Author:

  • การค้นพบ ‘ปราสาทอันเก่าแก่’ ที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบในตุรกี อายุกว่า 3,000 ปี!!

    การค้นพบ ‘ปราสาทอันเก่าแก่’ ที่จมอยู่ใต้ทะเลสาบในตุรกี อายุกว่า 3,000 ปี!!

    เมื่อเรามองลงไปในน้ำ เราจะไม่ได้เห็นทุกอย่างที่อยู่ข้างใต้นั้น เราอาจคิดว่าข้างใต้ก็คงไม่มีอะไรนอกจากปลาหรือปะการัง แต่ความเป็นจริงมันอาจมีสิ่งที่เป็นตำนานซ่อนเอาไว้เหมือนกับปราสาทใต้น้ำแห่งนี้ นี่คือการค้นพบของช่างภาพ Tahsin Ceylan เมื่อเขาได้นำเหล่านักประดาน้ำออกสำรวจในทะเลสาบ Van ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี และได้เจอเข้ากับปราสาทขนาดใหญ่อันเก่าแก่ซ่อนตัวอยู่ข้างใต้นั้น     ในตอนแรกเขาได้ไปปรึกษากับนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ พวกเขาเหล่านั้นกลับบอกว่าใต้ทะเลสาบไม่ได้มีอะไรอยู่เลย จนเขาได้ออกมาดำน้ำด้วยตัวเอง ถึงได้เจอกับโบราณสถานแห่งนี้ ข้างใต้คือกำแพงหินที่สูงยื่นออกมาจากพื้นใต้น้ำ โดยส่วนที่ยื่นออกมาสูงที่สุดอยู่ที่ราวๆ 3 เมตร และเชื่อว่าหากขุดลงไปข้างใต้นั้นก็จะได้พบกับความสูงที่แท้จริงของกำแพงปราสาทนี้     จากการสำรวจพบว่า โบราณสถานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ใต้ทะเลสาบไปมากถึง 1 ตารางกิโลเมตร และเมื่อตรวจสอบโดยละเอียด ทำให้พอคาดเดาได้ว่านี้คงเป็นปราสาทที่มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักร Urartu เมื่อ 3,000 ปีก่อน ตามประวัติศาสตร์แล้ว เชื่อว่าปราสาทดังกล่าวจมลงหลังจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นทะเลสาบในเวลาต่อมา     Tahsin เชื่อว่าสิ่งนี้จะสามารถดึงดูดได้ทั้งนักท่องเที่ยวและนักโบราณคดีจำนวนมาก ให้เข้ามาชมและร่วมกันหาคำตอบถึงรายละเอียดของโบราณสถานแห่งนี้กันต่อไป   คลิปวิดีโอการค้นพบซากปราสาทใต้น้ำที่มีมาตั้งแต่เมื่อ 3,000 ปีก่อน   โลกของเรายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ซ่อนไว้มาตั้งแต่อดีตกาล และนี่คงเป็นอีกหนึ่งการค้นพบที่จะช่วยให้เราได้รับรู้ว่าในตอนนั้นความเป็นอยู่ของมนุษย์เราเคยเป็นอย่างไรมาก่อน   ที่มา: thisisinsider

  • การกลั่นแกล้งที่ไม่รู้จบ แม้ทำให้ลูกสาวฆ่าตัวตายไปแล้ว ก็ยังตามราวีพ่อแม่ของเค้าต่ออีกด้วย

    การกลั่นแกล้งที่ไม่รู้จบ แม้ทำให้ลูกสาวฆ่าตัวตายไปแล้ว ก็ยังตามราวีพ่อแม่ของเค้าต่ออีกด้วย

    เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 เด็กสาววัย 13 ปี Rosalie Avila ได้ทำการฆ่าตัวตายในบ้านของเธอเอง ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอถูกกลั่นแกล้งอย่างหนักมาตลอด 2 ปี และถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เธอตัดสินใจจากโลกนี้ไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อพ่อแม่ของเธอกลายเป็นเป้าหมายต่อไป… หลังจากที่ Freddie Avila พบลูกสาวแขวนคอจบชีวิตตัวเองอยู่ในห้องนอน เขาและ Charlene แม่ของเด็กสาวก็รู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ยังถูกกลั่นแกล้งในโลกโซเชียลมีเดียเหมือนกับที่ลูกสาวเธอเคยโดนอีกด้วย   Rosalie เด็กสาวที่ฆ่าตัวตายเพราะถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก   พ่อแม่ของเด็กสาวคือเหยื่อรายต่อไปสำหรับการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้น   มีคนส่งข้อความมาหาพวกเธอ เป็นรูปตัดต่อใบหน้า Rosalie ขณะพูดกับแม่ของเธอว่า “คราวหลังแม่ไม่ต้องพาหนูไปนอนบนเตียงนะ พาหนูลงหลุมศพไปเลยดีกว่า” แล้วเป็นภาพเด็กสาวชี้ไปที่หลุมศพของตัวเอง   รูปตัดต่อที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อแกล้งตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่   นี่คือความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของพวกเขามาตลอด 2 ปี ในวันที่เธอฆ่าตัวตายก็ได้ทิ้งจดหมายเอาไว้ให้กับพ่อและแม่ เขียนขอโทษที่เธอต้องทำอย่างนี้ลงไปเพราะว่าตัวเองเป็นคนที่ “น่าเกลียด” และ “ขี้แพ้” Freddie เล่าว่า ก่อนที่ลูกสาวของเขาจะจากไป เธอเคยมาปรึกษาและพูดคุยกับเขาอยู่หลายครั้ง และเขาจะพยายามพูดให้เธอคิดแต่สิ่งดีๆ…

  • ‘สี จี้ผิง’ ลั่นสั่งปฏิวัติห้องน้ำสาธารณะทั่วแผ่นดินจีน เพื่อความสะอาดและสุขภาพเข่าของประชาชน

    ‘สี จี้ผิง’ ลั่นสั่งปฏิวัติห้องน้ำสาธารณะทั่วแผ่นดินจีน เพื่อความสะอาดและสุขภาพเข่าของประชาชน

    หนึ่งในปัญหาที่นักท่องเที่ยวมักพูดถึงเวลาไปเที่ยวประเทศจีน ก็คือห้องน้ำที่ดูสกแรกและไม่น่าใช้บริการ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้นำประเทศจีน สี จี้ผิง ได้ตั้งเป้าหมายในการปฏิวัติห้องน้ำภายในประเทศให้ดียิ่งขึ้น แท้จริงแล้วการปฏิวัติห้องน้ำในจีนเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2015 เนื่องจากปัญหาในเรื่องของนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากใช้บริการห้องน้ำที่มีให้ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รัฐบาลจึงได้ติดตั้งและอัปเกรดห้องน้ำใหม่กว่า 68,000 ห้องให้กับจุดชมวิวต่างๆ   สี จี้ผิง ผู้นำของประเทศจีนคนปัจจุบัน   หลังจากนั้นสำนักงานบริหารการท่องเที่ยวแห่งชาติของประเทศจีนได้ออกมาประกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2016 ว่าได้มีการวางแผนใช้งบประมาณจำนวนกว่า 9 ล้านล้านบาทในการพัฒนาและติดตั้งห้องน้ำกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 4 ปี และผู้นำคนปัจจุบันก็ตั้งใจที่จะมุ่งเป้าไปที่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึงตามพื้นที่ชนบททั่วประเทศ เพราะเขาเล็งเห็นว่าการมีห้องน้ำที่ดีก็คือการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน เป็นการวางแผนเพื่อพัฒนาทั้งการใช้ชีวิตของคนในประเทศและการเข้ามาท่องเที่ยวของคนนอกประเทศ   ห้องน้ำในประเทศจีนที่เราเคยเห็น ดูไม่ค่อยถูกสุขอนามัยและเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคต่างๆ   วันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 ประเทศจีนก็ได้เปลี่ยนให้ “วันห้องน้ำโลก” กลายเป็น “วันห้องน้ำโลกและวันแห่งการปฏิวัติห้องน้ำของประเทศจีน” เพื่อทำให้ทุกคนได้รับรู้ถึงการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา ในวันเดียวกันนั้นเอง แอพ WeChat ของประเทศจีนก็ได้ออกฟังก์ชั่นใหม่ที่ช่วยหาห้องน้ำใกล้ตัวให้กับคุณได้อีกด้วย ซึ่งจะมีห้องน้ำกว่า 330,000 แห่งใน 2,288 ประเทศรวมอยู่ในนั้น    …

  • เถื่อนญี่ปุ่น… รถไฟชั่วโมงเร่งด่วน ยัดผู้โดยสารหนึ่งคน ด้วยแรงเจ้าหน้าที่ถึง 3 คน!!

    เถื่อนญี่ปุ่น… รถไฟชั่วโมงเร่งด่วน ยัดผู้โดยสารหนึ่งคน ด้วยแรงเจ้าหน้าที่ถึง 3 คน!!

    ในช่วงเช้าที่ทุกคนกำลังรีบออกไปทำงานของประเทศญี่ปุ่น ประชากรส่วนใหญ่เลือกใช้บริการรถไฟสาธารณะเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและความรวดเร็วในการเดินทาง แต่ในชั่วโมงเร่งรีบแบบนี้จึงทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากแย่งกันขึ้นขบวนรถไฟไม่ว่าจะเต็มขนาดไหนก็ตาม และนั่นจึงทำให้ประเทศนี้มีอาชีพที่เรียกว่า Oshiya หรือก็คือเจ้าหน้าที่ผลักผู้โดยสาร งานของอาชีพนี้ก็คือการผลักและดันผู้โดยสารที่ล้นออกมาเข้าไปอยู่ในขบวนรถไฟให้ได้มากที่สุด โดยสิ่งที่พวกเขาทำก็ไม่ได้ดูรุนแรงจนเกินไป เพราะพวกเขาจะใช้คำพูดที่สุภาพกับผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่ทุกคนจะใส่ถุงมือสีขาวสะอาดแสงให้เห็นถึงการให้เกียรติกัน     แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำหน้าที่กันอย่างสุภาพแล้วในบางครั้งมันก็อาจดูป่าเถื่อนไปบ้าง อย่างเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2017 ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @jpn_darkside ได้โพสต์คลิปการผลักผู้โดยสาร 1 คนเข้าไปในขบวนที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่มากถึง 3 คน   คลิปจากโพสต์ในทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นถึงความพยายามของเจ้าหน้าที่ 3 คนในการดันผู้โดยสารคนหนึ่งให้เข้าไปในขบวน (ดูไม่ได้กดที่ลิ้งก์นี้ Twitter) 日本人、そんなに急いでどこへ行くのですか… pic.twitter.com/mwJ0N8FBal — 日本の闇を見てしまった。。。【厳選】 (@jpn_darkside) December 3, 2017   นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนเช้าระหว่างเส้นทางรถไฟ Sobu ที่เชื่อมระหว่างสถานีชิบะ และโตเกียว   เจ้าหน้าที่พยายามดันให้ผู้โดยสารเข้าไป แต่ก็ไม่สำเร็จซักที   เจ้าหน้าที่คนที่สองจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วย และทำให้ผู้โดยสารที่อยู่นอกสุดต้องออกไปหนึ่งคน เพราะสามารถเข้าได้เพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น   แต่แม้จะเหลือผู้โดยสารล้นออกมาแค่หนึ่งคน แต่สุดท้ายก็ต้องใช้เจ้าหน้าที่ถึง 3…

  • แข่งรถมันอยู่ในสายเลือด!! เอารถเด็กน้อยมาแข่งลงทางลาดชัน เจ็บตัวไม่กลัวขอนัวไว้ก่อน…

    แข่งรถมันอยู่ในสายเลือด!! เอารถเด็กน้อยมาแข่งลงทางลาดชัน เจ็บตัวไม่กลัวขอนัวไว้ก่อน…

    เบื่อหรือยังกับการแข่งรถประลองความเร็วทั่วๆ ไปบนสนามแข่ง หรือแม้แต่การแข่งขันวิบากต่างๆ ก็ไม่สามารถทำให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินกับมันได้ หากเป็นอย่างนั้นเราขอแนะนำการแข่งขันที่ชื่อว่า Barbie Jeep Racing ให้กับคุณ รายการดังกล่าวฉีกกฎทุกการแข่งรถ เพราะที่นี่ไม่ได้ใช้รถติดเครื่องยนต์แรงๆ ราคาแพงแต่อย่างใด ขอเพียงแค่คุณมีรถของเล่นสำหรับเด็กบวกกับหมวกกันน็อคซักใบก็เพียงพอสำหรับการแข่งขันสุดมันส์นี้แล้ว   ขอแค่รถของเล่นกับหมวกกันน็อคเท่านั้นก็เกินพอ   สนามแข่งนี้มีชื่อว่า Carter Off-Road Park ในรัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา เป็นแหล่งรวมพลของผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมจำนวนมากที่ชื่นชอบความบ้าระห่ำ และความสนุกอย่างที่หาไม่ได้จากที่ไหน   คลิปบรรยากาศความมันส์และความสนุกสนานของการแข่งขัน   กติกาของการแข่งขันก็ง่ายๆ ไม่ว่าจะล้มลุกคลุกคลาน รถล้อหลุด หรือจะลอยกระเด็นออกไปนอกสนาม แค่ขอให้คุณยังมีสติกลับมาพารถคู่ใจคุณเข้าเส้นชัยไปได้แค่นั้นก็พอ ถึงแม้ว่าการละเล่นแบบนี้อาจจะดูอันตรายไปซักหน่อย แต่อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมากสุดก็แค่แผลเล็กๆ ตรงข้อศอกเท่านั้นเอง   บางคนไม่ล้มเลยก็มี รวดเดียวถึงเส้นชัย โหดเกิ๊นนน   แนะนำว่าอย่าลองไปทำกันเองเพราะเนินที่เราช้าอาจไม่มีความปลอดภัยที่มากพอ ถ้าหากอยากเล่นจริงๆ ก็แบกรถของเล่นกับหมวกกันน็อคขึ้นเครื่องไปเล่นที่อเมริกาจะดีกว่านะ   ที่มา: blackflag.jalopnik

  • นี่สิ Supergirl ของจริง!! สาววัย 16 ยกน้ำหนัก 165 กิโลกรัมได้ชิวๆ แม้จะดูไม่มีกล้ามเลย…

    นี่สิ Supergirl ของจริง!! สาววัย 16 ยกน้ำหนัก 165 กิโลกรัมได้ชิวๆ แม้จะดูไม่มีกล้ามเลย…

    เวลาที่เราได้เห็นคนที่มีรูปร่างใหญ่ กล้ามเป็นมัดๆ เราก็จะคิดว่าเขาต้องแข็งแรงและสามารถยกของหนักๆ ได้แน่นอน แต่ถึงแม้จะไม่ได้มีร่างกายที่ดูใหญ่โตมากขนาดนั้น หญิงสาวคนนี้ก็สามารถยกของหนักๆ ได้แบบชิวๆ เผลอๆ หนักกว่าคนมีกล้ามบางคนซะอีก เด็กสาวคนนี้มีชื่อว่า Naomi Kutin อาศัยอยู่ในเมือง Teaneck รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เธอได้เริ่มออกกำลังกายและยกน้ำหนักมาตั้งแต่ตอนอายุได้เพียง 8 ปี     ในตอนนั้นเธอสามารถทำท่าออกกำลังกายต่างๆ อย่างเช่นซิทอัพ หรือวิดพื้นเอาชนะเด็กผู้ชายแถวบ้านได้แบบสบายๆ จึงทำให้ Ed พ่อของเธอชวนไปฝึกเล่นยกน้ำหนักด้วยกันตั้งแต่นั้นมา ตอนแรกทุกคนคิดว่าเด็กสาวคงมาฝึกซักสามเดือนแล้วก็เลิกเล่นไป แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะเธอยังคงเล่นต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะเลิกเลย และความแข็งแกร่งของเด็กสาวก็แสดงออกมาให้เห็นในตอนอายุ 10 ขวบ เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันในรุ่นน้ำหนัก 44 กิโลกรัม ทั้งๆ ที่เธอหนักเพียงแค่ 40 กิโลกรัม และเธอก็สามารถยกน้ำหนักในท่าสควอทได้มากถึง 97 กิโลกรัม ทำลายสถิติโลกได้จากการที่เธอยกน้ำหนักได้มากกว่าน้ำตัวของเธอเองกว่า 2 เท่า     หลังจากนั้นมา เธอก็เข้าแข่งขันยกน้ำหนักอีกหลายรายการ ร่วมกับพ่อและ Ari น้องชายอายุห่างกัน 2…

  • ศิลปินหนุ่มสร้างสรรค์ผลงานจากวัสดุทั่วๆ ไป ทำให้โลโก้แบรนด์ดังดูทรงพลังและยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น

    ศิลปินหนุ่มสร้างสรรค์ผลงานจากวัสดุทั่วๆ ไป ทำให้โลโก้แบรนด์ดังดูทรงพลังและยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น

    ภาพโลโก้สัญลักษณ์ของสิ่งต่างๆ เช่นเฟซบุ๊ก ยูทูบ หรือแบรนด์ดังอย่างไนกี้ คงเป็นสิ่งที่พวกเราสามารถจดจำได้และเห็นกันจนชินตา แต่ศิลปินช่างภาพที่ใช้ชื่อว่า VAT KAT ได้นำสิ่งเหล่านั้นมาสร้างเป็นผลงานอันทรงพลังและยิ่งใหญ่ ผลงานชุดนี้มีชื่อว่า DRAMATIC SERIES เป็นการเปลี่ยนให้โลโก้เหล่านั้นให้กลายเป็นเหมือนกับสถานที่อันยิ่งใหญ่และน่าทึ่ง อย่างที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน ด้วยฝีมือการเติมแต่งของเขาทำให้ผลงานอกมาดูเหมือนกับว่าสถานที่เหล่านั้นอาจมีอยู่จริงบนโลกของเรา ไปดูกันเลยว่ารูปร่างหน้าตาของสัญลักษณ์ต่างๆ ออกมาเป็นอย่างไร?   เกาะเฟซบุ๊ก ที่ถูกล้อมรอมไปด้วยทะเลสีน้ำเงิน   ความร้อนแรงของลาวายูทูบ ที่ไม่อาจย่างกรายเข้าไปได้   เทือกเขา Adidas อันหนาวเหน็บ   โลกของ BMW ที่ถูกแบ่งออกมาเป็น 4 ส่วนอย่างชัดเจน   สะพาน Audi กับแสงที่สาดมาจากด้านหลัง   ผาไนกี้ ที่หากตกลงมาแล้วก็คงยากที่จะขึ้นไปได้   หินสลัก Calvin Klein เรียบง่ายแต่ทรงพลัง   เบื้องหลังการทำงานของเขา ที่ใช้เพียงวัสดุทั่วๆ ไปในการทำฉากโลโก้   การใช้วัสดุที่เรียบง่าย เพื่อบ่งบอกว่าขอแค่คุณมีจินตนาการและการฝึกฝน ก็สามารถเริ่มต้นในการปลดปล่อยไอเดียต่างๆ ออกมาได้แล้ว  …

  • หนุ่มมาเลเซียเครียดหนัก สอบใบขับขี่ไม่ผ่าน สุดท้ายแขวนคออยู่ใต้ต้นมังคุด

    หนุ่มมาเลเซียเครียดหนัก สอบใบขับขี่ไม่ผ่าน สุดท้ายแขวนคออยู่ใต้ต้นมังคุด

    ในบ้านเราอาจมองว่าการสอบใบขับขี่ไม่ผ่านไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไว้ค่อยหาเวลาไปสอบใหม่ก็ได้ แต่ในบางประเทศและสำหรับบางคนอาจไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะอย่างในประเทศมาเลเซียก็มีคนที่เครียดจากการสอบใบขับขี่ไม่ผ่านจนถึงกับฆ่าตัวตายมาแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อชายหนุ่มวัย 21 ปีได้ไปเข้ารับการสอบใบขับขี่ในเมือง Kuantan ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 และผลที่ออกมาก็คือเขาสอบไม่ผ่าน     การสอบไม่ผ่านของเขาทำให้เขาหายตัวไปนับตั้งแต่วันนั้น แม้แต่คนในครอบครัวก็ไม่รู้เลยว่าชายคนนี้หายไปไหน จนกระทั่งผ่านไป 6 วัน ในวันที่ 23 พฤศจิกายน จึงได้มีคนพบร่างของเขาแขวนคอตายอยู่ใต้ต้นมังคุดภายในสวนผลไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวเขาไปโรงพยาบาล Tengku Ampuan Afzan เพื่อรับการชันสูตรศพต่อไป     การฆ่าตัวตายเพราะสอบใบขับขี่ไม่ผ่านได้กลายเป็นกระแสกับชาวเน็ตจำนวนมาก โดยพวกเขาได้พูดถึงความเครียดที่ชายคนนี้น่าจะต้องเจอ กับค่าใช้จ่ายที่แพงแสนแพงของการสอบใบขับขี่ในแต่ละครั้ง “เดี๋ยวนี้สอบใบขับขี่แต่ละที่ต้องเสียเงินตั้ง 1,200 ริงกิตมาเลเซีย (หรือเกือบ 9,600 บาท) ก็ไม่แปลกที่เขาจะต้องรู้สึกเครียดและกดดัน” “การใช้ชีวิตของคนเราเป็นสิ่งที่ยากลำบากเอามากๆ การไม่มีเงินที่มากพออาจเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนบางคน รู้สึกเสียใจกับเขามากจริงๆ เขาเพิ่งอายุ 21 เอง” “บางคนเขาก็มีเงินติดตัวแค่ 5 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 39 บาท) เท่านั้นเองนะ”…

  • กองเซ็นเซอร์จีนอุนมัติฉาย CoCo ได้เต็มเรื่อง แม้จะขัดกับข้อห้ามเนื้อหาเกี่ยวกับผี เพราะน่ามันประทับใจจริง

    กองเซ็นเซอร์จีนอุนมัติฉาย CoCo ได้เต็มเรื่อง แม้จะขัดกับข้อห้ามเนื้อหาเกี่ยวกับผี เพราะน่ามันประทับใจจริง

    ในประเทศจีน การจะเผยแพร่รายการทีวี วิดีโอทางอินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่หนังภาพยนตร์ที่จะออกฉาย ทุกอย่างล้วนต้องผ่านกองเซ็นเซอร์ของประเทศที่มีกฎตั้งเอาไว้อย่างเคร่งครัด แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องแหกกฎที่ตั้งเอาไว้ และอนุญาตให้ภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชั่นเรื่อง Coco วันอลวน วิญญาณอลเวง เข้ามาฉายในประเทศได้ตามปกติ กฎของกองเซ็นเซอร์ในประเทศจีนมีอยู่ด้วยกันหลากหลายข้อ อย่างเช่นห้ามมีภาพการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือพฤติกรรมที่ไม่ดี ห้ามมีภาพการร่วมเพศหรือที่เกี่ยวกับเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบ เป็นต้น     และอีกข้อที่สำคัญของพวกเขาก็คือ ห้ามไม่ให้มีการแสดงเนื้อหาของการฆาตกรรม ความรุนแรง ความน่ากลัว ผี หรือสิ่งเหนือธรรมชาติใดๆ ทั้งสิ้น แต่สุดท้ายกฎข้อนี้ก็ต้องถูกมองข้ามไป หลังจากที่กองเซ็นเซอร์ได้มาเจอกับภาพยนตร์การ์ตูนอนิเมชั่นที่ชื่อว่า Coco เราจะเห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้นั้นมีแต่ผีแทบทั้งเรื่อง และตามกฎแล้วประเทศจีน คงไม่อนุญาตให้ทำการฉายในบ้านเขาอย่างแน่นอน แต่หลังจากที่กองเซ็นเซอร์ได้ชมหนังเรื่องนี้ พวกเขากลับอนุญาตให้สามารถฉายในประแทศได้ซะอย่างงั้น     ด้วยเรื่องราวอันแสนประทับใจและฉากจบอันซาบซึ้ง จึงทำให้มันสามารถเข้าฉายในประเทศจีนได้แบบครบถ้วนสมบูรณ์ทุกเนื้อหาแบบไม่มีการตัดต่อใดๆ ทั้งสิ้น และตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นหนังที่ทำรายได้อันดับหนึ่งของตาราง Box Office ในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย     หากใครอยากรู้ว่าหนังเรื่อง Coco วันอลวน วิญญาณอลเวง นี้จะมีเรื่องราวที่กินใจมากขนาดไหน ก็สามารถเข้าไปชมกันได้ในทุกโรงภาพยนตร์ใกล้บ้านคุณเลย   ที่มา: forbes

  • ตำตรวจเร่งตามล่า หนุ่มญี่ปุ่นล่อเจ้าเหมียวออกมาข้างถนน ก่อนจะยิงกระหน่ำด้วยบีบีกัน…

    ตำตรวจเร่งตามล่า หนุ่มญี่ปุ่นล่อเจ้าเหมียวออกมาข้างถนน ก่อนจะยิงกระหน่ำด้วยบีบีกัน…

    การทารุณกรรมสัตว์ยังคงมีให้เห็นอยู่ในทุกๆ ที่ แม้จะมีกฎหมายออกมาปกป้องก็ไม่สามารถหยุดการกระทำของคนใจโหดที่ทำอย่างนั้นได้เลย อย่างชายคนนี้ที่ทำร้ายสัตว์อย่างโหดเหี้ยม ด้วยการล่อแมวด้วยอาหารก่อนที่จะยิงมันด้วยปืนบีบีกัน ความโหดร้ายนี้ได้ถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 จากผู้ใช้ที่ชื่อว่า ryuki ผู้อาศัยอยู่ในเมือง Suminoe Ward จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เขาได้เจอกับบางสิ่งบางอย่างแปลกไปที่บริเวณหน้าบ้านของเขา ซึ่งเป็นจุดที่เจ้า Hideki แมวที่เลี้ยงไว้ชอบออกไปนอนเล่นบ่อยๆ เขาเริ่มสังเกตเห็นเศษขนมปังและกระสุนบีบีกันตกอยู่หน้าบ้านเขาบ่อยๆ ด้วยความสงสัยเขาจึงเช็คกล้องวงจรปิดที่ติดเอาไว้ ทำให้เขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้   ชายคนหนึ่งขับผ่านหน้าบ้านของเขา และโยนขนมปังออกมาด้านนอกรถ เพื่อล่อความสนใจของเจ้า Hideki ที่นอนอยู่หน้าบ้าน   เจ้าเหมียวเห็นเศษขนมปังจึงลุกเดินเข้าไปกินใกล้ๆ กับถนน   แล้วชายคนนั้นก็วนรถกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่จะควักปืนบีบีกันออกมากระหน่ำยิงใส่เจ้าแมวผู้น่าสงสาร   พฤติกรรมอันแสนทารุณนี้ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้เลย โชคดีที่ในกล้องจับภาพของป้ายทะเบียนรถคันนั้นเอาไว้ได้ชัดแจ๋ว   เมื่อได้เห็นเลขทะเบียนของคนก่อเหตุ เขาจึงรีบโทรแจ้งตำรวจทันทีเพื่อตามหาชายใจโหดคนนี้กลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป และหลังจากนี้เจ้าเหมียวน้อยก็คงต้องเปลี่ยนไปนอนในบ้านแทนแล้ว   คลิปวิดีโอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกถ่ายโดยกล้องวงจรปิด (ใครดูไม่ได้ก็กดเข้าไปดูตรงนี้นะ Twitter) 家の前で飼っている猫がエアーガンで撃たれました。 動画でも分かる通り、パンを投げてそのまま一周して来て、次にエアーガンを手に持ち、車の窓越しから猫に撃ちました。 警察に連絡は入れてます。 住之江付近でこのナンバー見かけたら連絡お願いします。#拡散希望#RTお願いします pic.twitter.com/09riPjJfNt — ryuki (@suminoe42) November 24, 2017…

  • นักประดิษฐ์จีนออกไอเดียแก้ปัญหาหมอกควัน ให้คน 15 ล้านคนใช้พัดยักษ์พัดพร้อมกัน

    นักประดิษฐ์จีนออกไอเดียแก้ปัญหาหมอกควัน ให้คน 15 ล้านคนใช้พัดยักษ์พัดพร้อมกัน

    ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในประเทศจีน เป็นสิ่งที่ยังคงแก้ไขไม่ได้มาจนถึงในปัจจุบัน เนื่องจากการสร้างมลพิษจำนวนมากที่ยังคงมีอยู่ภายในประเทศ และนั่นจึงทำให้ชาวจีนคนหนึ่งคิดวิธีขจัดหมอกควันออกไปจากเมือง โดยการใช้พัดขนาดใหญ่สร้างแรงลมไล่มลพิษออกไป นี่เป็นความคิดของชาวจีนแซ่ Du คนหนึ่ง เขาได้ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรไอเดียสุดบรรเจิดนี้กับสำนักงานทรัพย์สินทางปัญญามาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017   ไอเดียของหนุ่มชาวจีน ในการใช้พัดยักษ์ขับไล่หมอกควัน ด้วยแรงจากคน 15 ล้านคน   ไอเดียของเขาก็คือการให้คน 15 ล้านคนใช้พัดอันใหญ่สร้างแรงลมพร้อมๆ กัน ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อไล่หมอกควันออกไปจากกรุงปักกิ่ง ซึ่งเขาบอกว่ามลพิษจะหายไปจากเมืองภายในเวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เจ้าของไอเดียเรียกวิธีการนี้ว่าเป็นการแก้ปัญหาในทางปฏิบัติ และวิธีการดังกล่าวก็ใช้เวลาในการค้นคว้าและวิจัยมานานกว่า 7 ปีเลยทีเดียว ปัจจัยหลักของสิ่งที่เขาคิดก็คือ “ประหยัดค่าใช้จ่าย” และ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ซึ่งนี่ก็เป็นไปตามที่เขาต้องการ     เขาได้แนะนำให้รัฐบาลเตรียมพื้นที่เก็บอุปกรณ์พัดขนาดใหญ่นี้เอาไว้ในที่สาธารณะ รวมถึงให้ช่วยกันกระตุ้นประชาชนคนอื่นๆ ให้ออกมาทำตามไอเดียของเขาในช่วงที่ว่างพร้อมๆ กัน อย่างเช่นตอนพักเที่ยง หรือตอนเลิกเรียน เขาได้บอกกับเว็บข่าว Thepaper.cn ว่า “ผมเชื่อว่ามันต้องทำได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าผมจะใช้เวลาและพลังงานในการค้นคว้าวิจัยที่ไม่มากเท่าไหร่ก็ตาม” และนี่ไม่ใช่ไอเดียแรกของเขาที่คิดค้นขึ้นมาแก้ปัญหาหมอกควัน เพราะก่อนหน้านี้ในเดือนตุลาคม 2016 เขาก็เคยยื่นคำร้องจดสิทธิบัตรวิธีการแก้ปัญหาไปมากถึง 6 วิธี แต่ถึงอย่างนั้นวิธีทั้งหมด…

  • พ่อของเหยื่อฆาตกรรม ดึงสลักระเบิดกลางศาล พลีชีพตัวเองและแก้แค้นจำเลย

    พ่อของเหยื่อฆาตกรรม ดึงสลักระเบิดกลางศาล พลีชีพตัวเองและแก้แค้นจำเลย

    การพรากชีวิตของผู้อื่นไปย่อมเกิดผลกระทบที่ตามมาหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือความรู้สึกโกรธแค้นของผู้ที่ต้องสูญเสียคนที่รักจนอาจเกิดเป็นการแก้แค้นอย่างในเหตุการณ์นี้ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ศาลเมืองนิโคปอล ประเทศยูเครน ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2017 ขณะที่พวกเขากำลังไต่สวนคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2016 จู่ๆ พ่อของเหยื่อในคดีนั้นก็เดินเข้ามาพร้อมกับดึงสลักระเบิดมือและทำการพลีชีพตัวเอง     แรงระเบิดก็ได้ทำให้เขาเสียชีวิตทันทีพร้อมกับจำเลยอีกคนหนึ่ง ที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จำเลยอีกสามคนก็บาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน รวมถึงเจ้าหน้าที่ศาลสองคนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกสองคน ที่โดนลูกหลงไปด้วย   แรงระเบิดอันมหาศาลจนเกือบทำให้ประตูศาลหลุดออกมา   จุดเริ่มต้นของการสูญเสียในครั้งนี้เชื่อว่าเกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและทหาร Kiev ในประเทศยูเครน ที่มีมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2014 จนทำให้มีคนตายมากกว่า 10,000 คน และทำให้จำเลยในคดีฆาตกรรมปี 2016 ฆ่าตายไปอีกสองคน ก่อนที่พ่อของเหยื่อรายหนึ่งในคดีนั้นจะกลับมาแก้แค้นในที่สุด   ความเสียใจที่เปลี่ยนเป็นความโกรธและกลายเป็นความแค้นในที่สุด   ความแค้นคือสิ่งที่ทำให้เกิดการสูญเสียและความเสียใจเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง   แน่นอนว่าอารมณ์เป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก โดยเฉพาะอารมณ์โกรธแค้น เกลียดชังเหมือนกับคุณพ่อคนนี้ แต่ถึงอย่างไรเราก็ควรไตร่ตรองให้ดีก่อนว่า การใช้อารมณ์มาเป็นตัวตัดสินการกระทำนั้นมันดีแล้วจริงๆ หรือ   ที่มา: dailymail

  • แม่เอาของกินมาล่อลูกให้พูดคำว่า ‘มาม๊า’ แต่กลายเป็นเจ้าหมาที่พูดตามแทน!?

    แม่เอาของกินมาล่อลูกให้พูดคำว่า ‘มาม๊า’ แต่กลายเป็นเจ้าหมาที่พูดตามแทน!?

    เรารู้กันอยู่แล้วว่าหมามีความสามารถพิเศษในหลายๆ เรื่อง อย่างเช่นความสามารถในการดมกลิ่น หรือการทำตามคำสั่งที่ได้รับ สั่งให้นั่งก็นั่ง ขอมือปุ๊บก็ยื่นให้ หรือจะขอให้มันพูดก็ยังได้.. คุณพระ!! และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าหมาตัวหนึ่งได้พูดคำว่า “มาม๊า” ออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ถูกโพสต์ลงในยูทูบที่ชื่อว่า Sam Giovanini ในวันที่ 30 มิถุนายน 2015 ขณะที่คุณแม่ Andrea Diaz-Giovanini พยายามใช้อาหารหลอกล่อลูกชายวัย 9 เดือนของตัวเองให้พูดคำว่า “มาม๊า” ที่หมายถึงให้เรียกแม่นั่นเอง   เจ้าหมาที่ดูเหมือนจะสงสัยว่าทำอะไรกันอยู่   อาหารที่นำมาเป็นรางวัลในครั้งนี้ไม่ได้ล่อตาล่อใจแค่กับ Sam ลูกชายของเธอ แต่รวมถึงเจ้าหมาสายพันธุ์ออสเตรเลียนเชเพิร์ดที่ชื่อว่า Patch อีกด้วย ทำให้เด็กน้อยและเจ้าหมาพยายามที่จะพูดคำนั้นออกมาเพื่อให้ได้รางวัลชิ้นนั้นไปเป็นของตัวเอง และผู้ชนะในครั้งนี้ก็กลับกลายเป็นเจ้าหมาซะอย่างนั้น เพราะจู่ๆ มันก็เปล่งเสียงออกมาเป็นคำว่ามาม๊าจริงๆ   คงจะหิวมาก ถึงขนาดที่พูดมาม๊าออกมาได้เลย โหดเกิ๊นนน   และความตลกหลังจากนั้นก็คือเด็กน้อยที่โดนเจ้าหมาแย่งผลงานไป ก็เหมือนกับว่าไม่พอใจ จึงเอามือเล็กๆ ต่อยเข้าไปที่หน้าเจ้าหมาซะเลย สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่ได้เห็น   ทำไมเอ็งถึงทำกับข้าอย่างนี้เล่าเจ้า Patch !!   ไปชมคลิปความน่ารักของเด็กน้อยและเจ้าหมาพูดได้ตัวนี้กันเลยยย  …

  • จัดอันดับ 19 สุดยอดหนังสั้น Pixar ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเรื่องโปรดของใครบ้างมั้ยเอ่ย?

    จัดอันดับ 19 สุดยอดหนังสั้น Pixar ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเรื่องโปรดของใครบ้างมั้ยเอ่ย?

    หากใครเป็นคนชอบดูหนังโดยเฉพาะหนังการ์ตูนอนิเมชั่นด้วยแล้ว เราเชื่อว่าจะต้องรู้จักกับค่ายหนังชื่อดังอย่าง Pixar กันแน่นอน เพราะค่ายนี้ได้สร้างผลงานเอาไว้หลายเรื่อง อย่างเช่น Toy Story, Up หรือ Finding Nemo และอื่นๆ อีกเพียบ นอกจากนั้นค่ายนี้เองก็ยังได้ผลิตหนังสั้นน่ารักๆ ออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ทางเว็บไซต์ Insider จึงได้จัดอันดับหนังสั้นของค่ายนี้ที่สร้างมาตั้งแต่ปลายยุค 80s ให้เหลือเพียงแค่ 19 อันดับ จะมีเรื่องอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยยย   19. The Adventures of André and Wally B. (1984) หนังสั้นเรื่องนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ตอนที่ Pixar ยังเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของค่ายหนัง Lucas Film และนี่คือความแปลกใหม่ของหนังสั้นในยุคนั้นเลยจริงๆ กับเรื่องราวของ André ที่ตื่นขึ้นมาเพราะเจ้าผึ้งตัวหนึ่ง ก่อนที่จะวิ่งหนีเพราะกลัวผึ้งต่อย เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของหนังสั้นที่เรียบง่ายจริงๆ   18. Red’s Dream (1987) หนังสั้นเรื่องนี้เปิดตัวในงานประชุมในด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกที่ชื่อว่า SIGGRAPH และเป็นผลงานในยุคแรกๆ ของ John Lasseter เจ้าของผลงานดังอย่าง Toy Story โดยหนังสั้นเรื่องนี้ได้เล่าถึงตัวตลกปั่นจักรยานล้อเดียวที่ฝันอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของคณะละครสัตว์…

  • 25 ภาพวาดบอกเล่าสังคมปัจจุบัน ที่จะทำให้คุณได้เห็นโลกในมุมที่ไม่เคยมองมาก่อน

    25 ภาพวาดบอกเล่าสังคมปัจจุบัน ที่จะทำให้คุณได้เห็นโลกในมุมที่ไม่เคยมองมาก่อน

    การใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปัจจุบัน เราอาจได้เจอกับสิ่งเดิมๆ ดำเนินชีวิตไปตามบรรทัดฐานของสังคมที่ปูทางไว้ให้แล้ว แต่เราเคยตั้งคำถามกันบ้างมั้ยว่าสังคมที่เราอยู่ในทุกวันนี้แท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่? ลึกๆ แล้วมันมีแต่สิ่งที่ดีๆ อยู่รอบตัวเราจริงๆ หรือ? เราลองมาหาคำตอบของคำถามเหล่านั้นจากภาพเหล่านี้กันดู นี่คือภาพวาดของศิลปินชาวฝรั่งเศสที่ใช้ชื่อว่า Dran เขาได้สร้างผลงานสะท้อนสังคมในปัจจุบัน สื่อไปถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเช่นพลังอำนาจของผู้มีอิทธิพล การคุกคามทางเพศ หรือแม้แต่การเสพโลกสังคมจำลอง ซึ่งเราสามารถมองหาความหมายเหล่านั้นได้จากภาพเหล่านี้ ลองไปดูกันเลย   บางสิ่งอาจมีจินตนาการและมีอิสระทางความคิดมากกว่าเราก็ได้   แน่ใจแล้วใช่มั้ยว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งที่พูด   แม้จะเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่กลับถูกมองข้ามไปราวกับไม่มีตัวตน   เรามีอิสระกันอยู่จริงๆ หรือเปล่า   การลวนลามทางสายตาที่มีให้เห็นกันจนเป็นเรื่องปกติ   การจัดฉากที่ทำให้สื่อมีอำนาจมากยิ่งขึ้น   การศึกษาคือปัญหาใหญ่ของเด็กๆ ในหลายๆ แง่มุม   ผลงานของศิลปินผู้อดอยาก   พื้นที่เล็กๆ ที่ช่วยลบล้างความเป็นจริงที่เกิดขึ้นด้านนอก   รอยยิ้มบนความเจ็บปวดของทั้งตัวเองและผู้อื่น   อยู่ด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้อยู่ในโลกสังคมเดียวกัน   ความหวังที่เชื่อว่าเบื้องหลังของความเลวร้าย มีความสวยงามรอเราอยู่   สื่อทางเพศที่พยายามดึงเราเอาไว้ไม่ให้ไปไหน   ไปรษณีย์ผู้รับข้อความจากคนอื่นๆ มาส่งให้กับตัวเอง  …

  • หญิงผู้ตั้งใจใช้ชีวิตบนวีลแชร์ เพื่อเติมเต็มความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น ‘คนพิการช่วงล่าง’

    หญิงผู้ตั้งใจใช้ชีวิตบนวีลแชร์ เพื่อเติมเต็มความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็น ‘คนพิการช่วงล่าง’

    คนพิการแทบทุกคนอยากกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ยืน เดิน วิ่ง หรือทำอะไรหลายๆ อย่างได้เหมือนกับคนทั่วไป แต่เธอคนนี้กลับคิดไปอีกแบบหนึ่งเพราะเธอกลับต้องการที่จะใช้ชีวิตอย่างคนพิการซะเอง ความพิการและจะได้นั่งรถวีลแชร์นั้นคือความใฝ่ฝันของ Chloe Jennings สาววัย 61 ปีจากเมือง Salt Lake City ในรัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ทุกวันนี้ความใฝ่ฝันของเธอสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง เพราะเธอได้ใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นตามที่เธอต้องการแล้ว   .   สาเหตุที่ทำให้เธอมีความต้องการแบบนั้นก็เพราะเธอป่วยเป็นโรค Body Integrity Identity Disorder (หรือเรียกว่า BIID) ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอยากจะตัดแขนขาของตัวเองออกไป หรือมองว่าการได้เป็นคนพิการคือความสุขของชีวิต เธอถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นอาการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2008 ทำให้หลังจากนั้นเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับการนั่งรถเข็น แต่เธอก็ยังคงสามารถยืนและเดินได้ด้วยตัวเองหากจำเป็น อย่างเช่นเวลาขึ้นลงบันได   .   เธอยังคงมีบางกิจกรรมที่ออกไปทำเหมือนกับคนปกติ ยกตัวอย่างการเล่นสกีน้ำแข็ง การปีนเขา หรือการขับรถ ที่ทุกวันนี้เธอก็ยังคงออกไปเล่นอยู่บ้าง แต่สิ่งที่น่ากลัวจากความต้องการของเธอก็คือ เธอต้องการจะพิการมากจนถึงขั้นคิดว่าต้องการขับรถไปชนเพื่อให้ขาของตัวเองขยับไม่ได้ แม้แต่ตอนที่เธอรถชนในปี 2009 เธอก็บอกว่าสิ่งนั้นอาจเกิดขึ้นจากความตั้งใจของตัวเองก็ได้ เพราะอย่างนั้นจึงทำให้คนในครอบครัวและเพื่อนๆ รู้สึกกังวลว่าเธอจะพยายามวิ่งเข้าหาอันตรายเพื่อให้ตัวเองได้พิการอย่างที่ฝันไว้ แต่มันอาจจะไม่ได้จบแค่ความพิการเสมอไป มันอาจร้ายแรงมากกว่านั้นก็ได้   .…

  • เผยโฉม W2018 สมาร์ทโฟน ‘ขอผมพับ ขอผมทัช’ จากซัมซุง ย้อนยุคทองโทรศัพท์พับได้!!

    เผยโฉม W2018 สมาร์ทโฟน ‘ขอผมพับ ขอผมทัช’ จากซัมซุง ย้อนยุคทองโทรศัพท์พับได้!!

    ในยุคนี้เรามองไปทางไหนก็เห็นแต่สมาร์ทโฟนหน้าทัชสกรีน หน้าจอแบนแบบทั่วๆ ไป จนทำให้หลายๆ คนอาจกำลังคิดถึงมือถือยุคเก่าแบบพับได้อะไรแบบนั้นอยู่ หากใครคิดอย่างนั้นแล้วก็บอกเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับข่าวนี้แน่นอน เพราะทาง ซัมซุง (ประเทศจีน) ได้ประกาศเปิดตัวมือถือฝาพับรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับสเปกสุดโหด มือถือรุ่นนี้มีชื่อว่า Samsung W2018 กับจุดเด่นที่หลายๆ คนต้องคิดถึงเพราะนี่มันคือมือถือแบบจอพับได้เหมือนในอดีตเป๊ะๆ แต่ถึงอย่างนั้นประสิทธิภาพของมันก็สามารถตอบโจทย์ให้กับการใช้งานในปัจจุบันได้อย่างดีเยี่ยม   .   เจ้ามือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 4.2 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD ใช้ชิปเซต Snapdragon 835 พร้อม RAM 6GB เพื่อการทำงานที่ลื่นไหล บวกกับความจุที่สามารถเลือกได้ระหว่าง 64 GB หรือ 256 GB ส่วนของแบตเตอรี่อยู่ที่ 2300 mAh และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้อีกด้วย   . .   ในส่วนของกล้อง กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลขนาดรูรับแสง f/1.9 และกล้องหลัง 12…

  • ชีวิตของ RockyNoHands เกมเมอร์ไร้แขนแต่ก็ยังเล่นได้ และสตรีมให้ผู้คนได้ดูอีกต่างหาก

    ชีวิตของ RockyNoHands เกมเมอร์ไร้แขนแต่ก็ยังเล่นได้ และสตรีมให้ผู้คนได้ดูอีกต่างหาก

    ปัจจุบันการการเล่นเกมของตัวเองเพื่อเผยแพร่ไปให้คนอื่นๆ ในโลกโซเชียลมีเดียได้เห็น หรือที่เรียกว่า การสตรีมเกม นั้นเราสามารถพบเห็นได้จากในยูทูบ และ Twitch ซึ่งทำให้เราเห็นฝีไม้ลายมือของเหล่าเกมเมอร์จากทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือเกมเมอร์ที่ใช้ชื่อว่า RockyNoHands ชายผู้ไม่ต้องใช้มือในการเล่นเกม Rocky Stoutenburgh วัย 30 ปีคือชายผู้ใช้ชื่อในวงการเกมตอนนี้ว่า RockyNoHands โดยเขาได้ประสบอุบัติเหตุตกลงมาจากที่สูงเมื่อ 11 ปีก่อน ทำให้มีอาการบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังจนเขาต้องกลายเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงคอลงไป   Rocky เกมเมอร์ผู้ไม่ได้ใช้มือในการเล่นเกม   สาเหตุนั้นจึงทำให้เขาเลิกเล่นเกมไปตั้งแต่อายุ 19 ปีเพราะไม่สามารถใช้มือในการเล่นได้ ผ่านไปหลายปีพี่ชายของเขาก็ได้ไปเจอกับเครื่องมือที่จะช่วยให้เขาได้กลับไปเป็นเกมเมอร์อีกครั้ง นั่นก็คือตัวควบคุมที่ออกแบบมาเพื่อคนพิการแขนขาโดยเฉพาะ แต่ทว่าเครื่องมือดังกล่าวเป็นรุ่นแรกๆ ทำให้ไม่มีความแข็งแรงทนทานที่มากพอในการรองรับการเล่นเกมได้นาน ในช่วง 5 ปีที่ Rocky ได้ใช้เครื่องมือตัวนี้ เขาก็ต้องซื้อใหม่อยู่หลายๆ ครั้ง จึงเลิกเล่นเกมไปในที่สุด จนกระทั่งปี 2014 นักออกแบบที่ชื่อว่า Fred Davison ได้นำตัวควบคุมนี้มาพัฒนาผ่านการระดมทุนจาก KickStarter ตัวควบคุมอัจฉริยะนี้สามารถใช้ปากเพียงอย่างเดียวในการควบคุม และแน่นอนว่ามันคือสิ่งที่ช่วยให้ Rocky ได้เล่นเกมมาจนถึงทุกวันนี้ได้   อุปกรณ์ที่ช่วยให้ Rocky ได้กลับมาเล่นเกมอีกครั้ง  …

  • หนุ่มเล่นเกมต่อคำออนไลน์เป็นเพื่อนให้กับคุณยายวัย 86 มาเป็นปี ในที่สุดก็ได้พบกัน!!

    หนุ่มเล่นเกมต่อคำออนไลน์เป็นเพื่อนให้กับคุณยายวัย 86 มาเป็นปี ในที่สุดก็ได้พบกัน!!

    หลายๆ คนอาจมองว่าสังคมออนไลน์เต็มไปด้วยเรื่องราวแย่ๆ ความเกลียดชัง หรือการต่อว่าผู้อื่น แต่เพื่อนรักต่างวัยสองคนนี้ได้ทำให้เราเห็นว่ามันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป ในเมื่อพวกเขาเองก็ได้เริ่มเป็นเพื่อนกันจากการเล่นเกมออนไลน์ ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากถึง 64 ปีและยังอยู่กันคนละที่อีกด้วย โดย Spencer เด็กหนุ่มวัย 22 ปีจากนครนิวยอร์ก ได้รู้จักกับ Roz คุณยายวัย 86 ปีที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริด้า ผ่านเกมออนไลน์ต่อคำศัพท์ที่ชื่อว่า Words With Friends   Spencer และ Roz สองเพื่อนรักที่สร้างมิตรภาพต่างวัยจากการเล่นเกมออนไลน์   เด็กหนุ่มได้เล่นเกมเป็นเพื่อนคุณยายมานานกว่า 1 ปี และได้เล่นเกมไปด้วยกันมากกว่า 300 ครั้ง จนทำให้ทั้งคู่สนิทกันจนเปรียบได้กับเพื่อนที่รักกันมาก ในวันที่ 2 ธันวาคม 2017 Spencer จึงได้เดินทางไปหาคุณยายที่บ้านพักคนชรา และนั่นก็คือการเจอหน้ากันเป็นครั้งแรกของทั้งคู่   โพสต์ของ Spencer ที่บอกเล่าถึงการได้รู้จักกันครั้งแรกเมื่อ 1 ปีก่อน และการได้เจอกันครั้งแรกในปีนี้   เด็กหนุ่มได้โพสต์ในอินสตาแกรมด้วยว่า พวกเขาเล่นเกมกันมามากกว่า 300 ครั้งแล้ว…

  • เด็กสาวไม่พอใจในรูปร่างตัวเอง เขียนวันสั่งลาไว้ในไอจี ก่อนจะปลิดชีพตัวเองหลังจากนั้น…

    เด็กสาวไม่พอใจในรูปร่างตัวเอง เขียนวันสั่งลาไว้ในไอจี ก่อนจะปลิดชีพตัวเองหลังจากนั้น…

    การฆ่าตัวตายมีโอกาสเกิดได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศใดหรืออายุเท่าไหร่ แม้แต่กับเด็กน้อยวัย 11 ปีคนนี้ที่ได้แสดงความต้องการในแง่ลบของเธอออกมาอย่างชัดเจน จนสามารถสังเกตเห็นได้ว่าเธอต้องการที่จะฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่สามารถช่วยเธอเอาไว้และได้จากโลกนี้ไปอย่างน่าเศร้า นี่คือเรื่องราวของเด็กสาวที่ชื่อว่า Milly Tuomey อาศัยอยู่ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2017 พ่อแม่ของเธอได้เจอกับ “ไดอารี่ฆ่าตัวตาย” ของเด็กสาวที่บันทึกไว้ในอินสตาแกรมว่าตนเองต้องการที่จะตายวันไหน   เด็กสาว Milly ที่ฆ่าตัวตายไปตั้งแต่อายุ 11 ปี   เธอได้เข้ารับการบำบัดด้วยศิลปะ หลังจากที่เธอได้รับการตรวจสอบอาการทางจิตและพบว่าเธอมีบางอย่างที่ไม่ตรงตามคุณสมบัติทั่วไป ในครั้งแรกที่เธอได้เข้ารับการบำบัดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2015 นักบำบัดก็ได้แนะนำครอบครัวให้พาเธอไปเข้ารับการตรวจจาก บริการด้านสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นของ HSE เพื่อสำรวจในเรื่องของอารมณ์ที่เกิดขึ้นผ่านการพูดและความหมายของภาพที่เธอรับรู้     นักจิตวิทยาในสถานที่ดังกล่าวกลับไม่ได้สนใจในความผิดปกติของเธอมากเท่าที่ควร พวกเขาได้นัดให้เธอเข้ามารับการตรวจสอบและรักษาในวันที่ 30 มกราคม 2016 ซึ่งนั่นก็สายเกินกว่าที่จะช่วยเด็กคนนี้เอาไว้ได้ Fiona แม่ของเด็กสาวรู้สึกกังวลใจอย่างมาก เธอเล่าว่า “ลูกสาวฉันโพสต์ลงไปว่า ‘คนสวยจะไม่กินอาหาร’ แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ แล้วเธอก็ยังเขียนบอกอีกว่าต้องการตายวันไหน ซึ่งนั่นทำให้ฉันไม่รู้เลยว่าควรต้องทำอย่างไรต่อไปดี”     จนกระทั่งวันที่ 1…

  • ความเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง ระหว่างบุคคลอายุ 14 และ 77 ปี จากผลการศึกษานาน 60 ปี…

    ความเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง ระหว่างบุคคลอายุ 14 และ 77 ปี จากผลการศึกษานาน 60 ปี…

    ทุกคนรู้ว่าเมื่ออายุของเราเพิ่มมากขึ้นรูปร่างและระบบการทำงานของร่างกายเราย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่งานวิจัยอันยาวนานนี้ก็ได้บอกเราอีกว่า ไม่ได้มีเพียงแค่สุขภาพร่างกายของเราที่เปลี่ยนไปเพราะมันมีอะไรมากกว่านั้นอีกเยอะ นี่คืองานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ใน Psychology and Aging ใช้เวลานาน 63 ปีสำหรับการศึกษาในครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่าอายุที่เพิ่มขึ้นของเรา ไม่ได้มีแค่ร่างกายที่เปลี่ยนไป แต่มันรวมถึงเรื่องของลักษณะอุปนิสัยของเราด้วย     การศึกษานี้เริ่มขึ้นในปี 1950 ทำการสำรวจเด็กวัย 14 ปีจำนวน 1,208 คนในประเทศสกอตแลนด์ โดยให้คุณครูของเด็กๆ ให้คะแนนในเรื่องของความมั่นใจในตัวเอง ความขยันหมั่นเพียร ความมั่นคงของอารมณ์ ความยุติธรรม ความคิดริเริ่ม และความอยากที่จะเรียนรู้ รวมกันเป็น 6 คำถาม เพื่อดูว่าเด็กแต่ละคนอยู่ในระดับใดบ้าง ทั้ง 6 หัวข้อนั้นสามารถรวมได้เป็นหนึ่งบุคลิกหลักก็คือความน่าไว้วางใจ     นักวิจัยได้เก็บผลนั้นไว้ แล้วกลับมาติดตามผลอีกครั้งหลังจากผ่านไปนานถึง 63 ปี เหลือผู้ร่วมการทดลองอยู่เพียง 635 คน และมีผู้เข้ารับการทดสอบครั้งที่สองอีกเพียงแค่ 174 คน นักวิจัยได้ทำการทดสอบด้วยคำถามเดิม ให้ผู้ร่วมการทดลองวัย 77 ปีเป็นคนให้คะแนนตัวเอง รวมถึงญาติสนิทหรือคนใกล้ชิดที่ต้องให้คะแนนพวกเขาด้วยเช่นกัน ผลลัพธ์ที่ได้จากการศึกษาอันยาวนี้ก็ได้สร้างความตกใจให้กับนักวิจัยเป็นอย่างมาก เพราะคะแนนที่ได้ต่างจากคะแนนในตอนที่พวกเขายังเป็นเด็กอย่างชัดเจน…

  • แพทย์ถึงกับไปไม่เป็นหลังเห็นรอยสักว่า ‘อย่าช่วยชีวิต’ อยู่บนหน้าอกของผู้ป่วยที่ไม่ได้สติ

    แพทย์ถึงกับไปไม่เป็นหลังเห็นรอยสักว่า ‘อย่าช่วยชีวิต’ อยู่บนหน้าอกของผู้ป่วยที่ไม่ได้สติ

    หมอมีหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้ให้สามารถรอดชีวิตจากความตายมาได้ แต่แน่นอนว่าความต้องการของคนไข้เองก็เป็นส่วนสำคัญเพราะปัจจุบันได้มีกฎหมายที่คนไข้สามารถเลือกที่จะปล่อยให้ตัวเองตายก็ได้ แล้วถ้าคนไข้ไม่ได้พูดกับหมอตรงๆ แต่บอกผ่านรอยสักเหมือนชายคนนี้ล่ะ คุณหมอจะตัดสินใจช่วยเขาดีหรือไม่? สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไมอามี่ สหรัฐอเมริกา เมื่อชายแก่วัย 70 ปีถูกพบในสภาพเมาหมดสติ ก่อนที่จะถูกนำตัวมาที่โรงพยาบาล แต่ในตอนที่หมอกำลังจะทำการช่วยชีวิตเขาอยู่นั้นเอง ก็ได้เจอกับรอยสักที่เขียนไว้ว่า “อย่าช่วยชีวิต” อยู่บนหน้าอกของเขา   รอยสักบอกไว้ว่า “อย่าช่วยชีวิต”   ความสับสนที่เกิดขึ้นนี้ได้ถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์ Daily Mail วันที่ 30 พฤศจิกายน 2017 นายแพทย์ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องช่วยกันตัดสินใจว่าพวกเขาควรทำตามความต้องการของคนไข้หรือควรทำตามหน้าที่ของตนเองกันแน่ นายแพทย์ Greg Holt หนึ่งในหมอผู้อยู่ในเหตุการณ์อธิบายว่าตามกฎหมายแล้ว คนไข้มีสิทธิ์เลือกให้ตัวเองได้ โดยที่หมอจะไม่ทำการช่วยชีวิตใดๆ เลยทั้งสิ้น ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะต้องทำการเซ็นแบบฟอร์มข้อตกลงของคนไข้และแพทย์เสียก่อน     แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่สามารถยืนยันได้ว่า รอยสักคือความต้องการของคนไข้จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่การสักเล่นๆ ตอนวัยรุ่นกันแน่ จึงทำให้การตัดสินใจเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ เพราะนี่คือเรื่องของความเป็นตายของคนเลยทีเดียว จนกระทั่งนายแพทย์ Greg ตัดสินใจยื้อชีวิตของชายหนุ่มเอาไว้ โดยการควบคุมความดันเลือดที่สูงมากของคนไข้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจเพราะยังคงไม่แน่ใจกับความต้องการที่แท้จริงของคนไข้     หลังจากนั้นกลุ่มผู้ให้การปรึกษาด้านจริยธรรมและทีมแพทย์จำนวนมากได้ประเมินสถานการณ์ทุกอย่างทั้งหมดแล้ว และพวกเขาก็ได้เลือกที่จะปล่อยให้ชายแก่คนนี้ตายไปในที่สุด ตามความต้องการที่อยู่บนรอยสัก นายแพทย์ Greg…

  • ลูกสาวโพสต์ภาพ งานถักของแม่ในภาพเดียว อธิบาย ‘โรคอัลไซเมอร์’ ที่คุณแม่เธอต้องประสบ…

    ลูกสาวโพสต์ภาพ งานถักของแม่ในภาพเดียว อธิบาย ‘โรคอัลไซเมอร์’ ที่คุณแม่เธอต้องประสบ…

    โรคอัลไซเมอร์ คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสมองที่เสื่อมลงไป ทำให้ผู้ป่วยมีอาการสูญเสียความทรงจำ รู้สึกสับสน และมีปัญหาในการสื่อสาร และอาการจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป และภาพที่ได้ถูกโพสต์ลงใน Reddit ก็คือตัวอย่างของอาการที่เริ่มแย่ลงไปเรื่อยๆ ของคุณแม่ท่านหนึ่ง ภาพนี้ถูกโพสต์ลงไปโดยลูกสาวของเธอ Sara Wuillermin เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2017 เธอต้องการให้ทุกคนได้รับรู้ว่าอาการป่วยของโรคดังกล่าวส่งผลกับการใช้ชีวิตของแม่เธอมากขนาดไหน     เธอได้อธิบายเกี่ยวกับภาพนี้เอาไว้ว่า “แม่ของฉันเก่งในการถักโครเชต์มาโดยตลอด จนกระทั่งเธอถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ตอนอายุได้ 54 ปีหลังจากนั้นมาหลายๆ อย่างในชีวิต รวมถึงผลงานการถักโครเชต์ก็เปลี่ยนไป” คุณหมอผู้วินิจฉัยแนะนำให้แม่ของเธอถักโครเชต์ต่อไปเรื่อยๆ แม้จะป่วยเป็นอัลไซเมอร์ก็ตาม นั่นจึงทำให้เราสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงจากผลงานของเธอที่มีขึ้นในแต่ละปี ยิ่งเวลาผ่านไปความสามารถในการถักก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด     คุณแม่ท่านนี้ป่วยมานานกว่า 12 ปี ไม่สามารถจำลูกสาวของเธอหรือแม้แต่การพูดเธอก็ไม่อาจทำได้อีกต่อไปแล้วในปัจจุบัน และถึงแม้ว่าครอบครัวและคนดูแลจะคอยอยู่เพื่อช่วยเหลือชีวิตประจำวันของเธอมาตลอด แต่หมอก็ได้วินิจฉัยออกมาว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน ลูกสาวเล่าว่า “แม่ของฉันไม่สามารถดูแลตัวเองได้ในชีวิตประจำวันทั้งการแต่งตัว กินข้าว อาบน้ำ หรือแม้แต่การเดินไปไหนมาไหนเพียงลำพัง แต่เธอก็ยังคงมีสุขภาพร่างกายส่วนอื่นที่ยังคงดีอยู่ แต่หมอก็ได้วินิจฉัยแล้วว่าเธอคงมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกไม่กี่เดือนหรืออาจจะเป็นปีเท่านั้นเอง”     การที่ต้องมีแม่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าช่วงชีวิตของเธอทั้งหมดต้องอยู่กับสิ่งสิ่งนี้เสมอ โดยที่เธอไม่ได้รู้สึกชอบมันเลย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เลือกที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆ และช่วงเวลาอันมีค่าของแม่เธอเอาไว้ จนถึงวันนี้เธอต้องการที่จะบอกให้ทุกคนที่ดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ว่า ไม่มีใครเลยที่ต้องอยู่คนเดียว…

  • ชายผู้เสียโฉมเพราะถูกหมีข่วน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวี แต่ผู้ชมกลับบอกว่า ‘สมควรแล้ว’

    ชายผู้เสียโฉมเพราะถูกหมีข่วน ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวี แต่ผู้ชมกลับบอกว่า ‘สมควรแล้ว’

    หลายคนอาจรู้สึกสงสารกับการที่ชายคนหนึ่งถูกหมีทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส แต่ผลตอบรับจากเรื่องเล่าของเขาคนนั้นกลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม เพราะชาวเน็ตกลับรู้สึกไม่พอใจเขาอย่างมาก สิ่งนี้เกิดขึ้นในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 เมื่อรายการ This Morning ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการสัมภาษณ์ Lee Brooke ผู้เคราะห์ร้ายวัย 60 ปี ที่ถูกหมีทำร้ายจนทำให้ใบหน้าของเขาเกือบจะหายไปทั้งแถบ   Lee ชายผู้ถูกหมีทำร้ายจนใบหน้าของเขาต้องใช้อุปกรณ์ในการแพทย์แทนที่จมูกและริมฝีปากบน   เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นจำนวนมากเนื่องจากอาการที่สาหัสบริเวณใบหน้า รวมถึงอาการบาดเจ็บอื่นๆ ทั่วร่างกาย เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายเดือนจนกระทั่งผิวหนังบนใบหน้าถูกแทนที่ด้วยผิวหนังส่วนขาของเขา รวมถึงการผ่าตัดฝังเหล็กดามเอาไว้บริเวณศีรษะ และยังคงต้องเข้ารับการรักษาอีกในระยะยาว     Lee ได้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์นั้นผ่านการสัมภาษณ์ว่า ตอนนั้นเขาเดินขึ้นเขาในรัฐไวโอมิง เพื่อไปล่ากวางเอลก์ เมื่อเขาฆ่าได้ตัวนึงและกำลังจะเดินไปเก็บซากของเหยื่อตัวนั้น ก็ได้เจอกับแม่หมีวัย 30 ปีและลูกๆ ของมัน แม่หมีตัวนั้นต้องการเหยื่อที่เขาล่าได้ เมื่อเขาเห็นอย่างนั้นจึงหันหลังกลับเพื่อหนีออกไปจากสายตาของมัน แต่เจ้าหมีก็ได้เดินเข้ามากระชากกระเป๋าของเขา ตะปบหน้าจนเขาตกลงไปด้านล่างภูเขาที่ลึงลงไปกว่า 45 เมตร     การตกลงมาจากที่สูงทำให้เขาสลบไป ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาหลังจากที่เจ้าหมีตัวนั้นเดินเข้ามาดมแก้มของเขา และเขาเผลอสะดุ้งตื่นเข้ามาจนทำให้เจ้าหมีกัดลงไปบนแขนของเขา Lee พยายามล้วงเข้าไปในคอหอยของมันเพื่อให้มันปล่อยแขนของเขา อีกทั้งยังตีเข้าไปที่หัวของหมีอีกหลายครั้ง นั่นจึงทำให้เขาสามารถรอดมาได้ ก่อนที่เพื่อนที่มาด้วยกันก็มาช่วยเหลือและพาไปโรงพยาบาลในทันที…

  • นักกีฬาวอลเลย์โรงเรียน ถูกโค้ชและเพื่อนทำร้ายร่างกาย เพราะฝ่าฝืนกฎ “ห้ามเดตสาว”

    นักกีฬาวอลเลย์โรงเรียน ถูกโค้ชและเพื่อนทำร้ายร่างกาย เพราะฝ่าฝืนกฎ “ห้ามเดตสาว”

    เราอาจเคยได้ยินว่าไอดอลในประเทศญี่ปุ่น ไม่สามารถออกเดตได้ และกฎเดียวกันนี้ก็จะมีอยู่ในหลายโรงเรียน โดยพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นการช่วยให้นักเรียนสามารถตั้งใจเรียนหนังสือได้อย่างไม่วอกแวก รวมถึงการทำกิจกรรมชมรมต่างๆ แต่การฝ่าฝืนกฎดังกล่าวก็อาจตามมาด้วยความรุนแรงที่คาดไม่ถึงเหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมปลาย Ashikaga จังหวัดโทะชิงิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งชมรมวอลเลย์บอลชายของโรงเรียนแห่งนี้ถือได้ว่ามีชื่อเสียงและได้เข้าแข่งระดับประเทศมาตลอด   โรงเรียนมัธยม Ashikaga ในประเทศญี่ปุ่น   ทางชมรมมีกฎที่เข้มงวดตั้งเอาไว้ว่า “ห้ามนักกีฬาออกเดตกับทุกคนที่เกี่ยวข้องในชมรมวอลเลย์บอล” แม้แต่ผู้จัดการทีมที่เป็นผู้หญิงก็ห้ามคบหาเช่นกัน เพื่อป้องกันไม่เกิดการอิจฉาหรือความเกลียดชังกันระหว่างคนในทีม แต่ความรักก็เป็นเรื่องยากที่จะห้ามมันเอาไว้ได้ จึงทำให้นักกีฬาชายชั้นม.5 วัย 17 ปีคนหนึ่ง แอบคบกับผู้จัดการทีม และนั่นก็ทำให้เขาถูกลงโทษอย่างรุนแรงในวันที่ 29 มิถุนายน 2017     โค้ชของทีมวัย 66 ปีได้ทำการลงโทษนักกีฬาคนดังกล่าว โดยให้เขานั่งคุกเข่าลงไปกับพื้นตามลักษณะท่าทางของวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากนั้นโค้ชก็เตะเข้าไปที่หน้าอกของเด็กหนุ่มซ้ำๆ อยู่หลายครั้ง และตีหลังของเขาในตอนที่ล้มลงไปนอนกับพื้น และไม่ได้มีเพียงการลงโทษทางร่างกายที่รุนแรงเท่านั้น แต่นักกีฬาผู้ฝ่าฝืนกฎคนนี้กลับต้องเจอกับการถูกเพื่อนร่วมทีมทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่หอพักและในโรงยิมของโรงเรียน     สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ถูกกระจายออกไป ทำให้ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2017 Shigekazu Matsushita ครูใหญ่โรงเรียน Ashikaga ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า โค้ชคนนั้นไม่ถูกตัดสิทธิ์ในการคุมทีมวอลเลย์บอลชายในการแข่งขันประจำชาติที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคม…

  • พี่สาวประกาศตามหา ‘รถบรรทุกของเล่น’ เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับน้องชายพิการอีกครั้ง

    พี่สาวประกาศตามหา ‘รถบรรทุกของเล่น’ เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับน้องชายพิการอีกครั้ง

    เทศกาลคริสต์มาส คือวันที่หลายๆ คนจะได้รับของขวัญจากคนในครอบครัว และนั่นคือสิ่งที่จะทำให้เรารู้สึกดีใจและมีความสุข ซึ่งเป็นเหตุผลให้ผู้ปกครองหลายๆ คนพยายามตามหาของขวัญสุดพิเศษมามอบให้ในวันนั้น เช่นเดียวกับ Cassie Gretschel หญิงสาวในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้พยายามตามหาของขวัญให้กับน้องชายของเธอ เธอได้พูดเรื่องราวของน้องชายเธอเอาไว้ใน Reddit ว่า “น้องชายของฉันชื่อ Max เขาได้รับความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่ 5 ขวบ จนตอนนี้เขาอายุ 25 แล้ว สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยเยียวยาเขาได้และเป็นของขวัญที่เขาได้รับในวันคริสต์มาสทุกๆ ปีก็คือ ของเล่นรถกระบะตำรวจสีน้ำเงินที่ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 2000”   Max วัย 25 ปีผู้มีความผิดปกติทางจิตและร่างกาย   ครอบครัวนี้ได้ให้ของเล่นดังกล่าวกับ Max ในวันคริสต์มาสมาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา แต่ด้วยความที่ของเล่นชิ้นนี้เลิกผลิตไปเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว จึงทำให้ในปี 2017 นี้พวกเธอไม่อาจหาซื้อได้ง่ายๆ เหมือนเมื่อปีก่อนๆ เรื่องราวทั้งหมดได้ถูกบอกเล่าในโลกโซเชียลเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2017 เธอได้ขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ตในการตามหาของขวัญชิ้นนี้ และนั่นก็ทำให้เราได้รู้เลยว่าทุกคนพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือกันจริงๆ   ชาวเน็ตคนนี้ช่วยหาร้านที่ขายของเล่นชิ้นนั้นให้กับเธอ พร้อมทั้งอาสาที่จะจัดส่งจากประเทศฝรั่งเศสไปให้ด้วยตัวเอง   ส่วนคนนี้ได้ไปเจอและซื้อมันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจะส่งของเล่นไปให้เธอแบบฟรีๆ…

  • เหตุผลทางวิทย์ฯ ที่คุณควรจะโต้เถียงด้วยการ ‘พูด’ เพราะมีน้ำหนักมากกว่าสื่อผ่าน ‘ตัวอักษร’

    เหตุผลทางวิทย์ฯ ที่คุณควรจะโต้เถียงด้วยการ ‘พูด’ เพราะมีน้ำหนักมากกว่าสื่อผ่าน ‘ตัวอักษร’

    ปัจจุบันหลายๆ คนเลือกที่จะส่งข้อความตัวอักษรมากกว่าการโทรคุยกัน หรือการไปคุยกันต่อหน้า เพราะเชื่อว่ามันสามารถแทนกันได้ แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป หลังจากที่งานวิจัยได้ออกมาบอกแล้วว่าการพูดคุยกันด้วยเสียงสามารถโน้มน้าวและฟังดูมีน้ำหนักมากกว่าการใช้ตัวอักษร นี่เป็นงานวิจัยทางจิตวิทยาของ Juliana Schroeder จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ผู้ที่ได้ทำการทดลองมาเป็นจำนวนมาก และ งานวิจัยในครั้งนี้ ของเธอก็ได้ถูกตีพิมพ์ในวันที่ 25 ตุลาคม 2017     เธอได้ให้อาสาสมัครจำนวน 300 คนแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ได้อ่าน และกลุ่มที่ได้ฟังข้อโต้แย้งในเรื่องของสงคราม การทำแท้ง และความแตกต่างกันของแนวดนตรี จากนั้นจึงให้ทุกคนลองประเมินและตัดสินจากสิ่งที่ตัวเองได้ยินว่ารู้สึกอย่างไรกับคนที่พูดหรือคนที่เขียนข้อความนั้นๆ ผลออกมาคือกลุ่มที่ฟังข้อโต้แย้งผ่านคลิปวิดีโอหรือคลิปเสียงจะมีความรู้สึกสนใจและให้คุณค่ากับคำพูดเหล่านั้นมากกว่ากลุ่มที่ได้อ่านผ่านตัวอักษร ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้นักวิจัยเชื่อว่าการสื่อสารด้วยเสียงจะทำให้ผู้พูดดูเป็นคนมีเหตุผล และมีความเท่าเทียมกันมากกว่าการสื่อสารกันด้วยตัวอักษร     และเธอยังมีการทดลองที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม อย่างเช่นการทดลองหนึ่งที่เธอให้คน 600 คน แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาของนักการเมืองสองคนในปี 2016 โดยให้ผู้รับการทดลองให้คะแนนนักการเมืองเหล่านั้นหลังจากที่ได้ฟังหรืออ่านการหาเสียงของพวกเขา ในตอนแรกอาสาสมัครเหล่านั้นรู้สึกเกลียดและไม่ชอบผู้หาเสียงอีกฝั่งนึงมาก แต่เมื่อพวกเขาได้มาฟังหรือเห็นบทสัมภาษณ์ของนักการเมืองคนนั้นแล้ว ความรู้สึกไม่ชอบก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่การอ่านก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่น้อยกว่าการฟัง     ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เราให้น้ำหนักกับการได้ยินคำพูดมากกว่าการอ่านผ่านตัวอักษร และสิ่งนี้จะยิ่งมีความสำคัญในเวลาที่เราเกิดการโต้เถียงกับอีกฝ่ายหนึ่งอยู่ ลองคิดถึงการอ่านหนังสือพิมพ์ เวลาเราเห็นพาดหัวข่าวข่าวหนึ่ง ความรู้สึกที่ได้รับแตกต่างกับการที่เราได้ฟังข่าวหรือเห็นข่าวผ่านโทรทัศน์ แม้จะเป็นข่าวเดียวกันก็ตาม     และถึงแม้ว่าจิตใจคนเราไม่อาจที่จะคาดเดาได้ แต่งานวิจัยเหล่านี้ก็อาจช่วยบอกกับเราได้ว่าเวลาที่เราทะเลาะหรือโต้เถียงกับใคร การพูดคุยกันด้วยเสียง…

  • สิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่ ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้คน และบำบัดอาการ ‘ติดสมาร์ทโฟน’

    สิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่ ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้คน และบำบัดอาการ ‘ติดสมาร์ทโฟน’

    อาการเสพติดสมาร์ทโฟน หรือ สังคมก้มหน้า คือสิ่งที่เราสามารถพบเห็นกันได้โดยทั่วไปในสังคมทุกวันนี้ เพราะปัจจุบันเกือบทุกคนต้องรู้จักและมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง ซึ่งนั้นทำให้คนจำนวนมากใช้มันแทบจะตลอดเวลาไปแล้ว แต่อาการดังกล่าวสามารถเยียวยาได้ด้วยเจ้าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ เจ้าสิ่งนี้มีชื่อว่า โทรศัพท์สำรอง เป็นฝีมือของดีไซเนอร์ชาวออสเตรีย Klemens Schillinger ซึ่งเขาได้ออกแบบมันมาเพื่อแก้ปัญหาของอาการดังกล่าวโดยเฉพาะ     ความพิเศษของมันก็คือมันสามารถให้เราได้ใช้นิ้วเหมือนกับที่เราทำบนหน้าจอสมาร์ทโฟนเราอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนหน้าจอ การซูมเข้าซูมออก หรือการสไลด์ขึ้นลงบนลูกปัดหินที่เปรียบเหมือนกับลูกกลิ้งเรียงตัวกันอยู่บนอุปกรณ์นี้ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าสิ่งนี้ยังมีขนาดและรูปร่างเหมือนๆ กับสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป ทำให้ความรู้สึกของเราเวลาได้มาเล่นมันแทนการเล่นสมาร์ทโฟนนั้นเหมือนจริงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย   มาพร้อมกับ 5 สไตล์ให้คุณเลือกได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนหน้าจอ การสไลด์ขึ้นลง หรือการซูมเข้าซูมออก   Klemens บอกว่า “ปัจจุบันพวกเราเล่นมือถือกันอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าที่ไหนก็ตาม หรือแม้แต่เวลาที่เราไม่ได้รับข้อความใดๆ เราก็จะควักมันขึ้นมาเล่นอยู่ดี และนั่นจึงทำให้ผมเกิดไอเดียสร้างสิ่งประดิษฐ์นี้ขึ้นมาเพื่อลดการเกิดพฤติกรรมดังกล่าว” เขาได้ยืนยันอีกว่าสิ่งนี้มีความแตกต่างกับ Fidget Spinner หรือ Fidget Cubes ตรงที่ว่ามันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ช่วยแก้ปัญหาเวลาเหงามือ แต่มันมีขึ้นเพื่อแก้การเสพติดสมาร์ทโฟนโดยตรง เพราะท่าทางการเลื่อนหน้าจอ หรือสไลด์หน้าจอเป็นสิ่งที่พวกเราติดจากการใช้สมาร์ทโฟนโดยตรง และนี่จึงเข้ามาเป็นสิ่งทดแทนในเรื่องนั้น     นอกจากนั้นเขาก็ได้ออกแบบโคมไฟที่จะมาช่วยแก้ปัญหาการใช้สมาร์ทโฟนเกินความจำเป็นอีกด้วย ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ทั้งสองชิ้นเราก็คงต้องรอกันต่อไปว่าจะมีออกมาวางขายกันเมื่อไหร่   โคมไฟที่เราต้องนำมือถือไปใส่ไว้ในลิ้นชักเท่านั้น ไฟมันถึงจะติด…

  • รู้จักสตรีหมายเลข 1 ของประเทศแคนาดา พ่วงตำแหน่งภรรยาของท่านนายกฯ Justin Trudeau

    รู้จักสตรีหมายเลข 1 ของประเทศแคนาดา พ่วงตำแหน่งภรรยาของท่านนายกฯ Justin Trudeau

    หลายคนอาจรู้จักนาย Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีหนุ่มของประเทศแคนาดากันไปบ้างแล้ว ด้วยหน้าตาอันหล่อเหลาของเขาที่อาจทำให้สาวๆ หลายคนต้องรู้สึกหวั่นไหว แต่ก็ต้องอกหักกันไปเพราะเขาเองก็มีภรรยาที่หน้าตาดีไม่แพ้ตัวเองเลย วันนี้ #เหมียวตะปู จึงชวนเพื่อนๆ ไปรู้จักกับเธอคนนี้กัน สตรีหมายเลขหนึ่งของแคนาดาคนนี้มีชื่อว่า Sophie Grégoire Trudeau วัย 42 ปี เกิดและเติบโตในเมือง Montreal ประเทศแคนาดา และเพราะเมืองนี้อีกเช่นกันที่ทำให้เธอได้รู้จักกับครอบครัว Trudeau   Justin Trudeau และ Sophie ภรรยาของเขา .   เธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นและสนิทกับ Michel Trudeau ลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว Trudeau มาตั้งแต่เด็ก และนั่นจึงทำให้เธอได้รู้จักกับพี่ชายคนกลางอย่าง Pierre และ Justin พี่ชายคนโตที่เป็นสามีของเธอในตอนนี้นี่เอง แต่อายุที่ต่างกันและอยู่กันคนละโรงเรียน ทำให้ในตอนนั้นพวกเขาได้รู้จักกันเพียงผิวเผิน     Sophie ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Montreal จนจบในสาขาด้านการสื่อสาร ศิลปศาสตร์บัณฑิต ก่อนที่เธอจะเข้าไปทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ในช่อง LCN ของประเทศแคนาดา ต่อมาในปี…

  • สตูดิโอ Ghibli เผยแนวเรื่องต่อไปของปู่มิยาซากิ พร้อมกับทำหนัง CG ใหม่ของลูกคุณปู่ด้วย

    สตูดิโอ Ghibli เผยแนวเรื่องต่อไปของปู่มิยาซากิ พร้อมกับทำหนัง CG ใหม่ของลูกคุณปู่ด้วย

    หากใครเป็นแฟนคลับที่ติดตามสตูดิโอ Ghibli มาตลอดก็อาจทราบกันแล้วว่า ผู้สรรค์สร้างเรื่องราวต่างๆ เอาไว้มากมาย อย่าง Hayao Miyazaki ได้ตัดสินใจเกษียณตัวเองไว้ด้วยหนังเรื่องสุดท้ายที่ชื่อว่า The Wind Rises เมื่อปี 2013 แต่ตอนนี้คุณปู่วัย 76 ปีคนนี้ได้กลับมาอีกครั้งพร้อมกับพล็อตหนังเรื่องใหม่ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Sora News ได้นำเสนอว่าสตูดิโอ Ghibli ได้ออกมาบอกว่าพวกเขากำลังเริ่มโปรเจกต์ชิ้นใหม่ภายใต้ผลงานของ Hayao ผู้ที่ได้สรรค์สร้างความสนุกเอาไว้ให้กับทุกคนมาโดยตลอด และนี่จะเป็นผลงานหนังอนิเมชั่นเรื่องแรกของค่ายหลังจากที่ไม่ได้ทำมานาน 3 ปี   Studio Ghibli ค่ายหนังการ์ตูนชื่อดัง   หลายๆ คนตอนนี้อาจเริ่มคาดหวังที่จะได้เห็นการ์ตูนแนวผจญภัยไปในโลกแห่งแฟนตาซีเหมือนกับหลายๆ เรื่องที่เราเคยเห็นก่อนหน้านี้ อย่างเช่น Spirited Away, My Neighbor Totoro หรือ Howl’s Moving Castle   Totoro เป็นสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนได้รู้จักกับผลงานของคุณปู่ท่านนี้  …

  • เจ้าเหมียวถูกแบนไม่ให้เข้ามาป้วนเปี้ยนในห้องสมุด จนทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่เห็นด้วย

    เจ้าเหมียวถูกแบนไม่ให้เข้ามาป้วนเปี้ยนในห้องสมุด จนทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่เห็นด้วย

    เราสามารถเห็นน้องเหมียวได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นในสวนสาธารณะ ตามทางเดิน หรือตามร้านอาหารที่ไม่อนุญาตให้พวกมันเข้ามา ทำให้ถูกพาออกไปอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกันกับห้องสมุดแห่งนี้ที่พวกเขาได้ตัดสินใจไม่อนุญาตให้เจ้าเหมียวเข้ามา แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่หลายๆ คนไม่เห็นด้วย เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ BuzzFeed วันที่ 1 ธันวาคม 2017 เมื่อเจ้าเหมียวที่ชื่อว่า Max เข้าไปวนเวียนอยู่ในห้องสมุดโรงเรียน Macalester ในเมืองเซนต์พอล รัฐมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ทำให้มีการติดป้าย “ห้าม” มันเข้ามาอีกต่อไป   Max คือเจ้าเหมียวที่ชอบเข้าไปเดินเล่นในห้องสมุดโรงเรียนดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง   มันก็เหมือนกับแมวทั่วๆ ไป ชอบหาที่นอนนิ่มๆ   บางครั้งก็จะยืดร่างกายซักหน่อยเพื่อความผ่อนคลาย   หลักฐานการแอบเข้าไปในห้องสมุดของเจ้าเหมียวตัวนี้ถูกถ่ายเอาไว้ได้จากกล้องวงจรปิด   ทางห้องสมุดจึงต้องติดป้ายเอาไว้เพื่อบอกให้กับทุกคนรู้ว่า จงอย่าให้มันเข้ามาในห้องสมุดอีก แม้ว่ามันจะน่ารักขนาดไหนก็ตาม   แต่ด้วยความน่ารักของเจ้าเหมียวตัวนี้ ก็ได้มีทาสหลายๆ คนแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยที่แบนไม่ให้มันเข้าห้องสมุดมา อย่างเช่นการทำบัตรห้องสมุดสำหรับเจ้าเหมียว เพื่อบอกว่ามันก็มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาได้นะ   บางคนก็ถึงกับอธิบายว่าตนเองไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มากขนาดไหน จนถึงกับเขียนเรียงความลงไปในโลกโซเชียล   ลงทุนวาดการ์ตูนให้กับเจ้าเหมียวน้อยตัวนี้ก็ยังมี   เห็นได้ชัดเลยว่ามันได้รับความนิยมจากเด็กๆ ที่มาใช้ห้องสมุดกันมากขนาดไหน   นี่อาจเป็นการสร้างกลุ่มทาสเหมียวขึ้นมาให้ต่อต้านมนุษย์ด้วยกันเองก็ได้?!…

  • หนังสั้นสะท้อนคำว่า ‘ความสุข’ ในสังคมปัจจุบัน เปรียบเทียบได้ดั่งชีวิตของหนูตัวน้อย

    หนังสั้นสะท้อนคำว่า ‘ความสุข’ ในสังคมปัจจุบัน เปรียบเทียบได้ดั่งชีวิตของหนูตัวน้อย

    ความสุขคืออะไร? เป็นคำถามที่ใครหลายๆ คนอาจต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการตอบคำถามนี้ หรือบางคนที่คิดว่ารู้แล้วว่าความสุขของตัวเองคืออะไรนั้น ความเป็นจริงนั่นอาจไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงสำหรับเราก็ได้ มันอาจเป็นเพียงสิ่งที่สังคมตีกรอบไว้ให้เราเดินไปตามทาง ความหมายในลักษณะนั้นเราสามารถทำความเข้าใจกันได้ผ่านการ์ตูนสั้นความยาวไม่เกิน 5 นาทีของศิลปินในประเทศอังกฤษที่ชื่อว่า Steve Cutts กับการสะท้อนคำว่าความสุขในสังคมปัจจุบัน นำเสนอผ่านการใช้ชีวิตของเจ้าหนูตัวน้อย พวกเราลองไปหาความหมายของคำว่าความสุขจากหนังสั้นเรื่องนี้กันเลย   เจ้าหนูที่มารับบทเป็นมนุษย์ กับการที่เราต้องเดินไปตามทางเดียวกันอยู่เสมอ   ความสุขที่เราเห็นได้จากสื่อโฆษณา ผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ ที่บอกว่ามันคือสิ่งที่สร้างความสุขให้กับเรา   เมื่อเราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นคือความสุข ตอนที่มีโปรโมชั่นลดราคานั่นก็เปรียบกับสวรรค์ของหลายๆ คน   แต่นั่นอาจไม่ใช่สวรรค์ที่แท้จริง แต่เป็นเพียงแค่สงครามที่พวกเราต้องเข้าไปต่อสู้ แก่งแย่งกันเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา   และเมื่อเราต้องเจอกับสมรภูมิหนักๆ ปัญหาต่างๆ ที่ถาโถม เราก็อาจมองหาความสุขจากสิ่งที่เรียกว่าของมึนเมา   การใช้วิธีแก้ปัญหาในลักษณะนั้น อาจทำให้เราต้องเจอกับปัญหาที่ตามมามากกว่าเดิม และจบลงด้วยการกินยารักษา หรือเข้าโรงพยาบาล เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เชื่อว่าสามารถทำให้เรากลับมามีความสุขได้   และเงินคือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับทุกความสุขของเรา จนทำให้คนส่วนใหญ่ต้องพยายามไขว่คว้าเป็นเจ้าของมันให้ได้มากที่สุด   ปลายทางของความสุขก็คือการทำงาน เปรียบได้กับการถูกล่อมาให้ติดกับอยู่ในชีวิตที่เราเองก็ไม่ได้อยากมี แต่ทำไปก็เพื่อความสุข แล้วอย่างนั้นทั้งหมดที่ว่ามามันใช่ความสุขของเราจริงหรือเปล่า?   รับชมวิดีโอกันแบบเต็ม กับการสะท้อนคำว่าความสุขในสังคมปัจจุบัน   สุดท้ายแล้วความสุขใช่สิ่งที่เราถูกปลูกฝังมาจากสังคมในสมัยนี้จริงหรือเปล่า หรือมันเป็นเพียงแค่เป้าหมายที่ทำให้เราสามารถทนอยู่กับความทุกข์จากการหาเงินกันแน่ และวนกลับมาที่คำถามเดิมว่า…

  • 20 สิ่งที่ดูละม้ายคล้ายอาหาร แต่บอกได้เลยว่ามันก็แค่ของคล้าย มันกินม่ายด๊ายยย!!

    20 สิ่งที่ดูละม้ายคล้ายอาหาร แต่บอกได้เลยว่ามันก็แค่ของคล้าย มันกินม่ายด๊ายยย!!

