Author:

เรียกได้ว่ากระแสแรงจริงๆ กับบทสรุปมหากาพย์ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Avengers: Endgame ที่จะเข้าฉายในบ้านเราในวันที่ 24 เมษายน 2019 นี้ ภาพยนตร์ดังกล่าวกระแสแรงชนิดที่ว่าตั๋วรอบปฐมทัศน์ที่ถูกจองเต็มเกือบหมด ถูกนำมาขายอัปราคาได้แพงถึง 40,000 บาทต่อใบกันเลยทีเดียว     ล่าสุดนี้แม้แต่คลิปหลุดของภาพยนตร์ดังกล่าวก็ยังสามารถนำมาทำเงินได้!! เมื่อพบว่ามีคนนำคลิปหลุดดังกล่าวมาวางขายใน Carousell เว็บขายออนไลน์ชื่อดังแห่งประเทศสิงคโปร์   โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกวางขายในราคา 5 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 120 บาท) และมีข้อความอธิบายสินค้าว่า “4.30 นาทีแห่งความคุ้มค่าของคลิปหลุดของ Endgame Carousell ไม่อนุญาตให้ส่งวิดีโอ ดังนั้นหากคุณอยากได้ตัวอย่างของคลิปหลุดก็ส่ง DM มาหาฉัน และคลิปหลุดตัวเต็มฉันจะส่งให้คุณทีหลัง หลังจากที่มีการโอนเงินเข้ามา”     ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าคลิปหลุดที่วางขายกันบนเว็บขายของออนไลน์สิงคโปร์นี้เป็นคลิปเดียวกันกับที่หลุดออกมาเป็นโซเชียลมีเดียคราวก่อนหรือไม่   แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสของ Endgame นั้นแรงมากจริงๆ แรงจนสามารถทำให้คลิปหลุดเพียง 4.30 นาทีสามารถนำมาหาเงินได้เลยทีเดียว   ที่มา Mothership, Today

โซเชียลมีเดียในทุกวันนี้ เป็นเหมือนกับสถานที่ที่ผู้คนเอาไว้ใช้สบายความในใจด้วยคำหยาบหรือกล่าวด่าทอคนอื่นๆ และมันคงจะดีไม่ใช่น้อย หากผู้คนในโซเชียลมีเดียนั้นแสดงความคิดเห็นแบบน่ารักๆ หรือความคิดเห็นสนับสนุนเพื่อนชาวเน็ตด้วยกัน เหมือนอย่างเรื่องของชายคนที่เราจะนำมาให้ชมกันในวันนี้     วันที่ 11 เมษายน 2019 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @nellychillin ได้ทำการโพสต์ภาพเขากับ Ryan Gosling พร้อมกับข้อความว่า “มีคนบอกผมว่าผมหน้าตาเหมือน Ryan Gosling เลย พวกคุณคิดยังไงกันบ้างล่ะ” ซึ่งจริงๆ แล้วเราก็เห็นว่าพวกเขาหน้าตาไม่เหมือนกันหรอก แต่ชาวเน็ตในที่นี้ก็ไม่ได้รุมด่าทอเขา กลับกันยังปั่นจัด ช่วยเล่นตามน้ำให้กับเขาอีกด้วย   นี่มันภาพเดียวกันชัดๆ   เมื่อสุดท้ายแล้วคุณและ Ryan Gosling ได้พบเจอกัน   ฉันไม่รู้ว่ะ โพสต์รูปของตัวเองมาสิ เราจะได้เปรียบเทียบได้   นี่มัน Doppelganger ชัดๆ   คนไหนคือคุณกันแน่เนี่ย!?   ฮ่าๆ พยายามได้ดี พอได้ละ โปรดใช้รูปที่มันแตกต่างกันหน่อยสิพ่อคุ๊ณ!!   ฉันคิดว่าทั้งคู่คือ Ryan Gosling ซะอีก  …

อาชีพสตรีมเมอร์ เป็นอีกหนึ่งวงการของคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาทำจนมีชื่อเสียงโด่งดังกันเป็นจำนวนมาก แต่ล่าสุดมีประเด็นร้อนแรงเกิดขึ้น หลังจากที่ Twitch เว็บสตรีมมิ่งชื่อดัง ทำการแบนสตรีมเมอร์สาวคนหนึ่ง เนื่องจากเธอทาหน้าดำ (Black Face) เพื่อคอสเพลย์เป็นตัวละครผิวสี   This twitch streamer was cosplaying a Apex Legends character & got banned from @twitch for “Blackface” #DramaAlert pic.twitter.com/CSYZ0JrR8T — KEEM 🍿 (@KEEMSTAR) April 16, 2019   เกิดอะไรขึ้น… นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับ Karina Martsinkevich หรือชื่อในวงการ Karupups สตรีมเมอร์สาวชาวลิทัวเนีย เธอได้ทำการแต่งตัวคอสเพลย์เป็น Lifeline ตัวละครจากเกม Apex Legend ที่กำฮิตอยู่ขณะนี้ ด้วยพื้นเพตัวละครที่เป็นผู้หญิงผิวสี ทำให้ Karupups…

หลายคนคงเคยคิดว่า Sophie Turner หนึ่งในนักแสดงตัวหลักของซีรีส์มหากาพย์สงครามอย่าง Game of Thrones นั้นโชคดีที่ได้รับเลือกให้เล่นบท Sansa Stark เพราะนี่คือตัวละครซึ่งมีความสำคัญต่อเรื่องอีกตัวหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้วการที่เธอมีชื่อเสียงและกลายเป็นที่รู้จักขนาดนี้ เธอต้องผ่านคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มามาก จนบางทีเธอเกือบจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำไป   วิดีโอการให้สัมภาษณ์ของ Sophie Turner    Sophie นั้นได้รับเลือกให้เล่นบทของ Sansa ตั้งแต่ปี 2010 ขณะที่เธออายุเพียง 14 ปีเท่านั้น แต่ต้องเจอกับการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ซึ่งมีผลกระทบทางจิตใจของเธอตลอดมา เธอให้สัมภาษณ์ในรายการ Phil In The Blanks ว่า “ฉันหลงรักกับการแสดงซีรีส์นั้นมาก ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะได้รับเงินให้แสดง ฉันได้อยู่ซีรีส์ที่มหัศจรรย์มากๆ แต่ฉันเริ่มตกต่ำลงหลังจากตัวเองเริ่มเข้าสู่วัยสาว เมื่อฉันอายุได้ 17 ปี ระบบเผาผลาญของฉันก็ทำงานได้ช้าลง ฉันมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและโซเชียลมีเดียก็รุมกระหน่ำใส่ฉัน   โซเชียลมีเดียเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น แต่ไม่ใช่เหตุผลหลักหรอก มันเป็นพวกเคมีในร่างกายไม่สมดุลมากกว่าที่เป็นตัวทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี ฉันได้แค่เชื่อ ฉันพูดกับตัวเองว่า ‘ใช่ ฉันอ้วน…

“ประเทศญี่ปุ่น” เป็นประเทศที่เรารู้กันดีว่าตลาดอนิเมชั่นของประเทศนี้ใหญ่โตขนาดไหน ซึ่งแต่ละปีจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่ในตลาดนี้อยู่หลายพันล้านเยน ดังนั้นหากมีคนอัปโหลดอนิเมะเถื่อนลงในอินเตอร์เน็ต ก็เกิดความเสียหายขึ้นอย่างมากมาย เหมือนกับที่หนุ่มต่างชาติคนที่เราจะกล่าวถึงนี้ได้ทำ     เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2018 Jun-hyun Li ชายชาวเกาหลีที่ทำงานและอาศัยอยู่ในจังหวัดมิเอะ ได้ถูกจับในข้อหาอัปโหลดอนิเมะเถื่อนขึ้นบน BitTorrent เพื่อให้ชาวเน็ตคนอื่นๆ มาดาวน์โหลดไป และในวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2019 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ก็เริ่มทำการสอบสวนเขาพร้อมกับประมาณค่าเสียหาย จนกลายมาเป็นข่าวที่หลายฝ่ายจับตามอง     โดยจากการสอบสวนพบว่าอนิเมะที่ Li อัปโหลดไปถูกดาวน์โหลดไปประมาณ 250 ครั้งและเมื่อเจ้าหน้าที่ตามสืบจากเลข IP address ก็พบว่าเขาทำงการอัปโหลดอนิเมะและละครไปกว่า 177 ตอน เมื่อสอบสวนต่อไปทางเจ้าหน้าที่คำนวณไว้ว่าอนิเมะที่เขาอัปโหลดจะมีถูกดาวน์โหลดไปปล่อยต่อราวๆ 70,000 ครั้ง ซึ่งจากการคำนวณคร่าวๆ เจ้าหน้าที่ประมาณค่าเสียหายไว้ถึง 1,800 ล้านเยน (ประมาณ 510 ล้านบาท) นอกจากนี้ Li ในวัย 29 ปียังเผยให้ทางเจ้าหน้าที่รู้อีกด้วยว่าก่อนที่เขาจะทำการอัปโหลดอนิเมะขึ้นบนอินเตอร์เน็ตเขาจะทำการแก้ไขวิดีโอ เพื่อให้คุณภาพของไฟล์ดีขึ้น ผู้คนจะได้สนใจเข้ามาดาวน์โหลดกันอีกด้วย…

Liam Neeson ถือว่าเป็นนักแสดงที่มักได้รับเลือกให้เล่นบทบาทของคนที่จะแก้แค้นกลุ่มคนไม่ดีเพื่อทวงคืนในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ หรือครอบครัวก็ตาม     ซึ่งวันนี้เอง Jack Oldroyd หนุ่มวัย 22 ปีที่เรากำลังเอามาให้เพื่อนๆ ได้ดูนี้ ก็กำลังจะกลายร่างเป็น Liam Neeson เพื่อตามล่าหาคนที่มา “ขว้างไข่” ใส่ประตูบ้านของเขา ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Jack Oldroyd วิศวกรหนุ่มได้กลับมาบ้านหลังจากทำงานมา 8 ชั่วโมงติดต่อกันและพบว่าหน้าบ้านของเขานั้นมีคนนำไข่มาปาใส่ประตูบ้านจนเละไปหมด หลังจากดูหลักฐานอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตระหนักได้ว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเพิ่งเกิดขึ้น เนื่องจากพื้นที่นั้นยังเปียกอยู่ เขาจึงรีบวิ่งเข้าเปิดคอมพิวเตอร์และดูกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน     เมื่อเห็นหน้าตาของคนร้ายแล้ว Jack ก็สวมวิญญาณของ Liam Neeson กระโดดขึ้นรถและขับออกไปค้นหาตัวเด็กหนุ่ม 2 คนที่น่าจะเป็นคนร้ายอย่างรวดเร็ว และหลังจากตามหาอยู่สักพัก ในที่สุด Jack ก็ได้เจอกับคู่หูคนร้ายที่ปาไข่ใส่บ้านของเขา เขาตรงเข้าหาทั้งคู่ก่อนพูดเรื่องที่เกิดขึ้นกับบ้านของเขา ซึ่งคนร้ายก็รีบขอโทษ Jack ทันที ก่อนจะสัญญาว่าจะกลับไปทำความสะอาดให้ เขาจึงยอมขับกลับมาบ้าน     ไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากที่ Jack กลับถึงบ้าน…

“ความฝัน” ถือว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนล้วนมีในครั้งที่ยังเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่เติบโตขึ้นมาแล้วจะเป็นอย่างที่ตัวเองฝันไว้ได้ เหมือนอย่าง Jem Wolfie สาวสวยจากเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย ที่ใฝ่ฝันที่จะเป็นเชฟมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ความฝันนั้นของเธอก็ไม่เหมือนกับที่เธอวาดฝันเอาไว้…   โดย Jem Wolfie นั้นถือว่าจริงจังกับความฝันในการเป็นเชฟมากๆ ถึงขนาดที่ยอมลาออกจากโรงเรียนมัธยมปลาย เพื่อเข้าฝึกงานเป็นเชฟฝึกหัดโดยเร็ว เธอฝึกฝนอย่างหนัก ในที่สุด Jem ในวัย 27 ปีก็สามารถเป็นเชฟได้อย่างเต็มตัว แต่อย่างไรก็ตามเธอต้องทำงานอย่างหนักถึง 70 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในฐานะเชฟ ซึ่งมันทำให้เธอเหนื่อยแล้วคิดว่าสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอหวังและตามหา ในที่สุด Jem ก็ไม่สนใจทำงานเป็นเชฟอีกต่อไปและหันไปฝึกเล่นบาสเกตบอลเพื่อเข้าเล่นในลีคอาชีพของออสเตรเลีย (WABL) แทน     แต่กระนั้นชีวิตนักกีฬาของเธอก็มีปัญหาตามเมื่อ เมื่อในปี 2015 เธอได้รับบาดเจ็บหนักที่หัวเข่า ทำให้เธอต้องถูกพักตัวและไม่สามารถลงแข่งได้เป็นระยะเวลานาน ในช่วงระหว่างที่กำลังทำการรักษาตัวอยู่นั้น Jem ได้ทำการโพสต์วิดีโอสั้นๆ ของเธอลงอินสตาแกรม ซึ่งกลายเป็นว่าโพสต์ของเธอได้รับความนิยมอย่างมากมายและเธอตัดสินใจที่จะใช้มันเป็นช่องทางสร้างเงิน     “ฉันเริ่มโพสต์วิดีโอออกกำลังกายลงในอินสตาแกรม มันไม่ได้เพียงสร้างแรงบันดาลใจให้แค่ตัวฉันเท่านั้น แต่มันยังช่วยเป็นแรงบันดาลใจกับคนอื่นด้วย ฉันทำสควอดเยอะมาก ฉันรู้ว่าผู้ชมของฉันอยากเห็นอะไร คุณจะข้าม Leg Day ไม่ได้หรอก ฉันเป็นคนเสพติดฟิตเนสมาตลอดแหละ…

อ้างอิงตาม National Geographic พบว่าระหว่างปี 1990 ถึงปี 2016 โลกของเรานั้นเสียพื้นที่ป่าไปมากราวๆ 1.3 ล้านตารางกิโลเมตร โดยเกิดจากทั้งฝีมือของมนุษย์และภัยธรรมชาติต่างๆ นานา ซึ่งจากการหายไปของพื้นที่สีเขียว ก็ส่งผลกระทบต่อโลกนี้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะต่อสัตว์โลกหรือมนุษย์ก็ด้วย     เพื่อที่จะทำให้โลกของเรากลับมาสีเขียวและร่มรื่นเหมือนอย่างอดีตอีกครั้ง จึงมีบริษัทแห่งหนึ่งนามว่า Biocarbon Engineering ได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่เพื่อทำให้การปลูกต้นไม้นั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าเดิม “ตอนนี้พวกเรามีเคสที่สามารถยืนยันได้ว่าพืชชนิดใดและเงื่อนไขใดที่จะทำให้เราปลูกได้ โดยเราพร้อมจะขยายพื้นที่เพาะปลูกและทำให้สำเร็จเหมือนที่เราเคยทำมา” Irina Fedorenko ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าว โดยทางบริษัทหวังใช้ “โดรน” เป็นตัวปลูกต้นไม้และหญ้าที่เหมืองร้างในประเทศออสเตรเลียและหากมันได้ผลดีก็วางแผนที่จะขยายพื้นที่ทั่วโลก     โปรเจกต์การปลูกต้นไม้นี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2012 มีต้นไม้มากกว่า 6 ล้านต้นนั้นถูกปลูกโดย Worldview Impact องค์กรไม่แสวงหากำไร ซึ่งขณะนี้กำลังร่วมงานอยู่กับทาง Biocarbon Engineering โดยพวกเขาเล็งใช้โดรนบินไปทั่วพื้นที่เพื่อทำการสำรวจพื้นที่และวิเคราะห์สภาพดินพร้อมกับภูมิประเทศ เพื่อทำการค้นหาเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสมจะนำมาปลูกที่ดังกล่าว จากนั้นพวกเขาก็จะบรรจุเมล็ดพืชชนิดที่เหมาะสมไปกับโดรน ก่อนจะใช้โดรนยิงมันออกมาเหมือนกับมิสไซล์พร้อมปุ๋ยที่ใส่ในภาชนะบรรจุที่ย่อยสลายได้เพื่อปักมันสู่พื้นดิน     สุดท้ายนี้โครงการดังกล่าวมีแผนที่จะเริ่มต้นในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า โดยทางบริษัทคำนวณไว้ว่าการใช้โดรน 10 เครื่องจะสามารถปลูกต้นไม้ได้ถึงประมาณ 400,000…

“ยูทูบเบอร์” คือชื่อเรียกของผู้ที่สร้างสรรค์คลิปวิดีโอรูปแบบต่างๆ ลงใน Youtube ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพใหม่ในปัจจุบันนี้เริ่มมีความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสำหรับแฟนคลับที่ชื่นชอบยูทูบเบอร์ ก็ไม่แตกต่างจากการได้ชื่นชอบศิลปินสักคนสักเท่าไหร่ ดังนั้นมันคงเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก หากยูทูบเบอร์ที่ชอบลงทุนมาหาแฟนคลับด้วยตัวเอง เหมือนกับเรื่องที่เราจะนำมากล่าวถึงในวันนี้ เมื่อยูทูบเบอร์คนหนึ่งลงทุนบินข้ามน้ำข้ามทะเลด้วยระยะทางกว่า 8,500 กิโลเมตรเพื่อมาเซอร์ไพรส์แฟนคลับตัวยง      โดย 6 เดือนก่อนหน้านี้ Alex Woo หนุ่มอเมริกันเชื้อสายเอเชีย เจ้าของช่องยูทูบ AwkwardSinceBirth ได้ทำจัดประกวดความงามของผู้ชมหญิง ซึ่งของรางวัลก็คือเขาจะไปอยู่กับผู้ชนะหนึ่งวัน และผู้ชนะในครั้งนี้ก็ได้แก่ Cara สาวเกาหลีผู้เป็นแฟนตัวยงของ Alex เธออยู่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งห่างจาก Alex ถึง 8,500 กิโลเมตร แต่อย่างไรก็ตาม สัญญาต้องเป็นสัญญา วันที่ 5 เมษายน 2019 ที่ผ่านมา Alex ตัดสินใจบินจากรัฐแคลิฟอร์เนียไปยังเกาหลีใต้เพื่อพบกับเธอ     Alex ได้ไลฟ์สดเหตุการณ์วันนั้นที่อยู่กับ Cara ทั้งวันลงในช่องของตัวเอง เขาบอกว่า Cara พาเขาทัวร์สถานที่หลายๆ แห่งในเกาหลี…

ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านสมาร์ทโฟน ที่ไม่ว่าจะรับหรือส่งข้อความหรือวิดีโอคอลหากันก็สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา แต่กระนั้นก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทันเทคโนโลยีเหล่านี้ไปเสียหมด ยังมีกลุ่มผู้สูงอายุอีกหลายคนที่ใช้สมาร์ทโฟนไม่เป็น ทำให้พวกเขาไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกหลานได้ ดังนั้นโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในประเทศไต้หวันจึงสร้าง “คลาสเรียนสมาร์ทโฟน” ที่ผู้สูงอายุสามารถเข้ามาเรียนรู้วิธีการใช้สมาร์ทโฟน เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้มันติดต่อกับลูกหลานได้     วันที่ 8 เมษายน 2019 ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Cassandra Lin ได้โพสต์ภาพลงในกลุ่ม  Subtle Asian Traits พร้อมกับข้อความว่า “คุณตาวัย 92 ปีและคุณยายของฉันเริ่มเข้าเรียนในวันหยุด เพื่อเรียนรู้การใช้โทรศัพท์มือถือ, ถ่ายภาพ, วิธีการใช้แอปฯ ไลน์และอื่นๆ อีกมากมายเพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกหลานของพวกเขา เขาไปซื้อ iPhone 8 plus มาเพราะเขาเห็นว่าคุณครูของเขาใช้และเขาก็คิดว่าเขาน่าจะต้องการมัน ได้โปรดช่วยคอมเมนต์สนับสนุนเหล่าคนที่บริสุทธ์เหล่านี้ ฉันจะได้แปลและส่งไลน์ไปบอกพวกเขา แก้ไข: สำหรับคนที่ถามมา นี่คือคลาสเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในเขตชิลิน กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน”     Lin เผยว่าตัวของเธอนั้นต้องมาศึกษาต่อยังแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งปกติจะกลับไปเยี่ยมคุณตาคุณยายทุกปี แต่ 5 ปีที่ผ่านมานี้เธอไม่สามารถกลับไปเยี่ยมพวกเขาได้เลย แต่ด้วยคลาสเรียนสมาร์ทโฟนนี้ ก็จะทำให้คุณตาคุณยายของเธอสามารถพูดกับเธอได้แล้ว ไม่ว่าจะผ่านทางข้อความหรือจะวิดีโอคอลคุยกันแบบเห็นหน้าให้หายคิดถึง  …

เราคงรู้กันดีว่าชุดที่ผู้หญิงทุกคนอยากสวมอย่าง “ชุดเจ้าสาว” นั้นจะมีกระโปรงค่อนข้างยาว ซึ่งบางทีก็ยาวจนลากพื้นเลยก็มี นั่นทำให้พวกเธอเดินเหินหรือแม้แต่จะไปทำธุระในห้องน้ำไม่สะดวกเอาเสียเลย วันนี้ก็เลยมีเจ้าสาวคนหนึ่งมาแชร์เทคนิคที่จะทำให้สาวๆ สามารถเดินเหินสบาย แถมยังเข้าไปทำธุระในห้องน้ำได้อย่างง่ายดาย โดยที่ชุดเจ้าสาวไม่เปื้อน นั่นคือการนำ “ถุง IKEA” มาประยุกต์!?   ตัวอย่างชุดแต่งงานกระโปรงยาวๆ   เจ้าสาวคนดังกล่าวเผยนามให้เรารู้เพียงแค่ชื่อว่า Tina ชาวอังกฤษ ที่พบว่าปัญหาของชุดแต่งงานของเธอก็คือกระโปรงยาวเกินไปทำให้เธอเข้าห้องน้ำไม่สะดวก เธอจึงพยายามคิดหาทางแก้ปัญหาดังกล่าว ก่อนจะปิ๊งไอเดียมาได้ไอเดียหนึ่ง นั่นคือใช้ถุง IKEA เพื่อเก็บชายกระโปรงที่รุงรังดังกล่าวนั่นเอง     โดยเธอนำถุงดังกล่าวมาเจาะรูที่ก้นถุงและสวมมันขึ้นมาเหมือนที่สาวๆ สวมกระโปรง และชายกระโปรงสุดแสนรุงรังของชุดเจ้าสาวก็จะถูกถุงใบดังกล่าวรวบขึ้นมา นั่นทำให้เธอสามารถเดินเหินได้สบายมากยิ่งขึ้น แม้จะเข้าห้องน้ำก็ยังสามารถทำได้สบายๆ     “ฉันแต่งงานไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน (ในชุดแต่งงานทรงหางปลา (Mermaid Style Wedding Dress)) และฉันก็กังวลมาตลอดว่าจะเข้าห้องน้ำอย่างไรดี และฉันก็มักไม่สามารถอั้นมันไว้ได้นานด้วย จะต้องมีคนมาคอยดูฉัน คอยช่วยฉันฉี่ในวันแต่งงานเหรอ? ถึงเข้าคนเดียวได้ก็คงไม่มีมือที่จะจับทิชชู่มาเช็ด หรืออย่างแย่เลยก็คือประจำเดือนอาจจะมาในวันนั้น ไม่มีทาง! ของที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ก็ราคาแพงเหลือเกินเพียงเพราะมีคำว่าแต่งงานมาเกี่ยวข้อง ฉันเลยต้องหาทางประดิษฐ์มันขึ้นมาเอง ฉันเสียเงินไป 0.8 ยูโร (28 บาท) ซื้อถุงมา…

