ทัวร์โรงงาน “M&M” ชมขั้นตอนการผลิต กว่าจะมาเป็นขนมหวานยอดฮิต เขาทำกันอย่างไร!!

เมื่อกล่าวถึง M&M หลายคนคงรู้จักกันดีในนามของ “ช็อกโกแลตเม็ดเคลือบน้ำตาล” ที่มีสีสันสวยสดใส มีให้เลือกทานหลากหลายรูปแบบ ทั้งช็อกโกแลตนมเคลือบน้ำตาล, อัลมอนด์ ช็อกโกแลต แคนดี้  รวมไปถึงช็อกโกแลตนมไส้ข้าวพอง และช็อกโกแลตนมไส้ถั่วลิสง

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะเคยทานกันมาแล้วอย่างแน่นอน และนอกจากรสชาติที่หอมหวาน นุ่มละลายในปากแล้ว M&M ยังถือเป็นช็อคโกแลต ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ช็อกโกแลตยี่ห้ออื่นๆ เลยละ

ด้วยความที่เป็นช็อกโกแลตที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จนทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า ไอ้เจ้าช็อกโกแลตเม็ดเล็กๆ ที่เราทานกันอยู่บ่อยๆ นี้ เขามีวิธีการผลิตอย่างไร? ในวันนี้เราจะพาคุณไปรับชมเอง

 

M&M1

 

สำหรับ M&M ได้กำเนิดขึ้นในปี 1941 โดย Forrest E. Mars ผู้เป็นเจ้าของกิจการช็อกโกแลต และขนมหวานอันโด่งดัง

และนี่คือ โรงงานช็อกโกแลต The Mars Chocolate North America ในเมือง Hackettstown รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตช็อกโกแลต M&M รวมไปถึงช็อกโกแลตยี่ห้อดังอีกมากมาย ได้แก่ Snickers, Dove, Milky Way และ Twix

 

M&M2

 

หากคุณได้เข้ามาภายในโรงงานแห่งนี้ สิ่งแรกที่จะต้องทำเลยก็คือ ถอดเครื่องประดับทุกชิ้นออกให้หมด ตรวจสอบเล็บ เนื่องจากป้องกันไม่ให้สีเล็บปนเปื้อนในขนม สวมถุงมือ และใส่ชุดคลุมของทางโรงงาน

M&M3

 

ขั้นตอนต่อไปก็คือการสวมหมวกที่ทางโรงงานเตรียมไว้, แว่นตานิรภัย, ที่อุดหู รวมไปถึงตาข่ายที่ใช้คลุมผมอีกด้วย

M&M4

 

ทุกคนที่เข้ามาชมดินแดนของโลกช็อกโกแลตแห่งนี้ จะต้องสวมเครื่องแบบตามที่ระบุไว้ให้ครบถ้วนทุกประการ

M&M5

 

และก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าไปชมภายในโรงงาน คุณจะต้องล้างมือให้สะอาด ถึงแม้ว่าสะสวมถุงมือแล้วก็ตาม

M&M6

 

ในที่สุดก็ถึงช่วงเวลาแห่งการผจญภัยในดินแดนช็อกโกแลตกันแล้ว โดยเริ่มจากการเดินไปตามทางที่เต็มไปด้วยภาพวาดสีสันสดใส และมีชีวิตชีวาของเหล่าตัวการ์ตูน M&M

M&M7

 

โรงงานผลิต M&M ในเมือง Hackettstown แห่งนี้ ได้ทำการเนรมิตทั้งช็อกโกแลตนม M&M, M&M’s Mini และ Peanut M&M รวมไปถึงรูปแบบของผลิตภัณฑ์กว่า 21 แบบ ที่มีสีสันสดใสแตกต่างกันออกไป

M&M8

 

ขั้นตอนการผสม และอุณหภูมิ ถือเป็นกุญแจสำคัญของกระบวนการการผลิตช็อกโกแลตเหล่านี้

M&M9

 

