Author:

  • รัฐบาลญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ ‘สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น’ ทรงสละราชสมบัติเป็นที่แน่นอนแล้ว!!

    รัฐบาลญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ ‘สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น’ ทรงสละราชสมบัติเป็นที่แน่นอนแล้ว!!

    เมื่อเช้าในวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา จักรพรรดิอะกิฮิโตะแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศพร้อมที่จะสละราชสมบัติ และในตอนนี้ก็ได้รับการยินยอมจากนายกรัฐมันตรีแล้ว นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามเห็นด้วยกับการกำหนดวันสละราชสมบัติของจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 เมษายนปี 2019 และนี่เป็นพระจักรพรรดิพระองค์แรก ที่ประกาศสละราชสมบัติในเวลาเกือบ 2 ศตวรรษในประเทศญี่ปุ่น โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในปี 1817 เลยทีเดียว     พระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ มีอาการประชวรรุมเร้าหลายอย่างทั้งการเคยเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ อีกทั้งยังต้องรักษาพระวรกายจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยพระองค์ได้ออกมากล่าวว่า ด้วยพระชนมายุที่มีมากขึ้น รวมถึงอาการประชวรต่างๆ ทำให้พระองค์กังวลว่าจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ดีเหมือนก่อน ด้วยข้อกฎหมายฉบับใหม่ในประเทศญี่ปุ่น ที่ออกมาเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้พระจักรพรรดิสามารถสละราชสมบัติได้ และผู้ที่จะมารับช่วงต่อก็คือ เจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง     พระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ พร้อมด้วยอัครมเหสีมิชิโกะ ได้ใช้เวลาในชีวิตของพระองค์ไปกับปฏิบัติหน้าที่ตัวแทนของประเทศ โดยได้นำประเทศผ่านวิกฤตการณ์ภัยพิบัติมาอย่างมากมาย ทำให้พระองค์เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนญี่ปุ่น และเมื่อพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะเสร็จสิ้นการสละราชสมบัติแล้ว ประเทศญี่ปุ่นก็จะสิ้นสุดรัชสมัยเฮเซ ซึ่งรัชสมัยนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 1989 โดยเป็นวันที่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เป็นครั้งแรก และชื่อของรัชสมัยใหม่หลังจากพิธีราชาภิเษกเจ้าชายนารุฮิโตะขึ้นเป็นกษัตริย์แล้ว ก็จะมีการถวายชื่อรัชสมัยใหม่อีกครั้งหนึ่ง   ที่มา: channelnewsasia

  • คู่รักโพสต์ท่าสุดหวานแบบเดิมทุกครั้งที่ไปเที่ยวรอบโลก จนกลายเป็นกระแสไวรัลในที่สุด!!

    คู่รักโพสต์ท่าสุดหวานแบบเดิมทุกครั้งที่ไปเที่ยวรอบโลก จนกลายเป็นกระแสไวรัลในที่สุด!!

    การเดินทางไปเที่ยวรอบโลกอาจจะเป็นความฝันของใครหลายคน และถ้าหากจะให้ดีก็ต้องมีคนรักร่วมเดินทางไปกับเรา เพราะว่านอกจากจะเพิ่มความอุ่นใจให้กับเราแล้ว ยังสามารถแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ที่มีต่อกันได้อย่างรู้ใจ และนั่นได้ช่วยเพิ่มความสุขในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกเยอะ คู่รักคู่นี้ก็เป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่พยายามทำความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง โดยพวกเขาเดินทางไปยังเมืองต่างๆทั่วโลก และแน่นอนว่าเมื่อเดินทางเที่ยวก็ต้องมีการถ่ายรูปเก็บความทรงจำร่วมกัน แต่สิ่งที่คู่นี้แตกต่างกับคนอื่นก็คือพวกเขาตัดสินใจถ่ายรูปในท่าเดิมๆ ในทุกเมืองที่ได้ไป จนกลายมาเป็นกระแสไวรัลในอินเทอร์เน็ตในที่สุด   ขณะถ่ายรูปกันที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี   Rob และ Joli Switzer คือชื่อของคู่รักดังกล่าว โดยพวกเขาเพิ่งจะเข้าพิธีสมรสกันเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้ออกเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลกภายในระยะเวลา 3 ปี แต่ละเมืองที่พวกเขาไปด้วยกันนั้นทั้งคู่จะถ่ายรูปแล้วโพสท่าแบบเดิมๆ สำหรับท่าที่พวกเขาทำก็คือ Joli จะเอนหลังภายใต้อ้อมแขนของ Rob แล้วก็จูบกันอย่างดูดดื่ม ซึ่งนั่นได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาโด่งดัง   ออกเดินทางไปยังเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส   ทั้งคู่ตั้งชื่อให้รูปภาพนี้ว่า ‘Dipkiss’ และในตอนนี้พวกเขาได้เปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเองชื่อว่า Dipkisstravels และ Instagram ชื่อว่า @dipkisstravels ให้ผู้คนได้ติดตามในการเดินทางท่องเที่ยวตามความฝันของทั้งคู่แล้ว การพบกันครั้งแรกของทั้งคู่นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2010 ใน “ปาร์ตี้สำหรับนักเดินทาง” ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยทั้งคู่บอกว่าหลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว และได้ติดต่อกันผ่านโลกออนไลน์หลังจากนั้น เพราะว่าความห่างไกลของทั้งคู่ทำให้ไม่สามารถพบกันได้ โดย Rob นั้นอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและ Joli อยู่ในประเทศฟิลิปปินส์   เทศกาลบอลลูนในแอลบูเคอร์คี…

  • รวม 17 ภาพของคนดวงซวย ที่ไม่รู้ว่าถูกฟ้าดินกลั่นแกล้งหรือกรรมเก่าตามสนองกันแน่

    รวม 17 ภาพของคนดวงซวย ที่ไม่รู้ว่าถูกฟ้าดินกลั่นแกล้งหรือกรรมเก่าตามสนองกันแน่

    บางครั้งเมื่อเราตั้งจะทำสักอย่าง มันก็ดูคลับคล้ายคลับคลาว่ามันจะติดขัดไปซะหมด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดวงเราซวย หรือว่าถูกฟ้าเบื้องบนกลั่นแกล้งกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือ พวกเขาต้องหัดไปทำบุญบ้างแล้วแหละ และนี่คือภาพของเหล่าคนดวงซวยทั้งหลายที่ได้ถ่ายทอดออกมาให้ดู และทำให้เราได้เห็นว่าถึงชีวิตเราจะทุกข์ยากไปบ้างบางครั้ง แต่ยังไงก็ยังมีคนที่แย่ยิ่งกว่าเราอยู่ในแต่ละวันอยู่เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้..   แล้วตูจะออกยังไงเนี่ย   ไม่เหมือนที่โฆษณาไว้นี่หว่า   แกะกันมัน พันกันยุ่ง   เมื่อทำทรายอึแมวตกต่อหน้า ทั้งๆ ที่จะเอาไปวางอยู่แล้ว   ก็คนมันเลือกไม่ถูกอะ   พระเจ้า ทีวีฉ้านน   มันน่าเสียดายซะจริงๆ เชียว   ไม่กงไม่กินมันละ   ช่วยด้วย!! ตูติดอยู่ข้างบน   เมื่อจะออกไปทำงานแล้วปรากฏว่า   ว่าจะเทนิดเดียว สยองเลย   เมื่อคุณท้องเสีย แล้วพบว่าทิชชู่ม้วนสุดท้ายมันไถลไปเช่นนี้   มันก็คงคล้ายๆ กับอารมณ์แกะปีโป้ในบ้านเรา   ดวงคนมันจะจน   กัดไปนึกว่าถั่ว ที่ไหนได้มาเป็นดุ้นเลย   เย็นวันศุกร์ว่าจะกลับบ้านมากินไวน์ แต่แล้วก็…   ฮึบเอา เหมือนมดกัดแหละ…

  • ก็มันเบื่ออ่ะ!! แตรรถคันหนึ่งดังจนน่ารำคาญ แต่เมื่อไปดูใกล้ๆ กลับเป็นหมากดแตรอยู่ซะงั้น

    ก็มันเบื่ออ่ะ!! แตรรถคันหนึ่งดังจนน่ารำคาญ แต่เมื่อไปดูใกล้ๆ กลับเป็นหมากดแตรอยู่ซะงั้น

    ในบ้างครั้งที่เราไปช็อปปิ้งในซูเปอร์มาเก็ตอย่างสนุกมือ และเมื่อเราทำทุกอย่างเสร็จแล้ว พอออกมายังลานจอดรถก็พบว่า ได้มีเสียงแตรของรถบางตันดังขึ้นอย่างยาวนาน เราอาจจะสงสัยว่านั่นเป็นฝีมือของใครกันนะที่ ส่งเสียงรบกวนชาวบ้านชาวช่องแบบนี้ บางคนอาจจะคิดว่าเป็นฝีมือของเด็กเล็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ หรืออาจเป็นฝีมือวัยรุ่นใจร้อนบางคนที่เร่งพ่อแม่ของพวกเขาให้ซื้อของเสร็จโดยเร็ว แต่ได้มีเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวของเสียงแตรรถที่ดังขึ้น แต่ผู้กดแตรกลับไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นหมาแทนซะอย่างงั้น   ใครกันนะมากดแตรรถรบกวนชาวบ้านเขาแบบนี้   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เมื่อมีคู่รักคู่หนึ่ง ออกมาจากสระว่ายน้ำ แล้วก็พบว่ามีใครบางคนกดแตรรถเสียงดังลั่นอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการคลายความสงสัย ผู้ชายคนดังกล่าวจึงใช้กล้องโทรศัพท์ตามไปถ่ายต้นตอของเสียง และเมื่อซูมเขาไปลึกๆ ก็พบว่าเป็นหมาหน้าบึ้งตัวหนึ่งเอาเท้าของมันกดแตรรถคันหนึ่งอยู่   เอ้านั่นมันดูคลับคล้ายคลับคลาหมานะ   “สามีของฉันกำลังเดินออกมาจากสระน้ำ และได้ยินเสียงแตรรถดังสนั่นมาจากลานจอดรถ ในตอนแรกเขาก็คิดว่าต้องมีใครกดแตรรถเล่นแน่ๆ แต่เมื่อเข้าไปซูมเข้าไปใกล้ๆ ก็ถึงได้รู้ว่ามันเป็นหมา” “เราเริ่มอัดวิดีโอสิ่งที่พวกเราเห็น และก็เข้าไปใกล้ๆ รถคันนั้นดังกล่าวก็พบว่ามีเจ้าหมาหน้าตาบึ้งตึงเอาเท้าของมันกดเอาไว้ที่แตรรถ เราจึงพยายามล่อให้มันเอาเท้าออกจากแตรรถซะ แล้วเราก็ทำได้สำเร็จ” Elizabeth Herman ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟัง   เอ้าใช่จริงๆ ซะด้วย   มาดูหน้าตาอันเบื่อหน่ายของเจ้าหมาตัวนี้กันดีกว่า   หมาก็เบื่อเป็นนะเออ ปล่อยให้รอนานๆ ก็เห็นใจกันบ้างเจ้านายยย   ที่มา: inspiremore

  • โถ่พ่อ!! สาวเล่าประสบการณ์สุดฮา หลังพ่อเข้าใจผิดคิดว่า ‘พาวเวอร์แบงค์’ เป็นเซ็กส์ทอย

    โถ่พ่อ!! สาวเล่าประสบการณ์สุดฮา หลังพ่อเข้าใจผิดคิดว่า ‘พาวเวอร์แบงค์’ เป็นเซ็กส์ทอย

    การใช้โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะใช้กันอย่างเมามันตลอดทั้งวัน ซึ่งแน่นอนว่าแบตเตอรี่ของโทรศัพท์เรามันก็ย่อมไม่พอต่อความต้องการใช้ จึงได้มีผู้ผลิตคิดค้นแบตเตอรี่แบบพกพาหรือที่เราเรียกว่าพาวเวอร์แบงค์ออกมา โดยมันได้สร้างประโยชน์เป็นอย่างมากกับผู้ใช้โทรศัพท์ทั้งหลาย ทว่ามันกลับสร้างปัญหาให้แก่สาวน้อยคนหนึ่ง เพราะว่าด้วยรูปร่างแบบกระทัดรัดของมัน ได้ทำให้พ่อของเธอคิดว่ามันเป็นเซ็กส์ทอยซะอย่างงั้น   สาวน้อย Emily ผู้สร้างกระแสไวรัลขำขันบนอินเทอร์เน็ต     เธอได้โพสต์ข้อความที่เธอสื่อสารกับพ่อของเธอในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และได้กลายเป็นกระแสไวรัลสุดฮาบนอินเทอร์เน็ตในตอนนี้ โดยมีผู้รีทวีตของเธอแล้วกว่า 31,000 ครั้งและมีคนกดไลก์กว่า 120,000 คนเลยทีเดียว เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจากทวิตเตอร์ยูสเซอร์หนึ่งชื่อว่า @_Emiily โดยเล่าว่าในตอนแรกเธอได้รับข้อความจากพ่อของเธอว่าเขาต้องการคุยด้วยเพราะว่า เขาได้ไปพบอะไรบางอย่างที่น่าเกลียดในห้องนอนของเธอ     พ่อของ Emily : ลูกอยู่ไหนเนี่ย เมื่อไหร่จะกลับบ้านเรามีเรื่องต้องคุยกัน Emily: บ้านเพื่อนทำไมหรอคะ?? พ่อของ Emily: พ่อได้ไปเจอสิ่งนี้ในห้องนอนของลูก ทำไมลูกถึงเป็นคนอย่างนี้ ช่างน่าเกลียดซะจริงๆ หลังจากพ่อของ Emily ส่งภาพที่เขาเชื่อว่าเป็นเซ็กส์ทอยมาให้กับเธอ และได้ต่อว่าเธอต่างๆ นานา ซึ่งในความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่พาวเวอร์แบงค์เท่านั้น นั่นจึงทำให้ Emily ต้องรีบออกมาแก้ต่างให้แก่ตัวเองเป็นการด่วน     Emily: พ่อคิดว่าสิ่งที่พ่อเจอมันคืออะไรล่ะ พ่อของ Emily…

  • รวม Snapchat ของแมวจากที่ต่างๆ บนโลกนี้ ที่อาจทำให้คุณขำจนกรามค้าง

    รวม Snapchat ของแมวจากที่ต่างๆ บนโลกนี้ ที่อาจทำให้คุณขำจนกรามค้าง

    ถามว่าสิ่งมีชีวิตใดความกวนใจมนุษย์ คงไม่มีอะไรที่น่าจะเกินกว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แมว’ ซึ่งใครหลายคนก็คงรู้ซึ้งถึงความซุกซนและแสนกวนของมัน ทว่ามันก็มีความน่ารักที่เกินกว่ามนุษย์คนไหนจะกล้าทำร้ายมันลงคอ นี่คือภาพความน่ารักของแมวต่างๆ จากทั่วโลกที่ผู้คนต่างลงในแอพฯ Snapchat เพื่ออวดกันว่าแมวของแต่ละคนนั้นมีพฤติกรรมที่แปลกไปกว่าแมวปกติเค้าหรือเปล่าเนี่ย บางคนก็อาจจะคิดว่า ทำไมแมวของเขามันกวนจัง ทำไมมันกวนกว่าชาวบ้านเขา?? และพวกมันมักจะมีความพิเรนทร์ซ่อนเอาไว้อยู่ในตัวและอาจจะสร้างเสียงหัวเราะให้แก่ผู้ที่พบเห็นได้ ซึ่งมันจะจริงอย่างที่ว่าไว้หรือไม่ ต้องไปดู   มันอาจจะเป็นหลอดไฟที่น่าสนใจที่สุดในโลก เพราะว่ามันดึงดูดแมวได้ถึง 5 ตัวตุ๊กตาหมูอีก 1 ตัวและอีกทั้ง 2 คนในทีวี   เมื่อแมวข้างบ้านโกรธแทนเจ้าของบ้านมัน   อุ้มหนูขึ้นไปหน่อยนะ   A: ทำไมไม่ยกเจ้าแมวออกจากเก้าอี้ล่ะ B: ก็ผมไม่อยากให้แมวเกลียดผมนิ   วิธีหลอกแมวให้อยู่ข้างล่าง   ช่วยด้วยเห้ยย หมีมันตามมาแล้ว   ขึ้นไปทำไรบนนั้น ไอ้อ้วน   เห็นแล้วรู้สึกสยองยังไงชอบกล   เมื่อเข้าบ้านมาช้า แล้วแมวนั่งคอยอย่างนี้   ถ่ายแบบปะเนี่ย   มีเตียงถึง 5 เตียง เก้าอี้นุ่มๆ อีก 10 ตัวแต่แกมานอนบนไข่เนี่ยนะ…

  • พบกับสาวที่มีหน้าตาเหมือน ‘เจน ลอว์’ แบบเป๊ะๆ นึกว่าฝาแฝดคลานตามกันมา

    พบกับสาวที่มีหน้าตาเหมือน ‘เจน ลอว์’ แบบเป๊ะๆ นึกว่าฝาแฝดคลานตามกันมา

    ว่ากันว่าบนโลกใบนี้ จะมีคนคนหนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนกับเราทุกอย่าง แต่เรื่องดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่ยากพิสูจน์ เพราะว่าบนโลกนี้มีคนอยู่เป็นร้อยเป็นพันล้านคน การจะเจอคนที่หน้าเหมือนเราคงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าคงไม่ใช่กับสาววัย 17 ปีนามว่า Alexia Maier ที่เธอดันหน้าตาไปคล้ายกับ Jennifer Lawrence ดาราสาวฮอลลีวูด ผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games โดยบังเอิญและนั่นได้ทำให้มีผู้คนมากมายเข้ามาขอลายเซ็นจากสาวคนนี้เพราะนึกว่าเป็นดาราดัง โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าพวกเขาขอลายเซ็นของเธอไปทำไมกัน     ในช่วงแรกที่มีคนเข้ามาขอลายเซ็น เธอนึกว่าผู้คนต่างๆ พยายามจะเล่นตลกกับเธอ แต่เมื่อเธอออกไปยังสถานที่ต่างๆ แล้วมีผู้คนจำนวนมากบอกถึงความเหมือนของเธอกับดาราสาวมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็ทำให้เธอเริ่มคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง “ตอนแรกฉันคิดว่าต้องเป็นการล้อเล่นแน่ๆ เมื่อพวกเขาบอกว่าฉันเหมือนกับ Jennifer แต่เมื่อมีคอมเมนต์จำนวนมากเกี่ยวกับความเหมือนของฉัน ฉันก็เริ่มสำรวจตัวเองว่ามันเหมือนอย่างไร” Alexia กล่าว     นอกจากนี้ Alexia ยังบอกอีกว่าผู้คนที่บอกว่าเธอเป็น Jennifer ส่วนมากจะอยู่ในพื้นที่ที่พวกดารามักจะชอบไป แต่ไม่ใช่กับที่บ้านเธอที่ Ponte Vedra รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา     “ที่บ้านเกิดของฉัน ชาวบ้านต่างก็รู้ว่ายังไงก็ไม่มีโอกาสได้เห็นคนดังตัวจริงๆ หรอก แต่กลับกันที่นิวยอร์ค มีคนเข้ามาขอลายเซ็นฉันเยอะแยะเลย”  “ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันชอบที่สุดก็คือ การที่มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาบอกว่า ‘Jennifer ฉันเป็นแฟนตัวยงของคุณเลย’ จากนั้นฉันก็บอกว่าฉันไม่ใช่ Jennifer ผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าไปเลยแล้วพูดว่า คุณแน่ใจนะ? มันทำให้ฉันเห็นถึงความดีใจและผิดหวังในเวลาที่ใกล้เคียงกัน ” Alexia กล่าว…

  • ผู้นำเดนมาร์กเข้าพบผู้นำอินโดฯ ก่อนจะมอบของที่ระลึกเป็นบ็อกเซ็ตวง Metallica!!

    ผู้นำเดนมาร์กเข้าพบผู้นำอินโดฯ ก่อนจะมอบของที่ระลึกเป็นบ็อกเซ็ตวง Metallica!!

    การให้ของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญต่อเรื่องจิตใจของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการให้ของขวัญเป็นการเชื่อมสัมพันธ์อันดีต่อกันที่ให้ความสุขทั้งผู้ให้และผู้รับ และแน่นอนว่าเมื่อผู้นำระดับประเทศไปเยือนต่างประเทศก็ย่อมมีของขวัญติดไม้ติดมือเป็นธรรมดา ปกติแล้วเมื่อผู้นำระดับประเทศไปเยือนผู้นำอีกประเทศ ก็มักจะนำของที่ระลึกท้องถิ่นที่หาได้เฉพาะในประเทศนั้นๆ ไปมอบให้อย่างประเทศไทยก็จะเป็นผ้าไหม ญี่ปุ่นก็เป็นชุดกิโมโน จีนก็อาจจะเป็นสร้อยไข่มุกก็เป็นได้     แต่ว่าได้มีการมอบของขวัญที่แหวกกฎการให้แบบเดิมๆ เพราะเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา เพราะว่า ผู้นำประเทศแห่งหนึ่งกลับมอบแผ่นเสียงของวงเมทัลชื่อดังอย่าง Metallica แทนของท้องถิ่นตามธรรมเนียมซะอย่างงั้น ด้วยความที่ Joko Widodo ประธานาธิบดีประเทศอินโดนีเซียเป็นคอดนตรีร็อกแนวเมทัลสุดโหด ผู้นำประเทศเดนมาร์กที่ชื่อว่า Lars Løkke Rasmussen จึงได้ตระเตรียมของขวัญสุดพิเศษในโอกาสไปเยือนประเทศอินโดนีเซียคราวนี้ไว้ให้เป็นอย่างดี นั่นก็คือบ็อกเซ็ตของวง Metallica ที่ชื่อว่า The Master of Puppet นั่นเอง!   ถูกใจขาร็อกเมทัลเขาล่ะ   ซึ่่งก็แน่นอนว่าของขวัญชิ้นนี้สร้างความพึงพอใจให้กับท่านผู้นำอินโดฯ เป็นอย่างมาก สังเกตได้จากใบหน้ายิ้มแฉ่งของ Joko ตลอดเวลาที่ถ่ายรูปพร้อมกัน     “Rasmussen เข้าใจถึงหัวอกความเป็นร็อคเกอร์ของผมเป็นอย่างดี เพราะว่าเขาได้มอบแผ่นเสียงของวง Metallica ซึ่งเป็นวงโปรดของผมมาให้” Jokowi ให้สัมภาษณ์ขณะกำลังรับบ็อกเซตแผ่นเสียงจากมือของ Rasmusseen   ฟังกันให้หูตาดับกันไปข้างนึงเลย   โดยภายในแผ่นเสียงนี้ได้บรรจุเพลงเมทัลสุดคลาสสิค ไว้ถึงแปดเพลงอย่าง Disposable Heroes, The…

  • ศิลปินสร้างงานประติมากรรม รวมธรรมชาติและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันออกมาเป็นงานสุดเท่!!

    ศิลปินสร้างงานประติมากรรม รวมธรรมชาติและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันออกมาเป็นงานสุดเท่!!

    ใครจะไปคิดว่าธรรมชาติกับเทคโนโลยีจะสามารถอยู่ในสิ่งเดียวกันได้ แต่ว่าวันนี้ได้มีศิลปินคนหนึ่งได้ทำให้ไอเดียนี้ออกมาเป็นจริง โดยใช้งานประติมากรรมหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่างานปั้น แสดงออกถึงการผสมผสานทั้งสองสิ่งที่กล่าวมาได้อย่างลงตัว ศิลปินชื่อว่า Garret Kane ชาวอเมริกัน ได้ทำให้ชาวเน็ตต้องตกตะลึงในไอเดียที่แปลกประหลาดของเขา โดยเขาได้ประดิษฐ์งานปั้นออกมาชิ้นหนึ่งชื่อว่า Golemecha ซึ่งเป็นการนำเอาตำนานทั้งสองอย่างที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงมารวมเข้าด้วยกัน โดยทั้งสองสิ่งก็คือ Golem ผู้ปกป้องที่สร้างมาจากดินเหนียวกับโคลนจากตำนานของศาสนายิว และ Mecha หุ่นยนต์ผู้ปกป้องอันล้ำสมัยจากวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น     วัสดุที่เขาเลือกใช้ในการสร้าง Golemecha ก็มีทั้งชิ้นส่วนที่พิมพ์ออกมาจากเครื่องพิมพ์สามมิติ ต้นมอส ตะแกรงเหล็กเพื่อใช้เป็นโครงสร้างหลัก ไฟ LED เพื่อให้งานปั้นชิ้นนี้สามารถส่องสว่างในตัวเองได้ และยังมีวัสดุอีกมากมายที่ใช้เป็นส่วนประกอบปลีกย่อย งานจากฝีมือของ Kane เป็นงานที่ควรค่าแก่การชื่นชม และหากใครอยากติดตามศิลปินคนนี้ว่าจะมีผลงานอะไรออกมาอีกสามารถติดตามกันต่อได้ที่ garretkane.com   การมีไฟ LED เข้ามาช่วยทำให้เพิ่มความโดดเด่นให้กับมัน   ใส่ใจในรายละเอียดทุกจุดจริงๆ   ถ้ามันมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ตัวใครตัวมันล่ะจ้า   มีการนำต้นไม้ต่างๆ มาประดับประดา   ต้นมอสเล็กๆ เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมชาติลงไป   นั่นมันตัวอะไรน่ะ   ตอนปิดไฟแล้วก็จะมีสภาพเช่นนี้   เห็นแล้วก็คิดถึงภาพในหนังเรื่องต่างๆ เลยว่าไหม  …

  • ภารกิจปล่อยจรวดพิสูจน์โลกแบนของ Mike Hughes ถูกยกเลิกแล้วในขณะนี้!!!

    ภารกิจปล่อยจรวดพิสูจน์โลกแบนของ Mike Hughes ถูกยกเลิกแล้วในขณะนี้!!!

    เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวของ ลุงคนหนึ่งที่พยายามจะสร้างจรวดขึ้นไปบนท้องฟ้า เพื่อจะพิสูจน์ความเชื่อของเขาที่ว่า โลกใบนี้มัน “แบน” ซึ่งได้มีกำหนดปล่อยจรวดเมื่อวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ทว่าได้ยกเลิกแล้วในขณะนี้ สาเหตุหลักๆ ที่ยกเลิกการปล่อยจรวดในครั้งนี้เนื่องมาจาก ลุง Mike Hughes อดีตคนขับรถลิมูซีนวัย 61 ปี ผู้สร้างจรวดอันนี้ไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลกลาง บวกกับปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ของหัวจรวดที่เขาได้สร้างขึ้นมาเอง   Mike Hughes กับจรวดที่สร้างขึ้นมาเองของเขา   “หน่วยงานของรัฐบาลที่ชื่อว่า The U.S. Bureau of Land Management (BLM) ได้บอกกับผมว่าพวกเขาไม่อนุญาตให้ผมขึ้นบิน นั่นได้ทำให้ผมเสียใจเป็นอย่างมาก” Hughes กล่าว จรวดของชายคนนี้ได้ใช้เวลาในการสร้างกว่า 2-3 ปี โดยมีการใช้เงินไปประมาณ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 650,000 บาท) สำหรับจรวดลำนี้ซึ่งแต่เดิมนั้นมีกำหนดการปล่อยตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในเวลาประมาณ 14.00-15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศสหรัฐอเมริกา   ความเชื่อของเขาที่คิดว่าโลกนี้มัน “แบน” สำหรับการระงับการปล่อยจรวดในเบื้องต้น Hughes บอกว่าเขาได้รับการห้ามบินจากเจ้าหน้าที่ของ BLM ว่า “มันขึ้นอยู่กับสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ…

  • กลุ่มแฮ็กเกอร์อิรักปั่นหัว ISIS ด้วยการตัดต่อผู้นำดูภาพโป๊ แล้วเอาไปใส่หน้าเว็บพวกเขาเอง

    กลุ่มแฮ็กเกอร์อิรักปั่นหัว ISIS ด้วยการตัดต่อผู้นำดูภาพโป๊ แล้วเอาไปใส่หน้าเว็บพวกเขาเอง

    หากจะพูดถึงชื่อของกลุ่มก่อการร้ายที่มีชื่อเสียงระดับโลกต้องมีชื่อของกลุ่ม ISIS ติดอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งกลุ่ม ISIS นี้ขึ้นชื่อในเรื่องความโหดร้ายทารุณ โดยพวกเขาได้ก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และสังหารหมู่มาแล้วมากมาย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีใครกล้าล้อเล่นกับพวกเขา ด้วยการแฮ็กเว็บไซต์ของพวกเขาแล้วใส่รูปโป๊ลงไปซะอย่างงั้น หนึ่งในความสามารถที่กลายมาเป็นจุดเด่นของแฮ็กเกอร์กลุ่มนี้ก็คือ พวกเขาได้ตัดต่อรูปภาพของผู้นำกลุ่ม ISIS ให้ดูเหมือนกับว่าเขากำลังนั่งดูหนังโป๊อยู่ อีกทั้งยังนำรูปผู้หญิงโป๊จำนวนมากไปใส่ไว้ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพวกเขาอีกด้วย   แฮกเว็บไซต์หลักซะเลยนิ   สมาชิกคนหนึ่งของกลุ่ม Daeshgram กลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวอิรัก ได้ออกมาบอกว่าพวกเขาเป็นคนแฮ็กเว็บไซต์ดังกล่าวเอง ซึ่งสาเหตุที่พวกเขาทำอย่างนี้ก็เพราะว่า ต้องการที่จะกระจายความหวาดระแวงให้กับผู้คนที่สนับสนุนกลุ่ม ISIS โดยพวกเขาต้องการจะสื่อว่าข้อความที่ส่งโดยช่องทางการของกลุ่ม ISIS นั้นมีความไม่ปลอดภัยและสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย และดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำได้สำเร็จ   มีการดิสเครดิตด้วยนะ   “ความตั้งใจของพวกเราคือต้องการแพร่กระจายข่าวปลอมของกลุ่ม ISIS เพื่อลดความน่าเชื่อถือของพวกเขาลง” สมาชิกที่ไม่เปิดเผยชื่อคนหนึ่งของกลุ่ม Daeshram กล่าว นอกจากนี้กลุ่ม Daeshram ยังบอกผู้สนับสนุนกลุ่ม ISIS อีกด้วยว่าไม่ให้เชื่อสิ่งที่กลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวเขียนไว้บนเว็บไซต์ เพราะว่ามันไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่นัก   ไม่รู้ว่าโดนโจมตีแล้วพวกเขาจะเป็นอย่างไรกันบ้าง   สำหรับปฏิบัติการแฮ็กนั้นกลุ่ม Daeshgram ได้ออกมาเปิดเผยวิธีการคือเริ่มแรกพวกเขาได้ทำให้เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของกลุ่มใช้การไม่ได้ด้วยวิธี DDoS (การยิงระบบ) ซึ่งนั่นได้ทำให้เว็บไซต์ของพวกเขาล่มเลยทีเดียว หลังจากเว็บไซต์ล่มลงพวกเขาก็นำเอาเว็บไซต์ปลอมไปแทนที่ โดยเป็นหน้าของการล้อเลียนกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ และด้วยความที่พวกเขาได้ศึกษาเว็บไซต์นี้มาหลายเดือน…

  • คลิป Pray for Anna ถ่ายทอดภาพลักษณ์เหมือนหนังผีแต่จริงๆ แค่โปรโมทการท่องเที่ยว

    คลิป Pray for Anna ถ่ายทอดภาพลักษณ์เหมือนหนังผีแต่จริงๆ แค่โปรโมทการท่องเที่ยว

    การโปรโมทการท่องเที่ยวในปัจจุบัน หลายๆ ประเทศต่างก็งัดจุดเด่นกันออกมา อย่างประเทศญี่ปุ่นก็มีดอกซากุระ ประเทศจีนก็มีหมีแพนด้า และเมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทยเราแน่นอนว่าก็คงหนีไม่พ้นเรื่องอาหาร แต่มีหรือระดับประเทศไทยจะมีการโปรโมทแบบธรรมดาๆ โดยพวกเขาได้สร้างคลิปโปรโมทซึ่งคล้ายกับตัวอย่างหนังผีเลยทีเดียว คลิปโปรโมทการท่องเที่ยวนี้ สร้างขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในปี 2015 ซึ่งพวกเขาได้ยกเอากลิ่นอายของตัวอย่างหนังผีมาใช้ในการดำเนินเรื่อง     โดยมีเนื้อเรื่องก็คือ Anna สาวสุดสวยวัย 24 ปีได้มาที่เมืองไทยเพื่อมาหาแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งต่างประเทศได้บอกไว้ว่ามีอันตรายต่างๆ มากมาย ในประเทศไทย ทว่าว่าอันตรายที่เธอต้องเผชิญกับไม่ใช่อาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ แต่ว่าเธอกับเจอกับอันตรายของ ‘อาหาร’ ที่มันช่างอร่อยไปซะทุกอย่าง และยังมีขายตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงทั่วประเทศซึ่งนั่นทำให้เธอสวาปามทุกอย่างที่ขวางหน้า จนแน่นท้องนอนอยู่บนเตียงกระดุกกระดิกไปไหนไม่ได้ และยังมีอาการกรามค้างเนื่องจากพยายามกินของที่ใหญ่เกินไปจนทำให้พูดไม่ชัดอีกด้วย ซึ่งจะเป็นอย่างไรลองรับชมกันดู     คลิปโปรโมทการเที่ยวนะจ๊ะ ไม่ใช่หนังผี วิดีโอนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามทั้งจากสื่อในประเทศและต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องความครีเอท ที่ได้นำเอาบรรยากาศแบบชวนหลอนมาใส่ไว้ และยังได้เห็นถึงอาหารต่างๆ ในเมืองไทยที่ทำเอาชาวต่างชาติทั้งหลาย อยากจะมาร่วมชิมกันลองกินกันบ้าง และทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้มีความคิดเห็นเพิ่มเติมหลังจากที่เพจ 9 gag ได้หยิบเอาวิดีโอนี้ขึ้นมาพูดถึงใหม่อีกครั้ง โดยชาวโซเชียลได้มีความคิดดังต่อไปนี้   เมื่อคุณเห็นผู้หญิงไทยสวยๆ คุณควรระวังไว้ เพราะที่นี่คือประเทศไทย   เธอต้องการไส้กรอกเฟ้ย ผู้ชายคนนั้นใช้เวลาตั้งนานกว่าจะคิดออก  …

  • นศ.เขียนโน้ตเตือนห้องข้างว่า ‘มีเซ็กส์’ เสียงดัง โดนตอบกลับ “โสดมา 18 ปี ขอจัดเต็มหน่อยเถอะ!!”

    นศ.เขียนโน้ตเตือนห้องข้างว่า ‘มีเซ็กส์’ เสียงดัง โดนตอบกลับ “โสดมา 18 ปี ขอจัดเต็มหน่อยเถอะ!!”

    เมื่อต้องเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย เด็กต่างถิ่นหลายคนก็จำเป็นจะต้องอยู่หอพัก ซึ่งหอพักส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะห้องติดๆ กันทำให้อาจจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาบ้างเวลาทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม เด็กสาวชื่อว่า Jenna Levine จากมหาวิทยาลัย Syracuse ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน และสิ่งที่เธอได้ยินก็ไม่ใช่เสียงธรรมดาๆ อย่างการทำกับข้าวหรือว่าพูดคุยกันซะด้วย แต่ว่ามันคือเสียงโหยหวนของคนสองคนที่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอยู่…   โน้ตของเธอที่ส่งไปให้ห้องข้างๆ   ลองนึกภาพตามสิ่งที่เธอได้ยิน มันช่างรบกวนเวลาในการอ่านหนังสือหรือว่านอนหลับซะจริงๆ และมันก็ไม่ใช่เสียงเบา เพราะว่าคู่รักข้างห้องของเธอแสดงหนังสดซะดังจนแทบจะเห็นภาพ Jenna จึงไม่ทนอีกต่อไป และได้เขียนโน้ตแผ่นหนึ่งไปสอดเข้าที่ใต้ประตูห้องนั้น โดยมีเนื้อหาว่า “ช่วยลดเสียงระหว่างการมีเซ็กส์ให้เบาลงสักนิดเถอะนะ เพราะว่าคนบางคนต้องการที่จะนอนหลับพักผ่อน และเสียงนั้นมันยังคอยตอกย้ำคนโสดอย่างฉันด้วย มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่คุณจะทำอย่างนั้น แต่ว่าช่วยเบาเสียงกระเส่านั้นลงนิดนึงละกัน ขอบคุณมาก”   ของขวัญแทนการขอโทษพร้อมโน้ตแผ่นหนึ่ง   ระหว่างที่เธอนำโน้ตแผ่นนี้ไปสอดใต้ประตูห้อง Jenna ก็สารภาพว่าเธอกลัวมากว่าพวกเขาจะเปิดประตูออกมาพอดี ในเวลาต่อมาเธอก็ได้รับการตอบกลับในแบบที่คาดไม่ถึง โดยพวกเขาได้สอดช็อกโกแลตแท่งมาใต้ประตูห้องของเธอ รวมทั้งโน้ตที่ทำให้ความโกรธของเธอหายเป็นปลิดทิ้ง ซึ่งใจความในจดหมายตอบกลับฉบับนี้ก็คือ   ข้อความในโน้ตแทบทำเอาน้ำตาไหล   “ถึงเพื่อนบ้านที่น่ารัก ฉันต้องขอโทษจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันเป็นเสียงที่ดังมาก แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้ ว่าบางทีการมีเซ็กส์เสียงดังมันก็สามารถเพิ่มความเร่าร้อนให้กับคู่ของเราได้ แต่อย่างไรก็ตามฉันก็ต้องขอโทษอย่างใจจริง” “ฉันหวังว่าเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และต้องขอขอบคุณเกี่ยวกับคำเตือนในโน้ตของคุณ…

  • หนุ่มส่งข้อความ ‘ดูกันดั้มของผมไหม’ ไปหาสาว และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความรักของพวกเขา

    หนุ่มส่งข้อความ ‘ดูกันดั้มของผมไหม’ ไปหาสาว และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความรักของพวกเขา

    เนื้อคู่กันแล้วก็คงไม่แคล้วกันไปได้ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็หากันจนเจอไม่ว่าจะจากร้านกาแฟ ผับบาร์ หรือกระทั่งโลกออนไลน์ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าจะมีคู่รักคู่หนึ่งจะได้แต่งงานกันด้วยคำถามง่ายๆ ว่า “ดูกันดั้มของผมไหม” ในกล่องข้อความ Instagram ของ Elle Howley ได้มีข้อความหนึ่งที่มีเนื้อหาสุดแปลกมาหาเธอ ซึ่งข้อความนั้นเป็นคำถามที่ว่า “ดูกันดั้มของผมไหม” และตอนนั้นเธอยังคงไม่รู้ว่าคำถามนี้คำถามเดียวได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล และได้สร้างตำนานรักบทใหม่ขึ้นในยุคเทคโนโลยีครองเมืองเฉกเช่นในปัจจุบัน   Elle ได้โพสต์ข้อความของชายดังกล่าวลงใน Twitter ของเธอ   Elle ให้เล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วเธอพบกับชายคนนี้ก่อนแล้วในแอพฯ Tinder แต่ว่าตอนนั้นเธอได้ลบบัญชีของเธอในแอพฯ นั้นทิ้งไปเพราะว่ายังมีความสุขในชีวิตโสดอยู่ ซึ่งเธอก็คิดว่าเขาคนนั้นก็คงจะลืมๆ เธอไป แต่ปรากฏว่าไม่กี่วันต่อมา เขาก็ส่งข้อความมาใน Instagram ด้วยข้อความข้างต้น โดยในตอนแรกนั้นเธอก็คิดว่าคำว่ากันดั้มของเขานั้นหมายถึง อวัยวะเพศ แต่ว่าเขากลับส่งรูปโมเดลกันดั้มจริงๆ กลับมานั่นทำให้ Elle รู้ว่าเขาคนนี้แตกต่างกับคนอื่น   แท่ม แท๊มมมม ส่งกันดั้มมาให้ดูจริงๆ ด้วยแฮะ…   “การ์ตูนเรื่องกันดั้ม เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ฉันได้ดูและตกหลุมรักมัน เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขากับฉันที่ได้พูดคุยกันเพราะว่าเรารักในสิ่งเดียวกัน เราแชทคุยกันทุกวันเป็นเดือนจนกระทั่งเราได้พบกันในที่สุด” Elle เล่าจุดเริ่มต้นความรักของเธอให้ฟัง เธอได้เรียกชายคนดังกล่าวว่า “ไอ้หนุ่มกันดั้ม” ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อของเขาคือ John…

  • รู้จักกับพี่ ‘Albert’ ขนหยิกคล้ายแกะในร่างเหมียว แถมมีหน้าเกรี้ยวกราดตลอดเวลา!!

    รู้จักกับพี่ ‘Albert’ ขนหยิกคล้ายแกะในร่างเหมียว แถมมีหน้าเกรี้ยวกราดตลอดเวลา!!

    แมวพันธุ์ต่างๆ ย่อมมีลักษณะเด่นอยู่ในตัวเอง ซึ่งบางตัวก็มีหน้าตาที่แบนบู้บี้ บางตัวก็มีหางที่ยาว บางตัวก็มีขนที่สั้นแต่คงไม่มีตัวไหนเหมือนกับตัวนี้ที่นอกจากจะมีขนเหมือนแกะแล้ว มันยังมีใบหน้าที่ดูเหมือนกับว่าเกรี้ยวโกรธอยู่ตลอดเวลา จนกลายเป็นเสน่ห์ประจำตัวของแมวตัวนี้เลยก็ว่าได้ Albert คือชื่อของแมวตัวนี้ โดยมันเป็นแมวพันธุ์ Selkirk Rex ที่มีขนยาวและปุกปุยจนแทบจะเหมือนกับแกะในรูปลักษณ์ของแมว และด้วยสายตาอันดุดันตามธรรมชาติของมันทำให้หลายคนถึงกับหลงรักในความแปลก ความประหลาด จนในตอนนี้มันได้กลายเป็นซุปตาร์โด่งดังอยู่ในโลกออนไลน์ไปแล้ว ซึ่งในตอนนี้มีผู้ติดตามใน Instagram แล้วกว่าแสนคน หากใครที่ตกหลุมรักเจ้าแมวตัวนี้แล้วล่ะก็ตามไปส่องชีวิตของมันกันได้ที่ pompous.albert   ดูสายตาของมันสิ ไม่รู้ไม่โกรธอะไรมา   เหมือนอวตารแกะในร่างแมว   ขนมันช่างปกปุยน่ากอดซะจริงๆ   มาแอบหลอกหลอนยามทำงาน   แกะน้อยหลับอย่างมีความสุข   มองอะไรอย่างนั้น ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย   มาทำลายข้าวของยังจะมามองหน้าอีก   อย่าเข้ามาในบ้านของฉันนะ   กล้ามพี่ใหญ่ไหมล่ะน้องสาว   ยักคิ้วหลิ่วตาหน่อย เผื่อจะดังบ้าง   เอ้า ใครมีปัญหาเข้ามาได้   แปลกๆ แบบนี้ก็ดูมีเสน่ห์เหมือนกันนะว่าไหม… ที่มา: awesomeinventions

  • เขินเลยสิ กล้องวงจรปิดจับภาพขี้เมาพยายามเปิดประตูกว่า 3 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่มีปุ่มกดอยู่ข้างๆ…

    เขินเลยสิ กล้องวงจรปิดจับภาพขี้เมาพยายามเปิดประตูกว่า 3 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่มีปุ่มกดอยู่ข้างๆ…

    การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แน่นอนว่าย่อมไม่ดีต่อร่างกายเรา ซึ่งหลายคนก็รู้ดีแต่ก็ยังคงติดใจในรสชาติของความมึนเมาที่อยู่ในน้ำอมฤตสีอำพันเหล่านี้อยู่ ซึ่งหากดื่มแต่พอดีก็คงมีความสุขสนุกสนานดีอยู่หรอก แต่ถ้าเมาเกินพิกัดล่ะก็อาจจะต้องอายเหมือนชายคนนี้ ที่พยายามเปิดประตูบานหนึ่งเกือบสามชั่วโมง ทั้งๆ ที่เพียงกดปุ่มข้างๆ ก็สามารถเปิดประตูได้อย่างง่ายดาย   ดัน เอ้าดันเข้าไปฮึบบ   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ Balashikha เมืองทางตะวันตกของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อมีชายสวมแจ๊คเก็ตสีน้ำเงินคนหนึ่งพยายามจะเปิดประตูด้วยวิธีการต่างๆ แต่ทำยังไงก็ไม่ได้ผล   ข้าเริ่มไม่ไหวกับเอ็งแล้วนะ ไอ้ประตูเจ้าปัญหา   เมื่อเปิดแบบธรรมดาก็ไม่ยอมออกซักที ชายสุดเมาคนนี้ก็เริ่มโมโหโดยประเคนทั้งลูกถีบ ใช้ไหล่ชน จนประตูเริ่มจะบิดเบี้ยวไปตามแรงกระแทกที่ชายคนนี้โถมแรงทั้งหมดที่มีใส่ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วปุ่มปลดล็อกประตูก็อยู่ข้างๆ ลูกบิดแท้ๆ หลังจากออกแรงจนเหนื่อย ก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ชายคนนี้ดูเหมือนจะหมดแรงนั่งพักอยู่เป็นเวลาชั่วครู่ จากนั้นเขาก็เริ่มพังประตูต่อ ซึ่งมันก็เริ่มเผยอออกให้เห็นถึงแสงสว่างแห่งความหวัง   นี่แหนะ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร   หลังจากออกแรงกับประตูเจ้าปัญหานี้มากว่าเกือบ 3 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 6 โมงกว่าๆ จนถึงเวลา 8 โมง เขาก็เริ่มมีสติสัมปชัญญะฟื้นคืนมาจากความมึนเมา และเหลือบไปเห็นปุ่มเล็กๆ ข้างๆ ประตู เขาก็ลองกดมันดูแล้วก็ปรากฏว่าประตูก็เปิดออกได้อย่างง่ายดาย และนั่นทำให้เขาได้ออกไปสู่โลกภายนอกได้สำเร็จหลังจากที่เสียแรงมามากกับวิธีแบบเมาๆ ของเขา  …

  • ลูกเหมียวกำพร้าได้พบกับ พี่สาวแสนดีเคมีเข้ากัน “พี่ไปไหนน้องขอไปด้วย”

    ลูกเหมียวกำพร้าได้พบกับ พี่สาวแสนดีเคมีเข้ากัน “พี่ไปไหนน้องขอไปด้วย”

    ไม่มีอะไรที่น่าจะทำให้รู้สึกดีไปกว่าการได้เห็นสัตว์ที่น่าสงสารมีความสุขแล้ว ซึ่งนี่เป็นเรื่องราวระหว่างแมวสองตัวที่ต้องมาอยู่ด้วยกัน แต่ว่าตั้งแต่เจอกันครั้งแรกทั้งสองก็เหมือนมีสายใยที่ผูกพันธ์กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนจนแทบจะแยกทั้งคู่ออกจากกันไม่ได้เลย แมวกำพร้าชื่อว่า Cheyenne ได้เข้ามาอยู่ที่สถานรับเลี้ยงสัตว์ Nevada SPCA ที่เมืองลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความหวังจะหาบ้านที่อบอุ่นและเหมาะสมให้กับตัวเอง และดูเหมือนว่าเจ้าแมวน้อยตัวนี้จะไม่ค่อยชอบบรรยากาศในสถานรับเลี้ยงนี้มากนัก   ความน่ารักของ Cheyenne และ Pearl   ในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมาเจ้าเหมียวตัวนี้ก็พร้อมสำหรับบ้านใหม่ ในเวลาไม่นาน Chey ก็ได้ขโมยหัวใจของผู้หญิงใจดีคนหนึ่งไป และผู้หญิงคนนั้นก็รับเจ้าขนปุยตัวนี้ไปเลี้ยงที่บ้านของเธอ โดยก่อนหน้านั้นเธอได้เลี้ยงแมวสองตัวอยู่ก่อนแล้ว หญิงสาวที่อุปถัมภ์แมวตัวนี้มีชื่อว่า Amy เธอได้แนะนำให้มันได้รู้จักกับเพื่อนแมวอีกตัวชื่อว่า Pearl ซึ่งมันเป็นแมวที่ Amy ได้อุปถัมภ์มาจากที่เดียวกันเมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่แล้ว   Chey สมัยยังอยู่ที่สถานรับเลี้ยงสัตว์   “พวกเราคิดว่าต้องหาเพื่อนให้กับเจ้า Pearl เพราะว่าเจ้าแมวแก่ที่ชื่อว่า Jenny ไม่ได้สนใจในตัวของเพื่อนแมวด้วยกันมากนัก” Amy ให้สัมภาษณ์ ในช่วงแรกๆ ที่เจ้า Chey เข้ามาอยู่ที่บ้านมันก็เริ่มติดตามเจ้าถิ่นอย่าง Pearl ไปยังสถานที่ต่างๆ รอบบ้านราวกับว่าเป็นเงาของมันเลยก็ว่าได้และดูเหมือนว่า Pearl ก็ชอบใจในตัวเพื่อนใหม่เหมือนกัน   ต้องอยู่ในสายตาตลอดเวลา   “หลังจากผ่านไปเพียงแค่ 2-3 วันพวกมันก็เล่นกันจนตัวแทบกลม และอีก…

  • ความสวยงามของสะพานหิน เอกลักษณ์แห่งกรีซตอนเหนือ โดดเด่นเป็นประจักษ์ต่อสายตา!!

    ความสวยงามของสะพานหิน เอกลักษณ์แห่งกรีซตอนเหนือ โดดเด่นเป็นประจักษ์ต่อสายตา!!

    หากจะกล่าวถึงยุคโบราณ แน่นอนว่าชื่อของกรีกจะต้องเข้ามาอยู่ในความคิดของเราอย่างแน่นอน เพราะว่าใครๆ ก็รู้ว่าชนชาติกรีกเป็นชนชาติที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นได้กลายมาเป็นแบบแผนในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างในเรื่องของศิลปะต่างๆ หรือแม้กระทั่งสถาปัตยกรรม… สิ่งที่พวกเขาทิ้งไว้ให้เราในปัจจุบันเปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามแห่งวงการศิลปะ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความสวยงามและสภาพแวดล้อมในยุคนั้นเข้าไว้ในสถาปัตยกรรมต่างๆ อย่างเช่น ตึกอาคาร เสาหินต่างๆ แต่ว่ามีอีกอย่างหนึ่งที่ทุกคนมองข้ามไปนั่นก็คือ สะพานหินนั่นเอง สะพานหินเหล่านี้อยู่ในทางตอนเหนือของประเทศกรีซ ซึ่งถูกสร้างโดยช่างฝีมือโบราณหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับงานหิน โดยในภาษากรีกจะมีชื่อเรียกช่างเหล่านี้ว่า Mastoroi แน่นอนว่าในสมัยโบราณย่อมไม่มีการเรียนเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมหรือแม้กระทั่งวิศวกรรม แต่ชิ้นงานของพวกเขาได้ออกมาประจักษ์แก่สายตาทุกคน ซึ่งโดดเด่นในเรื่องความสวยงาม อีกทั้งยังได้ทิ้งกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์เอาไว้ โดยสะพานหินที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นคือเมื่อประมาณปี ค.ศ. 500 และสะพานบางแห่งยังคงใช้การได้อยู่จนถึงยุคปัจจุบัน   สะพานหิน Palaiokarya, เมือง Trikala สร้างประมาณค.ศ. 1500   สะพานหิน Kalogeiko ที่ Ioannina สร้างเมื่อปี 1814   สะพานหิน Katsogiannis ที่ Grevena สร้างเมื่อประมาณปี 1800   สะพานหิน Aziz Agha ที่ Grevena สร้างเมื่อปี 1727   สะพานหิน Palaiokarya…

  • งานชิ้นโบว์แดง!! หญิงชาวออสซี่วาดภาพเคลมประกัน แต่ปรากฏว่ากลายเป็นภาพสุดฮาซะงั้น

    งานชิ้นโบว์แดง!! หญิงชาวออสซี่วาดภาพเคลมประกัน แต่ปรากฏว่ากลายเป็นภาพสุดฮาซะงั้น

    การยื่นเอาเงินประกันภัยจากบริษัทประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ จะมีส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่จำเป็นอย่างมากนั่นก็คือการวาดรูปสภาพแวดล้อมระหว่างเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงสิ่งรอบๆ ที่อยู่ใกล้ยานพาหนะ ทว่ามีคุณแม่คนหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย ได้วาดเพื่อยื่นเอาเงินประกันดังกล่าวออกมาได้อย่างสุดฮา เป็นโชคร้ายสำหรับสาวชาวออสเตรเลียตะวันตกคนหนึ่งนามว่า Fiona Cosgrove โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างที่เธอกำลังขับรถกลับฟาร์มของเธอใน Arrowsmith อยู่ดีๆ ก็มีสัตว์ตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมาเหยียบรถของเธอจนทำให้กระจกแตก โดยสัตว์ที่ว่านี้ก็คือ ‘จิงโจ้’ นั่นเอง   ภาพวาดที่โด่งดังของเธอ   แน่นอนว่าเมื่อเธอได้ทำประกันไว้เธอก็ต้องยื่นขอรับเงินค่าเสียหาย แต่ก่อนที่จะได้เงินนั้นเธอต้องวาดภาพแสดงให้เห็นก่อนว่า รถของเธอโดนจิงโจ้สร้างความเสียหายไว้อย่างไร แต่ไม่รู้ว่าด้วยความที่จิงโจ้นั้นวาดยากหรือเธอไม่ชอบวาดภาพก็ไม่รู้ ภาพจิงโจ้ที่ออกมาจึงกลายมาเป็นภาพที่เหมือนไดโนเสาร์ซะมากกว่า และยังไม่หมดแค่นั้นเพราะว่ารถของเธอก็มีหน้าตาแปลกๆ โดยมีการวาดเป็นเหลี่ยมๆ แล้วถมดำจนไปคล้ายกับรถของแบทแมนซะอย่างงั้น แต่ถึงอย่างไรเธอก็คงพยายามวาดให้ดีที่สุดเแล้วล่ะ เมื่อรูปนี้ได้ออกไปสู่โลกออนไลน์ก็มีผู้คนมากมายร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปของเธอ และมีความเห็นหนึ่งในเฟซบุ๊กกล่าวอย่างติดตลกไว้ว่า “นี่เป็นโอกาสที่นานๆ ครั้งจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของ ไดโนจิงโจ้”   มันไม่น่าใช่สัตว์ที่วาดง่ายๆ อย่างที่คิดนะ ไม่เชื่อลองวาดดูสิ   ต่อมา Cosgrove เจ้าของภาพวาดสุดฮาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ในตอนแรกฉันวาดภาพเหล่านี้ด้วยดินสอก่อน และลงปากกาเพิ่มเติมในตอนหลัง แต่เมื่อภาพออกมาเสร็จสมบูรณ์แล้วก็ปรากฏว่า มันช่างแย่จริงๆ” “ลูกอายุ 7 ขวบบอกกับฉันว่า ‘แม่วาดอะไรเนี่ย หนูสอนแม่วาดจิงโจ้ได้นะ ถ้าแม่ต้องการ’ มันเจ็บใจจริงๆ ที่ถูกลูกถามเมื่อเช้านี้ บางทีฉันอาจจะขอทุนการศึกษาไปเรียนศิลปะก็ได้นะ” Cosgrove กล่าวไว้อย่างติดตลก  …

  • ศิลปินเปลี่ยน ‘ทางม้าลาย’ ในกรุงมาดริดให้มีสีสันสดใส นอกจากสบายตาแล้วยังสบายใจ

    ศิลปินเปลี่ยน ‘ทางม้าลาย’ ในกรุงมาดริดให้มีสีสันสดใส นอกจากสบายตาแล้วยังสบายใจ

    ในขณะที่มีรถใหม่ๆ ออกมาวิ่งบนท้องถนนทุกๆ วันแต่ว่าถนนกลับยังมีเท่าเดิม ทำให้การข้ามถนนในปัจจุบันจะต้องมีการระมัดระวังมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยหลายคนจึงแนะนำให้ใช้สะพานลอยในการข้าม หรือหากไม่มีก็ให้ใช้ทางม้าลายแทน ทว่าบางท้องที่ทางม้าลายนี่เลือนลางแทบจะมองไม่เห็น และอาจแก้ปัญหาเหมือนกับศิลปินท่านนี้ ศิลปินหนุ่มชาวบัลแกเรียคนหนึ่งชื่อว่า Christo Guelov ได้เปลี่ยนทางม้าลายแบบเดิมๆ ที่มีแค่เพียงสีขาวดำและยากต่อการสังเกตในเมืองมาดริด ประเทศสเปน ให้กลายเป็นจุดข้ามถนนที่ให้ความรู้สึกที่สนุกขึ้นและมีสีสันมากกว่าเดิม Guelov ได้ตั้งชื่อให้ทางม้าลายหลากสีสันอันนี้ว่า “การข้ามแสนสนุก” โดยเขาได้สร้างสีสันที่เข้ากับสภาพแวดล้อมของเมืองและได้ใช้รูปทรงแบบเรขาคณิตง่ายๆ อย่างรูปสี่เหลี่ยมธรรมดา แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาก็คือเขาได้สร้างสีสันสลับกันจนกลายเป็นสีที่ดูแล้วรู้สึกสบายตา และประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการมีสีสันสวยงามแบบนี้ก็คือ ง่ายต่อการสังเกตเห็นของผู้ขับขี่ต่างๆ ว่าตรงนี้มีทางม้าลายอยู่ ซึ่งอาจจะเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ท้องถนนร่วมกันอีกด้วย   หน้าตาของทางม้าลายหลากสีสัน   ช่างง่ายต่อการสังเกตจริงๆ   การสลับสีสันต่างๆ ทำได้อย่างลงตัว   เขาได้ยึดเอาสีขาวเป็นหลักมากกว่าสีอื่นๆ   ลวดลายทางเรขาคณิตแบบง่ายๆ   ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องเห็นอย่างแน่นอน   น่าเอามาปรับใช้กับบ้านเราเหมือนกันนะ ที่บางที่มันช่างเลือนลางซะเหลือเกิน   เด็กๆ สามารถข้ามถนนได้อย่างสบายใจ   มีทิศทางบอกเลนด้วยนะ เผื่อใครมาจากต่างประเทศจะได้ทำตัวถูก   ศิลปะที่แสนจะมีประโยชน์   อันนี้เป็นรูปทรงอีกแบบหนึ่ง   เหมือนกับเล่นเกมเรียงสีเลย ว่าไหม??   สวยงามตามท้องเรื่อง  …

  • 10 คำพูดติดตลกสุดสยอง ของเหล่าผู้ต้องโทษประหาร และเป็นประโยคสุดท้ายในชีวิต…

    10 คำพูดติดตลกสุดสยอง ของเหล่าผู้ต้องโทษประหาร และเป็นประโยคสุดท้ายในชีวิต…

    การกระทำเป็นตัวกำหนดอนาคตต่างๆ หากทำความดีก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทน หากทำชั่วก็ต้องได้รับสิ่งไม่ดีตอบแทน เหมือนกับคนเหล่านี้ที่ทำความชั่วจนผิดกฎหมายและได้รับโทษถึงประหารชีวิต แต่ว่าก่อนที่การประหารชีวิตจะเกิดขึ้น พวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดคำสุดท้ายก่อนที่วิญญาณจะหลุดออกจากร่างไป และนี่คือ 10 คำพูดสุดท้ายของนักโทษประหารที่มีความผิด หากอยากรู้ว่าพวกเขามีคำพูดว่าอย่างไรก็ต้องตามไปดู….   1. George Appel “สุภาพบุรุษทั้งหลาย พวกคุณกำลังจะพบกับ Appel อบ” George Appel ได้กล่าวคำพูดนี้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นคำพูดที่ห่อเหี่ยวใจที่สุดในโลก โดยเขาถูกประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในข้อหาฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในปี 1928   2. Carl Panzram “เร็วๆ เข้าสิไอ้พวกงั่ง ฉันอาจจะฆ่าคนได้เป็นโหลหากพวกแกยังไม่ลงมือสักที” Carl Panzram ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ทั้งข่มขืนและเป็นหัวขโมย เขาอ้างว่าได้ฆ่าคนไปกว่า 22 คนและข่มขืนผู้หญิงอีกกว่า 1,000 คน Carl ถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอที่เมืองแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 5 พฤษภาคม 1930   3. Jame French “พวกเขาจะพาดหัวข่าวว่าไงกันนะ เฟรนช์ฟรายส์ทอดหรอ” Jame…

  • ชาบู!! สถาปนิกญี่ปุ่นออกแบบบ้านในพื้นที่หน้ากว้างเพียง 3 เมตรให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่

    ชาบู!! สถาปนิกญี่ปุ่นออกแบบบ้านในพื้นที่หน้ากว้างเพียง 3 เมตรให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่

    พื้นที่ระหว่างบ้านหลังหนึ่งไปยังอีกหลังหนึ่ง มักจะมีตรอกซอกเล็กๆ ที่ใครๆ หลายคนมักจะนำพื้นที่เหล่านี้ไปปลูกต้นไม้หรือไม่ก็ทำแปลงดอกไม้ เนื่องจากคิดว่ามันคงเล็กเกินกว่าที่จะปลูกสร้างอะไรได้ แต่ได้มีสถาปนิกคนหนึ่งเห็นคุณค่าของพื้นที่เล็กๆ เหล่านั้นจนได้สร้างบ้านขึ้นมาในพื้นที่แคบๆ แต่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว พื้นที่เล็กๆ ระหว่างบ้านทั้งสองหลังในเมืองโอะกะซะกิ ประเทศญี่ปุ่น  ที่เล็กกว่าถนนบางสายในเมืองแห่งนี้ซะอีก ได้กลายมาเป็นบ้านสุดสวยจากฝีมือของสถาปนิกชื่อว่า Katsutoshi Sasaki ที่ได้เนรมิตขึ้นมาสำหรับครอบครัวหนึ่งที่มีสมาชิกถึง 4 คน   หน้าตาของบ้านในพื้นที่แคบๆ อย่างนี้   โดยมุมมองของสถาปนิกคนนี้ก็คือ แทนที่เขาจะมองในเรื่องความกว้างที่มีเพียงแค่ 3 เมตร เขากลับให้ความสำคัญไปที่ความยาวและความสูงแทน เพื่อจะให้บ้านในพื้นที่แคบๆ นี้ใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงที่สุด   พื้นที่ก่อนที่จะสร้างบ้านหลังนี้ขึ้น ซึ่งมีขนาดความกว้างเพียงแค่ 3 เมตร   สำหรับข้อมูลพื้นฐานของพื้นที่นี้คือมีความกว้าง 3 เมตรแต่ทว่ามันมีความยาวมากถึง 69 ตารางเมตรเลยทีเดียว แต่ว่าสถาปนิกก็สามารถทำบ้านหลังนี้ให้มีความปลอดโปร่งได้ ด้วยการยกบ้านให้สูงขึ้นนั่นเอง   มีพื้นที่ในบ้านให้ใช้สอยได้อย่างกว้างขวาง   “ที่ดินบริเวณนี้มีขนาดเล็กมาก โดยก่อนหน้านี้ใช้สำหรับการทำสวน แต่ผมคิดว่าลูกค้าคงต้องการความรู้สึกของอิสระ ผมจึงสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นโดยมีการเชื่อมต่อกันของพื้นที่หลายที่ และยังคงมีส่วนให้สามารถทำสวนได้อยู่อีกมุมหนึ่งของบ้านอีกด้วย” Sasaki กล่าว   ชั้นบนของบ้านก็มีความน่าอยู่ไม่แพ้กัน โดยเขาได้เจาะช่องเพื่อให้แสงจากธรรมชาติผ่านเข้ามาได้   แม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่ว่าเขาก็ตั้งใจจะให้บ้านนี้เป็นบ้านที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และให้หลากหลายอารมณ์ในพื้นที่ๆ เดียวอย่างเช่น…

  • น้ำใจงาม!! ชมเหตุการณ์อันน่าประทับใจบนท้องถนน ที่หยุดรถเพื่อให้คนแก่ได้ข้ามถนน

    น้ำใจงาม!! ชมเหตุการณ์อันน่าประทับใจบนท้องถนน ที่หยุดรถเพื่อให้คนแก่ได้ข้ามถนน

    สังคมเราทุกวันนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และการแข่งขันที่สูง ทำให้ชีวิตประจำวันของเราก็จำเป็นต้องเร่งรีบตามไปด้วย แน่นอนว่าการขับรถบนท้องถนนก็ต้องเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีกัน ซึ่งสิ่งนั้นได้ทำให้มารยาทการใช้พื้นที่ร่วมนั้นหายไป และบางทีเราก็ได้เห็นข่าวความไร้น้ำใจบนท้องถนนจนเกิดเรื่องชกต่อยกันก็มีมาแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีคนมีน้ำใจในสังคมอันเร่งรีบของเราอยู่ โดยพวกเขานั้นเปรียบเสมือนฮีโร่เลยก็ว่าได้ และนี่คือ 2 เหตุการณ์ที่จะแสดงให้เห็นว่าสังคมในโลกปัจจุบันยังคงมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กันอยู่   รถคันหนึ่งพยายามกั้นรถคนอื่นเพื่อให้หญิงชราภาพคนหนึ่งข้ามถนนไปได้   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อมีหญิงแก่คนหนึ่งรอข้ามถนนอยู่นานสองนาน ก็ไม่มีรถคันไหนจอดให้ข้ามเลยสักคัน ทว่ามีรถสีเหลืองอยู่คันหนึ่งที่ไม่เพียงแค่จอดให้เท่านั้น แต่ยังพยายามที่จะนำรถของตัวเองไปบังรถคันอื่นให้จอด เพื่อให้หญิงสูงวัยคนนี้ข้ามถนนไปได้อย่างปลอดภัย หลังจากหญิงแก่คนนั้นกำลังข้ามถนนใกล้จะถึงอีกฝั่งหนึ่งแล้ว ความมีน้ำใจของคนขับรถคันนี้ยังไม่หมดลงเพียงแค่นั้น เพราะว่าเขายังได้เอารถบังให้เด็กอ่อนที่อยู่ในเปลสามารถข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย เหมือนกับหญิงชราภาพคนก่อนหน้าอีกด้วย   วิดีโอการทำความดีอันแสนน่าประทับใจ   รถคันหนึ่งจอดให้คนแก่ที่อยู่บนเกาะกลางถนนข้าม   ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศจีนอีกเช่นกัน เมื่อมีคนแก่อยู่คนหนึ่งได้ยืนอยู่ระหว่างถนนทั้งสองเลน และพยายามที่จะข้ามถนนไปยังอีกฝั่ง แต่ด้วยความชราภาพบวกกับการต้องใช้ไม่เท้าในการช่วยเดินทำให้ ชายชราคนนี้เคลื่อนที่ไปได้ค่อนข้างช้าทำให้ไม่มีรถคันไหนยอมจอดให้ข้ามสักที ทว่าวิดีโอจากรถคันนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจของคนขับ ที่ได้เสียสละเวลาเพียงน้อยนิดเพื่อให้คนแก่คนนี้ข้ามถนนไปได้ ซึ่งเขาก็ได้ถอดหมวกและก้มหัวลงให้เพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจของคนขับรถคันนี้ ซึ่งเรียกได้ว่ามีน้ำใจทั้งผู้ให้และผู้รับเลยก็ว่าได้   จอดให้คนแก่ข้ามถนน ทั้งๆ ที่ไม่มีคันไหนยอมจอด   ถ้ามีคนเช่นนี้ในสังคมเยอะๆ รับรองได้ว่าบ้านเมืองเราจะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว ที่มา: shanghaiist

  • พบกับหนุ่มกับกิจกรรมสุดแปลก นั่งนิ่งๆ ส่งยิ้มให้กล้อง 4 ชั่วโมง/วัน แม้มีโจรเข้ามาก็ไม่ลุก!?

    พบกับหนุ่มกับกิจกรรมสุดแปลก นั่งนิ่งๆ ส่งยิ้มให้กล้อง 4 ชั่วโมง/วัน แม้มีโจรเข้ามาก็ไม่ลุก!?

    ว่ากันว่ามนุษย์ย่อมต้องมีกิจกรรมทำในทุกวินาทีของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การวิ่ง การนั่ง การเล่นคอมพิวเตอร์ การออกกำลังกาย ก็ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมทั้งนั้น แต่ถ้าหากถามถึงกิจกรรมที่มีความแปลกไม่เหมือนใครในโลกต้องยกให้เขาคนนี้เลย เพราะว่าเขานั่งถ่ายทอดสดตัวเองยิ้มครั้งละนานกว่า 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา Benjamin Bennett หนุ่มวัย 25 ปีได้ถ่ายทอดสดตัวเอง ขณะนั่งอยู่ในห้องเปล่าๆ และยิ้มให้กับกล้อง โดยแต่ละครั้งจะเป็นความยาวกว่า 4 ชั่วโมง จนตอนนี้เขาได้อัพโหลดคลิปการนั่งยิ้มรวมแล้วกว่า 116 ชั่วโมงโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ     กิจกรรมสุดแปลกของเขาได้กลายเป็นคำถามสำหรับทุกคนว่าเขาทำไปทำไม โดยมีการสันนิษฐานเอาไว้หลายอย่างเช่น ทำเพื่อให้เป็นศิลปะ? เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง? หรือว่าป่วยทางจิตกันแน่ ครั้งแรกที่ได้เห็นเขา หลายคนอาจจะคิดว่า เขาอาจจะฝึกความอดทนเพื่อเพิ่มสมาธิให้กับตัวเอง เหมือนกับในอดีตที่เคยมีผู้ฝึกความอดทนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากอย่าง Tehching Hsieh ผู้ซึ่งทำโครงการรวบความอดทน โดยวิธีการฝึกของเขาก็คือ ขังตัวเองไว้ในกรงและไม่สามารถพูด อ่าน เขียนหรือทำกิจกรรมใดๆ เป็นเวลาตลอดทั้งปี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้วการนั่งและยิ้มกว่า 4 ชั่วโมงของ Ben ดูจะเป็นวิธีที่เบากว่าเยอะแต่ก็มีวิธีการที่คล้ายๆ กัน และเพื่อเป็นการไขข้อข้องใจให้กับทุกคนที่สงสัย เว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Vice จึงได้ติดต่อไปขอสัมภาษณ์ Ben ซึ่งเขาได้ให้บทสัมภาษณ์บางส่วนไว้ดังนี้…

  • ครอบครัวจ้างนักเต้นจ้ำบ๊ะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชาย ทว่ากลับมีเด็กวัยกระเตาะอยู่ในห้องด้วย!!!

    ครอบครัวจ้างนักเต้นจ้ำบ๊ะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดลูกชาย ทว่ากลับมีเด็กวัยกระเตาะอยู่ในห้องด้วย!!!

    ในวันเกิดอายุครบ 20 ปีใครหลายคนอาจเลือกที่จะออกไปฉลองนอกบ้านกับครอบครัว บางคนอาจจะเลือกไปเที่ยวกลางคืนให้เมาปลิ้นกันไป แต่ว่ามีครอบครัวหนึ่งที่มีการฉลองสุดแปลกโดยพ่อแม่ของหนุ่มคนนี้ได้จ้างสาวเปลื้องผ้ามาเต้นจ้ำบ๊ะให้ลูกชายเขาดู การกระทำดังกล่าวอาจจะเป็นความหวังดีต่อลูก อยากจะให้ลูกได้เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ทว่ามีเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้นเพราะว่าดันมีเด็กวัยกระเตาะจำนวนหนึ่งอยู่ในห้องนั้นด้วย   นักเต้นจ้ำบ๊ะที่ถูกจ้างมาแสดงโชว์   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Kursk ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศรัสเซีย โดยมีวิดีโอหนึ่งจับภาพชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้และโดนปิดตา และต่อจากนั้นไม่นานก็มีนักเต้นระบำเปลื้องผ้าคนหนึ่งที่แต่งตัวล้อเลียนตำรวจ เข้ามาในห้องดังกล่าว จากวิดีโอดังกล่าวทำให้ได้เห็นว่า ในขณะที่นักเต้นคนนี้กำลังทำการแสดงของเธออยู่ ก็ปรากฏว่ามีเด็กน้อยจำนวน 3-4 คนวิ่งเล่นอยู่ในห้องนั้นด้วย ทว่านักเต้นคนดังกล่าวก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักยังคงดำเนินการแสดงของเธอต่อไป   ขณะกำลังเริ่มการแสดง ทั้งๆ ที่มีเด็กวิ่งเล่นอยู่ในห้อง   โดยในตอนแรกนั้นเธอหยอกล้อหนุ่มวัยกลัดมันวัย 20 ปีคนนี้ด้วยการลูบไล้กระบองที่เตรียมมา จากนั้นเธอก็ทำการปลดผ้าปิดตาออกและได้เต้นยั่วยวนหนุ่มคนนี้อยู่สักพักหนึ่ง ต่อมาเธอก็ถอดชุดของเธอออกเผยให้เห็นถึงชุดชั้นในสุดวาบหวิว ทั้งๆ ที่ยังมีเด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในห้องนั้นอยู่ และจากการสืบสวนของตำรวจในเวลาต่อมา ทำให้ทราบว่านักเต้นระบำเปลื้องผ้ามีชื่อว่านาง Anna Litvinova โดยเธอได้บอกกับสื่อท้องถิ่นว่า เธอพยายามบอกพ่อแม่ที่จ้างเธอมาเต้นโชว์แล้วว่าอย่าให้เด็กๆ เข้ามาในห้องขณะที่เธอกำลังทำการแสดงดังกล่าวเป็นอันขาด   ถอดชุดออกเหลือเพียงชุดชั้นในเท่านั้น   “พ่อแม่ของเด็กอายุ 20 ปีคนนี้จ้างฉันมาเพื่อให้เต้นฉลองวันเกิดให้กับเขา แต่เมื่อฉันก้าวเข้ามาในบ้านฉันก็เห็นเด็กๆ วิ่งผ่านฉันไป ฉันจึงบอกพวกเขาว่า เด็กๆ ไม่ควรอยู่ที่นั่นในตอนที่ฉันกำลังเต้นอยู่ แต่เมื่อฉันเริ่มเต้นพวกเด็กๆ ก็กลับวิ่งเข้ามาซะอย่างงั้น” Anna เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง  …

  • เครื่องบิน NASA เก็บภาพของขั้วโลกใต้กลับมา เผยให้เห็นสภาพของแนวน้ำแข็งในปัจจุบัน

    เครื่องบิน NASA เก็บภาพของขั้วโลกใต้กลับมา เผยให้เห็นสภาพของแนวน้ำแข็งในปัจจุบัน

    ด้วยสภาพอากาศในโลกเราที่เปลี่ยนไปทุกวัน อีกทั้งยังต้องเผชิญกับสภาวะโลกร้อน ได้ทำให้ภูเขาน้ำแข็งในทวีปต่างๆ นั้นละลายเร็วขึ้นอย่างมาก และหากอยากรู้ว่าในตอนนี้ ขั้วโลกใต้ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีภูเขาน้ำแข็งมากที่สุดแห่งหนึ่งบนโลกใบนี้เป็นอย่างไร ลองไปติดตามภารกิจของทางนาซ่า ภารกิจนี้กันดูดีกว่า ทุกๆ ปี นาซ่าจะมีภารกิจที่ชื่อว่า Icebridge ที่ทำการสำรวจธารน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้อย่างละเอียด เพื่อให้เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของภูเขาน้ำแข็งและธารน้ำแข็งในบริเวณดังกล่าว ซึ่งในปีนี้ภารกิจดังกล่าวได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา     สาเหตุที่พวกเขาต้องนำเครื่องบินแบบพิเศษมาสำรวจทุกปีนั่นก็เพราะว่า ดาวเทียมและเครื่องบินธรรมดาไม่สามารถตรวจสอบ ธารน้ำแข็ง แผ่นน้ำแข็ง และทะเลน้ำแข็ง ที่อยู่ในพื้นที่นี้ได้อย่างละเอียดนั่นเอง โครงการนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2009 โดยมีจุดประสงค์เพื่อเก็บรายละเอียดของพื้นแผ่นน้ำแข็งและทะเลน้ำแข็ง เพื่อนำไปใช้สำหรับการวางแผนรับมือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป     นักวิจัยได้ใช้เครื่องบินที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ โดยติดตั้งระบบเรดาร์และเลเซอร์วัดระดับความสูง รวมทั้งเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถตรวจสอบน้ำแข็งและหินใต้ดินได้อย่างละเอียด โดยการสำรวจดังกล่าวสามารถทำได้ในช่วงฤดูร้อนเป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ได้ออกเดินทางจากขั้วโลกใต้เพื่อสำรวจเกาะกรีนแลนด์ในขั้วโลกเหนือในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะบินกลับมาที่ขั่วโลกใต้ในช่วงวันฮาโลวีน     สำหรับภารกิจ Iceberg ในปีนี้ได้นำเครื่องบินสองลำสำรวจบริเวณขั้วโลกใต้ โดยพวกเขาได้เก็บรายละเอียดที่สำคัญๆ ของธารน้ำแข็งที่เปราะบางที่สุดในโลกในฝั่งตะวันตก และภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ชื่อว่า Larsen C   และจากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญพบว่า ธารน้ำแข็งที่ได้ไปสำรวจมา มีภาวะความเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็วเนื่องมาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นของโลก และมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้กำลังถกเถียงกันอยู่ได้บอกว่าธารน้ำแข็งเหล่านี้จะพังทลายลงมาในช่วงอายุขัยของเรา ซึ่งมันจะส่งผลให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 3 เมตรเลยทีเดียว     ภาพเหล่านี้เป็นข้อมูลอ้างอิงที่เป็นประโยชน์สำหรับนักวิทยาศาสตร์ในการหาข้อมูลเกี่ยวกับ…

  • สีสันชีวิตลุง หนุ่มแก่เผยมีเซ็กส์กับตุ๊กตายางสัปดาห์ละ 4 ครั้ง จะซื้อเพิ่มอีกตัวภรรยาก็ไม่ว่า!?

    สีสันชีวิตลุง หนุ่มแก่เผยมีเซ็กส์กับตุ๊กตายางสัปดาห์ละ 4 ครั้ง จะซื้อเพิ่มอีกตัวภรรยาก็ไม่ว่า!?

    เรื่องรสนิยมของคนเรานั้นต่างก็มีความชื่นชอบที่แตกต่างกันออกไป บางคนก็ชอบคนที่ดูแล้วน่ารัก บางคนก็ชอบคนที่ดูแล้วรู้สึกเซ็กซี่ ซึ่งของอย่างนี้อยู่ที่จริตความพึงพอใจของแต่ละคนล้วนๆ เหมือนกับคุณลุงท่านนี้ที่ชื่นชอบการมีเซ็กส์กับตุ๊กตายาง อดีตวิศวกรวัย 80 ปีชื่อว่า James ใช้ชีวิตแต่งงานอย่างมีความสุขกับภรรยาของเขามาแล้วกว่า 36 ปี แต่ว่าใน 1 สัปดาห์ James จะต้องไปร่วมรักกับสาวผมบลอนด์คนหนึ่งที่ชื่อว่า April และภรรยาของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะว่า April นั้นคือตุ๊กตายางนั่นเอง   James กับตุ๊กตายาง April ของเขา   ตุ๊กตายาง April มีความสูง 153 เซนติเมตรและมีความเหมือนจริงเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอคือ 1 ใน 3 ตุ๊กตายางที่ James ได้เป็นเจ้าของโดยเขาซื้อเธอมาในราคาถึง 2,000 ปอนด์ (85,000 บาท) เลยทีเดียว แต่ว่านั่นก็ยังไม่พอสำหรับความต้องการของชายคนนี้ โดยเขากำลังเก็บเงินให้ได้ 10,600 ดอลลาร์(346,303 บาท) เพื่อซื้อหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Harmony โดยหุ่นยนต์ตัวนี้สามารถพูดกับเขา ยิ้มให้เขา และตอบสนองเวลาที่มีเซ็กส์ได้   มีความสุขที่ได้จ้องมองและแต่งหน้าทำผมให้กับเธอ   “สำหรับคนอายุเท่าผม…

  • สนใจหน่อย!! เจ้าเหมียวหาบ้านอยู่ไม่ได้ เลยเคาะกระจกพร้อมเต้นระบำเรียกแขกซะเลย

    สนใจหน่อย!! เจ้าเหมียวหาบ้านอยู่ไม่ได้ เลยเคาะกระจกพร้อมเต้นระบำเรียกแขกซะเลย

    มีแมวจำนวนมากที่ไม่มีผู้รับเลี้ยงและต้องอยู่ที่สถานสงเคราะห์ บางตัวก็ได้รับโอกาสในการมีครอบครัวโดยมีผู้อุปการะไป บางตัวก็ไม่มีโอกาสที่จะได้รับความอบอุ่นจากมนุษย์ และนั่นก็ทำให้แมวตัวหนึ่งที่อยากจะได้รับความรักแบบนี้พยายามเรียกร้องความสนใจจากมนุษย์ด้วยการเต้นซะเลย เจ้าขนปุยชื่อว่า Rosie เกิดในปี 2013 ที่สถานสงเคราะห์ Purrfech Pals Cat Shelter ในรัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยองค์กรแห่งนี้ได้หาบ้านให้กับเจ้าขนปุยตัวนี้ได้แล้วในตอนแรก แต่ก็ปรากฏว่าผลออกมาไม่ดีนัก มันจึงกลับมาอยู่ที่นี่อีกเป็นครั้งที่สอง   หนูชื่อว่า Rosie ค่ะ   ความปรารถนาของเจ้า Rosie ก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เพียงแค่อยากจะมีบ้านและได้อยู่กับใครสักคนที่เข้าใจก็เพียงเท่านั้น “Rosie รู้จักการมอบความรักให้แก่ผู้คน แต่ก็มีเหตุผลอื่นๆ ที่เธอต้องการคนที่มีประสบการณ์ในการเลี้ยงดู และเข้าใจแมวเป็นอย่างดี” เจ้าหน้าที่ของ Purrfect Pals ได้บอกเอาไว้   ตอนหลับยังน่ารักเลย รับไปดูแลกันเร็วว   หลังจาก Rosie กลับไปสู่สถานรับเลี้ยง ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่อยมีความสุขมากนัก และหลังจากที่มันรอคอยผู้ใจบุญมาหลายวัน มันก็คิดว่ามันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้มันได้มีบ้านเหมือนกับที่มันตั้งใจไว้ สิ่งที่มันทำก็คือเจ้า Rosie ได้พยายามนำเท้าของมันไปเคาะกระจกทุกครั้งที่มีคนเดินผ่านมัน เพื่อให้ผู้คนหันมาสนใจในตัวมันบ้าง และดูเหมือนวิธีนี้จะได้ผล เพราะว่าการเคาะกระจกแบบนั้น เหมือนกับว่าเจ้าแมวตัวนี้กำลังเริงระบำอยู่นั่นเอง   ออกมาเต้น เอ้า ออกมาเต้น…

  • เปิดราคาเสื้อยืด “พี่มาร์ค” เห็นเรียบๆ แต่ตัวเป็นหมื่น แถมมีให้คุณซื้อเวอร์ชั่นเกรดรองด้วย!!

    เปิดราคาเสื้อยืด “พี่มาร์ค” เห็นเรียบๆ แต่ตัวเป็นหมื่น แถมมีให้คุณซื้อเวอร์ชั่นเกรดรองด้วย!!

    หากจะพูดถึงเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คสุดฮิตในปัจจุบันอย่าง Facebook ชื่อของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์นี้มักจะโผล่เข้ามาในความคิดอยู่เสมอๆ ซึ่งเขาเป็นคนที่มีบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์และก็ได้ขึ้นชื่อว่าใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะคนหนึ่ง โดยภาพลักษณ์ที่เขามักจะออกมาสู่สาธารณะก็คือ เขาชอบที่จะแต่งตัวแบบเดิมๆ ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน โดยสิ่งที่กลายเป็นไอเทมประจำตัวเขาก็คือ เสื้อยืดสีเทา เสื้อคลุมสีน้ำเงิน กางเกงยีน และรองเท้ายี่ห้อไนกี้   แต่งตัวแบบสบายๆ เมื่อออกนอกบ้านเสมอ   สำหรับเสื้อที่ Mark เลือกใส่นั้นแน่นอนว่าต้องไม่ใช่เสื้อแบบธรรมดาๆ อย่างแน่นอน โดยเขาได้สั่งตัดเป็นพิเศษกับแบรนด์ Brunello Cucinelli ซึ่งราคาต่อตัวนั้นอยู่ระหว่าง 300-400 ดอลลาร์ (9,800-13,000 บาท) เลยทีเดียว และเมื่อ 2-3 ปีก่อนแบรนด์ H&M ก็ได้ล้อเลียนเขาด้วยการทำคอลเลคชั่นที่ชื่อว่า “Zuckerberg Collection” ออกมาแต่ก็ได้ยุติการขายไปแล้วก่อนหน้านี้   หน้าตาเสื้อผ้าในตู้ของ Mark   และนั่นได้ทำให้ Klaus Buchroithner CEO ของแบรนด์เสื้อผ้า Vresh ตัดสินใจศึกษารายละเอียดเสื้อสีเทาของ Mark อย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะจำลองมันออกมาให้ใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเขาได้ศึกษารายละเอียดของเสื้อทั้งในเรื่องของเนื้อผ้า สี และความยาวของเสื้อ ในตอนนี้เสื้อยืด “Zuckerberg” ก็ได้มีออกจำหน่ายแล้วในราคาเพียงแค่ 46 ดอลลาร์สหรัฐ(1,500 บาท)…

  • สาวระดมเงินบริจาคกว่า 7.8 ล้านบาทให้ “ชายไร้บ้าน” เพราะเขาเติมน้ำมันรถให้เธอ 650 บาท

    สาวระดมเงินบริจาคกว่า 7.8 ล้านบาทให้ “ชายไร้บ้าน” เพราะเขาเติมน้ำมันรถให้เธอ 650 บาท

    เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีเหตุการณ์สุดประทับใจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของผู้หญิงที่รถของเธอน้ำมันหมดและได้รับการช่วยเหลือจากชายไร้บ้านคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาเธอก็ได้ตอบแทนแก่เขาด้วยเงินนับแสนดอลลาร์เลยทีเดียว Kate McClure หญิงสาววัย 27 ปีกำลังขับรถกลับบ้านของเธอที่ รัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ด้วยความเผลอหรือลืมดูก็ไม่ทราบ ทำให้รถของเธอน้ำมันหมดกลางทางหลวงซะอย่างนั้น ซึ่งขณะที่เธอกำลังโทรหา Mark D’Amico แฟนของเธอให้มารับก็ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากเงามืดและให้การช่วยเหลือ   เกิดน้ำมันหมด แต่ยังโชคดีที่ได้ทหารผ่านศึกคนนี้มาช่วย   ปรากฏว่าคนที่มาช่วยเหลือเธอกลับเป็นชายไร้บ้านคนหนึ่งชื่อว่า Bobbitt Jr.  เขาได้บอกให้เธอนั่งอยู่ในรถและล็อคประตูเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เขาก็ไปซื้อน้ำมันมาเพื่อที่จะเติมให้เธอโดยใช้เวลาไม่นานนัก ที่สำคัญก็คือค่าน้ำมันของเขาในวันนั้นนั้นเป็นเงินจำนวน 20 ดอลลาร์ (653 บาท) ซึ่งนั่นเป็นเงินก้อนสุดท้ายของเขา เขายอมออกเงินให้ทั้งๆ ที่เขาก็แทบจะไม่มีกินเองด้วยซ้ำ “Bobbitt ไม่ได้ขอค่าตอบแทนฉันเลยแม้แต่ดอลลาร์เดียว และในตอนนั้นฉันก็ไม่มีเงินจ่ายให้แก่เขาด้วย แต่ว่าหลังจากนั้นฉันก็มักจะกลับไปที่นั่นเพื่อให้การช่วยเหลือเขาในเรื่องที่ช่วยได้ อย่างเช่นเสื้อแจ็คเก็ต ถุงมือ ถุงเท้าอุ่นๆ และให้เงินเขาเล็กๆ น้อยๆ ทุกครั้งที่เจอ”   Bobbitt กับ McClure และแฟนของเธอ   “ฉันหวังว่าฉันจะสามารถทำอะไรให้ชายผู้ใจดีคนนี้ ที่ยอมเสียสละเงินก้อนสุดท้ายของตัวเองเพื่อมาเติมน้ำมันให้กับฉัน เขาเป็นคนดีมากจริงๆ การที่ได้เข้าไปคุยกับเขาในแต่ละครั้งยิ่งทำให้ฉัน อยากจะช่วยเหลือเขามากขึ้นตามไปด้วย”  Kate กล่าว สำหรับประวัติของชายไร้บ้านคนนี้ เขาเป็นทหารผ่านศึกในสังกัดกองทัพเรือ…

  • พบกับหญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่ได้ชื่อว่า ‘มีบั้นท้ายงดงามที่สุดในโลก’ โดยนิตยสาร Maxim

    พบกับหญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่ได้ชื่อว่า ‘มีบั้นท้ายงดงามที่สุดในโลก’ โดยนิตยสาร Maxim

    หากถามว่าส่วนใดของผู้หญิงที่สามารถดึงดูดสายตาของหนุ่มๆ ได้มากที่สุด สะโพกหรือว่าก้นนั้นคงติดอันดับมาในลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน และวันนี้นิตยสาร Maxim ได้พาทุกคนไปพบกับสาวคนหนึ่งที่ทางนิตยสารได้ยกย่องไว้ว่า “ก้นสวยที่สุดในโลก” ชื่อของเธอก็คือ Jen Selter สาวสวยวัย 23 ปีจากเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้มีบั้นท้ายเป็นจุดขาย โดยเธอได้ถ่ายรูปอวดเนื้อหนังมังสาใน Instagram มาตั้งแต่ปี 2012 และในตอนนี้ก็มีผู้ติดตามเฉียดๆ จะ 10 ล้านคนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีซูเปอร์สตาร์หลายคนที่ติดตามเธออยู่ด้วยทั้ง Rihanna และสตาร์แห่งวงการยัดห่วง NBA อย่าง A’mare Stoudemire  และด้วยช่วงล่างอันอุดมสมบูรณ์ของเธอได้พาเธอไปสู่การเป็นพรีเซนเตอร์ในโฆษณาต่างๆ อย่าง น้ำดื่มยี่ห้อ NY20 รวมถึงเกมวางแผนโภชนาการเกมหนึ่งอีกด้วย หากอยากรู้ว่าบั้นท้ายอันได้รูปของเธอเด็ดอย่างที่คนเกือบๆ 10 ล้านคนลงทุนติดตามเธอหรือไม่ ก็ลองยลกันได้เลยและถ้าใครติดใจในความงามของเธอก็สามารถติดตามกันได้ที่ Jen Selter   แหม สวยได้รูปเลยทีเดียว   โอ้วว แม่สาวน้อย   อยากไปเที่ยวด้วยจัง   ท่ายากก็มีเยอะ   ไม่ใช่บั้นท้ายสวยอย่างเดียว หน้าก็สวยเช่นกัน   มันล้นออกมานอกกางเกงเลยทีเดียว…

  • อดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือ เปิดเผยชีวิตแสนลำบาก เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น!!

    อดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือ เปิดเผยชีวิตแสนลำบาก เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น!!

    ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ นั่นจึงหมายความว่ารัฐบาลเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุดไว้ในมือ ดังนั้นการจะปกปิดข่าวอะไรบางอย่างจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร และยิ่งถ้าเป็นข่าวเกี่ยวกับกองทัพแล้วล่ะก็แน่นอนว่า นั่นคือความลับสุดยอดของพวกเขาเลย แต่ว่าในวันนี้ ได้มีอดีตทหารหญิงของกองกำลังเกาหลีเหนือคนหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยความจริงที่ว่า ทหารหญิงที่อยู่ในกองทัพเกาหลีเหนือมีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนจะเลวร้ายเสมือนกับการตกนรกบนดินเลยก็ว่าได้   ผู้หญิงหลายคนตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพตั้งแต่ยังเป็นสาว   Lee So Yeon อาสาสมัครเข้าไปรับใช้กองทัพตั้งแต่อายุ 17 ปีเพื่อแสดงความรักต่อชาติ และตามรอยสมาชิกของครอบครัวของเธอที่ได้รับใช้ชาติอยู่ก่อนแล้ว สำหรับประโยชน์ที่ทางรัฐบาลใช้จูงใจให้ครอบครัวต่างๆ พากันมาเป็นทหารก็คือ การรับรองว่าจะมีอาหารให้กินอย่างแน่นอน เนื่องจากในยุค 1990-2000 ประเทศเกาหลีเหนือกำลังเผชิญกับภาวะอดอยากอย่างรุนแรง และนั่นจึงเป็นเหตุให้ผู้หญิงหลายพันคนตัดสินใจเข้าร่วมกับกองทัพเหมือนกับ So Yeon   ฝึกให้มีความรักชาติ และเคารพในตัวท่านผู้นำ   ระยะแรกๆ ที่เข้ากองทัพนั้น เธอก็บอกว่ารู้สึกสนุกกับการใช้ชีวิตการเป็นทหาร แต่แล้วเมื่อเวลาเวลาผ่านไปไม่นานด้วยการที่ประเทศเริ่มขาดแคลนอาหาร และการฝึกที่หนักเริ่มส่งผลที่ไม่ดีต่อตัวเธอและเพื่อนร่วมกองทัพของเธอ “หลังจากเข้าร่วมกองทัพได้ 6 เดือนพวกเราก็ไม่สามารถมีประจำเดือนได้อีกต่อไป เพราะว่าขาดสารอาหารและอยู่ในสภาพที่แวดล้อมที่ตึงเครียดตลอดเวลา แต่ว่าก็มีทหารหญิงหลายคนที่รู้สึกดีใจที่ประจำเดือนหายไป เพราะพวกเธอคิดว่าหากยังมีอยู่คงจะลำบากกว่านี้เยอะ” So Yeon บอกถึงความลำบากในขณะนั้น   ความเป็นอยู่ในกองทัพเต็มไปด้วยความลำบาก   เธอยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่ลำบากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือพวกเธอไม่สามารถอาบน้ำหรือว่าทำความสะอาดใดๆ ได้เลยเพราะว่าท่อน้ำที่พวกเธอใช้นั้นต่อลงมาจากภูเขาซึ่งบางครั้งก็มีงูหรือว่ากบติดออกมาด้วย ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะมีการฝึกที่ไม่ลำบากเท่าผู้ชาย แต่พวกเธอก็หวังที่จะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านี้ ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับผู้ชายเพราะว่าพวกเขาได้รับอาหารอย่างเต็มที่และมีสุขอนามัยที่ดีกว่าพวกเธอแบบเทียบกันไม่ติด ระหว่างที่ So…

  • ช่างภาพแสดงให้เห็นว่า โลเคชั่นธรรมดาๆ ก็สามารถสร้างภาพงดงามได้ มันอยู่ที่มุมมอง!!

    ช่างภาพแสดงให้เห็นว่า โลเคชั่นธรรมดาๆ ก็สามารถสร้างภาพงดงามได้ มันอยู่ที่มุมมอง!!

    เดี๋ยวนี้ไม่ว่ามองไปทางไหนเราก็เห็นช่างภาพเต็มไปหมด เพราะด้วยความที่ว่ากล้องในสมัยนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูกลงกว่าเมื่อ ผู้คนจึงนิยมเล่นกล้องกันมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า ความแตกต่างระหว่างมือกล้องขั้นเทพกับมือสมัครเล่นนั้นต่างกันมากโขเลยทีเดียว Jenna Martin อยากที่จะทดสอบฝีมือการถ่ายภาพของตัวเอง โดยเธอมีวิธีการทดสอบก็คือเธอจะเลือกนางแบบมาคนหนึ่งไปยังสถานที่ที่ไม่เหมาะสมกับการถ่ายภาพ ซึ่งสถานที่ที่เธอเลือกก็คือ Lowe’s ห้างขายของตกแต่งบ้าน “แทนที่จะออกไปหาสถานที่สวยๆ เพื่อถ่ายภาพแต่ว่าฉันกลับมีไอเดียที่ดีกว่านั้น ฉันอยากจะไปในสถานที่ๆ มันดูน่าเกลียดสำหรับแบบแผนของช่างภาพทั่วๆ ไปเพื่อจะให้ผู้คนทั่วไปได้เห็นว่าเราสามารถทำอะไรกับสถานที่นั้นได้บ้างและ Lowe’s ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่สุดพิเศษ” Martin กล่าว   Lowe’s คือสถานที่เธอเลือกที่จะใช้สำหรับถ่ายภาพ   “ฉันต้องการสถานที่ที่มีแสงโครตแย่ และมีฉากหลังที่จำกัด ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง” Martin กล่าวถึงวิธีการทำงานของเธอ โดยนอกจากนั้นเธอยังได้ตั้งกฎสำหรับการถ่ายภาพในครั้งนี้เอาไว้ 3 ข้อคือ 1. เธอจะใช้เพียงกล้องเพียงตัวเดียวเท่านั้น โดยไม่มีอุปกรณ์ช่วยในการถ่ายภาพใดๆ ช่วยเหลือเลย 2. ห้ามไม่ให้มีการจัดฉากเพื่อการถ่ายภาพ โดยจะให้ฉากต่างๆ อยู่ในสภาพคงเดิม 3. เธอจะหยุดถ่ายภาพทันทีเมื่อมีคนเข้ามาอยู่ในฉาก   และนี่คือผลงานของเธอ   ภาพสดหลังกล้องตอนยังไม่ได้ปรับแต่ง   นำไปปรับแต่งแล้ว . . .   แผนกอุปกรณ์ไฟฟ้า   ภาพก่อนแต่ง   หลังแต่ง…

  • สถาปนิกอิตาลีสุดล้ำ สร้างบ้านที่ใช้เวลาติดตั้งแค่ 6 ชั่วโมงและสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

    สถาปนิกอิตาลีสุดล้ำ สร้างบ้านที่ใช้เวลาติดตั้งแค่ 6 ชั่วโมงและสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย

    การจะมีบ้านสักหลังนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะว่านอกจากจะต้องใช้เงินจำนวนมากแล้วนั้น ยังจะต้องให้เวลาช่างในการสร้างอีกด้วย ซึ่งบางหลังอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนหรือว่าเป็นปีก็มี แต่ว่ามีบ้านอยู่หลังหนึ่งที่เรียกได้ว่าปฏิวัติรูปแบบบ้านให้เปลี่ยนไป เพราะว่าพวกเขาใช้เวลาในการประกอบบ้านหลังหนึ่งเพียงแค่ 6 ชั่วโมง และมีราคาอยู่ที่ราวๆ 1 ล้านบาท โดยบ้านหลังนี้มีชื่อเรียกว่า M.A.Di ผลิตขึ้นในโรงงานในประเทศอิตาลีและพร้อมสำหรับการติดตั้งในทุกๆ พื้นผิว บ้านหลังนี้สามารถขนจากโรงงานโดยรถบรรทุกเพียงคันเดียวและสามารถกางออกติดตั้งได้อย่างง่ายดาย   ขั้นตอนการสร้างบ้านนั้นเป็นเรื่องง่ายดาย เพราะว่าบ้านนี้สามารถติดตั้งได้กับทุกพื้นผิว และใช้คนเพียง 3 คนในการติดตั้งเท่านั้น   ซึ่งบ้านนี้เป็นไอเดียจากสถาปนิกชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Renato Vidal โดยเขาได้บอกว่าบ้านนี้ผ่านการพิสูจน์ในเรื่องความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวแล้ว อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และมีการติดตั้งระบบกักเก็บน้ำฝน   ภายนอกของบ้านนี้ก็มีความสวยงามไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนะ   บ้านแสนสะดวกนี้ใช้ทีมสร้างเพียงแค่ 3 คนและมีจุดเด่นอยู่ที่การใช้เวลาอย่างรวดเร็วในการสร้าง โดยพวกเขาจะใช้เวลาเพียงแค่ 6-7 ชั่วโมงในการสร้างบ้าน ซึ่งเริ่มจากการวางโครงสร้างบ้านต่างๆ ก่อนจะสร้างหลังคาตามมาด้วยการสร้างผนังภายใน และปูพื้นเป็นการปิดท้าย   ภายในบ้านก็ไม่ธรรมดาด้วยสีโทนสะอาดตา อย่างสีขาวและยังมีพื้นที่ให้ได้ใช้สอยอย่างกว้างขวางเลยแหละ   ซึ่งบ้านนี้มี 2 ขนาดให้เลือกใช้สอยโดยขนาดเล็กที่สุดจะมีพื้นที่ 26 ตารางเมตรซึ่งมีราคาอยู่ที่ราวๆ 1 ล้านบาทและอีกขนาดหนึ่งก็คือ 84 ตารางเมตรซึ่งราคาจะสูงขึ้นที่ 2.3 ล้านบาท   อีกมุมภายในบ้านที่ไว้ใช้สำหรับการนั่งเล่น…

  • รวม 20 ภาพจังหวะสุดเป๊ะปังที่จะทำให้คุณร้องอุทานออกไปว่า “นี่มันตั้งใจถ่ายหรือบังเอิญกันนี่”

    รวม 20 ภาพจังหวะสุดเป๊ะปังที่จะทำให้คุณร้องอุทานออกไปว่า “นี่มันตั้งใจถ่ายหรือบังเอิญกันนี่”

    การตั้งใจถ่ายภาพใดภาพหนึ่งให้ออกมาสวยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะว่ามันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่จะทำให้ภาพนั้นกลายเป็นภาพที่ดีทั้งการเล่าเรื่อง สี จังหวะ และฝีมือของคนถ่าย ซึ่งภาพเหล่านี้มีความสวยงามในเรื่องของจังหวะที่ไม่รู้ว่า พวกเขาได้ตระเตรียมกันมาล่วงหน้าหรือว่าเป็นเพราะความบังเอิญกันแน่ที่ทำให้ภาพของพวกเขานั้นออกมาแสนจะมีเสน่ห์และชวนให้จ้องมอง ซึ่งหากอยากรู้ว่ามันเปะยังไงต้องลองดูกันด้วยตัวเอง   เทวดาในคราบนักดับเพลิง   ข่าวด่วน: พบผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่างเป็นคน หัวเป็นปลา   ถ้าจะเรียกว่าแมวสายรุ้งก็คงจะดูไม่ผิด   ให้อารมณ์เหมือนโคลนดูดกำลังจะกลืนกินเขาเข้าไป   โจรสลัดสาวสุดสวย   เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเป็นอะไรดี   เห็นเป็นหน้าคนหรือถ้ำกันนะ   โถ มินนี่ที่น่าสงสาร   ที่ทะเลเขาเลี้ยงเป็ดกันด้วยหรอเดี๋ยวนี้   ข้ากำลังจะแปลงร่างแล้ว   นี่ตูดพี่ท่านสามารถลอยน้ำได้หรอเนี่ย   รางวัลทรงผมล้ำยุคแห่งปี เอาไปได้เลยเฮีย   สงสัยจะเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ พบกับมนุษย์กบ   เงานี่มันก็ช่างพอดีเหลือเกิน   ก็แค่อินกับหนังสือนิดเดียวเอง   สงสัยจะเป็นวิญญาณของปลาที่ตายไปแล้ว   จุติเลเวล 99 มีที่ครอบหัวด้วย   เขาจะปล่อยแสงเลเซอร์ออกจากตาไหมนะ   ปรสิตหรือเปล่าเนี่ย เข้าไปทำอะไรในปากน่ะ??  …

  • หญิงสาวตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะโดนแฟนเก่าปล่อยภาพลับ จนถูกล้อเลียนจากเพื่อนๆ

    หญิงสาวตัดสินใจฆ่าตัวตาย เพราะโดนแฟนเก่าปล่อยภาพลับ จนถูกล้อเลียนจากเพื่อนๆ

    ปัญหาเรื่อง Bully หรือการกลั่นแกล้งกันในสังคมวัยเรียนเป็นปัญหาเรื้อรังที่ไม่สามารถแก้ได้ง่ายๆ ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีการล้อเลียนถากถางของเด็กในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้นำชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปสู่ความตายอย่างน่าอนาถใจ เหตุการณ์ที่แสนน่าเศร้านี้เกิดขึ้นกับ Karina Saifer Oliveira เด็กสาววัย 15 ปีในประเทศบราซิล โดยเธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับการล้อเลียนจากเพื่อนๆ ของเธอหลังจากที่แฟนเก่าของเธอได้นำภาพลับระหว่างพวกเขาออกมาเผยแพร่   Karina สาววัย 15 ปีผู้ตกเป็นเหยื่อการถูกกลั่นแกล้ง   Karina เป็นเด็กแบบฉบับวัยรุ่นทั่วๆ ไป พ่อแม่ของเธอเล่าว่า ธอนั้นเป็นเด็กที่ฉลาดและมีความใฝ่ฝันที่จะเรียนกฎหมาย และพวกเขาก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าลูกของพวกเขาจะคิดสั้นแบบนี้ “ฉันว่ามันเป็นสิ่งที่แม่ทุกคนบนโลกนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้น ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง” Angela Saifer แม่ของหนูน้อยผู้เสียชีวิตวัย 46 ปีกล่าว   เธอได้ตัดสินใจจบชีวิตที่ระเบียงหลังบ้าน   การติดต่อครั้งสุดท้ายระหว่างแม่และลูกคู่นี้เกิดขึ้นในแอพพลิเคชั่น WhatApp ในบ่ายวันที่ 7 พฤศจิกายนซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Karina ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลง ในบ่ายวันนั้นเธอยังกินข้าวเที่ยงอยู่กับพ่อบุญธรรมของเธออยู่เลย โดย Saifer ได้บอกว่าเธอรู้สึกกังวลใจอยู่เหมือนกันที่ลูกสาวของเธอไม่ได้ตอบข้อความ ซึ่งปกติแล้วมันจะไม่ใช่อย่างนี้ เมื่อแม่คนดังกล่าวกลับมาจากการทำงานที่โรงงานน้ำตาล ก็พบว่าลูกสาวของเธอเสียชีวิตลงแล้วที่ระเบียงหลังบ้านของเธอเอง   Karina และพ่อของเธอ  …

  • สาวขับรถกลับบ้านพบแมงมุมอยู่ห่างไปไม่ถึงคืบ แต่เธอก็ขับต่อไปอีกกว่า 20 นาที!!

    สาวขับรถกลับบ้านพบแมงมุมอยู่ห่างไปไม่ถึงคืบ แต่เธอก็ขับต่อไปอีกกว่า 20 นาที!!

    ในระหว่างกำลังขับรถกลับบ้านท่ามกลางบรรยากาศชิวๆ เปิดเพลงเพราะๆ ที่เราชอบฟังให้ชื่นฉ่ำหัวใจ และขับรถออกไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบร้อนนัก ซึ่งหากลองนึกภาพดูก็คงจะมีความสุขไม่น้อย แต่จะเป็นอย่างไรถ้าดันเผลอเหลือบตามองไปที่หลังคา แล้วพบว่ามีแมงมุมขนาดยักษ์เกาะอยู่ในระยะที่ห่างไม่ถึงครึ่งเมตรเหมือนกับเธอคนนี้ Bianca Merrick หญิงสาวชาวออสเตรเลียผู้เผชิญชะตากรรมอันโหดร้ายดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ได้ออกมาบอกว่าเธอได้พบกับแมงมุมยักษ์ตัวหนึ่งในรถของเธอ โดยมันอยู่ห่างไปไม่ถึงคืบซึ่งนั่นเป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงสำหรับเธอเลยทีเดียว   โอ้โห มันกินอะไรถึงได้ตัวใหญ่อย่างงี้เนี่ย   แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนพื้นที่ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีสัตว์มีพิษต่างๆ มากมาย ทำให้เธอรู้ว่าแมงมุมที่อยู่บนรถของเธอนั้นเป็นแมงมุมที่ไม่มีพิษ เธอจึงปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้นตลอดการเดินทางกลับบ้านของเธอ “ระหว่างที่ฉันกำลังขับรถกลับบ้านจากที่ทำงาน เมื่อมองไปข้างบนเพดานก็พบว่ามีสิ่งหนึ่งจ้องมองมาที่ฉันอยู่ มันก็คือแมงมุมตัวนี้แหละ”  “ในตอนแรกฉันตัดสินใจจอดรถแต่ก็ไม่รู้วิธีที่จะนำมันออกไป ดังนั้นฉันจึงคิดว่าตัวเลือกที่ดีสำหรับฉันก็คือ ขับรถต่อไปและแกล้งทำเป็นว่ามันไม่อยู่ตรงนั้นซะ นั่นเป็น 20 นาทีที่ยาวนานที่สุดในชีวิตของฉันเลยก็ว่าได้” Merrick บอกถึงประสบการณ์ขนหัวลุกที่เธอได้เจอมา   ถ้าเจออย่างเธอ รับรองได้ว่ามีเหวอ เมื่อถึงบ้าน Merrick ก็ได้ตัดสินใจล็อคประตูรถทั้งๆ ที่ยังมีเจ้าแมงมุมขนาดเบิ้มอยู่ข้างในและได้บอกกับตัวเองตลอดว่า “เหตุการณ์แบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น” และในเช้าวันต่อมาตอนที่เธอกลับมาที่รถเธอก็บว่ามันได้หายไปแล้ว อย่างไรก็ตามเธอ Merrick ก็มีโอกาสอีกที่จะเจอกับแมงมุมตัวนี้เพราะถึงอย่างไรมันก็ยังอยู่ในรถของเธอ และสักวันมันอาจจะกลับมาจ๊ะเอ๋เธออีกก็ได้…   อย่าได้พบได้เจออย่างนี้เลย สาธุ   ที่มา: thedodo

  • นั่ลลั๊คอ่ะ!! ลูกช้างตัวน้อยวิ่งไล่ฝูงไก่ แต่กลับล้มแล้วไปฟ้องแม่ว่าโดนไก่ต๊อกแกล้งซะงั้น

    นั่ลลั๊คอ่ะ!! ลูกช้างตัวน้อยวิ่งไล่ฝูงไก่ แต่กลับล้มแล้วไปฟ้องแม่ว่าโดนไก่ต๊อกแกล้งซะงั้น

    ช้างเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่น่าเกรงขาม และด้วยความที่มันเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่โตผู้คนหลายคนจึงคิดว่ามันน่าจะเป็นสัตว์ที่โหดร้าย แต่ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นสัตว์ที่แสนจะใจดีและยังแฝงเอาไว้ซึ่งความน่ารักอีกต่างหาก ซึ่งความน่ารักของช้างนั้นสามารถหาดูได้โดยทั่วไปและเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ได้มีคลิปวิดีโอของลูกช้างตัวหนึ่งที่มีนิสัยร่าเริงวิ่งเล่นอยู่กับเหล่าฝูงไก่ต๊อก ซึ่งขณะกำลังวิ่งไล่อยู่นั้นก็ปรากฏว่าจู่ๆ ขณะมันกำลังวิ่งแล้วมันก็กลับล้มลงทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครทำอะไรมันเลยด้วยซ้ำ และหลังจากนั้นมันก็เลิกเล่นแล้วกลับไปฟ้องแม่ของมัน เหมือนกับลูกแหง่คนหนึ่งเลยทีเดียว โดยในตอนนี้คลิปลูกช้างขี้ฟ้องตัวนี้ก็ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนอินเทอร์เน็ต ที่มียอดผู้ชมแล้วกว่า 9 แสนกว่าคน ซึ่งหากอยากรู้ว่าทำไมถึงมีผู้คนเข้าไปดูช้างตัวนี้จำนวนมาก ก็ลองเลื่อนลงดูได้เลย   มาเล่นกับพี่ซะดีๆ   ในแรกเริ่มนั้นมันวิ่งไล่ฝูงไก่ต๊อกที่วิ่งหนีมัน โดยมันได้วิ่งใส่อย่างไม่คิดชีวิต ด้วยความที่อยากเล่นกับเพื่อนต่างสายพันธุ์เหล่านี้   อ้าวเฮ้ย ใครจับขาอ่ะ   แต่ปรากฏว่าขณะกำลังวิ่งๆ วนๆ อยู่มันก็ไปสะดุดล้มเอาดื้อๆ ซึ่งในตอนนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ใกล้กับช้างน้อยแสนน่ารักตัวนี้เลย   แม่ พวกมันแกล้งหนูอ่ะ   หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นเหมือนเด็กขี้แยกลับเข้าไปฟ้องแม่ที่เดินตามหลังมันมาอยู่ ซึ่งดูเหมือนกับว่าแม่ของมันก็เห็นเหตุการณ์แล้วเหมือนจะบอกว่า “ทำตัวเองแท้ๆ ลูกเอ๋ย”   วิดีโอความซุกซนของเจ้าช้างตัวนี้ที่เรียกได้ว่า แพ้ภัยตัวเองของจริง   แหม มีแม่อยู่ใกล้ๆ นี่รีบฟ้องเลยนะ ขี้ฟ้องจริงๆ เลยเจ้าช้างน้อย   ที่มา: ผู้ชาย

  • มาแอบส่องความลับของเหล่าสัตว์ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าพวกมันมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง…

    มาแอบส่องความลับของเหล่าสัตว์ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าพวกมันมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง…

    บนโลกใบนี้มีความลับหลายอย่างที่ซ่อนเอาไว้อยู่ บางเรื่องเป็นเรื่องที่ยังการพิสูจน์ไม่ได้ในปัจจุบัน เช่นเรายังไม่สามารถรู้ได้ว่าใต้ท้องมหาสมุทรนั้นมีอะไรซ่อนอยู่อีกบ้าง หรือสัตว์ต่างๆ ที่สูญพันธุ์ไปนั้นมีสาเหตุมาจากสิ่งใด แต่รู้หรือไม่ว่าสัตว์ต่างๆ ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันต่างก็มีความลับที่ซ่อนกันอยู่ทั้งนั้น และในวันนี้เว็บไซต์ชื่อว่า Weird Nature ได้ออกมาเผยความลับทั้งหลายที่ซ่อนอยู่ในตัวสัตว์โลกน่ารัก ซึ่งบางเรื่องเป็นเรื่องที่อาจจะทำให้เราถึงกับต้องตะลึงได้ และความลับของสัตว์ต่างๆ มันจะทำให้เราต้องทึ่งอย่างไรลองไปดูได้พร้อมกัน   โลมาสามารถระบุตัวตนของมนุษย์ได้ด้วยการใช้คลื่นเสียงโซนาร์ตรวจโครงสร้างกระดูก ดังนั้นมันจึงมักช่วยคนที่เรือล่มหรือกระทั่งต่อสู้กับฉลาม เพราะในฐานะที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน มันเข้าใจว่าการจมน้ำเป็นเรื่องอันตรายขนาดไหน   บางครั้งระหว่างดูดน้ำหวานเกสรดอกไม้ พวกผึ้งก็เกิดหลับขึ้นมาซะอย่างงั้น   แมลงปอตัวเมียสามารถแกล้งตาย เพื่อหลีกเลี่ยงจะมีเพศสัมพันธ์กับตัวผู้ที่ไม่ต้องการ   วาฬสีน้ำเงินสามารถสร้างฟองจากการตดที่มีขนาดใหญ่พอใส่ม้าทั้งตัวเข้าไปได้เลย   อีกามีหน่วยความจำที่เป็นเลิศ โดยมันสามารถจดจำหน้าของมนุษย์คนหนึ่งได้ทั้งชีวิตของมัน   สุนัขสามารถซึมซับดนตรีต่างๆ ได้ไม่ต่างจากคนและดนตรีแนวเร็กเก้ก็เป็นที่ชื่นชอบสำหรับสุนัขส่วนใหญ่   ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นประเทศเดียวในโลกที่ไม่มียุง   อึของเจ้าวอมแบทมีลักษณะเป็นเหลี่ยม   เมื่อเจ้ากระต่ายรู้สึกมีความสุข มันมักจะกระโดดโลดเต้นไปในอากาศพร้อมกับหมุนรอบตัวเอง   หางของแมลงปอสามารถทำรูปหัวใจได้   เสือชีตาห์ไม่สามารถส่งเสียงคำรามได้ โดยพวกมันจะร้องเหมียวๆ เหมือนกับแมวบ้านทั่วไป   เมื่อประมาณร้อยล้านปีก่อน มีสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายกับจระเข้อาศัยอยู่บนบก โดยอาหารของพวกมันคือไดโนเสาร์ต่างๆ   วัวไม่มีฟันหน้าด้านบน   เป็นเรื่องยากที่จะทำให้แพนด้าผสมพันธุ์กัน เพราะว่าพวกมันมีอารมณ์ทางเพศเพียง…

  • ร้ายแรง เด็กหนุ่มโชคร้ายถูกแมงมุมแม่ม่ายกัด และนั่นได้ฝากแผลเป็นเอาไว้บนร่างกายเขา

    ร้ายแรง เด็กหนุ่มโชคร้ายถูกแมงมุมแม่ม่ายกัด และนั่นได้ฝากแผลเป็นเอาไว้บนร่างกายเขา

    [บทความนี้อาจมีเนื้อหาและรูปภาพที่มีความรุนแรง อาจต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม]   บนโลกนี้มีสัตว์หลากหลายชนิดที่มีความน่ารักน่าชังอย่างแมวหรือกระต่ายน้อย แต่ทว่านอกจากความน่ารักของสัตว์เหล่านี้ บนโลกนี้ก็ยังมีสัตว์มีพิษที่สามารถทำอันตรายกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้ซึ่งก็มีหลายอย่างทั้ง งู ตะขาบหรือแมงมุม ซึ่งหากใครได้เผชิญกับสัตว์เหล่านี้ขอแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงจะดีกว่า ไม่งั้นอาจจะมีแผลอันน่ากลัวเหมือนกับเด็กหนุ่มคนนี้ เด็กหนุ่มวัย 13 ปีนามว่า Jamie Harrison จากมณฑลเดวอน ประเทศอังกฤษตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งช่วงปลายเดือนมิถุนายนและรู้สึกเจ็บที่ต้นแขน เมื่อเขาดูที่แขนของเขาว่าเกิดอะไรขึ้นก็ถึงกับต้องผงะเมื่อพบว่ามีแผลที่เป็นนั้นมีลักษณะแปลกมากก็คือ เหมือนเป็นหลุมสีดำขนาดยักษ์อีกทั้งยังมีน้ำหนองไหลออกมาอีกด้วย     ด้วยแผลที่แปลกประหลาดนี้ทำให้เขาต้องรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก Jamie จึงพยายามที่จะปฐมพยาบาลตัวเองแต่ก็พบว่ามันไม่ดีขึ้นเลยเขาจึงได้ตัดสินใจไปโรงพยาบาลในวันที่ 1 กรกฎาคมเพื่อให้คุณหมอช่วยดู และพบว่ามันเป็นแผลที่มาจากการถูกแมงมุมแม่ม่ายกัด “หมอที่โรงพยาพยาบาลรู้ทันทีว่านี่เป็นแผลจากพิษของแมงมุมแม่ม่าย พวกเขาบอกกับผมว่าจำเป็นจะต้องนำหนองออกมาให้หมดเพราะว่าตอนนี้มันกำลังทำให้เนื้อของผมตาย” Jamie เล่าให้ฟัง “หมอได้นำหนองในแผลออกมาจนหมด ผมรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่พิษมันออกมาแล้ว แต่นั่นก็ทำให้ผมมีหลุมดำขนาดยักษ์ขึ้นบนแขนของผม”     หลังจากทำการรักษาแล้ว เขาก็ต้องแปะผ้าพันแผลเอาไว้และกินยาต่ออีกกว่า 1 เดือน โดยในตอนนี้แผลของเขาได้กลายเป็นแผลเป็นซะแล้ว “ผมไม่เคยคิดเลยว่าแมงมุมจะมีพิษร้ายแรงขนาดนี้เพราะว่าผมไม่เคยโดนมันกัดมาก่อน แต่ในตอนนี้ผมต้องระวังพวกมันให้มากขึ้นแล้วล่ะ” และหากใครที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เหมือนกับผม ขอแนะนำเลยว่าให้ไปโรงพยาบาลให้ไวที่สุด มิเช่นนั้นอาจมีแผลที่น่าเกลียดฝากไว้บนร่างกายเหมือนผมก็ได้” Jamie ทิ้งท้ายเอาไว้   ดูแลที่นอนหมอนมุ้งกันดีๆ นะจ๊ะ ไม่งั้นอาจเจ็บตัวได้   ที่มา: ladbible

  • พบกับเกมการ์ด Cards Against Humanity ออกมาต่อต้านทรัมป์ ไม่ให้สร้างกำแพงกั้นชายแดนได้!!

    พบกับเกมการ์ด Cards Against Humanity ออกมาต่อต้านทรัมป์ ไม่ให้สร้างกำแพงกั้นชายแดนได้!!

    เมื่อไม่นานมานี้ โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนล่าสุดของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีโครงการที่จะจัดสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างประเทศ สหรัฐ-เม็กซิโก ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้เงินนับหลายพันล้านดอลลาร์ งานนี้แน่นอนว่าต้องมีผู้ไม่เห็นด้วย จึงได้มีบริษัทแห่งหนึ่งได้นำเกมการ์ดในตำนานที่เรียกว่า “Cards Against Humanity” ขึ้นเพื่อต่อต้านโครงการสร้างกำแพงของประธานาธิบดีคนนี้ด้วยการประชดประชัน   หน้าตาของเกมการ์ดอันนี้   หลายคนสงสัยว่าจะต่อต้านการสร้างกำแพงได้อย่างไร บริษัทระบุว่าเงินที่ได้จากการซื้อเกมการ์ดอันนี้จะนำไปซื้อที่ดินเปล่าบริเวณชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ที่ยังเปิดขายในราคาไม่แพงนัก เพื่อต่อต้านไม่ให้ ทรัมป์ สร้างกำแพงได้สำเร็จ เพราะอย่างน้อยก็จะมีจุดที่เป็นที่ดินของบริษัท ซึ่งจะไม่ขายให้รัฐบาลเด็ดขาด และนั่นก็จะถือว่าเป็นที่ดินซึ่งมาจากความร่วมมือร่วมใจกันของเราทุกคน “โดนัล ทรัมป์ เป็นยักษ์วิปริตที่หวาดกลัวชาวเม็กซิกัน เขาได้สร้างกำแพงที่มีมูลค่ามากกว่าสองหมื่นพันล้านดอลล่าร์ ซึ่งทุกๆ คนรู้ว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรเลย” บริษัทแห่งนี้ได้กล่าวเอาไว้   รัฐบาลกำลังเดินหน้าลงคลอง นั่นทำให้เราไม่มีตัวเลือก   ก่อนที่จะซื้อเกมการ์ดอันนี้ได้ ผู้ซื้อจะต้องลงชื่อเข้าร่วมรณรงค์และจ่ายเงิน 15 ดอลล่าร์(493 บาท) สำหรับค่าเกมการ์ด ซึ่งนอกจากจะได้เกมการ์ดมาแล้ว บริษัทแห่งนี้ยังบอกอีกด้วยว่าในเดือนธันวาคมที่จะมาถึงนี้พวกเขายังมีเซอร์ไพรส์อีกถึง 6 อย่างด้วยกันที่จะส่งให้ถึงหน้าประตูบ้านของผู้เข้าร่วมรณรงค์   ชายแดนระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา-เม็กซิโก   เกมการ์ดนี้ได้ขายหมดตั้งแต่วันแรกที่ออกจำหน่าย ซึ่งวิธีการเล่นเกมแต่เดิมนั้นจะมีไพ่ 2 สีคือสีขาวและสีดำ โดยแต่ละคนนั้นจะถือไพ่สีขาวไว้ในมือ 10 ใบและในแต่ละตาผู้เล่นจะสุ่มหยิบไพ่สีดำ โดยไพ่สีดำนั้นจะเป็นโจทย์และให้คนอื่นเลือกไพ่สีขาวในมือของตัวเองเพื่อตอบโจทย์สีดำนั่นเอง แต่ที่พิเศษสำหรับเกมต่อต้านทรัมป์นี้ก็คือ พวกเขาจะแจกจ่ายเศษพื้นดินที่มาจากที่ดินบริเวณชายแดนให้กับทุกคน…

  • สุดยอดวีรกรรมของคนเมา ที่ได้สร้างเสียงฮาและรอยยิ้มจากคนรอบข้างจนแทบขำค้าง

    สุดยอดวีรกรรมของคนเมา ที่ได้สร้างเสียงฮาและรอยยิ้มจากคนรอบข้างจนแทบขำค้าง

    หลายต่อหลายครั้งที่คนเมาได้สร้างเรื่องฮาๆ ขึ้นมาให้เราได้ขำกันไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ของเราที่เปลี่ยนเป็นคนละคนเพียงมีน้ำอมฤตเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย หรือกระทั่งตัวเราเองก็อาจจะเคยเพลี่ยงพล้ำให้กับความร้ายกาจของน้ำสีอำพันเหล่านี้ นอกจากความรั่วและบ้าเกินจะบรรยายจากคนเมารอบตัวเราแล้ว คราวนี้ชาวเน็ตทั่วโลกได้ร่วมแชร์ประสบการณ์จะยากลืมเลือนของพวกเขากันบ้าง ซึ่งมันจะต่างกับที่เพื่อนๆ ของเราหรือเราเคยเป็นกันบ้างหรือไม่ ไปร่วมพิสูจน์พร้อมกันเลยดีกว่า   A: มารับหน่อยได้ไหม ข้าโครตเมาเลย A: ไม่ต้องมารับแล้วข้าอยู่บ้านแล้วล่ะ B: เออรู้แล้วก็เมื่อกี้เพิ่งไปส่งเอ็งที่บ้านมา   เมื่อกลับบ้านมาเจอเพื่อนในสภาพนี้   เมื่อจะตั้งนาฬิกาปลุก แล้วปรากฏว่า…   เมาจนคิดว่าช็อกโกแลตเป็นมือถือ   เผลอหลับบนแท็กซี่แปบเดียว ตื่นมาอยู่บ้านของแท็กซี่คนนั้นเฉยเลย   คุยกับตัวเองก็ได้หรอคนเรา   ก็คนมันติดเย็นอ่ะ   จนเช้าก็คงไม่ถึง   ทำเพื่อ..??   ชาร์จโทรศัพท์แบบล้ำยุค   คนหรือแมวกันแน่เนี่ย   เช้ามาไม่หายแน่นอน   อยากให้เจ้านายเมางี้ทุกวัน จะได้มานอนด้วยกันบ่อยๆ   การนอนแบบปี 3017   ทุกเช้าเราชาร์จ   ทำไมมันแกะยากกว่าชาวบ้านเขา   เมื่อเพื่อนบอกว่าโลกของเขาหมุน พวกเราเลยช่วยให้เขาอยู่นิ่งๆ  …

  • หนุ่มทุ่มเงินเจ็ดแสน สร้าง ‘จรวด’ ขึ้นมาเพื่อบินออกไปนอกโลกแล้วพิสูจน์ว่า “โลกแบน”

    หนุ่มทุ่มเงินเจ็ดแสน สร้าง ‘จรวด’ ขึ้นมาเพื่อบินออกไปนอกโลกแล้วพิสูจน์ว่า “โลกแบน”

    เมื่อไม่นานมานี้ได้มีข่าวการรวมตัวกันประชุมของผู้คนที่มีความคิดแปลกๆ อย่างผู้ที่มีแนวคิดว่าโลกแบนและในตอนนี้ได้มีสาวกคนหนึ่งของแนวคิดนี้ที่มีความตั้งใจจะพิสูจน์ว่าโลกนี้มันไม่ได้กลมด้วยการสร้างจรวดขึ้นเพื่อจะบินขึ้นไปดู Mike Hughes อดีตคนขับรถลิมูซีนวัย 61 ปีจากรัฐแคลิฟอเนีย ได้มีแผนที่จะสร้างจรวดเพื่อออกไปนอกโลกเพื่อพิสูจน์กับตาตัวเองว่าโลกนี้มันแบนจริงอย่างที่เขาคิดหรือไม่ โดยจรวดของเขามีราคาสูงถึง 20,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ราวๆ 650,000 บาท) เลยทีเดียว   หน้าตาของ Mike ผู้มีความคิดจะสร้างจรวดขึ้นไปพิสูจน์ว่าโลกนี้นั้น “แบน”   Mike เป็นคนที่ปฏิเสธความเชื่อที่ว่าโลกเป็นทรงกลม และก็มีผู้ที่เห็นด้วยกับเขาในเรื่องนี้มากมายให้การสนับสนุนเขาสร้างจรวดเพื่อขึ้นไปนอกโลกเพื่อหักล้างทฤษฎีนี้ ด้วยความหวังที่จะได้พิสูจน์ว่าทฤษฎีโลกแบนนั้นถูกต้อง Mike กล่าวว่าเขาจะต้องบินขึ้นไปให้สูงพอที่จะหาหลักฐานซึ่งอาจเป็นภาพถ่าย เพื่อหักล้างทฤษฎีโลกกลมที่เชื่อกันโดยทั่วไป โดยตัวเขานั้นเพิ่งจะมีความเชื่อว่าโลกนั้นแบนเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง   ผู้ที่มีแนวความคิดเดียวกับเขา บอกว่าอยากให้ Mike พิสูจน์ให้โลกนี้เห็นสักที   “มันจะเป็นการเปลี่ยนลูกบอลกลมๆ ที่ชื่อว่าโลกนี่ซะ มันช่างเป็นเรื่องหลอกลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งในตอนนี้มีได้ผู้คนมากมายที่มีความเชื่อเหมือนแล้ว”  “ถ้าคุณไม่กลัวต่อความตาย คุณก็เป็นคนงี่เง่าคนหนึ่งแต่ก็ไม่มีใครออกจากโลกนี้ได้ทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่หรอก ผมจึงได้ทำสิ่งพิเศษที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ผมจะเป็นคนแรกที่สร้างจรวดและส่งตัวเองขึ้นไปบนอากาศ” Mike กล่าว   มันอาจจะเปลี่ยนความจริงของโลกไปเลยก็ได้นะเนี่ย   โดยในตอนนี้ แรปเปอร์ชื่อดังชาวอเมริกาอย่าง B.o.B. ได้ออกมาเปิดเผยว่าเขาได้เปิดแคมเปญระดมทุนที่ชื่อว่า Show BoB The…

  • คุณพ่อยอมทำหน้าที่เป็นภารโรงในมหาวิทยาลัย เพื่อส่งลูกทั้ง 5 คนให้เรียนจบปริญญา

    คุณพ่อยอมทำหน้าที่เป็นภารโรงในมหาวิทยาลัย เพื่อส่งลูกทั้ง 5 คนให้เรียนจบปริญญา

    ความรักของพ่อแม่นั้นช่างยิ่งใหญ่เกินจะหาสิ่งใดเปรียบ ซึ่งพวกเขาอาจมีความเหนื่อยล้าจากการงานเพื่อให้เรามีความสุขและสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งพ่อคนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีเพราะว่า เขายอมเป็นภารโรงเพื่อส่งลูกของเขา 5 คนเรียนจนจบปริญญา คุณพ่อสุดแกร่งคนนี้มีชื่อว่า Fred Vautour ในวัย 63 ปีเขาเติบโตมาในครอบครัวที่แตกแยก และเขาก็ไม่ต้องการให้ลูกเขาเป็นอย่างนั้น Fred จึงอยากจะทำให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถส่งลูกๆ เรียนได้และพยายามจะเป็นพ่อที่ีดี เขาจึงยอมเสียสละตัวเองยอมเป็นภารโรงที่มหาวิทยาลัย Boston ในปี 1994 ซึ่งเป็นงานที่มีสวัสดิการที่ดีและเขาก็ภูมิใจในงานนี้มากด้วย   หน้าที่ภารโรงที่ส่งเสียลูกๆ ทั้ง 5 คนของเขาจนจบปริญญา   “ผมพยายามทำทุกๆ อย่างให้ดีที่สุดในฐานะพ่อและหัวหน้าครอบครัว การมาทำงานที่นี่ไม่ใช่เพื่อเงินอย่างเดียว” Fred บอก แต่ว่างานของ Fred ไม่ใช่งานภารโรงทั่วๆ ไปเพราะว่าเวลาการเข้ากะทำงานของเขาเป็นเวลาที่ไม่มีใครอยากทำคือเวลาตั้งแต่ 23.00-07.00 น.   ยอมเสียสละทำงานกลางคืน   “คุณอาจจะไม่คุ้นเคยกับการทำงานในเวลากลางคืน แต่แล้วไงล่ะ คุณแค่ต้องปรับตัวให้เข้ากับมัน” Fred กล่าวเพิ่ม แม้ว่าเขาดูจะเป็นงานที่ไม่ท้าทายสำหรับเขาแต่ว่าเขาก็ทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ โดยลูกชายของเขา Michael ได้บอกไว้ว่า “เขาทำงานอยู่ที่นั่นมาแล้วกว่า 22 ปี ฉันคิดว่าเขาหายไปซะแล้วเพราะว่าใน 1 สัปดาห์เขาใข้เวลาที่นั่นกว่า 3 วันครึ่งเลย”…

  • 10 ภาพลวงตาระดับกวาดรางวัล ลองพิสูจน์ด้วยตาของคุณเองว่าจะลวงแค่ไหน!!

    10 ภาพลวงตาระดับกวาดรางวัล ลองพิสูจน์ด้วยตาของคุณเองว่าจะลวงแค่ไหน!!

    หากพูดถึงภาพลวงตาต่างๆ หลายคนอาจจะเคยเห็นกันมาแล้วจำนวนมากซึ่งหลายภาพนั้นอาจทำให้คนดูนั้นเกิดความสับสนว่า รูปภาพมันขยับได้เองหรือหรือว่าสมองของเขาเห็นขยับอยู่นะ แต่ถ้าอันนั้นยังไม่ยากมาลองดูภาพลวงตาเหล่านี้กันดีกว่า เพราะว่านี่คือ 10 ภาพลวงตาที่ได้รางวัลมาจากการประกวดภาพลวงตาอันทรงเกียรติที่ได้จัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2005   1. ภาพหีบลวงตา ที่เข้ารอบสุดท้ายในปี 2007   ภาพหีบลวงตานี้มีวงกลมอยู่ถึง 16 จุดที่จะซ่อนอยู่ในครั้งแรกที่เห็น ซึ่งมันทำให้เรามองไม่เห็นโดยใช้รูปทรงแบบเส้นตรงปิดบังเอาไว้ ซึ่งภาพลวงตาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากการที่สมองมีชุดความคิดที่ว่าภาพนี้มีมุมและเป็นทรงเหลี่ยมนั่นเอง   2. ภาพงูหมุนหมุนทวนเข็มนาฬิกา ที่เข้ารอบสุดท้ายในปี 2005   หากลองจ้องดูดีๆ แล้วภาพนี้จะเหมือนวงล้อที่หมุนอยู่ตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วมันเป็นภาพนิ่งที่หยุดอยู่กับที่ โดยภาพงูที่เราเห็นมันขยับอยู่นั้นเกิดจากการที่ตาของเราขยับไปยังจุดต่างๆ ในภาพซึ่งจริงๆ แล้วในภาพไม่ได้มีอะไรขยับอยู่เลยนอกจากสายตาของคุณเอง   3. ตารางซ่อนคำ เข้ารอบสุดท้ายการประกวดในปี 2005   ลองเลือกจุดตรงกลางที่คิดว่าอยู่กึ่งกลางของภาพ แล้วลองจ้องมองดู 30 วินาทีคุณจะเห็นตารางเขียนเป็นคำว่า “heal”    4. หน้ากากแห่งความรัก เข้ารอบสุดท้ายในปี 2011   การหลอกตาประเภทนี้จะมีชื่อเรียกเฉพาะว่าเป็นแบบ bistable ซึ่งแต่ละคนจะมองเห็นภาพนี้ไม่เหมือนกันบางคนก็เห็นเพียงหน้าของคนๆ เดียวแต่บางคนก็เห็นเป็นใบหน้า 2 ใบหน้า   5.…

  • ทำความรู้จัก Doug Jones ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ที่ไม่มีใครจำได้เพราะบทบาทที่เขาได้รับ

    ทำความรู้จัก Doug Jones ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ที่ไม่มีใครจำได้เพราะบทบาทที่เขาได้รับ

    อาจจะดูแปลกไปสักนิดที่จะบอกว่า มีดาราฮอลลีวูดคนหนึ่งที่แสดงภาพยนตร์ชื่อดังมาแล้วกว่า 30 เรื่อง แต่เรากลับแทบไม่เคยเห็นหน้าจริงๆ ของเขาเลย เพราะว่าบทบาทที่เขาได้รับในแต่ละเรื่องนั้นต้องแต่งตัวเป็นตัวประหลาดแทบทุกเรื่อง Doug Jones นักแสดงสูงและผอมแห่งวงการฮอลลีวูดได้เล่นหนังมาแล้วกว่า 150 เรื่องตลอดระยะเวลา 30 ปีที่เข้าวงการ โดยเขาได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่องอย่าง Batman Return, Hellboy และ Pan’s Labyrinth     โดยบทบาทที่เขาได้รับในแทบจะทุกเรื่องที่ร่วมแสดงจะต้องสวมหน้ากาก หรือไม่ก็แต่งหน้าเป็นตัวละครตัวประหลาดที่ผู้กำกับอยากให้เป็นอย่างเช่นปิศาจร้าย สัตว์ต่างๆ และเอเลี่ยน ในปัจจุบัน Doug นักแสดงจอมอำพรางในวัย 57 ปีได้ยอมเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาให้คนทั้งโลกได้เห็นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “ผมได้รับการจ้างเพราะว่ารูปร่างของผมนั้นสูงผอมรวมทั้งความสามารถในการแสดงของผมด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่นักทำเอฟเฟกต์ตัวละครต่างๆ ชื่นชอบเพราะว่าเขาจะได้ทำชุดออกมาได้ง่ายๆ” Doug กล่าว   วิธีการแต่งหน้าเป็นตัวละครต่างๆ ของเขา   โดยผลงานก่อนหน้านี้ในเส้นทางอาชีพนักแสดงของเขา Doug ได้ร่วมเล่นในหนังเรื่อง Batman Return ซึ่งเขาเป็นลูกน้องคนหนึ่งของ The Penguin และได้เล่นเป็นซอมบี้ในเรื่อง Hocus Pocus ในปี 1993 จากนั้นเขาก็ได้แสดงเป็นหนึ่งจอมวายร้ายที่คอยขโมยเสียงของผู้คนในซีรี่ย์ Buffy ในตอนที่ชื่อว่า Hush และอีกผลงานที่โดดเด่นของเขาก็คือการได้เล่นเป็นแมลงสาบยักษ์ในหนังสยองขวัญเรื่อง Mimic และได้เล่นเป็นสิ่งมีชีวิตใต้น้ำแสนฉลาดที่ชื่อว่า Abe…

  • ชม IG ของช่างภาพระดับเทพ ที่มีเพียงภาพขาวดำแต่กลับมีคนติดตามเป็นล้าน

    ชม IG ของช่างภาพระดับเทพ ที่มีเพียงภาพขาวดำแต่กลับมีคนติดตามเป็นล้าน

    การถ่ายภาพให้ออกมาสวยนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งช่างภาพแต่ละคนก็จะมีเทคนิคและมุมมองของตัวเองที่ให้ความรู้สึกต่างกันออกไป เหมือนกับศิลปินท่านนี้ที่เลือกจะใช้รูปที่มีแต่สีขาวดำเท่านั้นในการสื่อความหมายกับคนดู ภาพขาว-ดำอันมีเสน่ห์เหล่านี้เป็นของ Jason M. Peterson ช่างภาพมากประสบการณ์ที่อยู่หลังชัตเตอร์มาแล้วกว่า 25 ปี จากเมืองชิคาโก ในตอนนี้ในอินสตาแกรมของเขามีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านคน ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่มากโขเลยทีเดียวสำหรับคนธรรมดา ปกติแล้วเขามีงานประจำคือ เจ้าหน้าที่ครีเอทีฟอาวุโสที่บริษัท Havas ซึ่งดูเหมือนว่างานประจำของเขานี้เอง ที่เป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาทักษะในการเล่าเรื่องผ่านรูปภาพของเขาให้ออกมาน่าทึ่งกว่าช่างภาพคนอื่น โดยเขาเล่าว่าตัวเองเริ่มถ่ายรูปมาตั้งแต่อายุ 13 ปี หากใครชื่นชอบผลงานอันสวยงามของเขาสามารถติดตามกันได้ที่ jasonmpeterson ได้เลยนะครับ   . . . . . . . . . . . . . . .   ต้องบอกเลยว่า มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง   ที่มา: mymodernmet

  • สวยจัด!! ช่างภาพสาวจัดวางอาหารต่างๆ เรียงตามสีและขนาด ที่ไม่ว่าใครได้ดูรับรองว่าฟิน

    สวยจัด!! ช่างภาพสาวจัดวางอาหารต่างๆ เรียงตามสีและขนาด ที่ไม่ว่าใครได้ดูรับรองว่าฟิน

    ขึ้นชื่อว่าเรื่องอาหารการกินแล้ว แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรา แต่จะให้กินอาหารแบบธรรมดาๆ มันก็จะดูน่าเบื่อเกินไป จึงมีสาวสวยคนหนึ่งริเริ่มที่จะจัดวางอาหารที่เรากินกันในทุกวันให้กลายเป็นผลงานศิลปะซะเลย Brittany Wright ช่างภาพถ่ายอาหารจากเมืองซีแอตเทิล ในรัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกาได้จัดวางอาหารรวมถึงวัตถุดิบต่างๆ เรียงตามขนาด สี และประเภทให้กลายเป็นรูปภาพอาหารไล่โทนกัน ที่ไม่ว่าใครดูก็ต้องรู้สึกฟินไปตามๆ กัน ซึ่งเธอได้สร้างแฮชแท็ก #foodgradients ขึ้นในโลกอินสตาแกรมและนั่นทำให้เธอมีผู้ติดตามมากถึง 195,000 คนเลยทีเดียว โดย Brittany บอกว่าเธออยากให้ผู้คนเห็นคุณค่าของความสวยงามในอาหาร รวมทั้งทำให้อาหารต่างๆ ดูมีมูลค่าขึ้นนั่นเอง   หน้าตาของช่างภาพสาวสุดสวยที่ได้สร้างสรรค์งานศิลปะขึ้นมาจากสิ่งรอบตัว   นอกจากงานประจำแล้ว เธอได้เริ่มการทำอาหารต่างๆ ที่เรียนรู้จากตำราสอนทำอาหารและได้ลองสูตรใหม่ๆ เสมอ -อุปกรณ์อบขนมแบบพื้นฐาน   “อาหารเป็นส่วนสำคัญในโลกของฉันเสมอ” Brittany กล่าว -ขนมปังปิ้ง   โดยจุดเริ่มต้นของการเป็นช่างภาพก็คือ ปู่ของเธอซื้อกล้องตัวแรกให้เธอตอนอายุ 11 ปี -ไอศกรีมแท่ง   ด้วยการมองเห็นส่วนที่ไม่มีใครเห็น เธอจึงเริ่มโพสต์ภาพการคุมโทนอาหารลงใน Instagram และได้กลายเป็นกระแสไวรัลในเวลาต่อมา -ไอศกรีม   และในตอนนี้เธอได้ทำหนังสือรวบรวมภาพอาหารของเธอชื่อว่า “Feast Your Eyes” -ลูกอมต่างๆ   พริกถือว่าเป็นหนึ่งในพืชผักที่เธอชอบที่สุดเนื่องจากสีสันอันหลากหลาย ส่วนงานที่เธอคิดว่าท้าทายที่สุดคือการถ่ายภาพไอศกรีม เพราะเธอต้องแข่งกับเวลาก่อนที่มันจะละลายนั่นเอง -พริก…

  • คนไร้บ้านเขมือบมื้ออาหารในฝันที่โรงแรมระดับ 5 ดาว แล้วก็ชักดาบไปกว่า 17,000 บาท

    คนไร้บ้านเขมือบมื้ออาหารในฝันที่โรงแรมระดับ 5 ดาว แล้วก็ชักดาบไปกว่า 17,000 บาท

    เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในโรงแรม 5 ดาวแห่งหนึ่งบนเกาะ Jersey ที่ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบอังกฤษ เมื่อมีชายไร้บ้านคนหนึ่งได้เข้ามากินอาหารสุดหรูในโรงแรมและเดินออกไปหน้าตาเฉยโดยไม่จ่ายเงินเลยซักแดง ตามรายงานจากเว็บไซต์ Metro บอกว่าชายคนนี้มีชื่อว่า Micheal Andrew Phillips วัย 52 ปี ได้ชิ่งก่อนที่จะจ่ายบิลจำนวน 400 ปอนด์ (ประมาณ 17,000 บาท) ซึ่งเป็นค่าบริการสำหรับมื้อสุดหรูที่เขาได้มาใช้บริการที่โรงแรมชื่อว่า Old Court House ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว   หน้าตาของโรงแรมที่โดนชิ่ง   ซึ่งอาหารที่เขาสั่งก็มีทั้ง ค็อกเทลกุ้ง ริบอายสเต็ก และเครื่องดื่มอีกหลายอย่างรวมถึงแชมเปญด้วย จากนั้นเขาก็ได้ขอห้องพักในโรงแรมที่มีราคา 150 ปอนด์ (6,500 บาท) ต่อคืนที่สามารถมองเห็นอ่าว St Aubin ก่อนจะสั่งไวน์เพิ่มอีก 2 ขวด โดยก่อนหน้านี้เขาได้เอาใบขับขี่ของเขาของเขาเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนในการเข้าพัก แต่แล้วเขากลับเดินออกจากโรงแรมไปเฉยๆ โดยที่ไม่ได้จ่ายเงินแถมยังเอาไวน์ติดตัวไปด้วย   ไวน์ Dom Pérignon สุดหรู   ต่อมาเขาถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงสำหรับอาหารที่ได้กินและที่พักสำหรับคืนนั้น ซึ่งเขาก็ไม่ได้แก้ตัวใดๆ และให้การยอมรับความผิดที่ศาล คำสารภาพของเขาบวกกับการชี้ตัวของพนักงานโรงแรมทำให้เขาโดนจับกุมไปในที่สุด แต่เขาบอกตำรวจว่าเขามีความทรงจำน้อยมากที่จำได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในเย็นวันนั้น   ขึ้นศาลตัดสินรับโทษ…

  • ทำไมมันดีกว่าชาวบ้านเขา!!! คุณแม่ลูก 4 ที่ไม่ว่าจะใช้วิธีคุมกำเนิดยังไงเธอก็ท้องจนได้

    ทำไมมันดีกว่าชาวบ้านเขา!!! คุณแม่ลูก 4 ที่ไม่ว่าจะใช้วิธีคุมกำเนิดยังไงเธอก็ท้องจนได้

    การมีเพศสัมพันธ์กันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของมนุษย์ แต่ก็ต้องคอยระวังสิ่งที่จะตามมาทั้งโรคติดต่อและปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็คือการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งนั่นได้ทำให้ในปัจจุบันมีการคุมกำเนิดมากมายทั้ง ถุงยางอนามัย ห่วงอนามัย ยาคุมกำเนิดแบบฉีด ยาคุมกำเนิดแบบฝัง แต่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ว่าจะใช้การคุมกำเนิดแบบไหนก็ไม่ได้ผลกับเธอทั้งนั้น   Emma Brown คุณแม่ลูก 4 ที่ไม่มีการคุมกำเนิดไหนเอาเธออยู่   การต้องมาดูแลเด็กแรกเกิดและต้องมาคอยอบรมสั่งสอนไม่ใช่สิ่งที่ Emma Brown อยากจะทำมากนักนั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เธอไม่อยากจะตั้งครรภ์ แต่ว่าวันนี้เธอภูมิใจในความเป็นแม่ของเด็กๆ ทั้ง 4 คนที่มาจากความล้มเหลวในการคุมกำเนิด โดยในอดีตนั้นเธอได้สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองว่าจะไม่ตั้งท้อง โดยการคุมกำเนิดวิธีต่างๆ ทั้งการฉีด การกินยาคุมกำเนิด ใช้ถุงยางอนามัย และการคุมกำเนิดแบบฝัง ซึ่งเธอบอกว่าบางครั้งเธอก็ใช้การคุมกำเนิดถึง 4 อย่างพร้อมกันและใช้แต่ละอย่างด้วยความถูกต้องแต่ก็ยังก็ไม่ได้ผลอยู่ดี โดยผู้เชี่ยวชาญได้เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอว่า “โอกาสหนึ่งในล้าน” เลยทีเดียว   Reggie ขณะแรกเกิด   ตอนนี้ลูกๆ ของเธอที่เกิดจากความล้มเหลวในการคุมกำเนิดก็มีถึง 4 คนด้วยกันคือ Sofie อายุ 12 ปี, Sarah อายุ 11 ปี, Stevie อายุ 5 ขวบและคนสุดท้อง Reginald…

  • บุญแท้!! สาวอาสาสมัครไปเที่ยวอินเดีย ได้ช่วยชีวิตหมาตัวหนึ่งแล้วนำกลับมาเลี้ยงซะเลย

    บุญแท้!! สาวอาสาสมัครไปเที่ยวอินเดีย ได้ช่วยชีวิตหมาตัวหนึ่งแล้วนำกลับมาเลี้ยงซะเลย

    ในการเดินทางออกไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ เรามักจะได้เจอสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ มากมายแต่การเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศของเธอคนนี้ช่างแตกต่างกับคนอื่นตรงที่ว่า ของที่เธอนำกลับมาด้วยไม่ใช่ของฝากหรือขนมใดๆ แต่กลับเป็นหมาตัวหนึ่งซะงั้น เรื่องราวสุดประทับใจนี้ได้ถูกเผยแพร่ในวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยเป็นเรื่องราวของ Jessica Haltzman หญิงสาวจากรัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีความคิดที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อค้นหาตัวเองหลังจากเธอเสร็จสิ้นงานอาสาสมัคร AmeriCorps โดยเป้าหมายแรกที่เธอต้องการจะไปก็คือ องค์กรอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศอินเดียที่ชื่อว่า Sadhana Forest   เจ้าหมาน้อยนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด   แต่ว่าระหว่างการเดินทางเธอได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองนิวเดลีและระหว่างที่เธอพักอยู่ที่โรงแรมนั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงร้องของอะไรบางอย่างเธอจึงออกตามหาที่มาของเสียงว่ามันคือเสียงอะไร และเมื่อเจอต้นตอของเสียงร้องเธอก็พบว่ามันคือลูกหมาได้รับบาดเจ็บที่นอนอยู่หน้าโรงแรมนั้นเอง “ฉันรู้ทันทีในตอนนั้นว่า ฉันต้องช่วยชีวิตมันให้ได้” Haltzman บอก เธออุ้มเจ้าหมาที่ร้องด้วยความเจ็บปวดตัวนี้ขึ้นและพยายามจะหาสัตวแพทย์ในเมืองเพื่อช่วยชีวิตมัน   หลังจากได้รับการรักษาเสร็จแล้ว   Haltzman เล่าว่า “ฉันวิ่งไปทั่วทั้งเมืองนิวเดลีเพื่อที่จะหาสถานที่สำหรับรักษามัน โดยในที่สุดก็มีคนขับรถสามล้อคนหนึ่งที่รู้จักสัตวแพทย์และเขาก็ได้พาฉันพร้อมเจ้าหมาที่น่าสงสารนี้ไปส่ง” ซึ่งปรากฏว่า อาการบาดเจ็บของเจ้าหมาตัวนี้ค่อนข้างจะสาหัสทีเดียว โดยเอวทั้งสองข้างของมันหักและบาดแผลของมันก็ติดเชื้ออีกด้วย ดังนั้นสัตวแพทย์จึงได้พันผ้าพันแผลไว้เพื่อที่จะบรรเทาความเจ็บปวดลง “ตอนนั้นฉันมีความกังวลเกี่ยวกับเจ้าหมาตัวนี้จนแทบจะบ้าเลยก็ว่าได้” Haltzman สารภาพ แต่ด้วยแผนการท่องเที่ยวที่เธอวางไว้จึงเกิดคำถามกับตัวเองว่า เธอควรจะเที่ยวทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับเจ้าหมาตัวนี้ดีไหม?   ออกเดินทางไปต่างประเทศด้วยกัน   ในที่สุดหญิงสาวคนนี้ก็ตัดสินใจเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวของเธอทั้งหมด โดยเธอยกเลิกเที่ยวบินเพื่อที่จะไปเนปาลและจองตั๋วรถบัสแทนเพื่อที่จะให้เจ้าหมาตัวนี้สามารถไปกับเธอได้ ตลอดเวลาในการเดินทางเธอก็ดูแลเจ้าหมาตัวนี้เป็นอย่างดี และได้ตั้งชื่อให้มันว่า Delhi ตามชื่อเมืองที่เธอได้พบกับมัน Haltzman ยังคงเดินทางท่องเที่ยวต่อไปพร้อมกับเจ้า Delhi…

  • ชายป่วยโรคซึมเศร้าเขียนจดหมายเปิดผนึกตามหามิตรภาพ แล้วเขาก็ได้รับกลับอย่างล้นหลาม

    ชายป่วยโรคซึมเศร้าเขียนจดหมายเปิดผนึกตามหามิตรภาพ แล้วเขาก็ได้รับกลับอย่างล้นหลาม

    ในช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิต เรามักจะหาใครซักคนที่คอยเป็นกำลังใจและเป็นที่ระบายได้ซึ่ง “เพื่อน” สามารถเติมเข้ามาเต็มในจุดนั้นได้ แต่หากคุณเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนก็คงจะแย่น่าดูและอาจทำเหมือนชายคนนี้ที่เขียนข้อความหาเพื่อนลงในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่ง ซึ่งนั่นได้ทำให้เขาได้เพื่อนใหม่อย่างมากมาย เมื่อเดือนธันวาคมปี 2016 มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อได้เขียนข้อความลงในเว็บบอร์ดชื่อดังในทวีปยุโรปที่ชื่อว่า Yik Yak โดยมีเนื้อหาว่า “ผมหมดหวังที่จะเจอเพื่อนใหม่จริงๆ ตอนนี้ผมว้าเหว่มากและกำลังเผชิญอยู่กับช่วงที่ยากที่สุดในชีวิตของผม ผมจะนั่งคอยอยู่ที่บันไดหน้าศาลากลางเมืองตั้งแต่เวลาบ่าย 2 จนถึง 2 ทุ่ม ผมใส่กางเกงสีดำและสะพายกระเป๋ายี่ห้อ North Face หากใครเห็นผมช่วยเข้ามาคุยเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ” ในเวลานั้น หนุ่มคนนั้นคงคิดไม่ถึงว่าข้อความของเขากำลังจะส่งผลให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปเพราะว่าได้มีข้อความเข้ามาเขามากกว่า 10,000 ครั้งเลยทีเดียว   ข้อความที่ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล   “ความเครียดของผมนั้นเกิดขึ้นจากประสบการณ์ในวัยเด็กของผม ซึ่งในวัยเด็กผมต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ ความไม่ปลอดภัย และเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ซึ่งนั่นทำให้ผมเป็นคนเหมือนทุกวันนี้ โดยตอนนี้ผมเป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจในตนเองและรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า” “ในเดือนกันยายนปี 2016 แฟนสาวที่คบกันมา 6 ปีของผมได้ทิ้งผมไป โลกทั้งโลกของผมในตอนนั้นเหมือนกับได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ผมไม่รู้จะทำอย่างไรจึงพยายามที่จะฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่สำเร็จ ผมถูกส่งให้ไปอยู่โรงพยาบาลจิตเวชในท้องถิ่นและถูกปล่อยตัวออกมาในภายหลัง และผมมีเพื่อนจริงๆ เพียงแค่ 2-3 คนเท่านั้น” “นั่นคือสิ่งที่ผมเป็นอยู่ในตอนนี้ ไม่มีครอบครัว ไม่มีกระทั่งเพื่อนหรือแฟนผมรู้สึกโดดเดี่ยวมากจริงๆ ผมจึงเขียนข้อความและตัดสินใจนำมาโพสต์ให้ทุกคนได้เห็น” ชายหนุ่มคนนั้นได้เขียนเอาไว้ ชายหนุ่มคนที่เขียนข้อความดังกล่าวใช้ชีวิตวัยเด็กมากกว่าครึ่งในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า   มีคนจำนวนมากได้อ่านข้อความที่เขาเขียนและมีคนถึง 13 คนตัดสินใจจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาในวันที่หมดความหวังเช่นนี้…

  • คู่รักชาวจีนหัวใสเปิดโรงสกัดแร่ทองจากซากมือถือ แต่ถูกจับหลังทิ้งสารเคมีลงในดินและห้วย

    คู่รักชาวจีนหัวใสเปิดโรงสกัดแร่ทองจากซากมือถือ แต่ถูกจับหลังทิ้งสารเคมีลงในดินและห้วย

    คุณจะทำอย่างไรกับโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่ไม่ใช้แล้ว บางคนคงเก็บเอาไว้ในตู้โชว์บางคนก็เอาไปทิ้งถังขยะ แต่รู้ไหมว่าคุณกำลังมองข้ามขุมทองไปซะแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ตำรวจเซี่ยงไฮ้ ได้เข้าจับกุมโรงงานผิดกฎหมายแห่งหนึ่งบริเวณชานเมืองซึ่งเต็มไปด้วยถังสารเคมีต่างๆ ที่ส่งกลิ่นเหม็นออกมานอกโรงงาน โดยโรงงานแห่งนี้เป็นของสองผัวเมียคู่หนึ่งที่ดำเนินธุรกิจรับซื้อของเก่า   แร่ทองที่อยู่ในโทรศัพท์เก่าต่างๆ   ซึ่งพวกเขาได้มาเช่าที่แห่งนี้เมื่อเดือนเมษายนในปีนี้เพื่อใช้เป็นที่สำหรับสกัดแร่ทองที่อยู่ภายในโทรศัพท์มือถือที่ใช้แล้ว และนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจะสามารถทำเงินได้มากถึง 20,000 หยวน (99,000 บาท) เลยทีเดียว นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่า เราสามารถทำสกัดแร่ทองจนทำแหวนใส่ได้เลย โดยจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือราวๆ 100 เครื่อง จึงจะได้แหวนทอง 1 วง   สภาพของโรงงานแห่งนี้   อย่างไรก็ตาม โรงงานของคู่รักที่สกัดทองคู่นี้ไม่เคยได้รับใบอนุญาตจากทางการท้องถิ่นเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของพวกเขา อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์ใดๆ สำหรับการกำจัดสารเคมีที่ใช้ในการสกัดทองโดยวิธีที่พวกเขาใช้กำจัดสารเคมีก็คือ พวกเขาใช้การขุดหลุมเพื่อที่จะเทสารเคมีลงดิน และยังเทลงในห้วยด้านหลังโรงงานอีกด้วย และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่โดนจับ โดยทั้งคู่โดนจับในข้อหาทิ้งสารเคมีอันตรายโดยผิดกฎหมายและสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมนั่นเอง   รีบกลับไปแกะโทรศัพท์มั่งดีกว่า เผื่อจะรวยเหมือนเค้า ที่มา: shanghaiist

  • อบอุ่นหัวใจ!! พบกับชายผู้อุทิศชีวิตตนเพื่อเป็นพ่ออุปถัมภ์ รับเลี้ยงเด็กป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการ

    อบอุ่นหัวใจ!! พบกับชายผู้อุทิศชีวิตตนเพื่อเป็นพ่ออุปถัมภ์ รับเลี้ยงเด็กป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการ

    จะมีอะไรทำให้เรารู้สึกดีไปกว่าการได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน แต่คงไม่มีใครยิ่งใหญ่เหมือนชายคนนี้ที่ยอมอุทิศชีวิตของตัวเองรับเลี้ยงเด็กที่ป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการถึงกว่า 40 ชีวิต นาย Mohamed Bzeek ผู้อพยพชาวมุสลิมวัย 62 ปีในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ได้ใช้เวลาสองทศวรรษที่ผ่านมาในชีวิตของเขาอุปถัมภ์ดูแลเด็กป่วยหนักที่ไม่มีใครต้องการ     โดยเด็กเหล่านี้ถูกทอดทิ้งจากระบบอุปการะต่างๆ และต้องใช้เกือบทั้งหมดของชีวิตของพวกเขาอยู่กับโรงพยาบาลของรัฐเนื่องจากไม่มีใครเลี้ยงดู นั่นทำให้พวกเขาไม่ค่อยมีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับ ความรัก ความหวัง และเสียงหัวเราะที่คนธรรมดามีมากนัก เด็กๆ ประมาณ 600 คนจาก 35,000 คนที่อยู่ภายใต้การสังเกตการณ์จาก แผนกบริการเด็กและครอบครัวของเขตลอสแองเจลิส เด็กเหล่านั้นเป็นเด็กป่วยหนักที่ต้องการการรักษาจากแพทย์และยังต้องการบ้านที่ให้ความรักแก่พวกเขาได้ ซึ่งมีเพียง Bzeek เท่านั้นที่รับเด็กที่น่าสงสารเหล่านี้มาเลี้ยงดู สำหรับประวัติของ Bzeek นั้นเขาได้ย้ายมาจากประเทศลิเบีย มายังรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 1978 ในฐานะนักเรียน และในปี 1987 เขาก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า Dawn หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน โดยเธอเป็นคนเริ่มอุปถัมภ์เด็กคนแรกตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 บ้านของ Dawn ได้กลายมาเป็นแห่งพักพิงสำหรับเด็กๆ ที่ต้องการการดูแลทั้งหลายและต่อมาในปี 1989 หลังจากที่แต่งงานกันมาได้ 2 ปีทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะอุทิศชีวิตทั้งชีวิตให้กับการเลี้ยงดูเด็กๆ ที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอทั้งหลายและครอบครัว Bzeeks ได้ทำบ้านของพวกเขาให้กลายเป็นบ้านของเด็กหลายสิบคนตั้งแต่นั้นมา     และเรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นครั้งแรกในปี…

  • พบกับ Zelda แมวสุดฮอตบนโลกออนไลน์ ที่มีหน้าตาเหมือนกับสงสัยสิ่งต่างๆ ตลอดเวลา

    พบกับ Zelda แมวสุดฮอตบนโลกออนไลน์ ที่มีหน้าตาเหมือนกับสงสัยสิ่งต่างๆ ตลอดเวลา

    กำลังเป็นที่ฮือฮาบนโลกออนไลน์ เมื่อมีแมวตัวหนึ่งได้แสดงความน่ารักของมันออกมา ด้วยบุคลิกที่สงสัยทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวทำให้มันดูสนุกกับสิ่งต่างๆ ราวกับว่าไปเที่ยวสวนสนุกหรือได้ผจญภัยในสถานที่ใหม่ๆ ตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ เจ้าเหมียวขนปุยตัวนี้มีชื่อว่า Zelda ด้วยความที่มันมีดวงตาที่กลมโตและแววตาแสนซุกซน ได้ทำให้ชาวเน็ตต่างก็หลงรักเจ้าแมวตัวดำตัวอ้วนนี้กันถ้วนหน้า โดยในตอนนี้ Twitter ที่เจ้าของเปิดให้มันโดยเฉพาะ มีผู้ติดตามความน่ารักของมันแล้วกว่า 25,000 คน และถ้าหากอยากรู้ว่ามันจะมีความน่ารักถึงขั้นมีผู้ติดตามเป็นหมื่นได้ยังไง? ลองไปพิสูจน์กันได้จากภาพเหล่านี้   ดูแววตาของมันสิ จะไม่ให้หลงรักได้ยังไงล่ะ   นี่คือการออกกำลังกายยามเช้าของเจ้า Zelda   มันกำลังจะเข้าชาร์จแล้ว เตรียมตัว ระวัง ไป   ที่ทำลายสิ่งของต่างๆ มันไม่ใช่ความผิดฉันนะ ฉันแค่สงสัยเฉยๆ   เมื่อไหร่อาหารจะมา เริ่มโกรธแล้วนะ   ข่าวด่วน: เจ้า Zelda ลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นแมว   แววตาตอนที่ได้เห็นคนเดินถืออาหารเข้ามา   ฉันไม่ได้เลือกพรม แต่ว่าพรมเลือกฉันต่างหาก   สงสัยจะมีปัญหากับพุ่มไม้แล้วล่ะ มาเป็นเพลงพี่ฮิวโก้   ขนาดตอนนอน ยังจะสงสัยอะไรอีก   ข่วนทั้งโซฟาทั้งเตียง แล้วยังมีหน้ามาขอข้าวกินอีก  …

  • 5 สัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรค ‘กลัวการตกหลุมรัก’ เข้าให้แล้ว

    5 สัญญาณที่สามารถบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังป่วยเป็นโรค ‘กลัวการตกหลุมรัก’ เข้าให้แล้ว

    เชื่อว่าไม่ว่าใครก็อยากจะมีความรักที่ดีทั้งนั้น ดังนั้นหลายๆ คนจึงได้ลองผิดลองถูกกันมาหลายครั้งเพื่อที่จะหาความรักที่เหมาะสมกับตัวเอง และก็มีหลายครั้งเช่นกันที่ต้องพบกับความผิดหวังจนกลายเป็นโรคความหวาดกลัวไปเลยก็มี ต่อมาความกลัวได้กลายมาเป็นโรคทางจิตชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Philophobia หรือโรคกลัวการตกหลุมรัก โดยอาการของผู้ที่เป็นโรคนี้ก็คือ พวกเขากลัวที่จะมีความสัมพันธ์กับใครสักคนเพราะอาจจะกลัวความเสียใจที่จะตามมา ซึ่งนี่เองทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคนี้ไม่กล้าที่จะเริ่มใหม่กับใคร     ซึ่งคนที่เป็นโรคนี้ไม่ใช่จะเป็นกันง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่าการเกิดโรคต่างๆ จะต้องมีสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นและนี่คือ 5 สัญญาณหลักๆ ที่คนส่วนใหญ่มักจะเป็นก่อนป่วยเป็นโรคนี้ หากอยากรู้ว่าตัวเองเข้าข่ายที่จะเป็นโรคกลัวการตกหลุมรักหรือไม่ก็ลองมาเช็กกันดูเลย   1. ความเจ็บปวดในอดีตยังคงทำร้ายคุณ   คุณยังคงไม่ลืมความปวดร้าวจากรักครั้งเก่าของคุณ บางทีคุณอาจจะรู้สึกเจ็บปวดมากจากประสบการณ์ที่ได้ผ่านมาจนยากที่จะลืม ซึ่งนั่นทำให้คุณได้สร้างอคติเกี่ยวกับความรักจากประสบการณ์ที่ผ่านจนไม่อยากจะเริ่มมีความสัมพันธ์กับใครอีกเลย   2. คุณไม่สามารถเชื่อใจใครได้อีก   หากคุณเคยเชื่อคนๆ หนึ่งอย่างสนิทใจหรือว่าได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับใครสักคน แล้วปรากฏว่าเขาทิ้งคุณไปหาคนใหม่ สิ่งที่เขาเหลือทิ้งไว้ให้คุณนั้นก็เหลือเพียงแต่ความเจ็บปวดและได้ก่อปมขึ้นในใจของคุณ จนคุณไม่สามารถที่จะเชื่อใครได้ง่ายๆ เพราะกลัวว่าจะโดนหักหลังอีกนั่นเอง   3. คุณกลัวว่าความรักจะเป็นอุปสรรคในด้านต่างๆ   คุณกลัวที่จะตกหลุมรักเพราะทุกครั้งที่คุณมีความสัมพันธ์ คุณจะรู้สึกว่าคุณไม่สามารถพาตัวเองไปทำอะไรที่ตั้งใจอยากทำได้ ทั้งเรื่องการงานหรือการประสบความสำเร็จต่างๆ อีกทั้งคุณยังกลัวข้อจำกัดที่มาพร้อมกับความสัมพันธ์อย่างความอิสระในการใช้ชีวิต   4. คุณกลัวว่าความเป็นส่วนตัวของคุณจะหายไป   คุณเคยมีความสัมพันธ์มาก่อน แต่ว่าก็ต้องจบความสัมพันธ์นั้นไปเพราะว่าคุณรู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะกับเรื่องพื้นที่ส่วนตัวที่คุณไม่ชอบแบ่งปันกับใครอย่างการใช้เตียงนอนร่วมกัน การใช้สิ่งของร่วมกัน นั่นจึงเป็นเหตุให้คุณไม่อยากที่จะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่กับใครอีก   5. คุณชื่นชอบการมีเซ็กส์แต่ก็ไม่ต้องการสานต่อความสัมพันธ์   มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบในรสชาติของเซ็กส์และต้องการเพียงสิ่งนั้นเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่คนเป็นโรคนี้กลัวก็คือความสัมพันธ์ที่จะมาต่อจากนั้น เนื่องจากพวกเขาไม่อยากจะมีความรู้สึกลึกซึ้งกับใคร…

  • ลองชมงานประชุมครั้งแรกของ ‘กลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกแบน’ และปฏิเสธข้อมูลจาก NASA

    ลองชมงานประชุมครั้งแรกของ ‘กลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกแบน’ และปฏิเสธข้อมูลจาก NASA

    ด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่ทำให้มนุษย์เราสามารถออกไปนอกอวกาศได้ อีกทั้งยังมีดาวเทียมต่างๆ โคจรอยู่รอบโลก ซึ่งภาพถ่ายของโลกเราที่ใครๆ ต่างก็เคยเห็นก็คือมีลักษณะกลม แต่มีคนจำนวนหนึ่งที่มีความคิดที่ต่างกันออกไป โดยพวกเขาเชื่อว่าโลกของเรานั้นแบนและภาพถ่ายต่างๆ จากองค์การนาซ่านั้นเป็นเรื่องโกหก!! งานประชุมประจำปีครั้งแรกของกลุ่มคนที่เชื่อว่าโลกนี้มีลักษณะแบน จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 9-10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยงานนี้มีผู้ที่มีความคิดแบบเดียวกันเข้าร่วมกว่า 400 คน   ลักษณะที่พวกเขาเชื่อว่าโลกของเราเป็น   โดยการจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ได้นั้นจะต้องมีการซื้อตั๋วเพื่อเข้างานด้วย ซึ่งตั๋วที่ขายนั้นก็มีราคาสูงถึง 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 8,215 บาท) เลยทีเดียว ซึ่งเนื้อหาใจความหลักๆ ในการประชุมครั้งนี้ก็คือเพื่อจะบอกว่าโลกของเรานั้นมีลักษณะแบนเหมือนจาน และยังบอกอีกด้วยว่า Nasa และองค์การอวกาศอื่นๆ นั้นได้โกหกเรามาตลอดว่าโลกของเรานั้นมีลักษณะกลมอีกทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ นั้นเป็นเรื่องโกหก   ทีมงานโลกแบนได้เข้าร่วมจำนวนมาก   Mark Sargent มีผู้ติดตามในเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Youtube ถึง 40,000 คนจากทฤษฎีโลกแบนที่เขาคิด ได้บอกไว้ในงานว่า “วงการวิทยาศาสตร์จะต้องออกมาอธิบายเรื่องนี้ พวกเขาหลบเราไม่ได้ตลอดไปหรอก ไม่มีใครชอบความรู้สึกอึดอัดที่จะอยู่ในลูกบอลเล็กๆ อย่างนี้พวกเขาอยากจะบินไปนอกอวกาศจนถึงจุดสิ้นสุดของจักรวาลเลยมากกว่า”   พวกเขาเหล่านี้ต่างไม่เชื่อว่าโลกของเรากลมจริงๆ   “นานมาแล้วที่เราอยู่ภายใต้ความคิดที่ว่าโลกนั้นกลม ไม่รู้สิผมคิดว่าเรากำลังถูกหลอกมากกว่าแต่อย่าเชื่อคำพูดของผมมากนะ ผมอาจจะเป็นผู้ป่วยทางจิตที่เพิ่งออกมาจากโรงบาลบ้าก็ได้” Mark กล่าว…

  • งานวิจัยเผย ‘การอกหัก’ ส่งผลกระทบต่อหัวใจร้ายแรงราวเหมือบกับหัวใจวายเลยทีเดียว!!

    งานวิจัยเผย ‘การอกหัก’ ส่งผลกระทบต่อหัวใจร้ายแรงราวเหมือบกับหัวใจวายเลยทีเดียว!!

    ใครหลายคนคงอาจเคยเจอกับอาการอกหัก โดยมักเกิดจากการสูญเสียคนรักไปไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม มันเป็นความรู้สึกราวกับว่าหัวใจได้แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีใครอยากเผชิญอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่า การอกหักนั้นนอกจากจะส่งผลต่อจิตใจแล้วยังส่งผลต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกายเหมือนกับการหัวใจวายเลยทีเดียว มีคนอย่างน้อย 3,000 คนในสหราชอาณาจักรที่ต้องเผชิญกับที่เรียกกันในชื่อทางการแพทย์ว่า “โรคหัวใจสลาย” ในทุกๆ ปี ซึ่งแพทย์เผยว่า ตัวเลขจริงๆ อาจจะมากกว่านี้อีกหลายเท่า     ซึ่งโรคหัวใจสลายนี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นชั่วคราวของหัวใจที่มีภาวะความเครียด อย่างเช่น เกิดความผิดหวังอย่างรุนแรง สูญเสียคนรักอย่างกะทันหันหรือเรียกรวมๆ ได้จากอาการอกหัก ซึ่งอาการของโรคนี้ก็คือจะทำให้เจ็บแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหอบ และหน้ามืด จนถึงปัจจุบันนี้ ทางการแพทย์ก็ยังสันนิษฐานได้เพียงว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นจะอยู่เพียงชั่วคราวและจะสามารถหายเป็นปกติได้ด้วยการใช้เวลาเยียวยา แต่ว่าได้มีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Aberdeen ได้ค้นพบว่าโรคหัวใจสลายหรืออาการอกหักนี้จะทำให้หัวใจเกิดอ่อนแอลงอย่างถาวรเช่นเดียวกับโรคหัวใจวาย     จากการศึกษาค้นคว้าผู้ที่มีอาการอกหัก 37 คนโดยใช้เวลาเฉลี่ย 2 ปีในการติดตามคนเหล่านี้โดยมีการวัดผลจากผลตรวจอัลตร้าซาวด์ และผลจากการจากตรวจ MRI ในหัวใจของพวกเขา พบว่าหัวใจของพวกเขามีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถูกหักอกที่เกิดขึ้น โดยผู้ป่วยเหล่านี้หลายคนจะมีอาการเหนื่อยง่าย และไม่สามารถออกกำลังกาย แม้ว่าทางแพทย์จะบอกว่าพวกเขาจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้โดยธรรมชาติ นักวิจัยได้กล่าวไว้ว่าผู้ที่มีอาการป่วยแบบนี้ควรได้รับยาฟื้นฟูเช่นเดียวกับผู้ที่มีหัวใจเสียหายจากอาการหัวใจวายเลยทีเดียว     พวกเขาได้นำเสนองานวิจัยชิ้นนี้เมื่อวันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาที่สมาคมวิทยาศาสตร์หัวใจประเทศสหรัฐอเมริกาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย ดอกเตอร์ Dana Dawson ผู้นำการวิจัยได้กล่าวเอาไว้ว่า…

  • แมวเจ้าถิ่นกอด “ลูกแมวกำพร้า” เอาไว้ทั้งคืนเพื่อให้ความอบอุ่นตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่

    แมวเจ้าถิ่นกอด “ลูกแมวกำพร้า” เอาไว้ทั้งคืนเพื่อให้ความอบอุ่นตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่

    ไม่น่าเชื่อว่าความรักจะเกิดขึ้นได้กับใครที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก เหมือนกับเจ้าแมวตัวนี้ที่เข้ามาต้อนรับลูกแมวกำพร้าตั้งแต่เข้ามาอยู่บ้านวันแรก โดยมันทั้งประคบประหงมเจ้าแมวน้อยราวกับเป็นพี่ชายแท้ๆ เลยก็ว่าได้ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Moonglade Rose นักช่วยเหลือสัตว์คนหนึ่งได้พบลูกแมวถูกทิ้งตัวหนึ่งที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ซึ่งหลังจากพาไปโรงพยายาลแล้วเธอก็ได้ตัดสินใจจะพาแมวที่น่าสงสารตัวนี้กลับมาอยู่ที่บ้านร่วมกันกับเธอโดยเธอได้ตั้งชื่อให้แมวตัวนี้ว่า Opie   เจ้า Opie แมวน้อยถูกทิ้งที่น่าสงสาร   แต่เธอก็แอบกังวลว่าเจ้า Opie จะเป็นอย่างไรหากได้พบกับเจ้า Andy แมวที่เธอได้เก็บมาเลี้ยงก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่บ้านของเธอ เมื่อเจ้า Andy ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยตั้งแต่เปิดประตูบ้านมันก็รีบวิ่งกระโจนออกมาดูว่า สิ่งที่มันได้ยินเป็นเสียงของตัวอะไรกันแน่นะ   เมื่อเจอกันครั้งแรกก็เหมือนมีทั้งคู่มีความผูกพันธ์กันตั้งแต่แรกเห็น   แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้เจ้าของรู้สึกประหลาดใจทีเดียว เพราะว่าเจ้าแมวเจ้าถิ่นตัวนี้ไม่ได้มีท่าทีที่จะรังเกียจเจ้าแมวน้อยที่เข้ามาใหม่แต่อย่างใด แต่ว่ามันกลับตรงกันข้ามโดยการนำแขนของมันไปโอบกอดเจ้าแมวน้อย เหมือนกับว่ามันกำลังจะบอกว่ายินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านหลังนี้ “เจ้า Andy ให้การต้อนรับเจ้าแมวที่น่าสงสารตัวนี้เป็นอย่างดีและมันก็กอด Opie ไว้ในอ้อมอกตลอดเวลา” Moonglade ได้ให้สัมภาษณ์   Andy รักเจ้าเหมียวตัวน้อยราวกับเป็นน้องชายแท้ๆ   ในคืนนั้นทั้งสองตัวก็ได้นอนด้วยกัน และดูเหมือนว่าเจ้า Andy ที่มีตัวโตกว่าจะคอยระวังภัยต่างๆ ให้แก่น้องชายที่เข้ามาอยู่ใหม่ตลอดทั้งคืน พวกมันนอนด้วยกันอย่างอบอุ่นราวกับว่าเป็นพี่ชายและน้องชายที่คลานตามกันออกมาก็ว่าได้ “เจ้าลูกแมว Opie ดูจะเชื่อใจฉันมากและชอบที่จะนอนหลับไปพร้อมกับฉัน หลังจากกินอาหารมักจะปีนขึ้นมาที่บริเวณอกของฉันแล้วมันก็นอนหลับไปเลย และก็เป็นโชคดีของมันจริงๆ ที่เจ้า Andy ก็รักมันเช่นกัน” MoonGlade กล่าวเพิ่ม…

  • รู้หมือไร่?? อาการขี้หลงขี้ลืมนั้นเป็นผลดีต่อสมองและอาจทำให้คุณกลายเป็นอัจฉริยะก็เป็นได้

    รู้หมือไร่?? อาการขี้หลงขี้ลืมนั้นเป็นผลดีต่อสมองและอาจทำให้คุณกลายเป็นอัจฉริยะก็เป็นได้

    อาการขี้หลงขี้ลืมเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าคนๆ นั้นมีสมองที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่รู้หรือไม่ว่าอาการขี้ลืมจริงๆ แล้วมันเป็นสัญญาณของคนฉลาดต่างหาก งานวิจัยหนึ่งที่ได้ตีพิมพ์ในนิตยสาร Neuron บอกไว้ว่าคนที่มีสมองสุขภาพแข็งแรงบางครั้งก็มีการทำงานที่หนักหน่วงเกินไปจนกลายเป็นอาการหลงลืมชั่วขณะนั่นเอง ซึ่งงานวิจัยชิ้นนั้นเขียนโดย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต ประเทศแคนาดาโดยได้ทิ้งข้อสรุปไว้ว่า การลืมสิ่งต่างๆ ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแต่ว่ามันเป็นการพักสมองหลังจากใช้งานมาอย่างหนักและมันก็กำลังเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่สมองของเราด้วย     Paul Frankland และ Blake Richards ได้บอกเอาไว้ว่าหน่วยความจำจริงๆ แล้วนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือจดจำเฉพาะข้อมูลที่มีความสำคัญและอีกส่วนหนึ่งคือสร้างพื้นที่สำหรับพักผ่อนสมองซึ่งนั่นจึงทำให้เราหลงลืมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวันไป การศึกษาหนึ่งของ Frankland พบว่าเมื่อเซลล์สมองใหม่ถูกสร้างขึ้นในสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ความทรงจำเก่าๆ จะถูกเขียนทับเหมือนกับข้อมูลในคอมพิวเตอร์เลยล่ะ     “มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่สมองของเราจะลืมรายละเอียดสิ่งต่างๆ ที่ไม่สำคัญนักในชีวิตของเราและเพ่งเล็งไปในเรื่องที่สำคัญ เพราะจะทำให้เราสามารถตัดสินใจเรื่องสำคัญนั้นได้ดีขึ้นและยังสร้างพื้นที่ว่างเพื่อรองรับสิ่งใหม่ๆ อีกด้วย” Richard กล่าว ประโยชน์อย่างหนึ่งของโรคขี้หลงขี้ลืมนี้ก็คือ เมื่อเราลืมรายละเอียดในกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านไปแล้ว แต่ว่ายังคงจำภาพรวมของกิจกรรมนั้นได้ มันจะทำให้เราพยายามนึกย้อนไปในอดีตและทำให้เราสามารถซึมซับบรรยากาศในวันนั้นและให้ความรู้สึกเหมือนกับวันนั้นพึ่งผ่านมาเพียงไม่นาน     แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไปสำหรับคนที่ลืมสิ่งสำคัญตลอดเวลา เพราะว่าการลืมสิ่งต่างๆ อาจทำให้เราเกิดความกังวลว่าเราลืมอะไรไปบ้างและนั่นอาจทำให้เราเริ่มจะเป็นโรคหวาดระแวง ซึ่งเป็นโรคประสาทชนิดหนึ่งได้ สำหรับวิธีการออกกำลังกายสมองก็มีวิธีการง่ายๆ โดยการพยายามทบทวนว่าวันนี้เราได้ทำอะไรไปบ้างแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้สมองของเรามีสุขภาพที่ดีแล้วล่ะ   ที่มา: unilad

  • สุดยอดไอเทมสุดล้ำนำยุค ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นราวกับปอกกล้วยเข้าปาก

    สุดยอดไอเทมสุดล้ำนำยุค ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นราวกับปอกกล้วยเข้าปาก

    จะมัวใช้ชีวิตอยู่ในรูปแบบเดิมๆ ทำไมในเมื่อทุกวันนี้เทคโนโลยีได้มีพัฒนาการขึ้นไปทุกวัน ซึ่งมันได้ทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสนุกและสะดวกสบายขึ้นไปกว่าเดิมอย่างมาก และนี่คือสุดยอดไอเทมเทคโนโลยีสุดล้ำนำยุคที่จะมาทำให้คุณต้องอุทานออกมาว่าคิดได้ยังไงเนี่ย ซึ่งเทคโนโลยีบางอย่างที่ได้นำมาเสนอนั้นคุณสามารถจับจองมาเป็นเจ้าของได้แล้วในวันนี้ด้วย ซึ่งจะมีอะไรที่ทำให้ชีวิตคุณดูง่ายขึ้นกว่าเดิมบ้างลองไปดูกันดีกว่า   1. แอร์เซลฟี่: โดรนสำหรับถ่ายรูปเซลฟี่แบบพกพา   หักไม้เซลฟี่แบบเดิมๆ ทิ้งไปได้เลยหากคุณได้พบกันโดรนสำหรับเซลฟี่อันนี้ โดยการทำงานของเจ้าโดรนตัวนี้สามารถควบคุมได้จากสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปโดยมันมีกล้องให้เราได้ถ่ายรูปแบบไฮเดฟที่มีความชัดถึง 5 ล้านพิกเซล ซึ่งมันทำงานผ่านระบบไวไฟแบบ 2.4 GHZ อีกทั้งยังมีพื้นที่ให้เราเก็บรูปในตัวโดรนเองอีกถึง 4 GB โดยคุณสามารถซื้อมาเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ Amazon   2. เครื่องอ่านความคิดสัตว์   เคยเป็นกันบ้างไหมที่เราอยากจะรู้ว่าที่เจ้าหมาของเรามันเห่าโฮ่งๆ เนี่ยมันคิดอะไรอยู่ ในตอนนี้เรากำลังจะได้รู้ความลับของเจ้าสัตว์แสนกวนต่างๆ แล้วผ่านเครื่องอ่านความคิดสัตว์อันนี้ โดยระบบการทำงานของมันคือมันจะจดจำคลื่นไฟฟ้าที่อยู่ในสมองของสัตว์และแปลออกมาให้รู้ว่าเจ้าขนปุยของเรามันกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เนื่องจากยังขาดความพร้อมอยู่ในหลายๆ ด้าน ทำให้เครื่องนี้ยังต้องพัฒนาอีกมาก   3. Skinner ถุงเท้ารวมกับรองเท้าในคู่เดียว   ปัญหาเรื่องถุงเท้ากับรองเท้านี่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว สิ่งประดิษฐ์อันนี้จึงออกมาตัดปัญหาดังกล่าวโดยการนำถุงเท้ากับรองเท้ามารวมกันซะเลย โดยเจ้า Skinner นี้จะนำความนุ่มสบายของถุงเท้ามาบวกกับความสามารถในการป้องกันสิ่งต่างๆ ของรองเท้า ทำให้เจ้าสิ่งนี้สามารถใส่ไปได้ทุกที่ทั้งในออฟฟิศ ในยิม และสถานที่ต่างๆ ซึ่งคุณสามารถร่วมระดมทุนได้แล้ววันนี้ที่ kickstarter   4. Phree…

  • รู้จักกับ “Snowflake” ดินแดนสำหรับ “ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่” ที่ใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันไม่ได้!?

