นี่เห็นอยู่นี้คือหน้าเว็บ CatDumb เวอร์ชันเก่า
-
ล้ำไปอีกขั้น นักวิทย์ฯ Harvard สามารถคิดค้นแบตเตอรี่ ชาร์จครั้งเดียวอยู่ได้นาน 10 ปี!!
รู้สึกกันไหมว่าเวลามือถือหรืออุปกรณ์อิเล็คโทรนิค เกิดอาการแบตเตอรี่หมดเนี่ย มันช่างเป็นปัญหากวนใจคนยุคใหม่อย่างเราๆ เสียเหลือเกิ๊นนน และปัญหาคาใจนี้จะหมดไป เพราะล่าสุดสำนักข่าว Dailymail ได้รายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้คิดค้นแบตเตอรี่ที่ชาร์จเพียงแค่ครั้งเดียว สามารถใช้งานไปได้นานถึง 10 ปีเลยทีเดียว โดยทีมวิจัยจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ได้คิดค้นแบตเตอรี่ที่สามารถจัดเก็บพลังงานในรูปแบบของโมเลกุลสารอินทรีย์ละลายน้ำที่มีค่า pH เป็นกลาง และด้วยวิธีดังกล่าวทำให้แบตเตอรี่แบบใหม่นี้ ปลอดภัยจากสารเคมีที่อาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่า แถมยังรวดเร็วกว่าอีกด้วย Dr. Michael Aziz หนึ่งในทีมวิจัยได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘แบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่เราค้นพบนี้จะสูญเสียพลังงานเพียงแค่ 1% ต่อรอบการหมุน 1,000 รอบ ซึ่งถ้านำไปเปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ชนิดเดิมที่ทำมาจากลิเธียม ไอออน จะพบว่าแบบใหม่นี้มีอายุการใช้งานที่นานกว่าหลายเท่าตัว คาดว่าถ้าหากนำไปใช้งานจริงมันจะมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเราก็มั่นใจว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกเทคโนโลยีในอนาคต’ ทว่าตอนนี้ทางผู้คิดค้นยังไม่ได้มีแผนที่จะนำแบตเตอรี่ดังกล่าวมาวางขายในเชิงพาณิชย์ เราก็คงต้องรอให้เค้าคิดค้นวิจัยกันจนมันสามารถนำวางขายได้จริงๆ นั่นแหละ ถึงจะได้หายห่วงเรื่องแบตหมดระหว่างวันซักที หวังว่านวัตกรรมแบตเตอรี่ชาร์จทีเดียวแต่ใช้กันไปยาวๆ นี้จะนำมาวางขายตามท้องตลาดเร็วๆ นะ เพราะทุกวันนี้ปัญหาแบตฯ…
-
คู่รักทหารสก็อตที่ช่วยหญิงชาวยิว เมื่อสมัยสงครามโลก ฉลองวาเลนไทน์ครองรักครบ 71 ปี!!
หากย้อนกลับไปในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หนึ่งในเหตุการณ์ที่คนทั่วโลกไม่อยากจะจดจำมากที่สุด คือเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว จากจักรวรรดินาซีนั่นเอง ทว่าในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายกลับมีเรื่องราวความรักของคนสองเกิดขึ้น และมันช่างเป็นเรื่องราวคามรักที่สวยงามซะจนเราต้องเอามาเล่าต่อเลยล่ะ เพราะปีนี้ทั้งคู่กำลังฉลองวันแห่งความรักเป็นรอบที่ 71 แล้วนะ…. John Mackay คุณปู่วัย 96 ปี และ Edith Steiner คุณย่าวัย 92 ปี เรื่องราวความรักของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โน้นแหละ ในตอนนั้นคุณปู่ยังทำหน้าที่เป็นนายทหารคอมมานโดให้กับกองทัพสก็อตแลนด์ และภารกิจส่วนใหญ่ที่เขาได้รับนั่นก็คือ การเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือชาวยิวที่ถูกจับเป็นเชลยศึก ครั้งหนึ่งเขาได้รับภารกิจให้เข้าไปช่วยเหลือชาวยิวส่วนหนึ่งที่กำลังจะถูกต้อนเข้าห้องรมแก๊สพิษ แน่นอนว่าภารกิจสำเร็จลุลวงด้วยดี หนึ่งในชาวยิวที่เขาช่วยเหลือมาได้ในครั้งนั้น ก็มี Edith Steiner หญิงสาววัย 20 ปี ผู้ที่กลายมาเป็นรักแท้ของเขาในเวลาต่อมา ภาพของพวกเขาในสมัยยังเป็นหนุ่มสาว หลังเสร็จสิ้นภารกิจจากสมรภูมิรบ ทั้งคู่พบกันอีกครั้งที่งานเต้นรำเฉลิมฉลองอิสรภาพ ในที่สุดพวกเขาก็ได้แต่งงานกันในวันที่ 17 มิถุนายน 1946 อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวอย่างมีความสุขพร้อมกับทายาทตัวน้อยอีก 2 ชีวิต ภาพถ่ายครอบครัว ถ้าหากเรื่องราวการพบกันของทั้งคู่น่าสนใจแล้ว…
-
นี่คือ… 18 ความจริงจริ่งจริ้งจริ๊งจริ๋ง ที่เหล่า ‘หนอนหนังสือ’ ทุกคนต่างเข้าใจดี!!
ว่ากันว่าการอ่านหนังสือนั้นช่วยทำให้เราพัฒนาด้านจินตนาการ ความคิด และอื่นๆ อีกมากมาย ถึงขนาดที่ว่ารัฐบาลแทบจะทุกที่ทั่วโลก ต่างต้องการสนับสนุนให้คนในประเทศเริ่มหันมารักการอ่านกันให้มากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงมันจะไม่ได้รับความสนใจจากคนหมู่มากเท่าไหร่ก็เถอะ และวันนี้เราจะพาไปตอกย้ำความจริงของเหล่าคนรักอ่านหนังสือ ด้วย 18 เรื่องจริงที่มันแบบว่า เออ….มันเป็นแบบนี้จริงๆแฮะ 1. ที่ห้องของคุณ ก็จะมีหนังสือเยอะซะจนแม้แต่ชั้นวางก็เอาไม่อยู่ 2. ซื้อหนังสือมาจนเต็มบ้าน แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลาอ่านมันอยู่ดี 3. เค้าบอกว่าอย่าตัดสินหนังสือที่ปก แต่พอเห็นหน้าปกน่าสนใจหน่อยละก็… เสียเงินทู๊กกกที 4. ส่วนวันหยุดน่ะเหรอ? ไม่ค่อยอยากจะทำอะไรหรอก นอกจากนอนอ่านหนังสือเฉยๆ 5. ปฏิกริยาของคุณเมื่อมีคนถามว่าชอบหนังสือเล่มไหนมากที่สุด (ชอบหมดแหละ ตอบไม่ถูก ทุกเรื่องมีดีไม่เหมือนกัน 555+) 6. หนอนหนังสือจะรู้ด้วยกันดีว่า ถ้าเจอคนอ่านหนังสือในที่สาธารณะ จริงๆ แล้วมันคือสัญลักษณ์ “ห้ามรบกวน” ยังไงล่ะ 7. รู้สึกแปลกๆ เสมอเมื่อเจอกับคนที่บอกว่าตัวเองไม่ชอบอ่านหนังสือ 8. และนี่คือความรู้สึกของคุณเมื่อเจอเพศตรงข้ามที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน!! 9. เกลียดทุกคนที่ชอบมาสปอยล์ตอนจบของหนังสือ …
-
หนุ่มพาสำรวจ “บ่อน้ำเก่าแก่อายุ 300 ปี” ไม่เจออะไรเลย… เจอแต่งู งู และงู เต็มไปหมด!!
บนโลกของเรานั้นยังมีความลับต่างๆ อยู่อีกมากมายที่เราไม่เคยรู้ แน่นอนว่าในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ย่อมทำให้เกิด ‘ความอยากรู้อยากเห็น’ เป็นธรรมดา เช่นเดียวกันกับนาย Beau Ouimette ที่เป็นเจ้าของแชแนลยูทูบ ที่จะพาทุกๆ คนไปสำรวจตามสถานที่แปลกๆ และในวันนี้เขาก็จะพาเราไปสำรวจ ‘บ่อน้ำที่มีอายุมากกว่า 300 ปี’ ข้างในจะมีความลึกลับอะไรอยู่บ้าง ลองไปติดตามชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… ถ้าทุกคนพร้อมแล้วก็ตามผมมาได้เลย นี่คือรูปร่างหน้าตาของเจ้าบ่อน้ำ ผ่าง!! มืดตึ๊บบบ ไม่เห็นอะไรซักอย่าง และสิ่งที่เขาได้พบในระหว่างการสำรวจบ่อน้ำนี้ก็คือ งู งู และงู นั่นเอง!! ที่นี่กลายเป็นรังของเหล่างูไปซะแล้ว จ๊ะเอ๋ ว่าไงเพื่อน นอนขดอยู่ตรงนี้อีกตัว อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่เลยนะเนี่ย ลองคิดดูว่าคุณเข้าไปในอาณาจักรเจ้าแม่นาคี ที่มีแต่งู งู และงูอยู่รอบตัว มันจะชวนขนลุกขนาดไหน แม้ว่าการค้นพบของนาย Ouimette นั้นจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ หรือสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้แก่โลกของเรา แต่ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าคนดูเป็นอย่างมาก ลองไปชมคลิปการสำรวจกันแบบเต็มๆ ของเขา… ในช่วงท้ายของรายการเขาบอกเอาไว้ว่า…
-
22 คำคมฮาๆ จากหนังสือรุ่น พิสูจน์ว่า “ความเกรียน” กับ “ความคิดสร้างสรรค์” มีเส้นบางๆ กั้นอยู่
หากย้อนกลับไปในช่วงมัธยมปลาย เพื่อนๆ ทุกคนคงจะเคยผ่านประสบการณ์การคิดคำคมใน ‘หนังสือรุ่น’ กันมาบ้างแล้ว แน่นอนว่าหลายๆ คนก็คงจะใส่คำคมที่ตรงกับทัศนคติในการดำเนินชีวิตของตัวเอง แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมคำคามในหนังสือรุ่นแบบฮาๆ ของเหล่านักเรียนชั้นมัธยมปลายต่างประเทศ ต้องขอบอกเลยว่าถ้าความคิดไม่สร้างสรรค์ และไม่เกรียนพอ คิดไม่ได้นะ ฮร่าๆ 1. เมื่อตรูไปตัดผมมา และไม่มีใครสังเกตเห็นเลย… 2. โรงเรียนมัธยมปลายนั้นเป็นอะไรที่ง่ายมากๆ มันเหมือนกับการขี่รถมอเตอร์ไซค์ แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ที่ไฟกำลังลุกไหม้ และพื้นเองก็มีแต่ไฟ ทุกอย่างมีแต่ไฟเต็มไปหมด เพราะมันคือนรกยังไงล่ะ!! 3. ผมถูกไล่ออกจาก Hogwarts เพราะใช้เวทย์มนตร์จากศาสตร์มืด 4. ฉันอายุน้อยกว่าพี่สาว 3 นาทีครึ่ง…. ตอนที่ไม่มีน้อง มันเป็นช่วงเวลา 3 นาทีครึ่ง ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตของฉันเลยล่ะ 5. ผมได้ยินทุกๆ อย่าง (อืมม์ เพราะหูเอ็งใหญ่สินะ) 6. มันยากมากที่จะเป็นซิงเกิ้ลมัม โดยเฉพาะเมื่อคุณไม่มีลูกซักคน และพวกเขาก็เป็นวัยรุ่นผู้ชาย (เออละมันจะเป็นได้ไง!?)…
-
รู้จักกับเจ้า Rhea ‘นกแก้วไร้ขน’ แต่พกความน่ารักมาเต็ม จนกลายเป็นเซเลบที่มีคนติดตามนับแสน!!
ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า ‘นกแก้ว’ ที่แม้ไม่มีความสามารถในการบิน แต่ชีวิตของมันก็แฮปปี้สุดๆ!! เจ้า Rhea นั้นเป็นนกแก้วตัวน้อยที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับจงะอยปาก (Psittacine beak and feather Disease) ที่ส่งผลให้ขนของมันนั้นร่วงหมดทั้งลำตัว แต่โชคดีที่คุณ Isabella Eisenmann หญิงสาววีย 23 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองบอสตัน ได้เห็นมันหลังจากที่สัตวแพทย์ได้ทำการโพสต์รูปของมันลงบนโซเชียลเพื่อหาบ้านให้กับเจ้า Rhea และเธอก็รีบติดต่อไปหาสัตวแพทย์ในทันที แม้ว่าตอนนั้นเธอเองก็ไม่มั่นในว่าจะเลี้ยงมันได้หรือเปล่า แต่รู้แค่ว่าเธออยากดูแลมันมากๆ วันต่อมา Isabella จึงไปรับเจ้า Rhea มาอยู่ด้วยกัน และเธอก็พบว่ามันเป็นนกที่น่ารักเอาซะมากๆ เธอเล่าว่า “โรคที่เจ้า Rhea เป็นนั้นถ้าอยู่ในขั้นที่รุนแรงอาจจะทำให้มันสูญเสียกรงเล็บและจะงอยปากไป แต่กรณีของมันไม่ได้สาหัสมากถึงขั้นนั้น จึงทำให้มันสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้” สิ่งที่เธอต้องทำเป็นพิเศษมากกว่าการดูแลนกแบบปกติก็คือต้องพามันไปตรวจเลือดเป็นประจำทุกปี และให้ความอบอุ่นแก่มัน นอกจากนี้ Isabella ได้สร้างอินสตาแกรมมาให้มันโดยเฉพาะด้วย ทำให้มีผู้คนสนใจในความน่ารักของเจ้า Rhea มากมาย จนตอนนี้มีผู้ติดตามใน อินสตาแกรมมากกว่า 246,000 คนเลยทีเดียวล่ะ ด้วยความที่มันไม่มีขน คุณ…
-
คุณลุง “พิการทางสมอง” กินอาหารปกติไม่ได้ พนักงานเสิร์ฟหนุ่มขอช่วยป้อนให้แทน…
เรื่องราวของพนักงานเสิร์ฟอาหารคนหนึ่ง ที่ได้ทำการอาสาช่วยป้อนอาหารให้กับลูกค้าที่ป่วยเป็นโรคที่ทำให้เขาไม่สามารถดูแลตัวเองได้เหมือนกับคนปกติทั่วไป สร้างความประทับใจให้กับคนอื่นๆ อีกมากมาย Lee Bondutant วัย 51 ปี อาศัยอยู่ในเมือง Raleigh รัฐ North Carolina ขณะที่เขาได้ออกไปทานมื้อเย็นรวมกับคุณแม่อย่างยากลำบาก แต่จู่ๆ ชายแปลกหน้าคนหนึ่งก็ได้เสนอตัวเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ในวันเกิดเหตุที่ร้าน Oyster Bar ในเมือง Raleigh คุณ Linda Bondurant-Snow คุณแม่ของ Lee กำลังทานอาหารด้วยกันอย่างยากลำบาก เพราะนอกจากจะต้องทานด้วยตัวเองแล้ว เธอยังต้องป้อนข้าวให้กับลูกชายที่ป่วยเป็นโรคสมองพิการ ทำให้ไม่ดูแลตัวเองได้ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีพนักงานเสิร์ฟคนเหนึ่ง ชื่อว่า Five ได้เข้ามาช่วยเหลือ ทำการ ป้อนอาหาร และดูแล Lee เพื่อแบ่งเบาภาระของคุณแม่ “เขาเดินเข้ามาพร้อมกับหยิบยื่นความช่วยเหลือให้” คุณ Linda เล่า พ่อหนุ่ม Five ไม่ได้มีท่าทีที่รังเกียจ Lee แต่กลับช่วยเหลือทุกอย่าง ตั้งแต่ป้อนอาหาร…
-
บริษัทอังกฤษรับทำ “เถ้ากระดูกคนตาย” เป็นแผ่นเสียง เพื่อระลึกถึงคนที่คุณรัก…
‘ความตาย’ เป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องพบเจอ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็มักจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเศร้า และความคิดถึงแทบใจจะขาด ให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการจัดการกับความเศร้าที่แตกต่างกันออกไป และนี่ก็คือวิธีที่เรียกได้เลยว่าแปลกมากๆ เพราะทางบริษัท And Vinyly ของประเทศอังกฤษ ได้ทำการนำเถ้ากระดูกของผู้เสียชีวิตมาทำเป็นแผ่นเสียง นั่นก็เพื่อให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ได้เปิดฟังและระลึกถึงคนสำคัญที่จากไป… วิธีการทำก็คือการนำเถ้ากระดูกของผู้เสียชีวิตมาโรยลงไปบนแผ่นเสียง ที่ทางลูกค้าจะเป็นคนเลือกเพลง หรือเสียงอะไรก็ตามที่ต้องการให้เขียนลงบนแผ่นเสียง จากนั้นก็จะทำการเคลือบแผ่นเสียงอีกครั้ง ให้เถ้ากระดูกติดอยู่กับแผ่นเสียงไม่หลุดออกไป และเวลาเปิดแผ่นเสียงฟังนั้นจะมีเสียงตะกุกตะกักอันเกิดมาจากเศษเถ้ากระดูกเล็กน้อย เป็นการแสดงว่าพวกเขายังคงอยู่ในแผ่นเสียงนั้น ใกล้ๆ กับเราตลอดเวลา นอกจากนี้ในส่วนของตลับแผ่นเสียงนั้นก็มีบริการจากศิลปินจาก National Portrait Gallery มาช่วยวาดภาพพอร์เทรทให้อีกด้วย นาย Jason Leach ผู้ก่อตั้งได้กล่าวเอาไว้ในหนังสั้นเรื่อง Hearing Madge ถึงธุรกิจของเขาเอาไว้ว่า “เรื่องราวอันอ่อนโยนของชีวิตนั้นถูกบันทึกไว้โดยเสียง” . หากใครสนใจล่ะก็สามารถติดต่อโดยตรงไปยังบริษัท andvinyly ได้เลย และมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 130,000 บาท ถึงจะเป็นราคาที่ดูแพงไปสักหน่อย แต่สำหรับหลายคนมันกลับคุ้มค่ามาก… ลองไปชมคลิปหนังสั้นโปรโมท ของบริษัท And Vinyly กันแบบเต็มๆ ในตัวอย่างวิดีโอด้านล่าง… ที่มา…
-
“คาวาซากิ” พัฒนาหุ่นยนต์ ที่สามารถ “ติดฟิล์มโทรศัพท์” ได้อย่างรวดเร็ว และเนี๊ยบ ไม่แพ้คนทำ
สำหรับเพื่อนๆ หลายคนที่ใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนแล้ว เรื่องของการติดฟิล์มกันรอยนั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะต้องเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้งและแต่ละครั้งก็จะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 50-100 บาท จากนั้นพนักงานก็จะทำการเปลี่ยนฟิล์มให้ แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาไปชมเรื่องที่จะทำให้เพื่อนๆ มองว่าการติดฟิล์มกันรอยนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาอีกต่อไป!! เพราะล่าสุดทางบริษัท Kawasaki ได้ทำการเปิดตัวเจ้าหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า duAro ในงาน Pepper World ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น งานที่จะรวมนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไว้ที่นี่ ที่พิเศษก็เพราะว่าเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้มันสามารถติดฟิล์มโทรศัพท์ได้ด้วย แถมยังทำได้เนี๊ยบ และรวดเร็วแบบสุดๆ อีกต่างหาก!! เจ้าหุ่นยนต์ชนิดนี้เป็นนวัตกรรมหุ่นยนต์ SCARA ที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานต่างๆ ได้เฉกเช่นเดียวกันกับมนุษย์ และด้วยรูปลักษณ์ที่เป็น ‘แขนคู่’ แล้ว ทำให้มันสามารถทำงานต่างๆ ที่อาจจะดูยากและละเอียดอ่อนเหมือนกับการติดฟิล์มโทรศัพท์ได้อย่างง่ายดาย แต่ในปัจจุบันเรื่องของต้นทุนและการผลิตนั้นยังคงมีราคาที่แสนแพงอยู่ จึงทำให้การนำมาใช้งานตามห้าง หรือร้านขายโทรศัพท์ต่างๆ ยังเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากทางผู้ผลิตสามารถลดต้นทุนได้ก็มีโอกาสได้เห็นกันอย่างแน่นอน!! ลองไปชมคลิปการติดฟิล์มกันรอยของเจ้าหุ่นยนต์ duAro กันแบบเต็มๆ ว่ามือของมันจะติดฟิล์มเหมือนหรือต่างจากมือคนแค่ไหน!? . ที่มา : wonderfulengineering
-
หนุ่มรีวิวภารกิจ แอบเปลี่ยนข้อมูลในวิกิฯ ว่าเป็นน้องศิลปิน จนได้เข้าชมคอนเสิร์ตแบบ VIP ?!?!
สำหรับแฟนๆ ของศิลปินแล้ว การได้เข้าชมแบบใกล้ชิดถือว่าเป็นฝันสูงสุดของพวกเขาเลยทีเดียว และหากมีทางไหนที่ทำให้พวกเขาเข้าใกล้ความฝันนั้นได้ พวกเขาก็จะทำแม้มันจะต้องถึงกับแก้ “วิกิพีเดีย” กันเลยทีเดียว!!! เรื่องราวสุดเกรียนอันนี้เป็นผลงานของพ่อหนุ่ม Adam Boyd ชาวอังกฤษจากมณฑลเชชเชอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เขาได้เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตของวง “The Sherlocks” ที่ อัลเบิร์ตฮอลล์ ในเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งเป็นวงดังกล่าวเป็นวงที่เขาชื่นชอบเป็นอย่างมาก แต่บังเอิ๊ญวันนั้นรถไฟดั๊นดีเลย์เพราะเหตุผลบางอย่าง ทำให้เขาไปถึงคอนเสิร์ตสายกว่าที่คาดไว้ ด้วยความที่คอนเสิร์ตเป็นแบบบัตรยืน ทำให้เขาได้มุมที่แทบจะมองไม่เห็นศิลปินที่เขาชื่นชอบแม้แต่นิดเดียว ขณะที่กำลังเซ็งอยู่นั้น สายตาของเขาเหลือบไปเห็นเขตหวงห้ามที่อนุญาติเฉพาะแขกวีไอพีและศิลปินที่อยู่บนชั้นสอง ซึ่งหน้บริเวณดังกล่าวมีการ์ดยืนอยู่ เขาตัดสินใจจะลองทำอะไรบางอย่างเพื่ออรรถรสในการรับชมที่ดียิ่งขึ้น การแก้ไขข้อมูลให้มีชื่อของเขา และเปิดให้การ์ดดูเพื่อผ่านเข้าไป สิ่งที่เขาทำก็คือเริ่มด้วยการแก้ข้อมูลในวิกิพีเดียของวง ว่าเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของนักร้องนำ และนำไปให้การ์ดเฝ้าประตูคนนั้นดู ผลปรากฎว่าการ์ดคนนั้นเชื่อด้วย และเขาก็ได้เข้าไปอยู่ในเขตหวงห้ามทั้งๆ แบบนั้นเลย! เจ้าตัวระบุว่า “ผมนั่งนึกว่าจะหลอกพวกเขายังไงดีว่าเป็นญาติศิลปินและผมก็นึกถึงวิกิพีเดีย จากนั้นผมก็ลงมือแก้ทันทีเลย พอยื่นให้การ์ดดู เขาก็ให้ผ่านเข้าไปสงสัยผมจะโชคดีจริงๆ นะเนี่ย” “ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าทำสำเร็จ ตอนแรกการ์ดหน้าประตูทำท่าเหมือนไม่เชื่อ แต่สุดท้ายเขาก็ยอมให้เข้าไปซะงั้น โชคไม่ดีที่ศิลปินที่ผมชอบกำลังเตรียมการแสดง ทำให้ไม่ได้เจอกันตัวต่อตัว แต่ผมก็ได้เห็นกระบวนการต่างๆ แถมได้ดูจากหลังเวทีแบบใกล้ชิดแบบสุดๆ ชนิดที่ว่าเห็นเวลาบนนาฬิกาข้อมื้อของพวกเขาอ่ะ” อดัม…
-
นักศึกษาจีนกตัญญู พาย่าไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยด้วย เพื่อที่เธอจะได้ดูแลย่าตลอดเวลา…
กลายเป็นเรื่องราวที่สร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตทั่วโลกจริงๆ กับนักศึกษามหาวิทยาลัยชาวจีนคนหนึ่ง ที่พาคุณย่าบังเกิดเกล้ามาอาศัยในเมืองใหญ่ด้วย เพื่อเธอจะได้ดูแลผู้มีพระคุณคนนี้อย่างใกล้ชิด แม้จะทำให้เธอต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอท้อแต่อย่างใด เรื่องราวดังกล่าวเป็นของนักศึกษาภาควิชาเศรษฐศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว จากมหาวิทยาลับเฉิงตูคนหนึ่งชื่อว่า หลิวหลิน เธอเล่าว่าพ่อของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก แม่ก็ป่วยหนัก เธอจึงถูกเลี้ยงมาโดยคุณย่าในเมืองเล็กๆ ที่เชื่อว่าเน่ยเจียง ในมณฑลเสฉวน ภายหลังเธอสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเฉิงตู ซึ่งเป็นมหาลัยอันดับต้นๆ ในมณฑลเสฉวนได้ เธอจึงต้องทิ้งบ้านเกิดเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ ด้วยความเป็นห่วงว่าคุณย่าที่อายุมากแล้วจะไม่มีคนดูแล เธอจึงพาคุณย่าของเธอมาอยู่ที่เมืองเฉิงตูด้วย โดยเธอได้เช่าอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยและอาศัยอยู่กับย่าสองคน ด้วยความที่คุณย่าของเธอได้รับบาดเจ็บกระดูกหัก จนไม่สามารถเคลื่อนไหวด้วยตนเอง เธอจึงต้องคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา โดยทุกๆ เช้าเธอจะเตรียมอาหารและอาบน้ำให้ย่า จากนั้นก็จะไปเรียน เมื่อเรียนเสร็จตอนเที่ยง เธอจะแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของกลับมาทำอาหาร หากอากาศแจ่มใสเธอก็จะพาคุณย่านั่งรถเข็นออกไปชมโลกภายนอก “ฉันเติบโตมาได้ก็เพราะคุณย่า ตอนนี้เป็นตาของฉันแล้วที่ต้องดูแลเธอบ้าง” หลิวหลินกล่าว ทุกวันนี้เธอต้องจ่ายค่าเช่าห้องเดือนละประมาณ 3,500 บาท ซึ่งน้องชายของเธอที่ทำงานอยู่ในเมืองเฉิงตู จะส่งเงินมาให้เดือนละประมาณ 11,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายทุกอย่าง และตัวเธอเองก็ทำงานพิเศษเพื่อหาเงินอีกทางหนึ่ง แม้เธอจะต้องรับภาระหนักขนาดนี้ แต่การเรียนของเธอก็ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จนภายหลังมหาวิทยาลัยทราบเรื่องราวของเธอ และเสนอจะมอบทุนการศึกษาให้ แต่เชื่อหรือไม่ เธอปฏิเสธทุนการศึกษานั้น… “ฉันแค่รู้สึกว่ามันไม่ถูกที่จะไปรับเงินใครโดยไม่มีเหตุผล น้องชายของฉันกำลังทำงานอยู่ในเมือง และฉันก็จะหางานพิเศษพาร์ทไทม์ทำ…
-
17 ภาพถ่ายที่ดั๊นได้จังหวะพอดีเป๊ะ จนคุณต้องหันมาดูอีกรอบ อ่าวใช่เหรอ!?
บางครั้งภาพเจ๋งๆ หลายๆ ภาพที่เราเห็นกัน ล้วนเกิดจากความบังเอิญทั้งสิ้น แต่ความบังเอิญไม่ใช่สิ่งเดียวที่ทำให้เกิดภาพเจ๋งๆ เหล่านั้นขึ้นมาได้ คุณต้องมีทั้งความคิดสร้างสรรค์และมุมมองที่แตกต่างจากคนทั่วไปด้วย อย่างเช่น 15 ภาพความบังเอิญเจ๋งๆ ที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้ชมวันนี้ บอกได้เลยว่า แค่โชคดีอย่างเดียว สร้างผลงานแบบนี้ขึ้นมาไม่ได้หรอกนะ เพราะมันอาจจะต้องใช้ทั้งความสามารถ จังหวะ เวลา โอกาสที่เหมาะสม มุมกล้อง รวมไปถึงสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ “ดวง” นั่นเอง เจ้าหมาในฟองสบู่ บินไปเลย!! คุณปู่สยายปีก หมาเรนเดียร์ งับ….. วันนี้หนูจะมาแข่งวิ่งข้ามเครื่องกีดขวาง เรือปิศาจ “เดอะ ฟลายอิ้ง ดัชแมน” งานแต่งนกฮูก เครื่องบินและไทม์สแควร์ รอยสัก หรือ เงาของแมลงปอ ซุปเปอร์มูนในดูไบ วางอยู่บนแท่นพอดีเป๊ะ ปิศาจไฟ ขอร่วมฝูงบินด้วยอีกตัว …
-
จังหวัดในญี่ปุ่นใช้ “ซามูไร” มาเป็นป้ายการ์ตูนคาวาอิ๊ บอกข้อมูลให้นักท่องเที่ยว
อย่างที่ทราบกันดีว่า ประเทศญี่ปุ่นกำลังจะกลายเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในปี ค.ศ. 2020 ที่กรุงโตเกียว ซึ่งแน่นอนว่า นักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลจากทั่วโลกจะต้องหลั่งไหลเข้าในดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ ทางรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น รวมทั้งบริษัทเอกชน ต่างให้ความร่วมมือร่วมกันปรับเปลี่ยน ปรับปรุง สิ่งต่างๆ ในประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากเหล่านั้น เช่น การเปลี่ยนสัญลักษณ์บนส้วมใหม่ของบริษัทผู้ผลิตสุขภัณฑ์ และล่าสุด ทางจังหวัดอิวาเตะก็ได้มีไอเดียใหม่มานำเสนอกันอีก จากการคิดวางแผนที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจอะไรง่ายๆ โดยยังมีเสน่ห์ของความเป็นญี่ปุ่นอยู่ด้วย พวกเขาก็เลยปล่อยแผ่นป้ายให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว ให้ห้างร้านต่างๆ ในจังหวัดได้ดาวน์โหลดไปใช้งาน ที่เจ๋งคือพวกเขาได้นำ “ซามูไร” ยอดนักรบในอดีตของพวกเขามาเป็นพรีเซนเตอร์ บอกได้คำเดียวว่าทั้งฮา และน่ารักแบบสุดๆ เลย ลองไปชมกันดูว่ามีอะไรบ้าง เพื่อมารยาทที่ดี ควรอาบน้ำก่อนลงบ่อน้ำพุร้อน ขณะอาบ ระวังคนอื่นด้วย อย่าสระผมในบ่อน้ำร้อน เครื่องดื่มก็ห้ามนำเข้าไป เช็ดตัวก่อนออกมาจากบ่อน้ำร้อน อาหารเผ็ดนะ อาหารเผ็ดมาก อาหารเผ็ดสุดๆ ไปเลยยยย มังสาวิรัตกินได้ ชาร์จไฟได้…
-
ชุดเจ้าสาวอายุ 147 ปี หายไปจากร้านซักรีด จึงขอแรงชาวเน็ตช่วย สุดท้ายเจอมันอีกครั้ง…
สำหรับหลายๆ บ้าน ก็มีข้าวของที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษแตกต่างกันออกไป บ้างก็อาจเป็นที่ดิน บ้างก็อาจเป็นตัวบ้าน บางคนอาจมีนาฬิกาอายุร้อยๆ ปี แต่สำหรับบ้านตระกูล Newall พวกเขามีสิ่งของชิ้นหนึ่งที่ตกทอดกันมานับร้อยปี จากรุ่นสู่รุ่น นั่นก็คือชุดแต่งงานตัวนี้นั่นเอง… ชุดแต่งงานที่เธอทำหายไป ชุดดังกล่าวตัดเพื่อใช้ในงานแต่งงานของแม่ของทวดเมื่อ 147 ปีก่อน ซึ่งก็ตกทอดมาเรื่อยๆ จนถึงรุ่นของ Tess Newall ซึ่งเธอก็ได้สวมชุดดังกล่าวเข้าพิธีแต่งงานเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากจบงานแต่งงาน เธอได้ส่งชุดแต่งงานอายุร้อยกว่าปีเข้าร้านซักรีกแห่งหนึ่งในกรุงเอดินบะระ ประเทศสก็อตแลนด์ ที่มีชื่อว่า “Kleen Cleaner” ร้านซักรีดดังกล่าว แต่เมื่อถึงกำหนดไปรับชุด ร้านกลับบอกว่า ชุดแต่งงานหายไปซะอย่างนั้น ซึ่งตัวเธอนั้นไม่ปักใจเชื่อเรื่องดังกล่าว และคิดว่าร้านน่าจะแอบเอาชุดแต่งงานอายุร้อยปีนี้ไปขาย เธอจึงมาขอให้ชาวเน็ตช่วยเหลือตามหาชุดนั้น ในโพสต์เฟซบุ๊คนั้นระบุข้อความประมาณว่า “ฉันรู้สึกว่าร้านซักรีดนั้นทำชุดแต่งงานที่รักที่สุดของฉันหายไป ซึ่งมันถูกทอขึ้นมาโดยคุณย่าทวดของคุณย่าตั้งแต่ปี 1870 และฉันก็ใส่มันในช่วงเดือนมิถุนายน 2016 ร้านดังกล่าวเคยเป็นร้านที่ดีมากๆ แต่ตอนนี้มันเหมือนว่าถูกขายไป และอาจจะอยู่ในที่ไหนสักแห่ง ได้โปรดแชร์โพสต์นี้ไปทั่วโลกเพื่อตามหาชุดนี้กลับคือมา ขอบคุณทุกคนมาก” หลังจากโพสข้อความไป โพสของเธอก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก จนมีคนกดไลค์กว่า 46,000 ไลค์ และมีคนแชร์กว่า 302,000 ครั้ง…
-
เมื่อเกมเมอร์ชวนคุณพ่อ เปิดประสบการณ์เล่น Overwatch ครั้งแรก น่ารักเสียจริงจริ๊ง!!
สำหรับเพื่อนๆ หลายคนแล้วจะรู้กันดีว่ารุ่นคุณพ่อ คุณแม่นั้น การที่จะได้มานั่งเล่นเกมเหมือนกับวัยรุ่นยุคปัจจุบันนั้นย่อมเป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก เช่นเดียวกันกับคุณพ่อท่านี้ ที่มีโอกาสได้มาเปิดประสบการณ์ลองเล่นเกมชื่อดังอย่าง Overwatch เมื่อ Ollie ยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ เจ้าของแชแนลยูทูบ 영국남자 Korean Englishman ที่มีคนติดตามนับล้านคน ได้นึกสนุกพาคุณพ่อของตัวเองไปหัดเล่นเกม Overwatch แบบนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่ต้นเลย เท่านั้นยังไม่พอ เขายังพาคุณพ่อไปทำความรู้จักกับวงการ E-Sport ถึงที่ประเทศเกาหลี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญและสนับสนุนวงการนี้อย่างเต็มที่อีกด้วย ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับคุณพ่อเลยล่ะ คุณพ่อของ Ollie เล่าว่าเกมคอมพิวเกตอร์เกมสุดท้ายที่เขาเล่นนั้นก็คือเกมมาริโอ้ แน่นอนว่าต้องเป็นงานยากลำบากแน่ๆ ที่ต้องมาเจอเกมแนว FPS + MOBA อย่าง Overwatch ก่อนอื่นก็มาเริ่มกันที่โหมดฝึกเล่นกันก่อนเลย!! กด W,S,A,D เพื่อเคลื่อนไหวนะพ่อ อ๊ะ!! เก่งเลยนะพ่อ แหม่ ซู๊ดยอดพ่อ ยิงบอทมันเลย!! เอาล่ะเราไปลองกับผู้เล่นจริงๆ กันเลย!! หลังจากที่ได้ลองเล่นกับผู้เล่นแล้วก็พบว่ามันช่างดุเดือดซะเหลือเกิน จนทำให้คุณพ่อถึงกับต้องถอดเสื้อนอกออกมาเพราะความหัวร้อนเลยล่ะ ฮร่าๆ แถมยังมีการบอกอีกนะว่า คนอื่นๆ จะต้องไม่แฮปปี้แน่ๆ…
-
เมื่อนายกแคนาดา ทำท่าลังเลจับมือทรัมป์ เอาละสิ จับพวกเขาไปตัดต่อซะเดี๋ยวนี้!!
จากการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา Donald Trump และ นายกรัฐมนตรีของประเทศแคนาดา Justin Trudeau ที่ทำเนียบขาวเมื่อวัน 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทุกอย่างราบรื่นไปได้ด้วยดี จนกระทั่งมาถึงตอนที่กำลังจะจับมือกัน ดั๊นนน… มีช่างภาพจับภาพออกมาได้ประหนึ่งว่าท่านนายกกำลังลังเลอยู่ว่าจะจับมือกับท่านประธานาธิบดีหรือไม่ เพราะจากที่เห็นจากคลิปตามรายการต่างๆ เวลาที่ Trump จับมือกับใครนั้นมักจะทำแบบรุนแรงตลอด ไม่แน่ว่าที่ท่านนายก Justin ลังเลเพราะกลัวว่าเขาจะทำรุนแรงแบบที่ทำกับคนอื่นๆ ก็ได้ ฮร่า และก็ไม่พ้นสายตาของเหล่าชาวเน็ต พอเห็นภาพดังกล่าวก็เลยหยิบเอาไปเล่นกันเป็นมหกรรมตัดต่อ Photoshop Battle กันอย่างสนุกสนาน จะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… ภาพต้นฉบับ วินนิ่งมั้ยสาสสสสส อ่ะ ฉันแบ่งโปเกบอลให้ แหม่ กดทีนี่รู้เรื่องเลยนะ อ่ะนี่ ฉันแบ่งให้ เย้ยยย!! เอาแมวไป ลัทธิกินเนื้อมนุษย์มั้ยล่ะเธอววว์ เดี๋ยวจะเล่นกลสนุกๆ ให้ดูนะ นี่คือพลังที่ซ่อนอยู่ภายในของข้า อ่ะ เอาการ์ดใบนี้ไป…
-
Disney ประกาศลงโทษ “Pewdiepie” หลังเขาจ้างคนทำคลิปวิดีโอตลกแนว “ต่อต้านชาวยิว”
ถ้าให้พูดถึงยูทูปเบอร์ที่มียอดสับตะไคร้สูงที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น Pewdiepie หนุ่มชาวสวีเดนคนนี้อย่างแน่นอน เพราะเขามียอดผู้ติดตามสูงถึง 53 ล้านคนเลยทีเดียว แต่ล่าสุดก็ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับเขาเสียแล้ว เมื่อล่าสุดทาง Disney ต้นสังกัดของ Felix Kjellberg (หรือที่เรารู้จักกันในชื่อว่า Pewdiepie) ได้ประกาศลงดาบเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ในช่วงหลังมานี้เขาได้ลงคลิปที่มีเนื้อหาเกี่ยวนาซีและต่อต้านยิวอยุ่บ่อยครั้ง แต่ว่าครั้งล่าสุดที่จะหนักที่สุดก็คงจะมาจากตัวคลิปที่เขาได้ไปจ้างชาวอินเดียผ่านทางเว็ปที่ชื่อว่า Fiverr (เว็บไซต์แนวๆ รวมเหล่าคนรับงานฟรีแลนซ์ ให้คุณจ้างทำอะไรก็ได้) โดยเขาจ้างเพื่อต้องการสร้างความสนุกสนาน และไม่คาดคิดว่าคนในเว็บนั้นจะรับเขียนคำว่า “death to all Jews” (หรือก็คือพวกยิวไปตายให้หมดซะ) จนเขียนออกมาจริงๆ แล้วก็ออกมาเป็นคลิปวิดีโอแนวๆ เสียดสีของเขา นอกจากชาวอินเดียทั้งสองคนแล้วเขายังไปจ้างคนอื่นๆ Fiverr อีกเช่นกันแต่ว่าคนที่หนักพอๆ กับชาวอินเดียทั้งสองก็คงจะเป็น Jesus ที่เขาจ้างให้พูดว่า “Hitler did absolutely nothing wrong” (ฮิตเลอร์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย) แน่นอนว่ากระแสตอบรับจากเรื่องนี้ก็มีทั้งที่ออกมาดีและไม่ดี แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นทางไม่ดีเสียมากกว่า แถมไอดี Fiverr ก็ยังถูกแบนติดๆ กันถึงสามครั้ง แถมล่าสุดทาง Maker Studios (ต้นสังกัดเขาที่ถูก Disney ซื้อไป) ระบุไว้ว่า “แม้…
-
นักท่องเที่ยวชาวบราซิล อยากไปจับลูกฉลามมาถ่ายคลิป จนเกือบต้องเสียนิ้วไปตลอดชีวิต!!
