Author:

สัตว์เลี้ยงบางประเภทนั้นต้องใช้ความเชี่ยวชาญและระมัดระวังในการเลี้ยงดูอย่างสูง เพราะบางครั้งสัญชาตญาณของมันก็ไม่อาจหายไป แม้มนุษย์จะเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กก็ตาม Paul McDonald อายุ 46 ปี กับภรรยาของเขา Mandi วัย 45 ปี อาศัยอยู่ด้วยกันในแถบชนบทของรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย     ทั้งคู่มีสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงเอาไว้ในบริเวณบ้านซึ่งล้อมรั้วกั้นเอาไว้ มันเป็น “กวาง” ที่แค่เราคิดภาพมันก็ดูไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไร เนื่องจากกวางนั้นเป็นสัตว์กินพืช แถมยังหน้าตาน่ารักอีกด้วย แต่เมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ 17 เมษายน 2019 ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อนาย Paul นั้นเดินไปเปิดประตูรั้วที่ขังสัตว์เลี้ยงของตนเอาไว้ เขาเข้าไปข้างในเพื่อจะให้อาหารมัน     ตอนนั้นเองที่ Mandi ได้ยินเสียงร้องของสามีดังมาจากนอกบ้าน เธอกับลูกชายจึงรีบวิ่งออกไปดูก็พบว่า Paul ถูกกวางตัวดังกล่าวทำร้าย Mandi จึงพยายามเข้าไปช่วย แต่ก็ถูกกวางทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสไปอีกคน ก่อนที่มันจะถอยออกไป     ไม่นานหลังจากนั้นตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมกับหน่วยแพทย์ที่พยายามช่วยเหลือ Paul เอาไว้แต่โชคร้ายที่่พวกเขายื้อชีวิตของ Paul เอาไว้ไม่ได้ Mandi ที่บาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนเจ้ากวางถูกตำรวจยิงในที่เกิดเหตุ…

สายเที่ยวคงรู้จักเส้นทางรถไฟอันงดงามในประเทศนิวซีแลนด์ที่เรียกว่าเส้นทางชายฝั่งแปซิฟิก (Coastal Pacific train) ซึ่งมีความงดงามอย่างมาก ซึ่งเส้นทางดังกล่าวมีระยะทางทั้งสิ้น 350 กิโลเมตร เริ่มต้นจาก Picton ไปจนถึง Christchurch ขบวนรถไฟที่แล่นผ่านเส้นทางนี้จึงมีขบวนที่เอาไว้สำหรับชมวิวกลางแจ้ง ตู้รถไฟดังกล่าวจะเป็นช่องหน้าต่างยาวๆ ไม่มีกระจกกั้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมและเก็บภาพวิวทิวทัศน์อันงดงามอย่างเต็มอิ่ม     ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเจ้าเส้นทางรถไฟอันสวยสดงดงามสายนี้ ทำให้หลายๆ คนลงทุนยื่นตัวออกไปนอกขบวน ห้อยโหนราว เสี่ยงชีวิตเพื่อเซลฟี่ หรือถ่ายภาพในมุมที่ตนเองต้องการ จนบางทีผู้คนเหล่านั้นไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ารถไฟกำลังจะเข้าอุโมงค์ หรือตัวเองกำลังจะชนเข้ากับอะไรที่อยู่ข้างทาง     ซึ่งการกระทำเหล่านี้นอกจากจะเป็นอันตรายต่อตัวพวกเขาเองแล้ว ก็อาจส่งผลกระทบร้ายแรงแก่ขบวนรถไฟและผู้โดยสารคนอื่นๆ อีกด้วย มันอันตรายมากพอให้ทางบริษัทรถไฟจำเป็นต้องปิดให้บริการตู้รถไฟสำหรับชมวิวดังกล่าวไปเลย “เราต้องห้ามไม่ให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เอนตัวจากตู้รถไฟ ไม่งั้นเราก็ไม่อาจเป็นผู้ประกอบการด้านการขนส่งที่ปลอดภัยได้” Katie McMahon ผู้จัดการทั่วไปให้สัมภาษณ์     โดยทางผู้จัดการของบริษัท KiwiRail ได้กล่าวเสริมว่า พวกเขายังคงพยายามหาทางออกให้กับปัญหานี้อยู่ ทางแก้ปัญหาอาจจะเป็นการติดกระจก หรือรั้วกั้นขึ้นมาแทน แต่ทางบริษัทก็ยังคงหวังว่าจะสามารถกลับมาเปิดใช้งานตู้รถไฟดังกล่าวได้เช่นเดิม และอย่างปลอดภัย “ทางเราหวังว่าจะได้ทางแก้ปัญหาในเร็วๆ นี้ ที่จะทำให้ส่วนชมวิวกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง” เธอกล่าวปิดท้าย   ที่มา Insider

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2019 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม เครื่องบินโบอิง 747 ของสายการบิน El Al ที่เดินทางมาจาก Tel Aviv ประเทศอิสราเอล ได้ลงจอดที่สนามบิน John F. Kennedy ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ผู้โดยสารราว 400 ชีวิตกำลังทยอยลงการเครื่องนั้นเอง ชายชาวอเมริกันคนหนึ่งจู่ๆ ก็ลุกไปเปิดประตูฉุกเฉินของเครื่องแล้วพยายามกระโดดลงไป ซึ่งระดับความสูงจากประตูถึงพื้นด้านล่างนั้นสูงราว 5.2 เมตร ซึ่งก็มากพอจะทำให้เขาเสียชีวิตได้     ลูกเรือที่สังเกตเห็นการกระทำของเขาจึงรีบวิ่งไปคว้าตัวเขาเอาไว้ ชายคนดังกล่าวจึงยังห้อยต่องแต่งอยู่ตรงขอบประตู สุดท้ายทุกคนก็ช่วยชีวิตเขาไว้ได้ด้วยการเอาบันไดไปรับตัวไว้ ทางสายการบินได้เล่าเหตุการณ์ว่า “ผู้โดยสารชาวอเมริกันคนหนึ่งไปเปิดประตูที่อยู่ตรงท้ายลำซึ่งไม่ใช่ประตูที่ผู้โดยสารสามารถใช้ลงจากเครื่องได้     ลูกเรือ 2 คนของเราสังเกตเห็นว่าผู้โดยสารท่านั้นยังดูมีสติครบถ้วนดีอยู่ ตอนที่พวกเขาคว้าตัวเขาที่ห้อยตัวอยู่ตรงประตูเอาไว้ และกันไม่ให้เขากระโดดลงไปจากความสูงขนาดนั้น ก่อนที่จะช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้” หลังจากลงไปถึงพื้นได้ ชายอเมริกันคนดังกล่าวพยายามจะหลบหนีออกไป แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกักตัวเอาไว้ และนำตัวไปสอบถาม ก่อนส่งตัวให้ทางตำรวจต่อไป โดยขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการกระทำดังกล่าว     ทางด้าน…

George Stephenson อายุ 60 ปี ตกผู้ต้องสงสัยว่าข่มขืนเด็กมากถึง 14 คดี เมื่อมีเหยื่อของเขาคนหนึ่งเปิดเผยเรื่องราวการกระทำของเขาออกมาในปี 2015 เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสืบสวนคดีนี้ในทันที แต่เมื่อทั้งตำรวจและจิตแพทย์ได้พบกับนาย George ก็พบว่าเขาเป็นผู้พิการ เดินไม่ได้ และเป็นใบ้ ต้องนั่งบนรถเข็นและไปไหนมาไหนโดยให้ภรรยา Wendy Stephenson วัย 68 ปีเป็นผู้เข็นวีลแชร์   George Stephenson   ดูจากสภาพนี้แล้วคงเป็นการยากที่จะเชื่อว่าชายผู้พิการที่แทบช่วยเหลืออะไรตัวเองไม่ได้คนนี้จะสามารถไปล่วงละเมิดทางเพศเด็กได้ ดังนั้นเขาจึงรอดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยไป แต่เมื่อไม่นานมานี้ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแฝงตัวมาสังเกตการณ์ พวกเขาก็พบเห็นนาย George ผู้พิการขับรถแวนออกไปข้างนอกด้วยตนเอง จากนั้นเดินด้วยขาของเขาเข้าไปสั่งอาหารในร้านเบอร์เกอร์คิงในเมืองนิวคาสเซิล แถมยังเติมน้ำมันรถเองได้อีกต่างหาก โดยภาพเหตุการณ์ทั้งหมดได้ถูกเจ้าหน้าที่บันทึกภาพเอาไว้ด้วย     หลังจากนั้นไม่นานตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวนาย George ที่บ้านของเขาเองในซันเดอร์แลนด์ โดนชายชราก็ขัดขืนไม่ยอมให้จับกุมด้วยการปีนหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาร่วมชั่วโมง พร้อมกับกวัดแกว่งไม้ขู่เจ้าหน้าที่ด้วย แต่สุดท้ายนาย George ก็ถูกดำเนินคดีในสิ่งที่เขาได้ก่อไว้ในที่สุด โดยเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 26 ปี 4 เดือนในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็ก 14 ครั้ง ซึ่งเขาก็ให้การรับสารภาพในชั้นศาล   Wendy…

Laura Brocklebank และ Dan Leadbetter เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน วันหนึ่งมีคนโทรมาแจ้งเหตุที่เบอร์ 999 ทั้งคู่จึงนำรถฉุกเฉินออกไปช่วยเหลือผู้ป่วยในเมือง Basingstoke ประเทศอังกฤษ ในขณะที่กำลังดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้นอยู่นั้น รถฉุกเฉินที่ทั้งคู่ขับมาก็ถูกใครบางคนงัดเข้าไปขโมยของ ซึ่งมีทั้งแว่นกันแดด สายชาร์จแบตไอโฟน กระเป๋ายี่ห้อ Cath Kidston แม้แต่ห่อข้าวเที่ยงของพวกเขาก็หายไปด้วย   Laura Brocklebank   นอกจากนี้วิทยุสื่อสารของรถฉุกเฉินก็เสียหาย เครื่องกระตุ้นหัวใจที่ไว้ใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยในยามฉุกเฉินก็ไม่อยู่ ทั้งคู่รู้สึกช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก จึงได้โพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงบนเพจเฟซบุ๊ก Mark Butler ประชาชนคนหนึ่งในพื้นที่นั้นจึงได้ตั้งแคมเปญช่วยเหลือขึ้นเพื่อรับบริจาคจากผู้คนในเมือง และนำไปมอบให้กับเหยื่อการขโมยของในครั้งนี้ โดยได้ยอดเงินราว 1,200 ยูโร (ราว 43,000 บาท)   Dan Leadbetter   เขากล่าวว่า ในขณะที่หัวขโมยและพวกป่าเถื่อนหยิบฉวยของมีค่าต่างๆ ไป มันได้สร้างผลกระทบที่ร้ายแรงมาก เขาจึงเปิดรับบริจาคเพื่อนำเงินไปมอบให้กับหน่วยบริการรถฉุกเฉิน South Central เพื่อเป็นการตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ และแสดงความรังเกียจการกระทำของโจรผู้ก่อเหตุ     ทางด้านหน่วยบริการรถฉุกเฉินก็ได้ยกย่อง Mark และประชาชนที่ร่วมกันลงขันคนละเล็กละน้อยเพื่อพวกเขาว่า…

เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน Natalia Cartmell เด็กสาววัยรุ่นอาายุ 17 ปี บังเอิญไปอยู่ในเหตุการณ์ที่หญิงคนหนึ่งพยายามจะกระโดดจากสะพานในเมือง Launceston ประเทศอังกฤษ ในวันนั้น Natalia กำลังเดินจากบ้านของตนเองไปยังห้างเทสโก เพื่อเริ่มงานตอน 6 โมงเช้า ในขณะที่เธอเดินไปยังที่หมาย เธอข้ามสะพานในละแวกนั้นและสังเกตเห็นบางอย่างเข้า   Natalia Cartmell   ในตอนแรกเธอมองเห็นไม่ชัด แต่รู้สึกว่ามันแปลกๆ พอเดินเข้าไปใกล้ถึงรู้ว่าเป็นหญิงคนหนึ่งที่กำลังจะกระโดดลงจากขอบสะพาน Natalia ไม่รอช้า เธอทิ้งกระเป๋าตัวเองแล้วรีบวิ่งจากอีกฟากหนึ่งของสะพาน ตรงเข้าไปหาหญิงคนดังกล่าว แม้อีกฝ่ายจะตะโกนห้ามไม่ให้เธอเข้าใกล้ก็ตาม Natalia เล่าว่า “ฉันเข้าไปคว้าไหล่ของเธอเอาไว้ แล้วเธอก็ขัดขืนและพยายามจะทิ้งตัวลงไปบนถนนที่อยู่ข้างล่างสะพาน ฉันเลยต้องเอาแขนล็อกคอเธอแล้วลากกลับเข้ามาเพราะเธอดิ้นแรงมากๆ และพยายามให้เธอลงไปนั่งที่พื้นให้ได้” หลังจากนั้นหญิงคนนั้นก็พยายามหลอก Natalia เพื่อกลับขึ้นไปปีนรั้วอีกครั้ง แต่เด็กสาวไม่ยอม เธอกดหญิงคนดังกล่าวลงกับพื้นแล้วใช้อีกมือโทรเรียกตำรวจ ในระหว่างนั้นก็มีคนที่ผ่านมาเห็นเข้ามาช่วยล็อกตัวหญิงคนนั้นเอาไว้ด้วย (และหญิงคนนั้นก็พยายามหลอกทุกคนให้ปล่อยตัวเพื่อกลับไปที่รั้วตลอดเวลา) ราว 15 นาทีตำรวจก็มาถึง   สะพานที่เกิดเหตุ   ท้ายสุดทางตำรวจจำเป็นต้องใช้กุญแจมือกับหญิงสาวเพื่อความปลอดภัยของเธอเอง ก่อนจะพาเธอขึ้นรถตำรวจไปอย่างทุลักทุเล เด็กสาวบอกว่า เมื่อปีที่แล้วเธอสูญเสียพ่อของเธอไปในวัย 55 ปี…

หลายคนคงรู้จักน้อง Pigcasso น้องหมูยอดจิตรกร ที่เคยสร้างผลงานสะเทือนวงการศิลปะ จากหมูน้อยที่ถูกช่วยเหลือมาก่อนที่จะถูกทำเป็นเบคอน สู่หมูยอดนักวาดภาพ (แม้ว่าภาพของน้องจะตีความยากนิดนึงก็ตาม) เมื่อต้นปี 2019 เพื่อเป็นการร่วมฉลองวันตรุษจีนในปีหมู Swatch แบรนด์นาฬิกาชื่อดังจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้เล็งเห็นถึงความสามารถอันล้มหลามของน้อง จึงได้ทาบทามตัวจิตรกรใหญ่มาสร้างสรรค์ลวดลายสดใสบนหน้าปัดและสายนาฬิกาซีรีส์ใหม่ ซึ่งทำเป็นรุ่น Limited Edition     โดยตัวเรือนและสายจะเป็นสีขาวมีลวดลายผลงานของเจ้าหมู ดูแล้วเหมือนเรามีงานศิลปะอยู่บนข้อมือ โดยเจ้านาฬิการุ่นนี้นั้นเปิดขายไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในราคาเรือนละ 110 ดอลลาร์สหรัฐฯ ผลิตเพียง 2019 เรือน และขายหมดเกลี้ยงไปแล้วด้วย     ล่าสุดมีคนนำเจ้านาฬิการุ่นนี้ออกมาประกาศขายบนเว็บ ebay เปิดโอกาสให้คนที่อยากจะได้ไว้ในครอบครอง ในราคา 999.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 30,000 กว่าบาท) ซึ่งสูงกว่าราคาขายตอนแรกเกือบ 10 เท่า แต่หากว่าใครที่คิดว่ามันสวยดี แต่ว่าแพงไปหน่อยล่ะก็ต้องคิดกันใหม่เลยนะ เพราะปกติแล้วภาพวาดของ Pigcasso นั้นมีคนพร้อมซื้อในราคาภาพละ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 111,000 บาท) ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเจ้าของของมันมหาศาลเลยทีเดียว หากใครคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะซื้อเก็บไว้ก็ไปส่องกันได้จ้า…

หลังอ่านข่าวนี้เพื่อนๆ ที่เลี้ยงน้องหมาอาจจะต้องจับตาดูและระมัดระวังเวลาพาน้องไปเดินเล่นให้มากขึ้น นอกจากน้องอาจจะเผลอไปเจอสัตว์มีพิษตามธรรมชาติแล้ว มันอาจจะเผลอไปกินอะไรที่อันตรายเข้าก็ได้ เจ้า Shelby สุนัขพันธุ์ Cavalier King Charles Spaniel ของ Denis และ Kathy Parslow ออกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะในเมือง Brompton ประเทศออสเตรเลีย กับเจ้าของของมัน     แต่แล้วเจ้าหมาวัย 16 เดือนก็ไปคาบอะไรบางอย่างมาและกินเข้าไป โดยที่เจ้าของไม่ได้เอะใจเลยว่าเป็นอะไรที่อันตรายหรือไม่ พวกเขาพามันไปเที่ยวเล่นต่อที่ชายหาด ซึ่งมันก็ยังร่าเริงดี แต่ในตอนที่พวกเขากลับไปถึงบ้าน เจ้า Shelby กลับไม่ยอมลงจากรถ มันดูซึมๆ ผิดปกติ จากนั้นมันก็เริ่มอาเจียนออกมา Denis และ Kathy จึงรีบขับรถพามันไปหาหมอโดยด่วน     เมื่อไปถึงมือหมอ สัตวแพทย์ตรวจดูและเบื้องต้น และลองให้ยาปฏิชีวนะกับมัน แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น หมอจึงตัดสินใจผ่าตัด ตอนนั้นเองที่พวกเขาพบว่ามีซองเฮโรอีกอยู่ในท้องของมันถึง 5 ซอง โดยที่ตัวยาเริ่มละลายและซึมเข้าในระบบต่างๆ ของร่างกาย แต่โชคดีที่ซองยายังไม่แตกออกทั้งหมด     เมื่อพบสาเหตุของอาการป่วยสัตวแพทย์ก็เริ่มรักษามันทันที…

