Author:
-
‘UnSpoil Me’ บริการแปลกใหม่ ช่วยให้คุณลืมเนื้อหาที่โดนสปอยล์มา โดยการสะกดจิต!!
สำหรับหลายๆ คนแล้วการถูกเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของหนังก่อนที่จะรับชมด้วยตัวเอง หรือเรียกง่ายๆ โดนสปอยล์ คงจะเป็นเรื่องที่แสนเจ็บปวดกระดองใจอย่างมากเลยทีเดียว และไอ้การเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนที่ว่านี้ก็มักจะมาในหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในนั้นก็คือการสปอยล์ในโลกออนไลน์นั่นเอง แต่!! ต่อไปนี้ปัญหาที่ว่าจะหมดไปเมื่อคุณได้พบกับบริการ ‘UnSpoil Me’ บริการใหม่จากซัมซุงที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียอารมณ์จากการถูกสปอยล์!! ( บริการสุดล้ำนี้เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุงและนักสะกดจิตชื่อดังชาวสวิตเซอร์แลนด์อย่างคุณ Fredrik Praesto โดยหลักการทำงานของบริการนี้ก็คือมันจะช่วยทำให้คุณลืมเรื่องราวสำคัญๆ ของหนังเรื่องนั้นไปเพียงแค่คุณทำตามคำแนะนำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองผ่านหน้าจอโทรศัพท์ และจากนั้นเพียงแค่ 18 นาทีคุณก็จะลืมเนื้อหาที่สำคัญนั้นไป การสะกดจิตจะเริ่มจากเสียงอันนุ่มนวนของคุณ Frederik Praesto เพื่อกระตุ้นให้คุณลืมเนื้อหาที่อยากจะลืม และจากนั้นกระบวนการจะดำเนินไปเรื่อยๆ ก่อนที่นักสะกดจิตจะให้คุณนับถอยหลังจาก 300 และจากนั้นการสะกดจิตก็จะสำเร็จ โปรแกรมจะแนะนำให้คุณหายใจเข้าออกอีก 2 ถึง 3 ครั้งก็เป็นอันเสร็จพิธี “ด้วยการสะกดจิตตนเอง เราวสามารถที่จะควบคุมกระบวนการไม่มีสติของเราได้ มันมีประสิทธิภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ แต่เดิมการสะกดจิตนั้นถูกนำมาใช้ในการทำให้ลืมสิ่งต่างๆ และช่วยในการบำบัดรักษา และด้วย UnSpoil Me คุณสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ขึ้นมาแทนได้” นักสะกดจิตกล่าว ส่วนทางด้านผู้ผลิตเองก็ออกมากล่าวผ่านเว็บไซต์ว่า “มันจะช่วยมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นในการรับชมทีวีซีรีส์ให้กับคุณเหมือนชมการรับชมครั้งแรก” แต่อย่างไรตามก็ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่ยังคงไม่แน่ใจว่าเจ้าโปรแกรมนี้จะสามารถใช้ได้จริงหรือไม่ และสำหรับใครที่อยากลองสัมผัสล่ะก็สามารถเข้าไปทดสอบกันได้ที่เว็บไซต์ samsung กันได้เลย… ที่มา odditycentral
-
รุนแรงเหลือเกิน ชาวบ้านใน Norilsk จอดรถทิ้งข้างนอกแค่ 5 นาที พริบตาเดียวรถหายไปทั้งคัน
ในช่วงที่ผ่านมาพี่น้องชาวไทยในหลายๆ พื้นที่ก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับความเย็นและอากาศหนาวกันไปบ้างแล้ว และที่ดินแดนหมีขาวอย่างประเทศรัสเซียเองเค้าก็ได้สัมผัสกับความเย็นของฤดูหนาวแล้วเช่นกัน แต่ทว่าอย่างที่เราทราบกันดีความหนาวแบบรัสเซียนั้นย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน!! ภาพของค่ำคืนแห่งขั้วโลกจากเมือง Norilsk ประเทศรัสเซียที่เผยให้เห็นปุยหิมะขาวๆ ที่ปกคลุมเมืองแห่งนี้ ซึ่งจากการรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่าความเย็นยะเยือกนี้จะปกคลุมนานถึง 6 สัปดาห์เลยทีเดียว ชายคนหนึ่งจากเมือง Norilsk เล่าว่าเขาจอดรถไว้ด้านนอกเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น และหลังจากที่กลับมาก็พบว่ารถของเขาถูกพายุหิมะปกคลุมมันไปเรียบร้อยแล้ว คลิปวิดีโอของชายหนุ่มคนดังกล่าวที่กำลังพยายามขุดหิมะออก เพื่อทำให้เขาสามารถนำรถออกจากหิมะได้ และไม่ได้มีเพียงแค่รถของพี่คนนี้เท่านั้นที่ถูกหิมะทับถม แต่รถยนต์คันอื่นๆ ก็มีสภาพที่ไม่ต่างกันเลยทีเดียว ไปชมคลิปวิดีโอของหนุ่มคนนี้ กับภาระกิจกอบกู้รถของเค้ากันได้เลย… งานนี้เรียกได้ว่าหิมะท่วมเมืองกันเลยทีเดียว!! ไม่ว่าจะเป็นจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านนนอก บอกได้คำเดียวเลยว่าไม่รอด!! . จะรออะไรกันอยู่ล่ะพี่ ขุดซิครับขุด!! . จากรายงานระบุว่าพายุหิมะนี้ตกลงมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา และเป็นเหตุให้ถนนหลายสายในเมืองไม่สามารถสัญจรได้ . แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ชื่นชอบหิมะ นี่อาจจะเป็นสวรรค์ของคุณเลยก็ได้!! ว้าววว แบบนี้ถ้ามีเฮลบลูบอยซักขวดล่ะก็… หวานชื่นรื่นรมย์กันแน่นอน!! ที่มา siberiantimes
-
ชีวิตอันน่าอดสูของเหล่า ‘แมวยักษ์’ ถูกบังคับให้แสดงละครสัตว์ ผู้ฝึกอ้าง ‘อ้วนตามอายุ’
ภาพของเหล่าเสือและสิงโตจากคณะละครสัตว์ในเมือง Vladivostok ประเทศรัสเซีย เผยให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของพวกมันที่แตกต่างจากธรรมชาติและสภาพร่างกายที่อ้วนเกินกว่าปรกติ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมของสภาพความเป็นอยู่และอาหารการกินของเหล่าเสือ ภาพของเหล่าสิงโตจากคณะละครสัตว์ Vitaly Smolyants ที่ได้ชื่อว่าเป็นคณะละครสัตว์ที่ขึ้นชื่อคณะหนึ่งของประเทศรัสเซีย ที่ถูกบันทึกและเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ถูกชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายถึงความเหมาะสมในการดูแลพวกมัน “พวกเสือเหล่านี้ดูอ้วนกว่าปรกตินะ ฉันว่าน่าจะดีกว่าถ้าหากพามันไปพบสัตวแพทย์ ไม่ใช่ผู้ชม” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต “พวกเขาทำให้สัตว์ป่าดูเหมือนเป็นตัวตลก” “เมื่อไหร่จะมีการห้ามการแสดงเหล่านี้ซักทีนะ” . และนอกจากพลังแห่งโลกออนไลน์แล้ว ก็ได้มีนักเคลื่อนไหวทางด้านสิทธิสัตว์ป่า ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบความเหมาะสมของคณะละครสัตว์นี้ แต่ทางด้านคุณ Sergey Aramilev หัวหน้าศูนย์เสือ Amur ก็ได้ออกมากล่าวว่า “โดยส่วนมากพวกสัตว์ในคณะละครสัตว์มักจะถูกดูแลไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนมากพวกมันมักจะถูกปล่อยให้ผอม แต่สำหรับกรณีนี้ยังคงเร็วไปที่เราจะสรุปว่าพวกเสือเหล่านี้สุขภาพไม่ดี แน่นอนว่าทางคณะละครสัตว์แห่งนี้ดูแลพวกเสือด้วยเนื้อสัตว์ และอย่างไรก็ตามเรายังไม่เห็นว่าโรคอ้วนนั้นจะส่งผลต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจของพวกสัตว์” ส่วนทางด้านคุณ Vitaly Smolyanets จากคณะละครสัตว์ก็ได้ออกมาพูดถึงกรณีนี้ว่า “สัตว์ของพวกเรานั้นเป็นเสือที่แก่ เมื่อเราแก่ตัวลงร่างกายของเราก็จะอ้วนขึ้นเป็นธรรมดา และพวกสัตว์เองก็เช่นกัน เราไม่ได้ให้อาหารพวกมันมากเกินไป พวกมันได้ทานอาหารแค่หนึ่งมื้อต่อวันเท่านั้น เราดูแลพวกมันอย่างดี ถ้าหากพวกเสือมีการแสดงตอนบ่าย เราจะมีของว่างให้พวกมัน และเสือแต่ละตัวจะได้รับเนื้อสัตว 6 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสมที่สุด” . . ที่มา siberiantimes, dailymail
-
“ไปถ่ายต่างจังหวัด พี่ซัดหนูได้มั้ย!?” ช่างภาพติดต่อถ่ายรูป หวังซื้อบริการ – ชาวเน็ตร่วมแฉเพียบ!!
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารย์กันบนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างมาก หลังจากที่นางแบบสาวรายหนึ่งได้โพสต์ภาพข้อความของเธอหลังจากที่ถูกหนุ่มอ้างตัวเป็นช่างภาพติดต่อขอถ่ายแบบ แต่สุดท้ายกลับเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปไกลจนถึงขั้นขอดูแล นางแบบสาวคนนี้ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอว่า “เรื่องมีอยู่ว่า มีคนมาติดต่องาน เราก้อตอบตามปกติ พอดีเราไม่สะดวกพิมเพราะพิมข้อความกับแฟนอยู่เลย เราเลยให้เบอไป แล้วให้เค้าแอดไลน์มา เพราะเฟสไม่เด้ง แจ้งเตือน เราอุตส่าห์หวังดี ไม่อยากให้เสียงาน กลัวคนอื่นจะหาว่าหยิ่ง หนูอยากบอกเลยว่า หนูเปนนางแบบ รับถ่ายแต่งาน ไม่ได้รับเรื่องบนเตียงค่ะ เรื่องบนเตียงไม่ต้อง กรุณาคิดจะมาทำให้ หนูมีแฟนค่ะ แฟนหนูจัดการให้หนูได้ค่ะ ไม่ต้องสาระแน ไม่ใช่กระหรี่ มึงบอกจะให้เงินเปนหลายเดือน มึงเก็บไว้ไปทำบุญเหอะ จิตใจจะได้ดี ไม่ต้องคิดเรื่องลามกแบบนี้ #ฝากถึงพี่น้องนางแบบด้วยค่ะ #ฝากถึงพี่ตากล้องทุกคนเลย #ให้ช่วยกันแชร์ #ขอภัยถ้าพูดจาหยาบคาย” และนี่คือข้อความที่ของชายหนุ่มรายนั้นที่ส่งมาหานางแบบสาว เริ่มจากการถามเกี่ยวกับเรื่องงาน ก่อนที่จะขอเบอร์เพื่อทำการตกลงรายละเอียดส่วนที่เหลือ . จากนั้นชายหนุ่มก็เริ่มใช้ถ้อยคำหยอกล้อ ก่อนที่หัวข้อสนทนาจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น และหลังจากที่นางแบบสาวออกมาแฉพฤติกรรมของหนุ่มรายนี้ ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น และก็ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่เจอเหตุการณ์นี้ ยังมีผู้หญิงคนอื่นที่ถูกหนุ่มรายนี้เข้ามาพูดคุยด้วยเช่นกัน ซึ่งคนที่มาแฉ ก็คือคนที่ไม่ยินยอมให้เกินเลยกว่าการถ่ายรูป และรู้สึกว่าตนเองโดนลวนลาม . เรื่องดังกล่าวเป็นกระแสดัง จนมีคนกดไลค์และแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก…
-
ไม่ได้มีไว้นั่ง? พนักพิงดีไซน์แปลก ที่ชาวเน็ตญี่ปุ่นกำลังถกเถียงว่าเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่?
กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ที่ประเทศญี่ปุ่น หลังจากชาวเน็ตท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพสิ่งของบางอย่างจากสวนสาธารณะที่มาพร้อมกับรูปทรงแปลกๆ จนทำเอาหลายๆ คนสงสัยว่าตกลงแล้วเราจะนิยามเจ้าสิ่งนี้ว่าอะไรกันดี?? และนี่คือรูปร่างหน้าตาของมัน!! คุณ @C_Kyoro เจ้าของภาพชวนน่าสงสัยดังกล่าว ได้พบวัตถุสีดำแปลกประหลาดนี้บริเวณสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเมืองโตเกียว และด้วยความไม่สบายใจเขาจึงได้นำภาพดังกล่าวมาโพสต์ถามเพื่อนๆ บนโลกออนไลน์ ซึ่งนอกจากรูปทรงที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแล้ว เจ้าแท่งดำๆ นี้ยังมีป้ายติดเอาไว้ว่าห้ามนอนอีกด้วย งานนนี้ทำเอาชาวเน็ตถึงกับปวดหัวกันเลยทีเดียว ซึ่งหลายๆ คนก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย บางคนก็บอกว่านี่อาจจะเป็นที่พักเท้าสำหรับคนที่เมื่อยแข้งเมื่อขาก็ได้ หรือบางคนก็บอกว่าเจ้าสิ่งนี้อาจจะเป็นเก้าอี้ก็ได้นะ “ฉันคิดว่าเจ้าแผ่นสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกมานั้นมีไว้เพื่อป้องกันคนมาเล่นสเกตบอร์ดแน่ๆ เลย” หนึ่งในความคิดเห็นของชาวเน็ต แต่ก็ได้มีชาวเน็ตท่านหนึ่งโพสต์ภาพของเก้าอี้ในสวนสาธารณะจากแคนาดาสุดล้ำภาพนี้ พร้อมกับเปรียบเทียบการออกแบบกับเจ้าแท่งที่ว่านี้ “นี่คือเก้าอี้ในสวนสาธารณะที่แคนาดา ที่ออกแบบมาเพื่อให้คนไร้บ้านได้ใช้เป็นที่หลบฝนได้ นี่สิคือการออกแบบที่คุ้มค่ากับภาษีที่พวกเขาเสียไป” ความคิดเห็นจากเจ้าของภาพเก้าอี้ดังกล่าว แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ขณะนี้การจำกัดความหมายและการใช้งานของแท่งดำๆ นี้ยังคงเป็นปริศนาสำหรับชาวเน็ตญี่ปุ่นอยู่ และดูเหมือนว่านอกจากนกแล้วก็คงจะไม่มีใครที่สามรถนั่งตรงแท่งเหล็กนี้ได้แน่นอน เอ่!? หรือเค้าทำเอาไว้บูชาพระราหูกันนะเนี่ย ที่มา rocketnews24
-
กระบวนการผลิตน้ำบริสุทธิ์ ด้วยตาข่ายดักจับหมอก หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาขาดน้ำของชาวเปรู
ถึงแม้ว่าปัจจุบันการเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ นั้นจะเป็นเรื่องที่ง่าย แทบจะทุกหลังคาเรือนมีอินเตอร์เน็ตใช้ และบางครั้งเราก็สามารถอัพภาพสวยๆ ได้จากยอดดอยได้แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว แต่ถึงแม้โลกเราจะก้าวหน้าไปอย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่อย่างเช่นที่ประเทศเปรูนั้นการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างเช่นน้ำสะอาดนั้นกลับเป็นเรื่องยาก และมีผู้คนมากกว่า 10 ล้านคนที่ไม่มีน้ำปะปาใช้ และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของ Fog Catchers เครื่องสร้างน้ำสะอาดจากหมอก!! คุณ Abel Cruz Gutiérrez ชายหนุ่มผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Fog Catchers เขาได้ทำคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดในพื้นที่ย่านผู้มีรายได้น้อยของกรุงลิมา ประเทศเปรู เครื่องดักจับน้ำค้างนี้มีลักษณะคล้ายกับใบเรือขนาดใหญ่สี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่ทำหน้าที่คอยดักจับไอน้ำในอากาศและเปลี่ยนเป็นน้ำสะอาดให้กับผู้คนในหมู่บ้านใช้ “Fog Catchers คือระบบที่ประกอบด้วยตาข่ายไนลอนที่จะทำหน้าที่ดักจับละอองน้ำที่มาพร้อมกับหมอก เมื่อไหร่ก็ตามที่มีกระแสลมพัดมา หมอกจะเคลื่อนผ่านเจ้าตาข่ายนี้และมันจะทำหน้าที่ดักจับน้ำ” คุณ Abel Cruz Gutiérrez ผู้ก่อตั้งองค์กร Peruvians Without Water และผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ คุณ Gutiérrez และ Fog Catchers เครื่องมือแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำของชาวเปรู หลังจากนั้นหยดน้ำที่ถูกดักจับที่ไหลลงในท่อที่อยู่ด้านล่างและรวมกันในถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อนำไปใช้ในการอุปโภคบริโภคภายในหมู่บ้านต่อไป คุณ Gutiérrez เล่าว่าขณะนี้โครงการดังกล่าวมีมากถึง 14 โครงการทั่วประเทศ และมีผู้คนมากกว่า 20,000-30,000 คนที่ได้รับประโยชน์จากเจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้ โดย Fog Catchers 1 อันสามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่า 50-100…
-
เวทย์มนต์ชัดๆ!! หนุ่มญี่ปุ่นที่สามารถใช้สิ่งของแทบทุกอย่าง ดึงผ้าออกจากเป้าได้อย่างง่ายดาย
หลายๆ คนอาจจะเคยคุ้นหน้าคุ้นตากับชายหนุ่มหน้าเหลี่ยมที่ไม่ใช่อดีตนายก ผู้มาพร้อมกับผ้าปูโต๊ะผืนสีแดงกับถ้วยน้ำชาหนึ่งใบ และกลการดึงผ้าออกอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหลือไว้เพียงแค่ถ้วยน้ำชาที่ปิดน้องชายเอาไว้เท่านั้น และนอกจากการดึงผ้าด้วยท่านอนแบบธรรมดาๆ แล้ว พี่แกยังมีท่าดึงแบบล้ำๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดึงผ่านหมวกกันน็อค ใช้พัดลมดึง หรือแม้แต่เครื่องนวดที่เราเห็นในหนังผู้ใหญ่หนุ่มหน้าเหลี่ยม (ย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่อดีตนายก!!) ผู้นี้ก็เคยใช้มาแล้ว!! พบกับเรื่องราวของคุณ Uekusa Kazuhisa และกายกรรมดึงผ้าสุดล้ำของเขาได้เลย… คุณ Uekusa ได้โพสต์ความสามารถพิเศษของเขาลงในทวิตเตอร์ ซึ่งหลายๆ คลิปวิดีโอนั้นก็ได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมากซึ่งแต่ละคลิปนั้นก็มีคนดูไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว และนอกจากความหวาดเสียวสำหรับสาวๆ แล้ว เสียงเพลงประกอบคลิปและสีหน้าของพี่แกตอนที่สามารถเอาผ้าสีแดงเลื่อมๆ ออกจากเป้าได้สำเร็จโดยที่น้องชายไม่ออกมาสวัสดีผู้ชมนั้น ยังดูฟินสุดๆ อีกด้วย พูดแล้วไม่เห็นภาพ #เหมียวเวจจี้ ว่าเราไปชมความฮาของพี่แกกันดีกว่า (ดูไม่ได้กด ที่นี่ นะ) 【巻尺を使って危険なテーブルクロス引き】 pic.twitter.com/DQkGd03X7q — ウエスP (@uespiiiiii) 9 ธันวาคม 2560 ถัดจากตลับเมตรแล้วก็มาต่อกันที่พัดลมเลย 1.. 2… 3… !! (ดูคลิปไม่ได้คลิก ที่นี่)…
-
ภารกิจช่วยชีวิตแมวบ็อบเทล ให้ความรักและเมตตา และตามหาพี่ชายที่หายไป
เรื่องราวอันน่าเศร้าของเจ้าเหมียวสายพันธุ์บ็อบเทลที่ต้องพลัดพรากจากพี่ชายของมัน หลังจากที่ต้องเผชิญกับพายุหิมะที่รุนแรง เจ้าเหมียวทั้งสองนั้นเป็นพี่น้องที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งทางเจ้าของบ้านนั้นสามารถช่วยเหลือน้องสาวของพวกมันไว้ได้ แต่น่าเสียดายที่เขาหาพี่ชายของมันไม่เจอ แมวน้อยตัวเมียผู้น่าสงสารถูกส่งตัวมาดูแลที่ Alley Cat Rescue ในรัฐแมริแลนด์ ก่อนที่เจ้าของบ้านผู้ใจบุญจะกลับไปตามหาพี่ชายของมันอีกครั้ง และแล้วความพยายามของชายหนุ่มก็ได้ผล เขาพบกับพี่ชายของเจ้าลูกแมว แต่น่าเสียใจที่มันอยู่ในสภาพที่ไม่แข็งแรงเท่าไหร่ “เจ้าเหมียวมาที่นี่ด้วยสภาพที่เซื่องซึม ตาข้างหนึ่งของมันปิดเนื่องจากการติดเชื้อและเราพบหมัดจำนวนมากที่ตัวของมัน เราตั้งชื่อให้มันว่าเจ้า Mistletoe เพราะความน่ารักของมันนั่นเอง” คุณ Brianna Grant เจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์สัตว์กล่าว ส่วนทางด้านเจ้า Snowdrop น้องสาวของมันนั้นดูเหมือนว่าจะเข้ากับที่นี่ได้ดีมากๆ ระหว่างที่พี่ชายของมันกำลังรักษาตัวอยู่นั้นเจ้าน้องสาวจอมแสบก็ได้กลายเป็นขวัญใจของสถานสงเคราะห์สัตว์แห่งนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เธอร่าเริงมากๆ เลยทีเดียว มันมีความกล้ามากและไม่ค่อยกลัวคนแปลกหน้าเลย” เจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์พูดถึงเจ้า Snowdrop กลับมาที่เจ้า Mistletoe พี่ชายของมัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ในที่สุดเจ้าเหมียวก็เริ่มกลับมาแข็งแรง ดวงตาที่ปิดของมันก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และหายเป็นปรกติภายในไม่กี่สัปดาห์ ตอนนี้เจ้า Mistletoe ก็พร้อมที่จะเจอหน้าของน้องสาวที่พลัดพรากของมันแล้ว!! แต่ก่อนที่จะไปเจอน้องสาวได้ ต้องอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายของนะพี่ Mistletoe รู้ป่าว!? และแล้วในที่สุดเจ้าเหมียวทั้งสองก็ได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง ในตอนแรกดูเหมือนว่าเจ้า Mistletoe นั้นจะมีอาการเขินๆ นิดหน่อย แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี “หลังจากที่เจอหน้ากันไม่ถึงชั่วโมง พวกมันก็วิ่งเล่นไล่จับกันอย่างสนุกสนาน” คุณ Brianna กล่าว และในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้พวกมันก็จะได้ฉลองวันคริสต์มาสด้วยกันเป็นครั้งแรก ตอนนี้พวกมันยังคงอยู่ด้วยกันและดูเหมือนว่าจะไม่ยอมห่างกันเลยทีเดียว …
-
ความรักของแม่…ลิงกอริลลายอมทิ้งโอกาสเข้าฝูงใหม่ เพื่อให้ลูกน้อยได้มีชีวิตอย่างปลอดภัย
อย่างที่พวกเราหลายๆ คนทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า คงจะไม่มีความรักไหนในโลกที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักที่แม่มีให้ลูกอย่างแน่นอน และแม่กอลิล่าตัวนี้ก็คงจะทำให้เราได้เข้าใจถึงความหมายของความรักที่ว่านี้ได้เป็นอย่างดี แม่กอริลลา วัย 26 ปีจากเทือกเขาวีรูงกา ในประเทศระวันดา ตัดสินใจที่จะออกจากกลุ่มและอาศัยอยู่เพียงลำพังเพื่อให้ลูกน้อยของมันมีชีวิตรอด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวนั้นทางผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเป็นสิ่งที่หาชมได้ยากและน่าทึ่งมากเลยทีเดียว ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคมเจ้า Pasika ได้กลายเป็นแม่กอริลล่าอย่างเต็มตัวหลังจากที่มันให้กำเนิดลูกน้อยที่ชื่อว่า Mashami แต่ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นานเจ้าลิงจ่าฝูงผู้เป็นพ่อของ Mashamai ก็ได้เสียชีวิตลง ตามปรกติแล้วเมื่อกอริลลา จ่าฝูงตาย ถ้าหากไม่สามารถหาจ่าฝูงตัวใหม่ได้ ตัวเมียที่เหลือจะต้องแยกกันออกไปหาฝูงใหม่อยู่ และถ้าหากว่าตัวใดที่มีลูกติดมาด้วย เจ้าลิงจ่าฝูงจะทำการฆ่าลูกน้อยเหล่านั้นซะ ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นธรรมชาติของสังคมลิงเพื่อให้จ่าฝูงสามารถที่จะปกครองลิงตัวอื่นๆ ได้ง่าย Pasika ตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมกลุ่มใหม่ มันเลือกที่จะอยู่เคียงข้างลูกน้อยของมันเพียงลำพัง ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้มักไม่ค่อยมีให้เห็นได้ทั่วไป “สิ่งที่แม่ลิงทำนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและมหัศจรรย์อย่างมาก มันเห็นได้ชัดว่าเธอรับรู้ได้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่เข้าร่วมกับฝูงใหม่ มันพยายามดูแลลูกของมันอย่างเต็มที่” เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิ Dian Fossey Gorilla Fund (DFGF) กล่าว แม่ลิงกอริลล่าและลูกน้อยของมัน แต่อย่างไรก็ตามทางทีมวิจัยของมูลนิธิก็ยังมีความกังวลในความปลอดภัยของเจ้า Pasika และลูกน้อยของมัน เนื่องพวกเขาไม่แน่ใจว่าเจ้าลิงจ่าฝูงจะทำร้ายแม่ลูกคู่นี้เมื่อไหร่ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่และทีมวิจัยยังคงเฝ้าติดตาม 2 แม่ลูกอย่างเต็มที่ “มันยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าลิงพวกนี้ สิ่งที่ Pasika ทำนั้นแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่ไม่ได้มีจำกัดอยู่เฉพาะแค่มนุษย์เท่านั้น และไม่มีอะไรที่จะยิ่งใหญ่ไปมากกว่าความรักของแม่” ดอกเตอร์ Tara Stoinski หัวหน้าจากมูลนิธิ DFGF กล่าว ถึงแม้จะยังไม่ทราบถึงอนาคตที่กำลังจะมาถึง แต่เจ้า Pasika ก็พร้อมที่จะดูแลลูกน้อยของมันอย่างเต็มที่…
-
ภาพถ่ายสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกนำมาเติมสีสัน สร้างความรู้สึกสะเทือนใจยิ่งกว่าเดิม…
สงรามโลกครั้งที่ 2 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมหาสงครามที่มีความสูญเสียมากที่สุดครั้งหนึ่งในโลก การสู้รบของฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายอักษะที่กินเวลานานกว่า 6 ปี ที่ถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เปรียบเสมือนบทเรียนราคาแพงที่คอยเตือนพวกเราเกี่ยวกับหายนะจากความรุนแรงเหล่านั้น และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่ภาพในช่วงของสงครามดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด B-17 ที่บินอยู่เหนือเมือง Marienburg ประเทศเยอรมนีในปี 1943 หรือภาพเครื่องบิน B-25s ที่กำลังบินปฏิบัติภารกิจเหนือภูเขาไฟวิสุเวียสในประเทศอิตาลี การประทุของภูเขาไฟวิสุเวียส ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1944 ระหว่างที่เครื่องบินของผ่ายสัมพัธมิตรกำลังปฏิบัติภารกิจ ภาพของเครื่องบินทิ้งระเบิด B-17 ที่บินอยู่เหนือเมือง Marienburg ประเทศเยอรมนีในปี 1943 นอกจากภาพของเครื่องบินรบแล้ว ยังมีภาพทางประวัติศาสตร์อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นภาพของเหล่าทหารจากหน่วย SS-Grenadiers ที่ในสนามรบที่ฮังการีเมื่อปี 1945 ภาพฟุตเทจการยกพลขึ้นบกที่ฝรั่งเศสในวันดีเดย์ รวมถึงภาพวันสุดท้ายของจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียที่ถูกประหารเมื่ปี 1916 อีกด้วย ซึ่งภาพถ่ายและฟุตเทจประวัติศาสตร์เหล่านี้ถูกนำมาบูรณะและเติมสีสันใหม่โดยช่างภาพชาวออสเตรียวัย 53 ปี คุณ Mario Unger ภาพบางส่วนจากฟุตเทจที่เผยให้เห็นการยกพลขึ้นบกที่นอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส ของฝ่ายสัมพันธมิตร เครื่องบินทิ้งระเบิด Bristol Beaufighter จากกองพันธ์ที่ 227 ที่กำลังโจมตีเรือรบของฝ่ายเยอรมันในทะเล Aegean ใกล้กับเกาะคอส ประเทศกรีซ เมื่อเดือนตุลาคมปี 1943 ภายในภาพฟุตเทจยังได้เผยให้เห็นการกวาดต้อนทหารเยอรมันกว่า 16,000-18,000 นาย ไปที่ชายหาดหลังจากที่ฝ่ายสัมพันธมิตรได้เข้ายึดพื้นที่ใกล้ๆ กับเมือง Cherbourg ประเทศฝรั่งเศสได่สำเร็จ…
-
ส่งท้ายปีเก่ากับผลงานการออกแบบสุดล้มเหลวจากปี 2017 หวังว่าชีวิตนี้คงไม่ได้พบเจอกันอีกแล้วนะ!!
ในปัจจุบันการออกแบบข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ นั้นช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้นอย่างมาก แน่นอนว่านอกจากช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายแล้วบางครังมันก็ยังทำให้ของใช้หรือสถานที่เหล่านั้นดูน่าใช้และน่าอยู่ขึ้นมาอีกด้วย แต่ทว่าก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่การออกแบบนั้นจะช่วยทำให้ชีวิตของพวกเราง่ายขึ้น เพราะบางทีถ้าหากคุณเจอผลงานการออกแบบเหล่านี้ล่ะก็… คุณอาจจะต้องเอามือทาบอกแล้วพูดออกมาเบาๆ ว่า “คุณพระ” 1. สาบานได้ว่านี่คือทางจักรยาน!? 2. เอ่!? แล้วแบบนี้จะนั่งยังไงกันล่ะเนี่ย?? 3. อืม… สงสัยนายแบบจะไม่เข้าใจสินะว่าเจ้าเบาะนี้เค้าใช้ทำอะไร?? 4. หินอ่อนที่มาพร้อมกับลวดลายน่าปวดหัวสำหรับผู้ใช้!! 5. ถามหน่อยครับ!! แล้วบากกับจมูกคุณพี่หายไปไหน?? 6. แน่ใจนะว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้จริงๆ ?? 7. เจอการนับเลขแบบนี้เด็กๆ ถึงกับงง 8. มีกระจกแล้วจะมีรูตาแมวอีกทำไมล่ะครับคุณพี๊!! 9. สไปเดอร์แมนภาคใหม่ ปล่อยใยทางตูด!! 10. ไหนลองนับกันดูซิ ว่ามีบันไดกี่ขั้น 11. ตกลงใครรู้บ้างว่าตัว T ย่อมาจากอะไร?? 12. น้ำมะนาวแท้ ที่เหมาะสำหรับทำน้ำส้ม!! …
-
เมืองแห่งเดียวในญี่ปุ่น เป็นแรงกำลังหลักผลิต ‘Kinpaku’ ทองคำเปลว 99% ของประเทศ
แผ่นทองบางๆ หรือที่เราเรียกกันว่าทองคำเปลวนั้นอาจจะเป็นสิ่งของที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีสำหรับใครที่ชื่นชอบการเข้าวัดทำบุญ และสำหรับในประเทศญี่ปุ่นนั้นเจ้าแผ่นทองที่ว่านี้เค้าเรียกกันว่า “Kinpaku” นั่นเอง แน่นอนว่าเมื่อติดยี่ห้อเมดอินเจแปนแล้ว ย่อมจะต้องมีความพิถีพิถันในการทำอย่างไม่ต้องสงสัยกันเลยทีเดียว และวันนี้เราก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแผ่นทองเล็กๆ และกรรมวิธีการทำของชาวญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมากว่า 400 ปีมาฝากกัน จะน่าสนใจแค่ไหนไปชมเลย… จุดเริ่มต้นของ Kinpaku นั้นเริ่มขึ้นที่เมืองคะนะซะวะ ในเมืองแห่งนี้ถือเป็นแหล่งผลิตทองคำเปลวมากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของทั้งประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว คุณ Kenichi Matsumura ช่างทำ Kinpaku เล่าว่าเจ้าแผ่นทองบางๆ เหมือนกระดาษนี้ถือกำเนิดมาจากวัตถุดิบ 2 อย่างนั่นก็คือทองคำและเงิน โดย Kinpaku แต่ละแผ่นนั้นจะมีความบางเพียงแค่ 0.0001 มิลลิเมตรเท่านั้น เรียกได้ว่าบางสุดๆ!! และนอกจากเมืองนี้จะเป็นแหล่งผลิต Kinpaku ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่เองก็ยังมีงานฝีมือระดับเทพมากมายที่เกิดจากเจ้าแผ่นทองคำเปลวนี้ และมีช่างฝีมือมากกว่า 40 คนเลยทีเดียว โดยผลงานศิลปะที่ทำจาก Kinpaku ส่วนมากนั้นจะถูกวางจำหน่ายอยู่ในร้านค้าของเมือง ซึ่งมีผลงานต่างๆ ก็เช่นตุ๊กตาแมวนำโชค ตะเกียบ หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่เคลือบด้วย Kinpaku และนอกจากจะนำไปใช้ในงานฝีมือแล้ว มันยังถูกใช้ในเครื่องสำอางและอาหารอีกด้วย…
-
Pooja Ganatra หญิงชาวอินเดีย ที่มีผิวสีขาว ผมแดง และนัยน์ตาสีฟ้าเหมือนสาวชาวไอริช
เรื่องราวของหญิงสาวชาวอินเดียที่เกิดมาพร้อมกับรูปร่างและหน้าที่แตกต่างจากพ่อและแม่ของเธอ ผมสีแดง ผิวสีขาวและจุดกระบนใบหน้านั้นทำให้เธอถูกรังแก เพราะคนอื่นๆ คิดว่าเธอเป็นโรค Pooja Ganatra สาวน้อยวัย 24 ปีจากเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ที่เกิดมาพร้อมกับรูปร่างคล้ายๆ กับสาวชาว Gaelic จากประเทศไอซ์แลนด์ ลักษณะที่แปลกจากชาวอินเดียทั่วไปนี้คาดว่าน่าจะมีจากบรรพบุรุษของเธอ หรือที่เรียกว่า atavism Pooja และพ่อแม่ของเธอ บ่อยครั้งที่เธอมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นชาวต่างชาติ แต่อันที่จริงแล้ว Pooja เองเป็นสาวอินเดียแท้ๆ ที่เกิดมาจากพ่อแม่ที่เป็นชาวอินเดีย คุณ Rajesh พ่อของเธอเองเป็นชาวอินเดียแต่กำเนิดและมีผิวสีเข้ม ส่วน Hemaxi แม่ของเธอเองก็เป็นชาวอินเดียแต่กำเนิดเช่นกัน แต่ทางฝ่ายแม่นั้นกลับมีผิวขาวกว่าและมีกระบนใบหน้าเล็กน้อย Pooja เล่าถึงชีวิตของเธอในประเทศอินเดียบ้านเกิดว่า เธอรู้สึกแตกต่างจากคนอื่นๆ และก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ใส่เสื้อแขนกุดขณะที่เรียนมหาวิทยาลัยอีกด้วย เนื่องจากสีผิวของเธอนั้นสะดุดตาคนอื่นมากเกินไป “ตอนที่ฉันเกิดมา ครอบครัวของฉันตกใจมาก พวกเขาไม่เคยเห็นใครแบบฉันมาก่อนเลย ทุกคนในครอบครัวฉันมีผิวสีน้ำตาลกันหมด แถมยังมีผมสีดำ และนัยน์ตาสีน้ำตาลอีกด้วย” หญิงสาวกล่าว ภาพของ Pooja ในตอนที่เธอยังเป็นเด็กสาว การเกิดมาพร้อมกับสีผิวที่ไม่เหมือนกับคนในครอบครัว ทำให้ทางครอบครัวคิดว่าเป็นโรคผิวหนัง พวกเขาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาไปมาก และตัดสินใจว่าจะไม่มีลูกอีก “ฉันถูกส่งตัวไปรักษากับแพทย์ผิวหนัง เพราะพวกเขาคิดว่าฉันมีความผิดปรกติของร่างกายและอาจจะเป็นโรคผิวหนัง ฉันกลายเป็นตัวประหลาดในโรงเรียน พวกเด็กๆ มักจะแกล้งฉันอยู่บ่อยๆ…
-
พบกับ Mr. Roger ที่จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายในปี 2018 ที่จะถึงนี้
ก็เหลือเพียงอีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้นที่พวกเรากำลังจะอำลาปี 2017 และก้าวเข้าสู่ปี 2018 กันแล้ว และแน่นอนว่าหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนมักจะทำให้ช่วงวันเคาท์ดาวน์หลังจากนับถอยหลังเสร็จนั่นก็คือการประกาศความตั้งใจหรือเป้าหมายในปีที่จะมาถึงนั่นเอง และหนึ่งในเป้าหมายในช่วงปีใหม่ที่หลายๆ คนตั้งใจจะทำเมื่อถึงช่วงปีใหม่นั่นก็คือการลดน้ำหนักและออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงนั่นเอง แต่!! ถ้าหากว่าคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่มักจะหมดแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายง่ายๆ หรือยังไม่มีเป้าหมายในการลดน้ำหนักล่ะก็ วันนี้เราก็มีภาพของเจ้าจิงโจ้จากประเทศออสเตรเลียนามว่า Roger มาฝากกัน รับรองได้ว่าหุ่นอันล่ำๆ ของมันนั้นจะต้องทำให้ดัมเบลในมือคุณสั่นแน่นอน!! เอาล่ะพรรคพวก ได้เวลาลดน้ำหนักกับอาจารย์ Roger กันแล้ว!! จิงโจ้หนุ่มผู้มาพร้อมกับกล้ามเนื้อที่แทบจะไม่มีไขมันแทรกอยู่ และท่าเบ่งกล้ามอันแสนทรงพลังนี้กลายเป็นที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตอย่างมาก ซึ่งขณะนี้พี่แกก็มีคณะผู้ติดตามในอินสตาแกรมมากกว่า 700,000 คนแล้ว!! จ้องมองที่ตาเค้าดีๆ เพราะพ่อหนุ่ม Roger ตัวนี้กำลังบอกคุณว่า หยุดกินของทอดแล้วหันมาออกกำลังกายกันได้แล้วพวก!! ไปดูท่าทางการขยับกล้ามเนื้อแบบหนุบๆ หนับๆ ของพี่ Roger กันได้เลย (ดูไม่ได้คลิก ที่นี่) Our beautiful boy Roger when he was alpha male ? โพสต์ที่แชร์โดย The Kangaroo Sanctuary (@thekangaroosanctuary) เมื่อ ธ.ค.…
-
ภัตตาคาร ‘สายเปลือย’ จากฝรั่งเศส ปล่อยให้ลูกค้าล่อนจ้อนทานอาหาร เพิ่มอรรถรสในการชิม
โดยปรกติแล้วการทานอาหารในภัตตาคารหรูๆ คุณอาจจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และอาจจะต้องหาชุดหล่อๆ มาใส่เพื่อเสริมบุคลิกให้กับตัวเอง แต่สำหรับที่ภัตตาคาร O’naturel ในกรุงปารีสนั้นคุณแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าให้ปวดหัวเลย!! ภัตตาคารนู้ดแห่งแรกในฝรั่งเศสนี้ จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับอาหารท้องถิ่นสุดคลาสสิคที่หาทานได้ยาก และที่สำคัญคุณยังสามารถเอร็ดอร่อยกับอาหารแบบไม่สวมเสื้อผ้าอีกด้วย แต่อย่างไรตามที่นี่ไม่ใช่ร้านภัตตาคารนู้ดแห่งแรกของยุโรป โดยก่อนหน้านี้ในปี 2016 ได้มีการเปิดภัตตาคารแบบนี้ขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และดูเหมือนว่ามันจะประสบความสำเร็จมากๆ อีกด้วย คุณ Mike และคุณ Stephane Saada สองพี่น้องฝาแฝดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภัตตาคารนู้ดจากเกาะอังกฤษ และเริ่มนำมันมาให้ชาวฝรั่งเศสได้สัมผัส และมองเห็นว่าภัตตาคารแบบนี้จะสามารถเติบโตได้ที่ฝรั่งเศสเช่นกัน คุณ Strphane เจ้าของร้านวัย 42 ปีให้สัมภาษณ์ว่า “โดยส่วนมากแล้วผู้คนมักจะเปลือยกายเฉพาะช่วงหน้าร้อน แต่ว่าร้านของเราช่วยให้พวกเขาสนุกกับการเปลือยกายได้ตลอดทั้งปี” ภายในร้าน O’naturel นั้นถูกประดับตกแต่งแบบสไตล์มินิมอล และพร้อมที่บริการอาหารฝรั่งเศสหรูๆ อย่างเช่นล็อบสเตอร์ ตับห่าน และหอยทากกับครีมพาสลีย์ นอกจากนี้ยังมีเมนูสำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติอีกด้วย โดยคอร์สอาหารแบบ 3 จานนั้นเริ่มต้นที่ราคา 57.5 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1,800 บาท ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปทานอาหารภายในร้านได้นั้นลูกค้าจะต้องถอดเสื้อผ้ารวมทั้งโทรศัพท์มือถือไว้ด้านนอกห้องก่อน โดยที่พวกเขาสามารถสวมเพียงแค่รองเท้าแตะเข้าไปในร้านได้เท่านั้น “หน้าที่ของเราคือทำให้ลูกค้าพอใจ เมื่อพวกเขาเข้ามาในส่วนของห้องอาหารแล้วหน้าที่ของเราคือทำให้พวกเขาสบายใจ และไม่รู้สึกว่ากำลังถูกแอบมองอยู่” คุณ Stephane กล่าว ร้านอาหารแห่งนี้เปิดให้บริการเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้น และจะมีการคัดกรองลูกค้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจากร้านอีกด้วย…
-
ชมภาพถ่าย “มินิมอลสไตล์” จากฝีมือของช่างภาพสาวชาวไซปรัส ที่อัดแน่นไปด้วยความสวยงาม
ผลงานการถ่ายภาพของคุณ Helena Georgiou ช่างภาพสาวชาวไซปรัส เป็นที่รู้จักกันดีในวงการว่าผลงานของเธอนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการจัดวางองค์ประกอบ และสื่อความหมายของภาพในสไตล์มินิมอลออกมาได้เป็นอย่างดี “ผลงานภาพถ่ายของฉันมาจากความหลงใหลในรายละเอียดและความคิดสร้างสรรค์ ฉันถ่ายทอดมันผ่านความรู้สึกและพยายามที่จะสื่อสารถึงประสบการณ์ในการเดินทาง ความคิดต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลจากบทกวีหรือวรรณคดีที่ฉันได้อ่าน” ช่างภาพสาวกล่าว นอกจากการถ่ายภาพในสไตล์แบบมินิมอลแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ช่างภาพสาวของเราให้ความสำคัญนั่นก็คือคุณภาพของผลงานนั่นเอง “ฉันเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของภาพถ่ายและงานศิลปะทุกๆ อย่างนั่นก็คือมันสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางด้านอารมณ์ของผู้ชมได้” เธอกล่าว . คุณ Helena Georgiou เกิดและเติบโตมาจากกรุงนิโคเซีย ประเทศไซปรัส และจบการศึกษาทางด้านบริหารธุรกิจ และด้านการออกแบบภายใน และเริ่มต้นสนใจในการถ่ายภาพตั้งแต่ปี 2009 เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคมถ่ายภาพของไซปรัส และผลงานการถ่ายภาพของเธอนั้นก็เคยถูกจัดแสดงมาแล้วมากมายหลายที่ไม่ว่าจะเป็นประเทศกรีซ เบลเยียม เยอรมนี และออสเตรเลีย . นอกจากฝีมือทางด้านการถ่ายภาพแล้ว ล่าสุดเธอยังได้รับรางวัลจากสหภาพยุโรป เนื่องจากการถ่ายทอดเรื่องราวทางด้านสิทธิมนุษยชนผ่านทางผลงานของเธอนั่นเอง ไปชมความสวยงามผลงานภาพถ่ายของเธอกันแบบเต็มๆ ได้เลย… . . . . . . . . . . . . . ส่วนใครที่ยังไม่จุใจล่ะก็ สามารถตามเข้าไปเสพกันได้ที่เฟซบุ๊ก Helena…
-
Vans เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ “Vans’ Sherpa ” ที่มาพร้อมกับขนฟูๆ ให้คุณดูโดดเด่นรับลมหนาว
ในช่วงนี้หลายๆ พื้นที่ของประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงหน้าหนาวกันแล้ว และหนึ่งในแฟชั่นที่มักจะตามมาพร้อมกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือนั่นก็คือเสื้อกันหนาว และอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวกไหมพรม หรือผ้าพันคอนั่นเอง และวันนี้เราก็มีคอลเลคชั่นรองเท้ารุ่นใหม่ล่าสัตว์ เอ้ย!! ล่าสุด จากบริษัทสนีกเกอร์สุดโอลด์สคูลรุ่นพ่ออย่าง Vans มาฝากกัน นอกจากจะเข้ากับเสื้อกันหนาวขนเฟอร์ของเราแล้ว มันยังทำให้คุณดูเท่กว่าใครในยอดดอยอีกด้วย เจ้ารองเท้ารุ่นใหม่จาก Vans นี้เปิดตัวมาพร้อมกับขนฟูๆ อันแสนนุ่มนิ่ม โดยใช้ชื่อว่า Vans’ Sherpa ซึ่งจะมีอยู่ในสามโมเดลด้วยกันนั่นก็คือ Old Skools, Sk8 His และ Slip Ons โดยในโมเดล Old Skools นั้นจะมาพร้อมกับสีขาวครีม ส่วนในรุ่น Sk8 His นั้นจะมาพร้อมกับสีเทาอ่อนๆ และสุดท้ายในรุ่น Slip Ons นั้นก็ออกแบบในลายตารางที่สวยไม่แพ้กัน ขาวจั๊ว น่าเป็นเจ้าของจริงๆ โดย Vans Old Skool Sherpa นั้นอยู่ที่ 65 เหรียญ (ประมาณ 2,100 บาท) ส่วนในรุ่น Vans…
-
เกิดเหตุรถไฟขัดข้องกลางสะพานนานนับชั่วโมง งานนี้ต้องพึ่งพาของวิเศษ “ห้องน้ำฉุกเฉิน”
การใช้บริการรถไฟนั้นถือเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับการเดินทางในญี่ปุ่นเลย และเมื่อเป็นหนึ่งในระบบขนส่งมวลชนที่ผู้คนนิยมใช้มากที่สุดนั้น การให้บริการและการดูแลเอาใจใส่ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ต้องมาเป็นอันดับแรกๆ และล่าสุด พวกเขาก็ได้ยืนยันเรื่องนี้อีกครั้ง เหตุการณ์น่ารักๆ นี้เกิดขึ้นกับรถไฟสาย Joshin Dentetsu Joshin ระหว่างที่กำลังเดินทางผ่านจังหวัดกุนมะ โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมรถไฟสายดังกล่าวได้หยุดเดินอย่างกะทันหันเนื่องจากเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า jinshin jiko เหตุการณ์ jinshin jiko นั้นหมายถึงการที่มีคนพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในรางรถไฟ และเป็นสาเหตุที่ทำให้รถไฟนั้นต้องหยุดการเดินรถชั่วคราว ซึ่งเป็นผู้โดยสารส่วนมาจะทราบกันดีว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้คงต้องทำใจรอกันยาวๆ เลยทีเดียว ตัดกลับมาที่รถไฟสาย Joshin Dentetsu Joshin หลังจากที่ผ่านไปกว่า 20 นาที เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีวี่แววที่จะคลี่คลายได้ง่ายๆ ในครั้งนี้ทางขบวนรถไม่สามารถที่จะเปิดประตูให้ผู้โดยสารออกไปด้านนอกเพื่อรอได้ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำพอดี และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือบนรถเองก็ไม่มีห้องน้ำอีกด้วย แต่ก็เป็นโชคดีของผู้โดยสารที่ทางขบวนรถนั้นก็ไม่ได้ละเลยเรื่องท้องไส้ของพวกเขา ห้องน้ำแบบฉุกเฉินถูกนำมาตั้งไว้เพื่อบริการผู้โดยสาร โดราเอม่อน ตอน ห้องน้ำแบบฉุกเฉิน!! ใครจะกล้าเข้ามั้ยเนี่ย หลังจากที่ติดบนสะพานอยู่นานกว่าชั่วโมง ในที่สุดรถไฟขบวนดังกล่าวก็สามารถเดินทางต่อได้ และงานนี้ผู้โดยสารหลายๆ คนก็ต้องรู้สึกขอบคุณเจ้าห้องน้ำแบบฉุกเฉินนี้อย่างแน่นอน ถ้าเพื่อนๆ อยู่บนรถไฟขบวนนี้ เพื่อนๆ จะกล้าเข้าห้องน้ำฉุกเฉินนี้รึเปล่า ฮ่าาา ที่มา rocketnews24
-
เจ้าเหมียว Nala แมวผู้มีแผนชั่ว แอบคิดการใหญ่ จงใจจะลอบสังหารทาสเรอะ!! ไม่มีทาง!!
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเรื่องราวความน่ารักของเจ้าเหมียวน้อยอย่างน้อง Nala กันไปแล้ว และแน่นอนว่าความซุกซนของเจ้าเหมียวก็ได้เข้าไปอยู่ในใจหลายๆ คนแล้วใช่ไหมล่ะ แต่นอกจากจะเป็นมันจะเป็นแมวเหมียวขนปุยน่ากอดน่าฟัดแล้ว เจ้า Nala แมวน้อยลูกผสมระหว่างสายพันธุ์เมนคูนกับนอร์เวเจียนฟอร์เรสต์ มันยังชอบทำพฤติกรรมฮาๆ อย่างเช่นการทำหน้าตัวชั่วร้ายแบบนี้อีกด้วย!! ฮืมม… เจ้ามานูดดด ชั้นมองแกอยู่นะ!! ถึงแม้ว่าจะมีพฤติกรรมที่ชื่นชอบหิมะ และมักจะตื่นเต้นแบบออกนอกหน้าเวลาที่มันเจอเกล็ดน้ำแข็งขาวๆ แล้ว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ว่างเว้นจากการละเล่นล่ะก็ พี่เหมียวของเราก็มักจะมาแอบซอกหลืบต่างๆ และทำตัวเหมือนกับว่ากำลังเก็บข้อมูลของพวกมนุษย์อย่างไงอย่างงั้นเลยทีเดียว!! อย่าแตะดอกไม้นะ!! ฮั่นแน่!? ทำไยอ่ะ จริงๆ แล้วข้าไม่ใช่แมว แต่ข้าคือมนุษย์ต่างดาวต่างหากล่ะ!? ยัง ยัง ยังไม่หยุดมองอีก!! สายตา.. ที่แนมา หวาน!! จ๊ะเอ๋!? ทำอะไรกันอยู่น่ะ แหม่… มองซะขนาดนี้ ยอมรับมาซะดีๆ นะว่าแกคือหัวหน้าแผนการครองโลกใช่ไหม?? ที่มา izcat
-
นักวิ่งมาราธอนสาวยอมเสียโอกาสได้รับรางวัลชนะเลิศ และวิ่งเข้าไปช่วยนักวิ่งอีกคนที่หมดแรงล้มลง
“บางครั้งชัยชนะก็อาจจะไม่ใช่เพียงเป้าหมายเดียวของการแข่งขัน” เหตุการณ์น่าประทับใจนี้เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอนในรายการ Dallas Marathon หลังจากที่ผู้เข้าแข่งขันรายหนึ่งได้ตัดสินใจสละชัยชนะของเธอ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนนักกีฬาอีกคนที่กำลังล้มลุกคลุกคลานเนื่องจากหมดแรง คุณ Chandler Self นักวิ่งสาววัย 32 ปี ที่เกิดอาการบาดเจ็บอย่างกะทันหันและล้มลงก่อนถึงเส้นชัยเพียงไม่กี่เมตร และในขณะที่เธอกำลังจะพยายามจะลุกขึ้นเพื่อวิ่งต่อนั้นก็ได้เกิดภาพแห่งความประทับใจขึ้น เมื่อผู้เข้าแข่งขันอีกท่านหนึ่งได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือเธอและยอมสละโอกาสที่จะทำสถิติการวิ่งของตัวเองไป Ariana Luterman สาวน้อยวัย 17 ปี อีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันที่วิ่งตามคุณ Chandler มา เธอสังเกตเห็นอาการบาดเจ็บของผู้เข้าแข่งขันอีกคน สาวน้อยตัดสินใจหยุดวิ่งและเข้าช่วยเหลือเพื่อนนักกีฬาที่กำลังบาดเจ็บ “ฉันพยายามที่จะผลักเธอออก แต่หัวใจของเธอนั้นเต็มไปด้วยความมีเมตตาต่อฉัน เธอทำเหมือนกับว่ายังไงก็ต้องช่วยฉันให้ได้” Chandler กล่าว ถึงแม้ว่าจะสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้เลย แต่ Ariana กลับเลือกที่จะหยุดและช่วยเหลือ Chandler และพาเธอไปจนถึงเส้นชัยในที่สุด ชมเรื่องราวสุดประทับใจของทั้งคู่ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… และนี่ก็ถือเป็นหนึ่งเรื่องราวที่น่าชื่นชม และทำให้เข้าใจถึงความหมายของคำว่า “น้ำใจนักกีฬา” ได้ดีทีเดียว ที่มา littlethings
-
ชาวเน็ตเดือด!! คุณแม่นำเบี้ยผู้พิการ ซื้อของขวัญคริสต์มาสมูลค่า 70,000 บาท ให้กับลูก
เรื่องราวของคุณแม่ผู้พิการรายหนึ่งที่เก็บเงินเบี้ยช่วยเหลือจำนวน 50 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เพื่อซื้อของขวัญวันคริสต์มาสให้กับลูกๆ ของเธอ แต่ทว่าการทำเพื่อลูกของเธอครั้งนี้กลับถูกชาวเน็ตต่อว่าอย่างรุนแรง หลังจากที่เธอให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ This Morning Claire Young ลาออกจากงานของเมื่อปี 2012 หลังจากที่เธอไม่สามารถที่จะทำงานได้เนื่องจากเธอป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อล้าเรื้อรัง โดยหญิงสาวได้รับเงินในการช่วยเหลือ 850 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 37,000 บาท) เพื่อใช้ในการดูแลตัวเองและลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี คุณแม่ท่านนี้ใช้เงินเบี้ยผู้พิการของเธออย่างประหยัด และเมื่อปีที่ผ่านมาเธอสามารถเก็บเงินได้มากถึง 2,000 ปอนด์หรือกว่า 87,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวนั้นสามารถทำให้คุณแม่ลูก 6 สามารถมอบของขวัญคริสต์มาสชิ้นพิเศษให้กับลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอได้สบายๆ “ฉันไม่ได้ออกไปฉลองในช่วงหยุดสุดสัปดาห์เลย และฉันก็ได้ไม่ได้ซื้อยาอีกด้วย ฉันตั้งใจจะเก็บเงินทั้งหมดนี้เพื่อนำไปซื้อของขวัญวันคริสต์มาสให้ลูกๆ ” หญิงสาวให้สัมภาษณ์กับพิธีกรรายการ “วันคริสต์มาสนั้นมีแค่เพียงปีละครั้งเท่านั้น และถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการ แต่เราก็ยังคงต้องฉลองวันสำคัญนี้” เธอให้สัมภาษณ์ Claire พูดต่ออีกว่า จริงๆ แล้วเธอไม่ได้มีความสุขมากนักที่ใช้ชีวิตโดยอาศัยสวัสดิการผู้พิการ “ฉันไม่ชอบที่ต้องคอยพึ่งสวัสดิการ ไม่มีใครชอบสิทธิประโยชน์แบบนี้หรอก แต่คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคุณเมื่อไหร่ ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ได้โดยอาศัยสวัสดิการ แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ของฉันจะไม่สามารถมีความสุขในวันคริสต์มาสเหมือนเด็กคนอื่นๆ…
-
สาวนางแบบเล่าเรื่องราวในอดีต ที่เคยโดนกลั่นแกล้งเพราะ ‘สีผิวของเธอดำเกินไป’
เรื่องราวของนางแบบสาวผิวสีชาวซูดาน ที่กลายเป็นนางแบบชื่อดังหลังจากที่เธอย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่กว่าที่จะกลายเป็นแฟชั่นไอคอนชื่อดัง นางแบบผิวสีผู้นี้ต้องเผชิญเรื่องราวต่างๆ มากมาย และคำสบประมาทว่าผิวของเธอนั้นดำเกินไป!! Nyakim Gatwech นางแบบสาววัย 24 ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังและมีคนติดตามในอินสตาแกรมของเธอมากถึง 325,000 คน บ่อยครั้งที่เธอมักโดนดูถูกเพราะสีผิว แต่ Gatweach กลับไม่สนใจและพยายามทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่ นอกจากจะเป็นนางแบบแล้ว Gatweach ยังเป็นกระบอกเสียงสนับสนุนให้ผู้คนยอมรับในสิ่งที่ตัวพวกเขาเป็น และเธอยังออกมาต่อต้านการเหยียดผิวอีกด้วย Gatwech ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ตอนอายุ 14 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธออาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่เคนย่าและเอธิโอเปีย เนื่องจากภาวะสงครามในประเทศบ้านเกิด “แม่ของฉันหนีออกมาจากซูดานก่อนที่ฉันจะเกิดเนื่องจากภาวะสงคราม ตอนนั้นทหารกำลังจะมาที่หมู่บ้านของเราและฆ่าทุกคนทิ้ง” นางแบบสาวเล่าเรื่องราวที่ครอบครัวของเธอต้องเผชิญ Gatwech สูญเสียพี่สาวของเธอไปในระหว่างที่แม่ของเธอเดินเท้าไปยังประเทศเอธิโอเปีย และหลังจากที่ย้ายมาอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่เคนย่าพวกเขาก็ได้มีโอกาสเข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สหรัฐอเมริกา แต่ถึงอย่างไรก็ตามการใช้ชีวิตในสหรัฐอเมริกานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ครอบครัวของเธอต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและเรื่องสีผิวก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่พวกเธอถูกกลั่นแกล้ง เธอเล่าถึงประสบการณ์การถูกเหยียดผิวในโรงเรียนว่า เธอมักจะถูกเพื่อนๆ บอกว่าเธอดำเกินไป หรือบางครั้งพวกเขาก็จะหัวเราะใส่เธอและพูดว่า “นี่ Gatwech พวกเรามองไม่เห็นเธอเลย” “ยกตัวอย่างในชั้นเรียน เมื่อฉันถูกคุณครูถาม เพื่อนๆ ก็มักจะพูดว่าคุณครูถามใครหรอ พวกเรามองไม่เห็นใครเลย และจากนั้นทั้งห้องก็จะหัวเราะกัน ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งร้องไห้” นางแบบสาวเล่าถึงประสบการณ์วัยเด็กของเธอ …
-
17 บุคคลผู้เป็นอัจฉริยะในด้าน ‘การแกล้ง’ ใครโดนนี่ขอบอกเลยว่า คุณณควรภูมิใจมากกว่าโกรธ
การแกล้งเพื่อนอาจจะเป็นสิ่งที่เพื่อนสนิทนั้นชอบทำกับคุณอยู่บ่อยๆ และแน่นอนว่าในกลุ่มเพื่อนของคุณจะต้องมีอย่างน้อยซักหนึ่งคนที่น่าแกล้งสุดๆ แต่บางครั้งคนที่ถูกแกล้งเองนั้นก็อาจจะรู้สึกขำไม่ออกเลยทีเดียว แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหากคุณเจอเพื่อนๆ ที่ลงทุนแกล้งขนาดนี้คุณอาจจะรู้สึกขำแทนก็ได้!! 1. คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อกลับมาทำงานในเช้าวันจันทร์แล้วพบว่าที่โต๊ะทำงานเต็มไปด้วยดาราคนโปรดในสภาพแบบนี้!! 2. นี่สินะที่เค้าเรียกว่าตื่นมารับอากาศสดชื่นของทุ่งหญ้าในยามเช้า เดี๋ยวนะ!! หญ้าแบบนี้มันจะสดชื่นไหมเนี่ย?? 3. เจ้าหนูน้อยในบทบาทคนไข้ โถ่!? นึกว่าฟันเป็นแมงจริงๆ 4. โต๊ะทำงานจากโลกอวกาศ ทุกอย่างดูวิบวับวาว!! 5. เจอแบบนี้ตอนตื่นนอนต้องมีสะดุ้งกันบ้างล่ะน่า!! 6. แหม่เอาซะเนียน จนนึกว่าแตกจริงๆ เลยนะเนี่ย!? 7. คุณจะทำอย่างไรเมื่อเจอเจ้าสิ่งนี้อยู่หน้าห้อง หลังจากที่เปิดประตูทิ้งไว้!! 8. ว๊ายยย!! 9. โต๊ะทำงานแบบท่ามกลางธรรมชาติ แถมมีนกฟลามิงโกให้ซะด้วย!! 10. ถ้าเป็นช่วงก่อน การเจอลูกโป่งสีแดงที่ท่อระบายน้ำอาจจะไม่ใช่เรื่องตลก 11. นี่คือการแกล้งแบบเลเวล 99 !! เปิดประตูมาปุ๊บนึกว่าได้ห้องใหม่ 12. ถ้าจะขยันแบบนี้ ก็ยอมให้แล้วจ้าาา…
-
สัตวแพทย์ผู้น่าเบื่อ(จริงจริ๊ง) กับชีวิตที่ต้องเจออะไรแบบนี้ทุกวัน เฮ้อออ ไม่อยากจะคิดเลย
สำหรับหลายๆ คนแล้ว การได้ชื่นชมเหล่าสัตว์ป่า และใกล้ชิดกับพวกมันนั้นคงจะเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ และถ้าหากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการชมสารคดีแดนสนธยาล่ะก็ คุณอาจจะต้องอิจฉาชีวิตของสัตวแพทย์ผู้นี้แน่ๆ คุณ Mike Holston สัตวแพทย์หนุ่มจากไมอามี ผู้มีเจ้าพ่อสัตว์ป่าอย่าง Steve Irwin เป็นไอดอล ในแต่ละวันสัตวแพทย์หนุ่มผู้นี้ต้องคลุกคลีและดูแลเหล่าสัตว์ต่างๆ มากมายอย่างเจ้าพวกนี้…. 1. นี่ชั้นต้องเจอหน้าแกอีกแล้วใช่ไหมเนี่ยย เจ้าจิ้งจอก!? 2. เจ้าลิงคู่หูที่ชอบโผล่มาเซลฟี่บ่อยๆ 3. พอเสร็จจากลิง เดี๋ยวก็ต้องมาดูแลสิงโตอีก!! 4. กลับมาที่เจ้าจ๋อตัวเล็กอีกครั้ง!! 5. และก็กลับไปที่เจ้าสิงโตอีกครั้ง ชีวิตนี้มีแต่สัตว์จริงๆ 6. เอ๊า!! ยิ้มหน่อยเจ้าจ๋อ อย่าเพิ่งทำหน้าเบื่อ 7. แกอีกแล้วสินะเจ้าตัวเล็ก?? 8. คุณ Mike Holston หรือฉายาทาซานตัวจริง และเหล่าสัตว์ป่าของเขา 9. บางวันชายหนุ่มของเราก็ใช้เวลาทั้งวันเพื่อดูแลเหล่าลูกเสือตัวน้อยๆ 10. หรือบางครั้งก็ต้องขยับไปที่กรงพวกกิ้งก่า โอ๊ย!! อย่าจับแรงง 11.…
-
40 ภาพคอนเซ็ปต์อาร์ตของ Star Wars ก่อนที่จะมาเป็นภาพยนตร์ ควรค่าแก่การรับชม…
นับจากที่ภาพยนตร์สงครามอวกาศอย่าง Star Wars ได้ออกมาโลดแล่นบนจอแก้วให้เหล่าแฟนๆ ได้ชมครั้งแรกในปี 1977 ตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่เรื่องราวการผจญภัยของครอบครัวสกายวอร์กเกอร์และสงครามระหว่างฝ่ายจักรพรรดิกับฝ่ายกบฏยังเป็นที่ชื่นชอบสำหรับแฟนๆ และเพื่อต้อนรับหนังภาคล่าสุดอย่าง Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi วันนี้เราก็มีภาพร่างอันเป็นจุดเริ่มต้นของหนังมหากาพย์เรื่องนี้มาฝากกัน… ภาพสเกตของ Star Wars นี้เป็นผลงานของนักออกแบบฝีมือเยี่ยมผู้ล่วงลับอย่าง Ralph McQuarrie เขาได้รับหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดจินตนาการของ George Lucas ให้ออกมาเป็นรูปภาพ ในปี 1975 George Lucas ได้เล่าเนื้อเรื่องให้กับ Ralph McQuarrie และจุดเริ่มต้นของภาพร่างเหล่านี้ก็เริ่มต้นตั้งแต่วันนั้น McQuarrie คือผู้ออกแบบฉากต่างๆ รวมถึงตัวละครมากมายไม่ว่าจะเป็น Darth Vader, Chewbacca, R2-D2 และ C-3PO “ผมแค่ทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบรรยายสิ่งที่หนังควรจะเป็นตามความคิดของผม ตอนนั้นผมไม่คิดหรอกว่าหนังจะได้สร้าง เพราะมันจะต้องใช้ทุนสร้างที่สูงมากๆ และเนื้อเรื่องก็ซับซ้อนเกินไปสำหรับผู้ชม แต่ George เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก เขารู้ทุกอย่างที่ผมไม่รู้” จินตนาการของ George และการออกแบบของ McQuarrie จุดกำเนิดของสงครามอวกาศที่อันยาวนาน . George จะเป็นคนตรวจสอบภาพร่างทั้งหมดว่าตรงตามจินตนาการของเขาหรือไม่…
-
15 ภาพฮาๆ ของเหล่าบุคคนผู้โชคดี ได้พ่อแม่เป็น ‘คนตลก’ ชีวิตก็เลยมีแต่เรื่องสนุกๆ แบบนี้!!
อารมขันนั้นถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์เราทุกๆ คน และแน่นอนว่านอกจากรายการตลกแล้ว บางครั้งคุณอาจจะพบกับเรื่องราวฮาๆ ได้ที่บ้าน ซึ่งดาราตลกที่ว่านั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย นั่นก็คือพ่อแม่ของเรานั่นเอง และบางครั้งมุกของคุณพ่อคุณแม่นั้นก็ทำให้เราอมยิ้มได้บ่อยๆ หรือบางทีก็อาจจะฮาแตกแบบนี้… 1. งานที่โรงเรียนลูกเป็นอย่างไรบ้าง?? สนุกมากเลยจ่ะที่รัก 2. นี่คือของขวัญวันเกิดสำหรับลูกๆ ที่ชอบจิ๊กซอว์ อืม… แค่ชอบไม่ได้นะ อันนี้คงต้องถึงขั้นมือโปรเลยทีเดียว!! 3. ม่ะ เดี๋ยวป๊ะป๋าเล่นเป็นเพื่อน ไม่เอ๊า!! ฮืออออ 4. วันนี้หนูขอกินน้ำส้มได้ไหมค๊ะ!? ได้เลยจ่ะลูกรัก… 5. ภาพคู่ครั้งแรกและครั้งเดียวของคุณพ่อนักตกปลา และลูกชายของเขา เพราะครั้งหน้าภรรยาอาจจะไม่ยอม ตึ่งโป๊ะ!! 6. พ่อคะมีใครอาบน้ำหรือเปล่า ไม่มีจ้าอาบเลย อุ๊ย!! ผีหลอกกก 7. คุณพ่อชาวรัสเซีย และลูกชายตัวน้อยของเขา คงได้ถ่ายเป็นภาพแรกและภาพสุดท้ายเหมือนเดิม!! 8. ออกไปฮาโลวีนกันจ่ะที่รัก!! ได้เลยย แฮกๆ 9. วิธีหลอกลูกน้อยให้กินยาแบบง่ายๆ…
-
นิสิตหนุ่มเดือดถามอาจารย์ “ทำไมถึงให้ F” ตัดพ้อแค่นี้ก็ปัดให้ไม่ได้ อีกแค่ 1.2 คะแนนเอง!?
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์บนโลกอินเตอร์เน็ตอย่างรุนแรง หลังจากที่อาจารย์ท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพข้อความจากนิสิตท่านหนึ่งที่ถามเข้ามาถึงผลคะแนนของตัวเอง คุณ Piyapong Pukan Walker ได้โพสต์ภาพของข้อความจากนิสิตที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับคะแนนของตัวเอง แต่หลังจากที่พูดคุยไปได้ไม่นานดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของนิสิตท่านนี้จะไม่ได้ต้องการความกระจ่างของคะแนนเท่านั้น “ถือว่าขอร้องนะครับนิสิตทุกคน อย่าทำอีกเลยครับ #แล้วเราต้องทำตัวยังไงกับเรื่องแบบนี้” ข้อความจากเฟซบุ๊กของอาจารย์ โดยหลังจากที่นิสิตคนดังกล่าวได้รัลผลการเรียนในวิชาดังกล่าวในลำดับขั้น F นิสิตท่านนี้ก็ได้ส่งข้อความส่วนตัวมายังเฟซบุ๊กของอาจารย์ “ทำไมถึง F ครับ” นิสิตถาม อาจารย์ท่านดังกล่าวได้ตอบข้อสงสัยของเขาไปว่าเพราะคะแนนไม่ถึง 50 เลยได้ F แต่นิสิตท่านนั้นยังไม่คลายข้อสงสัยเขาจึงได้ถามอีกว่าจริงๆ แล้วเขาได้เท่าไหร่ “ขาด 1.2 คะแนน ก็ไม่ปัดให้” นิสิตหนุ่มกล่าว แต่ทางด้านอาจารย์ก็ได้ชี้แจงไปว่าอันที่จริงแล้วการที่นิสิตติด F นั้นไม่ใช่ความผิดของผู้สอนแต่อย่างใด และตัวเขาเองน่าจะตั้งใจให้มากกว่านี้ และหลังจากที่ถูกตักเตือนไป นิสิตก็ดูเหมือนจะเกิดอาการไม่พอใจ จนในที่สุดอาจารย์ท่านดังกล่าวจึงได้ถามกลับไปว่าจริงๆ แล้วตัวนิสิตเองนั้นต้องการอะไรกันแน่ และแล้วนี่คือคำตอบที่ได้!! แน่นอนว่าการขอเกรดนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และงานนี้ทางอาจารย์ก็เลยอธิบายกับนิสิตกลับไปว่า… สรุป 5 ข้อจากอาจารย์คนดังกล่าว ที่เป็นแง่คิดดีๆ ให้กับทั้งอาจารย์คนอื่นๆ และนักเรียนนักศึกษาทุกคน 1. มีการแจ้งชัดเจนทางเฟสบุ๊กของภาควิชาแล้วว่า จะไม่มีการมาขอเกรด 2. การแก้เกรดนิสิต 1 คน…
-
ลูกค้าถึงกับงง นั่ง Uber ประมาณ 20 นาที โดนเก็บค่าโดยสารไปกว่า 460,000 บาท!?
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มแคนาดาผู้หนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์ราคาแพงของเขา หลังจากที่ถูกคิดค่าโดยสารของบริการรถแท็กซี่จาก Uber เป็นเงินกว่า 18,518.50 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 460,000 บาท!! คุณ Hisham Salama เล่าประสบการณ์ของเขาผ่านทางทวิตเตอร์โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้ใช้บริการดังกล่าว เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลในเมืองโทรอนโต แต่เมื่อมาถึงที่หมายเขากลับถูกคิดค่าบริการเป็นจำนวนเงินมากกว่าครึ่งล้านบาท!! เจอเก็บค่าบริการแบบนี้ แบงค์ 20 ในกระเป๋าถึงกับสั่น!! จำนวนเงินดังกล่าวถูกแจ้งเป็นยอดที่ค้างไว้ในบัตรเครดิตของเขา “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนั่งรถแค่ 20 นาทีผมถึงต้องเสียเงินกว่า 18,518.50 เหรียญ” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อของแคนาดา แต่ถึงแม้จะรู้สึกขำๆ เพราะคิดว่ามันจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นๆ เพราะเขาได้รับข้อความยืนยันจาก Uber ว่าค่าโดยสารดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว “เราได้ยืนยันแล้วว่าจุดเริ่มต้นที่คุณเลือกและปลายที่ทางเลือกนั้นถูกต้องแล้ว กรุณาบอกเราถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ส่วนท้ายของข้อความจาก Uber ถึงคุณ Hisham Salama แบบนี้ก็ยิ่งงงกว่าเดิมสิครับ ในเมื่อระบบช่วยเหลืออัตโนมัติไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณ Hisham Salama ได้ งานนนี้ชายหนุ่มเลยต้องเพิ่งพาพลังแห่งโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นกันต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนนี้ที่เอามือทาบอกพร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวนะ!! นี่เรื่องจริงหรือ??” ส่วนบางคนก็บอกว่าสงสัยเงินดอลล่าห์ของแคนาดาจะไม่เท่ากับของอเมริกาซะละมั้ง??…
-
นักฟุตบอลสาวทีมชาติอิหร่านถูกแบนและประกาศจับ หลังจากไม่สวม ‘ฮิญาบ’ ขณะเล่นฟุตบอล
นักฟุตบอลสาวทีมชาติอิหร่านจำเป็นต้องลี้ภัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเธอกำลังถูกดำเนินคดีและจับกุมตัว หลังปรากฎภาพของเธอระหว่างเล่นฟุตบอลโดยไม่สวมฮิญาบและใส่กางเกงขาสั้น Shiva Amini นักฟุตบอลสาววัย 28 ปี ถูกทางสมาคมฟุตบอลของประเทศอิหร่านตั้งข้อหาดังกล่าว ในระหว่างที่เธอกำลังพักผ่อนส่วนตัวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยกฎการสวมผ้าคลุมศีรษะสำหรับสาวอิสลามนั้นถูกบังคับใช้ในอิหร่านหลังจากที่เกิดการปฏิวัติเมื่อปี 1979 นักฟุตบอลสาวคนดังกล่าวถูกสั่งแบนจากทีมชาติ และขณะนี้กำลังลี้ภัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เธอได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่สามารถที่จะกลับประเทศบ้านเกิดได้แล้ว เนื่องจากเธอกลัวที่จะถูกจับกุม “ฉันไม่สามารถกลับไปที่อิหร่านได้แล้ว ฉันจะถูกจับทันทีเมื่อถึงสนามบิน และจากนั้นก็จะถูกส่งตัวเข้าคุก” หญิงสาวกล่าว ภาพของเธอที่ถูกทางสมาคมฟุตบอลของประเทศตั้งข้อหา อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถเปิดเผยที่อยู่ของตัวเองในสวิตเซอร์แลนด์ได้ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย แต่ทางการอิหร่านก็ได้ทำการติดต่อกับทางครอบครัวของเธอเพื่อสืบหาที่อยู่ของนักฟุตบอลหญิง Amini อธิบายว่าเธอถูกตั้งข้อหาดังกล่าวหลังจากที่อัพภาพของตัวเองระหว่างเล่นฟุตบอลลงสื่อโซเชียลมีเดีย เธอได้พูดคุยกับคนของสมาคมและเพื่อนๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ซึ่งบางคนก็เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ แต่ขณะที่บางคนบอกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นเป็นการต่อต้านรัฐอิสลาม “เจ้าหน้าที่ระดับสูงบอกกับฉันว่าภาพดังกล่าวนั้นมันค่อนข้างชัดเจนว่าฉันทำงานให้กับพวกกลุ่มฝ่ายค้าน และต่อต้านรัฐบาล” หญิงสาวกล่าว นักฟุตบอลสาวเริ่มกังวลในความปลอดภัยของเธอ หลังจากที่สื่อต่างๆ เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ Voice of America ได้รายงานเรื่องของเธอในภาษาเปอร์เซีย ในทุกๆ เช้า Amini จะออกไปวิ่งและใช้เวลาเล่นฟุตบอลกับผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ เธอยังหวังจะได้กลับไปเล่นฟุตบอลอาชีพและตามหาความท้าทายในฐานะนักกีฬาอาชีพอีกครั้ง นอกจากนี้เธอยังได้พูดถึงกฎการสวมฮิญาบอีกว่ามันไม่ควรที่จะเป็นประเด็นสำคัญสำหรับนักกีฬาหญิง และเธอเองก็เสียใจมากที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมชาติเพียงเพราะสาเหตุดังกล่าว “ฉันได้รับจดหมายจากสมาคมฟุตบอลเกี่ยวกับเรื่องสวมฮิญาบ และไม่เพียงแค่นั้นพวกเขายังบอกว่าฉันเล่นฟุตบอลกับพวกเด็กๆ ผู้ชายอีกด้วย ดังนั้นฉันจึงถูกตัดสิทธิ์จากทีมชาติ” นอกจากจะเสียใจที่ถูกตัดสิทธิ์จากทีมชาติแล้ว…
-
อดีตพนักงานร้านอินเตอร์เน็ตญี่ปุ่น เผย 5 เรื่องสุดแย่ของเหล่าผู้ใช้บริการ ที่พวกเขาพบเจอ…
ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้การเข้าถึงโลกอินเตอร์เน็ตนั้นไม่ใช่เรื่องยากเหมือนกับเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่ทว่าในประเทศที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ยังคงมีการเปิดให้บริการของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ ในประเทศญี่ปุ่นร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นเป็นมากกว่าแหล่งบริการอินเตอร์เน็ตธรรมดาๆ เพราะที่นี่เปรียบเหมือนกับศูนย์รวมความบันเทิงขนาดย่อม ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังแบบฟรี การอ่านการ์ตูนคอลเลคชั่นพิเศษ บริการเครื่องดื่มซอฟดริ๊งค์ รวมถึงเป็นห้องพักราคาถูกสำหรับบางคนที่พลาดรถไฟรอบสุดท้ายอีกด้วย แต่ทว่าภายในล็อกสี่เหลี่ยมเล็กๆ กับเครื่องคอมพิวเตอร์นี้ก็มักจะมีเหตุการณ์แปลกๆ จากเหล่าลูกค้าเกิดขึ้นบ่อยๆ และเมื่อไม่นานมานี้สื่อของประเทศญี่ปุ่นเองได้ทำการสัมภาษณ์อดีตพนักงานในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อแฝงว่า T-san เขาได้ออกมาเปิดเผย 5 ประเภทลูกค้าสุดป่วนในร้านอินเตอร์เน็ตที่เหล่าพนักงานเคยพบเจอมากับตัวเอง… 1. ลูกค้าที่ทำเหมือนกับร้านเป็นบ้านของตัวเอง ถึงแม้ว่าร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในญี่ปุ่นนั้นจะมีบริการเครื่องดื่มและอาหารฟรีๆ หรืออนุญาติให้ลูกค้านำอาหารเข้ามากินในร้านได้ แต่ก็ยังคงมีลูกค้าบางคนที่มักจะทิ้งเศษอาหารเหล่านั้นไม่เป็นที่เป็นทาง หรือกองไว้ที่โต๊ะ และมักจะชอบสร้างความสกปรกในร้าน 2. พวกที่ชอบมาพร้อมกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างที่บอกไปตอนแรก ที่นี่อาจจะกลายเป็นโรงแรมชั่วคราวสำหรับคนที่พลาดรถไฟเที่ยวสุดท้าย แต่สำหรับบางคนร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นแทบไม่ต่างอะไรกับโรงแรมเลยทีเดียว “ทางร้านก็มีบริการฝักบัวด้วย แต่ดูเหมือนว่าลูกค้าประเภทนี้จะไม่ค่อนสนใจฝักบัวที่มีไว้บริการเท่าไหร่ และมักปล่อยกลิ่นตัวให้อบอวลอยู่ในร้าน” คุณ T-san กล่าว 3. ลูกค้าที่ชอบใช้ทิชชูเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าทิชชูนั้นมีไว้สำหรับเช็ดคราบสกปรกต่างๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่กองกระดาษทิชชูนั้นวางอยู่มี่หน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นเราแทบจะไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันถูกใช้ไปด้วยการใด คุณ T-san ให้สัมภาษณ์ว่า “การใช้ทิชชูในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่นั้นถือเป็นปัญหาหลักเลย ผมไม่รู้หรอกนะว่าการโตกในร้านเน็ตคาเฟ่นั้นถูกกฎหมายหรือไม่ แต่พวกคุณช่วยเก็บมันไปทิ้งด้วยเถอะ” 4. ลูกค้าแบบคู่รัก นอกจากบริการที่นั่งแบบเดี่ยวแล้ว ในร้านอินเตอร์เน็ตก็ยังมีบริการที่นั่งแบบคู่อีกด้วย และแน่นอนว่ามันโซฟาแบบนั้นก็มักจะถูกนำไปใช้ในจุดประสงค์อย่างอื่น “ในร้านเน็ตคาเฟ่ที่ผมทำงาน…
-
Lee Mina นักฟุตบอลหญิงทีมชาติเกาหลีใต้ กองกลางตัวรุกที่จะมาพังประตูหนุ่มๆ !!