เทคโนโลยีของมนุษย์มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา จากทีวีจอแก้วในสมัยก่อน ใครจะไปคิดว่าจะกลายมาเป็นทีวีจอ OLED จอแบน ขอบบางสุดหรูเหมือนอย่างทุกวันนี้ได้ โดยในปัจจุบันทีวีพื้นฐานก็จะมีความละเอียดขั้นต่ำอยู่ที่ Full HD หรือขนาด 1920 x 1020 ถ้าดีขึ้นมาหน่อยก็จะเป็นความละเอียดแบบ 4K หรือ 3840 x 2160 ซึ่งความละเอียดในยุคต่อไปอย่าง 8K ก็เริ่มเปิดตัวมาให้เราได้ชมกันแล้วสำหรับบางยี่ห้อ แต่ดูเหมือน 8K จะธรรมดาไปสำหรับพี่ Sony ของเรา เพราะหลังจากเปิดตัวทีวี 8K พี่แกก็กระโดดข้ามไปเปิดตัวทีวี 16K เลย!!     โดยทีวีความละเอียด 16K ทาง Sony ไม่ได้เปิดเผยว่าขนาดหน้าจอนั้นใหญ่กี่นิ้วกันแน่ แต่รายละเอียดก็คือจะมีความสูงอยู่ที่ 5.4 เมตรและยาวกว่า 19.2 เมตร ซึ่งดูคร่าวๆ แล้วมันจะมีขนาดเท่ารถบัสหรืออาจใหญ่กว่า!?   ดูความสูงใหญ่ของทีวี 16K จาก Sony กันเสียก่อน   “พวกเราพัฒนาทีวี 8K…

เรียกได้ว่าในปัจจุบันนี้กระแสของ “ชาไข่มุก” นั้นมาแรงแซงทางโค้งเอามากๆ แถมไม่หยุดอยู่แค่ชาเพียงเท่านั้น ยังมีผู้ประกอบการหลายแห่งพัฒนาให้ไข่มุกนั้นไม่อยู่ในอาหารคาวหลายอย่างเสียด้วยไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า ก๋วยเตี๋ยวหรืออื่นๆ อีกมายมาย     ล่าสุดนี้ในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างมาเลเซีย เทรนด์ของไข่มุกกำลังจะก้าวขึ้นไปอีกระดับแล้ว เนื่องจากไข่มุกสุดโปรดของทุกคนได้กลายมาเป็น “หม้อไฟไข่มุก” เสียแล้ว!! โดยเจ้าหม้อไฟดังกล่าวนั้นเป็นเมนูของร้าน Galaxy Tea Bar ซึ่งตั้งอยู่ในย่าน Nagore Square เมืองจอร์จทาวน์ รัฐปีนัง สนนราคาอยู่ที่หม้อละ 29.90 ริงกิต (230 บาท)     โดยลูกค้าจะสามารถเลือกได้ว่าจะรับน้ำซุปอะไร ระหว่างนมสดและชานม และต่อมาก็สามารถเลือกได้ว่าจะใส่น้ำแข็งแห้งเพื่อทานแบบเย็นหรือจุดไฟเพื่อทานแบบร้อนก็สามารถทำได้ และนอกจากไข่มุกแล้วทางร้านก็ยังมีท๊อปปิ้งอื่นๆ ให้เลือกใส่ลงในซุปอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเผือก, ถั่วแดงและอื่นๆ อีกหลายอย่าง     หลังจากที่เรื่องราวของเจ้าหม้อไฟไข่มุกนี้กลายเป็นที่โด่งดัง ชาวเน็ตและเหล่าผู้ชื่นชอบไข่มุกก็ล้วนแต่ลองไปทานและนำมาแชร์ลงโซเชียลมีเดียของมาเลเซียเต็มไปหมด   https://www.instagram.com/p/Bvy9xyNnKQu/?utm_source=ig_embed&utm_campaign=embed_video_watch_again .   มันจะให้อารมณ์คล้ายๆ กับพวกบัวลอยบ้านเราหน่อยๆ 55   ที่มา Nextshark, Galaxy Tea Bar

ปัจจุบันนี้ เรื่องของการศัลยกรรมพลาสติกถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ใครก็สามารถทำศัลยกรรมกันได้ แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรมที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น Georgina Clarke คุณแม่วัย 41 ปีคนที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันนี้ จึงยอมให้ลูกหลับนอนกับเสี่ยเลี้ยงเพื่อหาเงินมาทำศัลยกรรมให้ทั้งตัวเองและลูก     คุณแม่เผยว่า Kayla Morris ลูกสาวที่ตอนนั้นอายุประมาณ 18 ปี เข้ามาร้องขอเธออยากจะทำศัลยกรรมปาก ซึ่งเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ต้องหาเงินมาศัลยกรรมเอง จึงเป็นที่มาที่เธอยอมให้ลูกสาวหลับนอนกับเสี่ยเลี้ยง เมื่อได้เงินมา ทั้งคู่ก็เข้ารับการศัลยกรรมพลาสติกต่างๆ นานาอยู่หลายครั้ง ซึ่งรวมๆ แล้วเสียค่าศัลยกรรมไปมากถึง 60,000 ปอนด์ (2.5 ล้านบาท) เลยทีเดียว   Kayla ผู้เป็นลูก   แต่กระนั้นทาง Kayla ลูกสาวที่ปัจจุบันนี้อายุ 23 ปีได้เผยว่าเธอนั้นหันหลังให้กับชีวิตที่ต้องศัลยกรรมแล้ว และอยากจะมีรูปลักษณ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่า เธอยังบอกอีกว่าเธอทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นว่าตัวเองดูน่าตลกขนาดไหน เธอบอกว่าศัลยกรรมครั้งแรกของเธอเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันอยากทำมันมาก มันมีสิ่งเร้ามากมายสำหรับเด็กผู้หญิงในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูล Kardashian, ไลฟ์สไตล์ในอินสตาแกรมหรืออื่นๆ มากมาย และถ้าคุณรู้สึกไม่แฮปปี้ในตัวเอง คุณก็ต้องมีเงินเพื่อจะไปทำมัน”…

ในปัจจุบันนี้ ด้วยรูปแบบของสังคมที่บีบบังคับให้เราต้องแข่งขันกับผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ความเครียด ความกดดันนั้นสะสม และบางคนจึงเลือกทางออกคือการจบชีวิตของตัวเอง เหมือนเรื่องที่หนุ่มคนนี้ไปเจอมา เมื่อเขาเจอโน๊ตข้อความตกอยู่ข้างทาง ซึ่งมีข้อความเขียนในเชิง “อยากฆ่าตัวตาย” พร้อมกับข้อความว่า “ช่วยด้วย”     ในวันที่ 5 เมษายน 2019 Aren Deu หนุ่มวัย 32 ปีจากเมืองวุลเวอร์แฮมป์ตัน สหราชอาณาจักร ได้พบกระดาษแผ่นหนึ่งตกบริเวณข้างทาง ซึ่งเป็นกระดาษที่เหมือนมาจากสมุดจดของเด็กนักเรียน โดยในกระดาษแผ่นดังกล่าวมีข้อความที่เขียนโดยลายมือของเด็กว่า “ชีวิตของฉันนั้น…” รวมถึงยังมีประโยคว่า “บางทีตายไปอาจจะดีกว่า” และ “ช่วยด้วย” พร้อมกับวาดรูปอาวุธอย่างขวานและปืนอีกด้วย     Aren เชื่อว่าคนที่เขียนโน๊ตแผ่นนี้ต้องเป็นเด็กที่ได้รับความกดดันและมีความเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตาย เขาจึงพยายามไล่หาตัวเด็กคนดังกล่าวโดยการเคาะประตูบ้านที่อยู่บนถนนเส้นนั้น แต่ก็ไม่สามารถหาข้อมูลของเด็กคนนั้นได้ เมื่อเห็นว่าหาไม่เจอ เขาจึงถ่ายรูปกระดาษแผ่นนั้น ก่อนจะนำไปโพสต์ลงโซเชียลมีเดียเพื่อขอให้ชาวเน็ตช่วยกันแชร์และตามหาเด็กคนดังกล่าวให้เขาที     “ผมอยากจะป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องร้ายแรง ผมเคยมีสมาชิกครอบครัวที่มีปัญหาสุขภาพจิตเหมือนกันและทุกๆ คนก็ล้วนแต่ต้องเคยเผชิญมันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผมอยากจะช่วยสนับสนุนและเพิ่มระดับการเฝ้าระวังเรื่องนี้และหากเราสามารถเป็นที่พักพิงให้พวกเขา มันจะช่วยให้พวกเขาผ่านวันนั้นไปได้อีกวัน มันไม่ได้แปลกที่จะรู้สึก ‘ไม่โอเค’ ในบางวัน ผมกังวลเหลือเกินว่าคนๆ นี้จะทำการฆ่าตัวตาย มันทำเอาผมนอนหลับไม่ได้เลยในคืนนั้น ผมคิดกับตัวเองว่า ‘มันเกิดอะไรขึ้นวะ?’ มันแย่มากๆ เรามีชีวิตต่อไปโดยที่เราเกือบจะลืมไปว่ายังมีคนบางคนที่อาจจะใช้วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของชีวิต”…

#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าในสมัยเด็กๆ หลายๆ คนคงเคยผ่านช่วงเวลาที่จะอวด “กล่องหรือกระเป๋าดินสอ” ให้เพื่อนๆ ดูกัน ราวกับมันเป็นแฟชั่นที่ล้ำยุคมากๆ อย่างแน่นอน และปัจจุบัน สำหรับคนที่ยังอยากได้กระเป๋าดินสอล้ำๆ อยู่ล่ะก็ ต้องมาชมกระเป๋าดินสอ “ตัวนาก” ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้เลยครับ     แน่นอนว่าตัวนากนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มี “ความมุ้งมิ้ง” มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง ดังนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่เมื่อได้เห็นตัวนากแล้วเราจะไม่หลงรักมัน ล่าสุดนี้มีการวางขายกระเป๋าดินสอตัวนากลงในเว็บไซต์ Felissimo เว็บขายของออนไลน์ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเราจะนำรายละเอียดมันมาให้ได้ชมกัน     โดยเจ้ากระเป๋าดินสอตัวนากดังกล่าวนั้นจะมีด้วยกัน 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ตัวนากตื่นกับตัวนากหลับ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีขนาดและท่าทางที่แตกต่างกันไป   มาดูกระเป๋าดินสอตัวนากหลับกันก่อนเลยดีกว่า พุงนำแบบนี้น่าลูบ น่าจิ้มเหลือเกิน!!   ข้างหลังมีซิปที่ไว้เพื่อรูดใส่ปากกา ดินสอหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยอื่นๆ     ดูอุ้งมือนี่สิ น่าร้ากกกก   ดูท่าจะนุ่มน่าดู เลยจับมาใช้เป็นที่รองแขนตอนพิมพ์ก็ไม่เลวนะเนี่ย   มาดูอีกแบบกันบ้าง กับกระเป๋าดินสอตัวนากตื่น   มีซิปใส่ดินสอ ปากกาเช่นเดียวกันนาจา…

หากเรานึกถึง “ประเทศออสเตรเลีย” แล้ว คงนึกไปถึงสัตว์นานาสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นโคอาลา จิงโจ้ หรือ วอมแบต ซึ่งชาวออสเตรเลียก็รักในสัตว์พวกนี้มากๆ ดังนั้นพวกเขาจึงหัวร้อนเมื่อเห็นว่ามีคนนำพวกมันไปดูแลได้ไม่ดี เหมือนอย่างคราวนี้ที่เห็นว่าสวนสัตว์ในอเมริกาดูแลจิงโจ้ได้ไม่ดี จึงได้ล่ารายชื่อเพื่อขอนำจิงโจ้กลับมายังออสเตรเลีย     ไม่นานมานี้ได้มีคลิปวิดีโอตัวหนึ่งถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ซึ่งในวิดีโอเราจะเห็นมีจิงโจ้ตัวหนึ่งถูกขังอยู่ในกรงขนาดเล็ก แถมยังไม่มีการตกแต่งใดๆ ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าวสร้างความไม่พอใจกับชาวออสเตรเลียเป็นอย่างมาก ตัดสินใจล่ารายชื่อเพื่อต่อรองนำตัวเจ้าจิงโจ้กลับมายังออสเตรเลีย     โดย Danielle Lee ผู้ริเริ่มการล่ารายชื่อได้กล่าวไว้ว่า “ผมได้เห็นวิดีโอของจิงโจ้ออสเตรเลียที่ถูกดูแลใน Commerford Petting Zoo รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกามาแบบผ่านๆ ตา เจ้าจิงโจ้มันถูกขังอยู่ในพื้นที่แคบๆ และจริงๆ มันสมควรจะได้อยู่ข้างนอกพร้อมกับจิงโจ้ตัวอื่นๆ ตามธรรมชาติของพวกมัน ดังนั้นผมเลยหวังว่าเราจะสามารถพามันมาอยู่ที่เขตอนุรักษ์สัตว์ป่าในออสเตรเลีย มาพาจิงโจ้ของเรากลับบ้านกันเถอะ ผมเริ่มล่ารายชื่อนี้ขึ้นมาก็เพิ่มหวังนำเจ้าจิงโจ้ออกมาจากสภาพแวดล้อมแบบนั้น หวังให้มันกลับมาที่ออสเตรเลีย (ซึ่งมันยุ่งยาก ผมรู้) อย่างน้อยก็หวังให้เขตอนุรักษ์สัตว์ป่าในอเมริการับมันไปอยู่กับจิงโจ้ตัวอื่นๆ ก็ได้”      หลังจากเรื่องนี้เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปยังโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย “พระเจ้าช่วย นี่มันแย่มากๆ เจ้าสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสารจะเดินไปไหนก็ไม่ได้เพราะถูกขังอยู่ในกรงเล็กๆ” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา “มนุษย์ช่างปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรมกับเด็กน้อยที่น่าสงสารตัวนี้” ชาวเน็ตอีกคนกล่าว   ที่มา Ladbible,…

“การดูดฝุ่น” ถือว่าเป็นหนึ่งในงานบ้านที่มนุษย์ต้องทำการเป็นประจำ ซึ่งหลายคนอาจจะรู้สึกว่าการดูดฝุ่นเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก และถ้าเพื่อนๆ กำลังมีอาการเบื่อกับการดูดฝุ่น โฆษณาของ Xiaomi ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ จะทำให้เพื่อนเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการดูดฝุ่นไปเลย     เพราะในคราวนี้ Xiaomi ทำการปล่อยภาพโฆษณาเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่น Xiaomi Mijia Handheld Wireless Vacuum Cleaner ออกมาให้เราได้ชมกันในคอนเซปต์ “จอมยุทธ์” สุดเท่ ทำเอาพ่อบ้าน แม่บ้านต่างคลั่งไคล้ โดยเจ้าเครื่องดูดฝุ่นไร้สายตัวนี้มีพลังดูดอยู่ที่ 100 AW ซึ่งมาพร้อมกับโหมดการใช้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบยาว แบบสั้นให้เราเลือกใช้กันตามความเหมาะสม   อ่ะโจ้ว!! จอมยุทธ์หมวกกุยเล้ย   กระบี่เดียวดาย   สุดเท่!!   โหมดยาวก็ถูสบาย   เหล่าแม่บ้านก็ใช้ได้นะ   ดาบคู่ไปเล้ย   เครื่องดูดฝุ่นที่เท่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว   เฉียบ!!   โดยเจ้าเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่นี้สนนราคาอยู่ที่ 1,299 หยวน (6,200 บาท)…

ปัจจุบัน “กัญชา” เริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์หรือด้านอื่นๆ ก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่ใช่ทุกประเทศที่ให้การยอมรับกัญชาไปเสียหมด อย่างเช่นในประเทศไอร์แลนด์ ที่มีหนุ่มคนหนึ่งเดินทะเล่อทะล่าเข้าไปหาตำรวจเพื่อบ่นเรื่องคุณภาพของสินค้าที่เขาซื้อมาไม่ได้คุณภาพ แต่สินค้าที่เขาบ่นดันเป็น “กัญชา” !!     วันที่ 8 เมษายน 2019 เว็บไซต์ Independent ได้รายงานว่า Arthur Liwembe ชาวไอร์แลนด์วัย 33 ปีได้เดินเข้าไปในสถานีตำรวจเพื่อจะบ่นถึงคุณภาพของกัญชามูลค่า 10 ยูโร (360 บาท) ที่เขาซื้อมาให้เจ้าหน้าที่ฟัง โดยเขาได้พูดกับเจ้าหน้าที่ว่า “คุณภาพมันไม่ดีเสียเลย” และนั่นก็ทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ไปซื้อมันมา     ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่เขาพูดเรื่องดังกล่าวกับตำรวจคืออะไร บางทีอาจจะเป็นให้ตำรวจช่วยจับผู้ขายหรือบางทีอาจจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยลองให้เขาหน่อยว่าเขาไม่รู้สึกไปคนเดียว… อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตำรวจได้ยินเรื่องกัญชา ก็เข้าจับกุมเขาทันที เนื่องจากการครอบครองกัญชาในประเทศไอร์แลนด์นั้นถือว่าผิดกฎหมาย ก่อนจะทำการค้นตัวและพบมีดคัตเตอร์ที่เขาใช้ประกอบอาชีพนักรับจ้างสารพัด เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดเอาไว้ จากนั้นทางกรมตำรวจก็ทำได้การส่งตัวของเขาเข้าสู่กระบวนการศาล แต่ทางศาลเชื่อว่าเขานั้นมีอาการทางจิต จึงทำการปล่อยตัวเขาออกไป     แต่เจ้ากรรมเพียงถัดไปไม่กี่วัน Liwembe ก็ถูกจับอีกครั้ง เมื่อเขากลับมาที่สถานีตำรวจเพื่อขอมีดที่ถูกยึดไปคืน และเมื่อเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะให้คืน เขาก็แสดงกิริยารุนแรง ก้าวร้าวออกมา โดยทางทนายความของเขาได้กล่าวว่า…

ในต่างประเทศ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดนั้นถือว่ามีอยู่มากมายหลายแบรนด์และสามารถหากินได้ง่ายๆ ดังนั้นเราจึงเห็นกลุ่มวัยรุ่นที่สนใจหารายได้พิเศษหรือคนที่กำลังเรียนอยู่นิยมมาทำงานเป็นพนักงานร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดกัน     แต่ดูเหมือนว่าการทำงานอาหารฟาสต์ฟู้ดจะเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นได้อีกไม่นานเสียแล้ว เมื่อล่าสุดเว็บไซต์ Bloomberg ได้เผยว่าเหล่าผู้บริหารร้านฟาสต์ฟู้ดทั้งหลายมีการว่าจ้าง “ผู้สูงอายุ” มาทำงานมากขึ้น โดยพนักงานจัดหาแรงงานได้เปิดเผยว่าที่แนวโน้มการว่าจ้างผู้สูงอายุมากขึ้น เนื่องจากพวกเขา (ผู้สูงอายุ) มีทักษะหลายอย่างที่ทำได้ดีกว่า อย่างเช่นท่าทางที่เป็นมิตรและนิสัยที่ตรงต่อเวลา ที่เป็นเรื่องที่กลุ่มวัยรุ่นขาด     ทาง Bloomberg ได้เผยแนวโน้มอีกว่าในช่วงปี 2014 ถึง 2024 แรงงานวัย 75 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นถึง 6.4% และแรงงานวัย 65 ถึง 74 จะเพิ่มขึ้น 4.5% ในตลาดแรงงาน ในขณะเดียวกันแรงงานกลุ่มวัยรุ่นที่อายุ 16 ถึง 24 ปีจะมีอัตราลดลงถึง 1.4%     ซึ่งจากรายงานทางผู้สูงอายุที่ได้รับโอกาสให้กลับมาทำงานได้อีกครั้ง นั้นดูเหมือนจะมีความสุขมากกว่ากลุ่มวัยรุ่นอีกด้วย Stevenson Williams ผู้จัดการวัย 63 ปีของ Church’s Chicken กล่าวว่า “มันสนุกพักเดียวเท่านั้นแหละ…

“นินจา” หรือ “ชิโนบิ” คือชื่อเรียกของกลุ่มสายลับของประเทศญี่ปุ่นในสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันก็ได้ปรากฏออกมาให้แฟนๆ ที่ชื่นชอบได้เห็นกันอยู่บ่อยๆ ผ่านทางการ์ตูนและภาพยนตร์ และสำหรับใครที่อยากจะมีประสบการณ์การเป็นนินจาดูสักครั้ง ล่าสุดนี้ที่ปราสาทโอดาวาระ จังหวัดคานางาวะ ประเทศญี่ปุ่นได้จัดกิจกรรมใหม่ ให้คุณสวมบทเป็นนินจาและได้ลองปฏิบัติภารกิจจริงๆ !!   .   โดยกิจกรรมดังกล่าวก็คือ Odawara Castle Ninja Museum ซึ่งจะทำการจำลองพื้นที่ในปราสาทให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์นินจา ซึ่งในสมัยก่อนนั้นปราสาทโอดาวาระ ถือว่าเป็นที่ฐานที่มั่นของซามูไรตระกูลโฮโจ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มนินจาฟูมะ ในพิพิธภัณฑ์นินจาแห่งนี้จะมีไฮไลท์คือการเชื่อมโยงระหว่างสองยุคสมัย ที่จะเริ่มต้นด้วยการฉายวิดีโอประวัติความเป็นมาเพื่อให้ผู้ชมได้รู้ที่มาที่ไปของนินจา   .   นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ผู้เข้าชมได้ลองเล่น พร้อมกับรับบทบาทเป็นนินจาที่ต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อป้องกันปราสาทโอดาวาระให้ได้ โดยจะมีภารกิจที่ต้องใช้วิชานินจาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการพรางตัว, ลักลอบ, การแทรกซึม, การสังเกตการณ์ รวมไปถึงภารกิจปาดาวกระจาย ก่อนจะจบลงด้วยบทสรุปของเรื่องราวนินจาของคุณ   . .   สุดท้ายนี้ทางพิพิธภัณฑ์นินจานี้จะเปิดให้บริการในวันที่ 20 เมษายน 2019 ที่กำลังจะถึงนี้ โดยจะเปิดให้บริการ 10.00 น. – 16.00 น. และมีค่าเข้าชมอยู่ที่…

