นักวิทย์ฯ คอนเฟิร์ม ‘ผู้หญิง’ ขับรถดีกว่าผู้ชาย มีแนวโน้มผิดพลาดน้อยเพราะไม่วอกแวก

ความเชื่อที่ว่าผู้ชายขับรถได้ดีกว่าผู้หญิง แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเพราะนักวิทยาศาสตร์ชาวนอร์เวย์ได้ออกมายืนยันแล้วว่าผู้หญิงสามารถขับรถได้ดีกว่าผู้ชายบางคนซะอีก

งานวิจัยของพวกเขาเกิดขึ้นมาจากสถิติขององค์กรอนามัยโลก ได้ออกมาบอกว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั่นก็คือการเสียสมาธิและความใจลอย

นักวิทยาศาสตร์จึงทำการศึกษาว่าช่วงอายุ เพศ และบุคลิกภาพแบบไหนบ้างที่ส่งผลให้เกิดอาการใจลอยหรือถูกดึงดูดความสนใจจากสิ่งอื่นๆ ได้ง่าย

 

การขาดสมาธิขณะขับขี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

 

กลุ่มตัวอย่างแรกของการศึกษานี้คือเด็กมัธยมปลายจำนวน 1,100 คน ซึ่งในจำนวนนั้นมีอยู่ 208 คนที่มีใบขับขี่แล้ว และอีกกลุ่มตัวอย่างเป็นเหล่าผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วๆ ไป 414 คน

จากนั้นได้มีการสอบถามเกี่ยวกับความถี่และรูปแบบที่ทำให้กลุ่มตัวอย่างเสียสมาธิในขณะขับรถว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อการเสียสมาธิหรือใจลอยในตอนขับรถ

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการฟังวิทยุคือสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิขณะขับรถมากที่สุด และเมื่อดูในเรื่องของเพศ ช่วงอายุ กับบุคลิกภาพแล้วพบว่า วัยรุ่นชายคือกลุ่มที่มีอาการเสียสมาธิและใจลอยตอนขับรถมากที่สุด

กลุ่มอื่นๆ ที่มีแนวโน้มขาดสติขณะขับรถก็คือ คนที่ขับรถบ่อยๆ คนที่ใจร้อนหงุดหงิดง่าย และคนที่มีบุคลิกภาพชอบสนใจในสิ่งรอบข้าง

 

ขับรถก็ต้องมองถนน จะมามองกล้องแบบนี้มันก็ไม่ได้

 

ผู้วิจัย Ole Johansson จากสถาบันเศรษฐศาสตร์การขนส่งอธิบายว่า “คนที่อยู่ในกลุ่มขาดสติระหว่างขับรถคือคนที่เชื่อว่าอาการใจลอยเป็นสิ่งที่ทุกคนในสังคมก็เป็นเหมือนๆ กัน อยู่นอกเหนือการควบคุมและคิดว่าตัวเองไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองเอาไว้ได้ ทำให้พวกเขามุ่งความสนใจไปกับสิ่งอื่นขณะขับรถนอกเหนือจากถนนด้านหน้า”

ในขณะเดียวกันจากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ใน Frontiers in Psychology บอกว่ากลุ่มผู้หญิงที่มีอายุนั้นให้ผลในทางตรงกันข้าม เพราะพวกเธอสามารถควบคุมสติของตัวเองไว้ได้อย่างดี ทำให้มีอาการเสียสมาธิและใจลอยที่น้อยมาก

 

บางทีเราก็อาจกดดันสาวๆ มากเกินไปจนทำให้เธอขาดความมั่นใจในการขับรถ

 

งานวิจัยก่อนหน้านี้เคยพูดเอาไว้ว่าผู้หญิงสามารถขับรถได้ดีกว่าผู้ชาย เพียงแต่ว่าพวกเธอขาดความมั่นใจที่จะพูดออกมาเท่านั้น และในการศึกษาเมื่อปี 2015 ผลสรุปของการทดสอบการขับขี่ก็คือผู้หญิงเอาชนะผู้ชายไปได้แบบสบายๆ

ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็เคยมีการทดสอบในลักษณะเดียวกันนี้ โดยพวกเขาได้สังเกตถนนทางแยกอันแสนวุ่นวายที่ชื่อว่า Hyde Park Corner เพื่อดูว่าการขับขี่ของรถแต่ละคันเป็นอย่างไรกันบ้าง

ผลลัพธ์ที่ได้คือผู้ชายชอบขับรถแบบเสี่ยงๆ ไม่รักษาระยะห่างระหว่างคันข้างหน้า เลี้ยวแบบตัดโค้ง พิมพ์หรือคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ และเร่งความเร็วขับฝ่าไฟเหลือง

ตรงกันข้ามกับผู้หญิงที่ขับรถอย่างสุภาพ มีน้ำใจ รอบคอบ ป้องกันตัวเองจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น มองกระจกข้างและกระจกหลังอย่างถูกต้องเหมาะสม และหยุดเมื่อเจอสัญญาณไฟสีเหลือง

 

 

จากงานวิจัยทั้งหมดนี้ก็คงทำให้หลายคนเข้าใจแล้วว่าผู้หญิงสามารถขับรถได้ดีกว่าผู้ชายจริงๆ เพราะคำว่า “ดี” ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องขับรถได้คล่องตัว หรือมีลีลาผาดโผนเสมอไป แต่มันหมายความว่าคุณสามารถขับรถได้อย่างปลอดภัยหรือไม่มากกว่า

ที่มา: dailymail

Comments

Leave a Reply