    เวลาที่เราหิวมากๆ เราก็อาจคิดถึงของกินอยู่ตลอดเวลาจนบางครั้งเราอาจมองสิ่งที่กินไม่ได้ว่านั่นเป็นอาหาร แต่จริงๆ แล้วเจ้าสิ่งที่กินไม่ได้เหล่านั้นบางครั้งมันก็ดันมีหน้าตาเหมือนกับอาหารจริงๆ เนี่ยสิ มันจะชวนให้สับสนกันมากขนาดไหนละนั่น เราลองไปดูตัวอย่าง 20 สิ่งของชวนหิวที่ความเป็นจริงไม่สามารถกินได้ แต่เพราะหน้าตามันดันละม้ายคล้ายคลึงกันมากเหลือเกิ๊นนน   ก้อนหินชวนหิว เพราะดูเหมือนกับเบคอนชิ้นใหญ่ยักษ์   อัญมณีที่ดูมีราคาเพราะหน้าตาเหมือนกับช็อกโกแลต   ราวกับมีช็อกโกแลตร้อนๆ ราดลงไปบนโดนัท   สับปะรดใหญ่ขนาดนี้คงกินกันได้ทั้งหมู่บ้าน   น้องหมาเหล่านี้ไม่ควรเดินผ่านร้านไก่ทอดนะ คนอื่นเห็นอาจคิดว่าเป็นไก่ทอดเดินได้   ด้านในลูกกอล์ฟที่พอดูดีๆ แล้วก็น่าเอาไปประกอบอาหารอยู่เหมือนกันนะ   แซลมอนซาชิมิ ทานคู่กับแปรงสีฟัน   เมื่อนำสบู่เข้าไมโครเวฟ ผลที่ได้กลับเป็นขนมปังซะงั้น   กล้วยสายพันธุ์ไหน ทำไมถึงมีเปลือกยาวขนาดนี้?!   แซนด์วิชชีสร้อนๆ ที่พอกัดเข้าไปแล้วแข็งเป็นหินเลยจริงๆ   ใครมาทำโดนัทตกไว้น่ะ ไม่มีใครมาเก็บเดี๋ยวจะเอาไปละนะ   ด้วยมุมกล้องและแสงสะท้อนแล้ว ดูยังไงนี่มันก็กล้วยชัดๆ   เมื่อตอนที่เราอยากกินสเต๊ก พอเหลือบไปเห็นกระดาษเก่าก็น่าจะพอแทนกันได้   สรุปว่าทำไมแมวหาย หรือว่าทำขนมปังหายกันแน่   อย่าให้โดนแดดมากนะ เดี๋ยวมันละลายไหลเยิ้มมม   ลูกนี้นี่น่าจะเพิ่งเก็บมาเลยนะ ดูสิยังดิ้นได้อยู่เลย…

  • ทฤษฎีแห่งการ ‘สบตา’ เผยถึงสาเหตุที่ว่า ทำไมการสบตาในระหว่างสนทนาจึงเป็นเรื่องยาก

    ทฤษฎีแห่งการ ‘สบตา’ เผยถึงสาเหตุที่ว่า ทำไมการสบตาในระหว่างสนทนาจึงเป็นเรื่องยาก

    หลายคนอาจเคยสงสัยว่าเวลาที่เราคุยกับคนอื่นทำไมเขาถึงไม่ชอบมองตาเราตรงๆ แต่เลือกที่จะมองไปทางอื่นตอนที่พูดกับเรา? คำถามนี้ได้มีคำตอบออกมาอธิบายให้เพื่อนๆ เข้าใจกันว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อนักวิทยศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น โดยพวกเขาได้ทำ การทดสอบ กับอาสาสมัครจำนวน 26 คน แล้วให้เล่นเกมต่อคำศัพท์โดยขณะที่เล่นต้องมองหน้าของคนที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ไปด้วย     ผลที่ได้คือการต้องนั่งสบตากับใบหน้าที่หันมามองเราทำให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบใช้เวลาในการคิดคำศัพท์นานกว่าการที่ไม่ต้องสบตา นั่นจึงแสดงให้เห็นว่าการมองตากันจะทำให้ยากต่อการคิดคำพูดของเรา โดยเฉพาะกับคำที่เราไม่คุ้นเคย นักวิจัยได้ออกมาบอกว่า “แม้กระบวนการการพูดและการสบตาจะไม่เกี่ยวกัน แต่ผู้คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่สบตาอีกฝ่ายขณะที่พูด และจากการทดสอบนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสองอย่างนั้นมีการรบกวนซึ่งกันและกันอยู่”     เมื่อปี 2016 เองก็ได้มี การวิจัยเกี่ยวกับการสบตา ของนักจิตวิทยาชาวอิตาลีที่ชื่อว่า Giovani Caputo เมื่อเขาได้ให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบสบตากับคนคนหนึ่งเป็นเวลานานถึง 10 นาที ผลที่ได้ก็คือผู้ทดสอบหลายๆ คนถึงกับเห็นภาพหลอนว่าใบหน้าอีกฝ่ายเป็นสัตว์ประหลาด เป็นคนรู้จัก หรือแม้แต่เห็นว่าเป็นใบหน้าของตัวเอง ผลลัพธ์ของงานวิจัยนั้นเรียกว่า Neural Adaption หมายถึงการที่สมองเกิดการตอบสนองที่เปลี่ยนไปแม้ว่าสิ่งเร้าตรงหน้าจะยังคงเดิม ยกตัวอย่างการวางมือเอาไว้บนโต๊ะ เราจะรู้สึกทันทีในตอนแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า เราก็จะลืมความรู้สึกไปว่าเรากำลังเอามือวางไว้บนโต๊ะอยู่     Neural Adaption ก็อาจเป็นสิ่งที่อธิบายให้กับงานวิจัยในมหาวิทยาลัยเกียวโตครั้งนี้ได้ว่าเป็นการตอบสนองที่ผิดเพี้ยนไปของสมองมนุษย์ ถึงอย่างไรนักวิจัยชุดนี้ก็ตั้งใจว่าจะศึกษาเรื่องของการสบตาต่อไป โดยพวกเขาวางแผนเอาไว้ว่าครั้งต่อไปจะศึกษาในเรื่องของการใช้คำพูดและการใช้ภาษากายหรืออวัจนภาษา ว่าการสบตาทำให้เกิดผลที่แตกต่างกันหรือเปล่า    …

  • หนุ่มจีนฮีโร่ ช่วยสี่ชีวิตออกมาจากรถที่กำลังจมน้ำ ได้รับตอบแทนด้วย ‘หัวปลาฟรี’ ตลอดชีพ!!

    หนุ่มจีนฮีโร่ ช่วยสี่ชีวิตออกมาจากรถที่กำลังจมน้ำ ได้รับตอบแทนด้วย ‘หัวปลาฟรี’ ตลอดชีพ!!

    ในหลายๆ ครั้ง การทำความดีหรือการช่วยเหลือผู้อื่นก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นคำขอบคุณหรือของตอบแทนบางอย่าง เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้รับ หัวปลา… (ใช่คุณอ่านไม่ผิดหรอก) เป็นการขอบคุณที่เขาได้ช่วยเหลือคนถึง 4 คนให้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุมาได้ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Shanghaiist ได้รายงานว่า ขณะที่ Liu Xinting ชายหนุ่มชาวจีนวัย 42 ปี กำลังขับรถกลับเมืองหางโจว ประเทศจีน หลังจากที่เขาได้ออกไปกินหัวปลากับเพื่อนมา ในระหว่างทางนั้นเขาก็ได้เจอกับอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นกลางถนน   อุบัติเหตุที่ถูกถ่ายไว้จากกล้องหน้ารถของ Liu   รถบรรทุกเล็กสีน้ำเงินได้ชนเข้ากับท้ายรถของรถยนต์คันสีแดงขณะที่กำลังทำการเปลี่ยนเลน จนทำให้รถสีแดงคันดังกล่าวเสียการควบคุมและเลี้ยวโค้งหักตัดถนนพุ่งหายเข้าไปในป่า ก่อนที่จะไปลอยอยู่ในทะเลสาบ Qiandao Liu ผู้เห็นเหตุการณ์ก็ไม่รอช้ารีบลงไปช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในรถคันนั้นทันที ในตอนนั้นรถคันดังกล่าวลอยห่างออกไปจากบริเวณฝั่งประมาณ 20 เมตร แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคของฮีโร่หนุ่มคนนี้เลย โชคดีที่กระจกรถได้เปิดเอาไว้ ทำให้ Liu สามารถช่วยคนที่ติดอยู่ด้านในทั้ง 4 คนก่อนที่รถจะจมลงไปได้สำเร็จ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนท้องรวมอยู่ด้วย   Liu ฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ถึง 4 คน   บาดแผลเล็กน้อยที่เขาได้รับจากการทำความดีในครั้งนี้ .   เขาได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวท้องถิ่นว่า “ในเวลานั้นผมไม่มีเวลาที่จะคิด…

  • คลาสเรียนศิลปะดุกดุ๋ย ให้นักเรียนได้สูบพืชวิเศษ เสริมจินตนการสร้างผลงานอย่างเพลิดเพลิน!!

    คลาสเรียนศิลปะดุกดุ๋ย ให้นักเรียนได้สูบพืชวิเศษ เสริมจินตนการสร้างผลงานอย่างเพลิดเพลิน!!

    ในปัจจุบันประเทศอเมริกาได้อนุญาตให้ผู้คนสามารถเสพกัญชากันได้อย่างเสรีมากยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นพวกเขาเสพเพื่อการผ่อนคลายหรือไม่ก็อาจจะเสพเพื่อปลุกจินตนาการในตัวเหมือนกับสถาบันศิลปะแห่งนี้ Puff , Pass & Paint คือสถาบันสอนวาดภาพที่ก่อตั้งเป็นครั้งแรกในปี 2014 ที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยศิลปิน Heidi Keyes ผู้เสพกัญชามากว่าครึ่งชีวิต   สถาบันศิลปะของเธอได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จากการที่มีกัญชาเป็นจุดขาย   เธอได้ขยายสาขาออกไปหลายๆ แห่ง จนในตอนนี้เราสามารถพบเห็นสถาบันของเธอได้ใน 6 รัฐที่ปล่อยให้เสพกัญชาอย่างเสรี .   ราคาต่อคลาสจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 บาท สำหรับ 2 ชั่วโมง โดยจะแจกอุปกรณ์วาดภาพให้กับทุกคนได้ใช้   แต่นักเรียนทุกคนต้องนำกัญชามากันเอง ไม่มีแจกให้หรอกนะ .   ที่เราเห็นกันอยู่นี้ก็เป็นภาพบรรยากาศของคลาสที่จัดขึ้นในซานฟรานซิสโก กับนักเรียนคนหนึ่งที่พกกัญชาแบบใส่กล่องมาดูดีเชียว   กัญชาในรูปแบบกล่องนี้ก็จะมีกลิ่นพวกส้ม หรือวานิลลาผสมอยู่ด้วยนะ   บางคนก็พกขนมผสมกัญชามากินเล่นเพลินๆ ไป   Dominic หนึ่งในนักเรียนของคลาสนี้บอกว่าเขาชอบที่จะปล่อยสมองให้ผ่อนคลายไม่ต้องคิดอะไรเวลาที่ได้วาดรูป ซึ่งกัญชาก็คือตัวช่วยที่ดีสำหรับเขา   ในคลาสนี้ก็เหมือนกับทุกคลาสของสถาบันที่ต้องทำการเซ็นสัญญายินยอมก่อนว่า จะเสพกันในจำนวนที่ไม่มากจนเกินไปและห้ามขายกัญชาให้กับเพื่อนในคลาส  …

  • ทีมนักวิทย์ฯ ขุดพบโครงกระดูก  ‘วัวทะเลชเตลเลอร์’ สัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปเกือบ 300 ปี

    ทีมนักวิทย์ฯ ขุดพบโครงกระดูก ‘วัวทะเลชเตลเลอร์’ สัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปเกือบ 300 ปี

    พวกเราคงไม่มีโอกาสได้เห็นสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วแบบตัวเป็นๆ แต่อย่างน้อยเราก็อาจได้เห็นซากของมันเหมือนกับพวกเขาเหล่านี้ที่ได้ไปเจอเข้ากับโครงกระดูกของสัตว์น้ำขนาดมหึมาที่ได้สูญพันธ์ไปเมื่อนานมาแล้ว นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งหมู่เกาะคอมมานเดอร์ บนคาบสมุทรคัมชัตคา ในประเทศรัสเซีย เมื่อพวกเขาได้ขุดไปเจอกับซากโครงกระดูกของสัตว์ทะเลที่สูญพันธุ์ไปแล้วนั่นก็คือ “วัวทะเลชเตลเลอร์”   . . .   การค้นพบในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้ตรวจการสาว Maria Shitova ที่สังเกตเห็นซี่โครงของโครงกระดูกยื่นขึ้นมาเหนือพื้นดิน จนทำให้การขุดลงไปหาความจริงนานกว่า 8 ชั่วโมงได้เริ่มต้นขึ้น พวกเขาได้พบกับกระดูกสันหลังจำนวน 45 และกระดูกส่วนสะบัก ซี่โครง และอื่นๆ รวมกันอีก 25 ชิ้น ซึ่งมองไกลๆ เราก็คงคิดว่านั่นมันคือรั้วบ้านชัดๆ เพราะกระดูกของมันมีขนาดใหญ่มากจริงๆ และการขุดลงไปก็ไม่พบกะโหลกศีรษะของเจ้าสัตว์ที่สุญพันธุ์ไปแล้วตัวนี้   . .   อย่างไรก็ตามสิ่งที่พบก็ไม่แปลกที่จะสามารถเจอได้บนเกาะนี้ เพราะในอดีต ที่นี่คือแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน และเป็นบริเวณเดียวกันกับที่ทุกคนได้รู้จักกับสัตว์ชนิดนี้เป็นครั้งแรก โดยนาย Georg Steller ได้ค้นพบพวกมันในปี 1741 และตั้งชื่อให้กับเจ้าสัตว์สายพันธุ์พะยูนตัวนี้ว่า “วัวทะเลชเตลเลอร์ (Steller Sea Cow)” แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18 หลังจากถูกมนุษย์ล่าอย่างหนัก   . . .…

  • จากรถบัสสองชั้นได้ถูกรีโนเวทขึ้นใหม่กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ ภายในดูสบายตามากๆ

    จากรถบัสสองชั้นได้ถูกรีโนเวทขึ้นใหม่กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ ภายในดูสบายตามากๆ

    อากาศอันหนาวเย็นคงทำให้หลายคนคิดถึงที่นอนพร้อมผ้าห่มอุ่นๆ มาช่วยคลายหนาว แต่ถ้าเป็นคนไร้บ้านล่ะ พวกเขาจะมีโอกาสได้นอนในที่อุ่นแบบนั้นบ้างมั้ย? นั่นจึงเป็นที่มาของผลงานของสองสาวที่ได้เปลี่ยนรถบัสสองชั้นให้กลายเป็นที่พักของผู้ยากไร้ Sammy Barcroft และ Joanne Vines สองสาวเจ้าของผลงานและเป็นผู้นำของกลุ่มมูลนิธิเพื่อการกุศล The Rucksack Project ทั้งคู่ได้ทำการตกแต่งรถบัสสองชั้นที่กำลังจะกลายเป็นเศษเหล็ก ให้เปลี่ยนไปจนกลายเป็นที่พักอาศัยสำหรับคนไร้บ้าน   สองสาวตัวตั้งตัวตีในการริเริ่มการเปลี่ยนแปลงรถบัสในครั้งนี้   มีการวางโครงสร้างต่างๆ โดยรอบ   ภายในของรถที่เต็มไปด้วยที่นั่ง   ก็ถูกรื้อออกไปเพื่อเปลี่ยนให้มันกลายเป็นที่พักอาศัยแสนสวย   ที่พักดังกล่าวตั้งอยู่ในเมือง Portsmouth ประเทศอังกฤษ ซึ่งระยะเวลาในการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของมันทั้งหมดต้องใช้เวลานานถึง 8 เดือนด้วยแรงคนกว่า 70-80 คน และงบประมาณในการทำทั้งหมดอีกกว่า 1,000,000 บาท โดยเงินส่วนใหญ่ที่ใช้นั้นได้รับบริจาคมาเกือบทั้งหมด   การตกแต่ง ปูพื้นภายในได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว   จากที่โล่งๆ ไม่มีอะไรก็ได้รับการแต่งเติมเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ   ติดผ้าม่านเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว   ภายในก็จะมีตั้งแต่เตียงสองชั้น 12 ชุด โซนห้องรับแขก รวมถึงห้องครัวแบบครบชุด เพื่อให้คนที่ได้เข้ามาพักสามารถใช้ชีวิตในที่แห่งนี้ได้อย่างมีความสุขแบบครบครันในทุกๆ เรื่อง พวกเธอหวังว่าเจ้าสิ่งนี้จะพอช่วยเยียวยาปัญหาความหนาวเหน็บของคนไร้บ้านที่มีอยู่กว่า 300,000 คนในเมือง…

  • ปักกิ่งสั่งปรับพื้นที่อยู่อาศัยของคนงานต่างถิ่น โดยไม่มีที่พักรองรับให้ สภาพอยู่ตามมีตามเกิด

    ปักกิ่งสั่งปรับพื้นที่อยู่อาศัยของคนงานต่างถิ่น โดยไม่มีที่พักรองรับให้ สภาพอยู่ตามมีตามเกิด

    เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ในย่านที่อยู่อาศัยในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปถึง 19 คน และเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้เป็นเหตุผลที่ทำให้ทางรัฐบาลได้จัดการไล่ผู้อยู่อาศัยที่เป็นแรงงานต่างถิ่นทั้งหมดออกไปจากเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้แรงงานกว่าพันคนต้องรีบย้ายข้าวย้ายของออกจากบ้านของตัวเอง เนื่องจากทางการได้สั่งทุบบ้านของพวกเขาหลังจากที่ได้ประกาศออกไปเพียงเวลาไม่นาน บางคนถึงกับมีเวลาเก็บของทั้งหมดเพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นเอง   คนจำนวนมากต้องออกมาเผชิญความหนาวเย็น   ตึกรามบ้านช่องในบริเวณนั้นถูกทำลายทิ้งทั้งหมด   ของมีค่าของพวกเขาต้องถูกเก็บและย้ายออกไปให้เร็วที่สุด   ผู้คนจำนวนมากต้องออกมาเผชิญความหนาวเพราะไม่มีบ้านให้อยู่อีกต่อไป รัฐบาลเองก็ไม่มีการจัดที่อยู่รองรับใดๆ ให้พวกเขาเลยแม้แต่น้อย ทางการได้ออกมาอธิบายว่า ที่ต้องทำอย่างนี้ก็เพื่อเช็คความปลอดภัยและมาตรฐานของสิ่งก่อสร้างทั้งหมดในบริเวณนั้น หลังจากที่ได้มีเหตุเพลิงไหม้ พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะลดจำนวนประชากรในกรุงปักกิ่งอย่างที่หลายๆ คนคิดกัน แต่ถึงแม้ว่าทางการจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ประชากรชาวจีนจำนวนมากก็ยังคงเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการขับไล่คนต่างถิ่นให้ออกไปจากเมืองหลวงเพื่อลดจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นเท่านั้นเอง   ของจำนวนมากที่ต้องเก็บออกไปให้ได้ในเวลาอันสั้น   รัฐบาลบอกว่านี่ไม่ได้ทำเพื่อลดจำนวนประชากรในเมือง   แรงงานจากมณฑลเหอหนานคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในปักกิ่งได้พูดกับทางสำนักข่าว Financial Times ว่า “รัฐบาลต้องการกวาดล้างพวกเราออกเมืองหลวงไปเท่านั้นเอง พวกเขาไม่เคยต้องการพวกเราและแค่ได้เหตุผลใหม่ในการไล่เราออกไปแค่นั้นเอง”   ป้ายประกาศที่นำมาติดไว้ให้เข้าใจตรงกัน   ที่ที่เคยเป็นบ้านกลับว่างเปล่าไปในพริบตา   หลายๆ อย่างที่ไม่จำเป็นก็ถูกทิ้งไป   การไม่มีที่อยู่ของคนจำนวนมากได้ทำให้คนชนชั้นกลางในจีนออกมาช่วยเหลือพวกเขาในหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องนุ่งห่ม…

  • หญิงสาวตัด ‘ก้านดวงใจ’ ชายหนุ่มด้วยกรรไกรตัดกิ่งไม้ ป้องกันตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ!!

    หญิงสาวตัด ‘ก้านดวงใจ’ ชายหนุ่มด้วยกรรไกรตัดกิ่งไม้ ป้องกันตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ!!

    ในวันที่ 27พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้มีการรายงานเกี่ยวกับคดีของสถาปนิกสาววัย 26 ปี Brenda Barrattani ที่ทำการตัดไอ้จ้อนของนักดนตรีหนุ่มวัย 40 ปีที่กำลังหลับอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของเธอเอง ก่อนที่เขาจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลด้วยความเจ็บปวดและเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมือง Cordoba ประเทศอาร์เจนตินา โดยหญิงสาวถูกจับกุมตัวและให้การรับสารภาพว่าเธอได้ใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้ตัดน้องชายของนักดนตรีที่ใช้ชื่อว่า Sergio F. จริง แต่ยังไม่มีการระบุถึงเหตุผลที่ทำให้เธอต้องทำอย่างนั้นกับเขา   Brenda หญิงสาวผู้ใช้กรรไกรตัดกิ่งไม้พรากไอ้จ้อนของชายหนุ่มไป   ต่อมาทางสำนักข่าว European News ก็ได้รายงานข่าวออกมาว่า Carlos Nayi ทนายของฝ่ายหญิงบอกว่า ที่เธอต้องทำอย่างนั้นก็เพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกคุกคามทางเพศ เขาเล่าว่า “เธอยอมให้นักดนตรีหนุ่มเข้าไปในห้องเพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จักกับพี่ชายเธอ และเขาก็อ้างว่าต้องการเข้าไปหยิบเครื่องดนตรีออกมาเท่านั้น แต่เขาก็ได้พยายามที่จะทำมิดีมิร้ายเธอ และนั่นจึงทำให้เธอต้องป้องกันตัวเอง”   ภาพส่วนหนึ่งในสถานที่เกิดเหตุ ที่พอจะสามารถนำมาเผยแพร่กับสาธารณชนได้   อย่างไรก็ตามทาง Eduardo Perez ทนายของฝ่ายชายก็ออกมาชี้แจงไปในอีกลักษณะหนึ่ง เขาบอกว่า “ทั้งสองรู้จักกันมาหลายเดือน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นักดนตรีหนุ่มก็ไม่ได้หลับอยู่ด้วย” “พวกเขาร่วมรักกันแบบแปลกๆ พิเรนทร์ๆ หน่อยเท่านั้นเอง โดยในขณะที่ฝ่ายชายกำลังถูกปิดตาอยู่ก็เกิดความผิดพลาดขึ้นเท่านั้นเอง…

  • วิทยาศาสตร์แห่ง ‘ความกลัว’ ที่บ่งบอกว่าความรู้สึกนี้มันดีต่อสุขภาพของคุณ

    วิทยาศาสตร์แห่ง ‘ความกลัว’ ที่บ่งบอกว่าความรู้สึกนี้มันดีต่อสุขภาพของคุณ

    ทุกๆ คนมีความกลัวแตกต่างกันไปและเรามักจะคิดว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมานี้ไม่ได้มีผลดีกับตัวเราเลย มันเหมือนกับทำให้เสียสุขภาพจิตอยู่เสมอเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรากลัว แต่ความเป็นจริงแล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาบอกว่าความกลัวมันก็ดีต่อสุขภาพเราอยู่เหมือนกัน วันนี้ #เหมียวตะปู จึงชวนให้เพื่อนๆ มาเข้าใจเกี่ยวกับ 6 เหตุผลที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าความกลัวมันส่งผลให้กับสุขภาพของเราในทางที่ดียังไง มีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย   1. ปลดปล่อยความกลัวของคุณออกมา   ความรู้สึกกลัวเป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาตั้งแต่แรกไม่ต่างกับความเศร้า ความสุข หรือความโกรธ ซึ่งนักจิตวิทยาที่ชื่อ Steve Orma บอกว่า ”การมีความรู้สึกกลัวก็คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เรามีชีวิตรอดต่อไปได้” เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีที่เราจะมีความรู้สึกแบบนี้   2. ความกลัวทำให้เรารับรู้ถึงอันตราย   ความรู้สึกในลักษณะนี้จะส่งผลไปถึงร่างกายของเราในรูปแบบที่เรียกว่า “การตอบสนองแบบสู้หรือหนี” ซึ่งหากเราขาดความกลัวไป เราก็จะไม่สนใจกับอันตรายที่เข้ามาหาและร่างกายเราก็จะไม่ตอบสนองต่อสิ่งนั้นๆ ยกตัวอย่างเวลาที่มีรถวิ่งเข้ามาหาเราด้วยความเร็ว ความกลัวจะทำให้ร่างกายเราตอบสนองและสามารถโดดหลบออกมาได้ในเสี้ยววินาที เราจึงควรต้องขอบคุณมันที่ทำให้เรารอดจากอันตรายมาได้ในหลายๆ ครั้ง   3. ความกลัวคือการเติมเต็มชีวิต   เวลาที่เรากลัวเราก็อาจจะหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นไปหรืออาจจะเผชิญหน้าและก้าวผ่านมันไปได้ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าเราได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้กับชีวิตของเราเอง เหมือนเวลาที่เรากลัวการบินอยู่บนท้องฟ้า แต่วันหนึ่งเราสามารถก้าวขึ้นเครื่องบินได้เป็นครั้งแรก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือเราสามารถออกไปเที่ยวเจอสิ่งใหม่ๆ ได้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น รวมถึงความรู้สึกที่เหมือนกับว่าเราประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตที่ก้าวผ่านความกลัวของตัวเองไปได้   4. เป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงาน   อย่างคำพูดที่ว่า “กลัวงานไม่เสร็จ” หรือ…

  • ภาพสุดท้ายของ ‘ดาวเสาร์’ จากยาน Cassini ที่อยู่ในวงโคจรของดาวเคราะห์นี้นานกว่า 13 ปี

    ภาพสุดท้ายของ ‘ดาวเสาร์’ จากยาน Cassini ที่อยู่ในวงโคจรของดาวเคราะห์นี้นานกว่า 13 ปี

    ยานอวกาศไร้คนขับที่ชื่อว่า Cassini ขององค์การ NASA ถูกส่งขึ้นไปเพื่อทำภารกิจสำรวจดาวเสาร์มานานถึง 13 ปี จนกระทั่งในวันที่ 15 กันยายน 2017 ภารกิจของมันก็สามารถสำเร็จลงได้ด้วยดี ก่อนที่มันจะต้องทำลายตัวเองด้วยการบินเข้าไปในชั้นบรรยากาศของดาวเสาร์และเผาไหม้ไปในที่สุด สิ่งที่มันเหลือเอาไว้จากภารกิจนี้ก็คือรูปภาพของดาวเสาร์จำนวนมาก และนี่ก็คือภาพสุดท้ายที่มันถ่ายเอาไว้ได้ก่อนการทำลายตัวเอง โดยภาพนี้คือการรวมกันของภาพทั้ง 80 รูปที่ถูกถ่ายในเวลา 2 ชั่วโมงในมุมกล้องที่แตกต่างกันไป จนกลายมาเป็นภาพที่มีความสวยงามอย่างมาก นี่คือหน้าตาของยาน Cassini   ภาพสุดท้ายของดาวเสาร์ที่ถูกถ่ายโดยยาน Cassini   ภาพดังกล่าวต้องผ่านการกรองด้วยการถ่ายที่ใช้สี แดง เขียว และฟ้า เมื่อนำมาผสมกันสีที่ได้จึงมีความเป็นธรรมชาติอย่างที่เราเห็น ยาน Cassini ได้ถ่ายภาพนี้เอาไว้ขณะที่อยู่ห่างจากดาวเสาร์ประมาณ 1.1 ล้านกิโลเมตร ทำให้หากเราลองมองเข้าไปดีๆ ก็จะเห็นดวงจันทร์ประจำดาวเสาร์จำนวน 6 ดวง ได้แก่ Enceladus, Epimetheus, Janus, Mimas, Pandora และ Prometheus   จุดตำแหน่งของดวงจันทร์ 6 ดวงที่สามารถมองเห็นได้ในภาพ   ภาพนี้ถูกถ่ายในด้านตรงข้ามกับแสงอาทิตย์และทำมุม 15…

  • ผลงานภาพสะท้อนสังคมของศิลปินฝรั่งเศส ที่ช่วยเบิกเนตรผู้คน และสะเทือนไปกว่าครึ่งโลก

    ผลงานภาพสะท้อนสังคมของศิลปินฝรั่งเศส ที่ช่วยเบิกเนตรผู้คน และสะเทือนไปกว่าครึ่งโลก

    เราอาจเคยได้เห็นศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ หรือสอดแทรกความหมายบางอย่างเอาไว้ให้เราทำความเข้าใจโดยไม่ต้องใช้คำพูด วิธีการแบบนั้นเป็นสิ่งที่ศิลปินจากประเทศฝรั่งเศสคนนี้ได้นำมาใช้สื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงสังคมยุคโมเดิร์นในปัจจุบันว่ามันสะท้อนออกมาในรูปแบบไหน โดยที่เราสามารถเข้าใจได้แบบไม่ต้องผ่านคำพูดใดๆ   ศิลปิน Gunduz Aghayev วัย 36 ปีผู้ย้ายมาจากประเทศอาเซอร์ไบจาน มาอาศัยอยู่ในฝรั่งเศส   เขาได้นำปัญหาสังคมในยุคโมเดิร์นมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานภาพเหล่านี้   แต่ละภาพได้มีการพูดถึงในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการวิวัฒนาการของมนุษย์และสงคราม   การเซลฟี่ที่ถูกผสมผสานเข้ากับภาพทางศาสนา ที่สื่อให้เราเข้าใจไปในอีกความหมายหนึ่ง   ก่อนหน้านี้เขาได้สร้างผลงานที่ชื่อว่า Art for Democracy เพื่อสะท้อนความไม่ยุติธรรมในประเทศบ้านเกิด และนั่นจึงทำให้เขาต้องย้ายมาฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2014   แต่แรงบันดาลใจในลักษณะเดียวกันก็ยังคงมีออกมาให้เห็น อย่างเช่นภาพ “ซอมบี้ในยุคโมเดิร์น” ที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมที่ถูกกำหนดด้วยอิทธิพลและพลังอำนาจ   ภาพที่เราได้เห็นส่วนใหญ่จะถูกสื่อด้วยซอมบี้ และมีหลายภาพที่มีการพูดถึงสงคราม   หรือพูดถึงค่านิยมที่ไม่แบ่งแยกและไม่ยอมรับกับบางสิ่งบางอย่าง   ในเรื่องของศาสนาเองก็เช่นกัน   ภาพการ์ตูนของเขาในแต่ละภาพ ต้องใช้เวลาวาดแตกต่างกันไปมีตั้งแต่ 3 ชั่วโมง หรือบางภาพที่ใช้เวลานานเป็นเดือน   ภาพวาดเหล่านี้ถูกโพสต์ลงไปในโซเชียลมีเดีย จนทำให้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก จากหลากหลายประเทศ   จากความคิดเห็นที่เขาได้รับมาอย่างหลากหลาย เขาตั้งใจนำสิ่งเหล่านั้นมารวมเข้าเป็นงานศิลปะในชิ้นต่อๆ ไป   เขาต้องการนำความเป็นจริงที่หลายๆ…

  • จากที่คุณยายชวนหลานผิดคน ปีนี้หลานชายแปลกหน้าคนนั้นก็กลับไปร่วมกินข้าวกับคุณยายอีกครั้ง

    จากที่คุณยายชวนหลานผิดคน ปีนี้หลานชายแปลกหน้าคนนั้นก็กลับไปร่วมกินข้าวกับคุณยายอีกครั้ง

    วันขอบคุณพระเจ้า คืออีกหนึ่งเทศกาลวันหยุดที่สามารถพบเห็นได้ในหลายประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นหลัก โดยเป็นวันที่คนในครอบครัวจะได้กินข้าวร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา แต่สำหรับหนุ่มวัย 18 ปีในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เขากลับถูกเชิญให้ไปกินข้าวกับคนแปลกหน้าซะอย่างนั้น เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2016 เมื่อคุณยายท่านหนึ่งเข้าใจผิดไปดึงเอาหนุ่มแปลกหน้าเข้ากลุ่มแชท พร้อมกับชวนเขาไปทานข้าวด้วยกันที่บ้านของตัวเอง   เมื่อปี 2016 นาย Jamal Hinton (ด้านซ้าย) ถูกลากเข้ากลุ่มแชทกลุ่มหนึ่ง โดยที่เขาไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มของใคร   จากนั้นเขาก็ถูกคนที่อ้างตัวว่าเป็นคุณยายของเขาชวนให้ไปกินข้าวด้วยกันที่บ้าน ในวันขอบคุณพระเจ้า   แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นยายเขาจริงหรือเปล่า จึงขอให้เธอถ่ายรูปมาให้ดู จนทำให้เขารู้ว่านั่นมันไม่ใช่ยายของเขาซักหน่อย   เขาจึงถ่ายรูปส่งกลับไป พร้อมกับถามว่า “แม้คุณจะไม่ใช่ยายของผม แต่ผมยังไปกินข้าวด้วยได้อยู่มั้ย?” คุณยายท่านนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ได้อยู่แล้ว นั่นเป็นสิ่งที่คุณยายทำ.. การทำอาหารให้กับทุกคนได้กิน”   ความน่ารักของคุณยาย Wanda คนนี้ได้ถูกโพสต์ลงไปในทวิตเตอร์ของชายหนุ่ม และกลายเป็นกระแสให้ผู้คนเข้ามาแชร์ข้อความของเขาออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับกล่าวชื่นชมความน่ารักของคุณยาย   1 ปีผ่านไป เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 เด็กหนุ่มก็ยังคงไปกินข้าววันเลี้ยงขอบคุณพระเจ้ากับคุณยายคนนี้ และโพสต์ลงในทวิตเตอร์จนกลายมาเป็นกระแสอีกครั้งหนึ่ง   เขาบอกว่ายังคงติดต่อกับคุณยายมาตลอด เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้เจอกันบ่อยนัก…

  • เจ้าสาวอ่านคำสาบานสุดซึ้งต่อหน้า “ภรรยาเก่าของสามี” ว่าจะดูแลลูกชายของเธอเป็นอย่างดี

    เจ้าสาวอ่านคำสาบานสุดซึ้งต่อหน้า “ภรรยาเก่าของสามี” ว่าจะดูแลลูกชายของเธอเป็นอย่างดี

    หลายคนอาจมองว่าการแต่งงานที่มีภรรยาเก่าของเจ้าบ่าวมาร่วมงานด้วย เป็นสิ่งที่น่ากระอักกระอ่วนใจ ยิ่งถ้าทั้งสองคนมีลูกด้วยกันมาก่อนแล้วมันก็ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม แต่จากคำพูดของเจ้าสาวคนนี้ก็ทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 ในเว็บไซต์ InspireMore ได้มีการพูดถึงงานแต่งงานของ Katie Hild กับเจ้าบ่าวของเธอ Jeremy ในช่วงการกล่าวคำสาบานของเจ้าสาว เธอก็ได้พูดในสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องซาบซึ้งอย่างมากจนไม่อาจหยุดน้ำตาเอาไว้ได้เลย     ในงานแต่งครั้งนี้ได้มี Casey ภรรยาเก่าของเจ้าบ่าวที่มาพร้อมกับคนรักใหม่ชื่อว่า Tyler และแขกคนสำคัญในงานนี้ก็คือ Landon ลูกชายของ Jeremy และ Casey ภรรยาเก่าของเขา การรวมตัวกันของคนทั้ง 5 เป็นสิ่งที่อาจทำให้บางคนรู้สึกแปลกๆ ไปบ้าง แต่เจ้าสาว Katie ก็ได้ทำให้งานแต่งงานในครั้งนี้เป็นงานแต่งที่น่าจดจำอย่างมากจากคำกล่าวปฏิญาณในความรักของเธอที่ไม่ได้มีให้กับแค่เจ้าบ่าว แต่เธอได้สาบานตนกับทั้ง Casey , Tyler และเด็กน้อย Landon     เธอได้ขอให้คนทั้งสามยืนขึ้นและพูดว่า “การเป็นผู้ปกครองร่วมกันคือการแบ่งปันหน้าที่ในการดูแลเด็ก ฉันไม่ต้องการสาบานตนกับแค่ Jeremy เพียงคนเดียว แต่ฉันต้องการสาบานกับทั้ง Casey , Tyler และ Landon…

  • ชายหนุ่มแกล้งทำเนียนเป็นนักบาสหน้าใหม่ของ NBA ไปดูซิว่าคนอื่นๆ มีปฏิกิริยาอย่างไรกันบ้าง

    ชายหนุ่มแกล้งทำเนียนเป็นนักบาสหน้าใหม่ของ NBA ไปดูซิว่าคนอื่นๆ มีปฏิกิริยาอย่างไรกันบ้าง

    พวกเราหลายๆ คนคงรู้สึกตื่นเต้นเวลาได้เจอกับดาราดังหรือนักกีฬาที่มีชื่อเสียง แต่เขาคนนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าบางครั้งไม่จำเป็นต้องมีชื่อเสียงจริงๆ แต่แค่ “ทำตัวเหมือนกับคนมีชื่อเสียง” ก็สามารถทำให้คนรอบข้างเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยแล้ว นี่เป็นการทดลองทางสังคมของ Connor Toole นักเขียนจากสำนักข่าวออนไลน์ Elite Daily โดยพวกเขาได้โพสต์คลิปลงในวันที่ 26 มิถุนายน 2015 เพื่อทดสอบดูว่าถ้าให้นาย Connor แต่งตัวและทำท่าทางเหมือนกับนักบาสในลีกดังอย่าง NBA คนอื่นๆ ที่ได้เห็นจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง   หนุ่มนักเขียน Connor Toole ผู้ทำการทดลองในครั้งนี้   ชายหนุ่มคนนี้ได้ไปยืนอยู่หน้างาน NBA Draft 2015 จัดขึ้นที่ Barclays Center ในเมืองบรู๊คลิน สหรัฐอเมริกา ด้วยท่าทางที่มั่นใจราวกับเป็นหนึ่งในผู้ที่จะถูกรับเลือกเข้าทีมดัง และชุดสูทที่ดูดีบวกกับส่วนสูงกว่า 2 เมตรของเขา ก็ทำให้คนรอบๆ เชื่อว่าเขาจะต้องเป็นหนึ่งในนักบาสหน้าใหม่อย่างแน่นอน มีคนจำนวนมากเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย พร้อมกับพูดให้กำลังใจและยังบอกอีกว่าถ้าเขาติดทีมไหนก็จะตามไปเชียร์ให้ถึงที่อะไรทำนองนั้น เรียกว่าเชื่อสนิทใจไม่มีการสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น   ส่วนสูงที่มากกว่าคนทั่วๆ ไป ทำให้พวกเขาเชื่อสนิทใจเลยว่านี่มันนักบาสชัดๆ   เด็กๆ ต่างเดินเข้ามาขอถ่ายรูปด้วย   พวกเขาให้กำลังใจและหวังว่าชายหนุ่มคนนี้จะได้เข้าไปเล่นในทีมที่พวกเขาเชียร์อยู่อย่างแน่นอน…

  • ภาพถ่ายสถานที่เดิม ในวันเวลาที่เปลี่ยนไป ช่วยหยุดยั้ง ‘โรคซึมเศร้า’ ที่กลืนกินตัวตน

    ภาพถ่ายสถานที่เดิม ในวันเวลาที่เปลี่ยนไป ช่วยหยุดยั้ง ‘โรคซึมเศร้า’ ที่กลืนกินตัวตน

    สถานที่ องค์ประกอบ สิ่งแวดล้อมต่างๆ อาจยังคงเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ความรู้สึกของเราที่มีให้กับสิ่งนั้นอาจต่างไปจากเดิมมากเช่นเดียวกันกับชายคนนี้ เมื่อสถานที่ที่เคยสร้างความทุกข์กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเป็นสุขอย่างที่ไม่เคยคาดคิดก่อน เขาคนนี้มีชื่อว่า Craig Stone นักเขียนชาวอังกฤษที่ได้แชร์เรื่องราวของตัวเองลงในทวิตเตอร์ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 เขาได้พูดถึงเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้าที่เขาเป็น กับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเมื่อได้กลับมาในสถานที่ที่เขาเคยคิดจะฆ่าตัวตาย   โพสต์ของเขาที่พูดถึงความรู้สึกดีๆ ที่ไม่เหมือนเดิมกับสถานที่แห่งนี้   ในโพสต์บอกว่า “เห็นม้านั่งตรงนั้นมั้ย เมื่อ 8 ปีก่อน ผมนั่งแล้วคิดว่าอยากโดดลงไปจากสะพาน Blackfiars ตอนนั้นเลย แต่วันนี้ผมพาลูกมาถ่ายรูปในที่ที่เดิมและผมก็จะทำอย่างนี้อีกในวันต่อๆ ไป ความรู้สึกตอนนี้มันดีกว่าตอนนั้นมาก ผมได้เจอกับความสดใสที่มากกว่าครั้งไหนๆ ขอแค่เราหยุดคิดแล้วความรักก็จะเข้ามาหาเราเอง #โรคซึมเศร้า” โพสต์ดังกล่าวทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาให้กำลังใจและสนับสนุน Craig บางคนถึงกับติดต่อเขาเป็นการส่วนตัว เพื่อเป็นแรงผลักดันให้กับการตัดสินใจของเขาที่จะก้าวเดินต่อไปในวันข้างหน้า   วันต่อมาเขาโพสต์ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ เขารู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก   Craig ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Indy100 ว่าเขาได้พบกับจิตใจที่งดงามของคนจำนวนมากถาโถมเข้ามา บางคนพูดถึงประสบการณ์การเป็นโรคซึมเศร้าของตัวเอง ซึ่งเมื่อเราได้พูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์ชีวิตคล้ายๆ กัน สามารถช่วยให้เราฟื้นฟูจิตใจที่บอบช้ำให้กลับมาแข็งแรงได้   เขาและลูกชาย Obie   เขายังบอกอีกว่า “ในตอนแรกผมไม่ได้คิดจะแชร์เรื่องนี้ออกไปเลย…

  • นิวซีแลนด์สั่งตรวจข้อสอบส่วนกลางวิชาคณิตฯ เพราะยากเกินไปและนอกเหนือจากบทเรียน!?

    นิวซีแลนด์สั่งตรวจข้อสอบส่วนกลางวิชาคณิตฯ เพราะยากเกินไปและนอกเหนือจากบทเรียน!?

    ในหลายครั้งทีี่เราทำข้อสอบ เราอาจเคยคิดว่าข้อสอบนั้นยากเกินไปหรือคิดว่าทำไมเราถึงไม่เคยเรียนอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ซึ่งนี่ก็คงเป็นความคิดของนักเรียนหลายๆ คนในประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการสอบระดับ 1 ของการวัดระดับวิชาคณิตศาสตร์ส่วนกลางที่ชื่อว่า The National Vertificate of Educational Achievement (หรือเรียกว่า NCEA) ที่มีไว้วัดระดับนักเรียนชั้น Year 11 (เทียบเท่ากับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในบ้านเรา) ของประเทศนิวซีแลนด์ จากการสอบในครั้งนั้นทำให้เด็กหลายๆ คนที่เข้าสอบร้องเรียนว่าข้อสอบนั้นยากเกินไปและอยู่นอกเหนือจากบทเรียน     เด็กบางคนยอมรับว่าพวกเขาถึงกับนั่งร้องไห้ในห้องสอบเพราะว่าทำไม่ได้ ส่วนบางคนก็บอกว่าทำได้เพียง 2-3 ข้อจาก 15 ข้อเท่านั้น และเพื่อนของเขาเองก็ทำได้ประมาณนี้เหมือนกัน หรือแม้แต่บางคนที่ไม่เขียนอะไรในกระดาษคำตอบเลยก็มี Amanda Fraser ประธานสมาคมคณิตศาสตร์ Otago ในนิวซีแลนด์ บอกว่าข้อสอบนั้นยากจนเกินไปและบางข้อก็ทำให้อาจารย์หลายๆ คนเกิดความรู้สึกสับสน ซึ่งเธอมองว่าการข้อสอบที่ยากขนาดนี้จะเป็นตัวทำลายความมั่นใจและการเห็นคุณค่าในตัวเองของเด็ก   ส่วนหนึ่งของข้อสอบที่เป็นประเด็นถกเถียงกันในครั้งนี้   สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำให้คุณครูคณิตศาสตร์จาก 22 สถาบันได้ส่งจดหมายร้องเรียนไปให้กับกระทรวงศึกษาธิการและคณะกรรมการตรวจสอบกลาง (หรือเรียกว่า NZQA) จัดตั้งทีมตรวจสอบขึ้นมาในทันที อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่ดูแลการสอบในครั้งนี้ก็ได้ออกมาบอกว่า…

  • เราสองสามคน…กับความรักอีกรูปแบบที่มีชาย 2 หญิง 1 แต่ความรักก็ราบรื่นและแฮปปี้มาก

    เราสองสามคน…กับความรักอีกรูปแบบที่มีชาย 2 หญิง 1 แต่ความรักก็ราบรื่นและแฮปปี้มาก

    คำว่าคู่รักในภาษาอังกฤษคือคำว่า Couple ซึ่งหมายถึงคนสองคนที่รักกัน แต่สำหรับพวกเขาเหล่านี้กลับต้องใช้คำว่า Throuple เพราะว่าความรักของพวกเขากลับมีด้วยกันถึง 3 คน!! Chris และ Matt Brandt คือคู่รักชายรักชายในประเทศอังกฤษ ที่แต่งงานและอยู่กินด้วยกันมานานถึง 6 ปี ก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจรับคนที่สามเข้ามาอยู่ร่วมในความสัมพันธ์เดียวกัน   Matt วัย 28 ปี (คนซ้าย) Cait วัย 28 ปี (คนกลาง) และ Chris วัย 38 ปี (คนขวา)   ในปี 2015 การใช้ชีวิตร่วมกันของสองหนุ่มได้เปิดรับหญิงสาวที่ชื่อ Cait Earnest เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความรัก จึงทำให้พวกเขากลายเป็นคนรักแบบชายสองหญิงหนึ่งที่พวกเขากำหนดคำเรียกขึ้นมาเองว่า Throuple พวกเขาได้ให้สัมภาษณ์กับช่อง Barcroft TV โดย Chris ได้พูดว่าเขาเป็นคนที่มีประสบการณ์คบกับผู้หญิงมาก่อน แตกต่างจาก Matt ที่ไม่เคยทำอย่างนั้นเลย จึงทำให้ตอนแรกก็มีการต่อต้านออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่เมื่อพวกเขาได้ใช้เวลาร่วมกันไปประมาณ 7-8…

  • คุณตำรวจและช่างภาพ ช่วยทำให้ความฝันของเหล่าเด็กน้อยผู้ป่วยกลายเป็นความจริง

    คุณตำรวจและช่างภาพ ช่วยทำให้ความฝันของเหล่าเด็กน้อยผู้ป่วยกลายเป็นความจริง

    เด็กทุกคนย่อมมีความฝัน แต่ในบางครั้งมันก็ยากที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้ โดยเฉพาะกับเด็กผู้ป่วยมีความผิดปกติในเรื่องของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ด้วยแล้ว ก็ยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะก้าวไปถึงความฝัน แต่ช่างภาพสาว Carrie Lewis ไม่ต้องการให้เด็กเหล่านั้นคิดแบบนี้ เธอจึงทำให้พวกเขาได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากยิ่งขึ้น Carrie คือหนึ่งในช่างภาพของกลุ่ม Glass Crown Photography เธอได้ทำโปรเจกต์การถ่ายภาพที่มีให้กับเด็กพิเศษจำนวน 3 คนให้พวกเขาได้กลายเป็นตำรวจอย่างที่ฝันเอาไว้ เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับเด็กๆ ในวันฮัลโลวีน 2017   รอยยิ้มของหนึ่งในเด็กพิเศษที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโปรเจกต์นี้   พวกเขาได้รับประสบการณ์การนั่งในรถตำรวจของจริง   ตำรวจประจำเมืองได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กๆ   เธอเล่าว่าในตอนแรกที่เธอได้ประกาศโปรเจกต์นี้ออกไป ก็มีหลายครอบครัวติดต่อมาให้เธอ แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ทำให้เธอช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กพิเศษได้แค่ 3 คนนี้เท่านั้น   ความตื่นเต้นและดีใจที่แสดงออกมาให้เห็น เมื่อความฝันกลายเป็นความจริง   แม้จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความพิการ แต่ก็มีคนอีกมากที่พร้อมช่วยเหลือพวกเขา   ช่างภาพสาวขอให้ตำรวจประจำเมือง Rapid City รัฐเซาท์ดาโคต้า สหรัฐอเมริกา ได้มาช่วยเติมเต็มความฝันของเด็กๆ เหล่านี้ และผลตอบรับที่ได้กลับมาก็ดีเกินคาด เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เตรียมเสื้อผ้า รถตำรวจ และหลายๆ อย่างเพื่อให้เด็กน้อยได้เข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากที่สุด…

  • ไม่ตลก.. สาวมหาลัยอ้างตัวเป็นเด็กที่หายไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทั้งๆ ที่พ่อแม่กำลังรอคอยความจริง

    ไม่ตลก.. สาวมหาลัยอ้างตัวเป็นเด็กที่หายไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทั้งๆ ที่พ่อแม่กำลังรอคอยความจริง

    Madeleine McCann คือเด็กสาวชาวโปรตุเกสวัย 4 ขวบที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2007 และพ่อแม่ของเธอก็กำลังรอคอยปาฏิหาริย์ที่จะได้เจอเธออีกครั้งหนึ่ง ผ่านมา 10 ปีเรื่องของเธอได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่สาวมหาลัยในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ อ้างตัวว่าเธอคือเด็กสาวที่หายไป เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าว Daily Mail ได้พูดถึง Harriet Brookes สาวมหาลัยผู้กล่าวอ้างในครั้งนี้ โดยเธอได้พูดติดตลกกับเพื่อนของเธอในห้องแชท ก่อนที่ Lizzie เพื่อนสนิทเธอคนนั้นจะนำเรื่องที่เธอพูดไปโพสต์ลงในโลกโซเชียล   ภาพซ้ายคือเด็กที่หายตัวไป ภาพขวาคือสาวมหาลัยที่อ้างตัวว่าเป็นเด็กคนนั้น   โพสต์ดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไปมากกว่า 30,000 ครั้งและได้เป็นกระแสที่โด่งดังอย่างมากในโลกโซเชียล เพราะตำหนิบนร่างกายของสาวมหาลัยคนนี้ก็ตรงกับเด็กที่หายไปอย่างมาก ทั้งจุดบนดวงตา หรือแม้แต่มีจุดเล็กๆ ตรงขาของเธอ   เธอบอกกับเพื่อนในแชทว่าสีของดวงตาและรอยตำหนิตรงขามันตรงกับข้อมูลเป๊ะๆ   ในตอนแรกก็มีหลายคนที่เชื่อในมุกตลกของเธอและติดต่อไปหาเป็นการส่วนตัว แต่สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริงเพราะในเวลานี้เด็กน้อย Madeleine ควรจะต้องอายุแค่ 14 ปี ไม่มีทางเป็นเด็กมหาลัยคนนี้อย่างแน่นอน และการเล่นตลกในครั้งนี้ก็ได้ทำให้ชาวเน็ตบางส่วนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่เธอนำเรื่องของเด็กที่หายตัวไปมาพูดเล่นๆ มีคอมเมนต์หนึ่งที่พูดว่า “เธอเป็น Madeleine ตัวจริงหรือเพียงแค่ต้องการปั่นหัวคนอื่นไปเรื่อยกันแน่”   ในแชท…

  • ของคู่ชีพนศ.!! ‘Scanmarker Air’ ปากกาไฮไลท์สุดเจ๋ง ดูดตัวอักษรบนตำราให้ขึ้นจอได้!!

    ของคู่ชีพนศ.!! ‘Scanmarker Air’ ปากกาไฮไลท์สุดเจ๋ง ดูดตัวอักษรบนตำราให้ขึ้นจอได้!!

    หนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราสามารถสรุปเนื้อหาในหนังสือให้อ่านง่ายมากยิ่งขึ้นก็คือ ปากกาไฮไลท์ มันคือสิ่งที่นักเรียน นักศึกษาแทบทุกคนจะต้องมีติดตัวเอาไว้ใช้เน้นข้อความที่สำคัญๆ ในหนังสือเรียน แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงปากกาไฮไลท์ที่เหนือชั้นและไม่เหมือนกับปากกาไฮไลท์ที่เราเคยเห็นมาก่อน นี่เป็นปากกาไฮไลท์ที่มีชื่อว่า Scanmarker Air ปากกาที่ผสมผสานกับเทคโนโลยีสุดล้ำ จนทำให้มีฟังก์ชันที่หลากหลายและทำได้มากกว่าการเน้นคำแบบทั่วๆ ไป เราไปดูความสามารถอันหลากหลายของมันกันเลย   วิธีการใช้งานที่ง่ายแสนง่าย เพียงแค่กดปุ่มและใช้หัวปากกาขีดไปบนตัวหนังสือที่เราต้องการจะเน้นข้อความ เซนเซอร์ก็จะนำประโยคที่ขีดไว้ส่งต่อไปที่หน้าจอของอุปกรณ์ที่เราได้เชื่อมต่อบลูทูธกับตัวปากกาไว้   เน้นปุ๊บโผล่ขึ้นจอปั๊บ เพียงแค่เสี้ยววินาทีสิ่งที่เราเน้นก็จะปรากฏอยู่บนหน้าจออุปกรณ์ที่ทำการเชื่อมต่อเอาไว้ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เรียกว่าทั้งสะดวกและรวดเร็วในเวลาเดียวกัน แถมหนังสือก็ยังไม่เปื้อนสีอีกด้วย   การส่งต่อข้อมูลที่มีหลายช่องทาง ข้อความทั้งหมดที่คุณได้ทำการเน้นเอาไว้สามารถเลือกที่จะเซฟไว้ได้ในหลายช่องทาง ถ้าอยากส่งไปให้เพื่อนก็สามารถกดส่งไปได้อย่างง่ายดาย จะแชร์ลงเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ก็ไม่เป็นปัญหา หรือรู้สึกว่ามันขาดคำไหนอยากพิมพ์เพิ่มเข้าไปก็ใช้คีย์บอร์ดพิมพ์แก้ไขเข้าไปได้เลย   สามารถแปลได้มากกว่า 40 ภาษา ข้อมูลทั้งหมดของคุณสามารถทำการแปลไปได้อีกกว่า 40 ภาษา เพื่อช่วยให้เพื่อนชาวต่างชาติของเราสามารถเข้าใจความหมายไปพร้อมๆ กันได้ แต่น่าเสียดายที่มันยังไม่มีภาษาไทย   มีความสามารถในการอ่านบาร์โค้ด หากคุณจำเป็นต้องจดจำข้อมูลบาร์โค้ดที่อยู่บนสิ่งของบางอย่าง คุณก็สามารถใช้เจ้าสิ่งประดิษฐ์นี้แก้ปัญหานั้นได้ง่ายๆ สะดวกทันใจ   อ่านออกเสียงให้คุณฟังได้ด้วย ถ้าคุณไม่อยากใช้สายตาอ่านผ่านหน้าจอ ก็ให้เลือกโหมดนี้ได้เลย แล้วเจ้าโปรแกรมก็จะอ่านออกเสียงให้คุณฟังเองว่าสิ่งที่คุณได้บันทึกเอาไว้มีเนื้อหาอะไรบ้าง   ราคาสุดคุ้ม ราคาของเจ้าปากกาสุดล้ำนี้อยู่ที่ราวๆ 3,235 บาท เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับสารพันประโยชน์ของมันมากๆ…

  • ศิลปินสร้างการ์ตูนเรื่องราวชีวิตของ “ซอมบี้สาว” กับผองเพื่อนสัตว์ประหลาด สนุกจริงจริ๊งงง!!

    ศิลปินสร้างการ์ตูนเรื่องราวชีวิตของ “ซอมบี้สาว” กับผองเพื่อนสัตว์ประหลาด สนุกจริงจริ๊งงง!!

    เคยจินตนาการกันบ้างมั้ยว่าถ้าแฟนหรือคนรอบข้างของเรากลายเป็นซอมบี้หรือตัวประหลาดขึ้นมา ชีวิตของเรามันจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากขนาดไหน พูดไปก็อาจจะไม่เห็นภาพ งั้นก็ต้องลองไปดูการ์ตูนที่วาดโดยศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Emi MG คนนี้เลย ด้วยฝีมือจากที่จบปริญญาตรีด้านสื่อการวาดภาพและสื่ออนิเมชั่นมาโดยตรงบวกกับเซนส์ความสนุกของเธอ จึงเชื่อว่าการ์ตูนสั้นๆ เหล่านี้อาจทำให้ใครหลายๆ ชื่นชอบและเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวความน่ารักกับการใช้ชีวิตของเหล่าตัวประหลาดทั้งหลาย ว่าแล้วก็ลองไปอ่านดูกันได้เลยยย   สนุกมั้ยที่มาไล่ยิงพวกเดียวกันกับแฟนตัวเองเนี่ย   ไปคาบมาเร็วเหล่าน้องหมาทั้งหลาย   เป็นแวมไพร์แบบนี้แล้วจะถ่ายรูปกันยังไง   เพิ่งโกนหนวดมา หน้าตาก็เลยไม่เหมือนในบัตร   อยากฟังบ้างอ่ะ อยู่ข้างล่างนี่ไม่ได้ยินเลย   อย่าไปยุ่งกับผมของเขาสิคุณ   เชื่อว่าเจ้าชายคงจะหาเจ้าของรองเท้าแก้วได้ไม่ยาก   ที่รักอย่าทำอย่างนั้น ผมห้ามคุณไม่อยู่หรอกนะ   ทำไมใส่แว่นสามมิติแล้วไม่เห็นมันพุ่งออกมาเลย   ดูหนังไม่ต้องใช้ร่างกาย ใช้แต่ดวงตาก็เกินพอ   แกล้งเพื่อนสำเร็จแล้ว ไฮไฟว์กันหน่อยยย   แป๊บนึงนะ นั่นมันไม่ใช่เส้นสปาเกตตีแล้ว   ก็อย่างนี้แหละ ซื้อของออนไลน์ ของจริงชอบไม่เหมือนกับในรูป   เดี๋ยวก่อนนน ที่ใช้ไปเมื่อกี้ไม่ใช่กระดาษทิชชู่หรอกนะ   นิ้วติดดึงออกไม่ได้แบบนี้ก็ปล่อยไว้อย่างนั้นละกัน   ถ้าจะกินก็ไปรุมกินไอติมโน่นสิ   นี่คิดว่าอย่างผมจะซ่อนอะไรเอาไว้อีกเหรอ…

  • แม่เหมียวผู้อารี มาขออาหารจากมนุษย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเอาไปแจกให้กับเหมียวตัวอื่นในละแวก

    แม่เหมียวผู้อารี มาขออาหารจากมนุษย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเอาไปแจกให้กับเหมียวตัวอื่นในละแวก

    เราอาจเคยได้เห็นคนที่มีจิตใจดี โอบอ้อมอารี คอยช่วยเหลือคนอื่นๆ ให้หลุดพ้นจากความยากลำบากหรือปัญหาที่พวกเขาต้องเจอ แต่นิสัยแบบนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคนเพราะน้องเหมียวตัวนี้เองก็มีจิตใจที่งดงามไม่แพ้กันเลย เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2017 ทางเพจเฟซบุ๊ก SBS TV동물농장x애니멀봐 ของประเทศเกาหลีได้เผยแพร่เรื่องราวความน่ารักและจิตใจอันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของเจ้าเหมียว Baekseolee ผู้คอยแบ่งปันอาหารที่มันได้รับให้กับแมวตัวอื่นๆ ในละแวกนั้น   มาดูเรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้าเหมียว Baekseolee กันเถอะ   เจ้าเหมียวจะเดินเข้ามาอ้อนเจ้าของร้านให้ใจอ่อน และมันก็จะได้รับอาหารเป็นของรางวัลจากความน่ารัก   แต่เมื่อเธอนำอาหารมาวางไว้ให้ มันก็กลับไม่ได้กินในทันที   มันจะคาบอาหารชิ้นนั้นแล้วเดินหายไป   เพราะมันต้องการนำอาหารที่ได้ไปแบ่งให้กับเพื่อนแมวที่อยู่ใกล้ๆ นั่นเอง   บางครั้งก็ไปตามพวกมาสมทบด้วยนะ   นอกจากนั้นมันไม่ได้นำอาหารไปแบ่งให้กับเพื่อนเพียงแค่อย่างเดียว เพราะจู่ๆ มันก็ปีนเข้าหน้าต่างบ้านหลังหนึ่งไปซะงั้น   เมื่อเข้าไปในบ้านก็ได้เจอกับลูกๆ ทั้ง 3 ตัวของเจ้า Baekseolee   จากการสอบถามเจ้าของบ้าน เธอบอกว่าแม่เหมียวจิตใจดีตัวนี้ได้เข้ามาคลอดลูกในบ้านของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถไล่มันออกไปได้   แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือเจ้าของบ้านกำลังจะย้ายที่อยู่แล้ว และเจ้าของร้านที่คอยให้อาหารมันก็ไม่สามารถดูแลมันได้ เนื่องจากเธอเลี้ยงแมวเอาไว้มากถึง 4 ตัวแล้ว   อย่างไรก็ตามความหวังก็ไม่ได้หมดไป…

  • หญิงสาวประสบภาวะความจำเสื่อม หลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้วคิดว่าตัวเองอายุ 13 ปี

    หญิงสาวประสบภาวะความจำเสื่อม หลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้วคิดว่าตัวเองอายุ 13 ปี

    หลายๆ คนอาจมีความคิดอยากย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง และคุณแม่ท่านนี้ก็กลับกลายเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ เพราะหลังจากที่เธอได้คลอดลูกคนที่สองออกมาเธอก็ดันคิดว่าตัวเองอายุแค่ 13 ปีซะงั้น!? นี่เป็นเรื่องราวของคุณแม่ Shannon Everett วัย 22 ปี อาศัยอยู่ในเมืองนิวพอร์ต ประเทศเวลส์ ที่ได้คลอดลูกคนที่สองออกมาในคืนวันที่ 30 กันยายน 2017 ก่อนที่หัวใจของเธอจะหยุดเต้นไปนานกว่า 68 นาทีและสลบไปนานกว่า 2 อาทิตย์   Shannon คุณแม่ที่สูญเสียความทรงจำและคิดว่าตัวเองอายุ 13 ปี   Nicola Everett คุณแม่ของเธอเล่าว่า “ในตอนที่ลูกสาวของฉันกำลังคลอดอยู่ เธอได้หันมาบอกกับฉันและคู่หมั้นของเธอว่า เธอรักพวกเรามาก และได้หมดสติไปหลังจากนั้น” แพทย์ผู้ดูแลอาการของเธอได้บอกว่าการที่หัวใจของเธอหยุดเต้นอาจทำให้หญิงสาวไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย หรือสมองอาจได้รับผลกระทบอย่างหนักก็เป็นได้   Nicola คุณแม่ของหญิงสาวที่คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง   จนกระทั่งหลังจากวันที่คลอดไป 2 อาทิตย์ Shannon ก็ฟื้นขึ้นมา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเธอจำคู่หมั้นไม่ได้ เธอจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นคุณแม่ลูกสองและเคยท้องมาก่อน และเธอยังคิดว่าตัวเองอายุแค่ 13 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากโรคหลอดเลือดอุดตันของน้ำคร่ำ เป็นอาการหายากที่พบได้จากคุณแม่หนึ่งใน 20,000…

  • ญี่ปุ่นขาดแคลนทายาทชาย หลายครอบครัวเลือกเลยรับ “ชายวัยผู้ใหญ่” เป็นบุตรบุญธรรม

    ญี่ปุ่นขาดแคลนทายาทชาย หลายครอบครัวเลือกเลยรับ “ชายวัยผู้ใหญ่” เป็นบุตรบุญธรรม

    ในประเทศญี่ปุ่น การสืบทอดธุรกิจที่ครอบครัวสร้างขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นคือผู้ที่จะมารับมรดกนั้นไปได้จะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น แล้วถ้าบ้านไหนมีแต่ลูกสาวล่ะจะทำยังไง? ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการรับชายวัยผู้ใหญ่เข้ามาเป็นบุตรบุญธรรม จากเหตุผลที่ว่าครอบครัวส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นเลือกที่จะมีลูกแค่คนเดียว ทำให้ครอบครัวเจ้าของธุรกิจจำนวนมากขาดทายาทผู้ชายที่จะเข้ามาสืบทอดกิจการของพวกเขา จึงได้เกิดวิธีการรับผู้ชายที่มีอายุอยู่ในช่วง 20 หรือ 30 ปีเข้ามาเป็นบุตรบุญธรรมเพื่อรับมรดกนั้นไป     สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น สังเกตได้จากสถิติการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมในปี 2016 ที่สูงถึง 81,000 คน โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดนั้นเป็นการรับเลี้ยงผู้ใหญ่ ไม่ใช่เพียงเหตุผลที่ว่ามีแค่ลูกสาว เพราะบางครอบครัวที่มีลูกชายก็ยังคงใช้วิธีรับเลี้ยงผู้ใหญ่บุญธรรมเข้ามา เพราะว่าลูกชายของพวกเขาอาจไม่มีประสิทธิภาพหรือความรับผิดชอบที่มากพอในการรับธุรกิจของครอบครัวไปดูแล   หนึ่งในบุตรบุญธรรมที่ถูกรับเลี้ยงมาให้สืบทอดธุรกิจของครอบครัวหนึ่ง   แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ที่แท้จริงของพวกเขาจะไม่มีหน้าที่ในมรดกนั้นเสมอไป เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกสาวของครอบครัวจะได้รับการสั่งสอนและอบรมมาอย่างดีเกี่ยวกับธุรกิจของที่บ้าน จากนั้นพวกเธอก็จะได้แต่งงานกับบุตรบุญธรรมที่รับเข้ามาสืบทอดธุรกิจนั้นๆ แล้วทั้งคู่ก็จะสามารถช่วยกันบริหารได้อย่างดี     เมื่อเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต่างกับการคลุมถุงชนหรือเปล่า? จากคำตอบของ Chieko Date ผู้ทำการจับคู่ในลักษณะนี้มานานกว่า 10 ปีได้บอกเอาไว้ว่า ก่อนที่หนุ่มสาวจะได้มาเจอกัน ครอบครัวเจ้าของธุรกิจที่มาใช้บริการกับเธอจะเป็นคนกำหนดความต้องการทุกอย่างว่าอยากได้บุตรบุญธรรมที่มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง พวกเขาจะตรวจสอบข้อมูลของผู้ชายคนนั้นอย่างละเอียด เพื่อดูว่าไม่มีหนี้สินติดตัวมาและต้องไม่เป็นเกย์ จากนั้นลูกสาวของพวกเขากับชายหนุ่มถึงจะได้มาเจอกัน และหากว่าพูดคุยกันไม่ถูกคอ ก็สามารถทำการยกเลิกการรับบุตรบุญธรรมคนนี้เพื่อหาคนใหม่ได้ จนกว่าจะเจอคนที่ถูกใจและแต่งงานกันในที่สุด โดยการแต่งงานนั้นฝ่ายชายจะต้องเป็นคนเปลี่ยนนามสกุลเพื่อการสืบทอดธุรกิจของครอบครัวฝ่ายหญิงต่อไป   Chieko Date…

  • นวัตกรรมยางจาก NASA ผลิต ‘ยางไทเทเนียม’ ไม่ต้องแวะเติมลมบ่อยๆ บดลุยได้ทุกพื้นผิว!!

    นวัตกรรมยางจาก NASA ผลิต ‘ยางไทเทเนียม’ ไม่ต้องแวะเติมลมบ่อยๆ บดลุยได้ทุกพื้นผิว!!

    แม้มนุษย์เราจะสามารถเดินทางไปเหยียบดวงจันทร์ได้มาตั้งนานแล้ว แต่ทางองค์การ NASA ก็ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาการสำรวจพื้นผิวบนนั้นกันต่อไป ซึ่งทำให้รถยนต์ที่ใช้ขับเคลื่อนบนนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับภารกิจนี้ Lunar Rover คือรถคันแรกที่ใช้วิ่งบนดวงจันทร์และด้วยพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนทำให้ติดปัญหาในเรื่องของยางรถที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการพามันขับไปไกลๆ ได้ แต่ปัญหานี้กำลังจะหมดไปเมื่อพวกเขาได้คิดค้นยางรถแบบใหม่ที่ทำมาจากไทเทเนียม   ยางชนิดใหม่สำหรับการสำรวจดวงจันทร์   ยางรถที่ใช้ในตอนแรกทำมาจากสปริงโลหะสามารถขับไปบนทางขรุขระได้ดีและซึมซับแรงกระแทกได้เหมือนกับยางแบบเติมลมทั่วไป แต่ว่าเมื่อใช้ไปซักพักยางประเภทนี้ก็จะมีการบิดเบี้ยวและไม่อาจกลับคืนทรงเดิมได้ NASA จึงได้คิดค้นยางชนิดใหม่นี้ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งวัสดุที่ใช้ในครั้งนี้ก็คือโลหะผสมนิกเกิลไทเทเนียม ทำให้ยางตัวใหม่มีความสามารถในการจดจำรูปร่างของตัวเองได้   คลิปสาธิตการทำงานของยางที่สามารถกลับคืนสภาพเดิมได้เสมอ   ไม่ว่ามันต้องเจอกับพื้นผิวแบบไหน เมื่อมันเปลี่ยนรูปร่างไปก็จะกลับมากลมเหมือนเดิมอยู่ดี และที่พิเศษกว่านั้นก็คือมันไม่จำเป็นต้องเติมลมเหมือนยางที่เราใช้กันทั่วๆ ไปหรอกนะ และถ้านำยางชนิดใหม่นี้มาใช้ขับบนโลก พวกเขาก็บอกเลยว่ามันสามารถใช้ได้นานเป็นปีๆ และสามารถพารถคุณได้ไปในทุกที่แบบสบายๆ อีกด้วย   ไม่หวั่นในทุกเส้นทางของการเดินทาง   ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจมีโอกาสได้ใช้ยางแบบนี้กับรถของเราด้วยก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องกลัวปัญหายางแตก ยางรั่วกันอีกแล้วล่ะนะ   ที่มา: gizmodo , designboom

  • ผู้จัดการร้านให้ชายไม่มีเงินได้ “กินก่อนจ่ายทีหลัง” แต่เจ้าตัวนั้นกลับโทรหาตำรวจเพื่อมอบตัว…

    ผู้จัดการร้านให้ชายไม่มีเงินได้ “กินก่อนจ่ายทีหลัง” แต่เจ้าตัวนั้นกลับโทรหาตำรวจเพื่อมอบตัว…

    อาหารญี่ปุ่นที่ชื่อว่า คัตสึด้ง หรือ ข้าวหน้าหมูทอด+ไข่ คงเป็นเมนูจานโปรดของใครหลายๆ คน และสำหรับชายคนนี้เขาก็คงชอบมันมากๆ จนถึงขนาดตัดสินใจกินเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่จะเข้าไปใช้ชีวิตในคุก นี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2017 เมื่อชายชาวญี่ปุ่นวัย 63 ปี ผู้ไม่มีงานทำและมีเงินติดตัวอยู่แค่ 93 เยน (ประมาณ 27 บาท) เขาได้ตัดสินใจไปกินคัตสึด้งในร้านอาหารร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองยะนะงะวะ จังหวัดฟุกุโอกะ     เงินที่เขามีอยู่นั้นไม่เพียงพอสำหรับค่าอาหาร 650 เยน (ประมาณ 190 บาท) หลังจากกินเสร็จเขาจึงบอกกับผู้จัดการร้านให้โทรแจ้งตำรวจได้เลยเพราะเขาไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารจานนี้ แต่เจ้าของร้านผู้ใจดีก็ได้มอบโอกาสให้เขาโดยการบอกว่า เขาไม่จำเป็นต้องจ่ายตอนนี้แต่มีเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับมาจ่ายวันหลัง เมื่อเป็นอย่างนี้หลายคนอาจกำลังคิดว่าสุดท้ายหนุ่มตกงานก็คงจะกลับมาจ่ายในวันหลังอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะเมื่อออกจากร้านไปเขาก็เดินไปที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะและติดต่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหากินแล้วไม่มีเงินจ่าย     ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวเขาไปเข้าคุก โดยเจ้าหน้าที่ได้เล่าว่าชายคนดังกล่าวเคยติดคุกมาก่อน พอพ้นโทษก็ได้ออกมาใช้ชีวิตด้านนอก แต่ก็ต้องเจอกับปัญหาเนื่องจากประวัติการติดคุกของเขาทำให้ไม่สามารถหางานทำได้     สิ่งที่เขาทำดูเหมือนกับว่าเขาตัดสินใจเลือกคัตสึด้งของร้านนี้เป็นอาหารแสนอร่อยมื้อสุดท้ายก่อนที่จะต้องกลับเข้าไปใช้ชีวิตในคุก ซึ่งเรื่องราวของเขาก็ได้เป็นกระแสในโลกโซเชียลของประเทศญี่ปุ่น และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก “เป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ” “ผู้จัดการร้านคนนั้นเป็นคนดีมากเลย” “มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าการติดคุกไม่ได้ช่วยให้คนเราดีขึ้นมาได้ แต่กลับทำให้คนคนนั้นต้องตกอยู่ในวังวนที่ไม่อาจเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีได้เลย”     เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ตอนจบมีการหักมุมอย่างที่หลายๆ คนอาจไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน…

  • เรือไอน้ำอราเบีย ถูกพบฝังอยู่ใต้พื้นดินหลังหายไปนานกว่า 132 ปี พร้อมข้าวของจากยุคนั้น

    เรือไอน้ำอราเบีย ถูกพบฝังอยู่ใต้พื้นดินหลังหายไปนานกว่า 132 ปี พร้อมข้าวของจากยุคนั้น

    แม่น้ำมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา คือเส้นทางเดินเรือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต มีเรือจักรไอน้ำกว่า 400 ลำเคยแล่นผ่านเส้นทางนี้ หนึ่งในนั้นก็คือเรือจักรไอน้ำที่มีชื่อว่า Arabia ที่บรรทุกสินค้าไว้มากกว่า 200 ตันก่อนที่จะจมลงไปอยู่ใต้แม่น้ำแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1856 เรือลำดังกล่าวได้บรรทุกสินค้ามาจากเมืองเซนต์หลุยส์ ในรัฐมิสซูรี และได้แล่นไปตามแม่น้ำมิสซูรี จนกระทั่งเรือได้ไปชนเข้ากับสิ่งกีดขวางที่อยู่ใต้น้ำ ทำให้น้ำไหลเข้ามาผ่านรูที่อยู่ใต้ท้องเรือและจมเรือลงไปลงภายในเวลาไม่กี่นาที   การขุดเพื่อกู้ซากเรือลำดังกล่าวที่จมลงไปเมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา   ลูกเรือและผู้โดยสารอีกกว่า 130 คนสามารถรอดชีวิตมาได้แต่สินค้าจำนวนมากก็ได้จมหายไปนอนอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นพื้นดินรอบๆ แม่น้ำก็ได้เกิดการเคลื่อนตัวจนไม่สามารถทราบตำแหน่งของเรือได้และมันเอาไว้ลึกลงไปใต้ดินกว่า 13 เมตร เวลาผ่านไปกว่า 100 ปี นักโบราณคดีที่ชื่อว่า Bob Hawley ก็รู้สึกสนใจและได้ออกตามหาเรือลำดังกล่าวในช่วงปลาย 1980s ซึ่งเขาเชื่อว่าตำแหน่งของมันน่าจะอยู่ห่างออกไปจากบริเวณรัฐมิสซูรี ประมาณ 800 เมตร   สินค้าจำนวนมากที่ถูกค้นพบภายในเรือ   เขาได้รับความร่วมมือจาก Judge Norman Sortor เจ้าของไร่ข้าวโพดที่ถูกเชื่อว่ามีเรือลำดังกล่าวจมอยู่ข้างใต้ ในปี 1987 การขุดเจาะเพื่อกู้ซากเรือในที่แห่งนั้นจึงได้เริ่มต้นขึ้น ในตอนนั้นไม่อาจแน่ใจได้ว่าเรือ Arabia จมอยู่ใต้พื้นที่นั้นจริงหรือเปล่า…

  • ค้างคาวตัวน้อยได้รับการช่วยชีวิต พอป้อนกล้วยเข้าปากปุ๊บก็เคี้ยวจ๊วบๆ น่าชังเสียนี่กระไร

    ค้างคาวตัวน้อยได้รับการช่วยชีวิต พอป้อนกล้วยเข้าปากปุ๊บก็เคี้ยวจ๊วบๆ น่าชังเสียนี่กระไร

    ค้างคาวเป็นสัตว์ที่เราอาจไม่ค่อยได้เห็นมันทั่วไปตามท้องถนน และหลายๆ คนคิดว่ามันเป็นสัตว์ที่ดูน่ากลัวคอยดูดเลือดมนุษย์ แต่ความน่ารักของเจ้าค้างคาวตัวนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดนั้นไปในทันที เจ้าค้างคาวที่มีชื่อว่า Miss Alicia ตัวนี้ได้ถูกช่วยเหลือจากคนที่ขับรถไปชนมันเข้า ในตอนกลางคืนที่รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย     เจ้าค้างคาวตัวน้อยมีอาการบาดเจ็บค่อนข้างมาก ก่อนที่มันจะได้รับการรักษาจาก Denise Wade นักอนุรักษ์ค้างคาวและเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Batzilla The Bat     ความน่ารักของมันก็ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนจำนวนมาก หลังจากที่นักอนุรักษ์ได้โพสต์วิดีโอลงไปในเพจเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2017 ทำให้มีผู้เข้าชมกว่า 242,000 ครั้งและชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกกว่า 4,800 คน   เคี้ยวงุบงับๆ ซะน่ารักเชียว  นี่แหละเขาถึงได้มีเพลงชื่อว่า “ค้างคาวกินกล้วย”   คลิปการกินกล้วยของเจ้าค้างคาวตัวจิ๋วที่ได้รับการช่วยเหลือ   ความคิดเห็นของชาวเน็ตที่ชื่นชอบในความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าค้างคาว   เธอคนนี้คิดว่ามันน่ารักมากจริงๆ จนถึงขนาดว่าอยากรับมันมาเลี้ยงเลย   ชาวเน็ตคนนี้เป็นห่วงว่าเจ้าค้างคาวน้อยจะสำลักออกมา และเธอบอกอีกว่าเธอเองก็ชื่นชอบค้างคาวเหมือนกัน เวลาที่ได้เห็นพวกมันห้อยหัวอยู่บนต้นไม้   ส่วนเธอคนนี้ก็รู้สึกขอบคุณคนโพสต์ที่ทำให้เธอได้เห็นสิ่งที่น่ารักที่สุดในชีวิต   Denise ดูแลมันจนกลับมาแข็งแรงเป็นปกติและได้ปล่อยมันกลับไปถิ่นที่อยู่อาศัยหลังจากนั้น หวังว่าจะได้ไปใช้ชีวิตที่ดีไม่ต้องมาเจออุบัติเหตุแบบครั้งนี้อีกแล้วนะ และก็ไม่ได้มีแค่เจ้าค้างคาวตัวนี้ที่ได้รับการดูแลจากเธอ…

  • เสียวแว๊บ… หนุ่มเห็นขอบกระจกเครื่องบินแง้ม ก็ลองอัดคลิปง้างให้ดูซะใจตุ้มๆ ต่อมๆ

    เสียวแว๊บ… หนุ่มเห็นขอบกระจกเครื่องบินแง้ม ก็ลองอัดคลิปง้างให้ดูซะใจตุ้มๆ ต่อมๆ

    ถ้าคุณเป็นคนกลัวเครื่องบินอยู่แล้ว #เหมียวตะปู เชื่อว่าภาพที่หนุ่มคนนี้ได้ถ่ายมาจะยิ่งทำให้รู้สึกขยาดและหวาดกลัวในเรื่องนั้นมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน เมื่อผู้โดยสารท่านหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอลงในโลกโซเชียล เผยให้เห็นว่าระหว่างที่เขาเดินทางอยู่บนเครื่องบินที่กำลังบินอยู่เหนือประเทศชิลี ก็ได้เจอกับขอบหน้าต่างตรงที่นั่งของเขาที่สามารถง้างออกมาได้อย่างน่าหวาดเสียว เหมือนกับจะหลุดออกมาเมื่อไหร่ไม่รู้   ง้างนิดนึงนี่ก็แทบจะหลุดออกมาได้ทั้งยวง   ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 ชายคนดังกล่าวโพสต์คลิปพร้อมกับคำพูดที่ว่า “ผมควรต้องกังวลในเรื่องนี้มั้ย นี่เป็นสายการบินราคาถูก (ราคาตั๋วประมาณ 980 บาท) ผมได้เจอกับขอบหน้าต่างที่ทำท่าจะหลุดออกมาและเห็นว่ามันดูน่าสนุกดี ก็เลยถ่ายคลิปเก็บไว้” ชาวเน็ตบางคนที่ได้เห็นรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เขาเจอและบอกเขาว่า “คุณน่าจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่บนเครื่องทราบนะ”   เห็นแล้วก็อยากให้เครื่องบินลงจอดซะเดี๋ยวนี้เลย   อย่างไรก็ตามนักบิน Patrick Smith เจ้าของเว็บไซต์ Ask The Pilot ก็ได้ออกมาพูดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า “สิ่งนั้นเป็นแค่ขอบที่ช่วยป้องกันกระจกหน้าต่างเอาไว้เท่านั้นเอง นี่แสดงให้เห็นถึงความน่าอับอายและความไม่เป็นมืออาชีพขอสายการบินดังกล่าว แต่มันก็ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ” Dai Whittingham ผู้บริหารสูงสุดของคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหราชอาณาจักร อธิบายว่า “ไม่ต้องกังวลในเรื่องของความปลอดภัยเพราะมันเป็นเพียงแค่ส่วนตกแต่งห้องโดยสารเท่านั้นเอง กระจกจริงๆ ที่ไว้ใช้กันเสียง กันความร้อนได้ถูกปกป้องเอาไว้อยู่ภายในอีกที” “ดังนั้นมันจึงไม่ได้ส่งผลใดๆ เลย เป็นเพียงแค่สิ่งที่แสดงให้เห็นว่าลูกเรือไม่ได้ดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องโดยสาร” เขากล่าวเสริม   ก็ยังดีที่มันไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ แต่ก็ช่วยติดให้มันดีๆ เถอะนะ หนูกลัววว  …

  • แคมเปญจากนอร์เวย์สะท้อน ‘ชีวิตภายใน 60 วินาที’ จากอายุ 0 – 100 ปีของผู้หญิง

    แคมเปญจากนอร์เวย์สะท้อน ‘ชีวิตภายใน 60 วินาที’ จากอายุ 0 – 100 ปีของผู้หญิง

    โฆษณาเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์เพื่อความงามสำหรับผู้หญิงอาจไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกมีอารมณ์ร่วม เพราะคิดว่าสิ่งที่ได้เห็นมันเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อที่แต่งภาพออกมาให้ดูสวยเกินความเป็นจริง แตกต่างจากโฆษณาตัวนี้ที่ไม่มีการแต่งภาพใดๆ และมันจะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงความสวยงามที่แท้จริงของผู้หญิง นี่เป็นโฆษณาจากบริษัทยาในประเทศนอร์เวย์ Vitus Apotek ที่ร่วมมือกับบริษัทโฆษณา T/A Pol พวกเขาได้นำเสนอความงามของผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัย นับตั้งแต่อายุ 0 ขวบไปจนถึง 100 ปี ซึ่งทั้งหมดถูกนำเสนอในเวลาเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้น   ความใสของผู้หญิงวัย 3 ขวบ   ส่วนเด็กวัย 8 ขวบก็สื่อออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง   การถ่ายทอดความสวยงามของพวกเธอเรียบง่ายและสามารถทำให้ทุกคนมีอารมณ์ร่วมไปพร้อมๆ กันได้ เพราะคลิปนี้ไม่ได้ผ่านการตกแต่งภาพใดๆ เลย ทำให้เราได้เห็นว่าผู้หญิงทั้ง 101 ที่มีอายุ รูปร่าง และสีผิวแตกต่างกันไป พวกเธอมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความงามมากขนาดไหน   สาวๆ ทุกคนไม่ได้แต่งหน้าใดๆ เลยด้วยนะ .   Pål Laukli ช่างภาพผู้ถ่ายทำโฆษณาดังกล่าวบอกว่า “เราต้องการนำเสนอในสิ่งที่พวกเธอเป็นจริงๆ จึงไม่มีการแต่งภาพเลย สิ่งที่คุณได้เห็นคือการนำเสนอผิวพรรณและรูปร่างที่เปลี่ยนไปตามวัยของพวกเธอ”   การที่พวกเธอไม่ใส่เสื้อผ้า ก็เพื่อให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทุกสัดส่วน   สังเกตได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนใบหน้าและรูปร่างของเธอเมื่อแก่ตัว…

  • ชายผู้ใจดีจอดรถกลางถนนเพื่อช่วยเจ้าเหมียวผู้น่าสงสาร แถมประกาศหาบ้านให้มันด้วย!!

    ชายผู้ใจดีจอดรถกลางถนนเพื่อช่วยเจ้าเหมียวผู้น่าสงสาร แถมประกาศหาบ้านให้มันด้วย!!

    ขณะที่คุณกำลังขับรถอยู่บนถนนไฮเวย์ก็อาจได้เห็นรถคันอื่นๆ ที่วิ่งไปทางเดียวกับเราหรือคนที่พยายามข้ามถนนกันอย่างยากลำบากเพราะรถแต่ละคันขับกันเร็วเสียเหลือเกิน แต่ชายคนนี้กลับได้เจอกับสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ควรมาอยู่บนถนนใหญ่ นั่นก็คือน้องเหมียวผู้น่าสงสารตัวหนึ่ง ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า Masz Masuri เขากำลังขับรถพาลูกชายไปเที่ยวสวนสนุก Danga Bay ในประเทศมาเลเซีย เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2017 ระหว่างทางที่เขากำลังขับอยู่บนถนนไฮเวย์ก็ได้เจอกับเจ้าเหมียวผู้น่าสงสารนอนอยู่กลางถนน   น้องเหมียวผู้น่าสงสารไม่สามารถออกไปจากถนนนี้ได้ด้วยตัวเอง   บนถนนใหญ่ที่ขับกันด้วยความเร็วจนทำให้เขาไม่สามารถจอดกะทันหันได้ ชายหนุ่มจึงไปกลับรถมาหาเจ้าเหมียวอีกครั้ง ก่อนที่จะลงรถไปอุ้มมันขึ้นมาและรีบพาไปหาสัตวแพทย์   ไม่ต้องกลัวนะเจ้าเหมียว ฮีโร่มาช่วยแล้ววว   คลิปการช่วยเหลือแมวในครั้งนี้ที่ชายหนุ่มโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก   เจ้าเหมียววัย 1 ขวบตัวนี้มีอาการบาดเจ็บบริเวณขา อุ้งเท้า และหน้าอกเล็กน้อยจึงไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่   ได้เจอหมอแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ   Masz ตั้งชื่อให้มันว่า Danga Bay ชื่อเดียวกันกับสวนสนุกที่เขาจะพาลูกไป และชายคนนี้ก็ไม่ได้เพียงแค่ช่วยมันให้รอดจากอันตรายบนท้องถนนเพราะเขายังช่วยประกาศหาบ้านให้กับมันอีกด้วย เป็นโชคดีของเจ้าเหมียวที่ได้เจอกับเขาผู้เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับน้องแมวในประเทศมาเลเซียที่ชื่อว่า Kitty Konnexion Community เขาจึงโพสต์คลิปและเรื่องราวของมันลงไป   เป็นโชคดีของเอ็งจริงๆ ที่ได้เขาคนนี้มาช่วย พร้อมกับยังหาบ้านให้อีกต่างหาก   จนกระทั่งวันที่ 10 พฤษภาคม 2017…

  • งานวิจัยเผย 8 ส่วนของร่างกายผู้หญิง ที่สามารถดึงดูดผู้ชายให้สนใจได้มากที่สุด!!

    งานวิจัยเผย 8 ส่วนของร่างกายผู้หญิง ที่สามารถดึงดูดผู้ชายให้สนใจได้มากที่สุด!!

    ในปัจจุบันสาวๆ หลายคนมีความเชื่อว่าผู้ชายชอบผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่ และคิดว่าหนุ่มๆ เลือกที่จะมองก้นกับหน้าอกเป็นสองอย่างแรก แต่ความเป็นจริงมันอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะในงานวิจัย 8 ส่วนของร่างกายผู้หญิงที่ผู้ชายสนใจมากที่สุดมันกลับไม่มีสองส่วนนั้นเลย นี่เป็นผลงานวิจัยของดอกเตอร์ Midge Wilson ศาสตราจารย์ภาคจิตวิทยาและการศึกษาเกี่ยวกับเพศ ในมหาวิทยาลัย DePaul รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา โดยเขาบอกว่าผู้ชายจะมีพฤติกรรมในการสังเกตสัดส่วนผู้หญิงที่อยากจะเข้าไปเป็นคู่ด้วย ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้เรียกว่า “การประเมินสมรรถภาพการสืบพันธุ์” และนี่ก็คือ 8 อันดับสิ่งที่ผู้ชายให้ความสนใจและรู้สึกว่ามันน่าดึงดูดมากที่สุดสำหรับผู้หญิง มีอะไรบ้างไปดูกันเลยยย   สัดส่วนระหว่างเอวและสะโพกทางด้านขวา ผู้วิจัยบอกเอาไว้ว่าสัดส่วน 7:10 ของเอวและสะโพกเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าน่าดึงดูดมากที่สุด เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงการคลอดลูกง่าย เพราะเอวเล็กแต่สะโพกผาย   การมีเสียงที่แหลมสูง เสียงในลักษณะนั้นบ่งบอกได้ถึงขนาดตัวที่เล็ก มีร่างกายแบบผู้หญิ๊งผู้หญิง อีกทั้งยังทำให้ดูเด็กอีกด้วย ซึ่งการที่ผู้หญิงดูเด็กมันก็ยิ่งทำให้ผู้ชายรู้สึกสนใจมากยิ่งขึ้น เพราะตามหลักแล้วอายุ 20 ถึง 31 ปีคือช่วงอายุที่ผู้ชายมองว่านี่แหละเหมาะแก่การเป็นแม่ของลูก เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมมีเสียงที่สองเอาไว้ใช้เวลาเจอหนุ่มๆ ด้วยนะ   มีสุขภาพผมที่ดี จากการศึกษาบอกว่าผมที่ยาว หนา และดูมันเงาเป็นสิ่งที่สามารถสร้างแรงดึงดูดได้ดีมากๆ ส่วนผมที่ดูแห้งและหงอกนั้นจะเป็นสิ่งที่ให้ผลตรงกันข้าม เพราะมันทำให้สาวๆ ดูแก่เกินวัยไม่เป็นที่สนใจของชายหนุ่ม   แต่งหน้าน้อยๆ การแต่งหน้ามาแบบจัดเต็มอาจช่วยให้คุณมีความมั่นใจขึ้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจหนุ่มๆ ได้…

  • 9 สัญญาณบอกความในใจ แสดงออกด้วยท่าทาง แบบนี้ข้า ‘รัก’ เจ้าทาสแล้วนะ

    9 สัญญาณบอกความในใจ แสดงออกด้วยท่าทาง แบบนี้ข้า ‘รัก’ เจ้าทาสแล้วนะ

    เคยสงสัยกันมั้ยว่าเจ้านายเหมียวรักเราหรือเปล่า? พฤติกรรมแบบนี้คือการแสดงความรักของมันหรือเปล่านะ? ถึงแม้ว่าเราอยากรู้ใจจะขาดก็ไม่สามารถถามพวกมันตรงๆ ได้ ในเมื่อมันพูดภาษาคนไม่ได้นี่นา… แต่ถ้าหากเพื่อนๆ เคยตั้งคำถามแบบนั้นแล้วล่ะก็ #เหมียวตะปู ขอแนะนำให้มาอ่านข้อสังเกตเหล่านี้ เพราะนี่คือ “9 สัญญาณที่บอกได้ว่าน้องเหมียวกำลังรักคุณอยู่จริงๆ นะ” ว่าแล้วก็ลองไปดูกันเลย   เจ้าเหมียวหาของขวัญมาให้ เวลาที่มันคาบซากหนูหรือนกมาให้ นั่นหมายความว่าเจ้าเหมียวได้มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับคุณ แม้ว่ามันอาจจะดูขนลุกไปหน่อยแต่อย่าลืมว่าแมวคือสัตว์ที่มีความเป็นนักล่าอยู่ในตัว ดังนั้นก็จงดีใจซะเถอะนะที่มันนำเหยื่ออันแสนมีค่ามามอบให้   น้องแมวนอนหงายโชว์พุงให้คุณเห็น ธรรมชาติของแมวคือค่อนข้างหยิ่งในศักดิ์ศรีและเหมือนกับสัตว์ตัวอื่นๆ ที่ไม่ชอบนอนโชว์พุงให้ใครเห็น ซึ่งหากมันทำแบบนั้นล่ะก็ นั่นหมายความว่ามันรู้สึกสบายใจ ปลอดภัย และได้รับความรักจากคุณ ถึงได้ยอมนอนหงายโชว์พุงอย่างไร้ความกังวล   เจ้าแมวเอาหัวมาโขก การที่พวกมันเอาหัวมาชนหรือโขกกับร่างกายของเรา อาจทำให้เราคิดว่ามันโมโหใส่หรือเปล่า แต่ความจริงแล้วนั่นคือการปล่อยฟีโรโมนเพื่อแสดงให้เห็นว่ามันรักและเป็นเหมือนกับส่วนหนึ่งของเราไปแล้ว   ชอบแทะ แต่ไม่ได้หมายถึงกัดแรงๆ นะ การที่มันชอบแทะปลายนิ้วเวลาเราเล่นด้วย คือการแสดงออกถึงความรักที่มันมีให้ แต่ต้องแยกให้ออกนะว่ามันแทะหรือว่ามันกัด เพราะถ้ามันกัดก็อาจหมายความว่ามันกำลังรำคาญเราอยู่ก็ได้   เข้ามาคลอเคลียหรือเดินตามเราไปทุกที่ เวลาที่เจ้าเหมียวรักใครมันก็จะชอบเดินมาคลอเคลียอยู่ที่ขาของเรา หรือเวลาเราเดินไปไหนมาไหนก็จะคอยเดินตามไม่ห่าง และในบางทีที่มันทำเป็นออกห่างจากเราไปก็อาจเป็นวิธีการเรียกร้องความสนใจจากคุณก็ได้นะ   ชอบมานวดให้อยู่บ่อยๆ การเข้ามากดๆ นวดๆ อยู่บนร่างกายของเราคือการแสดงความรักในแบบที่เหมือนกับแม่เหมียวมอบให้ลูกเหมียว คอยดูแลเราอย่างใกล้ชิดและสิ่งนี้ก็ทำให้ทั้งเราและเจ้าเหมียวรู้สึกฟินไปพร้อมๆ กัน  …

  • ประดิษฐ์มือเทียมไฮเทคขาย ที่จะทำให้คุณได้มีมือถึง 4 ข้าง ในราคาแค่ 70,000 บาทเอ๊ง!!

