว่า กลุ่มคนที่มีระดับความเหงาเพิ่มขึ้นในแต่ละปี มีแนวโน้มที่จะมีลักษณะนิสัยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางมากขึ้นในปีต่อๆ ไป นอกจากนั้นในกลุ่มคนที่มีลักษณะนิสัยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่แล้ว ทีมวิจัยพบว่าในปีต่อๆ ไประดับความเหงาของคนกลุ่มนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเช่นเดียวกัน ความเหงาในระดับที่พอดีอาจเป็นแรงกระตุ้นให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องใช้สมาธิส่วนตัวสูง แต่กลับกันถ้าความเหงาที่มากเกินไปก็อาจจะส่งผลต่อทั้งสภาพจิตใจ ร่างกาย สมอง ฮอร์โมน หรือแม้กระทั่งในระดับพฤติกรรมได้เลย…
-
รู้จักกับผีเสื้อ Rosy Maple Moth สิ่งมีชีวิตที่หวานแหววที่สุดในจักรวาล ตอบโจทย์คนรักพาสเทล!!
แมลงกับหญิงสาว ถือว่าเป็นของแสลงที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะไม่ชอบกัน ไม่ว่าจะลักษณะภายนอกที่ดูน่าขยะแขยง หรือดูน่ากลัวก็ไม่ทราบได้ แต่ก็ใช่ว่าแมลงทุกตัวจะมีลักษณะตามที่ว่าไปเสียหมด เพราะยังมีแมลงที่ดูสวยงามอย่าง ‘ผีเสื้อ’ ไว้คอยปลอบใจอยู่บ้าง ฮร่าาาา และผีเสื้อที่ว่านั่นก็คือ Rosy Maple Moth ยังไงล่ะ Rosy Maple Moth หรือเจ้าฝีเสื้อกลางคืนสีโทนหวานตัวนี้ ถือเป็นผีเสื้อกลางคืนที่สวยที่สุดก็ว่าได้ เพราะเดิมทีแล้วผีเสื้อกลางคืนจะมีสีโทนมืด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะออกไปทางสีน้ำตาลหรือสีดำ ในส่วนของลักษณะทางกายภาพของผีเสื้อชนิดนี้ ตัวเมียจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตัวผู้มากๆ โดยเมื่อมันกางปีกแล้วจะมีขนาดความกว้างถึง 1.5 ถึง 2 นิ้ว ในขณะที่ตัวผู้จะมีขนาดแค่ 1.25 ถึง 1.75 นิ้วเท่านั้น และจะสามารถหาพบได้ทั่วไปทางตอนเหนือของประเทศสหรัฐอเมริกา . ด้วยสีสันอันโดดเด่นของมันก็มีคนที่ชื่นชอบในผีเสื้อกลางคืนตัวนี้ จนทำเป็นสินค้าหรือทำเป็นภาพการ์ตูนน่ารักๆ ออกมาด้วยนะเออ… สร้อยสวยๆ ตุ๊กตาตัวเล็กน่ารักๆ หรือจะเป็นเข็มกลัดเล็กๆ ก็ดูสวยดีนะ ยิ่งถูกวาดออกมาเป็นแนวตัวการ์ตูนก็น่ารักสุดๆ เลย ดูขนฟูๆ ของมันสิ…
-
นักออกแบบรังสรรค์ “รองเท้าส้นสูงUSA” ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ไปเหยียบเมืองต่างๆ อย่างแท้จริง
การออกแบบสินค้าต่างๆ นั้น ผู้ออกแบบก็มักจะได้ไอเดียหรือแรงบันดาลในมาจากสิ่งใกล้ตัว อย่างเมืองหรือประเทศที่เราอยู่ก็สามารถสร้างจินตนาการให้นักออกแบบได้เสมอ และสหรัฐอเมริกาก็มีเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์มากมาย ทำให้ Dan Sullivan นักออกแบบอดไม่ได้ที่จะนำจุดเด่นของเมืองต่างๆ มาเป็นจุดเด่นของผลงานการออกแบบ อย่างรองเท้าส้นสูงของสาวๆ มันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ไปเหยียบที่อเมริกาจริงๆ รองเท้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับคุณเดินอยู่ใน New York City แสงสีที่อลังการราวกับเมืองในฝันและสัญลักษณ์ของอเมริกาอย่างเทพีเสรีภาพ . . รองเท้าส้นเตี้ยที่ดูไม่ธรรมดาคู่นี้ได้แรงบันดาลใจมากจากเมือง San Francisco ที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม สะพาน Golden Gate ที่ทอดยาวทำให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองนี้ . . นอกจาก Las Vegas จะมีชื่อเสียงของบ่อนการพนันแล้ว แสงสีก็ไฟที่ประดับประดาไปทั้งเมืองก็เป็นอีกเอกลักษณ์ของเมืองนี้ รองเท้าคู่เป็นตัวแทนที่สมบูรณ์ของเมืองแห่งแสงสีเมืองนี้ . . ย้ายมาทางตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกา เราจะพบกับเมือง Miami ณ รัฐ Florida ที่คุณจะรื่นรมย์ไปด้วยวิวทะเลสีครามตัดกับต้นมะพร้าวที่เรียงอย่างเป็นระเบียบ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบในความสดใสของทะเล รองเท้าคู่นี้เหมาะกันคุณที่สุด . แค่ใส่รองเท้าเหล่านี้ก็จะเหมือนว่าได้ไปเที่ยวอเมริกายังไงอย่างงั้นเลยล่ะ ที่มา boredpanda
-
10 สิ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแต่ละประเภท (ไม่มีกระปู๋หรอก อันนั้นของ #ประธานเหมียว ใหญ่สุด)
หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการจัดอันดับต่างๆ บนโลกมาแล้วบ้างแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลก หรือรถที่เร็วที่สุดในโลกก็ตาม การจัดอันดับต่างๆ เหล่านั้นช่วยให้เราได้เห็นถึงความน่าทึ่งของธรรมชาติ และความสามารถของมนุษย์ และวันนี้เราก็ได้รวบรวมเอาสิ่งที่ใหญ่ที่สุดจากแต่ละประเภทมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกับความน่าทึ่งของมัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. เครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เครื่องบิน Antonov An-225 Mriya จากประเทศยูเครนลำนี้ได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดของปีกที่กว้างถึง 88 เมตร ความยาว 84 เมตร และต้องใช้ผู้ช่วยนักบินอย่างน้อย 6 คน มันสามารถลำเลียงสินค้าหรือสิ่งของขนาดใหญ่ อย่างเวทีคอนเสิร์ตได้สบายๆ 2. สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก สระว่ายน้ำกลางแจ้งแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ท San Alfonso Del Mar ในประเทศชิลี สระว่ายน้ำที่ว่านี้มีความกว้างเกือบหนึ่งกิโลเมตร และมีพื้นที่ถึง 50 ไร่เลยทีเดียว 3. ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบในอุทยานแห่งชาติ Vietnam’s Phong Nha-Ke Bang เมื่อปี 2009 โดยคณะสำรวจชาวอังกฤษ มันมีความกว้างถึง 4 กิโลเมตรและมีความสูงกว่า 300 เมตร…
-
จากผลสำรวจเด็กญี่ปุ่น พบว่าพวกเขาไม่เคย ‘ปลดทุกข์หนัก’ ที่โรงเรียนเลย อั้นกันได้ยังไง!?
ถ้าพูดถึงการปวดขี้ที่โรงเรียน เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะมีความรู้สึกกลัวที่จะขี้ที่โรงเรียนกันแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่นอาจจะเป็นเพราะความสกปรกของห้องน้ำ พอเข้าไปขี้แล้วจะโดนล้อว่ามรึงแม่งขี้แตก ว้ายๆ หรืออาจจะรู้สึกเขินอาย ที่จะต้องขี้ที่ห้องน้ำโรงเรียนขนาดว่าต้องรอห้องน้ำไม่มีคนถึงเข้าไปใช้… ปัญหาดังกล่าวฟังแล้วน่าจะเป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนตัว แต่หารู้ไม่ว่าปัญหานี้มันเวิลด์ไวด์สุดๆ เพราะล่าสุดทาง Japan Toilet Labo ได้มีการไปให้สัมภาษณ์นักเรียนญี่ปุ่นกว่า 4,777 คนเกี่ยวการขี้ที่โรงเรียน แล้วผลที่ออกมากลับเล่นเอาตะลึงเชรี่ยๆ เด็กนักเรียนมากกว่า 50% ไม่เคยขี้ที่โรงเรียนเลยเว้ยเฮ้ย!!? แต่ถ้าลองมาหาเหตุผลเชิงลึก และแบ่งเหตุผลออกเป็นข้อๆ ตามจำนวนร้อยละของกลุ่มนักเรียนที่ไม่ขี้ที่โรงเรียนเป็นหลายๆ กลุ่ม เราก็สามารถที่จะได้เหตุผลเยอะแยะเลยทีเดียว 29.3% บอกว่า ที่โรงเรียนมันมีแต่ส้วมหลุม 29.2% บอกว่าสวมที่โรงเรียนมันเหม็นสลัด นอกจากต้องดมขี้ตัวเองยังต้องดมของคนอื่นอีก 26.3% บอกว่าพวกเขามีเวลาช่วงพักน้อย ถ้าไปขี้ทีก็นานสุดๆ ข้าวนี่ไม่ต้องกินกันล่ะ 29.2% บอกว่าส้วมที่โรงเรียนมันไม่สะอาดเลย อี๋… 23.9% บอกว่าเวลาขี้ที่โรงเรียนแล้วรู้สึกไม่มีความสุข 20.1% บอกว่าพื้นห้องน้ำมันสกปรก 16.1 % บอกว่าชักโครกมันเย็น เอาตูดวางลงทีไรขนลุกทุกที หน้าตาของส่วมหลุมที่เด็กๆ ไม่ค่อยปลื้ม อย่างไรก็ตาม เหตุผลหลักๆ…
-
ช่างภาพหนุ่มทำสารคดีเกี่ยวกับแฟน หลังจากรู้ว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง และต้องฝ่าฟันต่อสู้กับมัน…
ถ้าวันหนึ่งเรารู้ว่าเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ตัวอยู่ดีๆ ก็ป่วยเป็นมะเร็ง คำพูดหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักจะคิดออกมาเป็นคำแรกๆ เสมอนั่นก็คือ “ไม่ต้องห่วง มันรักษาได้” หรือไม่ก็ “เดี๋ยวก็หายนะ” เป็นต้น Faye Eid หญิงสาววัย 26 ปี จากรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อเธอรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งรังไข่ ญาติๆ ของเธอก็ต่างมาพูดด้วยคำปลอบข้างต้นเช่นเดียวกัน ซึ่งเธอรู้สึกว่าคำพวกนี้มันไม่ได้มีด้านดีเสมอไป ส่วนทางด้านสามีของเธอ Jarred ก็เลือกที่จะอยู่ข้างภรรยาและพร้อมจะผ่านมันไปด้วยกันมากกว่าเชื่อในคำปลอบดังกล่าว ในช่วงแรก Faye ต้องทนทุนกับสิ่งที่เธอต้องเจอ และในช่วงเวลานั้นก็มีทั้งความสุข ความเศร้า และความเครียดถาโถมเข้ามาพร้อมๆ กัน แต่ด้วย Jarred นั้นเป็นช่างภาพ เขาจึงได้ใช้วิธีการเล่าเรื่องราวของภรรยาผ่านสารคดีที่เขาสร้างขึ้นนานถึง 6 เดือนตลอดระยะเวลาการบำบัดของเธอ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า การป่วยเป็นมะเร็งและต้องบำบัดเรื่อยๆ นั้นไม่ใช่สิ่งที่ง่ายดายเลย ภาพถ่ายทั้งหมดนั้น Jarred ได้เริ่มถ่ายตั้งก่อนภรรยาของเขาเข้าบำบัด จนกระทั่งทำคีโม่และบำบัดอื่นๆ มากมาย และภายในภาพก็จะมีเรื่องราวและอารมณ์ของมันที่สื่อออกมาได้โดยไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรเลย เพราะด้วยสีหน้าของตัว Faye ก็เพียงพอแล้ว . …
-
มาชม “การจัดผลไม้” สีสันสดใส ให้เป็นสัตว์โลกสุดน่ารัก ที่น้องๆ หนูๆ ต้องอยากทานมากขึ้นแน่นอน
ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้แล้ว เรื่องประโยชน์นั้นไม้ต้องพูดถึง แถมสีสันของมันยังทำให้เราสดชื่นสดใสได้ตลอด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะขอเอาเหล่าผลไม้สีสวยมาดัดแปลงให้เป็นสัตว์โลกแบ๊วๆ ที่ไม่รู้ว่าจะเพิ่มความอร่อยหรือเปล่า แต่เรื่องเพิ่มความน่ารักล่ะก็เอาไปเต็ม 10 เลย เหล่าสรรพสัตว์ที่เพื่อนๆ จะได้เห็นต่อไปนี้ ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากผลไม้นานชนิดไม่ว่าจะเป็นกล้วย ราสเบอร์รี่ ส้ม สับปะรด และอีกมากมาย ที่จะยกขบวนความน่ารักมาพร้อมกับประโยชน์ โลมาเล่นแชร์บอล น้องโลมาสีเหลืองนวลที่แปลงร่างมาจากกล้วย ที่พร้อมจะมาเล่นกันคุณด้วยลูกบอลองุ่นสีสันน่ารัก เมนูน่ารักๆ นี้ทำได้ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณต้องมีแก้ว องุ่นเขียว ราสเบอรืรี่ บลูเบอร์รี่ และกล้วยที่ตัดแต่งให้เป็นโลมาน้อยนั่นเอง มังกรน้อย มังกรสุดน่ารักที่เกิดจากผลไม้ทั้งสตรอเบอร์รี่และกล้วยเรียงต่อกันจนเกิดเป็นลำตัวที่ยาวเฟื้อย เมนูนี้ทำได้ไม่ยากเลยนะ เพียงแค่คุณต้องมีกล้วย สตรอเบอร์รี่ ที่หั่นเป็นวงกลมเรียงต่อกัน จากนั้นก็ใช้องุ่นหั่นครึ่งเป็นลูกตาของมัน เติมลูกตาดำด้วยลูกเกด และขาด้วยแท่งขนมปังอบกรอบ สิงโตยิ้มแฉ่ง จานนี้เพื่อนๆ จะได้วิตามินซีอย่างเต็มที่แน่นอน เพราะเจ้าสิงโตตัวนี้มีทั้งสับปะรดและส้มสีสันสดใส สิ่งที่ต้องใช้ก็มีสับปะรด 1 แผ่นวงกลม ส้มหลายๆ กลีบเลยนะเพื่อเป็นขนที่คอของมัน กล้วยเป็นหูและตา ไม่ลืมที่จะวางบลูเบอร์รี่สีเข้มเป็นตาดำ และสตรอเบอร์รี่เป็นปากสุดกวนของมัน …
-
เหล่าเด็กๆ ผิวเผือกแทนซาเนีย ที่ถูกตัดแขนเพื่อนำไปขาย ได้รับอวัยวะเทียมทดแทนอีกครั้ง
มนุษย์เผือก หรือ Albinism นั้นเป็นความผิดปกติของสีผิวภายในตัวบุคคลที่เกิดมาแล้วตัวจะเป็นสีขาวเผือกทั้งตัว รวมไปถึงสีผมและนัยน์ตา (สามารถอ่านข่าวเก่า สะเทือนใจ!! แทนซาเนียล่า “มนุษย์เผือก” ถูกตัดแขนตัดขา และเอาอวัยวะไปขาย ได้ที่นี่) มีคนที่ป่วยเป็นมนุษย์เผือกในแทนซาเนียบางส่วนนั้นถูกช่วยเหลือออกมาได้ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ถูกตัดออกไปบางส่วนก็สร้างบาดแผลลึกในจิตใจให้พวกเขาได้เช่นกัน มนุษย์เผือกส่วนใหญ่จะถูกตัดอวัยวะของพวกเขาตอนนอนตั้งแต่เด็กๆ มนุษย์เผือกเหล่านี้มักจะถูกล่าเพื่อนำขาย ส่งต่ออวัยวะเหล่านั้นไปใช้สำหรับการเป็นเครื่องรางของขลัง ปัญหาของการล่ามนุษย์เผือกในประเทศแทนซาเนียนั้นมีการแพร่ระบาดมากที่สุดในโลก ซึ่ง Baraka Cosmas วัย 7 ขวบ Mwigulu Matonange , Emmanuel Festo วัย 15 ปีและ Pendo Sengerema วัน 16 ปี คือกลุ่มเด็กที่ถูกช่วยเหลือให้รอดพ้นมาจากนักล่ามนุษย์เผือก ได้รับอวัยวะเทียมจากโรงพยาบาลในเมืองฟิลาเดเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เด็กๆ มนุษย์เผือกจะได้รับอวัยวะเทียมเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต ในช่วงระหว่างที่พวกเขาย้ายมาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้อาศัยอยู่ในมหานครนิวยอร์กภายใต้การดูแลของ Elissa Montanti ด้วยการช่วยเหลือของ Global Medical Relief Fund องค์กรไม่หวังผลกำไรช่วยเด็กจากพื้นที่แทนซาเนียของเธอเอง Elissa Montanti พบกับเด็กๆ…
-
สถานที่ที่เต็มไปด้วย “ผีเสื้อ” นับพันในไซบีเรีย ที่ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยว ดั่งในเทพนิยาย!!!
ความสวยงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายๆ คนเกิดความหลงใหล และชอบการท่องเที่ยวแบบนี้ ทั้งความสวยงามของป่าไม้ และความน่าทึ่งของเหล่าสัตว์ตัวน้อยๆ ที่อยู่ในสถานที่เหล่านั้น และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยให้เห็นถึงความแปลกของธรรมชาติอีกครั้ง เมื่อมีเหล่านักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพของฝูงผีเสื้อนับพันตัว ที่อพยพมายังที่ไซบีเรีย ซึ่งสร้างความตื่นตาเตื่นใจให้กับผู้พบเห็นอย่างมาก ภาพของฝูงผีเสื้อที่ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนไซบีเรีย นักท่องเที่ยวต่างตื่นตาตื่นใจเมื่อได้พบกับฝูงผีเสื้อนับพันตัว ในระหว่างเส้นทางชมธรรมชาติในไซบีเรีย ภาพของผีเสื้อสีขาวที่เกาะอยู่ตามที่ต่างๆ ช่วยทำให้ที่นี่สวยงามขึ้นมาทันที ทางด้านผู้เชียวชาญได้ออกมาบอกว่า ผีเสื้อเหล่านี้จัดอยู่ในสายพันธุ์ที่มีชื่อทางวิทยศาสตร์ว่า Aporia crataegi โดยพวกมันจะอพยพมาที่นี่ในทุกๆ ปี ลักษณะของพวกผีเสื้อนั้นจะมีปีกสีขาวพร้อมกับแถบสีดำหนา พวกมันช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี หนึ่งในภาพของผีเสื้อเหล่านี้ถูกถ่ายโดยคุณ Sasha Ware วัย 22 ปี ใกล้ๆ กับฟาร์มของเขาใน เมือง Novosibirsk ปกติผีเสื้อเหล่านี้จะพบได้มากใกล้ๆ กับเมือง Tomsk คุณ Vladimir Romanenko หนึ่งในผู้เชียวชาญด้านแมลงจากมหาวิทยาลัย Tomsk State University บอกว่าพวกผีเสื้อเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี . ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในปี 2016 จำนวนของผีเสื้อเหล่านี้ยังมีอยู่ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่สำหรับปีนี้มันกลับเพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว “มันเป็นเรื่องธรรมดาของแมลงส่วนใหญ่ที่จะมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นในช่วง 2-3 ปี สำหรับผีเสื้อสีขาวดำเหล่านี้อาจจะยังไม่ถึงช่วงที่โตเต็มที่ แต่ตอนนี้พวกมันก็มีจำนวนมากเหลือเกิน” คุณ Romanenko กล่าว…
-
คู่รักฉลองครบรอบวันแต่งงานในทุกๆ ปี ด้วยธรรมเนียมการรับสุนัขมาเลี้ยงปีละ 1 ตัว!!
คู่รักส่วนใหญ่นั้นมักจะทำกิจกรรมพิเศษๆ ในวันครบรอบการแต่งงานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกไปทานอาหารมื้อดีๆซักมื้อ หรือการออกท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ เพื่อทำให้ชีวิตรักไม่จืดจาง การฉลองวันครบรอบที่กล่าวไปนั้น ก็เป็นสิ่งที่คู่รักทั่วไปทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว หากเสียแต่ว่าสำหรับคู่รักคู่นี้กลับมาวิธีการเฉลิมฉลองความรักในรูปแบบที่แตกต่างออกไป ผู้ใช้งานทวิตเตอร์ Odalis ได้โพสต์รูปภาพธรรมเนียมฉลองวันครบรอบแต่งงานของพี่เขยและพี่สาวของเธอ ซึ่งในทุกๆ ปีที่ครบรอบแต่งงานนั้น พวกเขาทั้งสองคนจะรับสุนัขมาเลี้ยงแทนความรักที่พวกเขามีให้กัน และตอนนี้ก็เข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว นั่นก็หมายความว่าตอนนี้รับมาแล้วทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน . ชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นปุ๊บ ก็ถึงกับหาภาพมาบอกว่า อีกไม่นานก็น่าจะเต็มบ้านแน่ๆ และด้วยความน่ารักของธรรมเนียมที่คู่รักทำให้กันทุกๆ ปี ทำให้ชาวเน็ตต่างก็อิจฉากันเป็นแถวและออกมาแสดงความคิดเห็นมากมาย ถ้าสามีฉันไม่ทำแบบนี้บ้างนะ ฉันจะเลิกกับเขาเลย!? มันเป็นอะไรที่น่ารักมากๆ เลยนะ มันเป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลยนะ มันเป็นอะไรที่เจ๋งนะ แต่ถ้าจะให้เลี้ยงหมา 12 ตัวพร้อมกัน ก็น่าจะเหนื่อยพอตัว ถ้ามีสุนัขเพิ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ #เหมียวปั๊ก ว่าเปิดเป็นคาเฟ่หมาพ่วงไปเลยก็แจ๋วนะ น้องหมาจะได้เจอผู้คนด้วย ที่มา: distractify
-
คุณพ่อถึงกับงง!? เมื่อได้รับสายจากชายที่อ้างว่าเป็น “ลูกชาย” ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 10 กว่าวันก่อน
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินข่าวแปลกๆ เกี่ยวกับการตายอย่างเช่น คุณตาที่ตายแล้วกลับฟื้นขึ้นมาใหม่ หรือเด็กชายที่สามารถคุยกับยมบาลได้ เป็นต้น แต่เรื่องราวแปลกๆ เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่บ้านเราเท่านั้น ในต่างประเทศเองก็มีเรื่องแบบเกิดขึ้นเช่นกัน เหตุการณ์แปลกๆ นี้เกิดขึ้นกับคุณปู่ Frank J. Kerrigan วัย 82 ปี หลังจากที่เขาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพของสถานีตำรวจ Orange County ว่า พบร่างไร้วิญญาณของชายคนหนึ่งบนท้องถนน ซึ่งเมื่อตรวจสอบลายนิ้วมือแล้วพบว่าชายคนดังกล่าวเป็นลูกชายผู้พิการของคุณปู่ท่านนี้ คุณตาเสียใจอย่างมากเมื่อได้ทราบข่าวการตายของลูกชาย เขารีบไปรับร่างของลูกชายและนำมาประกอบพิธีที่บ้าน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้จัดงานศพให้กับลูกชายของพวกเขาและมีแขกมาร่วมงานมากถึง 50 คน แต่แล้วก็เกิดเรื่องน่าปะหลาดใจขึ้น เมื่อคุณตาได้รับสายจากชายคนหนึ่งที่อ้างว่าเขาคือ Frank M Kerrigan ลูกชายวัย 57 ปีที่เพิ่งเสียชีวิตไป ชายชราแทบจะไม่อยากเชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริง เขาพูดคุยกับชายคนดังกล่าวอยู่นานจนมั่นใจว่านั่นคือลูกชายของเขาจริงๆ หลังจากนั้นทางสถานีตำรวจ Orange County ได้ออกมายอมรับว่าผลการตรวจรายนิ้วมือนั้นมีการผิดพลาด และศพของชายคนดังกล่าวก็ไม่ใช่ลูกชายของคุณปู่ การระบุตัวตนที่ไม่ถูกต้องนั้นทำคุณ Frank นั้นต้องเสียสิทธิผู้พิการของเขา และตอนนี้ทางครอบครัวกำลังดำเนินการจัดการกับปัญหาดังกล่าว ทางครอบครัวของคุณตาได้ออกมาตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งบอกว่าพวกเขาไม่มีมาตรฐานในการทำงานเอาเสียเลย ส่วนทางเจ้าหน้าที่ได้ออกมากล่าวขอโทษกับเรื่องนี้พร้อมกับแสดงความเสียใจ “เราขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของพวกเราจริงๆ “ คุณ Lane Lagaret จากสถานีตำรวจ Orange…
-
โถ่เพื่อนเอ๊ย!! นายแบบหนุ่มถึงกับปวดตับ เมื่อเห็น “ฝีมือการถ่ายภาพ” สุดเห่ยของเพื่อนซี้..
หลายๆ คนคงจะมีเพื่อนหรือแฟน ที่ฝีมือการถ่ายภาพไม่เอาไหนกันบ้างแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ พอจะถ่ายรูปคู่กับวิวสวยๆ ทีไร เพื่อนๆ ก็ดั๊นทำมันพังภาพของเราทู๊กที และชายหนุ่มผู้นี้ก็มีชะตากรรมไม่ต่างกับพวกเราสักเท่าไหร่ ถึงแม้เขาจะเป็นถึงนายแบบและรู้จักการโพสต์ท่าให้ดูหล่อเป๊ะได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเจอฝีมือการถ่ายภาพของเพื่อนเข้าไป งานนี้ทำเอานายแบบของเราถึงกลับจ๋อยเลยทีเดียว นี่คือโฉมหน้าของ Anthony Keeling นายแบบหนุ่มวัย 20 ปี ผู้เคราะห์ร้ายจากฝีมือการถ่ายภาพของเพื่อน ชายหนุ่มผู้มีประสบการณ์หน้ากล้องมาอย่างโชกโชนกล่าวว่า “ผมรู้ว่าเวลาอยู่หน้ากล้องจะต้องจัดท่าทางอย่างไร แต่ฝีมือการโพสต์ท่าของผมแทบไม่มีประโยชน์ เมื่อเจอฝีมือการกดชัตเตอร์ของเพื่อน” และนี่คือผลงานการถ่ายภาพของเพื่อนพ่อหนุ่มคนนี้ โถ่หมดกันพ่อนายแบบ!! ชายหนุ่มถึงกับกุมขมับ หลังจากที่เห็นผลงานการถ่ายภาพของเพื่อนเขาบนเรือสำราญ ถึงแม้ว่าภาพวิวด้านหลังจะสวยงาม และนายแบบของเราก็จัดท่าทางอย่างดี แต่พอ 1.. 2.. 3.. ชีสส.. เท่านั้นแหละ ก็ได้ภาพอย่างที่เห็น เพื่อนรักของเขาผู้นี้ก็คือ Ricky Sharm นั่นเอง “หลังจากที่ผมเห็นภาพพวกนี้ผมถึงกับปวดตับเลย ผมบอกกับ Ricky ว่าเป็นนายจะกล้าอัพรูปพวกนี้ไหม แล้ว Ricky ก็ตอบว่าไม่!! ” นายแบบวัย 20 กล่าว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอยากหาความสบายใจหรืออย่างไร พ่อหนุ่ม Keeling…
-
ชาวต่างชาติร่วมยกนิ้วให้ “ฉลาดเกมส์โกง” เป็นหนังไทยที่น่าดูมาก หลังได้ชมตัวอย่างไปแล้ว
หนังที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นหนังฟอร์มยักษ์เสมอไป หนังที่ดีนั้นนอกจากจะสามารถสร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้ชมได้แล้ว เรื่องราวที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และน่าติดตาม ก็ถือเป็นอีกข้อหนึ่งของหนังที่ดีควรมีไว้ เช่นเดียวกับหนังสัญชาติไทยเรื่อง “ฉลาดเกมโกง” ถึงแม้ว่าหนังจะออกโรงภาพยนต์ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยเรื่องราวที่แปลกใหม่และไม่เคยมีใครทำมาก่อน ก็สามารถที่จะเรียกความสนใจจากชาวต่างชาติที่เข้ามาชมได้เป็นจำนวนมาก ลิน ~ ส่งคำตอบให้หน่อย มีอีกคนหนึ่งที่สามารถช่วยเราได้ ~ ไม่ว่าจะเป็นชาวมาเลเซีย สิงคโปร์รวมไปถึงประเทศอื่นๆ ทั่วโลกต่างให้ความสนใจกับภาพยนตร์ “ฉลาดเกมโกง” หรือชื่อภาษาอังกฤษนั่นก็คือ “Bad Genius” จนเกิดเป็นคอมเม้นท์หลากหลายความคิดเห็นแบบนี้ โปสเตอร์หนัง Bad Genius หรือ ฉลาดเกมโกง เป็นหนังที่น่าสนใจมากๆ เลยหล่ะ จากอินโดนิเซีย ขอบคุณสำหรับซับอังกฤษนะ อยากให้เรื่องนี้ฉายในฮ่องกงจังเลย เจ๋งเป้งไปเลย!? หนังเรื่องนี้ทำฉันประหลาดใจได้เลยแต่ก่อนฉันเคยดูหนังไทยเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องนี้มันน่าดูมากๆ ฉันหวังว่าหนังไทยเรื่องนี้จะได้ฉายในต่างประเทศด้วย นักแสดงดูสื่ออารมณ์มากๆ จากแฟนคลับประเทศเม็กซิโก เสียดายจัง ฉันน่าจะดูหนังเรื่องนี้ตอนอยู่ที่กรุงเทพนะเนี่ย!! หนังเรื่องนี้น่าดูสุดๆ ฉันหวังว่ามันจะเข้าฉายในมาเลเซียนะ เนื้อเรื่องและนักแสดงน่าสนใจมากๆ…
-
มาเปลี่ยนสีผมด้วยตัวเอง ให้กลายเป็น “สีพาสเทล” สุดละมุนนี หวานแหววเหมือนขนมสายไหม
เชื่อว่าสาวๆ หลายๆ คนคงชอบขนมสายไหมที่มีสีสันพาสเทลสวยงามหวานแหวว แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถทำสีผมให้เป็นเหมือนกับขนมสายไหมได้ สาวๆ ที่ชื่นชอบการทำสีผมพลาดไม่ได้เลยกับบทความนี้ เพราะเรามีสีผมสวยๆ มาแนะนำ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่พูดถึงมีชื่อว่า Moody Girls จากแบรนด์ชื่อดังในอเมริกาอย่าง Benjamin ที่ได้ออกสินค้าตัวนี้ออกมาเอาใจคนรักสีพาสเทลโดยเฉพาะ โดยโทนสีทั้งหมดมีถึง 5 สี ตั้งแต่สีฟ้า สีชมพู สีเหลือง สีส้ม ไปจนถึงสีเขียว หลายคนอาจจะคิดว่า Moody Girls เป็นสีย้อมผมถาวรหรือเปล่า แต่บอกเลยว่าไม่ใช่ เพราะสินค้าตัวนี้เป็น Temporary Color Mask หรือเป็นผลิตภัณฑ์มาร์คสีผมชั่วคราวที่สีจะเฟดลงเรื่อยๆ เมื่อผ่านการสระ ซึ่งสีจะอยู่ได้ประมาณ 3-6 วัน โดยวิธีใช้นั้นก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่คุณเช็ดผมพอหมาดหลังจากสระผม จากนั้นก็ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Moody Girls หมักทิ้งไว้เพื่อเปลี่ยนสีผมโดยทิ้งไว้ประมาน 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งใครที่อยากให้สีนั้นเด่นชัดก็คงต้องไปกัดสีผมให้เป็นสีอ่อนๆ อย่างเหลืองหรือขาวก่อน โดยเพื่อนๆ คนไหนสนใจที่จะมีผมสีพาสเทลสวยแบบนี้ก็สามารถไปซื้อหาออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์นี่เลย moodygirls โดยมีราคาอยู่ที่กระปุกละ $28 หรือประมาณ 950 บาท ชอบสีไหนก็เลือกสีนั้นได้เลย!! CRY BABY…
-
คุณลุงทหารผ่านศึกผู้ชื่นชอบ Disneyland เยี่ยมชมติดต่อกัน 2,000 วัน จนทำลายสถิติโลก!!
