Category: Highlight

หากเป็นเพื่อนๆ ที่ท่องอินเตอร์เน็ตบ่อยๆ ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงเคยเห็นข่าวของ Momo Challenge เกมแห่งความตายที่หลอกให้เด็กๆ ฆ่าตัวตายและกำลังระบาดอย่างหนักบนโซเชียลมีเดีย ข่าวเก่า: เมื่อเด็กหญิง 6 ขวบดูการ์ตูนในยูทูบอยู่ดีๆ ก็เจอเข้ากับ Momo เกมแห่งความตาย     แม้ว่าจะกลายเป็นเรื่องดัง แต่ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่มากมายว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่หรือเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้แก่เด็กๆ เพียงเท่านั้น และหลายๆ คนที่เคยเห็นข่าวของ Momo Challenge ก็คงเคยเห็นภาพของ “แม่นก” ผลงานที่ศิลปินญี่ปุ่นวัย 43 ปีนามว่า Keisuke Aiso สร้างขึ้นมาในปี 2016 ซึ่งถูกคนเริ่มเรื่องนำมาเป็นภาพประกอบเกมแห่งความตาย และจากกระแสของเรื่องดังกล่าวเองทำให้ผู้เป็นเจ้าของผลงานถูกชาวเน็ตรุมตามต่อว่าอย่างมากมาย   BBCがmomo challenge はフェイクニュースであると報じたり海外のWikipediaなどでも割と正しい事実が掲載されてるんですけど、フェイクニュースに踊らされてる人も凄く多いですね。今度は殺人予告が来ました。怖！ pic.twitter.com/VEDHc42zak — 林美登利@第二作品集発売中 (@hayashimidori) March 1, 2019   ล่าสุดนี้ทางคุณ Keisuke Aiso ก็รู้สึกหัวเสียและเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ผลงานของตัวเองถูกผู้ไม่หวังดีเอาไปใช้แต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อทำร้ายเด็กๆ ดังในข่าวลือ ทั้งนี้คุณ Keisuke จึงตัดสินใจประกาศทำลายผลงานของตน เพื่อสร้างความมั่นใจให้เด็กๆ และทำให้เด็กๆ ไม่ต้องกลัว…

เชื่อเลยว่าแทบจะทุกๆ คนคงจะรู้จักกันดีกับเครื่องดื่มโคล่าแสนอร่อยที่มีนามว่า ‘โค้ก’ ซึ่งเป็นน้ำอัดลมที่ดื่มเมื่อไหร่ก็ชื่นใจดับกระหายได้เป็นอย่างดี ยิ่งในหน้าร้อนนี่คือแบบเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เอามากๆ… ทว่าด้วยความที่คนเรามักจะหาวิธีใหม่ๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์การกินที่แปลกแหวกไปจากเดิม จึงทำให้โค้กถูกนำมาอแดปเป็นเมนูต่างๆ อย่าง ไก่ต้มโค้ก ไก่ทอดโค้ก เสลอปี้ ไอติมหลอด หรืออื่นอีกมากมาย แต่ว่ามีเมนูหนึ่งที่กลายเป็นที่ข้องใจสำหรับชาวเน็ตซะเหลือเกินว่ามันมีจริงๆ บนโลกใบนี้หรือ เพราะนั่นคือเมนู ‘โค้กผสมนม’ ทว่าชายคนหนึ่งก็ยืนยันว่ามีจริงๆ แถมเมืองที่เขาอยู่ยังกินเมนูมาแล้วกว่าเป็นร้อยๆ ปี!! เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่ถกเถียงกันบนโลกอินเทอร์เน็ต จากความที่ James Felton นักแสดงตลกประเทศอังกฤษ ได้ทวีตถึงเมนูนี้แล้วบอกว่านี่เป็นเมนูที่ชาวเมืองเบอร์มิงแฮมโปรดปรานจริงๆ พร้อมกับโพสต์รูปตัวเองกำลังดื่มด่ำโค้กนมอย่างสบายอุรา   ทวีตของหนุ่ม James Milk coke is a real thing. Brummies love it. We can all move on from this discussion now, I will be taking no further questions.…

ทางการประเทศรัสเซียได้เตรียมการปล่อยเหล่าวาฬจำนวนกว่า 100 ตัว ด้วยความช่วยเหลือของนักแสดงดัง ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ที่ขอให้คนทั่วโลกช่วยกันร่วมลงชื่อเสนอให้การปล่อยครั้งนี้สำเร็จจนได้ นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมใช้เวลาหลายเดือนในการเรียกร้องให้มีการปล่อยวาฬเหล่านี้กับสู่ธรรมชาติของพวกมัน เนื่องจากพวกมันถูกกักขังไว้ในบ่อที่คับแคบและมีพื้นที่ไม่มากพอ และนักเคลื่อนไหวได้ตั้งชื่อบ่อพวกนี้ว่า “กรงขังวาฬ”   ส่วนสถานที่ในการกักขังวาฬอยู่ที่ท่าเรือแปซิฟิก เมืองนาโคกา ประเทศรัสเซีย ซึ่งมีถึง 4 บริษัทด้วยกันที่ถูกปรับเงินแล้วจากข้อหากักขังวาฬแบบผิดกฎหมาย ขณะที่บริษัทเหล่านี้เคยมีประวัติในการขายส่งสัตว์สำหรับสวนสนุกก่อนหน้านี้อีกด้วย สำนักงานความมั่นคงกลางของรัสเซียเป็นผู้ตั้งข้อหาให้บริษัทดังกล่าว และดูเหมือนว่าจะเป็นคำสั่งโดยตรงจากประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูตินเอง   โพสต์ที่ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ ขอร้องให้ทุกคนและทุกฝ่ายช่วยกันลงชื่อปล่อยวาฬเพชฌฆาตและวาฬเบลูกา Please sign this petition and join me in speaking out against the inhumane capture of orcas and belugas in Russia. https://t.co/OED9zJ9fnz — Leonardo DiCaprio (@LeoDiCaprio) February 26, 2019   ตามกฎหมายของประเทศรัสเซียแล้วอนุญาตให้สามารถกักวาฬในบ่อตามขนาดมาตรฐานที่กำหนดได้ และต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาทางวิทยาศาสตร์…

อาการ “ใคร่เด็ก” นั้นเป็นอาการป่วยทางจิตที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและความต้องการทางเพศที่เป็นอันตรายและไม่ได้รับการยอมรับในสังคม แม้แต่ในเว็บไซต์ที่ให้บริการหนังผู้ใหญ่ก็ยังคอยแบนเนื้อหาเหล่านี้ออกไป แต่ก็ยังคงมีเว็บใต้ดิน หรือที่เราเรียกกันว่า “เว็บมืด” (Dark Web) ที่มีสื่อลามกเด็กหลบซ่อนอยู่มากมายในโลกไซเบอร์ น่าเศร้าที่เนื้อหาเหล่านี้ทำให้เรารู้ว่ามีการล่อลวงและทารุณกรรมทางเพศเด็กอายุน้อยเกิดขึ้นตลอดเวลาทั่วโลก     เมื่อเดือนกันยายนปี 2018 นาย Kyle Fox วัย 26 ปี ถูกตำรวจบุกเข้าจับกุมตัวถึงที่พัก หลังจากเขาถ่ายคลิปตนเองข่มขืนและทารุณกรรมเด็กชายอายุ 5 ขวบ แล้วอัปโหลดมันลงในเว็บมืด จนทางตำรวจแกะรอยจนเจอ ขณะที่ตำรวจบุกเข้าไปก็พบว่านาย Fox นั้นอยู่บนเตียงกับเด็กชายอายุ 5 ขวบคนหนึ่งโดยที่เด็กชายไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเอาไว้สักชิ้น ทางศาล Kingston Crown ได้รับข้อมูลมาว่านาย Fox ใช้ “ยา” ทำให้เด็กชายคนดังกล่าวมึนงง มีสติไม่เต็มร้อย โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบโคเคนบนเส้นผมของเหยื่อ นอกจากนี้ยังพบว่านาย Fox กระทำทารุณกรรมเด็กผู้หญิงอายุ 10 เดือนคนหนึ่งเรื่อยมาจนกระทั่งเธออายุได้ 3 ขวบ   นาย Kyle Fox ในคลิปวิดีโอมีสายรัดข้อมือที่มีลักษณะโดดเด่น รวมทั้งผลการวิเคราะห์เสียงพูดก็ออกมาตรงกับตัวเขา จึงเป็นหลักฐานในการบ่งชี้ว่านาย Fox…

หลายคนคงเคยได้ยินประโยค  ‘Don’t judge a book by its cover’ ที่มีความหมายโดยนัยว่า อย่าตัดสินคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งอาจนำไปสู่การ ‘เลือกปฏิบัติ’ ต่อผู้อื่น เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเหตุการณ์นี้     ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Ismail Ariffin Lepat ได้โพสต์วิดิโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในร้านกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ Louis Vuitton เมื่อ Zanial Abidin เพื่อนของเขาถูกเลือกปฏิบัติจากพนักงานในร้านเพียงเพราะว่าแต่งตัว ‘ธรรมดา’ เกินไป Zanial บอกว่าตนเองอยากสลักชื่อลงไปบนกระเป๋าที่เขาซื้อจากร้านนี้เมื่อสามวันก่อน แต่พนักงานกลับปฏิเสธและปฏิบัติต่อเขาเยี่ยง ‘สุนัข’ จนตนรู้สึกโมโหและได้ขอกรรไกรจากพนักงาน     หลังจากนั้น เขาก็ลงมือตัดกระเป่าแบรนด์เนมที่เขาซื้อต่อหน้าพนักงาน พร้อมกับพูดว่า “พวกเขาคงคิดว่ากระเป๋าแบรนด์เนมมีค่ากว่าศักดิ์ศรีของพวกเรา” นอกจากนั้นชาวเน็ตยังสังเกตว่ากระเป๋ารุ่นที่ Zanial สะพายติดตัวมาอีกใบคือรุ่น Louis Vuitton x Takashi Murakami Monogramoflauge Duffle Bag มูลค่า 7,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 220,500 บาท)  …

เกิดเรื่องราวที่น่าประทับใจขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มที่ถูกลักพาตัวออกจากอ้อมอกของพ่อแม่ไปตั้งแต่ 3 ขวบ ในที่สุดก็ได้กลับมาเจอกันหลังเวลาผ่านไป 31 ปี Qin Yujie หรือชื่อที่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตั้งให้ว่า Cheng Xueping ผู้ถูกลักพาตัวไปจากไซต์ก่อสร้างที่ Cheng Jiguang ผู้เป็นพ่อ และ Gao Lingzhen ผู้เป็นแม่ ได้ทำงานอยู่ในปี 1988     หลังจากที่รู้ว่าลูกชายวัย 3 ขวบหายไป ทั้งคู่ใช้เวลาหลายชั่วโมงในวันนั้นเพื่อตามหาเขา โดยภายหลังก็ตระเวนไปทั่วประเทศจีน แต่ก็ไม่มีความหวังที่จะหาพบ กว่า 31 ปีผ่านไป สุดท้าย Qin ก็ได้กลับมาเจอครอบครัวที่แท้จริงของเขาอีกครั้ง ที่หมู่บ้าน Chengjiawan มณฑลเสฉวน โดยรายล้อมไปด้วยนักข่าวและคนในหมู่บ้านที่ออกมาต้อนรับเขา ในวันที่ 22 ก.พ. 19     “ผมตามหาพ่อแม่มาหลายปีแต่แทบไม่เจอเบาะแสอะไรเลย” เขาบอกกับพ่อแม่ที่กำลังร้องไห้ด้วยความตื้นตัน และ Qin ได้พาภรรยาและลูกๆ มาพบกับพ่อแม่ด้วยเช่นกัน ทางด้านพ่อแม่เผยว่าเมื่อหาลูกชายทั่วประเทศแล้วไม่พบ ทางครอบครัวตัดสินใจนำตัวอย่าง DNA ส่งไปให้กับฐานข้อมูลของประเทศเพื่อหาว่าเกิดอะไรขึ้น…

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Rashina Begum กับลูกสาววัย 3 ขวบใช้บริการรถไฟใต้ดินลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่สถานี Mile End ตอนเวลาบ่าย 2 โมง อยู่ๆ มีชายผิวขาวเดินเข้ามาบอกกับลูกสาวของเธอว่า “กลับไปซีเรียไปเลย ไสหัวกลับประเทศตัวเองไปซะ!” โดยมีแฟนสาวของชายคนดังกล่าวยืนหัวเราะอยู่ใกล้ๆ     Rashina รีบตรงเข้าไปแจ้งเรื่องที่เจอมากับเจ้าหน้าที่ TfL (Transport for London) ทันที เจ้าหน้าที่จึงเชิญเธอและลูกให้เข้าไปสอบถามเรื่องราวในสำนักงาน และส่งเจ้าหน้าที่อีกคนลงไปยังชานชาลาที่เกิดเหตุ คุณแม่คิดว่าทุกอย่างคงจบด้วยดี คนที่หยาบคายใส่ลูกของเธอคงถูกเรียกตัวมาสอบสวน ก่อนจะได้รับการลงโทษตามสมควร แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อเธอเห็นผ่านหน้าจอของกล้องวงจรปิดว่าเจ้าหน้าที่ที่ออกไปตามหาคนผิดที่ชานชาลานั้น กลับไปยืนจับมือเชคแฮนด์กับชายผิวขาวคนนั้นซะงั้น แถมยังปล่อยให้เขาขึ้นรถไฟจากไปโดยไม่กักตัวหรือขอชื่อเอาไว้เพื่อแจ้งตำรวจต่อด้วย     สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความไม่พอใจแก่ Rashina อย่างมาก เธอขอชื่อของพนักงานคนดังกล่าว แต่กลับได้มาแค่ชื่อเล่น ไม่ใช่ชื่อจริง เธอจึงนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าในเฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมบอกว่า “นี่เป็นการเหยียดเชื้อชาติที่ลูกสาวอายุ 3 ขวบของฉันเป็นเหยื่อนะ เธอต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วทำเรื่องแบบนี้ลงไปไม่ควรถูกปล่อยให้ลอยนวลในยุคนี้สมัยนี้แล้ว” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยัง TfL แล้วและยังคงรอการตอบกลับอยู่ เธอยากได้คลิปจากกล้องวงจรปิดตอนเกิดเหตุเพื่อนำไปให้ตำรวจช่วยจับกุมตัวชายคนที่รังแกเธอและลูก และต้องการให้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยตัวชายผิวขาวไปด้วย   https://www.facebook.com/rashina.begum/posts/10155988780476551…

หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหนังก็คงจะเป็นหนังตลก แต่ถ้ามันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงล่ะก็คงจะขำไม่ออกกันเลยทีเดียว เมื่อคุณอุตส่าเก็บหอมรอมริบซื้อทริปออกเดินทางไปกับเรือสำราญ แต่ขากลับดันมาขึ้นเรือสายจนถูกทิ้งไว้กลางท่าเรือ ขณะเห็นเรือค่อยๆ แล่นออกไปไกลลิบตา…     เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นจริงกับคู่รักหนุ่มสาวที่มาท่องเที่ยวที่หมู่เกาะชื่อดังที่กรุงแนสซอ ประเทศบาฮามาส โดยเป็นการออกทริปท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ Royal Caribbean ที่กินระยะเวลา 7 วัน วันสุดท้ายแทนที่ทั้งคู่จะต้องได้นั่งเรือกลับไปยังท่าเรือไมแอมี รัฐฟลอริดาประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาดันขึ้นเรือไม่ทันและโดนปล่อยไว้ที่ท่าเรือซะงั้น!?   คลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ขณะคู่รักพยายามจะโบกให้เรือจอด   จากคลิปวิดีโอมีการประกาศให้ผู้โดยสารขึ้นเรือได้แล้ว และมีการเรียกเป็นครั้งสุดท้ายเวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น แต่ทั้งคู่มาสายหลังจากประกาศเรียกครั้งสุดท้ายถึง 50 นาที เป็นเหตุให้เรือต้องขับออกไปก่อน       สาเหตุเพราะว่าคู่รักใช้เวลาเที่ยวเตร่อยู่บนเกาะกันสองคน เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายแล้ว จนลืมเวลาที่จะต้องกลับมาขึ้นเรือ พอมาถึง ทั้งสองคนพยายามทำทุกอย่างทั้งตะโกนเรียกให้พนักงานบนเรือช่วยหันมามอง และโบกไม้โบกมือเผื่อจะมีคนเห็นบ้าง แต่ดูเหมือนความพยายามจะไม่เป็นผล ขณะที่คนบนเรือสำราญที่ขึ้นมาทันต่างได้แต่มองลงมายังสองคู่รักที่วิ่งไปมาอย่างร้อนรน และไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ เพราะมันสายไปเสียแล้ว… ส่งผลให้คู่รักทำอะไรไม่ได้นอกจากมองตามเรือสำราญค่อยๆ แล่นออกไป     มีผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ได้ และนำมาแชร์ต่อในโลกออนไลน์ จนกลายเป็นกระแสไวรัล ผู้คนต่างก็เห็นอกเห็นใจทั้งสองคนเพราะอุตส่าได้มาเที่ยวกับเรือสำราญทั้งทีแต่ดันลืมเวลาจนถูกทิ้งไปซะได้…   ตามปกติแล้วหากเกิดมาสายด้วยเหตุจำเป็นจริงๆ สามารถแจ้งทาง Royal Caribbean ได้ทันทีและจะหาทางแก้ไขให้โดยด่วน…

เหตุเกิดขึ้นที่ประเทศจีน มีรายงานว่าชายว่างงานคนหนึ่งถูกพบว่าเขาทำการแฮ็คตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญแบบจอสัมผัส ทำให้โด่งดังไปทั่วโซเชียล ชายคนดังกล่าว ผู้สวมฮูดสีดำ อ้างว่าเขาเป็นอดีตช่างกล เหตุผลที่ทำไปเพราะว่า “ผมไม่มีโทรศัพท์ ผมแฮ็คเข้าไปเพื่ออ่านนิยายและดูหนัง” ก่อนจะโชว์วิธีแฮ็คให้นักข่าวดู (ไม่สามารถเผยแพร่คลิปวิธีทำได้)     มีพยานที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงเผยว่าเห็นชายคนดังกล่าวในตู้โทรศัพท์แทบจะทุกคืนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พยานเสริมว่าชายคนนี้จะอยู่ข้างในเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมงทุกครั้งที่เข้าไป China Telecom บริษัทเจ้าของโทรศัพท์ยอดเหรียญที่ถูกแฮ็ค ได้ออกมาเผยว่าพวกเขากำลังสืบเรื่อง ทางด้านแผนกบริการลูกค้าก็ออกมายืนยันว่าสิ่งที่ข่าวนำเสนอออกมาเป็นความจริง เพราะมีบันทึกอยู่ในเครื่องว่าตู้โทรศัพท์ถูกแฮ็คเพื่อใช้ไวไฟฟรี     เมื่อเรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโซเชียล ชาวเน็ตก็มาแสดงความคิดเห็นฮาๆ ไว้อย่างเช่น “เราไม่มีวันรู้เลยว่าเพื่อนร่วมทีมของเราในเกม ใช้อุปกรณ์อะไรเล่นกับเราอยู่” หรือ “หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป นายน่าจะได้งานใหม่และโทรศัพท์ใหม่” ชาวเน็ตอีกคนเสริม   ที่มา: South China Morning Post

เกิดอะไรขึ้น!? เว็บไซต์ต่างประเทศหลายแห่ง รายงานอ้างอิงจากช่องโทรทัศน์ท้องถิ่นของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน หลังจากช่องทีวีดังกล่าวนำเสนอข่าวว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองนานกิง พาแมวของเธอที่เธอคิดว่ามันน่าเกลียดไปศัลยกรรม เธอยอมจ่ายเงินเป็นจำนวน 10,000 หยวน (47,000 บาท) เพื่อเพิ่มตาสองชั้นให้กับแมวของเธอ โดยสัตวแพทย์ต้องโกนขนที่หน้าของมันและกลีดมีดลงบนเปลือกตาแต่ละข้างของมันและทำการเย็บแผล     คำให้การจากผู้เกี่ยวข้อง พนักงานของโรงพยาบาล Rupeng ในหนานจิงได้ให้สัมภาษณ์ว่าในปัจจุบันนี้ การเสริมตาสองชั้นให้กับสัตว์เลี้ยงถือว่าเป็นเรื่องที่ธรรมดาไปแล้ว นอกจากนี้เขายังเสริมอีกว่าการศัลยกรรมนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมเพียงเจ้าของแมวเท่านั้น เจ้าของหมาก็นิยมทำด้วย เนื่องจากพวกเขาต้องการที่จะสัตว์เลี้ยงไปแข่งขันในรายการต่างๆ อย่างไรก็ตามเขาก็ได้บอกว่าการศัลยกรรมในสัตว์เลี้ยงนี้อาจทำให้สัตว์เลี้ยงไม่สบายตัวและก็มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของพวกมันด้วย     เมื่อภาพกลายเป็นไวรัล ย่อมมีเสียงตอบรับกลับมา… หลังจากประเด็นดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันและกลายเป็นไรวรัลอย่างรวดเร็ว ก็มีชาวเน็ตหลายคนออกมาประนามคนที่ทำศัลยกรรมให้สัตว์เลี้ยงอย่างมากมาย บ้างก็ว่า “หากจะทำเพราะอยากให้มันดูน่ารัก นั่นมันไม่จำเป็นเลยเพราะมันสร้างความเจ็บปวดให้แก่สัตว์เหล่านั้น” หรือจะเป็น “มันดูไม่เหมือนแมวอีกต่อไปแล้ว นี่มันคือการทรมานสัตว์ชัดๆ” บางคนก็บอกว่า “ฉันบอกได้เลยว่านี่มันคือการทารุณสัตว์อย่างแท้จริงและพวกเขาก็ไม่ได้สนใจความรู้สึกของเจ้าแมวเลย”     ศัลยกรรม หรือ การรักษา!? อย่างไรก็ตาม เมื่อกระแสดังกล่าวดังไปมาก ก็มีคนมาโต้แย้งว่าการผ่าตัดดังกล่าวนั้นช่วยรักษาอาการผิดปกติของดวงตาแมวต่างหาก พร้อมกับยกตัวอย่างว่าแมวของตนเองก็เคยเข้ารับการผ่าตัดลักษณะนี้ เพราะหากไม่ผ่าตัดแล้ว เปลือกตาอาจจะดันเข้าไปในตา ทำให้มันมองไม่เห็นไปตลอดชีวิต   ย้อนกลับไปในปี 2017 เคยมีแมวจรจัดตัวหนึ่งในจีน ได้รับการผ่าตัดรักษาในลักษณะดังกล่าว…