หลายคนน่าจะเป็นที่รู้กันดีว่าฉลามนั้นเป็นสัตว์ที่ดุร้ายพอสมควรเลยที่เดียว ยิ่งถ้าเป็นคนปกติแล้วเวลาเราเจอฉลามเราก็จะต้องเอาตัวรอดก่อนแบบไม่ต้องคิดอะไรเลยใช่ไหมล่ะ แต่บางครั้งฉลามมันก็ไม่ได้มาในแบบตัวเต็มวัย และนักท่องเที่ยวสาวก็คงคิดว่ามันเป็นสัตว์น่าจับมาถ่ายภาพเล่น… เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ หมู่เกาะเฟร์นันดูจีนอโรนยาในประเทศบราซิล ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่าเธอได้ไปเที่ยวพักร้อนกับสามีของเธอที่เกาะแห่งนี้ ในระหว่างทางที่เธอกำลังเดินเล่นอยู่ริมชายหาด เธอก็ได้มองเห็นลูกฉลามมะนาวตัวหนึ่งว่ายอยู่ใกล้ๆ เธอไม่รอช้ารีบเข้าไปจับเจ้าลูกฉลามตัวนั้นหวังว่าจะได้ภาพเซลฟี่สวยๆ แต่เธอหารู้ไม่ว่าเธอได้ทำสิ่งที่ผิดพลาดมากๆ ในชีวิตลงไป เธอคงจะคิดว่าลูกฉลามตัวน้อยน่าจะไม่มีพิษภัย แต่เจ้าลูกฉลามกัดเข้าที่มือเธออย่างจัง ฟันของมันฝังลึกไปบนนิ้วของเธอและดูท่าว่ามันก็จะไม่ยอมปล่อยง่ายๆ นี้ก็คือคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอ เนื้อหาข่าวไม่ได้ระบุว่าพวกเขาทำยังไงกับเจ้าลูกฉลาม (อาจจะปล่อยมันไป) สุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าเจ้าลูกฉลามจะเป็นยังไง ก็คงได้แต่หวังให้มันปลอดภัยจากเงื้อมมือของมนุษย์และมีชีวิตต่อไป ส่วนหญิงสาวนางนี้เธอดูเธอจะไม่เป็นไรมาก นอกจากเย็บแผลที่นิ้ว 4 เข็มและเสียเงินนิดหน่อยจากค่ารักษาเท่านั้น แต่… ยังไม่จบ!! แต่ว่าเธอกับสามีต้องมาเจ็บมากกว่าเดิมในภายหลังเพราะว่า ฉลามมะนาวเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองซึ่งถ้าใครไปทำอัตรายให้กับพวกมันแล้วละก็ จะถูกปรับถึง 56,000 บาท และด้วยการที่จุดเกิดเหตุอยุ่ในหมู่เกาะคุ้มครองโดยกองทัพเรือค่าปรับจึงคูณสองเป็นเงินถึง 112,000 บาทเลยทีเดียว งานนี้เจ็บตัวไม่เท่าไร แต่เจ็บใจเรื่องโดนปรับคงจะเข็ดไปนาน… เรียกได้ว่าค่ารักษายังไม่เจ็บค่าปรับนั่นเอง ก็คงได้แต่หวังว่านี้จะเป็นบทเรียนราคาแพงให้กับหญิงสาวนางนี้ และคนอื่นๆ ในอนาคตเนอะ ที่มา thedodo
-
ชายผู้รับเลี้ยงเด็ก 22 คนที่ติดเชื้อ HIV และถูกพ่อแม่ทิ้ง มาเป็นลูกๆ ของเขาเอง
แม้ทุกวันนี้ หลายๆ หน่วยงานจะพยายามให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอชไอวีแก่ประชาชนทั่วไป ว่าโรคดังกล่าวไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ก็ยังมีคนจำนวนมาก ยังรู้สึกรังเกียจและแบ่งแยกผู้ป่วยเอชไอวีเหล่านี้อยู่ ซึ่งความเชื่อดังกล่าว ทำให้ผู้ป่วยหลายๆ คนต้องใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะเหล่าผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อมาจากพ่อแม่ ที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะเหล่าญาติพี่น้องรังเกียจ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นแบบนั้น อย่างเช่น ราจิบ โทมัส วัย 44 ปีจากเมืองมุมไบ ประเทศอินเดียคนนี้ ตลอดสิบปีที่ผ่านมา เขาได้รับเลี้ยงเด็กไร้บ้านที่ป่วยเป็นโรคเอชไอวีมาแล้วกว่า 22 คน ทุกวันนี้ เด็กทั้ง 22 คนอาศัยอยู่ในบ้านในเมืองมุมไบของราจิบ พร้อมกับตัวราจิบ ภรรยาของเขา และลูกแท้ๆ อีกสองคน ซึ่งภรรยาของเขาจะรับหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารการกิน ส่วนตัวราจิบจะดูแลเรื่องสุขภาพและการศึกษาของเด็กๆ “เมื่อปี 2007 ผมพบกับเด็กหญิงติดเชื้อเอชไอวีคนหนึ่งนั่งอยู่นอกโรงพยาบาล เธอขอให้ผมซื้อข้าวให้เธอหน่อย ซึ่งวันนั้นผมไม่สามารถซื้อข้าวให้เธอได้ และผมสัญญาว่าผมจะกลับมาในวันต่อไป” “วันถัดมาผมกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และผมก็พบว่าเด็กหญิงคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก คืนนั้นผมนอนคิดทั้งคืนเลยว่าผมจะทำอะไรให้กับพวกเขาได้บ้าง” ราจิบ กล่าว หลังจากนั้น เขาก็ได้ปรึกษา เดเวีย มิทาเล่ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคเอดส์และเชื้อเอชไอวี เกี่ยวกับการรับเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีมาเลี้ยง…
-
เบะปากมองบน!! แนะนำ 10 หนังเอาใจคนโสด ถ้ารักมันห่วย ขออยู่ตัวคนเดียวดีกว่าเช๊อะ
เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเราก็จะได้เห็นแต่คนเดินจูงมือกัน เอาดอกกุหลาบมาเซอไพรส์ให้กัน เปิดเฟซบุ๊กมาก็ยังหนีไม่พ้นต้องมาเจอคนโพสต์รูปคู่กันให้เพียบ ลึกๆ แล้วคนโสดเค้าแอบอิจฉาโว้ยย ไม่ใช่อะไรหร๊อกก และเพื่อเป็นการสรรเสริญแด่ความรักห่วยๆ ที่เคยผ่านมา หรือความโสดที่อยู่คู่กับเรามานานซะจนลืมไปแล้วว่าความรู้สึกกระนุ้งกระนิ้งมุ้งมิ้งมันเป็นยังไง เราขอแนะนำให้รู้จักกับ 10 หนังเอาใจคนโสด คนที่อยากจะเบ๊ะปากมองบนแรงๆ ให้วันวาเลนไทน์ จะอะไรกันนักกันหนาเช๊อะ!! วันแห่งความรักเหรอ? หึ๊!! 1. Blue Valentine เรื่องราวของคู่รักที่ตอนแรกอะไรๆ ก็ดูดีไปหมดแม้แต่นางเอกตดพระเอกยังว่าหอม แต่สิ่งที่หนังพยายามจะสื่อออกมาก็คือความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความหวานแหววนั้นมาแล้ว แน่นอนว่าชีวิตคู่ย่อมเต็มไปด้วยปัญหาจนไปถึงการปะทะคารมกันอย่างรุนแรง 2. American Beauty ‘เลสเตอร์ แบนเฮม’ ชายชาวอเมริกันวัยกลางคนที่มีครอบครัว มีลูกสาว และมีชีวิตที่แสนจะน่าเบื่อตามแบบฉบับพ่อบ้านอเมริกันทั่วไปในยุคนั้น และสิ่งที่หนังต้องการจำเสนอก็คือ ความสัมพันธ์ที่ดูจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลงของครอบครัว จนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคตบางอย่างแก่พวกเขาทุกคน 3. Kill Bill ถึงแม้ว่านี่จะไม่ใช่หนังที่เกี่ยวกับครอบครัว และเป็นหนังบู๊เลือดสาด แต่จุดเริ่มต้นการแก้แค้นของนางเอกก็มาจากคู่หมั้นของเธอนั่นแหละ ถ้าใครที่ยังคับแค้นใจกับความรักที่พึ่งพังลงไปจากการไว้ใจคนที่เราเคยคิดว่าดีละก็ แนะนำให้ดูเรื่องนี้เลย แต่อย่าเผลอไปทำเลียนแบบนะ เอาแค่สนุกๆ ก็พอแล้ว 4. Revolutionary Road…
-
Burger King เปิดขายชุด “แฮปปี้มีล” สำหรับผู้ใหญ่ในช่วงวาเลนไทน์ กับของเล่นสุดสยิว!!
ถ้าพูดถึงชุดแฮปปี้มีล เราอาจนึกถึงชุดอาหารน่ารักๆ ที่แถมของเล่นเด็กจากร้านฟาสฟู๊ด อย่างที่เราเห็นในโฆษณาตามโทรทัศน์ แบบนี้ หรือของคู่แข่งอย่าง McDonald’s ก็มีแบบนี้ แต่ล่าสุดทาง Burger King ได้ปล่อยเมนูพิเศษสุดสยิวออกมาต้อนรับวันวาเลนไทน์ ด้วยชุดอะดั้ลท์มีลชุดนี้!! โดนเมนูนี้จะขายในช่วงวันที่ 14 กุมภาพันธ์เท่านั้น และจะขายตั้งแต่ช่วงเวลาหลัง 6 โมงเย็นเป็นต้นไป เฉพาะผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้นถึงจะซื้อได้ (ก็พอจะรู้เนอะ ว่ามันเป็นไอเท็ม 18+ แน่นอน) ภายในชุดก็จะประกอบไปด้วย เฟรนฟรายด์สองถุง เบียร์สองขวด แส้ ผ้าปิดตา แปรงขนนก และอุปกรณ์อะไรซักอย่างท่าทางสยิวกิ้ว เหมาะสำหรับคู่รักที่กำลังจะไปฉลองวันวาเลนไทน์ด้วยกัน อย่างไรก็ตามชุดอะดั้ลท์มีลดังกล่าวมีขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ประเทศอื่นๆ อดตามระเบียบครับ ลองไปชมโฆษณาโปรโมทกันดู เห็นแล้วอยากได้สักชุดมั้ยละ แบบนี้ก็มีด้วย สงสัยช่วงนี้มากับกระแส Fifty Shade of Grey เข้าโรงพอดี คนคิดแคมเปญอาจจะอินมากไปหน่อยแล้วล่ะ ฮาาาา ที่มา Leo Burnett Israel ליאו ברנט…
-
เจ้าหมาช่วยมอบความอบอุ่นให้กับ “เด็กทารก” ที่ถูกทิ้ง จนเขารอดชีวิตจากอากาศหนาวติดลบ
กลายเป็นเรื่องอันน่าประทับใจเลยทีเดียว หลังจากเจ้าหมาตัวหนึ่งคอยมอบความอบอุ่นให้กับเด็กน้อยที่ถูกทิ้ง ท่านกลางความหนาวเหน็บ จนเขาสามารถมีชีวิตรอดไปได้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่เขต Altai ในประเทศ Russia เมื่อเด็กชายคนหนึ่งถูกแม่แท้ๆ ของตนเองปล่อยทิ้งไว้นอกบ้านจนเด็กชายคนนั้นต้องเผชิญกับอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียลเพียงลำพัง พื้นที่เกิดเหตุดังกล่าว… โชคดีที่เจ้าสุนัขแสนรู้ของเขา บังเอิญเข้ามาเห็นพอดี มันจึงเข้ามาโอบกอดและคอยมอบความอบอุ่นให้กับเด็กชายคนนั้น เด็กชายต้องทนทุกข์ทรมาณกว่าสองวัน จนเพื่อนบ้านสังเกตุเห็น เขาจึงช่วยออกไป ต้องขอบคุณเจ้าหมาน้อยตัวนั้น ไม่อย่างนั้น เด็กชายคงไม่สามารถรอดจากอุณหภูมิติดลบไปได้อย่างแน่นอน เพื่อนบ้านได้นำตัวเด็กชายคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาล เขามีอาการอุณหภูมิในร่างกายลดลงผิดปกติ เพราะต้องอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวมาอย่างยาวนาน จนตอนนี้เขาก็ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ส่วนแม่ของเด็กคนดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา ด้วยข้อหาทารุณกรรมเด็ก และจะมีการสืบสวนและลงโทษในภายหลัง โชคดีจริงๆ เลยที่มีเจ้าหมาตัวนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่รอดแน่ๆ ที่มา metro, siberiantimes
-
ศิลปินญี่ปุ่นสร้างงานศิลปะ “มนุษย์ต้นไม้” ที่ทั้งงดงามและน่าขนลุกไปพร้อมๆ กัน
“ป่า” แม้จะเป็นสถานที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวิต ในแต่ทางกลับกัน ป่าก็เต็มไปด้วยภัยอันตรายและความน่ากลัวมากมายเช่นกัน และเชื่อว่ามนุษย์ฺทุกคน ต่างมีความหวาดเกรงในธรรมชาติอันยิ่งใหญ่นี้อยู่ ล่าสุด นางาโตะ อิวาซากิ ได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ “มนุษย์ต้นไม้” ขึ้นมา ที่ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็ต่างรู้สึกได้ถึงความงดงามและความหวาดผวาลึกๆ ในใจไปพร้อมๆ กันขึ้นมา ลองนึกภาพว่าถ้าคุณเจอรูปปั้นเหล่านี้ในป่าตอนกลางคืน คุณจะรู้สึกยังไง ผลงานแต่ละอันคือการนำเศษไม้ กิ่งไม้ และเปลือกไม้ สร้างรูปร่างขึ้นมาเหมือนกับคนหรือหุ่นยนต์ในท่าทางต่างๆ กันไป ซึ่งล้วนสมจริงและมีรายละเอียดเยอะมาก ใครอยากติดตามผลงานของศิลปินท่านนี้ เข้าชมได้ที่เพจ Nagato Iwasaki และเว็บไซต์ nagato-iwasaki.com ได้เลยนะฮะ มีผลงานเจ๋งๆ อีกเพียบแน่นอน ราวกับทุกตัวมีจิตวิญญาณและชีวิตของตนเอง พวกเขาคอยปกป้องป่า จากผู้ไม่ประสงค์ดีและมนุษย์ผู้ชั่วร้ายทั้งหลาย เชื่อเถอะ ว่าคุณไม่อยากเจอพวกเขาหรอกจริงมั้ย . บางภาพอาจจะทำให้นึกถึงกรูทจากเรื่อง Guardians of the Galaxy เลยไหม!? . . . . อื้อหือ หลอนจริงๆ ถ้า #เหมียวอ๊อดโด้ เจอคนเดียวในป่านะ…
-
คนขับรถชน “แม่แพะท้องแก่” จนตาย แต่ลูกในท้องกลับรอด เติบโตมาได้อย่างปาฏิหาริย์
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจเลยทีเดียว หลังจากแม่แพะท้องแก่ตัวหนึ่ง โชคร้ายถูกรถคันหนึ่งชนจนตายคาที่ โชคดีปาฏิหาริย์ เมื่อลูกของมันในท้องกลับรอดชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ รายงานข่าวจากทางเว็บไซต์ Scmp เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุเรื่องราวเกิดขึ้นบนทางหลวงแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีแพะตัวหนึ่งถูกรถชนจนตายอยู่กลางถนน เมื่อได้รับแจ้งดังนั้น พวกเขาจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุทันที และพบว่ามีซากแพะตัวหนึ่งนอนอยู่ แต่ที่ทำให้พวกเขาเซอร์ไพรส์ก็คือข้างๆ มีลูกแพะตัวน้อยนอนอยู่ ลำตัวของมันยังมีรกติดอยู่ด้วย เมื่อเห็นสภาพของแม่แพะที่ถูกชนจนตายคาที่ ทางตำรวจคิดว่าลูกแพะตัวนั้นก็คงไม่รอดเป็นแน่แท้ แต่เมื่อเข้าไปสำรวจใกล้ๆ พวกเขาก็ตกใจเมื่อลูกแพะตัวน้อยยังมีชีวิตอยู่และท่าทางจะไม่เป็นอะไรมากซะด้วย เมื่อเห็นดังนั้นพวกเขาคิดว่าคงจะต้องช่วยชีวิตมัน พวกเขาจึงเก็บลูกแพะตัวนั้นกลับไปยังสถานีตำรวจ ทางตำรวจได้ทำการให้นม และเชิญสัตวแพทย์มาตรวจอาการของเจ้าแพะน้อยตัวนี้ ซึ่งโชคดีมากที่มันไม่ได้รับบาดเจ็บหรือมีแผลรุนแรงแม้แต่นิดเดียว และหลังจากดื่มนมได้ไม่นาน มันก็สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยขาของตนเอง สร้างความประทับใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก ทางสัตวแพทย์คาดการณ์ว่า แม่แพะคงจะท้องแก่มากและจะคลอดลูกน้อยตัวนั้นพอดี แต่มันถูกรถชนตายอย่างน่าใจหายเสียก่อน พอดีกับแรงกระแทกก็ผลักลูกแพะออกมาจากท้องของมัน และรกที่ฉีกขาดไปทำให้มันหายใจได้ทันที ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศหาเจ้าของ เพื่อทำการคืนแพะตัวนี้กลับไป แต่ระหว่างนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะช่วยดูแลเจ้าแพะตัวนี้ไปก่อนจนกว่าจะมีคนไหน หรือสถานดูแลยื่นมือเข้ามาขอรับไปเลี้ยง แม้หนึ่งชีวิตจะจบลงไป แต่อย่างน้อยก็ยังมีอีกชีวิตได้ถือกำเนิดขึ้นมาเนอะ ที่มา scmp
-
เด็กน้อยตั้งโต๊ะบริจาค “ของเล่น” หน้าบ้าน กับเป้าหมายเพื่อแบ่งปันให้ “เด็กยากไร้”
เด็กชายคนนี้มีชื่อว่า เบลค วัย 6 ขวบ วันหนึ่งเขาบ่นว่าห้องของเขาเต็มไปด้วยของเล่นมากเกินไปจนอยากเอาไปทิ้ง เมื่อแม่เขาได้ยินดังนั้นจึงบอกว่า เขาควรจะดีใจนะที่มีของเล่นเยอะขนาดนี้ ยังมีเด็กอีกมากที่ไม่มีโอกาสที่จะมีแม้แต่ของเล่นซักชิ้นเดียว เมื่อได้ยินแบบนั้น เขาถึงกับสะเทือนใจของชะตากรรมของเด็กอีกหลายคน เขาจึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่า จะนำของเล่นทั้งหลายมาตั้งบริจาคหน้าบ้าน เขาได้เลือกของเล่นที่เขามาตั้งโชว์ พร้อมตั้งป้ายว่า “ของเล่นแจกฟรี” ให้กับคนที่เดินผ่านไปมา หรือคนที่อยากจะเอาไปบริจาคให้กับเด็กผู้ยากไร้ไม่มีของเล่น และในวันแรกเขาได้มอบของเล่นให้กับผู้รับเหมาที่กำลังทำงานให้กับบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งผู้รับเหมาคนนั้นสัญญาว่า จะนำของเล่นดังกล่าวไปให้กับหลานชายของเขาอย่างแน่นอน เพราะหลานชายของเขาก็ต้องการของเล่นอยู่เช่นกัน… หลังจากนั้น ก็มีหลายครอบครัวแวะเวียนมารับของขวัญ ซึ่งสิ่งที่ดีไปกว่านั้นก็คือบางครอบครัวก็นำของมาบริจาคเพิ่ม บางครอบครัวก็นำของเล่นมาแลกเปลี่ยน เพื่อจะได้ของเล่นที่พวกเขาอยากได้ เด็กๆ ก็จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ และเอาบางชิ้นที่ไม่ต้องการเพื่อบริจาคต่อไป แม้กระทั่งครูในโรงเรียนอนุบาลของเขา ก็นำของมาร่วมบริจาคกับเขาเช่นกัน ซึ่งเธอบอกว่า เธอภูมิใจในตัวเขามากๆ สุดท้ายแล้ว เขาก็บริจาคของเล่นทั้งหมดให้กับทางโรงเรียน เพื่อเป็นรางวัลให้กับเด็กที่มีความประพฤติดีต่อไป จิตใจดีแบบนี้ ต้องเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีแน่นอน สุดยอดไปเลย!! ที่มา boredpanda
-
เว็บไซต์ฝรั่งเผยข้อมูล “ภาษาที่สอง” ของแต่ละประเทศ ส่วนของไทยเป็นภาษาพม่า!?
โลกทุกวันนี้ได้เข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ที่โลกทั้งโลกเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นดาวเทียม หรือ อินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูล ภาษา หรือวัฒนธรรมต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และแน่นอนว่า เมื่อผู้คนสามารถเข้าถึงหรือเดินทางหากันได้อย่างง่ายดายแบบนี้ สิ่งที่กลายเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือภาษาที่สองนั่นเอง ซึ่งใครก็ตามที่สามารถพูดได้มากกว่าหนึ่งภาษา พวกเขาก็จะสามารถเข้าถึงโอกาสได้มากกว่าผู้ที่พูดได้เพียงภาษาเดียวอย่างแน่นอน ล่าสุดทางเว็บไซต์ MoveHub เว็บไซต์เกี่ยวกับข้อมูลการย้ายถิ่นที่อยู่ ได้ปล่อยแผนที่ “ภาษาที่สอง” ของโลกออกมา ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นนี่บอกได้คำเดียวว่า น่าสนใจมากๆ เลยล่ะ เริ่มจากส่วนแรก อย่างในยุโรป ก็มีภาษาแตกต่างกันออกไปตั้งแต่ ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน ภาษารัสเซีย แอฟริกาก็มีทั้งภาษาพื้นเมืองของคนท้องถิ่น แล้วก็ภาษาจากยุโรปปะปนไปด้วยเช่นกัน เชื่อหรือไม่ว่าภาษาที่สองของสหรัฐอเมริกาคือสเปน เพราะมีคนเม็กซิโกอยู่เยอะนั่นเอง สำหรับประเทศไทย ทางเว็บไซต์ MoveHub รายงานว่า ภาษาที่สองของประเทศไทยคือภาษาพม่า สาเหตุน่าจะเป็นเพราะแรงงานชาวพม่าที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทยเป็นจำนวนหลายล้านคน ตั้งแต่การเข้ามาเป็นแรงงานรับจ้างทั้งที่ถูกหรือผิดกฎหมาย จนปัจจุบันก็มีหลายรายที่เริ่มเป็นเจ้าของกิจการต่างๆ นั่นทำให้ภาษาพม่ากลายเป็นภาษาหลักอีกภาษาที่มีการใช้งานในไทยอย่างมาก จนเว็บน้จัดอันดับให้มาเป็นภาษาที่สองของประเทศไทย เราลองไปชมส่วนอื่นๆ ของโลกกันดีกว่าว่ามีภาษาอะไรกันบ้าง อย่างอเมริกากลาง และปิดท้ายด้วยอเมริกาใต้ ความเห็นส่วนตัวของ #เหมียวอ๊อดโด้…
-
สนไหม!? KFC ออกไอเดีย “ช่อดอกไม้ไก่ทอด” ให้มอบกับคนรัก เนื่องในวันวาเลนไทน์
เมื่อถึงเทศกาลวาเลนไทน์ เหล่าหนุ่มสาวก็จะหาช่อดอกไม้สวยๆ เอาไปเซอร์ไพรส์คู่รักของพวกเขา แต่แน่นอนว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปๆ การมอบช่อดอกไม้ก็ไม่ใช่อะไรที่สร้างความประทับใจได้อีกต่อไป จนถึงขนาดที่ว่ามีการทำภาพแซวกันว่าควรจะทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ อย่างการทำช่อดอกไม้เป็นไก่ทอดด้วย แต่แล้ววันนี้มันก็ไม่ได้เป็นเพียงมุกตลกอีกต่อไป… ข่าวนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ต่างประเทศเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ โดยบอกว่า KFC แฟรนไชส์ผู้ผลิตไก่ทอดชื่อดังกำลังเตรียมที่จะทำช่อดอกไม้ไก่ทอดออกมาให้หนุ่มสาวได้ซื้อไปมอบให้คนรักเนื่องในวันแห่งความรักแบบไม่ซ้ำใครด้วย ตามที่ KFC ได้ให้รายละเอียด ในช่อดอกไม้ (หรือช่อไก่ทอด) จะประกอบไปด้วย ไก่ป็อป ไก่ไม่มีกระดูก และน่องไก่ทอด แต่น่าเสียดายที่ช่อดอกไม้แบบนี้จะวางขายแค่ภายในเมืองอ็อกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น และจะขายให้กับผู้โชคดีเพียง 20 คนเท่านั้น KFC โพสต์เรื่องเกมการแข่งขันลงบนหน้าเพจของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าการแข่งขันนี้ก็จะเปิดให้คนในคนที่ไปยังสาขา Quay St. ในเมืองอ็อกแลนด์ได้เล่นในวันวาเลนไทน์ การแข่งขันที่ว่านี้สร้างความสนใจให้กับผู้คนได้มากถึง 2,000 คน และจะมีผู้ชนะเพียงแค่ 20 คนเท่านั้นที่จะได้สิทธิ์คว้าช่อไก่ทอดนี้ไปมอบให้คนรัก น่าเสียดายที่มีแคมเปญนี้เฉพาะในนิวซีแลนด์ เพราะคิดว่าคู่รักไทยหลายๆ คนคงจะอยากได้บ้าง… สงสัยคงต้องซื้อไก่มาทำเป็นช่อเองแล้ว!!! ที่มา dailymail
-
เปิดกรุภาพหาดูยากของ “มัมมี่” อียิปต์โบราณ เปิดให้เห็นกันชัดๆ ว่าข้างในมีอะไรบ้าง!!?
เราคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวของมัมมี่กันมาบ้าง แต่ส่วนมากก็คงมาจากภาพยนตร์ ซึ่งเราก็จะติดภาพว่ามัมมี่คือศพที่ได้รับการพันด้วยผ้า แล้วเก็บไว้ในโลงที่สวยงาม แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปเปิดโลงดูกันว่าจริงๆ แล้วภายในเป็นอย่างไรกันบ้าง!? ภาพเหล่านี้เป็นภาพที่มาจากพิพิธภัณฑ์ Cairo Museum ในประเทศอียิปต์ ซึ่งได้เก็บเอาซากมัมมี่ไว้เยอะแยะมากมาย นี่คือภาพของฟาโรห์ทาโอที่ 2 ถูกถูกฆ่าจากการสู้รบ ซึ่งเราจะได้เห็นรอยขวานและหอกบนใบหน้าของร่าง ภาพของหญิงไม่ทราบชื่อ(ซ้าย) และราชินี Anhapou(ขวา) ซึ่งในภาพเราก็จะได้เห็นผ้าที่พันไว้หยาบๆ สำหรับมัมมี่ที่ไม่ได้รับการพันด้วยผ้าไว้ ในช่วงย่างเข้าศตวรรษที่ 20 ภาพของการเปิดโลงมัมมี่ที่พันด้วยผ้าลินิน และมีรอยที่สร้างโดยโจร ซึ่งตอนนั้นมีความเชื่อว่าต้องมีของที่ทำจากทองและของล้ำค่าอื่นๆ นี่คือมัมมี่ที่ชื่อว่าจะเป็นเจ้าชาย Ouabkhousenou ซึ่งได้มีโจรตัดผ้าพันออก เพราะคิดว่าข้างในจะมีของล้ำค่าอยู่ ฟาโรห์แรเมซีสที่ 6 ซึ่งในภาพนี้ทำให้เห็นการพันคร่าวๆ สำหรับมัมมี่ที่ไม่ได้พันผ้าไว้ ในช่วงย่างถึงศตวรรษที่ 20 มัมมี่ของ Dame Rai ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นแม่ของฟาโรห์ Sethi I มัมมี่ไม่ทราบชื่อถูกวางไว้พิงกำแพงเพื่อถ่ายภาพ ภาพนี้ถ่ายโดย Discovery Channel เป็นภาพของยายของกษัตริย์ตุตันคาเมน ซึ่งถูกนำมาทดสอบดีเอ็นเอ ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ปี อีกทั้งร่างนี้มีอายุกว่า 3,300…
-
หญิงสาวช่วยแมวกำพร้าจาก “ถังขยะ” จนวันนี้มันเปลี่ยนมาเป็น “อัญมณี” ในชีวิตเธอ…
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้ยินเสียงแมวร้องอยู่ในถังขยะ เมื่อเธอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ได้เห็นลูกแมวตัวน้อยมากๆ ขนาดที่ว่าตาของมันยังไม่ทันเปิดเลยด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าเจ้าแมวตัวนี้ร้องไห้หาแม่ของมัน ซึ่งดูจากสถานการณ์แล้วไม่น่าจะกลับมา แถมอายุของมันน่าจะประมาณ 1 อาทิตย์ มาพร้อมกับอาการบาดเจ็บที่เทและขาหัก เธอเห็นดังนั้น ก็เลยตัดสินใจที่จะพามันกลับไปที่บ้านและดูแลมันอย่างดีจนมันกลายมาแข็งแรงและน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โชคไม่ดีที่มันต้องเสียเท้าของมันไป แต่แลกกับการที่มันได้ชีวิตกลับคืนมาก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ภาพของเจ้าแมวที่รอดจากการถูกทิ้งไว้ในถังขยะ จากสถิติแล้ว แมวสามสีกว่า 3,000 ตัวจะมีโอกาส 1 ตัวเท่านั้นที่จะเป็นตัวผู้ หรือคิดง่ายๆก็คือมีโอกาสแค่ 0.03% เท่านั้น แต่สำหรับเจ้า Martyr มันกลับเป็นตัวผู้ แสดงว่าเธอเจออัญมณีเข้าแล้ว โชคดีที่ตอนนี้มันสุขภาพดี และร่าเริงเป็นอย่างมาก จากแมวตัวหนึ่งที่เคยนอนอยู่ในถังขยะ ตอนนี้มันกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งแล้ว อีกทั้งตอนนี้กำลังรักษาขาที่หักอยู่ด้วย หายไวๆ นะเจ้าเหมียว ปกติแล้วหญิงสาวคนนี้มักจะช่วยเหลือแมวตามละแวกบ้านอยู่เสมอ แต่สำหรับแมวสามสีตัวนี้มีบางอย่างที่พิเศษออกไป เธออยู่กับมันมา 4 เดือนแล้ว มันชอบกระโดดขึ้นใหล่ตลอดเวลา แถมมันยังโตเร็วมากๆ และชอบให้กอดด้วย เธอกล่าวว่า “คุณหมอบอกว่าโอกาสที่จะหาแมวสามสีตัวผู้เจอมันยากมาก เขาเลยเป็นเด็กที่พิเศษสุดๆ เขาเป็นแมวตัวน้อยที่มีความสุขตลอดเวลา และตอนนี้แข็งแรงยิ่งกว่าม้าซะอีก!!”…
-
หญิงสาวจัดงานปาร์ตี้ให้กับ “กระรอก” หลังมันมาเยี่ยมบ้านเธอแทบทุกวัน จนทนไม่ไหว!!
เราคงเคยเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นการที่มีสัตว์แปลกๆ เข้ามาในตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผีเสื้อ กบ หรือเลวร้ายสุดๆ ก็คงเป็นงู แต่สำหรับเธอคนนี้ได้เจอกับสัตว์น่ารักๆ ที่มาป่วนบ้านเธอ จนเธอทนไม่ไหว จัดปาร์ตี้ให้ซะเลย เธอคนนี้ชื่อว่า Ashly Deskins เธอตื่นมาได้เจอกับลูกกระรอก 4 ตัวตกลงมาจากต้นไม้ในสนามหลังบ้าน เธอก็ได้เห็นว่าแม่กระรอกนั้นได้ลงมาช่วยแล้ว แต่กลับเหลืออีก 2 ตัวไว้ซะงั้น เธอก็เลยพยายามจะช่วยมันขึ้นไปให้ครบ เธอเล่าว่าสามีของเธอพยายามที่จะช่วยกระรอกทั้งสองที่ถูกทิ้งไว้โดยเอาไปให้ศูนย์ช่วยเหลือ แต่มันไม่รอด เธอก็เลยอยากจะทำอะไรพิเศษๆ ให้กับเหล่ากระรอก เนื่องจากว่าแถวบ้านที่เธออยู่มีกระรอกอาศัยอยู่มาก ดังนั้นเธอจึงเริ่มทิ้งพวกเมล็ดอัลมอนด์ไว้เพื่อให้มันมาหยิบไปก่อน ไปๆ มาๆ จึงก็ปิ๊งไอเดียการจัดปาร์ตี้ขึ้นมา Ashly ได้ไปหาอุปกรณ์ต่างๆ มาตกแต่งพื้นที่ พร้อมทั้งหาอาหารโปรดของเหล่ากระรอกมาวางไว้ กลายเป็นฉากปาร์ตี้สุดน่ารักที่มีเหล่ากระรอกเป็นตัวละคร เธอได้เปลี่ยนฉากไปเรื่อยๆ เพื่อให้ภาพออกมาดูไม่ซ้ำซาก และก็ยังให้เหล่ากระรอกเหล่านี้มาเป็นตัวละครเอกอยู่ พวกกระรอกก็เหมือนจะมาเข้าฉากกันบ่อยๆ ซะด้วย แล้วตอนนี้ดูเหมือนทั้งสามีและภรรยาจะจำได้แล้วว่าตัวไหนเป็นตัวไหน พร้อมกับตั้งชื่อให้ด้วย ได้แก่ เนวิลล์ ลูน่า ลิลลี่ และ เซเวอรัส (เอ๊ะ ชื่อคุ้นๆ) อย่างเจ้าตัวสีดำตัวนี้ชื่อเซเวอรัส…
-
19 วีรกรรมสุดแสบของ “คุณครู” ที่ทำเอาเหล่านักเรียนปวดตับ กับการสอนสุดแหวก!!!
ปกติแล้ว บรรยากาศในห้องเรียนนั้น ส่วนมากคนที่สร้างความปั่นป่วนให้มากที่สุดก็คงจะเป็นตัวนักเรียนเอง ซึ่งก็จะทำให้ครูผู้สอนปวดหัวกับพฤติกรรมต่างๆ แต่จะเป็นยังไงถ้าเกิดว่าเป็นครูซะเองที่ทำให้นักเรียนปวดหัวได้ และนี่คือ 19 วีรกรรมของคุณครูที่ทั้งเจ๋งและแสบในเวลาเดียวกัน เอาไว้แก้เผ็ดเหล่านักเรียนที่ทำตัวเหลวแหลกได้ จะเป็นยังไง เราไปดูกันเลย ครูเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับคนที่ส่งงานช้า นั่นก็คือลงถัง… ครูที่ให้นักเรียนยืมปากกา แต่ต่อจากนี้นักเรียนคงไม่กล้ายืมแล้วล่ะ เห็นทั้งห้อง ครูส่งเมล์เฉลยข้อสอบมาให้ พอเปิดดู เป็นเพลง Rick Rolled ซะงั้น ครูผู้ซีเรียสกับฟอนต์และขนาดมาก ถ้าฟอนท์ไม่ใช่แบบที่บอก จะเผากระดาษงานทิ้งซะ ฮ่าาา สำหรับนักศึกษาที่เป็นแฟนกัน แล้วชอบมาจิ๊จ๊ะในห้องเรียน พวกเธอน่ะดูไม่ดีเล๊ยยยย เมื่อครูยึดโทรศัพท์จากนักเรียน แล้วเอามาคืน มอบเกียรติบัตรให้นักเรียนในรางวัลเบอร์มิวด้า เพราะว่าการบ้านที่สั่งไปมันหายไปหมดเลย มันคืองานอาร์ต เมื่อนักเรียนอยากรู้ว่าครูดื่มอะไร หมุนมาเจอป้านแปะว่า “น้ำตานักเรียน” เขียนผิดชีวิตเปลี่ยน แต่ครูก็ยังวาดรูปมาให้ดูด้วยนะ (Serial Killer ฆาตกรต่อเนื่อง – Cereal…
-
ซาบซึ้งใจ… ลูกบันทึกภาพความรัก พ่อแม่นอนป่วยกุมมือกัน ในช่วงสุดท้ายของชีวิต
เมื่อเราลองจินตนาการถึงการที่ต้องเห็นคนรักเจ็บไข้ได้ป่วย มันดูจะเป็นสิ่งทรมาณจิตใจของเราไม่น้อย แต่มันจะยิ่งน่าเศร้าเข้าไปอีกเมื่อคุณเองก็กำลังป่วยและใกล้จะตายไปพร้อมๆ กับคนที่คุณรักเช่นกัน เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะนำเสนอต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของคุณแแม่ลูกสามที่ชื่อ Julie Bennet จาประเทศอังกฤษ เธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเมื่อราวๆ เดือนพฤษภาคม 2016 ในขณะที่สามีของเธอ Mike Bennet ป่วยเป็นโรคมะเร็งในสมองมาตั้งแต่ปี 2013 แล้ว จนมาถึงปี 2016 อาการของพวกเขาก็แย่ลงจนยากต่อการรักษา Julie สั่งให้ลูกๆ ของเธอพยายามทำกิจวัตรประจำวันให้เหมือนเดิมทุกอย่างในช่วงที่สามีของเธอป่วย แต่พอเธอเริ่มป่วยบ้างเธอก็เหมือนจะรู้ว่าตัวเองมีเวลาอีกไม่นาน เธอเลยพยายามสร้างความทรงจำกับครอบครัวของเธอให้มากที่สุด ในระหว่างที่พวกเขาทั้งคู่ป่วยหนักและพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เหล่าลูกๆ ได้แก่ Oliver 13 ปี Hannah 18 ปี และ Luke 21 ปี ก็อดรู้สึกหดหู่กับภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้ พวกเขาจึงถ่ายภาพในระหว่างที่พ่อกับแม่นอนกุมมือกันแล้วนำมาบอกเล่าให้โลกออนไลน์ได้รับรู้ เพื่อบันทึกว่าครั้งหนึ่งเคยมีคนสองคนรักกันมากแค่ไหนและจากโลกนี้ไปยังไง ทั้ง Julie และ Mike มีเพื่อนที่สนิทต่อกันอยู่หลายคน และเพื่อนของพวกเขาให้คำมั่นว่าจะดูแลลูกๆ แทนหากพวกเขาจากโลกนี้ไปแล้ว Sue Wright คือหนึ่งในเพื่อนของทั้งคู่กล่าวว่า “เราบอกกับ Julie ว่าคนในชุมชนของเราจะช่วยกันดูแลลูกๆ ของเธอเอง และจากนั้นเธอก็ลืมตาและยิ้มให้ฉัน”…
-
หนุ่มไร้บ้านโวยถูกเจ้าหน้าที่รัฐยึด “เจ้าเป็ด” หลังชาวบ้านแจ้งเรื่องกลิ่น และเสียงก๊าบก๊าบ!!
แม้ว่ากลุ่มคนไร้บ้านจะไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย อาจจะด้วยสาเหตุของปัญหาชีวิต เงินทอง หรือบางคนเลือกที่จะไม่ทำงานทำการและปล่อยให้ชีวิตมันเป็นไปแบบนั้นเอง แต่พวกเขาก็พอจะมีความสุขได้บ้างจากสัตว์เลี้ยง เช่นเดียวกับนาย Russ O’Conner เขาคือหนึ่งในคนไร้บ้านที่ต้องการเพื่อนเป็นสัตว์เลี้ยงสักตัวเหมือนกัน เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้นำเสนอเรื่องราวของนาย Russ O’Conner ชายไร้บ้านในเมือง Newton Abbot มณฑล Devon ประเทศอังกฤษ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ช่วยชีวิตเป็ด 2 ตัวมาจากข้างถนน จากนั้นเขาก็หากล่องกระดาษเอามาทำเป็นบ้านให้กับเจ้าเป็ดพวกนั้นและพามันไปด้วยทุกที่ที่เขาไป แต่เนื่องจากไม่มีความรู้เรื่องการเลี้ยงเป็ดหรือการทำความสะอาดที่ถูกต้อง ทำให้กลิ่นอาหาร กลิ่นฉี่และกลิ่นอึของพวกมันไปรบกวนชาวบ้านคนอื่นๆ เข้า วันหนึ่งชาวบ้านแถวๆ นั้นจึงโทรแจ้งตำรวจให้มาจัดการเอาเป็ดนี่ออกไปจากถนน ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่ได้ขับรถตู้สำหรับปราบจลาจลมายังถนนที่นาย O’Conner นอนอยู่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อีก 9 คน กลุ่มพิทักษ์สัตว์ RSPCA ได้ออกมากล่าวว่ามีชาวบ้านโทรเข้าไปร้องเรียนกับพวกเขาเยอะมาก และยังแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพสัตว์ด้วย จึงต้องเข้ามารับตัวเป็ดดังกล่าวไป หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาเอาเป็ดทั้ง 2 ตัวไป นาย O’Conner ก็แสดงอาการว้าวุ่นใจที่สูญเสียสัตว์เลี้ยงของเขาและบอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามบังคับใช้กฎหมายทุกๆ ข้อเพื่อยึดเอาเป็ดของเขาไป “ผมเลิกสูบกัญชาเพื่อที่จะได้ดูแลเป็ดของผม พวกมันไม่ได้ชอบเล่นกับคนมากนัก” ชายไร้บ้านกล่าว นาง…
-
ช่องยูทูปจีน ไปทดสอบทักคนญี่ปุ่นว่า “ทำเงินตก” เพื่อดูว่าพวกเขาจะรับหรือไม่!?
สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมานานคือ ‘ความซื่อสัตย์’ ที่ถูกปลูกฝังมาหลายต่อหลายชั่วอายุคน ไม่ว่าใครต่างก็รู้สึกประทับใจกับสิ่งเหล่านี้ที่พบเจอมา ถึงกับเป็นการบอกปากต่อปากว่าชาวญี่ปุ่นนั้นมีความซื่อสัตย์มากขนาดไหน แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเจอการแสดงความซื่อสัตย์ของชาวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ก็คงจะไม่เชื่อซักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากพอสมควรในโลกอินเตอร์เน็ต อย่างเช่นการทำคลิปทดสอบความซื่อสัตย์ของชาวญี่ปุ่นที่มีอย่างแพร่หลายผ่านยูทูป และในคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นการทดสอบความซื่อสัตย์ของชาวญี่ปุ่นจากช่อง YouTube สัญชาติจีน JokeTV ด้วยการพิสูจน์จากเงินจำนวน 10,000 เยน ทำทีไปทักว่าคนๆ นั้นทำเงินตก (ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ของตัวเอง) แล้วเขาจะรับเงินจำนวนมากขนาดนี้รึเปล่า? สำหรับธนบัตร 10,000 เยนนั้นถือว่าเป็นธนบัตรที่ชาวญี่ปุ่นนิยมพกติดไว้ในกระเป๋าหลายๆ ใบ เพื่อความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน (เหมือนดั่งธนบัตรมูลค่า 1,000 บาทของบ้านเรา) พอชายผู้นี้โดนทักว่าทำเงินตกรึเปล่า เขารีบปฏิเสธทันทีว่าไม่ใช่ของตัวเอง บางคนที่ถูกทักปุ๊บ ก็จัดแจงตรวจสอบกระเป๋าเงินก่อนว่าทำตกจริงๆ รึเปล่า แต่ทว่าก็ไม่มีใครยอมรับว่าทำเงินตกเลย ทำเงินตกรึเปล่าคะ? เอ่อ เปล่าครับ อย่างเธอคนนี้ก็ถูกทักว่าทำเงินตกจากจุดที่เดินผ่านมา สุดท้ายแล้วก็บอกว่าไม่ได้ทำตกแต่อย่างใด คุณยายรายนี้ก็ถูกทักเช่นกัน…
-
นักวาดการ์ตูนมืออาชีพเปลี่ยนสัดส่วน “การ์ตูนมือสมัครเล่น” ให้ดูเทพได้ภายใน 10 นาที!!