มีอยู่หลายคนที่ชอบไปในที่โปรด จะเป็นร้านกาแฟ หรือสวนสนุกอย่าง “ดิสนีย์แลนด์” ถ้าเป็นสถานที่ที่สามารถทำให้เราสบายใจได้ จะไปกี่ทีก็ไม่มีเบื่อหรอกเนอะ และสำหรับคุณ Jeff Reitz วัย 44 ปีทหารผ่านศึกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ดูเหมือนจะชื่อชอบสถานที่นี้เป็นพิเศษจนกลายมาเป็นกิจวัตรประจำวันของเขาอีกอย่างหนึ่งไปเสียแล้ว คุณลุง Jeff Reitz ผู้ชื่นชอบ Disneyland และด้วยความชื่นชอบนี้ คุณ Jeff ได้เดินทางมาเยี่ยมชม Disneyland ติดต่อกันกว่า 2,000 วัน โดยเริ่มในวันที่ 1 มกราคม ปี 2012 จากตั๋วเข้าชมรายปีที่เขาได้รับเป็นของขวัญ ไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าร้อง แดดออก น้ำท่วม เขาก็รักที่จะไปดิสนีย์แลนด์อย่างมาก เขาเดินชมรอบสวนสนุกและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่เข้าชมเช่นกัน จะผู้คนหรือตัวการ์ตูน เขาก็ชอบไปหมดเลย “ความสนุก คือเหตุผลหลัและเหตุผลเดียวที่ทำให้ผมมาที่นี่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน มันไม่เกี่ยวกับการสร้างสถิติหรืออะไรหรอก การที่ได้มาพบปะผู้คนและหาความสนุกสนานให้กับตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญในชีวิตผม” Jeff กล่าว วันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายนปี 2017 ที่เพิ่งผ่านมานี้ เป็นวันครบรอบ…
-
เข้าครัวทำเมนูโปรด “ห่อหมกปลานิลมะพร้าวอ่อน” เนียนนุ่ม กลมกล่อม หอมไปเจ็ดแปดบ้าน
ใครที่ยังไม่รู้ว่าเย็นนี้จะทำอะไรทานดี ลองมาชมบทความนี้ดูซักนิดแล้วคุณจะรู้ทันทีว่าเย็นนี้ต้องทานเมนูนี้เท่านั้น เพราะวันนี้ #เหมียวหน่า จะพาไปเปิดสูตรลับ “ห่อหมกปลานิลมะพร้าวอ่อน” ที่เป็นอาหารสุดอร่อย ต้องขอขอบคุณทางเพจ NAKINNA.ByAING ที่ได้เผยวิธีทำเมนูสุดนุ่มนวลและเข้มข้นอย่างห่อหมกปลานิลมะพร้าวอ่อนในแบบละเอียดยิบ ขนาดที่ว่าใครทำอาหารไม่เก่ง ยังทำเมนูนี้ออกมาได้อย่างสุดยอดเลยทีเดียว “ห่อหมกปลานิลมะพร้าวอ่อน” เรามาดูส่วนผสมกันก่อนเลย – น้ำพริกแกงแดง – เนื้อปลานิล – ไข่ไก่ – กะทิสำเร็จรูป – น้ำตาล น้ำปลา ซีอิ๊วขาว รสดี – ใบมะกรูดซอย – พริกแดงสดซอย – ใบโหระพา กะหล่ำปลีซอย ใบยอ – และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือมะพร้าวอ่อนนั่นเอง เริ่มทำกันเลย!! 1. ก่อนอื่นเราก็ต้องมาเตรียมวัตถุดิบกันก่อน – มะพร้าวตัดตรงหัวออกและเอาน้ำมะพร้าวออก(ขูดเอาเนื้อมะพร้าวออกมาใช้เป็นส่วนผสมของห่อหมกด้วยก็ได้) – แล่เนื้อปลานิลแล้วหั่นเป็นชิ้นพอประมาณ – กระหล่ำหั่นฝอย ใบมะกรูดหั่นฝอย พริกแดงสดหั่นฝอย – ใบยอนำไปลวกให้เรียบร้อย 2. นำพริกแกงแดง กะทิ ไข่ไก่และเนื้อปลานิล มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๊วขาว รสดี ใส่ใบมะกรูดฉีกและใบโหระพาลงไป …
-
สิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง FrogLog สำหรับช่วยชีวิตพวกสัตว์ตัวน้อยๆ ไม่ให้ต้องจมน้ำตายในสระ!!
ถึงแม้ว่าสระว่ายน้ำจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ แต่สำหรับเหล่าสัตว์ตัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น สระว่ายน้ำก็คือกับดักดีๆ นี่เอง หลายครั้งที่เรามักจะเห็นเหล่าสัตว์ตัวเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นกบ ตั๊กแตน หรือกิ้งก่า ลงไปติดอยู่ในสระว่ายน้ำและขึ้นมาไม่ได้ จนกระทั่งหมดแรงค่อยๆ จมน้ำตายในที่สุด แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีผู้คิดค้นอุปกรณ์สำหรับการแก้ปัญหานี้ ถึงแม้มันอาจจะเป็นอุปกรณ์ง่ายๆ แต่ทว่าประโยชน์ของมันนั้นก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว… และนี่คือหน้าตาของเจ้าอุปกรณ์ช่วยชีวิตเหล่าสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ว่านี้ คุณ Rich Mason ผู้คิดค้นเจ้าอุปกรณ์ช่วยชีวิตเหล่าสัตว์ตัวเล็กนี้ บอกว่าจุดเริ่มต้นนั้นมาจากในปี 2004 ได้มีเพื่อนของเขาคนหนึ่งสร้างสระว่ายน้ำไว้ที่บ้าน แต่พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยพวกกบ และสัตว์ตัวเล็กๆ มากมาย ในทุกวันเพื่อนของคุณ Mason นั้นจะต้องพบกับร่างไร้ชีวิตของพวกมันที่ติดอยู่ในสระว่ายน้ำ ซึ่งเป็นปัญหากวนใจสำหรับเขา นอกจากจะไม่อยากจะมาตามเก็บซาก ยังรู้สึกเสียใจในการต้องปลิดชีพมันทางอ้อมอีก ชายหนุ่มจึงตัดสินใจที่จะหาทางแก้ปัญหาดังกล่าว เขาจึงเริ่มลงมืออกแบบและสร้างแพเล็กๆ สำหรับเหล่าสัตว์เพื่อให้พวกมันสามารถปีนขึ้นมาจากสระว่ายน้ำได้ง่ายๆ คุณ Mason เรียกเจ้าอุปกรณ์ดังกล่าวนี้ว่า The FrogLog โดยส่วนประกอบของเจ้าสะพานช่วยชีวิตนี้จะประกอบไปด้วยตาข่ายที่ยึดระหว่างขอบสระกับทุ่นลอยน้ำ เพื่อทำหน้าที่คล้ายกับบันไดให้พวกสัตว์สามารถไต่ขึ้นไปได้ง่ายๆ ไม่ว่าหนูหรือจิ้งเหลน ก็สามารถขึ้นมาจากสระว่าน้ำได้ง่ายๆ หน้าตาของเจ้า The FrogLog ที่จะคอยช่วยชีวิตพวกสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ตกลงไปในสระว่ายน้ำ ตาข่ายด้านข้าง และโฟมลอยน้ำจะช่วยให้พวกสัตว์สามารถขึ้นมาบนขอบสระได้โดยง่าย งานนี้ทดสอบด้วยสัตว์หลายชนิด…
-
ผลงานสุดฮาของ James Fridman ฉายาราชาโฟโต้ช็อป พร้อมจะตัดต่อให้คุณตามคำขอ (เหรอ!?)
พวกคุณเคยมีภาพที่รู้สึกว่าอยากจะปรับเปลี่ยนอะไรสักอย่างไหม เช่นแบบอยากลบฉากหลัง มีคนมาโฟโต้บอมบ์ หรือแฟนเก่าออกจากรูป ไม่ก็ตัวเราในภาพยังดูไม่ดีพออะไรทำนองนี้ ฉะนั้นคุณก็ควรจะต้องการผู้ช่วยมือดีที่จะมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้คุณแล้วล่ะ ผู้ช่วยคนนั้นก็คือ… James Fridman ซึ่งผู้คนให้สมญานามเขาว่า King of Photoshop แทแด๊มมมมม!! ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาได้รับสมญานามนี้ก็เพราะว่างานของเขามันเจ๋งและดีทุกอันเลยก็ว่าได้ เขาจะรับตัดต่อรูปให้ตามคำขอของผู้คนที่ส่งเข้ามา แต่ในบางครั้งคำขอนั้นมันเป็นอะไรแปลกๆ เขาก็เลยทำให้มันกลายเป็นภาพสุดฮา แทนที่จะเป็นภาพสุดสวยซะได้ จนชาวเน็ตต่างแชร์ต่อผลงานเป็นอย่างมาก จะมัวอ้างความสามารถไปก็ไม่ได้อะไร ลองมาดูผลงานของเขากันดีกว่า ว่าจะเด็ดดวงแค่ไหน… ช่วยทำให้หน้ากลมน้อยลงหน่อย พี่แกก็จัดให้ กลมน้อยลง แต่เหลี่ยมเพิ่มขึ้น!! ลูกชายอยากให้คุณแม่ดูสาวอีกครั้ง James ก็จัดให้สมใจแต่ไม่ใช่แค่คุณแม่นะสิ เธอคนนี้ขอให้เขาช่วยทำให้แฟนหนุ่มดูรวย (Rich) หน่อย เขาก็เลยจัดให้ Rich ของจริง แต่ไม่ใช่ Rich ที่แปลว่ารวยนะเป็นชื่อ Richard แทน ฮร่าๆ พ่อหนุ่มคนนี้อยากให้ตัดต่อห่านข้างๆ ให้ดูเหมือนกำลังสู้กับเขาหน่อย พ่อหนุ่มคนนี้ไปถ่ายรูปบนที่สูงและเสี่ยง แต่ว่าดันมีป้าข้างหลังมาโฟโต้บอมบ์เขาเลยอยากลบป้าข้างหลังออกหน่อย แล้วทำให้มันดูเจ๋งขึ้นด้วย!! เธอคนนี้ขอให้เอาถังขยะข้างหลังออกไปหน่อย เพราะมันดูไม่เฟี้ยว เธอคนนี้อยากให้ฟลามิงโก้กับถังขยะหายไปจากด้านหลัง …
-
เรื่องราวน่าประทับใจของ “น้องหมาตาบอด” และเพื่อนซี้ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันทุกที่
เรื่องราวของเจ้าตูบเพื่อนซี้สองตัว ที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่ห่าง เจ้าตูบตัวหนึ่งคอยทำหน้าที่เป็นดวงตาให้กับเพื่อนที่ตาบอดของมัน และเดินไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด พบกับ Bart และ Babs สุนัขเยอรมันเชพเพิร์ดคู่ซี้ ที่คอยดูแลกันอย่างใกล้ชิด ทั้งสองถูกพบอยู่ด้วยกันบนถนนสายหนี่งจากนั้นทั้งคู่ได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Dallas เจ้าหน้าที่พบว่าเจ้า Babs นั้นมีปัญหาทางด้านสายตาและดวงตาของมันนั้นอาจจะบอด พวกเขาจึงต้องดูแลมันอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ได้รับการตรวจ ทางศูนย์พบว่าเจ้าตูบเป็นโรคต้อหินและทำให้มันต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บปวดนั้นมาก เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องเอาดวงตาทั้งสองข้างของมันออกเพื่อรักษาอาการเจ็บปวดให้กับมัน ในระหว่างการพักรักษาตัวเจ้า Babs ถูกส่งตัวไปยังสถานสงเคราะห์แห่งใหม่ หลังจากที่ถูกแยกกับเพื่อนของเจ้าตูบมีอาการหงุดหงิดและดูจะเป็นกังวลอย่างมาก จนสุดท้ายพวกเขาต้องพาเจ้า Bart มาอยู่ที่นี่ด้วย “ในตอนแรกที่เราแยกทั้งคู่ออกจากกันนั้นเจ้า Babs ดูมีอาการเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะพาเพื่อนซี้ของมันมาอยู่ด้วย จากนั้นทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้น Babs ดูร่าเริ่งและมีความสุขทันทีที่รู้ว่า Bart อยู่กับมัน” คุณ Laura Cherry ผู้ดูแลเจ้าหมาทั้งสองกล่าว Babs และ Bart สุนัขสองตัวที่เป็นเพื่อนซี้กัน และคอยดูแลกันไม่ห่าง เจ้า Babs ดูมีความสุขมากๆ เพื่อนรักของมันคอยอยู่ข้างๆ กายตลอดเวลาและช่วยเหลือมันในทุกๆ เรื่องที่สุนัขตาบอดทำไม่ได้ “Bart จะคอยพาเพื่อนตาบอดของมันไปในทุกๆ ที่ที่มันอยากจะไป…
-
ดีไซน์เนอร์ทุ่มเวลา 9 ปี เพื่อสร้างเครื่องบินจำลองจากกระดาษ อันปราณีตบรรจงที่สุดในโลก..!!
เราอาจจะคุ้นเคยกับการพับเครื่องบินกระดาษปาแข่งกัน หรือพัฒนาไปอีกขั้นก็คือโมเดลเครื่องบินกระดาษแบบทั่วๆ ไปอาจจะใช้เวลาในการต่อไม่ถึงชั่วโมง หรือบางอันก็อาจจะไม่ถึงยี่สิบนาทีเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับดีไซน์เนอร์คนนี้เค้าได้ยกระดับเครื่องบินกระดาษขึ้นไปอีกขั้น ผลงานที่ใช้เวลาสรรค์สร้างอย่างปราณีตบรรจงนานกว่า 9 ปีนี้ เป็นของดีไซน์เนอร์วัย 25 ปี ชาวเมืองซานฟรานซิสโก Luca Iaconi-Stewart ผู้เคลมตัวเองว่าเป็น ‘ชายผู้ตกหลุมรักเครื่องบินอย่างหัวปักหัวปำ’ โปรเจคเครื่องบินกระดาษชิ้นนี้เริ่มต้นในปี 2008 ครั้งแรกเมื่อเขาได้เห็นภาพเครื่องบินโบอิ้ง 747 ของ Air India บนโลกอินเตอร์เน็ต และนั่นก็เป็นตัวจุดประกายให้เขาริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมา “สัดส่วนของเครื่องบินลำนั้นมันช่างสวยงามเอามากๆ และโชคดีที่เราอยู่ในยุคที่สามารถหาทุกอย่างได้บนโลกอินเตอร์เน็ต และผมก็เริ่มรวบรวมข้อมูลจากตรงนั้น” เจ้าของผลงานให้สัมภาษณ์ เขาใช้เวลานานนับปีในการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนโครงสร้างของเครื่องบิน หลักการทำงานด้านฟิสิกส์ของล้อ รวมทั้งรูปทรงการดีไซน์จากเครื่องบินหลากหลายรูปแบบ หลังจากที่รวบรวมข้อมูลได้ที่แล้ว เจ้าตัวก็ทำการวาดแบบแปลนด้วยตัวเองขึ้นผ่านโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็ปริ้นท์ออกมาและค่อยๆ ปะติดปะต่อทีละชิ้นส่วนอย่างบรรจง ถ้าถามว่าความคลั่งไคล้ของเขาที่มีต่อเครื่องบินมีมากขนาดไหน คงต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 เป็นช่วงเวลาที่เขาได้ใช้ทั้งช่วงฤดูร้อนหมดไปกับการศึกษารูปแบบโครงสร้างของที่นั่งตั้งแต่ชั้นประหยัด ไปจนถึงชั้นเฟิร์สคลาสแบบเก็บทุกรายละเอียด ถึงขนาดที่ว่าเจ้าตัวยอมดร็อปเรียนเพื่อที่จะได้มีเวลาทุ่มเทให้กับโปรเจคของตัวเอง “อันที่จริงผมก็ยังไม่ได้ไปไกลขนาดนั้นหรอกนะครับ เมื่อช่วงก่อนผมต้องทำโฆษณาให้กับสายการบินสิงคโปร์ ซึ่งผมก็เพิ่งจะมีเวลากลับมาทุ่มเทเรื่องการดีไซน์ปีกเครื่องบิน และผมก็ทำคลิปวิดีโอแนะนำให้กับผู้ที่สนใจเหมือนกันบนยูทูบด้วย” เจ้าของผลงานเล่าเสริม …
-
ตายแล้วไปไหน!? “พาสปอร์ตสู่สวรรค์” ของนักรบ ISIS ถูกพบโดยกองกำลัง Syria
เราคงเคยสงสัยว่าหากเราตายแล้วเราจะไปไหน เราคงได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย แต่ละเรื่องราวนั้นมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะความเชื่อของศาสนา เมื่อไม่นานมานี้ กองกำลังของ Syria ได้พบกับ “พาสปอร์ตสู่สวรรค์” ของกลุ่มกองกำลัง ISIS โดยลักษณะภายนอกของพาสฟอร์ตนั้นประกอบไปด้วยตัวอักษรทั้งภาษาอังกฤษ และภาษามลายูหรือยาวี พาสปอร์ตสู่สวรรค์ที่กองกำลังพบ พาสปอร์ตสู่สวรรค์นี้เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่กลุ่ม ISIS จะมอบให้กับเหล่านักรบของตนเองเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจทำให้รบได้ดีขึ้น โดยเฉพาะมือระเบิดพลีชีพ ในปกของหนังสือพาสปอร์ตนี้ได้เขียนไว้เป็นภาษาอาหรับว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ มูฮัมหมัดคือผู้ส่งสารของพระเจ้า” ISIS มีความเชื่อว่านักรบของพระเจ้าจะไม่สามารถเดินทางสู่นรกได้ แต่สามารถเดินทางสู่สวรรค์ได้ ถึงแม้จะไม่มีการระบุข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ถือพาสปอร์ตนี้ แต่เอกสารนี้ก็สามารถที่จะโน้มนาวนักรบส่วนหนึ่งให้เชื่อได้ว่าพวกเขาสามารถเดินทางไปสวรรค์ได้โดยไม่ลงนรก Cihan Shekh Ehmed โฆษกกลุ่มทหารรักษาการณ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามของกองกำลังประชาธิปไตยซีเรียกล่าวว่ากลุ่มนักสู้ของกลุ่มนี้ยึดเมืองทางตะวันตกของ al-Qadisiya จาก ISIS ในวันจันทร์ที่ 26 เดือนมิถุนายนปี 2017 ที่ผ่านมา Cihan Shekh Ehmed โฆษกของกองกำลัง Syria ที่มา: dailymail
-
เพราะจักรวาลมันไกลโพ้น… ศิลปินหนุ่มจึงสร้าง “จักรวาล” มันขึ้นมาด้วยมือของเขาเองซะเลย!!
ถ้าพูดถึงจักรวาล ห้วงอวกาศแห่งความลึกลับนั้นคงเป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยปริศนาและความน่าสงสัย เพราะเอาจริงๆ จะมีซักกี่คนกันเชียวที่จะมีโอกาสได้ขึ้นไปสัมผัสในพื้นที่แห่งนั้น เช่นเดียวกับช่างภาพหนุ่มมือโปร Adam Makarenko ด้วยความที่เขารู้สึกอยากจะถ่ายภาพของจักรวาล แต่จะให้เดินทางไปเห็นเองกับตาก็ดูจะเป็นไปไม่ได้ เจ้าตัวเลยทำการสร้างมันขึ้นมาด้วยสองมือของตัวเอง ตั้งอยู่ในสตูดิโอของตัวเองซะเลย “90% ของผลงานทั้งหมดนี้สร้างมาจากความผิดพลาด และการลองผิดลองถูก” Adam ให้สัมภาษณ์ สำหรับขั้นตอนการสร้างจักรวาลทั้งหมดนี้ เจ้าตัวเล่าเสริมว่ามันไม่มีทฤษฏีที่ตายตัว ดวงดาวทั้งหมดถูกสร้างจากวัสดุโฟมหรือปูนปลาสเตอร์ เพ้นท์สีด้วยเฟอร์ริคคลอไรด์และสีเพ้นท์ และเพื่อความให้เหมือนกับว่ามีแรงโน้มถ่วงอยู่จริงๆ เขาก็ต้องสร้างฐานรองที่สามารถหมุนได้จริงๆ ด้วยเช่นกัน ในส่วนรายละเอียดของพื้นผิวนั้น Adam ได้เลือกใช้ซีเมนต์และดินเหนียวเพื่อให้ดูสมจริงมากที่สุด “สำหรับการถ่ายภาพแลนด์สเคปขนาดจิ๋วนี้ ผมจำเป็นที่จะต้องย่อส่วนรายละเอียดต่างๆ ลงเพื่อให้มันสมจริงมากยิ่งขึ้น และนั่นก็เป็นความท้าทายของงานชิ้นนี้” Adam เล่า ไม่ได้มีแค่ดาวฤกษ์ที่มีพื้นที่เป็นดินเท่านั้น ดาวที่อยู่ห่างไกลจากพระอาทิตย์จนมีแต่น้ำแข็งก็มีเหมือนกัน เมื่อลองถ่ายภาพออกมาแล้วจะเห็นว่าให้อารมณ์เหมือนเป็นภาพหลุดจากจักรวาลหนังสตาร์วอร์เลยล่ะ ส่วนดวงดาวที่ระยิบระยับอยู่บนพื้นหลังสีดำนั้น Adam เกิดจากการเจาะกระดาษสีดำที่มีพื้นหลังเป็นกระดาษสีขาวทับอยู่ จากนั้นก็ทับด้วยสีพาสเทลเพื่อความสมจริง “การถ่ายภาพขนาดจิ๋วแบบนี้เป็นความท้าทายด้านเทคนิคอย่างหนึ่งของช่างภาพ เพราะเราต้องทำให้ทุกอย่างออกมาดูสมจริง และไม่ให้รู้สึกได้ว่ามันเป็นของปลอม” ช่างภาพเล่าเสริม ขั้นตอนการทำภาพทั้งหมดนั้น…
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะ 9 เรื่องผิดๆ ที่ไม่ควรทำระหว่าง ‘จูบ’ เพื่อรักที่สดใสเชื่อพี่เถอะน้อง…!!
เราทุกคนต่างล้วนเคยมีประสบการณ์การจูบยอดแย่กันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นจูบแล้วไปเจอกลิ่นอาหารบ้าง เจอเศษอาหารบ้าง หรือไม่บางทีก็ต้องเจอกับคนที่จูบได้แบบว่า… ช่างไม่รู้งานเอาซะเลยโว้ย!! และเพื่อเป็นการแก้ปัญหานิสัยการจูบอันไร้ซึ่งศิลปะ เราจะขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ 9 เรื่องผิดๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญเค้าออกมาแนะนำแล้วว่า ถ้าอยากทำให้การจูบมันดูดดื่มละก็ควรเลิกซะเถอะนิสัยแบบนี้ แล้วหันมาเชื่อพี่เถอะนะน้องเอ๋ย 1. ไม่จำเป็นต้องใช้ลิ้นนำเสมอไป โมเม้นต์แห่งการจูบอาจเป็นช่วงเวลาที่เหมือนสะกดเราให้อยู่ในมนตราได้เลย ทว่ามนตรานั้นอาจหายไปทันทีเมื่อคุณรู้สึกได้ถึงการรุกเร้าที่เร่งรีบเกินไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรจะใจเย็นๆ เริ่มต้นจากการใช้ริมฝีปากสัมผัสกันก่อน และเมื่อจังหวะมาถึง (คุณจะรู้ได้เองแหละ) ค่อยเพิ่มกิมมิคด้วยการใช้ลิ้นเล่นเสริม แค่นี้ก็ทำให้ทุกอย่างออกมาดูนุ่มนวลน่าหลงใหลสุดๆ 2. อย่าทำให้ปากตัวเองกลายเป็นก๊อกน้ำเด็ดขาด!! เป็นธรรมชาติที่ร่างกายมนุษย์เราถูกออกแบบมาให้สามารถผลิตน้ำลายได้ ทว่าบางทีการจูบกันเราก็อาจจะต้องคอยควบคุมปริมาณน้ำลายในปากไว้บ้างเพื่อความพอดี คำแนะนำคือพยายามอย่าทำให้ปากของคู่รักคุณเปียกมอมแมมจนเกินไป และไม่ควรอ้าปากกว้างจนเกินไปเช่นกัน ควรจำเอาไว้ว่านี่คือการจูบ ไม่ใช่การกินบุฟเฟ่ต์ ถ้าไม่รีบร้อนสวาปามมากเกินไปเดี๋ยวเมนูโปรดก็มาเสิร์ฟให้เองแหละ 3. จำเอาไว้ว่าคู่ของคุณคือคนรักไม่ใช่เหยื่อ เชื่อว่าพอจูบกันไปได้เรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งเราอาจจะรู้สึกร้อนรนใจจนอยากสานกิจกรรมต่อให้ไปถึงฝั่งฝัน แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรทำตัวเหมือนสิงโตตะครุบเหยื่อโดยเด็ดขาด สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ.. ใจเย็นๆ ค่อยๆ ใช้เวลาไปกับมันอย่างช้าๆ ให้จินตนาการภาพของคนสองคนที่จะจับมือเข้าสู่ประตูสวรรค์ไว้ ไม่ใช่ภาพของนักวิ่งชายเดี่ยวที่ไม่สนใจเพื่อนร่วมทีมและสักแต่จะวิ่งเข้าเส้นชัยอย่างเดียว 4. ค่อยเป็นค่อยไป… อย่าใจร้อนถามหาแต่ตอนจบ สำหรับผู้ชายแล้วการจูบอาจเป็นเหมือนหนทางที่จะนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ ‘เซ็กส์’ แต่งานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารการพัฒนาทางจิตวิทยาได้ค้นพบว่า สำหรับหญิงสาวแล้วพวกเธอคิดว่าการจูบนั้นไม่ใช่หนทางที่ต้องทำเพื่อเซ็กส์เสมอไป เพราะฉะนั้นแล้วผู้เชี่ยวชาญจึงอยากจะแนะนำว่า ไม่จำเป็นว่าจูบกันแล้วจะต้องลงเอยด้วยเรื่องนั้นเสมอไป…
-
พอกันทีกับการทาเล็บแบบเดิมๆ เทรนด์ใหม่ “เล็บหัวนม 3D” ที่ดู๊มๆ อย่างกับหน้าอกจริงๆ
การทาเล็บนั้นคงเป็นสิ่งที่สาวๆ ชื่นชอบรองลงมาจากการทานของหวานเป็นแน่ พอมีเวลาว่างหน่อยก็ขอไปทำเล็บ ตกแต่งเป็นรูปแบบต่างๆ ให้มันสวยน่ารักฟรุ้งฟริ้งซะหน่อย ซึ่งเราก็เคยนำเสนอทั้ง ยาทาเล็บหินควอทซ์ และ ยาทาเล็บกินได้ ที่แปลกสุดๆ กันมาแล้ว แต่ในครั้งนี้เราขอเสนอการทาเล็บที่แปลกยิ่งกว่า ที่ไม่รู้ว่าได้แรงบันดาลใจมาจากไหน ถึงทาเล็บให้มีรูปร่างเป็นหน้าอกของผู้หญิง!! เล็บหัวนมสุดแปลกเหล่านี้เป็นเล็บของสาวสวย Erose Aziza ที่ได้โพสต์รูปภาพการทาเล็บแบบแหวกแนวในอินสตาแกรมของเธอ โดยเล็บหัวนมหลายสีนี้ดีไซน์โดย Mei Kawajiri ช่างทำเล็บชาวนิวยอร์ก ที่ไอเดียบรรเจิดจัดแจงนมแต่ละเต้าลงบนเล็บที่ละเล็บๆ โดยนมแต่ละอันนั้นก็มีสีที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละกรรมพันธ์ แต่ที่เด็ดที่สุดคงเป็นหัวนมที่มีห่วงห้อยด้วย ทำเอาเห็นแล้วก็เสียวแวบๆ อยู่เหมือนกัน และไม่นานมานี้ก็ได้มีสาวคนหนึ่งที่ชื่อว่า Asa Bree (จากอินสตาแกรม asabree) ก็ได้โพสต์คลิปความน่ารักของเล็บหัวนมด้วยเช่นกัน โดยเธอมีลูกเล่นที่การวาดเส้นสีดำให้เหมือนเป็นบราขึ้นมา และแน่นอนว่าไม่ลืมที่จะทำนมหัวเจาะห่วงด้วยเช่นกัน โดยชาวเน็ตบางตนก็ได้แสดงความเห็นว่ามันไม่เห็นจะเหมือนหน้าอกของผู้หญิงเลย ในขณะที่บางคนก็ชื่นชอบเพราะความแปลกและน่ารักของมัน ปิดท้ายข่าว ลองไปชมคลิปกันชัดๆ เลยว่าเล็บหัวนมน่ารักขนาดไหน หากชมคลิปไม่ได้ คลิกที่นี่ Been seeing everyone do 3D tiddy nails these days, so I thought I’d flash back to these monsters…
-
ร้านไอศกรีมไอเดียบรรเจิด เสิร์ฟเมนูสุดแปลก “พิซซ่าไอศกรีม” ที่ชาวเน็ตแห่ไปลองกันใหญ่!!