หลายปีมาแล้วที่มีข่าวลือบอกเล่ากันมาแถบ Luegde Forest ประเทศเยอรมนี เกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ชื่อ Andreas V. ว่ามีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศเด็ก เมื่อราวๆ เดือนธันวาคม 2018 ที่ผ่านมาเขาเพิ่งจะถูกจับกุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หลังจากก่อเหตุทำนองนี้มาหลาย 10 ปี ซึ่งเกิดจากการเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่ เมื่อปี 2016 ก็มีผู้พบเห็นนาย Andreas แตะเนื้อต้องตัวเด็กในงานเลี้ยงวันเกิด  แต่เมื่อแจ้งไปกับทางตำรวจ กลับไม่มีการสืบสวนใดๆ เกิดขึ้น เรื่องราวนั้นถูกปล่อยให้เงียบหายไป และในปีเดียวกันนั้นนาย Andreas ก็ได้รับการอนุมัติให้รับอุปถัมภ์เด็ก   เรื่องราวการกระทำของเขาเพิ่งจะถูกเปิดเผยออกมาในเดือนพฤศจิกายน 2018 เมื่อมีคนแจ้งกับตรวจว่านาย Andreas ได้ล่วงละเมิดทางเพศเด็กวัย 6 ขวบคนหนึ่งที่ไปเล่นกับลูกอุปถัมภ์วัย 11 ขวบของเขาที่บ้าน จากนั้นการสืบสวนก็เริ่มขึ้น มีการตรวจค้นบ้านของนาย Andreas และพบว่าในรถตู้ออกแคมป์ของเขาถูกใช้เป็นสถานที่ที่เขาข่มขืนเหยื่อ จากการตรวจสอบพบหลักฐานเป็นคอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง ฮาร์ดดิสก์มากกว่า 40 ลูก และอุปกรณ์เก็บข้อมูลอื่นๆ (หลายชิ้นมีความจุราว 15 TB)…

Jennifer และ Sarah Hart วัย 38 ปีเป็นคู่รักเพศเดียวกัน พวกเธอรับลูกบุญธรรมมาเลี้ยง 6 คน เมื่อปีที่แล้วเกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อ Jennifer ขับรถยนต์ GMC Yukon ที่มีคนรักและลูกๆ นั่งอยู่ด้วย พุ่งลงเหวบริเวณชายฝั่ง Mendocino ในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งมีความสูงราว 30 เมตร ที่เกิดเหตุนอกจากร่างของ Jennifer และ Sarah แล้ว ก็ยังมี Markis อายุ 19 ปี Hannah อายุ 16 ปี Jeremiah อายุ 14 ปี Abigail 14 ปี และ Ciera อายุ 12 ปี     ส่วน Devonte อายุ 15…

ท่ามกลางกระแสต่อต้านการนำสัตว์ป่ามาใช้งานหรือทารุณกรรม บนโลกนี้ก็ยังคงมี “คณะละครสัตว์” ที่ตระเวนทำการแสดงอยู่ แม้จะน้อยลงจากสมัยก่อนมากแล้ว แต่ก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างทางที่คณะละครสัตว์คณะหนึ่งเดินทางไปแสดงที่ประเทศยูเครน พวกเขาจัดการแสดงที่เมือง Lugansk ซึ่งมีผู้คนมากมายซื้อตั๋วเข้าไปชมการแสดง   .   ในระหว่างการแสดงที่มีสัตว์ป่านักล่าอย่างเสือและสิงโต ผู้ฝึกสัตว์ชื่อดังนามว่า Hamada Kouta กำลังสั่งให้พวกมันทำตามคำสั่ง จู่ๆ สิงโตตัวหนึ่งบนเวทีก็พุ่งเข้าไปทำร้ายเขา Kouta พยายามทำให้มันสงบลงแต่ไม่เป็นผล เขาถอยหลังไปก้าวหนึ่งชนกับของที่อยู่ข้างหลังจนล้ม จังหวะนั้นสิงโตตัวนั้นก็กระโจนเข้าใส่ แล้วฝังเขี้ยวของมันลงไปที่แขนและขาของ Kouta รวมทั้งใช้กรงเล็บตะปบขย้ำไปทั่วร่างกาย     ผู้ชมที่ส่วนมากเป็นครอบครัวที่มีเด็กอยู่ด้วยต่างก็กรีดร้องด้วยความตื่นกลัว ก่อนที่ Kouta จะขัดขืนและดันมันออก สุดท้ายเจ้าสิงโตล่าถอยกลับไป จ้องเขาเขม็งเตรียมตัวโจมตีระลอกที่ 2 แต่สุดท้ายมันก็เปลี่ยนใจวิ่งกลับเขากรงของตัวเอง เป็นโชคดีของ Kouta ที่เจ้าสิงโตไม่ได้ฝังเขี้ยวเข้าที่คอของเขา เขาจึงรอดชีวิตมาได้แต่ก็บาดเจ็บหนัก เลือดไหลออกมามากมาย แต่ก็ยังปลอบให้ผู้ชมใจเย็นลง เพื่อจะเริ่มทำการแสดงใหม่ตั้งแต่ต้น     ซึ่งสาเหตุของการโจมตีนั้นก็เป็นเพราะความเครียดและความกดดันที่สัตว์ได้รับในระหว่างการแสดง ทำให้สิงโตตัวนั้นเกิดอารมณ์เสียขึ้นมา ซึ่งตัวเขาเองก็ยอมรับว่า ในกรณีที่สัตว์ป่าเกิดก้าวร้าวและโจมตีคนขึ้นมาระหว่างการแสดง มันถือเป็นความผิดพลาดของผู้ฝึกสอนเอง เขากล่าวว่า “พวกมันเป็นลูกของผม  ผมรู้ว่าอะไรแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ แต่มันจะไม่จบลงด้วยความตายหรอก…

สังคมในปัจจุบันนี้เปิดกว้างเรื่องเพศมากขึ้น นอกจากผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศแล้ว ตอนนี้มีคนที่เปิดตัวว่า “ไร้เพศ” อีกด้วย หลายๆ คนก็พยายามที่จะปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมโลกอย่างเท่าเทียมกัน แต่เพียงการดูจากภายนอก เราไม่อาจรู้ได้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีเพศสภาพอย่างไร และชอบคำเรียกตัวแบบไหน เช่น เขา หรือ เธอ หรือ ใช้คำกลางๆ ที่ไม่มีการบ่งถึงเพศชัดเจน     เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการเข้าใจผิดในเพศของนักเรียน ทางโรงเรียนหลายๆ แห่งในเมือง Brighton ประเทศอังกฤษ ได้แจกสติกเกอร์ที่จะช่วยบอกให้คนอื่นๆ รู้ว่า คนที่ติดมันไว้อยากให้เรียกว่า เขา เธอ หรือ คำกลาง (they) ซึ่งจะมีสติกเกอร์ของโครงการ และสติกเกอร์เปล่าๆ ให้นักเรียนได้เขียนคำที่ต้องการลงไปเองด้วย     ความใส่ใจแบบนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นที่นี่เป็นที่แรก แต่เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มหาวิทยาลัย Edinburgh เองก็มีโครงการทำนองนี้เช่นกัน นักศึกษาแต่ละคนจะติดเข็มกลัดบอกคำสรรพนามที่ตนใช้ ทางผู้ทำแคมเปญในเมือง Brighton นั้นได้กล่าวจึงโครงการนี้ว่า “ปัญหาของมันคือหลายคนมองว่า การเข้าใจผิดเรื่องเพศสภาพแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร”   ตัวอย่างสติกเกอร์ (อันนี้เป็นแบบที่ชาวเน็ตทำแจกกันเองนะ) 📢 Hey there!…

แฟนๆ มาร์เวลที่เป็นเกมเมอร์คงสนุกสนานกับเกม Spider-Man กันไปเมื่อปีที่แล้ว #เหมียวม่วง (ที่ไม่มีเงินซื้อตั้งแต่เครื่อง PlayStation 4 แล้ว) ก็ได้แต่อิจฉาคนได้เล่น ความรู้สึกในการบังคับน้องสไปดี้ห้อยโหนโจนทะยานไปตามตึกสูงในนครนิวยอร์กคงเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ แต่นอกจาก Spider-Man แล้วอีกตัวละครที่ #เหมียวม่วง ชอบมากๆ ก็คือ โทนี่ สตาร์ก หรือ Iron-Man นั่นเอง ทุกคนเคยคิดจินตนาการกันหรือเปล่าว่า ถ้าเราเหาะขึ้นไปในอากาศได้แบบนั้นคงเจ๋งไม่น้อยเช่นกัน     และตอนนี้ความฝันของหลายๆ คนกำลังจะเป็นจริงแล้ว เมื่อวันที่ 25 มีนาคมได้มีคลิปวิดีโอตัวอย่างเกม Marvel’s Iron Man VR ออกมาเรียกน้ำย่อยแล้ว ซึ่งทาง Camouflaj ทีมผู้พัฒนาเกมก็ได้ปล่อยตัวอย่างการเล่นออกมาให้ชมเล็กน้อยเช่นกัน     ผู้ที่ได้ทดลองเล่นตัว Demo กล่าวว่า เขารู้สึกเหมือนตัวเองรับบทเป็นโทนี่ สตาร์กที่กำลังเรียนรู้การใช้งานชุดของตัวเองอยู่ โดยการขยับจอยของ PlayStation Move ไปในทิศทางต่างๆ เพื่อบินและโจมตี และมันเจ๋งมากๆ แม้ว่าบางทีเขาจะเริ่มสับสนว่าแขนไหนเป็นแขนซ้ายและแขนขวาก็ตาม   https://thumbs.gfycat.com/BronzeLankyGar-mobile.mp4…

หลายคนฝันอยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ ตกแต่งหรูๆ หรือตกแต่งในธีมหนัง การ์ตูน หรือเกมในดวงใจ การได้ใช้ชีวิตในบ้านในฝันแบบนั้นคงมีความสุขไม่น้อย แต่ในเมื่อปัญหาของเราตอนนี้คือเรื่องเงิน (ฮา) ดังนั้นเราไปเติมเต็มความฝัน้วยการดูบ้านของคนอื่นไปพลางๆ ก่อนก็ไม่เสียหายอะไรนะ วันนี้เราจึงจะพาไปชมความงามของคฤหาสน์หรูแห่งหนึ่งในฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังเปิดขายในราคา 20 ล้านยูโร (ประมาณ 714 ล้านบาท) จะสวยงามแค่ไหน ไปดูกันดีกว่า   . คฤหาสน์หลังนี้ตั้งอยู่แถวชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐฟลอริดา บนพื้นที่ราว 2,508 ตารางเมตร ภายในมีห้องนอน 9 ห้อง ห้องน้ำใหญ่ (มีทั้งที่อาบน้ำและปลดทุกข์) 10 ห้องและห้องน้ำแบบไม่มีที่อาบน้ำอีก 6 ห้อง มีห้องเก็บไวน์ และโรงหนังซึ่งสร้างจำลองฉากยาน USS Enterprise ในภาพยนตร์เรื่อง Star Trek ไม่ใช่แค่มาในธีมหนังเท่านั้น บนพื้นยังติดตั้งระบบสั่นสะเทือนเพื่อให้การดูหนังของคุณน่าตื่นเต้นเหมือนนั่งในยานอวกาศอย่างไรอย่างนั้นเลย เก้าอี้ชมภาพยนตร์ทั้ง 11 ที่นั่งก็สามารถปรับนอนได้ด้วย     นอกจากนี้ภายในยังมีห้องเกมอาร์เคดที่มีตู้เกมมากมาย มีบาร์ในธีม Star Trek อีกเช่นกัน มีสระว่ายน้ำขนาด…

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2019 ที่ประเทศอังกฤษ เด็กหญิงวัย 12 ปีผู้เสียหาย นั่งรถเมล์หมายเลข 33 เข้าไปในเมืองเบอร์มิงแฮมกับเพื่อนของเธออีก 3 คน โดยเด็กหญิงทั้ง 4 คนขึ้นไปนั่งที่ชั้นบนของรถเมล์ก่อนที่จะมีกลุ่มชายวัยรุ่นราว 6 คน อายุอยู่ในช่วง 20 ต้นๆ ขึ้นมาบนรถ ชายทั้ง 6 คนเข้าประชิดตัว และเริ่มลวนลามและคุกคามทางเพศกลุ่มเด็กหญิง     เพื่อนๆ ของเด็กเคราะห์ร้ายตกใจวิ่งหนีลงจากรถโดยทิ้งเธอไว้บนรถคนเดียว เด็กหญิงที่หนีจากรถไม่ทันถูกล่วงละเมิดทางเพศบนนั้น ก่อนที่กลุ่มชายวัยรุ่นทั้งหมดจะลงจากรถไปบริเวณใจกลางเมือง คุณแม่ของเหยื่อกล่าวว่า “ไม่มีคำพูดไหนสามารถอธิบายความรู้สึกของฉันตอนลูกโทรมาเล่าเหตุการณ์ได้เลย ฉันรู้สึกไร้ค่า ที่ไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้นเพื่อปกป้องลูก ตอนที่เธอต้องการฉันมากที่สุด     เราโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ยังไม่มีตำรวจเข้ามาคุยกับเราเลย ลูกสาวของฉันทั้งช็อคและหดหู่มาก เพราะพวกนั้นมาด้วยกันตั้ง 6 คน บนชั้น 2 ของรถไม่มีใครเลย พวกนั้นเข้ามาใกล้ลูกฉันกับเพื่อนๆ ของเธอ เพื่อนๆ เองก็โดนลวนลาม พวกเธอเลยรีบวิ่งหนีลงไปจากรถ แต่ลูกสาวฉันติดอยู่บนนั้นกับพวกมัน”  …

แต่ละบ้านก็มีการเลี้ยงลูก และวิธีการทำให้ลูกตั้งใจเรียนที่ต่างกันออกไป บางบ้านอาจใช้วิธีให้รางวัลด้วยของที่อยากได้ หรือพาไปเที่ยวที่ที่ลูกอยากไป แต่หากลูกๆ มีผลการเรียนที่ต่ำกว่าที่ผู้ปกครองคาดหวังไว้ล่ะ? บางบ้านก็อาจจะมีการลงโทษตามแต่ที่เห็นสมควรซึ่งวิธีการบางอย่างนั้นเราก็ไม่อาจบอกได้เต็มปากว่าดีหรือไม่ดี ควรหรือไม่ควร เอาเป็นว่าลองไปดูเรื่องของหนุ่มน้อยคนนี้กันดีกว่า     Tre Cosby เป็นคุณพ่อของเด็กชาย Tracey และในวันหนึ่ง Tracey กลับมาจากโรงเรียนพร้อมกับเกรดที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก… Tre ตัดสินใจลงโทษลูกในเรื่องผลการเรียนดังกล่าว ซึ่งเขาเชื่อว่าสาเหตุมาจากการที่ลูกชายติดวิดีโอเกมมากเกินไปจนทำให้ละเลยเรื่องการเรียน     เขาถ่ายคลิปวิดีโอตนเองหยิบเครื่องเกม Play Station 4 ที่เป็นของรักของ Tracey ใส่ลงในถุงพร้อมกับบอกว่า “เฮ้ ชาวโลก แล้วก็เป็นอีกครั้งแล้วกับเด็กๆ พวกนี้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกนี้ มันทำให้พวกเขาไม่อยากจะทำตัวดีๆ กัน เดาสิว่าผมจะทำะไร เครื่อง PS4 ของลูกชายคนเล็กของผมจะต้องถูกทำลายไปซะ “แล้วรู้ป่าวว่า คราวนี้ผมจะไม่ใช่คนลงมือ” เขาพูดอีกว่า “เมื่อเช้าลูกก็ดูวิดีโอยูทูบผ่านไอ้เครื่องนี่อีกแล้ว แล้วจำได้มั้ยว่าพ่อเคยบอกว่าถ้าทำอีกจะเกิดอะไรขึ้น บอกแล้วใช่มั้ยว่าเครื่องเกมนี้จะโดนพัง หันไปพูดกับกล้องซะว่าลูกไม่ฟังที่พ่อบอก”     ต่อมาพวกเขาออกไปที่หน้าบ้าน Tracey ที่อยู่ในคลิปด้วยนั้นสวมเสื้อที่พิมพ์ตัวหนังสือไว้ว่า “กิน นอน Fornite…

