Author:

ถ้าคุณเป็นทาสหมาแต่ยังไม่ได้กดติดตามทวิตเตอร์ WeRateDogs เอาไว้ล่ะก็ ถือว่าคุณพลาดแล้วล่ะ รีบไปกดติดตามไว้ด่วน ทวิตเตอร์ WeRateDogs มีน้องหมาน่ารักๆ ให้ได้เสพกันทุกวันเลยล่ะ แล้วทางทวิตก็จะให้คะแนนน้องหมาแต่ละตัวไว้ด้วยว่าตัวไหนได้คะแนนมากเท่าไหร่ รับรองเพื่อนๆ ถูกใจน้องหมาทุกตัวแหละ   นี่คือ Hugo มันรู้ว่าคุณกลัวฉลาม มันเลยลองแกล้งเล่นๆ ดู เอาไป 13/10 แต่แกล้งกันแบบนี้ไม่ตลกนะ   เจ้า Coop ขุดหลุมแล้วก็เข้าไปติดอยู่ในนั้นซะเอง แต่ใครก็คงเคยเจอเรื่องแบบนี้แหละเนอะ เอาไป 13/10 ละกัน ช่วยน้องด้วยนะ   เจ้าหมาน้อยคงจะชอบรั้วมากๆ เลย ฮ่าๆๆ…ล้อเล่นน่า ใครก็ได้ช่วยน้องออกมาที! 13/10   เจ้า Drago ไม่ชอบถ่ายรูป ก็เลยแกล้งแลบลิ้นตอนเห็นกล้อง มันคงไม่รู้หรอกว่าทำให้ดูน่ารักขึ้น 13/10 ไปเลย   Squeezie อยากจะเอาหินกลับบ้านไปด้วยสักก้อน น่าเอ็นดูอะ 13/10 ละกัน   Hazard กับ Sparta ถ้าคิดว่าไม่มีคนมองเมื่อไหร่ก็จะหอนคู่กันทุกที น่ารักนะเนี่ย…

แมวที่ถูกเลี้ยงปล่อยส่วนมากมักจะชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านบ่อยๆ แต่ปกติแล้วไปไม่นานก็กลับมาที่บ้านแล้วจึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทว่าจู่ๆ เหมียว Jimmy ก็หายออกไปเที่ยวนานผิดปกติ มันไม่กลับบ้านมาเกือบ 2 อาทิตย์แล้ว ทำให้ Meike Vielsack ซึ่งเป็นทาสของมันกังวลใจมาก     เธอตามหามันทั่วบริเวณนั้นแล้วแต่ก็ยังไม่เจอ สุดท้ายเธอก็เลยต้องติดประกาศแมวหายให้คนแถวนั้นช่วยตามหามันอีกแรงหนึ่ง แต่ก็ยังไร้วี่แววของ Jimmy อยู่ดี ในช่วงที่ Jimmy หายไปนั่นเอง เพื่อนบ้านคนหนึ่งของเธอก็ราดคอนกรีตในโรงรถของเขาใหม่ และตั้งแต่ราดคอนกรีตเสร็จเขาก็ได้ยินเสียงร้องแปลกๆ ดังอยู่ทุกคืน     เพื่อนบ้านของเธอใช้เวลาอยู่หลายวันกว่าจะแน่ใจว่ามันเป็นเสียงแมว เขาดูจนมั่นใจว่ามันน่าจะดังมาจากใต้พื้นคอนกรีตที่ราดใหม่ตรงโรงรถ เพื่อนบ้านอีกคนแถวนั้นก็ยืนยันว่าได้ยินเสียงแมวเหมือนกัน เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นแมวของ Vielsack ก็เลยเรียกเธอมาด้วยกันตอนที่ทุกคนกำลังจะช่วยเจ้าแมวออกมา   ถ้าเจาะตรงนี้ เจ้าแมวข้างในน่าจะออกมาได้   แต่กว่าที่พวกเขาจะรู้ว่ามันอยู่ตรงนั้นเวลาก็ผ่านไป 2 อาทิตย์แล้ว ไม่รู้ว่ามันจะยังปลอดภัยดีอยู่รึเปล่า ยังไงพวกเขาก็เป็นห่วงมันเลยตัดสินใจเจาะตรงพื้นโรงจอดรถที่น่าจะมีโพรงดู     เมื่อเจาะพื้นเสร็จพวกเขาก็เห็นแมวอยู่ข้างใต้นั้นจริงๆ ดีนะที่มันอยู่รอดในนั้นมาได้ตั้ง 2 อาทิตย์ แต่เนื่องจากมันถูกขังอยู่นาน แล้วก็กลัวเสียงดังจากการเจาะพื้น ทำให้มันไม่กล้าออกมาข้างนอก Vielsack และเพื่อนบ้านต้องรอกัน 10…

เพื่อนย่อมไม่ทิ้งกัน… หมาในศูนย์พักพิงทุกตัวล้วนอยากมีบ้านอยู่ทั้งนั้น ดังนั้นถ้ามีคนมารับเลี้ยงเมื่อไหร่พวกมันก็แทบจะพุ่งตัวออกไปจากศูนย์พักพิงทันที แต่ถึงจะมีคนมารับเลี้ยง เจ้า Sunny ก็ไม่ยอมออกจากศูนย์พักพิง เพราะถ้าไม่ได้ถูกรับเลี้ยงไปพร้อมกับเพื่อนหมา Georgia มันก็เลือกจะอยู่ด้วยกันที่นี่     Sunny หมาสายพันธุ์อเมริกันสตาฟฟอร์ดชายร์เทอร์เรียร์ และเจ้าหมาชิว่าว่า Georgia เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เป็นลูกหมาตัวน้อย มันทั้งคู่เคยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันมาเป็นเวลานาน ทว่าเจ้าของก็เก่าก็เลือกจะไม่เลี้ยงพวกมันต่อ แล้วส่งทั้ง 2 ตัวเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิง พวกมันเลยต้องรอคอยวันเวลาที่จะมีบ้านใหม่อีกครั้งหนึ่ง     อย่างไรก็ตาม Sunny กับ Georgia สนิทกันมากๆ ถ้ามันไม่ได้อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ก็จะร้องเรียกหากันตลอดเลย พวกมันมีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่คนในศูนย์พักพิงทุกคนเห็นได้ชัดเจน ดังนั้นพอมีคนมาหารับเลี้ยงหมาตัวเดียว พวกมันก็เลยไม่ยอมไปบ้านใหม่ แต่จะรอคนที่พร้อมรับเลี้ยงพวกมันทั้ง 2 ตัวพร้อมๆ กันแทน     นับตั้งแต่พวกมันมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลากว่า 4 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครที่พร้อมรับเลี้ยงพวกมันไปพร้อมกันเลย     ถึงจะเป็นแบบนั้น ตราบใดที่ Sunny และ Georgia ก็ยังเลือกจะอยู่ที่ศูนย์พักพิงด้วยกัน มากกว่าการถูกับเลี้ยงแต่ต้องแยกกันไปอยู่คนละที่คนละทาง เพราะสำหรับพวกมันแล้วตราบใดที่ยังมีเพื่อนสนิทอยู่ข้างๆ ชีวิตของพวกมันก็ยังมีความสุขเสมอ…

ครั้งหนึ่งตอนที่ช่างภาพของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Milo’s Sanctuary แวะไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์ในเมืองลอสแองเจลิส เธอเห็นลูกแมวตัวหนึ่งนอนนิ่งอยู่ในกรงอย่างเรียบร้อยผิดปกติ พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็เลยเห็นว่าขาของมันบาดเจ็บจนลุกขึ้นยืนไม่ได้นี่เอง สภาพของมันน่าสงสารมากจนเธอทนทิ้งมันไว้ในนี้ไม่ได้ เธอก็เลยติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ของตัวเองแล้วพามันกลับไปรักษาด้วยเลย     พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Maverick ถึงมันจะเจ็บขาจนเดินไม่ได้ แต่มันก็มีความขี้อ้อนไม่แพ้ใครเลย ขอแค่มีคนอยู่ใกล้ๆ หรืออุ้มมันมากอดไว้ มันก็จะครางหึ่มๆ เสียงดังจนได้ยินชัดเจนเชียวล่ะ ความขี้อ้อนและเป็นมิตรของมันยิ่งทำให้คนใน Milo’s Sanctuary อยากรักษามันให้หายไวๆ มากขึ้น เพราะมันควรจะมีโอกาสได้วิ่งเล่นซนแบบแมวตัวอื่น     เจ้าเหมียวตัวนี้เพิ่งจะอายุได้แค่ 6 สัปดาห์เอง แต่ก็บาดเจ็บหนักซะแล้ว กระดูกของมันแตก และกล้ามเนื้อรอบๆ ก็ฉีกขาดไปด้วย พวกเขาคิดว่ามันน่าจะถูกคนทำร้ายมาก็เลยมีแผลแบบนี้ เพราะเป็นลักษณะของแผลจากการถูกเตะหรือตีเท่านั้น ไม่อย่างนั้นมันก็คงโชคร้ายไปเจออุบัติเหตุมา     ยังไงก็เถอะแผลของมันก็ไม่ใช่ว่าจะรักษาให้หายขาดไม่ได้ ขอแค่ให้มันได้รับการผ่าตัดก็จะหายดีในไม่ช้าแล้ว ซึ่งพวกเขาก็ยอมจ่ายค่าผ่าตัดให้มันด้วยความยินดี หลังจากมันผ่าตัดเสร็จมันก็ยิ่งมีท่าทีขี้อ้อนมากกว่าเดิม แม้จะยังอยู่ในระยะพักฟื้นและเดินไม่ได้ มันก็คงรับรู้ได้แล้วว่ามีแต่คนอยากช่วยมัน มันก็เลยตอบแทนด้วยการอ้อนแบบนี้   ขอบคุณนะฮับที่พาไปผ่าตัดฟรีๆ   ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์บอกว่า “มันน่ารักมากๆ เลย แล้วก็ส่งเสียงครางบ่อยมากด้วย มันพยายามจะชวนให้เราเล่นด้วยทั้งที่ตัวเองยังไม่หายดีจนเดินได้เลย เราเดาว่าถ้ามันหายดีแล้วคงจะซนน่าดูเลยล่ะ” ทุกคนเห็นด้วยว่า Maverick…

ในทางการแพทย์แล้วไม่มีอะไรมาอธิบายถึงความมหัศจรรย์ของสายสัมพันธ์และความรู้สึกได้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยให้คนป่วยรู้สึกดีขึ้นกว่าที่เป็นได้จริงๆ จนบางครั้งหายจากโรคร้ายโดยอธิบายไม่ได้ก็มี สำหรับเจ้าช้างน้อยแล้วมันก็ได้เพื่อนตัวใหม่ช่วยประคับประคองอาการที่ป่วยเอาไว้เหมือนกัน และก็ได้ใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ ก็ตาม     ช้างน้อยตัวหนึ่งที่อยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ Hluhluwe’s Bonamanzi Game Reserve ของประเทศแอฟริกาใต้พลัดหลงจากฝูง มันเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ตามลำพัง แต่ก็ไม่ได้พบกับฝูงสักที คนดูแลที่อยู่ที่นั่นเองก็พยายามช่วยมันตามหาฝูงแล้ว แต่พอเจอฝูงมันกลับโดนปฏิเสธไม่ให้กลับเข้าไปอีก อาจจะเป็นเพราะมันแยกทางจากฝูงนานแล้วก็ได้     พวกเขาก็เลยรับช้างตัวนี้มาอยู่กับมนุษย์แทนโดยมี Karen Trendler เป็นคนดูแล เพราะมันกำลังป่วย ถ้าอยู่ตัวคนเดียวไม่มีทางรอดชีวิตได้หรอก แล้วมันก็ได้รับชื่อว่า Ellie หลังจากให้สัตวแพทย์ตรวจร่างกายมันดูแล้ว ก็พบว่ามันเป็นโรคไส้เลื่อนที่สะดือติดเชื้อ (infected umbilical hernia) ซึ่งหาได้ยาก และสัตว์ที่เป็นโรคนี้แทบไม่รอดชีวิตเลย     นอกจากนี้ Ellie ก็ยังร่างกายอ่อนแอจนมีอาการแพ้นมด้วย ในทางกลับกันถ้ามันไม่กินนมมันก็จะไม่มีเรี่ยมแรงและสารอาหารมาเลี้ยงตัวเอง Trendler พยายามหานมหลากหลายแบบและก็นมสูตรพิเศษมาให้มันกินแล้ว แต่มันก็ยังแพ้อยู่ดี อาการของมันเลยทรุดลงเรื่อยๆ ประกอบกับการที่มันเป็นโรคซึมเศร้าจากการอยู่ตัวเดียวแล้วก็ยิ่งแย่ไปใหญ่     ไม่มีเพื่อนเลย โดดเดี่ยวเดียวดาย   อยากมีเพื่อนจังเลย   ถึงแม้คนที่ดูแลมันอยู่จะรักษาให้มันดีขึ้นไม่ได้…

ชีวิตหมาจรจัดไม่เคยมีคำว่า”ง่าย” หรอก พวกมันต้องดิ้นรนหาอาหารกินในแต่ละมื้อ และแย่งชิงพื้นที่อยู่อาศัยกับสัตว์ตัวอื่น ถ้าหากไม่แข็งแรงพอก็คงจะไม่รอด เช่นเดียวกับเจ้าหมา Spyder และเพื่อนรักของมัน แม้ว่า Spyder จะดิ้นรนเอาชีวิตรอดมาได้ แต่เพื่อนของมันไม่โชคดีแบบนั้น มันจึงเหลือตัวคนเดียว     ถึงเพื่อนรักจะตายไปแล้ว Spyder ก็ไม่ยอมทิ้งเพื่อน มันนอนกอดร่างเพื่อนที่แน่นิ่งไปแล้วอยู่นาน ตอนนั้นเองที่มีคนไปเจอมันเข้าแล้วช่วยให้มันมาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Rescue Dogs Rock NYC เจ้าหมากลัวคนมากๆ ยิ่งถ้าเป็นผู้ชายก็จะกลัวมากกว่าเดิม แถมพอไม่มีเพื่อนที่ไว้ใจอยู่เคียงข้างแล้วมันก็ไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตเลย     อาสาสมัครในศูนย์พักพิงใช้เวลานานมากกว่าที่จะทำให้มันรู้ว่าพวกเขาเป็นมิตรกับมัน แต่พอมันเริ่มไว้ใจพวกเขาแล้วมันก็เปลี่ยนเป็นหมาที่อ่อนโยนและขี้อ้อน     อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีปัญหากับการปรับตัวเข้าหาคนแปลกหน้าทุกคน รวมถึง Anne Grasso ที่ตั้งใจจะมารับเลี้ยงมันด้วย เธอต้องมานั่งเล่นกับมันอยู่หลายชั่วโมงกว่ามันจะยอมให้เธอเข้าใกล้ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อเพราะรู้ว่าพอมันไว้ใจเธอแล้ว มันจะเป็นหมาที่น่ารักมากๆ     เธอเล่าว่า “หลายเดือนหลังจากมันถูกช่วยมา แม่ของฉันก็อยากรับเลี้ยงหมาตัวใหม่ ถึงมันจะตัวโตกว่าที่เราอยากได้ แต่หลังจากที่แม่ของฉันรู้เรื่องราวชีวิตของมันแล้ว เธอก็บอกว่า ‘เราจะเลี้ยงเจ้าหมาตัวนี้แหละ’” หลังจากที่ Grasso รับ Spyder มาเลี้ยงที่บ้านแล้ว เธอก็เปลี่ยนชื่อมันใหม่เป็น…

ถึงแม้คนขับรถประจำทางจะมีหน้าที่ขับรถไปตามจุดต่างๆ ที่กำหนดเท่านั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ อย่างเช่นดูแลไม่ให้ผู้โดยสารที่ไม่ได้รับอนุญาตขึ้นมาบนรถแบบผิดๆ หนึ่งในผู้โดยสารต้องห้ามก็รวมไปถึงหมาจรจัดด้วย แต่นาย Cristhian ก็ยอมละเว้นให้หมาตัวหนึ่งขึ้นมานั่งบนรถได้โดยไม่ไล่มันออกไป เพราะเขาเห็นใจมัน ตอนนั้นเจ้าหมาจรจัดแอบขึ้นมาบนรถบัสที่เขาขับอยู่ ระหว่างที่จอดรับผู้โดยสารที่ป้ายแห่งหนึ่ง แล้วมันก็วิ่งตรงไปนั่งอยู่บริเวณเบาะหลังของรถทันที   จะมาไล่เก๊าลงรถเหรอ?   Cristhian ซึ่งเป็นคนขับรถก็เลยเดินตามไปหามันตรงที่นั่ง ตอนที่มันหันมามองเขา สายตาของมันเหมือนกับจะบอกว่า “จะไล่ผมลงไปจากรถใช่ไหม?” แต่ Cristhian ก็ไม่ได้ว่าอะไรมัน เขายังลูบหัวและทักทักทายมันอย่างเป็นมิตรด้วย แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าเขาไม่ว่าอะไรหรอกถ้ามันจะนอนอยู่ตรงนี้ เจ้าหมาเห็นว่าเขาไม่ไล่มัน ก็เลยขดตัวลงไปนอนซุกไออุ่นจากเบาะ เห็นแล้วน่ารักน่าเอ็นดูมากๆ เลย     สาเหตุที่ Cristhian ไม่ไล่มันลงไปจากรถเป็นเพราะว่าข้างนอกนั่นอากาศหนาวมากจริงๆ ในฐานะคนขับที่มีอำนาจที่สุดในรถ เขาก็เลยยอมให้มันได้อยู่ในที่อุ่นๆ สักพักหนึ่ง อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะเสร็จงาน ระหว่างนั้นเขาก็ถ่ายวิดีโอของหมาจรจัดตัวนั้นเก็บไว้แล้วเอาไปแชร์ต่อด้วยนะ ในวิดีโอเขาบอกว่าตัวเองไม่ไล่มันออกไปเพราะเป็นคนรักหมาเหมือนกัน แล้วก็อยากให้คนรักหมาทุกคนได้ดูและแชร์คลิปต่อเพื่อความรู้สึกดีๆ ด้วย      ได้เห็นเรื่องแบบนี้แล้วทำให้หัวใจพองโต ที่มา: Daily Mail, Informe CL

จะไม่ขอพูดอะไรมากกับคำว่าหน้าร้อน เพราะประเทศไทยของเราก็มีแค่ฤดูร้อน ร้อนมาก แล้วก็ร้อนที่สุด เราเลยเคยชินกับอากาศร้อนกันดี ในขณะที่เราดับร้อนกันโดยการไม่ออกจากบ้าน หรือไปสิงในที่แอร์เย็นๆ แทน สัตว์จากเมืองหนาวเขาก็มีวิธีดับร้อนในแบบของเขาเหมือนกัน บางวิธีก็ดูเข้าท่านะ น่าเก็บมาลองใช้บ้างในวันที่ร้อนจัดจริงๆ   ลงอ่าง…เอ้ย แช่น้ำนี่แหละดีที่สุด   ได้นอนด้วย ได้อยู่ในน้ำด้วย มีอะไรดีกว่านี้ไหม   บ้านไม่มีสระ แค่อ่างเล็กๆ ก็ต้องเอาวะ   ไปแช่น้ำข้างนอกทำไม แช่ในบ้านสะดวกฝุดๆ https://www.instagram.com/p/Bif5bU8Anjw/?utm_source=ig_embed   มารับลมทะเลกับเพื่อนซี้ดีกว่านะ   ถ้าอยู่ไกลทะเลมาก คลองแถวบ้านก็ไม่เลวนะเธอ   แช่โคลนมันก็ดีอยู่หรอก แต่ก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง   มนุษย์นี่ช่างทึ่มจริง แค่ย้ายบ้านมาอยู่ในตู้เย็นก็จบ ไม่ต้องทนร้อนแล้ว   ถ้าขี้เกียจมาก ก็หาทาสที่ช่วยให้คุณเย็นได้แม้อยู่บ้าน   ไอศกรีมต่างหากคือไอเท็มที่ทำให้เย็นใจที่สุด   เห็นไอศกรีมแล้วก็อยากกินนะ แต่ไม่อยากขึ้นจากน้ำ   วิธีสุดคลาสสิก นอนตีพุงอยู่หน้าพัดลม   ถ้าบ้านไม่มีอ่าง ก็ไปแอบใช้บ้านคนอื่นได้ (เหรอ??)   ถ้าร้อนจัดจริงๆ…

อากาศที่ร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหาในการใช้ชีวิตสำหรับทั้งคนและสัตว์ โชคดีที่เรามีแอร์กับพัดลมไว้ดับร้อน ก็เลยพอจะผ่านวันร้อนๆ ไปได้บ้าง ส่วนเจ้าหมาเองก็มีวิธีดับร้อนในแบบของมันเหมือนกัน แต่คงไม่มีใครจะดูเย็นฉ่ำเท่าเจ้า Baloo ที่ใช้สปริงเกอร์ในการดับร้อนอีกแล้ว     ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา อากาศในเมืองเลคดัลลาส รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกาก็ร้อนกว่าเดิมมาก ทำให้เจ้าหมา Baloo ต้องหาวิธีดับร้อนแบบใหม่ มันค้นพบว่าสปริงเกอร์ที่เจ้าของเอาไว้รดน้ำให้หญ้านี่แหละเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเลย และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันก็ติดสปริงเกอร์มากๆ จนเคยสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของด้วย     ครั้งหนึ่งตอนที่ Cara Wohr เจ้าของของมันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอน เธอก็ได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่าง แต่ก็ไม่ได้แปลกใจมาก เพราะที่บ้านเลี้ยงหมาไว้ตั้ง 5 ตัวเสียงดังจึงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ทว่าครั้งนี้เจ้า Baloo มันเห่าเสียงดังไม่ยอมหยุดซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ เธอก็เลยลองลุกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่ชั้นล่างกันแน่ พอลงมาถึงหน้าประตูเธอก็ต้องอึ้งกับภาพที่ได้เห็น เพราะเจ้า Baloo มันลากสปริงเกอร์ลอดประตูหมาเข้ามาเล่นในห้องนั่งเล่นเลย…     แม้จะตกใจมากๆ Wohr ก็ไม่ลืมที่จะใช้มือถือที่ติดมืออยู่ถ่ายรูปเอาไว้ ก่อนรีบดันสปริงเกอร์ออกไปนอกบ้านก่อนที่ห้องจะเปียกไปมากกว่านี้ จากนั้นเธอก็ต้องใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ตั้ง 5 ผืนมาเช็ดโซฟา ทีวี พื้นห้อง เพดาน โคมไฟ และอื่นๆ ในห้องอีก…

ในโลกนี้มีหลายเรื่องที่ถ้าทำตามลำพังแล้วแสนลำบากยากเย็น แต่พอมีคนมาช่วยเพิ่มกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที มนุษย์จึงเรียนรู้การทำงานร่วมกัน หรือเรียกอีกอย่างว่าทีมเวิร์ก ไม่เพียงเฉพาะแค่คนเท่านั้น สัตว์อื่นๆ ก็รู้เรื่องนี้ดีเหมือนกัน พวกมันก็มีช่วงเวลาที่ต้องใช้ทีมเวิร์กเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ (ส่วนมากก็คือ…ของกิน) มาครอบครอง แต่ว่าจะช่วยกันแล้วเรื่องจะง่ายหรือยากขึ้นก็แล้วแต่คู่ด้วยนะ   นึกเหรอว่าหนูจะออกจากกล่องสูงไม่ได้ มีพี่งูช่วยซะอย่าง   ล่อนางเอาไว้แบบนั้นแหละเด็กๆ เราได้ของมาแล้ว   สูงอีกนิดได้ป่าวเพื่อน สาวจะผ่านมาแล้ว   หึหึ มนุษย์ไม่รู้ล่ะสิว่าแมวใช้ตู้กดน้ำได้   ไม่รู้ว่ามันช่วยกัน…หรือแย่งกันกันแน่?   อุตส่าเอาเบคอนไว้บนโต๊ะ เจ้าแมวก็ยังปัดลงไปให้หมากินได้ ฮือ   ตัวเล็กอยากข้ามฝั่งก็บอกพี่นะ เดี๋ยวพาไป   เห็นน้องคาบมาไม่ไหวเลยช่วยฮะ   ไม่ว่าจะสูงแค่ไหนก็ไปถึง   เจอแมวหมู่หน่อยเป็นไง   ใครมารังแกน้องผม เดี๋ยวงับหน้าเลย   ไม่ได้ใช้เพื่อนเป็นสะพานนะ มันคือทีมเวิร์กจริงๆ   ไหนพี่บอกว่าได้กลิ่นเนื้อไง ข้างบนมีแต่ไข่นะ   เหนื่อยแล้วเหรอ งั้นขี่หลังเราก็ได้   ทนอีกสักชั่วโมงนะตูบ เหมียวยังไม่คิดออกเลยจะเปิดโหลยังไง   ช่วยเต็มที่แล้วนะ…

หลังจากออกไปข้างนอกมาทั้งวัน Ting ก็อยากกลับมาเจอเจ้าหมา Duo Duo ที่บ้านให้ชื่นใจสักหน่อย แต่พอกลับมาที่บ้านก็ไม่เห็นหมาสุดรักเลย เธอกลับเจอหมาอีกตัวหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้จักแทน เธอก็เลยมองหาเจ้าหมาต่อ ต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเลยกว่าเธอจะเข้าใจได้ว่าหมาแปลกหน้าที่เธอเห็นอยู่…คือเจ้า Duo Duo นั่นแหละ     Ting เป็นหญิงจากประเทศไต้หวัน เธอเลี้ยงหมาเชาเชาอยู่ตัวหนึ่งซึ่งก็คือ Duo Duo ด้วยสายพันธุ์ของมันทำให้เจ้าหมามีขนฟูสีน้ำตาล ดูนุ่มนิ่มน่ากอดเหมือนกับพี่หมีเชียว     แต่ใจขณะที่เธอไม่อยู่บ้าน แม่ของเธอเห็นว่าช่วงนี้อากาศมันร้อนมากๆ แล้ว เจ้า Duo Duo ก็ขนหนาซะขนาดนั้นเธอกลัวว่ามันจะร้อนจนเป็นลมไป เธอก็เลยพามันไปตัดขนที่ร้านเอง แต่แทนที่จะตัดขนมันให้สั้นลงนิดหน่อย เธอเลือกที่จะตัดขนมันจนเตียน ตอนนี้มันกลายเป็นหมาขนโล้นสีขาวไปซะแล้ว     พอ Ting กลับมาบ้านก็เลยจำ Duo Duo ไม่ได้เพราะมันเปลี่ยนไปเป็นหมาคนละตัวนี่แหละ แต่พอจำได้ก็ไม่รู้จะไปโทษใครดี เพราะแม่ก็หวังดีอยากให้มันไม่ร้อนแค่นั้น เธอก็เลยได้แต่ขึ้นข้อความตัดพ้อทางเฟซบุ๊กว่า “โถ่ เชาเชาที่น่าสงสาร แกเปลี่ยนไปจนฉันแทบจำไม่ได้เลยนะเนี่ย”     ตอนนี้เหลือขนสั้นๆ แค่ตรงรอบๆ จมูกกับตาเอง   ชาวเน็ตที่ได้เห็นมันต่างก็พากันเอ็นดูมัน…

ใครที่เลี้ยงสุนัข เวลากลับไปถึงที่บ้านก็มักจะเจอพวกมันออกมาต้อนรับเราด้วยความดีใจ บางตัวก็เห่าเสียงดัง บางตัวก็วิ่งเข้ามากอดเรา ซึ่งก็น่ารักทั้งนั้นแหละ แต่คงไม่มีตัวไหนจะโดดเด่นเท่ากับเจ้า Murray อีกแล้ว มันมีวิธีการต้อนรับเจ้านายที่โดดเด่นเป็นที่สุด ด้วยการปีนไปบนหลังคาของบ้าน 2 ชั้นเพื่อให้เขาเห็นว่ามันรออยู่ชัดๆ   เจ้าตูบ Murray   กับเจ้าของ AJ Allee   เจ้าของของ Murray ก็คือหนุ่มใหญ่ AJ Allee ตอนแรกเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันชอบขึ้นไปบนหลังคาเพื่อต้อนรับเขา จนมีเพื่อนบ้านมาบอกเขาว่าเห็นเจ้าหมาอยู่บนหลังคา ตอนแรกเขาก็กลัวว่ามันจะเป็นอันตรายอยู่เหมือนกัน ก็เลยพยายามปิดทางไม่ให้มันขึ้นไปบนหลังคาได้อีก แต่ปิดทางยังไงมันก็จะหาทางขึ้นไปบนหลังคาจนได้ เขาก็เลยต้องปล่อยให้มันทำตามใจชอบ พอเขาไม่กังวลใจเรื่องที่มันขึ้นไปบนหลังคาแล้ว มองอีกทีการที่มันแสดงความดีใจในลักษณะนี้กับเขา ก็ดูเป็นเรื่องแปลกไม่ซ้ำใครดี แถมยังน่าชื่นใจอีกด้วย   เวลารอต้อนรับเจ้านายจะขึ้นมาบนนี้ สูงมากเลยนะเนี่ย   พอเจ้านายกลับมาบ้านก็จะวิ่งไปมาอยู่ด้านบนอย่างลิงโลดก่อนลงมาต้อนรับ   ออกไปบนหลังคาทางระเบียงชั้นบนนี่เอง   นอกจากเจ้านาย บางครั้งก็ทักทายเพื่อนบ้านที่พาหมามาเดินเล่นอยู่บนนี้แหละ   มันเคยไปขึ้นเครื่องบินกับ Allee ด้วยนะ เพราะเขาขับเครื่องบินได้   มันเป็นผู้ช่วยนักบินที่ดีทีเดียว เพราะมันหลับแล้วไม่กวนเขาตอนขับเลย   ไม่แน่ว่ามันอาจจะติดใจที่สูงจากการนั่งเครื่องบินก็ได้ ใครจะไปรู้   ถ้าได้ไปเจอกับเจ้า Huck…

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา คนในชุมชนเมืองบอยส์ รัฐไอดาโฮ ประเทศสหรัฐอเมริกาก็คงจะงงไปตามๆ กัน เมื่อต้องตื่นมาเจอแพะฝูงใหญ่บุกเมืองโดยไม่มีที่มาที่ไปเลย     ไม่มีใครรู้รายละเอียดว่าแพะกว่า 100 ตัวนี้มาจากไหน ตอนมาเจอพวกมันก็เดินไปตามบ้านแต่ละหลัง แล้วเล็มกินหญ้าอย่างสบายอารมณ์ซะแล้ว พออยู่บ้านหลังหนึ่งจนพอใจพวกมันก็จะพากันยกพวกไปบ้านหลังต่อไป และไล่กินทั้งหญ้า ใบไม้ ดอกไม้ หรืออะไรก็ตามที่พวกมันกินได้ทุกอย่าง   Here is a live look at #Boise Goat-a-Paloza 2018 pic.twitter.com/RTZR6bWsRP — Joe Parris (@JoeParrisTV) August 3, 2018   ใบไม้ที่อยู่บนต้นก็ยังจะกิน!   Joe Parris นักข่าวท้องถิ่นจากช่อง KTVB ถ่ายรูปและวิดีโอของเหตุการณ์นี้ไว้ได้ทั้งหมด และแชร์มันลงบนทวิตเตอร์ของตัวเอง ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นที่ฮือฮาพอควร Parris รายงานบนทวิตเตอร์ว่า “พวกมันเดินทางจากบ้านหลังหนึ่งไปอีกหลังหนึ่ง และกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า ไม่มีใครรู้เลยว่าพวกมันมาจากที่ไหน…ยังไงจะอัปเดตเพิ่มเติมให้นะครับ”…

เมื่อแม่หมาท้องเจ้าของก็คาดหวังจะได้อุ้มลูกหมาแสนน่ารักไวๆ กันทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อแม่หมา Ddorongy แอบไปคลอดลูกไว้แล้วไม่พากลับมา ก็เลยทำให้เจ้าของกังวลใจ แม้จะผ่านไปเป็นเดือนแล้วก็ไม่มีใครได้เห็นลูกหมาเลย ด้วยความเป็นห่วงเจ้าของก็เลยจำเป็นต้องแอบตามไปดูว่าลูกหมาพวกนั้นเป็นตายร้ายดียังไงกันแน่?…แล้วทำไมแม่หมาถึงต้องซ่อนลูกเอาไว้?   นี่คือแม่หมา Ddorongy   เจ้าของเห็นมาสักพักแล้วว่ามันท้องโตมาก   แต่พอมันคลอดลูกเสร็จ มันก็ไม่ได้พาลูกหมากลับมา จนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้ว   แต่ Ddorongy ก็จะออกไปข้างนอกเป็นประจำทุกวัน อาจจะไปหาลูกหมาก็ได้   ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองตามกันไปดู!!   แต่แม่หมาก็ระวังตัวดีมาก มันเห็นว่ามีคนแอบตามมา   มันก็เลยเปลี่ยนเส้นทางกะทันหันแล้วไปที่อื่นแทน   และที่ที่มันพาเรามาก็คือ…บ้านของแฟนหนุ่ม!?   แต่ที่นี่ไม่มีลูกหมาอยู่หรอกนะ เจ้าของของพ่อหมาก็บอกว่าหาลูกหมาไม่เจอเหมือนกัน   ในเมื่อระวังตัวดีขนาดนี้แล้ว คงต้องหันมาพึ่ง GPS แทนแล้วล่ะ   เมื่อไม่มีคนตามดู แม่หมาก็ไปในที่ที่เราไม่เคยรู้จริงๆ   ที่นั่นก็คือโรงเก็บของที่ห่างจากบ้านของพ่อหมาไม่มาก   อุต๊ะ!! ตามมาเจอเราได้ไงเนี่ย??   ทำเนียนหนีมนุษย์ไปซะแล้ว   ไหนมาดูซิว่าลูกหมาอยู่ที่นี่รึเปล่า   พอใช้กล้องส่องดูใต้โรงเก็บของก็เจอลูกหมาจริงๆ ด้วย มีตั้ง 3…

ศาลเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศตึงเครียดมาก เพราะต้องตัดสินคดีความอย่างจริงจัง บางครั้งเมื่อมีเด็กต้องเข้าว่าความด้วยก็เลยทำให้พวกเขาเครียดมาก ยังดีที่ทางศาลมีตัวช่วยให้น้องๆ อยู่ ซึ่งก็คือเหล่าหมาอาสาสมัครที่ทำหน้าที่เป็นกำลังใจและปกป้องเด็กที่มาขึ้นศาลด้วย ทำให้พวกเขาอุ่นใจและมีความกล้าที่จะในการในศาลต่อไปได้     ในบรรดาหมาที่ทำงานช่วยเด็กๆ ในศาล ก็มีเจ้า Karl ที่พิเศษกว่าใครเพื่อน เนื่องจากมันเป็นหมาหูหนวกเพียงตัวเดียวที่ได้ทำหน้าที่ในศาลนั่นเอง Karl เข้ากับเด็กๆ ได้ดีมากเพราะว่ามันดูตัวใหญ่น่าจะปกป้องเด็กได้ ในขณะเดียวกันท่าทีอ่อนโยนของมันก็ทำให้มันดูน่าเข้าหาด้วยเช่นกัน     ถึงพี่จะตัวใหญ่แต่ใจดีนะฮะ   เป็นมิตรกับเด็กทุกคนแน่นอน   ครูฝึกบอกว่าการที่มันหูหนวกทำให้ทำหน้าที่ได้ดีกว่าหมาตัวอื่น เพราะมันจะสนใจแต่เด็กที่ต้องดูแลเท่านั้น ไม่ถูกเสียงคนให้การหรือเสียงเคาะค้อนทำให้ตื่นตกใจเหมือนหมาตัวอื่น ทว่ามันก็คือข้อเสียอย่างหนึ่ง นั่นก็คือมันไม่สามารถสื่อสารกับเด็กด้วยเสียงพูดได้เหมือนกับเพื่อนหมาของมันนั่นเอง จุดนี้ทำให้ตอนทำงานใหม่ๆ Karl มีปัญหามากเลยทีเดียว     แต่ครูฝึกของมันก็ไม่ได้ตัดมันออกจากหน้าที่เลย เธอรู้ว่าทุกปัญหามีทางแก้เสมอ และทางออกสำหรับ Karl ก็คือการสอนภาษามือให้กับมัน ตอนที่สอนภาษามือให้มัน ครูฝึกก็ได้รู้ว่า Karl ฉลาดมากๆ มันเรียนรู้ภาษามือได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดีด้วย     ได้รับประกาศนียบัตรรู้ภาษามือด้วย   แน่นอนว่าเด็กๆ ก็ต้องเรียนภาษามือเพื่อจะสื่อสารกับมันเหมือนกัน แต่ครูฝึกได้ทำป้ายสอนภาษามือง่ายๆ ไว้ให้พวกเขาแล้ว เด็กๆ…

ที่ผ่านมาเราได้นำเสนอแมวแปลกๆ มาเยอะแล้ว ทั้งแมวที่มีขาไม่ครบ แมวที่มีหูมาก หรือแมวที่มีนิ้วเยอะเกิน แต่ยังไม่เคยแนะนำเรื่องของแมวที่มาขาเยอะมาก่อนเลย วันนี้เราเลยจะพาเพื่อนไปเจอกับ Henrietta ลูกแมวสุดหายากที่เกิดมามีขาตั้ง 6 ขา แถมยังเป็นแมว 6 ขาตัวแรกในประเทศอังกฤษด้วยนะ     Henrietta เกิดมาในศูนย์พักพิง ไม่มีใครสังเกตเห็นขาที่เพิ่มมาของมันในตอนแรกเลย เพราะมันเป็นเพียงแค่ก้อนเนื้อเล็กๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นได้ชัดเลยก็คือขาของมันบิดไปคนละทาง ขาที่ผิดรูปของมันเป็นอาการที่เกิดได้ทั่วไปถ้าถูกเบียดตอนอยู่ในท้องแม่ แต่ก็แก้ไขได้ไม่ยากถ้าเกิดนวดอย่างถูกวิธีตั้งแต่เด็ก มันก็เลยกลับมาขาที่ปกติ     อย่างไรก็ตามพอผ่านไปเกือบ 2 เดือน ก้อนเนื้อเล็กๆ ตรงขาหลังของมันก็เริ่มโตขึ้น มีกระดูก อุ้งเท้าและกรงเล็บงอกออกมากลายเป็นขาที่ 5 และ 6 ทำให้อาสาสมัครที่ดูแลมันอึ้งมากเลย พอหาข้อมูลเพิ่มดูก็พบว่ามันเป็นแมวที่เกิดมาพร้อมกับอาการที่เรียกว่า polymedia ซึ่งทำให้เกิดมาพร้อมชิ้นส่วนที่มากเกิน สามารถเกิดได้ทั้งในคนและสัตว์ทุกชนิด แต่เป็นอาการที่หาได้ยากมากๆ     ในประเทศอังกฤษไม่เคยมีแมวตัวไหนมีอาการนี้มาก่อนเลย มี Henrietta ตัวแรกนี่แหละที่เกิดมามี 6 ขา ถือว่ามันเป็นแมวที่พิเศษมากๆ เลยนะ อย่างไรก็ตามขาที่งอกเพิ่มมาไม่สามารถใช้งานได้ มันเป็นเหมือนก้อนเนื้อเท่านั้น ดังนั้นมันก็ใช้ชีวิตเหมือนแมวปกติทั่วไปนี่แหละ แถมยังร่าเริงมากซะด้วย…

แมวเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างไม่สนโลก เวลาที่ทาสเรียกหรือคุยอะไรด้วยมันก็ไม่ค่อยสนใจ ทำให้เราคิดว่า ‘มันคงไม่เข้าใจที่เราพูดหรอกมั้ง?’ ทว่าก็มีชาวเน็ตอีกกลุ่มหนึ่งจากญี่ปุ่นที่คิดว่าพวกมันน่าจะเข้าใจสิ่งที่มนุษย์พูด เพราะเรื่องราวที่พวกเขาเคยเจอมามันทำให้คิดแบบนั้น     เรื่องที่ว่าแมวเข้าใจที่เราพูดรึเปล่าเริ่มต้นจากทวิตเตอร์ของ @b_st_info เขาบอกว่าแมวที่แถวบ้านของเขาน่าจะเข้าใจที่เขาพูดได้เป็นอย่างดี เขาเล่าว่า “แมวที่บ้านของฉันชอบหนีออกไปบ่อยๆ พอมันหายไปทีไรฉันก็จะไปหาหัวหน้าแมวจรจัดแถวนั้น แล้วบอกมันว่าถ้าเจอแมวของฉัน ช่วยบอกมันให้กลับมาบ้านด้วย จากนั้น 20 นาทีแมวของฉันก็จะกลับมาตลอดเลย ตอนแรกฉันก็คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญนะ แต่ว่ามันเกิดขึ้น 5 ครั้งติดต่อกันแล้ว ฉันก็เลยต้องยอมรับว่าแมวเข้าใจที่มนุษย์บอกจริงๆ” ก็อย่างที่เขาบอกว่ามันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ แต่ถ้าเกิดขึ้นตั้ง 5 ครั้งก็คงไม่บังเอิญแล้วล่ะ     หลังจากที่มีคนอ่านทวิตของเขา ชาวเน็ตคนอื่นก็ร่วมแชร์เรื่องราวในทำนองเดียวกันด้วยเหมือนกัน “เมื่อนานมาแล้วฉันบอกแมวจรจัดที่อยู่แถวบ้านว่า ‘พาเพื่อนมาด้วยก็ได้นะ’ แล้ววันต่อมามันก็มีเพื่อนมาเพิ่มจริงๆ นอกจากนั้นมันก็ไม่เคยกัดกับหมาที่บ้านฉันเลย เพราะฉันบอกว่าไม่อยากให้มันทะเลาะกัน” “ฉันก็เคยเจอเรื่องแบบนี้ ลูกแมวที่บ้านฉันหายตัวไปเป็นเดือนตอนที่ไม่สบาย ฉันเริ่มจะถอดใจแล้ว ก็เลยบอกแม่แมวว่า ‘บอกลูกให้กลับมาไวๆ นะ’ แล้วลูกมันก็กลับมาในสภาพผอมกร่อง ฉันคิดว่ามันเข้าใจฉันนะ”     “ฉันก็มีเรื่องทำนองเดียวกัน แถวบ้านฉันมีแมวจรจัดตัวหนึ่งที่ชอบรังแกแมวจรจัดอีกตัว ฉันเลยเอาใจมันทั้งคู่ แล้วมองตามันพร้อมบอกว่า ‘หยุดแกล้งเพื่อนแล้วดีกันได้แล้วนะ’ จากนั้นมันก็หยุดทะเลาะกันแล้วกอดกันเฉยเลย” “ครั้งหนึ่งแมวของฉันเคยหายไปในป่า ฉันออกไปตามหาแล้วเจอแมวจรจัดที่ชอบเล่นแถวนั้นพอดี เลยบอกมันว่า ‘เห็นแมวฉันบ้างไหม?…

ถ้าเราเกิดมาพิการและแตกต่างกับคนอื่น นอกจากจะมีปัญหาในการใช้ชีวิตแล้ว อาจมีปมด้อยในเรื่องร่างกายที่ไม่เหมือนคนทั่วไปด้วย ดังนั้นถ้าเกิดมีชีวิตที่เกิดมาพิการยิ่งน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นเรื่องน่ายินดี ทว่าสำหรับแมวเหมียว 2 ตัวนี้แล้ว การที่มันเกิดมาพิการทั้งคู่ อาจจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับพวกมันก็ได้     ลูกแมวน้อย Frog เกิดมาโดยมีขาแค่ 2 ข้างด้านหน้า แต่มันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกเลย ส่วนสาเหตุที่มันทำตัวเหมือนแมวปกติได้ก็คงเป็นเพราะมันมีน้องชาย Newt อยู่ด้วย Newt เองก็มีขาหน้าแค่ 2 ข้างเหมือนกัน ด้วยความที่มันอยู่ด้วยกันตั้งแต่เกิด ก็คงจะทำให้มันคิดว่าการมีขา 2 ข้างก็ไม่เห็นผิดปกติอะไร เพราะพี่น้องทั้งคู่มีขา 2 ข้างเหมือนกัน   Newt เกิดมามี 2 ขา   แต่ไม่ได้รู้สึกแปลก เพราะน้องชาย Frog ก็มี 2 ขาเหมือนกัน   พวกมันทั้ง 2 ตัวได้รับการดูแลจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Alley Cats and Kittens ตั้งแต่ยังเด็ก พวกมันก็เลยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย     Newt กับ Frog เป็นแมวที่ร่าเริงมาก ถึงจะมีแค่…

ที่ผ่านมามีข่าวสุนัขตามหาคนหายจนเจอมานับไม่ถ้วน ซึ่งก็ช่วยพิสูจน์ความสามารถในการตามหาของหายของพวกมันได้เป็นอย่างดีแล้ว ส่วนเจ้าหมา Davos นั้นถึงจะไม่รู้ว่าตามหาคนเก่งเหมือนหมาในข่าวไหม แต่ถ้าเป็นเรื่องตามหาลูกกอล์ฟล่ะก็มันน่าจะเป็นตัวเก็งเลย Davos เป็นหมาที่คุณตา Al Cooper เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เขาเลี้ยงมันมาตั้งแต่ยังเล็กแล้วก็ฝึกให้มันตามหาลูกกอล์ฟตั้งแต่ยังตัวเล็กๆ แล้ว   เจ้าหมา Davos   คุณตา Al Cooper   Cooper เล่าว่า “ผมฝึกมันให้ตามหาลูกกอล์ฟตั้งแต่มันยังเป็นลูกหมา แล้วมันก็ทำได้เก่งมากซะด้วย โดยผมจะเอาลูกกอล์ฟ Pro V1 ใส่ถ้วยไว้แล้วสลับไปมา ถ้ามันบอกได้ถูกว่าลูกกอล์ฟอยู่ถ้วยไหน มันก็จะได้ขนมเป็นรางวัล” นอกจากเกมส์หาลูกกอล์ฟเล็กๆ ในบ้านแล้ว ข้างบ้านของมันยังเป็นสนามกอล์ฟด้วย มันก็เลยได้ออกไปตามหาลูกกอล์ฟที่นั่นอยู่บ่อยๆ ยิ่งเป็นวันหลังจากที่มีการแข่งใหญ่ ก็จะมีลูกกอล์ฟให้มันหาเพียบ     Cooper เกษียณแล้วเลยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับ Davos แล้วการออกไปตามหาลูกกอล์ฟเล่นกับมันเป็นประจำก็ทำให้เข้าได้ลูกกอล์ฟมาเยอะมาก     เมื่อมีลูกกอล์ฟเยอะเข้า เขาก็เลยเปิดขายลูกกอล์ฟในราคาถูกยามว่างด้วย ถ้าไม่ทำไม่อย่างนั้นลูกกอล์ฟที่ Davos หามาได้เรื่อยๆ คงล้นบ้านพอดี     เกมส์หาลูกกอล์ฟของ Davos ช่วยลดภาระของคนดูแลสนามกอล์ฟไปได้มากโข แล้วมันก็ยังทำให้เจ้าของมีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกไปเล่นกับมันด้วย…

ใครๆ ก็อยากจะมีสัตว์เลี้ยงที่น่ารักกันทั้งนั้นแหละ แต่รู้ไหมว่าถ้าสัตว์เลี้ยงน่ารักมากเกินไปก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันนะ…ก็คือเวลาที่มันทำความผิดเราจะเอ็นดูจนดุมันไม่ลง คุณ เก๋ ซึ่งเป็นเจ้าของ ล่า หมาแสนซนเองก็ประสบปัญหานี้เหมือนกัน เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอรู้ว่าเจ้าหมาทำไม่ดี มันก็จะแกล้งตายหนีความผิดทุกทีไป เห็นแล้วเธอก็โกรธมันไม่ลงจริงๆ     เรื่องมีอยู่ว่าคุณเก๋เธอเพิ่งไปเปลี่ยนกระโปรงหน้ารถมาใหม่เลย ทุกคนคงนึกออกนะว่ารถเนี่ยเป็นของรักของหวงของคนขับทุกคนเลย ยิ่งไปทำใหม่มานี่ยิ่งไม่อยากให้เป็นริ้วร้อยใดๆ ทั้งนั้น แต่พอเธอจอดรถทิ้งเอาไว้ในบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว เจ้าล่าก็ดันไปกัดกระโปรงหน้าใหม่เล่นซะเป็นรอยชัดเชียว พอเธอจะหันมาดุมัน มันก็แกล้งตายดื้อๆ ซะอย่างงั้น แถมเจ้า ถัง หมาอีกตัวก็ยังออกมาปกป้องมันอีก ไม่รู้ว่าสมรู้ร่วมคิดด้วยกันรึเปล่า     นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันแกล้งตายหนีความผิดหรอกนะ ไม่ว่าจะโดนเจ้าของดุเรื่องอะไรมันก็แกล้งตายหนีตลอดเลย อย่างก่อนหน้านี้เจ้าของก็เคยดุมันเรื่องฉี่ไม่เป็นที่เหมือนกัน เพราะฝึกมาตั้งนานแล้วเจ้าล่าก็ยังจะฉี่ใส่ประตูบ้านอยู่นั่นแหละ สอนไม่รู้จักจำสักที แน่นอนว่าพอเห็นเจ้าของดุปุ๊บ ล่าก็แกล้งตายตามสเต็ปตัวเองปั๊บ เห็นแล้วก็ดุไม่ลงอีกตามเคย     ท่าแกล้งตายไม่ได้เป็นไม้ตายที่เอาไว้ใช้ตอนหนีความผิดเท่านั้นนะ ล่ายังใช้ไม้นี้ตอนถูกจับอาบน้ำด้วย ซึ่งก็ทำให้เจ้าของจับมันอาบน้ำไปสบายมือมากๆ เลยล่ะ เพราะมันไม่ดิ้นหนี แต่ก็ไม่แน่ว่าล่าอาจจะชอบอาบน้ำมาก พอเจ้าของอาบน้ำให้ก็เลยฟินจนนอนนิ่งให้อาบอย่างว่าง่ายก็เป็นไปได้เหมือนกัน     ถึงจะซน แต่น่ารักอะ อยากได้แบบนี้สักตัว ที่มา: ธันยพัต จารุวัฒน์วโรดม

ที่ร้านขายยาแห่งหนึ่งในรัฐมิสซิสซิปปี ขณะที่พนักงานทำงานกันอยู่ พวกเขาก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งอยู่หน้าร้าน มันไม่ได้เดินมาเหมือนกับแมวตัวอื่น แต่ลากขาหลังทั้ง 2 ข้างมาจนถึงหน้าประตูร้านเลย ท่าทางมันต้องการความช่วยเหลือ     หลังจากที่เจอมันแล้วพนักงานก็ติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Southern Cross Animal Rescue เพราะพวกเขาน่าจะช่วยมันได้มากกว่า เมื่อมันมาถึงมือของอาสาสมัครแล้ว พวกเขาก็เลยเห็นว่ามันบาดเจ็บที่ขาหลังทั้ง 2 ข้างจนเดินไม่ได้ มันก็ดูกลัวคนอยู่พอสมควร แต่ที่เข้ามาหามนุษย์แบบนี้คงเป็นเพราะอยากให้ช่วยจริงๆ     พวกเขาตั้งชื่อลูกแมวตัวนี้ว่า Quinn หลังจากที่รักษาแผลเบื้องต้นให้มันแล้ว พวกเขาก็ส่งมันไปอู่บ้านกับอาสาสมัครเพื่อพักฟื้นตัวก่อน มันยังต้องได้รับการผ่าตัดอีกถึงจะทำให้ขาหายดีได้อีกครั้ง แต่ระหว่างที่รอการผ่าตัดคนที่ดูแลมันก็ช่วยดูแลมันให้หายกลัวคนด้วย     พวกเขาไม่รู้หรอกว่า Quinn โดนอะไรมาถึงได้มีแผลที่ขาแบบนี้ แต่อาจจะเป็นคนทำร้ายก็ได้มันถึงไม่ค่อยกล้าเข้าใกล้คน แม้แต่คนที่จะช่วยรักษามันก็ด้วย ทว่าพอมันได้เจอความรักและอบอุ่นจากคนดูแล มันก็ค่อยๆ เปิดใจให้พวกเขาทีละนิด และยิ่งโดนลูบและมีคนเอาใจมันก็ไว้ใจคนอย่างรวดเร็ว     ยิ่งเมื่อมันได้เจอลูกสาววัย 10 ขวบของคนดูแลด้วยแล้ว มันก็ยิ่งไว้ใจมนุษย์มากขึ้นเพราะเธอดูไม่มีพิษมีภัยและมีแต่ความรักให้มัน ตอนนี้มันกลายเป็นแมวขี้อ้อนที่ไว้ใจมนุษย์เต็มที่แล้วล่ะ หลังจากได้รับการผ่าตัดเรียบร้อย มันก็กลับมาพักฟื้นตัวที่บ้านของคนดูแลอีกครั้งหนึ่ง ต้องรอให้มันหายดีถึงจะเปิดหาคนรับเลี้ยงมันได้ แต่มันก็ดูมีความสุขดีเมื่อได้อยู่กับคนดูแลปัจจุบัน โดนอุ้มเมื่อไหร่ก็ดูมีความสุข แถมเดี๋ยวนี้เดินเข้าไปอ้อนมนุษย์เองแล้วด้วย ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะได้เป็นคนรับมันเลี้ยงไว้ซะเองก็ได้     ที่มา:…

ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้อยู่อีกเยอะ หนึ่งในนั้นก็คือความเชื่อเรื่องการทำนายอนาคต ซึ่งมีอยู่ทั่วทุกมุมโลกเลยทืเดียว การทำนายอนาคตก็มีหลากหลายรูปแบบ บางทีก็เอาสัตว์มาเอี่ยวด้วยนะ อย่างที่เห็นชัดเลยก็คือเจ้าหมึก Paul ผู้โด่งดังที่เคยใช้ทำนายผลบอลกันเมื่อหลายปีที่แล้ว มันทำนายแม่นจนดังไปทั่วโลกเลย   หมึก Paul   Paul เคยเป็นสัตว์ทำนายผลฟุตบอลโลกตอนปี 2010 แถมยังทำนายผลถูกหมดเลยด้วย แต่จริงๆ มันก็ทำนายผลบอลแมชอื่นมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีสัตว์อีกหลายตัวที่เคยทำนายในลักษณะนี้เหมือนกัน แถมมีเยอะซะด้วย จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลย   เหมียว Archilles   แมวเหมียวก็เคยทำนายผลบอลเหมือนกันนะ Archilles เป็นแมวหูหนวกที่ทุกคนคิดว่ามันทำนายได้ดี เพราะมันจะไม่ถูกรบกวนด้วยเสียงใดๆ แต่มันก็ไม่ได้แม่นเหมือนพี่ Paul หรอกนะ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ทำนายผิด   พี่หมู Mystic Marcus   Mystic Marcus ใช้วิธีการทำนายผลโดยเลือกกินแอปเปิ้ลที่เป็นตัวแทนของแต่ละประเทศ มันเคยทำนายถูกหลายอย่างเหมือนกันนะ แต่ก็เหมือนกับเจ้า Archilles มันทำนายผลบอลโลก 2018 พลาดไป   ลิงจ๋อ Geda   Geda เป็นลิงจากประเทศจีน มันไม่ได้ถูกใช้ให้ทำนายผลบอลหรอก…

การจะพาหมาสักตัวเข้ามาอยู่ในครอบครัวเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ดี ยิ่งมีคนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษในบ้านด้วยยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ พ่อแม่ของหนุ่มน้อยที่มีความพิการเองก็ไม่รู้ว่าคิดถูกรึเปล่าที่หาหมามาเป็นเพื่อนลูก จนกระทั่งได้เห็นรอยยิ้มของหนุ่มน้อยตอนอยู่กับเจ้าหมาถึงได้รู้ว่าตัดสินใจไม่ผิดแล้วที่พาเจ้าหมาเข้ามา     หนุ่มน้อย Hugh เพิ่งจะมีอายุเพียง 8 ขวบ แต่เขาก็ผ่านความยากลำบากในแบบที่หลายคนไม่เคยสัมผัสมาแล้ว เพราะเขาเกิดมาพร้อมความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ที่เรียกว่า FOXG1 ซึ่งทำให้การพัฒนาของสมองผิดปกติ อาการของโรคนี้มีอยู่หลากหลาย อาการร่วมกันที่เห็นได้ชัดนั้นก็คือกินอาหารได้ลำบาก ควบคุมการเคลื่อนไหวได้ยาก และอาจมีอาการชักด้วย     คุณแม่ของเขาคิดว่าหากมีสัตว์เลี้ยงสักตัวมาอยู่เป็นเพื่อน อาจจะทำให้เด็กชายมีความสุขมากขึ้นได้ เธอก็เลยรับเลี้ยงเจ้าหมา Barney มาตั้งแต่มันอายุยังไม่ถึงเดือน ซึ่งดูเหมือนมันกับ Hugh จะเข้ากันได้ดีตั้งแต่เจอหน้าเลย อย่างไรก็ตามการเลี้ยงหมาย่อมมีปัญหาที่คาดเดาไม่ได้บ้าง ทำให้เธอชั่งใจอยู่เหมือนกันว่าคิดถูกรึเปล่าที่เอา Barney เข้ามาในชีวิตของ Hugh     คุณแม่เล่าว่า “เราคิดอยู่นานว่าจะเลี้ยงหมาดีไหม ด้านหนึ่งเราก็หวังว่ามันจะเป็นเรื่องดีสำหรับ Hugh แต่อีกด้านหนึ่งก็กลัวว่ามันจะทำให้ชีวิตของเขาวุ่นวาย ที่ผ่านมา Barney เคยเปิดฝาขวดที่เชื่อมกับท่ออาหารของ Hugh แล้วกินนมหกออกมาจนเลอะเต็มพื้น แล้วก็เคยกัดสายออกซิเจนของ Hugh ด้วย ถึงเราจะสอนกี่ครั้งมันก็ไม่รู้จักจำสักที แถมมันยังมาขวางทางรถเข็นบ่อยๆ ด้วย”     เธอเล่าต่อว่า “แต่ Barney ก็อดทนที่ Hugh…

ใครอยู่บ้านกับสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ จะสรุปได้ว่าส่วนใหญ่พวกมันเสียเวลาไปกับการกิน นอน และเล่นซนแค่นั้น แล้วก็จะวนอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำอะไรที่มีสาระเลย แต่อย่าได้ประมาทไป ตอนนี้ #เหมียวอาตี๋ ค้นพบแล้วว่าพวกมันกำลังตบตาเราเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้มีแค่แมวเท่านั้นที่ตั้งใจจะยึดครองโลก ตอนนี้พวกสัตว์กำลังร่วมมือกันแอบเอาชนะเราอยู่ เวลาที่เราไม่ได้จับตาดูสัตว์เลี้ยงพวกนี้ พวกมันก็กำลังเรียนรู้พฤติกรรมของเราแล้วฝึกเลียนแบบ เพื่อที่สักวันหนึ่งพวกมันได้ครองโลกขึ้นมาจะได้มาใช้ชีวิตแทนเรา!   ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าสัตว์เลี้ยงแอบจับตามองเราอยู่เสมอ   แล้วก็เบี่ยงเบนความสนใจของเรา เพื่อไปฝึกเลียนแบบมนุษย์โดยไม่ให้รู้ตัว   ตอนเราไม่อยู่บ้านพวกมันก็แอบเข้าครัวไปลองทำอาหาร   ขโมยสูตรเนื้อย่าง   หัดรดน้ำต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเชียว   หัดอ่านหนังสือสะสมความรู้   แอบขโมยของของเราไปวิจัย   ฝึกทักษะการเป็นสายลับ   ถ้าวางเครื่องสำอางไว้โดยไม่ได้เก็บ มันก็จะแอบไปเรียนแต่งหน้า (ฝีมือยังไม่ถึงนะ)   เก่งกว่านั้นหน่อยก็ปลอมตัวได้ด้วย   แล้วก็แอบกดขี่ให้มนุษย์ตัวน้อยเป็นทาสแบบเนียนๆ   คุณอาจคิดว่ามันทำไม่ได้หรอก แต่พวกมันมีความกล้าในแบบที่คุณไม่รู้   ถ้าจำเป็นก็เสียสละพวกเดียวกันเพื่อยึดโลกได้   แถมยังมีพลังทำลายล้างสูง!!   บางทีพวกมันก็ไม่แอบมนุษย์นะ มาเรียนวิชาจากทาสโดยตรงเลย   สอนพี่ไซซิ่งหน่อย เดี๋ยวคราวหน้าขี่ให้…