ในการกินพิซซ่านั้นหลายๆ คนมักจะทานคู่กับซอสมะเขื่อเทศ ออริกาโน่ หรือแม้แต่ผงพริก ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันเป็นเครื่องปรุงที่มีรสชาติจัดจ้านเหมาะกับการทานคู่กับอาหารคาวเป็นที่สุด แต่หากอาหารคาวอย่างพิซซ่านั้นเสิร์ฟเคียงคู่มากับไอสกรีมล่ะ?? สมองของเรามันบอกว่ามันเป็นอะไรที่ไม่เข้ากันสุดๆ สำหรับอาหารคาวและอาหารหวานอย่างไอศกรีม แต่ร้านไหนกันนะ ที่กล้าหาญเอาเมนูทั้งสองมาทานเคียงคู่กัน Little Baby’s Ice Cream เป็นร้านที่ตั้งอยู่ที่เมือง Philadelphia ของสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2012 พวกเขาได้เปิดตัวเมนูใหม่ที่ทำร้ายคนรักพิซซ่าสุดๆ ด้วยการนำไอศกรีมเป็นก้อนๆ มาโปะลงบนชิ้นพิซซ่ายี่ห้อ Pizza Brain มันเป็นเมนูที่แปลกสุดๆ ก็ตรงที่นำอาหารคาวอย่างพิซซ่าและอาหารหวานฉ่ำอย่างไอศครีมมาเสิร์ฟคู่กัน แน่นอนว่าคุณจะไม่ได้รสชาติเหมือนกับทานวาฟเฟิลกับไอศกรีมแน่ๆ เพราะพิซซ่าเหล่านี้อุดมไปด้วยซอสมะเขือเทศ ใบโหระพา ออริกาโน่ และเครื่องอีกมากมาย เมนูนี้ทำเอาชาวเน็ตตกอกตกใจในไอเดียของร้าน จนอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพและโพสลงบนโลกโซเชียลซะหน่อย รสชาติมันจะอร่อยหรือเปล่านะ?? ไม่แน่ว่ามันอาจจะมีรสชาติที่ดีก็ได้นะ ใครอยากลองก็ไปหาซื้อมาทำทานกันดูได้ ร้านนี้เสิร์ฟเมนูที่น่าสนใจดีนะ ใครอยากชมภาพเมนุเพิ่มเติมก็สารถไปส่องได้ที่อินสตาแกรมของร้านเลย littlebabysic ที่มา mymodernmet
-
10 คำศัพท์ที่ตอนเด็กมีความหมายใสๆ แต่พอโตขึ้นกลับชวนให้คิดถึงเรื่องไม่ดีซะงั้น!?
ลองนึกดูดีๆ สิว่าถ้าให้ย้อนกลับไปในสมัยที่เรายังเป็นเด็กน้อยวัยใสอินโนเซ้นส์ ไม่ว่าผู้ใหญ่จะพูดคำที่มีความหมายติดเรทขนาดไหนยังไง๊ยังไงเราก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แต่พอเวลาเปลี่ยนไปไม่น่าเชื่อว่าเราทุกคนจะโตมาพร้อมกับความทะลึ่งตึงตัง เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้ยินคำศัพท์เหล่านี้ทีไร… มันชวนให้คิดถึงเรื่องไม่ดีตลอดเลยโถ่วเอ๊ยยย 1. Rubber ตอนเด็กๆ เราก็เข้าใจว่ามันคือยางลบนั่นแหละ แต่พอได้ยินคำอะไรก็แล้วแต่ที่มันมีคำว่า ‘ยาง’ ลงท้าย มันชวนให้นึกถึงถุงยางอนามัยทู๊กกที 2. High สมัยเป็นเด็กๆ พอได้ยินคำว่า ‘ไฮ’ เราก็มักจะนึกถึงความสูง แต่พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เท่านั้นแหละ ได้ยินคำนี้ทีไรแอบคิดถึงอาการเมากัญชาตลอดเลยแฮะ 3. Brazilian สมัยที่ตีนยังเท่าฝาหอยถ้ามีผู้ใหญ่พูดคำว่า ‘บราซิลเลี่ยน’ เราก็จะนึกถึงชาวบราซิล แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วมันคือวิธีการแว๊กซ์ขนลับอย่างหนึ่ง!! 4. Bills ได้ยินคำนี้ก็ชวนให้คิดไปถึงแบงค์พันเป็นปึกๆ แบงค์ร้อยเป็นฟ่อนๆ แต่พอโตขึ้นมาได้ทำงานรับผิดชอบชีวิตตัวเองเท่านั้นแหละถึงได้รู้ว่า จริงๆ แล้วคำนี้มันน่าจะหมายถึงใบแจ้งหนี้มากกว่านะ 5. Pussy แหม่… เชื่อว่าหลายคนคงเป็นเหมือนกัน เพราะเรารู้จักคำนี้กันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วมันมีความหมายถึงอย่างอื่นที่ไม่ใช่ลูกแมวน้อยด้วยเหมือนกัน 6. Late คำนี้อาจจะฟังดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่สำหรับเด็กๆ โถ่ว..กับอีแค่มาสายจะอะไรกันนักกันหนา แต่สำหรับวัยรุ่นวัยผู้ใหญ่แล้วนอกจากการทำงานเลท ก็มีเรื่องของ ‘ประจำเดือนมาเลท’…
-
รู้จักกับ ‘Martha’ เจ้าตูบหน้าย่นไข่ยาน แชมป์หมาน่าเกลียดที่สุดในโลกประจำปี 2017 !!
เป็นประจำทุกปีที่จะมีการจัดงานประกวด ‘World’s Ugliest Dog’ ขึ้นที่ Sonoma-Marin Fair รัฐแคลิฟอร์เนีย และคราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับเจ้าของแชมป์ประจำปี 2017 ซึ่งแชมป์นี้จะเป็นของใครไปไม่ได้เลยนอกจากเจ้า ‘Martha’ ตูบหน้าย่นไข่ยาน ที่อยู่คู่วงการแข่งขันสุนัขน่าเกลียดมานานหลายต่อหลายปี ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมปีนี้แชมป์จะตกเป็นของเจ้ามาร์ธ่า เพราะด้วยน้ำหนักตัวที่มากถึง 57 กิโลกรัม บวกกับลักษณะความย่นบนใบหน้าที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มันกลายเป็นไฮไลต์เด่นของงานไปโดยปริยาย “ทั้งอ้วน กินเยอะ กรนดัง ขี้เกียจ และไม่เคยทำตามคำสั่งเราเลย นี่แหละคือนิสัยของเจ้ามาร์ธ่า อีกทั้งหน้าตาของมันยังมีดวงตาที่เหี่ยวย่น ผิวหนังก็ยานซะอย่างกับไข่ย้อย แต่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะได้แชมป์กับเค้าด้วย” Jessica Burkard เจ้าของเล่า หลังจากที่เจ้ามาร์ธ่าเอาชนะคู่แข่งไปอย่างขาดลอย ทำให้มันได้รับเงินรางวัลไปนอนกอดที่บ้านสูงถึง 1,500 เหรียญ หรือประมาณ 50,000 บาท ถ้วยรางวัลสูง 150 ซม. พร้อมตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวนิวยอร์กฟรีกับครอบครัว “ดิฉันก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยค่ะว่ามันจะกลายเป็นข่าวได้ แถมยังเดินสายออกรายการทีวีตามช่องต่างๆ อีกด้วย” เจ้าของให้สัมภาษณ์ แต่ก่อนหน้านี้มาร์ธ่าก็มีชีวิตที่ค่อนข้างจะลำบากและต้องอาศัยอยู่ตามข้างถนนเฉกเช่นสุนัขจรจัด จนกระทั่งวันหนึ่งมันได้รับการช่วยเหลือจากศูนย์พักพิง ทำให้มันได้มาเจอกับครอบครัวของ Jessica Burkard…
-
รวมภาพที่ชนะรางวัลประกวดภาพถ่าย iPhone แห่งปี 2017 แต่ละรูปเต็มไปด้วยอารมณ์!!
กลับมาอีกครั้งสำหรับงานประกาศรางวัล IPPAwards ประจำปี 2017 ซึ่งในครั้งนี้ก็ถือเป็นการมอบรางวัลครบรอบครั้งที่ 10 ตั้งแต่จัดการประกวดนี้ขึ้นมา ส่วนถ้าใครงงว่าเจ้ารางวัล IPPAwards มันคือรางวัลอะไรกัน คำตอบก็ง่ายๆ รางวัล IPPAwards คือรางวัลที่จัดกันมาตั้งแต่ปี 2007 แล้ว โดยตัวการแข่งขันจะเปิดให้ช่างภาพมากฝีมือจากทั่วโลกส่งผลงานของตัวเองเข้ามาตามการจัดหมวดการแข่งขัน ซึ่งหมวดที่สามารถลงแข่งขันได้ก็มีให้เลือกมากมายถึง 19 สาขาเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น คน,สัตว์,สิ่งก่อสร้าง,ต้นไม้,เด็ก,ท่องเที่ยว,อาหาร,พ็อตเทรต,พระอาทิตย์ตกดิน และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเข้าร่วมประกวดงานนี้นั่นก็คือ ช่างภาพทุกคนที่เข้าร่วมต้องใช้กล้องจากโทรศัพท์ iPhone ในการถ่ายภาพเท่านั้น ส่วนรุ่นของตัวโทรศัพท์นั้นไม่จำกัดว่าจะเป็นรุ่นเก่ารุ่นใหม่สามารถส่งเข้ามาแข่งขันได้ตลอดเวลาตราบที่ยังอยู่ในเงื่อนไข พูดกันมายืดยาวขนาดนี้แล้ว หลายคนก็คงอยากจะรู้ว่าภาพที่ชนะในการประกวดของปีนี้แต่ละหมวดจะสวยขนาดไหน อย่ารอช้าลองมาดูกันเลย รางวัล Grand Prize ผู้อยู่เหนือทุกหมวด โดยมาจากหมวด ภาพถ่ายแห่งปี โดย Sebastiano Tomada หมวดภาพถ่ายแห่งปี โดย Brendan Ó Sé หมวดภาพถ่ายธรรมชาติ โดย Aaron Sandberg หมวดภาพชุด โดย Joshua Sarinana หมวดภูมิประเทศ โดย Christian Horgan…
-
Justin Trudeau ร่วมเดินพาเหรด LGBT พร้อมแตะมือกับสาวน้อย เล่นเอาชาวเน็ตรุมอิจฉา
ถ้าให้พูดถึงนักการเมืองที่หล่อพอจะเป็นขวัญใจของสาวน้อยสาวใหญ่ Justin Trudeau ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดา ก็คงจะเป็นชื่อแรกที่โผลขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน ด้วยความที่ว่าพ่อนายกคนนี้มีหมาดที่หล่อเหลาเอาการสุดๆ และยังดูเป็นมิตรกับประชาชนมากๆ ซึ่งล่าสุดเขายังได้คะแนนเสียงจากกลุ่มคนที่เป็น LGBT อีกด้วย เพราะได้เขาได้ไปเดินขบวน Pride March เพื่อยืนยันจุดยืนว่าเขาสนับสนุนคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ ไม่จบแค่นั้น ในวันงานเพียงวันเดียว Adam Scotti ผู้เป็นช่างภาพประจำตัวของ Justin ก็ได้เก็บภาพความประทับใจของเขาได้มากมายเลยทีเดียว แต่ที่จะกินใจมากที่สุดก็คงจะเป็นช็อตที่ตัว Justin ได้ไปแตะมือกับสาวน้อยผู้แต่งตัวเป็น Wonder Woman พร้อมกับใส่ถุงเท้าที่มีลายสีรุ่ง ช็อตเดียวได้คะแนนเสียงไปเต็มๆ เลยนะเนี่ยท่านนายก ยัง.. มันยังไม่หมดแค่นั้น ถุงเท้าที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สีรุ้งเพื่อใช้ในการร่วมขบวนพาเหรดเท่านั้น แต่ตัวถุงเท้ายังมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า Eid Mubarak ซึ่งเป็นคำที่ไว้เฉลิมฉลองในวันเราะมะฎอน เรียกว่านอกจากได้ใจกลุ่ม LGBT แล้วยังได้ใจชาวอิสลามอีก มันยังไม่พอ ความเอาใจใส่ของพี่ Justin ยังมีอีก เขาได้เพ้นท์ใบหน้าด้วยรูปใบเมเปิ้ลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธงชาติแคนาดา แต่เปลี่ยนเป็นสีรุ่งซึ่งเป็นธงประจำกลุ่ม LGBT อะไรมันจะเก็บรายละเอียดเอาใจคนทุกกลุ่มขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพี่แกตั้งใจหรือว่าฝ่ายคอสตูมดูแลมาอย่างดีกันแน่นะ ถึงทำให้การออกงานครั้งเดียวแต่ได้ใจทุกกลุ่มแบบนี้ . . แต่ที่รู้ๆ คือพี่จะหล่อไปไหนเนี่ย ยอมใจจริงๆ<3…
-
แอลกอฮอล์มันเรียกร้อง!! หนุ่มโดนรถบัสชนจังๆ แต่พี่แกลุกขึ้นมาปัดๆ แล้วเดินเข้าผับเฉย!!?
ถ้าพูดถึงอุบัติเหตุอย่างการถูกรถชนนั้น ปกติแล้วไม่ว่าใครจะถูกชนด้วยรถขนาดไหนก็ต้องได้รับบาดเจ็บกันเป็นธรรมดา ยิ่งเป็นรถยนต์หรือรถบัสไม่ก็รถสิบล้ออะไรทำนองนี้ ถ้าโดนเข้าจังๆ รับรองว่าไม่น่ารอดแน่นอน… แต่สำหรับ Simon Smith จากประเทศอังกฤษกลับไม่เป็นแบบนั้น จากภาพบันทึกของกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นชายผิวสีคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ข้างทาง จากนั้นรถบัสสีม่วงขนาดใหญ่ก็เลี้ยวเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วพร้อมชนเข้ากับชายหนุ่มคนนั้นจนกระเด็น!! แต่เชื่อไหม Simon กลับลุกขึ้นมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดุจดังว่ามีคนวิ่งชนเฉยๆ ลุกขึ้นมาปัดเสื้อผ้าจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในผับที่เป็นจุดหมายเดิมของเขา งานนี้เป็นใครก็อึ้ง นั่นมันรถบัสนะโว้ย!! หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวเขาได้เดินทางไปตรวจเช็คร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งหมอก็บอกว่าเขาไม่บาดเจ็บอะไรเลยปลอดภัยดี พอเขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมแพทย์ฟังกลับไม่มีใครเชื่อเรื่องของเขา ด้วยเหตุนี้ทางตำรวจจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมดูกล้องวงจรปิดก็พบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ที่สำคัญพอไปเช็คตัวรถแล้วมันเละมากๆ แต่ทั้งหมดก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าทำไมชายคนนี้กลับไม่เป็นอะไรเลย . สุดท้าย Simon ก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร จะทิ้งก็แต่คำถามที่คาใจทุกคนที่ได้เห็นคลิปเหตุการณ์ว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นใครกันแน่ หรือว่าเขาคือซุปเปอร์ฮีโร่กันนะ? ที่มา ladbible
-
มาพบกับ “สาวงาม 30 คนสุดท้าย” จาก Miss Tiffany 2017 ที่ประชันชุดว่ายน้ำสุดร้อนแรง ไม่มีใครยอมใคร!!
ในวงการประกวดความสวยความงามของบ้านเรานั้น เรียกได้ว่ามีการฟาดฟันกันอย่างเมามันส์ ไม่ว่าจะเป็นมิสแกรนด์หรือมิสยูนิเวิร์สที่ได้คัดเลือกสาวงามผู้เหมาะสมในแต่ละเวทีเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว และการกลับมาอีกครั้งกับกองประกวดที่กำลังเป็นกระแสอย่างมากในขณะนี้ นั่นก็คือ “Miss Tiffany 2017” ที่เป็นการเฟ้นหาสาวประเภทสองที่มีดีทั้งรูปร่างหน้าตาและความสามารถมาประดับวงการบันเทิงบ้านเรา โดยปีนี้ เป็นปีแห่งการครบรอบ 20 ปีอย่างยิ่งใหญ่ของ Miss Tiffany’s Universe กองประกวดจึงได้จับมือกับช่อง GMM25 สร้างปรากฎการณ์เรียลลิตี้ การประกวดนางงามครั้งแรกของโลก กับรายการ “Miss Tiffany’s, The Reality” ที่จะเจาะลึกเบื้องหลังกองประกวดนางงามที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน โดยทางกองประกวดก็ได้เปิดตัวภาพ 30 สาวงาม ในชุด BSC Swimwear ที่ Mövenpick Siam Hotel Na Jomtien Pattaya เพื่อถ่ายทำวีดิโอสำหรับรายการประกวดแบบ Reality Show ซึ่งแต่ละคนนั้นก็ได้ประชัดความงามกันอย่างที่เรียกว่าไม่มีใครแพ้ใครเลย เราไปชมความงามของสาวๆ กันดีกว่า . . . . . . . . . . . .…
-
พบกับ 5 วิธีแก้ปัญหาเวลา “ผึ้งต่อยเจ้าตูบ” ถ้าละเลยอาจะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ได้!!
เจ้าตูบนั้นถือเป็นสัตว์ที่มีนิสัยซุกซน และมันก็ชอบที่จะวิ่งเล่นไปยังที่ต่างๆ ข้างนอกบ้านอยู่เสมอ เมื่อมันเป็นแบบนั้นปัญหาก็มักจะเกิดขึ้นเสมอ นั่นรวมถึงการถูกผึ้งต่อยก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยเช่นกัน แต่ว่าพอปัญหาเกิดขึ้นจริงๆ หลายคนก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกยังไงให้กับเจ้าเพื่อนสี่ขาของตัวเอง จนปล่อยให้มันลุกลามไปกันใหญ่ ฉะนั้นในครั้งนี้เราก็เลยจะมาดู 5 วิธีแก้ไขปัญหาเวลาเจ้าตูบโดนผึ้งหรือแมลงอื่นๆ กัดต่อยกัน รับรองง่ายๆ สบายหายห่วง 1 . ยืนยันให้แน่ใจว่าสุนัขของเราถูกต่อยจริงๆ นี่ถือเป็นขั้นตอนแรก หลังจากที่เราเกิดความสงสัยว่าเจ้าตูบมันมีอาการบวมหรืออะไรทำนองนี้ ซึ่งเราต้องเป็นคนเช็คให้ชัวร์ว่าสุนัขของเราโดนผึ้งต่อยจริงๆ โดยวิธีสังเกตให้ดูเวลาที่พวกมันพยายามกัดหรือเคี้ยวจุดไหนเป็นพิเศษและมีลักษณะที่บวมๆ ตรงจุดนั้นๆ ก็มั่นใจได้เลยว่ามันโดนต่อยจริงๆ 2. หาจุดที่มันถูกต่อย จังหวะนั้นถ้าเรามั่นใจว่าเจ้าตูบโดนต่อยจริงๆ และเราก็พอจะรู้ว่าตรงไหนที่โดนต่อย ให้เช็คให้ชัดเจนและสังเกตเหล็กในของผึ้ง ที่สำคัญพยายามจับตัวเพื่อนสี่ขาให้นิ่งมากที่สุด 3. ดึงเหล็กในออกจากจุดที่ถูกต่อย ถ้าเราเจอเหล็กในและจุดที่ถูกต่อยแล้วให้หาคีมนีบหรือใช้กระดาษแข็งกดลงไปบริเวณดังกล่าว จากนั้นให้นำส่วนที่เป็นเหล็กในดำๆ ออกมาและทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างแผลต่อทันที ที่สำคัญอย่าให้สุนัขเลียในที่จุดที่รักษามันไปเด็ดขาด!! 4. สังเกตุอาหารหลังจากการรักษา หลังจากที่เรานำเหล็กในออกมาแล้ว ให้หมั่นสังเกตอาการของเจ้าตูบอย่างใกล้ชิด ว่ามันรู้สึกดีขึ้นหรือว่าแย่ลง เพราะถ้าเกิดว่าสุนัขของคุณแพ้เหล็กในของแมลงแล้วจัดการปัญหาช้าอาจจะเกิดเป็นเรื่องใหญ่ได้ 5. เตรียมพร้อมรับมือเสมอ ถ้าเกิดว่าสุนัขของเราแพ้ขึ้นมาจริงๆ จงเตรียมพร้อมเพื่อที่จะพามันไปหาสัตวแพทย์ทุกเมื่อ เพราะถ้าเราปล่อยไว้นานๆ แล้วสุนัขอาจแพ้พิษของผึ้ง สุนัขของเราจะป่วยหนักมากทั้งอาเจียน ปวดหัวอย่างหนัก ฉะนั้นช่วงเราจึงต้องดูแลให้ดีอย่าปล่อยให้ห่างไปไหน …
-
หนุ่มญี่ปุ่นคิดค้น “ปืนใหญ่ลมตด” เปลี่ยนแก๊สจากลำไส้คุณ ให้กลายเป็นอาวุธชีวภาพ!!
เพื่อนๆ เคยมีความคิดที่อยากจะแกล้งคนที่เราหมั่นไส้บ้างหรือไม่? เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ จะต้องเคยมีความคิดที่อยากจะเอาคืน หรือแกล้งคนที่เราไม่ชอบบ้างละ แต่ทว่าการแกล้งคนนั้น บางทีมันก็เป็นเรื่องที่ยากเหมือนกันนะ เพราะไหนจะต้องมาคิดหาวิธีต่างๆ มากมาย ที่จะทำให้พวกเขาไม่ได้รับความรุนแรงเกินไป ถ้าอย่างนั้น ในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอมานำเสนอวิธีการแกล้งคนแบบแสบๆ ที่ทำให้คนถูกแกล้งไม่เจ็บตัว นั่นก็คือ “การสร้างปืนใหญ่ลมตด” ที่แน่นอนว่ามันไม่เกิดอันตรายแน่ๆ แต่จะทำให้เป้าหมายของเราตกใจสุดขีดไปเลยละ ในเว็บไซต์ตลกของญี่ปุ่น ชายหนุ่มที่ชื่อว่า ARuFa ได้แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถสร้างปืนใหญ่ลมตดที่มีชื่อสุดเท่ว่า “onara tobashi ki” (オナラ飛ばし機) หรือ “เครื่องยิงตด” ได้แบบง่ายๆ โดยการใช้กล่องกระดาษแข็ง สายยาง และตะโพกของตัวเองเพียงเท่านั้น โดยวิธีการสร้างอาวุธชีวภาพร้ายแรงดังกล่าวก็คือ การนำกล่องกระดาษมาตัดให้เป็นรูปวงกรมตรงกลาง ดังภาพ และตัดกางเกงของคุณให้รูตรงบั้นท้ายแบบนี้ ต่อไปก็นำสายยางมาสอดเข้าไปเลยจ้า จากนั้นนำสายยางอีกด้านสอดเข้าไปในกล่อง มาถึงขั้นตอนการใช้งานกันบ้าง เพียงแค่คุณตดออกมาพร้อมกับตบข้างกล่องไปพร้อมๆ กัน มันก็จะเกิดลมที่สามารถพุ่งเข้าไปหาจุดเป้าหมายแบบเต็มๆ และนี่คือผลลัพธ์ที่ได้ ลองหาอาสาสมัคร หรือเพื่อนที่คุณอยากแกล้ง มาเป็นเหยื่อในครั้งนี้ดูสิ…
-
ลูกหมาถูกทิ้งจากหน้าต่างรถ เข้ามาเติมเต็มความสุขให้แม่สุนัขที่ใจสลายหลังเสียลูกตัวเองไป
เมื่อ Blossom สุนัขจากศูนย์พักพิงได้สูญเสียลูกน้อยที่เพิ่งเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกในช่วงกลางเดือนมิถุนายนไป ก็ทำให้มันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก โดยทาง Maggie Escriva เจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงได้ออกมาเผยว่า เจ้า Blossom กลายเป็นสุนัขที่บ้าคลั่ง และเธอก็ไม่สามารถปลอบใจมันได้ แต่อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น เพราะจู่ๆ ก็มีลูกสุนัขถูกทิ้ง 6 ตัวเข้ามาในชีวิตของมัน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Blossom กลับมาสดใสอีกครั้ง Maggie จากศูนย์พักพิง Westie & Scottie Rescue Houston ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับลูกสุนัขทั้ง 8 ตัวที่ถูกโยนออกจากหน้าต่างรถบรรทุก แต่น่าเศร้าที่ลูกสุนัข 2 ตัวทนพิษบาดแผลไม่ไหว จนทำให้มันต้องเสียชีวิตไป โชคดีที่ลูกสุนัขอีก 6 ตัวสามารถรอดชีวิตมาได้ แต่ถึงกระนั้นร่างกายของพวกมันก็ยังคงอ่อนแอมาก Maggie ไม่แน่ใจว่า Blossom จะยอมรับพวกเขาหรือไม่ แต่สุดท้ายเธอก็ลองตัดสินใจที่จะให้มันพบเจอกับลูกสุนัขตัวน้อยทั้ง 6 ดู และแน่นอนมันได้ผล!! Maggie เผยว่า “Blossom มองไปที่ลูกสุนัข…
-
ใจหยาบป่าว? 23 รูปวัดศีลธรรมในจิตใจของคุณ มันต้องมีซักรูปละน่าที่ชวนให้คิดลึก
ต้องยอมรับเลยว่าเรื่องทะลึ่งๆ หรือความคิดเกี่ยวกับเรื่องใต้สะดือ เนี่ยไม่เคยเข้าใครออกใครจริงๆ เลยนะว่าไหม แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าไม่เคยคิดเรื่องทะลึ่งๆ เลยล่ะก็ เราขอท้าให้พบกับ “23 ภาพวัดศีลธรรมในจิตใจ” มันต้องมีซักภาพละน่าที่คุณเห็นแล้วต้องคิดเป็นอย่างอื่น ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปชมกันเลย… 1. แค่ส่องกระจกเฉยๆ อย่าคิดมากน่า 2. ตกลงแหวนนี่มันใส่ตรงไหนกันแน่นะเนี่ย!? 3. อื่ม… หอมกลิ่นขนมปังจริงๆ 4. แค่เขาเฉยๆ น่าอย่าคิดมาก 5. อื่ม.. เหมือนอะไรน้า!? 6. อย่าคิดลึกน่า แค่เท้าเอง 7. ฟินเลยไหมล่ะลุง!? 8. รู้นะคิดอะไรอยู่?? 9. โค้งแบบนี้ ย้อยแบบนี้ คงจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก… 10. ลิ้นห้อยเลยสินะพ่อสกุ๊ปบี้ดู 11. อย่างงี้ต้องใบแดงครับ ‘จารย์ 12. อื่ม……
-
พ่อเตรียมตัวให้ลูกสาววัย 2 ขวบ สู่ความตาย ด้วยการพาไปนอนเล่นในหลุมศพทุกวัน
สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนคาดหวังจากลูกคืออยากเห็นลูกโตมามีชีวิตที่ดี และประสบความสำเร็จในชีวิต แต่สำหรับพ่อแม่บางคนกลับไม่มีโอกาสได้เห็นวันนั้นของลูก เหมือนกับพ่อแม่คู่นี้ที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาลูกสาวที่ป่วยหนัก พวกเขาจึงตัดสินใจให้เธอเผชิญกับความตายโดยพาไปเล่นในหลุมศพของเธอ Zhang Xin Lei เด็กหญิงวัย 2 ขวบ จากประเทศจีน ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคธาลัสซีเมียตั้งแต่อายุแค่ 2 เดือนเท่านั้น ที่ผ่านมาพ่อแม่ของเธอก็จ่ายค่ารักษาไปแล้วกว่า 400,000 บาท จนตอนนี้พวกเขาไม่มีเงินที่จะจ่ายค่ารักษาอีกแล้ว นอกจากนี้ทางครอบครัวได้ยืมเงินเพื่อนทุกคนที่ยืมได้แต่แทบไม่ได้ใช้คืนเลย เพราะลูกสาวต้องรักษาตลอดชีวิตและถ่ายเลือดเป็นประจำ จนตอนนี้เพื่อนๆ ก็ไม่มีให้ยืมแล้วเช่นกัน เมื่อตกอยู่ในสภาพนี้ Zhang Liyong พ่อของเด็กหญิงจึงตัดสินใจให้เธอเผชิญกับความตาย เขาบอกว่า “ผมคิดอะไรไม่ออก และไม่รู้จะทำยังไงนอกจากพาเธอไปดูสถานที่ที่เธอจะพักผ่อนอย่างสงบไปตลอดกาล” พ่อได้เตรียมชีวิตสู่ความตายให้ลูก โดยขุดหลุมศพให้แล้วพาเธอมานอนเล่นที่นี่ทุกวันเพื่อให้ทำความคุ้นเคยกับที่พักของในอนาคตอันใกล้นี้ และไม่ว่าเด็กน้อยจะรู้ตัวหรือไม่ เธอก็จะมาเล่นที่นี่ทุกวันพร้อมครอบครัว สำหรับโรคของเด็กหญิงนั้น ต้องได้รับการดูแลจากหมอย่างใกล้ชิดหรือไปหาหมอเป็นประจำ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจมีผลร้ายแรงต่อร่างกายและเสียชีวิตในที่สุด ทางด้านคุณแม่พูดทั้งน้ำตาว่า “เราถูกบีบให้ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ และเราก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ” แล้วเพื่อนๆ ล่ะ ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้จะหาทางออกอย่างไร? ที่มา mirror
-
หญิงชาวอังกฤษ กลายเป็น “อัมพาต” อย่างถาวร หลังถึงจุดสุดยอดตอนมีอะไรกับสามี
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยเรื่องราวของ Lucinda Allen หญิงวัย 43 ปี จากสเตาร์บริดจ์ ประเทศอังกฤษ ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากอาการปวดหัวอย่างฉับพลันระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับสามี จนทำให้เธอกลายเป็นอัมพาต และได้นั่งรถเข็นคนพิการอย่างถาวร Lucinda ได้ออกมาเผยว่า เมื่อ 5 ปีก่อน ขณะที่เธอกำลังตั้งครรภ์ 6 เดือน เธอได้มีเพศสัมพันธ์กับ Tony ผู้เป็นสามี แต่หลังจากนั้น ก็เกิดอาการปวดหัวอย่างฉับพลัน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเธอเลย แต่ในวันนั้น Lucinda กลับรู้สึกว่าเธอมีอาการปวดที่ดวงตาด้านขวา และทำให้ไม่สามารถหลับตาได้ ด้วยเหตุนี้ Lucinda จึงถูกนำตัวส่งโรงพยาล Queen Elizabeth’s Hospital ในเบอร์มิงแฮม โดยในขณะที่เธออยู่ในรถพยาบาล เธอก็เริ่มมีอาการตกใจมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่พบว่าตัวเองไม่สามารถพูดได้ “ฉันคิดว่าฉันอาจจะมีเลือดออกในสมอง หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นภาพเบลอๆ ทั้งหมดที่ฉันจำได้คือความสับสน ความฝัน และความเป็นจริงที่ผสมผสานกับความกลัว” Lucinda กล่าว หลังจากที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Lucinda…
-
นักวิทย์ถก ทำไมแม่น้ำในคอสตาริกาถึงมีสีฟ้าสวย? หรือจริงๆ แล้วเป็นเพียงภาพลวงตา?
