ประมวลภาพความเสียหาย ชายแดนอิรัก-อิหร่าน จากเหตุแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในปี 2017

เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.3 แมกนิจูดใกล้กับชายแดนประเทศอิรัก-อิหร่าน สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเมือง Sarpol-e Zahab ในประเทศอิหร่าน และทางตอนเหนือของแหล่งที่อยู่อาศัยชาวเคิร์ดในประเทศอิรัก

สำนักงานข่าว Reuters ได้รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากการกระทบกันของชั้นเปลือกโลกจนเกิดเป็นการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ทำให้ในตอนนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 406 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 7,185 คน ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในปีนี้เลยทีเดียว

เราได้ประมวลภาพผลกระทบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ได้เห็นถึงความรุนแรงของมัน การเข้ามาช่วยเหลือจากหลายฝ่าย รวมถึงการสูญเสียที่อยู่อาศัยและคนที่ตนเองรักไปอย่างน่าเศร้า

 

สิ่งปลูกสร้างภายในเมือง Sarpol-e Zahab ต้องพังทลายลงไปด้วยแรงสั่นสะเทือน

 

คนที่เดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังภายในเมือง Darbandikhan ในเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของประเทศอิรัก

 

ทีมช่วยเหลือพยายามตามหาผู้รอดชีวิตภายในเมือง Sarpol-e-Zahab โดยใช้การดมกลิ่นของสุนัข

 

ภาพนี้ถูกถ่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 แสดงให้เห็นถึงความเสียใจของชายคนนี้ที่อยู่ในเมือง Sarpol-e-Zahab

 

ญาติของผู้จากไปภายในเมืองเดียวกัน ที่ยังคงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

สิ่งก่อสร้างภายในเมืองแทบจะพังพินาศไปทั้งหมด และในตอนเกิดอาฟเตอร์ช็อคก็ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและรีบวิ่งออกมาอยู่ในที่โล่งแจ้ง

 

นี่เป็นแผ่นดินไหวครั้งที่ 4 ในปีนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน แต่ในสามครั้งก่อนนั้นมีจำนวนการตายแค่ไม่เกินเลข 1 หลักเท่านั้น และภาพด้านล่างนี้ก็คือผลกระทบอันรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมือง Darbandikhan

 

ผู้บาดเจ็บได้รับการรักษาหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ มา

 

นี่คือภาพของศพที่ถูกพบใต้เศษดินในเดือนกุมภาพันธ์ 2005 ซึ่งเป็นแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดของอิหร่าน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 600 คน

 

เมื่อนำภาพบนมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นความรุนแรงที่มากพอๆ กันได้เลย ซึ่งกรมสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้บอกว่าเหตุการณ์นี้สร้างเสียหายมูลค่ากว่า 3,300 ล้านบาท

 

ไม่มีใครอยากยอมรับกับการสูญเสียของคนที่เรารักจากเหตุการณ์นี้

 

ผู้คนไร้บ้านหรือที่อยู่อาศัย ไม่สามารถเข้าไปในตึกที่ไม่รู้ว่าจะพังลงมาเมื่อไหร่ได้

 

ทุกคนต่างรวมตัวกันเพื่อรอรับความช่วยเหลือจากหลายๆ หน่วยงาน

 

ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าภายใต้ซากเหล่านั้นมีผู้รอดชีวิตอยู่อีกหรือไม่

 

สิ่งปลูกสร้างที่ทนรับแรงสั่นสะเทือนอันมหาศาลไม่ได้จนต้องโค่นลงมาในที่สุด

 

ทหารได้เข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือประชาชนในส่วนต่างๆ

 

หลายหน่วยงานยื่นมือเข้ามาช่วยให้ทุกคนสามารถก้าวผ่านความเสียหายครั้งนี้ไปได้

 

นี่คงเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่จะคงฝังใจเหล่าผู้ประสบภัยทุกคนตลอดไป

 

ที่มา: businessinsider , nationalgeographic

Comments

Leave a Reply