เมื่อคราวก่อนเราเคยพาเพื่อนๆ ไปดูความน่ารักมุ้งมิ้งของแมวที่เนียนเข้าไปอยู่ในหลากหลายเมนูอาหารกันมาแล้ว ทำให้เราฟินกับความมุ้งมิ้งของแมวกับอาหารไปพร้อมๆ กันเลย (ดูแมวเหมียวในอาหารได้ที่นี่ https://www.catdumb.com/old/cat-and-food-fusion-700/) แต่จะปล่อยให้เจ้าแมวมันเรียกคะแนนจากมนุษย์ฝ่ายเดียวก็คงไม่ได้ คราวนี้มะหมาเลยมาประชันความน่ารักเมื่อเข้าไปอยู่ในขนมกันบ้าง รับรองว่าน่ารักน่ากินไม่แพ้กันเลย   เอ้า มัวแต่จ้องอยู่นั่นแหละ ไม่กินเหรอ?   (พิต)บูลล์เบอร์รี่พายสักชิ้นไหม   ข้างนอกน่ากิน ข้างในน่ารัก   ฟองนมรุ่นใหม่ ยิ้มให้คุณได้ด้วย   จ้องหน้ากันแบบนี้ กินไม่ลงหรอก   เห็นคาราเมลโคนข้างๆ แล้วอยากชิม   ปกติเขาไม่กินเม็ดอะโวคาโดกันนะ แต่ลูกนี้ดูน่ากินจัง   กวนเบาๆ เดี๋ยวน้องเจ็บ   กาแฟแก้วนี้แค่มองก็ตื่นแล้ว   งุ้ยๆ หมาเมลโลว์นุ่มนิ่ม   กินอัลมอนด์สิ แล้วจะอารมณ์ดี   นี่ตาฝาดหรือว่าคุกกี้กำลังจ้องเราอยู่??   ขอลูบวิปครีมได้ไหม?   ไอศกรีมถ้วยนี้มันยั่วยวนใจ   กินแค่กาแฟ แล้วเก็บครัวซองไว้ดูเล่นแล้วกัน   จะเอาเราไปกินหรือเลี้ยงก็ได้นะ   พายชิบะอร่อยนะฮ้าบ   กินแต่ขนมไม่ดีนะ…

หมาส่วนใหญ่ที่เราได้เจอจะวิ่งมาหาแต่ไกลทุกครั้งที่เรามีของกินอยู่ด้วย แล้วพวกมันก็จะรอคอยอาหารจากมือเราอย่างใจจดใจจ่อ บางตัวไม่ทันเอาขนมออกมาจากถุงก็คาบไปหมดซะแล้ว พอ #เหมียวอาตี๋ ได้มาเจอกับคลิปหมาที่เรียบร้อย รอกินอาหารจากมือเราแบบอ่อนน้อมเข้า ก็เลยรู้สึกว่ามันใช่เลย หมาแบบนี้แหละโคตรน่ารัก แถมเวลามองพวกมันค่อยๆ กินค่อยๆ เคี่ยวแล้วมันผ่อนคลายแบบบอกไม่ถูกด้วย รู้ตัวอีกทีก็เลยนั่งดูหมากินขนมอยู่นานเลย ยิ่งดูมันค่อยๆ กินก็ยิ่งหยุดไม่ได้ ฟินสุดๆ เลย   มีความค่อยๆ งับ มีมารยาท https://www.instagram.com/p/BkflUv7nqmQ/?taken-by=dogseatinggently   อ่อนโยนมากเลยลูก https://www.instagram.com/p/BjsDm87H3ND/?taken-by=dogseatinggently   ดูดเบาๆ แบบเนียนๆ งุ้ยๆ https://www.instagram.com/p/BjWwx7Fj6ei/?taken-by=dogseatinggently   ต้องงับเบาๆ เดี๋ยวเผลอจูบปากละเขินแย่เลย https://www.instagram.com/p/Bi4SGADHjVz/?taken-by=dogseatinggently   บ้านสอนมาดี เลยไม่มูมมาม https://www.instagram.com/p/BiY9u_9n4ue/?taken-by=dogseatinggently   เก่งนะเนี่ย กินไอศกรีมแบบไม่เลอะเทอะ https://www.instagram.com/p/BhdmY99lQhS/?taken-by=dogseatinggently   งับเบาๆ มันไม่ขาด เก๊าขอกัดแรงนิดนึงนะ https://www.instagram.com/p/BeruZ7xnKyK/?taken-by=dogseatinggently   รับมาดีๆ ก่อนแล้วค่อยกิน กลัวเจ้านายมือเลอะ https://www.instagram.com/p/BloWn9clNRD/?taken-by=dogseatinggently   อะน้องหมา อ้ามมมม…

ใครได้เห็นก็คงต้องงงทั้งนั้น เมื่อแม่หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์คลอดลูกออกมาเป็นลายขาวดำแบบวัวหมด เหมือนกับมันเอาลูกของคนอื่นมาเลี้ยงอย่างนั้นแหละ คนอื่นงงยังไม่เท่าไหร่นะ แม้แต่แม่หมาที่คลอดออกมาเองยังทำหน้างงเลย!?     แม่หมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์พันธุ์ผสม Rosie ถูกช่วยเอาไว้โดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Neuse River Golden Retriever Rescue ตอนที่เจอตัวมันก็ท้องแก่แล้ว Katie และ John Black ก็เลยรับมันมาอยู่ที่บ้าน เพราะอยากให้มันคลอดลูกอย่างสะดวกสบาย ในบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวหน่อย     ทว่าเมื่อ Rosie คลอดลูกออกมาลูกหมาทั้ง 4 ตัวของมันกลับมีแต่ลายสีขาวดำ ปกติเราจะคาดหวังให้ลูกกับพ่อแม่มีลักษณะคล้ายกัน พอเจอแบบนี้คนดูแลเลยค่อนข้างแปลกใจ พอแม่หมาเห็นลูกของตัวเอง มันก็ดูทึ่งๆ ไม่แพ้มนุษย์เลย มันอาจจะไม่แน่ใจว่านี่เป็นลูกหมาที่ตัวเองคลอดรึเปล่าก็ได้ ก็มันไม่มีอะไรดูเหมือนกันเลยนี่นะ     ลูกหน้าไม่เหมือนแม่เลยอะ ได้พ่อมาล้วนๆ   แต่พอมันปรับตัวได้ มันก็ดูแลลูกๆ ตามปกติอย่างที่แม่หมาควรจะทำ ทำให้เจ้า Daisy, Beysy, Clarabelle กับ Moo ตัวโตขึ้นไวมากๆ แค่ 9 เดือนลูกหมาลายวัวทั้ง 4 ตัวก็ตัวโตเท่าแม่แล้ว แต่แม่ก็ยังดูแลลูกๆ เหมือนเดิมแหละ…

ในประเทศโคลัมเบียมีสุนัขตำรวจอยู่ตัวหนึ่ง มันใช้ความสามารถในการดมจับยาเสพติดมาได้นักต่อนักแล้ว ความเก่งของมันคงสร้างปัญหาให้กับคนค้ายาจริงๆ ท้ายที่สุดคนร้ายก็เลยตั้งค่าหัวให้มันเป็นมูลค่ากว่า 7 หลัก     สุนัขตำรวจที่ว่าก็คือเจ้า Sombra สุนัขตำรวจสายพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดที่ถูกฝึกมาตั้งแต่เป็นลูกหมาแล้ว มันมีความสามารถในการดมกลิ่นที่โดดเด่น ตำรวจเล่าว่าตอนฝึกมันดมกลิ่นเก่งเป็นที่ 1 เชียวนะ จากการทำงานมาหลายปี Sombra ก็ได้ช่วยให้ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติดได้มากถึง 245 คน ทำให้มันมีคนชื่นชมมากมาย     นอกจากนี้มันก็ช่วยจับโคเคนไม่ให้เข้าไปสู่ตลาดยาเสพติดได้ตั้ง 9 ตัน (9,000 กิโลกรัม) ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มากสำหรับการทำงานของหมาตัวหนึ่ง อย่างไรก็ตามการทำงานอย่างหนักของ Sombra ก็ไปขัดกับผลประโยชน์ของผู้ค้ายาเสพติดเข้า ทำให้กลุ่มผู้ค่ายาตั้งค้าหัวให้ใครก็ตามที่จัดการมันได้     หลังจากที่ Sombra จับยาเสพติดได้แล้วมีสื่อนำเรื่องของมันไปเผยแพร่ กลุ่มค้ายา Urabeños ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้ายาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโคลัมเบียก็ตั้งค่าหัวเอาไว้ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.3 ล้านบาท) เจ้าหน้าที่ตำรวจให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ที่พวกเขาอยากทำร้าย Sombra แล้วตั้งค่าหัวให้สูงขนาดนี้ คงจะเป็นเพราะมันทำให้พวกเขาเสียกำไรมากมายจริงๆ”      ถึงอย่างนั้นก็ตาม Sombra ก็ยังทำงานอย่างเต็มที่เสมอมา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อการตั้งค่าหัวครั้งนี้ พวกเขาเองก็เป็นห่วงความปลอดภัยของยอดหมาตำรวจเหมือนกัน…

เจ้า Jay น่าจะเป็นจิ้งจอกบ้านอีกตัวหนึ่งที่มีความสุขที่สุด ชีวิตของมันหลังจากถูกช่วยมาในตอนเด็ก ก็มีแต่ความสดใสที่ได้จากพ่อแม่ และเพื่อนซี้ 4 ขาอีกตัวหนึ่ง ตอนยังเล็กอยู่ Jay ถูกจับไปเพื่อเอาขนไปใช้ทำเสื้อผ้า แต่มันก็ถูกช่วยออกมาได้และได้มาอยู่บ้านกับคู่รักในเมือง Krakow ประเทศโปแลนด์     จากนั้นมันก็ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านของพวกเขา แต่มันก็ยังมีความสุขดีเพราะทั้งคู่เข้าใจว่าต้องดูแลสุนัขจิ้งจอกยังไง แถมมันยังมีเพื่อนอยู่ด้วยทำให้ไม่เหงา Jay ชอบเข้าสังคมและเป็นมิตรกับสัตว์แทบทุกตัว คนที่เลี้ยงมันก็เลยคิดว่าถ้าอยู่บ้านตัวเดียวมันคงเหงา พวกเขาก็เลยรับหมาอีกตัวมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ ซึ่งก็คือ Saimon หลังจากเจ้าหมาเข้ามาในครอบครัว ชีวิตของ Jay ก็มีความสุขมากยิ่งขึ้น ลองไปดูชีวิตแสนสุขของมันสิว่าดีมากแค่ไหน     นี่คือคนที่เอามันมาดูแล แล้วก็ยังมีแฟนสาวของเขาอีกคนด้วย   มันถูกเลี้ยงมาในบ้าน ก็เลยอยู่กับมนุษย์ได้อย่างไม่มีปัญหา   ทั้งคู่ดูแลมันอย่างดีจนโตเป็นจิ้งจอกที่งดงาม   ทั้งคู่รู้ว่า Jay ชอบมีเพื่อนอยู่ด้วย เพราะมันเข้าไปเล่นกับสัตว์ทุกตัวที่เจอ   พวกเขาก็เลยพา Saimon มาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน Jay   Jay เข้ากับสัตว์ได้ดีอยู่แล้ว แต่กับ Saimon ดูมันจะรักมากเป็นพิเศษนะ…

ในศูนย์พักพิงสัตว์ที่มีแมวอยู่มากมาย มีแมวเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่เตะตาคู่รักอย่างจัง แล้วทั้งคู่ก็ตั้งใจเลยว่าจะเอามันมาเลี้ยงให้ได้ และต้องเป็นตัวนี้เท่านั้น!     Mike Wilson และคู่รัก Megan Hanneman ทำธุรกิจออกแบบสนามเด็กเล่นแมวในบ้าน เพื่อสนับสนุนให้แมวออกกำลังกายได้แม้จะไม่ได้ออกไปข้างนอก พวกเขามีแมวอยู่ 2 ตัวเพื่อเป็นผู้ทดสอบและคัดเลือกสินค้าที่น่าพึงพอใจสำหรับเจ้าขนฟู 4 ขาทั้งหลาย และก็คิดว่าน่าจะรับแมวมาเพิ่มอีกสักตัวหนึ่ง ก็เลยพาแฟนเดินทางไปดูแมวที่เปิดรับเลี้ยงด้วยกัน     เมื่อทั้งคู่ไปถึงศูนย์พักพิงสัตว์ พวกเขาก็ถูกใจแมวตัวเดียวกันซึ่งก็คือ Bronson แมวที่อ้วนตุ้ยจนเด่นสะดุดตา มันอ้วนมากซะจนตัวใหญ่เกือบเท่าตัวคนเลยนะ เจ้าหน้าที่บอกว่ามันอ้วนแบบนี้ตั้งแต่มาที่นี่แล้ว เจ้าของเก่าที่ตายไปน่าจะไม่ได้คุมน้ำหนักให้มัน ตอนนี้มันก็เลยน้ำหนักตั้ง 33 ปอนด์ (ประมาณ 15 กิโลกรัม)     อย่างไรก็ตามทั้ง Wilson และ Hanneman ก็ยืนยันที่จะรับเลี้ยงเจ้าแมวตัวนี้ แล้วตั้งใจว่าจะช่วยมันลดน้ำหนักเอง พวกเขามั่นใจว่ามันจะช่วยเติมเต็มให้ครอบครัวของพวกเขาอบอุ่นมากขึ้นแน่นอน พวกเขาไม่ผิดหวังเลยที่เลือก Bronson มันเป็นแมวที่ขี้อ้อนและชอบกอดมาก ถึงมันจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักอยู่บ้างแต่พวกเขาก็พยายามช่วยมันลดน้ำหนักและคุมอาหารอยู่ รับรองว่าลดเสร็จจะต้องซุกซนมากกว่าเดิมแน่นอน และนั่นคือสิ่งที่ทั้งคู่ต้องการ เพราะยิ่งเห็นแมวที่ดูแลร่าเริงมาก พวกเขาก็ยิ่งมีความสุข     ตัวใหญ่มากจนไม่เหลือที่ว่างบนเบาะเลย  …

ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นกระแสถ่ายรูปแนวใหม่ในตอนนี้ เมื่อเหล่าเจ้าของน้องหมาเริ่มพากันถ่ายรูปมันในมุมกลับหัว ดูไปแล้วก็เหมือนกับมันลอยขึ้นไปติดอยู่บนเพดานยังไงยังงั้นเลย แปลกดีเหมือนกัน โดยรูปแรกเริ่มโพสต์โดย IASWABTBJ จากเว็บไซต์ Reddit ซึ่งเขาถ่ายเจ้าหมาชิบะของตัวเองแบบกลับหัว ทำให้ดูเหมือนมันกลายเป็นลูกโป่งลอยฟ้าแสนน่ารักที่ลอยอยู่แล้วยิ้มกลับมาให้เจ้าของเลย     พอชาวเน็ตเห็นรูปของเขาเข้า ก็รู้สึกชอบ แล้วก็เลยไปถ่ายหมาของตัวเองมาอวดในแนวเดียวกันบ้าง ซึ่งแต่ละตัวก็น่ารักสูสีกันมากจริงๆ นะ     อ้าห์ ล่องลอย   นี่มันก้อนเมฆชัดๆ   ท่าทางเหมือนกำลังละเมอ   โอ้ย พี่ชิบะน่ากอดมาก   อย่ามัวแต่มองสิมนุษย์ ลอยขึ้นมาด้วยกัน   ข้างบนนี้ลมเย็นดี   เมฆก้อนนี้ขนเนียนเหมือนแกะเลย   อันนี้ดูเหมือนลอยอยู่จริงๆ นะ   อุ้ย ติดมุม   แผ่เป็นพรมเลยนะแก   น้องผิดงานแล้ว เขาหันหน้าออกกัน   ยิ้มหวานให้กล้องหน่อย   เราไม่ได้หน้าย่นนะ นี่รอยจากการต้านแรงโน้มถ่วงต่างหาก   ลอยแรงมาก ผิวร่นไปอยู่ที่เพดานหมด   นี่หลับไปแล้วใช่ไหม?  …

เมื่อกลางเดือน กรกฎาคม 2014 ในขณะที่ Sabrina la Grotteria กำลังอยู่นอกบ้าน เธอได้ผ่านไปเห็นภาพน่าประทับใจของเจ้าของและสุนัขคู่หนึ่ง เธอเลยถ่ายคลิปวิดีโอเก็บเอาไว้ จากนั้นคลิปวิดีโอสั้นๆ ของเธอก็ชนะใจชาวเน็ตหลายแสนคน และนำพาให้เราได้ไปรู้จักเรื่องราวอบอุ่นหัวใจของคุณปู่กับเจ้าหมาโกลเด้นตัวนี้     คลิปวิดีโอที่เธอถ่ายได้นั้นเป็นกิจวัตรประจำวันสั้นๆ ของคุณตาซึ่งช่วยพาเจ้าหมาในรถเข็นเข้าไปในบ้าน โดนใช้มือประคองช่วงหลังของมันไว้แทนขาหลังที่ใช้การไม่ได้ของเจ้าหมานั่นเอง จริงๆ คุณลุงก็แก่แล้ว ส่วนเจ้าหมาก็ตัวใหญ่ไม่ใช่เล่นเลย การที่เขาออกแรงช่วยหมาแบบนี้จึงเป็นภาพที่ทำให้ชาวเน็ตซาบซึ้งใจมาก ถึงแม้ว่า Grotteria จะไม่รู้จักคุณลุงกับเจ้าหมาเลย แต่ก็มีสำนักข่าวท้องถิ่นเข้าไปสัมภาษณ์พวกเขา จนได้ความเป็นมาของคุณตาและเจ้าหมาโกลเด้นมาแบ่งปันให้ทุกคนได้รู้กัน     คุณตาคนนี้ชื่อว่า Tonino Vitale เขาใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าหมา Dylan มานาน 13 ปีแล้ว ตอนแรกมันก็เดินได้เหมือนหมาทั่วไปนี่แหละ แต่อาการป่วยก็ทำให้มันพิการในที่สุด Dylan พิการเนื่องจากเป็นโรคข้ออักเสบ ส่งผลให้มันใช้ขาหลังเดินไม่ได้ แต่ Vitale ซึ่งรักมันมากก็ไม่อยากให้มันอยู่แต่กับบ้าน เขาก็เลยอุ้มมันขึ้นลงรถเข็น แล้วพามันไปข้างนอกด้วยทุกวัน แถมยังเข็นรถให้มันเองด้วย     Vitale ให้สัมภาษณ์ว่า “ตั้งแต่ Dylan ลืมตาดูโลก มันก็เป็นรักแรกพบของผม สำหรับเราแล้วการแสดงความรักต่อ Dylan เป็นเรื่องปกติ แต่เราก็ยินดีที่จะบอกเล่าเรื่องราวของมันให้ทุกคนรู้…

หมาตัวใหม่ที่หญิงสาวรับมาเลี้ยงดูเหมือนจะเข้ากับลูกน้อยของเธอได้ดี แต่อยู่ๆ มันก็มีท่าทีก้าวร้าวกับลูกของเธออย่างกะทันหัน ในขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะทำยังไงกับเจ้าหมาดี เธอก็ได้รู้ความจริงภายใต้ท่าทีก้าวร้าวของมัน     Catherine Svilicic และสามีของเธอเพิ่งมีลูกสาวตัวน้อยชื่อว่า Charlotte ถึงจะมีเด็กหญิงแล้วเธอและสามีก็ยังอยากได้เพื่อนอีกสักคนมาอยู่กับลูกสาวด้วย พวกเธอก็เลยเลือกเลี้ยงหมาสายพันธุ์โดเบอร์แมนพินส์เชอร์ โดยไปรับมันมาจากศูนย์พักพิงสัตว์ เพราะเธอเองก็อยากเปิดโอกาสให้หมาที่ไม่มีบ้าน และหาเพื่อนให้ลูกไปพร้อมๆ กันด้วย     อย่างไรก็ตามหมาสายพันธุ์โดเบอร์แมนมักจะถูกมองว่ามันเป็นสายพันธุ์ที่ดุร้าย และคาดคะเนพฤติกรรมไม่ได้ หลายคนจึงไม่อยากเลี้ยงมันไว้เป็นสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้เจ้าหมา Khan ที่เธอรับเลี้ยงมาก็ถูกทำร้ายมาก่อนด้วย เจ้าของคนก่อนหน้านี้เคยทารุณมัน แล้วก็ดูแลมันไม่ดี จึงเป็นไปได้เหมือนกันว่ามันอาจจะยังไม่ไว้ใจคน เธอเลยต้องจับตาดูมันให้ดีตอนอยู่กับลูก     แต่เท่าที่ Catherine ดูแล้ว Khan ไม่ได้มีพฤติกรรมน่าเป็นห่วงเลย ถึงจะเพิ่งเลี้ยงมันได้ไม่กี่วัน มันก็ดูมีนิสัยเรียบร้อย อ่อนโยน เข้ากับ Charlotte ได้ดี แถมดูจะรักและเป็นห่วงลูกของเธอมากซะด้วย ทว่าต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ที่เธอไม่คาดคิดขึ้น…     ในวันที่ 4 หลังจากรับ Khan มาเลี้ยง Catherine ปล่อยมันเอาไว้กับ Charlotte ในสวนเพื่อให้มันและลูกได้เล่นด้วยกัน โดยเธอนั่งมองดูความเรียบร้อยอยู่ห่างๆ ตอนนั้นนั่นเองอยู่ๆ Khan ก็เริ่มมีท่าทีลุกลี้ลุกลนแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มันผลัก…

คาดว่าหลายคนน่าจะรู้จักเกม Pokemon Go (โปเกมอน โก) ที่เราต้องใช้มือถือเดินออกไปจับโปเกมอนตามสถานที่จริงกันดีอยู่แล้ว ตอนนี้เกมนี้ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่พอสมควรเลย Ela Okreša Đurić ก็เป็นหญิงคนหนึ่งที่เล่นเกมนี้อยู่ เธอเลยชวนแฟนหนุ่มและเพื่อนๆ ออกไปจับโปเกมอนด้วยกันข้างนอก แต่นอกจากจะได้โปเกมอนมาแล้ว เธอยังได้สัตว์เลี้ยงแถมมาด้วย!?     ระหว่างที่ Đurić กำลังจับโปเกมอนอยู่เพลินๆ นั่นเอง มีหมาจรจัดสีดำตัวหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอและเพื่อน มันทั้งขนยุ่งและมีเห็บหมัดทั่วตัว มันดูเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตข้างถนน ทว่ามันก็ดูจะให้ความสนใจกับพวกเธอมากเป็นพิเศษ ตั้งแต่ที่เจ้าหมาเดินเข้ามา มันก็ไม่ยอมเดินไปที่อื่นเลย แถมยังตามติดพวกเธอไปจับโปเกมอนต่อด้วย     แม้ว่ามันจะเป็นหมาจรจัด แต่หมาสีดำตัวนี้ก็ดูเรียบร้อยมากเลยทีเดียว มันตามพวกเธอไปอย่างเงียบๆ โดยไม่รบกวน แล้วก็จะนั่งรออยู่ข้างๆ ด้วยท่าทีเป็นมิตร     เก๊าแค่อยากมีเพื่อนเดินด้วย ไม่กวนตอนเล่นหรอก   Đurić เห็นว่ามันเดินตามเธอมาเป็นชั่วโมงแล้ว แถมยังรู้สึกถูกชะตากับมันด้วย เธอที่อยากมีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้วแต่ไม่เจอหมาที่ถูกใจสักที ก็เลยตัดสินใจรับมันมาเลี้ยงพร้อมกับตั้งชื่อว่า Loki     ก่อนจะตัดสินใจรับเลี้ยง Loki เธอก็พามันไปที่ศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อสแกนหาไมโครชิปก่อนแล้ว เมื่อไม่เจอก็เลยมั่นใจได้ว่ามันไม่มีเจ้าของ แล้วรับมันมาเลี้ยงได้อย่างสบายใจ หลังจากมันมาอยู่บ้านกับ Đurić เธอก็อาบน้ำให้มันจนสะอาดเอี่ยมอ่อง เห็บและหมัดที่เคยมีก่อนหน้านี้ก็หายไปด้วย…

สุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็มีจุดเด่นและเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้บางครั้งคนเลือกเลี้ยงก็คิดไม่ตกเหมือนกันว่าจะเลี้ยงพันธุ์ไหนดี เพราะมันน่ารักคนละแบบ ถ้าเลือกไม่ถูกสุนัขพันธุ์ผสมอาจเป็นทางออกของคุณก็ได้นะ เพราะมันได้รวมเอาความน่ารักของ 2 สายพันธุ์เข้ามาไว้แบบทูอินวัน ทำให้เราไม่ต้องเลือกแบบรักพี่เสียดายน้อง แถมพอผสมออกมาแล้ว ก็หล่อมีเสน่ห์ไปอีกแบบที่ไม่ซ้ำของเก่าเลย เอ๊ะ…หรือว่า #เหมียวอาตี๋ มองว่าหมาทุกตัวน่ารักก็เลยคิดไปเอง? ทุกคนมาช่วยกันดูหน่อยว่าน่ารักจริงไหม   เยอรมันเชพเพิร์ด + โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ทั้งขนปุยทั้งสง่า   ไซบีเรียน + พิตบูลล์ กลายเป็นพิตบูลล์ตาฟ้าสวย   ผสมสมอะไรไม่รู้ แต่ตา 2 สีเก๋ไก๋มาก   น้องหมาคอร์กี้ กับขนลายเยอรมันเชพเพิร์ด   เจ้าหมาชาร์เป่ยที่มีหน้าย่นเหมือนบูลด็อก   ชิวาว่าผสม หูมันก็จะตกหน่อยๆ   ตัวนี้ผสมกับหมาป่า หน้าเรียวเชียว   ดูเยอรมันเชพเพิร์ดตัวนี้สิ ได้หูโตมาจากอเมริกันสแตฟฟอร์ดชายร์ล่ะ   อิงลิชบูลเทอร์เทียร์ผสมก็หล่อเหลาไม่เบา   อะไรเล่าจะมาน่ารักสู้ปอมสกี้ (ปอม + ไซบีเรียนฮัสกี้)   ก็เชาเชา + ไซบีเรียนไงเล่า…

ลูกหมาตกหลุมเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยมากๆ ทุกคนอาจจะคิดว่าแค่มีคนลงไปช่วยมันขึ้นมาก็จบแล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่ง่ายแบบนั้นน่ะสิ กว่าจะช่วยน้องหมาได้ต้องระดมความคิดกันทั้งชุมชนเลย Karen Smith ทำหน้าที่ดูแลหมาให้กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ A New Leash on Life เป็นประจำ ครั้งนี้เธอได้ดูแลลูกหมาครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีเจ้า Toffee ลูกหมาสีขาวหูหนวกอยู่ด้วย     วันหนึ่ง Smith กับเพื่อนพาลูกหมาพวกนี้ออกไปเดินเล่น แต่บังเอิญว่าแถวนั้นมีร่องลึกอยู่ด้วย ตอนที่เธอเรียก Toffee ให้วิ่งมาหานั่นเอง เจ้าหมาก็หล่นเข้าไปในนั้นเพราะมันไม่ได้มองทาง Smith ตกใจมากเพราะเธอมาแถวนี้ค่อนข้างบ่อย แต่ก็ไม่เคยเห็นหลุมนี้มาก่อนเลย เธอคิดว่ามันอาจจะเกิดขึ้นเพราะช่วงนี้ฝนตกบ่อย หินเลยถูกกัดเซาะจนเป็นหลุมแบบนี้     ตอนแรกเธอคิดว่าน่าจะช่วยมันออกมาเองได้ เพราะเธอเห็นว่าก้นหลุมอยู่ลึกลงไปแค่ 5 ฟุต (ประมาณ 1.5 เมตร) แต่เมื่อลองส่องไฟฉายลงไปดู ก็เห็นว่ามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น และภายในนั้นยังมีหลุมเล็กๆ ที่อยู่ลึกลงไปอีกมากเลย โชคดีที่เธอได้ยินเสียง Toffee ร้องอยู่ก็เลยรู้ว่ามันยังสบายดี แต่เธอก็ลงไปช่วยมันเองไม่ได้ เธอลองแทรกตัวลงไปในร่องหินดูแล้ว แต่มันก็แคบมากซะจนเธอลงไปไม่ถึงตัวมัน เธอเลยต้องติดต่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจและพนักงานดับเพลิง     หลังจากเจ้าหน้าที่มาถึงพวกเขาก็พบว่าจริงๆ หลุมนี้ลึกมากถึง 35 ฟุต…

แมวเป็นสัตว์ที่มีพลังทำลายล้างสูงคำพูดนี้ถูกต้องทุกประการ เพราะนอกจากจะมีพลังความน่ารักสูงจนยึดใจทาสได้แล้ว มันก็ยังทำลายข้าวของเก่งจริงๆ ด้วย คนที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นทาสแมวคงนึกภาพไม่ออกหรอกว่ามันทำลายของบ่อยแค่ไหน ต้องได้ใช้ชีวิตอยู่กับมันจริงๆ แล้วจะรู้ว่ามันทำลายข้าวของได้ทุกวี่ทุกวัน…และก็ทำลายได้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วย แบบนี้ไง!   อากาศมันร้อนอย่ามาดึงสายพัดลมเล่นสิเฮ้ย   พึ่งด่าไปหยกๆ ว่าอย่าขึ้นบนโต๊ะ พูดไม่ทันจบก็เอามือแตะท้าทายเลย   แกทำกับหัวหอมที่ฉันปลูกเองได้ยังง๊ายยย   เรากลัวว่าเจ้าหมาจะได้สารอาหารไม่พอ เลยมาเติมปุ๋ยให้   รู้แล้วว่าทำไมห้องครัวเปียกตลอดเวลา แกนี่เอง   ถ้ามีมันอยู่ด้วย ชาตินี้ฉันคงไม่ได้ใช้ทิชชู่ในบ้านแล้วล่ะ   ข้าทำลายได้แม้แต่เพื่อนของตัวเอง   ดู ดู๊ ดู ดูมันทำ   มาทำร้ายปลาในอ่างทำไม   ทำลายแม้แต่เวลาชิลของทาส   ไม่ว่าจะวางของสูงแค่ไหน ก็ลำลายได้   ทำลายความหวังดีที่เรามีให้มัน   แถมยังทำลายความเชื่อใจของเพื่อนบ้านด้วยการไปขโมยอาหารอีก   เผลอหน่อยไม่ได้ แย่งอาหารทาสกินตลอด   อุตส่าห์เอาผ้ามาคลุมไว้แล้ว มันยังมาเหยียบขนมอีก ฮือ   ทาสกินแค่นี้พอแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวเราช่วยกินเอง จะได้ไม่อ้วน  …

การมีรูปปั้นหล่อเป็นของตัวเอง เป็นเหมือนกับหลักฐานที่บอกว่าคนคนนั้นเคยได้ทำความดีอันยิ่งใหญ่เอาไว้ ไม่เพียงแต่คนเท่านั้นที่ทำดีจนมีรูปปั้น เจ้าหมาเองก็มีเหมือนกัน เมื่อเดือนกันยายน ปี 2017 เคยเกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงมากถึง 7.1 ริกเตอร์ ส่งผลให้คนในพื้นที่ต้องบาดเจ็บและล้มตายไปจำนวนมาก หลังเกิดเหตุนายทหารเรือ Israel Arauz ก็ได้นำเจ้าหมา Frida คู่ใจออกไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง จนช่วยคนไว้ได้กว่า 12 ชีวิตเลยทีเดียว     ความดีของทั้งคู่เป็นที่ชื่นชมของทุกคนทำให้นาย Arauz มีรูปปั้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงความดีในครั้งนี้เอาไว้ในสวนสาธารณะที่เมือง Puebla City ประเทศเม็กซิโก โดยพิธีเปิดตัวรูปปั้นอย่างเป็นทางการเพิ่งมีในเดือนกรกฎาคม 2018 นี้เอง เจ้าหมา Frida เองก็มีส่วนในการช่วยเหลืออยู่ไม่น้อย ทุกคนรู้เรื่องนี้ดีและก็ชื่นชมมันเหมือนกัน จึงได้ทำรูปปั้นให้มันอยู่ข้างๆ เจ้านายด้วย     Israel Arauz และ Frida รูปปั้นที่ระลึกถึงฮีโร่ผู้ช่วยเหลือในเหตุแผ่นดินไหวที่เม็กซิโก   Frida ได้รับการฝึกฝนจาก Arauz เพื่อช่วยเหลือคนมานาน 6 ปีแล้ว มันมีภารกิจช่วยเหลือคนมากมาย แต่การช่วยเหลือในเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้มีผลงานโดดเด่นที่สุดจนเป็นที่จดจำ มันเองก็คงดีใจไม่น้อยเลยที่มีคนทำรูปปั้นให้ ในพิธีแสดงความยินดีมันก็เลยเดินเข้าไปชนจมูกกับรูปปั้นของตัวเองแทนคำขอบคุณทุกคนที่ทำรูปปั้นให้มันด้วย   ทั้งเก่งทั้งน่ารักแบบนี้…

แค่น้ำหนักตัวมากเกินไป อาจจะไม่เป็นปัญหาในมุมมองของหลายคน เพราะถึงจะรูปร่างไม่ดีก็ยังใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่สำหรับน้องหมา Miss B แล้วมันสำคัญมาก Miss Butterworth หรือว่า Miss B เป็นสุนัขพันธุ์ชิวาว่าผสมคอร์กี้ มันต้องมาอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์ Asheville Humane Society หลังจากที่เจ้าของเก่าตายไป ครั้งแรกที่คนได้เจอมันก็คิดว่ามันเป็นลูกหมูซะอีก เพราะมันอ้วนมากจริงๆ     หลังจากตรวจร่างกายดูแล้ว เจ้าหมามีน้ำหนักมากถึง 20 ปอนด์ (ประมาณ 9 กิโลกรัม) ซึ่งมากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 2 เท่า และหากมันยังเป็นแบบนี้ก็คงจะประกาศหาบ้านใหม่ให้มันไม่ได้ ดังนั้น Miss B จึงถูกส่งไปอยู่กับคู่รัก Sharon และ Barry ชั่วคราว พวกเขาเคยดูแลหมามาหลายตัวแล้ว และรู้ดีว่าจะช่วยมันลดน้ำหนักได้ยังไง     คู่รักเริ่มจากการพามันไปเดินเล่นเป็นประจำก่อน แต่ก็ไม่ให้เดินมากเกินไปเพราะน้ำหนักตัวมันมาก ถ้าเดินมากไปอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนั้นก็พามันไปว่ายน้ำที่ทะเลสาบใกล้บ้านอีกทางหนึ่งด้วย หลังจากที่พามันไปวิ่งกับว่ายน้ำเป็นประจำ เจ้าหมาอ้วนเตี้ยก็กลายเป็นที่รู้จักของคนในชุมชน และเป็นขวัญใจของทุกคน     เจ้าหมาถูกพาไปออกรายการทีวีและวิทยุท้องถิ่นอยู่หลายครั้งเลยล่ะ แต่ถึงจะมีชื่อเสียงและมีแต่คนชอบ Miss…

เมื่อถึงเวลาออกอากาศของรายการโทรทัศน์แล้ว ทีมงานย่อมอยากให้งานออกมาราบรื่นและสมบูรณ์แบบ จึงไม่ต้องการให้มีสิ่งรบกวนใดๆ เข้ามาทำป่วนรายการ แต่สำหรับเจ้าหมาที่บังเอิญเดินเข้าไปในฉาก เหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นตัวก่อกวนสำหรับพวกเขานะ ทุกคนคิดว่ามันสร้างสีสันให้รายการ แล้วคนดูก็ชอบมันด้วย     วันหนึ่งในขณะที่พิธีกร Khambrel Marshall กำลังรายงานพยากรณ์ประจำวันตามปกติทางช่อง KPRC2 ทีมงานคงไม่ได้จับตามองรอบข้างนัก ก็เลยมีหมาตัวหนึ่งหลุดเข้าไปในฉากตอนกำลังถ่ายทอดสดด้วย ตอนแรก Marshall เองก็ไม่ทันสังเกตเห็นมันเหมือนกัน แต่พอเห็นมันแล้วเขาก็ไม่ได้ไล่ตะเพิดมันออกไปจากฉาก หรือทำท่าทางหัวเสียเลย เขากลับรู้สึกยินดีมากที่เจ้าหมามาออกอากาศเป็นเพื่อนเขา หลังจากที่เขาทักทายเจ้าหมาอย่างน่าเอ็นดูแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะรายงานพยากรณ์อากาศต่อโดยอุ้มมันเอาไว้ในอ้อมแขน สมกับเป็นมืออาชีพจริงๆ     ดูเหมือนว่านอกจากพิธีกรแล้ว คนดูเองก็ให้ความสนใจกับเจ้าหมามากกว่าเนื้อหาของพยากรณ์อากาศซะอีก มีคนไปคอมเมนต์ในคลิปวิดีโอนั้นมากมาย และหนึ่งในนั้นก็บอกว่า “นี่เป็นสิ่งที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาเลย!” เท่านั้นยังไม่พอนะ เจ้าหมาได้รับความสนใจมากจนทางรายการต้องเอามันไปออกอากาศซ้ำอีกรอบ เป็นเทปสัมภาษณ์เจ้าหมาโดยเฉพาะเลย     ครั้งนี้เราเลยได้รู้จักกับเจ้าหมากันอย่างเป็นทางการ เจ้าตูบตัวนี้ชื่อว่า Angel คนที่ดูแลมันอยู่พามันมาที่สตูดิโอด้วย แล้วระหว่างนั้นมันก็เลยหลุดเข้าไปในฉากนั่นเอง เจ้า Angel ถูกเจ้าของเก่าเอามาทิ้งไว้ที่ศูนย์พักพิง เพราะที่ที่พวกเขาอยู่ไม่ให้เลี้ยงสุนัข ตอนนี้มันก็เลยอยู่กับศูนย์พักพิงไปก่อน แล้วรอหาเจ้าของใหม่อยู่ โชคดีนะที่มันได้มาออกทีวี เพราะพอมีคนรู้จักมันเยอะก็ยิ่งทำให้มันมีโอกาสถูกรับเลี้ยงมากขึ้นตามไปด้วย และหลังจากที่ทุกคนได้เห็นความน่ารักของมันกันไปแล้ว อีกไม่นานมันก็คงจะเจอบ้านใหม่แล้วล่ะ    ที่มา: the dodo

หมาชิวาว่าตัวน้อยตาบอดตั้งแต่เกิด แถมตอนนี้มันก็ป่วยหนักมากด้วย ทว่าอาการป่วยของมันนี่แหละ ทำให้มันได้เจอเพื่อนรักตัวใหม่ที่แยกจากกันไม่ได้ เจ้าหมาชิวาว่าแก่ Tito เป็นหมาตาบอด แถมตอนนี้มันก็หายใจไม่สะดวกด้วย บางครั้งก็ต้องไอเพื่อทำให้หายใจได้ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือมันมีก้อนเนื้อที่หลัง ทำให้ตอนนี้มันเดินไม่ได้ จึงเอาแต่นอนหายใจอย่างยากลำบาก ต่อมาเจ้าของของมันล้มป่วย ทำให้ไม่มีเวลาดูแลมัน คนอื่นในบ้านก็ดูแลมันไม่ได้ ทำให้มันต้องไปอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Wise Animal Rescue     Kristina Helfer ที่เป็นอาสาสมัครอยู่ที่นั่นรู้สึกสงสารมันมาก เธอบอกว่า “มันน่าสงสารมาก มันไอเป็นประจำแล้วก็ต้องขยับหัวไปรอบๆ เพื่อเอาอากาศหายใจ” อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ยอมปล่อยให้มันอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เธอพามันไปหาสัตวแพทย์แล้วเริ่มวางแผนการรักษามันโดยด่วน จากนั้นก็พาตัวมันกลับไปที่บ้านของตัวเองเพื่อให้พักฟื้นตัวด้วย ที่นั่นเอง มันก็ได้เจอกับหมาพิตบูล Frank…     Frank เป็นหมาตัวหนึ่งที่เธอเคยช่วยมาแล้วรับเลี้ยงเอาไว้ มันมีนิสัยชอบดูแลหมาตัวอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ ดังนั้นเมื่อมาเห็น Tito มันก็เข้ามาหาทันทีเลย Helfer เล่าว่า “Frank เข้ามาหาเพื่อนใหม่ตั้งแต่ได้เจอกัน มันดมและเลีย Tito อยู่บ่อยๆ ตอนแรกฉันก็กังวลเหมือนกันว่า Tito มันจะโอเคไหม เพราะมันแก่แล้วก็ป่วยอยู่เลยอาจจะไม่ชอบ แต่มันก็ชอบที่ Frank เข้ามาดูแล”     Frank…

แม้ว่าเราจะไม่สามารถเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงได้อีกต่อไป แต่ก็ควรจะระวังเอาไว้ให้มากเวลาจะหาเจ้าของใหม่ให้มัน ไม่ใช่ว่าใครมาขอดูแลก็ให้ไปหมด ไม่อย่างนั้นอาจเกิดเรื่องร้ายๆ กับเจ้าหมาอย่างเรื่องนี้ Trixie น้องหมาพิตบูลล์อายุ 6 เดือนกำลังอยู่ระหว่างหาบ้านใหม่ เจ้าของเองก็อยากให้มันได้ไปอยู่บ้านที่ดี ก็เลยโพสต์หาเจ้าของใหม่ให้มันบนเฟซบุ๊ก มีคนสนใจรับเลี้ยงมันและติดต่อเข้ามาหา เขาทำท่าทีเหมือนจะดูแลเจ้าหมาอย่างดี แต่เมื่อได้ตัวเจ้าหมาไปแล้ว ก็บล็อกเจ้าของไม่ให้ติดต่อกลับซะอย่างนั้น     เจ้า Trixie ถูกพบอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Happy Tails Animal Rescue ได้ช่วยมันมาไว้ในความดูแล โดยที่สภาพของเจ้าหมานั้นมีรอยถูกสุนัขตัวอื่นกัด บาดแผลมันรุนแรงจนทำให้หน้าของมันบวมมาก กลุ่มช่วยเหลือสัตว์เตือนเหล่าเจ้าของสัตว์บนเฟซบุ๊กว่า “นี่คือเหตุผลที่คุณไม่ควรให้หมาฟรีแก่คนอื่นไปง่ายๆ เจ้า Trixie หมาน่ารักอายุ 6 เดือนที่ผ่านการถูกทารุณมาแล้วเป็นบทเรียนอย่างดีให้พวกเรา ก่อนหน้านี้ Happy Tails ได้รับแจ้งว่าเจ้าของเก่าของมันไม่สามารถดูแลมันได้ ก็เลยหาเจ้าของที่ ‘น่าจะดูแลมันอย่างดี’ ไปทางเฟซบุ๊ก จากนั้นพวกเขาก็บล็อกเจ้าของเก่าของ Trixie ก็เลยติดตามความเป็นไปไม่ได้”     พวกเขาเล่าต่อว่า “2 อาทิตย์ต่อมา มันก็ถูกช่วยมาไว้ที่ศูนย์พักพิงสัตว์ พร้อมกับบาดแผลอันน่ากลัวบนใบหน้า จากรูปแล้วมันน่าจะถูกใช้เป็นเหยื่อในการฝึกฝนสุนัขที่ใช้ต่อสู้ เราคงไม่มีทางรู้หรอกว่ามันผ่านความเจ็บปวดมาขนาดไหนภายใน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากที่มันถูกพาไปอยู่ ‘บ้านที่น่าจะดูแลมันอย่างดี’”  …

ไม่รู้ว่าพี่ไซใช้ซิกส์เซนส์รึเปล่า อยู่ๆ มันถึงได้เดินนำเจ้าของออกจากบ้าน เข้าไปในป่าจนเจอกล่องใบหนึ่ง ทำให้ลูกแมวรอดตายจากการถูกทิ้งในกล่องปิด     Banner เป็นหมาพันธุ์ไซบีเรียนอายุ 3 ขวบของ Whitney Braley เจ้าของฝึกมันให้สามารถช่วยคนที่เกิดความเครียด หรือเป็นไมเกรนได้ นอกจากนี้มันยังรักแมวด้วย เธอเคยช่วยแมวตัวหนึ่งไว้แล้วเอามาเลี้ยงที่บ้าน เจ้า Banner มันก็ช่วยเธอดูแลแมวตัวนี้อย่างดี ทุกวันนี้มันก็ยังอยู่บ้านกับเธอและเจ้าหมา แต่นอกจากมันแล้วก็มีแมวอีกหลายตัวที่มันเคยช่วยดูแล ทว่าเธอไม่เคยเห็นเจ้าหมาทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย…     วันหนึ่งอยู่ๆ Banner ก็เรียกร้องความสนใจจาก Whitney แล้วพยายามนำทางเธอเข้าไปในป่าแถวบ้าน เธอเดินตามมันไปเพราะอยากรู้ว่ามันต้องการอะไรจากเธอ เมื่อเธอเดินเข้ามาสักพักหนึ่ง มันก็นำทางเธอมายังกล่องกระดาษที่ปิดสนิทอยู่ พอเปิดดูก็เจอลูกแมว 7 ตัวอยู่ข้างในนั้น พวกมันเพิ่งเกิดใหม่ได้ไม่นาน แล้วตัวก็เย็นหมดเลย     เธอเล่าว่า “ฉันคิดว่าใครสักคนคงเอามันใส่ไว้ในกล่องแล้วตั้งใจเอามาทิ้งทั้งที่ปิดไว้ เพราะอยากทิ้งให้พวกมันตายอยู่ที่นี่ เขาคงไม่คิดว่าจะมีคนมาเจอพวกมันหรอก นอกจากนี้ฉันก็ไม่รู้ด้วยว่า Banner รู้ได้ยังไงว่าลูกแมวอยู่ที่นั่น เพราะลูกแมวแต่ละตัวตัวเย็นเกินกว่าจะขยับ แถมพวกมันยังไม่ร้องสักแอะด้วย”     จากนั้นมา Banner ก็ดูแลลูกแมวที่เจอโดยไม่ยอมออกห่างเลย   มันดูแลลูกแมวเหมือนกับว่าเป็นลูกของตัวเอง  …

เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์เคยเจอสัตว์มามากมาย พวกเขาพร้อมรับมือกับการช่วยเหลือพวกมันเสมอ แต่พวกเขาคงไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อรับมือกับแมวจำนวนมหาศาลขนาดนี้     ในรัฐนิวเจอร์ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา มีบ้านอยู่หลังหนึ่งเป็นของคุณตาคุณยาย เมื่อคุณยายตายจากไปคุณตาก็ทิ้งบ้านหลังนี้ไปเช่นกัน โดยทิ้งแมวที่คุณยายเคยดูแลเอาไว้ด้วย อีกปีต่อมาคุณตาก็โทรไปหาหน่วยควบคุมสัตว์ St. Hubert’s Animal Welfare Center เพราะแมวมันเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนคุณตารับมือไม่ไหวแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เลยเดินทางมาที่บ้านร้างเพื่อช่วยพวกมัน     แต่เมื่อมาถึงพวกเขาก็ต้องพบกับแมวจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของบ้านก็มีแมวโผล่ออกมาเต็มไปหมด กะด้วยสายตาคร่าวๆ ก็คง 100 ตัวแล้ว นอกจากนี้บ้านร้างของคุณตาก็ไม่มีน้ำหรือไฟฟ้าเลย แล้วช่วงนั้นอากาศก็ร้อนมาก พวกเขากลัวว่าถ้าช่วยแมวพวกนี้ออกมาช้าอาจจะเกิดอันตรายกับพวกมันได้     เจ้าหน้าที่ก็เลยเริ่มปฏิบัติการช่วยพวกมันโดยด่วน ถึงแม้แมวที่นั่นจะเยอะมากจนช่วยกันแทบไม่ไหว พวกเขาก็ไม่ย่อท้อแล้วช่วยมันอย่างต่อเนื่อง พวกเขาเอากรงดักแมวมาวางไว้ทั้งกลางวันกลางคืน และก็เอากรงใหม่มาตั้งสับเปลี่ยนทุกวันเพื่อพาแมวทั้งหมดออกไปจากที่นั่น     หลังจากทำแบบนั้นอยู่ 4 อาทิตย์ พวกเขาก็ช่วยแมวออกมาได้ตั้ง 187 ตัวแล้ว แถมดูท่าทีว่ายังมีแมวเหลืออยู่ในบ้านหลังนั้นอีกต่างหาก จากนี้ไปเจ้าหน้าที่ก็จะส่งคนไปตรวจตราที่บ้านหลังนั้นอีกเป็นประจำ แล้วก็จะพยายามช่วยเหลือแมวทั้งหมดออกมาให้สำเร็จ ไม่แน่พวกมันอาจจะมีจำนวนมากกว่า 200 ตัวก็ได้นะ     ส่วนแมวที่ช่วยมาได้แล้วตอนนี้พวกมันก็อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ แล้วถ้าตัวไหนที่พวกเขาเห็นว่ามันน่าจะชินคนพอจะไปอยู่บ้านได้แล้วก็จะเปิดประกาศรับเลี้ยง ส่วนตัวไหนที่ยังไม่ชินคน พวกเขาก็จะให้อยู่ที่นี่กับพวกเขาไปก่อน แมวแต่ละตัวมีความพร้อมไม่เท่ากัน…

ถ้าเราได้มาลองนั่งสังเกตชีวิตของแมวดูดีๆ เราจะเห็นว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่มีคนสปอยล์มากที่สุด แถมยังมีชีวิตที่น่าอิจฉาอีก แต่จะไปว่ามันก็ไม่ได้ เพราะหลักๆ แล้วที่มันสบายขนาดนี้เพราะทาสอย่างเราเอาแต่ตามใจนั่นแหละ ได้แต่ท่องในใจว่าความสุขของเจ้านายคือความสุขของเรา ตัดภาพไปที่เจ้านายของเรากันบ้าง ว่าความสบายของพวกมันเป็นยังไง…   ทำดีมากเจ้าทาส นวดตรงนั้นแหละ https://www.instagram.com/p/Bj7CJLAg4TR/?utm_source=ig_embed   เอ้อ หายปวดไหล่ดีจัง   เปลของทาสก็คือเปลของเรา ขอนอนก่อนนะ   คนนวดเหมือนจะยังไม่พอ ต้องมีเครื่องนวดต่อ   ไม่ได้อยากมีหน้าวีเชปหรอก เอาความฟินล้วนๆ   สบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว   ฟิตเนสกันมาเหนื่อยๆ ขอนั่งเท่แป๊บนะ   อาห์ แช่น้ำไปด้วย จิบไวน์ไปด้วย ช่างมีความสุข https://www.instagram.com/p/BhhmqqCjg12/?utm_source=ig_embed   บางทีถ้ามีเพื่อนก็ไม่ง้อทาสแล้ว นวดกันเองก็โอเค   ลมมันเย็นอ่า เก๊าชอบ   เคลิ้มๆ จะหลับอยู่แล้ว   ถ้ามีคนมาบริการทาสแบบนี้บ้างก็น่าจะดี ที่มา: BuzzFeed

ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ Charlie Weiss อยู่ในเมืองวินเทอร์วิลล์ รัฐนอร์ธแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกามา เขารู้จักกับเพื่อนบ้านแค่ผิวเผิน จะมีทักทายกันเล็กน้อยตอนเจอหน้าเท่านั้น เขากะจะอยู่เงียบๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านหญิงคนหนึ่งย้ายเข้ามาอยู่ข้างๆ พร้อมกับหมาของเธอ ชีวิตที่เงียบเหงาของเขาก็เริ่มมีสีสันมากขึ้น หลังจากที่เธอย้ายมา เขาจะรู้สึกว่ามีใครบางคนแอบมองตอนที่ออกมาหน้าบ้านทุกครั้ง แต่นั่นไม่ใช่สายตาของหญิงสาวที่สอดแนมชายหนุ่มเลย…มันเป็นสายตาของหมาขี้เล่นที่อยากทักทายเขา     Weiss บอกว่าครั้งแรกที่เขาสังเกตเห็นพวกมัน เขารู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองเขาอยู่ แต่มองดูรอบๆ แล้วก็ไม่มีใครเลยสักคน จนเมื่อมองต่ำลงมาถึงได้เจอจมูกของเจ้าหมาลอดผ่านช่องเล็กๆ ใต้รั้วเข้ามา     จากนั้นทุกครั้งที่เขาออกมาหน้าบ้าน เจ้าหมาก็จะลอดจมูกเข้ามาทักทายเสมอ แล้วก็จะเห่าเรียกจนกว่าเขาจะยอมเล่นกับมันด้วย เขามองว่าแบบนี้ก็น่ารักดีก็เลยไม่ได้ห้ามมันหรือบอกกับเพื่อนบ้านคนใหม่เรื่องนี้ มันก็คงไม่วุ่นวายเท่าไหร่ถ้ามีหมาแค่ตัวเดียว แต่จากนั้นเพื่อนบ้านของเขาก็รับหมาพิตบูลล์เข้ามาอีกตัวหนึ่ง แถมยังเห่าเขาเก่งซะด้วย     เขาเล่าว่า “จากระเบียงหน้าบ้านของผม มันมองข้ามรั้วไปได้ และครั้งแรกที่มันเห็นผมมันก็จะวิ่งมาที่รั้วแล้วเห่าผม แต่ผมคิดว่ามันคงเครียดที่เพิ่งได้มาอยู่บ้านใหม่ ทุกครั้งที่มันเจอผม ผมก็เลยทักทายมันอย่างเป็นมิตร เพราะผมคิดว่าสักพักมันน่าจะชินกับผมเอง ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ” พอเจ้าพิตบูลล์ชินกับ Weiss แล้วมันก็ไม่เห่าเขาแล้ว ถึงมันจะเอาจมูกลอดรั้วเข้ามาเหมือนเพื่อนมันก็ไม่ได้อ้อนให้เล่นด้วย แต่เขาก็ชอบเห็นใบหน้าตลกๆ ของมันที่จ้องมองเขาตลอด     ถ้าคุณคิดว่าเขามีหมาเพื่อนบ้านขี้เผือกแค่ 2…

นอกจากเวลาที่เจ้าของเรียกแล้ว อีกเวลาหนึ่งที่มันจะมาหาเราโดยไม่ต้องเรียกให้เหนื่อยเลยก็คือ…ตอนเรามีของกินอร่อยๆ นี่แหละ ก็รู้นะว่าจมูกไวเลยได้กลิ่นหอมมาแต่ไกล แต่ไม่ต้องรีบมาหาขนาดนั้นก็ได้ มันชัดเจนเกินไปว่าอยากได้แค่ของกิน เห็นแล้วเจ้าของเหนื่อยใจ แต่ก็นั่นแหละ เห็นใบหน้าชอบออดอ้อนของมันแล้วก็ทนไม่ได้หรอก ต้องแบ่งให้มันกินทุกทีไป…ไม่งั้นมันก็จะมาแย่งไปจากเราเองอยู่ดี   ถึงกับต้องยืน 2 ขารอให้เนื้อสุก   มีของกินในมือทีไร มากันพร้อมหน้าทุกที   เฮ้ยเดี๋ยว หลอกให้เราเล่นด้วยแล้วแอบกินงี้ก็ได้เหรอ!?   บางตัวก็เนียนทำเป็นไม่ได้มอง แต่จริงๆ ก็สนใจ   เหมือนตัวข้างบนเลยอ่ะ   เจ้านี่มันร้าย หลอกเราเดินไปเปิดประตูบ้าน พอเราลุกมันก็วิ่งกลับมาคาบพิซซ่าเฉยเลย   เอ่อ…ถ้านายจ้องขนาดนั้นเราแบ่งให้ก็ได้   พิซซ่าชิ้นเดียวต้องรุมกันขนาดนี้เลยเหรอ   มนุษย์เห็นไหมว่าจานข้าวเราว่าง แบ่งของนายมาบ้างก็ได้   ต้องป้อนให้ตัวไหนก่อน?   เจ้านายไม่แบ่งใช่ไหม…งั้นผมแย่ง!   อยากกินก็มาใกล้ๆ สิครับ   รอตั้งนานก็ไม่ให้กิน…หลับรอก็ได้   เฮ้ยจะมารุมทำไม ใจเย๊นนน   ข้างหลังน่าสนใจกว่าเบสบอลอีก   ถ้าไม่แบ่งเบค่อนให้ เห็นทีไส้กรอกเราคงไม่ปลอดภัย  …

ในเวลาที่เพื่อนร่วมโลกกำลังเดือดร้อน เราก็ควรยื่นมือให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่มนุษย์ร่วมมือกันช่วยเพื่อนสัตว์สำเร็จ แม้ว่าปัญหาจะใหญ่ระดับช้างก็ตาม     วันนึ่งเมื่อชาวบ้านในเมือง Alipurduar ประเทศอินเดียตื่นมาดำเนินชีวิตตามปกติ พวกเขาก็พบว่ามีลูกช้างตัวหนึ่งแหวกว่ายอยู่ในที่เก็บน้ำของพวกเขา แลดูเหมือนมันจะว่ายขึ้นมาไม่ได้ พวกเขาคาดว่ามันน่าจะเข้ามาแวะดื่มน้ำตอนกลางคืนหรือเช้ามืด แต่เนื่องจากน้ำในที่เก็บน้ำตื้นเกินไป ลูกช้างก็เลยปีนจนตกลงไปในนั้น จากนั้นก็ติดอยู่อย่างที่เห็น     มันพยายามแหวกว่ายและปีนขึ้นมาบนขอบที่เก็บน้ำอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยความที่ตัวมันเล็ก และพื้นก็ค่อนข้างลื่นทำให้มันปีนกลับขึ้นมาไม่สำเร็จสักที ชาวบ้านก็อยากจะช่วยมันให้ปีนขึ้นมาให้ได้เหมือนกัน แต่จะให้คนเข้าไปดันตัวมันขึ้นมาก็ดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ เพราะถึงจะยังเป็นลูกช้างอยู่มันก็ตัวหนักไม่ใช่เล่นเลย     ชาวบ้านเลยตัดสินใจขอความช่วยเหลือโดยให้รถเครนก่อสร้างเข้ามาช่วยลูกช้างแทน รถคันนี้ถูกเอามาเพื่อช่วยลูกช้างโดยเฉพาะเชียวนะ หลังจากที่ได้แรงจากรถเครนมาช่วยดันตัวลูกช้างขึ้นมา มันก็สามารถกลับมาบนพื้นดินได้สำเร็จ พอลงพื้นปุ๊บมันก็วิ่งหายเข้าไปในป่าทันทีเลย     ชาวบ้านบอกว่าช้างตัวนี้น่าจะเป็นหนึ่งในโขลงช้างที่เข้ามาก่อความวุ่นวายในหมู่บ้าน เพราะเห็นเพื่อนช้างของมันแอบรออยู่ใกล้ๆ กันนั้นด้วย อย่างเมื่อคืนบ้านเรือนก็เสียหายไปตั้ง 5 หลังแน่ะ อย่างไรก็ตามถึงมันจะสร้างความเดือดร้อนให้พวกเขาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่ช่วยเหลือช้างเมื่อพวกมันกำลังเดือดร้อน พวกเขาก็เลยช่วยมันให้ปลอดภัยอย่างที่เห็น     ขึ้นมาได้ปลอดภัยก็ดีแล้ว โดนช่วยแล้วคราวหน้าก็อย่ากวนชาวบ้านเยอะนะ   ที่มา: Daily Mail

ลูกแมวตัวน้อยต้องอยู่ตามลำพังข้างถนน แถมมันยังตาบอดอีกด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะใช้ชีวิตแบบไหนถ้าไม่ได้มนุษย์เก็บมาดูแลเหมือนตอนนี้     ลูกแมวน้อย Ducky เดิมทีอาศัยอยู่ตามลำพังข้างถนนของเมืองซานโจส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จนอยู่มาวันหนึ่งมีคนไปเจอมันแล้วเก็บไปให้ศูนย์พักพิงท้องถิ่น เมื่ออยู่ๆ ต้องไปอยู่ในสถานที่ใหม่ แล้วก็ไม่คุ้นกลิ่นอะไรเลย Ducky ก็เลยเอาแต่ห่อตัวตลอดเวลา แล้วหลบอยู่ในมุมห้องเพราะคิดว่ามันปลอดภัยที่สุด     คนที่อยู่ในศูนย์พักพิงพากันคิดว่ามันคงจะเป็นแมวพันธุ์มัชกิน เพราะขาสั้นเหลือเกิน หารู้ไม่ว่าที่มันขาสั้นแบบนั้นเพราะห่อตัวตลอดเวลา คนที่ดูออกว่ามันรู้สึกกลัวขนาดไหนก็คือ Amber Rose ผู้ก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Saving Grace Rescue หลังจากที่เจอมันในศูนย์พักพิง เธอก็เลยรับมันมาดูแล แล้วส่งไปอยู่บ้านกับอาสาสมัคร     ทันทีที่มันได้มาอยู่ในบ้านแห่งใหม่ มันก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเพราะไม่มีกลิ่นสัตว์อื่น เมื่อปรับตัวได้แล้วมันก็เริ่มยืนขึ้นและสำรวจบ้านเองบ้าง ด้วยความที่มันตาบอด เวลาที่ Ducky ต้องการอะไรก็ตามมันร้องเรียกมนุษย์สุดเสียง ทั้งเวลาที่มันหิว เวลาที่ต้องการเข้าห้องน้ำ หรือแม้แต่เวลาที่อยากให้ใครสักคนกอดมัน     ตาของ Ducky บอดเนื่องจากมีภาวะเปลือกตาพัฒนาได้ไม่เต็มที่ตั้งแต่เกิด เวลามีอะไรเข้าไปในตาก็หลับตาไม่ได้ คงรู้สึกเจ็บปวดน่าดู แต่หลังจากมีคนคอยเอาอกเอาใจมันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้แล้ว แถมดูมันจะชอบเวลาถูกกอดมากเป็นพิเศษด้วยนะ เพราะมันจะครางหึ่มๆ เสียงดังจนคนได้ยินทุกครั้งที่อุ้มมันขึ้นมาเชียว     Ambr เล่าว่า…