เมื่อได้มองเห็นแม่น้ำสีฟ้าสวยสดใสแบบนี้ เราก็คิดว่ามันจะมีอยู่แต่ในเทพนิยาย แต่ใครจะรู้ละว่าความจริงแล้วมันมีอยู่จริงในโลกของเรา โดยแม่น้ำที่เพื่อนๆ ได้เห็นกันอยู่นี้ มีชื่อว่า Rio Celeste ตั้งอยู่ในประเทศคอสตาริกา บอกเลยว่ามันทั้งงดงามและน่าทึ่งเป็นอย่างมาก หลายคนอาจจะกำลังสงสัยว่า ทำไมแม่น้ำ Rio Celeste แห่งนี้ ถึงเป็นสีฟ้าอมเขียว หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อสีเทอร์คอยซ์ (Turquoise) มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกันนะ หรือจริงๆ แล้วมันเป็นเพียงแค่ภาพลวงตากันแน่ วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้วจ้า ทฤษฎีเกี่ยวกับสีฟ้าครามที่เกิดขึ้นในแม่น้ำ Rio Celeste มีการศึกษาในวงการวิทยาศาสตร์เป็นเวลาหลายปี แต่ถึงกระนั้นก็ไม่เคยมีใครสามารถหาคำตอบได้ ซึ่งบางคนก็ได้อ้างว่า สีที่ผิดปกตินี้อาจจะมีสาเหตุมาจากทองแดงในระดับสูง แต่เมื่อมีการทดสอบพบว่า ไม่มีทองแดงอยู่ในน้ำเลย หรือบางคนก็อ้างว่า อาจเป็นเพราะสารเคมีแคลเซียมคาร์บอเนต และกำมะถันก็เป็นได้ หลังจากนั้นในปี 2013 ทีมนักวิทยาศาสตร์จาก Universidad the Costa Rica และ Universidad National ได้เก็บตัวอย่างน้ำจากแม่น้ำ 2 สายเล็กๆ อย่างแม่น้ำ Sour Creek และแม่น้ำ…
-
พาไปดูภายใน HMS Queen Elizabeth สุดยอดเรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ
ในอดีต “กองทัพเรือ” ถือเป็นกองกำลังรบที่สำคัญอีกกองหนึ่ง เพราะนอกจากจะถูกนำมาใช้ในการบุกโจมตีศัตรูแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งกำลังที่สามารถใช้บรรทุกเสบียง รถถัง กำลังพล และเครื่องบินได้อีกด้วย และในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับ HMS Queen Elizabeth (R08) เรือบรรทุกเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดและใหม่ที่สุดของอังกฤษ ที่ได้ถูกนำออกไปลอยในน้ำเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา สำหรับ HMS Queen Elizabeth เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่มาก โดยมีน้ำหนักมากถึง 65,000 ตัน และมีต้นทุนในการสร้างมากถึง 3.1 พันล้านปอนด์ อีกทั้ง ยังใช้เวลาในการสร้างทั้งหมดนานเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีคลังเก็บอาวุธปืนขนาด 30 มม. มีการติดตั้งระบบอาวุธใกล้เคียง พร้อมด้วยเรดาร์ที่ทันสมัย และมีโรงเก็บเครื่องบินขนาดใหญ่ที่มีห้องพักสำหรับเครื่องบินรบ และเฮลิคอปเตอร์ F-35B อีกด้วย HMS Queen…
-
2 โจรเวียดนามบุกเข้าไป “ช็อตสุนัข” เพื่อขโมยไปกินต่อหน้าต่อตาเจ้าของ อย่างไม่เกรงกลัว!!
บทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่มีความรุนแรง ใครที่ไม่พร้อมเลื่อนผ่านได้เลยนะคะ… เพราะนี่คือเหตุการณ์ที่โจรช็อตสุนัขต่อหน้าต่อตาเจ้าของอย่างไม่เกรงกลัว!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อเวลาประมาณ 5 โมงเช้าของเมื่อวาน โดยมีโจรสองคนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้านที่มีสุนัขอยู่ 3 ตัว จากคลิปจะเห็นว่าสุนัขตัวแรกกับตัวที่สามนั้นถูกช็อตด้วยไฟฟ้าจนนิ่งไปในทันที ก่อนโจรจะใช้หอกทิ่มเข้าไปที่ลำตัวสุนัขเพื่อลากออกมานอกรั้ว ส่วนสุนัขตัวที่สองดูเหมือนจะถูกยิงด้วยลูกศรปืนกล แล้วก็ถูกลากออกไปเช่นกัน… ทันใดนั้นเอง Nam เจ้าของบ้านก็วิ่งออกมาดูหลังได้ยินสุนัขเห่าเสียงดัง Nam ตั้งใจจะเข้าไปช่วยสุนัขของเขา แต่ถูกคนร้ายใช้หอกจี้ ทั้งยังมีปืนกลอยู่ด้วย เขาไม่กล้าเข้าไปช่วย ได้แต่ยืนมองน้องหมาทั้งสามตัวถูกลากไปด้วยความเจ็บใจ ต่อมาชายเจ้าของบ้านบอกว่า “ผมอยากเข้าไปช่วยสุนัขของผมใจจะขาด แต่ก็กลัวถูกคนร้ายยิงครับ” ทางด้านครอบครัวบอกว่าพวกเขาเลี้ยงสุนัข 10 ตัวไว้ที่อำเภอ Cu Chi แต่ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ขโมยหมาเช่นนี้มาก่อน ทางด้าน Huyen Chau วัย 16 ปีที่อยู่ในบ้านหลังดังกล่าวบอกว่า “มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาเลยครับ เราเลี้ยงหมาไว้ 10 ตัวด้วยความรัก แต่การต้องเห็นพวกมันถูกฆ่าตายในสภาพเช่นนี้ เรารับไม่ได้จริงๆ ครับ” เขายังบอกอีกว่า “เข้าใจนะว่าพวกเขาทำแบบนี้เพราะไม่มีเงิน แต่ทำแบบนี้มันถูกต้องแล้วหรอ คุณรู้มั้ยสุนัขสำคัญกับครอบครัวเรามากแค่ไหน ผมอยากเห็นหน้าคนโจรในคลิปเหลือเกิน จะได้ถามพวกเขาว่ายังมีความเป็นคนอยู่มั้ย”…
-
เครื่องบินต้องดีเลย์ 5 ชั่วโมง เพราะอาซิ่ม “โยนเหรียญ” ใส่ใบพัด อ้างเพื่อโชคลาภ..!?
เป็นอีกเหตุการณ์ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง มีการประกาศจากสายการบิน China Southern Airlines ไฟลท์ CZ380 ซึ่งมีเหตุขัดข้องทำให้ต้องดีเลย์ไป 5 ชั่วโมง โดยตามตารางการบิน เครื่องบิน Airbus 320 จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง และมุ่งหน้าสู่สนามบินกวางเจาตอนเวลา 15.05 น. ทว่าช่วงที่ลูกเรือลำเลียงผู้โดยสารขึ้นเครื่องนั้น ได้มีหญิงชราแซ่ฉิ๋ววัย 80 ปี โยนเหรียญจำนวนหนึ่งเข้าไปในบริเวณใบพัดของเครื่องยนต์โดยเธอให้เหตุผลว่า ‘เป็นโชคลาภที่จะทำให้เดินทางปลอดภัย’ ทำให้ไฟลท์ดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปนานหลายชั่วโมง แม้แต่ผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องไปก่อนหน้าแล้วก็ต้องดีเลย์ไปตามๆ กัน เพราะเจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องตรวจเช็คความเรียบร้อยของใบพัดเครื่องยนต์ก่อน นานหลายชั่วโมงกว่าที่เจ้าหน้าที่จะตรวจตราความปลอดภัยของเครื่องยนต์ทุกอย่างเสร็จ ทำให้ไฟลท์นี้ต้องเลื่อนเวลาการเดินทางออกไปเป็นตอน 17.52 น. และไปถึงกวางเจาตอนเวลา 20.14 น. China Southern Airlines ได้ออกมาชี้แจงว่า ผู้โดยสารวัย 80 ปีคนดังกล่าวจะถูกดำเนินคดีตามกฎการบินพลเรือน ซึ่งอาจก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมตามมาได้ ที่มา: SCMP
-
บริษัทด้านพลังงานผุดไอเดีย ‘อยากฝึกงานกับพี่… ใส่บิกินี่สิจ๊ะ’ เพื่อคัดเลือกนศ. ฝึกงาน!!
ถือว่าเป็นไอเดียที่แปลกใหม่ และอาจเสี่ยงต่อการเป็นประเด็นดราม่าบนโลกออนไลน์เลยก็ว่าได้ เมื่อบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ CEZ จากประเทศสาธารณรัฐเช็ก ผุดไอเดียคัดเลือกนักศึกษาฝึกงานสาว จากการประกวดบิกินี่!! โดยบริษัทได้เผยแพร่ภาพของนักศึกษาสาวงามผู้เข้าประกวดรายการ ‘Miss Energy 2017’ ทั้ง 10 คน ซึ่งผู้ชนะได้เข้าไปฝึกงานกับบริษัทแห่งนี้เป็นเวลา 14 วัน ภาพจากการประกวดส่วนใหญ่ จะเป็นภาพสาวงามใส่ชุดบิกินี่ สวมหมวกนิรภัยให้ถูกต้องตามกฎ และโพสท่าสวยๆ คู่กับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการชี้แจงว่านักศึกษาสาวทุกคนที่เข้ามาประกวดในรายการนี้ ต่างมีความสุขและยินดีที่จะยอมรับเงื่อนไขของการประกวด แต่ทว่าเรื่องราวดังกล่าวก็แอบกลายเป็นประเด็นดราม่าเล็กๆ เมื่อมีชาวเน็ตหลายๆ คน ให้ความเห็นว่า ‘จะเหลือพนักงานผู้ชายซักกี่คนเชียว ถ้าหากพวกเขาต้องถูกคัดเลือกจากเรือนร่างแบบนี้บ้าง?’ บริษัทได้โพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “เราคิดว่าเป็นภาพที่มีรสนิยมดีมาก เป็นการผสานความงามและบรรยากาศแบบอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน” แต่ดูเหมือนว่าสุดท้ายกระแสดราม่าบนโลกออนไลน์ที่พูดถึงเรื่องของการคัดเลือกอันไม่เหมาะสม ทำให้บริษัทด้านพลังงานแห่งนี้ต้องออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า ‘จุดประสงค์ของการจัดประกวดในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการโปรโมทการศึกษาในด้านนี้ให้มีคนเข้าถึงมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่อาจเกิดความไม่สบายใจ ทางเราจึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย’ และล่าสุดทางบริษัทก็ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า นักศึกษาสาวทั้ง 10 คนจะได้เข้าไปฝึกงานกับบริษัทเป็นเวลา 14 วันตามสัญญาทุกประการ …
-
29 ภาพ “เงา” ที่ดันอยู่ตรงจังหวะพอดี กลายเป็นความงาม-แปลก-แถมยังฮาอีกนะเธอ!!
ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของต่างก็ล้วนต้องมีเงาคอยติดตามตัวกันทั้งนั้นแหละ แต่ทว่าบางทีเมื่อภาพเงามันไปจับจังหวะได้แบบพอดีเป๊ะ มันก็จะกลายเป็นภาพที่แตกต่างออกไปอย่างเช่นที่เราเอามาให้ชมกันนี่แหละ เอาเป็นว่าเราลองไปชมภาพแปลกๆ ที่ชาวเน็ตส่งเข้ามาประชันกันบนเว็บไซต์ Boredpanda งานนี้คงต้องบอกเลยว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าจินตนาการอีกแล้วล่ะ 1. แท้จริงแล้ววิญญาณของมันเป็นหมาป่านี่เอง 2. ใครบอกว่านี่เป็นรั้วไม่มี๊.. นี่เปียโนชัดๆ 3. ยอดเขาเอเวอเรสต์มาโผล่ตรงนี้ได้ไงเนี่ย!? 4. จากเรือส่งสินค้ากลายเป็นเมืองใหญ่ทันที 5. นั่นมัน… ผะ ผะ ผะ ผีแมว!! 6. จริงๆ แล้วยูนิคอร์นไม่ได้อยู่ในตำนานหรอก มันอยู่ในสวนสัตว์นี่แหละ 7. หรือแท้จริงแล้วช่างกล้องคนนี้ จะเป็นลาบราดอร์ปลอมตัวมา!? 8. เห็นแบบนี้แปรงสีฟันก็ต้องทำความสะอาดตัวเองด้วยเหมือนกัน 9. เงาจากใบไม้ที่ดูเหมือนมังกรจิ๋วเป๊ะ!! 10. เมื่อเงาจากต้นปาล์มกลายมารวมกันเป็นหน้าสิงโต โอ้วว๊าววว 11. แต่เราก็หากันจนเจอ…. แหม่อย่างกับนิยายหนังรักเลยนะช็อตนี้ 12. เงาจากหน้าต่างที่ปรากฏเป็นภาพลวงตา 13.…
-
15 ภาพเปรียบเทียบของ “คนในครอบครัว” ที่เผยให้เห็นความคล้ายคลึงกันอย่างน่าเหลือเชื่อ
Ulric Collette เป็นชื่อของช่างภาพชาวแคนาดา โดยเขาได้เริ่มสนใจการถ่ายภาพมาตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่ได้เห็นภาพของตัวเองและลูกชายวัย 7 ขวบของเขา ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้ค้นพบว่า เมื่อลองนำภาพครึ่งใบหน้าของเขาและลูก รวมถึงญาติคนอื่นๆ มาเปรียบเทียบกัน มันแสดงให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เขาจึงได้สร้างภาพ Portraits ชุดนี้ขึ้นมา โดยเป็นภาพของผู้ร่วมสายเลือดเดียวกัน มาถ่ายรูปหน้าตรง จากนั้นก็นำมาตัดต่อ และทาบทับกันคนละซีกหน้า เพื่อเป็นการเปรียบเทียบความเหมือนนั่นเอง ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย 1. Genevieve พี่ชาย วัย 33 ปี และ Jean-Michel น้องสาว วัย 30 ปี 2. Claude คุณพ่อ วัย 52 ปี และ Benoit ลูกชายวัย 23 ปี 3. Laval คุณพ่อวัย 56 ปี และ…
-
หลักฐานเต็มมือ!! 30 สัตว์เลี้ยงโดนจับได้คาหนังคาเขา ขณะกำลังพยายาม “ขโมยของ”
คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่า เจ้าสัตว์ทั้งหลายที่คุณเลี้ยงเอาไว้ในบ้าน วันๆ มันทำอะไรกันบ้าง แน่นอนว่าเจ้าของส่วนใหญ่คงคิดในแง่ดีเอาไว้ก่อนว่าพวกมันคงจะนอนหลับทั้งวัน หรือบางทีก็เฝ้าบ้านให้ตอนที่เจ้านายไม่อยู่ แต่ความจริงแล้วหารู้ไม่ว่าพวกมันอาจทำอะไรบางอย่างที่เราคิดไม่ถึงก็ได้นะ ไม่เชื่อก็ลองดูจากภาพหลักฐานที่เราได้นำมาให้รับชมสิ… จับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ เอ็งมีอะไรจะสารภาพหรือไม่ เห็นของกินเป็นไม่ได้ ต้องแอบขโมยของนายทุกที การขโมยเป็นสิ่งที่ไม่ดี… เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ใช่ไหมละ แต่บางครั้งก็ก่ออาชญากรรมแบบนี้… ก็อาจจะไม่ได้รับการลงโทษ.. ..เพราะข้อหาน่ารักเกินไป!! อุ้บส์ เก๊าป่าวนะ แย่งไปต่อหน้าต่อตา ดูท่าทางไม่คืนง่ายๆ ซะด้วย เจอแบบนี้ใครจะกล้าเข้าใกล้ละ ฮั่นแน่!! แอบทำอะไรนะ ของรักของข้า ทำเป็นเนียน โถ่!! โดนจับได้ซะแล้ว ทำลายหลักฐานไม่ทัน มืออ้วนๆ นี่น่าตีชะมัด โดนเข้าแล้วเรา เจ้าเหมียวแสนซน แอบขโมยปลาของคนอื่นได้ยังไงนะ ขอชิ้นนึงน่า…
-
โฆษณา “กีวี” ได้รับรางวัลจากเมืองคานส์ กับไอเดียสุดเกรียน แต่งแต้มภาพศิลปะชื่อดัง
หากใครที่เคยเห็นภาพวาดคลาสสิกระดับโลกที่ติดอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ คุณจะเห็นได้ว่า ภาพเหล่านั้นล้วนแต่เป็นภาพครึ่งตัว โดยที่เราไม่เคยได้เห็นท่อนล่างของพวกเขาเลยใช่ไหมละ และด้วยเหตุนี้นี่เอง ที่ทำให้ทางทีมงาน Ogilvy ได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดโดยการผุดแคมเปญ “Portraits Completed” ขึ้นมา ด้วยการนำเสนอผลงานศิลปะโชว์ช่วงล่าง ซึ่งเป็นการเพิ่มเท้าให้กับภาพวาดของบุคคลที่มีชื่อเสียง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าคนดังเหล่านั้นใส่รองเท้าแบบไหนกันน้า สำหรับภาพวาดศิลปะท่อนล่างของบุคคลดัง ทางทีมงานได้สร้างสรรค์ให้มีลักษณะเหมือนกับภาพวาดต้นฉบับเป๊ะๆ และออกแบบมาเพื่อการดูแลรองเท้าโดยเฉพาะ ซึ่งความคิดอันชาญฉลาดนี้เองที่ทำให้ทางน้ำยาขัดรองเท้ากีวี สามารถคว้ารางวัลสิงโตทองคำ และสิงโตเงิน ในหมวด สิ่งพิมพ์ และ สื่อกลางแจ้ง จากงาน Cannes Lions ที่เมืองคานส์ในปีนี้ เป็นการโฆษณาที่ออกแบบมาเพื่อการดูแลรองเท้าโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย และแล้วเราก็ได้รู้กันสักทีว่าภาพบุคคลดังที่เห็นแค่ครึ่งตัวมาตลอด เขาใส่รองเท้าแบบไหนกัน . . . . แหม!! ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม “Portraits Completed” ถึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถึงขั้นได้รับรางวัลใหญ่ในเทศกาล Cannes Lions จากเมืองคานส์ประจำปีนี้ ก็เพราะเป็นการโฆษณาอันชาญฉลาด ที่จับเอาภาพวาดคนดังมาเล่นเนี่ยแหละ ฮร่าๆ ที่มา : mymodernmet
-
17 สินค้าสไตล์ “โมเดิร์น” ล้ำสมัยจากญี่ปุ่น กับคอนเซปท์มินิมอล แต่ใช้งานได้อย่างดี
สิ่งของหลายอย่างมักถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้ตรงตามความต้องการ แต่ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญที่จะให้สิ่งของชิ้นนั้นมีความโดดเด่นขึ้นมา และประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการออกแบบสิ่งของต่างๆ ให้มีความสวยงาม น่าใช้ #เหมียวปั๊ก เลยได้รวบรวม 15 สินค้าที่นอกจากจะสวยงาม มินิมอลแล้ว พวกมันยังใช้งานได้ดีอีกด้วยนะ สิ่งของที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้ ส่วนหนึ่งถูกออกแบบด้วยหลักการ Wabi-Sabi เป็นหลักการในการออกแบบญี่ปุ่นที่ฝังรากลึกมาอย่างยาวนาน และเป็นหลักการที่ค้นหาความงามในสิ่งต่างๆ ที่ “ไม่สมบูรณ์แบบ ไม่เที่ยงแท้และไม่เสร็จสมบูรณ์” จานจากเศษกระเบื้อง โดย Tomomi Kamoshita แผ่นรองจานลวงตา โดย A.P.Works โถปลามินิมอล โดย Haruka Misawa โถปลาจากเครื่องปริ้น 3 มิติ โดย Haruka Misawa แจกันดอกไม้ที่ลู่ตามลมอย่างอ่อนโยน โดย Keisuke Fujiwara หลอดสีไร้ชื่อ โดย Ima Moteki ที่ล็อกจักรยานรูปจักรยานจิ๋ว โดย Yuma Kano เก้าอี้โค้งงอที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอักษะคันจิ โดย Infinity Design ชั้นหนังสือขยายตามใจชอบ โดย Nendo…
-
คุณแม่ลูกสองวิ่งมาราธอนกว่า 110 กิโลเมตรจนเกิดเป็น “แผลพุพอง” น่ากลัวแบบนี้
[ภาพในเนื้อหามีความรุนแรงโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม] ก่อนการวิ่งมาราธอนหรือวิ่งระยะไกลต่างๆ นั้นนอกจากจะต้องเตรียมสภาพร่างกายที่พร้อมแล้ว การแต่งกาย อุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถป้องกันอาการบาดเจ็บได้ และบางครั้งสภาพอากาศก็สามารถทำร้ายนักวิ่งได้ เหมือนกับคุณแม่ที่ชื่อว่า Julie Nisbet ที่ได้ลงแข่ง Ultra-run ที่รู้จักกันในนาม “The Wall” Julie Nisbet คุณแม่ลูกสองผู้รักการวิ่ง เธอวิ่งเป็นระยะเวลา 21 ชั่วโมงติดต่อกันด้วยระยะทางกว่า 110 กิโลเมตร ผลที่ได้จากการโหมวิ่งครั้งนี้ก็คือแผลพุพองขนาดใหญ่บนน่องทั้งสองข้างของเธอ แม้เธอจะรีบรุดไปที่โรงพยาบาลเพื่อรักษาบาดแผลของเธอ แต่เจ้าแผลพุพองของเธอนั้นก็เริ่มที่จะขยายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ เธอทวิตรูปลงหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล 1 สัปดาห์หลังจากการวิ่ง Ultra-Run ครั้งนั้น Julie ก็ยังคงทนทุกข์กับแผลพุพองของเธอ ซึ่งแผลนี้อาจจะเกิดมาจากแสงแดดที่เผาน่องของเธอระหว่างวิ่ง ทุกวันเธอต้องนอนคว่ำและทนกับความเจ็บปวดจากบาดแผล “มันเป็นความผิดพลาดของฉัน แม้ฉันจะทาครีมกันแดดแล้ว แต่เหงื่อและน้ำได้ล้างมันออกไปในระหว่างวิ่ง กว่าฉันจะรู้ตัวอีกทีมันก็เป็นแผลเช่นนี้แล้ว” Julie กล่าว แพทย์บางคนกล่าวหลังจากเห็นภาพบาดแผลของเธอว่านี่เป็นบาดแผลแดดเผาที่รุนแรงที่สุดภาพหนึ่งที่พวกเขาเคยเห็นมา เป็นแผลที่น่ากลัวจริงๆ และดูเหมือนว่า Julie นั้นจะไม่ใช่คนเดียวที่ได้รับผลจากแดดเผา Greg Binnie ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับบาดแผลแดดเผาจากการทำงานกลางแจ้งของเขา…
-
หากเจ้าของสุนัขตาย สุนัขจะ “กิน” ศพของเราไหม วิเคราะห์สถิติทางวิทยาศาสตร์
#เหมียวปั๊ก บางครั้งก็ต้องออกไปทำธุระต่างจังหวะกับครอบครัวเป็นระยะเวลานาน บางครั้งอาหารที่เราให้ไว้ในชามของมันก็ไม่เพียงพอจนเจ้าหมาปั๊กที่เลี้ยงไว้แอบไปตะกุยกินอาหารแมวที่เก็บไว้ จากกรณีนี้ เพื่อนๆ เคยสงสัยเหมือน #เหมียวปั๊ก ไหมว่าถ้าเปลี่ยนจากอาหารสุนัขเป็นเจ้าของที่ตายอยู่ในบ้านล่ะ เจ้าสุนัขที่เราเลี้ยงไว้จะกล้ากินเราหรือเปล่า? ใครจะไปรู้ ~ พวกมันอาจจะกล้ากินเราก็ได้นะ จากการรวบรวมข้อมูลที่ถูกตีพิมพ์กว่า 20 กรณี มาผนวกเข้ากับการศึกษาที่เกี่ยวข้องในปี 2015 และคดีที่มีรูปแบบที่เกี่ยวข้องกว่า 63 คดี แสดงให้เราเห็นถึงพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงหลังเจ้าของตายและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ นักมานุษยวิทยานิติเวช Carolyn Rando จาก University College London กล่าวว่า “แมวนั้นมีแนวโน้มที่จะกินศพของเจ้าของโดยเริ่มจากส่วนที่นุ่มก่อนอย่างเช่นริมฝีปาก จมูก” สุนัขเริ่มกัดกินจากใบหน้าก่อน? แต่นี่ก็เป็นเพียงแค่สันนิษฐานเท่านั้น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2010 ที่ถูกตีพิมพ์ผ่านวารสารนิติเวช หญิงชราผู้หนึ่งเสียชีวิตจากหลอดเลือดสมองโป่งพองภายในห้องน้ำ จากการทดสอบทางนิติเวชพบว่า สุนัขของเธอนั้นได้กัดกินใบหน้าของเธอในขณะที่แมวทั้งสองตัวของเธอไม่ทำอะไรกับศพเธอเลย “สุนัขนั้นมีพัฒนาการมาจากหมาป่า ดังนั้นหากพวกมันกำลังหิวโหย พวกมันก็อาจจะหาอาหารที่เป็นเนื้อในบริเวณนั้นก็เป็นได้” Stanley Coren นักจิตวิทยาผู้เขียนหนังสือและจัดรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับสุนัขกล่าว หน้าตาน่ารักๆ แบบนี้ ก็มีพัฒนาการมาจากหมาป่าแสนดุร้ายนะ มีหลากหลายกรณีที่สามารถยืนยันคำพูดนี้ได้เช่นในปี 2007…
-
ขึ้นง่ายไปมั้ยพี่!! คู่รัก “กระหน่ำหมัด” ใส่เจ้าของร้าน หลังไม่พอใจอาหารที่สั่งมา
ตำรวจรัฐจอร์เจียประเทศสหรัฐอเมริกาได้ไล่ล่าคู่รักผิวสีหลังจากที่ทำการระดมต่อยเจ้าของร้านและลูกสาวของเธอเนื่องจากไม่พอใจอาหารที่สั่งมา จากภาพวงจรปิด ภายหลังตำรวจสามารถระบุตัวได้ว่าคู่รักทั้งสองคนนั้นมีชื่อว่า Nathaniel Eric Smith และ Latasha M. Smith Eric และ Latasha คู่รักผู้กระหน่ำหมัดใส่เจ้าของร้านและลูกสาวเธอ ก่อนเกิดเหตุทั้งคู่ได้เข้าไปใช้บริการของร้านอาหารที่นาง Jeanette Norris เป็นเจ้าของ ก่อนที่ทั้งสองคนจะไม่พอใจเนื่องจากไก่ที่เย็นชืดและเฟรนช์ฟรายที่ได้น้อยเกินไป Jeanette เห็นลูกค้าไม่พอใจในอาหารี่ร้านของเธอทำจึงยินดีที่จะคืนเงิน แต่ดูเหมือนว่าคู่กรณีทั้งสองจะไม่จบเพียงเท่านี้ พวกเขาทั้งสองเริ่มที่จะทุบกระจกของร้านจน Jeanette ตัดสินใจพาพวกเขาออกมาคุยกันข้างนอก Jeanette เชิญคู่รักออกจากร้านอาหาร ไม่นาน Latasha ก็ดูคลุ่งคลั่ง เดินเข้ามาต่อย Jeanette หลังจากนั้นเธอก็ถูก Latasha ระดมหมัดเข้าใส่ ก่อนที่จะหลุดออกจากเฟรมไป ต่อมาลูกสาวของ Jeanette วัย 15 ได้ลงมาจากรถเพื่อปกป้องแม่ของเธอก่อนที่จะถูก Nathaniel ชกเข้าไปที่หน้า หลังจากที่ต่อยอยู่เป็นเวลานาน ลูกสาวของ Jeanette วัย 15 พยายามจะปกป้องแม่ของเธอ …
-
หลักวิทยาศาสตร์ ว่าทำไมเราถึง “เกลียดเสียงตัวเอง” เมื่อฟังจากการบันทึกเสียงต่างๆ
เพื่อนๆ เคยสังเกตไหมว่าทำไมเวลาที่เราพูดคุยกันนั้น เราจะได้ยินเสียงตัวเองชัดแจ๋ว แต่พอเราบันทึกเสียงของเราที่เปล่งออกมาแล้วนำมันมาฟัง เรากลับได้ยินเสียงอีกอย่างหนึ่งเหมือนไม่ใช่เสียงของเราเอง จากการอ้างอิงของนิตยสาร TIME ได้ให้เหตุผลว่าเสียงที่เราได้ยินจากการพูดหรือจากบันทึกนั้นเป็นคลื่นเสียงที่กระดูกค้อน ทั่ง โกลน ของเราทำการสั่นสะเทือนส่งต่อไปยังสมอง ทำไมเสียงที่เราได้ยินจากเทปมันไม่เหมือนเราเลย!? เมื่อคุณพูดเสียงนั้น จะถูกแบบเป็นสองประเภทนั้นคือคลื่นเสียงที่คุณทำตอนพูดและเสียงที่เกิดจากเส้นเสียง ซึ่งเสียงทั้งสองประเภทนี้จะถูกบิดเบือนเมื่อคุณได้ยินเสียงตัวเองจากเทปที่บันทึกไว้ เสียงที่เราได้ยินนั้นจะถูกบิดเบือนเล็กน้อยเมื่อบันทึกลงเทป Martin Birchall ศาสตราจารย์วิชาโสตศอนาสิกที่ University College London กล่าวว่า “เราคุ้นเคยกับเสียงที่เราเปล่งและได้ยินอยู่ในหัวของเรา ไม่ว่าเสียงของเราจะบิดเบี้ยวขนาดไหนก็ตาม เราสร้างภาพลักษณ์ของเราล้อมรอบเสียงที่เราได้ยินมากว่าความเป็นจริง และสำหรับคนที่มีประเด็นเกี่ยวกับ การได้ยินเสียงตัวเองจากเทปที่บันทึกไว้อาจส่งผลกระทบทางจิตใจแก่พวกเขาได้” ศาตราจารย์ Martin Birchall ดังนั้นคนที่เป็น Transgender ก็อาจจะตกใจกับเสียงที่ตนเองได้ยินเมื่อฟังผ่านเทปบันทึกได้เนื่องจากการเสียงที่ถูกบิดเบือนจากเทปที่บันทึกไว้ บุคคลที่เป็น Transgender อาจจะตกใจกับเสียงที่ตัวเองได้ยินก็ได้ ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องเสียงนะ #เหมียวปั๊ก กะจะลองบันทึกเสียงตัวเองมาฟังดูบ้างดีกว่า ดูซิว่าเสียงจะเป็นยังไง ที่มา: unilad