Xu Wenbin ถูกชายคนหนึ่งลักพาตัวไปในระหว่างที่เขาเดินจากโรงเรียนกลับบ้านในเดือนเมษายน ปี 1998 ตอนนั้นเขาอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น เด็กชายเดิมทีเกิดในเฉิงกู เทศมณฑลฮั่นจง มณฑลส่านซี ถูกขายต่อให้กับครอบครัวหนึ่งในมณฑลเหอเป่ย ซึ่งห่างจากบ้านเกิดถึง 1,200 กิโลเมตร และได้ชื่อใหม่ว่า Zhang Hao   Xu Wenbin หรือ Zhang Hao คือเด็กที่ยืนด้านขวา   แม้จะต้องอาศัยอยู่กับครอบครัวที่ซื้อตัวเขามา แต่ตัวเขาเองยังคงจดจำและคิดถึงพ่อแม่ที่แท้จริงของตนเองเสมอ และฝันว่าวันหนึ่งจะได้กลับไปหาครอบครัวที่เขารัก ตัวพ่อแม่ของเขาเองก็ตามหาเขาทุกวิถีทาง ในปี 2000 พ่อแม่ของเขาได้ให้ตัวอย่าง DNA ไว้กับเจ้าหน้าที่ฐานข้อมูลประชากรแห่งชาติ และเมื่อวันเวลาผ่านไปจนปี 2018 นาย Hao หรือ Wenbin ก็ได้ส่ง DNA ของตนเองไปยังฐานข้อมูลประชากรเช่นกัน     ไม่มีข้อมูลกล่าวถึงเหตุผลที่ว่าทำไมนาย Hao ถึงไม่พยายามขอความช่วยเหลือจากทางการในการตามหาพ่อแม่ก่อนหน้านี้ รวมทั้งไม่มีรายงานว่าที่ผ่านมาชีวิตของเขาเป็นอย่างไรในช่วงที่ถูกลักพาตัว และครอบครัวที่ซื้อเขาไปได้รับโทษใดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม DNA ที่เขาได้ส่งมอบให้ทางการนั้นช่วยยืนยันตัวตนของเขาได้ในที่สุด เมื่อวันที่…

เมื่อปี 2017  Keevonna Wilson นางแบบสาวผู้โด่งดังในอินสตาแกรมถูกกล้องวงจรปิดจับภาพขณะเธออยู่ในลิฟต์ของอพาร์ทเมนต์ที่เธอพักอยู่ในรัฐฟลอริดา     ในคลิปนั้นเธอเดินตามสุนัขพันธุ์ผสมชิสุ-ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียเข้ามาในลิฟต์ ก่อนเธอจะเดินต้อนมันเข้าไปที่มุมลิฟต์แล้วเริ่มใช้เท้าเตะเข้าที่ลำตัวของมันหลายครั้ง ขณะที่สุนัขตัวดังกล่าวเดินหนีไปอีกมุมหนึ่ง เธอก็เดินตามไปกระทืบมันซ้ำๆ ตัวเธอนั้นอ้างว่าที่ทำร้ายสุนัขของตนเป็นเพราะโมโหที่มันฉี่ในลิฟต์ ด้านองค์กรสงเคราะห์สัตว์ได้เข้าไปช่วยเหลือสุนัขของเธอมาอยู่ในการดูแล พบว่ามันมีรอยช้ำที่ท้องหลายแห่ง หลังจากนั้นพวกเขาจึงหาบ้านใหม่ให้มัน     Wilson ถูกจับกุมตัวในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ แต่เธอปฏิเสธข้อกล่าวหาและเรียกร้องให้คณะลูกขุนพิจารณาคดี ก่อนที่เธอจะได้ประกันตัวแบบมีเงื่อนไขออกไปด้วยจำนวนเงิน 5,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 160,000 บาท)     ในการพิจารณาคดีเดือนมีนาคม 2019 Wilson ยอมรับการถูกคุมความประพฤติ 4 ปีและจ่ายค่าธรรมเนียมศาล 598 ดอลลาร์ (ประมาณ 19,000 บาท)   คลิปเหตุการณ์ https://www.youtube.com/watch?v=-Dzj5OHN1sA   ที่มา This is Insider และ miamiherald

เมื่อปลายปีที่แล้วทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุคนทะเลาะกันในเมือง Markinch เขตพื้นที่สภาชุมชน Fife ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงก็พบว่าเป็นเหตุทะเลาะระหว่างนาย George Smith วัย 26 ปีนั้นกับเพื่อนบ้านของเขาเอง สาเหตุการทะเลาะนั้นไม่ได้เปิดเผยแต่ ทั้งคู่ทะเลาะกันจนถึงขั้นนาย Smith ถ่มน้ำลายใส่คู่กรณีอย่างน้อย 3 ครั้ง จนเพื่อนบ้านเป็นฝ่ายหกล้มลงไปกับพื้น     นาย Smith ไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขาตามลงไปพยายามถูไถไปบนร่างกายของเพื่อนบ้านที่ล้มคว่ำกันพื้น หลังจากนั้นเขาก็ลุกเดินหนีออกมา ก่อนจะปลดกางเกงของตัวเองลง จับไอ้หนูของตัวเองแกว่งไกวไปมา ในตอนที่เจ้าหน้าที่มาถึงนาย Smith กำลังจะหนีไปพอดี จึงตามไปรวบตัวมาสอบสวนในที่สุด ในการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน Catherine Fraser บอกว่า     นาย Smith ขัดขืนการจับกุม และดิ้นรนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่กุญแจมือเขา แถมยังท้าตำรวจต่อยอีกด้วย หลังจากโดนแจ้งข้อกล่าวหาเขากลับบอกว่าจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย แล้วเสริมว่า “ถ้าคุณเห็นขนาดของไอ้หนูผมล่ะก็ คุณก็อยากแกว่งโชว์เหมือนกันแหละ” ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคิดว่านาย Smith นั้นก่อเหตุไปเนื่องจากความเมา นาย Smith ถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย…

นิสัยสุนัขขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูและฝึกสอน แม้เป็นสุนัขที่นิสัยพื้นฐานดุร้ายและหวงถิ่น แต่ถ้าผ่านการดูแลและฝึกที่ดีมาก็จะไม่ทำร้ายคนสุ่มสี่สุ่มห้า แต่สัญชาตญาณของสัตว์นั้นมันมีอะไรที่เราไม่อาจคาดเดาได้ 100% เพราะฉะนั้นเจ้าของสุนัขจึงควรจะจับตาดูสุนัขพันธุ์พิเศษของตนเองเอาไว้ ไม่ว่ามันจะอยู่นอกบ้านหรือในสวนหลังบ้าน เพราะสิ่งไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นจนสร้างความเสียหายร้ายแรงเอาได้     เด็กชาย Jaysiah Chavez วัย 2 ขวบ อาศัยอยู่กับครอบครัวที่บ้านหลังหนึ่งในเมือง Fresno รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในขณะที่เขากำลังเล่นอยู่ในสวนหน้าบ้านของตนเอง ก็เกิดเหตุร้ายที่ไม่มีใครคาดคิด สุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ 2 ตัวหลุดมาจากบ้านของเพื่อนบ้าน พวกมันกระโจนข้ามรั้วเข้าจู่โจมเด็กชายที่อยู่ในบริเวณสวนของบ้านของตนเอง ปู่และย่าของเด็กชายที่อยู่ไม่ไกลเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงรีบวิ่งมาช่วยหลายชายของตน     ทั้งคู่พยายามแยกสุนัขออกจากตัวของหลานโดยฉวยเอาสายยางที่อยู่ใกล้มือมาช่วย โดยฝ่ายคุณย่านั้นก็โดนกัดจนได้รับบาดเจ็บการจากเข้าไปช่วยหลานชายอย่างสุดความสามารถ จนสุดท้ายสุนัขสองตัวก็วิ่งหนีไป คุณปู่จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ เด็กชาย Jaysiah ถูกรุมขย้ำบาดเจ็บสาหัส ทางหน่วยแพทย์ที่ได้รับแจ้งเหตุเข้ามาทำ CPR ให้เด็กชายเคราะห์ร้ายก่อนจะนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที แต่ก็ไม่ทันการณ์ Jaysiah เสียชีวิตในระหว่างทาง ก่อนที่จะไปถึงมือแพทย์ ทางตำรวจรายงานว่าสุนัขทั้ง 2 ตัวนั้นหนีไปจากจุดเกิดเหตุก่อนที่ตำรวจจะตามไปพบตัวห่างจากบ้านของเหยื่อหลายช่วงตึก ก่อนที่ตำรวจจะตามไปถึงบ้านของเจ้าของสุนัข พบว่าพวกมันเคยถูกขังอยู่ในสวนหลังบ้านและมีร่องรอยที่แสดงให้เห็นว่ามันพยายามหนีออกจากบ้าน   ร่องรอยที่สุนัขพยายามหลบหนีจากบ้านของเจ้าของ   ร็อตไวเลอร์ทั้ง 2 ตัวถูกนำตัวส่งให้กับทางสมาคมป้องกันการทารุณกรรมสัตว์…

หลายๆ คนมีความหลงใหลและอยากมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะให้ไปบุกป่าฝ่าดงเองก็ดูจะอันตรายเกินตัวไปหน่อย ทางออกของพวกเราก็คือ “สวนสัตว์” ที่รวบรวมสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ จากหลายๆ พื้นที่มาให้คนได้ไปเยี่ยมชม ส่วนมากทางสวนสัตว์ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลเหล่าสัตว์อย่างดี ให้กินอิ่มนอนอุ่น ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย แต่อีกด้านหนึ่ง…สวนสัตว์บางแห่งที่ดำเนินการต่อไปไม่ได้ กลับทอดทิ้งเหล่าสัตว์เอาไว้เบื้องหลัง…     ภาพที่ทุกคนจะได้เห็นต่อไปนี้อาจจะสะเทือนใจคนรักสัตว์อยู่บ้าง เมื่อสวนสัตว์  Parque Zoologico Prudencio Navarro ที่ประเทศสเปนปิดตัวลงไปเมื่อ 2 เดือนก่อน เนื่องจากมีการร้องเรียนว่าทางสวนสัตว์ดูแลสัตว์ไม่ดี และมีสัตว์เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง เมื่อสวนสัตว์ปิดตัวไปนักกิจกรรมก็ตั้งข้อสงสัยว่าหน่วยงานรัฐของเมือง Ayamonte ผู้ดำเนินกิจการ อาจไม่ได้ทำเรื่องส่งสัตว์ที่เหลือให้หน่วยงานหรือสวนสัตว์อื่นดูแลต่อ ปล่อยให้ชะตากรรมของพวกมันเป็นปริศนามาตลอดหลายสัปดาห์ จนกระทั่งมีถ่ายภาพจากสวนสัตว์ดังกล่าวเผยให้เห็นภาพสะเทือนใจ     ภายในสวนสัตว์ที่ปิดกิจการไปแล้วมี หมี เสือ ลิงบาบูน และสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ในกรงที่ไม่ได้ทำความสะอาด ไม่เพียงเท่านั้นประตูของหลายๆ กรงก็ไม่ได้ปิดเอาไว้ ซึ่งเสี่ยงต่อการที่สัตว์จะหลุดออกไปจนเกิดอันตรายต่อพวกมันและชุมชนบริเวณนั้นด้วย   นาย Pedro Terrados โฆษกของ Proyecto Gran Simio (Great Ape Project) องค์กรเกี่ยวกับวานรวิทยาได้กล่าวว่า…

สาวๆ สายรักการโดนถ่ายรูป อยากให้รูปเป๊ะๆ ปังๆ ไปลงเฟซบุ๊ก ไอจี อวดเพื่อนๆ ล่ะก็คงพอรู้ว่ากว่าเราจะหามุม หาฉากสวยๆ กว่าจะหามุมที่เราดูหน้าเรียว แขนเล็ก ขาสวย บังพุงตัวเองได้มันลำบากขนาดไหน ถ้าโดนใครไม่รู้มาโฟโต้บอมบ์แย่งซีนสวยของเรามันแสนสุดจะเซ็งในหัวใจ     ยิ่งถ้าเป็นการถ่ายแบบเป็นเรื่องเป็นราวด้วยแล้ว กว่าจะจัดแสง จัดท่าอะไรต่อมิอะไร รายละเอียดมันเยอะมากๆ แล้วดันมาโดนคนที่บังเอิญอยู่แถวนั้นมาเข้ากล้องด้วยน้าตาท่าทางที่เด่นกว่านางแบบ มันจะเป็นยังไง…? คลิปการถ่ายแบบดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ผู้หนึ่ง ในคลิปจะเห็นว่านางแบบสาวในชุดบิกีนี่สีแดงสุดเซ็กซี่กลังทำงานของเธอ คือการโพสท่าไปเรื่อยๆ ให้ตากล้องถ่าย     ทุกอย่างดูดีมากๆ จนกระทั่ง….   ลุ๊งงงงงงงงงงงงง   ชิลๆ ยิ้มๆ อารมณ์ดีมาก   คลิปดังกล่าวทำเอาชาวเน็ตฮากันกลิ้ง จนมียอดรับชมไปเกือบ 2 ล้านครั้ง รีทวีตไป 15,000 ครั้ง และกดถูกใจอีก 82,000 ครั้ง   ไปลองดูเป็นภาพเคลื่อนไหวกัน https://twitter.com/sgroi_carmelo/status/1108816200048484353   จากการสังเกตในคลิป ช่วงที่คุณลุงเดินผ่านกล้องมาตัวนางแบบก็หันไปเห็นด้วย เพราะฉะนั้นตัวเธอก็รู้อยู่แล้วล่ะว่ามีคนเดินผ่านฉาก แต่ก็คงมั่นใจในฝีมือการตัดต่อของทีมงานว่าจะเอาคุณลุงออกไปจากภาพได้แบบเนียนๆ…

ที่ผ่านมาเหล่านักดื่มคงจะเคยเห็นชุดความเชื่อที่ส่งต่อกันมาว่ากิน xxx แล้วจะทำให้เป่าเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ไม่ขึ้นซึ่งหลายคนก็อาจจะเคยลองโกงเครื่องด้วยวิธีเหล่านั้นมาบ้าง และคุณก็จะพบว่าความน่าเชื่อถือของมันก็มีค่าเท่ากับมะนาวโซดารักษามะร็งนั่นเอง วันนี้เราก็มีวิธีใหม่มานำเสนอให้ลองกัน เมื่อชายชาวอเมริกันวัย 49 ปีชื่อ Efren Mencia-Ramirez ที่คาดว่าจะดื่มหนักมากๆ จึงซิ่งรถด้วยความเร็วแถมเป๋ข้ามเลนไปมาบนถนนสายหนึ่งในเคาน์ตี้ Spartanburg  รัฐเซาธ์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกาเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา     แน่นอนว่าพ่อหนุ่มคนนี้ก็โดนคุณตำรวจเรียกให้จอดเพื่อตรวจสอบตามระเบียบ แต่ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะเข้าไปถึงตัวรถนั้น พวกเขาก็สังเกตเห็นว่านาย Efren คนขับนั้นหยิบกระป๋องสเปรย์ระงับกินกายยี่ห้อดังขึ้นมา แล้วฉีดเข้าไปในปากตัวเองเฉยเลย ภายหลังทราบว่าเขาทำไปเพราะคิดว่ากลิ่นสเปรย์จะช่วยกลบกลิ่นแอลกอฮอล์ในลมหายใจได้…แต่ก็อย่างที่ทางแคทดั๊มบ์เคยนำเสนอไปว่า แอลกอฮอล์น่ะมันเข้าไปในกระแสเลือดและเครื่องเป่ามันก็จับค่าแอลกอฮอล์จากลมหายใจที่ออกมาจากปอด ไม่ใช่จากช่องปาก     เพราะงั้นไม่ว่าคุณจะกลบกลิ่นในปากด้วยวิธีใดมันก็หลอกเครื่องเป่าไม่ได้หร๊อกกกก ดังนั้นพ่อหนุ่มคนนี้จึงหลอกคุณตำรวจได้ไม่สำเร็จ แต่นอกจากจะหลอกเครื่องเป่าไม่ได้ เขายังมีเบียร์เป็นแพ็คแบบ 12 กระป๋องอยู่ในรถด้วย แถมเปิดไปแล้ว 11 กระป๋อง ซึ่ง 10 จาก 11 กระป๋องนั้นกินใกล้จะหมดแล้ว พอโดนจับเป่าเครื่องก็บอกค่าแอลกอฮอล์ในตัวเขาว่ามันสูงเป็น 2 เท่าจากที่กฎหมายกำหนดเลยทีเดียว งานนี้พ่อหนุ่มคนนี้เลยโดนแจ้งข้อหาเต็มๆ ทั้งขับขี่ขณะมึนเมา มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เปิดบรรจุภัณฑ์แล้วในยานพาหนะ รถไม่มีประกัน แถมไม่มีใบอนุญาตขับขี่ของรัฐเซาธแคโรไลนาอีกด้วย     เอาจริงๆ แล้วถือเป็นโชคดีที่เขาไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะฉีดสารเคมีเข้าปากตรงๆ แบบนั้น…

เป็นเรื่องราวฮือฮาขึ้นมาทันทีเมื่อคุณแม่ชาวจีนรายหนึ่งถูกบังคับให้สารภาพความจริงว่าเธอนอกใจสามีของตนเอง หลังหนึ่งในลูกชายฝาแฝด มี DNA ไม่ตรงกับสามี เรื่องนี้เกิดขึ้นทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง Xiamen หญิงคนหนึ่งคลอดลูกฝาแฝดออกมาเมื่อปีที่แล้ว และตามข้อกำหนดของทางการพ่อแม่ต้องลงทะเบียนเด็กเกิดใหม่ และต้องแนบเอกสารยืนยันการเป็นพ่อแม่ไปด้วย     ฝ่ายสามีนามสมมุติว่า เสี่ยวหลง นั้นสังเกตเห็นว่าลูกชายฝาแฝดคนหนึ่งหน้าตาดูไม่เหมือนเขาเอาซะเลย เมื่อผล DNA ออกมาปรากฏว่าลูกชายคนดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับเขาทางสายเลือดเลย หลังเห็นผลตรวจนายเสี่ยวหลงก็คิดทันทีว่าภรรยานอกใจเขา เขาจึงโกรธมากๆ และไปสอบถามภรรยาของตน ในทีแรกภรรยาปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้นอกใจ และโทษว่าเขาเป็นฝ่ายดูผลตรวจผิดเอง     หลังจากคุยกันไปสักพัก สุดท้ายฝ่ายภรรยาก็ยอมรับว่าเธอเคยไปมีเพศสัมพันธ์กับชายอื่น ซึ่งเป็นคนที่เธอนอนด้วยแค่คืนเดียวเท่านั้น ทางฝั่งเสี่ยวหลงนั้นก็บอกว่า เขายินดีมากที่จะได้มีลูก เลี้ยงลูกของเขาเอง แต่เขาทำใจเลี้ยงลูกของชายอื่นไม่ได้จริงๆ…     อย่างไรก็ตามกรณีเด็กฝาแฝดเกิดจากพ่อคนละพ่อนั้นเป็นเคสที่หายากในมนุษย์ เรียกว่าภาวะ Heteropaternal superfecundation ซึงเกิดจากการที่ผู้หญิงผลิตไข่ 2 ใบออกมาในช่วงมีประจำเดือน 1 รอบ และไปมีเพศสัมพันธ์กับชาย 2 คนในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ปกติจะเกิดขึ้นในสัตว์เช่น สุนัขและแมว   ที่มา Metro และ nzherald