    ประดิษฐ์มือเทียมไฮเทคขาย ที่จะทำให้คุณได้มีมือถึง 4 ข้าง ในราคาแค่ 70,000 บาทเอ๊ง!!

    ด้วยสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบันและการแข่งขันที่มีเข้ามาอยู่มาเสมอ สองมือของเราอาจยังไม่สามารถทำงานให้ออกมามีประสิทธิภาพหรือรวดเร็วทันใจได้ วันนี้เราจึงขอเสนอ Double Hand สิ่งประดิษฐ์ที่สามารถช่วยคุณได้เพราะมันจะทำให้คุณได้มีมือไว้ใช้รวมกันถึง 4 ข้างเลยทีเดียว   สิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยให้เราสามารถใช้ชีวิตแบบ 4 มือได้   นี่เป็นผลงานของ Federico Ciccarese จากบริษัทผู้ผลิต Youbionic โดยเราสามารถเห็นได้จากรูปลักษณ์ของมันเลยว่า เพียงแค่คุณใส่มันเข้าไปในแขนข้างใดข้างหนึ่ง เจ้าตัวนี้ก็จะทำให้คุณได้รู้สึกเหมือนกับว่าแขนข้างนั้นมีมืองอกออกมาถึงสองข้างพร้อมๆ กัน     ด้วยวัสดุที่เป็นพลาสติกขนาดเบาทำให้หมดกังวลว่ามันจะหนักจนเกินไป อีกทั้งการควบคุมก็ยังง่ายแสนง่ายเพียงแค่ใช้สองนิ้วก็สามารถควบคุมมือเทียมนี้ได้หนึ่งข้างแล้ว ราคาของมันก็ถู๊กถูก เพียงแค่ 70,000 บาทเท่านั้น (ยังไม่รวมค่าจัดส่ง) ก็สามารถเป็นเจ้าของมันได้แล้ว และถ้าใครอยากมีแขนรวมกัน 4 ข้างก็เพียงแค่ซื้อมาอีกชิ้นใส่แขนอีกข้างเท่านั้นเอง รวมๆ ก็ 140,000 บาท   การทำงานของมันด้วยการควบคุมที่ง่ายแสนง่าย   แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอเตือนกันไว้ก่อนว่าเจ้าสิ่งนี้ไม่ได้มีความพิเศษมากขนาดที่จะช่วยให้เราพิมพ์ดีดได้เร็วขึ้น หรือเล่นเปียโนเก่งขึ้นได้ เพราะการทำงานของมันหรือการขยับนิ้วก็ยังคงช้าเอามากๆ และจากที่เห็นกันในคลิปวิดีโอสาธิต เจ้าสิ่งนี้ก็ยังทำได้แค่กำมือ แบมือเท่านั้นเอง   คลิปสาธิตการทำงานเจ้า Double Hand   อย่างไรก็ตามหากใครอยากซื้อมาเป็นเจ้าของเพื่อไว้ยกแก้วเครื่องดื่มทีละ 4…

  • เจ้าเหมียวที่เคยถูกวัยรุ่นใจร้ายเตะปลิวและเป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว ในที่สุดมันก็ได้บ้านใหม่แล้ววว

    เจ้าเหมียวที่เคยถูกวัยรุ่นใจร้ายเตะปลิวและเป็นกระแสโด่งดังไปทั่ว ในที่สุดมันก็ได้บ้านใหม่แล้ววว

    หลายๆ คนอาจเคยเห็นคลิปวิดีโอหนุ่มในปี 2014 ของวัยรุ่นชายคนหนึ่งได้เตะลูกแมวอย่างแรงจนมันปลิวข้ามรั้วไปเกิดเป็นกระแสที่ดังมากในตอนนั้น ผู้คนจำนวนมากไม่พอใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของชายคนนั้นและเขาก็ได้ถูกจับในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ทุกคนรู้ว่าชายคนนี้ถูกจับแต่อาจไม่เคยรู้ว่าเจ้าเหมียวคู่กรณีหลังจากที่ถูกเตะไปแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เราไปดูกันดีกว่าว่าหลังจากนั้นแมวตัวนี้มีสภาพเป็นอย่างไร   ชายคนนี้เรียกเจ้าแมวเข้ามาใกล้ๆ และให้เพื่อนของเขาถ่ายคลิปเก็บเอาไว้   เมื่อเจ้าแมวตายใจ เขาก็เตะเข้าไปที่กลางลำตัวของมัน จนเจ้าแมวปลิวไปไกลกว่า 6 เมตร   ท้ายคลิปชายหนุ่มคนนี้ก็ยังหันมาหัวเราะกับกล้อง พร้อมกับเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ และได้โพสต์คลิปลงไปในโลกโซเชียล   คลิปเมื่อ 3 ปีก่อน กับพฤติกรรมอันโหดร้ายสามารถดูได้ในนาทีที่ 0.26   ชาวเน็ตต่างรู้สึกไม่พอใจ แจ้งเรื่องนี้ไปกับทางเจ้าหน้าที่ ทำให้ในเวลาต่อมานาย Andre Robinson วัย 21 ปีคนนี้ถูกจับในคดีทารุณกรรมสัตว์   เจ้าเหมียวที่โดนเตะตัวนั้นก็ได้รับบาดเจ็บจากความรุนแรงของลูกเตะ มันได้เข้ารับการรักษาและอยู่ภายใต้การดูแลของกรมคุ้มครองสัตว์แห่งสหรัฐฯ (ASPCA)   แต่ผ่านไปเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น มันก็ได้ไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ของคนที่มารับมันไปเลี้ยง   นับว่าเป็นความโชคดีของเจ้าเหมียว (ตอนนี้ชื่อ King) จริงๆ เชื่อว่ามันคงไม่ได้เจอการถูกทารุณเหมือนก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน   แม้เจ้าเหมียวตัวนี้จะต้องเจอเรื่องแย่ๆ มาก่อน แต่ฟ้าหลังฝนก็ย่อมสวยงามเสมอ เพราะมันได้ไปมีความสุขในบ้านหลังใหม่ของมันแล้ว อย่างไรก็ตามเราต้องอย่าลืมว่าการทารุณกรรมสัตว์ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นในสังคม…

  • นอกจากการเป็นผู้นำของรัสเซียแล้ว ‘ปูติน’ ก็ได้เป็นนายแบบขึ้นปฏิทิน 2018 ด้วยนะจ๊ะ

    นอกจากการเป็นผู้นำของรัสเซียแล้ว ‘ปูติน’ ก็ได้เป็นนายแบบขึ้นปฏิทิน 2018 ด้วยนะจ๊ะ

    หลายๆ คนอาจเคยได้ยินชื่อประธานาธิบดีคนปัจจุบันของรัสเซีย วลาดีมีร์ วลาดีมีโรวิช ปูติน ผู้ที่มีทั้งความสามารถในการเป็นผู้นำและความไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด ชนิดที่ว่านั่งกอดเสือดาวได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งวีรกรรมเจ๋งๆ ของเขาก็ได้ถูกบันทึกลงในปฏิทินปี 2018 เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว   หน้าปกปฏิทินรวมภาพความโหดสึดรัสเซียของปูติน   เมื่อเราเปิดปฏิทินฉบับนี้ขึ้นมาดูเราก็จะได้เห็นภาพของปูตินในเหตุการณ์ต่างๆ ที่แสดงความสุดยอดและรอบด้านในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจับปลา ยิงปืน หรือการขึ้นพูดปราศรัย   ภาพความสามารถในการใช้ศิลปะป้องกันตัว และยังมีภาพเท่ๆ ที่ถูกถ่ายไว้ตอนเดินทางไปในแต่ละที่   ภาพน่ารักๆ อย่างตอนที่ปูตินกอดน้องเหมียว รอยยิ้มตอนที่ได้เล่นฮอกกี้น้ำแข็ง หรือความจริงจังในตอนที่ได้ขึ้นพูดปราศรัย   ความสามารถที่เรียกได้ว่าหลายอย่างจริงๆ และยังมีภาพท่าทางแบบชิลล์ๆ ในชีวิตประจำวัน   ไม่ว่าจะเป็นการขี่บิ๊กไบค์ ยิงปืน ตกปลา ทุกอย่างก็คือเรื่องง่ายสำหรับชายคนนี้   ปฏิทินฉบับปูตินนี้สามารถหาซื้อได้ใน ebay โดยเขามีขายให้แค่ 6,000 ชุดเท่านั้น ควรค่าแก่การสะสมและเหมาะกับการนำไปเป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก… ส่วนราคาของปฏิทินชุดนี้ก็อยู่ที่ประมาณ 1,300 บาท ใครซื้อไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านไม่ออกเพราะเขาได้ทำขึ้นมาเป็นแบบ 8 ภาษา ซึ่งมีภาษาอังกฤษ สเปน และอิตาลีรวมอยู่ในนั้นด้วย   ถ้าใครชอบแบบเท่ๆ ลุยๆ ก็บอกเลยว่าเขาคนนี้ตอบโจทย์คุณอย่างมาก…

  • คุณแม่สั่งห้ามลูกอ่านนิทานเรื่อง ‘เจ้าหญิงนิทรา’ เพราะการจูบผู้หญิงในตอนหลับมันไม่ถูกต้อง!!

    คุณแม่สั่งห้ามลูกอ่านนิทานเรื่อง ‘เจ้าหญิงนิทรา’ เพราะการจูบผู้หญิงในตอนหลับมันไม่ถูกต้อง!!

    เชื่อว่าน้อยคนที่จะไม่รู้จักนิทานเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา เพราะเราจะได้ยินพ่อแม่หรือครูที่โรงเรียนเล่าให้ฟังกันมาตั้งแต่เด็ก ฉากสำคัญที่ทุกคนจำได้ก็คือตอนเจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกให้เธอตื่นขึ้นจากการหลับไหลอันยาวนาน แต่ฉากนี้ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณแม่คนหนึ่งรู้สึกไม่พอใจและไม่เห็นด้วย คุณแม่คนนี้มีชื่อว่า Sarah Hall วัย 40 ปีผู้อาศัยอยู่ในเมือง North Shields ประเทศอังกฤษ เธอบอกว่าการที่เจ้าชายจูบเจ้าหญิงในตอนที่หลับอยู่เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรให้ลูกชายวัย 6 ขวบของเธอต้องมารับรู้อะไรแบบนี้   Sarah Hall คุณแม่ผู้ไม่เห็นด้วยกับการให้เด็กอ่านหนังสือเจ้าหญิงนิทรา   เธอบอกว่า “การจูบผู้หญิงในตอนที่เธอหลับอยู่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นอยู่ของสังคมในปัจจุบัน เพราะการจูบที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามความยินยอมของเจ้าหญิงเลย ดังนั้นจึงไม่ควรให้ลูกชายวัย 6 ขวบของฉันต้องมาเรียนเรื่องอะไรแบบนี้ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็จะจดจำทุกอย่างที่เขาเห็นไป” Sarah ได้เริ่มมีความคิดนี้จากการที่หลายๆ คนเริ่มพูดถึงเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศภายใต้ชื่อ Me Too เธอบอกอีกว่า “นี่เป็นสิ่งที่ปลูกฝังให้กับเด็กๆ แสดงให้เห็นว่าสังคมของเราเต็มไปด้วยพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม แม้อาจดูเป็นสิ่งเล็กๆ แต่มันก็สามารถทำให้เกิดความแตกต่างในความคิด ความเข้าใจของคนได้ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่เหมาะที่จะไปอยู่ในนิทานสำหรับเด็ก”   ฉากเจ้าชายจูบเจ้าหญิงเพื่อปลุกให้เธอตื่นจากนิทรา   คุณแม่ยื่นเรื่องไปให้กับทางโรงเรียนของลูกชาย เพื่อให้ถอดถอนนิทานเรื่องเจ้าหญิงนิทราออกจากการเรียนของเด็กเล็ก เธออธิบายว่า “เด็กที่อายุยังน้อยไม่อาจแยกแยะความเหมาะสมในสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ได้ แต่เราสามารถอธิบายความถูกผิด สมควรหรือไม่สมควรให้กับเด็กโตเข้าใจได้”   วันที่ 19 พฤศจิกายน 2017…

  • โชว์ลิปซิงค์ Let It Go ของน้องระดับประถม แต่ความสามารถระดับมัธยม เล่นใหญ่เล่นโต!!

    โชว์ลิปซิงค์ Let It Go ของน้องระดับประถม แต่ความสามารถระดับมัธยม เล่นใหญ่เล่นโต!!

    Frozen คือภาพยนตร์อนิเมชั่นจากดิสนีย์ที่โด่งดังไปทั่วโลกและที่ดังไม่แพ้กันก็คือ Let It Go เพลงประกอบหนังเรื่องนี้ที่ยิ่งทำให้เด็กและผู้ใหญ่สามารถจดจำความสนุกของหนังได้มากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กน้อย 3 คนนี้ได้นำเพลงดังกล่าวมาใช้ประกอบการแสดงลิปซิงค์ คลิปการแสดงของเด็กทั้ง 3 ได้ถูกโพสต์ลงยูทูบเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 ในช่องที่ชื่อว่า グレートゾーン โดยเขาได้บอกว่า “นี่คือคลิปการแสดงของเพื่อนรักวัยประถมทั้ง 3 คนวัย 10 ขวบที่ชนะการประกวด Lunch Contest” แม้เป็นเพียงแค่เด็กประถม แต่ก็ขอบอกเลยว่าการแสดงของพวกเธอนั้นยิ่งใหญ่อลังการกว่าความเป็นเด็กของพวกเธอจริงๆ พวกเธอได้นำฉากปล่อยพลังน้ำแข็งของ Elsa มาโชว์ทุกคนด้วยเอฟเฟกต์แบบง่ายๆ แต่สื่อได้ถึงพลังอันมหาศาลของคนแสดงและผู้ช่วย มันจะเจ๋งขนาดไหนก็ไปดูกันเลย   เปิดตัวมาง่ายๆ ก่อน เดินมาช้าๆ ดูเหมือนจะไม่มีอะไร   แต่พอเพลงเริ่มเร่งจังหวะขึ้นมา ท่าทางของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป แต่เอ๊ะ!! เด็กเสื้อขาวด้านหลังนั่นมาแอบทำไมใกล้ๆ น่ะ   คุณพระ!! ที่แท้เด็กสองคนด้านหลังก็คือคนทำเอฟเฟกต์นี่เอง เป็นจริงเป็นจังจริงจริงแม่คุณ   แถมยังมีการเสกเจ้า Olaf ออกมาได้ด้วย มหัศจรรย์สุดๆ ไปเลย   ยังไม่หนำใจ จัดไปชุดใหญ่ซักหนึ่งดอกเน้นๆ  …

  • โรงเรียนสั่งรื้อรูปปั้นบาทหลวง เพราะมีรูปร่างสื่อไปในเชิงล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก!?

    โรงเรียนสั่งรื้อรูปปั้นบาทหลวง เพราะมีรูปร่างสื่อไปในเชิงล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก!?

    รูปปั้นส่วนใหญ่ถูกสร้างมาจากต้นแบบของใครคนหนึ่งที่มีไว้ให้คนรุ่นหลังระลึกถึงสิ่งดีๆ ที่เขาคนนั้นเคยได้ทำไว้และเอาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต แต่บางครั้งความหมายและความตั้งใจของผู้ปั้นก็อาจผิดเพี้ยนไปจากที่คิด เช่นเดียวกับผลงานรูปปั้นนี้ที่ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลีย รูปปั้นดังกล่าวได้ถูกนำเสนอในข่าวท้องถิ่น 7 News ของนคร Adelaide หลังจากที่รูปปั้นนี้ถูกพูดถึงว่าเป็นสิ่งที่สื่อถึงการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก   รูปปั้นที่ดันไปสื่อถึงการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก   รูปปั้นถูกตั้งเอาไว้ในโรงเรียนชายล้วน Blackfriars Priory เป็นภาพของบาทหลวง Martin de Porres ผู้ให้การช่วยเหลือเด็กยากไร้จำนวนมากในช่วงศตวรรษที่ 16 กำลังยื่นขนมปังให้กับเด็ก แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นกลับสื่อออกมาในอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่างออกไปอย่างมาก     วันต่อมาผู้อำนวยการของโรงเรียนจึงได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “รูปปั้นดังกล่าวถูกปั้นขึ้นในเวียดนาม มีไว้เพื่อสื่อถึงการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของนักบุญผู้ช่วยเหลือเด็กๆ ยากจน” เขาพูดต่อว่า “ในตอนแรกที่มีการร่างภาพเอาไว้ในกระดาษ เราไม่เห็นเลยว่ารูปปั้นนี้จะสามารถสื่อออกมาในลักษณะการล่วงละเมิดทางเพศได้ จนกระทั่งเราได้เห็นเมื่อถูกปั้นเสร็จแล้วและนำมาตั้งไว้ในโรงเรียน” อย่างไรก็ตามทางโรงเรียนก็ได้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นและได้คลุมรูปปั้นนั้นเอาไว้ก่อนที่จะถูกรื้อออกไปเพื่อการซ่อมแซมและแก้ไขกลับมาใหม่ให้ตรงตามสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาจริงๆ   ทางโรงเรียนได้นำผ้ามาคลุมเอาไว้ เห็นแค่ขาแบบนี้จะยิ่งทำให้คิดหรือเปล่านะ?   หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำการรื้อถอนรูปปั้นออกไป   หวังว่าพวกเขาจะไม่ได้นำรูปปั้นไปซ่อมแค่ตรงขนมปังหรอกเนาะ   คราวหน้าคราวหลังก็คงต้องตรวจสอบสิ่งต่างๆ กันให้ดี เพราะไม่งั้นมันอาจผิดจากจุดประสงค์ของเราไปก็ได้   ที่มา: buzzfeed

  • หอการค้าญี่ปุ่นเผย กว่า 60% ของบริษัทขนาดเล็ก-กลาง ประสบภาวะขาดคนทำงานอย่างหนัก

    หอการค้าญี่ปุ่นเผย กว่า 60% ของบริษัทขนาดเล็ก-กลาง ประสบภาวะขาดคนทำงานอย่างหนัก

    การมองหางานในประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับชาวต่างชาติ เพราะความแตกต่างของวัฒนธรรมและภาษาที่ใช้ อีกทั้งบริษัทต่างๆ ก็ได้ตั้งมาตรฐานสำหรับพวกเขาเอาไว้สูงมาก แต่ตอนนี้พวกเขาอาจต้องนำเรื่องนี้มาแก้ไขกันใหม่ เมื่อผลสำรวจออกมาว่าบริษัทจำนวนมากในประเทศกำลังขาดแคลนคนทำงานอย่างหนัก จากการศึกษาของฝ่าย หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (หรือเรียกว่า JCCI) บอกว่า กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางของประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานอย่างหนัก     Akio Mimura ประธานฝ่ายดังกล่าวได้เสนอให้รัฐบาลลดมาตรฐานการรับคนต่างชาติเข้าทำงาน เพราะการรับสมัครแต่ชาวต่างชาติที่มีทักษะสูงและเข้มงวด แถมยังต้องมีทักษะการพูดภาษาญี่ปุ่นที่ดีเยี่ยม ทั้งหมดนั้นทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนคนทำงานแบบนี้มากขึ้น     Akio จึงได้แนะนำให้รัฐบาลดึงชาวต่างชาติที่ไม่มีหรือมีทักษะการทำงานต่ำเข้ามาทำในส่วนของอุตสาหกรรมก่อสร้างและการขนส่งคมนาคม เพื่อลดช่องว่างของปัญหานี้ให้เล็กลง นายกรัฐมนตรีของประเทศ Shizo Abe ก็ตั้งใจว่าจะลดมาตรฐานในการรับชาวต่างชาติเข้ามาทำงานลง และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะทำลายความเป็นอยู่ของประชาชนหรือการบริหารประเทศแต่อย่างใด     ขณะเดียวกันชาวเน็ตญี่ปุ่นกลับคิดว่าปัญหาขาดแคลนคนทำงานเกิดจากเงินเดือนที่น้อยนิดมากกว่าเรื่องของชาวต่างชาติ “ผลลัพธ์จะออกมาดีกว่านี้ถ้าหากมีการขึ้นเงินเดือนให้” “การแก้ปัญหาแบบนั้นก็เหมือนกับเรานำเข้าทาสชาวต่างชาติที่สามารถทนรับเงินเดือนอันน้อยนิดได้” “นี่ก็เพราะไม่มีการขึ้นค่าแรงให้กันบ้างเลย ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ทีเถอะ” “บริษัทเล็กและกลางจ่ายเงินเดือนให้น้อยมากๆ จึงไม่แปลกที่จะหาคนเข้ามาทำงานไม่ได้” “ทุกคนเข้าใจมั้ย? พวกเขาก็แค่อยากได้ทาสเข้ามาเท่านั้นเอง!”     ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นก็อาจเป็นได้จากทั้งสองเหตุผล แต่นี่ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวต่างชาติผู้ต้องการเข้าไปทำงานในประเทศนี้ก็ได้   ที่มา: rocketnews24

  • อินโดนีเซียให้เพชฌฆาตเฆี่ยนฟาด ผู้ประพฤติผิดผัว-ผิดเพศ ท่ามกลางสาธารณชน

    อินโดนีเซียให้เพชฌฆาตเฆี่ยนฟาด ผู้ประพฤติผิดผัว-ผิดเพศ ท่ามกลางสาธารณชน

    วันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 เว็บไซต์ Daily Mail ได้มีการนำเสนอภาพของหญิงชายในจังหวะอาเจะฮ์ ประเทศอินโดนีเซีย ถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก โดยจังหวัดอาเจะฮ์ ถือว่าเป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศอินโดนีเซียที่ใช้กฎหมายชารีอะห์ในการปกครอง ทำให้ทุกคนในเมืองนี้เคร่งครัดกับธรรมเนียมประเพณีตามหลักศาสนาอิสลามอย่างมาก และการลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีแบบนี้มีอยู่มานานกว่า 30 ปี และเป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับจากทุกคนในเมืองและกฎหมายก็ได้คุ้มครองในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2005   . .   การกระทำที่ต้องถูกลงโทษก็มีอย่างเช่น หญิงชายที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยาอยู่ด้วยกันตามลำพัง เล่นการพนัน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีอะไรกับคนที่ไม่ใช่คู่แต่งงานของเรา หรือแม้แต่การยืนใกล้กับคนรักมากจนเกินไปในที่สาธารณะเองก็ต้องโดนเฆี่ยนเหมือนกัน ซึ่งผู้ที่ทำการตีคนเหล่านั้นถูกเรียกว่า Algojo โดยจะทำการเฆี่ยนตีประมาณ 10-29 ครั้ง แต่จะร้ายแรงกว่านั้นมากถ้าหากมีใครทำผิดกฎมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน คนคนนั้นต้องถูกเฆี่ยนถึง 100 ครั้ง จำคุกอีก 100 เดือนหรือเสียค่าปรับเป็นทองคำหนัก 1,000 กรัม   .   สิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้ใครหลายคนมองว่าเป็นการลงโทษที่โหดร้าย แต่สำหรับผู้ที่ดูแลเกี่ยวกับความเป็นประเพณีของเมืองนี้กลับมองว่านี่เป็นการลงโทษในระดับปานกลางเท่านั้นเอง ไม่ได้หนักหนาอะไร   . .   เหตุการณ์นี้ก็คงขึ้นอยู่กับความเชื่อและกรอบกฎหมายของแต่ละประเทศ ต่างสถานที่กันก็อาจมองบางสิ่งบางอย่างไม่เหมือนกันก็ได้   ที่มา: dailymail

  • ช่างภาพผู้อยู่เบื้องหลังจอ Window XP ออกเดินทางสร้างตำนานอีกครั้ง กับ 3 วอลเปเปอร์ใหม่!!

    ช่างภาพผู้อยู่เบื้องหลังจอ Window XP ออกเดินทางสร้างตำนานอีกครั้ง กับ 3 วอลเปเปอร์ใหม่!!

    หากจะพูดถึงภาพที่ถูกเห็นมากที่สุดในโลกนั่นก็คงหมายถึงภาพที่ชื่อว่า Bliss ที่ถูกตั้งค่าเป็นภาพพื้นหลังใน Windows XP ที่มีมาตั้งแต่ปี 2001 จึงไม่แปลกที่มันเป็นภาพที่ถูกเห็นบ่อยมากที่สุดเพราะหากคุณเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาเป็นครั้งแรกก็ต้องได้เห็นภาพนี้ก่อนอย่างแน่นอน     แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่าภาพนี้ใครเป็นคนถ่าย? ถ้าอยากรู้ก็เดี๋ยวจะบอกให้ ภาพนี้ถูกถ่ายโดยช่างภาพที่ชื่อ Charles O’Rear โดยเขาเก็บภาพอันสวยงามนี้ได้เมื่อปี 1996 ในเขต Sonoma County รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งในตอนนั้นเขาใช้เพียงแค่กล้องธรรมดาๆ ถ่ายไว้ระหว่างที่ตัวเองกำลังเดินทางไปหาแฟนสาว หลังจากนั้นภาพนี้ก็ได้ถูกส่งไปในบริษัทสื่อกลางขายภาพ Corbis จนกระทั่ง Microsoft ได้มาขอซื้อไปในปี 2000 และนำมันมาใช้เป็นภาพพื้นหลัง Windows XP ในปีต่อมา     จากตอนนั้นก็ผ่านมาได้ 21 ปี ช่างภาพวัย 76 ปีคนนี้ก็ได้เริ่มโปรเจกต์ใหม่ที่ถูกจ้างวานโดยสายการบิน Lufthansa กับชื่อหัวข้อว่า New Angles of America กับการให้ช่างภาพคนนี้ออกไปเก็บความสวยงามต่างๆ มาใช้เป็นภาพพื้นหลังสมาร์ทโฟน Charles บอกว่า “Bliss คือภาพที่มีความหมายกับชีวิตของผมและยังคงจดจำความสวยงามที่ได้ถ่ายกลับมาได้เป็นอย่างดี ในครั้งนี้เป็นความต้องการให้สิ่งสวยงามในลักษณะนั้นได้เข้ามาอยู่บนหน้าจอสมาร์ทโฟน และผมก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการได้สร้างภาพอันน่าประทับใจเหล่านั้น”…

  • โถ่ หมดกัน….อุตส่าห์ไปรอถ่ายทอดสดการระเบิดตึกกว่า 40 นาที พอถึงจุดพีครถเมล์มาขวาง!!

    โถ่ หมดกัน….อุตส่าห์ไปรอถ่ายทอดสดการระเบิดตึกกว่า 40 นาที พอถึงจุดพีครถเมล์มาขวาง!!

    สนามกีฬา Georgia Dome ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงมากจากการเคยจัดโอลิมปิกในปี 1996 และเป็นสนามของทีมอเมริกันฟุตบอล Atlanta Falcons ล่าสุด อาคารดังกล่าวได้ถูกทุบทิ้งเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2017 เพื่อใช้พื้นที่สร้างสนามกีฬา Mercedez-Benz สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้คนจำนวนมาก รวมถึงผู้สื่อขาวจากหลายสำนักเข้าไปเก็บภาพสุดท้ายของสนามแห่งความทรงจำอายุกว่า 25 ปีแห่งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือทีมงานจากช่อง The Weather โดยช่างภาพได้ไปตั้งกล้องเอาไว้ในจุดที่เขาคิดว่าเห็นการระเบิดชัดมากที่สุด รออยู่อย่างนั้นนานกว่า 40 นาที แต่เมื่อกำลังมาถึงจุดไคลแมกซ์ของการระเบิด สิ่งไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นจนเขาถึงกับต้องอุทานออกมาว่า “สลัดเอ๊ย!!”   ช่างภาพจากช่อง The Weather ตั้งกล้องเอาไว้ในมุมที่น่าจะเห็นการถล่มของอาคารได้อย่างชัดแจ๋ว รออยู่อย่างนั้นนานกว่า 40 นาที   ตรงหลังคาเริ่มมีฝุ่นควันลอยออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าการระเบิดได้เริ่มขึ้นและอาคารกำลังจะถล่มในไม่ช้า แต่เดี๋ยวก่อนนะรถบัสนั่นขับมาจากไหนกัน   ขับผ่านกล้องยังพอเข้าใจ แต่นี่คนขับเล่นจอดบังอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหนเลยเนี่ยสิ “เฮ้ยยย คนขับหลบไปก๊อนนน”   สุดท้ายแล้วรถบัสคันนั้นก็จากไป ทิ้งไว้เพียงแค่ฝุ่นควัน พร้อมกับคำสบถของช่างกล้องที่ลั่นออกมาว่า “แม่มเอ๊ยยย นี่มันเ_ี้ยไรฟะเนี่ย”  …

  • 13 ภาพความผูกพันธ์และเรื่องราวระหว่างพี่สาว-น้องสาว ที่แตกต่างกันออกไป

    13 ภาพความผูกพันธ์และเรื่องราวระหว่างพี่สาว-น้องสาว ที่แตกต่างกันออกไป

    ผู้หญิงคนไหนที่มีพี่สาวหรือน้องสาวก็จะเข้าใจได้ดีถึงความละเอียดอ่อนในเรื่องความสัมพันธ์ของตนเองกับพี่น้อง การใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเต็มไปด้วยความรู้สึกร่วมกันหลายๆ อย่างทั้งความเชื่อใจ การแข่งขัน ความรัก ความเข้าใจกัน และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ทำให้พี่น้องของแต่ละครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันไป ความสัมพันธ์ในลักษณะนั้นเราสามารถรู้สึกผ่านเรื่องราวของพี่สาวน้องสาวเหล่านี้ ที่ถูกบันทึกลงไปในหนังสือที่ชื่อว่า Sisters จากฝีมือของนักเขียน Emma Finamore และช่างภาพ Sophie Harris-Taylor ที่ได้ถ่ายทอดความสัมพันธ์ของพวกเธอผ่านบทสัมภาษณ์และรูปภาพที่สะท้อนให้เห็นในหลายๆ อย่าง ว่าแล้วก็ชวนให้พวกเราทุกคนไปได้รับรู้ความสัมพันธ์เหล่านั้นร่วมกันเลย   Anna (อายุ 28 ปี) และ Kate (อายุ 37 ปี) พวกเธออยู่ห่างออกไปกันในคนละประเทศ Kate อยู่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ Anna อยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ การเติบโตของทั้งสองแตกต่างกันมากเพราะคนน้องเป็นที่รักของคนในสังคมและสนิทกับคนในครอบครัว ขณะเดียวกันคนพี่กลับเป็นเหมือนแกะดำภายในบ้านและชอบอยู่ตัวคนเดียว Kate พูดถึงน้องสาวเธอว่า “ฉันรู้สึกอิจฉาเธอแต่ไม่ได้รู้สึกในแง่ลบนะ ฉันคิดว่าเธอเป็นคนตลกและมีความสามารถ เป็นคนสวย ฉันอิจฉาที่เธอสูงกว่าและมีกระมากกว่า” Anna เองก็รู้สึกแบบเดียวกับพี่ของเธอ “ฉันอิจฉาพี่สาวที่ดูดีกว่าฉัน มีพรสวรรค์มากกว่า เธอเป็นคนฉลาดและประสบความสำเร็จมากกว่าใครในครอบครัว”   Anne (อายุ 62 ปี) และ…

  • คุณแม่เตือนชาวเน็ต หยุดส่งลูกป่วยไปโรงเรียนเสียที เพราะอาจเกิดอันตรายกับเด็กคนอื่นๆ ได้!

    คุณแม่เตือนชาวเน็ต หยุดส่งลูกป่วยไปโรงเรียนเสียที เพราะอาจเกิดอันตรายกับเด็กคนอื่นๆ ได้!

    ในตอนที่เด็กไม่สบายพ่อแม่บางคนจะให้ลูกได้นอนอยู่บ้านพักผ่อน แต่กับพ่อแม่บางคนกลับปล่อยให้ลูกได้ไปโรงเรียนตามปกติ ซึ่งการปล่อยให้เด็กที่ป่วยอยู่ไปโรงเรียนเล่นกับเเพื่อนๆ ก็อาจทำให้เด็กคนอื่นๆ ติดเชื้อได้ และเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้คุณแม่ชาวแคนาดาที่มีชื่อว่า Maria Jordan MacKeigan รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เธอคนนี้ได้โพสต์ลงในนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 เพื่ออธิบายความรู้สึกของตัวเอง หลังจากที่ลูกสาวผู้ป่วยเป็นออทิสติกของเธอ Jordan Grace ได้ไปติดไข้หวัดมาจากเพื่อนในโรงเรียนและด้วยความที่เธอมีภูมิคุ้มกันต่ำจึงทำให้เด็กน้อยถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาลในทันที   โพสต์ของ Maria บอกว่าลูกสาวของเธอได้ติดเชื้อหวัดมาจากเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียน ทำให้ลูกสาวผู้ป่วยเป็นออทิสติกและมีภูมิคุ้มกันต่ำ จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล   Grace ลูกสาวของเธอที่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล   เธอรู้สึกไม่ดีเวลาที่พ่อแม่คนอื่นๆ ปล่อยให้ลูกที่กำลังป่วยของตนเองมาโรงเรียน เพียงเพราะว่ามีงานหลายอย่างต้องทำ แทนที่จะดูแลลูกๆ ของตัวเองเป็นอันดับแรก เพราะเด็กต้องการการเอาใจใส่และความอบอุ่นจากผู้ปกครอง อย่าลืมว่าโรงเรียนไม่ใช่สถานดูแลเด็ก   อีกอย่างที่เธอบอกให้ทุกคนได้คำนึงถึงก็คือการปล่อยให้เด็กป่วยมาโรงเรียน เท่ากับว่าเป็นการทำให้เด็กคนอื่นๆ ต้องเสี่ยงกับอาการป่วยนั้นๆ ไปด้วย และอาจเป็นหนักเหมือนกับลูกสาวของเธอเลยก็ได้   ลูกสาวที่น่ารักของเธอป่วยเป็นออทิสติกและมีภูมิคุ้มกันต่ำตั้งแต่กำเนิด .   คนเป็นแม่ย่อมรักลูกของตัวเอง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอออกมาโพสต์แบบนี้และต้องการให้พ่อแม่ทุกคนหยุดความคิดที่จะปล่อยให้ลูกที่กำลังป่วยไปโรงเรียน   ต้องย้ำว่าลูกสาวของเธอในตอนแรกมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี แต่เข้าโรงพยาบาลหลังจากได้รับเชื้อหวัดจากเด็กในโรงเรียน   หลายๆ คนที่เข้ามาอ่านโพสต์ของเธอก็รู้สึกเห็นด้วยกับความคิดนี้  …

  • 8 เหตุผลเพื่ออธิบายทฤษฎี ‘กระเพาะหลุมดำ’ ทำไมถึงรู้สึกหิวและหยุดกินไม่ได้ซักที

    8 เหตุผลเพื่ออธิบายทฤษฎี ‘กระเพาะหลุมดำ’ ทำไมถึงรู้สึกหิวและหยุดกินไม่ได้ซักที

    เพื่อนๆ หลายคนอาจเคยมีอาการที่เรียกว่า “กระเพาะหลุมดำ” ทำให้เรารู้สึกหิวอยู่ตลอดเวลา อยากกินโน่นกินนี่ไปซะหมด เห็นของกินแล้วมันก็อดไม่ได้จริงๆ แล้วอยากรู้กันบ้างมั้ยว่าทำไมเราถึงได้มีอาการแบบนั้น? ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองเลื่อนลงไปอ่านดู เพราะวันนี้ #เหมียวตะปู จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้หิวอยู่ตลอดเวลากับ “8 เหตุผลที่ทำให้คุณรู้สึกหิวและไม่อาจหยุดกินได้” อย่ารอช้าไปดูกันเลย   นอนดึกเกินไป   การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอในตอนกลางคืนเป็นสิ่งที่ทำให้ฮอร์โมนเกรลินเพิ่มขึ้นจนเกิดความรู้สึกหิวขึ้นมา และลดฮอร์โมนเล็ปตินที่ทำให้เรารู้สึกอิ่ม นอกจากนั้นยังเป็นตัวกระตุ้นสารเคมีในเลือดของเราจนทำให้ต้องการกินโน่นกินนี่อยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาการเดียวกันนี้สามารถเจอได้ในกัญชา จากการศึกษาพบว่าผู้ที่นอนเพียง 4 ชั่วโมงจะไม่สามารถหยุดกินจุกจิกได้แม้จะกินอาหารมื้อหนักไปแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นเราจึงควรนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมง เพื่อหยุดพฤติกรรมการกินและช่วยลดน้ำหนักของเราในขณะที่หลับได้ดี   ลักษณะของการกินอาหารเช้า   การรับประทานอาหารเช้าที่มีโปรตีนต่ำหรือการไม่กินอาหารเช้า ทั้งสองอย่างนี้จะทำให้คุณไม่สามารถควบคุมความหิวของตัวเองได้ จากการศึกษาเมื่อนำคนในลักษณะนั้นมาเปรียบเทียบกับคนที่ทานอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงพบว่า คนในกลุ่มที่สองสามารถควบคุมแรงจูงใจในการกินของตัวเองได้ดีกว่า   กินแต่อาหารไขมันต่ำหรือไม่มีไขมัน   การกินอาหารแบบนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่่ช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว แต่เราควรกินมันเข้าไปบ้างเพื่อให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม เพราะไขมันก็เหมือนกับโปรตีนหรือไฟเบอร์ที่ช่วยทำให้เรารู้สึกอิ่มได้จริงๆ โดยเราสามารถกินไขมันดีได้ในน้ำมันมะกอก ถั่ว หรือพวกอาโวคาโด   น้ำคือสิ่งจำเป็น   จากการศึกษาพบว่าการดื่มน้ำมากกว่า 3 แก้วต่อวันสามารถช่วยลดแคลอรี่ลงไปได้มากถึง 205 แคลอรี่ และในความเป็นจริงความรู้สึกหิวของเราอาจมาจากความกระหายน้ำก็ได้ ดังนั้นเราควรจิบหรือดื่มน้ำอยู่เสมอเพื่อให้ร่างกายของเราไม่ขาดน้ำ   เครียดกับสิ่งเล็กๆ…

  • อาจารย์ผู้วาด ‘ซามูไรพเนจร’ ถูกตำรวจเข้าจับกุม ฐานครอบครองสื่อลามกเด็ก…

    อาจารย์ผู้วาด ‘ซามูไรพเนจร’ ถูกตำรวจเข้าจับกุม ฐานครอบครองสื่อลามกเด็ก…

    การ์ตูนญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Rurouni Kenshin หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ ซามูไรพเนจร กับเรื่องราวของพระเอกหนุ่มซามูไรในยุคสมัยเมจิ ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ได้ถูกเผยแพร่มาตั้งแต่ปี 1994 ก่อนที่จะจบลงไปสร้างความประทับใจให้กับใครหลายๆ คน และตอนนี้ภาคต่อความสนุกของการ์ตูนเรื่องนี้ก็ได้มีออกมาในเดือนกันยายนปี 2017   ซามูไรพเนจร การ์ตูนเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน   แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจกันไปเพราะเว็บไซต์ comicbook ได้เผยแพร่ข่าวออกมาในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2017 เมื่อนักเขียน Nobuhiro Watsuki ผู้สร้างสรรค์ผลงานเรื่องนี้ได้ถูกตำรวจกรุงโตเกียวจับกุมตัวหลังจากที่พบ “แผ่นหนังโป๊เด็ก” จำนวนมากในบ้านของเขา   Nobuhiro Watsuki นักเขียนการ์ตูนผู้ถูกจับกุมข้อหาครอบครัวสื่อลามกที่มีเด็กเป็นตัวแสดง   เขาถูกจับกุมเมื่อเดือนตุลาคม 2017 โดยตำรวจได้แกะรอยที่อยู่ของเขาจากการสั่งซื้อแผ่นหนังผิดกฎหมายดังกล่าว และเมื่อไปค้นบ้านของเขาก็พบแผ่นหนังในลักษณะเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ Nobuhiro ต้องไปนอนกินข้าวแดงอยู่ในคุกและเสียค่าปรับไปอีกกว่า 290,000 บาท ส่วนทางสำนักพิมพ์ Shueisha ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย     ก่อนหน้านี้ก็เคยมีซามูไรพเนจรแบบไลฟ์แอคชั่น   เมื่อเป็นอย่างนี้ความฝันที่จะได้อ่านภาคต่อของการ์ตูนเรื่องนี้ก็อาจต้องเลื่อนไปก่อนล่ะนะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่านักเขียนจะสามารถทำผลงานในคุกแล้วส่งออกมาให้ทางสำนักพิมพ์ได้หรือเปล่า   ที่มา: comicbook

  • ไอเดียสุดเก๋ไก๋ เปลี่ยน ‘ตู้โทรศัพท์’ ให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มที่ให้บริการแบบฟรีๆ

    ไอเดียสุดเก๋ไก๋ เปลี่ยน ‘ตู้โทรศัพท์’ ให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มที่ให้บริการแบบฟรีๆ

    ตู้โทรศัพท์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว เพราะสมัยนี้ใครๆ ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น แต่สองสามีภรรยาเจ้าของโรงแรมในประเทศสก็อตแลนด์กลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะพวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนมันให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มสุดเก๋ไก๋ นี่เป็นไอเดียของ David Wilson และภรรยา เจ้าของโรงแรมและร้านอาหารสไตล์บูติกที่ชื่อว่า Kilberry Inn ในเขต Argyll และ Bute ประเทศสก็อตแลนด์ พวกเขาตัดสินใจแปลงโฉมตู้โทรศัพท์สีแดงที่ซื้อมาในราคา 43 บาทให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มที่น่าจะเล็กที่สุดในโลก   บาร์เล็กๆ ที่ดัดแปลงมาจากตู้โทรศัพท์ที่ไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้วในปัจจุบัน   ไอเดียนี้เกิดขึ้นเพราะพวกเขาคิดว่าการต้องจ่ายเงิน 17,000-21,000 บาทต่อปีสำหรับให้โทรศัพท์ในตู้ใช้งานได้นั้น เป็นสิ่งที่ดูไม่ค่อยคุ้มค่าซักเท่าไหร่ ก็เลยจัดการดัดแปลงมันซะเลย ในตอนแรกบาร์เครื่องดื่มเล็กๆ แห่งนี้ได้แจกจ่ายเหล้าวิสกี้ท้องถิ่นให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ แต่ปัจจุบันพวกเขาได้เปลี่ยนมาใช้เหล้าจินที่นำมาจากหลายๆ ที่ เช่นเหล้าจินของเกาะ Harris หรือ จากเกาะ Jura เจ้าบาร์ที่มีชื่อว่า The Wee Bar นี้ตั้งอยู่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าของโรงแรม โดยสามารถจุคนได้เพียงแค่ 3 คนและเครื่องดื่มที่มีอยู่ด้านในทั้งหมดนั้นก็สามารถเข้าไปดื่มได้ฟรี!! แต่เฉพาะลูกค้าของโรงแรมเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนนอกก็หมดสิทธิ์จ้า   ถ้ายัดเข้าไป 4 คนแบบนี้ก็ดูอึดอัดเกินไปหน่อยนะ   David ตั้งใจว่าจะส่งเรื่องนี้ไปบันทึกลงในสถิติของกินเนสบุ๊กว่าเป็นบาร์เหล้าที่เล็กที่สุดในโลก และมันอาจได้เป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ตที่เล็กที่สุดในโลกอีกด้วยก็ได้…

  • เจ้านายเหมียวจะคิดถึงเหล่าทาสอย่างเรามั้ยเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน? คำตอบนั้นอยู่ที่นี่แล้ว

    เจ้านายเหมียวจะคิดถึงเหล่าทาสอย่างเรามั้ยเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน? คำตอบนั้นอยู่ที่นี่แล้ว

    เหล่าทาสแมวทั้งหลายอาจเคยสงสัยว่าเจ้านายเหมียวของเรานั้นรู้สึกอย่างไรกับเรา ยิ่งเวลาที่เราต้องออกจากบ้านหรือห่างมันไปนานๆ แล้วมันคิดถึงเรามากเหมือนกับที่เราคิดถึงมันหรือเปล่านะ? ด้วยคำถามนี้จึงได้มีงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับความรู้สึกของน้องเหมียวออกมาหาคำตอบกัน ดอกเตอร์ Elizabeth Stelow คือหัวหน้าทีมผู้ศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย และเป็นผู้ที่มาให้คำตอบกับคำถามที่ว่านั้นกัน โดยเธอได้พูดถึงข้อสังเกตที่ทำให้เราพอจะทราบได้ว่าเจ้าเหมียวคิดถึงเราหรือเปล่า?     ข้อสงสัยนี่เป็นสิ่งที่ยังคงมีการถกเถียงอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวกับความรู้สึกของน้องแมว Elizabeth เล่าว่าได้มีการศึกษาหนึ่งพูดถึงข้อสังเกตง่ายๆ ว่าแมวรู้สึกหดหู่หรือเป็นกังวลอยู่หรือเปล่า โดยถ้าพวกมันรู้สึกอย่างนั้น ส่วนใหญ่ก็จะฉี่นอกกระบะทรายหรืออาจมีพฤติกรรมทำลายข้าวของ นั่นคือถ้าเรากลับบ้านไปแล้วเห็นรอยฉี่ของน้องเหมียวตามพื้นบ้านหรือมีของเสียหายไปบ้าง นั่นอาจหมายความว่ามันรู้สึกหดหู่ในตอนที่เราหายไปก็เป็นได้ อย่างการพังโน่นพังนี่ก็อาจเป็นการแก้แค้นเราที่ทิ้งมันไว้อยู่บ้านคนเดียว แต่อีกการศึกษาหนึ่งที่เธอพูดถึงกลับแสดงให้เห็นว่าแมวไม่ได้มีความผูกพันกับเจ้าของ เพราะว่าพวกมันมีท่าทีตอบสนองกับทั้งเจ้าของและคนแปลกหน้าเหมือนๆ กันหมด     แม้ว่าการศึกษาทั้งสองงานขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ Elizabeth ก็ได้บอกว่าความเป็นจริงเราสามารถรู้ได้เลยว่าเจ้าเหมียวนั้นให้ความสนิทสนมกับแต่ละคนไม่เหมือนกันจริงๆ อย่างเช่นเรามีแมวบ้านอยู่ 3 ตัวก็ไม่จำเป็นที่เจ้าเหมียวทั้งหมดนั้นจะต้องสนิทกับเราทุกตัวก็ได้หรอกนะ และถ้าหากคุณรู้สึกว่าตัวเองมีความผูกพันกับมันขึ้นมาเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่ามันก็คิดเหมือนกับคุณเช่นเดียวกัน สังเกตได้จากพฤติกรรมชอบเดินเข้ามาในห้องน้ำที่เรากำลังปลดทุกข์อยู่ หรือไม่ก็ขึ้นมานอนด้วยกันบนเตียงอะไรแบบนี้ ทำขนาดนี้แล้วถ้าคุณยังคิดว่ามันไม่รักเราจริงๆ ก็แปลกแล้วล่ะจริงมั้ย     อย่างไรก็ตามการจะวัดความรู้สึกหรืออารมณ์ที่แท้จริงของเจ้าเหมียวนั้นก็เป็นไปได้ยากมาก เพราะมันพูดภาษาคนไม่ได้และก็ไม่ได้มีพฤติกรรมเหมือนน้องหมาที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร หรือรู้สึกประมาณไหนกับเรา     ทั้งหมดนี้จึงเป็นข้อสังเกตที่สามารถใช้ได้จริงในระดับหนึ่ง แต่ถึงแม้เราจะไม่รู้ใจมันทั้งหมดแต่เราก็ต้องอย่าลืมที่จะแสดงความรักให้กับมันด้วยนะ เพราะถึงอย่างไรเราก็ได้ตกไปเป็นทาสของมันแล้วนี่นาจริงมั้ย   ที่มา: thedodo

  • รวมภาพเหล่า “เจ้าของบ้านผู้ทรนง” ต่อให้นายทุนกว้านซื้อที่รอบๆ แค่ไหน ก็ยืนหยัดไม่ยอมย้าย!!

    รวมภาพเหล่า “เจ้าของบ้านผู้ทรนง” ต่อให้นายทุนกว้านซื้อที่รอบๆ แค่ไหน ก็ยืนหยัดไม่ยอมย้าย!!

    เชื่อว่าหลายๆ คนเคยมีประสบการณ์ถูกนายทุนเสนอราคาซื้อบ้าน เพื่อนำพื้นที่ไปสร้างห้างสรรพสินค้าหรือทำถนนหนทาง คนส่วนใหญ่ก็มักจะยอมรับในข้อเสนอนั้นๆ เพราะเงินที่เราจะได้รับจากการย้ายออกอยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสูง แต่สำหรับบางคนก็อาจไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ ต่อให้เงินมากแค่ไหนก็ไม่สามารถซื้อบ้านเขาไปได้ สุดท้ายแล้วบ้านที่ไม่ยอมย้ายไปไหนก็ต้องอยู่ท่ามกลางห้างสรรพสินค้าหรือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สร้างล้อมรอบ เช่นเดียวกับภาพเหล่านี้ที่ชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์ลงในเว็บไซต์ Boredpanda กับเจ้าของบ้านสุดรั้นที่ต่อให้มีตึกมาล้อมสูงเพียงไหนก็ไม่ยอมย้ายหนีไปเลยจริงๆ เราไปดูกันเลยว่าแต่ละหลังต้องตกอยู่ในสภาพไหนกันบ้าง   เจ้าของบ้าน Edith Macefield ปฏิเสธข้อเสนอที่จะซื้อบ้านของเธอในราคากว่า 32 ล้านบาท และต่อมาบ้านหลังนี้ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนังเรื่อง UP   Mary Cook ไม่ยอมขายบ้านของเธอ จึงทำให้เธอได้เจอเพื่อนบ้านกลุ่มใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว   Vera Coking ในครั้งแรกเธอไม่ยอมขายบ้านให้กับคนที่ต้องการจะนำเพื่อสร้างเป็นคาสิโน ต่อมาเธอก็ได้ปฏิเสธข้อเสนอของ Donald Trump อีกด้วย   ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ก็มีบ้านที่ไม่ยอมขายให้กับใครอยู่เหมือนกัน   บ้านแฝดที่ไม่ยอมขายให้ใครจนถึงกับต้องหั่นครึ่งเก็บไว้ ในเมืองโตรอนโต้ ประเทศแคนาดา   บ้านนี้เจ้าของยอมย้ายออกนะ แต่ไม่ยอมขายบ้านปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น แสดงถึงการต่อต้านของผู้อยู่อาศัยที่มีต่อการสร้างถนนไฮเวย์ของรัฐบาลในประเทศจีน   เมืองกวางโจว ประเทศจีน กับถนนวงแหวนที่ล้อมรอบอพาร์ตเม้นท์เอาไว้เนื่องจากสามครอบครัวที่อาศัยอยู่ในนั้นไม่ยอมย้ายออก   บ้านของ Austin Spriggs ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในครั้งแรกปฏิเสธการเสนอซื้อในราคากว่า…

  • ตั๊กแตนตัวผู้ สุดยอดเสียสละ แม้ถูกตัดหัวจากตัวเมียก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ

    ตั๊กแตนตัวผู้ สุดยอดเสียสละ แม้ถูกตัดหัวจากตัวเมียก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ

    เรื่องราวน่าทึ่งของสิ่งมีชีวิตยังมีอีกหลายสิ่งที่หลายๆ คนอาจไม่เคยรู้มาก่อน อย่างเช่นเรื่องที่ ตั๊กแตน เป็นแมลงที่กินพวกเดียวกันเป็นอาหารราวกับชนเผ่ามนุษย์กินคน และที่เจ๋งยิ่งกว่านั้นก็คือแม้ตัวเมียจะกินหัวของตัวผู้ไปแล้วในตอนที่กำลังมีอะไรกันอยู่ เจ้าตัวผู้ก็ยังคงสามารถร่วมรักต่อไปได้จนเสร็จ!! สิ่งนี้สามารถพบเจอได้ในหุบเขา Owen รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยในฤดูร้อนจะเป็นช่วงผสมพันธุ์ของเหล่าตั๊กแตน ทางช่อง Deep Look ในยูทูบจึงได้ไปตามเก็บภาพการผสมพันธุ์ของพวกมันและความสุดยอดของตัวผู้ตัวหนึ่ง   ถึงจะไม่มีหัว แต่ปั๋วก็จะทำให้สำเร็จ   คลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2017 นี้ เผยให้เห็นภาพของตั๊กแตนตัวเมียที่หลอกล่อให้เหล่าตัวผู้เข้ามาผสมพันธุ์กับมัน ก่อนที่จะกินตัวผู้เหล่านั้นเป็นอาหาร ด้วยเหตุผลที่ว่าตัวเมียต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมากในการผลิตไข่กว่าร้อยฟองในท้อง ในคลิปเห็นได้ว่าตัวผู้จำนวนมากถูกกินไปเพื่อเป็นพลังงานให้กับตัวเมีย จนกระทั่งในนาทีที่ 3.00 ก็มีตัวผู้ตัวหนึ่งสามารถเข้ามาผสมพันธุ์ได้สำเร็จโดยไม่ถูกกิน แต่ผ่านไปไม่นานมันก็ถูกกินหัวขณะที่กำลังร่วมรักอยู่ แต่เรื่องที่น่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้นเพราะถึงแม้ว่าหัวของมันขาดไปแล้ว แต่มันก็ยังคงฉีดอสุจิเข้าไปในร่างกายของตัวเมียอย่างไม่ยอมแพ้และร่างกายก็ยังขยับได้อยู่อีกด้วย   คลิปการผสมพันธุ์ของเจ้าตั๊กแตน   เหตุผลที่ตัวผู้ตัวนั้นยังคงขยับได้อยู่ก็เพราะว่าตั๊กแตนมีระบบประสาทอยู่บริเวณท้องเอาไว้ควบคุมการเคลื่อนไหว จึงทำให้ส่วนหัวไม่ได้จำเป็นสำหรับเรื่องนี้ จากสิ่งนี้อาจทำให้หลายๆ คนมองว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตอันป่าเถื่อน แต่ถึงอย่างไรมันก็มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ไม่เชื่อก็ลองไปดูกันเลย   บิ๊กไบค์หรือจะมาสู้แมงกะไซค์ตั๊กแตน   วอนพระผู้เป็นเจ้าช่วยให้ข้าสมหวังเหมือนไอ้เจ้าหัวขาดด้วยเถิด   ตั๊กแตน Giant Devil’s Flower หนึ่งในสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด  …

  • ความรักจากรุ่นสู่รุ่น ของครอบครัวคู่บ่าวสาวที่แม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ความหวานก็ยังคงเดิม

    ความรักจากรุ่นสู่รุ่น ของครอบครัวคู่บ่าวสาวที่แม้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน ความหวานก็ยังคงเดิม

    ภาพงานแต่งที่เราเห็นกันจนชินตาคือภาพของคู่บ่าวสาวยืนจูบกัน แต่สิ่งที่เราได้เห็นจากฝีมือของช่างภาพสาว Ashley Abel กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะในรูปงานแต่งกลับมีคนยืนจุบกันมากถึง 3 คู่ นี่เป็นภาพงานแต่งของเจ้าสาว Kalin และเจ้าบ่าว Matt Haley วัย 28 ปี โดยพวกเขาได้แต่งงานกันในวันที่ 7 ตุลาคมและได้พาครอบครัวไปถ่ายรูปกันที่อดีตอู่ต่อเรืออันเก่าแก่ The Lace Factory ตั้งอยู่ในเมืองดีบริเวอร์ รัฐคอนเน็กติคัต สหรัฐอเมริกา   สถานที่ที่เหมาะแก่การเก็บภาพความทรงจำดีๆ ของทั้งสอง   ทั้งคู่ได้เฉลิมฉลองและถ่ายรูปให้กับความสัมพันธ์ที่มีกันมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี และในรูปภาพทั้งหมดที่ถูกถ่ายโดย Ashley ได้มีรูปหนึ่งที่ดูโดดเด่นกว่ารูปไหนอื่นๆ นั่นคือภาพที่คู่บ่าวสาวยืนจูบกันอยู่บนรางรถไฟ ในขณะที่ด้านขวามีพ่อแม่ของเจ้าสาวที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่า 30 ปี ส่วนทางด้านซ้ายเป็นพ่อแม่ของเจ้าบ่าวที่แต่งงานกันมานานกว่า 50 ปี ซึ่งทั้ง 3 คู่นั้นได้ทำท่าทางแสดงความรักออกมาในลักษณะเดียวกัน   เปรียบเหมือนความรักที่บอกผ่านจากรุ่นสู่รุ่นของทุกคนในครอบครัว   Kalin เล่าว่า “นี่เป็นไอเดียของ Ahley ที่เสนอขึ้นมา ในตอนแรกพ่อแม่ของพวกเรารู้สึกเขินและไม่กล้าทำแบบนี้ แต่เมื่อพ่อของฉันได้ประคองแม่เอาไว้ พ่อของ…

  • ชุดภาพพิสูจน์ความรัก ว่าแท้ที่จริงแล้วพวกสัตว์น่ะ รัก (อาหาร) เรามากกกขนาดไหน!!

    ชุดภาพพิสูจน์ความรัก ว่าแท้ที่จริงแล้วพวกสัตว์น่ะ รัก (อาหาร) เรามากกกขนาดไหน!!

    พวกเราอาจเคยเจอน้องหมาหรือน้องแมวส่งสายตาบ๊องแบ๊วมาให้ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู จนทำให้เราคิดว่าพวกมันต้องตกหลุมรักเราอย่างแน่นอน แต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น!! เพราะพวกมันไม่ได้แสดงความรักกับเราแต่มันแสดงความรักกับ “อาหาร” ของเราต่างหาก ซึ่งภาพเหล่านี้สามารถพิสูจน์ความจริงของพวกมันได้อย่างชัดเจนเลยว่า มนุษย์อย่างเราๆ เป็นเพียงแค่สิ่งที่อยู่นอกสายตาของพวกมันเท่านั้นแหละ   ก็ถ้าทำให้ขนาดนี้ ผมก็ไม่ไปไหนแล้วแหละครับ   นั่นคืออะไรอ่ะป๊ะป๋า ผมขอชิมหน่อยได้มั้ย   มองมาเพียงเพราะต้องการอาหารข้างหน้าแค่นั้นแหละ   ฮึ่มมม อย่าเผลอเชียวนะ   เอามานี่เดี๋ยวนี้นะเจ้ามนุษย์   ขาโต๊ะอย่ามารั้งข้าไว้สิ   เปิดให้ข้าเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ อย่าให้ต้องใช้กำลัง   เจ้านายไม่อยู่แบบนี้ก็ต้องเลียจองไว้ก่อนล่ะ   เหลือแค่กระดูกก็ส่งมาให้ผมสิ   เรียกร้องความสนใจของทาสมนุษย์ไปก่อนนะ เดี๋ยวข้าพุ่งไปแย่งอาหารมาเอง   เขาว่ากิินว่ากินปลาแล้วจะทำให้ฉลาดนี่นา   นั่งมองขนาดนี้แล้ว ใจคอจะไม่ส่งมาให้จริงๆ หรือเนี่ย   แฮ่กๆ.. ชิ้นเดียวข้าก็จะเอา   ฟิดๆ กลิ่นดีจังเลยนะชิ้นนี้เนี่ย   เจ้ามนุษย์ใจโหด ไม่ยอมแบ่งข้าเลยซักนิด   ใช้พลังจิตเพ่งไปที่ขนมปังชิ้นนั้นให้เคลื่อนตัวมาหาข้า   โลกสดใสเสมอเมื่อได้เจอกับอาหาร   เมื่อเจ้าอิ่ม…

  • 9 วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ในการเพิ่ม ‘ความมั่นใจ’ ให้กับตัวเราเองได้ง่ายๆ

    9 วิธีการทางวิทยาศาสตร์ ในการเพิ่ม ‘ความมั่นใจ’ ให้กับตัวเราเองได้ง่ายๆ

    ความมั่นใจในตัวเองเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคน เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้การใช้ชีวิตของเราสามารถดำเนินไปได้ดีกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นหลายๆ คนก็ยังคงขาดสิ่งนี้ไปและไม่รู้ว่าควรสร้างหรือพัฒนาความมั่นใจของเราอย่างไร ในบทความนี้เราจึงมาพูดถึงวิธีการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองที่ใครก็สามารถทำได้ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถก้าวเดินต่อไปกันได้อย่างมีความสุขมากกว่าเดิม เพื่อนๆ ลองไปศึกษาดูกันเลย   ท่านั่งและการมองขึ้นไปด้านบน การนั่งหลังตรงจะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนและลดฮอร์โมนคอร์ติซอลลง นั่นหมายความว่ามันทำให้เรามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการติดรูปไว้บนฝาด้านตรงข้ามเพื่อให้เราได้เงยหน้ามองขึ้นไปสูงเหนือระดับสายตาเล็กน้อยก็ช่วยให้เกิดผลลัพธ์เดียวกันได้   เอามือเท้าเอวหรือเอาเท้าวางไว้บนโต๊ะ ประสานมือหนุนศีรษะ หลายคนเคยคิดว่าการเอามือเท้าเอวหรือนั่งแบบท่าทางนักเลงๆ อย่างการเอาเท้าวางไว้บนตัวแล้วประสานมือไว้หลังศีรษะ ท่าทางแบบนั้นต้องเป็นคนที่มีความมั่นใจเท่านั้นถึงจะทำได้ แต่ในความเป็นจริงสองท่านี้มีไว้ให้สำหรับคนทั่วๆ ไปเพิ่มความมั่นใจต่างหากละ .   ผ่อนคลายและจริงใจกับตัวเราเอง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เรามีความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้นก็คือการเห็นคุณค่าในตัวเราเอง แต่อย่าพยายามหลอกตัวเองว่าเราเป็นคนที่เพอร์เฟ็กต์ไปซะทุกเรื่อง จงยอมรับและเข้าใจในข้อผิดพลาดของตัวเองและมองว่าเราเองก็เป็นคนที่มีคุณค่า รักตัวเองให้เหมือนกับที่เรารักคนอื่นๆ   ลบประโยค “นี่คือชีวิตของฉัน” และ “สิ่งนี้เกิดขึ้นกับฉันอยู่เสมอ” ออกไปจากหัว ความคิดแบบนั้นเป็นตัวที่ทำให้เรามองว่าตัวเองเป็นคนโชคร้ายหรือต้องเจอแต่เรื่องร้ายๆ อยู่คนเดียว ทำลายความมั่นใจของเราไปเรื่อยๆ ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย จงเปลี่ยนไปใช้ความคิดที่ว่า “สิ่งที่เราเจอเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนอยู่แล้ว”   ขณะที่รู้สึกหวาดกลัว จงคิดถึงความตื่นเต้นของตัวเรา อย่าไปคิดถึงความวิตกกังวล ยกตัวอย่างเวลาที่เราออกไปพูดหน้าห้องประชุมแล้วรู้สึกกลัวหรือประหม่า ให้พยายามคิดว่าเรารู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่ทำและอย่าคิดว่าเรากลัวหรือวิตกกังวล จงมองว่ามันเป็นเรื่องสนุกที่เราได้ออกมาทำในสิ่งนี้   หมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ การออกกำลังกายคือสิ่งที่ทุกคนทราบกันอยู่แล้วว่ามันดีต่อสุขภาพของเรา อีกทั้งมันยังช่วยให้เรามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย   มองหาสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น สิ่งเล็กๆ น้อยๆ…

  • 20 ภาพความตั้งใจของพนักงานทั้งหลาย เชิญรับรางวัลพนักงานดีเด่นประจำปีไปเล๊ยยย!!

    20 ภาพความตั้งใจของพนักงานทั้งหลาย เชิญรับรางวัลพนักงานดีเด่นประจำปีไปเล๊ยยย!!

    การทำงานด้วยความเต็มที่และตั้งใจเป็นสิ่งที่ดีและน่ายกย่อง แต่ในบางครั้งถ้าทุ่มเทให้กับงานมากจนเกินไปก็อาจเกิดความเบลอ หรือมึนงงจนกลายเป็นความมผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับพวกเขาเหล่านี้ นี่คือภาพผลงานของคนที่หักโหมให้กับการทำงานมากจนเกินไป จนแสดงออกมาให้เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาพยายามกันมากขนาดไหน เห็นแล้วก็อยากมอบรางวัลพนักงานดีเด่นประจำปีให้เลยจริงๆ เราไปดูผลงานของพวกเขากันเลย   สงสัยที่หนีบเล็กไปจนมองไม่เห็น เขาก็เลยเอาเทปกาวมาติดไว้ให้แทน   รับรู้ได้ถึงความเอาใจใส่ กลัวเราไม่รู้ว่าขนมปังจะหมดอายุวันไหน   นี่ก็คงเป็นฝีมือของพนักงานคนเดียวกันกับขนมปังเมื่อกี้สินะ   วันหมดอายุของกระป๋องนี้ดูแปลกๆ ไม่รู้หมดวันไหน แต่รูปร่างคุ้นๆ ยังไงไม่รู้   ไม่ใช่สีเทียน 64 สี แต่เป็นสีส้ม 64 แท่ง   จากที่นอนคิดมาสามวัน ผมว่ามันน่าจะสะกดเป็น Shift มากกว่านะ   อันนี้ไม่น่าเรียกว่าเบลอ แต่อาจจะละเมอมาทำงานหรือเปล่า   เป็นรั้วที่ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกปลอดภัยมากกว่าเดิมเยอะเลย   จุดประสงค์ชัดเจน “ร้านนี้ให้บริการกับสัตว์เท่านั้น”  มนุษย์ไม่ต้องแหยมเข้ามานะ   ทิ้งภาพเอาไว้ซะกลัวว่าจะมีเหล็กในหลงเหลืออยู่เลย   ก็ถ้าเป็นเหรียญบาทบ้านเรา เหรียญนี้ก็มีค่า .50   ขนาดตรงปกยังผิด แล้วเราจะรอดมั้ยละเนี่ยยย    สงสัยพนักงานคนนี้คงไม่เคยกิน M&M มาก่อน   สงสัยพนักงานคนนี้อาจยังใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่คล่องเท่าไหร่  …

  • ศิลปินหนุ่มเทสารเคมีเหลวลงไปบนกระจกใส แล้วก็ตู้ม!! ออกมาเป็นกระจกเงาซะอย่างนั้น!?

    ศิลปินหนุ่มเทสารเคมีเหลวลงไปบนกระจกใส แล้วก็ตู้ม!! ออกมาเป็นกระจกเงาซะอย่างนั้น!?

    กระจกเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำของมนุษย์ที่มีมาตั้งแต่ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล ในช่วงแรกกระจกเงานั้นจะทำมาจากทองแดง ซึ่งมันก็ไม่ได้ชัดอะไรเท่าไหร่ จนกระทั่งในปี 1835 นักเคมีชาวเยอรมัน Justus von Liebig ได้คิดค้นกระจกเงาที่ทำมาจากแร่เงินขึ้นมา ซึ่งกระจกชนิดนี้เอง คือกระจกเงาที่เราเห็นกันในปัจจุบัน แต่เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา อินสตาแกรมของศิลปินหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า davesmithartist ได้เผยให้เห็นถึงวิธีการทำกระจกเงาแบบง่ายๆ ที่ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น   เพียงแค่เทสารเคมีเหลวลงไปบนกระจกใส ไม่นานเกินรอก็กลายเป็นกระจกเงาเฉย!! (หากใครไม่เห็นคลิปสามารถกดดูได้ที่ลิงค์ instagram) Creating a mirror using Silver Nitrate with @nikglas_ This shows the chemical reaction once it is poured onto the glass. A warm workshop and also warm containers of liquid during winter months…

  • การทดลอง ‘ผ่าตัดเปลี่ยนหัว’ กับศพ ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น เชื่อมต่อระบบร่างกายได้

    การทดลอง ‘ผ่าตัดเปลี่ยนหัว’ กับศพ ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น เชื่อมต่อระบบร่างกายได้

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน 2016 #เหมียวฟิ้น ได้นำเสนอข่าวของหนุ่มรัสเซีย Valery Spiridonov วัย 31 ปีผู้ป่วยเป็นโรคแปลกประหลาดและได้เป็นอาสาสมัครให้กับการทดลองผ่าตัดเปลี่ยนหัว ซึ่งตอนนี้การผ่าตัดดังกล่าวได้มีความคืบหน้ามากขึ้นหลังจากที่แพทย์สามารถเปลี่ยนถ่ายหัวของศพได้สำเร็จ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 สำนักข่าวเดลี่เมล ได้รายงานว่าศาสตราจารย์ชาวอิตาลี Sergio Canavero และทีมแพทย์ชาวจีนที่นำโดยดอกเตอร์ Xioaping Ren สามารถเปลี่ยนถ่ายหัวของศพในประเทศจีนได้สำเร็จ โดยใช้ระยะเวลาการผ่าตัดนานถึง 18 ชั่วโมง   ศาสตราจารย์ Sergio Canavero ผู้ผลักดันให้เกิดการผ่าตัดปลูกถ่ายศีรษะ   Canavero บอกว่านี่คือการเปลี่ยนถ่ายหัวมนุษย์ครั้งแรกของโลก โดยกระดูกสันหลัง เส้นประสาท และเส้นเลือดต่างๆ ของร่างกายสามารถเชื่อมกับหัวที่ถูกปลูกถ่ายได้สำเร็จ เขาได้พูดกับสื่อว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไปจากเดิม ธรรมชาติเคยกำหนดความเป็นตายของเรามาโดยตลอด แต่ในยุคนี้เราจะเป็นคนที่กำหนดโชคชะตาของเราด้วยตัวเอง”     เขายังเสริมอีกว่า ตอนนี้เหลือเพียงแค่ขั้นตอนสุดท้ายในการปลูกถ่ายศีรษะและสมองของคนตายที่ได้รับการบริจาคมาให้เข้ากับร่างกายเท่านั้น ซึ่งหากว่าผลออกมาสำเร็จ ในไม่ช้านี้เขาการปลูกถ่ายศีรษะของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีให้เราเห็นอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพียงแค่ Canavero สำหรับศัลยแพทย์ Ren ก็มีความเชื่อเดียวกัน ก่อนหน้านี้เขาและทีมแพทย์ได้เคยทดลองผ่าตัดปลูกถ่ายศีรษะของหนูทดลองไปกว่า 1,000 ตัว…

  • กลุ่มรับกำจัดหนู ที่มีเหล่าแมวเหมียวจรจัดเป็นพนักงาน สนใจใช้บริการกันป๊ะล่าาา!?

    กลุ่มรับกำจัดหนู ที่มีเหล่าแมวเหมียวจรจัดเป็นพนักงาน สนใจใช้บริการกันป๊ะล่าาา!?

    เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา คือเมืองที่ประสบปัญหาประชากร “หนู” เยอะที่สุดในประเทศ เรียกได้ว่าสามารถพบเจอได้แทบทุกบ้าน ตามที่ทำงาน หรือตามท้องถนน จนเกิดแนวทางการแก้ไขด้วยศัตรูตามธรรมชาติของมันอย่างเจ้าแมวเหมียว ไอเดียการจัดการประชากรหนูด้วยน้องแมวนี้เป็นความคิดของกลุ่ม Treehouse Humane Society โดยโครงการนี้มีชื่อว่า Cats at Work ที่ทำให้คุณสามารถติดต่อรับเจ้าแมวจรจัดกลับไปได้ 3 ตัวต่อครั้งเพื่อช่วยในการกำจัดหนูที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหรือที่ทำงานของคุณ   ยามน้องเหมียว ไม่ได้ช่วยจับโจรแต่ช่วยจับหนู   การทำงานของพนักงานน้องเหมียวเหล่านี้ก็ง่ายมากๆ แค่คุณพาพวกมันกลับไปให้ข้าวให้น้ำซักหน่อย เดี๋ยวพวกมันก็คอยสอดส่องตามหาเจ้าหนูให้คุณเอง ง่ายมากๆ เลยใช่มั้ยล่ะ แนวทางนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างดีเยี่ยม จากผลตอบรับของผู้ที่ได้มาใช้บริการ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้าแมวช่วยกำจัดหนูให้หมดไปจากบ้านหรือที่ทำงานของพวกเขา ทำให้ไม่เกิดปัญหาข้าวของถูกทำลายหรือโดนขโมยจากเจ้าหนูอีกต่อไป   การทำงานของเจ้าเหมียว ช่วยกำจัดหนูให้หมดไปจากบ้านคุณ   Paul Nickerson ผู้จัดการของกลุ่ม Treehouse บอกว่า “วิธีการนี้ไม่ได้ช่วยแค่การควบคุมประชากรหนู แต่ยังช่วยให้เจ้าแมวจรจัดกว่า 260 ตัวมีชีวิตที่ดีขึ้นและมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักเป็นแหล่ง สร้างความสุขให้กับทั้งคนและแมวเอง เรียกว่าเป็นโลกที่พึ่งพาอาศัยกันอย่างแท้จริง” เขายังเสริมอีกว่าตอนนี้ยอดคิวจองตัวรับน้องเหมียวยาวเหยียดเอามากๆ หากใครต้องการตัวเจ้าเหมียวกลับไปช่วยดูแลบ้านก็ต้องรอนานไปถึง 3 เดือน นับว่าโครงการนี้ได้รับความนิยมอย่างมากจริงๆ   Paul…

  • หนุ่มโดนแก๊งต้มตุ๋นโทรหา เขาก็เลยแกล้งโทรกลับไปเรื่อยๆ จนพวกนั้นต้องขอร้องให้หยุด

    หนุ่มโดนแก๊งต้มตุ๋นโทรหา เขาก็เลยแกล้งโทรกลับไปเรื่อยๆ จนพวกนั้นต้องขอร้องให้หยุด

    สมัยนี้แก๊งต้มตุ๋นใช้วิธีการโทรศัพท์เข้ามาเพื่อหลอกเอาเงินเราไปโดยอ้างว่ามาจากองค์กรโน่นนี่นั่น เหมือนกับอย่างที่ชายคนนี้ต้องเจอและเขาสามารถจัดการกับคนเหล่านั้นได้อย่างเจ็บแสบเลยทีเดียว เขามีชื่อว่า Kevin Underhill อาศัยอยู่ในเมืองลอนดอน รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เมื่อได้มีคนฝากข้อความเสียงเอาไว้ให้แล้วอ้างว่าเป็นสำนักงานสรรพากรของประเทศ ที่บอกว่าเขากำลังเจอกับปัญหาในเรื่องของภาษีอยู่ ในตอนนั้นชายหนุ่มรู้ได้ทันทีเลยว่านี่คือการโทรมาหลอกเอาเงินอย่างแน่นอน   พ่อหนุ่ม Kevin ผู้ที่สามารถรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม   เขาจึงโทรกลับไปหาที่เบอร์นั้น โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่าเขาต้องจ่ายเงินไปให้ในทันที ไม่อย่างนั้นอาจต้องติดคุกหัวโตเลยก็ได้ เมื่อ Kevin ฟังจนจบก็ถูกถามให้บอกข้อมูลส่วนตัว เขาจึงสะกดชื่อของเขาไปว่า Y-O-U-E-A-S-C-A-M ซึ่งหมายความว่า “พวกนายมันเป็นแก๊งต้มตุ๋น” เจอแบบนี้เข้าไปปลายสายก็รู้สึกหัวเสียอย่างมากที่ถูกจับได้ และพูดด้วยความโมโหกับเขาว่า “นั่นมันไม่ใช่ชื่อคุณนี่!!” ก่อนที่จะวางสายไป แต่เขาก็ยังคงได้รับโทรศัพท์จากแก๊งต้มตุ๋นที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานอื่นๆ เขาก็เลยแกล้งบอกไปว่าตัวเองคือดาราดัง Ryan Reynolds ซะเลย ทำเอาคนที่โทรมาหลอกถึงกับหัวร้อนเพราะความกวนของเขา   แก๊งต้มตุ๋นไม่เชื่อว่า Kevin คือดาราหนุ่มคนนี้.. ก็แหงล่ะ ใครมันจะไปเชื่อ?!   ไม่จบเพียงแค่นั้นเพราะเขาได้โทรกลับไปหาเบอร์ที่โทรมาหลอกเขาอีกหลายสาย โทรไปเรื่อยๆ ไม่ยอมหยุด แต่ก็โดนตัดสายทุกครั้งที่โทรไป จนกระทั่งมีสายหนึ่งรับและอ้างตัวว่าเป็นผู้จัดการของบริษัท Kevin จึงถามไปว่า “จะวางสายผมทำไม มีอะไรก็บอกกันสิ” ฝั่งนั้นเลยตอบกลับมาว่า “ขอร้องละ หยุดแกล้งเราซักทีเถอะ” ประโยคนั้นทำให้…

  • หญิงสาวเปิดประสบการณ์อันขมขื่นในการต่อสู้กับ ‘โรคคลั่งผอม’ มานานกว่า 16 ปี

    หญิงสาวเปิดประสบการณ์อันขมขื่นในการต่อสู้กับ ‘โรคคลั่งผอม’ มานานกว่า 16 ปี

    Anorexia หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า โรคคลั่งผอม คืออาการทางจิตที่ทำให้ผู้ป่วยหลายๆ คนพยายามลดน้ำหนักของตัวเองลงไปให้มากที่สุดจนแทบจะกลายเป็นโครงกระดูกเดินได้ เหมือนกับเธอคนนี้ที่ต้องต่อสู้กับความผิดปกติในใจของตัวเองเพราะไม่อาจทนรับกับสิ่งที่เธอเป็นอยู่นี้ได้อีกต่อไป หญิงสาวชาวอเมริกันคนนี้มีชื่อว่า Stephanie Rodas วัย 28 ปี เธอคนนี้เคยหนักเพียงแค่ 24 กิโลกรัม จนทำให้เธอต้องไปพบแพทย์ตามคลินิกหรือโรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นอาการทางจิตที่เป็นอยู่ของเธอก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย     จนกระทั่งเธอได้มาเป็นแขกรับเชิญของรายการ The Doctors เธอได้รับการทดสอบทางด้านร่างกาย การทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด รวมถึงการอัลตร้าซาวด์เพื่อเข้าไปเช็กความผิดปกติภายใน เธอต้องต่อสู่กับอาการดังกล่าวมานานกว่า 16 ปี หรือกว่าครึ่งชีวิตของเธอ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการว่า “ในแต่ละวันฉันสามารถกินอาหารได้แค่ 100 แคลอรี่ และใช้เวลาออกกำลังกายไปอีก 10 ชั่วโมง” “ฉันเริ่มเป็นอย่างนั้นตั้งแต่อายุได้ 13 ปี เพราะว่าในตอนนั้นฉันถูกเพื่อนๆ ในโรงเรียนล้อว่า ‘ยัยอ้วน’ ทุกคนในโรงอาหารคอยรังแกฉันในตอนพักทานข้าวเที่ยง พวกเขาจะปาอาหารใส่ฉัน” เธอเล่าเสริม     ด้วยการที่เธอถูกรังแกมาตั้งแต่เด็กทำให้เธอเริ่มลดน้ำหนักตัวเองลงอย่างบ้าคลั่ง จนกลายเป็นโรคคลั่งผอมในที่สุด ครั้งหนึ่งเธอเคยกินยาแก้ปวดเข้าไปเพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เธอผอมลงได้ แต่เธอกลับล้มหมดสติลงไปกับพื้นก่อนที่พี่สาวของเธอจะมาพบและรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขาดการตอบสนองไปหลายวัน เธอยังคงไม่สามารถลบภาพความหลังฝังใจที่เคยมีในวัยเด็กได้ เธอได้บอกกับพิธีกรในรายการว่า เหตุผลที่เธอต้องมีร่างกายที่ผอมซูบขนาดนี้ก็เพราะ…

  • ถ้าคนอ้วนกินช็อกโกแลต 5 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยป้องกันไม่ให้พวกเขาเกิดโรคหัวใจวายได้

    ถ้าคนอ้วนกินช็อกโกแลต 5 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยป้องกันไม่ให้พวกเขาเกิดโรคหัวใจวายได้

    ช็อกโกแลตเป็นสิ่งที่หลายคนเข้าใจว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะกับคนอ้วนยิ่งไม่ควรไปกินมันเพราะจะทำให้อ้วนมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม แต่งานวิจัยนี้ได้ออกมาลบล้างความเชื่อนั้นไปเพราะผลลัพธ์ออกมาแล้วว่า ถ้าคนที่มีน้ำหนักเกินปกติกินช็อกโกแลต 5 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจวายได้ คนทั่วไปอาจทราบกันดีว่าคนที่มีน้ำหนักมากเกินไปมีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็น โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ (หรือเรียกว่า CAD) จนอาจเกิดภาวะหัวใจวายขึ้นมาได้ แต่งานวิจัยก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าช็อกโกแลตสามารถช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ได้     ผลลัพธ์ดังกล่าวเกิดจากงานวิจัยศูนย์การแพทย์ของโรงพยาบาลในบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ทำการศึกษากับทหารผ่านศึกจำนวน 148,465 คนที่มีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 64 ปี โดย 90 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ชาย ในตอนแรกผู้เข้ารับการวิจัยทุกคนไม่มีใครป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจเลย จากนั้นพวกเขาแต่ละคนก็ถูกแบ่งกลุ่มตามความถี่ในการกินช็อกโกแลตขนาด 28 กรัมต่อหนึ่งสัปดาห์ บางคนได้กิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ บางคนได้กิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือบางคนไม่ได้กินเลย     ผ่านไป 2 ปีครึ่ง กลุ่มตัวอย่างจำนวน 4,065 คนมีอาการป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และจากการวิเคราะห์พบว่าคนที่มีน้ำหนักมากเกินค่ามาตรฐานและรับประทานช็อกโกแลต 5 ครั้งต่อสัปดาห์แทบจะไม่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคดังกล่าวเลย โดยเฉพาะกับคนที่บริโภคดาร์กช็อกโกแลต ผลลัพธ์อันน่าทึ่งนี้เชื่อว่าเกิดจากสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่มากในช็อกโกแล็ต จึงทำให้ลดคอเรสตอรอลที่ไม่ดีต่อร่างกายลงได้ทำให้ไม่เกิดปัญหาไขมันอุดตัน นอกจากนั้นสารประกอบ Flavanols ก็ช่วยลดความดันโลหิต ทำให้เลือดลมสูบฉีด และป้องกันสภาวะลิ่มเลือดได้อีกด้วย  …

  • ภาพนกฮูกทำหน้าโหดเพราะหวงไข่ ชาวเน็ตเลยจับมาตัดต่อให้มันโหดยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก บรื๋ออ!!

    ภาพนกฮูกทำหน้าโหดเพราะหวงไข่ ชาวเน็ตเลยจับมาตัดต่อให้มันโหดยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก บรื๋ออ!!

    ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 ในเว็บไซต์ Reddit ได้มีการโพสต์ภาพเจ้านกฮูกทำหน้าดุเพราะหวงไข่ และภาพนี้ก็ได้กลายเป็นภาพต้นแบบไว้ให้ชาวเน็ตได้แข่งขันกันว่าใครจะสามารถตัดต่อภาพนี้ออกมาได้ดีกว่ากัน โดยแต่ละภาพที่พวกเขาได้ส่งเข้าประกวดกันมาก็สื่อได้ในหลายรูปแบบจริงๆ จะบอกว่าทำให้หน้าของเจ้านกฮูกดูดุดันมากยิ่งขึ้นก็ไม่เชิง จะบอกว่าน่ารักก็ไม่ใช่ แต่ที่แน่ๆ เลยก็คือไอเดียของพวกเขานี่ไม่ซ้ำกันเลยจริงๆ จากภาพเพียงภาพเดียวได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบไหนบ้างเราไปดูกันเลย   ภาพต้นฉบับ กับหน้าตาอันดุดันของเจ้านกฮูกหวงไข่   จากการใช้โฟโต้ชอปทำให้มันกลายเป็น ไอรอนฮูก!!   แบบที่กำลังบินเคลื่อนไหวอยู่กลางอากาศก็มีนะ   นี่พวกเจ้าจะมายุ่งกับไข่ของข้าให้ได้เลยใช่มั้ย   ความมุ่งมั่นอันแรงกล้าเพื่อต้องการคว้าแชมป์จากการแข่งขันนี้ให้จงได้   ทักษะการแฝงกายอันเป็นเลิศ ชนิดที่ว่ามองไม่เห็นเลยจริงจริ๊งงง   เมื่อกี้ใครมันกล้ามาแหยมกับข้าฟะ   โปสเตอร์ภาพยนตร์การ์ตูน (H)owl’s Moving Castle   ซีรีส์ Stranger Things ที่ไม่ได้แปลกแค่เนื้อเรื่อง แต่ตัวแสดงก็แปลกเช่นเดียวกัน   ต้องขอขัดจังหวะการแสดงหน่อยนะ พอดีว่าข้าหิว   เดินมาอย่างกับบอยแบนด์   เรือไม่ได้ล่มเพราะชนภูเขาน้ำแข็ง แต่ล่มเพราะเจ้าฮุกมันหนักเกินต่างหาก   ไม่ว่าจะส่งทหารเข้าไปกี่คนก็ตายหมด เมื่อเจอกับสายตาเพชฌฆาตของเจ้าฮูก   ภูเขาไฟปะทุออกมากลายเป็นนกฮูกยักษ์   Link…

  • นักวิทย์ฯ คอนเฟิร์ม ‘ผู้หญิง’ ขับรถดีกว่าผู้ชาย มีแนวโน้มผิดพลาดน้อยเพราะไม่วอกแวก

    นักวิทย์ฯ คอนเฟิร์ม ‘ผู้หญิง’ ขับรถดีกว่าผู้ชาย มีแนวโน้มผิดพลาดน้อยเพราะไม่วอกแวก

    ความเชื่อที่ว่าผู้ชายขับรถได้ดีกว่าผู้หญิง แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะนักวิทยาศาสตร์ชาวนอร์เวย์ได้ออกมายืนยันแล้วว่าผู้หญิงสามารถขับรถได้ดีกว่าผู้ชายบางคนซะอีก งานวิจัยของพวกเขาเกิดขึ้นมาจากสถิติขององค์กรอนามัยโลก ได้ออกมาบอกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั่นก็คือการเสียสมาธิและความใจลอย นักวิทยาศาสตร์จึงทำการศึกษาว่าช่วงอายุ เพศ และบุคลิกภาพแบบไหนบ้างที่ส่งผลให้เกิดอาการใจลอยหรือถูกดึงดูดความสนใจจากสิ่งอื่นๆ ได้ง่าย   การขาดสมาธิขณะขับขี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน   กลุ่มตัวอย่างแรกของการศึกษานี้คือเด็กมัธยมปลายจำนวน 1,100 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีอยู่ 208 คนที่มีใบขับขี่แล้ว และอีกกลุ่มตัวอย่างเป็นเหล่าผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วๆ ไป 414 คน จากนั้นได้มีการสอบถามเกี่ยวกับความถี่และรูปแบบที่ทำให้กลุ่มตัวอย่างเสียสมาธิในขณะขับรถว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อการเสียสมาธิหรือใจลอยในตอนขับรถ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการฟังวิทยุคือสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถมากที่สุด และเมื่อดูในเรื่องของเพศ ช่วงอายุ กับบุคลิกภาพแล้วพบว่า วัยรุ่นชายคือกลุ่มที่มีอาการเสียสมาธิและใจลอยตอนขับรถมากที่สุด กลุ่มอื่นๆ ที่มีแนวโน้มขาดสติขณะขับรถก็คือ คนที่ขับรถบ่อยๆ คนที่ใจร้อนหงุดหงิดง่าย และคนที่มีบุคลิกภาพชอบสนใจในสิ่งรอบข้าง   ขับรถก็ต้องมองถนน จะมามองกล้องแบบนี้มันก็ไม่ได้   ผู้วิจัย Ole Johansson จากสถาบันเศรษฐศาสตร์การขนส่งอธิบายว่า “คนที่อยู่ในกลุ่มขาดสติระหว่างขับรถคือคนที่เชื่อว่าอาการใจลอยเป็นสิ่งที่ทุกคนในสังคมก็เป็นเหมือนๆ กัน อยู่นอกเหนือการควบคุมและคิดว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองเอาไว้ได้ ทำให้พวกเขามุ่งความสนใจไปกับสิ่งอื่นขณะขับรถนอกเหนือจากถนนด้านหน้า” ในขณะเดียวกันจากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน Frontiers in Psychology บอกว่ากลุ่มผู้หญิงที่มีอายุนั้นให้ผลในทางตรงกันข้าม เพราะพวกเธอสามารถควบคุมสติของตัวเองไว้ได้อย่างดี ทำให้มีอาการเสียสมาธิและใจลอยที่น้อยมาก   บางทีเราก็อาจกดดันสาวๆ มากเกินไปจนทำให้เธอขาดความมั่นใจในการขับรถ…

  • เมื่อเพื่อนสนิทแต่งงาน แต่ยังทำใจไม่ได้ ก็เลยต้องบอกให้รู้ว่า ‘อย่าเอาเพื่อนฉันไป!!’