Jeff Bezos เจ้าของเว็บไซต์ขายของออนไลน์อันดับต้นๆ ของโลกอย่าง Amazon โดยปัจจุบันเขาถือว่าเป็น “บุคคลที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งของโลก” ในช่วงที่ผ่านมาเราคงได้ยินเรื่องที่เขากำลังจะหย่ากับ MacKenzie Bezos อดีตภรรยาที่แต่งงานกันมายาวนาน ซึ่งก็เรียกการคำนวณแบ่งค่าสินสมรสกันอย่างวุ่นวาย     พวกเขาทั้งสองนั้นแต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 1993 ก่อนที่ Jeff Bezos จะก่อตั้ง Amazon ขึ้นเสียอีก พวกเขามีลูกด้วยกันทั้งหมด 4 คน ชีวิตรักของพวกเขาหวานชื่นมากว่า 25 ปีก่อนจะตัดสินใจหย่ากันในไม่นานมานี้ ซึ่งล่าสุดนี้การหย่าของพวกเขาก็บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย โดย Jeff Bezos ตัดสินใจยอมรับแบ่งสินสมรสมูลค่า 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท) ให้แก่ฝ่ายภรรยา     จากรายงานของ Bloomberg คาดการณ์ว่า หลังจากที่ Jeff Bezos ได้ทำการหย่ากับภรรยา เขาจะกลายเป็นคนที่ถือหุ้นของบริษัทรวมทั้งหมด 75% จากการสละทรัพย์สินของภรรยาที่ให้เป็นสิทธิ์ของเขาเพียงผู้เดียว แต่อย่างไรอดีตภรรยาของผู้ก่อตั้งบริษัท Amazon นั้นจะยังมีสัดส่วนในการถือหุ้นของบริษัท Amazon อยู่ราวๆ…

เมื่อเวลาผ่านไป หลายๆ อย่างบนโลกเรานั้นก็เปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่น อาหารการกินหรืออื่นๆ เช่นเดียวกันในวงการวิดีโอเกมก็มีการเปลี่ยนจากสมัยก่อนอยู่มาก เนื่องจากเกมเดี๋ยวนี้มักเน้นทำกำไรจากกล่องสุ่มไอเทมในเกม ที่เราเรียกกันว่า “กาชา” หรือ “ลูกบ๊อกซ์” ไม่เว้นแม้แต่ค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Square Enix ที่ก็มีผลิตเกมที่เน้นการเปิดกาชามาให้เราเห็นอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนเขาจะตั้งเรทการเปิดได้ของดีต่ำไปเสียหน่อย ล่าสุดเลยถูกผู้เล่นส่งอีเมลขู่ฆ่ามาที่บริษัทเสียอย่างนั้น     ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2019 บริษัท Square Enix สาขากรุงโตเกียว ได้รับอีเมลฉบับหนึ่ง ซึ่งข้างในมีข้อความว่า “พนักงานของ Square Enix!! พรุ่งนี้ตูจะมาฆ่าพวกมึง ล้างคอไว้ได้เลย” หลังจากได้รับข้อความดังกล่าว ก็ทำเอาบริษัทวุ่นวายไปสักพัก ก่อนทางบริษัทจะรีบโทรแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเขตชินจูกุ     ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนอยู่สักพักหนึ่ง ในที่สุดก็สามารถระบุตัวคนร้ายและสามารถเข้าจับกุมได้สำเร็จ โดยคนร้ายเป็นหนุ่มอายุ 25 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองโยชิโนกาวะ จังหวัดโทกุชิมะ หนุ่มคนดังกล่าวทำงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการพยาบาล และถูกดำเนินคดีในวันที่ 29 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา เขาเผยว่าที่ทำไปเพราะว่าเสียเงินไปกับเกมเยอะและยังไม่ได้ของที่ต้องการ “ผมเสียเงินไปมากกว่า 200,000 เยน (57,000…

มนุษย์แต่ละคนบนโลกใบนี้ล้วนแต่มี “รสนิยม” ที่ไม่เหมือนกัน ในขณะที่บางคนชอบอีกอย่าง ก็มีคนอีกกลุ่มชอบอีกอย่างอยู่เช่นกัน รวมถึง “รสนิยมทางเพศ” ก็ด้วย และดูเหมือนว่ารสนิยมทางเพศของสามีคนที่เราจะกล่าวถึงนี้จะไม่ถูกใจฝ่ายภรรยาสักเท่าไหร่ ฝ่ายภรรยาเลยทำการแจ้งตำรวจ เนื่องจากถูกสามีนำ “แตงกวา” มาตีเธอขณะบังคับเธอให้มีเซ็กส์ด้วย     เรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมือง Kangar รัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย เมื่อภรรยาวัย 44 ปีทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของสามีวัย 57 ปี ที่ชอบนำแตงกวาที่มีผิวขรุขระและวัตถุแข็งๆ อย่างอื่นมาตีเธอขณะมีเซ็กส์ ในวันที่ 27 มีนาคม 2019 ที่เพิ่งผ่านมา ทางฝ่ายภรรยาจึงตัดสินใจที่จะนำเรื่องดังกล่าวไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐปะลิส โดยทาง Datuk Noor Mushar Mohd หัวหน้ากรมตำรวจปะลิสได้เผยว่าครั้งล่าสุดที่เธอถูกบังคับให้ร่วมมีเซ็กส์แบบรุนแรงกับสามีนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดินพฤศจิกายน 2018     นอกจากนี้จากรายงานพบว่าตามร่างกายของฝ่ายภรรยายังมีรอยช้ำมากมายหลายจุด เนื่องจากถูกทางสามีใช้แตงกวาและของแข็งต่างๆ ตีเธอ แถมยังเคยต่อยเธอเข้ากลางหน้าหลังจากที่เธอขอคุยเรื่องพฤติกรรมการมีเซ็กส์แบบรุนแรงของเขา สุดท้ายนี้ตั้งแต่ที่ภรรยาเข้าแจ้งความ ทางฝ่ายสามีก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งทางตำรวจก็พยายามที่จะทำการสืบสวนข้อมูลของเขาต่อไป   ที่มา WorldofBuzz, Astro Awani

หอพัก อพาร์ตเมนต์ หรือห้องแถวที่เราเช่าหรือซื้ออยู่ แม้ว่าเราจะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของที่นั้นๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราควรจะมีมารยาทในการอยู่อาศัย การกระทำของเราจะได้ไม่ไปรบกวนเพื่อนบ้านจนเกิดความข้องใจกัน เหมือนอย่างเรื่องของสามีภรรยาคู่ที่เราจะนำมาให้ชมกันในวันนี้ ที่ “เลี้ยงผึ้ง” เป็นหมื่นตัวในอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง ซึ่งสร้างความหวาดกลัวและความคับข้องใจให้แก่เพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก     เรื่องนี้เกิดขึ้น ณ เมืองหลิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ทางทิศตะวันออกของประเทศจีน มีสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ทำการเลี้ยงผึ้งเป็นหมื่นตัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง เพื่อจะนำเหล็กในมันมาใช้เป็นเครื่องมือทางแพทย์ ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในระแวกนั้นก็เห็นอยู่บ่อยครั้งที่ผึ้งเหล่านั้นออกมาบินเพ่นพ่านนอกอพาร์ตเมนต์ของพวกเขา แถมยังทิ้ง “ขี้ผึ้ง” เอาไว้ระเกะระกะเต็มระเบียงบ้านคนอื่นหรือเสื้อผ้าของคนอื่นที่ตากอยู่ก็ด้วย     ตามรายงานพบว่าทางนิติบุคคลของอพาร์ตเมนต์เคยพยายามให้สองสามีภรรยานำผึ้งออกจากอพาร์ตเมนต์หลายครั้งแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ยอมปฏิบัติตามคำขอเลยสักครั้ง และเมื่อนานวันเข้า ชาวบ้านระแวกนั้นก็ทนไม่ไหว สุดท้ายต้องโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นเพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหา     ในวันที่ 29 มีนาคม 2019 ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มายังที่เกิดเหตุถามคำร้องแจ้งและเข้าพูดคุยกับฝ่ายภรรยาพร้อมเหตุผลว่าผึ้งเหล่านี้สร้างความเสียหายให้แก่เพื่อนบ้าน “มันทำให้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คนอื่นๆ ลำบากนะครับ นี่มันเป็นเหมือนกับระเบิดเวลา มันจะเป็นยังไงหากมีคนถูกมันต่อย คุณคิดถึงเรื่องนั้นบ้างรึเปล่า?” เจ้าหน้าที่พูดกับฝ่ายภรรยา “ถูกต่อยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นี่ ฉันก็เคยถูกต่อยมาบางครั้งนะ แต่ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย พวกเราจำเป็นต้องเลี้ยงผึ้งเหล่านี้ เราไม่อยากย้ายมันไปไหน” ภรรยาตอบกลับ     แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ได้บอกกับฝ่ายภรรยาว่าเขาสามารถตั้งข้อหาแล้วปรับเธอได้ 200 –…

ไม่ใช่เฉพาะพ่อแม่เท่านั้นที่อยากเห็นลูกของคนมีความสุขกับชีวิต แต่คนเป็นลูกก็ย่อมอยากให้พ่อแม่และครอบครัวของตนมีความสุขด้วย เหมือนอย่างเด็กน้อยวัย 13 ปีคนนี้ ที่เห็นคุณแม่เครียดและไม่มีความสุขกับชีวิตเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา เขาจึงขายเครื่องเล่นเกมสุดรัก พร้อมกับทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาซื้อรถให้คุณแม่ได้ใช้   Such an inspiring story! A family in Fernley recently had to start life over from scratch. To help provide for his single mother and family, the 13-year-old son bought his mom a car! The one of a kind story airing tonight exclusively on @KOLO8 News at…

#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าต้องมีเพื่อนๆ บางคนที่เคยคิดอยากมีชีวิตแบบน้องหมากันมาบ้าง แบบกินอิ่มก็นอน นอนเสร็จก็ออกมาวิ่งเล่น ดูแล้วช่างแสนสบาย และในวันความคิดนั้นจะไม่ใช่ความคิดอีกต่อไป เมื่อมีชายอายุ 37 ปีคนหนึ่งจากเมือง Salford มณฑล Greater Manchester ประเทศอังกฤษ ตัดสินใจใช้ชีวิตอย่างน้องหมาจริงๆ     โดยชายคนดังกล่าวคือ Kaz James ชายวัน 37 ปี ผู้จัดการร้านขายของชำ ได้เผยว่าเขาเริ่มตระหนักได้ว่าเขามีพฤติกรรมคล้ายน้องหมาได้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แต่ไม่เคยนำเรื่องดังกล่าวคุยกับเพื่อนหรือครอบครัวเลยสักครั้ง “ผมเริ่มรู้ว่าตัวเองมีนิสัยเหมือนน้องหมาตั้งแต่ยังเด็ก อาจจะประมาณ 6 ขวบ ซึ่งผมไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครเลย ไม่เคยพูดถึงสักครั้งเดียว จนกระทั่งบ้านของผมมีอินเตอร์เน็ต ผมเริ่มต้นพูดคุยกับผู้คนที่เป็นเหมือนผมที่อยู่บนอินเตอร์เน็ต ตามกลุ่มต่างๆ หรือเว็บบอร์ดต่างๆ และผมกังวลมากๆ ตอนที่จะเริ่มพูดกับพวกเขาครั้งแรก ผมต้องแอบพ่อแม่ลงบันไดมาตอนตีสามเพื่อมานั่งเล่นอินเตอร์เน็ต ผมต้องใช้หมอนมากดโมเด็มเน็ตเอาไว้ เพื่อที่พ่อแม่จะได้ไม่ได้ยินเสียงต่อเน็ต ผมโคตรกลัวเลย กลัวว่าถ้าผมพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง เขาจะต้องทำเหมือนกับว่าผมเป็นคนบ้า” Kaz กล่าว     เขายังเผยอีกว่าเขานั้นไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นมนุษย์ เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นหมาอยู่ตลอดเวลา เขาจะรู้สึกว่าเป็นตัวเองและสบายใจมากๆ หากได้พบกับคนที่เป็นเหมือนกับเขา นอกจากจะเป็นผู้จัดการร้านขายของชำแล้ว…

หากคนไข้ป่วยเป็นโรคที่ร้ายแรงจริงๆ บางทีแพทย์ก็จะใช้วิธีตัดอวัยวะบางส่วนเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยเอาไว้ ซึ่งเราก็คงเคยเห็นข่าวของผู้ป่วยที่ถูกตัดอวัยวะอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นมือ, ขา หรือลูกอัณฑะก็ตาม เหมือนอย่างที่ทาง NHS (National Healthcare Service) หน่วยงานบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานในอังกฤษ ได้ผ่าตัดลูกอัณฑะเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยไป 159 รายใน 7 ปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดนี้พวกเขากำลังถูกหนึ่งในผู้ป่วยที่เขาทำการรักษาไปฟ้องเรียกเงินกว่า 3 ล้านปอนด์ (125 ล้านบาท) เพราะว่าเขาถูกตัดลูกอัณฑะผิดคน!!     วันที่ 1 เมษายน 2019 เว็บไซต์ The Sun ได้รายงานว่าปกติแล้วทาง NHS จะมีค่าชดเชยให้กับคนไข้ที่เขาทำการผ่าตัดลูกอัณฑะผิดหนึ่งลูกอยู่ที่ 20,000 ปอนด์ (840,000 บาท) แต่ถ้าหากพวกเขาผ่าตัดผิดพลาดจนทำให้คนไข้ไม่เหลือลูกอัณฑะอยู่เลยก็จะมีค่าชดเชยให้ 70,000 ปอนด์ (3 ล้านบาท)     แต่ดูเหมือนว่าคนไข้อายุ 48 ปีคนหนึ่งที่ถูกพวกเขาผ่าตัดเอาลูกอัณฑะออกผิดคนเมื่อปี 2013 จะไม่ยอมรับค่าชดเชยนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะดำเนินการทางกฎหมายกับทาง NHS โดยในครั้งนี้เขาทำการฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายกับ NHS…

ในวันที่ 1 เมษายน 2019 ทางรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นได้มีการประกาศชื่อยุคใหม่ภายใต้การก้าวขึ้นครองราชของเจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น โดยชื่อนั้นคือ “ยุคเรวะ (Reiwa)” ซึ่งทันทีที่ประกาศชื่อของศักราชแห่งญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ก็ฮือฮาไปตามๆ กัน     ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ก็พบว่ามีชาวญี่ปุ่นหลายพันคนไปรออยู่หน้าร้านขายหนังสือพิมพ์ เพื่อที่จะรอซื้อหนังสือพิมพ์รอบบ่ายประจำวันที่ 1 เมษายน 2019 นั่นเอง และทันทีที่นาฬิกาได้โชว์เวลา 13.00 น. ผู้คนเหล่านั้นก็ต่างกรูกันเข้าไปแย่งซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว จนถึงขั้นมีคนเจ็บตัวหรือพยายามจะขโมยหนังสือพิมพ์ของคนก็มี   ณ ย่านอิเคะบุคุโระในโตเกียว 池袋東口で、令和号外争奪戦してるw pic.twitter.com/62x7h2Q5Gg — みつみん (@mitsumintw) April 1, 2019   ในโอซาก้าก็มีคนมุงรอซื้ออยู่เต็มไปหมดเช่นกัน 令和号外チャレンジin大阪駅 pic.twitter.com/rZc3ZPxa0W — ミスターテンチョー (@MrTentyoo) April 1, 2019   หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวถือว่ามีความต้องการสูงมากๆ และแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นได้ทัน จึงมีคนหัวใสนำมันออกมาประมูลในเว็บไซต์อย่าง Mercari และ Yahoo! Auctions…

ในยุคแห่งอินเตอร์เน็ตอย่างปัจจุบันนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่เราหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลที่เราไม่รู้ได้ง่ายๆ โดยการเสิร์ชผ่านกูเกิล และวิธีการดังกล่าวก็มีนักเรียนบางคนนำไปใช้ในการสอบวัดความรู้อยู่หลายครั้ง ซึ่งสำหรับทางฝ่ายคุณครูผู้สอนหลายคนนั้นก็มองว่าวิธีดังกล่าวถือเป็นการโกงข้อสอบวิธีหนึ่ง     แต่ดูเหมือนว่า Shane Hogan ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรี Kambala ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียไม่คิดอย่างนั้น เพราะเขาได้เสนอแนวคิดใหม่ขึ้นมาว่าให้นักเรียนสามารถใช้อินเตอร์เน็ตขณะสอบ HSC (ข้อสอบที่คล้ายกับเอนทรานซ์บ้านเรา) ได้โดย Shane ได้เผยว่าสิ่งที่เขาเสนอไปนั้นจะช่วยพัฒนาประสบการณ์และคุณภาพเด็กได้อย่างดี     “คุณต้องคิดย้อนกลับไปถึงอดีตว่าการสอบ HSC มันถูกออกแบบมาเพื่ออะไร หากเราจะทำการทดสอบเด็กนักเรียน ก็ควรที่จะให้เขาใช้เครื่องมือต่างๆ ที่เขาจะสามารถใช้มันได้จริงๆ ในยามที่เขาต้องไปทำงานในอนาคต เหล่านักเรียนต้องทำการเตรียมเนื้อหาก่อนที่จะเข้าห้องสอบ ซึ่งทั้งหมดมันเกือบไม่ตรงประเด็นเลย มันไม่เกี่ยวว่าพวกเขาจะเรียนลึกขนาดไหน จะตั้งใจเรียนขนาดไหน มันคือการแข่งขันเข้าเส้นชัยเท่านั้น มันได้เวลาแล้วที่ HSC จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่” Shane Hogan ได้ให้สัมภาษณ์กับคลื่นวิทยุ 2GB     ซึ่งที่เขาพูดมา #เหมียวโคบี้ ก็ว่ามีเหตุผลอยู่ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดว่าเรื่องที่เขาพูดมานี้เป็นอย่างไร?   ที่มา Ladbible

“แฝดแท้” คือฝาแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียว มีชุด DNA ชุดเดียวกันและนั่นก็ทำให้พวกเขาจะมีรูปร่างและหน้าตาที่ใกล้เคียงกันจนแยกแทบไม่ออก ซึ่งการที่เป็นแฝดแท้นี้ ก็มีข้อดี(หรือเปล่า?)หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นสวมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของแฝดอีกคนได้ แถมบางทียังเนียนใช้บัตรประชาชนหรือใบขับขี่ใบเดียวกันได้อีกต่างหาก เหมือนอย่างเรื่องของฝาแฝดชาวจีนที่เราจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟัง พวกเขาแอบเนียนใช้ใบขับขี่ใบเดียวกันมาเป็นเวลาประมาณ 20 ปี แต่ดันโป๊ะแตก เพราะมีแฝดคนหนึ่งผมเริ่มร่วงและหัวเริ่มล้านซะอย่างนั้น     วันที่ 29 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Dailymail ได้ทำการรายงานข่าวของคู่แฝดสกุล Yan คู่หนึ่งที่อาศัยอยู่ที่เมืองเจียมู่ซื่อ มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศจีน ซึ่งพวกเขาใช้ใบขับขี่ใบเดียวกันมาตั้งแต่ 20 ปีก่อน โดยก่อนหน้านี้พวกเขาก็เนียนใช้ได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งปี 2017 เมื่อหนึ่งในแฝดหัวเริ่มผมร่วงและหัวล้าน ประจวบกับที่อีกแฝดอีกคนหนึ่งถูกตำรวจจับพอดี ซึ่งหลังจากถูกจับ เขาก็ตีเนียนแล้วนำใบขับขี่ของฝาแฝดให้แก่ตำรวจเหมือนอย่างที่เคยทำตามปกติ แต่คราวนี้แผนไม่เป็นไปอย่างที่เขาต้องการ แม้ว่าหน้าตาจะเหมือนกันก็ตาม แต่เมื่อตำรวจนำชื่อไปค้นฐานข้อมูลดูก็รู้ว่าแฝดคู่ดังกล่าวมีคนหนึ่งที่ยังมีผมอยู่ ส่วนอีกคนผมล้านแล้วและตำรวจก็บังคับให้เขาถอดหมวกมาดู     เมื่อจำนนต่อหลักฐาน ชายคนดังกล่าวก็ยอมรับสารภาพอย่างโดยดีว่าเขามักปลอมเป็นแฝดอีกคนอยู่เสมอและใช้ใบขับขี่ใบเดียวกันมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว “ผมใช้ใบขับขี่ใบเดียวกับน้องชายฝาแฝดของผมมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว เพราะพวกเราเป็นฝาแฝดกันยังไงล่ะ พวกเราเลยดูเหมือนกันมากๆ” แฝดพี่กล่าว…

เราคงเคยเห็นแฟนคลับที่ไปรอต้อนรับศิลปินหรือดาราดังตอนที่สนามบินกันอยู่บ่อยๆ และเมื่อศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบลงมา ก็จะกรูกันเข้าไปขอลายเซ็นหรือถ่ายรูปกันเต็มไปหมด แต่ก็มีบางกรณีที่มีแฟนที่คลั่งไคล้พวกเขามากๆ หรือที่วัฒนธรรมเกาหลีเรียกว่า Sasaeng fan ตามพวกเขาไปทุกหนทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่เวลาส่วนตัว จนทำเอาวุ่นวายไปหมด ล่าสุดก็มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้งกับอดีต Park Woo Jin ศิลปินชื่อดัง อดีตสมาชิกวง Wanna One ที่ถูก Sasaeng fan ตามติดจนต้องวิ่งหนีไปด้วยความเร็ว     ในวันดังกล่าว Park Woo Jin กำลังจะบินกลับประเทศเกาหลีใต้ จากสนามบินสุวรรณภูมิ หลังไปถ่ายรายการวาไรตี้โชว์ “Laws of the Jungle” ในประเทศไทยมา ระหว่างที่กำลังเดินอยู่ในสนามบินนั้นเต็มไปด้วยกลุ่ม Sasaeng fan ที่มารอเขาอยู่ ก่อนจะกรูกันเข้าหาและเดินตาม Park Woo Jin ไปติดๆ และทันทีที่ Park Woo Jin หันหลังกลับมาดู ก็พบว่าเขาเห็นกลุ่มแฟนหลายคนที่กรูเข้ามาหาเขา เขาก็ตัดสินใจที่จะวิ่งหนีกลุ่มแฟนที่คลั่งไคล้เขาออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยอย่างรวดเร็ว   วินาทีเกิดเหตุ   …