ในวัยเรียนนั้น เด็กวัยรุ่นส่วนมากมักไม่ค่อยมีรายได้ เพราะแค่เรียนหนังสือก็ทั้งเครียด ทั้งเหนื่อย แบกรับความคาดหวังต่างๆ ไว้บนบ่า อย่าว่าแต่หารายได้เสริมเลย บางคนเวลาผ่อนคลายจากการเรียนยังแทบไม่มี แต่ก็ยังมีคนอีกไม่น้อยที่สามารถหางานทำระหว่างเรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยแบ่งเบาทางบ้าน หาประสบการณ์ หรือส่งตัวเองเรียนก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าชื่นชม     นักศึกษาสาวผู้ไม่ประสงค์ออกนามจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก วัย 21 ปีคนนี้ก็เช่นกัน เธอมีรายได้เสริมเป็นเม็ดเงินมหาศาลจากการทำธุรกิจเล็กๆ อย่างการขาย “ชุดชั้นใน” มันไม่ใช่ชั้นในธรรมดาๆ แต่เป็นชั้นในใช้แล้ว…โดยเธอเอง     เธออธิบายว่าเริ่มแรกเธอเคยเป็นสาวเว็บแคม และเธอก็ได้ไอเดียธุรกิจมาจากการเห็นแฟนๆ อยากซื้อชุดชั้นในของเธอ ต่อมาเธอจึงลงทุนซื้อชั้นในจำนวนมากมาในราคาถูกๆ แล้วเอามาใส่ แล้วก็ขายต่อไปในราคาราวตัวละ 90 ยูโร (3,200 บาท) แต่ราคาอาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาว่าเธอสวมมันไว้นานแค่ไหน และเธอสามารถเก็บเงินเพิ่มได้อีกหากว่าลูกค้าอยากได้รูปเซลฟี่ตอนเธอกำลังสวมชั้นในตัวที่พวกเขาซื้อ เธอกล่าวถึงธุรกิจที่เธอทำไว้ว่า “เอาจริงๆ นะ การขายชั้นในแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกมีพลังอำนาจเอามากๆ เพราะฉันได้ควบคุมร่างกายตัวเองอย่างใจคิด”     “ฉันรู้สึกเยี่ยมมากๆ ที่ได้มอบทางออกที่ดีต่อสุขภาพให้กับเหล่าผู้คนที่มีรสนิยมแนวนี้ และฉันก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองจะตกอยู่ในอันตรายการจากทำแบบนี้เลย” นอกจากนี้เธอยังทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ และรับจ้างพาสุนัขไปเดินเล่นอีกด้วย รวมๆ แล้วปีนึงเธอมีรายได้ราว 30,000 ยูโร …

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่เมือง Marbella ในภูมิภาค Costa del Sol ทางใต้ของประเทศสเปน เกิดเหตุสุนัขโดนวางยาจนตาย 6 ตัว โดนสุนัขผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 6 นั้นล้วนเป็นสุนัขของชาวอังกฤษที่อยู่ในละแวกนั้น และเมื่อเรื่องราวดังกล่าวเป็นที่ฮือฮาขึ้นมา มันจึงทำให้ผู้คนพบว่า ไม่เพียงสุนัข 6 ตัวนี้เท่านั้น แต่ยังมีสุนัขอีกราว 21 ตัวที่ถูกวางยาจนตายในช่วง 2 ปีนี้ นอกจากนี้ยังมีสุนัขถูกฆ่าแถวสนามเด็กเล่นใน La Campana อีก 15 ตัว และอีก 6 ตัวที่ทะเลสาบ Istan     เหล่าคนรักสัตว์ในแถบนั้นโดยเฉพาะชาวอังกฤษต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวงว่าสัตว์เลี้ยงของใครจะเป็นเป้าหมายต่อไปของฆาตกร ชาวอังกฤษคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขพันธุ์ยอร์กเชียร์เทอร์เรียร์กล่าวว่า “ไม่มีสุนัขตัวไหนอยู่อย่างปลอดภัยแล้วตอนนี้” Philip Rawlings 1 ในเจ้าของสุนัขที่ถูกวางยาเมื่อปีที่แล้วบอกว่า “มันเลวร้ายมาก เจ้า Ruby หมาของผมอยู่ดีๆ ก็เดินเป๋ แล้วมันก็อ้วกและถ่ายออกมาอย่างหนัก แล้วไม่กี่นาทีต่อมามันก็อ่อนแรง แล้วมีน้ำลายฟูมปาก” แต่โชคดีที่เจ้า Ruby ถึงมือหมอทันเวลา มันจึงรอดมาได้  …

Ruth Maguire ว่าที่เจ้าสาววัย 30 ปี มีกำหนดจะเข้าพิธีวิวาห์ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ กับคู่หมั้นของเธอ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว Ruth จัดงานปาร์ตี้สละโสด โดยมีเพื่อนๆ ร่วม 30 คนมาร่วมสังสรรค์กันที่บาร์แห่งหนึ่งในเมือง Carlingford เคาน์ตี้ Louth ประเทศไอร์แลนด์     ในช่วงดึกของคืนวันเสาร์ที่จัดงาน Ruth ได้หายตัวไป โดยมีคนเห็นเธอครั้งสุดท้ายตอนห้าทุ่มครึ่ง เมื่อเพื่อนๆ สังเกตเห็นว่าเธอหายไปจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เริ่มการค้นหาในวันรุ่งขึ้น กำลังตำรวจทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ รวมทั้งสุนัขตำรวจถูกเกณฑ์มาช่วยกันตามหาว่าที่เจ้าสาวที่หายตัวไป จนกระทั่งวันจันทร์จึงพบร่างไร้วิญญาณของเธออยู่ในน้ำแถวชายฝั่ง Greenore ห่างจากเมืองที่จัดงานปาร์ตี้ไป 5 กิโลเมตร ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานถึงสาเหตุของการเสียชีวิตของเธอ แต่คาดว่าน่าจะเป็นอุบัติเหตุ     ทางด้านคู่หมั้นของเธอได้กล่าวว่า “พวกเราจะคิดถึงเธอมาก…มากเกินกว่าที่ตัวเธอจะรู้ ทั้งผม ครอบครัว และลูกๆ ทั้ง 3 คน Ruth ไม่ได้เป็นแค่คู่ครอง แต่เธอคือเนื้อคู่ของผม” ในตอนที่เธอมีชีวิตเธอทำงานเป็นนางพยาบาล คอยช่วยเหลือและดูแลคนรอบข้าง นอกจากนี้ยังเป็นโค้ชอาสาให้กับทีมกีฬา และเป็นนักเต้นด้วย เธอทำเพื่อคนอื่นมามาก…

หลายๆ คนอาจเคยลองคิดภาพว่าหากตัวเองป่วยเป็นโรคร้ายแบบนี้ ก็อาจจะไม่สามารถมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับมัน และรับการรักษาที่เจ็บปวดได้ อย่างที่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญได้บอกกันว่าสิ่งที่จะสามารถฆ่ามะเร็งได้คือ รอยยิ้ม ความสุข และกำลังใจที่ดี ยิ่งสุขภาพจิตแย่ ร่างกายก็จะยิ่งโดยเจ้าเนื้อร้ายนี้กัดกิน ดูเหมือนจะง่ายนะ แต่ความจริงแล้วมันยากเอามากๆ   คุณตา Andy Steinfeldt อายุ 71 ปี เองก็เป็นผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก และต้องเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน สิ่งที่น่าชื่นชมคือคุณตาดูแลสุขภาพและออกกำลังกายด้วย และล่าสุดคุณตาไปแข่งทำท่าแพลงกิ้ง แถมยังทำลายสถิติโลกในกลุ่มของผู้สูงวัยอีกต่างหาก!! สถิติเดิมนั้นมีคนทำท่าแพลงกิ้งค้างไว้ได้นาน 36 นาที 58 วินาที แต่แล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาคุณตา Andy ก็ได้ทำลายสถิติเดิมนั้นไปด้วยเวลา 38 นาที     โดยท่าแพลงกิ้งนั้นไม่ใช่ท่านอนราบกับพื้นแบบที่กลายเป็นท่าถ่ายรูปสุดฮิตเมื่อหลายปีก่อนหรอกนะ แต่ท่าแพลงกิ้งนั้นความเป็นท่าคล้ายเวลาเราวิดพื้น ปลายเท้าแตะพื้น ดันลำตัวขึ้นโดยให้ลำตัวตรง ใช้แขนและไหล่ยันรับน้ำหนัก ซึ่งจะทำให้เราต้องเกร็งหน้าท้องและหลังส่วนล่าง ซึ่งการทำท่านี้ค้างเป็นเวลานานนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แน่ๆ มันทั้งเมื่อย และก็อาจจะน่าเบื่อสุดๆ ในระหว่างการทำจึงต้องเปิดเพลงให้คุณตาได้ฟังและร้องคลอตาม สลับกับการพูดคุยกับผู้คน เพื่อนๆ และครอบครัวที่มาเชียร์     แม้ว่าทางกินเนสเวิล์ดเรคคอร์ดจะยังไม่ได้เพิ่มช่วงอายุของผู้ทำสถิติแพลงกิ้งลงในเว็บไซต์ แต่เขาก็ได้ทำลายสถิติเดิมที่มีคนในช่วงอายุเดียวกันเคยทำไว้ได้ ส่วนคนที่ทำแพลงกิ้งได้นานที่สุดในโลกนั้นเป็นนายตำรวจชาวจีนชื่อ…

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2019 เรือขนส่งสินค้าลำหนึ่งซึ่งขนส่งรถยนต์ราว 2,000 คันแล่นไปในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยมีจุดหลายปลายทางที่ประเทศบราซิล หน่วยทหารเรือแห่งสหราชอาณาจักรได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเรือลำดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงรีบรุดเข้าช่วยเหลือ พบว่าเรือขนสินค้าลำนี้เกิดติดไฟขึ้น และลูกเรือ 27 คนเองก็พยายามดับแต่ไม่สามารถทำให้เพลิงสงบลงได้   ทางหน่วยทหารใช้เวลาราว 8 ชั่วโมงในการช่วยเหลือลูกเรือผู้ประสบภัย โดยทุกคนสามารถหนีออกมาได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ก่อนที่เรือจะจมลงไปในมหาสมุทรแอตแลนติก ในส่วนของรถยนต์ 2,000 คันนั้น มีรถหรูราคาแพงของปอร์เช่รวมอยู่ด้วยราว 37 คันและ 4 คันเป็นรถรุ่น 911 GT2 RS (ราคาคันละประมาณ 8 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรถรุ่นลิมิตเต็ดที่ผลิตเพียง 1,000 คัน ทางปอร์เช่จึงต้องแจ้งไปทางลูกค้าชาวบราซิลที่ซื้อรถไปว่า “เราขออภัยเป็นอย่างสูงที่ต้องแจ้งให้ท่านทราบว่า เนื่องจากเกิดเพลิงไหม้ ทำให้เรือสินค้าที่ขนส่งรถของลูกค้าทุกท่านมาล่มเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2019 ดังนั้นรถยนต์รุ่น GT2 RS จึงไม่อาจถูกส่งไปถึงมือของท่านได้”     ทางปอร์เช่เสนอทางแก้ปัญหาด้วยการผลิตรถรุ่นดังกล่าวขึ้นมาเพิ่มในเดือนเมษายนแทน เพื่อจะได้ส่งให้กับลูกค้าในภายหน้า นอกจากนี้จากทางข้อมูลของ Grimaldi Group…

ในช่วงที่ผ่านมานั้นประเทศซีกตะวันตกเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นอันเลวร้ายทั้งทางสหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอเมริกาที่เจอทั้งหิมะ ฝนตกหนัก ลมแรง   ทะเลสาบมิชิแกนเมื่อปลายเดือนมกราคม 2019   โดยเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมอุณหภูมิทั่วประเทศอเมริกานั้นลดต่ำลงอย่างมาก คือว่าต่ำที่สุดในช่วง 150 ปีเลยทีเดียว โดยในพื้นที่ที่อยู่ติดกับแอนตาร์กติกานั้นอุณหภูมิลดต่ำไปถึง -40 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ซึ่งทะเลสาบมิชิแกนเองก็อยู่ในพื้นที่ประสบภัยในตอนนั้นด้วยเช่นกัน     ตอนนี้สถานการณ์บางพื้นที่ก็เริ่มดีขึ้นแล้วตามลำดับ รวมทั้งที่ทะเลสาบมิชิแกนที่อากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ความงดงาม เมื่ออากาศอบอุ่นขึ้น น้ำแข็งจากหน้าหนาวก็เริ่มละลายและแตกจากกัน น้ำข้างล่างก็เริ่มไหลดันให้เศษน้ำแข็งแผ่นที่ใหญ่กว่าขึ้นมาอยู่ด้านบน ซึ่งมีให้เห็นเป็นบางจุดของทะเลสาบ   ทะเลสาบมิชิแกนเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2019 .   มันอาจจะดูสวยงาม แต่ทางหน่วยรักษาความปลอดภัยริมชายฝั่งก็ได้เตือนประชาชนที่อยากจะเข้าไปชมใกล้ๆ ว่า “ไม่มีน้ำแข็งตรงไหนที่มันปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ของปี มันจะพังทลายและแตกหักลงอย่างรวดเร็วแน่นอน” โดยเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อน พื้นที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกแห่งนี้ ยังถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งอยู่เลย     ผู้คนในประเทศก็หวังว่าจะได้พักจากความเลวร้ายของสภาพอากาศหนาวเหน็บแบบนี้เสียที ส่วนใครที่ตั้งใจจะไปชมภาพแบบนี้ที่ทะเลสาบก็อย่าเข้าไปใกล้มากเกินไปจนเป็นอันตรายกับตัวเองนะ   . . .   ที่มา LADbible

คำเตือน: บทความนี้อาจทำให้ความอยากอาหาร และความเพลิดเพลินในการทานอาหารลดลง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน   เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมามีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Grimiestt ซึ่งบอกว่าตนเองเป็นคนไร้เพศ โพสต์คลิปวิดีโอขณะตนเองแลบลิ้นเลียพื้นผิวสีขาวของขอบชักโครกบนเครื่องบิน…     คลิปความยาวเพียง 12 วินาทีแต่ทำเอาชาวเน็ตช็อกกันไปตามๆ กันหลังมันถูกรับชมไปถึง 6 ล้านกว่าครั้ง และมีคนเข้ามาแสดงความเห็นกันมากถึง 9,500 คอมเมนต์ โดยผู้โพสต์ได้ใส่แคปชั่นประกอบวิดีโอไว้ว่า “ฉันก็เลียมาเยอะนะ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ทำเอาลิ้นชาอ่ะ”     แน่นอนว่าผู้คนต่างก็รู้สึกตกใจและขยะแขยงต่อภาพที่ได้เห็น โดยมีชาวเน็ตคนหนึ่งคอมเมนต์ไว้ว่า “ลองจินตนาการว่าคุณบินไปพร้อมกับใครบางคน แล้วตอนลงจากเครื่องก็ได้มาเห็นคลิปแบบนี้บนไอจีสตอรี่ของคนๆ นั้นดูสิ…” ขณะที่ชาวเน็ตอีกคนก็ถามด้วยความสงสัยว่า “นี่เธอได้อะไรจากการทำแบบนี้เนี่ย” และมีชาวเน็ตอีกคนมาตอบว่า “แล้วเจอกันน้าาา โรคตับอักเสบ”     ชาวเน็ตอีกรายก็เข้ามาถามว่าได้ทำความสะอาดขอบชักโครกนั้นก่อนหรือเปล่า โดยที่ Grimiestt ผู้เป็นเจ้าของคลิปก็ได้มาตอบว่า “ใช่สิ ฉันทำความสะอาดก่อน ชู่ เงียบๆ ไว้นะ เพราะมันจะทำให้โพสต์กร่อย” หลังจากนั้นไม่นาน Grimiestt ก็ได้ทวีตแจ้งว่าได้มาถึงบาเซโลนาแล้ว ก่อนจะทวีตอีกว่า “ไม่อยากเชื่อเลยว่าทวิตเตอร์จะทำให้ฉันดังได้ด้วยการเลียชักโครก”   ใครใจแข็งก็สามารถดูคลิปได้ที่นี่เด้อ  …