-
การนอนก็สำคัญพอๆ กับการท่องเที่ยว!? หนุ่มโคตรคูลถ่าย “ที่นอน” ตัวเองในสถานที่ที่ไม่ธรรมดา
#เหมียวปั๊ก มีเพื่อนอยู่ 2 ประเภทเวลาจะออกทริปกันคือ พวกที่คิดว่าเรื่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญ กับ พวกที่คิดว่าเรื่องนอนเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะสร้างความปวดเฮดให้กับการตัดสินใจในทริปได้เป็นอย่างมาก แต่กับสาวคนนี้ได้ผสมผสานความต้องการทั้ง 2 แบบเข้าด้วยกันอย่างลงตัว Luisa เจ้าของบัญชีอินสตาแกรม YouDidNotSleepThere ได้เกิดไอเดียถ่ายภาพกับเพื่อนๆ ของเขาระหว่างการกางเต็นท์นอนในสถานที่ที่ไม่ธรรมดาต่างๆ เนื่องมาจากเธอมักจะหัวเสียที่เห็นรูปภาพตามนิตยสารท่องเที่ยวที่มักจะเวอร์และรูปแบบภาพที่ซ้ำกันจนเกร่อ Luisa เจ้าของไอเดีย “ฉันได้มีโอกาสไปตั้งแคมป์กับเพื่อนๆ และยายของฉันที่ Grand Canyon ตามแบบภาพนิตยสารท่องเที่ยวต่างๆ ผลปรากฎว่าฉันโดนสั่งห้ามกางเต็นท์แบบนั้นเนื่องจากมันอันตราย นี่มันเป็นการหลอกกันชัดๆ ฉันก็เลยตัดสินใจที่จะ กางเต็นท์และถ่ายรูปจริงๆ “ Luisa กล่าว YouDidNotSleepThere นั้นได้ดึงดูดผู้ใช้งานอื่นๆที่มีทัศนคติแบบเดียวกับเธอเข้ามาแล้วด้วยทัศนคตินี้ทำให้ YouDidNotSleepThere นั้นถูกบล็อกโดยบัญชีชื่อดังอย่าง Sociality และบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอื่นๆ อีกด้วย ไปยืนอะไรบนนั้นพ่อหนุ่ม!! กางเต็นท์ท่ามกลางหมู่ดาว อรุณสวัสดิ์วันใหม่ แต่ถึงแม้ว่าจะถูกบล็อกจากบัญชีผู้ใช้ชื่อดัง แต่ด้วยแนวคิดที่แปลกแหวกแนวนี้ทำให้ YouDidNotSleepThere มีผู้ติดตามกว่า 32,500 คน มานอนดูทะเลหมอกกัน จะนอนจะดูวิวก็ฟิน ~…
-
“เจ้าหมาขี้อ้อน” สุดน่ารัก มาเกาะรั้วโรงเรียนทุกวันเพื่อที่จะเล่นกับเด็กๆ ภายในโรงเรียน
สัตว์สุดน่ารักอย่างสุนัขนั้นมักจะชอบเรียกร้องความสนใจด้วยวิธีการต่างๆ แต่สำหรับเจ้าสุนัขแสนฉลาดตัวนี้นั้นรู้วิธีที่จะเรียกความสนใจจากคนได้แปลกและน่ารักเหมือนกันนะ ทุกวันเจ้าสุนัขตัวนี้จะเดินจากบ้านของเขาใน County Cavan ไปยังโรงเรียนในพื้นที่ด้วยความสงสัยของ Sean Conway คนในพื้นที่จึงได้ตัดสินใจตามไปดู สวัสดี! เด็กๆ หลังจากที่ Sean ตามมันมาเรื่อยๆ จนถึงโรงเรียน เขาก็ได้พบกับภาพสุดฮาของเจ้ามะหมาที่กำลังเกาะรั้วเล่นกับเด็กๆ อยู่ ดูมีความสุขจังนะเจ้าตูบ ~ ในตอนแรก Sean ไม่แน่ใจนักว่าเจ้าสุนัขตัวนี้มีเจ้าของหรือไม่ เขาจึงได้สังเกตดูอยู่ห่างๆ ก่อนที่ภายหลังจะทราบว่ามันชื่อ Lucy โดยเจ้าของมันชื่อ Ciara Clarke “เจ้า Lucy เป็นสุนัขที่ฉลาดและน่ารัก มันชอบพบปะผู้คน สิ่งที่มันชอบที่สุดคือการกอด มันได้รับความรักจากครอบครัวเราเป็นอย่างมาก และดูเหมือนว่ามันต้องการจะส่งต่อความรักนี้ให้กับคนอื่นๆ ด้วย” Ciara กล่าว Ciara Clarke เจ้าของเจ้า Lucy ดูเหมือนว่าเจ้า Lucy ไม่ได้มาโรงเรียนนี้เป็นครั้งแรก ดูเหมือนว่ามันจะมาหาเด็กๆ ทุกวัน “ผมสังเกตว่ามันมักจะมาเกาะรั้วเล่นกับเด็กๆ เป็นเวลาประมาณ 10 นาทีก่อนที่มันจะจากไป”…
-
ครั้งหนึ่งกับสงครามเย็น เมื่อสหรัฐกับโซเวียตแข่งกันผลิต “รถยนต์” กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
สงครามเย็น เป็นสงครามที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้จะไม่มีเวลาเริ่มที่แน่ชัด แต่นี่เป็นสงครามของ 2 ขั้วมหาอำนาจนั่นคือ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา ที่ห้ำหั่นกันเพื่อชิงความเป็นเจ้ามหาอำนาจบนโลกนี้ ความเป็นเลิศที่ทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจแข่งกันนั้นมีอยู่หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทหาร ด้านแฟชั่น ด้านการสำรวจอวกาศ ด้านยนตกรรมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทั้งสองประเทศแข่งกัน อเมริกามีแนวคิดรวบยอดเกี่ยวกับรถยนต์มาตั้งแต่ปี 1938 โดย Harley Earl หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง GM (General Motors) ก็พร้อมกลับสู่สังเวียนยนตกรรมอีกครั้ง รถยนต์ The LeSabre ออกสู่ตลาด เขาได้รถยนต์ The LeSabre และออกสู่สาธารณะในปี 1951 โดยรูปทรงของรถยนต์นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของเครื่องบิน โดยส่วนหน้ามีส่วนที่คล้ายกับไอพ่นและตัวรถยนต์ที่เป็นอลูมิเนียมสามารถสร้างความประทับใจจากประชาชนได้เป็นจำนวนมาก มันถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากส่วนต่างๆ ของเครื่องบิน ในขณะที่ฝั่งโซเวียตก็ได้ผลิตรถยนต์จากโรงงาน ZIL โรงงานที่ผลิตรถลิมูซีนชื่อดัง โดย ZIS-112 นี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก LeSabre อย่างเห็นได้ชัดโดยจำลองรูปลักษณ์ของรถในรูปแบบไซโคลโลว์ให้ดูเรียบง่ายแม้กระทั่งกระจกหน้ารถที่บิดเบี้ยว …
-
สุดซึ้ง!! วินาทีแม่ป่วยเป็น “มะเร็งระยะสุดท้าย” ได้เห็นลูกสาวเรียนจบ ก่อนจากโลกนี้ไป…
สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนแล้ว ก็ย่อมอยากที่จะเห็นลูกของตัวเองประสบความสำเร็จในชีวิต เหมือนดังเช่น Patricia Parrotte คุณแม่รายนี้ ที่อยากเห็นลูกสาวของตัวเองเรียนจบก่อนที่เธอจะเสียชีวิตจากการป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และนี่คือเรื่องราวของคุณแม่ Patricia กับช่วงเวลาที่แสนเศร้า และมีความสุขในเวลาเดียวกัน เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว Patricia Parrotte คุณแม่วัย 55 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะที่ 3 พร้อมกับเป็นโรคภูมิคุ้มกัน ต่อมาในเดือนเมษายน ปี 2017 ทางแพทย์ได้บอกกับครอบครัวว่า มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังกระดูกสันหลังของเธอ และเธอก็จะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อีกไม่นาน แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นก็คือ ทางครอบครัวกลัวว่าเธออาจจะไม่ได้ไปร่วมงานวันสำเร็จการศึกษาของลูกสาวคนเล็ก ด้วยเหตุนี้ ทางโรงเรียนมัธยมนิวยอร์กจึงได้อนุญาตมอบโอกาสพิเศษให้ Samantha Parrotte ผู้เป็นลูกสาวเข้าทำพิธีสำเร็จการศึกษาที่ข้างเตียงของแม่ที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาล และให้ครอบครัวของเธออยู่เฉลิมฉลองร่วมกันได้ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่แสนสั้น แต่เชื่อว่าคุณแม่ Patricia คนนี้ คงจะมีความสุขที่ได้เห็นลูกสาวของเธอเรียนจบไม่น้อยเลยล่ะ ภาพของคุณพ่อที่กำลังเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของเขา มันเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่น และซึ้งในเวลาเดียวกัน และแล้วเรื่องสุดเศร้าก็มาถึง…
-
บริษัทอาหารปลอมจากญี่ปุ่น ผลิต “เครื่องประดับที่น่ากินที่สุด” ใครเห็นก็ต้องท้องร้องไปตามๆ กัน
คงไม่มีใครอยากเอาอาหารที่เราทานกันมาเป็นเครื่องประดับหรอกใช่ไหม แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะบริษัทผลิตโมเดลอาหารปลอมอย่างแบรนด์ Hatanata ที่มีการทำอาหารปลอมสำหรับการแสดงร้านอาหารตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 ได้คิดนอกกรอบนำอาหารปลอมเหล่านี้มาทำเป็นเครื่องประดับ ที่ไม่เห็นที่ไหนมาก่อน โดยคุณจะได้พบกับอาหารนานาชนิดที่จะมาแปลงร่างเป็นสร้อยคอ ต่างหู หรือที่คาดผม ทำเอาใครๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ต้องหิวจนท้องร้องกันอย่างแน่นอน เราไปดูกันดีกว่าว่าเครื่องประดับอาหารเหล่านี้จะน่าทาน เอ้ย!! จะสวยงามขนาดไหน 1. ลองสร้อยคอสปาเก็ตตี้คาโบนาร่าสักหน่อยมั้ยล่ะ 2. ที่คาดผมไข่ดาวเบค่อน ที่จะทำให้คนข้างท้องร้อง 3. ต่างหู Salami ที่อย่าเผลอเอาไปใส่ในพิซซ่าล่ะ 4. แหวนชีสแฮมเบิรก์เยิ้มๆ ที่กัดเข้าไปฟันต้องหักแน่ๆ 5. ไส้กรอกก็นำมาพันคอได้เก๋ๆ ได้ฟิลเครื่องประดับโบราณ 6. เปลี่ยนจากของคาวมาเป็นผลไม้ฉ่ำๆ บ้างเป็นไงล่ะ 7. มงกุฎยากิโซบะห่อไข่ ที่ดูเผินๆ แล้วเหมือนชามข้าวหกใส่ 8. ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ที่สำคัญคืออย่าลืมตะเกียบ 9. ขอพิซซ่าชิ้นหนาๆ มาโปะที่คอฉันที!!…
-
ประติมากรรมแยกชิ้นส่วน งานศิลปะที่จับสิ่งของมาขึง ให้คนเห็นว่าส่วนประกอบคืออะไร!?
การสร้างสรรค์งานศิลปะนั้นมีมากมายหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการปั้น การวาด หรือการทำภาพพิมพ์ ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดงานศิลป์ที่สวยงามและมีคุณค่าได้ทั้งนั้น และวันนี้เราจะพาไปพบกับการทำงานศิลปะโดยการใช้เทคนิคที่แตกต่างจากผลงานทั่วๆ ไป ผลงานของชิ้นดังกล่าวนี้เกิดจากการสร้างสรรค์ของศิลปินชาวเม็กซิโก คุณ Damián Ortega ผู้เริ่มต้นเข้าสู่วงการศิลปะจากการเป็นนักวาดการ์ตูนเสียดสีการเมือง แต่ปัจจุบันเขาได้หันมาจริงจังกับการทำงานประติมากรรมจนมีชื่อเสียงมากมายและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และนี่คือส่วนหนึ่งของผลงานประติมากรรมของศิลปินท่านนี้ หนึ่งในงานศิลป์ที่มีชื่อเสียงของเขานั่นก็คือผลงานประติมากรรมการจัดวางชิ้นส่วนของสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือเครื่องมือช่าง พ่อหนุ่มคนนี้ก็สามารถนำมาแยกชิ้นส่วนและจัดเรียงให้ดูสวยงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ เล่ามาซะขนาดนี้แล้ว หลายๆ คนคงอยากจะเห็นงานศิลป์ที่ว่านี้แล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นเราไปชมความสวยงามของงานประติมากรรมจากศิลปินท่านนี้กันเลยดีกว่า… ชิ้นส่วนของรถโพล์ก ที่ถูกแยกออกมาและแขวนไว้อย่างสวยงาม หากมองในมุมอื่น ที่ไม่ใช่ด้านข้างหรือด้านหน้า อาจจะสงสัยว่ามีไว้ทำอะไร!? นอดจากรถแล้วยังมีเครื่องมือช่างอื่นๆ ที่ถูกนำมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานอีกด้วย . ชิ้นส่วนบางชิ้นจากรถบรรทุก ที่ถูกนำมาแขวนให้กลายเป็นรูปร่างของตัวรถ มอเตอร์ไซค์ก็มีนะเออ… ผลงานชิ้นนี้แสดงให้เห็นถึงเฟอร์นินเจอร์บนโต๊ะอาหาร เมื่อไม่พื้นและกำแพง . . . ถ้าหากใครอยากชมความสวยงามของผลงานชิ้นอื่นๆ จากศิลปินท่านนี้ก็เพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ gladstonegallery และ kurimanzutto ได้เลย ที่มา twistedsifter
-
เกิดเหตุสลด!! แม่แท้ๆ ขังลูกน้อยและปล่อยให้ขาดใจในรถ ที่จอดกลางแดดนาน 3 ชั่วโมง
เรื่องราวอันแสนน่าเศร้าของเด็กน้อยสองพี่น้องวัยหัดเดิน ที่ต้องจบชีวิตหลังจากถูกแม่แท้ๆ ทำโทษโดยการขังเอาไว้ในรถที่จอดตากแดดนานถึง 3 ชั่วโมง… นาง Cynthia Marie Randolph ถูกจับกุมตัวหลังจากที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ Juliet กับ Cavanaugh ลูกน้อยวัย 2 ขวบและ 16 เดือนของเธอ Cynthia Marie Randolph คุณแม่วัย 24 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ตอนแรกหญิงสาวให้การปฏิเสธโดยเธออ้างว่าเด็กทั้งสองคนได้เผลอขังตัวเองเอาไว้ในรถที่จอดอย่บริเวณบ้านของพวกเขาในรัฐเท็กซัส ซึ่งในวันนั้นเป็นวันที่มีอุณหภูมิสูงถึง 35.5 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ภายหลังสถานีตำรวจ Parker County ได้รายงานว่านาง Cynthia นั้นได้กลับคำให้การโดยยอมรับสารภาพว่าเธอเองที่เป็นคนขังลูกๆ เอาไว้ในรถ หลังจากที่เห็น Juliet และ Cavanaugh กำลังเล่นกันอยู่ด้านใน ทางตำรวจบอกว่า นาง Cynthia นั้นคิดว่าเด็กๆ จะสามารถเปิดประตูรถออกมาได้เอง เธอจึงได้แต่ยืนดูพวกเขาอยู่ด้านนอก สำนักข่าว Washington Post รายงานว่าเธอเข้าไปนอนในบ้านและใช้ยาเสพติด ก่อนที่จะกลับออกมาอีกครั้งหลังจากนั้น 3 ชั่วโมง แต่เมื่อกลับมาที่รถเธอก็พบว่าลูกๆ ทั้งสองนั้นนอนหมดสติไปแล้ว Cynthia สารภาพว่าหลังจากนั้นเธอได้ทุบที่กระจกรถเพื่อให้ดูเหมือนว่า เธอพยายามที่จะช่วยลูกของเธอ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ตำรวจปักใจเชื่อเธอได้ เด็กน้อยทั้งสองได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิต ในช่วงประมาณ…
-
แจกสูตร “Super Soft Sponge Cake” สปันจ์เค้กเนื้อนุ่มเด้ง แบบไม่ต้องง้อผงฟู
ใครที่คันไม้คันมืออยากเข้าครัว แต่ไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไรดี วันนี้ #เหมียวหน่า มีสูตรเมนูสำหรับคนที่เสพติดความนุ่มเด้งของสปันจ์เค้กมาให้ได้ทำตามกันแบบละเอียดๆ กับ “Super Soft Sponge Cake” สูตรนี้ได้รับการแบ่งปันจากคุณ MsandMrsBrown ที่มีกรรมวิธีการทำแบบ “Tang mian” หรือการทำให้แป้งเค้กสุกก่อนโดยการนำแป้งไปผัดกับเนยละลายนั่นเอง วิธีการนี้จะทำให้เค้กมีความหอมของกลิ่นเนย และเนื้อเค้กมีความนุ่มเนียนฝุดๆ “Super Soft Sponge Cake” สปันจ์เค้กเนื้อเนียนเด้งกันเลย!! ส่วนผสม ส่วนผสมที่ 1 – เนยสดจืด 50 กรัม – แป้งเค้ก 65 กรัม ส่วนผสมที่ 2 – นมสด 65 กรัม – ไข่แดง 5 ฟอง (ไข่เบอร์ 2) – ไข่ขาว 1/2 ฟอง (ไข่เบอร์ 2) – วนิลลาสกัด 1/2 ช้อนชา…
-
อดีตนางงามอิตาลี กลับมาสู้ชีวิตอีกครั้ง หลังถูกแฟนหนุ่ม “สาดน้ำกรด” ใส่จนหน้าเสียโฉม
เมื่อกล่าวถึง “ความรัก” หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่สำหรับ Gessica Notaro สาววัย 28 ปี อดีตนางงามผู้เข้ารอบสุดท้ายในเวทีการประกวดนางสาวอิตาลีคนนี้ ชีวิตของเธอกับต้องมาพังทลายลงเพียงเพราะผู้ชายคนนหนึ่งที่ส่งผลให้เธอต้องเจ็บทั้งหาย และเจ็บทั้งใจ หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้ ตกเป็นเหยื่อของแฟนหนุ่มที่สาดน้ำกรดใส่ใบหน้าของเธอจนเสียโฉม และเกือบตาบอด ถึงแม้ว่า Gessica จะถูกทำร้ายร่างกายจนปางตาย และทำให้ใบหน้าที่เคยสวยงามกลายเป็นเสียโฉม แต่อย่างน้อยเธอก็ยังสามารถฮึดกลับมาสู้ชีวิตได้อีกครั้ง ย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว Gessica กับ Jorge Edson แฟนหนุ่มได้เลิกรากันไป แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวของทั้งคู่จะจบลงไม่สวยงามนัก เพราะแฟนหนุ่มของเธอกลับโกรธแค้น แถมยังสะกดรอยตามเธออยู่ตลอด นั่นทำให้ Gessica ถึงกับต้องเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ทันที ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีคำสั่งให้ Jorge อดีตคนรักห้ามเข้าใกล้ตัวเธอ แต่นั่นกลับไม่เป็นผล เพราะท้ายที่สุด Jorge ก็ได้กลับมาทำร้ายเธอโดยการสาดน้ำกรดใส่ที่ใบหน้าเมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา และเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ Gessica ต้องใช้เวลานานเกือบ 6 เดือนในการเข้ารับการผ่าตัดรักษา ทาง Gessica ได้ออกมาเผยเรื่องราวที่แสนเลวร้ายของเธอผ่านทางรายการโทรทัศน์ว่า…
-
ชวนชมคลิป “กดสิว” ผ่านกล้องไมโครสโคป งานนี้จะฟินหรือจะแหวะ ก็ตัดสินเอาเอง!!
(เนื้อหาอาจจะไม่เป็นมิตรต่อผู้อ่านบ้างท่าน ฉะนั้นโปรดระวัง) สิวคือปัญหาหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นได้บ่อยๆ บนใบหน้าของเรา และมันเกิดได้ทุกเพศทุกวัย แต่จะพบบ่อยกว่าปกติในวัยรุ่น นอกจากนั้นสิวยังนับว่าเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เราเกิดความไม่มั่นใจเวลามันขึ้นมาบนใบหน้าอันหล่อเหลาและสวยงามของเรา นอกจากปัญหาของสิวที่เกิดขึ้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เราเรียนรู้เกี่ยวกับมันก็คือ “การบีบสิว” โดยการบิวสิวนั้นหลายคนเชื่อว่าการบีบสิวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดี เพราะมันจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ แต่มันก็จะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่ไม่กลัวในเรื่องดังกล่าว และชื่นชอบในการบีบสิวมากๆ ชอบขนาดว่าเห็นสิวบนหน้าคนอื่นก็อยากจะขอบีบสักหน่อย… ที่เห็นอยู่นี่เป็นหนวดของเจ้าของคลิปนะ ไม่ใช่สิวแต่อย่างใด หนักกว่านั้นคือ คนประเภทนี้ก็มักจะชื่นชอบที่ดูคลิปการบีบสิวบนอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นสิวขนาดเล็กขนาดใหญ่ หรือมีสิวที่ไหลออกมาเยอะแค่ไหนพวกเขาก็ไม่หวั่นไหว (ออกไปทางสบายตาด้วยซ้ำ) หนักหน่อยอาจจะตักข้าวมาแล้วนั่งกินไปดูไปก็ยังได้!!? และเพื่อตอบสนองความต้องการนั้น #เหมียวมู่ทู่ จึงจัดให้กับคลิปการบีบสิวที่ซูมกันให้เห็นชัดๆ ด้วยกล้องแบบไมโครสโคป ซูมให้เห็นแบบชัดๆ เอาให้นักบีบสิวฟินตายกันไปข้างเลยทีเดียว เอ้าเชิญรับชมกันได้ตามสบาย เผื่อใครไม่จุใจก็ลองแถมไปอีกสักอันก็แล้วกัน เสพกันให้เบื่อไปข้างเลยเอ้า!! ใครจะโอเคไหมไม่รู้่ แต่ #เหมียวมู่ทู่ ไม่ไหวแล้วไปดีกว่า ที่มา All Star Medical – Dermatology Focus,blackheads all over face
-
ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว!! ญี่ปุ่นเปิดตัวการ์ตูน “ยอดนักสืบก้น” ที่จะทำให้คุณหลงใหล “ตรูด” ขึ้นมาทันที
ปกติแล้วเรามักจะคุ้นเคยกับการ์ตูนที่ตัวเอกหน้าตาดี ต้องหล่อ ต้องสวย แต่มันจะแปลกแค่ไหนหากตัวเอกกลายเป็น นักสืบหน้าก้น ที่สำคัญใช้ตดเป็นอาวุธได้ด้วย!!? Oshiri Tantei หรือที่รู้จักกันในนาม “นักสืบก้น” เดิมทีนั้นเป็นหนังสือชุดภาพสำหรับเด็กซึ่งมีจำนวนหลายเล่มด้วยกัน แต่ด้วยความนิยมของตัวละครตัวนี้ทางค่าย TOEI จึงไม่มองข้ามและหยิบมาทำอนิเมชั่นฉายผ่านทางออนไลน์ทันที จุดเด่นของเรื่องก็คงจะไม่พ้นตัวเอกที่มีหน้าตาเป็นก้น ซึ่งก้นที่ว่าคือก้นจริงๆ สามารถปล่อยตดออกมาได้อีก แต่ด้วยความที่ตัวอนิเมะใช้แนวภาพน่ารักๆ ทำให้มันดูไม่ลามกแต่ออกไปทางเป็นมิตรสำหรับเด็กเสียมากกว่า น่ารักแบบขมคอสุดๆ ไม่หมดเพียงเท่านั้น นอกจากตัวละครเอกที่มีหน้าเป็นก้นแล้ว ยังมีตัวละครหนึ่งที่ดูแล้วจะเป็นจอมโจรคู่ปรับที่มีหน้าตาเป็นอุนจิดำ!!? อ่านไม่ผิดหรอก มีหน้าตาเป็นก้อนอุนจิสีดำจริงๆ แถมยังมาพร้อมกับกระดาษทิชชู่สุดเฟี้ยว… ถ้าไม่นับตัวละครทั้งสองตัวแล้วละก็ ตัวละครอื่นๆ ภายในเรื่องก็ล้วนเป็นสัตว์น่ารักๆ ดูเป็นมิตรกับเด็กจริงๆ ดีแล้วล่ะที่ทำเป็นอุนจิสีดำ ถ้าเป็นสีเหลืองคงจะแย่แน่ๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้ทาง TOEI ยังไม่ได้ประกาศวันฉายหรือรายละเอียดหลักๆ ของตัวอนิเมะว่าจะเป็นเรื่องสั้นหรือเป็นการ์ตูนเรื่องยาวกันแน่ ถ้าใครสนใจอยากจะดูการ์ตูนเรื่องนี้ก็รอติดตามกันไว้ให้ดีเลย ลองรับชมคลิปตัวอย่างกันได้เลยจ้า ที่มา: rocketnews24
-
“เพราะฉันเคยจนมาก่อน…” สาวประกาศให้คนยากไร้มาอยู่บ้านฟรีๆ ขอแค่ช่วยดูแลเท่านั้น
เราอาจจะเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก่อนและไม่รู้จะหาที่พึ่งหรือแก้ไขปัญหาที่พบเจอนั้นได้อย่างไร แต่ใครจะไปนึกว่าในปัจจุบันยังมีนางฟ้าตัวจริงที่ใจดีพร้อมจะช่วยเหลือผู้อื่นแบบเรื่องราวที่ #เหมียวปั๊ก จะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดู เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา คุณนันทนา ปัชชาเขียว ได้โพสลงเฟซบุ้คของเธอประกาศสำหรับผู้ที่ไม่มีที่พักและต้องการที่พักอาศัย สามารถเข้ามาอยู่บ้านของเธอได้ฟรีๆ เธอประกาศอนุญาตให้คนสามารถเข้ามาอยู่บ้านเธอได้ สำหรับคนที่จะเข้ามาอาศัยสามารถติดต่อเธอได้ทางเฟสบุ้คโดยตรง จะเป็นคนที่เธอรู้จักหรือไม่รู้จักเธอก็ยินดีที่จะให้พวกเขาเหล่านั้นเข้ามาอยู่ โดยมีเพียงกฎเล็กน้อยที่ต้องปฎิบัติตามนั้นคือ รักษาความสะอาดและไม่ทำข้าวของภายในบ้านเสียหาย สภาพภายในบ้าน บ้านตั้งอยู่จังหวัดตรัง อยู่ห่างกับโรงเรียนราชมงคล 500 เมตร แม้จะหลังไม่ใหญ่โต แต่นี่ก็สามารถเป็นที่พักพิงอย่างดีให้กับผู้ที่ต้องการเลยนะ หลังจากที่เธอโพสลงเฟซบุ๊ก โพสของเธอก็ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากบุคคลที่เดือดร้อนต้องการที่พักและชาวเน็ตที่ชื่นชมในการกระทำของเธอ สำหรับคนที่สนใจจะเข้าอยู่อาศัยก็สามารถที่จะติดต่อเธอได้ทาง นันทนา ทุเรียนทอดกรอบ ปัชชาเขียว ของเธอได้ที่นี่เลยนะครับ เป็นอีกการกระทำท่าน่าชื่นชมมากๆ เลยนะ #เหมียวปั๊ก ขอชื่นชมจากใจเลย ~ ที่มา: นันทนา ทุเรียนทอดกรอบ ปัชชาเขียว
-
กระต่ายถูกช่วยชีวิตให้รอดตาย แล้วมาตั้งแก๊ง “ต่าย-หมา-หนู” ยึดครองบ้านไปแล้ว!!!