ถ้าหากพูดถึงสาวๆ ในทวีปเอเชียที่เป็นขวัญในหนุ่มไทยเราแล้ว นอกจากประเทศญี่ปุ่นนั้น เชื่อแน่ว่าสาวๆ จากเกาหลีใต้เองก็คงจะติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของหนุ่มชาวไทยเราแน่ แต่ถ้าหากพูดถึงสาวสวยเกาหลีใต้แล้ว หลายคนอาจจะนึกถึงเหล่านักร้องสาวเกิร์ลกรุ๊ป หรือนางเอกจากซีรีย์ดังๆ กันใช่ไหมล่ะ แต่นอกจาก 2 วงการที่ว่านี้นักกีฬาสาวชาวเกาหลีเองก็สวยใสไม่น้อยหน้าเหมือนกันนะเออ และวันนี้เราจะขอพาหนุ่มไทยวัยกลัดมันทุกท่านไปพบกับ Lee Mina นักบอลหญิงจากทีมชาติเกาหลีใต้ ที่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ฝีเท้าเท่านั้น อืม…(ยิ้มมุมปาก) ยอมแล้วจ้าาา!! แต่ก่อนที่จะไปฟินๆ กับภาพของเธอ เรามารู้จักประวัติส่วนตัวนักฟุตบอลหญิงรายนี้กันก่อนเลยดีกว่า ประวัติของสาว Lee Mina เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปี 1991 เป็นผู้เล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุก ด้วยส่วนสูง 158 เซนติเมตร เธอติดธงรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้ครั้งแรกในการแข่งขัน FIFA U-17 Women’s World Cup 2008 ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ปัจจุบันเธอรับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้ไปแล้วถึง 30 เกมและยิงประตูไปมากกว่า 5 ประตู . อ่า… และก็ถึงเวลาที่หนุ่มๆ รอคอย เราไปชมภาพของกองกลางจากทีมฟุตบอลหญิงเกาหลีใต้รายนี้พร้อมๆ กันเลย . อืม… บุคลิกดี…
-
เจ้ากระรอกน้อย ยังคงกลับมาหาครอบครัวผู้ช่วยชีวิตมันทุกๆ วัน แม้ผ่านมาแล้วกว่า 7 ปี
เจ้า Bella กระรอกน้อยที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ถูกช่วยเหลือจนมันสามารถกลับมามีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง… ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่มันอายุได้เพียงแค่ 4 สัปดาห์ เจ้ากระรอกถูกนกฮูกทำร้ายและมันกำลังนอนบาดเจ็บเพื่อรอความตาย แต่ทว่าเจ้าหน้าพิทักษ์สัตว์ป่าคุณ Brantley Harrison บังเอิญพบมันเข้าเสียก่อนเจ้ากระรอกน้อยผู้โชคร้ายจึงสามารถมีชีวิตรอดได้ เหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนตุลาคมปี 2009 ในตอนนั้นมันต้องพักรักษาตัวอยู่กับคุณ Brantley และครอบครัวของเธอเป็นเวลาหลายเดือน จนกระทั่งมันแข็งแรงพอที่จะออกไปด้านนอกได้ และนอกจาก Bella แล้ว หญิงสาวยังได้ช่วยเหลือเพื่อนๆ อีก 3 ตัวของมันด้วยกันนั่นก็คือเจ้า Larry, Moe และ Curly กระรอกน้อยทั้ง 4 ได้รับการดูแลอย่างดี เธอปล่อยให้พวกมันหากินตามธรรมชาติรอบๆ บ้านซึ่งเต็มไปด้วยผลไม้และของโปรของเหล่ากระรอก Bella เป็นที่รักใคร่ของคนในครอบครัวมาก และเมื่อมันแข็งแรง พวกเขาก็ได้พามันกลับสู่ผืนป่าที่มันจากมา “มันเหมือนกระรอกตัวอื่นๆ ที่ฉันเคยดูแลมา พวกเราไม่ได้ดูแลมันเหมือนสัตว์เลี้ยง ความตั้งใจของพวกเราคือการดูแลมันให้แข็งแรงเพื่อพร้อมที่จะกลับสู่ป่าอีกครั้ง” คุณ Brantley กล่าว เจ้ากระรอกทั้งสี่กลับสู่ป่าด้วยความดีใจ พวกมันต่างวิ่งขึ้นต้นไม้และเริ่มสำรวจในพื้นที่ต่างๆ อย่างตื่นเต้น แต่ในขณะที่ตัวอื่นๆ พร้อมที่จะออกไปสู่โลกกว้างแล้ว แต่ดูเหมือนเจ้า Bella จะมีปัญหานิดหน่อย “Bella กลับมาที่บ้านพวกเราอีกครั้งถึงสองครั้งหลังจากที่ถูกปล่อยตัวไป ซึ่งกระรอกตัวอื่นๆ ก็กลับมาเช่นกัน แต่โดยปกติแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ให้หลังพวกมันก็ไม่โผล่มาหาคุณอีก…
-
อุทาหรณ์สอนใจพ่อแม่ คลิปพี่เลี้ยงทุบตีเด็กน้อย หลังเพิ่งโบกมือบ๊ายบายคุณแม่ ไม่ถึง 1 นาที!!!
คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในลิฟต์จากประเทศจีน เผยให้เห็นความโหดร้ายของพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งที่ลงมือทำร้ายร่างกายเจ้าหนูน้อยอย่างรุนแรง หลังจากที่แยกจากแม่ของเด็กไม่ถึงนาที!! เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวพี่เลี้ยงเด็กวัย 42 ปี หลังจากที่คลิปวิดีโอในลิฟต์ได้เผยให้เห็นหลักฐานชิ้นสำคัญในระหว่างที่เธอกำลังทำร้ายเด็กน้อยด้วยการทุบหน้าอกและศีรษะอย่างรุนแรง เพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องไห้ จากการรายงานของสื่อต่างประเทศระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน พี่เลี้ยงเด็กคนดังกล่าวทราบชื่อภายหลังคือนาง Li ได้ทำร้ายเจ้าหนูน้อยเมื่อเวลา 5 โมงเย็นของวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา (แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเพศของเด็กคนดังกล่าว) ภายในคลิปวิดีโอได้เผยให้เห็นการกระทำอันโหดร้ายของนาง Li ในตอนแรกเธอได้ใช้ฝ่ามือทุบไปที่ท้องของเด็กหลายครั้งเพื่อให้เจ้าหนูหยุดร้องได้ แต่นั่นไม่เพียงพอ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะยังไม่เงียบ เธอจึงได้ใช้ฝ่ามือตบไปที่ท้ายทอยของเด็กอย่างรุนแรงอีกหลายครั้ง และจากนั้นก็เขย่ารถเข็นเด็กอย่างแรง ก่อนที่จะออกจากลิฟต์ไป คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกอินเตอร์เน็ต และชาวเน็ตจำนวนมากก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของหญิงคนดังกล่าว “เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา และทุกที่ การนำแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและการนำเสนอผ่านสื่อเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำ” หนี่งในความคิดเห็นจากชาวเน็ตใน Weibo และนี่คือสิ่งที่พี่เลี้ยงเด็กคนนี้กระทำต่อเจ้าหนูน้อยคนนี้ (คำเตือน: อาจมีภาพและเนื้อหาที่รุนแรง) ที่มา nextshark
-
หญิงสาวร่ำไห้กลางศาล ระหว่างไต่สวนอดีตแฟนหนุ่ม ที่บังคับให้เธอเดินเปลือยกลางเมือง
การหึงหวงนั้นอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ยังแสดงให้เห็นว่าคนรักของคุณนั้นยังคงแคร์และใส่ใจคุณอยู่ แต่บางครั้งความหึงหวงที่เกินกว่าเหตุก็อาจจะนำมาสู่ความรุนแรงและทำร้ายคนรักของคุณได้เช่นกัน คณะลูกขุนต้องอึ้งกันทันทีหลังจากที่ได้เห็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้เดินเปลือยกายทามกลางอากาศหนาวของเมืองนิวยอร์ก หลังจากที่แฟนหนุ่มของเธอจับได้ว่าเธอแอบส่งข้อความหาชายอื่น “เขาบีบคอฉัน และทรมานฉัน ในตอนนั้นฉันแทบจะหมดลมหายใจทีเดียว” หญิงสาววัย 25 ปีให้การกับศาล หลังจากที่เธอถูก Jason Melo แฟนหนุ่มทรมานนานกว่า 2 ชั่วโมงก่อนที่จะบังคับเธอออกมาด้านนอกพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียวท่ามกลางอากาศหนาว และอัดคลิปวิดีโอประจานเธอ นอกจากนี้หนุ่มวัย 26 ปียังถูกกล่าวหาอีกว่าเขาพยายามจะขว้างรูปปั้นพระพุทธรูปใส่เธอ ในขณะที่ลูกสาวตัวน้อยของพวกเขานอนห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอที่ชายหนุ่มถ่ายประจารแฟนสาวของเขา คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในอินสตราแกรมและ LiveLeak ก่อนที่จะถูกนำมาฉายให้คณะลูกขุนในชั้นศาลเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นถึงคำด่าทอของชายหนุ่มที่พูดกับแฟนสาวของเขาอย่างรุนแรง “ถอดผ้าขนหนูของเธอออก แล้วเดินไปเธอมันคือนางแพศยา หันมาสวัสดีกล้องแล้วบอกสิ ว่าทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้” “ถอดผ้าเช็ดตัวออกเพื่อตอบแทนกับความละอายใจที่เธอทำกับฉัน ฉันบอกว่าเธอคือผู้หญิงที่ดีที่สุดและอยากจะมีครอบครัวกับเธอ แต่เธอกลับแอบคุยกับผู้ชายมากกว่า 7 คน” คำพูดของชายหนุ่มภายในคลิปวิดีโอ หลังจากนั้นหญิงสาวก็หันมาตอบว่า “แต่ฉันไม่ได้มีเซ็กส์กับพวกเขานะ” นาย Jason ดึงผ้าขนหนูของแฟนสาวออก และปล่อยให้เธอเปลือยกายอยู่บนถนน ก่อนที่หญิงสาวจะพยายามเอามือปิดร่างกายของเธอ และเข้าไปหลบบริเวณที่จอดรถใกล้ๆ หลังจากถูกจับกุมตัว ชายหนุ่มให้การว่าเขาไม่ได้ทำร้ายร่างกายเธอแต่อย่างใด และตอนนั้นคนอื่นๆ ก็เห็นว่าเธอมีความสุขดี “นักโทษคนอื่นๆ ยังบอกผมเลยว่าบางคนทำสิ่งที่เลวร้ายกว่าผมอีก”…
-
โลกอนาคตมาถึงแล้ว!! 15 ภาพการทำงานของเทคโนโลยี ที่จะทำให้คุณต้องตะลึง ตึงตึง!!
การทำงานของเหล่าเครื่องจักร และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ นั้นมักจะทำให้เราต้องอึ้งอยู่บ่อยครั้ง และบางทีคุณอาจจะต้องอุทานออกมาว่า โอ้พระพุทธเจ้าเลยทีเดียว!! และวันนี้เราก็มีภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ ในการทำงานของเหล่าเครื่องจักรที่ว่านั้นมาฝากกัน ซึ่งขอบอกไว้ก่อนเลยว่าแต่ละอันนั้นจะทำให้คุณตะลึง ตะลึง ตะลึง ตึง ตึง แน่นอน!! 1. แม่เหล็กจิ๋ว Micromotor ที่เอาไว้ช่วยให้เจ้าอสุจิพบกับทางสว่างได้ง่ายๆ 2. หากคุณรู้สึกว่ามดอ้วนไป ก็ต้องใช้ลู่วิ่งของเจ้ามด 3. แปรงทำความสะอาดเจ้าวัวแบบหมุน 4. เครื่องดูดผ้าม่านเพื่อเปิดการแสดง!! 5. เครื่องหมุนน๊อตแบบยืดหยุ่น 6. ต่อไปนี้การปอกแตงโม จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!! 7. รางรถไฟ ที่ไม่มีวันสิ้นสุด!! ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง 8. การสร้างทางด่วนยกระดับแบบโลกอนาคต ง่ายๆ และรวดเร็ว 9. เครื่องพับจรวดกระดาษ สิ่งประดิษฐ์ที่จะทำให้ชีวิตเด็กหลังห้องง่ายขึ้น!! 10. โต๊ะสนุ๊กที่ช่วยรักษาระดับในระหว่างการเล่นบนเรือสำราญ 11.…
-
ไม่มีเงินสดไม่เป็นไร เพราะที่นี่คือไชน่า ดินแดนที่มาพร้อมกับการบริจาคเงินผ่าน ‘QR Code’
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่ชอบทำบุญทำทานล่ะก็ บริการที่เรานำมาฝากต่อไปนี้อาจจะตอบสนองเหล่าอนาถบิณฑิกเศรษฐีผู้ใจบุญที่ไม่มีเศษเงินได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว!! เพราะที่ประเทศจีนคุณสามารถบริจาคเงินให้กับเหล่าขอทานผ่านการแสกน QR Code ได้แล้ว สื่อท้องถิ่นของจีนได้รายงานเรื่องราวของเหล่าขอทานยุค 4.0 จากมณฑลซานตง ที่กำลังนั่งขอทานอยู่ในย่านท่องเที่ยวและป้ายรับเงินบริจาคจากทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น Wechat Wallet, Alipay หรือแอพต่างๆ ที่สามารถจ่ายเงินผ่าน QR Code ได้ ชายขอทานคนหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถ้องถิ่นว่า อันที่จริงแล้วตัวเขาเองนั้นไม่ได้เป็นคนที่ QR Code นี้ขึ้นมาเอง แต่ทางครอบครัวและลูกๆ เป็นคนจัดการให้ แต่ดูเหมือนว่าการจ่ายเงินผ่าน QR Code นั้นจะมีอะไรที่นอกเหนือจากการบริจาคเงินธรรมดาๆ แต่ทางบริษัทด้านการตลาดดิจิตอลอย่าง China Channel ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าขอทานชาวจีนนั้นได้รับเงินจากบริษัทในท้องถิ่นให้ติด QR Code ดังกล่าว และหลังจากที่ลูกค้าบริจาคเงินให้ขอทานผ่าน QR Code ทางบริษัทก็จะทำการเก็บข้อมูล และจำหน่ายให้กับบริษัทอื่นๆ เพื่อใช้ในการปล่อยโฆษณาสินค้าให้กับลูกค้า โดยเหล่าขอทานนั้นจะได้ค่าจ้างจากการสแกน QR Code ของลูกค้าประมาณ 0.7 ถึง 1.5 หยวนต่อครั้ง (ประมาณ 3.5 ถึง…
-
Sia ทวีตโต้ หลังจากถูกสื่อตั้งคำถาม การใช้แดนเซอร์เด็กไม่ถือเป็นการทารุณกรรมหรือ
ถ้าหากใครที่เป็นแฟนๆ บันเทิงต่างประเทศคงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับนักร้องสาวผมปิดหน้าอย่าง Sia กันเป็นอย่างดี และถ้าหากสังเกตดีๆ พักหลังๆ มานี้ในมิวสิควิดีโอหรือการแสดงสดของเธอนั้นก็มักจะปรากฏภาพของสาวน้อยนักเต้นวัย 15 ปีอย่าง Maddie Ziegler ให้เราได้เห็นหน้าค่าตากันอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศเองก็ได้ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้เด็กเป็นสิ่งแทนตัวเองของเธอ โดยสื่อดังกล่าวได้ตั้งคำถามว่า “ความสับสนของ Sia ถ้าหากชื่อเสียงเป็นสิ่งที่อันตราย ทำไมต้องสื่อออกมาผ่านเด็ก” แน่นอนว่างานนี้ขุ่นแม่ Sia ของเราก็ได้ออกมาตอบคำถามดังกล่าว ซึ่งเธอเองก็ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวว่า เธอเองก็ได้ทำการสอบถามเด็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่เป็นประจำว่าเธอยังคงอยากที่จะทำการแสดงอยู่หรือไม่ และเธอเองก็ยังได้ปรึกษาเรื่องราวดังกล่าวกับทางพ่อแม่ของเด็กและผู้จัดการส่วนตัวของหนูน้อยอยู่บ่อยๆ อีกด้วย “Maddie มีชื่อเสียงอย่างมากตอนที่ฉันพบเธอ ฉันได้เตรียมที่จะรับผิดชอบเมื่อนำเธอเข้ามาแสดง และเป้าหมายของฉันก็คือให้อำนาจเธอในการตัดสินใจกับสิ่งที่เธอเลือก” ข้อความบางส่วนจากทวิตเตอร์ของนักร้องสาว ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะโต้เถียงว่าเด็กวัยรุ่นนั้นอาจจะไม่มีวุฒิภาพวะพอในการเลือก แต่นักร้องสาวก็บอกว่า เธอเองพยายามที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็กน้อย และคอยพูดคุยกับเธออยู่เสมอๆ Sia และสาวน้อย Maddie Ziegler นอกจากนี้ Sia ยังได้กล่าวผ่านทวิตเตอร์ของเธอเพิ่มเติมอีกว่า “สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับ Maddie นั่นก็คือชื่อเสียงที่เกิดขึ้นนั้นมันส่งผลต่อเธอแตกต่างไปจากฉัน ฉันเชื่อทุกอย่างที่เธอพูด และเมื่อไหร่ก็ตามที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป เราจะหยุดทันที” โดยประเด็นที่ทำให้สื่อออกมาตั้งคำถามดังกล่าวนั้นก็คือ เมื่อปี 2013 นักร้องสาวของเราได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อบันเทิงว่าตัวเธอเองนั้นไม่อยากที่จะมีชื่อเสียง…
-
โลมาหลังค่อมที่มีพฤติกรรม “แอ๊วสาว” เหมือนมนุษย์ นักวิทย์ฯ สงสัยนี่แกจีบหรือข่มขู่กันแน่??
อย่างที่เรารู้กันดีว่าพวกลิงนั้นเป็นสัตว์ที่ฉลาด และมีพฤติกรรมคล้ายมนุษย์ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่นอกจากพวกลิงแล้วสัตว์อย่างโลมาสายพันธุ์หลังค่อมเองก็มีพฤติกรรมคล้ายๆ กับพวกเราด้วยเช่นกัน จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย University of Western Australia พบว่าพวกโลมาสายพันธุ์นี้มีพฤติกรรมการแอ๊วสาวคล้ายกับมนุษย์เราอย่างมาก โดยพวกมันนั้นมักจะมีสิ่งของต่างๆ ที่นำไปมอบให้กับตัวเมียเพื่อสร้างความสัมพันธ์รักนั่นเอง จากการเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเจ้าโลมาสายพันธุ์นี้มาเป็นเวลากว่า 7 ปี ทีมวิจัยพบว่าพวกมันมักจะนำฟองน้ำทะเลสีสันสดใสวางไว้บนหัวของตัวเอง ก่อนที่จะนำไปให้กับโลมาเพศเมีย ซึ่งทีมวิจัยพบพฤติกรรมดังกล่าวในสถานที่ต่างกันมากถึง 5 ครั้งเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าบางครั้งเหล่าโลมาตัวเมียนั้นจะไม่สนใจของขวัญที่หนุ่มๆ เอามาฝากเลย “เรามักจะเห็นฝ่ายโลมาเพศเมียไม่ค่อยสนใจของขวัญเหล่านั้น และบางครั้งตัวผู้ก็จะโยนฟองน้ำทะเลเหล่านั้นในพวกตัวเมีย” คุณ Simon Allen นักชีวะวิทยาผู้ทำการศึกษาพฤติกรรมของโลมาลายพันธุ์นี้กล่าว ถึงแม้ว่าการมอบฟองน้ำทะเลนี้จะดูเหมือนการเกี้ยวพาราสี แต่นักวิทยาศาสตร์กลับมองว่ามันหนักไปทางพฤติกรรมข่มขู่มากกว่า “เราสามารถอธิบายพฤติกรรมนี้ได้หลายแบบ มันดูเหมือนกับเป็นของขวัญที่ผ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิงเพื่อต้องการผูกมิตร หรืออาจเป็นรูปแบบของการข่มขู่เพื่อให้เธอยอมผสมพันธุ์กับเขาก็ได้” คุณ Allen กล่าว ส่วนทางด้าน Naomi Rose นักชีวะวิทยาที่ทำงานร่วมกับ Animal Welfare Institute ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพฤติกรรมการเข้าสังคมแบบนี้เป็นเรื่องปรกติในพวกสัตว์ นอกจากนี้คุณ Allen ยังได้กล่าวอีกว่าอันที่จริงแล้วยังมีปลาโลมาสายพันธุ์อื่นที่มีการเข้าสังคมโดยการมอบกิ่งไม้หรือหินในท้องทะเลให้กับเพศเมีย แต่มีเฉพาะโลมาหลังค่อมเท่านั้นที่จะมอบฟองน้ำทะเลให้แก่กัน แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางทีมวิจัยกำกลังศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าวว่าโลมาที่นำฟองน้ำทะเลมอบให้แก่กันนั้นมีโอกาสที่จะผสมพันธุ์มากกว่าตัวอื่นๆ หรือไม่ ไปชมพฤติกรรมการมอบฟองน้ำทะเลให้กับสาวของเจ้าโลมาหลังค่อมกันได้เลย ที่มา thedodo
-
ทำไมบริษัทขายยางรถยนต์ “มิชลิน” ต้องมาทำไกด์รีวิวอาหาร “มิชลินสตาร์” ด้วยล่ะ!?
ถ้าหากพูดถึงบริษัท มิชลิน สิ่งหนึ่งที่จะผุดขึ้นมาในหัวของพวกเราเลยนั่นก็คือตุ๊กตาสีขาวหน้ารถ 10 ล้อ เฮ๊ยย!! ไม่ใช่บริษัทผลิตยางระดับโลกต่างหากล่ะ แต่ทว่าถ้าหากคุณเป็นแฟนของหนังเรื่อง Burnt หรือชื่นชอบเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารล่ะก็ อาจจะคุ้นเคยกับหนังสือมิชลินไกด์ บุ๊ก กันเป็นอย่างดี และแน่นอนว่าชื่อที่เหมือนกันซะขนาดนี้คงไม่ใช่ความบังเอิญแน่ๆ แต่บริษัทมิชลิน และมิชลินไกด์ บุ๊ก และเรื่องยางกับอาหารนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร วันนี้ #เหมียวเวจจี้ จะพาทุกคนไปหาคำตอบเอง จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อันยาวนาน อย่างที่เราทราบกันดีว่ามิชลินนั้นคือชื่อของบริษัทผลิตยักษ์ใหญ่ของโลกสัญชาติฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1889 โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทางมิชลินนั้นหันมาสนใจเกี่ยวกับการทำหนังสือไกด์บุ๊กแนะนำอาหารนั่นก็คือในช่วงปี 1900 ทางบริษัทผู้ผลิตมีนโยบายที่ต้องการเพิ่มปริมาณการจำหน่ายยาง จึงเลือกที่จะใช้ตัวไกด์บุ๊กเป็นสิ่งที่แนะนำให้ลูกค้าอยากที่จะขับรถออกไปนอกบ้าน มิชลินไกด์บุ๊กเล่มแรกถูกตีพิมพ์ออกมาทั้งสิน 35,000 ฉบับ โดยภายในหน้ากระดาษกว่า 400 หน้าอัดแน่นไปด้วยข้อมูลต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นการแนะนำการเปลี่ยนยาง สถานที่ตั้งจุดบริการน้ำมัน โรงแรมที่พักรวมถึงร้านอาหาร และแจกให้กับผู้ขับขี่รถยนต์ฟรีๆ แน่นอนว่านี่อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่ในสมัยที่ทั่วฝรั่งเศสมีรถยนต์เพียงแค่ 3,000 คัน นี่ก็ถือเป็นแผนการกระตุ้นการใช้รถยนต์ได้ดีทีเดียว และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานหนังสือแนะนำร้านอาหารที่น่าเชื่อถือมากที่สุดเล่มหนึ่ง!! แผนโปรโมตอาจจะไม่ได้ผล!! แน่นอนว่าการที่บริษัทผลิตยางจะมาแนะนำอะไรแบบนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว และยิ่งการแจกฟรีก็ยิ่งทำให้ไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากเท่าไหร่ มันถูกนำไปใช้ในจุดประสงค์อื่นๆ ที่ไม่ใช่การออกไปตามหาร้านดังๆ อย่าที่ทางบริษัทตั้งใจ ดังนั้นในปี 1920 ทางมิชลินจึงได้มีการจัดทำไกด์บุ๊คใหม่ใหม่และทำการจำหน่ายเป็นครั้งแรก!! …
-
เมื่อชาวอิตาลีเจอ ‘พิซซ่าหน้าโคตรฮาวาเอี้ยน’ แล้วชีวิตนี้ตูจะต้องทำอย่างไรต่อจากนี้…
พิซซ่าถือเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติของชาวอิตาเลี่ยน จากข้อมูลระบุว่าเจ้าแป้งโรยหน้าด้วยชีสและใบโหระพานี้ถูกคิดค้นขึ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 700 ปี ก่อน และถ้าหากพูดถึงพิซซ่าหน้าดังเดิมอันเป็นที่ชื่นชอบของชาวอิตาเลี่ยนเลยนั่นก็คือพิซ่าหน้า Margherita นั่นเอง Margherita หรือ พิซซ่ามาเกริต้านั้นถือเป็นพิซซ่าหน้าพื้นฐานของชาวอิตาลี ซึ่งมีองค์ประกอบเพียงสี่อย่างเท่านั้นคือแป้งพิซซ่า ชีส ซอสมะเขือเทศ และ ใบโหระพา และถึงแม้ว่าปัจจุบันพิซซ่านั้นจะกลายเป็นอาหารที่คนทั่วโลกนิยมรับประทาน และมีการคิดค้นหน้าพิซซ่าขึ้นมามากมาย แต่สำหรับชาวอิตาเลี่ยนแล้วพิซซ่าแบบดังเดิมพร้อมกับซอสมารีนาร่า นั้นก็ยังถือว่าเป็นที่นิยมอยู่ โดยเฉพาะที่เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี แฟนเพจ Fanpage.it ได้อัพเดตคลิปวิดีโอแกล้งชาวเมืองเนเปิลส์ โดยการแอบส่งพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยนให้พวกเขาแทนพิซซ่าหน้า Margherita แต่แค่นั้นดูเหมือนว่าจะยังไม่สาแก่ใจพี่หนุ่มเคราดกผู้ดำเนินรายการ เพราะหน้าฮาวายเอี้ยนที่พี่แกเอาไปแกล้งชาวเมืองนั้น เป็นฮาวายเอี้ยนแบบพิเศษที่มีสัปปะรดชิ้นเท่าฝ่ามือถึง 4 แผ่นเลยทีเดียว!! และเมื่อทำการรับออเดอร์เป็นที่เรียบร้อย งานนี้พ่อหนุ่มของเราก็เริ่มปฏิบัติการแกล้งทันที เขาทำการส่งพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนแบบพิเศษให้กับเหล่าลูกค้าตามบ้านต่างๆ และเมื่อลูกค้าผู้หิวโหยที่ทนรอคอยพิซซ่าหน้า Margherita มานานกว่า 5 นาที ได้พบกับของฝากจากฮาวาย งานนี้พวกเขาก็ถึงกับอารมณ์บูดกันเลยทีเดียว และหนักกว่านั้นคือพวกเขาไม่ยอมแตะมันเลยแม้แต่น้อย!! ของอิตาเลี่ยนแท้ๆ มันต้อง Margherita ว้อยยย!! แต่หลังจากที่การแกล้งเริ่มกลายเป็นเรื่องไม่ฮาสำหรับเหล่าลูกค้าผู้หิวโหย ชายหนุ่มคนดังกล่าวก็รีบเฉลยว่านี่เป็นเพียงการล้อเล่นขำๆ เท่านั้นจ้าาา พร้อมกับเอาพิซซ่าหน้าที่พวกเขาต้องการให้ถึง 2 กล่องเลยทีเดียว ไปชมความฮาของคลิปวิดีโอนี้ได้ที่นี่เลย… ชาวอิตาเลี่ยนนี่เค้าช่างใส่ใจกับเรื่องอาหารการกินกันจริงๆ…
-
ชุบชีวิตภาพสีให้นางฟ้าไบเกอร์จากแก๊ง Hells Angel ความเท่ที่ไม่เป็นสองรองผู้ชาย…
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่คลั่งไคล้มอเตอร์ไซค์ Harley Davidson หรือแฟนตัวยงของซีรีย์ Sons of Anarchy คุณคงจะคุ้นเคยกับชื่อของแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่แสบที่สุดในโลกอย่าง Hells Angels แน่นอน และนอกจากจะมีชาวแก๊งที่เป็นผู้ชายแล้ว ใน Hells Angels เองก็ยังมีเหล่าไบค์เกอร์ที่เป็นผู้หญิงด้วยเช่นกัน และเมื่อไม่นานมานี้ช่างภาพหนุ่ม Loughrey ก็ได้นำภาพถ่ายของสาวๆ จากแก๊งนางฟ้านรกจากช่วงปี 1960 ถึง 1970 มาปัดฝุ่นและแต่งแต้มสีสันเข้าไปให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น!! ช่างภาพชาวไอริชวัย 39 ปีได้ทำให้ภาพจากอดีตเหล่านี้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง “ภาพถ่ายเหล่านี้เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น เมื่อผมเห็นมันผมก็เกิดคำถามขึ้นทันทีเลยว่าทำไมภาพเหล่านี้ถึงไม่ถูกนำไปตีพิมพ์ลงในนิตยสาร มันอาจจะเป็นเพราะบรรณาธิการหรือขัดต่อหลักการเมืองผมก็ไม่ทราบ” ความหลงใหลในมอร์เตอร์ไซค์ Harley-Davidson เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของการชุบชีวิตภาพถ่ายเหล่านี้ แก๊ง Hells Angels นั้นก่อตั้งขึ้นมาจากกลุ่มชนชาวอเมริกันผิวขาว พวกเขาถือเป็นเหล่าอาชญากรของสหรัฐอเมริกา และมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ความรุนแรง โดยแต่เดิมภาพถ่ายชุดนี้เป็นฝีมือของคุณ Bill Ray ช่างภาพนิตยสาร LIFE ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตประจำวันของเหล่าชาวแก๊งไม่ว่าจะเป็นการพบปะสังสรรค์ หรือการพักผ่อนในร้านกาแฟและบนหลังมอเตอร์ไซค์ของพวกเขา แต่น่าเสียดายที่ภาพต้นฉบับนั้นไม่ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสารแต่อย่างใด . คุณ Loughrey ใช้เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า SMTM ในการคืนชีพให้กับภาพถ่ายเหล่านี้ ภาพของการรวมตัวกันด้านนอกร้าน Blackboard Cafe ในเมืองเบเกอร์สฟีลด์ สหรัฐอเมริกาในปี 1965 …
-
เจ้าเหมียวขัดจังหวะอิหม่ามกลางมัสยิด คัมภงคัมภีร์ไม่สนใจ เป้าหมายอยู่ที่โต๊ะอย่างเดียว!!
อย่างที่พวกเราทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า เหล่าเจ้าเหมียวนั้นมักจะมีนิสัยซุกซนและชื่นชอบการสำรวจเป็นพิเศษ บางครั้งพวกมันก็มักจะซนในเวลาที่พวกเรากำลังยุ่งๆ อยู่ไม่ว่าจะเป็นตอนที่คุณกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ (เล่นดนตรีน่ะ อย่าคิดมาก) หรือเวลาที่คุณกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม (เย็บผ้าจ้า) พวกเจ้าเหมียวก็มักจะเข้ามาอยู่ใกล้ๆ และออดอ้อนคุณอยู่บ่อยๆ และเจ้าเหมียวตัวนี้เองก็เช่นกัน เมื่อมันกำลังเรียกร้องความสนใจจากอิหม่าม ในขณะที่เขากำลังอ่านคัมภีร์อยู่ แต่ถึงแม้ว่าจะถูกกวนใจแค่ไหน อิหม่ามก็ยังคงแน่วแน่ในพระคัมภีร์ แถมไม่ได้ไล่เจ้าเหมียวไปไกลๆ อีกด้วย คลิปวิดีโอความยาวเกือบๆ 2 นาทีจากช่องยูทูบ Ahmad Al-fahad ได้เผยให้เห็นถึงความน่ารักของเจ้าเหมียวตัวน้อยที่เข้ามาระหว่างการอ่านพระคัมภีร์ของอิหม่ามและชาวมุสลิม แต่ดูเหมือนว่าเจ้าเหมียวตัวน้อยจะไม่ได้สนใจฟังพระคัมภีร์เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะดูเหมือนกับว่ามันกำลังจ้องหาที่ปีนอยู่และเหมือนกำลังคิดว่า “นี่ฉันจะขึ้นไปข้างบนโต๊ะได้ยังไงกันนะ!?” และหลังจากที่หาช่องทางอยู่นาน ในที่สุดเจ้าเหมียวก็สามารถขึ้นไปบนโต๊ะได้สำเร็จ เอ๊า!! แบบนี้มันต้องฉลอง ชมความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… น่ารักจริงๆ เลยน๊าาา เจ้าเหมียว ที่มา iizcat
-
เทียบอดีตและปัจจุบันของ “อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์” ย้อนรำรึกเหตุการณ์ความสูญเสียที่ไม่อาจลืมเลือน
ในเช้าวันที่ 7 ธันวาคมปี 1941 เหตุการณ์โจมตีอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นเหตุให้มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาตัดสินใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านไปแล้วกว่า 76 ปี เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของเหล่าทหารที่ประจำการอยู่ ณ อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ บนเกาะฮาวาย กันได้เป็นอย่างดี ซึ่งความสูญเสียเหล่านั้นก็คงเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอน และภาพถ่ายเหตุการณ์แห่งประวัติศาสตร์ที่มีทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตมากกว่า 2,403 คนนี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับภาพปัจจุบันก็อาจจะให้ข้อคิดบางอย่างกับพวกเราได้… ภาพของเหล่าทหารที่กำลังอยู่ในแนวป้องกัน เพื่อเฝ้าระวังการโจมตีของเครื่องบิน . ภาพของเรือรบ USS California ที่กำลังลุกไหม้ ส่วนด้านหลังคือเรือรบ USS Arizona ที่กำลังลุกไหม้เช่นกัน เศษซากของเครื่องบินที่เกิดจากการโจมตีของฝ่ายกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น ภาพหอคอยแห่งประวัติศาสตร์ ที่รอดจากการโจมตี ปัจจุบันมันถูกใช้เป็นหอบังคับการบิน ภาพการระเบิดของเรือ USS Shaw อีกหนึ่งมุมมองจากเกาะ Ford ระหว่างที่เรือ USS Arizona กำลังถูกโจมตี ซากปรักหักพังของโรงเก็บเครื่องบินที่ 6 บนเกาะ Ford การมองภาพต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นสิ่งที่จะคอยย้ำเตือนให้เรารู้ถึงความสูญเสียของเหตุการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ที่มา businessinsider
-
Tundra Lodge Rolling Hotel โรงแรมเคลื่อนที่ในดินแดนแห่งฝัน พร้อมหมีมาแวะทักทายไล่ล่าแสงเหนือ
เชื่อแน่ๆ ว่าดินแดนในเขตหนาวนั้นถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวหลายๆ คนที่ชื่นชอบอากาศเย็นๆ และความสวยงามของแสงแดดที่กระทบกับสีขาวของหิมะอย่างแน่นอน และคงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่าคุณได้ท่องไปทั่วดินแดนหิมะเหล่านั้น พร้อมกับมีเจ้าถิ่นอย่างน้องหมีขาว ออกมาทักทายคุณในตอนเช้าๆ เหมือนกับการพักที่โรงแรมเคลื่อนที่ Tundra Lodge Rolling Hotel แห่งนี้!! กินข้าวกันรึยังครับบบ!? ภายในโรงแรมเคลื่อนที่จากประเทศแคนาดาแห่งนี้ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศที่เปลี่ยนไปในทุกๆ เช้า นอกจากนี้คุณยังได้พบกับพวกสัตว์ท้องถิ่นมากมายที่ออกมาทักทายคุณระหว่างการเดินทางอีกด้วย The Tundra Lodge Rolling Hotel นั้นมีห้องพักทั้งหมด 32 ห้อง รวมถึงห้องโถงขนาดใหญ่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมหมีขาวแบบใกล้ชิดอีกด้วย แต่สำหรับใครที่อยากพบปะทักทายกับเจ้าหมีแบบใกล้ชิด ก็สามารถออกมาดูพวกมันใกล้ๆ ด้านนนอกได้เช่นกัน คุณ Steve Dobson ได้ระบุรายละเอียดของโรงแรมเห่งนี้ไว้ในเว็บไซต์ว่า “คุณสามารถสัมผัสกับความสวยงามของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นพวกหมีขาว หรือบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากหน้าต่างห้องนอนส่วนตัว หรือหลังคาที่สามารถเปิดปิดได้” และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับทริปนี้ก็คือการล่าแสงเหนือนั่นเอง . และสำหรับใครที่อยากจะลองสัมผัสความสวยงามของดินแดนหิมะ และทักทายกับเหล่าหมีขาวล่ะก็ ราคาของทริป 7 วันนั้นอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาทเท่านั้นเอง!! แค่นี้ชาวเหมียวขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ที่มา dailymail
-
เมื่อรายการญี่ปุ่นถามชาวฟินแลนด์ เกี่ยวกับกฎระเบียบอันเข้มงวดของรร. ญี่ปุ่น เด็กฟินแลนด์ถึงกับอึ้ง!!
อย่างที่เรารู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของระเบียบวินัยที่ค่อนข้างเป๊ะไปซะทุกเรื่องรวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ในโรงเรียนอีกด้วย และแน่นว่าถ้าหากพูดถึงเรื่องระบบการศึกษาล่ะก็ ประเทศฟินแลนด์เองก็ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าในด้านนี้อันดับต้นๆ ของโลก และอย่างที่เราทราบกันว่าโรงเรียนที่ฟินแลนด์มันคือสวรรค์ของเด็กๆ ชัดๆ ไม่ว่าจะเป็นการบ้านหรือการสอบที่แสนจะน้อยนิด และกฎระเบียบที่ไม่เข้มงวดมาก แต่จะเป็นอย่างไรบ้างถ้าหากเด็กๆ จากฟินแลนด์ได้ยินเกี่ยวกับกฎต่างๆ ของโรงเรียนในญี่ปุ่น?? เมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพของรายารทีวีที่ได้ได้เผยให้เห็นคำตอบของเหล่าเด็กๆ จากประเทศฟินแลนด์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ภาพจากทวิตเตอร์ของคุณ @noginoginanamai “ในญี่ปุ่นมีกฎว่าห้ามนักเรียนย้อมผมและใส่ต่างหูมาโรงเรียน พวกหนูๆ คิดว่าอย่างไร้าง??” ทางรายการถามเหล่าเด็กๆ ชาวฟินแลนด์ “เราจะไม่ไปโรงเรียนแน่นอน ถ้าหากมีกฎแบบนั้น” ทางเว็บไซต์ Rocketnews ระบุว่ากฎระเบียบในโรงเรียนที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศนั้นอาจจะมาจากจุดประสงค์ของนโยบายการศึกษา ซึ่งจุดมุ่งหมายในการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ก็คือการเรียนของพวกเด็กๆ เท่านั้น ซึ่งต่างจากบางประเทศที่ให้ความสำคัญกับด้านอื่นๆ ด้วย อย่างเช่นความเป็นระเบียบวินัยของเด็กๆ นั่นเอง และแน่นอนว่าหลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพจากรายการทีวีดังกล่าว ก็ได้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก ซึ่งบางคนก็บอกว่า “ไม่ใช่แค่โรงเรียนในฟินแลนด์เท่านั้นที่ไม่มีกฎเข้มงวด แต่ในโรงเรียนอาชีวะหรือพวกวิทยาลัยต่างๆ ก็ด้วย ฉันอิจฉาพวกเขาจริงๆ กฎเข้มงวดเหล่านี้ไม่มีทางเปลี่ยนได้เลยอย่างนั้นหรือ??” ในขณะที่บางคนก็บอกว่า “แต่ในโรงเรียนเอกชนแพงๆ ก็ไม่ได้มีกฎที่เข้มงวดเหมือนกันนะ พวกเขาทำให้เด็กๆ อยากเรียนรู้ด้วยตัวเองและกฎต่างๆ เหล่านั้นก็ไม่จำเป็น แต่น่าเสียดายที่โรงเรียนส่วนมากยังมีกฎที่เข้มงวดแบบนี้” แล้วโรงเรียนของเพื่อนๆ…
-
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ‘ทางเดินขุรขระ’ ด้วยการออกแบบเพื่อประโยชน์สำหรับคนตาบอดอย่างแท้จริง
หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นเทางเท้ารูปร่างแปลกๆ ที่มีทั้งแบบเส้นและแบบจุด ซึ่งบางครั้งเราเองก็มักจะเกิดความสงสัยว่าแท้จริงแล้วเจ้าทางเท้าขรุขระนี้มีไว้ทำอะไรกันแน่!? เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวเวจจี้ ได้พบเรื่องราวเกี่ยวกับประโยชน์และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเจ้าทางเดินขรุขระนี้ ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… อันที่จริงแล้วเจ้าทางเดินขรุขระนี้ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับคนตาบอดนั่นเอง โดยแผงคอนกรีตที่มาพร้อมกับรอยตะปุ่มตะปั่มนี้จะช่วยให้คนตาบอดทราบว่าพวกเขากำลังจะออกจากเขตทางเท้าเข้าสู่ถนนแล้ว!! และนอกจากนี้มันยังถูกนำไปใช้สำหรับเตือนในการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง ส่วนสีเหลืองและสีแดงที่ถูกทาไว้บนทางขรุขระเหล่านั้นก็มีไว้สำหรับเตือนผู้ที่สามารถมองเห็นได้บางส่วนนั่นเอง นอกจากนี้แผ่นทางขรุขระนี้ก็ยังมีรูปแบบต่างหัน ซึ่งแต่ละแบบนั้นก็จะให้ความหมายที่ไม่เหมือนกันด้วย ว่าแล้วเราไปรู้จักรูปร่างหน้าตาของทางเดินสำหรับคนตาบอดในแต่ละรูปแบบกันดีกว่า… 1. Offset Dots แผ่นทางเดินแบบจุดที่เรียงต่อกันเป็นเส้นทแยงนี้ มีความมหายว่าสิ่งที่อยู่ถัดจากเจ้าทางเดินแบบนี้ก็คือทางรถไฟหรือเส้นทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่ถนนปกตินั่นเอง 2. Lozenge-Shaped Bumps แผ่นทางขรุขระรูปวงรีนี้ จะคอยเตือนคนตาบอดว่าทางข้างหน้านั้นเป็นเส้นทางของรถราง หรือเส้นทางเดินของระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ 3. Stripes Across a Path เส้นทางเท้าแบบแนวขวางที่จะช่วยเตือนคนตาบอดว่าทางข้างนั้นนั้นเป็นทางต่างระดับ หรือทางเดินขึ้นบันได ซึ่งจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น 4. Stripes Along a Path เส้นทางขรุขระแบบตามทางยาวที่มีไว้สำหรับให้คนตาบอดเดินบนพื้นผิวขรุขระนี้เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางระหว่างทางเดิน โดยเริ่มใช้ครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อประมาณปี 1960 ก่อนที่จะกลายเป็นที่นิยมทั่วโลก ลักษณะของเส้นทางเท้าสำหรับคนตาบอดแบบยาว ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของญี่ปุ่น ที่มา simplemost
-
เอาใจเจ้านายกับ ‘กล่องวงกต 50 ใบ’ ได้ทั้งความสนุกสนาน พร้อมป้องกันโรคสมองเสื่อมในแมว
ถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาของเล่นชิ้นใหม่สำหรับเจ้านายที่บ้านอยู่ล่ะก็ คลิปวิดีโอที่เรานำมาฝากกันวันนี้อาจจะช่วยให้คุณเอาใจท่านเหมียวที่บ้านได้ง่ายๆ คลิปวิดีโอจากช่องยูทูบ Cole and Marmalade ได้แนะนำวิธีการสร้างเขาวงกตสำหรับเจ้าเหมียวง่ายๆ พร้อมกับแนะนำการทำและอุปกรณ์ต่างๆ ให้คุณสามารถเอาไปทำกันเล่นๆ ที่บ้านได้เลย คุณ Chris ชายหนุ่มเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวได้ทำการนำกล่องกระดาษมากกว่า 50 กล่องมาต่อกันเป็นเขาวงกต โดยเขาได้ทำการเจาะรูกล่องแต่ละใบเพื่อให้มีช่องสำหรับทะลุไปมาได้ และหลังจากนั้นก็ปล่อยเจ้าเหมียว 2 ตัวของเขาอย่างเจ้า Marmalade และ Cole เข้ามาชื่นชมของเล่นชิ้นใหม่ที่ว่านี้ กล่องกระดาษมากกว่า 50 ใบ อุปกรณ์หลักในการสร้างเขาวงกตแมว!! แต่งานนี้ดูเหมือนว่า Marmalade และ Cole นั้นจะแอบขี้โกงนิดหน่อย หลังจากที่พวกมันพยายามที่จะกระโดดข้ามเขาวงกต เพื่อหาทางออกแบบลัดๆ โดยแทบจะไม่สนใจทางลอดที่คุณ Chris ทำเอาไว้เลยแม้แต่น้อย!! เอ๊าๆ อย่าแอบขี้โกงสิเจ้าเหมียว!! เฮ้อ เหนื่อยแล้ว ขอพักก่อนนะ ส่วนเจ้าตัวนี้ก็ยังคงเพลินกับการหาทางออกจากเขาวงกตนี้อยู่!! นอกจาการเล่นซ่อนหาในเขาวงกตแล้ว คุณ Chris ก็ยังได้เพิ่มเงื่อนไขสนุกๆ ให้กับเหล่าเจ้าเหมียวอีกด้วย เช่นนำอาหารไปซ่อนในเขาวงกต ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญก็ได้เผยว่าการที่เหล่าเจ้าเหมียวได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่กระตุ้นให้พวกมันเกิดความสนใจใหม่ๆ นั้นสามารถช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมในแมวได้อีกด้วย ชมคลิปวิดีโอการทำเขาวงกตแมว และความซนของเจ้า Marmalade และ Cole กันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย… ที่มา shareably
-
ชาวเน็ตบ่นในพันทิป “ซื้อรถคืนจากคนที่ดูแลไม่ดีได้มั้ย” ท็อปเมนท์มาตอบแทบสำลักน้ำตา…
สำหรับหลายๆ คนที่อยู่ในสมาคม ค.คนรักรถ คงจะรู้สึกเจ็บปวดแน่ๆ เวลาที่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจำเป็นต้องขับรถลุยถนนลาดยางที่เพิ่งทำเสร็จ หรือบังเอิ๊ญขับรถทับขี้หมา!! และสำหรับชาวพันทิปท่านนี้เองก็ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกสมาคมที่ว่านี้เช่นกัน หลังจากที่เขาได้ตั้งกระทู้ถามชาวเน็ตเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาหลังจากที่ขายรถคันโปรดออกไป แล้วพบว่าเจ้าของใหม่นั้นดูแลไม่ดีเอาเสียเลย “ขายรถให้กับคนที่ไม่ดูแลรถเลย จะเอารถคืนได้มั้ย?? ไม่เคยเห็นเค้าล้างรถเลย เอาไปจอดตากแดดทั้งวัน ขับลุยทางหลุมบ่อ ช่วงล่างมีแต่โคลนแดง เห็นแล้วปวดใจมาก” “ตอนรถอยู่กับเรา เราทนุถนอมแทบไม่เคยโดนอะไร เห็นสภาพรถตัวเองตอนนี้แล้วอยากร้องไห้ เหมือนเห็นคนเอาลูกเราไปเฆี่ยนตีตอนนี้เค้าผ่อนไฟแนนซ์อยู่ เราสามารถซื้อคืนกับไฟแนนซ์ได้เลยมั้ย” ข้อความจากกระทู้ของคุณ SENSEBIORA และแน่นอนว่าคนไทยไม่เคยทิ้งกันอยู่แล้ว งานนนี้เจ้าของกระทู้ของเราก็ได้รับความช่วยเหลือจากชาวเน็ตมากมายที่เข้ามาปลอบใจ พร้อมกับบอกให้เขาทำใจเสียเถอะเพื่อน มันก็แค่ของนอกกาย แต่หลังจากที่กำลังอ่านคอมเมนต์ชาวเน็ตอย่างเพลินๆ และกำลังจะเข้าสู่การบรรลุธรรม เราก็สะดุดกับความคิดเห็นของชาวเน็ตท่านหนึ่งที่บอกว่าตัวเขาเองก็เคยเจอประสบการณ์เดียวกันเหมือนกัน แถมหนักกว่าอีก!! เจ้าของใหม่บอกซื้อไปแต่ง แต่เจออีกทีมาอยู่ช่อง 7 เฉ๊ย และนี่คือโฉมหน้าของรถคันดังกล่าวจากประกาศขาย ที่มาโผล่ในละครช่อง 7…. ถ้าคุณเป็นหนุ่มจากสมาคม ค.คนรักรถ งานนี้มีหัวใจวายกันแน่ๆ และสุดท้ายก็ปิดฉากกันด้วยภาพนี้ บรึ้มมมม!! จากจะซื้อไปแต่งสุดท้ายไหงกลายเป็นเอาไประเบิดได้ซะนี่!? และแน่นอนว่าความฮาระดับมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากกว่า 97 คอมเมนต์เลยทีเดียว และนี่คือคอมเมนต์บางส่วนจากชาวเน็ต…
-
เหล่าพ่อแม่ที่ฉลาดล้ำนำโลก ถ้าเรายังอยู่ในปี 2017 เค้าก็คงท่องเวลามาจาก 3017 แล้วล่ะ!!
ในปัจจุบันการจะพูดถึงนวัตกรรมต่างๆ หรือการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์แบบล้ำๆ นั้นดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดาไปซะแล้ว เพราะถ้าหากใครที่ติดตามข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีนั้นก็คงจะทราบกันดีว่าตอนนี้โลกเรานั้นไปไกลแค่ไหนแล้ว แต่ถึงแม้ในปี 2017 นี้เราจะมีการคิดค้นทางด้านนวัตกรรมก้าวกระโดดมากแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่ายังไงก็ไม่เท่ากับนวัตกรรมของคุณพ่อคุณแม่ที่ประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวจนไปไกลถึงปี 3017 แบบนี้แน่ๆ 1. ลองนึกภาพสติกเกอร์ไลน์ดุ๊กดิ๊กที่มีหน้าคุณแม่ของคุณดูสิ!! อื้อหือ ยิ่งกว่าสวัสดีวันจันทร์แน่นอน!! 2. วิทยุสื่อสารของคุณพ่อที่มาจากปี 3017!! 3. นี่สินะที่เค้าเรียกว่าชุดเกราะกันรังสี (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ นะ) y’all livin in my 2017, my dad livin in 3017 pic.twitter.com/HoqRxJmZRA — Austin Roa (@AustinRoa) 17 มิถุนายน 2560 4. ดื่มไวน์แบบเย็นๆ โดยไม่ให้เสียรสชาติ ก็ต้องเอาแก้วแช่แบบนี้แหละนะ 5. การแอบซ่อนเบียร์ในตู้เย็น แบบปี 3017…
-
คุณครูแอบเปิดกระเป๋าเด็กอนุบาล พบว่าเธอพกเจ้าแมวมาโรงเรียนตั้งสองตัว!?
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนรักสัตว์ล่ะก็ คุณอาจจะเคยมีช่วงเวลาที่น่าจดจำเกี่ยวกับเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณในวัยเด็กอย่างแน่นอน และเชื่อแน่ๆ ว่าหนึ่งในวีรกรรมตอนเด็กของคุณก็คือการแอบพกน้องหมาน้องแมวใส่กระเป๋าไปโรงเรียนด้วยนั่นเอง เรื่องราวสุดน่ารักของเจ้าหนูน้อยคนนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คุณครู Anna Kate Hood คุณครูจากโรงเรียนอนุบาล Heard Elementary รัฐจอร์เจีย หลังจากที่เธอได้ทำการตรวจค้นกระเป๋าใบสีชมพูน่ารักของหนูน้อยคนหนึ่ง และพบบางอย่างนอกเหนือจากหนังสือเรียน!! ในวันเปิดเทอมเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คุณครูสาวก็ต้องสะดุดกับกระเป๋าใบสีชมพูสดของสาวน้อยคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่ามันจะหนักกว่ากระเป๋าของเพื่อนๆ ของเธอ คุณครู Anna ตัดสินใจเปิดกระเป๋าของหนูน้อยเพื่อตรวจดูข้างใน และทันใดนั้นเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่อยู่ด้านใน… โอ้โห!! มีแมวน้อย 2 ตัวซ่อนอยู่!! ครูสาวได้ถ่ายภาพดังกล่าวพร้อมกับอัปข้อความลงบนเฟซบุ๊กของเธอว่า “เขาบอกให้ฉันเตรียมพร้อมสำหรับบางสิ่งบางอย่าง แต่เช้านี้ฉันยังไม่พร้อมที่จะเปิดกระเป๋ามาเจอลูกแมวน้อย นักเรียนของฉันบอกว่าเธออยากเอาอาหารให้กับมัน และคอยดูแลมันใต้โต๊ะหลังจากที่เธอเรียนเสร็จ” ข้อความจากเฟซบุ๊กของคุณครูสาว เรื่องราวของหนูน้อยและเจ้าเหมียวทั้งสองได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก มีคนร่วมแชร์ภาพดังกล่าวมากกว่า 15,000 ครั้ง และแสดงความคิดเห็นอีกมากกว่า 3,000 คอมเมนต์ นอกจากนี้ก็ยังมีคุณครูอนุบาลอีกท่าน ที่ได้แบ่งปันเรื่องราวสุดน่ารักของลูกศิษย์เธอ หลังจากที่เด็กน้อยได้แอบนำโหลปลาทองใส่กระเป๋ามาโรงเรียนด้วย พร้อมกับบอกคุณครูว่าถ้าไม่ให้เลี้ยงไว้ที่ห้องเจ้าปลาทองต้องตายแน่ๆ และนอกจากนี้ก็ยังมีคอมเมนต์น่ารักๆ จากชาวเน็ตอีกจำนวนมาก อย่างเช่นหนุ่มคนนี้ก็ได้เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์การแอบเก็บเจ้าเหมียวใส่กระเป๋ามาเลี้ยงที่บ้านด้วยเช่นกัน ส่วนชาวเน็ตรายนี้ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าเขาเองก็เคยแอบเอาเจ้าเหมียวไปโชว์ที่ห้องเรียนด้วย ถึงแม้ว่าจะถูกแม่ห้ามก็ตาม!! และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่มีเรื่องราวน่ารักๆ…
-
ชมคลิปสุดฮาของชายหนุ่มที่พยายามถ่ายภาพหมู่ลูกแมวน้อยทั้ง 10 ตัว ปวดหัวแทนเลย..
สำหรับพวกเราพี่น้องชาวไทย คงจะคุ้นเคยกับสำนวนยอดฮิตที่เวลาผู้ใหญ่มักจะพูดกับคุณตอนเด็กๆ เวลารวมญาติอย่างสำนวนที่ว่า “จับปูใส่กระด้ง” กันเป็นอย่างดี แต่ทว่านอกจากสำนวนที่ว่าแล้ว ถ้าหากคุณได้ชมคลิปวิดีโอสุดฮาของเหล่าเจ้าเหมียวนี้ล่ะก็ เราอาจจะนิยามความวุ่นวายของเหล่าเด็กๆ เสียใหม่ว่า “จับเจ้าเหมียวเรียงแถว” อย่างแน่นอน คลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ในยูทูบในช่อง ENT TNE ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของชายหนุ่มที่กำลังพยายามที่จะจับเหล่าวายร้ายตัวน้อยๆ นับ 10 ตัวเข้าเรียงแถวกันอย่างสวยงาม แต่ทว่าดูเหมือนการถ่ายรูปหมู่ครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เสียแล้ว เพราะว่าเจ้าเหมียวน้อยเหล่านี้ไม่ยอมอยู่นิ่งๆ กันเลยนะซี้!! “การพยายามถ่ายรูปหมู่ของแมวเหมียวทั้ง 10 ตัวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การพยายามถ่ายรูปหมู่ของแมวเหมียวทั้ง 10 ตัวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ การพยายามถ่ายรูปหมู่ของแมวเหมียวทั้ง 10 ตัวนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ด๊ายยยย” ข้อความจากช่องยูทูบดังกล่าว เกือบจะได้ทีไร พวกเจ้าแมวน้อยก็เป็นแบบนี้ทู้กที!! ไม่ไหวแล้ว ไปดีกว่าาาา ฮ่าๆ ชมความวุ่นวายของการถ่ายภาพหมู่เจ้าเหมียวกันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา iizcat
-
เจ้าเหมียว ผอ. แวะไปโรงเรียนทุกเช้าเป็นประจำ เข้าไปทักนักเรียนตลอด ไม่เคยขาดเลย…
สำหรับหลายๆ คน การตื่นนอนแต่เช้า และสลัดขี้ตาแต่งตัวออกไปโรงเรียนให้ทันก่อน 8 โมงเช้าอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ!? แต่ทว่าสำหรับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้แล้ว การมาโรงเรียนให้ทันเข้าแถวนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย แถมในทุกๆ วันมันยังมาก่อนเวลาเข้าแถวตั้ง 1 ชั่วโมงอีกด้วย!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่คุณครูประจำชั้นได้ลืมลูกบอลเอาไว้ที่ห้องเรียนของเธอ และบังเอิญว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ดันมาเจอเข้าพอดี และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมามันก็กลายเป็นหนึ่งในนักเรียนคนสำคัญของห้องเรียนไปเลยทันที ทางโรงเรียนตั้งชื่อให้กับมันว่าแซมบ้า และในทุกๆ วันเจ้าเหมียวจะมาที่ห้องเรียนดังกล่าวในตอนเช้า มันไม่เคยขาดเรียนเลยแม้แต่ครั้งเดียวและที่สำคัญยังไม่เคยมาสายเกิน 7 โมงเช้าอีกด้วย!! “มันชอบเข้ามานั่งอยู่บนโต๊ะเรียน และขึ้นมานอนอยู่บนหนังสือของพวกเรา” หนึ่งในนักเรียนของโรงเรียนมัธยม Westbrook ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว และนอกจากความน่ารักน่าชังของเจ้าเหมียวแล้ว ซิมบ้าเองก็ยังเป็นขวัญใจของเหล่านักเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ ถึงขั้นเป็นแรงบันดาลใจในการจัดงานนิทรรศการศิลปะของทางโรงเรียนเลยทีเดียว ไปชมความน่ารักของเจ้าเหมียวได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา awwtopia
-
เบื้องหลังความกล้าหาญของสายลับหญิงแห่งฝรั่งเศส และเรื่องราวการปฏิบัติภารกิจของเธอ
เรื่องราวของทหารหญิงจากกองทัพอังกฤษที่ก้าวเข้าสู่กองทัพตั้งแต่อายุเพียงแค่ 22 ปี เธอเคยผ่านการเผชิญหน้าจากการจับกุมของทหารฝ่ายนาซี และนอกจากนี้เธอยังเคยสังหารฝ่ายศัตรูไปมากกว่า 40 คนอีกด้วย พบกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ของ Violette Szabo สายลับหญิงจากกองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตร และเจ้าของเรื่องราวที่ถูกนำไปทำภาพยนตร์อมตะอย่างเรื่อง Carve Her Name With Pride เหรียญตรา George Cross นั้นถือเป็นเหรียญตราอันทรงเกียรติของเหล่าทหารกล้าผู้ผ่านสมรภูมิรบที่จะได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร และ Violette Szabo เองก็เป็นหนึ่งในทหารหญิงที่ได้รับเหรียญตรานี้ หลังจากที่เธอผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนหน้าที่จะมาเข้ารับราชการในกองทัพ Violette ถือเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีความงามไม่น้อยเลยทีเดียว และเธอเองก็เคยทำงานในแผนกจำหน่ายน้ำหอมของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนมาก่อน Tania Szabo ลูกสาวของเธอ และเหรียญตราที่คุณแม่ของสาวน้อยเคยได้รับมา แม่ของ Violette เป็นสาวชาวฝรั่งเศสที่พบรักกับหนุ่มอังกฤษ ในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างที่พ่อของเธอได้ขับรถพยาบาลเพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในแนวหน้า สายลับสาวลืมตาดูโลกเมื่อปี 1921 ก่อนที่เธอจะย้ายมาอาศัยอยู่ที่อังกฤษเมื่ออายุได้ 12 ปี เธอเป็นลูกสาวคนที่ 2 จากพี่น้องทั้งหมด 6 คน Violette เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวที่ชื่นชอบกิจกรรมเหมือนผู้ชาย ถึงแม้ว่าจะมีดวงตากลมโตและน่ารักเหมือนเด็ก สาวทั่วๆ ไป แต่ไม่มีท่อระบายน้ำหรือกำแพงไหนที่สาวน้อยไม่เคยปีนป่ายมาก่อน การก้าวเข้าสู่กองทัพของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่…
-
ชีวิตต้องสู้ของ HeeSun Lee คุณแม่แรปเปอร์ สัญชาติเกาหลี-อเมริกัน กับบทเพลงที่ไม่เหมือนใคร
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พลเมืองชาวอเมริกันแบบเต็มตัว และการใช้ชีวิตของลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกันในเมืองลุงแซมพร้อมกับสถานะคุณแม่ลูกหนึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต HeeSun Lee แรปเปอร์สาวผู้นี้ กลับทำให้เธอเลือกที่จะลุกขึ้นมาบอกเล่าเรื่องราวของที่สร้างกำลังใจให้กับผู้คนผ่านเสียงเพลงและท่อนแรปของเธอ “ฉันเป็นผู้หญิงเอเชีย และเพลงแรปของฉันก็พูดเกี่ยวกับพระเจ้าและความคิดบวก หลายๆ เรื่องที่ฉันนำเสนอเป็นเรื่องที่ส่วนมากเรามักจะไม่ค่อยเห็นในเพลงแนวฮิปฮอป“ แรปเปอร์สาวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ Lee เติบโตมาจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดชาวเกาหลีใต้ แต่ด้วยฐานะของครอบครัวทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะดูแลลูกสาวได้ จึงได้นำเด็กหญิงมาฝากไว้กับพ่อแม่บุญธรรมเชื้อสายจีน-อเมริกันแทน Lee เล่าว่าพ่อแม่บุญธรรมนั้นไม่เคยปิดบังเธอเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตของเธอเลย พวกเขาเปิดเผยทุกเรื่องราวที่เด็กสาวควรจะได้รู้ “ฉันรู้สึกขอบคุณพวกเขามากที่บอกทุกอย่างกับฉัน ฉันคิดว่ามันคงจะแย่แน่ๆ ถ้าหากพวกเขาโกหกฉันเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต และฉันคงจะโกรธมากที่ไม่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของฉันคือใคร” Lee ให้สัมภาษณ์ Lee เริ่มต้นร้องเพลงแรปครั้งแรกตอนที่เธออายุได้ 14 ปี เธอเริ่มเขียนเนื้อแรปลงในสมุดจด ก่อนที่จะเริ่มฝึกร้อง เธอเริ่มหันมาเขียนเนื้อเพลงเกี่ยวกับพระเจ้า ชีวิต หลังจากที่เธอได้มีโอกาสเข้าโบสถ์และศึกษาศาสนาจากคำแนะนำของเพื่อนเธอ และหลังจากที่ร้องเพลงแรปเกี่ยวกับศาสนาคริสต์มานานนับ 10 ปี เธอก็คิดที่จะถ่ายทอดความเป็นตัวตนละวัฒนธรรมเอเชียผ่านบาทเพลงของเธอบ้าง Lee จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมรายการ Show Me The Money รายการเรียลิตี้เพลงแรปของเกาหลี ซึ่งทำให้เธอได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการสร้างผลงานเพลงแรปที่เล่าถึงตัวตนและวัฒนธรรมแบบเอเชีย Lee ทำได้ดีมากในรายการแข่งขันดังกล่าว เธอมีเหล่าบรรดาแฟนคลับที่คอยคิดตามผลงาน และร่วมเชียร์เธอด้วยแฮชแท็ก #BreakingStereotypes เพราะว่าการแสดงของเธอนั้นมันแตกต่างจากศิลปินแรปทั่วๆ ไป…
-
หนูน้อยแรกเกิด มีขาติดกันคล้ายกับหางของนางเงือก แม้แต่แพทย์ก็ระบุเพศไม่ได้
เรื่องราวอันน่าประหลาดใจนี้เกิดขึ้นกับคุณแม่ชาวอินเดีย เมื่อเธอได้ให้กำเนิดลูกน้อยที่มีลักษณะผิดปรกติทางร่างกาย โดยขาทั้งสองข้างของเด็กน้อยนั้นติดกันคล้ายกับหางของนางเงือก ก่อนที่เจ้าหนูน้อยจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหนูน้อยไม่ทราบชื่อเกิดมาพร้อมกับอาการ Sirenomelia หรือ Mermaid Syndrome ที่มีขาที่ติดกันทั้งสองข้าง และนอกจากนี้การพัฒนาของกระดูกเชิงกรานที่ไม่สมบูรณ์ จึงทำให้ทีมแพทย์ไม่สามารถที่จะระบุเพศของเจ้าหนูน้อยคนนี้ได้ นาง Muskura Bibi หญิงสาววัย 23 ปี แม่ของเจ้าหนูน้อย ได้ให้กำเนิดลูกของเธอแบบแบ่งคลอดที่โรงพยาบาล Chittaranjan Deva Sadan ในเมือง Kolkata ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย จากรายงานของสื่อต่างประเทศเผยว่า หญิงสาวคนดังกล่าวไม่ได้มีการทำอัลตราซาวด์เด็กก่อนที่เธอจะคลอด จึงทำให้แพทย์ไม่ทราบถึงสภาพของเด็กในท้องก่อนที่จะคลอดออกมา ส่วนทางด้านคุณหมอ Sudip Saha สูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลดังกล่าวได้ออกมาเปิดเผยว่าสองสามีภรรยาพ่อแม่ของเด็กน้อยคนดังกล่าวประกอบอาชีพกรรมกร และพวกเขาก็ไม่ได้รับการฝากครรภ์อย่างถูกต้องเนื่องจากไม่มีเงินพอ โรค Sirenomelia หรือที่รู้จักกันในโรค Mermaid Syndrome เป็นอาการผิดปรกติทางร่างกายของทารกที่พบได้ยากมากๆ โดยมีอัตราการพบเพียงแค่ 1 ใน 60,000 ถึง 100,000 คน โดยอาการดังกล่าวจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนทางระบบทางเดินอาหารของเด็ก และทำให้การพัฒนาของไตทำงานผิดปรกติ ซึ่งในขณะนี้ทางวงการแพทย์ยังหาสาเหตุของโรคดังกล่าวไม่พบ ที่มา dailymail
-
ศิลปินตั้งใจพับนกกระเรียน 1,000 วัน ออกแบบไม่ซ้ำกันทุกตัว สะท้อนความคิดที่เกิดขึ้นทุกวัน
การพับนกพับดาว อาจจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำหรับสาวๆ ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ อย่างวันปีใหม่หรือช่วงวันวาเลนไทน์ ที่เตรียมมอบให้กับหนุ่มๆ คนพิเศษ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าการพับนกกระดาษที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ไม่ใช่แค่การพับนกใส่ขวดโหลธรรดาๆ พร้อมกับคำกลอนหวานๆ อย่าง “ความเหงาไม่เคยฆ่าใคร ถ้าหัวใจฉันมีเธอ” อย่างแน่นอน!! Cristian Marianciuc ศิลปินหนุ่มผู้เริ่มต้นฝึกฝนทักษะการพับกระดาษหรือศิลปะโอริกามิของเขาตั้งแต่ช่วงปี 2015 ชายหนุ่มใช้กระดาษเหมือนกับผืนผ้าใบที่จะถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของเขาออกมา “ผมได้เล่าเรื่องราวของผมผ่านสี แสงเงา และทุกๆ อย่างรอบตัวผม” ศิลปินหนุ่มกล่าว เขาใช้เวลาในการฝึกฝนศิลปะโบราณของญี่ปุ่นนี้อยู่นานแรมปี จนในที่สุดก็ออกมาเป็นผลงานการพับนกกระดาษสุดอลังการกว่า 1,000 ชิ้น!! โดยผลงานแต่ละชิ้นก็ได้สะท้อนและบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณ Cristian นอกจากการพับนกกระดาษธรรมดาๆ แล้ว ที่ส่วนปีกของพวกมันยังมีการตกแต่งด้วยวัสดุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนแกะ เศษไม้ หรือกระดาษชิ้นเล็กๆ ให้ออกมาดูสวยงามอีกด้วย . . . นกกระดาษแต่ละตัวนั้นได้บันทึกความทรงจำของศิลปินหนุ่มผู้นี้เอาไว้ มันเหมือนกับการเก็บดอกไม้ไว้ในสมุดบันทึกตอนเด็กๆ เลยทีเดียว . ไปชมความสวยงามของผลงานศิลปะนกกระดาษธรรมดา ที่ไม่ธรรมดากันได้เลย… . . . . . นอกจากประดับด้วยเศษกระดาษและเศษกิ่งไม้และดอกไม้ต่างๆ แล้ว…
-
ชาวบ้านด่าเทศบาล ‘ลดทอนความเป็นมนุษย์’ คนไร้บ้าน หลังพบที่กั้นพร้อมป้ายประจานติดอยู่
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย หลังจากที่ทางเทศบาลของเมืองนอตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ ได้นำแผงกั้นมาล้อมรอบชายไร้บ้านคนหนึ่ง พร้อมกับมีผู้พบเห็นป้ายและข้อความที่ประณามชายคนดังกล่าว โดยข้อความในป้ายกระดาษบอกว่า “ชายคนนี้ปฏิเสธที่จะเข้าพักในโรงแรมเป็นเวลา 3 คืน” ซึ่งภายหลังข้อความดังกล่าวถูกทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเอาออกไป ชายวัย 27 คนดังกล่าวบอกว่าเขาจำเป็นต้องปฏิเสธข้อเสนอการเข้าพักในโรงแรมดังกล่าว เนื่องจากมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาก่อนหน้านี้ “มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดมาก พวกเขาบอกว่าผมเป็นขอทาน ซึ่งอันที่จริงแล้วผมไม่ใช่ คนอื่นๆ บอกผมว่าผมสามารถนอนหน้าร้านนี้ได้ เพราะร้านนี้ได้ปิดตัวลงแล้ว ผมถูกปฏิเสธการเข้าพักในโรงแรมดังกล่าว เพราะว่าชื่อของผมอยู่ในรายชื่อขอทาน และผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้กับผม” ส่วนทางด้านคุณ Denis Tully เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่ดูแลเกี่ยวกับคนไร้บ้านของเมือง Nottingham ก็ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวเช่นกัน “การนำที่กั้นมาวางไว้มันเป็นสิ่งที่ลดทอนความเป็นคนของเขามากๆ ผมคิดว่าเราควรตั้งคำถามถึงสิทธิความเป็นมนุษย์ที่ใครสักคนหนึ่งควรจะได้รับ สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเขานั้นมันคือสัญลักษณ์ของป้ายเตือน และป้ายเตือนสมควรที่จะนำมาใช้กับคนอย่างนั้นหรือ??” คุณ Denis กล่าว แต่อย่างไรก็ตามทางด้านนาย Toby Neal เจ้าหน้าที่ด้านงานบริการประชาชนก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ผมคิดว่าป้ายข้อความดังกล่าวน่าจะเป็นความเข้าใจผิด และมันก็น่าจะเป็นฝีมือของใครบางคนที่นำมาติดไว้ พวกเราตั้งใจที่จะดูแลความปลอดภัยของทุกๆ คนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้นมากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้” นาย Toby Neal กล่าว . นอกจากนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า แผงกันดังกล่าวนั้นถูกนำไปวางไว้เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของชายคนดังกล่าว พร้อมทั้งขอโทษถึงความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการใช้ป้ายกันดังกล่าวอีกด้วย “เราขอโทษสำหรับการเลือกใช้สัญลักษณ์ดังกล่าว นี่เป็นการเริ่มใช้แผงกั้นนี้เป็นครั้งแรก แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้เราได้สั่งระงับการใช้แผนกันดังกล่าว…
-
14 อาการของคนหวงเนื้อหวงตัว ไหล่นี้อย่าให้ใคร๊…มากอด มือนี้อย่าให้ใคร…มาจับ
แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้วมนุษย์เรานั้นย่อมจะต้องมีระยะห่างระหว่างกัน หรือที่ศัพท์แบบทางการก็คือระยะห่างระหว่างบุคคลนั่นเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเจอคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่ได้สนิทสนมมากเจ้าระยะห่างที่ว่านี้ก็จะเริ่มทำงานทันที และคุณก็จะมีความรู้สึกอึดอึด อัดอัด งึกงึก งักงัก แน่ๆ ส่วนสำหรับเพื่อนๆ หรือคนที่สนิทสนมมากๆ แล้วช่องว่างหรือระยะห่างนั้นก็อาจจะน้อยลงไปอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าคุณยังคงมีอาการต่อไปนี้เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ หรือคนสนิทล่ะก็ ไม่แน่คุณอาจจะเข้าข่ายเป็นคนหวงเนื้อหวงตัวก็ได้นะ!! 1. ทุกๆ ครั้งที่ถ่ายรูปหมู่ คนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวสูงมักจะทำท่าแบบนี้!! 2. พวกเขามักจะทำความรู้จักกับคนอื่น โดยเว้นระยะปลอดภัยไว้เล็กน้อย เพลงมา… เป็นช่วงเวลาดีๆ ที่เธอและฉันไม่ต้องกังวลอะไร 3. นอกจากนี้พวกเขายังชอบใส่เสื้อผ้าแบบมิดชิด ปิดหน้านิดๆ 4. แน่นอนว่าคุณจะไม่ยอมให้ใครเข้ามากอดคุณได้ง่ายๆ แน่ เพราะนั่นถือเป็นการรุกล้ำเข้ามาในระยะปลอดภัยของคุณ เอ๊า!! อีกครั้ง เป็นช่วงเวลาดีๆ…(พอแล้ว!!) 5. หรือไม่ชอบที่ใครมาเซอร์ไพรส์คุณใกล้ๆ แบบนี้แน่นอน!! 6. การถูกกอดแน่นๆ นานๆ เป็นอะไรที่คนหวงเนื้อหวงตัวไม่ช๊อบ ไม่ชอบ 7. และรวมถึงการจับมือด้วย!! 8. คุณมักจะกีดกันคนอื่นๆ ให้ออกห่างจากคุณ…
-
งานสตรีทอาร์ตสุดเจ๋ง หากวันเวลาผ่านไปเปลือกนอกก็จะค่อยๆ ย่อยสลายจนเห็นเนื้อแท้!!
อันที่จริงแล้วมนุษย์เรานั้นไม่อาจจะจะหนีความเป็นจริงข้อหนึ่งของธรรมชาติได้เลยนั่นก็คือความตายนั่นเอง และแน่นอนว่าเมื่อหมดลมหายใจแล้วแม้แต่ร่างกายหรือผิวพรรณที่เคยสวยงามก็ล้วนแล้วแต่ย่อยสลายกลายเป็นเถ้าถ่านเช่นกัน และหลักแห่งธรรมชาตินี้ก็กลายเป็นหนึ่งในคอนเซ็ปต์หลักของงานศิลปะจากฝีมือของศิลปินหนุ่มนามว่า NemO’s ที่ได้สร้างสรรค์งานสตรีทอาร์ตสวยๆ พร้อมกับเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสวยงามเหล่านั้น ภาพวาดรูปคนอันมีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินหนุ่มที่วาดลงบนแผนกระดาษ ถูกนำไปปกปิดเอาไว้บนผลงานภาพวาดของเขา ซึ่งเมื่อวันเวลาผ่านไปภาพความสวยงามของผลงานที่อยู่บนกระดาษเหล่านั้นก็จะหลุดลอกออกไป และเผยให้เห็นโครงกระดูกของมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ใต้นั้น “เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนจะมองเห็นผลงานที่แตกต่างกันออกไป จนในที่สุดมันก็เผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ” ศิลปินหนุ่มกล่าว และนี่คือผลงานบางส่วนจากศิลปินท่านนี้ . . . . . “มันเป็นผลงานจากฝีมือของศิลปิน ผมพยายามที่จะใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างผลงานที่ตอบสนองต่อความรับรู้ของผู้ชม” ศิลปินหนุ่มกล่าว ที่มา sobadsogood
-
หนูน้อยวัย 2 ขวบรักแมวที่รับมาเลี้ยงมากๆ ก็เลยขออุทิศตัวเป็นพี่เลี้ยงแมว ดูแลอย่างดี
โดยปรกติแล้วความน่ารักของเหล่าเด็กตัวน้อยๆ นั้นก็ทำให้หัวใจของหลายๆ คนพร้อมที่จะละลายกลายเป็นของเหลวแน่ๆ และถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในทาสแมวด้วยแล้วล่ะก็ เรื่องที่เรานำมาฝากกันในวันนี้จะต้องทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว!! พบกับเรื่องราวอันแสนน่ารักของเจ้าหนู Sam วัย 2 ขวบ ที่คอยดูแลเจ้าแมวน้อยวัย 17 เดือนคู่ซี้ของเขาอย่างใกล้ชิดและอยู่ด้วยกันราวกับเป็นคู่ซี้ เมื่อประมาณ 6 เดือนที่แล้วครอบครัวของ Sam ได้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวเหล่านี้มาไว้ที่บ้าน หลังจากเพื่อนที่ทำงานของเธอได้ประกาศตามหาบ้านหลังใหม่ให้กับพวกมัน “ฉันและพี่สาวเติบโตมาในบ้านที่เต็มไปด้วยสัตว์เลี้ยง เราจึงเป็นคนที่รักสัตว์มาก และฉันก็อยากให้ลูกของฉันเป็นคนที่รักสัตว์ด้วยเหมือนกัน” คุณ Lacey แม่ของ Sam กล่าว เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาทางครอบครัวของ Sam ได้รับเลี้ยงเจ้าเหมียวตัวแรกเข้ามาในบ้าน และมันก็เป็นเพื่อนที่แสนดีกับเจ้าหนูน้อยเลยทีเดียว Sam ดูตื่นเต้นมากๆ ที่ได้พบกับเจ้าเหมียวตัวแรกของเขา เขาตื่นเต้นมากๆ และนอกจากนี้ Sam ยังดูแลเจ้าเหมียวตัวแรกของเขาอย่างดีอีกด้วย หนุ่มน้อยสร้างความประหลาดใจให้กับแม่ของเขาด้วยการดูแลเจ้าเหมียวน้อยอย่างอ่อนโยน เขาเอานิ้วมืออันน้อยๆ ลูบลงไปที่ขนเจ้าแมวน้อยตัวนั้น “เขาพยายามจะช่วยฉันดูแลเจ้าเหมียวน้อยๆ เหล่านั้น มันน่าทึ่งมาก แต่ตอนนี้ความรักสัตว์ได้เริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจของเด็กน้อยคนนี้แล้ว ” คุณ Lacey กล่าว และแล้วหลังจากนั้นการดูแลเจ้าเหมียวน้อยๆ เหล่านั้นก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของครอบครัวนี้ไปเลยทีเดียว และนอกจากนี้เจ้าหนู…
-
หนุ่มเอาผ้าโพกหัวแบบคนดำมาเซอร์ไพรส์อาจารย์ ในคาบวิชาสังคมวิทยาจนชาวเน็ตตกหลุมรัก
เรื่องราวอันแสนน่ารักนี้เกิดขึ้นในชั่วโมงเรียนวิชาสังคมวิทยา เมื่อคุณ Doug Engelman อาจารย์จากมหาวิทยาลัย University of Tampa ได้ตั้งคำถามในชั่วโมงเรียนดังกล่าว เกี่ยวกับความแตกต่างของวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่ Dylan Romero หนึ่งในนักศึกษาในชั้นเรียนก็ถูกถามเกี่ยวกับผ้าโพกหัวแบบชาวแร็ปของเขา ซึ่งอาจารย์ Doug ก็ได้ถามหนุ่มน้อยเกี่ยวกับผ้าโพกหัวและสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร และงานนี้คำตอบที่นักศึกษาวัย 18 ปีตอบนั้นก็เรียกเสียงฮาจากเพื่อนๆ และชาวเน็ตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว “เราพูดกันเกี่ยวกับเรื่องของวัฒนธรรมและเราจะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้จากการแต่งกายของพวกเรา และอาจารย์ก็ยกตัวอย่างมาที่ผ้าโพกหัวของผม เขาถามผมว่า ‘นี่ Dylan ผ้าโพกหัวที่เธอสวมน่ะถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของเธอหรือเปล่า??’ ผมก็เลยตอบเขาไปว่า ‘ใช่ครับมันคือวิถีชีวิตของผม’” ชายหนุ่มเล่าถึงเรื่องราวในชั้นเรียนวิชาสังคมวิทยาของเขา และแน่นอนเมื่อวันอังคารที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ชายหนุ่มก็ได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมของเขาให้อาจารย์ดู ชายหนุ่มขอเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อจะทำบางอย่างให้เพื่อนๆ ในชั้นดู Dylan เดินไปที่หน้าชั้นเรียนก่อนที่จะหยิบถุงกระดาษหนึ่งใบที่เต็มไปด้วยผ้าโพกหัวหลากสี เพื่อให้อาจารย์เลือกจากนั้นเขาก็จึงสอนอาจารย์เกี่ยวกับการเป็นแร็ปเปอร์แบบง่ายๆ ด้วยผ้าโพกหัว ทำเอาเพื่อนๆ ในชั้นถึงกับฮาไปตามๆ กัน ไปชมความน่ารักของอาจารย์และหนุ่มน้อยได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… (ดูไม่ได้กด ที่นี่ นะ) So a few weeks prior, My Professor was teaching us about…
-
จัดตั้งรัฐธรรมนูญแห่ง ‘Asgardia’ ส่งบรรจุไปพร้อมดาวเทียม กลายเป็นชนชาติแรกแห่งห้วงอวกาศ
ในขณะที่เรื่องการเลือกตั้งยังเป็นข้อถกเถียงกันในหลายๆ ประเทศ ล่าสุดนาย Igor Ashurbeyli ผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรบนอวกาศอย่าง Asgardia ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าอาณาจักรของเขาจะเป็นประเทศแรกในห้วงอวกาศ หลังจากที่เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการส่งรัฐธรรมนูญพร้อมกับสัญลักษณ์ต่างๆ ของประเทศ รวมทั้งรายชื่อของประชาชนกว่า 150,000 คนขึ้นสู่ห้วงอวกาศพร้อมกับดาวเทียมที่ใช้ชื่อว่า Asgardia-1 เป็นเรียบร้อยแล้ว โดยในการส่งรัฐธรรมนูญพร้อมกับราชชื่อของประชากรและสัญลักษณ์ต่างๆ ในครั้งนี้ถูกส่งขึ้นไปพร้อมกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 512 กิกะไบต์ โดยปัจจุบัน Asgardia เป็นองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเวียนา ประเทศออสเตรีย โดยทางนาย Ram Jakhu ผู้อำนวยการสถาบันกฎหมายอวกาศและอวกาศจาก McGill University หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งได้ออกมากล่าวว่า “Asgardia จะเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนอวกาศ มันจะเป็นการสร้างชาติ อารยธรรม และศาสนาของมนุษย์บนอวกาศครั้งแรก” ส่วนขั้นต่อไปสำหรับโครงการ Asgardia ก็คือการเลือกตั้งสมาชิกสภาที่เตรียมจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมปี 2018 ซึ่งผู้ที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงได้นั้นจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวของประเทศนี้ และนอกจากนี้นาย Ashurbeyli วิศวกรด้านอวกาศและเศรษฐีชาวรัสเซีย ยังหวังที่จะสร้างอาณานิคมบนอวกาศ ที่ผู้คนสามารถใชีวิตได้จริงๆ ในอนาคตข้างหน้า และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับประเทศ Asgardia นี้ก็คือที่นี่มีจำนวนประชากรเพียงพอที่จะขอพิจารณาเป็นรัฐจากสหประชาชาติ เนื่องจากมีจำนวนประชากรมากกว่า 100,000 คน แต่อย่างไรก็ตามยังมีข้อถกเถียงกันถึงความเป็นประเทศที่ชัดเจน เนื่องจากจะต้องประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่ครบถ้วน 4…
-
เว็บไซต์นอกเขียนวิธีเอาตัวรอด ให้มีเงินเหลือในกรุงเทพฯ ด้วยประโยคเด็ด “Lod dai mai?”