เมื่อผสมจนเข้ากันดีแล้ว ช็อคโกแลตก็จะถูกส่งไปพักไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อรอนำมาขึ้นรูปให้กลายเป็นช็อกโกแลต M&M ที่เราเห็นกันจนชินตานั่นเอง

M&M10

 

หลังจากนั้น ช็อกโกแลตจะถูกส่งผ่านไปยังอุโมงค์ระบายความร้อน เพื่อปั้นให้เป็นเม็ด และเตรียมพร้อมที่จะนำไปเคลือบสี

M&M11

 

ต้นฉบับระบุว่า ถ้าหากใครที่ได้ลองลิ้มรสชาติ M&M แบบสดๆ บอกเลยว่ามันไม่สามารถอธิบายได้เลยจริงๆ

M&M12

 

ช็อกโกแลตที่ผ่านกระบวนการระบายความร้อนมาแล้ว จะถูกนำมาเคลือบกับน้ำตาลที่มีสีสันสดใส ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ M&M นั่นเอง

M&M13

 

มาแล้วววว ช็อกโกแลต M&M ของโปรดของเด็กๆ และผู้หลงใหลในช็อกโกแลตทุกๆ คน

M&M14

 

โดยสีที่เป็นเอกลักษณ์ของ M&M คือ สีเหลือง, สีแดง, สีเขียว, สีน้ำตาล , สีส้ม, สีฟ้า ซึ่งสีฟ้า เรียกได้ว่าเป็นสีใหม่ล่าสุด ที่ถูกนำมาใช้ในปี 1995 เพื่อผลิตขึ้นมาแทนสีน้ำตาล

M&M15

 

สำหรับ M&M Peanut จะต้องผ่านกระบวนการโดยการนำถั่วลิลงมาอบ จากนั้นพวกเขาจะพ่นด้วยช็อคโกแลต เป็นจำนวน 3 ครั้ง เพื่อให้ได้อัตราส่วนที่เหมาะสม

M&M16

 

ในแต่ละวัน ทางโรงงานจะผลิต M&M ในจำนวนหลายล้านเม็ด และเกือบทั่วทุกพื้นที่ของโรงงาน จะเต็มไปด้วยกลิ่นหอมๆ ของช็อกโกแลตที่แรงจนไปติดเสื้อผ้าของคุณได้ แต่หลังจากที่คุณกลับถึงบ้านกลิ่นเหล่านี้ก็จะเริ่มกลายเป็นกลิ่นเหมือนนมบูด

M&M17

 

แม้ว่าจะได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงงาน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีพื้นที่บางส่วนที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปรับชมได้ เนื่องจากกระบวนการในการผลิตบางขั้นตอนจะต้องเก็บไว้เป็นความลับ เช่น การติดตราประทับตัว M ลงบนขนม เรียกได้ว่ามันลับสุดยอดจนไม่อาจเปิดเผยได้จริงๆ

M&M18

 

เมื่อตัว M ถูกนำไปประทับไว้บนขนม ก็จะถูกนำไปบรรจุในถุง จากนั้นก็จะถูกส่งออกไปทั่วประเทศ

M&M19

 

จากปี 1941 มาจนถึงปัจจุบัน รสชาติของช็อกโกแลต M&M ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย

M&M20

 

ที่สำคัญกว่าจะออกมาเป็น M&M ที่เราเห็นกันอยู่นี้ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน เพราะตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนบรรจุลงถุง ต้องใช้เวลานานกว่า 10-12 ชั่วโมงเลยทีเดียว

M&M21

 

มันเป็นการทัวร์ดินแดนแห่งโลกช็อกโกแลตที่ทั้งสนุก และน่าตื่นตาตื่นใจมากจริงๆ อีกทั้งยังทำให้เรารู้ว่าช็อกโกแลตเม็ดเล็กๆ ที่เราทานมาตั้งแต่เด็กจนโตนั้น มีกระบวนการการผลิตที่ซับซ้อนมากเพียงใด และกว่าจะออกมาเป็นขนมหวานแสนอร่อย บอกเลยว่ามันไม่ใช่ง่ายเลยจริงๆ

ที่มา : businessinsider

Comments

Leave a Reply