ชายผู้ถึงจุดสุดยอดวันละ 100 ครั้ง ถึงขั้นต้องเปลี่ยนแปลงเพศ เพื่อลดให้เหลือแค่ 8 ครั้งต่อวัน…

การมีอารมณ์ทางเพศหรือการมีเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และคุณก็สามารถระบายมันออกมาได้ตามต้องการ แต่ถ้ามันบ่อยมากจนเกินไป ก็จะเป็นอันตรายกับร่างกายได้เหมือนกันนะ!!

นี่คือเรื่องราวของคุณแม่ข้ามเพศที่เคยใช้ชีวิตเป็นผู้ชายมาก่อน แต่เพราะเขาต้องเจอกันฝันร้ายที่ทำให้ถึงจุดสุดยอดถึงวัน 100 ครั้ง และต้องพยายามทำให้จำนวนครั้งลดน้อยลงไปด้วยการเปลี่ยนแปลงเพศของตัวเอง!!

 

 

Dale Decker ปัจจุบันคือ Christine Decker ในวัย 40 ปี จากเมือง Two Rivers รัฐวิสคอนซิน เขาเกิดมาเป็นผู้ชายตั้งแต่กำเนิด

เธอต้องต่อสู้กับความผิดปกติที่เรียกว่า Persistent Genital Arousal Syndrome (PGAS) หรือโรคถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ ตั้งแต่ปี 2012 หลังจากประสบอุบัติเหตุ

อาการของความผิดปกตินี้ทำให้เธอถึงจุดสุดยอดมากถึง 100 ครั้งต่อวัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Christine ต้องเริ่มต้นใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว และเพิ่มเติมฮอร์โมนเพศหญิงเข้าไปในร่างกาย เพื่อลดจำนวนการถึงจุดสุดยอดจนเหลือเพียงแค่ 8 ครั้งต่อวัน

 

Dale Decker ปัจจุบันคือ Christine Decker

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Christine ก็ยังคงอยู่กับภรรยาวัย 36 ปี กับลูกชายสองคนคือ Christian วัย 15 ปี และ Tayten วัย 14 ปี

ความผิดปกตินี้เกิดขึ้นตอนเดือนกันยายน ปี 2012 เมื่อประสบอุบัติเหตุลื่นล้มจนทำให้ไม่สามารถเดินได้ และในตอนนั้นเองที่ทำให้ได้พบกับฝันร้ายครั้งแรก เพราะระหว่างทางไปโรงพยาบาลนั้นก็มีอาการถึงจุดสุดยอดกว่า 5 ครั้ง

เธอเล่าว่า “ฉันยังจำสายตาของทีมแพทย์ที่อยู่ในรถได้แม่นเลยล่ะ พวกเขามองฉันด้วยสายตาแปลก ทั้งๆ ที่ตอนนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง”

 

 

หลังจากที่เข้าโรงพยาบาล วันต่อมาแพทย์ถึงกับหนักใจเมื่อ Christine ถึงจุดสุดยอดมากถึง 236 ครั้ง โดยมีอาการกระตุกและมีน้ำไหลออกจากกระดูกเชิงกราน ส่งผลให้เขาทุกข์ทรมานกับอาการนี้อย่างหนัก

เธอบอกว่า “ฉันต้องการจะหนีออกจากสถานการณ์นั้น ผู้คนต่างมองฉันด้วยสายตาแปลกๆ เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน พวกเขาคงคิดแค่ว่าฉันเป็นคนหื่นที่มีอารมณ์ทางเพศตลอดเวลา”

หลังจากตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว คุณหมอจึงวินิจฉัยว่าเป็นโรค PGAS และไม่มีทางรักษาได้ แม้ว่าจะตระเวนไปหาหมอในหลายๆ โรงพยาบาลแล้วก็ตาม

 

 

จนในที่สุดเธอก็ได้พบกับนักบำบัดเกี่ยวกับชั้นกระดูกเชิงกรานและหมอนวดที่ต้องการจะช่วยเหลือ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เธอแทบจะไม่ได้ออกจากบ้านเลย

จนกระทั่งปี 2014  Christine ตัดสินใจเปิดเผยการใช้ชีวิตแบบ PGAS เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของโรคนี้ โดยบอกถึงความทรมานที่ต้องเผชิญ อีกทั้งยังส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด

แต่แทนที่จะได้รับความเห็นอกเห็นใจจากผู้คน กลับถูกสังคมรังเกียจและไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ บางคนยังกล่าวหาว่าปั้นเรื่องขึ้นมาเพื่อสร้างภาพ ทำให้เจ้าตัวรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

 

 

ตั้งแต่นั้นมาเธอก็กลายเป็นคนที่ถูกสังคมล้อเลียนเสียดสี แม้กระทั่งในรายการทีวีบางรายกายก็ยังพูดถึงเธอในเชิงตลกขบขัน จนทำให้ Christine กลายเป็นคนที่น่ารังเกียจของผู้คนทั่วไป

มีเพียงคนใกล้ตัวเท่านั้นที่เข้าใจสิ่งที่เธอเป็น แต่พวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าเธอคงจะตายในไม่ช้าถ้ารักษาไม่หาย ในขณะที่ Christine ก็พยายามหาทางรักษาอย่างเงียบๆ ด้วยการเพิ่มเติมฮอร์โมนเพศหญิงเข้าไปในร่างกาย

ในที่สุดอาการของเธอก็เริ่มดีขึ้น จนเดือนมิถุนายนปี 2015 เธอก็ได้รับเชิญให้ไปพูดเกี่ยวกับโรคดังกล่าวในการประชุม American Association of Sexuality Educators, Counselors and Therapists (AASECT)

 

 

และหลังจากการเก็บตัวเพื่อรักษาตัวเองอย่างเงียบๆ เธอก็ปรากฎตัวในฐานะผู้หญิงข้ามเพศต่อหน้าผู้เข้าร่วมงานกว่า 100 ชีวิต และในงานประชุมนี้เองทุกคนต่างลุกขึ้นปรบมือให้กับเธอ นั่นทำให้เธอรู้สึกได้ถึงการยอมรับครั้งแรกตั้งแต่ที่ต่อสู้กับโรคนี้มา

หลังจากที่การเปิดใจครั้งนี้ ทำให้ Christine ค้นพบสิ่งที่ต้องการ นั่นคือ เขาอยากเป็นผู้หญิง อยากแปลงเพศเป็นผู้หญิงจริงๆ

ตั้งแต่นั้นมาเธอจึงตัดสินใจเพิ่มเติมระดับฮอร์โมนผู้หญิงเข้าไปในร่างกายเข้าไปอีก และผลของการรักษาดังวิธีการดังกล่าว ก็ทำให้โรค PGAS มีอาการที่ดีขึ้น จากที่เคยถึงจุดสุดยอด 100 ครั้ง ต่อวัน ก็ลดลงเหลือเพียง 8 ครั้งต่อวันเท่านั้น

 

 

ทุกวันนี้ Christine ไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่เลือก ที่สำคัญตอนนี้ เธอก็ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจคนรักร่วมเพศในการกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่เป็น เพราะมันไม่ใช่เรื่องน่าอาย ดีกว่าฝืนร่างกายแล้วทำให้ตัวเองต้องทุกข์ทรมาน

ที่มา dailymail

Comments

Leave a Reply