    เมื่อเพื่อนสนิทแต่งงาน แต่ยังทำใจไม่ได้ ก็เลยต้องบอกให้รู้ว่า ‘อย่าเอาเพื่อนฉันไป!!’

    ช่วงเวลาที่เราได้อยู่กับเพื่อนสนิทของเรา ไปเที่ยวด้วยกัน หาเรื่องสนุกๆ ทำด้วยกัน ได้นั่งพูดคุยปรึกษากัน และสัญญากันว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป แต่สิ่งเหล่านั้นก็ต้องพังทลายลงไปเมื่อเพื่อนของเราได้ก้าวเข้าสู่พิธีวิวาห์และมีมือที่สามเข้ามาแทรกกลางระหว่างมิตรภาพของเรา สิ่งที่เกิดขึ้นในลักษณะนั้นกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพสาว Lindsay Berger เกิดไอเดียการถ่ายภาพงานแต่งงานของคู่บ่าวสาวคู่หนึ่งที่ได้มีเพื่อนสนิทเจ้าบ่าวจอมอิจฉาเข้ามาอยู่ในภาพด้วย   เมื่อเพื่อนเราขอผู้หญิงแต่งงาน เท่ากับว่าเธอคนนั้นได้มาแย่งช่วงเวลาแห่งความสุขที่มีของเรากับเพื่อนสนิทเราไปแล้ว….หันมาทางนี้บ้างสิเพื่อน   ในภาพงานแต่งของเจ้าบ่าว Kody และเจ้าสาว Brittney ไม่ได้มีเพียงพวกเขาสองคน แต่กลับมี Mitch เพื่อนสนิทของเจ้าบ่าวเข้ามาเพิ่มในรูปและแสดงท่าทางออกมาว่าเขารู้สึกอิจฉาและไม่พอใจเจ้าสาวขนาดไหนที่มาแย่งเพื่อนสนิทของเขาไป   คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง..   ภาพฮาๆ น่ารักๆ นี้ได้ถูกโพสต์ลงไปในเพจเฟซบุ๊ก Country Roads Photography เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2017 พร้อมกับแคปชั่นว่า “ทุกคนเข้าใจดีว่า Mitch คงไม่ยอมปล่อยให้เพื่อนเขาไปได้ง่ายๆ แต่ฉันว่าเขาก็จัดการกับปัญหานี้ได้ค่อนข้างดีเลยนะ” ต่อมาโพสต์ดังกล่าวก็ได้เป็นกระแสในโลกโซเชียล มีคนแชร์ออกไปมากกว่า 150,000 ครั้ง และคนถูกใจอีกราวๆ 109,000 คน แสดงให้เห็นว่าผู้คนชอบท่าทางของเพื่อนเจ้าบ่าวคนนี้มากขนาดไหน   ถึงแม้ในรูปดูเหมือนกับว่า Mitch รู้สึกอิจฉาและไม่พอใจ แต่ในความเป็นจริงเขารู้สึกยินดีกับคู่บ่าวสาวมากจริงๆ และเชื่อว่าทั้งสามจะรักกันมากยิ่งขึ้นไปอีก…

  • ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์

    ชายหนุ่มตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ ในที่สุดแล้วเขาก็ได้รับการตอบแทนเป็นร้านบาร์เบอร์

    แทบทุกคนเคยชินกับการตัดผมในร้านบาร์เบอร์หรือร้านเสริมสวยที่มีเกลียวหมุนๆ อยู่หน้าร้าน แต่สำหรับที่เมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา คุณสามารถเห็นการตัดผมได้ง่ายๆ ตามท้องถนน กับฝีมือของช่างตัดผมที่มีชื่อว่า Brennon Jones ชายหนุ่มผู้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ชายคนนี้ทำอาชีพตัดผมมานานกว่า 11 ปี แต่เขาก็ได้วางกรรไกรและหันไปทำงานอื่น ก่อนที่จะกลับมาเป็นช่างตัดผมอีกครั้งหนึ่งที่ตัดผมให้กับคนไร้บ้านแบบฟรีๆ ภายใต้โครงการที่เขาตั้งชื่อให้ว่า Haircuts for Homeless   ช่างตัดผมหนุ่ม Brennon ผู้ที่คอยตัดผมให้คนไร้บ้านแบบฟรีๆ   ด้วยความที่ชายหนุ่มไม่มีร้านเป็นของตัวเอง เขาจึงแบกอุปกรณ์ทุกอย่างเดินไปบนท้องถนนและตัดผมให้กับคนไร้บ้านตามทางเท้า หัวมุมตึก หรือเกาะกลางถนน ด้วยเก้าอี้และโต๊ะที่เตรียมมา เขาไม่ได้ตัดผมให้กับคนไร้บ้านที่อาศัยกันอยู่ในเมืองฟิลาเดลเฟียเพียงที่เดียว เพราะเขาได้เดินทางไปยังเมืองแคมเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ เมืองที่มีประชากรคนไร้บ้านมากเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกา และเขาก็ได้ไปตัดผมให้กับคนเหล่านั้น     Brennon เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ผมได้รู้จักกับหนุ่มไร้บ้านคนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มองชีวิตต่างออกไปจากที่เคย และนั่นก็ได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำสิ่งนี้ขึ้นมา” เขาได้ตัดผมให้คนไร้บ้านทุกๆ วัน โดยในแต่ละวันจะมีเข้ามาประมาณ 20 คน เขาบอกว่าตอนนี้น่าจะตัดผมให้คนไร้บ้านไปมากกว่า 1,000 คนแล้ว     จนกระทั่งในเดือนเมษายน 2017 เขาได้รู้จักกับ Sean…

  • นักการเมืองต่อต้าน LGBT ลาออกจากตำแหน่ง หลังมีหลักฐานฉาวมีเซ็กส์กับชายในออฟฟิศ

    นักการเมืองต่อต้าน LGBT ลาออกจากตำแหน่ง หลังมีหลักฐานฉาวมีเซ็กส์กับชายในออฟฟิศ

    เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการเผยแพร่ข่าวในเว็บไซต์ Ladbible ว่า นาย Wes Goodman ได้ลาออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขามีข่าวอื้อฉาวเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนหน้านั้น ก่อนหน้านี้นาย Goodman เคยแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเป็นนักการเมืองผู้ต่อต้าน LGBT (หรือก็คือ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) แต่เขากลับถูกจับได้ว่ามีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนหนึ่งในสำนักงานรัฐ และนั่นจึงทำให้เขาต้องลาออกจากตำแหน่งงานที่ทำอยู่   Wes Goodman นักการเมืองผู้ลาออกไปหลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาว   Cliff Rosenburg ตัวแทนสำนักงานรัฐดังกล่าวได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่ามีการคุยกับนักการเมืองคนนี้เกี่ยวกับเหตุการณ์พฤติกรรมอันไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้น และหลังจากผ่านไปไม่กี่วันนาย Goodman ก็ตัดสินใจลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบในสิ่งนั้น นักการเมืองผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ถูกเลือกเข้ามาทำงานในรัฐโอไฮโอเมื่อปี 2016 หลังจากที่เขาทำงานให้กับ Jim Jordan ผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งทั้งสองคนนี้แสดงจุดยืนในลักษณะเดียวกันนั่นก็คือต่อต้านเรื่องของความหลากหลายทางเพศ     ในเว็บไซต์หรือทวิตเตอร์ของ Goodman แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนยึดคติในเรื่องค่านิยมของครอบครัว เขาเคยพูดเอาไว้ว่า “ความรักของพ่อและแม่ในอุดมคติ การแต่งงานแบบธรรมชาติที่มีแค่ผู้ชายแต่งกับผู้หญิง และการเอาใจใส่ของคนในสังคม เป็นสิ่งที่ควรติดตามและปกป้องเอาไว้” Bethany ภรรยาของเขาก็มีบทบาทสำคัญในสังคม เธอคือหนึ่งในแกนนำหลักที่ต่อต้านการทำแท้งที่เดินประท้วงกันทุกๆ ปีภายใต้ชื่อ March for…

  • หนุ่มยัด ‘แม่กุญแจจิ๋ว’ เข้าไปในจู๋ผ่านทางรูฉี่ จนเดือดร้อนถึงหมอต้องมาผ่าออก

    หนุ่มยัด ‘แม่กุญแจจิ๋ว’ เข้าไปในจู๋ผ่านทางรูฉี่ จนเดือดร้อนถึงหมอต้องมาผ่าออก

    การใช้อุปกรณ์เข้ามาช่วยให้คุณมีความสุขทางเพศเช่นแท่งหรรษา ตุ๊กตายาง หรือจิ๊มิ๊ส์กระป๋อง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน แต่กับอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะอย่างแม่กุญแจ หากนำมาใช้ก็อาจเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้เหมือนกับชายหนุ่มชาวจีนวัย 31 ปีคนนี้ เมื่อเขาได้นำแม่กุญแจขนาดจิ๋วไปยัดเข้าไปผ่านทางท่อปัสสาวะเพื่อให้มันไปติดอยู่ตรงบริเวณองคชาติ ซึ่งเขาบอกว่าเขาทำเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของตัวเอง แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาตั้งใจไว้เพราะแม่กุญแจดันไหลไปอยู่ในกระเพาะปัสสาวะของเขาเฉยเลย   หนุ่มชาวจีนยัดแม่กุญแจเข้าไปทางท่อปัสสาวะจนไปติดอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ   พอเขารู้สึกว่าแม่กุญแจไหลลึกลงไปด้านในแล้วก็รีบเดินทางไปโรงพยาบาลของนครฝูโจวพร้อมกับครอบครัวทันที หมอจึงทำการเอ็กซเรย์และพบว่ามันฝังเข้าไปอยู่ตรงกลางกระเพาะปัสสาวะของชายหนุ่มอย่างเห็นได้ชัด สร้างความตกใจให้กับทั้งคนไข้และแพทย์เอง   สามารถเห็นแม่กุญแจได้อย่างชัดเจนจากผลเอ็กซเรย์   จากนั้นชายหนุ่มก็ต้องเข้ารับการตรวจทดสอบร่างกายในหลายๆ ด้านว่าพร้อมสำหรับการผ่าตัดหรือไม่ ก่อนที่แพทย์จะทำการผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะของเขานำเอาแม่กุญแจออกมาได้ในที่สุด เรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ Metro เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 และในปัจจุบันคนไข้ยังคงต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลรอดูต่อไปว่าจะมีอาการบาดเจ็บหรือผลข้างเคียงตามมาภายหลังหรือไม่   ชายหนุ่มยังคงต้องนอนพักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาล   ในประเทศจีน พฤติกรรมทางเพศแปลกๆ แบบนี้เคยมีให้เห็นช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา กับกรณีของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เสียบเข็มเข้าไปตามท่อปัสสาวะถึง 15 อัน   คุณหมอในโรงพยาบาลได้ทำการอธิบายถึงวิธีการผ่าตัดนำแม่กุญแจออกมา   พวกเราจะทำอะไรก็อย่าลืมคิดให้รอบคอบและถ้าเป็นไปได้ก็ใช้อุปกรณ์ต่างๆ ไปตามจุดประสงค์ของมัน อย่าพยายามไปใช้นอกเหนือจากนั้นเลยดีกว่า   ที่มา: thesun , metro

  • ร้านอาหารเปิดรับ “ขยะพลาสติก” มีค่าเทียบเท่าเงินตราเพราะใช้แลกซื้ออาหารได้

    ร้านอาหารเปิดรับ “ขยะพลาสติก” มีค่าเทียบเท่าเงินตราเพราะใช้แลกซื้ออาหารได้

    ขยะหลายๆ อย่างเราอาจมองว่ามันไร้ค่าไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้อีก อย่างเช่นพวกผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพลาสติกที่เมื่อทิ้งไปก็รอให้มันย่อยสลายเพียงอย่างเดียว แต่ว่าในร้านอาหารแห่งนี้กลับมองค่าของมันต่างออกไปเพราะสามารถนำขยะพลาสติกเหล่านั้นมาใช้แทนเงินตราจ่ายค่าอาหารได้ ร้านนี้มีชื่อว่า Methane Gas Canteen เป็นร้านของคู่สามีภรรยา Sarimin และ Suyatmi โดยจุดเด่นของร้านอาหารนี้ก็คือการใช้ปริมาณของขยะพลาสติกที่คุณเก็บมาได้แทนเงินตราเพื่อมาแลกเป็นอาหารหนึ่งจาน   Suyatmi (คนซ้าย) และ Sarimin (คนขวา) สองสามีภรรยาเจ้าของร้าน   ร้านดังกล่าวตั้งอยู่ในลานที่ทิ้งขยะ Jatibarang เมืองเซอมารัง ประเทศอินโดนีเซีย กลุ่มลูกค้าหลักที่เข้ามาใช้บริการก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพเป็นคนเก็บขยะในบริเวณนั้นอยู่ก่อนแล้ว วิธีการนำขยะพลาสติกมาเปลี่ยนเป็นอาหารในลักษณะนี้เป็นไอเดียของนายกเทศมนตรีประจำเมือง Hendrar Prihadi ที่ได้มอบหมายหน้าที่ให้สองสามีภรรยาเมื่อปี 2014 เพื่อช่วยลดจำนวนของขยะพลาสติกในสถานที่แห่งนี้ให้ลดน้อยลง     ขยะพลาสติกและขยะที่ย่อยสลายไม่ได้นับเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของขยะ 800 ตันที่ถูกนำมาทิ้งในที่แห่งนี้ทุกๆ วัน และถึงแม้ว่าจำนวนของขยะประเภทนี้มีอยู่เยอะมาก แต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่เก็บไปขายเพราะเงินที่ได้กลับมานั้นถือว่าถูกมากๆ โดยขยะพลาสติกเมื่อชั่งขายจะได้เพียงกิโลกรัมละ 1.3 บาทเท่านั้น เมื่อไม่มีใครเก็บขยะประเภทนี้ไปขาย มันก็จะไหลลงไปในแม่น้ำและสะสมกันอยู่ข้างใต้จนทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นและอาจท่วมหมู่บ้านได้ในที่สุด นอกจากนั้นในปี 2014 ก็ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่สร้างความเสียหายโดยรอบไปกว่า 40,000 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าเกิดจากก๊าซมีเทนที่กระจายตัวออกมาจากขยะประเภทนี้  …

  • เจ้าหมาได้รับเหรียญกล้าหาญเป็นรางวัล หลังเสี่ยงชีวิตรับใช้ชาติในอัฟกานิสถาน

    เจ้าหมาได้รับเหรียญกล้าหาญเป็นรางวัล หลังเสี่ยงชีวิตรับใช้ชาติในอัฟกานิสถาน

    เหรียญกล้าหาญคือสิ่งที่มอบให้กับผู้ที่มีหน้าที่สำคัญในสมรภูมิรบ เผชิญหน้ากับศัตรูและสามารถช่วยให้กองทัพผ่านสถานการณ์อันยากลำบากมาได้ โดยเหรียญในลักษณะนี้ไม่ได้มีไว้ให้แค่กับพลทหารเท่านั้น เพราะสัตว์ที่สร้างผลงานอันทรงเกียรติเอาไว้ในสมรภูมิก็สามารถได้รับเหรียญเหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 เว็บไซต์ Odditycentral ได้เปิดเผยเรื่องราวของสุนัขทหารสายพันธุ์เบลเยี่ยม มาลีนอยส์วัย 8 ขวบที่ชื่อว่า Mali ที่ได้สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่เอาไว้เมื่อปี 2012 จนทำให้มันได้รับเหรียญกล้าหาญที่มีชื่อว่า PDSA Dickin Medal ซึ่งเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มอบให้สัตว์ผู้กล้าหาญ   Mali สุนัขที่ได้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่เอาไว้ให้กับกองทัพอังกฤษเมื่อปี 2012   เจ้าสุนัขผู้รับใช้กองทัพอังกฤษตัวนี้ได้สร้างผลงานเอาไว้ในเดือนมิถุนายน ปี 2012 จากภารกิจ Special Boat Service (หรือเรียกว่า SBS) กับการแฝงตัวเข้าไปในนครคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน และต้องอยู่ท่ามกลางสมรภูมินานกว่า 7 ชั่วโมงครึ่ง เหล่าทหารจากหน่วย Special Forces ที่ได้ออกรบไปพร้อมกับมันเล่าว่า เจ้า Mali ได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและการเป็นฮีโร่ของทุกคน บุกตะลุยฝ่ากระสุนเข้าไปเพื่อจัดการขับไล่กลุ่มก่อการร้ายตาลีบันที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารร้าง และในระหว่างที่ทหารอังกฤษกำลังทำการจู่โจมอยู่นั้น เจ้าสุนัขตัวนี้ก็สามารถดมกลิ่นจนเจอคนร้ายที่แอบซ่อนตัวอยู่ในที่ที่พวกเขาเคลื่อนทัพไปได้หลายๆ ครั้ง ช่วยลดจำนวนทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิตลงจากที่คาดเอาไว้อย่างมาก   มันเปรียบได้กับวีรบุรุษสงครามผู้ปกป้องชีวิตของพลทหารนายอื่นๆ  …

  • นี่คือ ‘จักรยานสุดแซ๊บ’ ติดเครื่องเสียงเบสกระหึ่มพร้อมกับเปิดจังหวะโจ๊ะๆ ให้ได้ดิ้นกันในอิตาลี

    นี่คือ ‘จักรยานสุดแซ๊บ’ ติดเครื่องเสียงเบสกระหึ่มพร้อมกับเปิดจังหวะโจ๊ะๆ ให้ได้ดิ้นกันในอิตาลี

    ตามงานมอเตอร์โชว์ส่วนใหญ่จะมีการจัดแสดงเครื่องเสียงเพื่อติดรถยนต์หรือรถกระบะ เปิดเพลงโจ๊ะๆ สามช่า สายย่อ ตามสไตล์ใครสไตล์มัน แต่ในเมืองปาร์แลโม แคว้นซิซิลี ประเทศอิตาลี กลับมีอะไรที่ล้ำกว่านั้น เพราะเครื่องเสียงแบบเดียวกันมันดันมาติดอยู่กับรถจักรยานซะได้!! เทรนด์การนำเครื่องเสียงมาติดรถจักรยานนี้เกิดขึ้นโดยกลุ่มวัยรุ่นผู้รักเสียงเพลงภายในเมือง ได้ดัดแปลงนำลำโพงและเครื่องขยายเสียงมาผสานเข้ากับจักรยานคู่ใจเพื่อให้พวกเขาสามารถฟังเพลงได้ในทุกที่ทุกเวลา   เทรนด์จักรยานสุดจี๊ด ตอบโจทย์สำหรับคนรักในเสียงเพลง   จักรยานแนวใหม่นี้ได้ถูกคิดค้นมานานกว่า 5 ปี จนกลายเป็นที่นิยมของวัยรุ่นภายในเมืองให้พวกเขาได้ใช้เวลาไปกับการแต่งรถ (จักรยาน) ด้วยชุดเครื่องเสียงต่างๆ และการได้ขี่ออกไปโชว์ประสิทธิภาพของเสียงที่มี รวมถึงการได้เปิดเพลงแข่งขันกับคนอื่นๆ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขไปกับมัน พวกเขามีกลุ่มเฟซบุ๊กเป็นของตัวเองไว้ใช้สำหรับพูดคุย และแนะนำแนวการแต่งรถในลักษณะนี้ เรียกว่าเป็นการแบ่งปันให้ข้อมูลกับคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน   จักรยานรูปแบบนี้ประกอบด้วยแผงควบคุมตรงแฮนด์รถ ลำโพงติดตั้งตรงโครงรถ ส่วนแบตเตอรี่และเครื่องขยายเสียงติดอยู่ตรงเบาะหลัง   โดยจักรยานติดเครื่องเสียงสุดคูลแบบนี้มีราคาที่ค่อนข้างแพงไม่ใช่น้อย หนึ่งคันใช้งบประมาณราวๆ 7,700–46,000 บาท และนอกจากเรื่องของเงินแล้วเด็กส่วนใหญ่ก็ได้ทุ่มเทแรงกายและเวลาประกอบ ดัดแปลงมันขึ้นมาทั้งหมดด้วยตัวเองอีกด้วย เรียกว่าเป็นการลงทุนเพื่อความชอบเลยสินะเนี่ย เมื่อทีมข่าวในประเทศ La Republica ได้เข้าไปสอบถามคนกลุ่มนี้ว่าทำไมถึงยอมลงทุนมากขนาดนั้น คำตอบส่วนใหญ่ก็คือเป็นเพราะความชอบในเรื่องดนตรี และมันทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกับได้รับอิสระ อีกทั้งมันยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้นำเงินและเวลาไปใช้ในทางที่ไม่ดี อย่างการเสพยา หรือการก่ออาชญากรรม   คลิปวัยรุ่นหนุ่มเปิดเพลงโจ๊ะๆ ผ่านเครื่องเสียงติดจักรยานของเขา .  …

  • ลูกชายมือบอนวาดภาพบนผนังบ้าน แต่พ่อแม่ไม่ได้ว่าอะไรกลับจับใส่กรอบเป็นผลงานศิลปะ

    ลูกชายมือบอนวาดภาพบนผนังบ้าน แต่พ่อแม่ไม่ได้ว่าอะไรกลับจับใส่กรอบเป็นผลงานศิลปะ

    หากใครที่มีลูกหรือเคยได้ดูแลเด็กมาก่อนอาจทนไม่ได้และต่อว่าพวกเขากับพฤติกรรมการเล่นซนหรือมือบอนวาดรูปไปตามผนังบ้าน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่คู่นี้เป็นเพราะถึงแม้ลูกจะเป็นอย่างนั้น พวกเขากลับหาทางแก้ไขได้อย่างน่ารักโดยไม่ต่อว่าลูกน้อยของเขา สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องราวของดอกเตอร์ Eric Massicotte เมื่อเขากลับบ้านมาพร้อมกับภรรยาก็ได้เจอกับสิ่งที่ลูกชายของเขาได้ทิ้งเอาไว้บนกำแพงภายในบ้าน   ภาพวาดสีเขียวจากฝีมือลูกชายของเขาที่มีพื้นหลังเป็นกำแพงบ้านสีขาว   ถ้าเป็นพ่อแม่คู่อื่นๆ ก็อาจต่อว่าในสิ่งที่ลูกทำลงไปและพยายามลบภาพที่ติดอยู่ออกให้ได้ แต่ Eric และภรรยากลับไม่ได้ทำอย่างนั้น เพราะเขาได้ทำมันให้ออกมาดูสร้างสรรค์มากยิ่งกว่าเดิม พวกเขานำกรอบรูปมาติดครอบภาพนั้นเอาไว้และกระดาษอธิบายข้อมูลแผ่นเล็กๆ ติดไว้ด้านข้างกรอบรูป ทำให้มันดูเหมือนกับเป็นงานศิลปะชั้นนำที่ถูกจัดแสดงเอาไว้ในนิทรรศการงานศิลป์ชัดๆ   เปลี่ยนความซนของเด็กให้กลายเป็นภาพฝาผนังที่ดูมีคุณค่า   ภาพนี้มีชื่อว่า “Interrupted House” ถูกวาดด้วยปากกามาร์กเกอร์ เป็นของขวัญให้กับพ่อแม่ของเขาในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017   จากนั้น Eric ก็ได้ทำการโพสต์สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 พร้อมแคปชั่นว่า “เด็กอาจทำบางสิ่งที่ไม่สมควรลงไป แต่มันจะช่วยให้ดีขึ้นได้ถ้าคุณแต่งงานกับใครซักคนที่มีความตลกอยู่ในตัว” สงสัยไอเดียนี้คงมาจากภรรยาของเขาสินะ ความคิดสุดบรรเจิดของครอบครัวนี้ได้ถูกรีทวิตไปมากกว่า 100,000 ครั้ง มีคนถูกใจกว่า 270,000 ครั้ง และคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับพ่อแม่หลายๆ คนได้ลองนำวิธีนี้ไปใช้ดู     ดอกเตอร์ Eric ผู้เป็นทั้งศัลยแพทย์ส่วนประสาท ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์…

  • 26 ภาพความเปลี่ยนแปลงของสถานที่ชื่อดังต่างๆ บนโลก กับกาลเวลาที่เปลี่ยนไป…

    26 ภาพความเปลี่ยนแปลงของสถานที่ชื่อดังต่างๆ บนโลก กับกาลเวลาที่เปลี่ยนไป…

    เวลาเปลี่ยน หลายๆ สิ่งก็เปลี่ยนไปทั้งในเรื่องของค่านิยม เทคโนโลยี หรือแม้แต่สถาปัตยกรรมที่ต่างออกไปจากเดิม แต่ในบางครั้งมนุษย์เราก็อาจเลือกที่จะรักษาความดั้งเดิมที่มีมาแต่ก่อนเอาไว้ให้ได้มากที่สุด โดยไม่ปล่อยให้ไหลตามเวลา นี่คือส่วนหนึ่งของภาพที่ถูกนำมาเปรียบเทียบในเว็บไซต์ re.photos เพื่อดูว่าเมื่อก่อนกับปัจจุบัน ตอนนั้นกับตอนนี้มันมีอะไรที่ต่างออกไปและเราได้รักษาอะไรเอาไว้บ้าง   สิ่งปลูกสร้างอาจคงเดิม แต่ถนนรถราก็เปลี่ยนไป ภาพในเมือง Rysstad ประเทศนอร์เวย์   ภาพนี้ที่ประเทศนอร์เวย์ เมือง Odda ก็เห็นได้ว่ามีความแตกต่างของการคมนาคมอย่างชัดเจน   ความไม่เปลี่ยนแปลงของอนุสรณ์ Martin Luther ในเมืองเดรสเดิน ประเทศเยอรมนี   จากสถาปัตยกรรมกลายเป็นความเขียวขจี ในเขต Quai Des Nations กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส   จากที่มีคนขวักไขว่กลายเป็นที่รกร้าง ในเมืองปริปยัต ประเทศยูเครน   เขตธารน้ำแข็ง Chaney ในสหรัฐอเมริกา   ร้าน Hofbräuhaus ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ที่แทบไม่มีความแตกต่าง   การต่อเติมจากที่เคยพังทลายบริเวณหัวมุมถนน Św. Marcin Streets เมืองพอซนาน…

  • รวม 20 ภาพบรรยายความเก๋าเก่าเก็บที่มีมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คูลมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย

    รวม 20 ภาพบรรยายความเก๋าเก่าเก็บที่มีมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ คูลมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย

    หลายคนคิดว่าเมื่อก่อนคุณปู่คุณย่าของเราก็คงมีลักษณะไม่ต่างกับปัจจุบันมากนัก คงใช้ชีวิตไปแบบเรียบๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรจนมีอายุมาได้มากขนาดนี้ แต่ความเป็นจริงก็อาจไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปเพราะพวกเขาอาจเคยมีความเก๋าอยู่ในตัวมากกว่าที่เราคิดอีกเยอะ สิ่งเหล่านั้นสามารถพิสูจน์ได้ด้วยภาพเหล่านี้ เมื่อชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์ภาพและเรื่องราวลงในเว็บไซต์ Boredpanda ว่าความแสบและความเก๋าของคุณปู่คุณย่าพวกเขาในอดีตนั้นมันเจ๋งมากขนาดไหน เราไปดูกันเลย   คุณปู่ทวดผู้เคยเป็นครูสอนไวโอลินให้กับนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์   การแต่งตัวสลับเพศของคุณปู่คุณย่าที่มีมาตั้งแต่ปี 1943   คุณย่าสุดแสบที่ชอบไปนั่งอยู่บนปีกเครื่องบินพ่นยาฆ่าแมลง   รูปภาพของคุณย่าที่ถูกถ่ายในช่วงยุค 60s ถึง 70s ภาพนี้ได้ถูกวางเอาไว้ข้างโลงศพในงานศพของเธอ   ความเทพของคุณปู่ผู้สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ ในขณะที่เครื่องบินของเขาถูกยิงตกทะเล   ภาพฮาๆ จากความบ้าของคุณปู่ในวัยหนุ่ม   บอกเลยว่าการแต่งคอสเพลย์นั้นมีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าเราแล้ว   คุณย่าผู้จากไปด้วยโรคมะเร็ง ได้ทิ้งภาพสวยๆ ใบนี้ของเธอเอาไว้ให้หลานเป็นของต่างหน้า   ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คุณปู่ท่านนี้ได้ทำการขโมยรถของฝั่งนาซีมา พร้อมกับถ่ายภาพโชว์ความเก๋าเอาไว้ซะเลย   บอกเลยนะไอ้หนู ลีลาเจ๋งๆ แบบนี้มีมาตั้งแต่รุ่นปู่แล้วไม่อยากจะคุย   เก๋าไม่เก๋าในกระเป๋าก็มีเสือนะครับ!! ภาพของคุณปู่ในช่วงราวๆ 1960   ความน่ารักของคู่รักปู่ย่าสมัยหนุ่มสาว ด้วยสายตาที่ส่งถึงกันตั้งแต่ตอนนั้นทำให้ได้แต่งงานกันมานานกว่า 60 ปี   ท่าโดดแสนสวยงามของคุณปู่สุดจ๊าบที่ถูกถ่ายในปี 1930…

  • กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงขอโทษ หลังนักบินวาด ‘รูปหรรมส์’ บนท้องฟ้าจนดังไปทั่วโลก

    กองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงขอโทษ หลังนักบินวาด ‘รูปหรรมส์’ บนท้องฟ้าจนดังไปทั่วโลก

    เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ชาวบ้านในเขต Okanogon รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ต่างพากันงงและสงสัยเมื่อพวกเขาพบว่าบนท้องฟ้าได้มีควันสีขาวที่วาดออกมาจนดูเหมือนกับ “หรรมส์” ขนาดใหญ่กำลังลอยอยู่ ความพิสดารแบบนี้จึงทำให้บางคนถ่ายภาพสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเก็บไว้และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย สร้างความสงสัยให้กับคนจำนวนมากว่าสิ่งนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร จนกระทั่งกองทัพเรือแห่งสหรัฐฯ ได้ออกมาอธิบายว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นฝึมือของนักบินในสังกัดของพวกเขาเอง   หรรมส์ลอยอยู่บนท้องฟ้าซะอย่างนั้น .   นาวาตรี Leslie Hubbell ได้ออกมาชี้แจงกับทางสำนักข่าว Buzzfeed ว่า “ทางกองทัพเรือขอโทษสำหรับสิ่งที่ดูขาดความรับผิดชอบและขาดวุฒิภาวะอย่างนี้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในการฝึกซ้อมการขับเครื่องบินผาดโผนของคนในกองทัพ” “เราตั้งมาตรฐานของนักบินเราไว้สูงมากเพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ทำให้การซ้อมรบในครั้งนี้ของพวกเขาไร้ค่าไปโดยปริยายและลูกเรือของเราก็คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น” นาวาตรีกล่าวเสริม     พลเรือโท Mike Shoemaker แห่งหน่วยกองทัพอากาศของกองทัพเรือได้ออกมาพูดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นหนึ่งในอีกทางหนึ่งว่า “ชาวอเมริกันทุกคนมีสิทธิ์คาดหวังว่านักบินที่ได้รับ Wings of Gold จะแสดงให้เห็นถึงระดับวุฒิภาวะที่มากพอสำหรับการไว้วางใจให้พวกเขาได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจเสี่ยงๆ” เขาอธิบายต่ออีกว่า “ในหน่วยการบินของกองทัพเรือเราพยายามส่งเสริมให้เกิดการแสดงออกในเรื่องของศักดิ์ศรีและความน่าเคารพ ดังนั้นคนที่มาเล่นมุขตลกในเรื่องเพศเหมือนคนไม่มีวุฒิภาวะ ก็จะไม่มีที่ยืนในหน่วยของเราเด็ดขาด”   .   อย่างไรก็ตามยังไม่มีการแถลงว่านักบินคนดังกล่าวจะได้รับบทลงโทษอย่างไรบ้าง   ที่มา: buzzfeed

  • กลุ่มวัยรุ่นอัดคลิป “เสพยา” ผ่านหน้ากล้อง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดในยูทูบ

    กลุ่มวัยรุ่นอัดคลิป “เสพยา” ผ่านหน้ากล้อง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดในยูทูบ

    ปัจจุบันยูทูบคือสื่อกลางที่ทุกคนสามารถแชร์วิดีโอต่างๆ กันได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเอ็มวีเพลง การทำช่องเพื่อเป็นสื่อโฆษณา หรือแม้แต่การเสพยาโชว์หน้ากล้องอย่างของช่อง Drugslab ก็มีให้เห็นได้อย่างถูกกฎหมาย ช่อง Drugslab เป็นช่องจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ทำขึ้นมาเพื่อการศึกษาให้ความรู้เกี่ยวกับสารเสพติด ผ่านผู้ดำเนินรายการ 3 คนได้แก่ Nellie Benner , Rens Polman และ Bastiaan Rosman โดยรายการนี้เริ่มปล่อยคลิปตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2016   ผู้ดำเนินรายการทั้งสาม Bastiaan (คนซ้าย) Nellie (คนกลาง) Rens (คนขวา)   ในรายการพวกเขาทั้งสามคือคนอธิบายทุกอย่างเกี่ยวกับสารเสพติดที่นำมาใช้ในแต่ละครั้ง ตั้งแต่เรื่องของวิธีการใช้สารดังกล่าวอย่างถูกต้อง สามารถใช้ได้บ่อยมากแค่ไหน มันส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจหรืออุณหภูมิร่างกายอย่างไร และเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกมีการเปลี่ยนแปลงมากขนาดไหน สารเสพติดที่เลือกมาในแต่ละคลิป พวกเขาเลือกจากการอ่านในคอมเม้นต์ของคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเอาไว้ว่า อยากให้พวกเขาได้ลองเสพและให้ความรู้เกี่ยวกับสารเสพติดตัวไหนบ้าง พวกเขาไม่ได้อธิบายปากเปล่าเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขาเสพมันให้เห็นต่อหน้ากล้องจริงๆ อีกด้วย ทำให้คนดูสามารถสังเกตอาการที่เกิดขึ้นจากการใช้ยาได้ผ่านปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับพวกเขาโดยตรง     ตัวยาหรือสารที่นำมาออกรายการนั้นแทบจะมีด้วยกันเกือบทุกประเภทตั้งแต่ยาสูบ กัญชา ยาอี สาร LSD หรือแม้แต่โคเคน…

  • แรงบันดาลใจจาก Stranger Things นำมาสู่ภาพถ่ายคุมโทน ราวกับหลุดเข้าไปในโลกซีรีส์

    แรงบันดาลใจจาก Stranger Things นำมาสู่ภาพถ่ายคุมโทน ราวกับหลุดเข้าไปในโลกซีรีส์

    ในปกติยามค่ำคืนเราก็ได้เห็นเพียงแค่แสงจันทร์ แสงดาว หรือว่าแสงจากหลอดไฟที่ไม่ได้สีสันอะไรมากมายและยังคงมีความมืดเป็นพื้นหลังที่โดดเด่น แตกต่างจากภาพของศิลปินคนนี้ที่ได้สร้างแสงสว่างขึ้นมาบดบังความมืดเอาไว้ เผยให้เห็นตอนกลางคืนที่มีสีสันให้อารมณ์แตกต่างออกไป ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของช่างภาพ Elsa Blenda อาศัยอยู่ในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายในเมืองที่เธอได้เดินทางผ่านไปจากฝั่งตะวันออกของทวีปยุโรปมาจนถึงประเทศอเมริกาใต้ จากนั้นเธอได้ตกแต่งภาพทั้งหมดโดยการใช้แสงไฟนีออนเพิ่มสีสันมีความโดดเด่น เราจึงสามารถรับความรู้สึกและเห็นความสวยงามในแต่ละภาพได้แตกต่างกันไป   ภาพนี้ใช้สีชมพูเป็นหลัก ประกอบกับฉากของฝูงนกที่บินออกไป   นอกจากเรื่องของแสงแล้ว เธอก็ได้จำกัดในเรื่องของผู้คนที่เราจะได้เห็นในภาพอีกด้วย ทำให้เราสามารถรับรู้ได้ถึงบรรยากาศยามค่ำคืนที่ร้างผู้คนได้อย่างแท้จริง   แสงที่สาดเข้ามาจากทางขวา ทำให้เห็นว่ามีคนกำลังเดินอยู่บนถนน   แสงจากไฟหน้าของรถได้มาลบล้างความมืดมิดออกไป   ปั๊มน้ำมันที่มีแสงไฟสีฟ้าให้ความรู้สึกสบายตามากยิ่งขึ้น   แสงที่ตัดกันของส่วนบนและล่าง ให้ความรู้สึกพิศวงราวกับหนังลี้ลับ   แม้ไม่ได้อยู่ในความมืดแต่ร้านนี้ก็ยังคงความโดดเด่นเอาไว้ได้   หิมะที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สีขาวอีกต่อไป เมื่อมันได้เจอเข้ากับแสงไฟที่สาดลงมา   แม้เป็นเพียงแสงที่ลอดออกมาจากหน้าต่างเล็กๆ แต่นั่นก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้คุณต้องมองเป็นอันดับแรก   แสงไฟจากยานพาหนะที่สาดเข้ามาราวกับทะลุเมฆหมอก   ท้องฟ้าสีชมพูอมม่วงจางๆ ผสานเข้ากับสีฟ้าสว่างของแสงไฟ   ต้นไม้ที่อยู่ในป่าแต่กลับให้ความรู้สึกโดดเดี่ยว   มีเสน่ห์ดึงดูดน่าเข้าไปค้นหา   แสงที่เริ่มไล่คืบคลานเข้ามาเพื่อทดแทนความมืดที่มีอยู่ก่อน   เปลี่ยนถนนที่ว่างเปล่า ให้ดูมีความโดดเด่นได้โดยง่าย   ต้นไม้ที่ไม่อาจขยับไปไหนได้ และยังคงมีชีวิตท่ามกลางความมืดที่หลงเหลืออยู่…

  • หนุ่มไปขอคำปรึกษาจากครูสอนอังกฤษ เรื่องขอสาวเดท ใช้ทฤษฎีอริสโตเติล แถมจีบติดด้วย!!

    หนุ่มไปขอคำปรึกษาจากครูสอนอังกฤษ เรื่องขอสาวเดท ใช้ทฤษฎีอริสโตเติล แถมจีบติดด้วย!!

    เวลาที่เราอยากจีบใครซักคน ส่วนใหญ่เราเลือกที่จะพูดคุยกับเพื่อนสนิทมากกว่าที่จะเข้าหาผู้ใหญ่ แต่ชายคนนี้เขากลับทำในสิ่งที่ตรงข้ามกัน เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า Jake ต้องการไปออกเดทกับสาวคนหนึ่ง แต่เขาไม่รู้ว่าควรพูดแบบไหนดีเพื่อให้เธอยอมไปด้วยกัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับศาสตราจารย์ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษของเขาเอง   โฉมหน้าของ Jake ชายหนุ่มที่อยากไปออกเดทกับสาวคนหนึ่ง   ในวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา เขาได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการที่อาจารย์คนนั้นแนะนำและช่วยเหลือเขาลงในทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นว่าบางครั้งทฤษฎีก็สามารถช่วยเหลือเราได้โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน หลักการที่พวกเขาใช้คือวิธีการโน้มน้าวผู้อื่นตามความคิดของ อริสโตเติล นักปรัชญาชื่อดัง โดยแบ่งออกมาเป็น 3 หัวข้อย่อยได้แก่ Ethos , Pathos และ Logos   ด้วยความที่เขาไม่มีทักษะโน้มน้าวเธอผ่านการพิมพ์ข้อความ เขาจึงไปปรึกษาอาจารย์ภาษาอังกฤษจนได้วิธีนี้มา   ไปดูกันเลยว่าวิธีการนี้มันเป็นอย่างไร แล้วสุดท้ายมันทำให้เขาได้ไปเดทกับสาวคนนั้นหรือเปล่า   แผนที่เขาและอาจารย์ได้ปรึกษาถกเถียงกันเพื่อให้การชวนออกเดทครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี   เป้าหมายการโน้มน้าวครั้งนี้คือ ต้องพาสาวคนนั้นไปออกเดทด้วยกันให้ได้!!   เขียนบอกเอาไว้ว่าผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อว่า Hannah มีลักษณะอย่างไรบ้าง เช่น เธอเลี้ยงหมา เธอชอบอาหารจีน ทำงานหนัก และเพิ่งย้ายหอ หลังจากนั้นเขาก็ได้คิดคำพูดที่จะนำไปพูดกับเธอ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนตามหลักการที่อาจารย์แนะนำมา   Ethos…

  • Sylvester Stallone โดนกล่าวหาว่าบังคับเด็กสาว 16 ร่วมเซ็กส์ทรีซัม เมื่อ 30 ปีก่อน!?

    Sylvester Stallone โดนกล่าวหาว่าบังคับเด็กสาว 16 ร่วมเซ็กส์ทรีซัม เมื่อ 30 ปีก่อน!?

    หากใครชื่นชอบหนังแอคชั่นบู๊ล้างผลาญก็คงจะต้องรู้จักดาราดังอย่าง Sylvester Stallone ผู้ฝากผลงานที่มีชื่อเสียงเอาไว้มากมายเช่น Rambo , Rocky Balboa หรือ Expendable แต่ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2017 ได้มีการแชร์เรื่องฉาวของพระเอกนักบู๊ในเว็บไซต์ Pagesix เมื่อเขาถูกกล่าวหาว่าบังคับขืนใจเด็กอายุ 16 ปีให้มามีเพศสัมพันธ์กับเขาและบอดี้การ์ดส่วนตัว (หรือที่เรียกว่า Threesome)     เหตุการณ์ที่ว่านั้นหญิงสาวผู้กล่าวหาได้เล่าว่ามันเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 1986 เธอได้ไปเข้าพักกับครอบครัวของเพื่อนเธอที่โรงแรม Las Vegas Hilton เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา ในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 16 ปี ในวันหนึ่งที่เธอกำลังขึ้นลิฟต์ของโรงแรมอยู่ก็ได้เจอกับ Sylvestor ที่ตอนนั้นอายุได้ 40 ปี ผ่านการแนะนำของดาราชายอีกคนหนึ่ง David Mendenhall และนั่นคือการพบกันครั้งแรกของทั้งสอง ผ่านไปสองวันเธอได้ไปขอลายเซ็น Sylvestor เขาได้ถามถึงอายุและพูดชมเกี่ยวกับรูปร่างของเธอ ซึ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินอายกับคำพูดของเขา   ภาพของ Sylvester เมื่อปี 1986   จนกระทั่งในวันต่อมา Michael De Luca…

  • หญิงชาวอินเดีย มีตะปูฝังอยู่ในขามากถึง 70 ตัว โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง!?

    หญิงชาวอินเดีย มีตะปูฝังอยู่ในขามากถึง 70 ตัว โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง!?

    บางครั้งร่างกายของเราอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยที่เกือบทั้งหมดเราสามารถทราบความเป็นมาของอาการนั้นๆ เวลาไปพบแพทย์ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวชาวอินเดียคนนี้ เพราะเธอพบว่ามีตะปูกว่า 70 ตัวที่ฝังอยู่ในขาของเธอและแม้แต่แพทย์ก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่ามันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร   ตะปูจำนวนมากถูกพบในขาของหญิงสาวชาวอินเดีย   เธอมีชื่อว่า Anusuiya Devi วัย 35 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ เขต Fatehpur ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เมื่อปี 2012 เธอเริ่มเจ็บขาอย่างรุนแรงและพบว่าความเจ็บนั้นเกิดจากตะปูจำนวนมากที่ฝังอยู่ด้านในขาของเธอ ครั้งแรกที่ทำให้เธอทราบได้ว่ามีตะปูอยู่ด้านในคือตอนที่มีถุงซีสต์งอกขึ้นมาตรงขาของเธอ จากนั้นมันก็แตกออกเป็นน้ำหนองและมีเข็มกับตะปูที่โผล่ออกมาด้วย สิ่งที่ฝังอยู่ในขาของเธอมีอยู่ด้วยกันสามชนิดคือ เข็ม ตะปู และเข็มฉีดยาที่ใช้ในโรงพยาบาล น่าสงสัยมากว่าของแบบนี้เข้าไปอยู่ในขาของเธอได้อย่างไร ความเจ็บของเธอทำให้ยากต่อการเดิน ยืน หรือแม้แต่นั่ง และนั่นเองจึงทำให้เธอตัดสินใจไปหาหมอ แต่แล้วเธอก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย เพราะไม่มีหมอคนไหนสามารถบอกได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และพากันคิดว่าเธอนำตะปูฝังเข้าไปด้วยตัวเอง   เธออาศัยอยู่กับพี่ชายมานานถึง 7 ปี   การไม่ได้รับความช่วยเหลือนี้ทำให้พี่ชายของเธอ Awadhesh Kumar ที่อาศัยอยู่กับเธอมานานถึง 7 ปีได้ออกมาบอกว่า “เราไปหาหมอท้องถิ่นในหลายๆ ที่ แต่การทำอย่างนั้นก็ไม่อาจช่วยแก้ปัญหาของน้องผมได้เลยซักนิด และผมขอยืนยันว่าน้องไม่ได้ทำร้ายตัวเองเลยจริงๆ ผมอยู่กับเธอแทบจะตลอดเวลา เธอไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้นเลย”…

  • ศิลปินถ่ายทอดความ ‘โดดเดี่ยวอ้างว้าง’ ในแดนอาทิตย์อุทัย ในสไตล์เรโทรย้อนยุค 8-Bit

    ศิลปินถ่ายทอดความ ‘โดดเดี่ยวอ้างว้าง’ ในแดนอาทิตย์อุทัย ในสไตล์เรโทรย้อนยุค 8-Bit

    ความรู้สึกเหงาหรือโดดเดี่ยวสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลาไม่เว้นแม้แต่ในเมืองใหญ่ๆ ในประเทศญี่ปุ่นอย่างโตเกียว โอซาก้า หรือนาโงย่า ที่ต่อให้มีผู้คนรายล้อมมากมายเพียงใดก็ยังคงทำให้เรารู้สึกเคว้งคว้างได้อยู่ดี ศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Motocross-Saito จึงได้ทำการถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้นผ่าน Gif สไตล์ย้อนยุคพิกเซล 8 บิท ภายในโซเชียลมีเดีย tumblr เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่าความโดดเดี่ยวภายใต้แสงไฟในเมืองใหญ่นั้นมันทำให้เรารู้สึกอ้างว้างได้มากขนาดไหน   ในยามค่ำคืนหน้าร้านสะดวกซื้อที่ร้างผู้คน   มองออกไปจากบนที่สูงกลับรู้สึกว่าไม่เห็นใครเลย   บนถนนที่ไม่มีอะไรดึงดูดความสนใจไปได้เลย   ทุกอย่างยังคงแล่นไป แต่เหมือนกับว่าเรากำลังย่ำอยู่กับที่   ไม่มีอะไรมากระตุ้น เหมือนกับสายน้ำที่เรียบนิ่ง   กางร่มสามารถกันฝนที่ตกลงมาจากฟ้าได้ แต่ไม่สามารถกันฝนที่ตกอยู่ในใจได้   ใต้ร่มเงามีเพียงเรากับสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจเข้าใจกันด้วยคำพูดได้   การทำสิ่งต่างๆ ช่วยให้ลบความคิดทุกอย่างได้หมด แต่ไม่อาจลบความรู้สึก   ยังคงยืนรออยู่อย่างนั้น แม้ไม่มีรถขับผ่านมาเลยก็ตาม   ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงเราที่ยังคงเชื่องช้าไม่ยอมไปไหน   มีเพียงเสียงคลื่นที่พัดเข้ามา ไร้ซึ่งเสียงของผู้คน   ลองทำหลายๆ สิ่งเพื่อขจัดความรู้สึกนี้ออกไปให้ได้   อาจมีบ้างที่ความเหงาถูกแทนที่ด้วยเพื่อนที่เข้าใจกันด้วยบางสิ่งที่ไม่ใช่คำพูด   บางทีเราอาจไม่ได้เหงา แต่เราแค่เบื่อกับชีวิตในบางช่วง   เป็นการรอผ้าที่นานกว่าปกติอย่างไม่มีเหตุผล…

  • สัมผัสประสบการณ์ 360 องศา หรูหราเฟิร์สคลาสบนเครื่อง Boeing 777 จากสายการบิน Emirates

    สัมผัสประสบการณ์ 360 องศา หรูหราเฟิร์สคลาสบนเครื่อง Boeing 777 จากสายการบิน Emirates

    การเดินทางบนเครื่องบินอาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกอึดอัดหรือไม่ค่อยสะดวกสบายกับการต้องนั่งกับใครก็ไม่รู้ แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปอย่างแน่นอน เมื่อคุณได้ใช้บริการห้องเฟิร์สคลาสของสายการบิน Emirates บนเครื่องบิน Boeing 777 ลำนี้ ขอชวนให้เพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับที่นั่งระดับเฟิร์สคลาสสุดหรูของที่นี่ ซึ่งได้ต้นแบบมาจากการจัดวางที่นั่งของรถ Mercedez-Benz S-Class บอกได้เลยว่ามันมีความสุดยอดในหลายๆ อย่างเอามากๆ ถ้าอยากรู้ว่ามันเจ๋งขนาดไหนก็ไปดูกันเลยยย   มาเริ่มจากรูปแบบของห้องและส่วนทางเข้ากันก่อนเลย เห็นได้ถึงความสวยงามในการตกแต่งลวดลายต่างๆ อย่างมีเอกลักษณ์ โดดเด่นกลางทางเดินระหว่างที่นั่ง   พอเข้าไปด้านในห้องเมื่อมองมุมสูงก็จะเห็นได้ว่าการจัดวางของเก้าอี้ หรือชั้นวางต่างๆ มีความลงตัวและสะดวกสบาย   ตรงข้ามกับที่นั่งเป็นเหมือนกับโต๊ะไว้สามารถให้เราวางของได้ มีบาร์น้ำเล็กๆ ไว้ดับกระหาย ส่วนด้านล่างของโต๊ะก็มีกล่องไว้เก็บของเพิ่มเติม   ทางขวาหรือซ้ายมือของโต๊ะเป็นหน้าต่างไว้ให้บริกรบนเครื่องบินมาเสิร์ฟอาหารโดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของเรา และจุดเด่นของส่วนนี้ก็คือทีวีขนาด 32 นิ้ว ที่จะทำให้เราได้เพลิดเพลินกับหนังเรื่องโปรดได้ระหว่างการเดินทาง   ตรงข้ามกับทางเข้าห้องมีหน้าต่างภาพเสมือนเอาไว้ให้ ทำให้ถึงแม้เรานั่งอยู่กลางเครื่องก็สามารถมองออกไปนอกเครื่องได้ผ่านกล้องที่ถ่ายบรรยากาศภายนอก เหมือนกับเรานั่งข้างหน้าต่างจริงๆ มีเฉพาะกับสายการบินนี้เท่านั้น   และเราสามารถใช้กล้องส่องทางไกลที่เตรียมไว้ให้ ส่องมองออกไปดูบรรยากาศด้านนอกได้อีกด้วย   หน้าจอเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างมีไว้ให้เราสั่งออเดอร์กับบริกรได้ผ่านวิดีโอคอล   เรื่องของแสงและอุณหภูมิภายในห้องก็สามารถปรับได้อย่างอิสระตามความต้องการ   โต๊ะอาหารที่ยื่นออกมาให้คุณสามารถลิ้มรสอาหารได้อย่างเต็มอรรถรส และบอกเลยว่าอาหารของที่นี่ก็ไม่ได้ไก่กาหรอกนะจะบอกให้   ปิดท้ายด้วยไฮไลท์ที่เป็นส่วนสำคัญของเฟิร์สคลาสแห่งนี้…

  • พลังพิเศษของเจ้า ‘ลิงลม’ ส่งสายตาอันบ้องแบ๊ว ที่สามารถสะกดจิตคุณให้หลงใหลได้

    พลังพิเศษของเจ้า ‘ลิงลม’ ส่งสายตาอันบ้องแบ๊ว ที่สามารถสะกดจิตคุณให้หลงใหลได้

    ลิงลม หรือ นางอาย คือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สามารถพบได้ทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศอินเดีย หรือตามเกาะต่างๆ ในอินโดนีเซีย ที่มาของชื่อก็คือเจ้าสัตว์ตัวนี้จะมีความว่องไวเวลาที่โดนลมพัดทำให้ได้ชื่อว่าลิงลม ส่วนอีกชื่อที่เรียกว่านางอายก็เพราะเวลาตกใจมันจะยกแขนขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ เหมือนกับว่ากำลังอายอยู่นั่นเอง เจ้าสัตว์ตัวจิ๋วนี้มีลักษณะโดดเด่นอยู่หลายอย่างได้แก่ กระดูกสันหลังที่สามารถบิดตัวไปมาได้คล้ายงู ลิ้นที่มีถึง 2 อันแบ่งเป็นลิ้นสั้นกับลิ้นยาวไว้ใช้กินอาหารที่แตกต่างกัน และอีกส่วนที่โดดเด่นและไม่พูดถึงไม่ได้เลยของเจ้าสัตว์ชนิดนี้ก็คือดวงตาอันบ้องแบ๊วน่ารักน่าชังจนเหมือนกับว่ามันส่งสายตามาอ้อนเราอยู่ตลอดเวลา   ดวงตาที่สะกดทุกสายตาให้ต้องหยุดมองความน่ารักของมัน   พูดไปก็คงไม่เห็นภาพ เราจึงได้นำภาพหลักฐานมายืนยันกับทุกคนว่าดวงตาของมันทำให้เราใจอ่อนได้มากขนาดไหน ไปดูกันดีกว่าว่าเมื่อเพื่อนๆ ได้เห็นแล้วจะตกไปอยู่ภายใต้มนต์สะกดความน่ารักของมันกันหรือเปล่า   อร่อยมากๆ เลยครับ   อะไรติดตานายอยู่อ่ะเพื่อน เดี๋ยวเราเลียออกให้นะ   นี่มันอะไรอ่ะครับ กินไม่เห็นได้เลย   งั่มๆๆ อร่อยจริงจริ๊งงง   ฝนตกก็กางร่ม หนาวก็ใส่เสื้อ   ผมขอนะครับ รสชาติเค็มปะแล่มๆ นะ   เห็นตามันแล้วก็ไม่อยากขยับมือไปไหนเลย   ผมอายอ่ะ ขอหยิบไปกินในห้องนะ   จริงๆ ก็อยากกินสองชิ้นนะแต่จะหยิบดีมั้ยหว่า   สบายมากเลยครับป๋ม ขนลุกชูชันไปหมดแล้ว   แม่จ๋าไหนบอกจะพามากินหนม พามาหาหมอฟันตะมายยย…

  • ช่างสักหนุ่มปกปิด ‘รอยแผลเป็นอันเลวร้าย’ ให้หญิงสาวกลับมามีความสุขอีกกครั้ง

    ช่างสักหนุ่มปกปิด ‘รอยแผลเป็นอันเลวร้าย’ ให้หญิงสาวกลับมามีความสุขอีกกครั้ง

    แทบทุกคนมีสิ่งที่ต้องการจะลืมหรือทิ้งมันไว้ให้กลายเป็นอดีต แต่หลายๆ ครั้งเราก็ไม่สามารถทำได้เพราะยังคงมีสิ่งที่ทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดนั้นอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับเธอคนนี้ เพราะบาดแผลที่เธอได้สร้างเอาไว้มันกลับติดตรึงอยู่บนร่างกายของเธอจนไม่อาจหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ หญิงสาวคนนี้มีชื่อว่า Aoife Lovett ชาวไอริชวัย 19 ปี เธอเคยสร้างบาดแผลเอาไว้ที่แขนของตัวเองด้วยการกรีดข้อมือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอรู้สึกว่าแผลเป็นนั้นทำให้เธอนึกถึงช่วงเวลาร้ายๆ ในอดีต เธอจึงอยากลบมันออกไป ซึ่งเธอได้รับความช่วยเหลือจากช่างสักหนุ่มผู้มีจิตอาสา   Aoife Lovett หญิงสาวผู้ไม่อาจหลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ เพราะแผลเป็นของเธอ   เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Boredpanda วันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 โดย Aoife บอกว่าในสมัยก่อนเธอเคยมีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อย่างมากจนทำให้เธอใช้ของมีคมกรีดเข้าไปที่บริเวณแขนของตัวเองหลายต่อหลายครั้ง พอเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้จิตใจของเธอก็ได้ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่แผลที่เคยสร้างไว้ก็ยังคงปรากฎให้เห็นเป็นรอยแผลเป็นบนแขนของเธอ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เธอยังคงรู้สึกถึงช่วงเวลาอันเจ็บปวดในตอนนั้นอยู่เสมอ   แผลเป็นที่เกิดขึ้นจากความทุกข์และความเศร้า ยังคงติดตรึงจนทำให้เธอย้อนไปคิดถึงอดีตที่เลวร้ายอยู่ทุกครั้งที่ได้เห็น   Aoife บอกว่า “มันเป็นเรื่องที่ยากมากในการเยียวยาตัวเองตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งที่ฉันเห็นสิ่งนี้ ความเจ็บปวดในอดีตก็จะกลับมาหลอกหลอนฉันเสมอ เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปและความรู้สึกนี้ก็จะรุนแรงมากๆ ตอนที่ฉันอยู่กับคนในครอบครัว” นั่นจึงทำให้เธอต้องการสักทับรอยแผลนั้นเอาไว้เพื่อปกปิดไม่ให้ได้นึกถึงมันอีก แต่เมื่อเธอไปหาช่างสักคนไหนกลับไม่มีใครยอมรับงานจากเธอเลยแม้แต่คนเดียว ในขณะที่กำลังหมดสิ้นหนทาง แม่ของเธอก็ได้ไปเจอเข้ากับช่างสักหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Ryan Kelly เจ้าของโปรเจกต์ Scars Behind Beauty เป็นโครงการที่เขาสักลายทับบนแผลเป็นให้กับคนที่ต้องการแบบฟรีๆ   Ryan…

  • บ้าน ‘ประกอบ’ แนวโมเดิร์นจากจีน ใช้เวลาสร้างไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในงบแค่ 330,000 บาท!!

    บ้าน ‘ประกอบ’ แนวโมเดิร์นจากจีน ใช้เวลาสร้างไม่ถึง 24 ชั่วโมง ในงบแค่ 330,000 บาท!!

    สำหรับในประเทศจีน การจะมีบ้านดีๆ ซักหลังเป็นเรื่องยาก เพราะราคาของมันนั้นแพงเกินกว่าที่คนทั่วไปจะจ่ายไหว โดยเฉพาะในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ นั่นจึงทำให้ Fan และลูกของเธอต้องอาศัยอยู่ในบ้านเก่าๆ โทรมๆ อยู่ตรงลานหน้าบ้านพ่อแม่ของเธอด้านนอกตัวเมือง แม้ว่าเธอได้อยู่ใกล้ๆ กับครอบครัวอย่างที่เธอต้องการ แต่เธอก็ยังคงมีความฝันที่จะได้มีบ้านสไตล์โมเดิร์นซักหลังและด้วยปัญหาเรื่องของงบประมาณ เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากบริษัทดีไซน์ People’s Architecture Office (หรือ PAO) ที่ช่วยทำให้ฝันของเธอกลายเป็นจริงในที่สุด   บ้านที่ Fan ได้รับ ช่วยเติมเต็มความฝันของเธอ   นักออกแบบของบริษัทจึงได้ออกแบบผลงานบ้านที่มีชื่อว่า Plug-in House ในเดือนธันวาคม 2016 ก่อนที่จะนำมันมาสร้างให้กับหญิงสาวและลูกชาย บ้านหลังนี้มีความพิเศษตรงที่วัสดุอุปกรณ์ทั้งหมดใช้งบประมาณเพียงแค่ 330,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถนำมาประกอบสร้างโดยใช้เวลาแค่ไม่ถึง 1 วัน!!   จากตอนแรกบ้านมีลักษณะเก่าและทรุดโทรม แต่ก็เปลี่ยนไปได้ในเวลาแค่ไม่ถึง 1 วัน   ไม่ใช่เพียงแค่ภายนอกที่ดูเปลี่ยนแตกต่างกันมาก เพราะภายในนี่คือมันยิ่งกว่าคำว่าบ้านคนละหลังแต่นี่มันคือคนละโลกชัดๆ   โครงสร้างแต่ละส่วนสามารถนำมาประกอบเข้ากันได้อย่างง่ายดาย ทางทีมออกแบบถึงกับบอกเลยว่า “บ้านหลังนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใดๆ และไม่ต้องใช้ช่างฝีมือเฉพาะทางเลย” ประมาณว่าขอแค่มีแรงคนก็เกินพอแล้วว่างั้น   การก่อสร้างที่ใช้เวลาไม่ถึง…

  • ประมวลภาพความเสียหาย ชายแดนอิรัก-อิหร่าน จากเหตุแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในปี 2017

    ประมวลภาพความเสียหาย ชายแดนอิรัก-อิหร่าน จากเหตุแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในปี 2017

    เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.3 แมกนิจูดใกล้กับชายแดนประเทศอิรัก-อิหร่าน สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเมือง Sarpol-e Zahab ในประเทศอิหร่าน และทางตอนเหนือของแหล่งที่อยู่อาศัยชาวเคิร์ดในประเทศอิรัก สำนักงานข่าว Reuters ได้รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากการกระทบกันของชั้นเปลือกโลกจนเกิดเป็นการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ทำให้ในตอนนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 406 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 7,185 คน ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในปีนี้เลยทีเดียว เราได้ประมวลภาพผลกระทบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ได้เห็นถึงความรุนแรงของมัน การเข้ามาช่วยเหลือจากหลายฝ่าย รวมถึงการสูญเสียที่อยู่อาศัยและคนที่ตนเองรักไปอย่างน่าเศร้า   สิ่งปลูกสร้างภายในเมือง Sarpol-e Zahab ต้องพังทลายลงไปด้วยแรงสั่นสะเทือน   คนที่เดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังภายในเมือง Darbandikhan ในเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของประเทศอิรัก   ทีมช่วยเหลือพยายามตามหาผู้รอดชีวิตภายในเมือง Sarpol-e-Zahab โดยใช้การดมกลิ่นของสุนัข   ภาพนี้ถูกถ่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 แสดงให้เห็นถึงความเสียใจของชายคนนี้ที่อยู่ในเมือง Sarpol-e-Zahab   ญาติของผู้จากไปภายในเมืองเดียวกัน ที่ยังคงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น   สิ่งก่อสร้างภายในเมืองแทบจะพังพินาศไปทั้งหมด และในตอนเกิดอาฟเตอร์ช็อคก็ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและรีบวิ่งออกมาอยู่ในที่โล่งแจ้ง   นี่เป็นแผ่นดินไหวครั้งที่ 4 ในปีนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน แต่ในสามครั้งก่อนนั้นมีจำนวนการตายแค่ไม่เกินเลข 1 หลักเท่านั้น และภาพด้านล่างนี้ก็คือผลกระทบอันรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมือง Darbandikhan  …

  • เด็กชายวัย 5 ขวบมีคนส่งของเป็นไอดอล ทางบริษัทก็เลยจัดทั้งชุดทั้งรถให้แบบครบเซ็ท!!

    เด็กชายวัย 5 ขวบมีคนส่งของเป็นไอดอล ทางบริษัทก็เลยจัดทั้งชุดทั้งรถให้แบบครบเซ็ท!!

    UPS คือบริษัทขนส่งสินค้าและไปรษณีย์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา บวกกับสาขาอีกมากมายทั่วโลก ทำให้ต้องใช้พนักงานจัดส่งจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Kellie Martin ผู้ทำงานเป็นคนขับรถส่งพัสดุมานานกว่า 25 ปีอยู่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา จนได้กลายเป็นไอดอลของเด็กน้อยคนหนึ่ง เรื่องราวนี้ถูกแชร์ลงในเว็บไซต์ Inspiremore วันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเด็กคนหนึ่งที่มีชื่อว่า James Walker วัย 5 ขวบ บ้านของหนุ่มน้อยคนนี้ตั้งอยู่ระหว่างทางที่ Kellie ต้องขับไปส่งของเป็นประจำ จึงทำให้ในทุกๆ วันเด็กน้อยจะวิ่งออกไปทักทายเธออยู่เสมอ   Kellie และ James เด็กน้อยวัย 5 ขวบที่มองว่าเธอเป็นไอดอล   ทั้งสองได้เจอกันครั้งแรกเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้วในตอนที่เธอมาส่งของให้กับบ้านหลังนี้ หลังจากนั้นพอเธอนำรถมาจอดตรงถนนหน้าบ้านของเขาปุ๊บ เด็กคนนี้ก็จะวิ่งออกไปหาในทันทีและช่วยเธอขนสินค้าต่างๆ ที่ถูกส่งมาบ้านของตัวเอง รวมถึงช่วยหาสินค้าอื่นๆ ที่เธอต้องนำไปส่งต่อให้บ้านหลังอื่นอีกด้วย Lauren Walker แม่ของเด็กได้บอกว่า “ฉันคิดว่า Kellie นำของมาส่งให้ที่ประตูแค่ครั้งเดียวเองมั้ง เพราะหลังจากนั้น James ก็ได้เข้าไปช่วยเธออยู่ตลอด” เรียกว่าเป็นความน่ารักของทั้งคู่ที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกๆ คนจริงๆ…

  • รู้จักอาการปวดหัวทั้ง 4 รูปแบบ และเราจะบรรเทาอาการให้เหมาะสมได้อย่างไรบ้าง!?

    รู้จักอาการปวดหัวทั้ง 4 รูปแบบ และเราจะบรรเทาอาการให้เหมาะสมได้อย่างไรบ้าง!?

    อาการปวดหัวคือสิ่งที่ทุกคนเคยเป็น แต่เราเคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าอาการที่เราเป็นอยู่นั้นเกิดจากสาเหตุใดและจะสามารถบรรเทาอาการเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง? วันนี้เรามีคำตอบให้กับเพื่อนๆ ทุกคนแล้ว นี่เป็นเกร็ดความรู้จากเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อ Goodful โดยพวกเขาได้โพสต์คลิปวิดีโอเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 เพื่ออธิบายประเภทของอาการปวดหัว สาเหตุ และวิธีการบรรเทาอาการนั้นแบบง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ในทุกที่ทุกเวลา ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยยย   อาการปวดหัวประเภทที่ 1 : การปวดหัวที่เกิดจากความตึงเครียด สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดขึ้นคือความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ความหิว ความหดหู่ และความเครียด เรียกได้ว่าเป็นอาการปวดหัวขั้นพื้นฐานที่สามารถเป็นกันได้ค่อนข้างง่าย   อาการปวดที่เกิดขึ้นจะอยู่ที่บริเวณหน้าผาก คอ และด้านหลังศีรษะ   อาการปวดหัวประเภทที่ 2 : ปวดไมเกรน การปวดไมเกรนสามารถเกิดขึ้นได้จากอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน มีอะไรไปกระตุ้นกับประสาทสัมผัส และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม   การปวดหัวประเภทนี้ในตอนแรกจะปวดแค่ข้างเดียวก่อน   แต่หากปล่อยไว้ก็จะปวดบริเวณขมับ ดวงตา หรือบริเวณหลังหัวเพิ่มเติม   อาการปวดหัวประเภทที่ 3 : ปวดไซนัส เกิดขึ้นได้เวลาที่มีน้ำมูกไหล หูอื้อ เป็นไข้ หรือเป็นตอนที่หน้าบวมขึ้น   โดยจะปวดบริเวณกระดูกแก้ม…

  • ภาพฮาๆ ของ ‘เมียน้อยวิ่งหนีเมียหลวง’ ชาวเน็ตคิดว่ายังไม่เร้าใจ จึงอัญเชิญเข้าร่วมพิธีกรรม

    ภาพฮาๆ ของ ‘เมียน้อยวิ่งหนีเมียหลวง’ ชาวเน็ตคิดว่ายังไม่เร้าใจ จึงอัญเชิญเข้าร่วมพิธีกรรม

    สมัยนี้การตกแต่งตัดต่อภาพเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ บางครั้งเราสามารถเปลี่ยนจากภาพที่ดูไม่มีอะไรให้กลายเป็นภาพที่สื่อให้เห็นอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้น หรือจะเพิ่มอารมณ์จากภาพที่ดูเร้าใจอยู่แล้วให้มันเร้าใจ ระทึกขวัญมากขึ้นไปอีกแบบนี้ก็ได้เช่นเดียวกัน เมื่อภาพของเมียน้อยสวมชุดชั้นในกำลังวิ่งหนีเมียหลวงอยู่คงทำให้หลายๆ คนรู้สึกว่ามันยังไม่เร้าใจมากพอ พวกเขาเลยนำภาพนี้ไปตกแต่ง ต่อเติมให้มันดูตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นไปอีก ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเป็นยังไงลองไปดูกันเลย   ภาพต้นฉบับ เมียน้อยสวมชุดชั้นในกำลังวิ่งหนีเมียหลวงที่ถือไม้กวาดไล่ตามมา   รีบวิ่งหนีไปทางนั้นเร็ว สงสัยจะหนีสตอร์มทรูปเปอร์มา   ด้วยเกียรติของชาวสปาร์ตัน ข้าจะจัดการเจ้าให้ได้   โปเกม่อนเมียน้อย ฉันเลือกนาย   ไล่ไม่ทัน เลยปาใส่กบาลแทน ก็เลยโดนจับข้อหาฆ่าคนตาย   สำหรับฉากนี้ เธอเป็นได้แค่ตัวประกอบที่กำลังหนีตาย   แนะนำให้หันไปหาคนด้านหลังนะ ดูแล้วเขาน่าจะช่วยได้   สีฟ้าๆ นั่นไม่ใช่ไม้กวาดแต่เป็นหอกน้ำแข็งสินะ   ความจริงทั้งสามคนวิ่งไล่กันมาตั้งนานแล้ว ดูสิมีอยู่ในภาพวาดยุคเก่าด้วย   อ้าวเฮ้ย!! แล้วหนูไปเกี่ยวไรด้วยเนี๊ยยย   แต่งตัวแบบนั้นออกมาไม่ได้นะคะ รบกวนหลวงพี่สั่งสอนพวกเธอที   วิ่งไปวิ่งมากลายเป็นนักวิ่งในงานมาราธอนซะงั้น   อืมมม วงสวิงกำลังดีเลย นี่เธอขอยืมไม้กอล์ฟสีฟ้าๆ นั่นหน่อยได้มั้ย?   นี่เป็นถ้วยรางวัลที่ผมภูมิใจมากที่สุดแล้วครับตั้งแต่เกิดมา   คุณชาวีมาทำอย่างนี้กับอารยาไม่ได้นะคะ จะหนีไปกับนังดีดี้แบบนี้ไม่ได้…

  • ตำนานของ Jim Thorpe ผู้พิชิต 2 เหรียญทองโอลิมปิกปี 1912 ด้วยรองเท้าที่คุ้ยมาจากถังขยะ

    ตำนานของ Jim Thorpe ผู้พิชิต 2 เหรียญทองโอลิมปิกปี 1912 ด้วยรองเท้าที่คุ้ยมาจากถังขยะ

    หลายคนมีความคิดว่าการที่เรามีอุปกรณ์กีฬาที่ดีก็จะทำให้เราสามารถเล่นกีฬานั้นๆ ได้ดีขึ้น แต่ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์เพียงอย่างเดียวเสมอไป เพราะอย่างชายคนนี้ที่ใช้เพียงแค่รองเท้ากีฬาที่เก็บได้จากถังขยะก็ยังทำให้เขาได้ถึง 2 เหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเลย!! ชายคนนั้นมีชื่อว่า Jim Thorpe หนุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันที่เกิดในปี 1887 และได้สร้างผลงานเอาไว้ในการแข่งขันกรีฑาในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกประจำปี 1912 ที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยเขาสามารถคว้าเหรียญทองกลับมาได้ถึง 2 เหรียญด้วยรองเท้าที่เก็บได้จากถังขยะ   Jim Thorpe ผู้คว้า 2 เหรียญทองด้วยรองเท้าที่เก็บมาจากถังขยะ   Jim มีพี่ชายฝาแฝดอยู่หนึ่งคน แต่ก็ได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนอายุเพียง 9 ขวบ ต่อมาอีกไม่กี่ปีแม่และพ่อของเขาก็ได้จากโลกนี้ตามพี่เขาไป ทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่นั้นมา แต่เขาก็ไม่ได้ย่อท้อกับชีวิต จนเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ได้เข้าร่วมการทดสอบคัดตัวนักกรีฑาตัวแทนสหรัฐอเมริกาที่ต้องไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกปี 1912 ด้วยศักยภาพความสามารถทางด้านกีฬาของเขาทำให้สามารถติดเป็นหนึ่งในทีม Pentathlon (หรือ ปัญจกรีฑา) ได้ไม่ยาก อีกทั้งยังถูกเลือกให้ลงการแข่งขันประเภท Decathlon (หรือ ทศกรีฑา) เพิ่มเข้าไปอีก แต่ถึงแม้เขาจะต้องลงแข่งหลายรายการขนาดไหนก็ไม่น่ากังวลเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนวันแข่ง เพราะรองเท้าของเขาถูกขโมยไปในวันนั้น แน่นอนว่ารองเท้าคือสิ่งสำคัญสำหรับนักกรีฑาอย่างมาก แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดเขาได้ตัดสินใจใช้รองเท้าที่เก็บมาได้จากถังขยะ โดยรองเท้าทั้งสองข้างนั้นไม่ได้มาจากที่เดียวกัน ขนาดของรองเท้าจึงต่างกันทำให้เท้าข้างหนึ่งของเขาต้องใส่ถุงเท้าหลายๆ ชั้นเพื่อเพิ่มความหนาไม่ให้รองเท้าหลุดออกมาระหว่างแข่ง     ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องรองเท้าก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับชายคนนี้ เพราะในการแข่งประเภท…

  • ชีวิตอันยากลำบากของ ‘เด็กอ้วนที่สุดในโลก’ อายุเพียง 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ!!

    ชีวิตอันยากลำบากของ ‘เด็กอ้วนที่สุดในโลก’ อายุเพียง 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ!!

    คำว่า “ที่สุดของโลก” หลายคนเข้าใจว่ามันคงมีแต่เรื่องเจ๋งๆ เช่นวิ่งเร็วที่สุดในโลกหรือกระโดดได้สูงที่สุดในโลก แต่ในความเป็นจริงการเป็นที่สุดของบางเรื่องอาจตามมาด้วยผลกระทบที่เลวร้าย เหมือนกับเด็กน้อยคนนี้ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากเพราะเขาเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลก เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า Luis Manuel อาศัยอยู่แถบชายฝั่งแปซิฟิก รัฐโกลีมา ประเทศเม็กซิโก เด็กชายคนนี้มีอายุเพียงแค่ 10 เดือนแต่กลับมีน้ำหนักมากถึง 28 กิโลกรัม!! เทียบเท่ากับเด็ก 9 ขวบเลยทีเดียว   เด็กน้อยที่อ้วนที่สุดในโลกวัย 10 เดือนแต่หนักเท่าเด็ก 9 ขวบ   ในตอนแรก Isabel Pantoja แม่ของเด็กคิดว่าที่ลูกเธอมีน้ำหนักมากกว่าปกติขนาดนี้เป็นเพราะว่าน้ำนมจากอกของเธอมีคุณภาพดีเท่านั้นเอง เด็กคนนี้เกิดมามีน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม พอๆ กับเด็กทั่วๆ ไป พอผ่านไป 2 เดือนเขาก็มีน้ำหนัก 10 กิโลกรัมจนกระทั่งมีกลายเป็นเด็กที่อ้วนที่สุดในโลกในปัจจุบัน ซึ่งเขามีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า Mario พี่ชายอายุเกือบ 3 ขวบของเขาซะอีก   ร่างกายของเด็กมีขนาดใหญ่กว่าเด็กที่โตกว่าซะอีก   ด้วยความผิดปกติที่เห็นได้ชัดขนาดนี้ครอบครัวจึงได้พาเขาไปตรวจที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แต่หมอกลับไม่สามารถให้คำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แพทย์สันนิษฐานว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจากโรคที่มีชื่อว่า Prader-Willi Syndrome…

  • ชายชาวโอซาก้าหลับนอนกับ ‘ศพคนรัก’ นาน 5 วัน เพราะสะเทือนใจจนไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

    ชายชาวโอซาก้าหลับนอนกับ ‘ศพคนรัก’ นาน 5 วัน เพราะสะเทือนใจจนไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี

    ในบางสถานการณ์เราอาจไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะว่าสิ่งที่เราเจอมันทำให้เรารู้สึกไม่อยากยอมรับความจริงจนในสมองมันตันไปหมด เหมือนกับชายคนนี้ที่พอเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาเขาก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก จนทำให้ต้องนอนอยู่กับศพไปนานถึง 5 วัน เรื่องราวนี้ถูกพบในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองฮิระกะตะ จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าตรวจค้นบ้านของชายวัย 48 ปีคนหนึ่งในสภาพที่ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ และพบเข้ากับศพหญิงสาววัย 44 ปีที่เป็นคนรักของเขานอนอยู่บนเตียงภายในบ้าน   สถานีตำรวจเมืองฮิระกะตะ   ตำรวจได้ทำการตรวจค้นหลังจากที่ผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้นบังเอิญไปเห็นศพของหญิงสาวสวมชุดนอนอยู่ข้างๆ กับชายเจ้าของห้องบนเตียง จึงได้ทำการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ จากการสอบถามข้อมูลทำให้ทราบว่าชายคนนี้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยให้กับบริเวณที่อยู่อาศัยดังกล่าว โดยในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาคนรักของเขาก็จะเข้ามานอนที่ห้องบ้างเป็นบางครั้ง ชายคนนี้ได้บอกว่าคนรักของเขามีสุภาพที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว และเธอก็ไม่ยอมเข้ารับการตรวจหรือรักษาจากแพทย์ ทำให้อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2017 เธอก็ได้เสียชีวิตไปขณะที่ยังหลับอยู่     เขาเล่าว่า “ในคืนนั้นร่างกายของเธอเย็นยะเยือก จนทำให้ผมไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไปดี” เขาตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ทั้งจิตใจและความรู้สึกของเขาแทบจะเป็นอัมพาตไปเลยในตอนนั้น จึงได้ตัดสินใจเก็บร่างไร้วิญญาณของคนรักเอาไว้เป็นเวลานานถึง 5 วันจนกระทั่งมีคนไปพบเข้า     ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงหาสาเหตุการตายของหญิงสาวต่อไปและไม่ได้มองว่าชายคนนี้เป็นคนฆ่าเธอ แต่ก็ได้ทำการจับกุมเขาในความผิดที่ไม่ยอมแจ้งความเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหญิงสาวและไม่ยอมพาเธอไปรักษาแม้รู้ว่าเธอกำลังอยู่ในขั้นอันตราย   ที่มา: rocketnews24

  • คุณแม่กะจะส่งรูปไปให้พ่อ แต่ดั๊นส่งผิดไปให้ลูก เอ๊ะ.. แล้วแม่ส่งรูปอะไรมาล่ะนั่น!?

    คุณแม่กะจะส่งรูปไปให้พ่อ แต่ดั๊นส่งผิดไปให้ลูก เอ๊ะ.. แล้วแม่ส่งรูปอะไรมาล่ะนั่น!?

    ในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่เด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่มีสมาร์ทโฟนเพราะผู้หลักผู้ใหญ่หรือคุณพ่อคุณแม่เราเองก็มีเช่นเดียวกัน ทำให้ทั้งครอบครัวสามารถพูดคุยหรือส่งรูปภาพหากันได้ง่ายยิ่งขึ้น และบางครั้งก็อาจมีการส่งหาคนผิดบ้างเหมือนกับคุณแม่คนนี้ที่ส่งรูปหาผิดคนแค่ครั้งเดียว แต่กลับกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลซะอย่างนั้น เรื่องราวนี้ได้ถูกแชร์ลงในทวิตเตอร์ของ Liam McDonald หนุ่มวัย 24 ปีที่อยู่ในเมืองดันดี ประเทศสก็อตแลนด์ เมื่อมือถือของเขาแจ้งเตือนว่าคุณแม่ได้ส่งรูปมาให้ผ่านแอพฯ WhatsApp แต่เขากลับไม่กล้าเปิดขึ้นมาเพราะคุณแม่ดันส่งข้อความทิ้งท้ายว่า “ขอโทษที คิดว่าพ่อ (ฮา)”   คุณแม่ส่งมาให้ตั้ง 3 ภาพ แถมติดรูปหัวใจมาให้ด้วย แต่ดันผิดแชท   ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไร แต่ตรงข้อความที่ 3 เธอดันใส่อิโมจิรูปหัวใจมาให้อีก รูปแบบของข้อความแบบนี้ทำเอาลูกชายไม่กล้าเปิดเลย เพราะไม่แน่ว่ามันอาจเป็นรูปแบบส่วนตัวๆ ของพวกเขาก็ได้ จากนั้นเขาจึงได้นำภาพการแจ้งเตือนนี้ไปแชร์ลงในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2017 พร้อมกับคำพูดที่ว่า “เช็ดเขร้ ผมไม่กล้าเปิดมันขึ้นมาเลย”   โพสต์ของชายหนุ่มที่ยังคงคาใจกับรูปที่แม่ของเขาส่งมา   เรื่องราวนี้ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันสงสัยไปพร้อมๆ กับเขาจนมีการรีทวีตไปมากกว่า 25,000 ครั้ง กดไลก์อีกกว่า 85,000 ครั้ง และได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเต็มไปหมด ซึ่งเกือบทั้งหมดต้องการให้เขาเปิดดูรูปนั้นซะสงสัยเรื่องนี้คงไปกระตุ้นต่อมความอยากรู้ของใครหลายๆ คนเข้าแล้วสินะ   “โถ่วจารย์ จะมาปล่อยให้พวกเราคาใจแบบนี้ไม่ได้นะ”   อย่างคนนี้ก็ถึงกับตั้งค่าการแจ้งเตือน เพื่อให้ได้รู้ทันทีเวลาที่ Liam เข้ามาอัพเดทเรื่องราวนี้…

  • สาวเจอแมวจรที่ปั๊มน้ำมัน พอพากลับมาบ้านมันก็กอดแขนไม่ยอมปล่อยเลย

    สาวเจอแมวจรที่ปั๊มน้ำมัน พอพากลับมาบ้านมันก็กอดแขนไม่ยอมปล่อยเลย

    เวลาที่เราได้เจอกับคนที่ใช่หรืออะไรที่ชอบเราก็คงไม่อยากจะปล่อยมันให้หลุดมือไป คอยพยายามเกาะสิ่งๆ นั้นเอาไว้เหมือนกับน้องเหมียวตัวนี้ที่เมื่อมันได้เจอกับทาสของมันเรียบร้อย ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของเธอเลย เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนี้ได้ถูกแชร์ลงในยูทูบเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2017 โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ 1 ปีก่อนหญิงสาวชื่อว่า Rose ได้ไปเจอกับเจ้าเหมียวที่มีอายุเพียงแค่ 6 สัปดาห์นอนอยู่บนพื้นในสภาพอิดโรยอยู่หน้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใกล้รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา บ้านเกิดของเธอ   เจ้าเหมียวถูกเจอในสภาพร่อแร่ ก่อนที่หญิงสาวจะพามันไปอยู่ด้วย   เมื่อเห็นอย่างนั้นเธอจึงตัดสินใจพามันกลับไปด้วยในทันทีและตั้งชื่อให้มันว่า Andy เธอเล่าว่าตอนสองคืนแรกที่เจ้าเหมียวมาอยู่ด้วยก็ถึงกับทำให้เธอหลับไม่ลง เจ้าเหมียวนอนอยู่ในที่นอนบนพื้นและกอดแขนของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หญิงสาวจึงลงไปนอนบนพื้นกับมันและคอยสังเกตอาการของมันด้วยความเป็นห่วง   กอดไม่ปล่อยเลยนะเจ้าเหมียว น่ารักขนาดนี้ใครจะกล้าปลุกกันล่ะ   ในตอนแรกเจ้าเหมียวมีอาการขนร่วงอยู่บ้าง แต่เมื่อผ่านไป 1-2 สัปดาห์มันก็กลับมาแข็งแรงเป็นปกติอีกครั้ง และถึงแม้จะโตขึ้นมาแล้วมันก็ยังคงนอนกอดแขนของเธอในทุกๆ คืน   ถึงจะโตขึ้นมายังไง เวลานอนก็ต้องมีแขนของเธอมาอยู่ในอ้อมกอดอยู่ดี   เธอได้บอกว่า “มาถึงตอนนี้ฉันเองก็ไม่สามารถหลับได้เลยถ้าไม่มีเจ้าเหมียวมานอนด้วย พวกเราเป็นเด็กกำพร้าด้วยกันทั้งคู่ ฉันรู้สึกได้เลยว่าพวกเราคือคู่แท้ที่มอบความรักและความอบอุ่นให้กันได้อยู่เสมอ”   คลิปเรื่องราวการพบกันและความน่ารักของทั้งสอง   นี่อาจไม่ใช่ความบังเอิญแต่คือพรหมลิขิตเสียมากกว่าที่ทำให้ทั้งสองได้เจอกัน และมอบความอบอุ่นให้กันและกันอย่างเปี่ยมล้นมาจนถึงทุกวันนี้ โชคดีกันทั้งคู่เลยจริงจริ๊งงง   ที่มา: iizcat

  • Gordon Ramsay แกล้งโพสต์ “อวยพรวันเกิด” แซวลูกสาวของตัวเองแบบเจ็บแสบ

    Gordon Ramsay แกล้งโพสต์ “อวยพรวันเกิด” แซวลูกสาวของตัวเองแบบเจ็บแสบ

    Gordon Ramsay คือเชฟชื่อดังที่หลายๆ คนต้องรู้จักกันในยุคนี้ ด้วยการเป็นกรรมการและผู้นำรายการอาหารบวกกับคำพูดอันเจ็บแสบตรงไปตรงมา ชนิดที่ว่าถ้าใครโดนพี่แกด่าคงต้องวิ่งหนีออกไปร้องไห้ในห้องน้ำเลยก็ว่าได้ ซึ่งแกไม่ได้ทำแบบนั้นแค่กับผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น เพราะแม้แต่ลูกสาวสุดที่รักแกก็ไม่เว้น!?   Gordon Ramsay เชฟสุดโหดกับความปากร้ายที่ด่าออกมาได้อย่างถึงพริกถึงขิง   ความเจ็บจี๊ดของชายคนนี้ถูกแชร์ลงในเฟซบุ๊กของเขาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเขาต้องการกล่าวสุขสันต์วันเกิดให้กับลูกสาวคนสุดท้องวัย 15 ปี Matilda หรือที่เรียกกันว่า Tilly เขาจึงได้โพสต์วิดีโอพร้อมแคปชั่นแบบนี้ลงไป   “แฮปปี้เบิร์ธเดย์นะคนเก่ง!! ขอบคุณมากจริงที่เธอสามารถทำอาหารได้ ในเมื่อการร้องเพลงไม่ใช่สิ่งที่เธอควรทำเลย!! รักนะ XXXX”   เมื่อชาวเน็ตกว่า 380,000 คนได้เข้ามารับชมก็ต่างชอบอกชอบใจกับความขี้เล่นมาดกวนของชายคนนี้อย่างมาก เพราะอะไรแบบนี้เราคงไม่มีทางได้เห็นในรายการที่เขาทำอยู่อย่าง Hell’s Kitchen แน่นอน   Matilda Ramsay ลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัว   แสดงให้เห็นเลยว่าตัวเขาเองมีความสนิทสนมกับลูกๆ ของเขามากขนาดไหน และครอบครัว Ramsay ก็ยังมีรายการแยกมาเป็นของพวกเขาเองชื่อว่า Matilda and the Ramsay Bunch ที่มี Tilly ลูกสาวคนนี้เป็นผู้ดำเนินรายการ  …

  • 20 ภาพและเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจของ ‘แม่’ ผู้เป็นมากกว่าคนให้กำเนิด

    20 ภาพและเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจของ ‘แม่’ ผู้เป็นมากกว่าคนให้กำเนิด

    แม่คือผู้ให้กำเนิดและมอบความรักให้กับเราเป็นคนแรกของชีวิต สิ่งที่แม่ทุกคนต้องการคือรอยยิ้มแห่งความสุขของลูกๆ ที่เธอพร้อมจะเสียสละทำทุกวิถีทางให้ออกมาเป็นอย่างนั้น นั่นคือความรักอันแสนบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ความสุขของลูกที่ได้รับมากจากแม่ของเราเรียกว่าไม่อาจหาสิ่งใดมาเปรียบได้เลย เพื่อไม่ให้เราลืมความรู้สึกนั้นไป #เหมียวตะปู จึงได้นำภาพและเรื่องราวอันแสนอบอุ่นหัวใจของคนเป็นแม่มาชวนให้ทุกคนย้อนกลับไปคิดถึงความรักของพวกเธอกัน   แม่ที่ยอมเสียสละบางสิ่งในชีวิตเพื่อลูก เธอคนนี้ยอมลาออกจากงานที่กำลังก่อร่างสร้างตัวอยู่เพื่อมาดูแลลูกน้อยของตัวเอง จนกระทั่งเด็กโตขึ้นมาจนเริ่มดูแลตัวเองได้ อีกทั้งเธอยังได้รับแรงบันดาลใจจากลูกของตัวเองในการเป็นผู้ประกอบการและสอนเด็กๆ เกี่ยวกับการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง   แม้ลูกทั้งสามคนนี้จะเติบโตในประเทศอเมริกา แต่คุณแม่ก็พยายามปลูกฝังไม่ให้เด็กๆ ลืมบ้านเกิดของตัวเอง บ้านเกิดของครอบครัวนี้อยู่ในประเทศเอลซัลวาดอร์ แต่พวกเธอและลูกๆ ได้มาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังส่งเด็กๆ ให้ได้ไปเรียนภาษาสเปน บางครั้งคุณยายของทั้ง 3 ก็จะทำอาหารพื้นเมืองจากที่ประเทศบ้านเกิดและพาทุกคนกลับไปเที่ยวในประเทศนั้นเสมอหากมีโอกาส   คุณแม่ท่านนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของนิกายลูเทอแรน นิกายหนึ่งของศาสนาคริสต์ ความอบอุ่นของเธอคือการมอบความรักให้กับลูกๆ ของตัวเองอย่างเปี่ยมล้น แม้ว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่บุตรบุญธรรมก็ตาม โดยมีลูกสาวสองคนเป็นแอฟริกัน-อเมริกัน และลูกสาวอีกหนึ่งคนจากประเทศจีน   นี่คือครอบครัวที่มีแม่สองคน กับลูกชายอีกสองคนที่พวกเขาได้มอบความรักให้กันและกันอยู่เสมอ ชีวิตของทั้ง 4 คนเต็มไปด้วยความสุขและความรักที่ไม่อาจหาสิ่งใดมาแทนที่ได้เลย   คุณแม่ผู้เลี้ยงดูและสั่งสอนเด็กๆ ของเธอด้วยความรัก การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องที่ยากลำบากและต้องเจอกับความท้าทายหลายอย่าง แต่คุณแม่คนนี้ก็ยังคงดูแลและเลี้ยงดูพวกเขาให้โตขึ้นมาได้อย่างมีความสุขและเพลิดเพลินไปกับการได้ใช้เวลาร่วมกัน   แม่ของเด็กจำนวนมาก เธอมีลูกคนแรกเมื่อ 16 ปีก่อน ไปๆ มาๆ เธอก็ได้กลายเป็นคุณแม่ของลูกๆ ถึง 8…

  • 23 ภาพการตัดต่อผสมกันระหว่างสัตว์ 2 ชนิดที่ต่างกัน ให้ออกมาเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่!!