ว่ากันด้วยเรื่องของวัฒนธรรมการ์ตูนที่เติบโตภายในบ้านเรา ส่วนใหญ่แล้วก็จะได้รับอิทธิพลมาจากมังงะของประเทศญี่ปุ่น และเนื่องด้วยในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้นเป็นวันมังงะญี่ปุ่นด้วย เพราะฉะนั้นเรามาดูอะไรที่มันเกี่ยวข้องกับการ์ตูนซักนิดนึงกันดีกว่า หลายๆ คนที่อ่านการ์ตูนมาเยอะ และฝันอยากจะเป็นนักวาดการ์ตูนมืออาชีพ ก็ต้องหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ และจะต้องอาศัยทักษะในการวาดจากการอ้างอิงผลงานของศิลปินที่ชื่นชอบ จนพัฒนาเป็นลายเส้นของตัวเอง แต่ทว่าฝึกยังไง๊ ยังไงก็ไม่มีแววพุ่งพล่านซักที!? ถ้าอย่างงั้นก็ต้องให้นักวาดการ์ตูนมืออาชีพช่วยแก้ไขในส่วนที่บกพร่องซักหน่อย อย่างศิลปินรุ่นใหม่ Seiji Nakazawa ได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากบรรณาธิการ Go Hattori เพื่อช่วยทำให้งานชิ้นนี้มีความชัดเจนและสมสัดส่วนมากขึ้น แต่ทว่าทางบรรณาธิการเองก็มองว่า ‘มันก็ดีอยู่แล้วนะ’ แต่เจ้าตัวอยากจะให้มันดูตื่นเต้นมากกว่านี้ ให้อารมณ์กระแทกการตีโฮมรันอย่างสวยงาม ลูกเบสบอลพุ่งเข้าหน้าคนอ่านอะไรทำนองนั้น ซึ่งคุณ Hattori เองก็ไม่สามารถช่วยขัดเกลาอะไรได้มากนัก แต่เขารู้ว่าพอจะขอความช่วยเหลือจากใครได้ นั่นก็คือคุณ Kyoshiro Mamiya นักวาดการ์ตูนมืออาชีพของเว็บไซต์ Rocketnews24 นั่นเอง ด้วยประสบการณ์ด้านการวาดการ์ตูน 18 ปี คุณ Mamiya ก็คงจะพอมองเห็นจุดบกพร่องที่ควรจะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน หลังจากที่เขามองภาพวาดนั้นแล้ว ก็ยิ้มมุมปากเบาๆ ก่อนจะเอ่ยว่า ‘มันดูกระด้างไปนิด สัดส่วนร่างกายก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เดี๋ยวให้ผมจัดการเพิ่มเติมก็แล้วกัน’ …
-
Word Lens ประกาศซัพพอร์ทภาษาญี่ปุ่น ส่องกล้องแปลได้ทันใจ ลดปัญหาการสื่อสาร
ตั้งแต่ปี 2015 เราก็มีเจ้าแอพ Google Translate เป็นตัวช่วยเรื่องภาษากันมาตลอดแถมยังใช้งานได้ดีอีกตะหาก แถมตัวแอพยังมาพร้อมกับโปรแกรมเสริมที่เรียกว่า Word lens ที่ช่วยให้เราสามารถแปลภาษาได้ทันที ซึ่งหลายคนก็เคยจะเคยใช้กันมาก่อน ตัวอย่างการใช้ Word Lens แปลภาษาอื่นมาเป็นภาษาอังกฤษ แต่ว่าล่าสุดทาง Google ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าตอนนี้ Word Lens รองรับภาษาญี่ปุ่นอย่างเต็มตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตัว ฮิรางานะ คาตาคานะหรือแม้แต่ คันจิ ที่มีตัวหนังสือเยอะเกินจะบรรยายก็สามารถแปลได้เช่นกัน แถมไม่ได้แค่ประกาศเฉยๆ นะ Google ยังให้วงดนตรีจากญี่ปุ่น OKAMOTO’S มาช่วยอีกแรงหนึ่งด้วย โดยใช้เพลง Lagoon มาทำเป็นมิวสิกวิดีโอโปรโมต ซึ่งออกมาดูดีเลยล่ะ ศิลปินชาวญี่ปุ่น OKAMOTO’S กับเพลง “Lagoon” ร่วมกับ Google Translate ออกมาเป็น MV สุดเฟี้ยว แปลภาษาได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นป้าย หรือปกแผ่นเพลง ก็แปลได้ทันที เมนูอาหารก็ไม่ใช่ปัญหา ไปญี่ปุ่นสบายตัวแน่นอน …
-
องค์กรการกุศลช่วยเหลือ “ชายจรจัดคนหนึ่ง” เปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ ให้มันดีขึ้นกว่าเดิม…
หากเราเห็นคนจรจัด คนไร้บ้าน หรือ ขอทานอยู่ข้างถนน เราจะช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างไรบ้าง ในบ้านเราก็คงทำได้เพียงซื้ออาหารหรือของใช้จำเป็นมอบให้แก้ขัดเป็นครั้ง เป็นคราว แต่ไม่สามารถทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้อย่างถาวร แต่สำหรับกรณีที่ #เหมียวเลเซอร์ กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ คือการเปลี่ยนแปลงชีวิตของชายจรจัดหนึ่งคน ให้พลิกกลับมาดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าอาสาสมัครของร้านการกุศล ShareShop และองค์กรการกุศล Chester Aid to the Homeless แห่งเมืองเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เรื่องราวของชายนามว่า David ชายไร้บ้าน ไร้ซึ่งทุกอย่าง จากก่อนหน้านั้น 12 เดือน เขาได้เดินเข้าไปรับอาหารฟรีจากร้าน ShareShop และเมื่ออาสาสมัครเห็น David ปุ๊บ ก็เริ่มให้การช่วยเหลือกับเขาทันที จุดเริ่มต้นนั้นมาจากกาแฟที่มีผู้อื่นจ่ายไว้ให้แล้ว David ก็รับกลับมาพร้อมกับแซนด์วิชฟรีของห้าง Tesco ในท้องถิ่น ยิ่งนานวันผ่านไป เขาได้รับน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากอาสาสมัครมากขึ้น จึงทำให้เขารู้สึกพร้อมที่กลับเข้าสู่สังคมอีกครั้ง ทางร้าน ShareShop จึงช่วยเขาในด้านการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ภายนอก โกนหนวดเครา…
-
ลือหนาหู “Ben Affleck” นอกจากไม่อยากกำกับแล้ว ถึงขั้นอยากเลิกเป็น “Batman” ด้วย!?
เป็นข่าวที่หนาหูกันมาสักพักแล้วสำหรับ Ben Affleck ที่มีความรู้สึกว่าไม่อยากจะกำกับ “The Batman” อีกต่อไปแถมข่าวเกี่ยวกับเรี่องนี้ก็ยังมีออกมากันเรื่อยๆ ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดหลังจากที่ Ben ปัดที่จะกำกับในหนังเดี่ยวของแบทแมน จนได้ Matt Reeves (ที่เคยฝากผลงานมาแล้วทั้ง Cloverfield และ Dawn of the Planet of the Apes) มาเป็นผู้กำกับคนใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข่าวลือจากหลายสำนักออกมาอีกว่าตอนนี้นอกจากจะไม่อยากกำกับแล้ว ป๋าเบนแกเริ่มไม่อยากจะเป็นแบทแมนแล้วด้วย ทางรายการ Collider Movie Talk ที่จัดโดย John Campea ได้ออกมาบอกว่าเขาได้ยินข่าวลือจากแหล่งข่าวสามแห่งซึ่งเกี่ยวข้องกับตัว Warner Bros. ว่าเป็นเวลากว่า 4 วันแล้วที่ป๋าเบน พยามจะหาทางที่เลิกเป็นแบทแมนให้ได้ นอกจากนี้ John ยังบอกอีกว่าแหล่งข่าวของเขาได้ยินเกี่ยวกับที่ Ben ได้พูดคุยกับ Warner Bros. ในเรื่องของสัญญาที่จะให้เขาแสดงบทนี้ต่อไปรวมถึงหนังเดี่ยวของแบทแมนด้วย แต่ว่าถ้าการพูดคุยนี้ไม่สามารถที่จะตกลงกันได้หนังเดี่ยวแบทแมนก็จะเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายของเขาในบทแบทแมน ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็ยังคงเป็นเพียงแค่ข่าวลือจากแหล่งข่าวต่างๆ ก็อย่าพึ่งรีบด่วนสรุปไป แต่ก็อย่างที่รู้กันว่ามันข่าวลือที่ Ben ไม่อยากกำกับมันก็เกิดขึ้นจริงไปแล้ว ยังไงซะก็ได้หวังให้ป๋าอย่าเลิกเป็นแบทแมนเลยเถอะ แต่อย่างน้อยปีนี้เราก็ได้เห็นป๋ากับบทแมน ในหนังเรื่อง Justice League…
-
ขอคาราวะ!! ตากล้องญี่ปุ่นจับ “ฟิกเกอร์ฮีโร่” มาเซ็ตฉากถ่ายภาพ สร้างเรื่องราวได้เท่สุดๆ
แม้ว่าในชีวิตจริงเหล่าฮีโร่จาก DC และ Marvel จะเป็นคู่แข่งที่ยากจะอยู่ในเฟรมเดียวกันได้ แต่เหล่าแฟนๆ หลายคนก็ยังฝันว่าวันหนึ่งพวกเขาจะได้เห็น ไอร์อ้อนแมน แบทแมน ซุปเปอร์แมน หรือ เดดพูล มาอยู่ในจักรวาลเดียวกัน และด้วยความฝันนี้เอง ตากล้องชาวญี่ปุ่น hotkenobi จึงได้ทำโปรเจคภาพถ่ายสุดพิเศษขึ้นมา โดยการนำฟิกเกอร์ซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งค่าย DC และ Marvel รวมทั้งแฟรนไชน์ Star Wars มาสร้างเรื่องราวผ่านภาพถ่ายไอเดียแสนบรรเจิดชุดนี้ hotkenobi พยายามคง “บุคลิก” และ “นิสัย” ของฮีโร่แต่ละตัวเอาไว้ในภาพถ่ายทุกภาพ โดยฟิกเกอร์แทบทุกตัวที่ปรากฎในภาพชุดนี้ เป็นของสะสมของ hotkenobi เอง ลองไปชมผลงานของเขากันเลย พี่ซุปบอกว่าชิวๆ แบทแมนถึงกับอึ้ง รวมจอมเกรียนแห่งยุค จริงจังนักใช่มั้ย แกล้งซะเลย เดี๋ยวผมจับให้ จัดเลยพี่วูฟ เอ มันจะเล่นได้มั้ยน้า เดี๋ยวๆ นายยกค้อนนั่นขึ้นด้วยเหรอ ลุยยยย . …
-
Nokia เตรียมปล่อย “3310” รุ่นใหม่ ในงาน MWC 2017 พร้อมมือถือแอนดรอยด์อีกสองรุ่น!!
ถ้าถามว่าโทรศัพท์รุ่นไหนของ Nokia อดีตผู้ผลิตโทรศัพท์อันแสนยิ่งใหญ่จากฟินแลนด์ที่ตอนนี้กลายเป็นเพียงอดีตเพื่อนๆ ก็คงจะนึกถึง Nokia 3310 เป็นรุ่นแรกอย่างแน่นอน ด้วยความอึดถึกทนที่ทั่วโลกต่างยอมรับ ทำให้มันกลายเป็นโทรศัพท์ในตำนานรุ่นหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ด้วยยอดขายรวมกว่า 100 ล้านเครื่องทั่วโลก (3310 ในตำนาน) ล่าสุด บริษัท HMD Global ผู้รับหน้าที่ผลิตโทรศัพท์แอนดรอยด์แบรนด์ Nokia ได้วางแผนที่จะเปิดตัวโทรศัพท์มือถือสองสามรุ่นในงาน MWC 2017 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ที่เมืองบาเซโลน่า ประเทศสเปน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Nokia 3310 รุ่นใหม่นั่นเอง!! จากรายงานของ Venture Beat พวกพวกเขาเตรียมประกาศเปิดตัวโทรศัพท์แอนดรอยด์สองรุ่นนั่นก็คือ Nokia 5 และ Nokia 3 ที่มีสเปคระดับกลางๆ ค่อนไปทางล่าง ราคาไม่เกิน 7,000 บาท (Nokia 6 ที่วางจำหน่ายแล้วในประเทศจีน) นอกจากนี้พวกเขาจะเปิดตัวโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนอีกรุ่น นั่นก็คือ NoKia 3310 เวอร์ชั่นโมเดิร์น ซึ่งน่าจะมีราคาราวๆ 2,100 บาท…
-
ชายผู้ถ่ายเซลฟี่ใบหน้าของตัวเอง เป็นเวลา 8 ปีครึ่ง ตั้งแต่หนุ่มน้อยเปลี่ยนผ่านสู่วัยรุ่น…
บางคนอาจจะมองว่าการเซลฟี่เป็นอะไรที่ดูออกจะไร้สาระไปนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เซลฟี่หน้าตัวเองบ่อยๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็เซลฟี่อยู่ตลอด พาลจะทำให้คิดว่าคนๆ นั้นเป็นพวกหลงตัวเองรึเปล่า แต่ความคิดของคุณอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ หากได้ชมการเซลฟี่ของชายคนนี้ เพราะว่าเขาทำการเซลฟี่ใบหน้าตัวเองทุกวัน ขอย้ำชัดๆ เลยว่า ทุกวัน!! ตั้งแต่ตอนที่เขามีอายุเพียงแค่ 12 ปีไปจนถึงกระทั่งอายุ 20 ปี รวมๆ แล้วทั้งสิ้นก็ 8 ปีครึ่งโดยประมาณ Hugo Cornelier ในวัย 12 ปี ใสๆ ปิ๊งๆ Hugo Cornelier เด็กหนุ่มวัย 12 ที่เริ่มทำการเซลฟี่ในทุกๆ วัน ตั้งแต่ปี 2008 จนมาถึงในปี 2016 ทุกๆ ภาพเซลฟี่นั้นจะถูกทำการรีทัชและจัดมุมองศาให้เท่ากันทุกภาพ ดวงตาของเขาในภาพจะอยู่ในระดับเดียวกันทุกภาพ!! (มีจำนวนมากกว่า 2,500 ภาพ) โตมาอีกหน่อย อายุเพิ่มเป็น 14 ปี เริ่มฉายแววหนุ่มวัยรุ่นออกมาแล้ว …
-
17 ประโยคแซ่บๆ จากแฮชแท็ก #โสดแล้วพาล มาดูกันว่าคนโสดวันนี้ เขาว่าไงบ้าง!?
ในทุกๆ ปีจะต้องมีไวรุ่นกลุ่มหนึ่ง (หรืออาจจะหลายๆ กลุ่ม) ออกมาแสดงอาการหงุดหงิดในวันวาเลนไทน์ เนื่องจากตัวเองโสด ยังหาแฟนไม่ได้ หรือถูกแฟนทิ้งก่อนจะถึงวันวาเลนไทน์…แหม่มันช่างน่าเจ็บใจจริงๆ เหล่าคนผู้เกรี้ยวกราดเหล่านั้นจึงแสดงออกทั้งความรู้สึกและความคิดออกมาทางตัวอังกฤษ ผ่าน #โสดแล้วพาล ในทวิตเตอร์ เพื่อให้โลกรับรู้ว่าพวกเขาหงุดหงิดขนาดไหนกับวันแห่งความรักที่จะถึงนี้!! ใครหงุดหงิดหรืออยากระบายยังไงบ้าง ลองมาดูกันเลย 1. รวย!! ไปดูคนเดียวก็ได้ 2. รำคาญ!! 3. ใครให้ดอกไม้กันระวังมือกันด้วยนะ 4. ร้านนี้ดี ใครมาคนเดียวลดเยอะกว่า พวกเราลุย!! 5. ซาลาเปารูปหัวใจ!? 6. เค้กโรลทำไมถึงทำให้เจ็บได้… 7. ห่วงเรื่องสอบก่อนไหม? 8. นั่นสิ #เหมียวฟิ้นก็ยังสงสัยอยู่ 9. คุณลุงจะไม่ให้เข้าบ้านแล้ว… 10. โสดจนความโสดยังแอดมาหา 11. มากุมมงกุมมือไรล่ะ 12. โถ่…
-
รวม “สะพานเพื่อชีวิต” สร้างให้สัตว์ป่าปลอดภัย อยู่ร่วมกับความเจริญอย่างเป็นสุข…
แนวคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาตินั้นกำลังแพร่ขยายไปทั่วโลก เนื่องจากว่าหากมนุษย์ยังคงอยู่อาศัยในแบบที่เป็นอยู่ ไม่ชีวิตทางธรรมชาติหรืออาจจะเป็นชีวิตของมนุษย์เองที่ต้องพบกับการสูญเสีย สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ดั่งเช่นในเรื่องของปัญหาการสัญจรผ่านเส้นทางหลวง ที่มีรถยนต์แล่นผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในบางเส้นทางจะตัดผ่านกับอุทยานแห่งชาติอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และนั่นก็คือสาเหตุของอุบัติเหตุอันนำพาชีวิตและทรัพย์สินที่ต้องแลกไป สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่าในประเทศเบลเยี่ยม บรรดานักอนุรักษ์พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องสัตว์ป่าเหล่านี้มาอย่างช้านาน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุรถชนหรือไม่ถูกพรากไปจากแหล่งที่อยู่อาศัยทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นแล้ว แนวคิดของ Wildlife Crossing จึงถือกำเนิดขึ้นมา สะพานเพื่อความปลอดภัยของทั้งมนุษย์และสัตว์ป่า มีประสิทธิภาพมากกว่าป้ายเตือนลดระดับความเร็วหลายเท่าตัว สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่าในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เพียงแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบบถนนหนทางส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศถึง 1 ใน 5 พื้นที่ของประเทศ และอุบัติเหตุรถยนต์ชนสัตว์ป่าคิดเป็นมูลค่าเสียหายสูงถึง 8 พันล้านดอลลาร์ต่อปี (280 พันล้านบาท) สะพานทางข้ามทางลอดสามารถช่วยสัตว์ป่าให้เดินข้ามถนน จากท้องถนนอันวุ่นวายได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ถูกมนุษย์รบกวนแม้แต่น้อย สะพานสำหรับสัตว์ป่าในรัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่า สะพานลอดสำหรับรถยนต์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่านั้นเริ่มขึ้นเป็นที่แรกในประเทศฝรั่งเศส ในช่วงปี 1950…
-
ปาร์ตี้วันเกิดสุดอาร์ต ชวนเพื่อนมา “วาดภาพวิว” ตามคลิปสอนวาดรูป แต่ละคนจะสวยแค่ไหน!?
เคยคิดบ้างไหมว่าวันคล้ายวันเกิดของตัวเองที่จะมาถึง อยากจะจัดงานเลี้ยงแบบไหน อยากจะจัดแบบปาร์ตี้เมากันหัวทิ่มหรือจะเป็นแบบ ปาร์ตี้เล็กๆ กินข้าวสังสรรค์กันแต่พอประมาณดี แต่สำหรับหนุ่มคนนี้เขากลับจัดงานวันเกิดสุดอาร์ตขึ้นมาแทน Chris Nervegna ชายหนุ่มจากรัฐนิวเจอร์ซี่ได้ปิ้งไอเดียฉลองวันเกิดของตัวเองขึ้นมา โดยเขาได้เชิญชวนเพื่อนของเขามาฉลองงานวันเกิดครบรอบ 22 ปี ด้วยการวาดรูปในธีม Bob Ross แล้ว Bob Ross คือใคร!? สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Bob Ross ละก็ เขาคือนักวาดภาพภูมิทัศน์ชาวอเมริกาและยังเป็นอาจารย์น์สอนวาดภาพอีกด้วย นอกจากนี้เขามีรายการทางทีวีของตัวเองด้วยนะ ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดัง และแน่นอน เขาก็มีแฟนๆ มารอดูเขารายการสอนวาดภาพของเขา ทำให้ Chris ปิ๊งไอเดียพาเพื่อนๆ มาวาดไปพร้อมกันซะเลย เขากับเพื่อนก็เริ่มวาดรูปตรงหน้าทีวีจอยักษ์เพื่อที่จะได้วาดรูปแบบเดียวกับที่ Bob วาดในจอซึ่งเขาก็ได้โพสต์ปาร์ตี้วันเกิดนี้ลงไปในทวิตเตอร์แถมยังมีกระแสตอบรับที่ดีมากๆ เลยทีเดียว Chris กับเพื่อนๆ ของเขานั่งล้อมรอบทีวีเพื่อที่จะได้วาดพร้อมกับ Bob ถึงแม้พวกเขาจะวาดรูปเดียวกันก็เถอะ ทุกคนก็ต่างใช้เทคนิคที่แตกต่างกัน ทำให้สุดท้ายแล้วงานก็ไม่ได้ออกมาเหมือนกันสักทีเดียว เริ่มออกมาเป็นรูปเป็นร่างแล้วไหมละ เป็นยังไงล่ะ ภาพของแต่ละคนไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เรื่องราวความน่ารักกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ขนาด ABC…
-
มิตรภาพ “โบรแมนซ์” แสนโรแมนติก ที่เกิดขึ้นในเกม H1Z1 เกมฆ่ากันที่คนในเกมก็รักกันได้…
เป็นปกติที่ในโลกออนไลน์ยุคนี้ มิตรภาพสามารถเกิดขึ้นได้เสมอหลากหลายวิธี ซึ่งหนึ่งในวิธีสุดฮิตที่ทำให้เกิดมิตรภาพออนไลน์บ่อยๆ ก็คือ เกมออนไลน์ นั่นเอง แต่ว่าสำหรับเกมแนวเอาตัวรอดส่วนใหญ่การสร้างมิตรภาพจะเกิดขึ้นได้ยากมาๆ เพราะทุกคนล้วนต้องการจะมีชีวิตพร้อมกับไม่อยากจะเสียไอเท็มทั้งหมดที่พวกเขาหามา ยิ่งสำหรับเกมที่ชื่อว่า H1Z1: King of the Kill เกมเอาตัวรอดที่ทุกคนจะต้องคำนึงถึงตัวเองเป็นหลักแล้ว มิตรภาพกับคนแปลกหน้าถือว่าเกิดขึ้นได้ยากพอสมควรเลยละ แต่ล่าสุดได้มีทวิตจากยูสเซอร์เนมที่มีชื่อว่า @koumai_jp ได้โพสคลิปเกี่ยวกับมิตรภาพที่เขาได้เจอกับผู้เล่นคนหนึ่งกลางทาง โดยในตอนแรกผู้เล่นคนนี้ก็ไม่ได้ไว้ใจหนุ่มเจ้าของทวิตสักเท่าไหร่นักเพราะว่าตัวละครของเขาในตอนนั้นไม่มีอาวุธอะไรเลย แต่แล้วเมื่อเจ้าของทวิตเริ่มพูดคุยกับผู้เล่นแปลกหน้าคนนั้น บทสนทนานี้จึงเกิดขึ้น “นายเป็นคนที่ไหนเหรอ?” ด้านคนแปลกหน้าก็ตอบกลับมาว่า “เราเป็นคนไมอามี่ แล้วนายล่ะ” “เราเป็นคนญี่ปุ่น” เมื่อหนุ่มไมอามี่ได้ยินถึงที่มาของเจ้าของทวิตแล้ว เขาก็ตะโกนออกมาทันทีว่า “ฉันรักญี่ปุ่น” เมื่อเจ้าของทวิตได้ยินเช่นกันเขาจึงแบ่งไอเท็มบางชิ้นในตัวให้กับหนุ่มไมอามี่คนนั้น จนเกิดเป็นมิตรภาพของสองคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันมาก่อน พวกเขาทั้งสองก็ได้แยกทางกันไปแต่แล้วในตอนท้ายที่สุด มิตรภาพแบบโบรแมนซ์ที่แท้จริงก็เกิดชึ้น เมื่อเจ้าของทวิตได้สู้กับผู้เล่นแปลกหน้าอีกคนหนึ่งแต่ว่าตัวเจ้าของทวิตกลับพ่ายแพ้ไป แต่แล้วอยู่ดีๆ พ่อหนุ่มไมอามี่ก็พุ่งออกมาจากที่ไหนไม่รู้พร้่อมกับตะโกนว่า “แกฆ่าเจแปนนนนนน” พร้อมกับกราดกระสุจใส่คนแปลกหน้าคนนั้น แต่น่าเศร้าที่ไมอามี่บอย ก็ต้องตายเช่นเดียวกับ เจแปนบอย ซึ่งเจ้าของทวิตก็ได้โพสปิดท้ายว่า จนสุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่ได้เจอกับไมอามี่บอยคนนั้นอีกเลย ซึ่งเขาก็ได้แต่หวังว่าเขาจะได้เจอกับไมอามี่บอยในเกมอีกครั้งหนึ่ง หรือไม่แน่เขาอาจจะได้เจอกันในชีวิตจริงก็ได้นะ และเมื่อเหตุการณ์นี้ได้ถูกทวิตออกไป กระแสตอบรับที่ได้กลับมามันดีอย่างไม่น่าเชื่อ…
-
หนุ่มไทยสร้างเอ็มวีเพลง “มือปืน” ด้วยเกม GTA V อลังการควรค่าแก่การรับชม!!
นี่คือคลิปวิดีโอที่กำลังกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาว์นในขณะนี้เลย สำหรับ MV เพลง “มือปืน” ของปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ที่ถูกทำมาจากเกม GTA V!! คลิปที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ถูกอัพโหลดผ่านช่องยูทูบ Official Shredder ที่มักจะนำเอาคลิปวิดีโอจากเกม GTA V มาตัดต่อสร้างสรรค์ให้มันกลายเป็น MV หรือหนังสั้น แต่ที่มันกลายเป็นประเด็นก็เพราะว่า MV เพลง “มือปืน” มีการลำดับภาพ มีการวางบทได้อย่างลื่นไหลราวกับว่านี่คือแอนิเมชั่นที่ทำมาเพื่อเพลงนี้โดยเฉพาะเลย จาก MV เพลงนี้เล่าถึงมือปืนคนหนึ่งที่พยายามเจรจาธุรกิจกับมาเฟีย แต่ในตอนนั้นเองก็ทำให้เขาหวนนึงถึงอดีตเมื่อครั้งที่เขายังเป็นวัยรุ่นปล้นจี้ การเดินทางสายมือปืนยังคงดำเนินต่อไปอย่างเหี้ยมโหด และเมื่อ MV ดำเนินไป คนดูก็จะเห็นถึงการเคลื่อนไหวตัวละครที่ลื่นไหล และฉากแอ็คชั่นที่สมจริง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเกมทำมาได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว พอนำมาตัดต่อก็ดูจะลงตัวพอดิบพอดี เอาเป็นว่าถ้าสปอยล์มากไปเดี๋ยวจะไม่อยากดูคลิป แต่กดเข้าไปเพิ่มวิวให้เขาได้เลย เพราะงานมันควรค่าแก่การชมจริงๆ… หลังจากที่คลิปนี้ถูกปล่อยออกมา เฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ก็ได้นำมาแชร์ให้ชาวเน็ตได้ดูกัน จนหลายๆ คนถึงกับเอ่ยปากชมเลยว่ามันทั้งเป๊ะ ทั้งสมูทมาก Thanyawat…
-
“โค้กซากุระ” เครื่องดื่มรสชาติใหม่จากแดนปลาดิบ ที่เห็นแล้วต้องอยากจะโดนสักขวด
ในอดีตที่ผ่านมา บ้านเราก็เคยมีโค้กรสชาติแปลกๆ ให้ได้ลิ่มลองกันเช่นโค้กวินาลาเป็นต้น แต่ว่าในต่างชาตินั้นโค้กกลับมารสชาติแปลกๆ ให้ได้ลิ่มลองอยู่มากมายเลยทีเดียว ล่าสุดทางโค้กญี่ปุ่นก็ได้ออกโค้กรสชาติใหม่ในชื่อ “โค้กซากุระ” ซึ่งรสชาติของมันระบุว่าถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ สำหรับช่วงเวลาชมซากุระเช่นนี้ (ความจริงแล้วหลายคนน่าจะเคยเห็นรสชาตินี้มาก่อนแล้ว แต่ว่ามันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ของโค้กนะซิ เพราะว่ารสชาติซากูระที่เราเคยเห็นกันมาก่อนหน้านี้มันดันเป็นของ เป็ปซี่ นั่นเอง) ซึ่งโค้กรสชาติซากูระนี้ จะขายในรูปแบบลิมิเตดอิดิชั่น ที่มาพร้อมกับดีไซน์ขวดที่สวยงามดีไซน์สีชมพูมาเฉพาะกิจ ส่วนฝาอลูมิเนียมสีแดงดูโดดเด่น โดยเริ่มเปิดขายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ และจะขายเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น ในส่วนของโค้กที่ทำเป็นรสชาติลิมิเตดนั้น ซากุระไม่ได้เป็นรสชาติแรกที่ทำแบบนี้ ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเคยปล่อยรสชาติลิมิเตดมาแล้วสองอันด้วยกันนั่นก็คือ รสเลม่อน และรสขิง (ลองจินตนาการดูสิว่ารสชาติแบบนั้นจะเป็นอย่างไร!?) แต่สุดท้ายแล้วพวกเราชาวไทยจะได้ลิ่มรสของ โค้กหรือน้ำอัดลมลดชาติแปลกๆ อีกไหมก็คงต้องลุ้นกันเอาแล้วล่ะ ส่วนตัว #เหมียวมู่ทู่ คิดถึงเป็ปซี่ไฟกับไอซ์จังเลยแฮะ ที่มา rocketnews24
-
นี่คือ 8 เหตุการณ์ที่ “คนเลี้ยงแมว” จะต้องเจอเป็นประจำในทุกๆ เช้า ถ้าไม่ใช่ให้เตะเลย!!
สำหรับเหล่าทาสแมวทั้งหลายแล้วย่อมต้องเจออะไรที่ปวดหัวในตอนเช้าอยู่เป็นประจำ เพราะโดยปกติแล้วช่วงเช้ามืดหน่อยๆ นั้นจะเป็นช่วง ‘ดีด’ หรือช่วงเวลาแห่งการเล่นสนุกของพวกมัน และเหตุการณ์ดังต่อไปนี้คือเหตุการณ์ที่เหล่าทาสแมวทุกคน จะต้องเคยเจอกันเป็นประจำในทุกๆ เช้า ถ้าไม่เคยเจอก็แสดงว่าเจ้าเหมียวที่บ้านของคุณไม่ใช่แมวแล้วล่ะ อาจจะเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้สวมชุดคอสเพลย์เป็นแมวก็ได้ ฮร่า 1. การลอบโจมตีในตอนเช้า ช่วงเวลาประมาณตี 4 ครึ่ง ขณะที่คุณกำลังหลับปุ๋ยอย่างสบายใจ จมดิ่งสู่ความฝันอันแสนหอมหวาน เจ้าชายหน้าตาหล่อเหลากำลังมารับคุณที่ปราสาท เพื่อพาออกไปขี่ม้าเล่น พอถึงฉากพีคคุณและเจ้าชายแวะทานข้าวกันข้างทะเลสาบแห่งหนึ่งที่ดูสวยมาก หลังจากที่จู๋จี๋กันไปสักพักเจ้าชายก็โน้มตัวมาที่คุณ กำลังจะจูบคุณ แต่!!?? …คุณสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมกับมีเจ้าเหมียวมานั่งทับอยู่บนท้อง พร้อมกับกำลังเอาอุ้งเท้าของมันถูหน้าตัวเองอยู่ 2. โดนยึดเตียง!! ประมาณตี 5 หลังจากที่พวกมันเล่นกันจนเหนื่อย และแยกย้ายกันไปนอน คุณเองก็กำลังจะกลับไปนอนที่เตียงเหมือนกัน หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการถูกรบกวนมาตลอดช่วงเช้า จู่ๆ ก็พบว่า ที่นอนของคุณถูกพวกมันแย่งไปซะหมดเลย ขณะที่เราพยายามจะไล่ที่ ก็จะพบว่ามันกำลังหายใจกรนเสียงดังครืดๆ อยู่ พร้อมกับกระดิกหางไปมา แบบนี้ใครจะไปแย่งได้ลงล่ะ อิอิ 3. จอมดื้อด้าน แต่ด้วยความที่คุณง่วงมาก และต้องการพักผ่อน จึงช่วยไม่ได้ที่จะต้องค่อยๆ อุ้มพวกมันลงจากเตียง แต่ปรากฏว่ายิ่งอุ้ม…
-
รวยไปก็ไม่ดี!? สาวถูกล็อตเตอรี่ 43 ล้านบาท จ่อฟ้ององค์กรสลาก อ้างว่าทำลายชีวิตเธอ!?
นี่เป็นเรื่องราวชวนงงของสาวอังกฤษรายหนึ่งที่มีชื่อว่า Jane Parks วัย 17 ปี เธอถูกล็อตเตอรี่เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 43 ล้านบาทเมื่อปี 2013 แต่แทนที่ชีวิตของเธอจะแฮปปี้กลับมีแต่เรื่องชวนเครียดซะงั้น เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Metro เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยบอกว่า Jane Parks รู้สึกว่าชีวิตของเธอพังทลายมากตั้งแต่ถูกลอตเตอรี่ เพราะเธอต้องแบกรับความเครียดหลังกลายเป็นเศรษฐี และหากย้อนกลับไปได้เธออาจจะไม่ซื้อมันมาด้วยซ้ำ ปัจจุบัน Jane อายุ 21 ปีแล้วเธอกล่าวว่า “ในบางครั้งฉันรู้สึกเหมือนว่าการถูกลอตเตอรี่เป็นการทำลายชีวิตของฉัน” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าเธอเตรียมที่จะฟ้ององค์กร Euromillions ผู้ออกลอตเตอรี่มาขายให้กับเธอด้วย เธอใช้เงินไปกับการเสริมหน้าอก ซื้อที่ดิน 2 ที่ และสุนัขชิวาว่ามาเลี้ยง 1 ตัว แต่ถึงจะมีเงินเยอะและได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่เธอก็ยอมรับว่าเธอยังคงตามหาความหมายของชีวิตอยู่ “ผู้คนมองมาที่ฉันและคิดว่า ‘คงจะดีนะถ้าเรามีชีวิตแบบเธอบ้าง’ แต่พวกเขาไม่ได้ตระหนักว่ามันเครียดขนาดไหน” Jane กล่าว โดยทั่วไปแล้วองค์กรที่ออกลอตเตอรี่มาขาย จะมีการช่วยเหลือผู้ที่ชนะรางวัลด้วยการบริหารเงินให้กับคนที่ไม่เคยบริหารเงินเป็นล้านๆ มาก่อน แต่ Jane ก็ยังประสบกับปัญหาเรื่องการใช้เงินอยู่ดี เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เธอได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาเมาแล้วขับระหว่างขับรถไปซื้อของกินที่ McDonald’s…
-
อาชีพแบบนี้ก็มี… พาไปรู้จัก “นักทดสอบเซ็กส์ทอย” รายได้ต่อเดือนสูงถึง 650,000 บาท
หากคุณฝันอยากจะมีงานที่น่าสนุก งานที่ทำให้คุณมีความสุข งานที่ไม่เหนื่อยมาก และงานที่ทำให้คุณถึงจุดสุดยอดล่ะก็ งานนี้นี่แหละที่เหมาะกับคุณ บอกไปคุณอาจจะไม่เชื่อเราว่ามีงานแบบนี้อยู่ในโลกด้วย แต่ Cara Houiellebecq เธอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเธอทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ทดสอบอุปกรณ์ “เซ็กส์ทอย” มืออาชีพ แถมยังมีรายได้ดีด้วยนะเออ Cara บอกว่าภายในออฟฟิศของเธอมีเซ็กส์ทอยมากกว่า 2,000 ชิ้น ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเธอเคยผ่านมือและการทดสอบจากเธอมาแล้วทั้งนั้น… จะถามว่าทดสอบแบบไหน ก็… ทดสอบแบบนั้นแหละ นักทดสอบเซ็กส์ทอยมืออาชีพบอกว่าเธอเริ่มต้นงานนี้เมื่อประมาณปี 2009 แต่ใช่ว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะถูกซื้อมาใช้เล่นๆ แล้วทิ้ง เพราะมีบริษัทผลิตของเล่นพวกนี้คอยสนับสนุนเธออยู่และจ่ายเงินเพื่อให้เธอเขียนรีวิวลงบล็อคของตัวเองแบบชิ้นต่อชิ้นเลย ในแต่ละสัปดาห์จะมีเซ็กส์ทอยถูกส่งตรงมายังบ้านของเธอประมาณ 4-5 ครั้ง และคุณแม่ลูกสองก็จะใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อทดสอบอุปกรณ์พวกนี้จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวันที่เธอชินชาไปแล้ว ธุรกิจการรีวิวเซ็กส์ทอยเริ่มเติบโตในอเมริกาขึ้นมาก บริษัทผู้ผลิตของเล่นเหล่านี้จะพยายามมองหาผู้ชายหรือผู้หญิงเพื่อมาทดสอบอุปกรณ์ของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา Cara บอกว่า “ของเล่นพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของฉันเลย มันทำให้ฉันมีไอเดียเพื่อที่จะเขียนเกี่ยวกับเซ็กส์ของฉันและฉันมีไอเดียที่จะเริ่มทดสอบเซ็กส์ทอย มันเป็นงานที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันเคยทำงานในธนาคารมาก่อน แต่ฉันไม่เคยกลับไปทำอีกเลย งานที่ฉันทำตอนนี้มันไม่เคยน่าเบื่อเลย” เพื่อนๆ ของเธอมักจะถามเธอเสมอเกี่ยวกับพวกเซ็กส์ทอย เพราะเธอคือคนที่รู้จักของเล่นพวกนี้ดีที่สุดและรู้ว่าชิ้นไหนราคาถูกที่สุด งานที่เธอทำไม่ใช่เพียงแค่ทดสอบเพื่อบอกว่าอันไหนทำให้รู้สึกดีที่สุด แต่ยังรวมไปถึงการรีวิวรูปร่าง ราคา อายุการใช้งาน…
-
การ์ตูนสำหรับคนโสด ‘ยังจำได้ไหม?’ เมื่อรักของเราเป็นไปไม่ได้ แต่ติดในอดีตอันแสนสุข…
จะว่าไปแล้วเนี่ยอีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ช่วงวันแห่งความรัก วาเลนไทน์อันแสนหวานชื่น #เหมียวเลเซอร์ จะไม่ขอเอ่ยถึงตำนานความเป็นมาของวันนี้อีก เพราะหลายคนก็คงจะรู้กันหมดแล้ว และจะไม่เอ่ยถึงสิ่งที่คู่รักมักจะออกไปกุ๊กกิ๊กกระหนุงกระหนิงด้วย แต่ทว่ามีของมาฝากให้สำหรับเหล่าคนโสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เพิ่งจะเลิกรากับคนรักไปไม่นาน เพราะการ์ตูนที่วาดโดยศิลปิน SisiwAko ชุดนี้น่าจะเหมาะกับสิ่งที่คุณเพิ่งเจอมาอย่างแน่นอน การ์ตูนชุด ‘Remember me?’ เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2017 ด้วยภาพทั้งหมด 26 ภาพที่เข้าใจง่าย แต่แฝงความหมายที่ลึกซึ้งสำหรับชีวิตคู่ของช่วงวัยรุ่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอุปสรรคของความสัมพันธ์ที่ถูกทดสอบด้วยระยะทางอันห่างไกล ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ยิ่งห่างเหินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกไกลออกไปมากขึ้นทุกที… เฮ้ ยังจำฉันได้มั้ย? ยังจำช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันได้รึเปล่า? ยังจำช่วงเวลาที่ดี… กว่าตอนนี้ได้รึเปล่า? ฉันคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นนะ ฉันยังจำตอนที่ต้องเดินทางหลายชั่วโมงทุกสัปดาห์ เพียงเพื่อจะได้ไปเจอหน้าเธอ ฉันพยายามเรียนรู้การทำอาหาร เพื่อที่ฉันจะทำอาหารจานโปรดให้เธอได้ ฉันทนไม่ไหวที่ต้องอยู่ห่างจากเธอ เพราะฉะนั้นแล้วฉันมักจะโทรหาเธอบ่อยๆ เท่าที่จะทำได้ ฉันพยายามประหยัดเงินพร้อมกับวางแผนไว้ล่วงหน้าเสมอ เพื่อที่จะมอบของขวัญที่ดีที่สุดให้กับเธอ……
-
Amakusa Airline สายการบินญี่ปุ่นที่มีเครื่องลำเดียว แต่ทุ่มเททั้งใจ CEO ก็มาช่วยบริการด้วย!!
เมื่อพูดถึงกิจการทางด้านการคมนาคมอย่างธุรกิจการบิน ที่จะต้องรองรับผู้โดยสารเป็นจำนวนมากนั้น เรามักจะนึกถึงสายการบินใหญ่ๆ ที่เติบโตมาอย่างช้านาน มีระบบการทำงานที่แบ่งหน้าที่กันชัดเจน ตั้งแต่ระดับผู้บริหารที่คอยวางแผนต่างๆ ในออฟฟิศ ไปจนถึงพนักงานต้อนรับหน้าเคาท์เตอร์เช็คอิน Amakusa Airline สายการบินโลมายิ้มจากประเทศญี่ปุ่น แต่เราไม่เคยได้ยินเรื่องราวของสายการบินที่เล็กที่สุดในประเทศญี่ปุ่นมาก่อนเลย ไม่เคยรู้ระบบการทำงานที่แตกต่างไปจากสายการบินใหญ่ๆ เพราะพวกเขานั้นแทบจะไม่สามารถสู้ในเรื่องของการรองรับจำนวนผู้โดยสารได้มากมายเท่าไหร่ ทว่าหากคุณได้อ่านเรื่องราวของสายการบินนี้แล้ว คุณอาจจะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่สายการบินนี้มอบให้ผู้โดยสารได้ก็คงจะไม่แปลกอะไรเลย สำหรับสายการบินที่เล็กที่สุดในญี่ปุ่นนี้มีชื่อว่า Amakusa Airline (AMX) เป็นสายการบินในประเทศญี่ปุ่น แห่งจังหวัดคุมาโมโตะ เปิดให้บริการสำหรับผู้ที่จะเดินทางระหว่างเกาะ Amakusa ไปยังหัวเมืองใหญ่ต่างๆ และกำลังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นในขณะนี้ แต่ก่อนที่ทุกคนจะรู้จัก Amakusa Airline นั้นเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน สายการบินนี้เกือบจะล้มละลายมาแล้ว เนื่องจากจำนวนเครื่องบินมีไม่เพียงพอต่อ บวกกับเกิดวิกฤติทางการเงิน จำนวนผู้โดยสารจึงลดจำนวนลงอย่างเห็นได้ชัดตลอดระยะเวลา 4 ปีที่เพิ่งเปิดให้บริการ นั่นทำให้บริษัทนั้นไม่สามารถหากำไรมาจุนเจือในส่วนที่ขาดทุนได้ หนำซ้ำยังถูกผู้บริหารในเวลานั้น ลดต้นทุนแทบทุกอย่าง รวมไปถึงการลดจำนวนพนักงาน แม้จะมีการนำเสนอแนวทางเพื่อปรับปรุงก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป แต่ก็ถูกผู้บริหารปฏิเสธทุกแนวคิดจนหมดสิ้น ทำให้ทุกคนในบริษัทหมดกำลังใจที่จะทำงาน ถึงขั้นวางแผนลาออกเพื่อหางานใหม่ เพราะถ้าอยู่แบบนี้ต่อไป…
-
ช่างญี่ปุ่นฝีมือดี ออกแบบ “เซรามิกชิบะ” ใช้งานได้แถมน่ารัก เห็นแล้วก็ยิ้มตาม
เครื่องใช้เซรามิกจานชามต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันแต่บางทีเราก็อยากจะหาเครื่องใช้เซรามิกแบบใหม่ๆ สวยๆ ไว้แต่งบ้านหรือใช้กับร้านกาแฟของเรา แต่ก็ยังหาแบบที่ชอบไม่ได้สักที #เหมียวมู่ทู่ ขอเสนอเครื่องเซรามิกที่มีหน้าตาเป็นหมาชิบะสุดน่ารัก เอาใจคนชอบหมาชิบะนั่นเอง!!! เครื่องเซรามิกชุดนี้ออกแบบโดยศิลปินญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Tetsuya Iseda ซึ่งเขาอาศัยอยู่ในเมืองฟุกุโอกะ และหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เขาก็เริ่มต้นเส้นทางช่างเซรามิกอย่างเต็มตัว เซรามิกที่เขาออกแบบใช้วัตถุดิบมากมายหลายแบบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น โคลน ดินขาว หรือโคลนญี่ปุ่น ส่วนรูปร่างที่เขาทำออกมาก็มาในหลายรูปแบบ แต่ที่เห็นจะโด่งดังที่สุดก็คงเป็นรูปเจ้าพวก “ชิบะ” ที่แหละ แก้วชาเขียวชิบะ ขนาดกำลังพอดีมือเลยล่ะ จานชิบะสุดมุ้งมิ้ง จานแบบยาวก็มีนะ หรือจะเป็นแบบเล็กๆ น่ารักๆ ก็มีเช่นกัน กระถางต้นกระบองเพรชก็น่ารักใช่เล่น แบบแจกันเสียบดอกไม้ก็มีเช่นกัน เครื่องเซรามิกที่เขาออกแบบไม่ได้มีแค่ลายหมาชิบะนะ แต่ว่าปกติแล้วเรายังออกแบบลายอื่นๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น รูปแมว หรือสุนัขพันธ์ปั๊ก เป็นต้น ใครที่สนใจสินค้าของเขาคนนี้ก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ etsy มีให้เลือกช็อปมากมายเลยล่ะ ราคางานแฮนด์เมดพวกนี้ก็อยู่ที่ราวๆ 800-2,000 บาท ก็ขอบอกว่า น่ารักๆ ทั้งนั้น…
-
‘Do Nothing Machine’ เครื่องที่ทำx่าอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งหมุนแขนดูกลไกให้ฟิน!!