ด้วยความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวและรอยยิ้มของผู้คนทำให้ประเทศไทยเรานั้นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียด้วยนั่นเอง และแน่นอนว่าการที่จะออกมาผจญภัยในต่างประเทศ เหล่าผู้มาเยือนก็ต่างต้องทำการบ้านและศึกษาลักษณะของบ้านเราให้ดีก่อน เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์อย่าง Says เองก็ได้เขียนแนะนำเกี่ยวกับ 9 ทริคง่ายๆ ที่จะสามารถช่วยให้ชาวมาเลเซียสนุกและเพลิดเพลินไปในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรได้ง่ายๆ โดยเคล็ดลับทั้ง 9 ประกอบไปด้วยการเตรียมพาสปอร์ตของตัวเองให้พร้อมตลอดเวลา หรือการเลือกซื้อซิมของเครือข่ายที่มีความเร็วอินเตอร์เน็ตสูงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำเราอดหัวเราะไม่ได้เลยนั่นก็คือ การแนะนำภาษาไทยง่ายๆ ที่สำหรับผู้เริ่มต้นเลยนั่นก็คือคำว่า “Lod dai mai?” (ลดได้ไหม) นั่นเอง!! แน่นอนว่าสำหรับคนไทยอย่างเราแล้ว เมื่อพบหน้ากันตอนเช้าหรือเจอกันระหว่างทางคงจะไม่มีใครที่ยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวคำว่า “ลดได้ไหม” เป็นคำทักทายกันแน่ๆ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวได้อธิบายไว้ในข้อแนะนำข้อที่ 7 ของพวกเขาว่า ถ้อยคำดังกล่าวนั้นจำเป็นอย่างมากสำหรับการเดินชอปปิงในกรุงเทพ “คำดังกล่าวนั้นมีความหมายเหมือนกับคำว่า “Can you give a discount?” และเมื่อไหร่ที่พ่อค้าแม่ค้าตกลงพวกเขาจะตอบมาว่า “dai” และถ้าหากว่าลดไม่ได้ล่ะก็คุณจะได้ยินคำว่า “mai dai” แทน” และนอกจากจะสอนการต่อราคาแล้ว ทางเว็บไซต์ดังกล่าวยังได้เสริมเพิ่มเติมอีกว่า “สิ่งสำคัญที่สุดจำไว้ว่าหลังจากการต่อราคาเสร็จให้คุณพูดว่า “kob khun krup / kha” ด้วยซึ่งมีความหมายว่าขอบคุณนั่นเอง” เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไปเที่ยวต่างประเทศ นอกจากคำกล่าวทักทายแล้วคำศัพท์ที่ใช้ซื้อของก็เป็นเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้เลยเหมือนกันสินะเนี่ย ฮ่าๆ…
-
คนใจดีช่วยเหลือเจ้าหมาจรตัวน้อยที่มีร่างกายผิดปกติ ‘หัวโตแถมขาสั้น’ แต่ก็น่าร๊ากกกก
เรื่องราวของเจ้า Bighead น้องหมาหัวโตวัย 6 สัปดาห์จากสถานสงเคราะห์สัตว์ Humane Society Silicon Valley ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าเจ้าตูบตัวนี้เป็นน้องหมาสายพันธุ์ไหน แต่ความน่ารักของมันก็ทำให้เจ้าหน้าที่ของสถานสงเคราะห์นั้นหลงใหล และมันก็เป็นที่รักของเจ้าหน้าที่ทุกคนในศูนย์ คุณ Lauren Gallagher เจ้าหน้าที่การเงินของทางสถานสงเคราะห์สัตว์ ได้ตัดสินใจที่จะรับเจ้า Bighead และเพื่อนๆ ตัวอื่นๆ ของมันอีก 3 ตัวไว้ในความดูแลของเธอ หญิงสาวรักเจ้าตูบตัวน้อยทั้ง 4 ตัวมากๆ แต่ดูเหมือนกับว่าเธอจะชื่นชอบเจ้า Bighead มากกว่าเพื่อนๆ ของมันนิดหน่อย ถึงแม้ว่าเจ้าตูบจะมีลักษณะที่แตกต่างจากเพื่อนๆ “เจ้าตูบทั้ง 3 ตัวที่เหลือนั้นเหมือนกับลูกหมาปรกติทั่วๆ ไป แต่เจ้า Bighead นั้นมีหัวที่โตเหมือนกับลูกแตงโมยักษ์ แต่ทุกๆ คนก็รักมัน” คุณ Lauren กล่าว อย่างไรก็ตามหญิงสาวและทีมสัตวแพทย์ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เจ้าตูบนั้นมีลักษณะหัวที่โตกว่าเพื่อนๆ ของมัน แต่ทางคุณ Lauren คาดว่าลักษณะความผิดปรกตินี้อาจจะถ่ายทอดมาจากพ่อหรือแม่ของมัน สวัสดีฮะผมมิสเตอร์ Bighead เอง!! อย่างไรก็ตามทางสถานสงเคราะห์นั้นได้ทำการตรวจหาความผิดปรกติทาง DNA ของเจ้าตูบ และเมื่อผลการตรวจ…
-
คลิปสั้นน่ารัก ‘คาราเต้ดิ๊ก’ การต่อสู้ของน้องจู๋กับเชื้อร้าย HIV ที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วย!!
ทุกๆ วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีนั้น นอกจากจะเป็นวันเริ่มต้นเดือนสุดท้ายของปีแล้ว วันนี้ก็ยังถือเป็นวันเอดส์โลกอีกด้วยเช่นกัน โดยวันสำคัญดังกล่าวถูกจัดขึ้นมาเพื่อรณรงค์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ และให้ความรู้เกี่ยวกับเจ้าโรคร้ายที่คร่าชีวิตของผู้ป่วยไปกว่า 25 ล้านคนแล้วทั่วโลก และทางกลุ่มนักทำอนิเมชั่นอิสระที่ใช้ชื่อว่า Emanuele Colombo เองก็ได้ร่วมสร้างอนิเมชั่นที่ใช้ชื่อว่า Karate Dick เพื่อร่วมให้ความสำคัญในวันนี้อีกด้วย Karate Dick เป็นเรื่องราวของเจ้าจู๋หนุ่มนักสู้ ที่กำลังเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อต่อสู้กับเชื้อ HIV และได้ฝึกความแข็งแรงของเขา ก่อนที่จะสวมชุดเกราะถุงยางอนามัยและออกไปผจญโลกกว้าง สื่อให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมและทำความเข้าใจกับผู้คนว่าโรคร้ายนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยนั่นเอง “ขอบคุณวงการแพทย์ ที่ทำให้โรคเอดส์ไม่ใช่โรคร้ายเหมือนที่มันเคยเป็น แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าหากว่าเหล่าเยาวชนของเราขาดความรู้ในการป้องกัน เจ้าโรคร้ายนี้ก็อาจจะกลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้งก็ได้” คุณ Colombo หนึ่งในทีมผู้สร้างกล่าว ถึงแม้จะแข็งแรงแค่ไหนแต่ถ้าหากไม่ป้องกัน ก็อาจจะไม่รอดก็ได้นะเจ้ากระเจี๊ยว!! ไปชมความน่ารักๆ ของคลิปวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ได้ที่ด้านล่างนี้เลย… ที่มา designtaxi
-
พิพิธภัณฑ์ปล่อยงานศิลป์กว่า 20,000 ชิ้น ให้โหลดฟรีๆ ใช้เป็นภาพหน้าจอโทรศัพท์สวยๆ
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเดินทางไปรอบโลกเพื่อเที่ยวชมงานศิลปะตามสถานที่ต่างๆ อันขึ้นชื่อ เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายที่สูงแล้ว เวลาก็เป็นข้อจำกัดอันสำคัญ แต่เมื่อไม่นานมานี้ทางพิพิธภัณฑ์ศิลปะ The Los Angeles County Museum of Art (LACMA) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ผุดไอเดียใหม่นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์แบบออนไลน์ ซึ่งสามารถให้คุณเข้าชมงานศิลป์สวยๆ ผ่านจอคอมที่บ้านได้ง่ายๆ !! นอกจากเราจะสามารถเข้าชมงานศิลปะภายในบ้านง่ายๆ แล้ว เรายังสามารถที่จะดาวน์โหลดภาพผลงานศิลป์เหล่านั้นมาเก็บไว้เป็นวอล์เปเปอร์โทรศัพท์ หรือหน้าจอคอมเอาไว้ชื่นชมเองได้ฟรีๆ อีกด้วย โดยผลงานศิลป์ที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำการปล่อยให้ไดาวน์โหลดฟรีๆ ครั้งนี้มีด้วยกันมากถึง 20,000 รูป จากผลงานทั้งหมดกว่า 80,000 ชิ้นงานที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำการจัดแสดงเอาไว้ ส่วนใครที่สนใจอยากจะเก็บผลงานศิลปะเหล่านี้เอาไว้ล่ะก็ สามารถเข้าไปชมกันได้ที่เว็บไซต์ LACMA ของทางพิพิธภัณฑ์กันได้เลย ซึ่งภายในเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นจะมีการแบ่งหมวดหมู่ของภาพงานศิลป์เอาไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการค้นหา และนอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาจากคำเฉพาะได้อีกด้วย แต่ที่สำคัญอย่าลืมเลือกเฉพาะภาพโดเมนสาธารณะเท่านั้นนะจ๊ะ!! และนี่คือภาพบางส่วนที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ . . . . ถ้าหากใครอยากได้ภาพความละเอียดสูงล่ะก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดกันได้ที่เว็บไซต์เลย… . . . . . . ที่มา mymodernmet
-
Ed Sheeran เข้ารับเครื่องราชฯ จากราชวงศ์อังกฤษ และพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
ถ้าหากพูดถึงนักร้องชาวอังกฤษชื่อดังที่เป็นขวัญใจสาวๆ หลายๆ คนที่มาพร้อมกับบทเพลงรูปร่างของคุณ (Shape of You) คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับ Ed Sheeran อย่างแน่นอน นอกจากความสามารถในการร้องเพลงแล้ว ล่าสุดหนุ่ม Ed ของเรายังเพิ่งเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันวิเศษยิ่งแห่งสหราชอาณาจักรในชั้น MBE จากเจ้าชายชาร์ลส์ ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮม อีกด้วย โดยนักร้องหนุ่มของเรานั้นถือว่าเป็นผู้สร้างคุณงามความดีทางด้านศิลปะและงานการกุศล จึงทำให้เขาได้รับเครื่องราชดังกล่าวไปครอง นอกจากจะเข้ารับรางวัลเหรียญตราอันทรงเกียรติแล้ว นักร้องหนุ่มของเรายังได้ร่วมสนทนาอย่างเป็นกันเองกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อีกด้วย “พระองค์ถามผมเกี่ยวกับเรื่องของเพลงในอัลบัม และผมก็ตอบท่านว่าวันพรุ่งนี้ผมกำลังจะมีงานคอนเสิร์ตที่นิวยอร์ก ท่านรู้สึกทึ่งมากเมื่อรู้ว่าผมจะบินทันทีหลังจากจบงานมอบเครื่องราชฯ” นักร้องหนุ่มกล่าว นอกจากนี้ Ed เองก็ยังได้พูดเกี่ยวกับเรื่องของคุณปู่เขาอีกด้วย โดยเขาบอกว่าคุณปู่ของเขานั้นเป็นรอยัลลิสต์ และท่านคงจะดีใจแน่ๆ ที่ได้เห็นหลานชายของตัวเองได้รับเหรียญตราอันทรงเกียรตินี้ “คุณปู่คงจะดีใจมากๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้วท่านจากผมไปในวันเดียวกับที่ผมได้รับเครื่องราชฯ นี้ ผมคิดว่าเขาคงจะภูมิใจในตัวผมมากๆ” นักร้องหนุ่มกล่าว และเมื่อถูกถามถึงเคล็ดลับการประสบความสำเร็จทางด้านดนตรีของเขา นักร้องหนุ่มก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมคิดว่ามันเกี่ยวกับเรื่องของความพยายาม ตัวผมเองไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรมากมายกว่าคนอื่นเลย ผมคิดว่าเรื่องพรสวรรค์มีผลแค่ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ที่เหลือคือเรื่องของความพยายาม มุ่งมั่น และเชื่อมันในตัวเอง” ที่มา bbc
-
ชาวอังกฤษเร่งช่วยเหลือน้องหมาฮีโร่จากสงคราม ที่กำลังจะถูกการุณยฆาต ให้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องราวสุดเศร้าของน้องหมาวีรบุรุษจากอัฟกานิสถาน ที่กำลังจะถูกการุณยฆาตหลังจากที่ทางศูนย์ฝึกไม่สามารถหาบ้านหลังใหม่ให้กับมันได้ (อ่านข่าวเก่า เจ้าหมาฮีโร่จากอัฟกานิสถานกำลังจะถูกการุณยฆาต หลังปลดประจำการและไม่มีบ้านหลังใหม่) แต่ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ สามารถหาบ้านหลังใหม่หลังใหม่และไม่จำเป็นต้องทำการรุณยฆาตพวกมันแล้ว หลังจากที่มีการเรียกร้องให้ไว้ชีวิตเจ้า Kevin และ Dazz นาย Gavin Williamson สมาชิกของพรรคอนุรักษ์นิยมอังกฤษได้ทำการติดต่อไปยังกองทัพเพื่อให้ทบทวนการการุณยฆาตเจ้าตูบทั้งสองตัวหลังจากที่มีการเรียกร้องให้ไว้ชีวิตพวกมัน โดยเขาได้พยายามที่จะหาบ้านหลังใหม่ให้กับเจ้าตูบทั้ง 2 นอกจากนี้ทางด้าน Alan Duncan รัฐมนตรีต่างประเทศเองก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางศูนย์ฝึกไว้ชีวิตของเจ้าตูบด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้คมากถึง 368,000 คนที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนให้ไว้ชีวิตของเจ้าตูบอีกด้วย ปัจจุบันในกองทัพอังกฤษนั้นมีสุนัขที่ประจำการอยู่มากกว่า 400 ตัวด้วยกัน พวกมันล้วนถูกฝึกมาสำหรับช่วยปฏิบัติภารกิจในสนามรบที่เสี่ยงอันตราย ซึ่งหลังจากปลดประจำการแล้วสุนัขเหล่านี้จะถูกฝึกอีกครั้งเพื่อให้พร้อมที่จะออกไปอยู่กับครอบครัวใหม่ของพวกมัน อย่างไรก็ตามมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาขอลงชื่อเพื่อรับสุนัขเหล่านี้ไปเลี้ยง แต่ทางกองทัพจะต้องทำการประเมินพฤติกรรมของพวกสุนัขอย่างเข้มวงดก่อนที่จะส่งมอบมันให้กับผู้ที่มาขอรับเพื่อความปลอดภัย โดยสุนัขที่ไม่ผ่านการประเมินและไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตด้านนอกได้นั้นทางกองทัพจำเป็นต้องทำการการุณยฆาต โดยโฆษกของทางกองทัพได้ให้สัมภาษณ์ว่า “สุนัขทุกตัวนั้นล้วนมีความหมายสำหรับพวกเรา และถ้าหากเป็นไปได้พวกเราก็อยากที่จะดูแลพวกมันให้ดีที่สุด แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่พวกเราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย” ที่มา dailymail
-
แผนผังความยุ่งเหยิงของรถไฟโตเกียว ตอนเช้าก็ดูสบายตา แต่พอชั่วโมงเร่งด่วนเท่านั้นแหละ
ในตอนเช้าๆ ของวันทำงาน ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งในเมืองใหญ่ๆ ที่ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานล่ะก็ คงจะชินตากับภาพผู้คนนับพันที่ตื่นมาเผชิญกับช่วงเช้าที่โหดร้ายพร้อมๆ กับคุณบนสี่แยกไฟแดง แต่ไม่เพียงแค่สี่แยกไฟแดงเท่านั้น ในระบบขนส่งสาธารณะอย่างเช่นรถไฟฟ้าหรือรถไฟใต้ดินเองก็มีผู้คนหนาแน่นไม่แพ้กัน และถ้าหากว่าคุณคิดว่าชั่วโมงเร่งด่วนในกรุงเทพบ้านเรานั้นเป็นอะไรที่ดูจะวุ่นวายสุดๆ แล้วล่ะก็ คุณอาจจะเปลี่ยนความคิดเลยก็ได้ เมื่อได้เห็นขบวนรถไฟตอนชั่วโมงเร่งด่วนของกรุงโตเกียว ผ่างง!! นอกจากความแออัดของผู้โดยสารแบบที่เราเคยเห็นกันในคลิปวิดีโออื่นๆ ก่อนหน้านี้แล้ว ความหนาแน่นของขบวนรถเองก็เยอะไม่แพ้กันเลยทีเดียว ซึ่งในชั่วโมงเร่งด่วนของย่านธุรกิจแห่งนี้ จะมีรถไฟเข้าออกทุกๆ 5 นาทีเลยทีเดียว!! คลิปวิดีโอจากช่องยูทูป badger ได้เผยให้เห็นการเคลื่อนที่ของรถไฟที่เคลื่อนที่รอบเมืองหลวงแห่งนี้ โดยรถไฟขบวนแรกนั้นจะเริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณตี 4:42 ในสาย Keihin Tohoku (สีฟ้าอ่อน) ก่อนที่จะเคลื่อนผ่านบางสถานี คล้ายกับสาย Yamanote (สีเขียวอ่อน) ซึ่งรถไฟนี้จะจอดรับผู้โดยสารหลักๆ ที่สถานีโตเกียว ชินะงะวะ ชิบุย่า ชินจุกุ และ อะกิฮะบะระ โดยสัญญาณแห่งความวุ่นวายนั้นจะเริ่มต้นขึ้นประมาณ 7 โมงเช้า ก่อนที่หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นความหนาแน่นองรถไฟในสายต่างๆ ก็เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่จะมีเวลาเข้างานประมาณ 9 โมงเช้านั่นเอง จากนั้นทุกอย่างจะเริ่มเข้าสู่สภาวะปรกติเมื่อเวลาประมาณ 10 โมงเช้า และถ้าหากว่าคุณไม่อยากจะฝ่าฝูงชนที่กำลังแออัดกันในตอนเช้าล่ะก็ ช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการนั่งรถไฟแบบสบายๆ เลยทีเดียว ตอน 8 โมงเช้าถือว่าเป็นช่วงเวลาที่รถไฟนั้นแน่นสุดๆ ไปเลย…
-
คลิปวิดีโอสั้นๆ ที่แสดงให้มนุษย์เราเห็นถึงภัยของ “ภาวะโลกร้อน” ได้อย่างน่าเศร้าใจ…
ปัญหาโลกร้อนหนึ่งในปัญหาที่กำลังลุกลามอย่างหนัก และกำลังส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิของโลก แต่นอกจากผลกระทบต่อพวกเราชาวโลกแล้ว ปัญหาดังกล่าวเองก็ยังส่งผลกระทบโดยตรงกับสัตว์ขั้วโลกอย่างพวกหมีขาวอีกด้วย คุณ Paul Nicklen ช่างภาพประจำของ National Geographic ร่วมกับทีมถ่ายภาพยนตร์จาก Sea Legacy ได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนเศร้าของเจ้าหมีขาวตัวหนึ่งจากเกาะ Baffin Islands ประเทศแคนาดา ที่กำลังพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการหาเศษซากสัตว์จากถังขยะ เจ้าหมีตัวผอมพยายามหาเศษอาหารเพื่อให้มีชีวิตรอด เนื่องจากสภาวะโลกร้อนทำให้แหล่งอาหารของมันลดลงอย่างมาก คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ช่างภาพหนุ่มของเราให้สัมภาษณ์ว่าเขาบันทึกภาพของเจ้าหมีตัวนั้นด้วยความเศร้าและมันช่างเป็นภาพที่น่าหดหู่ใจอย่างมาก “พวกเรารู้สึกหดหู่ใจมาก เราบันทึกภาพของมันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา” คุณ Nicklen กล่าว นอกจากสภาพอันแสนน่าหดหู่ของเจ้าหมีที่ผอมเหลือแต่กระดูกแล้ว ในคลิปวิดีโอยังเผยให้เห็นถึงท่าเดินที่แปลกๆ ของมันเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ขาหน้าอีกด้วย เจ้าหมีกำลังคุ้ยหาเศษอาหารจากถังขยะที่ชาวเอสกิโมท้องถิ่นทิ้งเอาไว้ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กำลังส่งผลกระทบต่อโลกของเรา และภาพของเจ้าหมีจากแคนาดาตัวนี้คงจะบอกเราเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้จากฝีมือของพวกเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ช่างภาพหนุ่มยังได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า เขาต้องการที่จะสื่อให้ทุกคนเห็นถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของเรา และมันก็เป็นการทำใจลำบากไม่น้อยที่ต้องยืนถ่ายภาพอันแสนหดหู่นี้อยู่เฉยๆ โดยที่ไม่สามารถยื่นมือเข้าไปช่วยได้ “การที่เราโยนอาหารให้กับมันก็เป็นเพียงแค่การยื้อความทุกข์ให้พวกหมีเท่านั้น และนอกจากนี้การเลี้ยงหมีขาวก็ยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในแคนาดาอีกด้วย” ช่างภาพหนุ่มกล่าว และนี่คือคลิปวิดีโอที่จะสื่อให้เราเห็นถึงผลกระทบจากการละเลยเรื่องสิ่งแวดล้อม ที่มา nationalgeographic
-
“กำแพง” ที่จะมาเปิดเผยประสบการณ์อันน่าละอายใจของ ‘ผู้หญิง’ ที่พวกเขาเคยผ่านมันมาก่อน
คุณ Suzie Blake ศิลปินสาวชาวออสเตรเลีย เจ้าของผลงานศิลปะ The Wall Of Shamed งานศิลปะที่บอกเล่าถึงเรื่องราวความน่าละอายในสิ่งต่างๆ ที่ผู้หญิงต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นความอายในเรื่องรูปร่าง ความอ้วน การมีประจำเดือน หรือแม้การถูกคุกคามทางเพศ ศิลปินสาวผู้นี้ได้เล่าถึงที่มาของผลงานของเธอว่ามันเริ่มต้นมาจากประสบการณ์การถูกล้อเกี่ยวกับรูปร่างของเธอในตอนเด็กๆ เธอต้องการที่จะสร้างงานศิลปะชิ้นนี้เพื่อให้ผู้หญิงและเด็กสาวคนอื่นๆ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความน่าอายเหล่านั้นเพราะบ่อยครั้งที่พวกเธอมักจะตกเป็นเหยื่อของการดูถูกและกล่าวโทษ “บางศาสนาเชื่อว่าประจำเดือนของผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่สกปรกและเป็นสิ่งที่ไม่ดี หรือบางครั้งถ้าหากผู้หญิงอยากแต่งตัวสวยๆ หรือชุดที่เซ็กซี่ๆ พวกเธอก็มักจะถูกมองเป็นคนไม่ดี นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการให้นมลูกในที่สาธารณะ และการตัดสินพวกเธอจากรูปลักษณ์ภายนอกอีกด้วย ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้พวกผู้หญิงแบบเราเกิดความอับอาย” ศิลปินสาวกล่าว คุณ Suzie Blake ศิลปินสาวชาวออสเตรเลียเจ้าของผลงานศิลปะชุดนี้ ข้อความต่างๆ ที่อยู่บนกำแพงนั้น เป็นสิ่งที่ให้ผู้เข้าชมผลงานศิลปะ ได้แบ่งปันเรื่องราวความอายที่พวกเธอต้องเผชิญ ซึ่งพวกเธอเลือกที่จะสื่อออกมาจากการวาดภาพ หรือเขียนข้อความบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นก็ได้ หนึ่งในข้อความจากผู้เข้าชมผลงานศิลปะครั้งนี้ ที่บอกว่าเธอเองก็ถูกแฟนหนุ่มด่าว่าอ้วนเหมือนกัน และนอกจากการเขียนข้อความต่างๆ ลงในกำแพงที่นำมาจัดในนิทรรศการ ศิลปะ the Victorian College of the Arts Masters Graduate ที่กรุงเมลเบิล ประเทศออสเตรเลียแล้ว ศิลปินสาวยังได้เชิญชวนให้เหล่าสาวๆ ได้แบ่งปันประสบการณ์ดังกล่าว่านแฮชแท็ก #wallofshamed อีกด้วยเช่นกัน …
-
สดับฟังเงาเสียง Whitney Houston ในร่างชาย แค่อ้าปากก็ขนลุกแล้ว กวาดใจผู้ฟังได้ถล่มทลาย!!
สำหรับใครที่เป็นแฟนเพลงสากล คงจะคุ้นเคยกับชื่อของนักร้องสาวเสียงทรงพลังอย่าง Whitney Houston กันเป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าเธอจะจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 48 ปี แต่ทว่าเสียงร้องและบทเพลงของเธอนั้นก็ยังคงอยู่ในใจแฟนเพลงหลายๆ คนอย่างแน่นอนรวมถึงชายหนุ่มผู้นี้ด้วย!! คุณ Johnny Manuel หนุ่มผู้เข้าประกวดจากเวที America’s Got Talent 2017 ได้เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆ ในห้องส่ง หลังจากที่เขาโชว์พลังเสียงในบทเพลง I Have Nothing ของนักร้องสาวผู้ล่วงลับ ชายหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์กับกรรมการทั้ง 4 ว่าตัวเขาเองนั้นเริ่มต้นการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่จะเริ่มเซ็นสัญญากับค่ายเพลงตอนอายุ 14 และหนึ่งในความฝันของเขาก็คือการได้เป็นนักร้องระดับโลกนั่นเอง และหลังจากที่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกับกรรมการทั้ง 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานนี้ก็ถึงตาที่พ่อหนุ่มหน้ามนคนชอบไมค์ของเราต้องแสดงฝีไม้ลายมือให้กรรมการทั้งฟังแล้ว และเมื่อคนตรีบรรเลงเนื้อเพลงขึ้นร้อง ศิลปินหน้าจอคืนนี้จะขอจองไมค์ เฮ้ย!! ใช่ที่ไหนล่ะ เมื่อดนตรีบรรเลง พ่อหนุ่มของเราก็ปล่อยของ เรียกว่าจัดเต็มแบบฟูลอัลบัมกันเลยทีเดียว และอย่างที่บอกไปว่าตัวเค้าเองฝึกร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ งานนี้ก็ไม่ทำให้กรรมการทั้ง 4 ต้องผิดหวังเลย แถมยังเรียกเสียงกรี๊ดจากห้องส่งได้อย่างมากมายอีกด้วย!! ไปฟังพลังเสียงของ Johnny Manuel กันแบบเต็มๆ ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… แบบนี้เอาไปเลย 4 ผ่านคร่าาา!! …
-
สติ๊กทูล้ำๆ พร้อมฟังก์ชันตรวจอาการ “แพ้โซบะ” แสดงให้รู้ได้ทันทีเมื่อมีสีแดง!!
ญี่ปุ่นอาจจะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวหลายๆ คน เพราะนอกจากความสวยงามของบ้านเมืองแล้ว ความแปลกใหม่และรสชาติของอาหารก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่มักจะมีอาการแพ้อาหารอย่างเช่นอาหารทะเล หรือพวกถั่วต่างๆ และหนึ่งในอาการแพ้ที่มักจะพบในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ก็คืออาการแพ้เส้นโซบะนั่นเอง!! เนื่องจากเส้นโซบะนั้นทำมาจากวัตถุดิบอย่างแป้งบัควีท ซึ่งมีผู้บริโภคบางคนอาจจะเกิดอาการแพ้เจ้าแป้งชนิดนี้ได้และอาจทำให้เกิดอาการช็อกเนื่องจากการแพ้อย่างรุนแรงที่เรียกว่า Anaphylactic เหมือนกับการแพ้ยา ถั่วลิสง หรือพวกเหล็กในของแมลง และแน่นอนว่าเมื่อเล็งเห็นปัญหาแบบนี้พวกเค้าก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยทางกลุ่ม 230 Soba Street Promotion Committee ก็ได้ร่วมมือกับเอเจนซี่ระดับโลกอย่าง J. Walter Thompson นำเสนอไอเดียสนุกๆ ที่มีชื่อว่า “Soba Allergy Tattoo Checker” หรือแผ่นสติ๊กทูเช็กอาการแพ้โซบะนั่นเอง เจ้าแผ่นสติ๊กทูเช็กอาการแพ้นี้ถูกออกแบบเป็นลวดลายแบบศิลปะญี่ปุ่นต่างๆ ที่สวยงาม และได้รับความร่วมมือแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญอย่างดอกเตอร์ Mami Nomura ในการออกแบบและทำสารเช็กภูมิแพ้อีกด้วย โดยหลักการทำงานของเจ้าแผ่นสติ๊กทูนี้ก็ง่ายๆ เพียงแค่คุณแปะมันลงที่แขน และจากนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกำลังจะเพลิดเพลินกับเมนูโซบะเย็นหรืออะไรก็ตามที่มีเส้นโซบะเป็นส่วนผสม คุณก็แค่หยดน้ำซุปของอาหารจานนั้นลงที่สติ๊กทู และถ้าหากว่าคุณมีอาการแพ้ล่ะก็จะมีลวดลายสีแดงๆ เกิดขึ้นที่บนสติ๊กทูนั่นเอง แบบนี้!! นอกจากจะเป็นไอเดียเจ๋งๆ แล้ว เจ้าแผนสติ๊กทูเช็กอาการแพ้นี้ยังเป็นอีกหนึ่งแผนโปรโมต ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกับอาหารของชาวญี่ปุ่นอย่างโซบะมากขึ้นอีกด้วย ที่มา jwt, thedrum
-
นักดับเพลิงพบน้องหมาผู้น่าสงสารกว่า 85 ตัว ที่แออัดกันอยู่ในบ้านหลังถูกเพลิงไหม้
เรื่องราวสุดน่าสะเทือนใจสำหรับคนรักน้องหมานี้เกิดขึ้นรัฐจอร์เจีย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของสถานีดับเพลิง Fulton County ได้พบน้องหมากว่า 85 ตัวที่แออัดกันอยู่ภายในบ้านที่สถาพย่ำแย่สุดๆ น้องหมาเหล่านี้ถูกพบหลังจากที่พนักงงานดับเพลิงได้เข้าไปสำรวจภายในบ้านที่ถูกไฟไหม้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นอยู่ในสภาพที่แย่มากๆ และเต็มไปด้วยคราบอุจจาระของสุนัข สุนัขบางตัวกำลังอยู่ในสภาพอุ้มท้อง และบางตัวก็ได้เสียชีวิตภายในบ้านหลังนี้ รองหัวหน้าหน่วยดับเพลิงได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในตอนแรกนั้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าวได้เนื่องจากสถานการณ์ของเพลิงไหม้นั้นยังไม่ปรกติ และนอกจากนี้การมีสุนัขไว้ในบ้านที่มากเกือบ 90 ตัวนี้ก็ยังถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอีกด้วย เหล่าน้องหมาที่แออัดกันอยู่ภายในบ้านที่มีสภาพย่ำแย่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้น้องหมาทั้งหมดก็อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่แล้ว และพวกเขากำลังเตรียมประกาศหาบ้านหลังใหม่ให้กับเหล่าเจ้าตูบ “สุนัขทั้งหมดอยู่ในความปลอดภัยแล้ว พวกมันได้รับการรักษาและดูแลอย่างดีจากทีมสัตวแพทย์ และขณะนี้เรากำลังประเมินและเตรียมหาบ้านหลังใหม่ให้กับพวกมัน” ทางสถานีดับเพลิง Fulton County เขียนข้อความผ่านหน้าเฟซบุ๊กของพวกเขา แววตาของเหล่าน้องหมาที่ต้องผ่านเรื่องร้ายๆ มา นอกจากนี้ทางสถานีดับเพลิงยังได้เปิดขอรับการสนับสนุนพวกสุนัขเหล่านี้ผ่านทางเว็บไซต์ lifelineanimal อีกด้วย ซึ่งถ้าหากใครที่อยากมอบเงินช่วยเหลือน้องหมาเหล่านี้ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดกันได้เลย… ที่มา dailymail
-
ชายหนุ่มลองเพ้นท์เฮนน่า แต่ดันเกิดอาการแพ้ งานนนี้เลยได้แผลเป็นรูปหนวดไปตลอดชีวิต!!
จากความสนุกเพียงชั่วคราวกลับทำให้คุณ Arran Maye หนุ่มชาวอังกฤษวัย 28 ปีผู้นี้ อาจจะได้รับรอยแผลเป็นที่ติดอยู่บนใบหน้าของเขาไปตลอดกาล ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ลองเพ้นท์เฮนน่าในระหว่างที่ไปเที่ยวสเปนกับเพื่อนๆ ในระหว่างการท่องเที่ยวในงานเทศกาล Benidorm Fiesta คุณ Arran ได้ลองการเพ้นท์เฮนน่าเป็นรูปหนวดที่หน้าของเขา แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเกิดอาการแพ้หมึกเฮนน่า งานนี้หลังจากที่ลบคราบหมึกออก เขาเลยได้รอยแผลเป็นมาแทน!! การใช้หมึกเฮนน่าที่ไม่ได้รับการรับรองซึ่งมีสารเคมีที่เรียกว่า PPD ปนเปื้อนอยู่ด้วย จะทำเกิดอาการแพ้และเป็นรอยแผลเป็นได้ ซึ่งคุณ Arran เองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของหมึกเฮน่าที่ไม่ได้มาตรฐานนี้ แผลเป็นจากอาการแพ้หมึกนี้อาจจะส่งผลให้ชายหนุ่มต้องมีแผลเป็นรูปหนวดนี้ไปตลอดกาล “ผมบ้ามากที่ยอมเชื่อช่างเพ้นท์เฮนน่าคนนั้น เราคิดว่ามันน่าจะสนุกดีสำหรับการแต่งตัวของเราในคืนนั้น” ในตอนแรกช่างบอกกับคุณ Arran ว่าสีเฮนน่าดังกล่าวนั้นจะหายไปภายใน 2 ถึง 3 วัน แต่ทว่าอาการแพ้หมึกกลับเกิดขึ้นทันทีที่เขาเพ้นท์เฮนน่า “วันรุ่งขึ้นหลังจากที่เพ้นท์ ผมเริ่มมีอาการพุพองขึ้นบนใบหน้าของผม และไม่กี่วันหน้าของผมก็บวมขึ้นอย่างมาก มันรู้สึกเหมือนกับว่าใบหน้าของผมกำลังต่อต้านเจ้าหมึกนั้นอยู่ ตอนนั้นมันรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมากๆ หมอบอกผมว่าแผลเป็นนี้จะอยู่กับผมไปอีกประมาณ 6 เดือน” ถึงแม้ว่าแพทย์จะแนะนำให้เขาเข้ารับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายผิวหนัง แต่คุณ Arran กลับปฏิเสธ เขาเลือกที่จะใช้วิธีการรักษาด้วยตัวเองโดยใช้ยาและครีมที่ซื้อมาจากร้านขายยา แต่ทว่าอาการกลับไม่ดีขึ้น แถมเขายังเริ่มหายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดต้องเข้ารับการักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หลังจากที่พักรักษาตัวอยู่นานสองคืน ทางศัลยแพทย์ได้เตือนว่าชายหนุ่มอาจจะมีแผลเป็นนี้ไปตลอดชีวิต!! แต่อย่างไรก็ตาม หนุ่มวัย 28 ปีผู้นี้ก็ยังสามารถยิ้มได้ ถึงแม้ว่าเขาจะเจอเรื่องร้ายๆ…
-
“จูเลียส ซีซาร์” เคยถูกลักพาตัว แต่ไม่กลัวเพราะเค้าคือจอมทัพแห่งโรมัน แถมยังขอขึ้นค่าไถ่เองอีก!!
หลายๆ คนอาจจะรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของจูเลียส ซีซาร์ รัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่และโด่งดังจากโรมันผู้นี้อย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นยอดแม่ทัพและนักปกครองที่เก่งกาจแค่ไหน ครั้งหนึ่งซีซาร์เองก็เคยเสียท่าถูกโจรสลัดจับไปเป็นตัวประกันมาแล้ว!! ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 75 ปีก่อนคริสต์ศักราช ตอนที่จูเลียส ซีซาร์อายุได้ 25 ปี วันหนึ่งในระหว่างที่เขากำลังแล่นเรืออยู่นั้น จู่ๆ เขาก็ถูกโจรสลัดจาก Cilician ลักพาตัวไป และถูกเรียกค่าไถ่เป็นเครื่องเงิน 20 ทาเลนท์ (หน่วยเงินในสมัยนั้น) หรือประมาณ 19 ล้านบาทในปัจจุบัน แต่ทว่าจูเลียส ซีซาร์กลับไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวเลย เขากลับหัวเราะแล้วบอกกับพวกโจรว่า “เจ้าไม่รู้ซะแล้วว่าไผเป็นไผ!! ทำไมไม่ขึ้นค่าไถ่เป็น 50 ทาเลนท์ล่ะ แค่ 20 น่ะไม่พอสำหรับค่าตัวข้าหรอก ก๊าก ก๊ากๆ!!” แน่นอนเมื่อเจ้าตัวเสนอมาแบบนี้ มีหรือที่เหล่าโจรจะไม่อยากได้เงินจำนวนมหาศาลนั้น โจรสลัดตอบตกลงโดยไม่ลังเล พวกเขาจับตัวจูเลียส ซีซาร์และลูกเรือบางส่วนไว้เป็นตัวประกัน ก่อนที่จะให้คนที่เหลือออกไปหาเงินค่าไถ่ การที่จะอยู่เฉยๆ ในเรือรอเงินค่าไถ่นาน 38 วันโดยที่ไม่ทำอะไรเลยนั้นคงจะไม่ใช่วิถีทางของจอมทัพอย่างจูเลียส ซีซาร์แน่ๆ เขาจึงเริ่มที่แผนการที่จะยึดครองเรือโจรสลัด!! อย่างที่หลายๆ คนทราบกันดี นอกจากความสามารถในการคุมทัพและสู้รบของเขาแล้ว จูเลียส ซีซาร์ยังมีความสามารถในการเขียนบทกวีและร้อยแก้วอีกด้วย ในระหว่างที่ถูกจับเป็นเชลยจอมทัพของเราได้ใช้เวลาว่างในการแต่งบทกวีและร่างสุนทรพจน์ของเขา จูเลียส ซีซาร์อ่านบทกวีและร่างสุนทรพจน์เหล่านั้นให้เหล่าโจรสลัดฟัง…
-
งานวิจัยด้านความรู้สึก “การถ่ายรูปอาหารก่อนกิน” ช่วยเพิ่มรสสัมผัสอาหาร ให้ดีขึ้นได้งั้นหรือ!?
ปัจจุบันการถ่ายภาพอาหารนั้นดูเหมือนจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่หลายๆ คนมักจะต้องทำก่อนกินอาหาร ไม่ต่างจากการนั่งพนมมือพร้อมกับท่องว่า “ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง” กันเลยทีเดียว แต่อย่าเพิ่งดูถูกกันไปนะเออ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีผลวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การถ่ายรูปอาหารก่อนกินนั้นจะช่วยเพิ่มรสสัมผัสที่ดีขึ้น!! ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Consumer Marketing พบว่าผู้คนจะมีการรับรู้รสชาติของอาหารแตกต่างกันเมื่อถ่ายภาพของอาหาร ในการศึกษาดังกล่าวได้ทำการเปรียบเทียบโดยให้กลุ่มตัวอย่างลองทานอาหาร โดยเปรียบเทียบกันระหว่าง การทานอาหารแบบปกติ กับ การถ่ายภาพของอาหารก่อนรับประทาน หลังจากนั้นจึงให้พวกเขาลงคะแนนเพื่อประเมินรสสัมผัสของอาหาร ทางทีมวิจัยเชื่อว่าการถ่ายภาพของอาหารนั้นจะทำให้ผู้บริโภคได้มีรับรู้กลิ่นของอาหาร และมันสามารถช่วยเพิ่มสุนทรียภาพของการทานอาหารได้มากขึ้นนั่นเอง “อย่างน้อยๆ การมองภาพของที่กล้องนั้น จะเป็นการเพิ่มสุนทรียภาพของการรับรู้และการดมกลิ่น พร้อมกับการดูภาพที่สวยงามของอาหารนั้น จะนำผู้บริโภคไปสู่ประสบการณ์การทานอาหารที่พวกเขาคาดหวังไว้” Sean Coary หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าผลการวิจัยนี้จะใช้อธิบายได้เฉพาะอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเท่านั้น เนื่องจากทีมวิจัยพบว่าการถ่ายภาพของอาหารเพื่อสุขภาพก่อนทานนั้น ไม่ได้ช่วยทำให้รสสัมผัสดีขึ้นแต่อย่างใด โดยทีมวิจัยเชื่อว่าทฤษฎีนี้เกี่ยวข้องกับความคาดหวังของเรากับอาหารที่อยู่ตรงหน้านั่นเอง กล่าวคือ เราจะความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเจออาหารที่อยากกิน และจากนั้นการถ่ายภาพของอาหารก็จะช่วยส่งเสริมการรับรู้ของเราต่อจานอาหารที่อยู่ตรงหน้า ตรงกันข้ามกับอาหารเพื่อสุขภาพ มันอาจจะมีรสชาติที่ไม่ถูกปากถูกใจ เท่ากับอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การถ่ายภาพจึงไม่ช่วยสงเสริมความอยากให้มากขึ้น เพราะฉะนั้นอาจจะสรุปง่ายๆ ว่า ถ้าไปกินขนมหรือของหวาน การถ่ายภาพก่อนกินก็จะช่วยให้เรารู้สึกว่ามันอร่อยมากขึ้นไปอีก แต่หากไปกินสลัดออแกนิค การถ่ายภาพก็ไม่ได้ทำให้ผักนั้นหวานขึ้นหรอกนะ ฮ่าๆๆ ที่มา says
-
หนุ่มออสซี่ตั้งกล้องถ่ายผี แต่กลับเจอผีผ้าห่ม ระหว่าง “แฟนสาว” กับ “ลูกของตัวเอง” แทน!!
ไม่รู้ว่าจะให้คำนิยามอารมณ์ความรู้สึกของเหตุการณ์ต่อไปนี้อย่างไรดี หลังจากที่หนุ่มออสซีผู้หนึ่งที่เชื่อว่าบ้านของเขานั้นมีมวลสารพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ และได้ตั้งกล้องถ่ายวิญญาณเอาไว้ในห้องเพื่อตรวจดูความแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในบ้าน แต่ทว่าแทนที่จะได้เห็นผี งานนนี้พ่อหนุ่มของเราดั๊นได้เห็นกิจกรรมเข้าจังหวะ ระหว่างแฟนสาวคนใหม่กับลูกชายของเขาแทนซะนี่!! วันหนึ่งหลังจากที่ชายหนุ่มของเราลืมปิดกล้องที่เขาตั้งไว้เพื่อถ่ายภาพของสิ่งเร้นลับในบ้าน ชายหนุ่มก็ได้พบภาพของแฟนสาวคนใหม่วัย 28 ปีของเขา กำลังเล่นจ้ำจี้กับลูกชายวัย 16 ปีของเขาอยู่ หญิงสาวคนดังกล่าวคบหากับหนุ่มออสซี่ผู้นี้มานานกว่า 11 ปีแล้ว และเธอเองก็เป็นแม่เลี้ยงของเจ้าหนูน้อยมาตั้งแต่ตอนที่เขาอายุได้ 9 ขวบ ชายหนุ่มตัดสินใจฟ้องร้องเธอหลังจากที่เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุทำให้เธอถูกศาลตัดสินจำคุก 6 เดือนข้อหาพรากผู้เยาว์ ผู้พิพากษา David Porter ได้ให้สัมภาษณ์ว่าผู้ต้องหาสาวรู้จักกับหนุ่มน้อยมาตั้งแต่ตอนที่เขาเด็กๆ แล้ว แต่เธอเริ่มเข้ามาอาศัยที่บ้านหลังดังกล่าวเมื่อปี 2012 นอกจากนี้ผู้พิพากษายังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016 หลังจากที่หญิงสาวคนดังกล่าวได้เข้าไปในห้องนอนของหนุ่มน้อยเพื่อพูดคุยเรื่องการเรียนขับรถ ก่อนที่จะเลยเถิดไปถึงการขับอย่างอื่นแทน จากการรายงานของสื่อต่างประเทศ เธอให้การสารภาพว่าเธอแอบมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหนุ่มน้อยผู้นี้มากว่า 3 ครั้งแล้ว และนอกจากนี้ เธอยังรับสารภาพอีกว่ารู้สึกละอายใจและเสียใจกับสิ่งที่ทำไปอีกด้วย… ที่มา elitereaders
-
10 อันดับนาฬิกาแพงที่สุดในโลก ที่ผู้นำบางประเทศอาจอยากหามาใส่ โอ้โหมันโก้จริงๆ
นาฬิกานั้นนอกจากจะเป็นเครื่องบอกเวลาแล้ว บางครั้งมันเองก็ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องประดับ และเครื่องบอกฐานะสำหรับหลายๆ คนอีกด้วย และแน่นอกว่าเจ้าเครื่องประดับที่บอกเวลาได้นี้ก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชายหลายๆ คนเลยใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นหนุ่มๆ อยากรู้กันบ้างหรือเปล่าว่านาฬิกาเรือนไหนบ้างที่มีราคาแพงระดับโลก!! 10. MAITRES DU TEMPS CHAPTER ONE ROUND TRANSPARENCE ราคาประมาณ 15 ล้านบาท นาฬิกาจากแบร์นด์หรูอย่าง Maîtres du Temps ที่มีทั้งความประณีตในงานออกแบบ มาพร้อมกับงานแกะสลักบนตัวเรือนที่ทำจากทองคำแท้ๆ ที่มีเพียงแค่ 11 เรือนบนโลกเท่านั้น!! 9. CHRISTOPHE CLARET DUALTOW NIGHT EAGLE ราคาประมาณ 17 ล้านบาท นาฬิกาสุดลิมิเต็ดที่มีเพียงแค่ 68 เรือนเท่านั้นบนโลก อีกหนึ่งฉายาของเจ้านาฬิกาสีดำเข้มเรือนนี้ก็คือ “อินทรีย์ดำ” มันมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์การออกแบบแบบโลกคู่ขนาน นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับอัญมณีอีก 65 เม็ดที่ส่องแสงอยู่บนหน้าปัดอีกด้วย 8. GEORGE DANIEL CO-AXIAL CHRONOGRAPH ราคาประมาณ 18 ล้านบาท หนึ่งในนาฬิการสุดคลาสสิครุ่นยอดนิยมในศตวรรษที่ 20 หนึ่งในผลงานการสร้างของนักทำนาฬิกายอดฝีมืออย่าง George Daniels ทุกเรือนนั้นเต็มไปด้วยรายละเอียดสุดประณีต พร้อมกับเทคโนโลยี Co-Axial…
-
คอนเซ็ปต์ตึกใหม่ของ Google ในลอนดอน นักวิเคราะห์ชี้เป็นเทรนด์ของอาคารอีก 20 ปีข้างหน้า
สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของกูเกิลหรือติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทแห่งนี้มาตลอดก็พอจะทราบกันดีว่าทางกูเกิลนั้นมีแผนที่จะสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สำนักงานใหม่ของ Google แห่งนี้จะมีความยาวของอาคารอยู่ที่ 329.7 เมตร หากจับมันมาตั้งขึ้นในแนวตั้ง มันก็จะมีความสูงที่มากกว่าตึก The Shard ที่เป็นแชมป์อยู่ที่ 309.6 เมตรเลยทีเดียว ภาพร่างของอาคารสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่ว่านี้ ทางด้าน Bjarke Ingels Group และ Heatherwick Studios บริษัทผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างและออกแบบอาการหลังใหม่นี้กล่าวว่า ที่นี่ไม่ใช่อาคารแต่มันคือแลนด์สเคป เนื่องจากมันมีความกว้างที่มากกว่าความสูงนั่นเอง นอกจากนี้ทางด้าน Amy Webb นักอนาคตวิทยาก็ได้คาดการณ์ว่าการสร้างอาคารแบบแลนด์สเคปนี้ จะเป็นหนึ่งในแนวคิดหลักของการสร้างอาคารในสหรัฐอเมริกาอีก 20 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว “แลนด์สเคปถือว่าเป็นแนวคิดในการสร้างอาคารแบบใหม่ที่เรายังคงไม่เคยเห็นในสหรัฐ ซึ่งมันอาจจะช่วยให้ชีวิตของเราง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น” Webb กล่าว Webb คาดการณ์ว่าในเมืองใหญ่ๆ ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างเช่นนครนิวยอร์ก และซานฟรานซิสโกนั้นจะมีแนวโน้มของการสร้างอาคารแบบแลนด์สเคปมากกว่า เนื่องจากตอบสนองต่อการขยายตัวของเมืองแบบโครงข่ายและทางเจ้าของสามารถสร้างห้องได้มากกว่าการสร้างอาคารแบบเดิม แต่อย่างไรก็ตามการสร้างอาคารในลักษณะนี้อาจจะไม่เหมาะสมกับการขยายตัวของเมืองในรูปแบบอื่นๆ และนอกจากนี้คุณ Webb ยังได้กล่าวอีกว่าในอนาคตสหรัฐอเมริกาจะเป็นแหล่งศูนย์กลางทางด้านพันธุวิศวกรรมหรือ Hub for X และการสร้างอาคารในลักษณะดังกล่าวก็จะตอบโจทย์ในด้านนี้ด้วย นอกจากนี้การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ ยังสนับสนุนในการสร้างอาคารแบบแลนด์สเคปนี้ด้วย ยกตัวอย่างเช่นการออกแบบลิฟต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ทั้งแนวดิ่งและแนวราบนั่นเอง นอกจากนี้การสร้างอาคารแบบแลนด์สเคปยังเป็นการเตรียมรับมือกับนโยบายควบคุมความสูงของอาคารในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ Webb ยังได้กล่าวถึงการขนส่งในโลกอนาคตอีกว่า…
-
หญิงสาวฉลองวันเกิดให้น้องวัวตัวสำคัญ ที่ทำให้ชีวิตเธอกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง
เรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจนี้เกิดขึ้นระหว่างคุณ Rachel Beasley และเจ้าวัว Huckleberry ของเธอ สำรับสาวน้อยแล้วเจ้าวัวตัวนี้เป็นมากกว่าวัวธรรมดา เพราะครั้งหนึ่งมันเคยมอบชีวิตใหม่ให้กับเธอ และทำให้เธอได้พบกับความสุขในชีวิตอีกครั้ง และวันเกิดครบรอบอายุ 1 ขวบของเจ้าวัว หญิงสาวก็ได้จัดงานวันเกิดเล็กๆ ให้กับผู้มีพระคุณของเธออีกด้วย “มันอาจจะไม่รู้เลยว่าฉันรักมันมากแค่ไหน ฉันรักมันสุดชีวิตเลยจริงๆ “ แม่ของเจ้า Huckleberry นั้นเสียชีวิตไปทันทีหลังจากที่มันลืมตาดูโลกได้เพียงแค่ 2 วัน ซึ่งทางเจ้าของมันเชื่อว่าแม่วัวตัวนั้นเสียชีวิตเนื่องจากมันกินลูกโอ๊กเข้าไป คุณ Beasley นั้นทำงานเป็นพยาบาลในห้องผ่าตัด เธอยังแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อสนับสนุนมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ และการเปิดสถานสงเคราะห์สัตว์นั้นก็ถือเป็นหนึ่งในความฝันของเธอเลยทีเดียว แม่ของ Huckleberry นั้นเป็นหนึ่งในวัวของพ่อคุณ Beasley และหลังจากที่แม่ของมันจากโลกนี้ไป พยาบาลสาวก็เข้ามาดูแลเจ้าวัวพร้อมกับทำหน้าที่แม่บุญธรรมของมัน เจ้าวัวเติบโตมาด้วยความรักของหญิงสาว และมันก็คอยอยู่ข้างๆ เธอในตอนที่คุณ Beasley ได้สูญเสียสัตว์เลี้ยงแสนรักของเธออย่างเจ้าแกะน้อย Grace ไป “Grace เป็นสัตว์ที่น่ารักมาก ตอนที่ฉันสูญเสียมันไปฉันรู้สึกเศร้าจริงๆ ฉันจดจำเรื่องราวของเจ้าแกะได้ทุกๆ เรื่องเลยทีเดียว มันเป็นเพื่อนคนสำคัญของฉันเลยจริงๆ “ คุณ Beasley และเจ้า Grace สัตว์เลี้ยงสุดรักของเธอ เจ้า Grace แกะวัย 16 ปี มันมีอายุมากกว่าแกะทั่วๆ ไป…
-
สาวพบแมวน้อยอยู่หน้าบ้าน ชาวเน็ตอ้างไม่ใช่แมวแต่มันคือสิงโต เจ้าหน้าที่โต้ มันคือของปลอม!!
กลายเป็นที่ฮือฮาบนโลกออนไลน์อย่างมาก หลังจากที่หญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ภาพของเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง พร้อมกับประกาศตามหาเจ้าของ ซึ่งชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยต่างร่วมแชร์ภาพดังกล่าวพร้อมกับช่วยตามหากันยกใหญ่ เธออ้างว่าพบเจ้าเหมียวตัวนี้อยู่ที่หน้าบ้านของเธอในรัฐแอริโซนาเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา จากนั้นก็ให้อาหารกับมันเป็นปลาทูน่า 3 กระป๋องก่อนที่จะพาเจ้าเหมียวตัวนั้นไปอาบน้ำ ข้อความของหญิงสาวพร้อมกับภาพของเจ้าเหมียวยักษ์ตัวนั้น แต่จากการประกาศตามหาเจ้าเหมียวธรรมดาๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ซะนี่ หลังจากที่มีชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยบอกว่าแมวยักษ์ที่เธอพบน่ะ มันไม่ใช่แมวน้อยธรรมดา แต่มันคือสิงโตภูเขาต่างหากล่ะ!! งานนี้ก็ต้องเดือดร้อนถึงศูนย์ The Arizona Game and Fish Department กันเลยทีเดียว เพราะหลายๆ คนที่ได้เห็นภาพต่างโทรไปแจ้งกับทางศูนย์ขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว แต่ทางศูนย์เองก็ได้ออกมาชี้แจงเรื่องของสิงโตภูเขาที่กำลังแตกตื่นกันว่า แท้จริงแล้วมันเป็นเรื่องแต่งขึ้นต่างหาก และภาพนี้ก็ถูกนำมาหลอกพวกชาวเน็ตหลายต่อหลายครั้งแล้ว พร้อมกับขอร้องให้ประชาชนที่รักอย่าแจ้งเรื่องของเจ้าสิงโตภูเขาตัวนี้มาอีกเลย ภาพของเจ้าเหมียวที่ถูกโพสต์ก่อนหน้า ช่วยยืนยันว่าภาพนี้ถูกใช้มาแล้วหลายครั้ง บางครั้งเรื่องที่ถูกแชร์บนโลกออนไลน์เนี่ยก็ต้องเช็กที่มากันดีๆ หน่อยล่ะนะ ฮ่าๆ ที่มา tucson
-
เมืองไทยคิดว่ายังไง!? นี่คือบทลงโทษใหม่ ที่รัฐบาลเกาหลีใต้ จะใช้กับผู้กระทำความผิดคดีข่มขืน!!
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ยินข่าวเกี่ยวกับการข่มขืน บทลงโทษที่เรามักจะได้ยินเกี่ยวกับโทษในลักษณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการถูกตัดสินจำคุก แต่สำหรับที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นพวกเขาได้ออกมาตรการใหม่ในการลงโทษดังกล่าวนั่นก็คือการฉีดสารที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั่นเอง!! ขณะนี้ทางการเกาหลีได้พิจารณาการนำสารเคมีลดสมรรถภาพทางเพศนี้มาใช้ในการลงโทษสำหรับคดีอนาจารและคดีข่มขืน โดยผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดคดีข่มขืนเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปี จะต้องเข้ารับการบำบัดด้วยสารดังกล่าวทุกๆ 1 เดือนนานถึง 15 ปี ร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นถูกนำเสนอผ่านคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และกำลังมีการประชุมหารือถึงรายละเอียดในการลงโทษต่างๆ เกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าวอยู่ในขณะนี้ สารเคมีดังกล่าวนั้นจะอยู่ในรูปของยาเม็ดหรือยาฉีด ซึ่งจะช่วยลดความต้องการทางเพศของผู้ต้องหา และนอกจากนี้ยังทำให้อวัยวะเพศไม่แข็งตัวอีกด้วย โดยทางการคาดว่าการบำบัดนี้จะประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาจะออกจากโครงการแล้วก็ตาม ประเทศเกาหลีใต้ได้เริ่มแนวคิดดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2011 และกลายเป็นประเทศแรกในแถบเอเชียที่เริ่มนำวิธีดังกล่าวมาใช้ในกระบวนการยุติธรรม หลังจากที่ปัญหาอาชญากรรมทางเพศในประเทศนั้นเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ในร่างกฎหมายดังกล่าวยังได้เสนอเงื่อนไขให้มีการใช้ยาดังกล่าวกับนักโทษก่อนที่พวกเขาจะพ้นโทษประมาณ 6 ถึง 9 เดือน ถึงแม้ว่าการใช้ยาดังกล่าวนั้น จะได้รับการศึกษาและการประเมินทางจิตเวชจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว แต่ทางด้านฝ่ายค้านเองก็ได้ตั้งข้อสงสัยว่าการใช้สารเคมีดังกล่าว จะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหาหรือไม่ นอกจากนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เองก็ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้การศึกษาเกี่ยวกับตัวยาดังกล่าวนั้นยังมีข้อมูลไม่เพียงพออีกด้วย ชมรายงานเพิ่มเติมได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา koreaherald
-
ชาวเน็ตร่วมส่งภาพแมว ‘สอนแมวเป็นแมว’ พร้อมติดแฮชแท็กอวดความฮาบนโลกออนไลน์
สำหรับใครที่เป็นทาสแมว บางครั้งคุณอาจจะเห็นพวกเจ้าเหมียวชอบทำท่าท่างแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นการเอาตัวเข้าไปซุกในกล่องลังต่างๆ หรือทางนอนสุดฮาอย่างน้องเวนเจอร์ แมวประจำออฟฟิศชาวเหมียวของเรา (อ่านข่าวเก่า รู้จัก “เวนเจอร์” แมวออทิสติกประจำออฟฟิศแคทดั๊มบ์ กับท่านอนที่… เอ็งคิดได้ยังไง๊!?) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมาชาวเน็ตญี่ปุ่นท่านที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @Kogedox0510 เองก็ได้อัปภาพของเจ้า Futa น้องเหมียวจอมป่วนที่กำลังพยายามเอาตัวของมันยัดเข้าไปในสิ่งของต่างๆ เรียกเสียงฮาจากชาวเน็ตกันได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ใครปิดไฟน่ะ!? อ่า… แบบนี้สิ ค่อยรู้สึกผอมขึ้นมาหน่อย ใครปิดไฟอีกแล้ว?? ฮึ่ย!! คุณ @Kogedox0510 ปิดท้ายภาพฮาๆ ของเจ้า Futa ด้วยแฮชแท็ก #JMoFペット自慢大会 ซึ่งเป็นแคมเปญที่ชวนชาวเน็ตที่มีสัตว์เลี้ยง ร่วมสนุกส่งภาพของเหล่าสัตว์ฮาๆ เข้ามาอวดเรียกเสียงหัวเราะกัน โดย JMoF นั้นย่อมาจาก Japan Meeting of Furries ซึ่งเป็นงานประชุมสัมมนาที่เกี่ยวกับศิลปะที่จะจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี และหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจนั่นก็คือการประกวดภาพฮาๆ ของสัตว์เลี้ยงนั่นเอง แต่จะประกวดอะไรก็ช่าง พี่ Futa ของเราก็ยังคงเพลินกับกล่องของมันอยู่!! และนอกจากเจ้า Futa ของคุณ @Kogedox0510 แล้วชาวเน็ตก็ได้ร่วมส่งภาพสัตว์ฮาๆ พร้อมกับติดแฮทแท็กดังกล่าวเข้ามาร่วมสนุกกันอีกจำนวนมาก และนี่คือภาพของเหล่าสัตว์เลี้ยงที่เข้าร่วมการประกดภาพถ่ายฮาๆ ครั้งนี้ . . หลับแปรบ!!…
-
แนะนำภัยเงียบ Baby Shark เพลงล้างสมองจาก Pinkfong กำลังคืบคลานมาอย่างช้าๆ
EARWORM หรือเพลงบางเพลงที่มีเนื้อร้องที่ฝังอยู่ในโสตประสาทของเราแบบวนไปวนมา จนบางครั้งคุณอาจจะเผลอฮัมเพลงนั้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเพลงแบบนี้ที่โด่งดังและหลายๆ คนจะรู้จักก็อย่างเช่น PPAP หรือ Gangnum Style และอื่นๆ อีกมากมาย แต่นอกจากเพลงปากกาสับปะรดแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งเพลงที่กำลังเป็นที่โด่งดังในตอนนี้อย่าง Baby Shark Dance บทเพลงจาก Pinkfong นั่นเอง!! บทเพลงที่บรรยายถึงวงศาคณาญาติของปลาฉลามนี้เป็นเพลงสำหรับเด็กที่มีท่อนร้องซ้ำๆ และชวนให้ติดหูหลายๆ คนไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะไล่เรียงตั้งแต่ลูกฉลาม พ่อฉลาม แม่ฉลามแล้ว ท่อนที่ร้องว่า doo doo doo ยังเป็นอะไรที่วนเวียนอยู่ในหูเราอีกด้วย เพลงสำหรับเด็กนี้ถูกเผยแพร่โดยช่องยูทูบของ The Pinkfong Kids’ Songs & Stories บริษัทสื่อสำหรับเด็กจากประเทศเกาหลี ซึ่งปัจจุบันเพลงดังกล่าวมีผู้เข้าชมแล้วมากกว่า 640 ล้านครั้ง!! ส่วนใครที่ยังไม่เคยฟังเพลงนี้ล่ะก็ เชิญไปเสพย์กันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย นอกจากนี้ในวันที่ 8 ธันวาคม 2017 ที่จะถึงนี้ทาง Pinkfong เองก็เตรียมมา Doo Doo Doo กับชาวมาเลเซียอีกด้วย กิจกรรมดังกล่าวนั้นจัดขึ้นสำหรับเหล่าหนูน้อย โดยจะมีสินค้าต่างๆ ของ Pinkfong และที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ หุ่นปลาฉลามและบทเพลง Baby Shark…
-
คลิปสะเทือนใจเหล่าทาส เมื่อหนุ่มวัย 16 ปี จับเจ้าเหมียวขว้างข้ามถนนไกลหลายเมตร
ภาพจากคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 10 วินาทีที่ถูกอัปลงบนโลกออนไลน์ ได้เผยให้เห็นภาพของวัยรุ่นชายคนหนึ่งที่จับเจ้าเหมียวน้อยโยนข้ามถนน สร้างความตกใจและได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างมาก เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ได้จับเจ้าเหมียวด้วยมือหนึ่งข้างก่อนที่เขาจะขว้างมันออกไปบนอากาศและในที่สุดเจ้าแมวน้อยก็ตกลงไปกลางถนนที่อยู่ห่างหลายเมตร จากการรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นที่รัฐออนแทรีโอ สหรัฐอเมริกา โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงใน Snapchat โดยเด็กหนุ่มคนดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า Charlie คลิปวิดีโอขณะที่ชายหนุ่มกำลังขว้างเจ้าเหมียว ****คำเตือน: คลิปวิดีโออาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม ในตอนแรกหลายๆ คนที่เห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวต่างมีความกังวลถึงความปลอดภัยของเจ้าเหมียว แต่อย่างไรก็ตามจากการรายงานของสถานีตำรวจออนแทรีโอ ขณะนี้เจ้าเหมียวน้อยปลอดภัยดี และมีอาการบาดเจ็บที่ขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “ขณะนี้เรากำลังสืบสวนถึงการทารุณกรรมสัตว์ในคลิปวิดีโอดังกล่าว เรามีที่อยู่ของเจ้าเหมียวและเจ้าของมัน แมวน้อยมีอาการกระดูกขาหักแต่อย่างไรก็ตามมันตอนนี้มันปลอดภัยแล้ว” แถลงการณ์จากสถานีตำรวจ ส่วนทางคุณ Perla เจ้าของแมวก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเธอรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก พร้อมกับอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายกับชายคนดังกล่าว “ฉันอยากจะให้เขารู้ว่า เขากำลังทำร้ายร่างกายสัตว์ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย” หญิงสาวเจ้าของแมวกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบชื่อของชายหนุ่มคนดังกล่าวแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อของเขาได้เนื่องจากว่าเป็นเยาวชน และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนอยู่ ที่มา dailymail
-
เปิดวาร์ป ‘Zhao Lina’ ผู้รักษาประตูสาวสวย จากทีมฟุตบอลหญิงจีน ที่จะทำให้คุณต้องเสียประตู
กีฬาฟุตบอลถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมในหมู่คุณผู้ชายมากๆ แต่นอกจากฟุตบอลในลีคดังระดับโลกหลายๆ ลีคแล้ว ฟุตบอลหญิงก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าหากว่าคุณยังไม่รู้ล่ะก็ว่าฟุตบอลหญิงนั้นน่าสนใจแค่ไหนล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ Zhao Lina (เจ้า ลีน่า) นักฟุตบอลหญิงตำแหน่งผู้รักษาประตูสุดแซบจากประเทศจีนที่จะมากระชากใจหนุ่มๆ ไม่แน่นะฟุตบอลโลกหญิงครั้งหน้า คุณอาจจะสมัครเป็นแฟนฟุตบอลหญิงทีมชาติจีนก็ได้!! อืม… บุคลิกดี แต่ก่อนที่จะไปพบกับความแซบของเธอนั้น เรามาทำความรู้จักกับประวัติคร่าวๆ ของเธอกันก่อนดีกว่า Zhao Lina นักฟุตบอลหญิงชาวจีนผู้นี้ เกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายนปี 1991 ปัจจุบันเธออายุ 26 ปี และเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับทีมชาติจีน สถิติในการแข่งขันฟุตบอลหญิงกระชับมิตรในฤดูกาล 2017/2018 เธอลงเฝ้าเสาให้กับทีมชาติจีนไปแล้วถึง 3 นัด และสามารถเซฟได้ถึง 6 ครั้ง และเก็บคลีนชีทได้ 1 นัด . . และนอกจากฝีมือในสนามแล้ว ผลงานการถ่ายแบบของเธอก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย!! . อืม… รู้นะว่าคิดอะไรกันอยู่!? Zhao Lina เริ่มลงเล่นให้กับทีมชาติจีนครั้งแรกเมื่อปี 2015…
-
หนุ่มทนความหิวตอนดึกไม่ไหว เข้าไปทำอาหารในร้านเอง หลังจากที่พนักงานมัวแต่หลับ
บางครั้งอาการหิวตอนดึกอาจจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เจ้าความหิวนี้คงไม่เป็นมิตรกับเราแน่ ถ้าหากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจำเป็นต้องอยู่ดึกๆ ไม่ว่าจะเป็นปั่นงานที่ค้าง หรือนั่งดูซีรีส์เกาหลี และส่วนมากแล้วสิ่งที่พวกเรามักจะเลือกทำกันนั่นก็คือการออกไปหาอะไรมาเติมเต็มกระเพาะอาหารนั่นเอง และหนุ่มชาวอเมริกันผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกความหิวเล่นงานกลางดึก เขาจึงตัดสินที่จะออกไปหาอะไรกิน Alex Bowen ชายหนุ่มนอนดึก ได้เข้าไปใช้บริการในร้านอาหารแฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Waffle House แต่หลังจากที่เขาไปถึงร้านก็พบว่าพนักงานของทางร้านได้เผลอหลับไป ชายหนุ่มเลยตัดสินใจยืมครัวของร้านเพื่อทำอาหารมื้อดึกประทังความหิวมันซะเองเลย Alex Bowen ได้เข้าไปในส่วนครัวของร้าน และจัดการทำอาหารด้วยตัวเอง นอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้อัปภาพของตัวเองในขณะที่อยู่ในส่วนครัวของร้านลงบนเฟซบุ๊ก พร้อมกับข้อความว่า “นอนไม่หลับ ฉันว่าฉันไป waffle house ดีกว่า เดาสินี่อะไร พนักงานในกะกำลังหลับอยู่” ชายหนุ่มได้หยิบขนมปังในร้านออกมา และนอกจากนี้เขายังลงมือทอดเบคอนพร้อมกับทำแซนด์วิชด้วยตัวเองอีกด้วย ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ ในวันรุ่งขึ้นชายหนุ่มได้กลับไปจ่าค่าอาหารเป็นเงินจำนวน 5 เหรียญ ภาพและข้อความบนหน้าเฟซบุ๊กของคุณ Alex Bowen แต่อย่างไรก็ตามทางด้านร้าน Waffle House เองก็ได้ออกมากล่าวว่า อันที่จริงแล้วลูกค้านั้นไม่ควรที่จะเข้าไปในพื้นที่หลังร้าน เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัย ที่มา mirror
-
เมื่อลูกๆ กลับบ้านในช่วงคริสต์มาส ก็เริ่มแชร์ความแปลกของบ้านพ่อแม่ตัวเอง เกินจะรับด๊ายยย!!
สำหรับบางคนที่ต้องออกไปทำงานไกลบ้าน บางครั้งการจะกลับไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน หรือไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่ต่างจังหวัดอาจจะต้องรอคอยให้ถึงช่วงวันหยุดยาวๆ ซะก่อน แน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมาถึงบ้านของพวกเขาแล้วล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องเจอนอกจากอาหารอร่อยๆ ที่เตรียมรอไว้ นั่นก็คือสไตล์การแต่งบ้านที่เปลี่ยนไปแทบจะทุกครั้งนั้นเอง และบางทีนอกจากสไตล์การแต่งบ้านแบบที่ไม่ค่อยพบเห็นทั่วไปแล้ว บางทีคุณอาจจะเจอของใช้แปลกๆ แบบนี้ก็ได้… 1. นี่คือโคมไฟจากฝีมือคุณแม่!! 2. แม่ฮะๆ นั่นคือปูที่ทำจากเปลือกหอยใช่ไหมฮะ!? 3. อืม… แบบนี้รู้เลยว่าเลือกตั้งที่ผ่านมาคุณแม่เลือกพรรคไหน?? 4. บางครั้งเมื่อกลับบ้าน คุณอาจจะพบว่า ตัวเองมีพี่น้องอีกหนึ่งคนที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้!! 5. โคมไฟที่จะทำให้พวกเด็กๆ กลัวกลางคืนไปอีกนาน!! 6. เมอร์รี่คริสต์มาสจ้าลูกรัก!! 7. เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไปบ้านของคุณปู่คุณย่า คุณมักจะเจอสิ่งของน่ากลัวๆ แบบเจ้าม้าตัวนี้!! 8. กบขี่เต่า สมบัติอันล้ำค่าที่สืบทอดต่อกันมา!! 9. ผลงานศิลปะที่สุดแสนจะน่ากลัว 10. ผลงานศิลปะของคุณย่าสามี!! 11. มากันทั้งครอบครัวกันเลยทีเดียว!! 12. ช่วยบอกผมทีฮะแม่…
-
Nishinari ย่านใหญ่ในโอซากา ว่ากันว่าคือ “ชุมชนแออัดแห่งญี่ปุ่น” ที่ทางการพยายามปกปิด..
ถ้าหากพูดถึงประเทศญี่ปุ่น ภาพที่จะผลุดขึ้นมาในหัวพวกเราหลายๆ คนเลยนั่นก็คือภาพของอาคารสูงๆ ความทันสมัยและรถไฟความเร็วสูงอย่างชินคันเซ็นนั่นเอง แต่ก็เหมือนกับเมืองใหญ่ๆ ทั่วไป ถึงแม้ว่าจะมีความเจริญมากมาย แต่ก็ยังคงมีบางพื้นที่มีอีกด้านหนึ่งของสังคมและมักจะไม่ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอีกมุมหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังของความเจริญในแดนปลาดิบแห่งนี้ นั่นก็คือย่าน Nishinari หนึ่งในย่านที่มีชื่อเสียงจากเมืองโอซากานั่นเอง Nishinari นั้นถือเป็นหนึ่งใน 24 เขตของโอซาก้า แต่นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อแล้ว ย่านแห่งนี้ก็ยังมีบางพื้นที่ที่เรียกว่าเป็นย่านเสื่อมโทรมเองเช่นกัน และหนึ่งในนั้นก็คือสลัม Kamagasaki สลัมที่มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เดิมที่แห่งนี้เป็นเพียงแค่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ แต่หลังจากเริ่มฟื้นตัวจากสงคราม การพัฒนาประเทศนั่นเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเร่งทำให้สำเร็จ การฟื้นฟูประเทศครั้งใหญ่ได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับจำนวนของแรงงานที่หลังไหลเข้ามาในประเทศตามเขตเมืองใหญ่ๆ และเขต Nishinari เองก็เป็นหนึ่งในจุดหมายของเหล่าแรงงานเหล่านนั้น ในช่วงปี 1970 ที่นี่ถูกขนานนามว่า “labor towns” หรือเมืองแห่งแรงงาน และที่นี่จึงกลายเป็นตลาดแรงงานที่สำคัญที่สุดในเมือง ก่อนหน้านี้ในปี 1898 ทางการญี่ปุ่นมีแผนกำหนดให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขต Nishinari นั้นย้ายออกไปยังพื้นที่ Kamagasaki เพื่อเตรียมตัวในการจัดงานนิทรรศการอุตสาหกรรมระดับชาติในปี 1903 และหลังจากที่เกิดวิกฤติฟองสบู่ในญี่ปุ่นเมื่อปี 1991 ความรุ่งเรืองกลับหายวับไปกับตา เศรษฐกิจที่เคยเจริญเติบโตกลับหยุดชะงัก ตลาดแรงงานแห่งนี้เองก็ได้รับผลกระทบนั้นไปด้วย จากตลาดแรงงานที่เคยเจริญเติบโต ตอนนี้กลับกลายเป็นแหล่งของคนตกงาน ไร้บ้าน และกลายเป็นชุมชนแออัดในที่สุด …
-
หญิงสาวพยายามจะโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่เสื้อกันหนาวพองๆ ช่วยทำให้ลอยน้ำ และรอดมาได้…
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ขึ้นในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน หลังจากที่หญิงสาวรายหนึ่งกระโดดลงมาจากสะพานเพื่อหวังที่จะจบชีวิตของตัวเอง แต่ทว่าความตั้งใจของเธอนั้นกลับไม่เป็นไปอย่างที่เธอตั้งใจ คลิปวิดีโอจากประเทศจีนได้เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวที่กระโดลงไปในแม่น้ำ หลังจากที่เธอมีปัญหากับทางบ้านจากการรายงานของสื่อประเทศจีน เธอพยายามที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดน้ำ แต่เดชะบุญเสื้อขนเป็ดที่เธอใส่นั้นกลับทำให้เธอลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ และทำให้เธอรอดตายได้ในที่สุด หญิงสาวนิรนามลอยเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางแม่น้ำก่อนที่ทีมช่วยเหลือจะมาถึง ทีมช่วยเหลือทำการเกลี้ยกล่อมอยู่นานก่อนที่หญิงสาวจะยอมขึ้นมาจากน้ำแต่โดยดี เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บและร่างกายที่เปียกน้ำ ทำให้ทีมช่วยเหลือเป็นห่วงในความปลอดภัยของเธอ พวกเขาจึงรีบพาหญิงสาวคนดังกล่าวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ นั้นทันที วินาทีที่ทีมช่วยเหลือกำลังนำตัวของเธอขึ้นมาจากน้ำ ไปชมวินาทีช่วยชีวิตหญิงสาวท่านนี้จากคลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ปัญหาการฆ่าตัวตายกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในประเทศจีนขณะนี้ และสาเหตุหลักๆ ที่เจ้าหน้าที่พบก็คือความขัดแย้งภายในครอบครัวนั่นเอง เมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็ได้เกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เช่นกัน เมื่อคุณแม่วัย 47 ปีจากมณฑลเหอหนาน ได้พยายามกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย หลังจากที่เธอมีปัญหากับลูกสะใภ้ ที่มา shanghaiist
-
น้องแมวที่เห็นอาหารคนเป็นไม่ได้ ต้องกระโดดแย่งทุกๆ ครั้ง ฉันไม่ให้แกกินหรอเจ้ามานู๊ดด!!