มีรายงานว่าหญิงสาวนามสกุล Zhou จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ได้ล่อลวงแฟนเก่าของเธอขึ้นไปบนเขาและปล้นเงินมาด้วยเหตุผลว่า ต้องการจัดงานแต่งงานแต่มีเงินไม่พอ รายงานเผยว่าหญิงสาวคนดังกล่าวพึ่งจะถูกไล่ออกจากงาน เช่นเดียวกับแฟนหนุ่มคนปัจจุบันของเธอ ทำให้พวกเขาทั้งคู่ว่างงาน เมื่อขัดสนทางด้านรายได้ พวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าห้องของตัวเองในจำนวนเพียงแค่ 100 หยวน (ประมาณ 470 บาท) ได้ และถูกขับไล่ออกมา     เผอิญว่าในช่วงเวลาดังกล่าว แฟนหนุ่มของเธอได้สัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอ หากพวกเขามีเงินมากพอ ทำให้ Zhou ตื่นเต้นอย่างมาก และคิดแผนการชั่วร้ายในการหาเงินด้วยเวลาอันเล็กน้อยออกมา เธอนึกถึง Ah Gang แฟนเก่าวัย 43 ปี ที่รู้จักกับเธอมาสองปีผ่านการทำงาน แต่เธอเลิกกับเขาเพราะรู้สึกว่าเขาไม่ฉลาดและหล่อพอสำหรับเธอ แต่ Ah Gang ยังคงรักเธออยู่ เธอกลับไปหาแฟนเก่า แสร้งทำเป็นว่าได้เปลี่ยนใจอยากกลับมาคบหาดูใจกับเขาอีกครั้ง ซึ่งแฟนเก่าก็เชื่อสนิทใจ     เมื่อ Zhou ขอให้เขาพาเธอไปช็อปปิ้ง เขาก็ตอบตกลงและพกเงิน 10,000 หยวน (ประมาณ 47,000 บาท) ที่สะสมไว้หลายปีติดตัวไปด้วย จากนั้น ระหว่างที่พวกเขาชิลอยู่ที่สวนสาธารณะ Zhou ชวนแฟนเก่าของเธอขึ้นไปหาทำเลเหมาพๆ บนเขาเพื่อ “หาอะไรตื่นเต้นๆ…

กองกำลังแต่ละกลุ่มจะมีเทคนิคการรบในแบบฉบับของตัวเอง แต่ว่ามีทวิตเตอร์หนึ่งเผยให้เห็นว่ามี ‘กลุ่มไอซิส’ ของประเทศลิเบีย สามารถเปลี่ยนรถเข็นห้างธรรมดาๆ ให้กลายเป็นป้อมปืนกลเคลื่อนที่ได้!! โดยเรื่องนี้ได้เผยแพร่ออกมาโดยทวิตเตอร์ของนาย Hugo Kaaman ซึ่งเขาได้ระบุว่า คลิปนี้เป็นวิดีโอที่มาจากการถ่ายบุคคลหนึ่งที่เป็นสมาชิกกองกำลังไอซิสในประเทศลิเบีย ในปี 2015   วิดีโอการเปลี่ยนรถเข็นเป็นป้อมปืนเคลื่อนที่ Ah, Libya… Land of wonders and shopping cart technicals pic.twitter.com/fL1DGTAf1f — Hugo Kaaman (@HKaaman) February 26, 2019   โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่ารถเข็น DIY นี้ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่สร้างความมั่นคงให้กับปืนในยามที่ยิงเพียงเท่านั้น แต่มันยังสามารถเอาไว้เก็บกล่องกระสุนได้ด้วย… นอกจากรถเข็มป้อมปืนนี้แล้ว ในทวิตเตอร์ของเขาก็ยังมีการเผยแพร่ภาพของกลุ่มกองกำลังที่ใช้ ‘โรลเลอร์เบลด’ เป็นตัวช่วยในการเคลื่อนไหวด้วย   Is your combat gear slowing you down? Improve your mobility like this Libyan rebel…

ขึ้นชื่อว่าเป็นไอเทม ‘ลิมิเต็ด’ ไม่ว่าใครๆ ต่างก็อยากได้มาครอบครอง เพราะบางทีไอเทมชิ้นนั้นมันอาจไม่ทำมาเพิ่มอีกแล้ว หรือเรียกง่ายๆ ว่าหมดแล้วหมดเลย… แต่ว่าด้วยเรื่องของความลิมิเต็ดนี้เองก็อาจทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นได้ อย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศจีนนี้ที่ลูกค้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันแบบอุตลุด เพราะแย่งแก้วลิมิเต็ดจากทาง ‘สตาร์บัคส์’!!     เนื่องด้วยความที่สตาร์บัคส์ได้ปล่อยแก้วลิมิเต็ดตัวใหม่ของพวกเขาออกมาโดยมีชื่อว่า Cat’s Paw Cup (แก้วอุ้งเท้าแมว) ซึ่งเป็นแก้วลิมิเต็ดที่มีจำหน่ายเพียง 1,000 ใบต่อวัน ในราคาแก้วละ 199 หยวน (ราวๆ 940 บาท) ด้วยความลิมิเต็ดนี้บวกกับความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้มีผู้อยากครอบครองแก้วใบนี้มากมาย และมีรายงานว่ามีการนำไปขายต่อในโลกออนไลน์ได้ในราคาที่สูงกว่า 600 หยวน (ราวๆ 2,800 บาท) เลยทีเดียว   คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ (หากดูไม่ได้คลิ๊กที่นี่)    เหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงนำไปสู่เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันระหว่างชายและหญิงคู่หนึ่ง ที่ร้านสตาร์บัคส์สาขาในมณฑลส่านซี ประเทศจีน วันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา     ทั้งสองยื้อยุดฉุกกระชากแก้วกันไปมาอยู่ที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ของทางร้าน ก่อนที่เหตุการณ์จะยุติลงจากการที่เพื่อนของฝ่ายหญิงเป็นผู้ซื้อแก้วไป และเข้ามาห้ามปรามในที่สุด     เรื่องราวทำนองนี้ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในประเทศจีน…

เดี๋ยวนี้บริการ ‘เดลิเวอรี่’ เป็นบริการยอดฮิตที่ทั้งคนไทยรวมถึงต่างชาตินิยมใช้กันอย่างมากมาย เพราะมันมีความสะดวกสบายแบบสุดๆ อยากกินอะไรก็แค่โทรสั่งหรือไม่ก็คลิ๊กเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามกว่าที่อาหารจะมาถึงมือเรา เราก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่ามันผ่านอะไรมาก่อนบ้าง และบางทีอาจจะเจอแจ็กพอตเหมือนอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็เป็นได้…   Howard Matthew ‘Matt’ Webb   เมื่อไม่นานมานี้ลูกค้าร้านอาหารเม็กซิกันในรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐฯ ต้องแทบจะอ้วกแตกออกมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าพนักงานที่นำอาหารของเธอมาส่งที่บ้าน มีการนำ ‘จุ๊ดจู๋’ จุ่มลงไปในซอสซัลซา หลักฐานที่นำมาประกอบคำกล่าวอ้างนี้คือคลิปวิดีโอในเฟซบุ๊กยาว 14 วินาทีที่คนขับรถส่งอาหารถ่ายเอาไว้ พร้อมทั้งมีคำพูดประกอบว่า ‘นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อคุณให้ทิปแค่ 89 เซนต์กับการที่ต้องขับรถมาส่งเกือบๆ 30 นาที’      ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนที่ลงมือได้ ซึ่งเขามีชือว่า Howard Matthew ‘Matt’ Webb อายุ 31 ปี โดยเขาถูกจับในข้อหาเจือปนสิ่งสกปรกลงในอาหาร ปกติแล้ว Matt จะทำหน้าที่เป็นพนักงานส่งอาหารฟรีแลนซ์และมักทำงานร่วมกับ Dinner Delivered บริษัทเดลิเวอรี่ (อารมณ์คล้ายๆ แกร็บฟู้ด) แต่ว่าในคืนนั้นเขามาอยู่ในรถคันที่เกิดเหตุได้อย่างไรก็ไม่อาจทราบได้   คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (หากดูไม่ได้คลิ๊กที่นี่)    จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่าเหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นในวันที่ 12…

การจัดงานแต่งงานในยุคปัจจุบัน เราก็มักจะได้เห็นว่างานแต่งงานในยุคนี้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะธีมงานแต่งที่ทางบ่าวสาวแต่ละคู่ต่างก็ได้งัดเอาไอเดียออกมาจัดเป็นงานแต่งสุดล้ำไม่ซ้ำใคร ส่วนมากที่เราได้เห็นก็มักจะมีเป็นธีมสีต่างๆ เช่นสีชมพู สีฟ้า สีเขียว หรือจะเป็นธีมฉากต่างๆ อย่างงานวัด ดิสนีย์ อะไรประมาณนี้ แต่ขอบอกเลยว่าธีมงานแต่งงานที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ต้องถูกนักเล่นเกมออนไลน์อย่างแน่นอน     นี่คือภาพของการโปรโมทการจัดงานแต่งงานในธีม Final Fantasy 14  โดยบริษัทรับจัดงานแต่งงานในประเทศญี่ปุ่นมา ที่จะเนรมิตให้ความฝันของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเป็นจริงทั้งฉาก พร๊อบประกอบงาน ชุด และองค์ประกอบยิบย่อยของงานทั้งหมดในงบ 31,500 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 991,000 บาท   ชุดเจ้าบ่าว .   ตัวอย่างชุดเจ้าสาวและเจ้าบ่าว . .   น่ารักมาก   เค้กก็น่ารัก ตามธีมเกมเป๊ะ   แม้แต่อาหารก็ใส่ใจในรายละเอียด   ชุดเจ้าสาวน่ารักและสวยมาก   ที่มา designyoutrust

โลกของเรานั้นมีสัตว์มากมายหลายชนิดอาศัยอยู่ แน่นอนว่าการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกมัน ก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่มนุษย์ทำมานานมากแล้ว… เช่นเดียวกันกับโปรเจกต์นี้ที่ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1999 เมื่อทางนักสำรวจได้พบนกอินทรีตัวหนึ่งแถวเขตประเทศรัสเซีย และได้เริ่มติดตั้งเครื่องติดตามตั้งแต่ตอนนั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมของพวกมัน ตลอดระยะเวลา 20 ปี นักวิจัยเฝ้าดูและศึกษาเส้นทางการบินของนกอินทรีตัวนี้ จนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของมัน จึงได้นำข้อมูลการบินทั้งหมดมาสรุปให้เราได้ชมกันผ่านทางเพจเฟซบุ๊กคือ VetDr.Gill สิ่งที่น่าสนใจก็คือตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เจ้านกอินทรีตัวนี้บินผ่านหลายประเทศในแถบตะวันออกกลาง แต่ขณะเดียวกันมันก็หลีกเลี่ยงเส้นทางในการบินผ่านทะเลเกือบทั้งชีวิตของมัน…   แผนที่นี้แสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเดินของนกอินทรีตลอดระยะเวลา 20 ปี   วิธีที่นักสำรวจใช้ติดตามมันก็คือ การนำเครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็กติดไว้บนหลังของมัน และเครื่องส่งสัญญาณนี้จะส่งข้อมูลไปยังดาวเทียมเพื่อทำให้ทราบการเคลื่อนไหวของนกอินทรีตลอดเวลา จากภาพแผนที่การติดตามนกอินทรี จะเห็นได้ว่ามันเลือกที่จะบินเส้นทางระยะที่ไกลกว่าแทนที่จะเลือกบินตัดผ่านทะเลแคสเปียนที่อาจจะถึงที่หมายได้เร็วกว่า และที่ทำให้นักสำรวจประหลาดใจเพราะว่ามีนกหลายชนิดมากที่พวกมันใช้เวลาทั้งชีวิตในการบินผ่านท้องทะเล เช่น อินทรีหัวขาว ที่จัดอยู่ในพวกอินทรีทะเลรวมถึงเป็นนกขนาดใหญ่สุดที่หาปลาเป็นอาหาร แต่ไม่ใช่กับนกอินทรีตัวนี้ ด้วยความที่มันเป็นนกอินทรีที่มักอยู่อาศัยในแถบตะวันออกกลาง ทำให้พอคาดเดาได้ว่ามันน่าจะเป็นนกอินทรีสายพันธุ์ Greater Spotted Eagle ที่ช่วงฤดูหนาวมักจะพบนกชนิดนี้ได้มากในประเทศเยเมน ส่วนฤดูผสมพันธุ์จะพบแถบไซบีเรียตะวันออก   เครื่องติดตามบนหลังของนกอินทรี . .   ถึงแม้ว่าผ่านไป 20 ปี อินทรีตัวนี้ได้สิ้นอายุขัยของมันแล้ว แต่เชื่อว่ามันก็ทำให้เราได้ทราบเส้นทางการบินของมันเพื่อที่นักวิจัยสามารถไปวิเคราะห์ต่อได้ และวันหนึ่งคงจะได้รู้เหตุผลว่าทำไมมันจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางทะเลตลอดชีวิตของมัน…   ที่มา: facebook, scienceabc, wikipedia

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 Katy และ Fernando Redondo พ่อและแม่ของหนูน้อย Bella วัย 2 เดือน พาลูกสาวไปฝากไว้ที่ศูนย์เลี้ยงเด็ก Little Bears Beginnings Day Care ซึ่งดูแลโดยพี่เลี้ยง Nydia Carrillo-Maldonado วันหนึ่ง Katy ได้รับโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงคนดังกล่าว และในสายเธอได้ยินเสียงลูกสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังลอดมา และเด็กหญิงเสียชีวิตหลังจากนั้น ผลการตรวจสอบพบว่า Bella ได้รับแรงกระแทกจากของไม่มีคมเข้าที่ศีรษะ จนกะโหลกแตกเป็น 2 ส่วน   Nydia Carrillo-Maldonado พี่เลี้ยงเด็ก   ถึงแม้จะไม่มีอะไรบ่งชี้ชัดว่า Nydia ตั้งใจทำร้ายเด็กหญิงจนตาย แต่ด้วยความไม่เอาใจใส่ เธอจึงไม่ได้ให้การช่วยเหลือ Bella จนเด็กน้อยเสียชีวิตไปในที่สุด ทำให้พี่เลี้ยงคนดังกล่าวถูกตัดสินจำคุก 3 ปีครึ่งในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาและทำให้เกิดความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อเด็ก คดียังคงยืดเยื้อเรื่อยมาถึงการพิจารณาคดีเมื่อค่ำของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2019 Katy และ Fernando นั้นไม่ได้เข้าร่วมการพิจารณาคดีเพราะพวกเขาคิดว่า Nydia สมควรถูกตัดสินโทษรุนแรงมากกว่านี้    …

แม้ว่าเราจะเติบโตขึ้นมา มีหน้าที่การงานสูงส่งใหญ่โตแค่ไหน แต่ในสายตาของแม่แล้ว เราก็ยังคงเป็นเด็กหัวแก้วหัวแหวนเหมือนเดิม เช่นเดียวกับนาย Khan วัย 20 ปีคนนี้ ผู้อาศัยอยู่ที่เมืองเดอร์บัง ประเทศแอฟริกาใต้ ที่พึ่งจะได้รับใบอนุญาตนักบินส่วนบุคคลมาเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้กำลังเก็บชั่วโมงบินเพื่อที่จะทำใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรีต่อไป     เรื่องราวนี้ถูกแชร์โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Nabeela ผู้เป็นน้องสาวของ Khan ว่าในระหว่างที่ Khan เก็บชั่วโมงบินนั้น เขาได้บินผ่านบ้านของตัวเอง และถ่ายภาพหลังคาบ้านพร้อมกับส่งรูปไปทักทายคุณแม่ว่าตอนนี้บินอยู่ข้างบนหัวแม่นะ!   Khan กับคุณแม่ของเขา   แม่ของนาย Khan ตอบกลับมาว่าได้ยินเสียงเครื่องบินบินผ่านไป แต่แสงจ้าจนมองขึ้นไปไม่ได้ และอวยพรให้เขาปลอดภัย ก่อนที่ตอบกลับไปอีกครั้งหลังผ่านไปสามนาทีว่า “ลูกได้มองลงมาที่ห้องนอนของตัวเอง แล้วเห็นที่นอนที่ยังไม่ได้เก็บไหม”     เมื่อคุณกำลังบินอยู่บนท้องฟ้าแต่แม่ของคุณตอบกลับมาว่าเขายังไม่ได้เก็บที่นอน นาย Khan ก็เผยว่า “ผมบอกกับเพื่อนข้างๆ ว่า ‘ตรูโดนแม่ตัวเองเล่นซะแล้ว’ และพวกเราก็หัวเราะอยู่หลายนาทีบนเครื่องบิน” Khan กำลังอยู่ในช่วงหาสปอนเซอร์เพื่อเก็บชั่วโมงบินให้ครบ ซึ่งแม่ของเขาก็บอกต่อว่า “ไม่มีใครอยากสปอนเซอร์คนที่ไม่เก็บที่นอนหรอก”   pic.twitter.com/BbzApTpfTy — NAB24 (1:1) 🍉…

สำหรับหนุ่มสาวที่รักสนุก แต่ไม่คิดป้องกัน หากพลาดพลั้งตั้งท้องขึ้น การทำแท้งคงเป็นทางออกที่คู่รักหลายๆ คู่ตัดสินใจเลือกใช้กัน แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่าการทำแท้งนี้มีผลเสียหลายด้าน โดยเฉพาะผลเสียต่อสุขภาพของผู้เป็นแม่ ดังเช่นเรื่องที่เรานำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันนี้ เมื่อผู้หญิงชาวจีนวัย 27 ปีถูกหมอวินิจฉัยว่าอาจจะมีลูกไม่ได้อีกเลย หลังจากทำแท้งมา 17 ครั้งภายในระยะเวลา 6 ปี     วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2019 เว็บไซต์ Shiyan Evening News ได้รายงานข่าวของผู้หญิงคนหนึ่งในประเทศจีน ที่มาหาหมอเพื่อทำแท้งอยู่บ่อยๆ โดยภายใน 6 ปีที่เธอคบกับแฟนหนุ่มมา เธอได้ตั้งครรภ์ไปถึง 17 ครั้งและจบลงด้วยการทำแท้งเด็กอยู่ทุกครั้งและล่าสุดในต้นเดือนนี้ ผู้หญิงคนดังกล่าวก็มาที่โรงพยาบาลเพื่อทำแท้งอีกครั้งหนึ่งง แต่ครั้งนี้ทาง Dr. Zhao Qin หัวหน้าแผนกนรีเวชศาสตร์ได้โน้มน้าวให้เธอเก็บเด็กคนดังกล่าวไว้ เนื่องจากมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะสามารถมีลูกได้แล้ว     “ฉันพบว่าเยื่อบุมดลูกของเธอนั้นบางมากๆ บางเหมือนเศษกระดาษ เนื่องจากการทำแท้งซ้ำๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาของเธอ ทำให้มดลูกของเธอตอนนี้มีแผลที่เยอะเป็นอย่างมาก” Dr. Zhao กล่าว และแม้ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวจะได้รับคำเตือนจากแพทย์ดังนั้น แต่เธอก็ยังยืนยันที่จะทำแท้งไป โดยให้เหตุผลว่าเธอไม่ได้เตรียมตัวที่จะแต่งงานและกลายเป็นพ่อคนแม่คน   หากคิดจะรักสนุก…

หากใครที่กำลังศึกษาอยู่ ตอนวันหยุดยาวระหว่างเรียนเพื่อนๆ ใช้เวลาไปกับอะไรกันบ้างบ้าง #เหมียวโคบี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะพักผ่อนหรือเที่ยวกันอย่างเต็มที่เป็นอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่กับเด็กสาวชาวจีนวัย 13 ปีคนที่เราจะนำมาให้ได้ดูกันขณะนี้ เมื่อเธอไม่ได้ใช้เวลาว่างในวันหยุดไปกับการเที่ยวเล่นตามประสาเด็ก แต่เธอกลับใช้มันเป็นโอกาสหาเงินได้มากถึง 10,000 หยวน (47,000 บาท)     เด็กสาวคนดังกล่าวอาศัยอยู่ในนครฉงชิ่ง เขตหยูจง ประเทศจีน เธอกลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืนหลังจากชาวเน็ตพบว่าเธอสร้างรายได้มากถึง 10,000 หยวน จากการรับทำการบ้านในช่วงหยุดตรุษจีน โดยเธอแอบใช้บัญชีธุรกรรมการเงินออนไลน์ของคุณแม่ โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อนเพื่อรับลูกค้าและเป็นช่องทางการหาเงินของเธอ     ธุรกิจของเธอดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั่งมีคนคุณครูโรงเรียนหนึ่ง จับได้ว่ามีนักเรียนของตนแอบใช้บริการของเธอ เนื่องจากจำลายมือของเธอได้ และหลังจากนั้นนักเรียนคนที่ถูกจับได้ก็ติดต่อกลับมาหาเธอ เพื่อขอให้เธอคืนเงินให้ แต่เด็กสาวก็ไม่คิดที่จะคืนเงินแต่อย่างใด เธอให้เหตุผลว่าเธออุตส่าห์ใช้เวลาทั้งบ่ายของเธอเพื่อทำการบ้านให้แก่ลูกค้าเลยนะ ซึ่งทางลูกค้าคนนี้ก็ไม่ยอม จึงทำการรีพอร์ตบัญชีของเธอและไม่นานนักบัญชีของเธอก็ถูกทางเว็บไซต์ระงับการใช้งาน     เมื่อเรื่องแดงจนลามถึงหูของคุณแม่ของเธอ คุณแม่ก็รีบเข้ามาถามเธอ ว่าเธอแอบใช้บัญชีของตนเพื่อเปิดธุรกิจดังกล่าวจริงหรือไม่ คุณแม่โกรธเธอเป็นอย่างมากและสั่งริบรายได้ที่เธอหามาทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม เด็กสาวคนดังกล่าวก็หาได้สำนึกผิดไม่ ตามรายงานข่าวว่าเธอได้เถียงกลับคุณแม่ว่าสิ่งที่เธอนั้นไม่ได้ผิดแต่อย่างใด พร้อมยังบอกอีกว่าเธอสามารถทำรายได้มากที่คุณแม่ทำเสียอีก   เรียกได้ว่ารู้จักหาเงินตั้งแต่เล็กแต่น้อยเลยทีเดียวเด็กคนนี้ แต่หนูจะเอาบัญชีของคุณแม่มาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ได้นะลูกกก   ที่มา Nextshark, Seehua

ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าในปัจจุบันนี้ การศัลยกรรมพลาสติกเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะทั้งในเพศหญิงหรือเพศชายก็ตาม ซึ่ง Jolene Dawson หญิงข้ามเพศวัย 23 ปีจากเมืองโกลด์โคสต์ ประเทศออสเตรเลีย คนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบการทำศัลยกรรมพลาสติกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฉีดปากหรือเสริมก้น ล่าสุดนี้เธอได้มาทำจมูกที่ประเทศไทย แต่ครั้งนี้กลับเป็นครั้งที่ทำให้เธอกลัวการศัลยกรรมพลาสติกไปเลย หลังหมอศัลยกรรมทำจมูกของเธออกมาผิดพลาด จนหายใจลำบาก      เธอเผยประสบการณ์ในการศัลยกรรมจมูกครั้งนี้ลงในช่องยูทูบของเธอ เธอเล่าว่าเธอเคยทำจมูกมาก่อนหน้านี้ แต่ไม่พอใจกับปลายจมูก ก็เลยตัดสินใจบินมาแก้ทรงจมูกที่ประเทศไทย ก่อนเกิดความผิดพลาดจนรูจมูกซ้ายของเธอปิด “รูจมูกซ้ายของฉันใช้หายใจไม่ได้และฉันยังได้กลิ่นเลือดอยู่ตลอดเวลา ฉันจะไม่ทำศัลยกรรมพลาสติกอีกแล้ว ตั้งแต่ผ่าตัดมานี้ ฉันหายใจหรือนอนหลับอย่างปกติไม่ได้เลย ฉันพูดได้ไม่ชัดและได้รับรสชาติของเลือดอยู่ตลอด ฉันอายมากเพราะมันเป็นสิ่งที่แบบว่า ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองเลย” Jolene กล่าวในวิดีโอ   https://www.instagram.com/p/BuDvbPYHksB/   เธอกล่าวต่อว่า “ฉันอายเวลาที่ต้องออกจากบ้านมากๆ ฉันอยากจะเตือนให้ทุกคนได้รู้ถึงอันตรายของการศัลยกรรมพลาสติก ฉันหวังว่าจมูกของฉันยังสามารถแก้ไขได้นะ ฉันรับไม่ได้ที่จะต้องมาถ่ายวิดีโอครั้งต่อไปในสภาพนี้“ สุดท้ายนี้จากรายงานพบว่า Jolene ได้เข้าปรึกษากับแพทย์พร้อมกับนัดเพื่อทำการแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว โดยเธอหวังว่าในครั้งนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์เหมือนเหมือนก่อนหน้านี้อีก   ที่มา Unilad, Jolene Dawson

ภาวะ ‘สมองเสื่อม’ เปรียบได้กับภาวะที่ค่อยๆ กลืนกินตัวตนของผู้ป่วยไปอย่างช้าๆ จนในวันหนึ่งพวกเขาก็สูญเสียความเป็นตัวเองไป ทั้งนิสัย วิธีการคิด รวมถึงความทรงจำในชีวิตที่ผ่านมา ปัจจุบันบนโลกนี้มีผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมากถึง 46 ล้านคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคุณแม่ของผู้หญิงที่ใช้เฟซบุ๊กว่า MJ Grant และนี่คือเรื่องราวน่ารักๆ ของคุณแม่ของเธอ ในวินาทีที่กลับมาจำลูกสาวของตัวเองได้อีกครั้งหนึ่ง…   MJ Grant และ Carment ผู้เป็นคุณแม่ของเธอ   แต่ดั้งแต่เดิมนั้น MJ Grant เติบโตมาพร้อมกับผู้เป็นพ่อคือนาย Manley และคุณแม่ Carment Grean โดยที่ทั้งคู่มีภาวะหูหนวกทั้งคู่ ทั้งเธอและ LouAnn น้องสาวจึงอยู่กับการใช้ภาษามือมาตลอดทั้งชีวิต ในปัจจุบันเธอมีอาชีพเป็นล่ามภาษามือและมักจะใช้เวลาว่างดูแลคุณแม่ที่มีภาวะสมองเสื่อม ที่บ้านหลังเก่าในรัฐเมน ประเทศสหรัฐฯ     วันหนึ่งในฤดูหนาวที่ผ่านมา MJ ได้พาคุณแม่ขับรถออกไปเที่ยวที่หาดแห่งหนึ่ง และขณะที่จอดรถพักชมวิวอยู่นั้นเอง เธอได้ตัดสินใจถ่ายวิดีโอของคุณแม่เก็บเอาไว้ ซึ่งมันก็ได้กลายเป็นไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมา เพราะมีช่วงเวลาสุดแสนจะพิเศษอยู่ในคลิปวิดีโอที่ว่านี้…     วิดีโอเริ่มต้นด้วยการที่ทั้งคู่สื่อสารกันด้วยภาษามือคุยกันในเรื่องต่างๆ โดย MJ ถามคุณแม่ว่าคนที่ชื่อ MJ (ตัวเธอเอง) อยู่ที่ไหน ซึ่งคุณแม่ก็ตอบกลับมาว่าไม่รู้เหมือนกันเพราะเจอครั้งสุดท้ายก็นานมาแล้ว ตอนนี้อาจจะไปเที่ยวอยู่ จากนั้น MJ ก็ถามลองเชิงแม่ของเธออีกว่า ‘รู้ไหมพ่อแม่ของฉันก็หูหนวกนะ’…

ปกติแล้ว เราแทบจะไม่ได้เห็นผู้สูงอายุ “เล่นเกม” หรืออาจจะมีน้อยมากๆ ด้วยหลายๆ เหตุผล เช่น คนรุ่นเขาไม่ได้โตมากับเกม, การตอบสนองที่ช้าลงอาจจะไม่เหมาะกับการเล่นเกม หรือพวกเขามองว่าเกมเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ไม่ใช่กับคุณตาคนนี้ เจ้าของบัญชีชื่อว่า ‘GrndPaGaming’ เกมเมอร์วัย 66 ปี ที่มีผู้ติดตามว่า 150,000 ใน Twitch   ช่วงที่ PlayerUnknown’s Battlegrounds ฮิตระเบิดระเบ้อ คุณตาก็เล่นและโหดมากๆ   คุณตาเขียนไว้ในประวัติส่วนตัวว่าเขารับใช้ชาติมา 20 ปี 4 เดือนกับกองทัพเรือ แต่ปัจจุบันเกษียนออกมาและมีงานอดิเรกเป็น การดูดาว, สะสมเปลือกหอย, ทำอาหาร และเล่นเกม “เกษียนจากการเป็นทหารเรือนักดำน้ำในปี 1992 แต่งงานมาแล้วสองครั้ง มีลูกสาวกับหลานอีกสองคน เป็นนักดาราศาสตร์มือสมัครเล่น สะสมเปลือกหอยทะเลจากทั่วโลก และก็ชอบทำอาหารด้วย” ประวัติที่คุณตาเขียนไว้     เกมที่คุณตาเคยเล่นและชอบก็มี Fallout 4, Armored Warfare, World of Warships, World of Tanks, The…

ปัญหาการนอกใจ หรือเรียกสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือการ “มีชู้” คือเรื่องที่แทบทุกคนไม่อาจยอมรับได้ จนบางครั้งอาจนำไปสู่ความเกรี้ยวกราดจนกลายเป็นการลงไม้ลงมือที่อาจนำไปสู่ความอับอายของหลายๆ ฝ่าย เช่นเดียวกันกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เมื่อภรรยาจับได้ว่าสามีของตัวเองนอกใจ ไปมีชู้เป็นผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า เธอจึงโมโหเป็นอย่างมากและระบายออกมาด้วยการจับพวกเขาแก้ผ้า แล้วมัดประจานอยู่ริมถนน   สามีและชู้สาวของเขาถูกมัดเอาไว้กับต้นไม้ริมทาง   เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองหมิงเทียน มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน โดยจากคำบอกเล่าของพยานในเหตุการณ์บอกว่า ฝ่ายภรรยาและครอบครัวของเธอแอบตามไปเจอว่าสามีและชู้กำลังอยู่ด้วยกัน จากนั้นเธอจึงบังคับให้ทั้งสองคนแก้ผ้า ก่อนที่เธอและครอบครัวจะช่วยกันลากพวกเขามามัดติดกับต้นไม้ริมทาง เพื่อตั้งใจที่จะทำให้พวกเขารู้สึกอับอาย     จากในคลิปเผยให้เห็นว่าชาวบ้านที่เขามามุงดูเหตุการณ์นั้นไม่มีใครคิดที่จะช่วยทั้งสองคนเลย แต่กลับยืนชี้นิ้วและหัวเราะเยาะเย้ยใส่พวกเขาแทน ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งที่เดินทางมายังสถานที่เกิดเหตุเองก็ดูไม่มีทีท่าว่าจะช่วยทั้งสองคนออกมาจากพันธนาการในตอนแรก แต่เขากลับหันไปจัดระเบียบคนที่ยืนมุงดูซะมากกว่า   คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว    อย่างไรก็ตาม จากการรายงานในวันที่ 22 ก.พ. 2019 เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าพวกเขาได้จัดการเคลียร์ปัญหาทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว โดยทางฝั่งภรรยาให้การว่ามันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นจากอารมณ์ฉุนเฉียวในตอนนั้น โดยล่าสุดยังคงไม่มีการรายงานแน่ชัดว่ามีใครถูกจับกุมตัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่แต่อย่างใด   ที่มา: mirror , thesun , coconuts

บางครั้ง การนั่งเครื่องบินก็เป็นเรื่องที่ทรมานจิตใจอย่างแสนสาหัส หากเพื่อนร่วมไฟลท์ของคุณเป็นเด็กทารกที่ยังไม่รู้ประสีประสา เพราะเมื่อเด็กทารกเกิดร้องไห้โวยวายขึ้นมาเมื่อไหร่ การจะพักผ่อนบนเครื่องบินที่แต่เดิมก็ไม่สะดวกสบายอยู่แล้วจะกลายเป็นนรกบนท้องฟ้าในทันที     ดูเหมือนว่าคุณแม่ชาวเกาหลีรายนี้ก็รู้ดีถึงเหตุผลข้างต้น แต่เธอมีเหตุจำเป็นให้ต้องเดินทางกว่า 10 ชม. ไปที่ซานฟรานซิสโก กับลูกวัย 4 เดือน     โดยเหตุการณ์นี้ถูกโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กของนาย Dave Corona เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2019 กล่าวถึงความประทับใจต่อคุณแม่ชาวเกาหลีรายนี้ ที่เลือกแจกชุด ‘ป้องกันเสียงเด็ก’ กว่า 200 ชุดให้กับผู้โดยสารเที่ยวบินเดียวกัน   .   โดยในถุงที่แจกประกอบไปด้วย ที่อุดห ลูกอมหลายชนิด และข้อความเขียนในนามของเด็กชายระบุว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อ Junwoo (จุนวู) อายุ 4 เดือน วันนี้ผมกำลังเดินทางไปที่สหรัฐฯ กับคุณแม่และคุณยาย เพื่อไปหาคุณป้าของผม”     “ผมรู้สึกกังวลและกลัวนิดหน่อย เพราะนี่คือไฟลท์แรกในชีวิตของผม นั่นหมายถึงผมอาจจะร้องไห้หรือส่งเสียงดังเกินไป” “คุณแม่ของผมจึงเตรียมถุงเล็กๆ นี้ไว้สำหรับคุณ จะมีทั้งลูกอมและที่อุดหู…

ได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดขึ้นกับนางสาว Chen Lidan อดีตพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบิน Sichuan Airline ที่ผลัดตกลงมาจากชั้น 6 ของโรงแรม ในเดือนพฤษภาคม 2015 เหตุเกิดขึ้นที่เมืองซานย่า มณฑลไหหลำ ประเทศจีน มีรายงานว่านางสาว Chen พยายามปีนขึ้นโรงแรมผ่านทางเครื่องปรับอากาศและผลัดตกลงมา     นางสาว Hu Ruiyun ญาติของนางสาว Chen เผยว่าในวันดังกล่าวเป็นวันทำงานของเธอ และเธอก็ได้เข้าเช็คอินโรงแรมกับเพื่อนร่วมงาน แต่ครอบครัวไม่รู้ว่า สาเหตุที่ทำให้นางสาว Chen กระทำเช่นนั้นคืออะไร และเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น เนื่องจากตำรวจปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล     ครอบครัวของเธอกล่าวว่า จากอุบัติเหตุทำให้หน้าของนางสาว Chen เสียหาย ฟันทุกซี่หลุดออกไป และรูปทรงศีรษะของเธอก็เปลี่ยนรูปไปอย่างสิ้นเชิง นางสาว Chen ได้รับการผ่าเปิดกระโหลกอย่างเร่งด่วนหลังเกิดเหตุ ก่อนที่จะถูกเคลื่อนย้ายมาที่โรงพยาบาล West China ที่มณฑลเสฉวนบ้านเกิดของเธอเพื่อเริ่มขั้นตอนฟื้นฟูกระโหลก     นางสาว Hu เผยว่าหมอได้ปรับโครงกระดูกโครงหน้าของเธอ และสร้างหน้าของเธอขึ้นมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีสแกนสามมิติ โดยนางสาว Chen…

ย้อนกลับไปปี 1978 ชายคนหนึ่งถูกจับกุมในคดีฆาตกรรมอดีตแฟนสาวและลูกชายของเธอ จนเวลาผ่านไปนานกว่า 40 ปี เขาได้รักการปล่อยตัวและเงินชดเชยกว่า 657 ล้านบาทหลังจากการสืบสวนพบกว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ Craig Richard Coley ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมอดีตแฟนสาว Rhonda Wicht อายุ 24 ปีและลูกชายวัย 4 ขวบของเธอ ที่เมืองซิมิวัลเล่ห์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา   ภาพของ Coley ปัจจุบัน (วัย 70 ปี)   เจ้าหน้าที่พบว่า Wicht ถูกทำร้ายร่างกายโดยการทุบตีและรัดด้วยเชือกที่คอจนถึงแก่ความตาย เช่นเดียวกับลูกชายของเธอที่เสียชีวิตบนเตียงจากภาวะขาดอากาศหายใจ ก่อนร่างของทั้งคู่จะถูกพบโดยเจ้าหน้าที่ หลังจากที่มีการพบว่า Coley ได้เลิกกับแฟนสาวไม่กี่วันก่อนหน้านั้น เขาจึงถูกจับกุมตัวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 14 พฤศจิกายน 1987 วันเดียวกันกับที่พบศพ   อดีตแฟนสาวและลูกของเธอ   เจ้าหน้าที่เผยว่า Coley โกรธมากที่ต้องเลิกกับแฟนของเขา ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแรงจูงใจในการก่อคดี และตัดสินให้เขาจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีการยื่นอุทธรณ์ ระหว่างที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุก เขาก็เป็นผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดี ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกับผู้อื่น และยึดมั่นในศาสนา   Coley…

สำหรับแฟนๆ ของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าบทบาทของ Steve Roger หรือ Captain America ที่รับบทโดย Chris Evans นี้เป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษสูงมากๆ และสำหรับแฟนคลับของ Chris Evans ก็คงรู้กันดีอยู่แล้วว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมากๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในจอและนอกจอ     ล่าสุด Chris Evans ก็ได้โชว์ความสุภาพบุรุษอีกครั้งหนึ่งกลางงานประกาศผลรางวัล Oscars ครั้งที่ 91 ประจำปี 2019 นี้ เมื่อ Regina King ถูกขานชื่อให้เป็นผู้ชนะรางวัลสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม เธอพยายามรีบลุกขึ้นไปบนเวที แต่ด้วยความรีบร้อนนั่นเองทำให้กระโปรงของเธอไปติดกับรองเท้าส้นสูงของเธอ ในระหว่างที่เธอกำลังวุ่นวายกับการแก้ชุดอยู่นั้น พ่อ Captain America ของเราก็โผล่เข้ามาช่วย เขายื่นแขนให้กับ Regina เพื่อให้เธอได้พึ่งพิงและประคองขึ้นบนเวทีได้อย่างสง่างาม   จังหวะสุภาพบุรุษของ Chris Evans CHRIS EVANS HELPING REGINA KING UP IS THE BEST THING…

อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าโลกออนไลน์นอกจากจะมีประโยชน์มากมายอย่างมหาศาลแล้ว ก็ยังมีอันตรายที่แฝงเอาไว้อยู่ด้วยและแน่นอนว่าเราไม่สามารถที่จะเชื่อทุกๆ อย่างที่อยู่ในนั้นได้ เพราะเบื้องหลังอาจจะมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงซ่อนไว้อยู่ ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ ที่ตำรวจญี่ปุ่นสามารถจับกุมสาว ‘ขายหวิว’ คนหนึ่งได้ แต่ปรากฏว่าสาวน้อยที่มาอวดเรือนร่างในโลกออนไลน์ให้หลายๆ คนดู จริงแล้วๆ เธอมีอายุถึงเกือบจะ 60 ปี!!     เมื่อไม่นานมานี้ตำรวจนครบาลแห่งกรุงโตเกียวได้เข้าจับกุมผู้หญิงนามว่า Naomi Doi หญิงขายหวิวบนโลกออนไลน์ (การแก้ผ้าถ่ายโชว์ออกกล้องเพื่อให้คนจ่ายเงินเข้ามาดู) เพราะผิดกฎหมายของญี่ปุ่นที่ว่าด้วยต้องมีการเซนเซอร์ของลับหากเป็นสื่ออนาจาร…     การจับกุมที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเรื่องที่ธรรมดาๆ ถ้าหากไม่ได้รู้ความจริงที่ว่าเธอคนนี้จริงๆ แล้วมีอายุถึง 58 ปี แต่เธอกลับสามารถทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์เชื่อได้ว่าเธอมีอายุเพียงแค่ 20 ต้นๆ เท่านั้น     โดยนอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมนาย Yasushi Nitta แฟนหนุ่มวัย 40 ปีของเธอได้ และเขาตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับ Naomi ในการก่อเหตุดังกล่าว รวมทั้งยังยึดอุปกรณ์อย่างคอมพิวเตอร์ ไมโครโฟนและอื่นๆ อีกด้วย   นาย Yasushi Nitta   จากการแถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่า Naomi กับแฟนหนุ่มของเธอได้ร่วมมือกันจัดการขายหวิวผ่านโลกออนไลน์จากบ้านของพวกเขาที่อยู่ใกล้ๆ กับทะเลสาบคาซูมิงาอูระ ในจังหวัดอิบารากิ    …

บางครั้งคนเราก็สามารถเปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสขึ้นมาได้ ดั่งเช่นในกรณีของหนุ่มวัยรุ่นคนนี้ที่เห็นว่าในเมืองที่เขาอยู่มีหิมะตกหนักเอามากๆ เขาเลยสร้างอาชีพใหม่ด้วยการรับจ้างเคลียร์หิมะตามบ้านซะเลย!?     เนื่องด้วยตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับ ‘หิมะ’ ที่ตกหนักที่สุดในรอบ 70 ปี จึงทำให้ทางสัญจรต่างๆ ถูกหิมะปกคลุมเต็มไปหมด และบางที่ก็มีหิมะหนาถึง 10 นิ้ว… หนุ่มวัย 18 ปีนามว่า David Holsten จึงปิ๊งไอเดียการหาเงินขึ้นมา ด้วยการรับจ้างเคลียร์หิมะตามบ้านซึ่งมันก็สร้างเงินให้กับเขาอย่างเป็นกอบเป็นกำ     เขาเล่าว่าจุดเริ่มต้นธุรกิจเกิดขึ้นในขณะที่เขาไปเยี่ยมแม่ที่ผ่าตัดในโรงพยาบาล และได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้โฆษณาการบริการนี้บนเว็บไซต์ ปรากฏว่ามันได้ผลเป็นอย่างดีมีผู้คนสนใจการบริการของเขามากมาย แถมยังมีช่วงหนึ่งที่มีคนแย่งคิวกันให้วุ่น จนทำให้มีคนอัพราคาว่าจ้างให้ถึงชั่วโมงละ 1,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 32,000 บาท) เลยทีเดียว   คลิปขณะที่เขาทำงานอยู่    โดยปกติแล้วเขาจะให้บริการโดยมีค่าจ้างอยู่ราวๆ 500 – 750 ดอลลาร์ (ราวๆ 15,000 – 23,000 บาท) และทำงานถึงวันละ 12 ชั่วโมงตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน “ผมทำงานบนถนนจนถึงเที่ยงคืนเลยล่ะ และระหว่างนั้นก็ถือโทรศัพท์นัดคิวกับลูกค้าคนอื่นๆ ไปด้วย” David กล่าว…

เชื่อว่าหลายคนคงจะมีประสบการณ์สั่งของออนไลน์ ที่ช่วงเวลาที่ตื่นเต้นที่สุดคือเฝ้ารอวันให้ถึงวันที่พนักงานส่งของมากดกริ่งหน้าบ้าน ยิ่งกับของบางอย่างที่สั่งจากต่างประเทศ ที่มีระยะเวลาขนส่งยาวนานกว่าปกติ   แต่ใครจะคิดว่าของพัสดุของชายชาวมาเลเซียคนนี้จะใช้เวลาจัดส่งนานถึง 13 ปี!! https://www.instagram.com/p/BtcYXIUHHy8/?utm_source=ig_share_sheet&igshid=1qssmqx4er0tw&utm_source=email&utm_medium=email   Gerain Chan ได้เขียนอีเมลถึงเว็บไซต์ WORLD OF BUZZ บอกเล่าเรื่องราวของเขาว่า เมื่อ 13 ปีก่อนเขาได้สั่งโฟโต้บุ๊คของนักร้องคู่หูดูโอ้ชื่อดัง Twins จากฮ่องกง แต่แทนที่เขาจะได้รับมันเมื่อหลายปีก่อน เขากลับพบว่าพัสดุที่เขาสั่งเพิ่งมาถึงประตูหน้าบ้านเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา     ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าพัสดุดังกล่าวอาจจะเกิดการสูญหายระหว่างทาง แต่ผู้ขายรายนี้กลับเขียนจดหมายกลับมาว่า เป็นความผิดพลาดของเขาเองที่ลืมส่งพัสดุให้ชายหนุ่ม   https://www.instagram.com/p/BtcYXIUHHy8/?utm_source=ig_share_sheet&igshid=1qssmqx4er0tw&utm_source=email&utm_medium=email   หลังจากพบว่าพัสดุยังไม่ถูกส่ง คนขายจึงส่งสินค้ามาให้เขาพร้อมกับคืนเงินเต็มจำนวน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก ที่เขายังได้รับของที่สั่งแม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 13 ปีแล้ว ในกล่องพัสดุมีจดหมายเขียนแนบมาว่า “ขอโทษที่เราไม่ได้ส่งหนังสือให้คุณ เราหวังว่าคุณยังไม่เปลี่ยนที่อยู่นะ” โชคดีที่เขาไม่ได้เปลี่ยนที่อยู่อย่างที่ผู้ขายรายนี้หวัง เขาจึงได้รับพัสดุชิ้นนี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเกินคาดคิด   ชาวเน็ตบางส่วนออกมาชื่นชมการส่งให้ย้อนหลัง แม้จะผ่านมาถึง 13 ปี พร้อมให้เหตุผลว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้ลบภาพเดิมๆ ของการสั่งของออนไลน์ ที่ลูกค้าหลายคนโดนเอาเปรียบ…

