เรือไอน้ำอราเบีย ถูกพบฝังอยู่ใต้พื้นดินหลังหายไปนานกว่า 132 ปี พร้อมข้าวของจากยุคนั้น

แม่น้ำมิสซูรี ประเทศสหรัฐอเมริกา คือเส้นทางเดินเรือที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอดีต มีเรือจักรไอน้ำกว่า 400 ลำเคยแล่นผ่านเส้นทางนี้ หนึ่งในนั้นก็คือเรือจักรไอน้ำที่มีชื่อว่า Arabia ที่บรรทุกสินค้าไว้มากกว่า 200 ตันก่อนที่จะจมลงไปอยู่ใต้แม่น้ำแห่งนี้ตั้งแต่ปี 1856

เรือลำดังกล่าวได้บรรทุกสินค้ามาจากเมืองเซนต์หลุยส์ ในรัฐมิสซูรี และได้แล่นไปตามแม่น้ำมิสซูรี จนกระทั่งเรือได้ไปชนเข้ากับสิ่งกีดขวางที่อยู่ใต้น้ำ ทำให้น้ำไหลเข้ามาผ่านรูที่อยู่ใต้ท้องเรือและจมเรือลงไปลงภายในเวลาไม่กี่นาที

 

การขุดเพื่อกู้ซากเรือลำดังกล่าวที่จมลงไปเมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา

 

ลูกเรือและผู้โดยสารอีกกว่า 130 คนสามารถรอดชีวิตมาได้แต่สินค้าจำนวนมากก็ได้จมหายไปนอนอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นพื้นดินรอบๆ แม่น้ำก็ได้เกิดการเคลื่อนตัวจนไม่สามารถทราบตำแหน่งของเรือได้และมันเอาไว้ลึกลงไปใต้ดินกว่า 13 เมตร

เวลาผ่านไปกว่า 100 ปี นักโบราณคดีที่ชื่อว่า Bob Hawley ก็รู้สึกสนใจและได้ออกตามหาเรือลำดังกล่าวในช่วงปลาย 1980s ซึ่งเขาเชื่อว่าตำแหน่งของมันน่าจะอยู่ห่างออกไปจากบริเวณรัฐมิสซูรี ประมาณ 800 เมตร

 

สินค้าจำนวนมากที่ถูกค้นพบภายในเรือ

 

เขาได้รับความร่วมมือจาก Judge Norman Sortor เจ้าของไร่ข้าวโพดที่ถูกเชื่อว่ามีเรือลำดังกล่าวจมอยู่ข้างใต้ ในปี 1987 การขุดเจาะเพื่อกู้ซากเรือในที่แห่งนั้นจึงได้เริ่มต้นขึ้น

ในตอนนั้นไม่อาจแน่ใจได้ว่าเรือ Arabia จมอยู่ใต้พื้นที่นั้นจริงหรือเปล่า และการขุดเจาะจำเป็นต้องทำด้วยความเร่งรีบเพื่อให้ทันก่อนฤดูหนาวตามที่ได้ทำข้อตกลงเอาไว้กับครอบครัวเจ้าของที่

 

ซากของเรือที่ยังคงสภาพเอาไว้ได้บางส่วน

 

ด้วยการทำงานอย่างหนักหน่วงของพวกเขา ในที่สุดซากเรือลำนั้นก็ได้โผล่ขึ้นมารับแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปี และในวันที่ 28 พฤศจิกายน 1988 พวกเขาก็เจอกับวัตถุที่ติดมากับเรือชิ้นแรก นั่นคือรองเท้าหนังยี่ห้อ Goodyear ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนั้น

 

วัตถุชิ้นแรกที่ถูกค้นพบระหว่างการเก็บกู้

 

วัตถุอีกหลายชิ้นก็ได้ถูกค้นพบอีกเรื่อยๆ และในวันที่ 5 ธันวาคมปีเดียวกันพวกเขาก็ได้เจอกับถังไม้ที่เก็บสินค้าเอาไว้เป็นจำนวนมากอย่างเช่น หมวก รองเท้า อุปกรณ์สำหรับการทำงานไม้ ของเล่นสำหรับเด็ก หรือแม้แต่อาหารดองที่ยังคงสามารถกินได้อยู่

การเก็บกู้ซากต่างๆ ได้เสร็จสิ้นลงในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1989 หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้นำสิ่งต่างๆ ที่รวบรวมมาได้ทั้งหมดไปตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นมา

 

สิ่งต่างๆ ที่ถูกค้นพบยังคงอยู่ในสภาพที่ดี

 

พิพิธภัณฑ์ Arabia Steamboat ถูกสร้างเอาไว้ในเมืองแคนซัสซิตี้ และเปิดให้ได้เข้าชมกันตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งได้กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

สมบัติจำนวนมากที่ถูกจัดแสดงมีน้ำหนักรวมกันกว่า 200 ตันได้ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้กลายเป็น “สถานที่รวบรวมหนึ่งคอลเลกชั่นวัตถุโบราณในยุคก่อนสงครามกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

 

พวกเขาแค่ทำความสะอาดนิดหน่อยก็กลับมาสวยงามเหมือนในอดีตแล้ว

 

หากใครสนใจอยากไปเห็นสิ่งของที่เดินทางข้ามผ่านกาลเวลาในอดีตมา

ก็สามารถบินไปดูกันได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เลยยย

 

ที่มา: thevintagenews

Comments

Leave a Reply