การเป็นเพื่อนแท้กันนั้น ไม่อาจมีข้อจำกัดใดที่สามารถมาขัดขวางมิตรภาพระหว่างเพื่อนๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างกันของเชื้อชาติ ฐานะ หรือแม้แต่สายพันธุ์ก็ตาม… พบกับเรื่องราวสุดน่ารักของเจ้ากระต่ายน้อยที่ถูกช่วยเหลือและย้ายมาบ้านหลังหนึ่ง และได้พบกับเจ้าตูบเพื่อนใหม่ของมัน ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด ถึงแม้ว่าการพบกันของเจ้ากระต่าย Bob และเจ้าตูบ Grace ในตอนแรกนั้นจะไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนเจ้าหมาจะรู้สึกว่ากระต่ายน้อยนั้นเป็นอาหารของมัน แต่โชคดีที่เจ้าของพวกมันกลับสอนให้เจ้า Grace นั้นรู้ว่า Bob นั้นไม่ใช่ของกินนะเว่ยยยยยยยยย หลังจากนั้นเจ้าหมาก็ล้มเลิกความคิดที่จะกินมัน คุณ Lydia DesRoche บอกว่า “ตอนนี้ทั้งคู่ดูมีความสุขมากๆ พวกมันเข้ากันได้ดีจริงๆ ” ตูบนั้นย้ายมาอยู่กับคุณ DesRoche มาได้ 3 ปีแล้ว และตอนนี้เจ้ากระต่ายก็กลายมาเป็นสมาชิกใหม่อีกหนึ่งตัว . DesRoche นั้นเป็นนักฝึกสัตว์เลี้ยงที่มีฝีมือ เธอเคยฝึกให้เจ้าตูบของเธอเล่นกับหนูได้อย่างเป็นมิตร และเช่นเดียวกับ Bob เจ้า Grace นั้นก็ทำเหมือนกับว่ามันเป็นเพื่อนเช่นกัน ในบ้านของเธอนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ต่างๆ มากมาย เจ้า Petunia หนูที่เธอเลี้ยงไว้นั้นมักจะออกมาขโมยอาหารของ Bob อยู่บ่อยๆ เจ้าตูบพยายามจะทำท่าทางให้เหมือนกับเพื่อนของมัน เรื่องราวน่ารักๆ ของ Bob และ Grace…
-
10 ภาพการวางตำแหน่ง “ภาพโฆษณา” ในนิตยสาร แอบทำให้เราคิดลึกได้เหมือนกันนะ!!
ภาพบางภาพมองแล้วอาจจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ความสวยงาม และความน่าตื่นเต้น ขณะเดียวกันมีภาพจากทางเว็บไซต์ MortierBrigade และนิตยสาร Humo ของเบลเยี่ยม ที่ได้จับมือกันสร้างสรรค์ภาพโฆษณาการจัดวางตำแหน่งภาพในนิตยสาร บอกเลยว่าเมื่อได้เห็นแล้วจะต้องทำให้หลายคนแอบขำ และแอบคิดลึกไปตามๆ กัน ถือเป็นไอเดียที่เจ๋งไม่น้อยเลยนะเนี่ย อ๊ะแน่ะ ป๊าบเข้าให้… รวมทั้งมีความสร้างสรรค์ และชวนคิดลึกไม่น้อย และที่สำคัญยังไม่ต้องมีการเซ็นเซอร์อีกด้วย จัดวางตำแหน่งได้อย่างลงตัว ถ้ามองผ่านๆ คุณอาจไม่ได้สงสัยอะไรในภาพโฆษณาเหล่านี้ แต่ถ้ามองดีๆ มันก็ชวนคิดลึกเหมือนกันนะเนี่ย และนั่นถือว่าเป็นการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมมาก ภาพที่ออกมามันทำให้เราอดคิดลึกไม่ได้จริงๆ เป้าหมายของโฆษณาคือสะดุดตาคนอ่าน และพวกเขาก็วางเลย์เอาท์มาอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นการวางโฆษณาบนพื้นที่ของสื่อสิ่งพิมพ์ได้สร้างสรรค์มากๆ เลยทีเดียว แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็อดคิดลึกไม่ได้เหมือนกันนะเนี่ย ฮร่าๆ ที่มา : designyoutrust
-
เปิดตัวบาร์ธีม Game of Thrones ที่แต่งร้านได้แจ่มแมว ราวกับอยู่ในเวสเทอรอสจริงๆ
เวลาแห่งการรอคอยใกล้จะสิ้นสุดแล้วสำหรับสาวก Game of Thrones ที่กำลังตั้งตารอซีซั่น 7 ที่กำลังจะฉายช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ก่อนที่จะได้ไปดูซีรีส์เต็มๆ กันลองมาดูบาร์ธีมซีรีส์นี้กันดูก่อนเป็นไง เผื่อจะได้ไปนั่งๆ นอนๆ ในบาร์ดูซีรีส์ไปพร้อมกันทุกคน… บาร์ธีม Game of Thrones นั่นเดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของร้านที่ชื่อว่า Drink Company ซึ่งเป็นร้านที่เกิดจากการรวมตัวกันของเหล่านักดื่มจนเป็นร้านเหล้าขึ้นมา และแน่นอนว่าพวกเขาก็เป็นแฟนของซีรีส์ดังเรื่องนี้อีกด้วย บาร์ซึ่งตั้งอยู่ในวอชิงตัน ดีซี แห่งนี้ จะเปิดทำการหลายช่วงเวลาด้วยกัน โดยถ้าเป็นวันธรรมดา หรือศุกร์ เสาร์ก็จะเปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปจนถึงตี 1 ของวัน แต่ถ้าวันอาทิตย์จะเปิดตั้งแต่บ่ายโมงไปจนถึง 1 ทุ่มเท่านั้น ตรงบาร์ตกแต่งด้วยต้น Weirwood ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกเหมือนว่ากำลังนั่งอยู่ในสวนของวินเทอร์เฟลเลย ตัวต้นไม่ใช่เล็กๆ เลยนะ จะเห็นว่ามันครอบคลุมไปทั้งบาร์เลยทีเดียว นอกจากนั้นก็ยังมีมุมที่ตกแต่งแบบวิหารเทพไร้หน้า สร้างความหลอนได้หน่อยนึง ส่วนเมนูก็มีให้เลือกมากมาย ทุกอย่างล้วนแต่น่ากรึบลงท้องทั้งนั้น เวลาเสิร์ฟก็จะตกแต่งด้วยฟิกเกอร์มังกรเล็กๆ หรือจะเป็นมังกรโดรกอนขนาดใหญ่ก็มีเช่นกัน นั่งบนบัลลังก์เหล็กพร้อมกับจิบเครื่องดื่มเย็นๆ อะไรจะฟินไปกว่านี้ว่าไหม? ไม่หมดเพียงเท่านั้น…
-
แม้จะเป็นวันที่อากาศร้อนสุดของปี แต่ก็ยังมีคนทิ้งหมาไว้ในรถ ตำรวจเร่งช่วยเกือบไม่รอด
หลายครั้งที่เราได้เห็นข่าวของสัตว์เลี้ยงอย่างหมา แมว หรือเด็กตัวเล็กๆ เสียชีวิตจากการถูกทิ้งให้อยู่ในรถเพียงลำพัง เพราะบางครั้งเราอาจจะคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก แต่จริงๆ แล้วหารู้ไม่ว่าอุณหภูมิของรถที่จอดทิ้งไว้นั้น จะยิ่งสะสมความร้อนมากขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที แถมยังสามารถคร่าชีวิตสุนัขได้ง่ายอีกด้วย เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า สุนัขตัวหนึ่งกำลังทุกข์ทรมานอยู่ในรถ หลังจากที่เจ้าของได้จอดรถทิ้งไว้ตรงบริเวณที่จอดรถในมณฑล Suffolk ประเทศอังกฤษ เขาปล่อยให้มันอยู่เพียงลำพัง จนทำให้เจ้าหมาเกือบตาย แต่อย่างน้อยมันก็ยังโชคดีที่มีคนมาเห็น และถูกช่วยเอาไว้ได้ทัน โดยในวันนั้นเรียกได้ว่ามันหนึ่งในวันที่อากาศร้อนที่สุดในอังกฤษเลยก็ว่าได้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Suffolk ได้ออกมากล่าวว่า “เราได้รับโทรศัพท์จากประชาชนว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่ชั้นล่างของที่จอดรถ และมีสุนัขตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งอยู่ในนั้น หน้าต่างรถทั้งหมดถูกปิดสนิท มันไม่ได้กินน้ำ และถูกขังอยู่ในรถด้วยอุณหภูมิสูงเกือบ 30 องศาเซลเซียส… เจ้าหมาอยู่ในรถเป็นเวลานาน แต่โชคดีที่มีคนมาเห็นมันอยู่ในนั้น และได้รับความช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน ซึ่งทางเราก็พร้อมทำการตรวจสอบ จากนั้นเราก็ได้ทุบหน้าต่างรถ เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะช่วยให้เจ้าหมาออกมาจากรถได้” หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถช่วยชีวิตของน้องหมาได้สำเร็จ พวกเขาก็พบว่ามันพยายามดิ้นรนเพื่อหาอากาศหายใจ แถมมันยังมีปัญญาในเรื่องการเดินอีกด้วย ไม่นานหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ปล่อยลูกสุนัขออกมาจากรถ พวกเขาก็ได้พบกับเจ้าของ ซึ่งทางผู้เป็นเจ้าของน้องหมาผู้เคราะห์ร้ายได้อ้างว่า พวกเขาไม่ได้จะไปทำธุระนานๆ เลย แต่ตั๋วที่จอดรถ ซึ่งอยู่บนรถของพวกเขากลับแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องออกไปทำธุระนานเกินกว่าหนึ่งชั่วโมงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม…
-
ญี่ปุ่นเนรมิต “ชุดบิกินี่กะลาสีเรือ” เซ็กซี่คาวาอิ๊ถูกใจสาวๆ จนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า!!
เมื่อกล่าวถึงความคาวาอิ๊คาวาอิ ก็ต้องนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับแรกเลยใช่ไหม ก็แน่นอนสิ…เพราะประเทศนี้เขาขึ้นชื่อเรื่องความน่ารักมุ้งมิ้งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องสำอาง สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ก็ถูกเนรมิตขึ้นมาให้น่ารักสุดๆ ซึ่งมันก็คงไม่แปลกอะไร หาก Sailor Beachwear ชุดบิกินี่จากประเทศญี่ปุ่นที่เพื่อนๆ กำลังจะได้เห็นกันนี้ จะมีความน่ารักเป็นพิเศษเพราะเพียงแค่ผู้ผลิตอย่าง No. S Project ได้นำออกมาวางจำหน่าย ก็สามารถขายได้หมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น โอ้วววว ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย . หากเพื่อนๆ คนไหนที่เคยดูภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ก็คงพอจะทราบกันมาบ้างแล้วว่าชุดนักเรียนหญิงประเทศนี้บางชุดจะมีลักษณะคล้ายกับกะลาสีเรือ แถมยังกลายเป็นจุดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ไปแล้วก็ว่าได้ และด้วยความที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแบบนี้นี่เอง เลยทำให้ชุดนักเรียกเหล่านั้นได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ชุดบิกินี่กาลาสีสุดเซ็กซี่แบบนี้… Sailor Beachwear ชุดบิกินี่กะลาสีเรือสุดแซ่บ เห็นครั้งแรกก็ดึงดูดสายตาฝุดๆ เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้หนุ่มๆ ชื่นชอบเท่านั้น แต่สาวๆ ที่ได้เห็นก็ตื่นเต้นไม่แพ้กันอีกด้วย เมื่อได้ลองใส่ชุดนี้ไปเดินเล่นที่ชายหาดบอกเลยว่าจะต้องสะดุดตาผู้คนเป็นอย่างมาก สำหรับชุดดังกล่าว จะมีสองสีให้เลือกใส่คือสีน้ำเงิน และสีขาว ซึ่งในส่วนของชุดชั้นในจะมาพร้อมกับปกเสื้อกะลาสี พร้อมผูกโบว์สีแดงสุดน่ารัก…
-
หนุ่มขอสาวแต่งงานบนเครื่องบิน ผู้โดยสารลุ้นเอาใจช่วย สมหวังได้จิบแชมเปญถ้วนหน้า!!
ถ้าพูดถึงเรื่องการขอแต่งงานแบบเซอร์ไพรส์นั้น เราก็มักจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการขอแต่งงานกลางคอนเสิร์ต หรือแม้แต่กลางรายการทีวีก็มีเช่นกัน ทว่าทุกครั้งก็จะมีการจัดฉากและเตรียมงานกับทีมงานในสถานที่นั้น เสมอ แต่เราก็ไม่ค่อยจะได้เห็นการแต่งงานบนเครื่องบินบ่อยๆ ใช่ไหมล่ะ!? Deepum Patel ชายหนุ่มผู้ทำงานอยู่ที่เมืองแอตแลนตาคนนี้ เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่วางแผนจะขอแต่งงานแฟนสาว Neha Chakravati แบบเซอร์ไพรส์ ซึ่งเขาได้วางแผนให้เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นบนเที่ยวบินที่เขาและแฟนสาวจะเดินทางไปเที่ยวประเทศไอซ์แลนด์ แน่นอนว่ามันคือการเซอร์ไพรส์ ฉะนั้น Neha จะรู้เรื่องนี้ไม่ได้เลย ทางด้าน Deepum จึงต้องวางแผนให้แยบยลมากที่สุด เขาจึงติดต่อไปยังสายการบิน Delta Airline เพื่อขอความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย แถมยังแอบให้สายการบินขอความร่วมมือจากผู้โดยสารทุกคนอีกด้วย ในขณะที่เครื่องบินกำลังอยู่บนระดับความสูงราว 9 กิโลเมตรจากพื้นดิน Deepum ก็เห็นว่าถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะต้องเริ่มแผนการ เขาให้เจ้าหน้าที่ประกาศว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากทันตแพทย์สักคนที่เป็นผู้โดยสารอยู่บนเครื่อง เพราะตอนนี้มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น ด้วยความที่ Neha เป็นนักศึกษาทันตแพทย์และน่าจะพอมีความรู้เรื่องการรักษาบ้างนิดหน่อย เธอจึงลุกไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตามที่ประกาศ ช่วงเวลานั้นเองทำให้ Deepum ส่งซิกให้ผู้โดยสารคนอื่นเริ่มตามแผนพร้อมเตรียมจับภาพการขอแต่งงานของเขา . วินาทีแห่งคำตอบก็มาถึงเมื่อ Deepum ถามกับแฟนสาวว่าเธอจะแต่งงานกับเขาไหม แน่นอนว่าเธอก็ตอบตกลง ทำให้ในชั่วโมงนั้นทั้งตัวเขาเองและผู้โดยสารรวมถึงเจ้าหน้าที่ก็ต่างพากันมีความสุขไปพร้อมๆ กัน และทางสายการบินก็แจกแชมเปญฉลองให้ทั้งคู่รวมถึงผู้โดยสารทุกคน… . . สุดท้ายเมื่อทั้งคู่เดินทางมาถึงที่หมาย ทางสายการบินก็จัดการเตรียมต้อนรับคู่รักไว้เรียบร้อย ด้วยการตกแต่งทางเดินด้วยลูกโป่งพร้อมกับมอบช่อดอกไม้ให้ด้วย ปิดท้ายด้วยการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับทั้งคู่…
-
คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน มาเล่นเกม ดูทีวี กินเหล้าเจ้าของบ้าน ยังไม่พอ.. ชิกวิ้ว ทิ้งคราบน้ำไว้อีก!!
หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ขโมยขึ้นบ้านกันมาแล้ว และแน่นอนว่าจุดประสงค์ของโจรเหล่านั้นก็คือ การเข้ามาขโมยสิ่งของมีค่าภายในบ้านของเราไป แต่สำหรับเรื่องราวของขโมยที่เราจะมานำเสนอในครั้งนี้ บอกเลยว่ามันอาจทำให้หลายๆ คนถึงกับแอบขำ เพราะหัวขโมยรายนี้ ไม่ได้เอาของอะไรออกไป แต่มาทำให้บ้านเละตุ้มเป๊ะซะอย่างนั้น วันที่ 23 มิถุนายน 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า ในช่วงเช้าของวันพุธที่ผ่านมา Jeff Holbrook เจ้าของบ้านที่อาศัยอยู่ใน Cranbourne ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอเหตุการณ์ขณะหัวขโมยขึ้นบ้านลงบนโลกออนไลน์ หลังจากที่เขาพบจากกล้องวงจรปิดว่า มีชายนิรนามรายหนึ่งได้แอบบุกรุกเข้ามาในบ้านของเขา Jeff บอกว่าหัวขโมยรายดังกล่าวได้แอบเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านเป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง แถมยังแอบเข้ามาอาบน้ำ ดูทีวี เล่นเกม ทำอาหาร ดื่มเหล้าจนเมาแอ๋ พร้อมกับทำลายข้าวของภายในบ้าน ยังนะ.. แค่นั้นยังไม่พอ เขายังแอบช่วยตัวเองบนโซฟาจนสำเร็จความใครอีกด้วย “มีใครบางคนกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงในห้องนอนของฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร” Jeff พูดขณะแอบถ่ายวีดีโออีก จากนั้นไม่นาน Jeff ก็รีบเดินลงไปชั้นล่าง พร้อมกับกล่าวว่าตำรวจกำลังจะมาถึงในไม่ช้า และเขาจะไม่หยุดถ่าย และสั่งไม่ให้พ่อหนุ่มหัวขโมยแตะต้องอะไรเลยจนกว่าตำรวจจะมาถึงที่นี่ หลังจากที่มาถึง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รีบเข้าจับกุมตัวชายรายดังกล่าวทันที โดยขณะนั้นเขามีท่าทางที่ดูสับสน หลังจากที่เพิ่งตื่นนอน …
-
สาวดีไซน์เนอร์ชาวไต้หวัน ที่แม้จะอายุจะย่างเข้า 42 แล้ว แต่ยังดูอ่อนเยาว์เหมือน 20 ต้นๆ
ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนผู้หญิงอย่างเราก็มักจะไปสรรหาเคล็ดลับวิธีการที่จะทำให้ความสวยนั้นอยู่คู่กับเราให้นานที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือแม้แต่การทำศัลยกรรม Lure Hsu เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในชาวไต้หวันที่แซ่บสุดๆ ถ้าให้เดาอายุของเธอ เชื่อว่าทุกคนต้องบอกว่า 20 ต้นๆ เป็นแน่ แต่ประทานโทษที… เจ้คนนี้อายุปาเข้าไป 42 แล้วนะจ๊ะ แต่เธอยังคงความสาวไว้อย่าวสมบูรณ์ ทั้งผิวพรรณ หน้าตาและรูปร่าง Lure ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นครั้งแรกในปี 2015 เนื่องจากน้องสาวของเธอ Sharon Hsu ที่เป็นนักแสดงหญิง อายุ 35 ปี ได้เชิญเธอเข้าร่วมรายการบันเทิง ซึ่งในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนั้นน้องสาวของเธอก็ได้แชร์โพสเกี่ยวกับการครบรอบอายุ 40 ของเธอ ทำเอาคนที่ได้เห็นต่างพากันตกตะลึงในความอ่อนเยาว์ของเธอเป็นอย่างมาก ดูจากหน้าตาก็เธอแล้วแทบไม่มีริ้วรอยของสาววัย 42 เลย แบบนี้ต้องรู้ให้ได้ว่าเธอมีเคล็บลับอะไรกับแน่ Lure บอกว่าความลับสุดยอดของเธอคือการดื่มน้ำเยอะๆ และกินผักเป็นจำนวนมาก เธอเป็นแฟนของอาหารมังสวิรัติและชอบทานผักกวางตุ้งเอามากๆ เธอกล่าวว่าการทานน้ำมากๆ นั้น ทำให้สาวๆ ไม่ต้องกังวลกับเรื่องริ้วรอยบนใบหน้า เธอหลีกเลี่ยงการทานของหวาน น้ำอัดลมและอาหารที่มีคอลเรสตอลรอลสูง เครื่องดื่มอื่นนอกจากน้ำที่เธอทานได้อย่างมากก็มีแค่กาแฟดำ 1 แก้ว ในช่วงเช้าเท่านั้น…
-
สาวผู้มีผิวเหี่ยวย่น แม้จะมีอายุเพียง 26 ปี ไม่ย่อท้อต่อความฝัน จนได้เป็นนางแบบอาชีพ!!
ทุกคนนั้นล้วนแล้วแต่มีความฝันเป็นของตัวเอง บางคนก็เลือกที่จะวิ่งตามหาอย่างไม่ท้อไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน แต่สำหรับบางคนก็ปล่อยให้ความฝันหลุดลอยไปพร้อมกับพลังในตัวเองที่ลดลงทุกวัน แต่สำหรับเธอคนนี้ไม่มีวันที่จะปล่อยให้ความฝันหลุดมือไปอย่างแน่นอน เธอใฝ่ฝันที่จะเป็นนางแบบ แต่อุปสรรคของเธอนั้นคือการมีผิวหนังที่เหี่ยวย่น แม้ว่าเธอจะอายุเพียงแค่ 26 ปีเท่านั้น เธอต้องต่อสู้กับความลำบากมากมายและเธอจะมาเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังท้อ ให้ลุกขึ้นทำตามความฝัน ในแบบที่เธอทำนั่นเอง Sara Geurts ตอนนี้เธอมีอายุได้ 26 เธอประสบกับภาวะทางพันธุกรรมที่ทำให้เธอมีผิวหยาบกร้านและเหี่ยวย่นเกินกว่าอายุที่มีชื่อเรียกว่ากลุ่ม Dermatosparaxis Ehlers-Danlos Syndrome (EDS) แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้เธอล้มเลิกความตั้งใจที่อยากจะเป็นนางแบบ Sara บอกว่าว่าผู้ที่เป็นภาวะ Ehlers-Danlos จะมีผลต่อข้อต่อและผิวหนังตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้เธอข้อต่อไม่แข็งแรงและเคลื่อนไหวไม่สะดวกมากนัก ด้วยเหตุนี้ทำให้บางคนใช้ชีวิตอยู่บนรถ Wheelchairs เพียงอย่างเดียว เมื่อ Sara เติบโตขึ้นความเจ็บปวดและความยากลำบากในการชีวิตก็เพิ่มขึ้น เธอเลิกที่จะใส่เสื้อผ้าที่แน่นจนเกินไปเพราะมันทำให้ผิวหนังของเธอได้รับอาการบาดเจ็บ ผู้ป่วยภาวะ Ehlers-Danlos ส่วนใหญ่มักใช้ยาแก้ปวดในการเยียวยาอาการต่างๆ แต่เธอนั้นเลือกที่จะให้วิธีธรรมชาติเช่นการนวดบำบัด การฝังเข็ม รวมไปถึงการใช้กัญชา อาการของภาวะ Ehlers-Danlos นั้นเริ่มแสดงให้เห็นตอนเธออายุได้ 7 ขวบ เมื่อแพทย์ได้ตรวจสอบก็วินิจฉัยว่าเธอเป็นนี้ ในตอนมัธยมปลายเธอพยายามที่จะปกปิดมัน เธอไม่ต้องการให้ใครมาซักถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เมื่อเธออายุได้ 22 ปี เธอได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเอง…
-
ประมวลภาพงาน ‘World Naked Bike Ride 2017’ งานปั่นจักรยานเปลือยกายระดับโลก
ในช่วงหน้าร้อนของเดือนมิถุนายนในทุกๆ ปี ที่มหานครลอนดอนแห่งนี้จะกลายเป็นสถานที่จัดงานปั่นจักรยานระดับโลกงานหนึ่ง แต่ถ้าเป็นการปั่นธรรมดาเราก็คงจะไม่เอามาฝากแฟนเพจแคทดั๊มบ์กันให้เสียเวลาหรอก แต่งานปั่นที่เรากำลังจะพาไปชมนั้นเป็นการปั่นแบบเปลือยกาย!! กิจกรรมดังกล่าวนั้นใช้ชื่อว่า The World Naked Bike Ride ซึ่งมีการจัดต่อเนื่องกันมาถึง 12 ปีแล้ว และในแต่ละปีนั้นก็ได้รับความสนใจจากชาวลอนดอน รวมถึงนักท่องเที่ยวอย่างมาก ในแต่ละปีนักปั่นหลายร้อยคนจะพร้อมใจกันนุ่งน้อยห่มน้อย หรือบางคนก็ไม่ห่มอะไรเลย เพื่อปั่นจักรยานไปตามเส้นทางในกรุงลอนดอน หลายๆ คนวางแผนล่วงหน้าที่จะมาร่วมงานนี้ ซึ่งระดับการเปลือยกายของผู้เข้าร่วมงานนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละคน “ในทุกๆ ปี เราจะจัดกิจกรรมนี้ในแต่ละเมืองทั่วโลก เพื่อเป็นการร่วมฉลองให้กับการขี่จักรยานและเรือนร่างของพวกเรา” ทางผู้จัดงานได้กล่าวถึงจุดประสงค์ของเทศกาลนี้ผ่านทางเว็บไซต์ ภาพบรรยากาศในงาน THE WORLD NAKED BIKE RIDE 2017 ที่ลอนดอน . . . ผู้คนจำนวนมากให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ บางคนก็แต่งคอสเพลย์ซะเท่เชียวล่ะ . การเปลือยกายนั้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ร่วมงานแต่ละคน นอกจากนักปั่นแล้ว ยังมีชาวลอนดอนและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ยังให้ความสนใจเข้าชมการปั่นจักรยานครั้งนี้ด้วย . . . . .…
-
Prada ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “คลิปหนีบกระดาษ” ราคาก็เบาๆ แค่ 6,000 นิดๆ เอ๊งงงงง!!
นี่คือหน้าตาของคลิปหนีบกระดาษ ที่หลายคนอาจจะมองเห็นว่ามันก็เป็นเพียงแค่สิ่งของธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ความจริงแล้วไม่มีใครรู้หรอกว่า เจ้าคลิปหนีบกระดาษสีเงินนี้ มันจะมีราคาที่สูงถึง 6,000 บาทเลยนะ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2560 มีรายงานว่าหลังจากที่ทางห้างสรรพสินค้าสุดหรู Barney’s New York ในนิวยอร์กได้นำคลิปหนีบกระดาษสีเงิน ที่แปะแบรนด์หรูอย่าง Prada มาวางจำหน่ายในราคา $180 หรือราวๆ 6,000 บาท ก็ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยเจ้าคลิปหนีบกระดาษดังกล่าว ถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุชั้นดีอย่างเงินสเตอร์ลิง (Sterling Silver) ที่มีความยาว 6 เซนติเมตร อีกทั้งยังมาพร้อมกับการสลักโลโก้ลายนูนสุดหรูคำว่า Prada อยู่ด้านข้างอีกด้วย งานนี้หลังจากที่ทาง Prada ได้ออกสินค้าดังกล่าวออกมา ก็ทำให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายคนได้พากันออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย เพราะสินค้าดังกล่าวมีราคาสูงเกินที่จะเอื้อมถึง ทำไมถึงต้องเสียเงินจำนวนมากให้กับคลิปหนีบกระดาษของ Prada ที่มีราคาสูงมากกว่าคลิปหนีบกระดาษแบบปกติ ตัวอย่างคอมเม้นท์ก็อย่างเช่น… ห๊ะ Prada ทำคลิปหนีบกระดาษอันละ 185 เหรียญ มันต้องมั่นขนาดไหนกันเนี่ย นี่อิชั้นหวังจะรวยขนาดที่มาจ่ายเงินซื้อคลิป…
-
ฮอกวอตส์เลือกนายแล้ว!! หนุ่มกรี๊ดลั่น “นกฮูก” บินเข้ามาในบ้าน ต้องไล่ด้วยไม้ถูพื้นแบบสุดฮา
บ่อยครั้งที่บ้านของเรามักจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำ หรือห้องครัว และสิ่งที่น่าหนักใจกับเจ้าของบ้านนั่นก็คือการเชิญพี่ๆ ที่มาเยี่ยมทั้งหลายนั้นกลับไปยังแหล่งแหล่งพำนักเดิมของตัวเอง เพราะกว่าจะเจรจากันให้เข้าใจก็ทำเอาเหงื่อแตกกันเลยทีเดียว และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคลิปวิดีโอของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่พยายามจะอัญเชิญแขกที่ว่านี้ออกจากบ้านเขา ชายหนุ่มต้องรวบรวมทั้งความกล้าและสมาธิอยู่นานในการขอร้องให้เจ้านกฮูกนั้นออกจากบ้านเขาไปอย่างสงบ พี่ฮูกที่หาทางกลับฮ็อกต์วอตส์ไม่เจอ ในตอนแรกเหมือนพี่ฮูกของเรานั้นจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าออกไปอย่างละมุนละม่อม เพราะดูพี่แกจะดีดเอาซะเหลือเกิ๊น!! (ไม่รู้ไปโดนตัวไหนมา) แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่คนนี้เป็นหนุ่มน้อยแฮรี่หรืออย่างไร ไม่นานพี่แกก็เริ่มทำให้เจ้านกฮูกที่กำลังตกใจสงบลงได้ และถึงแม้จะไม่ใช่แฮกริตหรือเป็นญาติกับพ่อมดน้อยแฮรี่ ไม่นานพ่อหนุ่มมักเกิ้ลก็เริ่มควบคุมเจ้านกฮูกได้ ราวกับได้เรียนวิชาควบคุมสัตว์มา พ่อหนุ่มสั่งให้เจ้านกอยู่นิ่งๆ บนไม้ถูพื้นและค่อยๆ ส่งมันบินกลับภูมิลำเนาเดิม ไปชมการเชิญพี่ฮูกกลับบ้านของพ่อหนุ่มคนนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… เจ้านกฮูกขึ้นไปเกาะที่ไม้ถูพื้นอย่างว่านอนสอนง่าย นิ่งไว้เพื่อน… นิ่งไว้.. สุดท้ายพี่ฮูกของเราก็กลับบ้านอย่างปลอดภัย ไม่เสียแรงที่ตั้งใจเรียนกับแฮกริตเลยใช่ไหมล่ะพ่อหนุ่ม!? ที่มา vintoplan
-
วินาทีสุดประทับใจ ตำรวจพร้อมใจขับรถอารักขา “ฝูงห่าน” จากท้องถนนที่อันตราย…
มนุษย์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเดียวบนโลกใบนี้ที่ต้องได้รับการปกป้องจากงานบริการต่างๆ ซึ่งตำรวจเจ้าของเรื่องราวนี้ก็ดูจะเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว… เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อเจ้าห่านกลุ่มหนึ่งได้เดินทางท่องเที่ยวไปบริเวณริมถนนหลวงในเมืองกรีนวูด รัฐโคโลราโด แน่นอนว่าสัตว์เล็กแบบนั้นการเดินอยู่บนถนนหลวงย่อมเป็นอะไรที่อันตรายมาก ด้วยเหตุนี้การปล่อยให้พวกมันเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองจึงเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ทางตำรวจกรีนวูดจึงเดินทางมาหาเจ้าห่านพวกนี้ พร้อมกับขับรถตำรวจสองคัน ปิดด้านข้างและปิดท้ายริมทางเท้า เพื่อช่วยอารักขาพวกมันจนไปถึงพื้นที่ปลอดภัย จนเกิดเป็นคลิปสุดประทับใจ Rod Wayne ชายผู้บันทึกคลิปเหตุการณ์ได้บอกเล่ากับเว็บไซต์ Thedodo ว่า “ผมเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยกันปกป้องพวกห่านอย่างใจเย็น และพาพวกมันไปจนสุดทางของถนนจนพวกมันเดินเข้าไปบริเวณหญ้าข้างทาง” เรื่องทั้งหมดอาจจะดูไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วมันบ่งบอกถึงความใส่ใจในเพื่อนร่วมโลก ที่ยอมเสียเวลามาช่วยพวกห่าน แถมนี่ยังเป็นสัญญานที่บอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวมองเห็นห่านพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตระดับเดียวกับมนุษย์และต้องการสิทธิ์ในความปลอดภัยเช่นกัน ต้องชื่นชมพวกเขาจริงๆ สามารถดูคลิปเหตุการณ์เต็มๆ ได้ข้างล่าง ผู้คนต่างมาชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจกันเพียบ คนดูคลิปนี้ไปมากกว่า 2 ล้านครั้ง และแชร์อีกกว่า 4 หมื่นครั้งแล้ว!! ที่มา Thedodo
-
ชิ้นส่วนกระจาย!! การต่อสู้ “ซูโม่หุ่นยนต์” จากญี่ปุ่น ใครจะอยู่ใครจะไปวัดกันที่ความแข็งแกร่ง..