    23 ภาพการตัดต่อผสมกันระหว่างสัตว์ 2 ชนิดที่ต่างกัน ให้ออกมาเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่!!

    คุณเคยคิดกันบ้างมั้ยว่าถ้าหากเรานำสัตว์สองชนิดที่ต่างกันมาผสมพันธุ์กัน ลูกที่ออกมาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร? เช่นช้างผสมพันธุ์กับแมวหรือนกผสมพันธุ์กับกิ้งก่าอะไรแบบนี้ แน่นอนว่าในความเป็นจริงสิ่งนั้นคงเป็นไปไม่ได้เลย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นภาพของสัตว์เหล่านั้นรวมกัน เพราะด้วยโปรแกรมการแต่งภาพในปัจจุบันการทำให้เราได้เห็นสิ่งต่างๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ด้วยเหตุนี้เพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Amazing Pictures จึงได้ทำการตัดต่อรวมสัตว์สองชนิดที่ต่างกันให้ออกมาเป็นตัวเดียว หน้าตาจะออกมาพิลึกกึกกือขนาดไหนไปดูกันเลยยย   ถ้าเสือดาวเป็นอย่างนี้จริง ก็คงเป็นนักล่าที่น่ากลัวเอามากๆ   ดูน่ารักจิ้มลิ้มไปอีกแบบนึงเลยนะเนี่ย   หน้าตาอันดุดันกับบั้นท้ายที่ดูเข้ากั๊นนนเข้ากัน   เจอน้องปั๊กบวกน้องกระต่ายเข้าไป เห็นแล้วรู้สึกอยากคว้ามากอดเลย   ถ้าหมาป่ามีหน้าเป็นนกฮูก ก็เหมือนกับว่าพวกมันแต่งแฟนซีหน้ากากมานั่นแหละ   ป๋มเป็นกิ้งก่าจริงๆ นะเหมียววว   เท่สุดๆ ไปเลยสำหรับใบหน้าของเจ้าหมาชเนาเซอร์   ฮ้าววว บินมาไกลก็รู้สึกง่วงเป็นธรรมดา   นักล่าดึกดำบรรพ์ใต้น้ำตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์   ฉลามที่มีใบหน้าของแมงมุม บวกกับรอยยิ้มกระชากใจ…   ช้างนี่นับเป็นสัตว์สวยงามมั้ย   ถ้าจระเข้วิ่งมาอย่างนี้นะ ผมขอกลั้นใจตายซะยังจะดีกว่า!!   อะจ๊ากกก ทำไมเพนกวินตัวนี้น่ากลัวจังเล่า   ทรงผมสไตล์เกาหลี มีดีที่มองไม่เห็นอะไรเลย   จงทะยานไปเจ้าปั๊กเอ๋ยยย   นี่คือแมวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแล้วสินะ   ลาบราดอร์เพชฌฆาตแห่งท้องทะเล…

  • เด็กยากไร้ในอังกฤษ แอบนำอาหารกลางวันที่โรงเรียนใส่กระเป๋ากลับบ้าน เพื่อประทังความหิว

    เด็กยากไร้ในอังกฤษ แอบนำอาหารกลางวันที่โรงเรียนใส่กระเป๋ากลับบ้าน เพื่อประทังความหิว

    เด็กนักเรียนในประเทศอังกฤษ บางคนอาจเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้เพียบพร้อมเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ ต้องประสบปัญหาโดนทารุณหรือใช้ชีวิตอยู่กับความยากจน ทำให้ต้องเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ในถุงขยะ ไม่มีข้าวกินจนถึงกับต้องแอบเก็บอาหารในโรงเรียนกลับบ้านไปเพื่อเอาไว้ประทังชีวิตตัวเองในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปัญหาของเด็กยากไร้ในประเทศอังกฤษได้กระจายตัวออกไปในวงกว้างอย่างน่าเป็นห่วง ทางโรงเรียนหลายๆ แห่งจึงพยายามหาทางแก้ปัญหาให้กับเด็กเหล่านั้น เช่นเดียวกับ Helen Slack ครูใหญ่ในโรงเรียนประถม Twickenham ที่ได้คิดแนวทางการช่วยเหลือลูกศิษย์ในหลายๆ เรื่อง   Helen ครูใหญ่ผู้พยายามช่วยเหลือลูกศิษย์ของเธอจากปัญหาความยากจน   เธอได้สร้างนโยบายให้เด็กๆ ที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้ามาสามารถเข้ามากินอาหารได้ฟรีในครึ่งชั่วโมงแรกก่อนเรียน และในวันศุกร์ทางโรงเรียนก็จะห่ออาหารเอาไว้ให้สำหรับเด็กที่ต้องการอาหารประทังชีวิตในช่วงวันหยุด ไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่รวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับชุดนักเรียน การออกไปทัศนศึกษา หรืออุปกรณ์ดนตรีและกีฬา ทุกอย่างล้วนเป็นความรับผิดชอบของทางโรงเรียนทั้งสิ้น Helen บอกว่า “โปรเจกต์ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินมากกว่า 3,400,000 บาทต่อปี หากโปรเจกต์นี้ดำเนินไปถึงปี 2020 แต่ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงช่วยเหลือให้ปัญหาครอบครัวยากไร้ให้หมดไป”     ถึงแม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังคงมีให้เห็นอย่างชัดเจน แต่รัฐบาลอังกฤษกลับทำการตัดงบประมาณที่ใช้สำหรับช่วยเหลือในด้านการศึกษาลงไปกว่า 13,000 บาทต่อเด็กนักเรียนหนึ่งคน ทำให้งบประมาณที่แต่ละโรงเรียนได้รับอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือเด็กในครอบครัวยากไร้ได้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 ผู้นำโรงเรียนกว่า 7 แห่งจึงได้ทำการเข้าพูดคุยกับเลขานุการกระทรวงการศึกษา Angela Raynor เพื่อโต้แย้งเกี่ยวกับการตัดงบประมาณและปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยยังไม่มีการพูดถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการพูดคุยของพวกเขา    …

  • ห้างประดิษฐ์รถเข็นแบบพิเศษ เพื่อช่วยให้คุณแม่ลูก 3 สามารถช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน

    ห้างประดิษฐ์รถเข็นแบบพิเศษ เพื่อช่วยให้คุณแม่ลูก 3 สามารถช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน

    โดยทั่วไปเราจะเห็นได้ว่ารถเข็นที่มีให้สำหรับใช้จับจ่ายซื้อของในห้างสรรพสินค้ามักมีที่นั่งไว้สำหรับเด็กเล็ก เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกน้อยมาสามารถซื้อของได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ที่นั่งนั้นมีไว้ให้เด็ก 1 – 2 คนเท่านั้น ทำให้คุณแม่ลูกแฝดสามคนนี้ต้องเจอกับปัญหาในการช้อปปิ้ง เรื่องนี้ถูกแชร์ผ่านเว็บไซต์ Dailymail ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2017 เมื่อ Tori Stratton คุณแม่ที่มีลูกแฝดสามประสบปัญหากับการที่เธอไม่สามารถพาลูกๆ ของเธอช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ แต่เมื่อทางห้างสรรพสินค้า Sainsbury’s ได้รับรู้ปัญหาของเธอเข้า จึงได้ประดิษฐ์รถเข็นสำหรับสามที่นั่งมาให้เธอและลูกๆ โดยเฉพาะ   รถเข็นที่ห้างทำขึ้นมาเองสำหรับคุณแม่ลูกสาม   แฝดสามผู้โด่งดังในอินสตาแกรม มีคนติดตามพวกเขามากกว่า 19,000 คน   ที่มาของมันเกิดขึ้นเพราะคุณแม่รายนี้รู้สึกเหนื่อยและไม่อาจเดินซื้อของในขณะที่ต้องดูแลลูกน้อยถึง 3 คนได้อย่างสบายใจ เธอจึงได้นำปัญหานี้ไปพูดกับทางห้างและพวกเขาก็หาทางแก้ไขปัญหาให้กับเธอ รถเข็นคันนี้มีที่นั่งเพียงพอสำหรับเด็กน้อยทั้งสาม Oliver , Jacob และ Tobias ทำให้คุณแม่สามารถเดินช้อปปิ้งในห้างที่ตั้งอยู่ในเมือง Cowes บนเกาะไอล์ออฟไวต์ ประเทศอังกฤษ แห่งนี้ได้อย่างเพลิดเพลินและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของเด็กๆ อีก   นั่งกันครบทุกคนแบบนี้ ทำให้การเดินไปหยิบโน่นหยิบนี่ก็สามารถทำได้ง่าย   Tori บอกว่า “ก่อนหน้านี้ฉันมักจะไม่ได้ออกมาซื้อของด้วยตนเองเพราะระหว่างนั้นฉันต้องคอยดูแลลูกทั้ง 3 อยู่เสมอ ซึ่งมันทำให้การช้อปปิ้งเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่พอมีรถเข็นคันนี้ฉันก็สามารถเดินช็อปปิ้งได้อย่างสบายใจเหมือนคนทั่วไปแล้ว”…

  • 23 ภาพของกินที่มันเป็นอาหารจริงๆ นะ อย่าเข้าใจผิด ไม่มีอะไรเลยจริงจริ๊งงง!!

    23 ภาพของกินที่มันเป็นอาหารจริงๆ นะ อย่าเข้าใจผิด ไม่มีอะไรเลยจริงจริ๊งงง!!

    รูปร่างหน้าตาของพืชผักผลไม้หรืออาหารที่เราได้กินกันในปกติอาจไม่ได้ดูแปลกตาจนทำให้เราคิดเป็นอย่างอื่น แต่สำหรับภาพที่เรานำมาให้ทุกคนได้ดูนี้กลับทำให้เกิดความคิดว่าทำไมหน้าตามันถึงดูคุ้นๆ เหมือนกับอะไรซักอย่างนี่แหละ มาช่วยกันหาคำตอบกันดีกว่าว่าเจ้าของกินได้เหล่านี้ มันดูเหมือนกับอะไรกันแน่ ไปดูกันเลยยย   ผิวเนียนอมชมพู   เนื้อไก่นี้ท่านไปได้แต่ใดมาเล่า   ผิวเนียนมันวาวราวกับตูดเด็ก   ผิวแพ้ง่ายก็อย่างนี้แหละ โตมาก็อาจดูขรุขระเล็กน้อย   ก็บอกแล้วว่าอย่าเอาไปกินกลางแดด ดูสิดำหมดเลยยย   ไอติมเจ้านี้ดูขาดความบาลานซ์ไปหน่อยนะ ข้างขวาใหญ่กว่านิ๊สนึง   ถ้วยนี้ก็น่าจะแช่นานไป ไอติมแข็งขึ้นมาชูชันซะขนาดนั้น   มันเผาแสนอร่อย   ใครอยากกินเห็ดก็ไปเก็บมานะ   กีวี่ลูกนี้ยังดูบริสุทธิ์อยู่เลยนะเนี่ย   ไม่ทราบว่าเอาส่วนไหนของไก่มาทอดครับเนี่ย   ผมเอาแครอทมาฝาก อยากให้เธอได้กิน   ชมพูเชียว สงสัยไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนละสิท่า   รับไก่ทอดร้อนๆ ซักชิ้นมั้ยครับ?   รู้สึกสบายตาจริงๆ เวลาที่เห็นลวดลายบนกล่องนมยี่ห้อนี้   ขนมปังที่อบออกมาเป็นรูปช้าง แต่งวงยาวไปหน่อยนะ   มากันเป็นหมู่คณะ เรียกว่าอิ่มท้องอย่างแน่นอน   พอดึงปลายหุ้มออกมาก็ดูน่ากินไม่ใช่น้อย   มะนาวลูกนี้ไม่น่าเหมาะกับการนำไปประกอบอาหารนะ  …

  • ชาวเน็ตชอบใจ น้องหมาไปยืนให้กำลังใจ ‘ไฮไฟว์’ เหล่านักวิ่งในงานวิ่งมาราธอน

    ชาวเน็ตชอบใจ น้องหมาไปยืนให้กำลังใจ ‘ไฮไฟว์’ เหล่านักวิ่งในงานวิ่งมาราธอน

    ในงานวิ่งมาราธอนเราจะได้เห็นนักวิ่งจำนวนมากและเหล่ากองเชียร์ที่คอยมาให้กำลังใจอยู่เต็มสองข้างทางเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อวันที่ 5 พศจิกายน 2017 ที่ผ่านมาในงานวิ่งมาราธอนที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กลับมีอะไรที่มากกว่านั้น เพราะไม่ได้มีแต่คนที่ไปยืนให้กำลังใจ แต่ดันมีน้องหมามายืนให้กำลังใจนักวิ่งด้วย น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่า Marty McFly วัย 1 ขวบ พันธุ์ผสมระหว่างบีเกิ้ลกับลาบราดอร์ ตามรายงานจากเว็บไซต์ The Dodo บอกว่ามันได้ไปร่วมให้กำลังใจเหล่านักวิ่งภายในงาน โดยการให้เจ้าของดึงตัวมันขึ้นยืนสองขาแล้วยื่นมือออกไปไฮไฟว์กับพวกเขา   ไฮไฟว์!!   คลิปวิดีโอน่ารักๆ ของมันจึงได้ถูกโพสต์ลงในอินสตาแกรม martygetstogo ของมันเอง สร้างความประทับใจและเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตจำนวนมาก   คลิปความน่ารักของน้องหมายืนสองขาแปะมือให้กำลังใจ   Jenny McCoy และ Guilherme de Oliveira เจ้าของที่รับมันมาเลี้ยงได้เล่าว่าพวกเขาไปเจอมันจากกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Badass Brooklyn ที่พาน้องหมามาทำการแสดงในรัฐเท็กซัส เมื่อช่วงต้นปี 2017 ครั้งแรกที่พวกเธอได้เห็นภาพของเจ้า Marty ในอินสตาแกรมของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ดังกล่าว ทำให้ทั้งสองตัดสินใจที่จะต้องไปรับมันมาเลี้ยงให้ได้ นั่นจึงทำให้พวกเขาได้ไปดูการแสดงของมันในเท็กซัส และได้เจอกับมันจริงๆ เป็นครั้งแรก   .   พวกเขาเล่าว่า “ในวันนั้นพวกเราได้ลองอุ้มมันขึ้นมาเป็นครั้งแรกทำให้มันดูมีอาการตื่นกลัวอยู่บ้าง แต่ในการแสดงเจ้าหมาตัวนี้ก็สามารถเอ็นเตอร์เทนทุกคนได้อย่างยอดเยี่ยม…

  • ชายหนุ่มแต่งงานกับคุณยายของตัวเอง เพื่อที่จะได้กินเงินบำนาญ หลังจากที่เธอจากไปแล้ว

    ชายหนุ่มแต่งงานกับคุณยายของตัวเอง เพื่อที่จะได้กินเงินบำนาญ หลังจากที่เธอจากไปแล้ว

    ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันเงินคือสิ่งสำคัญในการแลกเปลี่ยนแทบทุกอย่างในชีวิตของเรา ทำให้ทุกคนพยายามทุกหนทางเพื่อให้ได้มีเงินเยอะๆ เหมือนกับชายคนนี้ที่ได้ใช้วิธีการแปลกๆ แต่งงานกับพี่สาวของคุณยายเพื่อให้ได้รับเงินบำนาญ เรื่องราวนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Mauricio Ossola วัย 25 ปีและครอบครัวได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านพี่สาวของคุณยายตัวเองที่ชื่อว่า Yolanda ในเมือง Salta ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอาร์เจนตินา หลังจากที่พ่อแม่ของเขาแยกทางกัน จนกระทั่งในวันหนึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนเขาได้ปรึกษากับคุณยาย Yolanda ว่าจะเลิกเรียนหนังสือ แต่คุณยายไม่เห็นด้วยและยืนกรานว่าช่วยเหลือทุกทางเพราะว่าเขาเป็นเด็กดีคอยดูแลเธอมาตลอด   Ossola และพี่สาวของคุณยายตัวเอง Yolanda วัย 91 ปี   ชายหนุ่มที่ในขณะนั้นอายุได้ 23 ปีจึงตัดสินใจขอเธอแต่งงานเพื่อให้ได้รับเงินบำนาญของหญิงชราวัย 91 ปี จึงเกิดเป็นการแต่งงานตามพิธีการในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ผ่านไป 14 เดือนคุณยายก็จากโลกไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด Mauricio จึงคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินบำนาญหลังจากนั้นเพื่อเติมเต็มความต้องการสุดท้ายของเธอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ได้เป็นไปอย่างง่ายดายเหมือนที่เขาคิดไว้ เพราะคนในละแวกบ้านดันมาบอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าทั้งคู่แต่งงานกัน     ชายหนุ่มเล่าว่า “ข้างบ้านของเรามีคนสร้างกำแพงขึ้นมาจึงทำให้พวกเขาไม่อาจรู้ได้ว่าพวกเราแต่งงานกัน และหากถูกยึดสิทธิ์ผมก็พร้อมจะขึ้นศาลสูงสุดเพื่อต่อสู้คดี เพราะเราทั้งสองรักกันอย่างบริสุทธิ์ ซึ่งเงินบำนาญก้อนนี้คือสิ่งที่เราทุ่มเททำมันอย่างโปร่งใสและเป็นความปรารถนาสุดท้ายของเธอ” สิ่งที่เขาทำได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันในสองด้าน ส่วนหนึ่งบอกว่าเขาเป็นพวกฉวยโอกาส Rony Romarr บอกว่า…

  • 17 ภาพของเหล่าสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่มีรูปร่างหน้าตา ‘ประหลาดที่สุดบนโลกมนุษย์’

    17 ภาพของเหล่าสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่มีรูปร่างหน้าตา ‘ประหลาดที่สุดบนโลกมนุษย์’

    เราอาจเคยได้เห็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดตามสื่อทีวี อินเตอร์เน็ต หรือบางคนอาจเคยเห็นสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นแบบจะจะกันอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าน้อยคนมากที่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลหน้าตาประหลาดๆ เหล่านี้ แน่นอนว่าการจะลงไปในทะเลลึกเป็นเรื่องที่ยากมาก ทำให้ไม่ค่อยมีใครได้มีโอกาสลงไปเห็นสิ่งมีชีวิตด้านล่างนั้นด้วยตาตัวเองสักเท่าไหร่ ดังนั้นในครั้งนี้ #เหมียวตะปู จึงมาพูดถึงสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่มีหน้าตาแปลกประหลาดมากที่สุดในโลก เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสมันด้วยตาของตัวเอง (ผ่านรูปถ่ายอ่ะนะ) พวกมันมีหน้าตาแบบไหนกันบ้าง ไปดูกันเลยยย   The Giant Scale Worm .   มันคือสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลฝั่งแอนตาร์กติก สามารถม้วนลำคอและขากรรไกรของตัวเองออกมาจากปากในตอนกินอาหาร ทำให้หน้าตาเวลาฟันมันยื่นออกมาอาจดูเหมือนนั่งเอเลี่ยนไปซักนิด   ปลาตระกูลสตาร์เกเซอร์   ปลาชนิดนี้พบได้ในทะเลแดง มหาสมุทรแอตแลนติก และในทะเลรอบๆ ประเทศอินโดนีเซีย ดวงตาของมันอยู่บริเวณด้านบนของส่วนหัว ความพิเศษของมันคือการซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นทรายในมหาสมุทรรอเหยื่อเข้ามาใกล้ จากนั้นจึงค่อยเข้าจู่โจม ด้วยวิธีการนี้จึงทำให้มันเป็นนักล่าที่น่ากลัวและโหดเหี้ยม   ปลาแฟงค์ทูธ   มันคือปลานักล่าใต้ทะเลลึก ฟันที่ยาวและแหลมคมทำให้มันสามารถล่าได้ทั้งปลาตัวอื่นๆ ปลาหมึก และพวกกุ้งต่างๆ สามารถพบเห็นมันได้ตามมหาสมุทรเขตร้อน หรืออย่างเช่นแถวชายฝั่งออสเตรเลีย   Christmas-Tree Worms   สิ่งมีชีวิตนี้ถูกเรียกตามลักษณะที่คล้ายกับต้นคริสต์มาสของมัน สีสันสดใสก็ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของช่างภาพใต้น้ำ สามารถเจอมันได้ในทะเลเขตร้อนทางฝั่งแคริบเบียน และอินโด-แปซิฟิก   The Flamingo Tongue…

  • เทรนเนอร์หนุ่ม ‘หรรม’ ติดกับเหล็กยกน้ำหนัก หมอใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการเอามันออกมา

    เทรนเนอร์หนุ่ม ‘หรรม’ ติดกับเหล็กยกน้ำหนัก หมอใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการเอามันออกมา

    หนุ่มๆ ทุกคนรู้ดีว่าอวัยวะเพศที่เรามีอยู่นั้นแม้ภายนอกอาจดูแข็งแกร่ง แต่ความเป็นจริงมันอ่อนไหวเอามากๆ บางครั้งแค่ไปกระแทกหรือชนกับอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็อาจทำให้เจ็บปวดหรือจุกได้เลย เราจึงต้องคอยดูแลมันเอาไว้ให้ดีอย่าให้เหมือนกับชายคนนี้… ภาพด้านล่างนี้ถูกแชร์ในสำนักขาว Dailymail เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 เผยให้เห็นว่าอวัยวะเพศของเทรนเนอร์ชายนิรนามท่านหนึ่งได้เข้าไปติดอยู่ในช่องว่างตรงกลางของแผ่นเพิ่มน้ำหนักที่มีน้ำหนักถึง 2.5 กิโลกรัม ทำให้น้องชายของเขาถึงกับกลายเป็นสีม่วงไปเลย   ภาพหลุดว่อนเน็ต เผยภาพจุ๊ดจู๋ของชายหนุ่มติดอยู่ตรงช่องของแผ่นเพิ่มน้ำหนัก   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเมือง Worms รัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ ประเทศเยอรมนี เมื่อหนุ่มฟิตเนสเห็นแบบนี้ปุ๊บก็รีบไปหาหมอในโรงพยาบาลทันที ก่อนที่แพทย์จะตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากนักดับเพลิงประจำเมือง หลังจากภาพนี้หลุดออกมา นักดับเพลิงจึงเล่าว่าพวกเขาใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยการใช้เครื่องบดและเลื่อยไฟฟ้าในการแยกชิ้นส่วนแผ่นเหล็กออกมาหรรมส์ของชายหนุ่ม ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรู้เลยว่าแผ่นเพิ่มน้ำหนักนั้นไปติดอยู่กับอวัยวะสำคัญของเขาได้อย่างไร   ภาพนี้ถูกถ่ายโดยนักดับเพลิง ในตอนก่อนมีภาพหลุดออกมา พวกเขาอ้างว่านี่คือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการทำงาน   อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวไม่ได้ถูกปล่อยออกมาด้วยความตั้งใจ แต่เกิดจากการรั่วไหลที่ไม่ทราบสาเหตุทำให้มันมาโผล่อยู่ในโลกออนไลน์และกลายเป็นกระแส ซึ่งทางโรงพยาบาลได้พยายามสืบหาต้นตอของเพื่อปกป้องสิทธิคนไข้ไม่ให้ถูกเปิดเผยตัวตน สุดท้ายแล้วเรื่องนี้ก็ยังคงทิ้งความสงสัยไว้ให้ทุกคนอยู่ดีว่ามันเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร? หรือที่จริงนี่อาจเป็นวิธีกายบริหารลดน้ำหนักแบบใหม่หรือเปล่านะ?!   เอ๊าบึ๊ดจ้ำบึ๊ดๆๆ   ที่มา: dailymail

  • จากการศึกษาเผยแล้วว่าหนุ่ม ‘หัวล้าน’ มีเสน่ห์ดึงดูดใจคนรอบข้างได้มากกว่า

    จากการศึกษาเผยแล้วว่าหนุ่ม ‘หัวล้าน’ มีเสน่ห์ดึงดูดใจคนรอบข้างได้มากกว่า

    คนส่วนใหญ่ไม่อยากให้ตัวเอง “หัวล้าน” จึงทำให้ต้องเสียเงินไปเป็นจำนวนมากสำหรับการดูแลรักษาหรือว่าปลูกผมขึ้นมาใหม่ แต่ความคิดนั้นอาจไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เพราะการศึกษาของมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียได้ออกมาบอกแล้วว่าคนหัวล้านมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่าคนทั่วไปที่มีผมดกดำซะอีก มหาลัยเพนซิลเวเนีย ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับคนหัวล้านมาทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน โดยให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบเป็นคนให้คะแนน และดูว่าระหว่างคนหัวล้านกับหัวไม่ล้านใครได้คะแนนมากกว่ากัน ทุกคนที่เข้าร่วมต้องให้คะแนนในเกณฑ์เดียวกัน แบ่งออกเป็น 3 หัวข้อได้แก่ ความมั่นใจ ความดึงดูดใจ และความโดดเด่นดูมีอำนาจ     การศึกษางานแรก ผู้เข้าร่วมคือนักศึกษาชายหญิงในมหาวิทยาลัยจำนวน 59 คน พวกเขาต้องให้คะแนนจากรูปของชายหนุ่มที่ได้เห็น ซึ่งมีทั้งหัวล้านและไม่ล้านปะปนกันไป การศึกษาที่สอง ผู้ให้คะแนนคือวัยผู้ใหญ่จำนวน 367 คน โดยรูปที่พวกเขาได้เห็นมีทั้งชายหัวล้าน หัวไม่ล้าน และรูปของบางคนที่โดนตัดต่อให้กลายเป็นคนหัวล้าน     การศึกษาสุดท้ายเก็บข้อมูลผ่านทางออนไลน์ ชาวเน็ตที่เข้ามาให้คะแนนคือผู้ใหญ่หนุ่มสาวจำนวน 552 คน ในครั้งนี้พวกเขาไม่ได้เห็นรูปภาพอะไรเลย แต่ได้รู้ข้อมูลต่างๆ ผ่านตัวหนังสือแทน โดยการทดสอบที่สามนี้กำหนดให้ผู้เข้าร่วมอ่านข้อมูลต่างๆ เช่น อาชีพการงาน อายุ น้ำหนัก ความสูง และทรงผม จากนั้นพวกเขาก็ต้องให้คะแนนตามเกณฑ์เหมือนกับการศึกษาอีก 2 งานก่อนหน้านี้     ผลลัพธ์ของการศึกษาทั้งหมดได้แสดงให้เห็นว่า…

  • หนุ่มเมาหนัก ได้ใบขับขี่คืนพร้อมตั๋วเครื่องบินราคา 2 แสน (ที่ไม่ได้จอง) ที่แท้แค่ล้อเล่น!?

    หนุ่มเมาหนัก ได้ใบขับขี่คืนพร้อมตั๋วเครื่องบินราคา 2 แสน (ที่ไม่ได้จอง) ที่แท้แค่ล้อเล่น!?

    วันไหนที่เราดื่มกันหนักๆ ชนิดที่เรียกว่าเมาหัวราน้ำ ตื่นมาตอนเช้าจำเหตุการณ์อะไรไม่ได้และอาจมีของบางอย่างหายไปเช่น กุญแจรถ กระเป๋าเงิน หรืออาจเหมือนกับเขาคนนี้ที่เมาหนักจนทำใบขับขี่หาย อีกทั้งยังต้องเจอกับตั๋วเครื่องบินราคาแพงหูฉี่ที่ไม่รู้เลยว่าไปจองเอาไว้เมื่อไหร่!? สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ของ William George Armstrong จากเมือง Crystal City ในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเขาเมาหนักจนทำใบขับขี่หายและพอตื่นมาก็ต้องพบเข้ากับจดหมายค่าจองตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสไปมัลดีฟ   โพสต์ของ George ในวันที่ 7 พฤศจิกายน เมื่อเขาต้องเจอกับเหตุการณ์สุดเซอร์ไพรส์   หลังจากที่ดื่มไปอย่างหนักหน่วง เช้าวันรุ่งขึ้นใบขับขี่ของเขาก็ได้หายไป แต่กลับได้รับจดหมายฉบับนี้จากเอเจนซี่จองตั๋วเครื่องบิน Flight Centre มาแทน   ภายในซองจดหมายระบุว่าเขาได้จองตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสเอาไว้ โดยมีปลายทางเป็นเกาะมัลดีฟ พร้อมกับรายละเอียดครบถ้วนทั้งขาไปและขากลับ   ดูรายละเอียดกันให้ชัดๆ อีกที เฮ้ย!? นี่ตูไปจองตอนไหนแว้   ตอนแรกว่าตกใจแล้ว เปิดมาเจอหน้านี้เข้าไปตกใจยิ่งกว่า เพราะราคาของตั๋วเครื่องบินทั้งหมดนั้นสูงกว่า 231,000 บาทเลยทีเดียว!!   ขอย้ำว่า 231,000 บาทตัวโตๆ สีแดงๆ โอ้ววววววว!!  …

  • คู่รักจ้างช่างภาพไปปีนเขาใช้เวลาขึ้นลงภูเขากว่า 14 ชั่วโมง เพื่อถ่ายพรีเวดดิ้งแสนงดงาม

    คู่รักจ้างช่างภาพไปปีนเขาใช้เวลาขึ้นลงภูเขากว่า 14 ชั่วโมง เพื่อถ่ายพรีเวดดิ้งแสนงดงาม

    Trolltunga หรือที่เรียกว่า Troll Tongue คือแนวหินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศนอร์เวย์ หากใครได้ไปเห็นทิวทัศน์ด้านบนนั้นแล้วก็อาจหยุดหายใจกันไปเลยเพราะมันสวยงามเอามากๆ จนทำให้คู่บ่าวสาวคู่หนึ่งต้องการขึ้นไปถ่ายรูปแต่งงานในสถานที่แห่งนั้น   วิวทิวทัศน์ด้านบนแนวหิน Trolltunga   พวกเธอจึงไปร้องขอให้ช่างภาพสาว Priscila Valentina ตามขึ้นไปเก็บภาพของพวกเธอ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของซีรีส์ภาพชุดนี้ที่แสดงให้เห็นเลยว่าการเดินทางอันยากลำบากและผลลัพธ์ที่คุ้มค่านั้นมันออกมาเป็นอย่างไร   เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ Petapixel เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017   พวกเขาทั้งสามจำเป็นต้องเดินทางกันตั้งแต่เวลา 5.25 นาฬิกา หรือเช้าตรู่ของวันนั้น เพราะต้องเผื่อเวลาสำหรับการเดินขึ้นลงแนวโขดหิน .   เมื่อมาถึงที่จอดรถด้านล่างโขดหิน พวกเขาต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินขึ้นไป   เจ้าบ่าวเจ้าสาวคอยดูแลกันและกันไม่ห่าง .   ความน่ารักที่มากมายขนาดนี้ทำให้ช่างภาพต้องคอยเก็บภาพบรรยากาศต่างๆ เอาไว้อยู่เสมอ   การเดินทางอันแสนเหน็ดเหนื่อยและยากลำบากของทั้งคู่ รวมถึง Priscilla ที่ต้องแบกอุปกรณ์ถ่ายภาพทุกอย่างหนักเกือบ 16 กิโลกรัม   ในที่สุดทั้งสามก็ขึ้นมาถึงด้านบนเป็นที่เรียบร้อย กางเต้นท์ไว้สำหรับเปลี่ยนชุด   ชายหนุ่มในมาดเจ้าบ่าวแบบเต็มตัว   และเจ้าสาวที่สวยสง่า เข้ากับบรรยากาศด้านหลังสุดๆ .…

  • ร้ายกาจ!! หญิงลักลอบซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 60,000 บาท แต่จ่ายเพียงแค่ 120 บาท

    ร้ายกาจ!! หญิงลักลอบซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 60,000 บาท แต่จ่ายเพียงแค่ 120 บาท

    ปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อในต่างประเทศได้นำเครื่องมือหนึ่งที่เรียกว่า เครื่องจ่ายเงินบริการตัวเอง ให้ลูกค้าสามารถนำของที่ซื้อมาสแกนบาร์โค้ดเองได้ที่เครื่อง เรียกว่าสะดวกสบายๆ รวดเร็วทันใจเรามากกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้มีเพียงแค่ข้อดี เพราะข้อบกพร่องที่ชัดเจนของเครื่องนี้ก็คือ มันสามารถทำให้ลูกค้าโกงราคาของสินค้าได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกันกับที่เธอคนนี้ได้ทำลงไป เธอมีชื่อว่า Cheyenne Amber West สาววัย 25 ปีในเมือง Fort Pierce รัฐฟลอริด้า วันหนึ่งเธอไปซื้อของในร้าน Walmart กับแม่ของเธอ และได้ทำการโกงราคาสินค้า ทำให้เธอจ่ายเพียงแค่ 120 บาท แต่กลับได้สินค้าที่มีมูลค่ากว่า 60,000 บาท!!   Amber หญิงสาวผู้โกงเงินในร้านสะดวกซื้อ   จากการรายงานข่าวในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 บอกว่าเธอเข้าร้านมาเลือกหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จอยเกม และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ ก่อนที่จะนำบาร์โค้ดที่ตัวเองเตรียมไว้ติดทับไปกับบาร์โค้ดของสินค้าเหล่านั้นและเดินไปจ่ายเงินที่เครื่องจ่ายเงินบริการตัวเอง แน่นอนว่าเครื่องไม่สามารถรับรู้ได้ว่าบาร์โค้ดที่มันสแกนอยู่ไม่ตรงกับสินค้านั้นๆ ทำให้ราคาที่ออกมาถูกลงไปเยอะมาก แต่สิ่งที่เธอทำทั้งหมดก็ไม่อาจรอดสายตาของพนักงานรักษาความปลอดภัยไปได้ เธอจึงโดนตรวจสอบในทันที หลังจากนั้นเธอถูกจับข้อหาลักทรัพย์ตามคดีอาญาและข้อหาขโมยของในร้านค้า โดยเมื่อถามถึงสาเหตุเธอก็ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า “ฉันต้องการนำคอมพิวเตอร์นั้นไปให้สามีเพื่อตอบแทนที่เขาซื้อกระเป๋าเงินราคาแพงให้ ส่วนจอยเกมฉันต้องการนำไปฝากลูก ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถมีกำลังซื้อได้เอง”     การสอบปากคำแม่ของเธอที่ไปด้วยกัน Alicia West…

  • ร้าน ‘ราเม็งข้อสอบ’ ออกเซ็ทให้คุณได้โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาโดยไม่ต้องออกมากินที่ร้าน!?

    ร้าน ‘ราเม็งข้อสอบ’ ออกเซ็ทให้คุณได้โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาโดยไม่ต้องออกมากินที่ร้าน!?

    หากใครชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นเชื่อว่าต้องเคยได้ยินชื่อร้าน Ichiran Ramen หรือ ราเม็งข้อสอบ กันอย่างแน่นอน ด้วยรสชาติของน้ำซุปหมูที่หอมหวาน และรูปแบบของการนั่งกับการสั่งอาหารที่ทำให้เราเหมือนอยู่ในห้องสอบจริงๆ เพราะจะมีแผงกั้นซ้ายขวาทำให้เราสามารถดื่มด่ำกับรสชาติของราเม็งได้อย่างเต็มที่   รูปแบบการนั่งเหมือนกับอยู่ในห้องสอบ ทำให้เราไม่ต้องสนใจกับสิ่งรอบข้างและสามารถลิ้มรสราเม็งได้อย่างลึกซึ้งถึงความอร่อย   การสั่งอาหาร เราต้องวงกลมในตัวเลือกในแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นของน้ำซุป ปริมาณของกระเทียม หรือแม้แต่ความเผ็ดที่เพิ่มได้มากถึง 200 เท่า!!   ความมีเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้านบวกกับรสชาติอันแสนอร่อย ทำให้ราเม็งร้านนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และได้ขยายสาขาส่งต่อไปอีกหลายๆ ประเทศจนเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่นสาขาหนึ่งในเมืองไทเป เขตปกครองพิเศษฮ่องกง มีคนรอต่อคิวเข้าไปกินนานกว่า 10 วันเลยทีเดียว ในบ้านเราเองก็ได้มีร้านหนึ่งที่นำต้นแบบมาจากร้านนี้เหมือนกันนะ ชื่อว่า A Ramen ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วยความโด่งดังที่มากขนาดนี้ ทางร้านในญี่ปุ่นจึงได้เกิดไอเดียที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศของราเม็งข้อสอบได้โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาถึงที่ร้าน เพราะเซตกลับบ้าน Gokujo ไม่ได้ส่งไปให้แค่ราเม็ง แต่มันยังส่งแผงกั้นกระดาษที่มีลักษณะคล้ายกับที่ทางร้านใช้ไปให้ด้วย   เซตกลับบ้าน Gokujo มีขายในร้านที่ประเทศญี่ปุ่น   แผงกั้นแบบเดียวกับที่ตั้งอยู่ในร้าน เพียงแต่ว่ามันทำมาจากกระดาษ ส่งมาให้คุณสามารถประกอบเองได้ที่บ้าน   เวลาอยู่กับใครหลายๆ คนแล้วรู้สึกว่าถูกสิ่งแวดล้อมรบกวนการกินของเรา มั่นใจว่าเจ้าสิ่งนี้ช่วยแก้ปัญหาตรงจุดนั้นได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าอยู่บ้านคนเดียวมันก็คงเหงาๆ หน่อยอะเนาะ…

  • เจ้าหมาโกลเด้นที่พอเห็นหมาพันธุ์เดียวกันได้ออกทีวี ก็คิดว่าเป็นตัวเองจนยิ้มซะปากฉีก

    เจ้าหมาโกลเด้นที่พอเห็นหมาพันธุ์เดียวกันได้ออกทีวี ก็คิดว่าเป็นตัวเองจนยิ้มซะปากฉีก

    เราอาจเคยถูกทักว่าหน้าเหมือนดารานักร้องอยู่บ้าง หรือเราอาจคิดว่าเพื่อนๆ เราหน้าเหมือนใครซักคน เช่นเดียวกับเจ้าหมาตัวนี้ที่มันดันเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองได้ไปออกทีวี ทั้งที่ความจริงสุนัขในทีวีนั่นมันคนละตัวก๊านนน เจ้าสุนัขตัวนี้อาศัยอยู่ในรัฐโอคลาโฮมา มีชื่อว่า Pete สายพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ความน่ารักของมันก็คือเวลาได้เห็นน้องหมาสายพันธุ์เดียวกันอยู่ในทีวี มันก็จะคิดว่านั่นคือตัวมันเองและเผยรอยยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจ   แม่ๆ มาดูป๋มออกทีวีเร๊ววว   Jade Westhoff เจ้าของสุนัขตัวนี้ได้บอกว่า “มันชอบนั่งดูเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของมันตามสื่อต่างๆ อย่างเช่นหนังเรื่อง Air Bud ที่มีตัวเอกเป็นน้องหมาโกลเด้น พอมันเห็นปุ๊บก็จะรีบวิ่งมานั่งดูไม่ยอมไปไหนเลย” เหตุการณ์นี้ก็เช่นกันเมื่อในรายการท้องถิ่นของรัฐที่มีชื่อว่า Stacia’s Pet Pics เผยให้เห็นภาพของน้องหมาโกลเด้นสองตัวออกทีวี ทำให้เจ้า Pete รีบมานั่งแหงนดูก่อนที่จะหันมายิ้มให้กับ Jade ด้วยความภูมิใจราวกับว่าน้องหมาในทีวีคือตัวมันเอง   นั่นไม่ใช่เอ็งหรอกนะเจ้า Pete…   หญิงสาวจึงได้ทำการแชร์เรื่องของมันลงไปทางทวิตเตอร์ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2017 และมีคนจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมัน “ไม่อยากจะเชื่อเลย หน้าตามันดูภูมิใจมากๆ เลยนะเนี่ย” “เห็นหน้ามันแล้วฉันอยากจะจบชีวิตตัวเองลงตรงนี้เลย” “คุณพระ!! ใจฉันละลายเพราะรอยยิ้มของมันไปแล้ว”   นั่งแล้วนั่งยาวไม่ยอมไปไหนเลยน้าาา   นี่ถ้ามันรู้ความจริงว่าในนั้นไม่ใช่มันนี่จะเศร้าขนาดไหนละเนี่ย หวังว่ามันคงจะไม่เปิดทวิตเตอร์ตามเข้าไปดูหรอกเนาะ  …

  • ทำเพื่อ?! พลเมืองดีจับภาพหนุ่มโยนน้องหมาลงไปในทะเลที่อุณหภูมิเย็นจัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ทำเพื่อ?! พลเมืองดีจับภาพหนุ่มโยนน้องหมาลงไปในทะเลที่อุณหภูมิเย็นจัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในปัจจุบันการทารุณกรรมสัตว์ยังคงมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับน้องหมาที่เรามักได้เห็นมันถูกเตะหรือถูกขว้างปาของใส่ หรือโดนไล่ตะเพิดหัวซุกหัวซุน และไม่ว่าเราจะเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีกสักกี่ครั้งเราก็ไม่อาจทำใจให้ชินกับมันได้เลย   เหตุการณ์ที่ #เหมียวตะปู จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2017 เมืองฮาร์ตลีพูล ประเทศอังกฤษ เมื่อมีผู้พบเห็นน้องหมาพันธุ์เกรย์ฮาวด์ถูกชายหนุ่มคนหนึ่งอุ้มไปบนสะพานที่ยื่นออกไปในทะเลและโยนเจ้าสุนัขตัวนั้นลงน้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า   เจ้าสุนัขถูกโยนลงไปจากปลายสะพาน   พยานผู้พบเห็นบอกว่าตรงปลายสะพานดังกล่าวมีชาย 3 คนสวมชุดปิดหน้าปิดตาตัวเองเอาไว้และมีน้องหมาเกรย์ฮาวด์อีก 9 ตัว ซึ่งพวกมันต้องถูกโยนลงทะเลไปทีละตัวๆ จากความสูงประมาณ 1.8 เมตร หลังจากนั้นพวกมันก็จะถูกลากขึ้นมาจากน้ำและถูกโยนลงไปใหม่ซ้ำไปซ้ำมาอย่างน่าสงสาร พยานบอกว่า “อุณหภูมิอันเย็นยะเยือกและความแรงของคลื่นทะเลที่ค่อนข้างมาก ทำให้คิดไม่ออกเลยว่าถ้าเจ้าสุนัขถูกพัดไปชนกับขอบสะพานขึ้นมาแล้วมันจะเป็นอย่างไร”   เมื่อตกน้ำไป มันก็จะถูกเชือกที่มัดเอาไว้ลากกลับขึ้นมาอีก   คนที่ได้เก็บภาพนี้มารีบติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือสัตว์ในทันที ทำให้ทาง สมาคมสงเคราะห์สัตว์ (หรือที่เรียกว่า RSPCA) รีบยื่นมือเข้ามาช่วยในเรื่องของการสืบสวนและพยายามระบุให้ได้ว่าชายทั้ง 3 เป็นใครมาจากไหน เจ้าหน้าที่เล่าว่า “หลังจากได้รับแจ้งมา เราก็รีบทำการสอบสวนหาข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเราเดินทางไปที่แห่งนั้น ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ก็ไม่อยู่เสียแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังคงทำการสืบหาเบาะแสกันต่อไป”   ปัจจุบันชาวเมืองและเจ้าหน้าที่ได้ร่วมมือกันเพื่อจับกุมตัวคนเหล่านี้มาดำเนินคดี   นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจอย่างมาก หวังว่าเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้คงไม่เกิดขึ้นที่บ้านเราหรอกนะ…

  • ความหมายอันลึกซึ้งของศิลปินผู้ถ่ายภาพ ‘สะท้อนบนผิวน้ำ’ ที่มีเพียงเงาแต่ไร้ซึ่งคน

    ความหมายอันลึกซึ้งของศิลปินผู้ถ่ายภาพ ‘สะท้อนบนผิวน้ำ’ ที่มีเพียงเงาแต่ไร้ซึ่งคน

    เราสามารถเห็นเงาสะท้อนของตัวเองจากบนผิวน้ำคล้ายกับเงาสะท้อนในกระจกเวลาที่เราไปยืนอยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าหากไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้นเลยแต่กลับมีเงาสะท้อนของคนบนผิวน้ำขึ้นมา มันจะออกมาเป็นแบบไหนกัน? ความคิดนั้นเราสามารถเห็นได้จากรูปภาพของศิลปินที่ชื่อว่า Greg Sand เขาได้นำเสนอชุดภาพถ่ายชื่อ Echoes ที่ในรูปไม่มีตัวคนจริงๆ อยู่แต่มีเพียงแค่เงาสะท้อนอยู่บนผิวน้ำ ทุกภาพเต็มไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง เข้าใจได้หลากหลายแง่มุมแตกต่างกันไป อาจกล่าวได้ถึงความสูญเสียหรือการจากลาที่เมื่อร่างกายเราหายไปเหลือเพียงแค่วิญญาณมันก็คงออกมาในลักษณะนี้ เลื่อนไปหาความหมายอันล้ำลึกของแต่ละภาพกันเลยยย   ในทุกภาพไม่มีใครยืนอยู่บริเวณนั้นเลย แต่มีเงาสะท้อนบนผิวน้ำออกมาให้เห็น .   เราสามารถตีความออกมาได้ในหลายรูปแบบ แตกต่างกันไป   เราอาจมองไม่ออกเลยว่า ที่เราเห็นเป็นเพียงแค่เงาสะท้อนของคนเท่านั้น   บางภาพอาจทำให้เรารู้สึกหลอนๆ ไปบ้าง   เงาที่สะท้อนบนผิวน้ำ มีความบิดเบี้ยวไปบ้างเป็นเรื่องธรรมดา   แม้เงาที่สะท้อนออกมาดูเหมือนคนจริงๆ มากขนาดไหน แต่พอเอื้อมมือไปเราก็สัมผัสได้แค่น้ำเท่านั้น   ดูแล้วก็อาจงงๆ เข้าถึงได้ยาก เพื่อนๆ เข้าใจกันว่ายังไงก็มาแชร์บอกกันไว้ในคอมเมนต์ได้นะ หากใครชื่นชอบผลงานของศิลปินคนนี้สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมในเว็บไซต์ gregsand ของเขาเองได้เลย   ที่มา: twistedsifter

  • เหล่าผู้ใหญ่หนุ่มสาวย้อนวันวานถ่ายรูป “เมื่อก่อนและตอนนี้” รำลึกถึงความฝันในวันที่เป็นเด็ก

    เหล่าผู้ใหญ่หนุ่มสาวย้อนวันวานถ่ายรูป “เมื่อก่อนและตอนนี้” รำลึกถึงความฝันในวันที่เป็นเด็ก

    เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้ใครหลายคนคิดถึงช่วงเวลาแห่งความสุขที่เคยมีมาเมื่อนานมาแล้ว และไม่อาจย้อนเวลากลับไปในเวลานั้นได้เลย ทำได้เพียงแค่ระลึกถึงวันวานเหล่านั้นผ่านรูปถ่ายเหล่านี้ ภาพทั้งหมดเกิดจากไอเดียสร้างสรรค์ของแต่ละคนในการนำรูปถ่ายเก่าๆ มาเป็นต้นแบบและถ่ายออกมาใหม่ในปัจจุบันซะเลย เพื่อเป็นการย้อนวันวานเหล่านั้นให้กลับมาอีกครั้ง มันดูแปลก น่ารัก และชวนขำขันมากขนาดไหนก็ไปดูกันเอาเองเลยจ้าาา   สามพี่น้องที่เมื่อเวลาผ่านไป 18 ปี ก็ยังคงดูเหมือนเดิมอยู่อ่ะนะ   นี่ขนาดผ่านไปตั้ง 15 ปีก็ยังไม่เลิกซึมอีกหรอหนู   สองภาพนี้ถูกถ่ายในที่ว่าการของรัฐเท็กซัสในปี 1984 และ 2013 ผ่านไป 29 ปี พัฒนาการของน้องคนเล็กนี่เปลี่ยนไปมากจริงๆ   2 พี่น้องกับอีก 2 ลูกพี่ลูกน้อง อาบน้ำด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนถึงทุกวันนี้   คุณพ่อผู้คอยอุ้มลูกอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน   Arnold & Patrick Schwarzenegger คุณพ่อนักกล้ามผู้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง   11 ปีผ่านไปแล้ว แต่ร้าน Burger King ก็ยังคงเป็นที่นัดพบของเขาและเพื่อนๆ   เพื่อฉลองให้กับวันเกิดของคุณพ่อ เด็กๆ และคุณแม่จึงได้ถ่ายรูปร่วมกันไม่ว่าจะเป็นในตอนนั้นหรือว่าตอนนี้   จะให้ขี่คอกันจริงๆ…

  • การทดลองเจ๋งๆ ที่ทดสอบว่าเจ้า ‘แกะ’ จะสามารถจดจำใบหน้าของคนดังได้หรือไม่?

    การทดลองเจ๋งๆ ที่ทดสอบว่าเจ้า ‘แกะ’ จะสามารถจดจำใบหน้าของคนดังได้หรือไม่?

    สัตว์แต่ละชนิดอาจมีความสามารถที่เราคาดไม่ถึงซ่อนไว้อยู่ก็ได้ บางตัวอาจมีความสามารถในการลอกเลียนเสียงมนุษย์ บางตัวอาจมีความสามารถในการพรางตัว หรือบางตัวอาจมีความสามารถในการจดจำใบหน้าของมนุษย์ได้!? การทดลองนี้เป็นของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ศาสตราจารย์ด้านระบบประสาท Jenny Morton ถูกตีพิมพ์ใน Royal Society Open Science เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 โดยเธอได้ใช้แกะจำนวน 8 ตัวมาเป็นผู้รับการทดลองในครั้งนี้     เมื่อเธอพาพวกมันมาที่ฟาร์มสำหรับการทดลองแล้ว เจ้าแกะแต่ละตัวก็ถูกกำหนดให้จำใบหน้าของ 1 ใน 4 คนดังได้แก่ Barack Obama , Emma Watson , Fiona Bruce และ Jake Gyllenhall โดยให้พวกมันดูรูปถ่ายใบหน้าของพวกเขาเหล่านั้น ขั้นตอนต่อไปคือการให้เจ้าแกะเข้าไปทีละตัวและเลือกว่ารูปไหนคือคนดังที่มันได้จดจำไป หากมันเลือกถูกก็จะได้รับอาหารเป็นของรางวัล แต่ถ้าผิดก็จะไม่ได้รับอาหารและมีเสียงสัญญาณดังขึ้นมาแทน   เลือกถูกได้อาหาร เลือกผิดไม่ได้อะไรแต่จะมีเสียงดังขึ้นมา   ในตอนแรกหน้าจอแสดงขึ้นมาเพียงฝั่งเดียวก่อน หลังจากนั้นในรอบต่อๆ ไปจะมีรูปภาพใบหน้าโผล่ขึ้นมาทั้งสองจอ ซึ่งมีฝั่งหนึ่งที่เป็นคนดังที่มันจดจำเอาไว้และอีกฝั่งหนึ่งที่เป็นใครก็ไม่รู้แต่มีลักษณะคล้ายกับคนที่พวกมันได้จดจำ มีเพศเดียวกันและเชื้อชาติเดียวกัน   ในตอนแรกมีการแสดงภาพขึ้นมาเพียงจอเดียว   ต่อมามีการแสดงภาพทั้งสองจอ…

  • เมื่อให้ Gordon Ramsay คอมเม้นต์อาหารจากทางบ้าน ทวิตเตอร์ก็เลยเดือดเป็นครัวนรก!!

    เมื่อให้ Gordon Ramsay คอมเม้นต์อาหารจากทางบ้าน ทวิตเตอร์ก็เลยเดือดเป็นครัวนรก!!

    สำหรับคนที่ชอบดูรายการทำอาหารก็คงไม่พลาดรายการยอดฮิตอย่าง Hell’s Kitchen ที่มีผู้นำรายการฝีปากจัดจ้าน ดุดัน โหดเหี้ยมอย่างเชฟชาวสก็อตแลนด์ Gordon Ramsay ผู้มากฝีมือและผ่านประสบการณ์การทำอาหารมาอย่างโชกโชน ด้วยการวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาของเขาชนิดที่ว่าชมเป็นชม ด่าเป็นด่า (หนักไปตรงการด่าหน่อยอ่ะนะ) ทำให้แฟนคลับหลายๆ คนอยากลองได้รับคำวิจารณ์ของเขาดูบ้าง เลยทำการถ่ายรูปอาหารที่ตัวเองได้ทำหรือได้ไปเจอลงทวิตเตอร์และขอคอมเม้นต์จากเชฟท่านนี้ เราลองไปดูกันดีกว่าว่าอาหารแต่ละอย่างและคำตอบที่ได้กลับมาจากปากของเชฟสุดโหด มันเป็นอย่างไรกันบ้าง?   หูฉลามและซุปไก่ถ้วยนี้ เชฟขอบอกเลยว่ามันคือการทำลายระบบนิเวศชัดๆ เดี๋ยวฉลามก็สูญพันธ์ุหมดหร๊อกกก   ก็ถ้าคู่หมั้นคุณทำอาหารออกมาได้น่ากินขนาดนี้ ก็แต่งงานกับเขาเลยเถอะครับ   เชฟ Gordon ถึงกับงง เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาถ่ายรูปกันในคุกได้ด้วย   นี่ไม่ใช่ไก่ย่างแล้ว นี่มันไก่โดนฌาปนกิจชัดๆ   คำวิจารณ์อาหารของเด็กน้อย ติดอยู่บนเสื้อของเขาแล้ว “ยอดเยี่ยม!!”   เผื่ออาจจะลืมอะไรไปนะ นี่มันเดือนมีนาคมอยู่เลย จะรีบทำคุกกี้คริสต์มาสไปหนายยย   นี่มันสลัดจากร้านอาหารของ Gordon เองนี่นา กะตีเนียนให้เชฟด่าตัวเองละสิท่า ไม่ได้แอ้มเขาหร๊อกกก   เป็นลาซานญ่าที่แห้งมากครับ ดูเหมือนคุณยายผมที่แห้งตายไปเมื่อ 20 ปีก่อนเลย   อาหารเย็นมื้อนี้ไม่น่าเอามาถามเชฟนะ ดูจากในรูปขนาดหมายังเมินเลย   พิซซ่าแช่แข็งก็ต้องเป็นไปตามชื่อ แช่แข็งคือ…

  • ผลงานน่ารักๆ ของศิลปินสาวผู้เปลี่ยนหนังสือเก่าๆ ให้กลายเป็นงานฝีมือสุดกิ๋บเก๋

    ผลงานน่ารักๆ ของศิลปินสาวผู้เปลี่ยนหนังสือเก่าๆ ให้กลายเป็นงานฝีมือสุดกิ๋บเก๋

    หนังสือเก่าที่ไม่ได้ใช้ของเรามักถูกวางทิ้งไว้บนชั้นโดยไม่มีใครสนใจหรืออาจถูกทิ้งขว้างไปเลย แต่ศิลปินสาวคนนี้ได้เกิดไอเดียกลายร่างให้กับหนังสือเหล่านั้น จนมันออกมาเป็นงานประดิษฐ์สุดน่ารักกิ๊บเก๋ ประติมากรกระดาษคนนั้นมีชื่อว่า Malena Valcárcel ผู้อาศัยอยู่ในนครอาลีกันเต ประเทศสเปน เธอเล่าว่าตัวเองเป็นคนที่รักหนังสือและชอบอ่านมากๆ เธอจึงนำหนังสือที่ถูกทิ้งจากร้านหนังสือมือสองหรือห้องสมุดในสภาพที่ไม่สามารถกลับมาอ่านได้เหมือนเดิม มาเปลี่ยนให้มันกลายเป็นของตกแต่งสวยๆ เธอนำผลงานต่างๆ เหล่านี้ออกขายในเว็บไซต์ Etsy มาตั้งแต่ปี 2012 เราไปดูกันเลยว่าแต่ละชิ้นมันจะน่ารักเก๋ไก๋มากขนาดไหน   เจ้านกฮูกตัวจิ๋วมาแล้วจ้าาา   บ้านหลังน้อย ที่น่าจะกำลังมีคนทำอาหารอยู่ด้านใน   ฟังเพลงกันหน่อยมั้ยพวกเรา แต่ต้องเงียบนิดนึงนะ ลำโพงมันเล็ก   เติมแสงสีเข้าไปในผลงาน ยิ่งทำให้มันดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น   บ้านต้นไม้ที่ไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นไปไม่ได้เพราะเขามีบันไดเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว   ชั้นวางหนังสือจิ๋ว และหนังสือที่จิ๋วกว่า ที่ทำมาจากหนังสือ?!   เก็บรายละเอียดกระทั่งขนนกเลยนะ   นำหนังสือเก่ามาเป็นเครื่องแต่งกายตุ๊กตาตัวน้อยของเราก็ไม่เลว   รองเท้าดอกไม้สำหรับคนมีคู่ เพราะมันมาเป็นคู่   ถึงจะเป็นม้าหมุนแต่ก็อย่าไปหมุนแรงนะเดี๋ยวขาด   สวยงามราวกับชุดแต่งงานราคาแพง   รองเท้าซินเดอเรลล่าหรือเปล่านะ? เพิ่งรู้นะว่าทำมาจากกระดาษไม่ใช่แก้ว   ใกล้ช่วงคริสต์มาสแล้ว สามารถมีติดบ้านกันไว้ได้   มืดแล้ว เปิดไฟหน่อยนะ  …

  • คุณแม่ออกไปเช่าหนัง กลับมาเปิดกล่องดู เจอโน้ตพร้อมตังค์แถมมาให้ด้วย!?

    คุณแม่ออกไปเช่าหนัง กลับมาเปิดกล่องดู เจอโน้ตพร้อมตังค์แถมมาให้ด้วย!?

    สำหรับในหลายๆ ประเทศ ตู้อัตโนมัติไว้สำหรับเช่าหนังแผ่นถือว่าเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ด้วยวิธีการที่ง่ายให้คุณสามารถเลือกชมหนังเรื่องโปรดได้ที่บ้านของตัวเองในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เหมาะสำหรับคนที่บ้านไม่มีอินเตอร์เน็ตไว้ดูหนังออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในตู้ยอดนิยมนั้นเป็นของบริษัท Redbox   ตู้เช่าหนังอัตโนมัติของ Redbox   เพียงแค่จ่ายเงินเข้าเครื่องก็สามารถเลือกนำหนังที่อยากดูกลับบ้านได้ง่ายๆ แต่ไม่แน่ว่าคุณอาจได้ของแถมที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเหมือนกับคุณแม่ท่านนี้ก็ได้นะ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Liz ได้แชร์เรื่องราวในวันที่ 27 มกราคม 2017 เมื่อคุณแม่ของเธอได้ไปเจอเข้ากับของแถมสุดเซอร์ไพรส์จากกล่องดีวีดีหนังที่เธอไปเช่ามาจากตู้อัตโนมัติ     ตอนที่เธอมาถึงบ้านและได้เปิดดูก็พบเข้ากับแผ่นหนังดีวีดีแต่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้นเพราะมันกลับมีกระดาษโน้ตและเงินกว่า 3,300 บาทติดมาด้วย!!   เซอร์ไพรส์มั้ยละคุณ นอกจากจะได้ดูหนังแล้วยังได้เงินไปซื้อหนมมากินอีกด้วย   ไม่รอช้าเธอได้นำกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านจนทำให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงมีของแถมเหล่านี้   กระดาษโน้ตเขียนไว้ว่า “สวัสดี!! ผมชื่อ Marcos นะ ทุกเดือนผมจะนำเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐให้คนแปลกหน้า นี่เป็นเดือนแรกที่ผมหันมาใช้วิธีใส่ลงไปในกล่องดีวีดีของ Redbox แทน คุณเป็นคนแรกที่ได้รับมันในปี 2017 เลยนะ!! ขอให้คุณนำเงินไปใช้ในทางที่ดี แต่ถ้าไม่ต้องการก็ส่งมันต่อไปให้คนอื่น ขอให้เป็นวันที่ดีนะ บายยย”     นับว่าเป็นความน่ารักและเป็นวิธีการที่สามารถมอบความสุขให้กับใครหลายคนได้ดีเลยจริงๆ ชาวเน็ตที่ได้เห็นต่างมาแสดงความชื่นชมให้กับชายคนนั้น “นั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ฉันเชื่อมาตลอดว่าความดียังคงมีอยู่ในตัวมนุษย์จริงๆ”…

  • ความเชื่อที่ยังคงอยู่.. การล่าแม่มดในอินเดีย จับผู้หญิงผูกไว้กับต้นไม้และทุบตีอย่างรุนแรง

    ความเชื่อที่ยังคงอยู่.. การล่าแม่มดในอินเดีย จับผู้หญิงผูกไว้กับต้นไม้และทุบตีอย่างรุนแรง

    ความเชื่อโบร่ำโบราณของหลายพื้นที่ยังคงมีอยู่สืบต่อกันมา จนอาจปลูกฝังเข้าไปในความคิดและเกิดออกมาเป็นพฤติกรรมความรุนแรงเช่นเดียวกับเหตุการณ์นี้ กับการล่าแม่มดในประเทศอินเดีย วันที่ 6 พฤศจิกายน 2017 เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยคลิปวิดีโอหญิงสาว 5 คนถูกมัดติดกับต้นไม้ จากนั้นคนอื่นที่อยู่รอบๆ ก็เข้ามาทุบตีพวกเธออย่างรุนแรง โดยไม่มีการห้ามหรือเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด แม้แต่จากสามีของพวกเธอเอง   พวกเธอถูกมัดติดกับต้นไม้เอาไว้อย่างไร้ทางสู้   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน Madhupur รัฐโอริศา ประเทศอินเดีย โดยคนในหมู่บ้านเชื่อว่าหญิงสาวเหล่านั้นเป็นแม่มด แอบทำพิธีกรรมหรือมีเวทมนต์ จึงถูกตราหน้าว่าเป็นตัวกาลกิณี พวกเธอและสามีถูกลงโทษด้วยพฤติกรรมอันป่าเถื่อน และไม่สามารถป้องกันตัวหรือหนีออกมาจากสถานการณ์นี้ได้เลย ภายในคลิปแสดงให้เห็นว่ามีคนถือกิ่งไม้ฟาดใส่พวกเธออยู่ตลอด อีกทั้งยังมีคนวิ่งเข้ามาตบซ้ำเข้าไปอีก   หญิงชาวอินเดียถูกทุบตีอย่างหนัก เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด   เหยื่อทั้ง 5 คนกล่าวอีกว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมดูแลเลย จนกระทั่งมีคลิปนี้ออกมาถึงได้ยอมเข้ามาตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะอย่างนั้นจึงทำให้ 2 ปีที่ผ่านมาในเขต Mayurbhanj นั้น มีหลายเหตุการณ์ที่กลุ่มคนตัดสินคนอื่นๆ และลงโทษพวกเขากันเองโดยไม่มีการควบคุม ในเดือนตุลาคมปี 2017 ที่ผ่านมามีคน 3 คนถูกทุบตีอย่างทารุณ ไร้ความปรานีในหมู่บ้าน Gangraj หรือเหตุการณ์ที่หญิงสาวรายหนึ่งถูกตีจนตายเพราะมีอาการทางจิตและพยายามขโมยเด็กในหมู่บ้าน Domuhani   ความรุนแรงที่มาจากความเกลียดชัง เพียงเพราะความเชื่อที่ถูกปลูกฝังมา   ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าความเชื่อของคนสามารถกำหนดพฤติกรรมที่ออกมาได้มากกว่าการใช้เหตุผลในปัจจุบัน และบางครั้งความเมตตาหรือความผิดชอบชั่วดีก็ไม่อาจหยุดสิ่งนี้เอาไว้ได้เลย…

  • แบบทดสอบรูปภาพ หากคุณมองเห็น ‘สิ่งแรก’ ช่วยอธิบายได้ว่า คนอื่นมองคุณเป็นคนยังไง

    แบบทดสอบรูปภาพ หากคุณมองเห็น ‘สิ่งแรก’ ช่วยอธิบายได้ว่า คนอื่นมองคุณเป็นคนยังไง

    มาอีกแล้วกับภาพที่ช่วยสะท้อนหลายๆ อย่างในความเป็นคุณได้ สำหรับหลายๆ คนที่ชื่นชอบการศึกษาความเป็นตัวเองจากสิ่งรอบๆ ตัว เราขอแนะนำให้ลองไปดูภาพนี้กัน ภาพที่เรานำมาขอให้ทุกคนลองดูกันว่า “เห็นอะไรเป็นสิ่งแรก” เพราะมันสามารถสะท้อนให้คุณทราบได้ว่า คนอื่นๆ เขามองว่าคุณเป็นคนยังไง? หรือคุณแสดงออกมาในลักษณะไหนเวลาที่อยู่ในสังคม อย่ารอช้าไปลองทดสอบกันได้เลยยย   เห็นอะไรเป็นอย่างแรกกันเอ่ย?   คราวนี้เราก็ไปอ่านผลลัพธ์ดูว่ามันตรงกับสิ่งที่เป็น หรือตรงกับที่หลายๆ คนพูดถึงคุณมากน้อยขนาดไหน..   หากคุณเห็นว่าเป็นใบหน้าของผู้ชายเป็นอันดับแรก   คนอื่นๆ มองว่าคุณเป็นคนขึงขังและแข็งแกร่ง เพราะคุณจะไม่แสดงความเศร้าเสียใจหรือมุมอ่อนแอของตัวเองให้คนอื่นเห็น รวมถึงความคิด ความรู้สึกของตัวเองที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้ความไม่สนโลกหรือการทำให้ตัวเองดูมีความสุข เมื่ออยู่ในกลุ่มคุณจะดูมีความฮึกเหิมอยู่เสมอและมีทักษะการเป็นผู้นำที่มั่นคง อาจดูเหมือนเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่คุณเป็นคนที่สามารถตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างเด็ดขาด รอบคอบ และหนักแน่น ไม่คล้อยตามคนอื่นง่ายๆ และไม่ชอบพึ่งพาอาศัยใคร คนรอบข้างต่างก็รู้สึกมีความสุขเวลาที่ได้อยู่ด้วย คุณพยายามดูแลพวกเขาเหล่านั้นให้ดีกว่าการดูแลตัวเอง เป็นคนที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและพูดสิ่งต่างๆ อย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ในบางครั้งคุณรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงอาจมีการไปขอความช่วยเหลือจากคนสนิทในบางครั้ง   ถ้าคุณเห็นเป็นเรือนร่างผู้หญิงก่อนเป็นอันดับแรก   คุณคือคนที่มีแรงจูงใจและทุ่มเททำสิ่งต่างๆ อย่างสุดความสามารถเพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายหรือความฝันของตัวเอง คนอื่นๆ มองว่าคุณเป็นคนใจกว้าง มองโลกในแง่บวก เมื่ออยู่ในกลุ่มคุณสามารถทำได้ดีทั้งการวางแผน การดำเนินการ จนได้ผลลัพธ์ที่ออกมามีประสิทธิภาพ คุณเก่งในการสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว…

  • ร้านสตาร์บัคแห่งใหม่ ‘สไตล์ยุคเมจิ’ เปิดใกล้กับออนเซ็นที่เคยโผล่ใน Spirited Away

    ร้านสตาร์บัคแห่งใหม่ ‘สไตล์ยุคเมจิ’ เปิดใกล้กับออนเซ็นที่เคยโผล่ใน Spirited Away

    สตาร์บัค คือร้านกาแฟชื่อดังที่ได้รับความนิยมในหลายๆ ประเทศ ซึ่งหนึ่งในประเทศที่นิยมกาแฟร้านนี้มากๆ ก็คือญี่ปุ่น โดยทางร้านได้คิดค้นหลายๆ อย่างมาเพื่อดึงดูดใจลูกค้าแดนอาทิตย์อุทัยทั้งหลายอยู่เสมอ เช่น Frappuccino ดอกซากุระ หรือแก้วกาแฟลายภูเขาไฟฟูจิ แต่ในครั้งนี้ทางร้านได้สร้างเอกลักษณ์ที่เจ๋งกว่าเดิม เพราะถึงกับจะเปิดสาขาใหม่ในสไตล์ญี่ปุ๊นน ญี่ปุ่น ที่เหมือนกับทำให้ลูกค้าทุกคนได้ย้อนกลับไปในยุคสมัยเมจิตอนช่วงศตวรรษที่ 19 โน้นนน     ร้านกาแฟแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ตรงทางออกของสถานีรถไฟอันเก่าแก่ที่ใช้มานานกว่า 100 ปี ในจังหวัดเอะฮิเมะ บนเกาะชิโกกุ สถานีรถไฟดังกล่าวร่วมมือกับสตาร์บัคส์เพื่อออกแบบและสร้างมันออกมาให้มีความเข้ากันกับบรรยากาศอันเก่าแก่ของเมือง และภายในร้านเองก็มีความคลาสสิคที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการนั่งรถไฟ ทำให้ความรู้สึกของทุกคนเหมือนกับได้แวะพักดื่มกาแฟระหว่างการเดินทางอันยาวนานบนรถไฟ     ร้านนี้มีด้วยกันอยู่สองชั้น โดยชั้นแรกมีเคาน์เตอร์พนักงานไว้สั่งเครื่องดื่มหรือของหวานต่างๆ ที่ด้านหลังของพนักงานจะมีกระจกทำให้ลูกค้าทุกคนสามารถมองเห็นเวลารถไฟมาถึงหรือว่าออกไปจากสถานี   เดินเข้าไปก็เจอเข้ากับเคาน์เตอร์ที่ดูเข้ากันกับสถานีรถไฟแห่งนี้   ชั้นสองมีโซฟาและโต๊ะนั่งที่ทำออกมาเหมือนกับเราได้นั่งอยู่ในรถไฟจริงๆ หรือถ้าหากใครอยากนั่งจิบกาแฟรับลมด้านนอกก็สามารถไปนั่งตรงระเบียงได้ แต่ต้องรีบไปจับจองหน่อยนะเพราะส่วนนั้นมีเก้าอี้พอสำหรับ 8 คนเท่านั้น   การตกแต่งชั้นบนยังคงคอนเซ็ปต์เอาไว้เหมือนกับชั้นล่าง   นอกจากนั้นร้านกาแฟดังกล่าวได้สร้างเอาไว้ใกล้กับออนเซ็น Dogo อันเก่าแก่และมีชื่อเสียงอย่างมากในญี่ปุ่น เพราะมันคือต้นแบบของโรงอาบน้ำในการ์ตูนที่ใครหลายๆ คนรู้จัก Spirited Away จากสตูดิโอ Ghibli   ออนเซ็นชื่อดังที่ได้ไปโผล่ในหนังการ์ตูน   ความสวยงามของที่แห่งนี้ช่วยเสริมให้บรรยากาศโดยรอบดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น ร้านกาแฟแห่งใหม่นี้ก็เช่นกัน   หากใครอยากไปลองนั่งกินกาแฟในบรรยากาศยุคเมจิ…

  • ชีวิตของหญิงสาวต้องพังทลาย เพราะรอยสักรูป ‘ตรีนสุนัข’ ที่เธอรัก เซ็งเป็ดเลย…

    ชีวิตของหญิงสาวต้องพังทลาย เพราะรอยสักรูป ‘ตรีนสุนัข’ ที่เธอรัก เซ็งเป็ดเลย…

    รอยสักของหลายๆ คนอาจได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่ตัวเองรักเหมือนกับเธอคนนี้ ที่ได้ตัดสินใจสักรูปรอยเท้าน้องหมาสุดที่รักเอาไว้บนหน้าอก จนเมื่อเวลาผ่านไปทำให้เธอรู้ว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์เลยจริงๆ Adele Smith หญิงสาววัย 28 ปี เลี้ยงน้องหมาพันธ์ุนิวฟาวด์แลนด์ วัย 8 ขวบที่ชื่อว่า Max มาตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยความรักที่เธอมีให้กับมันจึงสักรูปรอยเท้าน้องหมาตัวนี้เอาไว้บนหน้าอกของเธอ เพื่อให้ตัวเองและทุกคนได้เห็นและคิดถึงมันไปพร้อมๆ กัน   Adele ผู้ตัดสินใจสักรูปรอยเท้าหมาลงไปบนหน้าอกของตัวเอง   รอยสักนี้มีขึ้นมาตั้งแต่ปี 2007 หรือในตอนที่เธออายุได้ประมาณ 18 ปี ในเวลาต่อมาเธอได้เข้าเรียนมหาลัยในเมืองพอร์ตสมัท ประเทศอังกฤษ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ปราศจากความสุขของสาวน้อย เธอบอกว่า “ทุกคนในมหาลัยต่างสนใจและพูดถึงรอยสักนี้ ฉันกลายเป็นน้องใหม่ที่หลายๆ คนรู้จัก ทำให้ฉันชอบแต่งตัวโชว์รอยสักของตัวเองให้หลายๆ คนเห็น เพราะมันคือสิ่งที่สามารถบ่งบอกถึงตัวเองและสิ่งที่ฉันรัก”   Max น้องหมาสุดที่รักของเธอ   แต่หลังจากนั้นหลายอย่างก็เริ่มแย่ลง คนอื่นๆ เริ่มแสดงความคิดเห็นในด้านลบใส่หญิงสาวและเรียกเธอว่า “ยัยนมเท้าหมา” เดินไปไหนมาไหนก็มีแต่คนสนใจแค่หน้าอกของเธอ ไม่มีใครสนใจตัวเธอจริงๆ เลย จากที่เคยชอบรอยสักดังกล่าว ตอนนี้ Adele กลับรู้สึกอยากหายตัวไปทุกครั้งที่มีคนทักเจ้าสิ่งนี้ เพราะตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครเข้ามาคุยกับเธอหรือมองหน้าเธอเลย…

  • นักเรียนจีน ถ่ายรูปจบการศึกษาแบบคูลๆ ชิคๆ เพราะทั้งห้องดันมีผู้หญิงแค่คนเดียว!!

    นักเรียนจีน ถ่ายรูปจบการศึกษาแบบคูลๆ ชิคๆ เพราะทั้งห้องดันมีผู้หญิงแค่คนเดียว!!

    เวลาจบการศึกษา เหล่านักเรียนนักศึกษาทั้งหลายก็จะรวมตัวกันเพื่อถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ในเอกหรือภาควิชาเดียวกัน เช่นเดียวกับนักเรียนในสถาบันเทคโนโลยี Wuchang ในประเทศจีน ที่ได้รวมตัวกันถ่ายรูปจบการศึกษา แต่แล้วมันก็กลายเป็นกระแสดังในโลกออนไลน์ขึ้นมา เพราะในทุกรูปดันมีผู้หญิงโผล่มาแค่คนเดียว!! วันที่ 3 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา ภาพถ่ายเหล่านี้ได้กลายเป็นที่ฮือฮาใน Sina Weibo โซเชียลมีเดียของประเทศจีน เมื่อรูปจบการศึกษาของภาควิชาเครื่องกล ในสถาบันดังกล่าว มีความแหวกแนวและพิเศษตรงที่มีนักเรียนหญิงแค่คนเดียวในภาควิชา   นี่แหละที่เขาเรียกว่าสาวฮ็อตประจำห้องของจริง   เด่นเป็นสง่าทันตาเห็น เพราะเพื่อนร่วมห้องคนอื่นใส่เสื้อสีดำ ขณะที่เธอสวมเสื้อสีฟ้า   ด้วยเหตุผลที่มีนักเรียนหญิง 1 คนต่อนักเรียนชาย 35 คน พวกเขาจึงตัดสินใจใช้คอนเซ็ปต์ภาพต่างๆ ที่แสดงออกว่าหญิงสาวคนนี้เปรียบเสมือน “ราชินีประจำห้อง” ของเหล่าชายฉกรรจ์ ไอเดียน่ารักๆ นี้กลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในโลกโซเชียล หลายคอมเม้นต์คิดว่าหญิงสาวต้องมีความสุขมากแน่ๆ ที่ได้รับการดูแลจากเพื่อนชายที่มากขนาดนี้   ไม่รู้ว่าเธอได้เป็นหัวหน้าห้องด้วยหรือเปล่านะ   มีเรื่องกับใครนี่ชนะชัวร์ บอดี้การ์ดเยอะซะขนาดนี้   เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าประชากรผู้หญิงของจีนมีจำนวนน้อยมากขนาดไหน จากรายงานของ World Economic ได้ให้ข้อมูลว่าช่องว่างระหว่างเพศของประเทศจีนอยู่ในอันดับ 100 จาก 144 ประเทศเลยทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดว่าในอีก…

  • เซ็ทภาพอธิบายความคิด สิ่งที่คุณเห็นเป็นอย่างแรก จะช่วยอธิบายสถานการณ์ของคุณได้

    เซ็ทภาพอธิบายความคิด สิ่งที่คุณเห็นเป็นอย่างแรก จะช่วยอธิบายสถานการณ์ของคุณได้

    การทำแบบทดสอบเกี่ยวกับบุคลิกภาพของตัวเองเป็นสิ่งที่ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะมันทำให้เราได้รู้จักตัวเองจากหลายมุมมองที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่ถึงจะทำไปมากหลายร้อยการทดสอบขนาดไหนก็ไม่สามารถอธิบายเราได้แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นมาลองทำอีกซักอันก็คงไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอกจริงมั้ย? นี่จึงเป็นการทดสอบง่ายๆ ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่ขอให้คุณได้ลองมองเข้าไปในภาพว่า “เห็นสิ่งใดเป็นอันดับแรก” ไปดูกันว่าเรานั้นแอบมีด้านอะไรซ่อนอยู่ ตอนนี้เราต้องเจอกับอะไร และมันตรงกับความเป็นเรามากแค่ไหนกัน     รถยนต์ หากสิ่งแรกที่เห็นคือรถแสดงว่าคุณเป็นคนรักอิสระ สนุกไปกับหนทางและวิธีการของตัวเอง คุณมักจะตัดสินใจทำสิ่งหนึ่งอย่างรวดเร็วเพื่อให้สิ่งๆ นั้นเป็นไปตามความต้องการของตัวเองที่ได้วาดฝันเอาไว้ ผู้ชายถือกล้องส่องทางไกล คุณมองชีวิตของตัวเองในวงกว้างและไม่รู้สึกกังวลกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเรื่องที่มีความเฉพาะเจาะจง คุณซึมซับเรื่องราวต่างๆ อย่างรวดเร็วและจะรู้สึกไม่ชอบใจเวลาที่ต้องกลั่นกรองเรื่องบางเรื่องในเชิงลึก หรือต้องอยู่กับมันซ้ำๆ ตัวอักษร A นี่เป็นสิ่งที่น้อยคนเห็นเป็นอย่างแรก นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนที่มักมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่คนอื่นมองไม่เห็นหรือไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน นั่นจึงช่วยทำให้คุณมีการหยั่งรู้เรื่องต่างๆ ได้ก่อน รวมถึงมีเหตุผลเชิงอนุมาน มีความเป็นตรรกศาสตร์ มีเหตุมีผล     ผู้หญิง หากว่าเห็นผู้หญิงเป็นอันดับแรก นั่นหมายความว่าหลายๆ ประสบการณ์ของคุณอาจเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เพราะว่าการมองโลกในแง่บวกของคุณช่วยทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุขอยู่เสมอ อีกทั้งยังมีความมั่นใจและความอิสระที่มากกว่าใครๆ ผู้ชาย ถ้าคุณเป็นผู้หญิงแล้วเห็นผู้ชายในรูปก่อนแสดงว่าคุณอาจอยากได้คนคู่ใจเป็นคนโรแมนติกหวานแหวว หรือถ้ามีแฟนอยู่แล้วคุณก็มีความสัมพันธ์กับเขาไปในทางที่ดีอยู่ และมันจะดีขึ้นในอนาคต แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชาย นั่นอาจหมายความว่าคุณกำลังกังวลกับคนรอบข้างที่เป็นผู้ชายอยู่ ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นเกย์หรอกนะ แต่ก็ไปลองหาคำตอบดูว่าเรากังวลเรื่องใครอยู่ ไม่อย่างนั้นปัญหานี้อาจทำให้คุณก้าวเดินต่อไปไม่ได้เลย    …

  • 25 อันดับรองเท้าสนีกเกอร์ที่มีราคา ‘แพงที่สุดในโลก’ นับตั้งแต่มวลมนุษยชาติถือกำเนิดขึ้นมา

    25 อันดับรองเท้าสนีกเกอร์ที่มีราคา ‘แพงที่สุดในโลก’ นับตั้งแต่มวลมนุษยชาติถือกำเนิดขึ้นมา

    รองเท้าสนีกเกอร์ คือประเภทของรองเท้ายอดฮิตในปัจจุบัน ด้วยความพิเศษของลักษณะที่สามารถสวมใส่ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย บวกกับความหลากหลายของแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ ที่สามารถเลือกใส่กันได้ตามสไตล์ที่แตกต่างกันของแต่ละคน ราคาทั่วไปที่เราเคยเห็นของรองเท้าประเภทนี้มักจะอยู่ที่หลักพัน แต่เคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่าสนีกเกอร์ที่แพงที่สุดนั้นมีราคาเท่าไหร่กันแน่ อาจจะหลักหมื่นหรือหลักแสนประมาณนั้นรึเปล่า? เพื่อคลายความสงสัยทางเว็บไซต์ List25 จึงได้ทำการจัดอันดับสนีกเกอร์ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกเอาไว้ อย่ารอช้าไปดูกันเลยยย   Air Jordan III OG ราคาประมาณ 149,000 บาท   นี่คือรองเท้ารุ่นเดียวกันกับที่ Michael Jordan นักบาสผู้มีชื่อเสียงในสมัยก่อนใส่ในการแข่งขัน Slam Dunk Contest และสามารถเอาชนะ Dominque Wilkins จนกลายเป็นแชมป์ในปี 1988   Nike Foamposite One “Sole Collector” ราคาประมาณ 199,000 บาท   รุ่นนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1997 มาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำ แหวกแนวโดนใจสาวกสนีกเกอร์ทั้งหลาย   Nike Dunk Low Pro SB Pigeon ราคาประมาณ 199,000 บาท…

  • การลงทุนที่คุ้มค่า เปลี่ยนบ้านจากสภาพเน่าเละเทะ ให้กลับมาน่าอยู่ได้ในเวลาเพียง 2 เดือน

    การลงทุนที่คุ้มค่า เปลี่ยนบ้านจากสภาพเน่าเละเทะ ให้กลับมาน่าอยู่ได้ในเวลาเพียง 2 เดือน

    เราอาจเคยเห็นการตกแต่งบ้านมาหลากหลายรูปแบบเพื่อให้บ้านดูน่าอยู่ แต่สำหรับผลงานในครั้งนี้จะเรียกว่าการตกแต่งหรือรีโนเวทธรรมดาๆ มันก็คงไม่ใช่ เพราะนี่มันเหมือนกับการรื้อด้านในแล้วทำใหม่หมดเลย ผลงานนี้เป็นฝีมือของผู้ใช้เว็บไซต์ Imgur ที่ชื่อว่า Maytherman2 โดยหลังจากที่เขานำมาเผยแพร่ในโลกโซเชียลก็ได้มีการแชร์ต่อๆ เป็นจำนวนมากในวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา   บ้านหลังเก่าที่ดูไม่น่าอยู่ ในเขตเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน   เขาเล่าว่า “ผมออกจากงานมาตั้งแต่เดือนมีนาคม จากนั้นจึงไปทำงานตกแต่ง ทาสีบ้านกับเพื่อนอีก 2 คนแทน จนกระทั่งพวกเราคิดที่จะทำการตลาดในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน โดยการซื้อบ้านเก่ามาทำใหม่แล้วค่อยขายออกไป” พวกเขาจึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ด้วยเงินทั้งหมดที่มีและยืมพ่อแม่มาบ้าง แต่พวกเขาก็เชื่อว่าการลงทุนนี้ต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน   เมื่อเข้าไปในบ้านเห็นได้เลยว่า เจ้าของเก่าไม่คิดจะเก็บหรือทำความสะอาดใดๆ ก่อนออกไปเลย .   สภาพของห้องกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าๆ   ไม่มีการทาสีใหม่ใดๆ ทั้งสิ้น   ขยะที่ถูกทิ้งเอาไว้เต็มห้องจนมองไม่เห็นพื้น   สภาพความผุพังที่เกิดขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไปโดยไม่มีใครเข้ามาดูแล . .   ขยะเยอะขนาดนี้น่าเอาไปชั่งกิโลขายจริงๆ เลยนะเนี่ย   หลังบ้านมีความรกร้าง ขาดความเขียวขจี   เวลาผ่านไปเพียงแค่ 2 เดือน ด้วยทีมงานเพียง 3…

  • งานวิจัยยืนยันแล้วว่า การดู “หนังสยองขวัญ” สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงๆ นะเออ!?

    งานวิจัยยืนยันแล้วว่า การดู “หนังสยองขวัญ” สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริงๆ นะเออ!?

    การดูหนังสยองขวัญไม่ใช่สิ่งที่หลายๆ คนชื่นชอบ แต่งานวิจัยนี้อาจช่วยให้เปลี่ยนความคิดนั้นได้ เพราะมีการพิสูจน์แล้วว่าการดูหนังแนวนั้นเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้จริง!! งานวิจัยดังกล่าวเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย Westminster ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน โดยนักวิจัยได้บอกว่าการดูหนังสยองขวัญเป็นเวลา 90 นาที สามารถเบิร์นแคลอรี่ได้มากถึง 113 แคลฯ เทียบเท่ากับการเดินเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง     ดอกเตอร์ Richard Mackenzie วิทยากรอาวุโสผู้เชี่ยวชาญด้านการเผาผลาญและสรีระวิทยาของมหาวิทยาลัย ได้ออกมาอธิบายถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเอาไว้ว่า “การดูหนังสยองขวัญช่วยเบิร์นแคลอรี่ของเราจากการสะดุ้งตกใจของเราในขณะที่รับชม” เขาอธิบายต่อว่า “การสะดุ้งจะทำให้ชีพจรและอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้น เลือดลมในร่างกายสูบฉีดเร็วขึ้น จนทำให้ร่างกายปล่อยอะดรีนาลีนออกมาเอง ซึ่งอะดรีนาลีนดังกล่าวจะเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ ตอนที่เราเครียดหรือหวาดกลัว ลดความอยากอาหารของเราไป เพิ่มอัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐานและช่วยเบิร์นแคลอรี่ในระดับสูงมากยิ่งขึ้น”     นอกจากนั้นได้มีการศึกษาจากบริษัทเช่าหนังออนไลน์ที่ชื่อว่า LoveFilm ทำการวัดอัตรการเต้นของหัวใจ การรับออกซิเจนและการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของเราออกมา ผลลัพธ์ที่ออกมาคือหนังสยองขวัญสามารถช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้มากกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 3 เท่า     ถ้าหากเพื่อนๆ คิดว่า 113 แคลฯ มันน้อยไปแล้วล่ะก็ เรามีวิธีที่มันแอดวานซ์ขึ้นไปอีก เพราะจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Westminster บอกว่าการดูหนังจำนวน 6 จาก 10 เรื่องดังต่อไปนี้ สามารถเบิร์นแคลอรี่ได้มากกว่านั้นเยอะ โดยได้จัดอันดับเอาไว้ตามนี้…

  • ความแตกต่างของภาพสแกนสมองของเด็กสองคน คนไหนถูกรักคนไหนถูกทำร้าย!?

    ความแตกต่างของภาพสแกนสมองของเด็กสองคน คนไหนถูกรักคนไหนถูกทำร้าย!?

    การเลี้ยงดูเด็กเป็นเรื่องสำคัญเพราะมันคือการวางรากฐานให้พวกเขาสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเราสามารถพิสูจน์ความแตกต่างของเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีกับเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทารุณหรือปล่อยปละละเลยได้ ผ่านภาพสแกนสมองนี้ ภาพด้านล่างคือการเปรียบเทียบสมองของเด็กวัย 3 ขวบสองคน ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของการเลี้ยงดู ด้านซ้ายคือสมองของเด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างทะนุถนอมและได้รับการดูแลเอาใจใส่ ด้านขวาเป็นสมองของเด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างทารุณ ปล่อยปละละเลย และถูกกีดกันการรับรู้ต่างๆ   สมองด้านซ้ายจากเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี สมองด้านขวาของเด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างทารุณ   ภาพนี้ถูกแชร์โดยศาสตราจารย์ Bruce Perry หัวหน้าฝ่ายจิตเวชของโรงพยาบาลเด็กในรัฐเท็กซัส โดยเขาต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาการทารุณกรรมเด็กว่ามันส่งผลร้ายแรงมากขนาดไหน เห็นได้ชัดว่าสมองทางด้านขวามีขนาดเล็กกว่ามาก และมีลักษณะที่แตกต่างจากสมองของเด็กอีกคนอย่างชัดเจน เพราะการขยายตัวของโพรงในสมองและเยื่อหุ้มสมองเสื่อมที่สามารถสังเกตเห็นได้ ปัญหาที่ตามมาจากลักษณะของสมองที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในแบบนั้นก็คือ การเจริญเติบโตของเด็กจะช้ากว่าปกติและมีปัญหาในเรื่องของความจำจากการที่เยื่อหุ้มสมองเสื่อม ซึ่งอาการดังกล่าวพบได้ในคนแก่ผู้ป่วยเป็นอัลไซเมอร์   ภาพในลักษณะเดียวกันจากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Oxford ในปี 2010 ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ต่างกับภาพที่เราได้เห็นในปัจจุบัน   ผลกระทบทางกายภาพไม่ได้เกิดขึ้นกับสมองของเด็กเพียงอย่างเดียว งานวิจัยอื่นๆ ได้บอกว่าเด็กที่ถูกทารุณมีความเชื่อมโยงที่อาจทำให้พวกเขาป่วยเป็นโรคหัวใจหรือโรคอ้วนได้ในอนาคต นี่จึงเป็นปัญหาระยะยาวที่ส่งผลเสียอย่างมาก ไม่ใช่เพียงแต่ด้านร่างกายแต่รวมถึงด้านจิตใจการเข้าสังคมของเด็กอีกด้วย ด็อกเตอร์ Perry บอกว่าหากเด็กถูกกีดกันจากโลกภายนอก ไม่ได้ทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก พอพวกเขาโตขึ้นอาจกลายเป็นคนที่พึ่งพาคนอื่นอยู่เสมอ หรือไม่งั้นก็อาจเข้ากับคนอื่นได้ยาก     นอกจากนั้นยังได้มีการพูดถึงความสำคัญของการเลี้ยงดูจากคนเป็นแม่ โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน นักวิจัย Joan Luby ได้ทำการวิเคราะห์เด็กจำนวน 127 คนตั้งแต่ที่พวกเขาเริ่มเข้าโรงเรียน ไปจนถึงตอนเป็นวัยรุ่น เพื่อหาความแตกต่างระหว่างการเลี้ยงดูจากแม่ที่เอาใจใส่…

  • ผู้หญิงผู้เป็นโรคกลัวชุมชน ได้ออกท่องโลกผ่าน Google Street View และทำให้เธอยิ้มได้อีกครั้ง!!