คำว่าทาสแมวอาจจะอธิบายความรักที่หญิงชาวตุรกีคนหนึ่งมีให้แมวได้ไม่พอ เธอไม่เพียงแค่หวังอยากให้แมวทุกตัวสบายเท่านั้น เธอยอมเปิดบ้านให้แมวจรจัดเข้ามาหลบหนาวได้ทุกเวลา     Sebnem Ilhan หญิงที่อยู่ตัวคนเดียวในประเทศตุรกี เธอช่วยเหลือแมวจรจัดเป็นประจำ และยังช่วยเหลือสัตว์อื่นๆ ด้วยเพราะอยากให้สัตว์ทุกตัวไม่ลำบาก   หมาเราก็รัก   ทว่าอากาศในหน้าหนาวดูจะเป็นปัญหาสำหรับการใช้ชีวิตของพวกแมวจรจัด เพราะมันหนาวเย็นมากจนถ้าไม่มีที่กำบังแมวจรจัดอาจรู้สึกทรมาน พอคิดได้แบบนั้น Ilhan ก็เลยคิดจะเปิดบ้านของตัวเองให้พวกมันเข้ามาอยู่ได้ตามสบาย แต่จะเปิดประตูหน้าทิ้งไว้ก็ใช่เรื่อง เธอก็เลยเปิดหน้าต่างให้มันไว้ตลอดเวลา โดยวางบันไดเอาไว้ให้พวกมันปีนเข้ามาด้วย   บันไดสู่สวรรค์อันอบอุ่นของเจ้าเหมียว   เข้ามาเร็วลูก มาหลบลมหนาวก่อน   เข้ามาเร็วๆ สิคะ บิดขี้เกียจเพื่อ…ป้าก็หนาว   ถึงแม้ว่าแค่ตั้งบันไดไว้ก็เพียงพอให้มันปีนขึ้นมาได้แล้ว แต่เธอก็กลัวว่าเพื่อนบ้านอาจจะไม่ชอบใจที่เธอให้แมวเข้ามาในห้องแบบนี้ เธอก็เลยตกแต่งบันไดด้วยกระถางต้นไม้ เพื่อทำให้มันดูสบายหูสบายตามากขึ้น แถมยังสร้างบรรยากาศที่สดชื่นให้กับเธอ เพื่อนบ้าน และแมวเหมียวด้วย   ถ้าหนาวก็เข้ามาในห้องก่อนสิเจ้าแมว   มีกระถางต้นไม้ติดไว้ต้อนรับด้วยนะ   คนเห็นก็สดชื่น แมวเห็นก็อยากปีน   นอกจากอยู่ห้องแล้ว เธอก็ชอบใช้เวลาว่างในการดูแลสัตว์ข้างนอกด้วย   นี่แหละคนรักสัตว์ที่แท้ทรู ให้ได้ทุกอย่างแม้แต่พื้นที่ในห้องของตัวเอง   ที่มา: PurrWorld

ตอนที่ Jennifer Osborne กับสามีได้เจอกับลูกหมา Moose ในร้านขายสัตว์เลี้ยง พวกเขาถูกชะตากับมันมากจนต้องซื้อมันมาทันที เธอรักมันมากๆ แต่มันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่ซื้อสัตว์เลี้ยงจากร้านขายสัตว์อีกเลย…     Moose เป็นสุนัขพันธุ์บลูฮีลเลอร์ ตอนรับมันมาเลี้ยงแรกๆ มันยังอายุได้ไม่กี่เดือนอยู่เลย มันก็ดูเหมือนกับหมาตัวอื่นๆ แต่เมื่อมันเริ่มโตขึ้นเธอกับสามีก็สังเกตเห็นได้ชัดว่ามันไม่ปกติ นอกจากฟันบนที่ยื่นออกมาไม่เท่าฟันล่างที่เธอสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้ว หัวของมันก็ดูผิดรูป ดวงตาก็คนละสีกัน แล้วมันก็มีอาการแพ้อื่นๆ อีกมากมาย     เมื่อเห็นว่ามันมีปัญหาสุขภาพมากผิดปกติเธอก็เลยโทรกลับไปหาที่ร้าน ทางร้านเลยเสนอจะคืนเงินให้ และบอกว่าน่าจะมีสาเหตุจากยีนส์จากแม่พันธุ์ของมัน เพราะลูกหมาครอกต่อมาก็ตายหมดเลย     หลังจากนั้นไม่นาน Moose ก็มีอาการชักกระตุกเพิ่มเข้ามาอีก ตอนที่เธอเห็นมันชักครั้งแรกมันมีน้ำลายฟูมปากอยู่ในกรง เธอตกใจมากแต่ก็โทรเรียกสัตวแพทย์มารักษามันไว้ได้ทัน ครั้งนี้เธอก็โทรกลับไปหาร้านขายสัตว์เลี้ยงเช่นกัน เธอเล่าว่า “เขาบอกว่า ‘เราคืนเงินคุณไปแล้ว’ แต่ฉันก็บอกกลับไปว่า ‘ฉันไม่ได้โทรมาขอเงิน ฉันแค่โทรมาเช็กดูว่ามีเจ้าของหมาคนอื่นที่โทรมาแจ้งเรื่องหมาชักอีกไหม ถ้าไม่มีฉันจะได้สบายใจได้ว่ามันไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับสมอง’”     พอได้ยินแบบนั้นผู้จัดการร้านขายสัตว์เลี้ยงก็บอกว่าไม่มีใครโทรมาแจ้งเลย แล้วที่มันชักน่าจะเป็นเพราะว่ามันเคยถูกหมาในร้านกัดตอนเด็ก อาจทำให้สมองกระทบกระเทือนได้…ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่เล่าตอนแรกเลย นอกจากนี้ถึงมันจะถูกหมาตัวอื่นกัดจริงๆ ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมมันถึงมีตา 2 สีและมีขนาดตาผิดปกติ Osborne ก็เลยสรุปได้ว่าร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งนี้เพาะพันธุ์หมาแบบไม่มีคุณภาพจนหมาที่คลอดออกมาป่วย  …

หนุ่มน้อยมีสัตว์เลี้ยงอยู่ตัวหนึ่ง มันเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา คอยอยู่ด้วยตลอดเวลาที่บ้าน มารอรับทุกครั้งหลังเลิกเรียน เหมือนกับเรื่องของหมาแสนดีที่เคยได้ยินมาไม่มีผิดเลย… เว้นซะแต่ว่าสัตว์เลี้ยงของหนุ่มน้อยมันเป็น ‘เป็ด’   งานนี้เป็ดเป็นพระเอก หมานอนพักอยู่ในบ้านไปนะ   เจ้าเป็ดตัวนี้ชื่อว่า Nibbles มันเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านมาตั้งแต่ปี 2014 และมันก็สนิทกับหนุ่มน้อย Jonny มากกว่าใครในบ้าน เพราะตอนเพิ่งฟักตัวออกมาจากไข่มันเจอเขาเป็นคนแรก เขาเลยเป็นคนสำคัญที่สุด Nibbles จะอยู่เป็นเพื่อน Jonny ทุกสถานการณ์ที่มีโอกาส แม้ว่ามันจะไปโรงเรียนกับเขาไม่ได้ มันก็ยังมารอรับที่จุดรอรถบัสทุกวัน พอเจอหน้าเขาหางมันก็จะสั่นดุ๊กดิ๊กด้วยความดีใจ แล้วก็จะเดินกลับบ้านไปพร้อมกับเด็กชาย     เวลาจะออกไปข้างนอกด้วยกัน Nibbles ก็จะพยายามเข้าไปอยู่ใกล้ Jonny ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันจะเบียดคนอื่นจนกว่าจะได้อยู่ข้างเด็กชายเลยทีเดียว      Jamie Toschi คุณแม่ของ Jonny เล่าว่าการมีเจ้าเป็ดเข้ามาในครอบครัวทำให้ Jonny ใช้ชีวิตได้ดีกว่าปกติ เนื่องจากเขาเป็นเด็กพิเศษ Jonny เป็นโรคสมาธิสั้น และก็เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ แถมยังเข้าสังคมไม่เก่งอีกด้วย แต่หลังจากมี Nibbles อยู่เป็นกำลังใจให้เขาก็เริ่มมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และยังกล้าเข้าไปพบปะผู้คนมากกว่าเดิม    …

หลังจากที่หมาสุดรักโดนลักพาตัวไป ทางครอบครัวก็พยายามตามหามันมาตลอดโดยไม่ลดความพยายาม และความพยายามหลายปีของพวกเขาก็ส่งผลให้ได้เจอมันในวันนี้ Nicola Phillips เจ้าของของเจ้าหมา Scampi อาศัยอยู่ในเมืองแรดสต็อก เขตซัมเมอร์เซ็ต ประเทศอังกฤษ เธอรักมันมากและไม่เคยคิดเลยว่าต้องจากมันเป็นเวลานาน จนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2013 เวลาประมาณตี 2 ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดแถวบ้านเธอ และลักพาตัว Scampi ไป จากนั้นพวกเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย     Phillips รักเจ้าหมามาก เธอตามหามันทุกวิถีทาง รวมทั้งตั้งเพจ Help Bring Scampi Home (หลังเจอแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Scampi is now home) ในเฟซบุ๊กเพื่อตามหามันด้วย แม้จะผ่านไปหลายปีโดยที่ไม่มีเบาะแสของมันเลยนอกจากรูปในอินเตอร์เน็ตที่ดูคล้ายกัน Phillips ก็ยังไม่ยอมแพ้และพยายามแชร์ข่าวตามหา Scampi อยู่เป็นประจำในเพจของมัน จนเมื่อปี 2018 นี้เองพวกเขาก็เจอเบาะแสของมันเข้าจนได้…     Coco Bing ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงลอนดอนไปเจอหมาจรจัดตัวหนึ่งที่เหมือนกับ Scampi เข้า จากนั้นเธอก็แชร์คลิปของมันลงบนโซเชียล จนลูกเพจของ Phillips ไปเจอมันและส่งต่อให้กับเธอ…

เอาล่ะ สูดหายใจกันลึกๆ แล้วเตรียมตัวกันเอาไว้ให้ดี เพราะสิ่งที่เรากำลังจะได้เห็นกันต่อไปนี้เป็นหนึ่งในภาพที่น่ารักที่สุดเท่าที่ #เหมียวอาตี๋ เคยเห็นมาเลยล่ะ ดูแล้วดีต่อใจมากมาย     คลิปวิดีโอด้านล่างกำลังโด่งอย่างมากบนทวิตเตอร์ในขณะนี้ มันเป็นคลิปวิดีโอของเด็กชายตัวน้อยและเจ้าหมาตัวหนึ่งซึ่งอยู่ข้างๆ บ้านกัน ซึ่งกวาดยอดไลก์ไปได้เกือบ 800,000 ไลก์ภายในเวลาแค่คืนเดียวเท่านั้น แม้ว่าจะมีกำแพงกั้นระหว่างกันเอาไว้ แต่เด็กน้อยกับเจ้าหมาก็ยังเล่นโยนบอลด้วยกันได้อย่างสนุกสนาน โดยไม่ปล่อยให้กำแพงมาเป็นอุปสรรคเลยแม้แต่น้อย   A fence can’t stop my two-year-old from playing with his new best friend. pic.twitter.com/9QBuaq4Ee2 — Chad Nelson (@CMNelsonPhoto) July 18, 2018   คนที่โพสต์คลิปนี้ก็คือ Chad Nelson คุณพ่อของเด็กชายในคลิปนั่นเอง เขาเขียนแคปชั่นไว้ว่า “กำแพงไม่อาจขวางกั้นลูกชายวัย 2 ขวบของผมกับเพื่อนสนิทคนใหม่ได้หรอก” เขายังเสริมอีกว่าถึงคลิปวิดีโอจะดูมีความยาวแค่นิดเดียว แต่จริงๆ แล้วลูกของเขากับเจ้าหมาเล่นด้วยกันสักพักใหญ่ๆ เลยล่ะ ถึงจะดูซ้ำแล้วซ้ำอีกมันก็ยังทำให้เราอบอุ่นหัวใจได้เสมอ ที่ได้เห็นเด็กน้อยกับหมาขี้เล่นพยายามผูกสัมพันธ์กัน แม้จะเห็นตัวกันได้ยากก็ตาม…

จากตอนแรกที่เจ้าหมาจะได้ออกไปเที่ยวผ่อนคลายกับเจ้าของแสนรัก พอเกิดความผิดพลาดขึ้นระหว่างทาง มันก็เลยได้ออกไปผจญภัยในทะเลทรายแทน กว่าจะกลับมาหาเจ้าของได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เจ้าหมา Gaspar กับเจ้าของ Ligia Gallardo วางแผนจะไปเที่ยวตอนเหนือของประเทศชิลีด้วยกัน พวกเธอเดินทางกันไปด้วยเครื่องบิน โดยที่เจ้าหมา Gaspar อยู่ในโซนเก็บสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ     ทว่าระหว่างที่เครื่องบินกำลังลงจอดที่สนามบินก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น ประตูห้องสัมภาระที่ Gaspar อยู่เปิดออกเองจากแรงกระแทก ทำให้กรงที่มันอยู่กลิ้งตกลงมาบนพื้น แล้วด้วยความที่มันตกใจที่หล่นลงมาจากเครื่อง เจ้าหมาก็เลยวิ่งหนีหายเข้าไปในทะเลทราย Atacama โดยที่ไม่มีใครรู้ กว่า Gallardo จะรู้ว่าหมาแสนรักหายไปก็ตอนที่เธอลงมาจากเครื่องแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งเธอว่ามันเกิดจากอุบัติเหตุที่ประตูเครื่องเปิดเอง จากนั้นเธอก็เลยออกตามหาเจ้าหมาแทนการไปเที่ยว   กรงที่มันอยู่ตอนประตูเครื่องบินเปิด   แน่นอนว่าทางสายการบินและทหารในพื้นที่พร้อมให้ความช่วยเหลือเธอเพื่อตามหามันอยู่แล้ว โดยพวกเขาจะจัดหาพาหนะและออกค่าใช้จ่ายเพื่อติดตามตัว Gaspar ส่วน Gallardo เองก็เปิดเพจ Buscando a Gaspar -Iquique- บนเฟซบุ๊ก เพื่อใช้รวบรวมข้อมูลของมันโดยเฉพาะเช่นกัน เพราะหากมีข้อมูลเกี่ยวกับมันน่าจะง่ายกว่าการหาแบบสุ่มๆ ในทะเลทราย มีคนเข้ามาให้ข้อมูลกับเธอว่าเห็นเจ้าหมาอยู่เหมือนกัน แต่ก็จับตัวมันกลับมาไม่ได้ เวลาก็ผ่านเลยไปหลายวันโดยที่มีแต่คนให้ข้อมูลว่าพบเจอมันเท่านั้น จนเมื่อวันที่ 6 หลังจากที่มันหายไป Gallardo ก็เจอตัว Gaspar จนได้ …    …

แจ้งข่าวด่วนกันให้ทราบ ล่าสุดมีผู้ร้ายสุดแสนน่ารักตัวหนึ่งหลบหนีออกจากบ้านของเจ้าของ แล้วเลือกที่จะหลบภัยอยู่ในสวนของบ้านข้างๆ แต่ก็ไปไม่รอดโดนตำรวจจับได้ซะงั้น แถมยังต้องเข้าคุกด้วยนะเออ ไปฟังรายงานข่าวจากเจ้าหมาเอาละกันนะ …   สวัสดีฮะ วันนี้มาพบกับตูบพงศ์อีกครั้ง   เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2017 หมาปั๊กตัวนี้ถูกจับกุมได้ในเขตพื้นที่การดูแลของตำรวจเมือง Cape May รัฐนิวเจอร์ซี ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากที่มันไปโผล่อยู่ในสวนของคนแปลกหน้า พวกเขาก็เลยควบคุมตัวมันไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าเจ้าของเป็นใคร   กับรายงานข่าวคนร้ายตัวล่าสุด ที่น่ารักเกินกว่าจะคาดโทษน้องได้… เจ้าปั๊ก!   แม้ว่าจะไม่ได้ทำความผิดอะไรร้ายแรงมาก แค่บุกรุกพื้นที่บ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต (เจ้าของบ้านไม่เอาความ) แต่เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องถ่ายรูปนักโทษไว้เป็นพิธี (เห็นน้องน่ารักเลยอยากถ่ายรูปนั่นแหละ) ในเมื่อเป็นนักโทษ ระหว่างรอเจ้าของมาประกันตัวก็เลยถูกจับไปอยู่ในห้องขังเป็นการชั่วคราว จะได้ไม่มากวนเจ้าหน้าที่จนพวกเขาอยากเล่นด้วยจนไม่เป็นอันทำงาน   ลูกกรงกว้างจะตาย เดินลอดก็ออกได้แล้ว   โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวเจ้าของของหมาน้อยในเวลาไม่นาน วันต่อมาเจ้าหน้าที่ก็เลยเรียกให้เธอมาประกันตัวมันกลับไปบ้านได้ เจ้าของของหมาปั๊กเองก็มีมารยาทมาก เธอรู้ดีว่าถึงมันจะไม่ได้ไปก่อเรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็ควรจะมีค่าประกันตัวให้ตำรวจที่ช่วยดูแลลูกรักให้ตอนที่เธอหามันไม่เจอ ในวันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เลยได้คุกกี้ถุงใหญ่เป็นค่าประกันตัวน้องหมา Bean แสนซน เอาไว้กินกับกาแฟได้อีกหลายวันเลย     ส่วนน้องหมาก็ถูกเจ้าของพาตัวกลับไปแล้ว ไม่รู้จะโดนลงโทษอะไรรึเปล่าที่แอบหนีออกมาจนทำให้คนอื่นเป็นห่วง แต่ดูจากหน้าตาน่ารักของ Bean แล้ว…

วันนี้ #เหมียวอาตี๋ พาน้องหมา น้องแมว และน้องอื่นๆ มาพบกับทุกคนอีกครั้งแล้ว แถมยังพกความแบ๊วติดตัวกันมาเพียบ พวกมันน่ารักมากซะจนแค่ได้เห็นหน้าก็จะทำให้คุณยิ้มกว้างเชียวล่ะ รับรองใครกำลังเศร้าอยู่ได้ดูแล้วโลกจะสดใสขึ้นมาทันตา ปะไปเจอน้องๆ กันเลย!   เช้าแล้วเหรอ ขอนอนกอดกันต่อแป๊บได้ไหม   อุ๋งๆ ก็ชอบให้ลูบท้องเหมือนกัน   เจ้านายจะแข่งยิ้มกว้างกับผมเหรอ ไม่ยอมแพ้หรอก   แกไปทางโน้นก่อน ข้ายังเคลียร์กับเพื่อนไม่เสร็จ   ไม่ว่าอะไรก็มาขวางกั้นผมกับเจ้านายไม่ได้   งับหางตัวเองไว้แว้ว มนุษย์ทำไม่ได้อะเด้ (ก็ไม่ได้น่ะสิ ไม่มีหางอะ)   อุ้ย ลืมดูทาง ล้มตึงเลย   เครียดทำไม มายิ้มกับพวกเราดีกว่า   ลูกๆ เห่าไม่เป็นสักที กลุ้มใจ   แม่ยกสูงๆ อีก หนูชอบ   ทำอะไรกลางวันแสกๆ เขิล   ขอใช้บ้างสิมนุษย์ จะงกทำไม   แกคิดว่าหลบแบบนี้มันเนียนแล้วสินะ   ทาสช่วยเราด้วย…

ใครจะไปรู้ว่าอะไรจะดังบนอินเทอร์เน็ตบ้าง ขนาดแค่เรื่องของคู่รักนกแก้วยังเป็นจุดสนใจของชาวเน็ตได้เลย รู้แบบนี้เราคงคาดเดาเรื่องราวบนอินเทอร์เน็ตไม่ได้หรอก แต่เรื่องของนกแก้ว Kiwi ก็น่ารักมากจนเราเข้าใจได้ว่าทำไมคนถึงติดตามกัน แถมยังเอาใจช่วยให้มันมีครอบครัวที่แสนน่ารักด้วย และนี่คือเรื่องราวของมัน …   กาลครั้งหนึ่ง … เมื่อไม่นานมานี้ (ปี 2017 นี่แหละ) มีนกแก้วหนุ่มชื่อ Kiwi   มันอยู่กับมนุษย์ Maura Hennelly และมีชีวิตที่สุขสบายดี   แต่ Kiwi ก็ยังเหงาเพราะไม่มีคู่   Hennelly ก็เลยพามันมารู้จักกับสาวสวยตัวหนึ่ง   ทั้งคู่ก็ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี   แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ถูกใจ Kiwi มันก็เลยกลับมาอยู่อย่างเดียวดายอีกครั้ง   ต่อมา Hennelly ก็พยายามแนะนำสาวให้ Kiwi รู้จักอีก   เธอเป็นนกแก้วสีขาวดำชื่อว่า Siouxsie   และครั้งนี้เจ้านกแก้วหนุ่มก็ดูชอบพอสาวคนนี้มากซะด้วย   มันคงชอบสาวคนละขั้วกับตัวเองละมั้ง   ทั้งคู่ใช้ชีวิตหลังจากนั้นร่วมกัน   และไม่นานก็เริ่มสร้างรังรักต้อนรับพยานรักตัวน้อย   แล้วความรักของทั้งคู่ก็ผลิบานเป็นนกน้อย…

เอาล่ะ เรารู้อยู่แล้วว่าแมวมันชอบที่แคบ ทาสแห่งบ้าน Cream Heroes ก็เลยเอาวิธีจับแมวที่เธอพบเจอมาโดยบังเอิญมานำเสนอให้ทุกคนดูกัน พร้อมกันนั้นก็เอาความน่ารักของน้องแมวประจำบ้านทุกๆ ตัวมาฝากให้ทุกคนได้ยิ้มไปกับความป่วนของน้องๆ ด้วย มาดูกันว่าขวดโหลจะสร้างความวุ่นวายได้ขนาดไหน   นี่คือทาสประจำบ้าน Cream Heroes เธอซื้อขวดโหลมาหมักไวน์   แต่พอเอาขวดโหลมาถึงบ้าน ก็พบว่ามันมีประโยชน์ในการใช้จับแมวด้วย   โดยวิธีก็ง่ายๆ แค่วางโหลที่เปิดฝาทิ้งไว้   แมวจะเกิดความสงสัยแล้วเข้าไปในโหลเอง   เท่านี้เราก็จับตัวแมวได้เรียบร้อยแล้ว หึหึ   เอาล่ะ ประเด็นที่จะพูดก็คือว่า แมวแต่ละตัวมันดูชอบขวดโหลกันมาก เลย   วันนี้ทาสก็เลยเอาขวดโหลมาให้เจ้าแมวได้เล่นกัน   พี่ Momo ยึดโหลแรกไปแล้ว โหลต่อไปเป็นของ Coco   อ๊ะ Lulu อย่าไปกวน Coco สิ   มาทางนี้ดีกว่า ทาสเตรียมโหลไว้ให้ทุกตัวแล้ว   ในระหว่างที่ทาสกำลังง่วนกับน้อง Lulu พี่ DD ตัวยักษ์ก็เข้ามาใกล้ๆ   ออกไปซะ Coco…

เจ้าหมูตัวหนึ่งวิ่งหนีเข้ามากลางถนนใหญ่ในรัฐนอร์ธแคโรไลนา มันวิ่งหนีมาจากหมากลุ่มหนึ่งที่วิ่งไล่กัดมันจนบาดเจ็บ ท้ายที่สุดมันก็ล้มลงเพราะหมดแรงหนีจนพวกหมาไล่ตามมาทัน และคงไม่รอดแล้วถ้าไม่ได้คนวิ่งเข้ามาช่วยไว้ จากนั้นตำรวจก็กันทางไม่ให้รถวิ่งมาชนมันเข้า แล้วส่งตัวมันให้กับเจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์เพื่อพามันไปรักษาตัวที่ศูนย์พักพิงสัตว์ Orange County Animal Shelter     แต่ศูนย์พักพิงทั่วไปก็ไม่มีทุนในการรักษาสัตว์ใหญ่อย่างมัน เจ้าหน้าที่ก็เลยต้องติดต่อไปหา Alesja and Alex Daehnrich จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Blind Spot Animal Sanctuary เพื่อให้พวกเขาดูแลมันแทน เมื่อ Alex มาถึงที่ศูนย์พักพิงแล้วเห็นเจ้าหมูในสภาพที่บาดเจ็บนอนอยู่ เขาก็ขอเข้าไปหามันเพื่อเข้าไปปลอบและทำความคุ้นเคย     แค่เข้าไปหา มันก็ขึ้นไปนอนหนุนขาของ Alex เลย   ย้ายมารักษาตัวอยู่กับเราดีกว่านะ   พวกเขาพาเจ้าหมูย้ายมารักษาตัวที่ Blind Spot Animal Sanctuary เพราะว่ามันมีแผลติดเชื้อจากการถูกหมากัดอยู่หลายแห่ง Alex และ Alesja ตั้งชื่อมันว่า Toby และด้วยความทุ่มเทที่พวกเขาให้มัน แผลของมันก็อาการดีมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้นมันก็รู้สึกได้ถึงความรักที่พวกเขามีให้ด้วย     เดี๋ยวแกก็หายแล้วนะ อดทนเข้าล่ะเพื่อน   นอกจากนี้ทั้งคู่ยังสังเกตด้วยว่ามันถูกตอนมาก่อน ซึ่งน่าจะหมายความว่ามันถูกมนุษย์เลี้ยงไว้เป็นอาหาร เพราะหมูที่ถูกเลี้ยงไว้กินมักจะถูกตัดอัณฑะเพื่อให้รสชาติดีมากขึ้น อย่างไรก็ตามตอนนี้มันก็ไม่ต้องห่วงว่าจะถูกสัตว์อื่นไล่ หรือมีคนมาทำร้ายมันอีกแล้ว เพราะพวกเขาจะดูแลมันให้ดีที่สุด…

ถ้าบอกว่าคุณตาคนหนึ่งมีเพื่อนรักเป็นปลา มันก็คงจะไม่แปลกหรอก เพราะมีหลายคนที่รักปลาเหมือนลูก แล้วก็เลี้ยงพวกมันมานานแล้ว แต่เรื่องของคุณลุงนั้นพิเศษกว่าคนอื่น ตรงที่เขาไม่ได้เลี้ยงมันไว้ในตู้ มันเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ แล้วเขาก็ว่ายน้ำไปทักทายมันเป็นประจำนานกว่า 25 ปี     คุณตา Hiroyuki Arakawa มีเพื่อนสนิทเป็นปลานกขุนทองสายพันธุ์ Asian Sheepshead Wrasse อยู่ตัวหนึ่งในอ่าวทาเตยามะ เขตชินโต เขาได้เจอมันครั้งแรกเมื่อได้รับหน้าที่ให้ดูแลศาลเจ้าแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใต้น้ำบริเวณอ่าวทาเตยามะ จากนั้นก็ได้เจอมันอีกเป็นประจำเพราะเขาต้องมาดูแลศาลเจ้าแห่งนี้อยู่เสมอ     เขาตั้งชื่อปลาตัวนี้ว่า Yoriko มันเองก็น่าจะจำ Arakawa ได้ดี เวลาที่เขาดำน้ำลงมาดูแลศาลเจ้ามันก็เลยว่ายน้ำมาอยู่ใกล้ๆ เขา ทุกครั้งที่เจอ Yoriko เขาก็จะจูจุ๊บเบาๆ ที่หัวเพื่อเป็นการทักทักทาย เขาสนิทกับมันมากจนสามารถลูบตัวได้โดยที่มันไม่ว่ายน้ำหนีด้วยนะ     ตั้งแต่ตอนที่เจอกันครั้งแรกจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลานานกว่า 25 ปีแล้วที่พวกเขาทั้งคู่สนิทสนมกัน และความสัมพันธ์ระหว่างคุณตากับปลาตัวนี้ก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คงมีไม่กี่คนหรอกที่สนิทกับปลาได้มากถึงขนาดนี้ ความสัมพันธ์ของคุณตา Arakawa กับเจ้าปลานกขุนทอง Yoriko ก็คงจะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตายจากไปนั่นแหละ     ที่มา: Japan Inside

หลังจากที่แม่แมวคลอดมันไว้ในชุมชนแมวจรจัด ลูกแมวน้อยก็ถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตตามลำพังอย่างยากลำบาก หลังจากมนุษย์เอามันมาดูแล ชีวิตของมันก็เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น     มิ้วน้อยตัวนี้ถูกช่วยไว้โดยกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Chatons Orphelins Montréal ในเมืองมอลทรีออล ประเทศแคนาดา และได้รับชื่อว่า Runner ตอนที่ช่วยมันมาใหม่ๆ แมวน้อยติดเชื้อที่ตาด้วย แล้วก็อาจจะตาบอดไปแล้วถ้าช่วยเอาไว้ไม่ทัน ร่างกายก็ดูเล็กจิ๋วเพราะคงไม่ได้กินข้าวอิ่มท้องทุกมื้อ แต่ต่อจากนี้มันจะมีคนดูแลทุกเวลา     รักษาแล้วก็ลืมตาได้แล้ว   หลังจากตาของมันหายดีมิ้วน้อยก็ถูกส่งไปดูแลในบ้านของอาสาสมัคร Celine Crom มันจะได้มีคนคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากที่อยู่แบบจรจัดมานาน พอได้มาอยู่ในบ้านมิ้วน้อยก็ดูจะชอบใจมาก     นอกจาก Celine แล้วแมวเหมียว Marsha ของเธอก็ช่วยดูแลมิ้วน้อยด้วยเหมือนกัน มันทำหน้าที่เหมือนเป็นแม่ให้กับ Runner ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็ไม่มีท่าทีขัดขืนเลย หลังจากที่ Runner ได้รับความรักจากแม่มนุษย์และแม่แมว มันก็เริ่มเรียนรู้ที่จะมอบความรักให้คนอื่นบ้าง     เมื่อแข็งแรงแล้ว Runner ก็ชอบเข้าไปกอดกับคนรอบข้างเสมอ ดูเหมือนการกอดจะเป็นกิจกรรมโปรดแบบใหม่ของมัน นอกจากการกอดจะทำให้มันอบอุ่นแล้ว ยังเป็นการบอกด้วยว่ามันรักทุกคน     ต่อมา Runner ก็ต้องย้ายบ้านอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้มันเริ่มทำความคุ้นชินกับคนอื่นบ้าง…

ในวันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปีเป็นโอกาสพิเศษ เนื่องจากเป็นวันชาติสหรัฐอเมริกา ในประเทศสหรัฐอเมริกาจึงมีการจุดดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองกันซึ่งก็เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้คนมากๆ ทว่าดอกไม้ไฟที่สวยงามสำหรับคนนั้น สำหรับพวกหมาแล้วเสียงดังจากดอกไม้ไฟเป็นเสียงที่ทำให้พวกมันตกใจกลัว ในวันที่มีการเฉลิมฉลองใหญ่ๆ จึงไม่ใช่วันที่พวกมันชอบนัก ในขณะที่ผู้คนมากมายออกไปเฉลิมฉลองกัน มีคนกว่า 100 คนยอมไม่ไปสังสรรค์ แล้วตรงไปยังศูนย์พักพิงสัตว์แทนเพื่อจะปลอบพวกหมาไม่ให้ตกใจกับเสียงดอกไม้ไฟ     เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมาศูนย์พักพิงสัตว์ Maricopa County Animal Care and Control แห่งเขตมาริโคปา รัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศเชิญคนมาร่วมกันปลอบใจน้องหมาระหว่างที่มีการจุดดอกไม้ไฟ ถึงแม้จะไม่มีค่าตอบแทนให้ แต่ก็มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนสุนัขกันมากมาย รวมแล้วในวันนั้นที่ศูนย์พักพิงทั้ง 2 สาขามีคนมาช่วยกันมากกว่า 100 คนเลยทีเดียว     บางคนก็หยิบเครื่องดนตรีคู่ใจมาเล่นเพลงให้เจ้าหมาฟัง อีกส่วนหนึ่งก็ลูบหัวแล้วพูดคุยกับพวกมัน มีแม้กระทั่งเด็กที่เอานิทานเล่มโปรดมานั่งอ่านให้พวกหมาฟังด้วยนะ ถึงปกติทางศูนย์พักพิงจะให้พาหมาออกมาเล่นข้างนอกได้ แต่พวกเขาก็กลัวว่าเสียงดอกไม้ไฟจะทำให้หมาวิ่งหนีกันไป พอถึงช่วงค่ำก็เลยให้พวกมันเข้าไปอยู่ในกรงของตัวเองแล้วให้คนที่มาไปอยู่หน้ากรงกับพวกมันแทน แต่ทางศูนย์พักพิงก็ห่วงว่าพวกมันจะเครียดที่ต้องอยู่ในกรงกับเสียงดังๆ ก็เลยช่วยฉีดน้ำมันลาเวนเดอร์กับเปิดเพลงคลาสสิคให้พวกมันฟัง เพื่อทำให้พวกมันผ่อนคลายมากขึ้นอีกทางหนึ่ง     Jose Santiago เจ้าหน้าที่ฝ่ายสัมพันธ์ประจำศูนย์พักพิงบอกว่า “ศูนย์พักพิงเป็นที่ที่เครียดสำหรับพวกสัตว์ แล้วยิ่งมีเสียงดังจากดอกไม้ไฟด้วยก็จะทำให้พวกมันเครียดกว่าเดิมอีก… เราก็เลยถามตัวเองว่าทำอะไรให้พวกมันได้บ้าง แล้วก็ได้คำตอบออกมาแบบนี้” การที่มีคนมาอยู่เป็นเพื่อนพวกหมาทำให้พวกมันผ่อนคลายขึ้นมากจริงๆ…

หมาหนุ่ม Saebangee รักลูกหมาดั่งดวงใจ มันคอยดูแลลูกหมาอยู่ไม่เคยห่าง ใครได้เห็นต่างก็ชื่นชมในความเป็นพ่อที่ห่วงใยของมันทั้งนั้น แต่ถ้าเกิดได้รู้เรื่องราวเบื้องลึกของมันล่ะก็ คุณจะต้องประทับใจในตัวเจ้าหมามากกว่าเดิมแน่นอน เพราะความใจดีของมันน่าชื่นชมจริงๆ   ในบ้านหลังหนึ่งมีลูกหมาน่ารัก 2 ตัว   เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันร้องเรียก พ่อหมา Saebangee ก็จะมาหาในทันใด   คุณพ่อก็น่ารักใช่ไหมล่ะ   มันเป็นห่วงลูกหมามากกว่าตัวเองอีก   ดูๆ ไปแล้วพ่อลูกคู่นี้เหมือนกันอย่างกับแกะ   แต่ช้าก่อน … เจ้าของจะบอกว่านั่นไม่ใช่ลูกในไส้ของ Saebangee   แท้ที่จริงแล้วพวกมันเป็นหมาจรจัดที่ถูกทิ้งไว้   หมาที่น่าจะเป็นแม่ของมันกลัวคนมาก พอคนเข้าใกล้มันก็เลยหนีหายไป   Saebangee ก็เลยสงสารพาพวกมันกลับบ้านมาด้วย   แล้วรับเลี้ยงเหมือนกับเป็นลูกของตัวเอง   มันชอบดูแลลูกหมาจรจัดอยู่แล้ว   แต่ตอนนี้มีแค่ลูกหมา 2 ตัวนี้เท่านั้นที่สำคัญที่สุด   เจ้าของเองก็ชื่นชมในความเมตตาของมัน ก็เลยช่วยด้วยการยอมรับเลี้ยงลูกหมาจรจัดไว้   พวกมันเลยกลายเป็นครอบครัวหมาที่ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่รักกันที่สุดเลย   วิดีโอซึ้งมาก ต้องดู …

สัตว์ตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มตัวนี้ จะว่าเป็นหนูก็อาจจะใช่ แต่จะว่าเป็นกระต่ายก็ไม่ผิด เอ๊ะ หรือว่ามันจะเป็นจิงโจ้…เอาเป็นว่าเรียกเจ้านี่ว่า เจอร์บัว ก็แล้วกัน เจ้าเจอร์บัวเป็นสัตว์จำพวกหนูที่พบได้หลากหลายแถบทั่วโลก มันตัวเล็กมาก แต่ก็มีขนที่ยาวและทรงพลังเอาไว้กระโดดไปไกลๆ ได้ หางเองก็ยาวยิ่งกว่าตัวซะอีก ผิดกับแขนที่สั้นจนแทบจะไม่เห็นเลย เราก็เลยไม่รู้ว่ามันเป็นหนูขายาว กระต่ายตัวจิ๋ว หรือว่าจิงโจ้ย่อส่วนกันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนก็คือมัน…น่ารักอ่ะ!     เจ้านี่แหละคือเจอร์บัว   บางคนก็เรียกว่ามิกกี้เม้าส์แห่งทะเลทราย เพราะมีหูโต   เจอร์บัวเคลื่อนที่โดยการกระโดดไปมาเหมือนจิงโจ้   ซึ่งดูน่ารักค่อดๆ   ดูแล้วข้องใจจริงๆ ว่าเป็นหนูหรือกระต่าย   อีกส่วนที่มีเสน่ห์ก็คือหางของมัน   นอกจากจะยาวมากจนทำให้ดูน่ารักแล้ว ก็มีขนฟูๆ ตรงปลายด้วย   ตกลงเอ็งเป็นตัวอะไรผสมกันบ้างเนี่ย!?   แต่นั่นก็ไม่สำคัญหรอก เพราะแค่น่ารักก็พอแล้ว   ตัวเล็กน่ารักแบบนี้ไม่ให้ชอบก็คงยาก   เอาล่ะออกมาเจอหน้ากันนานพอละ กลับบ้านดีกว่า   น่ารักนะ…แต่ก็แปลกดี ที่มา: BuzzFeed

ช้างเป็นสัตว์ที่มหัศจรรย์ พวกมันมีความอ่อนโยนในตัวเอง และก็มีความเฉลียวฉลาดในระดับที่เข้าใจได้ยาก บางครั้งพวกมันก็ทำในสิ่งที่เราคาดไม่ถึงเลย Françoise Malby-Anthony กับสามี Lawrence Anthony เป็นคู่รักที่พบกันในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษโดยบังเอิญ ฝ่ายหญิงอาศัยอยู่ที่เมืองนี้อยู่แล้ว ส่วนฝ่ายชายเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ตัวยงที่อาศัยอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ แต่หลังจากที่เธอตกหลุมรักเขา ทั้งคู่ก็ตัดสินใจย้ายออกจากเมืองใหญ่มาอยู่ที่ประเทศแอฟริกาใต้     พวกเขาซื้อพื้นที่แถบป่าไว้เพื่อทำเป็นพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ป่า โดย Lawrence เป็นคนตั้งต้นและขอความช่วยเหลือจากชนพื้นเมืองแถวนั้นเพื่อดูแลสัตว์ป่าให้ปลอดภัย จากนั้นพวกเขาก็ได้ก่อตั้ง Thula Thula ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการอนุรักษ์สัตว์ และก็เปิดรับแขกที่สนใจมาทัวร์ดูสัตว์ด้วยเพื่อหาเงินมาสนับสนุนการทำงานของพวกเขา     ต่อมาในปี 1999 มีช้างโขลงหนึ่งในแถบนั้นก่อความวุ่นวายให้ชาวบ้าน พวกมันเคยถูกมนุษย์รังแกมาก่อนก็เลยมีท่าทีดุร้ายและระรานมนุษย์ ทุกคนต่างก็ต้องการกำจัดช้างโขลงนี้ และพวกมันคงตายหมดแล้วถ้าไม่ได้ Lawrence ที่บ้าพอจะปกป้องพวกช้างอันตรายและรับมาดูแลไว้     ถึงแม้จะบอกว่ารับดูแล แต่พวกเขาก็ไม่สามารถห้ามไม่ให้พวกมันเดินไปไหนมาไหนตามใจได้ พวกเขาทำได้แค่เฝ้าสังเกตการณ์ว่าพวกมันอยู่ที่ไหนของพื้นที่ป่าเท่านั้นเอง ถึงพวกมันจะไม่ชอบคนแต่ก็มี Lawrence คนหนึ่งที่สามารถเข้าไปใกล้พวกมันได้โดยไม่ถูกทำร้าย แล้วเขาก็สนิทกับช้าง Nana ซึ่งเป็นหัวหน้าโขลงมากเป็นพิเศษด้วย     นานวันเข้าโขลงช้างก็ยิ่งติดตามตัวยากมากขึ้น พวกมันเดินทางในป่าโดยที่พวกเขาติดตามตัวแทบไม่ได้เลย พวกมันคงไม่อยากออกมาให้มนุษย์เจอหน้าสักเท่าไหร่ จนอยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่ Françoise ไปทำธุระในที่ห่างไกล เธอก็ได้รู้ข่าวร้ายว่า Lawrence ตายจากไปด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลันแล้ว     ในวันถัดมา Françoise…

เวลาเลิกกับแฟนใครๆ ก็คงเศร้ากันทั้งนั้นแหละ และก็คงจะจมอยู่กับความเศร้าไปอีกนานถ้าไม่มีอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจไปจากเรื่องนี้ สำหรับศิลปินหนุ่ม Rafael Mantesso ที่โดนภรรยาหอบข้าวหอบของหนีไปนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย คงอธิบายไม่ถูกว่าเขาเสียใจมากขนาดไหน ยังดีที่ภรรยาไม่ได้เอาเจ้าหมา Jimmy Choo ไปด้วย ทำให้เขามีเพื่อนที่แสนน่ารักช่วยให้เขาลืมเศร้าได้…โดยการมาเป็นนายแบบให้กับความคิดสร้างสรรค์ของเขา   นี่คือ Rafael หนุ่มที่ถูกภรรยาทิ้ง   เขายังมีเจ้าหมา Jimmy Choo แสนน่ารักอยู่ด้วย   เขาเลยเบนความสนใจจากเรื่องภรรยา โดยการไปเล่นกับ Jimmy แทน   ทั้งจับมันแต่งตัวเล่น   แล้วก็วาดรูปเล่นกับเจ้าหมาด้วย แล้วเก็บเป็นภาพคอลเลคชั่นซะเลย   ซูเปอร์หมาจะช่วยปลอบใจ   เอ๊ะ ผมไปปล้นธนาคารมาเมื่อไหร่??   เจ้านาย ช่วยเก๊าด้วย จะเป็นเนื้อย่างแล้ว   มีลูกน่ารักขนาดนี้ช่างเมียเถอะ   เก๊าเป็นหมาชอบอาบน้ำ   …หรือเป็นวัวกันแน่นะ!?   เดี๋ยวครูจะเล่นเพลงแล้วนักเรียนร้องตามนะ   กวางที่ยิ้มเก่งที่สุด   จะกิน…หรือไม่กินดีล่ะ   ทำไมมันร้อนอย่างเน้   หมาก็มีช่วงเสริมสวยกันบ้าง…

แทนที่ลูกสิงโตจะได้ใช้ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ มันถูกมนุษย์ลักลอบเอาไปเป็นสัตว์เลี้ยงในอพาร์ตเมนต์แทน ดีที่สุดท้ายมันยังได้กลับมาใช้ชีวิตตามธรรมชาติเหมือนเดิม ลูกสิงโตตัวนี้ถูกขังไว้ในอพาร์ตเมนต์แถบชานเมืองของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส แต่ก็คงจะเป็นโชคดีของมันที่คนที่พาตัวมันมาเลินเล่อถ่ายรูปมันลงบนโซเชียลมีเดีย ทำให้มีคนรู้ว่ามันถูกจับมาอยู่ที่นี่อย่างผิดกฎหมาย พนักงานดับเพลิงในเมืองเลยบุกเข้ามาในห้องแล้วช่วยมันให้เป็นอิสระไว้ได้ทันก่อนที่มันจะถูกทารุณไปมากกว่านี้     พนักงานดับเพลิงเป็นคนช่วยพาตัวมันออกมา   จากนั้นมันก็ถูกส่งตัวไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Natuurhulpcentrum ในประเทศเบลเยียม และได้รับชื่ออันยิ่งใหญ่ว่า King (พระราชา) ให้สมกับความเป็นเจ้าป่าของมัน King ได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ในนั้น มันเติบโตเป็นสิงโตที่แข็งแรงสมวัย ไม่กี่เดือนมันก็ตัวใหญ่จนแทบไม่เหลือเค้าของลูกสิงโตน้อยแล้ว     อย่างไรก็ตามแม้ว่าชีวิตของมันจะดีกว่าเดิมแล้ว แต่ทุกคนก็ยังหวังให้มันได้กลับไปอยู่ในป่าที่มันควรจะได้อยู่อีกครั้งหนึ่ง องค์กรช่วยเหลือสัตว์ Born Free Foundation จึงช่วยระดมหาเงินทุนเพื่อจะทำการส่ง King ไปอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์สัตว์ของ Shamwari Private Game Reserve ในประเทศแอฟริกาใต้     และเมื่อ King โตจนเริ่มมีขนแผงคอแล้ว มันก็ถูกจับเข้าไปอยู่ในกรงอีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้ถูกแย่งชิงอิสระไป มันกำลังจะถูกส่งไปพบกับอิสระที่รออยู่ข้างหน้าต่างหาก     จับเก๊าเข้ากรงอีกแล้วเหรอ?   ทนอยู่ในกรงหน่อยนะ กำลังจะได้ไปบ้านใหม่แล้ว   King ถูกส่งขึ้นเครื่องบินจากประเทศเบลเยียมไปยังบ้านใหม่ในประเทศแอฟริกาใต้   Virginia McKenna ผู้ก่อตั้งองค์กร Born Free บอกว่า…

ปกติแล้วที่สถานีตำรวจถ้าจะมีสัตว์สักตัว ก็น่าจะเป็นหมาตำรวจซึ่งคอยช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทว่าที่เจ้าหน้าที่ของสถานีตำรวจในเขต Mangwon ประเทศเกาหลี กลับเอาแมวมาไว้ที่สถานีตรวจแทน แถมยังยอมเป็นทาสให้มันด้วย!? แต่มันก็ช่วยงานในสถานีตำรวจเหมือนกันนะ จะช่วยยังไงไปดูเอา   นี่คือสถานีตำรวจ Mangwon   คนที่มาที่นี่จะเห็นแมวตัวนี้อยู่บ่อยๆ   มันชื่อว่า Mango   ทำตัวสบายอย่างกับอยู่บ้านเลยนะ   แต่ก็ไปว่ามันไม่ได้หรอก สถานีตำรวจแห่งนี้เป็นบ้านของมันอย่างเป็นทางการเลยล่ะ   แถมไม่ได้มาอยู่ฟรีๆ ด้วยนะ   Mango ชอบเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจงาน   เด็กใหม่อู้เหรอ เดี๋ยวฟ้องสารวัตรนะ   แถมยังช่วยต้อนรับคนที่มาแจ้งความอีกต่างหาก   มีแมวในสถานีตำรวจก็แปลกดีค่ะ แต่ฉันก็ว่ามันเท่ไม่หยอก   ถ้าทำหน้าที่จนเบื่อแล้ว เจ้าเหมียวก็จะไปนั่งงีบบนเก้าอี้ของสารวัตร   ส่วนสารวัตรก็ยืนขาแข็งไปละกัน รอ Mango ตื่นก่อนค่อยนั่ง หึหึ   เวลาเดียวที่มันจะไปนอกสถานีตำรวจ … คือตอนไปจู๊ดๆ ข้างนอก จะได้ไม่เลอะในสถานี โคตรฉลาด   แต่มันไม่ได้เกิดในสถานีตำรวจแห่งนี้  …

แรคคูนอาจจะเป็นสัตว์ที่อยู่ไกลตัวเราสักหน่อย คนไทยเราไม่มีโอกาสได้เห็นมันบ่อยนัก ส่วนมากเราจะเห็นมันตามฝั่งตะวันตกมากกว่า #เหมียวอาตี๋ ก็เคยเห็นแรคคูนแค่ในเรื่อง Pocahontas ของดิสนีย์แค่นั้นแหละ ตั้งแต่ตอนนั้นก็คิดตลอดเลยว่าแรคคูนมันดูน่ารักน่าชังจัง แล้วพอได้มานั่งส่องรูปแรคคูนเยอะๆ พวกมันก็น่ารักไม่ผิดกับที่หวังไว้เลย ถึงจะเป็นสัตว์ป่าตัวป่วนที่ชอบเข้ามาแอบหยิบของตามบ้านก็เถอะน้า   แรคคูนเป็นสัตว์ป่า   แต่พวกมันก็อ่อนโยน เข้ากับสัตว์หรือคนแบบไหนก็ได้   ใจดีรับแมวมาอยู่แก๊งด้วย   ขอนอนหนุนหน่อยทำไมต้องจ้องเราขนาดนั้น   แถมยังรู้จักการทำงานเป็นทีมด้วยนะ   ที่มองข้ามไปไม่ได้เลยคือความน่ารัก   พวกมันชอบทำหน้าเหมือนอ้อนขออะไรสักอย่างตลอดเวลา   แล้วก็ขี้อ้อน (ขอขนม) มากจริงๆ ซะด้วย   แต่ถ้าไม่ชินกับคนก็อาจจะขี้อายก็ได้   พอเริ่มชินกันเดี๋ยวก็หายอายเองแหละ   เวลาเอาขนมให้น้องไม่ต้องกลัวจะเกลือ น้องไม่กินทิ้งกินขว้าง (ตะกละนั่นแหละ)   มาอ้อนกันเป็นทีมแบบนี้ใครจะใจร้ายไม่ให้ขนม   ถึงเป็นสัตว์ป่าก็อยู่กับคนได้เหมือนกัน   แรคคูนเผือกยิ่งน่ารักไปใหญ่เลย   มาแย่งกันกอดขนาดนี้ก็แย่สิ   มองแบบนี้อยากได้ขนมล่ะสิ   บางทีก็มาบ้านมนุษย์เพื่อนั่งชิล   ถ้าไม่เปิดบ้านให้น้องก็จะทำหน้าน่าสงสารแบบนี้   ถ้าเจอก็เปิดให้น้องเข้ามาเถอะ…

ถ้าจะบอกว่ามีแมวที่ดูสวยสมบูรณ์แบบอยู่บนโลกนี้ด้วย Molly น่าจะเป็นหนึ่งในแมวพวกนั้นด้วยเหมือนกัน เพราะมันเป็นแมวเบงกอลที่ขนสวยมาก ที่สำคัญกว่านั้นดวงตาของมันดูน่าหลงใหลมากเลย Molly เป็นแมวเชื้อสายญี่ปุ่นเพราะเกิดที่นั่น แต่ตอนนี้เจ้าของของมันพามันย้ายไปอยู่ด้วยที่เมือง Johannesburg ประเทศแอฟริกาใต้แล้ว แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน มนุษย์ก็ยังหลงใหลในความงดงามของมันอยู่เหมือนเดิม   สวัสดี ฉันชื่อ Molly   คำที่เหมาะกับฉันก็มีไม่มาก   จะบอกว่าสวย หรือน่ารักก็เลือกเอาแล้วกัน   ถึงจะใส่โบว์สีเด่นขนาดนี้ ตาสวยๆ ของ Molly ก็ยังเด่นกว่าอยู่ดี   ตอนเพิ่งตื่นหน้าก็จะง่วงหน่อยๆ   มนุษย์จงมองตาข้าแล้วมาเป็นทาสซะ   ถึงจะมีของเล่นแล้ว แต่เราก็ชอบเล่นกับทาสมากกว่านะ   หืม ถ้าอารมณ์ดีจะจุ๊บทาสก็ได้   แมวคริสต์มาส??   มองอะไรห๊ะมนุษย์ ไม่เคยเห็นคนสวยเหรอ   มีฉันอยู่แล้วไปเอาแมวปลอมมาทำไม   ใส่อะไรก็สวย …. ใช่มะ?   หิวแล้ว ทาสไปเอาข้าวมาให้กินหน่อย   มองบนแบบมนุษย์บ้าง   อยากเห็นเรายิ้มเหรอ ……

ที่ผ่านมามีเหตุการณ์มากมายทำให้เราได้รู้ว่าหมาเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของมากขนาดไหน แล้วเคยคิดกันบ้างไหมว่าแมวมันจะซื่อสัตย์แบบหมาบ้างรึเปล่า? คำถามนี้คงผุดขึ้นมาในหัวของใครหลายคน เนื่องจากแมวดูมีนิสัยสันโดษ ถ้าหากเกิดเรื่องไม่ดีกับเราดีไม่ดีมันอาจจะหนีไปก่อนก็ได้ แต่วันนี้มีคลิปวิดีโออันหนึ่งที่ทำให้เรารับรู้ได้ว่าแมวเองก็ซื่อสัตย์กับคนที่รัก แม้แต่เพื่อนมันยังไม่ทิ้งเลย รับรองว่าคนที่เลี้ยงมันก็ต้องไม่ทิ้งเหมือนกัน      คลิปวิดีโอนี้เป็นคลิปสั้นๆ เพียงแค่ประมาณครึ่งนาทีที่ถ่ายได้ในประเทศจีน โดยมีตัวเอกคือแมวสีขาวส้มตัวหนึ่งที่กำลังลากเพื่อนของมันไปตามทาง เริ่มต้นเราจะเห็นว่าเพื่อนแมวของมันที่มีสีน้ำตาลนั้นตายแล้ว แต่เจ้าแมวส้มก็ไม่ยอมทิ้งมันเอาไว้ แล้วพยายามพาเพื่อนเข้าไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย มันอาจจะคิดว่าถ้าเพื่อนได้พักก็คงดีขึ้น     เราจะไม่ทิ้งนายไว้หรอก   หลังจากมันลากเพื่อนไปตามทางแล้ว คลิปวิดีโอก็จบลงที่เจ้าแมวพาเพื่อนมุดลงไปใต้ท้องรถสีขาวคันหนึ่ง ซึ่งมันน่าจะคิดว่าปลอดภัยสำหรับพวกมันแล้วนั่นเอง จากคลิปเราไม่รู้ว่าเพื่อนแมวของมันตายด้วยสาเหตุอะไร แต่ที่เห็นแน่ชัดเลยก็คือแมวไม่คิดที่จะทิ้งเพื่อนไว้เลย มันพยายามช่วยเพื่อนสุดกำลังและทำทุกอย่างที่คิดว่าช่วยได้     เรื่องราวในคลิปนั้นน่าเศร้า เห็นแล้วก็สงสารเจ้าแมวที่ต้องเสียเพื่อนไปโดยช่วยอะไรไม่ได้ แต่มันก็ช่วยให้เราได้เห็นอีกมุมหนึ่งของแมวที่เราไม่ค่อยได้เห็นกัน นี่แหละคือความรักและซื่อสัตย์ที่แมวมีต่อคนที่มันรัก ดังนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่าแมวจะซื่อสัตย์น้อยกว่าหมาหรือสัตว์อื่น ความจริงแล้ว #เหมียวอาตี๋ คิดว่าเลี้ยงสัตว์อะไรพวกมันก็ซื่อสัตย์กับเราทั้งนั้นแหละ ถ้าเราทำให้มันเห็นว่าเราจริงใจและรักมันจริงเหมือนกัน ที่มา: Next Shark

เจ้าหมาถูกใครสักคนมัดทิ้งไว้ในป่า โดยไม่มีข้าวหรือน้ำให้กิน มันออกไปไหนไม่ได้ก็เลยทำได้เพียงเห่าขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งมีคนที่ผ่านมาได้ยินเข้า เขาเลยโทรบอก Alex Kelly เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ที่อยู่ในเขตนั้นให้มาช่วยมันออกมา แต่กว่าเขาจะมาเจอแล้วตัดสินใจโทรขอความช่วยเหลือ เจ้าหมาก็ถูกทิ้งให้อยู่ตรงนั้นมา 3 วันแล้ว   ภาพเจ้าหมาเมื่อมองจากมุมไกลๆ   เมื่อ Kelly ไปถึงเขาก็รู้ว่ามันอยู่ในป่าหลังชุมชนแห่งหนึ่ง มันถูกมัดติดกับต้นไม้โดยมีแค่กรงพลาสติกปูผ้าให้มันนอน พร้อมกับจานข้าวที่ว่างเปล่าอีก 2 อัน พอถามคนแถวนั้นก็ไม่มีใครบอกอะไรเกี่ยวกับเจ้าหมาได้เลย เขาบอกว่า “ไม่มีใครยอมออกมาบอกอะไรกับผมเลย พวกเขาไม่ยอมบอกว่ามันเป็นหมาของใคร คงเพราะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”     มันมีท่าทีหวาดกลัวตอนที่เขาเข้าไปหา แต่เมื่อเห็นว่าขาของมันโดยเชือกรัดไว้แน่นมาก เขาก็ต้องรีบช่วยมันก่อนเป็นอันดับแรก Kelly บอกว่า “ถ้าปล่อยเอาไว้อีกแค่วันเดียว เลือดคงไหลไปเลี้ยงขาไม่ได้ แล้วมันก็คงถูกตัดขาทิ้งไปแล้วล่ะ”     โชคดีที่ Kelly มาช่วยเจ้าหมาเอาไว้ได้ทันท่วงที พอมันเห็นว่าเขามาดีมันก็เลยเริ่มไว้ใจเขามากขึ้นแล้วยอมให้เขาพากลับไปด้วย มันมีท่าทีกลัวเขาน้อยลงทีละนิด จนในที่สุดก็ไม่กลัวแล้ว     แค่ช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างนั่งรถมาที่ศูนย์พักพิง Associated Humane Popcorn Park Shelter ด้วยกัน เจ้าหมาก็ไว้ใจ Kelly มากจนหมือนหมาคนละตัวกับตอนแรก จริงๆ…

การใช้ชีวิตตามธรรมชาติในช่วงที่อากาศร้อนคงจะไม่ค่อยสบายนัก พอสบโอกาสเจอกับสระว่ายน้ำสุดชิลในบ้านของมนุษย์ เจ้าตัวนิ่มก็เลยแอบเข้ามานั่งเล่นตอนไม่มีคนอยู่ซะเลย…แต่ดันผิดแผนไปหน่อยเลยโดนจับได้ สระว่ายน้ำแห่งนี้เป็นสระส่วนตัวของ Kristy West และครอบครัว ปกติแล้วก็มีแต่พวกเธอนี่แหละที่ใช้สระน้ำ แต่วันหยุดสุดสัปดาห์นั้นพวกเธออกไปเที่ยวทะเลกันแทน     ไม่รู้ว่าบังเอิญไม่อยู่บ้านพอดี หรือเจ้าตัวนิ่มตัวนี้วางแผนเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว มันก็เลยถือโอกาสแอบเข้ามาใช้สระว่ายน้ำแห่งนี้ซะเลย แล้วเจ้าของบ้านก็ไม่อยู่ด้วย ถ้ามันมาแอบชิลหน่อยคงไม่มีใครรู้หรอก     ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่มันไม่รู้ นั่นก็คือถึง Kristy จะอยู่ไกลบ้าน แต่เธอก็ฝากน้องสะใภ้เข้ามาเช็กความเรียบร้อยในบ้านให้ตอนเธอไม่อยู่ด้วย นิ่มตัวนี้ก็เลยโดนเจอตอนพักผ่อนชิลๆ อยู่บนที่นอนลอยน้ำกลางสระโต้งๆ เลย   ว้า ถูกจับได้ซะแล้ว   น้องสะใภ้ส่งรูปผู้บุกรุกตัวน้อยไปให้ Kristy กับเด็กๆ ดูผ่านทางมือถือของลูกสาว ตอนที่ลูกวิ่งเข้ามาหา Kristy ในทะเลอย่างรีบร้อนเธอก็นึกว่ามีเรื่องฉุกเฉินซะอีก แต่พอเห็นภาพตัวนิ่มเท่านั้นแหละทุกคนก็หัวเราะกันใหญ่ พวกเธอค่อนข้างแปลกใจที่เจอตัวนิ่มแอบมาว่ายน้ำเล่นแบบนี้ แต่ด้วยความที่มันดูน่ารักแล้วก็ไม่มีพิษมีภัยเธอก็เลยไม่ถือสา แล้วปล่อยให้นอนเล่นต่อไป     อย่างไรก็ตาม ถึงตัวนิ่มจะว่ายน้ำเก่งอยู่แล้ว แต่พวกเธอก็เป็นห่วงว่าบางทีมันอาจจะอยากได้คนช่วยก็ได้ พอผ่านไปสักพักก็เลยให้น้องสะใภ้ช่วยดึงที่นอนลอยน้ำที่มันนอนอยู่ขึ้นมาข้างสระ จากนั้นก็ค่อยๆ ตะล่อมให้มันออกไปจากสระอย่างอ่อนโยน …   เก๊าทำเบาๆ แล้วนะ   หลังจากที่ขึ้นมาจากสระ มันก็ยังไม่ได้ไปไหนหรอก…