ทุกวันนี้มนุษย์เราพัฒนาอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับตัวเอง อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะฉะนั้นแล้วทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้นมาล้วนมีจุดประสงค์ทั้งสิ้น แต่คงไม่ใช่กับเจ้าเครื่องเหล่านี้แน่ๆ เพราะว่าชื่อของมันก็บอกอยู่แล้วโต้งๆ ‘Do Nothing Machine’ เครื่องกลไกไม้พร้อมก้านหมุนเพื่อบังคับก้านเล็กๆ อีกสองถึงสามชิ้นให้เคลื่อนไหวไปมา โดยที่ไม่ติดขัดกัน ก่อนอื่นเลยต้องดูก่อนว่ามันหน้าตาเป็นยังไง ทำอะไรได้บ้าง!? อืมมมม อ่านจากข้างต้นแล้ว มันก็ดูเหมือนจะมีอะไรอยู่นะ แต่มันก็มีแค่นั้นจริงๆ โดยที่เจ้าเครื่องนี้จะต้องอาศัยแรงของมนุษย์ในการหมุนก้านบังคับ จากนั้นก็เพลิดเพลินไปกับการเคลื่อนไหวของกลไกก้านเล็กๆ ด้านในไปๆ มาๆ วนอยู่อย่างนั้น เมื่อยหรือเบื่อเมื่อไหร่ก็หยุด… แต่เอาเข้าจริงๆ การสร้างเครื่องแบบนี้ต้องอาศัยการออกแบบที่ดีด้วยนะจ๊ะ เพราะจะต้องออกแบบตามหลักการทางคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยในเรื่องรูปแบบของเครื่อง มุมองศาการหมุน ความเร็วในการหมุน เป็นต้น โดยอ้างอิงมาจากทฤษฎี Trammel of Archimedes (วงรีของอาร์คิมิดีส) อันเป็นกลไกการสร้างรูปร่างของวงรีที่ต้องมีก้านเล็กๆ ด้านในพร้อมกับก้านบังคับด้านนอกที่สามารถหมุนเป็นรูปร่างของวงรีได้ไม่มีความติดขัดใดๆ และด้วยเหตุนี้เอง ถึงแม้จะมีการสร้างเครื่องวาด หมุน หรืออะไรก็ตามแต่ที่สร้างลักษณะของวงรีออกมาได้ แต่ด้วยประโยชน์ที่หาต่อจากนี้ไม่ได้ จึงเป็นที่มาของชื่อ Do…
-
ชายคนหนึ่งหายตัวใกล้ๆ ปากแม่น้ำ ทีมกู้ชีพเร่งค้นหาไปทั่วทะเล แต่เจ้าตัวกลับโผล่ในผับ!?
การที่บุคคลได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นก็ยังเห็นอยู่เป็นปกติสุขดีนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าชะตากรรมของคนเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าขั้นเลวร้ายที่สุดก็อาจจะพบร่างอันไร้วิญญาณไปแล้ว อย่างในกรณีของชายนิรนามรายนี้ ที่ทางเว็บไซต์ Dailypost ได้รายงานว่า ชายคนดังกล่าวกำลังเดินอยู่ในบริเวณระหว่างหมู่บ้าน Portmeirion แม่น้ำ Dwyryd และหมู่บ้าน Porthmadog ในประเทศอังกฤษ จนกระทั่งสัญญาณเตือนภัยอันตรายของชายฝั่งได้ดังขึ้นมา… บริเวณที่ชายนิรนามหายตัวไประหว่างหมู่บ้าน Portmeirion และหมู่บ้าน Porthmadog ทีมกู้ภัยได้รับสัญญาณเตือนภัยปุ๊บ ก็รีบออกไปทำภารกิจค้นหาและกู้ชีพทันทีหลังจากที่ชายรายนี้หายตัวไป ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ชายฝั่ง 4 นาย ทีมเรือกู้ชีพ พร้อมกับทีมเฮลิคอปเตอร์ค้นหา เรียกได้ว่าจัดเต็มทุกทีมเพื่อตามหาคนเพียงคนเดียว และคาดการณ์ถึงภัยที่ร้ายแรงที่สุดด้วยว่า ไม่น่าจะหาตัวเขาเจอแน่ๆ เนื่องจากบริเวณที่เขาหายตัวไปนั้นเป็นแม่น้ำที่มีสายน้ำไหลลงสู่มหาสมุทร จึงทำให้อดคิดไม่ได้ว่า จากการค้นหาร่วม 2 ชั่วโมงกว่าๆ อาจจะเปล่าประโยชน์ ผืนน้ำอันแสนกว้างใหญ่ขนาดนั้น อาจจะกลืนร่างของเขาไปแล้วก็ได้ ภาพทีมเฮลิคอปเตอร์กู้ชีพประกอบเนื้อหา แต่ทว่าเรื่องราวทั้งหมดกลับหงายหน้าเป็นหลัง… เพราะภายหลังตำรวจพบชายคนดังกล่าวเวลาประมาณ 2 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่น อยู่ในสภาพที่ครบถ้วนสมบูรณ์ 32…
-
“อะเดล” หักรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมกลางเวที เพราะเธอคิดว่าไม่คู่ควรเท่า “บียอนเซ่”
เมื่อช่วงค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา “อะเดล” ศิลปินสาวจากอังกฤษได้แสดงความยอดเยี่ยมด้วยการคว้า 5 รางวัลในงานแกรมมี่อวอร์ดครั้งล่าสุด ทั้งอัลบั้มยอดเยี่ยม เพลงยอดเยี่ยม บันทึกเสียงยอดเยี่ยม แซงหน้าตัวเก็งอย่าง “บียอนเซ่” ที่ได้ชนะไปเพียงสองรางวัล หลายๆ คนคงคิดว่าเธอคงภาคภูมิใจกับมัน แต่ในระหว่างการประกาศนั้นเอง เธอกลับทำในสิ่งที่ใครก็ต้องตะลึง นั่นก็คือเธอได้หักถ้วยรางวัลอัลบั้บมยอดเยี่ยมนั้นทิ้ง สาเหตุที่เธอทำเช่นนั้น เพราะเธอคิดว่า เธอไม่คู่ควรกับมันนั่นเอง!! เธอกล่าวระหว่างขึ้นรับรางวัลว่า “ฉันไม่สามารถรับรางวัลนี้ได้จริงๆ ฉันรู้สึกภูมิใจมาก แต่ศิลปินในดวงใจของฉันคือบียอนเซ่ และสำหรับฉัน อัลบั้บ “Lemonade” ของเธอคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆ” “มันถูกสร้างอย่างปราณีต งดงาม และเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ เราได้เห็นอีกด้านของคุณ (พูดกับบียอนเซ่ที่นั่งอยู่ในงาน) ที่คุณไม่ค่อยแสดงให้ใครเห็น ศิลปินทุกคนที่นี่ต่างรักคุณ คุณคือแสงสว่างที่นำทางพวกเรา” หลังลงจากเวที เธอได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร People ว่า “ตอนที่ฉันได้ยินผล บางส่วนในจิตใจของฉันได้ตายลงไป ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเธอที่ควรจะเป็นผู้ชนะ เธอต้องทำยังไงถึงจะได้รางวัลอัลบั้มแห่งปีเหรอ?” อนึ่ง บียอนเซ่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอัลบั้มแห่งปีมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ก็แห้วทุกครั้ง จนทำให้อะเดลหักรางวัลดังกล่าว…
-
คุณแม่ชาวจีนเผลอให้ลูกกิน “ดินวิทยาศาสตร์” เพราะเข้าใจผิดว่าเป็น “ลูกอม” ไปซะได้
สำหรับใครที่เคยปลูกต้นไม้น่าจะพอรู้จักดินวิทยาศาสตร์กันมาบ้างอย่างแน่นอน และก็เป็นที่รู้กันว่าเจ้าดินวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่ไม่ควรกินเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าเรื่องน่าเศร้านั้นก็เกิดขึ้นเมื่อมีคุณแม่เข้าใจผิดคิดว่าดินวิทยาศาสตร์เป็นลูกอมซะงั้น เรื่องมันมีอยู่ว่าคุณชาวจีนจากมณฑลเจียงซูท่านหนึ่ง ได้ไปซุปเปอร์มาเก็ตพร้อมกับซื้อดินวิทยาศาสตร์กลับมาถุงหนึ่ง ซึ่งเธอคิดว่าเจ้าลูกบอลจิ๋วหลากสีสันนี้ เป็นลูกอมโปรดของลูกสาววัย 3 ขวบของเธอไปซะได้ รายงานข่าวจากเว็บไซต์ Shanghaiist ระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พอเธอกลับไปถึงที่บ้าน เธอก็ทำการให้สามีป้อนเจ้าดินวิทยาศาสตร์ที่เธอคิดว่าเป็นลูกอมกับลูกน้อยของเธอชิ้นต่อชิ้น จนรู้ตัวอีกทีเจ้าลูกอมนี้ก็หมดเสียแล้ว แต่กว่าคุณแม่ท่านนี้จะรู้ตัวว่าสิ่งที่เธอให้ลูกกินมันเป็นดินวิทยาศาสตร์ ลูกเธอก็กินมันเข้าไปแล้วมากกว่า 280 ลูก ซึ่งเมื่อทั้งคู่รู้อย่างนั้นพวกเขาจึงรีบพาลูกสาวไปหาหมอทันที!!! ซึ่งหมอก็ได้ทำการเอ็กซเรย์ให้เห็นถึงภาพของเด็กสาวที่เต็มไปด้วยดินวิทยาศาสตร์เต็มท้องของเธอ โดยทั้งคู่ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกับเข้าใจถึงความผิดพลาดนี้ทัน แถมในตอนนั้นดินวทิยาศาสตร์ก็เริ่มที่จะดูดซับน้ำในท้องของเด็กแล้วด้วย และถ้ายิ่งปล่อยไว้นานมันก็ยิ่งจะทำให้ท้องของเธอเต็มไปด้วยดินวิทยาศาสตร์ที่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม หมอจึงให้ยาแก่เด็กสาวเพื่อที่เธอจะได้ขับเจ้าดินวิทยาศาสตร์นี้ออกมาก่อนที่มันจะขยายไปกว่านี้ พร้อมกับบอกว่าดินวิทยาศาสตร์พวกนี้จะออกมาจนหมดภายใน 24 ชั่วโมงอย่างแน่นอน โชคดีที่เจ้าหนูสามารถรอดมาได้อย่างปลอดภัย และน่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับพ่อแม่คู่นี้ไปนานเลยล่ะ เวลาจะเอาอะไรให้ลูกกินคงต้องดูให้ดีๆ แล้วล่ะ ว่าแต่ของมันไม่น่าจะวางอยู่ตรงชั้นของกินในห้างสรรพสินค้าเลยนะเนี่ย ที่มา shanghaiist
-
เว็บโป๊ชื่อดังเปิดสอน “เพศศึกษา” ด้วยตนเอง หลังพบว่าระบบการศึกษาทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร!?
นี่อาจจะกลายเป็นข้ออ้างใหม่ในการเปิดเว็บโป๊ในที่ทำงานก็ได้นะ (เหรอ?) เพราะหลังจากที่เว็บไซต์ xHamster ได้เริ่มต้นโปรเจคสอนเพศศึกษาด้วยตนเอง เราอาจจะเอาไปอ้างกับบอสได้ว่า ‘ป่าวอนาจารนะครับ ผมแค่หาความรู้เพิ่มเติมเฉยเฉ๊ยย!?’ ล่าสุดเว็บไซต์ Distractify ได้รายงานว่า เว็บไซต์หนังผู้ใหญ่ชื่อดังอย่าง ‘xHamster’ ได้เริ่มต้นสอนเพศศึกษาแก่สมาชิกทุกคนที่อยู่ในรัฐยูท่าห์ หลังจากที่ทางการได้สั่งยกเลิกงบประมาณส่วนหนึ่ง ที่จะถูกนำไปใช้เกี่ยวกับการให้ความรู้ด้านเพศศึกษา อย่างถูกต้องแก่นักเรียนทุกคน ประมาณว่าถ้าทางการไม่สอนไม่เป็นไร เดี๋ยวเว็บไซต์พี่จะสอนน้องให้รู้งานเอง!! โดยทางเว็บไซต์ได้เริ่มต้นสร้างวิดีโอสื่อการสอนภายใต้ชื่อว่า ‘The Box’ ซึ่งเป็นแชนแนลวิดีโอที่พร้อมจะตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ชมทางบ้านสามารถส่งคำถามที่ตัวเองสนใจเข้าไปถามในรายการได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การมีเซ็กส์ทางทวารหนัก การคุมกำเนิดที่ถูกต้อง หรือการจัดการกับตดที่ดันผายออกมาตอนกำลังเข้าได้เข้าเข้ม คือเรียกง่ายๆ ว่าพร้อมจะไขข้อสงสัยในทุกคำตอบ ภาพจากรายการ ‘The Box’ นอกจากนั้นแล้วทางเว็บไซต์ได้นำร่องโครงการดังกล่าว โดยจะทำการลิ้งค์บัญชีผู้ใช้งานทุกคนที่มาจากรัฐยูท่าห์ ไปยังแชนแนลดังกล่าวให้โดยอัตโนมัติ และอ้างอิงจากผลการสำรวจเมื่อปี 2009 พบว่า รัฐยูท่าห์ เป็นรัฐที่มีประชากรใช้งานเว็บโป๊สูงที่สุดในสหรัฐฯ และถ้าหากว่าเพื่อนๆ สนใจอยากจะเรียนวิชานี้กับอาจารย์ xHamster บ้างล่ะก็ สามารถไปกดติดตามแชนแนลทางยูทูปได้ที่ ‘TheBox’ แต่ถ้าไม่ติดตามละก็ ระวัง…จะคุยกับเค้าไม่! รู้! เรื่อง!…
-
ปัดโถ่!! สื่อนอกเผยสหรัฐอาจขอดู “รหัสผ่าน” โซเชียลมีเดียของคุณ ประกอบการขอวีซ่า
กลายเป็นเรื่องให้ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศเลย สำหรับข่าวต่างประเทศที่บอกว่าตอนนี้สหรัฐอาจจะมีมาตรการใหม่ในการป้องกันอันตรายจากต่างประเทศ โดยการของดูรหัสผ่านโซเชียลมีเดียของคุณ!? เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าว NBC เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา โดยบอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ John Kelly ได้กล่าวในขณะประชุมคณะกรรมาธิการ ว่าหลังจากนี้ไปหากชาวต่างชาติคนไหนจะยื่นวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าสหรัฐ จะต้องกรอกรหัสผ่าน Facebook, Twitter, Youtube, Line และอีกมากมาย เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบประวัติต่างๆ นาย Kelly กล่าวว่า “เราต้องการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของพวกเขาด้วยรหัสผ่าน พวกคุณทำอะไร? พวกคุณคุยเรื่องอะไนกัน? ถ้าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่ต้องให้พวกเขาเข้าประเทศมา” ซึ่งมาตรการนี้เป็นแนวคิดที่ต่อยอดมาจากคำสั่งของประธานาธิบ Donald Trump ที่ต้องการกีดกันผู้อพยพจาก 7 ประเทศมุสลิมได้แก่ โซมาเลีย, ซูดาน, เยเมน, ลิเบีย, อิรัก, อิหร่านและซีเรีย ไม่ให้เข้าประเทศ เพราะเกรงว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความคิดที่ยังอยู่ในการพิจารณาเบื้องต้นเท่านั้น และยังคงต้องมีการหารือกันเพื่อความเหมาะสมก่อนจะมีการตัดสินใจใดๆ ก็ตาม แต่มีการคาดการณ์กันว่าหลังจากนี้ไป การตรวจคนเข้าเมืองจะเป็นเรื่องที่เข้มงวดขึ้นกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่ความคิดใหม่เสียทีเดียว เพราะหาก ย้อนกลับไปในปี 2015 ในสมัยที่รัฐบาลสหรัฐยังคงอยู่ในความดูแลของประธานาธิปดี…
-
น่าร๊ากก… หนูน้อยวัย 12 เขียนอีเมล์ถึงหมอ หลังเจ้าเหมียวดื่ม “นมสตรอเบอร์รี่” เข้าไป!?
คนเลี้ยงแมวทุกคนคงรู้ดีว่า เหตุผลที่เรายอมตกเป็นทาสมันก็เพราะว่าพวกมันนั้นน่ารักเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง นอน กิน หรือแม้แต่เวลาทำลายข้าวของมันก็ยังดูน่ารักได้อีก และมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่ารักไม่แพ้กัน ก็คือ ‘เด็กไร้เดียงสา’ นั่นเอง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะถ้าเกิดว่า ทั้งเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา และเจ้าแมวเหมียวตัวยุ่ง มันดันมาอยู่ร่วมกัน!! เว็บไซต์ LoveMeow ได้รายงานเรื่องราวน่ารักๆ ของหนูน้อยวัย 12 ปี เธอมีชื่อว่า ‘Maggie’ ด้วยความที่เธอรักแมวมากๆ และดันไปเห็นเจ้าเหมียวแอบจิบนมสตรอเบอร์รี่เข้า และรู้ว่ามันไม่ค่อยดีต่อแมวนี่นา เธอจึงรีบเขียนอีเมล์ส่งไปถามโรงพยาบาลสัตว์ทันที เพราะเกรงว่าเจ้าเหมียวจะเป็นอะไรไป ช่างเป็นความน่ารักน่าเอ็นดูแบบเด็กน้อยจริงๆ อีเมล์จากหนูน้อย ถึงคุณหมอ เนื้อหาในอีเมล์ของหนูน้อยมีดังนี้: ‘สวัสดีค่ะ แมวหนูมีชื่อว่า Shadow มันกำลังนั่งดูทีวีอยู่กับหนู และมันก็เผลอไปจิบนมสตรอเบอร์รี่ของหนูเข้าตอนที่หนูไม่ได้สังเกต หนูรู้สึกไม่สบายใจมากเลยค่ะหนูอยากรู้ว่าเขาจะเป็นอะไรมั้ยคะ? หนูไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้มันเคยดื่มนมมาก่อนรึเปล่า อีกอย่างที่หนูกังวลมากๆ ก็เพราะตอนนี้ทั้งบ้านมีแค่หนูตื่นคนเดียว และหนูก็อายุแค่ 12 ขวบครึ่งเอง หนูไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ได้โปรดช่วยด้วยค่ะ’ และหลังจากที่คุณหมอได้รับอีเมล์ดังกล่าว เขาก็รีบตอบกลับไปหาหนูน้อยทันที… ‘สวัสดีจ๊ะ Maggie ต้องขอโทษด้วยนะที่เราตอบหนูช้าไปหน่อย ก่อนอื่นต้องขอบคุณมากนะที่หนูเป็นคนเลี้ยงแมวที่มีความรับผิดชอบเอามากๆ…
-
ชาวเน็ตซึ้ง พี่ชายผู้น่ารักทำหน้าที่เป็น “คุณพ่อ” ให้น้องสาว ในงานเต้นประจำปีที่โรงเรียน
#เหมียวบ็อบ เข้าใจดีว่าในสมัยที่เรายังเป็นเด็กนักเรียนนั้น สิ่งหนึ่งที่ทำให้เด็กนักเรียนที่ไม่ได้มีโอกาสอยู่กับพ่อแม่ อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ก็คืองานประจำปีที่โรงเรียนมักจะเชิญชวนผู้ปกครองให้มาร่วมทำกิจกรรมกับเด็กๆ เช่นเดียวกับความรู้สึกของ ‘Noor’ หนูน้อยเชื้อสายอินเดีย วัย 6 ขวบ เมื่อโรงเรียนของเธอได้จัดงาน ‘เต้นกับคุณพ่อ’ เพื่อต้องการจะให้เด็กๆ ได้มีช่วงเวลาที่ดีกับคุณพ่อ หากแต่ว่าหนูน้อยคนนี้ต้องอาศัยอยู่กับคุณแม่ และพี่ชายของเธอ โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้เคยเห็นหน้าคุณพ่อที่แท้จริง Mohammad พี่ชายวัย 17 ปีเพียงคนเดียวของเธอ และเมื่อวันงานมาถึง หนูน้อย Noor ได้แต่งตัวพร้อมสำหรับงานเต้นประจำปีที่โรงเรียนจัดขึ้น หากแต่ว่าเธอไม่สามารถไปร่วมงานนี้ได้ เพราะเธอไม่มีคุณพ่อเหมือนคนอื่นๆ หลังจากที่พี่ชายของเธอรู้ว่าน้องสาวสุดที่รักมีใบหน้าที่เศร้าหมอง เพราะไม่มีคุณพ่อพาไปร่วมงาน เขาจึงได้รีบพาเธอไปซื้อชุดเดรสทันที พร้อมกับรับปากว่าจะสวมบทคุณพ่อพาเธอไปเต้นรำในงานนี้เอง “ผมจะไม่ปล่อยให้น้องสาวของผมรู้สึกแปลกแยกจากเพื่อนเธอเด็ดขาด” พี่ชายกล่าว จากนั้นทั้งคู่จึงพากันไปเต้นรำที่โรงเรียนอย่างสนุกสนาน แถมสาวน้อยยังได้รางวัลโหวต ‘คุณพ่อยอดเยี่ยม’ ประจำปีอีกด้วยล่ะ ‘พวกเราเคยเป็นคนจรจัดไร้บ้านอยู่นานถึง 2 เดือน เราต้องย้ายที่อาศัยจากรัฐ สู่รัฐ ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีงานทำ มันเป็นช่วงชีวิตที่ยากลำบากมากที่สุด แต่ก็ต้องขอบคุณช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนั้น ที่ทำให้เราทั้ง 3 คนรัก และเป็นห่วงกันอยู่เสมอ’…
-
เจ้าของต๊กกะใจ เมื่อหมาลาบาดอร์คลอดลูก 5 ตัว ทุกตัวปกติ ยกเว้นมีตัวนึง “สีเขียว”!?
ปกติแล้วสุนัขเวลาที่มันออกลูกมาสีของลูกสุนัขก็จะขึ้นอยู่กับตัวพ่อพันธ์แม่พันธ์ ไม่ก็จะอยู่ในโทนสีดำ ขาว น้ำตาล อะไรจำพวกนี้แล้วแต่พันธ์ของสุนัข แต่ทว่าล่าสุดก็ได้มีเรื่องแปลกเกิดขึ้นกับลูกสุนัขตัวหนึ่งที่พึ่งเกิดออกมา?!! เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเจ้าสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์เพศเมียที่ได้ให้กำเนิดลูกออกมาทั้งหมด 5 ตัว ซึ่งเป็นตัวผู้ 4 ตัวและตัวเมีย 1 ตัว ซึ่งปัญหามันไม่ได้อยู่แค่มันเป็นตัวเมียเพียงตัวเดียว แต่มันดันมีสีที่ผิดแปลกจากตัวอื่นซะงั้น พี่น้องของมันเป็นสีทองล้วนตามสไตล์หมาลาบาดอร์ แต่มีแค่เจ้าลูกหมาตัวนี้เท่านั้นที่ไม่เหมือนใคร Elaine Cooper เจ้าของหมาตัวนี้เชื่อว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่ 3 ของโลก ซึ่งเธอได้ตั้งชื่อเจ้าหมาตัวนี้ว่า Ffif โดยชื่อของมันมาจากเจ้าหญิง ฟิโอน่า จากเรื่องเชร็ค “ตอนแรกมันคลอดออกมาจากถุงน้ําคร่ําฉันคิดว่ามันจะมีสีที่มืดๆ จนคิดว่ามันจะเป็นลาบราดอร์สีดำ” “แต่พอทำความสะอาดถุงน้ำคล่ำเสร็จ ฉันถึงกับหัวเราะออกมา พร้อมกับพูดว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่มันจะเป็นสีเขียว ตัวอื่นก็เป้นสีทองหมดแท้ๆ” กลายเป็นโดดเด่นกว่าตัวอื่นเลย สาเหตุที่ลูกสุนัขเป็นสีเขียว ทางผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เพราะน้ำดีที่มีเขียวที่เรียกว่า Biliverdin ซึ่งจะพบได้ในรกของสุนัข โดยคราบของน้ำดีจะเครือบอยู่บนตัวสุนัขเมื่อมันรวมตัวกับน้ำคร่ำ แต่ว่าของเหลวนี้ไม่ได้มีอัตรายอะไรแถมมันยังช่วยปกป้องและบำรุงลูกสุนัขอีกตะหาก พอผ่านไปไม่กี่สัปดาห์สีเขียวที่ติดวตัวลูกสุนัขก็จะหายไป แต่ถว่ากรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้ยากมากๆ ซึ่งมันมักจะเกิดขึ้นกับสายพันธ์ที่มีสีสว่างเช่นลาบราดอร์เป็นต้น สุดท้ายเธอบอกว่า เธอกับสามีวางแผนจะขายลูกหมาทั้งหมดเมื่อพวกมันโตพอ ซึ่งเธอยังพูดเสริมอีกว่าเธอได้ค้นหาดูแล้วและพิสูจน์ได้จริงๆ ว่าทั้งโลกมีลูกลาบราดอร์เกิดออกมาเป็นสีเขียวเพียง 3 ตัวเท่านั้น โดยตัวแรกเกิดที่ประเทศสเปน…
-
จัดไป!! มหาวิทยาลัย Ivy Leagues เปิดคอร์สออนไลน์เรียนฟรี 9 สาขา มากถึง 300 หลักสูตร
มหาวิทยาลัยจาก Ivy Leagues ทั้ง 8 แห่ง นั้นถือได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก อันประกอบไปด้วย Brown, Harvard, Cornell, Princeton, Dartmouth, Yale, Columbia Universities, และ University of Pennsylvania ทั้ง 8 แห่งนั้นถูกจัดให้อยู่ใน 15 อันดับแรกจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2017 แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยจาก Ivy Leagues เหล่านี้ ย่อมมีมาตรฐานในการคัดเลือกนักศึกษาที่สูงมาก ถ้าใครไม่เก่งกล้าสามารถพอล่ะก็คงหมดโอกาสที่จะได้ไปเรียนในมหาวิทยาลัยเหล่านี้ แต่วันนี้ทีมเรามีข่าวดีมาบอก!! เพราะมหาวิทยาลัยจาก Ivy Leagues ได้ทำการเปิดคอร์สเรียนผ่านทางออนไลน์แบบฟรีๆ กว่า 300 คอร์ส แตกต่างกันไปกว่า 9 วิชา ดังนี้ – วิชาวิทยาศาสตร์และคอมพิวเตอร์ – วิชาธุรกิจและการจัดการ – วิชามนุษยศาสตร์ – วิชาศิลปะและการออกแบบ –…
-
มิตรภาพต่างสายพันธุ์ คู่ซี้ต่างไซส์ระหว่าง ‘แมวกับแรด’ สนิทกันจนแยกจากกันไม่ได้!!
เรื่องราวความน่ารักของเพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์ระหว่าง เจ้า Mewie แมวเหมียวสีน้ำตาลกับเจ้าแรดกำพร้าตัวบิ๊กเบิ้ม… คู่หูเพื่อนซี้คู่นี้อาศัยอยู่ในศูนย์ดูแลแรดกำพร้าในประเทศแอฟริกาใต้ ที่อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรช่วยเหลือสัตว์ Wild Heart Wildlife Foundation เจ้า Mewie นั้นถูกช่วยเหลือมาขณะที่มันยังมีอายุเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นโดย Jamie Traynor ผู้ให้การดูแลกับเจ้าแรดกำพร้าตัวนี้ “มันคอยตามฉันไปรอบๆ ศูนย์ดูแลแรดกำพร้า” คุณ Traynor เล่าถึงเจ้าเหมียว เจ้า Nandi เจ้าแรกขาวตัวเล็กที่มีอายุเพียง 2 เดือนเท่านั้นตอนที่มาอยู่ที่ศูนย์ดูแลแรดกำพร้าแห่งนี้ หลังมันถูกพบอยู่เพียงลำพังเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แม่ของมันถูกยิงโดยขบวนการลอบฆ่าสัตว์ป่า แต่โชคดีที่เจ้า Nandi สามารถรอดชีวิตมาได้ และต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลาหลายวัน ก่อนที่ความช่วยเหลือจะมาถึง เจ้าหน้าที่พาเจ้า Nandi มาไว้ที่ศูนย์ดูแลแรดกำพร้า และช่วยเหลือดูแลมันเป็นอย่างดี เพื่อทำให้มันร่างกายของมันกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง หลังจากที่ต้องผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาเป็นเวลาหลายวัน และในวันนั้นเองเจ้า Nandi ก็ได้พบกับเจ้า Mewie เป็นครั้งแรก ตอนแรกเจ้าเหมียวเดินเข้ามาด้วยความสงสัย พร้อมกับทำการสำรวจสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่กว่ามันหลายเท่าตัว…
-
นี่คือ 10 พฤติกรรมขยายพันธุ์ 18+ ของสัตว์โลก ที่ทั้งโหด และหลอนในเวลาเดียวกัน!?
สิ่งมีชีวิตใดๆ บนโลกใบนี้ ถูกสร้างขึ้นมาให้มีความแตกต่างกัน ทั้งรูปร่างหน้าตา ขนาด พฤติกรรม รวมไปถึงรูปแบบการสืบพันธุ์แบบต่างๆ แต่เพื่อนๆ บางคนอาจจะไม่รู้ว่าสัตว์บางสายพันธุ์นั้นมีพฤติกรรมที่ชวนสยองเหมือนกัน และในบทความนี้#เหมียวฟิ้นได้รวบรวมเอาพฤติกรรมที่ว่านี้มาตีแผ่ให้ทุกคนได้รู้ น่าสยองอย่างที่ว่าจริงไหมลองไปดูกันเลย 1. จิ้งเหลนหางแส้มีลูกได้เอง นี่คือความสามารถที่สาวๆ บางคนอาจจะอยากได้มันมากๆ เพราะพวกจิ้งเหลนหางแส้สามารถผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูกได้เอง โดยที่ตัวอ่อนจิ้งเหลนจะสามารถเจริญเติบโตและเป็นรูปเป็นร่างได้อยู่ภายในร่างกายของตัวเอง แม้จะไม่ผ่านการปฏิสนธิจากตัวผู้เลยก็ตาม สิ่งนี้เรียกว่า Parthenogenesis (ภาษากรีกแปลว่าการสร้างสรรค์แบบบริสุทธิ์) 2. ปลาตกเบ็ดไม่ต้องห่วงเรื่องนอกใจ ดูจะเป็นสายพันธุ์สัตว์ที่โรแมนติกสุดๆ แต่มันก็ตามาด้วยเรื่องชวนอึ้งเช่นกัน เพราะเมื่อปลาตกเบ็ดตัวผู้ฝักออกมาจากไข่ พวกมันก็จะตรงเขาไปกัดที่ท้องของปลาตกเบ็ดตัวเมียทันที จากนั้นร่างกายของมันก็จะหดเล็กลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นเหมือนปรสิตตัวเล็กๆ เกาะติดตัวเมียไปตลอดเวลา อีกทั้งยังใช้ระบบเลือดร่วมกันด้วยนะ เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงวันที่ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ตัวผู้ก็จะปล่อยสเปิร์มเข้าไปในตัวเมียเพื่อให้มันตั้งท้อง และถึงแม้จะผสมพันธุ์กันไปแล้ว แต่พวกมันก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไปไม่มีวันเปลี่ยนแปลง 3. ตั๊กแตนตำข้าวกินหัวตัวผู้!? ราวๆ 16% ของการผสมพันธุ์ของตั๊กแตนตำข้าวตัวผู้และตัวเมีย ตัวเมียจะกินหัวของตัวผู้เข้าไประหว่างผสมพันธุ์กัน…อึ๋ย 4. ฮิปโปสุดยัวะ มันคือหนึ่งในสายพันธุ์สัตว์ที่อันตรายที่สุดในแอฟริกาเลยก็ว่าได้ ไม่มีอะไรที่จะหยุดพวกมันได้หากพวกมันอยากจะหว่านเสน่ห์ใส่ตัวเมีย แต่วิธีในการดึงดูดเพศเมียของพวกมันอาจจะแปลกสักหน่อยตรงที่พวกมันจะทั้งอึและฉี่ออกมาเพื่อสร้างอนาเขตของตัวเอง ให้เพศเมียรู้สึกสะดุดตา… 5. เม่นปล่อยสิ่งปฏิกูลเพื่อสร้างความประทับใจ!? การที่ร่างกายของพวกมันมีหนาม ไม่ได้ทำให้การผสมพันธุ์เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเลย แต่เรื่องที่แปลกก็คือเม่นตัวผู้มักจะฉี่ใส่เม่นตัวเมียก่อนที่จะมีอะไรกัน… และบางคนอาจจะกังวลว่าพวกเม่นตัวเมียจะรู้สึกเจ็บปวดหรือเปล่าเมื่อต้องให้กำเนิดลูก? เราก็ขอบอกเลยว่ามันไม่ได้เจ็บปวดอะไรนะ…
-
ใกล้ได้ดูแล้ว!! “Cargo ซอมบี้ยอดคุณพ่อ” เตรียมเปิดให้ชมผ่าน Netflix ดูได้แม้อยู่บนเตียง
เมื่อราวๆ เดือนกันยายนปี 2016 #เหมียวฟิ้นได้นำเสนอข่าวคราวเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ชื่อ Cargo หนังที่ดัดแปลงมาจากหนังสั้นสัญชาติออสเตรเลีย ที่ว่าด้วยเรื่องราวของคุณพ่อคนหนึ่งที่ติดเชื้อซอมบี้ แต่ก็ต้องพยายามกระเตงลูกน้อยไปเรื่อยๆ เพื่อหาคนช่วยลูกของเขาก่อนที่ตัวเองจะกลายเป็นซอมบี้ภายใน 48 ชั่วโมงและทำร้ายลูกของเขาเสียเอง (อ่านข่าวภาพยนตร์ Cargo ได้ที่นี่เลย) ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Screendaily ได้รายงานว่าหนังเรื่อง Cargo จะมีกำหนดฉายในปีนี้อย่างแน่นอนโดยจะปล่อยให้ชมกันผ่านระบบมสตรีมมิ่งอย่าง Netflix นั่นก็หมายความว่าคุณจะสามารถรับชมหนังเรื่องนี้ได้ทันทีที่หนังถูกปล่อยออกมาแม้ว่าคุณจะนอนอยู่บนเตียงที่บ้านของคุณเอง ตามรายงานบอกว่าตอนนี้การถ่ายทำได้เสร็จสิ้นหมดแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการตัดต่อเท่านั้น แต่จะเปิดให้เข้าชมเมื่อไหร่นั้นคงต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกที สำหรับใครที่งงว่า Netflix คืออะไรและใช้ยังไง? #เหมียวฟิ้นจะอธิบายง่ายๆ ว่ามันคือเว็บที่ปล่อยหนังให้เราดูเป็นร้อยๆ พันๆ เรื่องแบบถูกกฎหมาย โดยจะเก็บค่าบริการเป็นรายเดือน เริ่มต้นเพียง 280 บาทต่อเดือน (มีให้ทดลองใช้ฟรี 1 เดือนด้วยนะ) ความแตกต่างของ Netflix และเว็บให้บริการหนังเถื่อนแบบฟรีๆ ก็คือหนังและซีรี่ส์หลายเรื่องที่คุณจะหาชมได้เฉพาะทาง Netflix เท่านั้น ภาพและเสียงคมชัดมากกว่าแน่นอน และที่สำคัญตอนนี้เขามีซับไทยพากย์ไทยให้กับหนังหรือซีรี่ส์หลายๆ เรื่องแล้วนะ …
-
ไอเดีย “หุ่นยนต์รับใช้” เดินตามคุณไปตลอด-ขนของได้ ราวกับ BB-8 จากสตาร์วอร์ส
มั่นใจได้ว่าคนที่ได้ดูสตาร์วอร์สถ้าถามถึงสิ่งที่ชอบภายในเรื่องแล้วละก็ เจ้าหุ่นต่างๆ ภายในเรื่องคงจะอยู่ในอันดับแรกๆ กันใช่ไหมละ ไม่ว่าจะเป็น R2-D2, BB-8 หรือจะเป็นจากภาคล่าสุดอย่าง K-2S0 ซึ่งหลายคนก็คงฝันอยากจะได้เจ้าหุ่นพวกนี้ในชีวิตจริงแน่ๆ แต่ล่าสุดได้มีบริษัทที่สร้างหุ่นพวกนี้ขึ้นมาแล้วนั่นเอง บริษัทหนึ่งในบอสตันที่มีชื่อว่า Piaggio Fast Forward ได้คิดค้นหุ่นที่มีชื่อว่า Gita ขึ้นมาเพื่อให้มันเป็นผู้ช่วยที่จะคอยติดตามเจ้าของคล้ายๆ กับ BB-8 ในสตาร์วอร์ส และมันยังสามารถที่จะหาทางกลับบ้านเองได้เหมือนกับ หมาหรือแมวเลยล่ะ Rita สามารถเดินตามได้เหมือน BB-8 เลยนะ Gita ออกแบบมาให้ใช้ในงานประเภทช่วยถือของหรือส่งของให้กับเพื่อนบ้านใกล้ๆ Rita ขับเคลื่อนด้วยล้อหมุนตามแกนแนวตั้ง ซึ่งจะทำให้ตัวช่องเก็บของอยู่ในแนวตั้งตลอดเวลา หมดปัญหาเรื่องของจะหกออกมา Gita สามารถที่จะปืนขึ้นลงพื้นที่ต่างระดับได้ด้วยนะ Gita มีช่องเก็บของที่ใหญ่พอสมควรเลยทีเดียว ใช้ช่วยซื้ออของ หรือส่งเอกสารภายในออฟฟิศได้ด้วยนะ มีหน้าจอแสดงผล LED ที่ช่วยบอกแบตเตอรี่ด้วยนะ มันสามารถใช้เป็นพนักงานต้อนรับ หรือนำทางลูกค้าคุณได้ ล้อยาง… เปรียบเทียบกับเจ้า BB-8 ที่สำคัญ Gita…
-
รวมภาพข้อเสียของการจอดรถช่อง “คนพิการ” ชาวเน็ตช่วยกันจัดเต็มให้โลกได้รู้!!
ปกติแล้วลานจอดรถในสถานที่ต่างๆ ล้วนจะทำจุดจอดรถสำหรับ “คนพิการ” ไว้เสมอ ซึ่งนั่นก็เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้พวกเขา ทั้งที่จอดซึ่งกว้างกว่า รวมถึงใกล้กับสถานที่ไม่ต้องเดินไปไกล เพราะพวกเขาก็ไปไหนมาไหนลำบากกว่าคนปกติอยู่แล้ว แต่จากดราม่าหลายๆ ครั้งที่เราเห็น ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเรามักจะไม่ค่อยเห็นคนพิการจริงๆ มาจอดกันเท่าไหร่หรอก ส่วนมากเราจะเจอกับคนพิการทางความคิดอะไรพวกนี้เสียมากกว่า ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลย มาวันนี้เลยมีการรวมภาพจากชาวเน็ตในหัวข้อที่ว่า รวมเหตุผลที่คุณไม่ควรจอดในที่จอดรถคนพิการ ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนพิการ และพวกเขาก็ร่วมส่งภาพเหล่าคนไม่พิการจริงๆ ที่มาแอบจอดแบบเนียน พร้อมกับการลงโทษทางสังคมแบบแสบสันเลยล่ะ นี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าเราไปจอดในจุดคนพิการในบลาซิล ถึงกับยอมลงทุนเสียเวลาแปะ เอาให้อายกันไปข้างเลยทีเดียว ส่วนนี้เป็นวิธีรับมือจากทางฝั่งรัสเซีย ถ้าไม่มีป้ายคนพิการจะโดนโฮโลแกรมออกมาบอกให้หยุดทันที ส่วนที่พี่จอดเลยมานี้คือเขาทำเผื่อไว้ให้คนพิการลงสะดวก จิตใจพี่ทำด้วยอะไรกัน ส่วนนี่คือการลงโทษที่โหดร้ายขึ้นไปอีกขั้น (แม้จริงๆ การทำรถเขาเสียหายจะผิดเช่นกัน แต่ก็ได้ความสะใจจากชาวเน็ตไป) รายนี้ไม่โหดเท่าข้างบนแต่ก็ต้องไปทำสีหนักพอสมควร ที่จอดรถว่างตั้งเยอะก็ยังจะมาแย่งที่คนพิการอีก แถมควบสองช่องเลย คนเดียวควบไป 4 ช่อง ควรจะหาที่จอดที่ดีกว่านี้นะครับพี่ แม้แต่มอเตอร์ไซค์ ก็ยังไม่เว้น ซึ่งพวกเขาระบุว่าช่องว่างพวกนี้มีไว้เพื่อคนพิการนะ ไม่ใช่เพื่อจอดมอเตอร์ไซค์ แม้แต่ตำรวจก็ยังพิการ คิดเอาก็แล้วกัน ส่วนนี่ก็เป็นการแก้ปัญหาที่สะใจชาวเน็ตเช่นกัน ยกกันไปงี้แหละ!! …
-
โรงพยาบาลนี้ช่วยชีวิตเด็กหนุ่มที่ถูกยิง ถัดมา 9 ปี เขากลายมาเป็น “คุณหมอ” จนได้…
เคยคิดกันไหมถ้าเราเจอกับเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้เราเกือบไม่รอด แต่แล้วเหตุการณ์นั้นก็เป็นแรงบันดาลใจหรือแรงผลักดัน ที่จะเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล เรื่องนี้เกิดขึ้นกับชายหนุ่มคนหนึ่งในดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน เขาคนนี้มีชื่อว่า Kevin Morton Jr ขาถูกยิงเข้าที่ท้องถึง 9 นักในคืนหนึ่ง หลังจากที่เขาปิดร้านอาหารที่ทำงานและเดินทางกลับบ้าน แต่ถูกกลุ่มคนร้ายดักปล้น หลังจากที่เขาถูกยิง เขาก็ถูกหามส่งโรงพยาบาล Detroit’s St. John ทันที ทีมแพทย์รีบเข้ามาดูทันที ครอบครัวของเขาบอกว่าตอนนั้น Kevin มีโอกาสรอดเพียงแค่ 10% เท่านั้น แต่แพทย์หญิงคนหนึ่งชื่อว่า Dr. Sheth- Zelmanski กลับสามารถที่จะช่วยชีวิตเขาไว้ได้ในคืนนั้น “ฉันรู้ว่าเขายังไม่ยอมแพ้ แล้วทำไมพวกเราจะต้องยอมแพ้ล่ะ? พวกเราต้องทำมันให้สำเร็จ” Dr. Sheth ได้ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่เธอยังคงพยามช่วย Kevin แม้เขาจะมีโอกาสรอดแค่ 10% ตอนแรกเขาวางแผนไว้ว่า เขาจะเข้าทำงานเกี่ยวกับเภสัชกรรม แต่หลังจากที่เขาต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลนานถึง 50 วันที่โรงพยาบาล St. John รวมถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ทำให้เขารอดมาได้ มันทำให้เขาตระหนักถึงการช่วยเหลือชีวิตของผู้อื่น มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาควรจะเดินในเส้นทางสายนี้เช่นกัน หลังจากนั้น 10 ปี เขาได้เรียนจบจาก Michigan State University’s College of…
-
รู้จักกับ เจ้า ‘Juno’ เหมียวขี้โมโห ทำหน้าบึ้งตลอดเวลา และผู้เกลียดทาสมนุษย์เป็นที่สุด!!