เราคงเคยเห็นการ์ตูนหรือนวนิยายชื่อดังที่มีเนื้อเรื่องดัดแปลงมาจากเรื่องจริงหรือคำสอนในศาสนาต่างๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งบางทีมันก็กระทบต่อความเชื่อของคนบางกลุ่ม เมื่อเร็วๆ นี้จึงมีกลุ่มนิกายคาทอลิกกลุ่มหนึ่งในประเทศโปแลนด์ตัดสินใจเผานวนิยายชื่อดังอย่าง Harry Potter และ Twilight โดยให้เหตุผลว่าหนังสือเหล่านั้นทำให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แปดเปื้อน     โดยในวันที่ 31 มีนาคม 2019 กลุ่มผู้เผยแแผ่ศาสนา SMS From Heaven ได้โพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊ก แสดงให้เห็นสิ่งของหลายอย่างที่กำลังถูกโยนลงกองไฟ เนื่องจากพวกเขาคิดว่าไม่เหมาะสม “ของที่มีเนื้อหาทำนายดวงชะตาทั้งหมดควรถูกทำลาย: พวกที่กล่าวถึงซาตานหรือปิศาจ เกี่ยวข้องกับความตายหรือมีการคาดเดาอนาคต การใช้คำทำนายดวงชะตา โหราศาสตร์หรือการดูลายมือเพื่อพยากรณ์ การกระทำเหล่านี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับความเคารพและนับถือ บวกกับความกลัวที่จะรัก สิ่งเหล่านี้เป็นของพระเจ้าเท่านั้น” กลุ่มเผยแผ่ศาสนากล่าว   .   ซึ่งสิ่งของดังกล่าวก็มีตั้งแต่รูปปั้นช้าง, หน้ากากของชนเผ่า, ร่มสีชมพู และหนังสือต่างๆ อีกมากมาย รวมไปถึงนวนิยายอย่าง Harry Potter กับ Twilight ด้วย โดยกลุ่มเผยแผ่ศาสนาดังกล่าวถือว่าเป็นกลุ่มที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน พวกเขาเชื่อว่านวนิยายอย่าง Harry Potter นั้นกำลังทำลายความเชื่อที่เด็กๆ มีต่อศาสนา สมาชิกกลุ่มบางส่วนก็เชื่อว่านิยายของ JK Rowling นั้นมีการต่อสู้กันระหว่างตัวเอกกับเจ้าแห่งศาสตร์มืดอย่าง…

เด็กๆ นั้นถือว่าเป็นวัยที่เชื่อฟังผู้ใหญ่เป็นอย่างดี เหมือนอย่างเรื่องที่เราจะนำมาให้ชมกันในวันนี้ เมื่อเด็กน้อยวัย 11 ปีคนหนึ่งยอมทิ้งเงินเก็บให้คุณแม่ หลังคุณแม่ล้อเล่นว่าไม่มีเงินพอซื้อชุดประจำชาติ   https://twitter.com/ayuuazmi/status/1108681831832928256?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1108681831832928256&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.worldofbuzz.com%2Fsweet-11yo-boy-leaves-rm76-for-mother-as-she-didnt-have-enough-to-buy-a-new-tudung%2F   วันที่ 21 มีนาคม 2019 มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @ayuuazmi โพสต์ภาพพร้อมแคปชั่นว่า “ลูกพี่ลูกน้องวัย 11 ปีของฉัน” โดยภาพดังกล่าวคือภาพของคุณแม่คนหนึ่งที่โพสต์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องน่ารักๆ ของลูกชายของเธอว่าก่อนหน้านี้เธอเคยล้อเล่นกับลูกชายว่าเธอไม่มีเงินพอซื้อชุด Tudung (ชุดประจำชาติของมาเลเซีย)     แต่อย่างก็อย่างว่า เด็กมักเชื่อคนอื่นง่ายๆ ในเช้าวันต่อมาเธอก็ต้องเซอร์ไพรส์ เมื่อลูกชายวัย 11 ขวบของเธอได้ทิ้งซองจดหมายซองหนึ่งเอาไว้ให้แก่แม่ของเขา โดยหน้าซองของจดหมายมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า “ผมขอขอบคุณกับหลายๆ สิ่งที่ทำเพื่อผมนะครับ คุณแม่”     และเมื่อเปิดซองจดหมายดังกล่าว ข้างในก็พบกับเงินจำนวนหนึ่งพร้อมกับโน๊ตข้อความที่เขียนเอาไว้ว่า “คุณแม่ Assalamualaikum หากแม่ได้เปิดสิ่งนี้ มันมีเงินจำนวน 76 ริงกิต (590 บาท) ไว้ให้แม่ เพราะผมรู้ว่าแม่มีเงินสดไม่พอ ผมรู้สึกขอบคุณกับหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณแม่ทำให้ผมจริงๆ ผมรักแม่มากๆ นะครับ”     หลังจากเรื่องนี้ถูกโพสต์ลงโซเชียลมีเดียก็กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็ว…

หนึ่งในปัญหาของการขับขี่พาหนะสองล้อก็คือผู้ขับขี่มักไม่ค่อยสวมกันน็อค ทำให้เวลาเกิดอุบัติเหตุจะมีอัตราบาดเจ็บสาหัสหรือตายเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับที่ประเทศเยอรมนีกำลังประสบ ในปี 2018 เยอรมนีมีนักปั่นจักรยานเสียชีวิตมากถึง 432 รายจากอุบัติเหตุ ซึ่งมีเพียง 8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สวมหมวกกันน็อค     ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแห่งประเทศเยอรมนีพยายามจะลดผู้เสียชีวิตจากปั่นจักรยาน จึงตัดสินใจที่จะทำแคมเปญรณรงค์ให้นักปั่นทั้งหลายหันมาสวมหมวกกันน็อค โดยพวกเขาใช้งบไปประมาณ 14 ล้านบาทเพื่อทำโฆษณารณรงค์ให้คนมาสวมหมวก โดยทำการจ้างนางแบบและนายแบบชื่อดังมาถ่ายแบบเซ็กซี่พร้อมใส่หมวกจักรยานภายใต้สโลแกน “ดูเหมือนเชี่ย แต่ช่วยเซฟชีวิตฉัน”     ซึ่งหลังจากที่ได้ปล่อยภาพรณรงค์สู่สายตาของประชาชนในประเทศได้ เสียงตอบรับที่กระทรวงคมนาคมได้กลับมามีปะปนกันหลายด้าน ทั้งด้านไม่ชอบเพราะไม่เหมาะสมและด้านที่ทำให้เห็นความสำคัญของหมวกก็ด้วย “มันน่าอายมาก ดูงี่เง่าและก็เหยียดเพศหญิง ที่กระทรวงคมนาคมใช้รณรงค์นโยบายของพวกเขาโดยการใช้ภาพโป๊เปลือยโชว์ผิวหนัง” Maria Noichl สมาชิกพรรคประชาธิปไตยสังคมแห่งเยอรมนีได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อ   . . .   ความคิดเห็นของชาวเน็ต   คุณสามารถจินตนาการถึงความห่วยของโฆษณานี้แบบ “ฉันอยากจะทำให้หมวกจักรยานดูเซ็กซี่…” แบบเนี้ย พวกเขาทำให้มันเป็นแบบนี้จริงๆ และก็ยังคงล้มเหลว   มันดูไม่เหมาะสมเลย มันเหมือนลืมประเด็นหลักเกี่ยวกับความปลอดภัย พวกเราต้องการถนนดีๆ ที่สามารถช่วยให้พวกเราไม่ถูกชน ไม่ใช่สิ่งที่อาจจะช่วยผลกระทบได้   ภาพชุดชั้นในสุดเซ็กซี่สำหรับรณรงค์หมวกกันน็อคเพราะว่า…. เซ็กส์งั้นเหรอ? ฉันหมายถึง ฉันไม่ได้เรียนเกี่ยวกับการทำธุรกิจหรอกนะ…

ปกติแล้วเวลาเกิดการประท้วงหรือเกิดการจลาจล หากเหตุการณ์นั้นบานปลาย เรามักจะได้เห็นตำรวจกลุ่มหนึ่งที่แต่งองค์ทรงเครื่องพร้อมอุปกรณ์ครบมือเข้ามาปราบจลาจลครั้งนั้น นั่นทำให้เรื่องที่เราจะเอามาให้เพื่อนๆ ดูกันในวันนี้กลายเป็นเรื่องตลก ขบขันไปเลย เมื่อตำรวจจากประเทศสกอตแลนด์ใช้อุปกรณ์อย่าง “โล่ปราบจลาจล” มาไล่ต้อน “หงส์” เสียอย่างนั้น   วิดีโอขณะเกิดเหตุการณ์   วิดีโอดังกล่าวเกิดขึ้นในสวนสาธารณะ Murdieston ในเมือง Greenock ประเทศสกอตแลนด์ โดยเราจะเห็นได้ว่ามีเจ้าหงส์ตัวหนึ่งที่เตร็ดเตร่ออกมาอยู่นอกที่มันควรอาศัยอยู่ ดังนั้นจึงมีคนแจ้งให้ตำรวจช่วยมาพามันกลับไปที่ที่ควรอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มายังที่เกิดเหตุ ก็แต่งตัวมาซะเต็มยศ แถมยังขนอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้ปราบจลาจลพร้อมกับขนมปังเพื่อนำมาหลอกล่อและไล่ต้อนให้เจ้าหงส์ตัวดังกลับบ้านของมัน   คุณตำรวจและอุปกรณ์ทั้งโล่และขนมปังของพวกเขา   โดย Alison Robertson เจ้าของวิดีโอข้างต้น เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวจากในบ้านเข้าพอดีและเห็นว่าตลกดีจึงทำการแชร์วิดีโอที่ตัวเองบันทึกไว้ลงโซเชียลมีเดีย “จากตอนที่มันออกมาเดินอยู่บนถนนและพยายามจะพามันกลับไปยังที่อยู่ของมัน ก็ผ่านไปได้ประมาณ 30 นาทีแล้วล่ะ ฉันเติบโตมากับถนนนี้และก็เคยเห็นเหตุการณ์เหล่านี้อยู่เป็นประจำ หากไม่ใช่หงส์ ก็เป็นเป็ดอ่ะ” เธอได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น     สุดท้ายเจ้าหงส์จะเดินกลับถึงบ้านของมันมั้ยเนี่ย เพราะดูแล้วเดินกลับได้สโลว์ไลฟ์ซะเหลือเกิน   ที่มา ladbible, Dailymail

ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน การถ่ายภาพตัวเองหรือ “เซลฟี่ (Selfie)” นั้นทำได้ง่ายเป็นอย่างมาก ทำให้ไม่ว่าจะไปที่ไหน เราก็มักจะเห็นผู้คนทำการเซลฟี่อยู่เป็นประจำ แม้ว่าการเซลฟี่จะไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่หากเซลฟี่ไม่ดูสถานที่ มันอาจทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อน เหมือนเรื่องที่เราจะนำมาให้ชมกันในวันนี้ เมื่อเด็กสาวคนหนึ่งถูกรถไฟชนเสียชีวิต เพราะขึ้นไปเซลฟี่กลางรางรถไฟ     เด็กสาวคนดังกล่าวคือ Karina Baymukhambetova สาวรัสเซียวัย 15 ปี ที่กำลังออกไปเที่ยวเล่นกับแฟนหนุ่มในเมือง Orsk รัฐ Orenburg ประเทศรัฐเซีย พวกเขาใช้เวลาถ่ายรูปด้วยกันในสถานที่ต่างๆ แต่ระหว่างที่ทั้งคู่ขึ้นไปถ่ายเซลฟี่กลางรางรถไฟ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่รถไฟมาพอดี ทางฝ่ายแฟนหนุ่มจึงรีบพูดเตือนให้ Karina ให้ถอยห่างออกมาจากรางรถไฟ แม้ว่าแฟนหนุ่มจะเตือนเธอแล้วก็ตาม แต่ Karina ก็ได้ตอบกลับมาว่า “ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกชีวิตนี้”     ทางสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่าคนขับรถไฟเห็นทั้งสองคนอยู่ก่อนหน้าแล้วและก็ได้ทำการบีบแตรเพื่อเตือนคู่รัก พร้อมกับดึงเบรคฉุกเฉือน แต่กระนั้นก็ไม่สามารถเบรคได้ทันเวลา รถไฟชนเข้ากับร่างของ Karina เข้าเต็มๆ ก่อนจะฉีกร่างของเธอออกเป็นชิ้นๆ ทำให้เธอเสียชีวิตในทันที     นอกจากนี้จากการเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2011 ถึง 2017 พบว่า “การเซลฟี่”…

เพื่อนๆ คิดว่าเนื้อวัวชั้นดีที่ขายกันแพงๆ นั้น เจ้าของทำอะไรถึงทำให้เนื้อมีรสชาติดีและสามารถขายได้ในราคาสูง? หากอยากรู้ วันนี้มีคุณลุงคนหนึ่งมาเผยเทคนิคลับที่ทำให้ตัวเองสามารถขายวัวได้ถึงราคา 15 ล้านบาทให้ได้รู้กัน!!     วันที่ 26 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ The Sun ได้ทำการรายงานว่าคุณลุง Tochigi ชาวญี่ปุ่นวัย 86 ปี ผู้ผลิตเนื้อมัตสึซากะเจ้าดัง ได้เผยเทคนิคสุดแปลกในการทำให้เนื้อวัวมีรสชาติดีจนสามารถขายวัวได้ในราคาถึง 15 ล้านบาท!! โดยเทคนิคของเขานั้นออกจะแปลกเสียหน่อย เพราะนั่นคือการให้วัว “ดื่มเบียร์” ดับกระหายและคอย “นวด” พวกมันอยู่เสมอ เพื่อที่จะกระตุ้นให้การไหลเวียนของเลือดดียิ่งขึ้น     นอกเหนือจากนี้ เขาบอกว่าเขาให้ข้าวโพดและถั่วเหลืองเป็นอาหารให้มันด้วยและหลังจาก และหลังจากกระบวนการเลี้ยงดูดังกล่าวผ่านไป 4 ปี เขาก็จะขายเฉพาะวัวตัวเมียที่ไม่มีคู่เท่านั้น “ตัวเมียมีไขมันมากกว่าตัวผู้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงมีรสชาติดีกว่าเนื้อโกเบ” คุณลุง Tochigi กล่าว     หลังจากที่วัวของคุณลุงถูกขายลงตลาด ก็ดึงดูดให้นักชิมจากทั่วสารทิศทั่วโลกมาลิ้มลองรสชาติเนื้อของวัวราคา 15 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือคุณ Kobayashi เจ้าของร้าน Gyugin…

“NASA” ถือว่าเป็นองค์กรคุณภาพ ที่มีจุดประสงค์เพื่อบริหารการบินและการสำรวจอวกาศ และถือว่าเป็นองค์กรที่มีพนักงานหัวกะทิเต็มไปหมด แต่ในคราวนี้องค์กรคุณภาพอย่าง NASA กลับพลาดเสียเอง เมื่อทีม Spacewalk หญิงล้วนต้องถูกยกเลิก เพราะว่าเตรียมชุดนักบินอวกาศที่มีขนาดพอดีกับนักบินไม่ทัน     วันที่ 26 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ TheWeek ได้รายงานว่า NASA ได้ทำการยกเลิกโครงการทีม Spcaewalk หญิงล้วนลง เนื่องจากไม่สามารถหาชุดบินอวกาศให้กับลูกทีมหญิงได้ครบ โดยก่อนหน้านี้ทาง NASA ได้ประกาศให้ Anne McClain และ Christina Koch สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นทีมหญิงล้วนทีมแรกที่เดินทางขึ้นไปเปลี่ยนแบตลิเธียมไอออนให้แก่ดาวเทียมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา     แต่อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวันจริงทาง NASA ได้ออกแถลงการณ์ออกมาว่าโครงการดังกล่าวนั้นถูกยกเลิกเนื่องจากปัญหาของขนาดของชุดนักบินอวกาศ ซึ่งชุดนักบินอวกาศไซส์กลางนั้นเป็นไซส์ที่เหมาะกับขนาดตัวของผู้หญิง แต่ในวันจริงนั้นกลับมีชุดนักบินอวกาศไซส์กลางชุดเดียว ในขณะที่อีกชุดเป็นชุดไซส์ใหญ่ นั่นทำให้ Christina Koch ต้องออกจากโครงการดังกล่าว และ Nick Hague นักบินอวกาศชายเข้ามาสวมชุดนักบินอวกาศไซส์ใหญ่และปฏิบัติหน้าที่แทนเธอ   Some more shots of…

มนุษย์แต่ละคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ ล้วนแต่มีความชอบที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกิน งานอดิเรก หรือแม้แต่สไตล์การแต่งตัวก็ด้วย และคราวนี้สไตล์การแต่งตัวที่ชอบกลับทำคุณครูสาวคนหนึ่งมีแววตกงาน เนื่องจากเธอชอบใส่เสื้อสไตล์เซ็กซี่ ทำให้ผู้ปกครองไม่พอใจเป็นอย่างมาก     คุณครูคนดังกล่าวคือ Tatyana Kuvshinnikova ชาวรัสเซียวัย 38 ปี ที่กลายเป็นประเด็นในโรงเรียนของเธอตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา หลังจากเธออัปโหลดรูปชุดเดรสสั้นสีชมพูสุดเซ็กซี่เพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ ซึ่งโดยปกติคุณครูคนดังกล่าวเป็นคนที่ชอบอาบน้ำเย็นและว่ายน้ำในอุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียสเป็นประจำ ดังนั้นเธอจึงโพสต์ภาพขณะเธอว่ายน้ำอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อผู้ปกครองหลายคนได้เห็นภาพต่างๆของครูสาว ก็ไม่พอใจเป็นอย่างมากและทำการส่งภาพดังกล่าว พร้อมวิดีโอที่เธออัปโหลด รวมถึงวิดีโอที่เธอเต้นกับนักเรียนหญิงขณะที่สวมบีกินนี่ไปให้ทางโรงเรียนได้ดู     ซึ่งเมื่อทางโรงเรียนรู้เรื่องดังกล่าว ก็พยายามกดดันให้ Tatyana ลาออกจากงานผ่านทางจดหมายแถลงการณ์ว่า “นี่เป็นวิธีการแต่งตัวแบบโสเภณี ใส่ส้นสูง ชุดเดรสสั้นเหนือเข่า คุณพยายามที่จะล่อลวงใคร? คุณไม่มีสิทธิ์จะใช้ชื่อ ‘ครู’ คุณทำให้โรงเรียนนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่นักเรียนชายจะหลงรักคุณและอีกแค่นิดเดียวคุณก็จะกลายเป็นโรคใคร่เด็กแล้ว”        ทั้งนี้ Tatyana ก็ถูกทางโรงเรียนไล่ออกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามยังมีผู้ปกครองอีกหลายคนที่ให้การสนับสนุนเธอและให้เธอสอนต่อแม้จะถูกเพื่อนร่วมงานแบนก็ตาม “ผู้ปกครองบางคนไม่ชอบรูปดังกล่าว และมันก็ถูกส่งไปหาผู้อำนวยการ มันเป็นเรื่องที่พวกเขาคาดไม่ถึงและไม่พอใจมากๆ และกลายเป็นว่าคุณครูไม่ได้อนุญาตให้มีเวลาว่างหรือทำงานอดิเรกได้เลย ฉันยังเป็นคุณครูได้อยู่ เพราะผู้ปกครองหลายคนเขียนคำร้องกับผู้อำนวยการเพื่อให้ฉันได้อยู่ต่อ พวกชื่นชอบการทำงานของฉัน” Tatyana ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น…

“ลดความอ้วน” เป็นคำง่ายๆ มีความหมายสุดลึกล้ำ ที่ถูกพูดออกมาอยู่บ่อยๆ แต่น้อยคนนักที่จะบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ จนคำว่าลดความอ้วนนี้กลายเป็นคำที่เราเอาไว้ล้อกันเล่นสนุกปาก วันนี้ #เหมียวโคบี้ ก็เลยทำการรวบรวม “มีม” เกี่ยวกับการลดความอ้วนมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ขอบอกเลยว่ามีมที่นำมานี้เมื่อเพื่อนๆ ได้ดูต้องฮาไม่บันยะบันยังแน่นอน!!   1. “ฉันจะลดความอ้วนอย่างจริงจังแล้ว!”  // *ฉันตอนตีสอง*   2. ฉันในวันแรกของการเริ่มไอเดต   3. สภาพของคุณหลังวิ่งไป 10 วินาที   4.  “ในสองสัปดาห์ ผมทำแว่นหาย” (อ่าวเฮ้ย นึกว่ารีวิวลดความอ้วน)   5. ที่สำหรับคนลดความอ้วน หันหน้าหากำแพงไป   6. ลดความอ้วนเป็นไงบ้าง? 7. “ฉันกำลังพยายามลดความอ้วน” เพื่อนรัก:   8. เมื่อคุณกินเพราะคุณรู้สึกเศร้า แต่ตอนนี้คุณทั้งอ้วนและทั้งเศร้า   9. เมื่อคุณพยายามหาบางอย่างที่มีรสชาติดีแต่ไม่ทำให้อ้วน   10. รายชื่อของสิ่งที่กินได้ตอนที่กำลังลดความอ้วน   11.…

ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน มนุษย์ทุกคนล้วนแต่มี “ความฝัน” ให้ได้วิ่งตามกันทั้งนั้น และตราบใดที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็สามารถวิ่งตามความฝันนั้นได้ต่อไป แต่ดูเหมือนว่าการวิ่งตามความฝันครั้งที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน เมื่อหนุ่มคนหนึ่งถูกจับเพราะแอบเนียนทำตัวเป็นนักบินของสายการบิน Garuda Indonesia     วันที่ 25 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ The Star ได้ทำการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตา กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยทางตำรวจของสนามบินได้ทำการจับกุมนาย Alvin Adithya Darmawan ที่สวมเครื่องแบบนักบินแล้วเข้ามารายงานตัวเข้าทำงานที่เคาต์เตอร์ของ Garuda แถมมีบัตรประจำตัวลูกเรือในชื่อตัวเองเสียด้วย แต่ Andre นักบินของสายการบินอีกคนที่สังเกตเห็นท่าทีมีพิรุธของเขา ที่ไม่ยอมเข้าจุดตรวจความปลอดภัยเสียที จึงเข้าไปทำการพูดคุยด้วย     “ด้วยท่าทีมีพิรุธ กัปตัน Andre จึงเข้าไปคุยกับชายคนดังล่าว แต่เขากลับตอบคำตอบกลับมาไม่ชัดเจน” Victor Togi Tambunan หัวหน้าตำรวจรักษาความปลอดภัยกล่าว หลังจากที่เข้าไปทำการพูดคุย Andre ก็เข้าไปรายงานพฤติกรรมของ Alvin กับพนักงานรักษาความปลอดภัยใกล้ๆ จุดรายงานตัว พนักงานจึงเข้าจับกุมและสอบสวนเขาในทันที   ภายหลังจากการตรวจสอบ พบว่าเขาเป็นผู้โดยสารของสารการบิน…

เมื่อวานนี้ (25 มีนาคม 2019) พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. และนายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. ได้แถลงเกี่ยวกับการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งก็มีสื่อเข้าไปร่วมแถลงการณ์ในครั้งนี้มากมาย แต่ที่เป็นประเด็นก็คงไม่พ้นกับคำถามของคุณปอเปี๊ยะ กาลเวลา เสาเรือน ผู้สื่อข่าวสาวจากช่องเวิร์คพอยท์ ที่ถามทาง กกต. เกี่ยวกับเรื่องที่มีการล่ารายชื่อเพื่อยื่นเรื่องถอดถอน กกต. ชุดปัจจุบัน พร้อมถามถึงสปิริตจะลาออกหรือไม่     หลังจากภาพของคุณปอเปี๊ยะ ถูกเผยไปในโซเชียลมีเดีย ก็มีคนเข้ามาแสดงความชื่นชมอย่างมากมาย https://twitter.com/MAYTA____/status/1110091921005801472 . คุณปอเปี๊ยะ นักข่าวคุณภาพ ดีใจที่เคยได้ร่วมงานกับคุณ คุณน่ารักเป็นกันเอง และในวันนี้คุณยังแสดงให้เห็นอีกว่าคุณยึดมั่นในอุดมการณ์ของนักข่าวที่กล้าถามแทนประชาชน ขอชื่นชมค่ะ — Chupy (@chupychupz) March 25, 2019 . สวยและดี มีจรรยาบรรณในอาชีพของตัวเองอย่างแท้จริง ชื่นชมมากค่ะ — 🍑Nanna🏳️‍🌈💛 (@Nanny_Girl_) March 25, 2019…