นี่คือเรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ของเจ้า ‘พอร์พอยส์’ ตัวหนึ่ง ที่ขณะที่ถูกจับตัวไปขายปรากฏว่ามันเหมือนกับมี ‘น้ำตา’ ไหลออกมาจากดวงตาอันน่าเศร้าเหมือนจะรู้ชะตากรรมของมัน จนในที่สุดก็มีคนใจดีไถ่ชีวิตนำไปปล่อยสู่อิสรภาพอีกครั้ง!! (ปล.พอร์พอยส์ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับวาฬและโลมา แต่ว่าจะมีขนาดที่เล็กกว่า)   น้องพอร์พอยส์ที่ดูเหมือนมีน้ำตาไหลออกมา   เรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นที่ตลาดริมทะเลในเขต Xuwen มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เมื่อมีผู้พบเห็นว่าที่รถสามล้อของพ่อค้าคนหนึ่ง มีสัตว์หน้าตาประหลาดๆ ดูเหมือนโลมานอนอยู่ในกระบะ ซึ่งสิ่งนี้สร้างความตื่นตะลึงให้ชาวบ้านเอามากๆ     Cheng Mingyue และ Cheng Jianzhuang ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวนี้มันมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 1.7 เมตรและมีน้ำหนักน่าจะมากกว่า 50 กิโลกรัม “เราเห็นใครสักคนหนึ่งนำมันมาที่ตลาดแล้วผู้คนก็มามุงดูกัน มันเหมือนร้องไห้ออกมาตลอดช่วงเวลานั้นเลย” Mingyue ชาวบ้านอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าว   ชาวบ้านต่างมุงดูกันด้วยความสนใจ   ราคาค่าตัวของมันถูกตั้งเอาไว้ที่ 20 หยวน (ราวๆ 93 บาท) ต่อหนึ่งกิโลกรัม ซึ่งพอเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของมันแล้ว ในที่สุดก็ทำให้ Mingyue และ Jianzhuang ตัดสินใจรวมเงินกันซื้อตัวมันมา ชายทั้งสองจ่ายเงินให้กับพ่อค้าเป็นจำนวน 1,500 หยวน (ราวๆ 7,000…

ร่างกายของคนเรามีขีดจำกัด หากได้รับสิ่งที่ไม่ดีหรือสิ่งผิดปกติเข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่องเกินขีดจำกัด สุดท้ายร่างกายก็จะทนไม่ไหว เช่นเดียวกับ Chu หนุ่มชาวจีนวัย 29 ปี ผู้โด่งดังจากการเป็นสตรีมเมอร์ที่สามารถขอให้เขาดื่มอะไรก็ได้ ผ่านทางแอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Liaoliao   .   Chu ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายอย่างทั้ง เบียร์, เหล้า และที่หนักสุดคือน้ำมันพืช ต่อเนื่องกันเป็นเวลายาวนานถึง 3 เดือน จนกระทั่งร่างกายของเขาทนไม่ไหวและเสียชีวิตลง วันที่ 31 ธ.ค. 61 คือวันสุดท้ายที่เขาสตรีมให้คนดูได้ชมเขาดื่มเหล้าโชว์มีซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองต้าเหลียน ก่อนจะเริ่มรู้สึกไม่สบายในรถแท็กซี่ระหว่างกลับบ้านและเสียชีวิตลงในที่สุด     เพื่อนของ Chu ได้กล่าวว่าสิ่งที่ฆ่าเพื่อนของเขาคือการไม่หยุดพัก “เขาไม่ได้เสียชีวิตเพราะดื่มในวันนั้น แต่เพราะว่าเขาทำติดต่อกันมาแล้วสามเดือน ดื่มทั้งเบียร์และอะไรอีกมากมาย โดยไม่พักเลยแม้แต่วันเดียว” เพื่อนคนดังกล่าวเสริมว่า “มีวิดีโอหนึ่งที่เขาบอกกับคนดูว่าทำต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่คนดูขอให้เขาทำต่อไป”     ด้วยความต้องการที่อยากจะทำเงินให้ได้ต่อเนื่องจากการสตรีม Chu จึงทำตามคำเรียกร้องของแฟนๆ เพื่อนคนเดิมยังเผยว่า Chu ได้เงิน 500 หยวน (ประมาณ 2,300 บาท) จากการสตรีมของเขา…

สำหรับร้านค้าต่างๆ ส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้ลูกค้าจดจำได้ก็คือเรื่องของ ‘ชื่อร้าน’ ซึ่งถ้าเป็นชื่อง่ายๆ หรือแปลกๆ ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่ใช้เรียกลูกค้าได้อีกด้วย แต่ว่ามีร้านทำเล็บแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ถูกก่นด่าเป็นอย่างมากในโลกโซเชียลจากความที่มีชื่อร้านว่า Hand Jobs!! (Hand Job เป็นศัพท์สแลงที่หมายถึงการสำเร็จความใคร่ด้วยการใช้มือ)     โดยเรื่องนี้ได้กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียในประเทศสหรัฐฯ จากความที่หลายคนรู้สึกว่าชื่อร้านทำเล็บร้านนี้เป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะเหมาะสมนัก และอยากจะให้มีการเปลี่ยนชื่อเกิดขึ้น แต่ว่าทาง Dawn Moon เจ้าของร้าน Hand Jobs Nails & Spa ในรัฐโอไฮโอ กลับมองว่าไวรัลที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ส่งผลให้ร้านของเธอดังมากขึ้นกว่าเดิมซะมากกว่า   Dawn Moon เจ้าของร้าน   “ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ฉันคิดว่าตอนนี้ทั้งประเทศรู้จักเราแล้วล่ะ โฆษณาอย่างนี้เงินที่ไหนก็จ่ายไม่ได้นะ” Dawn กล่าว พร้อมกันนี้เธอยังยืนยันด้วยว่าชื่อร้าน Hand Job เป็นชื่อที่เหมาะสำหรับชื่อร้านทำเล็บของเธออย่างยิ่ง เพราะว่าเธอทำอย่างนั้นจริงๆ   ใบที่จดทะเบียนร้าน   “ถ้าคุณไปทำจมูกมันก็จะถูกเรียกว่า Nose Job ใช่ไหมล่ะ เพราะงั้นถ้าคุณมาแล้วทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับมือของคุณมันก็ต้องเรียกว่า Hand Job สิ”  “นั่นคือสิ่งที่เราทำจริงๆ เราทำงานเกี่ยวกับมือทั้งวันและทุกวันด้วย” Dawn กล่าวเสริม…

ณ สาธารณรัฐมาลาวี Byson Kaula เคยเป็นนักโทษและรอดจากการถูกประหาร เนื่องจากเพชฌฆาตที่ต้องทำหน้าที่ในการแขวนคอนักโทษบอกว่า “เหนื่อยเกิน ขอหยุดพัก” ถึง 3 ครั้งด้วยกัน และสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมาเป็นนักโทษก็ไม่ใช่ความผิดที่เขาตั้งใจกระทำ ซึ่งต้องย้อนกลับไปในปี 1992 ก่อนที่เขาจะได้รับโทษในครั้งนั้น   ชายผู้รอดชีวิตมาได้ Byson Kaula   Byson เคยทำงานให้กับโรงงานแก๊ซแห่งหนึ่ง ที่กรุงโยฮานเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ในขณะนั้นเขามีเงินเก็บพอที่จะซื้อที่ดินไว้ปลูกพืชผักสวนครัว และจ้างชาวสวนไว้ 5 คนด้วยกัน ในวันหนึ่งเพื่อนบ้านของเขาได้เข้าไปทำร้ายหนึ่งในชาวสวนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาจึงเป็นคนเข้าไปช่วยลูกน้องเอาไว้ และพยายามแบกหามไปที่บริเวณห้องน้ำก่อน แต่ฝนที่ตกลงมาหนักมากทำให้เขาลื่นล้ม ส่วนลูกน้องเขาก็ล้มลงเช่นกัน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังจากนั้น Byson ในวัย 40 จึงได้รับโทษข้อหาฆ่าคนตาย   คุณแม่ของ Byson   Byson Kaula ได้ออกมาเผยว่าช่วงเวลานั้นเป็นอะไรที่แย่มากที่สุด ที่ต้องรอคอยการประหารในแต่ละวัน และเขาเป็นหนึ่งในรายชื่อนักโทษที่รอการประหารจำนวน 21 คน ตอนนั้นหนึ่งในผู้คุมได้บอกพวกเขาว่าจะเริ่มทำการประหารตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป และให้เตรียมตัวสวดมนต์รอได้เลย จนกระทั่งเวลา 15.00 น. เพชฌฆาตได้หยุดหน้าที่ และบอกกับผู้คุมว่า “วันนี้พอก่อน เยอะเกินไป…

ถึงแม้ทุกคนจะมองว่าการโกหก เป็นการกระทำความผิดเพื่อปิดบังความจริงหรือเรื่องน่าอายบางอย่าง ในบางครั้ง เราก็เลือกที่จะโกหกเพื่อทำให้คนอื่นเกิดความสบายใจ หากแต่เมื่อวันใด ความจริงเปิดเผย เราก็ต้องรับผลชอบต่อคำโกหกเหล่านั้น!! เช่นเดียวกับผู้ใช้เว็บไซต์ Reddit (คล้ายกับเว็บพันทิปบ้านเรา) รายนี้ที่ต้องรับผิดชอบต่อคำโกหกของตัวเองโดยการเปลี่ยนให้มันเป็นความจริงซะเลย!?     เมื่อ 2 ปีก่อน (ปี 2017) ได้มีการตั้งกระทู้ให้ชาวเน็ตมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ “เรื่องโกหกของตัวเอง ซึ่งพอโกหกไปแล้วมันดันเลยเถิด จนทำให้ทุกวันนี้เรื่องโกหกนั้นก็ดันส่งผลต่อชีวิตของตัวเองมาอยู่จนทุกวันนี้” และผู้ใช้ชื่อ tossoff72936492749 ก็มาเขียนเล่าประสบการณ์ของเขาว่า… “เมื่อตอนที่ผมอายุ 13 ปี ผมได้โกหกเพื่อนที่เล่นเกม World of Warcraft ด้วยกันว่าอายุ 14 ปี เพราะอยากทำให้เพื่อนๆ เห็นว่าผมโตแล้ว หลังจากนั้นก็ผมก็เล่นกับเพื่อนกลุ่มเดิมตลอดจนอายุถึง 18″     เมื่ออายุได้ 18 ปีเพื่อนของเขาก็ได้ถามถึงการเข้าเรียนต่อในชั้นมหาวิทยาลัยในปีถัดไป เพราะไม่รู้ความจริงที่ว่าเขายังต้องเรียนต่ออีกหนึ่งปีถึงจะเข้ามหาวิทยาลัยได้ คำโกหกทำให้สถานการณ์ระหว่างเขาและเพื่อนในโลกของเกมออนไลน์เต็มไปด้วยความอึดอัด จนสุดท้ายเขาหนุ่มเกมเมอร์คนนี้จึงตั้งใจเรียนอย่างหนัก และสอบเทียบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเร็วกว่าเพื่อนๆ ในรุ่นเดียวกันหนึ่งปี     สุดท้ายความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนในเกมกลับเข้าสู่โหมดปกติอีกครั้งหนึ่ง เพราะเรื่องที่โกหกไปก่อนหน้านั้น มันไม่ได้เป็นคำโกหกอีกต่อไปแล้ว…   เรียกได้ว่า ‘คำโกหก’ เป็นแรงผลักดันที่เปลี่ยนชีวิตของเขาจากเด็กติดเกมให้เป็นนักเรียนผู้ประสบความสำเร็จได้  …

เวลาที่มีการคิดค้นหรือเปิดใช้เทคโนโลยีใหม่ เรามักจะเห็นงานเปิดตัวสุดยิ่งใหญ่ ที่มีคนเข้าร่วมมากมายอยู่กันบ่อยๆ เช่นเดียวกับรถไฟความเร็วสูงขบวนแรกในประเทศอินเดียที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆ นี้ แต่ดูเหมือนว่างานนี้ฟ้าจะไม่เป็นใจสักเท่าไหร่ เพราะแค่เปิดตัวลงวิ่งครั้งแรกก็ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เพราะดันไปชนเข้ากับวัวนี่สิ…      Vande Bharat Express ถือว่าเป็นรถไฟความเร็วสูงขบวนแรกของประเทศอินเดีย ซึ่งมีเส้นทางการวิ่งจากเมืองเดลีไปยังเมืองพาราณสี โดยในการวิ่งครั้งแรกของเจ้ารถไฟความเร็วสูงขบวนนี้ ก็ได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี Narendra Damodardas Modi มาเป็นประธานในพิธีเปิดตัว แต่เพียงแค่วิ่งรอบแรกก็มีปัญหาซะแล้ว เมื่อเจ้า Vande Bharat Express ชนเข้ากับวัวเต็มๆ จนทำให้ระบบเบรคของรถไฟพัง แถมไม่นานต่อจากนั้นก็เกิดควันและระบบพลังงานของรถทุกส่วนก็พังไปดื้อๆ     ส่วนทางด้านผู้โดยสารที่มาขึ้นมาในการวิ่งเที่ยวแรกของเจ้า Vande Bharat Express ก็ถูกบังคับให้นั่งรถไฟสายอื่นๆ กลับไปยังเมืองเดลีอย่างไม่มีทางเลือก “หลังจากที่รถไฟประสบปัญหาด้านเทคนิค ตอนนี้ก็กำลังจะกลับไปยังเมืองเดลีค่ะ” Smita Vats Sharma ตัวแทนการรถไฟแห่งประเทศอินเดียได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อท้องถิ่น สุดท้ายนี้ รถไฟความเร็วสูงขบวนดังกล่าวก็สามารถกลับถึงเมืองเดลีได้อย่างปลอดภัย พร้อมกับแก้ไขปัญหาจนสามารถเปิดให้บริการตามปกติแล้ว     ที่มา Unilad, Dailymail, BBC

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา เพื่อนๆ หลายคนอาจจะจำได้ว่ามีเหตุการณ์หนึ่งที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลก… เมื่อนักเผยแพร่ศาสนาหนุ่มคนหนึ่งพยายามที่จะเข้าไปใน ‘เกาะต้องห้าม’ หรือ ‘เกาะเซนทิเนล’ ในประเทศอินเดีย เพื่อเผยแพร่ศาสนา แต่สุดท้ายแล้วกลับโดนชนเผ่าที่อยู่บนเกาะสังหารจนเสียชีวิต   Chau หนุ่มผู้เผยแพร่ศาสนา   อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่ : หนุ่มอเมริกันถูกชนเผ่าฆ่าตาย หลังพยายามเข้าไป ‘เผยแพร่ศาสนา’ บนเกาะต้องห้าม   ก็อย่างที่รู้กันดีว่าโดยปกติแล้ว ‘การฆ่าคน’ ในโลกของเรา ถือเป็นความผิดที่ร้ายแรงที่สุด คนที่กระทำความผิดในข้อหานี้จะต้องได้รับโทษไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เล่าไปข้างต้นนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ‘ชนเผ่าเซนทิเนล จะไม่มีความผิดข้อหาฆ่าคนตาย’ เป็นเพราะอะไร เราลองไปอ่านกันดูครับ     สำนักข่าว The Mirror ของประเทศอังกฤษรายงานว่า ท่านทูตขององค์กรศาสนา Large for Religious Freedom ชื่อว่า Sam Brownback ได้ออกมากล่าวว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่เรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” “เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่เราจะไม่ร้องขออะไรจากประเทศอินเดีย”…

ประเทศจีนนับเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ประจวบกับเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรกว่า 1.3 พันล้านคน จึงไม่แปลกเลยที่อาจจะมีเรื่องราวที่เราไม่คาดคิดเกิดขึ้น!! โดยเฉพาะเรื่องแฟชั่น… มีหนุ่มฝรั่งคนหนึ่งชื่อว่า Alex Greenberg ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศจีน ทำให้เขาได้พบกับเหตุการณ์ที่สร้างความประหลาดใจให้กับเข้าไม่เว้นวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งลายต่างๆ บนเสื้อที่พวกเขาสวมใส่ ที่มักจะเป็นประโยคภาษาอังกฤษแบบประหลาดๆ ที่ตรงข้ามกับสีหน้าของพวกเขา Alex ได้เล่าเรื่องราวของเขาตอนอยู่ที่นั่นผ่านทางอินสตาแกรม shanghaiobserved จนได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดติดตามถึง 70,000 คนเลยทีเดียว หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออกว่าเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ก็ลองไปชมภาพที่รวบรวมมาจากเว็บไซต์ Boredpanda มาให้ทุกคนได้ชมกัน จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า…   ขนตาปลอมมันติดย๊ากยากก เอามาติดตรงแว่นซะเลย   เด็กน้อยผู้ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยย…   คุณจะเผชิญหน้ากับปัญหาของคุณได้ยังไง ในเมื่อหน้าของคุณนั่นแหละที่เป็นปัญหา   วิธีทำตัวให้เป็นปกติสุด (นั่งเกร็งเชียว คุณป้า)   แม่บอกให้ซื้อเสื้อตัวใหญ่ๆ เพื่ออนาคต   กินคนเดียว ไม่แบ่งใคร   หมดปัญหากระเป๋าหาย ระหว่างเดินทางกับทัวร์   ส้นสูงซ้อนซ้อนสูงอีกที   คำว่า Friday เป็นคำที่ขึ้นต้นด้วยตัว F ที่ฉันชอบรองจากคำว่า F… (Fanta…

ไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีกิจกรรมลูกเสือ แต่ที่อเมริกาก็เช่นกัน ซึ่งนอกเหนือจากการรักษากฏทั้ง 10 ข้อแล้ว กลุ่มลูกเสือที่รัฐโคโลราโด ยังมีหน้าที่ขายคุกกี้อีกด้วย ณ เวลาปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงเทศกาลการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ระหว่างหน่วยลูกเสือหญิงที่เขต Highlands Ranch ทางตอนใต้ของเมือง Denver หัวข้อของการแข่งขันก็คือการทำยอดขายคุกกี้ให้ได้มากที่สุด และได้เกิดเรื่องฮือฮาขึ้นเมื่อลูกเสือหญิงนามว่า Charlotte Holmberg กลายเป็นผู้ทำยอดขายคุกกี้ได้สูงสุดในกลุ่ม Girl Scouts of Colorado     เหตุผลที่คุกกี้ของเด็กสาวขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเป็นเพราะว่า ได้นำรูปเปลือยอกของ Jason Momoa นักแสดงสุดฮ็อต เจ้าของบทบาท Aquaman มาทำเป็นแพ็คเกจของสินค้า เรื่องมันเริ่มมาจากคุณแม่ของ Charlotte เห็นรูปของ Momoa ในเฟสบุ๊ค ในฐานะที่เป็นนักการตลาดมืออาชีพ ทำให้เธอปิ๊งไอเดียขึ้นมาทันทีว่าหากนำรูปที่ดูเย้ายวนใจต่อสาวๆ รูปนี้มาใช้ ยอดขายจะต้องถล่มทลายแน่ๆ     ทั้งนี้ คุกกี้ที่เหล่าลูกเสือทำขายมีชื่อเรียกว่า “คุกกี้ Samoa” คุณแม่นักการตลาดจึงใช้การเล่นคำ โดยตั้งชื่อคุกกี้ของลูกสาวว่า “Momoas” ตามชื่อของเจ้าสมุทรนั่นเอง แม่ของหนู Charlotte ไม่รอช้า โพสต์คุกกี้ Momoas ลงในเฟสบุ๊ค และยอดออเดอร์ก็เข้ามากระจาย โดยส่วนมากเป็นออเดอร์มาจากเพศหญิงด้วยกัน…

หากใครจำได้จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่โฆษณาหลายชิ้นจากบริษัทประกันชีวิต สามารถเรียกคนดูให้จดจำได้ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง และกินใจเป็นอย่างมาก ซึ่งโฆษณาตัวนั้นมีชื่อภาษาไทยว่า “พ่อของฉันคือคนโกหก” โดยสมาชิกพันทิปหมายเลข 5060749 ได้ตั้งกระทู้พันทิปเกี่ยวกับโฆษณาตัวดังกล่าว และได้สอบถามว่าใช่โฆษณาที่ทำโดยคนไทยหรือไม่ แล้วทำไมมันถึงไปดังที่ต่างประเทศ?   โฆษณาที่ดังไปถึงต่างประเทศ    โฆษณาตัวนี้เป็นหนึ่งในแคมเปญ #DreamForMyChild ของบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งของฮ่องกง และโฆษณาชิ้นนี้เป็นผลงานของคุณ ธนญชัย ศรศรีวิชัย หรือ ต่อ ฟีโนมีน่า ที่มีชื่อเสียงในการทำภาพยนตร์ และโฆษณาที่เข้าถึงอารมณ์คนดูได้เป็นอย่างดี เนื้อหาภายในโฆษณาจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคุณพ่อ และลูกสาวกำลังเดินไปโรงเรียนในตอนเช้า ระหว่างนั้นก็จะมีเสียงบรรยายของเด็กน้อยที่กำลังอ่านเรียงความถึงคุณพ่อของเธอให้ฟัง ซึ่งเด็กน้อยก็ชื่นชมคุณพ่อตลอด จนกระทั่งเริ่มเรียกน้ำตาคนดูตรงที่คุณพ่ออ่านข้อความก่อนบรรทัดสุดท้ายที่ลูกสาวเขียนว่า “พ่อโกหก”   ภาพส่วนหนึ่งจากโฆษณา . .   เรียงความที่ลูกสาวเขียนถึงคุณพ่อ .   คำตอบทุกอย่างอยู่ภายในคลิปวิดีโอ และเรื่องราวได้จบลงตรงที่เด็กน้อยเพียงแค่อยากจะบอกว่า คุณพ่อของเธอโกหกเพื่อเธอทั้งหมดนั่นเอง ภายในกระทู้ได้มีการเข้ามาคอมเม้นท์ต่างๆ นานาถึงคลิปวิดีโอนั้น และยังบอกอีกด้วยว่ามันดังจนถึงขั้นชาวต่างชาติเองยังเอาไปทำคลิปรีเอคชัน ผลที่ออกมาคือ แม้แต่เขาเองก็ร้องไห้ไปกับโฆษณาด้วย   คลิปวิดีโอที่ชาวต่างชาติคนหนึ่งรีเอคชั่นกับโฆษณาตัวนี้ .  .  .    ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยที่แม้แต่ชาวต่างชาติยังยอมรับ และต้องยกนิ้วให้บ้านเราจริงๆ ในการทำโฆษณาที่กินใจคนดูได้มากขนาดนี้ ที่มา: สมาชิกหมายเลข…

อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อย่างจอคอมพิวเตอร์หรือว่าจอโทรศัพท์ เป็นอะไรที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับดวงตาของคนเรา แต่รู้หรือไม่ว่ามันสามารถสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยกตัวอย่างเช่นในกรณีศึกษาเคสนี้ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งเกือบจะต้องสูญเสียดวงตาไป จากหารที่เธอใช้งานโทรศัพท์โดยที่เปิดแสงสว่างไว้เต็มแม็กตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี!!     หญิงสาววัย 25 ปีนามว่า Chen คนนี้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเกาสฺยง ไต้หวัน และประกอบอาชีพเป็นเลขานุการให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง เธอกล่าวว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นขณะที่เธอใช้โทรศัพท์กลางแจ้ง จึงทำให้เธอต้องเปิดแสงสว่างแบบเต็มที่เพื่อสู้กับแสงธรรมชาติ แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่ได้ลดระดับมันเลยเป็นเวลากว่า 2 ปี     ในระยะสองปีที่ว่านี้เธอก็มีการใช้โทรศัพท์เหมือนๆ กับคนอื่นทั่วไป นั่นคือใช้แชท ใช้เขียนข้อความหรือว่าดูวิดีโอบ้างเป็นบางครั้ง (ทั้งๆ ที่แสงยังเปิดสุดอยู่) และนั่นเองทำให้เธอเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับดวงตาเข้าแล้ว เพราะมีอยู่วันหนึ่งเธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาที่ดวงตาอย่างไม่รู้สาเหตุ และในเวลาต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำจนดูน่ากลัว…     เลขาสาวคนนี้ได้เข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาทางแพทย์พบว่าบริเวณกระจกตาด้านซ้ายของเธอมีอาการเลือดคั่ง รวมทั้งสายตาก็ได้รับความเสียหายอย่างถาวร ส่วนการมองเห็นในดวงตาข้างขวาก็แย่ยิ่งกว่า เมื่อทางแพทย์พบว่ามี ‘รู’ ปรากฏบนกระจกตาของเธอกว่า 500 รู!!     ทางแพทย์ได้ใช้วิธีการรักษาด้วยสเตียรอยด์ ซึ่งผลของมันก็สามารถช่วยให้อาการต่างๆ ของหญิงสาวคนนี้ดีขึ้นได้ภายในสามวันหลังจากนั้น โดยหนึ่งในทีมแพทย์ที่รักษาหญิงสาวคนนี้กล่าวว่า โทรศัพท์ที่สาว Chen…

ถ้าถามถึงฮีโร่ในดวงใจ นอกจากตัวละครสมมุติจากค่าย Marvel หรือ DC แล้ว คิดว่าหลายๆคนน่าจะยก “พ่อและแม่” เป็นฮีโร่ในโลกแห่งความจริง แต่บางครั้งฮีโร่ทั้งสองประเภทก็สามารถรวมเข้าด้วยกันได้ เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่ประเทศจีน เมื่อหนูน้อยวัยอนุบาลกลับบ้านมาด้วยความเศร้าสลด ก็ทำให้ Bao Guojian ผู้เป็นพ่อ สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?     ลูกสาวของเขาบอกว่าเพื่อนๆ ในห้องกล่าวหาว่าเธอโกหก เพราะเธอไปบอกกับเพื่อนร่วมชั้นว่าพ่อของเธอคือ Iron Man  กลับกลายเป็นว่านาย Bao คือแฟนเดนตายของฮีโร่จากค่าย Marvel และที่ลูกสาวพูดออกไปแบบนั้นเพราะว่าเขาคือนักประดิษฐ์พรสวรรค์ ที่สามารถสร้างชุด Iron Man ขึ้นมาใส่จริงๆด้วยฝีมือของตัวเอง     เมื่อลูกสาวโดนว่ามาแบบนี้ ผู้เป็นพ่อจะทนได้อย่างไร Bao นำชุด Iron Man Mark 17 ชุดที่เทพที่สุดของเขา ใส่ไปที่โรงเรียนอนุบาลของลูกสาว     จากเดิมที่ตั้งใจว่าจะไปโชว์เพื่อนร่วมห้องของลูกสาวเฉยๆ กลับกลายเป็นว่าเด็กๆ ทั้งโรงเรียนตื่นเต้นกันมากจนครูใหญ่ถึงกับให้หยุดการสอน และให้เด็กๆเข้ามาถ่ายรูปกับคุณพ่อในชุด Iron Man แทน    …

มลพิษและฝุ่นควัน PM 2.5 เป็นปัญหาแก้ไม่ตกที่ชาวกรุงเทพกำลังได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทยก็เริ่มที่จะได้รับผลกระทบแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าว ณ ภูมิภาคไซบีเรีย เขตเคเมโรโว ประเทศรัสเซีย ก็เกิดปัญหามลพิษอย่างรุนแรงเช่นกัน โดยถึงกับที่ว่า หิมะตกลงมากลายเป็นสีดำปกคลุมไปทั่วทั้งภูมิภาค… .   มีรายงานออกมาว่า อัยการจากในเขตเคเมโรโว กำลังตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้หิมะกลายเป็นสีดำ ในเมือง Prokopyevsk, Kiselyovsk และ Leninsk-Kuznetsky ซึ่งเป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งของอุตสาหกรรมถ่านหิน หลังจากที่ชาวบ้านในท้องถิ่นแชร์รูปภาพออกมาบ้างก็ว่ามีความสวยงามอยู่ในหิมะสีดำ บ้างก็เกิดคำถามว่า ‘หิมะในนรกน่าจะเป็นแบบนี้ใช่ไหมนะ?’   .   Anatoly Volkov ผู้อำนวยการทั่วไปของโรงงานถ่านหินที่ชื่อว่า Prokopyevskaya ได้ออกมายอมรับผ่านช่อง Vesti-KUzbass TV ว่า อุปกรณ์ที่คอยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ผงถ่านหลุดออกไปเจือปนในอากาศในโรงงานของเขาหยุดทำงาน ทางด้านนาย Andrei Panov รองผู้ว่าการเขตเคเมโรโว ก็กำลังเข้าหารือกับผู้เชี่ยวชาญปัญหาสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น เพื่อหาทางแก้ไขปัญหามลพิษในปัจจุบัน Panov เผยว่าโรงงาน Prokopyevskaya ไม่ใช่แค่สาเหตุเดียว แต่ยังมี หม้อไอน้ำถ่านหิน, ควันเสียจากรถ และโรงงานถ่านหินอื่นๆ ก็ทำให้เกิดปัญหาเช่นกัน  …

เรื่องราวอันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นในเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย กับการจากไปของคุณพ่อลูก 3 วัย 31ปี Brieze Montiero ชายผู้รู้สึกว่าตนเองไม่อยากอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว เหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกอย่างนั้นก็เพราะ “การเลิกรากันกับภรรยา” ที่มันได้ส่งผลทำให้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และที่สำคัญคือการที่เขาไม่ค่อยได้เจอกับลูกๆ ทั้ง 3 คนอีกหลังจากนั้น   Brieze ผู้จากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า   ลูกๆ ทั้ง 3 คนของเขา   Brieze แยกทางกับภรรยาตั้งแต่เมื่อช่วงประมาณ 1 ปีก่อน หลังจากที่เขากลับมาจากการทำงานที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน Bell แม่ของเขาเล่าว่า ในตอนนั้น Brieze ทำงานล่วงเวลาเพื่อต้องการจะเก็บเงินสร้างสระว่ายน้ำให้กับลูกชายวัย 11 และ 12 ปี รวมถึงลูกสาวคนสุดท้องวัย 9 ปี แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่เขาวาดฝันเอาไว้ การเลิกราในครั้งนั้นทำให้เขาต้องแยกกันอยู่กับภรรยา โดยที่เธอได้พาลูกทั้ง 3 คนของเขาไปด้วย   แม่และน้องสาวของเขา   ชายหนุ่มต้องจมอยู่ความทุกข์ไปเป็นเวลานาน เขาเคยพยายามฆ่าตัวตายหลังจากที่เลิกรากันได้ไม่กี่เดือน แต่เขาก็รอดมาได้และได้เจอกับ Sarah Smith…

ปัญหาเรื่องและขยะรวมถึงสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นไปทั่วทั้งโลก แม้ว่ากับ ‘ยอดเขาเอเวอเรสต์’ ยอดเขาที่ขึ้นชื่อว่าสูงที่สุดในโลกก็ต้องเผชิญกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน จนทำให้ตอนนี้ประเทศจีนได้สั่งแบนนักท่องเที่ยวไม่ให้ขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์จากฝั่งดินแดนของทิเบตแล้ว!?     สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักกับยอดเขานี้ก็ต้องขออธิบายคร่าวๆ ว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในแนวเทือกเขาหิมาลัย อยู่ระหว่างเขตแดนของประเทศเนปาลและเขตปกครองตนเองทิเบต สาธารณรัฐประชาชนจีน… เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ก.พ.) แถลงการณ์จากทางการของประเทศจีนได้กล่าวว่า ในตอนนี้ประเทศจีนได้ห้ามไม่ให้ ‘นักท่องเที่ยวทั่วไป’ ขึ้นสู่ยอดเขาจากฝั่งเขตปกครองตนเองทิเบตแล้ว     สำหรับ ‘นักท่องเที่ยวทั่วไป’ ในที่นี้หมายถึงนักท่องเที่ยวที่ไม่มีใบอนุญาตในการปีนเขานั่นเอง และจุดที่พวกเขาจะสามารถขึ้นไปได้สูงที่สุดก็คือจุดพักบริเวณวัด Rongpo Monastery ที่อยู่ในระดับสูงกว่าน้ำทะเลประมาณ 5,200 เมตร ส่วนนักท่องเที่ยวที่มีใบอนุญาตปีนเขาก็ยังสามารถขึ้นไปยังบริเวณที่อยู่เหนือจากจุดนี้ได้ตามปกติ   Rongpo Monastery คือจุดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถขึ้นไปได้สูงสุด   ทั้งนี้จุดประสงค์ของการห้ามนักท่องเที่ยวในครั้งนี้ก็คือ การจัดการกับปัญหาด้านขยะรวมถึงเป็นการให้เวลาฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในบริเวณเทือกเขาที่เสื่อมโทรมไปมากจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นในแต่ละปี โดยปกติแล้วนักท่องเที่ยวจะไปเที่ยวชมเทือกเขานี้จากทางตอนใต้ของประเทศเนปาล แต่ว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวได้เลือกใช้เส้นทางของฝั่งทางทิเบตเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะว่าเส้นทางของทิเบตสามารถเข้าถึงได้ด้วยการใช้รถยนต์ ขณะที่เส้นทางในประเทศเนปาลจะสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าเท่านั้นและต้องใช้เวลานานหลายวันด้วย     อย่างในปี 2018 ที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปบนเทือกเขาหิมาลัยก็เพิ่มมากกว่าเดิมเกือบๆ 25% เลยทีเดียว นอกจากนี้การสั่งแบนที่ในครั้งนี้ยังมีอีกหนึ่งแผนที่ทางการจีนวางเอาไว้ก็คือ จะไปเก็บกู้ ‘ซากศพ’ ของนักปีนเขาที่บริเวณความสูงมากกว่า 8,000 เมตรหรือที่เรียกกันว่า Death Zone…

ปัญหาเรื่อง ‘กลิ่น’ บางครั้งก็เป็นปัญหาที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เหมือนดั่งกรณีของชายคนนี้ที่ถูกบริษัทแท็กซี่สั่งแบน เพราะว่ากลิ่นเหม็นของเขาจนเกินกว่าทนไหว แต่จริงๆ แล้วกลิ่นที่ว่านี้มันไม่ใช่กลิ่นตัวของเขาแต่อย่างใด!? เรื่องนี้ได้เกิดขึ้นกับนาย Stephen Davis ชาวเมืองกลอสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ที่ถูกบริษัทแท็กซี่ส่วนบุคคลที่ให้บริการภายในเมืองสั่งแบน เพราะกลิ่นที่เหม็นเกินกว่าจะรับได้ของเขา ชายคนนี้เล่าให้ฟังว่าเขาร่างกายไม่ค่อยดีนักจากการที่มีภาวะ ‘เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ’ (ภาวะติดเชื้อบริเวณผิวหนังหรือเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง) เกิดขึ้นบริเวณขา และนี่เองได้เป็นที่มาของปัญหาทั้งหมด เนื่องมาจากว่าผ้าพันแผลมันคือที่มาของกลิ่นเหม็นนั่นเอง…   นาย Stephen Davis   นาย Davis ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานร่วมด้วยกล่าวว่า เขาได้รักษาอาการนี้มาตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2018 แล้ว และต้องไปโรงพยาบาลสามครั้งต่อสัปดาห์เพื่อทำความสะอาดและเปลี่ยนผ้าพันแผล เขาถูกสั่งแบนในวันจันทร์ที่ผ่านมา (11 ก.พ.) แม้ว่าในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 ก.พ.) เขาเพิ่งจะไปเปลี่ยนผ้าพันแผลที่โรงพยาบาลมาก็ตาม ทว่าคนขับก็ได้คอมเพลนเกี่ยวกับเรื่องความสะอาดของเขา และส่งเรื่องไปยังบริษัท     “เมื่อผมกลับถึงบ้านในคืนวันจันทร์ ผมก็พบว่ามีข้อความเสียงถูกฝากเอาไว้กับโทรศัพท์บ้าน และพอผมเล่นข้อความนั้นก็ได้รับแจ้งว่าให้โทรศัพท์หาบริษัทแท็กซี่” “พอผมโทรไปโอเปอเรเตอร์ของบริษัทก็บอกว่าเรามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น นั่นคือความที่พวกเขาสั่งแบนผมไม่ให้ใช้บริการแท็กซี่ของบริษัทอีกต่อไป เนื่องมาจากปัญหาด้านสุขอนามัยของผม”  “ผมมีปัญหากับขามาสักพักหนึ่งแล้วและรู้ว่าผ้าพันแผลมันอาจมีกลิ่นเหม็นนิดหน่อยในช่วงสุดสัปดาห์เพราะไม่ได้ไปทำแผล แต่อย่างไรก็ตามกลิ่นนั้นมันไม่ได้มาจากสุขอนามัยของผมจริงๆ และที่มันเหม็นเพราะมันเปียกตอนอาบน้ำไงล่ะ” Davis กล่าว เขาได้นำเรื่องราวนี้ไปขอความช่วยเหลือจากทางสภาเมืองกลอสเตอร์ แต่เขาก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าบริษัทแท็กซี่มีสิทธิที่จะปฏิเสธการให้บริการได้  …

รอยสักเป็นเสมือนเครื่องย้ำเตือนที่จารึกเรื่องราวไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย หลายคนมองว่ามันคืองานศิลปะที่น่าหลงใหลประเภทหนึ่ง ดังเช่นช่างสัก Balazs Bercsenyi คนนี้ ผู้เริ่มต้นโปรเจกต์ที่ชื่อว่า A Life of a Rose สร้างเรื่องราวรอยสักแบบเดียว 70 ภาพให้กับคนแปลกหน้า 70 คน!!     Bercsenyi เล่าว่า ผลงานนี้เกิดจากแรงบันดาลใจที่ได้รับจากภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องสั้น Dear Basketball ของ Kobe Bryant เขาจึงอยากสร้างรอยสักที่ร้อยเป็นเรื่องราวเดียวกัน ก็เลยถ่ายทอดเรื่องราวโดยใช้ ‘ดอกกุหลาบ’ สัญลักษณ์ใช้เปรียบเปรยถึงความรัก มาแสดงวัฏจักรชีวิตของมนุษย์ ที่เกิดขึ้น เบ่งบานเพื่อเป็นของขวัญให้กับใครสักคน และร่วงโรยลงไป     เขาจึงเริ่มโปรเจกต์นี้ด้วยการประกาศหาผู้เข้าร่วม ที่จะมาสักรอยดอกกุหลาบนี้ โดยมีข้อแม้ว่าทุกคนจะต้องถือสัญชาติฮังการี และสุ่มคัดเลือก 70 คน มาสร้างรอยสักที่มีรูปแบบเหมือนหนังสือกรีด (Flip Book)   มาดูกันว่าผลงานของเขาจะน่าทึ่งขนาดไหน!! . . . . . . . .…

‘อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน’   เป็นประโยคที่เราพร่ำบอกกับตัวเองอยู่เสมอ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต เราจึงต้องไม่ประมาท และเลือกทำทุกๆ วันให้ดีที่สุด หากแต่บางคนยังไม่ทันได้เตรียมใจ เหตุการณ์ร้ายๆ ก็เกิดขึ้นเสียก่อน Dan Nyugen ศิลปินชาวเวียดนามได้วาดภาพการ์ตูน ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองที่ต้องพบกับเหตุสะเทือนใจที่เกิดขึ้นจากความประมาท ทำให้ไม่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าสาวในวันแต่งงานที่กำลังจะมาถึง   เรามาชมเรื่องราวของเธอไปพร้อมๆ กัน   วันนี้ควรจะเป็นวันที่ดีที่สุด เพราะฉันจะได้แต่งงานกับคนที่ฉันรัก   หลังตื่นนอน ฉันควรจะได้สวมชุดแต่งงานในวันสำคัญ และเดินไปพบกับชายในฝันของฉัน   วันนี้ฉันควรจะยืนอยู่ตรงหน้าครอบครัว และอยู่ตรงหน้า Randy ชายคนที่ฉันรัก ก่อนที่เราจะบอกรักกันอีกครั้งและท่องคำปฏิญาณว่าจะดูแลซึ่งกันและกันตลอดไป…   วันนี้ควรจะเป็นวันแห่งความสมหวัง ที่เฝ้ารอมาตั้งแต่ยังเด็ก วันที่ฉันจะได้เป็นภรรยา และเปลี่ยนชื่อเป็น Mrs. Zimmerman. (นามสกุลสามี)   แต่วันนี้ฉันกลับตื่นขึ้นมา และพบความจริงอันโหดร้ายว่า ‘ต้องอยู่ตัวคนเดียว’ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง   พ่อของฉันไม่ได้เดินส่งตัวฉันไปหาเจ้าบ่าว . . . .   วันนี้ ฉันจะไม่ได้เห็นหน้าของ Randy ผู้เป็นเจ้าบ่าว ที่จะยืนมือมารับฉันเมื่อเดินมาจนสุดทางเดินในโบสถ์…

เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส หนึ่งในผู้นำทางศาสนาที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอริก ได้มีการออกมายอมรับว่า ที่ผ่านมามีบาทหลวงคาทอลิกจำนวนหนึ่งใช้อำนาจข่มเหงทางเพศกับแม่ชี และถึงขั้นใช้แม่ชีในฐานะทาสเซ็กซ์     การออกมายอมรับในครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของนิตยสาร “Women’s Church World” ซึ่งได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการใช้อำนาจข่มเหงทางเพศกับผู้หญิงภายในคริสตจักร โดยภายในการให้สัมภาษณ์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้บอกกับนักข่าวว่า มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าในคริสตจักรมี บาทหลวงหรือแม้กระทั่งบิชอปบางคนที่ใช้กำลังข่มเหงแม่ชีจริง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ในทุกที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนคาทอริกใหม่ๆ และในบางภูมิภาค     จากรายงานของสื่อต่างประเทศ ในปัจจุบันมีแม่ชีและอดีตแม่ชีจำนวนมากออกมาเล่าเรื่องการถูกข่มเหงโดยมือของบาทหลวงและบิชอป จนต้องท้องและถูกบังคับให้เลี้ยงลูกที่ไม่มีคนรับเป็นพ่อหรือต้องทำแท้ง ภายใต้ #MeToo จนกลายเป็นที่กังวลของหลายๆ ฝ่ายเป็นอย่างมาก สมเด็จพระสันตะปาปาเปิดเผยว่าที่ปัญหาการข่มเหงผู้หญิงในคริสตจักรเกิดขึ้นเช่นนี้ เป็นไปได้ว่าจะมาจากปัญหาด้านวัฒนธรรมที่มักกดขี่ผู้หญิงมาตั้งแต่ในอดีต และเป็นเรื่องที่ทางคริสตจักรพยายามแก้ไขกันมาเป็นเวลานาน ท่านยังบอกอีกว่าที่ผ่านมาเองสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ก็เคยสั่งยุบคณะนักบวชคาทอลิกหญิง (Religious Order of Women) ในอดีต เนื่องจากผู้ก่อตั้งใช้คณะนักบวชนี้ในการหาทาสเซ็กซ์มาแล้ว     สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะหยุดได้เพียงเพราะศาสนจักรรู้ว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ เท่านั้น ดังนั้นทางคริสตจักรจึงได้พยายามเป็นอย่างมากในการสืบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างครอบคลุมและเป็นธรรมที่สุด ซึ่งที่ผ่านๆ มา ทางศาสนจักรก็ได้ทำการระงับตำแหน่งของนักบวชบางคนเพราะเรื่องนี้มาแล้ว และจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องสืบไปในอนาคต   ที่มา reuters, allthatsinteresting และ bbc