เรื่องราวสุดป่วนของเจ้า Negan เจ้าเหมียวน้อยอายุ 7 เดือนที่ชอบขโมยอาหารของเจ้านาย แทบทุกครั้งเลยทีเดียว เรียกว่าเห็นขนมเป็นไม่ได้!! ในช่วงแรกๆ หลังจากที่ย้ายมาอยู่บ้านของคุณ Don และ Tischauna Hinrichs เจ้าเหมียวก็เหมือนกับแมวน้อยทั่วๆ ไป มันมีทั้งความน่ารักและขี้เล่นไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทว่าหลังจากที่เริ่มตีซี้กับเจ้านายได้สำเร็จ เจ้าแมวก็เริ่มทำตัวเป็นเจ้านายแทนทันที!! อืม… อร่อยจังเล๊ยยย!! “เจ้าเหมียวน้อยตัวนี้มักจะปีนขึ้นมาเพื่อแย่งอาหารของเราบ่อยๆ เราไม่เคยเห็นเจ้าเหมียวที่ชอบกินอาหารมนุษย์แบบเจ้าตัวนี้มาก่อนเลยจริงๆ ” คุณ Don เจ้านายของ Negan ให้สัมภาษณ์ คุณ Don ตัดสินใจที่จะบันทึกพฤติกรรมของเจ้าเหมียวเวลาที่มันแอบย่องขึ้นมากินอาหารของเขา และอัปคลิปวิดีโอดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊ก โดยในขณะที่คุณ Don กำลังแกะห่อแซนด์วิช จู่ๆ เจ้า Negan ก็ได้กระโดดขึ้นมาแย่งห่อขนมนั้นทันที ไปชมการยื้อแย่งขนมของเจ้าเหมียวกันได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… หลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างมาก โดยมีผู้เข้าชมมากถึง 19 ล้านครั้งเลยทีเดียว!! อย่างไรก็ตามก็ได้มีชาวเน็ตหลายๆ คนที่เป็นห่วงว่าเจ้าเหมียวอาจจะได้รับอันตราย หากว่ามันเผลอกินอาหารของคนเข้าไป แต่ทางด้านคุณ Don เองก็ได้ออกมาอธิบายว่าเขานั้นไม่เคยบ่อยให้มันกินอาหารคนเลย และนอกจากนี้ยังดูแลเจ้า Negan อย่างดีอีกด้วย “มันดูคลั่งมากเมื่อเห็นอาหารของคน…
-
Adobe เปิดฟังก์ชั่นใหม่ ‘Adobe Sensei’ ให้คุณไดคัทรูปได้ เพียงปลายนิ้วคลิกเดียวเท่านั้น
โปรแกรม Adobe Photoshop โปรแกรมตกแต่งภาพยอดฮิตที่ช่างภาพหลายๆ คนมักจะเลือกใช้ เครื่องมือต่างๆ ที่อยู่ในโปรแกรมนั้นสามารถที่จะเนรมิตรูปภาพธรรมดาๆ ให้กลายเป็นภาพที่สวยงามได้ไม่ยากเลยทีเดียว และหนึ่งในเครื่องมือที่ผู้ใช้งานมักจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือพวกเครื่องมือที่ใช้เลือกวัตถุต่างๆ ในภาพไม่ว่าจะเป็น Quick Selection, Magic Wand, Pen หรือ Lasso นั่นเอง ส่วนผู้ใช้งานมือใหม่อย่างเราๆ นั้นการจะใช้เครื่องมือต่างๆ เหล่านี้เพื่อตัดวัตถุในภาพนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ แต่ไม่ต้องกังวลกันไป เพราะใน Photoshop CC รุ่นใหม่ล่าสัตว์ เอ๊ย!! ล่าสุดของทาง Adobe นั้นเค้าได้ออกฟังก์ชันตัวใหม่ที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์มาช่วยให้เราสามารถเลือกวัตถุในภาพได้ง่ายขึ้น เพียงแค่คลิกเดียว!! เจ้าเครื่องมือที่จะมาช่วยเราในการเลือกวัตถุภายในคลิกเดียวนี้ทาง Adobe ตั้งชื่อให้มันว่า Adobe Sensei โดยปัญหายุ่งยากในการลากเส้นรอบๆ วัตถุของคุณจะหมดไปทันทีหลังจากที่ได้ลองใช้เจ้าเครื่องมือที่ว่านี้ โดยตัวโปรแกรมนั้นจะทำการประมวลผลและรับรู้ถึงวัตถุที่คุณต้องการเลือก และจากนั้นคุณก็จะได้วัตถุในภาพที่คุณต้องการออกมาง่ายๆ เพียงแค่คลิกเดียว อ่า อยากเห็นล่ะสิว่าเจ้าเครื่องมือนี้ทำงานอย่างไร ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ไปชมได้เลย… “เครื่องมือตัวใหม่ของเรานี้ จะช่วยให้คุณเลือกวัตถุได้อย่างรวดเร็วขึ้น แบบที่คุณไม่เคยเจอมาก่อน” ทาง Adobe กล่าว แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการประกาศยืนยันจากทางผู้ผลิตว่าจะเปิดตัวเจ้าโปรแกรมรุ่นใหม่นี้เมื่อไหร่ แต่คาดการณ์ว่าไม่นานเกินรอแน่นอน!! ที่มา petapixel
-
เจ้าหมาฮีโร่จากอัฟกานิสถานกำลังจะถูกการุณยฆาต หลังปลดประจำการและไม่มีบ้านหลังใหม่
เรื่องราวอันแสนเศร้านี้เกิดขึ้นกับเจ้าหมาจากกองทัพอังกฤษทั้งสองตัวอย่างเจ้า Kevin และ Dazz สุนัขทั้งสองที่เคยผ่านสมรภูมิรบอันแสนโหดร้ายอย่างอัฟกานิสถานมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนที่จะถูกปลดประจำการ Kevin และ Dazz นั้นสังกัดอยู่ในหน่วยเก็บกู้ระเบิดและประจำการอยู่ที่เมืองเฮลมานด์ แต่ทว่าในอาทิตย์หน้า เจ้าตูบทั้งสองอาจจะต้องลาโลกนี้ไป หลังจากที่ทางกองทัพตัดสินใจที่จะทำการุณยฆาตพวกมัน เนื่องจากไม่สามารถหาบ้านหลังใหม่ให้ทั้งคู่ได้!! แต่อย่างไรก็ตามทางด้านนายทหารหลายๆ นายและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ได้ออกมาเรียกขอให้ทางกองทัพเปลี่ยนใจ พร้อมกับเขียนจดหมายถึงศูนย์ฝึกในเมืองเลสเตอร์เชอร์เพื่อให้ไว้ชีวิตเจ้าตูบ “ถ้าเป็นไปได้ พวกเราพยายามที่จะหาบ้านหลังใหม่ให้กับพวกเจ้าตูบหลังจากที่พวกมันปลดประจำการ แต่น่าเศร้าที่ไม่มีใครรับ Kevin และ Dazz ไปดูแลเลย” เจ้าหน้าที่จากศูนย์ฝึก Defence Animal Centre กล่าว เจ้า Dazz น้องหมาที่เคยช่วยชีวิตทหารจากสมรภูมิรบ และตอนนี้มันกำลังจะถูกการุณยฆาต หลังจากที่ทางศูนย์ฝึกไม่สามารถหาบ้านหลังใหม่ให้มันได้ ทางด้านคุณ Andy McNab อดีตนายทหารจากหน่วย SAS ที่ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการไว้ชีวิตเจ้าตูบทั้งสอง รวมถึงสุนัขตำรวจอีกตัวอย่างเจ้า Driver ก็ได้กล่าวผ่านเว็บไซต์ของเขาว่า “สุนัขอย่างเจ้า Dazz และ Driver นั้นเปรียบเหมือนสมบัติอันล้ำค่าเวลาที่พวกมันออกปฏิบัติภารกิจ ถึงแม้ว่าพวกมันจะปลดประจำการแล้วแต่ทั้งสองก็ยังคงมีความสำคัญกับพวกเราอยู่ พวกเราหลายๆ คนที่รอดชีวิตมาจากสนามรบเป็นหนี้ชีวิตพวกมันอยู่” นายทหารหลายๆ คนที่สามารถรอดชีวิตมาจากสนามรบได้ต่างเป็นหนี้บุญคุณของเจ้าตูบจากหน่วยเก็บกู้ระเบิด และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะเรียกร้องให้ทางศูนย์ฝึกเปลี่ยนใจและไว้ชีวิตเพื่อนซี้ของพวกเขา เหล่าสุนัขที่ถูกนำไปปฏิบัติการในสนามรบนั้นจะถูกฝึกมาอย่างเป็นพิเศษ และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันถูกปลดประจำการจะถูกส่งตัวกลับมายังศูนย์ฝึกเพื่อทำการฝึกให้พร้อมกลับไปใช้ชีวิตตามปรกติภายนอกได้ ส่วนในการรับอดีตสุนัขทหารไปเลี้ยงได้นั้นค่อนข้างที่จะมีขั้นตอนที่เข้มงวด…
-
5 โรคประหลาด ที่อาจทำให้คุณกลายเป็น ‘ยอดมนุษย์’ เข้าทีม X-Men ได้เลย
บางครั้งความผิดปรกติของร่างกาย ก็อาจจะทำให้เราค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเอง อย่างเช่นการห่อลิ้น หรือการที่คุณสามารถงอนิ้วโป้งได้มากถึง 180 องศา แต่ทว่านอกเหนือจากความสามารถพิเศษเหล่านี้แล้ว ในทางการแพทย์นั้นยังมีอาการแปลกๆ อีกมากมายที่จะทำให้เรากลายเป็นยอดมนุษย์ได้เลยทีเดียว อย่างเช่นอาการเหล่านี้… 1. มีความจำเป็นเลิศ สำหรับผู้ป่วยโรค Hyperthymesia นั้นจะสามารถ ที่จดจำรายละเอียดของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยผู้ป่วยสามารถที่จะบอกรายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเขาที่ผ่านมาตั้งแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบันได้ทั้งหมด นอกจากนี้พวกเขายังสามารถจำข้อความทุกข้อความจากหนังสือที่อ่านมานานหลายปีได้อีกด้วย!! 2. ไร้ความรู้สึกเจ็บปวด โรคไร้ความรู้สึกเจ็บปวดนี้ทางการแพทย์เรียกว่า Congenital analgesia โดยผู้ที่ป่วยด้วยอาการนี้จะไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ทางร่างกายเลย จากรายงานพบว่าชาวสวีเดนป่วยเป็นโรคที่ว่านี้มากถึง 40 รายเลยทีเดียว 3. เก่งในหลายๆ ด้าน โรค Savant syndrome นั้นเป็นหนึ่งในหนึ่งในความผิดปรกติของระบบประสาทที่พบได้ยากมากๆ โดยผู้ที่มีอาการดังกล่าวนั้นจะมีความสามารถในรอบๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี การคิดเลข การวาดภาพ หรือแม้แต่การสร้างโมเดลสามมิติ คนเหล่านี้ก็สามารถทำได้ดีทุกอย่างเลยทีเดียว 4. ทนความเย็นได้ โรคประหลาดนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มชาวดัตช์ผู้หนึ่งนามว่า Wim Hof โดยชายคนนี้สามารถเดินขึ้นยอดเขา Mont Blanc ในสภาพอากาศแสนหนาวเหน็บและเต็มไปด้วยน้ำแข็ง โดยที่ใส่เพียงแค่กางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวเท่านั้น และที่สำคัญเขายังสามารถลงไปว่ายในน้ำแข็งและอยู่ในนั้นได้นานถึง 120 นาทีเลยอีกด้วย!! 5. ไม่กลัวอันตรายใดๆ โรค Urbach–Wiethe หนึ่งในลักษณะทางพันธุกรรมที่แปลกๆ…
-
17 เหล่าบุคคลที่ทำอะไรก็ดูเป็นเรื่องง่ายไปซะโหม๊ดดดด เอ๊ะ หรือมันขี้เกียจกันแน่!?
บางครั้งการทำเรื่องยากๆ อาจจะไม่ใช่นิสัยของใครหลายๆ คน และแน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นก็มักจะหาวิธีที่จะทำให้เรื่องยากๆ เหล่านั้นกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที!! แต่ทว่าบางครั้งไอเดียการเปลี่ยนเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายของคุณนั้นเมื่อทำแล้วดูเหมือนว่ามันจะยิ่งทำให้ยากเข้าไปใหญ่ แถมไม่พอยังดูตล๊กตลกเหมือนกับภาพต่อไปนี้อีก!! 1. เดินมาเฉยๆ มันอาจจะไม่ทัน ต้องใช้ตัวช่วยอย่าง Segway 2. ดับเพลิงในวันหยุด มันก็จะเป็นประมาณนี้แหละนะ!! 3. ไปเจ้าตูบ ออกไปวิ่งนอกบ้านกัน!! 4. กินด้วยนอนด้วยแบบนี้ ไม่กลัวโตมาเป็นงูหรือไงนะ!? 5. สำหรับบางคนการเดินขึ้นบันไดซัก 10 ขั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก 6. การหางานแบบง่ายๆ ของนายขอทาน เดี๋ยวๆ ง่ายเกินไปแล้วมั้งพี่!! 7. การพักผ่อนที่แท้จริงมันต้องแบบนี้เซ่!! 8. นี่คือวิธีที่จะทำให้คุณดูยูทูบก่อนนอนได้ง่ายๆ และไม่ต้องกลัวว่าโทรศัพท์จะตกใส่หน้า 9. จะทำอย่างไรถ้าหากว่าลูกสาวของคุณอยากเล่นชิงช้า แต่ว่าคุณก็อยากพักผ่อน!? 10. ก่อนนอนขอเช็กเฟซบุ๊กหน่อยดีกว่า แต่เดี๋ยวนะ… ขี้เกียจอ่ะ เอาแบบนี้ละกัน 11. วิธีทาสีเล็บแบบเร่งด่วนสำหรับคุณผู้หญิง …
-
หนุ่มซื้อของผ่านเน็ต บอก “ขอโซ่คล้องกระเป๋ายาวๆ” ร้านบอกงั้นเอารุ่นใหม่ไปเลยครับ!!
ในยุคสมัยที่การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตนั้นเป็นเรื่องที่ง๊ายง่าย การใช้ชีวิตประจำวันของพวกเราๆ นั้นก็ดูเหมือนว่าจะง่ายตามไปด้วยเลยทีเดียว และหนึ่งสิ่งที่ชาวเน็ตแบบเราๆ ชอบทำกันนั่นก็คือการซื้อของออนไลน์นั่นเอง แต่ทว่าสำหรับหลายๆ คนที่เคยซื้อของผ่านเว็บก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดีว่า คุณอาจจะต้องเผื่อใจเอาไว้นิดหน่อย เพราะบางครั้งสิ่งที่คุณเข้าใจกับคำอธิบายสินค้านั้นก็อาจจะไม่ตรงกันก็ได้!! เมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวเน็ตท่านหนึ่งนามว่าคุณ Fluk Solo ได้แบ่งปันประสบการณ์ฮาๆ เกี่ยวกับการซื้อของผ่านโลกออนไลน์ของเขา หลังจากที่เขาสั่งสายโซ่คล้องกระเป๋ารุ่นใหม่ล่าในปี 2018 ไป แต่ทว่าสิ่งที่ได้นั้นกลับเป็นสายโซ่คอลเลกชันใหม่จากปี 3018 เลยทีเดียว!! และนี่คือสายโซ่คล้องกระเป๋าที่ว่า อืม…. คุณ Fluk Solo ได้เล่าเรื่องราวความฮานี้ผ่านหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขาว่า ตัวเขาเองนั้นได้ทำการซื้อกระเป๋าสตางค์ใบใหม่จากทางเพจหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้ของแล้วเขากลับรู้สึกว่าสายคล้องเส้นเดิมนั้นมันสั้นไปหน่อย จึงได้สอบถามไปยังเพจเดิมเพื่อขอซื้อโซ่คล้องกระเป๋าเส้นใหม่ และจากนั้นสิ่งที่ได้ก็อย่างที่พวกเราเห็นๆ กันนั่นล่ะฮะ!! ข้อความการสนทนาระหว่างคุณ Fluk Solo กับร้านขายกระเป๋าออนไลน์ “ฝากเตือน เมื่อผมสั่งซื้อกระเป๋าใบนึงในเพจเพจนึง ซึ่งได้ซื้อกระเป๋า แต่ก็ได้ถึงบ้านนะครับ ผมก็ได้เช็กของ ก็ครบหมด แต่พอมาใส่ สายมันเป็นสั้นๆ เลยสั่งซื้อของในเพจใหม่ บอกกับในเพจว่า ผม: มีสายที่ยาวสุดไหมครับ เพจ: มีตัวท็อปอยู่ครับ เป็นเทรนด์ใหม่ กำลังจะมาในปี 2018 นี้ครับ ผม: เปิดขายยังครับ เพจ: ก็เปิดขายครับ แต่มันยาวกว่าอันเดิมนิดเดียว ผม: ครับผม…
-
9 กฎแห่ง “สไตล์การแต่งตัว” ที่หนุ่มๆ ควรศึกษาเอาไว้ จะช่วยให้คุณดูดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น!!
สำหรับหนุ่มๆ ทั่วไปถ้าหากว่าคุณไม่ได้หล่อตี๋เหมือนจุงกิ หรือหล่อเซอร์แบบป๋าเดปป์ การแต่งตัวให้ดูดีนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยชดเชยกับความหล่อของคุณได้ แต่สำหรับหนุ่มๆ หลายคนการเลือกเสื้อผ้า และสไตล์ให้เข้ากับตัวเองพร้อมกับออกไปนอกบ้านอย่างมั่นใจนั้นก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ อ่า… ถ้าอย่างนั้นลองไปดูกฎ 9 ข้อง่ายๆ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นผู้ชายดูดีกันได้เลย 1. ระวังสีของรองเท้ากับเข็มขัดให้ดี เวลาที่คุณต้องแต่งตัวแบบทางการ แน่นอนว่าการสวมรองเท้าหนังที่มีสีแมตช์กับเข็มขัดนั้นอาจจะดูเป็นเรื่องที่น่าเบื่อไม่น้อย แต่เชื่อเถอะกฎข้อนี้จะทำให้คุณดูดีเวลาที่จำเป็นต้องออกงานที่ดูเป็นทางการ ดังนั้นถ้าหากว่าคุณสวมรองเท้าหนังสีน้ำตาลคุณก็ควรเลือกเข็มขัดหนังสีน้ำตาลนั่นเอง 2. ระวังลวดลายให้ดีล่ะ ลวดลายบนชุดสูทนั้นเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณดูเท่และไม่เหมือนใคร แต่แน่นอนว่าชุดที่มีลายผ้ามากเกินกว่าหนึ่งลายนั้นจะทำให้ชุดของคุณหมดความคูลไปทันที และนอกจากนี้มันยังทำให้ชุดของคุณดูเยอะไปอีกด้วย 3. อย่าลืมแต่งตัวตามหัวข้อที่เจ้าภาพกำหนดมา!! แน่นอนถ้าหากว่าในบัตรเชิญบอกให้คุณสวมชุดทักซิโด้สีดำล่ะก็ นั่นหมายความว่าคุณจำเป็นต้องสวมชุดทักซิโด้สีดำ แต่ถ้าหากในบัตรเชิญเขียนว่าชุดสุภาพล่ะก็นั้นหมายถึงชุดสูทนั่นเอง!! 4. โปรดระวังขนาดของเสื้อผ้าให้ดีๆ ล่ะ กฎข้อสำคัญที่คุณควรจำไว้เลยก็คือ คุณก็ควรที่จะเลือกให้มีความพอดีกับตัว ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นกางเกง เสื้อนอก หรือเสื้อเชิ้ตตัวด้านในก็ตาม 5. คุมโทนสีของเสื้อผ้าให้เข้ากับฤดูกาล ก็เท่ไปอีกแบบนะ ยกตัวอย่างเช่นการสวมเสื้อผ้าสีสดใสที่เข้ากับบรรยากาศของแสงแดดในหน้าร้อน แต่สำหรับในวันที่อากาศไม่ค่อยปลอดโปร่งการเลือกใส่เสื้อผ้าสีโทนเข้มก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันนะ 6. อย่าใส่เสื้อกั๊กทับเสื้อเชิ้ตแบบเปล่าๆ ล่ะ ถ้าคุณไม่อยากดูเขินๆ ล่ะก็ ควรหลีกเลี่ยงการสวมเสื้อกั๊กทับเสื้อเชิ้ตเฉยๆ โดยไม่ใส่เสื้อสูท เพราะเสื้อกั๊กนั้นถูกออกแบบมาสำหรับชุดสูท…
-
10 สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า ‘ระดับน้ำตาล’ ในเลือดของคุณสูงเกินไปแล้ววว!!
น้ำตาลและของหวานอาจจะเป็นของโปรดสำหรับหลายๆ คน แต่อย่างที่เรารู้ๆ กันดี การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินไปนั้นย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายเราอย่างแน่นอน และนอกจากการตรวจเลือดที่โรงพยาบาลแล้ว บางครั้งสัญญาณจากร่างกายของเราก็อาจจะบอกคุณได้ว่า ตอนนี้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณนั้นสูงเกินไปหรือเปล่า!? 1. ปวดปัสวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน ถ้าหากว่ามีสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงนั้น ระบบทางเดินปัสสาวะของคุณนั้นจะเกิดการติดเชื้อได้ และมันจะทำให้คุณรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยๆ นั่นเอง 2. รู้สึกกระสับกระส่าย การมีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงนั้นจะทำให้ร่างกายของเราขาดฮอร์โมนอินซูลีน เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายขาดฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้ร่างกายดึงน้ำตาลกลูโคสออกจากเซล ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกกระสับกระส่ายและอ่อนเพลีย นอกจากนี้ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงยังทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำ เนื่องจากต้องการขับน้ำตาลส่วนเกินออกจากร่างกายนั่นเอง 3. ริมฝีปากแห้ง ปริมาณของกลูโคสที่อยู่ในเลือดและน้ำลายที่มากเกินไป ซึ่งเป็นผลมาจากระดับน้ำตาลในที่เลือดสูงเกินไป จะทำให้คุณเกิดอาการปากแห้งได้ 4. น้องชายไม่ตื่นนอน นี่อาจจะเป็นปัญหาที่ท่านชายหลายๆ คนไม่อยากพบเจอแน่นอน โดยต้นตอของสาเหตุนี้มาจากการสูญเสียการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดระยะยาว ซึ่งจะมีผลต่อระบบประสาทและหลอดเลือด 5. รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ถ้าหากไทรอยด์ฮอร์โมนของคุณอยู่ในระดับต่ำ มันจะทำให้คุณรู้สึกเหนื่อย ง่วงนอน หรือรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่านอกจากนี้ฮอร์โมนต่อมไทยรอยด์นั้นจะควบคุมการเผาผลาญอาหารในร่างกาย และมีผลโดยตรงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย 6. น้ำหนักเกิน/อ้วน นี่อาจจะเป็นสัญญาณพื้นฐานของสภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเลยก็ว่าได้ พลังงานจากอาหารที่มากเกินไปจะสะสมอยู่ในร่างกายของคุณและมันจะทำให้คุณอ้วนนั่นเอง 7. ผิวหนังแห้งและคัน เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของคุณมีการไหลเวียนของเลือดที่ต่ำ จะทำให้ผิวหนังของคุณรู้สึกแห้งและเกิดอาการคันได้…
-
นักบินมือสมัครเล่น สร้างสถิติโลกด้วยการบินหมุนแบบ 100 รอบ วนตลบ 36,000 องศา!!
บางครั้งการจะเป็นนักบินนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และการนำเครื่องบินผาดโผนหมุนควงสว่านแบบงานวันเด็กนั้นก็ยิ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยสำหรับนักบินฝึกหัด แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อกิน เอ๊ย!! ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อคุณ Leonid Kulesh หนุ่มนักบินผึกหัดชาวรัสเซียผู้นี้สามารถพาเครื่องบินทยานขึ้นสูงถึง 2,500 เมตรพร้อมกับหมุนควง 360 องศาได้มากถึง 100 รอบ!! สถาปนิกหนุ่มวัย 50 ปีพาเครื่องบินลำเล็กๆ ของเขาขึ้นบินเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปี 2014 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่เครื่องบินขึ้นไปได้ประมาณ 500 เมตร ชายหนุ่มท่านนี้ก็เริ่มการแสดงโชว์ผาดโผนของเขาทันที แต่หลังจากผ่านไป 3 ปี เขาก็ได้รับจดหมายจากกินเนสเวิลด์ เรคคอร์ดแจ้งว่าทางกรรมการได้ชมภาพการหมุนควงสว่านของเขาแล้ว และตอนนี้เขาได้รับการบันทึกชื่อในสถิติกินเนสเวิลด์ เรคคอร์ดเรียบร้อยแล้ว!! ภาพของเครื่องบินที่กำลังหมุนวนอยู่บนท้องฟ้า ไปชมภาพการบินผาดโผนของหนุ่มรายนี้กันได้เลย… แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทำการตรวจสอบ ความฝันที่จะได้รับการบันทึกชื่อว่าเป็นผู้ที่บินควงสว่านได้มากถึง 100 รอบของคุณ Leonid ก็ต้องจบลงหลังจากที่เขาถูกตรวจพบว่าไม่มีใบอนุญาติทำการบิน และเครื่องบินลำดังกล่าวนั้นก็ไม่มีใบรับรองในการบินด้วยเช่นกัน งานนี้จากที่จะกลายเป็นหนุ่มที่ได้รับการบันทึกชื่อในการบินผาดโผน คุณ Leonid กลับต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินถึง 350 เหรียญ หรือประมาณ 10,000 บาทเลยทีเดียว …
-
คุณลุงโดนเพื่อนบ้านเอาอิฐมาวางขวางที่จอดรถ เลยเอาคืนโดยการฟ้องนักข่าวซะเลย
การมีเพื่อนบ้านที่ดี อาจจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย และแน่นอนว่าคุณแทบจะไม่ต้องกังวลเลยเวลาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นแรมปี แต่ถ้าหากว่าคุณดั๊นโชคร้ายได้เพื่อนบ้านแบบที่ตรงกันข้ามล่ะก็ งานนี้มีปวดหัวแน่นอน!! คุณ Oliver Lynch ชายวัย 79 ปี ผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในคนที่โชคร้ายที่ต้องประสบพบเจอกับเพื่อนบ้านเจ้าปัญหา แต่ทว่าคุณปู่ท่านนี้กลับจัดการกับเพื่อนบ้านสุดแสบแบบสาสมเลยทีเดียว “ผมไม่ชอบให้ใครมารังแกผม” คุณปู่ให้สัมภาษณ์ โดยเหตุการณ์เพื่อนบ้านสุดแสบนี้เกิดขึ้นในวันหนึ่ง หลังจากที่คุณปู่กลับบ้านมาแล้วพบว่าถนนทางเข้าหน้าบ้านของเขานั้นถูกเพื่อนบ้านเอาก้อนซีเมนต์มาเรียงเป็นทางเพื่อกันเขต พร้อมกับบอกคุณ Oliver ว่าที่ตรงนี้คือเขตของบ้านพวกเขา เขตแดนที่ถูกแบ่งเข้ามาในที่ของคุณปู่ จากฝีมือของเพื่อนบ้าน แค่กั้นที่ยังไม่พองานนนี้คุณพี่เพื่อนบ้านถึงขั้นก่อปูนเพื่อกันไม่ให้คุณ Oliver ย้ายก้อนซีเมนต์เหล่านั้นได้เลยทีเดียว คุณปู่ได้เอาเอกสารของที่ดินตัวเองออกมาดูเพื่อยืนยันว่าบ้านของเขานั้นไม่ได้ล้ำที่ของใคร โดยในเอกสารที่ดินของคุณ Oliver นั้นระบุว่าเขาไม่ได้รุกล้ำเขตแดนแต่อย่างใด และคุณทางเข้าบ้านของเขานั้นกว้างมากถึง 3.5 เมตรเลยทีเดียว แต่ทว่าหลักฐานดังกล่าวนั้นกลับไม่เพียงพอ ทางศาลไม่สามารถที่จะสั่งทุบทางกั้นดังกล่าวได้ ซึ่งคุณปู่จะต้องทำการรังวัดที่ใหม่เพื่อยืนยัน หรือไม่ก็นำตัวเพื่อนบ้านของเขามาขึ้นศาลด้วย คุณ Oliver คิดว่าการที่จะพาตัวเพื่อนบ้านไปที่ศาลหรือรังวัดที่ใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก งานนี้คุณปู่ของเราจึงจัดการมอบบทเรียนให้กับเพื่อนบ้านด้วยตัวเองมันซะเลย คุณปู่ตัดสินใจติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นให้มาทำสกู๊ปพิเศษ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลอย่างดีด้วย เพราะหลังจากที่ทางรายการได้ออกอากาศรายการดังกล่าว ก็มีหลายคนที่เห็นใจคุณปู่ท่านนี้ และบอกว่าการกระทำของเพื่อนบ้านนั้นช่างไม่น่ารักเลยจริงๆ เมื่อคุยกันดีๆ ไม่ได้ งานนี้ก็ต้องถึงมือพี่นักข่าวแล้วหล่ะ!! …
-
นี่คือ David Silva นักฟุตบอลที่คุณอาจไม่รู้จัก แต่จะต้องอยากหลังจากได้อ่านและเห็นภาพนี้…
สำหรับใครที่เป็นแฟนฟุตบอลล่ะก็ อาจจะคุ้นชื่อของนักฟุตบอลดังๆ อย่าง Leonel Messi หรือ Cristiano Ronaldo กันเป็นอย่างดี และสำหรับใครที่เป็นแฟนๆ เรือใบสีฟ้าล่ะก็อาจจะรู้จักหรือคุ้นเคยกับชื่อของ David Silva ปีกชาวสเปนผู้นี้กันบ้างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าคุณไม่ใช่แฟนของเรือใบสีฟ้า หรือไม่เคยดูฟุตบอลมาก่อนล่ะก็ วันนี้เราจะขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับปีกตัวจี๊ดคนนี้ให้มากขึ้น!! และขอบอกไว้เลยว่าแค่ภาพนี้ภาพเดียวก็อาจจะทำให้คุณจดจำดาวเตะผู้นี้ได้อย่างดีแน่นอน!! ลองทายกันดูว่าคนไหนคือ David Silva?? ภาพถ่ายหลังจบเกมที่ถูกอัพโดยแบ็กซ้ายของทีมอย่าง Benjamin Mendy อาจจะช่วยทำให้หลายๆ คนที่ไม่รู้จักกับ David Silva ได้รู้จักกับพ่อหนุ่มรายนี้มากขึ้น เพราะอะไรน่ะเหรอ!? ถ้าหากว่าคุณลองกลับไปดูภาพแรกแบบช้าๆ อีกครั้งคุณก็จะพบกับคำตอบนั้นเอง ฮ่าๆ ถึงแม้จะเป็นปีกที่มีความเร็วสูง และมีร่างกายที่เล็กแล้ว แต่บางอย่างของเค้านั้นกลับตรงกันข้ามเลยทีเดียว โดยเฉพาะส่วนขา!! ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา พร้อมกับเทคนิคการเล่นที่หาตัวจับได้ยาก ทำให้ในฤดูกาลนี้ David Silva นั้นกลายเป็นตัวเลือกแรกๆ ของกุนซืออย่าง Pep Guardiola เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าอายุอานามของพี่แกจะย่างเข้า 32 แล้วแต่ว่าความฟิตของร่างกายนั้นก็ยังไม่ต่างจากวัยรุ่นเลย ไม่เชื่อไปพิสูจน์กันที่ภาพนี้เลย… แบบว่าซิกส์แพคขึ้นแบบเน้นๆ ถึงขั้นมีการทำการ์ดค่าพลังในเกมฟุตบอล Fifa 18 ออกมาแซวว่า ค่าพลังงูเหลือของพี่เขานี่ต้องระดับ 99…
-
พบฉลามกอบลิน สัตว์ทะเลโบราณเกยตื้นที่ชายฝั่งญี่ปุ่น คำเตือน!! ไม่เหมาะสำหรับคนชอบซีฟู้ด
ฉลามกอบลิน หนึ่งในสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่หายากและมีวิวัฒนาการน้อยที่สุด หน้าตาของมันและรูปร่างนั้นแทบจะไม่เปลี่ยนไปจากยุคโบราณเลยทีเดียว และนั่นจึงทำให้มันได้ฉายาว่า “ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต” และเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ชาวเน็ตญี่ปุ่นรายหนึ่งได้บังเอิญพบเจ้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ชนิดนี้ขึ้นมาเกยตื้นอยู่ริมชายหาดที่จังหวัดชิซุโอะกะ ทางตอนใต้ของภูเขาฟูจิ ถึงแม้ว่าชื่อของเจ้าปลาฉลามสายพันธุ์นี้จะคล้ายๆ กับซีรีส์เกาหลียอดฮิต แต่ดูจากหน้าตาของมันแล้วอืม…. นะ เจ้าฉลามโบราณนี้จะอาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกมากกว่า 100 เมตร โดยปรกติแล้วเมื่ออาศัยอยู่ใต้ทะเล พวกฉลามเหล่านี้จะมีลำตัวและครีบสีขาว แต่เมื่อพวกมันถูกจับขึ้นมาเหนือน้ำ ลำตัวสีขาวนวลนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีเลือด นอกจากนี้มันยังมีฟันเล็กๆ ที่ดูน่ากลัวอีกด้วย หลังจากที่คุณ @Tomochin_s14 ชาวเน็ตเจ้าของภาพได้อัปเดตรูปเจ้าฉลามตัวนั้นลงบนโลกออนไลน์ก็ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ชาวเน็ตส่วนมากได้แนะนำให้เขาบอกกับเจ้าหน้าที่เพื่อจัดการกับซากของเจ้าปลาตัวนี้อย่างถูกต้อง แต่ในขณะที่บางคนก็ที่เห็นภาพของเจ้าฉลามโบราณนี้แล้วก็เกิดอาการกลัวอาหารทะเลขึ้นมาทันทีเลยก็มี โดยธรรมชาติแล้วพวกฉลามกอบลินนั้นจะเป็นสัตว์ที่ขี้อาย พวกมันมักไม่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ และเมื่อไหร่ก็ตามที่นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะนำพวกมันมาศึกษา พวกมันมักจะตายภายในไม่สัปดาห์หลังจากนั้น ปัจจุบันมีรายงานว่ามีการพบเจ้าฉลามสายพันธุ์นี้ทั่วโลกเพียงแค่ 30 ครั้งเท่านั้น และพื้นที่ที่พบเจ้าฉลามสายพันธุ์นี้มากที่สุดนั่นก็คือ หุบเขาลึกใต้ทะเลในพื้นที่ของอ่าวโตเกียวนั่นเอง มีบันทึกว่าชาวประมงญี่ปุ่นเคยจับพวกมันได้อ่าวโตเกียวนี้มากถึง 148 ตัวเลยทีเดียว (ลองนึกภาพเรือประมงที่เต็มไปด้วยเจ้าปลาพวกนี้ดูสิ!!) ลองไปชมการกินอาหารของเจ้าปลาดึกดำบรรพ์ตัวนี้กันเลย… เจ้าปลาฉลามสายพันธุ์นี้ถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ แต่สำหรับใครที่ชอบทานอาหารทะเลคุณจะไม่ค่อยชอบเจ้าฉลามกอบลินนี้สักเท่าไหร่นะ ฮ่าๆ ที่มา rocketnews
-
พบจดหมายลับที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ซ่อนอยู่ในบั้นท้ายของรูปสลักพระเยซู
ปฏิมากรรมหรืองานศิลปะอื่นๆ อย่างภาพเขียน หรือภาพพิมพ์ในยุคสมัยโบราณนั้น นอกจากจะบ่งบอกถึงความสวยงามของศิลปะในยุคนั้นแล้ว บางครั้งตัวผลงานเองก็อาจจะมีความลับบางอย่างอยู่ในนั้นก็เป็นได้ เหมือนกับรูปสลักพระเยซูอายุกว่า 240 ปีชิ้นนี้ที่มีจดหมายลับซ่อนอยู่!! จดหมายที่เขียนด้วยลายมือจากปี 1777 ฉบับนี้ถูกพบซ่อนอยู่ในรูปสลักพระเยซูโบราณจากประเทศสเปน จดหมายดังกล่าวอยู่ในสถาพสมบูรณ์มากและคาดว่าน่าจะถูกซ่อนไว้โดยนักบวชในสมัยนั้น บริเวณส่วนก้นของรูปสลักที่มีการพบจดหมายฉบับดังกล่าว จดหมายฉบับดังกล่าวถูกเขียนขึ้นโดย Joaquin Minguez และถูกค้นพบโดยทีมซ่อมแซมงานศิลปะจากบริษัท Da Vinci Restauro เนื้อความในจดหมายฉบับดังกล่าวบอกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 อย่างเช่นงานอดิเรกของผู้คน สภาพเศรษฐกิจ การเมืองและศาสนาในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกินอีกด้วย ส่วนก้นของรูปสลักที่ทีมซ่อมแซมงานศิลปะพบกับช่องลับที่บรรจุจดหมายฉบับนี้อยู่ ขณะนี้รูปสลักโบราณชิ้นนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่โบสถ์ Santa Agueda ในเมือง Sotillo de la Ribera ประเทศสเปน “การค้นพบจดหมายที่เขียนด้วยลายมือฉบับนี้ เป็นการค้นพบที่น่าทึ่งมากๆ ” คุณ Efren Arroyo นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นกล่าว จดหมายจากลายมือของนักบวชฉบับนี้ถือเป็นหนึ่งในหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้นักวิชาการได้เข้าใจถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต และนอกจากนี้ยังมีส่วนหนึ่งของจดหมายที่เขียนเล่าถึงโรคระบาดที่พบได้บ่อยในเมือง รวมถึงนักสู้วัวชื่อดังในสมัยนั้นอีกด้วย จดหมายโบราณฉบับนี้ถือเป็นหนึ่งในข้อความที่คนรุ่นหลังต้องการที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ กับพวกเรา และนอกจากจดหมายฉบับนี้แล้ว เชื่อแน่ว่ายังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์อีกจำนวนมากที่กำลังรอให้พวกเราค้นพบ ที่มา unilad
-
น้องหมาน้อยยิ้มไม่ยอมหยุด หลังจากถูกโกนขน ถึงจะหนาวๆ หน่อยแต่ก็ดีกว่าทนคันล่ะนะ!!
บางครั้งหัวใจของคนรักสัตว์หลายๆ คนแทบจะสลายเลยทีเดียว เมื่อได้เห็นภาพของน้องหมาที่ถูกทิ้งให้เผชิญชะตากรรมที่น่าสงสารอยู่ข้างถนน และน้องหมาพุดเดิลตัวนี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิสงเคราะห์สัตว์ Trio Animal Foundation ได้ให้การช่วยเหลือเจ้าหมาน้อยตัวหนึ่งที่อยู่ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ขนของมันเกาะกันเป็นก้อนๆ และสภาพร่างกายที่ดูแย่เอามากๆ เจ้า Holland หมาน้อยผู้น่าสงสาร เจ้าหน้าที่เริ่มต้นการรักษาเจ้าหมาน้อยทันที พวกเขาเริ่มจากโกนขนที่เกาะกันเป็นก้อนๆ และดูยุ่งเหยิงของเจ้าตูบออก ก่อนที่จะส่งตัวเจ้าตูบไปพบกับสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกาย โชคดีที่เจ้าตูบไม่มีปัญหาทางด้านสุขภาพที่น่ากังวล มันมีแค่รอยฟกช้ำและบาดแผลตามผิวหนังเท่านั้น สภาพของเจ้า Holland ตอนที่ถูกพามาสถานสงเคราะห์สัตว์ของมูลนิธิแห่งนี้วันแรกๆ ขนที่ดูยุ่งเหยิงและเกาะกันเป็นก้อนๆ ทำให้เจ้าหมาน้อยหมดความน่ารักไปเลยทีเดียว นอกจากขนที่เกาะกันเป็นก้อนๆ แล้วสัตวแพทย์ยังพบว่าเจ้าหมาน้อยป่วยเป็นโรคขาดสารอาหาร และมีรอยแผลตามร่างกายของมันอีกด้วย . ทางมูลนิธิเริ่มต้นการรักษาเจ้าตูบด้วยการโกนขนทั้งหมดออก และหลังจากนั้นจึงให้สัตวแพทย์ตรวจร่างกายของมัน ในตอนแรกๆ เจ้าตูบยังมีอาการอ่อนแรง และไม่สามารถเดินได้เหมือนปรกติ แต่หลังจากที่ได้รับการดูแลอย่างดีพร้อมกับยารักษา มันก็เริ่มกลับมาแข็งแรงและร่าเริงได้อีกครั้ง สวัสดีฮะ!! ผม Holland ตัวเดิมเพิ่มเติมคือความหล่อครัชช หลังจากที่ทำการรักษาต่ออีกประมาณ 1 สัปดาห์เจ้า Holland ก็เหมือนได้มีชีวิตใหม่ …
-
โตเกียวเตรียมให้บริการรถเมล์รอบดึก เพื่อช่วยเหลือเหล่า “คนเมา” ที่กลับบ้านไม่ทัน…
บางครั้งการออกไปปาร์ตี้นอกบ้านนั้น นอกจากจะต้องระวังตัวไม่ให้เมามากจนฟุบอยู่ที่ร้านแล้ว การหาทางกลับบ้านหลังจากร้านปิดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อีกด้วย และในประเทศที่การเดินทางด้วยรถสาธารณะเป็นหลักอย่างญี่ปุ่นนั้น ถ้าหากว่าคุณดันสนุกจนพลาดรถไฟขบวนสุดท้ายล่ะก็ งานนี้มีหวังได้นอนที่สถานนีแน่ๆ แต่ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ทางสถานีรถบัส Nishi Tokyo ได้จัดการแก้ปัญหาที่ว่านี้โดยการเปิดรถเที่ยวดึก สำหรับไว้คอยบริการสายเมาที่ตกรถไฟรอบสุดท้าย!! บริการดังกล่าวนี้ใช้ชื่อว่า Oversleeping Rescue Bus โดยจะให้บริการรับส่งผู้โดยสารที่พลาดรถไฟขบวนสุดท้ายของสาย JR Chuo ที่จะเดินทางไปยังกรุงโตเกียว รถไฟสาย JR Chuo นั้นมีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ ใจกลางกรุงโตเกียวและสิ้นสุดที่สถานี Takao ซึ่งตลอดเส้นทางดังกล่าวนั้นเต็มไปด้วยร้านอาหารที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงและร้านนั่งดื่มมากมาย แต่อย่างไรก็ตามบริการนี้จะมีให้บริการเฉพาะวันที่ 9, 16 และ 23 ธันวาคมเท่านั้น ซึ่งจะรถ Oversleeping Rescue Bus นั้นจะออกจากสถานี Takao ตอนเวลตี 1:05 นาที โดยอัตราค่าบริการนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 250 บาทเท่านั้น แหม่.. ช่างเป็นบริการที่ตอบโจทย์คุณพ่อบ้านชาวญี่ปุ่นจริงๆ เลยนะเนี่ย แบบนี้ก็ไม่ต้องนอนรอรถไฟรอบเช้าอีกต่อไปแล้วสินะ แต่ว่าทางที่ดีจะออกไปดื่มก็ควรรายงานผู้ปกครองไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะต่อให้ไม่ตกรถไฟ ก็อาจได้นอนนอกบ้านจริงๆ ก็เป็นได้ ที่มา rocketnews24
-
เจ้าของราดน้ำใส่หมากลางอุณหภูมิ -32 องศา หวังให้แข็งตาย-โดนนายกเมืองฟ้องศาลแล้ว!!
ภาพวิดีโอจากประเทศรัสเซียที่ถูกอัพเดทลงบนโลกออนไลน์ เผยให้เห็นสภาพของน้องหมาตัวหนึ่งที่กำลังนอนขดอยู่ท่ามกลางหิมะและกำลังจะขาดใจ เจ้าหมาตัวดังกล่าวกำลังหายใจโรยรินอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวถึง -32 องศาเซลเซียส หลังจากที่มันถูกเจ้าของเอาน้ำสาดและปล่อยให้ตายอย่างช้าๆ ท่ามกลางอากาศหนาว เจ้าหมานอนตาแข็งพร้อมกับสั่นอุ้งเท้าของมันเหมือนกำลังร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากเมือง Yakutsk รีบส่งเจ้าหมาน้อยไปพบสัตวแพทย์อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าด้วยอุณหภูมิที่ตำมากๆ และสภาพร่างกายขงอเจ้าหมาที่แทบจะแข็งไปทั้งตัวนั้น ทำให้ทีมแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตมันไว้ได้ “ฉันไม่มีวันลืมภาพนั้นไปได้เลย ดวงตาของเขาเหมือนกับคนที่กำลังพยายามจะเอาชีวิตรอด แต่มันก็ไม่สำเร็จ ฉันรับรู้ได้ถึงความเศร้าของแววตานั้น ฉันพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ” อาสาสมัครสาวกล่าว อย่างไรก็ตามได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับเจ้าของสุนัข ซึ่งมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วมากถึง 100,000 คนแล้ว การเรียกร้องในโลกออนไลน์ไม่สูญเปล่า เพราะหลังจากเกิดกระแสขึ้น ทางด้านนาย Sergey Boyarsky นายกเทศมนตรีของเมืองเองก็ได้ทำการฟ้องร้องกับเจ้าของสุนัขแล้ว “นี่อาจจะเป็นแค่สุนัขตัวเดียวที่เสียชีวิต แต่ชายคนนี้ยังมีลูกๆ อีกหลายคน และวันนี้เขาปล่อยให้สุนัขตายอยู่ใกล้ๆ บ้านเขา และวันพรุ่งนี้ก็อาจจะเกิดอะไรขึ้นกับลูกๆ ของเขาก็ได้” อาสาสมัครสาวกล่าว ภาพสุดทะเทือนใจของเจ้าหมาสีขาว ที่กำลังร้องขอชีวิตอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ ที่มา dailymail
-
25 ภาพแสดงพลังแห่งเมคอัพ เปลี่ยนโฉมนักแสดงฮอลลีวูด สู่บทบาทอันโดดเด่นในหนังดัง!!
ในบรรดาหนังฮอลลีวูดหรือซีรีส์ต่างๆ เชื่อแน่ว่าจะต้องมีอย่างน้อยสักครั้งที่คุณต้องร้องอุทานด้วยความตกใจ พร้อมกับเอามือทาบหน้าอกแล้วพูดเบาๆ ว่าเรื่องนี้ นักแสดงคนนี้เล่นด้วยหรือนี่ (ถ้าไม่ได้อ่านรายชื่อนักแสดงมาก่อนอ่ะนะ) แน่นอนว่า เวทมนตร์แห่งพลังการแต่งหน้าของวงการหนังเมืองนอกนั้นสามารถเปลี่ยนดาราที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาให้กลายเป็นตัวละครต่างๆ แล้ว บางครั้งยังเนียนจนคนดูอย่างเราแทบจะแยกไม่ออกเลยทีเดียว และนี่ก็คือภาพของเหล่าดารานักแสดงที่ผ่านการเมคอัพจนคุณแทบจะจำไม่ได้เลย… 1. Ralph Fiennes ในบท Lord Voldemort จากเรื่อง Harry Potter 2. John Travolta ในบท Edna Turnblad จากเรื่อง Hairspray 3. Richard Brake ในบท The Night King จากเรื่อง Game Of Thrones 4. Daveigh Chase ในบท Samara จากเรื่อง The Ring 5. Johnny Depp ในบท James ‘Whitey’ Bulger จากเรื่อง Black Mass 6. Angelina…
-
ความรักความผูกพันธ์ของเจ้านายกับทาสที่ยาวนานมากว่า 14 ปี สี TOA ยังต้องยอม!!
เมื่อประมาณ 14 ปีที่แล้วเจ้าเหมียว Mango Brown แมวเบงกอลผู้น่ารักตัวหนึ่ง ได้พบกับครอบครัวที่แสนดีของมัน และนอกจากความรักความอบอุ่นที่มันได้รับแล้ว เจ้า Mango ยังได้พบกับคุณพ่อผู้ใจดีอีกด้วย “พวกเขาน่ารักมาก สายสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นพิเศษมากๆ จนเราอยากจะแบ่งปันให้คนทั้งโลกได้รับรู้เลยทีเดียว และดูเหมือนว่าเจ้า Mango จะมีความสุขมากๆ อีกด้วย” คุณ Tiffany คุณแม่ของเจ้าเหมียวกล่าว รักกันนะ รักกันน้าาา เจ้า Mango ได้พบกับครอบครัวนี้ครั้งแรกตอนที่มันอายุได้แค่ 6 เดือนเท่านั้น นับจากนั้นมา เจ้าเหมียวน้อยเติบโตขึ้นมาท่ามกล่างความรักของคุณ Tiffany และสามีของเธอ Mango ชอบให้เจ้านายของมันพูดคุยด้วยและหอม เมื่อไหร่ก็ตามที่มันต้องการความรักจากคุณพ่อล่ะก็ เจ้าเหมียวจะนั่งยองๆ แล้วเงยหน้ามองไปที่เจ้านายของมัน เหมือนกับกำลังจะบอกคุณพ่อของมันว่า “หอมหนูหน่อยฮะ!!” “มันจะอยู่นิ่งๆ เวลาที่สามีของฉันกอดและหอมมัน เจ้า Mango รู้งานของมันเป็นอย่างดี มันขี้อ้อนและชอบเอาใจมากกว่าพวกสัตว์เลี้ยงทั่วๆ ไป เมื่อไหร่ก็ตามที่มันยังไม่หลับ มันจะชอบเดินตามพวกเราไปรอบๆ บ้าน และถ้าหากว่ามีแขกมาที่บ้านเราล่ะก็ เจ้า Mango ก็จะเข้าไปออดอ้อนอย่างรู้งานเลยทีเดียว” คุณ Tiffany กล่าว …
-
สาวลองครีมทาผิว อยากจะเปลี่ยนผิวเป็นสีแทน แต่ไหงกลายเป็นสีน้ำตาลไหม้ไปได้ซะนี่!!
หญิงสาวกับความสวยงามเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันแทบไม่ได้ และหนึ่งในวิธีการที่พวกเธอดูแลตัวเองก็คือการใช้ครีมบำรุงผิวและเครื่องสำอางต่างๆ นั่นเอง และถ้าหากพูดถึงความสวยความงามยอดฮิตของเหล่าสาวๆ มะกันก็คงจะหนีไม่พ้นผิวสีแทนแน่ๆ Ebony Foley ก็เป็นหนึ่งหญิงสาวผู้หลงใหลในผิวสีน้ำผึ้ง ด้วยสีผิวที่คุณแม่ให้มานั้นมันไม่ใช่โทนที่หญิงสาวต้องการ งานนี้เธอจึงใช้ตัวช่วย นั่นก็คือครีมทำสีแทนแบบเร่งด่วนนั่นเอง แต่ทว่าสีผิวของนางแบบในโฆษณากับสีที่เธอได้นั้นมันดั๊นไม่ตรงกันซะนี่ งานนนี้ความฮาจึงเกิดขึ้น!! หญิงสาวทำการซื้อครีมทาผิวในโทนสีแทนเข้มมาลองใช้ เนื่องจากเธอต้องการสีผิวแบบน้ำตาลไหม้สวยๆ แต่เมื่อลองใช้ครีมดังกล่าวแล้ว มันทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกไปไหนเลยทีเดียว เพราะดูเหมือนว่าสีผิวน้ำตาลไหม้ที่เธอจากได้นั้นจะใช้ไฟแรงเกินไปหน่อย… เลยได้ออกมาเป็นแบบนี้!! โฟมทาผิวสีแทนทำให้ผิวของเธอเข้มขึ้นกว่าที่เธอต้องการ ถึงแม้ว่าสีผิวที่ได้นั้นจะทำให้ไม่สามารถออกบ้านไปพบใครและจำเป็นต้องยกเลิกปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ของเธอ แต่ Ebony ก็ไม่ได้เศร้าเธอกลับสร้างเสียงหัวเราะจากความผิดพลาดของครีมทาผิวนี้ได้ “ฉันรู้สึกตลกกับสีที่หน้าของตัวเอง ฉันว่ามันเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะมากกว่านะ แขนกับขาของฉันเป็นสีน้ำตาลสวยดีนะ แต่เมื่อเอามาทาหน้ามันก็ได้สีแบบที่เห็นนี่แหละ ” Ebony ให้สัมภาษณ์ นอกจากจะไม่รู้สึกเศร้ากับสีผิวที่ผิดเบอร์แล้ว เธอยังได้อัปภาพฮาๆ ของตัวเองลงบนโลกออนไลน์อีกด้วย “ฉันทำเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่เมื่อคืน หลังจากที่อยากได้ผิวสีแทนแบบปลอมๆ ฉันจะไม่ทำอีก ช่วยบอกคนขายทีว่าฉันอยากได้สีน้ำตาล ไม่ใช่สีนี้” และแน่นอนความฮาแบบนี้เพื่อนๆ ของเธอก็ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย “ไม่นะ Ebony ฉันกับ Tom ถึงกับร้องไห้เลย ฮ่าๆ “ “นี่มันคือความฮาชัดๆ…
-
สองเด็กชายหลบอยู่ใต้รถเมล์ ข้ามเมืองไปไกลกว่า 90 กม. เพื่อออกไปตามหาพ่อแม่
เหตุการณ์อันน่าตกใจนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีน หลังจากที่เด็กชาย 2 ได้แอบเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถบัส และออกเดินทางเกือบ 100 กิโลเมตรเพื่อตามหาพ่อแม่ของพวกเขา เด็กหนุ่มวัย 8 และ 9 ขวบได้แอบขึ้นรถบัสจากหมู่บ้านของพวกเขาที่อยู่ทางตะวันตกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เพื่อไปตามหาพ่อและแม่ที่ออกไปทำงานในเมือง ทั้งสองซ่อนตัวอยู่ใต้รถบัสนานกว่า 3 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่พบ เด็กน้อยทั้งสองแอบหนีออกจากโรงเรียนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานีรถโดยสาร เด็กน้อยแอบซ่อนตัวอยู่ในช่องแคบๆ บริเวณใต้รถของรถโดยสารที่กำลังจะเดินทางเข้าไปในเมือง ซึ่งราคาตั๋วค่าโดยสารนั้นอยู่ที่ประมาณ 160 บาท สำนักข่าวจากประเทศจีนรายงานว่า หลังจากที่รถคันดังกล่าวเดินทางมาเป็นระยะทางกว่า 90 กิโลเมตรและผ่านเส้นทางที่ทุรกันดารมากมาย เจ้าหน้าที่ของสถานีก็ตรวจพบเด็กน้อยทั้งสองที่ใต้ท้องรถ ในสภาพที่ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยโคลนและฝุ่น โชคดีที่เด็กน้อยทั้งสองไม่ได้รับอันตรายจากการเดินทาง ทั้งสองถูกส่งตัวกลับไปยังบ้านเกิดหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับทางโรงเรียนให้มารับตัวพวกเด็กๆ ถึงแม้ว่าเด็กน้อยทั้งสองจะได้เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย แต่ความฝันที่จะได้พบหน้าพ่อแม่ของพวกเขานั้นกลับไกลออกไป ทั้งสองบอกกับเจ้าหน้าที่สถานีว่าพ่อแม่ของพวกเขาทำงานอยู่ใกล้ๆ กับมณฑลกวางตุ้ง แต่พวกเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อเดินทางไปถึงเมืองใหญ่แล้วจะออกตามหาพ่อแม่ได้อย่างไร . ปัญหาความยากจนและการกระจายรายได้อาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้หลายๆ คนต้องทิ้งครอบครัว มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวง พร้อมกับความหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น โดยต้องแลกกับความรักความอบอุ่นของครอบครัว ที่มา shanghaiist
-
มิตรภาพของน้องเล็กและพี่ใหญ่ อยู่ด้วยกันในศูนย์ดูแล คอยเทคแคร์ไม่ให้ไปไหน
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นระหว่างเจ้า Felix น้องหมาพันธุ์ผสมสีดำตัวเล็ก กับเพื่อนตัวใหญ่ของมันอย่างเจ้า Oscar สุนัขขนสีเหลืองที่สูญเสียอุ้งเท้าของมันไปด้วยอุบัติเหตุ คุณ Mona Ahmed หญิงสาวช่างภาพอาสาสมัครของสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่งเล่าว่า “ฉันแทบจะใจละลายเลยทีเดียวที่เห็นพวกมันทั้งสองสนิทสนมกันอย่างมาก ฉันอดไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะถ่ายรูปพวกมันทั้งสอง” คุณ Ahmed จะมาที่สถานสงเคราะห์ Fresno ทุกๆ สัปดาห์เพื่อถ่ายภาพเจ้าตูบทั้งสอง และโพสต์ภาพของพวกมันลงบนเฟซบุ๊กเพื่อตามหาบ้านหลังใหม่ แต่การที่จะแยกทั้งสองออกจากกันนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากไม่น้อยเลยทีเดียว มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะแยกทั้งสองออกจากกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่เราแยกพวกมัน เจ้าหมาตัวใดตัวหนึ่งจะเริ่มสะอื้น ทั้งสองผูกพันธ์กันมาก แต่ทว่าเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นกับพวกมัน เมื่อทางศูนย์รับเลี้ยงจำเป็นต้องทำการุณยฆาต Felix และ Oscar เนื่องจากว่าพวกมันมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และทางศูนย์เกรงว่าเชื้อดังกล่าวจะแพร่ไปยังสุนัขตัวอื่นๆ ได้ คุณ Ahmed จึงทำการติดต่อไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ CWOB เพื่อมารับตัวเจ้าสุนัขทั้งสองไว้ในความดูแล คุณ Christi Camblor เจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์สัตว์ดังกล่าวเดินทางมารับเจ้าตูบทั้งสองด้วยตัวเอง จากนั้นเขาจึงย้ายพวกมันไปไว้ที่ Muttopia สถานที่คัดแยกสัตว์ป่วยของ CWOB ในรัฐแคลิฟอร์เนีย “พวกมันดูป่วยมากๆ ทั้ง Felix และ Oscar ไอไม่ยอมหยุดเลย และอาการไอของพวกมันดูแย่มากๆ” คุณ Camblor กล่าว แต่ถึงแม้ว่าอาการป่วยของเจ้าตูบทั้ง 2 จะยังไม่ดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะมีความสุขกับสถานที่แห่งใหม่นี้มาก Felix และ Oscar “พวกมันกระโดดลงจากรถ พวกมันดูร่าเริงและน่ารักมากๆ ” เจ้าหน้าที่กล่าว …
-
ผอ.โรงเรียนส่งจดหมายถึงผู้ปกครอง เพื่อให้พวกเขาเข้าใจลูกๆ แม้จะได้คะแนนสอบเท่าไหร่ก็ตาม
หลายๆ คนที่เป็นหนึ่งในแก๊งเด็กหลังห้องคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับกระดาษซองขาวๆ ที่จ่าหน้าซองเป็นชื่อของคุณพ่อคุณแม่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกลับมาถึงบ้านพร้อมกับเห็นเจ้ากระดาษซองนี้อยู่บนโต๊ะกินข้างล่ะก็… ไม่อยากจะนึกภาพต่อจากนั้นเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ แต่บางครั้งจดหมายจากทางโรงเรียนนั้นก็ไม่ได้น่ากลัวเสมอไปหรอก อย่างเช่นจดหมายของโรงเรียนมัธยมจากประเทศสิงคโปร์ที่ส่งถึงผู้ปกครองนักเรียนทุกคนก่อนที่การสอบจะเริ่มต้นขึ้น!! ชาวเน็ตรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า saraboulos ได้โพสต์ภาพของจดหมายฉบับดังกล่าวลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งข้อความในจดหมายดังกล่าวนั้นได้บอกกับผู้ปกครองให้เข้าใจในตัวลูกๆ ของพวกเขา พร้อมกับบอกว่าพวกเด็กๆ อาจจะทำบางอย่างได้ดีมากกว่าการสอบ และในโลกนี้ก็ไม่ได้มีแค่อาชีพหมอ ทนาย และวิศวกรเท่านั้น “แด่เหล่าผู้ปกครองที่รัก… การสอบของลูกๆ คุณจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวลกับคะแนนสอบของพวกเด็กๆ แต่ได้โปรดจำไว้ว่าในบรรดานักเรียนที่สอบเหล่านี้ บางคนอาจเป็นศิลปินที่ไม่จำเป็นต้องเข้าใจในวิชาคณิตศาสตร์ หรือบางคนที่อยากจะเป็นนักลงทุนนั้นก็อาจะไม่ต้องสนใจในวิชาประวัติศาสตร์หรือวรรณกรรม เรามีเด็กบางคนที่เป็นนักดนตรีที่คะแนนวิชาเคมีไม่ได้จำเป็นอะไรกับชีวิต เรามีเด็กบางคนที่เป็นนักกีฬาที่ความแข็งแกร่งทางร่างกายสำคัญกว่าคะแนนวิชาฟิสิกส์ ถ้าหากว่าพวกเขาทำคะแนนในวิชาต่างๆ เหล่านี้ได้ดีนั้นก็เป็นเรื่องที่เยี่ยม แต่ถ้าหากว่าพวกเขาทำได้ไม่ดีล่ะก็ อย่าพรากความมั่นใจและความภูมิใจของพวกเขาไป และบอกลูกๆ ว่ามันก็แค่การสอบไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต เราอยากให้พวกคุณบอกเขาว่าไม่ว่าพวกเขาจะได้กี่คะแนนคุณก็ยังคงรักพวกเขาและจะไม่ตัดสินพวกเขาจากคะแนนสอบ ได้โปรดบอกกับพวกเขาแบบนี้ อย่าให้คะแนนสอบมาทำลายความฝันและความสามารถของพวกเขา ได้โปรดอย่าคิดว่ามีแต่หมอกับวิศวกรเท่านั้น ที่จะมีความสุขบนโลกใบนี้ได้” ข้อความบางส่วนจากจดหมายของทางโรงเรียน และนี่คือจดหมายฉบับนั้น ข้อความจากจดหมายเหล่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายๆ คนควรพูดปลอบใจพวกเด็กๆ เวลาที่พวกเขาทำเรื่องบางเรื่องไม่ได้ และอย่างที่ทางโรงเรียนบอกไม่ได้มีแค่บางอาชีพเท่านั้นที่จะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ ที่มา inspiremore
-
อภิมหาความพยายาม บันดาลภาพสถานีรถไฟ จากเศษตั๋วที่ใช้แล้ว กว่า 150,000 ชิ้น!!
ในชั่วโมงเรียนวิชา กพอ. หลายๆ คนคงจะเคยได้ทำงานประดิษฐ์จากสิ่งของหรือวัสดุเหลือใช้กันมาบ้างแล้วแน่ๆ และนอกจากของใช้ในบ้านแล้ว วัสดุเหลือใช้อย่างขวดยาคูลท์หรือหวยรัฐบาลเองก็สามารถนำมาทำงานศิลปะได้เหมือนกัน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อในทวิตเตอร์ว่า @soichih0213 ได้โพสต์ภาพงานศิลปะจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของเมืองโอซะกะลงบนโลกออนไลน์ และนี่คือภาพจากผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นผู้นี้ ถ้าหากดูผ่านๆ ภาพของหัวรถไฟใต้ดินนี้อาจจะดูไม่แตกต่างจากภาพเขียนทั่วๆ ไปเท่าไหร่ แต่ทว่าเมื่อซูมเข้าไปใกล้ๆ เรากลับต้องตะลึงไปตามๆ กันเพราะภาพของรถไฟใต้ดินที่เราเห็นนั้นทำมาจากเศษตั๋วของรถไฟมากถึง 153,600 ชิ้นเลยทีเดียว ภาพของเศษตัวชิ้นเล็กๆ เกือบ 200,000 ชิ้นที่ถูกนำมาเรียงต่อกันเป็นภาพของรถไฟใต้ดินในสถานี Nishi-Umeda Station เมืองโอซะกะแห่งนี้ จากข้อความที่เขียนอธิบายถึงผลงานชิ้นนี้บอกว่า งานศิลปะชิ้นดังกล่าวนั้นใช้เวลาในการทำนานถึง 300 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยเจ้าหน้าที่ของสถานีจะเจาะเศษตั๋วเป็นวงกลมเล็กๆ และใช้คีมคีบทีละชิ้นเพื่อเรียงต่อกันเป็นภาพของรถไฟ โดยสีดำของหมึกและสีของกระดาษนั้นช่วยทำให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น นอกจากภาพของไฟคันดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีอีกภาพที่ใช้เทคนิคการทำแบบเดียวกัน แต่ภาพนี้น่าจะใช้เวลาทำนานกว่าเพราะจากคำอธิบายใต้ภาพนั้นบอกว่าพวกเขาใช้เศษตั๋วทั้งหมด 174,720 ชิ้นเลยทีเดียว!! โอโห!! เรียกได้ว่าเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนมากๆ เลยนะเนี่ย แต่จากผลงานที่เราได้เห็น ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่าเหนื่อยจริงๆ เลยนะ ที่มา rocketnews
-
เสนอวิธีเอาตัวรอดจากแมว หากเราต้องทำงานในออฟฟิศที่เจ้าเหมียวคอยก่อกวนต่อเวลา
สำหรับใครที่เป็นเหล่าทาสแมวนั้น การที่มีเจ้าเหมียวคอยอยู่ข้างๆ คุณเวลาทำงานนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ แต่!! หนึ่งสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นนั่นก็คือคุณจะถูกลูกพี่ของคุณรบเร้าให้ออกมาเล่นด้วยอยู่บ่อยๆ นั่นเอง และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณละเลยคำขอร้องของพี่ๆ เค้าล่ะก็ งานนนี้บอกเลยว่าคุณจะไม่ได้ทำงานดีๆ แน่นอน เพราะพี่แมวจะทั้งคุ้ยทั้งเขี่ย บางทีถึงขั้นปิดคอมคุณเลยก็มี!! ยูทูปเบอร์ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Cole and Marmalade เองก็เป็นหนึ่งในทาสแมวที่กำลังประสบปัญหานี้เช่นกัน ชายหนุ่มได้อัพเดทคลิปวิดีโอที่ช่วยแนะนำเราในการจัดการกับปัญหาพี่แมวชวนเล่นนี้ วิธีที่ 1 การจัดการกับปัญหาน้องแมวแย่งที่ หลักการพื้นฐานของการแก้ปัญหานั่นก็คือสะดวกรวดเร็วและตอบโจทย์ ดั้งนั้นง่ายๆ เลยคุณก็หาเก้าอี้อันใหม่ซะ!! วิธีที่ 2 เจ้าแมวจอมเกาะแกะ หลายๆ คนอาจจะเคยประสบปัญหากับเจ้าเหมียวที่ชอบใช้แขนของคุณเป็นที่นอน ดังนั้นถ้าหากว่าคุณอยากจะนั่งพิมพ์งานแบบสบายๆ ล่ะก็ ลองหาที่นอนใหม่ให้กับมันดูสิ!! วิธีที่ 3 ถ้าไม่อยากให้ห้องเลอะ ก็หาขวดน้ำมาใช้ซะ!! แน่นอนว่าเจ้าเหมียวนั้นมักจะสนใจทุกสิ่งอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะ และถ้าหากคุณไม่อยากให้กาแฟแก้วโปรด หรือน้ำดื่มอันแสนชื่นใจเป็นน้ำลายแมวล่ะก็ หาขวดน้ำหรือภาชนะที่มีฝาปิดมาใช้ซะ และนอกจากนี้ยูทูบเบอร์ท่านนี้ยังได้แนะนำวิธีการแก้ปัญหาแบบฮาๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้อาหารแมวมาล่อ เวลาที่คุณต้องการความเป็นส่วนตัวในการทำงาน หรือถ้าหากว่ามันไม่ไหวจริงๆ ก็ลองหาอะไรมาครอบตัวกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ถ้าใครอยากรู้วิธีการเอาชีวิตรอดจากน้องเหมียวจอมกวนล่ะก็ ไปชมกันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย… แต่เอ่!? ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผลกับเจ้าเหมียวที่ทำงานของเพื่อนๆ หรือเปล่านะ ฮ่าๆ…
-
แผนที่โลกแห่ง ‘เซ็กส์’ เผยให้เห็นพื้นที่แห่งเสรีภาพทางกามรมณ์ ให้ทายประเทศไทยมีสีอะไร??
การขายบริการทางเพศนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมและไม่ถูกต้อง แต่สำหรับในบ้างประเทศนั้นการขายบริการทางเพศเองกลับเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย และมีข้อกฎหมายต่างๆ ที่ดูแลผู้ที่ทำงานด้านนี้ เมื่อไม่นานมานี้ได้มีชาวเน็ตท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพของแผนที่เกี่ยวกับกฎหมายของการค้าประเวณีในประเทศแต่ละประเทศ ซึ่งแผนที่ดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นโดยหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนเมื่อปี 2008 ก่อนที่จะมีการนำออกมาเผยแร่ในปีถัดมา โดยทางหน่วยงานได้แบ่งสีของระดับกฎหมายไว้ทั้งหมด 4 ระดับด้วยกัน และนี่ก็คือภาพของแผนที่ที่ว่านั้น จากคำอธิบายในแผนที่ดังกล่าว สีเขียวนั้นหมายถึงการค้าประเวณีนั้นเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายและมีการควบคุม โดยพื้นที่ที่จัดอยู่ในกลุ่มสีเขียนนั้นยกตัวอย่างเช่นประเทศเม็กซิโก บางพื้นที่ของประเทศออสเตรีเลีย และรัฐเนวาดาเป็นต้น ส่วนต่อมาคือสีน้ำเงินหมายถึงการค้าประเวณีนั้นเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย แต่ไม่มีการควบคุมจากรัฐ ส่วนการเปิดซ่องและอาชีพแม่เล้านั้นถือเป็นส่งที่ผิดกฎหมายในประเทศเหล่านี้ และสีส้มหมายถึงพื้นที่ที่ไม่มีการเอาผิดกับผู้ค้าประเวณี แต่จะมีการดำเนินคดีกับผู้ชื้อและเหล่าพ่อเล้าแม่เล้าแทน สุดท้ายสีแดงหมายถึงการค้าประเวณีนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในประเทศเหล่านี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทยของเรานั่นเอง ถึงแม้ว่าการค้าประเวณีนั้นจะเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม แต่ในปี 2017 นาย Andrew Boff จากสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษเองก็ได้ออกมาสนับสนุนการจัดระเบียบของการขายบริการทางเพศในเมือง ทางการอังกฤษได้มีการนำร่องจัดการควบคุมพื้นที่การขายบริการในเมือง Holbeck เป็นที่แรกในปี 2015 โดยในพื้นที่ดังกล่าวนั้นอนุญาติให้ขายบริการได้ตั้งแต่ช่วง 7 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม จากการรายงานของสื่อต่างประเทศพบว่าอัตราการถูกทำร้ายร่างกายของโสเภณีนั้นลดลงเหลือแค่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นจาก 50 เปอร์เซ็นต์ ที่มา indy100, wikipedia
-
รองเท้านั้นสำคัญไฉน? วิทยาศาสตร์ชี้ มันสามารถเผยให้เห็นถึงลักษณะของคุณได้
ปัจจุบันตลาดของรองเท้านั้นเรียกได้ว่ามีการเติบโตอย่างมาก จากที่เราเห็นแบรนด์ต่างๆ ที่พาเหรดกันเปิดตัวรองเท้าแบบใหม่แทบจะทุกเดือนเลยทีเดียว และแน่นอนว่าการแข่งขันแบบนี้ก็ย่อมส่งผลทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ มีตัวเลือกที่มากขึ้นนั่นเอง และนอกจากความสะดวกสบายและความสวยงามของรองเท้าแต่ละแบบแล้ว มันยังบ่งบอกถึงสิ่งที่คุณคาดไม่ถึงอีกด้วย งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Research in Personality ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้คนและรองเท้าที่พวกเขาสวมใส่ โดยจากการศึกษาได้เผยว่าลักษณะของรองเท้านั้นมีความเกี่ยวข้องกับลักษณะนิสัยของผู้สวมใส่ด้วย 1. สีของรองเท้า จากการศึกษาพบว่าผู้ที่ชอบสวมรองเท้าสีฉูดฉาดหรือรองเท้าแบบหรูๆ นั้นจะมีลักษณะเป็นคนที่ชอบเก็บตัวและไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นสักเท่าไหร่ ส่วนผู้ที่ชอบสวมรองเท้าสีสันธรรมดาๆ หรือรองเท้าเก่าๆ นั้นจะมีลักษณะนิสัยที่ชอบเข้าสังคมมากกว่า 2. สภาพของรองเท้าที่สวมใส่ ถึงแม้ว่าเราไม่อาจจะตัดสินคนอื่นๆ ได้จากรูปลักษณ์ภายนอกก็ตาม แต่จากการศึกษาพบว่าคนที่มีการทะนุถนอมรองเท้าอย่างดีนั้นมักจะมีลักษณะนิสัยที่เป็นคนชอบห่วงใยผู้อื่น พวกเขามักจะแคร์คนรอบข้างและใส่ใจกับงานที่ทำด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่สวมรองเท้าเก่าๆ นั้นจะเป็นคนที่มีความมั่นคงทางอารมณ์ และไม่ค่อยอ่อนไหวกับสิ่งรอบกาย 3. รองเท้าส้นสูง หลายๆ คนอาจจะคิดว่าผู้หญิงที่ชอบสวมรองเท้าส้นสูงนั้นเป็นพวกที่ดูเกรี้ยวกราดและจะเป็นสาวขี้โมโห แต่จากการศึกษาพบว่าอันที่จริงแล้วพวกเธอนั้นไม่ได้มีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวหรือเป็นคนขี้โมโหแต่อย่างใดเลย และนอกจากนี้ผู้หญิงที่สวมรองเท้าส้นสูงนั้นจะเป็นที่ดึงดูดของเพศตรงข้ามอีกด้วย อย่างไรก็ตามทั้ง 3 ข้อนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ผลจากการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงนั้นเราอาจจะไม่สามารถที่จะตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกได้เลย แต่การทำความรู้จักและคุ้นเคยต่างหากที่จะเป็นสิ่งที่บอกเราว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเรานั้นมีลักษณะนิสัยอย่างไร… ที่มา inc, designtaxi
-
จากคลิปฟังเพลงใน The Sims ชาวเน็ตร่วมแชร์เรื่องราวทั้งเศร้าและซึ้งในคราวเดียวกัน
The Sims เกมดังที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คน และได้รับความนิยมอย่างมาก โดยภาคล่าสุดอย่าง The Sims 4: Vampires ได้เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา และหนึ่งในความทรงจำของหลายๆ คนเกี่ยวกับเกมสร้างครอบครัวแบบจำลองนี้ นอกจากความสนุกของการสร้างบ้านแล้วนั่งก็คือเพลงซาวน์แทร็คประกอบเกมนั่นเอง บทเพลงประกอบเกมนั้นสามารถหาฟังได้ตามช่องยูทูปทั่วไป แต่ทว่ามียูทูบเบอร์ผู้หนึ่งที่ได้โพสต์เพลงของเกมชื่อดังนี้ และนอกจากจะได้ความนิยมอย่างมากจนมียอดวิวมากกว่า 1 ล้านวิวแล้ว ก็ยังมีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นร่วมรำลึกถึงวันวานอันแสนหวาน แต่ทว่าก็มีความคิดเห็นของชาวเน็ตผู้หนึ่งที่ทำเอาหลายๆ คนต้องสะดุดกันเลยทีเดียว เมื่อชายหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า overtheunder5 ได้เล่าประสบการณ์วัยเด็กอันแสนเศร้าของเขากับเจ้าเกมนี้ ชายคนดังกล่าวเล่าว่า “ตอนที่ผมเรียนอยู่เกรด 8 ผมมีเพื่อนคนนึงชื่อ Melissa ผมชอบเธอมากๆ เมื่อมองย้อนกลับไป ผมพูดได้เลยว่าผมรักเธอมากๆ มากกว่าผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยคบมาจนกระทั่งผมอายุ 25 ปีเลย Melissa เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกับพ่อแม่ของเธอ และโชคร้ายที่เธอไม่เคยได้รับรู้ความรู้สึกที่ผมมีต่อเธอเลยแม้แต่น้อย บางครั้งผมก็คิดนะว่าถ้าผมได้สารภาพความรู้สึกกับเธอ เธออาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ ผมสร้างครอบครัวกับ Melissa ในเกม เรามีลูกด้วยกันสองคนและมีเงินหลายล้านซิมโมเลี่ยน ในทุกๆ สองสามปี ผมจะยังคงเปิดคอมเครื่องเก่าของผม เพื่อเข้าเกมไปดูว่าเธอสบายดีไหม ตอนนี้เธอยังคงมีความสุขดีนะ” คอมเมนต์ของชายหนุ่มและความทรงจำในเกมของเขา และนอกจากคอมเม้นต์เรื่องเศร้าของนาย overtheunder5 แล้ว…
-
บรรยากาศ Black Friday แบบเหงาๆ ในเวลส์ ที่ไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้า มันจะจืดๆ หน่อยนะ
ถ้าหากพูดถึงมหกรรมของลดราคา นอกจากป้าย Sale ตัวโตๆ กับพื้นหลังสีแดงแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่พวกเรามันจะเห็นกันจนชินตานั่นก็คือฝูงพีเพิ่ลที่กำลังตะเกียดตะกายยื้อแย่งสิ่งของกันอย่างเมามันนั่นเอง และในสหรัฐอเมริกา รวมถึงสหราชอาณาจักรเองก็มีมหกรรมลดราคาสินค้าที่เรียกว่า Black Friday เช่นกัน ซึ่งโดยปรกติแล้วมหกรรมที่ว่านี้ก็แทบไม่แตกต่างจากมหาสงครามเลยทีเดียว และก็มีเหล่าวีรบุรุษหลายๆ คนที่ต้องเจ็บตัวจากการยื้อแย่งสินค้าราคาถูก และนี่คือตัวอย่างของสมรภูมิ Black Friday อาจจะเห็นภาพไม่ชัดลองไปชมกันแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอนี้เลย ภาพของฝูงคนที่กำลังยื้อแย่งของลดราคาเหล่านี้ คงจะบอกถึงความร้อนแรงของมหกรรม Black Friday นี้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางร้านค้าในย่านศูนย์การค้าของเมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ เองก็ได้จักมหกรรมลดราคาสินค้นี้เองเช่นกัน แต่ทว่าภาพของเหล่าผู้คนที่เบียดเสียดยัดเยียดกันเหมือนทุกๆ ครั้งนั้นกลับเหลือเพียงแค่ชายหนุ่มเสื้อแดงคนเดียวที่เดินเข้ามาแบบชิวๆ แบบในคลิปวิดีโอด้านล่างนี้ 5.. 4.. 3.. 2.. 1.. เข้ามาได้เลยครับบบ (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ ) black friday in the UK. this might just be the…
-
เจ้าอ้วนเอ้ย!! แรคคูนตัวแสบตัวติดท่อระบายน้ำข้างทาง เดือดร้อนคุณตำรวจต้องมาลากตัว!!
แน่นอนว่าความอ้วนนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายของพวกมนุษย์อย่างเราๆ และเช่นเดียวกันสำหรับพวกสัตว์นั้นสภาวะน้ำหนักเกินนั้นก็ไม่ใช่เรื่องดีเช่นกัน เจ้าแรคคูนจอมตุ้ยนุ้ยตัวหนึ่ง ได้สูญเสียความเป็นสัตว์จอมพลิ้วของมันไปทันทีหลังจากที่ขี้ปุ๋ม เอ๊ย!! พุงของพี่แกนั้นดั๊นติดกับทางออกท่อระบายน้ำ งานนี้เลยเดือดร้อนถึงพี่ๆ ตำรวจต้องลงมือช่วยกันยกใหญ่เลยทีเดียว ออกม๊ายได๊!! เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจ Zion Police รัฐอิลลินอยส์ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีท่านหนึ่ง ที่บังเอิญสังเกตเห็นเจ้าแรคคูนตัวอ้วนตัวนี้กำลังพยายามที่จะออกจากท่อระบายน้ำ เจ้าตัวน้อยพยายามอยู่นานแต่สุดท้ายมันก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากท่อระบายน้ำได้ และติดอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึง “มันดูเหมือนคนที่กินเยอะๆ และพยายามที่จะออกจากท่อระบายน้ำนั่น” เจ้าหน้าที่ตำรวจเล่า ในวันนั้นถ้าหากไม่มีพลเมืองดีโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจล่ะก็งานนี้เจ้าแรคคูนมีหวังได้ติดอยู่ที่ท่อระบายน้ำนี้ไปอีกนานแน่ๆ ช่าวด้วยครับบบบ ฮือออ เจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเจ้าตัวเล็ก แต่… ก็ยังออกไม่ได้อยู่ดี ฮือออ หลังจากที่พยายามอยู่นาน เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจที่จะขอความช่วยเหลือจากหน่วยเทศบาลของเมือง เพื่อทำการยกฝาท่อระบายน้ำออกและช่วยเจ้าตัวเล็กออกมาได้สำเร็จ “พวกเราสามารถช่วยมันออกมาได้สำเร็จ และมันก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย” เจ้าหน้าที่กล่าว แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เชื่อแน่ๆ ว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เจ้าตัวอ้วนคงจะคิดถึงเรื่องการลดน้ำหนักมากขึ้นแน่ๆ ฮ่าๆ ที่มา thedodo
-
วินาทีสุดระทึกของปลา Giant Trevally ที่กำลังทะยานขึ้นเหนือน้ำเพื่อจัดการเจ้านกทะเล
อันที่จริงแล้วในโลกเรานั้นยังมีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ซ่อนอยู่อีกมากมาย และรอให้มนุษย์เราออกไปค้นหาความแปลกใหม่เหล่านั้น และพฤติกรรมการกินอาหารของพวกปลา Giant Trevally หรือปลากะมงมะพร้าวเองก็เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ว่านั้นด้วย!! ปลากะมงมะพร้าวหรือ ปลากะมงยักษ์ จัดเป็นกลุ่มปลาทะเลขนาดใหญ่ที่อยู่ในวงศ์ปลาหางแข็ง ในวัยโตเต็มที่พวกมันจะมีขนาดลำตัวที่ยาวถึง 170 เซนติเมตรและน้ำหนักที่มากกว่า 80 กิโลกรัมเลยทีเดียว โดยทั่วไปแล้วอาหารหลักๆ ของพวกมันก็คือเหล่าสัตว์ทะเลขนาดเล็กอย่างกุ้ง หอย หรือปลาหมึก แต่นอกจากนี้คลิปวิดีโอจากสารคดี Blue Planet II ของทาง BBC ยังแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วพวกมันยังล่านกทะเลเป็นอาหารอีกด้วย!! คลิปจากสารคดี Blue Planet II ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาเผยให้เห็นถึงวินาทีที่กลุ่มปลากะมงยักษ์ กว่า 50 ตัวที่กำลังว่ายอยู่ใกล้ๆ กับพื้นที่ของหมู่เกาะ ในประเทศเซเชลส์ กำลังออกล่าเหล่านกทะเลที่กำลังบินอยู่ในบริเวณดังกล่าว ภาพวินาทีที่พวกปลาเหล่านี้กระโดดงับเจ้านกน้อยที่ไม่รู้ตัวถึงภัยอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับมัน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมอย่างมาก และไม่เพียงแค่เจ้านกที่กำลังอยู่เหนือผิวน้ำเท่านั้นที่จะตกเป็นเหยื่อ เพื่อนๆ ของพวกมันที่กำลังบินอยู่ก็ไม่รอดจากฝูงปลาเหล่านี้ได้เช่นกัน หมับเข้าให้!! ไปชมวินาทีการล่านกทะเลของเจ้าปลาสายพันธุ์นี้กันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย พวกปลาทะเลขนาดใหญ่สายพันธุ์นี้สามารถพบได้ทั่วไปในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุทรอินเดีย รวมถึงชายฝั่งฮาวาย ญี่ปุ่น แอฟริกาตะวันออก รวมถึงน่านน้ำของไทยทั้งสองฝั่งอย่างอันดามันและฝั่งอ่าวไทยอีกด้วย…
-
ช่างภาพจับภาพลูกเสือดาวหิมะกระโดดเหยงๆ สุดน่ารัก นึกว่า “ทิกเกอร์” มาเองเลยนะเนี่ย!?