จากการเปลี่ยนแปลงของสังคม ทำให้ปัจจุบันบทบาททางสังคมของผู้หญิงและผู้ชายนั้นถือว่าเทียบเท่ากัน ทำให้เราเริ่มเห็นผู้หญิงประกอบอาชีพต่างๆ กันมากมาย รวมถึงอาชีพอย่าง “ตำรวจหญิง” ด้วยเช่นกัน ที่นับวันเราจะเห็นผู้หญิงที่มาทำอาชีพนี้กันมากขึ้น     แล้วตอนนี้อาชีพดังกล่าวก็กำลังเป็นกระแสอยู่ในโซเชียลมีเดียของประเทศไต้หวัน เมื่อมีชาวเน็ตคนหนึ่งนำภาพของตำรวจสาวสวยหุ่นดีคนหนึ่งมาโพสต์ลง จนชาวเน็ตคนอื่นๆ แชร์ต่อกันไปอย่างรวดเร็ว   .   เมื่อทำการรวบรวมข้อมูลก็พบว่าตำรวจสาวสวยคนดังกล่าวมีชื่อว่า “Yang Shuting” สาวสวยชาวไต้หวันที่ชาวเน็ตต่างมอบฉายาไว้ให้ว่าเป็น “นางแบบตำรวจหญิง” ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ประจำสถานีตำรวจแห่งเมืองไทจง ซึ่งแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่นางแบบเพียงแค่ฉายาเท่านั้นนะ เพราะตัวจริงของเธอนั้นเป็นถึงอดีตนางแบบก่อนที่จะตัดสินใจออกจากวงการเพื่อมาสอบเข้าตำรวจในปี 2016 ที่ผ่านมา   .   เมื่อชาวเน็ตได้เห็นภาพของสาวสวยคนดังกล่าวถูกแชร์กันผ่านโซเชียลมีเดีย ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย “ฉันอยากจะขับรถฝ่าไฟแดงแล้วให้เธอมาตามจับจัง!!” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา “ก็มาดิคร้าบบบ ผมพร้อมถูกคุณตั้งข้อหาด้วยความยินดี” ชาวเน็ตอีกคนเอ่ย “เฮ้ยๆ พวกนาย นี่เราจำเป็นต้องมีการทำบัตรคิวก่ออาชญกรรมเปล่าเนี่ย??” ชาวเน็ตอีกคนสงสัย   ยิ้มน่ารัก   หุ่นดีสมกับเป็นอดีตนางแบบ   อุ่ยยย   สดใส   ในชุดกิโมโน   แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่หมายปองสาวคนนี้ ก็คงจะทำได้แค่หมายปองอยู่ฝ่ายเดียว…

เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าสิ่งมีชีวิตแต่ละประเภทมีอายุขัยไม่เท่ากัน และสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์คงรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวด เมื่อสัตว์เลี้ยงสุดที่รักของเรานั้นต้องตายจากเราไป ด้วยความเจ็บปวดนั้นเอง ทำให้มีบางคนที่ตัดสินใจ “โคลนนิ่ง” สัตว์เลี้ยงสุดที่รักของตัวเองเอาไว้ เช่นเดียวกับผู้หญิงที่เราจะนำมาให้ชมกันในวันนี้…     เมื่อประมาณ 2-3 ปีก่อน Amy Vangemert หญิงวัย 55 ปีจากเมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ได้สูญเสียเจ้า Buhner น้องหมาสุดที่รักวัย 13 ปีไปและเธอไม่อาจทำใจกับการตายของมันได้ หลังจากที่ Buhner ได้ตายไป เธอพยายามพยายามที่จะหาน้องหมาตัวใหม่มาเลี้ยง แต่ก็ไม่มีน้องหมาตัวไหนที่ถูกตาถูกใจเธอได้เท่าเจ้า Buhner อีกแล้ว ประจวบเหมาะกับเธอไปที่ได้ยินเรื่องของการโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยงขึ้นมา อยากนั้นเธอจึงทำการศึกษาเกี่ยวกับมันและพบว่ามีบริษัทชื่อว่า ViaGen Pets นั้นมีบริการรับโคลนนิ่งสัตว์เลี้ยง   .   ในเดือนสิงหาคม 2016 เธอรีบติดต่อไปยัง ViaGen Pets ทันที ซึ่งทางบริษัทนั้นคิดค่าโคลนนิ่ง 50,000 เหรียญสหรัฐ (1.6 ล้านบาท) สำหรับน้องหมาและ 25,000 เหรียญสหรัฐ (800,000 บาท) สำหรับน้องแมว นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องการตัวอย่างผิวหนังของสัตว์ตัวที่อยากให้โคลนนิ่ง…

“ประจำเดือน” คือสิ่งที่ผู้หญิงต้องเจออยู่เป็นประจำ แต่กลับกัน ประจำเดือนจะเป็นสิ่งที่ผู้ชายไม่มีวันได้สัมผัส ดังนั้นจึงมีผู้ชายหลายคนที่ไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคุณผู้หญิงทั้งหลายในช่วงระหว่างที่ประจำเดือนมา เช่นเดียวกับหนุ่มที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ เขาคงไม่ทราบถึงความเจ็บปวดของประจำเดือน เลยโพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “จนกว่าคุณผู้หญิงจะเจอกับแบบนี้ ผมไม่อยากได้ยินคำบ่นอะไรเกี่ยวกับปวดประจำเดือน”   หนุ่มคนดังกล่าว   “จนกว่าคุณผู้หญิงจะเจอกับแบบนี้ ผมไม่อยากได้ยินคำบ่นอะไรเกี่ยวกับปวดประจำเดือน”   หลังจากที่เขาโพสต์ภาพพร้อมกับข้อความดังกล่าวลงในทวิตเตอร์ ก็สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้หญิงหลายๆ คนและเข้ามาแสดงความคิดเห็นตอบโต้เขาอย่างมากมาย   แล้วเข่ามันคลอดเด็กออกมาได้รึไง…   นี่คือ… อะไรวะ? เหมือนกับคุณคิดว่าแผลถลอกมันแย่มาก โอ้ เด็กน้อยผู้น่ารักเอ๋ย   ไม่มีมดลูก ก็ไม่ต้องมาแสดงความเห็นนาจา   ตอนที่ฉันอายุ 8 ขวบ ฉันได้แผลถลอกครั้งแรกที่เข่าของฉัน 20 ปีต่อมามันยังคงเป็นแผลเป็นอยู่ ในช่วงมัธยมปลายฉันเคยถูกหนามทิ่มเข้าที่หลัง เคยนิ้วโป้งหัก เคยถูกไฟเผา เคยเป็นอะไรอีกมาก แต่ยังไม่มีอะไรที่จะเทียบได้กับการเป็นตะคริวจากประจำเดือน โทษทีนะคนอ่อนแอ   จนกว่าผู้ชายจะได้เจอกับความเจ็บปวดจากการถูกทำร้าย, คลอดลูกและการกดขี่ ฉันไม่อยากได้ฉันอะไรเกี่ยวกับแผลถลอกเล็กๆ ที่หัวเข่าหรอก   น่าขำมาก ตอนที่ฉันเล่นฟุตบอล ฉันทั้งเคยไหลหลุด ข้อเท้าพลิก หัวเข่าถลอกอยู่หลายครั้ง…

มนุษย์แต่ละคนบนโลกใบนี้ ล้วนแต่มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเอาคนในครอบครัวเป็นที่ยึดเหนี่ยวหรือบางคนอาจใช้ศาสนาก็เป็นได้ ซึ่งสาวคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมนี้ เธอมี “หนังโป๊” เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ แต่เผยว่าเธอสามารถกลับตัวกลับใจได้โดยการ “หันหน้าพึ่งพาพระเจ้า”…     สาวคนดังกล่าวคือ Gracelyn Sorrell สาววัย 19 ปีจากเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เธอเผยว่าตั้งแต่อายุ 14 ปี เธอไปเจอเข้ากับภาพวาบหวิวบนโซเชียลมีเดียแล้วนั่นทำให้เธออยากรู้อยากเห็นเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก ซึ่งเนื่องจากคุณพ่อของเธอได้เสียชีวิตไปเมื่อปี 2013 ทำให้ไม่มีใครควบคุมพฤติกรรมของเธอ เธอกล่าวว่าเธอนั้นเสพวิดีโอโป๊อย่างหนัก และสั่งผลเสียต่อการเรียนของเธอ เกรดของเธอตกอย่างรวดเร็ว ในปี 2016 อาการเสพติดหนังโป๊ของเธอยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ เธอใช้เวลาดูหนังโป๊อย่างต่ำวันละ 4 ชั่วโมงและได้นอนหลับพักผ่อนเพียง 3 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น     “โทรศัพท์ของฉันคือวิธีที่ง่ายที่สุดที่ฉันจะดูหนังโป๊ ฉันมักแอบดูเป็นประจำเมื่อบ่ายๆ เย็นๆ เมื่อกลับบ้านมาจากโรงเรียนและแม่ พี่สาว พี่ชายยังอยู่ที่ทำงาน หลังจากที่ทุกๆ คนนอนหลับไปแล้ว ฉันก็จะแอบดูวิดีโอโป๊จนถึง 03.00 น. ฉันดูมันวันละ 4 ชั่วโมงได้เลยล่ะ 1 ชั่วโมงตอนตอนกลางวันและ 3-4 ชั่วโมงติดต่อกันอย่างไม่หยุดตอนกลางคืน…

ในยุคสมัยของการค้าขายออนไลน์นั้น ก็ข้อดีของมันก็คือความสะดวกสบายและมีขั้นตอนที่ง่าย แถมยังไม่ต้องเดินทางไปซื้อถึงที่ รอรับของได้สบายๆ อยู่ที่บ้าน แต่ข้อเสียของมันก็คือเราจะไม่ได้เห็นตัวอย่างของที่เราอยากได้ก่อนซื้อ นั่นทำให้บางครั้งสินค้าที่เราซื้อมา ก็ไม่ได้ตรงกับที่เราคิดไว้ในตอนแรกสักเท่าไหร่ เหมือนอย่างเรื่องที่สาวคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ชมในวันนี้ประสบมา     Julia Magowan สาวนักศึกษาสาววัย 21 ปีจาก Loughborough University ได้ทำการสั่งชุดเดรสมาจาก PrettyLittleThing ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ชื่อดัง โดยเธอได้ทำการสั่งชุดเดรสในไซส์ปกติที่เธอใส่อยู่เป็นประจำ แต่เมื่อชุดดังกล่าวได้มาส่ง ก็พบว่าชุดดังกล่าวไม่ตรงปกเป็นอย่างมาก เพราะขนาดที่สั่งมา เธอสวมได้แค่ขาข้างเดียวเท่านั้น!!   สิ่งที่ต้องการ   และนี่คือสิ่งที่ได้…   เมื่อได้รับสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการแบบนี้ งานนี้เธอเลยหัวเสียเป็นอย่างมากและนำภาพของชุดที่สั่งไปโพสต์บ่นในทวิตเตอร์ทันที   “PLT คุณหวังให้ฉันใส่เดรสที่สมควรเป็นไซส์ 8 ให้พอดีอย่างไร? เมื่อฉันสามารถใส่เป็นพอได้กับขาข้างเดียวของฉันเท่านั้น ช่างน่าขันอะไรขนาดนี้”   หลังจากที่เธอโพสต์ภาพดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตที่เคยเป็นลูกค้าของ PLT เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย   “จริงๆ ! ฉันเคยซื้อเสื้อไซส์ 6 มาจาก PLT และใส่แค่ต้นขาก็ยังไม่ได้เลย ?”   “ไม่รู้ใครทำเรื่องขนาดของ PLT…

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ด้วยรถไฟ ดังนั้นเรื่องรถไฟที่ญี่ปุ่นจึงมีความพิเศษหลายๆ อย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ล่าสุด รถไฟญี่ปุ่นก็ยังคงทำให้เราต้องประหลาดใจได้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อเปิดมีการเปิดตัวสถานีรถไฟสถานีใหม่ แต่… ไม่มีทางขึ้นหรือลง เพราะว่ามันถูกสร้างขึ้นมาให้รถไฟได้จอดเพื่อให้ผู้โดยสารรับชมทิวทัศน์อันสวยงามต่างหาก!!   สถานีเล็กๆ ที่ตั้งอยู่โดดๆ แห่งนี้แหละ 清流みはらし駅全貌駅出口という概念がない、展望専用駅とは…w pic.twitter.com/JPdx4ajvrm — ★Haqua★12/16ジャンプフェスタ・推しの子×東京タワー参戦予定 (@Ruby_21601F_30) March 11, 2019   โดยสถานีรถไฟสถานีใหม่นี้ตั้งอยู่ในเมืองอิวะคุนิ จังหวัดยามางูจิ โดยรถไฟเส้นที่จะผ่านสถานีดังกล่าวก็คือเส้น Nishikigawa Seiryu ซึ่งจะทำการวิ่งขนานไปกับแม่น้ำมิชิกิ ซึ่งระหว่างทางผู้โดยสารก็จะได้เพลิดเพลินไปทิวทัศน์ของแม่น้ำและธรรมชาติอันสวยงาม ทำให้ทางเมืองอิวะคุนิเกิดไอเดียอยากให้ผู้โดยสารได้มีจุดพักชมความสวยงามดังกล่าว   ตัวอย่างทิวทัศน์อันสวยงามที่ผู้โดยสารสามารถถ่ายได้ . . .   ไอเดียดังกล่าวจึงได้เกิดเป็น Seiryu Miharashi Eki หรือที่แปลได้ว่า “สถานีชมทิวทัศน์น้ำใสไหลเย็น” สถานีไร้ทางขึ้นและลง ที่สร้างมาให้รถไฟได้จอดพัก ให้ผู้โดยสารสามารถชมความสวยงามของแม่น้ำได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม รถไฟจะแวะจอดในสถานีดังกล่าวในโอกาสหรือเทศกาลพิเศษเท่านั้น อย่างเช่นเทศกาลชิมสาเกที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 มีนาคมถึง 1 เมษายนนี้นี่เอง   ก็เรียกว่าสถานีอาจจะกลายเป็นแลนมาร์กอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดยามางูจิ หากใครที่ได้ไปเที่ยวในจังหวัดดังกล่าวก็อย่าลืมนั่งรถไฟสาย Nishikigawa Seiryu ไปชมกันดูได้นะครับ  …

ปัจจุบันนี้วัฒนธรรมญี่ปุ่นนั้นถือว่ากำลังรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นใครๆ ก็สามารถรับชมการ์ตูน, อนิเมะได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงชุดคอสเพลย์ตัวละครต่างๆ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างหลากหลาย เราจึงเห็นผู้คนจากสายอาชีพต่างๆ ที่มีงานอดิเรกเป็นการคอสเพลย์มากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่หัวขโมยที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้ก็ด้วย     หัวขโมยดังกล่าวคือนาย Tetsuya Fujisawa ชายอายุ 37 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองอีสึกะ จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น Tetsuya ถูกจับกุมได้ขณะที่กำลังทำการบุกรุกบ้านหลังหนึ่งในเมืองมุนากาตะเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งจากรายงานพบว่าขณะที่กำลังจะทำการขโมยของเขาได้สวมชุดคอสเพลย์นักบิน “Evangelion” ไว้ด้วย!! ในการขโมยครั้งนั้นเขาได้ขโมยเงินไปทั้งสิ้น 17,000 เยน (4,800 บาท) ซึ่งดูเหมือนไม่มากสักเท่าไหร่ แต่ก็เพียงพอที่จะซื้อฟิกเกอร์การ์ตูนเรื่อง Evangelion ที่เขาชอบ      จากการสืบสวนพบว่านาย Tetsuya นั้นก่ออาชญากรรมลักขโมยมาแล้วทั้งหมด 10 ครั้งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละครั้งเขาก็มักจะสวมชุดคอสเพลย์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นชุด Evangelion ชุดบันนี่เกิร์ลสุดเซ็กซี่ ชุด Spider-Man หรือแม้กระทั่ง “ชุดว่ายน้ำของผู้หญิง” ก็ด้วย และเมื่อตำรวจถามถึงเหตุผลที่ต้องใส่ชุดคอสเพลย์เวลาก่อโจรกรรม นาย Tetsuya…

เรียกว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีของมนุษย์เรานั้นพัฒนาจากอดีตเป็นอย่างมาก และเทคโนโลยีหลายๆ ก็สามารถอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ได้ในหลายๆ ด้าน ล่าสุดนี้วงการแพทย์จีนก็ก้าวกระโดดขึ้นไปอีกระดับ เมื่อแพทย์จีนสามารถทำการ “ผ่าตัดสมอง” ระยะไกลกว่า 3,000 กิโลเมตร โดยสั่งการหุ่นยนต์ผ่าตัดผ่านเทคโนโลยี 5G     วันที่ 18 มีนาคม 2019 สำนักข่าว CGTN ได้รายงานความสำเร็จครั้งใหม่ของวงการแพทย์จีน เมื่อโรงพยาบาล PLA General Hospital ร่วมมือกับเทคโนโลยี 5G ของ Huawei สามารถทำการผ่าตัดระยะไกลได้ โดยในการผ่าตัดครั้งนี้ นายแพทย์ Ling Zhipei หัวหน้าของแพทย์ของโรงพยาบาลไหหลำทางตอนใต้ของประเทศจีนรับผิดชอบผ่าตัดสมองของผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกรุงปักกิ่ง     การผ่าตัดเริ่มต้นขึ้น ณ 9.00 น. ในวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา นายแพทย์ Ling Zhipei ได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อเริ่มผ่าตัดคนไข้ที่อยู่ห่างจากเขาไปถึง 3,000 กิโลเมตร “ฉันรู้สึกดีมากๆ” คนไข้โรคพาร์กินสันเผยความรู้สึกหลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดี โดยใช้เวลาผ่าตัดเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น   China's…

ในวันที่ 15 มีนาคม 2019 ที่เพิ่งผ่านมา ได้มีเหตุการณ์สะเทือนขวัญเกิดขึ้นในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อมีหนุ่มคนหนึ่งถือปืนเข้าไปกราดยิงคนในมัสยิดของเมืองไคลสต์เชิร์ช มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย หนึ่งในนั้นก็คือ Averroes Syah เด็กน้อยวัย 2 ขวบที่รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เพราะได้ Zulfirman Syah คุณพ่อของเขาเอาร่างบังเอาไว้ระหว่างเหตุกราดยิงนั่นเอง     ในวันนั้นเป็นวันที่คุณพ่อพาลูกชายของตัวเองไปสวดภาวนา ณ มัสยิด Linwood ซึ่งเป็นขณะเดียวกันกับที่ Brenton Tarrant มือปืนจะเข้าสาดกระสุน ด้วยความรักที่คุณพ่อมีต่อลูก Zulfirman ตัดสินใจใช้ร่างของตัวเองบังลูกน้อยเอาไว้ แม้จะถูกยิงหลายครั้งก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถปกป้องลูกชายเอาไว้ได้     แต่ถึงจะปกติป้องลูกชายไว้ได้ก็จริง แต่ลูกชายก็ยังได้รับบาดเจ็บที่หลังและขา ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว “สามีของฉัน Zulfirman Syah กับลูกชาย ยังมีชีวิตอยู่ แต่บาดเจ็บทั้งคู่จากเหตุกราดยิงในประเทศนิวซีแลนด์ (ซึ่งเราย้ายมาอยู่เมื่อ 2 เดือนก่อน) สามีของฉันถูกยิงหลายแห่งและมีกระสุนทะลุเข้าปอด (จากที่ฉันได้ยิน) แม้ฉันไม่ได้เจอเขาเลยตั้งแต่เขาต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉันเพิ่งได้พบกับลูกชาย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่หลังและขา อาการของเขาสาหัสมาก แต่พวกเราทั้งหมดก็ยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณที่คอยสวดภาวนาและส่งข้อความแสดงความเป็นห่วงมาหาเรา” Alta Marie ฝ่ายภรรยากล่าว   ที่มา Unilad,…

เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามสำหรับเกม Player Unknown Battle Ground หรือ PUBG หลังจากที่ทำเวอร์ชั่นมือถือ ก็ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับอย่างมากมายจากผู้เล่นทั่วโลก แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ในรัฐคุชราตของประเทศอินเดีย เมื่อล่าสุดนักเรียนทั้งหมด 10 คนที่เล่นเกม PUBG ผ่านโทรศัพท์มือได้ถูกตำรวจเข้าทำการจับกุม เพราะถือว่าเกมดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมายนั่นเอง     โดยจากเว็บไซต์ The Times of India ได้ทำรายงานว่าเกม PUBG ในประเทศอินเดียนั้นเป็นเกมที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมาย ยกเว้นเพียงในรัฐคุชราตเท่านั้นที่มีถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากมีคำร้องมาจากเหล่าผู้ปกครองและนักวิชาการด้านการศึกษาว่าเกมดังกล่าวเสริมสร้างความรุนแรงและขัดขวางการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน ทำให้นักเรียนที่เรากล่าวถึงจำนวน 10 คนถูกตำรวจเข้าจับกุม หลังถูกจับได้ว่าพวกเขาแอบเล่นเกมดังกล่าว (แต่ก็ถูกปล่อยตัวภายหลัง)     หลังจากถูกพ่อแม่และนักวิชาการด้านการศึกษาของอินเดียร้องอย่างหนัก ทางทีมงาน PUBG ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตัดสินใจออกแถลงการณ์มาในเดือนกุมภาพันธ์ว่าทางทีมงานเปิดรับความคิดเห็น พร้อมกับยินดีร่วมมือกับพ่อแม่ นักวิชาการด้านการศึกษา รวมถึงทางรัฐบาลเพื่อรับผิดชอบและพัฒนาเกมให้เหมาะสมกับสังคม   ที่มา The Verge, Indiatimes

ในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าเทคโนโลยีของมนุษย์พัฒนาก้าวกระโดดกว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก หากไม่เข้าใจหรืออยากรู้วิธีทำอะไรต่างๆ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ค้นหาในอินเตอร์เน็ตเท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าวิธีที่เราอยากรู้ในอินเตอร์เน็ตจะทำให้เราทำสิ่งนั้นสำเร็จเสมอไป เมื่อคุณแม่วัย 26 ปีคนหนึ่งพยายามจะ “คลอดลูก” ด้วยตนเองโดยดูวิธีตามวิดีโอในยูทูบ จนสุดท้ายเสียชีวิตทั้งแม่และลูก     เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองโคราฆปุระ ประเทศอินเดีย ในช่วงกลางดึกของคืนวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2019 คุณแม่ท้องแก่คนดังกล่าวเกิดปวดท้องคลอดลูกขึ้นมา แทนที่จะไปคลอดลูกตามปกติที่โรงพยาบาล แต่เธอกลับตัดสินใจที่จะคลอดลูกด้วยตัวเอง เนื่องจากเธอกลัวว่าหากไปโรงพยาบาลจะถูกสังคมรู้และพูดจาเยาะเย้ย เนื่องจากเธอท้องโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน     เธอตัดสินใจเปิดวิดีโอจากยูทูบดูวิธีการทำคลอด จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง แต่แล้วเรื่องเศร้าก็เกิดขึ้น… ในเช้าวันที่ 11 มีนาคม 2019 เจ้าของห้องเช่าของเธอเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากห้องของเธอ จึงทำการพังประตูเข้าไป ซึ่งพบว่าร่างของสองแม่ลูกนั้นนอนแน่นิ่งไปเสียแล้ว จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ     จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจ พบว่าโทรศัพท์มือถือของเธอนั้นกำลังเปิด “วิธีคลอดลูกโดยตัวเอง” บนยูทูบอยู่ นอกจากนี้ในห้องยังพบกรรไกร, มีดและของอื่นๆ วางอยู่รอบๆ ร่างของเธออีกด้วย “ผู้หญิงคนนี้มาขอเช่าห้องของผมเมื่อสี่วันก่อนและบอกผมว่าเดี๋ยวคุณแม่ของเธอจะมาหาเพื่อจะพาเธอไปคลอดที่โรงพยาบาล หลังจากที่ผมยืนยันตัวตนของเธอผ่านบัตรประชาชน ผมก็ให้เธอเช่าห้อง” เจ้าของห้องกล่าว   จะอย่างไรก็ตาม #เหมียวโคบี้ ต้องขอแสดงเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่จากไปด้วยครับ ที่มา Dailymail,…

สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตคู่ที่ไปได้ไม่สวยสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นอกหัก รักคุด หรือแฟนนอกใจ คงจะเข้าใจความเจ็บปวด ณ ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับหนุ่มชาวอินโดนีเซียคนที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็เป็นหนึ่งในคนที่เจ็บปวดจากความรัก เมื่อเขาจับได้ว่าแฟนสาวของตนนอกใจนอก เลยจัดการแก้แค้นโดยการเช่าป้ายโฆษณาแฉซะเลย     เรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมือง Semarang ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อหนุ่มที่เรากล่าวถึงข้างต้นได้เช่าป้ายโฆษณาเพื่อแฉแฟนสาวของตัวเอง โดยในป้ายโฆษณามีข้อความว่า “Risna Rahmatika คุณหักอกผม คุณนอกใจผม ผมต้องการที่จะเลิกกับคุณ”   https://twitter.com/myxzyptlx/status/1104306786683645957?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1104306786683645957&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.worldofbuzz.com%2Fman-finds-out-his-girlfriend-cheated-on-him-rents-giant-billboard-just-to-break-up-with-her%2F   และวันที่ 9 มีนาคม 2019 ก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @myxzptlx ได้บันทึกเหตุการณ์ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งมีปากเสียงกันบริเวณหน้าป้ายดังกล่าว ซึ่งคาดว่าทั้งคู่คงเป็นคู่กรณีนั่นเอง   มีคนถามว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงเหรอ ซึ่งผู้โพสต์ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง   หลังจากที่ผู้โพสต์ โพสต์วิดีโอดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย โพสต์ก็กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วมีคนเข้าชมกว่า 800,000 ครั้ง รวมถึงทวีตอีก 30,000 ครั้ง ทั้งนี้ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย บางคนกล่าวว่า “เฮ้ย นี่มันเรื่องจริงงั้นเหรอ?” หรือจะเป็น “พระเจ้าช่วย คนเหล่านี้บ้าไปแล้ว”  …

ในมหาวิทยาลัย เราคงเห็นว่าหลายๆ ที่จะมีบริเวณที่กำหนดให้สูบบุหรี่ได้เฉพาะ แต่จะเป็นอย่างไรล่ะ หากมีการยอมให้สามารถสูบบุหรี่ในห้องเรียนได้ เหมือนอย่างที่มหาวิทยาลัยหนึ่งในประเทศจีน ที่กำลังกลายเป็นที่ฮือฮาในโซเชียลมีเดีย หลังจากมีภาพที่อาจารย์ยอมให้นักศึกษาลองสูบกลางห้องเรียน โดยอ้างว่าให้เป็นบทเรียนแก่นักศึกาา     เมื่อไม่นานมานี้มหาวิทยาลัยการเกษตรแห่งมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาใน Weibo โซเชียลมีเดียจีนอย่างรวดเร็ว หลังพบภาพนักเรียนสูบบุหรี่ในห้องเรียนกันอย่างสนุกสนาน โดยทาง Zhao Zhengxiong อธิบดีแห่งมหาวิทยาลัยได้เผยว่าคุณครูได้นำบุหรี่หลายยี่ห้อเข้ามาในห้องเรียนและให้นักศึกษาได้ลองสูบเพื่อทำความเข้าใจกับมันว่ารสชาติ ความระคายเคืองหรือความรู้สึกหลังสูบเป็นอย่างไร และแม้ว่า Zhao จะไม่ได้บังคับให้นักศึกษาทุกคนต้องลองสูบ แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะลองสูบด้วยตัวเอง     หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย “แล้วแบบนี้อะไรคือข้อสอบปลายภาคล่ะ? แข่งกันว่าใครสูบบุหรี่ได้เร็วกว่างี้เหรอ?” ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา “ส่งเสริมให้เด็กๆ สูบบุหรี่ ยอดเยี่ยมไปเลย” ชาวเน็ตอีกคนกล่าว     แต่อย่างไรก็ตามทางนักศึกษาของมหาวิทยาลัยดังกล่าวก็ได้ออกมาปกป้องคุณครู โดยเผยว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นหนึ่งในการประเมินความรู้สึกจากการสูบบุหรี่ในคาบเรียนวิชา “เทคโนโลยียาสูบ” เท่านั้นและไม่ได้มีทุกวัน “นี่ไม่ใช่การสูบบุหรี่จริงๆ แต่เป็นกระบวนการเรียนรู้ การประเมินความรู้สึกจากการสูบบุหรี่เป็นสิ่งสำคัญ” นักศึกษาคนหนึ่งกล่าว   ที่มา Odditycentral, The Paper

#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าสิ่งที่เพื่อนๆ หลายคนมักกังวลอยู่เสมอก่อนที่จะออกเดินทางไกล ก็คือการลืมสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรืออาจจะเป็นโทรศัพท์ เช่นเดียวกับเรื่องของคุณแม่คนหนึ่งที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ เพียงทว่าสิ่งที่เธอลืมไม่ใช่สิ่งของต่างๆ แต่เป็น “ลูกของเธอ” ต่างหาก!!     วันที่ 11 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Gulf News ได้ทำการรายงานเกี่ยวกับเที่ยวบิน SV832 ซึ่งบินจากประเทศซาอุดีอาระเบียไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเที่ยวบินดังกล่าวต้องทำเรื่องบินกลับฉุกเฉินหลังมีผู้หญิงคนหนึ่งแจ้งว่าเธอลืมลูกของตัวเองไว้ที่ สนามบินนานาชาติ King Abdul Aziz      วิดีโอข้างต้นนี้เป็นวิดีโอที่ถูกบันทึกขึ้นในระหว่างนักบินคุยกับเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ (Air Traffic Controller) เพื่อขอบินกลับไปยังสนามบินต้นทางอีกครั้ง “ขอพระเจ้าจงสถิตอยู่กับเรา ตอนนี้ขอผมกลับสนามบินก่อนได้มั้ย เที่ยวบินนี้มีคำร้องให้บินกลับไป มีผู้โดยสารคนหนึ่งลืมลูกของเธอไว้ที่สนามบิน เป็นเรื่องที่น่าสงสารมากๆ” นักบินพูดกับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะถามเหตุผลกับนักบินอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก่อนที่นักบินจะตอบกลับมาว่า “เราบอกคุณแล้วไง มีผู้โดยสารลืมลูกเอาไว้ในสนามบินและเธอปฏิเสธที่จะขึ้นเครื่องต่อ”     สุดท้ายทางหอควบคุมจราจรทางอากาศก็ยอมให้เที่ยวบินดังกล่าววนกลับมาเพื่อรับลูกของผู้โดยสารหญิงคนดังกล่าวได้ และเมื่อเรื่องดังกล่าวถูกแชร์ออกไปในอินเตอร์เน็ต ก็มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมยกย่องนักบินเป็นอย่างมาก สำหรับน้ำใจของมนุษย์ที่เขามีให้แก่ผู้โดยสาร แต่กลับกันบางส่วนก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นตำหนิคุณแม่คนดังกล่าว เนื่องจากเธอไม่ระมัดระวังและประมาทจนทำให้เธอลืมลูกของตัวเองเอาไว้ที่สนามบิน   ที่มา Unilad,…

#เหมียวโคบี้ เชื่อว่าหลายๆ คนคงมีคำถามเกี่ยวกับร้านตัดแต่งขนสัตว์ ว่าทำไมราคาถึงแพงยิ่งกว่าการตัดผมคนเสียอีก ซึ่งร้านตัดแต่งขนสัตว์ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่มักจะถูกตั้งคำถามดังกล่าว คราวนี้ทางร้านก็เลยทำการติดป้ายบอกเหตุผลที่ทำไมร้านตัดขนสัตว์ถึงราคาแพงมา 10 ข้อซะเลย แต่ละข้อจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปรับชมกันครับ       10. ช่างตัดผมของคุณไม่ได้สระผมให้คุณเสมอ (แต่ร้านตัดแต่งขนสัตว์จะทำการชโลมแชมพูให้เสมอ) 9. คุณไม่ต้องพาสัตว์มาตัดขนเป็นประจำเหมือนที่คนมักจะไปตัดผมทุก 8 สัปดาห์ (คนมักจะพาสัตว์มาให้ตัดขนก็ตอนที่พวกมันขนฟูยาวและยุ่งเหยิง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรในการตัดแต่งขนเลยล่ะ) 8. ช่างตัดผมไม่ได้ตัดขนแถวจุดสงวนของคุณให้ (แต่ร้านตัดแต่งขนสัตว์จะทำการตัดแต่งให้ทุกซอกทุกมุม)     7. ช่างตัดผมของคุณไม่ได้ทำความสะอาดหูให้แก่คุณ (แต่ร้านตัดแต่งขนสัตว์จะทำความสะอาดหูของสัตว์ให้เป็นอย่างดี) 6. ช่างตัดผมของคุณไม่ได้ทำความสะอาดขี้ตาให้แก่คุณ (แต่สำหรับน้องหมาหลายๆ สายพันธุ์มีขี้ตาเยอะมากๆ ดังนั้นจึงทำต้องความสะอาดอยู่เสมอ) 5. คุณจะอยู่เฉยๆ ตอนที่ตัดผม (แต่กลับกันสัตว์แต่ละตัวที่มาตัดขน หาได้อยู่เฉยๆ ไม่)     4. ช่างตัดผมของคุณไม่ได้ตัดเล็บให้คุณ (แต่ทางร้านตัดแต่งขนสัตว์จะทำการตัดเล็บให้ด้วย) 3. ช่างตัดผมของคุณสระผมให้เฉพาะผมที่อยู่บนหัวของคุณเท่านั้น (แต่ทางร้านตัดแต่งขนต้องล้างให้สัตว์ทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าจะเป็นก้น จุดสงวน หน้าอกหรือหัวนมก็ด้วย) 2. คุณไม่กัดหรือข่วนช่างตัดผม (แต่หมา แมวหรือสัตว์อื่นๆ…

“ชุดนักเรียนญี่ปุ่น” ถือว่าเป็นชุดเครื่องแบบนักเรียนที่มีความสวยงาม โดดเด่น น่ารักและมีเสน่ห์เสียเหลือเกิน ล่าสุดนี้ Mocolle กลุ่มแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ทำงานร่วมกับนักวาดและนักคอสเพลย์ต่างๆ ออกแบบชุดสุดแฟนตาซี ก็ได้จับชุดนักเรียนญี่ปุ่นมาผสมกับชุดว่ายน้ำและออกแบบออกมาเป็นชุดว่ายน้ำสุดน่ารักและโดดเด่น     โดยพวกเขาเรียกผลงานชิ้นใหม่นี้ว่า “Gyaru JK-Style Swimsuit” ซึ่งถ้าแปลตรงๆ ตัวก็สามารถแปลออกมาได้ประมาณชุดว่ายน้ำสไตล์ชุดนักเรียนแบบสาวแกลนั่นเอง ซึ่งชุดดังกล่าวจะแบ่งออกมาเป็นทั้งหมด 4 ส่วน โดยแบ่งออกมาเป็นบีกินี่ 2 ชิ้น กระโปรงคลุมบีกินี่ 1 ชิ้นและเสื้อคลุมสไตล์ชุดนักเรียนญี่ปุ่นอีก 1 ชิ้น     ทาง Chamomile นักคอสเพลย์ผู้ออกแบบชุดดังกล่าวได้เผยว่าชุดว่ายน้ำชุดนี้นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากคนที่กังวลว่าจะถูกแดดเผาบริเวณแขน หลังและบั้นท้าย แต่ถ้าใครซื้อมาแล้วไม่ชอบเสื้อคลุมหรือกระโปรงที่ดูเกะกะก็สามารถถอดออกเพื่อโชว์เพียงแค่ชุดบีกินี่ก็สามารถทำได้   . . . . . . . . .   ชุดว่ายน้ำดังกล่าวมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 สี ก็คือสีชมพู ฟ้าและสีเทา ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการรวบรวมเงินทุนผ่านเว็บไซต์ Campfire อยู่ แถมยังได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี เพราะสามารถยอดบริจาคทุนพุ่งไปถึง…

ตามการ์ตูนญี่ปุ่น เราคงเคยเห็นฉากที่ตัวละครทำการเปลือยกายแล้วไปอยู่ใต้น้ำตกเพื่อฝึกฝนวิชากันอยู่บ่อยๆ ซึ่งในเร็วๆ นี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้ก็ได้เกิดขึ้นในโลกจริงแล้ว เมื่อมีรายงานมาว่าตำรวจญี่ปุ่นทำการจับชายวัย 56 ปีคนหนึ่งที่เดินอยู่ข้างถนนโดยไม่สวมเสื้อใดๆ สักชิ้นโดยเขาอ้างว่าที่ทำไปเพื่อจะ “ฝึกฝนวิชา”     เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2019 เวลาประมาณ 5.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองกิฟุ ประเทศญี่ปุ่นได้รับรายงานมาว่ามีชีเปลือยคนหนึ่งเดินร่อนอยู่ตามถนน ซึ่งพวกเขาก็รีบรุดหน้าไปยังที่เกิดเหตุ ก่อนจะรีบเข้าจับกุมทันที หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถูกจับกุม เขาไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด แต่ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาอนาจารที่ตำรวจตั้งให้ โดยเขากล่าวว่า “ความตั้งใจของผมไม่ได้เป็นการทำอนาจารแต่อย่างใด ผมทำไปเพื่อฝึกฝนเพียงเท่านั้น” นอกจากนี้ตามรายงานยังบอกไว้อีกด้วยว่าในระหว่างที่ให้การกับตำรวจเขาได้ใช้คำว่า “Shugyo” ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายถึงการฝึกตน ฝึกจิตใจไม่ให้หวั่นไหวกับสิ่งใดด้วย     เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ต่อกันผ่านบนโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตญี่ปุ่นมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น บางคนก็บอกว่า “นี่มันต้องเป็นการฝึกฝนวิชาแน่ๆ !” หรือจะเป็น “บางทีการถูกจับแบบนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนของเขาด้วยนะนั่น” แต่บางคนก็เห็นแย้งว่า “ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะว่าออกมาเดินในสภาพเปลือยแบบนี้จะเป็นหนึ่งในรูปแบบของ Shugyo… บางทีเขาอาจจะแค่ชอบมันก็เป็นได้”   ที่มา Soranews, Tokai TV, Hachima Kiko

สำหรับคู่รักหลายๆ คู่ คงวาดฝันให้ชีวิตหลังแต่งงานนั้นโรยไปด้วยดอกไม้ แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่ทุกคู่แต่งงานที่จะมีชีวิตมันเหมือที่เขาวาดฝันเอาไว้ เหมือนอย่างเรื่องของภรรยาสาวคนที่เรานำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ ชีวิตหลังแต่งงานของเธอพังลงทันที เมื่อเธอบังเอิญไปเจอเข้ากับ “สามีตัวเอง” ที่แสดงอยู่ใน “หนังโป๊เกย์” งานนี้เธอโกรธเป็นอย่างมากและอยากจะฟ้องหย่าให้ได้!!     วันที่ 2 มีนาคม 2019 เธอใช้ชื่อว่า Henry_Fondles โพสต์กระทู้ลงในเว็บไซต์ Reddit โดยมีชื่อกระทู้ว่า “ฉันเจอสามีของตัวเองอยู่ในหนังโป๊เกย์และฉันไม่รู้จะพูดคุยกับเขาเรื่องนี้อย่างไรดี” โดยในกระทู้เธอได้เล่าว่าเธอชอบดูหนังโป๊เกย์เป็นอย่างมาก และก็มักจะเข้าไปดูเงียบๆ คนเดียวเป็นประจำ ซึ่งในคืนหนึ่งเธอก็ได้เข้าเว็บโป๊เพื่อจะดูหนัง 18+ ในขณะที่สามีกำลังหลับ เธอสุ่มๆ จิ้มหนังโป๊เกย์ขึ้นมาหนึ่งเรื่อง และทันทีที่เธอเริ่มดูก็ต้องตะลึง เมื่อพบว่านักแสดงในหนังดังกล่าวเป็นสามีของเธอเอง เธอเห็นหน้าเขาอย่างชัดเจน รวมถึงยังเห็นรอยสักพิเศษเฉพาะของเขาอีกด้วย     งานนี้ฝ่ายภรรยาก็เลยโมโหและขยะแขยงสามีเป็นอย่างมาก ที่เขามีอะไรกับผู้ชวยด้วยกันโดยไม่ได้ป้องกัน เธอคิดมากจนนอนไม่หลับเลยในคืนนั้น ถึงขั้นต้องลางานไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย พร้อมกับเผยว่าตอนนี้เธอไม่สามารถที่จะมองหน้าเขาให้เหมือนเดิมได้อีกต่อไปแล้ว และถามเพื่อนสมาชิก Reddit ว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี     หลังจากที่เธอโพสต์เหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมกับถามขอคำแนะนำจากเพื่อนสมาชิก หลายๆ คนจึงเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้เธอฟ้องหย่ากับเขา   . .   สุดท้ายนี้เธอก็เข้ามาอัปเดตกระทู้ว่าเธอได้ทำการพูดคุยกับสามีของเธอแล้ว เขายอมรับเรื่องดังกล่าว แต่เขาบอกว่าเขาไม่ได้เกย์…

สำหรับในหลักสูตรที่เราเรียนมา เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า “ปัสสาวะ” นั้นคือ “ของเสีย” ที่ร่างกายขับออกมาในรูปแบบของเหลว ถึงแม้ว่าเราจะรู้ว่ามันคือของเสียก็ตาม แต่เราก็คงเคยเห็นข่าวของคนที่นิยมดื่มปัสสาวะของตัวเองอยู่ เช่นเดียวกับ Fabian Farquharson ชายชาวอังกฤษวัย 37 ปีคนที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ครับ     Fabian นั้นเป็นอาศัยอยู่ในเมือง Sheffield ทางตอนใต้ของมณฑลยอร์กเชอร์ ซึ่งเขาได้เผยว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมานี้ เขาดื่มปัสสาวะของตัวเองทุกวัน หลังจากได้พบประโยชน์ของปัสสาวะบนอินเตอร์เน็ตโดยบังเอิญ เขาเผยว่าตัวเองจะต้องดื่มปัสสาวะสดๆ ปริมาณ 300-400 มิลลิมิตรในทุกๆ เช้า โดยเชื่อว่ามันทำให้อาการปวดท้องของเขาที่แม้แต่หมอก็ไม่รู้สาเหตุทุเลาลง     “ทุกๆ วันผมต้องเดินทางไกลเพื่อไปทำงาน เลยทำได้แค่กินพวกอาหารขยะอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Burger King เอย McDonald’s เอยหรืออื่นๆ ที่ผมสะดวก หลังจากนั้นผมก็เริ่มรู้สึกปวดท้องอย่างหนัก พอไปพบหมอ หมอก็ไม่สามารถอธิบายอะไรได้เลย ผมจึงเริ่มที่จะหาสาเหตุจากอินเตอร์เน็ตแทน” Fabian กล่าว     ผมลองหาความรู้เกี่ยวกับยารักษาทางเลือก ซึ่งขณะเดียวกับที่ผมไปเจอประโยชน์ของการดื่มปัสสาวะ ซึ่งผมเป็นคนที่เปิดรับอะไรใหม่ๆ เสมอก็เลยตัดสินใจที่จะดื่มมัน รสชาติมันขมกว่าเบียร์เล็กน้อย มันแรงกว่าแต่รสชาติก็ไม่ได้แย่และผมก็ไม่มีปัญหาในการดื่มมัน ซึ่งหลังจากดื่มมันเสร็จสักชั่วโมงผมก็เริ่มรู้สึกดียิ่งขึ้น ผมรู้สึกมีพลังงานมากขึ้นและจากที่จะแนะนำมาให้ทุกคนได้ลอง” เขากล่าวต่อ…

“การลดความอ้วน” ถือว่าเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายของเราดีขึ้น แถมยังสามารถสร้างความมั่นใจให้กับเราได้อีกด้วย เหมือนอย่าง Cassandra Sheldon สาววัย 27 ปีจากประเทศออสเตรเลียคนนี้ เธอตัดสินใจจะทำศัลยกรรมเพื่อลดความอ้วน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเอง แต่ตอนนี้เธอกลับมีเรื่องไม่มั่นใจเรื่องใหม่แทน เมื่อรูปลักษณ์ใหม่ของเธอแตกต่างจากก่อนหน้าที่จะทำศัลยกรรมมากเกินไปและเธอก็กลัวว่าพาสปอร์ตของเธอจะไม่ผ่านการตรวจ     โดย Cassandra เผยว่าแต่เด็กแล้วเธอเป็นคนอ้วน และนั่นเองก็ทำให้เธอต้องพบกับการกลั่นแกล้งในโรงเรียน เธอยังเผยอีกว่าแม้ตลอดระยะเวลาที่เติบโตมา เธอพยายามจะลดความอ้วนด้วยการออกกำลังกายอยู่บ่อยๆ แต่ด้วยนิสัยการกินของเธอก็ยังคงทำให้เธอมีน้ำหนักที่มากอยู่และยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย แถมพอจะออกกกำลังกายก็มักจะมีอาการบาดเจ็บอยู่เสมอ     “ทุกๆ คนเป็นกังวลเกี่ยวกับฉันและฉันเองก็กังวลเช่นกัน ว่าหากฉันยังใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปฉันจะจบลงที่เป็นโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจจากความอ้วน และฉันไปพบกับศัลยกรรมลดความอ้วนพอดี ฉันศึกษามัน พิจารณาอยู่นานสองปี ฉันศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับศัลยกรรมครั้งนี้มามากและฉันก็ตัดสินใจที่จะทำศัลยกรรมกระเพาะอาหารในปี 2017″ Cassandra กล่าว     หลังจากศัลยกรรมมานี้ Cassandra ก็สามารถควบคุมอาหารและพยายามออกกำลังกายตามโปรแกรมที่แพทย์ให้มา เธอสามารถลดน้ำหนักไปได้ถึง 71 กิโลกรัม ซึ่งแน่นอนว่าความกังวลเกี่ยวกับรูปร่างหรือจะถูกกลั่นแกล้งของเธอคงจะหายไปแล้ว แต่ก็มีสิ่งที่น่ากังวลสิ่งใหม่เพิ่มขึ้นมา นั่นคือเธอเผยว่าเธอกังวลว่าจะออกจากประเทศเพื่อไปเที่ยวที่เกาะบาหลี สถานที่เที่ยวในฝันของเธอไม่ได้ เพราะรูปลักษณ์ของเธอนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากรูปในพาสปอร์ตอย่างมาก…     งานนี้ถ้าจะให้ผ่านชัวๆ #เหมียวโคบี้ คิดว่าเธอควรไปทำพาสปอร์ตใหม่นะ ฮ่าๆ   ที่มา Unilad, Dailymail