ร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลีเป็นที่นิยมของคนแถบนั้น ที่ดังไม่ได้เป็นเพราะรสชาติของอาหารอย่างเดียวนะ อีกส่วนมาจากเก้าอี้วิเศษหน้าร้านด้วย ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนมานั่งเก้าอี้หน้าร้านพิซซ่า จะมีแมวตัวหนึ่งวิ่งมานั่งตักลูกค้าเสมอ โดยไม่เลือกเลยว่าลูกค้าคนนั้นจะเป็นชาย หญิง เด็ก แก่ แค่นั่งมันก็จะมาหาแล้ว ส่วนเรื่องราวของมันจะเป็นยังไงไปลองฟังกันดูนะ …   ที่ร้านพิซซ่าแห่งนี้มีเก้าอี้อยู่ตัวหนึ่ง   เมื่อไหร่ก็ตามที่มีลูกค้ามานั่ง   จะมีแมวตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหา   แล้วมันก็จะเข้าไปนั่งตักคนที่มานั่งเสมอ   ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้ชายหรือผู้หญิง หรือจะมากี่คนก็ไม่เกี่ยง   ถ้ามาเราก็จะนั่ง   คุณป้ามาคนเดียวเหรอ เดี๋ยวเรานั่งเป็นเพื่อนนะ   ถึงกับมีลูกค้าบอกเลย ว่าร้านนี้เป็นร้านโปรดเพราะเจ้าเหมียวเชียวนะ   ทำให้ลูกค้าติดใจในความน่ารักของแมวเหมียวแล้วมาร้านพิซซ่านี้บ่อยมากขึ้นด้วย   จะมาเยอะแค่ไหนก็พร้อมรับลูกค้า เมี๊ยว   แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแมวที่ทางร้านเลี้ยงไว้!?   เจ้าของร้านหญิงคนนี้บอกมาแบบนั้น   เธอบอกว่าเมื่อก่อนเคยเห็นมันถูกแมวจรจัดรุม ก็เลยช่วยเอาไว้   ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันก็ตามเธอมาโดยตลอด   แม้แต่ตอนกินข้าวยังตามมาดูเลยอะ   แล้วเธอก็ให้ข้าวมันกินที่ร้านด้วย   มันรักเธอมากถึงขั้นจะตามกลับบ้านเชียวล่ะ   แต่น่าเสียดายที่ที่อยู่ของเธอเลี้ยงมันไม่ได้…

ในเวลาที่คุณลุงกำลังเศร้ากับการจากไปของหมาเพื่อนรัก สัตว์ที่เข้ามาทำให้เขารู้สึกดีอีกครั้งกลับเป็นไก่ตัวหนึ่งซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง ทว่ามันก็ทำให้เขารู้ว่าไก่ก็เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน     คุณลุง Dave Cox วัย 43 ปีอาศัยอยู่ในเมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้โดดเดี่ยวเพราะเขามี Cort เพื่อนหมาตัวโปรดอยู่ด้วย แต่ไม่นานมานี้มันก็ตายจากเขาไปด้วยอายุ 17 ปี ทำให้เขาเหงาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเขาก็ไม่อยากจะหาหมาอื่นมาแทนที่มัน     แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เปิดโอกาสให้สัตว์เลี้ยงตัวอื่นเลย เขายังอยากมีสัตว์เลี้ยงอยู่เป็นเพื่อนคู่ใจเหมือนเดิม แค่ไม่อยากเลี้ยงหมาตัวอื่นเพราะดูเหมือนจะเอามันมาแทนที่ Cort เท่านั้น และเมื่อเขาไปที่ร้านสัตว์เลี้ยงเพื่อหาเพื่อนตัวใหม่มาอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าอะไรดลใจเขา Cox ถึงเลือกลูกเจี๊ยบอายุ 3 วันตัวหนึ่งมาอยู่ด้วยแทน ทั้งที่ปกติคนอื่นคงไม่เลือกไก่มาเป็นสัตว์เลี้ยงหรอก     Cox ช่วยเลี้ยงดูไก่ที่เขาตั้งชื่อว่า Sammi จนมันโต โดยเลี้ยงเอาไว้ในบ้านที่เขาอาศัยอยู่ ทั้งคู่ก็เลยใกล้ชิดกันมาก ถึงจะโตแล้ว มันก็ไม่เคยหนีไปไหนเลย จากนั้นเป็นต้นมาเขาก็พบว่าถึง Sammi จะเป็นไก่ แต่มันก็เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมสำหรับเขา เขาอยู่กับมันแล้วรู้สึกสบายใจ แถมมันยังเป็นเพื่อนไปเที่ยวกับเขาได้ทุกที่โดยไม่ต้องกลัวว่ามันจะหนีเขาไปด้วย     พาไปเที่ยวไม่เคยต้องใส่สายจูงหรือกรง   ยังไงมันก็รักเจ้าของแล้วไม่บินหนี…

ถ้าคุณได้เดินผ่านน้องหมาพวกนี้ อาจจะต้องโทรจองคอร์สนวดกันสักนิด เพราะพวกมันอาจทำให้คุณมองตามชนิดที่เหลียวหลังได้เลย ก็จะไม่ให้มองได้ยังไงล่ะ ลายของน้องๆ มันแปลกมากเลยอะ เห็นแล้วต้องขอดูซ้ำว่ามันของจริงรึเปล่า แต่ถ้าหมาพูดได้มันคงบอกแล้วแหละว่านี่ของจริงแน่นอน พ่อแม่ให้มาเลยนะค้าบ   นี่แกใส่ถุงน่องอยู่ใช่ไหม   เย้ย นึกว่าลูกเสือที่ไหน   ผมตัวสะอาดแล้วครับ นี่เป็นแค่ลายเฉยๆ   แถวนี้ก็ไม่มีโคลนให้เล่น แล้วหน้าไปเลอะอะไรมา   เห็นหัวใจดวงน้อยๆ ของน้องไหม   ใครๆ ก็บอกว่าผมมี 4 ตา   ถ้าไม่บอกว่าหมาเราคงนึกว่าเป็นแรคคูน ลายเหมือนซะ   สาวๆ คงอิจฉาน้อง ไม่ต้องตื่นมาเขียนคิ้วทุกวัน   เห็นแบบนี้ผมเป็นคนจริงใจนะ ไม่ได้ชอบสวมหน้ากากเข้าหากัน   หมาแพนดี้ที่แท้ทรู   ด้านหน้าก็น่ารัก ด้านหลังก็น่าเลิฟ   ตอนเด็กๆ ท่าจะโดนแมวตะปบหน้ามา   มีเส้นแบ่งครึ่งตัวไว้ด้วย   ว้าว ตัวนี้มีลายหัวใจเหมือนแม่เปี๊ยบ   ผมสายตาปกติดีฮะ แค่ใส่แว่นเป็นแฟชั่น  …

หลังจากเพิ่งได้รับรางวัล ‘หมาน่าเกลียดที่สุดในโลกประจำปี 2018’ ไปเพียงแค่ 2 อาทิตย์ ไม่น่าเชื่อเลยว่าตอนนี้เจ้า Zsa Zsa จะตายจากไปอย่างกะทันหัน Zsa Zsa เป็นหมาพันธุ์อิงลิชบูลด็อกที่มีฟันยื่นและมีลิ้นห้อยของ Megan Brainard เธอรับมันมาเลี้ยงเมื่อ 5 ปีก่อนและอยู่กันในบ้านที่รัฐมินเนสโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา     เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2018 มันเพิ่งได้รับตำแหน่งผู้ชนะการประกวดหมาน่าเกลียดในเมืองเปตาลูมา รัฐแคลิฟอร์เนียมาหมาดๆ แต่พอถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2018 มันก็ได้ตายจากไปอย่างสงบขณะที่หลับไป ตอนที่ตายมันอยู่ในบ้านของพ่อ Brainard แล้วเธอจึงประกาศอย่างเป็นทางการบนเฟซบุ๊กให้ทุกคนทราบในวันถัดมา     Barinard เล่าว่า “ฉันยังรู้สึกตกใจอยู่เลย… เหมือนกับตอนที่มันชนะการประกวด แม้ว่าจะผ่านมา 2 อาทิตย์แล้วฉันก็ยังแทบไม่ค่อยเชื่อเลยว่ามันชนะ และครั้งนี้ฉันก็คงทำใจเชื่อได้ยากเหมือนกันว่ามันจากไปแล้ว” ตอนนี้ Barinard และลูกสาวได้ทำการบอกลาเจ้าหมาและนำมันไปฝังเรียบร้อยแล้ว โดยลูกสาวของเธอได้จูบมันบอกลาเป็นการบอกให้รู้ว่าเธอรักมันมากแค่ไหน     Barinard เล่าต่อว่า “Zsa Zsa เกิดมาเพื่อเป็นจุดสนใจ มันถ่ายรูปขึ้นเสมอแล้วก็ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ทุกรูปแบบ จริงๆ…

บ่อยครั้งที่สัตว์เลี้ยงซึ่งหายไปจากบ้านจะไปโผล่อยู่ในศูนย์พักพิงของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ เมื่อเจ้าหมา Daisy ของ Joyce หายไปจากบ้านที่รัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเลยลองติดต่อไปถามดู เธอบอกกับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Jackson Friends of the Animal Shelter ที่ Lyn Crawford ดูแลอยู่ว่าถ้าเห็นเจ้าหมาของเธอ ช่วยติดต่อไปบอกเธอด้วย แล้วก็ทิ้งรูปเจ้าหมาเอาไว้ให้เผื่อมีคนเจอเข้าจะได้เปรียบเทียบได้   Daisy ที่หายไป   เวลาผ่านไปเนิ่นนานกว่าสัปดาห์ ถึงจะแจ้งอาสาสมัครทุกคนแล้วก็ไม่มีใครเห็นเจ้า Daisy เลย ความหวังของ Joyce เริ่มหมดลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าช่วงสัปดาห์ที่ 2 ก็มีคนเจอหมาตัวหนึ่งที่คล้ายกับในรูป ทว่าหมาที่เจอนิสัยไม่เหมือนกับที่ Joyce อธิบายไว้เลย เธอบอกว่า Daisy มันค่อนข้างร่าเริง แต่หมาที่เจอนั้นดูหวาดกลัวคนอื่นไปเสียหมด ก็เลยไม่มั่นใจว่าใช่หมาตัวเดียวกันไหม   มีแต่คนไม่รู้จัก น้องกลัว   แม้ว่า Crawford จะถ่ายรูปมันไปให้ Joyce ดูแล้ว เธอก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะถึงมันจะคล้ายกัน แต่เธอไม่เคยเห็น Daisy เศร้าขนาดนี้มาก่อนเลย เธอเลยต้องมาดูให้มั่นใจกับตาตัวเองที่ศูนย์พักพิง และทันทีที่เธอเปิดประตูเข้ามา ทุกคนก็มั่นใจแล้วว่าหมาตัวนั้นคือ Daisy…

เป็นคุณจะทำยังไงเมื่อจู่ๆ ได้ยินคนบอกให้ยิงหมาของตัวเองซะ โดยที่มันกำลังวิ่งเข้ามาหาเราด้วยความเร็ว… หลายคนที่ได้ยินคงจะคิดว่าเจ้าหมาอันตรายมากจนต้องยิงก่อนจะโดนทำร้ายก็ได้… ถึงจริงๆ แล้วมันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมดก็ตาม AKghandi จากเว็บไซต์ Imgur ได้เล่าถึงเรื่องชวนเข้าใจผิดจากการทำงานของเขาอยู่ครั้งหนึ่ง เขาเป็นคนส่งพิซซ่า และเรื่องก็เกิดขึ้นในตอนดึกของการทำงานนั่นเอง     ตอนนั้นเป็นเวลาตี 2 แล้ว เขากำลังไปส่งพิซซ่าที่บ้านหลังหนึ่ง และระหว่างทางเขาก็เห็นหมาตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว และมีหญิงคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของวิ่งตามมาพร้อมตะโกนว่า “ยิงมันซะ! (Shoot Her)“ AKghandi เล่าว่าคนในอลาสก้าบางคนก็พกอาวุธไว้ป้องกันตัวอยู่แล้ว แล้วเขาก็มีปืนพกด้วยเหมือนกัน ก็เลยชักมันออกมาเตรียมยิงไปที่เจ้าหมาไว้ก่อน เพราะคิดว่าเธอคงกำลังบอกว่ามันอาจทำอันตรายเขาได้ ให้ยิงมันป้องกันตัวเองดีกว่า     แต่พอมันเข้ามาใกล้เขามากๆ เขาก็เห็นว่ามันไม่ได้ดูอันตรายเลยสักนิด มันก็เป็นแค่หมาพันธุ์เชพเพิร์ดทั่วๆ ไป ไม่มีน้ำลายฟูมปาก ไม่ได้ตัวเปื้อนเลือดจากการทำร้ายคน แล้วก็ไม่ได้ขู่เขาเลยด้วยซ้ำ มันเข้ามาดมเขาเล็กน้อย แล้วก็ส่ายหางใหญ่เลยเป็นเชิงบอกว่ามันมาอย่างเป็นมิตร เขาก็เลยสบายใจแล้วลดปืนลงอย่างงงๆ … แล้วเจ้าของบอกให้เขายิงมันทำไมกันนะ? สักพักหนึ่งเจ้าของก็วิ่งตามมันมาได้ทันแล้วขอโทษเขาที่มันมารบกวน พร้อมกับดุเจ้าหมาว่า “อย่าวิ่งหนีไปตามใจแบบนี้สิ Shooter“     ตอนนั้นเองเขาก็เลยเพิ่งเข้าใจว่าที่จริงแล้วเจ้าของไม่ได้ตะโกนว่า ‘ยิงมันซะ! (Shoot her)’ เธอเรียกชื่อมันซึ่งก็คือ Shooter ต่างหาก… เกือบเข้าใจผิดจนยิงไปแล้วนะเนี่ย…

ลูกแมวน้อย 3 ตัวอยู่ในชุมชนแมวจรจัด แต่พวกมันอยู่กันตามลำพังไม่มีแม่อยู่ด้วย พวกมันดูแลตัวเองได้ไม่นานหรอก ดีที่มีคนไปช่วยพวกมันออกมาดูแล     Mona เป็นหญิงที่ช่วยเหลือแมวจรจัดเป็นประจำ เธอได้ยินเสียงร้องของลูกแมวทั้ง 3 ตัวแล้วเห็นว่ามันไม่มีแม่ดูแลก็เลยช่วยมาอยู่กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Tinykittens พวกเขาบอกว่าพวกมันเด็กเกินกว่าจะดูแลตัวเองได้ โชคดีมากที่ Mona เจอมันแล้วพามาให้พวกเธอดูแลให้ทัน พวกมันก็เลยแข็งแรงดีทุกตัว     มาให้พี่ๆ ป้อนนมให้นะ   พวกเขาตั้งชื่อลูกแมวว่า Avory, Arthur และ Ray แมวทั้ง 3 ตัวซุกซนมาก แล้วก็กินเก่งมากเช่นกัน ส่วนที่น่ารักที่สุดก็คือพวกมันจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ สมกับเป็นพี่น้องกันเลย   แป๊บเดียวก็โตพอกินอาหารเองได้แล้ว   ค่อยๆ กินนะอย่าแย่งกัน   อาบน้ำก็อาบด้วยกัน ง่อววว   แน่นอนว่าต้องนอนด้วยกันด้วยนะ   อย่างไรก็ตามแมวทั้ง 3 ตัวก็ไม่มีแม่คอยดูแล พวกมันก็ยังต้องการแมวที่จะมาดูแลให้พวกมันไม่เหงาด้วยเหมือนกัน แต่อาสาสมัครก็ตามหาตัวแม่ของพวกมันไม่เจอ โชคดีที่ในศูนย์พักพิงของพวกเขามีคุณปู่เหมียว Mason อยู่ด้วย มันเป็นแมวแก่ที่รักลูกแมวตัวเล็ก และยินดีจะดูแลลูกแมวทุกตัวที่มาที่นี่ให้ (อ่านเรื่องของคุณปู่เหมียว Mason…

เมื่อพลัดหลงกับเจ้าของแล้วหาทางกลับบ้านไม่ถูก หมาทั่วไปคงรออยู่แถวนั้นจนกว่าจะมีคนผ่านมาช่วย แต่ก็มีหมาบางตัวเหมือนกันที่เข้าไปหาความช่วยเหลือเองจนได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังออกตรวจตราความเรียบร้อยในเมืองวัลนัทครีก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาก็ทำหน้าที่ตามปกติ แต่เมื่อกลับมาที่รถของตัวเองก็เจอหมาแปลกหน้าตัวหนึ่งอยู่ในนั้น     พวกเขารู้ได้ทันทีเลยว่ามันกำลังหลงทางอยู่ แต่ก็แปลกใจเหมือนกันที่มันแสนรู้มาหาตำรวจเองได้ แถมมารอถึงในรถเลยด้วย เก่งอะไรขนาดนี้ ตำรวจเล่าว่า “วันนี้ประมาณตอน 5 โมง 45 นาที เจ้าหมาน้อยตัวนี้รู้ว่าตัวเองกำลังลำบาก มันก็เลยขึ้นมาบนรถของเราที่จอดทิ้งไว้เพื่อบอกให้เจ้าหน้าที่ Akers รู้ว่าตัวเองกำลังหลงทาง”     แถมมันยังทำตัวเรียบร้อยน่ารักกับตำรวจด้วย พวกเขาเล่าว่า “มันมางีบหลับปุ๋ยอยู่บนตักของเจ้าหน้าที่ Akers … เจ้าหมามันถูกฝึกมาอย่างดี บอกให้นั่ง รอ หรือนอนลงก็ได้ ฉลาดมากๆ เลยล่ะ แถมมันยังจูจุ๊บขอบคุณตำรวจที่ช่วยมันด้วย”     แน่นอนว่ามาถึงที่เองแบบนี้แล้วเจ้าหน้าที่ก็เต็มใจจะช่วยมันหาเจ้าของเต็มที่ แต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะหาเจ้าของให้หมาตัวนี้ เพราะมันไม่ได้ฝังไมโครชิปเอาไว้ แล้วก็ไม่ได้ใส่ปลอกคอด้วย เห็นทีตอนนี้พวกเขาคงต้องหันไปใช้โซเชียลมีเดียช่วยหาเจ้าของให้มันต่อ แล้วถ้าเกิดยังไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของมัน ก็จะเริ่มหาเจ้าของใหม่ให้มันแล้ว ยังไงก็ขอให้เจอเจ้าของไวๆ นะ   ที่มา: the dodo

ในช่วงที่เจ้าหมาอยู่ในศูนย์พักพิง มันไม่มีใครมองเห็นค่าเลยจนเกือบจะถูกการุณยฆาตอยู่แล้ว จนเมื่อหญิงคนหนึ่งรับมันไปอยู่ด้วย เจ้าหมาเลยได้แสดงพรสวรรค์ของมันให้ทุกคนเห็นจนกลายเป็นสุดยอดหมาแข่ง Stitch เป็นหมาพันธุ์อเมริกันสตัฟฟอร์ดชายร์เทอร์เรียที่ไม่มีคนมารับเลี้ยงเลย มันอยู่ศูนย์พักพิงนานจนเกือบจะเกินกำหนดอยู่แล้ว และในวันสุดท้าย Millie Sawyer ก็ได้มาช่วยชีวิตมันไว้     เธอเป็นคนรักหมาที่รับดูแลหมาเฉยๆ ก็เลยไม่ได้เป็นเจ้าของให้กับมัน แต่เธอก็เป็นคนพามันไปพบกับแม่ใหม่ Kaitlyn Johnson ที่มอบความหมายในชีวิตให้กับมัน Johnson เป็นคนที่คลุกคลีกับกีฬา ฟลายบอล (Flyball) ซึ่งเป็นการแข่งขันให้หมาข้ามสิ่งกีดขวางไปในเวลาอันรวดเร็วที่สุด เมื่อ Stitch ได้มาอยู่กับเธอ เธอก็เลยให้มันลองเล่นกีฬานี้บ้าง     ตอนนั้นเองเธอถึงได้รู้ว่า Stitch มีพรสวรรค์ในการแข่งฟลายบอลอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ด้วยเวลาการฝึกสั้นๆ แค่ 2 เดือน มันก็ทำสถิติได้รอบเวลาเพียง 4.35 วินาทีซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่สุดในบรรดาหมาที่เธอฝึกแล้ว เธอเลยลองพามันไปแข่งขันจริงๆ ดู และเมื่อถึงเวลาแข่งจริง Stitch ก็ทำสิ่งเหนือความคาดหมายอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการทุบสถิติของตัวเองที่เคยทำมา แล้วเข้าเส้นชัยไปด้วยเวลาเพียง 4.117 วินาทีเท่านั้น คนที่มาเชียร์มันพากันส่งเสียงเชียร์ดังลั่นเลย ตอนนี้ Stitch ก็กลายเป็นหมาสายพันธุ์สตัฟฟอร์ดชายร์ที่แข่งฟลายบอลได้เร็วที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว     หมาทุกตัวมีจุดเด่นและความสามารถที่ดีอยู่ ขอแค่คุณให้โอกาสมัน คุณจะได้เห็นว่าเจ้าหมาน่ารักและเก่งจนทำให้คุณประทับใจได้ไม่รู้ลืมเลย ที่มา: Lad Bible

หมาพวกนี้มันต้องมีพลังวิเศษอะไรสักอย่างแน่ๆ ไม่งั้นแค่เดินมาให้เราเจอหน้า จะทำให้เราเผลอยิ้มแล้วลืมเรื่องเครียดได้ยังไงกัน? บางทีเรายังรู้สึกเลยว่ามันใช้ดีกว่ายาแก้เครียดด้วยนะ แถมไม่มีผลข้างเคียงเหมือนยาด้วย… ถ้าจะมีก็คงเป็นตอนเผลอตัวควักเงินซื้อขนมให้มันกินแค่นั้นแหละ แหะๆ ใครไม่คิดแบบนั้น ก็ลองห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มตอนดูรูปน้องดูละกัน หึหึ…   เราขอเรียกแกว่า สไปเดอร์หมา   จะจับคีย์บอร์ดมาทำงาน หรือจะขยุ้มพุงนุ่มๆ นี่ดี   โอ้ย น้องคาบบอลแล้วลิ้นห้อยด้วย น่ารักอ่า   ที่บอกให้ไปนั่งไม่ได้หมายถึงท่านี้ …   มองหาตั้งนาน ที่แท้มาแอบเจ้านายในพุ่มไม้นี่เอง   ถึงบอลจะแฟบแล้วก็ยังเป็นของลิ้นชิ้นโปรดอยู่ดี   เพื่อน ออกไปเล่นกันเถอะ เจ้านายจับไม่ได้หรอก (เหรอ!?)   เขาบอกว่าใกล้ชิดกับธรรมชาติจะทำให้จิตใจสงบ   จะบอกว่าอยากไปเดินเล่นสินะ   แกนี่หูโตเหมือนค้างคาวเลยนะ   ผมช่วยทำให้พื้นบ้านเจ้านายนุ่มขึ้นแล้ว   ขอเหมาได้ไหมฮะ   แอบไปย้อมสีกับถ่านมาอีกแล้ว ต้องพาไปอาบน้ำอีกแล้วสิ   เล่นน้ำสนุกมากเลย คราวหน้าพามาอีกนะมนุษย์   มีหมาแบบนี้เลี้ยงแทนลูกได้เลยนะเนี่ย   จะเข้าแก๊งนี้ได้ต้องทำลิ้นห้อย  …

จากการทำงานเป็นช่างภาพการให้กำเนิดเด็กมานาน Kristin Ann ก็ได้พบกับความประทับใจจากหลายครอบครัวที่ตัวเองไปทำงานด้วย หนึ่งในนั้นก็คือครอบครัวของ Brooke ที่เธอไปบันทึกช่วงเวลาพิเศษมาให้แล้ว 2 ครั้ง และถึงจะต้องไปถ่ายรูปให้ลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมาเป็นคนที่ 3 เธอก็ไม่รู้สึกเบื่อกับความอบอุ่นของครอบครัวนี้เลย เพราะว่ามันมีเจ้าหมา Ranger ที่แสนอบอุ่นอยู่ด้วย     Ranger เป็นหมาคอร์กี้ที่อยู่กับครอบครัวของ Brooke มาเนิ่นนาน มันเป็นห่วงคนในบ้านอยู่เสมอ และจะเป็นห่วงคุณแม่เป็นพิเศษทุกครั้งที่เธอตั้งท้อง มันทำตัวเป็นผู้ช่วยที่ดีและอยู่ให้กำลังใจเธอทุกเวลา และในการให้กำเนิดลูกคนที่ 3 นี้ก็ไม่ต่างไปจากเดิมเลยสักนิดเดียว มีแต่จะดูเป็นห่วงเป็นใยมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย   Ranger จะตามแม่ไปทุกที่ โดยเฉพาะตอนเธอตั้งท้อง   พอเห็นว่าเธอต้องการความช่วยเหลือ ก็จะไปเป็นกำลังใจให้ข้างๆ   ครอบครัวของ Brooke ทำคลอดที่บ้านประจำ และจะมี Ranger อยู่ข้างๆ เสมอ   นี่แหละกำลังใจที่ทำให้คุณแม่ผ่านความเจ็บปวดไปได้   ตอนที่เธอย้ายไปทำคลอดในสระน้ำ   มันก็ตามมาอยู่กับทุกคนด้วย   สู้ๆ นะแม่ แม่ต้องทำได้อยู่แล้ว   มันรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเข้าไปอยู่กับเธอ และเมื่อไหร่ควรจะถอยมาอยู่สถานการณ์เงียบๆ  …

ในบางพื้นที่ยังมีการใช้หมีเพื่อเป็นตัวล่อฝึกสุนัขให้ทำการล่าสัตว์ได้ชำนาญมากขึ้น แต่มันดูไม่ถูกต้องต่อเจ้าหมีนัก และถ้าไม่ได้คนที่พยายามช่วยมันอย่างมาก มันคงไม่ได้ออกจากกรงทั้งชีวิต     เจ้าของของ Kvitka ทำการฝึกหมาล่าเนื้ออยู่ในเมือง Terebovlya ประเทศยูเครน โดยเขาใช้เจ้าหมีนี่แหละเป็นเหยื่อให้หมาฝึกล่า นอกเหนือจากเวลาฝึกเขาก็จะขังมันไว้ในกรงเท่านั้น มันใช้ชีวิตอยู่แบบนี้มา 8 ปีแล้ว ชีวิตของมันจึงไม่มีอะไรเลยนอกจากความหวาดกลัวและถูกทารุณ ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามมอบอิสระให้มัน     Four Paws International เป็นกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่ต่อต้านการฝึกหมาล่าเนื้อโดยการใช้หมี พวกเขาพยายามพูดคุยกับเจ้าของของ Kvitka มาหลายเดือนแล้ว เพื่อให้เขายอมปล่อยมันจากการฝึก หลังจากพยายามเจรจากับเจ้าของอยู่หลายครั้งตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ในที่สุดเจ้าของก็ใจอ่อนและยอมให้พวกเขาเอาเจ้าหมีไปดูแลแทน มันเลยได้ออกจากกรงที่กักขังมันมาทั้งชีวิต   กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ช่วยให้ Kvitka ได้ออกจากกรงที่อยู่มา 8 ปี   มันไม่จำเป็นต้องถูกใช้เป็นเหยื่อให้หมาทำร้ายอีกต่อไป   ทันทีที่ได้ตัวเจ้าหมีมา อาสาสมัครก็พามันเดินทางไกลกลับมายังที่ของพวกเขาเพื่อพามันตรงเข้าไปรักษาทันที เนื่องจากเจ้าของคนเก่าดูแลมันไม่ดีเลย มันจึงมีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง อย่างแรกเลยพวกเขาต้องช่วยดูแลฟันที่แตกหักของมันซะก่อน ซึ่งถ้าไม่ทำอย่างเร่งด่วนอาจทำให้มันมีปัญหาในการใช้ชีวิตต่อไปได้ แถมยังต้องรักษาแผลจากการถูกหมากัดที่มีอยู่ทั่วตัวด้วย     พอรักษาเสร็จก็ได้ไปอยู่บ้านใหม่แล้ว   หลังจากพวกเขามั่นใจว่ามันไม่เจ็บป่วยอะไรแล้ว ก็จัดแจงให้มันไปอยู่บ้านใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าปิดในความดูแลของพวกเขาเอง Kvitka ใช้ชีวิตอยู่ในกรงมาตลอด การให้มันอยู่ในความดูแลของมนุษย์ต่อไปจึงดูเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว…

บ็อกเซอร์เป็นพี่หมาตัวโตที่ดูน่าเกรงขาม บางครั้งถ้าไม่ได้รู้จักมันดีก็อาจจะคิดว่ามันเป็นหมาที่อาจจะดุร้ายก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก บ็อกเซอร์ก็เป็นหมาตัวใหญ่ที่มีหัวใจเหมือนเด็ก พวกมันอ่อนโยนแล้วก็ขี้อ้อนจะตายไป ไม่เชื่อก็ลองไปดูภาพน่ารักๆ ของพวกมันดูสิ   เห็นหน้าไม่ยิ้มแบบนี้ก็รักสัตว์ทุกตัวนะ   โถ่ว สระตื้นแบบนี้พี่ไม่ต้องว่ายเลย   ท่านอนแอดวานซ์ไปมั้ยเพ่   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอยากเดินเล่นต่อ   มารอเพื่อนไม่ต้องยื่นหน้ามองขนาดนั้นก็ได้   จริงๆ แล้วเราอ่อนโยนจะตาย รักดอกไม้ม๊ากมาก   ชวนน้องมาซนแบบนี้ไม่ดีเลย   นั่งดีๆ สิคะ เดี๋ยวเบรกหน้าก็ทิ่มหรอก   นั่นคาบหรือว่าจะกินลูกบอล   เคยนั่งตักพ่อยังไง โตแล้วก็จะนั่งเหมือนเดิม   มันไม่ใช่ที่นอนนะน้อง   ตัวอะไรอะเจ้านาย น่ากลัวจังเลย   เย้ย แกถอดหัวได้ด้วยเหรอ!?   ท่าทางอร่อยนะตัวเล็ก   แค่เดินมาทักเฉยๆ จะตกใจทำไมเล่า   แกเอาอะไรคิดว่าจะหลบหลังต้นไม้เล็กได้เหรอ ….   รู้นะว่ารัก แต่ลงไปนั่งที่พื้นเถอะ พ่อหนัก  …

หนุ่มน้อย Peyton Harris อายุ 9 ปีเป็นสาวกแมวตั้งแต่เด็ก เขาอยากเลี้ยงแมวมานานแล้ว ก็เลยอ้อนพ่อแม่ให้รับเลี้ยงแมวมาตั้งนานแล้ว แต่พวกเขาเพิ่งอนุญาตให้หนุ่มน้อยเลี้ยงแมวเมื่อไม่นานนี้เอง พวกเขาก็เลยตระเวนไปดูตามศูนย์พักพิงสัตว์หลายแห่ง รวมทั้งงานเปิดให้รับเลี้ยงสัตว์เลี้ยงด้วย หลังจากดูแมวมาหลายตัว Peyton ก็ถูกชะตากับแมวที่ชื่อ Luna Lovegood (คนตั้งชื่อต้องเป็นแฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์แน่เลย) เขาเลยกรอกใบขอรับเลี้ยงมันโดยระบุชื่อแมวเป็นเจ้าตัวนี้เท่านั้น และในบรรดาครอบครัวทั้งหมดที่มารับเลี้ยงสัตว์ เขาก็เป็นคนเดียวที่ขอเลี้ยงมัน ทั้งคู่เลยได้มาอยู่บ้านเดียวกัน     Luna เข้ากับสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี แม้แต่เจ้าหมาที่มาอยู่ก่อนมันก็ตีซี้ได้ มันมีนิสัยเป็นมิตรและขี้อ้อนเป็นที่สุด Peyton หลงรักมันหัวปักหัวปำ แค่เดือนแรกที่เลี้ยงมันเขาก็เก็บเงินเพื่อซื้อคอนโดแมวให้มันด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว…แต่เขาอยากทำอะไรที่พิเศษกว่านั้นให้มันรู้ถึงความรักของเขา ก็เลยจะสร้างบ้านส่วนตัวให้มัน     Peyton และครอบครัวสร้างบ้านให้มันตอนที่พวกเขาไปเที่ยวบ้านของคุณปู่คุณย่า โดยหนูน้อยเป็นคนตั้งต้นไอเดียทั้งหมด โชคดีที่ที่นั่นมีวัสดุจำพวกไม้กับตะปูเหลือใช้อยู่แล้ว ก็เลยมีของพร้อมสร้างบ้านให้แมวน้อยเลย แถมยังมีญาติที่คุ้นชินกับการสร้างของด้วย เขาก็เลยช่วยวางแผนสร้างบ้านจิ๋วได้   Peyton เป็นคนตอกตะปูและทาสีทั้งหมด   ใช้เวลาตั้ง 4 วันแน่ะกว่าจะทำเสร็จ   พอทำเสร็จแล้วก็ดูดีใช้ได้เลย   บ้านที่เขาทำให้มันเป็นบ้าน 2 ชั้นที่มีระเบียงตรงชั้น 2…

ตอนที่ Jeff Saul เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งใหม่ เขาก็กำลังยุ่งกับการย้ายของเข้ามาในห้องอยู่ แล้วได้ยินเสียงร้องของแมวมาจากข้างนอกด้วย เมื่อเปิดประตูออกไปดู เจ้าแมวก็พุ่งพรวดเข้ามากลางห้องของเขา พร้อมทำสีหน้าสุดงงงวย ราวกับว่ามันเพิ่งเข้ามาในที่ที่คุ้นชิน แต่มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ถ้ามันเป็นแมวจรจัดอาจจะถูกไล่มันออกนอกห้องไปแล้ว แต่โชคดีที่ Saul รู้ว่าแมวตัวนี้เป็นของใคร …     ก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามาอยู่ที่นี่ ลูกสาวตัวน้อยของครอบครัวที่เคยอยู่บอกว่าพวกเธอหาแมว Crispy ที่เลี้ยงไว้ไม่เจอตอนจะย้ายออกไป ถึงจะตามหาอยู่นานก็ยังไม่มีวี่แวว ก็เลยต้องย้ายออกไปทั้งที่ยังเป็นห่วงเจ้าเหมียวอยู่ Saul คิดว่าแมวตัวนี้คงจะเป็น Crispy เพราะมันเดินเข้ามาในห้องนี้อย่างมั่นใจ แล้วก็ไม่ออกไปไหนเลยถึงจะไม่ชินกับบรรยากาศห้องใหม่ก็ตาม เขารู้สึกสงสารมัน เจ้าแมวคงรู้สึกเคว้งคว้างที่หนีเที่ยวไปไม่นาน แต่ต้องเข้ามารู้ว่าครอบครัวที่เคยอยู่ด้วยย้ายไปที่อื่นแล้ว เขาก็เลยให้มันอยู่ที่นี่กับเขาก่อน แล้วจะหาหนทางเอามันไปคืนให้กับครอบครัวนั้นทีหลัง เพราะตอนนี้เขาไม่มีวิธีติดต่อครอบครัวที่เพิ่งย้ายออกไปเลย     ไม่นานนักก็มีเพื่อนของครอบครัวเก่าแวะเข้ามาเอาของที่พวกเขาลืมเอาไว้ พวกเขาช่วยยืนยันได้ว่าแมวตัวนี้คือ Crispy จริงๆ แล้วจะช่วยเอามันไปคืนเจ้าของให้เอง Saul รู้สึกดีมากที่ได้ช่วยให้เจ้าแมวเจอกับคนที่รักมันอีกครั้ง เขาบอกว่า “คนที่เอาแมวไปส่งบอกว่าครอบครัวเจ้าของมันดีใจมาก…ผมหวังว่าเด็กหญิงคนที่เล่าให้ผมฟังจะได้รู้ข่าวแล้วว่าตอนนี้ Crispy จะได้กลับไปอยู่บ้านกับเธออีก” ที่มา: the dodo

ในประเทศสหรัฐอเมริกา หมาที่อยู่ในศูนย์พักพิงนานเกินไปจนอายุเกินกำหนด ตามกฎแล้วจะต้องถูกการุณยฆาตเนื่องจากไม่มีใครมารับดูแลมัน ในจำนวนนั้นก็มีหมาบ็อกเซอร์ตัวหนึ่งอยู่ด้วย มันคงจะรู้ว่าไม่มีใครอยากให้มันอยู่บ้านด้วยแล้ว มันก็เลยเอาแต่นอนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหนเลย ถึงจะมีคนมาหารับเลี้ยงหมา มันก็ไม่สนใจออกไปทักทายใครทั้งนั้น     มีคนมาหาก็ยังไม่ยอมลุกมาอ้อน   Ysuhuaylas ก็เลยเดินทางไปหาเจ้าหมาเพื่อถ่ายรูปมันโดยเฉพาะ โดยเธอหวังว่าภาพที่เธอจะเอาไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กจะช่วยให้มีคนอยากรับเลี้ยงมันก่อนจะสายเกินไป   หมาส่วนใหญ่จะส่ายหางดีใจตอนมีคนมาหารับเลี้ยง แต่มันไม่เป็นแบบนั้น   มันคงรออยู่ที่นี่มานานจนหมดหวังไปแล้ว   ตอนที่เหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่วันก่อนมันจะถูกการุณยฆาต ในที่สุดก็มีกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Legacy Boxer Rescue เสนอตัวมาช่วยมันไว้ ถึงพวกเขาจะยังหาคนรับเลี้ยงมันไม่ได้ แต่ก็ช่วยต่อชีวิตให้มันสำเร็จ จากนั้นพวกเขาก็ตั้งชื่อมันว่า Wendell และพามันไปอยู่บ้านกับอาสาสมัคร James Zalinski เป็นการชั่วคราวระหว่างที่รอหาเจ้าของให้ อย่างน้อยมันจะได้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านสักที     ตอนที่มันอยู่บ้านกับ Zalinski เขาเล่าว่า “มันดูดีขึ้นมากเลย มันเป็นหมาที่นิสัยเรียบร้อย แต่ก็ยังเหลือพลังไว้เล่นอยู่ด้วย… มันเพิ่งมาอยู่บ้านผมได้แค่วันเดียว แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมมั่นใจแล้วว่ามันเป็นหมาที่อ่อนโยน มันไม่ได้กระโดดโลดเต้นอย่างบ้าพลัง เข้ากับเด็กและผู้ใหญ่ได้อย่างดี ผมเลยคิดว่ามันน่าจะมีคนให้ความสนใจรับเลี้ยงเยอะเลยล่ะ แต่เราก็อยากให้มันได้บ้านที่เข้าใจว่ามันเป็นหมาโตแล้วที่ต้องการความรัก และไม่ต้องการออกกำลังมากเกินไป”     ถึงตอนนี้จะยังไม่มีคนเลี้ยง แต่ชีวิตของ Wendell ก็ดีขึ้นมากเรื่อยๆ มันได้ออกมาจากศูนย์พักพิงที่มันไม่ชอบ แถมยังได้มาอยู่บ้านกับมนุษย์แล้วด้วย ที่เหลือก็เพียงแค่รอคนที่เข้าใจมารับเลี้ยงเท่านั้น ซึ่งก็คงอีกไม่นานหรอก  …

น้องหมา Bongsoon ติดคุณลุงเพื่อนบ้านมากเป็นพิเศษ ติดมากกว่าเจ้าของที่ดูแลมันซะอีก จะบอกว่ามันอยู่กับเขามากกว่าเจ้าของก็ยังได้เลย ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะมันอยากให้กำลังใจเขา รู้สึกซาบซึ้งในความช่วยเหลือของเขา หรือเพราะว่าถูกชะตากับเขาตั้งแต่แรกเจอกันแน่?     นี่คือเจ้าหมา Bongsoon   มันเป็นหมาของคุณลุงกับคุณป้า   ปกติก็จะนอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่สนใจเจ้าของเท่าไหร่   แต่พอได้ยินเสียงของรถลุงเพื่อนบ้านข้างๆ   มันก็จะวิ่งไปหาเขาถึงบ้านทันที   แล้วก็ออดอ้อนให้เล่นด้วย ผิดกับตอนอยู่กับเจ้าของลิบลับ   และเมื่อเล่นกันเสร็จจนคุณลุงเข้าบ้านไปแล้ว   มันก็จะนอนรออยู่ที่ประตูหน้าบ้านด้วยท่าทางมีความสุข   นี่แหละกิจวัตรประจำวันของมัน มันจะรอดูว่าเขากลับบ้านมาเมื่อไหร่   พอเห็นรถของเขามาถึงบ้าน   ก็จะวิ่งลงจากจุดที่มันชอบรอไปหาเขา   สาเหตุที่มันชอบเขาขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเมื่อก่อนเขาเคยช่วยฝังน้องของมันที่ตายเพราะถูกรถทับ   หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะรู้ว่าเขาป่วยเป็นมะเร็ง เลยอยากให้กำลังใจเขาก็ได้   คุณลุงก็ยอมรับเหมือนกันว่าที่สู้กับโรคมาได้ขนาดนี้เป็นเพราะมีมันเป็นกำลังใจให้   จริงๆ เจ้าของก็แอบน้อยใจอยู่เหมือนกันที่มันรักเขามากกว่า   พอลุงข้างบ้านไปข้างนอก มันก็จะซึมแล้วกินข้าวน้อยทุกที   พอกินเสร็จก็จะมารอเขาอย่างเดียวเลย   แต่จะทำไงได้ล่ะก็มันชอบอยู่กับเขานี่นา   แล้วตอนเย็นทุกวันคุณลุงก็จะไล่มันกลับไปหาเจ้าของเองนั่นแหละ…

ไม่ว่าใครหากได้เจอกับพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาอย่างดีหลังจากแยกกันอยู่แล้ว ก็ต้องดีใจมากกันทั้งนั้นแหละ แม้แต่ลิงที่มีพ่อแม่เป็นมนุษย์ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน ลูกลิงชิมแปนซี Limbini อาศัยอยู่ใน Zoological Wildlife Foundation ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา มันสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เล็กก็เลยต้องมาอยู่กับมนุษย์     ก่อนหน้าที่จะมาอยู่กับองค์กรนี้ มันเคยอยู่กับ Jorge และ Tania ซึ่งเป็นพ่อแม่บุญธรรมมาก่อน ถึงพวกเขาจะรักมันไม่แพ้ที่มันรักพวกเขา แต่เมื่อมันเริ่มโตแล้วก็ต้องแยกจากกันเพื่อให้ Limbani ไปอยู่ในที่ที่ดูแลมันได้ดีกว่า จนเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2018 นี้ Jorge กับ Tania ก็แอบไปเซอร์ไพรซ์มันถึงบ้านใหม่ พอเจ้าลิงเห็นทั้งคู่มันก็ร้องลั่นด้วยความตื่นเต้นเชียวล่ะ จากนั้นมันก็โดดเข้าไปกอดกับ Jorge และ Tania อย่างมีความสุข ดูแล้วเป็นภาพที่อบอุ่นใจมากเลย   พ่อมาหาแล้ว ดีใจที่ได้เจอแกนะ   มากอดกับแม่บ้างดีกว่า คิดถึงอะ   คลิปวิดีโอ    จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่ในองค์กรก็ดูแลมันดีมากเหมือนกัน แถมมันยังมีเพื่อนสัตว์ตัวอื่นในนั้นด้วย ชีวืตในบ้านใหม่ของมันก็คงมีความสุขพอดู แต่ก็คงไม่รู้สึกผูกพันและรักเท่ากับ Jorge แและ Tania…

เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลกนี้ได้ไม่นาน มิ้วน้อยกับพี่น้องก็กลายเป็นแมวกำพร้าซะแล้ว มีคนไปเจอพวกมันอยู่ตามลำพังโดยไม่มีแม่ ด้วยความสงสารก็เลยช่วยพวกมันเอาไว้ ตอนที่ถูกเจอ เจ้า Domino เพิ่งมีอายุได้แค่ประมาณเดือนเดียว เมื่อเทียบกับพี่น้องตัวอื่นแล้วมันทั้งตัวเล็กแล้วก็ไม่ร่าเริง ก็เลยเป็นตัวเดียวที่จำเป็นต้องพาไปหาสัตวแพทย์โดยด่วน     สาเหตุหลักๆ ที่มันดูอ่อนแอเป็นเพราะอุณหภูมิร่างกายและปริมาณน้ำตาลในตัวต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แต่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว เพราะพอถึงมือสัตวแพทย์เขาก็ช่วยรักษามันจนหายดี อย่างไรก็ตามลูกแมวอ่อนแอแบบนี้ควรมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด สัตวแพทย์ฺก็เลยติดต่อไปหา Alissa Smith หญิงที่ยินดีรับดูแลมิ้วน้อยที่ตกยากทุกเมื่อ มันเลยได้มาอยู่ในบ้านของเธอ     เมื่อมาถึงบ้าน Domino ก็เข้าไปคลอเคลียกับ Alissa ไม่หยุดเลย มันจะร้องเมี๊ยวๆ ทุกครั้งที่ได้อยู่คนเดียว และพยายามวิ่งเข้าไปอยู่ใกล้กับเธอตลอดเวลา ถ้าอยู่คนเดียว Alissa คงต้องดูแลมันทั้งวันจนเหนื่อยแน่ๆ โชคดีที่เธอมีสัตว์เลี้ยงอยู่ด้วย แล้วเจ้าเหมียวก็อยากกอดกับพวกมันเหมือนเธอ หน้าที่อยู่เป็นเพื่อนมิ้วน้อยเลยตกไปอยู่กับ Rocket พี่หมาบูลล์ด็อกใจดี   อยากหาคนกอดมาหาเราก็ได้   ขี้เหงาจังเลยนะแมวน้อย   ตัวเล็กแต่นอนกินที่กว่าพี่หมาอีก   นอกจากจะมีพี่หมา Rocket อยู่เป็นเพื่อนให้ความอุ่นกายอุ่นใจแล้ว ในบ้านของ Alissa ก็ยังมี Poppy แมวเจ้าถิ่นคอยทำหน้าที่เป็นแม่ให้กลายๆ ด้วย   มานี่ เดี๋ยวเราสอนเลียขนให้…

สุนัขไม่เคยทอดทิ้งเจ้านาย เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเห็นเจ้านายลำบาก มันพร้อมจะเสี่ยงอันตรายไปช่วยเสมอ แม้ว่าสุดท้ายมันจะต้องตายก็ตาม เรื่องน่าเศร้านี้เกิดขึ้นในเขต Tamil Nadu ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของชาวนา M Mokkusu และหมา Ramu เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2018 ที่ผ่านมานี้เอง     ตอนนั้นวัวของ Mokkusu กำลังออกไปกินหญ้า แล้วก็ถูกไฟฟ้าจากสายไฟที่ขาดดูดเข้า เขาเห็นแบบนั้นก็พยายามเข้าไปช่วยวัวของตัวเอง แต่ก็ถูกไฟฟ้าดูดไปด้วย Ramu สุนัขที่ Mokkusu เลี้ยงไว้ก็พยายามจะช่วยชีวิตเจ้าของโดยการดึงสายไฟไปให้พ้นตัวเขา ทว่านั่นก็ทำให้มันถูกไฟฟ้าดูดไปด้วยอีกตัวหนึ่ง     ท้ายที่สุดทั้งเจ้าวัว Mokkusu และ Ramu ก็ถูกไฟฟ้าดูดตายไปด้วยกันทั้งหมด แล้วตำรวจก็มาพบร่างไร้วิญญาณของพวกเขาในเวลาต่อมา Senthamilan ญาติของ Mokkusu ให้สัมภาษณ์ว่า “เจ้าหมาตัวนี้อยู่กับครอบครัวมานานเกือบ 7 ปีแล้ว มันก็ทำตัวเป็นฮีโร่ช่วยคนในครอบครัวประจำจนเราชิน มันเคยสู้กับงูหรือไม่ก็หนูตัวโตเพื่อช่วยเราด้วยนะ มันเป็นหมาที่น่ารักและทุ่มเทปกป้องพวกเรา เราเองก็ไว้ใจมันให้ดูแลวัวทั้ง 4 ตัวที่มี”     ถึงมันจะตายไปและช่วยเจ้าของไม่สำเร็จ แต่ก็แสดงให้เราเห็นแล้วว่ามันเป็นห่วงเจ้าของและไม่หวั่นกลัวต่ออันตรายที่ต้องเจอ ถึงจะต้องสละชีวิตเพื่อช่วยเจ้าของไว้มันก็ยอม ที่มา: Unilad

ที่ประเทศบราซิลมีหมาตัวหนึ่งตกลงมาจากตึกสูง 9 ชั้น ด้วยความสูงขนาดนี้มันต้องไม่รอดแน่ๆ ถ้าไม่ได้ชายคนหนึ่งช่วยรับมันเอาไว้ สุดท้ายมันก็เลยปลอดภัย เหตุเกิดขึ้นที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมือง Ribeirao Preto รัฐ Sao Paulo ประเทศบราซิล โดย Augusto คนที่ช่วยเจ้าหมาเอาไว้อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์อีกแห่งซึ่งอยู่ข้างๆ กัน  เขาเห็นว่าเจ้าหมาพันธุ์ชิสุ Mel กำลังจะตกจากตึกข้างๆ เขาก็เลยรีบลงมาด้านล่างเพื่อรับตัวมันเอาไว้ โดยเล่าว่า “ตอนนั้นผมขอผ้าเช็ดตัวหรือไม่ก็ผ้าสักผืนจากคนรอบๆ จะได้เอามาช่วยรับตัวมัน แต่ก็มีเวลาไม่พอจะรอ”     จากนั้นเจ้าหมาก็ตกลงมาจากตึกก่อนจะหาอุปกรณ์มาช่วยมันได้จริงๆ เขาก็เลยยืนอยู่ล่างเพื่อรอรับตัวมัน แต่ถึงเขาจะใช้มือคว้าตัวมันไว้ไม่ได้ เขาก็ใช้ร่างของตัวเองเป็นเบาะรองให้มันได้สำเร็จ มันจึงปลอดภัย เขาเล่าต่อว่า “จากนั้นมันก็ตกมาจากตึก ผมรู้ว่าผมคงจับมันไว้ไม่ได้หรอก แต่ก็คิดว่าพอจะรับแรงกระแทกจากการตกให้มันได้อยู่ ตอนรับตัวมันผมล้มนอนไปกับพื้นหลายวินาทีเลย แต่ก็โล่งใจที่ผมรับมันไว้ได้สำเร็จ … ทุกอย่างเลยจบลงด้วยดี”   กล้องวงจรปิดในอพาร์ตเมนต์ที่เจ้าหมา Mel อยู่จับภาพเอาไว้ได้พอดี    คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยอีกคนหนึ่งก็คือ Paulo Narciso เจ้าของตึกที่เจ้าหมาตกลงมา เขาบอกว่า “ตอนเกิดเรื่องขึ้นผมยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีเลย ผมวิ่งมาเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ให้ชายคนนั้นแล้วไปกับเขา จากนั้นผมก็เพิ่งเห็นว่ามีหมาเกาะอยู่ตรงขอบระเบียง จะตกลงมาจริงๆ ผมเลยวิ่งไปที่ห้องนั้นแต่เจ้าของก็ไม่อยู่ห้อง พอผมกลับลงมาแม่บ้านก็บอกว่าหมาตกลงมาแล้วชายคนนั้นรับตัวมันไว้ได้แล้ว”     โชคดีที่งานนี้ไม่มีใครบาดเจ็บ ทั้ง Augusto และ…

หลายคนน่าจะรู้จัก Simba แมวประจำโรงเรียนมัธยม Westbrook High School ในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว มันเป็นแมวที่ช่วยสร้างความสดใสให้กับนักเรียนและคนในโรงเรียนมานานกว่า 20 ปี … แต่ตอนนี้เหลือไว้แค่ตำนานเท่านั้น     Simba เริ่มเข้ามาอยู่ในโรงเรียน Westbrook High School ตั้งแต่ปี 2000 ตอนนั้นคุณครูวิชาคณิตศาสตร์เจอมัน แล้วมันก็ตามเธอเข้าไปในห้องเรียนจนเธอสอนเสร็จ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันก็อาศัยอยู่ที่โรงเรียน เจ้าแมวชอบมารอต้อนรับนักเรียนที่ประตูทุกเช้าเสมอ ทำให้ทุกคนเริ่มต้นเช้าด้วยความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้เห็นมัน จากนั้นมันก็จะเข้าไปอยู่กับนักเรียนในห้องเรียน หรือไม่ก็ไปอยู่เป็นเพื่อนคุณครูในห้องพักครูด้วย     มันไม่กลัวคนเลยสักนิด เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเดินไปเจอกลุ่มนักเรียนทำการบ้านอยู่ ไม่ว่ามันจะเคยเล่นกับพวกเขามาก่อนหรือไม่ก็ตาม มันก็พร้อมจะโดดเข้าไปให้กำลังใจพวกเขากลางโต๊ะเลยทีเดียว     อีกสิ่งหนึ่งที่มันชอบทำคือการเดินเข้าไปในชั้นเรียน แล้วใช้สมุดของนักเรียนสักคนหนึ่งเป็นหมอนไว้หนุนนอน แล้วมันก็จะอยู่ตรงนั้นเป็นเพื่อนนักเรียนทั้งคาบเลย โดยไม่รบกวนการเรียนการสอนด้วย     นอกจากนี้มันก็ยินดีให้นักเรียนทุกคนกอดเวลาที่พวกเขาอยากได้กำลังใจด้วย มันเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของนักเรียนหลายคน และก็เป็นมาสคอตประจำโรงเรียนที่ทุกคนรัก มันสำคัญกับโรงเรียนแห่งนี้มากจนเมื่อปี 2013 มีนักเรียนใช้มันเป็นแบบในงานโชว์ศิลปะของโรงเรียนด้วยนะ ซึ่งคนในโรงเรียนก็ชอบมากๆ เลยล่ะ     มาให้กำลังใจนักเรียนทุกคนถึงที่เลย   แต่น่าเศร้าที่เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน…

สำหรับ #เหมียวอาตี๋ แล้วไม่ว่าจะได้เจอเรื่องร้ายอะไรมา แค่ได้เห็นคลิปคู่รักเพนกวินจับมือกัน ก็ทำให้ยิ้มออกแล้ว และเราก็คิดว่ามันน่าจะทำให้ทุกคนได้อมยิ้มไปด้วยเหมือนกัน     แม้ว่าคลิปวิดีโอนี้จะมีความยาวเพียงแค่ 47 วินาที แต่มันก็เป็นช่วงเวลาไม่ถึงนาทีที่เต็มไปด้วยความรักบริสุทธิ์ที่เราเห็นได้จากเพนกวินทั้ง 2 ตัว ซึ่งเหมือนกับคู่รักที่มีความมั่นคง ไม่มีนอกใจไปหาใครอื่นแน่นอน   โอ้ยความรักเข้าตา โลกนี้เป็นสีชมพู    เพนกวินมันจริงใจกับคู่รักจริงๆ นะ นอกจากคู่ที่เราได้เห็นในคลิปวิดีโอแล้ว นักวิทยาศาสตร์เองก็ยืนยันว่าเพนกวินนี่แหละเป็นหนึ่งในสัตว์ที่รักเดียวใจเดียวมากที่สุด พวกเขาบอกว่าจากการจับตาดูคู่รักเพนกวินในแถบอเมริกาใต้กว่า 16 ปี แม้ว่าพวกมันจะว่ายน้ำไปคนละทางจนต้องห่างไกลกันกว่า 200,000 ไมล์ (ประมาณ 320,000 กิโลเมตร) แต่ทุกปีพวกมันก็จะกลับมาหาคู่ตัวเดิมทุกครั้งไป     นอกจากนี้นักวิจัยอีกกลุ่มที่ศึกษาชีวิตของเพนกวินในประเทศอาร์เจนติน่านาน 30 ปี ซึ่งพวกมันแต่ละตัวก็แยกย้ายไปตามที่ต่างๆ ทั่วโลกตามฤดูกาล สุดท้ายก็พบว่าเพนกวินแต่ละตัวก็กลับมาหาคู่รักตัวเดิมของตัวเองเหมือนกัน     พอเห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกอิจฉาเพนกวินจังเลยเนอะ เราเองก็อยากมีความรักที่มั่นคงแบบนี้บ้างจัง จะได้เดินจับมือกับแฟนไปจนแก่ไง ที่มา: Lad Bible, STORYTRENDER

ในบ่ายที่อากาศดีเหมาะแก่การนั่งริมสระน้ำแล้วจิบเครื่องดื่มเย็นๆ กับแฟน Mark Hough ไม่คิดเลยว่าจะมีผู้บุกรุกมาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัว แถมยังเป็นหมีอีกต่างหาก … นี่มันในเมืองนะพ่อคู๊ณ! ทว่าการมาเยือนของเจ้าหมีก็ไม่ได้อันรายแต่อย่างใด นอกจากความตื่นตกใจที่เกิดในตอนแรกแล้ว เจ้าหมีก็แค่มานั่งเล่นในอ่างจากุชชี่ของเขา… ดื่มค็อกเทล… และงีบหลับไปเท่านั้น!? Hough กับภรรยาที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ เลยอดยิ้มไปกับความน่ารักและท่าทีสบายๆ ของเจ้าหมีตัวนี้ไม่ได้เลย     Hough เล่าว่า “วันนั้นภรรยาของผมกลับบ้านมาหลังจากเสร็จงาน เธออยากดื่มมาการิต้าสักแก้ว เราก็เลยทำมาการิต้าคนละแล้วแล้วไปนั่งอาบแดดข้างสระน้ำในสวน จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้หักจากบ้านข้างๆ แล้วก็รู้ตัวว่า ‘พระเจ้าช่วย มีหมีบุกสวนบ้านเรา!’ ผมเลยรีบตะโกนบอกภรรยาให้รีบพาหมาเข้าบ้านเพราะพวกมันก็นอนอาบแดดอยู่เหมือนกัน แล้วเราก็แอบอยู่ในบ้านสักพัก” หลังจากเวลาผ่านไประยะหนึ่ง พวกเขาก็แอบออกมาดูบริเวณสระน้ำอีกครั้ง และเห็นเจ้าหมีกำลังโดดเล่นน้ำอย่างสบายอารมณ์ในอ่างจากุชชี่ ซึ่งเป็นภาพแสนน่ารักที่พวกเขาไม่คิดว่าจะได้เห็นเลย ทั้งคู่ก็เลยตัดสินใจแอบดูอยู่ในระยะที่ปลอดภัย และถ่ายคลิปวิดีโอเก็บเอาไว้ด้วย      ดูมันซิ ดำผุดๆ สนุกอะไรขนาดนั้น   พอเล่นน้ำจนเหนื่อยเจ้าหมีก็เดินมาข้างสระแล้วปัดแก้วมาการิต้าที่ Hough วางทิ้งไว้จนหกเต็มโต๊ะ แล้วเลียกินอย่างเอร็ดอร่อย … ส่วนแก้วของภรรยาไม่ได้วางไว้ตรงนั้นด้วยกันหรอก เธอคว้าติดมือไปด้วยตั้งแต่ก่อนเอาตัวหมาเข้าบ้านซะอีก คงหวงมาการิต้ามากจริงๆ     เลียแผล็บๆๆๆ อร่อยใช่ไหมล่ะแก…

เวลาจะหาสัตว์เลี้ยงมาอยู่เป็นเพื่อนคู่ใจสักตัวหนึ่ง ขอให้เพื่อนๆ ศึกษาและดูจนมั่นใจด้วยว่าได้สัตว์ตามที่ต้องการจริงๆ รึเปล่า ไม่อย่างนั้นอาจจะมีปัญหาในการเลี้ยงมันภายหลังได้ ถึงจะรักมันมากก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องของคุณลุง Tao จากประเทศจีน ตอนแรกคุณลุงอยากจะมีเพื่อนขนฟู 4 ขาไว้อยู่ด้วยสักตัวหนึ่ง และสัตว์ที่เขาอยากได้มากที่สุดก็คือหมา     เขาก็เลยไปหาซื้อหมามาจากตลาดใกล้บ้าน และได้หมาตัวน้อยมาตัวหนึ่ง ซึ่งตอนแรกคุณลุงเข้าใจว่ามันคือสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนี่ยน ซึ่งคนขายก็ขายในราคาตั้ง 1,000 หยวน (เกือบ 5,000 บาท) แน่ะ แต่เขาก็ต่อราคาจนลดลงมาได้เหลือแค่ 300 หยวน (ประมาณ 1,500 บาท) ซึ่งก็ลดเยอะจนน่าสงสัยเหมือนกัน     พอคุณลุงเริ่มเลี้ยงหมาตัวนี้ไปได้สักพัก เขาก็เริ่มสังเกตว่ามันไม่เหมือนหมาทั่วไป อย่างแรกเลยก็คือมันไม่เคยเห่าให้เขาได้ยินเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วยิ่งเลี้ยงมันนานเข้า มันก็เริ่มเติบโตจนมีลักษณะคล้ายสัตว์อีกชนิดหนึ่อย่างชัดเจน ณ จุดๆ นี้ Tao ก็เลยต้องยอมรับแล้วว่าสัตว์ที่เขาได้มาไม่ใช่หมา…แต่มันเป็นแรคคูนต่างหาก     ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาก็ไม่ใช่เพราะคุณตาเห็นว่ามันไม่ใช่หมาเลยไม่รักหรอกนะ เขารักมันอยู่แล้วเพราะเลี้ยงมากับมือ แต่ปัญหาก็คือมันเป็นสัตว์ป่าต่างหาก ในประเทศจีนถือว่าแรคคูนไม่ใช่สัตว์เลี้ยง จึงไม่อนุญาตให้เอามาเลี้ยง สุดท้ายคุณลุง Tao เลยจำเป็นต้องส่งตัวมันให้กับกรมป่าไม้เพื่อส่งมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ    …