สัตว์จำพวกแมวนั้น ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหนๆ ก็ดูเหมือนว่าจะน่ารักไม่แพ้กันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเหมียวบ้านๆ ตัวเล็กๆ หรือว่าเจ้าแมวป่าตัวใหญ่ๆ อย่างคาราคัล และรวมถึงเจ้าลูกเสือดาวหิมะตัวน้อยตัวนี้ด้วยเช่นกัน!! ภาพของเจ้าลูกเสือดาววัย 5 ขวบจากศูนย์รักษาพันธุ์สัตว์ป่า Triple D Ranch ในรัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา ที่กำลังกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขท่ามกลางธรรมชาตินั้น ได้รับความนิยมอย่างมากบนโลกออนไลน์ หลังจากที่ทางศูนย์ได้มีการโพสต์ภาพของมันลงทางเฟซบุ๊กของพวกเขา ท่าทางกระโดดของเจ้าลูกเสือที่ดูคล้ายกับ Tigger จากเรื่อง Winnie-the-Pooh เลยทีเดียว “มันยังเป็นลูกเสือตัวเล็ก และชอบเล่นอยู่ตลอดเวลา มันคือเจ้าเสือน้อยจอมกระโดด และมีเรี่ยวแรงเยอะมาก บางครั้งมันสามารถกระโดดได้สูงมากจนฉันทึ่งไปเลยทีเดียว” คุณ Shayne McGuire ผู้ถ่ายภาพเจ้าเสือน้อยตัวนี้กล่าว นอกจากความขี้เล่นแล้ว เจ้าเสือน้อยตัวนี้ยังเป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวอีกด้วย ภารกิจของ Triple D คือการดูแลเจ้าเสือน้อยตัวนี้ และรักษาพันธุ์สัตว์อื่นๆ ที่ใกล้สูญพันธุ์ เสือดาวหิมะนั้นเป็นสัตว์ที่สามารถพบได้แถบเทือกเขาทางตอนกลางและทางใต้ของทวีปเอเชีย “เพื่อนๆ ของฉันบอกว่าภาพของเจ้าเสือตัวนี้ดูเหมือน Tigger มาก พวกเราพยายามให้มันสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระโดยไม่ขังไว้ในกรง พวกเราจะคอยเฝ้าดูมันเติบโต และพัฒนาสัญชาตญาณนักล่าขึ้นเรื่อยๆ ” ช่างภาพสาวกล่าว เสือดาวหิมะนั้นถูกจัดอยู่ในรายชื่อสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ของ IUCN Red List of Threatened Species…
-
หนุ่มหัวหมอ อ้างจดทะเบียนชื่อพ่อที่เหมือนกับชื่อตัวเอง หลีกเลี่ยงค่าปรับ 650 บาท
เหตุการณ์แปลกๆ นี้เกิดขึ้นในการไต่สวนคดีความในศาลของเมืองพรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ชายรายหนึ่งพร้อมกับเพื่อนของเขาได้กระทำความผิดในข้อหาจอดรถในที่ห้ามจอดและขับรถฝ่าไฟแดง นี่เป็นคลิปวิดีโอจากรายการ Caught In Providence รายการเกี่ยวกับการไต่สวนคดีความอย่างคดีเกี่ยวกับการจราจร การจอดรถ ได้เผยให้เห็นผู้พิพากษา Caprio ที่กำลังไต่สวนคดีความกับจำเลยทั้ง 2 อยู่ ผู้พิพากษาได้ทำการสอบถามจำเลยทั้งสองว่าใครเป็นคนขับรถ ก่อนที่ชายชุดดำจะชี้ไปที่เพื่อนของเขาแล้วบอกว่า “หมอนี่แหละครับเป็นคนขับ” จากนั้นผู้พิพากษาก็สอบถามเกี่ยวกับเรื่องการจดทะเบียนรถและบอกว่ารถคันดังกล่าวของเค้านั้นค้างค่าปรับอยู่ 1 ใบตั้งแต่ปี 2009 เป็นเงินมูลค่า 20 เหรียญหรือประมาณ 650 บาท พร้อมกับข้อหาขับรถฝ่าไฟแดง และหลังจากที่แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดเสร็จ ชายหนุ่มชุดดำคนดังกล่าวก็ได้เกิดข้อสงสัย และซักถามผู้พิพากษาว่า “เอ่อ.. เดี๋ยวนะครับผมสงสัยเกี่ยวกับเรื่องค่าปรับที่จอดรถ คือพ่อแม่ของผมเนี่ยเค้าเป็นเจ้าของรถคันนั้นเมื่อปี 2009 ก่อนที่จะขายให้ผมอีก 2 ปีถัดมา ดังนั้นในตอนนั้นพวกเขาเป็นเจ้าของรถ และชื่อรถก็จดทะเบียนชื่อพ่อผมที่เหมือนกับผมเลยครับ” ในขณะที่ชายหนุ่มยังไม่ทันถามคำถามของเขาเสร็จ ดูเหมือนว่าผู้พิพากษาจะเข้าใจถึงความหมายที่เขาพูดอย่างดี จึงถามชายหนุ่มกลับไปว่า “คุณต้องการให้ผมส่งเจ้าหน้าที่ไปจับพ่อแม่ของคุณอย่างนั้นใช่ไหม??” หนุ่มหน้ามนคนใส่แว่นอ้ำอึ้งอยู่ซักพักก่อนจะพูดบอกออกไปแนวๆ ว่าตัวเขาเองนั้นยังไม่มีเงินจ่ายหรอก ตอนนี้ยังต้องพึ่งประกันสังคมอยู่เลย และจริงๆ แล้วถ้าเขามีเงินเขาก็ไม่อยากจะให้ไปจับพ่อแม่หรอก ผู้พิพากษาได้หันไปพูดกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องที่ชายหนุ่มต้องการจะขายพ่อแม่ของเขาในราคา 20…
-
กระพริบทีมีเจ็บ… ช่างตัดผมจีนให้บริการ ‘โกนขนเปลือกตา’ เพื่อความโล่งที่มากกว่าเดิม!?
บริการเสริมของร้านทำผมสุดแหวกนี้เกิดขึ้นที่ประเทศจีนโดยช่างทำผมชื่อคุณ Xiong Gaowu นอกจากบริการตัดผมและโกนหนวดแบบร้านทั่วๆ ไปแล้ว ร้านตัดผมแห่งนี้ยังมีบริการโกนขนเปลือกตาอีกด้วย!! คุณ Xiong ให้บริการร้านตัดผมของเขาอยู่บริเวณริมถนนในเมืองเฉิงตู ทางตอนใต้ของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน “คุณจะรู้สึกสบายมากๆ หลังจากที่ได้โกนขนที่เปลือกตา” ช่างตัดผมวัย 62 ปีกล่าว Zhang Tian หนึ่งในลูกค้าที่ใช้บริการโกนขนเปลือกตาให้สัมภาษณ์ว่า “มันไม่อันตรายเลย ตาของผมรู้สึกโล่งมากๆ หลังจากที่โกนขนออก มันสบายจริงๆ “ ช่างตัดผมวัย 62 ปีเริ่มต้นฝึกทักษะการโกนขนเปลือกตาตั้งแต่ช่วงปี 1980s คุณ Xiong ให้บริการลูกค้ามากถึง 8 คนต่อสัปดาห์เลยทีเดียว โดยค่าบริการในการกำจัดขนที่เปลือกตานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 400 บาทต่อครั้ง “ในตอนที่ผมเริ่มต้นใหม่ๆ มันค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว แต่หลังจากฝึกฝนเป็นเวลานานการโกนขนใต้เปลือกตาก็เป็นเรื่องง่ายๆ” ช่างตัดผมรุ่นใหญ่กล่าว แต่ทางคุณหมอ Qu Chao จักษุแพทย์จากเมืองเฉิงตูได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการโกนขนที่เลือกตาว่า มันจะลดความชุ่มชื่นของต่อมไขมันที่อยู่บริเวณขอบตา และจะทำให้คุณรู้สึกระคายเคืองได้ “ผู้รับบริการจะรู้สึกว่าเปลือกตาแห้งและรู้สึกระคายเคือง เมื่อต่อมไขมันถูกเปิดออกด้วยการโกน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการติดเชื้ออีกด้วยถ้าหากว่าอุปกรณ์ที่ใช้ไม่มีการฆ่าเชื้อ” แพทย์หญิงกล่าว อย่างไรก็ตามคุณหมอยังได้แนะนำว่าถ้าหากมีการฆ่าเชื้อใบมีดอย่างถูกต้อง การโกนขนที่เปลือกตานั้นก็ยังคงทำได้อยู่ และถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่กล้าพอ การโกนขนที่เปลือกตาก็อาจจะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคุณก็ได้!! น่าสงสัยจริงๆ เลยนะว่าใครเป็นลูกค้าคนแรกๆ ที่คุณ Xiong…
-
ช่างภาพปะทะเวทมนตร์เหมันต์ฤดู ณ ขุนเขาแห่งโปแลนด์ แดนมหัศจรรย์ เชรดดหน้าหนาวอ่าาา
ในช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงมกราคมของทุกๆ ปี เรียกได้ว่าอาจจะเป็นช่วงเวลาที่หลายๆ รอคอยที่จะได้สัมผัสกับความเย็นและมวลอากาศหนาวจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย และขณะนี้ก็ล่วงเลยมาถึงเดือนธันวาคมแล้ว เจ้ามวลอากาศเย็นที่ว่านี้ก็มาผ่านบ้านเราแบบหลอกๆ และดูเหมือนว่ายังคงไม่มีวี่แววที่จะย่างกรายเข้ามาเยือนบ้านเราแบบเต็มๆ เลยสักนิด!? แต่ไม่ต้องเสียใจกันไปเพื่อนรัก ถึงแม้ว่าบ้านเรานั้นจะยังไม่เข้าสู่ฤดูหนาวกันแบบเต็มๆ เราก็สามารถสัมผัสบรรยากาศคูลๆ กันได้ จากชุดภาพถ่ายของฤดูหนาวของภูเขา Carpathians ในสาธารณรัฐเช็กที่เรานำมาฝากกันวันนี้แก้ขัดไปก่อนได้!! ผลงานภาพถ่ายชุดนี้เป็นของช่างภาพหนุ่มชาวโปแลนด์ คุณ Karol Nienartowicz เขาหลงใหลในการถ่ายภาพของภูเขามาก และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ช่างภาพหนุ่มผู้นี้ก็ได้เดินทางไปสัมผัสกับความสวยงามของหน้าหนาวถึงเทือกเขา Carpathians เทือกเขาที่มีความยาวราว 1,500 กม. พาดผ่านในทวีปยุโรปตอนกลางและตะวันออกเลยทีเดียว ภาพของหิมะ และแสงแดดทำให้ภาพเหล่านี้ดูเหมือนอยู่ในโลกเวทมนตร์เลยทีเดียว!! . . . เริ่มรู้สึกหนาวๆ บ้างแล้วใช่ไหมล่ะ!? ฮ่าๆ . . . . ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง และหิมะขาวๆ ช่างดูสวยงามจริงจริ๊ง!! . . . และนอกจากความสวยงามของสีขาวจากหิมะแล้ว แสงแดดที่สาดลงมาก็ทำให้หน้าหนาวของยุโรปนั้นดูโรแมนติกขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว . . . . .…
-
ศิลปินพับกระดาษระดับนาโน นอกจากมือก็ต้องพึ่งไม้จิ้มฟัน และความอดทนอีกด้วยนะ!!
ในการทำงานศิลปะนั้น นอกจากจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์แล้ว การใช้ความอดทนและเทคนิคต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผลงานมีความแตกต่างได้เหมือนกัน ผลงานการพับกระดาษจิ๋วนี้เป็นของศิลปินชาวญี่ปุ่นนามว่าคุณ Anja Markiewicz งานศิลปะโอริงะมิชิ้นเล็กๆ นี้ต้องใช้ความอดทนและอุปกรณ์พิเศษอย่างไม้จิ้มฟันในการสร้างสรรค์ผลงานอีกด้วย เจ้านกน้อยหนึ่งในผลงานศิลปะของศิลปินชาวญี่ปุ่นท่านนี้ ผลงานนาโนโอริงะมิ รูปสัตว์ต่างๆ ของศิลปินท่านนี้ . เจ้าช้างน้อยเองก็มาเหมือนกันนะ มังกรตัวน้อยที่เต็มไปด้วยรายละเอียดก็มีเหมือนกัน!! . . . . . . . . เกร็ดหิมะเล็กๆ สำหรับหน้าหนาวก็มีเหมือนกันนะ!! . . . เทคนิคการพับและความอดทนของศิลปิน ช่วยทำให้กระดาษธรรมดาๆ กลายเป็นงานศิลปะชั้นเยี่ยม และสำหรับใครที่อยากชื่นชมผลงานของศิลปินสาท่านนี้เพิ่มเติมก็สามารถไปชมได้ที่ faltsuch และ flickr กันได้เลย ส่วนใครที่อยากเป็นเจ้าของผลงานเหล่านี้ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่เว็บไซต์ shop.faltsucht ของเธอได้เลย ที่มา twistedsifter
-
เมื่อผมให้เพื่อนร่วมงานวาดภาพ ‘หมาปอม’ เจ้านายก็วาด ไม่มีความใกล้เคียงเล้ย!!
ปอมเมอเรเนียน สุนัขพันธุ์เล็กขนฟูที่มีนิสัยสุดขี้เล่น เจ้าหมาตัวเล็กพันธุ์นี้อาจจะเป็นที่ถูกใจของหลายๆ คน และผู้ที่ชื่นชอบเจ้าตูบส่วนมากก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตาสุนัขพันธุ์นี้กันเป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามก็ยังมีบางคนที่อาจจะยังไม่รู้จักน้องตูบพันธุ์นี้ คุณ Misato Nagoya จากเว็บไซต์ BuzzFeed ได้ทำการทดสอบโดยให้เพื่อนร่วมงานของเธอช่วยกันวาดภาพของเจ้าหมาน้อยปอมเมอเรเนียนกัน และนี่คือผลงานภาพวาดของเจ้าหมาน้อยตัวนี้จากชาว BuzzFeed… ไม่ใช่จ้าาา อันนี้ภาพภ่าย ฮ่าๆ เริ่มที่ฝีมือของเด็กฝึกงาน เอ่อ… ฉันว่านายน่าจะลืมวาดหูของมันนะ!! ส่วนภาพนี้คือฝีมือของเจ้านาย “ถึงแม้ว่าจะเหมือนสิงโตไปหน่อย แต่ก็ดูน่ารักดีนะคะ!!” ส่วนภาพวาดต่อไปนี้คือผลงานจากเหล่าเพื่อนร่วมงานของคุณ Misato Nagoya อืม… ดูจะเหมือนโปเกม่อนมากกว่าน้องปอมนะเนี่ย!? ส่วนภาพนี้ก็หนักไปเจ้าเหมียวซะมากกว่านะ ทางผู้จัดการเองก็ร่วมสนุกกับเค้าเหมือนกัน แต่ไหงน้องปอมของพี่เป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย?? อืม… น่ารักๆ แบบนี้คือผลงานการวาดจากทีมฝ่ายศิลป์ของออฟฟิศนี้!! ภาพวาดของเจ้า Maro น้องปอมของหนึ่งในเพื่อนร่วมงานเธอ . และแล้วคราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการโหวตให้คะแนนกับผลงานการวาดของชาวออฟฟิศ มาลุ้นกันดีกว่าว่าน้องปอมตัวไหนจะได้คะแนนโหวตสูงสุด!! และแล้วรางวัลป๊อปปูล่าโหวตก็ตกเป็นของน้องปอมตัวเล็กน่ารักตัวนี้!! “ฉันไม่แน่ใจว่าเจ้าหมาพันธุ์นี้มีหนวดหรือเปล่า แต่ฉันคิดว่าดีแล้วที่ฉันไม่ได้วาดหนวดลงไป ฮ่าๆ” หญิงสาวเจ้าของภาพวาดกล่าว แล้วเจ้าหมาปอมของเพื่อนๆ…
-
ชายหญิงชาวอินโดนีเซีย ถูกชาวบ้านกล่าวหา พร้อมจับแก้ผ้าเดินประจานบนท้องถนน
ภาพจากคลิปวิดีโอไม่เปิดเผยที่มาคลิปหนึ่ง ได้แสดงให้เห็นภาพของชายหญิงคู่หนึ่งที่ถูกคนในหมู่บ้านบังคับให้เดินไปตามท้องถนนพร้อมกับใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น หลังจากที่คนในหมู่บ้านกล่าวหาว่าพวกเขาทำเรื่องน่าอับอายและมีความผิด คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่หมู่บ้าน Kadu ทางตะวันตกของกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หญิงสาวภายในคลิปวิดีถูกบังคับให้ถอดกางเกงของเธอออก เหลือแต่กางเกงในและเสื้อยืดของเธอ ในขณะที่ชายหนุ่มจำนวนหนึ่งกำลังล้อมรอบเธอ ถัดจากหญิงสาวคนดังกล่าวไม่ไกล ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในสภาพเหลือแต่ชุดชั้นในพร้อมกับถูกทำร้ายร่างกาย “ตีพวกมัน เผาพวกมัน บอกเรามาว่าพวกแกสองคนทำอะไร” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังพูดกับชายหญิงคู่นั้น ถึงแม้ว่าเธอจะพยายามขอร้อง แต่ต่อหน้าเหล่าชายฉกรรจ์คำอ้อนวอนของเธอกลับไม่มีความหมาย ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น ทั้งสองถูกบังคับให้เดินไปตามท้องถนน พร้อมกับถูกทำร้ายร่างกายเพื่อประจานความผิดของพวกเขา ภาพบางส่วนจากคลิปวิดีโอ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นเผยว่าชายหนุ่มที่ถูกทำร้ายร่างกายนั้นได้เดินทางมาทานมื้อค่ำที่บ้านของหญิงสาวคนดังกล่าว ก่อนที่จะเข้าไปแปรงฟันในห้องน้ำซึ่งเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่เธอถอดทิ้งไว้ และหลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็เข้ามาจับกุมตัวเขาและเธอ อย่างไรก็ตามหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถตามจำตัวผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้นำของหมู่บ้านแห่งนี้นี่เอง ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทั้งหมดถูกจับกุมในข้อหาใช้ความรุนแรง และมีโทษจำคุกอย่างน้อยครึ่งปีจนถึง 5 ปี หรือถ้าหากว่าชายหญิงทั้งสองได้รับบาดเจ็บสาหัสพวกเขาทั้งหมดจะถูกจำคุกนานถึง 9 ปีเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าทั้งสองได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ที่มา observers
-
หญิงสาวช่วยหางานและบ้านหลังใหม่ให้ชายไร้บ้าน หลังเขานำเช็ค 350,000 บาทมาคืนเธอ
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่พบเช็คมูลค่า 350,000 บาท เขานำมันส่งคืนเจ้าของเดิมเพียงเพราะว่าความถูกต้องนั้นมีมูลค่ามากกว่าเช็คใบนั้น แต่ทว่าสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับชายหนุ่มเมื่อดอกเตอร์ Roberta Hoskie เจ้าของเช็คใบนั้นกลับให้บ้านและงานใหม่กับชายหนุ่มเป็นสิ่งตอบแทนกับความดีของเขา หลังจากที่ชายหนุ่มพบเช็คของเธอตกอยู่บนถนนในเมือง New Haven สหรัฐอเมริกา นาย Elmer Alvarez หนุ่มไร้บ้านพลเมืองดี และดอกเตอร์ Hoskie เจ้าของเช็คที่ชายหนุ่มเก็บได้ ดอกเตอร์ Hoskie ให้ชายไร้บ้านคนดังกล่าวเข้าเรียนในโรงเรียนเกี่ยวกับธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เธอเป็นเจ้าของ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเขาในระยะยาว ด้วยความที่เคยเป็นคนไร้บ้านมาก่อนจึงทำให้ดอกเตอร์หญิงผู้นี้เข้าใจถึงความยากลำบากที่คุณ Alvarez ต้องเผชิญเป็นอย่างดี เธอบอกว่าการช่วยเหลือเขาด้วยวิธีนี้เป็นเพียงหนทางเดียวที่จะทำให้เขายืนได้ด้วยตัวเอง และกลับไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีก “คุณไม่ต้องทนหนาวอยู่ข้างนอกอีกต่อไปแล้ว เรามีบ้านหลังใหม่ที่จะมอบให้คุณ” ดอกเตอร์หญิงกล่าว คุณ Alvarez รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับเขา ชายหนุ่มรู้สึกทราบซึ้งกับสิ่งที่เขาได้รับ “โลกของเรายังมีนางฟ้าอยู่จริงๆ ด้วยความสัตย์จริง ผมต้องการที่จะคืนเช็คใบนี้ให้กับเธอ โดยที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนเลย” ชายหนุ่มกล่าว ที่มา dailymail
-
ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว คนเมามี 4 ประเภท ลองสำรวจกันดูว่าคุณเป็นสายไหน!?
อาการเมานั้นนอกจากจะเกิดจากการแพ้ยานพาหนะแล้ว บางครั้งเวลาที่คุณดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เองก็อาจจะทำให้คุณเกิดอาการเมาได้เหมือนกัน (เผื่อใครยังไม่เคยดื่ม) และเมื่อไม่นานมานี้ทางทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย University of Missouri สหรัฐอเมริกา ก็ได้ทำการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับอาการเมาของคนเราในแบบต่างๆ ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 374 คน และโดยให้พวกเขาจับคู่ออกไปดื่มกันและให้สังเกตพฤติกรรมของอีกฝ่าย ซึ่งผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Addiction Research & Theory สามารถแบ่งกลุ่มคนเมาได้ 4 ดังนี้ 1. ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เมา The Hemingway ทีมวิจัยได้เรียกนักดื่มในสายนี้ว่าตามแบบชื่อของนักเขียนชาวอเมริกันที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า เขาสามารถดื่มหนักแค่ไหนก็ได้โดยที่ไม่เมาเลย คนเมาสายนี้มักจะไม่มีบุคลิกที่เปลี่ยนไปเลยไม่ว่าพวกเขาจะเมามากแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงมีสติที่ช้าลงและเดินเซเล็กน้อย นักวิจัยพบว่ามีคนเมาในแบบ The Hemingway มากถึง 42 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างทั้มหมด 2. Mary Poppins สายเฟรนด์ลี่ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มเมานั้น คุณจะกลายเป็นคนที่อัธยาศัยดีขึ้นมาทันที คุณพร้อมที่จะเป็นมิตรกับทุกๆ คนในร้าน และโดนเหยียบเท้านิดหน่อยก็ไม่อาจทำให้คุณโกรธได้เลย 3. พ่อนักวิชาการใหญ่ หรือ The Nutty Professor โดยปรกติแล้วคนเมาสายนี้มักจะมีแนวโน้มที่เป็นคนเงียบๆ ในตอนที่พวกเขายังมีสติอยู่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เหล้าเข้าปากและเริ่มเมาได้ที่ล่ะคุณเอ๊ย!! งานนี้พูดเป็นน้ำไหลไฟดับเลยทีเดียวแถมยังชอบโชว์ออฟอีกด้วย 4. Mr. Hyde จอมทำลายล้าง Mr.…
-
รวม 18 เกมดังจากวันวาน ในยุคที่คุณยังต้อง “ขูดบัตร” เพื่อเติมอินเตอร์เน็ต!!
สำหรับหลายๆ คนแล้วการได้เล่นเกมหลังเลิกเรียนคงจะเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ และแน่นอนในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา หลังจากการถือกำเนิดของ Play Station 1 โลกแห่งการเล่นเกมของพวกเราก็เปลี่ยนไป และนอกจากเกมในเครื่อง PS1 แล้ว ในยุคนั้นเกมคอมพิวเตอร์เองก็มีการพัฒนาอย่างมาก ที่สำคัญยังมีหลากหลายแนวให้เราเลือกเล่น ไม่ว่าจะเป็นเกมผ่านด่านยากๆ ไปจนถึงเกมแฟลชง่ายๆ และเพื่อเป็นการย้อนวันวาน เราก็ได้รวบรวม 18 เกมดังจากทุกแพลตฟอร์มที่คุณต้องเคยเล่นมาฝากกัน ส่วนจะมีเกมอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. กระบี่ผีเสื้อดาวตก เกมต่อสู้แนวกำลังภายในที่แสนจะดุเดือด การจำท่าของแต่ละอาวุธได้นั้นจะทำให้คุณกลายเป็นมหาเทพแห่งยุทธภพ และไม่แน่ตอนนี้สมุดจดคอมโบของคุณอาจจะยังอยู่ก็ได้!! 2. Counter Strike เกมแนว FPS ที่คอเกมหลายๆ คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และเสียงพากย์ไทยสุดคลาสสิคอย่าง “ขว้างละเบิดไปแล้ว!!” หรือ “เอาน้อยหน่าไปกิน เย่!!” ก็ยังคงติดอยู่ในหูคุณจนถึงทุกวันนี้อย่างแน่นอน (อ่านบทความเก่า 20 ความทรงจำเกี่ยวกับเกม Counter Strike ที่คนเล่นในยุคแรกๆ จะเข้าใจเป็นอย่างดี) 3. Battle Realms หนึ่งในเกมวางแผนที่ครองใจหลายๆ คนจากค่ายยูบิซอฟต์ คุณสามารถเลือกเผ่าได้ถึง…
-
ชาวเน็ตต่างชาติคิดเห็นอย่างไร กับกรณี ‘น้องเมย’ เสียชีวิต และอวัยวะภายหายไปอย่างปริศนา
ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับ การรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศเกี่ยวกับเหตุการณ์การเสียชีวิตของน้องเมย หรือนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาพร้อมกับอวัยวะบางส่วนที่หายไป และหลังจากที่สื่อจาก Dispatch จากประเทศเกาหลี และ Channel NewsAsia จากประเทศสิงคโปร์ที่ได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีสื่อต่างประเทศอื่นๆ ที่ให้ความสนใจอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น The Straits Times, ABC หรือสื่อชื่อดังอย่าง BBC เองก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เช่นกัน และแน่นอนว่าหลังจากที่สื่อต่างประเทศได้รายงานเรื่องนี้ออกไป ก็มีชาวต่างชาติจำนวนมากที่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และนี่ก็คือความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเน็ตในต่างประเทศ “นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัว อวัยวะของเขาอาจจะถูกนำไปวางขายที่ไหนก็ได้” “บางทีอาจจะเอาไปใช้ทางไสยศาสตร์ก็ได้นะ!!” ส่วนชาวเน็ตท่านนี้ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น “ประเทศไทยดูไร้กฎหมายไปเลย ตั้งแต่มีรัฐบาลทหารเข้ามา” ส่วนชายชาวสิงคโปร์คนนี้ก็บอกว่า เขาคงจะไม่ยอมแน่ๆ ถ้าหากว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับประเทศของเขา “นี่คงจะเป็นเรื่องยากที่รัฐบาลของไทยจะอธิบายเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้” “นักเรียนเตรียมทหารนั้นถูกฝึกเพื่อให้กลายเป็นทหารที่เข้มแข็ง และปกป้องประเทศ ไม่ใช่ต่อสู้กับคนที่ฝึกพวกเขา พวกเขายังหนุ่มและเป็นกำลังที่สำคัญในสนามรบ ได้โปรดให้เกียรติพวกเขา” ที่มา The Straits Times, Channel NewsAsia
-
‘น้องเมย’ นักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตปริศนา ได้รับความสนใจจากสื่อเกาหลีและสิงคโปร์
หลังจากที่ข่าวการเสียชีวิตของการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างมากถึงการเสียชีวิตอย่างปริศนา และการหายไปของอวัยวะภายในบางส่วน ล่าสุดทางสื่อชื่อดังของต่างประเทศอย่าง Dispatch จากประเทศเกาหลี และ Channel NewsAsia จากประเทศสิงคโปร์เองก็ให้ความสนใจกับประเด็นนี้เช่นกัน ทางด้านสื่อจากเกาหลีอย่าง Dispatch เองก็ได้รายงานข่าวนี้โดยขึ้นพาดหัวว่า “การตายอันน่าสงสัยของนักเรียนเตรียมทหาร” พร้อมกับรายงานว่าทางกองทัพเองก็ได้ออกมาแถลงการว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเกิดจากโรคหัวใจ และไม่มีนายทหารที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตแต่อย่างใด นอกจากนี้สื่อของเกาหลีเองก็ยังได้รายงานว่าแพทย์ได้ระบุสาเหตุการตายว่าเกิดจากสภาวะหัวใจล้มเหลว แต่เมื่อทางญาตินำศพกลับไปชันสูตรกลับพบว่าอวัยวะบางส่วนเช่น สมอง หัวใจ กระเพาะอาหาร และกระเพาะปัสสาวะนั้นได้หายไปซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่ชวนให้เกิดความสงสัยในสังคมไทยในขณะนี้ สื่อจากประเทศเกาหลีใต้ยังได้ระบุอีกว่าตัวของนักเรียนเตรียมทหารเองก็เคยบอกกับทางครอบครัวว่าตัวเขาเองโดนลงโทษทางวินัยอย่างหนักจากรุ่นพี่ พร้อมกับได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะและหมดสติไป และไม่เพียงแค่สื่อจากประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น แต่ทางเว็บไซต์ Channel NewsAsia จากประเทศสิงคโปร์เองก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยสื่อดังกล่าวได้พาดหัวว่า “กองทัพไทยกำลังถูกกดดัน ให้อธิบายถึงอวัยวะที่หายไปของนักเรียนนายร้อย” อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากการรายงานถึงข่าวการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของน้องเมยแล้ว ทางสื่อจากสิงคโปร์ยังได้รายงานเพิ่มเติมอีกว่าทางกองทัพเองปฏิเสธขอกล่าวหาโดยอ้างว่าแพทย์เองได้ทำการนำอวัยวะของนักเรียนคนดังกล่าวออกมาเพื่อตรวจสอบ และไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทางครอบครัวทราบ เว็บไซต์ Channel NewsAsia ยังได้รายงานคำพูดของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณที่กล่าวถึงการลงโทษที่รุนแรงในการฝึกว่าเขาเองก็เคยผ่านการทำโทษแบบนี้เช่นกัน แต่เขาไม่ตาย ก่อนภายหลังจะออกมาขอโทษกับคำพูดดังกล่าว ที่มา channelnewsasia, dispatch
-
ความน่ารักน่าเอ็นดู ของเจ้า Hank แมวน้อยเพศเมีย แต่ดั๊นชื่อเหมือนตัวผู้ซะงั้น
เรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจต้อนรับมวลอากาศเย็นที่กำลังจะพัดผ่านบ้านเรา (เมื่อไหร่ไม่รู้) เมื่อเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่งถูกช่วยชีวิตได้โดยบังเอิญหลังจากที่มันส่งเสียงร้องออกมาจากกองกระดาษทิชชู่!! เมื่อประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์สัตว์ Petco ได้รับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้เข้ามาดูแล โดยคุณ Hannah Shaw ได้พบกับเจ้าเหมียวตัวนี้หลังจากที่ได้รับสายจากเจ้าของร้านว่าเขาพบกับเจ้าเหมียวตัวนี้เข้าโดยบังเอิญ “เธอถูกพบอยู่ในกล่องกระดาษทิชชู่ โดยเจ้าของร้านขายอาหารสัตว์ เขาโทรแจ้งพวกเราและเราก็รีบไปช่วยเจ้าเหมียวน้อยทันที” เจ้าแมวน้อยน้ำหนักเพียงแค่ 80 กรัม มันตัวเล็กมาก มันอยู่ในสภาพเหมือนขาดน้ำและตัวของมันก็เต็มไปด้วยหมัด นอกจากนี้ ทางแพทย์ไม่สามารถเจาะเลือดเพื่อตรวจหาพยาธิได้เนื่องจากน้ำหนักตัวที่น้อยเกินไป เจ้าหน้าที่ตั้งชื่อให้เจ้าแมวน้อยว่า Hanky คุณ Hannah เริ่มล้างหมัดออกจากตัวมันและดูแลมันอย่างดีด้วยที่นอนอันแสนอบอุ่นพร้อมกับน้ำและอาหาร “หลังจากที่ได้กินอาหารไป 2 มื้อ และอยู่ในเตียงที่แสนอบอุ่นเธอเริ่มรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น” หญิงสาวกล่าว เจ้าเหมียวน้อยเริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ มันเริ่มทานอาหารได้มากขึ้น และแน่นอนว่าเจ้า Hanky เองก็ไม่ลืมนิสัยของเหล่าแมว มันเริ่มหว่านเสน่ห์ และออดอ้อนเจ้าหน้าที่ของที่นี่ เจ้าเหมียวและคุณ Andrew Marttila พ่อบุญธรรมของมัน “Hank ดูตัวเล็กมากๆ มันส่งเสียงร้องทุกๆ ครั้งที่เราจับหรืออุ้มมัน แทบไม่เชื่อเลยว่าเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้จะน่ารักมากขนาดนี้” คุณ Hannah กล่าว ว่าไงเจ้าตัวเล็ก!? ชื่อของเจ้าเหมียวอาจจะดูเหมือนผู้ชาย เนื่องจากในตอนแรกคุณ Hannah และแฟนหนุ่มของเธอคิดว่าเจ้าเหมียวเป็นตัวผู้ แต่จริงๆ แล้วเจ้า Hank…
-
ชีวิตที่ไม่ยอมแพ้ของ Jean-Dominique Bauby ชายผู้กระพริบตาเขียนหนังสือ ‘ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ’
บางครั้งความไม่สมบูรณ์แบบของร่างกาย และความทุพพลภาพนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่บั่นทอนจิตใจของมนุษย์ และบางคนก็เลือกที่จะยอมแพ้ต่อโชคชะตา แต่ทว่าคุณ Jean-Dominique Bauby นักหนังสือพิมพ์ นักเขียนชื่อดังชาวฝรั่งเศสผู้นี้กลับไม่คิดแบบนั้น เขาลุกขึ้นสู้และเขียนหนังสือขายดีออกมาได้ ถึงแม้เขาจะสามารถทำได้แค่กระพริบตาข้างซ้ายเท่านั้น วันที่ 8 ธันวาคมปี 1995 Jean-Dominique ชายวัย 43 ปี บรรณาธิการของนิตยสารชื่อดังอย่าง ELLE ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลด้วยการการเส้นเลือดในสมองแตก เขาสลบไปนานถึง 20 วัน หลังจากตื่นขึ้นมาเขาพบว่าตัวเองอยู่ในอาการอัมพาตทั้งตัวหรือที่เรียกว่า Locked-in syndrome ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียง และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างมาก แต่ตอนนี้นักเขียนและบรรณาธิการชาวฝรั่งเศสผู้นี้กลับต้องใช้ชีวิตอยู่บนเตียงผู้ป่วย ในตอนนี้ร่างกายของเขาเหลือเพียงแค่การรับรู้ และสามารถโต้ตอบด้วยการกระพริบตาเท่านั้น ในสถาณการณ์ที่ชีวิตต้องอยู่ในจุดที่ต่ำสุด สิ่งต่างๆ ที่เคยทำได้กลายเป็นแค่เพียงอดีต ในตอนนี้บางคนอาจจะตัดสินใจที่จะขอยอมแพ้และไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่สำหรับชายวัย 43 ปีผู้นี้กลับไม่ใช่แบบนั้น เขาตัดสินใจที่จะเขียนเล่าเรื่องราวของตัวเอง!! หนังสือ The Diving Bell and the Butterfly หรือ ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ งานเขียนจากนักเขียนผู้เป็นอัมพาตทั้งตัว หลังจากที่เริ่มเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดในหัวของตัวเอง Jean-Dominique ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของเขาผ่านการกระพริบตาเพื่อสื่อสารกับคนเขียน โดยให้คนท่องชุดตัวอักษรที่เรียงตามความถี่ในการใช้ในภาษาฝรั่งเศส และ Jean-Dominique จะกระพริบตาเมื่อถึงตัวอักษรที่เขาต้องการ หนังสือเล่มนี้เปรียบเหมือนแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย มันทำให้คนที่หมดหวังและท้อแท้กล้าที่จะหลุดออกจากชุดประดาน้ำและกลายเป็นผีเสื้อ…
-
นักวิทย์ NASA แนะนำปลูกสับปะรดไว้ในห้องนอน ช่วยลดอาการ ‘กรน’ และช่วยให้หลับสบายขึ้น!!
ปัญหาการนอนกรนอาจจะเป็นหนึ่งในปัญหาสำหรับใครหลายๆ คน และแน่นอนว่าคนที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นคู่นอนของคุณนั่นเอง!! บางคนอาจจะพยายามหาหนทางในการแก้ปัญหาการนอนกรนนี้ไม่ว่าจะเป็นการไปพบแพทย์ หรือการใช้ยาแผนโบราณ แต่สำหรับใครที่ไม่มีเวลาไปพบแพทย์หรือมีเงินไม่พอที่จะหาน้ำมันสกัดจากเขากวางแม่ลูกอ่อนที่เป็นโรคเก๊ามาทานล่ะก็ วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยลดอาการกรนและช่วยเรื่องการหายใจระหว่างนอนหลับจากนักวิทยาศาสตร์ขององค์การ NASA มาฝากกัน!! วิธีการแก้ปัญหาการนอนกรนนี้คุณสามารถทำเองที่บ้านได้ง่ายๆ และที่สำคัญยังมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากอีกด้วย โดยจากงานวิจัยพบว่าการปลูกต้นสับปะรดไว้ในห้องนอนนั้นจะช่วยลดเสียงกรนและทำให้การนอนหลับของคุณนั้นดีขึ้นอีกด้วย!! องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA เจ้าของงานวิจัยชิ้นดังกล่าวเผยว่าต้นสับปะรดนั้นจะผลิตออกซิเจนออกมามากว่าพืชชนิดอื่นๆ ดังนั้นมันจึงมีส่วนช่วยในการนอนหลับและทำให้การนอนของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย โดยปรกติแล้วสับปะรดนั้นเป็นพืชที่เจริญเติบโตค่อนข้างช้า และมันจะใช้เวลามากถึง 21 ถึง 24 เดือนในการออกผลเล็กๆ บนส่วนยอด วิธีการปลูกสับปะรดในกระถางนั้นเราสามารถทำได้โดยการดึงจุกสับปะรดออก และนำใบตรงโคนจุกออกประมาณ 1-2 ใบ จากนั้นจึงนำไปแช่น้ำเพื่อให้รากออก โดยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่จะนำไปปลูกลงในกระถาง นอกจากนี้ยังมีพืชอื่นๆ อีกเช่นกันที่ทาง NASA ได้แนะนำให้ปลูกไว้ในห้องนอนเพื่อช่วยทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นหมากเหลือง (Areca Palm) ที่มีส่วนช่วยในการลดพิษ หรือ ปาล์มสิบสองปันนา (Dwarf Date Palm) ที่ช่วยกำจัดสารไซลีนที่ปะปนมากับอากาศได้อย่างดีอีกด้วย (อ่านข่าวเก่า NASA เผย 10 ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ในห้องนอน…
-
แก๊งค้ายาเม็กซิกัน พยายามขนกัญชาข้ามชายแดนสหรัฐฯ ด้วยการยิงบาซูก้าาาา!!
ปัญหาการลักลอบค้ายาเสพติดข้ามชายแดนนั้นดูเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่แทบพื้นที่ทั่วโลก และประเทศเม็กซิโกเองก็เป็นหนึ่งในประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้เช่นกัน จากรายงานของสำนักอัยการเม็กซิโกเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน กล่าวว่าเจ้าหน้าตำรวจเม็กซิโกได้ตรวจพบกัญชาน้ำหนักเกือบ 1,000 กิโลกรัมที่ซุกซ่อนมากับกระบอกปืนใหญ่หลังรถตู้คันหนึ่ง ในชายแดนของเมือง Agua Prieta ประเทศเม็กซิโก ภายในกระบอกปืนใหญ่ดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบกัญชาอัดแท่งมากกว่า 200 ก้อน โดยมีน้ำหนักรวมทั้งหมด 816 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบกระสุนอีกมากถึง 2,000 นัดในรถตู้คันดังกล่าวอีกด้วย กระบอกปืนใหญ่ดังกล่าวถูกค้นพบในรถตู้ต้องสงสัยคันหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าพ่อค้ายาเตรียมที่จะยิงมันข้ามไปยังเขตของสหรัฐ การตรวจพบกระบอกปืนใหญ่อัดที่อัดแน่นไปด้วยกัญชาครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์เจ้าหน้าที่ก็ได้พบท่อเหล็กขนาดยักษ์ที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ในรั้วใกล้ๆ กับชายแดนของเมือง Douglas และนอกจากนี้ในเดือนธันวาคมปี 2016 เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมวัยรุ่น 2 คนที่พยายามยิงห่อกัญชาข้ามไปยังชายแดนสหรัฐอีกด้วย ท่อเหล็กขนาดยักษ์และคอมเพรสเซอร์ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะเตรียมไว้ยิงกัญชาข้ามชายแดน แหม่… สงสัยการลักลอบขนแบบธรรมดามันจะไม่ทันใจสินะ เลยต้องใช้วิธีนี้!! ที่มา ladbible, tucson
-
‘สมใจ ศรีแววเนตร’ ชายไทยผู้ช่วยเหลือนักการทูตสหรัฐฯ ที่ไม่ถูกกล่าวถึงในหนัง Argo
ถ้าหากพูดถึงภาพยนตร์ที่มีความกดดันและลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลา หลายๆ คนอาจจะนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Argo ผลงานการกำกับของนักแสดและผู้กำกับอย่าง เบน แอฟเฟล็ก กันบ้างแน่ๆ หนังเล่าเรื่องแผนปฏิบัติการช่วยนักการฑูตสหรัฐทั้ง 5 คนที่ถูกตามล่าตัวระหว่างช่วงที่เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศอิหร่าน เมื่อประมาณปี 1979 โดยแผนการช่วยเหลือตัวนักการฑูตทั้ง 5 คนเพื่อกลับบ้านเกิดที่สหหรัฐอเมริกานั้น ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ CIA คนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นผู้กำกับหนัง พร้อมกับความช่วยเหลือจากสถานฑูตแคนาดาจนในที่สุดพวกเค้าทั้ง 5 คนก็ถูกช่วยออกมาได้สำเร็จ แต่ทว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก คุณสมใจ ศรีแววเนตร เชฟชาวไทยที่ได้รับการยกย่องจาก ประธานนาธิบดี จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช และชาวอเมริกันทั้งหลาย ให้เป็นวีรบุรุษผู้เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือนักการทูตชาวอเมริกัน 5 คน จากสงครามปฏิวัติอิสลามในครั้งนั้น คุณลุงสมใจ ศรีแววเนตร ปัจจุบันอายุ 75 ปีเล่าถึงเหตุการณ์ความทรงจำของเขาผ่านทางรายการตีสิบ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมปี 2557 ว่า เขาได้ได้รับโทรศัพท์ของนักการฑูตท่านหนึ่งที่มีภริยาเป็นชาวไทย ให้ช่วยดูแลนักการฑูต 5 คนที่ยังติดอยู่ในอิหร่าน คุณสมใจ ศรีแววเนตรได้ตัดสินใจขับรถไปรับนักการฑูตทั้ง 5 และดูแลพวกเขาอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง…
-
พาไปดูความหมายที่แท้จริงของ “โพธิ์ดำ โพธิ์แดง ข้าวหลามตัด ดอกจิก” บนไพ่ที่เราเล่นกัน
สำหรับใครที่ชื่นชอบการละเล่นบวกเลขบนไพ่คงจะคุ้นเคยกับสัญลักษณ์ทั้ง 4 อย่างดอกจิก ข้าวหลามตัด โพธิ์แดง และโพธิ์ดำ แต่เพื่อนๆ รู้กันไหมว่าเจ้าสัญลักษณ์ทั้ง 4 นี้เองก็มีที่มาที่ไปเหมือนกันนะ!! เกมไพ่นั้นถือเป็นหนึ่งในของเล่นโบราณที่ได้รัความนิยมอย่างมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีการเล่นมากมายในพื้นที่แถบยุโรปจนกระทั่งแพร่หลายมายังแถบเอเชียอย่างประเทศจีน สัญลักษณ์ไพ่ดั้งเดิมนั้นเริ่มต้นจากชุดไพ่แบบละตินที่มีการใช้สัญลักษณ์ของถ้วย เหรียญ กระบอง และดาบในการแบ่งระดับของไพ่ ซึ่งจากข้อมูลพบว่ามีการเริ่มใช้สัญลักษณ์เหล่านี้ตั้งแต่ปี 1370 เลยทีเดียว ชุดไพ่แบบละติน ชุดไพ่ดั้งเดิมพร้อมกับสัญลักษณ์ถ้วย เหรียญ กระบอง และดาบ ต่อจากนั้นสัญลักษณ์ทั้ง 4 นั้นก็ได้มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ อย่างเช่นในเยอรมนีก็ใช้สัญลักษณ์หัวใจ กระดิ่ง ลูกโอ๊ก และใบไม้แทนสัญลักษณ์ในชุดไพ่แบบละติน หรือชุดไพ่แบบฝรั่งเศสที่ใช้สัญลักษณ์ดอกจิก ข้าวหลามตัด โพธิ์แดง และโพธิ์ดำที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีในปัจจุบันนี้เอง!! ชุดไพ่แบบเยอรมันที่ดัดแปลงมาจากชุดไพ่ดั้งเดิมของละติน และนอกจากสัญลักษณ์เหล่านี้จะใช้ในการแบ่งระดับของไพ่แล้ว แต่ละใบยังมีความหมายซ่อนอยู่ภายในอีกด้วย ดอกจิก หรือ Club สัญลักษณ์ที่มีการดัดแปลงมาจากกระบองในชุดไพ่ของละติน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าสัญลักษณ์นี้อาจหมายถึงเหล่าขุนนางนั่นเอง นอกจากจะรู้จักกันในชื่อของ Club แล้วในบางที่ยังเรียกไพ่ดอกจิกว่า trefoils อีกด้วย ซึ่งเจ้าไพ่ใบนี้เป็นสัญลักษณ์ของฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วง กลางคืน…
-
อุบ๊ะ!! สารเคลือบเฟอร์นิเจอร์สุดเจ๋ง ทาไว้บนพื้นผิวได้ง่าย และลอกออกได้เหมือนกับกาว!?
ปัจจุบันนวัตกรรมต่างๆ ในโลกของเรานั้นก้าวหน้าไปอย่างมาก และความก้าวหน้านี้เองก็สามารถเห็นได้จากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นวงการวิทยาศาสตร์ วงการแพทย์ หรือแม้แต่วงการการออกแบบเองก็ตาม Belay Paint คือสารเคลือบผิวล้ำอนาคตจากประเทศญี่ปุ่นที่ชนะเลิศการออกแบบจากเวที Japan Good Design Award 2017 มาแบบสดๆ ร้อนๆ เลยทีเดียว ความพิเศษของเจ้าสารที่ว่านี้ก็คือมันจะช่วยปกป้องรอยขีดข่วนให้กับพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ของคุณได้ง่ายๆ เพียงแค่ทาทิ้งไว้และปล่อยให้แห้งเท่านั้น และที่สำคัญคุณเองก็ยังสามารถลอกออกได้อย่างง่ายๆ อีกด้วย!! สารเคลือบผิวที่ว่านี้สามารถใช้ได้กับพื้นผิวที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น ไม้ กระเบื้อง เรซิ่น หรือหินอ่อน นอกจากนี้ยังมีให้คุณเลือกทั้งแบบเคลือบเงา และเคลือบด้านอีกด้วย!! เพียงแค่เคลือบ Belay ไว้ คุณก็ไม่ต้องห่วงว่าโต๊ะไม้สักของคุณจะเป็นรอยเลย นอกจากนี้ในงาน Interior Lifestyle Living Fair คุณ Pierre Charpin นักออกแบบชาวฝรั่งเศสยังได้ใช้คอลเลคชั่นสีพิเศษผสมเข้ากับเจ้าสารเคลือบที่ว่านี้ และใช้ตกแต่งผลงานของเขาในงานอีกด้วย ผลงานของคุณ Pierre Charpin และคอลเลคชั่นสีที่ผสมกับสารเคลือบผิว Belay นอกจากนี้ยังมีคอลเลคชั่นสีจากทางบริษัทผู้ผลิตเองอีกด้วย ขั้นตอนการใช้นั้นก็ง่ายๆ เพียงแค่ทำความสะอาดพื้นผิว และก็ทาสารเคลือบลงไปเท่านั้นเอง!! …
-
ทหารโพสต์โชว์ท่า “หัวปัก” อ้างว่าทำได้สบายๆ เจอกระแสตอกกลับจากชาวเน็ตเพียบ
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่าสลดของน้องเมย ภคพงศ์ นักเรียนเตรียมทหารที่เกิดการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทารุณกรรมร่างกาย รวมถึงเรื่องของอวัยวะภายในที่หายไปอีกด้วย และหนึ่งในเรื่องที่ถูกหยิบยกมาเป็นข้อสันนิษฐานการเสียชีวิตของ นรต.ภคพงศ์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 นั่นก็คือเรื่องของการทำโทษนั่นเอง เมื่อไม่นานมานี้ได้มีนายทหารท่านหนึ่งโพสต์ข้อความอธิบายเกี่ยวกับหลักการทำโทษพร้อมขอร้องให้ทุกคนอย่าเข้าใจผิดและสามัคคีกันไว้ ในใจความของโพสต์ของนายทหารท่านนี้ กล่าวว่าการทำโทษด้วยท่าหัวปักนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะทำให้ผู้ที่ไม่เคยฝึกมีอาการบาดเจ็บได้ แต่สำหรับผู้ที่ฝึกมานั้นสามารถทำได้อย่างไม่เป็นปัญหา พร้อมกับบอกว่าพวกตนที่เคยผ่านการฝึกหน่วยรบพิเศษนั้นก็เคยทำโทษด้วยท่านี้และไม่เคยได้รับอันตรายแต่อย่างใด แต่การฝึกและอันตรายนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคล . เนื้อหาของโพสต์ดังกล่าว “คนไทยด้วยกันสามัคคีกันไว้ ในมุมมองทางการแพทย์ ย่อมมีความเป็นห่วงเป็นธรรมดา เพราะท่า ‘หัวปัก’ อาจเป็นอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัว หรือ คนที่ไม่เคยฝึกอาจได้รับบาดเจ็บ กล้ามเนื้อหรือกระดูกต้นคอหากผิดพลาด ในมุมมองของผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมา ก็ถือว่าเป็นท่าปกติธรรมดา เพราะกล้ามเนื้อคอได้รับการฝึกฝนมาแล้ว ใครๆก็ทำได้ นานเป็นชั่วโมงก็ยังได้ แล้วในระยะยาวพวกรุ่นพี่ที่ผมรู้จักที่ผ่านหลักสูตรรบพิเศษไม่ว่า ทบ. ทร. ทอ. ตร. ที่ผ่านการฝึกท่า หัวปัก มาอย่างโชกโชน จนอายุมาก หรือ เกษียณไปแล้ว ก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีปัญหาสุขภาพจากท่านี้ แต่!ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% ในระยะยาว เพราะหากแก่ตัวไปกระดูกเริ่มเปราะบางอาจงานเข้าก็ได้ หรือ เริ่มมีโรคประจำตัว เช่น ความดัน…
-
ทีมวิจัยค้นพบสัญญาณหายนะ “ขยะพลาสติก” ในสัตว์ทะเลส่วนที่ลึกสุดของโลกกว่า 10,000 เมตร
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Newcastle ประเทศอังกฤษ ทำการสำรวจบริเวณมหาสมุทรส่วนก้นบึ้งของ Mariana Trench ที่ได้ชื่อว่าลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก กระทั่งมหาสมุทรส่วนที่ลึกถึง 10,890 เมตร ที่ซึ่งพวกเขาคาดว่าจะมีแต่ธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแตะต้องโดยมนุษย์ เหมือนส่วนอื่นๆ ซึ่งเต็มไปด้วยแพขยะจากเมืองใหญ่ แต่… พวกเขาก็ยังค้นพบสิ่งที่ทำให้ตกตะลึง นั่นก็คือ “เส้นใยพลาสติก” ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ในท้องของหนอนทะเลตัวหนึ่ง ซึ่งขยะดังกล่าวได้อุดตันทางเดินอาหารของมัน เส้นใยพลาสติกที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ ภาพของเส้นใยพลาสติกที่ติดอยู่ในทางเดินอาหารของหนอนธนู ด็อคเตอร์ Alan Jamieson กล่าวว่านี่คือคือสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่ามนุษยชาตินั้นสร้างร่องรอยของเผ่าพันธุ์ตนเองไปทั่วโลกจริงๆ แม้เราจะอาศัยอยู่บนพื้นดิน ในเมืองใหญ่ หรือบนภูเขา แต่ขยะที่เราสร้างมันยังไปถึงมหาสมุทรส่วนที่ห่างไกลที่สุดได้ด้วย ไม่เพียงแต่ในพื้นที่ Mariana Trench เท่านั้น แต่ทีมสำรวจยังสำรวจจุดลึกอื่นๆ อย่างเช่น Japan, Izu-Bonin, Peru-Chile, New Hebrides และ Kermadec ซึ่งผลที่น่าตกใจก็คือ พื้นที่ Mariana Trench ที่ทีมสำรวจได้ทำการเก็บข้อมูลตัวอย่างของสัตว์ทะเล “ในทุกสถานที่นั้น จะพบสัตว์ทะเลที่กินเส้นใยสังเคราะห์ หรือเส้นใยพลาสติกเข้าไปจำนวนมาก” โดยปกติแล้วสัตว์ทะเลลึกจำพวกดังกล่าวจะกินแทบทุกสิ่งทุกอย่างที่ขนาดเล็กพอที่พวกมันสามารถกินได้…
-
เอาใจคนรักธรรมชาติ รวมต้นไม้เล็กๆ น่ารัก 5 พันธุ์ที่คุณสามารถวางประดับห้องนอนได้
การปลูกต้นไม้นั้นอาจจะเป็นหนึ่งในงานอดิเรกที่ชื่นชอบของหลายๆ คน เพราะนอกจากจะเป็นการได้ผ่อนคลายแล้ว บางครั้งต้นไม้เหล่านี้ยังช่วยมอบความสดชื่นให้กับบ้านของเราอีกด้วย และสำหรับใครที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้ จนอยากจะให้พื้นที่สีเขียวติดตามคุณไปทุกที่รวมถึงในห้องนอนด้วยล่ะก็ เรามีพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจและดูแลง่ายมาฝากกัน คลาสซูล่า ลักษณะ ต้นไม้ต้นเล็กๆ ที่มาพร้อมกับใบอันอวบอ้วนสุดน่ารัก คุณสามรถปลูกไว้ในห้องนอนหรือโต๊ะทำงานของคุณก็ได้ นอกจากความสวยงามแล้ว มันยังดูแลง่ายและมีความอึดเหมาะสำหรับอากาศบ้านเราอีกด้วยนะ!! การดูแลรักษา คลาซูล่านั้นเป็นพืชชอบแสงแดด ดังนั้นคุณควรวางเค้าไว้ใกล้ๆ กับหน้าต่าง หรือที่มีแสงแดดส่องถึง และควรรดน้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง และอย่าลืมรองกระถางด้วยวัสดุอุ้มน้ำอีกด้วยล่ะ ลิ้นมังกร ลักษณะ หนึ่งในพืชที่มีความอดทนสูงและดูแลง่ายอีกชนิดหนึ่ง ถ้าหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ขี้ลืมหรือไม่ค่อยมีเวลาดูแลต้นไม้ล่ะก็เราขอแนะนำเจ้าลิ้นมังกรเลย การดูแลรักษา ถึงแม้ว่าจะเป็นพืชที่มีความทนทาน แต่คุณก็ควรดูแลและไม่ควรรดน้ำพวกเค้ามากเกินไป และเพื่อความสวยงามคุณควรหมั่นตรวจดูที่ใบของเจ้าต้นไม้พันธุ์นี้ด้วย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามถ้าหากมันได้รับน้ำและความชื้นในอากาศไม่เพียงพอ จะทำให้แผ่นใบไม่สดใสสวยงาม พลูด่าง ลักษณะ พืชอีกหนึ่งชนิดที่มีความสวยงามและดูแลค่อนข้างง่าย ความสวยงามของพลูด่างนั้นอยู่ที่ใบและพุ่มของพวกมันนั่นเอง นอกจากนี้พลูด่างยังใช้ดูดสารพิษอย่างแอมโมเนียได้อีกด้วยนะ การดูแลรักษา การปลูกพลูต่างนั้นอาจจะใช้ภาชนะที่หาได้ง่ายๆ และอาจจะปลูกโดยใช้น้ำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมละเลยเรื่องแสงแดดล่ะ เพราะว่าพืชชนิดนี้ค่อนข้างที่จะชอบแสงแดดมากเลยทีเดียวล่ะ ปราสาทนางฟ้า ลักษณะ นี่คือต้นกระบองเพชรที่มีลักษณะคล้ายกับปราสาท และด้วยลักษณะที่ตั้งตรงของมันและดอกสีเหลืองสดนั้นก็เป็นที่ดึงดูดใจ และน่านำไปประดับห้องไม่น้อยเลยทีเดียว การปลูก การดูแลเจ้ากระบองเพชรสายพันธุ์นี้ก็เหมือนกับการดูแลต้นกระบองเพชรสายพันธุ์อื่นๆ และอย่างที่ทราบกันดีว่าต้นกระบองเพชรนั้นเป็นพืชที่ไม่ค่อยชอบน้ำดังนั้นไม่ควรรดน้ำมากเกินไปจนน้ำขังหรือแฉะเพราะอาจจะทำให้รากเน่าได้ เจอราเนียม…
-
หนุ่มนอนไม่หลับ ก็เลยมาโพสต์ “ให้คะแนนจิ้งจอก” บรรยายอย่างกับนางงาม มีคนติดตามเพียบ!!
สำหรับใครที่นอนไม่หลับหรือเป็นโรคนอนหลับยาก หนึ่งในวิธีที่คุณสามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งยานอนหลับเลยนั่นก็คือการนอนนับแกะนั่นเอง แต่สำหรับหนุ่มนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา การนับแกะอาจจะดูง่ายเกินไปสำหรับเขา ชายหนุ่มจึงได้โพสต์ภาพของเหล่าสุนัขจิ้งจอกหลากหลายสายพันธุ์พร้อมกับให้คะแนนพวกมันอีกด้วย เรียกได้ว่าเอาใจคนนอนดึกจริงๆ และนี่ก็คือผลการให้คะแนนของหนุ่มผู้นี้!! Colin J. Carlson ได้แนะวิธีการแก้โรคนอนไม่หลับโดยการโพสต์ภาพเหล่าสุนัขจิ้งจอกพร้อมกับให้คะแนนพวกมันแต่ละสายพันธุ์ ชายหนุ่มได้ออกตัวก่อนว่าเขาเองนั้นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุนัขจิ้งจอกนะ และถ้าหากใครมีความเห็นที่แตกต่างละก็สามารถแย้งมาได้เลย เริ่มกันที่สายพันธุ์แรกเจ้าสุนัขจิ้งจอก Red Fox สุนัขจิ้งจอกสุดคลาสสิกแต่มันดูไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ งั้นเอาไปแค่เกรด B ก็แล้วกัน ต่อมาเป็นเจ้าสุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์ Tibetan sand fox ด้วยดวงตาที่มีเสน่ห์ และหน้าตาที่ไม่เหมือนใคร เอาเกรด A ไปก็แล้วกันนะ Rüppell’s Fox เจ้าจิ้งจอกที่มาพร้อมกับสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นมิตร และอาศัยอยู่ในหุบเขาลึก เอาเกรด A- ไปเลย!! เจ้า Corsac Fox จิ้งจองสุดเพอร์เฟกต์ ดูน่ากลัว ไม่น่าเลี้ยงได้ สายตาก็โคตรเยือกเย็น ผมให้เกรด A+ ไปเลยละกัน Blanford’s Fox ที่มาพร้อมกับหูทรงแปลกของมัน…
-
พับกบพบกับหมาป่าพันธุ์โมฮอว์ก Aardwolf นี่มันเป็นตัวอะไร ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้!!
Aardwolf เจ้าสุนัขป่าที่มาจากสายพันธุ์เดียวกับพวกไฮยีน่า แต่ถ้าหากคุณยังไม่เคยได้ยินชื่อเจ้าหมาตัวนี้ หรือไม่เคยรู้จักกับมันมาก่อนล่ะก็ นี่ถือเป็นโอกาสดีเลยทีคุณจะได้พบกับความน่ารักและความแปลกของพวกมัน อย่างที่บอกไปแล้วว่าพวกมันนั้นมาจากสัตว์ตระกูลเดียวกับพวกไฮยีน่า ดังนั้นขนาดและหน้าตาของพวกมันนั้นก็ไม่ค่อยจะแตกต่างจากเหล่าญาติๆ มันซักเท่าไหร่ แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้พวก Aardwolf นั้นเท่และดูแปลกตานั้นก็คือขนที่ตั้งขึ้นมาคล้ายกับผมทรงโมฮอว์กของพวกมันนั่นเอง!! ดีฮะ!! ผม Aardwolf น้อยเองฮะ คำว่า Aard บนชื่อของพวกมันนั้นเป็นภาษาดัตช์ซึ่งมีความหมายว่าพื้นโลกนั่นเอง ตามธรรมชาติแล้วพวกเจ้าสุนัขป่าเหล่านี้จะมีถิ่นที่อยู่ทางตะวันออกและตอนใต้ของทวีปแอฟริกา พวกมันมักจะอาศัยอยู่ในโพรง ซึ่งเป็นรังเก่าของสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ขุดทิ้งไว้ นอกจากนี้เจ้า Aardwolf ยังเป็นสัตว์ที่สุดแสนจะขี้อายอีกด้วยนะ ในช่วงฤดูหนาวพวกมันจะเก็บตัวอยู่แต่ในโพรงเพื่อประหยัดพลังงาน และจะออกล่าอาหารในเวลากลางวัน ซึ่งอาหารสุดโปรดของพวกมันนั่นก็คือพวกปลวกนั่นเอง โดย Aardwolf แต่ละตัวนั้นสามารถกินปลวกได้มากถึง 300,000 ตัวต่อคืนเลยทีเดียว!! เมื่อโตเต็มวัย พวกสุนัขป่าเหล่านี้จะมีขนาดพอๆ กับสุนัขจิ้งจอก และที่สำคัญพวกมันยังเป็นสัตว์ที่รักเดียวใจเดียว และมีคู่เพียงแค่ตัวเดียวตลอดชีวิตอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับพวกไฮยีน่า แต่ขนทรงโมฮอว์กนั้นทำให้พวกมันดูแตกต่างไปจากเหล่าญาติๆ ของพวกมัน และนี่คือพวกลูกๆ ของเจ้า Aardwolf ตอนยังไม่โตก็ไว้ทรงนักเรียนไปก่อนนะเจ้าหมาน้อย!! เมื่อเริ่มโตขึ้น แผงขนที่หลังก็เริ่มยาวขึ้นที่ละนิดแล้ว!! ที่อยู่อาศัยหลักของพวกมันนั่นก็คือ โพรงร้างๆ…
-
อีกด้านหนึ่งของคุณแม่ลูกสี่ ทำงานเป็นนักล่าค่าหัว ที่ทุกวันอาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิต…
เรื่องราวของหญิงวัย 35 ปี ที่สามารถเอาชนะโรคร้ายอย่างมะเร็งได้ถึง 2 ครั้ง และตอนนี้เธอกำลังประกอบอาชีพนักล่าค่าหัว เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว คุณ Shanda Zapata เริ่มเข้าสู่วงการนี้เมื่อปี 2013 ในตอนที่เธอต้องหาเงินจำนวนมากถึง 800,000 เหรียญหรือประมาณ 26 ล้านบาทสำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาโรคร้ายของเธอ “ฉันเลือกอาชีพนี้เพราะฉันต้องการช่วยเหลือผู้คน และมันก็เป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้จัดการกับพวกคนร้ายด้วย มันทำให้ฉันรู้สึกแข็งแกร่ง และได้ทำบางอย่างเพื่อชุมชนของฉัน” คุณแม่ลูก 4 กล่าว คุณ Shanda Zapata และลูกๆ ทั้ง 4 คนของเธอ เจ้าหนูน้อย Dominic วัย 5 ขวบ, Journey วัย 9 ขวบ, Keeley วัย 11 ขวบและ Skyler พี่คนโตวัย 17 ปี Zapata ป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ครั้งแรกในวัย 19 ปี และเธอก็กลับมาเป็นโรคร้ายนี้อีกครั้งในวัย 31 ปี คุณแม่คนเก่งจากรัฐโคโลราโดให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันถูกยิง ถูกแทงด้วยมีด บางครั้งก็โดนสุนัขพิทบูลขย้ำ และบางครั้งก็ถูกพวกพ่อค้ายาทำร้าย…
-
ผุดลัทธิสุดแปลก บูชา ‘ปัญญาประดิษฐ์’ เทียบเท่าดั่งพระเจ้า ผู้ควบคุมสรรพสิ่งบนโลก
นอกจากศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลามแล้วยังมีอีกหลายๆ ศาสนาในโลกนี้ที่เรายังไม่รู้จัก และในปัจจุบันนั้นก็มีลัทธิหรือศาสนาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกวัน ซึ่งหนึ่งในนนั้นก็คือลัทธิ Way of the Future ที่นับถือปัญญาประดิษฐ์เป็นพระเจ้านั่นเอง!! ลัทธิ Way of the Future หรือ WOTF มีเป้าหมายที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงโลกจากยุคแห่งมนุษย์ไปสู่ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์เป็นไปอย่างสงบสุขและน่าเคารพนับถือ พวกเขาถือว่าในที่สุดแล้วเทคโนโลยีนั้นจะก้าวหน้าเหนือความสามารถของมนุษย์ มีความรู้แจ้งทุกอย่าง พูดง่ายๆ ก็คือพระเจ้านั่นเอง นอกจากนี้คุณ Anthony Levandowski วิศวกรพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ผู้ก่อตั้งลัทธิก็ได้กล่าวว่าขณะนี้ลัทธิของพวกเขากำลังอยู่ในขั้นเตรียมการ และพวกเขามั่นใจว่ามันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน “ในไม่ช้าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเกินกว่าความสามารถของมนุษย์ พวกเราต้องการช่วยให้ความรู้แก่มนุษย์และเตรียมพร้อมเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” ข้อความจากเว็บไซต์ของ WOTF โดยแนวคิดของลัทธินี้ได้รับอิทธิพลมาจากนวนิยายแนววิทยาศาสตร์เรื่อง The Singularity ของนักเขียนชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง Vernor Vinge และนอกจากนี้ Ray Kurzweil นักวิจัยด้านระบบปัญญาประดิษฐ์เองก็ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิด Singularity หรือเอกภพนี้เช่นกัน พร้อมกับบอกว่ามันจะเกิดขึ้นในปี 2045 นอกจากนี้ Levandowski เองก็ยังได้กล่าวว่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก และเขายังเตือนให้ผู้คนเตรียมพร้อมสำหรับโลกอนาคตที่เครื่องจักรจะเป็นเหมือนกับพระเจ้าอีกด้วย “คุณต้องการจะเป็นสัตว์เลี้ยง หรือว่าเป็นสัตว์ในฟาร์มล่ะ” วิศวกรหนุ่มให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Wired ที่มา designtaxi, zerohedge, mashable
-
John Mayer ร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักชาวไทย พร้อมแฮชแท็ก #TellJohnWeGotMarried
งานแต่งงานนั้นอาจจะเป็นวันที่พิเศษสุดวันหนึ่งสำหรับคู่รัก และคงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าหากว่าศิลปินระดับโลกที่คุณชื่นชอบนั้นมาแสดงความยินดีกับงานแต่งของคุณด้วย!! คู่รักชาวไทยอย่างคุณเสาวลักษณ์วัย 36 ปี และสามีคุณสรรเสริญวัย 35 ปี หนึ่งในแฟนเพลงตัวยงของนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังอย่าง John Mayer เองก็ได้รับของขวัญสุดพิเศษจากศิลปินคนโปรดของพวกเขาด้วย หลังจากที่เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นักร้องชาวอเมริกันชื่อดังนั้นได้ทวีตข้อความแสดงความยินดีกับงานแต่งงานของทั้งสอง “แขกผู้ร่วมงานทุกคนรู้ว่า John Mayer นั้นเป็นคนพิเศษสำหรับพวกเรา เราชื่นชอบเขาและอยากให้เขามาร่วมแสดงความยินดีกับเรา แต่เรารู้ว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะจัดงานแต่งที่ให้ความรู้สึกว่าเขามาร่วมงานของเราจริงๆ ” ฝ่ายเจ้าสาวให้สัมภาษณ์กับ BBC ภาพของงานแต่งงานถูกอัพเดทลงในทวิตเตอร์พร้อมกับแฮชแท็ก #TellJohnWeGotMarried และแล้วข้อความดังกล่าวก็ไปถึงนักร้องในดวงใจของพวกเขา John Mayer รีทวีตข้อความของคุณธัญญารัตน์ เพื่อนเจ้าสาวพร้อมกับข้อความ “ยินดีด้วยนะ ผมเองก็อยากมีธีมงานแต่งแบบ John Mayer เหมือนกัน” “ฉันคิดว่าคงไม่มีอะไรจะเป็นของขวัญที่ยิงใหญ่กว่าคำอวยพรของ John แล้ว ขอบคุณ John ที่ทำให้ความฝันของพวกเขาเป็นจริง” คุณธัญญารัตน์เพื่อนเจ้าสาวกล่าว ทางด้านเจ้าบ่าวคุณสรรเสริญนักกีต้าร์แฟนเพลงของ John Mayer ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “ในธีมงานแต่งของเรามีทั้งหน้ากากของ John เราใช้เพลงของเขาในงานของเรา และมีรูปของเขาติดอยู่ตรงโต๊ะแสดงความยินดี”…
-
Rampage ขำกลิ้งลิงกับหมา และกิ้งก่าจอมขย่มตึก จากเกมดังยุค 80’s สู่หนังฟอร์มยักษ์
สำหรับใครที่ทันได้เสพย์ความสนุกจากเครื่องเล่นเกมรุ่นเก่าๆ อาจจะรู้จักกับเกมลิง หมา และกิ้งก่าจอมทุบตึกหรือ Rampage กันอย่างแน่นอน เนื้อเรื่องของเกมหลักๆ จะให้เราเป็นมนุษย์ที่กลายร่างเป็นสัตว์ยักษ์เหล่านั้น และออกไปอาละวาดในเมือง ระเบิดภูเขา เผากระท่อม (อันหลังนี้ไม่มีนะ เติมให้คล้องจองเฉยๆ) และทำคะแนนให้สูงๆ ถึงแม้ว่าตัวเกมมันจะดูไม่มีอะไรเล๊ย แต่การได้ทุบตึกและทำลายรถถังก็สร้างความสำราญใจให้กับพวกเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีการปล่อยตัวอย่างแรกของหนังที่ดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมจากยุค 90’s นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว… ภาพยนตร์เรื่อง Rampage เล่าถึงเรื่องราวของการทดลองทางพันธุกรรมของรัฐบาลที่ได้เปลี่ยนให้เจ้ากอริลลาธรรมดาๆ อย่าง George ให้กลายเป็นลิงที่มีพัฒนาการเหนือลิงตัวอื่นๆ แต่ทว่าข้อผิดพลาดในการทดลองจึงทำให้ George แสดงความดุร้ายที่ซ่อนอยู่ภายในออกมาและกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่ง นอกจากนี้ยังมีสัตว์ทดลองอีก 2 สายพันธุ์ที่มีลักษณะเหมือนกับเจ้ากอริลลาอีกด้วย เจ้าสัตว์ทั้ง 3 ได้ออกมาทำลายเมืองและกำลังจะกลายเป็นหายนะของเหล่ามนุษย์ งานนี้จึงทำให้ Davis Okoye (รับบทโดย Dwayne Johnson) ที่เป็นเหมือนเพื่อนรักของเจ้า George และกองทัพต้องหยุดยั้งเจ้าสัตว์ทั้งสามตัวก่อนที่ทุกอย่างจะสาย Rampage มีกำหนดเข้าฉายในอเมริกาวันที่ 20 เมษายนปี 2018 นี้ นำแสดงโดยอดีตนักมวปล้ำหนุ่มสุดล่ำอย่าง Dwayne Johnson และ Naomie Harris ผลงานการกำกับของ Brad…
-
เหมียวเหมียวท้าดวล!! ทดสอบความคิด แก้วกาแฟแก้วไหนจะเต็มก่อน?
ในสมัยก่อนถ้าหากว่าใครที่เป็นแฟนๆ หนังสือขายหัวเราะ นอกจากหน้ากระดาษสั่งซื้อแคตตาล็อกเบิร์ดซิลเวอร์แล้ว อีกอ่างหนึ่งที่คุณมักจะหาความเพลิดเพลินจากหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ได้นั่นก็คือปริศนาอักษรไขว้นั่นเอง และถ้าหากว่าคุณเป็นอีกคนที่ชื่นชอบการเล่นปริศนาอักษรไขว้ หรือชอบการเล่นเกมเติมตัวเลขในช่องว่างแล้วล่ะก็เราขอท้าคุณด้วยภาพปริศนาแก้วกาแฟที่กำลังเป็นที่โด่งดังในทวิตเตอร์ภาพนี้กันเลย… ลองทายกันดูซิว่ากาแฟแก้วไหนจะเต็มก่อนกัน?? ติ๊กตอก ติ๊กตอก ภาพถ้วยกาแฟปริศนานี้ถูกโพสต์ลงบนโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา โดยภาพของแก้วกาแฟทั้ง 4 ใบและหม้อต้มกาแฟ ที่มาพร้อมกับคำถามที่ว่าแก้วกาแฟใบไหนจะเต็มก่อน กลายเป็นที่นิยมของชาวเน็ตอย่างมาก หลังจากที่มีผู้คนร่วมเข้ามาไขปัญหามากกว่า 2,200 คนและแชร์ภาพดังกล่าวอีกกว่า 2,100 ครั้งเลยทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าปริศนาแก้วกาแฟที่ดูเหมือนจะง่ายๆ นี้ไม่จบลงง่ายๆ หลังจากที่ได้มีหลายๆ คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็คิดว่าแก้วใบที่ 4 จะเต็มก่อน ในขณะที่บางคนก็คิดว่าน่ะจะเป็นใบที่ 9 มากกว่า “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นแก้วเบอร์ 4 9 7 แล้วก็ 5 ตามลำดับนะ” ส่วนนายคนนี้ก็เข้ามาบอกว่า “ผมลองวาดรูปนี้้ แต่ผมคิดว่าผมน่าจะวาดผิดนะ 4 จะเต็มเป็นอันดับ 2 และ 7 กับ 9 จะเป็นอันท้ายสุด”…
-
โดนตัวไหนมาล่ะพ่อหนุ่ม…หนุ่มอ้างว่าชื่อ “โนอาห์” มาจากอนาคต แต่พิสูจน์อะไรไม่ได้เลย
บ่อยครั้งที่เรื่องราวเร้นลับและเหนือธรรมชาติต่างๆ นั้นจะยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์หรือสรุปได้ และในแต่ละวันนั้นก็มักจะมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นมากมายทั่วโลก เหมือนกับเรื่องราวของหนุ่มน้อยที่เรียกตัวเองว่าโนอาห์ และบอกว่าตัวเองเดินทางมาจากโลกอนาคต!! คลิปวิดีโอจากช่องยูทูป Paranormal Elite ได้เผยให้เห็นการพูดคุยกับเด็กหนุ่มลึกลับ ที่บอกว่าตัวเขาเองนั้นชื่อโนอาห์ ซึ่งเดินทางมาจากโลกอนาคต ตอนนี้เขาทำงานให้กับโปรเจกต์หนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ และกำลังถูกตามลอบสังหารอยู่!! หนุ่มน้อยนิรนามที่อ้างว่ามาจากโลกอนาคต ทางช่องได้ทำการเซ็นเซอร์หน้าเจ้าหนูน้อยผู้นั้นเพื่อความปลอดภัยของเขา เด็กหนุ่มดูหวาดกลัวและวิตกกังวลมาก ซึ่งเขาบอกว่านี่เป็นหนึ่งในผลข้างเคียงจากการท่องไปในมิติของเวลา โห!! นอกจากนี้เขายังเปิดเผยอีกว่า อันที่จริงนั้นตัวเขามีอายุมากกว่า 50 ปี แต่เป็นเพราะยาสูตรลับที่ช่วยทำให้เขากลายเป็นเด็กอายุ 25 ปี โห!! “ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวงใคร” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับน้ำเสียงสั่นเครือ “วัตถุประสงค์เดียวของผมคืออยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าการเดินทางในมิติเวลานั้นมีอยู่จริง และผมเองก็เป็นนักเดินทางข้ามมิติ” นอกจากนี้เด็กหนุ่มยังได้กล่าวอีกว่าจริงๆ แล้วการเดินทางข้ามมิตินั้นมีมาตั้งแต่ปี 2003 แล้ว แต่มันยังไม่ได้ถูกเปิดเผยจนกว่าจะถึงปี 2028 เด็กหนุ่มเอามือทาบอกตัวเองพร้อมกับพูดออกมาว่าจริงๆ แล้วเขาเดินทางมาจากปี 2021 ก่อนจะร้องไห้เสียใจพร้อมกับบอกว่าตอนนี้เขาไม่สามารถกลับไปยังโลกอนาคตได้แล้ว “ผมติดอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มสะอื้น เด็กหนุ่มได้เล่าถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในปี 2021 เขาบอกว่าในอนาคตนั้นรถไฟฟ้าและรถยนต์แบบไร้คนขับจะได้รับความนิยมอย่างมาก และมันสามารถขับได้ไกลถึงเกือบ 1,000 กิโลเมตรจากการชาร์จไฟเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่าระบบปัญญาประดิษฐ์และการลงทุนในธุรกิจพลังงานจะได้รับความนิยมอย่างมาก รวมไปถึงโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งในปี…
-
เผยโฉม Tu-160M2 เครื่องบินทิ้งระเบิด พร้อมความเร็วเหนือเสียง รุ่นใหม่ล่าสุด
ถ้าหากพูดถึงประเทศที่มีแสนยานุภาพทางด้านกองทัพหลายๆ คนอาจจะต้องนึกถึงประเทศ… รัสเซียแน่นอน และเมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาก็ได้เพิ่มความน่าเกรงขามของกองทัพอีกขั้นด้วยการเพิ่มเครื่องบินรบลำใหม่!! เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ทางกองทัพอากาศรัสเซียได้เปิดตัวเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-160M2 Blackjack ที่มีการพัฒนามาจากเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นเก่าอย่าง Tu-160M และ Tu-160 และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าเครื่องบินรบลำใหม่ Tu-160 M2 Blackjack สื่อรัสเซียได้มีการรายงานว่า “มีการปรับปรุงรูปแบบต่างๆ ของเครื่องบินทิ้งระเบิดโซเวียตรุ่นเก่าอย่าง Tu-160 และพัฒนามเป็น Tu-160M2 เครื่องบินทิ้งระเบิดโฉมใหม่ลำนี้” เครื่องบินลำใหม่ของรัสเซียนี้คาดว่าจะมีการทดสอบบินครั้งแรกในปี 2018 และจะมีการผลิตออกจำหน่ายในปี 2021 แต่อย่างไรก็ตามรายละเอียดปลีกย่อยของเจ้าเครื่องบินลำนี้ยังคงไม่ได้รับการเปิดเผย เครื่องบิน Tu-160M ต้นแบบของเจ้าเครื่องบินทิ้งระเบิดลำล่าสุดของรัสเซีย มันถูกนำมาใช้ในกองทัพตั้งแต่ปี 2014 ส่วนเครื่อง Tu-160 นั้นถูกใช้ในกองทัพของโซเวียตมาตั้งแต่ปี 1987 หรือประมาณ 30 ปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าข้อมูลบางอย่างของเจ้าเครื่องบินลำนี้จะยังไม่ถูกเปิดเผย แต่อย่างไรก็ตามทางการรัสเซียได้รายงานว่า เจ้าเครื่อง Tu-160M2 นี้ใช้ส่วนประกอบเก่าของเครื่องเดิมมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว…
-
ตำรวจจับกุมวัยรุ่น 3 ราย หลังลักพาตัวเด็กไปขัง 5 วัน และบังคับให้มีเซ็กส์กับชายกว่า 20 คน
เหตุการณ์น่าสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่เมืองคอเวนทรี ในเขตเวสต์มิดแลนด์ส ประเทศอังกฤษ หลังจากที่เด็กสาววัย 14 ปีผู้หนึ่งถูกขังไว้นานถึง 5 วัน และถูกบังคับให้ร่วมเพศกับชายหนุ่มกว่า 20 คน เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้รายว่างานนาย Jake Cairns วัย 21 ปี นาย Brandon Sharples วัย 20 ปี และนาย Jack McInally วัย 21 ปี 3 ผู้ต้องหาที่กระทำการดังกล่าว ถูกตั้งข้อหาฉวยประโยชน์การค้าทางเพศจากเด็ก หลังจากที่พวกเขาได้โพสต์ขายภาพของเธอลงบนเว็บไซต์สื่อลามก พร้อมกับโกหกว่าเธออายุ 18 ปี นาย Jack McInally และนาย Jake Cairns เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมวัยรุ่นทั้ง 3 หลังจากที่เห็นเหยื่อสาวกำลังพยายามปีนออกมาทางหน้าต่างห้องน้ำชั้นแรก ในสภาพที่สวมเพียงแค่ชุดชั้นใน ซึ่งมีรูปร่างและใบหน้าตรงกับประกาศคนหลาย หลังจากที่เธอได้หายตัวไปจากบ้านของญาติเมื่อหลายวันก่อน “ชายทั้ง 3 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเด็กหญิงคนนี้ ในตอนแรกนาย Cairns ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้จักกับเธอ แต่หลังจากที่เราทำการตรวจสอบก็พบว่าบัญชีธนาคารของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้” เจ้าหน้าที่ Jon Barker…
-
มหาวิทยาลัยเกาหลีใต้ เปิดคอร์ส ‘ความรักและการเดท’ เพื่อช่วยกระตุ้นอัตราการเกิด
ในปัจจุบันดูเหมือนว่าปัญหาของจำนวนประชากร และอัตราการแต่งงานที่ลดลงนั้นดูจะส่งผลกระทบต่อหลายๆ ประเทศ และหนึ่งในนั้นก็คือประเทศเกาหลีใต้นั่นเอง แต่เมื่อไม่นานมานี้มหาวิทยาลัย Dongguk จากกรุงโซล ของประเทศเกาหลีใต้ก็ได้เปิดคอร์สเรียนใหม่เพื่อแก้ปัญหาที่ว่านี้ ซึ่งคอร์สเรียนนี้ก็คือการแต่งงานและครอบครัว (Marriage and Family) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ช่วยนักศึกษาได้เข้าใจในเรื่องความรัก และการพัฒนาความสัมพันธ์ให้ยืนยาว “การลดลงของประชากรในเกาหลีนั้นทำให้การออกเดทและการแต่งงานกลายเป็นเรื่องที่สำคัญขึ้นมา แต่คนเกาหลีรุ่นใหม่นั้นไม่ค่อยที่จะมีเวลาว่างและสนใจเรื่องเหล่านี้มากเท่าไหร่” ศาสตราจารย์ Jang Jae-sook ผู้ก่อตั้งวิชาการแต่งงานและครอบครัวกล่าว นอกจากการเรียนการสอนในห้องแล้ว ผู้ที่เรียนในวิชานี้ยังต้องออกเดทกับคู่เดทอย่างน้อย 3 คนในหนึ่งเดือน และหลังจากที่ได้ทำความรู้จักกันแล้ว พวกเขาจะต้องบอกกับอาจารย์อีกด้วยว่ารู้สึกกับคนไหนเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการบ้านที่เกี่ยวกับการเดท และอภิปรายเกี่ยวกับสถาณะการณ์ที่คู่รักต้องเจอ อย่างเช่นการทะเลาและความหึงหวงอีกด้วย เป้าหมายของวิชานี้ไม่ได้อยู่ที่การมีคู่ แต่ทางอาจารย์ผู้ก่อตั้งวิชานี้ต้องการให้พวกเด็กๆ ได้ทดลองพัฒนาความสัมพันธ์ในชีวิตจริง จะช่วยให้วัยรุ่นได้เข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ลึกซึ้งมากขึ้น สถานะการณ์ด้านการใช้ชีวิตคู่ของประเทศเกาหลีใต้นั้นลดลงอย่างมาก โดยในปี 2016 นั้นพบว่าคนเกาหลีใต้มีอัตราการแต่งงานที่ต่ำมากที่นับตั้งแต่ปี 1977 เป็นต้นมา และในช่วงตลอด 10 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้งบประมาณไปมากกว่า 2,300 ล้านบาทในการกระตุ้นอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากร ที่มา telegraph, independent
-
ห๊ะ!! “เบน Gear Knight” กลับมาใน The Voice SS6 เปลี่ยนลุค โชว์พลังเสียงอันทรงพลัง
สำหรับใครที่เป็นแฟนเพลงสายอกหัก หรือชอบเพลงเศร้าแล้วล่ะก็ คงจะต้องรู้จักวง Gear Knight วงร็อกชื่อดังจากยุค 2000 กันอย่างแน่นอน และเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ถ้าหากใครที่ติดตามรายการ The Voice คงจะต้องตกใจกันยกใหญ่แน่ๆ หลังจากที่เห็นนักร้องนำของ Gear Knight อย่างคุณเบน หรือ เบนจามิน เจมส์ ดูลลี่ ที่ออกมาปรากฏตัวพร้อมกับเพลงที่แหวกแนวออกไปเลยทีเดียว แต่ก่อนจะไปชมเสียงอันไพเราะของอดีตนักร้องนำท่านนี้ เราลองไปฟังเพลงฮิตเก่าๆ ของ Gear Knight เพื่อย้อนวัยกันก่อนเลยดีกว่า… เริ่มกันที่เพลงนี้ก่อนเลย… “อยากได้แฟน” บทเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวของหนุ่มจืดที่อยากจะบอกคุณว่า ฉันไม่อยากได้คะแนนสงสารนะจ๊ะ ต่อกันด้วยเพลง “ตกลงเราเป็นอะไรกัน” และเพลง “คนมีคู่ไม่รู้หรอก” เพลงร็อกเหงาๆ ในคืนที่คุณต้องออกไปลอยกระทงคนเดียว คุณเบนปรากฏตัวออกมาพร้อมกับเสียงที่หลายๆ คนอาจจะจำได้เป็นอย่างดี แต่หลังจากที่ได้ยินบทเพลง Good Bye เพลงแนวบัลลาดที่นักร้องหนุ่มเลือกมาใช้ในการประกวด ก็ทำเอาหลายๆ คนตกใจ ความประหลาดใจให้กับโค้ชแต่ละคนบนเวที ปัจจุบันคุณเบนเป็นอาจารย์สอนทางด้านการขับร้องเพลงคลาสสิกอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเจ้าตัวเผยว่าเริ่มมีความสนใจในการร้องเพลงแนวนี้ และได้บินไปเรียนฝึกการร้องเพลงที่สหรัฐอเมริกานานถึง 5 ปีเลยทีเดียว…
-
นักวิจัยค้นพบ “อัญมณีหายาก” เป็นเบาะแสว่าอาจจะมีมหาสมุทรที่ซ่อนลึกใต้ชั้นผิวโลกอยู่อีก!!