David Beckham ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะในตำนาน ที่มีทั้งฝีมือการค้าแข้งที่สุดยอด แถมยังมีหน้าตาอันหล่อเหลา ทำเอาทั้งชายหญิงต่างคลั่งไคล้ จากการค้าแข้งช่วงสุดท้ายของอาชีพกับทีม Los Angeles Galaxy ล่าสุดทีมดังกล่าวได้ลงทุนทำรูปปั้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Beckham ไว้หน้าสนาม แต่ประเด็นก็คือชาวเน็ตคิดว่ารูปปั้นนั้นมันไม่เหมือน Beckham สักนิด!!   Forever in #LAGalaxy history.#BeckhamStatue | #Since96 pic.twitter.com/sHsIehk2yt — LA Galaxy (@LAGalaxy) March 3, 2019   วันที่ 3 มีนาคม 2019 ทางทวิตเตอร์ของ LA Galaxy ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอเปิดตัวรูปปั้นของ David Beckham หน้า Dignity Health Sports Park สนามเหย้าของทีม แต่แทนที่แฟนๆ จะชื่นชมไปกับเกียรติประวัติของนักเตะหน้าหยก ทันทีที่พวกเขาได้เห็นกับหน้าตาของรูปปั้นแบบใกล้ๆ ก็ต้องไปโฟกัสกับหน้าตารูปปั้นที่ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมือน Beckham แทน   ซูมดูใกล้ๆ…

ไม่ว่าจะทำงานอาชีพอะไรก็ตาม แต่ละอาชีพล้วนมีความเสี่ยงแฝงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ นักกีฬา วิศวกรหรือแม้แต่ผู้ดูแลสัตว์ก็ตาม เมื่อล่าสุดนี้ได้มีผู้ดูแลสัตว์คนหนึ่งต้องเสียชีวิตระหว่างการฝึกสัตว์ หลังพลาดลื่นไปอยู่ข้างช้างตัวที่เขากำลังฝึกให้นั่งลง นั่งทับจนเสียชีวิต     โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ผู้ดูแลสัตว์วัย 40 ปีนามว่า Arun Panikkar จากประเทศอินเดีย กำลังฝึกช้างที่เขากำลังดูแลอยู่ให้นั่งลง ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าช้างจะไม่ค่อยฟังคำสั่งของเขาสั่งสักเท่าไหร่ ทำให้เขาโมโหเป็นอย่างมากและคิดที่จะใช้ไม้ตีมัน แต่ด้วยพื้นที่เขายืนอยู่นั้นเปียกน้ำ ทำให้ตอนที่เขาเหวี่ยงไม้จะตีมัน ก็เกิดเสียหลักและล้มลงไปอยู่ใต้ช้างทันที จังหวะเดียวกันนั้นเจ้าช้างที่เขาฝึกก็นั่งลงพอดี จึงนั่งทับเขาเข้าอย่างจัง      จากคลิปวิดีโอ หลังจากที่ Arun ถูกช้างที่ตนฝึกนั่งทับ ก็มีเพื่อนร่วมงานอีกคนรีบวิ่งเข้าไปดู แต่แน่นอนว่าน้ำหนักของช้างนั้นมากเกินกว่าจะคนคนเดียวจะยกหรือดันออกได้ เขาจึงต้องหาทางอื่นเพื่อทำให้ช้างลุกขึ้นจากเพื่อนร่วมงานของเขา เขารีบไปหยิบไม้มาเพื่อไล่ให้ช้างตัวดังกล่าวลุกขึ้น ซึ่งช้างก็ยอมลุกขึ้นโดยดี แต่ไม่ทันการเสียแล้ว เนื่องจาก Arun เสียชีวิตแทบจะทันทีตอนที่ถูกช้างนั่งทับ โดยจากรายงานพบว่าน้ำหนักของช้าง ทำให้กะโหลกของ Arun แหลกทันทีที่มันนั่งทับเขา     หลังจากเรื่องนี้ถูกแชร์ลงโซเชียลมีเดีย ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ไว้อาลัยให้กับชายผู้ทำร้ายช้างเพื่อสั่งให้มันนั่งลง” หรือ “เขาได้รับสิ่งที่เขาสมควรโดนแล้ว น่าสงสารช้างที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น”   ที่มา Dailymail, Unilad

ปกติแล้ว การเล่นกีฬาไม่ว่าจะประเภทใดๆ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ทำให้เรารู้จักแพ้ รู้จักชนะและรู้จักกับน้ำใจนักกีฬา แต่ดูเหมือนว่าการเล่นกีฬาครั้งที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ จะไม่ได้สุขภาพเสียแล้ว เมื่อมีนักฟุตบอลคนหนึ่งพก “มีดโกน” ลงสนามและใช้มันทำร้ายผู้เล่นอีกทีมจนได้รับบาดเจ็บ   Amedsporlu futbolcu Mansur Çalar, Sakaryaspor maçına elinde gizlediği jiletle çıktı ve rakip takım futbolcularını yaraladı@TFF_Orgpic.twitter.com/QHhal7r14n — SPOR (@yenisafakspor) March 3, 2019   เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งระหว่างทีม Amed SK และ Sakaryaspor ทีมจากดิวิชั่น 3 ของลีคตุรกี ที่จบการแข่งขันด้วยการเสมอกัน 1-1 ประตู ซึ่งระหว่างการแข่งดำเนินอยู่นั้น ได้มีการกระทบกระทั่งกันบ่อยๆ ของผู้เล่นทั้งสองทีม โดย Mansur Calar ผู้เล่นทีม Amed SK ได้เดินเข้าไปใช้มีดโกนที่เขาแอบพกเข้ามาทำร้าย Ferhat…

ประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นประเทศที่กล้าคิดกล้าทำและมีความสร้างสรรค์มากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก และยิ่งในวงการคอสเพลย์แล้วด้วย เราก็มักได้เห็นชุดคอสเพลย์แปลกๆ อยู่เสมอๆ ล่าสุดนี้ทาง Moira Design บริษัทจากญี่ปุ่นก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สำหรับผู้ใหญ่ที่อยากเลิกเป็นผู้ใหญ่และอยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเด็กๆ เพราะผลิตภัณฑ์นั้นคือ “ชุดคอสเพลย์เด็กทารก” !!     ชุดดังกล่าวทางบริษัทได้บอกว่าได้รับแรงบันดาลมาจากประโยคว่า “Otona datte ogyaritai” ที่แปลได้ว่า “แม้แต่ผู้ใหญ่ก็อยากถอยกลับไปสู่วัยเด็ก” และคำว่า Ogyaritai ในประโยคดังกล่าวก็เป็นคำพ้องเสียงที่มาจากคำว่า Ogya (เสียงร้องของเด็ก) อีกด้วย ดังนั้นชุดใหม่ของพวกเขาจึงออกมาเหมือนที่เราได้เห็นกันข้างต้นนี้     ทาง Moira Design ได้เล็งกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์นี้ไปที่เหล่านักคอสเพลย์กับนางแบบเซ็กซี่ แต่บริษัทก็ยังบอกว่าใครๆ ก็สามารถใส่ได้ หากคนดังกล่าวอยากที่จะปลดปล่อยความเครียดและกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง     โดยเจ้าชุดคอสเพลย์เด็กทารกนี้เองวางขายจำกัดช่วงเวลา ซึ่งจะเปิดจองในเว็บไซต์ Village Vanguard วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2019 ถึง 8 มีนาคม 2019 เท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 19,800 เยน (5,600 บาท) สำหรับชุดครบเซต หรือหากจะซื้อแยกส่วนชุดกับหมวกก็คืออยู่…

“หิมะ” ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายๆ คนมองว่ามีสวยงามและหาชมได้ยาก แต่แท้จริงแล้วเจ้าหิมะเหล่านี้ไม่ได้มีเพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังแอบซ่อนความอันตรายอยู่อีกด้วย เหมือนอย่างเรื่องของ Jeremy Taylor หนุ่มที่เราจะนำมาให้ชมในวันนี้ ต้องติดอยู่บนเขาถึง 5 วัน หลังหิมะตกหนักจนทำให้รถที่เขาขับขึ้นมาไม่สามารถขยับไปไหนได้     วันที่ 2 มีนาคม 2019 เว็บไซต์ Fox 32 ได้ทำการรายงานว่า Jeremy Taylor หนุ่มวัย 34 ปี ผู้รักกีฬาเอาท์ดอร์ได้หายตัวไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2019 โดยตามรายงานพบว่า Jeremy ตั้งใจจะออกไปเดินเขาพร้อมกับ Ally น้องหมาคู่ใจของเขา แต่หิมะนั้นหนาเกินไปจนทำให้พวกเขาเดินกันไม่ได้ และเมื่อทั้งคู่กลับไปที่รถ ก็พบว่ารถขยับไปที่ไหนไม่ได้เพราะหิมะเช่นเดียวกัน     โชคดีที่รถยังสามารถสตาร์ทได้อยู่ ดังนั้น Jeremy จึงตัดสินใจที่จะใช้ฮีทเตอร์จากรถให้ความอบอุ่นและนอนหลับภายในนั้น โดยใช้ “ซอสของ Taco Bell” ที่เขาพกมาด้วยเป็นอาหารประทังชีวิต เวลาผ่านไป 5 วันในที่สุดในวันที่ 1 มีนาคม 2019…

เพื่อนๆ รู้กันหรือไม่ว่าในโลกนี้ไม่มีเพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่เสพติดสารต่างๆ ได้ แต่สัตว์ชนิดอื่นๆ ก็มีอาการเสพติดได้เช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่เหล่านกแก้วอินเดีย     เมื่อล่าสุดนี้มีรายงานมาว่าในประเทศอินเดีย ได้มีการพบนกแก้วโม่งอินเดียที่มีอาการ “เสพติดฝิ่น” ออกอาละวาดบุกรุกไล่โจมตีฟาร์ม “ดอกป๊อปปี้” เล่นเอาชาวสวนเดือดร้อนไปตามๆ กัน โดยที่เป็นอย่างนั้นเนื่องจากต้นฝิ่นถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธ์ของดอกป๊อปปี้และให้สารชนิดเดียวกับที่พวกมันต้องการนั่นเอง     ซึ่งการกระทำแบบนี้ของเหล่านกแก้วนั้นถือว่าสร้างความเสียหายให้กับชาวสวนเป็นอย่างมาก เนื่องจากกว่าจะปลูกฝิ่นหรือป๊อปปี้ได้ ต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จากการขอใบอนุญาตพิเศษถึงจะทำการปลูกได้ “ดอกป๊อปปี้หนึ่งดอกจะมีฝิ่นประมาณ 20-25 กรัม และนกแก้วฝูงใหญ่ก็ลงมากินพืชเหล่านี้วันละ 30-40 ครั้ง บางครั้งถึงขนาดที่คาบต้นป๊อปปี้บินกลับไปด้วย มันส่งผลต่อการผลิตของเรามาก เราต้องเจอกับปัญหาฝนไม่ตกตามฤดู แล้วยังต้องมาเจอปัญหานี้อีก ไม่มีใครยอมฟังปัญหาของพวกเราเลย แล้วใครจะเป็นคนชดใช้สำหรับความสูญเสียของเรา?” Nandkishore หนึ่งในคนปลูกต้นป๊อปปี้กล่าว     นอกจากนี้ชาวสวนก็กล่าวเพิ่มเติมว่าเคยขอความช่วยเหลือไปยังเทศบาลเมือง Madhya Pradesh เพื่อขอลำโพงมาเปิดเสียงดังๆ ขับไล่นกแก้วเหล่านี้ดูแล้ว แต่ทางการก็ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ ทำให้ชาวสวนต้องร่วมมือกันจัดเวรยามทั้งกลางวัน กลางคืนเพื่อทำเสียงดังให้นกกลัวและหนีไปแทน “พวกเราพยายามที่จะทำเสียงดังและใช้ประทัดเพื่อให้นกกลัว แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย” Nandkishore กล่าวเพิ่มเติม     ส่วนทาง Dr. R.S. Chundawat ผู้เชี่ยวชาญฝิ่นแห่ง Horticulture College ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าสำหรับนกแล้ว ฝิ่นให้ผลเหมือนที่กาแฟส่งผลต่อมนุษย์ “ฝิ่นช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่นกพวกนี้…

สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ต้องแยกทางกับคนรัก คงจะเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดเวลาที่ได้เห็นรูปที่ถ่ายด้วยกันหรือนึกถึงความทรงจำที่ได้ใช้เวลาร่วมกันมา และถ้าเพื่อนๆ กำลังประสบกับปัญหาดังกล่าว วันนี้ขอแนะนำให้รู้จักกับ Edit My Ex เว็บไซต์แนวใหม่ที่เปิดรับบริการ “ลบภาพแฟนเก่า” ออกจากรูปที่เคยถ่ายด้วยกัน     โดยเว็บไซต์ Edit My Ex นี้ก็มีวิธีการใช้แสนง่าย เพียงแค่เข้าไปในเว็บ จากนั้นก็อัปโหลดรูปภาพที่คุณอยากให้ลบรูปแฟนเก่าออกและบอกระบุคนที่คุณอยากให้ลบ พร้อมจ่ายเงินจำนวน 8.99 ปอนด์ (370 บาท) หลังจากนั้นภายใน 48 ชั่วโมง คุณก็จะได้รูปภาพรูปเดิมที่ปราศจากแฟนเก่าของคุณกลับมา     Mark Rofe ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ดังกล่าวได้เผยว่าเขาได้ไอเดียนี้มาจากตอนที่เพื่อนขอให้เขาช่วยลบแฟนเก่าที่จบไม่สวยออกจากภาพที่สำคัญของเธอให้หน่อย และเมื่อเขาส่งภาพที่ลบแฟนเก่าออกไปแล้วให้กับเธอ ก็พบว่าเธอรู้สึกยินดีก่อนจะหัวเราะจนน้ำตาไหลออกมา ซึ่งเมื่อ Mark ได้เห็นภาพดังกล่าว เขาก็รู้ถึงความสำคัญของการลบแฟนเก่าออกจากรูปภาพแสนสำคัญทันที     “หลังจากผมให้ภาพนั้นเป็นของขวัญให้เพื่อนของผม ผมก็เห็นว่าภาพดังกล่าวมันทรงพลังขนาดไหน ผมก็เลยคิดว่าผมน่าจะใช้ทักษะของผมและทีมทำให้คนที่อกหักกลับมายิ้มได้ พวกเราแทบจะรอไม่ไหวที่จะเริ่มช่วยเหลือคนอื่นๆ ให้นำรูปภาพสำคัญที่เต็มไปด้วยความทรงจำกลับมาเป็นภาพที่พวกเขาชื่นชอบได้อีกครั้ง โดยปราศจากส่วนเกินที่พวกเขาไม่ยินดี” Mark กล่าว     สำหรับคนที่อยากใช้บริการของพวกเขา ก็สามารถเข้าไปที่ Edit My Ex ได้เลยนะครับ ซึ่งตอนนี้ทางเว็บมีโปรโมชั่นหากทำขั้นต่ำ 4…

ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีที่ใช้ในวงการสื่อนั้นพัฒนาเป็นอย่างมาก ในหลายๆ รายการข่าวเราจะเห็นว่าบ่อยครั้งที่พวกเขาใช้ฉากหลังเป็น “กรีนสกรีน” เพื่อสามารถใส่ภาพหรือเอฟเฟกต์ต่างๆ ประกอบกับข่าวได้     แต่สำหรับสำนักข่าวที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันในวันนี้ กรีนสกรีนไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาอีกต่อไป เพราะแทนที่จะใช้ฉากเขียวเหมือนที่เราเห็นกันบ่อยๆ สำนักข่าวนี้ลงทุนยกโต๊ะข่าวไปถ่ายทำให้สถานที่จริงกันเลยทีเดียว พบกับสำนักข่าว MBC ช่องข่าวจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ลงทุนเดินทางไปถึงประเทศเวียดนามเพื่อติดตามทำข่าวประชุมซัมมิตระหว่าง “สหรัฐ-เกาหลีเหนือ” ที่ประเทศดังกล่าวเป็นเจ้าภาพ   .   ซึ่งปกติแล้วเวลาออกไปทำข่าวนอกสถานที่แบบนี้ ส่วนใหญ่เราก็คงเห็นนักข่าวออกไปยืนรายงานข่าวคนเดียวคู่กับช่างภาพ แต่สำหรับสำนักข่าว MBC แล้ว พวกเขาบังเอิญไปเจอมีวิวสวยๆ บนโรงแรม Hanoi Daewoo Hotel ก็เลยยกสตูดิโอไปตั้งโดยใช้ฉากหลังเป็นวิวของเมืองฮานอยจริงๆ โดยไม่ต้องใช้ฉากเขียวเลยแม้แต่น้อย   .   หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ลงโซเชียลมีเดียและกลายเป็นไวรัลไปอย่างรวดเร็ว ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย   MBCNEWS ลบสำนักข่าว ABS-CBN หรือ GMA ไปเลย   *สำนักข่าว KMJS ออกจากกลุ่ม*   *ทุกสำนักข่าวออกจากกลุ่ม*   วงการสื่อข่าวต้องสั่นสะเทือน  …

ประเทศรัสเซีย เป็นประเทศที่เราสามารถเจอกับเรื่องแปลกที่มีความสุดโต่งหลายรูปแบบ จนคนไทยหลายคนอดที่จะมอบประโยค “โหดสัสรัสเซีย” ให้ไม่ได้ ล่าสุดนี้ประเทศดังกล่าวก็ได้โชว์ความ “โหดสัส” อีกแล้ว หลังมีภาพของชายรัสเซียคนหนึ่งที่ถูก “มีด” ปักคาอยู่ที่หลัง กำลังเดินออกไปนอกโรงพยาบาลเพื่อสูบบุหรี่ แถมยังใส่กางเกงในตัวเดียวในสภาพอุณหภูมิ -10 องศาเซียลเซส!!      วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2019 เว็บไซต์ Dailymail ได้ทำการรายงานว่านาย Vladimir ชาวรัสเซียวัย 34 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกมีดแทงหลังจากการทะเลาะวิวาทในวงเหล้า จนต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัวเขาอย่างเร่งด่วน ระหว่างการเดินทางไปโรงพยาบาล ทางพยาบาลบนรถก็ได้ทำการฉีกเสื้อของเขาออก เพื่อที่ไม่ให้กระทบต่อบาดแผล     เมื่อไปถึงโรงพยาบาล ขณะที่กำลังรอหมออยู่นั้น จู่ๆ Vladimir ก็ลุกขึ้นและทำท่าจะเดินไปที่ไหนสักแห่ง และด้วยความเจ็บปวดทำให้เขาต้องใช้มือจับราวทางเดินเพื่อประคองตัวเอง “คุณจะไปไหนน่ะ? ข้างนอกมันหนาวนะกลับมาข้างในเถอะ” พยาบาลกล่าวกับเขา ก่อนที่ Vladimir จะหันกลับมาบอกว่า “จะไปสูบบุหรี่” ณ สภาพอากาศตอนนั้นมีหิมะตกและอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ -10 องศาเซลเซียส Vladimir…

ย้อนกลับไปในปี 2016 ได้มีเกมมือถือนามว่า Pokemon Go เปิดให้บริการ ด้วยแนวเกมที่สร้างสรรค์และแปลกใหม่ก็สามารถสร้างความฮือฮา พร้อมกับได้รับความนิยมอย่างมาก แม้ว่าปัจจุบันความนิยมของ Pokemon Go จะลดลง แต่ก็มีผู้เล่นหรือกลุ่มคนที่เรียกว่า “เทรนเนอร์” ที่ยังคงเล่นเกมดังกล่าวอยู่ และประเด็นในวันนี้คือก็ หนึ่งในเทรนเนอร์ที่ยังเล่นเกมอยู่นี้ถูกตำรวจจับ เนื่องจากทำการ “ตบ” ตำรวจ หลังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่เข้ามาวุ่นวายกับการจับโปเกมอน     เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2019 ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจได้รับรายงานว่ามีกลุ่มเทรนเนอร์กว่า 50 คนมารวมตัวและกีดขวางทางจราจร เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุ ก็เหลือเทรนเนอร์อยู่เพียง 2 คนเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ขอทั้งสองคนออกจากพื้นที่โดยดี ซึ่งเทรนเนอร์คนหนึ่งก็ยอมกลับดีๆ แต่ประเด็นอยู่ที่เทรนเนอร์วัย 40 ปีคนที่สอง     เทรนเนอร์คนดังกล่าวได้เข้าประจัญหน้ากับเจ้าหน้าที่และพูดว่า “เพราะพวกแก ฉันเลยจับมัน (โปเกมอน)ไม่ได้” ก่อนที่จะทำการตบหน้าเจ้าหน้าที่ไปหนึ่งที โดยมีการคาดเดากันว่าในวันดังกล่าวเป็นวันที่ Pokemon GO มีกิจกรรมพิเศษที่ร่วมมือกับบริษัท…

ในวันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2019) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีงานประกาศผลรางวัลทางภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Oscars หรือ Academy Award ซึ่งในงานดังกล่าวก็มีเหตุการณ์มากมายหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น และประเด็นที่เราจะนำมาให้ได้ชมกันในวันนี้ก็คือ ประเด็นที่ผู้ชมงานงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อพบว่า Paul Rudd หน้าตาหนุ่มกว่าอายุจริงมากๆ     โดยแท้จริงแล้วเจ้าของบท Scott Lang หรือ Ant-Man มีอายุอานามปาไป 49 ปีแล้ว และจะครบ 50 ปีในอีกสองเดือนข้างหน้านี้เอง ในงานประกาศผลครั้งนี้ Paul Rudd ได้รับเกียรติให้ขึ้นไปเป็นพิธีกรประกาศผลรางวัล Best Visual Effects คู่กับ Sarah Paulson แต่ยังไม่ทันได้ประกาศผลรางวัล เรื่องหน้าเด็กของเขาก็กลายเป็นที่พูดถึงในโซเชียลอย่างรวดเร็ว   พวกเราทุกคนเพิ่งจะเข้ากูเกิลเพื่อไปเสิร์ชหา “อายุของ Paul Rudd” ใช่มั้ย? We all just googled "Paul Rudd age" right? — Mike…