‘ซู่โม่’ หนึ่งในกีฬาประจำชาติของญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน การวัดพลังกันของลูกผู้ชายบนเวทีเล็กๆ นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศนี้ แต่เมื่อการพัฒนาของเทคโนโลยีเริ่มก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น จึงเกิดการรวมกันระหว่างวัฒนธรรมอันเก่าแก่กับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กลายเป็น “การแข่งซูโมโดยหุ่นยนต์” เจ้าหุ่นสองตัวที่กำลังเผชิญหน้าเข้าหากันบนสังเวียนซูโม่.. การแข่งขันดังกล่าวอาจจะแตกต่างไปจากการแข่งขันซูโมทั่วไป เพราะนอกจากจะใช้หุ่นยนต์ในการวัดพลังกันแล้ว ในการแข่งขันแต่ละเกมนั้นก็จบลงเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น หุ่นยนต์ที่ลงแข่งขันแต่ละตัวจะมีการปรับแต่งเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับมันในยามที่ลงสนาม อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนที่ช่วยในการผลัก หรือเครื่องยนต์ที่ช่วยเพิ่มความเร็วถูกติดเข้าไปเพื่อให้หุ่นสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ง่ายขึ้น ระหว่าการต่อสู้หุ่นซูโมนั้นจะถูกบังคับโดยเจ้าของที่อยู่ทางด้านหลัง นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันยังต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันสิ้นส่วนต่างๆ ที่กระเด็นออกมาระหว่างการต่อสู้ เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย การผลักให้อีกฝ่ายตกเวทีคือกฏข้อหนึ่งของการแข่งขันนี้ เพราะฉะนั้นการอกแบบก็จะยากตรงที่ ทำให้มันเร็วเกินไปไม่ได้ มันจะหลุดเวทีซะก่อน ช้าเกินไปก็ไม่ได้เพราะจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขณะเดียวกันก็ต้องแข็งแกรงพอที่จะไม่โดนอีกฝั่งผลักตกจากเวทีเช่นกัน การต่อสู้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกจังหวะมีผลต่อการแพ้ชนะ ปิดท้ายกันด้วยคลิปบรรยากาศจากในงานต่อสู้หุ่นยนต์ ลองมาลุ้นกันดูสิ… เป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่เจ๋งดีเหมือนกันนะเนี่ย ไม่แน่นะอีกหน่อยเราอาจเห็นการต่อสู้ของหุ่นยนต์แบบในหนังขึ้นมาจริงๆ ก็ได้ ที่มา rocketnews24
-
เมื่อลูกสาวอายุ 2 ขวบ อยากย้อมผมสีชมพูหวานแหววดั่ง “เมอร์เมดน้อย” คุณแม่จึงจัดให้!!
เรื่องความสัมพันธ์ของคุณแม่และคุณลูกเป็นเรื่องที่น่ารักเสมอ อย่างคู่แม่ลูกที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้พวกเธอมีแนวทางแฟชั่นที่เหมือนกัน พวกเธอได้โพสต์รูปภาพสุดเก๋ๆ ลงในอินสตาแกรมจนมีผู้ติดตามมากมาย โดยในครั้งนี้ลูกสาวคนสวยได้อ้อนขอให้คุณแม่เปลี่ยนสีผมของเธอให้เป็นเหมือนกับนางเงือกน้อย คุณแม่จึงไม่รอช้าจัดการย้อมสีผมให้เสร็จสับ จนเด็กสาวผมบลอนด์ธรรมดาๆ เปลี่ยนไปเป็นเมอร์เมดน้อยผมสีชมพูสุดน่ารัก ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องหมั่นเขี้ยวสุดๆ Charity Grace คุณแม่คนสวยและลูกสาวของเธอ City พวกเขาหลงไหลในการทำสีผมเอามากๆ โดยแม่ลูกคู่นี้ได้โพสต์รูปภาพเกี่ยวกับแฟชั่นการแต่งตัวและการทำสีผมสุดน่ารักอยู่ตลอด ทำให้พวกเธอมีแฟนคลับที่ติดตามในอินสตาแกรมอยู่อย่างมากมาย ซึ่งไม่นานมานี่พวกเธอได้โพสต์คลิปการย้อมสีผมของ City ที่คุณแม่ได้ย้อมผมของเธอให้เป็นสีชมพูสวยเหมือนกับเมอร์เมด ทำเอาชาวเน็ตแห่เข้าชมมากกว่า 1.2 ล้านวิว City เด็กน้อย 2 ขวบ ขอให้แม่ของเธอย้อมผมให้เมื่อเดือนที่แล้ว และแม่ของเธอก็ตอบตกลง ซึ่งเส้นผมของ City นั้นเป็นผมสีบลอนด์อยู่แล้ว จึงไม่ต้องใช้สารเคมีที่รุนแรงในการฟอกสีผม คุณแม่ของเธอนั้นค้นหาวิธีการย้อมสีผมในแบบที่ปลอดภัยหายห่วง ซึ่งมันมีชื่อเรียกว่า “Manic Panic” เป็นการย้อมผมกึ่งถาวรที่ได้สีมาจากธรรมชาติ ถึงแม้ว่าจะมีชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ถึงความปลอดภัยของย้อมสีผมให้แก่เด็กๆ แต่คุณแม่ก็ขอยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัยจริงๆ ไม่เชื่อก็ไปลองหามาใช้กันดูสิ คลิปวิดีโอแสดงความน่ารักของคู่แม่ลูกได้เป็นอย่างดี… และตอนนี้ทั้งคุณยาย คุณแม่และคุณลูกก็กลายเป็นเมอร์เมดกันหมดแล้ว ลองไปชมความรักของครอบครัวนี้ที่อินสตาแกรมนี่สิ charity.grace เพื่อนๆ คนไหนที่อยากย้อมผมให้เด็กๆ ก็ควรใช้ศึกษาถึงผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ให้ดีก่อนดีกว่านะ ที่มา buzzfeed
-
มาชม “20 ชุดว่ายน้ำสุดแหวกแนว” กับลวดลายสุดกวน ใส่แล้วคุณจะเป็นจุดสนใจราวซูเปอร์สตาร์!!
เมื่อถึงเวลาที่สาวๆ ต้องไปทะเลสิ่งที่ขาดไม่ได้นั้นก็คือชุดว่ายน้ำทูพีชสุดเซ็กซี่ ที่จะทำให้ทะเลร้อนฉ่าทะลุปรอท ทำเอาชายหนุ่มทั้งหาดต้องหันมามองในสัดส่วนอันเร้าร้อนของคุณ แต่ช้าก่อน!! ถ้าคุณคิดว่าชุดคุณใส่อยู่นั้นเซ็กซี่สุดๆ แล้ว คุณคิดผิด!! เพราะในตอนนี้มีเรามีชุดว่ายน้ำวันพีชสุดแซ่บ ที่สาบานว่าถ้าใส่แล้วคนต้องหันมามองทั้งหาดแน่นอน ชุดว่ายน้ำสุดแหวกแนวเหล่านี้ จะมาเปลี่ยนประสบการณ์การไปทะเลของคุณตลอดกาล ชุดว่ายน้ำวันพีชที่จะพาสาวๆ ไปชมในวันนี้มีการออกแบบโดยการพิมพ์ทั้งชุด ซึ่งลายเหล่านั้นมันช่างชวนในงุงงงและฮาในไอเดียสุดเจ๋งของผู้ที่ออกแบบว่า นี่แกคิดอะไรอยู่เนี้ย!!? ชุดในแบบมีขนหน้าอก สาวๆ คนไหนอยากใส่บ้างยกมือขึ้น!! ชุดนี้ฮาสุดๆ กับการที่มีใบหน้าของ Nicolas cage วิ่งไปมาริมทะเลกับเรา ใครอยากมีลายกล้ามเนื้อชัดๆ เหมือนยักษ์ไททัน ก็ลองใส่ชุดนี้ดูสิ จะมีชุดไหนเท่ไปกว่าหน้า Donald trump ตกใจนี้ได้อีก สาวๆ คนไหนมีพุง ลองใส่ชุดนี้หลอกตาหนุ่มก็ได้นะ การมีใบไม้ปิดส่วนล่างก็ดูเซ็กซี่ดีไม่ใช่เหรอ ชุดนี้ก็ฮามากๆ เพราะมีตัวการ์ตูนทำหน้าตาตกใจแบบปากกว้าง เหมือนเป็นรูที่ทะลุเข้าไปได้เลย หรืออยากได้ฟีลแบบมวยปล้ำก็ไม่เลวนะ ชุดนี้จะเรียกว่าเซ็กซี่หรืออนาจารดีเนี้ย มีความพิซซ่าปิดของลับ เป็นชุดที่กวนโอ้ยสุดๆ เป็นเมอร์เมดดูไหม?? …
-
แถอ๊ะป่าว!? Tom Holland ออกมายืนยันว่า Peter Parker เคยโผล่มาแล้วตั้งแต่ Iron Man 2
อย่างที่เรารู้กันว่าอีกไม่นานเราก็จะได้ดู Spider Man: Home Coming กันแล้ว ช่วงนี้จึงถือเป็นช่วงเดินสายโปรโมทภาพยนตร์กันเป็นพิเศษ อย่างล่าสุดตัว Tom Holland ก็ออกมาปลุกกระแสใหม่ด้วยตัวเองเลย หลายคนอาจจะคิดว่าตัวละคร Peter Parker เริ่มโผลมาก็คือภาค Civil War แต่ในการให้สัมภาษณ์ของเขา ระบุว่าตัวละครดังกล่าวไม่ได้พึ่งจะมีตัวตนขึ้นมาเฉยๆ แต่ความจริงแล้วตัวเขามีบทบาทมาตั้งแต่ Iron man 2 เมื่อปี 2010 แล้ว ห๊ะ!! พอทีมงานถามว่า แล้ว Tom รู้ได้ยังไงว่าตัวละครดังกล่าวมีตัวตนตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ทั้งๆ ที่ตอน 2010 สไปเดอร์แมนของ Andrew Garfield ยังไม่ฉายด้วยซ้ำ พอหนุ่มสไปดี้คนใหม่ก็ตอบกลับมาทันทีว่า “คุณจำเด็กชายสวมหน้ากากที่ Tony Stark มาช่วยได้ไหม นั่นแหละตัวละครของผม” พอทีมงานเริ่มรู้สึกว่าอีตาสไปดี้คนใหม่นี่มันแถหรือเปล่าเนี่ย นักข่าวก็เลยถามกลับไปว่าทำไม Tom ถึงมั่นใจว่ามันเป็นแบบนั้นล่ะ!? Tom ก็ตอบกลับทันทีว่า “ผมมั่นใจชัวร์ๆ เพราะผมพึ่งคุยเรื่องนี้กับ Kevin Feige…
-
ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ “แมวน้อย” หลงทางกลางสี่แยก รับมันมาดูแล โดนมันยึดโรงพักไปอีกแห่ง!!
เหตุการณ์น่าประทับใจนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันหนึ่ง หลังจากที่ทางสถานนีตำรวจ Lakeland ได้รับแจ้งว่ามีลูกแมวหลงทางตัวหนึ่งอยู่ที่ตรงบริเวณสี่แยกแห่งหนึ่ง นายตำรวจ Mike Cardin ถูกส่งตัวไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยชีวิตเจ้าเหมียวตัวนั้น คุณตำรวจได้พบกับแมวน้อยอยู่ใกล้ๆ กับเสาไฟฟ้าต้นหนึ่งห่างจากถนนใหญ่เพียงไม่กี่เมตร คุณตำรวจรีบเข้าไปคว้าตัวลูกแมวและพามันมายังที่สถานีตำรวจ นี่คือโฉมหน้าของน้องเหมียวผู้น่าสงสานตัวนี้ แต่ทว่าสถานีตำรวจแห่งนี้ดูจะใหญ่เกินไปสำหรับเจ้าเหมียว ดังนั้นเจ้าหน้าที่ Cardin จึงได้หากล่องเล็กๆ มาทำเป็นบ้านหลังใหม่ให้กับมัน ดูเหมือนว่าจ่า Brian Wallace จะชอบเจ้าเหมียวตัวนี้มาก คุณตำรวจแทบจะไม่อยากห่างจากเจ้าเหมียวเลย “ผมกลับมาที่สถานีและได้พบกับเจ้าเหมียวตัวนี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ Cardin กำลังดูแลมันอยู่” คุณ Wallace กล่าว จ่า Wallace ยังบอกอีกว่า “มันดูโดดเดี่ยวและหวาดกลัว ดังนั้นผมจึงไม่อาจปล่อยมันไว้ที่สถานีเพียงลำพังได้” จากนั้นคุณตำรวจผู้ใจดีจึงอุ้มเจ้าแมวไว้ในอ้อมแขนเขา และวางมันลงบนโต๊ะ เจ้าเหมียวรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยและไม่รู้จะทำตัวอย่างไร หลังจากที่เล่นกับลูกแมวอยู่ซักพัก จ่า Wallace ก็จำเป็นต้องออกไปลาดตระเวน แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะพาเจ้าตัวเล็กออกไปด้วย คุณจ่าดูเหมือนจะตกหลุมรักเจ้าเหมียวในครั้งแรกที่ได้เจอกัน “ผมพามันใส่กล่องกระดาษ และวางเอาไว้ที่เบาะข้างๆ คนขับ มันอยู่กับผมตลอดทั้งคืนที่ออกไปตรวจความเรียบร้อย” จ่า Wallace กล่าว เมื่อรู้ตัวอีกทีคุณตำรวจก็ไม่อาจแยกตัวออกจากเจ้าเหมียวได้แล้ว ดังนั้นคุณตำรวจจึงตัดสินใจที่จะรับเจ้าเหมียวไปเลี้ยง และตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า Kelsey ตอนนี้เจ้าแมวน้อยถูกย้ายไปบ้านหลังใหม่ของมันพร้อมกับคุณ Wallace …
-
ศิลปินสาวแต่งหน้าสุดอลังการ ให้เข้ากับรูปแบบของกระเป๋าถือ ที่ใส่จินตนาการแบบไม่ยั้ง
เชื่อว่าหลายคนคงต้องมีงานอดิเรกที่ชื่นชอบแตกต่างกันออกไป นอกจากที่มันจะช่วยให้เรานั้นคลายเครียดเครียดแล้วในบางครั้งงานอดิเรกของมันยังเป็นผลงานชิ้นเอก ที่ถูกสร้างสรรค์มาจากจิตวิญญาณอย่างแท้จริง อย่างสาวคนนี้ที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จัก เธอชื่นชอบการแต่งหน้าเป็นที่สุด แต่การแต่งหน้าของเธอนั้นไม่ได้แต่งออกมาเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ผลงานของเธอนั้นมีไว้ปลดปล่อยจินตนาการที่เธอมี ทำให้เกิดเป็นการแต่งหน้าสุดแฟนซี่ ที่เหมือนหลุดออกมาจากความฝันเลยทีเดียว ศิลปินสาวคนนี้มีชื่อว่า Anastasija Jevstafjeva เธอใช้เวลาทั้งวันในการทำงานในบริษัท แต่นั่นมันไม่ใช่งานที่เธอสามารถใส่จินตนาการลงไปได้ นอกเหนือจากเวลาทำงานแล้วเธอมีโลกส่วนตัวที่ใช้สร้างสรรค์งานที่ออกมาจากจินตนาการ ซึ่งนั่นก็คือการแต่งหน้า ศิลปะการแต่งหน้าทำให้ทำให้เธอรู้สึกพิเศษและเป็นอิสระ การแต่งหน้าทำให้เธอกลายเป็นอีกคนที่โลดแล่นในโลกแห่งจินตนาการได้ ด้วยผลงานการแต่งหน้าที่โดดเด่นของเธอ ทำให้เธอได้เป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายแบบร่วมกับแบรนด์กระเป๋าถือ MARDERE ที่เป็นของเพื่อนเธอเอง เธอแต่งหน้าให้เข้ากระเป๋าทุกใบ โดยใส่จินตการสุดสร้างสรรค์ลงไป แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นมีฝีมือไม่ใช่เล่นๆ เลย สิ่งที่เธอพยายามทำนั่นก็คือการให้ผู้คนที่เห็นภาพรู้สึกถึงพลังแห่งจินตนาการและเอกลักษณ์ความงดงามของกระเป๋าทุกใบ . . เข้ากันสุดๆ เธอเป็นช่างแต่งหน้าที่มีฝีมือมากๆ . สุดยอด!! เพื่อนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดของกระเป๋าถือทั้งหลายได้ที่นี่ mardere ส่วนใครที่ชอบในฝีไม้ลายมือของเธอก็สามารถไปติดตามเธอได้ที่อินสตาแกรมนี่เลย nastiaj ที่มา boredpanda
-
วิทยาศาสตร์บอกว่า นี่แหละ 7 ลักษณะของผู้หญิง ที่ดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดี!!!
จะว่าไปแล้วเวลาจะชอบใครรักใครนั้น แน่นอนว่าคนๆ นั้นต้องมีลักษณะที่เราชอบอยู่บ้างล่ะ แต่วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีงานวิจัยที่น่าสนใจ เกี่ยวกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า 7 ลักษณะของผู้หญิงที่ดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดี ลองมาดูกันซิว่าจะมีอะไรบ้าง!? 1. ผู้หญิงที่กำลังอยู่ในช่วงประจำเดือนจะมีความดึงดูดต่อเพศตรงข้ามมากกว่า!? การทดลองนั้นแสนเรียบง่าย โดยให้ผู้ชายดมเสื้อของสาวๆ ที่ใส่มาก่อนแล้วก็พบว่า เสื้อของสาวที่อยู่ในช่วงนั้นของเดือนดูจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ จากงานวิจัยของ Psychological Science 2. ผู้ชายชอบผู้หญิงที่มักจะหัวเราะให้กับมุกตลกของเขา แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากให้ผู้หญิงที่ชอบมีความสุขใช่มั้ยล่ะ? เหล่าผู้ชายก็เช่นกัน มักจะชอบพอผู้หญิงที่พึงพอใจกับมุกของเขามากกว่า จากงานวิจัยของ Evolution and Human Behavior ทีนี้สาวๆ อย่าลืมแอ๊บตลกล่ะ ฮร่าาา 3. จากงานวิจัยหลายชิ้นชี้ชัดว่า ผู้ชายชอบผู้หญิงที่ซื่อสัตย์ ทั้ง Journal of Research in Personality และ Journal of Psychology & Human Sexuality ต่างชี้ชัดว่าผู้ชายจะชอบผู้หญิงที่มีความซื่อสัตย์ต่อพวกเขา โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ระยะยาว 4. เสื้อผ้าสีแดงสามารถดึงดูดเพศตรงข้ามได้ดี!!! อ้างอิงจากงานวิจัย Journal of Personality and…
-
ช่างภาพอินเดีย นำเอาภาพในความฝัน มาสร้างเป็นประติมากรรมจิ๋ว ราวกับว่าสถานที่นั้นมีจริง
หลายครั้งที่คุณหลับแล้วฝันเห็นเรื่องราวต่างๆ พอตื่นขึ้นมากลับหลงๆ ลืมๆ ถึงเหตุการณ์ ผู้คน หรือสถานที่ที่พบเจอในความฝัน แต่ความหลงลืมที่ว่านั่นกลับไม่เกิดขึ้นกับศิลปินรายนี้ เพราะเขานำเอาความฝันมาสร้างเป็นงานศิลปะขนาดเล็ก ทีนี้จะได้จดจำไม่รู้ลืมอีกเลย ศิลปินที่#เหมียวฟิ้นกำลังพูดถึงอยู่นี้เขามีชื่อว่านาย Vatsal Kataria เป็นช่างภาพจากประเทศอินเดียที่มีความสามารถในการจดจำรายละเอียดในความฝันได้ดีมาก แต่ถึงจะมีความจำที่ดีแต่ก็ไม่สามารถนำไปถ่ายทอดให้คนอื่นรู้ได้ เขาก็เลยนำมันมาสร้างเป็นงานประติมากรรมขนาดเล็กซะเลย นาย Vatsal ได้เคยให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ BoredPanda เอาไว้ว่า “ผมได้สร้างสรรค์งานประติมากรรมขนาดจิ๋วของสถานที่ที่ผมเจอในฝัน ผมใช้เวลาทำราวๆ 2 เดือนเลย มันเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผมมากในการทำให้มันกลายเป็นของจริง แต่มันก็สนุกมาก” ความสงบสุขที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ ถ้ำสักแห่งบนโลกใบนี้ ทางแยกระหว่างความฝันและความเป็นจริง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ใช่ภาพ CG ล้วนๆ นะ แต่เป็นวัสดุจริงๆ ที่เขาสร้างขึ้นจากสิ่งของรอบตัว แล้วค่อยนำมาเติมแต่งผ่านคอมพิวเตอร์ภายหลัง . . . ใครชอบผลงานแปลกๆ เจ๋งๆ แบบนี้ก็ตามไปดูกันต่อได้ที่ IG ของเขา vatkatphotography ได้เลย ที่มา distractify , vatkatphotography
-
คนงานก่อสร้างบังเอิญค้นพบ “ดาบอัศวินโบราณ” อายุ 600 ปี ว่ากันว่าสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่เคยพบมา
ในสมัยโบราณ ช่วงเวลาก่อนที่มนุษย์จะต่อสู้กันด้วยปืน หลายชนชาติล้วนเคยใช้ดาบมาก่อน แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒไปแบบก้าวกระโดด ทำให้ดาบเริ่มกลายเป็นสิ่งที่ล้าหลังและไม่มีใครใช้อีกต่อไป ดาบบางเล่มถูกเก็บเข้าพิพิธพันธ์เพื่อนำไปโชว์ ในขณะที่บางเล่มก็สูญหายไปตามกาลเวลา แต่เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Nationalgeographic ได้รายงานว่ามีคนงานก่อสร้างรายหนึ่งในเมือง Hrubieszow ประเทศโปแลนด์ค้นพบดาบอัศวินเก่าแก่ที่มีอายุราวๆ 600 ปีโดยบังเอิญแถวๆ บึงแห่งหนึ่ง ซึ่งดาบเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 13 ถึง 14 เลย ตัวดาบมีขนาดยาวประมาณ 1.2 เมตร และมีน้ำหนักราวๆ 1.3 กิโลกรัม แต่สิ่งที่มันน่าอะเมซิ่งมากๆ สำหรับการค้นพบครั้งนี้ก็คือ ถึงตัวดาบจะเก่าแก่ที่สุดแต่มันก็อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มากๆ Bartłomiej Bartecki ผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ในโปแลนด์ให้ความเห็นว่ามันมีความเป็นไปได้ที่อัศวินผู้เป็นเจ้าของดาบเล่มนี้อาจจะถูกผลักตกลงไปในบึงหรือไม่ก็อาจจะทำหล่นเอาไว้ที่นั่นเอง ตามรายงานไม่ได้เปิดเผยแหล่งที่ค้นพบที่แน่ชัด เนื่องจากกลัวว่าจะมีกลุ่มคนแห่กันไปขุดดินและสร้างความวุ่นวาย แต่มีการอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญและนักโบราณคดีเข้าไปเป็นการส่วนตัว เพราะอาจจะมีสมบบัติและวัตถุโบราณรอให้ถูกค้นพบอีกหลายอย่าง ตัวดาบจะถูกส่งไปทำความสะอาดและวิเคราะห์ก่อนจะส่งมอบมันให้กับพิพิธภัณฑ์ Stanisław Staszic ในเดือนกันยายน 2017 นี้ ที่มา ladbible
-
ชายหนุ่มโพสต์ภาพเหยียด ชายชาวซิกข์บนเครื่องบิน และตั้งแง่ให้เขาเป็น ‘ผู้ก่อการร้าย’
กลายเป็นเรื่องที่สร้างกระแสความเกลียดชังบนโลกออนไลน์อีกครั้ง เมื่อหนุ่มชาวเน็ตรายหนึ่งได้โพสต์รูปของชายผู้นับศาสนาซิกข์ พร้อมกับข้อความที่ดูถูกและกล่าวหาว่าชายคนนี้เป็นผู้ก่อการร้าย… ผู้ใช้ Snapchat คนดังกล่าวได้โพสต์ภาพของเขาระหว่างอยู่บนเครื่องบิน ซึ่งในภาพเหล่านั้นมีรูปของชายชาวซิกข์ท่านหนึ่งปรากฏอยู่ด้วย แต่ด้วยเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการหรืออย่างไร พี่แกกลับใส่แคปชั่นแบบไม่คิดหน้าคิดหลังตลอดการเดินทาง แต่เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อชายชาวซิกข์คนดังกล่าวมานั่งที่เบาะหลังของเขา ชายหนุ่มก็ยังคงถ่ายรูปพร้อมกับข้อความที่บอกว่า “ผมยังมีชีวิตอยู่ ” และในภาพต่อมาเขายังคงไม่หยุดการกระทำดังกล่าว ชายหนุ่มจับภาพของชายชาวซิกข์ท่านเดิมพร้อมกับแคปชั่นว่า “ได้โปรดพระเจ้า ปล่อยให้เขาหลับเถอะ” ก่อนที่ภาพสุดท้ายชายคนดังกล่าวจะลาไปด้วยภาพของตัวเองและบอกว่า “เมื่อกี้ เขาเดินไปที่ท้ายเครื่องแล้วก็วนไปที่หน้าเครื่อง ก่อนที่จะกลับมานั่งที่เดิม” และปิดประโยคนี้ด้วยรูปใบหน้าแสดงความตกใจ ภาพจากแอพฯ Snapchat ที่ถูกเผยแพร่ออกมา . ภาพชุดดังกล่าวเชื่อว่ามีการโพสต์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นนาย Simran Jeet Singh นักวิชาการเกี่ยวกับศาสนาจากมหาวิทยาลัย Trinity ซึ่งนับถือศาสนาซิกซ์เช่นกัน ได้โพสต์ภาพชุดดังกล่าวลงบนทวิตเตอร์ของเขา พร้อมกับข้อความที่เปรียบเทียบกับความคิดของคนทั่วไปที่มักจะคิดแบบนี้ชาวมุสลิมเช่นกัน หลังจากนั้นข้อความของคุณ Singh ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก มีผู้เข้ามารีทวีตถึง 6,800 ครั้งและแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม บางคนบอกว่า “ฉันหวังว่าพวกเราควรจะได้รับการเดินทางอย่างอิสระ โดยไม่ต้องกังวลว่าใครจะคิดอย่างไร” หรือบางคนก็บอกว่าการกระทำของชายคนดังกล่าวนั้นไม่เหมาะสมเป็นอย่างมาก จากเหตุการณ์ 9/11…
-
มนุษย์ร่วมแชร์ 20 เหตุผลที่บอกว่า แมวเหมียวก็แค่อยากจะ “กวนติง” เราเท่านั้นแหล๊ะ!!
บางครั้งเวลาที่เราถามคนเลี้ยงแมวว่าพวกมันซนขนาดไหน? หรือทำตัวงี่เง่ายังไง? เจ้าของอาจจะอธิบายว่า “การเลี้ยงพวกมันก็ไม่ยากเท่าไหร่ อาจจะพอๆ กับหมาสักตัวนี่แหละ” ซึ่งถ้าพวกมันเหมือนหมาจริงทำไมไม่เลี้ยงหมามันซะตั้งแต่แรกเลยล่ะ เพราะหากให้เรานึกถึงข้อเสียของเหล่ามะหมา สิ่งที่#เหมียวฟิ้นพอจะนึกออกก็คือพวกมันเห่าไม่เป็นเวล่ำเวลาเท่านั้นแหละ แต่กับพวกแมวน่ะเหรอ หึหึ ที่สุดของความนรกแตกเลยล่ะ ให้บรรยายทั้งวันยังไม่หมดอะ เราก็เลยรวบรวมเอาเศษเสี้ยวหนึ่งของความนรกแตกมาให้คุณดูกัน… เจ้าเหมียวที่ออกไปเที่ยวเล่น แต่ขากลับดันคาบไส้กรอกจากบ้านไหนกลับมาก็ไม่รู้!! ห้องน้ำบ้านไหนมีแกนกระดาษก็น่าจะรู้ซึ้งดี พริบตาเดียวที่เจ้าแมวรู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่ มันก็รีบชักมือกลับมาแล้วทำตาใสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “นอนให้มันอุ่นๆ เวลาเปิดเตาจะได้ไม่ต้องใช้เวลานานไงเล่าเจ้ามนุษย์” ตัวเดียวกรูก็เจ็บจะแย่แล้ววววว!! เวลาเราเปิดประตูจะเข้าหรือออกจากบ้าน มันก็พยายามจะกระโดดออกไปสู่อิสระภาพให้ได้ แต่พอพาออกไปข้างนอกจริงๆ เจือกไม่ยอมเดิน!! “ก็ฉันหนาวไง แล้วพิซซ่านี่ก็ชิ้นพอดีตัวเลย มันก็เท่านั้นแหละ” ประธานในพิธีมาแล้ว งานเลี้ยงเริ่มได้ “จะเล่นก็ต้องมีลิมิตหน่อยนะมนุษย์” เออ เอาเข้าไป “แกไม่ต้องการเตียงใหญ่ขนาดนั้นหรอกเจ้าหมา” นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อถึงวันเกิดของคุณ แล้วเจ้าเหมียวเกิดสำนึกบุญคุณขึ้นมาในวันนั้นพอดี… เมื่อคุณจัดของเข้าตู้แล้วเรียบร้อย แต่เจ้าแมวรู้สึกว่ามันยังไม่โอเค…”ไปจัดใหม่ซะนะ” “ตาลุงหนวดเฟิ้มนี่มันใครฟระ!!” เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าแมวมันอยากจะได้น้ำดื่มสะอาดๆ มันก็จะเทถ้วยเก่าทิ้งแล้วนั่งรออย่างใจเย็น…
-
‘Earth Roammer’ รถบ้านสุดหรูที่เป็นยิ่งกว่าบ้าน สนนราคาเบาๆ ก็แค่ 15 ล้านบาทเอ๊ง!!