หมากับแมวดูเผินๆ อาจจะเป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ แต่บางทีพวกมันก็ทะเลาะกันเฉยๆ และบางครั้งพวกมันก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือพวกมันมีความสัมพันธ์ที่หลากหลายกว่าที่เราคิดไว้เยอะ แต่ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหนมันก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับมนุษย์อย่างเราทั้งนั้นแหละ   ยอมให้เจ้าแมวนอนก็ได้ ไม่อยากปลุก   แกอย่ามาแย่งทาสข้านะเฟ้ย   พ่อ … เราเอาตัวนี้กลับไปเลี้ยงได้มะ   งือ มีเพื่อนกอดแล้วอุ่นใจ   เบาๆ สิมนุษย์ เดี๋ยวแมวตื่น   เอ็งอย่าเสียงดังไปนะทาส เดี๋ยวแผนข้าเสียหมด   แน่ะ มีแอบลืมตามาดูด้วยว่าเพื่อนหลับสนิทไหม   เตียงตัวเองก็มี ทำไมไม่ไปนอนฟะ   วันนี้รบกวนหน่อยนะหมา เราขี้เกียจเดินอะ   มองอะไร ไม่เคยเห็นหมากับแมวเล่นมวยปล้ำเหรอ   มนุษย์ดูซิ หมามันเลอะกลับบ้านมาอีกแล้ว   เราแย่งที่นอนหมาบ่อยแล้ว ครั้งนี้จะยอมแบ่งบ้านให้ละกัน   แมวนี่มันแมวจริงๆ   เมื่อไหร่แกจะรู้ตัวสักทีว่ามีลูกคนอื่นมาเนียนกินนมด้วย   มันอยู่ข้างหลังผมใช่ไหม!?   เพื่อนกันต้องรักกันน้า   อ้าวแกไม่ใช่หมาหรอกเหรอ   นอนตรงนี้สบายที่สุดเบย…

เจ้าหน้าที่ของศูนย์พักพิงสัตว์ Humane Society of North Texas ยินดีอ้าแขนรับสัตว์ที่มีคนเอามาปล่อยทุกตัวอยู่แล้ว พวกเขาจึงแปลกใจมากเมื่อมีคนเอาหมามามัดทิ้งไว้ให้หน้าประตูแทนที่จะเอามันมาส่งดีๆ ทันทีที่มีคนมาถึงหน้าศูนย์พักพิง เธอสังเกตเห็นว่ามีหมาตัวหนึ่งทำหน้าเศร้าถูกมัดไว้กับเสาตรงประตู มันไม่มีทั้งปลอกคอหรือจดหมายฝากไว้เลย คงมีคนเอามันมาทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว     เธอก็เลยเดินลงจากรถเพื่อพาตัวมันเข้าไปข้างใน และพอมันได้เห็นเธอ สีหน้าเศร้าๆ ของมันก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแทบจะในทันที แถมยังกระดิกหางแสดงความดีใจที่มีคนมาหาด้วย Cassie Lackey ผู้จัดการของที่นั่นเล่าว่า “พอมีคนเดินเข้าไปหามัน เหมือนกับมันจะบอกว่า ‘โอ้พระเจ้า! มีคนมาที่นี่แล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย’”     พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Betsy มันเป็นหมาที่เป็นมิตรแล้วก็น่ารักที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมา ไม่ว่าได้เจอใครมันก็จะเข้ามากอดแล้วก็จูจุ๊บด้วยไม่ว่าคนคนนั้นจะชอบหรือไม่ก็ตาม พวกเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าของของมันถึงได้เอามันมาทิ้งไว้แบบนี้ ทั้งที่มันก็เป็นมิตรจะตายไป แต่ก็ดีแล้วแหละที่มันมาอยู่กับคนรักหมาอย่างพวกเขา อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องช่วยรักษามันก่อน เพราะเจ้าของเก่าไม่ได้อาบน้ำให้มันนาน ผิวหนังของมันก็เลยติดเชื้อทำให้มันคันยุบยับไปหมด     หลังจากมันมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงได้อาทิตย์เดียว มันก็หายจากโรคผิวหนังแล้ว ทำให้เจ้าหมายิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมอีก ด้วยความที่มันเป็นมิตรมาก คนที่ทำงานที่นั่นก็เลยพามันไปวิ่งเล่นทุกวันเลย พวกเขาชอบเวลาที่ได้มันยิ้มอย่างมีความสุขแล้วก็แกว่งหางไปมาให้พวกเขา     จากนั้นไม่นานทางศูนย์พักพิงก็เริ่มโพสต์หาบ้านให้กับ Betsy ซึ่งหลังจากที่ทุกคนได้เห็นคลิปวิดีโอว่ามันขี้เล่นมากแล้ว ก็ทำให้คนอยากเลี้ยงมันมากมาย และในที่สุดมันก็เลยได้ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ในเวลาไม่นาน เขาเป็นชายแก่ตัวใหญ่ที่ใจดีมาก ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าหมาจะถูกเอาไปทิ้งที่ไหนอีกเหมือนตอนเจอแล้วล่ะ     ที่มา:…

ในฐานะทาสของแมว เราต้องดูแลเจ้านายให้ดีที่สุด อยากให้ลูบก็ลูบ อยากจะกินก็ให้กิน ตามใจมันซะทุกอย่างเพราะอยากให้เจ้านายรักเรา แต่เราอยากให้ทาสระวังเรื่องอาหารการกินของเจ้านายไว้สักนิด เพราะถ้าเราตามใจท่านมากจนเกินไป จากที่เลี้ยงแมวอยู่ดีๆ ทาสอาจจะได้เลี้ยงหมูแทน … เหมือนที่กำลังจะได้เห็นกันนี่แหละ   อ้าวทาสมาพอดีเลย ไปหยิบอะไรมาให้กินหน่อยซิ ขี้เกียจลุก   มองผ่านๆ นึกว่าลูกบอลไหมพรม   อื้อหือ … ใหญ่จนนอนทับรองเท้าทาสมิดเชียวนะ   มองไม่เห็นขาหลังเจ้านายแล้วจ้า   นอนโชว์พุงแบบไม่อายเลย   อ้วนแล้วไง ชีวิตแฮปปี้   แผลบๆ อาทิตย์นี้ขอแซลม่อนด้วยนะทาส   ก็เราตัวโตจนนอนที่นอนเดิมไม่ได้แล้ว ทาสสลับที่กันนอนหน่อยนะ   เหมือนอุ๋งๆ เลย   จะแย่งรีโมทจากมนุษย์ยังไงดี แค่ลุกยังลำบาก   มนุษย์แปรงขนพุงให้หน่อย   ถ้าเห็นหน้ามนุษย์ จะรู้ว่ากำลังหนักมาก   ปีนี้ไม่ต้องปั้นตุ๊กตาหิมะแล้วนะแม่   ดูซิว่าตัวไหนจะกระดึ๊บถึงบ้านก่อน   เอิ่ม … พี่ทำท่ายากทำไมคะ?  …

มิ้วน้อยตัวนี้ไม่เหมือนแมวปกติทั่วไป มันชอบเดินเซไปเซมาจนเห็นแล้วกลัวว่าจะล้มเข้าให้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันน่ารักน้อยกว่าแมวตัวอื่นเลย … บางทีอาจจะน่ารักมากกว่าด้วยนะ     ลูกแมวตัวนี้ชื่อว่า Captain Jack มันเคยอยู่ในศูนย์พักพิง Animal Services in Hamilton ในรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา และทุกคนก็รู้ว่ามันไม่ใช่แมวธรรมดา มันเดินโซเซอยู่เป็นประจำ แถมยังทรงตัวไม่ค่อยอยู่ด้วย พอพาไปตรวจกับสัตว์แพทย์ดูก็เลยรู้ว่ามันเป็นโรค Cerebellar Hypoplasia (CH) ซึ่งเกิดจากสมองส่วนที่ควบคุมการทรงตัวพัมนาไม่ปกตินั่นเอง     ศูนย์พักพิงบอกว่า “แมวที่มีอาการ CH จะเดินเหมือนกับคนเมาเรือเลย ทำให้พวกมันได้รับฉายาว่า ‘เหมือนโซเซ’” ทว่าโรคนี้ไม่ได้ส่งผลต่ออายุขัยของมันเลย Captain Jack สามาถใช้ชีวิตอยู่ได้นานเท่ากับแมวตัวอื่นๆ เพียงแต่อาจจะต้องใช้ความพยายามสักหน่อยเพื่อหาคนที่เข้าใจรับมันไปเลี้ยงแค่นั้นเอง     ถึงแมวพิเศษจะหาคนเลี้ยงยากกว่าปกติ แต่สำหรับ Captain Jack แล้วมันไม่มีปัญหาเรื่องนั้นเลย เพราะทุกคนชอบในความน่ารักของมัน ทุกครั้งที่มีคนมารับเลี้ยงแมว เมื่อผ่านไปที่กรงของ Captain Jack มันจะเอียงหัวให้พวกเขาแล้วยื่นมือมาแตะกระจกกั้นเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งทำให้มนุษย์ที่เห็นตกหลุมรักมันกันทุกราย     คนที่ศูนย์พักพิงเห็นมันน่ารักมากๆ ก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอของมันไปลงไว้ในเฟซบุ๊ก จากนั้นก็มีคนมาดูคลิปของมันแล้วพากันชื่นชมในความน่ารักไม่ขาดปากเลยล่ะ ภายในเวลาแค่วันเดียวเท่านั้น คลิปวิดีโอนี้ก็ทำให้…

หมาน้อยตัวหนึ่งถูกรายล้อมไปด้วยฝูงแร้ง มันกำลังจะยอมแพ้ต่อภัยที่คุกคามเข้ามา แต่รูปเพียงแค่รูปเดียวช่วยเปลี่ยนชีวิตของมันให้ปลอดภัยได้     Lilo หมาพิตบูลล์อายุ 8 เดือนถูกทิ้งให้อยู่ในกล่องพลาสติกซึ่งเป็นบ้านของมัน รอบๆ มักจะมีแร้งวนเวียนอยู่ พวกมันคงรอเวลาที่เจ้าหมาจะยอมแพ้ให้กับชีวิตแล้วรุมจัดการกับเหยื่อตัวนี้ ที่แย่ก็คือ Lilo ไม่ได้เป็นหมาจรจัด มันมีเจ้าของอยู่แล้ว แถมเจ้าของก็รู้ด้วยว่ามันต้องอยู่ในสภาพแบบไหน แต่เขาก็ไม่สนใจจะช่วยมันเลย     จนเมื่อช่างภาพท้องถิ่น Rob Brown ผ่านมาเจอเจ้าหมา เขาก็เลยถ่ายรูป Lilo ที่กำลังถูกแร้งรุมล้อมไว้ แล้วโพสต์มันลงบนโซเชียลมีเดียเพื่อทำให้คนสนใจมันมากขึ้น และแล้วภาพของ Brown ทำให้คนในชุมชนสนใจ Lilo มากขึ้นจริงๆ พวกเขาต่างก็เป็นห่วงว่ามันอาจจะถูกแร้งกิน แม้ว่าเจ้าของของมันจะไม่ทำอะไรเลย แต่ก็มีคนติดต่อไปหาศูนย์พักพิงสัตว์เพื่อให้ไปช่วยมัน     หลังจากศูนย์พักพิงช่วยมันมาจากฝูงแร้ง เจ้าของก็ติดต่อมาว่าต้องการตัวเจ้าหมาคืน ทุกคนรู้ดีว่าการปล่อยมันกลับไปอยู่ในสภาพแบบเดิมนั้นอาจทำให้เจ้าหมาไม่รอด แต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวเจ้าหมาเช่นกัน ทว่าต่อมาเจ้าของกลับไม่มาที่ศูนย์พักพิงเพื่อเอาตัวมันคืนไปเลย ไม่รู้เป็นเพราะเขาไม่สนใจมันหรือขี้เกียจเลี้ยงมันต่อแล้ว แต่นั่นก็ทำให้ Lilo หลุดพ้นจากเจ้าของที่ไม่สนใจดูแลมาได้     ตอนช่วยมามันมีแผลถูกแร้งจิกหลายที่เลย   อย่างไรก็ตาม Lilo ก็ยังไม่พ้นจากปัญหาซะทีเดียว เนื่องจากศูนย์พักพิงมีกฎไม่เปิดให้รับเลี้ยงสุนัขพิตบูลล์ และเมื่อไม่มีใครรับเลี้ยงมันได้ สุดท้ายมันก็จะโดยการุณยฆาตในที่สุด…

ฮั่นแน่ เรารู้นะว่ามีคนใจอ่อนให้กับหมาปั๊กหน้าย่นเหมือนเรา เวลาที่เห็นตาโตๆ กับท่าทางมึนๆ งงๆ ของน้องหมาแล้วจะให้ไม่ใจอ่อนก็คงเกินไป วันนี้มีทาสหมาปั๊กจากทั่วโลก ส่งรูปลูกแสนน่ารักของตัวเองมาแบ่งให้เราได้ดูกันแล้ว รับรองใครชอบหมาปั๊กต้องใจละลาย   ผมคือปั๊ก   ถึงผมจะหน้าย่น แต่ทุกคนก็บอกน่ารัก   ตาของผมนี่แหละดูใสซื่อที่สุดแล้ว   แถมไม่ว่าจะแต่งชุดอะไรก็ดูเข้าไปหมด   แบบนี้ยังได้เลย แฮร่   เพราะแบบนี้มนุษย์ก็เลยตามใจเรา   ทำให้เรามีความสุข อยู่ดีกินดี ฮิฮิ   แถมหมาปั๊กอย่างเรายังมีเหนียงให้จับเล่นด้วย เพลินนะจะบอกให้   เป็นปั๊กไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารัก   เราเป็นหมาอารมณ์ดีด้วยนะ ทุกคนรอบตัวเราก็จะอารมณ์ดี   คงไม่มีใครไม่รักเราหรอกเนอะ?   มองหน้าเราแล้วยิ้มใช่ไหมล่ะ หมาปั๊กเห็นนะ https://www.instagram.com/p/BgrOQ15hXcc/?utm_source=ig_embed   ที่มา: BuzzFeed

ครั้งหนึ่งกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Hope for Paw เคยได้รับข้อความขอให้ช่วยเหลือลูกแมวตัวหนึ่งโดยไม่คาดคิด ข้อความนั้นถูกส่งมาจาก Melany Gomez ซึ่งเป็นหญิงรักแมวคนหนึ่ง ข้อความของเธอบอกว่า “ฉันหวังว่าพวกคุณช่วยป้าของฉันได้ มีลูกแมวตัวหนึ่งติดอยู่ในปล่องไฟบ้านเธอที่เมืองวิตติเออร์ เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ลองไปช่วยแล้วแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เราอยากจะช่วยชีวิตมันก่อนจะสายเกินไป”     เธอยังบอกอีกว่าลูกแมวตัวนี้ติดอยู่ในนั้นมา 3 วันแล้วโดยไม่ได้กินข้าวกินน้ำเลย ด้วยเหตุนี้ Eldad Hagar กับ Loreta ก็เลยรีบเดินทางไปช่วยมัน เมื่อไปถึงบ้านของ Jose และ Jocelyn Pauscal ซึ่งมีแมวติดอยู่แล้ว พวกเขาก็ขออนุญาตปีนขึ้นไปดูบนปล่องไฟเพื่อเจ้าแมวดู แต่ก็มองไม่เห็นอะไรเลย จึงจำเป็นต้องใช้กล้องส่องลงไปดูให้ละเอียดกว่าเดิม จากนั้นก็เลยรู้ว่ามันติดอยู่ในช่องระหว่างกำแพงบ้านและปล่องไฟนี่เอง …     หลัง Eldad กับ Loreta ตรวจสอบดูจนแน่ใจแล้ว ก็คิดว่าจำเป็นต้องพังกำแพงห้องนั่งเล่นที่ติดกับปล่องไฟเพื่อช่วยมันออกมา เจ้าของบ้านทั้ง 2 ก็ตกลงในทันที เพราะสำหรับพวกเขาแล้วการช่วยลูกแมวตัวนี้สำคัญเป็นอันดับแรก … ส่วนค่าซ่อมกำแพงนั้นทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์จะเป็นคนออกให้เอง   Eldad เลือกพังกำแพงตรงนี้เพราะซ่อมได้ง่ายที่สุด   พวกเขาทำรูจนใหญ่มากพอจะเอาตัวลูกแมวออกมาได้สำเร็จ   ได้ตัวมาก็ให้กินน้ำ แล้วพาไปหาสัตวแพทย์เลย   มิ้วน้อยไม่ได้กินอะไรมานานร่างกายก็เลยอ่อนแอ…

คนขับรถบรรทุกก็ทำงานตามปกติเหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา เขาคงไม่คิดหรอกว่าวันนี้จะมีอะไรพิเศษที่แตกต่างไปจากวันอื่น อย่างเช่นการได้พบกับชีวิตน้อยๆ ที่กำลังจะมาอยู่ร่วมกับเขา …     ใจขณะที่ Michael Cabrera คนขับรถบรรทุกของบริษัท Waste Management ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังทำการตรวจสอบรถเป็นครั้งสุดท้ายก่อนกลับบ้าน เขาก็เจอกล่องใบหนึ่งติดอยู่ที่หลังรถ เมื่อเขาเปิดกล่องใบนั้นออกดู ก็เจอกับลูกแมวน้อยตัวหนึ่งที่ยังมีสายสะดือติดอยู่เลย แม้เขาจะไม่รู้ว่ามันมาจากไหนหรืออยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว เขาก็รู้ว่าสิ่งแรกที่ต้องทำคือช่วยมัน     ใกล้ๆ กับบริษัทของเขามีศูนย์พักพิง El Cajon Animal Shelter อยู่พอดี เขาก็เลยพามันไปหาสัตวแพทย์ที่นั่น แล้วให้เขาช่วยดูแลมัน มิ้วน้อยตัวนี้ยังเด็กมากๆ สัตวแพทย์ก็เลยต้องรับตัวมันไว้เพื่อดูแลมันอย่างใกล้ชิด แล้วให้ Michael กลับไปก่อนแล้วปล่อยให้พวกเขาดูแลมิ้วน้อยเอง จนวันหนึ่งคนจากศูนย์พักพิงก็นำรูปของเจ้าเหมียวที่แข็งแรงแล้วมาให้ Michael ดู เขาก็เลยตกหลุมรักมันทันที     ในเมื่อ Michael เป็นคนช่วยมิ้วน้อยตัวนี้เอาไว้ เขาจึงได้รับสิทธิที่จะรับเลี้ยงมิ้วน้อยเป็นคนแรก ซึ่งเขาก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือไปหรอก เขาตั้งชื่อให้มันว่า William เพราะเป็นชื่อที่มีตัวอักษรขึ้นต้นและลงท้ายเป็นชื่อย่อของบริษัทที่เขาทำงานอยู่ จากนั้นเขาก็มีเจ้าแมวมาอยู่ในบ้านด้วย     Michael รู้สึกดีใจมากที่ได้อยู่กับ William มันทำให้บ้านของเขาไม่เงียบเหงา และสร้างรอยยิ้มให้กับเขาได้เสมอเลย เขาบอกว่า “ผมไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ในรถบรรทุกมานานแค่ไหนแล้ว…

สำหรับคนรักหมาที่ไม่ได้เลี้ยงที่บ้าน หรือคนที่ทำงานจนไม่มีเวลาเจอหน้าน้องหมาเลย คงไม่มีเวลาไปเจอน้องหมาทุกวันใช่ไหมล่ะ แบบนั้นคงเงียบเหงาแย่เลย แต่ในเมื่อเรามีมือถือ ปัญหานี้ก็หายห่วง เพราะเราพาน้องหมามาเจอคุณทางหน้าจอให้เรียบร้อยแล้ว อยากจะดูความน่ารักเท่าไหร่ก็ดูกันซ้ำได้จนเบื่อกันไปข้างหนึ่งเลย ป่ะงั้นไปกันเลยดีกว่า น้องหมารอเจอพวกเราอยู่   ถ้าอยากจับกระรอก ต้องทำตัวให้เป็นกระรอกก่อน   เป็นเพื่อนกับผีเสื้อด้วย มุ้งมิ้งอะ   เจ้าโรเบิร์ตทำแบบนี้ทุกครั้งที่หมดเวลาเดินเล่นเลย   เอ่อ… ฉันอธิบายได้นะที่รัก   ถึงมันจะมองไม่เห็นตัวเองในกระจก แต่ผมก็บอกมันเสมอว่ามันหล่อมาก   กว่าจะรู้ว่าถุงเท้าหายไปไหน ก็ต้องรอให้หิมะละลายก่อน   ผมกับเจ้าหมา คนละฟีลกับแฟนกับเจ้าแมวเลย   สกุ๊ปบี้ดูตัวจริงอยู่ที่นี่แล้ว   ฉันคิดไม่ผิดจริงๆ ที่รับเจ้าน่ารักตัวนี้มาเลี้ยง   ฉันแอบติดกล้องไว้ดูเจ้าหมา แต่ฉันว่ามันคงรู้แล้ว   จากหมาน่ารักกลายเป็นหมาหน้าหล่อ ง่อววว   ไม่เศร้านะมนุษย์ เราอยู่นี่แล้ว   หน้าของเจ้าหมาเมื่อถูกแมวหักหลัง   เอ่อ … หมาอะไรทำไมมันเล็กจังว้า   โตแค่ไหนก็จะนอนที่เดิมให้ได้   จะไปนอนตรงนั้นกันทำม๊ายยยยย  …

ตอนแรกหญิงสาวเพียงแค่เห็นเจ้าหมา แล้วจะช่วยพามันกลับไปบ้านเท่านั้น แต่เธอไม่นึกเลยว่าสุดท้ายมันจะได้มาอยู่ที่บ้านของตัวเอง แถมได้อยู่ตลอดไปด้วย ในขณะที่ Andrea Kyle กำลังขับรถกลับบ้าน เธอเห็นหมาข้างถนนตัวหนึ่งใส่เสื้อเดินอยู่ตามลำพัง เลยคิดว่ามันอาจจะหลงแล้วแวะลงไปช่วยมัน แต่จริงๆ แล้วมันไม่มีปลอกคอ มันเป็นหมาจรจัดไร้ขนที่ดูน่าสงสาร เธอเลยอยากช่วยมัน ปกติเธอกับสามีก็รับหมามาดูแลที่บ้านบ้างอยู่แล้ว หลังจากปรึกษากับสามีเสร็จเธอก็เลยพามันกลับไปด้วย     เธอเรียกเจ้าหมาว่า Sweet Pea ถึงมันจะมีอาการระแวงเพราะได้ขึ้นรถมากับคนแปลหน้า แต่เธอก็พยายามปลอบมันให้ใจเย็นลงโดยการร้องเพลงให้ฟังและลูบมันจนสงบลง แล้วพวกเธอก็ไปถึงที่บ้าน หลังจากไปพามันหาสัตวแพทย์แล้ว เขาก็บอกว่ามันเป็นเรื้อนค่อนข้างหนัก มีเห็บหมัด และมีพยาธิอยู่เต็มท้อง กว่าจะรักษาให้หายได้ก็ต้องใช้เวลาหลายอาทิตย์     Kyle กับสามีเลยแยกมันออกจากหมาที่บ้าน โดยการจัดที่นอนให้มันในโรงรถ หมาในบ้านจะได้ไม่ติดเชื้อหรือเห็บหมัดจากมัน ทว่าวันต่อมามันก็เปิดใจให้เธอเต็มที่ แถมยังอ้อนจะเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย พวกเธอก็เลยต้องยอมยกห้องทำงานให้กลายเป็นห้องส่วนตัวของมันชั่วคราว     พอได้เข้ามาอยู่ในบ้านมันก็ดูมากความสุขมาก แถมยังชอบใส่เสื้อของสามีเธอด้วย ท่าทางของมันดูต่างจากสุนัขที่ช่วยมาตอนแรกลิบลับ ทุกครั้งที่เธอเข้ามาหาหรือเอายามาให้มัน หางของมันจะส่ายอย่างรวดเร็วเหมือนกับใบพัดของพัดลม ทำให้เธอรู้ดีว่ามันชอบพวกเธอมากขนาดไหน     หลังจากรักษามันหลายสัปดาห์ มันก็หายจากโรคเรื้อนและพยาธิ ขนสีน้ำตาลทองของมันเริ่มขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เจ้าหมาดูหล่อขึ้นเป็นกอง แถมยังตัวหอมจน Kyle หลงรัก พอหายดีเธอก็เลยพามันออกมาจากห้องได้ คราวนี้มันก็เลยเริ่มตีซี้กับเจ้าหมา Rufus,…

เกือบทั้งชีวิตของเจ้าแมวตัวนี้ต้องดิ้นรนอยู่ข้างถนน แผลบนตัวของมันบ่งบอกว่ามันผ่านอะไรมามากมาย และมันอาจไม่ได้พบความสุขถ้าครั้งนั้นมันไม่เปิดโอกาสให้มนุษย์ช่วย แมวแก่ขนยุ่งตัวนี้เป็นหนึ่งในแมวจรจัดที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่หญิงรักแมว Lindsay คอยดูแล เธอให้อาหารและพาแมวแถบนั้นไปทำหมันและรักษาหลายตัวแล้ว แต่แมวแก่ตัวนี้ไม่เคยให้เธอเข้าใกล้เลย     เธอเคยลองพยายามเข้าไปใกล้มันแล้ว แต่มันก็ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แถมมันยังฉลาดไม่เคยเข้าไปติดในกรงที่วางไว้เลยสักครั้ง จนกระทั่งช่วงหนึ่งเธอเห็นว่ามันป่วยหนักมาก เธอตัดสินใจเด็ดขาดว่าจำเป็นต้องจับมันไปรักษาให้ได้ ตอนนั้นนั่นเองที่มันยอมให้ความร่วมมือกับเธอ โดยยอมเดินเข้าไปในกรงของเธอเอง ราวกับว่ามันขอร้องให้เธอช่วยยังไงยังงั้น     Lindsay ไม่รอช้ารีบพามันไปหาสัตวแพทย์ และพบว่ามันเป็นโรคมากมาย ทั้งเป็นเรื้อน ติดเชื้อที่หู ที่สำคัญก็คือมันเป็นเอดส์แมวด้วย สัตวแพทย์เลยแนะนำให้เธอการุณยฆาตมันดีกว่า มันจะได้พ้นจากความทรมาน ตอนพาไปหาสัตวแพทย์ที่อื่นพวกเขาก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน ทว่าหญิงสาวไม่คิดแบบนั้น เธอมองออกว่าเจ้าแมวยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป และเธอก็จะพยายามช่วยมันให้ถึงที่สุด ก็เลยพามันกลับบ้านไปรักษาต่อ     เธอตั้งชื่อมันว่า Mr. Belvedere หรือเรียกสั้นๆ ว่า Mr. B เธอให้ยารักษามันอยู่ที่บ้านหลายอาทิตย์จนมันเริ่มสุขภาพดีขึ้น แล้วเธอก็สังเกตเห็นว่ามันเริ่มเปิดใจให้เธอมากขึ้น เธอบอกว่า “ไม่รู้ทำไมมันเริ่มเชื่อใจฉัน แถมยอมให้ฉันเอายาให้แล้วก็ทำความสะอาดหูให้ง่ายๆ ด้วย เหมือนกับว่ามันรู้ว่าฉันกำลังช่วยมัน ช่างมหัศจรรย์จริงๆ”   หลังจากเห็นว่ามันไว้ใจ เธอก็ลองเล่นกับมันโดยใช้ช้อนลูบหัวให้   พอเห็นว่ามันมีความสุขที่ถูกลูบ เธอก็เลยลองใช้มือดูบ้าง ซึ่งมันก็ยอมให้จับ…

แมวเป็นเผ่าพันธุ์ที่รึคิดจะยึดโลก มันแย่งชิงตำแหน่งสัตว์ขวัญใจมนุษย์กับเจ้าหมา และพยายามขโมยหัวใจของมนุษย์ให้ตกเป็นทาสมัน คนที่พอจะเทียบเทียมความสูงส่งของมันได้ก็มีแค่เพื่อนแมวเท่านั้น แต่ถ้าหากมันเจอเพื่อนแมวจักรกลที่มนุษย์สร้างขึ้นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น? มันจะรู้ทันมนุษย์ไหมว่านั่นมันแมวปลอม หรือมันจะหลงกลจนรับสปายตัวนี้ไปเป็นพวกด้วยกันแน่ … ต้องไปชมกันเอง     นี่คือเหล่าแมวที่ได้เจอกับหุ่นยนต์ขนปุย   ตอนแรกทุกตัวก็หวาดระแวงสิ่งมีชีวิตคุ้นหน้า แต่ก็ดูประหลาดตัวนี้   พวกมันก็เลยลองพยายามสำรวจเพื่อนใหม่ดู   ตอนนี้แหละที่พวกมันแต่ละตัวมีปฏิกิริยาโต้ตอบแตกต่างกันไป …   บางตัวก็ผวาที่มันตอบโต้กลับมาไม่เหมือนแมวตัวอื่น   หรือถ้าตัวไหนไม่แคร์โลกหน่อย ก็เมินเพื่อนใหม่ซะสนิทเลย   มนุษย์ นี่มันคืออะไรเหรอ เหมือนจะเป็นแมว …. แต่ก็ไม่ใช่?????   คิดไม่ตกเลยวุ้ย ช่างมันละกัน ตูไปเล่นต่อละ   บางตัวก็เข้ากับเพื่อนใหม่ได้ดี   หวัดดี อยากเป็นเพื่อนเราป่าวอะ   ไม่ตอบเหรอ … งั้นเราเป็นเพื่อนกันนะ มากอดๆ   เชิญชมวิดีโอฉบับเต็ม  หืม สรุปพวกมันก็ดูไม่ออกเลยว่านั่นไม่ใช่แมวจริง ฮ่าๆๆๆ ที่มา: Such Wow

โรคมะเร็งเป็นโรคที่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นโรคร้ายที่น่ากลัว เพราะมันคร่าชีวิตคนมานักต่อนักแล้ว แถมยังรักษาได้ยากลำบากอีกด้วย เจ้าหมา Snowy หรือที่เจ้าของเรียกสั้นๆ ว่า Novi ก็ป่วยเป็นมะเร็งเหมือนกัน สุขภาพของมันก็เลยน่าเป็นห่วง ถ้าดูแลไม่ดีก็คงจะอยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร ทว่าชีวิตของมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่หลายคนคิด เจ้าของดูแลสุขภาพให้มันอย่างดี แถมยังไม่หวงมันเกินไปจนไม่ยอมให้วิ่งเล่นด้วย กลับกันเขาพามันไปเที่ยวหลายแห่งเพราะอยากให้มันใช้ชีวิตอย่างเต็มที่แทน มันเลยเป็นหมาป่วยเป็นโรคมะเร็ง ที่ชีวิตดูมีความสุข …   Novi ป่วยเป็นมะเร็งเพราะร่างกายได้รับสารเคมี   แต่เจ้าของก็ดูแลมันดีมาก และพามันไปเที่ยวหลายที่   มันจะได้ใช้ชีวิตที่ไม่รู้จะอยู่ได้นานเท่าไหร่อย่างคุ้มค่าที่สุด   มันได้ไปเที่ยวทุ่งหญ้าสวยๆ   ดูมันจะมีความสุขมากที่ได้ไปเที่ยว   ทะเลทรายก็ไปมาแล้ว   มาดูวิวริมทะเลสาบยามเย็น   ได้เที่ยวเยอะๆ มันสุขใจ   มาเที่ยวในป่ามีที่วิ่งเล่นเยอะแยะเลย   จะมีหมากี่ตัวที่ได้ใช้ชีวิตอิสระแบบนี้   ไซมันต้องคู่กับหิมะ   ปีนต้นไม้เก๊าก็ชอบนะ   ลมริมทะเลก็เย๊นเย็น   อีกอย่างที่มันชอบก็คือได้เจอคนเยอะๆ จะได้ไม่เหงาไงล่ะ   ติดตามเรื่องราวของมันต่อได้ทาง อินสตาแกรม และ เฟซบุ๊ก นะครับ…

ในหน่วยงานของตำรวจ นอกจากเจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์แล้ว หมาตำรวจเองก็ทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาความสงบเหมือนกัน มันจึงคู่ควรที่จะมีบั้นปลายชีวิตอันแสนสุข เจ้าหมา Faust เป็นสุนัขตำรวจที่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง โดยมีคู่หูมนุษย์เป็นตำรวจชาย Bryan Schaffer นายตำรวจไว้ใจคู่หูหมาของเขามาก และก็รักมันที่มันคอยเคียงข้างและปกป้องเขาให้ปลอดภัย     Faust มีความสามารถในการตรวจหาระเบิดได้อย่างแม่นยำ มันเคยได้รางวัลในการแข่งขันสุนัขตำรวจและการแข่งหาระเบิดมาแล้ว หลังจากทำงานมา 8 ปีมันก็เลยมีถ้วยรางวัลเป็นของตัวเองมากมาย แล้วก็ถึงเวลาที่จะได้พักผ่อนจากหน้าที่สักที     ทางกรมตำรวจเองก็มีวิธีบอกลาเจ้าหมาอย่างเป็นทางการที่ดูน่าซึ้งใจมากๆ ปกติแล้ว Faust กับ Schaffer จะขึ้นรถเพื่อไปเริ่มงานด้วยกัน แต่ในครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษที่ต่างออกไป ทันทีที่เขาพาเจ้าหมาขึ้นไปนั่งบนรถ มันก็พร้อมจะเริ่มงานตามปกติ แต่แทนที่วิทยุจะแจ้งงานให้พวกเขา กลับมีข้อความประกาศให้ทราบทั่วกันว่า … “Faust เพิ่งทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สุนัขตรวจหาระเบิดกะสุดท้ายจบ เป็นเวลากว่า 8 ปีกับอีก 1 วันแล้วที่มันทำงานให้กับเรา และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องปลดประจำการไปพักแล้ว ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ Faust ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ดีมาตลอดค่ะ”     Schaffer เองก็บอกว่า “Faust ขอบคุณแกมากที่ช่วยกรมตำรวจของเราและหน่วยงานอื่นมาตลอด แต่ที่สำคัญที่สุดฉันอยากจะขอบคุณนายที่ทำให้เราได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยหลังทำงานทุกวัน”   ไม่ต้องเหนื่อยทำงานต่อแล้วนะ ไปพักได้แล้วล่ะ  …

การได้ออกไปท่องเที่ยวและผจญภัยเป็นสิ่งที่หลายคนโปรดปราน หนึ่งในนั้นก็รวมถึง Amelia Milling นักศึกษาที่ชอบไปปีนเขายามว่างด้วย แต่พึงระวังเอาไว้ว่าการไปปีนเขาหรือเดินป่าคนเดียวนั้นอันตรายมาก เพราะหากเกิดอุบัติเหตุจะไม่มีใครคอยช่วยคุณ ในกรณีของ Amelia ถือว่าเธอโชคดีมากที่มีเพื่อน 4 ขาเข้ามาช่วยไว้       Amelia รักการปืนเขา เธอชอบไปปีนเขาในช่วงวันหยุด และครั้งนี้เธอก็ไปปีนเขาตามลำพังที่ Crow Pass National Historic Trail ในเมืองแอนโชเรจ รัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา     ทว่าเธอไม่เคยชินกับการปีนเขาที่มีหิมะมากนัก ระหว่างทางเธอก็เลยพลาดแล้วไถลตกลงเนินมาไกลกว่า 300 ฟุต (ประมาณ 90 เมตร) แล้วก้นกระแทกเข้ากับหินด้านล่าง ดีที่เธอไม่ได้บาดเจ็บอะไรร้ายแรง ตอนนั้นนั่นเอง เจ้าหมาสีขาวก็วิ่งเข้ามาหาเธอ เธอเล่าว่า “สิ่งแรกที่ฉันคิดคือ ‘เจ้าของของมันอยู่ไหน?’ แล้วฉันก็เห็นปลอกคอมันบอกว่ามันเป็นหมานำทางที่นี่ ฉันเลยรู้ว่ามันมาช่วยฉัน”     หมาไซบีเรียนฮัสกี้สีขาวที่มาช่วยเธอ   จากนั้นเจ้าหมาซึ่งชื่อว่า Nanook ก็ร่วมปีนเขาไปกับเธอด้วย โดยวันแรกที่เธอกางเต็นท์นอน เจ้าหมาก็นอนเฝ้าเธออยู่หน้าเต็นท์ทั้งคืน แล้วเช้าวันที่ 2 พวกเธอก็ปีนเขากันต่อ ระหว่างที่…

การไปเรียนต่างแดนไม่ใช่เรื่องที่จะปรับตัวกันได้ง่ายๆ เลย นอกจากจะต้องเตรียมรับมือกับบรรยากาศแปลกใหม่ในต่างประเทศแล้ว ยังต้องจากครอบครัวที่ตัวเองรักไปอยู่ไกลบ้านด้วย ยิ่งสำหรับลูกชายของ Baja29reallyiam2 จากเว็บไซต์ Imgur แล้ว เขาต้องอยู่ไกลจากหมาที่ตัวเองรักมากทั้งที่เพิ่งได้อยู่ด้วยกันไม่นานนี้เอง ยิ่งทำให้ทำใจลำบากกว่าเดิมมาก     ลูกชายต้องทำตามสัญญาที่ให้กับพ่อ โดยการพาสุนัขไปเดินเล่นวันละ 2 ครั้งทุกวันเป็นเวลา 1 ปีเต็ม เขาถึงจะได้หมาตัวนี้มาเลี้ยง และเขาก็ทำตามสัญญาอย่างเคร่งครัดแม้ว่าจะเหนื่อยมากที่ต้องทำแบบนั้นก็ตาม ดังนั้น Baja29reallyiam2 จึงเข้าใจดีว่าเขาผูกพันกับมันมากขนาดไหน เมื่อลูกชายจากบ้านไปเรียนเธอก็เลยช่วยให้เขาหายคิดถึงเจ้าหมาน้อยลง โดยการส่งรูปมันให้เขาดูทุกวัน   วันแรก …   วันที่ 8 … เอาจมูกชนกันหน่อย   วันที่ 10 … พี่ชายยังไม่กลับมาบ้านอีกเหรอ ไปนานจัง   วันที่ 85 … นอนในตะกร้าผ้าอุ่นๆ นี่แหละสบายที่สุดแล้ว   วันที่ 116 … คุณตาบ่นให้ฟังอีกแล้ว ขี้เกียจฟังจัง   วันที่ 128 … มนุษย์เปิดแอร์เย็นเกินอะ ……

เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2018 มีฝนตกหนักในแถบล่างของรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ซึ่งมันเกือบจะพรากสิ่งสำคัญซึ่งก็คือเจ้าแมวไปจากชีวิตของหญิงสาวแล้ว     Vannah Vercetti กับสามีของเธอก็อาศัยอยู่ในเมือง Weslaco ที่ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน พอน้ำสูงขึ้นพวกเขาก็รีบขึ้นไปบนบ้านเพื่อหลบกระแสน้ำเชี่ยว โดยไม่ลืมที่จะพาแมวแถวนั้นขึ้นไปหลบบนบ้านด้วย ทว่าพวกเธอหา Blanca ซึ่งเป็นแมวจรจัดไม่เจอ เลยไม่ได้พามันขึ้นมาบนบ้านด้วย และน้ำก็สูงขึ้นจนกลับลงไปหามันไม่ได้แล้ว …     พวกเธอไม่รู้ว่ามันอยู่ไหน จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องของมันจากใต้เท้า Vercetti บอกว่า “Blanca คิดว่าจะหลบฝนพ้นโดยการซ่อนอยู่ใต้พื้นบ้าน ฉันพยายามออกไปช่วยมันแล้วแต่ก็ช่วยไม่ได้ ฉันคิดว่าจะเสียมันไปแล้ว” ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ามันอยู่ที่ไหนเพราะได้ยินเสียงร้องของมันตลอดเวลา แต่ Vercetti ก็ไม่รู้จะช่วยมันยังไง เธอทำได้เพียงร้องไห้เพราะเป็นห่วงมัน จนกระทั่งสามีของเธอคิดแผนช่วยมันขึ้นมาได้ เขารีบไปหยิบค้อนมาแล้วทุบลงไปตรงพื้นบริเวณที่ได้ยินเสียงมัน เพื่อเปิดช่องให้มันขึ้นมาบนบ้านได้     พอทำรูที่พื้นได้สำเร็จ Blanca ก็ขึ้นมาบนบ้านได้ แม้ว่าตัวมันจะเปียกปอนแต่ชีวิตของมันก็ปลอดภัยแล้ว Vercetti ดีใจมากที่ช่วยมันเอาไว้ได้ ส่วนเจ้าเหมียวก็คงรู้ดีว่าใครช่วยมันไว้ มันก็เลยตอบแทนเธอด้วยความรัก …     ก่อนหน้านี้ Blanca ไม่ได้สนิทกับคู่รักเลย มันเพียงแค่อาศัยอยู่แถวบ้านของเธอ แต่หลังจากที่ถูกช่วยไว้มันก็ตามติด…

คนที่ได้เห็นเจ้าสิงโตสาวตัวนี้ คงต้องเปลี่ยนความคิดเรื่องความดุร้ายของสิงโตกันหน่อยแล้ว มันขี้อ้อนซะยิ่งกว่าแมวในที่เลี้ยงในบ้านซะอีก สิงโตตัวที่เราพูดถึงอยู่ชื่อว่า Lola มันเป็นสิงโตที่อยู่ใน Taigan Safari Park ซึ่งตั้งอยู่ในคาบสมุทรไครเมีย ที่แห่งนี้มี Oleg Zubkov ชายวัย 50 ปีเป็นคนดูแล เขาโด่งดังไปทั่วโลกในฐานะคนเลี้ยงสิงโตที่รู้ใจสิงโตดีเหมือนอ่านใจได้     ความน่ารักของ Lola เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ Zubkov นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งไปชม Taigan Safari Park โดยที่นี่มีความพิเศษตรงที่ใช้รถเที่ยวชมแบบเปิด ไม่มีการป้องกันจากสัตว์ป่าเหมือนที่อื่น ซึ่ง Zubkov รับประกันเรื่องความปลอดภัยด้วยตัวเขาเอง เมื่อวันรถไปเจอเจ้า Lola กับคู่ของมัน เขาก็หยุดรถแวะทักทาย ตอนนั้นเองสิงโตสาวก็เดินเข้ามาหาชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างหลัง แล้วกอดเขาเหมือนเวลาแมวอ้อนมนุษย์เลย     มันทั้งกอดและจูบเขาอยู่นานเป็นนาที เท่านั้นยังไม่พอมันยังจะเข้าไปเล่นกับเด็กน้อยที่นั่งอยู่ถัดมาอีกเบาะด้วย แต่แม่ของเธอดึงตัวเธอเข้าไปซะก่อน คงจะกลัวลูกเป็นอันตรายนั่นแหละ มันคงยังกอดคนไม่หนำใจพอ ทีนี้มันก็เลยวนไปเล่นกับหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าแทน ซึ่งเธอก็ดูจะรับการกอดจากแมวยักษ์ตัวนี้ไม่ไหวก็เลยลุกหนี มันไม่ยอมออกจากรถจน Zubkov ต้องอุ้มมันออกมาเอง     ยังไม่จบเท่านั้น พอเห็นว่าคนข้างหน้าไม่ยอมเล่นด้วย มันก็วนมาหาชายคนเดิมแล้วอ้อนต่ออีกรอบหนึ่ง ช่างขี้อ้อนเกินสิงโตจริงๆ ส่วนสิงโตตัวผู้คู่ของมันก็นั่งรอ Lola…

แม่แมวและลูกแมว 3 ตัวถูกเอามาทิ้งอยู่นอกอพาร์ทเมนต์ ลูกของมันยังเล็กอยู่เลย คงจะลำบากมากถ้าต้องกลายเป็นแมวข้างถนนตอนนี้ ดีที่มีหญิงคนหนึ่งเห็นใจมันก็เลยเปิดบ้านต้อนรับ เจ้าแมวเห็นแบบนั้นก็ตามเข้าไปอย่างว่าง่าย     แม่แมวสีน้ำตาลตัวนี้เคยแอบเข้าไปอยู่ในอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี มันเข้าไปเพื่อหาที่อบอุ่นไว้คลอดและเลี้ยงลูกน้อย พอเจ้าของอพาร์ทเมนต์รู้ว่ามันกับลูกแอบเข้ามา ก็เลยจับเอาไปปล่อยไว้ข้างนอกตามเดิม ทีนี้แม่แมวก็เลยไม่มีที่จะเลี้ยงลูกซะแล้ว     เป็นโชคดีที่ Ashen อาศัยอยู่แถวนั้นพอดี และเธอก็รักแมวมากพอจะยอมให้มันกับลูกเข้ามาอาศัยด้วย เธอก็เลยพาพวกมันทั้งครอบครัวไปอยู่ในบ้านของตัวเอง แม่แมวเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร มันคงรู้ว่าเธออยากช่วย     ทันทีที่เข้าไปอยู่ในบ้าน มันก็ตรงดิ่งไปนอนอยู่บนกองผ้าที่ Ashen ปูเตรียมไว้ให้ แล้วเริ่มดูแลลูกๆ โดยไม่สนใจสิ่งอื่นใดเลย มันไม่สนใจแม้แต่จะลุกไปกินข้าว Ashen ก็เลยต้องเอาข้าวมานั่งป้อนให้กับมือตัวเอง แม่แมวตัวนี้ก็ยอมกินอย่างง่ายดาย มันไม่มีท่าทีระแวงเธอเหมือนที่แมวจรจัดทั่วไปเป็นเลย     เธอตั้งชื่อแม่แมวว่า Zümrüt ซึ่งแปลว่ามรกต เพราะมันมีดวงตาสีเขียวสวยงามเหมือนกับมรกตเลย เธอคิดว่าชื่อนี้เหมาะกับมันมากๆ จากนั้นมา Ashen ก็ช่วย Zümrüt เลี้ยงลูกแมวอยู่ทุกวัน จากเดิมที่แม่แมวไว้ใจเธออยู่แล้ว ตอนนี้มันก็เลยยิ่งรักเธอมากขึ้นกว่าเดิม     เมื่อเวลาผ่านไปจนลูกแมวโตพอสมควรแล้ว เธอก็ช่วยหาบ้านให้พวกมันแต่ละตัวจนทุกตัวได้มีบ้านอยู่ และเลือกที่จะรับเลี้ยง Zümrüt เอาไว้เอง ซึ่งตัวแม่แมวก็ดูจะชอบที่เธอทำแบบนั้น Ashen…

บรรยากาศในที่ทำงานส่วนใหญ่จะค่อนข้างอึมครึม เพราะต้องจริงจังกับงานที่ทำอยู่ทุกวี่ทุกวัน ใครๆ ก็เข้าใจเรื่องนี้ดี ถ้าเกิดมีคนคอยคลายเครียดให้เราก็คงจะดีไม่น้อย ซึ่งก็คงไม่มีใครทำหน้าที่นี้ได้ดีไปกว่าเจ้าหมาสุดร่าเริงในบ้านเราอีกแล้ว นั่นเป็นที่มาของแฮชแท็ก #TakeYourDogToWorkDay (เอาหมาไปทำงานด้วย) ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมมาก และสัตว์พวกนี้ก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่สดใสให้กับที่ทำงานได้ดีมากจริงๆ … แต่จะได้งานไหมก็อีกเรื่องนะ   แล้ววันนี้จะเอาสมาธิที่ไหนไปทำงานล่ะ?   ถึงทุกวันจะเป็นวันทำงานกับสัตว์อยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมสนุกกับการทำงานน้อยลงสักนิด ลองดูภาพเด็กดีพวกนี้สิ   คุณผู้หญิง อย่าขึ้นเสียงกับหมาสิ เดี๋ยวไม่ช่วยนะ   วันนี้ฉันทำงานที่บ้าน ก็เลยกลายเป็นพาหมามาทำงานด้วยทั้งที่อยู่บ้านอยู่แล้ว มันมีหน้าที่หาสูตรคุกกี้ที่อยากกินแล้วให้แม่ทำให้   เอ้าคุณ มัวแต่จ้องหน้าอยู่ได้ บอกมาสิจะตัดทรงอะไร   วันนี้ที่โรงเรียนมีพนักงานต้อนรับคนใหม่แหละ น่าร๊ากกก arrived at school to find a new receptionist! #TakeYourDogToWorkDay 🐶 pic.twitter.com/MuszDKw1va — hayleycassel (@hayleycassel) June 22, 2018   ตรงนี้ยังไม่เนี๊ยบใช่ไหม เดี๋ยวจะแก้ให้ด่วนเลย  …

วัวเด็กที่อยู่ตามลำพังมักเอาตัวรอดเองไม่ได้ ชาวบ้านก็เลยสงสัยว่าทำไมเจ้าวัวถึงหนีไปอยู่ในป่าได้นาน แล้วต้องแปลกใจเมื่อได้รู้สาเหตุที่แท้จริง     วัวน้อย Bonnie เป็นลูกวัวในฟาร์มมาก่อน จนเมื่อเจ้าของฟาร์มตายไป วัวที่นั่นก็เลยถูกส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์ แต่ก่อนที่จะมีคนพามันขึ้นรถไป วัวน้อยก็ตัดสินใจวิ่งหนีหายเข้าไปในป่า มันหนีไปอยู่ในป่านานหลายเดือนตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างน่าประหลาดใจ ชาวบ้านแถบนั้นมักจะเห็นมันออกมาจากป่าเข้ามาในฟาร์มของตัวเองบ้าง และเมื่อมันเห็นคนก็จะวิ่งหนีเข้าป่าไปตามเดิม     ไม่มีใครรู้เรื่องราวของมันเลย จนกระทั่งนายพรานท้องถิ่นได้ไปเปิดดูกล้องที่ตั้งสังเกตการณ์สัตว์ป่าเอาไว้ และเจอวัวน้อย Bonnie เข้า     อันที่จริงแล้ว Bonnie ไม่ได้อยู่ตามลำพังอย่างที่ชาวบ้านคิด มันอยู่กับครอบครัวกวางป่าครอบครัวหนึ่งซึ่งรับมันมาอยู่ในครอบครัวด้วย พวกมันพาวัวน้อยไปด้วยทุกที่ ทั้งตอนกินข้าว นอนหลับ หรือตอนวิ่งเล่นพวกมันก็ยังอยู่ด้วยกันเสมอ แบบนี้นี่เองมันถึงมีนิสัยเหมือนกวาง พอคนเห็นตัวทีไรก็แว้บหลบเข้าป่าทุกที     ที่แท้มันก็มีครอบครัวกวางป่าดูแลนี่เอง   ที่มันมีชีวิตรอดอยู่ได้ต้องขอบคุณพวกกวางนะ   อย่างไรก็ตามชีวิตในป่าแบบกวางไม่เหมาะกับวัวอย่าง Bonnie เลย สัตว์ฟาร์มอย่างมันไม่สามารถทนกับภัยและสภาพอากาศเหน็บหนาวในป่าได้เหมือนกวางหรอก ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้ดี เพื่อนบ้าน Becky ที่อยู่ใกล้เคียงก็เลยพยายามช่วยให้มันผ่านหน้าหนาวไปได้อย่างปลอดภัย ตั้งแต่เธอรู้ว่ามันอยู่ตรงไหน เธอก็เอาอาหาร น้ำ และหญ้าฟางขนใส่รถเข็นเข้าไปบริเวณนั้นทุกวัน เพื่อทำที่นอนอุ่นๆ และเอาอาหารวางไว้ให้…

คู่รักคู่หนึ่งเริ่มต้นเลี้ยงหมาชิวาว่าเพียงแค่ 2 ตัว พวกเขาไม่ได้พามันไปทำหมันตั้งแต่แรก 4 ปีผ่านไปพวกมันก็เลยขยายพันธุ์จนมีจำนวนมากซะจนควบคุมไม่ได้ ตำรวจไปเจอกองทัพหมาที่บ้านหลังนี้ตอนที่ไปตรวจสอบบ้านหลังจากหญิงที่เป็นเจ้าของพวกมันตาย พวกเขาเพียงแค่ทำการตรวจสอบประกอบคดีเฉยๆ ก็เลยตกใจมากที่เจอหมาเยอะขนาดนี้     เมื่อไม่แน่ใจว่าควรจะจัดการยังไงกับหมาที่เห็นกว่า 30 ตัวดี พวกเขาก็เลยติดต่อขอควมช่วยเหลือจาก RSPCA เพราะน่าจะรับมือได้ดีกว่า ในตอนนั้นเจ้าหน้าที่ของ RSPCA ไม่มีใครว่างเลย พวกเขาเลยรับเรื่องไว้แล้วจัดการกับสัตว์ตัวอื่นก่อน จนกระทั่งตำรวจติดต่อเข้ามาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลมากกว่าเดิม ว่าเรื่องมันคงจะใหญ่กว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก     เมื่อเจ้าหน้าที่ของ RSPCA ไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พวกเขาก็เข้าใจความกังวลของตำรวจทันทีเลย จากตอนแรกที่คิดว่ามีหมาในบ้านประมาณ 30 ตัว ตอนนี้มันมีเยอะกว่าที่เห็นมากแล้ว นอกจากนี้ยิ่งพวกเขาช่วยเอาตัวเจ้าหมาออกไปมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีหมาผุดเพิ่มออกมาจากทุกซอกทุกมุมของบ้านมากขึ้น เหมือนกับมีคนเปิดวาร์ปทิ้งไว้ในบ้านเลย     Herchy Boal เจ้าหน้าที่ RSPCA เล่าว่า “พวกมันโผล่มาจากทุกแห่งหนจริงๆ นะ แค่เรายกเครื่องซักผ้าออกดู ก็เจอหมา 6 ตัวออกมาจ้องหน้า แล้วยังมีที่อื่นๆ ที่คาดไม่ถึงอีก เหมือนกับว่าบ้านหลังนี้เกิดแผ่นดินไหวจนทุกอย่างเละเทะไม่เป็นธรรมชาติไปหมดเลย มันสกปรกและวุ่นวายมาก” หลังจากใช้เวลาช่วยหมาออกมาจากที่นั่นอยู่นาน สุดท้ายแล้วเจ้าหน้าที่ก็สรุปได้ว่าที่นั่นมีหมาชิวาว่ามากถึง 82…

หมูแทบทุกตัวที่ถูกเลี้ยงมาเป็นอาหาร มักจะมีจุดจบรออยู่ที่โรงฆ่าสัตว์ แต่ในจำนวนนั้นก็มีเจ้าหมูตัวหนึ่งที่หนีพ้นจากความตายจนมาเจอกับชีวิตดีๆ ได้ เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์เจอหมูน้อย Marge อยู่กลางถนนตอนมันอายุแค่สัปดาห์เดียว มันคงหล่นลงมาจากรถขนหมู หรือไม่ก็หนีออกมาได้เองถึงได้มาอยู่ตรงนี้ ทว่าการลงจากรถที่วิ่งด้วยความเร็วทำให้คางของมันแตก และมีแผลถลอกรอบตัว เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์คงจะเอามันไปการุณยฆาตแล้ว ถ้าไม่ได้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Iowa Farm Sanctuary ช่วยเอาไว้     ถึงตอนนั้นศูนย์พักพิงของ Iowa Farm Sanctuary จะไม่มีที่ว่างเหลือเลย แต่ Shawn Camp ผู้ก่อตั้งองค์กรก็ไม่คิดจะทิ้งให้มันตาย เธอยอมให้มันมาพักอยู่ที่บ้านของตัวเองแทนจนกว่าจะมีคนรับมันไปเลี้ยง ตอนนั้นเธอยอมเปิดบ้านให้คนที่ไม่รู้จักพา Marge เข้าไปไว้ในบ้านเองเลย เพราะวันนั้นเธอกับสามีต้องพาสัตว์ตัวอื่นไปหาหมอ กว่าจะกลับก็ดึกแล้ว     Camp เตรียมของทุกสิ่งทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับเจ้าหมูไว้แล้ว ทั้งเตรียมน้ำกับอาหารไว้ให้ จัดที่นอนนุ่มสบายให้มัน แล้วก็มีตุ๊กตาให้มันนอนกอดเผื่อเหงาด้วย พอเธอกลับมาเธอก็เลยเจอ Marge นอนกอดตุ๊กตาหมูเพื่อนรักตัวใหม่กลมเชียว มันดูสบายใจที่มีคนให้กอดอยู่ข้างๆ หลังจากที่อยู่ตัวคนเดียวมา มันไม่ได้กินข้าวหรือน้ำที่เตรียมไว้เลย เอาแต่นอนกอดตุ๊กตาเฉยๆ ในตอนนั้นมันคงต้องการกำลังใจมากกว่าอาหาร และตุ๊กตาที่เธอเตรียมไว้ให้ก็มอบกำลังใจให้มันได้เป็นอย่างดี     ต่อมากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Spring Farm Sanctuary ก็ติดต่อมาหาเธอเพื่อขอรับ Marge ไปเลี้ยง พวกเขามีพื้นที่กว้างขวางให้มันวิ่งเล่น มีเพื่อนสัตว์ตัวอื่นๆ…

นาย Allen Pursley กับแฟนหนุ่มอาศัยอยู่ด้วยกันในเมืองลิวอิสวิลล์ รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ครอบครัวของพวกเขาสมบูรณ์ดีแล้ว เพราะนอกจากจะมีคนรู้ใจ ก็ยังมีหมา 2 ตัวและแมวอีกตัวอยู่ด้วย     พวกเขาไม่ได้อยากได้สัตว์เลี้ยงเพิ่มเลย แต่โชคชะตาก็พาพวกเขาไปเจอกับเจ้ากระรอกเมื่อมีคนเจอลูกกระรอกตัวหนึ่งตกอยู่ที่พื้น แล้วก็พาไปหาสัตวแพทย์เพื่อช่วยชีวิตมัน ลูกกระรอกอายุยังน้อยมาก มันยังไม่ลืมตาเลยด้วยซ้ำ จึงต้องมีคนป้อนอาหารให้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คนในคลินิกต้องผลัดเวรกันดูแลมัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแฟนของ Allen     เมื่อถึงเวรเขาเอามันกลับมาดูแลที่บ้าน Allen ก็ได้เจอกับเจ้ากระรอกแล้วช่วยแฟนดูแลมัน แม้เขาจะไม่มีประสบการณ์หรือความรู้เกี่ยวกับกระรอกเลย แต่เขาก็เรียนรู้ที่จะดูแลมันได้อย่างรวดเร็ว จากนั้น Allen ก็เลยอาสาจะดูแลมันให้ เพราะเขาทำงานอยู่ที่บ้านจึงมีเวลาเหลือเฟือที่จะดูแลมัน แล้วก็จะได้เป็นการช่วยคนในคลินิกด้วย     ถึงเขาจะไม่ได้ดูแลอะไรมันมากนอกจากป้อนอาหารให้มัน แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นเขาก็ยังไม่ได้คิดจะเลี้ยงมันเลย แค่ไม่อยากให้มันตายเท่านั้น ผ่านไปหลายสัปดาห์ เจ้ากระรอกตัวน้อยก็ลืมตาได้เป็นครั้งแรก และคนแรกที่มันเห็นก็คือ Allen เขามีท่าทีที่อ่อนโยนกับมัน แล้วก็เป็นคนที่ดูแลมันมาตลอด มันก็เลยไว้ใจเขาแล้วไม่กลัวเลยสักนิด     เขาดูแลมันตลอดทั้งวันเลยล่ะ   ในเมื่ออยู่ด้วยกันมาสักพักหนึ่งแล้ว ในที่สุด Allen ก็ตัดสินใจว่ามันควรจะมีชื่อเรียกสักที…

ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเที่ยว แล้วยังมีใจรักสุนัขด้วย เรามีสถานที่ที่หนึ่งมาแนะนำให้รู้จัก เผื่อว่าสักวันหนึ่งคุณจะได้มีโอกาสไปเยี่ยมหาดแห่งนี้ หาดที่ว่านี้ก็คือชายหาด Grace Bay Beach แห่งเกาะ Turks & Caicos ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของประเทศอังกฤษ มันมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม น้ำทะเลสีฟ้าใส และเป็นที่ตั้งขององค์กรช่วยเหลือหมา Potcake Place     Potcake Place เป็นองค์กรณ์การกุศลที่ตั้งขึ้นโดย Jane Parker Rauw เมื่อปี 2005 โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัดในเกาะและหาบ้านให้พวกมันโดยเฉพาะ Rauw เริ่มช่วยเหลือหมาจรจัดตั้งแต่ก่อนเริ่มก่อตั้งองค์กรแล้ว เธอย้ายมาอยู่บนเกาะนี้ในปี 1997 และเห็นว่าที่นี่มีสุนัขจรจัดเยอะมากจริงๆ เธอเลยอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกมัน     องค์กรช่วยเหลือสุนัขแห่งนี้มีอาสาสมัครช่วยกันดูแล โดยพวกเขาจะช่วยกันแบ่งสุนัขไปรับดูแลที่บ้านของตัวเอง ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุนัขทั้งหมดองค์กรตะเป็นคนออกให้ พอพวกมันพร้อมดีแล้วจึงเริ่มประกาศหาบ้านให้พวกมัน     หากคุณได้ไปเที่ยวที่นี่ คุณสามารถไปที่ Potcake Place เพื่อขอพาสุนัขไปเดินเล่นในตอนเช้าได้ด้วย แล้วองค์กรก็จะให้ถุงที่ใส่ของเล่นน้องหมา อาหาร ถุงเก็บอึ๊มาให้คุณฟรีๆ เป็นค่าพาพวกมันไปเดินเล่นด้วยแหละ การพาพวกมันไปเดินเล่นนอกจากจะเป็นการผ่อนคลายสำหรับคนรักสุนัขแล้ว เจ้าหมาก็จะได้ทำความคุ้นชินกับคนแปลกหน้าด้วย ถือเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวคุณเองและทางองค์กร     โปรแกรมพาน้องหมาไปเดินเล่นได้รับความนิยมมากๆ เลยนะ…