    ผู้หญิงผู้เป็นโรคกลัวชุมชน ได้ออกท่องโลกผ่าน Google Street View และทำให้เธอยิ้มได้อีกครั้ง!!

    โรคกลัวชุมชน (หรือเรียกว่า Agoraphobia) เป็นความผิดปกติที่ทำให้ผู้ป่วยไม่กล้าออกไปในที่สาธารณะหรือสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย และยิ่งหากเป็นหนักมากเหมือนกับ Jacqui Kenny ก็อาจทำให้ไม่กล้าออกบ้านไปไหนเลย   Jacqui หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคกลัวชุมชน   Jacqui หญิงสาวชาวนิวซีแลนด์ผู้ย้ายมาอยู่ที่กรุงลอนดอน อาการของโลกดังกล่าวได้ทำลายความฝันในการออกไปถ่ายรูปรอบโลกของเธอ เพราะเธอไม่สามารถออกจากหอพักของตัวเองได้เลย จนกระทั่งเธอได้รู้จักกับ Google Maps สิ่งที่ช่วยฟื้นคืนความฝันของเธอกลับมาอีกครั้ง ด้วยโหมดสตรีทวิว (Street View) ทำให้เธอสามารถเห็นบรรยากาศทุกที่ทั่วโลกตามความต้องการได้อย่างสมจริง ทั้งวิวทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม รวมทั้งผู้คนภายในภาพ   ภาพแรกที่เธอแชร์ลงไปวันที่ 12 พฤษภาคม 2016 เมืองดาร์คาน ประเทศมองโกเลีย   เธอตัดสินใจเซฟภาพบรรยากาศต่างๆ ที่เธอชื่นชอบมาเก็บไวในเครื่อง หลังจากนั้นเธอจึงแต่งรูปและโพสต์ลงอินสตาแกรมเพื่อแชร์มุมมองของเธอว่า แต่ละสถานที่ที่เธอได้เห็นนั้นมันออกมามีหน้าตาเป็นอย่างไร ต่อมา Jacqui มีชื่อเสียงอย่างมาก เพราะผู้คนสนใจในโรคของเธอ รวมถึงการแชร์เรื่องราวในรูปแบบนี้ เธอโด่งดังถึงขั้นได้ร่วมมือกับ Google ในการนำเสนอความสวยงามที่รับรู้ได้จากโหมดสตรีทวิว ผ่านแกลเลอรี่ของเธอที่ชื่อว่า The Agoraphobic Traveller ถูกจัดแสดงในนครนิวยอร์ก เ ราลองไปชมส่วนหนึ่งของผลงานเธอได้เลยยย  …

  • วินาทีชีวิต.. เมื่อนักกายกรรมสาวประสบอุบัติเหตุจนหัวและคอลงมากระแทกพื้นอย่างจัง!!

    วินาทีชีวิต.. เมื่อนักกายกรรมสาวประสบอุบัติเหตุจนหัวและคอลงมากระแทกพื้นอย่างจัง!!

    อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน และผลลัพธ์ของมันอาจทำให้เราเกือบต้องเสียชีวิตเลยก็ได้ เช่นเดียวกับเธอคนนี้ที่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดหลังจากที่บริเวณศีรษะของเธอตกลงมากระแทกพื้นจากความสูงเกือบ 4 เมตร   Sam Panda นักกายกรรมสาวผู้ประสบอุบัติเหตุตกมาจากความสูงเกือบ 4 เมตร   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม 2017 เมื่อนักกายกรรมสาวชาวอเมริกันวัย 26 ปี Sam Panda กำลังทำการแสดงอยู่บนเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้เกิดอุบัติเหตุห่วงเหล็กที่เธอกำลังเกาะอยู่หล่นตกลงมาที่พื้นเวทีอย่างแรง นั่นทำให้ศีรษะและคอของเธอได้รับแรงกระแทกเข้าไปเต็มๆ กระดูกบริเวณคอของเธอหักไปหลายแห่ง และไม่สามารถลุกเดินได้เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นกับไขสันหลัง แต่ยังคงขยับแขนขาได้ปกติและรีบพาตัวเธอส่งโรงพยาบาลโดยด่วน   คลิปวินาทีเสี่ยงตายของ Sam ที่ตกลงมาระหว่างทำการแสดง   จากการสัมภาษณ์เพื่อนของเธอ Olivia Leonie บอกว่า “Sam บอกกับทางผู้จัดแล้วว่าเธอไม่อยากขึ้นไปบนอุปกรณ์ที่ไม่มีความปลอดภัย ฝ่ายนั้นจึงให้คนนอกเข้ามาตรวจเช็คดูเพื่อยืนยันว่ามันปลอดภัยจริงๆ” แต่สุดท้ายก็เห็นแล้วว่ามันไม่ได้ปลอดภัยเลย     ศีรษะของเธอกระแทกกับพื้นเข้าอย่างจัง   เธอล้มลงไปนอนแต่ยังมีสติ เพียงแค่ไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้   หัวของเธอแตกเย็บไป 8 เข็ม และช่วงคอของเธอก็ได้รับการใส่เฝือกเอาไว้เป็นที่เรียบร้อย แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือบริเวณไขสันหลังของเธอที่มีความเสียหายหลายจุด ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับการรักษาโดยด่วนในเรื่องนี้เธออาจต้องพิการเดินไม่ได้ไปตลอดชีวิต หากเธอเดินไม่ได้ก็เท่ากับเธอต้องจบอาชีพที่เธอรักในการเป็นนักกายกรรมที่เธอทำมากว่า…

  • วินาทีชีวิต…ผู้ดูแลเสือถูกขย้ำภายในกรงของสวนสัตว์ หลังพลาดเปิดประตูทิ้งไว้!?

    วินาทีชีวิต…ผู้ดูแลเสือถูกขย้ำภายในกรงของสวนสัตว์ หลังพลาดเปิดประตูทิ้งไว้!?

    สวนสัตว์คือสถานที่สำหรับจัดแสดงสัตว์นานาชนิดจากหลายๆ แห่งมารวมกันไว้ในที่เดียว เพื่อให้ผู้เข้าชมได้สนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับการได้สังเกตวิถีชีวิตของพวกมัน แต่สวนสัตว์แห่งนี้กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นซะทีเดียว เพราะมันดันเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนต้องขวัญผวาขึ้นมาซะได้ สวนสัตว์ดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในเมืองคาลินินกราด ประเทศรัสเซีย ได้เกิดเรื่องสุดหวาดเสียวขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์รายหนึ่งนำอาหารเข้าไปให้เสือไซบีเรียภายในกรงของพวกมัน ก่อนที่จะถูกเจ้าเสือร่างยักษ์เข้าโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส   เหตุการณ์ระทึกขวัญเกิดขึ้นเมื่อเจ้าเสือหลุดออกมาและเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ที่นำอาหารมาให้   เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา เหตุการณ์มีอยู่ว่าเจ้าหน้าที่สาวได้นำอาหารไปให้กับเสือร้ายภายในกรงของพวกมัน ในขณะที่เจ้าเสือกำลังพักอยู่ในกรงแยกอีกส่วนหนึ่ง แต่ประตูกรงที่แยกเจ้าเสือเอาไว้กลับเปิดอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เจ้าเสือไซบีเรียวัย 16 ปีขนาดมหึมาที่ชื่อว่า Typhoon หลุดออกมาและพุ่งเข้าหาเธอทันที   มันใช้กรงเล็บและเขี้ยวอันแหลมคมทำร้ายเธอ   ผู้คนจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์อยู่เหนือกรงต่างรู้สึกตกใจและขวัญผวากับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก พวกเขาเล่าว่าเจ้าหน้าที่สาวคนนั้นได้กรีดร้องออกมาและพยายามต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้ ผู้ชมคนหนึ่งสามารถดึงสติกลับมาได้ เขาจึงพยายามตะโกนและปาหินเข้าไปในกรงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าเสือที่กำลังยืนอยู่บนตัวของหญิงสาว คนอื่นๆ เองก็รีบยกสิ่งของต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรือม้านั่งของร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ๆ โยนลงไปในกรงเพื่อดึงดูดความสนใจของเจ้าเสือเพิ่มมากขึ้น จนในที่สุดมันก็ออกห่างมาจากเจ้าหน้าที่หญิงและทำให้เธอสามารถวิ่งหนีออกมาได้ในที่สุด   ผู้ชมที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันโยนข้าวของลงไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ   เรื่องราวที่น่าตกใจมากขนาดนี้กลับไม่มีเจ้าหน้าที่สวนสัตว์คนอื่นๆ เข้ามาเห็นหรือมาช่วยเหลือเลย แม้แต่ตอนที่เธอหนีออกนอกกรงไปซ่อนอยู่ในห้อง คนที่โทรเรียกรถฉุกเฉินให้มาที่เกิดเหตุก็คือหนึ่งในผู้ชมที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อยู่ดี จนเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ถึงได้เข้ามายิงยากล่อมประสาทใส่เจ้าเสือในที่สุด ส่วนหญิงสาวได้ถูกพาไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน คุณหมอบอกว่าเธอมีบาดแผลอยู่หลายจุดตามร่างกายและแขนขา แต่ถึงแม้ว่าอาการจะสาหัสและค่อนข้างน่าเป็นห่วง ผลตรวจโดยรวมก็ยังคงมีความคงที่และเธอก็มีสติอยู่ จึงไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต    …

  • ความรักไร้พรมแดนของหญิงสาวผู้ ‘หลงรัก’ และตกลงปลงใจ ‘แต่งงาน’ กับหอไอเฟล!!

    ความรักไร้พรมแดนของหญิงสาวผู้ ‘หลงรัก’ และตกลงปลงใจ ‘แต่งงาน’ กับหอไอเฟล!!

    หลายคนอาจหลงใหลหรือรู้สึกรักสิ่งของบางอย่างเช่น ตุ๊กตาตัวโปรด หรือรถยนต์ แต่ถึงแม้ว่าคุณจะรักมันมากเพียงใด คุณก็คงไม่ทำเหมือนหญิงสาวคนนี้แน่นอน เพราะเธอรักสิ่งๆ หนึ่งมากจนถึงกับแต่งงานกับมันเลย!! เธอคนนี้มีชื่อว่า Erika Labrie วัย 37 ปี อดีตทหารหญิงผู้อาศัยอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เธอหลงใหลในสิ่งๆ หนึ่งอย่างมาก นั่นคือ หอไอเฟล ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ความรักที่เธอมีให้นั้นมากซะจนถึงขั้นแต่งงานกับมันไปเลย     ความรักในสิ่งของของเธอที่มากขนาดนี้เริ่มต้นขึ้นในตอนที่เธอได้ตกหลุมรักกับธนูคู่ใจของตัวเองที่สามารถทำให้เธอกลายเป็นนักธนูระดับโลก ต่อมาเธอก็เกิดความรู้สึกหวั่นไหวให้กับกำแพงเบอร์ลิน หนึ่งในสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง และไม่ใช่เพียงแค่นั้นเพราะเธอบอกว่าแม้แต่รั้วกั้นที่อยู่ในห้องนอนของเธอ ก็น่าหลงใหลจนเธออยากจะมีความสัมพันธ์ทางกายกับมันเลยทีเดียว กระทั่งวันที่ 4 มิถุนายน 2007 ในที่สุดเธอก็ได้มาพบรักกับหอไอเฟล อีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่งดงามและโด่งดังไปทั่วโลก เธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับมันและเปลี่ยนนามสกุลเป็น La Tour Eiffel เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอรักมันมากขนาดไหน   เธอคนนี้คือนักธนูระดับโลก   ความหลงใหลในสิ่งของที่มากขนาดนี้ของเธอเป็นผลมาจากโรคที่ชื่อว่า Objectum-Sexual ทำให้เธอรู้สึกว่าสิ่งของสิ่งหนึ่งเป็นเหมือนกับคนรักหรือสามีของเธอ ซึ่งทั่วโลกมีผู้ป่วยเพียงแค่ประมาณ 40 คนเท่านั้น เพราะอย่างนั้นจึงทำให้เธอรู้สึกกับหอไอเฟลมากขนาดนี้ เธอบอกว่า “สิ่งที่ฉันเป็น ฉันไม่เคยมองว่ามันเป็นปัญหาเลย ฉันโอเคกับมันและฉันชอบที่จะได้เดินทางไปสัมผัสสิ่งที่ฉันรักหรือสามีของฉันอยู่เสมอ”   คลิปการให้สัมภาษณ์ของหญิงสาวที่แต่งงานกับหอไอเฟล…

  • รวมภาพล้วงแคะแกะเกา “หนังฝ่าเท้า” ที่ให้ความรู้สึกฟิน ไม่ต่างจากการบีบสิวเลย!?

    รวมภาพล้วงแคะแกะเกา “หนังฝ่าเท้า” ที่ให้ความรู้สึกฟิน ไม่ต่างจากการบีบสิวเลย!?

    [บทความต่อไปนี้อาจมีภาพที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] แทบทุกคนต้องเคยบีบสิวกันมาก่อนอย่างแน่นอน ความรู้สึกตอนที่หัวสิวถูกบีบออกมาอาจทำให้หลายๆ คนต้องรู้สึกฟินอย่างบอกไม่ถูก วันนี้ #เหมียวตะปู จึงขอนำเสนอวิธีการกำจัดส่วนเกินบนร่างกายอีกอย่างที่จะทำให้ฟินไม่แพ้กัน วิธีการดังกล่าวคือการใช้ของมีคมรอบๆ ตัวอย่างคัตเตอร์หรือใบมีดโกนมาตัดเอาหนังที่ด้านแข็งบริเวณฝ่าเท้าออกไป ชนิดที่ฝานออกมาเป็นแผ่นเรียงตัวกันอย่างสวยงาม ซึ่งเราได้เตรียมตัวอย่างของวิธีการดังกล่าวมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันเป็นที่เรียบร้อย ไปดูกันเลยยย   ลอกออกมาเป็นแผ่นแบบไม่มีการฉีกขาดกลางทางเลย   ถ้าไม่อยากทำเอง ก็คงต้องถึงมือผู้เชี่ยวชาญแล้ว   ล้วง แคะ แกะ เกา   ค่อยๆ ฝานออกมาบางๆ ไปเรื่อยๆ   ความด้านของฝ่าเท้าไม่สามารถสู้กับความคมของมีดโกนได้   ต้องระวังใบมีดเข้ามือด้วยนะ เดี๋ยวเลือดออก   จะแงะเข้าไปตรงๆ เลยก็ได้นะ   ทำบ่อยจนคล่องมือแล้วละสิเนี่ย ไวเชียววว   จะหนาขนาดไหนก็ไม่เคยย่อท้อ   ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเป็นเท้านี่คิดว่าเป็นเปลือกไข่ซะอีกนะ   คิดว่าใช้มีดปอกเปลืองมะม่วง   ผิวด้านใหญ่ขนาดไหนก็สามารถหายไปได้ในพริบตา   ไล่ลงมาตั้งแต่โคนนิ้วยันส้นเท้า   เอาเท้าไปติดกับกาวมาหรือไร ทำไมถึงแตกเป็นแผ่นได้ขนาดนี้   หนักขนาดนี้น่าจะไปหาหมอมากกว่านะ   อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ก็อาจไม่ควรทำเองที่บ้านนะ เพราะถ้าไม่ระวังมีดอาจปักเข้าไปในเนื้อเท้าเราก็ได้…

  • 12 แนวคิดการเลี้ยงลูกจาก “ราชวงศ์อังกฤษ” ที่พ่อแม่ทุกคน สามารถเรียนรู้มาเป็นแบบอย่าง…

    12 แนวคิดการเลี้ยงลูกจาก “ราชวงศ์อังกฤษ” ที่พ่อแม่ทุกคน สามารถเรียนรู้มาเป็นแบบอย่าง…

    คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเคยศึกษาวิธีการดูแลลูกกันมาแล้ว แต่ที่เรานำมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้กันครั้งนี้คือ วิธีการเลี้ยงลูกของคนในราชวงศ์อังกฤษ ทั้งหมดนี้คือแนวคิดของดยุคและดัชเชสแห่งแคมบริดจ์ ที่ทรงใช้ในการเลี้ยงดูพระโอรส George และพระธิดา Charlotte ซึ่งบอกได้เลยว่าวิธีต่างๆ พวกเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้เองจริงๆ มีอะไรบ้างลงไปดูกันได้เลย   ไม่ว่าจะอยู่ในระดับหรือชนชั้นใด ก็ไม่ควรมีชีวิตที่สุขสบายมากเกินไป   ในครอบครัวนี้มีพี่เลี้ยงเด็กเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น เพราะเชื่อว่าหน้าที่การเลี้ยงดู อาบน้ำลูกน้อย หรือพาเด็กไปเดินเล่น ควรเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ซึ่งนั่นทำให้ทั้งครอบครัวสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้น   เคารพหน้าที่การงานของคนอื่นๆ   เด็กๆ ควรได้รับการเรียนรู้ว่างานทุกงานมีคุณค่าเสมอ แม้จะเป็นงานเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตก็ตามอย่างเช่น คุณแม่ทำกับข้าวให้ทาน หรือแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดห้อง แนวคิดนี้จึงทำให้พระโอรสและพระธิดากินอาหารครบทุกมื้อและเก็บห้องของตัวเองอยู่เสมอ เพราะเห็นว่าทุกงานมีคุณค่าที่ควรทำ   ครอบครัวต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง   ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นการดูแลกันหรือมีเวลาให้คือสิ่งที่ดีอย่างมาก จากความคิดนี้ทำให้พระโอรสและพระธิดามักใช้เวลาอยู่กับสิ่งต่างๆ ร่วมกับครอบครัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยทั่วไปหรือการกินอาหาร   ทุกคนมีสิทธิ์แสดงออกทางความคิดและความรู้สึกของตัวเอง   แม้คนในราชวงศ์ส่วนใหญ่อาจต้องอยู่ภายใต้การถูกยับยั้งในหลายเรื่อง แต่การปล่อยให้เด็กแสดงอารมณ์และความคิดของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ จะช่วยพัฒนาการอยู่ร่วมกับคนในสังคมของตัวเด็กเองได้   การศึกษาคือสิ่งสำคัญ อันดับหนึ่ง   การเรียนรู้อย่างเช่นการอ่านหนังสือ คือสิ่งสำคัญที่ควรให้เด็กได้ลงมือทำกันบ่อยๆ รวมถึงการพาไปพิพิธภัณฑ์หรือแหล่งการเรียนรู้ในที่ต่างๆ ก็ถือว่าเป็นวิธีการที่ดี…

  • เสือดาวยอดนักล่า คาบจระเข้ตัวยาวกว่า 2 เมตร มารับประทานเป็นอาหารเย็น!!

    เสือดาวยอดนักล่า คาบจระเข้ตัวยาวกว่า 2 เมตร มารับประทานเป็นอาหารเย็น!!

    เราอาจไม่เคยคิดกันมาก่อนว่าเสือดาวสามารถล่าจระเข้ได้ เพราะลักษณะการใช้ชีวิตของพวกมันแทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกันเลย แต่ภาพและคลิปวิดีโอนี้ช่วยยืนยันว่าเสือดาวสามารถทำอย่างนั้นได้จริงๆ ข้อมูลดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดมาจากช่างภาพชาวอังกฤษวัย 31 ปี Edward Selfe ชายหนุ่มผู้อาศัยอยู่ในประเทศแซมเบียมานานกว่า 10 ปี เพื่อบันทึกเรื่องราวความขาดแคลนในสถานที่แห่งนั้น วันหนึ่งเขากำลังเก็บข้อมูลอยู่ในอุทยานแห่งชาติ South Luangwa และเจอเข้ากับเหตุการณ์ที่หาดูได้ยากมาก เมื่อเสือดาวตัวหนึ่งได้คาบจระเข้ความยาวกว่า 2 เมตรมานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย   เสือดาวที่สามารถล่าจระเข้ตัวยาวกว่า 2 เมตรกลับมาเป็นอาหารได้   ทางฝั่งอเมริกาใต้และอินเดีย การที่เสือจะกินจระเข้บางสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่ในฝั่งแอฟริกา ไม่เคยมีการบันทึกเหตุการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน เขาจึงไม่รอช้ารีบคว้ากล้องขึ้นมาเก็บภาพเอาไว้ เจ้าเสือดาวตัวนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของฝูงเสือดาวที่มีจำนวนค่อนข้างมาก แต่มันชอบที่จะปลีกวิเวกออกมาอยู่ตัวเดียวในบริเวณนี้บ่อยๆ ทำให้การติดตามถ่ายภาพมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ Edward   ภาพเหล่านี้ถูกถ่ายตอนเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตอนฟ้ามืด   คลิปวิดีโอเสือดาวกำลังกินจระเข้อย่างเอร็ดอร่อย   เขาบอกว่า “เป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างมากที่เสือดาวสามารถฆ่าจระเข้ได้สำเร็จ ผมเชื่อว่าภาพที่ผมถ่ายคือภาพที่แสดงให้เห็นสิ่งนี้ได้ชัดเจนมากที่สุดแล้ว” นอกจากนั้นช่างภาพหนุ่มเชื่อว่าการที่เสือดาวตัวนี้สามารถฆ่าจระเข้ได้นั้นเกิดจากความบังเอิญมากกว่าที่มันจะวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว “ผมเชื่อว่าเจ้าเสือดาวคงกำลังเดินไปกินน้ำที่แม่น้ำและพบเข้ากับเจ้าจระเข้ที่กำลังหลับอยู่และไม่รู้สึกถึงการมาของมัน ทำให้เสือดาวฉวยโอกาสเข้าไปกัดจระเข้ที่บริเวณกะโหลกศีรษะจนตายในที่สุด” เขากล่าว     อย่างไรก็ตามเสือดาวนั้นได้ถูกบันทึกเอาไว้ว่าพวกมันล่าสัตว์สายพันธุ์อื่นมากกว่า 90 ชนิด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการกินอาหารของพวกมันมีความหลากหลายมากอยู่แล้ว จะมีจระเข้เพิ่มเข้าไปก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลก…

  • 13 การทดลองทางจิตวิทยาแบบแปลกๆ ที่ทำขึ้นเพื่อให้เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์

    13 การทดลองทางจิตวิทยาแบบแปลกๆ ที่ทำขึ้นเพื่อให้เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์

    จิตวิทยาคือศาสตร์อย่างหนึ่งในการพยายามทำความเข้าใจมนุษย์ ว่าภายในจิตใจของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือมีขั้นตอน รูปแบบต่างๆ อย่างไรกันบ้าง ซึ่งหนึ่งในวิธีที่สามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้ดีก็คือการทดลอง หลายคนอาจเคยเห็นการทดลองทางจิตวิทยากันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้เรามาพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับการทดลองแปลกๆ เจ๋งๆ ที่อาจไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ไปดูกันเลยว่าเป็นการทดลองแบบไหนและผลลัพธ์ที่ได้ช่วยให้สามารถเข้าใจมนุษย์ได้มากขึ้นจริงๆ หรือเปล่า?   1. The Piano Stairs Experiment   นี่เป็นการทดลองแฝงโฆษณาของบริษัท Volkswagen เรียกว่า “ทฤษฎีแห่งความสนุก” โดยเปลี่ยนบันไดในเมือง Stockholm ประเทศสวีเดน ให้กลายเป็นรูปเปียโน เพื่อพิสูจน์ว่ามนุษย์จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเมื่อถูกดึงดูดด้วยความสนุกสนานได้หรือไม่? ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ 66 เปอร์เซ็นต์ของคนที่ต้องขึ้นลงทางนั้น เลือกใช้บันไดแทนการขึ้นบันไดเลื่อน แถมพวกเขายังมีความสุขกับการได้ขึ้นบันไดอีกด้วย แสดงให้เห็นว่าความสนุกสนานสามารถเปลี่ยนแปลงคนได้จริงๆ   2. The Smoky Room Experiment   การทดลองนี้กำหนดให้คนที่เข้าไปทำแบบสอบถามอยู่ในห้องที่มีควันลอยออกมาเต็มไปหมดและจะสังเกตดูว่าผู้เข้ารับการทดลองมีท่าทีอย่างไรบ้าง ทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ คนกลุ่มแรกต้องเข้าไปนั่งในห้องคนเดียว กลุ่มสองต้องเข้าไปนั่งในห้องพร้อมกัน 3 คน และกลุ่มที่สามเข้าไปคนเดียวแต่จะมีหน้าม้าเข้าไปด้วยอีก 2 คน ซึ่งทั้งสองทำเป็นไม่สนใจกับควันภายในห้อง ผลลัพธ์ออกมาว่าคนกลุ่มแรกจำนวน 75…

  • บรรยากาศภายในรัฐสภารัสเซีย กับหลากหลายวิธีการผ่อนคลายเพื่อลดความตึงเครียด

    บรรยากาศภายในรัฐสภารัสเซีย กับหลากหลายวิธีการผ่อนคลายเพื่อลดความตึงเครียด

    รัฐสภาคือสถานที่ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและแรงกดดัน เพราะเหล่านักการเมืองที่เข้าประชุมต้องพบกับการตัดสินใจระดับชาติ ที่อาจทำลายหรือพัฒนาประเทศของตัวเองได้ในพริบตา แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถจมอยู่กับความเครียดได้ตลอด จึงต้องมีการผ่อนคลายกันบ้าง หลายคนอาจคิดภาพกันไม่ออกว่าพวกเขาจะผ่อนคลายกันอย่างไร? วันนี้ #เหมียวตะปู จึงมาชวนให้เพื่อนๆ ทุกคนไปดูวิธีการผ่อนคลายอารมณ์ในช่วงพักการประชุมภายในรัฐสภาของรัสเซีย ลองไปดูกันว่าในตอนนั้นพวกเขาทำอะไรกันบ้าง?   แชะซักภาพ โพสต์ลงกลุ่มซะหน่อย   ฮั่นแน่ กระซิบกระซาบอะไรกันอยู่หรอ?! .   มองงง เธอสาวเธอสวยฉันจึงได้มองงง . .   อายุเยอะแล้ว นั่งนานๆ ก็ต้องนวดกันซักหน่อย   กอดกันกลมอย่างนี้ จะชวนกันเต้นรำหรือเปล่าเอ่ย?   การนอนหลับคือการผ่อนคลายทั้งกายและใจ   หม่าล่าร้านนี้ใช้ได้เลยนะ เล่นเอาซะลิ้นชาไปหหมดเลยเนี่ย . .   ไม่ทราบว่าเมื่อเช้านี้กินข้าวคลุกกะปิมาใช่มั้ย? .   พอดีเห็นว่ามีอะไรก็ไม่รู้ติดอยู่เลยจะเอาออกให้   เข้าฮอสแล้ว คราวนี้แหละชนะใสๆ   ทักทายกันซักเล็กน้อยพอเป็นพิธี   สงสัยจะอภิปรายกกันเยอะไปหน่อย ปากแห้งต้องเติมปากนิดนึง . .   แปปนะครับ เมื่อคืนหนักไปหน่อย ขอล้วงคอซักนิด…

  • หนุ่มอัดคลิปจ้วงอาหารจานสวยของเพื่อน ก่อนที่พวกเขาจะถ่ายภาพอวดโซเชียล

    หนุ่มอัดคลิปจ้วงอาหารจานสวยของเพื่อน ก่อนที่พวกเขาจะถ่ายภาพอวดโซเชียล

    ภาพที่คนกำลังพยายามถ่ายอาหารจารสวยเพื่อไปลงโซเชียล ถือว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะสาวๆ ที่พออาหารมาวางปุ๊บก็จะถ่ายรูปอัพลงโซเชียลมีเดียก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อความสบายใจและความสุขของพวกเธอ แต่ถ้าจู่ๆ มีคนมาทำลายความสุขนั้นต่อหน้าต่อตาอย่างที่เขาคนนี้ทำล่ะจะเป็นอย่างไร?! Kevin Freshwater คือชายหนุ่มผู้ทำลายความพึงพอใจของใครหลายๆ คน เพราะเมื่อไหร่ที่เพื่อนหรือคนใกล้ตัวกำลังถ่ายภาพอาหารที่ดูน่ากินอยู่นั้น เขาก็จะใช้ส้อมทำลายมันซะป่นปี้จนไม่สามารถอัพลงอินสตาแกรมได้เลย…   อยากอัพลงโซเชียลกันมากใช่มั้ย เอาส้อมบี้ซะเลยยย นี่แน่ะๆ   โดยเขาได้ถ่ายคลิปการกระทำสุดเหี้ยมโหดอันนี้เอาไว้แทบทุกครั้ง ก่อนจะนำมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของตัวเอง เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา เหยื่อแต่ละคนถึงกับเอ๋อรับประทาน งงกันไปตามๆ กัน บางคนก็หัวเราะให้กับสิ่งที่เขาทำ บางคนก็ถึงกับจะเดินไปสั่งจานใหม่เพื่อให้ได้ถ่ายอีกรอบ หรือแม้กระทั่งคนที่ด่าเขาด้วยคำหยาบคายเลยก็มี คลิปวิดีโอของเขามีผู้เข้าชมเกือบ 260,000 ครั้งในอินสตาแกรม kevinfreshwater และในเฟซบุ๊กก็มีคนเข้าชมมากกว่า 43 ล้านครั้ง แชร์อีกกว่า 436,000 ครั้ง และมีคนไลก์อีกกว่า 320,000 คนเลยทีเดียว   เงิบสิครับ!! กำลังจะถ่ายอยู่แล้ว โดนทำลายฝันซะงั้น   มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น บ้างก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำอย่างเช่น Mike Hayne “กินอาหารเข้าไปเลย ง่ายๆ แค่นั้นก็พอแล้วมั้ย ไม่ต้องมาถ่ายหรอก”…

  • เรื่องราวของพี่น้องฝาแฝดที่ ‘กอดกันในครรภ์’ จนรอดจากความตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์

    เรื่องราวของพี่น้องฝาแฝดที่ ‘กอดกันในครรภ์’ จนรอดจากความตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์

    หลายๆ คนอาจไม่เชื่อเรื่องปาฏิหาริย์ แต่หากได้ฟังเรื่องราวของฝาแฝดคู่นี้อาจทำให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่เลยก็ได้ เพราะพวกเขาสามารถช่วยเหลือกันจนรอดชีวิตมาได้แม้จะยังอยู่ในท้องแม่ก็ตาม เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 2015 เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งในประเทศอังกฤษชื่อว่า Vicky Plowright วัย 30 ปี ได้ตั้งครรภ์ลูกแฝดในถุงน้ำคร่ำเดียวกันหรือที่เรียกว่า Monoamniotic-Monochorionic (หรือฝาแฝดแบบ Mo-Mo) ซึ่งเป็นประเภทของฝาแฝดที่หาได้ยากมาก มีโอกาสเกิดขึ้นเพียงแค่ 1 ใน 60,000 คู่   Reuben และ Theo ฝาแฝดผู้เกิดมาด้วยรูปแบบที่หายาก .   ที่สำคัญกว่านั้นคือด้วยความที่เด็กทั้งสองอยู่ในถุงน้ำคร่ำเดียวกัน แต่ทั้งคู่มีสายสะดือเป็นของตัวเองไว้สำหรับการเจริญเติบโตของใครของมัน พวกเขาจึงมีโอกาสมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ที่สายสะดือจะพันกันจนไม่สามารถรับออกซิเจนได้ และตายในครรภ์ของมารดา ความเสี่ยงที่มากขนาดนั้นทำให้คุณแม่ผู้ตั้งท้องอยู่และ Chris Cremer คู่หมั้นของเธอรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก กลัวว่าลูกๆ อาจไม่มีโอกาสได้ออกมาลืมตาดูโลก     เธอบอกว่า “ตอนแรกที่ฉันรู้ว่าได้ลูกแฝด ฉันก็กลัวว่าจะไม่สามารถดูแลพวกเขาทั้งสองได้ดี เพราะลำพังแค่ Jocelyn ลูกสาววัย 4 ขวบที่มีอยู่เพียงคนเดียว ก็ค่อนข้างจะรับมือยากแล้ว” คุณแม่อธิบายต่อว่า “แต่พอผลตรวจออกมา คุณหมอได้อธิบายทุกอย่างให้ฟัง ฉันรู้สึกตกใจและกังวลอย่างมาก…

  • หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เหลือเวลาใช้ชีวิตอีกแค่ 18 เดือน ลั่นระฆังวิวาห์กับชายผู้เป็นที่รัก

    หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เหลือเวลาใช้ชีวิตอีกแค่ 18 เดือน ลั่นระฆังวิวาห์กับชายผู้เป็นที่รัก

    การแต่งงานเป็นความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะกับสาวๆ เพราะมันคือวันสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวรักและพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ซึ่งงานแต่งงานคือความปรารถนาอย่างหนึ่งของเธอคนนี้ แม้ว่าตนเองกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งและมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไม่เกิน 18 เดือนเท่านั้นก็ตาม หญิงสาวช่างเสริมสวยคนนี้มีชื่อว่า Martine Kilminister เธอป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะที่ 4 ทำให้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เพียง 6 – 18 เดือนเท่านั้น   Martine ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกสันหลังระยะที่ 4   สาววัย 28 ปีผู้อาศัยอยู่ในเมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เธอบอกว่าเริ่มรู้สึกมีอาการเจ็บหลังตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2017 ที่ผ่านมาจึงเข้าปรึกษาแพทย์ ตอนนั้นหมอบอกว่าเธออายุยังน้อย ไม่ต้องกังวลอะไร ตัวเธอเองคิดว่าเธออาจมีความผิดปกติที่ระบบประสาท ผ่านไปไม่นานเธอก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวจึงกลับไปหาหมออีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม และเธอได้ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูกสันหลังระยะที่ 4   ภาพของเธอก่อนที่จะเป็นอัมพาต จนทำให้ไม่สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง   บริเวณไขสันหลังของเธอมีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่กดทับเอาไว้ นั่นจึงทำให้หลังการถูกวินิจฉัยเพียง 4 สัปดาห์ ร่างกายของเธอตั้งแต่เอวลงไปกลายเป็นอัมพาต และไม่สามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นคือหมอบอกว่าเธอสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เพียงแค่ 6 – 18 เดือน ข่าวร้ายที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนนี้ทำให้เธอและแฟนหนุ่ม Christopher รู้สึกช็อคและเสียใจเป็นอย่างมาก ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานขึ้นมาในทันที เพราะแม้ว่าเขาและเธอจะอยู่ด้วยกันมานานถึง…

  • หนุ่มเวียดนามใช้เวลากว่า 150 วัน แว้นมอไซค์ไปฝรั่งเศส เพื่อประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม!!

    หนุ่มเวียดนามใช้เวลากว่า 150 วัน แว้นมอไซค์ไปฝรั่งเศส เพื่อประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม!!

    หลายคนมีความฝันอยากเดินทางไปต่างประเทศ อยากเที่ยวรอบโลก แต่ส่วนใหญ่อาจติดปัญหาในเรื่องของค่าใช้จ่ายตั๋วเครื่องบินที่มีราคาแพง ซึ่งเหตุผลนั้นไม่สามารถใช้ได้กับชายคนนี้ เพราะเขาสามารถเดินทางข้ามทวีปได้ด้วยมอเตอร์ไซค์เก่าๆ เพียงคันเดียว!! นี่คือเรื่องราวการเดินทางของหนุ่มเวียดนามอายุ 30 ปี มีชื่อว่า Tran Dang Dang Khoa ผู้ที่ใช้เวลากว่า 150 วันในการเดินทางจากประเทศเวียดนาม ไปยังกรุงปารีส ด้วยมอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิคของตัวเอง   Khao หนุ่มเวียดนามผู้มีความฝันอยากขี่มอเตอร์ไซค์ไปรอบโลก   โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา   ชายหนุ่มคนนี้ได้โพสต์ภาพความประทับใจจากการเดินทางของเขาในวันที่ 28 ตุลาคม 2017 เพื่อบอกให้ทุกคนได้รู้ว่าความฝันในการเดินทางรอบโลกของเขาสำเร็จมาครึ่งนึงแล้ว การเดินทางนี้เริ่มต้นในเดือนมิถุนายน เขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปยังกรุงปารีส ด้วยระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร ต้องเติมน้ำมันไปมากกว่า 500 ลิตร น้ำมันเครื่องอีก 25 ขวด และต้องเปลี่ยนยางหน้าหลังไปอย่างละชุด   .   เขาขี่ผ่านประเทศต่างๆ ไปมากถึง 23 ประเทศ เริ่มจากประเทศเวียดนามบ้านเกิด ต่อไปยังกัมพูชา ไทย เนปาล อินเดีย ปากีสถาน…

  • แม้แต่คนญี่ปุ่นก็สงสัย ทำไมเครื่องขายตั๋วรถไฟ มีแต่ “ค่าโดยสาร” ไม่เป็นชื่อสถานีให้จบๆ ฟร๊ะ!?

    แม้แต่คนญี่ปุ่นก็สงสัย ทำไมเครื่องขายตั๋วรถไฟ มีแต่ “ค่าโดยสาร” ไม่เป็นชื่อสถานีให้จบๆ ฟร๊ะ!?

    หลายๆ คนอาจเคยใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถไฟฟ้ากันมาก่อน และเราก็ต้องเจอกับวิธีการที่ดูแล้วค่อนข้างจะทำให้เรางงหน่อยๆ ว่าทำไมตอนซื้อตั๋วจากเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติต้องกดเลือกค่าโดยสาร ทำไมไม่ให้กดเลือกจุดหมายปลายทางไปเลยทีเดียว ข้อสงสัยดังกล่าวไม่ได้มีเพียงแค่บ้านเราที่สงสัย แต่ในประเทศญี่ปุ่น เขาก็คิดเหมือนกันกับเราว่าทำไมมันต้องเป็นอย่างนั้นด้วย จนเกิดเป็นคำถามในทวิตเตอร์บ้านเขาว่า “ใส่ชื่อจุดหมายปลายทางลงไปให้เลือกเลยมันน่าจะดีกว่าหรือเปล่า?”   การซื้อตั๋วรถไฟฟ้าเริ่มจากไปยืนดูแผนที่ก่อนว่าเราจะไปสถานีไหน   และต้องสังเกตให้ดีๆ ว่าสถานีที่เราจะไปมันราคาเท่าไหร่   จากนั้นจึงมาเลือกราคาตามนั้นเลย ซึ่งทำให้เกิดคำถามว่าทำไมไม่ให้เลือกสถานีที่เครื่องไปเลยตั้งแต่แรก?   คำถามดังกล่าวทำให้หลายคนเริ่มคิดตามไปพร้อมๆ กัน ลองคิดดูอย่างเครื่องขายน้ำอัตโนมัติมันก็ยังเขียนชื่อของเครื่องดื่มลงไปตรงๆ เลยจริงมั้ย?! แต่ก็มีหลายคนที่แสดงความคิดเห็นว่าเป็นแบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว เพราะหากต้องมายืนเลือกจุดหมายปลายทางอยู่ที่เครื่องมันก็จะยิ่งทำให้เสียเวลายืนอยู่ตรงนั้นนานขึ้น และทำให้คนต้องมายืนต่อแถวรอกันเป็นจำนวนมาก “ถ้าคุณใส่แผนที่ลงไปให้มันแสดงขึ้นมาบนจอ นั่นก็จะยิ่งทำให้ต้องใช้เวลายืนหานานกว่าเดิมและมันจะทำให้คนต้องต่อแถวกันยาวขึ้น” “ไปยืนหาชื่อสถานีใช้เวลามากกว่าการไปเลือกจากตัวเลขเพียงไม่กี่ตัว อย่าให้ต้องมีคนไปยืนต่อแถวกันเยอะๆ เลย” “แทนที่จะปรับปรุงมัน การผลิตให้เครื่องจำหน่ายตั๋วมีเยอะขึ้นนั้นเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่ามาก”     ถึงอย่างนั้นเรื่องของเวลาที่อาจเพิ่มมากขึ้นในการซื้อตั๋ว ก็มีเพียงแค่คนที่ใช้รถไฟเดินทางเป็นประจำเท่านั้นที่จะรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้ แต่จริงๆ มันก์มีทางออกที่ดีอยู่นั่นคือการเติมเงินเข้าบัตรรถไฟซะเลย เท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องมายืนต่อคิวใช้บริการเจ้าเครื่องจำหน่ายตั๋วนี้กันแล้ว ส่วนเรื่องของการใส่จุดหมายปลายทางหรือชื่อสถานีลงไปให้เลือก ในสถานีรถไฟฟ้าของเมืองโตเกียว ก็มีวิธีการดังกล่าวให้ใช้กันได้อยู่แล้ว แม้ว่าในสถานีอื่นๆ จะยังคงต้องเลือกจากค่าโดยสารเพียงอย่างเดียวเหมือนเดิมอยู่ก็ตาม   ว่ากันว่าวิธีในปัจจุบันทำให้ไม่ต้องมีคนไปยืนต่อแถวรอกันยาวๆ .   บริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (๋JR) ได้ออกมาชี้แจงว่า เครื่องจำหน่ายตั๋วไม่ได้มีพื้นที่พอสำหรับการใส่แผนที่ลงไป และวิธีการปัจจุบันที่ใช้อยู่ก็ทำให้เสียเวลาในการซื้อตั๋วน้อยที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามในปี…

  • ทัวร์โรงงานผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปลี่ยนจากโรงงานร้าง สร้างงานสร้างรายได้ใหม่!!

    ทัวร์โรงงานผลิตกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปลี่ยนจากโรงงานร้าง สร้างงานสร้างรายได้ใหม่!!

    กัญชายังคงเป็นพืชผิดกฎหมายในบ้านเรา แต่ในบางประเทศมันเป็นสมุนไพรที่สามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อย่างเช่นประเทศแคนาดา ที่มีบริษัทผู้ผลิตกัญชารายใหญที่สุดในโลกตั้งอยู่!! บริษัทนี้มีชื่อว่า Canopy Growth เป็นผู้ผลิตกัญชาออกจำหน่ายเพื่อนำไปใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย และบริษัทของเขายังเจาะกลุ่มลูกค้าได้มากถึง 1 ใน 3 จากสถานพยาบาลและผู้ป่วยกว่า 200,000 แห่งในแคนาดา ทำให้กลายเป็นผู้จำหน่ายกัญชาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก วันนี้เราจึงมาพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศภายในโรงงานหลักที่ตั้งอยู่ในเมือง Smiths Falls รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ภายในโรงงานจะเป็นอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลยจ้าาา   บริษัทแห่งนี้มีโรงงานตั้งอยู่หลายแห่งทั่วแคนาดา แต่ที่เราพามาดูคือโรงงานหลักของเขา   ที่นี่เคยเป็นโรงงานบริษัทช็อกโกแลตชื่อดัง Hershey ก่อนที่จะกลายเป็นโรงงานร้าง ต่อมาบริษัทกัญชาจึงเข้ามาปรับปรุงและพัฒนาจนยิ่งใหญ่   โรงงานมีการดูแลผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นให้มีคุณภาพ   Bruce Linton ผู้ก่อตั้งบริษัทในปี 2014 เป็นคนที่สามารถสานต่อแนวทางของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ   การตรวจเช็คสินค้าทุกชิ้นก่อนส่งออกไปให้ลูกค้าแต่ละราย   ทางโรงงานจะทำทุกขั้นตอนตั้งแต่ปลูก เก็บเกี่ยว ไปจนถึงแพ็คอย่างดีส่งไปให้บริษัทลูกค้ารายย่อยอื่นๆ   หนึ่งในนั้นคือ Tweed เจ้าของผลิตภัณฑ์กัญชาสำหรับใช้ในทางการแพทย์ ที่มีบรรจุภัณฑ์อันทันสมัยจนอาจเข้าใจผิด คิดว่าเป็นเจลใส่ผมของผู้ชาย   และยังมีอีกหลากหลายบรรจุภัณฑ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์จากของแต่ละบริษัทย่อย   หากพูดถึงจุดเริ่มต้นของบริษัทแห่งนี้…

  • คุณยายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้ของขวัญสุดล้ำค่า ที่ช่วยทำให้หัวใจอบอุ่นขึ้นเป็นกอง

    คุณยายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อได้ของขวัญสุดล้ำค่า ที่ช่วยทำให้หัวใจอบอุ่นขึ้นเป็นกอง

    ตอนเรายังเป็นเด็ก เวลาที่ได้กล่องของขวัญอะไรมาเราจะรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและลุ้นว่าด้านในจะเป็นอะไร ซึ่งช่วงเวลาแบบนั้นอาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นแค่ตอนวัยเด็กเท่านั้น เพราะต่อให้อายุมากขึ้นขนาดไหนเหตุการณ์นั้นก็อาจหวนกลับมาได้เสมอ เช่นเดียวกับคุณยายคนนี้ มีคลิปวิดีโอของคุณยายนิรนามท่านหนึ่งโพสต์ลงในยูทูบ เผยให้เห็นความน่ารักและความซาบซึ้งในตอนที่เธอกำลังลุ้นกับของขวัญวันคริสต์มาส และรู้สึกเซอร์ไพรส์มากเมื่อรู้ว่าด้านในเป็นอะไร   ค่อยๆ ถือนะครับคุณยาย   คลิปนี้ถูกโพสต์โดยผู้ใช้ที่ชื่อว่า Long Nguyen และใต้วิดีโอก็มีคำอธิบายสั้นๆ ไว้ว่า “ของขวัญคริสต์มาสให้แม่” ตอนแรกที่คุณยายได้รับกล่อง แกก็บอกว่ารู้สึกมันหนักๆ จึงนำมาวางไว้บนตักแล้วค่อยเปิดฝากล่องขึ้นมา ซึ่งเมื่อเธอเห็นสิ่งที่อยู่ภายในแล้ว มันก็ทำให้เธอรู้สึกตกใจและดีใจเอามากๆ   ด้านในคือน้องเหมียวตัวสีดำสุดน่ารักที่กระเด้งออกมาสร้างรอยยิ้มให้กับคุณยาย   เธอดีใจมากจนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความสุขออกมาและโอบกอดเจ้าเหมียวเอาไว้ด้วยความรัก สิ่งที่เธอทำสร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่เห็นได้อย่างง่ายดาย   ยินดีต้อนรับเจ้าเหมียวที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว คุณยายตั้ลล๊ากกก   คลิปเซอรไพรส์คุณยายด้วยของขวัญที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจ   ด้วยความน่ารักของเธอและเจ้าเหมียว จึงทำให้ในยูทูบมีคนเข้าดูมากกว่า 1.2 ล้านคน ยอดไลค์กว่า 50,000 ครั้ง และคอมเม้นต์อีกกว่า 3,700 ข้อความ แสดงให้เห็นว่าคลิปนี้สร้างความสุขและความซาบซึ้งให้กับคนอื่นๆ มากขนาดไหน   ทุกคอมเม้นต์ต่างรู้สึกซาบซึ้งกับการแสดงออกของคุณยาย จนบางคนถึงกับร้องไห้เลยก็มี   ความสุขสามารถทำให้เราย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้งจริงๆ สินะเนี่ย   ที่มา: inspiremore

  • เจ้ากระรอกน้อยผู้พลาดพลั้งดันไปกิน ‘เห็ดป่า’ จนทำให้ต้องนอนกองอยู่กับพื้นด้วยความเมา

    เจ้ากระรอกน้อยผู้พลาดพลั้งดันไปกิน ‘เห็ดป่า’ จนทำให้ต้องนอนกองอยู่กับพื้นด้วยความเมา

    กระรอกที่เราเคยเห็นอยู่ตามต้นไม้ทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่พวกมันก็จะวิ่งเล่นไปมาไม่ค่อยหยุดอยู่กับที่ แต่กระรอกตัวที่หญิงสาวคนนี้ไปเจอกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะมันกลับนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นซะได้ อาการดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าเจ้ากระรอกน้อยมันเสียชีวิตหรอกนะ แต่ที่มันต้องเป็นอย่างนั้นก็เพราะว่ามันเมา!!   โดนคำเดียวก็ได้ไปอยู่ที่ลอนดอน โดนคำเดียวก็ได้ไปอยู่อเมซอน สรุปว่ามาววว   กระรอกตัวนี้ถูกพบโดยผู้ใช้ยูทูบที่ชื่อว่า Vet Wife ผู้โพสต์คลิปนี้เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2016 ขณะที่เธอกำลังพาน้องหมาไปเดินเล่น เธอก็ได้เจอกับเจ้ากระรอกน้อยนอนหายใจรวยรินไม่ยอมขยับอยู่กับพื้น ตอนแรกเธอคิดว่ามันอาจถูกสัตว์อื่นทำร้ายมา แต่เมื่อลองสังเกตก็พบว่ามีอะไรคาอยู่ในปากมันอยู่และเมื่อมองไปรอบๆ ก็ทำให้เธอพอเดาได้แล้วว่ามันเป็นอย่างนี้เพราะอะไร พื้นที่ตรงนั้นดันมีเห็ดงอกขึ้นมาจนทำให้เจ้ากระรอกทนความหิวเอาไว้ไม่ได้และกินมันเข้าไปแน่ๆ ซึ่งจากลักษณะแล้วเห็ดเหล่านั้นไม่น่าจะถึงกับมีพิษอันตราย แต่คงมีผลทำให้มันมึนเมามากกว่า   เห็ดเหล่านี้ คือตัวการที่ทำให้เจ้ากระรอกต้องล้มตัวนอนโดยไม่ได้ตั้งใจ   เพราะอย่างนั้นเจ้ากระรอกตัวนี้เลยมีสภาพอย่างที่เห็น หญิงสาวจึงตั้งใจจะพามันไปหาสัตวแพทย์ แต่ระหว่างที่เธอกำลังห้ามหมาของตัวเองไม่ให้เข้าไปทำร้ายมัน จู่ๆ เจ้ากระรอกก็ลุกขึ้นมาวิ่งหน้าตาเฉย?! แต่มันก็วิ่งไปได้แค่นิดเดียวแล้วก็ล้มลงไปอยู่ในสภาพเดิม น่าสงสารจริงๆ เลยนะเจ้ากระรอกไม่น่าซ่าไปกินเห็ดเมาเล๊ยยย   คลิปกระรอกเมานอนแอ้งแม้ง   พวกเราเองเวลาจะกินอะไร อย่าลืมดูให้ดีๆ ก่อนนะ ไม่อย่างนั้นอาจเป็นเหมือนกับเจ้ากระรอกน้อยตัวนี้ก็ได้   ที่มา: todaysdot

  • ศิลปินหนุ่มวาดภาพตัวละคร Phobia ซึ่งเป็นตัวแทนความกลัวในแต่ละแบบ

    ศิลปินหนุ่มวาดภาพตัวละคร Phobia ซึ่งเป็นตัวแทนความกลัวในแต่ละแบบ

    ความกลัวแบบไร้เหตุผลหรือที่เราจะรู้จักกันในชื่อ Phobia เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลายๆ คน มันคืออาการกลัวสิ่งแปลกๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ หรืออาจกลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพราะเนื่องมาจากการกระทบกระเทือนทางจิตใจในวัยเด็กก็เป็นได้ อาการดังกล่าวนั้นได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปิน Shawn Cross สร้างผลงานชุดภาพความกลัวขึ้นมาในชื่อ Feartober โดยทำให้อาการ Phobia ต่างๆ สามารถเห็นภาพได้ง่ายขึ้นผ่านตัวละครที่เขาสร้างขึ้นมา   Chronophobia – โรคกลัวเวลา กลัวช่วงเวลาไหลผ่าน กลัวเข็มนาฬิกาที่กำลังเดินไป   Claustrophobia – โรคกลัวที่แคบ   Trypanophobia – โรคกลัวเข็ม   Arachnophobia – โรคกลัวแมงมุม   Nyctophobia – โรคกลัวความมืด   Agoraphobia – โรคกลัวที่กว้างหรือฝูงชน   Coulrophobia – โรคกลัวตัวตลก   Philophobia – โรคกลัวความรัก   Scopophobia – โรคกลัวการถูกจ้องมอง กลัวเวลาที่คนอื่นมองมา   Cherophobia…

  • คดีสะเทือนขวัญชาวญี่ปุ่น ตำรวจบุกจับชายหนุ่มคาห้องพัก พบ 9 ศพ และ 2 หัวที่ถูกตัด!?

    คดีสะเทือนขวัญชาวญี่ปุ่น ตำรวจบุกจับชายหนุ่มคาห้องพัก พบ 9 ศพ และ 2 หัวที่ถูกตัด!?

    เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม สำนักข่าว Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดสะเทือนขวัญเกี่ยวกับการเข้าจับกุมชายชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่านาย Takahiro Shiraishi หลังจากที่มีการตรวจพบศพจำนวน 9 ศพภายในห้องเช่าของเขา   โฉมหน้าของฆาตกรสุดโหด ฆ่าหั่นศพ Takahiro Shiraishi   ตำรวจ ผู้สื่อข่าว และชาวบ้านแถวนั้นจำนวนมาก ต่างมามุงดูที่เกิดเหตุ   ตำรวจนครบาลและผู้สื่อข่าวจำนวนมากได้เข้าไปในสถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็นที่พักอาศัยของชายคนนี้ภายในเมืองซะมะ จังหวัดคะนะงะวะ ประเทศญี่ปุ่น และได้เจอเข้ากับศพของผู้หญิง 8 คนกับศพผู้ชายอีก 1 คน กับรอยเลือดที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วห้อง Shiraishi ยอมรับข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นคนตัดแบ่งร่างกายของเหยื่อออกเป็นส่วนๆ ด้วยตัวเอง เพื่อทำลายหลักฐานการฆาตกรรมของเขา ทำให้ตำรวจพบศีรษะของเหยื่อสองคนและชิ้นส่วนร่างกายอื่นๆ อยู่ในกล่องเก็บความเย็นภายในห้องและกล่องลังไม้บางส่วน   เจ้าหน้าที่ต้องดูแลความเรียบร้อยของสถานที่เกิดเหตุเอาไว้   ในระหว่างการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่พบว่าหนึ่งในศพที่เป็นเหยื่อของเขา คือหญิงสาววัย 23 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองฮะชิโอจิ ซึ่งเธอถูกแจ้งความว่าหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2017 ในช่วงที่เธอหายตัวไปพี่ชายของเธอพบว่าหญิงสาวได้เข้าไปพูดเอาไว้ในเว็บไซต์สำหรับการฆ่าตัวตายว่า “ฉันกำลังหาคนที่จะตายไปพร้อมกันกับฉัน”     จากการสืบสวนทำให้ทราบว่าฆาตกรได้สร้างเว็บไซต์ขึ้นมาให้สำหรับคนที่อยากจะฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นจึงมีการนัดพบกันและลงมือฆ่าเหยื่อเหล่านั้นภายในอพาร์ตเม้นท์ของตัวเอง หญิงสาวที่ถูกแจ้งว่าหายตัวไปคือหนึ่งในเหยื่อของเขา โดยทั้งสองนัดเจอกันที่สถานีรถไฟและเดินทางมายังอพาร์ตเม้นท์ของเขาด้วยกัน ซึ่งกล้องวงจรปิดภายในสถานีสามารถจับภาพช่วงเวลาขณะที่ทั้งคู่กำลังอยู่ด้วยกันเอาไว้ได้…

  • กำแพงกันน้ำท่วม NOAQ Boxwall เบาสบาย ควบคุมแนวน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    กำแพงกันน้ำท่วม NOAQ Boxwall เบาสบาย ควบคุมแนวน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ภาพกระสอบทรายเรียงกันอย่างเป็นระเบียบถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้นตากันดีสำหรับคนไทยในยามที่เกิดน้ำท่วม แต่ตอนนี้ได้มีนวัตกรรมใหม่ออกมาที่สามารถทำให้เราป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้านเราได้ง่ายยิ่งกว่านั้นเยอะ นวัตกรรมชิ้นนี้มีชื่อว่า NOAQ Boxwall อุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย สามารถป้องกันไม่ให้น้ำเข้ามาในบ้านหรือเบี่ยงให้น้ำไหลไปทางอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ     อุปกรณ์ชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท NOAQ จากประเทศสวีเดน ซึ่งแต่ละชิ้นมีน้ำหนักเพียงแค่ 3.4 กิโลกรัม กว้าง 1 เมตร โดยวิธีการใช้งานก็เพียงแค่นำมันมาวางเรียงต่อๆ เหมือนกำแพงเท่านั้นเอง การใช้งานก็แค่วางลงไปกับพื้นเฉยๆ ไม่จำเป็นต้องเอาอะไรไปวางทับหรือยึดมันติดกับพื้น เพราะว่ามันจะใช้น้ำหนักของน้ำที่วิ่งเข้ามาเป็นตัวรักษาบาลานซ์เอาไว้ไม่ให้ล้ม เราจึงสบายใจได้หายห่วง   สิ่งที่ต้องยึดเอาไว้มีเพียงแค่ด้านบนที่เป็นรอยต่อของกำแพงแต่ละชิ้น   หากว่าอยากตั้งให้มันโค้งไปรอบๆ บ้าน ก็สามารถเรียงแบบโค้งๆ โดยที่ประสิทธิภาพของการกั้นน้ำยังคงดีเหมือนเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกการใช้งานเลยจริงๆ     ที่สำคัญคือทางบริษัทได้ทำการทดสอบดูว่ามันใช้งานง่ายขนาดไหน ผลออกมาว่าเพียงแค่ไม่ถึง 10 นาทีด้วยคนจำนวน 2 -3 คนก็สามารถกั้นน้ำล้อมรอบสถานที่ทดสอบได้เรียบร้อย สะดวกสบายกว่ากระสอบทรายที่ต้องใช้ทั้้งแรงใช้ทั้งเวลา     ใช้เสร็จก็นำมาล้างและเก็บเอาไว้ใช้ใหม่ได้ โดยทางบริษัทการันตีอายุการใช้งานไว้ถึง 5 ปี ซื้อครั้งเดียวใช้ยาวๆ แต่เจ้าสิ่งนี้ก็ยังติดปัญหาอยู่นิดหน่อยตรงที่ว่ามันสามารถกั้นน้ำได้ในระดับไม่เกิน 1.5 เมตรเท่านั้น   การจัดเก็บก็สะดวกสบาย  …

  • ชวนฟังเพลงที่นักประสาทวิทยาคอนเฟิร์ม ช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลได้มากถึง 65% โค๊ววว!!

    ชวนฟังเพลงที่นักประสาทวิทยาคอนเฟิร์ม ช่วยบรรเทาอาการวิตกกังวลได้มากถึง 65% โค๊ววว!!

    อาการวิตกกังวลเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุอาจเกิดจากความหวาดกลัว ระแวง หรือกังวลถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหากคุณมีอาการดังกล่าวบ่อยครั้งหรือกังวลอย่างหนัก ก็อาจทำให้คุณป่วยเป็นโรควิตกกังวลได้เลย โรคดังกล่าวนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องต่างๆ แล้ว มันยังส่งผลต่อไปถึงร่างกายของเราได้อีกด้วย เช่น เจ็บหน้าอก ชาตามร่างกาย เวียนหัว หรือท้องไส้ปั่นป่วน หลายคนที่เป็นอาจเลือกรักษาด้วยการกินยา ซึ่งแน่นอนว่าการรับสารเคมีเข้าไปในร่างกายต้องได้รับผลกระทบบางอย่างอยู่ แต่ตอนนี้ผลการวิจัยล่าสุดออกมาแล้วว่ามีอยู่เพลงหนึ่งที่สามารถช่วยลดความกังวลได้มากถึง 65 เปอร์เซ็นต์!!     นักประสาทวิทยาจาก Mindlab International ในสหราชอาณาจักร ได้ร่วมกันวิจัยเพื่อหาคำตอบว่าเพลงแนวไหนที่สามารถลดความวิตกกังวลได้มากที่สุด จากการสังเกตเรื่องการทำงานของสมอง อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด และอัตราการหายใจของผู้เข้าทดสอบที่ฟังเพลงหลายๆ แนว ทางทีมวิจัยก็ได้นำผลลัพธ์ส่งต่อให้นักดนตรีและนักบำบัดด้วยเสียง ให้พวกเขาช่วยกันแต่งเพลงขึ้นมา ทำให้ออกมาเป็นเพลงที่ชื่อว่า Weightless ของ Marconi Union โดยจากการทดสอบเพลงนี้สามารถลดความวิตกกังวลได้มากถึง 65 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายมีอัตราการพักผ่อนเพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพของเราจริงๆ เพื่อนๆ ลองไปฟังกันดูเลยยย   บทเพลงแห่งความผ่อนคลาย ช่วยลดความวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี   นอกจากการฟังเพลงนี้แล้ว เพื่อนๆ ก็อย่าลืมหากิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อผ่อนคลายตัวเองจะได้ไม่เครียด  …

  • 20 ภาพความน่ารักของสัตว์ที่อยากจะเข้ามาข้างในบ้านใจจะขาด เปิดประตูให้หนูหน่อยยย

    20 ภาพความน่ารักของสัตว์ที่อยากจะเข้ามาข้างในบ้านใจจะขาด เปิดประตูให้หนูหน่อยยย

    หลังจากที่ทำงานหรือออกไปเที่ยวกับเพื่อนจนอ่อนล้า เราก็คงอยากกลับเข้าบ้านไปนอนตากพัดลมแบบชิลล์ๆ ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์ที่อยากทำแบบนั้น แต่กับสัตว์เองก็ต้องการพักผ่อนเหมือนกัน ในบางครั้งที่พวกมันต้องการเข้ามาในบ้านแต่ไม่สามารถเข้ามาได้ แต่ละตัวก็จะมีวิธีการอ้อนวอนแตกต่างกันไป ทั้งน่ารัก น่าสงสาร จนเรารู้สึกหมั่นเขี้ยวกันเลยทีเดียว เราลองไปดูกันดีกว่าว่าพวกมันร้องขอเราด้วยหน้าตาแบบไหนกันบ้าง   มาตัวเดียวแล้วไม่ให้เข้า คราวนี้เลยไปยกโขยงกันมาเต็มเลย   ให้เข้าบ้านเถอะน้าาา หลังแอ่นหมดแล้วเนี่ยยย   เปิดประตูหน่อย เดี๋ยวมีคนมาเห็น   ขอเข้าเถอะนะ จะร่วงแล้วเหมียววว   เจ้ามนุษย์จงเปิดให้ข้าเข้าไปเดี๋ยวนี้ ข้ากลัวเจ้าตัวข้างหลังเหลือเกิน   ฮึบ.. อีกแค่นิดเดียวก็จะเอื้อมถึงกลอนประตูแล้ว   ก๊อก ก๊อก ก๊อก มีใครอยู่มั้ยครับ?   ขอส่องดูหน่อยซิ มีใครซ่อนอยู่ข้างในหรือเปล่า   ป๋มขอเข้าเถอะนะครับ ป๋มขอร้องงง   ไม่ยอมเปิดให้ใช่มั้ย งั้นพังเข้าไปล่ะนะ   เสื้อกันหนาวยังไม่ค่อยอุ่น ขอเปลี่ยนไปอยู่ในอ้อมกอดแทนได้มั้ย   นี่อาจเป็นสติ๊กเกอร์แปะกระจกลายน้องเหมียวหรือเปล่านะ   รอให้มาเปิดจนเมื่อยขาไปหมดแล้ว   นี่ต้องส่งสายตาอ้อนวอนมากขนาดนี้เลยหรอออ   ให้เข้าไปหน่อยนะครับ ผมมีของขวัญมาฝากด้วย   ป๋มก็มีของขวัญสุดน่ารักมาฝากเหมือนกันนะเหมียว…

  • เหล่าพ่อแม่ร่วมกันแชร์ความน่ารักของลูกๆ ที่ทำให้รู้ว่า ‘อย่าปล่อยให้เด็กตัดผมเอง’ เด็ดขาด!!

    เหล่าพ่อแม่ร่วมกันแชร์ความน่ารักของลูกๆ ที่ทำให้รู้ว่า ‘อย่าปล่อยให้เด็กตัดผมเอง’ เด็ดขาด!!

    ของมีคมเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองควรเก็บไว้ให้ห่างมือลูกน้อยเพื่อความปลอดภัย แต่บางครั้งเวลาที่เราออกไปข้างนอกแล้วกลับมารู้ว่าเด็กๆ เอากรรไกรไปใช้ ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจไม่ได้ทำให้คุณต้องรู้สึกเป็นห่วง แต่อาจกลายเป็นความฮามากกว่า โดยเฉพาะเด็กๆ ที่หยิบกรรไกรไปตัดผมตนเอง เพราะอย่างนั้นเองเหล่าคุณพ่อคุณแม่จึงถ่ายรูปลูกๆ ของตัวเองมาแชร์กันซะหน่อย เราไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละทรงของพวกเขาออกมาเป็นอย่างไรกันบ้าง   ไม่ร้องนะโอ๋เอ๋ ไว้รอยาวขึ้นมาแล้วค่อยตัดเองใหม่นะ   นี่คือตั้งใจตัดทรงโมฮอว์กใช่มั้ย แต่เหมือนจะเข้าใจอะไรผิดไปหน่อยนะ   ผมแสกกลาง เพียงแต่แสกกว้างไปนิดนึง   โหงวเฮ้งดีนะเรา หน้าผากกว๊างกว้างงง   ขวัญบนศีรษะนี่มีแค่จุดเดียวพอนะ มีหลายจุดเดี๋ยวหัวล้าน   หลักฐานคามือเลยนะไอ้หนุ่ม หล่อเลยมั้ยละทีนี้   ชะเง้อมองขึ้นไป ผมเราหายไปไหนหว่า? อ๋อออ เพิ่งตัดไปเมื่อกี้นี่เอง   คนไทยหรือเปล่าเนี่ย ตัดทรงมหาดไทยด้วย   อันนี้ตัดผมหรือว่าหนูแทะกันแน่   ทรงนี้เรียกว่า หน้าม้าสูงสินะ เรียบเสมอกันเลยเชียว   ถึงจะฮาอย่างไร ของมีคมก็ควรเก็บไว้ห่างมือเด็กๆ นะ เพราะความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด   ที่มา: dailymail , boredpanda

  • พาชม ‘กล่องทิชชู่ตรูดแมว’ สิ่งประดิษฐ์สุดแปลกที่จะทำให้ชีวิตของเราน่ารักขึ้นอีกเป็นกอง

    พาชม ‘กล่องทิชชู่ตรูดแมว’ สิ่งประดิษฐ์สุดแปลกที่จะทำให้ชีวิตของเราน่ารักขึ้นอีกเป็นกอง

    ของใช้ประจำบ้านอย่างเช่นกล่องใส่กระดาษทิชชู่เป็นสิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนใหญ่ที่เราเคยเจออาจแตกต่างกันแค่เพียงลวดลาย รูปร่างก็เหมือนๆ กันหมด แต่วันนี้เราขอนำเสนอกล่องทิชชู่สุดพิสดาร ที่จะทำให้คุณสามารถดึงทิชชู่ออกมาจากตูดเจ้าเหมียวได้!!   ผลิตภัณฑ์ใหม่ กล่องใส่ทิชชู่รูปแมววว   กล่องทิชชู่แปลกๆ นี้จะช่วยทำให้การดึงทิชชู่ออกมาใช้ของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ด้วยรูปทรงที่ดูอย่างไรนี่มันก็คือแมวชัดๆ เพียงแต่มีทิชชู่ออกมาจากรูตรูดเท่านั้นเอง   ตำแหน่งการจัดวางที่ลงตัว สามารถช่วยให้คุณดึงทิชชู่ออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย   ด้วยขนาด 31.75 x 23.5 เซนติเมตร จึงทำให้มันเหมาะที่จะนำทิชชู่ไปยัดไว้ข้างในมากเสียเหลือเกิน และวัสุดที่ใช้คือเรซิ่นที่มีความทนทานแข็งแรง จึงไม่มีปัญหาใดๆ แม้คุณจะทำมันตกบ้างก็ตาม   ไม่ว่าจะวางไว้ตรงไหนของบ้าน มันก็ช่วยทำให้บ้านของคุณดูเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครเลยจริงๆ   แขกไปใครมา ต่างก็ต้องอมยิ้มให้กับความแปลกและน่ารักของเจ้าสิ่งนี้   หากใครเห็นและอยากเป็นเจ้าของมันแล้วละก็ สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่เว็บไซต์ Oddity Mall โดยราคาของมันอยู่ที่ราวๆ 1,000 บาทเท่านั้นเอง คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์เลยจริงจริ๊งงง!!   เป็นหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล อย่าลืมใช้ทิชชู่จากตรูดแมวกันนะทุกคน   คลิปสาธิตวิธีการใช้เจ้ากล่องทิชชู่สุดน่ารัก   ที่มา: odditymall

  • การทดลองเอาคำด่าในเน็ตมาด่ากันต่อหน้าจริงๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสังคมออนไลน์น่ากลัวเพียงใด

    การทดลองเอาคำด่าในเน็ตมาด่ากันต่อหน้าจริงๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าสังคมออนไลน์น่ากลัวเพียงใด

    เราอาจเคยเจอกับความคิดเห็นในโลกออนไลน์ที่พูดถึงคนอื่นๆ ในทางที่ไม่ดี ต่อว่าในสิ่งที่เขาหรือเธอแชร์ลงไป ซึ่งเราเคยคิดกันบ้างมั้ยว่าหากเราต้องเป็นคนถูกด่าแบบนั้นบ้างมันจะเป็นอย่างไร ความรุนแรงทางคำพูดจากความคิดเห็นเหล่านั้นเป็นสิ่งที่หลายคนอาจไม่เคยฉุกคิดมาก่อน แต่ตอนนี้ได้มีการทดลองหนึ่งชื่อว่า Offline Experiment ที่จะทำให้คุณเห็นภาพและเข้าใจกับผลกระทบของคำพูดแย่ๆ โลกออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น   การทดลองนำคำด่าในเน็ตมาด่าในชีวิตจริง   การทดลองนี้กำหนดให้มีนักแสดงอยู่สองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งรับบทเป็นคนด่า อีกฝ่ายหนึ่งรับบทเป็นคนถูกด่า โดยคำด่าที่ใช้นั้นถูกนำมาจากคอมเม้นต์รุนแรงในโลกโซเชียล อย่างเช่น “ฉันว่าพวกเกย์มันบ้าชัดๆ พวกแกสมควรตายๆ ไปซะ” “แกมันโง่ แกมันคือตัวประหลาดที่สุดในโรงเรียน” “ยัยอ้วน!! หัดออกกำลังกายซะบ้างนะ ฉันละเกลียดคนอ้วนมากๆ เลย” ทั้งหมดที่ทำไปนั้นเพื่อต้องการสังเกตปฏิกิริยาของผู้คนรอบๆ ว่าพวกเขาแสดงออกกับการที่ต้องมาเห็นคนถูกด่าด้วยคำเหล่านั้นอย่างไร   สังเกตจากพฤติกรรมของคนรอบข้างว่าพวกเขาจะแสดงออกมาอย่างไรกับเหตุการณ์แบบนี้   คลิปการทดลองทางสังคมเมื่อนำคำด่าในเน็ต มาด่ากันในชีวิตจริง   การทดลองทางสังคมในครั้งนี้เกิดจากไอเดียของ Monica Lewinsky หญิงสาวผู้เคยมีความสัมพันธ์อื้อฉาวกับอดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ Bill Clinton จากเรื่องนั้นจึงทำให้เธอเจอกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากคนในสังคม และการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ (หรือเรียกว่า Cyber Bully) ที่เข้ามาโจมตีเธออย่างหนัก เมื่อเธอสามารถก้าวผ่านความเจ็บปวดนั้นมาได้ ต่อมาเธอก็ได้กลายเป็นแกนนำหลักในการรณรงค์เรื่องของการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ จึงทำให้เกิดไอเดียดังกล่าวที่ร่วมมือกันสร้างขึ้นมากับบริษัทโฆษณา BBDO New York   Monica…

  • ถ้าคุณพูด 5 ประโยคแบบนี้บ่อยๆ คุณอาจจะมีความเป็นคนโรคจิตอยู่ในตัวก็เป็นไปได้

    ถ้าคุณพูด 5 ประโยคแบบนี้บ่อยๆ คุณอาจจะมีความเป็นคนโรคจิตอยู่ในตัวก็เป็นไปได้

    Psychopath หรือที่เราเข้าใจกันง่ายๆ ด้วยคำว่าโรคจิตหรือคนบ้า หมายถึงคนที่ขาดความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น ไม่มีความสำนึกผิด และเห็นแก่ตัว และที่สำคัญ ประมาณ 1% ของประชากรบนโลก ป่วยด้วยโรคทางจิตเหล่านี้อยู่ ซึ่งไม่แน่ว่าพวกเราเองก็อาจเป็นหนึ่งในนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน Jackson MacKenzie ผู้เขียนหนังสือวิธีการรับมือกับอาการดังกล่าว ได้ออกมาแชร์ข้อสังเกตง่ายๆ ในการสำรวจตัวเอง โดยดูจากคำพูดของเรา ถ้าหากเราพูดประโยคเหล่านี้บ่อยๆ นั่นอาจหมายความว่าคุณกำลังเข้าข่ายเป็นโรคจิตแล้วก็ได้นะ มีประโยคอะไรบ้างไปดูกันเลย     “เธอคอยจับผิดทุกเรื่องอยู่เรื่อยเลย” หากคุณพูดแบบนี้อาจหมายความว่าคุณกำลังโดนจับผิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อยู่ แต่หากคิดให้มากกว่านั้นคุณอาจกำลังทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดและไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป วิธีการดังกล่าวเหมือนกับคนโรคจิตที่ชอบสร้างจุดกระตุ้นเล็กๆ ให้คนอื่นสังเกตเห็น และหากมีคนพูดถึงจุดนั้นขึ้นมา คนคนนั้นก็จะถูกต่อว่ากลับไปจนต้องรู้สึกผิด   “ฉันเกลียดการดราม่า” คุณอาจถูกคนที่มีอิทธิพลมากกว่าทำเรื่องไม่ดีให้ชีวิตตกต่ำหรือแย่ลง แต่สุดท้ายคุณเลือกที่จะไม่ยกความจริงขึ้นมาพูดถึงเพราะไม่อยากให้มันกลายเป็นการดราม่า แต่ในความเป็นจริงคุณอาจกำลังสร้างเรื่องดราม่ามากกว่าคนอื่นอยู่ก็ได้     “เธอเข้าใจฉันผิดไป” สมมุติว่าเจ้านายของคุณมาพูดอย่างนี้และคุณทำงานออกมาผิดจริง นั่นอาจไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นโรคจิตก็ได้ แต่สำหรับคนที่มีอาการนั้นจริงๆ พวกเขาจะทำหรือพูดบางอย่างให้คุณได้เห็นหรือรับรู้ ก่อนที่จะต่อว่าคุณกลับมาว่าคุณตีความสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อผิดไป หรืออาจบอกว่าสิ่งที่คุณพูดมามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน   “เธอเป็นคนอ่อนไหวมากจริงๆ” ผู้มีอาการ Psychopath จะทำให้คุณต้องเจอกับจุดที่อารมณ์ของคุณอ่อนไหวมากที่สุดและเขาก็จะตอกย้ำให้คุณต้องรู้สึกอย่างนั้น เหมือนกับว่าพวกเขาสามารถควบคุมความรู้สึกของคนอื่นได้   “เธอ บ้าหรือเปล่า / เป็นไบโพลาร์หรือไง…

  • ทีมงานเผย แรงบันดาลใจฉากเปิดอักษรดิจิตอลใน The Matrix มาจากหนังสือทำอาหารญี่ปุ่น!?

    ทีมงานเผย แรงบันดาลใจฉากเปิดอักษรดิจิตอลใน The Matrix มาจากหนังสือทำอาหารญี่ปุ่น!?

    หากใครชื่นชอบหนังแอคชั่นไซไฟ นั่นหมายความว่าคุณต้องเคยดูหนังดังอย่าง The Matrix มาก่อนแน่นอน ด้วยไอเดียสุดแหวกของเนื้อเรื่องและฉากบู๊สุดมัน ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องโปรดของใครหลายๆ คน ภายในเรื่องเต็มไปด้วยฉากที่น่าจดจำและเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้อย่างเช่น   ฉากมหาอุดหยุดกระสุนปืน   ฉากกายกรรมเปียงยางหลบกระสุน   และอีกหนึ่งฉากที่มีความเป็นเอกลักษณ์ คือฉากเปิดที่มีตัวอักษรไหลลงมาเหมือนกับฝนตก   ฉากตัวอักษรที่ไหลลงนี้มีความแปลกและสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งโค้ดยึกๆ ยือๆ ที่เราเห็นนั้น คือโค้ดของโลกเมทริกซ์ โลกเสมือนจริงที่เป็นแกนหลักของเรื่อง แต่เราเคยสงสัยกันบ้างมั้ยว่ารูปแบบตัวอักษรเก๋ๆ นี้ ทีมงานเขาไปได้แรงบันดาลใจจากไหนกัน เราจึงได้นำคำตอบของ Simon Whiteley ผู้สร้างโค้ดแมททริกส์ดังกล่าว มาเฉลยให้เพื่อนๆ อ่านกัน   Simon Whiteley ผู้คิดค้นฉากตัวอักษรร่วงหล่นภายในเรื่อง   เขาบอกว่า “ฉากโค้ดที่ไหลลงมานี้ผมขอบอกทุกคนเลยว่า ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังสือทำซูชิของภรรยาผมเอง” ต้องยอมรับเลยว่าพี่แกสร้างจินตนาการจากสิ่งเล็กๆ ออกมาได้ล้ำเกิ๊นนน ส่วนหนึ่งต้องอย่าลืมขอบคุณภรรยาชาวญี่ปุ่นของเขาด้วยนะ เพราะเธอได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของผลงานระดับโลกไปแล้วโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากไม่มีโค้ดนี้ขึ้นมา The Matrix ก็อาจไม่เกิดขึ้นมาเช่นเดียวกัน   โค้ดของโลกเมทริกซ์ ที่บอกความเป็นไปและสิ่งที่เกิดขึ้นในในนั้น (สำหรับคนที่อ่านออกอ่ะนะ)   ดูไปดูมาก็คล้ายกันกับการเขียนหนังสือของญี่ปุ่นจริงๆ   แรงบันดาลใจจากเรื่องใกล้ตัวนี้ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ เพราะ…

  • นักบินอวกาศผู้ใช้ชีวิตในอวกาศนาน 1 ปี เผยว่าการใช้ชีวิตบนนั้น ยากเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้…

    นักบินอวกาศผู้ใช้ชีวิตในอวกาศนาน 1 ปี เผยว่าการใช้ชีวิตบนนั้น ยากเกินกว่าที่เราจะคาดเดาได้…

    นักบินอวกาศอาจเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน เพราะนี่คือหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่จะได้ออกไปอยู่ในอวกาศ ได้เห็นสิ่งสวยงามต่างๆ ที่ไม่เคยมีโอกาสได้เห็นมาก่อน หลายคนอาจบอกว่าอาชีพนี้น่าอิจฉาแต่ความเป็นจริงอาชีพนี้ก็ต้องแลกมาด้วยความยากลำบากและความทุกข์มากมาย Scott Kelly นักบินอวกาศจากสหรัฐอเมริกา จึงได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวให้ทุกคนได้รู้ว่า การใช้ชีวิตอยู่บนอวกาศนาน 1 ปีของเขานั้นต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรมาบ้าง   Scott Kelly ถ่ายภาพเซลฟี่ภายในยานอวกาศมีพื้นหลังเป็นโลกของเรา   ชายคนนี้เป็นนักบินอวกาศคนแรกที่ขึ้นไปใช้ชีวิตอยู่ใน สถานีอวกาศนานาชาติ เป็นเวลานานขนาดนี้ เขาบอกว่าการใช้ชีวิตอยู่นอกโลก เพียงแค่การเดิินก็ทำให้เขาเหนื่อยมากๆ แล้ว เขาจำเป็นต้องเดินอยู่ในอวกาศด้านนอกของสถานีเพื่อเช็คความเรียบร้อยหรือซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของยาน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยมากๆ นอกจากนั้นยังมีครั้งหนึ่งที่เขาหลงทางอยู่นอกอวกาศหาทางกลับไม่ได้เพราะตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนมันจึงค่อนข้างมืด “ผมต้องอยู่ในสภาพเหมือนกับยืนกลับหัว และแม้ว่ามันจะไม่ได้น่ากลัวอะไรแต่ความก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอกนะ” เขาพูดถึงตัวเองในตอนนั้น อีกทั้งบนอวกาศมีเศษหินก้อนเล็กๆ ลอยอยู่เต็มไปหหมด และถ้าหากมันลอยมาโดนตัวก็จะสร้างแรงปะทะได้มากพอสมควรเลยทีเดียว     เขาได้พูดถึงนักสำรวจ Ernest Shackleton ผู้ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในขั้วโลกเหนือได้ โดย Scott บอกว่า “สิ่งที่ผมและเขามีเหมือนกันในการเอาชีวิตรอดคือความอดทน พลังงาน และความกระตือรือร้นที่มีอยู่ในตัว” เขาพูดอีกว่า “แต่ผมคิดว่าเราไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ซะทีเดียว เพราะ Ernest ต้องอยู่กับความพยายามเอาชีวิตรอดจากสภาพอากาศอันเลวร้าย ส่วนของผมมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”     สิ่งที่เขาคิดว่ายากที่สุดสำหรับภารกิจนี้ก็คือ การที่ต้องตัดขาดจากครอบครัวหรือคนรู้จักออกไปเป็นเวลานาน โดยที่เขาไม่มีโอกาสเดินทางกลับไปหาญาติสนิทมิตรสหายเหล่านั้นในระหว่างภารกิจได้เลย…

  • นี่คือ 15 หนังสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาล และควรค่าแก่การรับชม ให้ครบทุกเรื่อง!!

    นี่คือ 15 หนังสงครามที่ดีที่สุดตลอดกาล และควรค่าแก่การรับชม ให้ครบทุกเรื่อง!!

    หนังสงครามเป็นหนึ่งในรูปแบบของภาพยนตร์ที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยเนื้อหาของหนังที่สามารถดำเนินไปได้อย่างเร้าใจและบางเรื่องก็สร้างขึ้นมาจากเรื่องจริงอีกด้วย จากที่มันได้รับความนิยมค่อนข้างมากจึงทำให้เว็บไซต์ Ranker เชิญชวนให้ผู้คนได้เข้ามาจัดอันดับ โหวตหนังสงครามแต่ละเรื่องว่าเรื่องไหนดีหรือแย่ และจากยอดผลโหวตนับหมื่น เราก็ได้นำ 15 อันดับแรกของหนังสงครามที่ดีที่สุดมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน มีเรื่องอะไรบ้างไปดูกันเลย   15. The Deer Hunter   ภาพยนตร์ในปี 1978 ซึ่งว่าด้วยชีวิตของหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียอเมริกัน กับชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในสมรภูมิสงครามเวียดนาม สะท้อนออกมาให้ชาวอเมริกันเห็นภาพความโหดร้าย ความรุนแรงและทำได้ดีมากในยุคนั้น   14. Tora! Tora! Tora!   หนังปี 1970 ที่ผสมผสานเรื่องราวของทั้งฝั่งอเมริกาและญี่ปุ่นเข้าไป ในเหตุการณ์การโจมตีฐานทัพอเมริกาบนอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ ซึ่งเป็นเหตุทำให้ประเทศอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 นับว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญและแสดงให้เห็นถึงความกดดันจากรอบด้านที่ผู้นำกองทัพญี่ปุ่นต้องเจอ   13. The Great Escape   ภาพยนตร์ในปี 1963 บอกเล่าเรื่องราวของชายคนหนึ่งพยายามหนีออกมาจากค่ายกักกันเชลยศึกของเยอรมันช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของการถูกริดรอนอิสรภาพที่น่าเศร้าในยุคนั้น   12. Das Boot   หนังสัญชาติเยอรมันในปี 1981…

  • 12 ประสบการณ์ความเฟล ที่หากเจออย่างนี้เข้าไปก็คงจะรู้สึกฮากันจนน้ำตาไหล

    12 ประสบการณ์ความเฟล ที่หากเจออย่างนี้เข้าไปก็คงจะรู้สึกฮากันจนน้ำตาไหล

    ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องธรรมดา จนบางครั้งความฮามันก็จะตามมาด้วย!! ความเฟลสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลาจริงๆ จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นหรือเจอสิ่งนั้นในชีวิตประจำวัน  และมันก็อาจมาพร้อมกับความตลกจนต้องทำให้เราหัวเราะออกมา เช่นเดียวกันกับชาวเน็ตกลุ่มนี้ที่ได้ออกมาแชร์เรื่องราวสุดเฟลของตัวเองที่เราไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือควรสงสารพวกเขากันแน่…   ความเฟลของเจ้าของแมว   ชายหนุ่มเห็นว่าแมวดำที่ตัวเองเลี้ยงไว้มีอาการป่วย เขาจึงรีบพามันไปหาสัตวแพทย์และต้องเสียเงินไปมากกว่า 4,000 บาทสำหรับค่าตรวจและค่ายา แต่ต่อมาเขาก็ได้รู้ว่าเจ้าตัวที่พาไปรักษานั้นมันไม่ใช่แมวของเขา!! เพราะว่าแมวของเขาจริงๆ เพิ่งกลับเข้ามาที่บ้านหลังจากหายตัวไป 5 วัน.. จนกระทั่งสาวข้างบ้านได้มาถามหาแมวดำที่หายไปของเธอ ชัดเจนเลยว่าเจ้าแมวตัวนั้นต้องเป็นของสาวคนนี้แน่นอน เขาจึงบอกเธอไปว่า “ผมไม่เห็นนะครับ ที่นี่มีแต่แมวของผม” อย่างว่าแหละนะเสียเงินไปตั้งเยอะ ใครจะยอมให้ง่ายๆ ล่ะ(ล่ะ เสียงต่ำ) แต่สุดท้ายเมื่อมันหายดี เขาก็พามันกลับไปคืนเจ้าของแต่โดยดี   นาฬิกาปลุกไม่ยอมทำงาน   ก็สงสัยมาตั้งนานว่าทำไมมันไม่ยอมปลุกตอน 9.30 แต่สงสัยเขาจะลืมไปว่าเครื่องคิดเลขมันตั้งปลุกไม่ได้!!   เข้าใจผิดเพราะว่าตัวเล็ก   หญิงสาวในภาพมีชื่อว่า Baroness Michelle เป็นชาวสก็อตแลนด์ โดยเธอได้เข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม และขึ้นพูดต่อหน้าคนกว่า 3,000 คน หลังจากนั้นก็มีหนุ่มน้อยคนหนึ่งมาขอถ่ายรูปกับเธอ ด้วยความที่เธอเข้าใจผิดเธอจึงอุ้มเขาขึ้นมาเพราะคิดว่าเขาเป็นเด็ก ทั้งที่ความเป็นจริงชายคนนี้อายุ 22 ปีแล้ว เป็นไอ้หนุ่มคนนี้คงจะเสียใจแย่   ตำรวจครับอย่าจับผม   เด็กน้อยวัย…

  • ความน่ารักของเด็กน้อยวัย 9 เดือนที่มีเพื่อนแท้เป็นน้อง ‘เป็ด’ ก้าบ ก้าบ ก้าบ

    ความน่ารักของเด็กน้อยวัย 9 เดือนที่มีเพื่อนแท้เป็นน้อง ‘เป็ด’ ก้าบ ก้าบ ก้าบ

    สัตว์เลี้ยงของพวกเราเปรียบเสมือนกับเพื่อนซี้คู่ใจ หลายๆ คนจึงเลือกที่จะให้มันอยู่ในบ้านด้วย ได้กิน นอน เล่นอยู่กับพวกมัน แต่ว่าสำหรับบางคนกลับมีสัตว์เลี้ยงที่ต่างออกไปจนเราคาดไม่ถึงและไม่เคยคิดมาก่อนว่าสัตว์ชนิดนี้จะเข้ามาอยู่ในบ้านกับเราได้อย่างเช่น เจ้าเป็ด!! น้องเป็ดตัวนี้มีชื่อว่า Beaker เป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวหนึ่งในเมือง Houston รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการใช้ชีวิตไม่เหมือนกับเป็ดทั่วไป เพราะมันไม่ได้ออกไปอยู่ตามลำธารหรือพื้นที่โล่ง แต่นี่มันดันอาศัยอยู่ในบ้านร่วมกันกับมนุษย์เลย   เจ้า Beaker เจ้าเป็ดที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับคนในครอบครัว   เรื่องราวของมันถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียในวันที่ 23 ตุลาคม 2017 เล่าว่าเมื่อหลายปีก่อนสามีภรรยาของครอบครัวนี้ได้ออกไปร้านขายอาหารสัตว์ใกล้บ้านเพื่อหาเมล็ดพันธุ์ไว้ให้นกป่า แต่แล้วพวกเขาก็พบเข้ากับน้องเป็ดสองตัวน่ารักน่าชัง จึงพาพวกมันกลับบ้านในทันที เวลาผ่านไปพวกเขาก็หาเป็ดน้อยมาเพิ่มเรื่อยๆ ในที่สุดจำนวนของพวกมันก็มากกว่าจำนวนคนที่อาศัยอยู่ในบ้านซะอีก     ในเวลานั้นทั้งสองคนมีลูกชายวัย 9 เดือนอยู่คนหนึ่งชื่อว่า Tyler ด้วยความที่บ้านนี้เต็มไปด้วยเป็ด ทำให้เด็กน้อยมีเพื่อนคนแรกเป็นเจ้า Beaker หนึ่งในเป็ดตัวเล็กๆ ที่พวกเขาพามา หลังจากนั้นมิตรภาพของทั้งสองก็ได้ก่อตัวขึ้น ทั้งสองแทบจะตัวติดกันอยู่ตลอดและยังมีช่วงเวลาที่ดีให้กันอยู่เสมอ ทุกการเริ่มต้นของเด็กน้อยจะคอยมีเจ้าเป็ดอยู่เคียงข้างให้กำลังใจ   เพื่อนคนแรกของเด็กน้อยวัย 9 เดือน   ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน อยู่เคียงข้างกันไม่ห่าง   ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้ครอบครัวนี้ไม่สามารถไล่มันออกไปนอกบ้านหรือให้มันไปอยู่ในฟาร์มได้ แม้ว่าเป็ดตัวอื่นๆ…

  • 5 สถานที่เที่ยวตามรอยการ์ตูน Ghibli ในประเทศญี่ปุ่น ที่สาวกทุกคนไม่ควรพลาด!!

