ไอเดียสุดเก๋ไก๋ เปลี่ยน ‘ตู้โทรศัพท์’ ให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มที่ให้บริการแบบฟรีๆ

ตู้โทรศัพท์ในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว เพราะสมัยนี้ใครๆ ต่างก็มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น แต่สองสามีภรรยาเจ้าของโรงแรมในประเทศสก็อตแลนด์กลับไม่คิดอย่างนั้น เพราะพวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนมันให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มสุดเก๋ไก๋

นี่เป็นไอเดียของ David Wilson และภรรยา เจ้าของโรงแรมและร้านอาหารสไตล์บูติกที่ชื่อว่า Kilberry Inn ในเขต Argyll และ Bute ประเทศสก็อตแลนด์ พวกเขาตัดสินใจแปลงโฉมตู้โทรศัพท์สีแดงที่ซื้อมาในราคา 43 บาทให้กลายเป็นบาร์เครื่องดื่มที่น่าจะเล็กที่สุดในโลก

บาร์เล็กๆ ที่ดัดแปลงมาจากตู้โทรศัพท์ที่ไม่ค่อยมีใครใช้กันแล้วในปัจจุบัน

ไอเดียนี้เกิดขึ้นเพราะพวกเขาคิดว่าการต้องจ่ายเงิน 17,000-21,000 บาทต่อปีสำหรับให้โทรศัพท์ในตู้ใช้งานได้นั้น เป็นสิ่งที่ดูไม่ค่อยคุ้มค่าซักเท่าไหร่ ก็เลยจัดการดัดแปลงมันซะเลย

ในตอนแรกบาร์เครื่องดื่มเล็กๆ แห่งนี้ได้แจกจ่ายเหล้าวิสกี้ท้องถิ่นให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ แต่ปัจจุบันพวกเขาได้เปลี่ยนมาใช้เหล้าจินที่นำมาจากหลายๆ ที่ เช่นเหล้าจินของเกาะ Harris หรือ จากเกาะ Jura

เจ้าบาร์ที่มีชื่อว่า The Wee Bar นี้ตั้งอยู่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าของโรงแรม โดยสามารถจุคนได้เพียงแค่ 3 คนและเครื่องดื่มที่มีอยู่ด้านในทั้งหมดนั้นก็สามารถเข้าไปดื่มได้ฟรี!! แต่เฉพาะลูกค้าของโรงแรมเท่านั้นนะ ถ้าเป็นคนนอกก็หมดสิทธิ์จ้า

ถ้ายัดเข้าไป 4 คนแบบนี้ก็ดูอึดอัดเกินไปหน่อยนะ

David ตั้งใจว่าจะส่งเรื่องนี้ไปบันทึกลงในสถิติของกินเนสบุ๊กว่าเป็นบาร์เหล้าที่เล็กที่สุดในโลก และมันอาจได้เป็นสถานที่แสดงคอนเสิร์ตที่เล็กที่สุดในโลกอีกด้วยก็ได้ เพราะก่อนหน้านี้วง Jimmy’s Balloon ที่มีนักดนตรีสามคนเคยเข้าไปเล่นภายในตู้มาก่อน เพียงแต่ว่าไม่มีที่สำหรับผู้ชมหรอกนะ

ก่อนหน้าที่จะมีวงดนตรีก็เคยมีงานแต่งงานจัดขึ้นในนั้นด้วยนะ เรียกได้ว่าคุ้มค่าสารพัดประโยชน์จริงจริ๊ง

เมื่อถามเจ้าของตู้ดูว่าไม่กลัวมีคนมาขโมยเหล้าหรอ? เขาก็ตอบกลับมาว่า “นี่เป็นพื้นที่ชนบทจึงไม่ต้องกังวลเรื่องขโมย และคนที่เข้าไปใช้บริการก็มีเพียงแค่ลูกค้าของโรงแรมกับตัวผมเองเท่านั้น ซึ่งตอนผมเข้าไปดื่มผมก็ไม่เคยไปเมาอยู่ในนั้นหรอกนะ.. แต่ในอนาคตก็ไม่แน่”

บาร์เล็กๆ ที่มีเพียงแต่เราสองคน น่าเสียดายที่กระจกมันใสอ่ะเนาะ เลยไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไหร่ หุหุหุ

นับว่าเป็นไอเดียสุดสร้างสรรค์ในการเปลี่ยนสิ่งที่ดูจะไม่มีประโยชน์ในยุคนี้ ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในแบบที่ต่างออกไปจากเดิมอย่างที่คาดไม่ถึงเลย

ที่มา: ladbible