สาวใช้งานโทรศัพท์ด้วยความสว่างสูงสุดตลอด 2 ปี จนหมอพบ ‘รู’ บนกระจกตากว่า 500 รู!!

อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อย่างจอคอมพิวเตอร์หรือว่าจอโทรศัพท์ เป็นอะไรที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับดวงตาของคนเรา แต่รู้หรือไม่ว่ามันสามารถสร้างผลกระทบที่ร้ายแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ยกตัวอย่างเช่นในกรณีศึกษาเคสนี้ ที่ผู้หญิงคนหนึ่งเกือบจะต้องสูญเสียดวงตาไป จากหารที่เธอใช้งานโทรศัพท์โดยที่เปิดแสงสว่างไว้เต็มแม็กตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี!!

 

 

หญิงสาววัย 25 ปีนามว่า Chen คนนี้ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเกาสฺยง ไต้หวัน และประกอบอาชีพเป็นเลขานุการให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง

เธอกล่าวว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นขณะที่เธอใช้โทรศัพท์กลางแจ้ง จึงทำให้เธอต้องเปิดแสงสว่างแบบเต็มที่เพื่อสู้กับแสงธรรมชาติ แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่ได้ลดระดับมันเลยเป็นเวลากว่า 2 ปี

 

 

ในระยะสองปีที่ว่านี้เธอก็มีการใช้โทรศัพท์เหมือนๆ กับคนอื่นทั่วไป นั่นคือใช้แชท ใช้เขียนข้อความหรือว่าดูวิดีโอบ้างเป็นบางครั้ง (ทั้งๆ ที่แสงยังเปิดสุดอยู่) และนั่นเองทำให้เธอเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับดวงตาเข้าแล้ว

เพราะมีอยู่วันหนึ่งเธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาที่ดวงตาอย่างไม่รู้สาเหตุ และในเวลาต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำจนดูน่ากลัว…

 

 

เลขาสาวคนนี้ได้เข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาทางแพทย์พบว่าบริเวณกระจกตาด้านซ้ายของเธอมีอาการเลือดคั่ง รวมทั้งสายตาก็ได้รับความเสียหายอย่างถาวร

ส่วนการมองเห็นในดวงตาข้างขวาก็แย่ยิ่งกว่า เมื่อทางแพทย์พบว่ามี ‘รู’ ปรากฏบนกระจกตาของเธอกว่า 500 รู!!

 

 

ทางแพทย์ได้ใช้วิธีการรักษาด้วยสเตียรอยด์ ซึ่งผลของมันก็สามารถช่วยให้อาการต่างๆ ของหญิงสาวคนนี้ดีขึ้นได้ภายในสามวันหลังจากนั้น

โดยหนึ่งในทีมแพทย์ที่รักษาหญิงสาวคนนี้กล่าวว่า โทรศัพท์ที่สาว Chen ใช้ได้ปล่อยแสงสว่างออกมาถึง 625 ลูเมน ซึ่งมากเป็นสองเท่าของระดับความสว่างที่ทางแพทย์แนะนำคือ 300 ลูเมน

 

 

นอกจากนี้แพทย์ยังบอกด้วยว่าการที่สายตาของคนเราจ้องมองแสงกว่า 600 ลูเมนเช่นนี้เป็นเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง ผลกระทบของมันเปรียบเสมือนได้กับ ‘ถูกอบในไมโครเวฟ’ เลยทีเดียว

 

 

ทั้งนี้ทางแพทย์ก็กล่าวเตือนคนอื่นๆ ที่ใช้สมาร์ทโฟนว่าควรจะใช้แสงจอโทรศัพท์ให้เหมาะสม อย่างเช่นในเวลากลางคืนก็ไม่ควรปิดไฟห้องแล้วใช้โทรศัพท์นั่นเอง

 

ที่มา: mirror, thesunsickchirpse, worldofbuzztw.appledaily


Tags:

Comments

Leave a Reply