ก่อนหน้านี้เพื่อนๆ คงได้รู้จักกับแมวเหมียวที่เกิดมาพร้อมลักษณะการปั้นหน้าที่ไม่เหมือนแมวตัวอื่นๆ กันไปแล้ว บางตัวก็ยิ้มตลอดเวลา บางตัวก็ชอบปั้นหน้าไม่พอใจ บางตัวก็มีเขี้ยวงอกออกมาอย่างกับเป็นแวมไพร์ แต่คราวนี้เราจะพาไปรู้จักกับ ‘Juno’ แมวเหมียวขี้โมโห ไม่รู้ว่ามันไปโกรธแค้นอะไรใครมาตั้งแต่ชาติปางก่อน พอชาตินี้เกิดมามันเลยมีเบ้าหน้าที่ดูไม่เป็นมิตรกับใครเล๊ยย!! เจ้า Juno ‘มนุษย์ทุกตัวต้องเป็นทาสของข้า และข้าจะกลายเป็นกษัตริย์อยู่เหนือแมวเหมียวทั้งปวง’ สายตามันฟ้องแบบนั้น ด้วยสีหน้าที่ดูถมึงทึง ทำให้ชาวเน็ตตั้งฉายาให้มันว่า ‘Juno The Angry Cat’ ทาสมนุษย์ได้เล่าว่า มันมีเชื้อสาย 75% จากหิมาลายัน และ 25% จากพม่า เมื่อผสมออกมาจึงกลายเป็น 100% ของแมวที่ขี้โมโหที่สุด ดู๊วว ดูสายตาอันโหดร้าย เวลามันจ้องมองไปที่ทาสมนุษย์สิ ช่างน่ากลัวซะเหลือเกิ๊นนน แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันรู้สึกหิวล่ะก็ มันจะปั้นหน้าอ้อนๆ แบบนี้ทันที (นี่อ้อนแล้วใช่มั้ย?) จริงๆ แล้วมันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวกับทาสมนุษย์หรอกนะ มันยังมีเหล่าแมวเหมียวข้าทาสบริวาร คอยดูแลมันอยู่เสมอ และนอกจากกินกับนอนแล้ว มันก็ไม่คิดจะทำอะไรอีกเลย โถ่ววไอ้เหมียวอ้วนเอ๊ยยย!!…
-
รวม 20 โมเม้นสุดอบอุ่น ของพ่อหนุ่ม Adam Levine กับการทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัว ><
ทุกวันนี้คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักกับ พ่อหนุ่มนักร้องนำสุดหล่อจากวง ‘Maroon 5’ ซึ่งเขาก็คือ ‘Adam Levine’ นั่นเอง เรียกได้ว่าเขาคือชายที่สามารถทำให้ผู้หญิงแทบจะทั่วโลกเกิดอาการวารีดำเนิน หรือต้องกรี๊ดแตกไปตามๆ กันเพียงแค่เขาถอดเสื้อโชว์ซิกส์แพค และล่าสุดเจ้าตัวได้รับเกียรติจากพิธีประดับดาวบน ‘Hollywood Walk of Fame’ ซึ่งงานนี้พ่อหนุ่มสุดหล่อขวัญใจสาวๆ ก็ได้พาครอบครัวมาเปิดตัวด้วยเหมือนกัน ภาพจากงานที่ฮอลลีวู้ด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลายคนคงเห็นภาพของเขาทำหน้าที่เป็นนักร้องนำของวง ทัวร์คอนเสิร์ตไปทั่วโลกบ่อยแล้ว คราวนี้เราจะพาไปชมโมเม้นต์การทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านที่ดีจากเขากันบ้าง แหม่…เห็นแล้วตาร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ ได้เป็นแค่ภรรยาน้อยของพี่อดัมหนูก็ยอมแล้วค่ะ อร๊ายยยย >< ถึงจะเป็นหนุ่มป็อบสตาร์ แต่เจ้าตัวขี้อ้อนแฟนสาวมากๆ เลยล่ะ ไปไหนมาไหนก็อดไม่ได้ที่จะคล้องเธอมาไว้ในอ้อมแขน คุณพ่อถ่ายรูปกับหนูน้อย Dusty Rose (ฉันอยากซบอ้อมอกเค้า…) ดูสิว่าเป็นสามีที่น่ารักมากขนาดไหน ภรรยาท้องป่อง สามียอมป่องตามจ้า คุณภรรยาเผลอเมื่อไหร่ เจ้าตัวก็แอบถ่ายรูปเก็บไว้ตลอด… ชั้นอยากไปแทรกตรงกลางระหว่างทั้งสองจริงๆ >< ไม่ว่าจะไปไหนมาไหน จูงมือภรรยาสุดที่รักไว้ตลอด ดู๊วว ดู…
-
ชายหนุ่มช่วยพิตบูลที่ถูกล่ามโซ่มาตลอดชีวิต และสอนให้มันรู้จัก ‘อิสรภาพ’ เป็นครั้งแรก!!
Steffen Baldwin ชายหนุ่มผู้เป็นกระบอกเสียงในการเรียกร้องสวัสดิภาพให้สัตว์ และผู้ฝึกหมา ได้ทำการให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหมาพิตบูลที่ถูกเจ้าของผู้ใจดำล่ามโซ่เอาไว้ เจ้าหมาพิตบูลตัวดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นหมาที่ถูกทิ้งเอาไว้ หรือไม่ได้เป็นหมาจรจัดแต่อย่างใด มันเป็นหมาที่มีเจ้าของ แต่มันถูกเลี้ยงอย่างทารุณ จนทำให้เพื่อนบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นทนไม่ไหวแจ้งให้กับนาย Steffen ที่เป็นผู้ก่อตั้งองค์กร Animal Cruelty Task ในรัฐ Ohio กฎหมายของรัฐ Ohio นั้นระบุเอาไว้ว่า สุนัขที่มีเจ้าของจะต้องได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าของเป็นอย่างดี มีให้ทั้งอาหาร และน้ำ แต่หลังจากที่ได้พบกับเจ้าหมาพิตบูลแล้วก็พบ่วามันไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย ไม่มีใครเหลีวแลมันแม้แต่น้อย นาย Steffen ก็เลยตัดสินใจที่จะติดต่อไปยังเจ้าของ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่มัน เจ้า Tank สุนัขพันธุ์พิตบูลต้องใช้ชีวิตอยู่กับโซ่ล่ามมาตลอดชีวิต จากการที่มันถูกล่ามเอาไว้ ทำให้เจ้า Tank มีสภาพที่ดูย่ำแย่ จนทำให้ใครหลายๆ คนที่เดินผ่านไปผ่านมากลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ เจ้า Tank นั้นไม่ได้เป็นที่รักของเจ้านายของมันนัก เพราะแต่ละครั้งที่พวกเขาให้อาหารมัน ก็มักจะให้ด้วยการโยน หรือบางครั้งก็ไม่ให้เลย จากการพูดคุยระหว่างนาย Steffen กับครอบครัวเจ้าของของเจ้า Tank ก็เป็นไปได้ด้วยดี จากนี้ไปเจ้า Tank จะได้ไปอยู่บ้านหลังใหม่…
-
ตำรวจโบกมินิบัสท่าทางพิรุธ ปรากฎว่าข้างในนั้นมีทั้งหงอคง ตือโป๊ยก่าย พระถังซัมจั๋ง มาเต็ม
หลายๆ ครั้งที่พวกเรามักจะได้เจอเรื่องราวแปลกๆ บนท้องถนน และเรื่องต่อไปนี้เองก็เช่นกัน… เนื่องจากว่าจู่ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบรถมินิบัสโดยสารคันหนึ่งที่มีท่าทางพิรุธ ณ จุดตรวจที่เมือง Jiyuan ในมณฑล Henan ประเทศจีนเมื่อวานที่ผ่านมา พบว่าคนขับนั้นแต่งตัวแปลกๆ คล้ายกับลิง และพอเรียกให้จอดก็พบว่าเขาคอสเพลย์เป็น ‘ซุนหงอคง’ นี่เอง จึงตัดสินใจเรียกให้จอด และหลังจากที่เดินขึ้นไปบนรถเพื่อตรวจตราความเรียบร้อย… ก็ต้องพบกับคาราวานนักคอสเพลย์ราวกับว่าหลุดมาอยู่ในนิยายฉบับคลาสสิคของจีนเรื่อง ‘ไซอิ๋ว’ ยังไงอย่างงั้นเลย ทั้งพระถังซัมจั๋ง หงอคง ซัวเจ๋ง ตือโป๊ยก่าย อีกหลายร่าง นั่งอยู่เต็มลำรถ รวมไปถึงเหล่าทวยเทพต่างๆ เพียบ เจ้าหน้าที่จึงเรียกทุกคนลงมาจากรถ จากนั้นก็ขอตรวจใบขับขี่จากซุนหงอคง . จากการสอบถามก็พบว่า ซุนหงอคง และพรรคพวกเป็นคณะแสดง ที่กำลังเดินทางไปแสดงละครเรื่องไซอิ๋ว ในงานเทศกาลสำคัญทางศาสนา ณ วัดที่ตั้งอยู่ห่างออกไปนอกตัวเมือง . หลังจากตรวจสอบทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วก็ต้องบอกลากันซะแล้ว ขอให้โชคดีกับการเดินทางสู่ชมพูทวีปครับ ซุนหงอคง ก็กลับมารับหน้าที่เป็นคนขับรถพาบรรดาพรรคพวก และทวยเทพต่างๆ เพื่อมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายต่อไป…
-
หญิงสาวรับงาน “แม่บ้านเปลือย” ทำความสะอาดบ้าน ไม่ขายตัว แต่ได้เงิน 2,000 ต่อชั่วโมง
คุณแม่วัยสาวอายุ 25 ปี สามารถที่จะสร้างรายได้สูงถึง 2,000 บาทต่อชั่วโมง ด้วยการเป็นแม่บ้านเท่านั้น แต่ว่าวิธีการทำงานของเธอนั้นพิเศษไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน?!! Emily Nikols คุณแม่วัย 25 คนนี้เธอทำงานเป็นแม่บ้านที่มีวิธีแตกต่างจากคนอื่นพอสมควรคือ เวลาเธอทำงานเป็นแม่บ้านเธอจะสวมเพียงแค่ถุงมือยางในการทำงานเท่านั้น… ใช่แล้ว เธอบอกว่าชุดทำงานประกอบด้วยถุงมือยางอย่างเดียวเท่านั้น เธอจะไม่ใส่ชุดอะไรทำงานเลย นั่นหมายความว่าเธอเปลือยนั่นเอง… แต่ก่อนที่จะคิดกันไปไกล เธอไม่ได้ทำอะไรนอกจากงานเป็นแม่บ้านเลยนะ เพราะเธอมีกฏอยู่ว่าลูกค้าจะไม่สามารถทำอะไรลามกอนาจารกับเธอได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นแม้เวลาพวกเขามาจ้องดูเธอทำงานบ้าน เธอกลับรู้สึกว่าเธอไม่ได้เป็นวัตถุทางเพศแต่อย่างใด “ฉันรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยที่จะต้องเปลือยทำงาน มันรู้สึกสบายเสียด้วยซ้ำเวลาเคลื่อนไหวแล้วไม่มีเสื้อผ้ามารบกวน แถมยังเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับฉันมากๆ เลยล่ะ” นอกจากนี้จากบทสัมภาษณ์ยังได้ถามถึงคำถามที่ว่าแล้วแบบนี้ลูกค้าจะรู้สึกยังไง เวลาที่เธอแก้ผ้าทำงานแบบนี้ ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาว่า “เท่าที่พบเจอมาลูกค้าส่วนใหญ่ พวกเขาจะให้ความคารพฉันพอสมควรเลยนะพวกเขาช่วยยังช่วยถืออุปกรณ์ให้ฉันอีกต่างหาก แถมยังเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ อีกด้วย” นอกจากนี้จากบทสัมภาษณ์ยังได้ถามถึงความรู้สึกของครบครัวและเพื่อนๆ ของเธอว่ารู้สึกยังไงที่เห็นเธอมาทำงานแบบนี้ “พวกเพื่อนๆ และครอบครัวของฉันออกจะสนับสนุนฉันซะด้วยซ้ำนะ แต่ว่าสามีของฉันก็ออกจะเป็นห่วงอยู่บ้างถึงความปลอดภัยของฉัน แต่สุดท้ายเขาก็โอเคกับมันเพราะเขาเชื่อใจ” มาถึงกันขนาดนี้แล้ว หลายคนคงอยากจะจ้างแม้บ้านเปลือยสักคนใช่ไหมล่ะ แต่บอกเลยว่าราคามันเจ็บพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งชั่วโมงแรกจะต้องจ่ายในราคาราวๆ 2,800 เลยทีเดียว ส่วนชั่วโมงต่อไปจะอยู่ที่ราคาราวๆ…
-
ศิลปินสาวผู้สร้างสรรค์ “ต้นไม้เรืองแสง” ของแต่งบ้านเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวยงามชวนว้าว
โลกของเรานั้นเดี๋ยวนี้มีมลพิษมากมายเต็มไปหมด ทำให้หลายคนเริ่มที่จะหันมาแต่งห้องแนวธรรมชาติกันดูบ้าง แต่ว่าก็ยังเลือกไม่ได้สักทีว่าจะเอาต้นไม้อะไรมาแต่งออกดีนะ ฉะนั้นวันนีเราก็เลยมีของใหม่มานำเสนอซึ่งรับรองว่าหลายๆ คนที่กำลังมองหาของแต่งห้องอยู่น่าจะต้องชอบอย่างแน่นอน มันก็คือต้นไม้เรื่องแสงสุดฮิพยังไงล่ะ เจ้าต้นไม้เรืองแสงที่พูดถึงนี้่ ผลิตโดยบริษัท Mar de fe ที่ตั้งขึ้นโดยศิลปิน Mariana Folberg ซึ่งเจ้าต้นไม้เรืองแสงที่ว่านี้ไม่ใช่ต้นไม้จริงๆ หรอกนะ แต่ว่าเป็นโคมไฟรูปต้นไม้ตะหาก โดยบริษัทที่ออกแบบเจ้าต้นไม้เรืองแสงนี้ พวกเขาบอกว่าพวกเขาได้ใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ให้ได้สุนทรียภาพ ดุจดั่งต้นไม้จริงๆ รวมถึงรูปทรงและตัวใบของมันแต่ละต้นก็จะมีรูปร่างที่เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ตัวโคมไฟใช้หลอดไฟ LED ในการให้แสงสว่าง ซึ่งก็เท่ากับว่าตัวโคมไฟจะไม่ได้สว่างมากเหมือนโคมไฟตั้งโต๊ะทั่วๆ ไปแต่จะให้ไฟสลัวๆ จากโคนต้นไปถึงใบของมัน เหมาะกับการเอาไปตั้งไว้บนโต๊ะหนังสือหรือเป็นของแต่งห้องที่สวยงามพอสมควรเลยทีเดียว ถ้าไม่ได้เปิดไฟ ตัวต้นไม้ก็จะออกเป็นใสๆ แบบนี้ซึ่งดูแล้วมันก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย ใครที่สนใจเจ้าต้นไม้เรืองแสงนี้ อยากได้ไวเป็นของแต่งห้องฮิพๆ ก็สามารถเข้าไปติดตามรายละเอียดได้ที่เฟสบุ๊ค Mar de Fe by Mariana Folberg หรือถ้าใครสนใจอยากจะสั่งซื้อก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ etsy แต่บอกเลยว่าราคาก็ตามความสวยของตัวต้นไม้เลยล่ะ ที่มา boredpanda
-
ตำนานของชาย 2 คน ที่ขโมยเครื่องบินโบอิ้ง ขับหายไปจากสนามบิน จนตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ!?
เรื่องราวลึกลับรอบโลกนั้นมีมากมายกายกอง มีทั้งที่หาข้อสรุปได้และยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งทุกเรื่องก็ล้วนน่าสนใจทั้งนั้น ซึ่งมีอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ และทุกวันนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงง… หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินหรือรู้จักเรื่องนี้กันมาบ้าง แต่ถ้าใครยังไม่รู้ก็ปูเสื่อนั่งฟังกันได้เลยครับ… โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของเครื่องบิน Boeing 727-223 ที่อยู่ดีๆ ก็หายไปนานนับสิบปี จนตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลว่ามันหายไปไหน 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2003 เครื่องบิน Boeing 727-223 ออกบินจาก Quatro de Fevereiro Airport ในประเทศแองโกลา ตามรายงานระบุว่า ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน มีชายสองคนแอบลักลอบขึ้นไปบนเครื่องบินที่จอดอยู่ในสนามบิน และพามันบินขึ้นโดยไม่มีการอนุญาตก่อน โดยเรื่องผิดปกติที่เกิดขึ้นก็คือ ตอนนั้น(ต้องใช้คำว่าตอนนั้น เพราะตอนหลังเค้าก็ทราบนี่นา)ไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนขับเจ้าเครื่องบินลำนี้ออกไป แถมเจ้าหน้าที่วิทยุการบินก็พยายามห้ามพวกเขา แต่ถูกตัดการสื่อสารไป มีคนเชื่อว่าเครื่องบินถูกขโมยไปโดยคนเพียงสองคนเท่านั้น โดยทั้งสองคนนี้มีชื่อว่า Ben Charles Padilla และ John Mikel Mutantu โดยทั้งคู่ได้รับการรับรองให้สามารถขับ Boeing 727 ได้ (เพียงแต่ว่าโดยปกติแล้วการจะขับเครื่องบินแบบนี้ได้จำเป็นจะต้องมีลูกเรือขั้นต่ำ 3 คน) ภาพของ Ben Charles Padilla เครื่องบินแล่นออกจากสนามบินโดยที่ไม่ติดต่อวิทยุการบินรวมถึงไม่มีไฟนำทางเข้าสู่รันเวย์แม้แต่น้อย หลังจากที่บินขึ้นได้สักระยะตัวเครื่องบินมุ่งตรงสู่มหาสมุทรแอทแลนติก อย่างไม่มีเหตุผลอะไรรองรับจุดหมายของทั้งคู่ และแน่นอน…
-
ญี่ปุ่นออกไอเดีย “Neko Muffler” ผ้าพันคอแมว ที่จะเปลี่ยนเจ้าเหมียวให้ดูดีขึ้นอีก!!
แมวเหมียว ถือเป็นอีกสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเลี้ยงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และบ่อยครั้งที่เราเห็นมันถูกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆ พร้อมกับชุดคอสเพลย์น่ารักในแบบญี่ปุ่นที่เจ้าของสรรหามา ล่าสุดมีได้มีคนผลิตแฟชั่นใหม่ล่าสุดให้กับเจ้าเหมียวได้ใส่กัน ซึ่งมันก็คือ “Neko Muffler หรือ ผ้าพันคอเจ้าเหมียว” นั่นเอง โดยผ้าพันคอเจ้าเหมียวนี้ทำมาจากด้ายอะคริลิคที่มีน้ำหนักเบาและหนุ่ม ผ้าพันคอเจ้าเหมียวนี้จะมาในรปแบบ 2 สี คือสีแดงและน้ำเงินสลับกันซึ่งมันจะทำให้เข้ากับเจ้าเหมียวทุกสีทุกพันธ์ุ ส่วนไซส์ของผ้าพันคอจะมีด้วยกันสองไซส์ด้วยกัน ไซส์กลางจะมีขนาดราวๆ 21-25 เซนติเมตรเหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ไซส์ใหญ่จะมีขนาดราวๆ 26-30 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเจ้าเหมียวอายุ 2 ปีขึ้นไป เมื่อเอามาใส่กับแมวของคุณ… ตัวผ้าพันคอจะมาพร้อมกับกล่องที่สวยงาม ใครที่สนใจอยากหาให้เจ้าเหมียวของตัวเองใส่ก็สามารถสั่งซื้อได้จาก amazon หรือ col ซึ่งราคาจะอยู่ที่ราวๆ 600 บาทต่อชิ้น ภาพของกล่อง ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเช่นกัน… นอกจากผ้าพันคอแล้ว ยังมีหมวกไว้ใส่ให้เข้าเซตน่ารักๆ ด้วยนะ ส่วนอันนี้อาจจะดูไม่เข้ากับผ้าพันคอ แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ สงสัยต้องไปหาให้เจ้าเหมียวที่บ้านใส่บ้างแล้ว ใส่แล้วคงจะน่ารักน่าดูเลยล่ะ ที่มา rocketnews24
-
ตามส่อง 17 เมนูจาก McDonald’s ทั่วโลก ที่มีขายเฉพาะประเทศนั้น ที่อื่นอดนะจ๊ะ!!
McDonald’s คือแฟรนไชส์ร้านฟาสต์ฟู๊ดที่เปิดสาขาไปแทบทุกประเทศทั่วโลก และแน่นอนว่าแม้จะขายเบอเกอร์เป็นหลัก แต่ในแต่ละประเทศก็จะไม่มีเมนูที่ไม่เหมือนของที่ไหนอีกด้วย ปกติแล้ว McDonald’s ในแต่ละประเทศมักจะมีเมนูที่ซิกเนเจอร์ของตัวประเทศนั้นๆ ในส่วนของไทยก็มี แต่เราก็คงจะกินกันจนเป็นปกติแล้วล่ะเนอะ วันนี้เราเลยจะมาดูเมนูซิกเนเจอร์ของประเทศอื่นๆ กันบ้างว่าจะน่ากินขนาดไหนกันนะ Sweety con Nutella เบอร์เกอร์นูเทล่าล้วนๆ จากประเทศอิตาลี Poutine เฟรนช์ฟรายส์ราดด้วยน้ำเกรวี่และชีส จากประเทศแคนาดา McKroket เนื้อบดทอดผสมกับชีสและซอสมัสตาร์ด จากเนเธอร์แลนด์ Pancake Helado แพนเค้กโปะด้วยไอศกรีมวนิลาจากประเทศอุรุกวัย Twister Fries เฟรนช์ฟรายส์ที่มีหน้าตาโค้งๆ ที่จะขายทุกช่วงตรุษจีนในประเทศสิงคโปร์ Shaka Shaka Chicken ไก่ทอดผสมกับผงรสชาติต่างๆ (เลม่อน,พริกไทย,ชีส) จากประเทศญี่ปุ่น Churros จากประเทศเกาหลีใต้ Prosperity Burger เบอร์เกอร์ไก่ที่ขายเฉพาะช่วงตรุษจีนมาพร้อมกับแฮชบราวน์ จากประเทศมาเลเซีย Veggie Crunch Burger เบอร์เกอร์มังสวิรัติ จากประเทศสิงคโปร์ Frozen…
-
พบ “อัลลิเกเตอร์สีส้ม” สุดแปลกตา ทำชาวเน็ตพากันแซวขำๆ ว่าเหมือน Donald Trump
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพของอัลลิเกเตอร์ตัวหนึ่ง ในรัฐเซาท์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังกลายเป็นที่สนใจของผู้คน ณ ขณะนี้เลยก็ว่าได้ เพราะถึงแม้ว่ามันจะมีลักษณะเหมือนกับอัลลิเกเตอร์ทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างก็คือ สีผิวของมันนั่นเอง… ซึ่งจากภาพเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า อัลลิเกเตอร์ตัวดังกล่าวมีผิวสีส้มสดใสทั่วทั้งลำตัว ดูแล้วช่างประหลาดตายิ่งนัก งานนี้เลยทำให้ผู้คนแอบสงสัยกันใหญ่เลยว่า ทำไมตัวของมันเป็นสีส้มกันน้า!? งานนี้ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นก็ได้ถ่ายภาพของมัน แล้วนำไปโพสต์ลงในโลกโซเซียล จนทำให้ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาแสดงความเห็นกันมากอย่างมาย บางคนก็แอบนำไปเปรียบเทียบกับประธานาธิบดี Donald Trump พร้อมแอบตั้งฉายาให้แบบขำๆ ว่า “Trumpagator” โดยสาเหตุที่ชาวเน็ตได้นำไปเปรียบเทียบกับ Trump ก็เพราะว่าเขาเป็นคนที่ชอบการสเปรย์ผิวแทนมาก ซึ่งพอทำแล้วมันไม่ทำให้ผิวของเขากลายเป็นผิวแทน แต่จะออกเป็นโทนสีส้มมากกว่า ดังนั้น ชาวเน็ตจึงได้นำสีผิวของเขามาเปรียบเทียบกับเจ้าอัลลิเกเตอร์นั่นเอง แม้หลายคนอาจจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องฮา แต่สำหรับบางคนอาจไม่คิดอย่างนั้น เพราะพวกเขาคาดว่าสีผิวที่ผิดปกติของมันอาจจะเกิดจากมลพิษในน้ำ แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยากจะตัดสินใจ เว้นแต่จะมีการนำไปตรวจสอบ ขณะที่บางคนก็เข้ามาแสดงความเห็นว่า “ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”, “มันอาจจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม และสีผิวของมันก็เป็นสีส้มตามธรรมชาติ” ที่มา : dailymail
-
ถ้าพลาดป่อง ก็มาซื้อนมที่เรานะ… บริษัท Durex ทุ่มเงินซื้อกิจการ “นมผง” ยักษ์ใหญ่เรียบร้อย
Reckitt Benckiser Group หรือ R.B. บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังที่เราใช้กันอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น Dettol,ผลิตภัณฑ์ยา Nurofen, สเปรย์ปรับอากาศ Air wick หรือจะเป็น Durex ก็เป็นสินค้าในเครือนี้ ซึ่งล่าสุดตอนนี้ทางบริษัทก็ได้ทำสัญญาซื้อขายกิจการกับบริษัทผลิตนมผงยักษ์ใหญ่ Mead Johnson Nutrition เป็นที่เรียบร้อย สาเหตุที่ทาง R.B. เลือกที่จะหันมาลงทุนซื้อกิจกรรมนมผงนั่นก็เพราะว่า ในตอนนี้ผลประกอบการที่เป็นอยู่มีกำไรที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก ทาง R.B. จึงจำเป็นจะต้องหาแบรนด์ใหม่เข้ามาเพื่อที่ช่วยเสริมกำลัง และด้วยตัว Mead Johnson Nutrition ครองตลาดในฝั่งเอเชียอยู่แล้ว การเข้าซื้อกิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นทั้งการเข้าตีตลาดและกู้วิกฤติกลับมานั่นเอง สำหรับตัวบริษัท Mead Johnson Nutrition เป็นเครือที่ผลิตนมผงและอาหารเสริมสำหรับเด็กเป็นหลัก แถมที่สำคัญกิจการในเครือนี้ยังทำรายได้มหาศาลมากถึงราวๆ 126,000 ล้านบาท จึงไม่แปลกเลยที่ R.B. จะอยากเข้ามาตีตลาดผ่านบริษัทนี้ Rakesh Kapoor ประธานของ R.B. ยังบอกอีกว่าเขาคาดหวังกับดีลในครั้งนี้พอสมควรเลยทีเดียว และยังหวังว่าการดีลในครั้งนี้จะช่วยสร้างเม็ดเงินให้เขาราวๆ 8,000 ล้านบาทในช่วงเวลา 3 ปี เขาบอกว่าธุรกิจของทาง Mead Johnson Nutrition นั้นผลิตทั้งนมผงและอาหารเสริมสำหรับเด็กซึ่งในทางฝั่งของจีนที่มีนโยบายไม่ให้มีลูกมากกว่า 1 พ่อแม่จึงจำเป็นจะต้องเลี้ยงดูลูกๆ…
-
ช่างภาพตามถ่าย “สวนสัตว์อิรัก” สะท้อนปัญหาที่พวกมันได้รับ จากสงครามของมนุษย์ผู้บ้าคลั่ง
แน่นอนว่าสงคราม นั้นนำมาซึ่งความสูญเสีย และมันไม่ใช่สำหรับคนเท่านั้น แต่มันคือความสูญเสียสำหรับสิ่งอื่นๆ ทั้งสังคม บ้านเมือง กระทั่งสัตว์เช่นกัน ภาพที่จะได้เห็นต่อไปนี้เป็นภาพจากสวนสัตว์ Mosul ที่อยู่ในอิรัก โดยเราจะเห็นว่าสัตว์หลายชนิดถูกทิ้งไว้ให้หิวตายอยู่ภายในสวนสัตว์ ภาพของสิงโตที่หิวโหยในกรง กำลังมองสิงโตอีกตึวหนึ่งนอนตายอยู่ภายในหลุม เมือง Mosul เคยถูกยึดครองโดยกลุ่มไอซิส และภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกมาโดยช่างภาพของกลุ่ม Mosul Eye ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านไอซิส พวกเขาต้องการให้หน่วยงานด้านสัตว์ในระดับนานาชาติ มองเห็นถึงความทารุณและโหดร้ายของที่นี่ เพื่อพวกมันได้จะได้รับการช่วยเหลือ เพราะในสภาวะสงครามเช่นนี้พวกเขาแทบไม่มีงบเลย “ในขณะที่สงครามทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปปกป้องและจัดการกับพวกสัตว์เหล่านี้” Abu Omar เจ้าของสวนสัตว์กล่าว นอกจากสิงโตแล้ว ยังมีหมีอีกหนึ่งตัวที่สภาพผอมซูบ ภาพของเด็กๆ และผู้คนที่แวะมาเยี่ยมเยียนพวกสัตว์ ที่พยามจะช่วยชีวิตให้พวกมันมีชีวิตต่อไปได้ นอกจากนี้ยังมีภาพของสภาพรอบๆ สวนสัตว์ที่แสดงให้เห็นผลกระทบของสงครามได้ทิ้งไว้ หลังจากที่สงครามจากไป ความสูญเสียก็ไม่ได้ตามไปกับสงคราม แต่มันยังคงอยู่ในที่แห่งนี้ ภาพของป้ายสวนสัตว์ที่ถูกทิ้งร้างไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวต่างๆ มักจะพาลูกหลานมาเที่ยวกัน จากภาพนี้จะเห็นได้ว่าสภาพของสวนสัตว์หลังจากถูกทิ้งร้างมันแย่ขนาดไหน จุดนี้เคยเป็นจุดที่มีกรงลิงอยุ่ แต่ว่าด้วยลูกหลงของระเบิดมันจึงกลายเป็นหลุมแบบที่เห็น เด็กแถวนั้นโชว์ให้เห็นถึงลอยข่วนจากลิงที่หลุดออกมา จากภาพทั้งหมดเราจะเห็นได้ว่าผลกระทบของสงคราม มันส่งผลให้ทุกสิ่งรอบๆ ไม่ว่าจะเป็นคน ที่อยู่อาศัย…
-
‘Holocaust of Greyhounds’ ประเพณีสุดโหดจากสเปน ที่ฆ่าสุนัขนักล่านับหมื่นตัวทุกปี!!
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักเทศกาลสู้วัวกระทิงจากประเทศสเปน กันมาบ้างแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นเทศกาลที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยอดีต จนกลายมาเป็นเหมือนประเพณีที่ต้องจัดทุกปี แต่ทว่านอกเหนือจากเทศกาลสู้วัวกระทิงแล้ว ที่ประเทศสเปน ยังมีอีกหนึ่งเทศกาลที่โหดร้ายไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ‘Holocasut of Greyhounds’ ซึ่งเป็นเทศกาลที่ถูกจัดขึ้นเพื่อคัดสรรสุนัขนักล่าที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้แล้ว และในแต่ละปีคาดว่ามีจำนวนสุนัขที่ถูกพรากชีวิตไปมากนับหมื่นตัว!! ต้องเล่าก่อนว่า ‘สแปนิชกัลโก้’ คือสายพันธุ์สุนัขนักล่าที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศสเปน โดยส่วนใหญ่แล้วมันจะถูกฝึกให้ล่าสัตว์เล็กเช่นกระต่าย หรือหนู ทว่าเมื่อมันเริ่มแก่ตัวมากขึ้น ตัวไหนก็ตามที่ไม่สามารถแสดงศักยภาพให้เจ้าของเห็นได้เหมือนในอดีต พวกมันก็จะถูกทารุณกรรมอย่างโหดร้าย จนถึงขั้นเสียชีวิตลงในที่สุด และนี่คือต้นกำเนิดของเทศกาลดังกล่าว นักล่าส่วนใหญ่จะมีสุนัขสายพันธุ์ดังกล่าวไว้ล่าสัตว์มากกว่า 10 ตัว บางคนก็อาจจะมีมากไปถึง 70 ตัว และในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงสิ้นสุดฤดูกาลล่าสัตว์ ตามประเพณีดั้งเดิมของชาวสเปนแล้ว ถ้าหากสุนัขตัวไหนไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่ต้องการ บ้างก็จะถูกนำมาแขวนคอ เผาทั้งเป็น ถูกจับให้สู้กับสุนัขด้วยกัน หรือแม้แต่โดนสาดด้วยน้ำกรด แต่สำหรับนักล่าบางคนที่ไม่อาจทำใจฆ่ามันได้ลงคอ หลายคนก็เลือกที่จะปล่อยให้มันกลายเป็นสุนัขจรจัด หรือบางคนก็เลือกที่จะหักขามัน และเอาไปปล่อยในที่ต่างถิ่นเพื่อไม่ให้มันกลับมาได้อีก และส่วนใหญ่พวกมันก็มักจะถูกปล่อยให้อดอาหารจนตายทั้งเป็น น่าเศร้าใจยิ่งนักสำหรับคนที่อยู่ในประเทศที่ไม่มีประเพณีดังกล่าว เพราะคนส่วนใหญ่ที่นี่ยังคงมองว่ามันเป็นประเพณีโบราณอย่างหนึ่งที่สืบทอดกันมา และเป็นเรื่องธรรมดาถ้าหากจะมีการจัดประเพณีนี้ขึ้นเป็นประจำทุกปี อ้างอิงจากข้อกฏหมายของประเทศสเปน ได้มีการระบุไว้ว่า ‘สุนัขสายพันธุ์สแปนิชกัลโก้ ถูกจัดให้เป็นสุนัขเลี้ยงเพื่อใช้งาน’…
-
วัดในญี่ปุ่นจัด DJ มาเปิด ‘เพลง EDM’ เพื่อเอาใจวัยรุ่นให้หันมาเข้าวัดเข้าวากันมากขึ้น!!
เมื่อกล่าวถึง ‘วัด’ แล้ว เพื่อนๆ หลายคนก็คงจะคิดถึงความสงบ ความเงียบ สถานที่แห่งความเมตตา และการปฏิบัติธรรม แต่สำหรับวัด Shō-onji ในเมืองฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่นแล้วต้องขอบอกเลยว่ามันช่างแปลกใหม่เป็นอย่างมาก เพราะที่นี่มีทั้ง DJ และการเปิดเพลงในวัดเพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ และทำให้เหล่าวัยรุ่นหันมาเข้าวัดเข้าวากันมากขึ้น Gyōsen Asakura พระคุณเจ้าวัย 49 ปี เป็นคนที่คิดไอเดียสุดแปลกนี้ขึ้นมา ซึ่งทำให้บรรยากาศในวัดกลายเป็นเหมือนผับ มากกว่าที่จะเป็นสถานปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการวางไฟ และเสียงดนตรีอิเล็กทรอนิคที่เปิดมาจาก IDM (Intelligent Dance Music) เป็นแนวเทคโนผสมผสานกับบทสวดมนต์ของชาวพุทธ อาจจะเป็นเรื่องแปลกๆ ที่มองเห็นภาพของพระคุณเจ้า ที่ยืนอยู่บนแท่น DJ พร้อมกับสวมหูฟังคอยเปิดเพลงให้กับเหล่าศาสนิกชนที่เดินทางมาที่วัด แต่นี่ถือเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะทำให้เหล่าวัยรุ่นทั้งหลาย หันมาสนใจในเรื่องของศาสนามากยิ่งขึ้น สำหรับท่านพระคุณเจ้า Gyōsen Asakura เองก็เป็นแฟนๆ ของดนตรีอิเล็คทรอนิค และเป็นอดีต DJ ด้วย และการที่ท่านได้นำบทสวดมนต์ของศาสนามาปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นแนวดนตรีอิเล็คทรอนิกส์เองก็ ไม่ใช่เรื่องที่ยากแต่อย่างใด “สิ่งที่เราต้องการจะทำนั้นก็คือการใช้เทคโนโลยีในยุคสมัยใหม่ มาปรับใช้กับคำสอนของศาสนา…
-
แค้นนี้ต้องชำระ แก๊งหมูป่ารุมทึ้งงูเหลือมจนตาย เหตุเพราะมันดันไปกินลูกหมูก่อน!!
เราคงจะคุ้นเคยกับคำกล่าวที่ว่า ’10 ปีล้างแค้นก็ยังไม่สาย’ จากหนังบู๊จีนกำลังภายในทั้งหลาย แน่นอนว่าถ้ามีใครมาทำร้ายคนรักของเรา หรือมีใครมาพรากคนใกล้ตัวเรา โดยที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ย่อมเป็นการกระทำที่ให้อภัยไม่ได้!! และนี่คือเรื่องราวการล้างแค้นของแก๊งหมูป่า หลังจากที่พวกมันพบว่าเจ้างูเหลือมตัวเบ้ง แอบมากินลูกหมูสุดที่รักของพวกมัน งานนี้เรียกได้ว่า ‘หมูป่าถ้าตั้งใจทำอะไรก็ไม่แพ้สัตว์ใดในโลก’ นี่แน่ะ!! แกทำลูกชั้นเร๊อะ ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด โดยสำนักข่าว Dailymail ได้ระบุว่าเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นที่ประเทศลาว ซึ่งนับว่าเป็นภาพหาชมได้ยาก เพราะเราคงไม่ได้เห็นภาพเจ้างูตัวเบ้ง ถูกสัตว์ชนิดอื่นที่ดูไม่มีพิษภัยรุมทึ้งจนตายกันบ่อยๆ แน่นอน ชาวบ้านให้การณ์ว่า เดิมทีหมูป่าพวกนี้อาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ออกหาของป่ากินด้วยกันเป็นประจำทุกวัน แต่ทว่าวันหนึ่งมีงูเหลือมแอบเลื้อยเข้ามาในคอกของพวกมัน แล้วฉกเอาลูกหมูตัวน้อยที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานไปเป็นอาหาร ทว่าหลังจากที่งูเหลือมได้เขมือบลูกหมูป่าเข้าไปทั้งตัว มันกลับถูกห้อมล้อมด้วยครอบครัวหมูป่าจำนวนหลายสิบตัว ทุกตัวพยายามใช้เขี้ยวของมันช่วยกันรุมงูเหลือม และแน่นอนว่าเจ้างูเหลือมตัวยาวไม่มีโอกาสรอดออกมา เอ้าา พวกเราช่วยกัน อู๊ดด อู๊ดดด สังเกตุบริเวณท้องที่ป่องของงูเหลือมนั่นไหม ภายในนั้นคือซากของลูกหมูที่เพิ่งถูกเขมือบเข้าไป สาระน่ารู้เกี่ยวกับหมูป่า โดยธรรมชาติแล้วหมูป่ามักจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงแบบในภาพที่เราเห็นนี่แหละ และพวกมันก็มีประสาทรับกลิ่นที่ไว้มาก ถึงแม้ว่าการมองเห็น และการได้ยินเสียงของพวกมันจะไม่ค่อยดีก็ตาม แต่อันที่จริงแล้วพวกมันถูกจัดว่าเป็นสัตว์ป่าที่มีนิสัยค่อนข้างจะดุร้ายอยู่พอสมควร มันสามารถใช้จมูกอ่อนของมันขุดดิน หรือขุดจอมปลวกเพื่อหาอาหารได้ อีกทั้งยังมีเขี้ยว 4…
-
ชมภาพหายากจากสหรัฐฯ ยุคสมัยที่เต็มไปด้วยมาเฟีย อาวุธปืน และการก่อจลาจล!!?
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1930s ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งยิ่งใหญ่ จากเหตุการณ์ดังกล่าว กลายเป็นจุดต้นกำเนิดของเหล่าแก๊งค์มาเฟียชื่อดัง ที่เลือกใช้วิธีสร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองด้วยสิ่งผิดกฏหมาย ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด หรือการค้าประเวณี และทั้งหมดนี้คือรูปภาพ ขาว-ดำ ที่หาชมได้ยาก สะท้อนให้เราเห็นถึงการเป็นอยู่ของผู้คนในยุคสมัยที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยแก๊งค์มาเฟีย อาวุธปืน การฆาตกรรม และการก่อจลาจล ชายนิรนามคนหนึ่งกับการโพสท่าที่ดูเหมือนการครอบครองปืนจะเป็นเรื่องธรรมดา ‘Bonnie Parker’ เธอคือหนึ่งในอาชญกรตัวฉกาจในยุคนั้น ภาพนี้ถูกถ่ายเมื่อ 17 เมษายน 1933 ผู้ตรวจการกำลังอธิบายวิธีการใช้อาวุธปืนรุ่นใหม่ แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รถยนต์กันกระสุน และนายตำรวจจากชิคาโก กลุ่มชายนิรนามที่กำลังห่ำหั่นยิงปืนอย่างเมามันส์ เมื่อปี 1930 24 กันยายน 1930 มีการระดมยิงรถใส่มาเฟีย และนำไปสู่การจับกุมในที่สุด ด้วยอำนาจของมาเฟียในชิคาโกที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่าตำรวจต้องเริ่มหันมาพกอาวุธปืนชนิดรุนแรง เพื่อป้องกันตัวในยามฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการวิสามัญนาย ‘Frankie Yale’ หนึ่งในหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียชื่อดัง 21 กุมภาพันธ์ 1931…
-
นี่คือ… ที่มาแฟชั่นของเหล่าคนดังและคนทั่วไป จริงๆ แล้วมันไม่ได้ไกลตัวเราเล๊ยยย!!