    รู้จักกับ “Snowflake” ดินแดนสำหรับ “ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่” ที่ใช้ชีวิตในโลกปัจจุบันไม่ได้!?

    ในทุกวันนี้การที่มีเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วได้ทำให้ชีวิตของเรามีความสะดวกเพิ่มมากขึ้น แต่ในเมื่อมีผลดีก็ต้องมีผลเสีย เพราะสารเคมีหรือว่ารังสีบางอย่างอยู่รอบๆ ตัวเรา นั้นอาจทำให้บางคนที่ไวต่อการสัมผัสรู้สึกไม่สบายได้ นั่นจึงเป็นที่มาของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง Snowflake ที่ตั้งอยู่บริเวณขอบของรัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ที่เจ็บป่วยทรมานต่อสารเคมีต่างๆ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่” ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้เป็นโรคเรื้อรังที่แพ้ต่อสารเคมีและเทคโนโลยีในปัจจุบัน อาการบางอย่างของผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้ก็คือ จะรู้สึกไม่สบายตัว ในบางรายอาจมีร่างกายที่ทรุดโทรมไปเลยอย่าง มีอาการคลื่นไส้รุนแรง ไมเกรน เป็นโรคหวาดระแวง และวิงเวียนศีรษะในบางครั้ง     สาเหตุที่ทำให้พวกเขามีอาการเหล่านี้ พวกผู้ป่วยได้บอกไว้ว่าเป็นเพราะสารเคมีและเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ ที่อยู่รอบตัวพวกเขา อย่างเช่น น้ำหอม เส้นใยสังเคราะห์ในเสื้อผ้าหรือหมอนมุ้ง สารกำจัดศัตรูพืชทั้งหลาย รวมถึงอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายหรือ Wi-Fi ด้วย ซึ่งหมอส่วนมากลังเลที่จะประกาศว่าอาการเหล่านี้เป็นโรคชนิดหนึ่ง เพราะว่ามันขาดหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แต่พวกเขาจะเรียกว่า อาการจิตทางสังคมที่ก่อให้เกิดอาการทางกายภาพอย่างฉับพลัน ด้วยเหตุเหล่านี้ ผู้ป่วยเหล่านี้จึงไม่สามารถหาความช่วยเหลือทางการแพทย์สำหรับโรคที่พวกเขาเป็น และต้องหาที่อยู่ใหม่เพื่อเป็นการรักษาตัวเอง เนื่องจากสาเหตุเหล่านี้ทำให้ในปี 1998 ผู้แพ้ชีวิตสมัยใหม่ทั้งหลายจึงได้ตัดสินใจที่จะกำหนดสุขภาพของพวกเขาด้วยมือตนเอง โดยพวกเขาได้ย้ายไปในเมืองทะเลเล็กๆ ในเมือง Snowflake     Bruce McCreary ผู้บุกเบิกที่นี่เป็นอดีตวิศวกรไฟฟ้าได้ตัดสินใจทิ้งบ้านของเขาในเมือง Mesa หลังจากที่เกือบจะพิการจากการสัมผัสสารเคมีในโรงงานผลิตสารเคมีที่เขาทำงาน ต่อมาช่วงต้นๆ ปี 1990 ก็มีผู้ป่วยทางสังคมอีกกว่า 30 คนเข้ามาสมทบกับเขาด้วย และได้เกิดเป็นเมืองๆ หนึ่งในที่สุด ผู้อยู่อาศัยคนอีกคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ชื่อว่า…

  • จะเก่งไปไหน!! ศิลปินวาดภาพตัวเองด้วยเทคนิคสะท้อนจากกระจก โดยใช้เวลาวาดกว่า 3 ชั่วโมง

    จะเก่งไปไหน!! ศิลปินวาดภาพตัวเองด้วยเทคนิคสะท้อนจากกระจก โดยใช้เวลาวาดกว่า 3 ชั่วโมง

    การจะวาดภาพสักภาพให้สวยสำหรับบางคนก็ว่ายากแล้วยิ่งเป็นการวาดภาพเหมือนนี่แทบจะขว้างพู่กันทิ้งกันเลยทีเดียว แต่มีคนๆ หนึ่งที่มีพรสวรรค์ทางด้านการวาดภาพจัดว่าขั้นเทพ เพราะว่าเขาคนนี้สามารถวาดภาพเหมือนตัวเองขณะยืนอยู่หน้ากระจกออกมาได้อย่างงดงามมากเลยทีเดียว Ewan McClure ศิลปินนักวาดภาพชาวสกอตแลนด์ได้คิดวิธีการวาดภาพแบบแปลกๆ ขึ้นมาโดยเขาได้ไปยืนหน้ากระจกแล้วก็วาดภาพเหมือนของตัวเองผ่านกระจกโดยใช้มือขวาเพียงข้างเดียวสร้างสรรค์ผลงานออกมา   วาดตัวเองอย่างนี้ก็ได้หรอ   โดยเขาได้วางกล้องถ่ายวีดีโอไว้ตรงกระจกและได้อัดวิดีโอเป็นในรูปแบบ Timelapse แสดงขั้นตอนกาารวาดภาพตั้งแต่เริ่มลงมือจนกระทั่งวาดหน้าของเขาออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเขาบอกว่าทั้งหมดนี้เขาใช้เวลาในการวาดกว่า 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว   เริ่มเป็นเค้าโครงหน้าขึ้นมาแล้ว   สำหรับภาพที่เขาวาดนั้นเป็นภาพใบหน้าของเขาขณะกำลังยืนอยู่นิ่งๆ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่แกเอามุมไหนในการวาดเพราะว่าต้องคอยเปลี่ยนสีและเปลี่ยนขนาดพู่กันตลอดเวลา   ไม่น่าเชื่อว่าจะวาดผ่านกระจกแล้วได้ผลงานสวยขนาดนี้   ในที่สุดภาพของศิลปินเดี่ยคนนี้ก็ออกมาเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของคนทั้งโลก โดยเขาได้โพสต์วิดีโอการวาดภาพนี้ลงในเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Youtube ซึ่งตอนนี้มีผู้เข้าชมคลิปของเขาแล้วกว่า 4 หมื่นครั้งเลยทีเดียว   รูปออกมาดูดีทีเดียว   การที่จะต้องวาดภาพตัวเองจากในกระจกนั้นต้องวาดแบบกลับหัวกลับหาง ขอบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะว่าต้องใช้มุมในการวาดที่ตรงข้ามกับตัวเองและต้องผ่านการฝึกฝนมาแล้วอย่างดีเยี่ยม   การวาดภาพของเขาด้วยแขนขวามือเดียว เมพขิงๆ ที่มา: boredpanda, Ewan McClure

  • 20 ภาพแห่งความเมาที่มีแต่ ‘คนรักการดื่ม’ เท่านั้นที่จะเข้าใจได้สถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี

    20 ภาพแห่งความเมาที่มีแต่ ‘คนรักการดื่ม’ เท่านั้นที่จะเข้าใจได้สถานการณ์แบบนี้เป็นอย่างดี

    “กินเหล้ากัน” คำง่ายๆ แต่ความหมายสุดลึกล้ำคำนี้อาจจะเคยทำให้ใครหลายคนต้องทำเรื่องขายขี้หน้ากันมาแล้วมากมาย แต่ถึงจะมีเรื่องที่อายๆ เกิดขึ้นบ้างแต่เชื่อเถอะว่าไม่นานนักพวกเขาเหล่านี้ก็กลับมาตั้งวงดื่มกินกันเหมือนเดิม และนี่คือภาพของเหล่านักดื่มที่เหมือนเกิดมาเพื่อแอลกอฮอล์เท่านั้น ถ้าหากคุณเป็นนักดื่มเช่นเดียวกับพวกเขาก็คงเข้าใจฟีลพวกเขาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก   ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ก๊งได้ ในน้ำก็ไม่ใช่ปัญหา (เดี๋ยวๆ นะ)   ไปอย่างสวย กลับอย่างศพ   โยคะแบบสไตล์ไอริช   เมื่ออยู่ในคาบเรียนวิชาสุขศึกษา แล้วจู่ๆ อาจารย์ก็พูดขึ้นมาว่า “วันนี้เราจะมาพูดกันในหัวข้อเรื่อง ‘แอลกอฮอล์ส่งผลอย่างไรต่อตับของเรา’ ” แล้วดูสายตาที่เพื่อนๆ มองมา ง่วงว่ะ ขอนอนแปบนึงละกันนะเพื่อน   เบียร์ เบียร์หายไปไหนหมดเนี่ย   สงสัยอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากกอดอะไรนุ่มๆ มากอดแข็งๆ บ้าง   ชัดเลยอย่างงี้ เมาไม่รู้เรื่องแล้วโดนเพื่อนแกล้งแน่นอน   ท่านี้เอาไปเลยเต็มสิบ   ไหนใครเมา ไม่มี๊   มิติใหม่แห่งการนอน   เมื่อเจอเหล่าแฟนเก่าของเรา รวมตัวอยู่ในร้านเดียวกัน   นี่มันสวรรค์ชั้นไหนกันเนี่ย   เมื่อคุณกินเหล้าอย่างหนัก แต่ปรากฏว่าตื่นมาแล้วไม่แฮ้งก์   ก็ถ่ายกันไปสิ…

  • เจ้าหมาไม่ยอมห่างจาก “ศพของเพื่อนรัก” ไปไหน จนร่างกายของมันผอมเหลือแต่กระดูก

    เจ้าหมาไม่ยอมห่างจาก “ศพของเพื่อนรัก” ไปไหน จนร่างกายของมันผอมเหลือแต่กระดูก

    คำว่า “เพื่อน” ถึงมันจะเป็นคำที่มันสั้นแต่ว่าก็เปี่ยมไปด้วยความหมาย เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่ไม่ว่าคนหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลกก็จำเป็นต้องมี ซึ่งดูเหมือนคำว่าเพื่อนนี้เองที่ทำให้หมาตัวหนึ่งนั่งเฝ้าศพเพื่อนรักของมันจนมีร่างกายที่ผอมแห้งจนเหลือแต่หนังติดกระดูก เจ้าหมาน้อยวัย 11 เดือนที่มีชื่อว่า Spyder ได้เริ่มต้นชีวิตของมันด้วยการถูกทิ้งอยู่ข้างถนนในรัฐนอร์ทแคโรไลน่า ประเทศสหรัฐอเมริกากับเพื่อนของมัน แต่ก็ปรากฏว่าเพื่อนของมันได้จากไปก่อนวัยอันควรแต่ว่าเจ้า Spyder นั้นก็ไม่จากเพื่อนรักของมันไปไหนยังคงนั่งเฝ้าศพของเพื่อนของมันราวกับรอให้เพื่อนของมันตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ     เจ้าหมาที่แสนซื่อสัตย์ตัวนี้ไม่หนีเพื่อนของมันไปไหน อาจจะเพราะไม่รู้ว่าเพื่อนของมันได้จากไปแล้ว แต่มันก็ยังคงอยู่ใกล้ๆ ศพของเพื่อนตลอดเวลานั่นจึงทำให้มันไม่มีเวลาที่จะออกไปหาอาหารกิน จนร่างกายเริ่มซูบผอมลงเรื่อยๆ     ด้วยภาพความซื่อสัตย์ที่มันมีต่อเพื่อนของมัน ทำให้ใครบางคนทนเห็นภาพอันหดหู่ของเจ้าหมาตัวนี้ไม่ได้ จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจาก ศูนย์พิทักษ์สัตว์และพวกเขาก็ได้นำเจ้า Spyder ไปไว้ที่สถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา     “มันดูระแวงคนเอามากๆ ในตอนที่เราไปรับมันมา แต่ถึงอย่างไรฉันก็คิดว่ามันต้องได้รับความช่วยเหลือ เพราะว่าร่างกายของมันอ่อนแอมาก” “มันจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ข้างนอกนั่น”  Jacquelyn O’Sullivan แห่งองค์กร Rescue Dogs Rock NYC ได้บอกไว้     ซึ่งจากการตรวจร่างกายเจ้า Spyder นั้นก็พบว่ามันเป็นโรคหลายโรคเลยทีเดียวทั้งการติดเชื้อต่างๆ และการที่มีขนหายไปอย่างจุด นั่นเป็นผลมาจากการอยู่ข้างถนนที่มีสุขอนามัยที่ไม่ดีนัก มันจึงต้องเข้ารับการรักษาอย่างด่วนและก็เป็นโชคดีของมันที่มีคนโทรแจ้งได้ทันเวลา Spyder เข้ารับการรักษาอาการป่วยต่างๆ…

  • ชม 18 ภาพวาดของเหล่าเด็กๆ ที่แอบมาแฉวีรกรรมป่วนๆ ของพ่อแม่ตัวเองแบบเนียนๆ

    ชม 18 ภาพวาดของเหล่าเด็กๆ ที่แอบมาแฉวีรกรรมป่วนๆ ของพ่อแม่ตัวเองแบบเนียนๆ

    เมื่อสมัยเราไปโรงเรียนตอนเด็กๆ มักจะมีชั่วโมงศิลปะที่ให้เราวาดภาพของคุณพ่อคุณแม่ในวันสำคัญต่างๆ แต่ว่าด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กๆ หรืออาจจะเป็นเพราะความกวนของพวกเขาพวกเด็กๆ ถึงได้เอาความลับของพ่อแม่ออกมาเปิดเผยต่อที่สาธารณะซะงั้น ซึ่งนี่คือภาพวาด หรือข้อความฮาๆ ที่พ่อแม่ของเด็กๆ เห็นแล้วอาจต้องกุมขมับแล้วพูดว่า “ลูกเอ๋ยย” ซึ่งความลับของพ่อแม่ของพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้างถ้าอยากรู้ ต้องตามไปดู…   ในที่สุดทั้งห้องก็รู้ว่าพ่ออ้วน แถมยังมีปัญหาบางอย่างด้วย   ซ้าย: นี่คือแม่ของหนูในตอนเช้า ขวา: ส่วนนี่แม่ตอนออกไปข้างนอก   จะเขียนคำว่าพ่อดันไปเขียนนักตดซะอย่างงั้น   สงสัยเป็นแม่สายเมา   ขอบคุณแม่มากที่ทั้งรักและห่วงใยและที่สำคัญคือไม่ทำมีทโลฟอีก   เมื่อให้วาดรูปแม่ครั้งแรก แต่ดันวาดแม่ตดซะนิ   พ่อหนูเป็นลูกจ้างและก็เป็นนักดื่มตัวยงเลย   แสดงว่าอยู่บ้าน พ่อชอบตดอัดแน่เลย   ถึงพ่อ : หนูดีใจมากที่ได้อยู่กับพ่อ หนูก็อยากให้แม่กลับมาอยู่ด้วย แต่คงเป็นไปไม่ได้เพราะแม่ไม่ชอบพ่อ ฮ่าา   สิ่งที่แม่ทำตลอดคืออะไรคะนักเรียน : ดูทีวีค่าา   คิดว่าแม่ควรทำอะไรน้อยลงบ้าง : ดื่มไวน์   เดี๋ยวๆ ถ้าพ่อ 8 ขวบแล้วคนเขียนจะกี่ขวบเนี่ย  …

  • พบกับเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง พร้อมใช้งานในปี 2025 เดินทางเร็วกว่าเดิมถึง 2.6 เท่า

    พบกับเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง พร้อมใช้งานในปี 2025 เดินทางเร็วกว่าเดิมถึง 2.6 เท่า

    การเดินทางด้วยเครื่องบินนับว่าเป็นการเดินทางที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน แต่ในอนาคตเราจะมีเครื่องบินที่บินได้เร็วกว่าในปัจจุบันอีกโดยมีความเร็วสูงถึง 2,715 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดย Boom Supersonic บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาลำนี้ว่า มันจะเป็นเครื่องบินแบบเร็วเหนือเสียง (Supersonic) ซึ่งสามารถบินจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษไปยัง เมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น จากปกติที่ใช้เวลาเกือบ 8 ชั่วโมง   เครื่องบินพาณิชย์ขนาด 55 ที่นั่งแบบความเร็วเหนือเสียง   Blake Scholl ผู้ก่อตั้งบริษัท Boom Supersonic ได้ออกมาเผยว่าเที่ยวบินพาณิชย์ความเร็วเหนือเสียงแบบ 55 ที่นั่งจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2025 อีกทั้งเขายังบอกอีกด้วยว่าเครื่อบินที่เขากำลังพัฒนาอยู่นี้จะออกมาดีกว่าเครื่องบินคองคอร์ด เครื่องบินความเร็วชื่อดังในอดีต “ลองคิดถึงช่วงเวลาที่ครอบครัวต้องห่างกันเพราะระยะเวลาการบินที่ยาวนาน ลองคิดถึงเวลาที่เราไปเที่ยวแล้วต้องเสียเวลาไปกับการบินที่ยาวนาน จนรู้สึกว่าทริปนั้นไม่คุ้มค่า” “นั่นคือเหตุที่เราก้าวเข้ามาในจุดนี้ เราคือทีมที่รวมสุดยอดวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี โดยมีจุดประสงค์เพื่อที่จะให้โลกของเรามีการเดินทางที่รวดเร็วขึ้นและสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น” Mr.Scholl กล่าว   เครื่องบินขนาดเล็กที่มีแผนจะเข้าทดสอบในต้นปี 2019   “คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อที่จะนั่งเครื่องบินเหนือเสียงของเรา เพราะว่ามันจะมีราคาที่พอๆ กับเครื่องบินชั้นธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งมันสอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดของเราคือจะให้เครื่องบินความเร็วเหนือเสียงมีราคาไม่แพงที่ใครๆ ก็สามารถจ่ายได้” Mr. Scholl ได้กล่าวไว้ที่งานประชุมการบิน Dubai…

  • สาวๆ ญี่ปุ่นเผย 6 สิ่งที่เหล่าผู้ชายทำโดยไม่รู้ตัว แล้วจะทำให้พวกเขาดูเท่ขึ้นเป็นกอง!!

    สาวๆ ญี่ปุ่นเผย 6 สิ่งที่เหล่าผู้ชายทำโดยไม่รู้ตัว แล้วจะทำให้พวกเขาดูเท่ขึ้นเป็นกอง!!

    ผู้ชายส่วนมากในทุกประเทศทั่วโลกได้พยายามทำตัวเองให้ดูดี โดยพวกเขาอาจจะแต่งตัวที่บ่งบอกความเป็นตัวเองหรือว่าใช้สินค้าแบรนด์ดังต่างๆ หรืออาจจะทำกิจกรรมที่ดูเท่ๆ คูลๆ เรื่องราวมันเริ่มมาจากสาวญี่ปุ่นโพสต์เรื่องผู้ชายที่ดูมีเสน่ห์ โดยเพียงแค่ทำหน้าซีเรียสตอนพยายามซ่อมของให้กลับมาดีเหมือนเดิม ก็ทำให้เธอใจละลายได้แล้ว งานนี้ก็เลยมีเหล่าชาวเน็ตหญิงสาวญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง ได้ออกมาบอกถึงบุคลิก หรือการทำสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้ผู้ชายดูเท่ขึ้นในสายตาของพวกเธอ โดยที่อาจจะไม่เสียเงินซักบาทเดียว ซึ่งจะมีสิ่งใดกันบ้างมาลองดูกันบ้างดีกว่า…   1. ซ่อมแซมสิ่งของต่างๆ มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบแอบมองผู้ชายระหว่างที่พวกเขาซ่อมแซมสิ่งของอะไรบางอย่าง อย่างการซ่อมบ้าน ซ่อมรถ ซึ่งพวกเธอบอกว่ามันช่างดูเซ็กซี่ขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว   2. ตอนขับรถ เวลาผู้ชายขับรถนั้นทำให้สาวๆ หลายคนถึงกับตกหลุมรักมาแล้ว เพราะว่าระหว่างขับรถจะต้องมีสมาธิระมัดระวังรถคันอื่น และนั่นทำให้สายตาของพวกเขาจะดูจริงจังขึ้นมาและนั่นคือสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนชอบที่จะจ้องมอง   3. เวลาหยิบของจากชั้นสูงๆ ด้วยตามธรรมชาติที่ผู้หญิงจะมีตัวที่เล็กกว่าผู้ชาย บางครั้งจึงต้องพึ่งพาให้คอยหยิบนู่นนั่นนี่บนชั้นสูงๆ ให้ซึ่งพวกเธอบอกว่าตอนที่ผู้ชายหยิบของสูงๆ แล้วส่งให้ด้วยรอยยิ้มเนี่ยแทบจะทำเอาละลายเลยทีเดียว   4. ตอนกำลังถอดแว่นตา มีสาวๆ บางคนที่ชื่นชอบผู้ชายใส่แว่น ยิ่งตอนที่ผู้ชายถอดแว่น หรือทำอะไรเกี่ยวกับแว่นตาอย่างเอาผ้ามาเช็ด พวกเธอนี่แทบจะปาหัวใจใส่เลยทีเดียว   5. ตอนยกอาหารมาให้ พวกเธอบอกว่าตอนผู้ชายยกอาหารจานใหญ่ๆ ออกมาวางให้กับทุกคนในโต๊ะมันช่างมีเสน่ห์และดูอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเลย   6. เล่นกับสัตว์ต่างๆ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูแข็งแกร่งกว่าผู้หญิง ทำให้เวลาผู้ชายเล่นกับสัตว์ต่างๆ จะดูน่ารักขึ้นเป็นกองเพราะว่าพวกเขาได้แสดงความอ่อนโยนที่อยู่ข้างในออกมา ซึ่งอาจจะหาดูได้ยากสำหรับผู้หญิงและทำให้พวกเธอตกหลุมรักได้เลย  …

  • รวม 18 ภาพของเหล่าเด็กๆ ที่จะมาพิสูจน์ว่าพวกเขาน่ะอยู่คนละโลกกับพวกเรานะ!!

    รวม 18 ภาพของเหล่าเด็กๆ ที่จะมาพิสูจน์ว่าพวกเขาน่ะอยู่คนละโลกกับพวกเรานะ!!

    วัยเด็กวัยที่แสนสนุกสำหรับทุกคนเพราะว่ายังไม่มีเรื่องอะไรให้คิดจนปวดหัว ซึ่งนั่นทำให้จินตนาการของพวกเขาไปไกลกว่าคนโตๆ อย่างเราเยอะ โดยสิ่งที่พวกเขาทำนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นการกระทำที่โนแคร์โนสนสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ภาพเด็กๆ สุดกวนเหล่านี้คือภาพที่จะมายืนยันว่า พวกเขานั้นมีความคิดความอ่านที่ไปไกลจนเราคาดไม่ถึง ขนาดที่ว่าอยู่คนละโลกกันเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อได้เห็นภาพฮาๆ เหล่านี้แล้วถึงกับต้องร้องออกมาเลยว่า พระเจ้าช่วย!!   เมื่อลูกของคุณดูละครมากไป จนคิดว่าตัวเองเป็นตัวโกง   โพสต์ท่าแบบนางแบบชิคๆ   ว่าแล้วทำไมทิชชู่ที่บ้านถึงหมดเร็ว   หนูสวยไหมคะ พ่อขา   ขณะที่เราอยู่ในปี 2017 เธอคนนี้ล้ำไป 3017 แล้ว   ก็แค่พอกหน้าเหมือนกับแม่ไง   ซื้อของเล่นมาให้ตั้งเยอะ กลับติดโหลถั่วซะงั้น   เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม   ก็พ่อไม่สนใจหนูเลยอะ   ก็มันยังไม่ใช่อะ   อินการอ่านจัด   แพลงกิ้งแบบล้ำยุค   พวกผู้ใหญ่ไม่รู้อะไร เขาใช้กันอย่างนี้   กลิ่นมาดามหอมชื่นจายย   นี่มันในโบสถ์นะหนู   ยอมใจความพยายามในการเล่นซ่อนแอบ   ก็มันไม่อร่อยอะ ยังงี้ต้องประท้วง   ธรรมดาโลกไม่จำ  …

  • มาชม “อาหารขึ้นชื่อ” ของประเทศต่างๆ ในโลกซึ่งถ้าไปเที่ยวแล้วไม่อยากจะให้พลาดชิม

    มาชม “อาหารขึ้นชื่อ” ของประเทศต่างๆ ในโลกซึ่งถ้าไปเที่ยวแล้วไม่อยากจะให้พลาดชิม

    อาหารของแต่ละประเทศนั้นจัดว่ามีเสน่ห์และมีเอกลักษณ์ของตนเอง และเรื่องอาหารการกินนี่แหละที่อาจเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี วันนี้เราก็มีอาหารที่เขาว่ากันว่าเป็นอาหารประจำชาติของแต่ละประเทศ ที่ถ้าเพื่อนๆ มีโอกาสได้ไปเยือน พวกเราก็ไม่อยากให้เพื่อนๆ ต้องพลาดอาหารจานเด็ดเหล่านี้ จะมีอะไรบ้างเราไปชมกันเลย   1. หอยนางรมที่เมือง Galway ประเทศไอร์แลนด์   นอกจากประเทศนี้จะโด่งดังเรื่องเบียร์และวิสกี้แล้ว ที่นี่ยังมีอาหารอีกอย่างที่ไม่อยากให้พลาดคือ หอยนางรมที่เมือง Galway แห่งนี้ เพราะเขาบอกกันว่าหอยที่นี่สดและอร่อยที่สุด   2. วิสกี้บนเกาะ Islay ประเทศสก็อตแลนด์   เกาะแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่า “เกาะแห่งวิสกี้”  โดยบนเกาะแห่งนี้มีโรงกลั่นมากถึง 8 แห่งโดยวิสกี้ที่พวกเขาทำออกมานั้นเป็นพวกเขาบอกว่าเป็นวิสกี้แบบซิงเกิลมอลต์ที่ดีที่สุดในโลก   3. ชีส Pecorino Romano ในเมือง Sardinia ประเทศอิตาลี   ชีส Pecorino Romano เป็นชีสแบบแข็งและเค็มที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอิตาลีชนิดหนึ่ง โดยพวกเขาจะใช้นมแกะในการผลิตชีส นั่นจึงให้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว   4. เบียร์ Kölsch ที่เมือง Cologne ประเทศเยอรมนี   มาเมืองเบียร์แต่ไม่กินเบียร์ก็คงจะดูยังไงอยู่ โดยเบียร์ Kölsch นี้เป็นเบียร์ประเภท…

  • ใจสั่งมา!! กวางหนุ่มสุดหื่นหาที่ระบายผิดที่ผิดทาง ด้วยการไปคร่อมรูปปั้นกวางซะอย่างงั้น

    ใจสั่งมา!! กวางหนุ่มสุดหื่นหาที่ระบายผิดที่ผิดทาง ด้วยการไปคร่อมรูปปั้นกวางซะอย่างงั้น

    ขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตแล้วสิ่งที่น่าจะเกิดมาพร้อมกันก็คือเรื่องอารมณ์ทางเพศ ซึ่งการมีอารมณ์ทางเพศถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ แต่หากระบายมันออกผิดที่ผิดทางอาจจะเป็นเรื่องที่สุดฮาเหมือนเจ้ากวางตัวนี้ ที่มันดันไปขึ้นคร่อมรูปปั้นซะอย่างงั้น.. เรื่องราวเกิดขึ้นในรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐบอเมริกา เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งสามารถจับภาพกวางหนุ่มกลัดมันตัวหนึ่งกำลังพยายามข่มขืนกวางสาวตัวหนึ่ง โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่า กวางสาวตัวนั้นเป็นแค่รูปปั้นเท่านั้นเอง   ขอนิดนึงนะน้องสาวสุดสวย   ในตอนเริ่มต้นนั้นเจ้ากวางตัวนี้ได้พยายามจะขี่รูปปั้นกวางตัวแรก แต่ว่าพอมันรู้ว่ากวางที่มันไปหื่นใส่ด้วยนั้นไม่ใช่กวางที่มีชีวิตจริงๆ  มันเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปยังกวางตัวที่สองแทน   ตัวแรกไม่เล่นด้วย เลยจัดตัวที่สองซะเลย   ซึ่งมันก็หารู้ไม่ว่ากวางทางเลือกที่สองของมันนั้นก็เป็นรูปปั้นเช่นเดียวกัน งานนี้จึงไม่รู้ว่าเจ้ากวางสุดเจ้าชู้ได้เสร็จสมอารมณ์หมายเหมือนที่มันตั้งใจไว้หรือไม่ แต่ที่รู้ๆ ก็คือมันได้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้แก่ชาวเน็ตทั่วโลกอย่างมากมายเลย   อย่า อย่าหยุดยั้ง ก้าวไปในสิ่งที่หมาย   ซึ่งภาพทั้งหมดที่สาวคนนี้ได้บันทึกไว้ ได้กลายมาเป็นภาพที่พิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่มีแค่คนเท่านั้นที่มีรสนิยมทางเพศแบบแปลกๆ แต่กับสัตว์โลกชนิดอื่นๆ พวกมันก็มีความชอบที่ต่างออกไปเหมือนกันนะ   วิดีโอขณะกวางกลัดมันตัวนี้กำลังขยี้รูปปั้นกวางสุดฮา   แหม พี่กวางนี่ก็หน้ามืดตามัวจริงๆ เลยว่าไหม…   ที่มา: dailymail

  • นักจิตวิทยาเผยท่าทางต่างๆ บ่งบอกถึงความรู้สึกของเหล่าคู่รัก ตรงกันบ้างรึเปล่าเอ่ย!?

    นักจิตวิทยาเผยท่าทางต่างๆ บ่งบอกถึงความรู้สึกของเหล่าคู่รัก ตรงกันบ้างรึเปล่าเอ่ย!?

    ว่ากันว่ากิริยาท่าทางต่างๆ สามารถบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคนๆ นั้นได้ แต่รู้หรือไม่ว่าท่าทางที่แสดงต่อกันระหว่างคู่รักนั้นก็สามารถบ่งบอกความรัก ความห่วงใยที่ทั้งคู่มีต่อกันได้เหมือนกันนะ Dr. Lilian Glass นักจิตวิทยาได้ออกมาอธิบายถึงท่าทางต่างๆ ของคู่รักที่พวกเขาแสดงต่อกันว่ามีความหมายว่าอย่างไรและจะส่งผลอย่างไรต่อชีวิตคู่ มาลองเช็คกันดูดีกว่าว่าคู่รักของเรามีพฤติกรรมอย่างนี้กันบ้างหรือเปล่า…   การจับมือกัน   ถ้าร่างกายของทั้งคู่ได้หันหาเข้าหากันและจับมืออย่างในภาพ แสดงว่าทั้งคู่นั้นต้องการที่จะเข้าใกล้ชิดระหว่างกันและกัน และการจับมือยังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งที่ทั้งคู่มีให้แก่กันอีกด้วย หากคุณเห็นคู่ไหนที่มีพฤติกรรมอย่างนี้มั่นใจได้เลยว่าคู่นั้นมีความผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นเลยล่ะ   เขาเป็นของฉันนะ   การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำมือไปโอบเอวหรือโอบแขนอีกฝ่าย นั่นแสดงว่าอยากจะแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเหมือนกับต้องการจะบอกแก่คนอื่นว่า “เขาเป็นของฉันนะ” แต่เป็นการบอกผ่านทางภาษากายแทน   ท่ายืนที่แสดงความดูแลกันและกัน   หากร่างกายของฝ่ายหญิงหันไปหาคู่รักของเธอก็หมายความว่า เธอต้องการที่จะอยู่ใกล้ชิดกับเขาให้ได้มากที่สุด และการที่ฝ่ายชายนำมือไปกอดเอวของฝ่ายหญิงเอาไว้ นั่นก็แสดงถึงความอ่อนโยนที่เขามีให้แก่เธอและยังให้ความหมายอีกนัยหนึ่งว่าไม่อยากจะเคร่งครัดกับฝ่ายหญิงมากนัก เหมือนกับการวางมือไว้บนเอวอย่างหลวมๆ ซึ่งท่าทีที่แสดงออกมาแบบนี้ เป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจที่ทั้งคู่มีระหว่างกันและยังเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย   ท่าทางที่แสดงให้เห็นถึงเส้นใยความสัมพันธ์ที่แข็งแรง   การยืนอย่างมั่นคงและกุมมือกันอย่างเหนียวแน่นนั้น เป็นการบอกว่าพวกเขาเคยชินที่ได้ผ่านอะไรมาด้วยกันและยังทำสิ่งต่างๆ ร่วมกันมาเป็นเวลานาน อีกทั้งท่ายืนของทั้งคู่ยังบอกถึงความรู้สึกสบายใจในความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่มีต่อกันได้เป็นอย่างดีเลยแหละ   ท่าแสดงความเป็นเจ้าของอีกท่าหนึ่ง   เมื่อฝ่ายชายคล้องแขนฝ่ายหญิงมาแนบกาย นั่นคือเขาอยากที่จะบอกแก่ทั้งโลกว่าเขาเป็นเจ้าของฝ่ายหญิง แต่นี่เป็นท่าที่ผู้หญิงส่วนมากมักไม่ชอบ เพราะว่าพวกเธอจะรู้สึกอึดอัดและไม่สบายเนื้อสบายตัวและมันเหมือนการที่เธอถูกบังคับตลอดเวลานั่นเอง   ความมีใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน   ท่าการนั่งอีกแบบหนึ่งที่ผู้หญิงนั่งอยู่บนตักของผู้ชายนั้นมีความหมายว่า ผู้หญิงยินดีที่จะมอบชีวิตที่เหลืออยู่ให้ขึ้นอยู่กับผู้ชาย และทั้งคู่ยังมีความเชื่อใจอย่างหมดหัวใจเลยทีเดียว  …

  • ชาวบ้านคริสเตียนในจีนปลดภาพพระเยซูแล้วติดภาพท่านผู้นำแทน เพื่อรับประโยชน์จากรัฐบาล!!!

    ชาวบ้านคริสเตียนในจีนปลดภาพพระเยซูแล้วติดภาพท่านผู้นำแทน เพื่อรับประโยชน์จากรัฐบาล!!!

    เป็นที่รู้กันว่าประเทศจีนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ แต่ว่าในตอนนี้ประเทศมหาอำนาจนี้กลับมีนโยบายสุดแปลกคือให้ปลดสัญลักษณ์ประจำศาสนาออกแล้วให้ติดรูปของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง แทนหากอยากได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการแก้จนของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ชาวคริสต์หลายพันคนในเขตพื้นที่ยากจนทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนได้เปลี่ยนรูปพระเยซู และสัญลักษณ์ประจำศาสนาอย่างไม้กางเขนออก แล้วเป็นภาพวาดของประธานาธิบดีของพวกเขาแทนเพื่อที่จะได้รับความช่วยเหลือของโครงการบรรเทาความยากจน ซึ่งเป็นโครงการของรัฐบาลท้องถิ่นที่พยายามจะเปลี่ยนแปลงให้ผู้ที่ศรัทธาในศาสนามาศรัทธาในรัฐบาลแทน     ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบผอหยาง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ในมณฑลเจียงซี เป็นที่รู้จักกันว่าประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณเหล่านี้ ส่วนมากจะมีฐานะที่ไม่ค่อยดีนักและนับถือศาสนาคริสต์ โดยประชาชนประมาณ 11 เปอร์เซ็นที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว มีรายได้ต่ำกว่ามาตรฐานความยากจนที่รัฐบาลจีนได้จัดทำขึ้นและมีประชากรอีกเกือบ 10 เปอร์เซ็นที่นับถือศาสนาคริสต์ที่นั่นตามข้อมูลจากทางการของประเทศจีน     แต่ว่าในตอนนี้รัฐบาลท้องถิ่นของประเทศจีนได้นำมาตรการบรรเทาความยากจนมาเป็นข้ออ้างให้ ผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์นำรูปภาพของพระเยซูที่อยู่กลางบ้านของพวกเขาออกรวมทั้งให้เลิกเชื่อต่อคำสอนต่างๆ โดยให้ติดรูปของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแทน เพื่อฝึกให้ประชาชนเคารพเชื่อฟังรัฐบาลมากกว่าคำสอนของศาสนา เหมือนกับในสมัยของท่านผู้นำคนก่อนอย่าง เหมาเจ๋อตุง ที่บางบ้านของประเทศจีนในตอนนี้ยังมีรูปของเขาติดอยู่ที่บ้านอยู่เลย     ภายใต้การนำของท่านผู้นำสี ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะกำจัดความยากจนให้หมดไปภายในปี 2020 ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของรัฐบาลในตอนนี้ แคมเปญนี้ไม่เพียงแต่สำคัญต่อมรดกทางด้านการเมืองที่รับช่วงต่อมาจากประธานาธิบดีเหมาเจ๋อตุง แต่ยังทำให้ผู้คนระดับรากหญ้าเชื่อฟังรัฐบาลมากขึ้น ซึ่งนั่นจะทำให้รัฐบาลมั่นคงตามไปด้วยนั่นเอง โดยในเมืองยู่กัง ผู้นำที่ไม่เชื่อในศาสนากำลังต่อสู้กับอิทธิพลของศาสนาคริสต์ซึ่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่บ้านชนบทยากจนและในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองบางเมือง ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิวัติวัฒนธรรมเมื่อ 40 ปีก่อน ในตอนนี้คาดว่ามีคนที่นับถือศาสนาคริสต์ในประเทศจีนแล้วกว่า 90 ล้านคนเลยทีเดียว     ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการนี้ก็คือในตอนนี้มีชาวบ้านกว่า 600 คนที่ “สมัครใจ” กำจัดภาพเขียนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่มีอยู่ในบ้านของพวกเขาออกไปและแทนที่ด้วยภาพของท่านผู้นำสี ซึ่งนี่เป็นตัวเลขจากวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ในตอนนี้โครงการนี้กำลังเดินหน้าต่อไปอย่างเรื่อยๆ ในจังหวัดอื่นๆ  …

  • หญิงสาวขโมยทิปอูเบอร์แล้วถูกจับได้ โดนชาวเน็ตวิจารณ์ยับทั้งๆ ที่เธอคืนเงินไปแล้ว…

    หญิงสาวขโมยทิปอูเบอร์แล้วถูกจับได้ โดนชาวเน็ตวิจารณ์ยับทั้งๆ ที่เธอคืนเงินไปแล้ว…

    เมื่อไม่นานมานี้ได้มีวีดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้ขโมยเงินในกล่องใส่ทิปเงินของคนขับอูเบอร์ และเหตุการครั้งนั้นก็ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2017 ที่ผ่านมา โดยหญิงสาววัย 18 ปีคนหนึ่งชื่อว่า Gabrielle Canales ได้ถูกจับภาพไว้ได้จากกล้องติดหน้ารถขณะที่เธอขโมยเงินทิปของคนขับรถอูเบอร์คนหนึ่งในเมือง New York และต่อมาภาพการขโมยของเธอก็ได้เผยแพร่ออกไปในสื่อออนไลน์ชื่อดังอย่าง Youtube     วิดีโอแสดงให้เห็นถึง Canales ขณะขโมยเงิน   หลังจากวิดีโอนี้ได้เผยแพร่ออกไป เธอก็ต้องรับกระแสสังคมที่ถาโถมเข้ามาหาเธอถึงพฤติกรรมที่ไม่สมควรนี้ แต่ว่ามันไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะว่ามีการขุดค้นไปถึงตัวตนของเธอผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ อย่าง Twitter และ Instagram ในภายหลังเธอก็ได้ออกมาบอกว่าเธอได้คืนเงินทั้งหมดให้แก่เจ้าของแล้วในวันนั้น และเธอก็ได้สำนึกผิดต่อการกระทำในวันนั้นพร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษไปแล้ว   ภาพตอนกำลังขโมยเงินในกล่องทิป   ทว่ากระแสสังคมกลับไปหยุดอยู่แค่นั้น และยังคงโจมตีเธออย่างต่อเนื่องโดยเงินทั้งหมดที่เธอขโมยไปนั้นเป็นเงินประมาณ 5 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 165 บาท) และนั่นได้สร้างความเจ็บปวดให้แก่ชีวิตของเธอเป็นอย่างมาก “มันเป็นพฤติกรรมแบบเด็กๆ ที่น่าละอายสำหรับฉัน แต่ว่าฉันก็ได้สำนึกผิดและได้รับบทเรียนในวันนั้นแล้ว” “ฉันได้คืนเงินไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ว่ากระแสสังคมยังคงกดดันฉันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว” Canales กล่าว   จำนวนเงินที่เธอคืนให้แก่คนขับรถคันนั้น   เธอได้พยายามออกมาแก้ต่างให้แก่ตัวเองโดยอธิบายให้เข้าใจถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แต่เหมือนว่ายิ่งเธอออกมาพูดเท่าไหร่ กลับเหมือนการเติมน้ำมันลงในกองไฟเท่านั้นโดยนอกจากคำด่าทอทั้งหลายแล้วเธอยังได้รับการสาปแช่งต่างๆ รวมทั้งคำพูดจาที่ส่อไปทางล่วงละเมิดเรื่องเพศในรูปภาพต่างๆ…

  • ทริคเล็กน้อยในการใช้งาน ‘Google Maps’ รู้หรือไม่ว่ามันสามารถบันทึกสถานที่ต่างๆ ได้ด้วยนะ

    ทริคเล็กน้อยในการใช้งาน ‘Google Maps’ รู้หรือไม่ว่ามันสามารถบันทึกสถานที่ต่างๆ ได้ด้วยนะ

    การเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่เราไม่เคยไปนั้น แน่นอนว่าต้องมีการหลงทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะว่าเราไม่คุ้นชินกับสถานที่นั้นๆ แต่ว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็ก้าวไปอีกขั้นโดยมีแอพฯ บอกเส้นทางต่างๆ ซึ่งแอพพลิเคชั่นนำทางที่น่าจะมีชื่อเสียงที่สุดก็น่าจะเป็น Google Maps นั่นเอง บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากที่เราจะจดจำชื่อสถานที่ อย่างร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ ร้านนวดต่างๆ ที่เราอยากไปเพราะว่ามันอาจจะมีหลายที่แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้า Google Map นี้สามารถช่วยคุณได้เพียงแค่กดปุ่ม Save เพียงเท่านั้น   นี่เลยตัวช่วยความจำของเราเมื่อบันทึกไว้แล้วก็จะมีดาวขึ้นมาบนแผนที่   ซึ่งวิธีการจะใช้งานก็ไม่ยากเย็นอะไรนักเพียงแค่เปิดแอพฯ Google Maps ขึ้นมาแล้วพิมพ์ชื่อสถานที่ที่อยากจะบันทึกเอาไว้และเมื่อ Maps นี้หาเจอก็กดตรง Tag สีแดงๆ เพื่อให้มันแสดงรายละเอียดขึ้นมาจากนั้นก็กดบันทึกไว้ได้เลย เมื่อกดเซฟแล้ว แผนที่อัจฉริยะอันนี้ก็จะติดดาวบนแผนที่ของเราเพื่อให้เห็นว่ามีสถานที่ที่เราอยากไปและบันทึกไว้มากมายขนาดไหน   เพียงแค่กดดาวเหลืองๆ แค่นี้ก็ไม่ต้องนั่งจำอีกต่อไปแล้ว   นอกจากนี้หากเราตั้งค่า Google Maps ไว้เป็นแอพฯ หลักของโทรศัพท์เราแล้วเวลาที่เราใช้แอพอื่นๆ อย่าง Instagram แล้วคลิกเข้าไปที่ชื่อร้านอาหาร มันก็จะมาปรากฎอยู่บน Google Maps ของเราเพื่อให้เราบันทึกได้ง่ายขึ้นอีกด้วย   ทีนี้ดูรีวิวต่างๆ เราก็สามารถตามไปได้อย่างง่ายดายแล้ว   แหม ใช้มาตั้งนานเพิ่งจะรู้นะเนี่ย…

  • คู่รักเปลี่ยนบ้านที่ซื้อมาในราคาแค่ 43 บาท สภาพเละเทะดูไม่ได้ ให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่

    คู่รักเปลี่ยนบ้านที่ซื้อมาในราคาแค่ 43 บาท สภาพเละเทะดูไม่ได้ ให้กลายเป็นบ้านสุดน่าอยู่

    บ้านคือสถานที่พักพิงสำหรับทุกคนในครอบครัว จึงเป็นสถานที่จำเป็นสำหรับการตกแต่งให้น่าอยู่ซึ่งการที่จะทำบ้านให้สวยงามนั้น เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องเงิน แต่มีครอบครัวหนึ่งที่ซื้อบ้านเก่าราคาเพียงแค่ 1 ปอนด์ (43 บาท) มาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นบ้านที่แสนจะน่าอยู่ได้ราวกับปาฏิหาริย์ Sam และ Rachael Kamau ได้ซื้อบ้านหลังหนึ่งจากทางการของเมือง Liverpool ประเทศอังกฤษมาในราคาเพียงแค่ 1 ปอนด์ ซึ่งบ้านในตอนแรกที่พวกเขาได้มานั้นอยู่ในสภาพที่สุดแสนจะโทรมและไม่สามารถเข้าไปดูข้างในบ้านได้เพราะเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆ   ภาพภายนอกของบ้านก็ดูดีอยู่นะ   ครอบครัว Kamau ได้เช่าบ้านอาศัยอยู่ในเมือง Liverpool มากว่า 16 ปีและได้ตัดสินใจเจียดเงิน 1 ปอนด์เพื่อจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ โดยคุณนาย Kamau ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “เราได้ยินเรื่องบ้านที่มีราคาเพียงปอนด์เดียวและเราก็ช่วยกันคิดว่าทำไมจะไม่ซื้อไว้ล่ะ เพราะพวกเรามีลูกสาว 2 คนที่กำลังเจริญเติบโตซึ่งพวกเขามักจะใช้ห้องนอนแคบๆ ด้วยกัน” “ตอนเรามาเห็นบ้านหลังนี้ มันทำให้เรารู้สึกช็อคหน่อยๆ มันเหมือนมีน้ำตกอยู่ในบ้านเลยเพราะว่าหลังคานั้นมันรั่ว อีกทั้งห้องน้ำก็ไม่มีแม้แต่พื้นปู และหากพูดถึงเรื่องห้องครัวนั้นฉันบอกไว้เลยว่ามันดูไม่จืดจริงๆ “ ดูเหมือนว่าทุกๆ อย่างในบ้านนี้ต้องการการปรับปรุงยกเว้นก็แต่อิฐหน้าบ้านเท่านั้นแหละที่น่าจะพอดูได้…   แต่พอมาดูข้างในบ้านเท่านั้นแหละ…   การปรับปรุงบ้านหลังนี้ซึ่งต้องปรับปรุงแทบจะทุกจุด พวกเขาจึงได้ใช้เงินนับหมื่นปอนด์เพื่อรีโนเวทบ้านให้ออกมาให้สวยดั่งใจฝัน “มันเป็นบ้านที่มีสภาพเลวร้ายที่สุดที่ฉันเคยเห็น ผู้คนส่วนมากมักจะเลือกเดินผ่านบ้านสุดโทรมหลังนี้ไปแต่ว่าพวกเรากลับเห็นสิ่งที่ต่างออกไปจากบ้านเก่าๆ หลังนี้ก็คือหากไม่นับเรื่องสภาพของบ้านแล้ว บ้านหลังนี้ก็มีพื้นที่ให้พวกเรากว้างขวางทีเดียว”  …

  • 17 อุบัติเหตุสุดสยองที่เกิดขึ้นในสวนสนุกทั่วโลก และมันดูเหมือนไม่สนุกเลยซักนิด…

    17 อุบัติเหตุสุดสยองที่เกิดขึ้นในสวนสนุกทั่วโลก และมันดูเหมือนไม่สนุกเลยซักนิด…

    การไปเที่ยวสวนสนุกใครๆ ต่างก็แฮปปี้ดี๊ด๊ากันทั้งนั้นเพราะว่ามันเป็นสถานที่ที่ให้เราสามารถกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งทั้งการส่งเสียงกรี๊ดหรือว่าจะทำตัวหลุดๆ ก็ไม่มีใครว่า แต่รู้หรือไม่ว่าสถานที่แห่งความสุขแบบนี้อาจมีเรื่องราวลี้ลับซ่อนอยู่ก็เป็นได้ นี่คืออุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสวนสนุกทั่วโลกหากใครอยากที่จะไปเที่ยวสวนสนุกเหล่านี้สักครั้งก็ควรรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาเพราะมิฉะนั้นคุณอาจจะเป็นเหยื่อรายต่อไปก็ได้…   1. เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านผีสิงในสวนสนุก Six Flags รัฐฟลอริด้าปี 1984 แต่ผู้เข้าชมทั้งหลายต่างนึกว่าไฟทั้งหลายนั้นเป็นการแสดง เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 8 คนโดยนักดับเพลิงได้บอกเอาไว้ว่า “ผมแยกไม่ออกจริงๆ ว่าอันไหนคืออุปกรณ์ประกอบฉากอันไหนคือคนจริงๆ “   2. รถไฟหลุดออกจากรางท่ี Disneyland California เหตุการณ์รถไฟหลุดออกจากรางนี้เกิดขึ้นในปี 2003 ซึ่งนั่นทำให้ชายคนหนึ่งเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 10 คน   3. สายเคเบิ้ลหลุดออกจากรางรถไฟเหาะตีลังกาและนั่นได้ตัดขาของเด็กชายคนหนึ่งจนแทบจะขาดครึ่ง Kyle Wheeler และพ่อของเขาได้เล่นเครื่องเล่นที่มีชื่อว่า Xcelerator แต่บังเอิญว่าตอนนั้นได้มีสายเคเบิ้ลหลุดออกมาฟันเข้าที่ขาของเขานั้นทำให้เข่าของเขานั้นใช้งานได้ไม่ดีเหมือนก่อน   4. ในปี 1991 มีคนถูกไฟดูดถึง 2 คนที่สวนสนุก King Island ในรัฐ Ohio และอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเสียชีวิตจากการเล่นเครื่องจำลองการบิน ถึงเหตุการณ์ทั้งสองนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกันแต่ว่าก็มีระยะเวลาเกิดที่ไล่เลี่ยกัน โดยเหตุการณ์แรกคือมีคน 2 คนได้ลงไปเล่นบ่อน้ำในสวนสนุกนี้และถูกไฟดูดจากอุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าบางอย่าง ส่วนเหตุการณ์ที่สองคือ มีสาวคนหนึ่งได้เล่นเครื่องจำลองการบินแต่ปรากฏว่าเธอกลับหลุดออกจากที่นั่งของเธอจนตกลงมาเสียชีวิตในที่สุด  …

  • แม่แต่งตัวให้ลูกเป็น “แอนนาเบล” ไปงานฮาโลวีน แต่ลืมว่านัดกับหมอฟันไว้ เลยมาแบบหลอนๆ

    แม่แต่งตัวให้ลูกเป็น “แอนนาเบล” ไปงานฮาโลวีน แต่ลืมว่านัดกับหมอฟันไว้ เลยมาแบบหลอนๆ

    แม้ว่าเทศกาลฮาโลวีนจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังมีภาพเก็บตกความฮาอยู่ เมื่อมีแม่ของหนูน้อยคนหนึ่งได้แต่งตัวให้เขาเป็นแอนนาเบลเพื่อไปงานเทศกาลฮาโลวีน แต่ทั้งคู่ลืมไปว่ามีนัดกับหมอฟัน เลยไปทั้งชุดนั้นเพื่อไม่ให้เลยเวลานัด ซึ่งภาพที่เจ้าหนูสวมชุดแอนนาเบลสุดฮานี้ได้กลายมาเป็นกระแสไวรัลบนโซเชียลเน็ตเวิร์กในเวลาต่อมา   ตุ๊กตาผีทะลุจอออกมาแล้ว!!   แอนนาเบลน้อยที่ไม่เปิดเผยชื่อคนนี้จริงๆ แล้วเขาเป็นเด็กผู้ชายที่แม่ของเขาอยากให้เขาแต่งตัวเป็นแอนนาเบลเพื่อไปงานฮาโลวีนด้วยกัน ซึ่งแม่ของเด็กคนนี้ก็ได้บรรจงแต่งหน้าทาปาก หาวิกผมมาให้เพื่อความสมจริง โดยแม่ของเด็กชายบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กว่าที่จะเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายมาใส่ชุดตุ๊กตาผีนี้ได้ ส่วนสาเหตุที่เธออยากให้ใส่ชุดนี้ก็เพราะว่า อยากจะให้เป็นความทรงจำที่แสนสนุกในชีวิตวัยเด็กของเขานั่นเอง เธอต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมลูกชายกว่า 2 สัปดาห์ก่อนวันฮาโลวีนจะมาถึงเพื่อให้เขาใจอ่อนและยอมใส่ในที่สุด   หมอจะทำอะไรคิดดีๆ นะ   โดยทั้งคู่กำลังจะเดินทางไปงานเทศกาลอยู่แล้ว แต่ทว่าทั้งคู่ก็นึกขึ้นได้ว่ามีนัดกับหมอฟันพวกเขาจึงรีบไปให้ทันเวลานัด โดยที่เจ้าหนุ่มน้อยคนนี้ยังคงใส่ชุดตุ๊กตาผีนี้อยู่ เมื่อไปถึงคลินิกทำฟันที่นัดหมอไว้ ทั้งหมอฟันและพยาบาลต่างก็มองชุดที่เด็กน้อยคนนี้ใส่แล้วก็พากันหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง แต่มีคนเดียวที่ขำไม่ออกนั่นคือเจ้าเด็กหนุ่มคนที่เป็นแอนนาเบลนั่นเอง…   ถึงกับยิ้มไม่ออกนั่งหน้าบึ้งตึงเลยหรอ   และเมื่อภาพต่างๆ ได้ออกสู่สื่อโซเชียล ผู้คนต่างก็พากันขำในความน่ารักของเด็กคนนี้ที่ทำหน้างอตลอดเวลาที่ทำฟัน เพราะว่าอายชุดที่ตัวเองใส่อยู่ในขณะนั้นและก็น่าจะอายหมอด้วย   วิดีโอระหว่างตอนทำฟันของแอนนาเบล แหมคุณแม่นี่ก็เหลือเกิน แกล้งลูกได้ลงคอ ฮ่าๆ ที่มา: en.goodtimes

  • แมวถูกทิ้งตัวหนึ่ง ตอบแทนบุณคุณของผู้อุปการะด้วยการช่วยดูแลสัตว์ตัวอื่นๆ ในฟาร์ม

    แมวถูกทิ้งตัวหนึ่ง ตอบแทนบุณคุณของผู้อุปการะด้วยการช่วยดูแลสัตว์ตัวอื่นๆ ในฟาร์ม

    การรับแมวสักตัวเข้ามาเลี้ยง ใจจริงแล้วเราก็หวังจะให้มันมีความสุขและได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย แต่ว่าดันมีแมวตัวหนึ่งได้ตอบแทนบุญคุณคนที่มาเลี้ยงด้วยการทำตัวเป็นแมวพยาบาลซะเลย Stitch คือชื่อของแมวถูกทิ้งตัวนี้ซึ่งมันจะได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากสมาชิกองค์การ Edgar’s Mission ซึ่งเป็นองค์กรที่รับเลี้ยงดูสัตว์ต่างๆ โดยมีการดูแลสัตว์มากถึง 250 ตัวเลยทีเดียว   สมัยละอ่อน   เจ้า Stitch มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาและยังคงเข้ารับการรักษาอยู่แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันลดความอยากช่วยเหลือสัตว์ตัวอื่นลงไปเลย โดยมันได้สร้างประโยชน์ให้ที่นี่อย่างการเป็นแม่แมวให้แก่ลูกแมวกำพร้าตัวอื่นๆ   โตขึ้นแล้วก็ให้นมแก่ลูกแมวตัวอื่นๆ   Stitch มักจะมีรอยยิ้มให้เสมอ   พวกสัตว์อื่นๆ ต่างก็รักเจ้าแมวตัวนี้   แมวอ้วนทักทายเพื่อนของมันที่ชื่อ Remy ในแล็บช่วยชีวิต   พาเพื่อนๆ ไปเดินเล่นก็ได้   ชอบอยู่กับสัตว์ทุกชนิดเลย   เมื่อสัตว์ต่างๆ เห็นเจ้า Stitch ดูเหมือนว่ามันจะอารมณ์ดีขึ้นมาทันที   ส่งเพื่อนๆ เข้านอน   ความน่ารักสดใสของเจ้า Stitch ที่จะมาขโมยหัวใจของเหล่าทาสแมวไป   ที่มา: iizcat

  • อย่างสวย!! ชุบชีวิตภาพช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อเฉลิมฉลองการยุติสงครามครบ 99 ปี

    อย่างสวย!! ชุบชีวิตภาพช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อเฉลิมฉลองการยุติสงครามครบ 99 ปี

    การประกาศยุติสงครามเหมือนจะเป็นเรื่องที่ชาติต่างๆ ในโลกต่างพากันยินดี เพราะว่าในยุคสงครามนั้นผู้ชายส่วนใหญ่จะถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารสำหรับการสู้รบและนั่นทำให้พวกเขาต้องพลัดพรากจากครอบครัวของพวกเขาไป ด้วยโอกาสอันดีที่สงครามนี้ได้ยุติลงในวันที่ 11 พฤศจิกายนซึ่งในปีนี้ได้ครบรอบ 99 ปี Royston Leonard ชาวอังกฤษวัย 55 ปี จึงได้นำรูปถ่ายต่างๆ ที่เคยเป็นเป็นรูปขาวดำมาชุบชีวิตใหม่ให้เกิดเป็นภาพสีขึ้นเพื่อให้เห็นอิริยาบถต่างๆ ของเหล่าทหารได้ชัดเจนขึ้น โดยในสงครามโลกครั้งที่ 1 นี้มีทหารชาวอังกฤษเสียชีวิตลงถึง 700,000 นาย ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างทหารกว่า 6 ล้านนายในสนามรบซึ่งนับว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของโลกตลอดกาลเลยทีเดียว   เหล่าทหารโศกเศร้าที่เขาต้องเสียเพื่อนร่วมรบไป   เราจะระลึกถึงพวกเขา: กษัตริย์จอร์จที่วางพวงมาลาบนโลงศพของทหารกล้าในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1920   ความรื่นเริงหลังจากประกาศยุติสงคราม ภาพนี้ถ่ายที่ฟิลาเดลเฟียวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918   ภาพแม่ชีวางพวงมาลาบนหลุมศพของทหารกล้าที่เสียชีวิตลงไป   กลุ่มทหารสก็อตแลนด์กำลังมีความสุขที่จะได้ขึ้นรถกลับบ้านกัน   กลุ่มทหารโพสต์ท่าให้ถ่ายรูปขณะกำลังดีใจที่สงครามยุติสักที   ร่องรอยการทำลาย: หลุมระเบิดในเมืองแห่งหนึ่งที่ทำลายอาคารหายไปเลย   คู่รักสูงวัยทักทายกับกองทหารราบที่ 308   ทหารเยอรมันนั่งอยู่บนรถถังคันหนึ่ง   กองกำลังสก็อตเดินขบวนไปพร้อมกับปืนไรเฟิลเดินผ่านกองหญ้าระหว่างรบคลองดูนอร์ด ปี 1918  …

  • นักวิทยาศาสตร์เผย หากเรา “นอนหลับมากเกินไป” จะเกิด 9 ผลเสียเหล่านี้ ต่อร่างกายของเรา…

    นักวิทยาศาสตร์เผย หากเรา “นอนหลับมากเกินไป” จะเกิด 9 ผลเสียเหล่านี้ ต่อร่างกายของเรา…

    ว่ากันว่ากันพักผ่อนที่ดีที่สุดคือการนอนหลับ ซึ่งก็อาจจะจริงตามนั้นเพราะว่าอวัยวะทุกส่วนในร่างกายจะทำงานน้อยลงอีกทั้งเป็นช่วงเวลาที่เรายังได้พักความคิดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าถึงการนอนหลับจะมีประโยชน์ขนาดไหนแต่ถ้านอนเยอะเกินไปก็มีผลเสียต่อร่างกายเช่นกันนะ ซึ่งปกติแล้วสำหรับวัยผู้ใหญ่ควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมงและถ้าหากนอนน้อยเกินไปก็อาจจะทำให้ร่างกายเกิดอ่อนเพลียได้ แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าการนอนเยอะเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้เหมือนกันนะ ซึ่งผลเสียที่ว่านี้จะร้ายแรงขนาดไหนลองไปดูกันเลยดีกว่า   1. คุณมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมากขึ้น   การนอนหลับมากกว่าวันละ 9-10 ชั่วโมงนั้นสามารถทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดมากกว่าคนที่นอนปกติกว่า 38% เลยทีเดียว ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก นอกจากนี้การนอนเยอะอาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือดมากกว่าคนปกติมากถึง 2 เท่า   2. มักจะนอนหลับไม่สนิทนัก   มีทฤษฎีหนึ่งได้บอกไว้ว่าเวลานอนของเราถูกขัดจังหวะ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะโรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ หรืออาจจะเป็นเพราะบรรยากาศในการนอนไม่เหมาะสมเช่นมีแสงสว่างเกินไป หรือว่ามีเสียงรบกวนซึ่งภาวะหลับไม่สนิทอย่างนี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาวเลยล่ะ   3. คุณจะอ้วนได้ง่ายขึ้น   การใช้เวลามากกว่า 9-10 ชั่วโมงบนเตียงนอนทำให้ร่างกายของเราไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เลย นั่นจึงทำให้ร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญแคลอรี่เหมือนกับตอนที่เราตื่น ซึ่งเราอาจจะออกไปทำกิจกรรมนู่นนี่ซึ่งก็เหมือนการออกกำลังกายไปในตัว จากการศึกษาพบว่าคนที่นอนเยอะกว่าปกติมีโอกาสที่จะเป็นโรคอ้วนมากกว่าคนปกติถึง 21% เลยทีเดียว   4. อาจเป็นเบาหวานได้เลยนะ   การนอนหลับที่ยาวนานอาจส่งผลให้เรามีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานได้มากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า เพราะว่าระยะเวลาในการนอนนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดของแต่ละคนนั่นเอง   5. คุณมักจะปวดหัวบ่อยๆ…

  • ใหญ่เกิ๊น!! หนุ่มชาวรัสเซียอยากมีกล้ามใหญ่ทางลัด จึงฉีดสารซินทอลเข้าไปในร่างกายซะเลย

    ใหญ่เกิ๊น!! หนุ่มชาวรัสเซียอยากมีกล้ามใหญ่ทางลัด จึงฉีดสารซินทอลเข้าไปในร่างกายซะเลย

    ตามธรรมชาติของผู้ชายก็อยากที่จะมีกล้ามใหญ่ๆ ไว้เพื่อเสริมลุคให้ตัวเองดูดี หรือปกป้องคนที่เรารักได้ ซึ่งหลายคนก็ใช้เวลาในการสร้างกล้ามเป็นเวลานานผ่านการออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆ ซึ่งการจะมีกล้ามใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่าต้องมีระเบียบวินัยในตัวเองและต้องควบคุมอาหารการกินให้ถูกวิธีด้วย แต่ว่ามีหนุ่มคนหนึ่งที่อยากใช้ทางลัดในการมีกล้ามด้วยการฉีดสารเคมีเข้าไปแขนซะเลย   ของพี่ใหญ่ไหมน้อง   เมื่อไม่นานมานี้ Kirill Tereshin เด็กหนุ่มวัย 21 ปีจากเมือง Pyatigorsk เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศรัสเซียได้แชร์ภาพร่างกายอันแปลกประหลาดของเขาบนสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งเป็นภาพของกล้ามแขนขนาด 24 นิ้วที่ดูเหมือนบวมๆ มากกว่าจะมีกล้าม เพราะว่าความใหญ่ที่ได้มานี้ไม่ได้มาจากการออกกำลังกายในยิม และการกินอาหารที่มีโปรตีนจำนวนมาก แต่ว่าเป็นเพราะการฉีดสารเคมีบางอย่างเข้าไปที่แขน โดยสารเคมีตัวนี้มีชื่อเรียกโดยทั่วไปว่า “ซินทอล”   นึกว่าป็อปอายมาเองเลยนะเนี่ย   เจ้าหนุ่มคนนี้เริ่มต้นฉีดซินทอลเข้าแก่ร่างกายตัวเองหลังจากปลดประจำการทหารเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว จากการฉีดสารเคมีนี้เข้าสู่ร่างกายมันทำให้แขนของเขามีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า 10 นิ้วในเวลาเพียงแค่ 10 วันเท่านั้น จุดเริ่มต้นของเขาคือเขาได้ลองฉีดซินทอลใส่แขนของเขาก่อนประมาณ 250 มิลลิลิตรแต่ปรากฏว่าด้วยสารเคมีเพียงน้อยนิดนั้นทำให้กล้ามแขนของเขาโตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น   ใหญ่แบบแปลกๆ   “ตอนที่ผมฉีดมันเข้าไปในร่างกายมันทำให้ผมเป็นไข้หนักเลยทีเดียว ตอนนั้นไข้ขึ้นสูงถึง 40 องศา ผมต้องนอนเป็นผักอยู่บนเตียง ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังใกล้ตายเข้าไปทุกที แต่หลังจากที่อาการไข้ของผมดีขึ้น ผมก็หายเป็นปกติดีอีกทั้งยังรู้สึกดีกว่าเดิมด้วย”  Tereshin บอก พ่อหนุ่มนักกล้ามคนนี้ยังบอกเพิ่มอีกว่าการฉีดสารเคมีนี้เข้าไปในร่างกายทำให้น้ำหนักตัวของเขาเพิ่มขึ้นจาก 62 กิโลกรัมไปเป็น 68 กิโลกรัมเลยทีเดียว   ใหญ่หรือบวมมากกว่ากัน…

  • รวม 19 ภาพแห่งความลงตัว ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะพอเหมาะพอเจาะอะไรได้ขนาดนั้น

    รวม 19 ภาพแห่งความลงตัว ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะพอเหมาะพอเจาะอะไรได้ขนาดนั้น

    จะเป็นอย่างไรถ้าหากเราได้เจอสิ่งที่เราคิดว่ามันช่างพอดีอะไรขนาดนี้ บางคนอาจจะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมันได้เกิดมาเพื่อคู่กันจริงๆ ซึ่งมันอาจจะให้ความรู้สึกที่ฟินหรือมีความสุขได้อย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ภาพเหล่านี้คือภาพของสิ่งของจะมาพิสูจน์ว่าความลงตัวเนี่ยสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกที่ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกจริงๆ ทั้งสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้นหรือว่ามนุษย์สร้างขึ้นก็ตาม ซึ่งมันจะให้ความรู้สึกดีอย่างที่ว่าไว้หรือไม่ต้องลองไปพิสูจน์กันด้วยตัวเองแล้วล่ะ   แกก็ช่างหากล่องที่มันพอดีได้เนอะ   พี่แกก็ใจกล้าขับเข้ามาได้นะนั่น   ตอนเอาออกนี่จะเจ็บนิ้วหน่อยๆ   ตกลงมันมีกี่เครื่องกันแน่   ใช้ยันแก่ก็ไม่มีวันหมด   อาจจะเป็นที่ซ่อนตัวสำหรับเด็กๆ ก็ได้   เค้าทำมาเพื่อใส่กล่องถุงมือโดยเฉพาะหรือเปล่านะ   เอ๊ะ สายมันหายไปไหนกันนะ   ก็คนมันกลัวหายอ่ะ   อย่าไปเบียดเบียนเค้า   ก็เรานั้นเกิดมาคู่กัน   ช่างกระตุกได้ถูกเวลาจริงๆ   เนียนจนแทบแยกไม่ออก   มันส์ทุกที่ที่มีรู   ถึงจะแตกต่างแต่ก็ไปด้วยกันได้   ระวังตอนเบรคละกันมีอดกินกันบ้าง   เอาไปเจิมวัดไหนมา บอกมาเดี๋ยวนี้   มันก็จะพอดีหน่อยๆ   เกือบได้เรียกประกันแล้วไหมล่ะ   เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างเกิดมาเพื่อกันและกันเลย ว่าไหม…   ที่มา: Postize

  • นักวิทยาศาสตร์ค้นพบกะโหลกมนุษย์อายุกว่า 300,000 ปี เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบกะโหลกมนุษย์อายุกว่า 300,000 ปี เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา

    หากจะว่าด้วยเรื่องต้นกำเนิดของมนุษย์เรานั้น ในปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรและเกิดขึ้นมาตอนไหน แต่ว่าในตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบหลักฐานสำหรับที่มาของมนุษยชาติแล้ว เพราะว่าพวกเขาได้ค้นพบหัวกะโหลกที่มีอายุมากกว่า 300,000 ปี ซึ่งอาจเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของโลกไปเลย Jean-Jacques Hublin และทีมงานของเขาจากสถาบันวิจัย Pax Planck ได้ค้นพบโครงกระดูกอายุกว่า 300,000 ปีซึ่งน่าจะเป็นที่มาของมนุษยชาติซึ่งเหล่าฟอสซิลเหล่านี้น่าจะเป็นโครงกระดูกที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ที่เคยมีการค้นพบเลยก็ว่าได้     ซึ่งที่มาของการค้นพบครั้งนี้เกิดจากเมื่อประมาณเมื่อ 20-30 ปีก่อนคนงานเหมืองแร่ใน Marrakesh ประเทศโมร็อกโกได้สะดุดเข้ากับหัวกะโหลกของมนุษย์เข้า นั่นจึงได้เริ่มการขุดค้นบริเวณนี้ขึ้นเพราะเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้ยังมีโครงกระดูกอื่นๆ อีกมาก จนมาพบเข้ากับซากโครงกระดูกโบราณนี้ในที่สุดโดยในตอนแรกพวกเขาสันนิษฐานกันไว้ว่ากะโหลกมนุษย์ที่ค้นพบนี้มีอายุกว่า 40,000 ปีเลยทีเดียวแต่เมื่อนำไปเทียบกับหลักฐานในยุคต่างๆ ที่เคยมี ปรากฏว่ามันไม่ตรงกับยุคไหนเลยและน่าจะมีความเก่าแก่มากกว่านั้น     นอกจากกะโหลกอันนี้แล้วพวกเขายังพบโครงกระดูกอื่นๆ อีกในบริเวณนี้โดยน่าจะเป็นโครงกระดูกสำหรับคน 5 คนอีกทั้งยังพบมีดที่ทำมาจากหินอยู่ข้างๆ โครงกระดูกและเมื่อนำสิ่งต่างๆ ไปตรวจสอบรังสีแล้วก็พบว่าโครงกระดูกเหล่านี้น่าจะมีอายุกว่า 300,000-350,000 ปีก่อนเลยทีเดียว ในตอนแรก Hublin คิดว่าลักษณะของกะโหลกโบราณต้องมีกระดูกคิ้วที่แข็งแรง รูปร่างกะโหลกค่อนข้างใหญ่และมีใบหน้ามีแบนเรียบ แต่เมื่อมีการค้นพบนี้ขึ้นก็ปรากฏว่ากะโหลกของมนุษย์เมื่อ 3 แสนปีก่อนมีความใกล้เคียงกับมนุษย์ในยุคปัจจุบันเลย Hublin ยังมีความเชื่ออีกว่าประเทศโมร็อกโกนี้ยังมีซากดึกดำบรรพ์ซึ่งอาจเป็นกุญแจในการไขจุดกำเนิดของมนุษย์ ที่รอคอยการค้นพบอีกจำนวนมาก     ที่มา: unilad , businessinsider

  • เซอร์ไพรส์!! หนุ่มจีนหัวใสขอแฟนสาวแต่งงานด้วย iPhone X 25 เครื่องรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

    เซอร์ไพรส์!! หนุ่มจีนหัวใสขอแฟนสาวแต่งงานด้วย iPhone X 25 เครื่องรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

    การขอแต่งงานในสมัยนี้หากขอธรรมดาไปมันก็คงจะไม่ตื่นเต้น ทำให้มีการขอแต่งงานที่แปลกๆ กันออกไป และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งการเซอร์ไพรส์แฟนสาวที่คนทั้งโลกต่างร้อง อู้หูวว เพราะว่าเขาคนนี้ขอแฟนสาวแต่งงานด้วย iPhone X ถึง 25 เครื่อง!! Chen Ming หนุ่มนักออกแบบเกมจากเมือง Shenzhen ประเทศจีน ได้สร้างความอิจฉาตาร้อนให้แก่แฟนๆ สาวก iPhone ทั่วทั้งโลกหลังจากเขาซื้อ iPhone X ที่เพิ่งวางขายเมื่อไม่นานมานี้กว่า 25 เครื่องมาเรียงกันเป็นรูปหัวใจเพื่อเซอร์ไพรส์แฟนสาวของเขาและขอแต่งงาน สำหรับแผนการแต่งงานของเขา Chen ได้สั่งพรีออเดอร์เครื่องเอาไว้ก่อนหน้าและเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของ Apple ก็ได้มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน เขาจึงไปรับเครื่องทั้งหมดมาและนำไปเรียงบนกองกุหลาบขนาดยักษ์เป็นรูปหัวใจโดยมีแหวนแต่งงานวางไว้อยู่ตรงกลาง     แผนการของเขายังไม่จบเพียงเท่านั้นเพื่อความแน่ใจว่าแฟนสาวของเขาจะไม่สงสัย Chen จึงได้เกณฑ์เหล่าบรรดาเพื่อนๆ ของเธอและขอร้องให้พาเธอไปยังจุดนัดพบที่เขาเตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ให้ เมื่อแฟนสาวของเขาที่ชื่อว่า Lee เดินทางมาถึงเธอก็เห็นกองโทรศัพท์หรูวางเอาไว้อยู่หลังจากนั้น Chen ก็ปรากฎตัวออกมาพร้อมกับคุกเข่ายื่นแหวนขอเธอแต่งงานและด้วยบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกเธอจึงไม่ลังเลที่จะตอบว่า “ตกลงค่ะ” หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม Chen ถึงเลือก iPhone X ในการขอแต่งงานเขาก็ได้อธิบายไว้ว่า เขาและแฟนสาวของเขาเป็นสาวกตัวยงของเกมโทรศัพท์มือถือ โดยทั้งสองได้พบกันผ่านเกมที่ Chen ได้เป็นผู้พัฒนาและการเล่นเกมด้วยกันก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็ถามเขาต่อว่าทำไมต้อง…

  • อย่างเจ๋ง!! นักวิทย์เมกันสุดเจ๋ง สร้าง “แผงโซลาร์เซลล์แบบใส” เพื่อการใช้งานหลากหลายกว่าเดิม

    อย่างเจ๋ง!! นักวิทย์เมกันสุดเจ๋ง สร้าง “แผงโซลาร์เซลล์แบบใส” เพื่อการใช้งานหลากหลายกว่าเดิม

    ในปัจจุบันพลังงานต่างๆ ที่มีในโลกเริ่มจะหมดลงไปเรื่อยๆ ทุกวันมนุษย์จึงได้คิดค้นวิธีที่จะหาพลังงานใหม่ๆ เพื่อที่จะมาตอบสนองความต้องการที่มี ซึ่งเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ดูเหมือนจะตอบโจทย์นี้ได้เพราะว่ามันเป็นพลังงานที่ไม่มีวันหมดไป นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Michigan State ได้คิดค้นโมเลกุลโดยเฉพาะสำหรับการสร้างวัสดุคล้ายกับกระจกที่สามารถเก็บพลังงานแสงอาทิตย์โดยเจ้าโมเลกุลที่ว่าเนี่ยจะเก็บคลื่นความร้อนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแต่ว่าก็ยังเป็นวัตถุที่โปร่งแสงนั่นหมายความว่าแสงยังคงผ่านไปได้   หน้าตาของแผงโซลาร์เซลล์แบบใส   ซึ่งมันจะสร้างพลังงานได้โดยการใช้แสงที่มีความยาวคลื่นย่านใกล้อินฟราเรดกับความยาวคลื่นของรังสีอัลตราไวโอเลตมารวมกันโดย Richard Lunt หัวหน้าทีมพัฒนาได้กล่าวเอาไว้ว่า “เราได้วิเคราะห์สิ่งที่มันอาจเป็นไปได้และมันแสดงให้เห็นแล้วว่ามันสามารถเก็บพลังงานที่มองไม่เห็นเอาไว้ได้ ในอนาคตเจ้าอุปกรณ์นี้อาจจะกำเนิดพลังงานไฟฟ้าที่คล้ายคลึงกับแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านในตอนนี้และเรากำลังพัฒนาที่จะให้มันเป็นพลังงานสำหรับโทรศัพท์มือถือ” หากเป็นอย่างนั้นได้จริงในอนาคตเราอาจได้เห็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่มาจากการติดแผ่นโซลาร์เซลล์แบบใสนี้แทนกระจกในปัจจุบัน หรือว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบตเตอรี่เพียงแค่นำแผ่นกระจกนี้ไปติดไว้บนหน้าจอ   ล้ำไหมล่ะจ๊ะ ทุกคน   ทว่าประสิทธิภาพของโซลาร์เซลล์แบบใสอันนี้หากเทียบกับของเก่าที่เป็นแบบทึบนั้นจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่า โดยโซลาร์เซลล์แบบใสอันนี้จะสามารถดูดซับพลังงานได้มากกว่า 5% เพียงเล็กน้อยขณะที่แผงโซลาร์เซลล์แบบทึบจะสามารถดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์ได้ถึง 15-18% เลยทีเดียว แต่ว่าแผงโซลาร์เซลล์แบบใสนี้จะสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายกว่าโซลาร์เซลล์แบบทึบนั่นเอง นอกจากนี้นักวิจัยยังได้คาดการณ์เอาไว้ว่ามีการใช้พื้นที่ที่เป็นกระจกกว่า 7 พันล้านตารางเมตรเฉพาะในประเทศอเมริกาประเทศเดียว หากพื้นที่ทั้งหมดนั้นแทนที่ด้วยแผงโซลาร์เซลล์แบบใสนี้จะสามารถลดการใช้พลังงานอย่างอื่นได้มากโขเลยทีเดียว สำหรับเทคโนโลยีนี้มีแนวโน้มที่จะวางตลาดในราคาที่ไม่แพงนักและหวังที่จะให้แพร่หลายไปยังพื้นผิวที่มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่บางแห่งที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ก่อนหน้านี้เพื่อเป็นช่วยกันรักษาพลังงานอื่นๆ ให้โลกของเรามีใช้ต่อไปนานเท่านาน   ที่มา: greenmatters

  • ลูกแมวน้อยโดนทิ้งหน้าโรงพยาบาลสัตว์ ชอบนั่งในชามข้าวของมันจนเป็นภาพแสนมุ้งมิ้ง

    ลูกแมวน้อยโดนทิ้งหน้าโรงพยาบาลสัตว์ ชอบนั่งในชามข้าวของมันจนเป็นภาพแสนมุ้งมิ้ง

    จะมีอะไรบนโลกนี้ที่น่าสงสารไปกว่าลูกแมวตาดำๆ ที่ไม่มีที่อยู่อาศัยซึ่งความน่ารักน่าหยิกของมันบวกกับความน่าสงสารต่างก็ทำให้มนุษย์ทาสแมวอย่างเราๆ หลงรักได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งใน Westchester, New York ได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างบริเวณพุ่มไม้หน้าโรงพยาบาลและเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบกับลูกแมวตัวนี้เข้าและมีหรือที่จะทอดทิ้งเจ้าขนฟูตัวนี้ได้ลงคอ สำหรับแมวตัวนี้พวกเขามั่นใจว่ามันไม่ได้หลุดออกมาข้างนอกด้วยตัวของมันเองแต่ว่ามีอาจมีใครคนหนึ่งนำมันมาทิ้งไว้มากกว่า เพราะว่ามันดูไร้ร่องรอยการต่อสู้และค่อนข้างจะสะอาดซึ่งถ้ามันอยู่ข้างนอกมาตั้งแต่เกิดแน่นอนว่ามันต้องมีส่วนที่สกปรกอยู่บ้าง   ใครกันนะช่างทิ้งเจ้าขนปุยแสนน่ารักได้ลงคอ   โดยโรงพยาบาลแห่งนี้ก็ได้รับอุปถัมภ์เจ้าขนพองตัวนี้ไว้แล้วให้ที่พักอาศัย ความรัก การดูแลซึ่งเป็นสิ่งที่แมวตัวนี้ต้องการเพื่อการเจริญเติบโตต่อไป ในตลอดระยะเวลาที่เจ้ามิ้วตัวนี้อยู่ในโรงพยาบาลสัตว์มันมักจะคลานขึ้นไปนั่งนอนเล่นอยู่ในถ้วยอาหารซึ่งนานวันเข้ามันก็เปลี่ยนเป็นที่นอนเอาซะเลย แม้ว่าจะมีเตียงนอนนุ่มๆ ผ้าห่มอุ่นๆ ที่เหล่าคนดูแลเตรียมไว้ให้แต่ดูเหมือนว่ามันก็เหมือนจะไม่สนใจและยังคงอยู่ในถ้วยนั้นตลอดเวลา   ดูสายตามันสิ จะแบ๊วไปไหน   ลูกแมวน้อยตัวนี้จะอยู่ในถ้วยอาหารเพื่อรอคอยคนที่จะมารับไปเป็นสัตว์เลี้ยงและให้ความรักแก่มัน แต่เชื่อว่าในตอนนี้มันได้ขโมยหัวใจของชาวเน็ตไปแล้วเป็นร้อยๆ คนอย่างแน่นอน “เจ้าแมวตัวนี้ยังต้องได้รับการฉีดวัคซีนอยู่และพร้อมที่จะให้คนรับไปเลี้ยงดูได้ในเวลาประมาณ 3 สัปดาห์นับตั้งแต่วันนี้” เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลสัตว์กล่าว   ชอบอยู่ในถ้วยอาหารของมันจนเป็นกิจวัตร   เจ้าขนปุยในตอนนี้ดูจะมีความสุขเป็นอย่างมากกับการที่มีอาหารแสนอร่อยให้กิน ความสนใจที่ผู้คนมีต่อมันและที่ขาดไม่ได้เลยคือถ้วยอาหารที่มันชอบจะไปซุกตัวอยู่ภายในนั่นเอง   จะนั่งจะนอนจะกินก็ขออยู่ในนี้แหละ   อย่ามองตาได้ไหมถ้าเธอไม่แคร์   เจ้าแมวตัวนี้ช่างโชคดีจริงๆ ที่มีคนดีๆ ดูแล หวังว่ามันคงจะหาบ้านอยู่ได้ในเร็ววันนี้นะ   ที่มา: lovemeow

  • รวม 17 ภาพความบังเอิญที่อาจทำให้ใครหลายคนตีความผิดไปจากความหมายจริงๆ

    รวม 17 ภาพความบังเอิญที่อาจทำให้ใครหลายคนตีความผิดไปจากความหมายจริงๆ

    ความบังเอิญคือเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิด แต่จะด้วยจังหวะหรือสถานการณ์มันพาไปอาจจะทำให้เกิดความไม่ตั้งใจเหล่านี้กลายเป็นความฮาขึ้นมาได้เหมือนกัน ซึ่งภาพความบังเอิญเหล่านี้อาจทำให้ใครหลายคนถึงกับสงสัยว่า เอ๊ะ มันใช่อย่างนั้นจริงเหรอเป็นภาพตัดต่อหรือเปล่า? แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าภาพเหล่านี้เกิดขึ้นจากความบังเอิญจริงๆ ภาพเหล่านี้อาจจะพอดีจนเราเห็นเป็นรูปอื่นไปได้จนต้องดูถึง 2 ครั้งเลยทีเดียว   คนกับโลมาไปกันไม่รอดหรอกเชื่อเราเถอะ   ดูดีๆ นั่นนกเกาะอยู่นะไม่ใช่หัวที่สอง   กระเป๋าใบใหม่ของผมเท่ไหม   เหมือนคนนับร้อยยืนท่ามกลางคอนเสิร์ต   มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดหรอกนะ   ถามจริงมีใครโฟกัสที่จุดอื่นบ้างไหม   กลิ่นมาดามหอมชื่นจายย   มองดูที่แขนแต่แล้วมึนหัว   ไม่ใช่เสื้อคลุมท้องแค่หมวกเฉยๆ   รอให้ทาร์ซานมาโหนเล่นหรอน่ะ   ข่าวด่วน: พบหมาประหลาดหัวเป็นหมาแต่ร่างกายเป็นคน   อะไรมันจะพอดีขนาดนั้น   เห้ย เห้ย มันจะถึงน้ำไหมเนี่ย   แค่เอานิ้วไปแหย่เชอร์รี่ไม่ได้นิ้วกุดซะหน่อย   นั่นเท้าของเด็กน้อยนะ อย่าคิดลึก   รวมพลัง แปลงร่าง   มันคือภาพของนิ้วมือลูกสาวตัวน้อยจริงๆ นะ   เห็นแต่ละภาพต้องขอบอกว่าเพลียเพราะมันสองแง่สามง่ามจริงๆ   ที่มา: brightside

  • เปิดตัวแอพฯ ใหม่คล้ายกับ Uber แต่ว่าคราวนี้ให้บริการด้วย “เครื่องบินส่วนตัว” แทน

    เปิดตัวแอพฯ ใหม่คล้ายกับ Uber แต่ว่าคราวนี้ให้บริการด้วย “เครื่องบินส่วนตัว” แทน

    เดี๋ยวนี้การเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกสบายเพราะว่ามีแอพพลิเคชั่นที่คอยอำนวยความสะดวกให้อย่าง Grab หรือ Uber ที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะไปที่ไหนและมีการคำนวณให้ด้วยว่าจะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่รู้หรือไม่ว่าเดี๋ยวนี้มีเครื่องบินที่ให้บริการแบบนี้แล้วด้วยนะ! แอพพลิเคชั่นใหม่อันหนึ่งที่เรียกกันว่า Wingly เป็นแอพฯ ที่ให้ผู้โดยสารเลือกเชื่อมต่อกับนักบินส่วนตัวที่จะกำหนดจุดหมายปลายทางร่วมกันในราคาที่ถูกที่สุด ยกตัวอย่างเส้นทางจากเมือง London ประเทศอังกฤษไปยังเมือง Le Touquet ประเทศฝรั่งเศสนั้นมีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 61 ยูโร(2,350 บาท) ส่วนใครที่อยากนอนอาบแดดชิวๆ ก็สามารถไปได้ง่ายๆ เช่นเส้นทางจากเมือง Cannes ประเทศฝรั่งเศสไปยังเกาะ Majorca ในประเทศสเปนนั้นก็มีราคาเบาๆ เพียง 131 ยูโร(5,000) บาทแค่นั้นเอง   เครื่องบินที่ให้บริการในแอพพลิเคชั่น “Wingly”   ส่วนวิธีการทำงานของแอพฯ นี้ก็ง่ายมากๆ คือนักบินจะมาโพสต์ถึงจุดหมายปลายทางพร้อมทั้งที่นั่งที่ยังว่างอยู่พร้อมทั้งตั้งราคาต่อเที่ยว ส่วนลูกค้าเมื่อมาเห็นเส้นทางที่ถูกใจก็จองผ่านทางออนไลน์จากนั้นเพียงแค่มาเตรียมเอกสารและมาแสดงตัวที่สนามบินก็สามารถที่จะออกเดินทางตามเส้นทางที่ต้องการได้เลย   เดินทางจาก Munchen ไปยัง Salzburg มีราคาเพียง 1,800 บาทเท่านั้น   ในตอนนี้มีผู้ใช้บริการ Wingly แล้วมากมายในทวีปยุโรปโดยเส้นทางที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับพวกเขาคือการเดินทางจากเมือง Linz ประเทศออสเตรียไปยัง Mali Lošinj ประเทศโครเอเชีย ส่วนสาเหตุที่นักบินส่วนใหญ่หันมาบินเครื่องบินประเภทนี้มากขึ้นส่วนใหญ่จะบอกว่า “เพื่อแบ่งปันความสนุกในการบิน” และพวกนักบินยังได้สนุกกับเส้นทางที่พวกเขามักจะไม่ได้บินบ่อยๆ ด้วย ซึ่งเครื่องบินส่วนใหญ่ที่ให้บริการในแอพฯ Wingly นี้จะเป็นเครื่องบินแบบ…

  • เต็มไปหมดเลย!! สาวญี่ปุ่นฉลองวัน “นมแห่งชาติ” ด้วยการโพสต์ภาพตรงคอนเซ็ปต์ในโซเชียลต่างๆ

    เต็มไปหมดเลย!! สาวญี่ปุ่นฉลองวัน “นมแห่งชาติ” ด้วยการโพสต์ภาพตรงคอนเซ็ปต์ในโซเชียลต่างๆ