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนเวลาเลือกซื้อสินค้าอะไรสักอย่างนั้นก็ต้องคำนึงในหลายๆ ด้าน ทั้งวัสดุ ราคา และแบรนด์ หลายๆ คนก็เลือกซื้อสินค้าที่การันตีว่ากระบวนการผลิตทั้งหมดนั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้วัตถุดิบการคนท้องถิ่น และไม่มีการละเมิดกฎหมายแรงงานเช่น ไม่ใช้แรงงานเด็ก และพนักงานทุกคนถูกจ้างงานอย่างเป็นธรรม     วันนี้เรามีสินค้าแนวรักษ์โลกอีกชิ้นมานำเสนอ มันคือรองเท้าจาก Mercer Amsterdam แบรนด์รองเท้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ทำมาจากใบสับปะรด!! ซึ่งเจ้ารองเท้าคู่นี้นั้นเป็นผลงานที่ทางแบรนด์ร่วมมือกับ Piñatex ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตวัสดุจากใบสับปะรดทดแทนการใช้หนังสัตว์     ซึ่งทางแบรนด์ก็ได้เผยรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ของตนเองว่า “รองเท้า Pinatex ทำจากใบของสับปะรด ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวสับปะรด เพราะฉะนั้นวัตถุดิบตั้งต้นนั้นเราไม่จำเป็นจะต้องผลิตขึ้นมาเองเลย” ใบสับปะรดที่ถูกนำมาใช้ทำรองเท้านั้นทางบริษัทซื้อต่อมาจากเกษตรกรในประเทศฟิลิปปินส์เพื่ออุดหนุนสินค้าจากคนท้องถิ่น นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตก็ใช้น้ำและสร้างขยะน้อยมากด้วย     หากเพื่อนๆ สนใจสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ของ Mercer Amsterdam จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2019 และหลังจากนั้นก็จะวางขายตามท้องตลาดต่อไป ราคาตกอยู่ที่คู่ละ 250 ยูโร (ประมาณ 9,000 บาท) จ้า     ที่มา Mercer Amsterdam และ Metro

ขีดความอดทนของแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน และแน่นอนว่าพวกเราต่างมีความอ่อนไหวที่แตกต่างกัน ต่อให้เป็นคนใจเย็นแค่ไหน พอถึงจุดหนึ่งย่อมต้องมีการระเบิดออกมา เรื่องราวการระเบิดอารมณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Aylesford เคาน์ตี้ Kent ประเทศอังกฤษ ช่วงเย็นวันอาทิตย์ คุณพ่อคนหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ) ได้บุกเข้ามาในร้านแมคโดนัลด์ด้วยความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะตะโกนต่อว่าพนักงานยกใหญ่     เขาตะโกนออกมาว่า “พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ทำมาผิดได้ยังไงตั้ง 2 รอบ?” โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คนอยู่ในร้านที่เกิดเหตุพอดี จึงเข้ามาระงับเหตุก่อนจะบานปลายได้ Jo Dale เป็น 1 ในลูกค้าราว 35 คนที่เห็นเหตุการณ์ และเธอได้ถ่ายคลิปช่วงเกิดเหตุเอาไว้ด้วย ซึ่งจากในคลิปก็ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่า คุณพ่อคนดังกล่าวและภรรยาของเขานั้นเป็นวีแกนทั้งคู่ และครอบครัวของเขาก็ขับรถเข้ามาสั่งเบอร์เกอร์มังสวิรัติตรงไดรฟ์ทรู แต่พนักงานกลับให้เบอร์เกอร์เนื้อมา และมันเกิดขึ้นถึง 2 รอบด้วยกัน     “เขาเข้ามาพร้อมกับภรรยาและลูก นี่ฉันถ่ายตอนที่แย่ที่สุดไว้ไม่ทันนะ คือตอนที่เข้าตึงตังๆ เข้ามา แล้วปาถุงเบอร์เกอร์ใส่พนักงาน บอกว่าจะขอคุยกับผู้จัดการและหัวหน้าออฟฟิศนี้ แล้วตอนนั้นก็มีคนพยายามเข้าไปช่วยคุยให้เขาอารมณ์เย็นลง “แล้วจากนั้นก็มีตำรวจเข้ามาซื้ออาหารพอดี ตอนหลังผู้ชายคนนั้นก็กลับออกไปโดยไม่รับอาหารของตัวเองไปด้วย รวมๆ แล้วเหตุการณ์ก็กินเวลาไปราวๆ 1 ชั่วโมง  …

เวลาอ่านการ์ตูนเรามักเจอมุกตลกคลาสสิกอย่างบุรุษไปรษณีย์โดนน้องหมาวิ่งไล่กัดกันจนชินตา ซึ่งในโลกความจริงนั้น #เหมียวม่วง ก็ไม่เคยเห็นกับตาตัวเองสักที จนบางครั้งก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมน้องหมาถึงจ้องแต่ละไล่พี่ไปรฯเท่านั้น? แต่ดูเหมือนว่าการที่บุรุษไปรษณีย์หรือพนักงานส่งของมักจะโดนหมาเขม่นคงเป็นปัญหาในระดับสากลแน่ๆ เพราะทางบริษัทส่งของแห่งสหราชอาณาจักรอย่าง Royal Mail นั้นลงทุนใช้วิธีแก้-ป้องกันแบบโคตรล้ำ!!     เจ้าวิธีแก้ปัญหาที่ว่าก็คือแว่น VR (Virtual Reality) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสร้างความเป็นจริงเสมือนขึ้นมา อธิบายแบบโง่ๆ เลยก็คือ เวลาเราใส่เจ้าเครื่องนี้แล้วมันจะเหมือนเราหลุดไปอยู่ในโลกเสมือนจริงแบบ 360 องศา มักเอาไปประยุกต์ใช้กับวิดีโอเกม ส่วนทาง Royal Mail นั้นได้นำเทคโนโลยีแว่น VR มาใช้กับโปรแกรมที่ชื่อว่า Dog Byte ซึ่งจะจำลองสถานการณ์เวลาเราไปส่งของที่บ้านลูกค้า ก่อนอื่นต้องสอดส่ายสายตาหาดูว่าบ้านนี้เลี้ยงเจ้าตูบไว้หรือไม่ และโปรแกรมจะให้เราฝึกวิธีการป้องกันตัวและหลบหลีกจากการจู่โจมของน้องนั่นเอง     ซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมฝึกการป้องกันตนเองที่ไม่ต้องไปทดลองกับสถานการณ์จริงให้เจ็บตัวทั้งหมา ทั้งคน และทาง Royal Mail ก็ทดสอบใช้งานเจ้าโปรแกรมนี้ด้วยแว่น VR ไปเกือบๆ 750 ครั้งแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2018 ผลลัพธ์ก็คือไม่มีรายงานการโดนน้องจู่โจมเกิดขึ้นเกินครึ่งของพื้นที่ที่ได้รับการฝึกด้วยระบบดังกล่าว ทางด้านผู้จัดการฝ่ายการเรียนรู้ออนไลน์ James Barton ก็ได้กล่าวว่า “เราพยายามแก้ปัญหานี้กันมานานหลายปี ทั้งรณรงค์ด้วยสื่อต่างๆ อย่างการใช้สโลแกน โปสเตอร์…

มีคำกล่าวที่ว่า “ความรักชนะทุกสิ่ง” ซึ่งมักใช้ในการเคลื่อนไหวสนับสนุนชาว LGBT แต่จากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่มัสยิดในประเทศนิวซีแลนด์นั้น เหตุการณ์อาจเกิดขึ้นจากความเกลียดชัง และมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงเอาความเกลียดชังในใจทุกคนออกมาตอบโต้กัน #เหมียวม่วง คิดว่าประโยคที่ว่า “ความรักชนะทุกสิ่ง” ก็สามารถนำมาใช้ในเหตุการณ์นี้ได้เช่นกัน เมื่อภายหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญผ่านไป มีการริเริ่มส่งผ่านข้อความและความรู้สึกดีๆ ให้กันและกัน จากผู้คนที่นับถือศาสนาคริสต์สู่ชาวมุสลิม     Andrew Graystone ชาวคริสต์จากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้รู้ข่าวก่อการร้ายในนิวซีแลนด์ เขารู้สึกสะเทือนใจมาก และคิดว่าผู้คนที่นี่จะรู้สึกอย่างไรในตอนที่พวกเขาไปละหมาดในวันศุกร์อย่างสงบ แล้วพวกเขาอาจถูกใครบางคนบุกเข้ามาทำร้าย “เราสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้ด้วยทั้งความกลัวและมิตรภาพ ผมเลยคิดว่าผมจะไปที่มัสยิดใกล้ๆ บ้านเพื่อทำให้พวกเขารู้ว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ” นักเขียนชาวอังกฤษวัย 57 ปีคนนี้จึงได้เขียนข้อความหนึ่งในไวท์บอร์ดและไปยืนอยู่หน้ามัสยิด Madina ใจความว่า “พวกคุณเป็นเพื่อนผมนะ และผมจะเฝ้าระวังให้ในระหว่างที่พวกคุณละหมาด”     ข้อความสั้นๆ ที่มีความหมายและความหวังดีมากมายในนั้นได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวมุสลิมละแวกนั้น ทุกคนพากันมาจับมือเขา บางคนก็ใจดีมอบอาหารของชาวมุสลิมให้เขาได้ลองทาน อิหม่ามประจำมัสยิดชื่อว่า Zafar Iqbal ได้พูดถึงน้ำจิตน้ำใจของ Andrew ว่า “เราเชื่ออย่างยิ่งว่าผู้คนที่นี่นั้นน่ารักและให้เกียรติซึ่งกันและกัน” “ชาวมุสลิมที่ออกจากมัสยิดไปพบกับเขาต่างก็ปรบมือให้และกล่าวขอบคุณเขาเป็นการใหญ่” ไม่เพียงแค่ Andrew เท่านั้นแต่ในหลายๆ พื้นที่ก็มีชาวคริสต์ที่ประกาศตัวให้กำลังใจชาวมุสลิมและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่นิวซีแลนด์กันอย่างท่วมท้นเลยทีเดียว   “คริสเตียนคนนี้ขอต่อต้านการเหยียดและความรุนแรงต่อชาวมุสลิม” What happen…

วันที่ 15 มีนาคม 2019 (วันนี้) เกิดเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่ง ในเมือง Christchurch ประเทศนิวซีแลนด์ คนร้ายได้บุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงใส่ชาวมุสลิมขณะกำลังสวดมนต์ในมัสยิด โดย 1 ในคนร้ายใช้กล้องโกโปรถ่ายทอดสดการก่อเหตุนองเลือดของตนบนอินเทอร์เน็ตด้วย     ภาพจากคลิปไลฟ์สตรีมดังกล่าวเผยให้เห็นว่า คนร้ายจอดรถไว้ด้านนอก ก่อนหยิบปืน 2 กระบอกเดินเข้าไปในมัสยิด แล้วรัวกระสุนใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ปลอกกระสุนกระจายไปทั่ว และยังมีภาพศพผู้คนให้เห็น เขากลับไปที่รถรอบหนึ่งเพื่อเปลี่ยนปืน ก่อนจะกลับเข้าไปกราดยิงผู้คนที่เห็นว่ายังไม่เสียชีวิต ในขณะเดียวกันทางมัสยิดที่ Linwood ก็เกิดเหตุทำนองเดียวกันขึ้น     ผู้อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า ในที่เกิดเหตุเจิ่งนองไปด้วยเลือดและมีศพมากมายเกยอยู่บนตัวของเขา ชาวมุสลิมอีกคนเล่าว่า “มือปืนเข้ามาทางประตูหน้า ทุกคนก็วิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปทางประตูด้านหลังขงมัสยิด บางคนก็ไปหลบอยู่ใต้ท้องรถ บ้างก็กระโดดข้ามรั้วหนีออกไป ส่วนผมเข้าไปหลบอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ และได้เห็นตอนคนร้ายเติมกระสุน เปลี่ยนปืน แล้วก็เริ่มกราดยิงอีกครั้ง”     มีชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ยินเสียงปืน และพบเห็นคนอย่างน้อย 4 คนนอนไม่ไหวติงบนพื้น และมีเลือดเต็มไปหมด ขณะนี้คนร้ายทั้ง 4 คนถูกจับกุมตัวได้แล้ว เป็นผู้ชาย 3 คนและผู้หญิง 1…

ทุกคนคงพอจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งการนอนร่วมห้องกับคนที่กรนเสียงดังมาบ้าง หรือบางทีก็อาจเป็นคุณเองที่กรน เอาเป็นว่าใครทนได้ก็ดีไป แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่ไวต่อเสียง และต้องทนทุกข์ทรมานกับเสียงรบกวนแบบนี้ และหญิงชาวอเมริกันวัย 47 ปี ชื่อ Lorie Morin ก็เป็นอีกคนที่จะไม่ทนกับเสียงดังกล่าว เมื่อเธอถูกตำรวจเข้าควบคุมตัวและตั้งข้อหาพยายามฆ่า และใช้อาวุธก่อเหตุรุนแรง ในวันที่ 13 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา     เหยื่อกระสุนในครั้งนี้คือนาย Brett Allgood (นามสมมุติ) เป็นแฟนหนุ่มของ Morin ซึ่งเขาถูกหามส่งโรงพยาบาล โดยปัจจุบันพ้นขีดอันตรายและอาการคงที่แล้ว หลังสอบปากคำรอบแรกทางตำรวจเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ เนื่องจาก Morin ได้ให้การว่า ตอนเกิดเหตุเธอส่งปืนให้กับคนรักก่อนที่ปืนจะลั่นใส่เขาขึ้นมา     แต่แล้วคดีก็เกิดพลิกขึ้นมาเมื่อตำรวจไปสอบปากคำฝ่ายคนโดนยิง ซึ่งเรื่องราวจากฝั่งเขานั้นเป็นหนังคนละม้วนกับแฟนสาวเลยทีเดียว โดยเขาให้การว่า ทีแรกเขาทั้งคู่กำลังดื่มและเล่นการ์ดเกมกันอยู่ ก่อนที่จะเริ่มมีปากเสียงกัน และเรื่องนอนกรนเสียงดังของเขาก็ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น ในประหว่างการทะเลาะโต้เถียงเขาก็เดินไปที่ห้องนอน Morin ที่เดินตามเขามาก็ยกปืนลูกซองเล็งมาที่เขาก่อนจะเหนี่ยวไก เขาได้ยินเสียงดัง “ตูม!” มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนเองนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น และรู้สึกเจ็บบริเวณจั๊กกะแร้ข้างขวา     หลังจากเหยื่อเล่าเหตุการณ์ฝั่งตนแล้ว Morin ก็เกิดกลับคำให้การในภายหลัง และพยายามแสดงให้เห็นถึงความเสียใจของเธอโดยการเอามือปิดหน้าร้องไห้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่เคยเห็นเธอเช็ดน้ำตาเลยตลอดการสอบสวน…

ในช่วงชีวิตคนเราคงมีคนไม่น้อยที่จะได้มีโอกาสรอดตายแบบเฉียดฉิว เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากมีประสบการณ์ใจหายใจคว่ำแบบนั้นบ่อยๆ ส่วนเรื่องราวโกงความตายที่จะมาเล่าในวันนี้นั้นเกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย เมื่อชายคนหนึ่งรอดตายจากลูกธนูมาได้แบบปาฏิหาริย์ ชายวัย 43 ปีคนดังกล่าวได้ขับรถไปยังบ้านหลังที่เขาซื้อไว้ในหมู่บ้านนิมบิน รัฐนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงเช้าวันที่ 13 มีนาคม 2019     และเขาก็ได้สังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่กลางแจ้งพร้อมกับถือคันธนูและลูกธนูในมือ เห็นดังนั้นเขาก็ไม่รอช้าหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปการยิงธนูของชายคนนั้น ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ตั้งท่าเตรียมพร้อมแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า ชายคนนั้นยิงธนูมาทางชายคนที่กำลังจะถ่ายรูป ลูกธนูพุ่งเข้าเข้ามาเสียบทะลุโทรศัพท์มือถือเป็นรู และจากแรงปะทะทำให้โทรศัพท์ในมือกระแทกเข้าที่คางของคนถือ ทำให้เขาได้แผลเล็กน้อย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บรายแรงใดๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กรมตำรวจ Richmond ได้รับแจ้งเหตุจึงรุดหน้าไปและควบคุมตัวเจ้าของลูกธนูวัย 39 ปีเอาไว้ โดยตั้งข้อหาใช้อาวุธประทุษร้ายและเจตนาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งผู้ต้องหาได้ขอยื่นประกันตัวแบบมีเงื่อนไข และจะต้องไปขึ้นศาลในวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2019 นี้     รูปภาพโทรศัพท์มือถือผู้ช่วยชีวิตเครื่องดังกล่าวถูกโพสต์ขึ้นบนเฟซบุ๊กของกำลังตำรวจนิวเซาธ์เวลส์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงของลูกธนูที่พุ่งตรงเข้ามา ถ้าหากว่าไม่ได้โทรศัพท์มาเป็นโล่ ลูกธนูดอกนี้จะเสียบเข้าที่ศีรษะของชายคนนี้พอดี ซึ่งหลังชาวเน็ตได้เห็นภาพดังล่าวต่างก็สงสัยกันว่าทำไมคนร้ายถึงไม่โดนข้อหาพยายามฆ่าอีกกระทง   https://www.facebook.com/nswpoliceforce/posts/10156626157561185?__xts__[0]=68.ARAikFcRAk1Ta7zzP4YT71w3V6MmL9Tce6hQxcVq6b7rFcO7PGUvidpau1VnUL5T4WnkZegX4miSJbaJXYaADJy2FWu10HGmik6W3ALFW9WoUKljCkYf4gPtwRCfTDfM6nj1taSlPZMAwKgDLEG3ZaElO_QbmA0QFYNf45xMw7zfo486TnlNQ8qMesFd8yrQ3gOomyMH_a0rzDoX52Kt-1CJKngeAXPUGb1qAPdOEzvxlhiZBBWvvrepkycWIf7sJW3qNUfhuuE-O4DgNE8IszKeSKqWtrtbCtlBEQVZbwSdHdVYLRiop7e_WFstnKI8xUfFNdYpnxHSNBAZBW_Odgs&__tn__=C-R     ที่มา LADbible และ NSW Police Force

เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Mirror รายงานว่า มีชายคนหนึ่งพกอาวุธบุกเข้าไปที่โรงเรียนมัธยมต้น Bear Lakes และเรียกร้องขอพบครูคนหนึ่งอย่างเกรี้ยวกราด ผู้บุกรุกทราบภายหลังว่าชื่อ Christopher Freeman อายุ 27 ปี เป็นผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนหนึ่งในโรงเรียนดังกล่าว โดยสาเหตุที่เขาบุกเข้ามาพร้อมอาวุธนั้น เขาอ้างว่า ลูกชาถูกครูคนหนุ่มในโรงเรียนทำร้ายร่างกาย จากรายงานพบว่านาย Freeman และลูกชายพูดคุยกันผ่านทาง FaceTime ตอนเวลาบ่าย 3 โมง ก่อนที่คุณพ่อคนดังกล่าวจะโทรศัพท์คุยกับผู้ช่วยครูใหญ่อย่างดุเดือดอีกพักหนึ่ง     โดนทางผู้ช่วยครูใหญ่อ้างว่านาย Freeman ได้กล่าวข่มขู่ไว้ทางโทรศัพท์ว่า “ถ้าคนที่โดนเป็นลูกข้าล่ะก็ พวกเอ็งทุกคนเตรียมตัวตายได้เลย” ไม่นานหลังจากนั้น นาย Freeman ก็มาปรากฏตัวที่โรงเรียนพร้อมกับปืน Cugir AK-47 mini pistol บรรจุกระสุน ด้วยท่าทีอารมณ์เสีย พร้อมกับเรียกร้องขอคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของตน พยานผู้พบเห็นบอกว่าปืนกระบอกดังกล่าวนั้นเหน็บอยู่บริเวณเข็มขัดของเขา รายงานของทางการนั้นระบุว่าเขาได้ขู่ว่าจะฆ่าคนเมื่อมาถึงโรงเรียน และพูดว่า “ขอเจอไอ้ครูคนที่ทำลูกตูหน่อยสิ ตูมีอะไรอะให้มันว่ะ”     เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบรุดมายังโรงเรียนดังกล่าวในทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ โดยทางโรงเรียนได้ประกาศภาวะฉุกเฉิดและปิดไปชั่วคราว…

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่นั้นต่างก็ต้องเคยดูหนังผู้ใหญ่กันมาแล้ว ไม่ว่าจะชอบดูหรือไม่ชอบดูก็ตาม ซึ่งมันก็หาดูกันได้ง่ายๆ ตามอินเทอร์เน็ต แต่หนังโป๊ส่วนมากมันไม่ได้มีความสมจริงในแง่ของการมีเพศสัมพันธ์และการคุมกำเนิดที่ถูกต้องเลยสักนิด ซึ่งหลายคนก็คงรู้สึกขัดใจเอามากๆ ร่วมถึงคุณแม่เหล่านี้ด้วย     เหล่าคุณแม่ทั้ง 5 คนที่เราจะพูดถึงในวันนี้นั้นได้เข้าร่วมในรายการ Mums Make Porn ทีวีโชว์ของช่อง Channel 4 ของสหราชอาณาจักร ที่จะให้เหล่าแม่ๆ มากำกับหนังผู้ใหญ่ในแบบของตัวเอง แต่ก่อนที่พวกเธอจะถ่ายหนังผู้ใหญ่ของตนเอง พวกเธอต้องค้นคว้าจากหนังโป๊ที่หาดูได้ฟรีๆ ตามอินเทอร์เน็ตเสียก่อน หลังจากดูแล้วคุณแม่คนหนึ่งถึงกับอาเจียนออกมา คนหนึ่งร้องไห้เมื่อได้ดูหนังโป๊ที่ใช้พล็อตข่มขืน ส่วนอีกคนก็ขยะแขยงจนถอนตัวไปเลย พวกเธอบอกว่า “พวกเราต้องทำให้เด็กๆ ได้รู้ว่าเซ็กส์มันมีอะไรมากกว่าไอ้ของแบบนั้นที่พวกเขาได้ดูกันในเน็ต ถ้าลูกชายของฉันทำกับสาวแบบที่พระเอกหนังโป๊ทำล่ะก็ ฉันจะเตะก้นเขาซะเลย”     “นางเอกในหนังโป๊ไม่ได้แทนค่าด้วยผู้หญิงปกติทั่วๆ ไป นั่นมันเด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงมาแบบผิดๆ ชัดๆ พวกเขาควรต้องรู้สิว่า นั่นมันไม่ปกติ” รายการ Mums Make Porn มีทั้งหมด 3 ตอน เริ่มฉายวันที่ 20 มีนาคม โดยหนังที่เหล่าคุณแม่กำกับจะฉายในตอนสุดท้ายซึ่งพวกเธอจะพาครอบครัว เพื่อน และลูกๆ มานั่งดูด้วย  …

คาร์ดินัล George Pell วัย 77 ปี เป็น 1 ในที่ปรึกษาใกล้ชิดของพระสันตะปาปาฟรานซิส และเคยเป็นถึงนักบวชระดับสูงอันดับที่ 3 ของศาสนาคริสต์ นิกายคาธอลิค และตอนนี้เขาก็กลายมาเป็นนักบวชระดับสูงที่สุดที่ต้องโทษล่วงละเมิดทางเพศเด็ก คาร์ดินัล Pell ถูกตั้งข้อหาถึง 5 กระทง ข้อหาหนึ่งในนั้นคือข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ที่เหลือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายล่วงละเมิดทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 1996-1997 เหยื่อทั้ง 2 คนเป็นเด็กในวงขับร้องประสานเสียงของโบสถ์     เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วเมื่อคณะลูกขุนได้ตัดสินว่าเขามีความผิด ก็ได้ถูกถอดออกจากตำแหน่งในวาติกัน และในวันที่ 13 มีนาคม 2019 ก็ได้มีการพิจารณาคดีของเขาที่ประเทศออสเตรเลีย ผู้พิพากษาได้กล่าวกับ Pell ในการพิจารณาคดีว่า “การกระทำของจำเลยเป็นการล่วงละเมิดทางเพศอย่างชัดเจน เหยื่อทั้ง 2 คนต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำดังกล่าว และคุณมั่นใจมากว่าเด็กทั้งคู่จะไม่ปริปากพูด” “นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เหยื่อทั้งคู่ต้องรู้สึกถูกหยามเกียรติและหมดคุณค่า เมื่อรู้ว่าที่พวกเขาโดนทำร้ายนั้นมีคนอื่นรู้เห็นเหตุการณ์ด้วย” “คุณมีเวลาเหลือเฟือในการคิดทบทวนตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังทำร้ายเหยื่อ J อย่างหยาบโลนและร้ายกาจ มันชัดเจนมากว่าเด็กทั้ง 2 คนเชื่อและศรัทธาในตัวคุณ…

เมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อนๆ คงจำได้ว่ามีข่าวหญิงคนหนึ่งปีนรั้วกั้นเพื่อถ่ายรูปเซลฟี่ในสวนสัตว์แอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา จนเป็นเหตุให้เธอถูกเสือจากัวร์ตะปบจนได้รับบาดเจ็บ (อ่านข่าวเก่าที่นี่) ผลปรากฏว่าหญิงคนดังกล่าว (ทราบเพียงชื่อว่า Leanne) ได้รับบาดเจ็บไม่มาก จึงสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันถัดมา และได้ให้สัมภาษณ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก     เธอเล่าว่า ขณะเธอเดินผ่านกรง เธอเห็นว่าเสือจากัวร์อยู่ชิดกับรั้ว เธอจึงคิดว่าอยากจะถ่ายรูปเสียหน่อย เธอจึงพิงและยื่นแขนเข้าไปในรั้วเพื่อถ่ายรูป และเสือจากัวร์ก็ตะปบเข้าที่มือข้างที่เธอถือกล้องยื่นเข้าไป Leanne บอกกับ CBS News ว่า “ฉันผิดเองที่ไปเอนตัวบนรั้วแบบนั้น แต่ฉันว่าสวนสัตว์เองก็ต้องพิจารณาย้ายรั้วให้ถอยเข้าไปด้วยเหมือนกัน” “ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้ ฉันว่าพวกเราทุกคนเป็นมนุษย์ที่ล้วนแล้วแต่ทำผิดพลาด และฉันก็ได้รับบทเรียนแล้ว” “ใครๆ ก็สามารถยื่นมือเข้าไปได้นะ ฉันไม่ใช่คนแรก แล้วถ้าพวกเขาไม่ทำอะไรสักอย่างกับรั้วนั่น ฉันก็จะไม่ใช่คนสุดท้าย”       Adam Wilkerson ชายคนที่เข้าไปช่วยเหลือ Leanne ได้บอกกับ New York Times ว่า รั้วดังกล่าวนั้นสูงประมาณเอวของเขาเท่านั้น  Leanne น่าจะยื่นมือเข้าไปมากกว่าปีนรั้ว แต่อย่างไรการยื่นมือเข้าไปก็ไม่ควรอยู่ดี เขาได้กล่าวเสริมอีกว่า “ถ้ามีสามัญสำนึก คุณก็จะรู้เองว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย” ทาง Leanne เองก็ได้ติดต่อไปหา Mickey Ollson…

หากเราจะทำอาหารที่เราไม่เคยทำมาก่อนสักอย่าง เพื่อนๆ ก็คงเลือกค้นคว้าหาวิธีการซะก่อนที่จะลงมือทำจริง อย่างน้อยๆ เราก็จะได้รู้ว่าต้องเตรียมของอะไรบ้าง ซึ่งวัตถุดิบนั้นก็ถือเป็นหัวใจหลักของการทำอาหารเลยทีเดียว แต่เรากำลังจะได้ชมวิธีการทำสปาเกตตีที่ร้อนแรงที่สุดจากข่าวนี้ เมื่อมีนักเรียนแลกเปลี่ยนวัย 20 ปีจากสหรัฐอเมริกา 3 คนไปเรียนที่ประเทศอิตาลี และนึกอยากจะลองเข้าครัวทำเมนูสุดคลาสสิกอย่าง สปาเกตตีโบลองเนส ดู     ในฐานะที่เราๆ ท่านๆ เป็นคนไทย ที่ส่วนหนึ่งก็มีเชื้อสายจีน เคยชินกับการกินอะไรที่เป็นเส้นๆ อยู่แล้ว แม้การต้มเส้นพาสต้าจะมีความยุ่งยากกว่าการลวกเส้นเล็ก เส้นหมี่ หรือต้มมาม่ากิน แต่เราก็พอรู้กันว่าก่อนเอาไปปรุงอย่างอื่น เราก็ต้องตั้งน้ำแล้วต้มเส้นให้อ่อนลงก่อน #เหมียวม่วง เดาว่าเด็กวัยรุ่นอเมริกันอาจจะแค่เคยกินสปาเกตตีตามร้านอาหาร คนที่ไม่เคยทำอาหารอาจจะไม่เคยชินกับอาหารประเภทที่ต้องต้มเส้นก่อนก็ได้ ดังนั้นวัยรุ่นหัดเข้าครัวทั้ง 3 จึงเอาเส้นพาสต้าใส่ลงในกระทะแล้วตั้งไฟทันที…ใช่แล้ว ทั้งแห้งๆ แบบนั้นแหละ     แป้งนั้นเป็นของที่ติดไฟได้อยู่แล้ว ดังนั้นก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่เลยที่เส้นพาสต้าแห้งๆ เหล่านั้นจะมีไฟลุกพรึ่บขึ้นมา แต่ดูเหมือนเจ้าของเรื่องทั้ง 3 คนก็ยังไม่รู้อยู่ดีกว่าการทำสปาเกตตีต้องใช้น้ำ สุดท้ายจึงต้องโทรเรียกพนักงานดับเพลิงมาช่วยดับไฟที่ไหม้เส้นพาสต้าในครัว โชคดีที่เรื่องคราวนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ นอกจากเส้นพาสต้าจำนวนหนึ่ง แถมทางเชฟชื่อดัง Fabio Picchi ยังเสนอให้เด็กทั้ง 3 คนมาเรียนทำอาหารกับเขาที่ร้านด้วย   เชฟ Fabio…

ในแต่ละประเทศและวัฒนธรรมนั้นมีประเพณีในการจัดการศพไม่เหมือนกัน บางทีก็ใช้วิธีฝัง บ้างก็เผา แขวนไว้กับต้นไม้ หรือแม้แต่เอาไปให้สัตว์กินซากกำจัดก็ยังมี โดยทั่วไปโลกเรามีประเพณีศพหลักๆ อยู่ 2 อย่างคือ ฝัง กับ เผา ซึ่งโดยมากวัฒนธรรมทางตะวันตกจะฝังศพกันไว้ในสุสานกัน ให้ญาติพี่น้องไประลึกถึงกันตามโอกาส     ในสหราชอาณาจักรเองก็ใช้ทั้งวิธีฝังและเผา และเมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้า สถานที่ที่ใช้ฝังศพจึงเหลือน้อยลงทุกที จนตอนนี้ทางสหราชอาณาจักรต้องประสบกับวิกฤตสุสานเข้าแล้ว โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆ อย่างลอนดอน แมนเชสเตอร์ และเบอร์มิงแฮม โดยได้มีการเสนอทางแก้ให้หลุมศพเก่าที่มีอายุมากกว่า 99 ปีและไม่มีครอบครัวของผู้ตายมาดูแลสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้     ทางสหพันธ์เจ้าหน้าที่ด้านการฝังและเผาศพ (FBCA) เชื่อว่ามีหลุมศพที่สามารถใช้งานได้นั้นมีจำนวนหลักล้านหลุมเลยทีเดียว โดยข้อเสนอนี้กำลังอยู่ในการพิจารณาว่าจำเป็นหรือไม่     ซึ่งความจริงแล้วมีผู้คนมากมายที่ใช้วิธีเผา แต่ปัจจุบันนั้นการฝังศพกลับได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางแก้อีกทางที่น่าจะเป็นไปได้คือพยายามให้ประชาชนหันมาใช้วิธีเผาศพแทนนั่นเอง   ที่มา Mirror

เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018 ได้เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นที่ประเทศยูเครน โดย 2 พ่อลูก นาย Maksim Kostyukov อายุ 41 ปี และลูกชาย Yaroslav Kostyukov วัย 20 ปี ผู้ต้องหาได้มาขึ้นศาลเพื่อรับฟังการพิจารณาคดีในเดือนมีนาคม 2019     ผู้ตายนาย Evgeny Petrov ได้รับคำเชิญให้มาสังสรรค์ที่ผับแห่งหนึ่งในพื้นที่ ก่อนจะไปต่อกันที่แฟลตของสองพ่อลูก หลังจากดื่มกินและพูดคุยกันไป นาย Maksim จึงได้รู้ว่า นาย Evgeny เคยประกอบอาชีพตำรวจมาก่อน นาย Maksim นั้นเคยมีปัญหาแย่ๆ เรื่องเกี่ยวกับกฎหมายและตำรวจมาก่อน บวกกับทั้งหมดดื่มเหล้าจนเมาแล้ว จึงได้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา แล้วลงมือทำร้ายเพื่อนของตนเอง   นาย Yaroslav Kostyukov   โดยฝ่ายลูกชายเป็นผู้จับเหยื่อจากด้านหลัง และคนพ่อก็ใช้มีดปาดเข้าที่ลำคอของ Evgeny ก่อนจะใช้มีดทำครัวเล่มนั้นแทงเหยื่อเข้าที่หน้าอกซ้ำๆ อีกหลายครั้ง ทางตำรวจได้ให้การต่อศาลว่า หลังจากเหยื่อตายแล้ว นาย Yaroslav ก็ได้ตัดศีรษะออกจากร่าง และหั่นเนื้อขาและลำตัวของศพเป็นชิ้นๆ     เนื้อบางส่วนผู้ต้องสงสัยได้นำไปต้มซุป และอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ในตู้เย็น ส่วนร่างกายส่วนที่เหลือของเหยื่อนั้นทั้งคู่นำไปโยนทิ้งไว้ไม่ไกลจากแฟลตของตน…

ถ้าเพื่อนๆ จำได้ไม่นานมานี้เกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นในโลก เพราะโรคหัดที่ไม่ได้ระบาดมานานนั้นกลับมาระบาดอีกครั้งเพราะมีผู้ปกครองหลายบ้านไม่ยอมพาลูกไปฉีดวัคซีน เกิดจากลัทธิทางความเชื่อว่าวัคซีนนั้นไม่ดีต่อร่างกายเด็ก ลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีน (Anti-Vaxx) นั้นระบาดไปทั่วโลก ไม่เพียงแค่ในอเมริกาและญี่ปุ่นที่มีข่าวดังเท่านั้น แม้แต่ในไทยเองลัทธินี้ก็แพร่ระบาดเข้ามา และพยายามเผยแพร่ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน     ซึ่งผลของการแพร่ความเชื่อดังกล่าวนั้น นอกจากตัวเด็กที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะเป็นอันตรายแล้ว ยังอาจทำให้เชื้อที่กลับมาระบาดเกิดการกลายพันธุ์ ดื้อยา กลายเป็นโรคตัวที่แข็งแรงและอันตรายต่อมนุษย์ยิ่งกว่าเดิม และทำให้มีโอกาสที่โรคต่างๆ จะระบาดไปสู่คนที่ได้รับวัคซีนมาแล้วอีกด้วย   แม้ว่าจะมีการให้ความรู้ที่ถูกต้อง แต่ก็ยังมีคนหลงเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งองค์กรและหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวกับสุขภาพและโรคทั่วโลกต่างก็ออกมาขอร้องให้สื่อโซเชียลต่างๆ ให้ความร่วมมือในการกำจัดข้อมูลผิดๆ ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะ Facebook ที่ถือว่าเป็น 1 ในสถานที่รวมตัวของเหล่า Anti-Vaxxer จำนวนมากเลยทีเดียว     แม้จะมีการเรียกร้องมาพักใหญ่แล้ว แต่ในที่สุดทาง Facebook ก็มีการเคลื่อนไหวของประเด็นนี้จนได้ โดยทางหัวหน้าทีมระเบียบนโยบายของ Facebook ได้กล่าวว่า “หากว่ามีข้อมูลหลอกลวงในเรื่องการฉีดวัคซีนโผล่มาบน Facebook ทางเราจะรีบดำเนินการในทันที”   แต่แทนที่จะลบหรือกำจัดออกจากเว็บไป ทาง Facebook ใช้วิธีลดการเข้าถึงแทน โดยจะตั้งค่าให้กลุ่มและเพจของผู้ต่อต้านการฉีดวัคซีนจะไม่โชว์ขึ้นในหมวดหมู่ของ “กลุ่ม/เพจที่แนะนำ” ลดการแสดงผลในหน้าการค้นหา ตรงช่องที่ใส่คำค้นหาก็จะไม่ช่วยเติมคำแบบออโต้ให้กับคำที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อเหล่านี้    …