    5 สถานที่เที่ยวตามรอยการ์ตูน Ghibli ในประเทศญี่ปุ่น ที่สาวกทุกคนไม่ควรพลาด!!

    เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักกับ Studio Ghibli บริษัทผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญแห่งประเทศญี่ปุ่น และการ์ตูนมากมายหลายเรื่องของค่ายนี้ก็เกิดจากมันสมองของ Hayao Miyazaki ผู้ที่สร้างสรรค์ตัวละครและเรื่องราวแฟนตาซีเหล่านั้นมานานกว่าทศวรรษ การ์ตูนที่มีชื่อเสียงของเขาได้แก่ Spirited Away, Howl’s Moving Castle, My Neighbour Totoro และเรื่องอื่นอีกเพียบ ซึ่งเรื่องราวเหล่านั้นอาจารย์ Miyazaki ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถานที่จริง!! จึงได้มีการคัดเลือกมา 5 สถานที่ที่ขอแนะนำเลยว่าสาวกตัวจริงห้ามพลาดเด็ดขาด ไปดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง   พิพิธภัณฑ์ Ghibli ในเมืองโตเกียว   พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวภาพวาดหรือผลงานของค่ายนี้เอาไว้ สาวก Ghibli ตัวจริงควรไปอย่างมาก เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่รูปปั้นหรือภาพวาดต่างๆ เอาไว้เท่านั้น แต่ยังมีหนังสั้นสุดพิเศษของค่ายที่มีจัดแสดงแค่ที่นี่ที่เดียวด้วย!!   เมือง Tomonoura ชายฝั่งทะเลเซโตะ .   เมืองท่าที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุกุยาม่าแห่งนี้ เชื่อว่าเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับการ์ตูน Ponyo โดยภายในเมืองเต็มไปด้วยความสงบ วัฒนธรรมอันสวยงาม และเสน่ห์ไม่ต่างกับสถานที่ภายในการ์ตูน แนะนำว่าต้องลองไปสัมผัสดูนะ   เกาะ Yakushima .   คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยนึกถึงการไปเดินเที่ยวป่าดิบชื้นที่มีอายุเก่าแก่ในประเทศญี่ปุ่นสักเท่าไหร่…

  • ถึงจะเหลือขาเพียงข้างเดียว แต่ Josh ก็แต่งแฟนซีเพื่อให้คนมีความสุขในวันฮาโลวีนของทุกๆ ปี!!

    ถึงจะเหลือขาเพียงข้างเดียว แต่ Josh ก็แต่งแฟนซีเพื่อให้คนมีความสุขในวันฮาโลวีนของทุกๆ ปี!!

    ในวันฮาโลวีนเราก็จะได้เห็นหลายๆ คนแต่งตัวในชุดที่ดูแปลกตา สร้างความสนุกสนานให้กับคนรอบข้าง เช่นเดียวกับ Josh Sundquist หนุ่มพิการผู้เหลือขาเพียงข้างเดียว แต่เขาก็ยังคงสร้างรอยยิ้มให้กับผู้คนในวันฮาโลวีนทุกๆ ปี สาเหตุที่เขาเสียขาข้างซ้ายไปก็เพราะว่ามีการตรวจพบโรคมะเร็งตอนอายุเพียง 9 ขวบ ก่อนที่จะรักษาจนหายขาดตอนอายุ 13 ปี   Josh ชายผู้ไม่ยอมแพ้ แม้ต้องเสียขาไปตั้งแต่ยังเด็ก   ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ยอมแพ้ให้กับชีวิตของตัวเอง เขาตัดสินใจเล่นสกีตั้งแต่อายุ 16 และได้กลายเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาในปี 2006 ต่อมาเขาก็ได้กลายเป็นนักพูดผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ   ความแตกต่างไม่ได้แย่เสมอไป เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังยิ้มได้อย่างมีความสุข   อย่างไรก็ตามเขาและคนในสังคมก็ยังคงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจกับการได้เห็นเขาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับขาเพียงข้างเดียว เขาจึงคิดหาทางออกให้กับการอยู่ร่วมกับผู้อื่นโดยการแต่งคอสตูมเจ๋งๆ น่ารักๆ สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนในวันฮาโลวีน เขาบอกว่า “ผมใช้นิสัยตลกๆ ของผมรับมือกับความอึดอัดใจเวลาอยู่ในสังคม ด้วยการแต่งชุดฮาโลวีนเพื่อเป็นการแสดงออกว่าผมยังคงรู้สึกดีแม้ว่าตัวเองจะพิการก็ตาม และนั่นก็ทำให้ทุกคนยิ้มได้ไปพร้อมๆ กัน”   ในปี 2010 เขาแต่งตัวเป็นเจ้าคุกกี้ที่ถูกกัด จากหนังอนิเมชั่นเรื่อง Shrek   ในปี 2012 ภรรยาของเขาได้ไอเดียนี้มาจากหนังเรื่อง A Christmas Story เก๋ไก๋ไปอีกแบบ  …

  • ชม Gif สุดฮาที่อธิบายว่า 10 ระดับความเจ็บปวดของ ‘ผู้ชาย’ มันมีอะไรกันบ้าง?

    ชม Gif สุดฮาที่อธิบายว่า 10 ระดับความเจ็บปวดของ ‘ผู้ชาย’ มันมีอะไรกันบ้าง?

    ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับทั้งร่างกายและจิตใจเราเคยคิดกันบ้างไหมว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เราเจ็บมากที่สุด? วันนี้ #เหมียวตะปู จึงมาชวนเพื่อนๆ ไปดู 10 ระดับความเจ็บของหนุ่มๆ กัน ภาพ Gif ระดับความเจ็บปวดที่นำมาให้ดูเป็นของยูทูบเบอร์หนุ่มชื่อ Eden Ang ที่โพสต์ไว้ในวันที่ 5 เมษายน 2016 ซึ่งบอกเลยว่ารีแอคชั่นแต่ละอันของเขาเวอร์วังอลังการและทำให้เราค้องหลุดหัวเราะออกมาอย่างแน่นอน เขาได้เรียงจากระดับน้อยที่สุดไปหามากที่สุดเอาไว้ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามันมีอะไรบ้าง   ระดับ 1 มือถือตกใส่หน้า หากใครชอบเล่นมือถือขณะที่นอนอยู่บนเตียง ก็คงจะเคยเจอกับเหตุการณ์นี้มาบ้าง ตกลงมาทีนี่เจ็บจนคิดว่าดั้งยุบลงไปแล้วยังไงยังงั้น   ระดับ 2 เดินเหยียบเลโก้ บางครั้งอาจไม่ใช่ตัวต่อเลโก้แต่เป็นพวกเศษเล็กเศษน้อยที่มีลักษณะแข็ง ก็สามารถทำให้เราต้องเอามือกุมเท้าร้องโอดโอยได้เหมือนกัน   ระดับ 3 เตะขอบเตียง ไม่ว่าเป็นโต๊ะ เตียง ตู้ หรือโซฟาหากมีขอบด้านล่าง เราก็ควรระวังเท้ากันให้ดีๆ หน่อย เพราะหากเผลอเตะเข้าไปอาจทำให้น้ำใสๆ ไหลออกจากตามาได้เลย   ระดับ 4 หน้าแข้งชนขอบ นอกจากเท้าก็ยังมีอีกหนึ่งอวัยวะสำคัญที่ชอบชนขอบบ่อยๆ นั่นคือหน้าแข้งของเรา โดยเฉพาะเวลาตื่นนอนมาแล้วรีบๆ มันก็อาจไปชนเข้ากับปลายเตียง จนเกิดเป็นความเจ็บปวดที่คนอื่นไม่มีวันเข้าใจ  …

  • ความน่ารักของเจ้าเหมียวที่เอา ‘ของขวัญ’ มาให้มนุษย์ทุกๆ เช้า ตรงที่เดิมทุกวัน

    ความน่ารักของเจ้าเหมียวที่เอา ‘ของขวัญ’ มาให้มนุษย์ทุกๆ เช้า ตรงที่เดิมทุกวัน

    มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราอยากมอบของขวัญให้กับคนที่เรารัก แต่ที่แปลกสำหรับเรื่องนี้ก็คือคนให้ดันเป็นเจ้าแมวน้อยของเราเนี่ยสิ?! น้องเหมียวตัวนี้ถูกแชร์ลงในโลกโซเชียลเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีชื่อว่า Charlie โดยครอบครัวหนึ่งได้รับมันมาเลี้ยงตั้งแต่อายุเพียงแค่ 12 สัปดาห์ จนตอนนี้มันโตขึ้นและเริ่มตอบแทนครอบครัวนั้นด้วยการหาของขวัญมาให้พวกเขาทุกวัน   จะออกไปไหนก็อย่าลืมใส่คู่นี้ออกไปด้วยนะครับป๋ม   ในทุกเช้าพอคนในครอบครัวเดินลงมาก็จะเจอกับของเล่นของเจ้าเหมียววางเอาไว้อยู่หน้าบันได ตอนแรกพวกเขาคิดแค่ว่ามันคงจะเล่นซนแล้วไม่ได้เก็บเท่านั้นเอง แต่พอวันต่อมาพวกเขาก็จะได้เจอกับของเล่นอื่นๆ มาวางเอาไว้ที่จุดเดิมอีกครั้ง จนทำให้เริ่มสงสัยในสิ่งที่มันทำ   เจ้าเหมียวน้อยอาจกำลังวางแผนยึดครองโลกอยู่หรือเปล่านะ   ต่อมาของที่ถูกวางไว้หน้าบันไดกลับกลายเป็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในบ้าน โดยพวกเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันไปหาสิ่งเหล่านี้มาจากตรงไหนกัน   ไปเจอสิ่งเหล่านี้มา เห็นว่าสวยดีก็เลยเอามาให้เจ้ามนุษย์   ยิ่งไปกว่านั้นบางสิ่งที่เจ้าเหมียวเอามาวางไว้ มันคือของใช้ที่พวกเขาตามหากันมานานแต่ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน ซึ่งถ้าไม่ได้เจ้าเหมียวมีหวังคงต้องเสียตังไปซื้อใหม่แน่เลย ทำได้เยี่ยมมาก Charlie!!   เทปพันสายไฟที่หากันมานาน เจ้าเหมียวก็ช่วยหาจนเจอ   เศษด้ายบางส่วนสำหรับงานเย็บปักถักร้อย   เจ้าเหมียวยังคงทำอย่างนี้ทุกวัน นำมาวางไว้ที่เดิมหน้าบันไดให้ทุกเช้า   ที่แท้เจ้าเหมียวคงอยากเอาของขวัญมาให้เพื่อขอบคุณพวกเขาที่ช่วยเหลือมันเอาไว้ และมอบความรักให้มันมาตลอด   แม้จะพูดไม่ได้แต่อย่างน้อยสิ่งที่มันทำก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เจ้าเหมียวรักเรามากขนาดไหน   ที่มา: lovemeow

  • ความน่ารักของคนในครอบครัว เมื่อพ่อลูกถ่ายรูปคู่กันในสถานที่เดิมทุกปีมานานถึง 35 ปี

    ความน่ารักของคนในครอบครัว เมื่อพ่อลูกถ่ายรูปคู่กันในสถานที่เดิมทุกปีมานานถึง 35 ปี

    เป็นเรื่องปกติที่เราจะชอบถ่ายรูปเวลาได้ไปเที่ยวกับครอบครัว แต่จะให้ไปเที่ยวที่เดิมและถ่ายรูปมุมเดิมทุกปีเหมือนกับครอบครัวนี้ มันคงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นตามปกติแน่นอน ครอบครัวนี้นำโดยคุณพ่อชาวจีนที่ชื่อว่า Hua Yunqing ทุกปีพวกเขาจะพากันไปเที่ยวที่ทะเลสาบ Taying ในเมืองจั่นเจียง ทางตะวันออกของมณฑลเจียงซู ประเทศจีน นอกจากเขาจะไปที่เดิมทุกปีแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของทริปนี้คือเขาและลูกสาวที่ชื่อ Huahua จะต้องถ่ายรูปด้วยกันในมุมเดิมทุกครั้งที่ไปอีกด้วย   ภาพแรกเกิดขึ้นในปี 1980 ตอนที่ลูกสาวอายุเพียงแค่ 1 ขวบ   เพราะแบบนั้นเองจึงทำให้พวกเขามีรูปถ่ายเก็บเอาไว้ในแต่ละปี ตั้งแต่ตอนที่ลูกสาวอายุ 1 ขวบ รวมแล้วพวกเขาได้รูปถ่ายออกมา 34 รูปจากช่วงเวลา 35 ปีที่ผ่านมา เพราะว่าในปี 1998 ลูกสาวติดธุระทำให้ไม่สามารถไปเที่ยวกับครอบครัวได้ น่าเสียดายจริงๆ เลย เกือบจะครบทุกปีอยู่แล้วเชียว   การถ่ายรูปดำเนินต่อไปทุกปี ทุกครั้งที่ไปเที่ยว   จากภาพขาวดำก็เริ่มกลายเป็นภาพสี   ช่วงเวลาที่ผ่านไปทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้จากรูปของพวกเขา สิ่งแวดล้อมโดยรอบที่ไม่เหมือนเดิม อายุที่เพิ่มขึ้นของเขาทั้งสอง โดยเฉพาะลูกสาวที่ตอนแรกยังเป็นแค่เด็กแบเบาะ โตขึ้นเข้าโรงเรียน จนสุดท้ายเธอก็ได้มีครอบครัวเป็นของตัวเองและมีลูกสาวถึง 2 คน   .  …

  • ซีรีส์ภาพถ่าย ‘ตลาดสด’ ในฮ่องกงที่เต็มไปด้วยแมว แมว และแมวเต็มไปหมดเบยยย

    ซีรีส์ภาพถ่าย ‘ตลาดสด’ ในฮ่องกงที่เต็มไปด้วยแมว แมว และแมวเต็มไปหมดเบยยย

    ตลาดสดเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายบวกกับความเลอะเทอะเละเทะตามร้านขายของสดทั้งหลาย ทำให้หลายคนรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเข้าไปกันเท่าไหร่นัก แตกต่างกับเจ้าเหมียวเหล่านี้ที่สามารถอยู่อาศัยกันได้อย่างมีความสุขซะงั้น น้องแมวจำนวนมากที่ใช้ชีวิตอยู่ในตลาดสดที่ฮ่องกง สร้างแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพชาวดัตช์ Marcel Heijnen รู้สึกสนใจและตามมาเก็บภาพความเป็นอยู่ของพวกมัน   สงสัยจะหิวนะ ยืนมองตาไม่กระพริบเลยเชียว   นักท่องเที่ยวเดินผ่านถึงกับตกอยู่ในมนต์สะกด กลายเป็นทาสของมันไปโดยปริยาย   สถานที่แห่งนี้แม้จะดูไม่เหมาะเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมัน แต่เมื่อได้ลองมองผ่านภาพเหล่านี้กลับสามารถเห็นถึงความเชื่อมโยงได้อย่างน่าประหลาด มีความกลมกลืนกันซะจนบางครั้งเราอาจหาแมวภายในรูปไม่เจอเลยก็ได้ นอกจากเจ้าเหมียวจะเข้ามาสร้างความน่ารักแล้ว พวกมันยังช่วยควบคุมจำนวนประชากรของหนูภายในตลาดอีกด้วย   เห็นได้ว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างสกปรก แต่เจ้าเหมียวก็สามารถใช้ชีวิตอยู่กันได้   กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมรอบๆ   เขาบอกว่า “ซีรีส์ภาพถ่ายนี้มีความแตกต่างกับที่ที่ผมไปเก็บภาพน้องเหมียวที่อาศัยอยู่ตามร้านค้าทั่วไปมาก เพราะในตลาดจะมีความสกปรกกว่าและพ่อค้าแม่ค้าก็จะไม่ค่อยได้มาเล่นกับมันกันซักเท่าไหร่” อย่างไรก็ตามพวกมันก็ยังคงดูมีความสุขดี เหมือนว่าเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งนี้ไปแล้ว   น้องแมวสามารถเดินไปไหนมาไหนได้โดยที่ไม่มีใครห้าม   บางครั้งก็อาจมาซ่อนตัวอยู่ในกล่องลัง เวลาต้องการจะแอบงีบไรงี้   นอกจากจะมีทาสมนุษย์และเพื่อนร่วมสายพันธุ์แล้ว ก็ยังมีคุณพี่สุนัขเป็นเพื่อนอีกด้วย   ภาพนี้ก็เนียนอยู่นะ หาอยู่นานเลย   อย่าเผลอโดดลงมานะ ไม่งั้นมีหวังกลายเป็นโศกนาฏกรรมแน่นอน   วันนี้จะรับอะไรดีครับป๋ม   คุณลูกค้าต้องระวังๆ หน่อยนะ อย่าไปเผลอเหยียบมันเชียว   ภาพนี้ก็มีแมวอยู่นะเออ ลองสังเกตกันดีๆ   ตาปรือแบบนี้…

  • 14 ภาพโฟโต้ช็อปสุดเฟล ที่เปลี่ยนจากความสวยงามให้กลายเป็นความแปลกพิลึก

    14 ภาพโฟโต้ช็อปสุดเฟล ที่เปลี่ยนจากความสวยงามให้กลายเป็นความแปลกพิลึก

    ปัจจุบันรูปภาพที่ถ่ายออกมาก็มักจะต้องถูกตกแต่งด้วยโปรแกรมโฟโต้ช็อปเพื่อให้ออกมาดูดีที่สุด แต่ในบางครั้งจากที่จะทำให้มันดูดีสวยงาม ผลลัพธ์ที่ออกมามันกลับตรงกันข้ามกันซะได้!! กลายเป็นความพิลึกกึกกือที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่ามันต้องเกิดจากความผิดพลาดแน่ๆ ซึ่งผลลัพธ์สุดเฟลแบบนั้นสามารถหาชมได้ด้านล่างนี้ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยยย   เครื่องบินน่าจะลออยู่บนฟ้า แต่ทำไมกำแพงเมืองจีนมันถึงได้อยู่ใกล้จังล่ะ หรือว่าเครื่องบินลำนี้กำลังจะโหม่งพื้น?!   เอ๊ะ!! นั่นมือใครเกินมาหรือเปล่าเอ่ย   บางทีก็ตัดมาซะเล็กเกิ๊นนน เป็นภูติน้อยหรือเปล่าเนี่ย   เครื่องบินลำนี้สุดยอดมากจริงๆ สามารถรักษาบาลานซ์ไว้ได้แม้จะไม่กางล้อหน้าออกมา   เข้าใจนะว่าอยากให้ต้นขาดูเรียวสวย แต่ก็ไม่น่าจะต้องทำกันถึงขนาดนี้   ภาพนี้นี่แอบหลอนนิดๆ นะ เพราะมันดูเหมือนมีวิญญาณมาจับไหล่เธอไว้   เป็นต้นขาที่มีสไตล์กว่าคนอื่นมากจริงๆ เลย   สุดยอดคุณพ่อผู้มีพลังพิเศษ มนุษย์ 3 มือ!!   ไม่ทราบว่านิ้วเธอเป็นอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวนี้ปอลิโอเป็นแค่ตรงนิ้วมือก็ได้เหรอ?   นี่มันบ้านผีสิงชัดๆ   นี่สิถึงจะเป็นการกุมมือตัวเองเอาไว้ของจริง   จริงๆ เธอมีแขนครบทั้ง 2 ข้างนะ แต่น่าจะถอดเก็บไว้บ้านเพราะว่าเมื่อยล่ะมั้ง   หน้าท้องที่แบนราบ แบนจริงๆ ไม่มีหลุมมีบ่อเลยแม้แต่น้อย   ภายในภาพนี้มีความเฟลรวมกันอยู่ 11 จุด…

  • รัสเซียไม่น้อยหน้า ทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพทำลายประเทศได้ในพริบตา

    รัสเซียไม่น้อยหน้า ทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่มีอานุภาพทำลายประเทศได้ในพริบตา

    ก่อนหน้านี้หลายคนคงได้ยินข่าวประเทศเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธนิวเคลียร์กันไปบ้างแล้ว ประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียจึงไม่ยอมน้อยหน้า ทำการทดสอบขีปนาวุธของตัวเองบ้างซะเลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อทางรัสเซียได้ทดสอบขีปนาวุธไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ RS-28 Sarmat หรือรู้จักกันในชื่อ Satan 2 เป็นมิสไซล์นำวิถีที่มีพลังทำลายล้างมหาศาล     ขีปนาวุธดังกล่าวถูกยิงจากจุดปล่อยจรวดที่ชื่อว่า Plestek Cosmodrome ตั้งอยู่ในเมือง Mirny หลังจากนั้นมันก็ได้พุ่งออกไปไกลกว่า 5,700 กิโลเมตรเพื่อไปยังเป้าหมายพื้นที่ทดสอบขีปนาวุธที่ชื่อว่า Kura   ในครั้งนี้เป็นการปล่อยจรวดมิสไซล์นำวิถีเป็นครั้งที่ 3 ของปี เพราะก่อนหน้านี้รัสเซียเคยทดสอบขีปนาวุธชื่อว่า Topol   กองกำลังทหารของรัสเซียได้ออกมาบอกว่า ขีปนาวุธ Satan 2 นี้มีอานุภาพร้ายแรงขนาดที่ว่าชนะทุกการป้องกันและสามารถลบประเทศหนึ่งให้หายไปได้ในพริบตา เพราะมันได้บรรทุกหัวรบนิวเคลียร์เอาไว้ภายในถึง 12 อัน ซึ่งคาดว่ามันจะพร้อมใช้งานได้จริงในปี 2019 – 2020   Satan 2 หนักกว่า 100 ตัน และอานุภาพของมันรุนแรงกว่าระเบิดที่ถูกทิ้งในฮิโรชิม่าและนางาซากิ เมื่อปี 1945 กว่า 2,000…

  • สองสาวเล่าประสบการณ์ ติดอยู่กลางทะเล 5 เดือน ที่สุดท้ายก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์

    สองสาวเล่าประสบการณ์ ติดอยู่กลางทะเล 5 เดือน ที่สุดท้ายก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์

    จะเป็นอย่างไรหากเราจำเป็นต้องเอาชีวิตรอดอยู่กลางทะเลโดยไม่สามารถเดินทางกลับชายฝั่งได้ด้วยตัวเอง เหมือนกับเหตุการณ์ที่ผู้หญิงสองคนนี้ต้องเจอ ทั้งสองมีชื่อว่า Jennifer Appel และ Tasha Fuiava หญิงสาวจากนครโฮโนลูลู ในรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา พวกเธอได้บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางไปยังเกาะตาฮิตี ที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ซึ่งระหว่างการเดินทางครั้งนี้กลับเกิดปัญหาที่เหนือความคาดหมาย จนทำให้พวกเธอต้องติดอยู่กลางทะลนานกว่า 5 เดือน!!   Tasha (คนซ้าย) และ Jennifer (คนขวา)   พวกเธอออกทะเลกันไปตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พอผ่านไปเป็นเวลาเกือบเดือน ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนจึงทำให้เรือของพวกเธอสูญเสียพลังงานจนไม่สามารถเดินทางต่อได้และต้องติดอยู่กลางทะเล เรื่องที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือโทรศัพท์มือถือของเธอที่มีกันอยู่เครื่องเดียวจมลงไปในทะเลตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทาง     การเอาชีวิตรอดของพวกเธอจึงเริ่มต้นขึ้นและต้องเจอกับอุปสรรคอีกมาก เครื่องกรองน้ำที่มีอยู่บนเรือใช้การไม่ได้จนทำให้พวกเธอเกือบต้องตายเพราะว่าขาดน้ำ แต่โชคดีที่ Jennifer สามารถซ่อมมันได้ ในคืนหนึ่งมีฝูงฉลามเข้าโจมตีเรือลำน้อยของพวกเธอ สร้างความหวาดผวาให้กับสองสาวเป็นอย่างมาก พวกเธอบอกว่า “ฉันรู้สึกหวาดกลัวและรีบพาน้องหมาที่พามาด้วยลงไปใต้ท้องเรือ ทำตัวให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้ฉลามได้ยินเสียงหรือได้กลิ่นพวกเรา” คืนนั้นพวกเธอสามารถรอดตายมาได้เพราะความแข็งแรงของเรือทำให้ฉลามไม่สามารถจมเรือพวกเธอลงได้ แต่ในวันรุ่งขึ้นเธอก็บอกว่ามีฉลามอยู่ตัวหนึ่งว่ายกลับมาหา   ภาพของ Zeus หนึ่งในน้องหมาที่พวกเธอพามาด้วย   ตลอดช่วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือนานถึง 98 วัน พวกเธอพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออยู่ตลอด แต่เพราะระยะทางที่ไกลจากฝั่งมากเกินไป รวมถึงคนที่แล่นผ่านไปมาก็ไม่อาจสังเกตเห็นได้เลย ความรู้สึกตอนนั้นพวกเธอบอกว่า…

  • ชายหนุ่มหวังดีลงไปช่วยเหล่าลูกเป็ด ไปๆ มาๆ ได้กลายเป็นคุณพ่อของพวกมันเฉย?!

    ชายหนุ่มหวังดีลงไปช่วยเหล่าลูกเป็ด ไปๆ มาๆ ได้กลายเป็นคุณพ่อของพวกมันเฉย?!

    เรื่องที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างเช่นตอนกำลังขับรถอยู่ รถอาจจะเสียหรือเกิดอุบัติเหตุก็ได้ หรือไม่อย่างนั้นบางทีเราอาจได้กลายเป็นพ่อโดยไม่รู้ตัวอย่างชายคนนี้ไปเลยก็ได้!! เมื่อยูทูบเบอร์ที่ใช้ชื่อว่า THEREALD25 ได้โพสต์คลิปลงในวันที่ 28 มีนาคม 2015 แสดงให้เห็นว่าเขาได้กลายเป็นคุณพ่อด้วยความบังเอิญ ซึ่งลูกของเขาก็ไม่ใช่เด็กทั่วไปเพราะพวกมันคือ เป็ด!!   ชายหนุ่มเจ้าของแชนแนลยูทูบที่ชื่อว่า THEREALD25   เขาเล่าว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นขณะที่เขากำลังขับรถและได้ไปพบเข้ากลับกลุ่มลูกเป็ดน้อยยืนอยู่กลางถนน โดยที่ไม่มีแม่เป็ดคอยดูแล ด้วยความเป็นห่วงและไม่อยากทำร้ายพวกมัน ชายหนุ่มจึงจอดรถและลงไปผลักให้พวกมันออกไปอยู่ข้างทางแทน   หลบไปข้างทางก่อนนะเด็กๆ ยืนกลางถนนมันอันตราย   แต่เหตุการณ์ก็ไม่ได้จบลงแต่เพียงเท่านี้ เพราะว่าลูกเป็ดทุกตัวเหมือนจะเข้าใจว่าเขาคือพ่อหรือแม่ของมันไปแล้ว ทำให้เวลาที่ชายหนุ่มเดินไปทางไหน เป็ดน้อยก็จะคอยเดินตามด้วยความน่ารัก   นั่นพ่อเดินไปไหนน่ะ?! พวกเราตามไปกันเร็ว   ในคลิปชายหนุ่มถึงกับพูดออกมาว่า “ปัดโธ่ววว ผมยังไม่พร้อมจะมีลูกหรอกนะ” สุดท้ายแล้วด้วยความที่เขาทำงานให้กับ Disney จึงตัดสินใจนำพวกมันไปฝากไว้ที่โซนอาณาจักรสัตว์ภายในสวนสนุกของ Disney ซะเลย ทำให้เหล่าเป็ดน้อยไม่ต้องมาเสี่ยงอันตรายอยู่ข้างถนนและได้รับการดูแลที่ดีต่อไป   คลิปความน่ารักของเหล่าเป็ดน้อยที่เข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นพ่อ   นับว่าเป็นโชคดีของเจ้าเป็ดเลยนะเนี่ยที่ได้มาเจอกับชายคนนี้ ส่วนเขาเองก็เกือบได้กลายเป็นคุณพ่อไปซะแล้ว   ที่มา: inspiremore

  • คุณแม่เผยภาพอันน่าเศร้าของลูกชายผู้มีบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง จนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย

    คุณแม่เผยภาพอันน่าเศร้าของลูกชายผู้มีบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง จนถึงกับพยายามฆ่าตัวตาย

    ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งจะมีลักษณะการแสดงออกทางอารมณ์ที่แตกต่างไปจากคนปกติ โมโหร้าย ฉุนเฉียวง่ายและแสดงออกมาเป็นการใช้ความรุนแรง หรือหนักกว่านั้นพวกเขาอาจถึงกับตัดสินใจฆ่าตัวตายเช่นเดียวกับเด็กหนุ่มคนนี้ เมื่อคุณแม่ที่ชื่อว่า Helen Barnes ได้แชร์เรื่องราวของลูกชายเธอ Jack ผู้ที่มีอาการผิดปกติดังกล่าว และได้พยายามฆ่าตัวตายในวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ความผิดปกติของเขาเริ่มต้นขึ้นในเมือง Pembrokeshire ประเทศเวลส์ ตอนที่เขาอายุได้ 13 ปี ในตอนนั้นเด็กหนุ่มต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อให้สามารถจัดการกับความโกรธของตัวเอง   Helen และลูกชายของเธอ Jack   เวลาผ่านไปจนกระทั่งอายุได้ 15 ปีเขาก็เริ่มมีการแสดงออกที่ค่อนข้างรุนแรง หากรู้สึกหงุดหงิดเขาก็จะทำลายข้าวของ กรีดแขนตัวเอง ต่อยกระจกหรือกำแพง ทั้งหมดนั้นทำให้แม่ของเขารู้สึกเป็นห่วงและกังวลอย่างมาก และถึงแม้เขาจะมีเพื่อนบ้างเล็กน้อย แต่เด็กหนุ่มก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องเล่นเกม ไม่ได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนเหมือนเด็กๆ ในวัยเดียวกัน ในตอนนั้นความผิดปกติของเขารุนแรงถึงขั้นตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ช่วยเขาไว้ได้ทันก่อนที่คุณหมอจะวินิจฉัยว่าสิ่งที่เขาเป็นอยู่นี้เป็นผลมาจากความผิดปกติของบุคลิกภาพ Helen เล่าว่า “ครั้งแรกที่โรงเรียนโทรมาบอกว่าเขาต่อยกำแพง ฉันรู้สึกว่านั่นไม่ใช่เขาเพราะเขาเป็นเด็กดีมาตลอด เอาใจใส่ดูแลคนใกล้ตัวโดยเฉพาะน้องสาวฝาแฝด Lucy และ Jordan Arthur น้องชายอีกคน” หลังจากนั้นมาเด็กหนุ่มได้เข้ารับการบำบัดเกี่ยวกับพฤติกรรมและการพูดคุย รวมถึงการบำบัดกันเป็นกลุ่มทุกๆ เดือน     พออายุ 18…

  • หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคจำได้ทุกอย่าง เปิดเผยความรู้สึกแรกหลังจากที่มีความสามารถนี้

    หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคจำได้ทุกอย่าง เปิดเผยความรู้สึกแรกหลังจากที่มีความสามารถนี้

    เราแทบทุกคนไม่สามารถจำได้ว่าตอนเป็นเด็กเรารู้สึกอย่างไรหรือมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง สิ่งนั้นเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ที่เมื่อเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ ความทรงจำเก่าๆ ก็จะยิ่งเลือนรางจางหายไปทุกที แต่สิ่งที่ว่ามานั้นกลับไม่ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาวที่มีชื่อว่า Rebecca Sharrock ผู้ป่วยเป็นโรค Highly Superior Autobiographical Memory (หรือที่เรียกว่า HSAM) ทำให้เธอสามารถจำเหตุการณ์ในชีวิตของเธอได้แทบจะทั้งหมด แม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ     โรค HSAM เรียกได้ว่าหายากมากๆ มีเพียงไม่ถึง 100 คนบนโลก โดยผู้ป่วยสามารถจดจำความรู้สึกหรือสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองได้ แต่หากเป็นเรื่องอื่นๆ หรือของคนรอบข้างความจำก็จะมีความเลือนรางอยู่เหมือนคนทั่วไป ซึ่งโรคดังกล่าวยังคงไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดจากอะไร ในกรณีตัวอย่างของเธอคนนี้ที่ิอาศัยอยู่ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย แม้ว่าจะไม่สามารถจำวันแรกที่ตัวเองลืมตาดูโลกได้ แต่เธอสามารถจดจำทุกอย่าง ทั้งความรู้สึก ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือแม้กระทั่งรสชาติอาหาร ซึ่งเธอจำได้ตั้งแต่ตอนที่ตัวเองอายุเพียงแค่ 12 วันเท่านั้น   เธอสามารถจำความรู้สึกของตัวเองในตอนที่อายุเพียงแค่ 12 วันได้   เธอเล่าว่า “ฉันจำได้ว่าตอนนั้นฉันน่าจะนอนอยู่บนเปลในโรงพยาบาล และตอนที่ได้อยู่ในห้องนอนก็มีความรู้สึกหลงใหลไปกับพัดลมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่สามารถลุกออกไปดูและทำความรู้จักกับมันได้” เล่าต่ออีกว่าตอนที่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ จะพูดหรือใช้เครื่องมือต่างๆ ก็ไม่ได้ ในตอนนั้นเธอรู้สึกสนใจและสงสัยสิ่งรอบตัวมากกว่าปัจจุบันหลายเท่าเลย แสดงให้เห็นเลยว่าเธอสามารถจดจำได้กระทั่งว่าตอนนั้นเธอรู้สึกอย่างไร   คนทั่วไปแค่คิดถึงตอนอายุ…

  • การแต่งงานแปลกๆ ของหนุ่มอินโดนีเซีย ที่เล่นแต่งทีเดียวพร้อมกันกับเจ้าสาวถึง 2 คน!!

    การแต่งงานแปลกๆ ของหนุ่มอินโดนีเซีย ที่เล่นแต่งทีเดียวพร้อมกันกับเจ้าสาวถึง 2 คน!!

    การมีภรรยาหลายคนเป็นเรื่องที่ผู้ชายในประเทศอินโดนีเซียสามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย โดยแต่งงานกับผู้หญิงทีละคน แต่จู่ๆ ในโลกโซเชียลก็เกิดกระแสฮือฮาขึ้น เมื่อมีภาพการ์ดงานแต่งถูกแชร์ออกไปอย่างมากมาย สาเหตุที่มันดังก็เพราะว่าในการ์ดระบุว่ามีเจ้าสาว 2 คน ในขณะที่เจ้าบ่าวมีเพียงคนเดียว!? ชาวเน็ตหลายคนที่ได้เห็นต่างก็คิดว่ามันอาจเป็นเพียงแค่มุขตลกทำขึ้นมาขำๆ ก็ได้ แต่ทางสำนักข่าว Detik ของอินโดนีเซียได้ออกมายืนยันแล้วว่าบัตรเชิญที่ได้เห็นกันนั้นมันคือของจริง   บัตรเชิญงานแต่งของจริง ที่ประกอบด้วย 1 เจ้าบ่าว 2 เจ้าสาว   การแต่งงานดังกล่าวเกิดขึ้นในหมู่บ้าน Teluk Kijing ทางตอนใต้ของเกาะสุมาตรา โดยเจ้าบ่าวของงาน Panser ได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้แบ่งการแต่งงานออกเป็น 3 วัน วันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมาเขาแต่งงานกับเจ้าสาวคนแรกก่อน ต่อมาในวันที่ 8 ก็แต่งกับอีกคนหนึ่ง และสุดท้ายก็คือวันเฉลิมฉลองครั้งใหญ่สำหรับทั้งสามคนที่จัดขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคม คิดแล้วก็คงหมดค่างานแต่งไปเยอะอยู่นะ ก่อนหน้านั้นเขาได้เข้าไปพูดคุยกับครอบครัวของเจ้าสาวทั้งสอง Cindra และ Indah ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคุณพ่อคุณแม่ของฝั่งผู้หญิงก็เห็นด้วยกับกำหนดการของงานนี้   ชายหนุ่มมีเจ้าสาวชื่อ Indah หญิงสาวในเมืองเดียวกัน และ Cindra สาวจากหมู่บ้านใกล้ๆ   แม้ว่าเรื่องนี้จะดูแปลกตาสำหรับพวกเรา…

  • NASA เผย 10 ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ในห้องนอน เพื่อช่วยให้สุขภาพชีวิตของคุณดีขึ้น

    NASA เผย 10 ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้ในห้องนอน เพื่อช่วยให้สุขภาพชีวิตของคุณดีขึ้น

    หลายคนอาจมีความเชื่อว่าการปลูกต้นไม้ไว้ในบ้านเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่นั่นก็ไม่ใช่สำหรับทุกสายพันธุ์เพราะพืชบางขนิดหากปลูกเอาไว้ในห้องนอนก็จะสามารถช่วยให้สุขภาพชีวิตของเราดีขึ้นได้ เมื่อนักวิจัย Elle Decor และกลุ่ม The Joy of Plants จาก องค์กรนาซ่า และสถาบันต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องพืชและได้ออกมาบอกว่า มีต้นไม้อยู่ 10 สายพันธุ์ที่หากปลูกเอาไว้ในห้องนอนแล้วพวกมันจะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้น มีต้นอะไรกันบ้างเราไปดูกันเลย   หมากเหลือง (Areca Palm)   เป็นหนึ่งในตระกูลปาล์มที่มีต้นกำเนิดมาจากมาดากัสการ์ ช่วยลดมลพิษภายในห้องนอนของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมันยังปล่อยความชื้นไปในอากาศทำให้สามารถหายใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เหมาะกับคนที่ป่วยเป็นไข้หวัดหรือไซนัสอย่างมาก   ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)   องค์กรนาซ่าได้จัดให้ว่านหางจระเข้เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศได้ดีที่สุด ปล่อยออกซิเจนออกมาอยู่ตลอดแม้ในตอนกลางคืน ช่วยกำจัดสารเบนซีนและฟอร์มาลดีไฮด์ที่เป็นพิษต่อร่างกาย อากาศที่เราได้รับจึงมีความบริสุทธิ์มากอย่างแน่นอน อีกทั้งมันยังดูแลเก็บรักษาง่ายและมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย   ตีนตุ๊กแกฝรั่ง (English Ivy)   ต้นไม้ชนิดนี้สามารถพบเห็นได้ง่ายในช่วงวันคริสต์มาส ผู้วิจัยจากสถาบันโรคภูมิแพ้ หอบหืด และภูมิคุ้มกันในอเมริกาบอกว่ามันสามารถช่วยกำจัดฝุ่นราที่ลอยอยู่ในอากาศได้มากถึง 78 เปอร์เซนต์ในระยะเวลาเพียง 12 ชั่วโมง   ปาล์มสิบสองปันนา (Dwarf Date…

  • ผลงานของเหล่าพ่อบ้านตัวอย่างที่ทำให้คุณภรรยาต้องรู้สึกประทับใจไปกับความน่ารัก

    ผลงานของเหล่าพ่อบ้านตัวอย่างที่ทำให้คุณภรรยาต้องรู้สึกประทับใจไปกับความน่ารัก

    หลายคนอาจคิดว่าการแต่งงานจะทำให้ความโรแมนติกของชีวิตคู่ลดลง แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ไม่เชื่อก็ต้องลองไปดูภาพผลงานของพ่อบ้านใจกล้าเหล่านี้ เมื่อชาวเน็ตได้ร่วมกันแชร์พฤติกรรมสุดน่ารักของสามีที่ทำให้ชีวิตรักของพวกเขายังคงหวานชื่นจนทำให้เหล่าภรรยารู้สึกประทับใจ เราไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละอย่างมันเป็นอย่างไรบ้าง   เวลาที่คุณภรรยาไม่อยู่บ้าน คุณสามีก็อยากทำอะไรให้พวกเธอเซอร์ไพรส์กันซักหน่อย   วาเลนไทน์วันแห่งความรัก เขาก็เลยสร้างห้องนอนสุดหวานแหววด้วยกระดาษโพสต์-อิทที่เขียนบอกความในใจไปกว่า 7,000 ใบ   กระปุกนี้เพื่อเธอ กระดาษด้านในเขียนช่วงเวลาดีๆ ที่เคยมีให้กัน คำคมน่ารักๆ และเหตุผลว่าทำไมชายคนนี้ถึงรักเธอ ทั้งหมด 365 ใบ ครบปีพอดี   หากเธอบอกว่าอยากได้กระเป๋าใหม่ เขาก็จะทำมันขึ้นมาด้วยมือของตัวเอง   อยากซื้อดอกไม้ให้ แต่งบน้อยงั้นขอเป็นดอกไม้กระดาษไปก่อนนะ   อยากได้หลายๆ ดอกหลายๆ สี คุณสามีก็จัดให้ได้   หรือถ้ากลับบ้านมาหิวๆ ก็ขอต้อนรับด้วยช่อดอกไม้เบคอน   เห็นนาฬิกาแล้วสวยดี ก็เลยทำดอกไม้แบบขวดโหลซะเลย   แม้จะอยู่ด้วยกันมา 28 ปีแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงเติมความหวานให้กันอยู่เสมอ เห็นได้จากงานสวนหลังบ้านนี้   เพื่อให้ภรรายาได้นอนแช่อ่างแบบผ่อนคลายได้ทั้งวัน เรื่องแค่นี้จิ๊บจ๊อย   กำไลข้อมือที่สร้างขึ้นจากไม้ท่อนเดียว   อาจไม่ได้มาเป็นต้นเหมือนของบ้านอื่น แต่คุณสามีทำให้แบบนี้ก็น่าประทับใจไปอีกแบบนะ  …

  • หญิงสาวเล่าประสบการณ์อันน่าหวาดเสียว ขณะที่เล่นเซ็กส์กันจนกระปู๋ของแฟนหนุ่มหัก

    หญิงสาวเล่าประสบการณ์อันน่าหวาดเสียว ขณะที่เล่นเซ็กส์กันจนกระปู๋ของแฟนหนุ่มหัก

    การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่มันจะไม่ปกติก็เพราะบางครั้งเราอาจจะทำอะไรแผลงๆ อย่างการโชว์ท่วงท่าลีลาแปลกๆ หรือการบุกตะลุยสานสัมพันธ์กันอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้ผลที่ตามมามันเลวร้ายกว่าที่คิดไปเลยก็ได้ เหมือนกับที่ชายคนนี้ต้องเจอ เมื่อสาวสวยวัย 23 ปี Megan Barker จากเมือง Guildford ประเทศอังกฤษ ได้เล่าถึงประสบการณ์การมีเซ็กส์กับแฟนหนุ่มที่หนักหน่วงและพิสดาร จนถึงขนาดทำให้น้องชายของเขาต้องหักในระหว่างทำกิจกรรม จากช่วงเวลาแห่งความสุขก็ได้กลายเป็นช่วงเวลาอันแสนเจ็บปวดไปในทันที   Megan และ Adam แฟนหนุ่มของเธอ   เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อทั้งสองได้เจอกันเป็นครั้งแรกในปี 2013 ด้วยความเท่จากหน้าตาและรูปร่างของนายแบบหนุ่มวัย 24 ปี Adam Francis ทำให้ทั้งคู่เริ่มออกเดทและคบกันในเวลาต่อมา ชีวิตคู่ของพวกเขาไม่ได้มีเพียงรักอันหวานฉ่ำ แต่ยังเต็มไปด้วยการมีเซ็กส์อันแสนร้อนแรง เติมเต็มความต้องการของกันและกันได้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้น เมื่อในเดือนกุมภาพันธ์ 2015 พวกเขากำลังเพลิดเพลินกับค่ำคืนแห่งความเร่าร้อน ท่วงท่าลีลาความหนักหน่วงแบบจัดหนักจัดเต็ม     Megan เล่าว่า “เขาพลิกตัวเข้ามาอยู่ด้านหลังฉัน ส่วนฉันก็พยายามโก่งตัวแอ่นหลังรับแรงกระแทก แต่จู่ๆ ฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนกับอะไรซักอย่างหัก” เมื่อเธอหันกลับไปดูพบว่าแฟนหนุ่มได้ลงไปนอนขดตัวเอามือกุมอวัยวะเพศไว้แน่น ใบหน้าซีดเผือดและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มีเลือดพุ่งออกมาจากน้องชายของเขาอย่างไม่ขาดสาย เธอเล่าต่อว่า “มันเหมือนกับฉากฆาตกรรมชัดๆ เลือดที่พุ่งออกมาเลอะเต็มเตียงไปหมด” หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไป ก่อนที่หญิงสาวจะตามเข้าไปดูและพบว่าเธอทำให้กระปู๋ของเขาหัก ขณะที่ชายนอนลงอยู่บนพื้นห้องน้ำที่เต็มไปด้วยเลือด เธอจึงรีบโทรตามรถพยาบาลมาในทันที…

  • นี่คือภาพของการทำงานภายใน ‘กระบอกเก็บเสียงปืน’ รู้ซักทีว่าเสียงหายไปได้ยังไง

    นี่คือภาพของการทำงานภายใน ‘กระบอกเก็บเสียงปืน’ รู้ซักทีว่าเสียงหายไปได้ยังไง

    ทุกคนรู้ว่าปืนเป็นอาวุธที่มีเสียงดังมากๆ ทำให้เกิดสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่ากระบอกเก็บเสียงขึ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว แต่เราเคยรู้มั้ยว่าการทำงานภายในกระบอกเล็กๆ นั้นมันเป็นอย่างไร ด้วยความสงสัยดังกล่าวทำให้ชายที่ชื่อว่า Destin Sandlin จากแชนแนลยูทูบ Smarter Every Day ทำการทดลองใช้กล้องสโลโมชั่นเก็บภาพการทำงานภายในของกระบอกเก็บเสียงดู เขาได้รับความร่วมมือจาก Steve ช่างฝีมือที่ทำงานอยู่ในบริษัท Soteria ผู้ผลิตอุปกรณ์และอาวุธปืนรายใหญ่ของรัฐอลาบาม่า นำอุปกรณ์มาให้ใช้ในการทดลอง ในการทดลองพวกเขาได้ใช้กระบอกเก็บเสียง 5 แบบ เราลองไปดูกันดีกว่าว่าการทำงานของมันเป็นอย่างไรกันบ้าง   ด้วยวัสดุที่ทำขึ้นมาเพื่อให้สามารถมองเห็นข้างในได้ แต่มันกลับไม่สามารถทนแรงดันที่เกิดจากกระสุนได้ทำให้ปลอกหลุดออกไปหลังจากการยิง   อันที่สองเราเริ่มได้เห็นการทำงานที่ชัดเจนขึ้น สังเกตได้ว่าแรงดันที่เกิดขึ้นจากการยิงจะไม่พุ่งออกไปจากปลายกระบอกเลย   แบบที่สามถึงแม้ว่าจะมีลวดลายภายในต่างกัน แต่ก็ใช้หลักการเดียวกันกับแบบที่สอง   กระบอกที่ 4 เองก็เช่นกัน มันจะเก็บไฟเอาไว้ไม่ให้หลุดลอดออกไปข้างนอกได้   สุดท้ายคือกระบอกที่ Destin ชื่นชอบมากที่สุดเพราะมันมีความใสเห็นข้างในได้ชัดเจน แต่เนื่องจากว่ามันทำมาจากอะคริลิค ทำให้ไม่สามารถทนรับแรงดันของกระสุนได้และแตกกระจายออกมาในที่สุด   จากการทดลองทั้งหมดเขาก็ได้อธิบายหลักการการทำงานของกระบอกเก็บเสียงเอาไว้ว่า ภายในจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งมีไว้เพื่อไม่ให้แรงดันกระจายออกไปในอากาศ และส่วนที่สองมีไว้ปิดกั้นให้แรงดันดังกล่าวยังคงอยู่ภายในกระบอกจนกว่าจะหายไปเอง เสียงปืนที่ดังออกมาเกิดขึ้นจากแรงดันของกระสุนที่ออกมาด้วยความแรง เพราะฉะนั้นการที่เก็บแรงดันไว้ในกระบอกได้ก็จะช่วยให้ไม่เกิดเสียงนั่นเอง   ส่วนแรกตรงโคนจะช่วยให้แรงดันที่เกิดขึ้นไม่กระจายตัวออกไปในอากาศ   ส่วนที่สองจะช่วยปิดกั้นให้มันอยู่ข้างในและสลายหายไปเอง   คลิปการทดลองที่ทำให้เห็นว่าภายในกระบอกเก็บเสียงเป็นอย่างไร  …

  • เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!

    เด็กสาวตัวน้อยแสนใจบุญ ปลูกผักและสร้างบ้านให้กับ ‘คนไร้บ้าน’ ได้ถึง 11 หลัง!!

    เวลาที่เจอกับคนไร้บ้าน พวกเราส่วนใหญ่ก็จะซื้ออาหารไปให้พวกเขาหรือเอาเงินให้ไปซื้อของที่จำเป็น โดยที่ไม่ได้ต่อยอดอะไร แต่สำหรับเด็กน้อยคนนี้กลับทำสิ่งที่มากกว่านั้น เมื่อเด็กสาววัย 9 ขวบที่ชื่อว่า Hailey Ford ตัดสินใจปลูกผักแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน รวมทั้งพยายามสร้างบ้านให้กับพวกเขาอีกด้วย จนเรื่องราวของเธอกลายเป็นที่ชื่นชมบนโลกอินเตอร์เน็ต จะเป็นอย่างไร เราลองไปชมกันเลย   สาวน้อยคนนี้อาศัยอยู่ในเมือง Bremerton รัฐวอชิงตัน วันหนึ่งเธอกับแม่ได้เจอกับชายไร้บ้านตกงานชื่อ Edward เข้า พวกเธอจึงซื้ออาหารมาให้เขา แต่ว่าการให้ในครั้งนั้นเด็กสาวเชื่อว่ามันยังไม่เพียงพอ   เธอตัดสินใจปลูกผักสวนครัวเพื่อที่จะทำไปแจกจ่ายให้กับคนไร้บ้าน โดยในปีแรกที่เธอเริ่มปลูกผัก เธอสามารถแจกจ่ายไปได้ถึง 58 กิโลกรัม และเธอก็ทำมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้   แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพออีกอยู่ดี หลังจากนั้นไม่นาน เธอจึงเกิดไอเดียสร้างบ้านเคลื่อนที่ให้กับคนไร้บ้านซะเลย   เธอบอกว่า “การที่ยังมีคนไร้บ้านอยู่เป็นเรื่องไม่ถูกต้องอย่างมาก ฉันคิดว่าทุกคนควรต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง” .   บ้านที่เธอได้วางแผนเอาไว้คือ หลังคาจะติดตั้งด้วยแผ่นรับพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนรอบๆ ก็จะบุด้วยผ้ายีนส์เพื่อกันความร้อน   แน่นอนว่าหากไม่มีเงินทุนเธอคงไม่สามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ Miranda แม่ของเธอจึงได้ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ให้เข้ามาบริจาคเงินผ่านองค์กรที่ชื่อว่า Together Rising เพื่อนำมาสานฝันครั้งนี้ .   เธอได้รับเงินบริจาคมากถึง 100,000…

  • ไอเดียสุดเจ๋งของ ‘สุสานยุคโมเดิร์น’ บอกเล่าถึงกระแสสังคมที่ตายจากเราไปตามกาลเวลา

    ไอเดียสุดเจ๋งของ ‘สุสานยุคโมเดิร์น’ บอกเล่าถึงกระแสสังคมที่ตายจากเราไปตามกาลเวลา

    ป้ายหลุมศพที่เราเห็นตามสุสานจะมีลักษณะที่ไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่ และบันทึกชื่อของผู้ตายหรืออื่นๆ เพียงแค่ไม่กี่ประโยค แต่วันนี้เราจะพาไปดูสุสานสุดพิสดารที่ถ้าขับรถผ่านก็คงต้องแวะจอดลงไปดูกันเลย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2017 ได้มีการแชร์รูปของสุสานประหลาดๆ ที่เป็นไอเดียของ Michael Fry ผู้เป็นทั้งคุณพ่อและอาจารย์ศิลปะ เขาได้สร้างผลงานนี้ในลักษณะของ “สุสานยุคโมเดิร์น” เพื่อแสดงให้เห็นว่าตามสื่อหรือโลกออนไลน์ในปัจจุบันได้มีอะไรตายไปแล้วบ้าง แน่นอนว่าข้างใต้ของหลุมฝังศพก็ไม่ได้มีคนนอนตายอยู่จริงๆ หรอกนะ   การทำท่า Dab หรือสร้างสไลม์ขึ้นมาเอง คือสิ่งที่เราไม่ได้เห็นกันเท่าไหร่แล้วในปัจจุบัน ทั้งๆ ที่มันเคยได้รับความนิยมอย่างมาก   เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากบ้านผีสิงของดิสนีย์ ก่อนที่จะมาดัดแปลงหน้าบ้านของตัวเองให้กลายเป็นป้ายหลุมฝังศพที่พูดถึงกระแสในสื่อต่างๆ ที่เคยดังมาก่อน   แฟชั่นของสาวๆ อย่างการทำสีผมสไตล์ Ombre หรือทำปากให้ดูอวบอิ่มก็เริ่มซาลงไป รวมถึง Taylor Swift คนเก่าที่ได้ตายจากเราไปแล้ว เห็นได้จากซิงเกิ้ลใหม่ของเธอ   เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่ได้มานั่งดูทีวีกันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อยากดูอะไรก็หาในยูทูบไรงี้ก็ได้แหละนะ   ในวันฮาโลวีนเมื่อปีที่แล้ว เขาก็ได้ตกแต่งประตูบ้านด้วยหัวกระโหลกอีกด้วย เห็นอย่างนี้แล้วจะมีเด็กคนไหนกล้าเข้าไปขอขนมลูกอมกันล่ะเนี่ย   นับว่าเป็นแนวคิดเจ๋งๆ ที่ทำให้เห็นว่าโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงของกระแสต่างๆ อยู่เสมอ   ที่มา: theberry

  • 7 เหตุผลหลักที่บอกว่าเหตุใด ‘ความรักระยะไกล’ ถึงไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่นัก

    7 เหตุผลหลักที่บอกว่าเหตุใด ‘ความรักระยะไกล’ ถึงไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่นัก

    “ระยะทางพิสูจน์รักแท้” เป็นนิยามของใครหลายคนเวลาที่ต้องอยู่ไกลจากคนรักของเรา แต่ในความเป็นจริงการรักษาความรักของทั้งสองเอาไว้ให้อยู่ต่อไปได้เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกเวลาที่เราเห็นคู่รักต้องแยกทางกันเพราะมีระยะทางเป็นอุปสรรค แต่เราเคยสงสัยมั้ยว่าทำไมมันถึงต้องเป็นอย่างนั้น วันนี้เราจึงมาพูดถึง 7 เหตุผลสำคัญที่ทำให้การคบกันทางไกลไม่ประสบความสำเร็จ ไปดูกันได้เลยยย   ขาดความเชื่อใจซึ่งกันและกัน   สิ่งสำคัญของชีวิตคู่คือการเชื่อใจและไว้ใจกันของทั้งสองฝ่าย แต่เมื่อต้องอยู่ไกลกันทำให้ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน ความรู้สึกไม่เชื่อใจอีกฝ่ายก็จะเกิดขึ้นและกลายเป็นว่าเราคอยเช็คเรื่องของแฟนอยู่ตลอดเวลา จนอาจเป็นสาเหตุทำให้รู้สึกไม่สบายใจและเลิกรากันไป   การนอกใจ   ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกอ่อนแอหรือเจอกับปัญหาจนรู้สึกต้องการใครซักคนมาอยู่ข้างๆ สิ่งนั้นอาจทำให้เกิดการนอกใจขึ้นมาได้เพราะแฟนของเราอยู่ในที่ที่ไกลออกไป นอกเสียจากว่าคุณจะเป็นคนที่แข็งแกร่งแน่วแน่อย่างมากเท่านั้น ถึงจะอดทนไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมา   ระยะทางสร้างความวิตกกังวล หงุดหงิด จนอาจเป็นสาเหตุให้ทะเลาะกัน   แม้ว่าความห่างไกลจะทำให้คุณหงุดหงิด ถึงอย่างไรคุณต้องควบคุมสิ่งนั้นเอาไว้ให้ได้อย่าปล่อยให้อารมณ์พาไป ไม่อย่างนั้นคุณกับแฟนอาจต้องทะเลาะกันโดยไร้ความหมายและไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับชีวิตคู่เลย   ไม่ยอมปรับความเข้าใจกัน   ระยะทางไม่ใช่ปัญหาในทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เพราะฉะนั้นการพูดคุยปรับความเข้าใจกันภายหลังจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่อย่างนั้นการเลิกราก็อาจตามมาได้ในไม่ช้า   การมองไม่เห็นถึงอนาคตที่จะได้อยู่ด้วยกัน   ความคิดที่ว่า “อีกไม่นานเราก็จะได้กลับไปอยู่กับคนรักแล้ว” เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาความรักระยะไกลของเราเอาไว้ได้ เพราะถ้าเราไม่คิดอย่างนั้นก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกท้อแท้และสิ้นหวังในความรักได้   ไม่มีอะไรจะพูดกันอีก   ลองคิดดูว่าเมื่อเราได้แต่โทรหาอยู่ทุกคืน เวลาผ่านไปนานๆ สุดท้ายไม่มีเรื่องอะไรให้คุยกันอีก และตอนนั้นคุณก็จะได้เจอกับชีวิตคู่ที่แสนทรหดและยากจะผ่านไปได้   โซนเวลาที่ต่างกันในแต่ละประเทศ   เมื่อแฟนต้องไปเรียนต่อหรือไปอยู่เมืองนอก แน่นอนว่าพวกคุณจะต้องเจอกับปัญหาเวลาไม่ตรงกัน…

  • ชมความยิ่งใหญ่ของ สะพานข้ามทะเล 55 กิโล ยาวสุดในโลก เชื่อม 3 เกาะในจีนเข้าด้วยกัน

    ชมความยิ่งใหญ่ของ สะพานข้ามทะเล 55 กิโล ยาวสุดในโลก เชื่อม 3 เกาะในจีนเข้าด้วยกัน

    สมัยนี้เส้นทางการคมนาคมได้มีการพัฒนาเพื่อทำให้เราสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย และหากเป็นประเทศที่เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำอย่างประเทศจีน นอกจากความสะดวกสบายที่ได้มาแล้ว พวกเขายังเพิ่มเติมความยิ่งใหญ่อลังกาลให้สมกับการเป็นประเทศชั้นนำของโลกอีกด้วย วันนี้ #เหมียวตะปู จะมาชวนเพื่อนๆ ไปเจอกับสะพานข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลกของประเทศจีน มีความยาวมากถึง 55 กิโลเมตรเลยทีเดียว!!   สะพานแห่งนี้มีชื่อว่าสะพาน ฮ่องกง-จูไห่-มาเก๊า ตามชื่อเมืองที่เชื่อมหากัน   สะพานแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในเดือนธันวาคมปี 2009 จนแล้วเสร็จในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2017 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเปิดใช้งานในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ สิ่งก่อสร้างอันสวยงามและยิ่งใหญ่ต้องใช้เหล็กกว่า 420,000 ตัน เทียบเท่ากับการสร้างหอไอเฟลได้มากถึง 60 แห่ง และต้องเสียเงินไปมากกว่า 500,000 ล้านบาท   ความยาวที่ถึงกับมองไม่เห็นปลายทางอีกฝั่งเลย   นอกจากนั้นไม่ได้มีเพียงแค่สะพานข้ามทะเล เพราะระหว่าทางพวกเขาได้สร้างเกาะเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแวะจอดพักรถกัน อีกทั้งยังมีอุโมงค์ลอดใต้ทะเลที่ยาวที่สุดประกอบเป็นส่วนหนึ่งของสะพานอีกด้วย อุโมงค์ดังกล่าวมีความลึกอยู่ใต้ผิวน้ำไป 40 เมตรและยาวถึง 6.7 กิโลเมตร   จุดพักรถที่เหมือนกับเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางทะเลเลยก็ว่าได้   อีกไม่นานเกินรอมันก็จะเปิดให้ผู้คนได้เข้าไปโลดแล่นกันแล้ว   สะพานอันยิ่งใหญ่อลังการนี้ตั้งอยู่บนทะเลทางตอนใต้ของปนะเทศจีน เพื่อเชื่อมระหว่าง 3 เมืองใหญ่ได้แก่…

  • ครอบครัวออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับลูกน้อย พร้อมมอเตอร์ไซค์พ่วงคู่ใจ กลายเป็นทริปที่น่าจดจำ

    ครอบครัวออกท่องเที่ยวไปพร้อมกับลูกน้อย พร้อมมอเตอร์ไซค์พ่วงคู่ใจ กลายเป็นทริปที่น่าจดจำ

    หลายคนมีความฝันอยากพักจากการทำงานหรือการเรียน ขับรถออกไปเที่ยวในที่ไกลๆ สูดรับออกซิเจนให้เต็มปอดท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่เหมือนกับครอบครัวนี้ ครอบครัวนี้มีด้วยกันอยู่สามคนพ่อแม่ลูกผู้ที่รักการเดินทางกันอย่างมาก ในปี 2015 พวกเขาได้ใช้รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างคู่ใจพากันออกไปเที่ยวทั่วทวีปยุโรป แต่พอผ่านไปหนึ่งปีพวกเขาก็ได้ออกเดินทางในแบบที่เจ๋งกว่านั้น ปี 2016 ทั้งครอบครัวตัดสินใจนำเจ้ามอเตอร์ไซค์คันเดิมแล่นไปทางตะวันออกมุ่งหน้าสู่เทือกเขาคอเคซัส ที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศจอร์เจีย และอาร์เมเนีย บนเส้นทางลูกรังที่ไม่ใช่ถนนใหญ่และไม่ค่อยมีใครขับผ่าน ไปดูกันเลยว่าการเดินทางไกลของพวกเขาในครั้งนี้ต้องเจอกับอะไรมาบ้าง   พวกเขาต้องนั่งพักรอเรือข้ามฟาก เพื่อเดินทางจากเมืองโอเดสซา ประเทศยูเครน ไปยังเมืองบาทูมี ประเทศจอร์เจีย   ในที่สุดเรือก็มาถึงและกำลังแล่นผ่านทะเลดำไปอย่างสงบ   อาจต้องเจอกับลมพายุบ้างเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรฟ้าหลังฝนก็สวยงามเสมอ   พอถึงฝั่งพวกเขาก็ได้ขับเข้าหมู่บ้าน Ushgali ประเทศจอร์เจีย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สูงที่สุดที่ยังมีคนอาศัยอยู่   คุณแม่กับลูกชายวัย 5 ขวบ ที่ชื่อ Vladimir นั่งกอดกันกลมเชียว   ภาพของเด็กน้อยกำลังขี่ม้าที่พวกเขาได้เจอขณะพักกันอยู่ในหมู่บ้าน   ออกลุยกันต่อด้วยเส้นทางตัดผ่านเทือกเขาไปยังหมู่บ้าน Lentekhi   เทือกเขาคอเคซัส ที่กว้างไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา   แวะพักกันในเมืองกอรี หายร้อนกันไปทั้งคนทั้งรถ   วันหนึ่งเมื่อเด็กชายตื่นขึ้นมา เขามีไข้ขึ้นสูงมากและอาหารเป็นพิษ ทำให้คลื่นไส้จนอ้วกออกมาเต็มที่นอนไปหมด แต่ก็ไม่มีคำว่าย่อท้อหรอกนะ   พวกเขาพยายามจะขับรถผ่านหนึ่งในเส้นทางที่อันตรายที่สุดเพื่อไปยังหมู่บ้าน…

  • คลิปสุดฮา เมื่อน้องเหมียวเพิ่งรู้ว่าตัวเอง ‘โดนทำหมัน’ ถึงกับช็อคจนพูดไม่ออกเลย…

    คลิปสุดฮา เมื่อน้องเหมียวเพิ่งรู้ว่าตัวเอง ‘โดนทำหมัน’ ถึงกับช็อคจนพูดไม่ออกเลย…

    เคยรู้สึกตกใจกับเรื่องอะไรมากๆ จนถึงกับต้องอ้าปากค้างพูดไม่ออกอะไรประมาณนั้น ถ้าหากคุณไม่เคยและคิดภาพตามไม่ออก ก็ต้องลองมาดูตัวอย่างพฤติกรรมแบบนั้นจากแมวตัวนี้กันล่ะนะ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาในประเทศจีน ได้มีคลิปวิดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ออกมาสู่โลกโซเชียล ในคลิปจะเห็นเจ้าแมวตัวหนึ่งกำลังเลียทำความสะอาดบริเวณหว่างขาของมันอยู่เหมือนแมวทั่วๆ ไป   กลิ่นดูอับชื้นไปหน่อยแฮะ สงสัยคงต้องถูสบู่ตรงจุดซ้อนเร้นซะหน่อยแล้ว   แต่จู่ๆ มันก็นิ่งไปและเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจสุดขีดถึงขนาดอ้าปากค้าง ทำตาโต พูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่น้อย   เชรดดด…นี่มันไม่จริงใช่มั้ยเนี่ย….   จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไรในเมื่อตัวมันเองเพิ่งรู้ว่าได้ถูกทำหมันไปแล้ว!! จบสิ้นวงศ์ตระกูลกันแค่รุ่นนี้แหละเจ้าเหมียวเอ๋ยยย   ยังคงช็อคไม่หาย หันมองกล้องเหมือนอยากจะถามว่า “ทำไมต้องทำร้ายกันด้วย?!”   ใบหน้าและท่าทางของเจ้าเหมียวทำเอาเจ้าของถึงกับหัวเราะให้กับความตกใจของมันเลย แต่เห็นแล้วก็รู้เลยแหละนะว่ามันคงช็อคมากจริงๆ   คลิปสุดฮาเมื่อเจ้าเหมียวเพิ่งรู้ว่าตัวเองถูกทำหมัน คราวหลังเวลาเราจะทำอะไรกับมันคงต้องบอกมันก่อนอ่ะนะ เจ้าเหมียวจะได้เตรียมใจเอาไว้ไม่มานั่งเอ๋อแบบนี้อีก ที่มา: dailymail

  • สิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง ‘เนินหลังเต่าอัจฉริยะ’ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามความเร็วของรถที่ขับผ่าน

    สิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋ง ‘เนินหลังเต่าอัจฉริยะ’ ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามความเร็วของรถที่ขับผ่าน

    สิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆ ยังคงมีออกมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ และแน่นอนว่าสิ่งเหล่านั้นสามารถตอบโจทย์ให้กับการใช้ชีวิตของเราได้มากขึ้นอย่างแน่นอน เช่นเดียวกันกับของสิ่งนี้ มารู้จักกับเนินหลังเต่าอัจฉริยะ สิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทในประเทศสเปน เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาการขับขี่บนท้องถนนให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น     ความพิเศษของมันก็คือมันจะเปลี่ยนสถานะไปตามความเร็วของรถที่วิ่งผ่าน ถ้าหากขับผ่านแบบช้าๆ ก็จะมีลักษณะที่อ่อนนุ่มขับผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าขับมาเร็วมันก็จะแข็งตัวขึ้นมาในทันที ทำให้ผู้ขับขี่ต้องตื่นตัวและจำกัดความเร็วในการขับขี่ของตัวเองอยู่เสมอ   ขับมาช้าก็ผ่านไปได้แบบสบายๆ   แต่ถ้าขับเร็วมันก็จะแข็งตัวเด้งดึ๋งขึ้นมา   ความสามารถนั้นเกิดจากนนั่นของเหลวประเภท Non-Newtonian ที่อยู่ภายในสิ่งประดิษฐ์ เมื่อถูกกระตุ้นด้วยความเร็วของวัตถุที่เข้ามาหามันก็จะเกิดการแข็งตัวขึ้นเอง   เป็นการนำของเหลวแปลกๆ นี้มาใช้ให้เป็นประโยชน์   ปัจจุบันเจ้าสิ่งนี้ได้ถูกนำออกมาใช้งานในเมือง Villanueva de Tapia ประเทศสเปน เป็นที่เรียบร้อย และกำลังได้รับความสนใจจากประเทศอิสราเอลกับเยอรมนี   คลิปแสดงการทำงานของเนินหลังเต่าอัจฉริยะ   ไม่รู้ว่าในอนาคตบ้านเราจะได้เห็นเจ้าสิ่งนี้เข้ามาใช้กันบ้างหรือเปล่านะ คงต้องทำให้เรารู้สึกแปลกตากันมากๆ แน่เลย   ที่มา: businessinsider

  • เจ้าหมาทำตามคำสั่งของเจ้าของ นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ยอมขยับไปไหน เอาขนมมาล่อหรือลากไปก็ไม่ไป

    เจ้าหมาทำตามคำสั่งของเจ้าของ นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ยอมขยับไปไหน เอาขนมมาล่อหรือลากไปก็ไม่ไป

    เราอาจเคยเห็นน้องหมาน้องแมวถูกทิ้งไว้ข้างถนน พวกมันจะห้อยป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า “วอนผู้ใจบุญช่วยรับมันไปดูแล?” ได้อ่านแล้วก็รู้สึกสลดใจแทนพวกมัน แต่กับเจ้าหมาตัวนี้แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นกลับแตกต่างออกไป ถึงแม้ว่าเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้มีป้ายห้อยเอาไว้อยู่เหมือนกัน แต่ข้อความที่เขียนเอาไว้กลับต้องทำให้คนเดินผ่านไปผ่านมาต้องอมยิ้มให้กับความน่ารักของมัน   น้องหมาโกลเด้นนั่งรอเฉยๆ ไม่ยอมขยับไปไหน   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2011 เมื่อเจ้าหมาที่ชื่อ Jackson ได้นั่งรออยู่หน้าร้าน Target ในรัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา ไม่ยอมขยับไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียวจนทำให้ชาวบ้านรู้สึกสนใจและเดินมาอ่านข้อความที่ห้อยไว้ตรงคอของมัน ข้อความดังกล่าวเขียนเอาไว้ว่า “พ่อผมบอกให้รอตรงนี้ ผมก็รออยู่ครับ” ทุกคนที่ได้เห็นต่างก็รู้สึกเอ็นดูในความใสซื่อของเจ้าหมาทันที   ในขณะที่พ่อกำลังไปทำธุระ ผมก็จะนั่งรอตรงนี้ตามที่พ่อบอกครับ   การที่มันสามารถนั่งรออยู่เฉยๆ อย่างนี้ได้นั่นเป็นเพราะว่า Steve Moore ไปรับมันมาเลี้ยงจากสถานเลี้ยงดูสัตว์เมื่อ 1 เดือนก่อน จากนั้นเขาก็ได้ฝึกให้มันได้มีเทคนิคหรือทักษะพิเศษต่างๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นนักฝึกหมามืออาชีพ แต่อย่างน้อยเขาก็สอนให้มันรู้จักรอโดยไม่ขยับไปไหนเลย แม้จะมีคนเอาขนมมาล่อหรือพยายามฉุดกระชากก็ตาม   คนที่มาซื้อของที่นี่จะเข้ามาลูบหัวให้กับความน่ารักน่าเอ็นดู   แม้เจอสาวๆ ผ่านสายตาไป ผมก็ไม่หวั่นไหวหรอกนะ   Steve พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า “น่าตกใจอย่างมากที่ตอนนี้ทุกคนกลับต้องการพามันกลับไปบ้าน ทั้งๆ ที่ 4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ไม่มีใครยอมพามันกลับไปเลี้ยงเลย”   น่ารักขนาดนี้ขอถ่ายรูปกลับไปให้ภรรยาที่บ้านได้เห็นหน่อยนะ  …

  • อะไรจะเป๊ะเบอร์นั้น!! ภาพความเป๊ะที่ช่วยเยียวยาจิตใจของเราให้กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง

    อะไรจะเป๊ะเบอร์นั้น!! ภาพความเป๊ะที่ช่วยเยียวยาจิตใจของเราให้กลับมาชุ่มชื่นอีกครั้ง

    ความเพอร์เฟ็กต์เป็นสิ่งที่หลายคนชื่นชอบและต้องการให้มันเกิดขึ้นกับหลายๆ สิ่ง แต่แน่นอนว่าจะให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์แบบได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ โดยพิสูจน์ได้จากภาพของสิ่งเหล่านี้ที่มีความเป๊ะสุดๆ จนเหมือนกับว่าพวกมันเกิดมาเพื่อคู่กัน ไปดูกันเลยว่าเมื่อมันถูกจัดวางกันอย่างลงตัวแล้ว ทำให้เรารู้สึกชุ่มชื่นหัวใจมากขนาดไหน?   ถ้าตอกไข่ใส่ลงไปตรงกลางนี่เยี่ยมเลย   ถ้วยชามที่วางเรียงกันจนดูเหมือนครัวซองต์   วางแบบนี้เหมือนรูปร่างของปอดเราเลยนะเนี่ย   ถุงหิ้วแบบใส่ได้พอดีเป๊ะ เห็นแล้วก็รู้สึกสบายตาพกพาสะดวก   ขนาดน้ำแข็งในแก้วยังทำให้เกิดรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าได้…..อิลูมินาติ คอนเฟิร์ม   อยากรู้จริงๆ ว่าตอนลงอุโมงค์มาไม่รู้สึกหวาดเสียวบ้างหรือไง   หัวชาร์จไอโฟนก็ยังมีความลงตัวได้กับบางสิ่งเช่น ปฏิทิน   คนละยี่ห้อนะ แต่ดูเหมือนสร้างมาเพื่อกันและกันจริงๆ   แหวนคู่ที่บอกได้ว่าทั้งสองมีความเข้ากันได้มากเพียงใด   ขอชื่นชมให้กับคนที่นั่งเรียงจริงๆ พอดีเกิ๊นนน   สงสัยจะซื้อมาคู่กันสินะ   ตอนขีดเส้นนี่ตั้งใจให้มันเป็นระนาบเดียวกันหรือเปล่า   ยินดีด้วยนะครับ คุณได้ลูกแฝด   เป็นการห่อของขวัญที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด   อย่าลืมพกช็อกโกแลตเอาไว้กินรองท้องระหว่างขับรถด้วยนะ   สบายใจไม่ต้องซื้อทีวีติดรถกันแล้ว ดูผ่านมือถือเอาเนี่ยแหละ   องศาของแสงและเงา ทุกอย่างมันช่างลงตัวกันไปหมดเลย   แบ่งครึ่งกันแบบเป๊ะๆ   ฟูกที่เราสามารถเอามาใช้แทนประตูได้…

  • ไขปริศนาแมลงประหลาดรูปร่างหน้าตาคล้ายเอเลี่ยน แท้จริงแล้วมันคือตัวอะไรกันแน่!?

    ไขปริศนาแมลงประหลาดรูปร่างหน้าตาคล้ายเอเลี่ยน แท้จริงแล้วมันคือตัวอะไรกันแน่!?

    บนโลกของเราเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่บางครั้งเราไม่รู้เลยว่ามันคือตัวอะไร เหมือนกับเจ้าแมลงตัวนี้ที่บ้านเรายังไม่ค่อยรู้จักมันกันมากนัก สิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดตัวนี้มีชื่อว่า Creatonotos Gangis เป็นสายพันธุ์หนึ่งของผีเสื้อกลางคืนที่มีลักษณะโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด ผีเสื้อสายพันธุ์นี้มีแหล่งที่อยู่อาศัยทางตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและไทย รวมถึงทางตอนเหนือของออสเตรเลียก็ด้วย   แม้ว่าบ้านเราจะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมัน แต่ก็ไม่ได้ถูกพบกันอย่างแพร่หลายนัก   ดูจากในรูปแม้ว่าสีของมันจะไม่ได้ฉูดฉาดอะไรมากมาย แต่ความพิเศษอยู่ตรงส่วนที่แยกออกมาจากท้องของมันเรียกว่า Coremata เป็นส่วนสำคัญที่จะปล่อยฟีโรโมน Hydroxydanaidal ออกมาดึงดูดความสนใจของเพศตรงข้าม   ขนาดพวกเราเองยังรู้สึกสนใจส่วนนั้นก่อนเป็นอย่างแรกเลย   นอกจากนั้นเจ้าผีเสื้อสายพันธ์ุนี้ก็มีอาหารการกินที่แปลกออกไป โดยพวกมันจะกินสารที่พืชผลิตออกมาเรียกว่า Pyrrolizidine Alkaloids ซึ่งสารดังกล่าวนั้นมีพิษเป็นอันตรายให้กับแมลงตัวอื่นๆ นั่นจึงทำให้พวกมันไม่ถูกแย่งอาหาร   อาหารที่ให้โทษกับแมลงชนิดอื่น แต่กลับเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับพวกมัน   อีกทั้งสารตัวนี้ยังช่วยให้อวัยวะส่วน Coremata ของพวกมันเติบโตได้ดีขึ้นอีกด้วย ยิ่งกินมากก็จะยิ่งทำให้ปล่อยฟีโรโมนออกมาได้มาก แต่ถ้าหากกินสารนี้เข้าไปไม่มากพอก็จะทำให้อวัยวะส่วนนี้ไม่โตขึ้นมา จนทำให้ไม่สามารถเรียกหาคู่ได้   อวัยวะพิลึกๆ ที่มีความสำคัญอย่างมากในการขยายสายพันธุ์ให้มีลูกหลานสืบไป   คลิปผีเสื้อกลางคืนสายพันธุ์แปลกประหลาด   บนดาวดวงนี้ยังคงเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดที่รอให้เราเข้าไปหาคำตอบอยู่เต็มไปหมดเลยจริงๆ   ที่มา: lazerhorse

  • 17 ‘คนดวงดี’ กับประสบการณ์ที่เราแทบจะไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ

    17 ‘คนดวงดี’ กับประสบการณ์ที่เราแทบจะไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ

    ในแต่ละวันเรื่องที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเข้าใจอย่างนั้น แต่บอกเลยว่าเรื่องแปลกๆ ที่ได้เจอกันมาอาจเทียบไม่ได้กับของพวกเขาเหล่านี้เลย วันนี้เราได้นำภาพของเหล่าคนที่จะเรียกว่า “โชคดีแบบสุดๆ” ก็ว่าได้ เพราะสิ่งที่เราจะได้เห็นมันไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นมาได้ง่ายๆ หรอกนะ ว่าแล้วเราก็ไปดูกันเลยยย   ก็มาไหม้ซะตรงนี้ แล้วจะดับไฟกันยังไงล่ะ   ชื่อถนนมันช่างเข้ากับสถานการณ์ตอนนี้จริงๆ “น้ำช่วยหยุดหน่อยเถอะ!!”   ปลูกต้นไม้ยังไงให้ล้มได้โดยที่ไม่ทำลายข้าวของ?!   เกือบจะได้เก็บเงินซื้อไอโฟนแปดอยู่แล้วเชียว   โผล่มาจากไหนเยอะแยะเนี่ย ลดน้ำหนักอยู่กะจะกินแค่ชิ้นเดียว   เขาติดป้ายไว้เลยนะว่าซ่อมได้ทุกอย่าง แต่ถ้าจะเรียกต้องเคาะประตูเอา เพราะออดหน้าร้านมันพังอยู่   โปสเตอร์ที่ทำจากกระดาษ เขียนว่า “ช่วยกันรักษาต้นไม้เอาไว้” คนทำก็เข้าใจคิดเนาะ   สบายใจได้แล้วครับเพราะไม่ว่าจะเป็นช้างม้าวัวควายก็ไม่สามารถหลุดไปไหนได้แล้ว ในเมื่อผมกั้นรั้วเอาไว้เรียบร้อย   ไปทำเล็บร้านไหนมาน่ะตัวเธอ ดูเด่นขึ้นมาเชียว   เจ๊เขาคงจะกลัวเปียกมากๆ เลยนะ   เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่านี่คือรถส่งพิซซ่าจากร้านโดมิโน่…   เข้าใจเลือกการแต่งตัวและที่จอดรถนะครับ กลมกลืนกันดีจริงๆ   ตื่นนอนตอนเช้ามันก็จะเบลอๆ หน่อยแหละ   สะอาดกันไปทั้งคนทั้งรถเลยนะเนี่ย   แม้ว่าจะไม่รู้จักกันเลย แต่พอเดินไปไหนมาไหนคนอื่นก็คิดว่ามากันเป็นครอบครัว  …

  • ชายแก่ผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดทำให้เขาเก็บสะสมขยะและของทุกชิ้นเอาไว้จนล้นบ้าน

    ชายแก่ผู้ป่วยเป็นโรคประหลาดทำให้เขาเก็บสะสมขยะและของทุกชิ้นเอาไว้จนล้นบ้าน

    คนเก็บขยะเป็นเหมือนกับอาชีพที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนใหญ่พวกเขาก็จะนำไปขายเพื่อเอาเงินไปทำอย่างอื่น แต่ไม่ใช่กับชายคนนี้เพราะเขาเก็บขยะทุกชิ้นเอามาไว้ในบ้านของตัวเองซะอย่างนั้น ชายแก่วัย 60 ปีที่ชื่อว่า Jean เขาป่วยเป็นโรคที่ชื่อว่า Diogenes Syndrome ทำให้เขาไม่สนใจที่จะดูแลตัวเองเลยและยังมีพฤติกรรมประหลาดอีกอย่างคือ เขาจะออกไปเก็บขยะมาไว้ที่บ้านของตัวเองทุกวัน   เพราะโรคประหลาดหายากนี้ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เหมือนใคร   กองขยะที่เก็บเอาไว้จนแทบไม่เหลือพื้นที่ทางเดิน   ชายคนนี้เคยเป็นช่างเทคนิคงานก่อสร้างมาก่อน จนกระทั่งปี 2002 เขาได้เกษียณตัวเองและออกมาประทังชีวิตด้วยของที่เก็บได้จากถังขยะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเงินเลย เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้นำมรดกที่ได้มาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเท่านั้นเอง   ในทุกคืนเขาจะออกบ้านไปเก็บขยะมาเรื่อยๆ โดยไม่สนว่าชีวิตของตัวเองจะเป็นอย่างไร   ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้อะไรก็ตามเขาจะนำกลับไปด้วยเสมอ   หรือแม้แต่อาหารที่ไม่ต้องเสียเงินเลยซักบาทก็อิ่มท้องได้   หากปล่อยให้เขาเก็บทุกอย่างมาไว้ในบ้านไปเรื่อยๆ แบบนี้มีหวังคงได้จมกองขยะตายแน่ๆ ทางรัฐบาลจึงบังคับให้มีการเก็บกวาดบ้านปีละหนึ่งครั้งเพื่อป้องกันในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัย โดยการทำความสะอาดทุกครั้งชายแก่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง   เขาต้องจ่ายเงินให้คนที่เข้ามาทำความสะอาดให้ด้วยตัวเอง   รัฐบาลบังคับให้ทำความสะอาดเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยในการใช้ชีวิต   พฤติกรรมแปลกๆ นี้ทำให้ช่างภาพชาวฝรั่งเศส Arnaud Chochon สนใจเข้ามาเก็บภาพการใช้ชีวิตของชายแก่ ช่างภาพคนนี้ใช้เวลากว่า 3 เดือนในการขอให้ชายแก่อนุญาตให้เขาเข้าบ้าน หลังจากนั้นการตามเก็บภาพต่างๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น   เศษอาหารที่กินไปทุกอย่างถูกเก็บเอาไว้ ไม่ได้นำออกไปทิ้ง   ประตูที่ถูกปิดตายด้วยกองขยะขนาดมหึมา…

  • เมืองหนึ่งในอิตาลีที่อยากให้คนย้ายเข้าไปอยู่ จนถึงกับยอมควักเงินจ่ายให้เลยนะเออ

    เมืองหนึ่งในอิตาลีที่อยากให้คนย้ายเข้าไปอยู่ จนถึงกับยอมควักเงินจ่ายให้เลยนะเออ

    เราต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากให้กับการย้ายบ้านหรือย้ายที่อยู่ ทั้งเรื่องรถขนของ ค่าเช่าบ้านใหม่ ค่าซ่อมแซมอื่นๆ แต่ถ้าคุณได้ย้ายมาที่เมืองนี้รับรองว่าไม่ได้ทำให้คุณเสียเงินเพียงอย่างเดียว เพราะคุณจะได้รับเงินค่าตอบแทนที่ย้ายเข้ามาอีกด้วย เมืองดังกล่าวมีชื่อว่า Candela ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยพวกเขาได้ให้ข้อเสนอเอาไว้ว่าถ้าหากคุณย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง จะทำให้ได้รับเงินมากกว่า 78,000 บาทเลยทีเดียว   .   เหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นก็เพราะจำนวนประชากรที่ลดลงไปมาก จากที่เคยมีคนอยู่กว่า 8,000 คนตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ 2,700 คนเท่านั้นเอง เมื่อคนหายไป ความครึกครื้นมีชีวิตชีวาของเมืองก็หายตามไปด้วย วัยรุ่นหนุ่มสาวส่วนใหญ่ก็หนีไปที่อื่น เหลือไว้เพียงแค่ผู้เฒ่าผู้แก่ เพราะอย่างนั้นหากปล่อยทิ้งไว้เมืองนี้คงกลายเป็นเมืองร้างอย่างแน่นอน Nicola Gatta นายกเทศมนตรีประจำเมืองจึงไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ เขาจึงคิดข้อเสนอใหม่สำหรับดึงดูดให้คนเข้ามาอยู่กันมากขึ้น   สังเกตเห็นได้ว่าในเมืองมีผู้สูงอายุอยู่กันเป็นส่วนใหญ่   ถนนที่ทอดยาวเชื่อมหาเมืองใกล้ๆ   ข้อเสนอนั้นคือการมอบเงินค่าตอบแทนให้โดยแบ่งตามจำนวนคนในครอบครัว ถ้ามาแบบคนเดียวโสดๆ ก็จะได้รับ 30,000 บาท มากับแฟนได้ 46,000 บาท มาเป็นครอบครัวสามคนได้ 70,000 บาท และถ้าหากมากัน 4 – 5 คนจะได้มากกว่า 78,000 บาทกันไปเลย และยังมีเรื่องของภาษีค่าใช้จ่าย…

  • 20 ต้นไม้ประหลาดที่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เพราะดันไปเหมือนกับสิ่งอื่นซะได้

    20 ต้นไม้ประหลาดที่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง เพราะดันไปเหมือนกับสิ่งอื่นซะได้

    ธรรมชาติบนโลกเต็มไปด้วยความลึกลับและลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ทำให้สิ่งเหล่านั้นดูน่าสนใจ ทำให้โลกเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันกับต้นไม้เหล่านี้ที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่มันมาพร้อมกับความแปลกแหวกแนวที่ไม่เหมือนต้นไม้ต้นอื่น เพราะรูปร่างของมันดันไปเหมือนกับอย่างอื่นมากกว่าเนี่ยสิ… เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าแต่ละต้นมันดูพิลึกมากขนาดไหน   นี่มันใบหน้าของคนกำลังงีบหลับชัดๆ   ปีศาจกำลังจะขึ้นมายึดครองโลกแล้ว   ขับรถผ่านตอนกลางคืนเห็นอย่างนี้คงตกใจแย่ ก็แล้วใครไปเติมตาให้มันกันล่ะ?!   อย่าทิ้งผมไปเลยนะที่รัก ผมทำใจไม่ได้จริงๆ   ก้นนี่อวบอิ่มเชียว แต่รู้สึกผิวแห้งไปหน่อยนะ   จมูกใหญ่เหมือนกลัวจะรับออกซิเจนเข้าไปได้ไม่เต็มปอด   ใครบอกว่าไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปแล้ว นี่ไงเจ้า Tree-Rex   เจ้านกฮูกมองมาตากลมโต   แยกไม่ออกเลยว่าเป็นกระโหลกสัตว์หรือซากต้นไม้กันแน่   สงสัยเป็นหนึ่งในวิธีซ่อนตัวของนินจาเต่า   หมึกยักษ์ทำไมมาโผล่ในป่าได้เนี่ยยย   อย่าเศร้านักสิเจ้าต้นไม้ผู้เดียวดายเอ๋ย   ก็อตซิลล่ากำลังจะหม่ำดวงจันทร์เข้าไปแล้ววว   ไม่ต้องตกใจเบอร์นั้นก็ได้..   นี่คือต้นสับปะรดสินะ เพราะว่ามีตารอบตัว   ใครเขาเอาหน้ากากมาฝังเอาไว้ละเนี่ย   นี่แหละที่เขาเรียกว่ามีเทพคุ้มครองของจริง   หน้าคุณยายดูเครียดๆ นะครับ   มีรอยยิ้มที่มุมปาก เห็นแล้วก็อารมณ์ดีตามไปด้วยเลย   อย่าเพิ่งงอนสิ…

  • ร้านก๋วยเตี๋ยวใจงาม แจกอาหารเช้าให้กับคนกวาดถนนกว่า 20,000 ถ้วย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

    ร้านก๋วยเตี๋ยวใจงาม แจกอาหารเช้าให้กับคนกวาดถนนกว่า 20,000 ถ้วย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

    การช่วยเหลือคนที่กำลังลำบากไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงเจ้าของธุรกิจเล็กๆ แต่มันก็ไม่ใช่อุปสรรคในการทำสิ่งที่ดีให้แก่สังคม เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชื่อ Sun Zhiwen ได้ติดป้ายประกาศไว้หน้าร้านว่า “อาหารเช้าฟรีสำหรับคนกวาดถนน ทหาร และคนแก่ที่อายุมากกว่า 70 ปี”   คนกวาดถนนสามารถเข้ามากินอาหารเช้ากันได้แบบฟรีๆ   ร้าน Loving Heart Tofu นี้ตั้งอยู่ในเมืองจุนอี้ มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 2015 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 ปี เขาได้แจกจ่ายอาหารเช้าให้กับผู้คนไปมากกว่า 20,000 ถ้วยเลยทีเดียว เขาได้ให้เหตุผลว่า “คนกวาดถนนต้องเจอกับภาระหนักเอามากๆ โดยเฉพาะในฤดูหนาว ที่พวกเขาต้องตื่นแต่เช้าและไม่ได้กินอะไรจนถึงเที่ยง ผมจึงหวังที่จะมอบอาหารเหล่านี้ให้พวกเขาได้กินกันในตอนพักระหว่างงาน”   เจ้าของร้านที่ทำให้หลายๆ คนได้อิ่มทั้งกายและใจ   ส่วนสำคัญที่ทำให้เขาแจกอาหารฟรีเป็นเพราะว่าตั้งแต่เด็กเขาต้องโตมากในครอบครัวที่ยากจน แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากคนรอบข้างมาตลอดจนเขาสามารถมีวันนี้ได้ จึงอยากแบ่งปันความรู้สึกดีๆ นี้ไปให้ผู้อื่นด้วย “ผมเป็นเพียงคนทำธุรกิจทั่วๆ ไป แต่ไม่จำเป็นว่ารายได้จะมากน้อยแค่ไหน ผมเพียงให้ทุกๆ คนได้รู้สึกอบอุ่นเหมือนกับที่ผมเคยได้รับมาตลอด” เขากล่าว   เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ไม่เกินกำลังตัวเอง เพื่อช่วยผู้อื่นให้ได้มากที่สุด   ในอนาคตชายคนนี้ตั้งใจว่าอยากเพิ่มสาขาออกไปอีกหลายแห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความสุขให้ผู้คนได้มากยิ่งขึ้น…