    ในประเทศญี่ปุ่นจะมีวันประจำชาติวันหนึ่งที่ผู้ชายทั้งประเทศ ไม่ดีกว่าเอาเป็นว่าผู้ชายทั้งโลกต่างรอคอยวันนี้เพราะว่านี่คือวันที่พวกเขาใฝ่หามานานเพราะว่ามันคือ วันนมแห่งชาติ นั่นเอง!! ซึ่งที่มาของวันนมแห่งชาตินี้มีที่มาจากวันที่ 8 พฤศจิกายนที่อาจใช้ตัวเลขเขียนแทนเดือนเหล่านี้ได้อย่าง 11-8 หรืออีกแบบหนึ่งคือ 11-08 ซึ่งในภาษาญี่ปุ่นเลข 1 จะออกเสียงว่า “i” และเลข 8 จะออกเสียงว่า “ppai” และก็มีการดัดแปลงตัวอักษรอีกเล็กน้อยจากเลข 0 เป็นตัว “o” ซึ่งหากนำตัวอักษรต่างๆ มารวมกันก็จะได้เป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “ii oppai” ที่แปลว่านมสวยนั่นเองด้วยเหตุนี้เหล่าเน็ตไอดอลรวมถึงดารานักร้องและบรรดาคอสเพลย์ทั้งหลายจึงได้ออกมาเฉลิมฉลองวันแห่งชาตินี้ ด้วยการอวดนมกันผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ งานนี้บอกได้เลยว่ากำไรของผู้ชมอย่างแท้จริง   เปิดหัวมาด้วยคนนี้เลยละกัน @jun_amaki   มีมุมต่ำแล้วก็มีมุมสูงบ้าง   แหม เธอคนนี้ฉลองถึง 2 เซตเลยทีเดียว   นางฟ้าชัดๆ    Erina Kamiya นักร้องชื่อดังก็เอากับเขาด้วยติดตามกันได้ที่ @kamiya__erina   สีไหนก็สวยน่ารัก   Saki Yanase สาวผู้มีข่าวว่านมของเธอเหมือนตัวโปเกม่อนตัวหนึ่งเมื่อคราวก่อน @saki_yanase   วันที่ 8 พฤศจิกายนจะเป็นวันที่ยุ่งมากสำหรับเหล่าคอสเพลย์ที่จะหาชุดเพื่ออวดทรวดทรง @moe_five…

  • ส่องสไตล์การแต่งตัวในวันวานของ ‘เฉินหลง’ ที่เฟี้ยวมาตั้งแต่รุ่นพ่อเป็นหนุ่ม

    ส่องสไตล์การแต่งตัวในวันวานของ ‘เฉินหลง’ ที่เฟี้ยวมาตั้งแต่รุ่นพ่อเป็นหนุ่ม

    เชื่อได้ว่ามีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักนักแสดงนักแสดงคิวบู๊สุดเก๋าอย่างเฉินหลง หรือในวงการฮอลลีวู้ดเรียกเขาว่า Jackie Chan แต่ว่ามีเพียงไม่กี่คนที่อาจจะเคยเห็นเฉินหลงในตอนหนุ่มๆ ว่าเขามีหน้าตาที่หล่อเหลาและแต่งตัวได้เท่ขนาดไหน สำหรับเฉินหลงนั้นเริ่มเข้าวงการการแสดงตั้งแต่ปี 1978 จากภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาที่มีชื่อเรื่องว่า Snake in The Eagle’s Shadow (ไอ้หนุ่มพันมือ) ซึ่งหนังเรื่องนี้เหมือนเป็นการแจ้งเกิดของเขาให้เป็นคนดังในชั่วข้ามคืน จากนั้นเขาก็ได้แสดงเรื่อง Drunken Master (ไอ้หนุ่มหมัดเมา) ที่โด่งดังเป็นพลุแตกไปทั่วทั้งเอเชีย ด้วยความที่เขาได้มีโอกาสเข้าวงการตั้งแต่หนุ่มๆ เขาจึงมีภาพแต่งกายชุดต่างๆ มากมายซึ่งมีทั้งชุดที่แบบหล่อ เท่สมาร์ท หรือจะเป็นชุดแบบตลกๆ ฮาๆ ที่เขามักจะชอบใส่ หากใครอยากแต่งตัวแบบพี่แกก็สามารถเลียนแบบได้ตามสบายเลยจ้า   เก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ   จะชอบสายหล่อหรือสายฮาพี่แกจะจับมายำรวมกันให้ได้   ชุดเท่นะแต่ถ้าสังเกตดีๆ เหมือนหัวเข่าของพี่แกจะแปลกหน่อยๆ   แต่งอย่างนี้ก็เหมือนผู้หญิงเหมือนกันนะ   แกทำอะไรของแก   ใส่สูทยังเอาฮาได้อยู่   ในสมัยนั้นแกอาจเป็นผู้นำเทรนด์ก็ได้นะ   เซ็กซี่ไหมล่ะจ๊ะ   สายแบ๊วก็มีน่ารักมากไหมเนี่ยเฮีย   ใส่ขาม้าก็ดูดีไปอีกแบบ   เรียบร้อยจนเหมือนไม่ใช่เฉินหลง   แกได้ประดับยศจากการไปทำอะไรมาเนี่ย   ขอพื้นที่ให้เฮียแจ้งเกิดหน่อย   ต้องยอมพี่แกสมัยหนุ่มๆ จริงแต่งแนวไหนก็ฆ่าไม่ลงเลย ฮ่าๆ…

  • โครงการดีๆ ของ BBC รีโนเวทหมู่บ้านร้าง แล้วมอบให้แก่ทหารผ่านศึกที่พิการจากการไปรบ

    โครงการดีๆ ของ BBC รีโนเวทหมู่บ้านร้าง แล้วมอบให้แก่ทหารผ่านศึกที่พิการจากการไปรบ

    เมื่อยามมีศึกสงครามเหล่าทหารทั้งหลายก็มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องบ้านเมือง แต่แน่นอนว่าสงครามย่อมมีการสูญเสียอยู่แล้ว บางคนอาจเสียชีวิตในสงคราม บางคนอาจจะพิการไปตลอดชีวิต ด้วยความซาบซึ้งในความเสียสละของพวกเขาจึงมีคนที่อยากจะตอบแทนเหล่าทหารกล้าเหล่านี้ด้วยการทำอะไรให้ซักอย่าง ด้วยเหตุผลนี้ทาง BBC จึงได้คิดค้นโครงการหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า DIY SOS ซึ่งเป็นโครงการการกุศลที่ตั้งใจจะรีโนเวทหมู่บ้านร้างให้กลายเป็นที่อยู่สำหรับทหารผ่านศึกที่พิกลพิการทั้งหลาย โดยโครงการนี้จะถ่ายทอดออกโทรทัศน์ด้วยทางช่อง BBC1 ในคืนวันที่ 9 พฤศจิกายนเวลา 03.00 น. ตามเวลาบ้านเรา ผู้ดำเนินโครงการนี้ Nick Knowles และทีมงานของเขาตั้งใจที่จะรีโนเวทบ้านร้างบริเวณถนน Canada ย่าน Miles Platting เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษซึ่งย่านนี้เป็นย่านเก่าแก่ของเหล่าคนงานโรงงานทั้งหลายให้กลายเป็นบ้านของเหล่าทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บมาจากสงคราม   บ้านในย่านถนน Canada   “ประชาชนทั่วไปแนะนำให้เราสร้างที่พักสำหรับเหล่าทหารกล้าในเขตทหารเก่า แต่ว่ามันสำหรับผมอยากที่จะสร้างบนถนนที่มีพลเรือนทั่วไปปะปนอยู่ด้วย” “มันคงจะรู้สึกดีเป็นอย่างมากถ้าหากเราได้นั่งจิบน้ำชากับคนที่รู้ว่าเราผ่านอะไรมาบ้างแต่ในทางกลับกัน มันก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกันที่เราจะเดินข้ามถนนไปคุยเรื่องฟุตบอลหรือตกปลากับคนที่ไม่ใช่ทหารบ้าง มิฉะนั้นคุณก็จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องทหาร” Knowles ผู้ดำเนินรายการกล่าว   บ้านของเหล่าทหารกล้าที่ปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว   โดยโครงการนี้สภาเมืองแมนเชสเตอร์ สมาคมต่างๆ องค์กรการกุศล ผู้รับเหมาและอาสาสมัครต่างก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่พวกเขาได้ให้เงินสำหรับปรับปรุงบ้านจำนวน 4.6 ล้านดอลล่าร์(ประมาณ 152 ล้านบาท) และยังมีเจ้าชายวิลเลี่ยมและเจ้าชายแฮรี่ก็ได้บริจาคเงินสมทบอีกด้วย บ้านที่ว่างเปล่าในถนนนี้จะถูกรีโนเวททั้งหมดและจะต่อเติมเพื่อความจำเป็นของผู้อยู่อาศัยอย่างเช่นผู้การขา เป็นต้นส่วนบ้านที่มีทหารเข้าอยู่แล้วก็จะได้รับการพัฒนาให้ดีกว่าเดิม ในตอนนี้ถนน Canada ดูแตกต่างไปจากเดิมโดยมีบ้านสีขาวสะอาดตา สวนขนาดย่อมและแปลงดอกไม้เล็กๆ ช่วยให้พื้นที่นี้ดูมีสีสันขึ้นมาทันตา   เจ้าชาย…

  • เด็กๆ กว่า 90 คนร่วมกันสร้าง ‘สถานีอวกาศร้าง’ กลางป่าให้ที่ให้อารมณ์แบบเหมือนจริงสุดๆ

    เด็กๆ กว่า 90 คนร่วมกันสร้าง ‘สถานีอวกาศร้าง’ กลางป่าให้ที่ให้อารมณ์แบบเหมือนจริงสุดๆ

    จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดมีเด็กเกือบ 100 คนมาเข้าค่ายพร้อมกันหลายคนอาจจะคิดว่ามันคงจะวุ่นวายน่าดูและน่าจะเป็นปัญหาสำหรับผู้ดูแล แต่ไม่ใช่สำหรับค่ายนี้ที่สอนให้เด็กๆ สร้างสรรค์งานต่างๆ ซึ่งครั้งนี้พวกเขาได้สร้างสถานีอวกาศที่ถูกทิ้งร้างขึ้นมาในป่าใหญ่ โดยเด็กกลุ่มนี้มีชื่อว่า Beam Camp เป็นค่ายที่จะรวบรวมเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 10-18 ปีมาฝึกการทำงานฝีมือโดยครั้งนี้พวกเขาได้สร้างสถานที่ที่ชื่อว่า Salvage Station No. 8 ขึ้นในป่าแห่งหนึ่งของรัฐ New Hampshire ประเทศอเมริกาโดยพวกเขาใช้เวลาทำทั้งหมดเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น พวกเด็กๆ จะได้เรียนรู้งานไม้ งานศิลปะ ระบบไฟฟ้าต่างๆ งานปั้น และอื่นๆ อีกมากเพื่อให้เด็กทั้งหลายใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในค่ายแห่งนี้     สำหรับโปรเจกต์ Salvage Station No. 8 นี้เป็นสถานที่ที่เหมือนกับสถานีอวกาศที่ถูกทิ้งร้างไว้กลางป่า โดยพวกเด็กๆ ได้สร้างของตกแต่งเจ๋งๆ มากมายเช่น บอร์ดแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบย้อนยุค ซากสัตว์ประหลาดต่างๆ กล่องจดหมายแบบวินเทจ เป็นต้น ค่าย Beam Camp เป็นส่วนหนึ่งของ Beam Center องค์กรไม่หวังผลประโยชน์แห่งกรุงนิวยอร์คที่อุทิศให้แก่การพัฒนาและเรียนรู้ของเด็กๆ ที่จะให้เจ้าตัวน้อยเหล่านี้ได้เรียนรู้งานฝีมือต่างๆ การทำงานเป็นทีมจนออกมาเป็นผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันในที่สุด   ผลงานอันน่าประทับใจของเด็กๆ   เป็นไงเหมือนสถานีอวกาศจริงๆ ใช่ไหมล่ะ   มีชุดดับเพลิงเตรียมพร้อมไว้ด้วย   ใส่ความย้อนยุคเข้าไปนิดหน่อย…

  • ยิ่งกว่า 3310!! กล้อง Go Pro ตกลงไปในลาวาแต่ภาพข้างในยังอยู่ครบแถมใช้งานต่อได้ด้วย

    ยิ่งกว่า 3310!! กล้อง Go Pro ตกลงไปในลาวาแต่ภาพข้างในยังอยู่ครบแถมใช้งานต่อได้ด้วย

    ใครๆ ก็ต่างรู้กันดีว่าลาวาที่ออกมาจากภูเขาไฟนั้นมีความร้อนแรงขนาดไหน หากมีสิ่งใดที่ตกลงไปก็ไม่น่าจะมีเศษซากเหลือให้เราเห็นแล้ว แต่ว่ามีกล้องตัวหนึ่งที่ถูกลาวาหลอมแต่ก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่ กล้องที่ว่านี้คือกล้อง GoPro ของชายที่ชื่อว่า Erik Storm ไกด์นำทางและเจ้าของเว็บไซต์ kilaueaecoguides ซึ่งเป็นเว็บไซต์นำเที่ยวภูเขาไฟในเกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน เขาได้นำนักท่องเที่ยวไปยังภูเขาไฟแห่งหนึ่งและเขาได้ตั้งเจ้ากล้อง GoPro ตัวนี้ไว้ตามซอกหินต่างๆ เพื่อที่จะถ่ายภาพลาวาไหล แต่กล้องตัวหนึ่งดันร่วงไปขวางทางไหลลาวาซะอย่างงั้น     “ผมจะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในตอนที่ลาวาเหลวๆ กำลังห้อมล้อมและขยับเข้ามาใกล้กล้องของผมขึ้นทุกทีมีส่วนหนึ่งของกล้องเกิดไฟลุกขึ้นเมื่อผมเห็นอย่างนั้นผมจึงรีบนำค้อนตวัดมันขึ้นมา ในตอนที่ผมเห็นไฟลุกผมก็ทำใจไว้แล้วแหละว่ามันต้องพังแน่นอน” Storm เจ้าของกล้องสุดทนนี้เล่าให้ฟัง แต่เมื่อเขากลับมาที่บ้านก็พบว่าไฟแสดงการเปิดสัญญาณ Wi-Fi บนกล้องยังคงทำงานอยู่นั่นทำให้เขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง     Storm จึงแกะการ์ดความจำที่อยู่ในกล้องนี้เปิดดูก็ปรากฏว่าเป็นวิดีโอที่มีรายละเอียดอยู่อย่างครบถ้วน ซึ่งวีดีโอนี้แสดงให้เห็นถึงตอนที่ลาวากำลังไหลผ่านและเผาไหม้ตัวกล้อง     “กล้องของผมยังคงทำงานได้อยู่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีเหมือนเก่า แต่แค่นี้มันก็น่าเหลือเชื่อแล้วที่มันยังเอาชีวิตรอดมาได้” Storm กล่าวปิดท้ายไว้อย่างอารมณ์ดี   ดูสภาพกล้องซะก่อน   หลังกล้องยังคงไม่ถูกทำลาย   ไม่น่าเชื่อว่ามันจะสามารถเอาไปใช้ต่อได้   เห็นสีแล้วนึกว่าเนื้อย่าง   นับได้ว่าเป็นกล้องที่ทนที่สุดที่เคยเห็นเลยนะเนี่ย   ที่มา: petapixel

  • 8 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ‘ความเครียด’ กำลังเล่นงานคุณเข้าให้แล้วมาลองชมวิธีการแก้กัน

    8 สัญญาณที่บ่งบอกว่า ‘ความเครียด’ กำลังเล่นงานคุณเข้าให้แล้วมาลองชมวิธีการแก้กัน

    คนเราตามธรรมชาติก็จะมีหลากหลายอารมณ์ทั้ง ดีใจ เศร้า ตื้นตันใจ แต่รู้ไหมว่ามีอยู่อารมณ์หนึ่งที่อาจทำร้ายสุขภาพของเราให้ล้มหมอนนอนเสื่อเอาได้ง่ายๆ อารมณ์นั้นก็คืออารมณ์เครียดนั่นเอง ความเครียดเกิดจากการที่เราคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นเวลานานซึ่งความวิตกกังวลนี้อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ขึ้นตามร่างกายและพาไปสู่ความเจ็บป่วยในที่สุด มาลองดูกันดีกว่าว่าอาการจากความเครียดจะเป็นอย่างไรและมีทางแก้อย่างไรบ้าง   เริ่มมีตุ่มต่างๆ หรือลมพิษขึ้นตามร่างกาย   หากคุณพบตุ่มแดงๆ ขึ้นตามร่างกายนั่นหมายความว่าโรคเครียดกำลังจะเล่นงานคุณแล้วเพราะว่าโลกเครียดจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำลงทำให้มีจุดแดงๆ ซึ่งหากปล่อยไว้จะทำให้เกิดลมพิษขึ้นอีกทั้งยังทำให้ผิวระคายเคืองต่อสิ่งที่ไม่เคยแพ้มาก่อนอย่าง สบู่ อากาศหนาว โลชั่น หรือผงซักฟอก วิธีการแก้: นำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นหมาดๆ ประคบไว้ในที่ที่มีตุ่มขึ้น แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นควรกินยาแก้แพ้   น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ   ความเครียดจะไปกระตุ้นการปลดปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งฮอร์โมนที่ว่านี้จะไปบั่นทอนความสามารถของร่างกายในการลดระดับน้ำตาลในเลือดและเปลี่ยนแปลงวิธีการเผาผลาญไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตนั่นจึงให้น้ำหนักเกิดโยโย่นั่นเอง วิธีการแก้: พยายามกินถั่วให้มากขึ้นเพราะว่า โปรตีนจากถั่วสามารถช่วยได้หากคุณกินอาหารน้อยเกินไปและยังมีไฟเบอร์ที่สามารถช่วยได้หากคุณไม่มีเวลาว่างสำหรับกินอาหารมื้อใหญ่   คุณมักจะปวดหัวบ่อยๆ   หากคุณไม่เคยทรมานจากการปวดหัวมาก่อน แต่อยู่ๆ คุณก็รู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดนั่นหมายความว่าความเครียดกำลังจะเล่นงานคุณแล้ว โดยความเครียดจะไปปลดปล่อยสารเคมีบางอย่างในสมองซึ่งสารชนิดนั้นอาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเส้นประสาทแหละเส้นเลือดในสมองจะในที่สุดอาจจะทำให้เกิดโรค “ไมเกรน” ได้ วิธีการแก้: หากไม่ต้องการกินยาแก้ปวดลองทาน้ำมันลาเวนเดอร์หรือน้ำมันเปปเปอร์มินต์บริเวณขมับเมื่อเริ่มปวดหัว   คุณมักจะปวดท้องบ่อยๆ   ความเครียดอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบทางเดินอาหารได้มากกว่าหนึ่งโรค โดยมันสามารถทำให้ร่างกายผลิตกรดย่อยอาหารมากขึ้นนำไปสู่อาการเสียดท้อง อีกทั้งความเครียดสามารถชะลอการย่อยอาหารที่กระเพาะอาหารซึ่งเป็นสาเหตุของก๊าซและท้องอืดและทำให้เกิดการเกร็งตัวที่ลำไส้ใหญ่ได่อีกด้วย วิธีการแก้: ใช้ยาแก้ท้องเฟ้อหรืออาจจะลองดื่มน้ำขิงก็สามารถช่วยได้  …

  • 11 มารยาททางวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณต้องร้องโอ้โห มันขนาดนี้เลยรึนี่!?

    11 มารยาททางวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณต้องร้องโอ้โห มันขนาดนี้เลยรึนี่!?

    ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานนั่นจึงทำให้วัฒนธรรมบางอย่างในประเทศนั้นออกจะแตกต่างไปจากชาติอื่นบ้างนิดหน่อยอย่างเรื่องอาหารการกิน ชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวัน วิถีในการใช้ชีวิตรวมถึงมารยาทต่างๆ ซึ่งมารยาทบางอย่างในประเทศญี่ปุ่นก็อาจทำให้เรางงว่าแบบนี้ก็มีด้วยหรอ หากช่วงนี้ใครมีแพลนที่อยากไปญี่ปุ่นลองศึกษามารยาทโดยทั่วไปของญี่ปุ่นแบบนี้กันดูนะไปบ้านเมืองเขาจะได้ทำตัวได้ถูก ฮ่าๆ   1. การเรียกชื่อคนต่างๆ   การเรียกชื่อคนในประเทศญี่ปุ่นจะมีวิธีการเรียกที่ไม่เหมือนชาวตะวันตกที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็เรียกเพียงแต่ชื่อเฉยๆ โดยที่นี่จะมีคำต่อท้ายคล้ายๆ กับของบ้านเราโดยจะมีคำต่างๆ อย่างนี้ “-kun” ใช้สำหรับเรียกเพื่อนๆ “-chan” คำนี้เป็นคำที่อ่อนโยนสำหรับใช้เรียกเด็กๆ สมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิง คู่รัก รวมถึงเพื่อนสนิท “-sama” ใช้สำหรับการเรียกผู้ที่เราให้ความเคารพอย่าง ขุนนางต่างๆ แต่ในทุกวันนี้บางครั้งก็ใช้ในการเสียดสี “-senpai” ใช้สำหรับเรียกรุ่นพี่ “-kōhai” ใช้เรียกคนที่รุ่นน้อง “-sensei” ใช้เรียกแทนสำหรับ คุณครู หมอ นักวิทยาศาสตร์ นักการเมืองหรือผู้มีอำนาจ “-shi” สำหรับการเขียนที่เป็นทางการ   2. การแลกเปลี่ยนนามบัตร   การแลกเปลี่ยนนามบัตรจะมีกฎง่ายๆ ดังนี้ -ยื่นด้านหน้าของนามบัตรให้เท่านั้น -ใช้สองมือในตอนที่ยื่น -ถ้าตำแหน่งของคุณน้อยกว่าคนที่จะรับ คุณต้องยื่นนามบัตรให้ต่ำกว่าคนๆ นั้น -ถ้าคุณได้รับนามบัตรต้องรีบนำมันใส่ในกระเป๋าใส่นามบัตรและใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อจ้องดูมัน -อย่าลืมคำนับ -ถ้าคุณไม่มีกระเป๋าใส่นามบัตร นั่นคือหายนะของคุณเพราะมีเยอะมากก   3. กฎการใช้ลิฟท์ต่างๆ  …

  • “เรียนกฎหมายอังกฤษซะบ้าง” คู่รักบริติชกินอาหารไทยแล้วไม่ยอมจ่ายเงินพร้อมพูดจาเหยียดหยาม

    “เรียนกฎหมายอังกฤษซะบ้าง” คู่รักบริติชกินอาหารไทยแล้วไม่ยอมจ่ายเงินพร้อมพูดจาเหยียดหยาม

    กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งให้บริการอาหารแก่ลูกค้าซึ่งลูกค้าก็กินจนหมดแต่กลับมาบอกว่าอาหารไม่ดีและด่าทอพนักงานจนแทบน้ำตาร่วง คุณกิติมา แม้นเหมือนจันทร์ เจ้าของร้านอาหารชื่อว่า Bangkok Canteen ในเมือง Gloucester ได้เล่าให้ฟังว่ามีคู่รักคู่หนึ่งวัยประมาณ 30 ปีได้เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารแห่งนี้เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ในคืนวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าพวกเขาได้ต่อว่าพนักงานทั้งคืนพร้อมทั้งหนีไปก่อนที่จะจ่ายเงินค่าอาหารจำนวน 68.50 ปอนด์ (2,976 บาท)   สภาพจานอาหารที่คู่รักคู่นี้กินจนเกลี้ยงจริงๆ   “ผู้หญิงคนนั้นได้ดูถูกฉันต่างๆ นานาและบอกว่าฉันควรกลับไปที่ที่ฉันจากมาแล้วเรียนกฎหมายของประเทศอังกฤษซะ” “เธอคนนั้นหยาบคายเอามากๆ โดยเธอได้ดูถูกพนักงานเสิร์ฟของฉันสองคนโดยบอกว่า “ถึงจะได้รับเพียงค่าแรงขั้นต่ำแต่ก็ควรรู้กฎหมายในประเทศอังกฤษนะ” แม้ว่าพนักงานเสิร์ฟทั้งสองคนจะเป็นคนอังกฤษก็ตาม” “นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกช็อคอย่างมาก พนักงานของเราเกือบจะร้องไห้อยู่แล้วเพราะว่าพวกเธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต” คุณกิติมา เล่าให้ฟัง   ร้านอาหาร Bangkok Canteen   โดยคู่รักที่ว่านี้ได้สั่งทอดมันปลาเพื่อเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยและกินมันจนหมดเกลี้ยงทุกอย่าง แต่ว่าหลังจากกินจนหมดพวกเขากลับต่อว่าคุณกิติมาและไม่ยินยอมที่จะจ่ายค่าอาหารโดยให้เหตุผลไว้ว่าทอดมันปลานั้น “เหนียวเกินไป” “ฉันบอกว่าฉันไม่สามารถคืนเงินให้ได้เพราะว่าพวกคุณไม่แจ้งให้รู้ตั้งแต่กินชิ้นแรก ซึ่งฉันรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง” “ผู้หญิงคนนั้นก็บอกเราว่าควรจะยอมรับคำวิจารณ์บ้าง แต่ฉันคิดว่าต้องมีความยุติธรรมกับเราบ้างเพราะว่าพวกเขากินอาหารทั้งหมดเข้าไปแล้วทั้งจาน ไม่เหลือไว้แม้กระทั่งผักประดับจานเลย” “โดยปกติแล้วหากอาหารผิดปกติ พวกเรายินดีที่จะเปลี่ยนจานหรือคืนเงินให้แต่ว่านี่พวกเขากินทั้งหมดเข้าไปแล้ว คุณไม่สามารถคืนกล่องช็อกโกแลตเปล่าคืนให้แก่ซุปเปอร์มาเก็ตใช่ไหมล่ะ” “มีลูกค้าจำนวนมากเมื่อคืนวันนั้นและทุกคนที่รับประทานอาหารก็ดูมีความสุขดี” เจ้าของร้านกล่าวเสริม   ร้านอาหาร Bangkok ได้รับรางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยมเมื่อเดือนที่แล้ว…

  • ประมวลภาพเทศกาล ‘การล่าวาฬ’ ประจำปีในหมู่เกาะแฟโร ที่อาจไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน

    ประมวลภาพเทศกาล ‘การล่าวาฬ’ ประจำปีในหมู่เกาะแฟโร ที่อาจไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อน

    *คอนเทนท์นี้อาจมีเนื้อหารุนแรง   มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกของเราเมื่อน้ำทะเลเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีแดงด้วยเลือดของปลาทั้งหลายที่ถูกฆ่าจากน้ำมือของมนุษย์อย่างเราๆ ปลาโลมาและวาฬจำนวนมากถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมบริเวณหมู่เกาะแฟโร ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาเหล่านี้ได้นี้ถูกถ่ายออกมาโดยกลุ่มอนุรักษ์กลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า Sea Shepherd Global      ปลาเหล่านี้ถูกฆ่าตายทุกปีเนื่องในเทศกาลที่ชาวแฟโรเรียกว่า grindadráp หรือเทศกาลล่าวาฬซึ่งจะมีขึ้นในช่วงฤดูร้อน โดยพวกเขาจะใช้หอกที่ทำขึ้นโดยเฉพาะล่าวาฬในว่ายมาใกล้ๆ กับหาด รัฐบาลของหมู่เกาะแฟโรออกมาเปิดเผยในปีนี้มีปลาตายในเทศกาลนี้รวมแล้วกว่า 1,700 ตัว โดยตัวแทนของรัฐบาลบอกว่าเทศกาลนี้ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อแสวงหาผลกำไรแต่ว่าทำขึ้นเพื่อควบคุมประชากรของปลาโลมาและวาฬ สำหรับเนื้อปลาที่ได้มาก็จะนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชนของหมู่เกาะเพื่อใช้เป็นอาหารเนื่องจากหมู่เกาะแฟโรมีสภาพอากาศที่ไม่เหมาะกับการปลูกพืชใดๆ   ภาพเทศกาลล่าวาฬแห่งหมูเกาะแฟโร . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   ที่มา: dailymail

  • หญิงสาวต่อสู้กับโรคมะเร็งร้าย ได้รับกำลังใจรวมทั้งความช่วยเหลือจาก ‘เมียใหม่ของผัวเก่า’

    หญิงสาวต่อสู้กับโรคมะเร็งร้าย ได้รับกำลังใจรวมทั้งความช่วยเหลือจาก ‘เมียใหม่ของผัวเก่า’

    ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคต่างๆ นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้วสิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องการก็คือกำลังใจเพราะว่าหากใจไม่สู้แล้วร่างกายก็คงจะแย่ตามไปด้วย ซึ่งกำลังใจสามารถหาได้จากคนในครอบครัวหรืออาจจะเป็นเพื่อนๆ คนสนิทแต่คงไม่มีใครเหมือนเธอคนนี้ที่ป่วยเป็นมะเร็งแต่ได้กำลังใจรวมทั้งความช่วยเหลือบางส่วนจากภรรยาใหม่ของสามีเก่าของเธอเอง Nicola Hitchen คุณแม่ลูกสองจากเมือง Chester สหราชอาณาจักรได้ป่วยด้วยโรคบางอย่างในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาและต่อมาเธอก็ได้รับการการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งมดลูกขั้นที่ 2     เหมือนว่าข่าวร้ายนั้นได้บั่นทอนกำลังใจของเธอเป็นอย่างมากในระยะเวลาเพียง 7 สัปดาห์หลังจากที่ต้องเข้ารับการดูแลอย่างใกล้ชิด มะเร็งก็ลุมลามไปไวจนถึงขั้นที่ 4 นั่นคือจุดที่หมอที่รักษาบอกกับ Niki ว่าเธอไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้อีกแล้ว เพราะว่ามะเร็งลุกลามอย่างรวดเร็ว และเธออาจมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกแค่สองหรือสามเดือนเท่านั้น     แต่ว่าคุณแม่ลูกสองนี้ก็ยังไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรม เธอได้ออกเดินทางไปยัง Northumberland และยังเดินทางไปที่ Istanbul ประเทศตุรกรีเพื่อหาวิธีที่จะรักษามะเร็งนี้ หลักจากที่ใช้เงินไปกว่า £80,000 (ประมาณ 3 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษามะเร็งขั้น 4 นี้ โดยเนื้อร้ายที่มดลูกของเธอก็เกือบจะหายไปทั้งหมด     ถึงแม้ว่าการรักษาของเธอจะเป็นไปด้วยดี แต่ว่าการเดินทางไปตุรกีแต่ละครั้งต้องใช้เงินมากกว่า 10,000 ปอนด์ (เกือบ 4 แสนบาท) นั่นทำให้เธอสูญเสียเงินทั้งหมดที่มีไป และปัญหาเรื่องเงินนี้ก็ทำให้เธอไม่สามารถเข้ารับการรักษานี้ได้อีก แต่ก็มีใครคนหนึ่งที่เธอไม่เคยนึกถึงยื่นมือเข้ามาช่วย โดยคนๆ นั้นคือ ภรรยาใหม่ของสามีเก่าเธอที่มีชื่อว่า Clare Hitchen     Clare ได้จัดตั้งแคมเปญเพื่อช่วยระดมทุนในการหาเงินมารักษาโรคมะเร็งให้แก่…

  • หนุ่ม Ashton Kutcher ดาราผู้ช่วยเหลือเด็กๆ จากขบวนการค้ามนุษย์มากกว่า 6,000 คนแล้ว!!

    หนุ่ม Ashton Kutcher ดาราผู้ช่วยเหลือเด็กๆ จากขบวนการค้ามนุษย์มากกว่า 6,000 คนแล้ว!!

    หากจะพูดถึงชายที่อาจเป็นชายในฝันของสาวๆ หลายคน ชื่อของ Ashton Kutcher ดาราหนุ่มฮอลลีวู้ดอาจจะเข้าติดโผได้อย่างไม่ยากนัก แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากความหล่อของเขาคนนี้แล้วเขายังเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรการต่อต้านขบวนการค้ามนุษย์อีกด้วย โดยเขาเป็นผู้ก่อตั้งกองทุนที่มีชื่อว่า Thorn: Digital Defenders of Children ร่วมกับ Demi Moore ภรรยาเก่าของเขาโดยโครงการ Thorn นี้เป็นโครงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ซอฟแวร์ขึ้นเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์รวมถึงการช่วยระบุตัวผู้ร้ายให้กับตำรวจได้อีกด้วย     โดยเขาได้กล่าวไว้ในงานประชุมซอฟแวร์ที่เมือง San Francisco เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมาเกี่ยวกับองค์กรนี้ด้วย “มีรูปภาพเด็กๆ ถูกทารุณกรรมเป็นล้านๆ รูปที่ถูกส่งต่อกันในแต่ละวันโดยพวกเขามักใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการทำเงิน” “เราได้ช่วยเด็กที่ตกเป็นเหยื่อการทารุณกรรมแล้วกว่า 6,000 คนและยังช่วยผู้ใหญ่ได้อีกกว่า 12,000 คนอีกทั้งยังจับกุมผู้กระทำผิดได้อีกกว่า 6,000 คน” “คำถามเดียวที่เรามักถามพวกเราเองก็คือ เราทำดีพอหรือยัง” “ผมยังยืนยันในคำพูดที่ชัดเจนในเป้าหมายของผม คำถามคือ แล้วคุณล่ะ” Kutcher กล่าว     นอกจากนี้ระหว่างที่เขาพูดเขายังอธิบายถึงงานวิจัยในโครงการนี้ที่เขาทำ รวมทั้งกองทุนอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะช่วยให้สำนักกฎหมายต่างๆ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอื่นๆ แก้ไขปัญหานี้ได้อีกด้วย “ส่วนหนึ่งในงานต่อต้านการค้ามนุษย์ที่ผมทำ ผมเคยเจอเหยื่อทั้งในประเทศรัสเซีย อินเดีย เม็กซิโก และอเมริกา โดยผมได้บุกไปพร้อมกับหน่วย…

  • หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อโดนน้ำกรดสาด ได้พบรักแท้กับชายที่เจอตอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

    หญิงสาวผู้ตกเป็นเหยื่อโดนน้ำกรดสาด ได้พบรักแท้กับชายที่เจอตอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล

    ขึ้นชื่อว่ารักแท้แล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่างๆ หรือว่ามีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร รักก็ยังคงเป็นความรักที่บริสุทธิ์อยู่ดีเหมือนกับสาวคนนี้ที่แม้จะถูกพิษน้ำกรดทำร้ายเธอ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เจอคู่ชีวิตของเธอที่รักเธอด้วยใจจริง Pramodini Roul หรือชื่อที่บ้านเธอเรียกเธอว่า Rani สาวอินเดียซึ่งมีอายุเพียง 15 ปีในขณะที่เธอถูกทหารรักษาการณ์คนหนึ่งขี่จักรยานยนต์แล้วสาดน้ำกรดใส่เธอเพราะว่าเธอปฏิเสธการขอแต่งงานของเขา ซึ่งการถูกทำร้ายในครั้งนั้นได้ทำให้เธอเสียโฉมและการมองเห็นไป     ในช่วงหลายปีตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น Rani ต้องเข้าออกโรงพยาบาลนับครั้งไม่ถ้วนเพราะว่าเธอต้องเข้าการผ่าตัดรวมทั้งการรักษาปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เธอต้องทนทุกข์ทรมาน นี่เองจึงทำให้เธอได้กับ Saroj Kumar Sahoo ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนกับพยาบาลของเธอและกำลังจะเป็นคู่ชีวิตในอนาคต     Rani ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือนอยู่ในห้อง ICU ทันทีหลังจากเกิดเหตุและหลังจากนั้นเธอก็ต้องใช้เวลาถึง 4 ปีรักษาตัวจากบาดแผลเรื้อรังที่บ้านของเธอใน Odisha ทางตะวันออกของประเทศอินเดียซึ่งมีแม่ของเธอดูแลเพียงลำพัง หลังจากเผชิญความเจ็บปวดเกือบนับสิบปีผ่านการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งมาแล้วกว่า 5 ครั้งรวมถึงการผ่าตัดเพื่อทำให้ดวงตาข้างซ้ายของเธอกลับมามองเห็นอีกครั้งและยังต้องต่อสู้กับภาวะของโรคซึมเศร้าในตอนนี้ Rani บอกว่าเธอได้พบเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่อีกครั้งนั่นก็คือ Soroj Kumar Sahoo นั่นเอง     โดยทั้งคู่ได้พบรักกันในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งและได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาหนึ่งปีในเมือง New Delhi  ” Saroj ปฏิบัติกับฉันราวกับฉันเป็นเจ้าหญิง เขารักฉันในสิ่งที่ฉันเป็นและยังให้กำลังใจฉันให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข” “ตอนนี้เขาเป็นส่วนหนึ่งของฉันไปแล้ว ฉันอาจจะไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ได้จนถึงตอนนี้หากว่าไม่มีเขาในชีวิต” Rani กล่าว…

  • รู้จัก 4 รูปแบบของ Autopilot บนเครื่องบิน มันมีการทำงานยังไง บินเองได้เลยเหรอ!?

    รู้จัก 4 รูปแบบของ Autopilot บนเครื่องบิน มันมีการทำงานยังไง บินเองได้เลยเหรอ!?

    สิ่งหนึ่งที่ใครหลายคนสงสัยมาตลอดคือ ในตอนเวลาที่ขึ้นเครื่องบินคือในห้องนักบินมันหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะว่าส่วนนี้ได้ปกปิดเป็นความลับตลอดซึ่งนั่นก็ทำให้เราอยากรู้เข้าไปอีกว่าพวกเขาพากันบินได้อย่างไรกันนะ และหนึ่งระบบที่หลายคนอยากรู้ว่ามันทำงานยังไง ก็คือระบบการบินแบบ Autopilot หรือ นักบินอัตโนมัติ ที่หลายๆ คนเคยได้ยินแต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับมันว่ามันมีหน้าตาเป็นยังไงและมีวิธีการทำงานอย่างไรกันนะ เพื่อคลายข้อสงสัยของใครหลายคน #เหมียวฝึกหัดหมายเลข17 จึงขออาสาพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกันดีกว่าซึ่งใครอยากรู้ตามมาได้เลย     จริงๆ แล้วระบบนักบินอัตโนมัตินี้เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถภาพสูงและมีรูปแบบการทำงานคล้ายๆ กับระบบ GPS ซึ่งสิ่งนี้สามารถช่วยนักบินให้บินไปยังจุดหมายที่ต้องการได้ โดยทั่วๆ ไปแล้วระบบนี้ในเครื่องบินแต่ละลำจะมีความแตกต่างกันออกไปแต่โดยรวมแล้วก็จะมี 4 ระบบ Autopilot ก็จะมีระบบหลักๆ ดังนี้   Heading Hold  เป็นระบบที่นักบินจะตั้งค่าทิศทางที่ต้องการจะให้เครื่องบินเดินทางไปแต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเป็นระบบการบินอัตโนมัติแต่ก็จำเป็นที่นักบินจะต้องตั้งค่าต่างๆ อย่างแรงลม หรือการเปลี่ยนทิศทางการบิน   Heading and Navigation ระบบนี้เป็นระบบการนำทางเหมือนกับ GPS ที่สมมุติว่าเราใส่ว่าเราต้องการเดินทางจากกรุงปารีสไปยังกรุงลอนดอน เจ้าระบบนี้ก็จะหาเส้นทางที่ดีที่สุดให้กับนักบิน แต่กระนั้นนักบินก็ต้องคอยดูแลความถูกต้องอีกทีหนึ่ง     Altitude Hold ระบบนี้คือระบบควบคุมความสูงของตัวเครื่องบินซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมเครื่องบินแต่ละลำตามที่นักบินกำหนดไว้ แต่ว่ามีเครื่องบินบางลำที่มีฟังก์ชั่นที่ดีกว่านั้นโดยมันสามารถไต่ระดับความสูงหรือลดลงได้เองตามความเหมาะสม เผื่อโอกาสที่เจอหลุมอากาศจะได้สามารถหลบได้นั่นเอง   Instrument Approaches ระบบสุดท้ายนี้เป็นระบบการลงจอดที่จะคำนวณค่าต่างๆ โดยสำเร็จรูปที่จะใช้เฉพาะตอนที่นักบินนำเครื่องบินขึ้นหรือว่าลงจอดเท่านั้น     ทั้งหมดนี้คือระบบหลักๆ…

  • รวม 15 การออกแบบที่สามารถช่วยให้โลกเราง่ายขึ้นเยอะ ทำไมคิดไม่ถึง ไม่งั้นรวยเป็นล้านแล้ว

    รวม 15 การออกแบบที่สามารถช่วยให้โลกเราง่ายขึ้นเยอะ ทำไมคิดไม่ถึง ไม่งั้นรวยเป็นล้านแล้ว

    ชีวิตประจำวันของเราแทบจะทุกคนล้วนแล้วก็แต่ต้องพึ่งพาการใช้สิ่งของอำนวยความสะดวกต่างๆ แต่ในบางครั้ง การออกแบบที่ผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถทำให้เรามีอารมณ์หงุดหงิดขึ้นมาได้เหมือนกัน นั่นจึงทำให้เหล่าอัจฉริยะที่มีความคิดสุดเฉียบได้สร้างอุปกรณ์มาคอยแก้ปัญหาการใช้สิ่งของในชีวิตประจำวันของเราให้ง่ายมากขึ้น ซึ่งบางทีเราก็แอบคิดว่าทำไมเรื่องง่ายๆ อย่างนี้เราถึงคิดไม่ถึงกันนะ   เอาปุ่มกดลิฟท์มาไว้หน้าประตูซะเลยจะได้ไม่เสียเวลา   ปุ่มกดในร้านอาหารที่สามารถเรียกเด็กเสิร์ฟหรือจ่ายเงินได้   อยากให้ทิปแต่ไม่มีเงินสดก็ไม่ใช่ปัญหา   กล่องที่มีที่สำหรับเก็บซอสต่างๆ โดยเฉพาะ จะได้จิ้มได้อย่างสะดวก   เผื่อมีใครลืมว่าตัวไหนจะซื้อตัวไหนยังลังเลอยู่   คิดเผื่อเลยจะได้ไม่ตกใจตอนคิดตัง   มิติใหม่แห่งการเข็นลูก   กดน้ำกินแล้วกระเด็นหกหมดเสียดายแย่   แก้วดีไซน์เท่ๆ สำหรับชงชาโดยเฉพาะ เพราะว่ามันมีที่สำหรับพักถุงชานั่นเอง   เผื่อเด็กๆ ที่กดน้ำไม่ถึงรวมทั้งคนตัวเตี้ยด้วย   มีกระดาษแถมมาให้ซะเลยจะได้ห่อทิ้งง่ายๆ   โครตไอเดีย มีงี้จะได้ไม่ต้องพึ่งพาปลั๊กพ่วงอีกต่อไป   ประหยัดทั้งที่ ประหยัดทั้งน้ำ เพราะใช้น้ำจากการล้างมือไว้กดส้วมอีกที   ขึ้นอย่างหงส์ ลงอย่างมันส์   เผื่อใครใส่ส้นสูงไปเหยียบดินหรือหญ้าจะได้ไม่จมลงไป   ไอศกรีมไวน์ ชื่นใจพร้อมความเมาไปตามๆ กันเลยทีเดียว   แหม ฉลาดล้ำโลกจริงๆ สำหรับคนที่ิคิดได้เนี่ย…

  • จริงดิ!! รู้หรือไม่ว่าการฟังเพลงคริสต์มาสซ้ำๆ สามารถส่งผลเสียต่อจิตใจเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    จริงดิ!! รู้หรือไม่ว่าการฟังเพลงคริสต์มาสซ้ำๆ สามารถส่งผลเสียต่อจิตใจเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ในช่วงใกล้เข้าปีใหม่ก็จะมีเทศกาลที่น่าสนุกและตื่นตาตื่นใจอยู่เทศกาลหนึ่งนั่นก็คือ คริสต์มาส ซึ่งเมื่อใกล้ถึงเทศกาลนี้ ในทุกๆ ที่จะประดับตกแต่งไปด้วยกล่องของขวัญ รวมถึงต้นสนพร้อมไฟสีต่างๆ อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในเทศกาลนี้ก็คือเพลงคริสต์มาสที่จะมาคอยบรรเลงให้เรามีอารมณ์ร่วมกับบรรยากาศที่แท้จริง แต่รู้หรือไม่ว่าการฟังเพลงคริสต์มาสวนลูปไปเรื่อยๆ กลับสร้างผลเสียต่อจิตใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ     นักจิตวิทยา Linda Blair ได้อธิบายว่าการฟังเพลงวันคริสต์มาสที่เราฟังๆ กันอยู่ทุกปี สามารถสร้างผลกระทบต่อสภาพจิตใจในขณะนั้นได้ โดยสำรวจจากพนักงานในร้านค้าต่างๆ ที่จำเป็นต้องฟังเพลงเหล่านี้ตลอด 2 เดือน “พนักงานที่ต้องทำงานอยู่ในร้านค้าที่เปิดเพลงคริสต์มาสตลอดทั้งช่วงเทศกาล ส่วนใหญ่จะไม่มีสมาธิในการทำงานเพราะว่าพวกเขาจะใช้สมาธิทั้งหมดไปกับการหลบเลี่ยงสิ่งที่เปิดกรอกหูพวกเขาอยู่ในตอนนั้น” Linda กล่าว     นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า นอกจากเพลงในเทศกาลคริสต์มาสแล้ว เพลงเทศกาลอื่นๆ ที่เราเคยได้ยินทุกปีอย่างเทศกาลฮาโลวีนก็สามารถสร้างผลกระทบต่อจิตใจได้ในแบบเดียวกัน     แต่ในทางกลับกันการเปิดเพลงในเทศกาลที่แสนมีความสุขนี้กลับทำให้นักชอปปิงที่เดินเลือกของอยู่นั้นมีอารมณ์ที่อยากจะซื้อของเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ จากการศึกษาในอดีตของเธอบอกเอาไว้ว่า การเปิดเพลงเทศกาลคริสต์มาสในร้านซื้อของต่างๆ บวกกับการสร้างกลิ่นที่เข้ากับบรรยากาศจะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลและทำให้การซื้อนั้นเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น     สำหรับเทศกาล Christmas หรือ X’Mas จะตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายประสูติของพระเยซู ศาสดาแห่งศาสนาคริสต์ ดังนั้นในประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์จึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างมาก   เอ้า ใกล้เข้ามาแล้วเตรียมซ้อมร้องเพลงกันได้เลยละกัน   ที่มา: providr

  • พ่อบ้าน Reynolds ใจกล้า!! เอาภาพเมียตอนถ่ายหนังมาโพสต์ แถมแคปชั่นสุดลั่น แบบนี้ไม่น่ารอด

    พ่อบ้าน Reynolds ใจกล้า!! เอาภาพเมียตอนถ่ายหนังมาโพสต์ แถมแคปชั่นสุดลั่น แบบนี้ไม่น่ารอด

    หลายคนคงรู้จักคู่รักสุดฮาแห่งวงการฮอลลีวู้ดอย่าง Ryan Reynolds กับ Blake Lively ที่ทั้งคู่มักจะแกล้งกันแรงๆ ออกสื่อในโซเชียลมีเดียให้เราได้ขำตามๆ กันไปเสมอ คราวนี้ Reynolds ก็ได้เปิดศึกใหม่กับเมียของเขา โดยการเอารูปจากกองถ่ายหนังเรื่องหนึ่งที่เธอต้องรับบทเป็นผู้หญิงโทรมๆ มาโพสต์ลงในโซเชียล ซึ่งมารอดูกันดีกว่าว่าเมียของเขาจะแก้แค้นเขาอย่างไรต่อไป แต่ว่าก่อนจะไปดูภาพล่าสุดจากฝีมือ Reynolds นั้นเรามาดูวีรกรรมของทั้งคู่กันดีกว่าว่าพวกเขาเคยแกล้งอะไรกันมาบ้าง     Ryan Reynolds โพสต์ภาพสุขสันต์วันเกิดแก่เมียของเขา ในวันเกิดของ Lively ก็เป็นธรรมดาที่สามีจะอวยพรวันเกิดให้แก่ภรรยาสุดที่รักของเขา แต่ดูรูปที่เขาทำสิ ตัดออกไปซะครึ่งหน้าขนาดนี้แทบจำไม่ได้ว่าเป็นใครเลยทีเดียว     มีหรือจะยอม?? Lively แก้แค้นวันเกิดคืนบ้าง และเมื่อถึงวันเกิดของ Reynolds มีหรือที่ภรรยาสุดกวนของเขาจะไม่เอาคืนโดยคราวนี้เธอได้เขียนแคปชั่นภาพเอาไว้ว่า “สุขสันต์วันเกิดนะที่รัก” แต่ว่าภาพที่อวยพรวันเกิดกลับเป็นภาพของ Ryan Gosling โดยมี Reynolds เจ้าของวันเกิดติดมาเพียงแค่เสี้ยวหน้าเท่านั้น   จัดหนักต่อเนื่อง Lively บอกถึงคนที่เป็นแรงบันดาลใจในชีวิต   ถึงรูปถ่ายที่ออกมาหลายคนอาจจะนึกว่าเป็น Reynolds ที่เป็นคนที่มีอิทธิพลที่สุดในชีวิตของ Lively จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้นแต่กลับเป็น John Legend นักร้องคนโปรดของเธอต่างหาก แต่ว่าภาพที่ออกมาเธอตั้งใจจะถ่าย John แต่ว่า…

  • ตำนานของ ‘ไลก้า’ จากหมาข้างถนนในรัสเซีย บินสู่ห้วงอวกาศและไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกเลย…

    ตำนานของ ‘ไลก้า’ จากหมาข้างถนนในรัสเซีย บินสู่ห้วงอวกาศและไม่มีโอกาสได้กลับมาอีกเลย…

    ชีวิตของหมาข้างถนนจริงๆ นั้นน่าสงสารจับใจเพราะนอกจากจะไม่เป็นที่ต้องการของใครแล้วชีวิตความเป็นอยู่ของมันยังอยู่บนโลกใบนี้อย่างอเนจอนาถต้องอดมื้อกินมื้อ แต่มีหมาข้างถนนตัวหนึ่งที่ได้รับโอกาสที่อาจจะเป็นความฝันของคนหลายคนนั่นก็คือการได้ออกไปนอกโลกนั่นเอง เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนปี 1957 เจ้าหมาเพศเมียตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Laika ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลกของเราเพราะมันคือสิ่งมีชีวิตแรกที่ออกไปโคจรรอบโลก แม้ว่าก่อนหน้านี้สหภาพโซเวียตจะเคยปล่อยหมาจำนวนมากขึ้นสู่อวกาศนอกโลกแต่ที่เจ้าหมาตัวนี้ได้รับการจดจำมากกว่าตัวอื่นนั่นเพราะว่ามันเป็นหมาตัวแรกที่สามารถขึ้นไปสู่วงโคจรต่ำของโลกได้     นักวิทยาศาสตร์ของสหภาพโซเวียตในขณะนั้นเลือกเจ้า Laika เพราะว่ามันมีคุณสมบัติเหมาะสมกับการเป็นหมาอวกาศตามที่นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งเอาไว้ โดยเฉพาะมันมีความเป็นนักสู้มากพอที่จะเอาชีวิตรอดในท้องถนนของกรุงมอสโกในขณะนั้น อีกทั้งความน่ารักของมันอีกด้วย โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งกฎไว้ว่าต้องเลือกหมาที่เป็นตัวเมียเท่านั้นเพราะว่ามันมีอารมณ์ที่หลากหลายมากกว่าหมาตัวผู้ รวมทั้งการออกแบบชุดสำหรับหมาตัวเมียจะง่ายกว่าหมาตัวผู้เพราะว่าหมาตัวผู้นั้นมีองคชาตินั่นเอง ในวันที่ออกเดินทางเจ้าหมา Laika ได้สวมชุดนักบินอวกาศเต็มยศและได้ออกเดินทางโดยยานอวกาศ Sputnik 2 ซึ่งนั่นได้สร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมที่รอเจ้าหมาตัวนี้อยู่ให้กับคนรักสัตว์ชาวอเมริกันจำนวนมาก     Dwight D. Eisenhower ประธานาธิบดีคนที่ 34 ของอเมริกาได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้เลยทีเดียว “เป็นเรื่องที่แปลกและน่าสงสารเจ้าหมาน้อยตัวนั้นจริงๆ ความคิดของคนส่วนใหญ่ไม่พอใจที่ส่งเจ้าหมาตัวนี้ขึ้นไปบนอวกาศเพราะนั่นเหมือนส่งมันไปตายเลย อีกทั้งยังไม่ชอบที่โซเวียตได้สร้างโฆษณาชวนเชื่อว่าเจ้าหมาตัวนี้ตายอย่างสบาย ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่อย่างนั้น” ดูเหมือนว่าในวาระสุดท้ายของเจ้า Laika จะไม่ได้ตายอย่างสงบจริงๆ เหมือนกับที่รัฐบาลโซเวียตประกาศไว้ เพราะว่าในปี 2002 หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับยาน Sputnik 2 ได้ออกมาเปิดเผยว่าเจ้า Laika ตายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ปล่อยยานขึ้นสู่อวกาศ โดยสาเหตุที่มันตายคือมันได้รับความร้อนสูงเกินไป     สำหรับยานอวกาศ Sputnik 2 ที่เจ้า…

  • ชาวเน็ตร่วมแชร์ประสบการณ์สุดเฟลจากการสั่งของจากอินเตอร์เน็ต บอกตรงๆ ว่าไม่ตรงปกเอาซะเลย

    ชาวเน็ตร่วมแชร์ประสบการณ์สุดเฟลจากการสั่งของจากอินเตอร์เน็ต บอกตรงๆ ว่าไม่ตรงปกเอาซะเลย

    หากเราอยากจะได้เสื้อผ้าสักชุดแต่ดันขี้เกียจออกไปข้างนอกคุณจะทำอย่างไร การซื้อของออนไลน์ดูจะเป็นการตอบโจทย์ปัญหานี้ได้แต่ปัญหามันก็อยู่ตรงที่เราไม่สามารถลองใส่ก่อนที่จะเสียตังได้ ปัญหานี้เหมือนจะเป็นปัญหาโลกแตกที่ยังแก้กันไม่ได้ทั่วโลกเหมือนกับภาพเหล่านี้ที่ได้แชร์ลงในโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้ง Facebook Twitter Instagram และอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่าหากซื้อของผ่านเน็ตนั้นก็ต้องมีความใจกล้าเสี่ยงหน่อยๆ เพราะว่าเรามีโอกาสจะได้เสื้อผ้าที่ไม่เข้ากับตัวเองหรืออาจจะผิดพลาดเหมือนกับบุคคลต่อไปนี้   ไม่รู้ว่าผิดที่ชุดหรือคนกันแน่งานนี้   ในรูปที่มีนางแบบใส่สวยสุดๆ แต่เมื่อเราซื้อมาแล้วปรากฏว่า…   อารมณ์แบบว่าคุณหลอกดาวมากๆ เลย   บอกได้คำเดียวว่า “ไม่ตรงปก”   ดูผ่านๆ นึกว่าเอาผ้าม่านมาสวมนะเนี่ย   ความแฟ่บนี้มันอะไรก๊านนน??   รู้สึกการวางตำแหน่งมันจะแปลกหน่อยๆ นะ   อันนี้ไม่น่าจะผิดที่ชุดแล้วนะจ๊ะ   ทำไมดูแล้วมันเหมือนถุงดำที่ไว้ใส่ขยะจังเลย   พิมพ์ชื่อไฟล์มาขนาดนี้จะรีบอะไรขนาดนั้น   นี่ 2 XL หรือ S เนี่ยนึกว่าเอาเสื้อหลานมาใส่   เหมือนจะมีอะไรแปลกๆ บนข้อความที่พิมพ์นะ   อย่ามีความสุข เอ้อจะซื้อดีไหมหว่าา   ตกลงจะเมกันหรืออังกฤษกันแน่เอาดีๆ   เห็นอย่างนี้แล้วจะซื้ออะไรก็ดูดีๆ นะเดี๋ยวจะหาว่าเหมียวไม่เตือน   ที่มา: dailymail

  • Андрей Тюрин  เทพโฟโตช็อปรัสเซียวัย 18 ปี ตัดต่อรูปตัวเองสร้างผลงานเหนือจินตนาการ

    Андрей Тюрин เทพโฟโตช็อปรัสเซียวัย 18 ปี ตัดต่อรูปตัวเองสร้างผลงานเหนือจินตนาการ

    หลายคนคงรู้จักโปรแกรม Photoshop ที่เอาไว้ตัดต่อแต่งรูปภาพทั้งหลายซึ่งมีคนจำนวนมากที่สามารถก็ใช้โปรแกรมตัวนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว รวมถึงเขาคนนี้ที่ใช้โปรแกรมนี้ตัดต่อภาพจนมีผู้ติดตามชมผลงานของเขากว่าแสนๆ คน Андрей Тюрин (Andrey Tyurin) เด็กหนุ่มชาวรัสเซียวัย 18 ปีที่ชื่นชอบการถ่ายภาพรวมทั้งตัดต่อ เขาได้ใช้ความชอบบวกกับพรสวรรค์รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ของเขาสร้างผลงานที่ออกแนวดาร์ค โดยเอาตัวเองเป็นแบบในการถ่ายภาพ ซึ่งในตอนนี้มีผู้ติดตามที่ชื่นชอบผลงานของเขาใน Instagram แล้วกว่า 140,000 คนหากใครอยากดูผลงานเพิ่มเติมของเขาก็เข้าไปส่องกันได้ที่นี่เลย darkflawless     . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . เห็นแต่ละภาพแล้วก็ทึ่งในความคิดของเขาจริงๆ ว่าเขาคิดออกมาได้ไง ว่าแล้วก็ขอตัวไปหัดแต่งรูปบ้างนะ   ที่มา: darkflawless

  • 20 ภาพการเซอร์ไพรส์ผู้โดยสารแบบเจ๋งๆ  ของเหล่าคนขับ Uber ในหลากหลายประเทศ

    20 ภาพการเซอร์ไพรส์ผู้โดยสารแบบเจ๋งๆ ของเหล่าคนขับ Uber ในหลากหลายประเทศ

    การเดินทางไปไหนในทุกวันนี้เป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเพราะนอกจากระบบขนส่งสาธารณะแล้วยังมีสิ่งที่เรียกว่า Uber ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ให้เราเรียกรถจากที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่ารถ Uber แต่ละคันนั้นจะมีอะไรอยู่ข้างในรถบ้างซึ่งบางคนอาจเคยเจอของใช้ส่วนตัวของคนขับแต่นั่นก็ดูธรรมดาๆ ใช่ไหมล่ะถ้าอยากเจอประสบการณ์ Uber แบบแปลกใหม่คุณมาถูกทางแล้วเพราะในวันนี้เราได้รวมภาพของคนขับ Uber ที่ทำอะไรฮาๆ มาให้ชมซึ่งจะทำให้คุณหัวเราะจนปวดท้องเลยทีเดียวจะจริงไหมไปชม…   เยอะกว่ากระเป๋าโดเรม่อนก็ต้องคันนี้แหละ   เมื่อลืมโทรศัพท์ไว้บนรถ Uber แล้ววันต่อมาเขาเอามาคืนพร้อมรูปแปลกๆ ในโทรศัพท์..   อาจจะเป็น Uber ที่เฉียบที่สุดในเมืองก็ว่าได้   เมื่อคนขับ Uber ให้หลานมาแต่งรถในวันฮาโลวีน   นี่จะพาไปส่งหรือพาไปฆ่ากันแน่ฮะ   นั่งไปถึงขั้วโลกเหนือเลยได้ไหม อย่างนี้มีเพลิน   พี่ๆ พี่ใส่สูตรรถลอยน้ำมาหรอหลงไกลเกิ๊นน   รักน้ำ รักปลา รักหมาด้วยนะครับ   โอ้โห ถ้ารวยอย่างนี้ไม่ต้องมาขับ Uber ให้เสียเวลาหรอกพี่   เอาไปเลย 10 คะแนนเต็มครบเครื่องดีจริงๆ   มีการ์ดอวยพรให้อีก น่ารักจริงๆ ให้ตายเถอะ   นามบัตรฮาร์ดคอยังงี้ใครจะกล้าโทร   มันก็สวยดีนะแต่จะมองทางได้หรอครับเฮีย…

  • เบื้องหลังภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ก่อนใช้เวทมนตร์คาถา CG สร้างความสมจริงแบบไม่น่าเชื่อ!!

    เบื้องหลังภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ก่อนใช้เวทมนตร์คาถา CG สร้างความสมจริงแบบไม่น่าเชื่อ!!

    โลกของภาพยนตร์ในทุกวันนี้ตั้งแต่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง CG ขึ้นมาก็ทำให้ฉากต่างๆ นั้นสวยมากขึ้นและก็อาจประหยัดเวลาได้ด้วย แต่ก็ทำให้เราเดาได้ยากว่าอันไหนของจริงของปลอมกันแน่ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ดูคล้ายกับมายากลเหมือนกันนะ ในวันนี้ #เหมียวฝึกหัดหมายเลข17 จึงอยากพาเพื่อนๆ ไปชมเบื้องหลังของกองถ่ายหนังว่าภาพจริงๆ ก่อนที่จะเข้าไปตัดต่อในคอมพิวเตอร์นั้นเป็นอย่างไรพร้อมกันรึยังถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มดูกันเลยย   Doctor Strange . . .   Alice Through the Looking Glass .   Beauty and The Beast .   Fantastic Beasts and Where to Find Them . Guardians of the Galaxy . . .   Suicide Squad .   The Jungle Book .  …

  • ดราม่าทั่วเน็ต!! สาวอินเดียถูกชาย 4 คนรุมข่มขืน แต่เมื่อไปแจ้งความ ตำรวจกลับไม่รับแจ้ง…

    ดราม่าทั่วเน็ต!! สาวอินเดียถูกชาย 4 คนรุมข่มขืน แต่เมื่อไปแจ้งความ ตำรวจกลับไม่รับแจ้ง…

    ในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าการถูกข่มขืนเพราะมันเจ็บปวดทั้งกายและใจราวกับว่าตายทั้งเป็น และอาจจะเป็นการทำลายชีวิตของผู้หญิงคนนั้นไปเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาที่ประเทศอินเดียเมื่อมีเด็กสาวอายุ 19 คนหนึ่งถูกข่มขืนโดยชายกว่า 4 คนเป็นระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง หญิงสาวคนนี้ต้องไปแจ้งความกับตำรวจถึง 3 แห่งแต่ตำรวจกลับมองว่าเธอสร้างเรื่องขึ้นมาเองแม้ว่าพ่อแม่ของเด็กสาวคนนี้จะเป็นตำรวจก็ตาม ซึ่งในตอนสุดท้ายตำรวจก็ได้รับเรื่องดังกล่าวแต่ว่ารับในตอนที่เธอไล่ล่าและสามารถจับกุมชาย 2 คนที่ข่มขืนเธอด้วยตัวของเธอเองรวมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากพ่อแม่ของเธอที่เป็นตำรวจ     ขณะนี้กรมตำรวจในนครโพปาล รัฐมัธยประเทศได้ประกาศพักงานแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสที่ปฏิเสธการแจ้งความของหญิงสาวคนนี้แล้ว สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันอังคารที่ 31 ตุลาคมเมื่อผู้หญิงคนนี้ได้ออกจากสถานที่เรียนพิเศษสำหรับสอบข้าราชการตำรวจ เพราะว่าเธอใฝ่ฝันอยากจะเป็นตำรวจเหมือนพ่อแม่ของเธอ ในช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่มชายคนหนึ่งซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า Golu Bihari Chadha (ซึ่งเป็นคนที่มีคดีฆาตกรรมเด็กทารกติดตัวแต่ได้รับประกันตัวออกมา) พยายามกระชากแขนเธอไปเพื่อที่จะข่มขืนและแน่นอนว่าผู้หญิงคนนี้ก็ได้ต่อสู้กับชายคนดังกล่าว จนกระทั่ง Chadha ได้เรียกเพื่อนที่ชื่อว่า Amar Ghuntu ให้มาช่วยกันลากตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายไปบริเวณใต้สะพานแห่งหนึ่ง     หญิงสาวคนดังกล่าวก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่าจะโดนชายฉกรรจ์ 2 คนรุมอยู่ก็ตามโดยเธอได้หยิบหินทุบไปยังชายทั้ง 2 ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาโมโหและใช้หินทุบเธอบ้างซึ่งแน่นอนว่าเธอย่อมสู้ไม่ได้ จากนั้นเธอก็ถูกกระชากเสื้อผ้าออกแล้วก็ถูกข่มขืนในเวลาต่อมา หลังจากเสร็จกิจแล้ว Chadar ก็ได้ไปซื้อบุหรี่ขณะที่ Amar นั้นยังข่มขืนสาวคนดังกล่าวอยู่แต่ปรากฏว่าเมื่อเขากลับมาเขาได้พาเพื่อนมาอีก 2 คนซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า Rajesh และ Ramesh หลังจากนั้นทั้ง…

  • สายเที่ยวฟังทางนี้!! เว็บไซต์ AirlineRating จัดอันดับ 10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลกในปี 2018

    สายเที่ยวฟังทางนี้!! เว็บไซต์ AirlineRating จัดอันดับ 10 สายการบินที่ดีที่สุดในโลกในปี 2018

    การเดินทางด้วยการบินในทุกวันนี้นับได้ว่าเป็นการเดินทางที่หลายคนเลือกที่จะใช้เพราะว่ามีความสะดวกรวดเร็วอีกทั้งยังปลอดภัยอีกด้วยนั่นจึงเป็นเหตุให้มีสายการบินใหม่ๆ เกิดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด ในวันนี้เราจะมาจัดอันดับ 10 สายการบินที่นับได้ว่าดีที่สุดในโลกจากการจัดอันดับของ airlineratings เพื่ออยากจะให้ทุกคนได้รับแต่สิ่งดีๆ นั่นเอง การจัดอันดับต่อไปนี้ได้มีการทำขึ้นโดย Geoffrey Thomas บรรณาธิการใหญ่แห่งเว็บไซต์ AirlineRatings.com โดยมีหลักเกณฑ์ในการให้คะแนนสายการบินต่างๆ คือ ความปลอดภัยในการบิน, การรีวิวจากผู้โดยสาร, อายุของสายการบิน, ความเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม, การจัดการสิ่งแวดล้อม, เหตุการณ์ต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้น และอื่นๆ อีกมาก นั่นจึงได้ออกมาเป็น 10 อันดับสายการบินที่ดีที่สุดในโลกดังนี้   10. Japan Airlines   สายการบินนี้สามารถพลิกฟื้นมาจากปัญหาทางด้านการเงินในปี 2010-2011 ได้และด้วยความที่พวกเขาได้เรียนรู้จากอดีตทำให้ทุกวันนี้พวกเขาได้ออกมาให้บริการได้อย่างโดดเด่น   9. Cathay Pacific   สายการบินนี้ได้ผ่านความยากลำบากในด้านการแข่งขันระหว่างสายการบินทั้งในประเทศฮ่องกง หรือกระทั่งจีนแต่ถึงอย่างไรด้วยมาตรฐานที่ดีพวกเขาก็สามารถเอาชนะคนอื่นๆ มาได้   8. Korean Air   สายการบินนี้เหมือนความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการการบินเพราะว่าในปี 2000 พวกเขายังถูกจัดอันดับไว้อยู่ในอันดับล่างๆ แต่ว่าทุกวันนี้พวกเขาได้กลายขึ้นมาเป็นแนวหน้าทางด้านการบินโดยสร้างความประทับใจให้กับผู้คนต่างๆ มาแล้วมากมาย   7. All Nippon Airways…

  • เปิดเผยเรื่องราวต้นฉบับของหุ่นไม้ ‘พิน็อคคิโอ’ แท้จริงแล้วเป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่ไม่ยอมฟังใครเลย!!

    เปิดเผยเรื่องราวต้นฉบับของหุ่นไม้ ‘พิน็อคคิโอ’ แท้จริงแล้วเป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่ไม่ยอมฟังใครเลย!!

    หลายคนคงได้ยินนิทานสุดแสนจะคลาสสิคอย่างเรื่อง Pinocchio ที่เป็นเรื่องราวของหุ่นไม้ตัวหนึ่งที่กลับมีชีวิตขึ้นมาอย่างปาฎิหาริย์จนเกิดเป็นเรื่องราวสุดประทับใจ แต่ใช่ว่านั่นจะเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เพราะมันยังมีเรื่องราวอีกด้านที่เป็นต้นฉบับของการ์ตูนเรื่องนี้ที่ไม่ได้ถูกหยิบมาเล่าเช่นกัน ย้อนกลับไปในปี 1940 ทาง Disney ได้นำการ์ตูนเรื่องพิน็อคคิโอนี้มาดัดแปลงเนื้อเรื่องใหม่โดยมีเนื้อเรื่องว่ามีช่างไม้ชราคนหนึ่งชื่อว่า Geppetto ที่ใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวโดยไม่มีภรรยาหรือบุตรหลาน     วันหนึ่ง Geppetto ได้เกิดไอเดียในการสร้างหุ่นกระบอกที่ทำจากไม้ขึ้นมา 1 ตัว และในคืนที่สร้างเจ้าหุ่นนี้เสร็จ เขาได้จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่ออธิษฐานขอพรอย่างหนึ่ง ปรากฎว่าเมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าเจ้าหุ่นไม้ที่เขาตั้งชื่อให้ว่า Pinocchio ก็มีชีวิตขึ้นมาอย่างมีปาฎิหาริย์ และนี่คือเรื่องราวคร่าวๆ ที่ทาง Disney ได้นำเสนอไว้     แต่ว่าจริงๆ แล้วพิน็อคคิโอได้เกิดนำเนิดมาตั้งแต่ช่วง 1880-1990 แล้วโดยมีผู้แต่งคือ Carlo Collodi ได้ให้ชื่อหนังสือไว้ว่า “The Adventures of Pinocchio” โดยเนื้อเรื่องนั้นจะแตกต่างกับเรื่องที่เรารู้จักโดยสิ้นเชิง สำหรับ Collodi นั้นไม่มีบุตรทั้งชายหรือหญิงและเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมานั้นเพราะว่าในสมัยทศวรรษที่ 18 ได้มีการถกเถียงกันในระบบการศึกษาว่าเด็กควรจะเติบโตมาในทิศทางไหน? ในสมัยนั้นมีนักจิตวิทยาคนหนึ่งที่ชื่อว่า Jean Jacques Rousseau ได้ออกมาบอกว่าเด็กๆ ควรที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในชีวิตจากความผิดพลาด ซึ่งผู้ที่แต่งเรื่องนี้ก็มีจุดประสงค์เพื่อจะทำให้เห็นว่าหากเด็กโตมาโดยไม่เชื่อฟังคำผู้ใหญ่จะมีผลลัพธ์เป็นอย่างไร     แม้จะดูเป็นแนวคิดที่เบ็ดเสร็จไปหน่อย แต่นั่นก็คือที่มาของ Pinocchio ซึ่งแต่เดิมนั้นเป็นหุ่นไม้หัวดื้อและเอาแต่ใจโดยเขาจจะไม่ยอมเชื่อฟังใครเลยและจะเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองเท่านั้น…

  • “แมวข้างบ้าน” มานั่งรอเพื่อนเหมียวทุกวัน เพื่อขออนุญาตไปเล่นด้วยกัน น่ารักจนต้องยอมใจอ่อน!!

    “แมวข้างบ้าน” มานั่งรอเพื่อนเหมียวทุกวัน เพื่อขออนุญาตไปเล่นด้วยกัน น่ารักจนต้องยอมใจอ่อน!!

    จะมีอะไรบนโลกใบนี้ที่จะน่ารักไปกว่าสัตว์ตัวน้อยๆ ที่แสนจะขี้อ้อนโดยเฉพาะอย่างแมวที่มีมนุษย์หลายคนยอมตกเป็นทาสให้แก่ความแบ๊วและความกวนของมัน ซึางก็คงเหมือนกับเจ้าหนุ่มคนนี้ที่หลงเสน่ห์เข้ากับมิตรภาพของแมวข้างบ้านที่มาเล่นกับแมวของเขาทุกวัน!!   สมาชิกเว็บบอร์ดต่างชาติคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า franwalker26 ได้เผยแพร่รูปภาพแสนน่ารักซึ่งนั่นเป็นเรื่องราวมิตรภาพระหว่างสัตว์ของแมวข้างบ้านตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า Ralph โดยเจ้าขนปุยตัวนี้จะมานั่งรออย่างมีมารยาทที่หน้าบ้านของเขา ซึ่งในตอนแรกเขาก็คิดว่ามันคงมาเที่ยวเล่นเป็นครั้งคราวแต่ทว่ามันกลับมานั่งที่เดิมทุกวันเพื่อขออนุญาตที่จะเล่นกับ Nala แมวของเขานั่นเอง   สวัสดีครับคุณ Fran ผมขออนุญาตเล่นกับแมวที่น่ารักของคุณได้ไหม   หลังจากออกไปเล่นด้วยกันมาทั้งวันเจ้าของคนนี้ก็คิดว่าแมวของเขาได้เจอเพื่อนที่ดีแล้วแหละซึ่งไม่ว่าจะไปไหนด้วยกันมาเจ้าสองตัวนี้จะกลับมาด้วยกันตลอด   อาจจะมีบางวันบ้างที่เจ้า Ralph แมวข้างบ้านเกิดมาสายแล้วดูสิ่งที่แมวของเขาทำสิ… Nala นั่งรออย่างใจจดใจจ่อนั่นแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างพวกมันทั้งสองซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนกันจนวันตายเลยก็ได้นะ   เห็นมิตรภาพของเหล่าสัตว์แล้วก็ดีใจ เพราะพวกมันก็คงต้องมีอยากมีเพื่อนที่ดีเหมือนกับคนนี่แหละเนอะ ว่าไหมล่ะ…!? ที่มา: purrworld

  • มาดู 17 ภาพศิลปะแสนสวย ที่ไม่รู้ว่าตั้งใจทำออกมาหรือว่ามันบังเอิญกันแน่!?

    มาดู 17 ภาพศิลปะแสนสวย ที่ไม่รู้ว่าตั้งใจทำออกมาหรือว่ามันบังเอิญกันแน่!?

    เชื่อหรือไม่ว่าทุกสิ่งบนโลกใบนี้มีความเป็นศิลปะซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดูไม่มีค่าอย่างฝุ่นผง เม็ดทราย หรือก้อนหินเพียงก้อนหนึ่งก็สามารถกลายเป็นศิลปะที่สวยงามได้ เหมือนกับรูปภาพต่างๆ เหล่านี้ที่ใช้อุปกรณ์ง่ายๆ แต่มีความเหมาะเจาะทั้งเวลาและโอกาส ก็ไม่รู้ว่าศิลปินที่สร้างสรรค์งานเหล่านี้ตั้งใจที่จะสื่อให้เห็นอย่างนี้จริงๆ หรือว่าจะเป็นเพราะความบังเอิญที่ทำให้รูปภาพเหล่านี้ออกมาดูดี หากให้พวกเขาทำอีกครั้งมันอาจจะไม่เหมือนเดิมก็ได้ ซึ่งจะมีความสวยงามอย่างไรลองไปชมกันเลย   กดโฟมออกอีท่าไหนละเนี่ย   แค่รูปแมวผ่านกระจกมัวๆ ก็กลายเป็นภาพวาดสีน้ำมันได้เหมือนกัน   หล่นได้สวยยังกับจัดวางเอาไว้แหนะ   นี่ไม่ใช่ภาพวาดนะแต่มันคือสิ่งหนึ่งที่ชนกำแพงแล้วทิ้งไว้เป็นภาพเมืองหิมะต่างหาก   คราบที่ทิ้งไว้ในก้นแก้วกาแฟแต่ดูๆ ไปแล้วเหมือนป่าสน กินอย่างมีศิลปะจริงๆ   เชื้อราที่ขึ้นท้ายเรือเหมือนภาพวาดของทะเลสาบ   หัวของเด็กที่ให้ความรู้สึกเหมือนภาพวาดของแวนโกะ   หัวหมาหรือหลุมดำกันนะ   เมื่อเทสีอะคริลิคทิ้งลงใส่อ่างน้ำกลับบังเอิญสวยซะงั้น   นี่คือภาพวิวที่มองผ่านกระจกซึ่งมันงามซะจนเหมือนภาพวาด   ภูติผีได้ตามมาติดๆ แล้วนะหนุ่ม   หินสำหรับเดินในสนามหญ้ามองดีๆ ก็กลายเป็นศิลปะได้นะจ๊ะ   ศิลปะอย่างงี้เป็นใครก็คงไม่กล้าล้างรถคันนี้แน่นอน   คิดว่าถ่ายแบบอยู่หรอฮะเจ้านกน้อย…เอ๊ะ นั่นไม่ใช่นกแต่เป็นรอยดำๆ นี่หว่า   เชื้อราใต้โต๊ะที่คล้ายๆ กับภาพตัดแปะ   เติมนมลงเฉยๆ ก็กลายเป็นลาเต้อาร์ตเฉย   เหมือนสายฟ้าผ่าใช่ไหมล่ะ จริงๆ แล้วมันคือภาพกองไฟที่มองผ่านกระจกร้าวแหละ  …

  • มาดูอาหารกลางวันของ “เด็กฝรั่งเศส vs. เด็กอเมริกัน” ทำไมถึงได้แตกต่างขนาดนี้

    มาดูอาหารกลางวันของ “เด็กฝรั่งเศส vs. เด็กอเมริกัน” ทำไมถึงได้แตกต่างขนาดนี้

    อาหารการกินสำหรับเด็กๆ เป็นเรื่องที่สำคัญเพราะว่านอกจากวัยเด็กเป็นวัยที่กำลังเจริญเติบโตและต้องการใช้สารอาหารที่มีประโยชน์แล้ว โรคภัยต่างๆ ก็ดูจะเป็นเหมือนสิ่งที่คอยรุมเร้าทุกช่วงของชีวิตเหมือนกัน หลายคนคงได้ยินคำว่า You are what You eat หรือที่แปลได้ว่ากินยังไงก็ได้อย่างนั้น ซึ่งรู้หรือไม่ว่าทำไมเด็กชาวอเมกันกว่า 1 ใน 3 มีน้ำหนักที่เกินเกณฑ์นั่นก็เป็นสิ่งที่ Rebeca Plantier อยากรู้เช่นกัน เธอจึงได้ทำการเปรียบเทียบอาหารกลางวันระหว่างเด็กฝรั่งเศสที่มีน้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกับเด็กอเมริกันว่าแตกต่างกันมากขนาดไหน ซึ่งเธอก็พบว่าโรงเรียนในประเทศฝรั่งเศสจะใช้อาหารที่สดและจัดให้แบบเป็นคอร์สเพื่อให้สารอาหารได้อย่างครบถ้วนขณะที่โรงเรียนที่อเมริกานั้นมีความแตกต่างกันออกไป มาลองดูกันดีกว่าว่าอาหารในแต่ละวันของเด็กๆ จะเป็นอย่างไร   ประเทศฝรั่งเศส (โรงเรียนที่ฝรั่งเศสจะไม่มีการเรียนในวันพุธ)   วันจันทร์   อาหารเรียกน้ำย่อย: สลัดแตงกวากับมะเขือเทศ อาหารหลัก: เนื้ออบซอสเสิร์ฟพร้อมกับเห็ด, บร็อคโคลี่ ของหวาน: ทาร์ตแอปเปิล   วันอังคาร   อาหารเรียกน้ำย่อย: สลัดกระหล่ำปลีและมะเขือเทศ อาหารหลัก: เนื้ออบ, มันฝรั่ง, มะเขือเทศอบสมุนไพร, ชีส ของหวาน: กีวี่   วันพฤหัสบดี   อาหารเรียกน้ำย่อย: สลัดเบบานิส (ข้าวสาลียำรวมกับผักต่างๆ) อาหารหลัก: ไส้กรอก ผักซุกินี…

  • “โรงเรียนเกาหลีเหนือ” ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่คุณไม่คิดว่าจะมีอยู่ด้วย

    “โรงเรียนเกาหลีเหนือ” ใจกลางกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่คุณไม่คิดว่าจะมีอยู่ด้วย

    หลายคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทดสอบการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่ยิงข้ามน่านน้ำไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะนั่นอาจเป็นชนวนที่ก่อให้เกิดสงครามกันได้ตลอดเวลา แต่ถึง 2 ประเทศนี้จะมีความขัดแย้งขนาดไหนก็ตาม แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าภายในประเทศญี่ปุ่นนั้นได้มีการก่อตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กเกาหลีเหนือเพื่อบ่มเพาะให้เด็กๆ มีแนวคิดแบบเกาหลีเหนือภายในประเทศญี่ปุ่นด้วยนะ โดยโรงเรียนแห่งนี้มีการเรียนการสอนในรูปแบบของชาติเกาหลีเหนือโดยสมบูรณ์แบบ ทั้งการเรียนประวัติศาสตร์เกาหลีเหนือ ภาษาเกาหลีรวมถึงการนำรูปภาพของผู้นำเกาหลีเหนือมาติดไว้ในทุกๆ ห้องเรียน นอกจากนั้นโรงเรียนแห่งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชาวเกาหลีเหนือที่มาคอยปกป้องเด็กๆ จากผู้ประท้วงชาวญี่ปุ่นหลังจากรู้ว่ามีโรงเรียนนี้อยู่ด้วย     เมื่อไม่กี่วันมานี้เว็บไซต์ข่าวชื่อดังอย่าง Vox ได้นำเสนอวิดีโอหนึ่งที่มีชื่อว่า “Inside North Korea bubble in Japan” ซึ่งเป็นวีดีโอที่ทำให้เราได้เห็นภาพโรงเรียนแห่งนี้ว่ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร   สำหรับชาวเกาหลีเหนือที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีประวัติที่ยาวนานและซับซ้อนอย่างมาก โดยเริ่มจากบรรพบุรุษของพวกเขาถูกบังคับให้ย้ายมาอยู่ประเทศญี่ปุ่นหลังจากจักรวรรดิญี่ปุ่นได้พยายามผนวกประเทศเกาหลีให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นในปี 1910 หลังจากนั้นประเทศญี่ปุ่นได้พ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศเกาหลีจึงสามารถแยกตัวออกมาจากประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ก็มีคนเกาหลีจำนวนมากที่ยังอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นและได้ตัดสินใจที่จะอยู่อย่างถาวรเลย   อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้กล่าวขอบคุณเกาหลีเหนือถึงสิ่งที่มอบให้   ทว่าเรื่องราวกลับซับซ้อนเข้าไปอีกเมื่อประเทศเกาหลีได้เกิดการแบ่งเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้และนั่นเป็นเหตุให้ประเทศเกาหลีเหนือหยุดช่วยเหลือชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นโดยสร้างโรงเรียนแห่งนี้ให้เป็นสิ่งสุดท้าย นอกเหนือจากการปล่อยมิสไซล์และอาวุธนิวเคลียร์ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งโลกแล้ว ในปี 1970 เกาหลีเหนือยังได้ลักพาตัวชาวญี่ปุ่นหลายคนจากชายหาดแล้วส่งตัวไปที่ประเทศเกาหลีเหนือซึ่งนั่นได้เป็นเหตุการณ์ระดับชาติและได้เริ่มกลายเป็นปรปักษ์ต่อประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้   เงินสมทบช่วยเหลือสำหรับโรงเรียนชาวเกาหลีเหนือแห่งนี้ลดลงทุกปี โดยโรงเรียนแห่งนี้ในปัจจุบันแทบจะไม่มีเงินไว้จ้างคุณครูอยู่แล้ว การแยกให้เห็นถึงสิ่งที่โรงเรียนแห่งนี้ต้องเผชิญซึ่งก็มีทั้งคนญี่ปุ่นที่มีความชาตินิยม ความแบ่งแยกและการขอความช่วยเหลือจากประเทศเกาหลีเหนือ   เหมือนกับพวกเขาสร้างโรงเรียนของ โอซาม่า บินลาเดนในอเมริกา   ชีวิตของเด็กๆ ที่น่าสงสารโดยพวกเขาต้องเปลี่ยนชุดตอนออกไปนอกโรงเรียนเพราะถูกจ้องมองตลอดเวลา  …

  • อุบ๊ะ!! พาไปชมภาพของภัตตาคารใต้น้ำสุดหรู ซึ่งหากดูผิวเผินแล้วเหมือนก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น

    อุบ๊ะ!! พาไปชมภาพของภัตตาคารใต้น้ำสุดหรู ซึ่งหากดูผิวเผินแล้วเหมือนก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น

    ตามประสามนุษย์ทั่วไปหากจะดำเนินชีวิตก็ต้องมีการกินอาหารตกถึงท้อง แต่ว่าการกินอาหารแบบธรรมดาๆ ทุกวันๆ เราก็อาจรู้สึกเบื่อได้ เราก็อาจเปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนร้านอาหารที่กิน เปลี่ยนคนที่กินอาหารด้วย หากเปลี่ยนมาหมดแล้วทุกอย่างแต่ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือช่วยให้ดีขึ้นงั้นลองมาดูร้านนี้หน่อยเป็นไง เพราะมันจะทำให้บรรยากาศตอนกินอาหารของคุณต่างออกไปโดยสิ้นเชิงเพราะที่นี่คือภัตตาคารใต้น้ำ   กลมกลืนกับธรรมชาติมากเลย ดูเผินๆ นึกว่าก้อนหิน   บริษัทที่ชื่อว่า Snøhetta มีแผนที่จะสร้างภัตตราคารอาหารใต้น้ำทางตอนใต้ของประเทศนอร์เวย์ ใกล้กับหมู่บ้าน Båly ซึ่งหน้าตาของภัตาคารแห่งนี้จะดูเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ที่สร้างจากคอนกรีตถูกโยนลงในน้ำ หากมองผ่านๆ โดยไม่สังเกตดีๆ จะพบว่ามันเหมือนหินก้อนหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับภายในจะมีกระจกแบบพาโนราม่าให้เราสามารถดูวิวใต้น้ำกว้างถึง 10 เมตร ภัตตาคารสุดแหวกแห่งนี้มีพื้นที่เพียงพอที่จะรับลูกค้าได้ถึงคราวละ 100 คนและมีแผนที่จะทำให้เป็นสถานที่สำหรับการวิจัยเมื่อไม่มีลูกค้าแล้ว   ใครเอาก้อนหินนี้โยนลงมาจากฟ้ากันนะ   “มันเป็นมากยิ่งกว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสิ่งก่อสร้างแห่งนี้จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของทะเล เพราะว่าที่นี่จะอยู่ลึกลงไป 5 เมตรเหนือจากผิวน้ำทะเลและภายในจะมีกระจกขนาดยักษ์ให้เราได้ชมใต้ท้องทะเลในเวลาที่ฤดูกาลเปลี่ยนผันหรือสภาพอากาศที่แปรปรวนว่าท้องทะเลเป็นอย่างไร” ตัวแทนจาก Snøhetta ได้กล่าวไว้ สำหรับทางบริษัท Snøhetta ก็มีแผนที่จะก่อสร้างภัตตาคารในปีหน้านี้และคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการให้คนทั่วไปได้มาลองสัมผัสบรรยากาศที่หาที่ไหนไม่ได้นี้ในปี 2019   เมื่อเข้ามาดูข้างในถึงกับต้องร้องว่า โอ้โห   หน้าตาอาหารในร้านอาหารแห่งนี้   เริ่มหิวกันรึยังเอ่ย   มองจากมุมสูงลงมานี่ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยว่าเป็นภัตตาคาร   รูปร่างคล้ายๆ กล้องส่องทางไกลว่าไหม??   ใครอยากลองไปใช้บริการก็อดใจรอกันหน่อยละกันนะ ฮ่าา   ที่มา: boredpanda

  • เอากับเขาหน่อย!! หมอแต่งตัวเป็น Joker ในวันฮาโลวีนมาทำคลอดเด็กให้กับครอบครัวหนึ่ง

    เอากับเขาหน่อย!! หมอแต่งตัวเป็น Joker ในวันฮาโลวีนมาทำคลอดเด็กให้กับครอบครัวหนึ่ง

    ในช่วงเทศกาลฮาโลวีนไม่ว่าใครๆ ต่างก็พากันแต่งชุดเป็นตัวละครต่างๆ อย่างผี ปิศาจ ซุปเปอร์ฮีโร่ต่างๆ ซึ่งก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเหมือนกับหมอคนนี้ที่แต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์จากเรื่องแบทแมน แต่ที่แปลกคือพี่แกแต่งชุดแบบนี้มาทำคลอดซะงั้น!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ Justin กับ Brittany Selph ได้ไปที่โรงพยาบาล Henry County ในรัฐเทนเนสซีเพื่อเตรียมตัวสำหรับวันสำคัญของทั้งคู่เพราะว่าเป็นวันที่ลูกของทั้งคู่ถึงกำหนดคลอดซึ่งตรงกับวันฮาโลวีนพอดี   หน้าตาของคู่รักที่มาทำคลอดในวันฮาโลวีน   เมื่อทั้งคู่มาถึงโรงพยาบาลก็ถึงกับตะลึงเพราะว่ามีหมอที่จะทำคลอดให้ลูกของเขาที่ชื่อว่า Paul Locus ได้แต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์คู่ปรับตัวฉกาจของแบทแมน “ตอนที่เรามาถึงโรงพยาบาลเขาได้แต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์และเขาก็ได้ออกไปตอนบ่ายๆ ขณะที่เมียผมอยู่ในส่วนรับรองเพื่อที่จะออกไปแจกลูกอมแก่เด็กๆ” Justin พ่อของเด็กที่จะเกิดได้กล่าวไว้   แต่งซะเหมือนเลยนะคุณหมอ…   ถึงจะดูเป็นเรื่องที่ชวนประหลาดใจสักหน่อย แต่ทาง Justin กับ Brittany ก็ไม่ได้รู้สึกติดใจใดๆ เพราะพวกเขารู้จักกับคุณหมอ Locus เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว และคุณหมอเองก็ดูแลการทำคลอดและการตั้งครรภ์ของเธอเป็นอย่างดีด้วย สาเหตุที่คุณหมอรายนี้ลงทุนแต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์ก็เพราะว่าเขาเตรียมที่จะออกไปแจกจ่ายลูกอมให้กับเด็กๆ ในตอนบ่าย แต่ก็ตั้งใจแล้วว่าจะกลับไปเปลี่ยนชุดเพื่อกลับมาทำคลอดด้วย แต่ Brittany ได้บอกหมอคนนี้ว่าพวกเขาอยากจะให้คุณหมอแต่งตัวเป็นโจ๊กเกอร์ในตอนทำคลอดซะอย่างงั้น   จัดว่าเท่สุดในโรงพยาบาลละกัน   หมอคนนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใด   เด็กที่เกิดมาคงดีใจน่าดูที่มีโจ๊กเกอร์มาทำคลอดให้   ดูหน้าหมอไม่เครียดเลยนะแล้วยังถามคุณพ่ออีกด้วยว่าจะตัดสายสะดือเองไหม   Don’t be serious…   ในที่สุดครอบครัว Selph…

  • แรดท้องแก่ถูกยิงตายเพื่อจะเอานอ ทำให้ลูกที่อยู่ในท้องไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก

    แรดท้องแก่ถูกยิงตายเพื่อจะเอานอ ทำให้ลูกที่อยู่ในท้องไม่มีโอกาสลืมตาดูโลก

    การตั้งท้องเหมือนจะเป็นอะไรที่วิเศษที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก เพราะโลกเรากำลังจะมีอีกชีวิตหนึ่งได้ลืมตาออกมา แต่ก็มีบางชีวิตที่อุตส่าห์จะได้เกิดมาอยู่แล้วกลับถูกสังหารพร้อมกับแม่ก่อน อย่างเช่นเรื่องราวของแรดตัวนี้ เหตุการณ์น่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่อุทยานแห่งชาติ Pilanesberg ในเมือง Mogwase ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อมีแรดสองตัวแม่ลูกกำลังเดินอยู่ดีๆ กลับถูกพวกลับลอบล่าสัตว์สังหารด้วยอาวุธปืน     หลังจากที่พวกลับลอบล่าสัตว์ได้ฆ่าเจ้าแรดสองตัวนี้ไปแล้ว ก็ได้พยายามที่จะตัดนอเพื่อที่จะนำไปขายแต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานเข้ามาพบเข้าจึงได้หนีไปก่อนที่จะได้นอแรดไป เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ไล่พวกโจรออกไปหมดแล้วก็ได้พยายามที่จะช่วยชีวิตแรดทั้งสอง แต่ก็ไม่ทันการ ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือ แรดตัวแม่กำลังตั้งท้องลูกน้อยอีกตัว และมันก็ได้เสียชีวิตไปพร้อมแม่ โดยที่ยังไม่ทันได้ลืมตามาดูโลก     โดยทางอุทยานแห่งนี้ได้เขียนลงในเพจเฟซบุ๊กของทางอุทยานไว้ว่า “แรดที่กำลังตั้งท้องและลูกแรดถูกยิงโดนพวกลักลอบฆ่าสัตว์ยิงจนตายเพื่อเอานอแรด ในตอนนี้ฆาตกรที่ฆ่าเจ้าแรดสองตัวนี้กำลังลอยนวลอยู่ เพราะพวกเขาหนีไปได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่เราจะไปถึง พวกเราเสียใจจริงๆ “ นอกจากนี้ อุทยาน Pilanesberg ยังได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับใครก็ตามที่มีเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมได้ อีกทั้งโฆษกของอุทยานยังออกมาบอกอีกด้วยว่าแรดตัวแม่ที่กำลังตั้งท้องนั้นมีอายุเพียงแค่ 8 ปีและลูกของมันที่เดินมาด้วยกันก็พึ่งมีอายุได้ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งกำหนดคลอดของเจ้าแรดน้อยที่อยู่ในท้องของแม่แรดตัวนี้ก็คือเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่จะมาถึงนี้เอง     “ในปี 2017 นี้เราเสียแรดไปถึง 16 ตัวและแรดที่ยังอยู่ในครรภ์อีก 3 ตัว การสูญเสียนี้ไม่ได้มาจากการไม่สนใจของเจ้าหน้าที่ แต่เป็นเพราะว่าอุทยานแห่งนี้มีความกว้างใหญ่มีภูเขาเล็กใหญ่มากมาย นั่นจึงง่ายต่อพวกลักลอบทั้งหลายที่จะเข้ามาล่าสัตว์” โฆษกของอุทยานได้บอกไว้ ตั้งแต่ปี 2007 มีแรดมากกว่า 6,000…

  • เห็นแล้วใจสั่น… ขวดน้ำยาล้างจานญี่ปุ่นเปิดดีไซน์ใหม่ ดูเผินๆ นึกว่าแหนมตุ้มจิ๋ว…..