ในขณะที่คนส่งของกำลังเอาของลงไปส่งไว้หน้าบ้าน เจ้าหมาแสนซน 2 ตัวก็แอบขึ้นไปกินข้าวมื้อกลางวันของเธอบนรถ แต่แทนที่เธอจะโกรธพวกมัน เธอกลับเป็นห่วงว่าพวกมันจะท้องเสียรึเปล่า แสนดีขนาดนี้ต้องตอบแทนซะแล้ว Carol Jordan เป็นเจ้าของของเจ้าหมาใหญ่สีดำ Bear และ Bull พวกมันซนมากจนบางครั้งก็สร้างปัญหาโดยไม่ได้ตั้งใจ และเจ้าของก็จะใจอ่อนยกโทษให้ลูกรัก 2 ตัวนี้แบบเสียไม่ได้     แต่ครั้งนี้พวกมันไม่ได้สร้างปัญหาให้กับ Jordan เท่านั้น มันสร้างความป่วนจนเดือดร้อนไปถึงคนส่งของที่มาส่งให้บ้านเธอประจำด้วย วันหนึ่งคนส่งของก็แวะเอาของมาส่งให้ตามปกติ โดยที่เธอจะเปิดประตูรถทิ้งไว้แล้วยกของลงมาวางไว้ให้ แต่ระหว่างที่เธอยกของนั่นเอง Bull กับ Bear ก็วิ่งสวนขึ้นไปในรถ แล้วกินข้าวกลางวันของเธอไป เธอเลยเขียนจดหมายทิ้งไว้พร้อมกับพัสดุว่า “สวัสดี! ฉันขับรถมาส่งของให้คุณ แล้วหมาทั้ง 2 ตัวก็ขึ้นไปบนรถบรรทุกของฉัน พวกมันกินข้าวกลางวันฉันไปซึ่งก็คือไข่ แครอทกับเมล็ดฟักทองด้วย ฉันแค่อยากให้คุณรู้ไว้ เพราะไม่รู้ว่าพวกมันจะท้องเสียรึเปล่า”     Jordan แปลกใจมากที่คนส่งของไม่มีท่าทีโกรธเลย เธอบอกว่า “เธอใจดีมากที่ทิ้งโน้ตไว้ให้เรา แถมยังเป็นห่วงเจ้าหมาตัวต้นเหตุอีกต่างหาก เราเลยจะตอบแทนน้ำใจเธอด้วยการส่งการ์ดของขวัญจากเจ้าหมาเพื่อไถ่โทษที่มันกินข้าวกลางวันเธอ”   จดหมายขอบคุณ + เราขอโทษด้วยน้า   ด้านในโน้ตที่เธอส่งตอบกลับไปเขียนไว้ว่า “ขอโทษด้วยนะฮะที่พวกเรากินข้าวกลางวันคุณไป ขอบคุณที่แบ่งให้เราชิมนะ… ปล.มนุษย์ของเราฝากบอกว่า…

แมวเหมียวสีดำตัวนี้อยู่ในศูนย์พักพิงมากว่าครึ่งปี แต่มันก็ยังไม่มีใครมาพาไปอยู่บ้านด้วยสักที จนมันเจอมนุษย์ที่มันถูกใจ มันเลยเข้าไปอ้อนด้วยตัวเองหวังจะได้ไปอยู่บ้านด้วยกัน     แมวดำ Mikita เป็นแมวจรจัดที่มีคนช่วยมาจากข้างถนนของเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นมิตรกับมนุษย์มาก จนพวกเขาตัดสินใจหาบ้านให้มันแทนที่จะพามันไปปล่อยไว้ตามเดิม ทว่ามันอยู่ในศูนย์พักพิงของ Harmony House for Cats นานถึง 6 เดือนโดยที่ไม่มีใครรับมันไปเลี้ยงเลย หรือไม่ก็คงยังไม่ถึงเวลาที่มันจะได้เจอทาสที่คู่ควร     จนเมื่อคู่รัก Andrea กับ Rich Williams เข้ามาหารับเลี้ยงแมวที่นั่น เมื่อพวกเขาเดินเข้ามา เจ้า Mikita ก็รู้สึกถูกใจมนุษย์คู่นี้มาก เจ้าแมวก็เลยเดินเข้าไปหา Rich ที่นั่งอยู่บนโซฟา แล้วโดดขึ้นไปนั่งอยู่บนตักเขาอย่างสบายใจ แถมยังเอาหัวถูๆ ไถๆ เป็นการอ้อนพอประมาณด้วย     ร้ายเหมือนกันนะ โดดขึ้นไปอ้อนคนเองเลย   แน่นอนว่าทาสแมวเจอไม้นี้เข้าไปก็ไม่รอดกันสักราย คู่รักตัดสินใจรับเจ้าแมวไปเลี้ยงวันนั้นเลย Andrea เล่าว่า “มันดูจะชอบ Rich มากจริงๆ เราเลยรู้ว่าต้องรับเลี้ยงเจ้าตัวนี้นี่แหละ” นั่นทำให้เจ้าเหมียวได้ออกจากศูนย์พักพิงไปอยู่บ้านสักทีหลังจากที่ต้องอยู่ในนี้มานาน     Mikita เป็นแมวที่เป็นมิตรอยู่แล้ว พอได้มาอยู่บ้านกับคู่รักมันก็เลยปรับตัวได้ไม่ยาก ไม่นานก็ชินกับทุกซอกทุกมุมในบ้านเหมือนกับได้อยู่มานาน…

พ่อของชายหนุ่มเป็นคนไม่พิศวาสสัตว์เลยสักนิด ดังนั้นเมื่อเขาอยากเลี้ยงหมาพ่อก็เลยไม่เห็นด้วย แต่ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป รวมทั้งความไม่ชอบสุนัขของพ่อด้วย Carleto หนุ่มจากประเทศบราซิลเคยบอกกับครอบครัวไว้ว่า เขาอยากจะรับหมาจากศูนย์พักพิงมาเลี้ยงสักตัว แต่พ่อของเขาก็บอกชัดเจนเลยว่า “ฉันไม่อยากให้มีสุนัขในบ้าน” ซึ่งก็เป็นไปตามที่หนุ่มคาดไว้     เขาเลยหันไปอ้อนแม่แทน โดยการพาเธอไปเจอเจ้าหมาที่เขาอยากเลี้ยงก่อน เมื่อเธอได้เห็นมันเธอก็เลยอยากเลี้ยงมันขึ้นมาเหมือนกับเขาเลย ในเมื่อตอนนี้มี 2 เสียงในบ้านแล้วที่อยากเลี้ยงหมา คุณพ่อก็เลยต้องยอมเลี้ยงแบบเลยตามเลยด้วย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เจ้าหมา Pitoco กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว     ยังไงก็ตามถึงคุณพ่อจะยอมให้มันอยู่บ้านด้วย เขาก็ไม่สนใจมันเลยเพราะไม่ได้อยากจะเลี้ยงตั้งแต่แรก แต่การอยู่บ้านเดียวกันทุกวันมันย่อมส่งผลกระทบต่อความรักหมาของคุณพ่อแน่นอน เมื่อเวลาผ่านไป Carleto เริ่มสังเกตว่าพ่อของเขาเปิดใจให้กับเจ้า Pitoco มากขึ้น เขาบอกว่า “ทุกครั้งที่พ่อกลับมาจากงานที่เครียด เขาจะถูกเจ้าหมาดึงความสนใจจนลืมความเครียดไปหมด”     เขาเล่าต่อว่า “มีอยู่วันหนึ่งผมกลับมาถึงบ้าน แล้วเห็นพ่อกับ Pitoco อยู่ด้วยกันในสวนหน้าบ้าน พวกเขาเล่นด้วยกัน แล้วเขาก็วิ่งเล่นกับมันด้วย ผมแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้” หลังจากผ่านไป 3 เดือน พ่อที่เคยไม่ชอบสุนัขก็ตกหลุมรักกับเจ้า Pitoco ซะแล้ว แถมยังสนิทกันถึงขั้นทำเสื้อคู่เป็นหน้าของกันและกันใส่ด้วย   สนิทกันเร็วเกินไปแล้วคุณพ่อ!!   จากเดิมที่ Carleto…

ฉันทำใจทิ้งมันไว้ตัวเดียวไม่ได้หรอก … Samantha St John สาวทาสแมวที่เพิ่งเสียแมวสุดรักไปด้วยวัย 13 ปี เธอเลยมองหาแมวตัวใหม่ที่จะมาเติมชีวิตชีวาให้กับบ้าน คนรู้จักของเธอก็เลยบอกว่ามีลูกแมวเกิดใหม่ 2 ตัว ซึ่งเธอก็ตกลงรับพวกมันไว้ทันที เพราะนอกจากจะมีแมวอยู่ด้วยแล้ว ยังได้ช่วยให้พวกมันมีบ้านอยู่ด้วย     แต่เมื่อเธอไปรับลูกแมวมาเลี้ยง ก็ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วพวกมันเป็นพี่น้องแมวสีขาว 2 ตัวและสีดำ 1 ตัว ถ้าเธอรับเลี้ยงแค่ 2 ตัวอีกคัวหนึ่งก็จะถูกทิ้งไว้ตามลำพัง เธอบอกว่า “ฉันทำใจทิ้งมันไว้ตัวเดียวไม่ได้หรอก” จากนั้นก็รับพวกมันทั้งหมดไปเลี้ยงไว้ที่บ้านของตัวเอง     ด้วยความที่พวกมันยังเด็กอยู่ แถมยังไม่มีแม่แมวดูแล เธอก็เลยต้องป้อนนมขวดให้มันจนกว่ามันจะโตพอกินอาหารได้ แต่นั่นก็ไม่เป็นภาระสำหรับเธอเลย เธอป้อนนมพวกมันด้วยความเต็มใจ จนลูกแมวทุกตัวแข็งแรง เธอตั้งชื่อแมวสีขาวว่า Ella กับ Daisy ส่วนตัวสีดำชื่อว่า Simon พวกมันทั้ง 3 ตัวรักกันดีมาก ยิ่งนับวันพวกมันก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาไปไหนก็จะไปด้วยกันทั้งก๊วนเลย   เป็นพี่น้องกันก็ต้องรักกัน   ตอนนอนก็กอดกัน   ตอนเล่นซนก็ไปด้วยกัน ไม่มีทิ้งกันแน่นอน   Samantha…

ไม่นานมานี้หมา Ellie ยังมีบ้านอยู่ และมีครอบครัวให้กลับไปหา แต่จู่ๆ มันก็ถูกเอามาปล่อยไว้ให้ศูนย์พักพิงดูแล ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหลือคนรัก มันเอาแต่กอดตุ๊กตาหมีตัวโปรดตัวเดียวที่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจขึ้นได้ ตอนที่ครอบครัวของเจ้าหมารับมันไปเลี้ยง พวกเขาทั้งพามันไปหาสัตวแพทย์ ทำหมันให้ ฉีดยาให้ แล้วก็ฝังไมโครชิปด้วย พวกเขาดูรักมันดี ก็เลยไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เลี้ยงมันต่อ     อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Ellie จำเป็นต้องอยู่ในศูนย์พักพิงแล้ว มันไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่ต้องถูกขังอยู่ในกรง มันกลัวทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว แต่ยังดีที่เจ้าของเก่าให้ตุ๊กตาหมีตัวโปรดติดมากับมันด้วย มันเลยมีที่พึ่งทางใจอยู่บ้าง แต่ถ้าปล่อยไว้ในศูนย์พักพิงนานๆ ก็มีโอกาสที่มันจะถูกการุณยฆาตได้ เนื่องจากหมาขี้กลัวอย่างมันก็ไม่มีคนรับไปเลี้ยงมากนัก ดูแล้วน่าเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน     เจ้าหมาจะกอดตุ๊กตาหมีไว้เสมอ ไม่อย่างนั้นมันก็จะขดตัวกลมด้วยความกลัว   ยังไงก็ตาม Ellie ก็โชคดีที่ไม่ต้องใช้ชีวิตที่เหลือในศูนย์พักพิง มันมีพ่อใหม่ที่ไม่เคยเห็นหน้ากันเลยด้วยซ้ำรับไปเลี้ยง ทำให้มันมีบ้านอยู่อีกครั้งหนึ่ง เรื่องเริ่มต้นจากหญิงที่ชอบช่วยหมา Jennifer Jessup พี่ชายของเธออยากเลี้ยงหมาพันธุ์บลูเลซี่ ก็เลยให้เธอติดต่อถามกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ที่รู้จักให้ แล้วก็เลยได้มาเจอกับเจ้า Ellie ที่อยู่ไกลกันคนละรัฐเลย     แม้จะไม่เคยได้เห็นหน้ากัน เขาก็รับปากจะช่วยมันออกมาจากที่นั่น แล้วออกค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกาย ทำเอกสาร รวมทั้งค่าขนส่งให้มันเดินทางจากรัฐเท็กซัส มาถึงบ้านของเขาในรัฐฟลอริด้าอย่างปลอดภัยด้วย แน่นอนว่าตุ๊กตาหมีเพื่อนรักก็มาบ้านใหม่ด้วยเหมือนกัน หนุ่มเจ้าของใหม่เอาใจใส่เจ้าหมาทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้มันสบายใจที่สุดที่ได้มาอยู่กับเขา  …

ช่วงเวลาที่เราเห็นสัตว์แสนรักที่บ้านกำลังจะได้เป็นคุณแม่ ส่วนใหญ่เราก็จะนึกถึงช่วงเวลาที่คุณแม่กับลูกๆ จะได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างน่ารักน่าชัง เป็นภาพครอบครัวที่มีความสุขทุกเวลา ทว่าคุณอาจจะไม่เคยเห็นมุมที่พวกมันต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเลี้ยงดูลูก จนบางครั้งก็เหนื่อยมากจนอยากพักเหลือเกิน แต่จะพักก็ไม่ได้เพราะลูกไม่มีใครดูแล!! พอได้เห็นมุมแบบนี้แล้ว ทำให้เรารู้สึกว่าการเป็นแม่มันก็เหนื่อยกว่าที่คิดนะเนี่ย …   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าง่วง แต่ความอิ่มท้องของลูกต้องมาก่อน   ดูแลลูกเป็นพัลวัน มือจะกลายเป็นหนวดหมึกอยู่แล้ว   ลูกดูดนมนาน งั้นนอนท่านี้เลยแล้วกัน สบายดี   บางครั้งไม่ต้องเป็นลูกในไส้ เราก็รักพวกมันเหมือนกัน   ถึงจะมาขอไออุ่นชั่วคราว คนเป็นแม่ก็ยินดีมอบให้   ต้องคอยอธิบายกับคนอื่นว่าลูกตัวนี้ไม่ใช่ลูกติด มันได้สีพ่อมาตัวเดียว   กว่าจะให้นมลูกหมด คุณแม่ก็ไม่มีแรงแล้ว   ถ้าเธอไม่มีแม่ เราจะช่วยดูแลให้   นอกจากจะต้องดูแลลูกแล้ว ก็ต้องไม่ลืมเอาใจคุณพ่อด้วย   ไปๆ มาๆ ก็เหนื่อยกันทั้งพ่อทั้งแม่เลย   มีลูกทีเหมือนมีเงาตามตัว เกาะไม่ปล่อยเลย   เป็นหมาก็รับเลี้ยงเป็ดได้   ไม่แปลกหรอก ขนาดแมวยังมีลูกเป็นเม่นเลย   เป็นสัตว์ปีกเหมือนกัน หยวนๆ ให้นะ  …

การรับดูแลลูกแมวจรจัดเป็นสิ่งที่คนรักแมวยินดีจะทำ แต่บางครั้งมันก็สร้างปัญหาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ถึงเวลาต้องบอกลาพวกมัน บ้านของสาวน้อย Bela อายุ 7 ขวบและคุณแม่ Stephanie Pabon มักจะมีแมวน้อยอยู่ด้วยเป็นประจำ เพราะแม่ของเธอและตัวเธอเองรักแมว ก็เลยรับลูกแมวมาดูแลจนมันโต แล้วส่งตัวมันคืนเพื่อไปอยู่บ้านของคนที่มารับเลี้ยง   น้อง Bela เด็กหญิงทาสแมว   พวกเธอรับดูแลลูกแมวมาหลายครั้งแล้ว จนครั้งนี้ที่มีมิ้วน้อย Helen เข้ามาในบ้าน แม้ Helen จะไม่ต่างจากลูกแมวที่เคยรับดูแลมาก่อน แต่ Bela กลับรู้สึกผูกพันกับลูกแมวตัวนี้เป็นพิเศษ พวกเธอดูแลลูกแมวครอกนี้อยู่นาน 2 เดือนครึ่ง จนพวกมันโตพอที่จะหาบ้านได้แล้ว ก็เลยต้องส่งตัวคืนไปให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Billy the Kidden Rescue ที่แม่ของเธอเป็นอาสาสมัครอยู่ เพื่อหาบ้านให้พวกมันต่อไป     ทว่าครั้งนี้ตอนที่ส่งตัว Helen ให้ศูนย์พักพิง คุณแม่ก็เห็นว่า Bela มีอาการเศร้ามากกว่าทุกๆ ครั้ง แม้เธอจะพยายามปกปิดไม่ให้แม่รู้ แต่ก็ไม่พ้นสายตาคุณแม่ไปได้ ถึง Helen จะออกจากบ้านไป 3 วันแล้ว ลูกสาวก็ยังไม่หายคิดถึงมันอยู่ดี Stephanie…

ส่วนตัวแล้ว #เหมียวอาตี๋ คิดว่าหมาทุกตัวในโลกน่ารักหมดแหละ แค่ว่าน่ารักมากหรือน่ารักน้อยเท่านั้นเอง และแน่นอนว่ามันก็ต้องมีสุนัขสักตัวหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าน่ารักน้อยที่สุด เจ้าสุนัขตัวที่ว่าก็คงหนีไม่พ้น Zsa Zsa หมาบูลด็อกวัย 9 ขวบที่ชนะการประกวดสุนัขที่น่าเกลียดที่สุดในโลก 2018 (2018 World’s Ugliest Dog competition) ซึ่งจัดขึ้นในเมืองเปตาลูมา รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมิถุนายน 2018 นี้เอง     ก่อนหน้านี้ Zsa Zsa เคยเป็นหมาที่ถูกใช้เพื่อเพาะพันธุ์สุนัขขายมาก่อน จนกระทั่งเจ้าของเก่าทิ้งมัน มันเลยได้มาอยู่กับเจ้าของปัจจุบันซึ่งเอ็นดูมันเหมือนลูกในไส้เชียวนะ ต่อไปนี้คือภาพชีวิตของเจ้าหมาน่าเกลียดที่สุดในโลก เพื่อนๆ ลองไปดูกันเอานะว่าน่าเกลียดขนาดไหน   ฟันยื่น ลิ้นห้อย น้ำลายไหลย้อย   ถึงคนจะบอกน่าเกลียดยังไงก็รักสวยรักงามนะ มีแอบทาเล็บชมพูด้วย   เจ้าของไม่เคยแคร์เรื่องหน้าตาของมันเลย   เธอรักมันที่ซู้ดดดด   จริงๆ แล้วเวลาพี่แกยิ้มก็ไม่น่าเกลียดเลยนะ   ดูแล้วเรายังยิ้มตามได้เลย   อยู่กับเจ้านายดี ยังไงก็แฮปปี้   ทำหน้าขึงขังให้เข้ากับหมวกลายพรางหน่อย   ส่งมอบความรักให้ทุกคน วิ้งๆ…

#เหมียวอาตี๋ ต้องยอมรับเลยว่าสุนัขเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆ ทั้งเป็นเพื่อนแก้เหงา เป็นคนเฝ้าบ้าน นำทางคนตาบอด เยียวยาจิตใจ มีสุนัขตำรวจที่ตามหาคนได้ ตรวจค้นหาอาวุธและสารเสพติดได้ ล่าสุดก็ปั๊มหัวใจได้แล้วนะเออ! น้องสุนัขตำรวจตัวนี้คือ Pancho น้องหมาจากกรมตำรวจกรุงมาดริด ประเทศสเปน มันมีความแสนรู้มากๆ จนสามารถเรียนรู้ที่จะทำการปั๊มหัวใจหรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า CPR ได้     ไม่นานมานี้ทางกรมตำรวจได้สาธิตการทำ CPR ของเจ้าหมาผ่านทางเฟซบุ๊กของพวกเขาเอง โดยให้ตำรวจที่เป็นคู่หูของมันแกล้งเป็นลม พอ Pancho เห็นคนหมดสติมันก็จะวิ่งเข้าไปทำ CPR ทันใด การทำ CPR ของมันก็ดูถูกหลักการใช้ได้เลยทีเดียวล่ะ ตอนแรกเจ้าหมาจะกระโดดใช้ขาหน้าปั๊มหัวใจให้คนป่วยก่อน จากนั้นก็จะฟุ้บลงไปบริเวณคอเพื่อฟังชีพจร ถ้ายังไม่ฟื้นก็จะกลับไปกระโดดทำ CPR ต่อเหมือนเดิม     ขอยอมรับเลยว่าการทำ CPR เป็นสิ่งหนึ่งที่เราไม่คิดเลยว่าหมาจะทำได้จริงๆ แต่มันก็ทำให้เราได้รู้แล้วว่าด้วยความแสนรู้และสติปัญญาระดับน้องหมา มันสามารถทำหลายอย่างได้มากกว่าที่เราคิด ถึงแม้ Pancho จะเป็นหมาตัวแรกที่เราเห็นว่าทำ CPR ได้ในขณะนี้ แต่ถ้าอีกหน่อยฝึกหมาทำแบบนี้ได้อีกมากๆ มันคงช่วยมนุษย์ในสถานการณ์คับขันได้มากทีเดียว   https://www.instagram.com/p/BkU51RIBDNl/?utm_source=ig_embed   ที่มา: Unilad,…

ชายและหญิงคู่หนึ่งอยู่ห่างไกลกัน ปกติแล้วคงไม่มีโอกาสจะได้รู้จักกันเลย แต่พวกเขาก็ได้รู้จักและพบรักกันผ่านทางหมาของแต่ละฝ่าย Samm Sexton หญิงวัย 29 ปีอาศัยอยู่ในรัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วน Alex Musk ชายวัย 30 ปีอาศัยอยู่ในเมืองลีดส์ เขตเวสยอร์กชายร์ ประเทศอังกฤษ ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จนกระทั่ง Samm เห็นรูปที่ Alex แชร์บนเฟซบุ๊ก มันเป็นสุนัขพันธุ์บอสตันเทอร์เรียเหมือนกัน แถมยังชื่อว่า Lola เหมือนกันอีกต่างหาก ทั้งคู่เลยทำความรู้จักกันทางโลกออนไลน์และเริ่มติดต่อกันบ่อยๆ   เจ้าหมา Lola ของทั้งฝ่ายชายและหญิง   Samm กับ Alex คู่รักที่มีหมาพันธุ์เดียวกันและชื่อเหมือนกัน   เจ้าหมาทั้ง 2 ตัวเป็นหัวข้อสนทนาให้กับทั้งมนุษย์ทั้งคู่ แต่นอกจากพูดคุยเรื่องหมาแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ทั้งคู่มีความรู้สึกชอบพออีกฝ่ายหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เคยเจอหน้ากันจริงๆ เลย จนเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2018 Alex ก็ตัดสินใจเดินทางไกลไปหา Samm ด้วยตัวเอง     การเดินทางไปหา Samm ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะทั้งคู่อยู่ไกลกัน…

ท่ามกลางความสิ้นหวังของเจ้าหมาที่ถูกทิ้ง แถมยังเดินไม่ได้ มันคงไม่คิดหรอกว่าวันหนึ่งจะมีคนช่วยมันจนเดินได้อีกครั้ง แล้วมอบความสุขให้กับมัน เจ้าหมาจรจัดตัวนี้อยู่ในชุมชนหนึ่งของรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา คนที่เจอมันเห็นว่ามันเอาแต่นอนเฉยๆ คงจะไม่ได้กินอะไรจนหมดแรง ก็เลยติดต่อให้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Gulfstream Guardian Angels Rottweiler Rescue มาช่วยมัน     Susanna หลังจากพามันไปตรวจร่างกายแล้วถึงได้รู้ว่าที่มันไม่ขยับเลย เพราะมันเป็นอัมพาตนี่เอง ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ชัดเจน ต้องตรวจร่างกายเพิ่มเติมอีกถึงจะรู้ แต่เมื่อตรวจดูแล้ว กระดูกสันหลังหรือกระดูกส่วนอื่นก็ไม่มีความผิดปกติอะไร พวกเขาเลยคิดว่ามันน่าจะถูกมนุษย์กักขังไว้ในกรงตั้งแต่เด็ก บางทีอาจจะถูกเลี้ยงไว้เพาะพันธุ์ลูกหมาก็ได้ สุดท้ายก็เลยไม่ได้เดินจนเป็นอัมพาต     เป็นอัมพาตเพราะถูกขังในกรงตั้งแต่เด็กจนโต   ถึงจะเป็นอัมพาตแต่เมื่ออาสาสมัครเข้าไปใกล้ๆ มัน Susanna ก็ยกหัวขึ้นมาเลียขอบคุณพวกเขา ทำให้พวกเขารู้ว่ามันยังไม่ได้ยอมแพ้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วพยายามหาหนทางรักษาอัมพาตให้หาย     พวกเราจะช่วยให้แกเดินได้เอง   พวกเขาเริ่มต้นการรักษาด้วยการใช้วารีบำบัด ซึ่งก็คือการพามันไปฝึกเดินในน้ำ ซึ่งจะช่วยให้มันใช้แรงเดินน้อยลง Susanna เดินเองได้ตั้งแต่ลงน้ำครั้งแรกเลย ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมากว่ามันยังอยากเดินอยู่ และขาของมันยังทำงานได้ดี ที่เหลือก็แค่ช่วยฟื้นแรงขาของมันเท่านั้นเอง     อาสาสมัครพาเจ้าหมาไปบำบัดที่สระเป็นประจำ นอกจากนั้นก็ยังให้ยาเพื่อนช่วยให้กล้ามเนื้อและกระดูกของมันกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่งด้วย     นอกจากขาของมันที่ฟื้นฟูได้ดีอย่างต่อเนื่องแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นได้ก็คือมันมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเริ่มเดินได้อาสาสมัครก็เห็นมันยิ้มเป็นประจำ…

มีบางครั้งเหมือนกันที่เรารู้สึกมันเขี้ยว อยากแกล้งเจ้าหมาแสนรักเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าเราอยากจะรังแกมันนะ แต่เป็นการกระชับความสัมพันธ์แบบขำๆ ต่างหาก ครั้งนี้เหล่าเจ้าของมีทริคใหม่แสนน่ารักมาเล่นกับเจ้าหมา โดยการเอาผ้าห่มบังตัวไว้ แล้วหลบไปให้พ้นสายตาก่อนที่ผ้าห่มจะหล่นลงพื้น สำหรับเจ้าหมาแล้วคงดูเหมือนว่ามนุษย์หายไปราวกับเล่นกลเลยล่ะ แล้วทีนี้เจ้าหมาจะมีปฏิกิริยายังไงกับลูกเล่นนี้บ้าง ลองไปชมดู   ทริคนี้เล่นไม่ยาก แค่เพื่อนๆ มีผ้าห่ม 1 ผืนเท่านั้น https://twitter.com/panicxpriscilla/status/1010384218570936321?ref_src=twsrc%5Etfw&ref_url=http%3A%2F%2Fwww.catdumb.com%2Fwp-admin%2Fpost-new.php   แล้วก็หามุมห้องเหมาะๆ ที่เข้าไปหลบได้ง่าย จากนั้นก็หลบเจ้าหมาระหว่างที่โยนผ้าห่มกลางอากาศ https://www.instagram.com/p/BkXjH_JgSnI/?utm_source=ig_embed   เสร็จแล้วเจ้าหมาก็จะงงที่เจ้าของหายไปแบบนี้ https://www.instagram.com/p/BkWaZveAL7O/?utm_source=ig_embed   อ่าว งงเด้ๆๆๆ https://www.instagram.com/p/BkIsrC5nfwN/?utm_source=ig_embed   ไปหาอะไรตรงผ้าห่มล่ะน้อง Note: Cutest dog ever… Also, is that a Nic Cage pillow?!? 😩 RT @Dakota_DK: #WhatTheFluffChallenge https://t.co/tfJGyOpkzk — 𝓑𝓻𝓲 (@slickBriBri) June 23, 2018  …

หลังจากที่ทหารหญิงออกจากบ้านไปรับใช้ชาติมานาน เมื่อเธอได้กลับบ้าน เจ้าหมาที่รักเธอที่สุดก็เข้ามาต้อนรับด้วยความดีใจแม้ว่ามันจะป่วยหนักจนเดินลำบาก ทำให้คนที่ได้เห็นพากันซึ้งไปกับเธอด้วย     Hannah Foraker เป็นหญิงที่เติบโตมาในฟาร์ม เธอใช้ชีวิตอยู่แถวบ้านมาโดยตลอด แต่ก็มีความใฝ่ฝันที่จะเข้าไปเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ ไม่นานเธอก็เข้าร่วมเป็นทหารได้สำเร็จดังที่ใจคิด แต่เธอไม่ได้คิดไว้เลยว่าการเป็นทหารทำให้เธอต้องทิ้งสิ่งที่รักหลายอย่างไว้ข้างหลัง เพื่อทำตามสิ่งที่เธอฝัน   Hannah เป็นหญิงที่เติบโตมาในฟาร์ม   เธอมีความฝันอยากเป็นทหาร และทำได้สำเร็จตามหวัง   ทว่ามันทำให้เธอต้องทิ้งชมรมขี่ม้าที่เธอรักไป เพราะต้องไปฝึกทหารแทน   และสิ่งที่เธอรักที่สุดซึ่งก็คือเจ้าหมา Buddy ที่รออยู่บ้าน   ทุกคนรอบตัวเป็นห่วง Hannah มาก เพราะเธอไม่เคยออกจากบ้านไปไหนไกลมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องไปอยู่ห่างบ้านนานๆ แถมการฝึกทหารก็หนักไม่ใช่เล่นด้วย ทว่าพอถึงเวลาจริงๆ การฝึกก็ทำให้ Hannah ลืมความกังวลทุกอย่าง เธอมีเพื่อนใหม่ที่น่ารักมากมาย แถมยังได้เจอคนรักในค่ายทหารด้วย   แม้ Hannah จะมาอยู่ไกลบ้านครั้งแรก เธอก็ทำได้ดีกว่าที่คิด   เธอเจอเพื่อนใหม่มากมาย รวมไปถึงแฟนหนุ่มด้วย   ในขณะที่เธอกำลังไปได้ดีกับชีวิตทหารนั่นเอง แม่ของเธอก็โทรมาบอกข่าวร้ายเกี่ยวกับเจ้า Buddy … ตั้งแต่ที่เธอจากบ้านไป Buddy ก็ร่าเริงน้อยลง…

Kara อาศัยอยู่กับเจ้าหมา Ralph และแมวเหมียว Ruby หมาและแมวของเธอเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานานมากแล้ว เมื่อเจ้าแมวตายจากไปก่อนเลยทำให้เจ้าหมาเศร้าสร้อย     เธอเห็นว่ามันไม่ร่าเริงเหมือนเดิม ก็เลยลองบอกมันดูว่าเธอจะหาแมวตัวใหม่มาอยู่เป็นเพื่อนด้วย มันคงจะฟังเธอรู้เรื่อง พอได้ยินแล้วมันก็เลยมีท่าทีร่าเริงขึ้น แล้วทำท่าไฮไฟว์เป็นการบอกว่าเห็นด้วย Kara ลองค้นหาแมวที่เปิดให้รับเลี้ยงดูทางอินเตอร์เน็ต แล้วก็ไปเจอเข้ากับ Miss Vanjie ลูกแมวที่ลักษณะคล้ายกับ Ruby ไม่มีผิด เธอเลยตั้งใจว่าจะรับเลี้ยงเจ้าตัวนี้นี่แหละ     ทว่าพอเธอไปหามันที่ศูนย์พักพิง สภาพมันก็ไม่ค่อยดีแล้ว Miss Vanjie เป็นแมวที่ตัวเล็กนิดเดียว แม่ของมันเลยไม่ยอมดูแล ทำให้มันอ่อนแอมากๆ หญิงสาวเลยอาสาพามันไปช่วยดูแลให้ที่บ้าน เธอหาอาหารดีๆ ให้มันกิน แล้วก็เอาอาหารเสริมป้อนมันด้วย พอมีคนดูแลเอาใจใส่อย่างดี แค่วันเดียวมิ้วน้อยก็กลับมาแข็งแรงแล้ว จากนั้นก็ถึงเวลาที่ Ralph กับ Miss Vanjie จะได้เจอหน้ากัน     Ralph ดีใจมากที่มีเพื่อนแมวมาอยู่บ้านด้วยอีกครั้ง มันเข้ามาดูแลเจ้าแมวตั้งแต่ได้เจอกันครั้งแรกเลย แต่ดูๆ ไปแล้วแทนที่จะได้เป็นเพื่อนกัน ดูเหมือนเจ้าหมาจะเป็นแม่ให้กับมิ้วน้อยซะมากกว่า ส่วนมิ้วน้อยที่ขาดแม่ก็ยินดีมากที่เจ้าหมาจะเป็นแม่ให้ มันติดเจ้าหมามากจนไม่ยอมออกห่างเลยล่ะ   เดี๋ยวเราจะดูแลแมวน้อยตัวนี้เองนะมนุษย์   Ralph…

รูปสัตว์ส่วนใหญ่ที่เราได้เห็นกันมักจะดูดีเสมอ เพราะว่าช่างภาพได้จัดจังหวะและเลือกภาพที่ดูดีมาให้เราแล้ว พวกมันก็เลยดูดีเหมือนนายแบบไม่มีผิด แต่ถ้าเกิดเราถ่ายพวกมันตอนยังไม่ได้ตั้งท่าล่ะ? รูปที่ออกมาอาจจะฮาแทนสวยก็ได้นะ อย่างรูปที่จะได้เห็นกันนี่ บอกเลยว่าเตรียมยิ้มให้กล้องกันไม่ทันสักตัว   เดี๋ยวดิ ยังยิ้มไม่ทันเสร็จดีเลย   ไหนบอกว่าตั้งเวลาไงมนุษย์ รูปเสียหมดเลย   จัดหมวกหน่อยไหมพี่   แบร่!   รอปากเราหายบวมก่อนค่อยถ่ายรูปสิ เดี๋ยวเพื่อนล้อ   อย่ามาถ่ายรูปเราตอนอาบน้ำสิ ทะลึ่ง!   เพนกวินเยอะจังโว้ย อึดอัด   เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปไง เดี๋ยวจิกเข้าให้   บอกให้ยิ้มให้กล้อง ไม่ใช่ทำหน้าเอ๋อ   หน้าฟินของแกนี่แปลกดีนะ   โหว ฉี่เป็นสายรุ้งได้ด้วย   เย้ย โดนจับได้แล้วว่าขโมยขนม   ครูฝึกบอกทำท่าไหน ผมก็ทำหมด   แดดมันจ้าอะ รอตาเราโฟกัสแป๊บนึง   เอ่อ … พี่ไปโดนตัวไหนมาล่ะเนี่ย   เก๊าโดนแฟนทิ้งมา อย่าเพิ่งยุ่ง  …

สุนัขจรจัดพันธุ์พิตบูลล์ตัวนี้เร่ร่อนข้างถนนมานาน ทำให้ไม่มีใครเห็นพรสวรรค์ที่มันซ่อนเอาไว้ และสุดท้ายมันก็ใช้พรสวรรค์ที่มีจนได้เข้ามาเป็นสุนัขตำรวจ หมาพิตบูลล์ตัวนี้ใช้ชีวิตอยู่ในรัฐเซาท์แคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นหมาจรจัดมาทั้งชีวิตจนได้กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Throw Away Dogs Project ช่วยเอาไว้ และได้รับชื่อว่า Wildflower     จากนั้น Wildflower ก็ได้รับการทดสอบเพื่อให้เป็นสุนัขบริการดู พวกเขาเลยได้รู้ว่าเจ้าหมามีพรสวรรค์ในการดมกลิ่นสิ่งเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้ ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่เลยให้มันลองฝึกเป็นสุนัขตำรวจดูเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งมันก็ทำได้ดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง บางทีอาจจะทำดีเกินความคาดหมายของครูฝึกด้วยซ้ำ     เมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา เจ้า Wildflower ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ของตำรวจเมือง Wetumka ในรัฐโอกลาโฮม่าอย่างเป็นทางการ นั่นทำให้มันได้เป็นสุนัขตำรวจที่เป็นสายพันธุ์พิตบูลล์ตัวแรกของรัฐเชียวนะ     ได้เป็นสุนัขตำรวจที่เป็นสายพันธุ์พิตบูลล์ตัวแรกของรัฐด้วยแหละ   อย่างไรก็ตาม คนอีกมากยังติดภาพอยู่ว่าหมาพิตบูลล์เป็นสายพันธุ์ที่ดุร้ายและน่ากลัว ทำให้บางครั้งคนที่เจอก็ไม่ไว้ใจมัน ทว่าก็ยังมีคู่หูของมันและคนอีกหลายคนที่ไม่เหมารวมมองแบบนั้น ทำให้เจ้าหมาได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือในการเป็นสุนัขตำรวจ และมันก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสัปดาห์ก็จับยาเสพติดได้แล้ว     คู่หูไว้ใจเจ้า Wildflower สุดๆ   อย่าเหมารวมว่าสุนัขพิตบูลล์จะต้องนิสัยดุร้ายหมด พวกมันแต่ละตัวมีนิสัยแตกต่างกันไปตามการเลี้ยงดู…

ต้องเหนื่อยเข้าเรียน ทำงานกันมาตั้งแต่เช้า หัวใจก็ใช้พลังงานไปจนห่อเหี่ยวหมดแล้ว เรามาพักดูสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจกันบ้างดีกว่า สิ่งที่ว่าก็คือสัตว์เลี้ยงสุดโปรดของทุกคน แมวเหมียวกับเจ้าตูบนี่เอง แค่ได้เห็นพวกมันก็ได้เติมพลังงานความน่ารัก จนเต็มหัวใจ พร้อมสู้กับงานต่อไปแล้ว ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ไปเติมพลังกันดีกว่า   ฟองสบู่ลอยสูงจัง เก๊าตัวหนักโดดจับไม่ได้   ของเล่นชิ้นไหน ก็มันสู้ขวดไม่ได้   เจ้านายจะพาผมไปสวนสาธารณะแล้ว   เจ้านายอย่ามัวแต่มองผมสิ มองทางด้วย   ถึงลูกจะโตแล้ว ก็ยังเป็นเด็กในสายตาแม่เสมอ   โง้ยยย มาต้อนรับกันตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าบ้านเลย   อาบน้ำจนสะอาดแล้ว อุ้มออกจากอ่างหน่อยจิ   งานอะไรเนี่ย น่าทำชะมัดยาด   ผมเจ้าหน้าที่บิสกิตฮะ … มีอะไรให้ช่วยก็บอกสิ ยิ้มอยู่ได้   พ่อๆ ดูสิผมเรียนจบแล้ว   เหมือนกับจับคุณพ่อมาย่อส่วนเลย   ดูเหมือนลูกเราจะมีเพื่อนสนิทแล้วนะ   เช้าที่ดีต้องเริ่มต้นด้วยอ้อมกอด   ความสุขหน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง   เจ้าหมาเปลี่ยนเป็นสีรุ้งได้ด้วย!?   ลูกเดินใกล้ๆ พ่อกับแม่สิ…

ใครก็ตามที่บังเอิญไปสบตากับแมวตัวนี้เข้า ล้วนพากันหลงเสน่ห์ของมันทุกราย เพราะไม่มีทางเลยที่เราจะต้านทานพลังจากดวงตาสีฟ้าที่สวยงามของมันได้     เจ้าแมวตัวนี้ชื่อว่า Mona มันเป็นแมวพันธุ์ Siberian Neva Masquerade ของหญิงชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง เธอตั้งใจรับมันมาเลี้ยงตั้งแต่มันยังไม่เกิดมาดูโลกเลยด้วยซ้ำ เธอเลือกเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้เพราะว่าพ่อของเธอแพ้ขนแมว และแมวสายพันธุ์นี้ก็เป็นหนึ่งในพันธุ์ที่เป็นมิตรต่อคนแพ้ขนแมวมากที่สุด ซึ่งพอเอามันมาอยู่บ้านด้วยพ่อของเธอก็ไม่มีอาการแพ้ไว้ตามที่คาดเลย     เจ้าของของ Mona รอรับมันมาเลี้ยงตั้งแต่เห็นความสวยงามของพ่อและแม่แมว เธอเลยจองตัวมันกับคนเพาะพันธุ์ตั้งแต่แม่แมวเพิ่งท้อง โดยไม่แคร์เลยว่านิสัยของมันยังไง แต่เธอก็ไม่ผิดหวังเลยหลังจากเลี้ยงมัน เพราะนิสัยของมันช่างเรียบร้อย น่ารัก และชอบอยู่กับคน เธอคิดว่ามันเข้ากับเธอได้ดีมากๆ เลยล่ะ สุดท้ายเธอก็เลยได้เลี้ยงแมวที่ทั้งดูดีและนิสัยดีด้วย   สิ่งที่ทำให้คนหลงใหลมันเอามากๆ ก็คือดวงตาสีฟ้าคู่นี้แหละ   แถมขนก็นุ่มฟูสวยงามเพราะเจ้าของดูแลดี   แน่นอนว่าเพราะ Mona เองก็ดูแลตัวเองดีด้วย   เจ้าเหมียวดูสง่างามจนดอกไม้ชิดซ้ายไปเลย   Mona มีนิสัยซุกซน   ชอบอ้อนให้ทาสเล่นด้วยบ่อยๆ   รักการผจญภัยนอกบ้าน   แต่ก็มีช่วงที่ชอบพักผ่อนอยู่บ้านเหมือนกัน   หาวว อากาศน่านอน อยู่บ้านดีกว่า   ทาสกินอะไรน่ะ…

มนุษย์เรารู้อยู่แล้วว่านกแก้วเลียนแบบเสียงได้หลากหลาย แม้แต่เสียงหมาเห่าก็ทำได้สบายๆ … แต่หมามันไม่รู้นี่นา พอเจ้าหมาเจอนกแก้วเห่าได้ก็เลยไปไม่เป็นเลย สร้างความฮาให้กับมนุษย์รอบๆ ข้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นในสวนสาธารณะ Washington Square Park นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีตัวต้นเหตุของเรื่องคือเจ้านกแก้ว Violet     เจ้าของของมันพามันมาเที่ยวสวนสาธารณะด้วยกัน และในระหว่างที่พวกเขานั่งพักผ่อนกัน มันก็เห็นหมาตัวหนึ่งผ่านมาใกล้ๆ Violet ก็เลยส่งเสียงเห่าใส่เหมือนหมาเลย ท่าทางเหมือนมันอยากจะทักทายเพื่อนหมาตัวใหม่     แต่สำหรับเจ้าหมาแล้ว สมองของมันคงประมวลผลไม่ทัน ก็ที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นนกนี่นา แล้วมันส่งเสียงเห่าได้ยังไงกัน? หรือว่าจริงๆ แล้วนกที่มันเห็นมาตั้งนานก็เป็นหมาอีกพันธุ์หนึ่ง!? พอได้ยินเสียงเห่าจาก Violet เจ้าหมาก็เลยเอาแต่นั่งจ้องกลับนิ่งๆ โดยไม่ตอบโต้เลย สงสัยยังไม่แน่ใจว่าเพื่อนใหม่ที่เจอเป็นหมาจริงๆ รึเปล่า ฮ่าๆๆ   ไปฟังมันเห่าโฮ่งๆ ดูสิ    ฉากฮาขำกลิ้งระหว่างเจ้าหมากับ Violet ไม่ได้มีเฉพาะเจ้าของเท่านั้นที่เห็น แต่คุณแม่ที่พาลูกน้อยมาเดินเล่นก็หยุดดูเจ้านกแก้วแล้วหัวเราะตามกันใหญ่เลย แถมมีคนหยิบมือถือมาถ่ายวิดีโอเก็บความฮาไว้ดูต่อด้วย   แม่นกเห่าหมาอะ น้องทนไม่ไหวขอขำแป๊บ   แหม่ Violet มันก็ฉลาดซะจริง…

เจ้าแมวกับมนุษย์รักกันมาก แต่ด้วยหน้าที่การงานทำงานมนุษย์ต้องอยู่ไกลจากมัน เจ้าเหมียวก็เลยดูรูปเขาทุกวันให้หายคิดถึง แมวเหมียว Yuuki ใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์พักพิงมานาน มันไม่มีใครมารับไปเลี้ยงเลย จนกระทั่งได้เจอกับ Max มนุษย์คนโปรดของมัน     Max เป็นทหารเรือวัย 19 ปีที่มีใจรักสัตว์ เขารับ Yuuki มาเลี้ยงก่อนจะต้องไปรับใช้ชาติที่อีกรัฐในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยหวังว่ามันน่าจะช่วยให้ครอบครัวของเขาไม่เงียบเหงาหลังจากเขาย้ายไป ทว่าคนที่ผูกพันกับ Yuuki มากที่สุดในบ้านก็ไม่ใช่ใครอื่นเลย เป็นเขาเองนี่แหละ คนในครอบครัวมักจะเห็นชายหนุ่มกับเจ้าเหมียวกอดกันเป็นประจำทุกวัน รู้สึกได้ถึงความรักที่มีให้กันมาแต่ไกลเชียวล่ะ     เขากับมันอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขทุกวัน แต่เวลา 6 เดือนก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนถึงเวลาที่ Max ต้องออกไปรับใช้ชาติแล้ว จึงจำเป็นต้องทิ้ง Yuuki ไว้กับครอบครัว นานๆ ทีถึงจะได้มีโอกาสมาเจอกับครอบครัวสักที     แม้จะมีพ่อแม่ของ Max อยู่ที่บ้านด้วย แต่ Yuuki ก็ไม่ร่าเริงเหมือนตอนอยู่กับ Max เขาคงเป็นมนุษย์คนสำคัญที่สุดของมัน พ่อแม่ก็เลยมาแทนกันไม่ได้     จากนั้นครอบครัวของ…

เมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์บริเวณตอนเหนือของเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดความเสียหายทั่วเขตคันไซ สร้างความหวั่นวิตกให้ประชาชนอย่างมาก แต่ท่ามกลางความตื่นกลัว แผ่นดินไหวครั้งนี้กลับนำพาเรื่องน่าดีใจมาให้กับครอบครัวของ Kiyo (@kiyo_ZX10RR) จากทวิตเตอร์ เพราะมันทำให้เจ้าแมวที่หายไปกลับมาบ้านในที่สุด   “ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะแผ่นดินไหวรึเปล่า แต่แมวของผมที่หายไปครึ่งปีในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้ว ดูสิเท้าดำไปหมดเลย ตอนนี้มันกินจุมากๆ เลยล่ะ ขอบคุณพระเจ้า!!”   เจ้าแมวหายตัวไปจากบ้านเมื่อปลายปี 2017 มีคนพบเห็นมันอยู่ในเขตชุมชน แต่ Kiyo ก็ไม่เคยหามันเจอเลย จนกระทั่งเวลาผ่านเลยไปนาน ตอนนี้มันก็หายไปประมาณครึ่งปีแล้ว ทว่าหลังเกินแผ่นดินไหว เจ้าเหมียวก็กลับมาหาเจ้าของเอง จะด้วยความกลัวแผ่นดินไหวเลยกลับบ้าน หรือว่ามันเป็นห่วงเจ้าของถึงได้กลับมาหาก็ไม่รู้ แต่ Kiyo ก็ไม่สนใจหรอก สิ่งสำคัญก็คือมันได้กลับมาอยู่กับเขาแล้ว   กลับมาบ้านสักที หนีเที่ยวไปครึ่งปีเลยนะ   เจ้าแมวดูสุขภาพดีเหมือนเดิม สิ่งที่ต่างออกไปมีแค่รอยแหว่งตรงใบหู   เจ้าแมวสุขภาพดีกว่าที่เขาคิดไว้มาก มันดูสมบูรณ์ดีเหมือนมีคนให้ข้าวกินเป็นประจำ แถมยังดูไม่มอมแมมเท่าที่คิดด้วย จะมีก็แต่รอยแหว่งรูปสามเหลี่ยมที่ตรงหูข้างขวาแค่นั้นเอง รอยแหว่งนี้ไม่ได้เกิดจากการต่อสู้หรอก มันเป็นรอยที่กลุ่มช่วยเหลือแมวทำไว้หลังจากได้ช่วยแมวแล้ว พวกเขาคงมาเจอแมวของ Kiyo แล้วเห็นว่าทำหมันไปแล้วก็เลยทำสัญลักษณ์เอาไว้แค่นั้นแหละ…

ชายหนุ่มและแฟนสาวอยู่กับเจ้าหมามาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่อยู่มาวันหนึ่งเธอก็บังคับให้เขาหาบ้านใหม่ให้มัน ไม่งั้นก็เลิกกับเธอซะ เขาเลยลงโฆษณาหาเจ้าของใหม่ โดยไม่คิดว่าจะกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว หนุ่ม Valeria Fratto เป็นเจ้าของของหมาบีเกิ้ลชื่อ Molly เขารับมันมาเลี้ยงตั้งแต่มันยังเด็ก และตอนนั้นเขาก็มีแฟนด้วยคนหนึ่ง   Molly กับเจ้าของของมัน   บวกกับแฟนสาวของเขาด้วย   ทว่าแฟนของเขากลับไม่ชอบ Molly เลย เพราะว่ามันทั้งดื้อทั้งซน แถมยังแย่งความสนใจไปจากเธออีกด้วย เธอก็เลยไม่ถูกกับมันสักเท่าไหร่ ซึ่งทำให้ชายหนุ่มไม่สบายใจเลย   หมาบีเกิ้ลตอนเด็กดื้อมาก แถมยังไฮเปอร์ชอบเรียกร้องความสนใจ   พอเจอพลังทำลายล้าง กับถูกแย่งความสนใจจากแฟนบ่อยๆ ฝ่ายหญิงเลยไม่ชอบมัน   แน่นอนว่า Fratto ไม่ได้นิ่งเฉย เขาทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้แฟนและเจ้าหมา ซึ่งเป็นที่รักของเขาญาติดีกันให้ได้ เริ่มจากการลองให้เธอเข้ามาอยู่ร่วมบ้านของเขากับเจ้าหมาด้วย และพากันออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านด้วยกันบ่อยๆ แม้ว่ามันจะดูไม่แย่นัก แต่ลึกๆ แล้วแฟนสาวก็ยังไม่ชอบเจ้าหมาอยู่ดี เธออยากจะให้เขาสนใจแต่เธอเพียงผู้เดียว ซึ่ง Molly หมาแสนรักก็เป็นอุปสรรคตัวสำคัญของเธอ   ฝ่ายชายให้แฟนมาอยู่บ้านด้วย จะได้คุ้นชินกับเจ้าหมาและชอบมันขึ้นมาบ้าง   แถมยังพาไปเที่ยวด้วยกันสานความสัมพันธ์ด้วย แต่เธอก็ไม่ชอบมันอยู่ดี   จนในที่สุดความอดทนของแฟนสาวก็หมดลง เธอรู้สึกว่าความรักที่แฟนหนุ่มมีให้กับเจ้าหมานั้นมากกว่าเธอ และเธอก็ไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น…

ชีวิตของคุณปู่แมวได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ทั้งการแย่งชิงที่อยู่และอาหาร อีกทั้งต้องต่อสู้กับโรคร้าย แม้ว่ามันจะไม่ไว้ใจมนุษย์ แต่มันก็มีความสุขอยู่ในศูนย์พักพิงได้ Mason เป็นแมวจรจัดมาแทบทั้งชีวิต มันมีบาดแผลตามร่างกายเพราะการต่อสู้กับแมวจรจัดตัวอื่นมา และเพิ่งถูกช่วยมาไว้ในศูนย์พักพิงของ TinyKittens ในประเทศแคนาดาเมื่อตอนแก่นี่เอง     หลังจากช่วยมันมาได้ อาสาสมัครก็ได้รู้ว่ามันเป็นโรคไตวาย หากปล่อยไว้ตามลำพังก็คงอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็ไม่สามารถหาบ้านให้มันได้เพราะป่วยเป็นโรคนี้เช่นกัน ทางที่ดีที่สุดก็เลยต้องเลี้ยงมันไว้ในศูนย์พักพิง พวกเขาช่วยรักษาแผล และประคองอาการไตวายของมันให้ปลอดภัยได้ ทว่า Mason ไม่ยอมให้มนุษย์จับเลยสักนิด มันไม่ชอบให้มนุษย์เข้ามาใกล้ แต่มันก็มีความสุขที่ได้เล่นของเล่นกับแมวตัวอื่นในศูนย์พักพิง     สิ่งหนึ่งในศูนย์พักพิงที่ Mason ชอบเป็นชีวิตจิตใจ ชอบมากซะยิ่งกว่าได้เล่นของเล่น ก็คือการได้คลุกคลีอยู่กับลูกแมวตัวน้อย ทุกครั้งที่มีลูกแมวอยู่ใกล้ๆ มันจะครางอย่างมีความสุขจนคนรอบข้างสังเกตเห็นได้ชัด คุณปู่แมวตัวนี้ไม่เคยเบื่อการดูแลลูกแมวเลย มันยินดีจะดูแลลูกแมวทุกตัวที่เข้ามาหา แล้วก็ยอมให้พวกมันนอนกอดด้วย เพราะมันเองก็มีความสุขที่ได้ทำแบบนี้     ถึงจะแก่แล้วแต่ก็ชอบดูแลเด็ก   อย่างไรก็ตามหลังจากที่ลูกแมวในศูนย์พักพิงถูกรับเลี้ยงไปหมด คุณปู่ Mason ก็ต้องอยู่ตามลำพังอย่างเหงาหงอย อาสาสมัครก็อยากให้มันร่าเริงขึ้นนะ แต่ก็หาลูกแมวมาอยู่เป็นเพื่อนไม่ได้เลย หลายเดือนถัดมาทางศูนย์พักพิงจับแมวจรจัดที่กำลังท้องได้ 3 ตัว พวกเขาเลยพามันมาอยู่ในศูนย์พักพิงจะได้คลอดลูกได้อย่างปลอดภัย และอีกอย่างคุณปู่ Mason จะได้มีลูกแมวอยู่ข้างๆ ด้วย  …

ส่วนตัวแล้ว นอกจาก #เหมียวอาตี๋ จะเป็นทาสแมว ก็ยังเป็นคนรักการกินเป็นชีวิตจิตใจด้วย ดังนั้นสิ่งที่เราชอบที่สุดก็คือ แมวและอาหาร เพราะฉะนั้นถ้าเอาทั้ง 2 อย่างมารวมกันได้ ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว และที่พิเศษก็คือมีคนเอาแมวกับอาหารมารวมกันไว้ให้แล้วจริงๆ น่ะสิ เห็นแบบนี้แล้วมันดีต่อใจมากมาย   กินโดนัทแมวหน่อยไหม   มูสช็อกโกแลตทำจากแมวสีน้ำตาลเข้ม   แมวเบอร์รี่เหมาะเป็นของหวานปิดมื้อ   คุกกี้หน้านี้ใครจะกินลง   ฟองนม 3D เกินไปแล้ว   เห็ดแมวสึทาเกะ นุ่มๆ กรุบๆ   ไอติมที่พร้อมจะเลียคุณ   หรือจะรับรสช็อกโกแลตแทนดี?   มนุษย์รีบกินตอนกำลังร้อนสิ   หวานจนเยิ้มไปทั้งใจแว้ว   ห๊ะ โอริโอก็ทำมาจากแมว?   เคยลองกินแมวทรงเครื่องรึยัง?   จริงๆ แล้วที่มาชเมโลวนุ่มเพราะมันทำมาจากแมวขาวแหละเธอ   ถ้าเอาไปปิ้งหน้าก็จะเริ่มไหม้แบบนี้   อย่ากินแต่แป้งสิ กินแมวด้วยจะได้วิตามินบ้าง   พิซซ่าหน้าแมว เห็นแล้วอยากลูบแทนกิน  …

ทาสแมวส่วนมากคงเคยชินกับการที่เจ้าเหมียวเข้ายึดบ้านของเราไปแล้ว เลยไม่มีปัญหากับการให้มันยึดโซฟาไปนั่งเล่น หรือมาแย่งชิงพื้นที่บนโต๊ะทำงานของเราเท่าไหร่ แต่สำหรับทาสที่ถูกมันแย่งชิงพื้นที่เตียงนอนไป ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันทำให้เราพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ เพราะนอกจากจะต้องคอยระวังไม่ให้เจ้านายตื่นแล้ว เรายังต้องนอนในท่าที่ไม่เป็นธรรมชาติเพราะเจ้าแมวไม่ยอมลุกด้วย     ใครก็ตามที่เจอปัญหาโดนแย่งที่นอนขอให้ฟังทางนี้!! มีทาสแมวจากญี่ปุ่นคิดวิธีป้องกันไม่ให้เจ้าเหมียวแย่งเตียงได้แล้ว แถมไม่ต้องขัดใจเจ้านายเราด้วย ช่างเพอร์เฟกต์เหลือเกิ๊น โดยวิธีนี้เป็นผลจากความพยายามของทวิตเตอร์ @pinkseed หลังจากเขาลองแล้วได้ผลดีก็เลยแชร์ให้ทาสแมวทุกคนได้เอาไปใช้กัน   “ประกาศให้ทาสแมวที่ถูกเจ้านายขนฟูชิงเตียงไปได้ทราบ! โปรเจกต์จัดพื้นที่เตียงใหม่ประสบความสำเร็จแล้ว!”   โดยวิธีการป้องกันนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย เขาใช้ประโยชน์จากความเข้าใจของทาสแมวทั่วไป ซึ่งก็คือเรื่องที่เจ้าเหมียวชอบมีพื้นที่เป็นของตัวเอง แถมพวกมันจะถูกใจกล่องกระดาษเป็นพิเศษด้วย รู้แบบนั้นแล้วเขาก็เลยเอากล่องขนาดพอดีตัวเจ้าเหมียวไปวางไว้มุมหนึ่งของเตียง ทีนี้พอเจ้านายแมวทั้งหลายขึ้นมาหาที่นอน มันก็จะเข้าไปนอนขดอยู่ในกล่องอย่างสบายใจ แถมยังเหลือพื้นที่ให้เรานอนอีกเพียบ!   เอ้ะ นั่นมันกล่องนี่นา   นอนสบายกว่าเตียงทาสอีก ขอนอนในนี้ดีกว่า   ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเราจะมองวิธีที่เรียบง่าย แต่ได้ผลชะงักแบบนี้ไปได้ แต่รู้แบบนี้แล้วต่อจากนี้พวกเราก็ไม่ต้องประสบปัญหาโดนแย่งที่นอนอีกแล้ว … ถ้ามันใช้กับแมวเอ๋อๆ ที่บ้านได้ผลอะนะ ที่มา: Rocket News 24

ไม่น่าเชื่อเลยว่าลูกเต่าที่ชาวเม็กซิโกเห็นกันมานานกว่า 20 ปี แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ลูกเต่าอย่างที่คิดเลย มันเป็นเต่าสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จักต่างหาก เมื่อไม่นานมานี้นักวิจัยจากองค์กร Chelonian Research Foundation ซึ่งทำหน้าที่ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับเต่า ได้นำลูกเต่าจิ๋วจากประเทศเม็กซิโกไปศึกษาดู จากนั้นจึงได้ค้นพบว่าลูกเต่าน้ำตื้นเหล่านี้มันโตเต็มวัยอยู่แล้ว และไม่มีทางโตไปได้มากกว่านี้อีก ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อนเลย     พวกเขาตั้งชื่อเต่าสายพันธุ์นี้ว่าเต่าโคลน Vallarta โดยลักษณะแล้วเป็นเต่าตัวเล็กที่ดูคล้ายลูกเต่า และมีความยาวไม่เกิน 4 นิ้วเท่านั้น นักวิจัย Fabio German Cupul บอกว่าสิ่งที่แปลกเป็นเอกลักษณ์ของเต่า Vallarta ก็คือมันมีความกว้างของช่วงตัวมากกว่าความสูง ซึ่งแตกต่างไปจากเต่าพันธุ์อื่นที่พบเจอมาโดยสิ้นเชิง     อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเพิ่งถูกตั้งให้เป็นสายพันธุ์ใหม่ แต่เต่า Vallarta ก็ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ซะแล้ว ในเดือนพฤษภาคม 2018 นักวิจัยเจอเต่า Vallarta ตัวเมียเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น นอกจากนี้แหล่งน้ำตื้นที่พวกมันอาศัยอยู่ก็ถูกรุกรานโดยมนุษย์จนเหลือน้อยแล้ว ในอีกมุมหนึ่งก็ถือเป็นโชคดีที่นักวิจัยค้นพบมันได้ทันท่วงที จึงเริ่มต้นโครงการเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรให้มันได้อย่างรวดเร็ว หวังว่าพวกมันจะเพิ่มจำนวนจนพ้นจากกลุ่มสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ได้นะ ที่มา: the dodo