การได้รับรางวัลอย่างการได้ไป ‘แสวงบุญ’ สำหรับบางคนแล้วมันก็เป็นเรื่องที่มีความหมายกับพวกเขาเอามากๆ เหมือนดั่งพนักงาน Grab ชาวอินโดนีเซียสองคนนี้ ที่ถึงขั้นดีใจน้ำตาไหลออกมาเลย…     โดยเรื่องนี้มีอยู่ว่าบริษัทแกร็บในประเทศอินโดนีเซียจะมีรางวัลใหญ่มอบให้กับพนักงาน คือการออกค่าใช้จ่ายในการไปทำพิธีอุมเราะห์ (พิธีทางศาสนาอิสลาม) ให้ทั้งหมด และผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลนี้ก็คือชายสองคนชื่อว่า Tri Mulyanto และ Supriyono ซึ่งพวกเขาไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าได้ถูกโชคก้อนใหญ่หล่นทับเข้าให้แล้ว…     วิดีโอที่เป็นไวรัลในทวิตเตอร์ได้เผยเห็นภาพขณะที่พวกเขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองได้รับรางวัล โดยในขณะนั้นทั้งสองกำลังนั่งกันอยู่ที่ขั้นบันไดเพื่อพักดูดบุหรี่อย่างสบายใจ แล้วจากนั้นคนที่มอบรางวัลก็ให้กระดาษแก่พวกเขาทั้งสอง โดยที่พวกเขาไม่รู้สักนิดว่ามีข้อความอะไรบางอย่างที่มีความหมายมากๆ ต่อพวกเขาซ่อนเอาไว้อยู่ในกระดาษที่พับอยู่   วินาทีประทับใจของทั้งคู่ (ดูไม่ได้คลิกที่นี่) Tmn w pas ngasitau bapaknya ini menang hadiah program umroh…. Monangeeesss😭 pic.twitter.com/8zRLmzIody — yaㅡkūlt 🍉 (@nigirisushki) February 11, 2019 “ขอแสดงความยินดีด้วย คุณกำลังจะไปทำพิธีอุมเราะห์” ข้อความในกระดาษที่เขียนเอาไว้ ในวินาทีที่พวกเขาคลี่กระดาษออกแล้วเจอกับข้อความนี้ ต่างก็แสดงความดีใจออกมาอย่างเปี่ยมล้นด้วยการก้มกราบพื้น รวมทั้งกอดกันกลมทั้งน้ำตาที่ยังนองหน้าอยู่ ทั้งนี้พิธีอุมเราะห์จะเป็นพิธีของศาสนาอิสลามที่จัดขึ้นในนครเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งแม้จะไม่ใช่พิธีที่ใหญ่อย่างพิธีฮัจญ์…

เมื่อบริษัทด้านความสวยงามของประเทศญี่ปุ่น Love Cosme ได้ทำการวิจัยขนาดหน้าอกของสาวญี่ปุ่นทั่วภูมิภาค จากผู้เข้าร่วมทั้งหมดถึง 33,813 คน ซึ่งจากผลวิจัยทำให้สามารถเปรียบเทียบได้ว่าสาวๆ แต่ละเมืองมีขนาดหน้าอกหน้าใจแตกต่างกันมากแค่ไหน? ซึ่งการทำงานวิจัยนี้ ใช้เวลาตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคมปีที่แล้ว และได้ข้อสรุปออกมาตั้งแต่ขนาดเล็กสุดไปจนถึงขนาดใหญ่สุดว่าจะเป็นของเมืองใดบ้าง…     โดยผลสรุปออกมาว่า (1) เมืองที่เฉลี่ยว่าเป็น คัพ B มากที่สุด : ฟุกุอิ, เกียวโต, นาระ, ชิกะ, โออิตะ, ซางะ (2) เมืองที่เฉลี่ยว่าเป็น คัพ C มากที่สุด : ไอจิ, กิฟุ, ฮอกไกโด, อิบารากิ, อิชิกาวะ, คุมาโมโตะ, มิเอะ, มิยากิ, โทจิงิ, ยามานาชิ (3) เมืองที่เฉลี่ยว่าเป็น คัพ D มากที่สุด : อากิตะ, อาโอโมริ, เอฮิเมะ, ฟุกุชิมะ, กุนมะ, ฮิโรชิม่า, เฮียวโกะ, อิวาเตะ, คางาวะ, คาโงชิมะ,…

หลังจากที่ได้รับการเปิดเผยรายละเอียดจากสื่อต่างประเทศไปบางส่วน กรณีของนักวิ่งบนเส้นทางธรรมชาติ ถูกสิงโตภูเขาจู่โจมหมายเอาชีวิต แต่สามารถป้องกันตัวเองและปลิดชีพมัน จนเอาชีวิตรอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย ข่าวที่เกี่ยวข้อง: สรุปประเด็น “นักวิ่ง” ปลิดชีพ “สิงโตภูเขา” ด้วยมือเปล่า หลังออกไปวิ่งแล้วโดนจู่โจม โฆษกอุทยานเผยต่อสื่อ นักวิ่งผู้พิชิตสิงโตภูเขาด้วยมือเปล่า ทำเพื่อป้องกันตัวเองเอาชีวิตรอด   Travis Kauffman   ล่าสุดนี้ ชายผู้ฆ่าสิงโตภูเขาด้วยมือเปล่า ได้ออกมาพูดถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นด้วยตัวเองแล้ว เขาคือนาย Travis Kauffman ชายวัย 31 ปี จากรัฐโคโลราโด     โดยในช่วงวันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 เขาได้ออกแถลงข่าวต่อหน้าสื่อว่า เพิ่งย้ายมาอยู่ในเขตฟอร์ตคอลลินส์ เมื่อ 5 ปี ที่แล้ว มีความชื่นชอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งอย่างการขี่จักรยานและเล่นสกี และเพิ่งหันมาสนใจวิ่งเทรลเมื่อช่วงปีที่แล้ว   เส้นทางวิ่งและจุดเกิดเหตุ   ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่เขากำลังฝึกซ้อมวิ่งเทรลระยะ 50 กิโลเมตรที่กำลังจะจัดแข่งในช่วงเดือนมิถุนายน เขาออกไปซ้อมวิ่งโดยไม่คิดอะไร แต่แล้วก็ได้ยินเสียงจากข้างหลัง ปรากฏว่าเป็นสิงโตภูเขาพุ่งเข้ามากัดข้อมือ การต่อสู้ของเขาเปรียบเหมือนกับการเล่นมวยปล้ำกับแมวยักษ์ อีกทั้งกล่าวว่าจากการที่ได้เลี้ยงแมวมา ทำให้เขารู้ว่าควรจะสู้กับมันยังไง…

เรื่องราวความงงของหนุ่มไฟแรงรายหนึ่ง ในช่วงต้นปีที่แล้วกับการได้งานแรกในชีวิตของเขา ตั้งใจไปทำงานอย่างเต็มที่ หารู้ไม่จากทำงานมาทั้งวัน ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเข้าผิดร้าน แม้จะเอะใจตั้งแต่แรกแล้ว… หนุ่มชาวมาเลเซียนามว่า Ezal ได้บอกเล่าประสบการณ์ของตัวเองผ่านทวิตเตอร์ เกี่ยวกับการเข้าทำงานในร้านอาหารวันแรก สอบถามเจ้าของร้านที่ว่าจ้างดิบดี แต่ไหงพอไปถึงหน้าร้านก็อาการงงกันไปหมด   Gais, nak tau cerita lawak tak 1st time aku keje kt kedai makan. Aku nak 10 retweet pls baru aku cerita. Kalau tak lawak sumpah korang boleh pukul aku — Ezal 🏴 (@_EhEzal) January 27, 2018   “ในวันก่อนที่ผมจะเริ่มงาน ผมส่งข้อความไปหาเจ้าของร้านผ่าน WhatsApp บอกว่าจะไปถึงประมาณ 7…

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ถือเป็นสำนวนที่คอยให้กำลังใจ อย่าเพิ่งหมดหวัง อย่าเพิ่งท้อแท้ต่อเป้าหมาย หากเราลงมือทำอย่างตั้งใจไม่ลดละ สักวันหนึ่งจะต้องได้อย่างที่ใจหวังแน่นอน ในกรณีของความรักที่พยายามทำเพื่อใครสักคน ก็ลงเอยงอกเงยเป็นครอบครัวเดียวกัน อย่างสาวชาวมาเลเซีย Dora Kong ได้เปิดเผยเรื่องราวของเธอกับแฟนหนุ่มรุ่นพี่ ที่ตามจีบมาตลอดโดยไม่เคยยอมแพ้จนสมหวัง     เว็บไซต์ Epochtimes เปิดเผยเรื่องราวของ Dora Kong หญิงสาวผู้ที่ไม่เคยคิดเปลี่ยนแปลงตัวเองมาก่อน จนกระทั่งได้ตกตกหลุมรักกับรุ่นพี่คนนี้ หลังจากที่เธอย้ายมาอยู่ในโรงเรียนใหม่ ในช่วงอายุ 14 ปี ตามช่วงอายุของวัยรุ่นในตอนนั้น สภาพของเธอเรียกได้ว่าแตกต่างจากปัจจุบันอย่างมาก ในตอนนั้นมีสิว ฟันยื่น และผิวพรรณยังไม่เปล่งปลั่ง และการเข้าหารุ่นพี่ก็เหมือนกับการเผชิญยอดภูเขาน้ำแข็งอันท้าทาย     เธอกล่าวว่าไม่รู้ตัวมาก่อนว่ารวบรวมความกล้ามาจากไหน จากแต่ก่อนที่เคยเป็นเด็กหญิงขี้เหร่ ไม่มั่นใจในตัวเอง ค่อยๆ พัฒนาความกล้า เข้าหารุ่นพี่ให้มากขึ้น เล่นเกมรุกอย่างต่อเนื่อง     ในยุคสมัยนั้นเธอใช้เทคนิคในการขอเบอร์รุ่นพี่ ด้วยการแสร้งขอยืมโทรศัพท์ของเขาเพื่อโทรหาที่บ้าน และได้เบอร์มาอย่างง่ายดาย รวมไปถึงการใช้ MSN แชตหาบ่อยๆ แต่มักจะได้รับการตอบกลับอย่างเย็นชา หรือไม่อ่านเลยก็มี     จากความพยายามนานกว่าครึ่งปี…

กำลังเป็นที่สนใจในประเทศญี่ปุ่นเมื่อลูกชายของอดีตนักเบสบอล Masumi Kuwata ทีม Yomiuri Giants ของญี่ปุ่น ‘ลูกไม้หล่นไกลต้น’ เพราะลูกชายของเขาเลือกที่จะเป็น ‘นายแบบ’ มากกว่าจะเป็นนักเบสบอลอย่างคุณพ่อ โดย Masumi เริ่มต้นอาชีพนี้กับทีมเบสบอล Giants ในปี 1986 และเมื่ออายุได้ 18 ปี เขาถึงขั้นเคยลงเล่นในฤดูกาลหนึ่งกับทีมเบสบอลชื่อดังของอเมริกา Pittsburgh Pirates จนกระทั่งปี 2008 เขาจึงได้อำลาวงการนี้ไป   ลูกชายของอดีตนักเบสบอล Masumi https://www.instagram.com/p/Bp23zuZnzDL/   นักเบสบอลชื่อดังคนนี้มีลูกชายสองคน ซึ่งคนแรกคือ Masaki วัย 26 ปี ที่ปัจจุบันเล่นเบสบอลให้กับทีมเล็กๆ ในญี่ปุ่น และอีกคน Masashi วัย 24 ปี ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นนายแบบและใช้ชื่อในวงการว่า Matt ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในฐานะลูกชายของนักเบสบอลชื่อดัง แต่เขาเองก็ได้รับความสนใจจากสื่อ และรายการต่างๆ ให้เข้าไม่ร่วมโชว์ด้วย เนื่องจากเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ตั้งแต่สมัยยังเป็นนักเรียน ซึ่งคนบนโลกออนไลน์ส่วนใหญ่ต่างพูดถึงการที่เขาเปลี่ยนไปมาก จากเด็กนักเรียนมัธยมธรรมดา กระทั่งเขาได้มีใบหน้าที่เหมือนตัวการ์ตูนในมังงะอย่างทุกวันนี้   https://www.instagram.com/p/BplvT1pAblX/ . https://www.instagram.com/p/BpRwTJdgtFd/ . https://www.instagram.com/p/BodIpRmn7c9/ . https://www.instagram.com/p/Bmz190QHyCq/ . https://www.instagram.com/p/Bms2QbmHZXR/ .…

ก่อนอื่นต้องบอกว่าเป็นเรื่องราวน่ารักของครอบครัวชาวมาเลเซีย ที่ไม่ได้ตั้งใจจะดุด่าว่าน้องในสิ่งที่ทำลงไป เพียงแต่อยากบอกเล่าความรู้สึกอันไร้เดียงสาของเด็ก ที่เกิดจากเหตุขอเงินแม่ไปซื้อของกิน… คลิปวิดีโอจากคุณ En Wan โพสต์ไว้บนเฟสบุ๊กเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2019 โดยระบุว่าลูกสาวคนเล็กวัย 7 ขวบขอเงินเป็นจำนวน 15 ริงกิต (115 บาท) เพื่อนำไปซื้อสมุดระบายสี แต่ทว่าพอถามหาถึงสมุดดังกล่าว กลับไม่มีมาให้ดูเป็นหลักฐาน   คลิปที่น้องถูกแม่สอบสวนในรถยนต์ จากเหตุใช้เงินไปกับของกิน   Nur Amira Amani หนูน้อยวัย 7 ขวบ อยู่ชั้นป. 1 ถูกคุณแม่ซักถามถึงเงินจำนวนดังกล่าวที่ขอไป แต่กลับไม่มีสมุดระบายสีมาโชว์ หนูน้อยก็ร่ำไห้ค่อยๆ รับสารภาพว่า นำเงิน 15 ริงกิตไปซื้อของกินจนหมด   ใจความจากบทสนทนาระหว่างคุณแม่กับลูกสาว แม่: หนูว่าหนูกินสเต็กไก่ไป 3 จาน? เอาจริงๆ นะลูก หนูกินไปกี่จาน น้อง: (ทำเสียงงึมงัม) สามค่ะ แม่: กี่จาน? น้อง:…

ปัญหาการกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนนั้น ถือว่าเป็นปัญหาที่ซ่อนอยู่ในสังคมหลายๆ แห่งมาอย่างเนิ่นนาน แต่ไม่ค่อยมีใครที่เห็นผลร้ายของปัญหานี้สักเท่าไหร่ เหมือนอย่างที่ Jack Wilkinson หนุ่มน้อยวัย 7 ขวบคนนี้ ที่ถูกรุมกลั่นแกล้งมาเป็นปี จนในที่สุดก็ทนไม่ไหว เผยความคิดอยากฆ่าตัวตายให้คุณครูได้ทราบ     วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2019 เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า Jack นำโน๊ตที่มีข้อความว่า “พระเจ้า ได้โปรดมารับผมไปสักทีเถอะ” ไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของครู ย้อนกลับไปสัปดาห์ก่อนหน้านี้ Jack ได้ถูกกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นรุมทำร้ายบริเวณสนามเด็กเล่นเกือบ 10 นาที หลังจากเป็นเป้าหมายหลักๆ ในการบูลลี่มาเป็นระยะเวลานาน     Kristy Sturgess คุณแม่ของ Jack ได้เผยว่าเพราะ Jack ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรควิตกกังวลและนั่นทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายการกลั่นแกล้ง เขาถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนและเรียกเขาว่า “ไอ้บ้า” “Jack ถูกทำร้ายร่างกายที่สนามเด็กเล่นเกือบ 10 นาทีและยังถูกแทงด้วยส้อมพลาสติกเข้าข้างหลังอีกด้วย ฉันจำได้ดีตอนไปรับเขาในวันนั้น เขาร้องไห้พร้อมกับกุมไหล่ของตัวเองอยู่ ขาออกเขามีรอยช้ำ มีรอยทิ่มของส้อมอยู่ที่ไหล่ เมื่อเห็นเขาฉันก็ร้องไห้ออกมาเลย นั่นเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายของ Jack หลังจากต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาเป็นปี เขาเพิ่งอายุ…

การดูแลและตกแต่ง “ต้นบอนไซ” ถือว่าเป็นงานอดิเรกที่คนญี่ปุ่นหลายคนนั้นนิยมทำกัน ยิ่งบอนไซมีอายุมากและได้รับการตกแต่งที่สวยงาม ราคาก็ยิ่งแพง เหมือนอย่างต้นบอนไซอายุ 400 ปีที่ Seiji และ Fuyumi สามีภรรยาชาวญี่ปุ่นคู่นี้ครอบครอง แต่น่าเสียดายที่ไม่นานมานี้มันเพิ่งถูกขโมยไป     วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2019 เว็บไซต์ CNN ได้รายงานข่าวของต้นบอนไซ 400 ปีถูกขโมยไปจากบ้านของ Seiji และ Fuyumi โดย CNN ได้ประเมินว่าต้นบอนไซดังกล่าวมีมูลค่าอย่างต่ำ 3.7 ล้านบาท Fuyumi ได้ให้ความเห็นผ่านสื่อว่า โจรที่ขึ้นมาขโมยต้นบอนไซไปจะต้องเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน เพราะบุคคลดังกล่าวสามารถระบุและเลือกขโมยต้นไม้ที่มี “มูลค่าสูงสุด” ในคอลเลคชั่นของเธอ     และเธอยังคาดว่าในอนาคตต้นไม้ของเธอจะต้องถูกนำไปขายในตลาดมืดอย่างแน่นอน “เมื่อคืน บอนไซต้นนี้พร้อมกับต้นอื่นๆ ถูกขโมยไป มันเป็นต้นบอนไซที่สำคัญมากๆ สำหรับสวนของผมด้วย หากคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายคนใด พบเห็นบอนไซเหล่านี้ที่ไหน ช่วยบอกให้ผมรู้ที ขอบคุณมากครับ ผมขอโทษที่รบกวนคุณ แต่ถ้าคุณไม่รังเกียจ โปรดช่วยแชร์ให้ผมด้วย”    …

นี่อาจเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ทำให้หนุ่มๆ มีใจอยากกลับไปเรียนกันอีกครั้ง และคราวนี้ต้องไปเรียนที่ไต้หวันให้ได้ เพราะว่ามีอาจารย์อยู่ท่านหนึ่งที่กลายเป็นที่ฮือฮาของชาวเน็ต จากความสวยเซ็กซี่และฮอตปรอทแทบแตกของเธอ หลังจากที่มีรูปภาพระหว่างการสอนของเธอถูกแชร์กันออกไปจนกลายเป็นไวรัลทั่วโลก คุณครูวัย 28 ปีนามว่า Cheng Jhia-wen ก็กลายเป็นเซเลบในโลกออนไลน์ในช่วงเวลาข้ามคืน   ภาพของเธอที่กลายเป็นไวรัล https://www.instagram.com/p/BqMeFWElZvA/   โดยรูปภาพรูปนั้นเป็นภาพของเธอที่กำลังสอนอยู่ ณ มหาวิทยาลัย Chien Hsin University of Science and Technology ในเมืองเถาหยวน ด้วยชุดเดรสสีดำสุดสวยนั่นเอง   https://www.instagram.com/p/Bdh3MqYg4IN/   จากนั้นโลกออนไลน์ก็ขุดประวัติจนพบว่าตอนนี้คุณครูกำลังเรียนนิติศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัย Chinese Culture University และวิชาที่สอนอยู่ในปัจจุบันก็คือวิชาเลือกที่เรียกว่า ความรู้พื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์และวิชาทรัพย์สินทางปัญญา   https://www.instagram.com/p/BcT_n3TATD8/   ทางด้านชาวเน็ตหลังจากได้เห็นภาพของคุณครูก็พากันบ่นกันยกใหญ่ว่า น่าเสียดายจริงๆ ที่ไม่มีโอกาสได้เรียนกับคุณครูคนนี้ อย่างเช่น “ขอเรียนมหาลัยซ้ำได้ไหม” “นักศึกษาจะโฟกัสวิชาเรียนได้อย่างไรกันเนี่ย” “ฉันจะลงทะเบียนเรียนได้เมื่อไหร่และที่ไหน” “ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าจะไม่มีใครโดดคาบเธอแน่ๆ”   https://www.instagram.com/p/BaWEwpVg2_X/   ด้วยรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณอันแจ่มจรัสของคุณครู ทำให้ในตอนนี้ในอินสตาแกรมของเธอมีผู้ติดตามแล้วกว่า 90,000 คนเลยทีเดียว ก็เอาเป็นว่าใครติดตามชีวิตของคุณครูล่ะก็ไปกดติดตามกันได้เลยละกัน   https://www.instagram.com/p/BUwVfwDAbyF/  …

เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดไวรัลหนึ่งขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของนักศึกษาชาวจีนคนหนึ่งที่ปา ‘เต้าฮวย’ ใส่เจ้าหน้าที่รถไฟ และบทลงโทษที่ร้ายแรงที่สุดที่เธอได้รับคืออาจถูกเนรเทศ!!     เรื่องนี้ได้เริ่มขึ้นจากความที่ Zhang Jiale นักศึกษาชาวจีนวัย 23 ปีที่ศึกษาอยู่สถาบัน SoFA Design Institute ประเทศฟิลิปปินส์ ได้มุ่งหน้าไปใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเมืองมันดาลูยอง ในวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 ก.พ.)     แต่ด้วยความที่เธอถือ ‘เต้าฮวย’ อยู่ในมือเจ้าหน้าที่นามว่า William Cristobal จึงสั่งห้ามไม่ให้เธอเข้าและให้เธอกินให้หมดก่อน เพราะว่าของเหลวเป็นสิ่งที่ห้ามนำเข้าสู่ขบวนรถไฟ แต่เธอกลับนำแก้วเต้าฮวยแก้วนั้นขว้างใส่อกของเจ้าหน้าที่…     สาวคนนี้จึงถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวในทันทีด้วยข้อหาทำร้ายร่างกาย ขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสร้างความเดือดร้อน ในขณะที่เธอถูกคุมขังอยู่ภายในคุก เธอได้อธิบายว่าในตอนนั้นเธอมีอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก จึงทำให้ทำอย่างนั้นออกไป “ฉันอารมณ์เสียจริงๆ ในตอนนั้นและไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ฉันขอรับผิดกับสิ่งที่ฉันทำลงไปและสำนึกผิดอย่างแท้จริง” “ฉันต้องขออภัยจากเบื้องลึกของหัวใจ และขออ้อนวอนที่จะให้โอกาสฉันอีกสักหน ฉันชอบประเทศฟิลิปปินส์จริงๆ นั่นจึงทำให้ฉันยังอยู่ที่นี่ ฉันรักผู้คนที่นี่ ฉันรักชาวฟิลิปปินส์” Zhang กล่าว     อย่างไรก็ตาม Zhang ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวก่อนที่ถูกควบคุมตัวอีกครั้งในวันพุธที่ผ่านมา (13 ก.พ.) ภายใต้คำสั่งของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้พบว่าจากความผิดที่เกิดขึ้นอาจทำให้เธอเนรเทศออกนอกประเทศได้…