หลายๆ คนที่ชอบดูภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์อาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวของทฤษฎีที่ว่ามีทะเลอยู่ใต้พื้นโลกของเรา กันมาบ้างแน่ๆ และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการค้นพบ Ringwoodite แร่รัตนชาติชนิดหนึ่ง ที่อาจจะช่วยสนับสนุนทฤษฎีที่ว่านี้!! ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการค้นพบตัวอย่างแบบเต็มๆ ของเจ้าอัญมณีที่เป็นหนึ่งในรูปแบบของ Olivine แร่รัตนชาติสีเขียวมะกอก แต่การค้นพบก้อนเพชรสีน้ำตาลขนาด 3 มิลลิเมตรที่มีส่วนประกอบของ Ringwoodite ประมาณ 1.5 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักและมีส่วนประกอบของน้ำอยู่ด้วย ก็สามารถช่วยสนับสนุนสมมติฐานเกี่ยวกับแหล่งน้ำอยู่ใต้ผิวโลกได้ ศาสตราจารย์ Graham Pearson ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีจากมหาวิทยาลัย University of Alberta ผู้ค้นพบเพชรก้อนนี้ได้เผยแพร่ผลการศึกษาดังกล่าวใน Nature วารสารวิทยาศาสตร์ โดยพวกเขาคาดว่าแหล่งที่จะสามารถพบแร่นี้ได้จะต้องเป็นพื้นที่มีน้ำและอยู่ใต้ผิวโลก สมมติฐานดังกล่าวคาดว่าจะสามารถพบแร่ Ringwoodite ได้ในชั้น Transition Zone ที่อยู่ลึกประมาณ 410 ถึง 660 กิโลเมตรจากเปลือกโลก จากบทความของศาสตราจารย์ Pearson ที่ตีพิมพ์นั้นได้อธิบายว่ามีความเป็นไปได้ 2 อย่างที่ทำให้พบน้ำติดกับอัญมณีที่พบ โดยอย่างแรกก็คือความกดดันและปฏิกิริยาทางเคมีทำให้เกิดการสร้างน้ำขึ้นมา และสองในพื้นที่แห่งนั้นมีน้ำอยู่แล้ว และก้อนอัญมณีนี้ดูดน้ำเข้ามา “นี่เป็นอีกข้อเสนอหนึ่ง ringwoodite ที่เราค้นพบนั้นติดมากับก้อนเพชร และปริมาณน้ำที่อยู่ภายในนั้นเผยให้เห็นถึงสภาพโดยรอบของมัน” ศาสตราจารย์ Pearson เขียนไว้ในรายงานการวิจัยของเขา อย่างไรก็ตามข้อสันนิษฐานนี้ยังคงเป็นที่โต้แย้งของนักวิทยาศาสตร์ และบางคนที่ได้ออกมาโต้แย้ง พร้อมกับบอกว่าอันที่จริงแล้วไม่ได้มีมหาสมุทรอยู่ใต้พื้นโลกแต่อย่างใด ที่มา mymodernmet
-
หนังสั้น “เกลียวคลื่นแม่เหล็ก” สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ใช้ CG ใดๆ
ในปัจจุบันถึงแม้ว่าเทคนิคการถ่ายภาพนั้นจะก้าวหน้ากันไปอย่างมากแล้ว และมีการผลิตหนังสั้นโดยใช้แนวคิดแบบแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังที่สร้างมาจากโปรแกรมคำนวน (อ่านข่าวเก่า นี่คือหนังสั้นที่ถูกสร้างโดย “สูตรทางคณิตศาสตร์” ทั้งหมด กลายเป็นแนวไซไฟโลกอนาคตสุดล้ำ!! ) หรือหนังสั้นที่ถ่ายเกลียวคลื่นของแม่เหล็กแบบที่เรานำมาฝากกันวันนี้!! คุณ Roman De Giuli นักทำหนังชาวเยอรมันผู้เป็นเจ้าของหนังสั้นคอนเซปต์สุดแหวกแนวเรื่องนี้ โดยเขาได้ใช้เศษผงตะไบเหล็ก แม่เหล็ก และกากเพชร ในการสร้างผลงานภาพยนต์สั้นเรื่อง Matereality ความยาวกว่า 3 นาทีเรื่องนี้ เศษผงตะไบเหล็ก แม่เหล็ก และกากเพชร ที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังสั้นเรื่องนี้ โดยที่ไม่ได้ใช้ CG ใดๆ เลย นอกจากความมหัศจรรย์ของผงตะไบเหล็ก และความสวยงามของการเคลื่อนไหวแล้ว หนังสั้นเรื่องนี้ยังได้การออกแบบเสียง และทำดนตรีประกอบจาก Son-J ศิลปินชาวออสเตรเลียอีกด้วย ไปชมหนังสั้นเรื่องนี้กันแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… ที่มา thisiscolossal
-
9 เคล็ดลับอัพเกรดเสน่ห์ ให้คุณดูดีขึ้นในทันที ด้วยแนวทางจากวิทยาศาสตร์
สำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นมักจะรับประทานแห้วอยู่บ่อยๆ จะไปจีบใครหรือแอบชอบใครก็ดูเหมือนจะเป็นอากาศธาตุอยู่ร่ำไป หรือไม่ค่อยจะเป็นที่สนใจของเพศตรงข้ามสักเท่าไหร่ล่ะก็ อย่าเพิ่งท้อใจไปเลยเพื่อนรัก!! วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญที่จะทำให้คุณดูมีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้นมาฝากกัน แถมยังเอาไปฝึกทำเพื่อบริหารเสน่ห์กันได้ง่ายๆ อีกด้วยนะเออ ไม่แน่… วันมาฆบูชาครั้งหน้าคุณอาจจะมีคู่ไปเวียนเทียนด้วยก็ได้นะ 1. ยิ้มให้บ่อยขึ้น จากงานวิจัยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี 2014 เกี่ยวกับรอยยิ้มและความดึงดูดใจพบว่า ผู้ที่มีรอยยิ้มและดูสดใสร่าเริงนั้นจะมีแรงดึงดูดต่อเพศตรงข้ามมากกว่าคนที่เอาแต่ทำหน้าบึ้ง 2. ลองใส่เสื้อผ้าสีแดงดูสิ การศึกษาด้านจิตวิทยาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเมื่อปี 2010 เผยว่าผู้ที่สวมชุดสีแดงนั้นจะเป็นที่ดึงดูดใจของสาวๆ มากกว่าการสวมเสื้อผ้าสีอื่นๆ 3. สร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่น ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Psychological Reports เผยว่าชายหนุ่มที่พูดคุยเรื่องตลกกับเพื่อนที่หน้าบาร์นั้นจะเป็นที่ดึงดูดของเหล่าสาวๆ ที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ และนอกจากนี้คุณยังมีโอกาสที่จะได้เบอร์ของเธอมากกว่าคนอื่นๆ ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว!! แถมอารมณ์ขันยังทำให้คุณดูฉลาดขึ้นอีกด้วยนะ 4. อย่าลืมดูแลเรื่องกลิ่นกายด้วยล่ะ หลายๆ คนคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่านอกจากกลิ่นปากจะไม่ใช่เรื่องตลกแล้ว กลิ่นของรักแร้เองก็เช่นกัน จากผลการวิจัยในปี 2009 เผยว่า นอกจากกลิ่นกายจะช่วยเพิ่มความมั่นใจแล้ว มันยังช่วยทำให้คุณเป็นที่น่าสนใจของเพศตรงข้ามอีกด้วย 5. หัดเป็นผู้ฟังที่ดีบ้าง อย่ามัวแต่โม้ งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Personality and Individual…
-
ศิลปินญี่ปุ่นสร้างนาฬิกาข้อมือ เลียนแบบทุกรายละเอียด เนี๊ยบจนไม่อยากเชื่อว่าทำมาจากกระดาษ
งานศิลปะนั้นนอกจากจะเป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานแล้ว ความปราณีตและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผลงานชิ้นนั้นมีคุณค่ามากขึ้นอีกด้วย และผลงานสร้างสรรค์อย่างนาฬิกาข้อมือจากกระดาษของคุณ Manabu Kosaka ศิลปินชาวญี่ปุ่นจากเมืองไซตะมะ ประเทศญี่ปุ่นนี้เองก็เป็นหนึ่งในงานศิลปะที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความปราณีตบรรจงเช่นกัน และนี่คือตัวอย่างของผลงานที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของศิลปินหนุ่มผู้นี้ ศิลปินชาวญี่ปุ่นรายนี้ได้ใช้ทักษะของเขาในการสร้างนาฬิกาข้อมือแบรนด์หรูแบบต่างๆ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมายด้วยกระดาษ Ken Paper คุณภาพสูง คุณ Kosaka เริ่มต้นการสร้างงานของเขาโดยการร่างแบบนาฬิกาลงบนกระดาษ Ken paper และมีอุปกรณ์อื่นๆ อีก เช่น กาว คัตเตอร์สำหรับตัดกระดาษ และเครื่องเจียร์ ชิ้นส่วนทุกชิ้นจะถูกตัดออกเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะนำมาต่อกันให้หนาขึ้น และนำมาประกอบกันจนกลายเป็นนาฬิกาที่เต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย ศิลปินหนุ่มให้สัมภาษณ์ว่า เขาเริ่มต้นทำงานศิลปะจากกระดาษแบบนี้มาเป็นเวลามากกว่า 15 ปีแล้ว ประสบการณ์และความล้มเหลวที่ผ่านมาช่วยพัฒนาให้ฝีมือของเขาเก่งขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่สำคัญในการทำงานของเขาก็คือความพยายามในการใส่ใจรายละเอียด และตั้งใจที่จะปรับปรุงผลงานให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ นาฬิกาโอเมก้า สปีดมาสเตอร์ หนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของศิลปินรายนี้ และสำหรับใครที่อยากชมขั้นตอนการสร้างเจ้าโอเมก้า สปีดมาสเตอร์ เรือนนี้กับแบบชัดๆ ล่ะก็ สามารถเข้าไปชมขั้นตอนการทำได้ที่ทวิตเตอร์ @coca1127 ของเขากันได้เลย ซึ่งในทวิตเตอร์ของคุณ Kosaka นั้นนอกจากจะได้เห็นขั้นตอนในการสร้างนาฬิกาเรือนนี้แล้ว คุณยังจะได้เห็นขั้นตอนการสร้างผลงานจากกระดาษชิ้นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหลุยส์วิตตอง ไฟแช็คซิปโป้ กล้องโบราณอีกด้วย รวมถึงอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอย่างซูชิที่ทำมาจากกระดาษอีกด้วย…
-
ชมภาพ “อาชญากรรมทางสายตา” ใครก็ได้แจ้งตำรวจมาจับที อิชั้นทนไม่ไหวแล้ววว!!
สำหรับใครที่เป็นเพอร์เฟกชั่นนิสต์หรือผู้ที่หลงใหลในความสมบูรณ์แบบ คงจะรู้สึกหงุดหงิดกันบ้างแน่ๆ เวลาที่คุณเห็นข้าวของหรือสิ่งต่างๆ ที่วางไม่ถูกที่ถูกทาง และคุณคงจะอดใจไม่ไหวที่จะจัดการให้มันเรียบร้อย แต่สำหรับชุดภาพที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่ชาวเพอร์เฟกชั่นนิสต์ เชื่อแน่ว่าคุณเองก็อาจจะรู้สึกกระวนกระวายใจจนอยากจะอุทานออกมาแน่ๆ อ่า… ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ไปชมกันได้เลย แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะใครที่ชอบความเพอร์เฟกต์แนะนำว่าอย่าดูเลย 1. ช่วยบอกฉันที อะไรคือจุดกึ่งกลางของภาพนี้!? 2. เบื่อบ้างไหม ที่ต้องเจอช้อนตักน้ำตาลในสภาพแบบนี้?? 3. เสียชาติเกิดเป็นสัญญาณเตือนไฟไหม้จริงจริ๊ง!! 4. นี่คือภาพที่หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นทุกครั้งที่ดึงกุญแจรถออกจากกระเป๋า 5. ทำไมน๊อ?? ทำไมไม่วางให้มันตรงๆ หน่อยนะ เห็นแล้วขัดใจจริงๆ 6. แค่มองแว๊บแรก ก็รู้สึกหงุดหงิดใจเลยใช่ไหมล่ะ?? 7. กรรไกรนี้ท่านได้แต่ใดมา?? 8. ใครสั่งใครสอนให้หิ้วกล่องพิซซ่าแบบนี้!! 9. สงสัยผู้รับเหมาจะรีบไปหน่อยสินะ!? 10. เจอนาฬิกาแบบนี้ ปวดหัวเลยทีเดียว!! 11. ทุกครั้งที่คุณเทน้ำลงบนแก้วอีกใบ คุณมักจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เสมอ 12.…
-
แผนครองโลกขั้นที่ 1 !! ภารกิจสะกดรอยและหว่านเสน่ห์ของเจ้าเหมียวจรจัด
อาจจะมีหลายเหตุผลที่ทำให้พวกเราตกหลุมรักเจ้าเหมียวและสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกทาสแมวแบบตลอดชีพ แต่คงมีไม่บ่อยแน่ๆ ที่เหล่าพี่เหมียวนั้นจะเป็นฝ่ายเข้ามาเลือกทาสด้วยตัวเอง แบบเจ้าเหมียวตัวนี้!! คุณ Connor Manning ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่บังเอิญพบกับเจ้าแมวจรจัดระหว่างทาง และหลังจากที่เขาเริ่มทำความรู้จักกับมัน จากนั้นเจ้าเหมียวตัวนั้นก็เหมือนจะติดใจชายหนุ่มและแล้วเรื่องราวอันแสน่ารักของทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น คุณ Connor กับเจ้าเหมียวจรจัดตัวนั้น คุณ Connor เล่าเรื่องราวการพบกันระหว่างเขาและเจ้าเหมียวตัวนี้ผ่านทางหน้าทวิตเตอร์ของเขา ชายหนุ่มเล่าว่าเขาเริ่มทำความรู้จักกับเจ้าเหมียวตัวนี้หลังจากที่พบมันเข้าที่ถนนสายหนึ่ง และหลังจากที่ทำความรู้จักกันได้ซักพัก ไม่รู้ว่าอะไรดลใจพี่เหมียวเข้า จู่ๆ มันก็เดินตามคุณ Connor กลับบ้านหน้าตาเฉย!! “ทำความรู้จักกับเจ้าเหมียวข้างถนนแสนน่ารัก และจากนั้นมันก็เริ่มตามผมมา” ชายหนุ่มทวีตข้อความพร้อมกับภาพของเจ้าเหมียวตัวนั้น แต่งานนี้ไม่ได้แค่ตามธรรมดา เพราะเจ้าเหมียวเล่นเดินตามมาถึงบ้านเลยทีเดียว อืม… มีแผนอะไรรึเปล่าเนี่ย?? คุณ Connor อัพเดทเรื่องราวของเจ้าเหมียวใจง่ายตัวนี้บนทวิตเตอร์ของเขา ชายหนุ่มตั้งชื่อให้มันว่า Socks เขาเริ่มทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้น และตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณ Connor กับเจ้า Socks จะกลายเป็นเพื่อนซี้กันแล้ว!! เกาพุง เกาพุง ชอบม๊ายยย Socks เริ่มสำรวจบ้านหลังใหม่ของมัน อืม… คงจะเรียกว่ายบ้านหลังใหม่ได้แล้วสินะ!? “สรุป ตอนนี้ผมมีแมวเลี้ยงกับเค้าแล้วหรือนี่??…
-
รู้จักกับ Lyudmila Pavlichenko สไนเปอร์หญิงมือพระกาฬที่ยากจะหาใครเทียบ
เรื่องราวของ Lyudmila Pavlichenko พลแม่นปืนหญิงมือพระกาฬจากสหภาพโซเวียต ที่เป็นที่กล่าวขวัญของทหารฝ่าศัตรู และสังหารฝ่ายศัตรูไปมากกว่า 309 คนเลยทีเดียว!! ชื่อเต็มๆ ของเธอคือ Lyudmila Mykhailivna Pavlichenko เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมปี 1916 ในเมือง Bila Tserkva ประเทศยูเครน ซึ่งในขณะนั้นยังรวมอยู่ในสหภาพโซเวียต เมื่ออายุ 14 ปี ครอบครัวของเธอได้ย้ายมาที่เมือง Kiev และที่นี่เธอได้เข้าร่วมกับกองทัพอาสาสมัครสมาคมเพื่อความร่วมมือกับกองทัพอากาศและกองทัพเรือ หรือ DOSAAF ระหว่างที่เข้าร่วมกับหน่วย DOSAAF ผลการเรียนในโรงเรียนของเธอนั้นค่อนข้างดี และเธอเองก็เป็นคนที่มีความสามารถอย่างมาก จนในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นนักแม่นปืน หลังจากที่สำเร็จการศึกษาปริญญาโทด้านประวัติศาสตร์และกำลังเตรียมตัวศึกษาต่อปริญญาเอก ในปี 1937 เธอได้เข้าร่วมกับหน่วยอาสาสมัครกลุ่มแรก เพื่อเข้าต่อสู้ป้องกันการรุกรานจากทหารนาซีที่บุกเข้ามาในเมือง Odessa เมื่อปี 1941 ในตอนแรกหญิงสาวได้ขอสมัครไปในหน่วยพยาบาล แต่ทว่าด้วยเหรียญตราของพลแม่นปืนที่เธอมี ทำให้เธอถูกส่งตัวเข้าไปยังหน่วยพลแม่นปืน และกลายเป็นหนึ่งในนักแม่นปืนหญิง 2,000 นายของกองทัพโซเวียต สไนเปอร์สาววัย 25 ปีเข้าสู่สมรภูมิรบครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปี 1941 ในเดือนแรกเธอได้รับการบันทึกว่าสามารถสังหารทหารฝ่ายศัตรูได้ถึง 100 คนพร้อมกับได้เลื่อนขั้นเป็นจ่าสิบเอก ต่อมาในช่วงกลางเดือนตุลาคม เธอถูกย้ายไปประจำการที่เมือง Sevastopol และสามารถสังหารฝ่าตรงข้ามได้อีก 36 คน ในเดือนพฤษภาคมปี…
-
มองชีวิตผ่านเครื่องบิน ซีรีส์ภาพถ่ายทางอากาศ ที่เผยให้เห็น ‘การเกิดดับ’ ของสรรพสิ่ง
ตามธรรมชาติของทุกสรรพสิ่งบนโลกนั้น ล้วนมีเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปทั้งสิ้น และภาพของสนามบินจากผลงานชุด Life Cycles ของช่างภาพชื่อดังอย่างคุณ Mike Kelley เองก็ได้เผยให้เห็นถึงหลักของสัจธรรมข้อนี้ได้อย่างชัดเจน “ภาพถ่ายชุดนี้ทำให้เราได้เข้าใจถึงหลักการที่แท้จริงของการเดินทางด้วยเครื่องบิน และการถ่ายภาพของเครื่องบินจากบนท้องฟ้า มันเผยให้เห็นถึงอาคารผู้โดยสารที่แออัดและจำนวนเครื่องบินที่จอดกันอยู่อย่างหนาแน่น” ช่างภาพหนุ่มกล่าว “ภาพมุมมองที่แตกทำให้ผู้คนได้เห็นมุมมองของการเดินทางด้วยเครื่องบินที่ไม่เหมือนเดิม และเผยให้เห็นถึงความพยายามของมนุษย์ที่จะเอาชนะอุปสรรคในการเดินทาง” ช่างภาพหนุ่มอธิบาย ภาพถ่ายชุดดังกล่าวได้เผยให้เห็นถึงช่วงการใช้งานของสนามบินแต่ละแห่งใน 3 ช่วงเพื่อให้เห็นถึงการเปลื่ยนแปลง คุณ Kelley นั้นได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ในการบินถ่ายภาพและบันทึกเรื่องราวเอาไว้ ภาพของเครื่องบินโบอิ้งและรันเวย์ในเมืองซีแอตเทิล เผยให้เห็นในช่วงแรกของการเริ่มต้นประกอบเครื่องบินในสนามบิน . การเริ่มต้นของเครื่องบินนั้นก็เปรียบเหมือนกับชีวิตของคนที่กำลังเริ่มต้นขึ้น และการเดินทางออกจากรันเวย์ก็เปรียบเหมือนกับชีวิตของเราที่กำลังเดินทางผ่านวันและเวลาต่างๆ นั่นเอง . ภาพถ่ายจากท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ก็ได้แสดงให้เห็นถึงการใช้งานเครื่องบิน และการลำเลียงสินค้าต่างๆ มากมาย . สินค้าและสัมภาระมากมายที่กำลังจะเตรียมเดินทางไปพร้อมกับเครื่องบิน เปรียบเหมือนกับภาระหน้าที่ที่เราต้องทำ และเมื่อชีวิตได้เริ่มต้นขึ้นมันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะปฏิเสธภาระหน้าที่เหล่านั้น . . . และสุดท้ายภาพของซากสนามบินในสุสานเครื่องบินในแถบทะเลทรายทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่เผยให้เห็นถึงเครื่องบินที่ถูกปลดประจำการและซากปรักหักพังของสนามบินที่ถูกทิ้งร้าง . ซากเครื่องบินที่ถูกทิ้งไว้ในสุสานเครื่องบินทางตอนใต้ของประเทศ . เศษซากปรักหักพังเหล่านี้ ได้แสดงให้เราได้เห็นว่าสุดท้ายแล้วชีวิตนั้นก็จะต้องเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดในซักวันหนึ่ง และสุดท้ายแล้วทุกอย่างล้วนต้องกลับคืนสู่จุดเริ่มต้น มีเกิดก็ต้องมีดับ นับเป็นความจริงของจักรวาลที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ที่มา petapixel
-
หนุ่มผจญภัยในเส้นทางป่าดงดิบ สู่ยอดเขาเมรูในแทนซาเนีย โชคดีได้เพื่อนกลับมาบ้าน
เรื่องราวอันน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นที่ยอดเขา Meru ภูเขาไฟแห่งหนึ่งของประเทศแทนซาเนีย ในป่าอันเขียวชอุ่มในทวีปแอฟริกา ซึ่งพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยว่าคุณจะสามารถพบสุนัขหลงทางได้!! แต่ทว่าเมื่อไม่นานมานี้มีชาวเน็ตท่านหนึ่ง ได้อัพเดทเรื่องราวการพบกันระหว่างเขาและเจ้าหมาน้อยหลงทางในระหว่างที่เขากำลังเดินป่าอยู่โดยบังเอิญ ผืนป่าอันกว้างใหญ่และยอดเขา Meru ในประเทศแทนซาเนีย เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อคุณ Mtumrefu ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์ป่าและพันธุ์พืชชาวสวีเดนคนนี้ ได้เข้าไปเดินป่าใกล้ๆ กับภูเขาไฟ Meru และในระหว่างที่เดินอยู่ในป่าใหญ่นั้น เขากลับพบสุนัขที่หลงทางตัวหนึ่งในสภาพอิดโรย “เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมพบมันในสภาพที่ตัวสั่นและเปียกฝน เจ้าหมาน้อยผอมจนเหลือแต่ซี่โครง “ “ผมอุ้มมันเดินผ่านลำธารเพื่อนำมันมาดูแลที่ด้านล่าง เราให้ความอบอุ่นแก่มัน และหลังจากนั้นจึงพาเจ้าตัวเล็กไปพบกับสัตวแพทย์ ตอนนั้นเจ้าตูบมีน้ำหนักเพียงแค่ 2.5 กิโลกรัมเท่านั้น” สภาพของเจ้าตูบที่ถูกช่วยมาจากป่าฝนในวันนั้น และหลังจากที่ผ่านไปไม่กี่สัปดาห์ เจ้าตูบผู้โชคดีก็เริ่มกลับมาแข็งแรงและมีร่างกายที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยความผูกพัน เขาจึงรับเจ้าหมาน้อยตัวนี้มาเลี้ยงในทันที ชายหนุ่มตั้งชื่อให้เจ้าหมาน้อยเพศเมียตัวนี้ว่า Koda ซึ่งเป็นชื่อย่อของ Kodama จากภาพยนตร์อนิเมะแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์เรื่อง Princess Mononoke “หลังจากที่ผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ Koda เพื่อนใหม่ของผม เริ่มมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น เธอแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มออกวิ่งได้แล้ว” Mtumrefu กล่าว สวัสดีจ้าา หนู Koda เองค๊าาา!! “ตอนที่ผมอุ้มเธอขึ้นมาตอนที่อยู่ในป่า เธอพยายามเข้ามาซุกในอ้อมอกของผม ตอนนั้นผมรู้ในทันทีว่าผมไม่สามารถทิ้งเธอไปได้เลย” ชายหนุ่มกล่าว …
-
‘Ophiocordyceps’ เชื้อราปรสิต แทรกซึมยึดร่างกายของแมลง ปล่อยให้เหลือเพียงแต่สมอง
ในธรรมชาตินั้นมีพืชพรรณที่มหัศจรรย์อยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือเจ้า Ophiocordyceps sinensis พืชปรสิตที่อาศัยอยู่ในตัวสัตว์เล็กๆ อย่างเช่น มดและหนอน มันจะใช้ร่างของพวกสัตว์เหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยและเจริญเติบโตออกมาจากร่างกายของพวกมัน!! โดยสปอร์ของเจ้าพืชชนิดนี้จะเข้าไปในร่างกายของพวกมดและสัตว์ตัวเล็กๆ ทางระบบทางเดินอาหาร และจะอาศัยอยู่ในร่างกายของพวกสัตว์เหล่านั้น พวกมันจะเริ่มแทรกเข้าไปควบคุการเคลื่อนไหวของพวกสัตว์เหล่านี้ และจากนั้นพวกสัตว์ก็จะตายลงอย่างช้าๆ พร้อมกับมีลำต้นเล็กๆ ของเจ้าพืชชนิดนี้งอกออกมาจากส่วนหัว นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Penn State University ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมอันน่าทึ่งของเจ้าพืชชนิดนี้ แล้วก็พบว่าหลังจากที่พวกมันเข้าไปในร่างกายของเหล่าสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยแล้ว พวกมันจะทำการควบคุมในส่วนของกล้ามเนื้อ และทำให้พฤติกรรมของพวกโฮสต์ที่มันอาศัยเปลี่ยนไป แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าพืชชนิดนี้ไม่ได้ทำการควบคุมในส่วนของสมองแต่อย่างใด ซึ่งส่วนนี้สร้างความสับสนให้กับนักวิทยาศาสตร์อย่างมาก ทีมวิจัยได้ทำการศึกษาพฤติกรรมดังกล่าวโดยการสร้างแบบจำลองสามมิติ เพื่อศึกษาการเคลื่อนไหวของเจ้าพืชชนิดนี้ในตัวของมด พวกเขาพบว่าเมื่อสปอร์ของพืชดังกล่าวเข้าไปในตัวมดแล้ว มันได้ทำการแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของมด และทำการควบคุมพฤติกรรมของพวกมัน “โดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมของพวกสัตว์นั้นจะถูกควบคุมโดยสมอง ซึ่งจะทำการส่งกระแสไฟฟ้าไปยังกล้ามเนื้อและควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย แต่จากการศึกษาเราพบว่าเจ้าพืชชนิดนี้ได้ทำการควบคุมส่วนของกล้ามเนื้อและไม่ได้ควบคุมที่สมองแต่อย่างใด” ดอกเตอร์ David Hughes นักวิจัยอาวุโสกล่าว นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้ตั้งสมมุติฐานไว้อีกว่าสาเหตุที่พืชดังกล่าวไม่ได้เข้าโจมตีในส่วนสมองของเหยื่อนั้นก็เพื่อที่ต้องการจะรักษาชีวิตของโฮสต์ไว้จนกระทั่งพวกมันสามารถเจริญเติบโตได้สำเร็จ ทางด้านคุณ Charissa de Bekker นักชีววิทยาผู้ที่ทำการศึกษาพฤติกรรมของเจ้าพืชชนิดนี้ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2014 ว่า “การควบคุมพฤติกรรมของพืชชนิดนี้เป็นสิ่งที่ค่อนข้างซับซ้อน มันเป็นพฤติกรรมที่น่าทึ่งมาก เราได้ทำการศึกษาสมองของมดสี่สายพันธุ์ จากการศึกษาพบว่ามีสารเคมีบางอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อน ปรากฏอยู่ในเซลล์สมองของพวกมด ซึ่งสารเคมีดังกล่าวนั้นถูกผลิตมาจากพวกปรสิต” ถึงแม้ว่าตอนนี้ทางนักวิจัยจะยังไม่ทราบถึงข้อเท็จจริงอย่างแน่ชัดของปรากฏการณ์นี้ก็ตาม แต่ก็มีข่าวดีสำหรับพวกเรานั่นก็คือเจ้าพืชชนิดนี้ไม่สามารถเจริญเติบโตในมนุษย์ได้ แถมในประเทศจีนนั้นมันยังถูกนำไปใช้ทำยาที่มีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ อีกด้วย…
-
คุณตาวัย 76 ปี ได้เจอรถของตัวเองอีกครั้ง หลังจากลืมไว้เมื่อ 20 ปีก่อน!?
สำหรับบางคนที่อาจจะมีนิสัยขี้ลืม อาจจะเคยลืมสิ่งของบางอย่างไว้นานๆ และกว่าจะนึกได้เจ้าสิ่งของที่ว่านั้นก็อาจจะหายไปเสียแล้ว และชายชราวัย 76 ปีผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันหลังจากที่เขาดั๊นจำไม่ได้ว่าตัวเองจอดรถไว้ที่ไหนเมื่อ 20 ปีก่อน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 คุณ Helmut Kohl ชายชาวเยอรมันวัย 76 ปี ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองแฟรงก์เฟิร์ตว่ารถของตนเองหาย หลังจากที่เขาหารถของตัวเองไม่เจอและคิดว่ามันถูกขโมยไป ชายชราตัดสินใจรื้อโรงรถของเขาหลังจากที่ตามหารถที่หายไปไม่เจอ แต่พอเวลาผ่านไป 20 ปี คุณปู่ท่านนี้ก็ได้พบว่ารถของตัวเองจอดอยู่ที่เดิมที่เขาลืมไว้นั่นเอง เมื่อได้พบกับรถของเขา คุณปู่กลับบอกว่าตอนนี้เขาไม่ต้องการเจ้ารถคันนั้นอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ซากรถคันดังกล่าวอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ และถูกส่งไปยังสุสานรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “รถคันดังกล่าวไม่ได้ใช้งานมาเป็นเวลานาน และเรากำลังจะส่งมันไปที่สุสานรถ” เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองแฟรงก์เฟิร์ต กล่าว นอกจากนี้เมื่อประมาณปีที่แล้วก็ได้มีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษเช่นกัน หลังจากที่มีรายงานว่าหนุ่มสก็อตแลนด์ผู้หนึ่งได้พบกับรถ BMW ของเขาที่จอดลืมไว้นานถึง 6 เดือนอีกครั้ง หลังจากที่เขาจอดลืมไว้ใกล้ๆ กับสนาม Etihad Stadium ของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้นั่นเอง ชายคนดังกล่าวพยายามจะค้นหารถของเขา แต่กลับไม่พบ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถคันดังกล่าวในอีกหกเดือนต่อมา ซึ่งชายหนุ่มบอกว่าเขาต้องเสียค่าจอดรถเป็นเงินถึง 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ 210,000 บาทเลยทีเดียว บางทีอาจจะไม่ได้ขี้ลืมหรอกนะ แต่มันแค่นึกไม่ออกเท่านั้นเอง แฮะๆ…
-
‘Daiheiwa Kinento’ หอคอยขาวโพลนทรงประหลาด ใจกลางเมืองทนดะบะยะชิ ประเทศญี่ปุ่น
ถ้าหากพูดถึงประเทศญี่ปุ่น (อีกแล้ว!! เอาน่าอย่าเพิ่งเบื่อเลยนะ ฮ่าๆ ) หนึ่งในหอคอยขึ้นชื่อที่หลายๆ คนนึกถึงคงหนีไม่พ้นโตเกียวทาวเวอร์แน่นอน แต่นอกจากหอคอยอันขึ้นชื่อประจำกรุงโตเกียวแล้ว ที่นี่ยังมีหอคอยสุดแปลกที่ชื่อว่า Daiheiwa Kinento จากจังหวัดโอซาก้าอีกด้วยนะเออ!! เจ้าหอคอยสีขาวรูปร่างแปลกๆ นี้ตั้งอยู่ในเมืองทนดะบะยะชิ ในจังหวัดโอซาก้า มันดูเหมือนกับหอคอยจากโลกเทพนิยายและอาจทำให้หลายๆ คนคิดถึงหอคอยจากเกมชื่อดังอย่าง Final Fantasy เลยทีเดียว Daiheiwa Kinento หอคอยสีขาวที่สูงถึง 180 เมตรนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟของเมือง ซึ่งคุณสามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยการนั้งรถไฟสาย Kintetsu Nagano และนั่งรถบัสต่อมาที่หอคอยแห่งนี้ ถึงแม้ว่ารูปร่างของมันนั้นจะดูเหมือนหอคอยในการ์ตูน แต่ทว่าอันที่จริงแล้วตัวมันเองนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับอนิเมะ หรือเกมใดๆ เลย ซึ่งประติมากรรมที่ว่านี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1970 โดย Perfect Liberty ลัทธิหนึ่งในญี่ปุ่น ซึ่งชื่อของมันนั้นหมายถึง “หอคอยเพื่อเสรีภาพอันยิ่งใหญ่” Daiheiwa Kinento อาคารสูงเกือบ 200 เมตร ที่ตั้งอยู่กลางเมืองทนดะบะยะชิ หอคอยสูงแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ระลึกและสวดมนต์ให้กับดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในช่วงสงครามทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็นชาติหรือศาสนาใดก็ตาม บรรยากาศภายในอาคารหลังนี้ค่อนข้างผ่อนคลายและยินดีต้อนรับผู้ที่สนใจ โดยคุณสามารถเข้ามาร่วมเรียนรู้หลักการของลัทธินี้และสวดมนต์ได้ทุกวันตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4…
-
พบกับ Rayssa Leal นักสเก็ตสาวน้อยวัย 9 ขวบ ที่มาพร้อมกับชุดนางฟ้าสุดน่ารัก
ประเทศบราซิลอาจจะขึ้นชื่อในเรื่องของฟุตบอล การแต้นแซมบ้า และการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แต่นอกจากสิ่งต่างๆ เหล่านี้แล้วที่นี่เองก็ยังมีนักสเก็ตชื่อดังมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ Rayssa Leal สาวน้อยวัย 9 ขวบผู้นี้นี่เอง!! Rayssa Leal หรือที่ชาวบราซิลตั้งฉายาให้เธอว่า Fadinha Do Skate (นางฟ้านักสเก็ต) สาวน้อยผู้นี้ไม่เพียงแค่เป็นนักสเก็ตรุ่นเยาว์ที่มีฝีมือและกวาดถ้วยรางวัลต่างๆ มามากมาย แต่เธอยังได้รับคำชื่นชมจากนักสเก็ตระดับโลกอย่าง Tony Hawk อีกด้วย “ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย แต่ผมชอบมากๆ นางฟ้าตัวน้อยจากบราซิล” ข้อความจากอินสตาร์แกรมของ Tony พร้อมกับคลิปวิดีโอของสาวน้อย ถึงแม้ว่าจะเป็นนักสเก็ตบอร์ด แต่เธอก็ยังเหมือนกับเด็กสาวทั่วๆ ไปที่ชอบคุณนางฟ้า และชุดนางฟ้าสีฟ้าสดใสนี้ก็เป็นที่มาของฉายา นางฟ้านักสเก็ตของเธอนั่นเอง . เล่นได้คล่องแคล่วไม่แพ้ผู้ใหญ่เลยนะเนี่ย แต่กว่าจะได้มาซึ่งท่าสวยๆ ก็ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักและก็เจ็บตัวมาเยอะเหมือนกันนะ ปัจจุบันเธออายุ 9 ขวบ และตอนนี้สาวน้อยก็กำลังก้าวสู่เส้นทางนักสเก็ตบอร์ดมืออาชีพ เหมือนกับรุ่นพี่ของเธออย่าง Eliana Sosco และ Leticia Bufoni โปรสเก็ตสาวชาวบราซิล . ไปชมวิดีโอสเก็ตของเธอได้ที่ด้านล่างนี้เลย… และสำหรับใครที่อยากสมัครเป็นแฟนคลับสาวร้อยนักสเก็ตผู้นี้ล่ะก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่อินสตราแกรม rayssalealsk8 และเฟซบุ๊ก Rayssa Leal ของเธอได้เลย…
-
นักวิทย์คอนเฟิร์ม การเลี้ยงลูกสุนัขช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคต่างๆ ของลูกท่านได้!?
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงนั้นนอกจากจะเป็นเพื่อนที่แสนดีของพวกเราแล้ว บางครั้งพวกมันยังสามารถช่วยบำบัดโรค อย่างเช่นโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย และเมื่อเร็วๆ นี้ผลการศึกษาที่ถูกนำเสนอที่สถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยว่าการเลี้ยงลูกสุนัขนั้นสามารถช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้และโรคผิวหนังในเด็กได้ “ถึงแม้ว่าโรคผื่นแพ้จะเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้มากในเด็ก แต่หลายๆ คนยังไม่ทราบโรคดังกล่าวนั้นสามารถพัฒนากลายเป็นโรคแพ้อาหาร โรคภูมิแพ้ และถึงขั้นเป็นโรคหอบหืดได้” ดอกเตอร์ Gagandeep Cheema ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหอบหืด หนึ่งในทีมวิจัยกล่าว การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นว่าเด็กที่เติบโตมาพร้อมกับเจ้าตูบนั้น มีความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้และโรคอ้วนต่ำกว่าเด็กทั่วๆ ไป เนื่องจากว่าพวกเขาจะได้รับแบคทีเรียชนิดดีจากการคลุกคลีกับพวกสุนัข นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอื่นๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าสุนัขนั้นสามารถช่วยป้องกันพวกเด็กๆ จากโรคหวัดและอาการติดเชื้อในหูได้ และยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าสุนัขนั้นมีส่วนช่วยในพัฒนาการการมองเห็นของเด็กทารก ซึ่งช่วยให้พวกเขาแยกระหว่างใบหน้าของคนกับสัตว์ได้ จากการวิจัยของดอกเตอร์ Gagandeep Cheema ที่ทำการศึกษาในกลุ่มแม่และเด็กถึง 782 คนที่เลี้ยงสุนัขไว้ในบ้านอย่างน้อย 1 ตัวและอยู่กับพวกมันอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมงระหว่างที่พวกเธอตั้งครรภ์พบว่า เมื่ออายุ 2 ขวบเด็กที่เกิดมานั้นมีความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ลดลง แต่เมื่ออายุ 10 ขวบภูมิคุ้มกันเหล่านั้นกลับลดลง นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้ทำการศึกษาถึงผลกระทบของสุนัขกับโรคหอบหืดในเด็กอีก 180 คน ผลการศึกษาโดยการแบ่งเด็กออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกจะได้รับแบคทีเรียบนสุนัขที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ และกลุ่มที่สองจะได้รับแบคทีเรียบนสุนัขที่ไม่เก่ียวกับโรคภูมิแพ้ ผลปรากฏว่าเด็กกลุ่มแรกมีอาการแย่ลง ส่วนกลุ่มที่สองนั้นกลับมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ทางนักวิจัยยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดของการป้องกันโรคภูมิแพ้ในเด็กจากแบคทีเรียที่มาจากสุนัข และตอนนี้พวกเขากำลังศึกษาถึงกลไกลในการป้องกันโรคดังกล่าวจากแบคทีเรียของสุนัขอยู่…
-
รู้จักกับเจ้า Lucas แมงมุมตัวน้อยที่จะมาทำให้ชีวิตของคุณสดใส และเลิกกลัวแมงมุมไปเลย
สำหรับหลายๆ คน แมงมุมอาจจะเป็นสัตว์ที่น่าขยะแขยงและทำให้คุณขนลุกซู่ได้เลยทีเดียว แต่ถ้าหากว่าคุณรู้จักกับเจ้า Lucas แล้วล่ะก็ โรคกลัวแมงมุมของคุณอาจจะหายไปเลยกก็ได้(บางทีอ่ะนะ)!! Lucas แมงมุมแอนนิเมชั่นฝีมือของยูทูบเบอร์หนุ่มคุณ Joshua Slice เขาได้ทำการอัพเดทคลิปวิดีโอสั้นๆ ของเจ้าแมงมุมตัวนี้ลงบนช่องส่วนตัวของเขา ซึ่งถึงแม้จะเป็นคลิปสั้นๆ แต่ความน่ารักของมันนั้นก็ทำเอาหลายคนถึงกับใจละลายเลยทีเดียว สวัสดีฮะ!! ผม Lucas เอง “นี่คือแอนนิเมชั่นที่ผมลองทำขึ้นมา ผมได้ทำการออกแบบและสร้างมันขึ้นมาเองทั้งหมด” ยูทูบเบอร์หนุ่มเขียนอธิบายไว้ในคลิปวิดีโอของเขา ซึ่งดูจากลักษณะของเจ้า Lucas แล้ว คาดว่ามันน่าจะเป็นแมงมุมทารันทูล่า แมงมุมยักษ์ที่มีขาดตัวตั้งแต่ตั้งแต่ 2.5 เซนติเมตรจนถึง 33 เซนติเมตร และมีน้ำหนักกว่า 160 กรัม มันจัดเป็นแมงมุมที่มีอายุขัยยาวนานกว่าแมงมุมจำพวกอื่นโดยมีอายุยาวนานถึง 15-20 ปีเลยทีเดียว!! ต๊ะเอ๋!! และหลังจากที่ความน่ารักของเจ้าแมงมุมตัวนี้ได้ออกมาสู่สายตาชาวเน็ต หลายๆ คนก็ต่างเข้ามาคอมเม้นต์กันอย่างมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้ามาชื่นชมความน่ารักของเจ้าแมงมุมน้อยตัวนี้นี่เอง และนี่ก็คือความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเน็ต “ฉันอยากให้พิกซาร์เอาเจ้านี่ไปทำหนังจัง เอาไปโผล่ใน Toy Story ก็ได้” “ฉันคิดว่าแมงมุมนั้นน่ารักอยู่แล้วนะ แต่เจ้าตัวนี้มัน่ารักมากๆ จริงๆ…
-
รวม 17 ภาพที่จะยืนยันว่าแมวเป็นสัตว์ที่เข้าใจยาก และไม่ค่อยจะแคร์ใครเท่าไหร่
อันที่จริงแล้ว บางครั้งเหล่าสัตว์เลี้ยงในบ้านของเรานั้นมักชอบเอาแต่ใจอยู่บ่อยๆ แต่ดูเหมือนว่าสัตว์ที่จะขึ้นชื่อเรื่องความเอาแต่ใจ และไม่สนโลกสนใครเลยก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าเหมียวอย่างแน่นอน และภาพที่เรานำมาฝากกันนี้ก็คงจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันได้ว่า เจ้าแมวเนี้ยมันคือสัตว์ที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าเป็นนายซะจริงๆ เล๊ย!! 1. พี่จ้องอะไรอยู่เหรอครับ 2. แหนะ!! ยัง ยังไม่หยุดอีก 3. อ๋อ… ไม่ชอบกินแพนเค้กสินะ 4. แตงกวาดองก็ไม่เอา!! ฮืมมม แล้วพี่ชอบกินอะไรล่ะห๊ะ?? 5. ไปเพื่อน ไปกัน รถมารับแล้ว 6. กำลังพยายามฝึกเล่นกายกรรมอยู่สินะ?? 7. ดูเหมือนว่าเจ้าตัวนี้เองก็ซ้อมกายกรรมกับเค้าเหมือนกันสินะ?? 8. ออกไป!! หือ?? ไล่ใครหรือเจ้าตูบ 9. ลองทำตาแบบผมดูสิฮะ ทำได้หรือเปล่า?? 10. เอาอาหารมา ถ้าไม่อย่างนั้นพวกแกก็ไม่ต้องดูทีวี โถ่… แตงกวาดองกับแพนเค้กก็ไม่กิน แล้วพี่จะเอาอะไรอีกเนี่ย?? 11. อยากเล่นก็อยาก แต่ว่าอยากอยู่ในถุงก็อยาก เอ๊า!!…
-
นักวิทย์ฯ ขี้สงสัย ถ้าหากว่า ‘แมงมุมเสพยา’ มันจะชักใยออกมาเป็นรูปแบบไหนบ้างนะ??
ก่อนหน้านี้หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นการทดลองเกี่ยวกับการใช้ยาเสพติดในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะกันมาบ้างแล้ว และนอกจากยาเสพติดอย่างกัญชา LSD แอมเฟตามีน และโคเคนจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาทของมนุษย์แล้ว มันยังส่งผลต่อพวกสัตว์อีกด้วยเช่นกัน!! ในปี 1948 นาย Peter N. Witt เภสัชกรชาวสวิตเซอร์แลนด์จากมหาวิทยาลัย Tübingen ของประเทศเยอรมนีได้ทำการทดลองผลกระทำจากยาเสพติดกับสัตว์ร่วมกับคุณ Peters ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์โดยใช้แมงมุมเป็นสัตว์ทดลองในครั้งนี้ การทดลองครั้งนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญหลังจากที่คุณ Peters พยายามจะแก้ปัญหาการชักใยของแมงมุมให้นานขึ้น เพราะเขามักจะพลาดการบันทึกภาพระหว่างที่พวกมันชักใย ซึ่งมักจะเกิดขึ้นประมาณตี 2 ถึงตี 5 และหลังจากที่ได้ปรึกษากับคุณ Witt ทั้งสองจึงลองใช้สารเสพติดเพื่อแก้ปัญหานั้น ทั้งสองได้ทำการผสมสารเสพติดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกัญชา ยากล่อมประสาท mescaline มอร์ฟีน สโคโปลามีน และแอมเฟตามีน เข้ากับน้ำตาลก่อนที่จะทำการหยดให้กับพวกแมงมุม 1 หยด แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นกลับไม่ใช่การชักใยที่นานขึ้น แต่กลับเป็นรูปแบบของใยที่แปลกไป!! Peter N. Witt ระหว่างที่กำลังหยดสารสะลายให้กับแมงมุม จากผลการศึกษาที่เขียนไว้ในงานวิจัยเรื่อง Spider Webs and Drugs ที่ตีพิมพ์ในปี 1954 กล่าวว่าการใช้ยาเสพติดที่ต่างชนิดกันนั้นจะทำให้ได้รูปแบบของใยแมงมุมที่แตกต่างกันไป และจากการศึกษาครั้งนี้ทำให้พวกเขาสามารถทดสอบการออกฤทธิ์ของยากับมนุษย์ได้อีกด้วย แมงมุมสายพันธุ์ zilla x-notata เพศเมียที่ถูกนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่กว่าเพศผู้ และชักใยได้มากกว่านั่นเอง และนี่คือผลจากการใช้สารเสพติดชนิดต่างๆ (ภาพเปรียบเทียบระหว่างไม่ได้รับสารกระตุ้นกับรับสารคาเฟอีนเข้าไปแล้ว) โดยการใช้สารคาเฟอีนปริมาณ…
-
ผลงานภาพถ่ายวิวทิวทัศน์ของเด็กหนุ่มวัย 18 และการคุมโทนสีธรรมชาติแบบขั้นเทพ
บางครั้งเรื่องของอายุ อาจจะไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณภาพของผลงานศิลปะ เหมือนกับ Fabio Zingg ช่างภาพหนุ่มวัย 18 ปี จากสวิตเซอร์แลนด์ผู้นี้ที่สร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายธรรมชาติออกมาได้สวยงามและน่าทึ่งมาก หนุ่มน้อยผู้นี้เริ่มสนใจการถ่ายภาพเมื่อตอนที่เขาได้ออกไปเที่ยวกับครอบครัวเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาลองถ่ายเล่นๆ เพื่อแก้เบื่อและก็พบว่าตัวเองเริ่มหลงใหลในการถ่ายภาพแล้ว!! Fabio Zingg ได้เข้าร่วมกลุ่ม The Alpinists กลุ่มช่างภาพอายุน้อยจากประเทศบ้านเกิดของเขา และออกไปเก็บภาพของสถานที่สวยๆ ต่างๆ การถ่ายภาพเป็นเพียงแค่กิจกรรมในวันหยุด เขาออกไปเก็บภาพภูเขาและแม่น้ำสวยๆ พร้อมกับกล้องตัวโปรด ส่วนวันธรรมดาเขาทำงานเป็นเด็กฝึกงานในธนาคาร ผลงานบางส่วนของช่างภาพวัย 18 ปีผู้นี้ . “มันเหมือนกับการผจญภัย และผมก็ประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติ” Zingg กล่าว ภาพถ่ายของเขาไม่ได้มีเพียงแค่ธรรมชาติในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นแต่เด็กหนุ่มยังได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประเทศอิตาลี แคนาดา และนอร์เวย์อีกด้วย โทนสีในภาพของหนุ่มน้อยผู้นี้ดูให้อารมรณ์ที่แตกต่างจากภาพธรรมชาติทั่วๆ ไป ภาพทะเลสาบ Derborence ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ . . Preikestolen หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศนอร์เวย์ ฟยอร์ดหรือ ชายฝั่งทะเลที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่งมีลักษณะแคบและยาว เมือง Odda ประเทศนอร์เวย์ …
-
แผนโปรโมทการท่องเที่ยว ด้วยภาพถ่ายหมู่เกาะแฟโรแบบ 360 องศา โดยฝีมือพี่แกะเจ้าถิ่น
ภาพถ่าย Google Street View ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้เราได้เห็นภาพของภูมิประเทศต่างๆ ได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือแล้ว มันยังช่วยให้เราเห็นสถาพเส้นทางคราวๆ ก่อนการเดินทางได้อีกด้วย และในการเก็บภาพ Google Street View นั้นทาง Google เองก็ได้เลือกใช้วิธีในการเก็บข้อมูลหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นรถถ่ายภาพ คน แต่บางครั้งการถ่ายภาพแบบนั้นพวกสัตว์อย่างเจ้าแกะเองก็ทำได้เหมือนกันนะ!! ล่าสุดทางการท่องเที่ยวของหมู่เกาะแฟโรเองก็ได้เลือกใช้ภาพ Street View นี้ในการช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวของเกาะ โดยได้รับความช่วยเหลือจากเหล่าเจ้าแกะที่อาศัยอยู่บนเกาะ พวกเขาได้เลือกติดกล้องถ่ายภาพแบบ 360 องศาและแผงโซล่าเซลล์ไว้บนหลังแกะ ซึ่งภาพได้เผยให้เห็นถึงความสวยงามของหมู่เกาะนี้แทบจะทุกมุมเลยทีเดียว พวกแกะในหมู่เกาะแห่งนี้ค่อนข้างที่จะเป็นมิตรมาก เนื่องจากพวกมันไม่ต้องคอยกังวลเกี่ยวกับเหล่านักล่า ดังนั้นคุณสามารถเข้าไปใกล้ๆ พวกมันได้ง่ายๆ และพวกแกะเองก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของหมู่เกาะแห่งนี้ ภาพ Google Street View ฝีมือเหล่าพี่แกะ ภาพถ่ายแบบมุมมอง 360 องศาโดยเหล่าพี่แกะนี้ใช้ชื่อว่า Sheep View โดยพวกเขาเริ่มต้นโปรเจกต์ดังกล่าวเมื่อประมาณปีที่ 2016 ผ่านมา และได้ทำการอัพเดทลงบนเว็บไซต์ visitfaroeislands ของพวกเขา ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ดูเหมือนว่าการโปรโมทด้วยวิธีดังกล่าวนี้จะประสบผลสำเร็จ หลังจากที่ตัวเลขของนักท่องเที่ยวในหมู่เกาะนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 10 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว …
-
หลักสูตรเกมและสื่ออินเทอร์แอคทีฟ ม.กรุงเทพ พร้อมปั้นคนพันธุ์เกมให้เก่งครบรอบด้าน!!
สนับสนุนบทความโดย: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ใครที่เคยมองว่าเกมอิเล็กทรอนิกส์เป็นเรื่องไร้สาระ เห็นทีจะต้องปรับทัศนคติกันใหม่แล้ว เพราะปัจจุบันเกมไม่ได้มีไว้เล่นเพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียว แต่ได้กลายเป็นธุรกิจที่มีส่วนแบ่งในตลาดเมืองไทยอย่างมหาศาล ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าตลาดที่สูงเกือบ 10,000 ล้านบาทและเติบโตอย่างต่อเนื่อง 15-20 เปอร์เซ็นต์ในแต่ละปีเป็นเครื่องการันตีได้อย่างดี คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เล็งเห็นตลาดที่ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ นี้ จึงเปิดหลักสูตรเกมและสื่ออินเทอร์แอคทีฟขึ้น เพื่อปั้นคนพันธุ์เกมป้อนตลาดที่ยังมีตำแหน่งงานให้ช็อปอย่างเหลือเฟือ โดยมุ่งเน้นการเรียนการสอนที่พร้อมปั้นคนพันธุ์เกมให้เก่งรอบด้านครบเครื่องในคนเดียว พูดได้เลยว่าเมื่อเรียนจบไปแล้วจะไปทำตำแหน่งอะไรก็ได้ในอุตสาหกรรมเกมและสื่ออินเทอร์แอคทีฟ โดยไม่จำเพาะเจาะจงแค่อาชีพใดอาชีพหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้แล้วองค์ประกอบสำคัญที่มาเสริมให้เด็กเก่งกาจ เห็นจะหนีไม่พ้นเครื่องไม้เครื่องมือสุดทันสมัย เช่น แล็บดิจิทัลมีเดียที่เยี่ยมยอดที่สุดในอาเซียน แล็บดังกล่าวมาพร้อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับเวิลด์คลาส สมรรถนะเร็ว แรง ไม่สะดุด และสร้างสรรค์ภาพได้ละเอียดสมจริงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป อุปกรณ์เหล่านี้ประสานกับฝีไม้ลายมือในการสอนของคณาจารย์ผู้มีดีกรีดอกเตอร์สาขาโดยตรงหลายท่าน แถมยังมีพันธมิตรมาร่วมร่างหลักสูตรและเตรียมส่งวิทยากรผู้ทำงานในอุตสาหกรรมจริงมาช่วยฝึกฝีมือและแบ่งปันประสบการณ์ให้นักศึกษา อาทิ Full Sail University มหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกมและดีไซน์จากสหรัฐอเมริกา บริษัทการีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทเกมชั้นแนวหน้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่มีคอเกมคนไหนไม่รู้จัก ฯลฯ ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ทำให้หลักสูตรเกมและสื่ออินเทอร์แอคทีฟของคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เตรียมขึ้นแท่น “ตัวจริงนักปั้นคนพันธุ์เกม” ของเมืองไทย ดร.พัฒนพล…
-
งานวิจัยเผย ‘ลูกคนชายที่สอง’ มีแนวโน้มที่จะไปข้องเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมมากกว่าคนแรก
นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับใครที่เป็นลูกคนโต เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเปิดเผยผลการศึกษาครั้งใหม่ที่เผยว่า ลูกชายคนที่สองนั้นมีแนวโน้มที่จะไปข้องเกี่ยวกับคดีอาชญากรรมมากกว่าคนแรก จากผลการศึกษาของ Joseph Doyle นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย MIT ที่ทำการศึกษาในคู่พี่น้องชาวเดนมาร์กและในรัฐฟลอริดากว่า 1,000 คู่ จากการสุ่มตัวอย่างของพี่น้องทั้งสองแห่งนั้น พบผลการศึกษาที่เหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นก็คือการเกิดก่อนและหลังนั้นมีผลต่อการยุ่งเกี่ยวกับอาชญากรรม ในผลการศึกษาได้เขียนเอาไว้ว่า ถึงแม้ทั้งสองพื้นที่จะมีความแตกต่างกันในด้านสภาพแวดล้อม แต่ทว่าพวกเขาพบสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากนั่นก็คือในครอบครัวที่มีลูก 2 คนหรือมากกว่านั้น พบว่ามีลูกชายคนที่ มีการถูกลงโทษทางวินัยที่โรงเรียนมากกว่าลูกชายคนแรก 20 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ โดยการศึกษาก่อนหน้านี้ก็ได้เปิดเผยว่าลูกที่เกิดคนแรกนั้นมีโอกาสที่จะมีพัฒนาการทางด้าน IQ สูงกว่า และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าด้วย “จากการสำรวจพบว่าการการสนับสนุนเงินในการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ที่แตกต่างกัน เป็นปัญหาที่เราพบว่าทำให้เด็กที่เติบโตมานั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งข้อแตกต่างของการเลี้ยงดูนี้เราสามารถเห็นได้ในกลุ่มชนชั้นแรงงาน” Doyle ให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ตามนี่อาจจะเป็นเพียงผลจากการสำรวจ ที่จะช่วยอธิบายบางสิ่งบางอย่างที่เราเห็นเท่านั้น แต่การดำเนินชีวิต และการเลือกทางเดินของตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่เรากำหนดได้เอง และไม่ว่าคุณจะเป็นลูกคนแรกหรือคนที่สองก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้ทั้งนั้น ที่มา ladbible
-
คนขับรถบัสกลายเป็นฮีโร่ หลังจอดขวางทางหลบหนีของคนร้ายที่กำลังถูกตำรวจตามล่า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากที่คนขับรถบัสได้ตัดสินใจเลี้ยวรถกระทันหันเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการสกัดจับคนร้ายที่กำลังพยายามหลบหนี ในเมือง Sidcup ทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รถบัส 2 ชั้นสาย 132 ไปยัง North Greenwich ได้เลี้ยวกระทันหัน และจอดขวางทางการจราจร และทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ ภาพของรถบัสคันดังกล่าวที่ช่วยเจ้าหน้าที่ในการสกัดจับคนร้าย คุณ Tracey Emmerton หนึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเล่าว่า “รถบรรทุกคันดังกล่าววิ่งอยู่บนถนนทั้งสองเลน ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงถูกตำรวจไล่จับ รถบัสที่ขับนำหน้าได้จอดกระทันหันและจากนั้นมันก็จอดขวางทางเอาไว้ ตอนที่ผมขับรถผ่านดูเหมือนว่าจะมีคนได้รับบาดเจ็บด้วยนะ “ ส่วนทางด้านโฆษกของทางสถานีตำรวจก็ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติดตามรถของผู้ต้องสงสัย หลังจากที่เขาได้พยายามหนีจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่เมื่อเวลาประมาณ 12:30 ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา “ระหว่างการติดตามรถต้องสงสัยคันดังกล่าว ผู้ต้องหาได้ขับชนรถที่จอดอยู่หลายคน และหลังจากการสกัดจับ เราได้ควบคุมตัวชายผู้ต้องหาคนหนึ่งได้ใกล้ๆ กับถนน Blackfen Road” โฆษกจากสถานีตำรวจกล่าว และแน่นอนว่าวีรกรรมของคนขับรถบัสท่านนี้ก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ ซึ่งก็มีทั้งความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา และบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยเช่นกัน และนี่ก็คือความคิดเห็นบางส่วนของชาวเน็ตต่อเหตุการณ์นี้ “ฉันไม่มีวันนั่งรถบัสคันนี้แน่ๆ “ หรือบางคนก็บอกว่าการกระทำแบบนี้อาจจะดูกล้าหาญนะถ้าหากว่ารถบัสคันนั้นไม่มีคน แต่ถ้ามีผู้โดยสารอยู่เต็มรถล่ะก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ ส่วนหญิงสาวท่านนี้ก็ได้แสดงความเห็นว่า “บริษัทอาจจะไล่เขาออกก็ได้นะสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น”…
-
พาไปชมหนังสั้นเรื่องราวของร้านขนมในฝรั่งเศส ที่ถ่ายทำโดย iPhone X ทั้งเรื่อง
สำหรับเหล่าสาวก iPhone ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าตอนนี้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง iPhone X นั้นได้ออกว่างจำหน่ายในบางประเทศแล้ว ซึ่งเหล่าแฟนคลับในบ้านเราก็ยังคงต้องร้องเพลงรอกันต่อไป แต่ไม่ต้องเสียใจไปเพราะระหว่างรอการเป็นเจ้าของโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ เราก็มีภาพสวยๆ จากหนังสั้นที่ถ่ายทำด้วย iPhone รุ่นใหม่นี้ทั้งเรื่องมาฝากกัน ส่วนจะน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหนไปชมกันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย (เพื่อความสวยงามแบบจัดเต็ม แนะนำให้ดูแบบ 4k ไปเลยจ้า) อ่า… คงจะถูกอกถูกใจสาวกแอปเปิลเลยใช่ไหมล่ะ โดยคลิปวิดีโอ 3 นาทีนี้ได้ใช้กล้องจากโทรศัพท์รุ่นใหม่ของทางแอปเปิลในการถ่ายทำทั้งหมด โดยผลงานภายใต้ชื่อ Made in Paris นี้ถูกสร้างสรรค์โดยคุณ Ryan Earl และคุณ Nick Arcivos ช่างภาพและผู้อำนวยการสร้างจาก AmnesiArt หนังสั้นเรื่องนี้ได้ถ่ายทำในร้านเค้กชื่อดังของฝรั่งเศส โดยเชฟสาว Elise Lepinteur ได้แสดงการทำขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสให้ได้ชมกันแบบเต็มๆ แถมยังเผยให้เห็นถึงขั้นตอนการเลือกใช้วัตถุดิบไปจนถึงการแต่งหน้าเค้ก เรียกได้ว่าดูแล้วรู้สึกหิวขึ้นมาทันทีเลย โดยหนังสั้นเรื่องนี้ใช้เวลาในการถ่ายทำทั้งสิ้น 4 วัน ซึ่งนอกจากใช้กล้อง iPhone X ในการถ่ายทำแล้วพวกเขายังได้ใช้อุปกรณ์ในการช่วยถ่ายทำอย่าง monopods และ gimbals ช่วยในการถ่ายทำอีกด้วย ภาพเบื้องหลังการถ่ายทำหนังสั้นชุดนี้ “เราใช้เวลาในการถ่ายทำและตัดต่อรวมทั้งสิ้น 4 วันด้วยกัน นอกจากนี้เรายังใช้อุปกรณ์ช่วยต่างๆ อีกด้วย และในภาพแบบมาโครนั้นเราก็ได้ใช้ iPro Lenses…
-
อินจัด!! สาวน้อยพยายามใช้พลังจิตยกรถของพี่สาว เลียนแบบซีรีส์ Stranger Things
หนึ่งในซีรีส์เรื่องดังที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้ก็คงจะหนีไม่พ้น Stranger Things ซีรีส์แนววิทยาศาสตร์-สยองขวัญที่กำลังออกอากาศทางเน็ตฟลิกซ์อยู่ในขณะนี้ และดูเหมือนว่าแก๊งเด็กๆ เหล่านี้จะได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของสาวน้อยคนหนึ่งที่กำลังพยายามใช้พลังจิตขยับรถที่จอดอยู่เลียนแบบหนูน้อย Eleven ไปชมความฮาแบบเต็มๆ ของเธอได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… คลิปวิดีโอของสาวน้อยนิรนามผู้นี้ถูกบันทึกโดยคุณ Payton Wyse จากรัฐอินดีแอนาพี่สาวของเธอ หลังจากที่เธอกำลังนั่งอยู่ในรถ น้องสาวของเธอได้พยายามที่จะใช้พลังจิตเพื่อเคลื่อนรถ ดังที่เราเห็นในคลิปวิดีโอ “เธอคิดว่าเธอกำลังจะยกรถขึ้นหรือนี่ ฮ่าๆ ” หญิงสาวเจ้าของคลิปวิดีโอกล่าว ก่อนที่จะเริ่มถ่ายคลิปวิดีโอของน้องสาวเธอ Patyon ได้อัพโหลดคลิปวิดีโอดังกล่าวลงบนทวิตเตอร์พร้อมข้อความที่ว่า “ฉันมารับน้องสาวของฉัน และตอนนี้เธอกำลังพยายามที่จะยกรถเหมือนกับ Eleven” ย๊ากกก!! และหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความนิยมอย่างมากมีการรีทวีตมากถึง 81,000 ครั้ง และคนถูกใจอีกมากถึง 181,000 ครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีอีกคลิปวิดีโอหลังจากที่น้องสาวของเธอเดินกลับมาที่รถ และคุณ Payton ก็พูดกับเธอว่า “เธอทำฉันรู้สึกกลัวเลยนะเนี่ย” ก่อนที่เธอจะพาน้องสาวขึ้นมาบนรถ Payton ได้ใส่แคปชั่นในคลิปวิดีโอที่สองว่า “นี่คือคลิปวิดีโอหลังจากที่เธอรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีพลังจิต” หนูน้อย Eleven จาก Stranger Things และนี่คือฉากการใช้พลังจิตยกรถตู้ของเธอ อืม… แบบนี้สินะที่เค้าเรียกว่าอินจัด ฮ่าๆ…
-
จากหญิงสาวผู้อพยพ สู่การเป็นผู้แทนหญิงเอเชีย-อเมริกันคนแรกของสภารัฐเวอร์จิเนีย
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องของหญิงสาวไร้บ้านชาวเอเชียที่ผลักดันตัวเองจนกลายมาเป็นสมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์ที่อายุน้อยที่สุด (อ่านข่าวเก่า หญิงสาวชาวเอเชียผันตัวเองจาก “คนไร้บ้าน” สู่ “สมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์” ที่อายุน้อยที่สุด) ล่าสุดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ก็ได้เกิดขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย หลังจากที่ Kathy Tran ผู้สมัครหญิงชาวเวียดนามจากพรรคเดโมแครตสามารถคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งของเธอได้เมื่อวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา Kathy กลายเป็นหนึ่งในผู้แทนหญิงชาวเอเชีย ที่ได้รับเลือกตั้งให้เขาไปในสภาของรัฐเวอร์จิเนียคนล่าสุด หลังจากได้รับคะแนนโหวตมากถึง 61 เปอร์เซ็นต์ Kathy นั้นเป็นหนึ่งในผู้อพยพชาวเวียดนามที่เข้ามาในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เด็กๆ ประสบการณ์ความรู้สึกของผู้ลี้ภัยและความรุนแรงต่างๆ ที่เธอได้เจอนั้นเป็นสิ่งที่ผลักดันให้เธอเลือกที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งครั้งนี้ “ฉันเข้ามาในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงยุค 80 ตอนนั้นฉันอายุได้แค่ 2 ขวบเท่านั้น ครอบครัวของเราได้รับการช่วยเหลือจากคณะกรรมการช่วยเหลือนานาชาติ (International Rescue Committee)” ผู้แทนสาวเชื้อสายเอเชีย-อเมริกัน ของสภารัฐเวอร์จิเนียกล่าว ก่อนหน้านี้ Kathy เคยผ่านประสบการณ์การทำงานในกระทรวงแรงงานของสหรัฐนานถึง 12 ปี และเธอเองก็มีส่วนในการช่วยกำหนดนโยบายต่างๆ เกี่ยวกับผู้ลี้ภัย ซึ่งนโยบายในการหาเสียงของเธอครั้งนี้คือการมอบโอกาสและช่วยเหลือผู้ลี้ภัยให้มีชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง ส่วนทางด้านนาง Charniele Herring หนึ่งในสมาชิกของพรรคเดโมแครตเองก็ได้ออกมาชื่นชม Kathy ว่าประสบการการณ์ทำงานในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยของเธอนั้นจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเธอเหมาะกับตำแหน่งนี้จริงๆ “การเป็นลูกสาวของผู้ลี้ภัยชาวเวียดนาม และประวัติการทำงานของเธอนั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ความฝันของพวกเราเป็นจริง” Herring…
-
นักสำรวจรัสเซีย ค้นพบซากลูกสิงโตสภาพสมบูรณ์ที่สุด อายุกว่า 50,000 ปี ในไซบีเรีย
ถือเป็นอีกหนึ่งการค้นพบที่น่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่ามีการค้นซากลูกสิงโตโบราณอายุกว่า 50,000 ปี ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ในพื้นที่แถบไซบีเรีย จากรายานระบุว่าลูกสิงโตดังกล่าวนั้นมีอายุประมาณ 6 ถึง 8 สัปดาห์ และตอนนี้มันถูกเก็บรักษาไว้ที่เมือง Yakutsk เมืองหวงของรัฐซาฮา ประเทศรัสเซีย และทางนักวิทยาศาสตร์มีแผนที่จะเตรียมคืนชีพให้เจ้าสัตว์โบราณนี้ต่อไป เจ้าสิงโตถ้ำที่พบครั้งนี้เป็นหนึ่งในสัตว์ตระกูลแมวที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของโลก โดยสามารถพบได้ทั่วไปในพื้นที่เขตหนาว แถบซีกโลกเหนือ “มันเป็นซากลูกสิงโตที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เราเคยพบมาเลย อุ้งเท้าทั้ง 4 ของมันยังอยู่ครบ และผิวหนังของมันก็ยังคงสมบูรณ์มากๆ พวกเราวิเคราะห์อายุของมันจากลักษณะฟันที่พบ และการค้นพบนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อการศึกษาอย่างมาก” ดอกเตอร์ Protopopov ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์กล่าว สภาพส่วนหัว และอุ้งเท้าของเจ้าสิงโตอายุกว่า 50,000 ปีที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ซากลูกสิงโตโบราณนี้ถูกค้นพบบริเวณริมแม่น้ำ Tirekhtykh River ในเมือง Yakutia หลังจากที่ระดับน้ำในแม่น้ำลดลง เมื่อประมาณเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขนาดของซากลูกสิงโตครั้งนี้มีความยาวมากถึง 46 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัมด้วยกัน ก่อนหน้านี้ในปี 2015 ได้มีการค้นพบซากลูกสิงโตในลักษะณ์ถึง 2 ตัวด้วยกัน พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Uyan และ Dina…
-
รู้จัก “หนอนตัวแบนนิวกินี” สายพันธุ์รุกราน มันคือตัวอะไรกันแน่? และเราจะรับมือได้อย่างไร!?
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลายๆ คนอาจจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเจ้าหนอนตัวแบนนิวกินี สัตว์ต่างถิ่นที่ติดอันดับ 1 ใน 100 สายพันธุ์รุกรานที่อันตรายของโลกในบ้านเราตามสื่อต่างๆ เจ้าหนอนตัวแบนชนิดนี้ถือได้ว่ามีอันตรายต่อระบบนิเวศอย่างมาก เพราะอาหารหลักของพวกมันนั้นก็คือหอยทากและสัตว์หน้าดินต่างๆ อย่าง ไส้เดือน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและความอุดมสมบูรณ์ของดินนั่นเอง และเพื่อเป็นการทำความรู้จักกับเจ้าหนอนชนิดนี้ให้มากขึ้น วันนี้เราก็มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเจ้าสตว์ต่างถิ่นชนิดนี้มาฝากกัน… หนอนตัวแบนนิวกินีคืออะไร?? เจ้าหนอนตัวแบนนิวกินีนี้จัดอยู่ในกลุ่มของพวกหนอนตัวแบน ที่มีขนาดความยาวประมาณ 4 ถึง 6 เซนติเมตร ลำตัวมีสีน้ำตาลเข้มมีลักษณะแบน ความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตร ส่วนหัวและหางมีลักษณะเรียวแหลม และมีดวงตา 2 ข้างอยู่ที่บริเวณหัว เจ้าหนอนสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดมาจากหมู่เกาะนิวกินี ประเทศอินโดนีเซีย ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1962 โดยปรกติแล้วเจ้าหนอนชนิดนี้จะชอบอาศัยอยู่ในเขตร้อนและมีการแพร่ระบาดออกมาตามเกาะต่างๆ ของหมู่เกาะอินโด สิงคโปร์ และมาเลเซีย แล้วเจ้าหนอนพวกนี้อันตรายแค่ไหนกันนะ?? อย่างที่บอกไปแล้วว่าอาหารหลักของเจ้าหนอนพวกนี้ก็คือหอยทากและสัตว์หน้าดินอื่นๆ อย่างเช่นไส้เดือนนั่นเอง ซึ่งสัตว์เหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของดิน แต่นอกจากความอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว เจ้าหนอนพวกนี้ยังเป็นพาหะแพร่เชื้อพยาธิปอดหนู และพยาธิหอยโข่ง ซึ่งอาจจะติดต่อมายังมนุษย์ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการติดพยาธิเหล่านี้ในมนุษย์นั้นพบได้น้อยมาก แต่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการล้างผักให้สะอาด และไม่รับประทานผักสดที่อาจจะมีไข่ของพยาธิติดอยู่ก็ได้ การแพร่ระบาด ตามการรายงานของ สํานักข่าวไทย TNAMCOT ได้เปิดเผยว่าขณะนี้เจ้าหนอนตัวแบนเหล่านี้ได้แพร่ระบาดอยู่ใน 11…
-
ภาพถ่ายแฝดคนละฝา น้องกระต่ายกับน้องเหมียว ที่ใส่ชุดเดียวกันออกมาถ่ายแบบ!!
เชื่อหรือไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณออกไปนอกบ้าน คุณอาจจะต้องเจอคนที่หน้าตาคล้ายกับคุณทั้งๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นญาติกับคุณเล๊ย!! หรือบางครั้งเค้าผู้นั้นก็อาจจะดันแต่งตัวเหมือนกับคุณอีก และไม่ใช่แค่คนเราเท่านั้นที่จะบังเอิญมีลักษณะคล้ายกันได้ พวกสัตว์เองก็สามารถเป็นแบบนั้นได้เช่นกัน เหมือนกับภาพถ่ายแฝดคนละฝาของคุณ Mark Taylor ที่จะทำให้คุณต้องทึ่งในความเหมือนของเจ้าเหมียวและเจ้ากระต่ายน้อยเหล่านี้ เจ้าเหมียวและเจ้ากระต่ายในชุดทักซิโด้ ส่วนคู่นี้ก็มาในชุดลายสีส้มสุดน่ารัก ถึงไม่ใช่พี่น้องกัน แต่พวกเราก็เหมือนกันมากเลยใช่ไหมล่ะ?? งือ… อยากได้คู่นี้กลับบ้านจังเลยย คู่นี้ก็น่ารัก นี่เจ้าเหมียว แกแอบเอาชุดของฉันมาใส่ใช่ไหม?? โถ่ๆ ไม่ต้องมาทำตาโตเลยนะพวกแกน่ะ!! . แต่บางตัวแค่สีเหมือนกันยังไม่พอนะ ยังหน้าคล้ายกันอีก!! เหมือนคู่นี้ ส่วนบางคู่ก็เริ่มอิน จนกลายเป็นเพื่อนซี้กันเลยทีเดียว!! ฮ่าๆ จะหนีไปไหนเจ้ากระต่าย!! มาให้จับซะดีๆ นะ แหม่… เหมือนกันขนาดนี้ ชักน่าสงสัยแล้วสิเนี่ยว่าแมวกับกระต่ายเป็นสัตว์สายพันธุ์เดียวกันรึเปล่านะ!? ฮ่าๆ และสำหรับใครที่อยากชมผลงานอื่นๆ ของศิลปินท่านนี้ ก็สามารถเข้าไปชมเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ warrenphotographic และอินสตราแกรม warren_photographic ของเค้ากันได้เลย… ที่มา sobadsogood
-
9 วิธีดีๆ ในการควบคุมความโกรธ จากผู้เชี่ยวชาญ ที่คุณก็สามารถฝึกได้เองที่บ้าน
ความโกรธหรืออารมณ์ขี้หงุดหงิดนั้นถือเป็นหนึ่งในนิสัยที่ดูไม่ค่อยจะน่ารัก และมันก็มักจะเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คนไม่ว่าคุณจะเป็นคนหัวล้านหรือไม่ แต่แน่นอนว่าคงไม่มีใครที่อยากจะอยู่กับคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวตลอดเวลาหรอกใช่ไหม?? และสำหรับบางคนที่อาจจะรู้ตัวว่าเป็นคนที่ขี้โมโหล่ะก็ วันนี้เราก็มีเทคนิคการจัดการอารมณ์โกรธดีๆ จากผู้เชี่ยวชาญมาฝากกัน… 1. อย่าทำลายข้าวของ บางครั้งการลงมือทำลายข้าวของเวลาที่คุณโกรธนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี และการกระทำดังกล่าวก็ไม่ได้ช่วยให้ความโมโหของคุณลดลงไปด้วย แถมยังอาจจะทำให้ความโกรธของคุณเพิ่มมากขึ้นด้วย 2. พยายามหายใจเข้าลึกๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณโกรธ อาจจะทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกเครียดได้ ดอกเตอร์ Robert Nicholson ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัวจากมหาวิทยาลัย Saint Louis University ได้แนะนำว่าการหายใจลึกๆ นั้นช่วยคลายความเครียดได้ 3. หาสาเหตุความโกรธของคุณให้พบ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกโกรธ ลองทำใจสบายๆ และลองมองหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้น และพยายามหลีกเลี่ยง แทนที่จะเอาแต่นั่งบ่นและรู้สึกรำคาญ แต่ถ้าหากทำไม่ได้ก็ให้คุณปล่อยวางและอย่าไปคาดหวังกับสิ่งๆ นั้นเลย 4. อย่าอารมณ์เสีย!! นักจิตวิทยาจาก Southern California ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับมือกับอาการหงุดหงิด โดยการลองนึกภาพของตัวเองเวลาที่คุณรู้สึกแบบนั้นและสิ่งที่คุณกำลังจะตอบสนองมันออกไป การฝึกบ่อยๆ จะสามารถช่วยให้คุณควบคุมอารมณ์โกรธได้ และรู้ว่าควรทำอย่างไรเมื่อโกรธ 5. ลองออกไปสูดอากาศด้านนอกดูสิ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าอารมณ์โกรธกำลังจะปะทุขึ้นมาล่ะก็ ลองเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกซัก 5 นาที หรือทำอะไรก็ได้ที่ช่วยให้คุณผ่อนคลาย 6.…
-
ช่างภาพสร้างสรรค์ชุดภาพถ่าย ‘การเต้นรำ’ ในพื้นที่สาธารณะ ดูแล้วงดงามเหลือเกิน
สำหรับใครหลายๆ คน การเต้นนั้นอาจจะเป็นมากกว่าการได้ขยับร่างกายไปตามจังหวะของเสียงเพลง เพราะมันยังช่วยให้คุณได้ปลดปล่อยความคิดไปตามจังหวะของเพลงและท่าเต้นต่างๆ ด้วย คุณ Melika Dez ศิลปินและนักออกแบบท่าเต้น ได้สร้างสรรค์ผลงานภาพนิ่งที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงอิสรภาพที่สื่อออกมาจากการเต้นตามท้องถนนในเมืองใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปารีส นิวยอร์ก มอนทรีออล และโรม ภาพของการเต้นแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นบัลเลต์ โพลแด๊นซ์ หรือการเต้นสตรีทแด๊นซ์ ถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นถึงความมีอิสระในเมืองหลวง ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในงานถ่ายภาพครั้งนี้ . ท่าทางของเหล่านักเต้น และรูปทรงของอาคารต่างๆ ที่เป็นฉากหลัง ช่างสวยงามและดูกลมกลืนกันอย่างมาก . ภาพถ่ายเหล่านี้เปรียบเหมือนกับการมีอิสระภาพท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองหลวง . การจัดท่าทางของเหล่านักเต้น และการจัดวางองค์ประกอบของภาพที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม . . การเต้นนั้นถือได้ว่าเป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง การได้ทำงานศิลปะนั้นก็ช่วยให้เราได้ปลดปล่อยความคิดต่างๆ และมีส่วนช่วยในการผ่อนคลายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนใครที่อยากชมภาพถ่ายของศิลปินท่านนี้เพิ่มเติมล่ะก็ สามารถเข้าไปชมได้ที่เว็บไซต์ melikadez และเฟซบุ๊ก Melika Dez Photography ของเขากันได้เลย ที่มา demilked
-
ภรรยาของชายผู้บริจาคอวัยวะได้สัมผัสใบหน้าของอดีตคนรัก ที่กลายเป็นใบหน้าคนอื่นอีกครั้ง
การให้หรือการมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับผู้อื่นนั้น บางครั้งอาจจะไม่เกิดผลที่เราสามารถเห็นได้อย่างทันที แต่มันอาจเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อย่างคาดไม่ถึง เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนนี้ ก่อนหน้านี้เราได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องของคุณ Andy Sandness ชายหนุ่มที่เข้ารับการบริจาคใบหน้าจากครอบครัวของคุณ Lilly Ross เมื่อปี 2016 หลังจากผ่านไปหนึ่งปีกว่า คุณ Lilly ก็ได้มีโอกาสได้สัมผัสผิวหน้าของสามีที่เธอคุ้นเคยเธออีกครั้ง และถึงแม้ว่าในครั้งนี้จะไม่เหมือนกับการได้พบกับสามีของเธอเหมือนทุกๆ ครั้ง แต่มันก็ทำให้เธอมีความสุขได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งสองพบกันเมื่อประมาณเดือนตุลาคม หลังจากได้รับคำเชิญจาก Mayo Clinic ณ ห้องสมุดของคลินิกดังกล่าว ในรัฐมินนิโซตา หญิงสาวได้เริ่มพูดคุยกับชายผู้รับบริจาคใบหน้าของสามีเธอ ก่อนที่จะเริ่มสัมผัสไปที่ผิวของของเขา การทำศัลยกรรมดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่คุณ Sandness ต้องเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายเนื้อเยื่อที่ใบหน้า หลังจากที่เขาเคยคิดสั้นโดยการใช้ปืนจ่อยิงที่ใต้คางของตัวเอง จนทำให้สูญเสียจมูก แก้ม ปาก ริมฝีปาก ขากรรไกร และฟัน การตัดสินใจบริจาคอวัยวะครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เขาได้ฆ่าตัวตายในขณะที่คุณ Lilly ตั้งท้องลูกชายของเธอได้เพียงแค่ 8 เดือน แน่นอนว่าการตัดสินใจที่จะมาพบผู้รับบริจาคใบหน้าของอตีดสามีเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และถึงแม้จะมีความกลัวอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจมาพบกับชายผู้รับบริจาคใบหน้าของสามีเธอก็คือ Lilly ต้องการให้ลูกชายตัวน้อยของเธอได้รับรู้ถึงสิ่งที่พ่อของเขาทำ ความกลัวของเธอก็หายไปทันทีหลังจากที่ได้พบกับชายหนุ่มคนดังกล่าว เพราะหลังจากการศัลยกรรมแล้วใบหน้าของชายหนุ่มคนนี้ไม่มีส่วนใดที่คล้ายกับสามีของเธอเลย หลังจากที่เธอได้พบกับชายหนุ่มที่ได้รับบริจาคใบหน้าไป หญิงสาวผู้ใจบุญก็รู้สึกตื้นตันใจและรู้สึกว่าเธอได้ช่วยเหลือคนคนหนึ่งให้สามารถมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ต่อไป “มันทำให้ฉันภูมิใจมาก สามีของฉันน่าจะได้เห็นใบหน้าของเขาในตอนนี้ เขาต้องไม่เคยเห็นตัวเองแบบนี้มาก่อนแน่ๆ “ Lilly กล่าว …
-
เหมือนกันอย่างกับแกะ!! ภาพของดาราคนดัง “รุ่นพ่อ-รุ่นลูก” ในช่วงอายุเดียวกัน
การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนั้นเป็นหนึ่งในสักษณะพิเศษของสิ่งมีชีวิต และมนุษย์เราเองก็มีลักษณะพิเศษที่ว่านี้เช่นเดียวกัน ไม่เชื่อก็ลองเช็กดูได้ อย่างน้อยๆ คุณจะต้องมีลักษณะบางอย่างที่คล้ายกับพ่อหรือแม่ของคุณแน่นอน!! และสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับวงการบันเทิงต่างประเทศนั้นก็คงจะพอทราบกันดีอยู่แล้วว่า ดารานักแสดงหรือศิลปินบางคนนั้นเข้าสู่วงการนี้ตามรอยของพ่อแม่พวกเขา ซึ่งเมื่อลองเปรียบเทียบกันดูแล้วพวกเขาบางคนก็แทบจะถอดแบบหน้าตากันมาเลยทีเดียว… 1. Ava Elizabeth Phillippe และ Reese Witherspoon ตอนอายุ 18 ปี 2. Colin Hanks กับ Tom Hanks ตอนที่พวกเขาอายุประมาณ 30 3. Ziggy Marley และ Bob Marley ตอนอายุ 35 ปี 4. Dhani Harrison และ George Harrison ตอนที่อายุประมาณ 20 ปี 5. Brooklyn Beckham ตอนอายุ 15 ปี และ David Beckham ตอนอายุ 17 ปี 6. Chris Pine และ Robert Pine ตอนอายุประมาณ…
-
ภาพลวงตาพาโคตรมึน แวบแรกนึกว่าเป็น “คอนเสิร์ต” แต่ดูอีกทีนี่มันไร่หรื๊ออออ!!