“รถบ้าน” ยานพาหนะที่จะพาทุกคนในครอบครัวออกไปสนุกพร้อมกันในช่วงวันหยุด และหลายๆ คนก็ฝันอยากมีไว้ซักคันใช่ไหมล่ะ?? ถ้าหากใครที่กำลังมองหารถแบบนี้อยู่ละก็เราของแนะนำให้รู้จักกับรถบ้านแบบออฟโรดสุดหรูคันนี้เลย… EarthRoamer XV-LTS 2017 รถบ้านไฮโซที่กำลังได้รับความนิยมจากเหล่าคนดังและมหาเศษฐีมากมาย โดยสนนราคาต่อคันนั้นเริ่มต้นที่ 15 ล้านบาท!! แต่ถึงราคาต่อคันนั้นจะแพงระยับ แต่ความสะดวกสบายและความหรูหรานั้น ต้องบอกว่าสมกับราคาจริงๆ เพราะคุณสามารถเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกได้ตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น หรือเตียงใหญ่ๆ ก็ยัดเข้าไปได้ โฉมหน้าของ EarthRoamer คุณ Bill Swails ผู้หลงใหลในการผจญภัยและธรรมชาติ ได้ก่อตั้งบริษัทของเขาเมื่อปี 1998 โดยมีความตั้งใจที่จะผลิตยานพาหนะที่สามารถไปได้ทุกสภาพภูมิประเทศ รถคันแรกของทางบริษัทนั้นถูกผลิตขึ้นเมื่อปี 2003 และปัจจุบันมีการจำหน่ายออกไปแล้วกว่า 180 คัน รถยนต์ในรุ่น EarthRoamer XV-LTS ทุกคันนั้นจะมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ส่วนในรุ่นล่าสุดนั้นได้มีการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเข้าไปอีก ไม่ว่าจะเป็นทีวีขนาด 40 นิ้ว ระบบเสียงจาก Bose และห้องอาบน้ำอุ่น เรียกได้ว่าสบายอย่างกับอยู่บ้านเลยทีเดียว!! นอกจากนี้รถออฟโรดหรูคันนี้ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ซ่อนอยู่ในภายในอีกมากมาย และรวมถึงขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล V8 ขนาด 6.7 ลิตรที่มาพร้อมกับแรงขับเคลื่อนถึง 330 แรงม้า…
-
เอาใจเหล่าคนรักเจ้าตูบหน้าย่นสุดกวน เตรียมเปิดตัวคาเฟ่ “หมาปั๊ก” ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ
บางคนอาจจะชอบสุนัขที่รูปร่างสูงสง่า หรืออาจจะตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารัก แต่กับเจ้าสุนัขพันธุ์ “ปั๊ก” นั้นมีความน่ารักที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์ นอกจากหน้าที่ย่นของมันแล้ว พฤติกรรมช่างสงสัยแบบเด็กๆ ของมันก็สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากเราได้อยู่เสมอ หื้ออ ~ อารายหยออ และด้วยความน่ารักของมันนี้ ทำให้มีนักธุรกิจหัวใสผุดไอเดียเปิดคาเฟ่หมาปั๊กที่อนุญาตให้ทุกคนได้มากิน ดื่ม และให้อาหารเหล่าหมาปั๊กในช่วงเวลาพิเศษจากคาเฟ่แห่งนี้ คาเฟ่หมาปั๊กนี้ได้เปิดมาก่อนหน้านี้แล้วที่เมือง Guildford และเมือง Brighton ในตอนนี้คาเฟ่เฮฮาแบบหมาปั๊กก็ได้กำหนดการที่จะมาเปิดตัวถึงกรุง London เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะสีขาวหรือดำ ก็ปั๊กเหมือนกันนะ โดยสินค้าภายในร้านนั้นก็จะมีทั้ง Barkery บิสกิตแบบโฮมเมด เค้ก รวมไปถึงกาแฟสูตร Pugoccinos ซึ่งจะเป็นสินค้าสำหรับการเอาใจน้องหมาปั๊กโดยเฉพาะเลยล่ะ กาแฟมาเสิร์ฟแล้วฮะ แนวคิดการเปิดคาเฟ่หมาปั๊กนี้เกิดขึ้นมาจากเจ้าของที่ต้องการให้พื้นที่เหล่านี้ เป็นพื้นที่เพื่อพบปะกันระหว่างคนรักหมาปั๊ก รวมไปถึงเจ้าหมาปั๊กด้วยกันเอง สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นภายในร้าน ทำให้ผู้คนสามารถมาใช้บริการได้อย่างสบายใจในขณะที่พวกเขานั่งอยู่ท่ามกลางหมาปั๊กตัวน้อย กำหนดการในการเปิดงานจะจัดขึ้นในวันที่ 2 กันยายนปี 2017 ณ เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยใช้ชื่อคาเฟ่ว่า The Popup Pug Cafe…
-
“ไม่ต้องห่วงผม ช่วยพ่อผมก่อน” เด็กชาย 6 ขวบ ตะโกนบอกหมอ หลังถูกรถชนบาดเจ็บทั้งคู่
การตอบแทนความรักของพ่อแม่นั้นไม่ต้องรอให้โตก็ทำได้ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตแต่เรื่องเล็กน้อยอย่างการตั้งใจทำสิ่งต่างๆ ให้ดีที่สุด ไม่เกเร ออกนอกลู่นอกทางที่ควร ก็ทำให้พ่อแม่ชื่นใจแล้ว อย่างเด็กชายคนนี้แม้จะมีอายุเพียงแค่ 6 ขวบ แต่ก็ถูกชื่นชมจากชาวเน็ตในจีนถึงความเด็ดเดี่ยว หลังเขาขอร้องให้หมอช่วยคุณพ่อของเขาก่อน ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ถูกรถชน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในเมือง Xinyu มณฑลเจียงซี เป็นอุบัติเหตุบนถนนเมื่อคุณพ่อที่พาลูกซ้อนมอเตอร์ไซค์มาด้วยถูกรถชนเข้าอย่างแรง จนทำให้กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ภาพที่เห็นคือผู้เป็นพ่อลงไปนอนกับพื้น หน้าแนบกับพื้นถนน ส่วนข้างๆ กันนั้นมีแต่ซากรถกระจายเต็มไปหมด… เพียงไม่นานหลังจากนั้นรถพยาบาลก็มาถึงจุดเกิดเหตุ ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างบอกให้หมอไปช่วยเหลือเด็กชายก่อนเพราะตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด แต่เด็กน้อยกลับบอกกับหมอว่า “ไปช่วยพ่อผมก่อนครับ” คุณหมอทึ่งมากเมื่อได้ยินเด็กชายพูดแบบนั้น หมอจึงเข้าไปช่วยผู้เป็นพ่อ และให้พยาบาลดูแลเด็กชายแทน โชคดีที่ทั้งพ่อและลูกบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย… เด็กชายผู้กล้าหาญบอกว่า “ตอนนั้นผมเห็นพ่อลงไปนอนกับพื้น เลยคิดว่าพ่ออาการหนัก ผมก็เลยอยากให้เขาได้รับการช่วยเหลือก่อน เพราะผมรักพ่อมากครับ” ทางด้านคุณพ่อ เมื่อทราบว่าลูกได้บอกหมอให้ช่วยเขาก่อน เขารู้สึกซาบซึ้งและภูมิใจในตัวลูกมาก พ่อบอกว่า “ผมรู้สึกประทับใจจริงๆ ครับ เขากล้าหาญมากกว่าผมด้วยซ้ำ” ปิดท้ายกันด้วยคลิปตอนที่หนูน้อยบอกหมอให้ช่วยพ่อก่อน เป็นเด็กที่กล้าหาญมากจริงๆ ยกนิ้วให้รัวๆ เลยจ้า!! ที่มา shanghaiist
-
‘Tim’ หมาน้อยขนาดเท่า ‘กระป๋องถั่ว’ กลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง ด้วยความรักจากเจ้าของ…
เรื่องราวของน้องหมาตัวน้อย ที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายอันแสนบอบบาง มันได้รับการดูแลจากเจ้าของอย่างดีเพื่อให้เจ้าหมาน้อยสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้ พบกับเรื่องราวของเจ้าหมาจากอังกฤษนามว่า Tim สุนัขที่มีขนาดเล็กเท่ากระป๋องถั่ว!! เจ้า Tim สุนัขตัวเล็กที่เกิดมาพร้อมกับน้ำหนักเพียงแค่ 70 กรัม และในตอนที่มันลืมตาออกมาดูโลครั้งแรกนั้นเจ้าหมาน้อยไม่หายใจด้วย!! Andrea McGowan ผู้เป็นเจ้าของต้องพยายามยื้อชีวิตสัตว์เลี้ยงของเธอไว้ ด้วยการนำผ้าเช็ดตัวมาห่อมันเอาไว้ และคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หมาน้อยต้องทานอาหารจากขวดนมทุกๆ 2 ชั่วโมง จนกระทั่งมันกลับมามีร่างกายที่แข็งแรง และสามารถเอาชีวิตรอดมาได้ “ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากมาก ฉันกังวลสุดๆ เจ้าหมาอาจจะตายได้ถ้าหากฉันลืมให้อาหารมัน” คุณ Andrea กล่าว คุณ Andrea บอกว่าการเลี้ยงสุนัขที่ป่วยนั้นมีความยากกว่าเลี้ยงสุนัขทั้ง 3 ตัวของเธอมาก เนื่อจากหญิงสาวไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเจ้า Tim นั้นต้องการอะไร “เราคิดว่าเจ้า Tim อาจจะไม่รอดแล้ว แต่ในที่สุดเราก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะว่ามันสามารถยืนยัดมาจนถึงทุกวันนี้ได้ มันค่อยๆ มีอาการที่ดีขึ้นตามลำดับและมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้จะเป็นสุนัขตัวเล็กๆ แต่มันก็มีความกล้าที่มากกว่าสุนัขตัวอื่นๆ หลายเท่าเลยล่ะ” หญิงสาวเล่าถึงพัฒนาการเจ้าหมาตัวน้อยของเธอ Tim สุนัขตัวน้อยที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่บอบบาง …
-
รู้จัก “เวนเจอร์” แมวออทิสติกประจำออฟฟิศแคทดั๊มบ์ กับท่านอนที่… เอ็งคิดได้ยังไง๊!?
จากที่ผ่านมา คุณจะเห็นได้ว่า เราได้นำเสนอเรื่องราว และภาพของแมวเหมียวจากทั่วโลกมาแล้วมากมาย และนั่นก็ทำให้เราได้เห็นถึงความน่ารัก น่าเอ็นดู และความตะมุตะมิของมันจนทำให้ทาสแมวทั้งหลายใจละลายมานักต่อนัก และในวันนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ทุกคนมารู้จักกับแมวประจำออฟฟิศแมวเหมียว ที่ไม่ได้มาพร้อมกับความน่ารักเพียงอย่างเดียว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ มันไม่ธรรมดาเลยนะจ๊ะ เพราะมันมาพร้อมกับท่านอนแปลกๆ ที่ไม่มีแมวใดในโลกหล้าสามารถทำเหมือนมันได้ (จริงดิ) นื่คือ “เวนเจอร์” น้องแมวเอ๋อน่ามนประจำออฟฟิศของเรานั่นเองจ้า น่ารักป่ะละ ก่อนอื่นมารู้จักท่านอนของแมวปกติกันซะหน่อย พวกมันก็อาจจะนอนเป็นท่าเบสิคแบบนี้… หรือบางทีก็นอนขดคู้อยู่ในที่นอนของมันแบบน่ารักๆ แต่นี่คือเจ้าเวนเจอร์ -*- เวนเจอร์ ถือเป็นหนึ่งในแมวที่พนักงานประจำออฟฟิศของเรารู้จักมันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากที่มันจะเป็นแมวเอ๋อๆ เบลอๆ แล้ว บอกเลยว่าความน่ารักของคุณน้องไม่เป็นสองรองใครเลยนะจ๊ะ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ… นอกจากจะมีความน่ารัก และเป็นที่รักของคนในออฟฟิศแล้ว เจ้าเวนเจอร์ยังชื่นชอบการนอนเป็นชีวิตจิตใจอีกด้วย แต่เดี๋ยวนะดูท่านอนของมันซะก่อน ธรรมดาที่ไหนกันละ ฮ่าๆ ความเอ๋อๆ เบลอๆ จึงทำให้มันได้กลายเป็นที่รักของทุกคน ย้อนกลับไปในอดีตตอนที่เจ้าเหมียวเวนเจอร์ยังเป็นเด็ก มันเคยป่วยหนักเพราะเป็นโรคไข้หวัดแมวที่หมอบอกว่ามันอาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่สองวัน แต่ถึงกระนั้นปาฏิหาริย์ก็บังเกิดทำให้เจ้าเวนเจอร์สามารถรอดชีวิตมาได้ และกลายเป็นแมวที่น่ารักอย่างที่เพื่อนๆ…
-
ลุงวัย 49 ปี ถูกจับฐานสั่งซื้อตุ๊กตายางคล้ายเด็กวัย 4 ขวบ พร้อมสื่ออนาจารเด็กอีกเพียบ!?
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ณ ประเทศผู้ดีอย่างอังกฤษ เมื่อผู้เชี่ยวชาญทางด้านพลังงานนิวเคลียร์อย่าง Andrew Dobson วัย 49 ปี ถูกจับในข้อหาลักลอบนำตุ๊กตายางแบบเด็กเข้ามาในอังกฤษ คดีนี้ดูเหมือนจะเป็นกรณีแรกในสหราชอาณาจักร โดยนาย Andrew ชาวมณฑล Cheshire ได้ทำการสั่งตุ๊กตายางเด็กผ่านช่องทาง Ebay มูลค่าประมาณ 6,500 บาทซึ่งมีฐานผลิตอยู่ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง สภาพตุ๊กตายางเด็กและโฉมหน้าของ Andrew Dobson สินค้าชิ้นนี้ถูกสกัดได้โดยเจ้าหน้าที่ เมื่อถูกขนส่งผ่านมาถึงสนามบิน East Midlands ในเมือง Leicestershire ซึ่งนอกเหนือจากตัวตุ๊กตาแล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเสื้อคลุมผู้หญิง ผ้าปิดตา ถุงมือ ฯลฯ ที่ใช้ในการสนองอารมณ์ทางเพศให้เหมือนกับคนจริงๆ ภายหลังตำรวจได้ขยายผลโดยการตรวจค้นบ้านของนาย Andrew ในหมู่บ้าน Wistaston ใกล้กับเมือง Crewe มณฑล Cheshire และได้พบกับวิดีโอและภาพอนาจารของเยาวชนรวมแล้วกว่า 26 รายการ Andrew กำลังเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา เขาถูกยึดของกลางและถูกตัดสินให้จำคุก 2 ปี 8…
-
นวัตกรรมโต๊ะคอมพ์สำหรับเกมเมอร์ขี้เกียจ จะนั่งเล่นหรือนอนเล่นก็ได้ แหม่ ~ สบายดีจัง
โต๊ะคอมพิวเตอร์นั้นเป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่สำคัญ สำหรับการออกศึกเล่นเกมในสมรภูมิต่างๆ หากโต๊ะนั้นไม่สามารถที่จะตอบโจทย์การใช้งานของเราได้ ก็อาจจะทำให้การเล่นเกมของเรานั้นหมดสนุกไปเลยล่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการหาชุดโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่สามารถตอบโจทย์การพักผ่อนหลังจากเล่นเกมเสร็จในแต่ละแมตช์ วันนี้ #เหมียวปั๊ก ขอนำเสนอ “โต๊ะคอมพิวเตอร์สำหรับเกมเมอร์ขี้เกียจ” ที่จะทำให้การเล่นเกมของเพื่อนๆ ทุกคนอุดมไปด้วยความสะดวกสบาย ~ พบกับชุดโต๊ะที่จะพาเหล่าเกมเมอร์พักผ่อนได้อย่างสะดวกสบาย Bauhutte บริษัทญี่ปุ่นได้ผุดไอเดียสุดแจ่มขึ้นมา โดยทำการผลิตโต๊ะตัวนี้เพื่อตอบสนองต่อเกมเมอร์ที่ต้องการความสะดวกสบายขั้นสูงสุด บางส่วนของเจ้าโต๊ะตัวนี้สามารถที่จะพับเก็บได้ นอกจากเสายึดหน้าจอที่โค้งรับกับการเอนของเก้าอี้แล้ว ยังมีส่วนเพิ่มเติมคือเบาะพักเท้าที่ยื่นออกมาอีกด้วย สัดส่วนที่เหมาะสม สร้างความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน . สนนราคาของโต๊ะตัวนี้ซึ่งรวมกับเจ้าเก้าอี้เข้าไปแล้ว ก็จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 58,000 บาท โดยชุดเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้รับประกอบไปด้วย เสายึดจอภาพ โต๊ะ เก้าอี้นั่งเล่นเกม เก้าอี้เบาะรองเท้า และผ้าคลุมเก้าอี้ ถึงแม้จะมีราคาที่สูง แต่เจ้าเก้าอี้จาก Bauhutte นี้ก็สามารถที่จะตอบสนองต่อการพักผ่อนของเกมเมอร์ได้อย่างดีเยี่ยม จะเอนตัวก็ยังคงสามารถเห็นหน้าจอได้ ไม่ว่าอิริยาบถไหนก็สบายตัว จะนั่งหรือนอนก็แจ่มแมวสุดๆ ไปเลย ~ สำหรับใครที่สนใจอยากจะสั่งซื้อเจ้า “โต๊ะคอมพิวเตอร์สำหรับเกมเมอร์สายขี้เกียจ” ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ของ Bauhutte ได้เลยจ้า!! …
-
คุณแม่นักวิ่งตั้งท้อง 5 เดือน ร่วมแข่งวิ่ง 800 เมตร แม้จะไม่ชนะ แต่ก็ได้ใจคนดูไปเต็มๆ
ปกติผู้หญิงตั้งครรภ์มักจะเคลื่อนไหวได้เชื่องช้า เนื่องจากสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป และต้องคอยระวังไม่ได้ลูกในท้องได้รับการกระทบกระเทือนด้วย แต่ Alysia Montano วัย 31 ปี นักวิ่งชาวอเมริกัน ที่กำลังท้องได้ 5 เดือน กลับฉีกกฎเหล่านั้นด้วยการเข้าร่วมวิ่งแข่งระยะทาง 800 เมตร แม้ว่าจะไม่สามารถคว้าชัยชนะมาได้ แต่ก็สร้างความประทับใจให้คนดูไม่น้อยเลยทีเดียว Montano มีกำหนดคลอดในเดือนพฤศจิกายน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ทำสถิติวิ่ง 800 เมตร ภายในเวลา 2 นาที 21.40 วินาที ซึ่งห่างจากผู้ชนะเพียง 19 วินาทีเท่านั้น นี่ไม่ใช่ครั้งที่เธออุ้มลูกในท้องมาวิ่ง ย้อนกลับไปในปี 2014 Montano ก็ได้เข้าร่วมแข่งวิ่ง ทั้งที่ตอนนั้นเธอตั้งท้องได้ 34 สัปดาห์แล้ว และเข้าเส้นชัยช้ากว่าปีล่าสุดไป 11 วินาที เธอบอกว่า “ฉันรู้สึกดีที่มีคนมากมายชื่นชมหลังเห็นฉันวิ่งพร้อมลูกในท้องค่ะ และอยากบอกทุกคนว่านี่ไม่ใช่การทำร้ายลูกในครรภ์นะคะ เพราะฉันรู้ว่าควรออกแรงแค่ไหน และวิ่งแบบไหนถึงจะปลอดภัยกับลูกในท้องด้วย” เธอยังบอกอีกว่าจะเข้าร่วมวิ่งต่อไปเรื่อยๆ เพราะมันเหมือนการออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ และจะทำเท่าที่ทำได้ แม้ว่าจะไม่ชนะการแข่งขันก็ตาม …
-
ภรรยาสายอำปาดช็อกโกแลตเละๆ บนชักโครกให้เหมือนขรี้ เล่นซะสามีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ!!
เชื่อมั้ยว่าคู่รักหลายๆ คู่ที่อยู่กันได้ยืนยาว ก็มาจากแกล้งอำกันอยู่บ่อยๆ นี่แหละ เพราะการแกล้งนิดๆ หน่อยก็ทำให้ได้เรียนรู้กันมากขึ้น แถมยังเป็นการสีสันให้ชีวิตคู่ด้วย… แต่ถ้าหากการแกล้ง การอำ ที่มันเลยเถิดมากเกินไป จนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ ก็อาจจะพาลทำให้กลายเป็นการทะเลาะกันได้จนปานปลายเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนกับภรรยาจอมขี้แกล้งคนนี้ ที่แกล้งสามีด้วยการนำช็อกโกแลตมาป้ายให้เลอะเทอะบนชักโครก เพราะสีมันช่างเหมือนขรี้ซะเหลือเกิน แล้วถ้าหากว่าสามีของเธอมาเจอในสภาพแบบนี้เข้าจะรู้สึกยังไงกัน!? เจอแบบนี้เข้า เป็นใครก็คิดว่าเป็นขรี้ทั้งนั้นแหละ หลังจากที่ป้ายช็อกโกแลตเสร็จ ก็รอเวลาให้สามีมาใช้ห้องน้ำ… มันจะต้องสนุกแน่ๆ จนสักพักสามีก็เปิดประตูห้องน้ำเข้ามา แต่พอเปิดไฟเท่านั้นแหละก็พบว่าชักโครกมีแต่ขรี้เลอะเทอะเต็มไปหมด เขาทั้งโมโห ทั้งสะอิดสะเอียนก่อนเรียกภรรยามาสอบถาม นี่มันอะไรกันฟระเนี่ย!? สามีพูดด้วยความโมโห “นี่มันอะไร บอกมาสิ ทำไมทำแบบนี้!?” พูดไปก็ปิดจมูกไป… เอิ่ม ถามจริง มันเหม็นขนาดนั้นเลยเหรอพ่อหนุ่ม!? ส่วนภรรยาก็ทำเนียนยืนฟังสามีด่าฉอดๆ พร้อมทำหน้าสำนึกผิด แล้วก็พยายามบ่ายเบี่ยง ก่อนจะบอกสามีให้ช่วยทำความสะอาด แต่เขาก็ปฏิสเสธทันที ภรรยาทำท่าก้มลงไปหยิบทิชชู่ที่มีช็อคโกแลตติดอยู่ ส่วนสามีน่ะเหรอ? ทำท่ารังเกียจพร้อมถอยออกมาอยู่ห่างๆ แต่ปากก็ยังด่าไม่เลิกนะ สงสัยจะโมโหมาก… สุดท้ายภรรยาก็เฉลยว่า “ที่รัก นี่มันไม่ใช่ขรี้แต่เป็นช็อกโกแลต…
-
เด็กชายถูกพ่อทิ้งจึง ‘เขียนการ์ดวันพ่อ’ มอบให้พี่ชายคนโต เพื่อขอบคุณที่ทำหน้าที่แทนพ่อ
วันพ่อเป็นวันที่ลูกๆ จะจัดงานฉลองเพื่อตอบแทนและขอบคุณพ่อที่ทำงานหนักเพื่อครอบครัว แต่น่าเศร้าที่บางครอบครัวไม่มีพ่อให้ตอบแทนแล้ว เหมือนกับเด็กชาย Jackson Lanphere กับพี่ๆ อีก 2 คนที่ถูกพ่อทิ้งไปเมื่อปีที่ผ่านมา ดังนั้นวันพ่อปีนี้จึงเป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้แสดงความรักต่อพ่อเหมือนปีที่ผ่านๆ มา สามพี่น้องตระกูล Lanphere แม้ว่าพ่อจะไม่อยู่กับพวกเขาแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญเพราะพวกเขายังคงดูแลกันเสมอ โดยเฉพาะ Ethan พี่ชายคนโตที่ทำหน้าที่ดูแลน้องๆ แทนพ่อ เขาบอกว่า “พ่อทิ้งเราไปเมื่อ 2-3 เดือนที่แล้วครับ แต่แทนที่เราจะเสียใจ เรากลับรู้สึกขอบคุณเขา ที่ทำให้ผมกับน้องและแม่ดูแลกันเองอย่างมีความสุข โดยไม่รู้สึกขาดอะไรไปเลยครับ” มันอาจจะเป็นเรื่องที่ Ethan เข้าใจและปรับตัวได้ เพราะเขาโตพอที่จะคิดเองได้แล้ว แต่สำหรับ Jackson วัย 9 ขวบ น้องเล็กสุดของบ้าน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากที่เขาจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ ดังนั้นเมื่อถึงวันพ่อที่โรงเรียนของ Jackson ก็ให้เด็กทำการ์ดวันพ่อเหมือนเช่นทุกปี ซึ่งเด็กชายก็ทำอย่างตั้งใจแม้จะรู้ว่าไม่มีโอกาสมอบการ์ดนี้ให้พ่อแล้วก็ตาม แต่แทนที่เด็กชายจะเขียนถึงพ่อ เขากลับเขียนเป็นชื่อของ Ethan พี่ชายคนโตที่กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย Cornell University แทน การ์ดวันพ่อที่น้องชายตั้งใจเขียนมอบให้กับพี่ชายคนโต ใจความข้างในนั้น เป็นสิ่งที่น้องอยากจะขอบคุณพี่ชายที่ทำหน้าที่แทนพ่อ …
-
5 เพื่อนซี้นัดถ่ายรูปหมู่ ‘ที่เดิมและท่าเดิม’ ทุกๆ 5 ปี มิตรภาพที่เหนียวแน่นจนอายุ 53 กันแล้ว!!
การนัดเจอเพื่อนๆ เป็นเรื่องที่ง่ายมากในวัยเด็ก แต่ยิ่งโตขึ้นยิ่งเจอกันยากขึ้น โดยเฉพาะการนัดเจอกันเป็นกลุ่มเป็นแก๊ง โอกาสที่จะกลับมาเจอพร้อมหน้ากันทุกคนนั้นเป็นได้ยากมาก เพราะทุกคนต่างก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องทำ แต่ต่อให้แม้จะยุ่งยากมากสักแค่ไหน กลุ่มเพื่อนซี้ทั้ง 5 คนนี้ก็พยายามจะมาเจอกันให้ได้ อย่างน้อยปีละครั้ง จนตอนนี้ก็ย่างเข้าสู่ปีที่ 35 แล้วสำหรับมิตรภาพของพวกเขา รูปถ่ายหมู่ใบแรก ในปี 1982 ตอนทุกคนอายุเพียง 19 ปี กลุ่มเพื่อน 5 คนนี้ประกอบไปด้วย John Wardlaw, Mark Rumer, Dallas Burney, John Molony และ John Dickson พวกเขาพบกันครั้งแรกตอนเรียนที่โรงเรียน Santa Barbara High School รัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงปี 1970 จนกระทั่งปี 1982 เป็นครั้งแรกที่พวกเขามีโอกาสถ่ายรูปหมู่ในทะเลสาบ Copco Lake ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียใกล้ๆ กับเขตของออริกอน รูปหมู่ในปี 1987 ตอนนี้ทั้ง 5 คนอายุ…
-
ในวาระครบรอบ 20 ปี ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์’ เรามาดูกันว่าพ่อมดน้อยให้อะไรกับโลกใบนี้บ้าง!!?
หลายคนคงรู้สึกได้ว่าเหมือนพึ่งส่งแฮร์รี่ พอตเตอร์ขึ้นรถไฟไปฮอกวอตส์เป็นครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่ใครจะเชื่อว่าระยะเวลาของการมีตัวตนอยู่ของพ่อมดน้อยคนนี้ก็ปาเข้าไป 20 ปีแล้ว อู้วววววว มันผ่านมาเยอะแล้วนะ!! วันที่ 26 มิถุนายน 1997 คือวันที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ถูกตีพิมพ์ออกมาสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรก แต่จริงๆ แล้วปี 1995 คือปีที่แฮร์รี่ พอตเตอร์ถือกำเนิดขึ้นโดย J.K Rowling ทว่ากว่าจะถูกตีพิมพ์ออกมาได้เธอก็ถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์มาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งสำนักพิมพ์ Bloomsbury ตัดสินใจที่จะเป็นผู้รับพิมพ์โดยที่พวกเขาไม่รู้มาก่อนเลยว่า นิยายที่เขารับไปจะกลายเป็นหนังสือที่ขายดีถึง 450 ล้านเล่ม และมีการตีพิมพ์ใหม่นับครั้งไม่ถ้วน ที่สำคัญยังมีภาคใหม่คลอดออกมาอีกเป็นขบวนและต่อยอดได้อีกเพียบ!! และด้วยการมาของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็ถือเป็นการปฏิวัติวงการเลยก็ว่าได้ เพราะมันได้เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปในทางที่ดียิ่งขึ้น พร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ มากมาย ฉะนั้นเราลองมาดูกันดีกว่า 20 ปี แฮร์รี่ พอตเตอร์ได้เปลี่ยนอะไรให้กับโลกใบนี้บ้าง!! เปลี่ยนให้คนจำนวนมาก กลายเป็นนักอ่าน!! ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์คือนิยายเล่มแรกที่หลายคนหันมาอ่าน จนเกิดเป็นนิสัยชอบอ่านนิยายจนลุกลามไปยังเรื่องอื่นๆ บางคนที่อ่านอยู่ อาจจะเริ่มจากเรื่องนี้เหมือนก็ได้จริงไหม? เปลี่ยนให้หลายคน กลายมาเป็นนักเขียน เช่นเดียวกับการเปลี่ยนให้หลายคนเป็นนักอ่าน แฮร์รี่ พอตเตอร์ก็ทำให้นักอ่านหลายคนก็เริ่มหันมาอยากเขียนนิยายของตัวเองบ้าง จนบางคนตอนนี้อาจจะมีชื่อเสียงไปแล้วก็ได้ ทำให้รถไฟไอน้ำกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง…
Got any book recommendations?