ใครๆ ก็รู้ว่าผึ้งนั้นมีคุณประโยชน์ต่อระบบนิเวศ แต่หากไปทำให้มันโกรธขึ้นมา เจ้าแมลงตัวเล็กนี้ก็มีอันตรายมหันต์เช่นกัน แค่โดนผึ้งต่อย 1 ตัวก็ว่าเจ็บจะแย่แล้ว ใครที่แพ้เหล็กในก็อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ แล้วคิดดูว่าถ้าคุณเผลอไปทำให้ผึ้งราว 80,000 ตัวโกรธขึ้นมา มันจะเป็นอย่างไร?     เรื่องราวคราวนี้เกิดขึ้นที่ Potters Field Park กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อมีหัวขโมยไม่ทราบชื่อรายหนึ่งพยายามปีนรั้วเข้าไปขโมยของในพื้นที่ของสวนสาธารณะ รั้วดังกล่าวนั้นมีความสูงถึง 2.4 เมตร คาดว่าคนร้ายพยายามหาที่ทางในการแลนดิ้งของตนเองจนไปพบกับกล่องไม้ที่ตั้งเรียงรายอยู่บริเวณใกล้รั้ว จึงใช้เป็นจุดกระโดดลงก่อนที่จะลงไปถึงพื้นอีกที แต่แล้วสถานการณ์ก็ไม่เป็นใจให้โจรรายนี้นัก     เพราะพื้นที่ดังกล่าวนั้นมีการเลี้ยงผึ้งอยู่ด้วย และกล่อง 4 กล่องที่เขาโดดลงมาเหยียบก็เป็นรังของผึ้งเลี้ยงที่มีจำนวนถึง 20,000 ตัวต่อกล่อง และเหล่าผึ้งคงไม่พอใจนักเวลามีใครมารบกวนรังของพวกมัน อย่างที่รู้ๆ กันว่าผึ้งนั้นพร้อมสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องรังและนางพญาเอาไว้ ทางด้านทีมงานของผู้ดูแลผึ้งนั้นก็รีบรุดหน้าไปดูที่เกิดเหตุเมื่อได้รับแจ้งว่ามีผู้พบเห็นรังผึ้งเลี้ยงพลิกคว่ำกระจัดกระจายบนพื้น     Dale Gibson ผู้ดูแลผึ้งกล่าวว่า “ทางเรานั้นเลี้ยงผึ้งให้พวกมันค่อนข้างรักสงบเพราะเราเลี้ยงไว้ในสวนสาธารณะในลอนดอน แต่หากมีใครดันมาพังประตูบ้านพวกมันเข้า เหล่าผึ้งก็พร้อมจะลงโทษผู้บุกรุกตามที่พวกมันเห็นสมควร” เขายังบอกอีกว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คงเป็นไปได้ยากที่คนร้ายจะหนีไปได้โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ เขาควรจะโดนผึ้งต่อยไปไม่น้อยเลยทีเดียว     สุดท้ายแล้วทางทีมงานก็ไม่ได้แจ้งความกับตำรวจแต่อย่างใดเพราะพวกเขาถือว่า เจ้าโจรดวงกุดคนนี้ได้ถูก “ธรรมชาติลงโทษ”…

เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เฟซบุ๊กนาย Patrick Kilonzo Mwalua ได้โพสต์ภาพและบอกเล่าเรื่องราวสิ่งที่เขาได้ทำเพื่อช่วยเหลือสัตว์โลกจากภัยแล้ง Patrick เป็นชาวไร่จากประเทศเคนย่า เขาใช้เวลาว่างขนน้ำทีละหลายพันลิตรนำไปยังอุทยานแห่งชาติ Tsavo West ที่ประสบภัยแล้งมาตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา   ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 แรกๆ เขาใช้รถขนน้ำ 3,000 แกลลอนมาเติมให้เหล่าสัตว์ป่าในอุทยานอาทิตย์ละ 4 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่ามีน้ำเพียงพอให้พวกมันดื่มกิน และจะไม่ตายเพราะขาดน้ำ     สิ่งที่เขาทำนั้นได้ช่วยเหลือสัตว์ป่าเอาไว้มากมาย และได้รับความสนใจอย่างมาก ในที่สุดเขาได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นเพื่อขอรับบริจาค เพื่อนำเงินมาจัดหาน้ำมาให้สัตว์ป่าทุกครั้งที่น้ำในบ่อแห้งลงเพราะฝนไม่ตกตามฤดูกาล ช่วงหลังมาเขากับเพื่อนชาวแคนาดา Nina Poletti ต้องนำน้ำมาเติมมากขึ้น แถมบางทีก็ต้องแวะเข้ามาดูทุกวัน และเขายังคงทำแบบนี้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน     ในตอนนี้กลายเป็นว่าเหล่าสัตว์ป่าทั้งควายป่าและม้าลายต่างก็รู้สึกคุ้นชินกับการมาเยือนของเขา บางครั้งเขาก็พบว่าพวกมันมายืนรอให้เขานำน้ำมาให้ และพวกมันก็ดูตื่นเต้นที่ได้เห็นชายใจดีคนนี้ ถ้าใครสนใจร่วมบริจาคลิกเข้าไปที่เว็บนี้ได้เลยจ้า mwaluawildlifetrust.org   https://www.facebook.com/patrick.mwalua/posts/10156307189463635   ที่มา LADbible

“ในวันหนึ่งทุกคนล้วนจากไป” นับเป็นสัจธรรมชีวิตที่เที่ยงตรงที่สุด ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ด้วยสาเหตุใดก็ตาม แต่หากว่าคุณสามารถรู้ได้ว่าตนเองเหลือเวลาชีวิตอีกเพียงน้อยนิดล่ะ…คุณคิดว่า คุณอยากจะทำอะไรในวันสุดท้ายของชีวิต? ในปี 2016 คุณแม่ของ Jessica Quigley ชื่อว่า Leona ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งพลาสมาเซลล์ชนิดหายากราว 10 เดือนก่อนที่ลูกสาวจะหมั้นกับ Adam คนรักของเธอ     ในตอนที่ Jessica หมั้นนั้นสุขภาพของ Leona ยังคงดีอยู่ เธอยังไปเที่ยวกับลูกสาวและแฟนของลูกอยู่เลย คู่รักต้องการเวลาอีกเป็นปีก่อนจะจัดงานแต่งอย่างเป็นทางการ เพราะ Jessica เห็นว่าแม่ยังแข็งแรงดีอยู่ จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่เพียง 1 เดือนก่อนจะถึงกำหนดวันแต่งงานที่ตั้งใจไว้ สุขภาพของ Leona กลับแย่ลงอย่างรวดเร็ว จน Jessica และ Adam พยายามหาทางเร่งงานแต่งให้เร็วขึ้น     แต่ Leona ไม่ยอมให้ทั้งคู่ทำเช่นกัน เธอพยายามทำตัวเข้มแข็ง มองข้ามอาการป่วยของตัวเอง สุดท้ายคู่รักจึงยอมจัดงานแต่งในกำหนดการเดิมตามที่แม่ต้องการ สุดท้าย Jessica และ Adam เข้าพิธีวิวาห์ในวันที่…

ในโลกอินเทอร์เน็ตมีผู้คนมากมายที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากสื่อโซเชียลอย่างเฟซบุ๊ก ยูทูบ ทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรม และคนดังเหล่านั้นวันดีคืนดีก็ลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างจนกลายเป็นกระแสให้คนทำตามกันสนุกๆ หลายๆ คนก็ทำชาเลนจ์น่ารักๆ พอให้เราได้ขำๆ แต่ก็มีบางคนที่ชอบอะไรท้าทายจนกลายเป็นประเด็นถกเถียงบนโลกไซเบอร์เหมือนอย่างคู่รักบล็อกเกอร์แนวท่องเที่ยวคู่นี้   https://www.instagram.com/p/BrGKaWRl67a/?utm_source=ig_web_copy_link   Raquel และ Miguel เป็นบล็อกเกอร์แนวท่องเที่ยวชาวโปรตุเกส ทั้งคู่ออกท่องเที่ยวแล้วถ่ายรูปสวยๆ ลงในอินสตาแกรมของตัวเองมากมายจนมีผู้ติดตามถึง 206,894 คนเลยทีเดียว ล่าสุดทั้งคู่ไปเที่ยวที่ประเทศศรีลังกา นั่งรถไฟชมวิวธรรมชาติสวยสดชื่น แฟนๆ เองก็คงหวังว่าจะได้เห็นรูปถ่ายอันงดงามจากทั้งคู่   https://www.instagram.com/p/BuJ0O_RgFKv/   แต่การออกท่องเที่ยวครั้งนี้ทำเอาชาวเน็ตต้องตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของการโพสท่า เพราะภาพที่ออกมานั้นเป็นภาพของ Raquel จับราวแล้วห้อยตัวอยู่ข้างนอกตู้รถไฟโดยมี Miguel โน้มตัวออกมาจูบหน้าผากเธอ และในอีกรูปหนึ่ง Miguel จับมือของแฟนสาวเอาไว้เพื่อให้เธอเอนตัวออกไปนอกขบวน มันคงเป็นชุดภาพที่สวยและโรแมนติกมากๆ ถ้าสถานที่ที่ถ่ายภาพไม่ใช่บนรถไฟ และรถไฟนั้นไม่ได้กำลังวิ่งอยู่   https://www.instagram.com/p/BuEqe3lg4ZB/?utm_source=ig_web_copy_link   ภายหลังทั้งคู่ก็ได้ออกมาชี้แจงไว้ว่า รถไฟขบวนนี้มันวิ่งช้าเอามากๆ และการถ่ายรูปทั้ง 2 รูปนี้ออกมาก็ไม่ได้อันตรายอะไรอย่างที่ชาวเน็ตคิด ซึ่งแม้จะมีการชี้แจง แต่ชาวเน็ตก็ยังไม่พอใจทั้งคู่อยู่ดี และชาวเน็ตยังบอกอีกว่าทั้งคู่นั้นถือว่าเป็น Influencer (ผู้มีอิทธิพลที่มีอำนาจชี้นำกลุ่มคน) ที่มีผู้ติดตามหลักแสน การโพสต์ภาพแบบนี้ลงอาจทำให้มีคนนำไปเลียนแบบจนเกิดอันตรายหรือความตายขึ้นมาได้ คอมเมนต์หนึ่งบอกว่า “นี่คุณเสี่ยงชีวิตเพียงเพื่อจะได้รูปสวยๆ งั้นเหรอ? เพียงเพื่อคุณจะได้อัปมันลงในโซเชียลงั้นเหรอ?…

กระแสความหวั่นวิตกต่อ Momo Challenge ดูจะขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ โดยที่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดเท่าไหร่ คนรุ่นใหม่ก็อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่ที่มีลูกเต้าแล้วอาจจะคิดว่ากลัวไว้ก่อนก็ดีกว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ทีนี้เรามาดูกันว่าเจ้า Momo Challenge นี้มันมีหลักฐานการโผล่หน้ามาทักทายเด็กๆ แบบจังๆ เป็นชิ้นเป็นอันบ้างไหม     เท่าที่ #เหมียวม่วง ลองค้นดู ในส่วนของ WhatsApp นั้นก็ยังพอมีหน้าจอแชตให้เห็นอยู่บ้าง แต่ถ้าคิดอีกแง่ เบอร์โทรหรือแอคเคานต์ที่ใช้ในแอปนั้นใครก็สามารถทำออกมาเพื่อกลั่นแกล้งให้กลัวได้ หรือแม้แต่ตัดต่อเอาก็เป็นไปได้สูงเช่นกัน (เอาจริงไม่ต้องมีข้อความอะไร แค่หน้าตาก็สะพรึงพอแล้ว) ทีแรกอาจจะแค่เป็นการแกล้งส่งรูปให้ตกใจกลัว แต่อาจมีคนนำรูปไปแต่งเติมกับเรื่องราวน่ากลัวหรือสวมรอยเอาไปเล่นแผลงๆ ก็เป็นได้     ส่วนที่ทำให้เหล่าผู้ปกครองกังวลมากๆ ก็คือเมื่อมีข่าวลือออกมาว่าเจ้า Momo นี้ได้แทรกซึมเข้าไปใน Youtube Kids ทั้งที่เป็นส่วนที่กรองเนื้อหาให้เหมาะกับเด็กแล้ว บ้างก็ว่ามีการสอดไส้คลิปเอาไว้ในการ์ตูนสำหรับเด็ก แต่ทาง Youtube เองกลับไม่เคยได้รับการร้องเรียนและไม่มีหลักฐานใดๆ ส่งเข้ามาเลย ในขณะที่ในเว็บไซต์หลักก็สามารถหาดูคลิป Momo ได้ทั่วไป ซึ่งก็เป็นการดูดมาอัปโหลดใหม่ไปซะส่วนมาก บางทีอาจจะเป็นการอัปคลิปตามกระแสเพื่อดึงยอดวิวด้วยซ้ำ เราจึงไม่มีทางรู้ได้ว่าตัวต้นฉบับนั้นมันมีอยู่เท่าไหร่และเป็นของใครกันแน่     ในส่วนของข่าวที่มีเด็กฆ่าตัวตายจากการเล่น Momo Challenge ก็เป็นเพียงการเชื่อมโยงที่ไม่ได้มีการยืนยันจากทางตำรวจ…

เมื่อวันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2019 ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนกระโดดตึกที่คอนโด Rise Brickell City Centre รัฐไมอามี่ สหรัฐอเมริกา ในที่เกิดเหตุพบร่างของ Solange Virginia Matos หญิงวัย 37 ปี ในพุ่มไม้บริเวณชั้น 6 และเด็กชาย Luciano อายุ 5 ขวบใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำของอาคาร     นาง Solange นั้นเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ แต่ลูกชายของเธอนั้นไม่มีการตอบสนองใดๆ ตำรวจพยายามทำ CPR ยื้อชีวิตและนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่โชคร้ายที่ Luciano เองก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา     จากการตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการฆาตกรรมและฆ่าตัวตาย โดยผู้เป็นแม่จับลูกชายของตนโยนลงมาจากชั้น 20 ก่อนที่ตัวเธอเองจะกระโดดตามลงมาเพื่อฆ่าตัวตาย สอบถามทางญาติของผู้ตายและผู้ที่อาศัยในอาคารเดียวันทุกคนต่างตกใจและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่เคยมีสัญญาณใดบ่งบอกถึงปัญหาที่น่าจะเป็นสาเหตุให้ Solange ก่อเหตุสะเทือนใจนี้มาก่อน     อย่างไรก็ตาม ประเด็นการฆ่าตัวตายและสาเหตุที่นำมาสู่การตายนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบถึงสาเหตุที่แท้จริงเพื่อหาข้อสรุปต่อไป…   ที่มา Mirror และ NYPost

บทความนี้มีภาพที่อาจทำลายความอยากอาหาร โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและชมนะฮะ   ประจำเดือนเป็นช่วงเวลาหายนะทั้งของสาวๆ และคนรอบตัว เพราะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนแปรปรวนจนทำให้อารมณ์ไม่คงที่และอ่อนไหวง่าย แถมคิดสภาพว่ามีเลือดไหนออกมาจากหว่างขาตลอดทั้งวันเป็นสัปดาห์มันจะน่ารำคาญใจขนาดไหน แต่ทุกคนก็ย่อมรู้ดีว่าการมีประจำเดือนนั้นมันเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายสาวๆ ถ้ามันขาดหายไปนานๆ นี่ต้องเครียดกันบ้างแล้ว ถึงรู้ว่ามันมีประโยชน์ในแง่ของความปกติทางร่างกาย แต่คงไม่มีใครใช้ประโยชน์จากเลือดประจำเดือนได้เหมือนสาวคนนี้อีกแล้วแน่ๆ https://www.instagram.com/p/Bq5vqmhny1Y/?utm_source=ig_web_copy_link   Demetra Nyx วัย 26 ปี ได้โพสต์รูปและวิดีโอใบหน้าและเนื้อตัวเปื้อนเลือดของตนบนอินสตาแกรม ย้อนกลับไปเมื่อตอนเธออายุ 21 ปี ตอนนั้น Nyx ได้ไปถอดห่วงคุมกำเนิดออก หลังจากนั้นประจำเดือนของเธอก็มาแบบหนักหน่วงมากทำเอาเธอต้องนอนป่วยอยู่บนเตียงไประยะหนึ่ง ชาวพื้นเมืองแคลิฟอร์เนียได้มาทำการทดสอบเลือดเหล่านั้นและสุดท้ายเธอก็เชื่อว่าเลือดประจำเดือนทำให้เธอใกล้ชิดกับตัวตนของตนเองมากยิ่งขึ้น     Nyx กล่าวว่า “สังคมสอนเราว่าประจำเดือนนั้นสกปรกและทำให้ไม่สบายตัว โฆษณาผ้าอนามัยก็ชอบพูดว่าช่วยลดกลิ่น ทำให้สดชื่น หรือช่วยให้ตัวเราสะอาดยิ่งขึ้น เหมือนจะสื่อเป็นนัยว่าการทำงานตามธรรมชาติของร่างกายพวกเรานั้นมันน่ารังเกียจ” ตัวเธอนั้นเห็นต่างไปจากสิ่งที่สังคมคิด ตัวเธอเองหลงใหลในร่างกายและธรรมชาติของมันและไม่คิดว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ     เธอโพสต์รูปใบหน้าของเธอเองที่ถูกละเลงไปด้วยเลือดประจำเดือนนั้นเป็นการกระตุ้น เพราะเธออยากให้ผู้หญิงทุกคนได้รู้สึกเชื่อมโยงกับวงจรของประจำเดือนของตนเอง และรู้สึกสบายใจที่จะสัมผัสกับมัน แต่คนรอบข้างนั้นดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับเธอนักเพราะมีความคิดเห็นแง่ลบส่งเข้ามาไม่ขาด รวมทั้งครอบครัวและเพื่อนของเธอเองก็มองว่ามันประหลาดและน่าขยะแขยง “นั่นทำให้ฉันมีกำลังใจที่จะโพสต์รูปต่อไปค่ะ ก็ถ้ามันไม่ได้ส่งผลกระทบที่สำคัญอะไร ผู้คนคงไม่มาสนใจรูปของฉันด้วยซ้ำ” Nyx กล่าว   รวมมิตรคลิปวิอีโอที่เธอที่เธอโพสต์ลงอินสตาแกรม https://www.youtube.com/watch?v=ZelV8hUS0-0  …