เวลาเห็นใครใส่เสื้อผ้าสวยๆ หรือดีไซน์ที่ดูโก้เก๋ไม่ซ้ำใคร บางทีเราก็อาจจะสงสัยกันใช่มั้ยล่ะว่าเขาไปหาชุดเสื้อผ้าพวกนี้มาจากไหน เพราะมันช่างดูดี ดูเท่ไม่ซ้ำใครจริงๆ วันนี้เราได้สืบเสาะข้อมูลมาแล้วพบว่า อันที่จริงต้นแบบการแต่งตัวของเหล่าดาราชื่อดัง หรือแม้แต่คนธรรมดาอย่างเราๆ มันมีที่มาจากสิ่งของใกล้ๆ ตัวนี้แหละ ไม่เชื่อก็ตามไปดูกันเลยจ้าา… อ๋อ…เธอได้แบบมาโฮเมอร์ ซิมป์ซันนี่เอง มาเป็นโหนกเลยนะแม่คู๊ณณณ อาจารย์จะแต่งคอสเพลย์เป็นปากกาก็ไม่บอก ชัดเลย!! รู้แล้วว่าไปเอาชุดมาจากไหน Ivanka Trump กับฟอยล์ห่อเบอร์ริโต้ แหม่..ชอบกินก็ไม่บอก Justin Bieber ก็แอบเลียนแบบหนูน้อยคนนี้เหมือนกัน เจ๊ Kim Kardashian ก็แต่งคอสเพลย์เลียนแบบเพนกวินจากแบทแมทเหมือนกันนะ Lady Gaga กับเสาไฟอันนี้ อะไรจะเหมือนปานน๊านน Lil Wayne กับ E.T. โอ๊ยยเหมือนได้อีก คุณป้าคนนี้กับพรหมที่โรงแรม ช่างเหมาะเจาะกันซะจริงๆ เราจะเรียกทรงผมนี้ว่า ทรงหัวข้าวโพด Justin Bieber ชอบแต่งตัวตามอาหารหรือยังไงกัน? เจ๊คิมเอาอีก…
-
อบอุ่นใจ… แม่หมาเพิ่งเสียลูกไป รับดูแลเหล่ามิ้วน้อยกำพร้า ราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง
เรื่องราวความน่ารักของเจ้าหมาที่เลี้ยงดูเหล่ามิ้วน้อยราวกับเป็นลูกในท้องของตัวเอง… Esperanza เจ้าหมาอายุ 1 ปี ถูกพามาไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ในเม็กซิโก จากการตรวจสอบก็รู้ได้ทันทีว่ามันเพิ่งจะคลอดลูกมา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าลูกๆ ของมันอยู่ที่ไหน แต่รู้ได้เลยว่าเจ้า Esperanza นั้นต้องผ่านช่วงชีวิตที่ยากลำบากมาอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเหลือความเข้มแข็งอยู่ในจิตใจ คอยเยียวรักษาลูกสัตว์ตัวน้อยๆ อย่างเช่นเหล่ามิ้วน้อยกลุ่มนี้ พร้อมกับมอบความอบอุ่นให้กับพวกมัน ขณะเดียวกันที่เจ้า Esperanza เข้ามาอยู่ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ เหล่ามิ้วน้อย 1 ครอก ที่กำพร้าแม่ และไม่มีนมให้กินจนทำให้พวกมันเสี่ยงต่อการเสียงชีวิต จนในที่สุดเจ้าแม่หมาที่เพิ่งเสียลูกไปก็ได้ยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือ ในตอนแรกนั้นทางเจ้าหน้าที่ในศูนย์ช่วยเหลือก็ไม่คิดมาก่อนเหมือนกันว่าเจ้า Esperanza จะทำอันตรายกับเหล่ามิ้วน้อยหรือไม่ แต่กลับกลายเป็นว่ามันคอยดูแลเหล่ามิ้วน้อยเป็นอย่างดี คอยมอบความอบอุ่นให้ ราวกับว่าเป็นลูกของมันเอง หลังจากนั้นเจ้าแม่หมาและเหล่ามิ้วน้อยก็ถูดรับไปดูแลต่อโดยมลนิธิช่วยเหลือสัตว์ Coco’s Animal Welfare ในเม็กซิโก นั่นหมายความว่าในตอนนี้พวกมันปลอดภัยดีแล้ว เหล่ามิ้วน้อยทั้งหลายจะได้รับการป้อนอาหาร และดูดนมจากแม่หมา ทำให้พวกมันสามารถรอดชีวิตและเติบโตมามีสภาพร่างกายที่แข็งแรง “ในตอนนั้นพวกเราไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดสัปดาห์ที่ Playa Del Carmen 3 วันที่อยู่ที่นั่นเราได้แวะไปที่ Coco’s Animal Welfare เพื่อเล่นกับเหล่าสัตว์ทั้งหลาย…
-
ชาวเน็ตชื่นชม คุณแม่ ‘ซิงเกิ้ลมัม’ คอสเพลย์เป็นคุณพ่อสุดน่ารัก ไปร่วมงานที่โรงเรียน
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจเมื่อซิงเกิ้ลมัมจากรัฐ Utah ประเทศสหรัฐแต่งตัวเป็นผู้ชาย เพื่อไปร่วมงานเทศกาลที่โรงเรียนของลูกชาย เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อว่า Whitney Kittrell ได้ทำการโพสต์รูปภาพของตัวเองคู่กับลูกชาย โดยที่ใบหน้าของเธอนั้นมีการเขียนหนวด สวมหมวกเบสบอล และแต่งตัวเป็นนักเบสบอลชาย เพื่อไปร่วมงาน Dads and Doughnuts ที่โรงเรียนของลูกชาย พร้อมกับแคปชั่นว่า “หลังจากที่ฉันกลายเป็นซิงเกิ้ลมัมเมื่อ 3 ปีก่อน ฉันได้สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ แม้แต่การออกไปจากคอมฟอร์ตโซน เพื่อทำให้ลูกๆ ของฉันมีชีวิตที่เป็นปกติ เหมือนกับที่เด็กๆ คนอื่นๆ เค้ามีกัน” “ในเช้าวันนี้ ฉันก็เลยแปลงร่างเป็นคุณพ่อที่แสนดี หาชุดเบสบอลมาใส่ เขียนหนวด และออกไปทานอาหารเช้าร่วมกับลูกชายสุดน่ารักของฉัน” “ฉันรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก แต่มันก็ช่วยไม่ได้ และความรู้สึกเหล่านั้นก็มลายหายไปเมื่อลูกชายที่น่ารักของฉันพาฉันไปให้เพื่อนๆ ของเขารู้จัก พร้อมกับแนะนำว่า ‘นี่คือแม่ของฉัน….และเธอก็เป็นพ่อของฉันด้วย ก็เลยพาเธอมา’” โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างล้นหลาม มีคนเข้าไปกดไลค์กว่า 15,000 ครั้ง และแชร์ไปอีก 8,000 ครั้งเลยทีเดียว เธอพยายามทุกอย่างที่จะทำให้ลูกๆ รู้ว่าพวกเขานั้นได้รับความรักอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่าเด็กๆ จะไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์ซะจนไม่รับรู้ถึงความรักที่เธอมีให้…
-
คุณหมอบรรจงซ่อมเปลือกหอยเพื่อช่วยชีวิต “หอยทาก” ตัวหนึ่งที่ไร้สิ่งป้องกันตัวเอง!!!
ทุกชีวิตมีค่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ตัวใหญ่เท่าช้าง หรือจะเป็นตัวเล็กๆ อย่างหอยทาก พวกมันก็ต้องการมีชีวิตอยู่ทั้งนั้น ดังนั้นการช่วยชีวิตถือเป็นสิ่งที่งดงามและสมควรทำเป็นอย่างยิ่ง และนี่ก็คือเหตุการณ์น่ารักๆ ของสัตวแพทย์จากโรงพยาบาล HaClinica ในเมือง Tel Aviv ประเทศอิสราเอล ได้รับเคสจากหญิงสาวคนหนึ่ง เธอได้เดินเข้าไปในสวน แล้วก็เกิดไปเหยียบใส่เจ้าหอยทากตัวนี้เข้า จนเปลือกหอยของมันแตกเป็นเสี่ยง แต่มันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ด้วยความรู้สึกผิดและสงสารทำให้เธอทิ้งมันไม่ลง จึงได้พามันไปรักษาอย่างเร่งด้วยที่โณงพยาบาล โชคดีที่คุณหมอก็ยินดีให้ความความช่วยเหลือ นี่คือภาพการช่วยเหลือหอยทากตัวนี้ที่ได้โพสต์ลงผ่านเพจของคลินิค โดยที่คุณหมอค่อยๆ บรรจงนำชิ้นส่วนของเปลือกมาต่อกันทีละชิ้นๆ ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม หอกทากที่อยู่ในสภาพไร้เปลือกก็ได้เอาใจช่วยอยู่ไม่ห่าง คุณหมออธิบายว่าการเชื่อมต่อเปลือกหอยนั้นต้องทำให้ออกมาเหมือนเดิมที่สุด โดยใช้กาวอีพ็อกซี่ในการเชื่อม อีกทั้งยังต้องให้มั่นใจว่ากาวจะอยู่ในส่วนด้านนอกเท่านั้น เพื่อไม่ให้ระคายเคืองต่ออวัยวะของหอยทาก . หลังจากที่ซ่อมเปลือกหอยเสร็จแล้ว เจ้าหอยทากก็ได้เข้ามาแล้วกลับมาอยู่ในเกราะป้องกันเดิมของมัน งานนี้อาจจะใช้เวลาหรือสัปดาห์หรือหลายเดือนเลยกว่าที่มันจะหายดี ทางคลินิคก็เลยจะรับมันมาเลี้ยงดูก่อนที่จะปล่อยออกไป ดูจากภายนอกแล้วมันแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากหอยทากตัวอื่นเลยนะเนี่ย ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น ที่ทำให้เราได้เห็นว่าคุณค่าของชีวิตนั้นมันยิ่งใหญ่จริงๆ ยิ่งถ้ามีคนเห็นคุณค่านี้ด้วย โลกนี้ยิ่งน่าอยู่ขึ้นไปอีก ที่มา thedodo
-
ไปดู 10 อันดับ “ชื่อน้องแมว” สุดน่ารัก ที่คนญี่ปุ่นใช้มากที่สุดในช่วงต้นปี 2017!!
สำหรบคนที่วางแผนที่จะเลี้ยงแมว แล้วยังคิดชื่อไม่ออกว่าจะให้มันชื่อว่าอะไรดี วันนี้ #เหมียวสามสี ได้นำเอาอันดับชื่อแมวที่ชาวญี่ปุ่นตั้งให้แมวของตัวเอง ซึ่งเป็นผลสำรวจภายในปีนี้ ทางเว็บไซต์ญี่ปุ่น Iris Pet ได้เปิดเผยชื่อของแมวที่คนนิยมตั้งให้ในประเทศญี่ปุ่น โดยได้ถามจากคนเลี้ยงแมวทั้งหมด 1,670 คน ซึ่งผลที่ได้ก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก เราไปดูกันว่าในต้นปีนี้แมวจะมีชื่ออะไรกันบ้าง ชื่อที่นิยมตั้งให้กับแมวตัวเมียได้แก่ 10. (ร่วม) Chacha 10. (ร่วม) Fuku (แปลว่า “โชคดี”) 10. (ร่วม) Mii 10. (ร่วม) Mugi (แปลว่า “ข้าวบาร์เลย์”) 10. (ร่วม) Mei 9. Kuro (แปลว่า “สีดำ”) 8. Sakura (แปลว่า “ซากุระ”) 6. (ร่วม) Chibi (แปลว่า “ตัวเล็ก”) 6. (ร่วม) Momo (แปลว่า “ลูกพีช”) 5. Mike…
-
สยึ๋มกึ๋ยมาก!! ชวนดูคลิป “ลอกสิว” จากผิว แม้ขยะแขยงแค่ไหน แต่ก็อยากกดดูอยู่ดี…
ปัญหาเรื่องสิวนี่แม้ว่าจะเป็นปัญหาเล็กๆ แต่พอมันเกิดขึ้นบนใบหน้าเยอะๆ มันก็สร้างน่ารำคาญได้นะ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องเอามันออกไปจากใบหน้าล่ะก็ เมื่อนั้นความสนุกอาจจะมาเยือนคุณก็เป็นได้ เพราะในทุกครั้งที่คุณจะเอาสิวเสี้ยนออกจากใบหน้า คุณก็ต้องใช้แผ่นลอกสิวยี่ห้อต่างๆ มาแปะที่หน้าเพื่อดึงเอาสิวออก เมื่อมันหลุดออกมาเป็นก้อนๆ คุณจะรู้สึกดีแบบแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก และถ้าคุณชอบอะไรแบบนั้น นี่คือสิ่งที่คู่ควรกับคุณ เมื่อไม่นานมานี้ #เหมียวฟิ้น ได้ไปเจอเข้ากับช่องยูทูบที่ชื่อว่า KeanaTankentai ความพิเศษของช่องนี้ก็คือ เขาจะลงแต่คลิปวิดีโอจำพวกสิวหัวขาว สิวหัวดำ การดึงหนวด หรือแม้แต่การปั่นขี้หู ที่ถูกถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์ ทำให้เราเห็นสิวกันแบบใกล้ชิดยิ่งกว่าที่เคย ปิ๊ดๆ อ่าหหห์ ถ้านี่คือสิ่งที่ทำให้คุณดูแล้วรู้สึกดีล่ะก็ งั้นไปชมตัวเต็มๆ กัน หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เราได้เคยพูดถึงดอกเตอร์คนหนึ่งที่ชื่อ Dr. Pimple Popper หรือชื่อจริงคือ Sandra Lee เธอเองก็มีชื่อเสียงในด้านการบีบสิวเช่นกันและมีคนติดตามดูสิว เอ้ย ดูเธอบีบสิวมากถึง 2 ล้านกว่าคนทีเดียว หากใครชอบก็ตามไปกดซับสไครบ์ได้เลย ดูจบแล้วรีบลุกไปล้างหน้ากันดีกว่านะ ที่มา viralnova , Dr. Pimple Popper
-
จะแพงไปไหน? ห้างในฮ่องกง วางขายสตรอว์เบอร์รี่ลูกเดียวเน้นๆ ลูกละ 800 บาท
ใครบ้างล่ะจะไม่ชอบกินสตรอว์เบอร์รี่ ก็แหม…ยิ่งถ้าได้เอามาคลุกกับน้ำตาลแล้วด้วยนะ เปรี้ยวๆ หวานๆ ในปากเราช่างเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ ไปเลยอ่าาาห์ โดยปกติแล้วถ้าถึงฤดูสตรอว์เบอร์รี่ บ้านเราก็มักจะขายกันเป็นกล่อง เป็นกิโลฯ หรือไม่ก็ถูกหน่อยมาแบบเป็นแก้วก็มี แต่ทว่าล่าสุด เว็บไซต์ OddityCentral ได้รายงานว่า มีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในฮ่องกง วางขายสตรอว์เบอร์รี่เป็นลูก พร้อมแพ็คเกจอย่างดี ราคาไม่แพ๊งง ลูกละ 800 บาทเองเธอเอ๊ยย!! ความพิเศษของสตรอว์เบอร์รี่ลูกนี้ก็คือ มันเป็นสายพันธุ์พิเศษที่ถูกคัดสรรจากการเด็ดด้วยมือ จากเมืองโคโตกะ ประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าห้างสรรพสินค้าดังกล่าว จะได้รับเสียงตอบรับจากกลุ่มลูกค้าไปในแง่ลบ แต่ทางผู้จัดจำหน่ายก็ได้ออกมาชี้แจงว่า สาเหตุที่ทำให้มันราคาแพงขนาดนี้ ก็เพราะต้นทุนที่สูงกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่ง ค่าดูแล หรือค่ามือคนงานเด็ดสตรอว์เบอร์รี่ ‘สตรอว์เบอร์รี่ถูกนำเข้ามาจากญี่ปุ่น พร้อมกับแพคเกจสุดพิเศษที่ช่วยรักษาสภาพ และรสชาติอันแสนวิเศษไว้ นี่คือสตรอว์เบอร์รี่จากโคโตกะ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตสตรอว์เบอร์รี่ที่อร่อยที่สุด และมีการใช้มือในการเก็บเกี่ยวทีละลูก เพื่อคัดสรรลูกที่คุณภาพดีที่สุด’ ผู้จัดการห้างสรรพสินค้าดังกล่าวเล่า นอกจากนั้นแล้วสตรอว์เบอร์รี่จากโคโตกะ ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่หายาก และโด่งดังในเรื่องของความเปรี้ยวที่พอดี ผสมกับความหวานอย่างกลมกล่อม ว่าแต่จะมีใครอยากลองซื้อมาชิมบ้างมั้ยเอ่ย? ของขวัญวาเลนไทน์ปีนี้ เราขอแนะนำสตรอว์เบอร์รี่ลูกนี้เลยจ้า มีเงินอย่างเดียวไม่พอนะ…ต้องใจรักมากๆ…
-
มนุษย์หลวมตัวรับแมวดำมาเลี้ยง กว่าจะรู้ตัวก็ถูกยึดบ้านพร้อมทายาทอีก 6 ตัว ซะแล้ว!?
เป็นอีกครั้งที่มีมนุษย์ผู้ใจบุญ ไปพบเจอกับแมวดำตัวหนึ่งท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ ด้วยความใจอ่อน บวกกับความสงสาร จึงรับมันเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย แต่หารู้ไม่ว่านี่เป็นแผนการยึดบ้านของเจ้าเหมียว และหลังจากนั้นชีวิตของคนที่รับเลี้ยงไป ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล… นี่คือเจ้า ‘Belle’ แมวเหมียวที่ดูเหมือนจะไร้พิษสง แต่จริงๆ แล้วแผนการมันร้ายกาจยิ่งกว่านั้นเยอะ เดิมทีเหมียว Belle ก็เคยยึดครองบ้านได้สำเร็จมาแล้วหนึ่งหลัง แต่ทว่าด้วยปัญหาบางประการทำให้ทาสมนุษย์คนนั้นจำใจต้องย้ายที่อยู่อาศัย และไม่สามารถพาเธอไปด้วย หลังจากนั้นมันจึงถูกส่งตัวมาอาศัยอยู่ที่มูลนิธิ ‘LAPS Foster Kitten’ แต่ด้วยมนต์เสน่ห์บางอย่าง ทำให้เจ้าหน้าที่ ‘Narod’ รับมันไปเลี้ยงไว้ที่บ้านของเธอแทน ไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามันท้อง จนกระทั่งวันที่ 27 ธันวาคม เหมียว Belle ก็ได้ให้กำเนิดทายาทตัวน้อยมาอีก 6 ตัว ‘นับว่าโชคดีที่เรารับมันมาดูแลไว้ทัน เพราะถ้าฝืนปล่อยให้มันคลอดลูกท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวสุดขั้ว เราก็ไม่แน่ใจว่าลูกน้อยของมันจะอยู่รอดได้ทุกตัวรึเปล่า’ Narod เล่า ลูกน้อยทั้ง 6 ของมันเกิดมาพร้อมกับความสามารถพิเศษ นั่นก็คือการกินที่ไม่รู้จักคำว่าอิ่ม กินเก่งซะราวกับเครื่องสูบไดนาโม หลังจากที่ลูกน้อยทั้ง 6 ตัวเริ่มลืมตาได้แล้ว พวกมันก็เริ่มสำแดงเดชทันที…
-
นี่คือ ‘ช้อน’ ที่ออกแบบมาให้เหมือนนิ้ว เพื่อรสสัมผัสราวกับว่าได้ใช้นิ้วจิ้มกินเองจริงๆ!!
เคยสังเกตกันไหมว่าทำไมเวลาที่เราใช้มือเปล่าทานอาหาร รสชาติมันถึงได้อร่อยซะยิ่งกว่าการใช้ช้อนกับส้อมซะอีก หรือของบางอย่างเช่น แยมผลไม้ หรือนูเทลล่า เวลาที่เราอยากจะกินเปล่าๆ เราก็จำเป็นที่จะต้องใช้นิ้วจิ้มแล้วควักมันออกมากินใช่ไหมล่ะ แต่ปัญหาคือถ้าเราใช้นิ้วจิ้มกันมันก็จะเลอะ บางทีก็อาจจะไม่ถูกสุขอนามัยซะด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นนี่คือทางออกของปัญหาดังกล่าว เราจะพาไปรู้จักกับ ‘Goûte’ ช้อนที่ไม่ใช่ช้อน เพราะมันเป็นช้อนที่ออกแบบมาให้เหมือนนิ้ว!! Goûte เป็นผลงานการออกแบบของบริษัทดีไซน์เนอร์ ‘Michel / Fabian’ จุดประสงค์หลักก็เพื่อต้องการให้ผู้ใช้ ได้ทานของกินที่มีลักษณะเหมือนครีม โดยผู้ผลิตได้กล่าวว่า สำหรับผู้ใช้ทุกคนพวกเขาจะได้รับประสบการณ์การทานอาหารจานโปรดแบบใหม่ โดยที่ผิวสัมผัสให้ความรู้สึกเหมือนนิ้ว แต่เราไม่จำเป็นต้องทำให้นิ้วตัวเองเปื้อนอีกต่อไป นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังได้นำข้อมูลจากงานวิจัยด้านจิตวิทยา มาเป็นแหล่งอ้างอิงในการออกแบบช้อนให้มีความสมดุลมากที่สุดอีกด้วย ‘รับประกันเลยว่าช้อนอันนี้จะเพิ่มผิวสัมผัสให้ผู้ใช้รู้สึกดีกว่าเดิม และสิ่งสำคัญคือการได้ทานอาหารให้ถูกสุขอนามัย โดยที่เรายังรู้สึกว่าเป็นเหมือนนิ้วตัวเองจริงๆ’ เจ้าของบริษัทกล่าว เรียกได้ว่าบริษัท ‘Michel / Fabian’ ได้เป็นบริษัทแรกของโลก ผลิตสินค้าที่ใช้ทั้งหลักการทางฟิสิกส์ และการออกแบบเกี่ยวกับอาหาร มาประยุกต์เข้ากันได้อย่างลงตัว ส่วนราคาก็ไม่แพงมากเท่าไหร่ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปซื้อได้ที่ MichaelFabian แบบแก้วจะอยู่ที่ประมาณ 1,300 บาท และ 850 บาท สำหรับแบบไม้ …
-
นักวิจัยค้นพบชีวิตซ่อนเร้นของต้นไม้ มีความรู้สึก มีความทรงจำ และสามารถดูแลต้นอื่นๆ ได้!!
สิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้ทุกสรรพสิ่ง และทุกชีวิตในโลกสามารถดำเนินต่อไปได้ก็คือ ‘ต้นไม้’ ไม่ว่าจะเป็นไม้พันธุ์ไหนก็แล้วแต่ เพราะอย่างที่เรารู้กันดีจากวิชาวิทยาศาสตร์สมัยเด็กๆ ว่าพวกมันล้วนเป็นผู้ผลิตออกซิเจน ที่ช่วยต่อลมหายใจให้กับทุกชีวิตบนโลกใบนี้ และล่าสุดกลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ได้ออกมาเผยแพร่งานวิจัยที่พวกเขาได้ค้นพบแล้วว่า ต้นไม้ทุกต้นมีความรู้สึก มีความทรงจำ อีกทั้งพวกมันยังช่วยดูแลต้นไม้กันและกันอีกด้วย ภายใต้ชื่อโครงการว่า ‘The Hidden Life of Trees’ หนึ่งในทีมวิจัย Peter Wohlleben Peter Wohlleben ได้อธิบายไว้ว่า ‘ความสัมพันธ์ของต้นไม้นั้น เรียกได้ว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องอยู่ร่วมอาศัยกันเป็นกลุ่มสังคม ต้นตัวแม่จะมีการดูแลทายาทของมัน ไม่ต่างจากคนเราเลยครับ’ ‘ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเข้าใจว่า สิ่งสำคัญของต้นไม้ก็คือสิ่งที่โผล่ขึ้นมาบนดิน แต่ความเป็นจริงแล้วรากที่อยู่ใต้ดินของพวกมันนั้นสำคัญกว่ามากครับ เพียงดินแค่ 1 ช้อนชา ก็สามารถทำให้รากเจริญเติบโตไปได้ไกลหลายกิโลเมตร’ Dr. Suzanne Simard ผู้วิจัยด้านการทำงานของระบบราก ‘จากการศึกษาค้นคว้ามาอย่างยาวนาน ฉันได้ค้นพบว่า ต้นไม้ทุกต้นในบริเวณเดียวกัน ถึงแม้จะต่างสายพันธุ์กัน แต่ในช่วงเวลาเติบโตพวกมันจะผูกรากเข้าไว้ด้วยกัน อาจกล่าวได้ว่าต้นไม้ทุกต้นในผืนป่าเดียวกัน ได้เชื่อมต่อกันเป็นอันหนึ่งอันเดียว เพื่อที่พวกมันจะได้ดูแลกันอย่างทั่วถึง’ Dr. Suzanne กล่าว …
-
อย่างกับพล็อตหนัง… หนุ่มดูแลแฟนสาวความจำเสื่อม ให้กลับมาตกหลุมรักได้อีกครั้ง!!
เรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ มันอาจจะดูเหมือนกับว่าเป็นพล็อตหนังรัก ที่เรามักจะเห็นกันอยู่บ่อยๆ…. Jessica Sharman หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคลมชักมาตั้งแต่เกิด แต่มันไม่ได้ส่งผลร้ายต่อชีวิตของเธอมากนัก จนมาถึงเมื่อช่วงเดือนมีนาคมปี 2016 ที่ผ่านมา Jessica และ แฟนหนุ่ม Richard Bishop ที่เพิ่งคบกันมาได้ประมาณ 7 เดือน ณ ตอนนั้น ได้ออกไปเดทกัน ระหว่างทางที่กำลังโดยสารรถไฟไปลอนดอน จู่ๆ ฝ่ายแฟนสาวก็รู้สึกหน้ามืดและหมดแรงล้มลงไป หลังจากที่ถูกช่วยเหลือโดยแฟนหนุ่มออกมาจากรถไฟเรียบร้อยแล้ว คุณพ่อคุณแม่ของเธอก็รีบมาหาเพื่อดูอาการทันที ซึ่งตอนนั้น Jessica ก็ฟื้นขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าเธอจำใครไม่ได้เลย… Jessica Sharman และ Richard Bishop คุณแม่ของเธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อทบทวนความจำให้กับเธอ แต่เหตุการณ์ ณ ตอนนั้นกลับแย่ลง เพราะเธอจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ของ Jessica ก็เลยตัดสินใจที่จะพาเธอกลับมาที่บ้านด้วยทั้งๆ ที่ยังจำอะไรไม่ได้ “พ่อแม่ของฉันชวน Richard มาด้วย แต่ฉันจำไม่ได้ว่าเคยรู้จักเขา เวลาที่พวกเขาทิ้งให้ฉันอยู่กับเขาสองต่อสอง มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวมาก”…
-
คำขอสุดท้ายของเด็กสาว “อยากรับเลี้ยงแมว” ก่อนที่มะเร็ง จะพรากชีวิตของเธอจากไป…
เชื่อว่าชีวิตของมนุษย์ทุกคนจะต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่อ่อนแอ และเลวร้ายที่สุด นั่นทำให้เราต้องการกำลังใจจากคนที่เรารัก และอยากใช้เวลาที่เหลือทำในสิ่งที่ใจต้องการ เหมือนดังเช่นเรื่องราวของ Kylie เด็กสาววัย 12 ปีคนนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก และมักจะสร้างรอยยิ้มให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอ กระทั่งวันหนึ่ง เธอถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง และอาจจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ในเวลาเพียงไม่นาน ดังนั้น เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่ตนเองต้องการเป็นครั้งสุดท้าย นั่นก็คือ “การเลี้ยงแมว” นั่นเอง ในตอนแรกทางครอบครัวของเธอก็รู้สึกกังวลในการที่จะรับลูกแมวมาเลี้ยง เพราะที่บ้านของพวกเขามีสัตว์เลี้ยงถึง 4 ตัวแล้ว แต่ในเมื่อสาวน้อย Kylie ได้ร้องขอ แน่นอนว่าพวกเขาก็จะทำในสิ่งที่เธอปรารถนา ซึ่งคุณพ่อของเธอก็ได้ติดต่อไปยังมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ทันที “เจ้าเหมียวเป็นแมวที่มีสุขภาพที่ดี และก็รอให้คนใจดีมารับไปเลี้ยง จนกระทั่งเราได้รับสายที่น่าเศร้าว่าสาวน้อยที่ชื่อ Kylie ป่วยเป็นมะเร็ง ในตอนแรกทางครอบครัวไม่ได้รับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงเป็นการถาวร แต่จะให้มันอยู่กับ Kylie ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอเท่านั้น” เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกล่าว หลังจากที่ทางครอบครัวของ Kylie ได้รับเจ้าเหมียวที่แสนน่ารักจากมูลนิธิมาเลี้ยง พวกเขาก็เห็นว่าเธอกับเจ้าเหมียวสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี ซึ่งเธอได้เรียกมันว่า “Eliza” ครั้งแรกที่ Kylie ได้เจ้าเจ้าเหมียว ใบหน้าของเธอดูมีความสุขมาก และในวันต่อๆ…
-
เก๋าเหรอ!! อินทรีโดนอีกาบินโฉบกวนประสาท ถึงกับต้องชักสีหน้าทำตาโตมองบน
ในวันที่อากาศสดใส มีนกอินทรีขนาดใหญ่ตัวหนึ่งกำลังยืนชิวๆ อยู่บนกิ่งไม้ ซึ่งตัวมันเองก็คงคิดว่าวันนี้อาจจะเป็นวันที่ดีมากๆ แต่ใครจะรู้ละว่าอีกไม่กี่นาทีต่อมาเจ้านกอินทรีจะต้องมาเผชิญหน้ากับสัตว์ปีกชนิดหนึ่ง บอกเลยว่างานนี้เล่นเอานกอินทรีถึงขั้นไม่พอใจอย่างแรง Greaves Henriksen ช่างภาพวัย 52 จากรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย สามารถบันทึกภาพวินาทีขณะที่อีกาดำตัวหนึ่งได้บินโฉบเข้ามาหาเจ้าอินทรีย์เอาไว้ได้ และนี่คือภาพที่คุณกำลังจะได้เห็น… เจ้าอินทรีกำลังยืนอยู่บนกิ่งไม้รับแดดแบบชิวๆ แต่ไม่รู้เลยว่ามีอีกาตัวหนึ่งกำลังบินเข้ามาหา จู่ๆ มันก็บินลงมาเหยียบหัวของอินทรีย์ จึ๊กกกกก โอ้วววว นี่มันหยามหน้าหยามหัวกันชัดๆ ดูเหมือนว่าเจ้าอินทรีจะเริ่มโกรธหลังจากที่อีกาเข้ามากวนประสาท ทางด้าน Greaves เจ้าของภาพก็เชื่อว่าอินทรีตัวนี้อาจจะยืนอยู่ใกล้กับรังของอีกา และเมื่อมันมาเห็นเข้าก็เลยพยายามที่จะปกป้องที่อยู่อาศัยของมันยังไงละ นี่ที่มันถิ่นข้า เจ้าควรออกไปซะ ฮร่าๆ อีกาก็กวนประสาทอินทรีอยู่นั่นแหละ… เล่นเอาซะพี่แกหัวเสียกันเลยทีเดียว ที่มา : designyoutrust
-
หมาเฒ่าวัย 18 ปี ได้รับการช่วยเหลือสร้างความสุข กับภารกิจสานฝันเพื่อตัวมันเอง!!
นี่คือเรื่องราวของ ‘Morgan’ สุนัขสายพันธุ์ดัชชุน ที่ตอนนี้มีอายุได้ 18 ปีแล้วล่ะ ในอดีตมันก็คือเจ้าตูบที่ได้อาศัยอยู่ในบ้านกับครอบครัวอันอบอุ่น ทว่าวันหนึ่งเมื่อเจ้านายมันจากโลกนี้ไป ทำให้มันต้องถูกย้ายมาอาศัยอยู่ที่มูลนิธิสัตว์เลี้ยง ในรัฐ ฟลอริด้าแทน เมื่อเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือ ได้ทราบว่าอายุของมันเริ่มแก่เต็มทีแล้ว พวกเขาจึงช่วยกันประสานงานกับองค์กร ‘Senior Paw Sanctuary’ โดยหวังว่ามันจะได้ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกตามความฝันของมัน Morgan หลังจากนั้นไม่นานนักเจ้าตูบเฒ่าก็ได้ย้ายไปอาศัยอยู่กับครอบครัวของ ‘Reidy’ ถึงแม้ว่ามอร์แกนจะเชื่องช้า และเอาเอาแต่หลับทั้งวัน แต่ก็ดูเหมือนว่าเวลาตื่นมันยังรักการผจญภัยอยู่เหมือนกันนะ ‘ฉันว่ามันต้องเป็นเหมือน Benjamin Button แน่เลยค่ะ เพราะนอกจากอายุจะเยอะแล้ว ความซนของมันก็เยอะตามตัวไปด้วย ไม่มีใครเชื่อด้วยซ้ำว่ามันอายุได้ 18 ปีแล้ว’ และด้วยนิสัยที่ขี้อ้อนของมัน เธอจึงจัดการพามันออกไปทำตามความฝัน ซึ่งอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตมันก็ว่าได้ มันได้ขึ้นเครื่องบิน ได้ออกไปช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่ ได้ไปชมการแข่งขันเบสบอล แถมยังได้เจอซานต้าอีกด้วย บางทีก็ได้ออกไปซิ่งกับแก๊งค์ช็อปเปอร์สุดเฟี้ยว เห็นแบบนี้มันได้ไปฝึกโยคะที่ริมชายหาดด้วยนะ ‘มันชอบที่จะได้พบเจอผู้คนใหม่ๆ หรือได้กลิ่นอะไรใหม่ๆ…
-
จากนักศึกษาสาววัย 23 สู่การเป็นนักรบมือปราบ ‘ISIS’ นับร้อยราย มีค่าหัวสูงถึง 30 ล้านบาท!!
ถึงแม้ว่าข่าวคราวเกี่ยวกับสงครามผู้ก่อการร้าย ISIS จะดูเบาบางลงในสื่อบ้านเรา แต่ทุกวันนี้สงครามยังไม่จบ มีจำนวนยอดผู้ก่อการร้ายที่เสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในนั้นก็เป็นฝีมือของเธอคนนี้นี่แหละ ‘Joanna Palani’ สาววัย 23 ปี เชื้อสายอิหร่าน-เคิร์ด เกิดในค่ายผู้ลี้ภัยเมือง Ramadi ประเทศอิรัก เริ่มยิงปืนครั้งเมื่ออายุ 9 ปี จนกระทั่งได้ไปเป็นนักศึกษาสาขารัฐศาสตร์ ที่ประเทศเดนมาร์ก แต่แล้วเธอก็เลือกที่จะสละฝันการเป็นบัณฑิต และเลือกที่จะเดินเข้าสู่สมรภูมิรบ ด้วยอุดมการณ์ของเธอที่ต้องการจะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง เดิมทีเธอมาจากครอบครัวผู้อพยพ ที่ได้ย้ายหลักปักฐานไปอยู่ในเดนมาร์กมาตั้งแต่สมัยเธอยังเด็กๆ จนกระทั่งต่อมาในปี 2014 เธอตัดสินใจที่จะลาออกจากการเป็นนักศึกษา และเข้าสู่สมรภูมิสงครามในซีเรีย ‘ฉันต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี เพื่อประชาธิปไตย และเพื่อปกป้องแผ่นดินยุโรป ในฐานะที่ฉันเป็นประชากรของชาวเดนมาร์ก’ เธอกล่าวไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ตลอดเวลาที่ผ่านมาคาดว่าเธอได้จัดการทหาร ISIS ไปแล้วมากกว่าหลายร้อยคน อีกทั้งเธอยังเป็นคนที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวชาว ‘ยาซีดิ’ จากการถูกจับเป็นทาสโดยกลุ่มผู้ก่อการร้าย ‘มีคนตั้งค่าหัวฉันไว้สูงถึง 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ฉันอาจจะตายได้ทุกเมื่อ แต่นั่นก็ไม่หยุดความตั้งใจของฉันได้’ ‘ในฐานะที่ฉันอยู่หน่วยซุ่มยิง ฉันสามารถอยู่ในแนวหน้าของสนามรบได้นานถึง 9…
-
Huggies ผลิตผ้าอ้อมนาโนขนาดจิ๋ว เหมาะสำหรับเด็กทารกคลอดก่อนกำหนด
สำหรับพ่อแม่ที่มีลูกคลอดก่อนกำหนดแล้ว การจะหาผ้าอ้อมที่พอดีกับตัวของทารกตัวน้อยนั้นเป็นอะไรที่ยากมากๆ แถมผิวหนังของพวกเขาก็ยังบอบบาง และต้องการการดูแลที่มากกว่าปกติอีกด้วย บริษัท Huggies ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ ‘ผ้าอ้อมเด็ก’ ได้ทำการผลิตผ้าอ้อมขนาดจิ๋ว สำหรับเด็กคลอดก่อนกำหนด เมื่อเทียบกับขนาดทั่วๆ ไปแล้ว ผ้าอ้อมสำหรับเด็กคลอดก่อนกำหนดนั้นมีขนาดจิ๋วกว่ามากๆ ด้วยความร่วมมือกับองค์กร NICU (หออภิบาลทารกแรกเกิด) Huggies จึงได้ทำการผลิตผ้าอ้อมนาโนขนาดจิ๋วสำหรับทารกที่คลอดก่อนกำหนดออกมา มีไว้สำหรับเด็กที่มีน้ำหนัก 900 กรัม และถูกออกแบบมาเป็นพิเศษทำให้พื้นผิวของผ้าอ้อมนั้นมีความอ่อนโยนมากกว่าผ้าอ้อมแบบปกติ เพื่อปกป้องการพัฒนาผิวหนังของเด็กทารก และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองอีกด้วย อย่างไรก็ตามมีเพียง 1.4% ของประชากรเด็กทารกทั้งหมดเท่านั้นที่จะมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด แต่ทาง Huggies ก็ต้องการที่จะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาเหล่านั้นจะได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีด้วยผ้าอ้อมชนิดพิเศษนี้ “พวกเราต้องการที่จะช่วยเหลือเหล่าทารกทุกคนบนโลกนี้ โดยเฉพาะเด็กที่มีขนาดตัวเล็ก และผอมบาง ด้วยความช่วยเหลือจากจเ้าหน้าที่ NICU เจ้าผ้าอ้อมสำหรับเด็กคลอดก่อนกำหนดนี้จะมีทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผิวหนัง นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และทีมงานของเราก็ได้พยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อนำคอนเซ็ปต์ Huggies Little Snugglers Nano Preemie Diapers นี้ไปใช้งานในโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดภายใน 6 เดือนนี้” คุณ Eleonora Daireaux รองประธานกรรมการบริษัท…
-
สาวตัดต่อภาพชายหนุ่ม มโนเป็นคู่หมั้นนาน 4 ปี เจอตัวจริงทนไม่ไหวโร่แจ้งความ!!
บางครั้งการที่เราหลงรักใครซักคนก็อยากที่จะได้เค้ามาเป็นแฟน แต่ถ้าบังเอิญว่าคนๆ นั้นมีแฟนอยู่แล้ว หรือไม่ชอบเราก็ควรที่จะตัดใจเสียดีกว่า เพราะการที่เราพยายามดื้อดึงไปก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นอยู่ดี เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้ที่แอบปิ๊งรักชายหนุ่มคนหนึ่ง ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอหน้า และไม่เคยคุยกันแม้แต่คำเดียว แต่กลับเอารูปของเขามาตัดต่อแล้วโมเมว่าเป็นคู่หมั้นของตัวเอง แถมยังเอาไปหลอกให้คนอื่นหลงเชื่ออีก Jill Sharp หญิงสาววัย 31 ปี ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นโรคจิตแอบติดตามนาย Graham McQuet ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เป็นเวลานานกว่า 4 ปีด้วยกัน เพื่อหลอกให้คนอื่นเชื่อว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน ด้วยการตัดต่อรูปของตัวเองไปใส่คู่กับใบหน้าของชายหนุ่มแล้วโพสต์ลงเฟซบุ๊ค จากรายงานของเว็บไซต์ Daily Record เล่าว่า เธอได้ไปบอกกับเพื่อนคนอื่นๆ ว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว และชายคนในภาพตัดต่อนั้นก็คือคู่หมั้นของเธอ เพื่อทำให้คนอื่นๆ เชื่อ ผู้ต้องหา Jill ได้ทำการไปเที่ยวที่ลอนดอน หลังจากที่เห็นนาย McQuet ถ่ายรูปคู่กับโบสถ์ Westminster Abbey และเธอก็ถ่ายรูปแล้วเอามาโพสต์เทียบกันให้เห็นจะๆ แล้วอ้างว่าไปเที่ยวด้วยกันมา จนในที่สุด เหล่าเพื่อนๆ ของ Jill ก็เริ่มสงสัย วันเวลาล่วงเลยผ่านไปเป็นเวลา 4 ปี โดยที่…
-
อาสาสมัครนิวซีแลนด์เร่งช่วยเหลือวาฬกว่า 400 ตัว หลังโดนคลื่นซัดมาเกยชายหาดเอง
อาสาสมัครในประเทศนิวซีแลนด์เร่งเข้าช่วยเหลือเหล่าวาฬเกยตื่น หลังจากพบว่ามีวาฬนำร่อง (Pilot Whale) หลายร้อยตัวต้องตายอย่างทรมานหลังจากเกยตื่นอยู่บนฝั่งเป็นเวลานาน นี่เป็นเรื่องที่น่าเศร้าหลังจากมีคนพบเห็นปลาวาฬนำร่องทั้งหมด 416 ตัว กำลังนอนเกยตื่นอยู่บนชายฝั่งแฟร์เวลล์สปิต ทางใต้ของ โกลเดน เบย์ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยล่าสุดชาวบ้านและอาสาสมัครก็ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเป็นการด่วน แต่ก็พบว่ามีวาฬตายไปแล้วกว่า 275 ตัว ถึงอย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังคงพยามช่วยเหลือพวกมันโดยการทำให้ตัวของพวกมันเปียกออยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นการช่วยเหลือก็ยังคงเป็นไปอย่างล่าช้า ซึ่งเมื่อเข้าใกล้เวลาเที่ยงวันร่างกายของพวกวาฬก็เริ่มที่จะแห้งไวขึ้นเนื่องจากผลกระทบของแสงแดด Cheree Morrison นักข่าวที่ในพื้นที่กล่าวว่า “คุณจะได้ยินเสียงพวกมันพยามดิ้นรนเอาชีวิตรอดตลอดเวลา ยิ่งพวกวาฬเด็กยิ่งดูจะทรมานมากที่สุด ภาพพวกนี้มันเศร้าเสียจนฉันไม่รู้จะพูดอะไรออกมานอกจากได้แต่ร้องไห้ และพยามช่วยพวกมันอย่างสุดความสามารถ” ตามรายงานบอกว่าวาฬนำร่องมีขนาดที่ใหญ่มากๆ ทำให้ยากที่จะพลักพวกมันกลับลงไปในทะเล พวกเขาจึงต้องพยามยื้อชีวิตพวกมันและรอเวลาให้น้ำขึ้นสูงอีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาช่วยวาฬส่วนใหญ่ได้แล้ว พวกเขาจำเป็นจะต้องสร้างกำแพงมนุษย์ขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้พวกวาฬที่พวกเขาช่วยไว้ได้หันกลับเข้าฝั่งมาเกยตื่นอีกครั้ง เพราะพวกมันไม่เต็มใจที่จะทิ้งฝูงของมันไว้แน่ๆ พวกเขาก็ได้แต่หวังว่ากระแสน้ำจะพาพวกมันกลับลงไปในทะเลได้อย่างปลอดภัย การเกยตื่นในครั้งนี้นับว่าเป็นเหตุการณ์เกยตื่นที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเหตุการณ์ที่เมืองออกแลนด์ในปี 1985 ที่มีวาฬเกยตื้น 450 ตัว และเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นที่หาดในหมู่เกาะชัตแฮมปี 1918 ที่มีวาฬมาเกยตื่นถึง 1000 ตัว พวกเราก็คงได้แต่หวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกบ่อยๆ กับพวกวาฬที่น่าสงสารพวกนีั้ ที่มา dailymail
-
สาวรับอุปการะพิตบูลจรจัดมาเลี้ยง และเธอก็คิดไม่ผิด เพราะได้กอดมันทั้งวี่ทั้งวัน!!