    เห็นแล้วใจสั่น… ขวดน้ำยาล้างจานญี่ปุ่นเปิดดีไซน์ใหม่ ดูเผินๆ นึกว่าแหนมตุ้มจิ๋ว…..

    น้ำยาล้างจานเป็นสิ่งที่ทุกครัวเรือนต้องมีติดเอาไว้ คุณสมบัติมันก็ตามชื่อนั่นแหละ ซึ่งโดยปกติแล้วขวดน้ำยาล้างจานที่เราเห็นโดยทั่วๆ ไปก็จะเป็นขวดสูงๆ ผอมๆ แต่มีน้ำยาล้างจานยี่ห้อหนึ่งในญี่ปุ่นที่ขวดของมันมีรูปร่างเหมือนแหนมตุ้มจิ๋วซะงั้น โดยปกติแล้วขวดน้ำยาล้างจานจะมาในรูปทรงกระบอกสูงๆ เพื่อที่จะได้ประหยัดพื้นที่ในอ้างล้างจานแล้วก็มีรูอยู่ตรงกลางเพื่อป้องกันการหยดเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งแนวคิดนี้น้ำยาล้างจานยี่ห้อ Awa no Chikara Tehada Premium จากบริษัท Lion ในประเทศญี่ปุ่นก็ได้นำมาประยุกต์ใช้เหมือนกัน แต่ทำไมดีไซน์มันออกมาเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย!?     ซึ่งน้ำยาล้างจานดังกล่าวก็ได้กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตญี่ปุ่นเฮฮากันยกใหญ่เมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ผู้หนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @asuuuuuna ได้นำถ่ายรูปน้ำยาล้างจานยี่ห้อนี้พร้อมกับแคปชั่นสุดฮาว่า “ไม่รู้ว่ารูปทรงแบบนี้ได้ผ่านการอนุมัติมาได้ไงเนี่ย”     จากนั้นก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างเมามัน… “ฉันเดาว่าทุกคนที่ทำงานที่บริษัท Lion คงอับอายขายขี้หน้าที่จะพูดถึงและอธิบายการดีไซน์ที่ผิดปกติแบบนี้ระหว่างการประชุมแน่เลย” “มันช่างเป็นขวดน้ำยาล้างจานที่สวยสดงดงามมากๆ ทั้งการใช่สีชมพูและทรวดทรงที่มีเสน่ห์ของมัน นี่แหละคือสิ่งที่พวกเรากำลังมองหาอยู่ ใช่ไหม?” “จริงๆ แล้วหากเราลองพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าจุดประสงค์ที่เขาดีไซน์แบบนี้ออกมาเพราะว่าอยากให้เราล้างไม้ล้างมือก่อนช่วยตัวเองต่างหาก”     เราก็ไม่รู้ว่านี่เป็นแผนการตลาดที่จะโปรโมทสินค้าให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจากดีไซน์นี้รึเปล่า แต่บางทีมันก็คงรู้สึกแปลกๆ ใช่ไหมล่ะที่ทุกครั้งเวลาเราล้างจานกลับเหมือนเราจับเจ้าแหนมตุ้มจิ๋วสีชมพูแบบนี้อยู่น่ะ ฮ่าา   ที่มา: en.rocketnews24

  • จดหมายสุดซึ้งจากแม่ถึงลูกสาว สั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง…

    จดหมายสุดซึ้งจากแม่ถึงลูกสาว สั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เธอจะจากไปด้วยโรคมะเร็ง…

    ความสูญเสียเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากจะพบเจอแต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้ที่จะต้องมีการจากลาเสมอ แน่นอนว่าการจากลาย่อมเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่ในความเศร้านั้น ก็ยังมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ เรื่องราวสุดซึ้งนี้ได้รับการเปิดเผยในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาจาก Hannah Summers หญิงสาวในรัฐ Indiana ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอได้บอกว่าแม่ของเธอ Peggy ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งที่ไตขั้นที่ 4 เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา   นี่คือรูปถ่ายของเธอกับแม่ในช่วงที่ป่วย   Hannah ได้บอกว่าแม่ของเธอเป็นเหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกและดูเหมือนว่าแม่ของเธอรู้ว่าตัวเองจะต้องเสียชีวิตเธอจึงทิ้งจดหมายไว้ให้ลูกๆ ของเธอ โดยในจดหมายที่ Peggy ทิ้งไว้ให้นั้นเต็มไปด้วยข้อความที่แสดงถึงความรักที่มากล้นที่เธอมีต่อ Hannah รวมถึงคำแนะนำในการใช้ชีวิตต่างๆ   จดหมายฉบับสุดท้ายจากแม่ถึงลูกสาว   “ถึง Hannah ลูกรัก ถ้าลูกได้อ่านจดหมายฉบับนี้แสดงว่าการผ่าตัดเป็นไปไม่ดีนัก แม่ต้องขอโทษลูกด้วย แม่ได้พยายามจะทำให้ดีที่สุดแล้วที่จะเอาชนะโรคร้ายนี้ แต่แม่เดาว่าพระเจ้าคงต้องมีสิ่งอื่นที่อยากจะให้แม่ทำมากกว่า จงตั้งสติให้ดี สิ่งร้ายๆ มักเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งเราต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับมันไม่ว่ามันจะทำให้เราเจ็บปวดสักเท่าไหร่” “แม่อยากให้ลูกมีความสุขและใช้สิ่งที่พระเจ้าได้ให้ไว้กับลูก ในอนาคตลูกจะต้องเป็นพยาบาลที่แสนวิเศษเหมือนกับที่ลูกเป็นลูกที่แสนวิเศษสำหรับแม่ พยายามตั้งใจเรียนเข้าไว้และไม่ต้องกังวลเรื่องงานมากนัก” “จงใช้ความอดทนกับพ่อของลูกเพราะนี่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยากสำหรับเขาและเขาอาจต้องการเวลาที่เยียวยาสักหน่อย ลูกและพ่อของลูกต้องต้องหัดพึ่งพาคนอื่นบ้างรวมถึงพูดคุยกันให้เยอะขึ้น ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทั้งสองคนถนัดนักแต่จงพยายายามและอย่ายอมแพ้ จำเอาไว้ว่าลูกมีผู้คนมากมายที่รักลูกอยู่ฉะนั้นลูกควรไปพูดคุยกับพวกเขาให้บ่อยขึ้น”     “ใช้สัญชาตญาณของลูกในการทำสิ่งต่างๆ เช่นอย่าไปไหนคนเดียวและอย่าลืมที่จะเอาชุดปฐมพยาบาลไว้ในรถของลูกในช่วงฤดูหนาว พยายามห่างจากปาร์ตี้เข้าไว้ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเรื่องดี พวกหนุ่มๆ ก็เหมือนกัน พวกเขาอาจไม่ได้เลวร้ายทั้งหมด…

  • สาวก Apple อุตส่าห์ไปรอคิวออก iPhone X ตั้งนาน ได้มาไม่ทันไรหลุดมือแตกซะงั้น!?

    สาวก Apple อุตส่าห์ไปรอคิวออก iPhone X ตั้งนาน ได้มาไม่ทันไรหลุดมือแตกซะงั้น!?

    ทันทีที่มีการเปิดตัว iPhone X ออกมาก็ทำเอาสาวกของเจ้าโทรศัพท์ยี่ห้อแอปเปิลแหว่งกรี๊ดกร๊าดไปตามๆ กันจนถึงขั้นต้องต่อคิวกันเข้าซื้อแต่ว่ามีอยู่คนหนึ่งที่ได้โทรศัพท์มาปุ๊บก็ดีใจจนทำร่วงแตกหมดเลยซะงั้น ทวิตเตอร์ของเว็บไซต์ Trusted Review ได้เผยแพร่วีดีโอหนึ่งจากประเทศจีนว่ามีคนๆ หนึ่งที่ถ่ายวีดีโอรีวิวโทรศัพท์ iPhone X อันใหม่ของเขาที่เพิ่งจะไปถอยมาสดๆ ร้อนๆ ลงในทวิตเตอร์ แต่ปรากฎว่าขณะหมุนไปหมุนมามันดันหลุดมือร่วงซะดัง “โบ๊ะ” ทำเอาเจ้าของวีดีโอนี้ถึงกับเหวอเลยทีเดียว   ชมคลิปได้ที่นี่ (หากดูคลิปไม่ได้ให้กดที่นี่เลยนะ) Someone dropped their #iPhoneX already and it's painful to watch https://t.co/PVsFRJGg8k pic.twitter.com/N0jwbRGCMx — Trusted Reviews📱💻 🎮 (@trustedreviews) November 3, 2017   หลังจากนั้นไม่นาน เจ้าของ iPhone X ดังกล่าวได้โพสต์อัพเดทบนโซเชียลมีเดียของจีนอย่าง Weibo ซึ่งปรากฎว่า กระจกทั้งหน้าทั้งหลังแตกกระจายเลยจ้า   (iPhone X ผู้โชคร้าย)   iPhone X ที่ออกมาใหม่นี้จะมีกระจกทางด้านหลังเพื่อให้รองรับการใช้งานการชาร์จแบบไร้สาย…

  • หนุ่มฟ้องดาราชาย เอาเบอร์ของเขาไปออกฉากในหนัง ทำให้มีคนโทรเข้ามากวนจนเมียหนี

    หนุ่มฟ้องดาราชาย เอาเบอร์ของเขาไปออกฉากในหนัง ทำให้มีคนโทรเข้ามากวนจนเมียหนี

    ในละครหรือภาพยนตร์แต่ละเรื่อง ฉากที่นับได้ว่าเห็นได้บ่อยก็คือฉากคุยโทรศัพท์ ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นเบอร์มั่วๆ แต่ก็คงไม่มีใครซวยเหมือนเจ้าหนุ่มคนนี้ เพราะเบอร์โทรศัพท์ที่พระเอกหนังกดมั่วๆ ในเรื่อง ดันไปตรงกับเบอร์จริงๆ ของเขา จนมีคนโทรมากวนวันละกว่า 300 สาย ซุปเปอร์สตาร์ชาวบังคลาเทศคนหนึ่งชื่อว่า Shakib Khan ถูกหนุ่มขับรถตุ๊กตุ๊กคนหนึ่งยื่นฟ้องร้องเพราะว่าเบอร์โทรศัพท์ของเขาไปปรากฏอยู่ในภาพยนต์ที่ Khan แสดง โดยตั้งแต่ที่หนังเรื่องนี้ออกฉาย เขาก็ต้องรับโทรศัพท์จากแฟนคลับของพระเอกคนนี้จนกลายมาเป็นปัญหาสำคัญในชีวิตเขาเลยทีเดียว     โดยภาพยนตร์ดังกล่าวมีชื่อว่า Rajneeti ออกฉายในวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งมีฉากหนึ่งที่ Khan ได้พูดเบอร์โทรศัพท์เบอร์หนึ่งขึ้นมา แต่แทนที่เบอร์นั่นจะเป็นเบอร์มั่วๆ มันกลับเป็นเบอร์โทรศัพท์ในชีวิตจริงของ Ijajul Mia คนขับรถตุ๊กตุ๊กจากหมู่บ้าน Jatrapasha ในเมือง Baniachang ฉากๆ เดียวในหนังเรื่องดังกล่าวได้เปลี่ยนชีวิตของหนุ่มคนนี้ให้กลายเป็นฝันร้ายเลยทีเดียว เพียง 2-3 สัปดาห์หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเบอร์โทรศัพท์ของ Mia ก็มีคนโทรเข้าซะจนสายแทบไหม้ โดยในระยะเวลาเพียง 5 วันเขาได้รับโทรศัพท์กว่า 500 สายจากหญิงสาวที่โทรมาตามหาดาราหนุ่ม     “ทุกๆ วันผมได้รับโทรศัพท์เป็นร้อยๆ สายซึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับผู้หญิงของ Shakib Khan” “พวกเขามักจะโทรมาแล้วพูดว่า สวัสดี Shakib ฉันเป็นแฟนคลับคุณ พอจะมีเวลาซัก 2 นาทีคุยกับฉันไหม” Mia ได้บอกไว้ เมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อมีโทรศัพท์เข้ามาถี่มากๆ…

  • รวมภาพเหล่าคุณครูสุดเจ๋ง ที่ควรจะได้รับรางวัล ‘ครูดีเด่น’ ถ้าได้เรียนด้วยสักครั้งคงจะมีความสุขน่าดู

    รวมภาพเหล่าคุณครูสุดเจ๋ง ที่ควรจะได้รับรางวัล ‘ครูดีเด่น’ ถ้าได้เรียนด้วยสักครั้งคงจะมีความสุขน่าดู

    คุณครูคือผู้ให้ความรู้ในวิชาต่างๆ ในโรงเรียน โดยปกติแล้วเราก็จะเห็นครูในลุคที่เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ก็มีคุณครูไม่น้อยเลยที่คิดนอกกรอบจนกลายมาเป็นคุณครูสุดจ๊าบประจำโรงเรียน ซึ่งเราก็หวังว่าอยากให้มีคุณครูแบบนี้อยู่ทั่วโลกเพื่อที่การเรียนหนังสือสำหรับเด็กๆ จะได้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปชมภาพของคุณครูสุดคูลจากทั่วทุกมุมโลกที่อาจทำให้คุณยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว ซึ่งจะเป็นจริงอย่างที่ว่าไหมมาลองพิสูจน์กันเลย   คุณครูช่วยเหล่าเด็กๆ ที่กำพร้าด้วยการก่อตั้งชมรม “สุภาพบุรุษ” เพื่อให้เรียนรู้การจับมือ การสร้าง Eye Contact   คุณครูศิลปะที่พิสูจน์แล้วว่าศิลปะเกิดขึ้นได้ทุกที่   ภาพคุณครูสุดฮาในสมุดภาพประจำปีของโรงเรียน   ถ่ายกันทุกปีเลยทีเดียวจนเป็นธรรมเนียมไปเลย   ครูสอนคณิตตีลังกาเอามือยืนแทนเท้าเพื่อสาธิตจำนวนเลขที่กลับกัน   คุณครูคนนี้ใส่ชุดเดิมมาถ่ายรูปกว่า 40 ปี วินเทจจริงๆ ลุง   เมื่อโรงเรียนเปลี่ยนเวลาคาบแรกจาก 9 โมงมาเป็น 7 โมงคุณครูคนนี้เลยใส่ชุดนี้ประท้วงซะเลย   ครูคนนี้สาธิตการสวมถุงเท้าเพราะว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้สอนเด็กๆ เรื่องวิธีการใช้ถุงยางอนามัย   นักเรียน: ช่วยรับปลาโลมาตัวนี้แทนคำตอบที่ผิดไปด้วยเถอะ คุณครู: เพราะว่าปลาโลมาแสนน่ารักตัวนี้ทำให้ทุกคนได้คะแนนเพิ่ม 4 คะแนน   เมื่อคุณครูสุดแนวแต่งตัวเหมือนซีรีส์เรื่อง Magnum Pi มาถ่ายรูป   คุณครูที่ส่งจดหมายถึงผู้ปกครองโดยบอกว่าการบ้านนั้นไม่มีประโยชน์   รูปที่น่าจะเท่ที่สุดในสมุดรวมภาพประจำปี  …

  • สาวไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับรูมเมทผิวสี เอาผ้าอนามัยใช้แล้วถูกระเป๋า-แกล้งสารพัด ชาวเน็ตจวกยับ!!

    สาวไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับรูมเมทผิวสี เอาผ้าอนามัยใช้แล้วถูกระเป๋า-แกล้งสารพัด ชาวเน็ตจวกยับ!!

    การเป็นรูมเมทของกันและกันอาจจะมีบางอย่างที่เข้ากันไม่ได้บ้าง ซึ่งอาจจะแก้ไขด้วยการคุยกันหรือพยายามปรับปรุงเข้าหากันแต่หากว่าไม่ไหวจริงๆ ก็อาจจะต่างคนต่างอยู่ก็ได้แต่คงไม่มีใครรังเกียจรูมเมทถึงขั้นเธอคนนี้ ที่เอาผ้าอนามัยที่ใช้แล้วไปถูกับกระเป๋าของเพื่อนร่วมห้อง Brianna Brochu เป็นนักศึกษาใหม่ที่เริ่มเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัย Hartford โดยเธอได้อยู่ร่วมห้องกับ Chennel ‘Jazzy’ Rowe นักศึกษาผิวสีที่ Brianna เรียกกว่า “จาไมก้าบาร์บี้” ผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของเธอตลอดทั้งปี   Brianna Brochu หญิงสาวผิวขาวที่กลั่นแกล้งรูมเมทของเธอ   สาวทั้งสองคนนี้อยู่ห้องเดียวกันจากการสุ่มจากทางมหาวิทยาลัยและ Jazzy ก็เป็นที่ “ไม่ต้องการ” ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้อยู่ร่วมกันและรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนทั้งที่อยู่ในห้องของเธอเอง หลังจากที่ Jazzy ได้ตัดสินใจจะย้ายออก Brianna ก็จะโพสต์ข้อความลงใน Instagram บอกถึงชัยชนะเหนือเพื่อนร่วมห้อง โดยเธอได้ใส่รายละเอียดการแกล้งต่างๆ ที่น่ารังเกียจเอาไว้อย่างน่าสะอิดสะเอียน     “หลังจากเดือนครึ่งที่ฉันคอยถุยน้ำลายลงในครีมมะพร้าวของเธอ เอาขี้ดินใส่ลงในขวดโลชั่น ถูผ้าอนามัยแบบสอดที่ใช้แล้วกับกระเป๋าของเธอ นำแปรงสีฟันของเธอไปไว้ในที่ๆ ไม่มีแสงแดดและอื่นๆ อีกมาก ในที่สุดฉันก็ได้กล่าวคำลากับตุ๊กตาบาร์บี้จาไมก้าสักที” Brianna เขียนเอาไว้ใน Instagram ของเธอ หลังจาก Jazzy รู้เรื่องนี้เข้าแน่นอนว่าเธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟและในที่สุดเธอก็ได้ไลฟ์วิดีโอสดบอกถึงความช้ำใจและการเจ็บป่วยตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกับผู้หญิงคนนี้   วีดีโอที่ Jazzy ได้โพสต์ลงในเฟสบุ๊คส่วนตัวของเธอ   โดยในวีดีโอนี้มียอดผู้ชมแล้วกว่า 1 ล้านวิวเธอได้อธิบายถึงความทุกข์ทรมานที่อยู่ร่วมกับ Brianna โดยมีข้อความหลักๆ…

  • เทรนด์ใหม่ในประเทศจีน! สาววัย 14-16 ปี โพสต์ภาพการตั้งครรภ์ของตัวเองสนั่นโซเชียล

    เทรนด์ใหม่ในประเทศจีน! สาววัย 14-16 ปี โพสต์ภาพการตั้งครรภ์ของตัวเองสนั่นโซเชียล

    ปัญหาเรื่องการท้องก่อนวัยอันควรเป็นปัญหาเรื้อรังในทุกที่บนโลกนี้ เมื่อไม่นานมานี้ก็มีเรื่องที่ทำให้เราต้องอึ้งเพราะว่าในประเทศจีนแม่วัยใสกลับเอาเรื่องที่ตัวเองตั้งท้องมาอวดแข่งกันในโลกโซเชียลซะงั้น เมื่อไม่นานมานี้มีผู้ใช้งานเว็บไซต์ Weibo ยูสเซอร์หนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยรูปภาพของคุณแม่วัยใสที่ไลฟ์สดผ่านแอพพลิเคชั้นที่ชื่อว่า Kuaishou ซึ่งเป็นแอพไว้แชร์วิดีโอที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน โพสต์ดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสไวรัลในโซเชียลมีเดียของประเทศจีนและยังได้สร้างความสะพรึงให้กับชาวเน็ตทั่วโลกจนทำให้บัญชีต่างๆ ในแอพถูกลบไปในที่สุด     ในแอพพลิเคชั่น Kuaishou จะมีแท็กหนึ่งที่ชื่อว่า “00后宝妈” (ซึ่งหมายถึงคุณแม่มือใหม่ที่เกิดหลังจากปี 2000) ซึ่งเป็นแฮชแท็กที่ได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ในหมู่เด็กสาวที่มีอายุ 14-16 ปี ซึ่งถ้าเข้าไปดูในแท็กดังกล่าวจะเห็นภาพและวิดีโอของเด็กสาวที่ตั้งท้องมากมายและหากดูจากโพสต์เหล่านั้นจะเห็นได้ว่าเหล่าคุณแม่ดูจะภูมิใจกับการตั้งท้องมากเลยทีเดียว     หลังจากโพสต์ของผู้ใช้ Weibo คนนี้ได้โด่งดังขึ้นทางแอพพลิเคชั่น Kuaishou ก็ได้ไล่ปิดบัญชีที่มีรูปของเด็กสาวที่ตั้งท้องเหล่านี้และเปลี่ยนเป็นคำแถลงจากทางตำรวจออกมาแทน     ต่อมาชาวอินเทอร์เน็ตก็ได้แสดงความคิดเห็นวิจารณ์แอพ Kuaishou ที่ปล่อยให้ภาพของเด็กๆ เหล่านี้ออกมาบนโลกออนไลน์เพราะว่ามีความไม่เหมาะสมอีกทั้งยังเรียกร้องให้รัฐบาลปิดแอพพลิเคชั่นอันนี้ซะ     แต่ก็มีบางคนที่ออกมาต่อต้านโดยบอกว่า “แอพแชร์วิดีโอดังกล่าวไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเด็กๆ ไม่ได้ท้องกับแอพซะหน่อย แค่เพียงว่าคุณไม่เห็นเด็กๆ วัยกระเตาะเหล่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่จริงนี่” ชาวเน็ตรายหนึ่งได้กล่าวไว้   ดูเหมือนเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติที่ลงตัว แต่ถ้ามีความคืบหน้ายังไง Catdumb จะเอามานำเสนออย่างแน่นอน   ที่มา: mp.weixin.qq

  • มาเรียนรู้ 7 สาเหตุสำคัญตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่เป็นเหตุทำให้คู่รักเลิกรากันมากที่สุด!!

    มาเรียนรู้ 7 สาเหตุสำคัญตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่เป็นเหตุทำให้คู่รักเลิกรากันมากที่สุด!!

    การเลิกรากันของคู่รักนั้นมีให้เห็นจนเป็นเรื่องชินตาซึ่งสาเหตุใหญ่ๆ อาจจะมาจากการหมดรักกันแล้วและอาจจะมีสาเหตุอย่างอื่นร่วมด้วยอีก นี่คือปัจจัย 7 อย่างที่อาจทำให้คู่รักหลายคู่ต้องเลิกรากันไป ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วจากนักวิทยาศาสตร์ต่างประเทศแล้วว่านี่เป็นเรื่องจริง มาลองดูแล้วนำไปปรับใช้กับชีวิตกันดีกว่า     1. แต่งงานกันในช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่นหรืออายุเกินกว่า 35 ปี จากการวิจัยพบว่าการแต่งงานในช่วงวัยรุ่นนั้นมีความเสี่ยงมากที่จะมีการหย่าร้างเกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่แต่งงานในช่วงอายุ 35-40 ปีกลับมีอัตราเสี่ยงที่มากกว่าผู้ที่แต่งงานในช่วง 20 ปลายๆ หรือ 30 ต้นๆ ผลจากการวิจัยของ Nicholas Wolfinger อาจารย์ในมหาวิทยาลัย Utah ยังบอกอีกด้วยว่า “สำหรับทุกคน ช่วงอายุ 20 ปลายๆ ดูเหมือนจะเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการแต่งงาน”     2. การที่สามีไม่มีงานทำที่เป็นหลักแหล่ง อาจจะมีชั่วขณะหนึ่งที่คุณสงสัยว่าเงินจะเป็นปัจจัยใหญ่ในชีวิตคู่ไหม งานวิจัยของ Alexandre Killewald แห่งมหาวิทยาลัย Harvard ได้ออกมายืนยันแล้วว่าเป็นจริงตามนั้น การศึกษาวิจัยพบว่า สามีที่เป็นผู้นำครอบครัวมีงานทำเป็นหลักแหล่งจะมีอัตราการหย่าร้างในปีต่อมาเพียง 2.5% เท่านั้นในขณะที่สามีที่ทำงานแบบไม่มีหลักแหล่งมีอัตราการหย่าร้างสูงถึง 3.3% ผู้ทำวิจัยอันนี้ได้สรุปปิดท้ายว่า ผู้ชายที่หาเลี้ยงครอบครัวดูเหมือนจะมีชีวิตชีวามากกว่าและยังทำให้การสมรสมีความมั่นคงอีกด้วย   3. เรียนไม่จบมัธยม อ้างอิงจาก National Longitudinal Survey of Youth ได้บอกไว้ว่าโอกาสที่คู่รักจะหย่าร้างมีน้อยกว่าในคนที่มีการศึกษา โดยเปรียบเทียบกับผู้เรียนไม่จบมัธยมกับผู้ที่เรียนจบมหาวิทยาลัย…

  • โหดฝัดรัสเซีย!! หญิงชาวรัสเซียใจกล้า เดินผ่านดงระเบิดแบบชิวๆ เพื่อทดสอบชุดเกราะรุ่นใหม่

    โหดฝัดรัสเซีย!! หญิงชาวรัสเซียใจกล้า เดินผ่านดงระเบิดแบบชิวๆ เพื่อทดสอบชุดเกราะรุ่นใหม่

    ประเทศรัสเซียเป็นประเทศหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมาตั้งแต่สมัยอดีตอยู่แล้ว ยิ่งในเรื่องยุทโธปกรณ์แล้วนับได้ว่าเป็นแนวหน้าในเรื่องนี้เลยทีเดียว และล่าสุดก็ได้มีการทดสอบชุดเกราะด้วยการนำผู้หญิงมาใส่ชุดเกราะแล้วให้เดินผ่านระเบิดซะอย่างงั้น!!! เหตุการณ์นี้ได้เผยแพร่บนเว็บไซต์ Youtube เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาโดยภาพที่เห็นคือผู้หญิงคนหนึ่งชื่อว่า Viktoria Kolesnikova ได้สวมชุดเกราะตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเดินผ่านระเบิดที่ฝังเอาไว้ใต้ดิน และดูเหมือนว่าเธอจะเดินแบบหน้าตาเฉยและไม่มีความกังวลใดๆ เกี่ยวกับระเบิดเลย   อย่างโหด   ซึ่งปรากฏว่าขณะที่เธอเดินผ่านระเบิดชุดเกราะอันนี้ได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบและระเบิดไม่สามารถทำอันตรายอะไรให้แก่เธอได้เลย โดยสิ่งที่ระเบิดทำได้มีเพียงอย่างเดียวคือฝากรอยเขม่าสีดำๆ ไว้บนหน้าเธอเพียงเท่านั้น   ถอดหน้ากากออกมายังกับนางฟ้า   หลังจากเธอแสดงความโลดโผน เธอก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าชุดเกราะที่เธอสวมได้ให้ความรู้สึกเธออธิบายไม่ได้เลยทีเดียว “การเดินอยู่ในระยะระเบิดเป็นอะไรที่แสนวิเศษไปเลย มันสวยงามมากและฉันอธิบายได้เพียงแค่ว่า ว้าว” Kolesnikova กล่าว   เหมือนในหนังใช่ปะล่ะ   สำหรับ Kolesnikova นั้นเธอมีอาชีพเป็นสตั๊นท์แมนหรือนักแสดงแทนหญิงในฉากเสี่ยงอันตราย แม้เธอจะเคยเล่นฉากอันตรายมาก็มา แต่การเดินลุยดงระเบิดนี่มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว Sergey Kitov หัวหน้าทีมพัฒนาพัฒนาชุดเกราะนี้ได้ออกมาบอกว่าชุดที่เธอใส่เดินผ่านระเบิดนั้นเป็นชุดพิเศษที่ผลิตขึ้นมาจาก Aramid Fiber ซึ่งเป็นไฟเบอร์สังเคราะห์แบบพิเศษที่สามารถทนต่อความร้อนและการฉีกขาดได้ดี เขายังบอกอีกว่าชุดนี้ดีพอที่จะสามารถป้องกันกระสุนและระเบิดได้ แต่ว่าชุดที่ว่านี้สามารถทนต่อไฟได้เพียง 30 วินาทีเท่านั้น ซึ่งพวกเขาตั้งใจจะพัฒนาให้ดีขึ้นกว่านี้ ทางผู้พัฒนาก็หวังไว้ว่าการสาธิตให้เห็นนี้จะทำให้มีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้นระหว่างบริษัทผู้ผลิตกับกองทัพนั่นเอง   ลองมาดูวีดีโอความใจกล้าของสาวคนนี้กัน   ที่มา: rt

  • โครตเก่ง!! รวม 24 ภาพสตรีทอาร์ตสุดเจ๋งที่ไม่ใช่แค่มือบอน แต่มันคืองานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ

    โครตเก่ง!! รวม 24 ภาพสตรีทอาร์ตสุดเจ๋งที่ไม่ใช่แค่มือบอน แต่มันคืองานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ

    ภาพสตรีทอาร์ต เป็นภาพที่ศิลปินได้สร้างสรรค์ภาพขึ้นตามตึกรามบ้านช่องหรือถนนต่างๆ ซึ่งบางทีเรามองว่าเค้าได้ทำให้บ้านเมืองสกปรก แต่จริงๆ แล้วเขาอาจต้องการที่จะสร้างศิลปะให้เราได้ชมกันในทุกวันที่เราใช้ชีวิต ภาพสตรีทอาร์ตต่อไปนี้เป็นภาพที่ศิลปินเจ๋งๆ ได้ฝากไว้ให้เราได้ดูกันว่าเขานั้นมีความคิดสร้างสรรค์ขนาดไหน ซึ่งจะเป็นอย่างไรมาดูกันดีกว่า   เฮ้ย ใครเค้าเอารถไปจอดกันตรงนั้นกัน   ปิดทีนี่อาจทำให้พิการได้เลยทีเดียว   ไม่ไหวแล้ว มาวว   คนกลัวแมงมุมนี่หัวใจวายตายได้เลยนะ   คนใส่กระโปรงคงไม่กล้าเดินผ่านเจ้ากบตัวนี้   นี่บ้านหลังเดียวหรือทั้งหมู่บ้านกันนะ   เทวดานางฟ้าเดี๋ยวนี้ยังต้องแชทกัน   ช่วยด้วย จะจมแล้วว   ใครจะเป็นแจ็คกับโรสก็ต้องเสี่ยงหน่อยนะ   น่ากลัวหรือน่ารักมากกว่ากัน   กว่าจะได้กินแต่ละหยด กรามค้างพอดี   ข้างล่างจะทำอะไร ข้าไม่สนเว้ย   ดูอะไรกันอยู่หรอ ?   เหมือนมันจะทะลุออกมายังไงไม่รู้   ทรงผมน่าจุดไฟเผาซะจริง   ใครอย่าเข้าไปใกล้กำแพงเชียว   ซ้อมบทอารมณ์กันอยู่อะดิ   ถ้าได้ไปนั่งนี่คงรู้สึกเหมือนโดนจ้องมองพิลึกๆ   ตกลงไปนี่ไม่น่าเหลือรอดอ่ะ   ถ้าเอาจักรยานออกจากตรงนั้นคงแปลกๆ   ด่วน!!…

  • 27 ภาพสวรรค์ลอยฟ้าของ Singapore Airlines บนเครื่อง Airbus A380 ที่ปรับปรุงโฉมใหม่!!!

    27 ภาพสวรรค์ลอยฟ้าของ Singapore Airlines บนเครื่อง Airbus A380 ที่ปรับปรุงโฉมใหม่!!!

    นอกเหนือจากความรวดเร็วแล้ว สิ่งที่เราคำนึงถึงเวลาเดินทางด้วยเครื่องบินก็คงจะเป็นการบริการและที่นั่งอันแสนสบาย ซึ่งในวันนี้ทางสายการบิน Singapore Airlines ได้ออกมาเผยเครื่องบินโดยสาร Airbus A380 รุ่นใหม่ ที่เรียกว่าเปิดมิติใหม่แห่งการเดินทาง เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนสายการบิน Singapore Airlines ได้ออกมาเปิดตัวห้องโดยสารแบบใหม่ที่จะติดตั้งในเครื่องบิน Airbus Air 380 Superjumbos ซึ่งเป็นการเปลี่ยนโฉมในรอบเกือบทศวรรษเลยทีเดียว     “มันเป็นการลงทุนครั้งสำคัญที่เราทำขึ้นสำหรับการปรับเปลี่ยนห้องโดยสารรูปแบบใหม่เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งด้านผลิตภัณฑ์และบริการ” “ซึ่งนั่นเป็นเป้าหมายระยะยาวของเราที่จะให้สายการบิน Singapore Airlines นี้เป็นผู้นำในด้านการบินและเพื่อความมั่นใจในการให้บริการแบบ Full-service นั่นเอง” Mr. Goh Choon Phong Ceo ของสายการบิน Singapore Airlines กล่าวไว้     รูปแบบของห้องโดยสารภายในนี้ใช้เวลาในการออกแบบกว่า 4 ปีโดยใช้งานวิจัยที่สำรวจลูกค้าต่างๆ เพื่อความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก นอกจากนี้พวกเขายังได้ดีไซเนอร์ชื่อดังและผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ มาร่วมออกแบบด้วยโดยทั้งหมดใช้เงินกว่า 850 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเลยทีเดียว โดยรวมแล้วห้องโดยสารรูปแบบใหม่นี้จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 471 ที่นั่งซึ่งแยกออกเป็น 4 ระดับคือ First-Class 6 ที่นั่ง ชั้นธุรกิจ 78…

  • หนุ่มตกปลาที่ลำตัวแทบขาดครึ่งจาก “เศษพลาสติก” เพราะมันโตมาพร้อมการถูกรัดจากขยะ

    หนุ่มตกปลาที่ลำตัวแทบขาดครึ่งจาก “เศษพลาสติก” เพราะมันโตมาพร้อมการถูกรัดจากขยะ

    ปัญหาเรื่องขยะดูเหมือนที่จะมีอยู่ทุกแห่งบนโลกใบนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตอย่างเช่นปลาตัวนี้ที่โดยเศษพลาสติกจากขวดน้ำรัดมันจนตัวแทบขาดครึ่ง!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Medicine Hat รัฐ Alberta ประเทศแคนาดาเมื่อมีชายคนหนึ่งชื่อว่า Adam Turnball ได้ตกปลาสุดแปลกมาได้ตัวหนึ่งที่มีลำตัวแทบจะขาดครึ่ง โดยเขาได้เล่าเหตุการณ์ว่าวันนั้นก็เป็นวันปกติที่เขามักจะออกไปตกปลาอยู่แล้ว    หน้าตาของหนุ่มที่พบปลาแสนโชคร้าย   แต่เมื่อเขาตกปลาตัวนี้ขึ้นมาได้เขาก็เห็นว่าลำตัวของมันดูแหว่งๆ ซึ่งอาจจะมาจากการถูกปลาตัวอื่นทำร้าย แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นพลาสติกที่หุ้มปากขวดของเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งที่มีชื่อว่า Powerade   อะไรสีดำๆ ตรงนั้นนะ   “ผมไม่เคยเห็นเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต มันทำผมช็อคไปเลยทีเดียว” “เจ้าปลาตัวนี้ต้องใช้ชีวิตที่ผ่านมาโดยมีพลาสติกหุ้มตัวมันตลอดเวลาอย่างนี้ มันน่าเศร้าจริงๆ” Adam ได้กล่าวไว้   ที่หุ้มขวดน้ำนั่นเอง   ก่อนที่จะปล่อยมันกลับสู่ธรรมชาติ Adam ก็ได้ถ่ายรูปปลาตัวนี้ไว้พร้อมกับแชร์ไปบน Facebook ของเขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลบนอินเทอร์เน็ตที่มีผู้แชร์โพสต์ของเขาแล้วกว่า 15,000 ครั้ง   โพสต์สร้างจิตสำนึกให้คนอื่นๆ เห็นถึงปัญหาขยะ   นั่นทำให้เขารู้สึกดีใจที่สามารถทำให้ผู้คนได้เห็นความสำคัญของการทิ้งขยะมากขึ้น “เมื่อคุณนำสิ่งของเข้ามา ก็เอากลับไปกับคุณด้วย” Adam ได้บอกทิ้งท้ายไว้   แหม เกือบไปแล้วไหมล่ะ   สงสารเจ้าปลาน้อยจริงๆ หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะ   ที่มา: buzzfeed

  • ทำความรู้จักกับ Swim Reaper ยมฑูตที่จะมารับวิญญาณคนตายจากการจมน้ำโดยประมาท

    ทำความรู้จักกับ Swim Reaper ยมฑูตที่จะมารับวิญญาณคนตายจากการจมน้ำโดยประมาท

    การลงสู่แม่น้ำหรือทะเลแต่ละครั้ง มีเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงเสมอไม่ว่าจะเมื่อไหร่ เพราะเราไม่รู้ว่าข้างใต้น้ำนั้นมีอะไรอยู่บ้าง ซึ่งหลายคนได้ละเลยถึงความสำคัญของข้อนี้ไปจึงนำไปสู่ความตายในที่สุด ในปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตในประเทศ New Zealand จากการจมน้ำกว่า 106 ราย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วลงเล่นน้ำ หรือการกระโดดน้ำจากที่สูงๆ แล้วไม่รู้ว่าข้างใต้น้ำนั้นมีตอไม้อยู่หรือกระทั่งการสวมชุดที่ไม่เหมาะสมกับการเล่นน้ำ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลของประเทศ New Zealand จึงมีความคิดที่แสนจะบรรเจิดคือพวกเขาได้สร้าง Instagram ขึ้นมายูสเซอร์หนึ่งชื่อว่า iamtheswimreaper เขาได้นำเอาตำนานที่ชื่อว่า Grim Reaper ซึ่งเป็นยมฑูตที่คอยรับวิญญาณคนที่ตายแล้วมาดัดแปลงเป็น Swim Reaper เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปคำนึงถึงความปลอดภัยในการลงสู่ทะเล มิเช่นนั้นยมฑูตคนนี้จะมาคอยรับวิญญาณไปยมโลกนั่นเอง   . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   หากใครชื่นชอบผลงานภาพสวยๆ ก็สามารถติดตามได้ที่ swimreaper และ iamtheswimreaper นะจ๊ะ   นั่งเรือเป็ดน่ารักเชียว   ที่มา: designyoutrust

  • ยอดเบียร์แห่งยุค!! บริษัทผลิตเบียร์ยี่ห้อหนึ่งนำเอาเชื้อแบคทีเรียจาก “จิ๊มิ” มาเป็นส่วนผสมด้วย

    ยอดเบียร์แห่งยุค!! บริษัทผลิตเบียร์ยี่ห้อหนึ่งนำเอาเชื้อแบคทีเรียจาก “จิ๊มิ” มาเป็นส่วนผสมด้วย

    สิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ต้องการมักจะมีอยู่ไม่กี่เรื่องและเรื่องที่ว่านี้ก็อาจจะรวมถึงการกินเหล้าเคล้านารี แต่ในวันนี้มีเรื่องที่จะทำให้ผู้ชายทุกคนต้องทึ่งเพราะว่าตอนนี้ได้มีเบียร์ยี่ห้อหนึ่งที่นำแบคทีเรียจากจิ๊มิของนางแบบสาวสวยมาใส่ในเบียร์ซะงั้น เบียร์ที่มีไอเดียสุดล้ำนี้มีชื่อยี่ห้อว่า The Order Of Yoni โดยทาง Wojtek Mann ผู้ผลิตและคิดค้นได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เราใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของจุลชีววิทยา เราแยกและตรวจสอบจึงได้ออกมาเป็นแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลคติกและแลคโตบาซิลลัส ซึ่งได้มาจากจิ๊มิของสาวสวยนางแบบที่มีคัดกันมาว่ามีเสน่ห์ งดงามโดยนำสัญชาตญาณเหล่านี้ของเธอมาใส่ลงในเบียร์ของเรารวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของเราด้วย”    เบียร์ที่อาจเป็นฝันของชายหลายคนเพราะมีเชื้อแบคทีเรียที่มาจาก “จิ๊มิ”   ซึ่งถ้าถามในเรื่องความปลอดภัยของเบียร์ Mann ก็ได้อธิบายไว้ว่า “สิ่งที่สำคัญมากในโปรเจกต์นี้คือการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของเรา ส่วนประกอบทั้งหมดเราได้ตรวจสอบแล้วรวมทั้งแบคทีเรียและเชื้อไวรัสด้วย” “อย่างที่สองคือในขั้นตอนของการแยกเชื้อและเตรียมเชื้อเราได้ป้องกันเชื่อโรคอื่นๆ ที่จะเข้ามาเจือปนด้วยนั่นทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราปลอดภัยแน่นอน มากไปกว่านั้นเรายังตรวจสอบเชื้อแบคทีเรียอีกครั้งก่อนจะออกสู่ท้องตลาด”    ไหนๆ เบียร์ยี่ห้อนี้อยู่ไหน   สำหรับนางแบบคนแรกที่ได้ให้เชื้อแก่เบียร์ยี่ห้อนี้คือ Alexandra นางแบบสาวชาวเช็ก และยังมีนางแบบคนอื่นอีก 2 คนคือ Monika และ Paulina แต่ถ้าคุณเกิดคิดพิเรนทร์กว่าเดิมอีกนิด อยากได้อะไรที่ส่วนตัวกว่าเดิมอีกหน่อย ไม่แน่นะถ้าคุณบริจาคให้โรงงานผลิตเบียร์แห่งนี้มากพอ คุณอาจจะได้กินเบียร์ที่กลั่นมาจากแฟนสาวของคุณก็ได้   นางแบบสาวสวยผู้มีส่วนในการผลิตเบียร์   เบียร์ยี่ห้อนี่นอกจากจะมีแลคโตบาซิลลัสจากสาวสวยแล้วยังมีส่วนประกอบอีกหลายชนิดเช่น มอลต์ที่ผลิตมาจากข้าวบาร์เลย์ ฮอบส์ ยีส โดยเบียร์นี้มีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ที่ 6.1% ซึ่งถือว่าเยอะเลยล่ะ   หรือถ้าอยากกินเบียร์ที่มาจากสาวผมแดงหรือน้ำตาล ที่นี่ก็จัดให้ได้เหมือนกัน…

  • ศิลปินทำอาหารเลียนแบบฉากในการ์ตูนต่างๆ จากค่าย Ghibli Studio เห็นแล้วหิวเลย!!

    ศิลปินทำอาหารเลียนแบบฉากในการ์ตูนต่างๆ จากค่าย Ghibli Studio เห็นแล้วหิวเลย!!

    หากใครเคยดูการ์ตูนอนิเมะของ Ghibli Studio จะเห็นได้ว่าการ์ตูนต่างๆ ของทางค่ายนี้นอกจากจะมีเนื้อหาที่เข้มข้นจนได้รับการยอมรับจากทั่วโลกแล้ว อาหารที่อยู่ในเรื่องบางครั้งก็อาจจะทำให้คนที่ดูเกิดความหิวขึ้นมาจนท้องกิ่ว และในวันนี้ได้มีผู้ใช้อินสตราแกรมผู้หนึ่งที่ใช้ชื่อว่า En93kitchen ได้ทำอาหารขึ้นมาเลียนแบบภาพที่อยู่ในการ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดังหลากหลายเรื่องขึ้นมา ไม่เพียงแค่จากค่ายจิบลิเท่านั้น แต่ยังมีแอนิเมชั่นชื่อดังจากค่ายอื่นๆ ด้วย รับรองว่ายิ่งดูยิ่งหิวอย่างแน่นอน ซึ่งจะจริงอย่างที่ #เหมียวฝึดหัดหมายเลข17 ว่าหรือไม่ลองรับชมกันดูและหากใครชื่นชอบศิลปะในการทำอาหารแบบนี้ติดตามกันต่อได้ที่ En93kitchen เลย   อาหารเช้าที่แสนน่ากินจากเรื่อง Howl’s Moving Castle   เค้กแสนสวยจากเรื่อง แม่มดน้อยกิกิ   ปาร์ตี้น้ำชาจากเรื่อง Spirited Away   ราเมนร้อนๆ จากเรื่อง Ponyo   กล่องข้าวอาหารกลางวันจากเรื่อง My Neighbor Totoro   แซนวิซอาหารง่ายๆ แต่อร่อยจากเรื่อง Ponyo   กล่องข้าวอาหารกลางวันแบบญี่ปุ่นจากเรื่อง From Up On Poppy Hill   ซุปรสชาติกลมกล่อมจากเรื่อง Wolf Children   แซนวิชหน้าตาแปลกๆ จากเรื่อง Tales From Earthsea…

  • มีจริงแล้ว!! Death Note สำหรับภรรยาที่เบื่อพ่อบ้านใจกล้า อยากแช่งให้ตายก็มาเขียนในนี้

    มีจริงแล้ว!! Death Note สำหรับภรรยาที่เบื่อพ่อบ้านใจกล้า อยากแช่งให้ตายก็มาเขียนในนี้

    คู่ผัวเมียที่อยู่กันมานานก็ย่อมมีเรื่องที่ไม่เข้าใจหรือบาดหมางกันบ้าง และบางทีผู้ชายอาจจะมีความกวนจนผู้หญิงอาจจะมีความคิดที่อยากจะแช่งกันให้ตายๆ จากกันไป(แหม บางทีอารมณ์มันขึ้นก็มีกันบ้างแหละเนอะ) ในวันนี้ความฝันได้กลายเป็นจริงแล้ว เพราะว่าได้มีสมุดที่สร้างขึ้นมาเพื่อคุณแม่บ้านทั้งหลายโดยเฉพาะ สมุดเล่มนี้คือสมุด Death Note สำหรับสามีที่กวนใจเหล่าภรรยาทั้งหลาย     สมุดเล่มนี้ในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า “Danna shine“ หรือที่แปลว่า “ตายซะเถอะผัวจ๋า” โดยในนี้จะมีตัวอย่างคำอวยพรให้เหล่าสามีตัวดีอย่าง “เมื่อฉันตื่นมาตอนเช้า ฉันหวังว่าจะพบร่างที่เย็นชืดและไร้วิญญาณของคุณ” “นี่คุณยังมีชีวิตอยู่อีกหรอ โปรดหยุดเต้นซักทีเถอะหัวใจของสามีฉันน่ะ” “คุณเป็นได้แค่ ATM ของฉันเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น” “จะตายยังไงก็ได้ แต่ตายๆ ไปซักทีเถอะ”    หน้าตาของหนังสือ Death Note สำหรับเหล่าแม่บ้านทั้งหลาย   Takarajima ผู้ออกแบบหนังสือได้อธิบายไว้ว่าเหตุผลที่สร้างหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาก็เพราะเห็นว่าในปัจจุบันมีภรรยาที่ต้องทนทุกข์กับความโดดเดี่ยวและความเครียดมากมาย หนังสือเล่มนี้จึงเป็นเหมือนที่สำหรับการระบายความเครียดต่างๆ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นแค่ที่บ่นเล่นๆ มากกว่าที่จะอยากให้คู่ชีวิตนั้นตายจริงๆ ซึ่งตอนนี้หนังสือเล่มนี้ก็มีขายแล้วที่ Amazon ราคาก็ตกอยู่ที่เล่มละ 1,188 yen (ประมาณ 350 บาท) เท่านั้นเอง     เห็นอย่างนี้แล้ว พ่อบ้านใจกล้าทั้งหลายระวังตัวไว้นะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!!   ที่มา: rocketnews24

  • กระจ่าง!! ไขปริศนาที่ข้องใจว่า “สิ่งปฏิกูล” ที่จัดหนักบนเครื่องบิน มันหายไปอยู่ไหนกันนะ?

    กระจ่าง!! ไขปริศนาที่ข้องใจว่า “สิ่งปฏิกูล” ที่จัดหนักบนเครื่องบิน มันหายไปอยู่ไหนกันนะ?

    ตอนสมัยเด็กๆ เคยคิดกันไหมว่าหากเราเกิดถ่ายสิ่งปฏิกูลบนเครื่องบินเนี่ยมันจะหายไปไหนกันนะ มันจะตกมาใส่เราไหม? มันจะตกใส่หลังคาบ้านใครรึเปล่า? วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว ไปดูเรื่องการขับถ่ายธรรมดาที่ไม่ธรรมดากันเลยดีกว่า   ครั้งแรกของบางคนนี่กลัวจนไม่กล้าเข้าห้องน้ำกันเลยทีเดียว แต่อย่าทำอย่างนั้นเลยมันไม่ดีต่อสุขภาพนักหรอก   หลักการทำงานนั้นก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่ “ย้ายจากท้องของคุณมาสู่ท้องของเครื่องบิน” แทนแค่นั้นเอง   ไหนมีใครงงไหม ถ้ามีเดี๋ยวเราจะบอกให้ฟังเอง เมื่อเราเสร็จภารกิจแล้วกดชักโครกทันใดนั้นเองที่ก้อนดินเหนียวของเราได้ลงไปสู่ถังเก็บสิ่งปฏิกูล   เครื่องบินทุกเครื่องจะมีถังสำหรับเก็บสิ่งปฏิกูลเอาไว้ภายใน โดยจำนวนถังที่มีของแต่ละเครื่องบินก็จะแตกต่างกันออกไป   และเมื่อมีของเสียเหล่านั้นถึงกำหนดก็จำเป็นที่จะต้องปิดถัง มิเช่นนั้นมันอาจจะตกเรี่ยราดออกจากเครื่องบิน ซึ่งในอดีตเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นจริง   สำหรับความจุที่ถังหนึ่งถังนั้นสามารถจุได้ก็คือประมาณ 20 แกลลอนหรือเกือบ 100 ลิตรเลยทีเดียว   และเมื่อเครื่องบินลงจอดก็จะมีรถสูบส้วมมาสูบสิ่งเน่าเสียเหล่านี้ออกไปจากถังนั่นเอง   และนี่คือสิ่งที่ผู้โดยสารอย่างเราๆ ทิ้งไว้บนเครื่องบิน หยึยย   และนี่คือเรื่องราวของ “ขี้” ที่เดินทางไปกับเราบนเครื่องบินนั่นเอง   แล้วก็คลายความสงสัยกันไปได้สำหรับใครที่เคยมีความคิดอย่างนี้ อย่างน้อยก็มีผมคนนึงนี่แหละที่เคยคิดแบบนี้จริงๆ ฮ่าๆๆ   ที่มา: wittyfeed

  • หญิงสาวตอกกลับหนุ่มที่บอกไม่ใช้ถุงยางเพราะ “ใหญ่เกินไป” จนชาวเน็ตถูกใจแชร์กันยกใหญ่

    หญิงสาวตอกกลับหนุ่มที่บอกไม่ใช้ถุงยางเพราะ “ใหญ่เกินไป” จนชาวเน็ตถูกใจแชร์กันยกใหญ่

    เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ว่าจะมีเครื่องมืออยู่หนึ่งชนิดที่ผลิตขึ้นมาเพื่อยับยั้งความไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่จะตามมาอย่างเช่นโรคร้ายหรือการตั้งครรภ์ สิ่งนั้นก็คือ “ถุงยางอนามัย” นั่นเอง แต่ก็มีผู้ชายบางคนไม่อยากที่จะใส่เจ้าห่วงมหัศจรรย์อันนี้ด้วยเหตุผลบางประกา จนข้ออ้างบอกว่า “ไอ่จ้อนของเขามีขนาดใหญ่เกินไป” ซึ่งนี่ทำให้เกิดกระแสไวรัลในโซเชียลเน็ตเวิร์คเพราะว่ามีสาวน้อยผู้หนึ่งออกมาตอกกลับคนที่บอกเหตุผลนี้ พร้อมกับยืนยันด้วยรูปที่เถียงไม่ได้เลยทีเดียว สาวน้อยอายุ 18 ปีจากรัฐ Utah ประเทศสหรัฐอเมริกา คนหนึ่งชื่อว่า Emily ได้สร้างกระแสไวรัลบนอินเทอร์เน็ตในเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอได้โพสต์รูปภาพตอบกลับผู้ชายที่ชอบบอกว่าของตัวเองนั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะใส่ถุงยางได้ โดยเธอได้สาธิตด้วยการเอามือใส่เข้าไปทั้งมือและยังครอบคลุมได้ถึงต้นแขนบางส่วนเลยล่ะ   รูปภาพประชดสุดฮา   โดยเธอได้ใส่แคปชั่นในภาพไว้ว่า “ถ้ามีผู้ชายคนหนึ่งบอกว่าของเขาใหญ่เกินกว่าจะใส่ถุงยางได้ ส่งรูปนี้ให้เขาซะ” รูปภาพทั้ง 3 ภาพนี้ได้กลายมาเป็นกระแสไวรัลที่ตอนนี้มีผู้รีทวีตของเธอแล้วกว่าเกือบ 4 หมื่นครั้ง สำหรับผลตอบรับที่เธอได้รับส่วนมากจะเป็นในแง่บวกโดยเฉพาะความคิดเห็นที่มาจากผู้หญิงและก็มีผู้ชายส่วนหนึ่งที่ออกมาปกป้องเพศของพวกเขาเช่นเดียวกันโดยสามารถติดตามกันได้ที่ @DramaticEmily   มีใครให้ใหญ่กว่านี้อีกไหม   กำมือในนี้ยังได้เลย   ไหนใครจะเถียงฮะ   มาลองดูความคิดเห็นของชาวเน็ตที่มีต่อภาพของเธอบ้างดีกว่า   อย่างชายคนนี้ที่เขาได้ตอบกลับเธอว่า “การเอาแขนใส่ในถุงยางอนามัยได้ ไม่ได้หมายความว่ามันจะสบายสำหรับคนที่สวมมันนะ”     และเมื่อมีลบก็ต้องมีบวกเหมือนเธอคนนี้ที่ให้กำลังใจคนโพสต์ภาพว่า “มันสุดยอดไปเลย ขอบคุณสำหรับการมีอยู่ของเธอนะ”     จริงๆ แล้วถุงยางอนามัยมีประโยชน์มากมายหลายอย่าง นอกจากจะสามารถคุมกำเนิดได้กว่า 98% แล้วยังสามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างโรคเอดส์ซึ่งเป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิตได้ นอกจากนั้นยังสามารถลดความเจ็บระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์กันได้อีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วคนไหนที่อยากกระชับรักแบบปลอดภัยและไม่ต้องกังวลหน้ากังวลหลังอย่าลืมที่จะใช้เจ้าห่วงวิเศษอันนี้กันนะ แล้วอย่าแก้ตัวกันด้วยการบอกว่ามีขนาดใหญ่เกินไปอีกล่ะ คิคิ  …

  • พี่ชายใจดียอมให้น้องสาวฝึกฝน “ทำเล็บ” ด้วยการเอาตัวเองเป็นหนูทดลองซะเลย

    พี่ชายใจดียอมให้น้องสาวฝึกฝน “ทำเล็บ” ด้วยการเอาตัวเองเป็นหนูทดลองซะเลย

    เมื่อน้องสาวคุณมีความฝันอยากจะเป็นช่างเสริมสวยก็คงจะขัดใจไม่ได้ เหมือนกับชายคนนี้ที่ยอมให้น้องสาวลองทำสีเล็บให้แล้วถ่ายรูปลงโซเชียลต่อมากลายเป็นกระแสไวรัลเฉยเลย ชายคนนี้มีชื่อว่า Sugar Siah อายุ 18 ปี อาศัยอยู่ที่รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาบอกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วน้องสาวของเขา London อายุ 14 ปี ผู้มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นช่างเสริมสวย เธอจึงขอฝึกสกิลการทำเล็บบนเล็บของเขา งานนี้เขาบอกว่าเขาเต็มใจด้วยนะ เอ้า    หน้าตาของชายผู้อยากลองของ   โดยสิ่งที่น้องสาวของเขาทำให้ก็คือการติดเล็บปลอมแล้วลองทาสีเล็บให้เป็นสีแดง หน้าตาอย่างฟิน เป็นใช่ไหมเนี่ยย   ใกล้จะเสร็จแล้ว   และนี่คือผลลัพธ์จากฝีมือน้องสาวเขา ไม่เลวเหมือนกันนะเนี่ย   แลดูตัวเขาจะชอบเหมือนกัน   หลังจากนั้นเขาตัดสินใจอัพรูปถ่ายของเขาลงใน Twitter พร้อมกับแคปชั่นว่า “เมื่อน้องสาวอยากฝึกทำเล็บหรืออะไรทำนองนั้น เธอเลยเอามาลงกับผม ซึ่งผมจะไม่โกหกเลยนะว่าผมรู้สึกเหมือนเป็นนางมารร้ายแล้วตอนนี้” Sugar กล่าวไว้บน Twitter ของเขา     และดูเหมือนว่าผู้คนในโลกออนไลน์จะชอบรูปที่เขาลง จึงมีการพูดถึงเป็นวงกว้าง อีกทั้งยังมีผู้คนจำนวนมากที่ให้กำลังใจพี่ชายที่แสนดีอย่างเขา อย่าง   “เธอมีฝีมือทีเดียวนะ คุณนี่เป็นสุดยอดพี่ชายที่แสนดีและยังน่ารักอีกนะเนี่ย”     “มันดูร้อนแรงจริงๆ เธอเก่งนะเนี่ย”  …

  • 17 คดีฆาตกรรมอันแสนเลือดเย็น ที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปี กว่าจะไขคดีได้!!

    17 คดีฆาตกรรมอันแสนเลือดเย็น ที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปี กว่าจะไขคดีได้!!

    การฆ่าคนถือว่าเป็นการกระทำที่นอกจากผิด ศีลธรรม จริยธรรมแล้ว ยังผิดกฎหมายในแทบจะทุกประเทศบนโลกนี้ด้วย ซึ่งการเอาผิดคนที่เป็นฆาตกรก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวนกันอย่างละเอียด บางคดีจึงต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ เลยทีเดียว แต่นี่คือ 17 อันดับคดีฆาตกรรมที่บางคดีต้องใช้เวลาในการไขคดีเป็นทศวรรษเลยทีเดียว ไปดูกันว่าจะมีความน่ากลัวและใช้เวลานานแค่ไหน   1. John List เขาฆ่าครอบครัวของเขาในปี 1971 และได้หายตัวไป หลังจากนั้นในปี 1989 มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ดูรายการ America’s Most Wanted แล้วก็พบว่าเพื่อนบ้านของเธอที่ชื่อ Robert Clark ได้มีลักษณะท่าทางที่เหมือนกับ List เธอจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบและปรากฎว่า ใช่คนเดียวกันเขาจึงถูกจับกุมในปี 1990 ระยะเวลาที่ใช้ไขคดี : 19 ปี   2. การตายของ Roy Mccaleb Roy McCaleb ถูกพบเป็นศพอยู่ที่บ้านของเขาที่ Houston จากการถูกยิงในปี 1985 โดยภรรยาของเขา Carolyn Sue Krizan-Wilson ได้ให้การว่ามีคนบุกเข้ามาในบ้านและใช้ปืนยิงสามีของเธอ ซึ่งคดีนี้ก็ยังไม่สามารถปิดลงได้จนในปี 2013 เธอก็ได้สารภาพว่าเธอเป็นผู้ลงมือยิงสามีของเธอเอง ระยะเวลาที่ใช้ไขคดี: 28 ปี   3. การตายของเจ้าหน้าที่ Richard…

  • 18 ภาพความโรแมนติก ของ “ฤดูใบไม้ร่วง” จากรอบโลก สวยจนอยากไปเที่ยวทุกที่เลย

    18 ภาพความโรแมนติก ของ “ฤดูใบไม้ร่วง” จากรอบโลก สวยจนอยากไปเที่ยวทุกที่เลย

    หลังจากผ่านฤดูที่ร้อนที่แสนจะหงุดหงิดและเต็มไปด้วยความเหนอะหนะ ในต่างประเทศก็จะมีฤดูใบไม้ร่วงอยู่ช่วงหนึ่งซึ่งฤดูนี้เป็นฤดูที่มีอากาศเย็นสบายเหมาะกับการออกไปข้างนอก อีกทั้งต้นไม้ในสถานที่ต่างๆ ยังพร้อมใจกันผลัดใบเปลี่ยนสีออกมาเป็นสีส้ม-สีแดง เป็นความสวยงามจากธรรมชาติที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้พบเห็น และนี่คือภาพสถานที่ต่างๆ บนโลกที่ฤดูใบไม้ร่วงได้เพิ่มเสน่ห์ความสวยงามให้แต่ละที่จนอยากจะย้ายไปอยู่เลยทีเดียว จะมีที่ไหนกันบ้างเชิญรับชมกันได้เลยจ้า   ใบไม้สีแดงตัดกับกับภาพปราสาทที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น   ปราสาทเก่ากับฉากใบไม้เปลี่ยนสี ริมทะเลสาบใน Loch Awe ประเทศสกอตแลนด์   ต้นไม้สีร้อนแรงเหมาะแก่การนั่งปิกนิกใน Central Park นคร New York   บ้านริมน้ำแสนร่มเย็นที่ Stockholm ประเทศสวีเดน   หมู่บ้านริมทะเลสาบ Hallstaetter ที่สวยดั่งกะนิยายประเทศ ออสเตรีย   ลองนึกภาพไปนั่งเล่นริมน้ำเย็นๆ ที่นี่นะฟินเลย เพราะนี่คือบ้านในเมือง Boston รัฐ Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา   น้ำตก Niagara ยิ่งมีเสน่ห์เพิ่มไปอีกในฤดูใบไม้ร่วง   เมฆหมอกเหนือน้ำช่างสุดจะบรรยายที่ White Mountains National Forest ประเทศ อเมริกา   พิพิธภัณฑ์ Louvre ในตอนที่มีแสงแดดอ่อนๆ ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ที่เมือง…

  • โคตรคูล!! พาบินชั้นเฟิร์สคลาส Lufthansa ราคา 200,000 บาท มันจะหรูหราฟู่ฟ่าขนาดไหนกัน..

    โคตรคูล!! พาบินชั้นเฟิร์สคลาส Lufthansa ราคา 200,000 บาท มันจะหรูหราฟู่ฟ่าขนาดไหนกัน..

    การเดินทางโดยเครื่องบินในทุกวันนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างสูงเพราะนอกจากจะมีความรวดเร็ว ปลอดภัย และยังมีราคาถูกอีกด้วย แต่ในวันนี้จะมีหนุ่มคนหนึ่งพาเราไปนั่งชั้น First Class ของสายการบิน Lufthansa ที่มีราคาต่อเที่ยวสูงถึง 200,000 บาท!! หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Gilbert Ott เขาเป็นเจ้าของเว็บไซต์ Godsavethepoints ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่แนะนำทริคต่างๆ อย่างการสะสมแต้มไมล์ วิธีหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกและทำยังไงให้นั่งชั้นประหยัดสบายเหมือนชั้นธุรกิจ     เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเขาได้จองที่นั่งชั้น First Class ของสายการบิน Lufthansa ซึ่งมีมูลค่า 5,900 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 200,000 บาท) แต่เขาควักเงินจ่ายจริงๆ เพียงแค่ 750 ดอลล่าร์ (ประมาณ 25,000 บาท) เท่านั้นจากการใช้แต้มไมล์ที่ได้สะสมมา โดยเขาเริ่มเดินทางจากสนามบิน Frankfurt ไปยังสนามบิน New York ระหว่างที่บินอยู่นั้นเขาได้บันทึกความหรูหราของเครื่องบินลำนี้ไว้ในกล้องวีดีโอของเขาด้วย มาลองดูกันดีกว่าว่าชีวิตของเขาจะดูดีขนาดไหนกัน   เขาใช้ Asiana Club Miles เพื่อเป็นส่วนลดในการซื้อตั๋วครั้งนี้ซึ่งเขาได้มาจากการพักโรงแรมในเครือ Starwood การได้บินพร้อมกับลูกเรืออีก 4 คนแถมยังมีที่นั่งอีก 8 ที่สำหรับเขาคนเดียวเป็นอะไรที่โคตรจะเจ๋งไปเลย   ตอนก่อนเริ่มบินเขามาถึงอาคารของผู้โดยสาร First…

  • ทีมวิจัยญี่ปุ่นล้ำหน้าอีก สร้างมาตฐานเครื่องวัดน้ำหนักกิโลกรัม ให้แม่นยำกว่าเดิมในรอบ 130 ปี!!!

    ทีมวิจัยญี่ปุ่นล้ำหน้าอีก สร้างมาตฐานเครื่องวัดน้ำหนักกิโลกรัม ให้แม่นยำกว่าเดิมในรอบ 130 ปี!!!

    เคยเป็นกันบ้างไหมที่เมื่อตอนเราไปชั่งน้ำหนักตามที่ต่างๆ ก็พบว่าเอ๊ะ ทำไมน้ำหนักที่ชั่งแต่ละเครื่องมันไม่เท่ากันนะ แต่ว่าปัญหานี้กำลังจะหมดไปเมื่อตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นได้คิดค้นวิธีการชั่งน้ำหนักแบบใหม่ออกมาได้แล้ว ย้อนกลับไปในปี 1875 มนุษย์ในยุคนั้นได้พยายามเข้าใจโลกให้มากขึ้น พวกเขาจึงได้สร้างมาตรฐานของการชั่งน้ำหนักด้วยความแม่นยำที่สูง โดยเครื่องชั่งน้ำหนักเครื่องแรกของโลกนั้นพวกเขาสร้างมาในรูปทรงกระบอกซึ่งโลหะที่ใช้ในการผลิตก็มีทั้ง แพลตตินั่มและอิลเดียมอัลลอย ซึ่งสิ่งนี้ที่พวกเขาเรียกว่า International Prototype Kilogram (IPK) ซึ่งเป็นต้นแบบของการชั่งน้ำหนักที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้   ถูกเก็บไว้อย่างดีในกระจกหลายชั้น   ซึ่งเจ้า IPK นี้ได้มีการจำลองในหลายประเทศทั่วโลกเพื่อให้ดูเป็นต้นแบบ แต่ว่าของจริงนั้นได้อยู่ที่ International Bureau of Weights and Measurements ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ขี้ฝุ่นและปัจจัยอื่นๆ ที่นับไม่ได้ทำให้เครื่องชั่งน้ำหนักแบบ IPK ที่แพร่หลายทุกที่บนโลกนี้มีความไม่เที่ยงตรงที่แท้จริง ซึ่งนั่นได้สร้างปัญหาตามมาอย่างเช่น การชั่งน้ำหนักสารกัมมันตรังสีที่ถ้าไม่ได้น้ำหนักที่แท้จริงก็อาจทำให้ค่าเปลี่ยนไป   หน้าตาของเครื่องชั่งน้ำหนักแบบใหม่ กลมดิ้กเชียว   และด้วยเหตุนี้ National Institute of Advanced Industrial Science and Technology (AIST) หรือสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศญี่ปุ่นจึงได้พัฒนาลูกบอลซิลิโคนชั่งน้ำหนักความแม่นยำสูง ซึ่งการทำงานของมันคือจะใช้เลเซอร์ชี้ไปที่ของที่ต้องการจะชั่งน้ำหนักจากนั้นจะคำนวณโดยใช้สูตรต่างๆ และมันได้ผ่านการทดลองมาแล้ว 2 ครั้งปรากฏว่ามันสามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าเครื่องมือนี้จะใช้ในการชั่งที่ต้องการความเที่ยงตรงจริงๆ อย่างการพัฒนายาปฏิชีวนะต่างๆ ทาง AIST ได้เตรียมที่จะเอาลูกบอลซิลิโคนอันนี้เข้าประชุมนานาชาติในปีหน้า ซึ่งมันอาจเปลี่ยนโฉมการชั่งน้ำหนักหน่วยกิโลกรัมในรอบ 130…

  • 8 พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับ ‘สมอง’ ที่ทำให้เราได้เห็นสมองของผู้ที่ป่วยโรคทางประสาทนานาชนิด

    8 พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับ ‘สมอง’ ที่ทำให้เราได้เห็นสมองของผู้ที่ป่วยโรคทางประสาทนานาชนิด

    ถ้าจะให้พูดถึงอวัยวะที่ซับซ้อนที่สุดในร่างกายของเรา ก็คงจะไม่พ้นอวัยวะที่ไว้สำหรับควบคุมร่างกายในทุกๆ ส่วนอย่างสมอง ที่ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถจะหาข้อมูลเกี่ยวกับมันได้ทั้งหมด อาจจะเป็นเพราะระบบการทำงานของมันมีความซับซ้อนจนมนุษย์ไม่สามารถศึกษาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และในวันนี้จะขอแนะนำทุกท่านถึงสถานที่ที่มีการเก็บสมองของคนจริงๆ ซึ่งบางสถานที่อาจจะเก็บไว้สะสมหรือว่าเก็บไว้เพื่อศึกษา ยังไงมันก็ยังคงมีความน่ากลัวอยู่นะ บรื๋ออ   1. คอลเลกชันสมองของ Cushing   สถานที่นี้ก่อตั้งโดยผู้บุกเบิกการแพทย์เกี่ยวกับโรคประสาทชื่อว่า Harvey Cushing ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดยที่นี่มีสมองเก็บไว้มากเป็นร้อยๆ ไห สมองบางอันมีความสมบูรณ์แบบ บางอันก็มีเพียงแค่ชิ้นส่วนเพียงบางส่วนเท่านั้น และบางอันก็มีเนื้องอกที่โผล่ออกมาด้วย สถานที่นี้ต้องอยู่ที่โรงเรียนการแพทย์ในมหาวิทยาลัย Yale โดยรวมๆ แล้วที่นี่มีสมองของคนเรามากถึง 400 ก้อนและยังมีอีก 150 ก้อนในห้องแล็บทำหรับการศึกษาของแพทย์ ซึ่งที่นี่มุ่งเน้นการศึกษาในเรื่องของเนื้องอกที่เกิดขึ้นที่สมอง   2. พิพิธภัณฑ์สมอง The Mammalian   สมองที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์นี้ไม่ใช่สมองจริงๆ ของมนุษย์ แต่เป็นการจำลองสมองของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมต่างๆ ถึง 275 ก้อน เพื่อให้เห็นความแตกต่างกันและความเหมือนกันของส่วนต่างๆ ซึ่งที่นี่ตั้งอยู่ที่ รัฐแมริแลนด์ ทางตอนเหนือของกรุงวอชิงตัน ดีซี   3. พิพิธภัณฑ์สมอง Lima   สถานที่นี้ซ่อนตัวอยู่ในสถาบันประสาทแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่เมือง Ancon ประเทศเปรู ที่นี่เป็นสถานที่เก็บสมองที่ใหญ่ที่สุดในแถบละตินอเมริกาเลยทีเดียว โดยที่แห่งนี้มีสมองถึง 3,000 ก้อน ซึ่งบางอันได้รับความความเสียหาย…

  • ถ้าคิดว่า “ค้างคาว” น่าเกลียดน่ากลัวล่ะก็.. 30 ภาพนี้ จะทำให้คุณคิดใหม่ว่ามันน่ารักขนาดไหน

    ถ้าคิดว่า “ค้างคาว” น่าเกลียดน่ากลัวล่ะก็.. 30 ภาพนี้ จะทำให้คุณคิดใหม่ว่ามันน่ารักขนาดไหน

    ว่ากันว่าหลายคนต่างกลัวค้างคาวอาจจะเพราะด้วยรูปร่างหน้าตาผิวพรรณที่เป็นสีดำของมัน หรืออาจจะกลัวว่ามันจะมาดูดเลือดเหมือนอย่างในหนัง แต่ในความเป็นจริงแล้วค้างคาวที่ดูดเลือดบนโลกใบนี้มีเพียงแค่ 3 ชนิดเท่านั้น แต่รูปภาพต่างๆ ต่อไปนี้อาจจะเปลี่ยนทัศนคติของคุณที่มีต่อค้างคาวไปเลยก็เป็นได้เพราะว่าจริงๆ แล้วมันมีความน่ารักแบบสุดๆ ซ่อนอยู่ อยากรู้ล่ะสิว่ามันจะน่ารักยังไงลองไปดู 30 ภาพค้างคาวสุดน่ารักกันได้เล้ยย   สวัสดียามเช้าฮับ เช้านี้สดใสว่าไหม   โหยกี่โมงแล้วเนี่ย ยังไม่อยากลุกเลย   จ้องตาเขม็งอย่างนี้ต้องการอะไรรึเปล่า   ตัวจิ๋วขนาดนี้ จะไปทำอะไรใครได้เนอะ   เหมือนเด็กๆ เลยว่าไหมล่ะ   เห็นเงาในตาฉันไหม เห็นเธออยู่ในนั้นไหม   ยิ่งนอนเรียงกันยิ่งเพิ่มความน่ารักเข้าไปอีก   จะไปไหนหนูขอไปด้วยนะ   กำลังจะแปลงร่างเป็นแบทแมนเลย   ไปฉีดผิดขาวที่เกาหลีมา สวยไหมล่ะ   แฮร่ ตกใจเปล่า ขนาดแจ็ค สแปโรว์ ยังรักอ่ะคิดดู ที่มาของเพลงค้างคาวกินกล้วย แผล่บๆ   แต่แตงโมก็กินได้เช่นกัน ได้หมดถ้าสดชื่น   เจ้าตัวน้อยสงสัยจะง่วงนอนแล้ว   อย่าเอาผ้าของฉันไปไหนนะเจ้ามนุษย์   โห่ฮี้…

  • สื่อออนไลน์ยกย่องพนักงานห้าง ช่วยหนูน้อยเลือกชุดสำหรับฮาโลวีน แถมจ่ายเงินให้ด้วย

    สื่อออนไลน์ยกย่องพนักงานห้าง ช่วยหนูน้อยเลือกชุดสำหรับฮาโลวีน แถมจ่ายเงินให้ด้วย

    เมื่อเราไปซื้อของที่ห้างหรือร้านค้าต่างๆ เราก็อยากได้รับการบริการที่ดีรวมถึงคำแนะนำจากพนักงานใช่ไหมล่ะ แต่คงไม่มีใครเคยเจอเหมือนพนักงานคนนี้ที่นอกจากเธอจะให้คำแนะนำต่างๆ แล้วเธอยังซื้อของทั้งหมดให้เลยด้วย!? เว็บไซต์ Inspiremore ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวสุดน่าประทับใจนี้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า มีแม่คนหนึ่งชื่อว่า Aimee ได้พาลูกชายของเธอ Jack เด็กชายที่ต้องนั่งรถวีลแชร์เข้าไปช็อปปิ้งที่ร้าน Home Depot เพื่อมองหาวัสดุที่จะทำให้ตกแต่งรถวีลแชร์ของเขาให้กลายเป็นรถตำรวจสำหรับเทศกาลฮาโลวีนที่จะมาถึงนี้ ในตอนแรก Aimee ไดัถามหากล่องตู้เย็นขนาดใหญ่และนั่นเองที่ทำให้ผู้จัดการชื่อว่า Valerie ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ     “ฉันประทับใจ Valerie ตั้งแต่แรกเห็นเพราะเธอเป็นถึงผู้จัดการแต่กลับก้มไปตัดกล่องให้ฉันบนพื้นเลย” Aimee กล่าวไว้บน Facebook ของเธอ     หลังจากนำกล่องดังกล่าวขึ้นรถของแม่ลูกคู่นี่แล้ว Valerie ยังถามต่อด้วยว่าต้องการอะไรอีกเพื่อให้รถตำรวจของเจ้าหนูคนนี้เป็นจริงขึ้นมา? โดยเธอได้นำทั้งคู่ไปเดินหาของต่างๆ ในห้างที่กว้างใหญ่แห่งนี้ แล้วก็เกิดสิ่งที่สุดจะพิเศษก็เกิดขึ้นเมื่อได้ของที่ต้องการครบทุกอย่างแล้วและกำลังนำไปคิดเงิน     ปรากฏว่าผู้จัดการคนดังกล่าวได้ออกเงินให้สำหรับวัสดุทุกชื้นที่แม่ลูกคู่นี้ต้องการ “ฉันพยายามจะปฏิเสธแล้ว แต่เธอบอกว่าเธอมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้ทำอย่างนี้” Aimee อธิบาย     “ลูกชายของฉันอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ โดยอาจเข้าใจเพียงว่าเธอเป็นคนใจดี แต่สิ่งที่ฉันได้รับมันคือความมีน้ำใจที่แสนจะยิ่งใหญ่เลยล่ะ” คุณแม่ของ Jack กล่าวเพิ่ม แต่ว่าความโชคดีของเธอยังไม่จบเพียงแค่นั้น เพราะ Valerie…

  • ยิ้มจนได้ดี! หมาจรจัดตัวหนึ่งที่มีรอยยิ้มสวยเหมือนนางงาม หาบ้านได้โดยมีผู้ต่อคิวรับเลี้ยงเป็นร้อย

    ยิ้มจนได้ดี! หมาจรจัดตัวหนึ่งที่มีรอยยิ้มสวยเหมือนนางงาม หาบ้านได้โดยมีผู้ต่อคิวรับเลี้ยงเป็นร้อย

    การมีรอยยิ้มอยู่เสมอมักจะเป็กบุคลิกภาพที่ดี คุณลองคิดดูสิว่ารอยยิ้มสามารถนำอะไรมาสู่คุณได้บ้าง สำหรับบางคนอาจจะเป็นเรื่องการงาน บางคนอาจจะได้รู้จักคนใหม่ๆ แต่คงไม่มีใครเหมือนรอยยิ้มของหมาตัวนี้ที่ทำให้มันได้บ้านใหม่ เจ้าหมาสีน้ำตาลอมดำตัวนี้มีชื่อว่า Cheech ได้ปรากฎตัวขึ้นในองค์กรช่วยเหลือสัตว์ City of Waller Animal Shelter and Rescue ที่ตั้งอยู่ในรัฐ Texas ประเทศสหรัฐฯ อเมริกาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา และในวันถัดมาผู้คนนับร้อยได้ต่อแถวเพื่อที่จะรับเจ้า Cheech ไปเลี้ยงหลังจากเห็นภาพใน Facebook ที่เป็นภาพมันนั่งยิ้มตั้งแต่ปากถึงหูเลยทีเดียว   ยิ้มยังกะนางงาม   “หมาที่เรารับเข้ามาอยู่เมื่อวาน มันช่างเป็นหมาที่อารมณ์ดีซะจริง ฮ่าๆ รอยยิ้มของมันได้หลอกอาสาสมัครของเราหลายคน เพราะคิดว่ามันแยกเขี้ยวใส่ หมาตัวนี้นี่สุดยอดจริงๆ” Leah Sipe ผู้อำนวยการขององค์กรนี้กล่าวไว้พร้อมกับภาพที่เป็นไวรัลในอินเทอร์เน็ตตอนนี้     จากการสอบถามข้อมูลของผู้ที่ต้องการเจ้า Cheech ไปเลี้ยง ผู้ที่เหมาะสมที่สุดเป็นผู้หญิงที่ชื่อว่า Carrie ที่พึ่งเสียเจ้าหมาพันธุ์เยอรมันเชพเพิร์ดของเธอไปด้วยโรคมะเร็ง และยังมีหมาอีกตัวหนึ่งชื่อว่า Dusty ที่ยังเสียใจกับการจากไปของเพื่อนมัน เจ้า Dusty มีความหดหู่อย่างเห็นได้ชัดและยอมมันไม่กินข้าวทั้งวัน “Carrie กับ Dusty มาเยี่ยมเจ้า Cheech ซึ่งมันก็ได้ทำความคุ้นเคยกับทั้งสองได้เป็นอย่างดี” ตัวแทนขององค์กรกล่าว     ดูเหมือนว่า Cheech…

  • เจ็บหนัก!! สาวใหญ่โดนแก๊งต้มตุ๋นข้ามชาติจีบผ่านเฟซบุ๊ค ก่อนถูกหลอกเอาเงินไป 3.5 ล้านบาท

    เจ็บหนัก!! สาวใหญ่โดนแก๊งต้มตุ๋นข้ามชาติจีบผ่านเฟซบุ๊ค ก่อนถูกหลอกเอาเงินไป 3.5 ล้านบาท

    มีจุดประสงค์มากมายในการใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คในปัจจุบัน ไม่ว่าจะในด้านธุรกิจ การหาคู่ หรือการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนใหม่ๆ บนโลกใบนี้ ซึ่งจุดอ่อนของโลกออนไลน์คือมีผู้คนมากหน้าหลายตาที่เราไม่รู้จัก และอาจจะเจอมิจฉาชีพเหมือนสาวคนนี้ที่โดนโกงเงินไปถึง 3.5 ล้านบาท!! Patricia Meister สาวใหญ่วัย 64 ปีจากรัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย อ้างว่าเธอถูกผู้ใช้ Facebook คนหนึ่งหลอกเงินไปกว่า 100,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) โดยเธอบอกว่าเธอตกหลุมรักกับผู้ใช้รายหนึ่งที่ชื่อว่า Carlos นักธุรกิจชาวอิตาลีก่อนจะค้นพบว่าจริงๆ แล้วผู้ใช้นี้เป็นมิจฉาชีพชาวไนจีเรีย     Meister เล่าให้ฟังว่า ชายคนดังกล่าวได้เล่าชีวิตของเขาให้เธอฟังในทุกแง่มุมและเขาได้ส่งข้อความหาเธอทุกวัน “ฉันไม่เคยเข้าเว็บไซต์หาคู่นะ ฉันเล่นเพียงแค่ Facebook เพื่อการติดต่อธุรกิจ ดังนั้นหากมีคนส่งคำขอเป็นเพื่อนมา มันก็ดูไม่อันตรายใช่ไหมล่ะ ตอนนั้นฉันเหงาและฉันโสดมาได้สักพักแล้ว เมื่อมีเขาเข้ามาฉันนึกว่าชีวิตของฉันจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป” “ตอนเราเริ่มคุยกันเขาดูเป็นคนที่มีเสน่ห์ มีการศึกษา ภาษาอังกฤษของเขาดีมากเลยทีเดียวและที่เด็ดที่สุดคือเขาเป็นคนโรแมนติกมาก ฉันบอกได้เลยว่าฉันหลงรักเขาอยู่ช่วงหนึ่งเลยล่ะ” Meister กล่าว     เธอยังเล่าให้ฟังเพิ่มเติมอีกว่า ชายคนดังกล่าวบอกเธอว่าเขาอาศัยอยู่ในเมือง Brisbane และเป็นนักออกแบบภายในโดยเขาเป็นลูกครึ่งอิตาลีกับสกอตแลนด์ ทั้งคู่ก็ได้ส่งข้อความหากันทุกวันจนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้โทรศัพท์หาเธอ “ครั้งแรกที่ฉันคุยกับเขา เขามีสำเนียงที่แปลกกว่าที่ฉันคิดไว้ ฉันยังจำได้เลยว่าตอนนั้นฉันคิดว่า นี่มันสำเนียงอะไรเนี่ย แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเป็นสำเนียงแอฟริกันแน่นอน เพราะเขาเป็นชาวไนจีเรีย” สาวใหญ่เล่าให้ฟังด้วยอารมณ์ที่คับแค้นใจ     แม้ว่า…

  • รวม 20 ภาพ โมเมนต์สุดน่ารัก ของหมาและแมวที่อยู่บ้านเดียวกัน…ไม่งับหัวให้ก็บุญแล้ว!!

    รวม 20 ภาพ โมเมนต์สุดน่ารัก ของหมาและแมวที่อยู่บ้านเดียวกัน…ไม่งับหัวให้ก็บุญแล้ว!!