หลายๆ คนคงจะชอบรสชาติขมอมหวาน และกลิ่มหอมๆ ของขนมหวานสุดอร่อยอย่าง ช็อกโกแลต ถ้าไม่กลัวอ้วนจะให้กินทั้งวันก็ยังไหว และมันจะเป็นอย่างไรนะถ้าเราได้กินช็อกโกแลตทั้งวัน แถมได้เงินอีกด้วย!! บริษัท Mondelēz International เจ้าของผลิตภัณฑ์ชื่อดังอย่าง Cadbury, Oreo, Green & Blacks และ Milka กำลังจะมอบโอกาสวันหวานหอมนี้ให้คุณ เพราะทางบริษัทกำลังมองหานักชิมช็อกโกแลตมาร่วมงานด้วยถึง 4 ตำแหน่ง     ประกาศรับสมัครงานนี้ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ของของทางบริษัทเอง โดยผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานดังนี้ 1. มีความหลงใหลในขนมหวาน และต่อมรับรสเป็นเลิศ 2. แสดงความคิดเห็นอย่างซื่อตรง 3. มีความกระตือรือร้นที่จะทดลองสินค้าใหม่ 4. มีมนุษย์สัมพันธ์ดีต่อเพื่อนร่วมงาน 5. ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี 6. คุณจะต้องได้กินทั้งกลูเตน ถั่ว และธัญพืชหลายชนิด ถ้าหากคุณแพ้ของพวกนี้ล่ะก็เสียใจด้วยนะ ที่นี่ไม่มีงานที่เหมาะกับคุณ งานนี้เพื่อนๆ ไม่ต้องมีประสบการณ์ในงานด้านนี้มาก่อนก็ได้ แต่ทางบริษัทก็จะฝึกและทดสอบการรับรสและสอนการใช้คำศัพท์ที่ใช้ในการสื่อสารความคิดเห็นที่มีต่อผลิตภัณฑ์     ถ้าหากผ่านการพิจารณาล่ะก็จะได้ทำงานร่วมกับนักชิมอีก 11 คน และหัวหน้าทีม ร่วมกันพูดคุย หารือ และแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ Berkshire…

Momo Challenge อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยเท่ากับเกมปลาวาฬสีน้ำเงินมากนัก แต่เชื่อเถอะว่าเจ้าเกมฆ่าตัวตายพวกนี้มันอันตรายไม่น้อยหน้าไปกว่ากันเลย โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้นเจ้าเกม Momo นี่แพร่ระบาดในแอปแชตโดยจะส่งข้อความเกลี้ยกล่อมให้เหยื่อ (ส่วนมากเป็นเด็ก) ทำภารกิจอันตรายต่างๆ และสุดท้ายก็จะไปจบที่การกดดันให้เหยื่อฆ่าตัวตาย อ่านรายละเอียดของ Momo Challenge เพิ่มเติมได้ที่นี่: เกมแห่งความตาย ‘Momo’ แพร่ระบาดผ่านแอปฯแชต หลอกให้เด็กหญิงวัย 12 ฆ่าตัวตาย     สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือนอกจากแอปแชตอย่าง WhatsApp แล้ว เกมแห่งความตายนี้มันเริ่มแพร่ระบาดเข้าไปยัง Youtube Kids ส่วนย่อยของเว็บไซต์วิดีโอชื่อดังที่คัดกรองเนื้อหาให้เหมาะสมกับเด็กแล้ว โดยเหยื่อที่โดนหมายหัวครั้งนี้เป็นเด็กหญิงวัย 6 ขวบชื่อ Bre-Andria Roussell เรื่องเกิดขึ้นตอนที่เด็กหญิงกำลังดูการ์ตูนเรื่อง Peppa Pig ใน Youtube Kids ในขณะที่วิดีโอเล่นไปจู่ๆ ผู้หญิงตาโตถลน ปากฉีก และร่างกายเป็นนกก็โผล่ขึ้นมาบนหน้าจอ   Bre-Andria Roussell   คุณแม่ Brittany จึงถามลูกสาวเรื่องเกมแห่งความตายนี้ และเด็กหญิงก็อธิบายถึง Momo ว่า “เธออาจเข้าไปในความฝันของแม่ หรือเธออาจจะฆ่าแม่ก็ได้”…

ไม่นานมานี้มีการศึกษาเรื่องเวลาการนอนของคนแต่ละประเทศ และผลออกมาว่า ประชาชีชาวญี่ปุ่นนั้นนอนหลับน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของคนประเทศอื่นราวๆ 1 ชั่วโมง เป็นผลจากการทำงานหนักตื่นเช้าและหลับดึกนั่นเอง เพราะงั้นหากจะเปิดกิจการสนับสนุนการนอนหลับคงไม่มีประเทศไหนจะเหมาะเท่าประเทศญี่ปุ่นอีกแล้วล่ะ     และเนื่องในโอกาสดีที่ใกล้จะถึง “วันนอนหลับโลก” (จัดตั้งขึ้นในวันศุกร์ก่อนวันวสันตวิษุวัต วันที่กลางวันและกลางคืนเท่ากันของทุกปี ของปี 2019 เป็นวันที่ 15 มีนาคม) Nescafe ก็ได้เตรียมเปิด Sleep Cafe หรือ คาเฟ่นอนหลับ ขึ้นในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 1 มีนาคมที่จะถึงนี้!! ที่ผ่านมาทาง Nescafe ก็เคยให้บริการคาเฟ่ที่นอนมาหลายครั้ง แต่จะเป็นแบบคาเฟ่ชั่วคราวที่เปิดในระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่คาเฟ่แห่งนี้จะตั้งถาวรให้เข้าไปใช้บริการกันได้ทุกวันเลย     โดยการบริการนั้นจะมีหลายคอร์สให้เลือกตั้งแต่ แบบงีบหลับ 30 นาที ในราคา 750 เยน +ภาษี (ประมาณ 213 บาท) ไปจนถึง แบบนอนหลับ 180 นาที ในราคา 4,950 เยน +ภาษี (ประมาณ…

หลายคนคงคุ้นหูกันชื่อของ James Bulger หนูน้อยวัย 2 ขวบที่ถูกลักพาตัว ทรมาน และฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมโดย Robert Thompson และ Jon Venables เด็กชายอายุ 10 ขวบ 2 คน เมื่อปี 1993 แม้จะเป็นเยาวชนแต่ฆาตกรเด็กทั้งคู่ถูกตัดสินจำคุก 10 ปี หลังออกจากคุกทั้งคู่เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล และกลับไปใช้ชีวิตของตนเองโดยศาลสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อครอบครัวของเด็กชาย James Bulger อีก   ภาพของ James Bulger ขณะนั้นอายุ 2 ขวบ   ภายหลัง 1 ในฆาตกรโดนจับเข้าคุกอีกครั้งเมื่อปี 2010 ในข้อหาครอบครองสื่อลามกเด็ก พรากผู้เยาว์ และล่วงละเมิดทางเพศ หลังได้รับการปล่อยตัวในปี 2013 เขากลับมาใช้ชื่อ Jon Venables ชื่อเดิมในตอนก่อคดีฆาตกรรม James Bulger   ฆาตกรทั้ง 2 ซ้ายคือ Robert Thompson ด้านขวาคือ Jon…

ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นประเทศในฝันของใครหลายคน ทั้งความสวยงามและวัฒนธรรมร่วมสมัยที่น่าสนใจหลายอย่าง ผู้คนจำนวนมากจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้าไปท่องเที่ยวกันมากมายทุกปี ทุกฤดู ส่วนใครที่กำลังจะไปหรือวางแผนว่าจะไปเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ ตอนนี้ทางรัฐบาลเขากำลังจะเรียกเก็บ “ภาษีการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ” แล้วนะ โดยจะเริ่มเก็บในวันที่ 7 มกราคม 2019 นี้     ตัวภาษีที่จะเรียกเก็บนี้เรียกกันอีกอย่างว่า “ภาษีออกนอกประเทศ” คือใครอยากออกก็จ่ายมา ราคาค่าออกนอกเกาะก็ไม่แพงอะไรมากมาย เพียงแค่ 1,000 เยน หรือประมาณ 300 บาทไทยเท่านั้นเอง การเก็บภาษีออกนอกประเทศนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ในอีกหลายๆ ประเทศก็มีการเก็บภาษีส่วนนี้เช่นกัน เช่นเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ซึ่งภาษีในส่วนนี้คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับประเทศญี่ปุ่นได้ถึง 45,000 ล้านเยน (ประมาณ 13,000 ล้านบาท) เลย     การเรียกเก็บภาษีดังกล่าวนี้ไม่ได้ใช้กับแค่นักท่องเที่ยวที่บินไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ยังครอบคลุมไปถึงชาวญี่ปุ่นที่จะออกไปเที่ยวประเทศอื่นด้วยเช่นกัน และเก็บทุกช่องทางการโดยสารด้วย ไม่ว่าทางเครื่องบิน เรือ หรืออื่นๆ โดยภาษีจะคิดรวมอยู่ในค่าตั๋วโดยสารออกนอกประเทศ     ส่วนใครที่ซื้อตั๋วกันเรียบร้อยไปก่อนวันที่ 7 มกราคมแล้วก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะตั๋วที่ซื้อก่อนหน้าวันเริ่มเก็บภาษีจะได้รับการยกเว้นภาษีไป รวมทั้งเด็กอายุต่ำกว่า…

เหล่าเกมเมอร์ โดยเฉพาะสายคอนโซลคงรู้จักกับเกมแนวต่อสู้ชื่อดังที่รวมตัวละครจากเกมในค่าย Nintendo อย่าง Super Smash Bros. Ultimate ซึ่งผลิตมาเล่นกับเครื่อง Nintendo Switch และด้วยความที่เป็นเกมที่สนุก เล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย น้องๆ หนูๆ หลายๆ คนอาจจะติดใจจนอยากจะเล่นเป็นอาชีพ หรือที่เรียกกันว่า โปรเกมเมอร์ และเมื่อลูกชายของคุณพ่อชาวญี่ปุ่น ผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคานต์ @amour_rapid บอกเจตจำนงค์ของตนว่า “โตขึ้น ผมจะเป็นโปรเกมเมอร์ให้ได้เล้ยยย” คุณพ่อท่านนี้จึงได้สั่งสอนให้ลูกได้รับรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงอันโหดร้าย…     เรื่องราวดังกล่าวถูกบอกเล่าผ่านทวิตเตอร์ของคุณพ่อเอง เขาเล่าว่า “ไม่นานมานี้ ลูกชายผมบอกว่าโตขึ้นอยากจะเป็นโปรเกมเมอร์ ตอนเราเล่น Super Smash Bros. ผมเลยเล่นจัดเต็มแบบไม่ออมมือ และผมก็ชนะรัวๆ ซะจนไอ้ลูกชายร้องไห้โฮออกมาเลย” ชาวทวิตเตอร์ที่ได้อ่านเรื่องราวของคุณพ่อส่วนใหญ่ต่างก็ขำขัน และเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า มันเป็นการสั่งสอนลูกที่มั่นใจในตัวเองจนเกินเหตุ ให้ได้รู้ถึงโลกความจริงและเรียนรู้ที่จะใช้พลังของตัวเองในทางที่ถูกที่ควร หรือเป็นการสั่งสอนให้รู้ว่าวงการ e-sport นั้นไม่ใช่ว่าจะเข้าไปได้ง่ายๆ เพราะการจะเป็นโปรเกมเมอร์นั้นจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก ต้องเรียนรู้กลยุทธ์และฝึกไหวพริบให้เฉียบคม และมันไม่ใช่เรื่องสนุกเพลิดเพลินเหมือนตอนเล่นสนุกๆ กับเพื่อนๆ     แต่ก็มีบางคนที่ชี้ให้เห็นอีกมุมหนึ่งของการกระทำของคุณพ่อเช่นกัน เช่นผู้ใช้ทวิตเตอร์แอคเคานต์ @isikusu ได้ทวีตเอาไว้ว่า “มันก็ดูตลกดีนะ แล้วดูเหมือนว่าหลายๆ…

ช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างวันสิ้นปี ที่ทุกคนต่างไปรวมตัวกันเฉลิมฉลองกับครอบครัวและเพื่อนฝูง รอเคานต์ดาวน์เข้าสู่ปีใหม่ ถือเป็นโอกาสอันดีในการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ทิ้งอะไรเก่าๆ ไว้กับปีที่แล้ว เพื่อพบเจอสิ่งที่ดีกว่าในปีหน้า แต่เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2018 ได้เกิดเหตุเศร้าขึ้นที่รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเด็กหนุ่มวัย 15 เอาปืนออกมาอวดกลุ่มเพื่อน แต่ทำปืนลั่นใส่เพื่อนคนหนึ่งเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ     Devin Hodges อายุ 15 ปีอยู่กับเพื่อนอีก 3 คนในโรงเก็บของหลังบ้านตอนเวลาประมาณบ่าย 3 เขาเอาปืนมาอวดให้เพื่อนๆ ได้ดู แต่กลับทำปืนลั่น กระสุนพุ่งเข้าโดน Chad Carless เพื่อนวัย 17 ปีที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างจัง Hodges กับเพื่อนที่เหลืออีก 2 คนรีบวิ่งออกมาจากโรงเก็บของและโทรไปที่เบอร์ 911 ทันที แต่โชคร้าย Carless เสียชีวิตในที่เกิดเหตุก่อนที่ความช่วยเหลือจะมาถึง     แต่โศกนาฏกรรมไม่ได้จบแค่ตรงนั้น เพราะหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาพบศพของ Carless พวกเขาได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดระหว่างที่กำลังตามหาผู้เห็นเหตุการณ์จากเบอร์ที่โทรมาแจ้งเหตุ หลังจากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เจอร่างของ Hodges…

ช่วงปีใหม่ของคนไทยถือเป็นช่วงหยุดยาวที่ทุกต่างก็วางแผนไปเที่ยวกัน แน่นอนว่าตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆ แลนด์มาร์กสำคัญจะเต็มไปด้วยคน รถ และขยะ ที่สหรัฐอเมริกาก็เช่นกัน แต่ไม่ใช่ในช่วงหยุดยาว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วง Government Shutdown ซึ่งเป็นเหตุการณ์ทางการเมือง เกิดจากสภาคองเกรสกับฝ่ายบริหารตกลงกันเรื่องงบประมาณประจำปี 2019 ไม่ลงตัว จึงไม่สามารถจ่ายเงินให้กับหน่วยงานราชการต่างๆ ได้ ทำให้หน่วยงานรัฐต่างๆ ต้องหยุดทำการไปตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2018 แบบไม่มีกำหนดเวลาแน่ชัด     เหตุการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของสหรัฐอเมริกา ในอดีต Government Shutdown เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และส่งผลต่อประชาชนคนเดินดินมากทีเดียว เพราะพนักงานรัฐหลายแสนคนโดนบังคับให้หยุดงานไปโดยไม่ได้รับเงินเดือน และเมื่อหน่วยงานรัฐไม่เปิดทำการ ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบกันไปเป็นทอดๆ รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยวด้วย และเมื่อผู้คนหลายแสนไม่ได้ไปทำงาน หลายคนก็คงตัดสินใจใช้เงินเก็บออกไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กับครอบครัว อุทยานแห่งชาติหลายแห่งจึงกลายสภาพมาเป็นอย่างที่จะได้เห็นกันต่อไปนี้   https://www.instagram.com/p/BsGablNASd7/?utm_source=ig_embed   ภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากเกมการเมือง อุทยานต่างๆ ขาดแคลนพนักงานอย่างหนักและยังต้องรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่แห่แหนกันมาเที่ยวชม แม้ว่าอุทยานหลายแห่งจะพยายามเปิดทำการและจัดการปัญหาต่างๆ อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่จำนวนขยะและสิ่งปฏิกูลนั้นมันมากมายจนกลายเป็นปัญหาด้านความสะอาดและสุขอนามัยไป   Trash overflowing at Point Reyes National Seashore.…