เราคงเคยถูกสอนกันมากบ้างว่า หากคู่รักดูใจกันนานๆ จะช่วยให้ความรักครั้งนั้นเป็นความรักที่ดีและยืนยาว แต่เอาจริงๆ แล้ว หากคนมันจะใช่แม้จะเคยเจอกันไม่กี่ครั้งก็ใช่อยู่ดี เหมือนอย่างเรื่องราวของอดีตไอดอลวง AKB48 ของญี่ปุ่นที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เธอถูกคนที่เธอกำลังคุยอยู่ขอแต่งงานภายในเดตแรกของพวกเขา และเธอก็ได้ตอบตกลงอีกด้วย     ไอดอลหญิงคนดังกล่าวคือ Shinoda Mariko หรือที่แฟนคลับชาวไทยเรียกเธอว่า “เจ๊มะลิ” สมาชิกรุ่นหนึ่งของ AKB48 ที่เข้าวงมาตั้งแต่อายุเพียง 19 ปีและประกาศจบการศึกษาไปในปี 2013 ล่าสุดในปัจจุบันในวัย 32 ปี Mariko ได้ทำการประกาศข่าวดีให้แฟนๆ ได้ทราบกันว่าเธอนั้น “แต่งงาน” แล้ว     ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เธอได้ทำการโพสต์ภาพโน๊ตที่เขียนโดยลายมือของเธอลงในแฟนไซต์ของตน โดยประกาศว่าเธอนั้นได้แต่งงานในวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมยังบอกอีกว่าคู่ชีวิตของเธอเป็นเพียง “ผู้ชายธรรมดา” “ผู้ชายธรรมดา” ในที่นี้ของเธอก็คือผู้ชายที่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงหรือวงการอื่นๆ ที่อยู่ในสายตาของสาธารณชน แถมมีอายุอ่อนกว่าเธอ 3 ปี แต่เรื่องที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้นก็คือความสัมพันธ์ของพวกเขาก่อนแต่งงานนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากๆ     โดย Mariko ได้เผยว่าสามีเป็นเพื่อนของเพื่อนและเจอกันครั้งแรกก็ตอนเธอไปทานอาหารกับเพื่อนคนดังกล่าวเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมาและมีโอกาสได้เจอกันเป็นครั้งที่สองตอนที่เพื่อนกลุ่มเดิมมารวมตัวกันอีกครั้ง จากนั้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน…

สำหรับคุณพ่อบ้านทั้งหลาย คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าหากแฟนสาวของคุณกำลังอยู่ในช่วงเป็นประจำเดือน พวกเธอจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นอย่างมาก สามารถโกรธคุณได้ทุกเรื่อง ทั้งๆ บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เล็กน้อยเหลือเกิน ซึ่งผู้หญิงที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าขณะนั้นเธอเป็นประจำเดือนหรือไม่ แต่ดูท่าทางแล้วอารมณ์ฉุนเฉียวน่าดู เพราะเธอตัดสินใจฟ้องหย่ากับสามี เพราะเขา “ลืมซื้อเบอร์เกอร์” มาให้เธอ!!     ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นสาววัย 20 ปีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เธอได้บอกว่าในวันดังกล่าวสามีที่กำลังจะกลายเป็นอดีตสามีของได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนของเขา และขากลับเขาก็ลืมเบอร์เกอร์ที่เธอฝากเอาไว้ เมื่อเขากลับมาถึงบ้านในเวลาประมาณ 03.00 น. ทั้งคู่ก็มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ทั้งคู่เถียงกันไป เถียงกันมา จนสุดท้ายฝ่ายภรรยาก็ตัดสินใจที่จะออกจากบ้านไปและตัดสินใจยื่นฟ้องฝ่ายสามีในภายหลัง     ทาง Hasan Al Mazrooqi ทนายความที่รับผิดชอบกรณีดังกล่าว ได้แสดงความเห็นแนะนำให้คู่รักทั้งสองได้พูดคุยจัดการเรื่องความคาดหวังของการแต่งงานที่พวกเขาอยากให้เป็น และเขายังคิดอีกว่านั่นจะสามารถช่วยหยุดการมีปากเสียงและทะเลาะกันจนต้องถึงขั้นขึ้นศาล Hasan Al Mazrooqi กล่าวว่า “กฎหมายกำหนดเอาไว้ว่าหากไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน เรื่องของคู่รักจะถูกยกให้กับผู้พิพากษาที่ต้องการช่วยจัดการปัญหาของพวกเขาแทน และหากฝ่ายภรรยายังยืนยันที่จะหย่า สินสอดหลังแต่งงานจะถือว่าเป็นโมฆะ”    ก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายฝ่ายภรรยาจะหย่าเพราะเรื่องเบอร์เกอร์จริงหรือไม่ แต่งานนี้ฝ่ายสามีคงต้องจำไว้ให้ขึ้นใจเลย ว่า”เรื่องกิน(ของภรรยา)น่ะเรื่องใหญ่”   ที่มา Unilad, khaleejtimes

“กระเป๋าถือ” เป็นอุปกรณ์ใส่ของที่เปรียบเหมือนเครื่องประดับสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ดังนั้นการมีกระเป๋าที่ดีไซน์แปลกใหม่ ดูไม่ซ้ำกับคนอื่นๆ แล้วก็คงจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนต้องการ เหมือนอย่างที่ Joan ผู้หญิงวัย 55 ปีจากประเทศอังกฤษคนนี้ได้คิดเอาไว้ เพียงแต่ความคิดของเธอออกจะแปลกและแหวกแนวไปหน่อย เพราะเธอคิดที่จะทำกระเป๋าที่ใช้ “ผิวหนังของตัวเอง” มาทำ…     เนื่องจาก Joan ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดส่วนปลายอุดตันและแพทย์ได้วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องตัดขาเพื่อรักษาชีวิตของเธอ และนั่นเองทำให้ความคิดที่จะใช้ผิวหนังมนุษย์มาทำเป็นกระเป๋าของเธอผุดขึ้นมา “ฉันรู้ดีว่ามันค่อนข้างแปลกและดูเลวร้าย แถมบางคนคงคิดว่าฉันบ้าไปแล้ว แต่นั่นมันขาของฉันนะ ฉันเฝ้าเห็นถูกทิ้งให้เน่าเปื่อยไม่ได้หรอก มันคือส่วนหนึ่งของฉัน ฉันอยากเก็บมันเอาไว้ ฉันรู้มันแปลก แต่ก็มีหลายคนที่เก็บสายสะดือของลูกของตัวเองเอาไว้โชว์นี่ ถ้าคิดแบบนี้แล้วมันก็จะไม่แปลกสักเท่าไหร่” Joan กล่าว     ประจวบเหมาะกับที่ Joan ได้ยินข่าวว่าเคยมีผู้หญิงคนติดต่อให้บริษัทตัดเสื้อช่วยทำเสื้อที่ทำจากผมของแม่ของเธอผ่านทางเว็บไซต์ Sewport เว็บไซต์ที่สามารถให้ลูกค้าติดต่อกับบริษัทต่างๆ ได้โดยตรง เธอจึงไม่รอช้า ตัดสินใจที่จะส่งข้อความไปยังเว็บไซต์ดังกล่าวเพื่อตามหาบริษัทที่จะมารับทำกระเป๋าที่เธอต้องการ ด้วยงบประมาณ 3,000 ปอนด์ (120,000 บาท) แต่หากไม่พอก็สามารถเพิ่มได้อีก โดยเธอได้เล่าเรื่องราวของเธอรวมถึงโรคที่เธอเป็น และก็เล่าว่าเธออยากที่จะเก็บขอเอาไว้โดยการแปรรูปให้มาอยู่ ในรูปแบบกระเป๋าถือ แถมยังมีการออกแบบกระเป๋าตัวต้นแบบมาให้อีกด้วย   .   จากรายงานพบว่า ในขณะนี้ Joan ยังอยู่ในช่วงทำการพูดคุยกับโรงพยาบาลเรื่องที่จะเก็บขาของตนเอาไว้หลังจากการผ่าตัด…

ก่อนหน้านี้เราได้นำเสนอข่าวของคุณผู้หญิงคนหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยความลับของสามีที่เธอเคยคิดว่าเป็น “คนหัวโบราณ” จะรอมีเซ็กส์หลังจากแต่งงานเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วเธอพบว่าจุ๊ดจู๋ของเขานั้นเล็กจิ๋วมากๆ ต่างหาก ข่าวเก่า: หนุ่มบอก “รอแต่งงานแล้วค่อยมีอะไรกัน” พอถึงวันนั้นจึงพบว่าเขามี “จุ๊ดจู๋ที่เล็กจิ๋วมาก”!!     ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2019 คุณผู้หญิงคนดังกล่าวได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองกับแฟนหนุ่มที่เพิ่งแต่งงานกันผ่านเว็บไซต์ Reddit โดยเธอกล่าวว่าระหว่างที่คบกัน แฟนหนุ่มได้ขอเธอเอาไว้ว่าอยากรอให้แต่งงานกันก่อน ถึงค่อยมีอะไรกัน ซึ่งเขาก็บอกว่าไม่ได้เคร่งศาสนาอะไรหรอก แค่เขาเป็นคนหัวโบราณเท่านั้นเอง แต่เมื่อแต่งงานกันแล้ว เธอก็พบความจริงว่าอวัยวะเพศของสามีเธอนั้นคือสิ่งที่เรียกว่า Micropenis หรือความผิดปกติของอวัยวะเพศชาย ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรเท่านั้น และจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั่นก็ทำเอาเธอกลับไปมองเขาเหมือนเดิมไม่ได้เลย     ซึ่งข้อความดังกล่าวที่เธอได้โพสต์ลงโซเชียลมีเดียไป ก็กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว ล่าสุดคุณผู้หญิงคนดังกล่าวก็ได้กลับมาอัปเดตโพสต์ แม้ว่าเธอจะไม่ได้ระบุชื่อลงในข้อความที่พิมพ์ แต่เธอกำลังถูกสามีของเธอขอหย่าและขู่ฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นประมาทกับเธอ     เธอได้เล่าว่าสามีของเธอทราบเรื่องที่เธอนำเรื่องราวของเขาไปเล่าบน Reddit เมื่อสัปดาห์ก่อน และพวกเขาก็ได้มีปากเสียงกันเกี่ยวกับเรื่องที่ฝ่ายชายเก็บความลับเรื่องขนาดของอวัยวะเพศเอาไว้ ซึ่งฝ่ายสามีก็บอกประมาณว่าเพราะเขากลัวเธอจะทิ้งเขาไปหากเธอรู้เรื่อง Micropenis ก่อนถึงงานแต่ง และจริงๆ เขาก็ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้ก่อนแต่งงานอยู่แล้ว เพียงแต่เขากลัวถ้าครอบครัวของทั้งสองฝ่ายรู้แล้วจะเอาไปนินทากันสนุกปาก นั่นคงทำให้เขาเจ็บปวดมากๆ อย่างแน่นอน     สุดท้ายนี้เรื่องราวครั้งนี้จะจบลงอย่างไร เราคงต้องติดตามชมกันต่อไปครับ…

เพื่อนๆ เคยได้ยินประโยคว่า “สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ” กันบ้างหรือเปล่า? ซึ่งเรื่องที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้เองก็เป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่อธิบายถึงประโยคดังกล่าวได้เป็นอย่างดี พบกับ Ryan Belcher ชายร่างยักษ์หุ่นหมีกล้ามใหญ่ ที่ปกติแล้วเข้าฟิตเนส 5 วันต่อสัปดาห์ และเรื่องในคราวนี้ก็สามารถจบลงได้ดี ก็เพราะการออกกำลังกายอย่างหนักของเขา     เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 ณ เวลาประมาณ 16.30 น. ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกันในมิชิแกน ทาง Ryan ได้ยินเรื่องราวดังกล่าว ก็รีบวิ่งมายังสถานที่เกิดเหตุ เพื่อดูว่ามีอะไรที่เขาจะสามารถช่วยได้หรือไม่ เขาพบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวแย่กว่าที่คาดคิดเอาไว้มาก มีคนบาดเจ็บเต็มไปหมด แต่ที่หนักที่สุดก็คงเป็นชายวัย 36 คนที่ร่างติดอยู่ใต้รถจีปหนักราว 2 ตัน (2,000 กิโลกรัม)     และแม้ว่าในชีวิตจะไม่เคยยกของหนักถึง 2 ตันมาก่อน แต่ในเวลานั้น Ryan ก็ตัดสินใจที่จะใช้พลังทั้งหมดของเขายกรถจีปเพื่อช่วยให้ชายคนดังกล่าวคลานออกมาได้ “ครึ่งตัวบนของเขาโผล่ออกมาจากรถ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งยังติดอยู่ใต้รถ ผมไม่มีตัวเลือกอื่นๆ มีก็แค่เชื่อในตัวเองแล้วช่วยเขาหรือเลือกที่จะไม่เชื่อในตัวเองแล้วปล่อยให้เขาตาย ดังนั้นผมเลยเข้าไปทำสิ่งที่ผมทำได้ ผมก็แค่เข้าไปแล้วก็ยกและออกแรงผลักรถคันดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ นั่นแหละที่ผมต้องทำ…

“โรคมะเร็ง” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่เป็นต้นเหตุให้มนุษย์เสียชีวิตกันอย่างมากมาย รวมถึงผู้ป่วยหลายคนต้องถูกตัดอวัยวะที่มีเนื้อมะเร็งออกเพื่อรักษาชีวิตของตน เช่นเดียวกัน Joanna Smith ผู้หญิงวัย 58 ปีจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้     เมื่อไม่นานมานี้ Joanna ได้รู้สึกถึงความผิดปกติในช่องปากของเธอ เธอรู้สึกว่าในปากมีแผลพุพอง ซึ่งการทานยารักษาแผลในช่องปากก็ไม่ได้ผล เธอจึงไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล Bedford และการไปพบแพทย์ครั้งนั้น เธอได้รับข่าวร้ายกลับมา เมื่อสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นแผลพุพองมาตลอด มันคือก้อนมะเร็งในช่องปาก ยิ่งกว่านั้น แพทย์ได้บอกเธอว่าเธอจะมีอายุเหลืออีกไม่ถึงปีหากไม่ได้รับการผ่าตัด “เขาบอกว่าหากฉันไม่เข้ารับการผ่าตัด ฉันจะอยู่ไม่ถึงคริสต์มาสครั้งต่อไป เขาบอกว่าหากฉันโชคดีก็อาจจะอยู่ได้มากกว่า 8 เดือน นั่นมันช็อคสุดๆ ไปเลย” Joanna กล่าวถึงตอนที่รู้ว่าเธอเป็นมะเร็งช่องปาก     และเพื่อรักษาชีวิต Joanna จึงเข้ารับการผ่าตัดที่ใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมงเพื่อเอาก้อนเนื้อร้ายออกมา และจำเป็นต้องตัดลิ้นบางส่าวนของเธอออกด้วย ซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการตัดผิวหนัง, กล้ามเนื้อและเส้นเลือดจากขาขวาของ Joanna เพื่อจะนำมาปลูกถ่ายเป็นลิ้นใหม่ให้เธอ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ไม่ดีเท่าไหร่ เมื่อลิ้นใหม่ของเธอ จู่ๆ ก็กลายเป็นสีดำ ทำให้แพทย์ต้องรีบทำการผ่าตัดแก้ไข โดยคราวนี้พวกเขาเลือกใช้ชิ้นส่วนจากแขนซ้ายของ Joanna แทน     Joanna…

ขณะนี้สวนสัตว์ Gaza ในเมือง Rafah ประเทศอียิปต์กำลังตกเป็นกระแสวิพากวิจารณ์อย่างหนัก เมื่อทางสวนสัตว์ได้ทำการถอดกรงเล็บของลูกสิงโตออก โดยให้เหตุผลว่า “เด็กๆ จะได้เล่นกับคนได้อย่างเป็นมิตร”     โดยสิงโตที่ถูกนำเล็บออกครั้งนี้ คือลูกสิงโตเพศเมียอายุเพียง 14 เดือนนามว่า Falestine และถึงแม้จะไม่มีอุปกรณ์สำหรับไว้ขนย้ายสัตว์ แต่ทางสวนสัตว์ทำการวางยาสลบก่อนที่จะให้สัตวแพทย์ยกตัวมันออกไปอยู่ดี Mohammed Jumaa เจ้าของสวนสัตว์วัย 53 ได้อธิบายเหตุผลครั้งนี้ว่า “ผมพยายามจะลดความก้าวร้าวของลูกสิงโตเพศเมีย มันจะได้เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวขึ้น”     หลังจากกระบวนการถอดเล็บผ่านไป 2 สัปดาห์ในที่สุดเจ้า Falestine ก็ได้กลับเข้ากรงของมันเป็นครั้งแรก ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่คอยดูมันอยู่ห่างๆ Falestine พยายามที่จะใช้เล็บของมันฝนกับต้นเหมือนทุกครา แต่ครั้งนี้พอถูกถอดเล็บออกไป ทำให้มันไม่สามารถฝนเล็บได้อีกต่อไปแล้ว จากรายงานมีเด็กผู้ชายวัย 12 ขวบเข้ามาเล่นกับเจ้า Falestine โดยที่บอกว่าเขาไม่กลัวมันอีกต่อไป “ผมรู้สึกมีความสุขมากๆ เพราะผมสามารถเล่นกับสิงโตได้โดยที่ไม่ถูกมันกัดหรือข่วนเสื้อของผม” หนุ่มน้อยได้กล่าว     ส่วนทาง Fayez al-Haddad สัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์ ผู้ที่ยก Falestine ออกไปถอดเล็บได้กล่าวว่า “การถอดเล็บออกทำให้มันไม่เติบโตเร็วเกินไปและนักท่องเที่ยวกับเด็กๆ ก็สามารถเล่นกับมันได้ พวกเราอยากที่จะนำรอยยิ้มและความสุขมาสู่เด็กๆ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น…

สำหรับใครที่บ้านอยู่ติดถนนหลักแล้ว คงต้องรู้สึกรำคาญและหวาดเสียวเวลาที่มีรถวิ่งผ่านบ้านไปมาอย่างแน่นอน แต่ก็คงไม่หวาดเสียวเท่ากับบ้านของคุณตา คุณยาย ที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันในวันนี้อย่างแน่นอน เมื่อบ้านหลังดังกล่าวมีป้ายสัญญาณจราจรให้เลี้ยวเข้ามาในบ้าน เล่นเอารถหลายคันเกือบชนทะลุเข้าไปในบ้าน     ตายายคนดังกล่าวคือ Ken Triffitt และ Marilyn ผู้ที่เพิ่งย้ายไปอยู่บ้านจัดสรรค์ของบริษัท Keepmoat Homes ที่อยู่บนถนน Greek Street กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวดันมีปัญหาใหญ่ที่ทำให้สองสามีภรรยาต้องหวาดเสียวอยู่บ่อยๆ เมื่อมีหลายครั้งที่จู่ๆ ก็มีรถยนต์จากไหนไม่รู้พุ่งเข้ามาในบ้าน เนื่องจากเลี้ยวตามป้ายจราจรที่ติดอยู่หน้าบ้าน “มันยังเหลืออีก 15 เมตรก่อนจะถึงทางแยก แต่แทนที่คนขับรถหลายคนจะตรงต่อไป กลับพุ่งเข้ามายังห้องนั่งเล่นของพวกเราแทน เพราะพวกเขาคิดว่าที่จอดรถของเราเป็นถนน และก็ต้องเบรคตัวโก่งก่อนจะพุ่งผ่านกระจกบ้านเรา มันเป็นแบบนี้ตลอดเวลาเลย” คุณตา Ken วัย 68 ปีกล่าว     แม้ว่าทั้งสองคนจะพยายามร้องเรียนให้ทางบริษัทผู้รับผิดชอบอย่าง Keepmoat Homes ให้ช่วยมาแก้ไขป้ายจราจรให้หน่อย แต่ทางบริษัทก็ได้ตอบกลับว่าป้ายดังกล่าวได้มาตราฐานของทางการและไม่ได้ละเมิดกฎใดๆ “เราซาบซึ้งที่ผู้อาศัยกังวลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งของป้ายจราจรนอกบ้านของพวกเขาที่ถนน Greek Street และเราได้ทำการตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ว่าป้ายจราจรอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องตามมาตราฐานของทางการ Hull City แล้ว ขณะที่เราทำการตรวจสอบ เราพบว่ามีรถบางคันมีอาการเข้าใจผิดและเลี้ยวเข้าไปที่จอดรถของบ้านหลังดังกล่าว และเราได้บอกกับผู้อยู่อาศัยว่าเราไม่สามารถย้ายป้ายได้ เรื่องนี้เราขอแนะนำให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง” ตัวแทน Keepmoat Homes กล่าว  …

สถานศึกษาคือสถานที่คอยมอบความรู้ให้แก่เยาวชน อนาคตของชาติ ซึ่งสมควรจะเป็นสถานที่มีความปลอดภัยแน่นหนา แต่กระนั้นก็มีบางครั้งที่เราเห็นเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นในสถานที่ดังกล่าว เช่นเดียวกับคราวนี้ เมื่อมหาวิทยาลัย Towson ในรัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา ได้ประกาศแจ้งเตือนนักศึกษาและพนักงานมหาวิทยาลัยให้ระวังผู้หญิงแปลกหน้าที่เข้ามาในมหาวิทยาลัยเพื่อ “หาคู่ให้ลูกชาย”     ย้อนกลับไปสัปดาห์ก่อน นักศึกษามหาวิทยาลัย Towson หลายคนได้ทำการร้องเรียนไปยังแผนกรักษาความปลอดภัย หลังพบผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งแถวๆ หอสมุดและศูนย์ศิลปะในมหาวิทยาลัย ผู้หญิงคนดังกล่าวเข้ามาหาพวกเธอก่อนที่จะควักโทรทัศพ์ขึ้นมาและเปิดรูปของลูกชายให้ดู พร้อมกับถามพวกเธอว่ามีใครสนใจที่จะไปคบกับลูกชายของตนหรือไม่ เบื้องต้นทางแผนกรักษาความปลอดภัยได้ทำการประกาศแจ้งเตือนให้นักศึกษาระวังผู้หญิงคนดังกล่าวไว้และหากมีใครที่มีข้อมูลของผู้หญิงคนดังกล่าวก็สามารถแจ้งไปที่แผนกรักษาความปลอดภัยได้ตลอดเวลา     อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการแจ้งเตือนในเว็บไซต์ ทางมหาวิทยาลัยก็ไม่คิดที่จะแจ้งดำเนินคดีกับหญิงปริศนาคนดังกล่าว แต่ทางมหาวิทยาลัยได้ขอความร่วมมือให้เธอช่วยหยุดพฤติกรรมดังกล่าวเพียงเท่านั้น “การแจ้งเตือนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความตระหนักและแจ้งให้นักศึกษาทราบถึงเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน” Charles Herring หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยได้กล่าวในรายงาน   นี่อาจจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่ของเพื่อนๆ จะทำเมื่อคิดว่าลูกชายคงหาแฟนไม่ได้แล้วในชีวิตนี้ (ฮา) ที่มา baltimoresun, 9gag