แบรนด์หรู (Luxury Brand) คือแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์หรูหรา ราคาแพง และสามารถสร้างทัศนคติให้ผู้ครอบครองรู้สึกถึงความพรีเมี่ยมของตัวสินค้า ซึ่งหากพูดถึงแบรนด์หรูเหล่านี้แล้ว ชื่อว่า Gucci แบรนด์ชื่อดังจากประเทศอิตาลีก็คงเป็นอีกหนึ่งชื่อที่หลายๆ คนนึกถึงเป็นอย่างแน่นอน อย่างที่บอกกัน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใดๆ เมื่อวางขายในเชื่อแบรนด์หรู ราคาก็จะสูงทั้งนั้น ก่อนหน้านี้เอง Gucci ก็ได้เปิดขายหมวกชาวไร่สไตล์เกษตร ด้วยราคาใบละหมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว ข่าวเก่า: Gucci เปิดตัวคอลเลคชั่น Cruise 2019 หมวกชาวไร่สไตล์เกษตร ราคาใบละหมื่นกว่าบาท     ล่าสุดนี้ทาง Gucci ก็ได้เปิดขายผลิตภัณฑ์หรูชิ้นใหม่ เอาใจสายชอบสะสมของเก่า เพราะสิ้นค้าในคราวนี้คือรองเท้าผ้าใบ Screener leather sneaker  โดยเจ้ารองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ของ Gucci นี้ เป็นรองเท้าที่ถูกทำให้ดูเหมือนเก่า ดังนั้นเพื่อนๆ จะไม่ต้องกลัวว่าซื้อมันมาใช้นานๆ แล้วจะเก่าอีกต่อไป เพราะมันเก่ามาแต่แรกอยู่แล้ว!!     ในเว็บไซต์ของ Gucci ได้บรรยายรองเท้าคู่นี้ไว้ว่า “ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรองเท้าผ้าใบสุดคลาสสิกจากยุค 70 Screener sneakers นี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นรองเท้าที่จะป้องกันทุกการเคลื่อนไหวในการเล่นกีฬา โดยมีแถบด้านข้างพร้อมกับโลโก้ Gucci สุดวินเทจอีกด้วย”  …

หนึ่งในปัญหารบกวนสมาธิของผู้ขับขี่รถยนต์ในช่วงเวลากลางคืน ตามตกกะปิแล้ว จะไม่เปิดไฟสูงหากมีรถยนต์คันอื่นอยู่ร่วมในเส้นทางเดียวกัน และจะเปิดใช้เมื่อเห็นว่าไม่มีรถข้างหน้าแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้แสงไฟสาดเข้าตาของผู้ขับขี่รายอื่น     ถึงแม้จะรณรงค์มากแค่ไหน นิสัยส่วนบุคคลก็ไม่สามารถเปลี่ยนกันได้ ก็ยังคงมีผู้ใช้รถใช้ถนนบางส่วน เปิดไฟสูงสาดไปทั่วไม่สนใจผู้อื่น และวิธีแก้ไขของผู้ใช้รถใช้ถนนในประเทศจีน ก็เลือกที่จะใช้สติ๊กเกอร์สะท้อนแสงลายผี ติดบนกระจกหลังแทน…     เหมือนดั่งเป็นการประกาศศึกกับรถยนต์ที่ขับตามหลังและชอบสาดไฟสูง ซึ่งสติ๊กเกอร์ลายผีสะท้อนแสงเหล่านี้ วางขายในร้านค้าออนไลน์จีน มีตั้งแต่ราคา 15 หยวนไปจนถึง 62 หยวน (70-280 บาท) ตามลวดลายและขนาด   .   สติ๊กเกอร์เหล่านี้ จะไม่ทำงานหากยังไม่ได้รับแสงสะท้อนในมุมที่ถูกต้อง นั่นหมายความว่าหากได้รับการสาดแสงจากไฟสูงเมื่อไหร่ จะเป็นการปลุกผีให้ทำงานบนกระจกหลังโดยอัตโนมัติ     อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตกรุงปักกิ่งกล่าวว่า วิธีการแบบนี้ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เหมือนการติดสติ๊กเกอร์บนกระจกหลังทั่วไป แต่ผู้ขับขี่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จากการทำให้ผู้ขับขี่รายอื่นรู้สึกตกใจกลัว   พี่มองเห็นหนูด้วยเหรอคะ? .   ในส่วนของมณฑลชานตง เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จะส่งผลทำให้ถูกสั่งปรับเป็นเงินจำนวน 100 หยวน หรือประมาณ 470 บาท  …

คงจะเคยได้ยินเหตุการณ์ทำนองนี้กันมาบ้างแล้ว กับการรับจ้างเข้าสอบแทนในการสอบวัดผลต่างๆ และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งในประเทศโบลิเวีย โดยผู้รับจ้างสอบแทนคือนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้เอง หวังจะตบตาอาจารย์ผู้คุมสอบได้แต่ก็ไปไม่รอด Bryan G. นักศึกษาวิศวกรรมระบบ วัย 19 ปี จากมหาวิทยาลัย Universidad Mayor de San Miguel ได้กระทำการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกครั้ง แต่มาในนามของผู้สมัครสอบหญิงรายหนึ่ง     เพื่อให้การตบตาเนียนมากที่สุด เขาใส่วิก แต่งหน้า และใส่เสื้อผ้าของผู้หญิงแบบจัดเต็ม และเข้าสอบเอนท์ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ทว่าโชคไม่เข้าข้าง เขาได้ที่นั่งด้านหน้าห้องสอบ ซึ่งเป็นบริเวณที่อาจารย์คุมสอบและผู้ช่วยคุมสอบสามารถเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจน อีกทั้งในวันนั้นเขามีอาการประหม่ามากกว่าผู้เข้าสอบรายอื่น จนอาจารย์ผู้คุมสอบสังเกตเห็นพิรุธของเขา     ก่อนที่จะแจกชุดข้อสอบ อาจารย์คุมสอบได้เดินเข้ามาถามว่า ‘เขาเป็นใคร’ และเมื่อเขาตอบด้วยชื่อ Jocelin C. ก็โดนสวนกลับทันควันว่า ‘ไม่น่าใช่คนคนนั้นนะ’ “ผมได้ที่นั่งด้านหน้าห้องสอบ และอาจารย์กับผู้ช่วยคุมสอบเห็นผม ผมกำลังจะได้ชุดข้อสอบมาแล้ว แต่เขาบอกว่าผมไม่ใช่ผู้เข้าสอบคนนั้น และผมรู้สึกประหม่ามากจนยอมสารภาพไป” Bryan ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ     และเมื่อถามถึงเหตุผลที่ทำลงไป นักศึกษาหนุ่มวัย 19…

หากใครเคยเข้าไปดูภาพยนตร์เรื่อง Crazy Rich Asian และเห็นได้ถึงความร่ำรวย รวมไปถึงชีวิตที่หรูหราสุดๆ ทั้งมีเกาะ เครื่องบินส่วนตัว ไปจนถึงบ้านหลังใหญ่เหมือนวัง จนรู้สึกว่า “เขาใช้ชีวิตแบบนี้กันจริงๆ เหรอ?”  จะบอกว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีอยู่จริงๆ บนโลก โดยเศรษฐีหญิงชาวสิงคโปร์ คนหนึ่งชื่อว่า Jamie Chua ที่เธอมีไลฟ์สไตล์เหมือนกับหลุดออกมาจากเรื่อง Crazy Rich Asian จริงๆ…     Jamie Chua เป็นคุณแม่ลูกสองวัย 45 ปี โดยเธอเป็นอดีตภรรยา Nurdian Cuaca นักธุรกิจชาวอินโดนีเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้พบรักกับเขาบนเครื่องบิน ขณะที่เธอยังเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์   ราคารองเท้าขั้นต่ำของเธออยู่ที่ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 46,890 บาท .   หลังจากที่เธอหย่ากับอดีตสามีในปี 2011 การหย่าระหว่างเธอกับอดีตสามี ได้กลายเป็นข่าวใหญ่โตพักหนึ่งที่ประเทศสิงคโปร์ เนื่องจากเธอได้ฟ้องหย่า และเรียกค่าเลี้ยงดูถึง 450,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ประมาณ 14 ล้านบาท) ทำให้กลายเป็นการฟ้องหย่าที่แพงที่สุดในสิงคโปร์ตอนนั้นก็ว่าได้     นอกจากนั้นเธอยังชื่นชอบกระเป๋าของ Hermes ถึงขั้นซื้อเก็บไว้มากกว่า 200 ใบ โดยมีหนึ่งในคอลแล็คชั่นของกระเป๋ายี่ห้อนี้…

โดยปกติแล้วการสูบกัญชาหรือที่เรียกกันว่าการ ‘ดูดตุ่ย’ นั้น นอกจากจะทำให้ประสาทช้า จินตนาการไร้รอบเขตและสายตาพร่ามัวแล้ว บางครั้งอาจทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ภาพหลอน’ ขึ้นมาได้ ดังนั้นแล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าหากใครที่เพิ่งสูบกัญชามาใหม่ๆ จะบอกอะไรแล้วไม่มีใครเชื่อ แต่ว่าเหตุการณ์นี้สิ่งที่คนสูบกัญชาบอกกลับกลายเป็นเรื่องจริงๆ ขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่เขาบอกก็คือเขาเจอเสือตัวเป็นๆ อยู่ในบ้านร้าง!     เรื่องราวอันน่าแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้พบเห็น ‘เสือ’ ทั้งตัวอยู่ในบ้านร้างหลังหนึ่งของเมืองฮิวสตัน คนที่โทรแจ้งเรื่องนี้เข้ามาเล่าว่า เขาได้เข้าบ้านร้างหลังนี้เพื่อไปสูบกัญชา (กัญชาภายในรัฐเท็กซัสเป็นเรื่องถูกกฎหมาย) แต่ว่าบังเอิญไปพบกับเจ้าเสือตัวนี้เข้าอย่างที่ไม่คาดคิดจึงโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่     แต่ว่าทางตำรวจในตอนแรกก็ยังไม่ปักใจเชื่อนักสูบคนนี้ เพราะคิดว่าเขาอาจจะเก็ทไฮหรือว่าเห็นภาพหลอนไปเอง ทว่าเมื่อลงมาดูพื้นที่จริงๆ ก็พบว่ามันมีเสืออยู่… เจ้าเสือตัวที่ว่านี้อยู่ภายในกรงที่อยู่ในบ้านร้าง โดยที่ข้างๆ ยังมีชิ้นเนื้อกองเอาไว้อยู่ด้วยและมันดูค่อนข้างจะสงบตอนที่เจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุ   คลิปขณะขนย้ายเจ้าเสือ The tiger has been transferred to another trailer and will be headed to a facility that will care for…

อีกหนึ่งเรื่องราวที่ถูกตีแผ่ให้กับสังคมญี่ปุ่นได้รับรู้ ถึงการฉ้อโกงรัฐด้วยการหลีกเลี่ยงภาษี ทำให้รัฐสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมหาศาล ในขณะที่เจ้าของธุรกิจหนุ่มกลับใช้ชีวิตอู้ฟู่หรูหรา และกล่าวอ้างถึงการประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้ต้องหาในคดีเลี่ยงภาษีในครั้งนี้คือนาย Yuta Misaki นักธุรกิจหนุ่มวัย 29 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตภัณฑ์ด้านความงามและลดน้ำหนัก Media Hearts Co. มาตั้งแต่ปี 2007   https://www.instagram.com/p/BsiSnvFBaDC/   เจ้าหน้าที่ทำการควบคุมตัวนาย Yuta ในข้อหาหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีเป็นมูลค่ารวม 180,000,000 ล้านเยน (ประมาณ 50,888,172 บาท) ในช่วงระหว่างเดือนกันยายนปี 2015 และเดือนกันยายนปี 2017 โดยมีผู้สมรู้ร่วมคิดให้ความช่วยเหลืออีก 2 ราย ถูกจับกุมตัวด้วยเช่นกัน   https://www.instagram.com/p/BjCtg-cghby/   นาย Yuta เริ่มได้รับความสนใจจากสาธารณชน หลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์และทำการตลาดในปี 2014 เป็นน้ำผักดื่มง่าย ที่เปลี่ยนแนวคิดเดิมๆ ของน้ำผักขมที่จะเหมาะกับผู้สูงวัย ให้เป็นเครื่องดื่มเหมาะสำหรับหญิงสาววัยเยาว์   https://www.instagram.com/p/Bo6K9rABGUT/   เขาปรากฎตัวออกสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์หลายช่องทาง จนได้รับตั้งฉายาว่า ‘เจ้าชายแห่งน้ำผลไม้สีเขียว’ อีกทั้งยังใช้ช่องทางสื่อโซเชียลในการโปรโมทตัวเองอย่างต่อเนื่อง…

โลกใบนี้ประกอบไปด้วยประเทศต่างๆ มากมาย ซึ่งแต่ละประเทศก็ย่อมมีวัฒนธรรมประเพณีไม่เหมือนกัน และหากเราไปเที่ยวในประเทศนั้นก็ควรศึกษาวัฒนธรรม ภาษาให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นอาจถูกรุมโจมตีเหมือนอย่างเซเลบอินสตาแกรมสาวคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เนื่องจากเธอมาเที่ยวที่ประเทศไทยเรา แต่ดันโพสต์ภาพพร้อมแคปชั่นว่า “คนนิจิวะ” ซึ่งคำทักทายภาษาญี่ปุ่นซะอย่างนั้น     เซเลบสาวคนดังกล่าวคือ Kristen Hancher สาววัย 19 ปี จากประเทศแคนาดาที่มีผู้ติดตามอินสตาแกรมถึง 5 ล้านคนและผู้ติดตามทางช่องยูทูบอีกเกือบล้านคน      ล่าสุดเซเลบสาวคนนี้ก็ได้เดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตของประเทศไทยเรานี้เอง ซึ่งเธอก็เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวในครั้งนั้นและได้โพสต์ภาพอย่างมากมาย แต่ประเด็นอยู่ที่ภาพๆ หนึ่งของเธอ ที่ทำท่า “พนมมืออยู่” แต่ดันใช้แคปชั่นว่า “Kon’nichiwa” นี่แปลว่าสวัสดีตอนกลางวันในภาษาญี่ปุ่นแทนอย่างนั้น   https://www.instagram.com/p/BteNa4phvVP/   เมื่อเธอโพสต์ภาพพนมมือพร้อมแคปชั่นดังกล่าวแทนจะเป็น “สวัสดี” ชาวเน็ตหลายคนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย   แต่เธออยู่ในประเทศไทยนะโว้ยยัยบ้า   ลองพูดสวัสดีค่ะแทนมั้ย ถ้าเธออยู่ในไทยเนี่ย   เธอจะกลายเป็นตัวประหลาดในประเทศไทย เพราะในไทยไม่มีใครพูดว่าคนนิจิวะหรอก   สาวน้อย เธอดูโง่มากเลยนะ โง่มากจริงๆ   นี่คือความเหมาะสมของวัฒนธรรมเหรอ? ว้าว ขี้เหยียดนี่หน่า  …

เรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่เบื่องานประจำ โดยเธอได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ในปี 2018 และเริ่มต้นจริงจังในสายเสี่ยงโชคนี้ หลังจากนั้นเจ็ดเดือนเธอสามารถทำรายได้ถึง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6 ล้านบาท…   Natalie Teh Siew-po หญิงสาวที่ยอมเสี่ยงออกจากงานมาทำงานเสี่ยงโชคแทน   หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Natalie Teh Siew-po เธอเกิดและโตในกรุงกัลลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยทุกอย่างเริ่มต้นมาจากการที่เธอไม่อยากที่จะทำงานที่ iFlix (ซึ่งเป็นงานด้านรายการภาพยนตร์ และซีรี่ย์ คล้ายกับ Netflix) ตลอดไป แม้ว่าเธอจะสนุกกับมันก็ตาม “จริงๆ การทำงานกับที่นั่นมันสนุกนะ แต่ก็ไม่อยากจะทำด้านนั้นไปตลอดชีวิต แล้วฉันก็อยากที่จะให้ตัวเองได้มีเวลาตัดสินใจบ้าง ระหว่างที่ฉันเดินทางไปเล่นโปกเกอร์ที่นู่นที่นี่ รวมไปฉันมีรายได้มากกว่าตอนที่ทำงานที่เดิมเสียอีก เพราะฉะนั้นฉันคิดว่ามันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว” เธอกล่าว   https://www.instagram.com/p/BtcfGOSHhgn/   เธอได้บอกอีกด้วยว่าเธอได้เรียนรู้วิธีการเล่นมาจากการที่เธอมีเชื้อสายจีน และมักจะมีโอกาสได้เล่นการ์ดเกมของประเทศจีนอย่าง Chor Dai Di หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Big2 “ฉันเป็นคนจีน มันทำให้ฉันโตมากับเกมพวกนี้ และอย่างน้อยฉันก็รู้ว่าทันทีว่าทำอย่างไรฉันถึงจะได้ คอมโบ และตอนไหนจะทำให้ฉันได้ไพ่เหนือกว่าคนอื่น อีกทั้งฉันเองยังชอบเล่นไพ่โปกเกอร์ตั้งแต่มหาวิทยาลัยกับเพื่อนด้วย”   “ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจากทุกคน ฉันสนุกมาก และฉันพยายามทำให้ดีที่สุด จะได้ไม่เสียใจทีหลัง แม้วันนี้ฉันอยู่ที่ลำดับที่ 26 แต่การแข่งขันยังไม่จบ เพราะฉันพร้อมที่จะล่ารางวัลต่อไปแล้ว” https://www.instagram.com/p/BrdS50unXuj/…

ในหลายๆ ประเทศมีการแก้ไขปัญหาการว่างงาน และมีการกำหนดรายได้ขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน รวมไปถึงนโยบายการให้โอกาสเหล่าคนว่างงาน ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ แต่ทางรัฐบาลประเทศฟินแลนด์ ได้เสนอไอเดีย ‘เรื่องรายได้ขั้นพื้นฐาน’ ให้กับคนในประเทศ โดยใช้วิธีการสุ่ม มอบเงินจำนวน 560 ยูโร (ราว 19,950 บาท) ต่อเดือน ให้กับผู้ว่างงานจำนวน 2,000 คน เป็นเวลา 2 ปี     จากนโยบายดังกล่าว ทางรัฐบาลฟินแลนด์ต้องการที่จะส่งเสริมการจ้างงานให้กับเหล่าคนว่างงาน และถึงแม้พวกเขาจะได้งานทำแล้ว ก็ยังต้องรับเงินจากทางรัฐบาลอยู่จนกว่าจะครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยนโยบาย ‘ให้เงินแก่ประชาชน’ นั้น เป็นการทดลองว่าหากมีการให้รายได้ขั้นพื้นฐานแก่คนเหล่านี้แล้ว พวกเขาจะได้รับโอกาสการจ้างงานเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ และจะสร้างความแตกต่างอย่างไร??     หลังการทดลองบางส่วน เมื่อวัดจากตัวเลขของการจ้างงาน ผลทดลองดังกล่าวถือว่าล้มเหลว สาเหตุเนื่องจากไม่ได้มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนการจ้างงานจากกลุ่มคนตัวอย่างตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งการจ้างงานนี้ถือเป็นเป้าหมายหลักของโครงการ แต่การให้ ‘รายได้ขั้นพื้นฐาน’ กลับทำให้ผู้ร่วมโครงการมีความเครียดลดลง มีความสุขมากขึ้น และพวกเขารู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำน้อยลง “จากการทดลองผู้ร่วมนโยบายบอกว่าพวกเขามีความสุขเกือบจะในทุกๆ ด้าน เปรียบเทียบกับคนกลุ่มเดียวกันที่ไม่ได้ร่วมด้วย” รายงานจากทีมวิจัย Olli Kangas     อย่างไรก็ตามได้มีหลายฝ่ายให้ความเห็นถึง…

หมีขาวหรือหมีหมีขั้วโลกถือว่าเป็นสัตว์กินเนื้อบนพื้นดินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากหมีกริซลี ปกติแล้วเราจะรู้จักเจ้าหมีขาวพวกนี้กันดีว่ามีนิสัยสันโดษและเป็นนักว่ายน้ำชั้นยอด แต่ล่าสุดเจ้าหมีสันโดษพวกนี้กำลังทำให้ชาวเมืองรัสเซียวิตก เมื่อถูกหมีขาวกว่า 50 ตัวรวมกันบุกเมือง     วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2019 เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานเหตุการณ์ฝูงหมีขั้วโลกได้รวมตัวกันบุกเข้าไปตามบ้านเรือนและสถานที่ราชการในหมู่เกาะ Novaya Zemlya ของประเทศรัสเซีย ท่ามกลางความหวาดกลัวถูกหมีทำร้ายของประชากรที่อาศัยอยู่บนเกาะประมาณ 3,000 ชีวิต ทางการประกาศเตือนให้ประชาชนระวังตัว พร้อมประกาศให้สถานการณ์ดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉิน     โดยเฉพาะที่เมือง Belushya Guba ได้มีรายงานว่าฝูงหมีขั้วโลกอย่างต่ำ 52 ตัวได้บุกเข้าไปคุ้ยถังขยะเพื่อหาอาหารและเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ บ้านพักทหารของรัสเซีย Zigansha Musin หัวหน้าส่วนปกครองท้องถิ่นได้เผยกับสื่อว่า “ผมอยู่ที่เกาะนี้มาตั้งแต่ปี 1983 ไม่เคยเจอหมีเข้ามาบุกเมืองจำนวนมากเท่านี้มาก่อน” นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าหมีบางตัวก็มีพฤติกรรมก้าวร้าวคอยวิ่งไล่ชาวบ้านในบริเวณที่พักอาศัยอีกด้วย     และเพื่อตอบโต้และป้องกันตัวจากฝูงหมีขั้วโลก ทางส่วนปกครองท้องถิ่นของเกาะได้ทำเรื่องขออนุญาติยิงหมีขั้วโลกส่งไปยังกรุงมอสโก แต่คำขอดังกล่าวก็ไม่ถูกอนุญาต เนื่องจากหมีขั้วโลกถือว่าเป็นสายพันธ์ที่เสี่ยงต่อสูญพันธ์ ทางการจึงเตรียมส่งทีมผู้เชี่ยวชาญไปจัดการและให้คำแนะนำแก่ประชาชนแทน     ที่มา Mirror, Ladbible, Dailymail

หมูนั้นถือว่าเป็นสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงเอาไว้เพื่อบริโภคและดูภายนอกเจ้าหมูพวกนี้ก็มีร่างกายอ้วนกลม ดูน่ารัก แต่ใครคาดคิดว่าเจ้าหมูพวกนี้สามารถทำร้ายมนุษย์ได้หากคุณไม่ระวังพวกมันให้ดีพอ     มีรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในคืนวันที่ 31 มกราคม 2019 ที่ฟาร์มในเมือง Malopurginsky สาธารณรัฐ Udmurtia ของประเทศรัฐเซีย เกษตรกรหญิงไม่เปิดเผยชื่อวัย 56 ปีได้เข้าไปให้อาหารหมูที่เธอเลี้ยงเอาไว้ตามปกติ ก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่ออาการลมชักของเธอกำเริบ ทำให้เธอหมดสติและล้มลงไปในคอกหมูทันที และหลังจากที่เธอล้มลง สิ่งที่น่าตกใจก็เกิดขึ้น เมื่อเหล่าหมูที่เธอเลี้ยงเอาไว้ ตรงเข้ามาที่ร่างไร้สติของเธอ ก่อนจะทำการ “แทะ” เธอเป็นๆ     เมื่อทางสามีของเกษตรกรหญิงที่เพิ่งตื่นจากการพักผ่อน พบว่าฝ่ายภรรยาหายตัวไปนานอย่างผิดสังเกต จึงได้ออกตามหาภรรยา แต่ดูเหมือนว่าสายไปเสียแล้ว เนื่องจากภรรยาของเขาเสียชีวิตจากการสูญเสียเลือดมากหลังจากถูกหมูแทะหน้า หูและไหล่     เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่หมูกินคนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ย้อนกลับไปปี 2012 ที่รัฐโอเรกอน ได้มีการพบศพเกษตรกรวัย 70 ปีที่ถูกหมูเขมือบเช่นเดียวกัน   ที่มา Allthatsinteresting, Newindianexpress