หลายคนคงจะรู้จัก Koko ดี มันเป็นกอริลล่าที่มีชื่อเสียงก้องโลก จากการที่มีสติปัญญาดีอย่างน่าเหลือเชื่อ จนสามารถสื่อสารภาษามือกับคนได้เหมือนกับเรากำลังคุยกับมนุษย์อีกคนอยู่ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้มันตายจากไปแล้ว Koko เป็นกอริลล่าสายพันธุ์เวสเทิร์นโลวแลนด์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ มันเกิดในปี 1971 และถูกนักจิตวิทยาสัตว์ Francine Patterson ซื้อตัวไปจากสวนสัตว์เพื่อศึกษาและวิจัยกอริลล่าในปี 1972     Koko มาอยู่กับ Patterson ตั้งแต่อายุขวบเดียว   ในการวิจัยเธอได้สอนภาษามือ American Sign Language (ASL) ให้กับมัน และได้ค้นพบว่า Koko สามารถเข้าใจภาษามือได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันเข้าใจภาษามือมากกว่า 1,000 คำเชียวนะ นอกจากนี้ด้วยสติปัญญาของมัน Koko ยังเข้าใจภาษาอังกฤษอีกประมาณ 2,000 คำ ซึ่งทำให้มันเข้าใจบทสนทนาระหว่างคนได้มากพอสมควรเลยทีเดียว     มันเข้าใจภาษามือกว่า 1,000 คำ และฟังภาษาอังกฤษออกกว่า 2,000 คำ   Patterson ได้เห็นพฤติกรรมหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่า Koko มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ อย่างหนึ่งคือมันรู้จักหน้าตาของตัวเองจากการส่องกระจก แถมเวลาถามว่าอยากได้อะไร…

ถ้าคุณรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องคุณอยู่ ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของห้อง สายตาคู่นั้นก็ยังคงตามมาไม่หยุด คงจะรู้สึกน่ากลัวพิลึกเลยว่าไหม แค่คิดก็ขนลุกแล้ว แต่ คุณแต๊ก (Kasarin Himacharoen) กำลังเจอเหตุการณ์แบบนี้อยู่จริงๆ แถมไม่ใช่ผีด้วย เพราะเธอมองกลับไปก็เจอกับสายตาคู่นั้นเต็มๆ เลย ทว่าเธอก็ทำอะไรตอบโต้ไม่ได้ เธอเพียงแค่ยิ้มตอบกลับให้สายตาคู่นั้น ก็มันเป็นสายตาของเจ้าแมว กันฝุ่น ของเธอเองนี่นา   แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย   กันฝุ่นเป็นแมวสีขาวที่คุณแต๊กเลี้ยงไว้ ไม่ว่าเธอจะเดินไปมุมไหนของห้อง เจ้าแมวก็จะตามไปแล้วแอบชะเง้อมองดูเธออยู่ห่างๆ ตลอด จนเธอชินซะแล้วล่ะ เธอก็เลยไม่แจ้งตำรวจให้จับแมวถ้ำมองตัวนี้เหมือนกับตอนเจอคนทั่วไปเจอโรคจิต เพราะไม่งั้นเธอก็คงต้องประกันตัวมันออกมาเองอยู่ดี อีกอย่างเธอก็คงชอบให้มันแอบมองแบบนี้ด้วย เพราะมันสื่อว่าเจ้าเหมียวสนใจเธออยู่ตลอดเวลา   กันฝุ่นเป็นแมวที่ชอบแอบมอง   มันจะชะเง้อมองเจ้าของจากทุกมุมของห้อง   ไม่ว่าจะเป็นที่นอน   ตะกร้าผ้า (ดูนุ่มสบายดีนะ)   อยู่บนชั้นวางของ ก็ยังยื่นหัวมามอง   ตอนเข้าห้องน้ำก็ยังแอบมองเราทำธุระ เขินจัง   แม้แต่ตอนอยู่บนเตียงด้วยกัน ก็ยังไปแอบบนหัวเตียงแล้วมองมา มองตรงๆ ก็ได้น้า   แต่ที่ชอบแอบมองแบบนี้ น่าจะเป็นเพราะกันฝุ่นรักเจ้าของนั่นแหละ   โรคจิตแบบนี้เราไม่กลัว…

ความรักไม่มีขอบเขตหรือตัวกำหนด … ช่างภาพ Craig Turner-Bullock เป็นคนหนึ่งที่มีรสนิยมชอบเพศเดียวกัน เขาทำภาพถ่ายแต่งงานสัตว์เลี้ยงชุด #DogIsLove ขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดเรื่องความรักที่บริสุทธิ์และไม่มีข้อกำหนดตายตัว Craig ทำงานถ่ายรูปสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว และมีเว็บไซต์รวมผลงานชื่อว่า furtography เขาคิดว่าการใช้สุนัขเพื่อถ่ายทอดความรักเป็นสิ่งที่ลงตัวมาก หมามีความแตกต่างกันทั้งสายพันธุ์ อายุ นิสัย ขนาดตัว และสีขน แต่พวกมันก็รักกันได้โดยมองข้ามความแตกต่างเหล่านั้นไปอย่างสิ้นเชิง เขาอยากให้ทุกคนรักกันได้แบบนี้บ้าง และจากแนวคิดนั้นสุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นผลงานชุดนี้   ขอจุ๊บหน่อยนะที่รัก   เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวขยับมาชิดกันอีกหน่อย   ถึงเธอจะมีแค่ 3 ขา ฉันก็จะรักเธอเหมือนเดิม   คู่นี้เป็นเจ้าบ่าว 2 ตัวแหละ   คู่บ่าวสาวมองกล้องหน่อยสิ เอาขนมล่อจนเมื่อยแล้วน้า   ยิ้มให้กล้องบ้างก็ได้ ไม่ได้ถ่ายบัตรประชาชน   อายุต่างกันตั้งครึ่ง แต่ก็รักกันได้ไม่มีปัญหา   ต่างไซส์แล้วไง ใจตรงกันก็พอ   ที่รักจัดโบว์ให้มันตรงๆ หน่อยสิ รูปจะได้สวย   หอมแก้มไปเลย รักกันไม่มีอายอยู่แล้ว   ถึงผมจะอายุน้อยกว่าเธอ 3…

เมื่อไม่นานมานี้ตอนที่ #เหมียวอาตี๋ เล่นเว็บอยู่ ตาก็ไปสะดุดเข้ากับภาพน้องหมาสีเหลืองอ๋อยเหมือนกับไปตกกระป๋องสีมาเลย ดูๆ ไปแล้วมันก็น่ารักดี เราก็เลยเอามาให้ทุกคนได้ดูกัน แถมยังมีสาระความรู้การดูแลน้องหมามาให้ทุกคนได้รู้กันเล็กน้อยด้วย เจ้าหมาในภาพเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณ Sorawat Ananthanapon เขาโพสต์ภาพมันลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก รักหมา เพื่อแชร์วิธีรักษาโรคผิวหนังที่ทำให้เจ้าหมาคัน     ที่เห็นว่ามันเหลืองอ๋อยแบบนี้ เพราะเขาใช้ขมิ้นหมักขนให้มันเพื่อรักษาอาการคันนั่นเอง โดยเขาใช้ผงขมิ้นที่หาซื้อได้ตามตลาดนำมาละลายกับน้ำ แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนจะจับมันอาบน้ำต่อ ตัวของมันก็เลยกลายเป็นสีเหลืองสดแบบนี้แหละ มองดูแล้วก็ทั้งแปลกตาแล้วก็น่ารักไปอีกแบบหนึ่ง เจ้าของยังกระซิบมาด้วยนะว่าถ้าเอาน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นผสมลงไปตอนหมักด้วยจะช่วยให้ขนสุขภาพดีขึ้น     เหลืองกว่าลูกไก่อีกนะแก   รอบนี้เปลี่ยนมาใช้แชมพูขมิ้นแทน สีเลยอ่อนลงมานิด   นอกจากคุณ Sorawat แล้ว คุณ c h a r l e‏ จากทวิตเตอร์ก็อวดน้องหมาของตัวเองที่หมักขมิ้นมาบ้างเหมือนกัน เธอบอกว่าตอนช่วยกันจับมันหมักขมิ้นตัวมันสีเข้มจนเกือบจะส้มอยู่แล้ว แถมเล่นเอาคนทั้งบ้านที่ช่วยกันหมักขนมันมือเหลืองกันไปหมดเลย แต่ที่สำคัญก็คือพอหมักเสร็จแล้วเจ้าหมามันหายคันกว่าเดิมเยอะ แล้วก็ไม่เกาตัวเองบ่อยๆ แล้วด้วย เรียกได้ว่าเป็นวิธีรักษาแบบธรรมชาติที่ให้ผลดีทีเดียว     ขนที่หลังของน้องเข้มเหมือนสีจีวรอยู่นะ อิอิ   พออาบน้ำหลายรอบ สีก็จะหลุดไปเอง ก็สีธรรมชาติอะน้า   อย่างไรก็ตาม ก่อนจะใช้ขมิ้นหมักรักษาอาการคันให้เจ้าหมา เราควรจะปรึกษาสัตวแพทย์ก่อน…

สภาพภายนอกของเจ้าหมาเป็นตัวบ่งชี้ได้อย่างดีว่าเจ้าของดูแลมันมาดีแค่ไหน ทันทีที่คนได้เห็นหมาสีน้ำตาลตัวนี้ พวกเขาจึงบอกได้ว่าเจ้าของดูแลมันไม่ดีเลย น้องหมาขนยุ่งที่ว่านี้อาศัยอยู่ในอยู่ในซอยตันแห่งหนึ่ง มันขนพันกันหนักมากจนบางคนที่ได้เจอดูไม่ออกเลยว่ามันเป็นหมา วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เจอมันติดต่อมาหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA ให้มาช่วยมันไว้     ดูจากสภาพขนของมันแล้ว เจ้าของเก่าคงไม่ดูแลมันมานานมากๆ มันถึงได้ขนยุ่งไปทั้งตัวแบบนี้   กลุ่มวัยรุ่นที่เจอมันหาเสื้อมาคลุมกันหนาวให้เจ้าหมา และเล่นดนตรีให้มันฟังเพื่อให้มันรู้สึกผ่อนคลายขึ้น พวกเขาอยู่กับมันจนกระทั่งอาสาสมัครมารับตัวมันไปเลย พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Benji พอได้ตัวมันมา พวกเขาก็พามันตรงไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายมันก่อนเป็นอันดับแรกเลย     เจ้าหน้าที่ Carrie O’Riordan ที่พาตัวมันมาเล่าว่า “หลายปีที่ผมทำงานมา ผมไม่เคยเจอหมาขนพันกันร้ายแรงขนาดนี้มาก่อน คนที่ปล่อยให้มันโทรมแบบนี้ต้องแย่มากๆ ไม่ว่าเขาจะแก้ตัวยังไงก็แย่ทั้งนั้น”     ในวันถัดมาพวกเขาก็ทำการโกนขนให้มัน ต้องใช้เวลาตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าจะโกนขนทั้งหมดของมันได้ หลังจากโกนขนเสร็จแล้วมันก็ดูตัวเล็กอย่างไม่น่าเชื่อเลย นอกจากนี้พวกเขายังได้รู้อีกว่ามันขาด้วนเพราะขนพันกันแน่นมาก ขาของมันเลยถูกขนรัดจนไม่มีเลือดไปเลี้ยง แล้วต้องเสียขาไปในที่สุด     แม้จะช่วยให้ตัวเบาขึ้นแล้ว แต่มันก็ยังคงมีอาการตื่นกลัวคนอยู่ คงต้องให้มันทำความเคยชินกับคนอีกสักพักกว่ามันจะกลับมาไว้ใจมนุษย์อีกครั้ง ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์อยากฝากทุกคนที่เลี้ยงสัตว์ไว้ว่า อย่าเลี้ยงสัตว์เพียงเพราะความน่ารักเท่านั้น พวกมันมีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ดังนั้นเราต้องรับผิดชอบชีวิตของมันให้มันมีความสุข แม้ว่ามันจะดูไม่น่ารักเหมือนตอนเด็กๆ ก็ตาม ที่มา: the dodo

ถ้าไม่เห็นกับตาก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ลูกของสิงโตที่เราเรียกกันว่าเจ้าป่า มานอนอ้าซ่ามองมนุษย์ตาใส่ปิ๊ง แบบนี้ก็หลงรักกันหมดพอดี ลูกสิงโตขาว Tommy เป็นสัตว์ที่กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Black Jaguar White Tiger Foundation ช่วยเอาไว้ แม้มันจะเคยลำบากมาก่อนแต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว   ต้ะเอ๋ อยากเล่นกับเราป่าว?   Tommy เป็นลูกสิงโตขี้อ้อน ตอนอยู่กับอาสาสมัครที่ดูแลมัน มันจะนอนโชว์พุงเหมือนกับรอให้เราเข้าไปขย้ำพุงนุ่มๆ ของมัน แล้วก็มองหน้าเราด้วย นอกจากนี้เวลาที่เราส่งเสียงคุยกับมัน ลูกสิงโตขาวก็จะร้องโต้ตอบด้วยเสียงที่น่าเอ็นดูเสมอ นอกจากจะน่ารักแล้วยังแสนรู้อีกต่างหาก แบบนี้ไงถึงได้ใจมนุษย์ไปทั้งดวง   มันคุยโต้ตอบกับคนได้ด้วยนะ   ตอนที่มันส่งเสียงตอบกลับ จะทำหน้าเหมือนกำลังยิ้มกว้างให้กับคนที่คุยด้วย เห็นแล้วรู้สึกฟินมากมาย   ภาพเคลื่อนไหว มา!   ด้วยพฤติกรรมแบบที่พูดไป ชาวเน็ตก็เลยพากันหลงมันหัวปักหัวปำ บางคนถึงกับบอกว่ามันเป็นสิ่งที่น่ารักที่สุดที่เคยเห็นมาเลยล่ะ เราเองก็ต้องยอมรับเลยว่าเจ้า Tommy เนี่ยเชื่องกว่าแมวบางตัวซะอีก   เทียบกับแมวขี้งอนที่บ้านแล้ว … เห้อม ที่มา: OMGTW

ในแถบรัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อถึงช่วงที่อากาศอบอุ่น เหล่าแมวจรจัดก็จะพากันออกมาอาบแดดมากขึ้น จึงไม่แปลกเลยที่จะเห็นแมวจรจัดบ่อยๆ นักบิดสาวคนหนึ่งที่ผ่านไปแถวนั้นก็เจอแมวเหมือนกัน แต่แมวที่เธอเจอดูไม่เหมือนตัวอื่นเลย มันมีหัวทรงสี่เหลี่ยมและสะท้อนแสง หรือพูดอีกอย่างก็คือมันมีโหลพลาดติกติดอยู่บนหัวนั่นเอง     เธอรู้ว่ามันไม่น่าจะเอาโหลออกเองได้ จึงติดต่อไปหากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Tabby’s Place ให้เข้าไปบริเวณที่เจอมันเพื่อช่วยเจ้าแมวให้เป็นอิสระ Jonathan Rosenberg และผู้จัดการ Danielle Rice กับอาสาสมัครอีกจำนวนหนึ่งก็เลยเดินทางไปช่วยมันทันที     Rosenberg เล่าว่า “Danielle ไปคุยกับเจ้าของฟาร์มที่เจอเจ้าแมวอยู่ เธอบอกว่าที่นั่นมีแมวจรจัดเยอะมาก และเธอก็ให้อาหารมันด้วย แต่เธอไม่รู้เลยว่ามีแมวหัวติดโหลอยู่ เธออยากให้เราช่วยกันเอาโหลออกให้มัน” พวกเขาก็เลยช่วยกันตามหามันจนเจอในที่สุด แต่ถึงมันจะมีขวดโหลครอบหัวอยู่ เจ้าแมวก็หนีอย่างคล่องแคล่วจนจับมันไม่ได้เลย พวกเขาเสียเวลาไปกับการไล่จับมันทั้งวัน     ถึงมันจะไม่เข้าไปในกรงที่วางล่อไว้ ทว่าสุดท้ายแล้วระหว่างหนีหัวของมันก็ติดอยู่ระหว่างกองไม้ ทำให้อาสาสมัครจับมันมาได้ พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Hellman พอจับมันมาได้พวกเขาก็เอาขวดโหลออกให้มันโดยไม่รอให้เสียเวลา และไหนๆ ก็จับมันมาได้แล้วก็เลยช่วยทำหมันให้มันซะ     กลุ่มช่วยเหลือสัตว์รู้ดีว่า Hellman เป็นแมวจรจัดขนาดแท้ มันไม่ยินดีให้พวกเขาจับสักนิดเลย พอช่วยและทำหมันเสร็จแล้ว ก็เลยเอามันไปปล่อยไว้ที่ฟาร์มตามเดิม ถึงมันจะไม่ให้ความร่วมมือจนทำให้ทุกคนเหนื่อยกับการช่วยมัน แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็ยินดีที่ช่วยเอาโหลออกมาจากหัวมันได้ ช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทนนี่แหละรู้สึกดีที่สุดแล้ว      ที่มา:…

ภาพถ่ายที่เราเห็นกัน บางทีอาจจะไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมดก็ได้ เราต้องมองให้ดีว่ารูปภาพนั้นใช้มุมมองในการถ่ายเพื่อตบตาเรารึเปล่า วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาลับสมองกันหน่อยดีกว่า กับภาพสัตว์ป่วนๆ ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับทุกคนได้ มาดูกันว่าคุณจะรู้รึเปล่าว่าความจริงในภาพนั้นคืออะไร   กระรอกอะไรตัวใหญ่เท่ารถ   วัวตัวนี้ตัวยาวเกินไปแล้ว   น้องหมาเก่งจัง ขี่จักรยานเป็นด้วย   หือ นี่มันหัวหมาสตาฟใช่ไหม   อื้อหือ หมาตัวนี้หมุนคอขนาดนี้ได้ยังไง   หมาพันธุ์ใหม่ มีหัว 2 ด้าน   นกยักษ์บุกโลกแล้ว   สมัยนี้แม้แต่เหยี่ยวก็เซลฟี่เป็น   ยุคของไดโนเสาร์กำลังจะมาเยือนเราจริงๆ ด้วย   อยากได้หมา 6 ขาแบบนี้บ้างจัง ไม่เหมือนใครดี   หมา 2 ขาแบบนี้เคยเห็นก็รึเปล่า   เดี๋ยวนี้การตัดต่อยีนส์ล้ำมาก ทำให้หางม้ากลายเป็นหัวก็ได้   คนหน้าหมาขนานแท้   เอ้า เข้ามาสิ นี่หมา 2 หัวมาต้อนรับเองเลยนะ   ถึงผมจะตัวขาด…

แม้แต่เด็กเล็กก็คงจะบอกได้ว่าจิงโจ้ไม่ใช่สัตว์น้ำ ดังนั้นคุณคงจะนึกออกว่าเมื่อเจอจิงโจ้อยู่ในทะเล จะทำให้เราแปลกใจมากขนาดไหน ณ ชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย มีคนเห็นจิงโจ้ตัวหนึ่งลอยคออยู่ใกล้กับกำแพงกั้นน้ำ มันโผล่หน้าขึ้นมามองเหมือนกับกำลังรอใครสักคนไปช่วย     นักดับเพลิงประจำรัฐควีนส์แลนด์ก็เลยเดินทางไปช่วยมัน พวกเขาคาดว่ามันคงจะโดดเล่นไปตามชายฝั่งตอนน้ำลด แต่พอน้ำขึ้นแล้วมันก็กลับขึ้นมาบนฝั่งไม่ทัน ตอนที่เจอมันน้ำก็สูงถึงคอเจ้าจิงโจ้แล้ว ดีที่มันมาอยู่ติดกับกำแพงกั้นน้ำพอดี นักดับเพลิงก็เลยร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยกันดึงเจ้าจิงโจ้ขึ้นมาจนมันมาอยู่บนฝั่งได้อย่างปลอดภัย และตั้งชื่อมันว่า Skippy     พอได้ขึ้นฝั่งแล้ว Skippy ก็ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหนเลย ไม่รู้ว่ามันเพลียมากหรือกำลังรอให้ตัวแห้งก่อนค่อยกลับถิ่นกันแน่ แต่ในเมื่อปลอดภัยแล้วเจ้าหน้าที่ทุกคนก็อุ่นใจได้แล้วล่ะ     หลังจากนั้นนักดับเพลิงก็โพสต์เรื่องนี้ลงบนทวิตเตอร์ของหน่วยงาน เพื่อให้คนในพื้นที่ได้รู้ว่าช่วยเจ้าจิงโจ้ไว้ได้แล้ว พวกเขาโพสต์ว่า “เจ้า Skippy ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ? น้ำทะเลขึ้นสูงมากจนติดอยู่หลังกำแพงกั้นน้ำล่ะสิ ต้องการให้คนช่วยใช่ไหม? โชคดีนะที่ Skippy ยังมีเพื่อนแท้แบบเราอยู่ แล้วเราก็ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนช่วยมันไว้ได้!”     หวังว่ามันจะเรียนรู้บทเรียนครั้งนี้ แล้วไม่ลงไปเดินเล่นนอกกำแพงกั้นน้ำอีกนะ   ที่มา: the dodo

มีสำนวนหนึ่งบอกว่า ‘ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม’ ซึ่งแปลว่าให้ทำอะไรอย่างใจเย็น ไม่ต้องรีบร้อนแล้วจะได้ผลดีเอง แต่เจ้าเต่าคงจะใจเย็นเกินไปหน่อย เลยหนีออกจากบ้านไม่พ้นซะงั้น Fred เป็นเต่าของนาย Terry Phelps วัย 86 กับภรรยา Sue วัย 73 ปี พวกเขาอยู่กับมันมานาน 30 ปีแล้ว สำหรับพวกเขามันจึงเป็นเหมือนกับสมาชิกครอบครัวคนหนึ่ง แต่แล้ววันหนึ่ง Fred ก็หนีออกจากบ้านไป ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ทำให้ Terry เป็นห่วงมันมาก เขาเลยลงประกาศตามหามันในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น …   เจ้าเต่าหนีออกจากบ้านไป เหลือไว้แค่บ้านที่ว่างเปล่า   ทว่าอีก 1 สัปดาห์ต่อมา ชายคนหนึ่งก็เจอมันอยู่กลางถนนระหว่างที่เขากำลังขี่มอเตอร์ไซค์ เขาได้อ่านประกาศหายของมันมาก่อน จึงเอามันกลับไปส่งคืนเจ้าของได้อย่างปลอดภัย   Terry บอกว่า “ผมไม่รู้จะขอบคุณคนที่ช่วย Fred ไว้ยังไงเลย ตอนที่มันหายไปผมกังวลมากจนนอนไม่หลับทั้งคืนเชียวนะ” ส่วนคนที่ช่วยมันซึ่งไม่อยากเปิดเผยตัวตนก็บอกว่า “ผมเจอมันอยู่กลางถนนเลยล่ะ เกือบจะขี่รถทับมันไปแล้วด้วย… ผมคิดถูกแล้วที่ไม่ทิ้งมันเอาไว้ตรงนั้นแล้วเก็บมันมาคืนเจ้าของ”     เมื่อชายคนนั้นบอก Terry ว่าเจอมันที่ไหน……

ถ้าลูกเป็ดน้อยไม่มีแม่อยู่ด้วย พวกมันก็มีโอกาสรอดไม่มากนัก เพราะไม่มีคนคอยปกป้องและดูแล ทว่าลูกเป็ดกำพร้าครอบครัวนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องแม่อีกต่อไป เพราะมีแม่ใหม่พร้อมอ้าปีกต้อนรับพวกมันอยู่แล้ว เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2016 เจ้าหน้าที่ควบคุมสัตว์ Diane Desrosiers เจอลูกเป็ด 10 ตัวอยู่กลางถนนในเมือง เซาท์เกต รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยไม่มีแม่เป็ดอยู่ด้วย     หากต้องปล่อยให้พวกมันกลายเป็นลูกเป็ดกำพร้า ชีวิตของพวกมันก็คงจะไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ และแล้วเธอก็นึกถึงวิธีที่อาจจะช่วยพวกมันได้ เธอจำได้ว่าในสระน้ำของสนามกอล์ฟ South Winds Golf Club ที่อยู่ใกล้ๆ มีฝูงเป็ดกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่ ถ้าเอาไปปล่อยไว้ที่นั่นอย่างน้อยพวกมันก็น่าจะมีเป็ดที่โตแล้วคอยดูแล จะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะหาอาหารไม่ได้ การพาพวกมันมาที่นี่ได้ผลดีเกินกว่าที่เธอคิดไว้มาก ทันทีที่เธอปล่อยลูกเป็ดลงสระ ก็มีแม่เป็ด Stella ซึ่งเป็นแม่ของลูกเป็ด 9 ตัวอยู่แล้ว ว่ายน้ำมารับพวกมันเป็นลูกเพิ่มด้วยความเอ็นดู   พวกเธอไม่มีแม่เหรอ…ฉันจะดูแลพวกเธอเอง   ในคลิปวิดีโอที่ลงไว้ในเฟซบุ๊ก มีคนพูดว่า “เหมือนกับเธอจะบอกกับลูกเป็ดว่า ‘ตามฉันมาได้เลย’ อย่างงั้นแหละ” ซึ่งดูแล้วก็เหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ จากนั้นลูกเป็ดกำพร้าทั้ง 10 ตัวก็ไม่กำพร้าแม่อีกต่อไป พวกมันกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ โดยมีแม่เป็ด Stella กับพี่น้องใหม่อีก 9 ตัวด้วย   ยินดีกับลูกเป็ดทั้ง 10…

ลูกแมวน้อยตัวนี้โชคร้ายเพราะเกิดมามีขาหน้าที่ไม่สมบูรณ์ ทว่ามันก็ไม่สนใจเรื่องนั้น มันทำทุกอย่างเพื่อให้ใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนพี่น้อง แม้จะต้องยืน 2 ขาก็ตาม แมวน้อย Piper เป็นลูกแมวเพียงตัวเดียวในพี่น้อง 5 ตัวที่เกิดมาพร้อมกับอาการ radial agenesis ซึ่งทำให้ขาหน้าไม่สมบูรณ์ ทำให้มันเดินและใช้ขาหน้าได้ไม่สะดวกนัก     แม่ พี่น้องรวมไปถึงตัวมันเองถูกเจ้าของเก่าทิ้งเพราะทนกับความวุ่นวายที่พวกมันก่อไม่ไหว โชคดีที่สมาชิกครอบครัวคนอื่นรู้เรื่องเข้าเลยพาพวกมันทั้งครอบครัวไปส่งไว้ในที่ที่ปลอดภัย จากนั้นครอบครัวของมันก็ได้มาอยู่ในความดูแลของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Here Kitty Kitty Rescue ในเมืองเอลก์ฮาร์ท รัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา     ในความโชคร้ายที่ถูกเจ้าของเก่าทิ้ง พวกมันมีบ้านหลังหนึ่งที่พร้อมอ้าแขนต้อนรับให้ไปอยู่ด้วย ครอบครัวของ Piper เลยมีบ้านที่อุ่นสบายอยู่อีกครั้งหนึ่ง Tina Weigle คนที่รับดูแลมันบอกว่าแม่แมวและลูกแมวทุกตัวน่ารักมากๆ มันไม่กลัวคนเลย เจ้า Piper เองก็เป็นมิตรมากกว่าแมวตัวอื่นๆ ทุกครั้งที่เห็นคนเดินเข้ามาในห้อง Piper จะเดินเข้ามาหาพวกเธอเองเลย     อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัญหาเล็กๆ อยู่อย่างหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะมันดูไม่สมบูรณ์ แม่แมวก็เลยไม่สนใจจะดูแลมันให้ดีเหมือนกับลูกแมวตัวอื่นๆ จึงเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องช่วยดูแลมันแทน ทว่าความช่วยเหลือของพวกเธอก็ดูเหมือนจะไม่จำเป็น ถึงจะพยายามเอาอาหารเสริมให้กิน แต่ Piper ก็อยากจะใช้ชีวิตเหมือนพี่น้องตัวอื่นๆ มันเลยพยายามไปกินข้าวร่วมกับพี่น้องด้วยตัวเองเสมอ     ในเมื่อขาหน้าของมันทำให้มันยืนธรรมดาได้ลำบาก…

ใครจะไปคิดล่ะว่าโปสเตอร์เขียนมือแบบเด็กๆ ที่ไม่มีแม้แต่รูปสัตว์เลี้ยง จะพาให้เด็กน้อยได้กลับมาเจอกับสัตว์เลี้ยงของเธออีกครั้งหนึ่ง นี่อาจจะเป็นพลังแห่งความตั้งใจของเธอก็ได้ เจ้าเต่า Chalky กับ Spot เป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวมานานถึง 50 ปี ทุกคนในครอบครัวรู้สึกผูกพันกับเต่าทั้ง 2 ตัวมาก แต่อยู่มาวันหนึ่งขณะที่เล่นอยู่ในสวนพวกมันก็หายตัวไป     คนในครอบครัวตามหามันทุกซอกทุกมุมของบ้านแล้ว แต่ก็หาตัวไม่เจอเลย ทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาวน้อย Ella ที่เล่นกับเจ้าเต่าเป็นประจำ คุณแม่ Harris เล่าว่า “สำหรับเราแล้ว พวกมันพิเศษมาก Ella มักจะคอยช่วยดูแลพวกมันเสมอ และเธอก็รู้สึกไม่สบายใจเลยตอนที่เอาอาหารไปให้แต่ไม่เจอพวกมันในสวน”     ด้วยความเป็นห่วงและความสามารถที่มีอยู่ของ Ella เธอก็ทำโปสเตอร์เขียนด้วยมือแผ่นหนึ่งขึ้นและเอาไปแปะไว้แถวบ้าน มันเขียนขึ้นลวกๆ โดยมีแค่ข้อความและรูปวาดด้วยดินสอเท่านั้น ดูแล้วไม่น่าจะทำให้คนอ่านรู้หน้าตาของเจ้าเต่าได้เลย ทว่าโปสเตอร์แผ่นนี้แหละที่ทำให้เธอได้เจอพวกมันอีก เนื่องจากมีคนเจอเจ้าเต่าทั้ง 2 ตัวแล้วติดต่อให้เจ้าหน้าที่จากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA มารับตัวพวกมันไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย     ในขณะที่เจ้าหน้าที่ Nicola Sullivan กำลังจะพาตัวมันกลับไปศูนย์พักพิงนั่นเอง เธอก็ผ่านไปเห็นโปสเตอร์ของ Ella เข้า เธอคิดว่าเต่าที่เจออาจจะเป็น Chalky กับ Spot ก็ได้…

หลังจากที่ต้องเตร็ดเตร่เป็นหมาจรจัด และอยู่ในศูนย์พักพิงโดยไม่มีเจ้าของอยู่นาน ท้ายที่สุดมันก็ได้รับความเมตตาให้มีบ้าน แถมได้อยู่กับนักแสดงด้วย เจ้าหมาตัวนี้เป็นสุนัขพันธุ์พิตบูลล์ผสมที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างถนนของเมืองคอนโร รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่พาตัวไปอยู่ในศูนย์พักพิง Montgomery County Animal Shelter     ผิวหนังของมันเป็นเรื้อนและมีสีแดงแซมทั้งตัว แถมยังกลัวคนเพราะใช้ชีวิตจรจัดมานาน คนที่เจอมันรู้สึกสงสารมัน ก็เลยติดต่อกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ A Chance to Bloom Dog Rescue ให้ช่วยเจ้าหมาเอาไว้ ทางกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็ยินดีจะรับมันไว้ เพราะพวกเขาเชี่ยวชาญในการรักษาสัตว์ที่เป็นเรื้อน และก็รับสุนัขพันธุ์นี้มาเป็นประจำ พวกเขาเลยมั่นใจว่าจะรักษามันได้     เดี๋ยวคุณหมอช่วยรักษานะ   เจ้าหมาได้รับชื่อว่า Sylvia พวกเขาไม่เพียงรักษาร่างกายของมันให้หายดีเท่านั้น พวกเขาพยายามเล่นและทำความคุ้นเคยกับมันเพื่อรักษาอาการกลัวมนุษย์ให้มันอีกด้วย จากที่เคยเป็นหมากลัวคน ตอนนี้มันก็เลยเป็นหมาที่ร่าเริงสดใส ชอบเล่นกับคนอื่นไปเรียบร้อยแล้ว แม้แต่เด็กก็เล่นด้วยได้ไม่มีปัญหา     อย่างไรก็ตาม Sylvia ก็ยังไม่มีคนมาขอรับเลี้ยง กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ก็เลยโพสต์หาบ้านให้มันเพิ่มทางเว็บไซต์ Petfinder หลังจากนั้นเพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็มีคนติดต่อมาขอรับเลี้ยงแล้ว พอคนที่ขอรับเลี้ยงมารับตัวมันที่ศูนย์พักพิง พวกเขาถึงได้รู้ว่าคนที่จะมาเป็นเจ้าของมันก็คือนักแสดงชาย Justin Theroux นี่เอง รอมานานแต่ได้เจ้าของดีขนาดนี้คงคุ้มแล้วล่ะ     ตอนนั้น Theroux อยู่ที่เมืองออสติน เขาก็เลยขับรถนาน…

ดังที่ว่า ‘ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ คนเราดูดีได้เพราะการแต่งตัว สำหรับน้องหมาแล้ว นอกจากรูปร่าง ก็มีขนนี่แหละที่ทำให้พวกมันดูสง่างาม วันนี้เราจะพาทุกท่านไปพบกับหมาสุดฟรุ้งฟริ้ง ที่มีขนนุ่มฟูเป็นที่สุด มองแล้วเหมือนกับเห็นปุยเมฆก้อนน้อยๆ กำลังลอยเคลื่อนตัวอยู่ในบ้านเลย น้องหมาตัวนี้ก็คือ Sesame มันได้รับการแปลงโฉมจากร้านเสริมสวยสุนัข Yorikokoro ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งชำนาญด้านการทำให้สุนัขขนนุ่มฟูกว่าใครๆ ขนของมันนุ่มฟูจนอธิบายด้วยคำพูดคงไม่เห็นภาพ เจอภาพจริงกันเลยดีกว่า   นี่ไงหมา Sesame   ตัดขนมาใหม่ถูกใจมากมาย   ขนฟูจนรู้สึกเหมือนมีหมอนหนุนติดตัวตลอด   ยิ่งมองจากด้านหลังแล้วเหมือนปุยเมฆเลยใช่ม้า   เห็นแล้วอยากกอดล่ะสิ เรารู้นะ   แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าทุกคนคิดว่าเจ้า Sesame เป็นที่สุดแห่งความน่ารักแล้ว เราขอบอกเลยว่ายังมีหมาขนฟูมาให้ทุกคนดูกันอีกเพียบ ร้านเสริมสวย Yorikokoro ไม่ได้บริการเจ้า Sesame เป็นพิเศษจนมันขนสวยตัวเดียวสักหน่อยนี่นา หมาอีกหลายตัวที่ผ่านการเสริมสวยจากร้านก็น่ารักไม่แพ้กันเลย   น้อง Sakura ติดโบว์ตามชื่อตัวเองด้วย   เราฟูด้านบนเยอะไปหน่อย เหมือนทำผมแอฟโฟร่เลย   เจ้า Phantom ถึงขนจะสั้นกว่าเพื่อน แต่ก็ฟูได้เหมือนกันนะ   น้อง…

ในขณะที่หลายคนต้องย้ายหนีจากเมืองใหญ่เพื่อไปสูดบรรยากาศธรรมชาติในชนบท หนุ่มคนหนึ่งกลับเจอสัตว์ป่าแสนเป็นมิตรมาเยือนถึงบ้าน ได้สัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ๆ กันไปเลย นาย Tom Bell อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาอยู่ในอพาร์ตเมนต์ซึ่งมีพื้นที่บนดาดฟ้าเป็นสวนเล็กๆ แล้วเขาก็มักจะไปใช้เวลาพักผ่อนอยู่บนนั้น ทว่าเมื่อเขาขึ้นไปบนดาดฟ้าครั้งนี้ เขาก็เห็นแขกไม่ได้รับเชิญนอนเล่นอยู่ก่อนแล้ว มันคือจิ้งจอกตัวหนึ่งที่ขึ้นมาทางบันไดหนีไฟ แล้วยึดฟูกของเขาไปนอนสบายใจเฉิบ   หวัดดีมนุด มานั่งด้วยกันสิ   บนนี้สบายดีจัง ของีบหน่อย   ท่าทางของมันไม่ได้ดุร้ายหรือดูมีพิษภัยเลย มันแค่ตั้งใจมานอนอาบแดดยามเย็นแล้วงีบหลับพักผ่อนเท่านั้น Tom ก็เลยยอมให้มันอยู่เป็นเพื่อนด้วย แน่นอนว่าการมีจิ้งจอกเป็นมิตรมาอยู่เป็นเพื่อนบนดาดฟ้าไม่ได้เกิดขึ้นกันทุกวัน เมื่อเจอเรื่องชื่นใจแบบนี้เขาก็เลยต้องถ่ายรูปมันเก็บไว้ แล้วแชร์ลงบนทวิตเตอร์ด้วย   แดดก็ดี ลมก็เย็น มันน่านอนจริงๆ   พูดแล้วก็ง่วง หาวววว   งีบต่ออีกยกละกัน   Tom เองก็รู้สึกชอบที่มีสัตว์เป็นมิตรแบบนี้มาอยู่ใกล้ชิดด้วย เพื่อทำให้มันรู้ว่าเขาเองก็ไม่ได้มาร้าย เขาก็เลยเอากีตาร์มานั่งดีดเพลงให้มันฟังตอนนอน แถมยังเอาขนมมาป้อนให้มันกินด้วย   ระหว่างนอนเราจะเล่นเพลงกล่อมให้   ถ้าหิวเราก็มีขนมให้กินนะ   หลายคนอาจจะสงสัยว่านี่มันกลางกรุงลอนดอนเชียวนะ สัตว์ป่าแบบจิ้งจอกมาโผล่ตรงนี้ได้ยังไง … อันที่จริงแล้วในกรุงลอนดอนเองก็มีจิ้งจอกอาศัยอยู่เยอะเหมือนกัน เหมือนสัตว์จรจัดเลย การเจอมันบ้างจึงไม่ใช่เรื่องแปลก พอชาวเน็ตได้เห็นรูปเจ้าจิ้งจอกบนดาดฟ้าของ…

เจ้าหมาพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก Max เป็นหมาที่ฉลาดและเรียบร้อย มันทำสิ่งที่เรียบง่ายที่สุดซึ่งก็คือการนั่งรอเจ้าของเงียบๆ แต่แค่นั้นก็มากพอจะมัดใจชาวเน็ตทั่วโลกแล้ว   ผม Max เองฮะ   เรื่องของ Max ไม่มีอะไรที่หวือหวาหรือแปลกเลย Jenn หญิงเจ้าของของหมาน้อยพามันไปที่ร้านกาแฟในที่ทำงานด้วยกัน แต่ว่าที่ร้านกาแฟห้ามพาสัตว์เลี้ยงเข้าไปด้วย ในเมื่อเจ้าของจะซื้อเครื่องดื่ม Max ก็เลยทำตัวเป็นเด็กดีโดยการนั่งรออยู่หน้าทางเข้าร้านพอดิบพอดี อย่างกับมันอ่านป้ายออกแน่ะว่าตัวเองเข้าไปไม่ได้   เจ้าของของ Max แวะไปซื้อเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟ   ที่นั่นห้ามไม่ให้สัตว์เลี้ยงเข้า   Max เลยนั่งรออยู่หน้าร้านอย่างว่าง่าย   ไม่มีการส่งเสียงร้องรบกวนลูกค้าอื่นเลย โคตรคูล   Jasmine Scofield เพื่อนร่วมงานของ Jenn ที่ไปร้านกาแฟด้วยกัน เห็นแล้วอดปลื้มกับความแสนรู้ของ Max ไม่ได้ ถึงมันจะแค่นั่งรอที่เดิม แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากๆ เธอเลยถ่ายรูปมันแล้วโพสต์ลงในทวิตเตอร์ โดยใช้แคปชั่นสั้นๆ ว่า “มันกำลังรออยู่” แต่ผลตอบรับที่ได้จากชาวเน็ตนั้นดีเกินคาด ตอนนี้ความน่ารักของ Max เรียกยอดไลก์จากชาวเน็ตไปแล้วกว่า 500,000 ไลก์     ต้องยกความดีความชอบให้แม่ที่สอนมาดีด้วย   Jenn…

ถ้าอยากรู้ว่าสิงโตมันแข็งแกร่งขนาดไหน ต้องบอกเลยว่าแข็งแกร่งมากว่านักมวยปล้ำ WWE (World Wrestling Entertainment) 3 คนซะอีก แถมสิงโตตัวนี้ยังหนุ่มอยู่ด้วยนะ ถ้าโตขึ้นมันจะแข็งแรงขนาดไหน!? ที่บอกว่ามันแข็งแกร่งกว่านักมวยปล้ำนั้น เพราะว่าพวกเขาเล่นแข่งชักเย่อกันแล้วมันชนะนั่นเอง โดยการแข่งขันนี้จัดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการที่สวนสัตว์ San Antonio Zoo เมืองซานอันโตนิโอ รัฐ เท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา   นักมวยปล้ำจาก WWE ทั้ง 3 คนที่มาแข่งชักเย่อกับสิงโตหนุ่ม   ที่กรงของสิงโตในสวนสัตว์แห่งนี้จะมีช่องสำหรับให้เชือกลอดเข้าไปในกรง เพื่อให้พวกสิงโตได้เล่นชักเย่อกับคนที่เข้ามาเยี่ยมชมด้วย ซึ่งครั้งนี้เป็นคราวของนักมวยปล้ำมืออาชีพทั้ง 3 คน Ricochet, Fabian Aichner และ Killian Dain ที่มายังสวนสัตว์พอดี แล้วก็ได้ท้าประลองกับสิงโตหนุ่มที่อายุเพียง 2 ปีครึ่งเท่านั้น   สิงโตหนุ่มคู่แข่งนักมวยปล้ำ   จากคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่า 3 หนุ่มนักมวยปล้ำดึงเชือกกันสุดกำลังเลย ส่วนสิงโตหนุ่มก็ไม่ยอมเหมือนกัน มันกัดเชือกเอาไว้โดยไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่นิดเดียว จนสักพักหนึ่งนักมวยปล้ำเห็นว่าดึงต่อไปก็คงไม่ไหวแล้ว ก็เลยยอมแพ้และยกชัยชนะให้กับเจ้าสิงโตหนุ่มไป สรุปได้ว่าอย่างน้อยๆ มันก็แข็งแกร่งกว่านักมวยปล้ำ 3 คนแล้วล่ะ ส่วนจะชนะ 4 หรือ…

แมวตาเขตัวนี้เป็นที่รักของทุกคนรอบตัว มันทั้งน่ารักและมีเสน่ห์ แถมตาที่เขเอียงของมันก็เป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดผู้คนด้วย จะขาดอย่างเดียวก็แค่บ้านที่เป็นของตัวเองเท่านั้น     นี่คือเจ้า Belrarus แมวเหมียวตาเขที่ต้องระเห็จมาถึงศูนย์พักพิง  Animal Care and Control San Francisco ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าของเก่าของมันรักมันมาก แต่ก็ต้องแยกทางจากมัน เพราะเจ้าของที่ดินไม่อนุญาตให้เธอเลี้ยงสัตว์     ทันทีที่ Belarus มาอยู่ในศูนย์พักพิง มันก็ชนะใจอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ทุกคน อาสาสมัครที่นั่นบอกว่า “เจ้าขนปุยตัวโตนี่เป็นแมวที่หล่อ หางฟู แล้วก็มีตาเขที่ดูน่าหลงใหลเป็นที่สุด” มันนิสัยเป็นมิตรสมกับคนชมของทุกคนเลย ไม่ว่ามันเห็นใครผ่านมาก็ตาม มันจะลุกขึ้นแล้วเดินไปเล่นกับพวกเขาโดยไม่ต้องรอให้เรียกเลย     Josh Norem ช่างภาพถ่ายรูปสัตว์เล่าว่า “ตอนที่เราไปถึงกรงของมัน มันจะยืน 2 ขาพิงประตู ดูแล้วเหมือนกับจะบอกว่า ‘อุ้มฉันสิ’ อย่างงั้นแหละ โคตรน่ารักเลยอะ” เจ้าเหมียว Belarus ดูมีความสุขที่สุดทุกครั้งที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของมนุษย์ มันจะครางหึ่มๆ ด้วยความฟินจนคุณเห็นแล้วอดเอ็นดูมันไม่ได้     ถึงจะตาเขแต่มันก็มองทุกอย่างในโลกด้วยความรัก มันเข้ากับเพื่อนได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็กเล็ก หรือแม้แต่หมาก็ด้วย…

หมาน้อยรักเจ้าของของตัวเองมาก มันจะตามติดเธอไปทุกที่เสมอ จนกระทั่งมันได้ของขวัญเป็นผ้าห่มที่มีลายเป็นรูปตัวเอง มันก็เริ่มมาติดผ้าห่มผืนนี้แทน Emily Vanover วัย 23 ปีเป็นเจ้าของของหมาชิสุชื่อ Kevin พวกเธออยู่ด้วยกันในเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเลี้ยง Kevin มาตั้งแต่มันยังอายุแค่ 6 เดือน เธอบอกว่ามันเปรียบเสมือนชีวิตทั้งหมดของเธอ ทุกคนรอบตัวเธอรู้ดีว่าเธอรักมันมาก ก็เลยหาของขวัญมาให้เจ้าหมาเป็นประจำ     เมื่อวันคริสต์มาสปี 2017 แม่ของเธอเอารูปของเจ้าหมาไปทำเป็นลายบนผ้าห่ม แล้วยกให้เธอเป็นของขวัญ เธอชอบมันมาก และดูเหมือน Kevin จะชอบผ้าห่มผืนนี้ไม่แพ้เธอเลย เธอเล่าว่า “ทุกครั้งที่ฉันเอาผ้าห่มออกมาใช้ มันจะมานั่งข้างๆ ผ้าห่ม เลียผ้าห่มบ้าง กอดกับมันบ้าง อย่างกับมันคิดว่าผ้าห่มเป็นเพื่อนอย่างนั้นแหละ“     เธอบอกอีกว่า “แล้วถ้าเราย้ายผ้าห่มไปไหน มันก็จะตามไปด้วยเสมอ ถ้าผ้าห่มอยู่บนโซฟา เราก็จะเจอ Kevin ที่นั่น และถ้าผ้าห่มอยู่บนเตียงมันก็จะอยู่ที่นั่นเหมือนกัน วันหนึ่งฉันทำข้าวเย็นอยู่ในห้องครัว แล้วก็แปลกใจมากที่ Kevin ไม่มาอยู่กับฉันแล้วขอขนมตามปกติ ฉันก็เลยเดินไปดูที่ห้อง แล้วเห็นมันนั่งอยู่กับผ้าห่ม พร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นเลย”    …

เคยสงสัยบ้างไหม ว่าถ้าหมาบังเอิญเจอเพื่อนที่รู้จัก เหมือนเวลาเราบังเอิญเจอเพื่อนตอนเดินห้างฯ มันจะทักทายกันเหมือนคนเรารึเปล่า … วันนี้เรื่องของเจ้าหมา 2 พี่น้องมีคำตอบให้เราแล้ว เมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 ครอบครัวของ Walela Nehanda ได้พาเจ้าหมา Louie ของตัวเองไปเดินเล่นในสวนสาธารณะตามปกติ แต่ครั้งนี้มันทำตัวแปลกออกไป เธอเล่าว่า “แม่กับพ่อของฉันพามันไปวิ่งด้วยที่สวนสาธารณะทุกวัน ปกติมันก็ไม่สนใจสุนัขตัวอื่นนัก แต่ครั้งนี้อยู่ๆ มันก็หยุดมองสุนัขตัวหนึ่ง เจ้าตัวนั้นก็มองกลับมาหามันเหมือนกัน สักพักพวกมันก็วิ่งเข้ามาเล่นด้วยกันเฉยเลย”     เธอเล่าต่อว่า “เจ้าหมา 2 ตัวดูคล้ายกันมาก พ่อแม่ฉันก็เลยถามเจ้าของของหมาอีกตัวว่าไปได้มันมาจากไหน แล้วพวกเขาก็บอกว่า Beau Monde ซึ่งเป็นที่เดียวกันที่เรารับเจ้าหมามา จากนั้นเราก็ถามว่าพ่อกับแม่ของมันชื่ออะไร พวกเขาก็บอกว่า ‘Bug กับ Hank’ ซึ่งเป็นพ่อแม่ของ Louie เช่นกัน แปลว่าพวกมันเป็นพี่น้องกันจริงๆ “     ใครจะไปคาดคิดว่าหมา 2 พี่น้องที่แยกกันตั้งแต่เด็กจะยังจำกันได้ แถมพอเจอกันพวกมันก็วิ่งเข้าหากันใหญ่เลย เรื่องนี้ทำให้เธอซาบซึ้งใจมาก เธอเอาเรื่องของพวกมันทวีตลงทวิตเตอร์ว่า “ครอบครัวของเราเอา Louie (ตัวขวา) มาจากคนขายสัตว์เลี้ยงหลายปีก่อน เดาซิว่าทำไมอยู่ๆ Louie…

หลังจากไม่ได้เห็นมันมานานหลายปี ตอนนี้กล้องวิดีโออินฟราเรดจากประเทศจีนสามารถจับภาพของ Ili Pika เอาไว้ได้อีกครั้ง ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นสัตว์หายากนี้อีกครั้งหนึ่ง หลายคนคงไม่รู้จักเจ้า Ili Pika มาก่อนหรอก มันเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนเท่านั้น และเป็นสายพันธุ์หนึ่งของ Pika ซึ่งเป็นสัตว์ต้นแบบของเจ้าปิกาจูจากเรื่องโปเกม่อนนั่นเอง     Ili Pika ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1983 แม้จะเป็นสัตว์สายพันธุ์ย่อยของ Pika ที่หน้าตาเหมือนหนูตัวเล็ก แต่ Ili Pika นั้นตัวใหญ่กว่าจึงดูเหมือนหนูผสมกระต่าย และบางมุมหน้าก็ดูคล้ายกับตุ๊กตาหมีเลย พวกมันมีความยาวช่วงตัวเฉลี่ยประมาณ 20 เซนติเมตร และน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 250 กรัม อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มนุษย์ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอมัน ก็คือมันเป็นสัตว์ท้องถิ่นที่อยู่เฉพาะเขตภูเขาเทียนซานของประเทศจีนเท่านั้น โดยจะอาศัยอยู่ที่ระดับความสูง 2,800 – 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล     ล่าสุดเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมามีคนตั้งกล้องวิดีโออินฟาเรดเอาไว้เพื่อศึกษากลุ่มตัวอย่างบนภูเขาเทียนซาน และสามารถจับภาพของ Ili Pika ไว้ได้ ต่อมาจึงได้นำมาถ่ายทอดผ่านทางช่อง CGTN เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2018  …

ครอบครัวพาเจ้าหมาตัวแสบไปว่ายน้ำเล่นด้วยกัน เล่นแรงจนกดหัวเจ้านายเกือบจมน้ำ วีกรรมนี้ทำเอามันดังเป็นกระแสไวรัลชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว Holly สาววัย 18 ปีและครอบครัวของเธออยู่ที่รัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2018 ครอบครัวของเธอตัดสินใจพาเจ้าหมา Sam ไปว่ายน้ำเล่นด้วยกันที่ทะเลสาบ Lake Saguaro   นี่คือ Holly   และนี่คือเจ้าหมา Sam ตัวแสบ   เธอเล่าว่า “มันเคยไปว่ายน้ำไม่กี่ครั้งเอง และครั้งนี้น้ำก็ลึกด้วย เราก็เลยหาเสื้อชูชีพหมาให้มันใส่ … พ่อของฉันโยนลูกเทนนิสของมันลงไปในน้ำ มันก็ตามไปเก็บตามปกติ … จนกระทั่งมันเห็น Ariana น้องสาวของฉันว่ายน้ำอยู่ แล้วเข้าไปหาเธอแทน” ไม่แน่ใจว่า Sam ตื้นเต้นที่จะได้เล่นน้ำกับ Ariana หรือว่ามันตั้งใจแกล้งกันแน่ เจ้าหมาเข้าไปเกาะอยู่บนหลังของเธอ ก่อนจะกดเธอลงไปใต้น้ำแล้วนั่งแช่อยู่หลายวินาทีเลย จนคุณพ่อต้องรีบลงไปช่วย ส่วน Holly ก็ทำหน้าที่พี่ที่ดี … ด้วยการยืนดูน้องสาวอยู่ห่างๆ แล้วถ่ายรูปเก็บเอาไว้   มันก็เป็นวันเที่ยวทะสาบที่ดี … จนกระทั่งหมาของฉันเกือบทำน้องสาวจมน้ำ  …

เจ้าของสุนัขรายหนึ่งไม่พอใจอย่างมากที่ร้านขายของสัตว์เลี้ยง PetSmart ห้ามหมาของเธอเข้าร่วมปาร์ตี้เพราะมันเป็นหมาพันธุ์พิตบูลล์ เธอเลยจุดกระแสบนโลกออนไลน์จน PetSmart ต้องขอโทษ Ashley Yanez เป็นเจ้าของของ Blu หมาพิตบูลล์วัย 9 สัปดาห์ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2018 เธอวางแผนจะพาเจ้าหมาไปร่วมงานปาร์ตี้ของ PetSmart ด้วยหลังจากที่ได้เห็นโฆษณา   น้อง Blu หมาพันธุ์พิตบูลล์   มันถูกห้ามไม่ให้เข้าปาร์ตี้ที่จัดขึ้นโดย PetSmart ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2018   แต่เมื่อไปถึงหน้างาน คนดูแลกลับไม่ยอมให้ Blu เข้าร่วมปาร์ตี้ด้วย โดยบอกเหตุผลว่าสุนัขพันธุ์พิตบูลล์เข้าร่วมด้วยไม่ได้ Ashley จึงทวีตไว้ว่า “Blu อุตส่าห์แต่งตัวและตั้งหน้าตั้งตารอไปปาร์ตี้ แต่สุดท้ายก็ถูกห้ามเข้าแค่เพราะมันเป็นสุนัขพันธุ์พิตบูลล์ ร้าน persmart บ้าจริงๆ”     ทางร้าน PetSmart เองก็ไม่ได้นิ่งดูดาย ออกมาชี้แจงให้กับเธอว่า “สวัสดี Ash ทางเราอยากบอกว่าสุนัขทุกสายพันธุ์รวมทั้งพิตบูลล์สามารถเข้าร่วมงานของเราได้ ทางเราขอโทษสำหรับความเข้าใจผิดนี้ โปรดรับแพ็กเกจของขวัญจากเราเป็นการขอโทษเธอและ Blu ด้วย”…

เจ้าแมว ‘มีบุญ’ ตัวนี้มีบุญสมชื่อจริงๆ จากที่เคยเป็นแมวข้างถนนเนื้อตัวสกปรก แถมยังมีความผิดปกติเรื่องระบบขับถ่ายจึงทำให้ใช้ชีวิตได้ลำบาก แต่ทุกวันนี้มันดูมีความสุขมาก เพราะมีคนที่รักและเข้าใจคอยดูแล เจ้าของของมีบุญไปเจอมันที่ชายหาดม่วงงาม จังหวัดสงขลา ตอนนั้นมีบุญยังอายุ 2 เดือนอยู่เลย เจ้าของเก่าเพิ่งเอามันไปทิ้งไว้ที่นั่น แล้วพวกเขาก็บังเอิญไปเจอเข้า     เนื้อตัวช่วงล่างของมีบุญเหม็นมาก เพราะหมักหมมไปด้วยฉี่และอึ แต่เจ้าของก็ไม่รังเกียจ เลือกจะพาลูกแมวจรจัดตัวนี้ขึ้นรถไปหาหมอ ระหว่างทางไปโรงพยาบาลมีบุญปีนกล่องขึ้นมาซบอกเจ้าของตลอด เหมือนนั่นเป็นการขอบคุณที่ช่วยมันเอาไว้ หลังจากที่มันเข้าตรวจเบื้องต้นที่โรงพยาลบาลใกล้เคียง พวกเขาก็พามันกลับไปอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ     หลังจากที่เจ้าของพามีบุญไปตรวจกับโรงพยาบาลมาหลายที่ ได้ข้อสรุปว่าเส้นประสาทของมันเสียหาย ทำให้มันไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่ายได้ ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมตอนแรกตัวมันถึงเลอะอึกับฉี่ นอกจากนี้หางของมันก็ไม่มีความรู้สึก ไม่สามารถกระดิกได้ และขาหลังของมันก็จะอ่อนแรงจนใช้การไม่ได้ในที่สุดด้วย คุณหมอแนะนำให้ตัดหางมันทิ้งไปเพื่อง่ายต่อการดูแลความสะอาด แต่ทางครอบครัวตัดสินใจไม่ทำแบบนั้นเพราะมั่นใจว่าจะรับดูแลแล้วก็ต้องดูแลมันให้ดีที่สุด     แม้หมอจะบอกว่าขามันจะแย่ลงเรื่อยๆ แต่ครอบครัวของเจ้าของก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อปลุกมันมาวิ่งเล่นด้วยในช่วงเช้าก่อนไปทำงานตอน 7 โมงเช้า และหลังเลิกงานก็จะเล่นกับมันจนถึงเที่ยงคืนอีกเช่นเดียวกัน ความพยายามนี้ทำให้มันได้ออกกำลังขาทุกวัน จนในที่สุดมันก็สามารถใช้ขาหลังเดินได้เหมือนแมวทั่วไป แม้ว่าหางจะไม่มีความรู้สึกเหมือนเดิม แต่แค่นี้ก็ดีมากแล้ว     ทุกวันนี้มีบุญได้ใช้ชีวิตเหมือนแมวบ้านปกติทั่วไป จะต่างกันก็แค่มันต้องใส่แพมเพิร์สไว้ตลอด เพราะควบคุมระบบขับถ่ายไม่ได้นั่นเอง แล้วเจ้าของก็จะทำความสะอาดตัวให้มันทุกวัน…

ลูกหมีขาวก็เหมือนกับเด็กทารก มันกำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ และบางครั้งมันก็เล่นซนเกินไปบ้าง จนทำให้เราได้เห็นภาพน่ารักๆ ของมันที่กำลังปลุกปล้ำกับของเล่นในครั้งนี้ ลูกหมีขาวตัวนี้ชื่อ Hamish มันอยู่ในเขตอนุรักษ์สัตว์ป่า Highland Wildlife Park บริเวณเขต Highlands ประเทศสกอตแลนด์   ยังไม่กลางคืนเลย ทำไมมืดจัง   หมีน้อยเป็นลูกหมีขั้วโลกตัวแรกที่เกิดในสหราชอาณาจักรในรอบ 25 ปีที่ผ่านมานี้ และได้รับการคุ้มครองให้อยู่ในป่าพื้นที่ปิด ที่เห็นมันตัวมอมแมมเป็นสีน้ำตาลเพราะมันอยู่ในที่ที่มีดินนั่นเอง ส่วนชื่อ Hamish ของมันได้รับมาจากการโหวตของประชาชนกว่า 21,000 คน ด้วยเหตุผลว่าชื่อนี้ดูเป็นชื่อที่มีความเป็นสกอตแลนด์มากที่สุด   อ้าว มาติดอยู่บนหัวเราตั้งแต่เมื่อไหร่?   เมื่อไม่นานมานี้มีคนเห็นมันเล่นซนอยู่ใกล้ๆ กับสระน้ำในป่า แล้วก็ไม่รู้ไปทำยังไงถึงได้มีกรวยจราจรครอบหัวจนมองไม่เห็นแบบนั้น มันคงนึกว่าเป็นของเล่นเลยเล่นซนมากไปล่ะมั้ง Debbie Kelly อายุ 41 ปีเป็นคนเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว และถ่ายภาพความน่ารักของมันมาให้เราได้ดูกันด้วย เธอบอกว่ามันซนสมกับเป็นเด็กวัยกำลังเรียนรู้เลย เธอเล่าว่าเธอเห็นมันกำลังเดินเลียบสระน้ำอยู่โดยมีกรวยจราจรติดอยู่บนหัว Hamish พยายามปลุกปล้ำกับมันอยู่เกือบชั่วโมงกว่าจะเอากรวยออกมาได้ จากนั้นก็เหวี่ยงกรวยทิ้งลงในสระดั่งผู้ชนะ แล้วเดินกลับไปหาแม่   เอาออกมาได้สักที มองเห็นชัดแล้ว   โถ่ เด็กโง่ เล่นยังไงให้กรวยติดหัว   หมีขาวเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกหนึ่งชนิด ทางคนดูแลพยายามดูแลมันให้ดีในพื้นที่ปิด…