    ว่ากันว่าหมากับแมวเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แต่ว่าจริงๆ แล้วบางทีมันก็มีโมเม้นต์น่ารักๆ บางทีก็นอนกอดกันบางทีก็เล่นกันบ้างแกล้งกันบ้าง บางทีก็ช่วยเหลือเป็นเพื่อนกัน ซึ่งจะจริงหรือไม่ลองชมได้ตามภาพข้างล่างนี้เลย เพราะนี่คือ 20 รูปภาพที่แสดงพฤติกรรมระหว่างหมาและแมวที่อยู่ร่วมกันจะน่ารักขนาดไหน รับชมกันได้เลย   ก่อนที่คุณจะเข้ามาในห้องและหลังจากที่คุณเข้ามาในห้อง   เฮ้อ ตูละเบื่อ   กอดซะเป็นหมอนข้างเลย   ก็เรานั้นมันคนละชั้นน   เห็นอย่างนี้ก็รู้ว่าแล้วหมาของเราไม่ได้ชอบแมวนัก   เดี๋ยวมันเจอข้าแน่ ฮ่าๆ   ย่ำหน้าได้คงทำไปแล้ว   ใกล้จะหมดความอดทนละนะ   มุมรักกันเค้าก็มีนะ   ไล่มันออกไปให้หน่อยสิ แม่   มองตาอย่างนี้ คิดไรปะเนี่ย   ซ้อมไว้ก่อนเดี๋ยวเจอแน่ แฮร่   อย่าไปไหนเลยนะ ขอร้อง   ใช่สิ รักเรามันเก่าแล้วนี่   มีเงินเท่าไหร่ส่งมาให้หมดสิ   อารมณ์ทั้งหมดที่มีอยู่บนหน้าของเจ้าหมาตัวนี้   ทับซะหน้าแบนเลยนะไอ้อ้วน   เมื่อคุณเป็นเด็กใหม่แล้วมีเจ้าถิ่นมาคอยคุม   หันไปทางไหนก็ไม่รอด…

  • สาวโพสต์ภาพ เทียบที่เมื่อก่อนชอบชายแต่ตอนนี้ชอบหญิง จุดกระแสให้คนเปิดเผยตัวตนมากขึ้น

    สาวโพสต์ภาพ เทียบที่เมื่อก่อนชอบชายแต่ตอนนี้ชอบหญิง จุดกระแสให้คนเปิดเผยตัวตนมากขึ้น

    ในทุกวันนี้นอกจากเพศชาย-หญิงก็มีเพศทางเลือกอีกมากมายอย่างชายชอบชาย หรือหญิงชอบหญิงและสังคมก็เริ่มจะยอมรับกันได้แล้ว แต่มีเคสของหญิงสาวคนหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยว่ามีแฟนเป็นผู้หญิงและได้จุดประกายให้คนในเน็ตที่เป็นแบบเดียวกัน ออกมาเปิดเผยตัวเองจำนวนมาก!! นักเรียนสาวคนหนึ่งในรัฐฟลอริด้า ได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้เธอกำลังคบเพื่อนสาวของตัวเองที่ชื่อว่า โดยเธอบอกว่าได้คบว่า Kirrin มาปีกว่าๆ แล้วแต่เพิ่งออกมาเปิดเผยเมื่อ 6 เดือนที่แล้วนี่เอง หลังเธอออกมาเปิดตัวก็มีคนให้กำลังใจเธอมากอย่างล้นหลามเลยทีเดียว   Caitlin Crowley (ขวามือ) และแฟนสาวของเธอ Kirrin Chew (ซ้ายมือ)   และเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา Crowley ก็ได้ออกมาเปิดเผยรูปเก่าของเธอในตอนที่เธอไปงานเต้นรำกับชายคนหนึ่งที่ชื่อ ซึ่งตอนนี้เธอและเขาก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ที่เธอนำรูปออกมาเปิดเผยเพราะว่าเธอขำตัวเองที่เปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงระยะเวลาแค่ 2-3 ปีมานี้     ด้วยความขบขันกันในกลุ่มเพื่อน เธอจึงตัดสินใจทำรูปเปรียบเทียบระหว่างรูปในอดีตกับรูปที่เธอเป็นในตอนนี้ จนกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ย้ำอีกว่าเธอทำขึ้นเพื่อความขบขันในหมู่ของเพื่อนเธอเท่านั้น “มันมีความหมายในแง่เรื่องตลกระหว่างกลุ่มเพื่อนกับฉันเท่านั้นนะ เพราะว่าตอนนี้ฉันกับ Dylan ก็ยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ พวกเรายังนั่งหัวเราะรูปนี้ด้วยกันอยู่เลย” Crowley กล่าว     ต่อมารูปของเธอได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนที่คบคนเพศเดียวกันเริ่มออกมาเปิดเผยมากขึ้น โดยพวกเขากล่าวไว้ว่ารูปของ Crowley เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างที่เก็บเงียบมานาน ยกตัวอย่างเช่น Katy Nicholson ได้กล่าวไว้ว่า “ตลอดระยะเวลาสามปีที่อยู่ในโรงเรียน ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นเพศอะไรกันแน่ และปีถัดมาฉันจึงตัดสินใจคบหากับแฟนสาวของฉันในปัจจุบัน” โดยเธอได้พบคู่รักของเธอ Victoria Leggett บนแอพหาคู่เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ว่าเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ที่อพาร์ทเมนท์เดียวกันเมื่อเร็วๆ นี้เอง Sydney Carlson สาวสวยอายุ…

  • 21 ความจริงเกี่ยวกับเทศกาลฮาโลวีน ที่อาจจะทำให้คุณต้องทึ่งไปกับความแปลกของเทศกาลนี้

    21 ความจริงเกี่ยวกับเทศกาลฮาโลวีน ที่อาจจะทำให้คุณต้องทึ่งไปกับความแปลกของเทศกาลนี้

    ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับวันฮาโลวีน ซึ่งในปีนี้จะตรงกับวันที่ 31 ตุลาคมก่อนที่เราจะไปสนุกกับเทศกาลนี้กันลองมาดูเรื่องจริงที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้กันหน่อยดีกว่าว่ามีอะไรที่เราควรรู้บ้าง กับ 21 ความจริงของเทศกาลฮาโลวีนที่จะทำให้คุณต้องทึ่งกับสิ่งที่ได้รู้แน่นอน   1. เทศกาลฮาโลวีนในประเทศอเมริกาเกิดขึ้นโดยผู้อพยพชาวยุโรป ในช่วงศตวรรษที่ 18 ชาวยุโปรที่อพยพไปประเทศอเมริกาได้นำเอาเทศกาลฮาโลวีนไปเผยแพร่ที่นั่นด้วย ทั้งการเต้นรอบกองไฟ เล่าเรื่องผี และการทำนายอนาคต     2. การแต่งกายในวันฮาโลวีนมีที่มาจากประเทศไอร์แลนด์ ในประเพณีของชาวเซลติก ฮาโลวีนเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล Samhain ซึ่งถือว่าเป็นว่าส่งท้ายปีของประเทศไอร์แลนด์ที่ผู้คนจะออกมาแต่งตัวเพื่อขับไล่ปิศาจร้าย   3. Jack-o’-lanterns (ชื่อเรียกฟักทองแกะสลัก) จริงๆ แล้วมีชื่อมาจากชายคนหนึ่งที่ชื่อ Jack ตามตำนานของชาวไอริช Stingy Jack คือชื่อของชายแก่ที่ไม่สมประกอบคนหนึ่งที่ถูกเนรเทศจากการหลอกทุกคนที่เขารู้จัก   4. Samhainophobia คือชื่อของผู้ที่กลัวเทศกาลฮาโลวีน จริงๆ แล้วไม่ใช่กลัวเทศกาลฮาโลวีนหรอก คุณแค่กลัวสิ่งที่คุณไม่รู้จักมากกว่า   5. ชื่อของเทศกาลนี้จะเปลี่ยนไปตามสถานที่ที่คุณอยู่ บางที่เช่น ในรัฐเพนซิลวาเนียและนิว เจอร์ซีย์ เรียกเทศกาลนี้ว่า Mischief Night ส่วนในรัฐมิชิแกนเรียก Devil’s Night และยังมีชื่ออื่นๆ อีกอย่าง All Hallows Eve, Lamswool Snap-Apple Night, Samhaim, และ…

  • สายการบิน Hainan Airlines รับสมัครลูกเรือไม่จำกัดส่วนสูง ขอแค่แตะถึง 212 cm. เป็นพอ

    สายการบิน Hainan Airlines รับสมัครลูกเรือไม่จำกัดส่วนสูง ขอแค่แตะถึง 212 cm. เป็นพอ

    หนุ่มสาวบางคนอาจเคยมีความฝันที่อยากจะเป็นแอร์โฮสเตส หรือสจ๊วตบนเครื่องบินแต่ติดตรงที่ว่าดันมีความสูงไม่ถึงหรือน้ำหนักเกินเกณฑ์ที่สายการบินต่างๆ กำหนด วันนี้ถึงเวลาทำความฝันนั้นให้เป็นจริงแล้ว เพราะว่ามีสายการบินที่ไม่กำหนดส่วนสูง ไม่กำหนดน้ำหนักขอเพียงแค่คุณเอื้อมแตะให้ถึง 212 เซนติเมตรเท่านั้นเป็นพอ ซึ่งหากคุณเป็นคนที่มีลำตัวสั้นแต่แขนค่อนข้างยาวโอกาสทองของคุณมาถึงแล้วล่ะ     สายการบิน Hainan Airlines เป็นสายการบินสัญชาติจีน มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองไหโขว่ มณฑลไหหลำ สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นสายการบินเอกชนที่ใหญ่ที่สุดและเป็นสายการบินที่มีขนาดฝูงบินใหญ่เป็นอันดับที่สี่ของจีน ให้บริการเที่ยวบินในเส้นทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งเที่ยวบินเช่าเหมาลำด้วย   ตอนนี้สายการบิน Hainan Airlines กำลังมองหาลูกเรือที่มีคุณสมบัติตามต่อไปนี้ -บุคลิกดีและสามารถทำงานเป็นทีมได้ -สามารถใช้งานภาษาอังกฤษได้ดีทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน -มองโลกในแง่บวกและสามารถปรับตัวเข้าได้กับเพื่อนร่วมงานที่อาจมาจากทั่วโลก -มีความยืดหยุ่นในการทำงานและสามารถปรับเปลี่ยนได้ (ตารางการทำงาน, วันหยุด, วันลาต่างๆ) -บริการด้วยรอยยิ้ม -เพศชาย-หญิง –สามารถเอื้อมแตะได้ถึง 212 เซนติเมตร (เขย่งก็ได้นะ) -ไม่มีรอยสัก -สำเร็จการศึกษาขั้นต่ำระดับปริญญาตรี -ไม่มีประวัติอาชญากรรม -สามารถปฏิบัติงานในประเทศจีนได้ในช่วงสัญญา   เอกสารเพิ่มเติมที่แนบไปพร้อมใบสมัคร -CV -รูปถ่าย   รายละเอียดการคัดเลือก มีพรีสกรีนรอบแรกประมาณ 400 คน และรอบกรุ๊ปดิสคัสชั่นด้วยเช่นกัน   เห็นคุณสมบัติอย่างนี้แล้วหากใครอยากลองสมัครสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่นี่เลย linkedin   ที่มา: thaicabincrew, wegointer

  • หนูน้อย 6 ขวบโชว์ความฉลาดด้านการบิน จนสายการบินต้องเชิญมาลองเป็นกัปตัน 1 วันเต็มๆ

    หนูน้อย 6 ขวบโชว์ความฉลาดด้านการบิน จนสายการบินต้องเชิญมาลองเป็นกัปตัน 1 วันเต็มๆ

    อาชีพในฝันของเด็กๆ หลายคนหนึ่งในนั้นอาจจะมีอาชีพนักบินอยู่ด้วยก็เป็นได้ เพราะมันเป็นอาชีพที่ดูเท่และยังมีค่าตอบแทนที่ดีอีกด้วย แต่จะมีใครที่มีโอกาสที่ดีได้เท่ากับเด็กคนนี้ Adam Mohammad Amer เด็กชายวัย 6 ขวบที่มีความสนใจในอาชีพกัปตันเครื่ิองบินโดยเขาได้เรียนรู้การขับเครื่องบินเบื้องต้นผ่านทาง Youtube ครั้งหนึ่งเมื่อเขามีโอกาสได้ขึ้นเครื่องบิน เขาได้บอกกับลูกเรือของเครื่องบินลำนั้นว่าอยากที่จะเข้าไปที่ห้องกัปตันและเขาก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไป กัปตัน Samer Yakhlef จึงได้บันทึกวีดีโอความน่ารักและรอบรู้ของเด็กหนุ่มคนนี้เอาไว้และนำไปเผยแพร่จนกลายเป็นคลิปไวรัลในอินเทอร์เน็ตในเวลานี้   วีดีโอที่กัปตันคนนี้ถ่ายความน่ารักไว้   สายการบิน Etihad เห็นวีดีโอความน่ารักนี้จึงเกิดความประทับใจในความฉลาดของเด็กหนุ่มคนนี้มาก จึงเชิญเขาให้มาลองขับเครื่อง Simulator จำลองการบินด้วยเครื่องบินที่เขาชื่นชอบนั่นคือเครื่องบิน Airbus-A380   ความฝันของเด็กน้อยคนหนึ่ง   และดูเหมือนว่า Adam จะรู้สึกดีใจมากจนแทบจะกระโดดโลดเต้นเลยทีเดียว ในวันที่แสนดีของเขาเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนชุดให้เป็นชุดกัปตันจิ๋วที่สั่งตัดโดยเฉพาะ จากนั้นก็ได้เข้าเครื่องจำลองการบินและได้เรียนรู้วิธีการขับเครื่องบินต่างๆ ซึ่งเขาทำได้ดีทีเดียวทั้งการนำเครื่องขึ้นและการลงจอดอย่างปลอดภัย   ฉายแววแต่ยังเด็ก   ระหว่างที่ Adam ควบคุมเครื่องบินอยู่ดูเหมือนเขาภูมิใจในอาชีพนี้เป็นอย่างมากและดูสนุกเหมือนได้มาเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก ไม่แน่นะว่าสักวันเราอาจจะได้นั่งบนเครื่องบินที่เขาขับอยู่ก็เป็นได้   เห็นแล้วก็ดีใจแทน   มาลองชมความเฉลียวฉลาดของเด็กชายคนนี้ระหว่างบินกันเลย   ที่มา: huffingtonpost, Etihad Airways

  • เมื่อปลาในทะเลสาบตายนับแสน ทางการอินเดียไม่รอช้า สั่งตัดไฟโรงงานยา 14 แห่งทันที!!!

    เมื่อปลาในทะเลสาบตายนับแสน ทางการอินเดียไม่รอช้า สั่งตัดไฟโรงงานยา 14 แห่งทันที!!!

    เหตุการณ์สารเคมีที่เข้าไปปนเปื้อนต่อระบบนิเวศมีให้เห็นมามากมายหลายเหตุการณ์ ซึ่งก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขสักที และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่นับว่าน่าเศร้าเพราะว่ามีสารเคมีที่ทำให้ปลาตายมากกว่า 230,000 ตัว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2017 ที่ผ่านมาบริเวณ Gandigudem Lake นอกเมือง Hyderabad ประเทศอินเดีย โดยทางการของรัฐ Telangana ได้ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุที่ปลาตายนับแสนตัวอาจจะมาจากโรงงานผลิตยาปฏิชีวนะเหล่านี้ ในเบื้องต้น Pollution Control Board (PCB) หรือศูนย์ควบคุมมลพิษได้สั่งให้โรงไฟฟ้าหยุดจ่ายไฟให้แก่โรงงานผลิตยาปฏิชีวนะ 14 แห่งรอบๆ บริเวณที่ปลาตาย ซึ่งจะสั่งจ่ายอีกครั้งเมื่อยินยอมทำตามแผนหลักเกณฑ์ด้านความปลอดภัยที่ให้ไว้     สิ่งที่ตามมาหลังจากเหตุการณ์นี้ก็คือ PCB ได้สั่งให้โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ กว่า 29 แห่งให้จ่ายค่าชดเชยเป็นเงินกว่า 10 ล้านรูปี (ประมาณ 5 ล้านบาท) ให้แก่สมาคมชาวประมงสำหรับเหตุที่เกิดขึ้น โดยผู้รวบรวมเงินคือส่วนบริหารของภูมิภาค Sangareddy จะเป็นผู้รวบรวมแล้วส่งให้ชาวประมงต่อไป     โรงงานอีก 29 แห่งที่ว่านี้ยังถูกเรียกให้เข้ามาประชุมเพื่อหาข้อสรุปสาเหตุที่ทำให้ปลาเหล่านี้ตายจากสมาคมชาวประมง เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวประมงที่ต้องพึ่งพาทะเลสาบแห่งนี้อย่างมาก โดยส่วนใหญ่ชาวประมงที่อยู่ในบริเวณนี้จะจับปลาขึ้นมาเพื่อบริโภคหรืออาจจะจับมาเพื่อขายหาเงินจุนเจือตัวเองนั่นเอง ซึ่งจากการเก็บซากปลาที่ตายในแม่น้ำแล้วเอาขึ้นมาพิสูจน์ ตรวจสอบพบว่าสาเหตุที่ปลาตายนั้นมาจากการที่น้ำเป็นพิษนั่นเอง     ด้วยเหตุนี้ทางการจึงได้สั่งให้โรงงานต่างๆ เขียนแผนการป้องกันสารปนเปื้อนของแต่ละโรงงานลงมาเจือปนกับน้ำในแม่น้ำอีก โดยพวกเขาให้เวลาโรงงานเขียนแผนนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ สารพิษจากโรงงานทั้งหลายที่ไหลลงสู่น้ำนี้ได้ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ…

  • เด็กนักเรียนญี่ปุ่นยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ เพราะบังคับให้ย้อมผมสีดำ ทั้งที่ผมสีน้ำตาลโดยกำเนิด

    เด็กนักเรียนญี่ปุ่นยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐ เพราะบังคับให้ย้อมผมสีดำ ทั้งที่ผมสีน้ำตาลโดยกำเนิด

    ในโรงเรียนทุกที่ต้องมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด เพื่อที่จะได้ทำให้เด็กมีระเบียบวินัยและสามารถออกไปสู่โลกภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บางครั้งกฎระเบียบก็อาจจะต้องมีขอบเขตสักนิด เพราะไม่งั้นมันอาจสร้างปัญหายุ่งยากตามมาได้… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อมีหญิงสาวอายุ 18 ปีคนหนึ่ง ได้ยื่นเรื่องต่อศาลแขวง Osaka ประเทศญี่ปุ่น ฟ้องค่าเสียหายมูลค่า 2.2 ล้านเยน (ประมาณ 640,000 บาท) จากกรณีที่เธอถูกโรงเรียน Kaifukan บังคับให้ย้อมสีเป็นผมสีดำมิเช่นนั้นจะไม่ให้เธอมาเรียนอีกต่อไป โดยทางการ Osaka รวมถึงโรงเรียนมัธยมได้พยายามคัดค้านศาลให้ยกเลิกคดีนี้     กฎสีผมนักเรียน ของโรงเรียนในญี่ปุ่น โรงเรียนไฮสคูลหลายแห่งใน Osaka มีการลงทะเบียนเกี่ยวกับเรื่องสีผมตามธรรมชาติที่ไม่ใช่สีดำให้สามารถตรวจสอบได้ เมื่อถึงเวลาตรวจสอบนักเรียนประเภทนี้จะถูกตรวจสอบเส้นผม แล้วนำไปบันทึกลงข้อมูลเอาไว้ และนักเรียนประเภทนี้ยังต้องมีใบรับรองสีผมเพื่อที่จะรับรองได้ว่าพวกเขาไม่ได้โกหก หากพวกเขามีสีผมอื่นๆ ตามธรรมชาติจริงๆ   โรงเรียนมีกฎห้ามย้อมผมเป็นสีอื่น เพราะฉะนั้นคุณก็ต้องย้อมดำ!? ก่อนหน้าที่จะเข้าเรียนแม่ของเธอได้แจ้งกับทางโรงเรียนก่อนแล้วว่าเธอนั้นมีผลสีน้้ำตาลมาตั้งแต่กำเนิด แต่คุณครูในโรงเรียนกลับบังคับให้เธอย้อมผมเป็นสีดำหลายครั้งทำให้เธอมีผื่นขึ้นบนหนังศีรษะ รวมทั้งหนังศีรษะลอกเนื่องจากฤทธิ์ของยาย้อมผมทำให้เธอทุกข์ทรมานมาก แต่คุณครูก็บอกว่านั่นยังดำไม่พอในเวลาที่ผมงอกออกมาใหม่ และยังถามนักเรียนสาวคนนี้อีกว่าจะย้อมผมหรือจะออกจากโรงเรียนไป? ซึ่งนั่นทำให้เธอหยุดไปโรงเรียนตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว     ติดแบล็คลิสต์ จนถึงขั้นไม่ได้ไปโรงเรียน มีเหตุการณ์หนึ่งที่คุณครูใช้คำพูดรุนแรงกับนักเรียนสาวคนนี้โดยเธอบอกว่า “เพราะเธอเป็นลูกไม่มีพ่อใช่ไหม ถึงชอบทำตัวเด่นที่จะเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีน้ำตาลอยูเรื่อย” ซึ่งหลังจากเธอได้ยินคำพูดนี้ก็ทำให้เธอมีอาการ Hyperventilate หรือที่เราเรียกกันว่า โรคไฮเปอร์จนต้องรีบส่งเข้าโรงพยาบาล เมื่อกันยายนปีที่แล้วก็มีคุณครูคนหนึ่งออกมาบอกกับนักเรียนสาวรายนี้ว่า “ถ้าเธอไม่ย้อมผมเป็นสีดำ เธอก็ไม่ต้องมาโรงเรียนอีกต่อไป”…

  • ถึงกับงง! หมาพันธุ์ Puli ตัวหนึ่งที่เจ้าของแต่งตัวให้มันเป็นไม้ม็อบ ทำเอาขโมยซีนงานทั้งงานเลย

    ถึงกับงง! หมาพันธุ์ Puli ตัวหนึ่งที่เจ้าของแต่งตัวให้มันเป็นไม้ม็อบ ทำเอาขโมยซีนงานทั้งงานเลย

    เคยไหม เวลาเราไปงานโชว์สัตว์เลี้ยงก็จะเห็นพวกมันแต่งตัวกันแสนจะน่ารัก อย่างเป็นซุปเปอร์ฮีโร่หรือเป็นตัวละครในหนังสือการ์ตูนต่างๆ แต่ว่าในวันนี้มีหมาอยู่ตัวหนึ่งที่แหวกแนวเดิมๆ ถึงขั้นขโมยซีนทั้งงานเพราะเจ้าของมันแต่งตัวให้มันเป็นไม้ถูพื้น?? ที่เมืองหนึ่งที่อยู่ในรัฐ Kentucky ชื่อว่า Covington จะมีเทศกาลประจำปีอยู่งานหนึ่งชื่อว่า Mainstrasse Paw-Rade ซึ่งนี่เป็นงานที่ผู้คนจะนำสัตว์เลี้ยงมาแต่งตัวเป็นตัวต่างๆ แล้วนำมาประกวดกัน แต่ว่าในปีนี้มีหมาพันธุ์ Puli อยู่ตัวหนึ่งชื่อว่าเจ้า Keki ด้วยความที่หมาพันธุ์นี้จะมีขนที่ดกเป็นอย่างมากเจ้าของมันจึงมีไอเดียแปลกๆ จับมันมานั่งในถังซับน้ำแล้วเดินไปรอบๆ ทั้งงานจนสร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่คนที่พบเจออย่างมาก เพราะว่ามันเหมือนกับไม้ถูพื้นจริงๆ นั่นเอง   พาไม้ม็อบมาเดินเล่นได้ด้วยหรอ   ไม้ม็อบอันนี้แปลกๆ นะ มีลิ้นด้วย…   สงสัยพื้นสกปรกจัด ดำเชียว   ฮัลโหล ไม่ต้องงง นี่หมาเอง   มีคนมาเล่นด้วยแล้วว   และหลังจากที่ภาพสุดน่ารักของมันได้ลงสู่โลกไซเบอร์ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อย่าง   “มันทำให้ฉันยิ้มออกและสามารถผ่านวันยากๆ ไปได้จริงๆ”   คนนี้แต่งกลอนให้มันเลยทีเดียว   แหม มันช่างน่ารักน่าแกล้งอะไรขนาดนี้ ต้องให้เครดิตเจ้าของเลยนะเนี่ยที่มีไอเดียที่ทำให้คนยิ้มได้อย่างนี้ ที่มา: boredpanda

  • อย่างเจ๋ง! นักวิทยาศาสตร์จีนพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!?

    อย่างเจ๋ง! นักวิทยาศาสตร์จีนพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!?

    ข้าวเป็นอาหารหลักของผู้คนในหลายๆ ประเทศ เมื่อมีผู้บริโภคจำนวนมากก็ทำให้ต้องหาแหล่งที่ใช้ปลูกจำนวนมากตามไปด้วย แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะว่านักวิทยาศาสตร์จากประเทศจีนได้พัฒนาให้สามารถปลูกในน้ำเค็มได้แล้ว!! ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา มีข้าวมากกว่า 200 ชนิดได้ปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาข้าวแห่งเมือง Qingdao ซึ่งเป็นเมืองติดชายฝั่งแห่งหนึ่งในมณฑล Shandong ประเทศจีน โดยพวกเขาได้สูบน้ำจากทะเลเหลืองขึ้นมาทำให้เจือจางและใช้ในการทดลองปลูกข้าวจากน้ำทะเลนี้     การเจือจางสำหรับการปลูกข้าวได้นั้นจะเจือจางโดยการผสมน้ำจืดธรรมดาเพื่อลดความเค็มของน้ำทะเลลงให้เหลือ 6 กรัมต่อ 1 ลิตร ซึ่งจริงๆ แล้วน้ำทะเลมีความเค็มกว่าเกลือถึง 5 เท่า Yuan Longping ผู้นำการวิจัยในครั้งนี้กล่าวว่า การปลูกข้าวสายพันธุ์นี้จะสามารถช่วยให้ผู้คนได้มีข้าวกินได้ถึง 200 ล้านคน โดยการปลูกข้าวในน้ำเค็มนี้มีการทดลองมาแล้วหลายครั้งในประเทศจีน     และในตอนนี้ข้าวที่ปลูกในน้ำเค็มเหล่านี้ก็ได้ออกสู่ตลาดให้ผู้คนได้ทดลองชิมแล้วโดยพวกเขาใช้ชื่อว่า “ํYuan Mi” ซึ่งนี่เป็นความภาคภูมิใจของนักวิทยาศาสตร์ที่ได้พัฒนามันขึ้นมาอีกด้วย สำหรับข้าวที่พวกเขานำมาขายนี้เป็นการปลูกจากปีที่แล้ว และในปีนี้ข้าวที่ปลูกไว้ก็พร้อมให้เก็บเกี่ยวในเดือนพฤศจิกายนที่จะมาถึง     โดยราคาของข้าวชนิดนี้จะมีราคาที่แพงกว่าข้าวปกติถึง 8 เท่าโดยราคาขายต่อ 1 กิโลกรัมจะอยู่ที่ 250 บาท แต่ว่าข้าวชนิดนี้จะมีแคลเซียมและธาตุอาหารที่มีอยู่มากมายจากน้ำทะเลเข้ามาเสริมด้วย นอกจากนั้นเกลือจากน้ำทะเลสามารถที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่อยู่ในเม็ดข้าวได้ ทำให้ข้าวชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพนั่นเอง   ที่มา: nextshark , scmp

  • ทำไปได้! สองหัวขโมยฉกกระเป๋าเงินคุณยายวัย 87 ปี ในซุปเปอร์มาเก็ตก่อนเดินออกไปหน้าตาเฉย

    ทำไปได้! สองหัวขโมยฉกกระเป๋าเงินคุณยายวัย 87 ปี ในซุปเปอร์มาเก็ตก่อนเดินออกไปหน้าตาเฉย

    ขึ้นชื่อว่าหัวขโมย ก็สามารถนำสิ่งของที่เป็นของคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้โดยง่าย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจะไร้หัวใจขนาดขโมยกระเป๋าตังของคุณยายแก่ๆ ได้ลงคอ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ร้าน Aldi เมือง Shropshire ประเทศอังกฤษ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า คนร้ายทั้ง 2 คนได้เล็งคุณยายคนหนึ่งอายุ 87 ปีไว้เป็นเหยื่อจากนั้นคนแรกก็ทำทีเข้าไปพูดคุย และคนร้ายคนที่สองก็ล้วงเข้าไปที่กระเป๋าถือของคุณยายเพื่อที่จะค้นหากระเป๋าตัง   รอจังหวะก่อน   โดยในครั้งแรกนั้นคนร้ายเห็นว่ามีจังหวะที่ไม่ดีจึงดึงมือกลับออกมา ก่อนที่จะลงมือซ้ำในครั้งที่ 2 และได้กระเป๋าเงินไป ก่อนที่จะเดินออกไปอย่างหน้าตาเฉย   หมับเข้าให้   ในตอนนี้ทางตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดและกำลังหาตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งสันนิษฐานไว้ว่าเป็นชาวยุโรปตะวันออก และมีอายุราวๆ 40-50 ปี โดยคนแรกมีผมสั้นและสวมแจ๊คเก็ตสีน้ำเงิน ส่วนคนที่สองหัวล้านสวมแว่นตาและมีรูปร่างค่อนข้างท้วม   หน้าตาของผู้ร้ายทั้งสอง   ลองมาชมภาพขณะก่อเหตุกันดูดีกว่า   ขนาดคนแก่ยังไม่เว้นอย่างนี้ ก็ขอให้โดนจับในเร็ววันด้วยเถอะ ที่มา: dailymail

  • กวางเปลี่ยนไป๋!! กวางอัธยาศัยดี ชอบเข้าไปหอมแก้มกับสัตว์นานาชนิด ตั้งแต่แมวยันจิ้งจอก

    กวางเปลี่ยนไป๋!! กวางอัธยาศัยดี ชอบเข้าไปหอมแก้มกับสัตว์นานาชนิด ตั้งแต่แมวยันจิ้งจอก

    สัตว์โลกบางทีก็มีมุมตลกๆ ให้เราได้หัวเราะกันอยู่เสมอๆ เหมือนกับเหตุการณ์นี้ที่มีกวางอยู่ตัวหนึ่งไล่หอมแก้มเขาไปทั่วแต่ไม่ใช่หอมแก้มแต่กับพวกเดียวกับมันนะแต่เป็น แมว แรคคูน จิ้งจอก กลับตกเป็นเหยื่อของมันแทน Michael Cove นักชีววิทยาได้ซ่อนกล้องไว้ตามจุดต่างๆ ในเกาะ Florida Keys เพื่อศึกษาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กที่ใกล้สูญพันธุ์ แต่ภาพที่กล้องจับได้กลับเป็นภาพของกวางป่าพันธุ์ Key deer ตัวหนึ่งที่ชอบเอาปากของมันไปคลอเคลียๆ กับสัตว์ชนิดอื่นอย่างน่ารักน่าเอ็นดูเลยล่ะ     โดย Cove ได้บอกไว้ว่าเขาศึกษาสัตว์อย่างแรคคูนและสัตว์กินเนื้ออื่นๆ มาเป็นเวลากว่าเกือบ10 ปี และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นว่าแรคคูนมีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ชนิดอื่น “เราได้ภาพจากกล้องที่ซ่อนไว้กว่า 80 ภาพที่แสดงให้เห็นว่ากวางตัวนี้คลอเคลียกับแรคคูนอีก 2 ตัว” “แรคคูนตัวหนึ่งทำความสะอาดหน้าของกวางจนเกลี้ยงโดยใช้เวลาประมาณ 1 นาที นี่ถือว่าเป็นการปฏิสัมพันธ์ที่แปลกมาก เพราะว่าเจ้ากวางดูเหมือนไม่มีความกังวลและเต็มใจที่จะให้เจ้าแรคคูนทำอย่างนั้น” Cove กล่าว     และไม่ใช่ Cove คนเดียวเท่านั้นที่งุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น Chris Lowe นักวิทยาศาสตร์อีกคนหนึ่งที่ปกติจะสนใจแต่เรืองฉลาม แต่เขาได้เห็นเหตุการณ์สุดแปลกที่เกาะ Catalina เมื่อกวางตัวหนึ่งเลียหัวของสุนัขจิ้งจอกอย่างเป็นมิตร สร้างความแปลกปละหลาดใจให้เขาเป็นอย่างมาก   .   Cove ได้ตั้งสมมุติฐานไว้ว่ากวางที่เติบโตมาบนเกาะทั้งสองนั้น รู้สึกกลัว “นักล่า” น้อยลง หลังจากที่เหล่านักล่าค่อยๆ…

  • แอบดู 7 วัฒนธรรมการกินอาหารกลางวันของมนุษย์ออฟฟิศในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

    แอบดู 7 วัฒนธรรมการกินอาหารกลางวันของมนุษย์ออฟฟิศในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

    หากจะพูดถึงเรื่องอาหารกลางวัน สำหรับในประเทศไทย คนส่วนใหญ่ที่ทำงานออฟฟิศก็จะมีเวลาพักประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งใน 1 ชั่วโมงที่ได้มา แต่ละคนก็จะออกไปหาร้านอร่อยๆ กิน หรือบางคนอาจห่อข้าวมาเองจากบ้าน แล้วแต่ความสะดวก แต่ถ้าลองดูในประเทศต่างๆ อาหารกลางวันสำหรับมนุษย์ออฟฟิศจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยในแต่ละประเทศก็จะมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกันแต่จะแตกต่างกันอย่างไร ลองไปดูกันดีกว่า   ประเทศ สิงคโปร์   ในประเทศสิงคโปร์จะมีสถานที่ที่เรียกว่า Hawker centers ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับศูนย์อาหารในบ้านเรา สิ่งของที่ขายก็จะมีราคาที่ไม่แพงมากนักอย่าง ลูกชิ้น ไก่ ข้าวต่างๆ รวมทั้งก๋วยเตี๋ยว ซึ่งในช่วงโมงพักเที่ยงที่นี่จะเต็มไปด้วยนักธุรกิจต่างๆ อย่างเนืองแน่นเลยทีเดียว   ประเทศ สหรัฐอเมริกา   ดินแดนแห่งชาวเสรีชนแห่งนี้ มนุษย์ออฟฟิศส่วนใหญ่นิยมที่จะซื้ออาหารที่ทำง่ายได้ไวๆ อย่างสลัดหรือแซนวิซมานั่งกินขณะที่ทำงานไปด้วย และถ้าไม่ออกไปพบลูกค้าข้างนอก จะไม่มีการแตะต้องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด การทานอาหารกลางวันร่วมกันดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมทางสังคมที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ในประเทศแห่งนี้   ประเทศ บราซิล   ในประเทศนี้นิยมรับประทานอาหารกลางวันในร้านอาหาร ซึ่งที่พิเศษกว่าที่อื่นคือที่นี่เป็นอาหารกลางวันแบบบุฟเฟ่ต์ สิ่งที่นิยมในร้านเหล่านี้ก็มีทั้ง ข้าว เนื้อต่างๆ ถั่วดำ และเครื่องเคียงอย่างผักต่างๆ หรือเฟรนช์ฟรายส์   ประเทศ เยอรมัน…

  • หญิงสาวช่วยเหลือหนุ่มไร้บ้าน หลายเดือนต่อมาเขานำเงินมาคืนพร้อมอุดหนุนบ้านที่เธอขาย

    หญิงสาวช่วยเหลือหนุ่มไร้บ้าน หลายเดือนต่อมาเขานำเงินมาคืนพร้อมอุดหนุนบ้านที่เธอขาย

    การช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากบางครั้งเราก็ไม่ต้องการที่จะได้รับอะไรตอบแทน เพราะว่าเราเจตนาที่จะช่วยให้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เชื่อว่าโลกนี้หากทำความดีย่อมได้รับการตอบแทน ในเดือนมกราคมปี 2017 หญิงสาวนายหน้าค้าบ้านคนหนึ่งชื่อว่า ShelbyLynn Alexander กำลังติดไฟแดงอยู่บนถนนแห่งหนึ่งในรัฐ North Carolina และเธอก็ได้เหลือบไปเห็นชายไร้บ้านคนหนึ่งนั่งอยู่กับหมาของเขาที่ข้างถนน โดยเขาได้ถือป้ายที่มีข้อความเขียนว่า “ต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย ผมจ่ายคืนแน่ในวันข้างหน้า”     เธอได้สังเกตเห็นว่าสภาพเสื้อผ้าของเขามอมแมมอย่างมาก แถมยังไม่สามารถให้ความอบอุ่นได้เพียงพอเทียบกับอากาศในตอนนั้นด้วย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเสียสละผ้าห่มให้แก่หมาของเขา เธอรู้ในตอนนั้นเลยว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดีและเธอต้องลงจากรถไปช่วยเหลือเขาแล้ว “ฉันเดินตรงเข้าไปหาเขาและบอกว่า ปกติฉันจะให้แต่อาหารแทนที่จะเป็นเงิน แต่ในคราวนี้ฉันยื่นแบงค์ดอลล่าให้เขาสามใบพร้อมด้วยนามบัตรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของฉัน หากว่าเขาต้องการที่สำหรับอยู่อาศัย” ShelbyLynn ให้สัมภาษณ์     เธอยังบอกอีกว่าเขาทำหน้าเขินอายเล็กน้อยในตอนที่กำลังรับเงินจากเธอ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นไร้บ้านจริงๆ หรือว่าเป็นคนที่กำลังดวงตกอยู่กันแน่ แต่เธอก็ได้อวยพรให้เขาโชคดีก่อนที่จะขับรถออกไป หลายเดือนต่อมา นายหน้าสาวคนนี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าคนหนึ่งให้หาบ้านให้หน่อย เธอจึงนัดพบเขาในวันถัดมา เพื่อจะพาไปดูบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในละแวกนั้น เมื่อเธอไปถึงจุดที่นัดพบกับลูกค้าคนนั้นก็มีหมาตัวหนึ่งวิ่งมาหาเธอ ซึ่งเธอจำหมาตัวนี้ได้ว่าเป็นของชายไร้บ้านเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ว่าคราวนี้หมาตัวนี้กลับมีรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์และดูมีความสุข ทันใดนั้นเจ้าของหมาตัวนี้ก็ลงมาจากรถกระบะคันใหม่เอี่ยม     ซึ่งได้สร้างความเซอไพรส์แก่เธอมากเพราะว่าชายคนดังกล่าวดูราวกับเป็นคนละคนกับคนที่เธอเคยให้ความช่วยเหลือ โดยในครั้งนี้เขาแต่งตัวสะอาดสะอ้านและมีใบหน้าที่สดใส นายหน้าสาวคนนี้ได้สารภาพว่าตอนแรกที่เจอเขา เธอคิดว่าเขาเป็นมิจฉาชีพที่แต่งตัวโทรมๆ เพื่อมาขอเงินจากคนอื่นแต่จริงๆ มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยทีเดียว     “ฉันพูดไม่ออกเลยทีเดียว เขาอธิบายให้ฉันฟังว่าภรรยาเก่าของเขาเอาทุกอย่างที่เป็นของเขาไปและหนีไปอยู่กับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ในตอนนั้นเขาไม่อยากได้เงินหรอกเขาแค่อยากได้ความช่วยเหลือ”  “เขามีอาชีพเป็นวิศวกร และในตอนนี้เขาก็มีงานใหม่ รถใหม่ และกำลังมองหาบ้านใหม่ นอกจากนั้นเขาต้องการตอบแทนความหวังดีของฉันด้วยการอุดหนุนบ้านที่ฉันเป็นนายหน้าให้ เขาใช้คืนเหมือนอย่างที่เขียนตอนแรกจริงๆ ”  แล้วเขาก็คืนแบงค์ดอลล่าร์สามใบให้เธอพร้อมกับนามบัตรของเธอเองเหมือนกับที่เขาเคยได้รับ…

  • นักบินอวกาศ Apollo 16 แอบทิ้งรูปถ่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงครอบครัวของเขา

    นักบินอวกาศ Apollo 16 แอบทิ้งรูปถ่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นการระลึกถึงครอบครัวของเขา

    การได้ไปเหยียบดวงจันทร์ถือว่าเป็นความฝันของใครหลายคน แน่นอนว่าด้วยโอกาสที่หายากแบบนี้ ใครๆ ก็ต้องอยากทำอะไรพิเศษๆ บางคนอาจเก็บหินดวงจันทร์ลงมา บางคนอาจถ่ายรูปเก็บไว้ แต่จะมีใครเหมือนเขาคนนี้ที่นำรูปถ่ายของครอบครัวไปทิ้งไว้บนดวงจันทร์ซะเลย ในวันที่ 20 เมษายนปี 1972 นักบินอวกาศประจำยาน Apollo 16 ชื่อว่า Charles Duke ได้ทิ้งรอยเท้าของเขาไว้บนดวงจันทร์ ซึ่งในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น เขาจึงเป็นมนุษย์ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เดินบนผิวของดวงจันทร์ แต่เขาไม่ได้ทิ้งไว้เพียงประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่เขายังทิ้งสิ่งอื่นไว้บนดวงจันทร์ด้วย     สิ่่งที่เขาทิ้งไว้นั้นก็คือรูปถ่ายครอบครัวที่มีตัวเขา ภรรยา และลูกชายแสนน่ารักทั้งสองคนของเขา ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงอยู่บนดวงจันทร์จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งข้างหลังภาพที่เขาทิ้งไว้ยังมีข้อความที่เขาเขียนเอาไว้ว่า “นี่คือภาพครอบครัวของนักบินอวกาศ Charlie Duke จากดาวโลกผู้ที่มาเยือนดวงจันทร์ในวันที่ 20 เมษายน ปี 1972″     และนี่คือภาพก็อปปี้ของรูปที่เขาทิ้งไว้บนดวงจันทร์ โดยคนซ้ายสุดคือลูกชายคนโตของเขา Charles Duke III ที่ในตอนนั้นมีอายุ 7 ขวบ และเด็กชายในชุดสีแดงก็คือลูกชายคนเล็กของเขา Thomas Duke อายุ 5 ขวบในขณะนั้น โดยมีเขาและภรรยา Dorothy Meade Claiborne เป็นฉากหลังดั่งในภาพ “ผมวางแผนที่จะทิ้งรูปไว้บนนั้นตลอด” Duke ได้ให้สัมภาษณ์  …

  • หมาน้อยลอยคอกลางทะเลกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือที่บังเอิญผ่านมาพอดี

    หมาน้อยลอยคอกลางทะเลกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือที่บังเอิญผ่านมาพอดี

    เมื่อเราไปล่องเรือกลางทะเลเราอาจจะได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่แปลกหูแปลกตามากมายอย่างโลมาขึ้นมาหายใจบนน้ำ หรือแมวน้ำที่อยากจะมาเล่นด้วย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่ากลางทะเลจะมีหมาลอยน้ำที่รอการช่วยเหลือรออยู่! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่อ่าวเนเปิล เจ้าหมาน้อยผู้โชคร้ายตัวนี้มีชื่อว่า Noodle  เกิดพลาดท่าพลัดตกลงจากเรือเฟอรี่ของนาย Mario Di Meglio ที่กำลังแล่นเรือกลับบ้าน เมื่อเขาคนนี้เห็นเจ้าหมาตกลงในทะเลก็ได้ตะโกนบอกลูกเรือว่ามีหมาตกน้ำ แต่พวกลูกเรือกลับคิดว่าเจ้า Noodle นั้นได้จมน้ำไปแล้วเลยตัดสินใจที่จะไม่หยุดเรือและเดินทางต่อไป     แต่ก็เป็นโชคดีของเจ้า Noodle ที่วันนั้นบังเอิญมีสมาชิกของชมรมแล่นเรือ RYCC Savoia ได้ผ่านมาเห็นพอดีโดยนาย Massimiliano Cappa และลูกเรือของเขาได้เห็นเจ้าหมาน้อยพยายามลอยตัวเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองไว้ขณะที่กำลังอ่อนแรงลงเรื่อยๆ โดยเขาคาดว่าเจ้าลูกหมาตัวนี้น่าจะลอยคอมาแล้วเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง     เมื่อเห็นดังนั้น พวกเขาจึงพยายามเรียกเจ้าหมาให้เข้ามาใกล้ๆ เรือเพื่อที่จะได้ช่วยเหลือได้ และดูเหมือนกับว่ามันจะเข้าใจในสิ่งที่มนุษย์กำลังจะช่วยเหลือมัน โดยมันก็ได้ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆ เรือและได้รับการช่วยเหลือในที่สุด หลังจากที่พวกเขาช่วยเจ้าลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ตัวนี้ไว้ได้ก็พบว่า ขาของมันเกือบที่จะใช้งานไม่ได้ด้วยเหตุจากความเย็นของน้ำ สมาชิกคนหนึ่งของทีมนี้จึงได้กอดมันไว้ตลอดเวลาเพื่อจะให้ความอบอุ่นแก่มันนั่นเอง     และในที่สุดเจ้า Noodle ก็ได้กลับสู่อ้อมอกของเจ้าของมันอีกครั้ง โดยเจ้าของได้อธิบายว่าในตอนที่เจ้าหมาตัวนี้จะตกน้ำ เขาได้มัดมันไว้แล้วแต่ด้วยความแสนซนของมันก็ได้ดิ้นจนหลุดจากเชือกทำให้พลัดตกน้ำ “ผมขอขอบคุณผู้ช่วยเหลือหมาของผมจริงๆ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสกอดมันอีกครั้ง” Mario เจ้าของหมาตัวนี้ได้กล่าวขอบคุณไว้ทิ้งท้าย   นาทีชีวิตของเจ้า Noodle ที่ได้รับความช่วยเหลือ   ที่มา: inspiremore

  • โคตรเจ๋ง! หมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นทำวีดีโอเกมซอมบี้เสมือนจริง เพื่อหาคนมาอยู่เพิ่ม

    โคตรเจ๋ง! หมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นทำวีดีโอเกมซอมบี้เสมือนจริง เพื่อหาคนมาอยู่เพิ่ม

    ด้วยความที่ผู้คนต่างพากันไปหางานทำในเมืองใหญ่แล้วไม่กลับมาอยู่บ้านเกิดอีกเลย จึงทำให้หมู่บ้านที่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีคนอยู่น้อยลงทุกวัน หมู่บ้านแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเลยหัวใสจัดทำวีดีโอที่จำลองผู้คนในหมู่บ้านให้อยู่ในรูปแบบเกมซอมบี้ซะเลย โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า Kosugemura เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัด Yamanashi โดยในหมู่บ้านแห่งนี้มีผู้อาศัยอยู่ราวๆ 700 คนได้รวบรวมคนในหมู่บ้านเพื่อจัดทำคลิปวีดีโอเกมขึ้นมาที่จำลองเหตุการณ์เกมที่ต้องเอาชีวิตรอดในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยซอมบี้โดยมีฉากหลังเป็นพื้นที่ในหมู่บ้าน และใช้คนจริงๆ แทนตัวละครที่อยู่ในเกม   ดูตัวละครซะก่อน   น่ารักป่ะล่ะ   ใช้เมืองเป็นฉากในเกมอย่างเท่   มีสู้กับหมีด้วยนะ   น่ากลัวมากกก   ซึ่งวีดีโอเกมนี้ในตอนจบตัวละครที่เราเล่นจะตายด้วยน้ำมือของซอมบี้ตัวหนึ่งและเมื่อออกไปนอกบ้านก็เจอกับซอมบี้จริงๆ และวีดีโอนี้ก็ได้เชิญชวนถึงคนดูว่าหากอยากเล่นต่อในชีวิตจริง หมู่บ้านแห่งนี้ได้จัดหมู่บ้านซอมบี้ขึ้นจริงๆ ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศที่สยดสยองล่ะก็ รับรองได้ว่าที่นี่จัดเต็มเหมือนในวีดีโออย่างแน่นอน   ลองชมวีดีโอสุดน่ากลัวนี้กัน   ที่มา: en.rocketnews24, こ、こすげぇー ~小菅村情報発信中!~

  • โป๊ะเช๊ะ! ตำรวจพบโรงงานผลิตโคเคนเพราะลูกชายโทรไปแจ้งว่า “พ่อไม่เหมือนปกติ”

    โป๊ะเช๊ะ! ตำรวจพบโรงงานผลิตโคเคนเพราะลูกชายโทรไปแจ้งว่า “พ่อไม่เหมือนปกติ”

    ขึ้นชื่อว่าเป็นยาเสพติดย่อมเป็นพิษเป็นภัยต่อทุกคนที่เกี่ยวข้อง แม้แต่เด็กที่ไม่ได้เสพยังทนไม่ไหวโทรไปบอกตำรวจว่า “พ่อไม่เหมือนปกติ” จนตำรวจมาค้นบ้านแล้วเจอโรงงานโคเคนเลยทีเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษจากการมีหนูน้อยคนหนึ่งได้โทรศัพท์ไปหาตำรวจว่าพ่อสูดผงสีขาวๆ และดื่มเหล้าตำรวจจึงได้เข้าตรวจค้นที่บ้านของหนูน้อยคนนี้ซึ่งมีเจ้าของคือ Barry Dermott พ่อของเด็ก     การตรวจค้นในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบปืนลูกโม่.38 ซ่อนอยู่ในตู้ใต้บันไดและส่วนผสมในการทำโคเคนต่างๆ อย่างกรดบอริกอีก 18 กิโลกรัม น้ำตาลซูโครส  และผลจากการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่ารอยนิ้วมือบนปืนนี้เป็นของ Thomas Rowan ชายอายุ 24 ปี     โดยทนายความของ Dermott ได้บอกว่าลูกความของเขาเสพติดโคเคนและมีหนี้สินมากมายและด้วยเหตุนี้เขาจึงทำบ้านของตัวเองให้เป็นโรงงานผลิตยารวมทั้งเป็นที่เก็บอาวุธซะเลย และต่อมาระหว่างให้การกับตำรวจเขาก็ได้สารภาพว่าเขามักใช้โคเคนและดื่มเหล้าในเวลาหลังเลิกงาน แต่ปฏิเสธที่จะบอกถึงชื่อลูกค้าที่มาซื้อยาจากเขา ซึ่งโทษที่ Dermott ได้รับคือจำคุกเป็นเวลากว่า 6 ปี 2 เดือนในข้อหาใช้สถานที่เป็นโรงงานผลิตยาเสพติด และ Rowen ก็โดนจำคุกเช่นกันในข้อหาครอบครองอาวุธผิดกฎหมายเป็นเวลากว่า 7 ปี เลยทีเดียว   งานนี้บอกเลย เด็กเป็นพระเอกนะเนี่ย ฮ่าๆ   ที่มา: mirror

  • สุดซึ้ง พี่สาวตั้งแคมเปญหาคนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้น้องชายออทิสติกที่ไม่มีเพื่อนเลย

    สุดซึ้ง พี่สาวตั้งแคมเปญหาคนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้น้องชายออทิสติกที่ไม่มีเพื่อนเลย

    ความรักของพี่น้องดูเหมือนจะเป็นความรักที่น่าประทับใจจริงๆ เหมือนเหตุการณ์นี้ที่พี่สาวพยายามจะตั้งแคมเปญให้ผู้คนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้กับน้องชายที่เป็นโรคออทิสติก เหตุการณ์สุดน่าประทับใจนี้เกิดขึ้นในเมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อ James Weir ผู้ป่วยเป็นโรคออทิสติกกำลังจะมีวันเกิดมีอายุครบ 21 ปีในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ แต่ด้วยโรคที่เขาเป็นนี้ทำให้เขามีเพื่อนที่ไม่มากนักและทำให้เข้าสังคมไม่เก่งนัก โดย Lucy พี่สาวของ Jame บอกว่าเขามักจะมีความว้าเหว่เกิดขึ้นเพราะไม่มีเพื่อน และเธอก็ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าการเห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มบนวันที่แสนวิเศษของเขา   Jame และพี่สาวทั้งสองคน Lucy(คนซ้ายมือ)  Rachel(คนกลาง)   และด้วยเหตุนี้เธอจึงโพสต์ในเฟซบุ๊กเชิญชวนให้ผู้คนช่วยส่งการ์ดอวยพรวันเกิดมาเพื่อสร้างเซอไพรส์ให้แก่น้องชายของเธอ “เขาเป็นคนขี้วิตกกังวลกับการเข้าสังคมมาก เขาจึงมีเพื่อนไม่มากนัก” “และนี่ก็ใกล้วันเกิดเขาเข้ามา ฉันจึงเกิดไอเดียนี้ขึ้นมาเพื่ออยากจะให้น้องชายของฉันมีความสุขที่สุดในวันนั้น”  Lucy กล่าว       “ที่ฉันตัดสินใจทำแบบนี้ก็เพราะว่าเขาเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านและมันเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจฉันทุกวันที่ว่า เขาเป็นคนไม่มีเพื่อนซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการเป็นอย่างมากรวมทั้งการมีแฟนก็ด้วย” “ถึงแม้จะมีคนส่งการ์ดมาให้เขาเพียงน้อยนิด แต่ฉันคิดว่านั่นน่าจะทำให้น้องชายฉันดีใจจนแทบจะบินได้เลยล่ะ” Lucy กล่าวทิ้งท้าย     ความรักของพี่น้องนี่มีพลังมากจริงๆ ทำเอาเหมียวซึ้งเลยนะเนี่ย   ที่มา: dailymail

  • เจ้าจระเข้พยายามแหวกว่ายเข้าไปกลางฝูงฮิปโป โดนใส่ซะยับก่อนจะรอดชีวิตมาได้แบบงงๆ

    เจ้าจระเข้พยายามแหวกว่ายเข้าไปกลางฝูงฮิปโป โดนใส่ซะยับก่อนจะรอดชีวิตมาได้แบบงงๆ

    ใครจะไปคิดเมื่ออยู่ๆ เราไปเที่ยวสวนสัตว์แล้วกำลังดูสัตว์ต่างๆ ไปเพลินๆ แต่อยู่ๆ ก็มีสัตว์ตัวหนึ่งกำลังโดนรุมอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนเจ้าจระเข้ตัวนี้ที่ดันหลงเข้าไปในฝูงฮิปโปกว่า 30 ตัว! โดยผู้เห็นเหตุการณ์นี้คือนาย Harish Kumar อายุ 71 ปีที่กำลังท่องเที่ยวอยู่กับกลุ่มทัวร์ชาวฮอลแลนด์อีก 18 คนโดยไกด์ได้นำเขาไปที่สระน้ำของเจ้าฮิปโป ซึ่งในตอนแรกๆ ก็ไม่มีอะไรแต่ภรรยาของเขาเห็นว่าในน้ำต้องมีอะไรที่ไม่ปกติแน่ๆ ก็เลยชี้ให้เขาดูและเขาก็ได้บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้     ชาละวันโดนเข้าแล้วว   ภาพที่ได้เห็นคือมีเจ้าจระเข้ตัวหนึ่งดันหลงเข้าไปในเขตของฮิปโป พวกมันเลยพยายามจะไล่เจ้าจระเข้ให้ออกไปจากพื้นที่ในส่วนของมัน โดยพวกมันเรียกได้ว่ารุมสกรัมเจ้าจระเข้แทบจะไม่มีชิ้นดีเลยทีเดียว   เดี๋ยวเจอฟาดหาง แต่ในที่สุดเจ้าจระเข้ไม่รู้ใช้วิชานินจาที่ไหนพาตัวเองออกมาจากวงล้อมของเหล่าฮิปโปออกมาได้อย่างปลอดภัย สร้างเสียงฮือฮาให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้มากทีเดียว   มาดูวิธีเอาตัวรอดเต็มๆ ของเจ้าจระเข้ตัวนี้ได้ที่นี่   ที่มา: Kruger Sightings

  • 18 คดีฆาตกรรมอันแสนน่ากลัวในอดีต ที่คุณอาจไม่คิดว่า มนุษย์จะโหดร้ายได้เพียงนี้!?

    18 คดีฆาตกรรมอันแสนน่ากลัวในอดีต ที่คุณอาจไม่คิดว่า มนุษย์จะโหดร้ายได้เพียงนี้!?

    การฆ่าคนมีให้เห็นอยู่ในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งบางทีอาจจะมาจากความเกลียดชังหรืออาจจะมาจากความผิดปกติทางจิตใจก็ตามแต่ และนี่คือ 18 คดีฆาตกรรมในอดีตที่เกิดขึ้นมาบนโลกของเรา ลองไปดูกันดีกว่าว่าจะมีความโหดร้ายอย่างไร   Amelia Dyer ฆาตกรที่ชอบฆ่าเด็ก   Dyer ฆาตกรผู้ที่ชอบฆ่าเด็กเป็นชีวิตจิตใจโดยเธอจะใช้เงินจ่ายให้กับสถานสงเคราะห์ต่างๆ ที่มีเด็กกำพร้า เพื่อนำเด็กเหล่านั้นมาฆ่าและไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเธอฆ่าเด็กไปทั้งหมดกี่คน แต่ประมาณการณ์กันว่าน่าจะมีถึง 400 ชีวิตเลยทีเดียว โดยเธอถูกประหารชีวิตในปี 1896   คดีระเบิดโรงเรียนในปี 1927 Andrew Kehoe ชายชาวมิชิแกนได้ทำเรื่องสะเทือนขวัญขึ้นกับโรงเรียนแห่งหนึ่ง เมื่อเขาได้วางระเบิดที่เหลือจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่โรงเรียน หลังจากนั้นเขาก็ได้ใช้ปืนไรเฟิลระดมยิงต่ออีกชุดหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นคดีระเบิดโรงเรียนแห่งแรกในประเทศอเมริกา   คดีฆาตกรรม William Desmond Taylor   Taylor ผู้มีอาชีพเป็นผู้กำกับหนังถูกพบเป็นศพจากกการโดนยิง ซึ่งคดีนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นผู้ลงมือแต่ หลักฐานทั้งหมดได้ชี้ไปยัง Mary Miles Minter อดีตนักแสดงและคนรักเก่าของเขา   Dr. Oliver Haugh ผู้ฆ่าครอบครัวด้วยการเผาบ้าน   Oliver ฆ่าพ่อแม่พี่น้องของเขาทั้งหมดด้วยการขังทั้งหมดไว้ในบ้านและจุดไฟเผา อีกทั้งเขายังเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าผู้หญิงมาแล้วหลายศพ รัฐโอไฮโอจึงตัดสินเขาด้วยการการประหารชีวิตด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้าในปี 1905   ศพ 12 ศพที่ Cleveland…

  • ทาสแมวมาทางนี้!! สวรรค์สำหรับคนรักแมวเพราะที่นี่มีเจ้าสุดกวนให้ได้เล่นมากกว่า 600 ตัว

    ทาสแมวมาทางนี้!! สวรรค์สำหรับคนรักแมวเพราะที่นี่มีเจ้าสุดกวนให้ได้เล่นมากกว่า 600 ตัว

    สำหรับคนรักสัตว์สุดกวนอย่างแมว เชื่อว่าคงไม่มีอะไรที่จะทำให้ฟินไปกว่าการที่มีเจ้าขนปุยมาเดินยั้วเยี้ยพันแข้งพันขาเต็มไปหมด และวันนี้เรามีสถานที่ที่จะทำให้กลายเป็นสวรรค์ของคนเหล่านี้เพราะที่นี่มีแมวให้เล่นได้มากกว่า 600 ตัวเลยทีเดียว ที่ที่ว่านี้ก็คือ Lanaicatsanctuary หรือสถานสงเคราะห์แมวแห่งเมือง Lanai ตั้งอยู่ที่เกาะ Hawaii ซึ่งสถานที่นี้เป็นที่รับเลี้ยงแมวที่ไม่มีเจ้าของให้มีชีวิตที่ดีขึ้นโดยที่นี่มีอาหารที่ดีให้แก่แมว รวมทั้งยังมีสัตวแพทย์คอยฉีดวัคซีนให้แก่แมวทุกตัวที่นี่ และหากใครไปเที่ยวชมแล้วถูกใจแมวตัวไหนก็สามารถรับไปเลี้ยงได้ด้วยแหละ เอ้อออ นอกจากจะเป็นสวรรค์สำหรับทาสแมวแล้ว ที่นี่ยังได้มีการช่วยเหลือนกที่ใกล้สูญพันธ์ุให้มีที่อยู่ที่เหมาะสมอีกด้วย สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวทะเลสวยๆ ที่นี่ก็อย่าลืมแวะไปเยี่ยมชมบ้านแมวแสนน่ารักนี้ได้หรือจะช่วยบริจาคเพื่อช่ววยให้แมวทั้งหลายมีชีวิตที่ดีขึ้นก็ได้ที่ lanaicatsanctuary   ว่าแล้วก็ไปดูภาพเจ้าแมวแสนน่ารักเหล่านี้กันดีกว่า . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   ลองมาดูภาพเคลื่อนไหวกันบ้างดีกว่า   ที่มา: boredpanda, lanaicatsanctuary

  • ปล้นแบบแฟนซี!! โจรสวมหน้ากาก Stormtrooper ขณะกำลังปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งในสเปน

    ปล้นแบบแฟนซี!! โจรสวมหน้ากาก Stormtrooper ขณะกำลังปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งในสเปน

    ในภาพยนตร์เรื่อง Star wars จะมีตัวละครตัวหนึ่งที่เป็นที่คุ้นตาของใครหลายคนอย่าง Stormtrooper ซึ่งในเรื่องก็คือกองทหารเลวประจำกองทัพฝั่งตัวร้าย แต่ว่าในเมื่อไม่นานมานี้ได้มีคนสวมหน้ากากของตัวละครนี้มาปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งซะอย่างนั้น โดยผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นชาวอังกฤษคนหนึ่งอายุ 41 ปี ได้ก่อเหตุปล้นโรงแรมแห่งหนึ่งในเมือง Mijas ประเทศสเปน โดยเขาได้เงินไปทั้งหมดกว่า 1500 ยูโร (58,673 บาท) ซึ่งตำรวจพยายามแกะรอยชายในหน้ากากสุดน่ารักนี้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม และจับกุมได้ในทีสุด   ส่งเงินมานะเจ้ามนุษย์   ภาพจากในกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นว่า มีผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดสีดำและสวมหน้ากากของตัว Stormtrooper ข่มขู่พนักงานต้อนรับของโรงแรมด้วยอาวุธปิืน และบังคับให้ส่งเงินให้เขา พนักงานคนนั้นก็ส่งเงินให้แต่โดยดี จากนั้นโจรคนนี้ก็รีบกวาดเงินทั้งหมดลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์ก็ดำเดินต่อไปจนถึงจุดที่กำลังจะหนีแต่ปรากฎว่าไปผิดทาง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนนี้เขาเข้ามาจากทางไหน) จนพนักงานคนนั้นต้องบอกทางออกที่ถูกต้องให้แก่ชายคนดังกล่าว   จะหนีได้อยู่แล้วไปผิดทางซะงั้น   แต่ก่อนจะออกไปนาย Stormtrooper ก็ยังมีความรอบคอบอยู่ โดยเขาได้กลับมาที่เคาน์เตอร์และดึงสายโทรศัพท์ออกเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานคนดังกล่าวโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินนั่นเองและได้ถามถึงทางออกอีกครั้งเพราะกลัวจะไปผิดทางอีก ขณะที่ทางตำรวจของสเปนกำลังหาทางแกะรอยเจ้าทหารอวกาศคนนี้อยู่ ก็ได้รับรายงานว่ามีการปล้นในลักษณะเดียวกันนี้ เกิดขึ้นที่บ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่งในละแวกเดียวกันกับที่โรงแรมตั้งอยู่   เพื่อความชัวร์ต้องป้องกันซะหน่อย   และมาคราวนี้เจ้าโจรคนนี้เหมือนอยากจะเย้ยหยันตำรวจที่จับเขาเข้ากรงไม่ได้สักที เพราะว่าเขาสวมหน้ากากอันเดิมพร้อมกับเสื้อกั๊กที่เขียนคำว่า “Interpol” หรือองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศนั่งเอง แหมช่างกล้าซะจริงๆ แต่ว่าครั้งนี้เขาไปไม่รอดเพราะว่า คนที่อาศัยอยู่ในบ้านพักตากอากาศหลังนั้นได้ขวางไม่ให้ชายผู้นี้บุกเข้าไปในบ้าน และเขาก็ยอมแพ้ในที่สุด ตำรวจได้เปรียบเทียบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมกับคนที่จับมาได้ ปรากฎว่าคือคนเดียวกัน แต่ว่าชื่อของเขาไม่ได้รับการเผยแพร่ออกมา อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ถูกคุมขังอยู่กับตำรวจแล้วล่ะ  …

  • ศิลปินชาวโรมาเนียสุดล้ำ ใช้ “เลื่อย” แกะสลักต้นไม้ จนออกมาเป็นผลงานระดับเทพ

    ศิลปินชาวโรมาเนียสุดล้ำ ใช้ “เลื่อย” แกะสลักต้นไม้ จนออกมาเป็นผลงานระดับเทพ

    คำว่าศิลปะ ถ้าได้ยินคำนี้หลายคนคงนึกถึงภาพวาดภาพเขียนหรือไม่ก็การปั้นอะไรซักอย่าง แต่ว่าชายคนนี้จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าศิลปะอยู่ในทุกสิ่งบนโลกจริงๆ เพราะว่าเขาคนนี้ได้สร้างศิลปะจากการแกะสลักลงบนต้นไม้! ชายคนที่มีฝีมือระดับปรมาจารย์คนนี้มีชื่อว่า Gabi Rizea อายุ 42 ปี ชาวโรมาเนียที่ได้มีสกิลการแกะสลักบนต้นไม้ระดับเทพ เขาบอกว่าเขาค้นพบความสามารถนี้โดยบังเอิญ โดยตอนนั้นเขาได้ซื้อเลื่อยอันใหม่มาเลยอยากจะลองของแกะสลักเป็นหน้าคนที่ต้นไม้ ปรากฎว่าผลที่ออกมามันดีเกินคาดเขาเลยสร้างศิลปะอย่างนี้มาเรื่อยๆ และเป็นโชคดีของเขาที่รัฐบาลท้องถิ่น Craiova ซึ่งเป็นที่ที่เขาอาศัยอยู่ได้มาเห็นฝีมือเข้าจึงอนุญาตให้เขาสามารถแกะสลักลงบนต้นไม้ในสวนสาธารณะได้ ผลงานทั้งหลายจึงได้ประจักษ์แก่สายตาของผู้คนมากมายและนั่นทำให้เขาเป็นคนดังในประเทศโรมาเนียเลยล่ะ   เห้ย ทำได้ไงเนี่ย   จากตอไม้ธรรมดาๆ กลายเป็นงานศิลปะสุดสวย   แหวกออกมาทำไมเนี่ยฮะ   คล้ายพ่อมดเทาใน The Lord of The Ring มาก   เรียกได้ว่างานละเอียดจริงๆ   เป็นหน้าผู้หญิงก็ได้ ชิวๆ   เป็นที่นั่งที่คิกขุอะไรขนาดนี้เนี่ย   เหมือนใครเอาสติกเกอร์ไปแปะไว้เลย   หน้าตาของศิลปินผู้สร้างผลงานบนผืนไม้   ขณะทำงานก็ต้องสร้างอารมณ์นิดนึง   เห็นไหมล่ะเพื่อนๆ ว่าศิลปะอยู่รอบตัวจริงๆ ว่าแล้วก็ลองหาแกะอะไรซักอย่างดีกว่า ฮ่าๆ ที่มา: boredpanda

  • คูู่รักออกเดินทางท่องเที่ยว แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มระหว่างทาง พอออกมาได้หมามาร่วมทางเฉ๊ย!!

    คูู่รักออกเดินทางท่องเที่ยว แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มระหว่างทาง พอออกมาได้หมามาร่วมทางเฉ๊ย!!

    เมื่อเราขับรถออกเดินทางท่องเที่ยวก็ต้องมีบ้างบางครั้งที่จะจอดพักหรือแวะเติมน้ำมันบ้าง แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อจอดเติมน้ำมันแปบเดียวกลับมีเพื่อนมาขอร่วมทางแต่ว่ามันกลับไม่ใช่คนน่ะสิ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ Emily Trost และแฟนหนุ่มของเธอที่ขับรถเที่ยวข้ามประเทศเป็นระยะเวลากว่า 10 สัปดาห์ ระหว่างที่พวกเขาแวะเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในรัฐ Montana และได้เข้าไปซื้อในร้านมินิมาร์ท เมื่อกลับมาที่รถก็พบลูกหมาน่ารักตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างรถเหมือนกับว่ามันกำลังรอพวกเธออยู่   เอ้ามายังไง   “ตอนแรกเราคิดว่ามันคงเป็นหมาของใครซักคนที่แวะเติมน้ำมันนี่แหละ” “เราเดินไปทั่วทั้งปั๊มน้ำมันเพื่อหาว่าใครเป็นเจ้าของมันกันแน่ แต่ก็ไม่มีใครที่มาตามหาเจ้าหมาตัวนี้เลย และดูจากสภาพมอมแมมของมันแล้วฉันก็เลยรู้ทันทีว่ามันไม่มีเจ้าของ” Emily กล่าว   เห็นหน้าตาน่ารักอย่างนี้ ใครจะอดสงสารไม่ได้   ในอีกครู่ต่อมา ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งขับรถเข้ามาในปั๊มและเมื่อเห็นเจ้าหมาอยู่กับทั้งคู่จึงบอกว่า หมาตัวนี้เป็นหมาที่หลงทางมาและขอให้ทั้งคู่นำหมาตัวนี้ไปเลี้ยง เพราะว่าหมาตัวนี้เป็นหมาที่ฉลาดและควรจะได้อยู่กับคนดีๆ คู่รักทั้งคู่จึงตกลงกันว่าอย่างน้อยก็รับหมาตัวนี้ไปก่อนละกันแล้วค่อยหาองค์กรที่ช่วยเหลือสัตว์ที่หลัง แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับมัน ความน่ารักของหมาตัวนี้ก็ทำให้ทั้งคู่ใจอ่อนรับมันไปเลี้ยงที่บ้านจนได้   อ้อนเชียวนะ   ทั้งสองตัดสินใจตั้งชื่อเจ้าสี่ขาตัวนี้ว่า Montana ตามรัฐที่ได้เจอมันโดยบังเอิญ ซึ่งตอนที่รับมันมาขึ้นรถมันคงหวังแค่เพียงว่าเจ้าของรถคันนี้อาจจะสงสารให้ข้าวมันกินสักนิดหน่อย แต่มันคงไม่รู้หรอกว่ามันเจอโชคครั้งใหญ่เข้าแล้ว “เช้าวันแรกหลังเรารับ Montana เป็นวันที่ดีที่สุดเลย มันตื่นขึ้นมาในเต็นท์ของเราและพยายามปีนขึ้นมาบนหัวของเราและหอมแก้มเรา มันคงตกใจที่วันหนึ่งตื่นมาแล้วมีคนอยู่ข้างกายของมันมั้ง” Emily กล่าวเพิ่ม   หลับปุ๋ยเชียว   ในช่วงแรก Montana ใช้เวลาในการนอนเยอะมากและมีความสุขที่มีคนดูแล และเมื่อมีความคุ้นเคยมากขึ้นกับเจ้าของใหม่ มันก็ค่อยๆ เผยนิสัยที่แท้จริงออกมา ซึ่งมันดูมีความสุขกับในการออกทริปครั้งนี้ไปพร้อมกับพ่อและแม่ใหม่ของมัน และเมื่อจบการเดินทางอันยาวนานเขาทั้ง 2 คนและอีก 1…

  • ท่าไรเนี่ย? รวม 18 ภาพของเจ้าเหมียวในท่านั่งที่สุดแปลก ที่เห็นแล้วหยุดขำไม่ได้

    ท่าไรเนี่ย? รวม 18 ภาพของเจ้าเหมียวในท่านั่งที่สุดแปลก ที่เห็นแล้วหยุดขำไม่ได้

    แมว เป็นสิ่งมีชีวิตที่จัดว่ากวนใจมนุษย์ที่สุดก็ว่าได้เพราะมันมักจะทำสิ่งที่เราคาดไม่ถึง บางทีก็ชอบสร้างความเสียหาย แต่เหล่าทาสแมวทั้งหลายก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรมัน ก็เพราะความน่ารักของพวกมันนั่นแหละ และมาคราวนี้พวกมันจะทำให้คุณต้องอมยิ้มไปกับท่านั่งแปลกๆ ของพวกมัน ซึ่งบางท่ามันก็เหมือนล้อเลียนมนุษย์เหมือนกันนะเนี่ย ชักจะเอาใหญ่แล้วเจ้าพวกนี้ ไปลองชมความน่ารักในท่านั่งแบบแปลกๆ ของพวกมันกันดีกว่า   ทำไมแกทำหน้ายังงั้นล่ะฮะ   เมื่อคุณถืออาหารอยู่…ดูสายตาของมันสิ   แมวสายเล่นกล้ามนี่นา   มันช่างพอเหมาะพอเจาะจริงๆ   แหกแข้งแหกขาซะหมดเลยลูกเอ้ย   เอ้าลุกนั่ง 10 ครั้ง!! ปฏิบัติ!!   เหมือนลุงแก่ๆ คนนึงนะเอาจริงๆ ฮ่าา   สงสัยเพิ่งกินข้าวอิ่ม อืดซะ   ก็ฉันเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย   มองไร หาเรื่องหรอ   เหมือนนั่งอยู่ริมสระแล้วเอาขาจุ่มน้ำ   ก็ทีมนุษย์ยังนั่งอย่างนี้ได้เลย ทำไมจะทำมั่งไม่ได้   หยิบรีโมทให้ฉันหน่อยซิ เจ้าทาส   เซ็กซี่ไหมคะ พี่ขาา   นี่เอ็งจะนั่งสมาธิหรอ   ขนาดยืนยังพุงพลุ้ยขนาดนี้ ออกกำลังกายมั่งนะ  …

  • เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องสอบ จิตใจของคนเป็นแม่แทบสลาย

    เด็กหนุ่มวัย 15 ปี ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดเรื่องสอบ จิตใจของคนเป็นแม่แทบสลาย

    ในการสอบแต่ละครั้ง ผู้ที่เข้าสอบทั้งหลายก็ต้องพยายามอ่านหนังสือเพื่อให้เข้าใจในวิชานั้นๆ อย่างถ่องแท้ซึ่งบางครั้งอาจก่อให้เกิดเป็นความเครียดและความกังวลขึ้นมาจนอาจทำให้ใครบางคนคิดสั้นและตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะว่าจำเนื้อหาที่จะสอบไม่ได้ เหตุน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่เมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ โดยผู้ที่ออกมาเล่าเหตุการณ์นี้คือ Emma Oliver อายุ 43 ปี แม่ของ Daniel Long นักเรียนคนหนึ่งที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะเครียดกับการเตรียมสอบ GCSE ซึ่งเป็นข้อสอบที่จะนำไปใช้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย ที่มีกำหนดสอบในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้     คุณแม่ใจสลายคนนี้เล่าให้ฟังว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมา โดยเธอได้ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่า “ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ฉันได้ขึ้นไปห้องของ Daniel ก็เห็นเขากำลังอ่านหนังสืออยู่ ฉันจึงลงไปข้างล่างเพื่อเตรียมอาหาร” “แต่อีก 20 นาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงดังลั่นมาจากข้างบน ฉันจึงรีบวิ่งขึ้นไปและพบว่าลูกชายของฉันกำลังใกล้ตายแล้ว ตอนนั้นฉันได้แต่กรี๊ดและวิ่งไปหาเพื่อนบ้านให้โทรหาโรงพยาบาล จากนั้นฉันก็ได้ CPR เบื้องต้นให้แก่ลูกชาย” โดยเธอไม่ได้บอกแหล่งข่าวว่าลูกชายของเธอตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยวิธีใด     หลังจากนั้นเธอก็พบว่า Daniel ยังหายใจอยู่จึงส่งไปที่โรงพยาบาลในเมือง Leeds และเขาต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา “ฉันนั่งอยู่ข้างเตียงของเขาและหวังว่าเขาจะปลอดภัย” Emma กล่าว แต่ว่ามันกลับไม่เป็นไปอย่างที่เธอหวัง ทีมแพทย์ได้ออกมาบอกว่า Daniel ได้มีภาวะสมองตายวินาทีที่เธอได้ฟังนั้นเธอบอกว่าใจแทบสลายเลยทีเดียว และเขาได้เสียชีวิตในวันที่ 28 กุมภาพันธ์…

  • คู่รักไว้ทรงผมยาวชาวร็อคเกือบ 30 ปี ไม่ยอมตัดซักทีพอได้เปลี่ยนปุ๊บก็แทบจะจำกันไม่ได้…

    คู่รักไว้ทรงผมยาวชาวร็อคเกือบ 30 ปี ไม่ยอมตัดซักทีพอได้เปลี่ยนปุ๊บก็แทบจะจำกันไม่ได้…

    วิถีชาวร็อคนี่ช่างดูจะเต็มไปด้วยความยากลำบากจริงๆ เพราะต้องบ่งบอกความเป็นตัวเองผ่านเสื้อผ้าหน้าผม แต่จะมีใครใจได้เท่าคู่รักคู่นี้ที่ไม่ตัดผมมาเกือบ 30 ปี! Tim White และ Wendy White เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “คู่รักทรงผม Rock n’ Roll” สำหรับ Tim นั้นไม่เคยตัดผมมาตั้งแต่อายุ 18 ปีจนตอนนี้เขามีอายุกว่า 43 ปีขณะที่ Wendy นั้นก็ไม่แพ้กันโดยเธอไม่ตัดผมมาตั้งแต่อายุ 11 ปีและในตอนนี้มีอายุกว่า 39 ปีซึ่งหมายความว่าเธอไว้ผมมา 28 ปีเลยทีเดียว   ผมไม่พันกันมั่งหรอเนี่ย   และในตอนนี้ทั้งคู่เริ่มคิดที่จะเปลี่ยนแปลงทรงผม พวกเขาจึงเรียกรายการ Oprah Winfrey Show ให้มาช่วยออกแบบทรงผมให้หน่อย งานนี้บอกเลยว่าทีมงานของรายการจัดเต็ม ขนมาทั้งช่างแต่งหน้า ช่างทำผมมืออาชีพ เพื่อจะมาแปลงโฉมให้ทั้งคู่   ทรงผมสุดจ๊าบที่ไว้มาเกือบ 30 ปี   เป็นไง ลุคใหม่ของเจ๊   ซึ่งคนแรกที่ออกมาหลังจากเปลี่ยนร่างแล้วนั้นคือ Wendy ซึ่งผลที่ออกมาน่ะหรอ เหมือนสาวฮอตในวงการฮอลลีวูดเลยล่ะ   หน้าสวย ผมก็สวย…

  • ผลงานชุดใหม่ของช่างภาพที่ตามถ่ายแมวจรในโตเกียว ที่คราวนี้ถึงกับจัดเป็นนิทรรศการ

    ผลงานชุดใหม่ของช่างภาพที่ตามถ่ายแมวจรในโตเกียว ที่คราวนี้ถึงกับจัดเป็นนิทรรศการ

    หลายคนคงรู้จักกับช่างภาพที่ตามถ่ายแมวจรจัดอย่างนาย Masayuki Oki ที่วันนี้เขาจะมีนิทรรศการภาพถ่ายที่เกี่ยวกับแมวแล้ว ก่อนหน้านี้เขาได้มีสมุดรวมรูปภาพแมวที่ชื่อ “busanyan” หรือที่แปลได้ว่าแมวหน้าปลวก แต่มาตอนนี้เขาได้จัดนิทรรศการภาพถ่ายแมวจรจัดที่ชื่อว่า “Fiercely Cat Exhibition” (นิทรรศการแมวเถื่อน) ซึ่งตอนนี้ได้จัดขึ้นที่ตึก TOCHIBA 2 ในโตเกียวจนถึงวันที่ 22 ตุลาคมนี้และจะย้ายไปจัดต่อที่ เมืองเกียวโตในวันที่ 23-26 พฤศจิกายนนี้ ที่ Kyoto GALLERY 35 KYOTO หากใครไปญี่ปุ่นในช่วงนั้นก็ลองไปแวะชมกันได้   บัตรเข้าชมนิทรรศการ “แมวเถื่อน”   นายแบบอยู่นี่เอง   นอกจากนี้เขายังมีวิธีถ่ายแมวที่ไม่คุ้นเคยกับเรามาฝากเพื่อนๆ ด้วย 1. ไปให้มันเห็นหน้าบ่อยๆ และค่อยๆ สร้างความคุ้นเคยกับมันเพื่อเวลาถ่ายใกล้ๆ มันจะได้ไม่ตกใจกระโดดหายไป 2. ทำความรู้จักกับสถานที่ที่มันอยู่ เพื่อให้มันคิดว่าเราปลอดภัยเมื่อเข้าไปใกล้ 3. สังเกตพฤติกรรมของมันว่ามันชอบทำอะไรจะได้ถ่ายรูปออกมาสวย   เห็นเคล็ดลับแล้วก็อยากเห็นผลงานของเขาใช่ไหมล่าา เอ้าลองดูกันดีกว่าว่าจะมีความน่ารักขนาดไหน   เล่นท่ายากซะด้วย   มาช่วยกันจับหน่อยเร๊ววว   นี่แหนะ ต้องสั่งสอนซะบ้าง   นึกว่าใครแขวนอะไรไว้  …

  • 10 ภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ ที่สวยงามซะจนนึกว่ามีใครมาวาดไว้

    10 ภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์ ที่สวยงามซะจนนึกว่ามีใครมาวาดไว้

    ธรรมชาติเป็นสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเราไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ ท้องฟ้า ทะเล หรืออะไรอย่างอื่นอีกมากมาย แต่ธรรมชาติก็มักจะสร้างสิ่งที่เราไม่คาดคิดอยู่เสมอจนกลายมาเป็นภาพความสวยงามที่คุณจะได้รับชมด้านล่างนี้ และนี่คือ 10 ภาพที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ออกมาเป็นความสวยงามที่หาชมได้ยาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นครั้งเดียวและไม่เกิดขึ้นอีกเลยก็เป็นได้   สายรุ้งที่เกิดจากพระจันทร์ สายรุ้งนี้เกิดขึ้นใกล้ๆ กับน้ำตกแห่งหนึ่งในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ชาวอินเดียวเชื่อว่าหากใครที่ได้เห็นปรากฏการณ์นี้จะสามารถเข้าใจภาษาของเหล่าวิญญาณได้และยังทำให้โชคดีอีกด้วย   หลุมที่เหมือนกับกำลังดูดคนลงไปสู่นรก หลุมที่เกิดจากลาวาที่เย็นตัวลงแล้ว หรือว่ามันอาจเป็นช่องทางไปสู่นรกก็ได้   โอปอที่มีเหมือนรวมเอาจักรวาลย่อมๆ มาไว้ข้างใน โอปอเม็ดนี้มีราคา 60,000 ดอลล่าสหรัฐ(ประมาณ 2 ล้านบาท) ถึงจะไม่ใช่โอปอที่แพงที่สุดในโลกแต่มันน่าจะเป็นโอปอที่สวยที่สุด รู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่งโอปอเคยมีราคาเทียบเท่ากับเพชร แต่ว่านักเขียนในศตวรรษที่ 19 หลายๆ คนมักเขียนถึงโอปอว่า เป็นเครื่องหมายของความล้มเหลวจึงทำให้มันด้อยค่าลง   ปรากฏการณ์ Volcanic Lightning โดยปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่าง การเกิดภูเขาไฟระเบิดจะเกิดพายุสายฟ้าขึ้นในเถ้าภูเขาไฟที่กำลังพวยพุ่งขึ้นเหนือภูเขาไฟ โดยนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถค้นพบสาเหตุนี้ได้   นี่มันคือเห็ดหรือไข่เอเลี่ยนกันเนี่ย เห็ดนี้มีชื่อว่า Clathrus archeri หรือเรียกกันง่ายๆ ว่านิ้วมือปิศาจ เป็นเห็ดที่เกิดขึ้นจากมอสและไลเคน   ต้นไม้ปิศาจที่เหมือนกับไฟลุกจากข้างใน ต้นไม้ต้นนี้ดูเหมือนมีเลือดไหลออกมา แต่จริงๆ แล้วมันโดนฟ้าผ่าและค่อยๆ ไหม้โดยใช้เวลาหลายวันทำให้มันระเบิดออกมาจากข้างใน   แสงจากสวรรค์…

  • สายมัง! หมู่บ้านสำหรับคนรักสุขภาพในรัสเซีย ที่เปิดรับเฉพาะคนที่เป็นมังสวิรัติให้เข้าอยู่เท่านั้น

    สายมัง! หมู่บ้านสำหรับคนรักสุขภาพในรัสเซีย ที่เปิดรับเฉพาะคนที่เป็นมังสวิรัติให้เข้าอยู่เท่านั้น

    ผู้คนในทุกวันนี้เริ่มที่รักษาสุขภาพกันมากขึ้นเห็นได้จากการออกกำลังกายและกินอาหารมังสวิรัติที่ได้กลายเป็นกระแสอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เป็นมังสวิรัติแบบสุดโต่งนี่อาจเป็นหมู่บ้านที่คุณกำลังฝันหาถึงอยู่ก็ได้ เพราะนี่คือหมู่บ้านที่มีแต่มังสวิรัติ! หมู่บ้านแห่งมังสวิรัตินี้ตั้งอยู่แถวๆ ชานเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในประเทศรัสเซียโดยหมู่บ้านนี้มีชื่อว่า Veda ซึ่งหมู่บ้านนี้ได้ออกแบบมาเพื่อชาวมังสวิรัติที่รักสุขภาพจะได้อยู่กับคนที่มีความคิดเหมือนๆ กัน     กฎเหล็กข้อแรกของผู้ที่ซื้อหรือเช่าบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้คือต้องเป็นมังสวิรัติเท่านั้น โดยจะต้องเข้าสัมภาษณ์กับตัวแทนขายของหมู่บ้านนี้ก่อน และถ้าไม่ผ่านการสัมภาษณ์ก็หมดสิทธิ์ที่จะซื้อบ้านที่นี่ แต่ไม่ใช่แค่เป็นมังสวิรัติก็จะเข้าอยู่ที่นี่ได้ง่ายๆ เพราะที่นี่ยังห้ามสูบบุหรี่และดื่มเหล้าอีกด้วย “ไอเดียหลักที่สร้างชุมชนแห่งนี้คือ อยากให้คนที่มีความคิดความชอบเหมือนๆ กันได้มารวมตัวกัน หากคุณเป็นมังสวิรัติ ที่นี่เปิดประตูต้อนรับคุณแน่นอน” Maya Podlipskaya ผู้จัดการของหมู่บ้านแห่งนี้ได้บอกไว้     หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่พึ่งพาตัวเองโดยพวกเขาได้มีการจัดการทรัพยากรอย่าง ไฟฟ้า น้ำ การบำบัดของเสียและการผลิตอาหารในชุมชนเอง อีกทั้งหมู่บ้านยังมี ฟิตเนส สถานที่สำหรับโยคะ สปา รวมทั้งร้านอาหารมังสวิรัติ ให้คนในชุมชนนี้ได้ใช้อีกด้วย โดยอพาร์ตเม้นท์ที่อยู่ในชุมชนนี้ เสร็จแล้ว 2 ตึกจาก 7 ตึกและตึกที่เหลือมีกำหนดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า และสามารถรองรับได้ถึง 210 ครอบครัวเลยล่ะ ลองมาชมความน่าอยู่ของหมู่บ้านนี้กันไหมล่ะ   ที่มา: odditycentral

  • 18 ภาพสะท้อนสังคม ที่จะทำให้เราได้เห็นว่าโลกที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

    18 ภาพสะท้อนสังคม ที่จะทำให้เราได้เห็นว่าโลกที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

    สังคมในปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ และความนิยมต่างๆ เกิดขึ้นมากมายแต่บางทีสิ่งเหล่านั้นก็ครอบงำเรามากเกินไปจนกลายเป็นเราเสพติดที่จะขาดมันไปไม่ได้ หากอยากรู้ว่าโลกของเราในปัจจุบันเป็นอย่างไรลองชมภาพวาดสะท้อนสังคมของเราว่าเหมือนอย่างที่ศิลปินต่างๆ ได้เขียนไว้ไหม   สังคมในปัจจุบันมีการทำความดีเพื่อเอาหน้าแต่ไม่ได้คำนึงถึงปัญหาจริงๆ ที่มี   ในภาพแสดงถึงผู้หญิงตั้งท้องคนหนึ่งที่อยู่ในคุก ลองคิดดูสิว่าหากเด็กคนนี้เกิดขึ้นมาโลกที่เขาเห็นจะเป็นยังไง   สังคมในทุกวันนี้เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง และมีพื้นที่ให้ธรรมชาติน้อยลงเหมือนกับภาพวาดนี้ที่เปรียบเทียบกับนกไม่รู้จะนำต้นไม้ไปปลูกตรงไหนดี   โลกนี้เต็มไปด้วยความเกลียดชังทำให้ความรักเป็นเรื่องล้าสมัย   เวลาเหมือนหยุดนิ่งเวลาที่เรารักใครสักคน   คนๆ หนึ่งพยายามที่จะนำปลาลงสู่ทะเล โดยไม่รู้ว่าปลามันอาจจะตายจากความหวังดีของเขาก็ได้   เราได้กลายเป็นทาสของเทคโนโลยีโดยสมบูรณ์แบบ   ดูเหมือนว่าเงินจะมีน้ำหนักมากกว่าความรักในทุกวันนี้นะ   เด็กๆ ที่เกิดในยุคนี้คงลืมของเล่นต่างๆ และโลกภายนอกไปสิ้น โดยพวกเขาจดจ่อแต่กับหน้าจอเท่านั้น   หลายคนคงรู้จักโมนาลิซ่าที่มีความสวยงามโดยธรรมชาติ แต่ภาพนี้กลับแต่งตัวตามกระแสแฟชั่นทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เพราะความสวยในปัจจุบันนี้ดูได้จากสิ่งเหล่านี้   นี่คงเป็นสิ่งที่จะครองโลกในอนาคต   ในอนาคตหลายคนคงต้องยอมจ่ายเงินเพื่อจะมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง   ผู้คนมากมายเสพติดโทรศัพท์มือถือจนบางทีก็ลืมมองไปข้างหน้าว่าจะเจอกับอะไรบ้าง   โลกนี้เต็มไปด้วยความรุนแรงและความโกรธเกรี้ยวจนบางทีพระเจ้าอาจจะอยากรีเซ็ตโลกนี้ก็ได้นะ   Google และโทรศัพท์มือถือสามารถให้คำตอบคุณได้ทุกอย่าง ทำให้เราดูเหมือนไม่ได้ใช้สมองเลยล่ะ   เงินเหมือนจะเป็นคำตอบของความสุข หลายคนจึงยอมพลีกายเพื่อให้ได้มา   มนุษย์สร้างเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อเป็นเจ้านายเรา   มนุษย์อาจเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ของโลกนี้ก็ได้นะ…

  • พนักงานมินิมาร์ทสุดเมพ ไล่โจรที่จะมาปล้นร้านสะดวกซื้อด้วยดาบไม้เคนโด้เพียงอันเดียว

    พนักงานมินิมาร์ทสุดเมพ ไล่โจรที่จะมาปล้นร้านสะดวกซื้อด้วยดาบไม้เคนโด้เพียงอันเดียว

    เวลามีการปล้นเกิดขึ้น คนส่วนใหญ่มักจะให้ในสิ่งที่โจรนั้นต้องการ เพราะเกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ไม่ใช่กับพนักงานร้านสะดวกซื้อคนนี้ เพราะพี่แกหวดโจรยับจนต้องหนีกันจ้าละหวั่นด้วยดาบไม้อันเดียว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อมีชายคนหนึ่งใส่หมวกไอ้โม่งและถือชะแลงเข้ามาในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในเวลา 04.00 น. ของเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา   หน้าตาของร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ   ซึ่งพนักงานได้ถามชายคนดังกล่าวว่าจะเข้ามาปล้นหรอเขาคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ก็ใช่น่ะสิ“   เขาจึงกดปุ่มฉุกเฉิน และด้วยความที่พนักงานที่เฝ้าร้านอยู่ในขณะนั้นได้ฝึกวิชาเคนโด้จนถึงขั้น 1 ดั้ง (ซึ่งเปรียบได้กับสายดำของกีฬาต่อสู้อื่นๆ ) เขาจึงรีบหยิบดาบไม้ขึ้นมาเพื่อวางท่าทางเพื่อข่มขู่โจรคนนั้น และบอกกับโจรว่า “ฉันเรียนวิชาดาบญี่ปุ่นมานะ” เมื่อโจรเห็นแอบหวั่นๆ จะสู้หรือจะหนีดี สุดท้ายโจรก็เลือกที่จะหนีและวิ่งหน้าออกร้านไปอย่างรวดเร็ว สำนักข่าวญี่ปุ่นรายงานว่า หลังจากนั้นไม่นานทางตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้สำเร็จ   ข่าวในประเทศญี่ปุ่นที่นำเสนอการปกป้องร้านของพนักงานคนนี้   เอาจริงๆ เหมียวแนะนำว่ายอมๆ โจรไปเถอะ แล้วค่อยให้ตำรวจตามจับกุมทีหลัง เกิดโจรมีอาวุธอันตราย อาจไม่จบแบบสวยๆ อย่างนี้ก็เป็นได้ ที่มา: nextshark

  • เตียงแห่งยุค! เตียงที่สามารถเก็บของไว้ได้ใต้เตียงเหมือนกับว่าเป็นตู้ใบย่อมๆ เลยทีเดียว

    เตียงแห่งยุค! เตียงที่สามารถเก็บของไว้ได้ใต้เตียงเหมือนกับว่าเป็นตู้ใบย่อมๆ เลยทีเดียว

    เคยมีกันบ้างไหม กับปัญหาเรื่องการจัดการพื้นที่ภายในห้อง ที่บางทีมันก็มีน้อยจนไม่สามารถเก็บข้าวของของเราได้หมด แต่ปัญหานี้อาจจะหมดไปเมื่อได้เจอกับเตียงที่สามารถเก็บของได้อันนี้ เตียงอันนี้มีชื่อว่า Space-Up Double Bed เป็นเตียงที่มาจากไอเดียแสนฉลาดที่เราสามารถรวบรวมของหลายๆ อย่างมาเก็บไว้ได้ โดยไม่ต้องพึ่งตู้ใบใหญ่เทอะทะเลยทีเดียว   โดยเตียงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัดหรือห้องพักที่ต้องการช่องเก็บของเพิ่ม รวมถึงพ่อแม่ที่ต้องการซื้อเตียงพร้อมตู้เก็บของให้กับลูกๆ     ภายในเตียงมีพื้นที่เก็บของมากมาย ใส่ได้ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า แม้แต่กระเป๋าเดินทางก็ยัดเข้าไปได้ หรือถ้าใครจะใช้ซ่อนของจากภรรยา ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อย     นอกจากนี้ด้านข้างยังสามารถเป็นทั้งบันไดเพื่อปีนขึ้นเตียงหรือจะเป็นชั้นไว้สำหรับวางหนังสือก็ได้อีกเช่นกัน มีเตียงนี้อันเดียวเหมือนรวมทุกอย่างไว้เลย โดยเตียงนี้มีราคาประมาณอยู่ที่ 675 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 22,000 บาทเท่านั้นเอง หากใครสนใจก็ลองหากันได้ที่ roomtogrow แหม นับว่าเป็นไอเดียที่แสนฉลาดของผู้ผลิตจริงๆ ใครใจดีก็ซื้อให้เหมียวซักอันนึงนะ ฮ่า   ที่มา: icreatived

  • ขุ่นแม่ประหยัดเงินได้เป็นล้านจากการซื้อแต่ ‘เสื้อผ้ามือสอง’ เพื่อเอาไว้ใช้เที่ยวรอบโลก

    ขุ่นแม่ประหยัดเงินได้เป็นล้านจากการซื้อแต่ ‘เสื้อผ้ามือสอง’ เพื่อเอาไว้ใช้เที่ยวรอบโลก

    การช็อปปิ้งเสื้อผ้ามักจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชื่นชอบ แต่จะมีซักกี่คนที่เหมือนเธอคนนี้ที่ซื้อแต่เสื้อผ้ามือสองทุกชิ้นยกเว้นชุดชั้นใน เพื่อเก็บตังไปเที่ยวรอบโลก แทนที่เธอคนนี้จะไปเลือกซื้อของแบรนด์ดังทั้งๆ ที่มีเงินมากพอ แต่สาวในเมืองบริสเบน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของนัฐควีนแลนด์ ประเทศออสเตรเลียอย่าง Hannah Klose นักจัดรายการวิทยุสาวสวยวัย 36 ปี กลับเลือกที่จะประหยัดเงินในส่วนนี้เพื่อเอาไปใช้ฟุ่มเฟือยระหว่างการท่องเที่ยวรอบโลกกับสามีและลูกๆ ของเธอมากกว่า   สาบานว่านี่คือเสื้อผ้ามือสอง   เธอได้บอกไว้ว่า “ฉันสามารถเก็บเงินได้ 280,000 ดอลล่าร์ออสเตรเลีย(ประมาณ 7,300,000 บาท) จากในส่วนนี้โดยเสื้อผ้าที่ฉันซื้อแต่ละชิ้นมีราคาไม่ถึง 5ดอลลาร์เลยซักตัว ซึ่ง 99% ในตู้เสื้อผ้าของฉันเป็นแบบนั้น แต่ยกเว้นกับชุดชั้นในนะ” โดยเสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเธอจะเป็นยี่ห้อชื่อดังแต่ว่าตกรุ่นแล้ว แต่ที่หน้าทึ่งยิ่งกว่าคือเธอสามารถแต่งตัวได้สวยขนาดไปเดินแบบได้เลยทีเดียว   นางแบบมาเองเลยนะเนี่ย   สำหรับเงินที่ได้จากการประหยัดการซื้อเสื้อผ้านี้เธอจะมาแบ่งออกเป็นส่วนๆ คือส่วนหนึ่งไว้สำหรับเที่ยวรอบโลก ส่วนหนึ่งไว้สำหรับการใช้หนี้ และส่วนหนึ่งบริจาคให้แก่การกุศล “ฉันมักบอกผู้คนว่า คุณอยากจะใช้เงินซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ใหม่ๆ หรืออยากจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ จากการเที่ยวรอบโลกล่ะ” ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเธอได้เดินทางไปทั้งฝรั่งเศส อิตาลี สหราชอาณาจักร รวมถึงไปอเมริกาอีกถึง 3 ครั้งซึ่งนิวยอร์คเป็นที่ๆ เธอบอกว่าเสื้อผ้ามือสองที่นั่น “แย่มาก”   จัดได้ว่าเธอเป็นคนที่ตาถึงมากเลยทีเดียว   โดยนิสัยประหยัดนี้เธอบอกว่าได้รับมาจากพ่อแม่ของเธอและเธอได้พยายามที่จะถ่ายทอดไปให้ลูกสาววัย…

  • นักท่องเที่ยวสุดห่าม พยายามเข้าไปถ่ายรูปแบบชิคๆ กับกวาง ทั้งที่มีป้ายเตือนถึงอันตราย

    นักท่องเที่ยวสุดห่าม พยายามเข้าไปถ่ายรูปแบบชิคๆ กับกวาง ทั้งที่มีป้ายเตือนถึงอันตราย

    เวลาเราไปเที่ยวสวนสัตว์ เราจะเห็นป้ายเตือนที่คอยบอกว่าห้ามทำสิ่งใดบ้าง เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวเองหรืออาจจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ได้ แต่ก็มีคนบางจำพวกที่ไม่รู้ถึงความอันตรายของสัตว์เหล่านี้โดยเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ เพียงเพื่อให้ได้มาเพียงรูปภาพสวยๆ เท่านั้น Ted Shillitto ช่างภาพอายุ 70 ปี ได้เฝ้าดูนักท่องเที่ยวที่พยายามเข้าไปถ่ายภาพกับกวางอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าจะมีป้ายเตือนถึงอันตราย แต่ก็ไม่สนใจ จนเป็นภาพชินตา     โดยเขาได้เฝ้าดูเหตุการณ์ที่ Wollaton Hall Park ในเมือง Nottingham ประเทศอังกฤษ “ผู้คนไม่รู้ว่าสัตว์เหล่านี้มีอันตรายมากขนาดไหน ยิ่งในช่วงฤดูผสมพันธุ์ที่พวกมันจะยิ่งมีความดุร้ายมากขึ้น เพราะมักจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากตัวเมีย” Ted กล่าว เขาได้พยายามเตือนนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ก็ไม่มีใครสนใจและยังคงถ่ายรูปแบบที่พวกเขาทำกันต่อไป     ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ที่กวางทำร้ายคนเกิดขึ้น ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายคือ Yuan Li อายุ 43 ปี ดีไซน์เนอร์จากเลย์ตันสโตนซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของลอนดอน เธอบอกว่า “นึกว่าตัวเองตายไปแล้ว” หลังจากเธอโดนเขากวางแทงเข้าที่ช่วงท้องและขา ระหว่างที่พยายามเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ จนเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน     เมื่อรูปทั้งหลายได้ถูกเผยแพร่ออกไปชาวเน็ตก็มีความเห็นที่หลากหลายเช่นกัน อย่าง   “ถึงกวางจะมีความสวยงาม แต่ก็อย่าลืมว่ายังไงมันก็เป็นสัตว์ป่าอยู่นะ” , “เมื่อมีคนบุกรุกพื้นที่ของคุณ ไม่ว่าเป็นคนหรือสัตว์ก็ต้องป้องกันตัวเองทั้งนั้นแหละ”     เห็นอย่างนี้แล้วทางที่ดีหากเพื่อนๆ ไปเที่ยวสวนสัตว์หรือไปเจอสัตว์เหล่านี้ที่ไหน ก็พยายามอย่าเข้าใกล้จะเป็นการดีกว่าเนอะ เพราะยังไงพวกมันก็ยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าอยู่ จริงไหม…   ที่มา: dailymail

  • แรคคูนตาบอดพาแมวน้อยสองตัวไปหาคนที่ให้อาหารมัน ครอบครัวจึงรับทั้งสองเป็นลูกซะเลย

    แรคคูนตาบอดพาแมวน้อยสองตัวไปหาคนที่ให้อาหารมัน ครอบครัวจึงรับทั้งสองเป็นลูกซะเลย

    หลายคนคงเคยเจอเหตุการณ์สัตว์หลงเข้ามาในบ้าน แล้วเราก็เกิดความสงสารให้อาหารพวกมัน จนบางทีมันก็เลยเกิดความเคยชินและเข้ามาขออาหารกินทุกวัน แต่จะเป็นอย่างไรถ้าวันหนึ่งพวกมันพาเพื่อนเข้ามาขออาหารด้วย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อได้มีผู้ใช้อินสตาแกรมคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า @Eryn09 ได้ออกมาเผยเรื่องราวว่า เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน ได้มีแรคคูนตาบอดตัวหนึ่งมักจะเข้ามาที่บ้านของ Eryn ที่ตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ เพื่อหาอาหารตั้งแต่ปี 2009 โดยมันมักจะเข้ามาในตอนเช้าประมาณ 6.00-9.00 น. และบางทีก็อาจจะกลับมา 2-3 ครั้งในวันเดียวกันจนเรียกได้ว่าเป็นแขกประจำของบ้านเลยทีเดียว   “มันมีตาสีเขียว และดูเหมือนว่ามันจะมีอาการตาบอด นอกจากนี้มันยังกลัวต่อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะทั้งลมพัด นก รวมทั้งหิมะด้วย” Eryn กล่าวไว้ และในช่วงปลายปี 2014 ก็มีเจ้าแมว 2 ตัวโผล่ขึ้นมาขณะที่เจ้าแรคคูนก็มาตามปกติของมัน พวกแมวได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าแรคคูนและเริ่มเดินตามมันเหมือนเป็นบอดี้การ์ดให้มันเลยล่ะ     นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อเจ้าแรคคูนมาหาเจ้าของบ้านนี้ แมวทั้ง 2 ตัวก็พลอยอิ่มท้องไปด้วยทำให้มันเดินตามแรคคูนต้อยๆ ตลอดทั้งวัน หลังจากพวกมันกินเสร็จ ทั้งสามตัวก็กลับเข้าไปในป่า โดยมีแมวทำหน้าที่เหมือนเป็นตาที่เจ้าแรคคูนเสียไป คอยนำทางไปยังที่พักของพวกมัน   ลองชมความน่ารักเมื่อครั้งเจ้าแรคคูนพาลูกแมวทั้งสองเข้ามาในบ้านใหม่ๆ ได้ที่นี่   แต่ว่าหลังจากนั้นไม่นานเจ้าแรคคูนก็ได้ตายลงไปในเดือนมิถุนายนปี 2015 ซึ่งในขณะนั้นมันมีอายุ 5 ปี ซึ่งมากกว่ากว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปของอายุแรคคูนซึ่งอยู่ที่ 2-3 ปี “ด้วยความที่มันตาบอดและพิการ…

  • ลงไปยังไง!! ลูกม้าน้อยหายไป เจ้าของฟาร์มระดมคนออกตามหา ปรากฎว่ามันตกไปในรังมด!!