เกิดเป็นกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถูกแชร์ออกไปมากกว่า 23,000 ครั้ง คอมเมนต์กันอีกกว่า 1,400 คอมเมนต์ กับภาพภาพเดียวที่เผยให้เห็นว่า “หญิงชรากำลังยืนเกาะเสาอยู่ในรถไฟ”   ภาพของหญิงชรา ยืนประคองตัวเองระหว่างเดินทางบนรถไฟ   จากการรายงานกล่าวว่าภาพดังกล่าวถูกถ่ายจากในขบวนรถไฟสาธารณะที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จุดที่น่าสนใจก็คือ ในขณะที่หญิงชรากำลังยืนเกาะเสาอยู่นั้น วัยรุ่นสามคนที่เห็นในภาพกลับเล่นโทรศัพท์ ใส่หูฟัง ทำท่าทีราวกับไม่สนใจใยดีคุณยายที่ต้องยืนประคองตัวเองอยู่เลยแม้แต่น้อย     ท่าทีเมินเฉยนั้น ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่วัยรุ่นทั้งสามคนนั้นทำ หลายคนมองว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่มีความเคารพหรือให้เกียรติผู้อาวุโสเอาซะเลย หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Aussie Aussie Aussie Aussie เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2019 ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์กันในหลากหลายมุมมอง   ฉันอายุ 16 ปี แต่ฉันจะลุกให้เธอนั่งทันทีที่เห็นเธอเดินเข้ามา และฉันเคยทำแบบนั้นกับผู้หญิงสูงวัยมาแล้ว   ฉันไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว แต่ก็จะลุกยืนให้หญิงชราได้นั่งตลอด และเชื่อว่าลูกๆ ของฉันก็จะทำอย่างนั้นเหมือนกัน   ฉันแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็นนี้ คงไม่มีใครได้ยินคุณยายเลยด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาทุกคนใส่หูฟังกันหมด   ไม่แม้แต่จะสนใจ สังเกตเห็นเธอเลย เพราะมัวแต่นั่งเล่นโทรศัพท์กันทุกคน…

ความต้องการทางเพศ ถือว่าเป็นความต้องการพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนต้องมี แต่ก็สามารถปลดปล่อยได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์หรือการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ซึ่งปัจจุบันอุปกรณ์ช่วยสำเร็จความใครอย่าง “เซ็กส์ทอย’ นั้นมีให้เลือกซื้อกันอย่างมากมาย ดังนั้นจึงไม่แปลกหากจะเห็นใครสักคนมีอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ครอบครองและใช้งานมัน เช่นเดียวกับ Elysia Downings คุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัย 28 ปีคนนี้ ทว่าดูเหมือนเธอจะเสพติดและใช้งานมันอย่างหนัก จนเป็นปัญหาที่ทำให้ไม่สามารถหาแฟนใหม่ได้เลยทีเดียว     ตามรายงานคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนดังกล่าวเป็นโสดมาแล้วกว่า 3 ปี ซึ่งเธอบอกว่าเธอเสียเงินไปทั้งหมดกว่า 3,000 ปอนด์ (122,000 บาท) ไปกับค่าเซ็กส์ทอยและแต่ละวันก็สำเร็จความใคร่ไม่ต่ำกว่า 10 รอบ เธอยังเผยอีกว่าเธอเริ่มเสพติดเซ็กส์มาตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยเธอให้เหตุผลว่ามันเป็นวิธีที่เธอใช้หนีจากความจริงอันโหดร้ายในวัยเด็ก ซึ่งในขณะนั้นเธอยังไม่ได้ซื้อเซ็กส์ทอยมาใช้ แต่นำของใช้อย่างเครื่องนวด แปรงสีฟันมาใช้แทน   คอลเลคชั่นของเธอ   อย่างไรก็ตาม Elysia ได้เผยว่าการเสพติดเซ็กส์ถอยของเธอนั้นถือว่าเป็นอุปสรรคที่ขวางกั้นไม่ให้เธอมีแฟนหนุ่มเป็นตัวเป็นตนจริงๆ เนื่องจากผู้ชายที่ผ่านเข้ามามักมีปัญหากับความหลงใหลในของเล่นของเธอเสมอ “ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตฉันต้องยอมรับเรื่องที่ของเล่นพวกนี้ทำงานได้มีประสิทธิภาพและเสร็จเร็วมากกว่า เคยมีผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันกำลังคุยด้วยอยู่ โยนเซ็กส์ทอยของฉันออกนอกหน้าต่างไป ขณะที่เรากำลังปรึกษากันอยู่ เขาไม่ชอบที่ฉันใช้ของเล่นพวกนั้นตอนที่เขาไม่อยู่กับฉัน” Elysia กล่าว   https://www.instagram.com/p/Bq4tyvTlG3o/?utm_source=ig_embed   “ฉันการันตีเลยไม่ว่าจะทำเสร็จครั้งเดียวหรืออีกหลายครั้ง เซ็กส์ทอยพวกนี้ก็ไม่ตัดสินร่างเปลือยของฉัน พวกมันจะไม่นอกใจหรือหักอกฉันเด็ดขาด สิ่งที่ฉันรักก็คือฉันรู้สึกสบายใจเวลาได้สำรวจร่างกายด้วยกันกับมัน ฉันเคารพร่างกายของฉันโดยการใช้ของเล่นพวกนี้มากกว่าใช้ของคู่รักที่ไม่เห็นค่าฉันหรือทำให้ฉันต้องรู้สึกแย่ในเวลาถัดมา” Elysia บอกถึงข้อดีของเซ็กส์ทอย สุดท้ายนี้ Eylsia…

บรรดาหมอผี หรือผู้มีอาคมทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเสกสิ่งของ การบังคับจิตใจผู้อื่น หรือบังคับสัตว์ที่ดุร้ายให้เชื่องได้ เช่นเดียวกันกับ ‘หมอผี’ ชาวอินโดนีเซียผู้นี้ ที่พยายามจะแสดงให้เห็นว่าเขาสามารถ ‘บังคับจระเข้ได้’ ก็เลยกระโดดลงไปในปากน้ำที่มีจระเข้อยู่ แต่ทว่าเหตุการณ์มันไม่ได้เป็นแบบที่เขาคิด!?     กลายเป็นว่าจระเข้ดันงาบเข้าที่ขาของหมอผีคนดังกล่าว ลากลงไปใต้น้ำ และไม่โผล่ออกมาอีกเลย… เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2017 มีหมอผีท่านหนึ่งชื่อว่า Suprianto อาศัยอยู่ในเมือง Kutai Kartanegara ประเทศอินโดนีเซีย เขาอ้างว่าตัวเองเป็นหมอผี และมีเวทมนตร์สามารถควบคุม ‘จระเข้’ ให้ฟังคำสั่งของเขาได้ พร้อมทั้งจะโชว์ให้เห็นว่าทำได้จริงๆ     ก็เลยกระโจนลงไปในบริเวณปากน้ำ Muara Jawa ซึ่งมีจระเข้อยู่ แต่ปรากฏว่าหมอผีถูกจระเข้งาบเข้าที่ขาและลากลงไปในน้ำเฉยเลย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ได้ ในวันต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพของเขาลอยอยู่ที่ปากน้ำ Muara Jawa เมื่อช่วงค่ำ และอวัยวะในร่างกายของเขายังอยู่ครบ     “ผมคิดว่าเขาน่าจะถูกจระเข้ลากลงไปในน้ำ ก่อนที่จะขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตลง แต่อย่างไรก็ตามทั้งแขนและขาของเขายังอยู่ครบ ไม่ได้ถูกกินไปแม้แต่ส่วนเดียว” Fadillah Zulkarnaen สารวัตรจากสถานีตำรวจในเมือง Kutai Kartanegara กล่าว…

จากเหตุการณ์ Polar Vortex หรือ ลมวนขั้วโลกเหนือ ส่งผลให้ประเทศสหรัฐอเมริกาในหลายๆ ส่วนต้องเผชิญกับอากาศที่หนาวเย็นแบบสุดขั้ว แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน!? แน่นอนว่าบรรดาประชาชนทั้งหลายต่างก็ตื่นเต้นกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 150 ปี ที่อุณหภูมิลดต่ำลงมากขนาดนี้!! (-47 องศาเซลเซียสในบางพื้นที่ ในเมืองหลวงอยู่ที่ราวๆ -17 องศาเซลเซียส)     จนทำให้ผู้คนออกมาโชว์ให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงความหนาวเย็น แต่จะทำยังไงถึงจะเห็นภาพล่ะ? ก็เลยเอา ‘น้ำร้อน’ แบบว่าต้มเดือดๆ มาสาดออกไปในอากาศ และด้วยความหนาวเย็น ก็จะทำให้น้ำเดือดนั้นกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งกันเลยทีเดียว   เผื่อใครนึกภาพไม่ออกก็จะประมาณนี้ครับ It’s currently -5° F and feels like -27° F right now with the wind chill! In Science, we found out that hot water will freeze…

หากคุณเป็นนักเล่นอินเตอร์เน็ตตัวยงล่ะก็ คงจะคุ้นหน้ากับมีม ‘Best Cry Ever’ ที่มักจะถูกนำมาใช้กันในโลกโซเชียลกันอย่างแพร่หลาย   สำหรับหลายคนที่อาจจะยังไม่เคยเห็น ลองไปชมเจ้ามีมนี้กันก่อนครับ   จากคลิปแล้วจะเห็นได้ว่ามันคือ ‘การร้องไห้’ ที่จริงใจ และสื่อสารอารมณ์ความซาบซึ้งใจ ที่ทำให้ต้องหลั่งน้ำตาออกมาได้เป็นอย่างดี จนกลายมาเป็นมีมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในโลกอินเตอร์เน็ต แต่เพื่อนๆ รู้ไหมครับว่าบุคคลที่อยู่ในคลิปวิดีโอนั้น ไม่ได้ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย เขาคืออดีตนักชกดีกรีแชมป์โลกนามว่า Ricky Lockridge หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ Rocky Lockridge นั่นเอง เขาสร้างชื่อเสียงของตัวเองขึ้นมาจากการขึ้นชกเพื่อชิงแชมป์ WBA ของรุ่น Super Featherweight ในปี 1984 กับยอดนักชกอย่าง Roger Mayweather ในวันนั้น Rocky ได้สร้างประวัติศาสตร์ยัดเยียดความพ่ายแพ้แบบน็อกเอาต์ เป็นครั้งแรกให้กับ Roger แถมยังเป็นการน็อกในยกแรก และทำให้เขาคว้าเข็มขัดไปครอง!!     และในวันนี้ #เหมียวหง่าว เองก็มีเรื่องน่าเศร้าที่จะมาแจ้งให้ทุกคนทราบว่าคุณลุง Rocky ได้เสียชีวิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับด้วยวัย 60 ปี     โดยลูกของคุณลุง…

เรื่องแนวคิดการปฏิเสธไม่ให้ลูก ‘ฉีดวัคซีน’ ถือเป็นปัญหาที่ในหลายๆ ประเทศกำลังเผชิญอยู่ แน่นอนว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะมีชุดความคิดเป็นของตัวเอง และบางครั้งมันก็แปลกสำหรับคนอื่นๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ เมื่อคุณแม่ผู้ไม่เปิดเผยชื่อท่านหนึ่งออกมาเล่าถึงสาเหตุว่าทำไมถึงไม่ให้ลูก 5 คนของตัวเองฉีดวัคซีน ใจความว่าดังนี้ครับ… “ฉันมีลูกอยู่ 5 คน และฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาไปฉีดวัคซีน เพราะพวกเขาได้รับการปกป้องโดย ‘เพราะเยซู’ อยู่แล้ว สำหรับฉันแล้วความศรัทธาจะช่วยให้เราสามารถเดินไปบนเส้นทางของศาสนาได้โดยที่ไม่ต้องกลัวสิ่งใด” “คนที่มาบอกให้ฉันพาลูกไปฉีดวัคซีนก็เป็นคนเดียวกันกับที่มาบอกฉันว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างโลกขึ้นมาให้มันสมบูรณ์แบบ”     จากเรื่องราวดังกล่าว ทำให้เห็นว่านี่คือสิ่งที่สำคัญ และมันกำลังกลายเป็นปัญหา จนถึงกับขนาดที่ว่าองค์กร WHO (World Health Organisation) ได้ทำการกำหนดให้ Anti-Vaxxers หรือ กลุ่มคนที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน เป็น ‘ภัยคุกคาม’ ต่อสุขภาพของประชากรโลก!! เพราะตัวเลขของคนที่เสียชีวิตจากโรคหัด เพราะไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ในช่วงต้นปี 2018 นี้ จนถึงปัจจุบันก็พุ่งขึ้นไปที่ 72 รายแล้ว (เฉพาะในยุโรปอย่างเดียว)     แต่ในข่าวร้ายก็ยังมีข่าวดี เพราะในยุโรปนั้นมีจำนวนเด็กที่ฉีดวัคซีนต่อต้านโรคหัดเพิ่มขึ้นสูงที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยทีเดียว และทาง WHO เองก็ตั้งเป้าที่จะทำการฉีดวัคซีนให้กับเด็กๆ…

‘การสูญเสีย’ เป็นเรื่องที่คงไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือว่าคนใกล้ตัว และยิ่งถ้าเป็นคนในครอบครัวหรือคนรักด้วยแล้ว มันอาจเปรียบเสมือนได้กับการถูกเฉือนเสี้ยวส่วนของหัวใจออกไปเลยก็ว่าได้ บางคนอาจจะใช้เวลาสักพักหนึ่งถึงทำใจได้ บางคนก็ต้องใช้เวลานานหรือกับบางคนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังทำใจไม่ได้สักที แม้เรื่องราวนั้นจะผ่านล่วงเลยมานับปีแล้วก็ตาม ในวันนี้เราไปดูความรักความทรงจำของนางแบบสาวคนหนึ่งที่มีต่อคนรักของเธอ แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปนานตั้งแต่ปี 2017 แต่เธอก็ยังโพสต์รูปแสดงความรักที่ทั้งคู่มีต่อกันอยู่เสมอ…   https://www.instagram.com/p/BlFYT7qlHNd/?utm_source=ig_embed   เป็นเวลาผ่านไปนานหนึ่งปีกว่าๆ กับการสูญเสียแฟนหนุ่มคนรักไป สำหรับนางแบบสาวชาวฟิลิปปินส์นามว่า Janica Nam Floresca จากอุบัติเหตุทางน้ำที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีใครจะคาดคิดถึง   https://www.instagram.com/p/Bp_CCvMhZ6I/?utm_source=ig_embed   แฟนหนุ่มของเธอคือนาย Franco Hernandez  โดยเขาคนนี้เป็นสมาชิกของกลุ่มบอยแบนด์ฟิลิิปปินส์ชื่อ ‘Hashtags’ ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2017 ขณะที่มีอายุได้ 26 ปี   https://www.instagram.com/p/BbahmkNFhIa/?utm_source=ig_embed   จากการรายงานข่าวของสื่อท้องถิ่นกล่าวว่าในวันนั้น ทั้งคู่นั่งเรือออกไปด้วยกัน แต่ก็ถูกบังคับให้ต้องกระโดดออกจากเรือเพราะคลื่นขนาดยักษ์ที่ซัดเรือจนคว่ำ ทว่าทั้งสองก็ว่ายน้ำไม่มีใครว่ายน้ำเป็นสักคน   https://www.instagram.com/p/BoySqCEhKP1/?utm_source=ig_embed   แต่ Janica ก็ยึดติดตัวเองอยู่กับลูกเรือพร้อมกับมี Franco อยู่ด้วย ทว่าคลื่นลูกยักษ์ที่โถมเข้ามาก็พลัดให้ทั้งคู่แยกออกจากกัน และต่อมาเมื่อหน่วยกู้ชีพมาถึงก็พบว่าเขาหมดสติจากนั้นหลังถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเขาก็ถูกประกาศให้เสียชีวิต   https://www.instagram.com/p/BiOMfP9FuOP/?utm_source=ig_embed   โดยก่อนการจากไปของชายคนนี้ นางแบบสาวเพิ่งจะโพสต์รูปภาพในอินสตาแกรมเป็นรูปของพวกเขาทั้งสองที่กำลังมีความสุข จนชาวเน็ตต่างยกให้ภาพของทั้งคู่เป็น ‘Relationship Goals’ เลยทีเดียว  …

เรื่องราวการทำความดีต่างๆ เป็นเรื่องที่ใครเห็นก็พากันยิ้มตาม ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปดู ‘คุณปู่’ นักยูทูบเบอร์คนหนึ่ง ที่ทำให้โลกตะลึงด้วยการทำอาหารจานใหญ่ยักษ์ ให้เด็กๆ ที่หิวโหยได้อิ่มท้องอย่างหน้าชื่นตาบาน!! ยูทูบช่องที่ว่านี้มีชื่อว่า Grandpa Kitchen ซึ่งผู้ดำเนินรายการก็คือคุณปู่วัย 73 ปีนามว่า Narayana Reddy จากรัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย   คุณปู่ Narayana Reddy   ความประทับใจของช่องนี้ที่ทำให้ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกกดติดตามก็คือ การแชร์สูตรทำอาหารจานใหญ่ยักษ์แบบไม่มีกั๊ก ทำให้เห็นแบบจะจะ ซึ่งอาหารทั้งหมดที่เขาทำก็บริจาคให้กับท้องน้อยๆ ของเด็กๆ ผู้หิวโหยนั่นเอง   ดูหน้าตาอาหารจานยักษ์สุดน่ากิน    ช่องนี้ได้เปิดตัวขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2017 จนถึงตอนนี้ก็มีผู้ติดตามมากว่า 4 ล้านคนแล้วเป็นที่เรียบร้อย และมีผู้กดเข้าชมวิดีโอกว่า 380 ล้านครั้งจากทั้งหมด 160 วิดีโอ (เฉลี่ยแล้ว 2.38 ล้านครั้งต่อหนึ่งวิดีโอ) โดยภายในช่องของเขานั้นเต็มไปด้วยสูตรอาหารต่างๆ มากมายทั้งอาหารท้องถิ่น อาหารเอเชียหรือแม้แต่ตะวันตกก็มีทั้งนั้น   วันนี้ปู่มาทำอะไรให้กินนะ    วิดีโอหนึ่งจะยาวสักประมาณ 12 – 15…

เรื่องราวความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัว ในชีวิตจริงบางครั้งมันยิ่งกว่าละครเสียอีก!!   เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้ ที่อยู่ๆ หนุ่มวัย 18 ปี ก็ต้องกลายเป็น ‘โฮมเลส’ เพราะดันไปมีเซ็กส์กับ ‘แฟนของพ่อ’ ถึง 5 ครั้งด้วยกัน จนเป็นเหตุให้เขาต้องถูกไล่ออกจากบ้าน!! เรื่องมีอยู่ว่านาย Kenny วัย 18 ไป ได้ไปออกรายการ The Jeremy Kyle Show ร่วมกันกับพ่อของเขา นาย Wayne เพื่อเคลียร์ปัญหาในครอบครัวที่เกิดขึ้น     ซึ่งรายการ The Jeremy Kyle Show เป็นรายการจากประเทศอังกฤษ ที่เปิดโอกาสให้ครอบครัว เพื่อนรัก หรือคนที่มีปัญหาในความสัมพันธ์แบบต่างๆ มาปรับความเข้าใจกันในรายการ โดยเรื่องของ Kenny ก็คือเขาต้องการที่จะเคลียร์ปัญหากับพ่อของตัวเอง เพราะดันไปมีเซ็กส์กับ ‘แฟนของพ่อ’ ที่คบกันมานานกว่า 20 ปี     เขากล่าวว่า “ผมเป็นคนที่รับความผิดทั้งหมดไว้คนเดียว ขณะที่เธอใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีแต่ผมที่ถูกไล่ออกจากบ้านกลายเป็นโฮมเลส”…

อย่างที่รู้กันดีว่า ‘งานแต่งงาน’ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ก็ต้องมี ‘ค่าใช้จ่าย’ กันทั้งนั้น ทำให้บรรดาบ่าวสาวทั้งหลาย ต้องเก็บหอมรอมริบเป็นเวลานานกว่าจะได้แต่งงานกันบางคู่ก็ปาเข้าไปอายุเกือบ 30 กว่าๆ แต่สำหรับคู่บ่าวสาวคู่นี้ พวกเขากลับ ‘ขอความช่วยเหลือ’ จากคนแปลกหน้าเรี่ยไรเงินบริจาคในเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในงานแต่งงาน!?     เรื่องมีอยู่ว่า Natalie Borg และ Richard McMurray คู่รักที่พยายามทำทุกอย่างแล้ว ทั้งทำงานและขายทรัพย์สินของตัวเอง ก็ยังไม่มีเงินพอที่จะใช้จ่ายในงานแต่งงาน     โดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายในการแต่งงานของชาวอังกฤษจะอยู่ที่ประมาณ 30,355 ปอนด์ (1,235,903 บาท) จากการเก็บข้อมูลเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ซึ่งงานแต่งงานของ Natalie และ Richard ได้ถูกวางแผนไว้หมดแล้ว จึงเป็นเรื่องยากสำหรับทั้งคู่ที่จะล้มเลิก พวกเขาจึงวางแผนจะนำเงินบริจาคที่ได้ไปจ่ายเป็นค่าจัดงานบางส่วนที่ยังค้างชำระอยู่ ประกอบไปด้วยค่าช่างภาพ ค่าเค้กแต่งงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการแก้ไขชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาวด้วย สุดท้ายจึงตัดสินใจเข้าไปโพสต์ขอรับเงินบริจาคในเว็บไซต์ GoFundMe (เว็บไซต์ระดมทุนเพื่อโครงการสร้างสรรค์สังคมต่างๆ) ซึ่งตอนนี้ได้ยอดบริจาคเพียง 1,049 ปอนด์ (42,718…