บางครั้งภาพถ่ายต่างๆ ก็อาจจะทำให้เราสับสน หรือสร้างความเข้าใจผิดให้กับเราได้ เพราะสิ่งของบางอย่างนั้นก็ช่างคล๊ายกันซะเหลือเกิน เหมือนกับภาพของรถเก็บเกี่ยวฝ้ายที่ชาวเน็ตหลายๆ คนกำลังเข้าใจผิดอยู่ในขณะนี้ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มีชาวเน็ตท่านหนึ่งโพสต์ภาพของรถเก็บเกี่ยวฝ้ายลงบนเว็บบอร์ชื่อดังอย่าง Reddit พร้อมกับคำอธิบายที่ว่า “ภาพของรถเก็บฝ้ายที่ถ่ายเมื่อคืนนี้ ดูเหมือนผู้คนในงานคอนเสิร์ตเลยนะเนี่ย” และนี่คือภาพที่ว่านั้น อืม… ดูๆ ไปมันก็คล้ายจริงๆ เลยนะว่าไหม?? และหลังจากที่ภาพดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในเว็บไซต์ Reddit ก็ได้มีชาวเน็ตท่านหนึ่งได้นำภาพของการเก็บเกี่ยวฝ้ายนั้นไปโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ พร้อมกับบอกว่าภาพนี้เนี่ยมันชวนให้คิดว่าเป็นงานคอนเสิร์ตจริงๆ เลยนะเนี่ย และงานนี้ก็มีชาวเน็ตท่านหนึ่งที่สงสัยว่า แล้วเจ้าโปรแกรมวิเคราะห์วัตถุของทางกูเกิลอย่าง Google Cloud Vision API ซึ่งผลลัพธ์จากการวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมอัจฉริยะของกูเกิลนั้นก็ปรากฏว่า เจ้าโปรแกมนี้เองก็วิเคราะห์ออกมาว่าภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพของฝูงผู้คนต่างหาก!! ผลการวิเคราะห์จาก Google Cloud Vision API เอ่… เห็นแบบนี้ชักไม่แน่ใจแล้วซิ ฮ่าๆ แล้วเพื่อนๆ ล่ะมองเห็นภาพเจ้ารถเกี่ยวฝ้ายนี้เป็นรูปอะไรกันบ้าง ลองคอมเม้นท์กันเข้ามาได้เลย… ที่มา reddit
-
ไอจีสุดกวนบาทา ตัดนักปีนหินออกไปจากภาพ แล้วทำให้เป็นเทรนด์คนบูชาหินแทน!?
การตัดต่อภาพนั้นอาจจะเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ชาวเน็ตหลายๆ คนชื่นชอบ และบางครั้งภาพถ่ายธรรมด๊าธรรมดา ถ้าหากถูกตัดบางสิ่งบางอย่างในภาพออกไปก็อาจจะทำให้เกิดความฮาขึ้นมาได้ เหมือนกับไอเดียจากอินสตราแกรม allmightystone ไอเดียฮาๆ ที่ว่านี้เกิดขึ้นจากการตัดภาพของนักปีนหินออกจากภาพถ่าย ซึ่งหลังจากที่ไม่มีภาพของนักหินแล้ว งานนี้เพื่อนๆ ที่เหลืออยู่ก็หลายเป็นเหมือนว่ากำลังบูชาก้อนหินกันอยู่เลยทีเดียว แบบนี้!! อินสตราแกรม allmightystone เจ้าของไอเดียฮาๆ นี้ ปกติแล้วเวลามีนักปีนเขาพยายามปีนก้อนหินใหญ่ๆ ด้วยมือเปล่า พวกเขามักมีเพื่อนๆ คอยซัพพอร์ตอยู่ข้างล่าง แต่เมื่อตัวนักปีนเขาหายไป ความฮาจึงเกิดขึ้น!! ฮาเลลูย่า!! จากภาพกิจกรรมกลางแจ้งน่าสนุกๆ กลายเป็นการประกอบพิธีกรรมไปได้ยังไงเนี่ย!? ฮ่าๆ . เอ๊า!! ฮาหน่อย จากก้อนหินธรรมด๊า ธรรมดา ก็กลายเป็นเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที!! . แต่รูปนี้ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังรวมพลังช่วยกันย้ายก้อนหินเลยนะเนี่ย ดีนะเนี่ยที่ไม่มีใครแอบเอามือไปถูๆ กับหิน ไม่อย่างนั้นล่ะคุณเอ๊ย ฮายิ่งกว่านี้อีก!! ที่มา petapixel
-
‘Taken สู้ไม่รู้จักตาย’ คุณพ่อหยิบปืนออกมายิงแก๊งวัยรุ่น ที่พยายามลักพาตัวลูกสาวของเขา
เรื่องราวของคุณ Terry Brackney คุณพ่อท่านหนึ่งจากรัฐฟลอริด้า ที่กลายเป็นฮีโร่ทันทีหลังจากตัดสินใจเข้าเผชิญหน้ากับแก๊งที่พยายามลักพาตัวลูกสาววัย 17 ปีของเขา!! เมื่อคืนวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายนปี 2017 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับ Amber Brackney หญิงสาววัย 17 ปีจากเมือง Preservation Path หลังจากที่เธอพบถังน่าสงสัยใบหนึ่งขวางทางรถของเธอ หญิงสาวพยายามที่จะขับรถหลบถังดังกล่าว ก่อนที่เธอจะถูกแก๊งโจรที่ซ่อนอยู่เข้ามาที่รถของเธอและพยายามที่ลักพาตัว จากการให้สัมภาษณ์ของตำรวจ คุณ Brackney ผู้เป็นพ่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากลูกสาวของเขาและได้หยิบปืนวิ่งออกไปที่โรงรถ ก่อนที่จะยิงไปที่กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจนทำให้พวกเขาหนีไปในที่สุด คุณพ่อวัย 51 ปี พบว่าสัญญาณเตือนภัยในบ้านของเขานั้นถูกปิดลง ซึ่งเป็นไปได้ว่านี่อาจจะเป็นความพยายามในการลักพาตัวลูกสาวของเขาเป็นครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตามหลังจากที่แก๊งลักพาตัวได้หนีออกจากบ้านของคุณ Brackney ไป ทางเพื่อนบ้านได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยสกัดรถของคนร้าย จนในที่สุดแก๊งทั้งหมดก็ถูกจับกุมตัวได้สำเร็จ ภายในรถของคนร้ายพบกลุ่มวัยรุ่น 4 คน ประกอบด้วย นาย Keilon Johnson วัย 19 ปี นาย Austin French วัย 17 ปี นาย Tyree Johnson วัย 16 ปี และนาย Kamauri Horn วัย 15 ปี พร้อมกับของกลาง…
-
20 ความทรงจำเกี่ยวกับเกม Counter Strike ที่คนเล่นในยุคแรกๆ จะเข้าใจเป็นอย่างดี
สำหรับคอเกมแนว FPS หรือเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับเกมดังๆ อย่าง Battlefield หรือเกมออนไลน์สุดมันและขึ้นชื่อเรื่องของแพงอย่าง CS:GO แต่เมื่อย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนจะต้องเคยผ่านสมรภูมิรบอย่าง Counter Strike กันมาบ้างแน่ๆ และเพื่อเป็นการย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาดีๆ เราลองไปย้อนชม 20 ความทรงจำเกี่ยวกับเกม Counter Strike กันเลย ฮ่า ฮ่า โย่ว… 1. Counter Strike เวอร์ชั่น 1.00 เป็นเกมที่เป็นดัดแปลงมาจากเกม Rov เย้ย!! Half Life ต่างหาก ซึ่งตอนแรกมีผู้พัฒนา mod เพียงสองคน ภายหลังทาง Valve ได้ซื้อตัวไปพัฒนาต่อ 2. ในเกมมีด่านให้เลือกเป็นร้อยๆ ด่าน แต่ด่านที่เล่นกันจริงๆ มีอยู่แค่ไม่กี่ด่าน ยกตัวอย่างเช่น Untitled , Assualt, Italy, Dust เป็นต้น 3. ชื่อด่าน Untitled…
-
พี่แมวเจ้าถิ่นขี้โมโห คำรามไล่ “น้องหมีผู้หลงทาง” จนมันต้องหนีขึ้นต้นไม้!!
เหล่าพี่เหมียวถือเป็นหนึ่งในบรรดาสรรพสัตว์ที่เหนือความคาดหมายและชอบเอาแต่ใจมากที่สุด นอกจากนิสัยขี้เอาแต่ใจแล้ว ในบางครั้งพี่แกเองก็ยังชอบแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แถมยังไม่กลัวใครหน้าไหนแม้แต่เจ้าหมียักษ์ คลิปวิดีโอจากประเทศรัสเซียคลิปหนึ่งที่เผยแพร่ในโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เผยให้เห็นภาพของพี่เหมียวหน้าเบื่อโลกตัวหนึ่งที่เข้าไปขู่เจ้าหมีที่เข้ามาในอาณาเขตของมัน งานนี้ชักไม่แน่ใจซะแล้วสิว่าใครน่ากลัวกว่ากัน!? เฮ้ย!! เข้ามาทำอะไรน่ะเจ้าหมี?? ทันทีที่เห็นเจ้าหมีเข้ามาในพื้นที่ของมัน เจ้าเหมียวขี้โมโหตัวนี้ก็ได้เดินเข้าไปใกล้ๆ เหมือนกับกำลังจะเข้าไปถามว่า “แกเข้ามาทำอะไรน่ะ!!” แต่ดูเหมือนการเจรจาระหว่างพี่หมีกับเหมียวเจ้าถิ่นจะจบลงที่ความไม่เข้าใจกัน งานนี้พี่เบื่อของเราจึงกระโจนเข้าใส่เจ้าหมี จนทำให้มันต้องปีนขึ้นต้นไม้เพื่อเอาชีวิตรอดเลยทีเดียว!! ถามดีๆ ไม่ตอบใช่ไหม ได้… แฮร่!! อืม… ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ?? แต่ดูเหมือนว่าหลังจากที่เจ้าเหมียวผู้ดุร้ายได้เดินจากไป พี่หมีขี้กลัวของเราก็ได้แอบลงมาจากต้นไม้อย่างเงียบๆ และยังคงเพลิดเพลินกับลูกสนอยู่ จนกระทั่งมันลืมตัวไปว่าเจ้าถิ่นยังคงจับตาดูมันอยู่!! และแล้วพี่เหมียวของเราก็ต้องแสดงบารมีของพี่แกอีกครั้ง ฮืม… พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม?? พอแล้วจ้าาา ออกไปก็ได้!! ไปชมความโหดปนฮาของพี่เหมียวตัวนี้กันแบบเต็มๆ เลยดีกว่า นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งข้อยืนยันที่ว่าพวกแมวเป็นสัตว์ที่คิดจะครองโลกจริงๆ สินะเนี่ย!? ที่มา Котопедия
-
ยูทูบเบอร์หนุ่มสร้างถุงมือสุดไฮเทค ทำให้เวลาช้าลง จนสามารถมองเห็นใบพัดพัดลมได้!!
คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าหากว่าในชีวิตจริงไของเราสามารถหยุดเวลาได้เหมือนในหนังไซไฟ หรือมีเครื่องไทม์แมชชีนเหมือนกับโดราเอม่อน แต่ดูเหมือนว่าความฝันของมวลมนุษยชาติจะเข้าใกล้ความจริงขึ้นมานิดหน่อยแล้ว!! หลังจากที่มีหนุ่มยูทูบเบอร์ผู้หนึ่งได้ประดิษฐ์ถุงมือหยุดเวลา งานนี้นึกว่าโทนี่ สตาร์กมาเองกันเลยทีเดียว… จงหยุด!! เจ้าถุงมือที่ดูเหมือนกับอุปกรณ์ไฮเทคชิ้นนี้เป็นฝีมือการประดิษฐ์ของยูทูบเบอร์หนุ่มที่ใช้ชื่อว่า MadGyver ซึ่งถึงแม้ว่าอันที่จริงแล้วเจ้าเครื่องมือหยุดเวลาที่ว่านี้มันจะไม่มีจริงๆ บนโลกนี้หรอก แต่สิ่งประดิษฐ์ของเขาก็ดูน่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว ภายในคลิปวิดีโอ MadGyver ได้แสดงให้เห็นถึงการทำงานของเจ้าถุงมือหยุดเวลานี้ ซึ่งมันสามารถทำให้เราสามารถมองเห็นใบพัดที่กำลังหมุนอยู่หยุดนิ่งได้ และนอกจากนี้ยังทำให้เรามองเห็นข้อความบนกระดาษที่กำลังหมุนอยู่ได้อีกด้วย 1… 2…. 3… หยุด!! และนี่คือหน้าตาของเจ้าถุงมือหยุดเวลาจากฝีมือยูทูบเบอร์หนุ่มผู้นี้ เป็นอย่างไงล่ะ ดูอลังการงานสร้างมากเลยใช่ไหม?? ซึ่งหลักการการทำงานของเจ้าถุงมือหยุดเวลาที่ว่านี้ก็คือการปล่อยแสงสั้นๆ ความถี่สูงจากหลอด LED ที่มีการเชื่อมต่อกับแผงวงจร ไปยังวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่อยู่ ซึ่งทำให้เราสามารถมองเห็นวัตถุเหล่านั้นดูเหมือนว่ามันกำลังหยุดนิ่งอยู่ และนอกจากนี้ชายหนุ่มได้ยังสาธิตวิธีการทำ พร้อมกับบอกรายละเอียดในส่วนต่างๆ ของเจ้าถุงมือหยุดเวลานี้เอาไวในคลิปวิดีโออีกด้วย ซึ่งใครที่สนใจและพอมีความรู็ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์ ก็ลองเอาไปทำเล่นๆ กันดูที่บ้านก็ได้นะ!! ไปชมการทำงานของเจ้าถุงมือหยุดเวลานี้ พร้อมกับวิธีการทำแบบเต็มๆ ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… อืม.. ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหยุดเวลาได้จริงๆ แต่ก็เป็นของเล่นที่เจ๋งดีเหมือนกันนะว่าไหม?? ที่มา sploid
-
อีกด้านของญี่ปุ่น “ย่านชิบูยะ” ที่เต็มไปด้วยขยะ กับการทิ้งเรี่ยราดหลังจากงานฮาโลวีน
โดยปรกติแล้วหลังจากเสร็จสิ้นงานกิจกรรม หรือปาร์ตี้ต่างๆ สิ่งที่มักจะตามมาหลังจากความสนุกจบลงนั่นก็คือเศษขยะจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งดูเหมือนว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในบ้านเราเท่านั้น แต่ประเทศที่มีระเบียบวินัยอย่างญี่ปุ่นเองก็มีเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นเช่นกัน!! เศษขยะมูลฝอยจำนวนมาก ในย่านชิบูยะ หลังจากเทศกาลฮาโลวีนเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ภาพของขยะมูลฝอยในย่านชิบูยะ แห่งนี้มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี ซึ่งจำนวนปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้นนั้นก็เพิ่มขึ้นตามขนาดของงานที่ใหญ่ขึ้นในแต่ละปีนั่นเอง คุณ avogado6 ชาวเน็ตท่านหนึ่งที่ได้อัพเดทภาพของตัวการ์ตูนในชุดแฟนซีที่เดินอยู่บนกองขยะ พร้อมกับภาพของเด็กหญิงที่เดินตามเก็บขยะมูลฝอยที่ตัวการ์ตูนเหล่านั้นทิ้งเอาไว้ ซึ่งสื่อให้เห็นถึงสถาณะการณ์ปริมาณขยะที่ตามมาหลังจากงานเทศกาลใหญ่ๆ แบบนี้ ภาพการ์ตูนจากคุณ avogado 6 กองขยะจำนวนมากที่อยู่บนถนน Dogenzaka หนึ่งในถนนยอดฮิตในย่านชิบูยะ ซึ่งนอกจากจะมีปริมาณมากแล้ว มันยังส่งกลิ่นเหม็นอีกด้วย ภาพของชายที่กำลังจัดการกับขยะหน้าร้านสะดวกซื้อ หลังจากคืนวันปล่อยผีจบลง มีผู้คนมากมายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อรูปภาพของคุณ avogado 6 ซึ่งหลายๆ ความคิดเห็นก็ได้โจมตีไปยังกลุ่มผู้ที่ทิ้งขยะเหล่านั้น พร้อมกับแนะให้ใช้ภาพดังกล่าวในการรณรงค์เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเทศกาลฮาโลวีนเท่านั้น แต่ยังมีให้เห็นในเทศกาลอื่นๆ ของญี่ปุ่นอีกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตท่านหนึ่งได้ออกมากล่าวว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีอาสาสมัครจากโรงเรียนประถมออกมาช่วยกันจัดการกับขยะในย่านนี้ แต่ทว่ามีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเด็กๆ ในปีนี้จึงไม่มีการจัดอาสาสมัครดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีชาวญี่ปุ่นบางคนที่ไม่ยอมอยู่เฉยๆ พวกเขาได้ร่วมมือกันจัดกลุ่มอาสาสมัครเพื่อออกมาทำความสะอาดย่านชิบุยะในวันต่อมา ภายใต้ชื่อกิจกรรม Clean by Ourselves ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประกาศเชิญชวนจากกิจกรรม Clean by…
-
ทัวร์คลาสเรียนของมหาวิทยาลัย ‘เจลาโต’ ในอิตาลี หนทางสู่เชฟมือหนึ่งด้านไอศกรีม!!
สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการทานไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจและชอบการทำขนมทานเองที่บ้าน คุณอาจจะหลงรักมหาวิทยาลัยจากประเทศอิตาลีแห่งนี้ก็ได้ เพราะที่นี่จะทำให้คุณกลายเป็นนักทำไอศกรีมไตล์อิตาลีแบบมืออาชีพได้ภายใน 1 เดือน!! มหาวิทยาลัย Carpigiani Gelato University จากเมืองโบโลญญา ประเทศอิตลาลีแห่งนี้เตรียมเปิดคลาสเรียนที่จะสอนให้คุณกลายเป็น Gelato Master หรือนักทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ โดยในชั้นเรียนคุณจะได้เรียนรู้ระหว่างความแตกต่างของเจลาโต กับไอศกรีมแบบธรรมดาทั่วไป แถมยังได้ฝึกลงมือปฏิบัติจริงๆ อีกด้วย มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2003 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Carpigiani บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือในการทำเจลาโตชื่อดังจากประเทศอิตาลี โดยหลักสูตรการฝึกเป็นนักทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยนมืออาชีพนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งจะแบ่งออกเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเจลาโต 3 สัปดาห์ และฝึกงานในร้านไอศกรีมอีก 1 สัปดาห์นั่นเอง คุณ Samuel Kelerstein เจ้าของร้านขายเจลลาโตที่ Parkland รัฐฟลอริดา หนึ่งในศิษย์เก่าของที่นี่ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การเรียนในชั้นเรียนนั้นจะช่วยทำให้เราเข้าใจถึงการทำเจลาโตแบบอิตาเลี่ยนแท้ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง พวกเขาช่วยให้ผมเข้าใจถึงกระบวนการต่างๆ และขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังรวมถึงความแตกต่างระหว่างไอศกรีมกับเจลาโตอีกด้วย” ในแต่ละชั้นเรียนจะมีนักเรียนประมาณ 10 ถึง 30 คน และนักเรียนส่วนมากนั้นไม่ใช่ชาวอิตาลี คุณ Kelerstein เล่าว่าเขาเริ่มลงทุนเปิดร้านเจลาโตของตัวเองในปี 2014 หลังจากที่เรียนคอร์สทำเจลาโตที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จบ ซึ่งตัวเขาเองนั้นมาจากครอบครัวของนักทำไอศกรีมจากเม็กซิโก มันจึงทำให้เขาสนใจในการทำไอศกรีมแบบอิตาเลี่ยน “มันเหมือนกับการเรียนภาคฤดูร้อนเลย พวกเขามีห้องพักให้คุณ และจะปลุกคุณไปเรียนในทุกๆ…
-
หญิงชาวอเมริกาถูกศาลตัดสินจำคุกนาน 10 ปี ข้อหาแต่งงานกับแม่แท้ๆ ของตัวเอง
เรื่องราวอันแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นระหว่าง Misty Spann หญิงสาววัย 26 ปี ผู้เติบโตขึ้นมาโดยการดูแลของคุณยายเธอตั้งแต่ยังเล็กๆ ก่อนจะเกิดความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับแม้แท้ๆ ของเธออย่าง Patricia Ann Spann แม่แท้ๆ วัย 44 ปี ทั้ง Misty และ Patricia เริ่มต้นความสัมพันธ์ของพวกเขาตั้งแต่ปี 2014 ก่อนที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งสองกำลังเตรียมที่จะแต่งงานกัน แต่ตามความต้องการของทั้งสองกลับต้องสะดุดลง หลังจากที่การแต่งงานกับผู้ที่เป็นญาติกันนั้นขัดต่อข้อกฎหมายของรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามทางด้านนาง Patricia ก็ได้อธิบายถึงความสัมพันธ์ในปัจจุบันของเธอกับลูกสาว พร้อมทั้งบอกว่าการกระทำของพวกเธอนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ผิด เนื่องจากเธอไม่ได้ระบุว่าเป็นผู้ปกครองไว้ในสูติบัตรของลูกสาวเธอ ก่อนหน้านี้ในปี 2008 หญิงคนดังกล่าวเคยจดทะเบียนแต่งงานกับลูกชายของเธอมาก่อน แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 15 เดือนทั้งสองก็หย่ากัน โดยฝ่ายชายอ้างว่าเขารับไม่ได้กับการร่วมประเวณีระหว่างญาติ การแต่งงานของทั้งสองนั้นถูกศาลตัดสินว่าเป็นโมฆะ โดย Misty Spann อ้างว่าแม่ของเธอบอกว่าเขาสามารถจัดการเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ และให้คำมั่นสัญญากับเธอว่าทั้งคู่จะสามรถแต่งงานกันได้ อย่างไรก็ตาม Misty Spann และแม่ของเธอถูกศาลสั่งตัดสินจำคุกนาน 10 ปี หลังจากที่ทั้งสองยอมรับว่ามีการร่วมประเวณีกัน ส่วนทางด้านนาง Patricia ยังมีการตั้งข้อกล่าวหาในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย และเตรียมเข้ารับการพิจารณาคดีอีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า ที่มา ladbible
-
ชมภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเทือกเขาหิมาลัย กับการปลูก ‘ไร่กัญชา’ เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิต
ในช่วงปี 1980 การใช้กัญชาและฝิ่นในประเทศอินเดียนั้นถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย แต่หลังจากที่มีการประกาศทำสงครามกับยาเสพติดทั่วโลกในปี 1985 และมีการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดหรือ NDPS ก็ทำให้พืชชนิดนี้กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายในทันที แต่ถึงอย่างไรก็ตามปัจจุบันยังมีอีกหลายพื้นที่ที่มีการปลูกพืชชนิดนี้ ซึ่งทางคุณ Romesh Bhattacharji อดีตเจ้าหน้าที่ด้านคดียาเสพติดจากประเทศอินเดียได้เปิดเผยว่ามีการปลูกกัญชามากถึง 400 เมืองจากทั้งหมด 640 เมืองของประเทศอินเดียเลยทีเดียว และหมู่บ้านในพื้นที่ห่างไกลอย่างเทือกเขาหิมาลัยเองก็เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีการปลูกกัญชาเช่นกัน และที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องการผลิต Hash หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชาอีกด้วย ชาย 2 คนที่กำลังแบกผลผลิตกัญชาจากฟาร์มเพาะปลูก พวกเขาใช้เวลาในการเดินเท้า 2 ชั่วโมงในระยะทาง 3 กิโลเมตรจากหมู่บ้าน กระท่อมที่พักใกล้ๆ กับฟาร์มกัญชา เหล่าเกษตกรต้องพยายามย้ายที่ปลูกให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันการบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ หลังจากที่มีการบังคับใช้ข้อกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดหรือ NDPS เหล่าผู้สูงอายุที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กับเทวสถาน ซึ่งเชื่อกันว่าพวกเขาเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เริ่มการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวกัญชาในหมู่บ้านแห่งนี้ ภาพของการเผาป่าใกล้ๆ หมู่บ้าน พื้นที่เพาะปลูกส่วนมากถูกนำมาใช้ในการปลูกกัญชา มากกว่าการทำไร่เลื่อนลอยและเลี้ยงสัตว์ ที่มีการทำลายดินอย่างต่อเนื่อง การฆ่าสัตว์ของคนในหมู่บ้านเพื่อทำการสักการะเทพเจ้าก่อนทำการเพาะปลูก ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการบูชาเทพนั้นจะช่วยให้ได้ผลผลิตที่ดี Charas หนึ่งในผลิตภัณฑ์จากกัญชา ซึ่งผลิตมาจากการปั้นยางสดๆ ของกัญชาด้วยมือ หนึ่งในเทคนิคการผลิตที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านแแห่งนี้ ภาพของเหล่าเด็กนักเรียนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น ที่นี่มีเพียงแค่โรงเรียนประถมเท่านั้น และไม่มีโรงพยาบาลหรือว่าร้านค้าใดๆ…
-
รวมภาพสวยๆ จากแดนเหนือ ที่จะพิสูจน์ว่า Iceland เป็นประเทศที่น่าไปที่สุดในปี 2017
ประเทศไอซ์แลนด์นั้น อาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน เพราะนอกจากอากาศที่หนาวเย็นแล้ว ความสวยงามของธรรมชาติที่ประเทศนี้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาในประเทศนี้อีกเช่นกัน และสำหรับบางคนที่อยากจะลองไปสัมผัสความสวยงามของประเทศนี้ล่ะก็ วันนี้เราก็มีภาพสวยๆ จากเว็บไซต์ This is Insider มาฝากกัน… ในปี 2015 มีรายงานว่าประเทศไอซ์แลนด์มีนักท่องเที่ยวมากถึง 1,289,140 คน แต่อย่างไรก็ตามกลับมีคนที่อาศัยอยู่ในเกาะแดนหนาวนี้เพียงแค่ 300,000 คนเท่านั้น และหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์อันขึ้นชื่อของประเทศไอซ์แลนด์ก็คือแสงเหนือ ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของที่นี่เลยทีเดียว ION Adventure Hotel หนึ่งในโรงแรมหรูที่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนเพื่อชมความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ และแน่นอน สิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับการมาเที่ยวที่ไอซ์แลนด์เลยก็คือ การลงไปแช่น้ำใน Blue Lagoon บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่สวยงามและใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับแฟนๆ ซีรีส์ดังอย่าง Game Of Throne นั่นก็คือ หมู่บ้าน Vik ที่ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำนั่นเอง ชายหาดดำในหมู่บ้าน Vik เมือง Mýrdalshreppur ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ และสำหรับใครที่ชอบศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติล่ะก็ เราขอแนะนำ LAVA พิพิธพันธ์ในเมือง Hvolsvöllur ที่จะมอบประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับแผ่นดินไหวและภูเขาไฟ…
-
รวมหนังสยองขวัญ 10 เรื่องที่ควรค่าแก่การหามารับชม หนึ่งในตัวช่วยลดน้ำหนักชั้นเยี่ยม!!
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนองานวิจัยเกี่ยวกับการดูหนังสยองขวัญที่ช่วยในการลดน้ำหนักกันไปแล้ว (อ่านข่าวเก่า งานวิจัยยืนยันแล้วว่า การดู “หนังสยองขวัญ” สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงๆ นะเออ!? ) แต่หลายๆ คนที่ไม่ใช่แฟนหนังแนวนี้ก็อาจจะไม่รู้ว่าควรจะเลือกหนังเรื่องไหนดีใช่ไหมล่ะ?? ดังนั้นเพื่อเป็นการแนะนำตัวช่วยในการลดน้ำหนักของคุณ เราก็ได้รวบรวม 10 หนังสยองขวัญที่ไม่ควรพลาดมาฝาก… 1. The Exorcist หนังผีจากยุค 70’s ที่ถึงแม้ว่าเทคนิคการถ่ายทำอาจจะเทียบกับหนังปัจจุบันไม่ได้ แต่เรื่องความหลอนรับรองเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เรื่องราวของหมอผีกับเด็กหญิงที่ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง 2. The Shining หนังผีเรื่องเยี่ยมที่ดัดแปลงมาจากหนังสือของเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญอย่างสตีเฟ่น คิงส์ ซึ่งทั้งเนื้อเรื่องหลอนๆ และฝีมือการแสดงของแจ็ก นิโคลสัน แล้วบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว 3. Halloween เรื่องราวของไมเคิล ไมเยอส์ ฆาตกรโรคจิตที่หนีออกมาจากโรงพยาบาล เพื่อเล่นเกมไล่ล่าและผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้ก็คือลอรี่ สโตรด พี่เลี้ยงเด็กผู้โชคร้ายนั่นเอง 4. Poltergeist ความสยองขวัญที่เกิดขึ้นในบ้านหลังใหม่ของครอบครัว Bowen หลังจากที่ลูกสาวของพวกเขาเริ่มมีอาการประหลาด เธอเริ่มคุยกับใครบางคนที่ไม่มีตัวตนและสิ่งของในบ้านก็เริ่มขยับได้เอง 5. The Cabin in the Woods หนังสยองขวัญอีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กับหนังเรื่องอื่นๆ และถ้าหากว่าคุณเบื่อหนังสยองวัญแบบแก๊งค์วัยรุ่นทั่วๆ ไปล่ะก็ เราขอแนะนำเรื่องนี้เลย 6. A…
-
นี่คือภาพที่ถ่ายโดยกล้อง ‘Phase One XF’ มูลค่า 2 ล้านบาทกับราคาที่เราคงได้แต่ฝัน
กล้องถ่ายภาพนอกจากจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยบันทึกเรื่องราวความทรงจำดีๆ ของเราแล้ว มันยังเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสร้างสรรค์ผลงานศิลปินหลายๆ คนอีกด้วย และสำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพนั้นก็คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับการรีวิวภาพถ่ายจากกล้องต่างๆ กันอยู่แล้ว และวันนี้เราก็มีภาพถ่ายจากกล้องราคา 63,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 ล้านบาทมาฝากกัน ส่วนจะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้นเราไปทำความรู้จักกับคุณ Ted Forbes ช่างภาพจากช่องยูทูบ และการรีวิวภาพจากกล้องตัวนี้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ก่อนเลย… เจ้ากล้องถ่ายภาพราคา 7 หลักตัวนี้ก็คือ Phase One XF กล้องถ่ายภาพแบบ Medium Format ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนเลนส์ และตัวเซนเซอร์ยูนิตของกล้องได้ ซึ่งในการทดสอบครั้งนี้คุณ Ted Forbes ได้ทำการทดสอบโดยใช้ตัวเซนเซอร์แบบภาพถ่ายขาวดำ ซึ่งเขาบอกว่าภาพที่ได้ออกมานั้นให้คุณภาพที่แตกต่างจากภาพขาวดำทั่วๆ ไป และมันสามารถจับระดับแสงของภาพได้มากกว่ากล้องธรรมดาทั่วไปอีกด้วย และนี่คือภาพที่ถ่ายจากเจ้ากล้องราคา 2 ล้านบาทนี้ รายละเอียดของแสงและเงาแบบจัดเต็ม สมกับราคา 2 ล้านบาทจริงๆ “ภาพถ่ายทุกภาพที่ได้จากเซนเซอร์ตัวนี้มันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ “ ช่างภาพหนุ่มอธิบาย และนี่คือภาพของเจ้าเหมียวที่ถ่ายด้วยค่า ISO 12,800 และเมื่อซูมเข้าไปดูในภาพแบบใกล้ๆ แทบไม่เห็น Noise ที่เกิดขึ้นในภาพถ่ายด้วยค่า ISO สูงๆ เลย…
-
รายการทีวีนำ “iPhone 4” ไปหลอกผู้คนในแอลเอว่าเป็น “iPhone X” ผลจะเป็นอย่างไร
ก็เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ iPhone X และผู้คนในหลายๆ ประเทศก็ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของโทรศัพท์รุ่นใหม่จากค่ายแอปเปิลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถึงแม้ว่าจะมีการเปรียบเทียบสเปกของโทรศัพท์จากกูรูหลายๆ เจ้า และบางคนก็ออกความเห็นว่าเจ้าโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ไม่ค่อยมีอะไรที่มันแตกต่างจากรุ่นเก่ามากเท่าไหร่ อ่า… และเมื่อมีการถกเถียงกันแบบนี้ งานนี้ทางรายการของ Jimmy Kimmel จึงขออาสาพิสูจน์กันให้รู้ไปเลยว่าเจ้ามือถือรุ่นใหม่นี้มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนๆ หรือไม่ ทางรายการได้ลงพื้นที่พร้อมกับจับเอา iPhone 4 ที่เปิดตัวในปี 2010 มาดัดแปลงให้กลายเป็น iPhone x และออกไปให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกันแบบจริงๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นก็เรียกเสียงฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเจ้ามือถือที่ทำการปรับแต่งออกมานั้นจะดูไม่ค่อยเหมือนกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวสักเท่าไหร่ แต่ทว่าก็มีหลายคนเหมือนกันที่หลงเชื่อว่านี่คือโทรศัพท์รุ่นใหม่จากทางแอปเปิล “มันดูเล็กกะทัดรัดดีนะ” หนึ่งในผู้ร่วมรายการกล่าว นอกจากนี้บางคนยังได้บอกว่ากล้องของเจ้าโทรศัพท์เครื่องที่พวกเขากำลังถืออยู่นี้ดูดีมากๆ เลยทีเดียว และเธอก็ชอบขนาดของมันด้วย แต่ก็มีบางคนที่ดูเหมือนจะสงสัยเกี่ยวกับเจ้า iPhone ปลอมที่พวกเขาถือ พร้อมกับบอกว่านี่มันคือ iPhone 4 รุ่นใหม่หรือ อ่า.. เราลองไปชมความฮาของการทดสอบที่ว่านี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย ที่มา unilad
-
‘Terry Fox’ เด็กหนุ่มที่ออกวิ่งกว่า 5,000 กิโลเมตรด้วยขาข้างเดียว เพื่อขอระดมทุนให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง
“อย่ายอมแพ้ คุณทำได้” คำพูดสั้นๆ แต่เปี่ยมไปด้วยพลังนี้ นอกจากจะทำให้พวกเรามีกำลังใจในการทำสิ่งต่างๆ แล้ว คำพูดเดียวกันนี้ยังเป็นแรงกระตุ้นให้เด็กหนุ่มวัย 19 ปีมีแรงในการออกวิ่งเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งอีกด้วย Terry Fox เด็กหนุ่มเด็กหนุ่มที่ออกวิ่งด้วยขาซ้ายเพียงข้างเดียว เพื่อระดมทุนช่วยผู้ป่วยโรคมะเร็งเป็นระยะเวลาติดต่อกันนานถึง 143 วันในระยะทางรวมกว่า 5,373 กิโลเมตร Terry Fox เด็กหนุ่มชาวแคนาดาที่ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมปี 1958 ในรัฐแมนิโทบา ประเทศแคนาดา เขาเหมือนเด็กทั่วๆ ไปที่ชอบเล่นกีฬาและมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นคุณครูพละ แต่ทว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 1976 ก็เริ่มมีสัญญาณอันตรายเกิดขึ้นกับเขา หลังจากที่เด็กหนุ่มได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และมีอาการเจ็บที่หัวเขาด้านขวา อาการเจ็บหัวเข่าด้านขวาเริ่มรุนแรงมากขึ้นจนกระทั่งในเดือนมีนาคมปี 1977 แพทย์ก็ได้วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูก และจำเป็นต้องตัดขาด้านขวาทิ้ง พร้อมกับเริ่มทำเคมีบำบัด ในอดีตอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยโรคมะเร็งนั้นมีน้อยมาก และการทำเคมีบำบัดก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ป่วย และหลังจากที่ Fox ต่อสู้กับโรคร้ายและกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้งเขาจึงเห็นถึงความสำคัญของการรักษาและเข้าใจถึงความเจ็บปวดของผู้ป่วยดี เด็กหนุ่มตัดสินใจที่อุทิศตัวเพื่อวงการแแพทย์ เขาตั้งเป้าที่จะระดมทุนเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งจนเกิดเป็นการวิ่ง Marathon of Hope ขึ้นมาหลังจากที่เขาได้อ่านเรื่องราวของ Dick Traum ผู้พิการคนแรกที่เข้าแข่งขันในรายการนิวยอร์คมาราธอน ชายหนุ่มเริ่มต้นโครงการของเขาในวันที่ 12 เมษายนปี 1980 ณ เมืองเซนต์จอห์น…
-
แมวเหมียวชื่นชอบการนอนในกล่อง นอนเพลินจนได้เดินทางไปไกลกว่า 900 กิโลเมตร
เจ้าเหมียวจัดได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีนิสัยเอาแต่ใจและอยู่ไม่นิ่งที่สุดชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งสำหรับใครที่เป็นทาสแมวนั้นก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี นอกจากความซนและนิสัยชอบเอาแต่ใจแล้ว หลายๆ ครั้งพวกพี่เหมียวของเราก็ชอบแอบไปนอนตามซอกหลืบต่างๆ จนบางทีตามหากันจะละหวั่น ว่ามันหายไปไหน และเจ้าเหมียวจากประเทศอิตาลีตัวนี้เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แต่ว่าพี่แกคงจะนอนเพลินไปหน่อย งานนี้เลยถูกส่งไปพร้อมกับพัสดุเลย!! เจ้าเหมียวขี้เซาตัวนี้อาศัยอยู่ในเมืองลีซเช่ ประเทศอิตาลีพร้อมกับเจ้าของของมัน แต่เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนกลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับเจ้าเหมียว หลังจากที่มันเผลอเข้าไปอยู่ในกล่องโดยที่ไม่มีใครทันสังเกต จนมันถูกส่งออกไปพร้อมกับกล่องพัสดุดังกล่าว กล่องพัสดุที่มีเจ้าเหมียวนั้นได้เดินทางไปยังเมืองวิเซนซาที่อยู่ทางตอนเหนือเป็นระยะทางกว่า 980 กิโลเมตร และเจ้าเหมียวก็ติดอยู่ในกล่องกระดาษนั้นนานถึง 4 วันเลยทีเดียว เมื่อของถึงสถานีปลายทาง เจ้าหน้าที่ผู้รับพัสดุก็ต้องตกใจเมื่อพวกเขาว่ามีพบบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อยู่ในกล่องพัสดุ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเปิดดูแล้วก็พบกับเจ้าเหมียวชี้เซาตัวนี้ ทางด้านเจ้าหน้าของบริษัทขนส่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เจ้าเหมียวตัวดังกล่าวนั้นดูเหนื่อยล้านิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วมันก็สุขภาพแข็งแรงดี และล่าสุดทางบริษัทขนส่งได้ทำการส่งเจ้าเหมียวตัวนี้คืนให้กับเจ้าของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็โชคดีของเจ้าเหมียวจริงๆ ที่เจ้าหน้าที่พบมันเข้า ไม่งั้นเรื่องราวอาจจะไม่จบลงสวยงามแบบนี้แน่ๆ ที่มา thedodo
-
สาวดวงดี ลงทุน 50 บาท กาบอล 12 คู่ เพราะชอบชื่อล้วนๆ แต่ได้คืนมา 20 กว่าล้าน!?
****คำเตือน: การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และอาจเป็นพิษต่อเงินในกระเป๋าของคุณ**** อย่างที่รู้ๆ กันดีว่าการหวังจะรวยเพียงชั่วข้ามคืนนั้นอาจจะเป็นอะไรที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ทว่าหญิงสาวคนนี้กลับกลายเป็นเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน หลังจากที่เธอถได้รับเงินจากพันบอลมากกว่า 575,000 ปอนด์ หรือประมาณ 28 ล้านบาท จากเงินลงทุนเพียงแค่ 1 ปอนด์เท่านั้น!! เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หญิงสาววัย 59 ปี จากเมืองเคนต์ ประเทศอังกฤษ กลายเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดทันทีหลังจากที่เธอถูกรางวัลจากการพนันบอลถึง 12 คู่พร้อมกัน หญิงสาวนิรนามคนดังกล่าวได้วางเดิมพันกับทีมฟุตบอลที่เธอดูกับสามีและลูกของเธอ ซึ่งทั้งสองคนนั้นเป็นแฟนตัวยงของทีมทอตนัมฮอตสเปอร์ แต่ทว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ทันทีที่ฟุตบอลคู่ระหว่างเอเอฟซีบอร์นมัธกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ดจบลงด้วยชัยชนะของทีมเจ้าบ้านด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 0 ในนาทีที่ 92 หญิงสาวคนดังกล่าวก็กลายเป็นมหาเศรษฐีทันทีจากการชนะการเดิมพันที่เธอแทงไปทั้งหมด 12 คู่ โดย 11 ทีมจากทั้งหมดที่เธอเลือกนั้นเป็นทีมที่มีชื่อชั้นเป็นรองทั้งหมด ซึ่งแต่ละคู่นั้นก็มีราคาต่อรองที่สูงๆ ด้วยเช่นกัน ทางร้านพนันได้เปิดเผยว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเลือกทีมทั้งหมดจากเพียงจากชื่อทีมที่เธอชอบล้วนๆ ทางด้านคุณ Carli Faulkner ผู้จัดการร้าน William Hill ร้านพนันดังกล่าวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า นี่คือเงินรางวัลก้อนโตที่สุดที่พวกเขาเคยจ่ายไปเลยทีเดียว…
-
แม่คือแม่!! 20 ภาพที่ที่จะมาพิสูจน์ให้เราเห็นว่า คุณแม่ของพวกเรานั้นโคตรคูลแค่ไหน
คุณแม่เป็นคนสำคัญสำหรับเราทุกคน ไม่ว่าท่านจะเป็นแม่แท้ๆ หรือแม่บุญธรรม และนอกจากความรักความอบอุ่นที่มีให้กับพวกเราแล้ว ในบางครั้งคุณแม่ยังเป็นเหมือนเพื่อนคู่ซี้ของพวกเราอีกด้วย และภาพ 20 ภาพต่อไปนี้คงจะให้คำตอบกับพวกเราได้เป็นอย่างดีว่า คุณแม่ของเราๆ นั้นเจ๋งแค่ไหน… 1. บางครั้งคุณแม่เองก็เป็นเกมเมอร์ตัวจริง ภาพของคุณแม่ที่ช่วยลูกๆ ผ่านด่านเกม Super Mario ในปี 1989 2. ของวัญจากคุณแม่ ที่เจ๋งพอๆ กับรองเท้า Converse All Stars ของจริง 3. กาต้มน้ำที่คุณแม่ทำความสะอาดให้ อืม… อันไหนสีเดิมมันล่ะเนี่ย 4. ปลอกหมอนจากฝีมือคุณแม่ ที่ออกแบบมาจากตั๋วหนังของลูกชาย 5. ชายหนุ่มที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก แต่คุณแม่ของเขาก็ไม่ยอมแพ้ จนในที่สุดลูกชายของเธอก็สำเร็จการศึกษา 6. หนุ่มวิศวกรที่ได้รับของขวัญตัวต่อเลโก้ จากคุณแม่ของเขา 7. ขวดแชมพูกลิ่นสตรอว์เบอร์รี ที่คุณแม่ซื้อมาฝาก อืม… ตาแกดูแดงๆ นะเจ้ามินเนี่ย?? 8. ภาพเพ้นต์ของโซนิกจากฝีมือคุณแม่ แค่นี้เสื้อยีนส์ก็ดูเก๋กว่าใครแล้ว!! 9.…
-
รวม 20 ภาพงานแต่งที่ถูก ‘โฟโตบอม’ โหว’จารย์ แบบนี้มันขโมยซีนกันชัดๆ เลยนะเนี่ย
บางครั้งเวลาที่เราอยากจะเก็บภาพความประทับใจของเหตุการณ์สำคัญๆ มักจะมีมือดีแอบบเข้ามาขโมยซีนอยู่บ่อยๆ บางภาพอาจตั้งใจ บางภาพอาจไม่ได้ตั้งใจ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือภาพสุดฮาที่หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว ใครนึกไม่ออกว่าเป็นยังไง ลองไปดูตัวอย่างการแย่งซีนแบบฮาๆ ด้านล่างได้เลย 1. เจ้าตัวเล็กที่ดั๊นมาอยู่ถูกที่ถูกเวลา 2. ออกไปก่อนเฮ็ดวิก เค้าจะถ่ายรูปกัน โถ่!! 3. งานแต่งเพื่อนทั้งที แบบนี้มันต้องเอาให้ถึงใจหน่อย!! 4. ดูเหมือนว่าเจ้าลามะตัวนี้จะมาขโมยซีนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเต็มๆ เลยนะเนี่ย 5. เจ้าโลมาที่ออกมาแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว 6. เด็กๆ มักจะเลียนแบบสิ่งที่พวกเขาเห็น ไม่รู้ว่าจริงไหมนะ!? 7. กลับมาก่อนเจ้าตัวเล็ก!! 8. แมวคือสัตว์ที่ไม่สนโลกจริงๆ เล๊ย!! 9. โถ่!? ช่วยออกไปนอนที่อื่นก่อนได้ไหมเจ้าตูบ 10. แหม่… ท่านบาทหลวงก็ แบบนี้มันขโมยซีนกันชัดๆ 11. อืม… ไม่รู้ว่าภาพนี้เป็นความผิดช่างภาพหรือเจ้าวัวกันแน่นะเนี่ย?? 12. ก็มันปวดฉี่นี่น่า ให้ทำไงอ่ะ!?…
-
เฮ๊ยจริงดิ่!! ‘Sengun-Joshi’ เกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่น ที่หลงใหลในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือ
ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา สถาณการณ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีเหนือนนั้นจะมีความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลับไม่ทำให้เสียงดนตรีนั้นหยุดบรรเลงได้เลย Sengun-Joshi หรือกลุ่ม Military-First Girls เกิร์ลกรุ๊ปญี่ปุ่นที่หลงใหลในวัฒนธรรมของประเทศเกาหลีเหนือ และพวกเธอยังเป็นหนึ่งในกลุ่มแฟนคลับของ Moranbong band เกิร์ลกรุ๊ปของประเทศเกาหลีเหนืออีกด้วย หนึ่งในสมาชิกของวงกล่าวว่า พวกเธอนั้นก็เหมือนคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมต่างชาติทั่วๆ ไป และไม่อยากให้ใครตัดสินพวกเธอเพียงเพราะว่ามีความหลงใหลในวัฒนธรรมของชาติที่เป็นคอมมิวนิสต์ Chunhun สาวน้อยผู้ก่อตั้งเกิร์ลกรุ๊ปนี้กล่าวว่าเธอเริ่มมีความสนใจในประเทศเกาหลีเหนือในตอนที่เรียนอยู่ที่วิทยาลัยศิลปะ ซึ่งสิ่งที่เธอสนใจนั่นก็คือความสวยงามและคุณค่าทางศิลปะของป้ายโฆษณาชวนเชื่อในเกาหลีเหนือนั่นเอง “มันมีความลึกซึ้ง และการแสดงออกที่ชัดเจน พวกเขาใส่ใจกับทุกๆ รายละเอียดไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือใบไม้ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอย่างมาก” Chunhun ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น นอกจากจะมีความสนใจในงานศิลปะจากโฆษณาชวนเชื่อของเกาหลีเหนือแล้ว Chunhun ยังได้หาความรู้เกี่ยวกับงานศิลปะของเกาหลีเหนือจากสื่ออื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเว็บไซต์ Rodong Sinmun เว็บข่าวอย่างเป็นทางการของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ รวมถึงการแต่งตัวให้คล้ายกับชาวเกาหลีเหนืออีกด้วย Chunhan เริ่มต้นการรวมกลุ่มเกิร์ลกรุ๊ปของเธอบนโลกออนไลน์ เพื่อชักชวนกลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกันให้มารวมตัวกัน นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือ นอกจากนี้พวกเธอยังเคยจัดงานเต้นโคฟเวอร์วง Moranbong band ในกรุงโตเกียวอีกด้วย และด้วยประวัติศาสตร์ความขัดแย้งที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ Chunhun และกลุ่ม Sengun-Joshi นั้นต้องเผชิญกับคำวิพากย์วิจารณ์อย่างมากบนโลกออนไลน์ ซึ่งบางครั้งพวกเขาเองถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศต่อชาติเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามพวกเธอก็ได้ออกมาอธิบายว่า อันที่จริงแล้วสิ่งที่พวกเธอสนใจนั้นมีเพียงแค่วัฒนธรรมเท่านั้น แต่พวกเธอยังคงเกลียดชังการปกครองที่เต็มไปด้วยความกดขี่และสิ่งที่พวกเขาทำเหมือนกับชาวญี่ปุ่นทั่วๆ ไป “การสนใจในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือคือความสนใจใน เพลง แฟชั่น และงานศิลปะของพวกเขา ฉันไม่อยากให้ชาวญี่ปุ่นตัดสินพวกเขาเพียงเพราะสิ่งที่รัฐบาลของพวกเขาทำ พวกเราก็เหมือนกับกลุ่มเด็กผู้หญิงที่ชอบเพลงเกาหลี หรือชอบฟัง…
-
การซ่อมแซมงานศิลป์อายุ 200 ปี ด้วยสารปริศนา จนเผยให้เห็นความงามที่หลบซ่อนอยู่
โดยปรกติทั่วไปแล้ว งานภาพเขียนต่างๆ มักจะถูกเคลือบไว้ด้วยสารเคลือบเงาเพื่อป้องกันไม่ให้ภาพภาพนั้นได้รับความเสียหายจากสิ่งแวดล้อมภายนอกไม่ว่าจะเป็นฝุ่น หรือความชื้นต่างๆ และเมื่อกาลเวลาผ่านไป น้ำมันหรือสารเคลือบเหล่านั้นมักจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและทำให้ภาพเขียนเหล่านั้นดูเก่าและหมองลงไปอย่างมาก คุณ Philip Mould นักสะสมผลงานศิลปะ และโปรดิวซ์เซอร์รายการ Fakeorfortune ทางช่อง BBC 1 ได้แสดงให้เห็นถึงวิธีการจัดการกับปัญหาเหล่านั้น หลังจากที่เขาได้นำน้ำยาทำความสะอาดสูตรลับเฉพาะ ป้ายลงไปในภาพเขียน Womaninred ที่อายุกว่า 200 ปี และทำการถูอีกนิดหน่อย และจากนั้นภาพเขียที่ว่าก็กลับมาใสเหมือนใหม่อีกครั้งแบบไม่น่าเชื่อ!! และนี่คือภาพเขียนอายุกว่า 200 ปี ที่ได้ถูกทำความสะอาดไปบางส่วน เพื่อให้เห็นภาพการทำความสะอาดที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราไปชมคลิปวิดีโอนี้พร้อมๆ กันเลย… (ชมคลิปไม่ได้กด ที่นี่ ) A remarkable Jacobean re-emergence after 200 years of yellowing varnish 1/2 pic.twitter.com/yBGNGDcNd7 — Philip Mould (@philipmould) 6 พฤศจิกายน 2560 ถึงแม้ว่าวิธีการดังกล่าวนั้นจะถูกปกปิดเป็นความลับ…
-
ไม่เป็นไรฮะแม่ มันก็แค่งานศิลปะ…หนุ่มนักสะสมบ้องกัญชา ผู้เป็นเจ้าของบ้องมูลค่ากว่าล้านบาท!!
สำหรับบ้านเราแล้ว การเพลิดเพลินกับกัญชานั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และการออกมาเปิดเผยตัวว่าเป็นผู้ใช้กัญชาเองก็อาจจะทำให้คุณถูกจับไปปรับทัศนคติได้ง่ายๆ แต่ในบางประเทศที่เจ้าพืชชนิดนี้ถูกกฎหมายแล้ว มันกลับสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับรัฐหรือประชาชนในประเทศนั้นได้อย่างมากเลยทีเดียว และหนึ่งในนั่นก็คือ Ben Milstein หนุ่มน้อยนักทำบ้องและนักสะสมงานศิลปะวัย 22 ปี ที่เป็นเจ้าของหอศิลป์ Grey Space Art ที่จัดแสดงงานศิลปะเกี่ยวกับบ้องกัญชาและไปป์ Ben Milstein (ซ้าย) นักสะสมงานและจำหน่ายงานศิลปะ หนุ่มน้อยวัย 22 ปี ผู้นี้ได้เข้าสู่วงการนักสะสมงานศิลปะจากการขายของใช้เกี่ยวกับกัญชาราคาแพงทั้งบ้องแก้วและไปป์แบบทำมือ นอกจากนี้เขายังได้ลงทุนในหุ้นของบริษัทกัญชาถูกกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2013 อีกด้วย ซึ่งสร้างเงินให้เขาได้เป็นอย่างมาก เด็กหนุ่มผู้ก่อตั้ง Grey Space Art หอศิลป์แบบเคลื่อนที่ที่สามารถตระเวนไปตามเมืองใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก ลอสแอนเจลิส และมิลาน ซึ่งเขาได้สะสมผลงานศิลปะบ้องแก้วนี้กว่า 500 ชิ้นจากศิลปินมากถึง 80 คนเลยทีเดียว พี่หมี Honeybear บ้องราคา 160,000 บาท ของพ่อหนุ่มคนนี้ “ผมรู้สึกว่าตอนนี้อุตสาหกรรมการทำบ้องนั้นกำลังเติบโต และผมต้องการจะผลักดันให้มันเป็นงานศิลปะโดยการติดต่อกับศิลปินต่างๆ เพื่อช่วยออกแบบบ้องกัญชา” เด็กหนุ่มกล่าว Milstein เริ่มต้นแกลลอรี่ของเขาครั้งแรกในปี 2016 ในนิวยอร์ก หลังจากที่ได้ร่วมงานกับนักออกแบบชาวอิตาเลี่ยนชื่อดังอย่าง Riccardo Tisci ผลงานบางส่วนจากงานสะสมของเขา …
-
EarthRoamer รถบ้านราคา 50 ล้าน สำหรับขับไปเที่ยวได้ทุกที่ ซอมบี้บุกก็หม๊ายหวั่น!!
สำหรับใครที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง และออกไปตั้งแคมป์กับครอบครัวในวันหยุดแล้วล่ะก็ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะถูกใจ EarthRoamer เจ้ารถบ้านสุดหรูคันนี้ก็ได้ นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูแข็งแกร่งและพร้อมจะทะยานไปทุกขุนเขาแล้ว ภายในของเจ้ารถคันนี้ยังมีการตกแต่งที่หรูหราอีกด้วย เรียกว่างานนี้สำหรับใครที่ทำใจอึ๊ในป่าไม่ได้คงจะชอบกันอย่างแน่นอน และนี่คือโฉมหน้าของเจ้า EarthRoamer XV-HD รถบ้านสุดหรูและแข็งแกร่งคันนี้!! เจ้ารถบ้านคันนี้ถูกดัดแปลงมาจากรถกระบะของ Ford ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 6.7 ลิตร 300 แรงม้า พร้อมกับแรงบิดถึง 725 ปอนด์ต่อตารางฟุตเลยทีเดียว และนอกจากถังน้ำมันดีเซลขนาด 430 ลิตรแล้ว มันยังมีแหล่งพลังงานจากแผงโซล่าเซลล์พร้อมกับน้ำสะอาดอีก 940 ลิตรและสามารถจุผู้โดยสารได้มากถึง 6 คนเลยทีเดียว ด้วยขนาดของตัวรถที่ยาวถึง 10 เมตร กว้างมากถึง 4 เมตร และมาพร้อมกับหน้ายางขนาด 46 นิ้ว ทำให้เจ้ารถบ้านคันนี้สามรถตะลุยไปได้ในแทบจะทุกสภาพภูมิประเทศ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทางผู้ผลิตใส่มาให้แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นห้องอาบน้ำแบบฝักบัว เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า เตียงขนาดคิงส์ไซส์ ระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bose นอกจากนี้ยังมีห้องครัวที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างเตาอบ เตาแก๊สและอ่างล้างจานอีกด้วย …
-
เสือน้อยเบงกอล รอดจากการลับลอบค้าสัตว์ป่า ได้พบเพื่อนเสือน้อยสุมาตราในสวนสัตว์ San Diego
การลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชายแดนนั้นถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนประชาการของเหล่าสัตว์ป่าหายากทั่วโลกและหนึ่งในนั้นก็คือพวกเจ้าเสือเบงกอลนั่นเอง แต่ทว่าเจ้าเสือน้อยวัย 3 เดือนตัวนี้กลับมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากสัตว์ป่าที่ถูกลักลอบตัวอื่นๆ หลังจากที่มันได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิ U.S. Fish & Wildlife Service และย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ในสวนสัตว์ San Diego Zoo Safari Park เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เจ้าลูกเสือเบงกอลตัวดังกล่าว ก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับเจ้าลูกเสือสุมาตราวัย 4 เดือนที่ถูกส่งตัวมาดูแลที่นี่ก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดี เจ้าเสือเบงกอล (ตัวซ้าย) และเจ้าเสือสุมาตราเพื่อนซี้ของมัน เจ้าตัวเล็กตัวนี้ถูกช่วยมาจากชายแดนเม็กซิโก ในระว่างที่มันกำลังถูกลักลอบพาเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ผ่านทางรัฐแคลิฟอร์เนีย “ทั้งสองมีสุขภาพที่แข็งแรงมาก พวกมันดูเหมือนพี่น้องกันเลยทีเดียว แต่บางครั้งก็มีทะเลาะกันบ้างตามประสาของลูกเสือตัวน้อย” คุณ Lori Hieber เจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์กล่าว โดยในวัยโตเต็มที่นั้นเสือสุมาตราจะมีน้ำหนักเพียง 90 กิโลกรัม ในขณะที่เสือเบงกอลนั้นจะมีน้ำหนักมากถึง 180 – 270 กิโลกรัมเลยทีเดียว . อยากเห็นความน่ารักของทั้งคู่แล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นไปชมกันที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย… นาย Luis Eudoro Valencia ผู้ต้องหาวัย 18 ปี ถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมปี 2017 หลังจากที่แอบนำเจ้าลูกเสือตัวดังกล่าวซ่อนไว้ใต้เบาะนั่งของผู้โดยสารในรถ…
-
“Gabola” โบสถ์สายน้ำเมา จากประเทศแอฟริกาใต้ ที่บูชาพระเจ้าด้วยการดื่มเบียร์
“สรรเสริญพระเจ้าด้วยการดื่ม” นี่คือคติประจำโบสถ์คริสต์นอกรีตแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ โบสถ์ Gabola แห่งนี้แปลเป็นภาษา Tswana ว่า “การดื่ม” พวกเขาจะเปิดรับสมาชิกและกระตุ้นให้พวกเขาสนใจในการดื่มเพื่อการเฉลิมฉลอง ในทวีปแอฟริกานั้นมีลัทธินอกรีตมากมาย และแต่ลัทธิก็พยายามดึงดูดผู้คนให้มานับถือลัทธิของพวกเขา ซึ่งโบสถ์ Gabola แห่งนี้เป็นโบสถ์แห่งแรกที่มีการเผยแพร่คำสอนให้คนหันมาสนใจการดื่มเป็นหลัก ในพิธีล้างบาปของโบสถ์แห่งนี้จะใช้เหล้าศักดิ์สิทธิ์จากบาทหลวงในการทำพิธี นอกจากนี้ก็ยังมีการดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ ไวน์ และเหล้าระหว่างการเทศน์อีกด้วย Tsietsi Makiti หัวหน้าบาทหลวงประจำโบสถ์กล่าวว่า การดื่มเครื่องดื่มแอกกอฮอล์กับการสักการพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่เหมือนกัน บาทหลวงท่านนี้ยังได้บอกอีกว่าโบสถ์แห่งนี้ยินดีต้อนรับทุกคนที่ถูกปฏิเสธจากคริสตจักรเดิม และมอบพื้นที่ให้พวกเขาได้สักการะพระผู้เป็นเจ้า “นี่คือพื้นที่ในการรวมตัวสำหรับคนที่เชื่อในพระเจ้าโดยที่พวกเขาไม่ต้องอับอายในการดื่ม นี่คือสิ่งแวดล้อมที่พวกเราจะสามารถดื่มได้โดยที่ไม่ถูกตัดสิน” บาทหลวงกล่าว โบสถ์แห่งนี้ก่อตั้งเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมปี 2017 ปัจจุบันพวกเขามีสมาชิกมากถึง 500 คนและมีคนเข้ารับศีลล้างบาปด้วยเหล้าแล้วมากกว่า 2,000 คน นอกจากนี้บาทหลวงคนดังกล่าวยังได้เผยอีกว่าเขาได้รับเชิญให้ไปเผยแพร่ลัทธินี้ทั่วประเทศอีกด้วย “ถ้าหากว่าคุณดื่มเบียร์ นั่นหมายถึงว่าคุณได้ทำการล้างบาปด้วยเบียร์แล้ว และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน นอกจากนี้พวกเรายังมีการสวดมนต์เพื่อระลึกถึงพระเจ้าก่อนการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ในที่อื่นๆ อีกเช่นกัน” ถึงแม้ว่าขณะนี้ในลัทธิดังกล่าวจะมีแต่ผู้ชาย แต่บาทหลวงเองก็มีแผนที่ปรับปรุงและเผยแพร่แนวคิดของเขาให้เข้าทั่วถึงคนในทุกเพศ “พวกผู้หญิงนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในโบสถ์แห่งนี้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกผู้ชายเกิดอาการเมา อาจจะเป็นอันตรายต่อพวกเธอได้ แต่อย่างไรก็ตามเรากำลังมีการวางแผนและเตรียมที่จะรับผู้หญิงเข้ามาร่วมด้วย” บาทหลวง Tsietsi Makiti กล่าว ปัจจุบันนี้ ทางโบสถ์จะมีการพบปะกันทุกวันอาทิตย์ที่บาร์ของคุณ Freddy ทางตอนใต้ของเมืองโจฮันเนสเบิร์ก โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่ช่วง 11 โมงเช้า จนถึงช่วงบ่าย…
-
ปฏิกิริยาของชาวต่างชาติ หลังเห็นภาพถ่ายแฟชั่น ม.เชียงใหม่ เปรียบว่ายิ่งกว่า Top Model ซะอีก!!
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับแฟชั่นเซ็ทล่าสุดจากเหล่าผู้เข้าประกวด CMU Ambassador 2017 ของทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ทำเอาหลายๆ คนถึงกับอึ้งในความสวยงามแบบจัดเต็มกันเลยเลที่เดียว และนอกจากจะเป็นที่ฮือฮาในบ้านเราแล้ว แฟชั่นเซ็ทชุดนี้ยังดังไกลถึงเว็บไซต์ต่างประเทศอย่าง 9GAG ที่มีผู้ติดตามมากถึง 6 ล้านคนอีกด้วย และงานนี้ก็มีชาวเน็ตจากต่างประเทศเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก ซึ่งหลายๆ ความคิดเห็นก็ได้ออกมาชื่นชมพร้อมกับบอกว่ามันช่างเป็นภาพถ่ายแฟชั่นที่สวยงามจริงๆ และบางคนก็แทบจะไม่เชื่อเลยว่าเหล่านายแบบนางแบบนั้นเป็นแค่เด็กๆ นักศึกษา และนี่ก็คือความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเน็ต “ขอวาร์ปเบอร์ 17 หน่อยจ้าา” “พวกเขาอลังการมาก และชุดนั้นก็ดูมีระดับจริงๆ นะ” หญิงสาวคนนี้ก็บอกว่า เธอคิดว่าผู้ชายเอเชียบางคนนั้นสวยกว่าผู้หญิงอีกนะเนี่ยน ส่วนชายคนนี้ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ชุดเหล่านี้อาจจะไม่ได้ดูดีทั้งหมด แต่พวกเขาทำออกมาได้มีสีสันและดูมีความย้อนยุคมาก เจ๋งจริงๆ “ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความคิดเห็นบางส่วนที่ไม่เชื่อว่าภาพดังกล่าวนั้นเป็นของจริง พร้อมกับแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป อย่างเช่นความคิดเห็นนี้ “เชียงใหม่มาจากประเทศไทย นั่นหมายความว่า…” “พวกเขาทำศัลยกรรมกันไปเท่าไหร่เนี่ย??” “เบอร์ 4, 8, 14 และ 21 หวังว่าพวกเขาจะไม่ใช่กับดัก (สาวประเภทสอง)…
-
หนุ่มใหญ่รัสเซีย ชวนสาวมาทานข้าวที่บ้าน ก่อนจับมัดและลงมือกัดใบหู-กินเนื้อเธอสดๆ
เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย หลังจากที่นาย Anatoliy Ezhkov วัย 41 ปี ได้กัดเข้าที่ใบหู จมูก และปลายนิ้วของคู่เดทของเขา หลังจากที่ชวนเธอมาทานอาหารเย็นที่บ้าน ตามรายงานของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา บอกว่านาย Anatoliy ได้เชิญคุณ Irina Gonchar พยาบาลสาววัย 41 ปีผู้ตกเป็นเหยื่อความโหดร้ายในครั้งนี้มาที่อพาร์ทเม้นท์ของเขาหลังจากที่ทั้งสองรู้จักกันผ่านเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์ นาย Anatoliy Ezhkov ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ หลังจากที่ให้เธอดื่มเหล้าจนเมาได้ที่แล้ว ชายคนดังกล่าวได้จับเธอมัดและเริ่มใช้ฟันของเขากัดลงไปบนเนื้อของเธอ มีการคาดการณ์ว่าชายวัย 45 ปีคนดังกล่าวอาจจะอยู่ในอาการเมาสารเสพติดและแอลกอฮอล์ Anatoliy ใช้เวลานานถึง 4 ชั่วโมงในการกัดส่วนใบหู จมูก ปลายนิ้ว และเนื้อส่วนหลังของเธอด้วยฟันของเขา แต่โชคดีที่หญิงสาวคนดังกล่าวถูกช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา หลังจากที่เพื่อนบ้านได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอและโทรแจ้งตำรวจ ภาพต่อไปนี้อาจมีเนื้อหาที่รุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม . . . . . หญิงสาวถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้ๆ เพื่อทำการรักษาทันที ส่วนทางด้านญาติของเธอก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า…
-
ภาพแต่งงานธีมน่ารัก “เพื่อนเจ้าสาวป่วน” ถูกใจชาวเน็ตแชร์เพียบ แต่หนีไม่พ้นมีดราม่า
การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งนั้นอาจจะเป็นสิ่งสำคัญที่คู่รักหลายๆ คู่เลือกถ่ายก่อนการเข้าพิธีวิวาห์ และนอกจากจะเตรียมชุดเจ้าบ่าเจ้าสาวแล้ว การคิดธีมถ่ายภาพก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คุณ Rebecca และสามีของเธอคุณ James Foster คู่บ่าวสาวชาวแคนนาดาได้ออกแบบธีมการถ่ายภาพงานแต่งของพวกเขาในชุดเพื่อนเจ้าสาวจอมป่วน โดยได้คุณ Ashley Hempel ช่างภาพงานแต่งงานผู้มากฝีมือมาช่วยในการเนรมิตรภาพถ่ายชุดดังกล่าวให้ และนี่คือภาพถ่ายพรีเวดดิ้งในธีม “เพื่อนเจ้าสาวจอมป่วน” นอกจากจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้วคุณ Sharilyn Wester ยังถูกเลือกให้มาช่วยถ่ายภาพชุดเพื่อเจ้าสาวจอมป่วนอีกด้วย และแน่นอนว่างานนนี้เธอก็เล่นแบบจัดเต็มฟูลอัลบั้มเลยทีเดียว!! “ในตอนแรกฝ่ายเจ้าบ่าวไม่เข้าใจว่าพวกเราทำอะไรกัน แต่เมื่อเราเริ่มทำท่าทางตลกๆ เขาก็เริ่มหัวเราะออกมา มันก็เป็นการถ่ายภาพที่สนุกมาก” คุณ Sharilyn กล่าว งานนนี้เรียกว่าจ้าง 100 พี่แกเล่นไป 5,000 เลยทีเดียว ถึงแม้ว่าธีมการถ่ายภาพครั้งนี้จะค่อนข้างกระทันหัน แต่การถ่ายภาพทั้งหมดก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี พวกเขาใช้เวลาถ่ายภาพทั้งหมดเกือบทั้งวัน การถ่ายภาพครั้งนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งเพื่อเจ้าสาวและคู่บ่าสาว “อาจจะมีบางภาพที่ Rebecca อยากให้เราถ่ายใหม่ ภาพถ่ายชุดนนี้ถ่ายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วก่อนการจัดงานแต่งาน” หญิงสาวกล่าว คุณ Rebecca และเพื่อนๆ เจ้าสาวของเธอ . . และหลังจากที่ภาพของคู่บ่าวสาวถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น และถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะบอกว่าภาพถ่ายชุดนี้ดูน่ารักและน่าอิจฉาเจ้าสาวกับเพื่อนๆ จริง แต่ทว่าดารม่านั้นก็เกิดขึ้นจนได้ หลังจากที่ชาวเน็ตท่านหนึ่งได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ภาพดังกล่าวนั้นก็ดูแปลกตาดี…
-
แฟนเพลงถูกเสนอขายภาพเปลือยของ Sia ตัวเธอเองก็เลยตอกกลับ จนหน้าหงายกันไป!!
การขู่แบล็คเมล์ นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในวิธีการที่เหล่ามิจฉาชีพใช้ในการหาเงินจากเหยื่อได้ง่ายๆ และเหล่าคนดังหรือผู้มีชื่อเสียงเองก็มักจะตกเป็นเหยื่อของการกระทำดังกล่าว และนักร้องสาวและนักแต่งเพลงมากความสามารถอย่าง Sia เองก็ตกเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน หลังจากที่แฟนเพลงคนหนึ่งของเธอได้รับข้อความจากคนร้ายรายหนึ่ง แล้วบอกว่าเขามีภาพลับของนักร้องสาวพร้อมกับเสนอขายภาพเหล่านั้นให้กับเธอ “ถ้าหากคุณยอมซื้อ คุณจะได้ภาพแบบชัดๆ รวมถึงอีก 14 ภาพที่เหลือ” ข้อความและภาพของมิฉาชีพที่ส่งมาให้กับแฟนเพลงของเธอ (ของจริงไม่มีสติ๊กเกอร์แมวหรอกนะ!!) และถ้าหากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้บางคนอาจจะเลือกที่ยอมทำตามคนร้าย แต่หลังจากที่แฟนเพลงได้ส่งภาพดังกล่าวให้กับ Sia เธอกลับเลือกที่จะเอาข้อความดังกล่าวมาอัพลงทวิตเตอร์ซะเองเลย พร้อมกับบอกประมาณว่า เอ็งไม่ต้องอัพ เดี๋ยวข้าอัพเอง!! “มีใครบางคนพยายามจะขายรูปโป๊ของฉันให้กับเหล่าแฟนๆ อย่าไปเสียเงินกับมันเลย นี่ฉันเอามาแจกเอง จัดไป ทุกๆ วันเป็นวันคริสต์มาส” งานนี้ทำเอาโรคจิตคนดังกล่าวถึงกับเงิบกันเลยทีเดียว หลังจากที่นักร้องสาวของเราออกมาแจกรูปมันซะเองแบบนี้ อืม… บอกแล้วอย่ามายุ่งกับขุ่นแม่!! และหลังจากนั้นไม่นานวีรกรรมของเธอก็ถูกพูดถึงอย่างมากบนโลกออนไลน์ มีชาวเน็ตหลายๆ คนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมาก บางคนก็ถึงกับยอมให้กับบารมีของขุ่นแม่กันเลยทีเดียว และนี่ก็เป็นความคิดเห็นบางส่วนจากชาวเน็ต “นั่นมันเป็นอะไรที่ต่ำตมมาก ฉันภูมิใจในตัวเธอจริงๆ” “ทุกๆ วันคือวันคริสต์มาส เธอสุดยอดจริงๆ “ ส่วนสาวคนนี้ก็ออกมาสนับสนุนเธอ พร้อมกับบอกประมาณว่าถ้าถอดเสื้อออกก็โป๊เหมือนกันหมดนั่นแหละ และไม่มีอะไรจะต้องอาย …
-
เผย 12 สถานที่น่าสนใจจากใต้ท้องทะเลทั่วทุกมุมโลก รอช้าอยู่ไยรีบไปชมกันเลย…
อย่างที่ทราบกันดีว่าโลกของเรานั้นประกอบด้วยน้ำมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมมหาสมุทรหลายๆ แห่ง หรือใต้พื้นน้ำนั้นจึงเปรียบเสมือนสุสานขนาดใหญ่ ที่เก็บรวบรวมซากอารยธรรมและวัตถุโบราณต่างๆ ไว้อย่างมากมาย และวันนี้เราก็มีสิ่งที่น่าสนใจในใต้ท้องทะเล จากทั่วทุกมุมโลกมาให้ได้ชมกัน ซึ่งขอบอกไว้ก่อนเลยว่าแต่ละที่นั้นไม่ธรรมดาเลย ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. พิพิธภัณฑ์ใต้น้ำ Cancún เมืองกังกุน ประเทศเม็กซิโก พิพิธภัณฑ์ใต้น้ำในประเทศเม็กซิโกนี้เปิดให้เข้าชมครั้งแรกเมื่อปี 2010 ที่นี่เต็มไปด้วยรูปปั้นต่างๆ ที่จมอยู่ใต้น้ำมากกว่า 500 ชิ้นด้วยกัน โดยพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแนวปะการังเทียมเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลนั่นเอง 2. เศษซากของเรือ MS Zenobia และเหล่ารถบรรทุกที่จมน้ำบริเวณทะเลเมดิเตอร์ริเนียน นอกชายฝั่งของประเทศไซปรัส เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ที่จมลงสู่ก้นทะเลพร้อมกับสินค้าที่บรรทุกมาในช่วงปี 1980 ซึ่งสินค้าเหล่านั้นยังรวมไปถึงรถบรรทุกกว่า 104 คันที่จมลงไปพร้อมกับเรือด้วย ปัจจุบันที่แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำยอดฮิตไปแล้ว 3. Cenote Angelita แม่น้ำที่อยู่ใต้น้ำ ในประเทศเม็กซิโก อันที่จริงแล้วสิ่งที่อยู่ภายใต้น้ำเหล่านี้ไม่ได้เป็นแม่น้ำเหมือนที่เราเห็นแต่อย่างใด แต่พื้นสีขาวที่มีลักษณะคล้ายกับแม่น้ำที่เราเห็นนั้นคือก๊าซก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ที่เกิดจากการทับถม ผุพังของเศษซากพืชซากสัตว์ และถูกแบคทีเรียย่อยสลายในสภาวะขาดออกซิเจนนั่นเอง 4. โบราณสถานใต้น้ำ Yonaguni หมู่เกาะริวกิว ประเทศญี่ปุ่น หินรูปร่างปริศนาที่มีอายุมากกว่า 500…
-
รู้จักกับสาวชาวจีนร่างเล็ก Hu Tongtong วัย 25 ปี ที่มีดีกรีชนะการแข่งเขมือบมาแล้ว!!
Hu Tongtong สาวน้อยวัย 25 ปีจอมกินจุจากมณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีน กลายเป็นที่โด่งดังอย่างมากหลังจากที่เธอได้อัพเดทคลิปวิดีโอการกินข้าวที่ดูน่าอร่อยของเธอ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบการกินมากแค่ไหน แต่หญิงสาววัย 25 ปีผู้นี้กลับมีน้ำหนักตัวเพียงแค่ 43.5 กิโลกรัมเท่านั้น และคลิปการกินอาหารแบบดุเดือดของเธอก็ได้รับความนิยมจากชาวเน็ตในประเทศจีนอย่างมากเลยทีเดียว โดยคลิปวิดีโอที่ผ่านมาของเธอนั้นเผยให้เห็นถึงอาหารจำนวนมากที่เธอกินเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นไข่ต้มที่มากถึง 93 ฟอง เกี๊ยวกุ้ง 200 ตัว ทาร์ตไข่ 76 ชิ้น แฮมเบอร์เกอร์ 5 กิโลกรัม รวมถึงเคบับแกะอีก 48 ชิ้นด้วยกัน ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในงานแข่งขันกินจุในเมืองฉงชิ่ง Hu สามารถเอาชนะคู่แข่งของเธอและสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ซึ่งในการแข่งขันในครั้งนั้นภายในระยะเวลาแค่ 10 นาที เธอสามารถทานบะหมี่ได้ถึง 17 ชามเลยทีเดียว ในขณะผู้ชนะอันดับ 2 และ 3 ทานได้เพียง 7 ชามและ 5 ชามเท่านั้น!! Hu เริ่มต้นอัดคลิปวิดีโอของเธอเมื่อประมาณช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2016 หลังจากที่ได้เห็นคลิปกินจุของนักกินคนอื่นๆ…
-
เผยอีกด้านหนึ่งของอิทธิพลมืด ยากูซ่าแจกขนมวันฮาโลวีน มอบความสุขให้กับเด็กๆ
ในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีนอกจากจะเป็นวันสิ้นเดือนที่หลายๆ คนรอคอยเงินเดือนออกแล้ว ยังเป็นวันเทศกาลฮาโลวีนด้วยเช่นกัน และที่ประเทศญี่ปุ่นเองเค้าก็ได้มีการฉลองวันนี้เหมือนกัน และก็เป็นธรรมเนียมของทุกๆ ปีที่แก๊งยามากุชิ-กุมิ แก๊งยากูซ่าของญี่ปุ่นจะเปิดสำนักงานใหญ่ของพวกเขาเพื่อแจกขนมให้กับเด็กๆ และผู้คนในพื้นที่รอบๆ นั้น ก่อนหน้านี้ทางแก๊งได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะงดจัดงานปาร์ตีฮาโลวีนในปีนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหัวหน้า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารนาย Ninkyo Yamaguchi-gumi หัวหน้ากลุ่มเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ทว่าเมื่อเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาพวกเขากลับเปิดประตูสำนักงานใหญ่และนำถุงขนมออกมาแจกเหล่าเด็กเหมือนทุกๆ ปี นอกจากนี้สมาชิกแต่ละคนของแก๊งก็ล้วนแต่งตัวด้วยชุดแฟนซีออกมาต้อนรับเหล่าเด็กน้อย พร้อมกับตกแต่งสนามหญ้าด้วยไฟหลากสี ป้ายประกาศในวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ถุงขนมที่ทางแก๊งเตรียมมามอบให้กับพวกเด็กๆ สมาชิกบางคนของแก๊งแต่งตัวมาในชุดแฟนซี พร้อมกับเดินแจกขนมให้กับเด็กๆ ผู้ร่วมงานพร้อมกับกล่าวคำว่า “สุขสันต์วันฮาโลวีน” แต่อย่างไรก็ตามในบริเวณสำนักงานใหญ่ดังกล่าวยังคงมีความรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และสมาชิกบางส่วนก็ตรวจตราดูความเรียบร้อยพร้อมกับชุดกันกระสุน “มีการรักษาความปลอดภัยสูงมาก” คุณแม่ท่านหนึ่งที่มาร่วมงานกล่าว คุณพ่อท่านหนึ่งที่มาร่วมสนุกในงานได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “เด็กๆ ทุกคนจะได้รับแจกถุงหนึ่งใบซึ่งมีมูลค่าประมาณ 250 บาท ภรรยาของผมบอกว่ามันเป็นงานที่สนุกมากๆ” และนี่คือขนมที่อยู่ในถุงของวัญจากแก๊งยามากุชิ-กุมิ ถึงแม้ว่ายากูซ่านั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย ต่างๆ…
-
“ฮา -ัส รัสเซีย” รวม 20 ภาพอารมณ์ขันในแบบฉบับของชาวหมีขาว ระวังตัวไว้ถ้าใครไม่ตลก!!