    ลงไปยังไง!! ลูกม้าน้อยหายไป เจ้าของฟาร์มระดมคนออกตามหา ปรากฎว่ามันตกไปในรังมด!!

    สิ่งมีชีวิตเมื่อแรกเกิดมักจะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการกิน การเดิน หรือทุกๆ อย่าง รวมถึงในกรณีนี้ ที่มีแม่ม้ามาขอความช่วยเหลือจากมนุษย์เพราะว่าลูกที่มันเพิ่งคลอดเมื่อคืนหายไปไหนไม่รู้?? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Sao Gabriel do Oeste ประเทศบราซิล เมื่อมีม้าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Boneca ได้วิ่งรอบทุ่งเลี้ยงสัตว์อย่างผิดปกติ ทำให้เจ้าของมันเริ่มสังเกตว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ   เจ้า Boneca วิ่งวุ่นอย่างไม่มีสาเหตุ อย่างนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ   เมื่อเจ้าของฟาร์มสังเกตดีๆ ก็พบว่า ท้องที่โย้จากการตั้งครรภ์ของเจ้า Boneca ยุบลงไปแล้ว แสดงว่ามันต้องออกลูกมาแล้วแน่ๆ ว่าแต่ลูกของมันหายไปไหนกันล่ะ?   เฮ้ย นี่มันรังมดนี่หว่า   พวกเขาจึงระดมคนออกตามหาลูกม้าตัวนี้ว่ามันหายไปไหน ตอนแรกเขาคิดว่าอาจถูกคนขโมยไปแล้ว เพราะถ้ามันตายก็ต้องมีศพอยู่แถวๆ นั้น หลังจากตามหาอยู่พักใหญ่ๆ หนึ่งในทีมค้นหาได้ยินเสียงร้องของอะไรบางอย่างดังมาจากใต้พื้นดิน ตอนแรกพวกเขานึกว่าหูฟาด เพราะอะไรมันจะไปอยู่ใต้ดินได้ แต่เมื่อลองฟังดีๆ นั่นมันเสียงลูกม้านี่หว่า พวกเขาจึงพยายามหาต้นเสียงว่ามาจากตรงไหน ในที่สุดพวกเขาก็เจอว่าต้นเสียงมาจากที่ไหน ปรากฎเจ้าม้าน้อยดั๊นตกไปในรังมดขนาดใหญ่ซะอย่างนั้น แหม ก็ว่าหายไปไหน มาช่วยแล้ววววว   พวกเขาได้ทำการขยายปากหลุมเพื่อช่วยเจ้าม้าน้อยขึ้นมา และในที่สุดมันก็ได้โผล่ขึ้นมาเจอแม่อีกครั้ง   แหม มาถ่ายรูปด้วยกันก่อน แชะ   ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ช่วยกันขุดลูกม้าขึ้นมา…

  • หนุ่มขโมย “ลำโพง” แต่อยากเปลี่ยนเป็นทุน เลยเอาไปขายร้านเดิม หลังขโมยมาได้ 7 นาที?

    หนุ่มขโมย “ลำโพง” แต่อยากเปลี่ยนเป็นทุน เลยเอาไปขายร้านเดิม หลังขโมยมาได้ 7 นาที?

    เมื่อคนเราตกอยู่ในภาวะหน้ามืดตามัวที่ขาดทั้งเงินและขาดทั้งศีลธรรม การขโมยของเหมือนจะเป็นวิธีหาเงินที่เร็วที่สุด แต่การจะทำอะไรอย่างนี้ก็จำเป็นต้องคิดดีๆ เพราะว่ามีความเสี่ยงสูงอย่างมากที่จะได้เข้าไปนอนในตะรางเหมือนกับชายคนนี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา มีเด็กอายุ 19 ปีจากจังหวัดนิงาตะ ประเทศญี่ปุ่น ได้วางแผนขโมยของจากร้านขายของมือสองแห่งหนึ่ง โดยเขาจะเข้าร้านขายของมือสองในเวลา 11.40 น. และทำทีว่ามาหาซื้อของอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็ฉวยโอกาสที่พนักงานในร้านเผลอ ขโมยลำโพงตัวหนึ่งมูลค่า 18,252 เยนหรือกว่า 5,340 บาท ใส่ลงไปในกระเป๋าแล้วเดินออกจากร้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น     แต่เหตุการณ์ก็น่าจะจบลงตรงที่สินค้าหายไป และเด็กชายคนนี้ก็ได้ลำโพงไปใช้ แต่เขามีความคิดที่ดีกว่านั้น นั่นคือการเปลี่ยนสินค้าเป็นเงินสด เขาจึงนำป้ายราคาออก แล้วกลับเข้าไปที่ร้านเดิมที่พึ่งขโมยของมาเมื่อ 7 นาทีก่อนเพื่อเสนอขายลำโพงตัวนี้คืน แต่ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะว่าพนักงานคนดังกล่าวสามารถจำสินค้าชิ้นนี้ได้ เขาจึงได้หลอกล่อให้หัวขโมยอยู่ในร้านอีกซักพักและโทรเรียกตำรวจมาจับกุมในที่สุด     และด้วยกฎหมายของญี่ปุ่นที่ว่า หากอายุไม่ถึง 20 ปีจะไม่เผยชื่อผู้กระทำผิดออกมา แต่เชื่อเถอะว่าเขาเดินทางสายนี้ไม่รุ่งหรอกว่าไหม   ที่มา: en.rocketnews24

  • หนุ่มรับปากกับตำรวจ ถ้าโพสต์ได้ 1,000 แชร์ จะไปมอบตัว และเขาก็ทำที่สัญญาไว้จริงๆ

    หนุ่มรับปากกับตำรวจ ถ้าโพสต์ได้ 1,000 แชร์ จะไปมอบตัว และเขาก็ทำที่สัญญาไว้จริงๆ

    สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ในปัจจุบันมีประโยชน์อย่างมากในการช่วยงานของตำรวจ อย่างเช่นการแชร์เหตุการณ์หรือสถานที่ที่สามารถนำไปสู่การจับกุมได้ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าสื่อโซเชียลจะทำให้มันง่ายถึงขนาดที่ว่าผู้ร้ายเดินมามอบตัวด้วยตัวเองเลยทีเดียว ชายคนที่มีการกระทำดังกล่าวมีชื่อว่า Michael Martin Zaydel อายุ 21 ปี ชาวมิชิแกน หลังจากที่เขาโดนข้อหาเมาแล้วขับรถ เขาได้ท้าทายกรมตำรวจ Redford ว่าหากโพสต์ต่อไปของทางกรมมีคนแชร์โพสต์ดังกล่าวมากกว่า 1,000 ครั้งเขาจะยอมมอบตัวพร้อมทั้งซื้อโดนัทไปให้ตำรวจทั้งกรมเลย   โพสดังกล่าวที่ทำให้ชายคนนี้ถูกจับ   “ผมรู้สึกไม่กังวลเท่าไหร่ ถ้าโพสต์ต่อไปของกรมตำรวจถึง 1,000 แชร์ ผมจะยอมมอบตัวพร้อมซื้อโดนัทไปให้เลย นี่คือคำสัญญา นอกจากนั้นผมจะเก็บขยะบริเวณโรงเรียนให้อีกด้วย ถ้าแชร์กันถึงนะ”   หน้าตาของคุณพี่คนนี้   หลังจากพ่อหนุ่มคนนี้โพสต์ไป ดูเหมือนว่าชาวเน็ตจะอยากให้เขาไปมอบตัวมาก เพราะโพสต์ต่อมาของกรมตำรวจผู้แชร์กว่า 4,400 คนและคอมเม้นท์อีกกว่า 260 คอมเม้นท์   พอยอดแชร์ถึง พ่อหนุ่ม Zaydel ก็เข้ามอบตัวตามที่บอก แถมเอาโดนัทมาให้ตามสัญญาด้วย   ภาพโดนัทที่เขาได้นำมาให้   “เราต้องขอขอบคุณแก่ผู้ที่ติดตามโพสต์และกดแชร์ทุกคน เขาอาจจะมาหรือไม่มามอบตัวก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือเราได้เห็นความช่วยเหลือของผู้คนในสังคมที่อยากให้โลกนี้ดีขึ้น” ตัวแทนของกรมตำรวจได้กล่าวไว้บนเพจเฟซบุ๊ก โดย Zaydel โดนจำคุกเป็นเวลาหนึ่งคืน ก่อนที่จะไปพบผู้พิพากษาเพื่อพิจารณาความผิดของเขา ในตอนเช้าของวันถัดไป   อย่างน้อยก็มีสัจจะนะ ที่มา: dailymail

  • 17 เหล่าสัตว์ที่ทำตัวเป็นลูกแหง่ ไม่ยอมห่างจากมนุษย์เลยแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

    17 เหล่าสัตว์ที่ทำตัวเป็นลูกแหง่ ไม่ยอมห่างจากมนุษย์เลยแม้แต่วินาทีเดียว ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

    สัตว์เลี้ยงถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์ เพราะความน่ารักของพวกมัน สามารถสิ่งที่ทำให้จิตใจของเราเบิกบานได้ แต่จะเป็นอย่างไรถ้าหากพวกมันติดเราแจ จนไม่อยากจะให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว และนี่คือ 17 ตัวอย่างเหตุการณ์ที่พวกมันแสดงความรักออกมาว่ารักเราแค่ไหน จนบางทีก็รักเกินไป กลายมาเป็นความฮาที่แบบว่า เฮ้อนี่จะไม่ปล่อยตูไปไหนเลยใช่ไหมเนี่ย   เมื่อแมวดูทีวีอยู่ แต่มันหันมาเช็คตลอดเวลาว่าคุณอยู่ด้วยไหม   เมื่อแฟนคุณหลับแล้วคุณแอบหอมแก้มแฟน หมาของเธอก็มองหน้าคุณอย่างนี้…   เมื่อมันคิดว่าคุณจมน้ำไปแล้ว   ขอบใจมากนะเจ้ามนุษย์   เมื่อเข้าห้องน้ำทุกครั้งแล้วต้องเจอกับเจ้าพวกนี้   ลืมงานไปซะ ฉันสำคัญกว่านะ   เมื่อหมาตัวอื่นไปวิ่งเล่นในสนาม แต่หมาของคุณ…   เมื่อมันอยากอ้อน ก็เลยดึงมือคุณไปทำอย่างนี้   ต้องหาที่นอนให้มันเพื่อให้มันไม่มานอนบนคีย์บอร์ด   เมื่อคุณกำลังมีความสุขกับการแช่น้ำ แต่ม่ายยย   ดูไร ขอดูหน่อย   ใครอยู่ตรงนั้น   มันใช่ที่ไหมล่ะ   มองตาซะเคลิ้มเลย เขินแย่   แม้แต่ตอนอาบน้ำก็ยังจะตามเข้าไปด้วย   นี่คือ Lennu สุนัขของประธานาธิบดีฟินแลนด์ที่มักพามันไปออกงานด้วย โอ้โห เห็นอย่างนี้แล้วก็อาจจะมีรำคาญกันบ้างบางที…

  • สามีเพิ่งเสียภรรยาไปต้องมาช้ำใจ หลังเห็นบุรุษพยาบาลกำลังมีอะไรกับศพของภรรยา

    สามีเพิ่งเสียภรรยาไปต้องมาช้ำใจ หลังเห็นบุรุษพยาบาลกำลังมีอะไรกับศพของภรรยา

    การที่คนๆ หนึ่งต้องสูญเสียคนรักไปก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและเศร้าสลดอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์นี้กลับยิ่งทำให้ใจของคนๆ หนึ่งสลายเพราะนอกจากเขาจะสูญเสียภรรยาไปแล้ว เขายังต้องมาเห็นบุรุษพยาบาลกระทำชำเราศพของภรรยาเขาอีก! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศโบลิเวีย เมื่อชายคนหนึ่งได้เดินทางไปที่ห้องเก็บศพเพื่อจะกล่าวคำอำลาสุดท้ายแก่ภรรยาของเขาที่เสียชีวิตไปด้วยโรคที่เกี่ยวกับปอด แต่ว่าเขากลับไปเห็นบุรุษพยาบาลคนหนึ่งที่ทราบชื่อภายหลังว่า Grover Macuchapi อายุ 27 ปีกำลังมีเพศสัมพันธ์กับศพของภรรยาของเขาอยู่   โดนจับกุมจากการก่อเหตุวิปริต   Douglas Uzquiano นายตำรวจผู้จับกุมเล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์อัปยศนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากผู้หญิงคนหนึ่งได้เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาล Hospital de Clinicas ที่เมือง Lapaz และถูกส่งมาที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล โดยญาติทั้งหมดของผู้เสียชีวิตได้กลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อชำระค่ารักษาของผู้เสียชีวิตคนนี้ เหลือเพียงสามีของเธอเพียงคนเดียวที่จะเข้าไปอำลาเธอและเห็นสิ่งที่เขากำลังทำ หลังจากนั้นเขาจึงไล่ตีบุรุษพยาบาลที่พยายามวิ่งหนีโดยที่กางเกงยังกองอยู่ที่ข้อเท้าอยู่ และจับส่งตำรวจในที่สุด   หน้าตาของบุรุษพยาบาลที่ลงมือก่อเหตุวิปริต   บุรุษพยาบาลคนนี้ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “มีบางอย่างเกิดขึ้นเหมือนมันเป็นความฝัน ตอนนั้นผมรู้สึกได้ว่ามีลมพัดเข้ามาจากข้างหลังหลังจากนั้นผมก็โดนสามีของผู้หญิงคนนี้ทำร้าย” โดยศพของผู้หญิงคนนี้มีอายุ 28 ปีและพึ่งเสียชีวิตก่อนหน้านั้นเพียง 1 ชั่วโมงเดียวก่อนที่จะถูกกระทำชำเราโดยบุรุษพยาบาลวิปริต อย่างไรก็ตามอัยการกล่าวว่า เขาอาจถูกปล่อยตัวและไม่สามารถเอาผิดได้ เนื่องจากการสมสู่กับศพนั้นไม่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายใดๆ ของโบลิเวีย   ที่มา: dailymail

  • หญิงสาวถูกเจ้านายคุกคามทางเพศ แต่กลับถูกเมินเฉย และซ้ำเติมโดยเพื่อนร่วมงาน…

    หญิงสาวถูกเจ้านายคุกคามทางเพศ แต่กลับถูกเมินเฉย และซ้ำเติมโดยเพื่อนร่วมงาน…

    การคุกคามทางเพศสำหรับผู้หญิงดูเหมือนจะเป็นภัยเงียบที่เกิดขึ้นมานานในสังคมของทุกประเทศ แต่ว่าก็มีทั้งผู้คนที่ออกมาพูดเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ตัวเองและผู้ที่เลือกที่จะเก็บเงียบ และนี่คือเหตุการณ์ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพูดเรื่องนี้ แต่ว่าปฏิกิริยาที่เธอได้รับหลังจากนั้นทำให้รู้ว่าทำไมหลายคนเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ   Emily Houser เด็กสาวอายุ 18 ปีที่ถูกผู้จัดการคุกคาม   Emily Houser เด็กสาวอายุ 16 ปีเมื่อตอนเริ่มทำงานที่ร้านอาหาร Chili ซึ่งเป็นร้านอาหารแฟรนไชส์ที่รัฐเพนซิลเวเนีย เธอบอกว่า Josh Davidson ผู้จัดการร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่มีความสนใจในตัวเธอ โดยเขามักจะมาหาเธอทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนและยังให้ของขวัญที่เธอไม่ต้องการอีกจำนวนมาก แต่เมื่อเธอไม่ได้สนใจในตัวเขาและได้ปฏิเสธเขา เขาจึงเริ่มที่จะกลั่นแกล้งเธอเกี่ยวกับเรื่องงาน และยังมีเด็กสาวอีกหลายคนที่เขาทำพฤติกรรมอย่างนี้ใส่อีกด้วย นี่จึงเป็นจุดที่ทำให้เธอรายงานเรื่องนี้ไปที่สำนักงานใหญ่ของ Chili นั่นทำให้ผู้จัดการสาขาคนนี้ถูกย้ายไปที่สาขาอื่นแทน และเธอก็ได้ลาออกจากร้านอาหารแห่งนี้   โพสต์ที่เธอโพสหลังจากลาออกจากงาน   “นี่คือสิ่งที่ได้รับเมื่อคุณรายงานว่า มีผู้ใหญ่ได้บีบบังคับในเรื่องความสัมพันธ์กับคุณเป็นเวลามากกว่า 1 ปี ผู้จัดการเก่าได้เล่าเรื่องนี้ให้กับอดีตเพื่อนร่วมงานของฉันฟังทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นความลับ พร้อมใส่ความฉันมากมาย” “จากนั้นพวกเขาจัดปาร์ตี้ ‘อีสารเลว Emily Houser’ ขึ้นมา โลกนี้มันช่างเลวร้ายน่ารังเกียจเหลือเกิน “ Emily Houser ได้กล่าวไว้บน Facebook ของเธอ   ภาพงานปาร์ตี้ดังกล่าว   แคปชั่นของอดีตเพื่อนร่วมงานของเธอ “กินเค้กของแกซะนังโสเภณี”   ทุกคนต่างติดแท็ก…

  • แล้วไงใครแคร์…เจ้าเหมียวทำป่วน เข้าไป “ฝากรอยเท้า” ไว้ในเขตหวงห้ามในบ้านซามูไร

    แล้วไงใครแคร์…เจ้าเหมียวทำป่วน เข้าไป “ฝากรอยเท้า” ไว้ในเขตหวงห้ามในบ้านซามูไร

    ทุกวันนี้ “แมว” กลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของมนุษย์จำนวนมาก มนุษย์หลายคนถึงกับยอมเป็นทาสให้กับความน่ารักของมัน และดูเหมือนว่ามันกำลังได้ใจแบบสุดๆ เพราะมนุษย์ไม่กล้าทำอะไร มาคราวนี้มันสร้างวีรกรรมไว้ให้ชาวเน็ตถกเถียงกันอีกแล้ว เรื่องราวเกิดขึ้นที่บ้านซามูไรในเมือง Fukushima ประเทศญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชม แต่ก็มีบางพื้นที่ที่ไม่สามารถเข้าไปได้ บ้านซามูไร สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวญี่ปุ่น   โดยคนญี่ปุ่นจะเรียกที่นี่ว่า  “buke yashiki” หรือว่าบ้านซามูไร ซึ่งมีความงดงามเหมือนย้อนยุคไปในยุคก่อนเลยทีเดียว แต่ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งชื่อว่า @rivesm ที่ไปพบรอยเท้าของเจ้าแมวที่เข้าไปในสถานที่ที่ไม่ให้เข้าไปโดยมีป้ายเขียนไว้ว่า “โปรดละเว้นการเข้าห้องนี้”     เขาตั้งแคปชั่นอย่างติดตลกว่า “เฮ้ เขาบอกไม่ให้เข้าไปนี่” หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย     “แต่แมวอ่านหนังสือไม่ออกนะ” “โปรดให้อภัยแก่รอยเท้าอันแสนน่ารักนี้เถอะ” “ดูเหมือนแมวจะลังเลเล็กน้อยตอนอยู่หน้าป้ายนะ ฮ่า”   และความเห็นอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาโกรธเจ้าแมวตัวนี้จริงไหม หรือแซวเล่นขำๆ แต่ถึงอย่างไรแมวน้อยตัวนี้ก็น่าจะโดนเขกกะโหลกสักทีเหมือนกันนะ ฮ่า   ที่มา: en.rocketnews24

  • ลูกแมวกำพร้าแต่ได้กระต่ายเป็นผู้เลี้ยงดู จนตอนนี้มันคิดว่าตัวเองกลายเป็น “กระแต่ว” ไปซะแล้ว!!!

    ลูกแมวกำพร้าแต่ได้กระต่ายเป็นผู้เลี้ยงดู จนตอนนี้มันคิดว่าตัวเองกลายเป็น “กระแต่ว” ไปซะแล้ว!!!

    การที่ลูกสัตว์ตัวหนึ่งถูกทิ้งให้อ้างว้างเดียวดายเป็นเรื่องที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่ามันไม่สามารถดูแลตัวเองให้อยู่บนโลกที่กว้างใหญ่อย่างนี้ได้ ในหลายๆ ครั้ง สัตว์กำพร้าเหล่านั้นก็ถูกรับเลี้ยงโดยผู้ใจบุญ แต่บางครั้ง สัตว์ที่มาช่วยรับเลี้ยง โดนเป็นคนละสายพันธุ์ซะอย่างนั้น อย่างเช่นเรื่องราวของเจ้าแมวตัวนี้ เจ้าแมวน้อยตัวนี้มีชื่อว่า Mia ได้ถูกเลี้ยงดูโดยกระต่ายสองตัวชื่อว่า Marlowe และ Melba โดยกระต่ายทั้งสองตัวดูแลเอาใจใส่เจ้าลูกแมวตัวนี้เป็นอย่างดี ทั้งการกอดให้ความอบอุ่น จน Liz เจ้าของกระต่ายทั้ง 2 ตัวนี้ต้องยอมรับลูกแมวมาเลี้ยงด้วย เพราะไม่สามารถแยกพวกมันออกจากกันได้ จนในตอนนี้เจ้าแมวได้คิดว่ามันกลายเป็นลูกกระต่ายไปแล้ว   Marlowe และ Melba ขณะนอนกอดเจ้าแมวน้อย   เจ้าแมวได้มีครอบครัวที่มันไม่เคยมีมาก่อน   Mia รักกระต่ายทั้ง 2 ตัวนี้มาก จนมันเริ่มทำตัวเหมือนกระต่ายไม่ว่าจะทั้งการนอนหลับ หรือแม้กระทั่งลองกินฟางข้าว   จนตอนนี้เจ้าลูกแมวโตแล้ว แต่ก็ยังตัวติดกับทั้งคู่ในบ้านอันอบอุ่นอยู่ดี   มันคิดว่ามันเป็นกระต่ายไปแล้วล่ะ   มันช่างน่ารักไปหมดไม่ว่าจะทั้งแมว หรือกระต่าย ถ้าจะให้เลือกเลี้ยงอย่างใดอย่างหนึ่งก็เลือกไม่ถูกเหมือนกันเนอะ   ที่มา: lovemeow

  • 20 ภาพของพ่อแม่ที่เคยยื่นคำขาดออกมาว่า “ไม่เลี้ยงสัตว์แน่ๆ” แต่กลับติดซะยิ่งกว่าเราซะอีก

    20 ภาพของพ่อแม่ที่เคยยื่นคำขาดออกมาว่า “ไม่เลี้ยงสัตว์แน่ๆ” แต่กลับติดซะยิ่งกว่าเราซะอีก

    ในสมัยเด็กของใครหลายคนคงเคยขอพ่อแม่เลี้ยงสัตว์แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเราโตขึ้นก็เลยเลี้ยงสัตว์ที่เราชอบเพื่อทดแทนความต้องการในวัยเด็ก แต่ทว่ากลับไม่ใช่เราที่ติดเจ้าขนปุยเหล่านั้น แต่กลับกลายเป็นพ่อแม่ของเรานั่นแหละที่ติดยิ่งกว่าซะงั้น และนี่คือตัวอย่างของพ่อแม่ที่ครั้งหนึ่งเคยห้ามเรา แต่มาในวันนี้พวกเขาเห็นเจ้าสัตว์เหล่านั้นสำคัญกว่าเราอีก   กอดแน่นซะยิ่งกว่าลูกอีก   ถึงกับลงพื้นไปเล่นกับแมวเลยหรอพ่อ   สามช่า จัดไป   ไหนมามองตากันหน่อยสิ   โอะโอ๋ หลับซะนะลูก   ก็มีแต่เอ็งล่ะนะที่เข้าใจข้า   ถึงกับให้มานั่งร่วมโต๊ะเดียวกันเลย   ฟังเพลงด้วยกันไหม เดี๋ยวพ่อเปิดให้ฟัง   อย่ามายุ่งกับหมาของพ่อนะ   มีการเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนด้วย   ถ่ายเก็บไว้เร็วเดี๋ยวมันหนี   ทาสแมวอย่างสมบูรณ์แบบ   นั่งดูหนังกับแฟน   ยอมลำบากเพื่อให้เหมียวสบาย   กับเมียนี่เคยนอนกอดขนาดนี้ไหมเนี่ย   มาเล่นกันเถอะ มาเล่นกันเถอะ   ยอมใจในความพยายาม   วันๆ ไม่ทำอะไรนั่งเล่นนอนเล่นกับมันนี่แหละ   ดูหน้าแมวซะก่อนเต็มใจมาก…   ไม่ว่าจะไปไหน ต้องตัวติดกันตลอด แหม ทีตอนเด็กขอเลี้ยงล่ะไม่ให้เลี้ยง พอทีนี้ล่ะ…

  • ศิลปินวาดภาพแลนด์สเคปเมืองนิวยอร์คทั้งเมืองจากความทรงจำ หลังนั่งเฮลิคอปเตอร์แค่ 45 นาที

    ศิลปินวาดภาพแลนด์สเคปเมืองนิวยอร์คทั้งเมืองจากความทรงจำ หลังนั่งเฮลิคอปเตอร์แค่ 45 นาที

    การวาดรูปแต่ละรูปต้องใช้จินตนาการอันสูง ซึ่งถือว่าเป็นความสามารถพิเศษของแต่ละคนที่จะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ แต่คงไม่มีใครเหมือนเขาคนนี้ที่วาดรูปเมืองได้ทั้งเมืองจากความทรงจำเพียง 45 นาที Stephen Wiltshire ศิลปินชาวอังกฤษผู้เป็นป่วยเป็นโรคออทิสติก ได้วาดภาพเมือง New York ทั้งเมืองจากการนั่งชมเมืองบนเครื่องเฮลิคอปเตอร์เพียง 45 นาที เขาใช้เวลาทั้งหมด 5 วันในการวาดเมืองโดยแทบจะไม่หยุดพักเลยทีเดียว     ซึ่งการที่เขามาวาดภาพเมือง New York ในครั้งนี้เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบการสร้างตึก Empire State  “Stephen เป็นของขวัญอย่างแท้จริง เขามีพรสวรรค์ที่สุดยอด” “การมีเขาอยู่ที่ตึก Empire State นับว่าเป็นเกียรติอย่างแท้จริง และการมีโอกาสได้ชมเขาวาดแบบสดๆ คือความโชคดีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้” Anthony E Malkin ประธานบริษัท Empire State Realty Trust กล่าว     Stephen Wiltshire เป็นศิลปินที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย โดยรางวัลแรกที่เขาได้รับมาจากนายกรัฐมนตรีของอังกฤษในวัยเพียง 8 ปีเท่านั้น โดยเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคออทิสติกตั้งแต่อายุ 3 ปี และเขาไม่สามารถพูดได้จนกระทั่งอายุ 5 ปี     เขาเคยวาดภาพเมืองทั้งเมืองแบบนี้มาแล้วทั่วโลก ทั้งโตเกียว มาดริด ดูไบ…

  • ลิงแก่อายุ 59 ปี ป่วยหนักกินอาหารไม่ได้ พอได้เจอเจ้านายเก่า กลับมีแรงดีใจน้ำตาแทบไหล

    ลิงแก่อายุ 59 ปี ป่วยหนักกินอาหารไม่ได้ พอได้เจอเจ้านายเก่า กลับมีแรงดีใจน้ำตาแทบไหล

    สัตว์ที่เคยใกล้ชิดกับมนุษย์แทบจะทุกชนิด มักจะมีสายใยบางอย่างที่เชื่อมโยงกันอยู่ เช่น การจดจำเสียงของคนดูแลได้ การจำกลิ่นได้ และในวาระสุดท้ายชีวิตของพวกมันก็คงอยากให้มนุษย์ที่ดูแลพวกมันอยู่ด้วยเหมือนกับเจ้าลิงตัวนี้ ลิงชิมแปนซีตัวนี้มีชื่อว่า Mama อายุ 59 ปี เพศเมีย มันนับได้ว่าเป็นลิงที่เป็นผู้อาวุโสที่สวนสัตว์ Royal Burgers Zoo ในเมือง Arnhem ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งที่นี่มีชื่อเสียงจากการศึกษาวิจัยพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม     ย้อนกลับไปในเดือน เมษายน ปี 2016 เจ้าลิงตัวนี้ได้เข้าสู่ช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต มันทั้งเผชิญทั้งความเจ็บป่วยและไม่สามารถที่จะกินอาหารได้ หลังจากนั้นข่าวนี้ก็ไปเข้าหูของ Jan van Hooff ผู้ก่อตั้งอาณาจักรแห่งลิงที่นี่ เธอจึงตัดสินใจกลับมาที่นี่เพื่อให้ดูแลเจ้า Mama ในช่วงสุดท้ายของชีวิตซึ่งทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่ปี 1972 ทำให้ทั้งคู่มีสายใยที่ผูกพันกันอย่างเหนียวแน่น นอนป่วยอย่างน่าสงสาร   ในตอนแรก Mama นั้นมีอาการอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดและเมื่อ Jan เข้ามาใกล้มันก็จำเธอไม่ได้ แต่หลังจากเธอเปล่งเสียงพูดออกมาก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับเจ้าลิงตัวนี้ แววตาของมันมีประกายแห่งความสุขและมันก็จำเธอได้ในที่สุด เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงสายใยระหว่างมนุษย์และสัตว์ตัวหนึ่งที่มีให้กัน ซึ่งสามารถสร้างความสุขให้แก่คนรอบข้างได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว   แววตาเศร้าสลดเนื่องจากอาการป่วย   เมื่อรู้ข่าว เพื่อนเก่าก็กลับมาเยี่ยมเยือน   ดูหน้าตาแห่งความสุขของมันสิ   แต่ทว่าหลังจากนั้น 1 สัปดาห์เจ้าลิงตัวนี้ก็ได้จากไปอย่างสงบในวัย…

  • นักศึกษาแลกเปลี่ยน โดนวัยรุ่นเอาขวดไวน์ฟาดหน้า เหตุเพราะเขาเป็น ‘ชาวเอเชีย’

    นักศึกษาแลกเปลี่ยน โดนวัยรุ่นเอาขวดไวน์ฟาดหน้า เหตุเพราะเขาเป็น ‘ชาวเอเชีย’

    กลายเป็นประเด็นที่เป็นที่ฮือฮาบนโลกอินเทอร์เน็ต เมื่อมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวเกาหลีใต้คนหนึ่ง ถูกขวดแชมเปญฟาดเข้าไปที่ใบหน้าเหตุผลเพราะเพียงว่าเขาเป็นชาวเอเชีย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองไบรท์ตัน ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นขึ้นที่ Yesung Kim ผู้ตกเป็นเหยื่อถูกขวดไวน์ปาเข้าที่หลังก่อน และเขาก็ถามผู้ลงมือว่า ปาขวดไวน์ใส่เขาทำไม และพวกนั้นก็ได้ตอบกลับมาว่า “เพราะนายเป็นคนเอเชียไง” หลังจากได้ยินอย่างนั้น Kim ก็ทำเป็นไม่สนใจและพยายามที่จะเดินกลับบ้าน แต่พวกเขาก็ยังคงทำหน้าตาล้อเลียน รวมทั้งพูดจาถากถางและในที่สุดก็เอาขวดแชมเปญที่ถือไว้ฟาดเข้าที่ใบหน้าของนาย Kim ซึ่งเพื่อนของเขาได้ถ่ายเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้   วีดีโอที่นักศึกษาถูกทำร้ายจากเหตุผลเพราะเป็นชาวเอเชีย   หลังจากเขาถูกทำร้ายก็ทำให้เขาต้องสูญเสียฟันไป 1 ซี่และทำให้ฟันโยกอีก 10 ซี่ ซึ่งหมายความว่าผู้ลงมือนี้ต้องการที่จะทำร้ายเขาถึงกับชีวิตเลยทีเดียว โดยเพื่อนๆ ของ Kim ได้จัดทำกองทุนเพื่อหาเงินสำหรับช่วยเหลือ Kim ในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการทำฟันที่เสียหายของเขาในครั้งนี้ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1,000£  หรือกว่า 43,735 บาท เลยทีเดียว ในตอนนี้ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจและติดต่อไปยังสถานฑูตเกาหลีใต้ในประเทศอังกฤษแล้ว และผู้ร้ายยังคงลอยนวลอยู่ในขณะนี้   ที่มา: nextshark

  • 20 แผนภาพของโลก แสดงสิ่งต่างๆ ที่เปิดหูเปิดตา ให้เรากระจ่างแจ้งถึงอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน!!

    20 แผนภาพของโลก แสดงสิ่งต่างๆ ที่เปิดหูเปิดตา ให้เรากระจ่างแจ้งถึงอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อน!!

    โลกใบนี้มีเรื่องราวมากมายให้ค้นหา บางเรื่องเป็นเรื่องใกล้ตัว บางเรื่องเป็นเรื่องไกลตัวที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน แต่วันนี้มีหนังสือที่รวบรวมความจริงบนโลกนี้มาให้เราดูแล้ว หนังสือนี้มีชื่อว่า New Views: The World Mapped Like Never Before ที่เขียนโดย Alastair Bonnett ศาสตราจารย์ด้านสังคมและภูมิศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ได้ใช้ข้อมูลต่างๆ จากดาวเทียมที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องที่โลกกำลังเป็นไปในปัจจุบันอย่างแม่นยำ อาทิ ระดับน้ำทะเล อัตราการบริโภคน้ำตาล หรือกระทั่งการจัดระดับความสุข  และนี่คือข้อมูลบางส่วนจากหนังสือเล่มนี้   เส้นทางการเดินเรือต่างๆ ในมหาสมุทร เส้นสีฟ้าที่ปรากฎในแผนภาพ แสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเดินเรือต่างๆในมหาสมุทร ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิคเหนือ มหาสมุทรแอนแลนติกเหนือ รวมทั้งมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งมีเรือจำนวนมากที่ใช้ข้อมูลนี้ในการเดินเรือ   จุดที่ดาวเคราะห์ขนาดเล็กตกสู่โลก แผนภาพนี้ถูกเผยแพร่ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 จากองค์การนาซ่า เป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงจุดที่ดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่มีขนาดตั้งแต่ 1 เมตรไปจนถึง 20 เมตร ที่ตกลงมาบนโลกระหว่างปี 1994-2013 โดยจุดสีส้มคือดาวเคราะห์ที่ตกลงมาในเวลากลางวัน สีน้ำเงินคือ ดาวเคราะห์ที่ตกลงมาในเวลากลางคืน และขนาดที่แตกต่างกันคือผลกระทบจากการตกของดาวเคราะห์ ในภาพแสดงให้เห็นว่ามันกระจายไปทั่วโลก ซึ่งไม่มีที่ไหนที่สามารถจะหลบได้บนโลกใบนี้   ทะเลที่โลกยังไม่รู้จัก นักวิทยาศาสตร์กว่า 2,700 คนและนักสำรวจทะเลกว่า 540 คน…

  • โจรใช้อุปกรณ์ไฮเทค ทำการขโมยรถ BMW ได้ง่ายๆ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 60 วินาที

    โจรใช้อุปกรณ์ไฮเทค ทำการขโมยรถ BMW ได้ง่ายๆ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 60 วินาที

    คนทั่วไปอย่างเราๆ การที่จะได้ครอบครองรถยนต์คันหรูสักคันเป็นเรื่องที่ใหญ่พอตัวเลยทีเดียว แต่จะรู้สึกอย่างไรถ้ารถยนต์ที่เราเก็บเงินซื้อมาทั้งชีวิต กลับถูกขโมยไปในเวลาไม่ถึง 1 นาที!!! เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่ทางเหนือของเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อมีโจรสองคนมาขโมยรถ BMW คันหรูราคากว่า 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 1.6 ล้านบาท ในเวลาไม่ถึง1 นาที ด้วยเครื่องมือพิเศษชนิดหนึ่งที่หาซื้อได้ในเว็บไซต์   ภาพขณะโจรเข้ามาขโมยรถ ซึ่งเห็นหน้าได้ชัดเจน   โดยวิธีการของพวกเขาคือการใช้เครื่องมือส่งสัญญาณบางอย่างเพื่อให้ประตูปลดล็อค โดยเหยื่อที่โดนโจรกรรมครั้งนี้ได้เปิดเผยว่า “ตอนนั้นผมกำลังนอนอยู่ในบ้าน รถที่จอดอยู่หน้าบ้านพวกเรานั่นเพิ่งซื้อมาเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง” “หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ผมมั่นใจว่านั่นเป็นเสียงรถของผม ผมเลยเดินไปที่หน้าต่างและพุ่งลงจากตรงนั้นเลย แต่ก็ไม่ทันพวกมันอยู่ดี”   เขาแกว่งเครื่องส่งสัญญาณบางอย่างไปมาหน้าบ้านของเหยื่อ   นอกจากนี้เขายังบอกอีกด้วยว่า เพื่อนบ้านคนหนึ่งของเขาก็เคยก็เคยโดนขโมยรถด้วยวิธีนีี้เหมือนกัน   ขับรถออกไปอย่างง่ายดาย   ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้กล่าวไว้ว่าผู้ร้ายน่าจะใช้จุดอ่อนของรถที่เป็นระบบไม่ใช้กุญแจเสียบ (Key fobs) ที่ส่วนมากติดตั้งในรถที่มีราคาแพง และอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการขโมยสามารถหาซื้อได้ตามอินเทอร์เน็ตทั่วๆ ไปในราคา 1,000 ปอนด์ (ราวๆ 4 หมื่นบาท) เท่านั้น โดยเครื่องนี้ถูกเรียกว่า HackRF One ซึ่งวิธีการทำงานของมันก็คือ มันจะดึงสัญญาณจากรีโมทของเจ้าของมาไว้ แล้วนำไปโหลดลงอุปกรณ์แล็ปท็อปแล้วทีนี้ก็สามารถเริ่มโจรกรรมได้ทันที   เห็นข่าวแบบนี้แล้วก็น่ากลัวแทนเจ้าของรถราคาแพงๆ เหมือนกัน…

  • ชายหูหนวกประทับใจ การบริการของพนักงานร้านสตาร์บัคส์ ที่แอบเรียนรู้ภาษามือเพื่อสื่อสารกับเขา

    ชายหูหนวกประทับใจ การบริการของพนักงานร้านสตาร์บัคส์ ที่แอบเรียนรู้ภาษามือเพื่อสื่อสารกับเขา

    การบริการให้แก่ลูกค้านับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากทีเดียวสำหรับการขายสินค้าต่างๆ แต่จะมีใครที่มีจิตใจสวยงามได้เท่าเธอคนนี้ ที่พยายามเรียนรู้ภาษามือเพื่อที่จะได้ให้บริการชายหูหนวกคนหนึ่งอย่างเต็มที่ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ร้าน StarBucks สาขา Leeburg รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อมีชายคนหนึ่งชื่อว่า Ibby Piracha ซึ่งเป็นคนหูหนวกเนื่องจากอุบัติเหตุในวัยเด็ก มักจะเข้ามาใช้บริการที่ร้านกาแฟแห่งนี้ประมาณสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยวิธีการสั่งกาแฟของเขาคือ เขียนเป็นตัวอักษรลงในโทรศัพท์เพื่อสื่อสารกับคนรับออเดอร์     และวันหนึ่งเขาได้เจอเข้ากับ Krystal Payne หญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งจะเริ่มทำงานที่ร้านกาแฟแห่งนี้ และเธอก็ทำให้เขาประทับใจด้วยการรับออเดอร์ด้วยภาษามือที่เธอแอบร่ำเรียนมา “เขาก็เป็นลูกค้าธรรมดาคนหนึ่ง ฉันก็อยากให้บริการเขาแบบคนธรรมดา อย่างน้อยก็ให้ฉันได้ถามเขาบ้างว่า วันนี้เขาอยากที่จะดื่มอะไรดี” Krystal กล่าว     เธอเล่าว่าเธอใช้เวลาหลังเลิกงานที่บ้านเรียนรู้ภาษามือผ่าน Youtube เพราะอยากสื่อสารพูดคุยกับเขา วันต่อมา Ibby ก็มาสั่งกาแฟตามปกติ เธอก็ได้ถามเขาว่า “วันนี้ดื่มอะไรดีคะ” ด้วยภาษามือ หลังจากนั้นเธอก็ได้ยื่นกระดาษบางอย่างให้แก่เขา ซึ่งเขาเข้าใจว่าเธอมีคำถามบางอย่าง แต่จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงข้อความที่เธออยากบอกกับเขาเท่านั้นเอง     “ฉันเรียนรู้ภาษามือเพื่อสื่อสารกับคุณ เพราะฉะนั้นคุณมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้รับบริการอย่างเท่าเทียมเหมือนกับทุกคนอย่างแน่นอน” นั่นคือข้อความที่เขาได้รับ ข้อความที่แสนสั้นมีคำพูดเพียงไม่กี่คำ กลับมีพลังทำให้โลกของเขาดูสดใสขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งเขาดีใจที่มีคนเห็นความสำคัญของการสื่อสารกับคนหูหนวกอย่างเขา ถึงขั้นนำกระดาษใบนี้ไปใส่กรอบเลยทีเดียว   ลองชมวีดีโอ ความมีจิตใจดีของเธอที่มีต่อคนหูหนวกได้ที่นี่   ที่มา: inspiremore, CBS Evening News

  • ผู้พัฒนาเกม ‘Cuphead’ ลาออกจากงานเดิม นำบ้านไปจำนอง เดิมพันชะตาชีวิตเพื่อพัฒนาเกม…

    ผู้พัฒนาเกม ‘Cuphead’ ลาออกจากงานเดิม นำบ้านไปจำนอง เดิมพันชะตาชีวิตเพื่อพัฒนาเกม…

    เรียกได้ว่ากำฮิตติดลมบนเลยก็ว่าได้สำหรับเกมที่มีชื่อว่า Cuphead เกมสุดน่ารักสไตล์ดิสนีย์ แต่รู้หรือไม่ว่ากว่าที่จะมาเป็นเกมให้เราเล่นได้อย่างสนุกสนานอย่างนี้ ผูู้ผลิตเกมต้องยอมออกจากงาน รวมทั้งจำนองบ้านเพื่อสร้างเกมเลยทีเดียว!! เกม Cuphead เป็นเกมแนว Run and Gun นั่นก็คือเดินๆ ยิงๆ หลบๆ แต่ว่าเกมนี้จุดเด่นคืองานศิลป์สไตล์การ์ตูนยุค 1930s โดย StudioMDHR ทีมผู้พัฒนาเกมออกมาบอกว่ากว่าเกมนี้จะสำเร็จได้พวกเขาต้องยอมอุทิศตัวสุดๆ เรียกได้ว่าแทบจะทั้งหมดของชีวิตให้กับเกมนี้เลย     สำหรับผู้ก่อตั้ง StudioMDHR มีชื่อว่า Chad Moldenhauer และ Jared Moldenhauer บอกว่าเริ่มแรกนั้นเกมนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2010 โดยพวกเขาทำเป็นงานอดิเรกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ พวกเขารู้ว่าด้วยทุนอันน้อยนิด พวกเขาต้องทำตัวเกมให้มีขนาดเล็กเข้าไว้ ยกตัวอย่าง เช่น ในแต่เดิมนั้นมีบอสเพียงสองสามตัวเท่านั้นในเกม และมีอาวุธอีกเล็กน้อย แต่เมื่อลองนำตัวเกมไปออกงาน Electronic Entertainment Expo 2015 หรือที่หลายๆ คนรู้จักในนาม E3 กลับได้รับการตอบรับแบบเกินคาด ทำให้ต้องเปลี่ยนระบบในเกมใหม่ทั้งหมด     “งานในครั้งนั้นมันทำให้เราเห็นว่า มีผู้คนมากมายรอคอยและต้องการสิ่งที่พวกเรากำลังทำกันอยู่ ผมกับน้องชายจึง ออกจากงาน นำบ้านไปจำนอง เพื่อขยายทีมพัฒนาเกมให้ใหญ่ขึ้น” “นี่จึงเป็นโอกาสที่เราจะทำเกมนี้ให้เป็นจริง และเป็นเกมที่มีสเกลใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ที่ตอนนั้นในทีมพัฒนามีเพียงแค่ 3 คน” Chad กล่าว     พวกเขาใช้เวลาพัฒนาเกมมากว่า…

  • เปรียบเทียบภาพจากกล้อง iPhone 8 vs. iPhone 6s อายุ 2 ปี ช่วยตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนรึเปล่า?

    เปรียบเทียบภาพจากกล้อง iPhone 8 vs. iPhone 6s อายุ 2 ปี ช่วยตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนรึเปล่า?

    เมื่อโทรศัพท์ที่เป็นที่ 1 ในใจของใครหลายคนอย่าง iPhone มีรุ่นใหม่ออกมาอย่าง iPhone 8 ทำให้หลายคนลังเลว่า จะเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ดีไหมนะ??? สิ่งหนึ่งที่ทุกคนน่าจะตั้งความหวังไว้ว่า iPhone 8 จะมีกล้องถ่ายภาพเป็นอย่างไร เพราะกล้องโทรศัพท์ในปัจจุบันก็นิยมใช้เพื่อถ่ายกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน จึงเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของ Smartphone วันนี้เรามีภาพความแตกต่างระหว่าง iPhone 8 ใหม่แกะกล่องและ iPhone 6s  ที่มีอายุการใช้งานมากว่า 2 ปีมาให้ชมกัน ซึ่งจะให้ความแตกต่างกันมากหรือไม่ ต้องตัดสินด้วยสายตาของคุณเอง   ภาพดอกไม้ปลอมจาก iPhone6s มีการโฟกัสที่ยาก และดูเหมือนแตกเป็นจุดเล็กๆ   ขณะที่ภาพจาก iPhone 8 กลับดูสดใสมากกว่า และมีระบบการโฟกัสที่ดีกว่า โดยโฟกัสไปที่จุเสีเหลืองและเบลอฉากหลังอื่นๆ ออกหมด   ต่อไปเป็นการทดสอบเรื่องสี โดยใช้แสงจากธรรมชาติผ่านสิ่งของที่โปร่งแสง การโฟกัสของทั้งสองเครื่องทำงานได้เป็นอย่างดี   แต่หากดูให้ดีจะพบว่าภาพจาก iPhone 8 มีความคมชัดมากกว่าเล็กน้อย   การทดสอบเรื่องแสงสีต่างๆ จะเห็นได้ว่า iPhone 6s…

  • ศิลปินสร้างงานศิลปะด้วยไอเดีย “จะเป็นไงหากมนุษย์มีขนาดจิ๋วและสัตว์ทุกชนิดมีขนาดใหญ่?”

    ศิลปินสร้างงานศิลปะด้วยไอเดีย “จะเป็นไงหากมนุษย์มีขนาดจิ๋วและสัตว์ทุกชนิดมีขนาดใหญ่?”

    นอกจากมนุษย์แล้วบนโลกนี้ยังมีสัตว์ขนาดเล็กขนาดใหญ่นับพันนับหมื่นชนิดอาศัยอยู่ในโลกเดียวกับเรา แต่จะเป็นอย่างไร ถ้าสัตว์ทุกชนิดมีขนาดใหญ่กว่าเรา? ศิลปินคนหนึ่งชื่อว่า Eben aka ชาวออสเตรเลีย ได้สร้างสรรค์ภาพชุดที่ทำให้เห็นว่าถ้าสัตว์เป็นผู้ครองโลก และทุกชนิดมีขนาดใหญ่ยักษ์แต่มนุษย์กลับมีเพียงตัวนิดเดียว พวกมันจะมีอำนาจและความน่ากลัวขนาดไหน ด้วยความน่ากลัวของสัตว์ทั้งหลายและการที่สัตว์บางอย่างได้สูญพันธุ์จากน้ำมือของมนุษย์ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาทำภาพเหล่านี้ เพื่อให้เราทั้งหลายตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ ซึ่งภาพของเขาจะเป็นอย่างไรเชิญชมกันได้เลย   .   .   .   .   .   . . . . . . . . . . . . . . . . . . .   เห็นภาพอย่างนี้แล้วก็น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย เพราะฉะนั้นใครที่ชอบแกล้งสัตว์ก็กลับตัวซะนะ ก่อนที่พวกมันจะมาเอาคืน ฮ่าาาา

  • 18 ภาพสุดฮาของเหล่าเด็กๆ ที่อาจทำให้ผู้ใหญ่บางคนเห็นแล้ว ขำจนน้ำตาเล็ด

    18 ภาพสุดฮาของเหล่าเด็กๆ ที่อาจทำให้ผู้ใหญ่บางคนเห็นแล้ว ขำจนน้ำตาเล็ด

    วัยเด็กเป็นวัยที่มีอิสระที่สุด เป็นวัยแห่งการค้นหา ถึงบางครั้งจะทำให้ตัวเองต้องมีน้ำตา หรืออาจจะทำให้ผู้ใหญ่บางคนรู้สึกขำได้ แต่ด้วยความไร้เดียงสาและการจินตนาการอันไม่รู้จบของเด็กๆ ทั้งหลาย อาจทำให้บางคนต้องส่ายหัวให้กับความน่ารัก และยิ้มตามไปกับภาพอันแสนจะมีความสุขของเด็กๆ เหล่านี้อย่างแน่นอน   1. เดี๋ยวๆ ฟังผมอธิบายก่อนสิแม่   2. ไม่มีใครหาชั้นเจอแน่นอน   3. ทำอย่างหนูได้ป่ะล่ะ   4. ปล่อยหนูออกไป หนูจะไปกินไอติมมม   5. จะไปอินดี้อะไรขนาดนั้นลูกเอ้ยยย   6. สีหน้าของเด็กๆ เมื่อคุณบอกว่าเธอต้องไปโรงเรียนอีกเกือบ 18 ปี   7. หนูช่วยแต่งหน้าให้ไหมแม่   8. ไปทำอีท่าไหน ถึงมาอยู่อย่างนี้ได้เนี่ย   9. เล่นซ่อนแอบอยู่ใช่ไหม   10. เกรียนตั้งแต่เด็กจริงๆ   11. เข้าไปทำอะไรในนั้นอะ   12. เมื่อบอกว่าตุ๊กตาที่เธอถืออยู่เป็นผู้ร้าย   13. อายุอะแค่ 2…

  • หญิงสาวหนีจากไฟป่า พร้อมกับสะพายเจ้าหมาที่หนักกว่า 30 กิโลเอาไว้ในกระเป๋าด้วย

    หญิงสาวหนีจากไฟป่า พร้อมกับสะพายเจ้าหมาที่หนักกว่า 30 กิโลเอาไว้ในกระเป๋าด้วย

    ไฟป่าเป็นภัยธรรมชาติอย่างหนึ่งที่นับได้ว่ามีความอันตรายต่อทุกชีวิต แน่นอนว่าเมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้ต้องหนีเอาชีวิตรอด แต่มีสาวคนหนึ่งที่ไม่เพียงหนีเอาชีวิตรอดเพียงคนเดียว เธอยังนำเจ้าหมาที่มีน้ำหนักกว่า 30 กิโลหนีไฟไปกับเธอด้วย Natasha Wallace หญิงสาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองซานต้าโรซ่า รัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่เธอนั่งเรียนอยู่นั้นก็บังเอิญเกิดไฟป่าขึ้น เธอจึงรีบกลับบ้าน สิ่งที่เธอเห็นจากบ้านเธอคือไฟป่าที่ลามอย่างรวดเร็วและรุนแรงราวกับเครื่องพ่นไฟเลยทีเดียว     เธอจึงรีบกลับไปเก็บกระเป๋าพร้อมทั้งนำหมาของเธอที่ชื่อว่า Bentley ขึ้นรถเพื่อหนีไฟป่าแต่ว่าการจราจรในละแวกนั้นโกลาหลเป็นอย่างมากและไฟป่าก็กำลังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงตัดสินใจกลับบ้านและไปเปลี่ยนเป็นรถจักรยาน แต่การที่เธอต้องปั่นจักรยานทำให้ไม่สามารถนำสัมภาระไปได้เยอะ เธอจึงตัดสินใจทิ้งเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากกระเป๋าแล้วเอาเจ้า Bentley ใส่ลงไปแทน     “ฉันบอก Bentley ให้ไปนั่งข้างในกระเป๋า มันก็กระโดดเข้าไปทันทีเหมือนมันเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี” Natasha กล่าว และ เธอต้องปั่นจักรยานทั้งๆ ที่มีกระเป๋าหนักกว่า 30 กิโลกรัมห้อยคออยู่ “มันเป็นเรื่องที่ยากนะ ฉันต้องปั่นจักรยานหลบกิ่งไม้และสิ่งต่างๆ บนถนนอยู่ตลอดเวลา ในช่วง 2 กิโลเมตรแรกมันก็ยังโอเคอยู่หรอก” เธอกล่าวเพิ่ม     ในที่สุดก็มีรถบรรทุกผ่านมา และจอดรับ Wallace และ Bentley ไปยังสถานที่ปลอดภัย แต่ว่าเธอได้สูญเสียบ้านจากการลุกลามของไฟป่า ปัจจุบันทั้งเธอและเจ้าหมาก็เลยต้องไปอยู่กับญาติของเธอ มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าแต่ถึงอย่างไร เธอก็ดีใจที่ตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง “คุณสามารถนำเงินไปซื้อทุกสิ่งที่คุณสูญเสียกลับมาได้ แต่หมาของฉันนั้นมันตีราคาไม่ได้” Wallace กล่าวทิ้งท้าย   นับว่าเธอเป็นคนสติที่ดีมากเลยทีเดียว…

  • เปิดฉากแล้ว ศึกหุ่นเหล็กยักษ์คู่แรกของโลก “อเมริกา vs ญี่ปุ่น” ใครจะอยู่ใครจะไปล่ะงานนี้!?

    เปิดฉากแล้ว ศึกหุ่นเหล็กยักษ์คู่แรกของโลก “อเมริกา vs ญี่ปุ่น” ใครจะอยู่ใครจะไปล่ะงานนี้!?

    ใครหลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง หุ่นยนต์จากฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่นได้ท้ารบกัน จึงให้เวลาแต่ละฝ่าย 1 ปี เพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ของตัวเองให้พร้อมรบ และในปีนี้พวกเขาได้พร้อมที่จะตะบันกันแล้ว!!! เมื่อ 2 ปีที่แล้วได้มีการออกมาส่งสารท้ารบจาก MegaBots Inc ผู้พัฒนาหุ่นยนต์ MegaBots จากฝั่งอเมริกาไปยังหุ่นยนต์ KURATAS ของบริษัท Suidobashi Heavy Industry ในประเทศญี่ปุ่นให้ออกมาลองฟัดกันดูหน่อย ว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน เห็นหุ่นยนต์แล้วงานนี้ต้องเดือดแน่นอน!   ลองนึกดูว่า หากการต่อสู้ของหุ่นยนต์ทั้งสองตัวเป็นแค่การยืนอยู่ห่างๆ กันแล้วยิงปืนใส่กัน มันก็ไม่น่าสนุกใช่ไหมล่ะ การต่อสู้ในครั้งนี้จึงมีข้อตกลงว่าจะให้หุ่นยนต์ทั้งสองต่อสู้กันในระยะประชิด โดยไม่มีการห้ามเกิดขึ้นอย่างแน่นอน   หน้าตาของหุ่นยนต์ Megabots   หุ่นยนต์จากทางฝั่งอเมริกาได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลคร่าวๆ ว่าหุ่นตัวนี้มีความสูง 12 ฟุตและมีการติดตั้งกรงเล็บไว้เพื่อสำหรับจับ และมีอาวุธที่น่าจะเป็นทีเด็ดของหุ่นตัวนี้คือ ใบเลื่อยที่คมกริบ แต่ในทางกลับกันหุ่นยนต์ Kuratas จากญี่ปุ่นกลับไม่ได้เผยข้อมูลอะไรออกมามากนัก ว่าจะมีอาวุธอะไรมาต่อกรกับหุ่นยนต์ยักษ์จากอเมริกา โดยพวกเขาได้ออกมาเผยเพียงแค่วีดีโอแนะนำตัวสั้นๆ เท่านั้น   หุ่นยนต์จากญี่ปุ่นก็น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย   การปะทะของหุ่นยนต์สองตัวนี้เกิดขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาของอเมริกา ซึ่งตรงกับประมาณ 02.00 ในวันที่ 18 ตุลาคมของประเทศไทย และถ่ายถ่ายทอดสดผ่าน Twitch และ YouTube  ให้คนทั้งโลกได้ติดตามชมพร้อมกัน และนี่คือภาพส่วนหนึ่งของบรรยากาศการท้าดวลในครั้งนี้ ดูเรียกน้ำย่อยก่อนเข้าไปชมคลิปได้เช่นกันครับ… . .…

  • “ผมไม่ห่วงรถ แต่ห่วงเมียมากกว่า” นางแบบสาวโกรธ ขับรถแฟนหนุ่มพุ่งลงน้ำ

    “ผมไม่ห่วงรถ แต่ห่วงเมียมากกว่า” นางแบบสาวโกรธ ขับรถแฟนหนุ่มพุ่งลงน้ำ

    การเลิกกัน เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก ซึ่งอาการหลังเลิกกันของแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันออกไป บางคนเลือกที่จะเงียบ บางคนเลือกที่จะออกไปสังสรรค์กับเพื่อน แต่คงไม่มีใครเหมือนกับเธอคนนี้ที่เลือกที่จะขับรถของแฟนเก่าลงไปในน้ำ!!! หญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า Kristina Kuchma อายุ 24 ปี ออกอาการโกรธอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงหลังจาก ถูกแฟนหนุ่มผู้บริหารนามว่า Guy Gentile ขอจบความสัมพันธ์หลังจากคบกันมาหนึ่งปีครึ่ง   สภาพรถที่เธอขับลงสระน้ำ   เธอได้ส่งข้อความไปหาเขาว่า “คนโกหก ไหนบอกจะช่วยฉันทำธุรกิจไงล่ะ” หลังจากถูกบอกเลิก หลังจากนั้นเธอก็ส่งไปหาเขาอีกว่า “พ่อนักลงทุน ฉันได้เตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ให้ที่หลังบ้าน หวังว่าคุณจะได้ลงทุนกับสิ่งนี้เป็นสิ่งแรกนะ” และเมื่อ Gentile นักธุรกิจวัย 41 ปี กลับมาถึงบ้านก็พบว่ารถ เมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น S400 ราคากว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 3.2 ล้านบาทได้จอดแน่นิ่งอยู่ในสระน้ำ     “ใจผมแทบหยุดเต้น ผมคิดว่าเธอติดอยู่ข้างในรถ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องรถมากนักในขณะนั้น” Gentile กล่าว แต่เมื่อเขาพบว่าเธอไม่ได้อยู่ข้างในนั้น เขาก็เริ่มโกรธเธอขึ้นมาที่เธอได้ทำลายข้าวของจากน้ำพักน้ำแรงของเขา เขาได้เล่าเหตุการณ์ต่อว่า เขาและแฟนของเขาได้กินอาหารเย็นด้วยกัน และเธอได้ขอเงินจากเขา 50,000 ดอลล่าร์ เพื่อเอาไปลงทุนทำธุรกิจ แต่เขาตอบกลับไปว่า “ผมว่าคุณขอผิดคนแล้วล่ะ ถ้าคุณต้องการใครสักคนที่ลงทุนเงิน…

  • หนุ่มน้อยโดนแม่เพื่อนข่มเหงเลยเอามาทำเป็นหนัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่เด็กคนอื่นบนโลก

    หนุ่มน้อยโดนแม่เพื่อนข่มเหงเลยเอามาทำเป็นหนัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่เด็กคนอื่นบนโลก

    การถูกกลั่นแกล้งของเด็กๆ กลายมาเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการถูกกลั่นแกล้งทั้งที่โรงเรียน หรือว่าจะถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตก็ตาม และด้วยการเจอมากับตัวเองทำให้ Alec Ybarra อายุ 13 ปี จากรัฐ Colorado ประเทศสหรัฐอเมรกาฯ ผู้เป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งลุกขึ้นมาสร้างภาพยนตร์เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเอง ให้สังคมเห็นถึงความรุนแรงที่เด็กนักเรียนกว่ากว่า 1 ใน 5 ของอเมริกาต้องเผชิญ     แต่ในสถานการณ์ของ Alec นั้นเขาไม่ได้ถูกเพื่อนนักเรียนแกล้ง แต่เป็นแม่ของเพื่อนที่เป็นคนแกล้ง เพราะว่าเขาดันไปรู้ความลับบางอย่างที่สามารถทำให้ลูกชายของเธอเข้าคุกได้ เธอจึงจงใจที่จะทำลายเขาและนั่นทำให้เขาถึงขั้นต้องย้ายโรงเรียนในทุกปีเลยทีเดียว โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ Alec เป็นทั้งผู้กำกับ เขียนบท นำแสดง และตัดต่อเอง ซึ่งหนังของเขานั้นเป็นที่น่าสนใจของเทศกาลหนังต่างๆ รวมทั้งกองประกวดอีกด้วย     “เมื่อมองกลับไป ผมเริ่มทำหนังมาเป็นเวลากว่า 1 ปีครึ่งมันช่วยให้ผมผ่านปีที่แย่ๆ ที่ถูกกลั่นแกล้งมาได้ มันทำผมเสียน้ำตาไปมากเลยทีเดียว และเมื่อผมมีความสามารถพอที่จะทำหนัง ผมก็หวังว่ามันจะช่วยคนที่ถูกกลั่นแกล้งเช่นเดียวกับผมได้” Alec กล่าว และพ่อของเขา Fred Ybarra ก็กล่าวเสริมว่าการกลั่นแกล้งแทบจะทำให้หัวใจของพ่อแม่ของผู้ถูกกลั่นแกล้งใจสลายเลยทีเดียว “มันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจว่า ลูกของคุณถูกกลั่นแกล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนที่แกล้ง กลับเป็นผู้ใหญ่เองซะด้วย” ผู้เป็นพ่อกล่าว     ในปัจจุบัน Alec ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศิลปะ…

  • รวมภาพสงครามโลกครั้งที่ 2 จากภาพขาวดำนำมาลงสีใหม่ ทำให้เห็นภาพแล้วได้อรรถรสมากขึ้น!!

    รวมภาพสงครามโลกครั้งที่ 2 จากภาพขาวดำนำมาลงสีใหม่ ทำให้เห็นภาพแล้วได้อรรถรสมากขึ้น!!

    ภาพถ่ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากเพราะว่าระหว่างการสู้รบแต่ละคนก็ต้องพยายามเอาชีวิตของตัวเองให้รอด และนอกจากนั้นในสมัยนั้นยังมีแค่เพียงรูปถ่ายขาวดำเพียงอย่างเดียว แต่ว่าวันนี้มีผู้นำภาพดังกล่าวมาทำให้เป็นภาพสี เขามีชื่อว่า Royston Leonard อายุ 55 ปี จากประเทศเวลส์ เพราะเขาเชื่อว่าภาพที่เป็นสีจะให้ความถูกต้องในการแสดงภาพได้มากกว่า และทำให้เห็นรายละเอียดของทหารอเมริกันระหว่างสงครามว่ามีความลำบากขนาดไหน ซึ่งภาพเหล่านั้นจะแสดงให้เห็นถึงความเป็นสงครามอย่างไร เชิญชมได้เลย   ภาพขณะนาวิกโยธินชื่อ J. Paget ยิงถล่มเหล่า พลซุ่มยิงของญี่ปุ่นในปี 1944   ทหาารสหรัฐพยายามที่จะนำรถบรรจุปืนใหญ่ฝ่าพื้นดินในป่าที่สัญจรได้ยาก และในภาพคือทหารกองพันที่ 3 กำลังติดตั้งปืนใหญ่ในหมู่เกาะโซโลมอน   กับระเบิดของญี่ปุ่นได้ทำลายแนวหน้าของสหรัฐ ที่ปาปัวนิวกินี ในระหว่างปี 1942-1943   หลังจากญี่ปุ่นเข้าโจมตี Pearl Harbor อย่างไม่คาดคิดในปี 1941 ทำให้อเมริกาเข้าร่วมสงคราม และในภาพคือกองเรือที่ส่งเข้าไปปกป้องเกาะ Peleliu ในเดือน กันยายน ปี 1944   ภาพนาวิกโยธินสหรัฐเริ่มยิงปืนครกที่เกาะ Solomon   รถถังรุ่น M4 Cherman ของกองพันที่ 763 และกองกำลังภาคพื้นกำลังรบที่เกาะโอกินาว่า ในเดือนเมษายนปี 1945  …

  • นักโบราณคดีพบคำว่า “อัลเลาะห์” บนเสื้อผ้าชาวไวกิ้ง หรือว่าพวกเขานับถืออิสลาม!?

    นักโบราณคดีพบคำว่า “อัลเลาะห์” บนเสื้อผ้าชาวไวกิ้ง หรือว่าพวกเขานับถืออิสลาม!?

    ศาสนาเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับมนุษย์มาทุกยุคทุกสมัย เพราะว่าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่าชนเผ่าโบราณอย่างไวกิ้งอาจจะนับถือศาสนาอิสลามก็เป็นได้!! เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการค้นพบสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจหลังจากที่นักโบราณคดีได้พบคำว่า “Allah” บนชุดที่พวกเขาใช้สำหรับฝังศพ     ผู้เชี่ยวชาญได้ค้นพบเสื้อผ้าในหลุมศพของชาวไวกิ้งซึ่งน่าจะมีอายุ 9 หรือ 10 ศตวรรษที่ผ่านมาในประเทศสวีเดน ซึ่งมีคำว่า Allah และ Ali ทอไว้บนเสื้อผ้า ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอิทธิพลของศาสนาอิสลามในพื้นที่สแกนดิเนเวียขึ้นมา     Annika Larsson ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอโบราณประจำมหาวิทยาลัย Uppsala ในประเทศสวีเดน บอกว่าวัสดุที่ใช้ทำผ้าน่าจะมาจากเอเชียกลาง เปอเซียหรือจีน และเธอยังบอกอีกด้วยว่าลวดลายบนผ้านั้นไม่ใช่รูปแบบของชาวสแกนดิเนเวียแต่เป็นภาษาอารบิกโบราณมากกว่า “เรารู้มาจากการขุดหลุมศพของชาว Viking หลุมอื่นว่า บางคนก็ถูกฝังจากที่ที่เขาจากมาอย่าง เปอร์เซีย ซึ่งเป็นที่ที่ศาสนาอิสลามโดดเด่นเป็นอย่างมากเลย” Larsson กล่าว อย่างไรก็ตามการค้นพบครั้งนี้ก็ทำให้เห็นว่าการฝังศพในยุคของชาว Viking อาจจะได้รับอิทธิพลมาจากศาสนาอิสลามที่เชื่อเรื่องชีวิตที่เป็นอมตะหลังความตาย นี่เป็นการค้นพบสิ่งของที่ระบุถึง Ali เป็นครั้งแรกในสแกนดิเนเวีย และทีมโบราณคดีก็กำลังหาให้ได้ว่าศพนี้มาจากที่ไหนกันแน่?   ที่มา: Metro

  • เครื่องดื่มชูกำลังทำชายคนหนึ่งเกือบตาย แต่รักแท้ของภรรยาได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

    เครื่องดื่มชูกำลังทำชายคนหนึ่งเกือบตาย แต่รักแท้ของภรรยาได้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

    เครื่องดื่มชูกำลังในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งเครื่องดื่มชนิดนี้มีฤทธิ์ทำให้กระปรี้กระเป่าอยู่ช่วงหนึ่ง หลายคนจึงใช้มันเพื่อให้ผ่านวันยากๆ ไปจนกลายเป็นเสพติดโดยไม่รู้ตัว แต่มีเหตุการณ์หนึึ่งที่เครื่องดื่มชูกำลัง เกือบทำให้ชีวิตของคนสามคนต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะว่ามันทำให้เกิด ภาวะเลือดออกในสมองจนนำไปสู่เรื่องแย่ๆ ที่ไม่คาดฝัน     เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นที่ Brianna หญิงสาวที่ขณะนั้นตั้งท้องได้ 9 เดือนและมีกำหนดคลอดในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้าได้รับโทรศัพท์จากแม่สามีของเธอว่า “สามีของเธอประสบอุบัติเหตุ” เธอจึงขับรถไปกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อจะไปหาสามีของเธอที่มีชื่อว่า Austin ผู้เป็นทั้งคนรักและเป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อไปถึงทีมแพทย์ได้บอกกับเธอว่าเขามีภาวะเลือดออกในสมอง เนื่องจากการกินเครื่องดื่มชูกำลังมากเกินไป ซึ่งนี่เริ่มกลายเป็นนิสัยของเขาตั้งแต่ที่เขาเริ่มทำงานหนักขึ้น     การผ่าตัดเริ่มขึ้นในเวลาต่อมาโดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 5 ชั่วโมง แน่นอนว่าเป็นช่วงที่ทนทุกข์ทรมานอย่างมากสำหรับเธอ เมื่อการผ่าตัดเสร็จสิ้นปรากฎว่าเขามีกระโหลกที่ยุบลงไปจนเกือบจะจำไม่ได้ และในวันต่อมามีการผ่าตัดสมองอีก 2 รอบ ทำให้มีอาการที่ไม่ค่อยสู้ดีนักทั้ง ชัก หัวบวม และอาการอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก แต่ Brianna ก็ไม่เคยหมดหวังในสามีของเธอ และไม่กลัวว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอแค่ให้ได้อยู่เคียงข้างกันก็พอ     ซึ่งขณะที่ Austin นอนอยู่โรงพยาบาล Brianna ก็ต้องไปทำงานที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลกอย่างการคลอดลูก โดยเธอบอกไว้ว่า “ฉันจะไม่โกหกใครหรอก มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ฉันได้คิดไว้ว่าสามีของฉันจะมาเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ คอยอยู่เคียงข้างฉัน จับมือฉัน เป็นคนตัดสายสะดือ และให้การต้อนรับลูกชายของเราที่จะออกมาลืมตาดูโลก…

  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ นี่คือ 8 สิ่งที่เราจะเห็นในเมืองใหญ่ของโลกอนาคตปี 2045!!!

    นักวิเคราะห์คาดการณ์ นี่คือ 8 สิ่งที่เราจะเห็นในเมืองใหญ่ของโลกอนาคตปี 2045!!!

    ในปัจจุบัน เมืองหลายเมืองถือได้ว่ามีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่อยู่อาศัยได้อย่างมากมาย แต่ลองทายดูสิว่าในอีก 30 ปีข้างหน้าเทคโนโลยีเหล่านี้จะก้าวหน้าไปขนาดไหน?? Ian Pearson นักทำนายอนาคตที่มีความแม่นยำถึง 85% จากสถิติทั้งหมด ได้รวบรวมข้อมูลร่วมกับ Hewden บริษัทให้เช่าอุปกรณ์ก่อนสร้าง ทำนายว่าเราจะได้เห็นอะไรในปี 2045 และนี่คือ 8 คำทำนายสุดเจ๋ง ที่พวกเขาได้ทำนายไว้ว่าเมืองในอนาคต จะมีลักษณะเป็นอย่างไร ลองไปดูกันดีกว่า   เราจะสามารถคุยกับตึกได้เหมือน Siri!! สิ่งก่อสร้างในอนาคตจะมีระบบ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำให้เราสามารถคุยกับห้องที่เราอยู่ได้ อย่าง ถามอุณหภูมิภายในห้อง หรืออาจสั่งให้เปิดปิดไฟ   ตึกสูงๆ ที่มีสารพัดประโยชน์คล้ายกับเมืองย่อมๆ เลยทีเดียว ด้วยความต้องการมีจำนวนสูงและที่ดินราคาแพงขึ้น ทำให้ตึกสูงๆ จะกลายเป็นพื้นที่สำหรับชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง โดยในแต่ละชั้นจะแบ่งเป็น พื้นที่ออกกำลังกาย พื้นที่สำหรับอยู่อาศัย และพื้นที่สำหรับทำงาน รวมอยู่ในตึกเดียวกันเลย   หน้าต่างในตึกต่างๆ จะถูกแทนที่ด้วยหน้าจอเสมือนจริง ในภาพยนตร์เรือง Back to The Future 2 ได้มีฉากหนึ่ง ทำให้เห็นว่าในอนาคตไม่มีหน้าต่าง แต่จะมีภาพเสมือนจริง ที่สามารถเปลี่ยนไปมาได้ ซึ่งมันอาจกลายเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะว่าถ้าไม่มีหน้าต่างจะทำให้ ตึกสร้างได้เร็วขึ้นและยังใช้เงินน้อยกว่าอีกด้วย…

  • ลูกแมวเกิดใหม่โดนแม่ทิ้ง เลยได้มาพบรักกับพ่อหนุ่มคนนี้ ที่เลี้ยงดีซะจนเหมือนได้เกิดใหม่

    ลูกแมวเกิดใหม่โดนแม่ทิ้ง เลยได้มาพบรักกับพ่อหนุ่มคนนี้ ที่เลี้ยงดีซะจนเหมือนได้เกิดใหม่

    สิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกเมื่อแรกเกิด ก็ต้องการผู้เลี้ยงดูทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นทั้งคน หรือสัตว์ แต่ก็ยังมีผู้โชคร้ายที่เกิดมาก็โดนทอดทิ้งอยู่บนโลกใบนี้ แต่ในโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแฝงอยู่!!! เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ได้เจอแมวตัวน้อยแล้วรู้สึกสงสารขึ้นมาจับใจจนนำกลับมาเลี้ยงเอง ซึ่งเป็นความโชคดีของเจ้าเหมียวตัวนี้ เหมือนได้เกิดใหม่เลยทีเดียว   หน้าตาแบ๊วๆ ของแมวน่าสงสารตัวนี้   ซึ่งเหตุที่ลูกแมวโดนทิ้งก็เพราะว่ามันเป็นตัวที่เล็กที่สุดในกลุ่มแมวที่เกิดใหม่ แม่แมวจึงให้ความสนใจกับตัวอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่าและมีสุขภาพที่แข็งแรงกว่า เขารู้ทันทีที่เห็นแมวตัวนี้ว่าต้องมีซักคนที่ดูแลแมวตัวนี้ เขาจึงรับมาเลี้ยงอย่างไม่มีความลังเลเลย   แม่จ๋า ขอนอนหน่อย   โดยเขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า ซานซ่า เหมือนตัวละครหนึ่งในซีรี่ย์ Game of Thrones และเขาก็ได้ให้อาหารแก่ซานซ่าจนอิ่ม จากนั้นมันก็ได้มานอนระหว่างเท้าของชายคนนี้และหลับยาว ราวกับเขาเป็นแม่ของมันจริงๆ เลย   กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ   เจ้าลูกแมวตัวนี้ได้รับเตียงนุ่มๆ ของเล่นมากมาย อาหารที่เหมาะแก่การเจริญเติบโต และความรัก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แมวตัวหนึ่งต้องการที่มนุษย์จะสามารถมอบให้ได้ล่ะ ที่มา: lovemeow

  • เจ้าหนูเท้าไฟ แสดงความเป็นตัวเองจนทำให้ผู้ชมต้องหัวเราะให้กับความน่ารัก!!!

    เจ้าหนูเท้าไฟ แสดงความเป็นตัวเองจนทำให้ผู้ชมต้องหัวเราะให้กับความน่ารัก!!!

    หากคุณเคยดูการเต้นประจำงานโรงเรียนของเด็กๆ คุณมักจะได้เห็นความน่ารักของเด็กๆ ที่เต้นแบบเงอะๆ งะๆ เพราะกลัวว่าจะเต้นได้ตามที่ซ้อมมาไหม แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กคนนี้!!! ผู้ใช้หนึ่งในยูทูปที่มีนามว่า Randall Burns ได้ออกมาเผยแพร่วีดีโอที่มีสาวน้อยคนหนึ่งชื่อว่า Jordyn ได้แสดงการเต้นที่แตกต่างจากเด็กคนอื่น เพราะว่าเธอเหมือนจะออกแบบท่าเต้นเองและนั่นทำให้โชว์ของเธอดูสุดแสนจะวิเศษ     ขณะเพลง Broadway Baby กำลังเริ่มต้นขึ้น กล้องก็ได้จับมาที่หนูน้อย 3 คนที่อยูท้ายแถวของเวที ทั้งหมดเริ่มการเต้นขึ้น เด็กทั้งสองคนพยายามที่จะเต้นให้ได้เหมือนที่ซ้อมมา แต่เด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงกลางกลับไม่ทำเหมือนทั้งสอง     หนูน้อยคนนี้ได้ทิ้งการเต้นที่ได้ซ้อมไว้ทั้งหมด และปล่อยตัวปล่อยใจไปให้ตามเสียงเพลง และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอหันหน้าไปหาเพื่อน แล้วส่งรอยยิ้มกว้างไปให้เหมือนกับจะบอกว่า “นี่เป็นวันที่ดีที่สุดเลยเนอะ”     และนั่นทำให้ผู้ชมทุกคนอดที่จะยิ้มให้กับความน่ารัก และรอยยิ้มอันสดใสของหนูน้อยคนนี้ไมได้ ซึ่งส่วนที่ดีที่สุดของหนูน้อยคนนี้คือเธอไม่เคยแสดงความเคอะเขินในเวลาที่มีคนหัวเราะ นั่นเป็นเพราะเธอมีความมั่นใจในสิ่งที่ทำลงไป และนี่อาจจะเป็นวันที่ดีที่สุดวันหนึ่งของเธอเลยก็ได้   หนูน้อยเท้าไฟจะทำให้คนดูมีความสุขได้อย่างไร เชิญชม   ที่มา: inspiremore, Randall Burns

  • รู้จักกับ Liliane Bettencourt ‘ผู้หญิง’ ที่ร่ำรวยที่สุดบนโลกใบนี้จากการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes!!

    รู้จักกับ Liliane Bettencourt ‘ผู้หญิง’ ที่ร่ำรวยที่สุดบนโลกใบนี้จากการจัดอันดับจากนิตยสาร Forbes!!

    โลกนี้มีคนอยู่มากมายเต็มไปหมด แต่หากจะพูดถึงผู้ที่รวยถึงขั้นเป็นมหาเศรษฐีบนโลกนี้คงมีอยู่ไม่กี่คน และในวันนี้เหมียวจะพาไปรู้จักกับ ผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกกัน!!! Liliane Bettencourt คือชื่อของผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกในปี 2560 จากการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes ในเดือนมีนาคม และเป็นอันดับที่ 14 ของโลกเลยทีเดียว โดยเธอมีทรัพย์สินโดยรวมกว่า 39,500 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 1.3 ล้านล้านบาท     เธอเป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด และเป็นทายาทเจ้าของแบรนด์ L’Oreal โดยเธอรับช่วงต่อจากพ่อของเธอ Eugene Schueller ผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ในปี 1907 และเสียชีวิตลงในปี 1957 เธอเริ่มทำงานเป็นพนักงานฝึกหัดที่บริษัทลอรีอัลตั้งแต่ปี 1937 ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 15 ปี จนกระทั่งพ่อของเธอเสียชีวิตลงจึงได้รับช่วงต่อและทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกในทุกวันนี้     เธอต้องทนทุกข์ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์มาตั้งแต่ปี 2549 และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เธอก็เสียชีวิตลงอย่างสงบในบ้านพักด้วยโรคชรา ในวัย 94 ปี  ปิดตำนานผู้หญิงที่รวยที่สุดในโลกไว้ในปีนี้เท่านั้น ที่มา: forbes

  • รวม 10 เรื่องกังวลใจของเหล่าหนุ่มๆ ที่พวกเขาไม่เคยบอกให้ใครรู้

    รวม 10 เรื่องกังวลใจของเหล่าหนุ่มๆ ที่พวกเขาไม่เคยบอกให้ใครรู้

    ผู้ชายเป็นเพศที่ดูแข็งแกร่ง น่ากลัว น่าเกรงขาม แต่ว่าใครจะไปรู้ล่ะว่าจริงๆ แล้วผู้ชายจะมีความลับที่แสนกลัวแต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะว่ามันจะทำให้พวกเขาดูอ่อนแอในสายตาของผู้หญิงนั่นเอง และนี่คือ 10 ความลับที่ผู้ชายกว่า 90% ไม่กล้าจะพูดถึงซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ ต้องลองติดตามกันดูจ้า   1. เรื่องหุ่น ตั้งแต่สมัยก่อน ผู้หญิงถูกสอนให้ต้องดูแลเรือนร่างของตัวเองให้มีความงดงามเข้าไว้เหมือนสาวในอุดมคติ แต่ผู้ชายกลับไม่มีแบบแผนที่แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ชายจะไม่คิดเรื่องนี้นะ ไม่งั้นพวกเขาคงไม่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ เข้ายิมกันหรอก ใช่ไหมล่ะ ฮ่าา   2. เรื่องเงิน เรื่องเงินนี่จัดได้ว่าเป็นเรื่องกังวลที่น่าจะมีมากที่สุดในหมู่ผู้ชายเลยทีเดียว พวกเขาคิดว่าถ้าไม่มีเงินก็ไม่สามารถที่จะหาเลี้ยงครอบครัว หรือกระทั่งหาแฟนไม่ได้เพราะผู้ชายคิดว่าเงินน่าจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ แต่จริงๆ แล้วการดูแลเอาใจใส่ต่างหาก ที่ผู้หญิงเค้าต้องการละเนอะ   3. ความสูง ทำไมผู้ชายจะไม่กังวลล่ะ ในเมื่อมันคือหนึ่งในคุณสมบัติของผู้ชายในอุดมคติของผู้หญิงนี่ ถ้าผู้หญิงมองเรื่องความสูงเป็นเรื่องเล็กละก็ ผู้ชายที่มีความสูงไม่มากนักก็คงมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย ขนาดตัวไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าขนาดของใจ ว่าไหม?   4. ความหึงหวง ถึงผู้ชายจะแสดงออกในเรื่องนี้น้อยกว่าผู้หญิง ที่มีการแสดงออกที่ชัดเจนแต่มันก็ทำลายความมั่นใจของเขาได้พอสมควรเลยนะ ถ้าคุณบอกเขาว่าเพื่อนร่วมงานคุณมีอารมณ์ขันและมีคารมที่ดี เขาอาจจะไม่แสดงอาการอะไรออกมา แต่คุณรู้ไว้เถอะว่า เขากังวลมากถึงขนาดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบเลยทีเดียว ทางที่ดีคุณควรบอกเขานะว่า คุณไม่มีทางนอกใจเขาแน่นอนเพื่อลบล้างความวิตกของเขานั่นเอง   5. การมีประสบการณ์น้อยในเรื่องความสัมพันธ์…

  • โจรงง!! ระบบป้องกันการขโมยสัญลักษณ์หน้ารถของ Rolls-Royce ที่หุบเมื่อมีคนแตะต้อง

    โจรงง!! ระบบป้องกันการขโมยสัญลักษณ์หน้ารถของ Rolls-Royce ที่หุบเมื่อมีคนแตะต้อง

    รถ Rolls-Royce หรือที่คนไทยเรียกกันว่า โรลส์-รอยซ์ จัดว่าเป็นรถสุดหรูที่ไม่ว่าจอดไว้ที่ไหนก็สามารถเปล่งประกายความหรู ความสง่าออกมาได้อย่างเป็นเอกลักษณ์เลยทีเดียว และด้วยความสวยงามและมีราคาแพง เหตุนี้จึงเป็นที่ต้องตาต้องใจของเหล่าขโมยทั้งหลาย ทางบริษัทผู้ผลิตจึงต้องมีระบบรักษาความปลอดภัย ไม่ให้รถหรูยี่ห้อนี้ถูกขโมยได้โดยง่ายเหมือนรถทั่วๆ ไป   เห็นแล้วสัมผัสได้ถึงความมีระดับ   แต่ว่านอกจากระบบป้องการขโมยรถแล้ว ตราหน้ารถที่เป็นเอกลักษณ์ประจำยี่ห้อนี้ ก็เป็นที่หมายปองไม่แพ้กัน แต่ว่าทางผู้ผลิตก็รู้ทันจึงได้สร้างระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับเจ้าสัญลักษณ์นี้ขึ้นมาด้วย   ขอผมจับขอผมทัช   โดยระบบรักษาความปลอดภัยตราสัญลักษณ์นี้คือ เมื่อมีใครนำมือไปสัมผัสมันจะถูกนำลงไปเก็บในตัวรถเหมือนกับว่ามันไม่เคยมีอยู่เลยทีเดียว   อ้าวเฮ้ย หายไปไหนเนี้ยย โดยทางผู้ผลิตบอกว่าระบบรักษาความปลอดภัยสัญลักษณ์นี้มีมาตั้งแต่ปี 2004 จนถึงปัจจุบันและค่าเฉลี่ยของการถูกโจรกรรมมีน้อยลง นั่นแสดงให้เห็นว่าระบบนี้ทำงานมาได้เป็นอย่างดี   ลองมาดูกันดีกว่าว่ามันหายไปได้ยังไงนะ   ที่มา: wonderfulengineering

  • ภาพมุมสูงของต้นไม้ที่ล้มเรียงกัน ผลจากพายุที่พัดกระหน่ำสะท้อนถึงปัญหาป่าไม้

    ภาพมุมสูงของต้นไม้ที่ล้มเรียงกัน ผลจากพายุที่พัดกระหน่ำสะท้อนถึงปัญหาป่าไม้

    เมื่อมีพายุเกิดขึ้นมา แน่นอนว่าย่อมมีความเสียหายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดกับสิ่งใดก็ตามที่พายุได้พัดผ่าน แต่มีช่างกล้องคนหนึ่งกลับมองว่าสิ่งที่พายุได้ทำลายนั้นกลับนำมาทำเป็นงานศิลปะได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีพายุลูกใหญ่ที่ชื่อว่า Xavier ได้พัดผ่านเข้าไปในทวีปยุโรปและสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และหลังจากพายุสงบลง เช้าในวันต่อมา  Julian Stratenschulte ช่างกล้องชาวเยอรมัน ก็ได้นำโดรนติดกล้อง ถ่ายภาพต้นไม้ที่ถูกโค่นลงจากแรงของพายุ จนกลายมาเป็นความสวยงามที่หาดูได้ยาก     “ในตอนเช้าก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้น ผมขับรถไปรอบๆ เมืองเพื่อหาจุดที่น่าสนใจและเหมาะกับการถ่ายภาพ จนผมมาเจอต้นไม้ที่ถูกถอนรากถอนโคน ผมจึงบอกกับตัวเองว่า คงจะสวยน่าดูหากถ่ายจากมุมสูง” “ผู้คนทั่วโลกตื่นเต้นกับภาพที่ผมได้ถ่าย ผมรู้สึกประหลาดใจและไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดขึ้น สำหรับผมมันเป็นแค่ภาพถ่ายธรรมชาติรูปหนึ่งเท่านั้นเอง” Stratenschulte กล่าว     แต่ในภายหลังภาพนี้ได้กลายเป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ต จุดประกายสะท้อนให้ผู้คนเห็นว่าต้นไม้ในประเทศไม่ได้ถูกโค่นจากพายุอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น คือการตัดต้นไม้ของผู้คนในประเทศ ที่ทำให้ต้นไม้เหลือจำนวนน้อยจากที่เคยเป็นป่าใหญ่มาก่อนจนกลายมาเป็นรูปที่เห็นในที่สุด และช่างภาพคนนี้ยังมีผลงานถ่ายธรรมชาติอื่นๆ ที่น่าติดตามอย่างมากมาย อย่างเช่นภาพเหล่านี้   . .   นี่คงเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าพายุไม่ได้นำมาซึ่งความเสียหายอย่างเดียว แต่ยังทำให้ผู้คนรู้ซึ้งถึงความสำคัญของธรรมชาติอีกด้วย ที่มา: petapixe,@jstrati

  • 17 การทดลองทางวิทยาศาสตร์เจ๋งๆ เปิดหูเปิดตาให้คุณได้รู้อะไรใหม่ๆ อีกเพียบ!!