เป็นอีกเรื่องราวน่ารักๆ ระหว่างมิตรภาพของ ‘Kayla Filoon’ สาววัยรุ่นจากเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐฯ ที่ได้รับเลี้ยงเจ้า ‘Russ’ พิตบูลหน้าใส แถมนิสัยยังขี้อ้อนสุดๆ เพราะหลังจากที่เจ้าตัวได้โพสต์ภาพของเจ้าพิตบูล ที่เข้ามากอดเจ้านายสาวคนใหม่ของมัน กลายเป็นว่าถูกอกถูกใจชาวเน็ตสุดๆ เราไปทำความรู้จักกับเรื่องราวของทั้งคู่กันเลย ทั้งคู่ไปเจอกันที่ศูนย์ดูแลสุนัขจรจัดแห่งหนึ่ง และนี่ก็คือภาพที่ทั้งคู่ได้พบสบตากันเป็นครั้งแรก ‘ตอนแรกที่เจอมันผอมมากเลยค่ะ และฉันมั่นใจว่ามันต้องการใครซักคน ที่สามารถมอบความรักให้มันได้’ เธอเล่า ‘ตอนนั้นมันได้แต่นั่งจ้องหน้าฉัน ทำตาละห้อย ฉันคิดเพียงอย่างเดียวว่า ต้องพามันไปอยู่ด้วยกันให้ได้’ เธอจำเป็นต้องรีบจัดแจงทุกอย่างให้พร้อม สำหรับการรับเจ้าพิตบูลหน้าใสตัวนี้เข้ามาเลี้ยง ‘สุนัขทุกตัวมีโอกาสที่จะถูกทำให้จากไปอย่างสงบ ถ้าหากพวกมันอายุครบ 15 ปี และเจ้า Russ ก็เป็นหนึ่งในนั้น’ แต่หลังจากที่ทั้งคู่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ทั้งคู่รู้ทันทีว่าต่างฝ่ายต่างได้เข้ามาเติมเต็มให้กันและกัน ความน่ารักของมันคือมักจะเข้ามาอ้อน กอด และขอหอมแก้มเป็นประจำ ‘วันหนึ่งฉันกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ และพบว่ามันเดินเข้ามาใกล้เหมือนต้องการอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นถึงได้รู้ว่ามันพยายามที่จะกอดฉันนั่นเอง’ เธอเล่าพร้อมรอยยิ้ม หลังจากนั้นภาพดังกล่าวก็กลายเป็นกระแสไวรัล ซึ่งเธอก็หวังว่าเรื่องราวของเธอจะช่วยทำให้คนอื่น เปิดใจรับอุปการะสุนัขมาเลี้ยงมากขึ้น …
-
มาทายกันดูสิว่า คุณจะสามารถหาทหารที่พรางตัวอยู่ในป่านี้ทั้ง 12 คนได้หรือไม่!?
เรียกได้ว่านี่เป็นอีกหนึ่งภาพที่กำลังเป็นกระแสของชาวเน็ตทั่วโลก กับภาพของกลุ่มทหารจากประเทศอังกฤษ ทั้ง 12 คน ที่พรางตัวอย่างแนบเนียนอยู่ในป่าของบรูไน บางคนก็ถึงกับบอกว่า นี่คือสิ่งที่ทหารกลุ่มนี้เชี่ยวชาญมากที่สุด พวกเขาสามารถพรางตัวได้ราวกับว่าไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น ลองไปชมภาพกันเลยว่าจะเนียนอย่างที่เขาว่าจริงรึเปล่า ลองทายกันดูสิว่า พวกเขาทั้ง 12 คน อยู่ตรงไหนบ้างเอ่ย? จากการเปิดเผยของสำนักข่าว DailyMail พบว่านายทหารกลุ่มนี้ เป็นทหารม้ารักษาพระองค์ ประจำราชวงศ์อังกฤษ แน่นอนว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักมาแล้วมากมายหลายภารกิจด้วยกัน ‘ตอนนี้เราได้ส่งทหารของเราทั้ง 12 นายไปยังประเทศบรูไน เพื่อทำการฝึกลาดตระเวน และแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของทหารม้าอังกฤษ’ The Household Cavalry ให้สัมภาษณ์ ภาพของพวกเขาในขณะกำลังเดินสวนสนามอย่างสง่างาม กลุ่มทหารม้าทั้ง 12 คน กับภารกิจการฝึกฝนในสถานที่ๆ มีสภาพแวดล้อมยากลำบากต่อพวกเขามากที่สุด (เฉลยรูปต่อไป…) และนี่คือเฉลยทั้ง 12 จุดที่พวกเขาแอบพรางตัวอยู่ จ้องมองยังไงก็ดูไม่ออกจริงๆ แฮะ ยากเกิ๊นนน นอกจากจะทำหน้าที่คอยปกป้องรักษาสถาบันกษัตริย์แล้ว บางทีพวกเขาก็ได้รับภารกิจให้ไปประจำการตามพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ อีกด้วย ภาพกองทหารม้าที่ได้เข้ามาประจำการที่ประเทศอิรัก …
-
What Does A Sloth Say? ชมความน่ารักของสล็อตตัวน้อย ส่งเสียงร้องสื่อสารกับเจ้าหน้าที่
เมื่อกล่าวถึง ‘สล็อต’ แล้วเพื่อนๆ หลายคนคงจะรู้กันดีว่ามันเป็นสัตว์ที่เชื่องช้า ทำอะไรก็จะกลายเป็นภาพสโลวโมชั่นไปซะหมด ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เราไม่รู้ว่าเหล่าสล็อตทั้งหลายนั้นมันสื่อสารกันอย่างไรกันแน่!? มีเสียงร้องเหมือนหมา แมว อะไรแบบนี้มั้ย? ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปไขข้อข้องใจนี้ให้กระจ่างไปพร้อมๆ กัน!! แชแนลยูทูบ AnimalistToo ได้ทำการเผยคลิปความน่ารักของสล็อตน้อย ที่กำลังพยายามสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ในศูนย์ดูแลสล็อตในประเทศคอสตาริกา ทำให้ชาวโลกหลายๆ คนต่างก็ตาสว่างกันเป็นแถวๆ ว่าแท้จริงแล้ว สล็อตมันก็มีเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยเหมือนกันนะ ลองไปชมคลิปความน่ารักกันแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘สล็อต’ ที่เราไม่รู้อีกมากมาย ในโอกาสนี้เอง #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับพวกมันให้มากขึ้น มันสามารถว่ายน้ำได้ด้วยนะ พวกมันเป็นสัตว์สโลวไลฟ์ ที่ชอบอยู่เฉยๆ จนตะไคร่น้ำขึ้นมาเกาะตามขนเต็มไปหมด สล็อตสายพันธุ์ Three-toed สามารถหมุนหัวได้เกือบ 360 องศาเลยทีเดียว สล็อตสามารถมีอายุยืนได้ถึง 40 ปี สล็อตตัวเมียจะใช้เวลาอุ้มท้องนานประมาณ 7 ถึง 10 เดือน…
-
งานวิจัยเผย… คนที่อายุเยอะ มีแนวโน้มติด ‘สื่อโซเชียล’ มากกว่าวัยหนุ่มสาวซะอีก!!
ในทุกวันนี้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจโซเชียลมีเดียกันมากยิ่งขึ้นทุกวันๆ และหากเพื่อนๆ คิดว่าคนที่หันมาเล่นโซเชียลมีเดียจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือวัยเด็กล่ะก็ขอบอกเลยว่าคิดผิด!! เพราะจากรายงานของ Nielsen ที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนพบว่า ชาวอเมริกันช่วงอายุ 18 ถึง 34 ปี นั้นมีแนวโน้มที่จะสนใจโซเชียลมีเดียน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่แก่กว่า จากการศึกษาพบว่าผู้คนที่มีอายุช่วง 35 ถึง 49 จะใช้เวลา 6 ชั่วโมง 58 นาที ต่อสัปดาห์ในการท่องโลกโซเชียล ขณะเดียวกันกับกลุ่มของคนที่มีอายุ 18 ถึง 34 ปี จะใช้เวลาท่องโลกโซเชียล 6 ชั่วโมง 19 นาที ต่อสัปดาห์ ข้อมูลดังกล่าวนั้นเก็บมาจากผู้ใช้สมาร์ทโฟน 9,000 คน และผู้ใช้แท็ปเล็ตอีกว่า 1,300 คน ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน นอกจากนี้ผลการเก็บข้อมูลก็ทำให้ทราบว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้นจะนิยมใช้งานบนสมาร์ทโฟนมากกว่า โดย Facebook นั้นเป็นโซเชียลมีเดียที่มีผู้คนใช้งานมากที่สุด เป็นจำนวนกว่า 178.2 ล้านคนที่มีบัญชีใช้งานในช่วงเดือนกันยายนเพียงอย่างเดียว รองลงมาก็คือ Instagram 91.5 ล้านบัญชีผู้ใช้ ตามมาด้วย…
-
เมื่อตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ชมพูถูกลืมเอาไว้ ทางสนามบินจัดแคมเปญตามหาเจ้าของให้ซะเลย!!
ภารกิจตามหาเจ้าของให้กับตุ๊กตา ได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ตุ๊กตาหมีเทดดีแบร์ที่น่าสงสารตัวนี้ ถูกเจ้าของลืมไว้ที่สนามบิน Cork ในประเทศไอร์แลนด์ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดในการจัดแคมเปญตามหาเจ้าของให้กับมันซะเลย ซึ่งหลังจากที่ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ Cork Airport ได้โพสต์ภาพของเจ้าตุ๊กตาหมีตัวดังกล่าวลงในเฟสบุ๊ค ไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการแชร์โพสต์ออกไปมากกว่า 903 ครั้งเลยทีเดียว จากการรายงานทางเว็บไซต์ต่างประเทศระบุว่า ในวันที่สองหลังจากที่เจ้าตุ๊กตาหมีถูกทิ้งเอาไว้อย่างโดดเดี่ยว ทางเจ้าหน้าที่สนามบินจึงได้ตัดสินใจสร้างแคมเปญตามหาเจ้าของให้กับมัน โดยการนำภาพไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊คพร้อมทิ้งข้อความเอาไว้ว่า “ตุ๊กตาหมีสีชมพูตัวนี้กำลังจะเดินทางออกไปท่องเที่ยว แต่น่าเสียดายที่มันต้องแยกจากเพื่อนร่วมเดินทาง หากคุณคิดถึงเจ้าหมีตัวนี้ ก็โปรดติดต่อกลับมาหาเรา ตอนนี้มันกำลังทานมื้อเย็น ดื่มชา และพักผ่อนอยู่ในห้องพัก” ช่วยตามหาเจ้าของให้หน่อยน้าาาา ขณะรอคอยเจ้าของกลับบ้าน อยู่ว่างๆ ก็มานั่งเล่นดนตรี ฮร่าๆ “เราพบเจ้าเท็ดดี้อยู่อย่างโดดเดี่ยวบริเวณประตูขึ้นเครื่องบิน และเราก็รู้ว่ามันจะต้องเหงามากแน่ๆ และตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสนามบินไปแล้ว มันมีความสุขในการช่วยเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พร้อมกับรอคอยให้เจ้าของมารับกลับบ้าน” เจ้าหน้าที่จากทางสนามบินกล่าว ตอนนี้มันได้รับชุดทำงาน และกำลังจะกลายเป็นพนักงานในสนามบินแล้ว ดูสิว่ามันน่ารักแค่ไหน หากเจ้าของไม่มารับมันกลับไป เจ้าตุ๊กตาหมีน้อยตัวนี้อาจจะต้องเซ็นสัญญาระยะยาว เพื่อที่จะเข้าทำงานกับทางสนามบินแล้วนะ ฮร่าๆ…
-
สัตวแพทย์แนะ วิธีทำให้เจ้าเหมียวหยุดทำลายเฟอร์นิเจอร์แสนรักของทาสมนุษย์!!
ทาสแมวต่างรู้ดีว่า พวกเจ้านายเนี่ยมักจะมีนิสัยเอาแต่ใจมากๆ แถมยังอีโก้สู๊งสูงห้ามทีไรก็ไม่เคยฟัง เผลอทีไรเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงของเราก็มักจะโดนเจ้านายใช้เป็นที่ฝนเล็บอยู่เรื่อยเลย ด้วยความที่เราสงสัยว่า เอ๊..มันจะมีทางแก้ไหมน้อ เลยได้ไปเจอกับคำแนะนำจากคลีนิครักษาสัตว์ ‘Clays Mill Veterinary Clinic’ จากรัฐเคนตักกี้ ได้ออกมาให้คำแนะนำถึงวิธีจัดการนิสัยชอบทำลายข้าวของ ของเจ้านายเรา 8 ข้อดังนี้ 1. ถ้าสังเกตเห็นเจ้านายของเราเลือกทำลายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหน ให้ห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นด้วยแผ่นผ้า ฟอยล์อลูมิเนียม หรือกาวสองหน้าก็ได้ จะช่วยให้เจ้านายของเราได้เรียนรู้ว่าจุดที่มันชอบไปขีดข่วนบ่อยๆ เป็นจุดที่เราต้องใช้งาน 2. เมื่อห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์แล้ว ให้หาที่ข่วนเล็บแมวไปตั้งไว้ใกล้ๆ กับบริเวณนั้น 3. ต้องมั่นใจว่าที่ข่วนเล็บแมวมีความแข็งแรง และกว้างพอที่จะไม่ทำให้พวกมันหงายเงิบตกลงมา 4. หรือจะใช้เป็นที่ข่วนเล็บแมวแบบแนวนอนก็ได้ผลเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นรูปทรงขอนไม้ ที่พบได้ตามร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงทั่วไป 5. เช็คดูให้ดีว่าเจ้านายเราชอบที่ข่วนเล็บอันใหม่หรือไม่ เพราะโดยปกติแล้วพวกมันจะชอบอะไรก็ตามที่มันสามารถทำลายได้ เพราะพวกมันจะได้รู้สึกภาคภูมิใจในผลงานของตัวเอง 6. ในอุ้งเท้าของมันก็มีต่อมสร้างกลิ่นเหมือนกัน บางทีที่พวกมันขีดข่วนข้าวของก็เพื่อสร้างอาณาเขตให้ตัวเอง ให้ใช้สเปรย์ฟีโรโมนแมว (Feliway) ฉีดไปที่บริเวณเฟอร์นิเจอร์ จะช่วยทำให้พวกมันคิดว่าได้สร้างกลิ่นไว้เป็นเครื่องหมายเรียบร้อยแล้ว 7. เหล่าทาสมนุษย์ควรฝึกตัดเล็บให้เจ้านาย และคอยสังเกตความยาวของเล็บอย่างสม่ำเสมอ 8. ถ้าวิธีทั้งหมดไม่ได้ผล…
-
‘คริปโตไนท์ Nokia 3310’ อายุการใช้งานมากที่สุดในอังกฤษ สิริรวมแล้วทั้งสิ้น 17 ปี
เชื่อหรือไม่ว่าเจ้ามือถือ Nokia 3310 เครื่องนี้มันอึก ถึก และทน มากขนาดที่ว่าใช้งานมา 17 ปี ยังไม่เคยพังเลยแม้แต่ครั้งเดียว เรื่องมีอยู่ว่าคุณลุง Dave Mitchell วัย 49 ปี ได้ซื้อ Nokia 3310 รุ่นคลาสสิค 90s มาเมื่อปี 2000 และไม่เคยเปลี่ยนไปใช้เครื่องอื่นเลย คุณลุงถึงกับเปรียบเปรยว่าเจ้าเครื่องนี้มันทำมาจากแร่ ‘คริปโตไนท์’ เพราะมันไม่เคยพังเลยแม้แต่ครั้งเดียว คุณลุงบอกว่า “สำหรับผมแล้วโทรศัพท์นั้นมีไว้เพื่อรับสายและส่งข้อความเท่านั้น มีอยู่ครั้งนึงผมทำโทรศัพท์ตกลงไปในตะกร้าผ้า จากนั้นก็ไม่มีใครสามารถติดต่อผมได้เลย สร้างความเดือดร้อนให้กับทุกคน” “ล่าสุดผมได้รับโทรศัพท์ใหม่ ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้มาจากลูกชายเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ แต่ว่าผมไม่ได้ต้องการมันเลย สิ่งที่ผมต้องการนั้นเป็นอะไรที่ธรรมดามาก แค่โทรศัพท์ที่สามารถคิดเลขได้ และมีเกมสนุกๆ อย่าง Snake 2 ให้เล่นในเวลาที่เบื่อๆ ก็พอแล้ว” คุณลุง Mitchell กล่าว คุณลุงใช้โทรศัพท์เครื่องนี้มามากกว่า 10 ปีแล้ว และขณะที่ไปประจำการที่อัฟกานิสถาน,…
-
รู้จักกับ Steve แมวเหมียวหัวหน้าแก๊ง มีลูกน้องเป็นฝูงแกะทั้งฟาร์ม ใครเก๋าเจอได้!!
ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับเจ้าเหมียว Steve อดีตแมวบ้านๆ ที่ปัจจุบันกลายเป็นหัวหน้าแก๊ง คุมเหล่าลูกน้องที่เป็นแกะทั้งฝูงไปแล้ว คุณ Amanda Whitlock เจ้าของฟาร์มที่ตั้งอยู่ในเมือง Waitotara ประเทศนิวซีแลนด์ เล่าว่าสัตว์ที่อยู่ในฟาร์มของเธอนั้นไม่ได้มีแค่เจ้า Steve เพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่ยังมีแกะฝูงใหญ่อีกหนึ่งฝูงด้วย ในช่วงตอนกลางคืนของฤดูหนาว เธอมักจะปล่อยให้เหล่าลูกแกะที่ไม่มีขนหนาๆ ปกคลุมเข้ามานอนในบ้านเพื่อหลบภัยหนาว… หลังจากผ่านคืนที่แสนอบอุ่นไปวันแล้ววันเล่า ดอกไม้แห่งมิตรภาพก็ค่อยๆ ผลิบานอย่างช้าๆ จนในที่สุดเจ้า Steve และลูกแกะเหล่านั้นก็กลายเป็นเพื่อนซี้กัน คุณ Amanda และ คุณ Ben Aiken สามี เล่าว่า หลังจากนั้น เจ้าเหมียวที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านอย่างโดดเดี่ยว ก็ไม่ค่อยจะเข้ามาอยู่ในบ้านอีกเลย เอาแต่ขลุกตัวอยู่นอกบ้านร่วมกับเหล่าลูกแกะกลายเป็นหัวหน้าแก๊งไปซะแล้ว เจ้า Steve นั้นมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันกับเพื่อนใหม่ในฟาร์ม พวกมันมักจะออกไปเล่นด้วยกันบ่อยๆ จนกลายเป็นเพื่อนซี้ที่ตัดกันไม่ขาด หลายๆ ครั้งที่คุณ Amanda ต้องตกใจเพราะเจ้า Steve มันหายไปจากบ้าน เธอตามหามันซะทั่วพร้อมกับเรียกชื่อมัน แต่พอมองออกนอกหน้าต่างออกไปก็พบว่า มันกำลังนอนเล่นอยู่กับฝูงแกะ …
-
7 โรงเรียนในฝันจากทั่วโลก ที่พ่อแม่เห็นแล้ว อาจจะอยากส่งลูกเข้าไปเรียนในทันที!!
ลองย้อนกลับไปในสมัยที่เรายังเป็นนักเรียน หลายคนอาจจะไม่อยากไปโรงเรียน เพราะบรรยากาศมันชวนให้น่าเบื่อซะเหลือเกิน แต่สำหรับ 7 โรงเรียนจากแต่ละประเทศทั่วโลกที่เราได้นำมาให้ชมในวันนี้ นอกจากจะเน้นในเรื่องของการเรียนการศึกษาแล้ว พวกเขายังให้ความสำคัญกับสถานที่ภายในโรงเรียนอีกด้วย งานนี้จึงทำให้เด็กนักเรียนทั้งสนุกไปกับการเรียน และได้เห็นสิ่งแปลกตาที่น่าสนใจภายในโรงเรียนมากมาย ว่าแล้วก็ไปรับชมกันดีกว่าว่าโรงเรียนแต่ละแห่งมาจากที่ไหนกันบ้าง 1.โรงเรียนอนุบาล Kaushik ประเทศจอร์เจีย หากเด็กๆ ที่ไม่ชอบการไปโรงเรียน ได้เห็นโรงเรียนอนุบาล Kaushik (Kindergarten Co-Pilots) ในเมือง Rustavi จากประเทศจอร์เจียแห่งนี้ละก็ รับรองว่าจะต้องอยากไปโรงเรียนจนไม่อยากกลับบ้านแน่นอน เพราะในปี 2012 โรงเรียนแห่งนี้ นอกจากมอบความรู้ให้กับเด็กๆ แล้ว ยังช่วยสร้างความสุขให้กับพวกเขา โดยการนำเครื่องบินปลดประจำการ รุ่น Yakovlev Yak-42 ของสายการบิน Georgain Airways มาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นห้องเรียนแสนสนุกอย่างที่เห็น… ภายในห้องเรียนจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์การเรียนการสอน รวมโต๊ะ เก้าอี้ที่ถูกนำมาจัดไว้ในเครื่องบินอย่างสวยงาม และนอกจากจะเป็นห้องเรียนแล้ว สิ่งที่ทำให้เด็กๆ ตื่นตามากที่สุดก็คือ พวกเขาสามารถเรียนรู้ และเล่นทุกอย่างภายในเครื่องบินได้อย่างใจฝัน เพราะมันมีปุ่มบนแผงวงจรที่ใช้ควบคุมเครื่องบินกว่า 1,500 ที่เด็กๆ สามารถทดลองกดเล่นได้ ทำให้เด็กๆ ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ…
-
หิวเลย!! “ยาง ซูบิน” เน็ตไอดอลเกาหลีสายกิน บุกกินไก่ทอดถึงไทย คนแห่ดูนับล้านวิว
ต้องบอกเลยว่าเธอคือเน็ตไอดอลเกาหลีที่กำลังมาแรงสุดๆ ในเวลานี้เลย สำหรับสาวยาง ซูบิน สาวเกาหลีผู้ชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ ทุกครั้งที่เธอกินอะไรก็ตาม เธอจะตั้งกล้องวิดีโอเพื่อถ่ายตัวเองเอามาลงอินเตอร์เน็ต ซึ่ง#เหมียวฟิ้นไม่รู้ว่ามันคือความสามารถพิเศษของเธอหรือเปล่า เพราะไม่ว่าเธอจะกินอะไรก็ตาม ทุกอย่างที่เธอกินจะดูน่ากินเป็นพิเศษ ปัจจุบันสาวซูบินโด่งดังไปทั่วโลกและมีคนกดติดตามเฟซบุ๊กเธอสูงกว่า 1,800,000 คน และล่าสุดเธอได้ประกาศว่าจะบินตรงมายังเมืองไทย เพื่อลิ้มรสความอร่อยของอาหารในไทยดูบ้าง โดยที่แรกที่สาวซูบินจะไปกินก็คือ KFC เมื่อถึงร้านแล้วเธอก็ทำการจัดแจงตั้งกล้องไลฟ์พร้อมกับมีล่ามมานั่งข้างๆ เธอเพื่อแปลคำพูดของเธอให้เราฟัง ซูบินบอกว่าโดยปกติแล้วเธอเป็นคนที่ชอบกินไก่ทอดมาก ใน 1 สัปดาห์จะกินไก่ทอดตอนกลางคืนราวๆ 4-5 ครั้ง และเธอยังบอกอีกว่าปกติคนเกาหลีชอบกินไก่มากชนิดที่ว่า 1 คนแทบจะกินไก่ได้ 1 ตัวเลย เมื่อถามซูบินว่า KFC ของเกาหลีต่างกับของไทยอย่างไร เธอบอกว่าตัวไก่ทอดปกตินั้นไม่ได้ต่างกันมาก แต่สิ่งที่ชอบที่สุดของ KFC ไทยคือ วิงส์แซ่บ เธอบอกว่ารสชาติอร่อยมาก ต่อมาล่ามได้ถามเธอว่าเคยมาเที่ยวเมืองไทยหรือเปล่า? ซูบินบอกว่าเคยมาเมื่อ 3 ปีก่อน ไปเมืองพัทยากับจังหวัดสุรินทร์ เธอชอบไปเที่ยวตามริมทะเลแถมยังว่ายน้ำเก่งมาก หิวไปด้วยกันกับคลิปของเธอเลย …
-
รู้จักเจ้างูน้อย “Snakey” รักการนอนเป็นชีวิตจิตใจ น้องไม่ดุแต่เฟรนด์ลี่มาก!!
“งู” เป็นสัตว์ที่ใครต่อใครก็มองว่าอันตราย และคนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับมันสักเท่าไหร่ นั่นอาจจะเป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของมันที่ดูไม่มุ้งมิ้งเหมือนกับหมาแมว แถมบางชนิดก็มีพิษร้ายแรง หากโดนมันฉกเข้าเมื่อไหร่อาจะถึงตายได้ แต่ถ้าหากคุณได้รับชมภาพของ Snakey ลูกงูหลามที่เราจะมาแนะนำให้รู้จักในวันนี้ละก็ บางทีมันอาจจะทำให้คุณเริ่มหันมาชื่นชอบงูขึ้นมาก็เป็นได้ เพราะเจ้า Snakey ตัวนี้มันทั้งน่ารัก และเป็นมิตรมากๆ เลยละ และนี่คือโฉมหน้าของ Snakey เจ้างูน้อยหน้าตามุ้งมิ้งนั่นเอง สำหรับ Snakey มันเป็นงูเพศผู้ อายุ 4 ปีที่ชื่นชอบการผจญภัยเอามากๆ อีกทั้งเวลาว่างๆ ก็ชอบงีบหลับเป็นที่สุด หรือบางทีก็ชอบเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจในที่มืด บางครั้งก็พยายามจะหลบหนี ฮร่าๆ นอกจากจะชื่นชอบการนอนแล้วมันยังรักการกินอีกด้วย มันเป็นงูที่น่ารักมากๆ หากใครลองเข้าไปส่องในเฟสบุ๊คของมันจะเห็นว่าเจ้า Snakey มักจะมาพร้อมกับแฟชั่นหมวกสุดกิ๊บเก๋อยู่เสมอ งานนี้ต้องขอยกให้มันเป็นกูรูด้านแฟชั่นหมวกตัวจริงซะแล้ว หน้าตาจิ้มลิ้มไหมละ วันนี้มาพร้อมกับหมวกรูปไก่ ปาร์ตี้ด้วยกันไหมละ เราชื่นชอบวันคริสมาสต์ที่สุดเลย มากับหมวกซานตี้ใบจิ๋ว แบบนี้ก็ดูเท่ไม่เบา อยากเป็นพ่อมดจัง…
-
รับพรกันถ้วนหน้า… กลุ่มไอดอลสาวญี่ปุ่นพ่นน้ำใส่คนดู ส่วนพ่อยกก็ชอบอกชอบใจกันใหญ่!!
เวลาเราได้ไปชมคอนเสิร์ตของวงดนตรีสุดโปรดของเรา สังเกตไหมว่าไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไรบนเวที มันก็ช่างดูเท่ ดูน่ากรี๊ดกร๊าดซะเสมอ ทำไงได้ก็คนมันชอบนี่นา แต่คราวนี้เราจะพาไปชมวิธีการเอ็นเตอร์เทนคนดู ของเกิร์ลกรุ๊ปสาวน้อยหน้าใส ‘Shizukaze & Kizuna’ ด้วยวิธีการที่แบบว่า เอิ่ม…ถ้าไม่รักจริง ชอบจริงนี่ คงมีร้องอี๋กันบ้างอ่ะ โฉมหน้าสาวๆ เกิร์ลกรุ๊ปที่มีเหล่าชายฉกรรจ์เป็นแฟนคลับอยู่เพียบ!! เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ในระหว่างที่เกิร์ลกรุ๊ปวงนี้ไปเปิดการแสดงที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ในระหว่างโชว์จู่ๆ พวกเธอก็เอาน้ำเปล่าขึ้นมาดื่ม พร้อมกับพ่นใส่เหล่าแฟนคลับที่เป็นผู้ชาย แต่นั่นก็ไม่ทำให้แฟนเพลงรู้สึกรังเกียจแต่อย่างใด เพราะแฟนเพลงที่อยู่ข้างล่างต่างก็พากันตะโกนเรียกร้องให้พวกเธอพ่นน้ำออกมาอีก เออเอากับเค้าสิ ถ้านักร้องกล้าทำคนดูก็กล้าบ้าตามเหมือนกันเอ้าาา ปรู๊ดดดดด รับน้ำมนต์กันไปถ้วนหน้าเลยจ้า และหลังจากที่เธอพ่นน้ำเสร็จแล้ว ดูเหมือนจะมีผู้จัดการวงคอยกำกับอยู่ด้านหลังนะว่าพวกเธอต้องทำอะไรต่อไป… เขาสั่งให้เธอกระโดดบอดี้เซิร์ฟใส่คนดู แน่นอนว่าเพื่อแฟนเพลงสุดที่รักแล้ว ศิลปินยอมทุ่มเททุกอย่างให้เลยจ้า (แหม…หนุ่มๆ ข้างล่างคงชอบใจกันใหญ่เลยสิท่า) วิดีโอจากเหตุการณ์ ถ้าเราเป็นคนดูอยู่หน้าเวทีจะทำยังไงดีน๊าา… จะว่าไปในวงการป็อปไอดอลของญี่ปุ่น แต่ละวงก็มักจะมีวิธีมัดใจคนดูอยู่เสมอ อย่างเช่นกรณีของ ‘AKB48’ ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลกนั้น ครั้งหนึ่งพวกเธอมักจะจัดอีเวนต์ขนาดย่อมให้แฟนเพลงสามารถเข้าไปจับมือเชคแฮนด์ หรือพูดคุยทักทายได้ แต่ทว่าในปี 2014 พวกเธอต้องกลับมาคิดแผนการเอาใจแฟนเพลงกันใหม่อีกครั้ง หลังจากที่มีสมาชิกในวง และทีมงาน ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่มีแฟนเพลงเอาเลื่อยตัดไม้ขนาดใหญ่…
-
เครื่องเล่นมหาหวาดเสียว Tagada ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับแรง G โดยไร้อุปกรณ์เซฟตี้ใดๆ!!
สำหรับคนที่ชื่นชอบความหวาดเสียวแล้วล่ะก็ จะต้องชื่นชอบเจ้าเครื่องเล่นที่ #เหมียวหง่าว จะพาไปชมในวันนี้อย่างแน่นอน!! มันมีชื่อว่า Tagada เป็นเครื่องที่มีลักษณะเหมือนจานขนาดยักษ์ ที่จะให้ผู้เล่นเข้าไปนั่งเป็นวงกลม พร้อมทั้งไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้ในๆ เลยนอกจากราวเกาะที่เป็นพนักพิงหลังแค่นั้นเอง โดยเจ้า Tagada นี้จะหมุน และเขย่าไปเรื่อยๆ ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับแรง G ที่เกิดขึ้นจากแรงเหวี่ยง หากใครเกาะราวเหล็กไว้ไม่ดีล่ะก็ อาจะกระเด้งกระดอนไปมาอยู่ในวงกลมนั้นจนอาจได้รับบาดเจ็บได้เลยล่ะ ในบางประเทศอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา หรือประเทศออสเตรเลีย เจ้าเครื่องเล่น Tagada นี้ถูกตัดสินให้เป็นเครื่องเล่นที่มีความอันตราย และผิดกฎหมาย แต่ก่อนหน้านี้มันก็ฮิตในหลายๆ ประเทศแถบยุโรปด้วยเช่นกัน เช่น อังกฤษ หรือ สวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะมีข่าวว่ามีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บหนักจากเครื่องเล่นนี้ จึงทำให้ถูกแบนไปในที่สุด แต่กลับกันปราะเทศทางแถบเอเชียก็ยังมีการเปิดให้เล่นเจ้า Tagada นี้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสวนสนุกในเกาหลีใต้ และประเทศเมียนมาร์ ลองไปชมคลิปตัวอย่างการเล่นของเจ้า Tagada กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า แต่ถึงจะดูน่าสนุกแค่ไหน แต่ก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวไม่แพ้กันเลยนะเนี่ย …
-
Catzonia โรงแรมแมวสุดหรูในมาเลเซีย มีบริการรับส่งถึงสนามบิน นวดสปา หาคู่ให้พร้อม!!
โดยปกติแล้วหากทาสๆ ทั้งหลายมีธุระจะต้องออกเดินทางไปไหนไกลๆ ส่วนใหญ่แล้วเราก็มักจะพาเจ้าเหมียวของเราไปฝากไว้ที่คลีนิค หรือบ้านรับเลี้ยงแมว หรือไม่ก็ฝากเพื่อบ้านดูแลใช่มั้ยล่ะ? แต่สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว มีทางเลือกใหม่มาให้เพื่อนๆ….ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับโรงแรมสำหรับแมวเหมียวแห่งใหม่ ชื่อว่า Catzonia ตั้งอยู่ที่ Damansara เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียนี้เอง โรงแรม Catzonia นี้ประกอบไปด้วยห้องพักสุดหรูทั้งหมด 35 ห้อง มีบริการรับ-ส่ง ถึงสนามบิน, ทรีทเม้นต์ในสปา, และห้องพักสาธารณะ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบริการที่มีไว้บริการเฉพาะ ‘เหล่าแมวเหมียว’ เท่านั้น!! สำหรับเหล่าทาสที่มีธุระ อันเป็นเหตุทำให้ไม่อยู่บ้านเป็นเวลาหลายวัน แล้วอยากให้เจ้าเหมียวของท่านได้รับการดูแล และการพักผ่อนหย่อนใจที่ดีเยี่ยม ก็สามารถพามาไว้ที่โรงแรมแห่งนี้ได้เลย ที่โรงแรมเจ้าเหมียวจะได้รับอาหารคุณภาพเยี่ยมวันละ 3 มื้อ, การลูบไล้ลำตัวสร้างความฟิน, การเสริมสวย (ไม่ต้องห่วงว่าพนักงานจะตัดเป็นทรงสิงโตให้นะจ๊ะ), และบริการหาคู่หากแมวเหมียวตัวไหนมีอาการฮีต . แขกแมวเหมียวทั้งหมดจะถูกสอดส่องโดยกล้องวงจรปิด ซึ่งสามารถส่งตรงไปยังสมาร์ตโฟนของทาส ทำให้สามารถสอดส่องดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของเจ้าเหมียวได้ด้วยนะเออ ทั้งนี้ที่โรงแรมยังมีรูปแบบห้องให้เลืแกมากมาย สำหรับคนไหนที่งบน้อยก็จะมีห้องแบบ Economy…
-
ครอบครัวทุ่มเงินนับหมื่น เพื่อผ่าตัดช่วยเหลือ ‘เจ้าบ็อบ’ ปลาทองพี่ใหญ่สุดของบ้าน!!
สัตว์เลี้ยงของใคร ใครก็ต้องหวงกันทั้งนั้น เพราะตลอดเวลาที่เราได้อยู่ดูแลมันมา ก็มักจะมีเรื่องราวความทรงจำดีๆ เกิดขึ้นเสมอ ไม่ใช่แค่เราดูแลสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่บางทีพวกมันก็เป็นเหมือนสิ่งสำคัญที่ช่วยดูแลจิตใจเราด้วยเหมือนกัน 9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาสำนักข่าว DailyMail ได้รายงานเรื่องของครอบครัวหนึ่ง ผู้ยอมทุ่มเงิน £300 (13,000 บาท) เพื่อเป็นค่าผ่าตัดก้อนเนื้อร้ายที่อาจจะพรากชีวิต ‘บ็อบ’ ปลาทองวัย 20 ปี ไปได้ ปลาทองบ็อบ พี่ใหญ่ประจำครอบครัวที่มีอายุมากกว่าลูกของเจ้าของมันซะอีก!! ซึ่งเจ้าของผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยนาม ได้สังเกตเห็นว่าปลาทองสุดที่รักของเขามันไม่สามารถว่ายน้ำได้เหมือนปกติ เมื่อพาไปหาหมอจึงพบว่า เจ้าปลาทองต้องเผชิญกับก้อนเนื้อร้ายที่งอกขึ้นมาร่างกายของมัน ทว่าด้วยความที่มันมีขนาดตัวเล็กเพียงแค่ 3 นิ้ว การผ่าตัดรักษาจึงมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติ เพราะต้องใช้สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จริงๆ และงานนี้ก็ตกเป็นของ Dr. Bethnall สัตวแพทย์สาวผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดสัตว์เล็ก โดยคุณหมอได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘เราจำเป็นต้องทำให้มันสลบก่อน จึงจะสามารถใช้เครื่องมือขนาดจิ๋วผ่าตัดเอาก้อนเนื้อร้ายออกมาได้ ฉันเข้าใจดีว่าปลาทองบ็อบมีความหมายต่อครอบครัวมากขนาดไหน และมันก็เป็นหน้าที่ของฉันค่ะ ที่ต้องทำให้พวกเขากลับไปอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขได้อีกครั้ง’ การผ่าตัดดังกล่าวใช้เวลาไปเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งคุณหมอก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างจะยากลำบากพอสมควร เนื่องจากอวัยวะของปลาทองมีขนาดที่เล็กมาก และเธอต้องคอยระวังไม่ให้มันเสียเลือดมากเกินไปอีกด้วย และทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี…
-
หนุ่มแคนาดาหายตัวไปอย่างลึกลับนาน 5 ปี เจอตัวอีกที เดินเท้าไปโผล่ที่บราซิลเฉยเลย!?
หลายคนคงเคยเห็นประกาศตามหาคนหายบนหน้าเฟซบุ๊กของเราอยู่บ่อยๆ และบ่อยครั้งที่พลังการแชร์ของชาวโซเชียล ก็ได้ช่วยกันตามหาคนหายได้อย่างสำเร็จ แต่สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้มันโคตรจะพีคสุดๆ เมื่อหนุ่มแคนาดานามว่า ‘Anton Pilipa’ หายตัวไปจากบ้านที่เมืองโทรอนโตอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2012 ครอบครัวพยายามตามหาทุกวิธีทางจนแทบจะหมดความหวัง จนต่อมาได้พบว่าเขาไปปรากฏตัวอยู่อีกประเทศหนึ่ง ซึ่งมันไกลจากเมืองที่เขาอยู่มากถึง 10,460 กิโลเมตร โอ้วพระเจ้าทำไมนายไปโผล่ที่นั่นได้ละเพื่อน!! Anton คนซ้ายมือหลังจากที่ได้กลับมายังเมืองโทรอนโต อีกครั้ง หลังจากการหายตัวไปของเขาเมื่อปี 2012 ทางครอบครัวได้ทำทุกวิถีทางเพื่อออกตามหา ไม่ว่าจะเป็นการปิดใบประกาศ หรือร้องขอความช่วยเหลือจากชาวเมืองโทรอนโตให้ช่วยกันสอดส่องดูแล แต่ทว่าเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ครอบครัวก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจบราซิลว่า ได้พบตัวนาย Anton แล้ว ซึ่งเขาอาศัยอยู่ที่เมืองมาเนาส์ ประเทศบราซิล ใบประกาศคนหายของเจ้าตัว ทางด้านน้องชายของเขา Stefan เชื่อว่าพี่ชายของเขามีอาการป่วยทางจิตมาเป็นเวลานาน และได้เดินทางไปยังบราซิลด้วยการเดินเท้าเปล่าเพียงลำพัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ Helenice Vidigal ผู้พบตัวหนุ่ม Anton ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘วันนั้นฉันก็ออกตรวจตามปกติค่ะ และพบกับชายหนุ่มคนนี้ดูท่าทางอิดโรย ไม่สวมรองเท้า และฉันก็มั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนย่านนี้ หลังจากที่ฉันได้เข้าไปสอบถาม ก็ต้องพบว่าเขาคือชายแคนาดาผู้หายตัวไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย เมื่อปี 2012 นั่นเอง’ น้องชายของเขา…
-
ช่างภาพคิดโปรเจค #Draginformation เปลี่ยนชายหน้าโหด สู่โหมดแบ๊วเกินจะบรรยาย!!