แมวจรจัดตัวนี้ถูกทิ้งไว้ตามลำพังจนมันยอมแพ้กับชีวิตไปแล้ว แต่ด้วยความรักจากมนุษย์มันก็กลับมามีชีวิตที่ดีขึ้น แถมเปลี่ยนไปจนคนแทบจำไม่ได้ เจ้าแมวตัวนี้มีคนไปเจออยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ตอนนั้นมันส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ จนมีคนได้ยินเข้าแล้วตามเสียงมาจนเจอตัวมัน เจ้าแมวนอนนิ่งอยู่ในน้ำตื้นๆ ของทุ่งนา เนื้อตัวมีแต่แผล และไม่ขยับตัวไปไหนเลย     สภาพเละเทะเหมือนกับไม่ใช่แมว   โชคดีที่คนที่เจอมันทำงานให้กับ มูลนิธิสุนัขในซอย ซึ่งเป็นกลุ่มช่วยเหลือหมาและแมว เธอเลยพามันกลับไปที่มูลนิธิเพื่อพามันไปรักษา พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Rose เจ้าแมวตัวนี้ดูหมดอาลัยตายอยากกับชีวิต มันไม่ยอมกินข้าวกินน้ำเลย สภาพมันย่ำแย่มาก แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้ ตั้งใจจะรักษามันจนหายให้ได้     พวกเขาเลยเริ่มต้นจากการรักษาแผลบนผิวหนังมันก่อน โดยให้ยาทาและช่วยทำความสะอาดตัวกับใบหูมันจนสะอาด พอ Rose เห็นว่ามีคนกำลังพยายามช่วยมันก็เลยกำลังใจดีขึ้น จนในที่สุดก็ยอมกินข้าวสักที   ได้ทายาแล้วค่อยดีขึ้นมาหน่อย   อาสาสมัครช่วยกันดูแล Rose อยู่นาน 2 เดือน แต่ผลที่ได้มันก็ช่างคุ้มค่าจริงๆ แผลบนร่างกายของเจ้าเหมียวหายดีหมดแล้ว และขนที่เคยร่วงก็ขึ้นมาใหม่อย่างสวยงาม ตอนนี้มันเป็นแมวที่ดูดีและไว้ใจคนขึ้นกว่าเดิมมาก     มีคนดูแล ชีวิตเปลี่ยน หน้าตาก็เปลี่ยน   ช่วยกันดูแลดีแบบนี้ เหมียวรักมนุษย์เลย   หลังจากมันหายดีแล้ว ในเดือนถัดมามันก็มีคนมารับเลี้ยงไปด้วย เขาคือ René Carnieletto ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย…

ถ้าใครเคยอยู่กับแมวคงจะรู้ดีว่าพวกมันทำวีรกรรมสุดแสบได้ไม่เว้นแต่ละวันเชียวล่ะ ถึงบางมุมมันจะดูน่ารัก แต่อีกมุมก็แฝงไว้ด้วยความแปลกและฮาอีกเพียบ วันนี้เหล่าทาสก็ได้รวมตัวกันมาแฉเจ้าเหมียวกันบนสแนปแชทอีกแล้ว ไปดูกันว่ามันจะทำเรื่องแปลกอะไรให้เราได้ยิ้มกันอีก   ฉันว่าเจ้าเหมียวมันอาจจะทำพิธีเรียกปีศาจอยู่ก็ได้   มนุดๆ ดูสิเก๊ากลายเป็นปลาแล้ว   แมวตัวแสบ เห็นเด็กเล่นม้าโยกหน่อยไม่ได้ เดี๋ยวนี้มาอ้อนให้โยกม้าให้ทุกวัน   แมวบ้านฉันน่าจะไม่ชอบหิมะนะ แค่ก้าวแรกก็หันหลังกลับแล้ว   อ้าว ทาสไปทำอะไรอยู่ข้างล่างอะ   แมวที่บ้านมุ้งมิ้งมาก ยอมให้ลูกสาวจับนั่งรถเข็นด้วย ท่าทางมันจะชอบ   ขี่ม้ายูนิคอร์น กุบกับกุบกับ   แมวตัวนี้มีชื่อเล่นว่า ‘คิตเลอร์’ (คิตตี้+ฮิตเลอร์)   ใช้แอปย่อหน้ากับแมวก็ไม่เลวนะ   เจ้าเหมียวมุดหัวไปติดในแจกัน แล้วทำแตก เลยกลายเป็นครีโอพัตราซะงั้น   ในบ้านมีเตียงกับเก้าอี้ตั้งเยอะ แต่เอ็งมาเลือกนอนบนไข่เนี่ยนะ!?   ทาสกลุ้มอะไรเล่าให้เราฟังได้นะ เราพร้อมรับฟังเสมอ   วันนี้ขี้อ้อนแปลกๆ ยื่นมือมาจับเองเลย   มานู้ดดด เปิดบ้านเดี๋ยวนี้ หมีจะกินเราแล้ว!!   บางทีฉันคงจะเอาใจมันเกินไป ตอนนี้กลายเป็นแมวติดไอแพดไปแล้ว   แมวกับแจกันมันเป็นของคู่กันจริงๆ…

มิ้วน้อยตัวหนึ่งบังเอิญหล่นลงไปในซอกแคบและลึก มันไม่มีทางขึ้นมาเองได้ในสถานการณ์แบบนั้น มันเลยส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจนมีมนุษย์ได้ยินมันเข้า คนที่เจอมันคนแรกพยายามจะช่วยมันแล้ว แต่ซอกที่มันตกลงไปแคบและลึกมากเกินไปก็เลยช่วยมันไม่ได้ เขาเลยเลือกที่จะขอความช่วยเหลือจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ RSPCA     หลังจากได้รับแจ้ง Sandra Dransfield ก็ติดต่อไปหาพนักงานดับเพลิงเพื่อขอความช่วยเหลืออีกแรงหนึ่ง ก่อนจะเดินทางไปยังจุดที่มิ้วน้อยอยู่ พอสังเกตจุดที่มันอยู่แล้ว พวกเขาคิดว่ามันน่าจะตกลงมาจากหลังคาที่อยู่ด้านบน ซอกที่มันตกลงไปมีความลึก 16 ฟุต (ประมาณ 4.8 เมตร) ทำให้ไม่มีทางเห็นตัวมันเลยถ้าไม่มองลงมาจากหลังคา อาสาสมัครก็เลยต้องขึ้นไปบนหลังคาก่อนแล้วใช้ไม้ยาวต้อนมันจากทางด้านหนึ่ง พอมันเดินมาตรงจุดที่รออยู่แล้วแล้วก็ใช้ไม้อีกอันหนึ่งที่มีห่วงตรงปลายคว้าตัวมันมาได้     Dransfield เล่าว่า “ฉันรู้เลยว่ากว่าจะจับมันมาได้นั้นยากมาก เราต้องขึ้นไปบนหลังคา ซึ่งก็เสี่ยงอยู่เหมือนกัน เพราะมันอาจจะหล่นระหว่างที่จับขึ้นมาอีก แถมช่องก็แคบมาก แล้วกำแพงก็ขรุขระอันตรายเหมือนกัน อีกอย่างหนึ่งเจ้าแมวมันก็เป็นแมวจรจัด เลยกลัวคนแล้ววิ่งหนีจนหายไปจากสายตาหลายรอบ แล้วก็มีเศษหินอยู่ด้านล่างเยอะด้วย งานนี้เหนื่อยกันแน่”     พวกเขาใช้เวลาช่วยมันกว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็ช่วยมันมาได้อย่างปลอดภัย เจ้าเหมียวได้รับชื่อว่า Turnip และตอนนี้มันก็มีอาสาสมัครจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ดูแลแล้ว พวกเขาจะดูแลมันให้ดีที่สุด และเมื่อมันแข็งแรงดีแล้วก็จะเริ่มประกาศหาบ้านให้กับเจ้าเหมียว มันจะได้ไม่ต้องออกไปเจออันตรายข้างนอกแบบอีกที่เจอมา     เจ้าเหมียวอาจจะขึ้นมาจากซอกไม่ได้เลยถ้าไม่มีคนช่วย ถือเป็นโชคดีของมันจริงๆ   ที่มา: the…

ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังปั่นจักรยานอยู่ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นมิ้วน้อยตัวหนึ่งอยู่ข้างทาง มันไม่มีแม่คอยดูแล เขาก็เลยหยุดช่วยมันแม้จะอุปกรณ์อะไรที่พอจะพามันติดจักรยานไปด้วยได้เลย Viitor Fonseca หนุ่มชาวบราซิลขับผ่านไปเจอแมวตัวนี้ระหว่างออกกำลังกาย เขาอยากจะช่วยเหลือมัน แต่ก็ไม่มีกระเป๋าหรืออะไรพอจะพามันไปด้วยเลย แต่สุดท้ายเขาก็ปิ๊งไอเดียให้มันอยู่ในเสื้อของตัวเอง     จากนั้นเขาก็ปั่นจักรยานออกไปตามเส้นทางเพื่อกลับไปยังบ้านของตัวเอง หลังจากที่เขาดูแลมันจนแข็งแรงแล้วก็คงจะช่วยหาบ้านใหม่ให้มันอยู่ด้วย เจ้าแมวน้อยดูจะดีใจมากเลยที่เขาช่วยมันเอาไว้ มันซุกตัวอยู่ตรงอกของเขาก็เลยไม่ต้องเผชิญกับลมหนาว แถมยังได้ชมวิวโดยที่ไม่ต้องออกแรงปั่นจักรยานเองด้วย นอกจากนี้ระหว่างที่ Fonseca กำลังปั่นจักรยานอยู่เจ้าเหมียวยังดันตัวขึ้นมาจุ๊บขอบคุณเขาตั้งหลายรอบ ถึงมันจะพูดไม่ได้ก็รู้แล้วล่ะว่ามันรู้สึกขอบคุณเขามากขนาดไหน     หลังจากปั่นจักรยานไกลกว่า 6.2 ไมล์ (ประมาณเกือบ 10 กิโลเมตร) เขาก็พามันไปจนถึงบ้าน แล้วจึงช่วยดูแลมันอย่างดี เขาโพสต์สถานะในเฟซบุ๊กว่า “วันนี้ผมได้ช่วยชีวิตเจ้าตัวเล็กไว้ ดีที่มันชอบผมแล้วไม่ข่วนเลย แต่เล่นซนเหมือนกันนะ” ต่อมาเขาก็สามารถหาบ้านที่เต็มใจรับเลี้ยงมิ้วน้อยได้ มันก็เลยหลุดพ้นจากชีวิตแมวจรจัดและมีบ้านเป็นของตัวเอง ที่มา: PurrWorld

ความอ้วนเป็นลักษณะที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ไม่ดีนัก แต่มีความอ้วนกรณีหนึ่งที่เป็นข้อยกเว้น นั่นก็คืออ้วนเพราะว่ากำลังตั้งท้องอยู่ยังไงล่ะ สำหรับว่าที่คุณแม่ทั้งหลาย พวกเธอไม่สนใจเรื่องท้องที่พองใหญ่ขึ้นทุกวันหรอก พวกเธอจะให้ความสนใจกับลูกน้อยในท้องที่กำลังจะลืมตาดูโลกมากกว่า เวลาเราได้มองดูว่าที่คุณแม่ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็จะรู้สึกภูมิใจและอุ่นใจไปกับพวกเธอด้วย พวกเธอเป็นคนที่ให้กำเนิดชีวิตน้อยๆ อันงดงาม ดังนั้นวันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆ ไปดูความสง่างามและความรักของว่าที่คุณแม่สัตว์กันบ้าง   เราก็เป็นคุณแม่นะ ถึงท้องจะโตไม่มากก็เถอะ   มานอนข้างล่างดีกว่า ถ้าปีนต้นไม้แล้วตกขึ้นมาเดี๋ยวลูกเป็นอันตราย   โอ้โห ท้องป่องจนตัวกลมป๊อกเลย   ไม่ได้อ้วนออกข้างค่ะ แค่กำลังจะมีลูก   คุณแม่อย่าทำหน้าเครียดสิ ไม่ดีกับลูกในท้องนะ   มีสามีมาตามดูแลประกบเลยค่ะ ปลื้มมาก   เวลาท้องแก่ก็จะขยับลำบากหน่อยๆ งั้นนอนไปเลยละกัน   รวมตัวสมาคมว่าที่คุณแม่   ตัวเราไม่ใหญ่ขึ้น แต่มีสมาชิกใหม่เต็มท้อง   ท้องแก่จนจะลากพื้นอยู่แล้วจ้า   ช่วงนี้พักออกล่าค่ะ ทุ่มเทเวลาดูแลตัวเองดีกว่า   เราขี้เกียจตั้งแต่ก่อนเป็นแม่แล้วล่ะ ตอนนี้ก็อยู่นิ่งๆ เหมือนเดิม   ว้าว มองเห็นลูกๆ ได้ชัดเจนเลย   ตอนท้องต้องกินเยอะๆ ลูกจะได้สารอาหารด้วย   จะก้มจะเงยก็ลำบาก…

ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เดี๋ยวนี้เราไม่ต้องออกไปซื้อของข้างนอกแล้ว จะสั่งอะไรจากที่บ้านก็ได้ และโทรพูดคุยกันได้ทันทีโดยไม่ต้องรอจดหมาย แต่เทคโนโลยีไม่ได้ส่งผลกระทบกับชีวิตของมนุษย์อย่างเดียว มันยังส่งผลกับสัตว์อื่นด้วย อย่างที่เห็นได้ชัดคือเดี๋ยวนี้นกเปลี่ยนมาเกาะบนสายไฟแทนต้นไม้กันแล้ว แน่นอนว่าสัตว์ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือเหล่าสัตว์เลี้ยงอย่างแมวหรือหมานี่แหละ วันนี้เราจะพาไปดูกันว่าพอโลกเปลี่ยนไป เจ้าเหมียวมันเปลี่ยนอะไรบ้าง   1. จอคอมฯ ใหญ่ที่นอนสบาย เดี๋ยวนี้แบนไปหมดแว้ว   2. วิธีการก่อกวนทาส   3. แหล่งให้ความอบอุ่นของแมวเหมียว   4. เม้าส์ที่เคยจับเปลี่ยนไปเยอะ   5. หาดูอาหารตาได้ง่ายขึ้น   6. เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มีสายไฟให้เล่น   7. อยากกอดซ้อนกันหลายชั้นต้องทำแบบเน้   8. ไม่ต้องออกไปตกปลาข้างนอกก็ได้ หึหึ   9. จากที่เคยหาคู่จากแถวบ้าน ตอนนี้หาออนไลน์ได้แล้วแจ้   10. ของเล่นแต่ก่อนฟังก์ชั่นมันน้อยไป ต้องมือถือสิตอบโจทย์   11. อยากวิ่งทั้งที ไม่ต้องออกไปเปื้อนฝุ่นดินก็ได้   12. ถึงจะอยู่บ้านเฉยๆ ก็มีอะไรทำ…

นี่มันเป็นพรหมลิขิตชัดๆ … เมื่อปลายเดือนพฤษภาคา 2018 ที่ผ่านมากลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Magnificat Cat Rescue and Rehoming ในกรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับการติดต่อมาให้ช่วยแมวตัวหนึ่ง มันเป็นแมวแก่สีเทาขาวที่มีคนคนไปเจออยู่ในชุมชนแมวจรจัด คนที่ติดต่อมาคิดว่ามันน่าจะต้องการความช่วยเหลือก็เลยเก็บมันมา     เมื่อลองตรวจร่างกายเจ้าแมวดูก็พบว่ามันมีไมโครชิปฝังอยู่ มันชื่อว่า Mousey เป็นแมวของหญิงชื่อ Denise แต่ว่าเธอตายไปตั้งแต่ปี 2008 แล้วด้วยวัย 39 ปี ทว่าพ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็เลยลองติดต่อไปหาคุณพ่อคุณแม่ดู เผื่อว่าพวกเขาจะเต็มใจรับแมวของลูกสาวไว้     เมื่อพวกเขาติดต่อ Joyce แม่ของ Denise ได้เธอก็รู้สึกตกใจมากที่ได้รู้ว่า Mousey เป็นแมวจรจัดอยู่ข้างถนน และเริ่มเล่าเรื่องราวของมันให้ฟัง เธอเล่าว่า Denise เคยเลี้ยงลูกแมวไว้ 2 ตัวก่อนที่จะตาย แต่พอตายไปแล้วสามีของเธอก็ไม่ยอมให้ Joyce ดูแลแมวต่อ แล้วเอาลูกแมวทั้ง 2 ตัวไปเองโดยไม่ติดต่อกลับมาหาอีกเลย จนเวลาล่วงเลยไป 10 ปีแล้วเธอก็เพิ่งได้รับการติดต่อจากพวกเขานี่แหละ Joyce บอกว่าลูกสาวรักแมวมาก และเธอก็อยากดูแลแมวของเธอต่อ เธอพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า “นี่มันเป็นพรหมลิขิตชัดๆ” ที่มันได้กลับมาอยู่กับเธออีก     อย่างไรก็ตาม…

บางคนคิดว่าสัตว์นั้นเข้าใจง่าย แค่ให้กินให้นอนจนพอใจมันก็มีความสุขแล้ว หรือเวลาที่มันไม่สบายตัวหรือหิวมันก็จะไม่พอใจแค่นั้นเอง ทว่าจริงๆ แล้วสัตว์มันก็มีหลากหลายอารมณ์เหมือนมนุษย์เรานั่นแหละ ถ้าเราได้ใกล้ชิดกับสัตว์มากๆ เราก็จะสังเกตเห็นได้เอง แต่ถ้าใครยังไม่เคยเห็นเราก็มีมาให้ดูกันแล้วทางนี้   ตกใจแรงมาก เมื่อท้องโดยไม่ทันได้ตั้งตัว   เอาล่ะมนุด มานั่งตรงนี้ซิ เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน   ถึงจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ยังมีบางมุมที่เป็นเด็กอยู่   หึหึ ขัดใจหมาไว้เยอะ ได้แก้แค้นสักที สะใจโว้ยยย   เฝ้ามองตารางลดน้ำหนักอย่างใจจดใจจ่อ รอให้ถึงมันฟรีสักที   หือ เหมือนได้ยินชื่อเราแว่วๆ นะ นินทาเรารึเปล่า   วันนี้วันศุกร์ พรุ่งนี้ก็วัดหยุดแล้ว ปริ่ม   ตูหลับอยู่ ใครมากวนเดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย   เพื่อนลาไปเที่ยวกันหมดเลย ตูต้องอยู่ทำไง อิจฉาจริง   อยู่กับคนที่ชอบทีไรก็อยากอ้อนกอดทุกที งือ   สีหน้าขัดใจ เมื่อเพื่อนไม่ยอมตามใจคุณ   เอิ่ม … ปีใหม่แล้ว แต่เป้าหมายลดน้ำหนักที่ตั้งไว้ปีก่อนยังไม่สำเร็จเลย   เมื่อไหร่จะเลิกงานสักที…

คนที่ไม่ได้เลี้ยงกระต่ายอาจไม่รู้ว่ามันต้องได้รับการใส่ใจมากเหมือนกัน ถ้าเราปล่อยให้กระต่ายอยู่เองนานๆ นอกจากขนจะสกปรกรุงรังแล้ว ฟันกระต่ายบางตัวอาจจะยาวขึ้นมากๆ จนเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตได้ เจ้ากระต่าย Tusk ก็กำลังเจอปัญหาดังกล่าว เจ้าของของมันไม่สนใจจะเลี้ยงมันแล้ว ก็เลยปล่อยให้มันใช้ชีวิตเองสักพักหนึ่ง กว่าจะตัดสินใจส่งมาให้ศูนย์พักพิงสัตว์ ฟันของมันก็ยาวจนเลยใบหน้าแล้ว   นี่คือเจ้า Tusk กระต่ายที่ถูกทิ้ง   ฟันมันถูกปล่อยให้ยาวเกินไปจนน่าใจหาย   ทางศูนย์พักพิง RSPCA แทบไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่ากระต่ายตัวนี้จะทนอยู่ได้ การที่ฟันมันยาวขนาดนี้น่าจะทำให้มันมีปัญหาในการกินข้าวมากๆ มันคงลำบากน่าดู ดังนั้นสิ่งแรกที่พวกเขาทำเมื่อได้ตัวมันมาก็คือช่วยตัดฟันให้มันก่อน จากนั้นจึงค่อยจัดการขนที่รุงรังให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดมากขึ้น หลังจากดูแลดีๆ แล้วมันก็ดูดีไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย   จริงๆ แล้วเราสวยนะ แค่ไม่มีคนดูแลความงามให้เฉยๆ   หลังจากที่ฟันของมันได้รับการดูแล Tusk ก็ดูสดใสร่าเริงขึ้นมาก ตอนนี้มันถูกส่งไปอยู่กับคนดูแลที่บ้านของเธอซึ่งมีกระต่ายตัวอื่นอยู่ด้วย มันจะได้ไม่รู้สึกเหงา ศูนย์พักพิงถือโอกาสใช้ Tusk เป็นตัวอย่างเพื่อเตือนเจ้าของทั้งหลาย ว่ากระต่ายก็เป็นสมาชิกครอบครัวที่ดีได้เหมือนกับสัตว์อื่นๆ แต่เจ้าของก็ต้องดูแลมันให้ดีด้วย อย่าปล่อยให้ฟันหรือขนของมันยาวรุงรังเกินไป แล้วมันจะเป็นเพื่อนที่ดีให้คุณเอง   มีคนตัดฟันให้แล้วกินผักบุ้งได้สบาย ง่ำๆ   ที่มา: the dodo

หนุ่ม Sam Coleman-Dancer อายุ 19 ปีเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ของร้านขายอุปกรณ์ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐมิสซิสซิปปี ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาตัดสินใจช่วยคุณตาแปลกหน้าเพราะประทับใจเรื่องราวที่ได้ฟังมา วันนั้นเขาก็เฝ้าร้าน Ace Hardware ตามปกติ จนมีคุณตาคนหนึ่งเข้ามาขอซื้อพลั่ว เขาเล่าว่า “ผมถามเขาว่าเขาจะเอามันไปทำอะไร เพราะว่ามันเป็นวันที่อากาศร้อนมาก และเขาก็แก่แล้ว ไม่น่าจะมาซื้อของแบบนี้ไปใช้ เขาก็เลยเล่าเรื่องเจ้าหมาให้ผมฟัง”     คุณตาบอกว่าเขาเคยมีหมาเยอรมันเชพเพิร์ดตัวหนึ่งชื่อ Bo มันอยู่กับเขามา 12 ปีแล้ว ตลอดเวลามานี้พวกเขาใช้เวลาด้วยกันมากมาย ทั้งเล่นโยนของกัน มีความสุขด้วยกัน แต่มันก็เพิ่งตายจากเขาไป เขาเลยต้องฝังมัน Coleman-Dancer ประทับใจและอินกับเรื่องราวของคุณตามาก เขาถึงกับอาสาจะไปช่วยฝังมันให้ด้วยตัวเองหลังเลิกงานทั้งที่ยังไม่รู้จักกันดีเลย เขาเล่าว่า “พอผมบอกว่าจะไปช่วยเขา เขาก็เบิกตากว้างด้วยความแปลกใจแล้วถามย้ำว่า ‘นี่มันรบกวนมากๆ เลยนะ เธอมั่นใจเหรอว่าอยากช่วย?’ ผมก็เลยตอบว่า ‘ผมมั่นใจที่สุด เลิกงานปุ๊บผมจะตามไปช่วยทันที’”     Coleman-Dancer บอกต่อว่า “ผมแค่คิดว่าถ้าเป็นคุณตาผมบ้างผมก็คงอยากช่วยเหมือนกัน แล้วมันก็เป็นเรื่องที่ควรทำด้วย” จากนั้นเขาก็ไปช่วยคุณตาฝัง Bo ตามสัญญา ถึงเขาจะไม่เคยเจอเจ้าหมาเลย แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองได้ผูกพันกับเจ้าหมาผ่านเรื่องที่ได้ฟังจากคุณตา นอกจากนี้เขากับคุณตายังได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันด้วย แม้เจ้าหมาจะจากไปแล้ว มันก็ยังทำให้คุณตามีชายหนุ่มเป็นเพื่อนเพิ่มอีกคนหนึ่ง มันช่วยเป็นเพื่อนให้คุณตาทั้งตอนอยู่และตอนที่จากไปแล้วจริงๆ แล้วก็ต้องขอบคุณหนุ่มที่มีน้ำใจช่วยคุณตาด้วย  …

ตัวเตี้ย ขาสั้น เด๋อด๋า น่ารัก … ใช่แล้ว สิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่ก็คือหมาพันธุ์ คอร์กี้ (Corgi) หมาเตี้ยที่ใครได้เห็นเป็นต้องหลงรักนั่นเอง หมาคอร์กี้ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงกันมาก เพราะพวกมันเป็นมิตร ขี้เล่น ที่สำคัญก็คือไม่ว่าจะมองมุมไหนก็น่ารักไปหมดเลย แถมยังมีมุมเอ๋อๆ ให้เราได้ยิ้มไปกับมันด้วย ป่ะ พักสายตาไปดูความมุ้งมิ้งกัน!   ในกลุ่มเพื่อน จะมีคนหนึ่งที่นิสัยเอ๋อๆ   แค่ท่าลงบันไดต้องน่ารักขนาดนี้เลยเหรอ   เห็นเตี้ยๆ ก็โดดข้ามรั้วได้นะจ๊ะ   แต่ก็ไม่ได้ข้ามพ้นทุกครั้งหรอก   พลิกตัวขึ้นไม่ได้ล่ะสิ อิอิ   เย้ย อย่าเพิ่งกินเพื่อน!!   เก๊าจะจมแล้ว ขอเบาะลอยน้ำบ้างสิ   เห็นแล้วอดไม่ได้ ขอซุกหน่อย   กอดฝาแฝดหลับสบายเลย   รู้ไหมว่าตัวไหนคือคอร์กี้ตัวจริง   หลบป๊ายยย แขนผมสั้น หักพวงมาลัยไม่ทันแล้ว!   มนุษย์เอาตัวอะไรเข้าบ้านเนี่ย เก๊ากลัว   ผมพร้อมเข้านอนแล้วฮะ   แหม่ หลับสบายเกิ๊น ปล่อยลิ้นห้อยเชียว…

หลังจากที่ทำงานรับใช้ประชาชนมานาน เจ้าหมาตำรวจ Olga ก็ถึงวันปลดประจำการ แล้วได้ใช้ชีวิตหลังทำงานเพื่อพักผ่อนอย่างสบายใจแล้ว ทว่าการพักผ่อนไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับ Olga น่ะสิ มันถูกฝึกให้เป็นสุนัขตำรวจมาตั้งแต่เล็ก พอได้มาเล่นซนและพักผ่อนตามสไตล์หมาธรรมดาแล้ว มันก็เลยปรับตัวเองเข้ากับบรรยากาศใหม่ไม่ได้ มาดูกันว่าเจ้าของใหม่จะช่วยมันได้ไหม   นี่คือเจ้า Olga เป็นสุนัขตำรวจจากเกาหลี   มันเพิ่งปลดประจำการได้ไม่นาน และจะได้ใช้ชีวิตพักผ่อนหลังเกษียณกับเจ้านายใหม่   เจ้านายใหม่เองก็เป็นคนที่พร้อมดูแลมัน เขาจะหาทุกอย่างให้มันมากเท่าที่ต้องการ   แต่มาถึงไม่ทันไรก็มีปัญหาซะแล้ว มันเข้ากับหมาที่อยู่ก่อนไม่ได้ เพราะไม่ได้ถูกฝึกมาให้เป็นมิตรกับทุกคน   ดูเหมือนมันจะไม่ยอมกินข้าวด้วย ไม่รู้ว่าเพราะถูกฝึกมาแบบนี้หรือว่าซึมเศร้าที่มาอยู่ที่ใหม่กระทันหัน   พอมีคนเล่นด้วยก็ไม่สนใจเลย อาจเพราะถูกฝึกมาไม่ให้เล่นกับคนแปลกหน้า   แม้แต่ลูกบอลที่เคยเป็นของเล่นโปรด ก็ยังไม่แยแสเลย   ขอโทษนะ เก๊าไม่มีอารมณ์จะเล่นอะ   อีกอย่างหนึ่ง มันไม่ยอมสบตากับเจ้าของเลย เพราะถูกสอนมาว่าการสบตาถือว่าไม่เคารพ   เพื่อที่จะช่วยมันปรับตัว เจ้าของใหม่และครอบครัวเลยต้องฝึกให้มันรู้จักวิถีชีวิตหมาบ้านตั้งแต่ต้น   ถึงจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พอให้เวลาสักหน่อยเจ้าหมาก็เป็นมิตรกับคนอื่นบ้างแล้ว   หลังฝึกมา 4 เดือนก็ไว้ใจเจ้าของใหม่ขนยอมยื่นมือให้   ตอนที่เจ้าของเก่าของมันมาเยี่ยม เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะดูสบายใจและมีความสุขขนาดนี้…

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าบีเวอร์บาดเจ็บ 2 ตัวที่ได้เจอกันในสถานฟื้นฟู จะเกิดรักแท้ขึ้นจนได้เป็นคู่กันตลอดชีวิต แต่พวกมันก็ทำให้เห็นแล้วว่าเป็นไปได้ เมื่อปี 2016 สถานฟื้นฟูสัตว์ป่า Alberta Institute for Wildlife Conservation ในประเทศแคนาดาได้รับคนไข้ใหม่มา 1 ตัว เป็นบีเวอร์สาวอายุเดือนกว่า มีคนเจอมันบาดเจ็บอยู่ตามลำพังเลยต้องมารักษาตัวที่นี่     ถึงการมาอยู่ในสถานฟื้นฟูจะทำให้ให้ทุกคนมั่นใจว่ามันจะฟื้นตัวได้ดี แต่คนดูแลก็มความกังวลว่ามันจะเหงาว่ามันจะไม่มีประสบการณ์การอยู่ร่วมกับบีเวอร์ตัวอื่น เพราะมันต้องอยู่รักษาตัว 2 ปีโดนที่พวกเขาไม่มีบีเวอร์อยู่เป็นเพื่อนมัน     จนเมื่อปี 2017 พวกเขาก็รับบีเวอร์ตัวผู้อีกตัวหนึ่งเข้ามาดูแล เพราะว่ามันได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับสัตว์อื่น ทำให้พวกมันได้มาอยู่กรงข้างๆ กัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้คาดหวังให้มันชอบกันหรอก เพราะว่าบีเวอร์เป็นสัตว์ที่ถึงจะต้องอยู่ด้วยกัน ก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกันเด็ดขาดถ้ามันไม่รู้สึกถูกใจกันจริงๆ บางทีอาจจะไม่ชอบหน้ากันด้วยซ้ำ นั่นเป็นเหตุผลให้พวกเขาแยกกรงมัน     แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อคนดูแลเห็นบีเวอร์ทั้ง 2 ตัวมาตรงรั้วกันระหว่างกรงและพยายามเข้าหาอีกฝ่าย พวกเขาเลยมั่นใจว่ามันมีท่าทางอยากจะรู้จักกัน หลังจากนั้นคนดูแลก็เลยลองให้พวกมันเข้ามาเจอหน้ากัน โดยเฝ้าดูอยู่อย่างใกล้ชิดเผื่อว่ามันเกิดไม่ชอบกันขึ้นมาก็จะได้แยกตัวพวกมันออกมาทัน แต่พวกมันก็เข้ากันได้ดีจนน่าแปลกใจเลย   อยากรู้จักเธอจังเลย   ได้มาเจอกันแล้วนะ เป็นแฟนกันเถอะ   จากนั้นบีเวอร์ทั้ง 2 ตัวก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในกรงเดียวกัน…

ถึงหลายคนจะมองว่าการเกิดมามีร่างกายไม่สมบูรณ์ดูน่าสงสาร แต่สำหรับเจ้าแมวตัวนี้แล้วการมีขาแค่ 2 ข้างไม่ได้ทำให้มันใช้ชีวิตลำบากเลย มันสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนแมวทั่วไป และมีความสุขดีด้วย เจ้าแมวสีส้ม Joey Roo เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติทางพันธุกรรมซึ่งเรียกว่า radial dysplasia ทำให้ขาหน้าของมันทั้ง 2 ข้างกุด     แต่เจ้าแมวก็วิ่งเล่นกับเพื่อนได้ตามปกติ มันจะเดินกระโดด 2 ขาเหมือนกับการเคลื่อนที่ของจิงโจ้ ซึ่งเร็วมากพอๆ กับแมวทั่วไปเดินเลยล่ะ มันถูกกลุ่มช่วยเหลือสัตว์  Humane Society ในเมืองทักสัน รัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกาช่วยเอาไว้จากข้างถนน ก็เลยได้มาอยู่กับสัตว์ตัวอื่นที่นี่     มันชอบให้คนเล่นด้วยเป็นที่สุด   Cortney หญิงที่ได้เจอมันในศูนย์พักพิงชอบมันมาก ถึงมันจะขากุดแต่ความน่ารักของมันก็มัดใจเธอเอาไว้ได้ วันแรกที่ได้เจอกันเธอก็เลยขอรับเลี้ยงมันทันที   เห็นแบบนี้ก็มีคนรับไปเลี้ยงนะ   Joey Roo กระฉับกระเฉงกว่าที่ Cortney คิดเอาไว้มาก มันสามารถกระโดดขึ้นไปบนยอดของคอนโดแมวที่สูง 6 ฟุต (ประมาณ 1.8 เมตร) ได้สบายๆ เลย แถมยังขึ้นลงบันไดได้ไม่มีปัญหา   มี 2 ขาแต่แสบกว่าแมวทั่วไปอีก   มันชอบยืน 2…

นอกจากจะตัวเล็กแล้ว เจ้าหมายังเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ด้วย คนที่เพาะพันธุ์มันยังยอมแพ้ ไม่เลี้ยงมันเอาไว้เลย แต่อาสาสมัครกับตัวเจ้าหมาเองไม่ยอมแพ้ พวกเขาทำให้เห็นว่ามันใช้ชีวิตต่อไปได้ เจ้าหมา Augusta ถูกเอามาทิ้งไว้ให้กับกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Short Noses Only Rescue Team เพราะเขาเห็นว่ามันปากแหว่ง แถมยังตัวเล็กจนอาจจะขายไม่ได้ด้วย     มันตัวเล็กมากๆ ขนาดของมันเล็กเท่าลูกหมาเกิดใหม่เท่านั้นทั้งที่มันมีอายุหลายสัปดาห์แล้ว ที่เป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งเพราะมันปากแหว่งเพดานโหว่ทำให้กินอาหารได้ไม่มาก เลยได้สารอาหารไม่พอเลี้ยงร่างกาย สัตวแพทย์ Meghan DeBiasio รู้ว่าเธอช่วยมันได้ แม้จะต้องลำบากดูแลเป็นพิเศษหน่อยแต่เธอก็ยินดีดูแลมัน เธอจึงเริ่มเฝ้าดูมันอย่างใกล้ชิดโดยการเอามันกลับไปที่บ้าน เริ่มจากการให้อาหารมันผ่านหลอดอาหารก่อนเลย     นอกจากเรื่องสารอาหารแล้ว ดูเหมือนมันจะมีอาการผิดปกติทางสมองด้วย ทำให้บางครั้งมีการตอบสนองช้า อาจจะต้องรอให้โตแล้วผ่าตัดอีกครั้งหนึ่งถึงจะหาย ถึงจะมีอาการป่วยหลายอย่าง แต่ DeBiasio ก็ดูแลมันจนเจ้าหมาเริ่มแข็งแรงแล้วกินอาหารเองได้แล้ว พอมันมีแรงก็เล่นซนพอดูเลย     กิจกรรมโปรดของเจ้า Augusta คือการได้กอดกับ DeBiasio แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนไหล่ของคนที่มาเล่นกับมัน การมีคนให้ความสนใจมันช่วยเพิ่มกำลังใจให้เจ้าหมาตัวจิ๋วได้ดีมาก นอกจากมนุษย์แล้ว มันยังได้ Juno หมาของ DeBiasio ดูแลตอนอยู่ที่บ้านของเธอด้วย เจ้าหมาคงเห็นว่ามันน่าเอ็นดู ก็เลยเข้ามาดูแลและให้ไออุ่นเหมือนกับตัวเองเป็นแม่แท้ๆ ของมัน     ตอนนี้…

ฉันไม่เคยคิดจะเลือกทิ้งหมา … เมื่อ Liz Haslam หญิงวัย 49 ปีถูกสามี Mike บังคับให้เลือกระหว่างเขาหรือหมาที่เธอดูแล เธอเลือกหมาโดยไม่ลังเลเลยสักนิด จากนั้นเขาก็ไม่ติดต่อเธอมาอีกเลย     Mike และ Liz คบกันมา 22 ปีแล้ว ตอนที่เริ่มคบกันเธอยังอายุแค่ 16 ปีอยู่เลย หลังจากเธอเรียนจบระดับมัธยมปลายเธอก็ย้ายไปอยู่กินกับเขาและแต่งงานกันในปี 1991 ชีวิตรักของทั้งคู่ราบรื่นดี จนเมื่อ Liz เริ่มประสบความสำเร็จในธุรกิจสัตว์เลี้ยง และได้ย้ายไปอยู่ในบ้านใหม่ที่มีขนาด 2 ห้องนอนในหมู่บ้านบาร์นแฮม เขตซัฟโฟล์ก ประเทศอังกฤษ เธอก็เริ่มรับหมาเข้ามาดูแลที่บ้านด้วย     หมาที่เธอรับมาดูแลที่บ้านก็มาจากองค์กรช่วยเหลือสัตว์ BedforBullies ที่เธอเป็นคนก่อตั้งขึ้นมานี่เอง โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือสัตว์ที่มีความผิดปกติทางร่างกาย ปัจจุบันที่บ้านของเธอรับดูแลหมา 30 ตัวแล้ว บางตัวก็หูหนวก บางตัวก็ตาบอด บ้างก็เป็นหมาที่เคยใช้ต่อสู้มาก่อน เธอเลยต้องทุ่มเทเวลาแทบทั้งหมดที่มีไปกับการดูแลพวกมัน     จนท้ายที่สุดสามีก็ทนกับชีวิตที่ต้องมีสุนัขอยู่รายล้อมมากขนาดนี้ไม่ไหว เขาก็เลยบอกให้เธอเลือกระหว่างเขากับสุนัข เมื่อเธอเลือกสุนัขแล้วเขาก็เลิกติดต่อกับเธอโดยสิ้นเชิง แม้ว่าพวกเขาจะมีลูกอายุ 22 ปีด้วยกันแล้วก็ตาม Liz เล่าว่า…

ช่วงนี้เพื่อนๆ น่าจะเคยได้เห็นภาพเจ้าแมวตัวนี้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ต่างๆ หรือโพสต์ของเพื่อนบ้าง มันเป็นแมวที่กำลังได้รับความนิยมจากชาวเน็ตในขณะนี้ เพราะความบึ้กและน่ารักแบบไม่เหมือนใคร ชาวเน็ตพากันเรียกเจ้าเหมียวตัวนี้ว่า Buff Cat ภาพของมันถูกแชร์ผ่านทางทวิตเตอร์ @officialbuffcat ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมานี้เอง เจ้าของทวิตเตอร์นี้ไปเจอมันที่ถนนมอนทรีออล รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา เขาตกหลุมรักกับมันก็เลยทำทวิตเตอร์ให้แล้วอัปรูปมันลง ชาวเน็ตที่ผ่านมาเห็นก็พากันชอบความล่ำและน่ากอดของมัน แล้วช่วยกันแชร์ต่อจนดังเชียวล่ะ     แถวนี้พี่ใหญ่ ใครมาซ่ากับพี่ระวังตัวไว้   แต่ถ้าเธอถูกใจเรา เราจะยอมให้จับก็ได้   ล่ำบึ้กพอไหมล่ะ หึหึ   ตอนเดินก็ต้วมเตี้ยม งื้อ ดีต่อใจมากมาย https://twitter.com/officialbuffcat/status/1000955468204986369   แม้จะยังเปิดตัวได้ไม่นาน ตอนนี้มันก็มีคนฟอลโลว์ทวิตเตอร์กว่า 22,000 คนแล้วล่ะ ถือว่าเป็นแมวที่เนื้อหอมไม่เบาเลยนะเนี่ย นอกจากนี้ยังมีคนเอามันไปตัดต่อใส่ภาพฮาๆ อีกเพียบ ลองไปดูภาพบางส่วนกันนะ   เหมียวยักษ์บุกเมือง   เราล่ำเพราะเป็นชาวไซย่า   เห้ย นี่มันไดโนเสาร์พันธุ์ไหนเนี่ย!?   ลูกโป่งแมวแทนใจเราให้เธอนะ   ดังทะลุไปถึง The Walking…

ถ้าเพิ่งเคยเจอกับสิ่งที่เราไม่รู้จักเป็นครั้งแรก เราย่อมต้องสงสัยและหวาดระแวงเป็นธรรมดา เหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ ที่อยู่ๆ ก็ต้องมาเจอรั้วที่ทำจากหน่อไม้ฝรั่งในบ้าน ท่าทีของมันตอนเจอดูน่ารักน่าเอ็นดูมากๆ ในขณะที่เจ้าหมาดัชชุนกำลังวิ่งผ่านทางเดินตามปกติ มันก็เจอเข้ากับรั้วที่ไม่เคยมีอยู่ตรงนั้นมาก่อน รั้วทำขึ้นโดยการเอาขวดน้ำมาวางเรียงกัน แล้วเอาหน่อไม้ฝรั่งมาเสียบไว้ระหว่างขวดน้ำ ดูแล้วเมือนรั้วหนามยังไงยังงั้น   เอ๊ะ รั้วนี่มันอะไร มาจากไหน   แน่นอนว่าเจ้าหมาไม่รู้หรอกว่ารั้วนี่มันทำมาจากอะไรบ้าง มันก็เลยระแวงจนไม่กล้าข้ามไป แต่ยังไงมันก็อยากข้ามไปอีกฟาก มันก็เลยเริ่มสำรวจก่อนว่ารั้วนี่มันอันตรายแค่ไหน   ฟุดฟิดๆ ไอ้ขวดใสๆ นี่มันจะกัดเราไหมนะ?   มันเริ่มจากการดมขวดน้ำดูก่อนว่ามันจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบไหม พอมั่นใจแล้วว่าขวดน้ำปลอดภัย แตะได้ไม่มีปัญหา มันก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง … แต่ก็ยังมีปัญหากับหน่อไม้ฝรั่งที่ตั้งโด่เด่อยู่   เจ้าขวดใสๆ นี่ปลอดภัย … แล้วเสาแหลมพวกนี้มันอะไรกัน!?   เอ้ะ เขี่ยดูแล้วก็ไม่เจ็บนี่นา แปลว่าแตะได้ไม่เป็นไร   งั้นตูข้ามไปเลยละกัน ฮึ้ย เอามาตั้งหลอกให้งงอยู่ตั้งนาน   กว่าเจ้าดัชชุนจะข้ามรั้วหน่อไม้ฝรั่งมาได้ก็ใช้เวลาไปร่วมนาทีเลย ทั้งที่มันไม่มีอะไรแท้ๆ เราว่าเจ้าของที่ถ่ายคลิปวิดีโอมันต้องถ่ายไปยิ้มไปกับเหมือนมึนของมันเหมือนเรานี่แหละ ก็เห็นหมามึนแล้วมันน่ารัก ฮ่าๆๆๆ ส่วนที่มาของรั้วอันนี้ เจ้าของของหมาน้อยบังเอิญซื้อหน่อไม้ฝรั่งมาเยอะมากเกินไปหน่อย แล้วก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี เขาก็เลยเอามาตั้งแกล้งมันเล่นๆ แค่นั้นเอง…

สำหรับเจ้าของแล้วถ้ามีเจ้าหมาตามติดไปทำกิจกรรมโปรดด้วย ก็คงจะมีความสุขไม่น้อย เพราะจะได้ใช้เวลาร่วมกันกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น แต่ก็อย่าลืมดูสังขารมันด้วยล่ะว่าทำกิจกรรมไหวไหม ไม่งั้นจะเหนื่อยเหมือนเจ้าของรายนี้ เจ้าหมา Kato เป็นน้องหมาพันธุ์เกรทไพรีนีสอายุ 5 ขวบครึ่ง มันค่อนข้างตัวใหญ่ก็เลยเหนื่อยง่ายมันมักจะตามติดเจ้านายเสมอ และเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2018 ที่ผ่านมามันก็ตามเจ้านายไปปีนเขาในเส้นทาง Maxwell Falls ที่เมืองเอเวอร์กรีน รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา     แต่อาจเป็นเพราะมันเหนื่อยง่ายหรือไม่ก็ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เจ้า Kato มันก็เลยหมดแรงกลางทางซะงั้น พอเดินต่อไม่ไหวแบบนี้ก็ต้องเป็นภาระให้เจ้าของช่วยพาไปจนสุดทางแล้วล่ะ ยังไงก็เถอะจะให้เจ้าของแบกเจ้าหมาที่น้ำหนักตั้งกว่า 50 โลไปเองก็คงไม่ไหวเหมือนกัน เขาก็เลยติดต่อขอความช่วยเหลือจากพนักงานดับเพลิงให้เอารถเข็นมารับมันไปดีกว่า     สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือจากนักดับเพลิง Kato ก็มาถึงทางออกจนได้ พวกเขาต้องใช้คน 4 คนเข็นรถเข็นมาส่งเจ้าหมาเชียวนะ คนเขาเป็นห่วงกันขนาดไหนคิดดู หลังจากนั้นนักดับเพลิงก็รายงานทางทวิตเตอร์ว่าพวกเขาได้พาเจ้าหมาออกมาเรียบร้อยแล้ว โดยมันแค่มีอาการเหนื่อยล้ากับขาดน้ำแค่นั้นเอง ชาวเน็ตพากันให้กำลังใจเจ้าหมากันใหญ่เลย ถึงจะมาได้ไม่สุดทางแต่มันก็ทำเต็มที่แล้ว แต่คราวหน้าถ้าเจ้าของจะพามันไปเที่ยวที่อื่นอีกคงต้องเช็กสภาพร่างกายมันดีๆ หน่อย ไม่งั้นต้องเหนื่อยช่วยมันซ้ำกันอีกหนแน่   ที่มา: BuzzFeed

การเจอกันของหญิงสาวและเจ้าม้าเป็นเหมือนเรื่องบังเอิญ แต่ในอีกมุมหนึ่งมันก็เหมือนฟ้าช่วยพวกเขาได้มาเจอกัน พวกเธออาจจะถูกกำหนดมาให้อยู่ด้วยกันก็ได้ Kelsey Allonge และแม่ของเธออาศัยอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา วันหนึ่งพวกเธอขับรถออกไปตลาดนัดด้วยกันตั้งแต่เช้าตรู่ และก็เจอม้าตัวหนึ่งสลบอยู่ข้างทาง     มันผอมแห้งติดกระดูก และไร้เรี่ยวแรงก็เลยนอนนิ่งไม่ยอมขยับไปไหนทั้งนั้น เธอคิดว่ามันน่าจะถูกทำร้ายมาก่อนแล้วหนีออกมาจากบ้าน เพราะยังมีรอยแผลเหมือนถูกแส้ฟาดอยู่บนตัวมันอยู่เลย ด้วยความที่ทั้งเธอและแม่ต่างก็เป็นคนรักสัตว์มาก พวกเธอก็เลยยกเลิกแผนไปตลาดนัดแล้วเลือกจะช่วยเจ้าม้าตัวนี้ให้ปลอดภัยแทน     พวกเธอขับรถกลับไปที่บ้านเพื่อไปเอารถพ่วงมารับเจ้าม้ากลับไปด้วย แต่มันก็ไม่มีแรงจะก้าวขึ้นไปบนรถเลย มันทำได้แค่พยุงตัวเองขึ้นมาแล้วเดินช้าๆ เท่านั้น เห็นแบบนั้นแล้ว Allonge ก็ไม่ยอมแพ้ คนอื่นอาจจะปล่อยมันทิ้งไว้แบบนั้นก็ได้ แต่เธอเลือกที่จูงมันเดินกลับไปที่บ้านช้าๆ แม้ว่าบ้านของเธอจะอยู่ห่างไปจากตรงนั้น 9 ไมล์ (ประมาณ 14 กิโลเมตร) ก็ตาม     ปกติแล้วเธอไม่ได้ผ่านมาทางที่เจ้าม้านอนอยู่หรอก เธอกับแม่แค่เลี้ยวรถผิดก็เลยไปเจอมัน แถมถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่ยอมพามันเดินกลับบ้านไกลขนาดนี้ด้วย นึกดูแล้วการที่พวกเธอได้เจอกันมันช่างดูเหมาะเจาะซะเหลือเกิน     ในที่สุด Allonge ก็พาเจ้าม้าที่เธอตั้งชื่อว่า Sunny กลับมาถึงบ้านจนได้ แต่อาการของมันก็ยังดูไม่ค่อยดีนัก เพราะยังร่างกายอ่อนแอ และมีแผลตามตัวหลายแห่ง อาจจะล้มพับลงไปเมื่อไหร่ก็ได้ เธอก็เลยดูแลมันอย่างใกล้ชิด แล้วก็นอนกับมันในคอก 5 วันติด เผื่อว่าถ้ามันต้องตายจากโลกนี้ไป…

เมื่อต้องเจออากาศที่ร้อนจนแสบผิวเข้าให้ เราอยากจะโดดลงไปเล่นน้ำซะให้รู้แล้วรู้รอดเลย ในขณะที่เราได้แต่คิดนั้น มีเจ้าหมาตัวหนึ่งทำแบบนั้นไปเรียบร้อยแล้ว แถมทำแล้วดังเป็นไวรัลซะด้วย คลิปของเจ้าหมาตัวนี้ถูกถ่ายได้ที่น้ำพุสาธารณะของเมือง Riosucio เขต Caldas ประเทศโคลอมเบีย โดย Yulieth Cordoba เป็นคนถ่ายเอาไว้และโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของตัวเอง     ตอนนั้นเธออยู่แถวน้ำพุพอดี และเห็นหมาตัวหนึ่งกำลังขึ้นไปตรงขอบน้ำพุ ท่าทางมันคงร้อนมากๆ ก็เลยกระโดดลงไปเล่นน้ำในนั้นอย่างดี๊ด๊าโดยไม่แคร์สายตาคนรอบๆ เลย มันไม่ได้ทำไปตามสัญชาติญาณด้วยนะ ท่าทางมันคงรู้สึกว่าการโดดน้ำสนุก หลังจากนั้นมันก็เลยขึ้นมาขอบน้ำพุ แล้วกระโดดลงไปเล่นน้ำอีกซ้ำหลายรอบเลยทีเดียว ดูๆ ไปแล้วให้อารมณ์เหมือนดูเด็กตอนไปเล่นสวนน้ำไม่มีผิด      เจ้าหมาตัวนี้พาเอาชาวเน็ตยิ้มไปกับการกระโดดเล่นน้ำอย่างสุขใจของมัน เรียกคนเข้าไปดูความสดใสและชุ่มฉ่ำจนตอนนี้มีคนแชร์คลิปไปกว่า 150,000 แล้ว และมียอดเข้าชมเกือบ 6 ล้านครั้งแน่ะ นอกจากจะรู้จักกระโดดน้ำเพื่อความสนุกแล้ว ชาวเน็ตยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่ามันทำตัวเหมือนกับรู้อยู่เลยว่ากำลังถูกถ่ายคลิป มันอาจจะโดดน้ำซ้ำเพราะอยากเด่นหน้ากล้องก็ได้นะ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันต้องแสนรู้มากจนน่าทึ่งแน่     ยังไงก็ตามแค่ได้ดูคลิปของมันก็ทำให้เรารู้สึกเย็นใจตามเจ้าหมาไปด้วย ถึงจะไม่มีโอกาสลงไปแช่น้ำแบบมันบ้าง แค่ได้ดูมันเล่นน้ำก็ช่วยให้หายร้อนได้บ้างแล้ว ที่มา: Daily Mail

คุณพ่อ Chris Cardinal ถึงกับงง เมื่อลงมาชั้นล่างแล้วเจอ Chloe ลูกสาวตัวน้อยหนีออกมาจากห้องเองตั้งแต่เช้าตรู่ แต่เมื่อไปลองเปิดกล้องวงจรปิดดูเหตุการณ์แล้วก็หยุดยิ้มไม่ได้เลย     Chloe เพิ่งจะอายุได้ 15 เดือนเท่านั้น เธอไม่เคยออกมาเดินตอนกลางคืนเองแบบนี้ มันต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น โชคดีที่ Chris ติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องของลูกด้วยจึงเช็กดูได้อย่างง่ายดาย พอเปิดกล้องดูเท่านั้นแหละ ก็เจอตัวคนร้ายที่พาหนูน้อยออกมาเล่นซนจนได้ มันคือเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ Colby กับ Bleu ของเขานี่เอง   ภาพจากกล้องวงจรปิด    คุณพ่อบอกว่า Chloe สนิทกับเจ้าหมาทั้ง 2 ตัวมากๆ เพราะเธอโตมากับพวกมัน แถมเธอยังรู้ด้วยว่าจะหยิบขนมให้มันได้ตรงไหน คืนนั้นประตูห้องของ Chloe ปิดไว้ไม่สนิท ทำให้เจ้าหมาแอบเข้ามาในห้องของเธอได้ มันก็เลยมาชวนเธอออกไปข้างล่างด้วยกันเพื่อขอขนมกินนั่นเอง     วีกรรมสุดน่ารักของเจ้าหมาสุดแสบกับหนูน้อยได้รับความนิยมจากชาวเน็ตอย่างมาก จนตอนนี้มีคนเข้าชมคลิปกว่า 13 ล้านครั้งไปแล้ว ถึง Chloe จะดังเป็นกระแสไวรัลไปแล้ว แต่หนูน้อยก็ไม่สนใจหรอก เธอยังให้ความสนใจกับเพื่อนหมา Colby กับ Bleu…

เราเห็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงจัดวันเกิดให้แมวหรือหมากันมาหลายครั้งแล้ว แต่น่าจะยังไม่เคยเห็นงานวันเกิดของแรคคูนเลย ขอบอกว่ามันดูน่ารักไม่แพ้กันเลยล่ะ     งานวันเกิดของเจ้าแรคคูนเกิดขึ้นได้เพราะ Xanthe Rowland ช่างภาพสาวจากเมืองเบิร์นแฮม ประเทศอังกฤษ เธอเป็นคนเริ่มจัดงานวันเกิดให้มันเอง เธอเป็นช่างภาพที่ถูกจ้างวานให้ถ่ายรูปงานวันเกิดสำหรับเด็กเล็กบ่อยๆ แต่สำหรับคนรักสัตว์อย่างเธอ เธอคิดว่าถ้าได้ถ่ายภาพแบบนี้กับสัตว์บ้างก็คงจะมีความสุขดี     เธอก็เลยลองสอบถามคนรู้จักเพื่อหานายแบบสำหรับงานวันเกิดนี้ดู จนสุดท้ายเพื่อนของเธอที่ทำงานอยู่ในสวนสัตว์ Tropiquaria ก็บอกเธอว่าใกล้ถึงวันเกิดของแรคคูน Missy แล้ว ถ้าเธอโอเคก็มาถ่ายภาพมันได้เลย Rowland ไม่นึกมาก่อนเลยว่าสัตว์ที่เธอจะได้ถ่ายภาพด้วยจะเป็นแรคคูน แต่เธอก็คิดว่ามันต้องพิเศษมากแน่ๆ เพราะไม่เคยเห็นคนจัดงานวันเกิดให้แรคคูน     Missy เป็นแรคคูนอายุ 8 ขวบที่อยู่ในกรงเดียวกันกับแรคคูน Archer มันค่อนข้างรักสันโดษ แต่ถ้ามีอาหารติดมือมาด้วย มันก็จะเป็นเพื่อนที่ดีให้กับคุณ     Rowland เล่าว่า “การได้นั่งดู Missy เขมือบเค้กเข้าไปมันตลกมาก ฉันแค่วางเค้กเอาไว้แล้วก็ปล่อยให้เจ้า 2 ตัวนั้นออกมา แล้ว Missy ก็แสดงความเป็นเจ้าของเค้กก้อนนั้นอย่างชัดเจนโดยการส่งเสียงขู่ใส่ Archer ฉันไม่เคยเห็นสัตว์ตัวไหนมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่กี่นาทีต่อมามันก็ปาดเค้กจนเละ แล้วก็เลียกินเค้กอย่างมีความสุขจนหาอะไรเปรียบไม่ได้ … จากนั้นฉันก็แบ่งเค้กให้ Archer ด้วย มันจะได้ไม่รู้สึกน้อยใจ…

หลายคนไม่เข้าใจว่าสัตว์ป่าไม่เหมาะนำมาเลี้ยง เพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้มันซึมเศร้า ดุร้าย และก่อปัญหาอื่นๆ ตามมาถึงตัวมันเองและคนรอบข้างได้ แต่ยังดีที่มีครอบครัวหนึ่งคิดได้ก่อนจะสายเกินไป เมื่อปลายเดือนเมษายน 2018 มีคนติดต่อเข้ามาหา มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า เพื่อให้พวกเขามารับชะนีตัวหนึ่งไป เนื่องจากมันเครียดจนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในละแวก มันคงเหมาะจะอยู่ตามธรรมชาติมากกว่า อาสาสมัครก็เลยต้องขับรถนานกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อไปรับตัวมันมา …     ชะนีตัวนี้ชื่อ ทอง เป็นชะนีแก้มขาวที่แฟนเก่าของเจ้าของมันซื้อมาเมื่อ 10 ปีที่แล้วจากตลาดนัดจตุจักร คนขายน่าจะเป็นคนลักลอบค้าสัตว์ป่า แต่พอแฟนเก่าเลิกก็ไม่ยอมดูแลมัน เขาเลยต้องเก็บมันไว้ในกรงหลังบ้าน ด้วยความที่ไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงมันไว้ กรงของมันจึงเป็นห้องลูกกรงกว้างๆ ที่สกปรก มีเชือกมัดกันไว้ไม่ให้มันหนี เนื่องจากมันเคยหนีออกไปทำร้ายคนในพื้นที่มาแล้ว   กรงของทองไม่มีทางเข้าออก   มีแค่รูเล็กๆ 3 รูให้มันลอดหัวออกมาดูโลกข้างนอก   พอมันหนีไปหลายครั้งเข้า แล้วเขาเห็นมันดูไม่มีความสุข ในที่สุดก็เลยคิดได้ว่ามันเหมาะจะอยู่ตามธรรมชาติมากกว่า ก็เลยติดต่อไปหามูลนิธิ ด้วยความที่กรงไม่มีทางเข้าออก อาสาสมัครก็เลยต้องใช้มีดตัดเชือกที่มัดไว้ แล้วค่อยๆ เอาตัวมันออกมาอย่างปลอดภัย   ต้องใช้มีดตัดเชือกก่อน เพราะไม่มีทางเข้าออก   ตอนแรกทองก็ตื่นตกใจ พอมันสงบแล้วพวกเขาเลยพามันออกมาได้   ถึงเจ้าของจะดูแลมันได้ไม่ดีนัก แต่ทางมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าก็บอกว่าพวกเขารักทองมาก แค่ดูแลไม่ถูกวิธีเท่านั้น…

สัตว์จรจัดในประเทศญี่ปุ่นมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือก็จริง แต่ถ้ามันอยู่ในศูนย์พักพิงจนครบกำหนดแล้วยังไม่มีใครมารับไปก็จะถูกการุณยฆาตไว้ พวกมันจึงยังไม่ปลอดภัยจนกว่าจะมีเจ้าของ มิ้วน้อย Koi กับ Haku ถูกพามาที่ศูนย์พักพิงเมื่อมีคนไปช่วยพวกมันขึ้นมาจากสระน้ำ พวกมันเลยต้องรอคอยใครสักคนมารับเลี้ยงเพื่อจะได้ออกไปจากที่นี่   Koi กับ Haku เหมียวน้อย 2 พี่น้อง   Midori หญิงที่รักแมวรู้เรื่องของพวกมันเข้า เธอก็เลยอยากช่วยชีวิตพวกมัน แม้ว่าเธอจะมีแมวที่ช่วยมาแล้วอยู่ตั้ง 4 ตัว เธอก็เต็มใจให้พวกมันมาอยู่ด้วย ตอนที่เธอไปรับตัวมันมาจากศูนย์พักพิง เธอรู้สึกเห็นใจมันมากๆ พวกมันตัวเล็กแค่นิดเดียว แถมได้นอนในกล่องที่ไม่มีผ้าห่มอะไรให้เลย เธอคิดถูกแล้วที่ไปช่วยมันออกมาได้   มิ้วน้อยตัวเล็กกว่ารีโมททีวีซะอีก   พวกมันตัวเล็กกว่าที่ควรจะเป็นมาก แต่เธอก็ป้อนข้าวป้อนน้ำให้มันเท่าที่จะทำได้จนพวกมันตัวโตขึ้นสมวัย พอเแข็งแรงแล้วพวกมันก็เริ่มเล่นซนกันใหญ่เลย Midori และสามีหลงรักพวกมันเข้าให้เต็มๆ ทั้งคู่ช่วยกันป้อนนมให้พวกมัน และหาของเล่นมาให้มันเล่นเยอะแยะจนเล่นไม่ได้เบื่อ     นอกจากคู่สามีภรรยาแล้ว แมวอีก 4 ตัวก็ยังช่วยดูแลมิ้วน้อยด้วย โดยเฉพาะเจ้าเหมียว Van ที่โอ๋ลูกแมวตัวใหม่เอามากๆ มันช่วยเลียขนให้เจ้าตัวน้อยเหมือนตัวเองเป็นพ่อแท้ๆ   เจ้าแมว Van เอ็นดูลูกแมวทั้ง 2 ตัว   เลยทำหน้าที่เป็นพ่อให้…