คำว่า “โหดสัส รัสเซีย” อาจจะเป็นประโยคที่คุ้นหูของหลายๆ คน เพราะนอกจากความหนาวเย็นและผู้นำมาดเข้มของพวกเขาแล้ว บางอย่างที่เราได้เห็นเกี่ยวกับประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลกแห่งนี้ก็ชวนให้ขนลุกซู่อยู่บ่อยๆ แต่นอกจากความโหดแบบสไตล์รัสเซียแล้ว ในบางมุมชาวแดนหมีขาวนี้ก็มีความฮาในแบบฉบับของพวกเขาเหมือนกันนะเออ ส่วนจะฮาแค่ไหนนั้นไปชมกันได้เลย… 1. For the Motherland! 2. เอาว๊ะเพื่อน จานไม่มีก็ใช้มือแทนแล้วกัน!! 3. นี่คือภาพของช่างชาวรัสเซีย และหน้ากากเชื่อมเหล็กของเขา 4. เฮ้เจฟ!! วันนี้นายขับเครื่องบินมาเองเลยหรือนี่?? 5. นี่งานแต่งนะนาย 6. ชาวแก๊งค์รัสเซีย และชุดประจำของพวกเขา แต่เอ่อ… ดูไปดูมาเหมือนครูพละมากกว่านะ?? 7. และนี่ก็คือท่านั่งอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวแก๊งเค้าหล่ะ 8. อืม… เมนูนี้น่าจะเย็นๆ ก้นหน่อยล่ะนะ 9. ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงต้องทำท่าแบบนี้ แต่ผมว่ามันเท่ดีจบมั้ย?? 10. รูปเจ้าหญิงแอเรียล ไม่น่าจะมาอยู่ตรงแผนกขายอาหารทะเลนะว่าไหม?? 11. และนี่คือสตรีทแฟชั่นแบบชาวรัสเซีย หล่อเท่ ไม่ซ้ำใคร…
-
10 อันดับหนัง Rate R ที่ดีที่สุดตลอดกาล และควรค่าแก่การหามารับชมซักครั้ง!!
อ่า… รู้นะว่าคิดอะไรกันอยู่ สำหรับหลายๆ คนที่หวังจะได้เห็นหนังผู้ใหญ่ในการจัดอันดับหนังครั้งนี้ล่ะก็ขอบอกได้เลยว่าคุณอาจจะต้องเสียใจ เพราะว่าหนังเรท R นั้นไม่ได้หมายถึงหนังโป๊ หรือหนังแนวผู้ใหญ่แบบที่หลายๆ คนเข้าใจหรอกนะ แต่หนังเรท R ในที่นี้ก็คือหนังที่มีมีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ มีความรุนแรงอยู่สูง และมีฉากโป๊เปลือยหรือพูดถึงเรื่อง เพศอย่างโจ่งแจ้งต่างหากล่ะ และนี่ก็คือ 10 อันดับหนังเรท R ที่ดีที่สุดตลอดกาลที่ถูกจัดอันดับโดยการโหวตจากชาวเน็ตผ่านเว็บไซต์ Ranker ซึ่งควรค่าแก่การหามาชมซักครั้ง 10. Unfaithful เรื่องราวของครอบครัวที่มีความสุขและเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน กลับต้องมาผเชิญกับปัญหาหลังจากที่ Edward Sumner (รับบทโดย Richard Gere) ได้รู้ว่าภรรยาของเขาแอบมีใจให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่เธอพบเข้าโดยบังเอิญ 9. The Dreamers หนึ่งในหนังแนวอิโรติกที่มีฉากที่น่าจดจำและถูกอกถูกใจหลายๆ คน หนังอาร์ที่พูดถึงเรื่องราวของ Matthew (รับบทโดย Michael Pitt) ที่ได้พบกับฝาแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง (หนึ่งในนั้นคือ Eva Green สุดเซ็กซี่) และจากนั้นทั้งสามก็เริ่มต้นความสัมพันธ์ของพวกเขา 8. Body Heat หนังเล่าถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ของทนายหนุ่ม Ned Racine (รับบทโดย William Hurt) ที่มีอารมณ์ทางเพศร้อนแรงกับ Matty Walker…
-
เผยภาพอันน่ามหัศจรรย์ของเหมืองเกลือใต้ดิน กับหินบนผิวเพดานที่เหมือนพื้นกลับหัว
หลายๆ ครั้งที่ความสวยงามของธรรมชาติมักจะสร้างความประหลาดใจและความน่าประทับใจให้กับเรา ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะเคยได้ชมภาพเหล่านั้นกันมาบ้างแล้วแน่ๆ และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่ภาพของเหมืองเกลือร้างแห่งหนึ่งโดยคุณ Yaroslav Seheda ช่างภาพวัย 26 ปี ซึ่งเผยให้เห็นถึงความน่าทึ่งของธรรมชาติ และภาพเหล่านั้นก็ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในหนังไซไฟซักเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว “ผมรู้จักเหมืองแห่งนี้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต มันให้ความรู้สึกที่น่าทึ่งมาก ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย มันเหมือนพื้นที่ว่างๆ ขนาดมหึมาเลยทีเดียว” ช่างภาพหนุ่มกล่าว เหมืองเกลือแห่งนี้มีชื่อว่า Stebnyk mine ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศยูเครน มันถูกค้นพบในปี 1521 แต่ได้มีการหยุดสกัดเกลือในเหมืองแห่งนี้ไปตั้งแต่ปี 1991 แล้วหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต การทำเหมืองเกลือนั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และนอกจากเหมืองเกลือแห่งนี้แล้วยังมีเหมือง Galicia เหมืองเกลืออันโด่งดังซึ่งเป็นที่นิยมของนักผจญภัย ที่ตั้งอยู่ในพรมแดนระหว่างยูเครนและโปแลนด์อีกด้วย คุณ Seheda และคู่หูของเขารู้สึกตื่นเต้นมากๆ หลังจากที่ได้รู้จักเหมืองเกลือแห่งนี้ทางอินเตอร์เน็ต ทั้งสองตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงดู และพวกเขาก็ได้พบกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ช่างภาพหนุ่มกล่าวว่าบางครั้งเขาต้องคลานผ่านพื้นที่แคบๆ เพื่อเข้าไปสำรวจทะเลสาบที่อยู่ในเหมืองเกลือแห่งนี้ และยังต้องผ่านพื้นที่เสี่ยงๆ อีกมากมาย “ผมรู้สึกกลัวนิดหน่อยเวลาที่เห็นก้อนหินหล่นลงมาจากเพดาน แต่ผมคิดว่าประสบการณ์ในครั้งนี้มันเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก” ประเทศโปแลนด์นั้นมีทะเลสาบเกลือใต้ดินมากถึง 12 แห่ง และแต่ละแห่งนั้นซ่อนอยู่ใต้ดินลึกถึง 140 เมตรเลย โดยทะเลสาบขนาดใหญ่ที่สุดนั้นมีพื้นที่กว้างถึง 13,000 ตารางเมตร และสามารถจุน้ำได้มากถึง 280,000 ลิตรเลยทีเดียว!! …
-
ทำได้ยังไง.. ไอเดียเปลี่ยนโทรศัพท์ Nokia 5110 จอขาวดำธรรมดาๆ ให้สามารถดูหนังได้!?
ในสมัยที่โทรศัพท์ยังมีราคาสูง การจะพกความบันเทิงติดตัวออกไปนอกบ้านนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก อย่าว่าแต่ดูหนังฟังเพลงเล๊ย บางเครื่องยังไม่มีแม้แต่เกมตัวต่อเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มียูทูบเบอร์ผู้หนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Science Nurd ได้เนรมิตรให้โทรศัพท์มือถือรุ่นคุณพ่อ ที่มีเพียงแค่หน้าจอขาวดำและเสียงเรียกเข้าแบบโมโนโทนให้สามารถดูหนังได้!! เจ้าของช่องยูทูบดังกล่าวได้อัพโหลดคลิปวิดีโออันแสนน่าทึ่ง เมื่อเขาสามารถเล่นภาพยนตร์เรื่อง Spider-Man ผ่านโทรศัพท์มือถือจอขาวดำธรรมดาๆ อย่าง Nokia 5110 ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 หรือเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว โดยสเปกทั่วไปของเจ้าโทรศัพท์เครื่องนี้มีเพียงแค่หน้าจอขาวดำขนาด 84×84 พิกเซล และโปรแกรมพื้นฐานอย่างนาฬิกาปลุกกับเครื่องคิดเลขเท่านั้น แต่ทว่ายูทูบเบอร์รายนี้สามารถทำให้มันเล่นภาพยนตร์อย่าง Spider-Man ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเขาได้ทำการเชื่อมตัวจอของโทรศัพท์มือถือรุ่นดังกล่าวเข้ากับแผงวงจร Arduino เพื่อให้จอสมารถแสดงภาพออกมาได้ และนอกจากหนังเรื่อง Spider-Man แล้วยังมีเรื่อง The Matrix อีกเช่นกันที่เขาสามารถเล่นผ่านโทรศัพท์อายุเกือบ 20 ปีเครื่องนี้ได้ ว่าแล้วเราก็ลองไปดูหนังผ่านโทรศัพท์จอขาวดำเครื่องนี้พร้อมๆ กันเลย… ถึงจะเป็นจอขาวดำแต่ก็ยังเห็นหน้าของปีเตอร์ปาร์กเกอร์ได้ชัดอยู่นะว่าไหม?? ว้าวว ถึงแม้ว่าปัจจุบันการดูหนังบนโทรศัพท์นั้นจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่การได้เห็นภาพเคลื่อนไหวบนมือถือจอขาวดำแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกดีไปอีกแบบนะ ที่มา gizmodo
-
รวม 20 อันดับสนีกเกอร์ราคาแพงจากงาน ‘Kick it’ ที่กรุงโรมประเทศอิตาลี
ก็ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงาน Fashion Week 2017 ที่กรุงมิลานประเทศอิตาลี และนอกจากงาน Fashion Week แล้วใกล้ๆ กันนั้นเองที่กรุงโรมเองเค้าก็ได้มีงานที่เรียกได้ว่าเอาอกเอาใจเหล่าผู้คลั่งไคล้รองเท้าหรือสนีกเกอร์เฮดกันไปแบบจัดเต็มเลยนั้นก็คืองาน Kick it นั่นเอง ซึ่งในงานนอกจากจะมีสนีกเกอร์ที่หายากจากนักสะสมจำนวนมากแล้ว ก็ยังมีอีกสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยนั่นก็คือราคาของรองเท้าแต่ละคู่นั่นเอง และนี่ก็คือ 20 อันดับสนีกเกอร์ที่แพงที่สุดในงาน Kick it ในกรุงโรมที่ผ่านมา… 20. Nike Air Max 2017 – ราคา 9,200 บาท 19. Nike Air Max 1 “Safari” – ราคา 9,600 บาท 18. Stussy x Nike Air Force 1 – ราคา 10,000 บาท 17. Nike Uptempo “Baroque” Custom – ราคา…
-
กองเซ็นเซอร์เคนย่าโทษชาวเกย์ที่ไปเที่ยวอุทยาน จนทำให้สิงโตตัวผู้เบี่ยงเบนทางเพศ!?
ภาพของสิงโตเพศผู้ 2 ตัวที่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันในอุทยานแห่งชาติ Masai Mara ของประเทศเคนย่าถูกมองว่าเป็นภาพที่ไม่เหมาะสม และตัวแทนจากกองเซ็นเซอร์เองได้ออกมาอ้างว่าพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศของสิงโตนั้นเป็นผลมาจากการเลียนแบบนักท่องเที่ยวชาวเกย์นั่นเอง ดอกเตอร์ Ezekiel Mutua จากหน่วยตรวจสอบด้านศีลธรรมในสื่อของเคนย่าได้ออกมาเรียกร้องให้มีการแยกสิงโตทั้งสองออกจากกัน จนกว่าจะสามารถอธิบายถึงพฤติกรรมดังกล่าวในทางวิทยาศาสตร์ได้ และถึงแม้ว่าจะมีการศึกษาพฤติกรรมดังกล่าวมานานหลายปี แต่ดอกเตอร์ Ezekiel เชื่อว่าพฤติกรรมเบี่ยงเบนนี้เป็นผลมาจากการเลียนแบบการมีเพศสัมพันธ์ของชาวเกย์ หรืออาจถูกวิญญาณร้ายสิงก็เป็นได้ และถึงแม้ว่าสิงโตทั้งสองตัวจะมีแผงคอที่แสดงว่ามันเป็นเพศผู้ แต่ก็ยังมีการเรียกร้องให้ทำการตรวจสอบว่าสิงโตทั้งสองนั้นเป็นเพศผู้ทั้งคู่จริงหรือไม่ “สัตว์ทั้งสองตัวควรได้รับการให้คำปรึกษา เนื่องจากเป็นไปได้ว่ามันอาจจะได้รับอิทธิพลจากนักท่องเที่ยวเกย์ที่เข้าไปเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ” ดอกเตอร์ Mutua ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น นอกจากนี้เขายังได้ออกมาโต้แย้งอีกว่าพวกสิงโตนั้นไม่สามารถลียนแบบพฤติกรรมดังกล่าวได้จากสื่อภาพยนตร์ได้แน่ๆ ดังนั้นพวกมันจะต้องเรียนแบบจากพฤติกรรมเบียงเบนที่เกิดในอุทยาน Masai Mara อย่างแน่นอน การรักร่วมเพศในประเทศเคนย่านั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างมาก และการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิต่างๆ นั้นก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกนานถึง 14 ปีเลยทีเดียว ส่วนทางด้านคุณ Paul Goldstein เจ้าของภาพถ่ายสิงโตคู่ดังกล่าวได้ออกมาอธิบายถึงที่มาที่ไปของภาพว่า เขาเห็นสิงโตทั้งคู่ยืนอยู่ข้างๆ กัน ก่อนที่พวกมันจะเริ่มนั่งลงและเริ่มกิจกรรมของพวกมัน “บางครั้งคุณอาจจะเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้คุณหยุดหายใจ เหมือนกับภาพของสิงโตคู่นี้ ซึ่งมันเป็นภาพที่หาชมได้ยากและสมบูรณ์แบบมากๆ เลยทีเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นมันน่าทึ่งมาก” ช่างภาพหนุ่มกล่าว เจ้าสิงโตเพศผู้ทั้ง 2 ที่กำลังทำกิจกรรมของพวกมันอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Masai Mara ประเทศเคนย่า อย่างไรก็ตามการรักร่วมเพศในสิงโตนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่ถือว่าหาชมได้ยาก จากการศึกษาที่มีการตีพิมพ์ในช่วงศตวรรษที่ 20 พบว่ามีอัตราการรักร่วมเพศในสิงโตเพียงแค่…
-
ชายหนุ่มช่วยเจ้าเหมียวน้อยที่ร้องไห้หลังถูกแม่ทิ้ง และกลายเป็นสมาชิกใหม่ในที่สุด…
เรื่องราวอันแสนน่าประทับใจของเจ้าเหมียวน้อยผู้น่าสงสารตัวหนึ่งที่ถูกแม่ของมันทิ้งเอาไว้ในสนามหญ้า แต่ทว่าชีวิตของมันต้องเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้พบกับพ่อบุญธรรมคนใหม่ของมัน และกลายมาเป็นสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวของเขา คุณ bmusser ผู้ใช้งานจากเว็บไซต์ imgur ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาพบเจ้าเหมียวน้อยที่น่าสงสารตัวนี้กำลังร้องเรียกแม่ของมันอยู่ที่ด้านนอกรั้วในสนามหญ้าใกล้ๆ บ้านของเขา “ในตอนที่ผมกำลังจะขึ้นรถเพื่อเตรียมตัวออกไปทำงาน ผมได้ยินเสียงของเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ดังขึ้นที่สนามหญ้า ใกล้ๆ กับโรงรถของเพื่อนบ้านผม” ชายหนุ่มกล่าว หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงเฝ้าสังเกตเจ้าเหมียวน้อยตัวนั้น และเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็พบว่าเจ้าแมวผู้น่าสงสารนั้นถูกแม่ของมันทิ้งเอาไว้ คุณ bmusser จึงได้พาเจ้าแมวผู้น่าสงสารนั้นมาให้ภรรยาเขาดูแล ก่อนที่จะออกไปทำงาน ในตอนนั้นเจ้าเหมียวตัวน้อยนั้นยังเป็นลูกแมวที่เพิ่งคลอดออกมา ตรงท้องของมันยังคงมีสายสะดือติดอยู่และตาของมันเองก็ยังเปิดไม่เต็มที่เลย ภรรยาของคุณ bmusser พยายามดูแลเจ้าเหมียวน้อยอย่างใกล้ชิด เธอรีบจัดการเตรียมที่นอนและหาอาหารให้กับเจ้าเหมียว หญิงสาวดูแลเจ้าแมวกำพร้าอย่างดีจนกระทั่งมันเริ่มแข็งแรง และฉายแววความซุกซนออกมา “เมื่อกลับมาจากที่ทำงานผมพามันไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพทั่วๆ ไป หมอบอกผมว่าเจ้าลูกแมวตัวนี้อายุประมาณแค่ 2 ถึง 5 วันเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามสุขภาพของมันนั้นค่อนข้างแข็งแรงและไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง” ในที่สุดเจ้าเหมียวก็กลายมาเป็นสมาชิกคนสำคัญของที่นี่ และแน่นอนตอนนี้มันเริ่มอ้อนเป็นแล้ว!! ทุกๆ 2 ชั่วโมงเจ้าเหมียวน้อยจะได้กินนมอุ่นๆ และนอกจากนี้มันยังได้รับการดูแลอย่างดีอีกด้วย และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ ตาของเจ้าแมวน้อยก็เปิดออกอย่างเต็มที่ ตอนนี้ความน่ารักของมันก็เพิ่มขึ้นอีกมากเลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้นมันก็เริ่มที่จะเล่นซนตามประสาลูกแมวมากขึ้น นอกจากความซนและความน่ารักแล้ว ในทุกๆ วันเจ้าแมวน้อยจะชอบเดินตามพ่อบุญธรรมของมันเหมือนกับเป็นเงาตามตัวของคุณ bmusser…
-
เจ้าของบันทึกพัฒนาการ “หมาชิบะ” ตั้งแต่วันแรกที่เลี้ยง จนถึงวันที่ 100 โตเร็วนะเจ้าหมา!!
นอกจากน้องหมาพันธุ์ไซบีเรียน และเฟรนซ์บลูด็อกแล้ว เจ้าชิบะก็เป็นหนึ่งในสุนัขที่พวกเราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี และสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนหลงใหลเจ้าตูบสายพันธ์ุญี่ปุ่นนี้ก็คงหนีไม่พ้นความน่ารักและความฉลาดของมันนั่นเอง และวันนี้เราก็มีเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้า Shibainu Zoro ชิบะตัวน้อยสุดน่ารักจากประเทศญี่ปุ่นมาฝากกัน ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่าน้องชิบะซังตัวนี้มียอดผู้ติดตามมากถึง 4,000 คน เรียกได้ว่าเป็นเซเลบบนโลกออนไลน์เลยทีเดียว หวัดดีฮะ ผม Shibainu Zoro เองฮะ!! เจ้านายของ Shibainu Zoro ได้อัพเดทคลิปวิดีโอของเจ้าชิบะน้อยตัวนี้ลงบนโลกออนไลน์หลายคลิปวิดีโอด้วยกัน และคลิปที่ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากที่สุดคลิปหนึ่งนั่นก็คือการพัฒนาการของเจ้าตัวเล็กตลอดระยะเวลา 100 วันที่ผ่านมานั่นเอง ซึ่งภายในคลิปได้เผยให้เห็นชีวิตประจำวันในแต่ละวันของเจ้าตูบตลอดระยะเวลา 3 เดือนกว่า ทั้งตอนวิ่งเล่น ตอนอาบน้ำ หรือแม้แต่ตอนที่มันกำลังซุกซนแบบน้องหมาตัวน้อย ทำเอาแฟนๆ ใจละลายไปตามๆ กันเลยทีเดียว แต่ดูจากในคลิปวิดีโอแล้ว เจ้า Shibainu Zoro น่าจะเป็นน้องหมาที่ถูกชะตากับน้ำไม่น้อยเลยนะเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นตอนอาบน้ำที่สุดแสนจะนิ่ง หรือของเล่นสุดโปรดอย่างลูกโป่งน้ำก็ถูกใจเจ้าตูบไม่น้อยเลย ผมชอบอาบน้ำฮะ!! หรือไม่ว่าจะเป็นลูกโป่งน้ำแบบนี้ ผมก็ชอบเหมือนกันนะ!! อ่า… อยากเห็นความน่ารักและพัฒนาการของเค้าแล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นไปชมกันเลย… และสำหรับใครที่อยากติดตามความน่ารักอื่นๆ ของเจ้า Shibainu Zoro ล่ะก็สามารถเข้าไปชมกันต่อได้ที่ช่อง Shibainu Zoro ของเค้ากันได้เลยนะ……
-
ขำกลิ้งลิงกับหมู!! มิตรภาพระหว่างเจ้าจ๋อกับพี่หมู กอดหลังเค้าซะแน่นไม่ยอมปล่อยเชียวนะ
หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับภาพของเพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์อย่างเจ้าปังคุงกับเจมส์ ที่เคยออกมาโลดแล่นและเรียกเสียงหัวเราะในบ้านเราเมื่อหลายปีที่แล้วกันเป็นอย่างดี แม้ว่ารายการของพวกเขาจะจบไปนานแล้ว แต่สายสัมพันธุ์และความน่ารักแบบนั้นยังคงมีให้เห็นอยู่นะ เพราะอย่าง 2 เพื่อนซี๊อย่างเจ้าจ๋อ Mongi และเจ้าหมู Ttoltloee จากประเทศเกาหลีคู่นี้เองก็โด่งดังไม่แพ้เจมส์และปังคุงเลย เอ๊า!! ไปกันเลยพี่หมู เจ้า Mongi กับ Ttoltloee นั้นเป็นเพื่อนซี้กันและเป็นเหมือนดาราดังของสวนสัตว์แห่งหนึ่งในประเทศเกาหลี นอกจากเจ้า Mongi จะชอบอาศัยอยู่บนหลังของเพื่อนมันเป็นที่นั่งแบบพิเศษเพื่อทัวร์ไปรอบบๆ สวนสัตว์แล้ว ทั้ง 2 ยังดูเหมือนเป็นเพื่อนซี้กันสุดๆ อีกด้วย เพราะไม่ว่าพี่หมูจะทำอะไรเจ้าจ๋อของเราก็เป็นอันต้องขอทำด้วยอยู่ตลอดเลย ไม่ว่าจะเป็นตอนกิน… หรือแม้แต่ตอนนอนเองก็ตาม อืม… แบบนี้สินะที่เค้าเรียกคู่ซี้ปาท่องโก๋ อ่า… อยากเห็นความน่ารักของทั้งคู่แล้วใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นจะรอช้าอยู่ไย ไปชมกันเลย งือออ น่ารักจังเลยนะเนี่ยยย ที่มา SBS TV동물농장x애니멀봐
-
“Bagel House” อาคารทรงแปลกอายุเกือบ 50 ปีที่ยังคงใช้งานอยู่ในประเทศรัสเซีย
การอนุรักษ์อาคารต่างๆ ในสมัยก่อนไว้นั้นนอกจากจะทำให้เห็นถึงผลงานการออกแบบในยุคสมัยก่อนแล้ว ความสวยงามของตัวอาคารนั้นก็ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นกัน และอาคาร Bagel House ในประเทศรัสเซียเองนี้ก็เช่นกัน อาคารอายุเกือบๆ 50 ปี หลังนี้เป็นผลงานการออกแบบของนาย Evgeny Stamo กับนาย Alexander Markelov สถาปนิกและวิศวกรชาวรัสเซีย โดยอาคารดังกล่าวนั้นได้เริ่มก่อสร้างในช่วงปี 1970 และแล้วเสร็จภายในปี 1972 ซึ่งนอกจากรูปทรงอาคารแบบวงแหวนขนาดรัศมีกว่า 150 เมตรที่มีต้นแบบมาจากขนมปัง Bagel แล้ว ในส่วนตรงกลางนั้นยังเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวและสนามเด็กเล่นอีกด้วย และนี่คือโฉมหน้าของอาคาร Bagel House จากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย โดยอาคารหลังนี้ถูกใช้เป็นที่พักอาศัย ซึ่งภายในนั้นประกอบไปด้วยอพาร์ทเม้นท์มากถึง 913 ห้อง และสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านซักรีด ร้านค้า ร้านขายยา รวมถึงที่ทำการไปรษณีย์อีกด้วย ในปี 1980 ขณะที่สหภาพโซเวียตได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ทางการได้มีการสร้างอาคารคล้ายๆ กันเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของการแข่งขันโอลิมปิก แต่อย่างไรก็ตามกลับมีเพียงอาคารแค่หลังเดียวเท่านั้นที่สร้างแล้วเสร็จ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียตที่กำลังตกต่ำอยู่ในขณะนั้น อาคารที่สร้างเพิ่มขึ้นมานั้นก็ตั้งห่างจากกันมากจนทำให้มันดูไม่เหมือนสัญลักษณ์ของกีฬาโอลิมปิกเลย แต่อย่างไรก็ตามยังมีการเปิดใช้อาคารทั้ง 2 แห่งนี้เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน อาคารแต่ละหลังนั้นมีความสูงมากถึง 9…
-
10 ผลกระทบของ “กัญชา” ที่ส่งผลต่อร่างกายของเรา ในแบบที่พวกคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
“กัญชา” พืชสมุนทรไพรที่อาจจะเป็นสิ่งต้องห้ามในหลายๆ ประเทศ แต่ในบางประเทศนั้นการใช้กัญชาในทางการแพทย์และการใช้เพื่อความเพลิดเพลินโดยอยู่ภายใต้กฎหมายกำหนดนั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และแน่นอนว่าเหรียญย่อมมีาสองด้านฉันใด เจ้าพืชสมุนไพรชนิดนี้ก็ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียฉันนั้น ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวม 10 ผลกระทบจากกัญชาที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเรามาฝากกัน ซึ่งแต่ละข้อจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 1. กัญชานั้นทำให้คุณมีความสุข อย่างที่เรารู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่ากัญชานั้นมีฤธิ์ต่อระบบประสาท โดยสารสำคัญที่ทำให้เรารู้สึกดีนั่นก็คือ THC หรือ Tetrahydrocannabinol นั่นเอง 2. การสูบกัญชาในระยะสั้นนั้นยังช่วยทำให้หัวใจเต้นเร็วได้อีกด้วย การสูบกัญชานั้นจะช่วยทำให้อัตราการเต้นของหัวใจคุณเพิ่มขึ้นประมาณ 20 ถึง 50 ครั้งต่อนาทีเลยทีเดียว ซึ่งอาการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่ 20 นาทีถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว 3. นอกจากนี้กัญชายังสามารถช่วยรักษาอาการเจ็บปวดได้ด้วยเช่นกัน สาร Cannabidiol หรือ CBD ที่อยู่ในกัญชานั้นมีผลในการใช้เป็นยารักษาโรคซึ่งรวมถึงอาการเจ็บปวดต่างๆ รวมไปถึงโรคลมชักอีกด้วย โดยสารเคมีดังกล่าวนั้นจะไม่ออกฤทธิ์ทำให้คุณเมาแต่อย่างใด และนอกจากนี้ปริมาณของ THC และ CBD ที่แตกต่างกันนั้นยังมีผลในการรักษาโรคที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย 4. และที่สำคัญกัญชายังมีส่วนช่วยในการักษาโรคลำไส้อักเสบอีกด้วย จากผลการศึกษาพบว่ากัญชานั้นมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีปัญหาลำไส้อักเสบ โดยจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2014 ได้เผยว่าผู้ป่วยที่ใช้สาร CBD ในปริมาณน้อยนั้นไม่พบอาการอักเสบของลำไส้ แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป …
-
นี่คือหนังสั้นที่ถูกสร้างโดย “สูตรทางคณิตศาสตร์” ทั้งหมด กลายเป็นแนวไซไฟโลกอนาคตสุดล้ำ!!
ในขั้นตอนการสร้างสรรค์ภาพยนตร์แอนนิเมชั่นสามมิติ โปรแกรมหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก นอกจากจะทำให้ผลงานออกมาสวยงามและดูน่าชื่นชมแล้ว โปรแกรมหรืออุปกรณ์ดีๆ นั้นก็ยังมีส่วนช่วยทำให้การทำงานของผู้สร้างนั้นง่ายขึ้นอีกด้วยเช่นกัน แต่ทว่าบางครั้งเจ้าโปรแกรมเหล่านี้ก็อาจจะอัจฉริยะมากเกินจนมันสามารถสร้างภาพยนต์สั้นออกมาได้ด้วยตัวเองเหมือนกับ Fraktaal หนังสั้นไซไฟที่ถูกโปรแกรมสร้างขึ้นมาเอง!! คุณ Julius Horsthuis เล่าว่าเขาได้ใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ในการออกแบบสูตรทางคณิตศาสตร์สำหรับให้โปรแกรมคำนวนเพื่อสร้างออกมาเป็นหนังสั้นเรื่องนี้โดยใช้โปรแกรมการออกแบบ 3 มิติในการคำนวนสูตรดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่ได้ทำการออกแบบเรียบร้อยแล้วคุณ Julius นั้นได้ปล่อยให้โปรแกรมนั้นทำการรันสูตรเองทั้งหมดทั้งหมดเองโดยที่เขาไม่ได้ควบคุมเลยแม้แต่น้อย “ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ผมขี้เกียจที่จะนั่งเฝ้ามัน” ผู้กำกับหนุ่มกล่าว การใช้การวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ของโปรแกรมทำให้ศิลปินหนุ่มของเราได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้ และนี่คือหนังสั้นที่เกิดขึ้นมาจากสูตรคณิตศาสตร์และการคำนวนของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งหมด นอกจากนี้คุณ Julius ยังได้เผยอีกว่าการสร้างหนังสั้นไซไฟเรื่องนี้จากสูตรทางคณิตศาสตร์และใช้โปรแกรมคำนวนทั้งหมดนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ และเปิดโลกให้กับวงการแอนนิเมชั่นเลยก็ได้ “ชีวิตของเรานั้นโดยส่วนมากแล้วล้วนเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ทั้งนั้น ผมพยายามทำให้พวกเราหลายๆ คนเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มันอยู่รอบๆ ตัวเรา และการค้นพบนี้จะเป็นประเด็นที่น่าตื่นเต้นสำหรับการสร้างภาพยนตร์แบบดิจิตอลแน่นอน” Julius เขียนไว้ในคำอธิบายหนังสั้นของเขา ที่มา sploid
-
นักมายากลบันทึกสถิติเดินบนเศษแก้วยาวที่สุดในโลก มอบเงินเพื่อช่วยเหลือเด็ก
เรื่องราวน่าประทับใจของคุณ Russell Fox หนุ่มนักมายากลชาวแอฟริกาใต้วัย 43 ปี ที่ตั้งใจจะทำลายสถิติโลกด้วยการเดินบนเศษแก้วเป็นระยะทางกว่า 32 กิโลเมตรภายในเวลา 29 ชั่วโมง แต่นอกจากการได้จารึกสถิติโลกแล้ว ในการเดินครั้งนี้เขายังตั้งเป้าหมายเพื่อมอบเงินช่วยเหลือเด็กออทิสติกของมูลนิธิ Josh foundation อีกด้วย เนื่องจากตัวเขาเองเคยได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิดังกล่าวในวัยเด็กนั่นเอง คุณ Fox ตั้งเป้าหมายว่าจะส่งเด็กที่มีความผิดปรกติทางด้านพัฒนาการนั้นเข้ารับการรักษาโดยสเต็มเซลล์ที่สถาบัน NeuroGen Brain and Spine ในประเทศอินเดีย นักมายากลท่านนี้ได้กล่าวว่าการฝึกซ้อมเพื่อบันทึกสถิติโลกครั้งนี้ของเขานั้นต้องมีการเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจอย่างมาก เขาต้องซ้อมเดิน วิ่ง ทำสมาธิและลดน้ำหนักเพื่อให้การเดินบนเศษแก้วครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี “สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของผมก็คือการเสียสมาธิและเกิดอาการเหนื่อยล้านั่นเอง ซึ่งนั่นอาจจะทำให้ผมเกิดอาการบาดเจ็บจากการโดนแก้วบาดได้ ตอนนี้ผมกำลังมุ่งไปที่การฝึกสมาธิและหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกๆ คน” นักมายากลหนุ่มกล่าว การบันทึกสถิติดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ที่ศูนย์การค้า V&A Waterfront ในเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ โดยนักมายากลหนุ่มของเราจะต้องเดินผ่านทางเศษแก้วยาว 25 เมตรจำนวนทั้งสิ้น 1,280 รอบจึงจะได้รับการบันทึกสถิติในครั้งนี้ และเศษแก้วจะมีการเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 2 ชั่วโมง และนี่ก็คือการแสดงการเดินบนเศษแก้วของนักมายากลท่านนี้ ที่มา odditycentral
-
วัยรุ่นที่เคยผ่าน “ค่ายดัดนิสัยติดอินเตอร์เน็ต” เผยภายในนั้น คือการทรมานขั้นรุนแรง!!
การเสพย์ติดโลกอินเตอร์เน็ตนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในหลายๆ พื้นที่รวมถึงประเทศจีนด้วยเช่นเดียวกัน และหนึ่งในมาตรการที่พวกเขาใช้แก้ปัญหาที่ว่านี้ก็คือการอบรมพิเศษสำหรับเด็กที่ติดอินเตอร์เน็ต แต่ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ หลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพการฝึกในค่ายดังกล่าวออกมา นักเรียนผู้หนึ่งที่เคยผ่านค่ายบำบัดอาการติดอินเตอร์เน็ตของสถาบัน Yuzhang Shuyuan เล่าว่าในสถาบันดังกล่าวนั้นคุณครูจะควบคุมพวกเขาอย่างเข้มงวด และเฆี่ยนพวกเขาด้วยแส้มากกว่า 30 ครั้ง พร้อมกับขังให้อยู่ในห้องเล็กๆ เป็นเวลานานกว่า 1 สัปดาห์ ค่ายอบรมดังกล่าวตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในเมืองหนานชาง มลซลเจียงซี ซึ่งผู้ปกครองที่มีความต้องการอยากจะนำลูกๆ มาบำบัดอาการติดอินเตอร์เน็ตนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินกว่า 150,000 บาทสำหรับการเข้าค่ายนานกว่า 6 เดือน ในประเทศจีน อาการติดอินเตอร์เน็ตนั้นถือเป็นความผิดปรกติของร่างกาย และกำลังเพิ่มมากขึ้นในหมู่วัยรุ่น โดยเด็กๆ ที่มีอาการดังกล่าวจะละเลยการเข้าสังคม ไม่ใส่ใจคนรอบข้างและสนใจแต่โลกออนไลน์ ในการโฆษณาของสถาบันดังกล่าวได้อ้างว่าพวกเขาสามารถช่วยให้เด็กๆ หลุดพ้นจากการเสพติดอินเตอร์เน็ตได้ด้วยหลักปรัชญาจีนโบราณของขงจื๊อ และมันจะช่วยทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น ภาพโปรโมทของสถาบันดังกล่าวได้เผยให้เห็นนักเรียนของที่นี่ในชุดประจำชาติของจีน ที่กำลังอ่านวรรณกรรมคลาสสิคและกำลังฝึกการเขียนตัวอักษร แต่ในความเป็นจริงแล้วจากคำบอกเล่าของเด็กนักเรียนที่ใช้ชื่อว่า Shan Ni Ma Da Wang สถาบันแห่งนี้มีโหดร้ายกว่าที่เห็นในภาพมาก Shan Ni Ma Da Wang อดีตนักเรียนที่ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องประสบการณ์อันโหดร้ายในสถาบันแห่งนี้ ในโพสต์บนโลกออนไลน์ของหญิงสาวคนดังกล่าวเผยว่า เธอถูกแม่ของตัวเองหลอกให้เข้ามารับการรักษาที่สถาบันแห่งนี้ในปี 2014…
-
วิถีชีวิตที่ใกล้ชิดกับสงคราม เผยภาพของประเทศซีเรียในมุมที่ไม่เคยเราเห็นมาก่อน
สำหรับใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศอยู่บ่อยๆ คงจะพอทราบกันดีเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศซีเรีย และข่าวของการสู้รบในพื้นที่ดังกล่าวอยู่บ่อยๆ แต่นอกจากภาพของความสูญเสียและซากปรักหักพังที่เราเคยเห็นกันตามสื่อต่างๆ แล้ว ในบางพื้นที่นั้นผู้คนของประเทศนี้ก็ยังคงใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขากันตามปกติและแทบไม่ต่างอะไรกับคนทั่วๆ ไปเลย เมื่อไม่นานมานี้คุณ Christian Lindgr นักเดินทางหนุ่มผู้หนึ่งได้เดินทางไปยังเมืองดามัสกัส เมืองอะเลปโป และพื้นที่ชนบทอื่นๆ ในประเทศซีเรีย เขาได้เก็บภาพวิถีชีวิตพร้อมกับความสวยงามในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเผยให้เห็นภาพของประเทศซีเรียในมุมที่พวกเราไม่เคยเห็นมาก่อน Umayyad Mosque มัสยิดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมือง ดามัสกัส ประเทศซีเรีย Aleppo Citadel ป้อมปราการในยุคกลางที่ตั้งอยู่ในเมืองอะเลปโป ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย . ภาพที่มองออกมาจากด้านในของ Aleppo Citadel ภาพมุมสูงของเมืองอะเลปโป ที่มองจากป้อมปราการแห่งนี้ ภาพของหมู่บ้านชาวซีเรียที่ตั้งอยู่บนเขา ผู้คนที่ออกมาทานอาหารด้านนอก ในร้านอาหารแห่งหนึ่งของเมืองดามัสกัส ภาพด้านในของตลาดใหญ่ใจกลางเมืองหลวงของประเทศซีเรีย คนขายน้ำผลไม้บนถนนสายหนึ่งในเมืองดามัสกัส คนในพื้นที่ ที่ออกมาใช้ชีวิตกันตามปกติในเมืองหลวง ถึงแม้ซีเรียกับภาวะสงครามนั้นจะเป็นของคู่กัน แต่คนในพื้นที่ก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างปกติ และนี่คือภาพของผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กัน คนขายนมบนถนนสายหนึ่งของเมืองดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรีย หอศิลป์ที่ยังคงเปิดให้บริการตามปรกติในเมืองอะเลปโป Krak…
-
สาวน้อย ‘อาร์ยา สตาร์ก’ เปิดตัวแฟนหนุ่มนอกวงการ สุดหวาน ชายชาวเน็ตร่วมยินดีทั้งน้ำตา
ถึงแม้ว่าซีรีส์ดังอย่าง Game Of Throne ซีซั่นล่าสุดจะจบลงไปแล้ว แต่ความฮอตของสาวๆ ในเรื่องหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นแม่มังกร หรือเจ้าหญิงจากแดนเหนืออย่างซานซ่า สตาร์ก ก็ยังคงเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก และหนึ่งในขวัญใจหนุ่มๆ หลายคนก็คงจะหนีไม่พ้นหนูน้อยอาร์ยา สตาร์ก หรือ เมซี วิลเลียมส์ เพราะนอกจากบทบาทสาวน้อยจอมแก่นแล้ว บุคลิกและหน้าตาของเธอนั้นก็ชวนให้หลงใหลและชวนเก็บไปฝันซะจริงๆ แต่!! ตื่นจากความฝันกันเถอะเพื่อนรัก เพราะเธอได้ออกมาเปิดตัวแฟนหนุ่มนอกวงการแล้ว และภาพความหวานในอินสตราแกรมของแม่สาวน้อยนั้นมันก็ช่างทำร้ายจิตใจของหนุ่มเหงาอย่างเราๆ ซะจริงๆ มันเจ็บ!! โดยแฟนหนุ่มนอกวงการของสาวน้อยผู้นี้ก็คือ Ollie Jackson นั่นเอง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนปี 2016 แล้ว และสิ่งที่ทำให้แฟนๆ หลายคนถึงบางอ้อก็คือภาพสวีทหวานที่อยู่บนอินสตราแกรมของเมซี วิลเลียมส์ นั่นเอง นอกจากนี้ภาพที่ทำให้หนุ่มๆ หลายคนต้องอิจฉาก็คงหนีไม่พ้นรูปคู่ของทั้งสอง ในระหว่างที่ออกเดทกันในกรุงปารีส ในช่วงวันวาเลนไทน์ พร้อมกับข้อความของสาวน้อยที่บอกว่า “อาหารจะอร่อยแค่ไหนนะ??” ภาพของทั้งสองระหว่างที่ไปฉลองวันวาเลนไทน์ที่ปารีส เธอรู้ไหม?? ผู้ชายคนนี้กำลังจะหมดแรง ฮืออออ นอกจากนี้สาวน้อยยังได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร InStyle เกี่ยวกับคู่รักของเธออีกว่าสิ่งที่ทำให้เธอหลงรัก Ollie นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายธรรมดาๆ และมันทำให้เธอรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ เขา “ผู้คนส่วนใหญ่มักจะรู้สึกแปลกๆ เวลาที่ต้องออกเดทกับคนที่มีชื่อเสียงมากกว่าคนธรรมดา และฉันก็ไม่เคยออกเดทกับเหล่านักแสดงหนุ่มเลย…
-
ชาวเน็ตสงสัย “ป๋าเดปป์” ดูลอยๆ จนต้องมีคนช่วยพยุงในงานพรมแดง เจ้าตัวโต้ผมสบายดี!!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในวงการบันเทิงต่างประเทศกันทันที หลังจากที่ “จอห์นนี เดปป์” พระเอกวัย 54 ปีได้ปรากฏตัวในงานเปิดฉายภาพยนตร์เรื่อง Murder On The Orient Express รอบปฐมทัศน์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในอาการที่ดูคล้ายกับคนเมา ระหว่างการเดินบนพรมแดงในงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของป๋าเดปป์ต่อหน้าแฟนๆ นับพันที่ออกมาคอยต้อนรับ Jerry Judge บอร์ดี้การ์ดส่วนตัวของเขาได้ประคองและพยายามพยุงนักแสดงหนุ่มในระหว่างที่เขากำลังเดินบนพรมแดง สื่อต่างประเทศรายงานว่านักแสดงหนุ่มใหญ่วัย 54 ปี ปรากฏตัวออกมาในชุดทักซิโด้สีดำและมีกลิ่นของแอลกอฮอล์ ในระหว่างที่เดินออกมาพร้อมกับนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องอย่าง Dame Judi Dench, Penelope Cruz และ Kenneth Branagh นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าจอห์นนี เดปป์ได้เดินออกมาจาก The Box ไนท์คลับแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนพร้อมกับเหล่าบอร์ดี้การ์ดของเขาในคืนก่อนหน้านี้อีกด้วย โดยแหล่งข่าวไม่เปิดเผยที่มาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าในคืนกล่นหน้านั้นเขาดื่มหนักมาก ระหว่างที่อยู่ในไนท์คลับดังกล่าวเขาสูบบุหรี่มากกว่า 3 ครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้ในคืนวันเปิดฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์เขายังมีอาการคล้ายกับคนเมาอีกด้วย การปรากฏตัวของพระเอกวัย 54 ปีในคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมากลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก และมีการตั้งคำถามจากผู้ชมทางบ้านในระหว่างที่เขาออกรายการ Graham Norton Show ถึงอาการในคืนที่ผ่านมาว่าสรุปแล้วเขาไม่สบายจริงๆ หรือมีอาการเมาบางอย่างหรือไม่… ซึ่งจอห์นนี เดปป์ก็ได้ตอบคำถามแฟนๆ ว่าจริงๆ แล้วในคืนที่ผ่านมานั้นตัวเขาเองไม่ได้เป็นอะไรเลย…
-
บันไดต้องสาป!! หญิงสาวนั่งถ่ายคลิป มีคนสะดุดบันไดขั้นเดิมติดๆ กันมากกว่า 15 ครั้ง
ปกติการเดินขึ้นบันไดต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะหากพลาดพลั้งขึ้นมา อาจจะได้เจ็บเนื้อเจ็บตัวกัน แต่เหตุการณ์ต่อไปนี้ก็เป็นเรื่องราวอันน่าประหลาดที่เกิดขึ้นในสนามแข่งอเมริกันฟุตบอล Ohio Stadium หลังจากที่มีผู้เข้าได้เดินสะดุดบันไดขั้นเดียวกันติดต่อกันมากถึง 15 คน!! อืม… หรือว่าที่นี่อาจจะมีมวลสารหรือพลังงานอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้ คุณ Abby Grau หญิงสาวเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวได้บันทึกภาพของเหล่าผู้เช้าชมที่ต่างพากันเดินสะดุดบันไดขั้นเดียวกันในระหว่างการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลที่ผ่านมา โดยหญิงสาวคนดังกล่าวเผยว่าเธอไม่เคยเห็นผู้คนที่เดินสะดุดขั้นบันไดแบบติดๆ กันแบบนี้มาก่อน และเธอยังได้กล่าวอีกว่าจริงๆ แล้วมีคนที่สะดุดขันบันไดดังกล่าวมากกว่าที่เธอถ่ายไว้เสียอีก และนี่คือคลิปวิดีโอที่ว่านั้น อย่างไรก็ตามการเดินสะดุดขั้นบันไดแบบในคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดเผยคลิปวิดีโอที่ผู้คนต่างพากันสะดุดบันไดขั้นเดียวกันระหว่างทางขึ้นลงในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของเมืองนิวยอร์ก และอันที่จริงไม่เพียงแต่ต่างประเทศเท่านั้นในบ้านเราเองหรือตามสถานที่ต่างๆ นั้นก็อาจจะเกิดเหตุการณ์คล้ายกับในคลิปวิดีโอดังกล่าวได้เช่นกัน ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอของคุณ Abby Grau ได้ถูกเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตหลายๆ คนก็ได้คาดกันว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวอาจจะเกิดจากระยะห่างของขั้นบันไดที่ไม่เท่ากันนั่นเอง แต่ก็ยังมีชาวเน็ตบางคนที่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับบันไดขั้นดังกล่าวที่แตกต่างกันออกไป และนี่ก็คือความเห็นจากชาวเน็ตบางส่วนเกี่ยวกับบันไดอาถรรภ์นี้ “นี่ฉันเสียเวลาไป 42 วินาทีเพื่ออะไรเนี่ย??” “ฉันว่าเธอน่าจะมีความสุขที่ได้เห็นผู้คนสะดุดบันไดมากกว่านะ” “บางทีอาจจะต้องแจ้งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ของสนามทราบและรีบแก้ไขจะดีกว่านะ” “ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้เลยจริงๆ “ “บางที่ผมคิดว่าน่าจะเตือนพวกเขาดีกว่ามานั่งอัดวีดีโอนะ“ “มันก็แค่การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานเท่านั้นเอง ไม่ใช่วิญญาณร้ายซะหน่อย” เอ๊า.. เจอเป้าหมายใหม่แล้ว รีบเก็บกระเป๋าแล้วจองตั๋วเครื่องบินกันให้เร็วๆ เลย ไม่แน่นะ…
-
ญี่ปุ่นประสบปัญหาใหญ่ คนรุ่นใหม่ยังไม่เคยผ่านการมีเซ็กส์ แม้จะเข้าสู่วัย 30 ปีแล้วก็ตาม…
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นในสายตาพวกเราชาวไทยนั้นจะเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเพศไม่ว่าจะเป็นหนัง AV หรือของฝากที่เพื่อนๆ มักจะซื้อมาฝากเราอย่างจิ๋มกระป๋องหรือดิลโด้ และถึงแม้อุตสาหกรรมแบบนี้จะเติบโตอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น แต่แท้จริงแล้วพวกเขากำลังเผชิญปัญหากับจำนวนประชากรที่ลดลงเนื่องผู้คนส่วนใหญ่นั้นการละเลยเรื่องเพศ และจากผลสำรวจนั้นกลับพบว่า 31 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนที่อายุน้อยกว่า 35 ปีในประเทศนี้ยังคงบริสุทธิ์อยู่!! และเมื่อนักข่าวได้สัมภาษณ์หญิงชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับสถิติดังกล่าว พวกเธอแสดงความเห็นว่า หนุ่มๆ ญี่ปุ่นมักกลัวที่จะขอชวนสาวๆ ไปออกเดท อาจเพราะกลัวการถูกปฏิเสธ ดังนั้นพวกเขาจึงหันเข้าหาสื่อลามก เพราะไม่ต้องกลัวที่จะผิดหวังนั่นเอง จากการรายงานของกระทรวงสาธารณะสุขกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมานั้นประเทศญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดลดลงมากถึง 1 ล้านคนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และนอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าจำนวนประชากรของญี่ปุ่นนั้นจะลดลงกว่า 40 ล้านคนภายในปี 2065 ปัญหาดังกล่าวถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ นักแสดงตลก Ano Matsui หนุ่มวัย 26 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC ว่าเขามักจะถูกผู้หญิงปฏิเสธเวลาที่ชวนพวกเธอออกไปข้างนอก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะดูการ์ตูนอนิเมะดีกว่าที่จะออกไปเดทกับสาวๆ เพราะกลัวความผิดหวัง ส่วนคุณ Megumi Igarashi ศิลปินวัย 45 ปีเองก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การสร้างความสัมพันธ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันคิดว่าพวกผู้ชายส่วนมากนั้นไม่ค่อยใส่ใจ พวกเขาสามารถมีความพึงพอใจทางเพศได้จากการดูเว็บโป๊อยู่ที่บ้าน” การลดลงของจำนวนประชากรนั้นยังส่งผลกระทบถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรวมถึงตลาดแรงงานและอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย และนอกจากประเทศญี่ปุ่นแล้วในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา เดนมาร์กและสิงคโปรเองก็กำลังประสบปัญหาเดียวกันนี้ด้วย และจากผลสำรวจของสถาบันวิจัยประชากรและสังคมแห่งชาติยังพบว่า…
-
เมืองลิเวอร์พูลสร้าง “ทางเท้าสำหรับคนเดินเร็ว” แห่งแรกในอังกฤษ เอ๊า!! เอ๋วิ่งดิเอ๋
สำหรับในเมืองใหญ่ๆ แล้ว ทางเท้านั้นอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้คนอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วผู้คนในเมืองใหญ่ๆ เน้นใช้งานระบบขนส่งสาธารณะมากกว่ารถส่วนตัว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อขึ้นชื่อว่ามหานครแล้วสิ่งที่ตามมาพร้อมๆ กับความเจริญนั่นก็คือจำนวนของผู้คนที่มากขึ้นตามไปด้วย และแน่นอนว่าการจะเดินบนทางเท้าแบบชิวๆ เหมือนในงานแฟชั่นโชว์นั้นอาจจะทำให้คุณถูกคนด้านหลังลูบท้ายทอยเอาได้ง่ายๆ และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาการจราจรบนทางเท้าสำหรับบางคนที่ชอบเดินเร็วๆ ทางเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษเขาจึงได้สร้างทางเท้าสำหรับคนเดินเร็วเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งช่องทางเลยทีเดียว ทางเดินเท้าสำหรับคนเดินเร็วแห่งแรกของประเทศอังกฤษที่เปิดใช่ในถนน St John Street เมืองลิเวอร์พูลนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาสำหรับผู้คนที่ชอบเดินเร็ว หลังจากที่มีผลสำรวจเผยว่าผู้คนกว่า 47 เปอร์เซ็นต์เกิดความรำคาญเมื่อต้องเดินตามคนที่เดินช้า บริษัท Argos ผู้ทำการสำรวจครั้งนี้ได้เผยว่าเหล่านักชอปส่วนมากนั้นเบื่อที่ต้องเดินตามผู้คนที่เอาเดินช้าและมัวแต่พูดคุยกันบนถนนเส้นดังกล่าวที่ตั้งอยู่กลางแหล่งชอปปิงในเมือง นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดเผยอีกว่าทางเดินเท้าสำหรับคนเดินเร็วนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่านักชอปวัยรุ่นมากกว่า โดยจากผลสำรวจพบว่ากว่า 69 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปีนั้นพอใจอย่างมากกับทางเท้าที่ว่านี้ และอีก 37 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 55 เปอร์เซ็นต์ให้การสนับสนุนโครงการนี้ โดยเหตุผลที่หลายๆ คนชื่นชอบทางเท้าสำหรับคนเดินเร็วนี้ก็เพราะว่ามันช่วยทำให้พวกเขาประหยัดเวลาในเดินได้มาก ซึ่ง 31 เปอร์เซ็นต์จากผลสำรวจกล่าวว่ามันช่วยให้พวกเขาหลบคนที่เดินขวางทางได้ และอีก 18 เปอร์เซ็นต์ให้เหตุผลว่ามันช่วยให้พวกเขาสามารถหลบคนที่มัวแต่เช็กโทรศัพท์ได้ นอกจากทางเท้าสำหรับคนเดินเร็วแล้ว ก่อนหน้านี้ในปี 2014 ทาง National Geographic ยังได้สร้างทางเท้าแยกสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนระหว่างเดินกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ในวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อใช้ในการทดลองพฤติกรรมทางสังคมอีกด้วย อืม… เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการแก้ปัญหาที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียวนะเนี่ย แบบนี้คงจะถูกใจหลายๆ…
-
หนุ่มยอมแต่งเป็นเมียตัวเองออกไปปาร์ตี้วันฮาโลวีน ไม่มีผีไหนน่ากลัวกว่าเมียแล้วจ้า!!
ในช่วงวันฮาโลวีนที่ผ่านมาเราอาจจะได้เห็นการแต่งชุดฮาโลวีนของหลายๆ คนที่ต่างขนมาประชันความแปลกกันอย่างมากมาย แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีชุดไหนจะแฟนตาซีไปกว่าชุดของพ่อหนุ่ม Jamie McEwan คนนี้แน่ๆ เพราะว่างานนี้พี่แกเล่นคอสเพลย์เป็นแฟนสาวสุดที่รักซะเองเลย!! Jamie McEwan นั้นก็เหมือนกับคนอื่นๆ เขาได้ออกไปฉลองวันฮาโลวีนกับ Hollie Morrison คู่หมั้นสาววัย 25 ปีของเขา พร้อมกับแต่งตัวเหมือนเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า และนี่คือชุดของพ่อหนุ่มคนนี้ในคืนวันฮาโลวีนที่ผ่านมา ผ่าง!! ส่วนนี่คือ Hollie คู่หมั้นสาวของเขา อืม… เหมือนกันจริงๆ เลยนะเนี่ย ชายหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์ว่าไอเดียสุดแหวกนี้เป็นฝีมือของแฟนสาวของเขา และเกิดขึ้นระหว่างที่ทั้งสองกำลังมองหาชุดเพื่อออกไปฉลองวันฮาโลวีนในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา “มันเป็นไอเดียของ Hollie ระหว่างที่ผมกำลังหาชุดที่จะออกไปปาร์ตี้ เธอก็เดินเข้ามาพร้อมกับวิคผมที่สีคล้ายกับสีผมของเธอ แล้วผมก็พูดกับเธอเบาๆ ฉันต้องใส่มันใช่ไหม??” ชายหนุ่มกล่าว และแล้วหลังจากนั้นไม่นานหนุ่ม Jamie ของเราก็ถูกคู่หมั้นสาวของเราจับแปลงโฉมให้เหมือนกับฝาแฝดของเธอเลยทีเดียว และนอกจากความเหมือนแบบแกะกันมาแล้ว ชายหนุ่มของเรายังแอบโพสต์ท่าเลียนแบบแฟนสาวของเขาอีกด้วย เอาซะเนียนเลยนะพ่อหนุ่ม!! . ยังถือว่าโชคดีที่วันนั้นแฟนสาวของคุณ Jamie ไม่เลือกใส่กางเกงเลคกิ้งไม่งั้นคงจะเข้าห้องน้ำลำบากกว่านี้แน่ๆ ฮ่าๆ ทั้งสองมีแผนที่จะแต่งงานกันในช่วงเดือนเมษายนปี 2020 และไม่แน่งานนี้คุณ Jamie อาจจะกำลังวางแผนที่แต่งตัวเลียนแบบเจ้าสาวของเขาอีกครั้งก็เป็นได้ “ในงานเลี้ยงเรามักจะชอบแต่งตัวเหมือนๆ กันอยู่บ่อยๆ ดังไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย ที่มา ladbible
-
แล้วตามหลักวิทยาศาสตร์ นี่คือ 7 สิ่งที่ “ความรัก” ทำต่อร่างกายของคุณ
อย่างที่เรารู้ๆ กัน ความรักนั้นมักจะมอบความสุขให้กับเรา ไม่ว่าเราจะเป็นคนที่ถูกรักหรือเป็นฝ่ายมอบความรักเองก็ตาม แต่นอกจากความสุขแล้วยังมีบางสิ่งบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับหลักวิทยาศาสตร์ซ่อนอยู่ในความรักอีกด้วยเช่นกัน และวันนี้เราก็มีความลับและเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกายและจิตใจของเราเนื่องจากความรัก ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย… 1. ความรักช่วยคลายความเจ็บปวดได้!! อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่าการกอดกันนั้นนอกจากจะทำให้อบอุ่นแล้วยังทำให้เรารู้สึกดีอีกด้วย แต่เมื่อไม่นานมานี้ผลการศึกษาจาก Mount Sinai School of Medicine จากสหรัฐอเมริกาได้เผยว่าการกอดนั้นยังมีผลต่อสารเคมีในสมองอีกด้วย และการกอดกันประมาณ 10-20 วินาทีจะมีทำให้ความเจ็บปวดของร่างกายลดลง โดยเฉพาะอาการปวดหัว และนอกจากนี้ผลการศึกษาจากภาควิชาจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย Rutgers University ยังได้เผยอีกว่าการถึงจุดสุดยอดหรือการได้รับการกระตุ้นทางเพศนั้นมีผลในการช่วยหยุดยั้งความเจ็บปวดของร่างกายอย่างเช่นอาการปวดเรื้อรังและข้ออักเสบ 2. ความรักช่วยดูแลหัวใจคุณ จากผลการศึกษาของคณะแพทย์ศาสตร์จากมหาวิทยาลัย University of North Carolina-Chapel Hill ได้ชี้ให้เห็นว่าการแสดงออกทางความรักนั้นจะทำให้หัวใจของเราเต้นช้าลง ซึ่งมีผลในการช่วยลดความเครียดและความเสี่ยงของโรคหัวใจในระยะยาว 3. ความรักก็ช่วยให้คุณต่อสู้กับเจ็บป่วยได้เช่นกัน การแสดงออกทางความรักตั้งแต่การจับมือไปจนถึงกิจกรรมเข้าจังหวะนั้นจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเอ็นโดรฟินออกมา และช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเรา และนอกจากนี้มันยังช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาและต่อสู้กับความเจ็บป่วยต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย 4. ความรักช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับได้ ฮอร์โมนของความรักอย่างออกซิโตซินและเอ็นโดรฟินนั้น จะช่วยยับยั้งฮอร์โมนที่มีผลต่อความเครียด มันจะช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น และจากผลการศึกษาของภาควิชากายวิภาคศาสตร์และชีววิทยาจากมหาวิทยาลัย Morehouse ได้ยืนยันว่าความรักนั้นช่วยให้เรานอนหลับสบายขึ้น 5. นอกจากนี้ความรักยังช่วยให้คุณเลิกยาเสพย์ติดและรับมือกับการถอนยาได้อีกเช่นกัน ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและออกซิโตซินนั้นจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถต่อสู้กับอาการเสพย์ติดสารเสพย์ติดต่างๆ ได้ และการมีความรักนั้นก็เป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับชีวิตคุณ…
-
สุดสลด… หญิงสาวเสียชีวิตคาที่ หลังเด็กวัย 12 ขวบกระโดดสะพานลอยตกใส่รถเธอ
เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในรัฐเวอร์จิเนียเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา หลังจากที่เด็กชายวัย 12 ปีผู้หนึ่งได้กระโดดลงมาจากสะพานลอยสูง 10 เมตร ลงมาใส่หลังคารถ Ford Escape ของหญิงสาววัย 22 ปีที่ผ่านมาบนเส้นทางดังกล่าวพอดี ในระหว่างที่ Marisa Harris หญิงสาวจากรัฐแมริแลนด์กำลังขับรถอยู่บนทางด่วนหมายเลข 66 นั้น จู่ๆ เด็กชายไม่ทราบชื่อวัย 12 ปีก็ได้กระโดดลงมาบนหลังคารถของเธอ เป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ส่วนเด็กชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 4 โมงเย็นใกล้ๆ กับทางออกถนนหมายเลข 62 ในเมือง Fairfax County รัฐเวอร์จิเนียร์ เด็กชายวัย 12 ปีถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล Fairfax Hospital หลังจากเกิดเหตุ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัดในการร่วงลงมาของเด็กชายผู้นี้ นอกจากนี้ภายในรถคันดังกล่าวยังมีเพื่อนของหญิงสาวที่นั่งมากับเธอด้วย แต่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บและยังเป็นคนที่ช่วยหยุดรถหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุอีกด้วย สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐได้เผยว่าระหว่างช่วงปี 1999 ถึงปี 2015 มีเด็กอายุ 12 ปีกว่า 711 รายที่ฆ่าตัวตาย ในจำนวนนั้นเป็นเด็กชายถึง 507 คน…
-
ย้อนรอยภาพ ‘วัยเยาว์’ ของเด็กๆ จาก 22 ประเทศทั่วโลกเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว
ช่วงเวลาในวัยเด็กนั้นอาจจะเป็นช่วงเวลาที่สุดแสนจะมีความสุขสำหรับใครหลายๆ คน และบางคนก็อาจจะมีการถ่ายภาพความทรงจำในวัยเด็กเก็บไว้กันบ้างแน่ๆ เลยใช่ไหมล่ะ ภาพถ่ายในเก่าๆ ในวัยเด็กนั้นนอกจากจะทำให้เราได้เห็นความทรงจำดีๆ กันแล้ว มันยังทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวเราอีกด้วย และวันนี้เราก็ได้รวบรวมภาพเหล่าเด็กๆ จากแต่ละประเทศเมื่อ 100 ปีก่อน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย… 1. ประเทศแอลจีเรีย 2. ประเทศเยอรมนี 3. ประเทศเนปาลและประเทศจีน 4. ประเทศอังกฤษ ด้านซ้ายคือภาพของเด็กนักเรียนจากโรงเรียน Kensington ในกรุงลอนดอน ส่วนด้านด้านขวาคือภาพของเด็กๆ ที่กำลังเตรียมตัวลงหาปลาในทะเลสาบ Serpentine 5. ประเทศสกอตแลนด์และประเทศไอร์แลนด์ ด้านขวาคือสีของเด็กชาวไอร์แลนด์วัย 14 ปีที่มาในชุดประจำชาติของเธอ ภาพนี้ถ่ายราวๆ ปี 1913 6. ประเทศโรมาเนียและประเทศแอลเบเนีย 7. ประเทศญี่ปุ่น ภาพทางด้านซ้ายคือเหล่าเด็กๆ ในชุดประจำชาติอย่างชุดกิโมโน ส่วนทางด้านขวาคือเด็กนักเรียนจากโรงเรียนในเมืองฟุกุโอะกะ 8. ประเทศอาร์เจนตินา และประเทศเม็กซิโก 9. ประเทศสเปน 10. ประเทศเอสโตเนีย และประเทศโปแลนด์ …
-
ท่านผู้นำคิมพาภรรยาปรากฎตัวต่อหน้าสื่อ พร้อมทัวร์โรงงานเครื่องสำอางในกรุงเปียงยาง
แม้ว่าส่วนใหญ่เวลาเราได้ยินข่าวเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเหนือนั้นมักจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะสบายใจชาวโลกมากสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบ หรือการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ แต่เมื่อเร็วๆ นี้ท่านผู้นำคิมกลับพักเรื่องราวหนักๆ เอาไว้ก่อน หลังจากที่เขาได้เข้าชมโรงงานผลิตเครื่องสำอาง พร้อมกับสตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีเหนือ นาย Kim Jong-un ได้เข้าชมโรงงานผลิตเครื่องสำอางในกรุงเปียงยางพร้อมกับภริยาของเขานาง Ri Sol-ju และมีข่าวว่าเธอนั้นได้ให้กำเนิดบุตรคนที่ 3 ของท่านผู้นำด้วยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทั้งสองได้ปรกฏตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในงานฉลองการประสบความสำเร็จในทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปหรือ ICBM และนอกจากนี้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเธอยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงให้กับเหล่าช่างเทคนิคที่ทำการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์อีกด้วย ทั้งสองแต่งงานกันในปี 2009 และจากการรายงานของสื่อเกาหลีใต้กล่าวว่านาง Ri นั้นเติบโตมาจากครอบครัวธรรมดาโดยพ่อของเธอเป็นนักวิชาการส่วนแม่ของเธอนั้นมีอาชีพเป็นแพทย์ นอกจากนี้นาง Ri ยังเคยไปเยือนประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2005 ในฐานะผู้นำเชียร์ของทัพนักกีฬาเกาหลีเหนือในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียอีกด้วย ทางสำนักข่าวนักข่าวแห่งชาติของเกาหลีหรือ KCNA ยังได้รายงานเพิ่มเติมว่ามีผู้ติดตามอื่นๆ นอกเหนือจากสตีหมายเลขหนึ่งอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นนาย An Jong-su รองประธานกรรมการพรรคกรรมกรแห่งเกาหลีเหนือ และผู้นำคนอื่นๆ ในพรรค รวมถึงนาง Kim Yo-jong น้องสาวของท่าผู้นำด้วยเช่นกัน คณะกรรมการทั้งหมดได้เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวหลังจากที่ได้มีการปรับปรุงโรงงาน จากการรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่น นาย Kim ได้กล่าวว่า “ที่นี่มีเครื่องสำอางที่มากมายและเต็มไปด้วยคุณภาพ แต่ไม่เพียงแค่นั้นยังมีการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่สวยงามน่าใช้อีกด้วย มันเป็นเหมือนความฝันของผู้หญิงทุกคนที่ต้องการความสวยความงาม” ผู้นำคิมและน้องสาวของเขา กับผู้นำในพรรคกรรมกรแห่งเกาหลีเหนือ…
-
น้องหมาที่กลายมาเป็นเพื่อนซี้กับคนส่งของ จนเจ้านายต้องใช้บริการของเขาบ่อยๆ
เรื่องราวสุดน่ารักของน้องหมาพิทบูลที่กลายมาเป็นเพื่อนซี้กับคนส่งพัสดุจากบริษัท UPS จนทำให้เจ้าของมันจำเป็นต้องเลือกใช้บริการจากบริษัทนี้บ่อยๆ เจ้า Lucy สุนัขพิทบลูที่ถูกรับมาเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์ตั้งแต่ตอนที่มันอายุได้เพียงแค่ 12 สัปดาห์ เรื่องราวของมันกับ Paul คนส่งของจากบริษัท UPS นั้นเริ่มขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หลังจากที่เจ้าตูบกำลังนอนเล่นอยู่ในสนามหญ้าหน้าบ้านและได้พบกับชายคนดังกล่าว Paul มักจะมีอาหารสุนัขติดไว้ในรถของเขาเสมอ เพื่อเอาให้เจ้าตูบในบ้านของลูกค้าที่เขาเอาของไปส่งให้ และนั่นจึงเป็นสาเหตุกที่ทำให้เจ้า Lucy และสุนัขตัวอื่นๆ สนิทสนมกับเขา แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง Paul กับเจ้า Lucy นั้นจะไม่เหมือนกับสุนัขตัวอื่นๆ ทั้งสองดูจะสนิทกันมากเป็นพิเศษ “มันเป็นสัญญาณที่ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทั้งคู่พบกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้า Lucy ได้ยินเสียงของรถบรรทุกของ Paul มันจะรีบวิ่งไปรอที่ประตูเลย และเมื่อไหร่ที่เราเปิดประตูออกไปมันก็จะรีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันที” คุณ Stephanie Heer เจ้านายของ Lucy กล่าว ฮั่นแน่!! รู้นะว่าอยากได้อะไรพี่ Lucy ทางครอบครัวของ Lucy จึงเลือกที่จะสั่งของออนไลน์และใช้บริการของพวกเขาบ่อยๆ เพื่อให้มันได้มีโอกาสพบกับ Paul มากขึ้น แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณ Paul มาส่งของและพวกเขาไม่อยู่บ้าน ชายหนุ่มจะวางขนมสำหรับเจ้าตูบไว้บนกล่องสินค้า ทั้งสองรู้จักกันมานานกว่า…
-
แม่คือแม่!! หญิงชราวัย 98 ยอมย้ายไปอยู่บ้านพักคนชรา เพื่อดูแลลูกชายวัย 80 ปี
ไม่ว่าไม่ว่าคุณจะโตแค่ไหนก็ตาม คุณเองก็ยังคงเป็นเจ้าหนูน้อยของคุณแม่อยู่ดี และด้วยความรักความห่วงใยที่ไม่มีวันหยุดของคุณแม่นี้ก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นไม่น้อยเลยทีเดียวนะว่าไหม? และเรื่องราวของ Ada Keating คุณแม่วัย 98 ปีผู้นี้เองก็คงจะทำให้เราได้เข้าใจความรักของคุณแม่ที่มีต่อลูกได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เธอได้ย้ายเข้าไปดูแลลูกชายวัย 80 ปีถึงในบ้านพักคนชราเลยทีเดียว!! คุณปู่ Tom รักแม่ของเขามากๆ ชายวัย 80 ปีที่ไม่มีครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านพักคนชราในเมืองลิเวอร์พูลตั้งแต่ปี 2016 หลังจากที่เขาต้องการคนช่วยดูแลเนื่องจากอายุที่เริ่มมากขึ้น และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปีแม่ของเขาก็ตามมาอยู่ที่นี่ด้วยเพื่อช่วยดูแลเขา ทั้งสองชอบนั่งชมรายการโปรดด้วยกัน และบางครั้งก็เล่นบอร์ดเกมด้วยกัน ส่วนงานอดิเรกของคุณ Ada นั้นก็คือการถักไหมพรมนั่นเอง “ฉันคอยบอกฝันดีกับลูกชายของฉันทุกคืน และฉันจะคอยบอกอรุณสวัสดิ์เขาในทุกๆ เช้า เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันออกไปทำผม เขาจะคอยอยู่ที่บ้านเพื่อรอฉันกลับมา Tom จะเข้ามากอดฉันอย่างดีใจเมื่อเห็นฉันกลับมาบ้าน ฉันไม่เคยหยุดทำหน้าที่แม่เลย” นอกจากคุณปู่ Tom แล้ว Ada ยังมีลูกอีก 3 คนด้วยกัน คุณปู่วัย 80 ปีดีใจอย่างมากที่แม่ของเขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วย “ที่นี่ใจดีมากๆ ที่พวกเขายอมให้แม่ผมมาอยู่ด้วย ผมดีใจจริงๆ ที่เห็นเธออยู่ข้างๆ แม่ผมคอดูแลผมอย่างดี” ส่วนทางด้านคุณ Philip Daniels ผู้จัดการของบ้านพักคนชราแห่งนี้ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการได้เห็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันของทั้งสองนั้นเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ “มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ ที่จะได้เห็นแม่และลูกชายของเขาในบ้านพักคนชราแบบนี้ เราอยากมอบช่วงเวลาดีๆ…
-
ช่วงเวลาแห่งความทรงจำ แฟนเพลงร่วมร้อง In The End ส่งท้ายให้ Chester Bennington
ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงเวลาแห่งความทรงจำของเหล่าสาวก Linkin Park กันเลยทีเดียว ในงานคอนเสิร์ตรำรึกถึงอตีดนักร้องนำที่จากไปอย่าง Chester Bennington ที่ Hollywood Bowl ในลอสแองเจลิส เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา โดยในงานได้มีเพื่อนๆ ศิลปินมามาที่ได้ร่วมขึ้นแสดงไม่ว่าจะเป็น Blink-182, System Of A Down และ Jonathan Davis จากวง Korn และหนึ่งในไฮไลต์สำหรับงานคอนเสิร์ตนี้นั่นก็คือการร่วมร้องเพลง In The End ของเหล่าแฟนเพลงเพื่อเป็นการรำรึกถึงอดีตฟร้อนต์แมนผู้ล่วงลับ โดยทาง Mike Shinoda หนึ่งในสมาชิกของวงได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร KROQ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเกี่ยวกับงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า “พวกเราในวงมีความกลัวนิดหน่อยที่จะขึ้นเวที แต่ผมจะขอเป็นตัวแทนของพวกเราที่จะพูดบางอย่าง เรารู้ว่าพวกเรากำลังทำอะไรกันอยู่ และรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องจะร่วมรำลึกถึง Chester “ Shioda ยังได้เผยอีกว่าผู้ที่มีส่วนในการผลักดันให้งานคอนเสิร์ตครั้งนี้เกิดขึ้นได้นั่นก็คือ โปรดิวส์เซอร์ชื่อดังอย่าง Rick Rubin นั่นเอง นอกจากนี้ Shioda เองยังได้พูดถึงความรู้สึกแฟนเพลงที่มีต่ออดีตเพื่อนร่วมวงของเขาอีกว่า “พวกเรารู้สึกดีใจมาก พวกคุณเหมือนเปรียบเหมือนกำลังใจของพวกเรา Chester คงจะมีความสุขมากๆ เขาโชคดีจริงๆ คอนเสิร์ตครั้งนี้คือคอนเสิร์ตเพื่อเขาจริงๆ “ ไปชมงานคอนเสิร์ตนี้กันแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย… ส่วนเพลง In The End…
-
ตำรวจจับกุม “แมวเหมียว” จากใต้ท้องรถ เจ้าตัวไม่ยอมสารภาพ คาดแอบหาที่อุ่นๆ นอน
เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในประเทศจีน หลังจากที่เจ้าเหมียวจรจัดตัวหนึ่งได้แอบย่องเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถคันที่จอดอยู่บริเวณริมทางเท้าในประเทศจีน เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกเรียกตัวมายังที่เกิดเหตุเพื่อทำการจับกุมเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ทันทีหลังจากที่เจ้าของรถได้ยินเสียงร้องของมันดังออกมาจากรถหลังจากที่เขากำลังจะสตาร์ทเครื่อง แต่ดูเหมือนว่าพี่เหมียวของเราจะไม่ยอมออกมาดีๆ งานนี้เลยต้องใช้ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และช่างซ่อมรถกันเลยทีเดียว!! และหลังจากที่ใช้ความพยายามในการเกลี้ยกล่อมกันอยู่นาน ในที่สุดเจ้าเหมียวน้อยเจ้าปัญหาก็ยอมออกมาโดยละมุนละม่อน และเมื่อถามถึงจุดประสงค์ในครั้งนี้ เจ้าเหมียวน้อยของเราได้แต่ส่ายหัวและร้องเหมียวๆ อย่างเดียว จนเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจว่านี่คือการปฏิเสธหรือว่ามันอยากกินข้าวกันแน่!! อย่างไรก็ตามได้มีการคาดการณ์ว่าเนื่องจากขณะนี้ในประเทศจีนกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว และในหลายๆ พื้นที่กำลังประสบปัญหากับอุณหภูมิที่ลดต่ำลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อย่างมากและรวมถึงพวกแมวจรจัดเองด้วย และการที่เจ้าเหมียวจรจัดตัวนี้เข้าไปแอบในท้องรถนั้นก็เพราะว่ามันอาจจะต้องการหาที่อุ่นๆ นั่นเอง ฮั่นแน่!! ในที่สุดก็ยอมออกมาแล้วสินะ แต่นอกจากเจ้าเหมียวตัวนี้ก็ยังมีเพื่อนๆ ของมันอีกจำนวนมากเลยเช่นกันที่ได้เข้าไปแอบอยู่ตามส่วนต่างๆ ของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นในล้อ หรือแม้แต่ในท่อไอเสียเหมือนกับเจ้าเหมียวตัวนี้ แหม่…เนียนเลยนะ!! ออกมานะเจ้าเหมียว!! มองไรพวก ไม่ได้เข้ามาขโมยอะไรซักหน่อย แค่อยากหาที่อุ่นๆ เท่านั้นเอง!? และในช่วงใกล้หน้าหนาวแบบนี้ หลายๆ คนอาจจะเคยเจอเหล่าน้องแมวหรือสัตว์ตัวเล็กๆ ที่แอบมาใช้ใต้ท้องรถยนต์ของเราเป็นที่หลบหนาว ดังนั้นแล้วก่อนที่จะออกรถลองเช็คดูดีๆ ก่อนล่ะ ที่มา China Xinhua News
-
หญิงสาวอัดคลิปรีวิว iPhone X ก่อนวางจำหน่ายเป็นเหตุให้พ่อถูกไล่ออกจากงาน
อันที่จริงแล้วความลับของบริษัทนั้นถือเป็นสิ่งสำคัญและห้ามเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต และถ้าหากมีการฝ่าฝืนก็อาจจะถูกลงโทษหนักเหมือนกับหนุ่มวิศวกรของแอปเปิลผู้นี้ได้!! เมื่อไม่นานมานี้ได้มีรายงานว่าบริษัทแอปเปิลได้ไล่วิศวกรหนุ่มคนหนึ่งออกหลังจากที่ลูกสาวของเขาได้อัพโหลดคลิปวิดีโอรีวิวการทำงานของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone X ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ ระหว่างการเที่ยวใน Apple’s campus Brooke Amelia Peterson ยูทูบเบอร์สาวเจ้าของคลิปวิดีโอดังกล่าวได้บอกในคลิปวิดีโอว่าพ่อของเธอนั้นเป็นวิศวกรของแอปเปิ้ลพร้อมกับอธิบายถึงการออกแบบของ iPhone X และฟีเจอร์บางส่วนไม่ว่าจะเป็น Animoji และการแจ้งเตือนในโทรศัพท์รุ่นใหม่นี้ นอกจากนี้ภายในคลิปวิดีโอดังกล่าวยังได้เผยให้เห็นถึง QR Code พิเศษที่มีเฉพาะสำหรับพนักงานของแอปเปิลและรหัสของผลิตภัณฑ์บางชิ้นที่ยังไม่ได้ออกวางจำหน่ายอีกด้วย อย่างไรก็ตามทางเว็บไซต์ Engadget ได้ออกมาให้ข้อสังเกตว่า Apple นั้นได้มีกฎห้ามการบันทึกวิดีโอภายในองค์กร ซึ่งพวกเขาเกรงว่าอาจจะทำให้ความลับของบริษัทนั้นรั่วไหลได้ และในส่วนของ Caffè Macs ที่หญิงสาวได้เข้าไปนั้นก็เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับพนักงานเท่านั้น และถึงแม้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวจะได้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เธอทำและอ้างว่าพ่อของเธอนั้นถูกไล่ออกจากงานหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอการทัวร์ในแคมปัส Apple ของเธอ พร้อมกับลบคลิปวิดีโอดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็คลิปวิดีโอที่ว่านั้นกลับถูกเผยแพร่อย่างมากในโลกออนไลน์ นอกจากนี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศยังได้พยายามติดต่อกับแอปเปิลเพื่อถามถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันใดๆ จากพวกเขา ที่มา gizmodo, engadget, theverge
-
ชีวิตของ Jeff Bezos เศรษฐี 2.7 ล้านล้านบาท เจ้าของ Amazon ยังคงตื่นแต่เช้า-ล้างจานด้วยตัวเอง
สำหรับใครที่ชื่นชอบการซื้อของออนไลน์กันอยู่บ่อยๆ คงจะคุ้นชื่อเว็บไซต์ Amazon กันเป็นอย่างดี และคนที่อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จนั้นก็คือ Jeff Bezos มหาเศรษฐีวัย 53 ปีผู้นี้นี่เอง ถึงแม้ว่าจะมีทรัพย์สินมากมายมาหาศาลและเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น The Washington Post หรือบริษัทด้านอวกาศอย่าง Blue Origin และมีทรัพย์สินมากถึง 900,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ Jeff Bezos นั้นยังคงใช้ชีวิตของเขาเหมือนกับคนธรรมดาและยังคงตื่นนอนในตอนเช้า พร้อมกับทำงานบ้านด้วยตัวเองอีกด้วย และวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักชีวิตอีกมุมหนึ่งของมหาเศรษฐีระดับโลกผู้นี้กัน… ในทุกๆ วันเขายังคงตื่นนอนในตอนเช้าและเริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่มีประโยชน์ พร้อมกับ MacKenzie Bezos ภรรยาแสนสวยของเขา เขาจะแบ่งเวลาในตอนเช้าให้กับภรรยาและลูกๆ อีก 4 คน และ Jeff Bezos ไม่เคยมีประชุมในตอนเช้าเลย Jeff Bezos นั้นไม่ค่อยชอบที่จะประชุม โดยรายงานของเว็บไซต์ Recode ระบุว่าเขาประชุมกับผู้ถือหุ้นของ Amazon เพียงแค่ 6 ชั่วโมงต่อปีเท่านั้น!! และเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการจัดประชุม จะต้องมีผู้เข้าร่วมการประชุมมากพอที่จะแบ่งพิซซ่า 2 ถาดได้ ซึ่งพนักงานของเขาเรียกกฎนี้ว่า “two-pizza…