  • การคอสเพลย์แบบจัดหนักจัดเต็มในงาน NYCC เมื่อมีเจ้า Bumblebee ตัวมหึมาเดินอยู่ในงาน

    การคอสเพลย์แบบจัดหนักจัดเต็มในงาน NYCC เมื่อมีเจ้า Bumblebee ตัวมหึมาเดินอยู่ในงาน

    ในงาน New York Comic Con 2017 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 – 8 ตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ร่วมงาน ด้วยการแต่งกายของแต่ละคนแต่ละซุ้มที่เรียกว่าจัดหนักจัดเต็ม แต่การคอสเพลย์ที่พิเศษสุดๆ ชนิดที่ว่าทุกคนในงานต้องพูดถึง คือการแต่งเป็นหุ่นยนต์ Bumblebee ผลงานของ Thomas DePetrillo   หุ่นยนต์สุดเท่ หนึ่งในตัวเอกจากหนังเรื่อง Transformers   ชายคนนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มที่ชื่อว่า Extreme Costumes โดยเขาได้กลายเป็นจุดสนใจของคนรอบข้างทันทีที่ก้าวเข้าไปภายในงาน   การโชว์ตัวของเจ้าหุ่นยักษ์ Bumblebee   ความเจ๋งที่สามารถเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี บวกกับขนาดอันมหึมาแต่กลับสามารถขยับ เดินไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ บอกได้เลยว่านี่คือผลงานที่เยี่ยมที่สุดของปีนี้อย่างแน่นอน   ขนาดใหญ่สูงเป็นเท่าตัวของขนาดคนเลยทีเดียว   ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างจริงๆ   ไม่แปลกเลยที่เวลาเดินไปไหนก็จะตกเป็นเป้าสายตา   ไม่รู้ว่าในงาน Comic Con บ้านเราจะมีอะไรแบบนี้ให้เห็นกันบ้างมั้ยเนี่ยยย   ที่มา: cosplay.kotaku

  • ชายหนุ่มโดนจับเพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าน้ำตาลไอซิ่งคือยาไอซ์ ฟ้องกลับได้เงินกว่า 1 ล้านบาท

    ชายหนุ่มโดนจับเพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าน้ำตาลไอซิ่งคือยาไอซ์ ฟ้องกลับได้เงินกว่า 1 ล้านบาท

    บางครั้งเราก็อาจเข้าใจผิดคิดว่าสิ่งนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่ง อย่างเช่นคิดว่าน้ำตาลเป็นเกลือหรือถ้าหนักกว่านั้นหน่อยก็อาจคิดว่าน้ำตาลเป็นยาไอซ์ก็ได้ เหมือนกับที่ชายคนนี้โดนตั้งข้อหาและถูกจับในวันที่ 11 ธันวาคม 2015 นี่เป็นเรื่องราวของ Daniel Rushing วัย 65 ปี ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้วเขาถูกตรวจค้นรถขณะที่กำลังขับไปห้างสรรพสินค้า ก่อนที่เขาจะถูกจับข้อหามีอาวุธและสารเสพติดไว้ในครอบครอง เขาได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขามีใบอนุญาตครอบครองอาวุธอย่างถูกกฎหมาย ส่วนเรื่องของสารเสพติดก็ยืนยันว่าเศษผงบนพื้นรถที่ตำรวจพบเป็นน้ำตาลที่หล่นมาจากโดนัทที่เขากินไปเท่านั้นเอง   Krispy Kreme โดนัทร้านโปรดของเขา   ถึงอย่างนั้นเจ้าหน้าที่ Shelby Riggs-Hopkin ไม่เชื่อในคำแก้ตัวของเขาและบอกว่า “จากประสบการณ์เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกว่า 11 ปีของฉัน บอกได้เลยว่าเจ้าสิ่งนี้ต้องเป็นยาเสพติดแน่นอน” เพื่อความแน่ใจเธอจึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ทำการทดสอบตรงด่านข้างถนนทันที เพื่อดูว่ามันใช่ยาเสพติดจริงหรือไม่ และผลลัพธ์ก็ออกมาว่ามันเป็นสารที่ใช้ในยาเสพติดจริง ทำให้ Daniel ถูกตั้งข้อหาและถูกจับกุมตัวไปขังเอาไว้นานกว่า 10 ชั่วโมงก่อนที่จะถูกประกันตัวออกมาด้วยเงินกว่า 80,000 บาท   ภาพถ่ายที่ต้องการจะสื่อว่า เขาถูกจับเพียงเพราะโดนัทเนี่ยนะ?!   แต่แล้วคดีก็พลิกเพราะหลังจากที่เศษผงดังกล่าวถูกส่งต่อไปตรวจในห้องแล็บที่ฟลอริด้าหลายสัปดาห์ต่อมา ผลตรวจกลับออกมาว่าสิ่งนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสารเสพติดเลย นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มจ้างทนายและฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รัฐในทันที เพราะเขารับไม่ได้ที่ต้องมาถูกจับโดยไม่มีเหตุผล ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกมาบอกกับสื่อว่า ตำรวจที่ทำการตรวจสอบสารเสพติดตรงด่านตรวจไม่ได้รับการฝึกอบรมที่เพียงพอ ทำให้การใช้เครื่องมือตรวจได้ผลลัพธ์ที่คลาดเคลื่อน ส่วนเจ้าหน้าที่ Shelby ก็ได้ถูกตำหนิและลาออกไป…

  • ภารกิจตามหา iPhone ที่หายไป พบว่ามันหนีได้ด้วยว่ะแม่ม… อ๋อ มันอยู่ตรงเบาะข้างๆ ตรูนี่เอง

    ภารกิจตามหา iPhone ที่หายไป พบว่ามันหนีได้ด้วยว่ะแม่ม… อ๋อ มันอยู่ตรงเบาะข้างๆ ตรูนี่เอง

    ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้ช่วยให้หลายอย่างในชีวิตของเราปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นสมาร์ทโฟนที่เรามีกันเกือบทุกคน มันก็จะมีฟังก์ชั่นหรือแอปภายในเครื่องที่ช่วยปกป้องข้อมูลและตามหามันได้อย่างง่ายดาย แต่ในบางครั้งมันก็อาจทำให้เรื่องเล็กๆ อย่างการลืมมือถือเอาไว้ กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาก็ได้ เช่นเดียวกับกรณีของชายวัย 36 ปีคนนี้ เขามีชื่อว่า Gareth Robinson อาศัยอยู่ในเมืองแบรดฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาพบว่ามือถือไอโฟนของเขาได้หายไป และเชื่อว่ามันต้องถูกขโมยอย่างแน่นอน   Gareth และภรรยา Caroline   หลังจากนั้นเขาก็รีบเปิดไอแพดขึ้นมาและเข้าแอปที่ชื่อ Find My iPhone เพื่อตามหามือถือที่หายไปของเขา พบว่าจุดที่แสดงภายในแผนที่อยู่ในบริเวณบ้านนี่เอง เขาได้เขียนลงในเฟซบุ๊กว่า “ผมขับรถหาไปรอบๆ นานเป็นชั่วโมง เพราะตอนที่ใกล้จะถึงตัวโจรแล้วมันก็จะขยับหนีผมไปทุกที มันต้องรู้แล้วแน่ๆ ว่าผมกำลังไล่ตามอยู่”   หนีไม่พ้นหรอกเจ้าโจรกระจอกเอ๊ยยย   สุดท้ายแล้วความจริงก็ได้เผยออกมา เมื่อเขาเหลือบไปเห็นไอโฟนสุดที่รักอยู่บนที่นั่งข้างคนขับนี่เอง!! เล่นเอาซะเขินกันไปเลย สังเกตได้ว่าภายในแอปมันจะบอกเป็นวงกว้างว่ามือถืออยู่ในบริเวณไหน ไม่ได้เฉพาะเจาะจงไปที่ใดที่หนึ่งทำให้เขาต้องขับรถวนหาซะทั่ว นอกจากนั้นเวลาขับรถไปหาวงมันก็จะขยับตามไปจนเหมือนกับว่าโจรมันวิ่งหนีเขานี่เอง   เงิบกันมั้ยละครับคุณผู้ชม   สุดท้ายเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับเขา รวมถึงภรรยา Caroline ที่เตือนแล้วว่ามันอาจไม่ได้ถูกขโมยแต่แค่ลืมไว้ก็ได้ ถ้าค่อยๆ หาแต่แรกก็คงไม่ต้องเปลืองน้ำมันแล้ววว เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าก่อนที่จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เราต้องอย่าลืมจัดการปัญหาด้วยตัวเองอย่างรอบคอบและไตร่ตรองให้ดีเป็นอันดับแรก   ที่มา: ladbible

  • เรื่องราวแสนประทับใจ เมื่อ 4 พี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานานกว่า 30 ปี ได้เจอกันเป็นครั้งแรก

    เรื่องราวแสนประทับใจ เมื่อ 4 พี่น้องที่พลัดพรากจากกันมานานกว่า 30 ปี ได้เจอกันเป็นครั้งแรก

    เคยคิดกันบ้างมั้ยว่าแท้จริงแล้วเราอาจมีพี่น้องที่พลัดพรากจากกันไปก็เป็นได้ เหมือนกับหญิงสาวคนนี้ที่ได้ไปเจอกับพี่น้องร่วมสายเลือดถึง 3 คนเลยทีเดียว!! เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในรัฐวอชิงตัน เมื่อ Christina Housel หญิงสาวที่ถูกรับมาเลี้ยงและไม่เคยเจอหน้าหรือรู้จักแม่ที่แท้จริงของตัวเองมาก่อน จนตอนนี้เธอโตขึ้นมีครอบครัวมีลูกจึงเริ่มสงสัยและสืบหาดูว่าครอบครัวที่แท้จริงของเธอ   หญิงสาวที่ต้องการตามหาครอบครัวที่แท้จริง   จนกระทั่งได้พบกับน้องชายของเธอ Lyle James Berryman ที่อาศัยอยู่ในรัฐแอริโซนา เธอจึงรีบเดินทางไปหาเขาในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Lyle บอกว่า “เห็นปุ๊บผมก็รู้ปั๊บว่าเธอคือพี่สาวผม เพราะหน้าเราเหมือนกันมาก”   ใบหน้าที่มีความเหมือนกันทำให้เขาสามารถรับรู้ได้ในทันทีที่เห็น   ทั้งสองได้ใช้เวลาพูดคุยกัน เขาได้โชว์รูปแม่ให้เธอได้ดู แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าการได้เห็นหน้าแม่ครั้งแรกก็คือ เขาบอกกับเธอว่าแม่ได้สารภาพเอาไว้ก่อนจากโลกนี้ไปว่าความจริงแล้วทั้งคู่มีน้องสาวฝาแฝดอีกสองคน   คุณแม่ที่ได้จากโลกนี้ไปแล้ว   การตามหาครั้งใหม่จึงเริ่มต้นขึ้น โดนทั้งสองได้ถ่ายรูปอัพลงเฟซบุ๊กและขอให้ชาวเน็ตช่วยกันแชร์เรื่องนี้ออกไป ผลตอบรับที่ออกมาคือมีการแชร์มากกว่า 225,000 ครั้ง   ทั้งสองต้องการตามหาฝาแฝดที่เกิดในฟลอริด้า เมื่อปี 1992 – 1994 ได้รับความช่วยเหลือจากชาวเน็ตอย่างท่วมท้น   จากการช่วยเหลือของทุกคนบนโลกออนไลน์จึงทำให้ 1 สัปดาห์ต่อมาพวกเธอก็ได้รับการติดต่อจากแฝดสาวคู่หนึ่ง Ashley Bo และ Lauren Rutherford  …

  • เปิดตำนาน 7 เมืองที่หายสาบสูญไปของโลก อารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมาก่อน

    เปิดตำนาน 7 เมืองที่หายสาบสูญไปของโลก อารยธรรมที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมาก่อน

    โลกของเรามีอยู่มาอย่างยาวนานและเกิดการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการที่ไม่รู้จบ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าสิ่งที่เราเห็นและรับรู้ได้ในปัจจุบันยังคงไม่ใช่ทุกสิ่งที่โลกเรามีหรือเคยมี วันนี้ #เหมียวตะปู จึงชวนให้เพื่อนๆ มารู้จักกับ 7 ตำนานเมืองที่สาบสูญไปของโลก ที่ความเป็นจริงแล้วในสมัยก่อนเราอาจเคยมีอารยธรรมที่รุ่งเรืองมากกว่าตอนนี้ก็เป็นได้ เราไปดูกันเลย   Lemuria   จากการสันนิษฐานของนักวิชาการชาวอังกฤษเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เชื่อมระหว่างศรีลังกา ออสเตรเลีย และเกาะมาดากัสการ์รวมกันเป็นแผ่นดินใหญ่ก่อนที่จะจมหายไปใต้ก้นมหาสมุทร และชื่อ Lemuria ถูกตั้งมาจากชื่อของตัว ลีเมอร์ (Lemur) ซึ่งเป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นได้จากทั้งสามแห่ง นอกจากนั้นก็มีความเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของชาวทมิฬ กลุ่มประชากรที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยตามภาษาทมิฬแล้วที่แห่งนี้จะมีชื่อว่า Kumari Kandam   Mu   เป็นดินแดนที่เชื่อว่าเคยอยู่ระหว่างทวีปอเมริกาและเอเชีย คาดว่าเป็นที่อยู่อาศัยของประชากร Naacals ต้นกำเนิดของมนุษย์ที่ย้อนกลับไปเมื่อ 50,000 ปีที่แล้ว ผู้สร้างพีระมิดในอียิปต์หรือชาวมายันก็ถูกสันนิษฐานว่าจะอพยพออกมาจากดินแดนแห่งนี้ในตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่จนทำให้สถานที่นี้จมลงไปใต้มหาสมุทร เคยมีทฤษฎีที่บอกเอาไว้ด้วยว่าโขดหินใต้น้ำโยนากุนิ ในประเทศญี่ปุ่น เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงการมีอยู่ของ Mu   Beringia   ดินแดนที่เปรียบได้กับสะพานขั้นกลางระหว่างทวีปเอเชียและอเมริกาเหนือ ก่อนที่จะจมหายพร้อมกับการสิ้นสุดยุคน้ำแข็งเมื่อ 12,000 ปีก่อน มีทฤษฎีที่เชื่อว่า 25,000 ปีก่อนมีผู้คนย้ายถิ่นฐานมาจากไซบีเรีย ผ่านไป 10,000 ปีพวกเขาได้อพยพไปอเมริกาเหนือและค่อยกระจายลงไปอเมริกาใต้ จึงเชื่อว่าพวกเขาอาจเป็นบรรพบุรุษของชาว…

  • 25 ภาพหลอนสยองวินเทจที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายคล้ายจะโดนเข้าสิง!!

    25 ภาพหลอนสยองวินเทจที่จะทำให้คุณนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายคล้ายจะโดนเข้าสิง!!

    ความสยดสยองบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องเจอด้วยตาของตัวเองตรงๆ เพราะเพียงแค่ฟังเรื่องเล่าหรือเห็นรูปภาพบางอย่างก็สามารถทำให้คุณรู้สึกขนหัวลุกแล้ว เช่นเดียวกับภาพวินเทจเหล่านี้ที่ไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรมันก็ทำให้คุณรู้สึกกลัวการอยู่คนเดียวได้อย่างง่ายดาย ไม่เชื่อลองไปชมกันเลย   โครงกระดูกและหัวกระโหลกที่เรียงไว้อย่างสวยงามในที่ฝังศพใต้โบสถ์ Capuchin ในกรุงโรม ตอนประมาณปี 1900   ช่วงศตวรรษที่ 19 นักมานุษยวิทยาเผยภาพหัวมนุษย์ที่ถูกล่าในประเทศเอกวาดอร์   ผลงานของนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส สร้างชีวิตให้กับตุ๊กตาเด็กในช่วงศตวรรษที่ 18   ภาพของเด็กน้อยเล่นกับปีศาจ Krampus โดยไม่รู้สึกกลัวอะไร ตอนประมาณปี 1900   การมาเยือนของแขกไม่ได้รับเชิญที่มาอย่างเงียบเชียบ ในปี 1860   ภาพถ่ายของ “Lionel เด็กชายหน้าสิงโต” ที่กำลังมีชื่อเสียงในปี 1907   Lon Chaney ตัวตลกผู้เป็นมิตรที่ได้แสดงในละครใบ้ชื่อ He Who Gets Slapped ปี 1924   ภาพของผู้หญิงไร้หัวหนึ่งในการแสดงบนเกาะ Coney Island สหรัฐอเมริกา ปี 1945   สถานที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรมในยามค่ำคืน วันที่ 11…

  • 20 ภาพบนโลกโซเชียล กับเบื้องหลังที่ทำให้เราได้รู้ว่า โลกเรามีสองด้านเสมอ…

    20 ภาพบนโลกโซเชียล กับเบื้องหลังที่ทำให้เราได้รู้ว่า โลกเรามีสองด้านเสมอ…

    บนโลกโซเชียล ทุกคนสามารถนำเสนอสิ่งต่างๆ ได้อย่างอิสระเพื่อให้เพื่อนในสังคมออนไลน์รู้จักเราได้มากขึ้น (เท่าที่เราต้องการ) แต่สิ่งที่แสดงออกมาก็ไม่ได้เป็นเรื่องจริงทั้งหมดเสมอไปหรอกนะ เพราะหลายคนที่ต้องการให้มียอดไลก์เยอะๆ พวกเขาก็พร้อมที่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูเพอร์เฟคท์มากที่สุด ด้วยวิธีการที่บางทีเราอาจคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เราลองไปดูตัวอย่างเหล่านี้กันว่าความจริงกับสิ่งที่เราเห็นมันต่างกันมากเพียงใด   มีความเซ็กซี่ที่ใบหน้า   บางทีก็อยากจะมีไม้เซลฟี่เป็นของตัวเองบ้าง   ต้นไม้ในหน้าร้อนนี่มันช่างน่าหลงใหลเสียเหลือเกิน   เก็บตังมาทั้งปี ในที่สุดผมก็ได้มาเที่ยวดูไบแล้ววว   ความอึ๋มที่ไม่ต้องผ่านมีดหมอ แต่ขอแค่ผ่านมือเพื่อน   แล่นเรือออกไปยามอาทิตย์อัสดงช่างโรแมนติกเสียจริง   ห้องครัวใหม่ไฉไลกว่าเดิม แต่จะทำกับข้าวทีนึงก็ต้องขับรถมาห้างก่อนนะ   เขาคงมีความสุขมากที่ได้ออกไปเที่ยวกับสุดที่รัก   แฮมเบอร์เกอร์ใหญ่ขนาดนี้ ใครจะไปกินหมดกันละ   โต๊ะทำงานใหม่ริมชายหาด ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ   ถ้าตกลงไปนี่พิการแน่นอน   เป็นบั้นท้ายที่เนียนสวยอย่างกับตูดเด็ก   เจ้าหมาตัวนี้เก่งจริงสามารถลงไปเดินบนหน้าผาสูงชันได้ด้วย   น้องหมาที่ได้รับรางวัลมา 4 สมัยติดต่อกันแล้ว   บางครั้งก็อยากจะออกไปนอนเล่นท่ามกลางธรรมชาติบ้าง   การเป็นบล็อกเกอร์อาหารไม่ใช่เรื่องง่ายเลย   วันนี้ผมได้นั่งเครื่องกับสาวผมบลอนด์มัดจุกด้วยแหละ เธอน่ารักมากเลย   จู่ๆ เธอก็อารมณ์ดีเดินไปสูดความเขียวขจีอยู่ริมรั้ว   มัลดีฟ…

  • เมื่อ ‘เจ้าหมึกยักษ์’ จำใบหน้าของคนที่ช่วยมันไว้ได้ วันรุ่งขึ้นมันจึงกลับมาขอบคุณพวกเธอ

    เมื่อ ‘เจ้าหมึกยักษ์’ จำใบหน้าของคนที่ช่วยมันไว้ได้ วันรุ่งขึ้นมันจึงกลับมาขอบคุณพวกเธอ

    แทบทุกคนจะรู้จักสัตว์ที่มีชื่อว่า หมึกยักษ์ กันอยู่ก่อนแล้ว แต่เคยรู้มั้ยว่าเจ้าสัตว์ชนิดนี้มีความสามารถพิเศษในการจดจำใบหน้าของคนได้ด้วย!! ในปี 2010 ได้มีการทดลองให้ผู้ชายคนหนึ่งไปแหย่มันเล่นเบาๆ และอีกคนหนึ่งไปคอยให้อาหารพวกมัน พอผ่านไป 2 สัปดาห์เจ้าหมึกยักษ์สามารถจดจำได้ว่าใครเป็นใคร ทำให้มันหนีชายคนแรกและว่ายน้ำเข้าหาชายคนที่สองเท่านั้น หากคุณยังไม่เชื่อว่าพวกมันสามารถจำหน้าเราได้จริงๆ ก็ต้องลองมาดูเหตุการณ์นี้ เมื่อผู้ใช้ยูทูปชื่อว่า Helena ได้โพสต์คลิปบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจที่มีให้กับเจ้าหมึกยักษ์ตัวหนึ่งเอาไว้     ในวันที่ 2 ธันวาคม 2014 เธอได้เผยแพร่วิดีโอโดยเล่าว่า “ฉันและเพื่อนได้ไปเที่ยวทะเลแดงในมหาสมุทรอินเดียช่วงวันหยุด ขณะที่เดินเล่นริมชายหาดกันตามลำพังก็เจอกับเจ้าหมึกยักษ์ตัวหนึ่งมานอนเกยฝั่งอยู่” พวกเธอไม่แน่ใจว่ามันตายแล้วหรือยัง เลยดันมันลงน้ำเผื่อว่าอาการจะดีขึ้น จากนั้นไม่กี่นาทีมันก็กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งก่อนจะว่ายจากไป   บ๊ายบายนะเจ้าหมึก   ในวันต่อมาพวกเธอมาเดินเล่นชายหาดแห่งนี้อีกครั้งและเห็นว่ามีบางอย่างว่ายเข้ามาหาพวกเธอ พอดูดีๆ ทำให้รู้ว่ามันคือเจ้าหมึกยักษ์ตัวเดิมนี่เอง “ฉันรู้เลยว่ามันจำพวกเราได้เพราะมันพยายามเข้ามาแตะตัวฉันและเพื่อน เราเดินไปไหนมันก็จะว่ายตามไปด้วย อยู่กับเรานานกว่าชั่วโมงนึงเลย” เธอได้บอกเอาไว้ในคลิป   ไม่ยอมไปไหน อยากจะอยู่กับคนที่ช่วยมันไว้อย่างเดียวเลย   คลิปเจ้าหมึกว่ายน้ำกลับมาขอบคุณผู้ช่วยชีวิต   พวกเธอเชื่อว่ามันว่ายกลับมาเพื่อขอบคุณที่ได้ช่วยชีวิตมันเอาไว้แน่นอน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่คิดว่ามันจะฉลาดขนาดนี้ สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่า Kurt และตั้งใจที่จะไม่กินหมึกยักษ์อีกต่อไป ทำตัวน่ารักซะขนาดนี้ก็ไม่แปลกที่เธอคงจะกินเพื่อนๆ มันไม่ลงละนะ   ก็น่ารักซะขนาดนี้ ใครจะไปใจจืดใจดำกินพวกมันได้ลงคอ…

  • คุณพ่อชาวจีนใช้เท้าปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัวเด็ก ในตอนกลางวันแสกๆ

    คุณพ่อชาวจีนใช้เท้าปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัวเด็ก ในตอนกลางวันแสกๆ

    อันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาเพราะฉะนั้นเพื่อนๆ ควรจะต้องสังเกตและระวังภัยรอบข้างอยู่เสมอ เหมือนกับคุณพ่อชาวจีนคนนี้ เมื่อในวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมากล้องวงจรปิดในประเทศจีนได้จับภาพโจรพยายามลักพาตัวเด็กผู้หญิงวัยแบเบาะ ก่อนที่พ่อของเด็กคนนั้นจะเตะเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยจนทำให้โจรต้องรีบหนีออกไปในที่สุด     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนในเมือง Fujin มณฑลเฮย์หลงเจียง ในขณะที่คุณพ่อและเด็กน้อยกำลังเลือกสินค้ากันอยู่ได้มีผู้ชายสวมเสื้อแขนยาวเอาฮู้ดคลุมหัวทำตัวมีพิรุธอยู่ด้านหลังของทั้งสอง คนขายในร้านได้เข้ามาเตือนคุณพ่อเอาไว้แล้วว่าให้ระวังชายคนนี้ และดูแลลูกสาวของตนเองไว้ให้ดี   ยืนมองมาอย่างมีพิรุธ คนขายของจึงได้เดินเข้าไปเตือน   หลังจากนั้นเมื่อพ่อลูกเดินออกจากบริเวณหน้าร้านไป ชายคนดังกล่าวก็เดินตามไปด้วยและพยายามฉุดกระชากแขนของสาวน้อยให้หลุดออกจากมือของผู้เป็นพ่อ เมื่อเห็นอย่างนั้นคุณพ่อจึงกุมมือลูกสาวเอาไว้แน่นก่อนที่จะเตะเข้าไปที่บริเวณท้องน้อยชองโจรหนุ่มอย่างแรง ทำให้เขาต้องยอมแพ้ปล่อยมือเด็กและรีบหนีไป   เมื่อพ่อลูกออกจากร้านไปชายคนนี้ก็รีบเดินตามทั้งสองไปในทันที   พยายามที่จะกระชากลูกสาวออกไปอย่างแรง   คุณพ่อที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วรีบปกป้องลูกสาว จนทำให้โจรหนุ่มรีบหนีไป   คลิปคุณพ่อปกป้องลูกสาวจากโจรลักพาตัว   ต่อมาได้มีการสอบถามพ่อค้าที่เห็นเหตุการณ์จึงทำให้รู้ว่าชายสวมฮู้ดคนนี้เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันเมื่อ 3 หรือ 4 วันก่อน โดยพยายามที่จะกระชากเด็กสาวออกมาจากแม่ของเธอ นอกจากนั้นคนขายก็บอกอีกว่าชายคนดังกล่าวดูเหมือนว่าจะมีอาการป่วยทางจิต   คนขายที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดและเชื่อว่าชายสวมฮู้ดมีอาการป่วยทางจิต   อย่างไรก็ตามตำรวจประจำเมือง Fujin บอกว่าไม่เคยได้ยินว่ามีคนแจ้งข้อกล่าวหาในลักษณะนี้มาก่อนและย้ำกับชาวบ้านทุกคนว่า “หากมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน”   กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ตามร้านต่างๆ ช่วยระวังภัยเราได้เพียงส่วนเดียว   สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้เหมือนๆ กันคือการระวังตัวเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องร้ายๆ ได้…

  • สาวนักรักบี้ดาวรุ่งวัย 16 ปีตัดสินใจดับชีวิตตัวเอง เพราะตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งในโรงเรียน

    สาวนักรักบี้ดาวรุ่งวัย 16 ปีตัดสินใจดับชีวิตตัวเอง เพราะตกเป็นเหยื่อการกลั่นแกล้งในโรงเรียน

    การกลั่นแกล้งในโรงเรียนเป็นสิ่งที่ยังคงมีอยู่ในทุกสังคมและดูเหมือนว่ามันจะเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่บางครั้งพวกเขาอาจทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายจนคาดไม่ถึง เช่นเดียวกับกรณีของเธอคนนี้ เมื่อเด็กสาวนักกีฬารักบี้และกีฬาเนตบอลวัย 16 ปีที่ชื่อว่า Brooke Firth กำลังศึกษาอยู่กฎหมายในวิทยาลัย Sixth Form เมือง Wakefield ประเทศอังกฤษ ตัดสินใจฆ่าตัวตายในวันที่ 12 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา     ภายหลังการจากไปอย่างน่าเศร้าของเธอเพื่อนๆ ใน Sandal Girls RUFC ทีมรักบี้ที่เธอเล่นอยู่รวมถึงเพื่อนในทีมอื่นได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจลงโซเชียลมีเดีย และพูดว่าเหตุผลที่เธอทำอย่างนั้นเพราะถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก Ellie Smith “เป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างมากที่มีการกลั่นแกล้งคนคนหนึ่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง ขอให้ไปสู่สุขตินะเพื่อน” Tori-lea Harrison “ลาก่อนเพื่อนผู้เป็นที่รักและนักกีฬาเนตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุด หยุดการกลั่นแกล้งกันซักที!!” Paige Priestley “เลิกกลั่นแกล้งกันได้แล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยที่ต้องทำให้หลายคนต้องพบกับจุดจบแบบนี้”     โค้ชในทีมที่ชื่อว่า John Ledger ก็ได้พูดถึงเธอเอาไว้ว่า “Brooke เป็นเด็กดี สดใสร่าเริงและมีความสามารถเป็นที่รักของทุกคนที่รู้จัก เธอคือหนึ่งในสมาชิกกลุ่มแรกของทีมตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนที่มีกันอยู่แค่ 9 คน จนตอนนี้มีเกือบ 80 คนแล้ว และเธอเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับทีมมากกว่าใครๆ”…

  • ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ‘การนอนหลับ’ ให้ครบ 8 ชั่วโมงไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเสมอไป

    ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ‘การนอนหลับ’ ให้ครบ 8 ชั่วโมงไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดเสมอไป

    การนอนหลับให้ครบ 8 ชั่วโมงก่อนตื่นมาพบเช้าวันใหม่เป็นเรื่องที่เราทุกคนเข้าใจกันมาตั้งแต่เด็กว่าจะทำให้ร่างกายของเราสดชื่น และถือว่าเป็นการพักผ่อนที่เพียงพอ แต่ความเป็นจริงมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เมื่อ Nick Littlehales ที่ปรึกษาเรื่องการนอนหลับของนักฟุตบอลชื่อก้องโลกอย่าง Christiano Ronaldo ได้ออกมาบอกว่าแท้จริงแล้วการนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาแนะนำ วิธีที่เขาบอกว่าดีที่สุดก็คือการแบ่งเวลานอนเป็น 5 ครั้ง ครั้งละ 90 นาที จะทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน     แน่นอนว่าการจะแบ่งเวลานอนเป็นช่วงๆ คือสิ่งที่เราไม่เคยชินกับมันมาก่อน แต่สิ่งนี้เขาก็ยืนยันว่าจะทำให้การตื่นนอนของเราเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ถ้าหากบางคนไม่อยากไปรับการปรึกษาเพื่อบริหารเวลานอนให้ลงตัว เขาก็ได้แนะนำวิธีการแบ่งเวลานอนง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ที่ชื่อว่า web-blinds เพียงแค่ใส่เวลาที่คุณต้องตื่นมันก็จะคำนวนเวลาการการหลับ การตื่นนอนที่เหมาะสมให้ทันที แต่นอกเหนือจากเรื่องของเวลาก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้เราหลับสบายมากยิ่งขึ้น     อย่างแรกคือเรื่องของเตียงนอนที่เราใช้ ไม่จำเป็นต้องมีความหรูหราหรือฟูกหนาๆ แต่อย่างใด เพราะเขาบอกว่าการนอนให้สบายขอแค่ฟูกที่ด้านในเป็นแผ่นโฟมหนา 10 เซนติเมตรก็พอและถ้าผ้าปู ปลอกหมอนหรือผ้าห่มเพิ่งซักมาใหม่ๆ ก็จะยิ่งดีกับเรามากขึ้นอีก โดยผลลัพธ์นี้เขาได้มาจากการทำงานอยู่ในกลุ่ม Team Sky ที่ตามเก็บข้อมูลจากนักกีฬาในการแข่งขันปั่นจักรยานชื่อดังหลายแห่งเช่น Tour de France ที่จัดในฝรั่งเศส เขาบอกว่า “ลองคิดถึงฟูกเล็กๆ ที่เราใช้เวลาไปนอนเต้นท์หรือตั้งแคมป์ดูสิ ความหนาเพียง 10 เซนติเมตรก็สามารถทำให้เราตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นแล้วจริงมั้ย?”  …

  • ฝรั่งเขียนบทความ 15 เรื่องแปลกๆ ในประเทศญี่ปุ่น จากมุมมองของคนชาติตะวันตก…

    ฝรั่งเขียนบทความ 15 เรื่องแปลกๆ ในประเทศญี่ปุ่น จากมุมมองของคนชาติตะวันตก…

    เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประเทศญี่ปุ่น เคร่งครัดในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีอย่างมากและบางสิ่งก็มีความแตกต่างกับประเทศอื่นอย่างสิ้นเชิง แต่เพราะความไม่เหมือนใครของประเทศนี้บางครั้งก็อาจทำให้นักท่องเที่ยวต่างถิ่นรู้สึกใช้ชีวิตลำบากกันซะหน่อย โดยเฉพาะชาวตะวันตกทั้งหลายที่กับบางเรื่องพวกเขาถึงกับตกใจในความแปลกเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวเหล่านั้นจึงได้รวบรวมความจริงที่พวกเขาคิดว่าไม่มีใครเหมือนของประเทศนี้ เราไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง   โรงเรียนเปิดเทอมช่วงเดือนเมษายน . .   ที่ญี่ปุ่นสถานศึกษาจะเปิดเทอมแรกในเดือนเมษายนและทุกคนก็ต้องเรียนปีละ 3 เทอมด้วยกัน นอกจากนั้นทุกๆ ปีพวกเขาก็จะได้ย้ายห้องคละคนกันไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้เจอกับเพื่อนใหม่ สอนให้เด็กรู้ว่าเราไม่สามารถอยู่กับสังคมเดิมไปได้ตลอดแต่ต้องรู้จักเข้าสังคมเหมือนกับที่ต้องไปเจอในโลกภายนอก   ตุ๊กตาหิมะใช้บอลหิมะ 2 ลูก .   เกือบทั้งโลกตุ๊กตาหิมะจะมี 3 ลูกแตกต่างกับญี่ปุ่นที่มีแค่ 2 ลูกตั้งเรียงกัน   วัฒนธรรมการตีระฆัง 108 ครั้ง   ตามความเชื่อของศาสนาพุทธในญี่ปุ่นตัวเลข 108 คือจำนวนความปรารถนาของผู้คนที่แบ่งออกมาในรูปของสัตว์ต่างๆ ทุกปีตอนเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคมจะมีการตีระฆังเกิดขึ้นตามศาลเจ้าจนครบ 108 ครั้ง เพื่อปลดปล่อยความโชคร้ายและบาปของปีที่ผ่านมาให้หมดไป   ผู้พัน Sanders เป็นสัญลักษณ์ประจำวันคริสมาสต์   ผู้พันชื่อดังแห่งร้าน KFC คนนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ในวันคริสมาสต์ของญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลที่ว่าหลายครอบครัวจะชอบไปกินไก่ร้านนี้ในวันคริสมาสต์อีฟ ยิ่งไปกว่านั้นหากใครต้องการไปกินในช่วงวันหยุดปีใหม่ พวกเขาอาจต้องจองล่วงหน้านานอย่างต่ำ…

  • เจ้าหมาตาบอด Smiley ผู้ช่วยบำบัดรักษาเด็กๆ ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง

    เจ้าหมาตาบอด Smiley ผู้ช่วยบำบัดรักษาเด็กๆ ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง

    หลายคนอาจต้องเกิดมามีความผิดปกติทางร่างกายจนรู้สึกไม่อยากก้าวเดินต่อไป ถึงอย่างไรเราก็ต้องไม่ย่อท้อและใช้ทั้งชีวิตให้มีความสุขเหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าของสุนัขที่ชื่อว่า Smiley ที่ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2017 หลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน น้องหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้ต้องเกิดมาพร้อมกับความพิการไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมีความสุขได้จากความผิดปกติหายากที่ทำให้ฟันมีขนาดใหญ่กว่าปกติจนเหมือนกับว่ามันยิ้มอยู่ตลอดเวลา   แม้เกิดมาไม่มีดวงตาจนต้องถูกเย็บปิดเอาไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่เจ้า Smiley ก็ยังคงยิ้มอยู่เสมอ   ชีวิตของมันเริ่มขึ้นในศูนย์ดูแลลูกสัตว์ก่อนที่ Joanne George จะมารับมันไปเลี้ยงในตอนที่อายุได้ 2 ขวบ หลังจากนั้นมันก็ได้ออกช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก เจ้าหมาจะเดินทางไปตามโรงพยาบาล สถานพักฟื้นหรือโรงเรียนเพื่อไปให้กำลังใจเหล่าคนไข้ที่ต้องอยู่ในช่วงเวลาอันย่ำแย่ ให้พวกเขาสามารถกลับมายิ้มได้อีกครั้ง   Joanne ที่มอบความรักให้กับมันมาโดยตลอด   ด้วยการที่มันต้องเกิดมาผิดปกติแต่ใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยความสุข ทำให้ทุกคนที่ได้เจอกับมันกลับมามีกำลังใจกล้าเผชิญกับปัญหากันต่อไป โดยเฉพาะกับเด็กที่ต้องพิการแต่กำเนิดซึ่งน้องหมาสามารถเข้าไปเยียวยาจิตใจพวกเขาได้เป็นอย่างดี คนไข้ที่ชื่อว่า Teddy ผู้ป่วยที่ไม่พูดไม่จาและไม่สื่อสารอะไรกับใครเลยก็ถึงกับทำให้ทุกคนแปลกใจเมื่อเขายิ้มออกมาเป็นครั้งแรกขณะที่ได้เจอกับ Smiley เหมือนกับว่ามันเกิดมาเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคนเลยจริงๆ   ใบหน้าที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้กับทุกคน   แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมเจ้าของของมันก็ได้โพสต์ข่าวร้ายลงไปในเฟซบุ๊ก เมื่อมีการตรวจพบมะเร็งในตับและกระเพาะของเจ้าหมา นั่นหมายความว่ามันจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน   การเดินทางเพื่อช่วยเหลือผู้คนมาตลอด 12 ปีกำลังจะจบลงอย่างน่าเศร้า   ในตอนนี้อินสตาแกรมของมันมีคนติดตามมากกว่า 200,000 คนแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าของได้โพสต์ภาพขอณะที่เขากำลังจับมือมันเอาไว้พร้อมกับแคปชั่นที่แสนสะเทือนใจว่า “นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่พอจะตอบแทนทุกอย่างที่มันทำมาตลอดได้ พรุ่งนี้คงต้องปล่อยให้มันจากไปอย่างสงบหลังจากที่ต่อสู้มาอย่างยากลำบาก”…

  • งานวิจัยเผย แนวโน้มของผู้ชายนั้นชอบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกันมากกว่า!!

    งานวิจัยเผย แนวโน้มของผู้ชายนั้นชอบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกันมากกว่า!!

    ผู้ชายแทบทุกคนจะต้องมีเพื่อนเพศเดียวกันที่สนิทกันมากจนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่เรียกว่า โบรแมนซ์ (Bromance) ซึ่งหมายความว่าพวกคุณรักกันมากจนเหมือนกับเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันเลยทีเดียว จนกระทั่งในปัจจุบันได้มีการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Winchester และ Bedfordshire ที่ออกมาบอกว่าวัยรุ่นชายจะรู้สึกพึงพอใจกับความสัมพันธ์แบบนั้นมากกว่าความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับเพศตรงข้ามซะอีก   สนิทกันชนิดที่ว่าตัดกันยังไงก็ไม่ขาด   ผลลัพธ์นี้เกิดจากการเก็บข้อมูลของนักเรียนชายในสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาจำนวน 30 คนที่ต้องมีความสัมพันธ์แบบโบรแมนซ์และมีแฟนสาวอยู่แล้วหรือเคยมีมาก่อน ผลที่ได้คือ 28 คนจากทั้งหมดรู้สึกสบายใจกับการพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทเพศเดียวกันมากกว่าเรื่องของแฟนสาว   เพื่อนกับแฟนมันแทนกันไม่ได้จริงๆ   จากการตีพิมพ์ใน Men and Masculinities ได้บอกเอาไว้อีกว่า “ความสัมพันธ์แบบโบรแมนซ์ช่วยเพิ่มความมั่นคงในอารมณ์ เพิ่มความพึงพอใจในสังคม ช่วยให้พวกเขาเปิดเผยอารมณ์มากกว่าเดิม และทำให้พวกเขาแก้ปัญหาความขัดแย้งได้ดีกว่าความสัมพันธ์แบบคู่รักกับแฟนสาว”   นอกจากนั้นเวลาที่ใช้ร่วมกับเพื่อนสนิทเพศเดียวกันจะช่วยให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ลดความตึงเครียดปลดปล่อยความเจ็บปวด และมีความใจกว้างมากกว่าเดิม   เราก็เหมือนกับพี่น้องที่โตมาด้วยกัน   อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เป็นเรื่องของความรักที่ต้องมีเรื่องเพศสัมพันธ์อะไรเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์แบบนี้ก็อาจส่งผลกระทบกับผู้หญิงทั้งหลายได้ ลองคิดดูว่าถ้าหนุ่มๆ รู้สึกพึงพอใจกับความสัมพันธ์กับเพื่อนสนิทมากพออยู่แล้ว สิ่งที่พวกเขาจะต้องการจากกผู้หญิงก็เหลือแค่เรื่องเพศเพียงอย่างเดียว นั่นหมายความว่าพวกเขาอาจไม่ใส่ใจกับพฤติกรรมอื่นที่ทำกับพวกเธอแล้วก็ได้   แค่มองตาก็รู้ใจเพราะมีอะไรก็พูดคุยกันอยู่ตลอด   แต่ว่าการศึกษานี้ก็ยังเจาะจงไปที่กลุ่มวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว นั่นหมายความว่าคนที่อยู่ในช่วงวัยผู้ใหญ่อาจไม่ได้เป็นอย่างที่อธิบายมาก็ได้ ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เราเข้าใจเลยว่าเพื่อนแท้นั้นมีความสำคัญกับเรามากขนาดไหน   เพื่อนแท้คือคนที่จะอยู่เคียงข้างเราเสมอ   ที่มา: unilad

  • รู้จักกับ ‘ไลคอย’ อีกหนึ่งสายพันธุ์ของแมวแปลก ที่มีลักษณะขนสั้นคล้ายกับมนุษย์หมาป่า

    รู้จักกับ ‘ไลคอย’ อีกหนึ่งสายพันธุ์ของแมวแปลก ที่มีลักษณะขนสั้นคล้ายกับมนุษย์หมาป่า

    น้องแมวมีหลากหลายสายพันธุ์ที่บางคนอาจยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เช่นเจ้า ไลคอย (Lykoi) หนึ่งในสายพันธุ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างมาก   หน้าตาของเจ้าแมวสายพันธุ์ Lykoi   เจ้าเหมียวชนิดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2010 ที่รัฐเวอร์จิเนีย ก่อนที่จะมีการทดสอบในมหาวิทยาลัย Davis ในรัฐแคลิฟอร์เนีย พบว่าพวกมันเกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมของแมวบ้านขนสั้น และถึงแม้มันจะหน้าตาคล้ายแมวสฟิงส์ แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่ามันไม่ได้มีลักษณะพันธุกรรมที่ใกล้เคียงกันเลย   ดูเหมือนสฟิงซ์แต่ก็ไม่ได้รับพันธุกรรมมาหรอกนะ   เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นานทำให้น้อยคนที่จะรู้จักพวกมัน   เจ้าของที่ได้ไปเจอมันเข้าก็ได้ตั้งชื่อให้ว่า ไลคอย ที่มาจากภาษากรีกแปลว่าหมาป่า ด้วยหน้าตาที่มีลักษณะคล้ายกับมนุษย์หมาป่านั่นเอง ลักษณะพิเศษที่เห็นได้ชัดของมันก็คือเรื่องของขนที่มีความแข็งและดูเหมือนกับขนของ โอพอสซัม สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับหนู   นี่คือเจ้าโอพอสซัมที่มีลักษณะของขนคล้ายกับเจ้าเหมียว .   นอกจากนั้นขนของมันจะมีความไม่สม่ำเสมอแหว่งไปบางจุดอย่างเช่นบริเวณใบหน้า รวมถึงเมื่อเวลาผ่านไปก็มีการหลุดร่วงออกมาเยอะมาก แม้ว่าจะขึ้นมาใหม่ในภายหลังแต่มันก็ไม่ได้ดูสมบูรณ์อะไร ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความพิเศษของรูขุมขน   แหน่ะ!! ยืนดูอะไรกันอยู่น่ะ .   ถึงแม้ว่ามันจะมีหน้าตาคล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่ดูดุร้ายแต่ในความเป็นจริงพวกมันสามารถเข้ากับคนได้ง่ายมาก มีความเป็นมิตรจนเจ้าของทุกคนต้องหลงรัก   หน้าตาอาจจะดูดุไปบ้าง   แต่จริงๆ แล้วมันก็น่ารักนะ.. .   ปัจจุบันสมาคมแมวนานาชาติได้บัญญัติให้มันเป็นแมวสายพันธุ์ใหม่เรียบร้อย .  …

  • ลูกหมีขั้วโลกเดินโต๋เต๋มาไกลกว่า 724 กม. ผู้เชี่ยวชาญถึงกับงง รอดมาได้ไงไกลขนาดนี้?!

    ลูกหมีขั้วโลกเดินโต๋เต๋มาไกลกว่า 724 กม. ผู้เชี่ยวชาญถึงกับงง รอดมาได้ไงไกลขนาดนี้?!

    เราทุกคนรู้ว่าหมีขั้วโลกจะอาศัยอยู่บนน้ำแข็งหรือในพื้นที่หนาวเย็นเท่านั้น แต่ใครจะไปคิดว่าจะเจอมันมายืนอยู่ริมแม่น้ำแบบชิลล์ๆ ซะอย่างนั้น เมื่อไม่นานมานี้มีคนไปพบหมีขั้วโลกมายืนอยู่ริมแม่น้ำ Kolyma ในประเทศรัสเซีย ที่อยู่ห่างจากแหล่งที่อยู่อาศัยของพวกมันถึง 724 กิโลเมตร!! มาได้ยังไงล่ะเนี่ย!   หลงมาไกลขนาดนี้ไม่ได้มีความกลมกลืนกับพื้นที่โดยรอบเลยนะ   จากการรายงานของเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมาบอกว่าเจ้าหมีตัวนี้มีชื่อ Umka มันใช้ชีวิตกินเศษซากอาหารจากโรงงานปลาใกล้ๆ หรือบางครั้งชาวบ้านแถวนั้นก็จะตกปลามาให้มันกิน เพราะพวกเขาคิดว่ามันยังเด็กอยู่จนไม่สามารถหาอาหารได้เอง บวกกับความน่ารักเวลาที่เล่นกับน้องหมาแถวนั้นทำให้ทุกคนรู้สึกเอ็นดู แม้ว่ามันจะอยู่ในช่วงจำศีลที่ดูจะมีความดุร้ายอยู่บ้าง   ได้เพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกัน   หลังจากนั้นเมื่อมันเริ่มสงบลงได้ผู้เชี่ยวชาญได้เข้ามาช่วยเหลือพามันไปหาสัตวแพทย์ จากตอนแรกพวกเขาคิดว่ามันอายุประมาณ 2 ปีแต่เมื่อมีการตรวจสอบดูก็พบว่ามันมีอายุไม่เกิน 9 เดือนเท่านั้น จากความเป็นเด็กและระยะทางที่มันเดินทางมาจากบ้านเกิด ผู้เชี่ยวชาญหลายคนถึงกับสงสัยว่ามันมาได้ไกลขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?!     มีการสันนิษฐานอยู่ข้อหนึ่งที่เชื่อว่าแม่ของเจ้าหมีถูกคนฆ่าอย่างผิดกฎหมายก่อนที่จะจับลูกน้อยมาเพื่อไปขายในตลาดมืด แต่เจ้าหมีก็สามารถหนีรอดมาได้จนมาโผล่ให้เห็นที่แม่น้ำแห่งนี้   ไม่ต้องกลัวพวกเรามาช่วยแล้ว   อย่างไรก็ตามแม้จะยังหาคำตอบการมาของเจ้าหมีตัวนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้มันก็ได้ไปใช้ชีวิตที่ดีในสวนสัตว์ Orto Doidu เมือง Yakutsk เพราะผู้เชี่ยวชาญลงความเห็นว่ามันไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวเอง   ออกเดินทางไปพบกับชีวิตใหม่กัน   ด้วยความน่ารักและไม่กลัวคนทำให้มันได้กลายเป็นดาวเด่นประจำสวนสัตว์ สร้างรอยยิ้มและดึงดูดผู้คนเป็นจำนวนมาก แม้ก่อนหน้านี้เจ้า Umka อาจต้องเจออุปสรรคมาบ้างแต่ตอนนี้มันก็ได้ไปมีชีวิตที่ดีแล้ว  …

  • การทดลองของหนุ่มรัสเซียปลีกวิเวกไปใช้ชีวิตเพียงลำพังเหมือนอาศัยอยู่ในยุคกลางปี 1100

    การทดลองของหนุ่มรัสเซียปลีกวิเวกไปใช้ชีวิตเพียงลำพังเหมือนอาศัยอยู่ในยุคกลางปี 1100

    การใช้ชีวิตของเราในยุคนี้เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกเรื่อง จนเราคิดภาพกันแทบไม่ออกแล้วว่าหากต้องไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในป่าโดยที่ไม่มีไฟฟ้าใช้มันจะให้ความรู้สึกอย่างไร จนกระทั่งได้มีการทดลองเกิดขึ้นในประเทศรัสเซีย เมื่อหนุ่มวัย 24 ปีที่ชื่อว่า Pavel Sapozhnikov ปลีกวิเวกเข้าไปใช้ชีวิตในป่าด้วยตัวคนเดียวนานถึง 8 เดือน   บ้านไม้ที่ไม่มีรั้วคือที่อยู่อาศัยของชายคนนี้ตลอดการทดลอง   โปรเจกต์ดังกล่าวมีชื่อว่า Project Hero จากไอเดียของ Alexei Ovcharenko ซึ่งการทดลองในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานบริหารงานอีเว้นท์ที่มีชื่อว่า Ratobor เป็นบริษัทที่จัดอีเว้นท์หรือโปรเจกต์เกี่ยวกับประวัติศาสตร์เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้ามารับประสบการณ์แบบย้อนยุค   นำผ้ามาพันไว้เพื่อให้สามารถผ่านคืนอันหนาวเหน็บไปได้   ทั้งสองคนนี้ได้ทำการปรึกษากันนานเป็นปีจนกระทั่งกลายเป็นการทดลองชิ้นนี้ มีเป้าหมายเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและจิตใจที่จะแสดงออกมาผ่านบุคลิกภาพ และต้องการทราบว่าการได้รับแรงสนับสนุนจากสิ่งรอบตัวในปัจจุบันมีความสำคัญขนาดไหน     เพื่อให้การทดลองเห็นผลลัพธ์มากที่สุด พวกเขาจึงเลือกช่วงเวลาในฤดูหนาวตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2013 ถึงพฤษภาคมปี 2014 เพื่อให้ Pavel ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมอันยากลำบากและความท้าทายในการเอาชีวิตรอด เขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังกลางป่าในบ้านไม้และมีฟาร์มหลังเล็กๆ บ่อน้ำ โรงเก็บฟาง โรงเก็บอาหาร และห้องน้ำที่แยกออกมาให้ใช้ในการดำรงชีพ พร้อมกับเครื่องมือที่มีอยู่ในศตวรรษที่ 10 เท่านั้น การทดลองนี้จะอนุญาตให้ชายหนุ่มออกมานอกเขตบ้านได้ก็ต่อเมื่อออกไปล่าสัตว์หรือตกปลามาเป็นอาหารเท่านั้น ไม่สามารถออกบ้านไปเพื่อเหตุผลอื่นได้   ฟาร์มที่เขาสามารถเลี้ยงไก่ไว้กินหรือให้พวกมันออกไข่   การรักษาสภาพของบ้านเอาไว้เป็นสิ่งสำคัญ   นอกจากนั้นเขายังถูกห้ามไม่ให้ติดต่อกับใครยกเว้นผู้สังเกตการณ์ที่จะเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเขาผ่านกระดาษโน้ตเดือนละหนึ่งครั้ง…

  • Gordon Ramsey มอบโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันหนุ่มใน MasterChef ให้ได้เรียนทำอาหารแบบฟรีๆ

    Gordon Ramsey มอบโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันหนุ่มใน MasterChef ให้ได้เรียนทำอาหารแบบฟรีๆ

    หากใครเป็นแฟนคลับรายการทำอาหารชื่อดังอย่าง MasterChef ที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็จะต้องรู้จักกับเชฟชื่อดังอย่าง Gordon Ramsey แน่นอน ชายผู้ที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการคนนี้ได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก เมื่อเขามอบโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันวัย 19 ปีที่ชื่อว่า Gabriel Lewis ได้เข้าไปเรียนทำอาหารอย่างจริงจังในมหาวิทยาลัย Johnson & Wales ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังด้านการสอนทำอาหาร และเขาจะเป็นคนรับผิดชอบค่าเล่าเรียนทั้งหมด   เชฟจากรายการดังผู้มอบโอกาสให้กับเด็กหนุ่ม   เรื่องราวนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนเดือนมีนาคมปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กหนุ่มได้เริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย Johnson & Wales ในเมืองเดนเวอร์ แต่เทปบันทึกภาพการแข่งขันได้ถูกนำออกมาฉายในช่วงหลังเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา   เด็กที่มีความพยายามและทักษะที่ดีควรได้รับการฝึกฝนที่ดีเช่นเดียวกัน   คลิปสัมภาษณ์เชฟชื่อดังหลังจากที่เขามอบโอกาสให้กับผู้เข้าแข่งขัน   ในรายการ Gordon ได้พูดถึงความสามารถอันน่าทึ่งที่เด็กคนนี้มีและเขาเชื่อว่าหากได้รับการฝึกฝนเด็กหนุ่มจะต้องมีอนาคตที่ก้าวไกลอย่างมากแน่นอน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขามอบข้อเสนอนี้ให้ เพื่อแลกกับการได้เรียนฟรี Lewis จะต้องติดต่อกลับมาเพื่อคุยเรื่องเกรดกับผู้ที่มอบโอกาสให้อยู่เรื่อยๆ   Lewis ได้พูดถึงการได้เข้าไปแข่งขันในรายการว่า “กรรมการทุกคนคือครูที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของผม ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่มีค่า ได้เรียนรู้ และสามารถนำมาพัฒนาตัวเองต่อไปได้”   หลังจากรายการในตอนนี้ได้ออกอากาศไป ทุกคนที่เรียนด้วยกันก็ถึงกับตกใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าเพื่อนร่วมห้องเคยออกรายการทำอาหารและได้รับโอกาสอันสุดวิเศษ Lewis เล่าว่าตอนที่เขาเรียนมัธยมปลาย เขาเคยไปทัศนศึกษาที่มหาวิทยาลัย Johnson & Wales มาแล้วครั้งหนึ่ง…

  • “ผมบินมา 3 ปี นี่เป็นวันแรกที่จะได้พาพ่อแม่บิน” คำพูดซึ้งจากนักบิน ทำให้ผู้โดยสารทั้งลำน้ำตาซึม

    “ผมบินมา 3 ปี นี่เป็นวันแรกที่จะได้พาพ่อแม่บิน” คำพูดซึ้งจากนักบิน ทำให้ผู้โดยสารทั้งลำน้ำตาซึม

    เวลาขึ้นเครื่องบินพาณิชย์ทั่วไป การได้เจอนักบินเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นเพราะเราจะได้ยินแต่เสียงของพวกเขาเท่านั้นเอง แต่เที่ยวบินนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อนักบินหนุ่มเดินออกมาจากห้องควบคุมด้วยตัวเอง การได้เจอกับนักบินไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไรเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาประกาศออกมาจนทำให้ผู้โดยสารกว่า 200 คนบนเครื่องถึงกับน้ำตาซึม   ใบหน้าที่บอกได้ว่าเขารู้สึกมีความสุขกับการได้บังคับเที่ยวบินนี้มากแค่ไหน   นักบินหนุ่ม Joe Woolings ผู้บังคับเครื่องในเที่ยวบินที่ออกเดินทางสู่เมืองเตเน่ริเฟ่ ประเทศสเปน ได้ออกมาพูดกับผู้โดยสารอย่างมีความสุขว่า “วันนี้เป็นวันที่พิเศษมากสำหรับผม มันคือวันแรกที่ผมได้มาขับเครื่องบิน!! ผมล้อเล่นนะ” ติดตลกซะด้วยนะพ่อหนุ่ม เขาพูดต่อว่า “ที่มันพิเศษก็เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบ 3 ปีตั้งแต่ที่ผมได้ออกบินครั้งแรก และที่สำคัญมันคือวันแรกที่ผมได้พาพ่อกับแม่ออกบินในช่วงวันหยุดของพวกเขา ทั้งคู่นั่งอยู่ตรงแถวที่ 17 ขอเสียงปรบมือให้กับพวกเขาหน่อยครับ”   การเซอร์ไพรส์ที่สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคน โดยเฉพาะพ่อแม่ของเขา   เมื่อเขาได้พูดอย่างนั้นออกไปก็ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรวมถึงพ่อแม่ของเขาที่ไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อนรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินไปหาคนทั้งสองท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคนและได้รับอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของคนเป็นแม่ เขาพูดกับทุกคนว่า “ผมรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของผมอย่างมาก เพราะถ้าหากทั้งสองไม่ได้เจอกันก็คงจะไม่มีผมมายืนอยู่ตรงนี้”   ด้วยความสุขที่มากจนไหลออกมาเป็นน้ำตาแห่งความยินดีของผู้เป็นแม่   คลิปเหตุการณ์อันแสนประทับใจของนักบินหนุ่ม   หลังจากคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ของบริษัท Thomas Cook เจ้าของเที่ยวบินดังกล่าว ก็กลายเป็นกระแสให้ชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมและปลาบปลื้มกับสิ่งที่เขาทำ Robert Valentine “เยี่ยมมากเลยพ่อหนุ่ม พ่อแม่ต้องภูมิใจกับนายมากแน่ๆ และฉันก็รู้สึกดีที่ได้เห็นน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะความสุขของคนเป็นแม่” Sandi Baxter “เป็นเรื่องที่น่ารักมากกก มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ เห็นแล้วรักเลย”  …

  • ไปชมกันว่า “อาหารกลางวัน” ของเด็กในโรงเรียนแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไรกันบ้าง

    ไปชมกันว่า “อาหารกลางวัน” ของเด็กในโรงเรียนแต่ละประเทศจะเป็นอย่างไรกันบ้าง

    ในตอนที่เราเป็นเด็กเวลาไปโรงเรียนตอนพักเที่ยงเราก็จะได้กินอาหารที่ทางโรงเรียนเตรียมเอาไว้ให้ ซึ่งอาจทำให้หลายคนจดจำมาได้จนถึงตอนนี้ ซึ่งหน้าตาของอาหารที่เราต้องเจอในแต่ละวันก็จะไม่ได้แตกต่างกันมาก แล้วหน้าตาของอาหารกลางวันประเทศอื่นๆ หน้าตามันจะเป็นอย่างไร จะดูคล้ายกับที่เราเคยกินตอนเด็กหรือเปล่า? เราไปดูกันเลยว่าแต่ละประเทศมีอาหารกลางวันเป็นแบบไหนกันบ้าง   เกาหลีใต้   อาหารกลางวันของที่นี่เรียกว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดมื้ออาหารได้เลย โดยจะแบ่งช่องใหญ่ไว้สำหรับใส่ข้าวและซุป นอกนั้นเป็นผักผลไม้หรืออาหารทะเล ซึ่งส่วนใหญ่อาหารที่เด็กได้กินก็จะเป็นซุปฟักทองมันฝรั่ง สลัดแตงกวาและแครอท หรือของขึ้นชื่ออย่างกิมจิ นอกจากนั้นหากเด็กคนไหนตัวเล็กกว่าปกติพวกเขาก็จะให้เด็กได้กินน้ำมันปลาที่ผ่านการคำนวนมาแล้วอีกด้วย   ญี่ปุ่น   ดูแล้วมีความคล้ายคลึงกับของเกาหลีอยู่บ้างที่เพิ่มมาจริงๆ ก็คือนมกล่อง เด็กญี่ปุ่นไม่สามารถห่อข้าวมากินเองได้จนกว่าจะขึ้นมัธยมปลายและการกินข้าวเที่ยงจะไม่ได้ไปกินที่โรงอาหารแต่จะมีมาเสิร์ฟให้กินในห้องเรียนแทน   อังกฤษ   มันฝรั่งทอด แครอทมาพร้อมกับโจ๊กและสลัดกับผลไม้ ของหวานจะเป็นวาฟเฟิลราดช็อกโกแลต แต่ก็มีหลายโรงเรียนที่มีงบไม่พอทำให้ต้องแจกอาหารฟาสต์ฟู้ดแทน ถึงอย่างนั้นเด็กๆ ก็ชอบกินกันนะ   สหรัฐอเมริกา   นี่คืออาหารกลางวันในรัฐเวอร์จิเนียซึ่งความเป็นจริงจะแตกต่างกับอาหารที่เด็กอเมริกันส่วนใหญ่กิน เพราะพวกเขานิยมฟาสต์ฟู้ดกันมากกว่า หรือไม่งั้นพ่อแม่ก็จะห่อข้าวให้   ตุรกี   เป็นอาหารที่บำรุงสมองอย่างแท้จริงเพราะเต็มไปด้วยผลไม้และธัญพืชจากขนมปังข้าวไรย์ ถั่ววอลนัท และเครื่องดื่ม Kefir ที่ทำมาจากนมวัว   ฝรั่งเศส   อาหารกลางวันของประเทศนี้ค่อนข้างที่จะเป็นมื้อใหญ่และพวกเขาจะให้เวลา 1 ถึง 2 ชั่วโมงในการรับประทาน นอกจากนั้นเด็กๆ ยังสามารถกลับไปกินข้าวที่บ้านระหว่างพักได้…

  • ทุกคนขับรถหลบเจ้าไก่ไป แต่ชายหนุ่มคนนี้จอดช่วยเหลือและรับมันมาเป็นสมาชิกในครอบครัว

    ทุกคนขับรถหลบเจ้าไก่ไป แต่ชายหนุ่มคนนี้จอดช่วยเหลือและรับมันมาเป็นสมาชิกในครอบครัว

    การช่วยเหลือเราสามารถลงมือทำได้ในทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกันกับชายคนนี้ที่เขาเลือกที่จะช่วยเหลือชีวิตน้อยๆ มากกว่าที่จะปล่อยให้มันผ่านไป เมื่อเดือนมีนาคมปี 2017 ชายหนุ่มที่ชื่อว่า Warren Padgette กำลังขับรถกลับบ้านที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐวอชิงตัน เขาได้สังเกตเห็นว่ารถคันข้างหน้าเหมือนกับหักเลี้ยวหลบอะไรบางอย่างบนถนน   หนุ่มอเมริกันที่ต้องเจอกับสิ่งที่ตนเองไม่คาดคิด   ด้วยความสงสัยเขาจึงพยายามเพ่งมองดูว่าสิ่งนั้นคืออะไร และเขาก็ได้เห็นเจ้าไก่ในสภาพอิดโรยที่คาดว่ามันน่าจะตกลงมาจากรถบรรทุกที่กำลังจะพามันไปโรงเชือด แทนที่เขาจะขับหลบและปล่อยมันผ่านไปเหมือนกับคนอื่นๆ เขาตัดสินใจจอดรถและลงไปอุ้มมันขึ้นมาขณะที่เจ้าไก่หันมองและกระพริบตาให้หนึ่งที ก่อนที่เขาจะอุ้มมันไปไว้ตรงเบาะหลังพามันกลับบ้านไปด้วยกัน   เขาไม่สามารถปล่อยมันผ่านไปได้เขาจึงรีบลงไปอุ้มมันขึ้นมาทันที   เขาได้ตั้งชื่อให้มันว่า Lucky เพราะมันเป็นเจ้าไก่ที่โชคดีรอดมาจาการถูกเชือดได้ แต่ถึงอย่างไรร่างกายของมันก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ตอนนั้นแค่จะยืนด้วยขาของตัวเองมันก็ทำไม่ได้เพราะหน้าอกมีน้ำหนักมากกว่าปกติจากการที่ถูกเลี้ยงดูมาให้โตเร็วเกินไปเพื่อทำให้ได้เนื้อเยอะๆ   ร่างกายของมันผ่านการเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นอาหาร ทำให้ไม่สามารถยืนได้เอง   ชายหนุ่มรีบรักษาพยาบาลคอยดูแลเอาใจใส่มันอย่างเต็มที่ สร้างบ้านเล็กๆ เอาไว้ให้ที่สวนหลังบ้านและไปหาลูกเจี๊ยบมาอยู่ด้วยเพื่อให้เจ้าไก่ได้รับรู้ถึงการใช้ชีวิตที่แท้จริง รวมถึงแพะที่เขาหามาเป็นเพื่อนต่างสายพันธุ์ให้กับมัน   ขั้นแรกอาบน้ำให้มันสดชื่นขึ้น   บ้านหลังเล็กที่มันจะได้อยู่อย่างเป็นสุขนับจากนี้ไป   ด้วยความรักความเอาใจใส่จนทำให้ตอนนี้เจ้า Lucky ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาไปแล้ว มันจะชอบมาเกาะอยู่ที่ไหล่หรือเดินตามไปไหนมาไหนด้วยกันกับเขาอยู่เสมอ กลายเป็นเพื่อนซี้ที่จะไม่ทิ้งกัน   Warren บอกว่า “เจ้า Lucky เข้ามาเปลี่ยนมุมมองที่ผมเคยเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์ที่ต้องมาเป็นอาหารมนุษย์ จนตอนนี้เวลาที่ผมเห็นรถบรรทุกที่กำลังพาไก่มากมายไปโรงเชือด ผมรู้สึกต้องการช่วยพวกมันทุกตัวเลยจริงๆ ”   คลิปเรื่องราวของเจ้าไก่ Lucky…

  • โมเม้นท์น่ารักๆ ของ ‘ลูกจิ้งจอกอาร์กติก’ ขี้สงสัยที่พยายามทำลายกล้องของนักถ่ายทำสารคดี

    โมเม้นท์น่ารักๆ ของ ‘ลูกจิ้งจอกอาร์กติก’ ขี้สงสัยที่พยายามทำลายกล้องของนักถ่ายทำสารคดี

    การถ่ายทำหนังสารคดีสัตว์ป่า จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่จริงเพื่อให้ได้ภาพของสิ่งมีชีวิตต่างๆ แต่ในบางครั้งการที่เราเดินเข้าไปอาจทำให้พวกมันแตกตื่นได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการซ่อนกล้องเหมือนกับในครั้งนี้ เมื่อสารคดีที่ชื่อว่า Fox Tales ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พยายามตามถ่ายชีวิตของ สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก ด้วยวิธีการซ่อนกล้องเอาไว้ในเขตที่อยู่อาศัยของพวกมัน   สุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์นี้จะมีลักษณะของรูปลักษณ์ใบหน้าแตกต่างกับที่เราเคยเห็นเล็กน้อย   แต่อุปกรณ์ดังกล่าวก็ไม่สามารถหลุดรอดสายตาของเจ้าลูกจิ้งจอกแสนซนทั้งหลายได้ พอพวกมันเริ่มสงสัยว่าสิ่งนี้คืออะไรก็เลยเข้ามาเช็คดูซะหน่อย ทำให้เราได้เห็นความน่ารักของพวกมันกันแบบใกล้ชิด   เอ๊ะ นี่มันอะไรกันน่ะ?! หน้าตาน่าสงสัยต้องเข้ามาดูซะหน่อยแล้ว   เห็นแล้วรู้สึกไม่น่าไว้ใจอย่างนี้ก็ต้องทำลายทิ้งซะ   คนเดียวคงจัดการเองไม่ไหวต้องไปตามพรรคพวกพี่น้องของเรามาช่วยแล้ววว   คลิปน่ารักๆ เมื่อลูกสุนัขจิ้งจอกพยายามทำลายกล้องที่ซ่อนไว้   เห็นน่ารักๆ อย่างนี้แล้วก็อยากจะออกไปเห็นไปทำความรู้จักกับพวกมันซักครั้งจริงๆ ถ้าได้เจอจะขอเอามากอดรัดฟัดเหวี่ยงให้หนำใจซะหน่อย   ที่มา: sploid

  • รู้จักกับ Shit Express บริการส่งขี้ถึงหน้าบ้านคนที่คุณเกลียด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะตามไปส่งให้!!

    รู้จักกับ Shit Express บริการส่งขี้ถึงหน้าบ้านคนที่คุณเกลียด ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะตามไปส่งให้!!

    เวลาที่เราเกลียดใครซักคนเราจะทำอย่างไรที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บแสบและสะใจเรามากที่สุด วิธีการนี้อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณก็ได้ เมื่อบริษัท Shit Express ในประเทศสโลวีเนียสามารถจัดส่งขี้แบบสดใหม่ให้คุณได้ในทุกที่ทั่วโลก เพียงแค่นั้นหากคุณไม่ชอบขี้หน้าใครก็แค่สั่งซื้อขี้ชุดใหญ่จัดไปให้ซะหน่อย โดยที่เราไม่ต้องออกแรงอะไรรอฟังข่าวดีก็เกินพอ   ขี้ร้อนๆ มาส่งให้ถึงที่แล้วครับ   อันแน่นเต็มๆ กล่อง คุ้มค่าราคาจริงๆ   ไม่อยากจะคิดภาพเลยว่าการต้องเปิดประตูมารับพัสดุแต่ต้องมาเจอกับกองขี้เต็มหน้าบ้าน มันจะรู้สึกชวนอ้วกมากขนาดไหน แต่ถึงอย่างนั้นขี้ที่เขานำมาใช้ก็ไม่ได้เป็นขี้ของมนุษย์หรอกนะ แต่มันเป็นขี้ของม้าที่จะมีบรรจุภัณฑ์แบบเรียบง่าย น่ารักๆ หรือแบบกิ๊บเก๋ให้คุณได้เลือกตามความต้องการ และจ่ายตังผ่าน Bitcoin ที่มีมูลค่าประมาณ 500 บาทเท่านั้น   สามารถติดข้อความเอาไว้ได้ด้วย   บรรจุภัณฑ์ที่มีให้เลือกตามความต้องการได้เลย   อย่างไรก็ตามธุรกิจประมาณนี้ก็เคยมีให้เห็นมาก่อนแล้วอย่างเช่น PoopSenders หรือ MailPoop แต่ว่าเรื่องของความน่าเชื่อถือหรือการจ่ายเงินก็ไม่สามารถสู้บริษัทน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Shit Express นี้ได้เลยจริงๆ เพราะพวกเขาการันตีเลยว่าขี้ที่คุณสั่งไว้จะต้องส่งถึงหน้าบ้านผู้รับอย่างแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์!!   มีการปิดฝาเอาไว้อย่างแน่นหนา ป้องกันการร่วงหล่นระหว่างทาง   ปัจจุบันทางบริษัทก็ยังคงพัฒนากันต่อไปเพื่อให้ได้มีขี้ที่คุณสามารถเลือกใช้ได้เยอะขึ้น ไม่แน่ว่าในอนาคตก็คงจะมีขี้หมา ขี้แมวหรือขี้ช้างอะไรอย่างนี้ออกมาให้เห็นละนะ   ทำไมถึงมีแต่ขี้เต็มไปหมดเลยยย   นับว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่เราหลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน และเป็นวิธีเจ๋งๆ ที่นอกจากจะส่งไปให้คนที่เกลียดแล้วเรายังสามารถใช้วิธีนี้แกล้งเซอร์ไพรส์เพื่อนๆ เพื่อเรียกเสียงฮาในงานปาร์ตี้ได้อีกด้วย…

  • ภาพสุดประทับใจเมื่อ ‘เจ้าวาฬ’ มากระโดดน้ำเล่นที่อ่าวซิดนีย์ในตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน

    ภาพสุดประทับใจเมื่อ ‘เจ้าวาฬ’ มากระโดดน้ำเล่นที่อ่าวซิดนีย์ในตอนพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน

    วาฬ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่แห่งท้องทะเล มีความน่าหลงใหลทำให้ใครหลายคนอยากที่จะไปเห็นมันด้วยตาของตัวเอง โดยบ้านเราสามารถพบพวกมันได้ในฝั่งอ่าวไทย ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ก็สามารถพบเห็นวาฬหลังค่อมได้อยู่บ่อยครั้ง จนถึงขนาดมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ชื่อว่า Manly Ocean Adventures คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ ด้วยความโดดเด่นและสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของพวกมันทำให้ช่างภาพผู้ได้รางวัลมามากมายอย่าง Matt Kemp ตัดสินใจตามเก็บภาพขณะที่พวกมันกำลังอพยพผ่านอ่าวซิดนีย์   ด้านหลังเป็นเส้นขอบฟ้าและวิวทิวทัศน์ของเมืองซิดนีย์ที่สวยงาม   แสงธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์   ด้วยระยะเวลากว่า 8 ปีที่เขาได้สังเกตและตามถ่ายพฤติกรรมของพวกมันทำให้ออกมาเป็นรูปที่สวยงามเกินคำบรรยาย ในท่วงท่าต่างๆ ของพวกมันไม่ว่าจะเป็นการใช้หางตีน้ำหรือพ่นน้ำออกมา แต่ที่พิเศษที่สุดก็คือการที่พวกมันพุ่งขึ้นมาเหนือน้ำ ชายคนนี้เลือกที่จะเก็บภาพในตอนที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นมาหรือยามเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตก แสงภายในภาพจึงมีความมหัศจรรย์ดึงดูดสายตา   นับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่น่าหลงใหลไม่ใช่น้อย   ชูหางขึ้นมาในตอนที่สายรุ้งกำลังทอดผ่าน   กระโดดขึ้นมาหมุนตัวซะนิดนึง   จะอยู่ไกลขนาดไหนก็สามารถมองเห็นได้ไม่ยาก   น้ำที่แตกกระจายมีความเข้ากันกับแสงและบรรยากาศอย่างไม่น่าเชื่อ   บนโลกของเรามีธรรมชาติที่สวยงามจริงๆ   ที่มา: dailymail

  • สวนสัตว์โทบุเตรียมโต๊ะวางดอกไม้ เพื่อระลึกถึงเจ้า ‘เกรปคุง’ แฟนคลับร่วมอาลัยไม่ขาดสาย…

    สวนสัตว์โทบุเตรียมโต๊ะวางดอกไม้ เพื่อระลึกถึงเจ้า ‘เกรปคุง’ แฟนคลับร่วมอาลัยไม่ขาดสาย…

    ความเสียใจในการจากไปของคนที่เรารัก หลายคนคงเข้าใจความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี แม้ว่าที่ตายจากไปอาจไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสัตว์ก็ตามเช่นเดียวกับเพนกวินน้อยสายพันธุ์ฮัมโบลต์ที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นตัวนี้ เพนกวินตัวนั้นมีชื่อว่า เกรปคุง ก่อนหน้านี้มันมีอาการป่วยที่รุนแรงมาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา จากโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะกับเพนกวิน และด้วยอายุที่มากถึง 20 ปี (ซึ่งเทียบเท่าได้กับคนอายุ 80 เข้าไปแล้ว) ทำให้อาการของมันแย่ลงไปอีก ต่อมาไม่นานในวันที่ 12 ตุลาคมมันก็ได้จากโลกนี้ไป สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับแฟนคลับของมันทั่วโลก ทางสวนสัตว์โทบุในเขตไซตามะ จึงได้ทำการสร้างอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงเจ้าเพนกวินน้อยตัวนี้   อนุสรณ์ชั่วคราวของเพนกวินอันเป็นที่รัก   เหล่าแฟนคลับต่างพากันเข้ามาแสดงความเสียใจกับการจากไปในครั้งนี้   เหตุผลที่เจ้าเพนกวินได้รับความนิยมอย่างมากนั้น นอกจากความน่ารักน่าชักแล้วเจ้าเพนกวินน้อยตัวนี้ยังมีแฟนเป็นสาว 2D อีกด้วย เรื่องราวเกิดขึ้น ในตอนที่การ์ตูนอนิเมะชื่อดัง Kemono Friends ได้นำแผ่นป้ายโปรโมทรูปตัวละครหลักในเรื่องที่ชื่อว่า Hululu มาตั้งเอาไว้ในกรงอาศัยของมันตั้งแต่เดือนเมษายน เท่านั้นเองความรักของทั้งสองก็ได้เกิดขึ้น พอเจ้าเพนกวินเห็นสาวน้อยคนนี้เข้า มันก็เดินมายืนดูเธอนานเป็นชั่วโมงๆ ถึงกับไม่ยอมกินข้าวกินปลาเลยทีเดียว   ความรักอันบริสุทธิ์ของเจ้าเพนกวิน   ทุกคนรับรู้และเข้าใจว่ารักเธอมากเพียงใด   ตรงอนุสรณ์ก็จะมีรูปของ Hululu ไปแปะไว้อยู่   ความรักอันสุดแสนประหลาดนี้ได้สร้างรอยยิ้มไว้ให้กับผู้คนจำนวนมาก และเหมือนกับฝันที่เป็นจริง เมื่อผู้วาดการ์ตูนเรื่องดังกล่าว Mine Yoshizaki ได้วาดภาพเจ้าเกรปคู่กับแฟนสาวของมันขึ้นมา เพื่อเป็นการระลึกถึงความน่ารักของเจ้าเพนกวินตัวนี้   ผู้วาดสร้างผลงานให้มันได้เข้าไปอยู่กับสุดที่รักได้ในที่สุด   แม้แต่ห่วงเล็กๆ…

  • ภาพการ์ตูนสะท้อนสังคม “ความเจ็บปวดของเหล่าเด็กๆ” ที่ต้องเจอกับปัญหาพ่อแม่หย่าร้าง…

    ภาพการ์ตูนสะท้อนสังคม “ความเจ็บปวดของเหล่าเด็กๆ” ที่ต้องเจอกับปัญหาพ่อแม่หย่าร้าง…

    หลายคนมักจะอ่านการ์ตูนที่ทำให้เรารู้สึกดีแต่ในความเป็นจริงเราต้องอย่าลืมที่จะสนใจการ์ตูนที่ให้ความรู้สึกตรงกันข้ามออกมาด้วย เหมือนกับการ์ตูนสั้น 7 ช่องเรื่องนี้ การ์ตูนโดยศิลปินที่ใช้ชื่อว่า Mark เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมและปัญหาพ่อแม่หย่าร้างที่เกิดขึ้นกับเด็ก ซึ่งสุดท้ายต้องถูกทิ้งเอาไว้อย่างไร้ความหวัง ในขณะนี้มันได้กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลที่ทำให้หลายคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกัน ว่าแล้วเพื่อนๆ ก็ลองไปดูกันเลย   . . . . . .   แม้ในส่วนของการ์ตูนจะมีความเรียบง่ายแต่ก็สะท้อนปัญหาในเรื่องนี้ออกมาได้อย่างชัดเจน จนทำให้หลายคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ไปแล้ว   ในตอนที่พ่อแม่เลิกกันไม่มีใครอยากได้ฉันไปอยู่ด้วยเลยทำให้ฉันรู้สึกอินกับการ์ตูนเรื่องนี้มาก แม้ตอนนี้ฉันจะดีขึ้นแล้วแต่มันก็ยังเศร้าอยู่ดี   สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างนั้นจริงๆ ครอบครัวฉันหย่าร้างกันเมื่อสองปีก่อนตอนที่ฉันอายุได้ 16 ปี และสิ่งนั้นเกือบทำให้ฉันคิดฆ่าตัวตาย   เรื่องนี้กระแทกใจฉันเข้าอย่างจัง พ่อทิ้งฉันไปตั้งแต่ยังแบเบาะ ส่วนแม่ก็ไม่สนใจฉันเลยในตอนวัยเด็กเพราะมัวแต่ไปปาร์ตี้กับผู้ชายคนอื่นๆ   แต่บางคนก็ได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากการ์ตูนเรื่องนี้   เด็กที่ต้องเจอกับปัญหาหย่าร้างไม่ได้ต้องแย่ขนาดนั้นเสมอไป แม้พ่อจะทิ้งฉันไปหาครอบครัวใหม่ แต่ตอนนี้พ่อเลี้ยงก็ดูแลฉันดีมาโดยตลอด   เรื่องของฉันต่างออกไป เพราะตอนนั้นฉันพยายามกอดและปลอบโยนแม่จนสามารถทำให้เราอยู่ด้วยกันได้มาจนถึงตอนนี้   มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย ในวันเกิดของฉันครอบครัวใหม่ของทั้งแม่และพ่อต่างมาร่วมเล่นเกมและมีความสุขไปด้วยกัน   แล้วเพื่อนๆ ละคิดยังไงกับการ์ตูนเรื่องนี้บ้างมาคอมเม้นท์บอกไว้ด้านล่างหน่อยนะ   ที่มา: Demilked

  • ชายผู้คิดว่าสูญเสียทุกสิ่งไปจากเหตุไฟป่า แต่ยังคงมี ‘เจ้าแมว’ รอดชีวิตท่ามกลางความสิ้นหวัง

    ชายผู้คิดว่าสูญเสียทุกสิ่งไปจากเหตุไฟป่า แต่ยังคงมี ‘เจ้าแมว’ รอดชีวิตท่ามกลางความสิ้นหวัง

    ในตอนที่เราต้องสูญเสียทุกอย่างไปความรู้สึกตอนนั้นมันคงจะสิ้นหวังอย่างบอกไม่ถูกแน่นอน เช่นเดียวกับชายคนนี้ที่ต้องรู้สึกว่าชีวิตของเขานั้นไม่เหลืออะไรอีกแล้วจนกระทั่งแสงแห่งความหวังได้เกิดขึ้น ชายหนุ่มคนดังกล่าวชื่อว่า Ed Ratliff วัย 68 ปีที่ต้องสูญเสียบ้านและทุกอย่างไปจากเหตุไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา   ชายผู้ต้องสูญเสียบ้านไปเพราะไฟป่า   เขาเล่าว่าในตอนตี 2 ของวันนั้นเกิดเหตุการณ์ไฟป่าขึ้นในบริเวณบ้านของเขา ในช่วงเวลาคับขันนั้นเจ้าเหมียวของเขา Milo ได้รีบวิ่งหนีหายไป ส่วนตัวของเขาเองก็ทำได้เพียงขับรถหนีออกไปเท่านั้น ไฟป่าที่ลุกลามมาอย่างหนักทำให้บ้านของเขาต้องวอดไปจนหมดและเขาก็รู้สึกสิ้นหวังกับทุกสิ่งรวมถึงเจ้าแมวที่ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง วันต่อมาเจ้าหน้าที่จากสำนักงานนายอำเภอเมือง Sonoma ได้เข้าไปค้นหาพื้นที่ในบริเวณบ้านของเขาหลังจากที่ได้ยินเสียง “เมี้ยววว”   แหน่ะ!! เจอซักทีนะเจ้าเหมียว   ตอนแรกมันก็ยังคงไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่และไม่ยอมออกมา   แต่พอเริ่มเอาอาหารมาล่อมันก็รู้สึกไว้วางใจมากขึ้น   หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้โพสต์คลิปเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือเจ้าแมว Milo ให้ออกมาจากใต้ท้องรถพร้อมข้อความว่า “ผู้ควบคุมกฎหมายพร้อมบริการความช่วยเหลือให้กับทุกวิกฤตในชุมชน” เมื่อเจ้าเหมียวออกมาพวกเขาก็รีบพามันไปที่โรงพยาบาลสัตว์ของเมืองทันที เมื่อไปถึงทางโรงพยาบาลก็ได้โพสต์รูปภาพของเจ้าเหมียวลงในโซเชียลมีเดียจนทำให้ Ratiff ที่ไปพักอยู่ทางใต้ของรัฐในตอนนั้นรีบมาหามันอย่างเร็วไว   ในที่สุดก็ออกมาและพบว่ามันมีแผลไหม้ที่อุ้งเท้า พวกเขาจึงรีบพามันไปโรงบาล   คลิปเจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือเจ้าเหมียวออกมาจากใต้ท้องรถ   ในที่สุดเพื่อนซี้ทั้งสองก็ได้กลับมาเจอกัน เจ้าเหมียวได้ทำใหเขากลับมามีความหวังในการใช้ชีวิตอีกครั้ง   เขาบอกว่าจริงๆ ไม่ได้เป็นคนชอบแมวเลย ชอบหมามากกว่า…

  • สาวญี่ปุ่นร่วมโหวต 7 อันดับการ ‘ถูกบอกเลิก’ ที่ทำร้ายหัวใจพวกเธอมากที่สุด!!

    สาวญี่ปุ่นร่วมโหวต 7 อันดับการ ‘ถูกบอกเลิก’ ที่ทำร้ายหัวใจพวกเธอมากที่สุด!!

    ชีวิตคู่ของหลายคนบางครั้งเมื่อมาถึงจุดจุดหนึ่งการเลิกรากันไปอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่เราต้องเลือกวิธีการบอกเลิกให้ดีเพราะเราอาจทำให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากกับการถูกเลิกก็ได้ ในประเทศญี่ปุ่น จึงได้มีการใช้แบบสอบถามของ DoCoMo ที่รวบรวมประสบการณ์การถูกบอกเลิกอันแสนเจ็บปวดมาให้หญิงสาวชาวญี่ปุ่นวัยราวๆ 30 ในเมืองโตเกียว ได้เข้ามาตอบว่าสถานการณ์แบบไหนที่ทำให้พวกเธอรู้สึกเจ็บมากที่สุด ผลโหวตทั้งหมดได้ออกมาเป็น 7 การบอกเลิกที่เลวร้ายมากที่สุดสำหรับพวกเธอ     7. ถูกบอกเลิกหลังจากที่ความลับโดนเปิดเผยและอีกฝ่ายรับไม่ได้ (โหวต 141 คน/ 1 เปอร์เซ็นต์) หลายคนมองว่าสถานการณ์นั้นสมควรแล้วที่จะถูกบอกเลิก แต่ก็ยังมีบางส่วนที่คิดว่าเรื่องของตัวเองควรได้รับการให้อภัยไม่น่าถึงขนาดต้องเลิกคบกัน   6. ถูกบอกเลิกในที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของทั้งสองคน (โหวต 245 คน/ 3 เปอร์เซ็นต์) เป็นตรรกะของบางคนที่คิดว่าการทำลายความทรงจำที่ดีที่มีให้กันไปซะจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่บางครั้งมันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกทรมานมากที่สุดก็ได้     5. ถูกบอกเลิกหลังจากที่ทะเลาะกันอย่างหนัก (โหวต 245 คน/ 3 เปอร์เซ็นต์) จากคู่รักที่สนิทกันมากๆ บอกไว้ว่าการทะเลาะกันจะช่วยแยกแยะอารมณ์และปัญหาออกมาเพื่อแก้ไขมันให้ดีขึ้นได้ แต่บางครั้งการโต้เถียงบางเรื่องก็ไม่สามารถเรียกความรู้สึกเดิมกลับมาได้แม้อีกฝ่ายจะพยายามมากขนาดไหนก็ตาม   4. ถูกบอกเลิกในตอนที่ไปเจอกับพ่อแม่หรือคนในครอบครัว (โหวต 658 คน/ 8 เปอร์เซ็นต์) สถานการณ์นี้ไม่ได้มีการบอกว่าไปเจอพ่อแม่ของตัวเองหรือของอีกฝ่าย เลิกกันตอนไปเจอหรือหลังจากนั้น…

  • รวม 15 ภาพพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทางจิตใจ คุณคงไม่คิดเห็นเป็นอย่างอื่นใช่มั้ย!?

    รวม 15 ภาพพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทางจิตใจ คุณคงไม่คิดเห็นเป็นอย่างอื่นใช่มั้ย!?

    ภาพเพียงภาพเดียวอาจทำให้แต่ละคนเข้าใจในความหมายหรือรับรู้แตกต่างกันได้ เช่นเดียวกับภาพเหล่านี้ที่จะสามารถบอกได้เลยว่าคุณคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ เพราะมันแบ่งอย่างเห็นได้ชัดเลยว่าถ้าคุณยังคงมีจิตใจที่บริสุทธิ์คุณก็จะเห็นเป็นสิ่งหนึ่ง แต่ถ้าหากว่าคุณมีมลทินมาจากประสบการณ์ต่างๆ บ้างแล้วล่ะก็ สิ่งที่คุณเห็นจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเลย ไปดูกันเลยดีกว่าว่าทุกคนรับรู้เป็นภาพอะไรกันบ้าง   ขนมปังร้านโปรดกับกลิ่นความสดใหม่ชวนรับประทาน   เป็นสาวที่มีผิวเนียนทุกสัดส่วนจริงๆ   ได้มาเที่ยวทีก็ยิ้มหวานเชียวนะครับ   ขาเรียวสวยกันทั้งสองคนเลย   สวมแหวนให้ผมหน่อยได้มั้ยครับที่รัก   ไม่ต้องพกกระเป๋าขึ้นเครื่องหรอกน่า   นอนแล่บลิ้นขนาดนี้สงสัยจะหมดแรง   ขนาดย่อมเป็นสิ่งสำคัญในหลายเรื่อง   เป็นโซฟาที่ดูเนียนนุ่มกว่าของที่อื่นมากๆ เลย   แก้วกาแฟแบบเรียบง่ายแต่มีความโดดเด่น   มันเย็นไปซะจนเกิดเป็นน้ำแข็งในขวดเลย   พุ่งขึ้นไปซะสูงเชียว   เป็นข่าวที่น่าสนใจมากๆ   ข้างหลังช่วยขยับเท้าหน่อยได้มั้ย   เงาสะท้อนไม่ค่อยเห็นเลย   เห็นอะไรกันบ้างเอ่ยก็บอกแล้วว่ามันขึ้นอยู่กับแต่ละคนจริงๆ ต้องบริสุทธิ์เท่าเด็กทารกเลยละมั้งถึงจะไม่เข้าใจ เพราะขนาดใสๆ อย่าง #เหมียวตะปู ยังเห็นเป็นอย่างอื่นเลย…   ที่มา: twentytwowords