    17 การทดลองทางวิทยาศาสตร์เจ๋งๆ เปิดหูเปิดตาให้คุณได้รู้อะไรใหม่ๆ อีกเพียบ!!

    วิทยาศาสตร์ เป็นศาสตร์ที่ทำให้เราได้รู้ความจริงจากการพิสูจน์ การทดลอง แต่นอกจากนั้นวิทยาศาสตร์ ยังทำให้เราได้เห็นถึงความแปลกใหม่ ที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต และนี่คือบางส่วนของการทดลอง ที่เรานำมาให้ชมกันในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหว จะเป็นอย่างไรไปดูความมหัศจรรย์เหล่านี้กันเลย   นักดำน้ำคนนี้เดินอยู่ใต้น้ำแข็งในสภาพกลับหัวกลับหาง   การเผาไหม้ของหัวไม้ขีด   การแตกของกระจกที่ 10 ล้านเฟรมต่อวินาที   อานุภาพของคลื่นเสียงที่ทำให้สิ่งหนึ่งลอยตัวได้   เมื่อแตงโมถูกรัดด้วยยางกว่า 100 เส้นปรากฎว่า…   การปล่อยสปริงแบบสโลโมชั่น   แม่เหล็กที่เป็นสีน้ำเงินกำลังกลืนกินโลหะลูกหนึ่ง   แบตเตอรี่ แม่เหล็ก และทองแดงสามารถขับเคลื่อนกลไกแบบง่ายๆ ได้   อุปกรณ์ที่ช่วยจัดศูนย์ถ่วงให้แก้วเบียร์ ทำยังไงก็ไม่หก   คุณสามารถใช้ควันจุดเทียนใหม่อีกครั้งได้ด้วยการจุดไฟจากควันที่ลอยขึ้นมา   สิ่งนี้เรียกว่า “การลอยตัวของมวลสาร”   การแตกตัวของเมล็ดพืช   การจับเหยื่อของแมงมุม   ลูกสนขยายตัว ว้าวว   เมื่อเลือดตกใส่ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์   ความมหัศจรรย์ของแม่เหล็กเหลว   น้ำแข็งแห่งเจอกับน้ำยาล้างจาน   น่าทึ่งจริงๆ…

  • วิศวกรหลบไป!! รวม 23 ภาพของเหล่าอัจฉริยะ ที่สร้างสรรค์อุปกรณ์ได้แบบฉลาดล้ำโลก

    วิศวกรหลบไป!! รวม 23 ภาพของเหล่าอัจฉริยะ ที่สร้างสรรค์อุปกรณ์ได้แบบฉลาดล้ำโลก

    โดยปกติการสร้างสิ่งของหรือต้องการจะซ่อมอะไรซักอย่าง เราจะใช้ก็วิศวกรไม่ก็ช่างที่ตรงกับงานในการสร้างสรรค์ออกมาให้มีมาตรฐานที่ดี และเหมาะสมกับคนทั่วไป แต่จะมีคนอยู่จำพวกหนึ่งที่ต้องขอบอกว่า ไม่ต้องพึ่งใครในการสร้างหรือซ่อมอะไรซักอย่าง บอกได้เลยว่า พวกเขาเหล่านี้เป็นยิ่งกว่าอัจฉริยะของโลก ซึ่งบางภาพนี่เห็นแล้วทั้งหวาดเสียวทั้งตลกปนกันไปจริงๆ   ไม่มีปัญหาเมื่อยมืออีกต่อไป เมื่อคุณรู้จักการประยุกต์ใช้สิ่งรอบตัว   หายไปไม่เป็นไรใช้แทนกันได้     จ้าจริงๆ นึกว่าไฟซีนอน ไม่บอกนี่ไม่รู้เลยนะ   วิธีที่ทำให้ทั้งคุณและลูกมีความสุขพร้อมกัน   ทำไมมันปัดไม่ค่อยไปว้าา   กว่าจะถึงจุดหมาย ผ้าก็ซักเสร็จพอดี   เมื่ออยากชาร์จแบตแต่ไม่มีที่วาง…   เมื่อคุณยังไม่มีเงินซ่อมรอยบุบข้างรถ ก็แก้แบบนี้ไปก่อนล่ะกัน…   เมื่อคุณขี้เกียจเดินไปปิดไฟ เจ้าเหมียวมีประโยชน์ก็งานนี้   ใช้แทนกันได้ เชื่อผม   เผื่อหลับจะได้ไม่เปียก   เมื่อคุณขี้เกียจล้างจาน แต่ก็ไม่อยากให้ซิงค์นั้นดูสกปรก เอิ่ม…   วิธีแก้ปัญหาที่ไม่ค่อยดีเท่าไร เมื่อคุณไม่มีเครื่องตีไข่   เขาว่าอัจฉริยะคือคนขี้เกียจ มันมีเส้นบางๆ คั่นอยู่เท่านั้น   ล้อในอนาคตอาจเป็นแบบนี้ก็ได้   ถามจริง ท่อยังมันช่วยได้จริงหรอ??  …

  • ช่างภาพใช้เวลา 9 ปี ในการตามเก็บภาพของผู้คน เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของพวกเขา

    ช่างภาพใช้เวลา 9 ปี ในการตามเก็บภาพของผู้คน เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของพวกเขา

    กาลเวลาจะทำให้คนเราเปลี่ยนไปได้มากแค่ไหน นี่เป็นข้อสงสัยที่ทำให้มีช่างภาพคนหนึ่ง ถ่ายภาพคนที่ไม่รู้จักตามท้องถนน และกลับมาถ่ายคนเดิมอีกครั้งโดยใช้เวลาทั้งหมดถึง 9 ปี!!!! ช่างถ่ายภาพ Peter Funch ได้ใช้เวลา 9 ปี ตามเก็บภาพของผู้คนในช่วงเวลาเร่งด่วนนั่นคือเวลา 08.30-09.30 ของเมือง New York ใกล้กับสถานีรถไฟ Grand Central Station     เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจเมื่อเขาพบว่าคนบางคนที่เขาได้ถ่ายภาพไว้นั้นได้ทำกิจวัตรเดิมๆ เป็นเวลากว่าเกือบ 10 ปี และเขายังบอกอีกว่า สิ่งนี้สามารถสะท้อนความเป็นเมืองนิวยอร์คได้เป็นอย่างดี เพราะว่าที่นี่ผู้คนชอบที่จะทำอะไรเดิมๆ เสมอ แม้จะผ่านไปนานแสนนานก็ตาม ซึ่งคนแปลกหน้าที่เขาถ่ายมานั้นจะมีความเปลี่ยนไปหรือเหมือนเดิมขนาดไหน เชิญรับชมกันได้เลย   . . . . . . . . . . . . . . . . . . เห็นภาพอย่างนี้แล้ว บางคนเปลี่ยนไป แต่บางคนก็ไม่เปลี่ยนไปเลย ช่างเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ฮ่า…

  • โลกอนาคตมาแล้ว.. เมื่อคุณสามารถใช้ “จอยเกม” ขับรถยนต์ได้จริงๆ ราวกับอยู่ในเกม

    โลกอนาคตมาแล้ว.. เมื่อคุณสามารถใช้ “จอยเกม” ขับรถยนต์ได้จริงๆ ราวกับอยู่ในเกม

    เกมรถแข่ง ถือว่าเป็นเกมยอดฮิตติดตลาดของเครื่องเล่นเกมทุกชนิด ซึ่งเกมนี้ได้ให้ทั้งความมันส์ ความตื่นเต้นและความเร้าใจ จนกลายเป็นเกมโปรดของใครหลายต่อหลายคน แต่วันนี้เกมรถแข่งจะไม่อยู่แต่ในจออีกต่อไป เพราะว่าเทคโนโลยีในวันนี้พัฒนาจนเราสามารถบังคับรถจริงๆ จากจอยเกม PlayStation 4 ได้แล้ว!!!     รถที่ทีมงานพัฒนาเพื่อนำมาทดสอบในครั้งนี้ คือรถ Nissan GT-R เนื่องจากรถรุ่นนี้เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของเกมรถแข่งบนเครื่องเกม PlayStation โดยปรากฏตัวครั้งแรกในเกม Gran Turismo ในปี 1998 และมีต่อมาเรื่อยๆ ในทุกภาคของซีรีส์เกมนี้จนกลายมาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว และด้วยการที่กำลังจะมีเกม Gran Turismo Sport ซึ่งเป็นภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์เกมนี้ออกมา ทาง Nissan จึงสร้างรถที่ไม่ต้องมีคนขับ แต่ใช้จอยบังคับให้เหมือนในเกมแทน     ส่วนสนามที่ใช้สำหรับทดสอบครั้งนี้คือ สนาม Silverstone Circuit ประเทศอังกฤษ และการควบคุมรถ จะใช้ระบบควบคุมด้วยสัญญาณวิทยุจากระยะไกลจากจอยเกม PlayStation 4 เพื่อควบคุม การเร่ง การเบรค รวมทั้งระบบต่างๆที่อยู่ภายในรถ Jann Mardenborough แชมป์จากการแข่งขันเกม Gran Turismo จะมาเป็นผู้ควบคุมในวันนี้ เขาไม่ใช่นักแข่งรถแบบของจริง และคราวนี้ก็ไม่ได้เป็นการควบคุมรถในจอด้วย แต่เขาจะได้นั่งเฮลิคอปเตอร์เพื่อให้เห็นจากมุมสูงและบังคับจากตรงนั้น    …

  • 14 ภาพวาดเล่นๆ ตอนที่คุณนั่งว่างๆ บอกนิสัยของคุณได้เช่นกัน ว่าคุณมีแนวคิดอย่างไร!?

    14 ภาพวาดเล่นๆ ตอนที่คุณนั่งว่างๆ บอกนิสัยของคุณได้เช่นกัน ว่าคุณมีแนวคิดอย่างไร!?

    เคยไหมที่บางครั้ง ขณะที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ อย่างกำลังคุยโทรศัพท์ แต่อีกมือกลับไปวาดภาพโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือกระทั่งการนั่งเบื่อๆ ตอนเวลาเรียนหนังสือ ก็จะต้องหยิบดินสอมาขีดเขียนเล่น ซึ่งรูปที่คุณเผลอวาดเนี่ยสามารถบอกถึง อารมณ์และความรู้สึกนึกคิด ของคุณในขณะนั้นได้ด้วย!!! เมื่อเราเริ่มวาดภาพโดยไม่รู้ตัว จิตใต้สำนึกจะนำไปสู่การวาดภาพแทนการใช้สตินึกคิด ลองไปดูกันว่าแต่ละภาพที่เราวาดตอนเผลอนั้น มีความหมายบ่งบอกอะไรได้บ้าง…   ภาพคน หากคุณวาดรูปคนตอนเผลอ มันอาจจะแสดงว่าคุณรู้สึกไม่ปลอดภัย หรืออยากจะละทิ้งความรับผิดชอบสำหรับอะไรซักอย่าง และถ้าภาพคนที่คุณวาดเป็นภาพวาดง่ายๆ ดั่งในภาพแสดงว่า คุณมีอารมณ์ที่แปรปรวนและอยากที่จะปลีกตัวออกห่างจากหมู่ผู้คน   ภาพตา ภาพดวงตาสามารถบอกถึงความเป็นตัวตนภายในของแต่ละคนได้ คนที่วาดดวงตาดวงใหญ่ แสดงว่าเป็นคนที่ชอบเข้าสังคม และดวงตาเล็กนั้นแสดงว่า คุณกำลังปฏิเสธความเป็นตัวเองที่อยู่ภายในตัวคุณ   ลายเซ็นหรือชื่อ ถ้าคุณเผลอเซ็นลายเซ็นลงไปโดยไม่รู้ตัว มีแนวโน้มว่าคุณเป็นคนที่มีความยโสและเป็นคนเห็นแก่ตัวนิดๆ ยิ่งถ้าเผลอเซ็นบ่อยๆ แสดงว่าคุณเป็นคนที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกคนหนึ่งเลยล่ะ   ภาพสัตว์ต่างๆ ประเภทของสัตว์ที่ต่างกัน สามารถบอกระดับอารมณ์ของคุณในขณะนั้นได้ หากคุณวาดรูปเสือหรือหมาป่า แสดงว่าคุณมีความโกรธที่เก็บเอาไว้อยู่ในใจ หรือถ้าวาดหมาจิ้งจอกแสดงว่า คุณต้องการทำอะไรซักอย่างที่ไม่ซื่อตรงนัก รูปกระรอกแสดงว่า คุณต้องการการดูแลเอาใจใส่และการปกป้อง ส่วนรูปสิงโตแสดงว่า คุณรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น และการที่คุณวาดรูปสัตว์ตัวเดิมซ้ำไปซ้ำมา แสดงว่าคุณอยากที่จะมีบุคลิกอย่างสัตว์ตัวนั้นจริงๆ ก็เป็นไปได้   ภาพรูปทรงต่างๆ ภาพรูปทรงต่างๆ ให้ความหมายถึงคุณว่า คุณเป็นคนมีเป้าหมาย หัวดื้อ…

  • เพื่อยาย!! The Rock อัดคลิปให้กำลังใจคุณยายป่วยมะเร็ง ที่ชอบเขาถึงขั้นทำคัทเอาท์ไว้ข้างเตียง!!

    เพื่อยาย!! The Rock อัดคลิปให้กำลังใจคุณยายป่วยมะเร็ง ที่ชอบเขาถึงขั้นทำคัทเอาท์ไว้ข้างเตียง!!

    อะไรคือส่วนที่ดีที่สุดของการมีชื่อเสียง มีเงินเยอะ มีคนคลั่งใคล้จำนวนมาก!? แต่นั่นไม่ใช่ส่วนที่ดีที่สุดสำหรับชายคนนี้ ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงคุณภาพ และบุคคลคุณภาพของสังคมด้วย สำหรับ Dwayne Johnson หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “The Rock” เขาคิดว่าส่วนที่ดีที่สุดของการเป็นคนมีชื่อเสียงคือ สามารถให้กำลังใจผู้คนได้มากกว่าคนปกติ โดยเฉพาะกับเหล่าแฟนคลับที่เป็นแฟนของเขา การได้กำลังใจจากเขานั้นคือพลังอันยิ่งใหญ่เลยล่ะ   คุณยายป่วยเป็นโรคมะเร็ง   เมื่อไม่นานมานี้ The Rock ได้รับอีเมลฉบับหนึ่งที่มีเนื้อหาว่า.. คุณยายคนหนึ่งชื่อว่า Judy ป่วยเป็นโรคมะเร็ง จึงต้องย้ายออกจากบ้านไปนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่ว่าคุณยายคนนี้เนี่ย ชื่นชอบเขามากถึงขั้นมีรูปคัตเอาท์ขนาดเท่าตัวจริงอยู่ด้วยที่โรงพยาบาล(อย่างที่เราเห็นในภาพ) และท้ายอีเมลได้ขอให้เขาช่วยให้กำลังใจคุณยายคนนี้หน่อย   มีหรือเขาคนนี้จะไม่จัดให้ ลองรับชมวีดีโอการให้กำลังใจแสนจะน่ารักของ The Rock ได้ที่นี่   โดยเนื้อหาของวิดีโอนั้นเป็นเชิงให้กำลังใจ แถมยังมีแคปชั่นที่ระบุเอาไว้ว่า.. “เข้มแข็งไว้นะ Judy สุดที่รัก คุณเป็นคนสวยที่สุดเลย ผมและคนที่ดูคลิปนี้กำลังส่งกำลังใจไปให้คุณและครอบครัว ผมรู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้รับอีเมลฉบับนี้ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งเลยล่ะครับ”     หล่อมากเลยพี่!!   กำลังใจนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้ป่วย ถ้าคุณยายคนนี้ได้เห็นคนที่ตนเองชื่นชอบทำอย่างนี้ให้ รับรองว่าต้องหายวันหายคืนอย่างแน่นอนเลย!! ที่มา: inspiremore

  • คุณแม่ผู้ใช้เวลาว่าง “พาลูกล่าสัตว์” ด้วยเหตุไม่อยากให้ติดสมาร์ทโฟน จุดดราม่าบนโลกออนไลน์

    คุณแม่ผู้ใช้เวลาว่าง “พาลูกล่าสัตว์” ด้วยเหตุไม่อยากให้ติดสมาร์ทโฟน จุดดราม่าบนโลกออนไลน์

    ในปัจจุบันไม่ว่ามองไปทางไหน ก็จะเจอผู้คนเล่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกันจนเป็นเรื่องชินตาไปแล้ว  ที่ไม่ว่าทั้งผู้ใหญ่หรือเด็ก ต่างก็ติดกันซะงอมแงมจนแทบจะเป็นปัจจัยที่ 5 เลยทีเดียว แต่มีแม่ท่านหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่อยากให้ลูกๆ ของเธอติดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมากจนเกินไป เธอจึงตัดสินใจพาพาลูกๆ ของเธอออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านแทนการเล่นสมาร์ทโฟน..   แต่มันเกิดประเด็นดราม่าเพราะเป็นการพาออกไปล่าสัตว์แทน   คุณแม่ Heather Del Moral อายุ 34 ปี ได้พาลูกๆ ของเธอที่มีชื่อว่า Papi Isa และ Armonia ซึ่งมีอายุระหว่าง 9 และ 14 ปี ออกล่าสัตว์ ถึงพวกเขาจะยังมีอายุที่น้อย แต่แม่ของเธอก็ยืนยันที่จะพาลูกๆ ของเธอไปทำกิจกรรมดังกล่าว โดยเธอบอกว่า การล่าสัตว์ทำให้สายใยในครอบครัวของเธอมีความแข็งแรงมากขึ้นและยังสอนให้มีความเคารพแก่สัตว์ทั้งหลาย อีกทั้งยังทำให้ห่างไกลจากโลกโซเชียลมีเดีย ที่ปัจจุบันมีความหลอกลวงอยู่อย่างมากมาย “มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับฉัน ในเวลาที่ออกล่าสัตว์ด้วยกัน เราได้พูดคุย หัวเราะ และใช้เวลาร่วมกันแทนที่จะมากดแต่ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน” “มีบางคนไม่เชื่อเหมือนกันนะ ว่าที่ฉันพาลูกๆ ออกล่าสัตว์เนี่ยจะเป็นเรื่องที่ดี ฉันก็เคารพความคิดเห็นของพวกเขานะ แต่ขอให้พวกเขาเคารพความคิดของฉันเหมือนกัน” Heather กล่าว     “การล่าสัตว์ทำให้เด็กๆ ได้ออกไปสู่ธรรมชาติที่กว้างใหญ่  ทำให้ฉันสามารถสอนพวกเขาถึงชนิดของสัตว์ต่างๆ ได้ และยังมีกีฬามากมายให้เล่น…

  • นักวิทย์ค้นพบอาณานิคม ‘ปลาหมึก’ ใต้ทะเลอาศัยอยู่ด้วยกันราวกับเป็นเมืองแอตแลนติส

    นักวิทย์ค้นพบอาณานิคม ‘ปลาหมึก’ ใต้ทะเลอาศัยอยู่ด้วยกันราวกับเป็นเมืองแอตแลนติส

    ใต้ท้องทะเลเป็นอะไรที่ลึกลับ และมีอะไรให้น่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้น มนุษย์ก็ยังไม่สามารถที่จะไขความลับของท้องทะเลได้ทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบล่าสุดนั้น อาจทำให้หลายคนต้องรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปตามๆ กันเพราะว่าสิ่งมีชีวิตที่เราเรียกว่า ปลาหมึก(หมึก) นั้นก็สามารถสร้างเมืองได้ด้วย!!! หน้าตาเจ้าปลาหมึกชนิดนี้   เป็นความเชื่อกันมาอย่างยาวนานว่าปลาหมึกนั้นเป็นสัตว์น้ำที่รักสันโดษ โดยจะมาพบพวกเดียวของมันปีละครั้งเท่านั้น… ทีมวิจัยนานาชาตินำทีมโดย  University of Illinois-Chicago และ Alaska Pacific University ได้ออกสำรวจบริเวณ อ่าว Jervis ชายฝั่งด้านตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย และได้พบเมืองปลาหมึกซึ่งเป็นบ้านของปลาหมึกสายพันธุ์หนึ่งที่เรียกว่า Gloomy กว่า 15 ตัว!! และการค้นพบเมืองปลาหมึกนี้เป็นการค้นพบเมืองปลาหมึกแห่งที่ 2 ที่พบในพื้นที่บริเวณนี้หลังจากพบครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้ และการค้นพบนี้ ยังทำให้เปลี่ยนความเชื่อ ที่ว่าปลาหมึกเป็นสัตว์ที่ชอบรักสันโดษ จริงๆ แล้วพวกมันชอบที่จะเข้าสังคมกันมากกว่า   ภาพของเมืองปลาหมึกที่อาศัยอยู่ด้วยกัน   “มีอยู่ 2 อย่างที่ตอนแรกฉันคิดว่าพวกมันจะใช้สร้างบ้านของพวกมันได้ คือ โขดหิน และ ปะการัง” “นอกจากหินปะการังแล้ว พวกปลาหมึกยังใช้เปลือกหอยที่เหลือจากที่พวกมันกินมากองรวมกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเปลือกที่มาจากพวกหอยกาบ” “ขนาดแค่กองเปลืองหอยกับขยะบางอย่างในทะเล พวกมันยังเอามาสร้างเป็นที่อยู่อาศัยได้  พวกปลาหมึกเป็นวิศวกรแห่งท้องทะเลอย่างแท้จริง” Stephanie Chancellor นักศึกษาปริญญาเอกและเป็นผู้เขียนวิจัยด้านชีววิทยากล่าว…

  • คุณแม่เดือด!! หลังมีคนเอารถเข็นแมวอยู่ข้างในมาแย่งที่บนรถบัส ทำให้ลูกของเธอต้องยืน

    คุณแม่เดือด!! หลังมีคนเอารถเข็นแมวอยู่ข้างในมาแย่งที่บนรถบัส ทำให้ลูกของเธอต้องยืน

    การนำรถเข็นเด็กขึ้นรถบัสนั้นเป็นธรรมดาของต่างประเทศ แต่ว่าแต่ละประเทศก็จะมีกฎระเบียบ ว่าแต่ละคันจะสามารถมีรถเข็นเด็กได้กี่คันบนรถบัส และที่ทำให้เป็นประเด็นบนโลกอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นก็คือ มีแม่คนหนึ่งชื่อว่า Mia Jade Wilson และลูกของเธอ ได้ขึ้นรถบัสที่จะไปยังเมืองลีดส์ ประเทศอังกฤษ แต่กลับถูกคนขับรถบอกว่าให้พับรถเข็นเด็กเก็บไว้หรือไม่ก็รอรถคันอื่น เพราะว่าบนรถนั้นมีรถเข็นเด็กครบตามจำนวนที่กำหนดไว้แล้ว     แต่เมื่อเธอได้เดินไปดูยังรถเข็นเด็กคันดังกล่าว กลับต้องตะลึง เพราะพบว่าภายในรถเข็นนั้นไม่ใช่เด็ก แต่กลับเป็นแมวตัวอ้วนแทน จึงทำให้เธอเกิดโมโหขึ้น “มันเป็นเรื่องไร้สาระมากเลยนะเนี่ย อะไรกันทำไมแมวถึงมีสิทธิ์ที่เหนือกว่าคนได้” “ฉันบอกกับคนขับว่า มีแมวอยู่ในรถเข็นนะไม่ใช่คน เขากลับบอกเพียงว่า มีจำนวนรถเข็นเด็กครบบน รถคันนี้แล้ว กรุณาพับรถเข็นเด็กหรือไม่ก็รอรถคันอื่น เขาพูดแค่นี้จริงๆ ” Mia กล่าว ขณะเดียวกันผู้โดยสารคนอื่นก็เริ่มรำคาญที่แม่เด็กคนนี้ ไม่ยอมหยุดซักทีและพยายามที่จะใช้รถเข็นเด็กของเธอให้ได้   ภาพของ Mia และลูกวัย 1 ขวบของเธอ   ต่อมาภายหลังตัวแทนของบริษัทที่ให้บริการรถบัส ก็ได้ออกมากล่าวว่า “พวกเรารู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ได้ยินมาว่ามีผู้โดยสารไม่พอใจกับการตัดสินใจของคนขับรถของเรา ในตอนนี้เรากำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีนี้อยู่”   ต่อมาในโลกอินเทอร์เน็ตก็ได้มีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีนี้กันอย่างดุเดือด อาทิ   คุณ Debbie Tunstall “มาก่อน ได้ก่อน” คุณ Louise McFarlane “เราไม่สามารถต่อว่า ทั้งแมวและเจ้าของแมว…

  • 12 เรื่องแปลกๆ ที่คนโบราณเขาทำกัน แต่สำหรับคนสมัยนี้บอกเลยว่าแปลก!!!

    12 เรื่องแปลกๆ ที่คนโบราณเขาทำกัน แต่สำหรับคนสมัยนี้บอกเลยว่าแปลก!!!

    พฤติกรรมหรือความเชื่อในแต่ละยุคแต่ละสมัยมีความแตกต่างกัน อาจจะด้วยเพราะวัฒนธรรมหรือธรรมเนียมที่แตกต่างจากในปัจจุบัน ซึ่งอาจทำให้คนในยุคหลังอย่างเราๆ อุทานออกมาว่า “ทำกันไปได้” และนี่คือ 12 สิ่งแปลกๆ ที่คนโบราณกาลเขานิยมทำกัน มาลองดูดีกว่าว่าจะมีความแปลกประหลาดขนาดไหน   12. การแบ่งการนอนออกเป็น 2 ช่วง ชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในยุคกลางแบ่งการนอนออกเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงแรกระหว่างพระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงเที่ยงคืน หลังจากนั้นจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงเพื่อทำกิจกรรมอย่าง อ่านหนังสือ สวดมนต์ หลังจากนั้นก็จะนอนจนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นนั่นเอง   11. นาฬิกาปลุกที่มีชีวิต ในช่วงปี 1850-1950 ได้มีอาชีพรับจ้างปลุกเกิดขึ้น โดยพวกเขาจะเป่าเมล็ดถั่วเข้าไปที่หน้าต่างห้องนอนของลูกค้า แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าใครเป็นคนปลุกคนรับจ้างปลุกเหล่านี้   10. กระโปรงสำหรับเด็กชาย… ตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16 จนถึงปี 1920 เป็นธรรมดาของเด็กผู้ชายที่จะสวมชุดกระโปรง เหตุผลเพราะว่าเด็กโตขึ้นทุกวัน และกระโปรงนั้นสามารถขยับขยายได้ง่าย ซึ่งชุดกระโปรงที่เด็กผู้ชายสวมนี้ ก็ไม่เว้นแม้แต่ชนชั้นสูงเลยทีเดียว   9. รองเท้าพื้นแบนยกสูง เป็นรองเท้าที่มีความสูงถึง 50 เซนติเมตร โดยแรกนั้นทำมาให้คนรับใช้ใส่เพื่อไม่ให้คนรับใช้ตามแฟชั่นมากนัก แต่ระยะหลังนี้รองเท้านี้ใส่เพื่อไม่ให้เสื้อผ้าเปื้อนเวลาเดินผ่านถนนที่สกปรก   8. การถ่ายเลือดออกเพื่อรักษาโรค…

  • 25 ภาพของสิ่งที่เราอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นมาก่อนว่ามันมีหน้าตาเป็นอย่างไร..??

    25 ภาพของสิ่งที่เราอาจเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นมาก่อนว่ามันมีหน้าตาเป็นอย่างไร..??

    สิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้มีมากมายหลายอย่างที่เราอาจเคยได้ยินชื่อ แต่นอกจากที่เราเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามแล้ว บางอย่างเรากลับไม่เคยเห็นว่ามันเป็นอย่างไร และนี่คือ 25 อย่างที่มีชื่อเสียงของโลกแต่อาจหาดูได้ยาก จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เชิญรับชม   1. Area 6 หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ Area 51 อันโด่งดัง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่ามีฐานลับ Area 6 ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Las Vegas เพียง 128 กิโลเมตร และรัฐบาลสหัฐก็ออกมายอมรับแล้วว่ามีอยู่ตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว   2. Point Nemo จุดที่อยู่ห่างไกลจากทุกสิ่งบนโลก โดยมนุษย์ที่อยู่ใกล้ที่สุดน่าจะเป็นมนุษย์อวกาศ ยังอยู่ใกล้กว่ามนุษย์คนอื่นๆ บนโลกซะอีก   3. เศษยางที่เหลือจากการแข่งรถ นี่คือเศษยางที่ติดตามถนนหลังจากมีการแข่งรถประเภท Drag   4. สิ่งที่ดำที่สุดในโลก??? นี่คือวัตถุที่ดำที่สุดในโลกที่ชื่อว่า Vantablack มันสามารถดูดกลืนแสงได้ถึง 99% และทำให้วัตถุสามมิติกลายเป็นวัตถุ 2 มิติได้   5.โลหะที่แพงที่สุดในโลก ซึ่งมันคือ กัมมันตรังสี…

  • 17 ภาพความเพอร์เฟคของอาหาร ที่ดูแล้วรู้สึกว่าอยากเก็บไว้ดู มากกว่ากินพวกมัน

    17 ภาพความเพอร์เฟคของอาหาร ที่ดูแล้วรู้สึกว่าอยากเก็บไว้ดู มากกว่ากินพวกมัน

    อาหารจัดว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนจำเป็นต้องกินในทุกวัน แต่ก็มีบางคนที่คิดว่าอาหารก็สามารถเป็นศิลปะอย่างหนึ่งได้เหมือนกัน พวกเขาจึงบรรจงแต่งอาหารที่มีหน้าตาสวยงาม สวยซะจนบางทีคิดว่า มันสวยขนาดนี้จะกล้ากินไหมเนี่ย ซึ่งจะมีความงดงามขนาดไหนไปดูกันได้เลยย   1. ยอมใจในความอุตสาหะในการนั่งเรียงเลย   2. เรียงขนมซะคิดว่ากล่องสีซะอีก   3. เนี้ยบทุกระเบียบนิ้ว   4. น่าหลงใหลมากกว่าน่ากินซะอีก   5. แกะยังไงให้ได้ยังงี้ บอกที!   6. หนึ่งในล้านจริงๆ ที่จะตักได้อย่างนี้   7. นี่ไม่ใช่จานเปล่านะ มันมีขนมอยู่!!!   8. นี่ไปเรียนการทอดแบบนี้มาจากไหนฮะ   9. แหม มันช่างพอเหมาะพอเจาะจริงๆ   10. นี่ใช้ไม้บรรทัดวัดเอารึเปล่า   11. ใส่หลอดตรงไหนได้มั่ง   12. เมื่อคิดถึงเวลาที่เขาใช้เรียงเนี่ย กลัวว่าแตะแล้วจะไปทำมันพังจริงๆ   13. เหมือนเขาวงกตยังไงยังงั้น   14. เก่งทั้งคนปลูกและคนหั่น   15. จัดว่าลงตัว…

  • ที่สุดของดีไซน์ห่อไอติม เขียนกำกับ ‘ห้ามกิน’ ป้องกันผีตู้เย็นมาขโมยไป

    ที่สุดของดีไซน์ห่อไอติม เขียนกำกับ ‘ห้ามกิน’ ป้องกันผีตู้เย็นมาขโมยไป

    มันจะดีแค่ไหน หากวันที่อากาศร้อนๆ กลับมาจากที่ทำงานหรือที่โรงเรียนเหนื่อยๆ แล้วกลับมาพบไอศกรีมเย็นๆ นอนรออยู่ในช่องฟรีซ กลับกันเราจะรู้สึกอย่างไรหากพบว่า ไอศกรีมที่เราซื้อมาเก็บไว้ หายไปอย่างไร้ร่องรอย!!! ปัญหานี้เชื่อว่าหลายคนต้องเคยประสบกับตัวเองมาบ้าง และอาจแก้ปัญหาโดยการเขียนชื่อติดไว้ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถป้องกัน จากเพื่อนร่วมห้องผู้หิวโหยได้ แต่ตอนนี้มีไอศกรีมยี่ห้อหนึ่งแก้ไขปัญหานี้ให้เราแล้ว   หน้าตาธรรมดาของไอศกรีม Black Mont Blanc ที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบ   ถ้ามันหายไปจะเสียใจแค่ไหนคิดดูซิ ฮืออ   แต่ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อมีหนึ่งในผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า soejima takuma ของชาวญี่ปุ่นผู้หนึ่งที่ทำงานในร้าน Don Quixote พบว่ามีไอศกรีมยี่ห้อ Black Mont Blanc ได้ทำฉลากที่มีข้อความที่ว่า “Do not eat” หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกกันว่า “Tabete wa dame” เพื่อช่วยลูกค้าที่กำลังประสบกับปัญหาผีตู้เย็น   ฉลากแบบพิเศษเพื่อป้องกันการโจรกรรมไอศกรีม   ซึ่งนี่เป็นไอเดียแสนฉลาดของ Takeshita Seika ผู้ผลิตไอศกรีมยี่ห้อนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นไอเดียของชายคนนี้ จะทำให้บางคนเข้าใจผิด คิดว่าไม่สามารถกินไอศกรีมได้จริงๆ และอาจทำให้ยอดขายลดลง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นไอเดียที่แสนฉลาดในการปกป้องไอศกรีมอันล้ำค่าได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว   ที่มา: en.rocketnews24

  • หนุ่มขอแฟนสาวแต่งงาน ด้วยการพาไปชมงานศิลปะแล้วแอบแขวนรูปเล็กๆ ของเขาและเธอเอาไว้!!!

    หนุ่มขอแฟนสาวแต่งงาน ด้วยการพาไปชมงานศิลปะแล้วแอบแขวนรูปเล็กๆ ของเขาและเธอเอาไว้!!!

    การขอแต่งงาน ถือว่าเป็นคำขอที่พิเศษที่ครั้งหนึ่งบางคนอาจจะได้ยินเพียงครั้งเดียวในชีวิต หรือบางคนอาจจะไม่มีโอกาสได้จะได้ยินคำดังกล่าวเลยก็ได้ ภาพที่คุ้นตาที่เราเห็นเป็นประจำในภาพยนตร์ คือภาพที่ผู้ชายคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าและขอแต่งงาน แต่นั่นคงดูธรรมดาไปสำหรับชายคนนี้ที่ขอคู่รักของเขาแต่งงาน โดยการนำภาพวาดของเขาและคนรักไปแปะในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ!!!     เหตุการณ์สุดซึ้งนี้ ได้รับการเปิดเผยจากยูสเซอร์หนึ่งในเว็บ Reddit ที่ใช้ชื่อว่า krysxv โดยเป็นเรื่องราวของตัวเขา ที่มีชื่อจริงว่า Chris ได้วางแผนขอ Marybeth แฟนสาวของเขาแต่งงานที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Metropolitan ซึ่งแผนการของเขาได้วางล่วงหน้ามากว่าสัปดาห์ โดยที่เขาขอให้แม่ของฝ่ายสาว ทำเป็นซื้อชุดกระโปรงสีแดงลายจุดมาให้ลูกสาว และเขาก็หว่านล้อมให้เธอใส่ชุดที่ว่านี้มาเดทกับเขา แม้ว่ามันจะดูเหมือนเป็นการบังคับ แต่ว่าการแต่งกายที่เขาเตรียมไว้นี้ก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในต่อมา     เมื่อทั้งคู่มาถึงพิพิธภัณฑ์ ก็ได้เดินดูไปเรื่อยๆ จนมาถึงห้องภาพวาดของ Picasco ศิลปินที่ Marybeth ชื่นชอบ ท่ามกลางงานของศิลปินที่มีหลากสีสัน แต่มีอยู่ภาพหนึ่งที่ไม่น่าใช่ภาพของศิลปินคนนี้ แต่เป็นภาพวาดของ Chris ที่เป็นภาพการขอแต่งงานของเขากับเธอ ในชุดสีแดงลายจุดเหมือนที่เขาขอให้ใส่ในวันนี้     “ผมได้ขอให้น้องชายกับน้องสะใภ้ของผมนำภาพไปแขวนไว้ในห้องนั้น” “หลังจากผมได้รับสัญญาณว่าทุกอย่างโอเคแล้ว ผมก็พาเธอเข้าไปในห้องนั้น และเมื่อเธอเห็นภาพที่ผมเตรียมไว้ เธอก็ร้องไห้ออกมาทันที เพราะเธอรู้ว่านี่เป็นภาพของเธอในเวลานั้นเอง” “และเธอก็ตอบว่า ตกลง ทั้งๆ ที่ยังมีน้ำตานองอยู่เต็มหน้า” Chris ได้กล่าว    …

  • พาส่อง 10 อันดับ ‘ปลา’ ที่ชาวญี่ปุ่นบอกว่าอร่อยและเลิศรสที่สุด ใครก็พลาดไม่ได้!!!!

    พาส่อง 10 อันดับ ‘ปลา’ ที่ชาวญี่ปุ่นบอกว่าอร่อยและเลิศรสที่สุด ใครก็พลาดไม่ได้!!!!

    ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยทะเล จึงทำให้คนในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่ชอบกินปลา เพราะว่าหาได้ง่ายและอุดมไปด้วยโปรตีน และนี่คือ 10 อันดับปลาที่ชาวญี่ปุนได้โหวตแล้วว่า มีความชอบมากที่สุด กินบ่อยที่สุด จากการสำรวจชาวญี่ปุ่นกว่า 1,000 คน ซึ่งใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็ไปดูกันเลย   10. ปลาไข่ ถึงหน้าตาจะดูหน้ากลัวไปซักนิดแต่ชาวญี่ปุ่นการันตีถึงความอร่อย โดยปลาไข่นี้จะนำไปย่างไฟ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงคือ มะนาวและเกลือ โดยนิยมกินทั้งตัวโดยไม่เอาก้างออก   9. ปลาหางเหลือง เมนูนี้เป็นเมนูที่สามารถหากินได้ตามร้านซูชิทั่วๆ ไป โดยนิยมนำปลาหางเหลืองเนื้อนุ่มๆ ไปเคี่ยวช้าๆ กับซอสถั่วเหลือง ซอสมิริน และน้ำตาล ซึ่งจะให้รสชาติที่กลมกล่อม ทานคู่กับหัวไชเท้าดิบ สไตล์ญี่ปุ่นนั่นเอง   8. ปลากะพงแดง ปลาชนิดนี้ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า หากได้ทานจะทำให้โชคดี จึงนิยมกินกันในงานแต่งงาน หรืองานฉลองโอกาสต่างๆ ซึ่งทานได้ทั้งแบบดิบก็จะให้ความหวานของเนื้อปลา หรือจะนำไปย่างก็ได้ทั้งนั้น   7. ปลาโอ โดยปลาชนิดนี้จะมีกรรมวิธีที่พิเศษกว่าปลาทั่วไปคือจะย่างเพียงขอบๆ ของปลาเท่านั้นขณะที่ส่วนที่อยู่ตรงกลางยังคงมีความดิบอยู่   6. ปลาไหล ปลาไหลย่างเตาถ่านชิ้นโต เสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นราดน้ำซอสที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยปกติหากกินในฤดูหนาวจะทำให้ช่วยให้อุ่นขึ้นได้   5. ปลาซาบะ…

  • ชมภาพหาดูยากของ New York เมื่อครั้งเป็นสังคมเกษตรกรรม จนเปลี่ยนไปเป็นสังคมอุตสาหกรรม

    ชมภาพหาดูยากของ New York เมื่อครั้งเป็นสังคมเกษตรกรรม จนเปลี่ยนไปเป็นสังคมอุตสาหกรรม

    ประเทศสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่งในปัจจุบัน อีกทั้งยังมีพื้นที่ที่กว้างขวางเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ถึง 50 รัฐแต่ใครจะไปคิดล่ะว่า หนึ่งในเมืองที่เจริญรุุ่งเรืองที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง New York City ครั้งหนึ่งจะเคยเป็นเมืองเกษตรกรรมมาก่อน ..?? Museum of city of New York หรือพิพิธภัณฑ์แห่งเมืองนิวยอร์ค ได้เปิดชุดภาพที่ใช้ชื่อว่า “The Greatest Grid” ที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในช่วงศตวรรษที่ 17 ตั้งแต่สมัยยังเป็นยุคเกษตรกรรมมาจนถึงยุคอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นอย่างไรตามไปดูกันได้เลย   เมืองทางผ่าน Bowery เป็นเมืองทางผ่านที่เก่าแก่ที่สุดใน Manhattan แต่เมื่อชาวฮอลแลนด์ได้มาตั้งรกรากอยู่ที่นี่ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Bouwerij ซึ่งเป็นภาษาฮอลแลนด์ที่แปลว่า ฟาร์ม เพราะว่าที่นี่อยู่ติดกับฟาร์มปศุสัตว์และทางออกไปนอกเมืองซึ่งปัจจุบันก็คือ Wall Street นั่นเอง   ภาพของ New York City ในตอนนั้นรู้จักกันในชื่อ New Amsterdam ที่มีเพียงภูเขา ป่า ก้อนหิน และบ้านอีกไม่กี่หลัง ซึ่งในปัจจุบันคือ ย่าน Bronx ตั้งอยู่ตอนเหนือของ New York City   ระหว่างปี…

  • หนังสั้นสุดฮา สมมุติคนที่เราคุยด้วยไม่เล่นโซเชียล กลายเป็นหนังสยองขวัญขึ้นมาซะงั้น ฮ่า!!

    หนังสั้นสุดฮา สมมุติคนที่เราคุยด้วยไม่เล่นโซเชียล กลายเป็นหนังสยองขวัญขึ้นมาซะงั้น ฮ่า!!

    โซเชียลเน็ตเวิร์ค ในทุกวันนี้เปรียบเสมือนโลกอีกโลกหนึ่งที่มีไว้เพื่ออัพเดท ความคิด ความรู้สึกรวมทั้งยังสามารถนำไปดูภาพเก่าๆ ของใครบางคนเพื่อสืบหาข้อมูลบางอย่าง แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อคนที่เราคบหาอยู่ด้วย กลับไม่เล่นโซเชียลมีเน็ตเวิร์คเลยซักอย่าง!!! หนังสั้นเรื่องนี้เป็นผลงานของ แชนแนลหนึ่งในยูปทูปนามว่า Comic Relief ซึ่งเป็นแชนแนลที่มีผู้ติดตามกว่า 500,000 คนและมียอดวิวรวมกว่า 200 ล้านครั้ง   ดูเหมาะสมกันเชียวนะ   โดยครั้งนี้พวกเขาได้นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่า “ซาร่า” เมื่อได้พบกับชายในอุดมคติของเธอ แต่ปรากฎว่าเขาไม่เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คเลยซักอย่างเลยไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram ทำให้ความรักครั้งนี้กลายเป็นฝันร้ายของเธอไปเลยทีเดียว   ร้อนใจถึงขั้นต้องปรึกษาเพื่อน   และด้วยความที่เธอกลุ้มอกกลุ้มใจ เพราะว่าไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับคนที่กำลังคบอยู่เลย ซาร่าจึงนำเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนให้ช่วยหาทางออกหรือหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ให้เธอ แต่ก็ไม่สามารถหาอะไรบนโลกอินเทอร์เน็ตได้เลยซักอย่าง ทำให้เธอเริ่มกลัวว่า ผู้ชายคนนี้มีตัวตนจริงหรือเปล่าเนี่ย??   วิ่งหนีเป็นหนังผีเลยทีเดียว   ซึ่งในสุดท้ายตอนจบของเรื่องนี้ก็ยังไม่มีการเฉลยออกมา แต่คาดว่าผู้สร้างน่าจะทำวีดีโอนี้ขึ้นมาเพื่อเสียดสีโลกปัจจุบันว่า เอะอะๆ อะไรก็โซเชียล หากใครไม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นของตัวเอง ก็จะดูเป็นคนประหลาดเลยทีเดียว   มาชมวีดีโอเรื่องราวธรรมดาๆ แต่ไม่ธรรมดาของเธอกันดีกว่า   ที่มา: Comic Relief

  • ทามาก็อตจิกลับมาแล้วแจ้!! Bandai ประกาศรายละเอียดการวางขายอีกครั้ง ฉลองครบรอบ 20 ปี

    ทามาก็อตจิกลับมาแล้วแจ้!! Bandai ประกาศรายละเอียดการวางขายอีกครั้ง ฉลองครบรอบ 20 ปี

    ก่อนการมาของเกมในโทรศัพท์ต่างๆ จะมีของเล่นอย่างหนึ่งที่เชื่อว่ายังตราตรึงอยู่ในใจของใครหลายคน เพราะว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่เราต้องเอาใจใส่ คอยให้อาหาร และดูแลราวกับว่ามันคือเพื่อนที่มีชีวิตจริงๆ ของเรา ซึ่งนั่นก็คือเครื่อง ทามาก็อตจิ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ทามาก็อต นั่นเอง ซึ่งมาในวันนี้เครื่องเล่นที่เป็นความทรงจำของใครหลายคน ก็ได้กลับมาแล้ว!!!   เห็นแล้วก็อดที่จะคิดถึงไม่ได้   บริษัท Bandai บริษัทที่ผลิตและเป็นผู้พัฒนาเครื่องเล่น ทามาก็อต ได้ออกมาเผยว่าเครื่องเลี้ยงสัตว์เสมือนจริงเครื่องนี้ จะกลับมาวางขายใหม่อีกครั้ง ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้เล่นยุคเก่าเป็นอย่างมาก “มีแฟนๆ ให้รับการตอบรับมากมายจากทั่วโลก และเฝ้าถามพวกเราว่า เมื่อไหร่จะนำทามาก็อตมาขายในประเทศสหรัฐอเมริกาซักที”  Liz Grampp รองประธานฝ่ายบริหารของบริษัท Bandai ในอเมริกา กล่าว หน้าตาสดใสและมีขนาดเล็กกว่าเดิม   การนำมาวางจำหน่ายครั้งนี้ เป็นการจัดทำขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 20 ปี ของเครื่องทามาก็อต โดยระบบการเล่นเกมจะมีอะไรที่มากกว่ากว่าเก่า แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายในรูปแบบเดิม ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเครื่องเล่นในยุค 90 ทางบริษัท Bandai ได้เผยว่า ความคิดถึงน่าจะเป็นปัจจัยหลักให้ผู้คนเลือกที่จะจับจองเป็นเจ้าของเหมือนที่พวกเขาเคยเป็นเจ้าของในสมัยยังเป็นเด็กอยู่ และยังหวังว่าจะยังสามารถเข้าถึงเด็กๆ ที่ไม่เคยสัมผัส ได้มีโอกาสเล่นเครื่องเล่นสุดคลาสสิคอันนี้ด้วย “ผมคิดว่าเด็กๆ ที่เคยเล่นแต่ iPhone หรือ iPad อาจจะคิดว่าพวกเขาไม่เหมือนใครเมื่อเทียบกับผู้คนในยุคก่อน แต่เครื่องเล่นเกมแบบนี้จะให้ความผูกพันระหว่างคนและเครื่องเล่นเกมได้มากกว่า” Grampp กล่าวเพิ่ม…

  • เมื่อนักท่องเที่ยวหัวเราะเฮฮาขณะเยี่ยมชม “สุสานทหารไร้ชื่อ” นายทหารจึงต้องออกมาเตือนสติ!!

    เมื่อนักท่องเที่ยวหัวเราะเฮฮาขณะเยี่ยมชม “สุสานทหารไร้ชื่อ” นายทหารจึงต้องออกมาเตือนสติ!!

    สถานที่บนโลกนี้มีกฎระเบียบที่แตกต่างกันออกไป บางที่เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อน บางสถานที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเข้าไปแล้วก็ควรให้ความเคารพในกฎระเบียบของแต่ละสถานที่นั้นๆ หรือบางแห่งถึงจะไม่มีกฎระเบียบที่เคร่งครัดอะไร แต่ก็ควรดูกาลเทศะให้เหมาะสมกับสถานที่ มิเช่นนั้นคุณอาจจะโดนต่อว่าเหมือนกับบุคคลที่ไม่ให้ความเคารพสถานที่อย่างนี้     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสุสานแห่งนี้สร้างขึ้นใน ค.ศ.1921 โดยมีจุดประสงค์คือ เพื่อเป็นเกียรติและระลึกถึงเหล่าทหารที่เสียชีวิตลง แต่ไม่สามารถที่จะระบุตัวตนได้ ซึ่งสุสานแห่งนี้ก็เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาเยี่ยมชมเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิต แต่ก็พบว่ามีประชาชนบางกลุ่มอาจจะไม่รู้ว่าในสุสานควรใช้ความสงบและไม่ควรส่งเสียงดังจนเกินไป เพราะว่านั่นเป็นเหมือนเป็นดูหมิ่นเกียรติของทหารที่เสียชีวิต     โดยประชาชนกลุ่มหนึ่งได้ส่งเสียงหัวเราะดังขึ้นมา ทหารผู้ที่เข้าเวรยามเฝ้าอยู่นั้นจึงได้ออกมาตักเตือนผู้ที่มีการกระทำดังกล่าว โดยการออกมาบอกว่า “กรุณาใช้ความเงียบและให้ความความเคารพด้วย” หลังจากนั้นประชาชนกลุ่มนี้ก็ได้เงียบลงไป ซึ่งนับว่าทหารนายนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องและเหมาะสมเลยทีเดียวแหละ   คลิปวีดีโอขณะนายทหารได้ออกมาตักเตือน   ไม่ว่าจะไปสถานที่ใดก็ควรให้เกียรติสถานที่นั้นด้วยนะ  ที่มา: warhistoryonline, chaleco86

  • รู้จักกับ Mr. Methane นัก ‘ผายลมมืออาชีพ’ ที่ไปโชว์ตดเป็นเพลงในรายการ Britain’s Got Talent!!

    รู้จักกับ Mr. Methane นัก ‘ผายลมมืออาชีพ’ ที่ไปโชว์ตดเป็นเพลงในรายการ Britain’s Got Talent!!

    ความสามารถบางอย่างของมนุษย์ก็สามารถที่จะควบคุมได้ อย่างการร้องเพลง การแสดงสีหน้าอารมณ์ แต่ก็มีบางอย่างที่มนุษย์อย่างเราๆ ไม่สามารถควบคุมได้อย่าง การจาม การสะอึก หรือกระทั่ง การตด แต่มีชายผู้หนึ่งที่มีความสามารถพิเศษคือ เขาสามารถที่จะควบคุมตดให้ตดได้ดั่งใจเขาต้องการ!!!   Mr.Methan ผู้โด่งดังจากการบังคับตดให้ออกมาได้อย่างดั่งใจ   Mr.Methan มีชื่อจริงว่า Paul Oldfield เป็นชาวอังกฤษโดยกำเนิด โดยความสามารถนี้เขาได้ค้นพบตอนที่กำลังฝึกโยคะ ซึ่งในขณะนั้นเขามีอายุเพียง 15 ปี และในวันต่อมาเขาได้แสดงการตดกว่า 20 ครั้งใน 1 นาทีต่อหน้ากลุ่มเพื่อน ทำให้เขามีชื่อเสียงที่โด่งดังและได้รับเชิญไปแสดงในงานต่างๆ   ก่อนหน้าที่เขาจะยึดการแสดงตดเป็นอาชีพเขาเคยทำงานในสถานีรถไฟมาก่อน   โดยจุดเริ่มต้นก่อนที่จะเข้าวงการของเขานั้นคือ ได้ไปแสดงเป็นการแสดงเปิดให้กับวง The Macc Lads วงร็อคชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ ที่ภายหลังมีการแต่งเพลงที่เกี่ยวกับเขาลงไปในอัลบั้มอีกด้วย จากนั้นเขาก็ได้ย้ายมาที่สหรัฐอเมริกาและไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ Howard Stern Show และนั่นทำให้เขาได้แสดงต่ออีกหลายครั้งในเวทีบรอดเวย์ และได้ออกรายการอีกหลายรายการในเวลาต่อมา   เป็นความสามารถพิเศษที่แปลกอย่างหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้   แต่ที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คือการที่เขาได้ไปออกรายการ Britain’s Got Talent ที่มีผู้เข้าชมมากถึง 50…

  • นักวิทย์ทำการทดลองให้ปลาไหลไฟฟ้าช็อต เพื่อดูว่ามันโจมตีเหยื่อบนบกได้หรือไม่ และรุนแรงแค่ไหน!?

    นักวิทย์ทำการทดลองให้ปลาไหลไฟฟ้าช็อต เพื่อดูว่ามันโจมตีเหยื่อบนบกได้หรือไม่ และรุนแรงแค่ไหน!?

    ในโลกของเรามีสัตว์อยู่เป็นร้อยเป็นพันชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีวิธีการหาอาหารที่แตกต่างกันออกไป แต่มีสัตว์อยู่ชนิดหนึ่งที่มีความพิเศษ ซึ่งรับรองได้ว่าได้เลยว่าไม่เหมือนใครแน่นอน นั่นก็คือปลาไหลไฟฟ้า!! โดยปกติแล้วเมื่อปลาไหลไฟฟ้าอยู่ตามธรรมชาติจะมีวิธีการล่าเหยื่อคือ ปล่อยไฟฟ้าไปยังเหยื่อ เพื่อช็อตให้เหยื่อตาย แต่หากมันอยู่บนบกล่ะมันจะสามารถใช้ไฟฟ้าช็อตได้ไหมนะ ?   นี่คือ Dr.Kenneth Catania ผู้ที่จะมาทำการทดลองในครั้งนี้   และด้วยความอยากรู้ในคำตอบนี้ทำให้ Dr.Kenneth Catania นักชีววิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Vanderbilt ประเทศ สหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลองกับตัวของเขาเอง โดยการลองให้ปลาไหลไฟฟ้า กระโจนออกมานอกน้ำเพื่อดูว่ามันจะสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้หรือไม่?   ไหนลองขึ้นมาดูตัวซิ   ปรากฎว่า มันสามารถที่จะปล่อยกระแสไฟฟ้านอกเหนือจากในน้ำได้ด้วยนี่สิ ทีนี้ก็ทดลองต่อว่า เมื่อมันสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าบนบกได้ จะมีความรุนแรงขนาดไหนกันเชียว   ทำตัวแนบชิดติดกันปุ๊บ ไฟฟ้าก็มาปั๊บเลย!! . ขอสัมผัสได้ไหมจ๊ะ   ซึ่งเขาได้นำตัวเองไปเป็นเหยื่อทดลอง โดยการนำแขนข้างหนึ่งลงไปในน้ำพร้อมกับโลหะที่เชื่อมไว้กับแอมมิเตอร์ เพื่อใช้หาปริมาณไฟฟ้าที่ปลาไหลนั้นปล่อยออกมา   แผนการทดลองของศาสตราจารย์ท่านนี้   ผลออกมาก็คือมีกระแสไฟฟ้าผ่านจากแขนลงไปที่โลหะ เข้าไปที่เครื่องแอมมิเตอร์และกลับลงไปที่น้ำ ซึ่งเครื่องแอมมิเตอร์อ่านค่าปริมาณไฟฟ้าได้ถึง 40 มิลลิแอมป์ ซึ่งปริมาณดังกล่าวมากพอที่จะทำให้ม้าหรือแม้กระทั่งคนสะดุ้งได้เลยล่ะ ภายหลังผู้ทดลองคนนี้ก็ออกมาบอกว่า มันเจ็บราวกับเดินชนเสาไฟฟ้าเลยทีเดียว   มาลองชมการทดลองนี้กันเล้ย…

  • รู้จักกับ Vanguard-1 ดาวเทียมรุ่นเก่าแก่ของโลก ผ่านมา 60 ปีก็ยังคงวนอยู่ในวงโคจรอยู่!!!

    รู้จักกับ Vanguard-1 ดาวเทียมรุ่นเก่าแก่ของโลก ผ่านมา 60 ปีก็ยังคงวนอยู่ในวงโคจรอยู่!!!

    ในปัจจุบันดาวเทียมได้สร้างประโยชน์มากมายให้แก่โลกของเรา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสื่อสาร การใช้ในด้านการทหารต่างๆ และการมีจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นบนโลกใบนี้ ทำให้มีการใช้ดาวเทียมเพิ่มขึ้นไปด้วย ทุกวันนี้จึงมีดาวเทียมจำนวนมากโคจรอยู่นอกโลกของเรา แต่รู้หรือไม่ว่าดาวเทียมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก็ยังคงโคจรรอบโลกอยู่เหมือนกัน!!   ภาพจรวดที่นำดาวเทียม Vanguard-1 ไปปล่อยยังอวกาศ   เมื่อกว่า 60 ปีก่อนมีดาวเทียมดวงหนึ่งที่ชื่อว่า Vanguard-1 ของกองกำลังสหรัฐอเมริกาได้ถูกส่งขึ้นไปในอวกาศในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ.1958 โดยประมาณการ ไว้ว่าดาวเทียมดวงนี้จะสามารถโคจรรอบโลกไปได้อีกหลายร้อยปี โครงการ Vanguard เป็นโครงการดาวเทียมดวงแรกของสหรัฐอเมริกาที่ประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ ส่วนที่เป็นหัวจรวดที่นำดาวเทียมขึ้นไปสู่อวกาศ ส่วนของตัวดาวเทียม และส่วนของสถานีการติดตาม ในวันที่ 6 ธันวาคม ปี 1957 เหล่านักการเมือง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งโลกได้มารวมตัวกันที่แหลม Canaveral รัฐ Florida เพื่อดูการทดสอบการปล่อยหัวจรวดของโครงการ Vanguard นับจากการนับถอยหลังสิ้นสุดลงในเวลา 11.44 น. หัวจรวด Vanguard ได้ออกจากแท่นปล่อย และในไม่กี่วินาทีต่อมา ใครคนหนึ่งในห้องควบคุมได้ตะโกนออกมาว่า “ระวัง พระเจ้าช่วยด้วย ไม่!!” หลังจากสิ้นสุดเสียงตะโกน หัวจรวดก็ได้แตกออกกลางอากาศ และได้ร่วงลงสู่พื้นดินเหมือนลูกบอลที่กำลังติดไฟอยู่เลยทีเดียว และหลังจากที่ได้เคลียร์พื้นที่แล้ว ก็พบส่วนที่เป็นดาวเทียมที่ขึ้นไปพร้อมกับหัวจรวดยังคงใช้งานได้อยู่…

  • 16 ภาพที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่า คนเราพอเมาแล้วนี่ไม่ว่าที่ไหน มันก็นอนหลับได้ทุกที่จริงๆ

    16 ภาพที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่า คนเราพอเมาแล้วนี่ไม่ว่าที่ไหน มันก็นอนหลับได้ทุกที่จริงๆ

    ใครหลายคนคงเคยตื่นมาบนเตียง ด้วยอาการเมาค้างหรือที่เรียกติดปากกันว่า “แฮงค์” จากการสังสรรค์สุดเหวี่ยงเมื่อคืน แต่ถึงอย่างนั้นเพียงแค่ดื่มน้ำเยอะๆ และนอนพักเอาแรงซักหน่อยก็คงมีอาการดีขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างไรงานนี้พวกคุณต้องขอบคุณตัวเองแล้วแหละ ที่อย่างน้อยคุณก็กลับมาถึงเตียงนอนนุ่มๆ ของคุณได้อย่างปลอดภัย และไม่ทำให้ตัวเองขายหน้า เหมือนกับพวกเขาเหล่านี้   เมาไม่ขับ หลับมันตรงนี้แหละ   อย่างน้อยก็ได้นอนในบ้านฟ่ะ   ตื่นเช้ามารับรอง คอเคล็ดแน่นอน   สงสัยเมื่อคืนจะหิวมากเลยนะเนี่ย   ไปคุ้ยหาอะไรกินตรงนั้นเล้าา   แหม เล่นท่ายากเลยนะเราอะ   สงสัยจะหากุญแจห้องไม่เจอ   ขนาดนี้แล้ว ก็คิดซะว่าเป็นบ้านเลยละกัน   ผ้าห่มยี่ห้อนี้ทำไมมันแข็งแปลกๆ นะ   ไกลแค่ไหนคือใกล้ บอกที   โตขนาดนี้แล้วยังฉี่รดกางเกงอยู่อีก เดี๋ยวแม่ตีนะ   สงสัยไปงานวันเกิดมาแน่   เปรียบกับพี่เป็นแค่ขอนไม้   ยุงกัดซะหลังลายหมดแล้ว   ไปแย่งที่ต้นไม้เค้าอยู่ทำม้ายย   ของรักของข้า   เห็นคนเมาอย่างนี้แล้วเพื่อนๆ ก็อย่ากินเหล้ากันจนขาดสตินะ กินแต่พอดีให้มีความสนุกจะดีกว่า จะได้ไม่ตื่นเช้ามาแล้วไม่ปวดหัวปวดตัวปวดใจ…

  • หนุ่มขอร้องชาวเน็ต ช่วยตัดต่อให้หมามาอยู่ในอ้อมแขน งานนี้บอกเลยเกินคาดคิด!!

    หนุ่มขอร้องชาวเน็ต ช่วยตัดต่อให้หมามาอยู่ในอ้อมแขน งานนี้บอกเลยเกินคาดคิด!!

    การตัดต่อแก้ไขรูปภาพในปัจจุบันสามารถทำกันได้โดยทั่วไปผ่านโปรแกรมอย่าง Photoshop หรือ Photoscape แต่เมื่อมีคนต้องการตัดต่อรูปภาพแต่ดันทำไม่เป็น จึงต้องไปขอแรงจากชาวเน็ตให้ช่วยงานนี้จึงความฮาจึงบังเกิดขึ้นล่ะ…     หนุ่ม Youtuber รายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Mark Fischbach ผู้โด่งดังในโลกอินเทอร์เน็ตที่ที่มผู้ติดตามมากกว่า 18 ล้านคนจากการแคสเกมต่างๆ ได้ขอแรงจากชาวเน็ตให้ช่วยตัดต่อรูปของเขากับสุนัขของเขาที่ชื่อว่า Chica ให้ดูเหมือนแช็คกี้กับสกูบี้-ดู ในการ์ตูนเรื่อง สกูบี้-ดู     “ขอแรงใครซักคนช่วยตัดต่อเจ้า Chica ให้มาอยู่ในอ้อมแขนของผมเหมือนในภาพได้ไหม” Mark ได้กล่าวไว้ใน Twitter ของเขา ซึ่งบอกได้เลยว่าชาวเน็ตได้ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ แต่ผลจะเป็นอย่างไรอยากรู้ต้องตามไปดู   ตัดขาซะก็หมดเรื่อง   ไปยืมไฟฉายย่อส่วนของโดเรม่อนมาเหรอ   สงสัยเป็นลูกครึ่งแน่เลย   จับซ้อนกันงี้ก็ได้หรอ   นี่หมาหรือเปรตเนี่ย   อ่ะ อยู่ในอ้อมแขนละ แต่ไม่มีตัวนะ ฮ่าา   คนเลี้ยงหมาหรือหมาเลี้ยงคนเนี่ย..??   สงสัยไปเรียนวิชาจากแม่นาคมา   ไม่เห็นยาก ก็ยกขึ้นไปเลยสิง่ายดี   หมาเป็นงี้ ก็กลัวเด้อ   นี่มันยักษ์ชัดๆ…

  • การทดลองนำ “ใบมีด” ไปติดกับ “โยโย่” เพื่อดูว่ามันจะอันตราย และทรงพลังได้แค่ไหน?

    การทดลองนำ “ใบมีด” ไปติดกับ “โยโย่” เพื่อดูว่ามันจะอันตราย และทรงพลังได้แค่ไหน?

    ในวัยเด็กของใครหลายๆ คน คงจะรู้จักของเล่นชิ้นหนึ่งที่เรียกกันว่า โยโย่ ที่มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ แล้วมีเชือกห้อยให้มันหมุนอยู่กลางอากาศเป็นรูปร่างท่าทางต่างๆ แต่มีชายคนหนึ่งคิดว่าการเล่นโยโย่แบบธรรมดานั้นน่าเบื่อไป เขาจึงลองติดใบมีดให้กับโยโย่ แล้วนำไปตัดสิ่งของต่างๆ แชนแนลหนึ่งในยูทูปนามว่า Giaco Whatever ชาวอิตาลี ผู้ที่ชอบทดลองการทำสิ่งแปลกๆ ต่างๆ ได้เป็นผู้ทำการทดลองนี้ โดยสิ่งของที่เค้าทำมาทดสอบคือไส้กรอก หลอดยาสีฟัน และถุงบรรจุแป้ง   ดัดแปลงโยโย่ซะก่อน . หน้าตาของโยโย่ติดใบมีด หน้ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย   ด้วยการที่เขาจะนำใบมีดมาติดกับโยโย่ จึงต้องทำให้มั่นใจว่าใบมีดจะไม่หลุดและกระเด็นมาใส่เขาจึงเจาะรูและใช้น็อตยึดใบมีดเข้ากับตัวโยโย่เพื่อให้มีความแน่นหนา   ไม่อยากคิดภาพถ้าเป็นนิ้วคนนะ และเขาก็เริ่มการทดลองแรกของเขา ด้วยการตัดไส้กรอกปรากฎว่า กระจุย!! เรียกได้ว่าหากเป็นนิ้วคนแทนที่ล่ะก็มีเลือดตกยางออกกันเลยทีเดียว ตัดหลอดยาสีฟันออกมาแบบโครตเท่ การทดลองต่อมาคือใช้โยโย่ตัดหลอดยาสีฟัน ผลที่ออกมาคือตัดหลอดยาสีฟันทะลุเลยทีเดียว และภาพที่ได้ยังออกมาสวยงามราวกับงานศิลปะเลยทีเดียวแหละ   คมจริงๆ และการทดลองสุดท้ายคือ ตัดถุงแป้ง ปรากฎว่าทะลุอีกเหมือนกันไม่มีอะไรเอาเค้าอยู่จริงๆ   ชมการทดสอบโยโย่อันนี้จากวีดีโอนี้เล้ย   ที่มา: Giaco Whatever

  • ชาวเน็ตถกเถียงกันอย่างสุดมันส์ นี่มันเรียกว่า “สีฟ้า” หรือ “สีเขียว” กันแน่ คุณล่ะคิดว่ายังไง!?

    ชาวเน็ตถกเถียงกันอย่างสุดมันส์ นี่มันเรียกว่า “สีฟ้า” หรือ “สีเขียว” กันแน่ คุณล่ะคิดว่ายังไง!?

    เรื่องสีเป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวของเราเลยทีเดียว เพราะว่าของทุกอย่างบนโลกล้วแล้วแต่มีสีที่เป็นของตัวเองทั้งหมด แต่บางทีเราก็ไม่มั่นใจว่าสีอย่างนั้นเค้าเรียกว่าสีอะไรว่า อย่าง สตรอเบอรี่มีสีชมพูหรือแดงกันแน่ น้ำทะเลล่ะมันสีอะไรกันนะ… ซึ่งปัญหานี้ก็เกิดขึ้นกับคนญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน มีอยู่สีหนึ่งที่ทำให้ชาวอินเทอร์เน็ตของญี่ปุ่นต่างเถียงกันสุดฤทธิ์ เมื่อมีผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @Hyouhonbako ได้ตั้งคำถามว่าสีนี้มันคือสีอะไรกันแน่   หน้าตาของสีเจ้าปัญหา .   “สีนี้มันกวนใจฉันอยู่ตลอดเวลาเมื่อเวลาเอาไปถามใคร บางคนก็บอกว่า สีเขียว แต่บางคนก็บอกว่านี่มันสีฟ้า” @Hyouhonbako กล่าวไว้ในทวิตเตอร์ของเขา ซึ่งก็มีผู้มาตอบเขามากมายทั้งฝั่งสีเขียว  และสีฟ้า บางคนถึงขั้นหาหลักฐานมายืนยัน นอนยันกันเลยทีเดียวเชียวแหละ   บางคนเรียกสีนี้ ว่าสีเขียวมรกต โดยถึงขั้นหารูปจาก google มายืนยัน   บางคนยกตัวละครที่ชื่อ “Super Saiyan Blue”  และเค้าก็บอกว่าเค้าก็ไม่เห็นเป็นสีฟ้าเหมือนกัน และรู้สึกดีใจที่มีคนคิดเหมือนกับเขา   แต่ก็มีบางคอมเม้นต์ที่คงไม่ช่วยอะไรโดยเขาบอกว่าสีนี้มันคือสีแดง ฮ่าา   บางคนถึงขั้นใช้แอพเพื่อเทียบสี แต่ก็ยังไม่มีชื่อเรียกของมันที่ถูกต้องอยู่ดี   “มันอยู่ใกล้สีเขียวมากกว่าน่าจะเรียกว่าสีเขียวนะ” บางคนกล่าวไว้แบบนี้   ในเมื่อวิทยาศาสตร์เอาไม่อยู่ ก็ต้องโหวตกันแล้วล่ะว่าจะเรียกมันว่าอะไรดี (ปุ่มบน= เขียว ปุ่มกลาง= ฟ้า ปุ่มล่าง= อื่นๆ)…

  • เสาหินสุดประหลาดในประเทศอิตาลี มองแล้วเหมือนอยู่บนดาวอะไรซักอย่างที่ไม่ใช่โลกนี้

    เสาหินสุดประหลาดในประเทศอิตาลี มองแล้วเหมือนอยู่บนดาวอะไรซักอย่างที่ไม่ใช่โลกนี้

    โลกเป็นดวงดาวอันซับซ้อนที่มีความลับซ่อนอยู่มากมาย  และวันนี้เราจะพาไปดูสถานที่แห่งหนึ่ง ที่ที่มีความแปลกและสวยงาม ราวกับหลุดมาจากภาพยนตร์แฟนตาซี เราไปชมกันเลย     ภาพชุดนี้เป็นผลงานของ Kilian Schönberger เขาได้ถ่ายภาพสถานที่แสนประหลาดที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เขาตั้งชื่อภาพทั้งหมดที่ได้ถ่ายมาทั้งหมดว่า “OtherWorld” หรือแปลได้ว่า “โลกใบอื่น” นั่นเอง ภาพที่เขาได้ถ่ายมานั้น เป็นเหมือนภูเขาหินย้อยที่กลับหัว คือแทนที่หินจะย้อยตามแรงโน้มถ่วงโลก กลับพุ่งขึ้นซะอย่างงั้น และยังปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก ที่ยิ่งเพิ่มความพิศวงขึ้นอีกเสมือนอยู่นอกโลกเลยทีเดียว     ที่มาที่ไปที่ทำให้มันมีรูปร่างที่แปลกประหลาดนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ บางสมมุติฐานบอกว่า เกิดจากการกัดเซาะของน้ำที่อดีตเคยสูงท่วมภูเขาลูกนี้ อีกสมมุติฐานบอกว่า ในอดีตอาจเกิดจากแผ่นดินถล่มหรือสไลด์ทำให้เหลือเพียงเสี้ยวอย่างที่เราเห็นในภาพเหล่านี้   . . . .   ถึงจะไม่สามารถหาที่มาของมันได้ แต่แท่งเสาเหล่านี้ มีความน่าอัศจรรย์ซ่อนอยู่อย่างแน่นอน ถ้าเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชมภูเขาแห่งนี้รับรองได้ว่า จะให้ความรู้สึกเหมือนเราไปอยู่ที่ดาวดวงไหนซักแห่งในจักรวาลเลยล่ะ ที่มา: sobadsogood

  • 33 ภาพการออกแบบสุดเฟล ที่ไม่รู้ว่าเกิดจากความผิดพลาด หรือคนสร้างจงใจกวนทรีนกันแน่!?

    33 ภาพการออกแบบสุดเฟล ที่ไม่รู้ว่าเกิดจากความผิดพลาด หรือคนสร้างจงใจกวนทรีนกันแน่!?

    ดีไซน์เนอร์เป็นอาชีพที่มีไอเดียสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้เรามีข้าวของเครื่องใช้ ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายและสะดวกขึ้น แต่บางทีก็มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาดจริงๆ หรือจงใจให้เกิดขึ้นกันแน่ และนี่คือภาพความฮาบางส่วนของการออกแบบที่สุดจะบรรยายจริงๆ   1. แหม จะถึงข้างล่างไหมเนี่ย   2. ทำเพื่อ ..????   3. ท่าทางจะเป็นหอ ‘เอน’ ปิซ่า   4. ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน จะไปให้ถึง   5. อยากจะจ้างรถขุดมาขุดเพิ่มเหลือเกิน   6. ไม่ต้องมีก็ได้ม้างงง….   7. ไฟไหม้บ้านจะเปิดตู้นี้ออกไหมน่ะ…   8. ปลอดภัยไว้ก่อน   9. นี่รองเท้าหรือพระเจ้ากันแน่เนี่ยยย   10. กางเกงเลคกิ้งสวยจังครับ   11. สรุปจะให้จอดรถหรือนั่งรอรถบัสกันแน่ฮะ ??   12. คิดเหมือนกันไหมว่ารูปหัวใจมันเหมือนอะไรบางอย่าง   13. คนเหล็กสมัยแบเบาะ   14. ไม่อยากจะคิดภาพตอนเข้าพร้อมกัน 2…

  • หนุ่มจุดบุหรี่ในปั๊มน้ำมัน พนักงานเห็นท่าไม่ดีเลยเดินมาหยิบ ‘ถังดับเพลิง’ ฉีดใส่ซะเลย!!

    หนุ่มจุดบุหรี่ในปั๊มน้ำมัน พนักงานเห็นท่าไม่ดีเลยเดินมาหยิบ ‘ถังดับเพลิง’ ฉีดใส่ซะเลย!!

    พอน้ำมันรถใกล้หมดก็ถึงคราวต้องแวะเข้าปั๊มน้ำมัน ซึ่งปั๊มน้ำมันเต็มไปด้วยวัตถุไวไฟมากมาย จึงต้องมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ทุกคน กฎง่ายๆ ที่คนขับรถโดยทั่วไปรู้กันดีคือ ห้ามสูบบุหรี่ใกล้บริเวณที่เติมน้ำมัน เพราะว่าอาจสร้างประกายไฟ และทำให้ปั๊มน้ำมันเกิดระเบิดได้ แล้วถ้ามีผู้ฝ่าฝืนจะทำอย่างไรดีล่ะ..??   รถเจ้าปัญหาเข้ามาแล้ว ลองทายดูซิว่าคันไหน ?   เจ้าตัวปัญหาปรากฏตัวแล้ว ไหนๆ ใครมีปัญหา ข้าจะดูดซะอย่าง ฮ่าาาา   นายๆ อย่าดูดบุหรี่ตรงนี้มันอันตราย   ฮีโร่ของเราเข้ามาแล้วว ดูซิว่าเค้าจะทำยังไงต่อไป   เห้ยๆ จะทำไรตูวะน่ะ   ไม่ยอมดับใช่ไหม เดี๋ยวดับให้เอง   แหม พ่นซะนึกว่าพ่นไล่ยุง   นึกว่าไปรายการระเบิดเถิดเทิงมา   แหม่ เห็นไหมล่ะครับว่าแต่ละสถานที่ก็จะมีกฎระเบียบเป็นของเขา เมื่อเราเข้าไปใช้บริการก็ควรเคารพกฎกติกาการใช้สถานที่นั้นๆ ด้วย เพื่อนๆ คนไหนอย่าไปทำอย่างพี่เขานะครับ ไม่งั้นอาจจะโดนเหตุการณ์เช่นนี้เหมือนกัน ฮ่าๆ   ชมภาพความฮาแบบเต็มๆ   ที่มา: Fun Media

  • “ศิลปะบนผืนนา” ชาวญี่ปุ่นปลูกข้าวให้เหมือนภาพวาด เพื่อใช้โปรโมทการท่องเที่ยว

    “ศิลปะบนผืนนา” ชาวญี่ปุ่นปลูกข้าวให้เหมือนภาพวาด เพื่อใช้โปรโมทการท่องเที่ยว

    ใครหลายคน คงคุ้นชินกับการทำเกษตรกรรมมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น การปลูกผัก ผลไม้ เพราะว่าเป็นพื้นฐานหลักในการดำรงชีวิต แต่ในปัจจุบัน เกษตรกรรมหลักอย่างการปลูกข้าว กลับกลายเป็นศิลปะได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!! เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อรองนายกเทศมนตรีเมือง Inakadate ชื่อว่า Yukio Kasai เล็งเห็นว่าแต่เดิมเมือง Inakadate มีชื่อเสียงในเรื่องการปลูกข้าวด้วยมืออยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรจึงจะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้นจึงเกิดเป็นโปรเจกต์ยักษ์ขึ้นมา   โปรเจกต์ที่ว่านี้คือ การปลูกข้าวให้เป็นรูปภาพต่างๆโดยใช้ข้าวสายพันธุ์ต่างๆถึง 7 สายพันธุ์เพื่อให้สีที่แตกต่างกันออกไปโดยรูปภาพต่างๆ นั้นเป็นรูปที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นท้องถิ่นของหมู่บ้าน   .   ขั้นตอนแรกของการดำเนินการคือการวางแผน โดยได้มีจำลองวาดรูปที่ต้องการในคอมพิวเตอร์ จากนั้นเมื่อได้รูปที่ต้องการ แล้วก็นำรูปไปปรึกษาครูศิลปะในพื้นที่ เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดว่าต้องปลูกสีใดตรงไหนบ้าง     จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการลงมือทำ เมื่อได้แบบที่ต้องการแล้วก็ลงพื้นที่สำรวจจุดต่างๆ ว่าจุดนี้ควรปลูกสีนี้และทำเครื่องหมายไว้ตามจุดต่างๆ เพื่อให้การปลูกข้าวเป็นสีสวยงามตามที่ต้องการ     ซึ่งในปีนี้มีอาสาสมัครมาร่วมช่วยปลูกข้าวกว่า 1,300 คน และใช้เวลาถึง 3 เดือน นับจากขั้นตอนการวางแผน การออกแบบ จนถึงการลงมือปลูกข้าวเสร็จสิ้นลง     การที่มีผู้คนมาเยี่ยมชมศิลปะการปลูกข้าวที่ชาวบ้านร่วมกันทำ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกภูมิใจในหมู่บ้านของตัวเองอย่างมาก  ต่างจากตอนแรกที่ไม่คิดว่าจะมีผู้คนมาเยี่ยมชมมากขนาดนี้     ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะจากเมือง…

  • สงครามเปลี่ยนคน.. ภาพก่อน-หลังศัลยกรรมใบหน้า ของเหล่าทหารกล้าที่บาดเจ็บใน WW1

    สงครามเปลี่ยนคน.. ภาพก่อน-หลังศัลยกรรมใบหน้า ของเหล่าทหารกล้าที่บาดเจ็บใน WW1

    ขึ้นชื่อว่าสงคราม เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะล้วนแล้วแต่มีความหวาดกลัว ความสูญเสียต่อทั้งสองฝ่ายซึ่งหากนับความเสียหายแล้วน่าจะเป็นความเสียหายต่อด้าน ทรัพย์สิน สมบัติ และสิ่งที่มีค่าที่สุดนั่นคือ ชีวิตของผู้คนในระหว่างสงครามและหลังจากสงครามนั่นเอง ภาพทั้งหมดถ่ายในปี 1918-1919 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 การเยียวยาช่วยเหลือทหารหลังจากผ่านศึกดูจะเป็นสิ่งที่ Anna Coleman Ladd ประติมากรชาวอเมริกันสามารถช่วยเหลือได้ โดยเธอช่วยทหารที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า โดยการสร้างหน้ากากจากทองแดงเจือจาง ให้คล้ายคลึงกับหน้าเดิมของผู้บาดเจ็บให้ได้มากที่สุด   โดยเธอได้ร่วมกับ Harold Gillies ศัลยแพทย์หนุ่ม ในการนำหน้ากากที่ได้จากการปั้นของเธอไปซ่อมแซมส่วนที่ขาดหายไประหว่างสงครามของทหารผ่านศึกทั้งหลายก่อนที่จะส่งกลับไปที่ภูมิลำเนาของทหารคนนั้นๆ ซึ่งผลงานของเธอก็ช่วยทหารหลายๆคนให้มีความสุขมากกว่าเดิมได้ดังต่อไปนี้   ทหารนายหนึ่งที่สูญเสียดวงตาข้างขวาและใบหน้าที่ผิดรูปไป   Harold Page พลทหารนายหนึ่งที่สูญเสียดวงตา แต่หน้ากากเปลี่ยนให้ดูเหมือนยังมีดวงตาอยู่    Soldier F เป็นผู้ป่วยที่รูปลักษณ์เสียโฉมที่สุดของผู้ป่วยทั้งหมดของ Ladd   ทหารนายหนึ่งที่สูญเสียจมูกทั้งหมดไปก่อนที่จะได้รับการศัลยกรรมโดยหน้ากาก   ทหารสวมชุดเครื่องแบบเกียรติยศที่สูญเสียทั้งจมูกและปากไปและได้รับการศัลยกรรมตกแต่ง   พลทหาร B โพสท่าให้เห็นถึงความสูญเสียที่แสนจะน่ากลัวของเขา   พลทหาร William Thomas สูญเสียใบหน้าส่วนกลางไป ต้องใช้เวลากว่า 6 ปีและ ผ่าตัดกว่า 19 ครั้งเพื่อให้ได้…

  • ชาวเน็ตญี่ปุ่นฮา เมื่อเกม FIFA18 เวอร์ชั่น Switch เกิดบัคที่ดันไปคล้ายกับผู้ร้ายใน “โคนัน” ซะงั้น

    ชาวเน็ตญี่ปุ่นฮา เมื่อเกม FIFA18 เวอร์ชั่น Switch เกิดบัคที่ดันไปคล้ายกับผู้ร้ายใน “โคนัน” ซะงั้น

    หลายคนคงเคยเล่มเกมกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมบาสเกตบอล เกมวิ่งแข่ง และที่ฮิตที่สุดในบ้านเราก็คือเกมฟุตบอลซึ่งสามารถสร้างแรงบันดาลใจและความประทับใจ รวมทั้งความสนุก ให้แก่ใครหลายๆ คนได้ แต่ไม่ใช่สำหรับเกมนี้อย่างแน่นอน เกมที่จะกล่าวถึงนี้คือเกม FIFA 18 ของค่าย Electronic Arts ซึ่งถือเป็นภาคล่าสุดของซีรี่ส์ FIFA ที่นำมาลงในเครื่องเล่น Nintendo Switch ที่จำหน่ายในวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา   แหม ใครน่ะ??   แต่ปรากฎว่ามีบัคที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นภายในเกม อย่างเช่นมีสีเขียวและน้ำเงินเกิดขึ้นบนใบหน้าของนักเตะบางคนแทนที่จะเป็นใบหน้าที่แท้จริงของนักเตะ ทำให้ต้องเดาว่าเอ๊ะ นี่นักเตะหรือมนุษย์ต่างดาวกันแน่   ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว โคนันช่วยด้วยยย . นอกจากนี้ยังมีบัคต่างๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของใบหน้า, ชุด ,และระบบอื่นๆภายในเกม  สงสัยแดดแรงไปหน่อย   แต่ที่หนักที่สุดคือระบบตรวจสอบการเล่นหรือที่เราเรียกๆ กันว่า Replay ที่เมื่อเปิดดูแล้วเผยให้เห็นเพียงภาพเงาดำๆของนักฟุตบอลที่เล่นกันอยู่ ทำให้เกิดความมึนงงว่าใครเป็นใครกันแน่ และในตอนนี้แฟนๆ เกมชาวญี่ปุ่นได้เปรียบเทียบเกมนี้ว่าเหมือน การ์ตูนเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ที่โด่งดังเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น ที่มักทำให้ผู้ร้ายที่อยู่ในเรื่องออกมาในรูปแบบของเงาดำๆ เหมือนนักเตะที่อยู่ในเกมนั่นเอง   เหมือนไหมล่ะ  …

  • หนุ่มทดลองสร้างเครื่องปั่นยักษ์จากเครื่องตัดหญ้า นำมาปะทะกับกระป๋องโค้ก แบบสโลว์โมชั่น!!

    หนุ่มทดลองสร้างเครื่องปั่นยักษ์จากเครื่องตัดหญ้า นำมาปะทะกับกระป๋องโค้ก แบบสโลว์โมชั่น!!

    เมื่อคุณมีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ คุณจะทำอย่างไรกับมัน? บางคนคงเอาไปเก็บ บางคนคงเอาไปทิ้ง บางคนเอาไปขาย แต่ไม่ใช่กับชายผู้นี้ แชนแนลหนึ่งในยูทูปนามว่า Giaco Whatever ชาวอิตาลี ผู้ที่ชอบทดลองการทำสิ่งแปลกๆ ต่างๆ ซึ่งมาคราวนี้ได้ทำการทดลอง สร้างเครื่องปั่นขนาดยักษ์เพื่อนำมาปั่นสิ่งของต่างๆ เช่นลูกปิงปอง ลูกบาสเก็ตบอล และท้ายสุดคือ โค้กกระป๋อง   เครื่องตัดหญ้าที่ไม่ใช้แล้ว   ซึ่งสิ่งที่จะนำมาสร้างเป็นเครื่องปั่นขนาดยักษ์คือ เครื่องตัดหญ้า เพราะว่าทางเจ้าของเครื่องตัดหญ้าได้ย้ายบ้าน และบ้านใหม่ของเขาก็ไม่มีสนามหญ้า เขาจึงไม่ได้ใช้เครื่องตัดหญ้าอีกต่อไปแล้ว เขาเลยมีความคิดที่จะทำการทดลองนี้ขึ้นมานั่นเอง   การถอดชิ้นส่วนและดัดแปลงเครื่องตัดหญ้า   เขาเริ่มจากการนำมอเตอร์และใบพัดของเครื่องตัดหญ้าออกมา และนำชิ้นส่วนอื่นๆ มาใส่ตามที่เขาได้คิดว่าจะสามารถสร้างให้เป็นเครื่องปั่นขนาดใหญ่ได้   เริ่มกลายเป็นเครื่องปั่นจริงๆ ขึ้นมาแล้ว   จากความรู้ในด้านงานช่างของเขาบวกกับความร่วมมือจากเพื่อนๆ จึงเกิดเครื่องปั่นขนาดยักษ์ขึ้นมาจริงๆ ซึ่งถ้ามีไปถามเขาว่าทำไมไม่นำเครื่องตัดหญ้าไปขาย แต่เอามาทำการทดลองแบบนี้ทำไม เขาก็จะตอบว่า “เพราะฉันทำได้ไงล่ะ”   เมื่อนำลูกปิงปองใส่ลงไปปรากฎว่า…   ลูกปิงปองจำนวน 40 ลูกได้นำมาเป็นการทดลองแรกและเมื่อใส่ลูกปิงปองลงไปก็ปรากฎว่า แตกละเอียดทุกลูกเลยจริงๆ ถึงคิวของลูกบาสเกตบอลแล้ว   ต่อมาเป็นคิวของลูกบาสเก็ตบอล เมื่อนำลูกบาสเก็ตบอลใส่ลงไป จะเห็นได้ว่าลูกบาสไม่แตกออกจากกัน มีเพียงพื้นผิวเท่านั้นที่ถลอก…