และนี่คือภาพถ่ายที่จะทำให้ทุกคนต่างหลงใหล เมื่อช่างภาพชาวออสเตรเลียได้คิดค้นโปรเจคสุดแหวกแนว จับชายฉกรรจ์มาแต่งหน้าทำผมให้กลายเป็นสาวประเภทสองสุดเริ่ด Dan Newell ชื่อในวงการ Dandrogyny โปรเจคนี้มีชื่อว่า #Draginformation โดย Aaron Walker ช่างภาพมีจุดประสงค์ที่ต้องการให้ทุกคนรู้ว่าแท้จริงแล้วในสังคมนั้นยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่เรายังไม่รู้อีกมากมาย เพราะจริงๆ แล้วเหล่าผู้ชายหน้าโหดทั้งหลายนั้น บางทีเขาอาจจะมีเบื้องหลังอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ก็ได้ อย่างเช่นการแต่งหญิงเพื่อทำมาหากิน เป็นต้น “ยังมีความซับซ้อนอยู่อีกมากมาย ที่ผู้คนยังคงนึกไม่ถึง” Aaron กล่าว Lachlan Loki Rickus นาย Aaron นั้นถือเป็นช่างภาพอีกคนหนึ่งที่มีความสามารถในวงการ เขาเริ่มต้นอาชีพการเป็นตากล้องตั้งแต่อายุ 15 ปี และจากการฝึกฝนอย่างเป็นประจำ ทำให้เขากลายเป็นตากล้องผู้เชี่ยวชาญทั้งทางด้านการจับภาพเคลื่อนไหวทางกายภาพ ปัจจุบันเขาทำงานเป็นช่างถ่ายภาพให้กับแวดวงของการแสดง ละครเวที ละครตลก งานอีเว้นท์ใหญ่ และตามงานเทศกาลต่างๆ ด้วยความเทพของเขา ทำให้เคยได้รับรางวัลช่างภาพดีเด่นมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Australian Professional Photography Awards (APPA) ในปีล่าสุด หรือรางวัล Australia’s Top Emerging Photographers, Capture Magazine เมื่อปี 2015 และรางวัลอื่นๆ…
-
ชม 12 ภาพถ่ายแห่งประวัติศาสตร์ของคนอินเดียสมัยโบราณ ในช่วงศตวรรษที่ 19
ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคนมาชมภาพถ่ายของชาวอินเดียโบราณ ที่ไม่ได้หาชมง่ายในปัจจุบัน โดยภาพถ่ายทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของ มหาราช ซาราม ซิงห์ ผู้ปกครองเมืองชัยปุระ หรือ นครสีชมพู ในช่วงปี 1835-1880 ซึ่งในปัจจุบันเมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความโดดเด่นที่สุดในโลกไปแล้ว ย้อนกลับไปในสมัยที่ มหาราช ซาราม ซิงห์ อยู่ในช่วงที่กำลังปกครองเมืองชัยปุระ เขามักจะชื่นชอบการเดินเที่ยวเตร่อยู่ตามท้องถนนโดยที่ไม่เผยตัวตน เพื่อที่จะได้สังเกตการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ อีกทั้งเขายังชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ พร้อมทั้งทุ่มเทเวลาที่มีสร้างผลงานภาพถ่ายของตนเองขึ้นมา และแน่นอนว่าผลงานภาพถ่ายของเขา ก็ทำให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้มีโอกาสเห็นภาพของชาวอินเดียในสมัยนั้นอีกด้วย นี่คือภาพถ่ายของหญิงนางโลมแห่งเมืองชัยปุระ ปี 1857 ภาพถ่ายของหญิงนางโลมแห่งเมืองชัยปุระ ระหว่างปี 1857 – 1865 ชายในพระราชวังหลวงแห่งเมืองชัยปุระ ปี 1857-1865 มหาราช ซาราม ซิงห์ ที่ 2 แห่งเมืองชัยปุระ ในปี 1857 – 1865 ภาพถ่ายหญิงแห่งเมืองชัยปุระ ปี 1857 – 1865…
-
เจ้า Acorn กระรอกบินที่รอดตายจากพายุเฮอร์ริเคน พลิกโฉมจนมีชีวิตที่ดีขึ้นในภายหลัง…
ในช่วงเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หลายคนคงจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับพายุเฮอร์ริเคนแมทธิว ซึ่งเป็นเฮอร์ริเคนที่รุนแรงที่สุด ได้พัดถล่มรัฐหลายรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา จนทำให้ผู้คนได้รับความเดือดร้อนกันมากมาย และนอกจากมนุษย์แล้ว มันยังเกือบทำให้เจ้าสัตว์โลกตัวน้อยๆ อย่าง “กระรอกบิน” เกือบจะเอาชีวิตไม่รอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้อีกด้วย แต่โชคดีของมันเหลือเกินที่มนุษย์ได้ไปพบเข้า และช่วยชีวิตมันเอาไว้… ย้อนกลับไปในช่วงที่เกิดพายุเฮอริเคน หลายครอบครัวในสหรัฐอเมริกา รวมถึงครอบครัวของ Katlyn Dence ที่อาศัยอยู่ในซาวานนาห์ รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางรัฐบาลได้มีคำสั่งให้ย้ายผู้คนออกไปจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ แต่ทางครอบครัว Katlyn กลับถูกสั่งให้อยู่ที่เดิมเพราะสามีของเธอเป็นทหาร และต้องทำหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้คน ดังนั้น เธอและครอบครัวจึงต้องอาศัยอยู่ที่เดิม เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากที่พายุสงบ เธอได้ปล่อยให้สุนัขของเธอออกไปที่สนามหน้า หลังจากที่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง โดยเจ้าหมาได้เริ่มเข้าไปดมกลิ่น จนได้พบกับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ที่กำลังจะใกล้ตาย “ฉันมองเห็นอะไรบางอย่างอยู่ในหญ้า ดังนั้น ฉันจึงให้สุนัข และสามีของฉันออกไปสำรวจดูว่ามันคืออะไร ซึ่งสิ่งที่สามีของฉันก็ได้พบกับกระรอกบินตัวเล็กๆ ที่คาดว่ามันคงมีอายุประมาณ 4 สัปดาห์… เจ้ากระรอกยังเด็กมาก มันไม่ควรออกมาจากที่อยู่ของมันเลย ตัวของมันเปียก และเย็น ดังนั้นเราจึงต้องนำมันกลับเข้าบ้าน และให้ความอบอุ่นกับมัน” Katlyn กล่าว …
-
งานวิจัยชี้ ในช่วงวัยเด็กของลูกคนแรก จะมีสติปัญญาและความฉลาด สูงกว่าน้องๆ ทุกคน!?
หมดปัญหาความน่าสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้สักที เมื่อล่าสุดกลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Edinburgh ได้ทำการพิสูจน์แล้วว่า ลูกคนแรกในครอบครัวจะมีระดับ IQ ที่สูงกว่าบรรดาน้องคนอื่นๆ ในช่วงวัยเด็ก โดยทีมวิจัยได้อธิบายเพิ่มว่า จากการทดสอบพบว่าลูกคนแรกจะได้รับการกระตุ้นทางจิตใจ ซึ่งส่งผลให้ในช่วงขวบปีแรกของเด็ก จะมีพัฒนาการด้านความคิดได้ดีกว่า การวิจัยครั้งนี้ได้ทำการสำรวจเด็กช่วงวัยแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 14 ปี จำนวน 5,000 คน โดยทุกๆ 2 ปี จะมีการประเมินทักษะด้านการอ่าน โดยทีมวิจัยได้นำข้อมูลที่พวกเขาได้รับจากการสำรวจ มาเชื่อมโยงกับข้อมูลเชิงเศรษฐศาสตร์ และสถิติ ของครอบครัวนั้นๆ เพื่อเชื่อมโยงพฤติกรรมต่างๆ ของพ่อแม่ สาเหตุส่วนหนึ่งก็เพราะว่า หลังจากที่ลูกคนแรกเกิดมา พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะยอมทุ่มเทเวลาเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับลูกคนแรก ในขณะที่กิจกรรมที่คล้ายกันนี้จะลดน้อยลงหลังจากที่ได้ให้กำเนิดลูกคนที่สอง หรือที่สามตามมา จากการสำรวจยังพบว่าช่วงเวลาที่พ่อแม่จะเห่อลูกคนแรกนั้น จะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 2 – 3 ปีแรกเท่านั้นเอง Dr Ana Nuevo-Chiquero หนึ่งในทีมวิจัยกล่าวว่า ‘จากการวิจัยดังกล่าว เราพบว่าสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกคนแรกมีระดับ IQ สูงกว่าในช่วงวัยเด็ก นั้นก็มาจากพฤติกรรมของตัวพ่อแม่เอง และดูเหมือนความสนใจที่จะกระตุ้นจิตใจ หรือทักษะต่างๆ…
-
หนุ่มจีนฉีดยาฆ่าแมลงใส่หูตัวเอง หลังพบว่ามีแมลงสาบตัวเบ้งติดอยู่ข้างในนั้น…
คงไม่มีบ้านไหนอยากจะต้อนรับคุณปีเตอร์ หรือชื่อทางการว่า ‘แมลงสาบ’ หรอกจริงไหม เพราะพวกมันทั้งสกปรก เป็นพาหะนำโรค แถมยังมีหน้าตาที่แบบว่าอิ่ม…อย่าได้มายุ่งเกี่ยวกันเลยนะเธอจ๋า แล้วจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้าคุณปีเตอร์ผู้ไม่ได้รับเชิญดันเข้ามาอยู่ในรูหูเราซะงั้น!? แค่คิดก็สยองแล้ว แถมมันยังกลายเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับหนุ่มจีน ‘Liu Qian’ วัย 60 จากเมืองเฉิงตู ช่างอับโชคเหลือเกิน โดยเว็บไซต์ OddityCentral ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ หนุ่มจีนคนนี้พบว่าแมลงสาบได้ไต่เข้าไปในโพรงหูของเขา จึงพยายามใช้นิ้วแคะก็ไม่สำเร็จ ใช้ไม้แคะหูก็ไม่สำเร็จ จากนั้นเจ้าตัวจึงเอามือตบที่หูของเขา เพราะคิดว่าน่าจะสร้างความหวาดกลัวให้แมลงสาบได้ แต่กลายเป็นว่ามันเข้าไปอยู่ลึกกว่าเดิม ด้วยความรำคาญใจ เขาเลยเอาสเปรย์ฆ่าแมลง มาฉีดเข้าใส่รูหูตัวเองซะเลย!! แน่นอนว่าเจ้าปีเตอร์ตายทันทีหลังจากที่ได้รับสารเคมีเข้าไป แต่ปัญหาของเขายังไม่จบ เพราะแมลงสาบตายในหูไม่ยอมออกมาตายข้างนอก หลังจากนั้นหนุ่มจีนเลยจำเป็นต้องเข้าพบคุณหมอ (แล้วทำไมไม่ไปตั้งแต่แรก) โดยคุณหมอกล่าวว่า การที่พ่นสเปรย์ฆ่าแมลงอาจจะทำให้พวกมันตายได้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้มันออกมาได้ เพราะสารเคมีจากสเปรย์ทำให้รูหูบวมมากขึ้น และนั่นก็ทำให้แมลงติดอยู่ข้างในไปด้วยเช่นกัน ภาพจากรูหูของเจ้าตัว บรึ๋ยยยย! ‘ปกติแล้วพฤติกรรมของแมลงสาบ พวกมันมักจะเข้าหาพื้นที่ๆ มีความอบอุ่นมากกว่า จึงไม่น่าแปลกใจที่ช่วงฤดูหนาวพวกมันมักจะเข้ามาหลบซ่อนในบริเวณบ้าน และขี้หูของคนเราก็ถือว่าเป็นอาหารจานโปรดของพวกมันได้เลยล่ะ’ คุณหมอ Wang…
-
คราวก่อนแบตฯ ซัมซุงระเบิด คราวนี้โรงงานผลิตแบตฯ ในจีน ระเบิดตามกันไปแล้วจ้า!!
ก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่เล่นเอาผู้บริหาร ‘Samsung’ ต้องเครียดไปตามๆ กัน เพราะหลังจากที่เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ‘Samsung Note 7’ ทุกอย่างดูเหมือนจะไปด้วยดี จนกระทั่งมีผู้ใช้งานพบว่าแบตฯ ระเบิด และไม่ใช่แค่คนเดียวที่เจอ เพราะมีกรณีระเบิดจากมือถือรุ่นนี้มาให้เห็นเรื่อยๆ ถึงขนาดที่บางสายการบินต้องสั่งห้ามพกมือถือรุ่นนี้ขึ้นเครื่องบิน!! และล่าสุดจากเว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า โรงงานที่ผลิตแบตเตอรี่ให้ซัมซุงโน๊ต 7 ที่ตั้งอยู่ในเมืองเทียนจิน ก็ได้ระเบิดตามกันไปแล้ว… เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยโฆษกของบริษัทซัมซุง Shin Yong-doo ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในโรงงานเทียนจินนั้นเกิดขึ้นจริง ต้องใช้รถดับเพลิงมากถึง 19 คัน และนักดับเพลิงอีกกว่า 119 ชีวิต กว่าจะควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ได้ ส่วนสาเหตุนั้นก็มาจากตัวแบตเตอรี่ของรุ่นโน๊ต 7 อีกนั่นแหละ ทว่าโชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่รุนแรงมากนัก ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งโรงงานแห่งนี้เป็นหนึ่งในสองโรงงานที่เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ให้กับบริษัทซัมซุง และถึงแม้ว่ารุ่นโน๊ต 7 จะไม่ปังเท่าที่หวัง จากการที่แบตฯ ระเบิดบ่อยๆ แต่ตอนนี้ทางบริษัทก็ได้กำลังอยู่ในขั้นตอนการคิดค้น ทดลอง และวิจัย…
-
เรื่องราวด้านมืดของ ‘เจ้าหญิงทั้ง 4’ อ้างอิงจากตำนานดั้งเดิม ที่ไม่สดใสเท่าโลกดีสนีย์!?
สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวด้านมืดของเหล่าเจ้าหญิงดิสนีย์ ที่อิงมาจากเรื่องเล่าเดิมของผู้แต่ง ซึ่งเอาจริงๆ มันก็ฮาร์ดคอร์อยู่พอสมควรเลยนะ แต่ภายหลังทางดิสนีย์ได้หยิบมาทำเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กๆ ก็เลยต้องปรับเนื้อเรื่องให้มันดูสว่างขึ้นมาซักหน่อย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรบ้างลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. Snow White โดยปกติแล้วในตอนจบแบบแฮปปี้เอนด์ดิ้งของเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด จุดจบของแม่เลี้ยงใจร้ายนั้นจะเป็นแค่การพลัดตกลงไปในหน้าผา แต่สำหรับเรื่องราวในต้นฉบับนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากที่พระราชาช่วยสโนว์ไวท์ให้รอดพ้นจากยาพิษในแอปเปิ้ลแล้ว ทั้งคู่ก็แต่งงานกันในไม่กี่วันหลังจากนั้น แม่เลี้ยงใจร้ายเองก็ถูกเชิญมางานแต่งงานนี้ด้วย… ซึ่งทางแม่เลี้ยงใจร้ายก็ตอบรับคำเชิญ แต่เธอกลับถูกทหารของเจ้าชายจับและบังคับให้สวมรองเท้าเหล็กที่ถูกเผาไฟจนร้อน ทำให้แม่เลี้ยงใจร้ายกระโดดโลดเต้นด้วยความร้อนจนเสียชีวิต 2. Cinderella หลังจากที่ซินเดอเรลล่ารีบวิ่งออกมาจากงานเต้นรำก่อนเที่ยงคืนทำให้รองเท้าแก้วที่เธอสวมใส่หลุดจากเท้า แต่เพราะด้วยความที่กลัวว่าเวทมนตร์จะเสื่อมทำให้เธอไม่ได้กลับมาหยิบรองเท้าที่ทำหล่นไว้ และนั่นทำให้เจ้าชายออกตามหาหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของรองเท้าแก้วข้างนี้ เมื่อเจ้าชายไปตามหาเจ้าของรองเท้าที่บ้านของซินเดอเรลล่า แม่เลี้ยงก็ให้พี่เลี้ยงใจร้ายทั้งสองลองรองเท้าปรากฏว่าใหญ่เกินไป แม่เลี้ยงเลยจัดการเอามีดตัดสิ้นเท้าส่วนเกินทิ้ง แล้วบังคับให้ลูกใส่รองเท้าลงไปให้ได้ จนเจ้าชายเกือบจะหลงเชื่อ แต่ดันมีเจ้านกแถวนั้นผู้รู้เห็นเหตุการณ์มาบอกเจ้าชายซะก่อน และเมื่อเจ้าชายทราบเรื่องในภายหลังก็เลยแต่งงานกับซินเดอเรลลา ต่อมานกพิราบสองตัวจิกนัยน์ตาพี่เลี้ยงทั้งสองของนาง ทำให้กลายเป็นขอทานตาบอดไปตลอดชีวิต….แต่ในการ์ตูนได้ตัดเรื่องราวอันแสนโหดร้ายนี้ออกไป แหม่ มันช่างน่ากลัวซะจริงๆ 3. The…
-
รวม 14 สุสานร้างรวมของแปลกจากทั่วโลก มีตั้งแต่ตู้โทรศัพท์ รถถัง ยันหัวรถจักรไอน้ำ!!
โดยปกติแล้วสิ่งของที่ต่างๆ ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้แล้ว ก็ต้องถูกนำไปทำลายทิ้ง หรือไม่ก็ถูกนำไปทิ้งรวมๆ กันจนกระทั่งมีจำนวนที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นสุสานในที่สุด และนี่ก็คือสุสานทิ้งของเก่าแปลกๆ จากรอบโลก ที่ต้องขอบอกเลยว่ามันช่างน่ากลัว และมีแต่สิ่งของแปลกๆ อยู่รวมกันเต็มไปหมด แทบจะไม่คิดเลยว่าจะมีของแปลกๆ แบบนี้ในจำนวนมหาศาลในสถานที่เดียวกัน!! 1. สุสานตู้โทรศัพท์เก่าในประเทศอังกฤษ ใครขับผ่านไปมาจะต้องเห็นแต่ตู้สีแดงซีดเรียงยาวสุดลูกหูลูกตา 2. สุสานรถถังของประเทศยูเครน ที่เผยให้เห็นถึงความมั่นคงทางการทหาร 3. ซากรถสองคันที่ถูกตั้งทิ้งไว้ในโรงรถข้างๆ กับโรงเรียนสอนขับเครื่องบิน 4. สุสานหัวรถจักรพลังไอน้ำที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นที่ฟาร์ม 5. สุสานรถลากที่ถูกโยนทิ้งไว้อย่างระเกะระกะ ใกล้กับอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งใน Kafrul เมืองหลวงของบังกลาเทศ 6. โรงจอดรถเก่าๆ ที่ตอนนี้กลายเป็นบ้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ไม่รู้ว่าเป็นสถานที่ไหนแต่ดูจากทรงรถแล้วเป็นไปได้ว่าจะอยู่ในประเทศอเมริกา 7. สุสานเรือรบของกองทัพเรือ Kremlin ที่ถูกปลดเกษียณ ถูกทิ้งเอาไว้ให้ลอยอยู่เฉยๆ บนชายฝั่งของประเทศรัสเซีย 8. สุสานรถของเหล่าทหารอเมริกันที่ถูกทิ้งไว้หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง 9. สุสานรูปปั้นของอดีตประธานธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ถูกทิ้งไว้ให้อยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บ 10. สุสานรถคลาสสิคที่ถูกทิ้งไว้โดยกองกำลังทหารของสหรัฐในช่วงสงครามโลก…
-
ทำความรู้จักกับหมาพันธุ์ American Bully เพื่อนคู่ใจตัวใหม่ ในเรื่อง John Wick 2
เนื่องจากว่าหนังเรื่อง John Wick 2 ‘แค้นฝังหมา’ กำลังจะเข้าฉายแล้วในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะได้เห็นภาพหลุดขณะการถ่ายทำ และตัวอย่างหนังกันมาบ้างแล้ว และเรื่องราวของในภาคต่อนี้ก็มีหมาเป็นหนึ่งในตัวดำเนินเรื่องด้วยเช่นกัน แต่ก็ต้องมาลุ้นกันต่อไปแล้วล่ะว่า มันจะมีจุดจบเหมือนน้องหมาในภาคแรกรึเปล่า?? แต่เดี๋ยวก่อน!! เพราะจากภาพหลุดหรือในตัวอย่างหนังจะเห็นได้ว่าเจ้าหมาที่ John (ตัวเอกรับบทโดย คีอานู รีฟ) จูงเดินไปไหนมาไหนด้วยนั้น มันดูน่าเกรงขาม และน่ากลัวกว่าภาคแรกเย้อออออะ!! เทียบกันระหว่างภาคแรกกับภาคสอง และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับเจ้าหมาตัวใหม่ของ John Wick กันว่ามันคือสายพันธุ์อะไรกันแน่ จะดุโหด เหมือนกับรูปร่างหน้าตามั้ย ลองไปติดตามชมกันได้เลยจ้า… เจ้าหมาคู่ใจตัวใหม่ของ John นั้นคือสายพันธุ์ American Bully เป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นมาจาก American Pitbull ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความดุร้าย และความโหดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เจ้า American Bully นั้นจะมีความเป็นมิตร และอ่อนโยนมากกว่า จนปัจจุบันมีผู้คนหันมานิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย…
-
เจ้าเหมียว “Maru” สุดยอดแมวผู้บวกเลขได้ กดกระดิ่งติ๊งๆ เอ็งจะเก่งเกินไปแล้ว!!
จริงๆ แล้ว “แมว” เป็นสัตว์ที่ฉลาดนะ หากมันได้รับการฝึกฝน รับรองว่ามันจะเป็นหนึ่งในสัตว์ที่เก่งไม่แพ้สัตว์ตัวอื่นๆ เลยละ ยกตัวอย่างเช่น Maru เจ้าเหมียวจรจัด ส่งตรงจากเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ประเทศรัสเซียตัวนี้ ดูภายนอกมันก็คือแมวธรรมดาๆ ทั่วไปเนี่ยแหละ แต่ใครจะรู้ละว่าเจ้าแมวจรตัวนี้จะมีความสามารถอันเหนือชั้น ชนิดที่ว่าแทบจะไม่มีสัตว์ตัวไหนทำได้ นั่นก็คือ การบวกเลขนั่นเอง ใช่แล้ว!! ความสามารถพิเศษของเจ้าเหมียว Maru คือ มันบวกเลขได้ สุดยอดดดด!! หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันจะสามารถบอกคำตอบได้อย่างไร ซึ่งหลังจากที่มนุษย์ถามคำถามเสร็จมันจะตอบโดยการกดหัวลงไปที่กริ่งตามจำนวนคำตอบที่ได้ เช่น เมื่อมนุษย์ถามว่า หนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับเท่าไหร่ เจ้า Maru ก็กดหัวลงไปที่กระดิ่งสองครั้ง โอ้ววว!! มันฉลาดมากๆ เลยนะเนี่ย หลายคนอาจจะเกลียดคณิตศาสตร์ แต่เจ้า Maru ชื่นชอบการคิดเลขเป็นที่ซู้ดดดดดด เจ้า Maru ได้ค้นพบพรสวรรค์ของตัวเองแล้ว ต้องบอกก่อนเลยว่างานนี้ไม่ได้จะมาอวยแมวด้วยกันหรอก แต่มันสามารถบวกเลขได้จริงๆ ไม่เชื่อก็ลองคลิกเข้าไปรับชมคลิปวีดีโอของมันได้เลย… . สุดยอดไปเลยเจ้าเหมียว เอ็งเก่งมากกกก คิดเลขไวกว่าใครหลายๆ คนซะอีก…
-
ผู้สร้าง Trash Droves โพสต์ขอบคุณชาวไทย เผยกำลังจะตามไปป่วนทุกคนใน Line แล้ว!!
หลังจากที่เจ้าสติกเกอร์ Trash Doves หรือ นกพิราบขยะ ได้กลายเป็นที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเข้าไปเยี่ยมชมที่หน้าเพจไหนหรืออยู่ที่โพสต์ไหนก็จะมีแต่เจ้านกสีม่วงเหวี่ยงคออยู่เต็มไปหมด อย่างเมื่อบทความก่อนที่ #เหมียวหง่าว ได้เขียนเกี่ยวกับเจ้าสติกเกอร์นกม่วงนี้ไป ก็มีคอมเม้นท์มากกว่า 960 คอมเม้นท์ ที่สำคัญคือมีแต่นกม่วงแทบทั้งนั้นเลย ฮร่า (อ่านโพสต์ต้นฉบับได้ที่นี่) ด้วยความที่มันฮิตระเบิดระเบ้อ เรื่องราวก็ไปเข้าหูผู้สร้าง Syd Weiler เข้า เธอก็เลยออกมาโพสต์แสดงความขอบคุณคนไทยซักหน่อย “ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นเจ้า Trash Doves อยู่เต็มไปหมด ขอบคุณที่ทำให้มันกลายเป็น meme จนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในประเทศไทย หวังว่าพวกคุณจะชอบพวกมันนะ” พร้อมกับทำภาพเจ้านกพิราบสีม่วงถือธงไทยมามอบเป็นของขวัญให้ด้วย และก็ไม่เหลือบไปเห็นยอดคอมเม้นต์ก็พบว่ามันพุ่งขึ้นไปสูงถึง 10,000 ครั้งเลยทีเดียว!! แน่นอนว่ามีแต่นกสีม่วงเต็มไปหมด และเท่านั้นยังไม่พอ ทางคุณ Syd ก็ได้แยกไปทำแฟนเพจของ Trash Doves โดยเฉพาะ พร้อมกับประกาศว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะนำเจ้าสติกเกอร์นกพิราบนี้บุกไปป่วนใน Line กันอยู่ และจะเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน!! แหม่ แค่ในเฟซบุ๊คตรูก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ถ้าไปโผล่ในไลน์นี่ วันๆ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้วล่ะ…
-
เฟลได้อีก 20 ภาพเซลฟี่แบบรั่วมั่วซั่ว ถ้าไม่ดูด้านหลังก่อนถ่าย ก็จะกลายเป็นแบบนี้!!?
เดี๋ยวนี้ใครๆ เค้าก็ถ่ายเซลฟี่กันทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะอยู่ในอริยบทไหนก็ตาม บางคนก็ชอบถ่ายตัวเองตอนหลับ บางคนก็ถ่ายตอนกิน บางคนก็ถ่ายเซลฟี่กับวิวสวยๆ พร้อมกับแอ๊คท่าให้เหมือนว่ามีคนมาแอบถ่ายเราตอนเผลอ สิ่งสำคัญที่เราอยากจะเตือนทุกคนเวลาถ่ายเซลฟี่ก็คือ ควรจะเช็คแบคกราวด์ของเราให้ดีก่อนถ่ายทุกครั้ง เพราะไม่อย่างนั้นมันก็จะกลายเป็นแบบเนี๊ยะ.. ลุงนี่ก็ถ่ายไม่ดูบริบทไอ้ตูบข้างหลังเล๊ยย โถ่วว..พ่อหนุ่มนักกล้าม เบื้องหลังความโหดก็ได้คุณแม่มาช่วยนี่เอง ข้างหน้านี้ชุดใหญ่ไฟกระพริบ ส่วนข้างหลังนั่นอะไรหน่ะ!? ‘ชอบเซลฟี่กันนักใช่ม๊ายย ไอ้พวกมนุษย์’ เฮ้ยจอห์นนี่! อย่าบอกนะว่านายกำลังจะ…. ไม่ค่อยติดโซเชียลเท่าไหร่เลยนะเจ๊ ในภาพนี้มีพลังงานบางอย่างแฝงอยู่ ถ้าคุณเห็นแล้วก็จะเห็นเลย! เมื่อนายตำรวจอยากจะตะโกนให้โลกรู้ว่า ‘จะถ่ายรูปหา….เธอหรือ?’ ลุงคนนี้โคตรเซอไพรส์ ถ่ายรูปตัวเองแล้ว ได้เจอกับตัวเองในอนาคตอีก โอ้ววโห้วว นายเห็นอะไรนั่นมั้ยเพื่อน นั่นไง มันอยู่ตรงนั้น ลองดูดีๆ สิ มาเป็นลูกๆ เลยแอว๊ะ สายตาคู่นั้นที่สื่ออารมณ์ออกมาว่า ‘อย่าเผลอนะเอ็งเดี๋ยวรู้เลย’ เมื่อคุณถ่ายเซลฟี่แล้วกล้องดันไปจับโฟกัสที่ตูดม้าแทน ‘น่าสงสารเขานะครับ’ โถ่ววแม่ ทำไมแม่ไม่เข้าใจตุ้ม นี่ตุ้มโตเป็นสาวแล้วนะ!…
-
โปรเกม ‘Counter-Strike’ โดนแบนไอดี 1,000 ปี หลังถูกจับได้ว่าส่งรูปกระปู๋ให้สาว!!
ปกติแล้วถ้าเราทำผิดกฏกติกาในเกม ทางระบบก็มักจะสั่งแบนไอดีผู้เล่นนั้นๆ เป็นเวลา 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง แล้วแต่กฏการลงโทษที่ผู้ให้บริการเกมจะกำหนดขึ้นมา ทว่าล่าสุดเว็บไซต์ Kotaku ได้นำเสนอเรื่องของพ่อหนุ่มนักกีฬาเกม ‘Counter-Strike’ ที่โดนระบบสั่งแบนเป็นเวลานานถึง 1,000 ปีเต็ม หลังถูกจับได้ว่าเจ้าตัวแอบสนทนากับหญิงสาววัย 15 ปี แต่แค่นั้นยังไม่พอ พี่แกดันไปส่งรูปกระปู๋ตัวเองไปให้สาวอีก!! พ่อหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า ‘Reece Bloom’ โดยในเกมเจ้าตัวได้ใช้ไอดีที่ชื่อว่า ‘Bloominator’ ซึ่งเขาก็ไม่ใช่ผู้เล่นไก่กาทั่วไป แต่เจ้าตัวเป็นถึงหนึ่งในทีมนักแข่งเกมเคาน์เตอร์สไตรค์ ที่มีชื่อเสียงในวงการอยู่พอสมควร โดยไอดีของเขาในระบบ ‘ESEA’ ได้ถูกสั่งแบนเป็นเวลาทั้งหมด 365,000 วัน ประมาณว่ากว่าระบบจะปลดแบนให้ก็ต้องรอไปจนถึงวันที่ 6 มิถุนายน 3016 โน้นนเลย Reece Bloom คือคนซ้ายสุด กับทีม ‘Armor Esports’ เหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวโดนแบนอย่างยาวนาน ก็เพราะเจ้าตัวได้ไปมีบนสนทนากับหญิงสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ในเชิงยั่วยุทางเพศ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการตั้งใจพรากผู้เยาว์อย่างเห็นได้ชัด และมันก็ส่งผลทำให้เขาไม่สามารถลงแข่งขันเกมต่อไปได้ ตัวอย่างแชทของเจ้าตัวกับสาววัย…
-
25 ความน่ารักของ Chris Hemsworth ที่จะทำให้เห็นว่าเขาเป็น “คุณพ่อ” ที่แสนดีขนาดไหน
หากคุณได้ติดตาม Chris Hemsworth นักแสดงหนุ่มสุดล่ำที่เรารู้จักกันในบท “ธอร์” เทพเจ้าสายฟ้า และภรรยา Elsa Pataky ของเขาบนอินสตาแกรมละก็… คุณคงจะได้เห็นไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของเขาและครอบครัวกันมาเยอะพอสมควร และตั้งแต่ที่หนุ่ม Chris กลายมาเป็นคุณพ่อลูก 3 นั้น เรามักจะเห็นเขาโพสต์ภาพน่ารักๆ เวลาเล่นกับลูกๆ อยู่เสมอ และนี่คือภาพของ Chris Hemsworth ที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นคุณพ่อที่ดี และน่ารักมากขนาดไหน ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้นอนบนอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นของพ่อแล้ว เมื่อลูกๆ ชอบซุปเปอร์แมนมากกว่าการที่ได้เห็นพ่อเป็นเทพเจ้าสายฟ้า งานนี้พ่อก็เลยจัดให้ ภรรยาแอบแชะภาพความน่ารักของพ่อลูก เมื่อวันเกิดของ India ลูกสาวสุดที่รักมาถึง คุณพ่อธอร์ก็รีบเข้าครัวลงมือทำเค้กวันเกิดให้ลูกด้วยตัวเอง เป็นภาพที่อาจจะทำให้คนดูใจละลายได้ พาลูกๆ ไปท่องเที่ยวรอบโลก น่ารักจริงๆ เมื่อลูกสาวบอกว่าเธออยากจะมีจู๋เหมือนพี่ชายของเธอ ก็บอกลูกว่าเอาเลย ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ฮ่าาาา เป็นคุณพ่อผู้ชอบลงมือทำอาหารให้ลูกๆ ทาน ทุ่มเทเพื่อลูกได้ทุกอย่าง ดูแล้วยิ้มตามเลย…
-
ลูกลิงชิมแปนซีตัวน้อย วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ เพราะไม่อยากถูกจับไปขาย
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์เดอะโดโด้ ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอของ Mado ลูกลิงชิมแปนซีตัวน้อยที่กำลังวิ่งร้องไห้อย่างน่าเวทนา พร้อมกับเอื้อมมือเพื่อเข้าไปขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ เห็นแล้วก็น่าสงสารเหลือเกิน จากการรายงานระบุว่า เจ้า Mado ถูกพบในขณะที่มันได้ออกมาเดินรอบๆ หมู่บ้านในแอฟริกัน ซึ่งคาดว่าแม่ของมันอาจจะถูกฆ่าตายไปแล้ว ส่วนตัวของมันก็กำลังจะถูกจับไปขาย ซึ่งหลังจากที่คลิปวีดีโอดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ลงใน Facebook ชาวเน็ตรายหนึ่งก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นว่า “มันช่างเจ็บปวดใจเหลือเกิน ดูเหมือนว่ามันพยายามเอื้อมมืออกไปเพื่อขอความช่วยเหลือ” รับชมคลิปวีดีโอของมันได้เลย โชคดีที่ทางด้านเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Lwiro Primates ในคองโกได้เข้ามาช่วยเหลือ และนำตัวของเจ้า Mado กลับไปดูแลในสถานที่ที่ปลอดภัย อีกทั้งทางศูนย์ยังได้รับเงินบริจาคเงินในการช่วยชีวิตเจ้าลิงจากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย น่าเศร้าที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์ทุกตัวที่ถูกนำไปค้าขายได้ เพราะผู้คนเหล่านั้นมักลักลอบทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยการเข้ามาลักลอบจับสัตว์แปลกๆ แล้วนำไปค้าขายในตลาดมืด และปริมาณการทำผิดมากเกินกว่าที่พวกเขาจะช่วยทั้งหมด “สัตว์หลายตัวโชคร้ายเพราะตายในระหว่างการขนส่ง พวกมันจะถูกขังอยู่ในที่แออัด โดยอยู่ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสมต่อความต้องการทางชีวภาพ และกายภาพของพวกมัน” Adam Roberts จากองค์กร Born Free USA กล่าว ทางด้านเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เผยว่า “ตอนนี้เจ้าจ๋อปลอดภัยดีแล้ว…
-
นี่คือ “Geckolepis megalepis” ตุ๊กแกพันธุ์ใหม่ มีเกล็ดคล้ายปลา แถมลอกหนีศัตรูได้อีก
เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่าบนโลกใบนี้มีสัตว์อยู่มากมายหลายชนิดเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่มนุษย์ค้นพบแล้ว และยังไม่ถูกค้นพบ ซึ่งในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปทำความรู้จักกับ “ตุ๊กแก” จากมาดากัสการ์ หลายคนอาจจะคิดว่า สัตว์อย่างตุ๊กแกไม่เห็นมีอะไรนาตื่นตาตื่นใจเลยสักนิด เพราะมันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว แต่เดียวก่อนหากคุณได้ชมภาพของมัน คุณอาจจะเริ่มสนใจเจ้าตุ๊กแกสายพันธุ์นี้ขึ้นมาเลยก็ได้ และนี่คือ ตุ๊กแก Geckolepis megalepis หน้าตาของมันไม่คุ้นตาเอาเลยใช่ไหม สำหรับ Geckolepis megalepis เป็นตุ๊กแกสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งดูจากรูปทรงภายนอกเจ้าตุ๊กแกสายพันธุ์นี้ก็ดูแตกต่างจากตุ๊กแกทั่วๆ ไป แต่จริงๆ แล้วมันมีความพิเศษมากกว่านั้น!! Geckolepis megalepis หรือ ตุ๊กแกเกล็ดปลา ถูกค้นพบโดย Mark SCHERZ นักสัตวิทยาจากมหาวิทยาลัยลุดวิก แม็กซิมิเลียนในมิวนิก ประเทศเยอรมนี และเพื่อนร่วมงานของเขาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เยอรมนี และโคลัมเบีย ซึ่งเจ้าตุ๊กแกสายพันธุ์นี้ เรียกได้ว่าตุ๊กแกที่มีลักษณะสุดแปลกประหลาด โดยมีเกล็ดขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมาในสัตว์วงศ์จิ้งจก-ตุ๊กแกเลยก็ว่าได้ เกล็ดขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วร่างกายของมัน สามารถหลุดลอกออกได้ด้วยนะ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ศัตรูเข้ามาใกล้ มันจะสลัดเกล็ด และผิวหนังข้างใต้ออกไปได้อย่างง่ายดาย เพื่อเป็นการหลบหลีกศัตรูนั่นเอง จากการรายงานของเว็บไซต์ต่างประเทศระบุว่า ผิวของตุ๊กแกชนิดนี้ถูกดัดแปลงขึ้นมาเป็นพิเศษ…
-
เหมียวน้อยติดอยู่ใต้บ้าน สภาพร่อแร่แต่ช่วยจนรอดมา… ไม่ขอบคุณ แถมโดนมันยึดบ้านอีก!!
นี่คือเรื่องราวของ Mila เจ้าเหมียวแสนน่ารักที่รอดตายราวปาฏิหาริย์ หลังติดอยู่ใต้บ้านเป็นเวลานาน แต่โชคดีที่มีคนเข้ามาช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน จนทำให้มันสามารถผ่านเรื่องเลวร้ายในครั้งนั้นมาได้ จนทุกวันนี้มันกลายเป็นแมวที่มีความสุขที่สุดเลยละ… ย้อนกลับไปก่อนที่มันจะได้รับความช่วยเหลือ Mila เป็นแมวขี้โรคตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งที่ถูกพบโดยบรรดาหญิงสาวใจดี ซึ่งพวกเธอได้เห็นมันติดอยู่ใต้บ้าน เมื่อเห็นดังนั้น พวกเธอจึงรีบนำมันใส่กล่องใบจิ๋ว และรีบนำตัวของมันไปยังศูนย์พักพิงสัตว์ทันที ในตอนนั้นอาการของเจ้าเหมียวย่ำแย่มาก มันอยู่ในสภาพยับเยิน และแทบไม่หายใจ “เราไม่พบแม่ หรือพี่น้องของมันเลย เราคาดว่าเจ้าเหมียวอาจจะติดอยู่ในนั้นเพียงลำพัง โดยที่ไม่ได้กินน้ำ หรือกินอาหาร เมื่อพวกเราเห็นเข้า จึงรีบอุ้มมันขึ้นมา แล้วนำตัวของมันไปล้างเพราะมีเลือดติดเต็มตัว จากนั้นก็รีบเดินทางไปยังศูนย์พักพิงสัตว์” Bobby Rock หนึ่งในหญิงสาวที่ช่วยเหลือเจ้าเหมียวได้เขียนลงในบล็อกของเธอ Mila เป็นลูกแมวที่น่าสงสาร และมีเปอร์เซ็นในการรอดชีวิตน้อยมาก อีกทั้งหากอยู่ที่ศูนย์พักพิงต่อไปก็ไม่รู้ว่าชีวิตของมันจะเป็นอย่างไร ดังนั้น Bobby และเพื่อนๆ จึงตัดสินใจพามันกลับมาดูแล เจ้าเหมียวดูหิวโหย แถมยังเป็นโรคโลหิตจางจากหมัดที่อยู่บนตัวของมัน พวกเขาพามันไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว และช่วยกันนำหมัดออกจากตัว ซึ่งในขณะนั้นมันก็เปล่งเสียงเมี๊ยวๆ ออกมาเบาๆ และนำตัวมันไปวางไว้บนแผ่นให้ความร้อนไฟฟ้า พร้อมทั้งห่มผ้าให้อย่างต่อเนื่อง และคอยนวดตัวให้มันเพื่อให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงาน พวกเธอดูแลมันเป็นอย่างดี…
-
8 สาวที่เคยคลั่งผอม เปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่จนเป็นสาวหุ่นสวย แถมสุขภาพดีอีก!!
การเป็นสาวรูปร่างดี ถือเป็นความใฝ่ฝันของผู้หญิงหลายๆ คน บางคนก็อยากผอมสวยเหมือนดารานางแบบ จนถึงขั้นคลั่งผอม และทำให้กลายเป็นโรคกลัวอ้วน และโรคการกินที่ผิดปกติ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้สุขภาพจิต และสุขภาพกายย่ำแย่ และทรุดโทรม เหมือนดังเช่น 8 สาวเหล่านี้ แต่ก่อนพวกเธอเคยเป็นโรคกลัวอ้วนจนทำให้ร่างกายซูบผอมจากการอดอาหาร จนในที่สุดพวกเธอก็ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่โดยการหันอาทานอาหาร และออกกำลังกายจนกลายเป็นสาวสุขภาพดี มีหุ่นสุดเป๊ะจนน่าอิจฉา ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าพวกเธอสามารถผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายเหล่านั้นมาได้อย่างไร 1. Hayley Harris สำหรับ Hayley Harris เธอเคยยอมรับว่าเธอเริ่มอดอาหาร เพื่อที่จะได้ให้ตัวเองมีหุ่นที่บางเฉียบเหมือนกับนางแบบในนิตยสาร จนทำให้เธอต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะเป็นผลที่เกิดจากความผิดปกติของการรับประทานอาหาร ซึ่งหลังจากที่เธอฟื้นตัว เธอก็ได้เปิดบัญชีอินสตาแกรม โดยอ้างว่าผู้ที่เข้ามาติดตามเธอในไอจีช่วยรับมือกับความเจ็บปวดของเธอ และในตอนนี้เธอก็ใช้เวลาในการรณรงค์ต่อต้านคนที่คลั่งผอม 2. Courtney Black เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Courtney Black มีน้ำหนักตัวเพียง 45 กิโลกรัมเท่านั้น เธอออกกำลังกายอย่างหนักเพราะอย่างมีกล้ามเนื้อ และรูปร่างที่ผอมบาง อีกทั้งเธอยังบริโภคอาหารเพียงแต่ 800 แคลลอรี่ต่อวัน จนในที่สุดร่างกายของเธอก็อ่อนแอ และต้องเข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากที่ได้รับการรักษา Courtney ก็ได้หันมาปฏิวัติตัวเองครั้งใหญ่ โดยการเริ่มทานอาหารวันละ 2000 แคลลอรี่ จนในตอนนี้เธอมีรูปร่างที่สวยงาม อีกทั้งยังกลายมาเป็นคุณครูสอนวิธีการออกกำลังกายอีกด้วย …
-
15 “นางงาม” ที่สวย และโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ของการประกวด Miss World
Miss World เป็นหนึ่งในเวทีประกวดนางงามระดับนานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นใน 1951 ณ สหราชอาณาจักรโดย Eric Morley ในตอนแรกเขาหวังแค่อยากให้มันเป็นเพียงแต่งานประกวดครั้งเดียวเท่านั้น แต่ทว่ามันกลับได้รับความนิยมมาก นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้เห็นการประกวด Miss World ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนั่นเอง จากที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่ามีสาวงามจากหลายประเทศที่ได้รับตำแหน่งเป็น Miss World ซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอแต่ละคนจะต้องมีทั้งความสวย ความฉลาด และมีความโดดเด่น จนได้ครองมงกุฎอันทรงเกียรตินี้ และวันนี้เราจะพาคุณไปชม 15 ภาพ Miss World ที่ทางเว็บไซต์ BrightSide คัดเลือกมาว่าสวยงาม และโดดเด่นที่สุดตั้งแต่มีการจัดประกวด เรามาดูกันว่าจะมีใครกันบ้าง 1.Susana Duijm, Venezuela Miss World 1955 เมื่อเอ่ยถึงประเทศที่เป็นตัวเต็งในการประกวดนางงามแน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเวเนซูเอลา ซึ่งในการประกวด Miss World สาวงามจากประเทศนี้ได้รับตำแหน่งมามากถึง 6 ครั้ง และ Susana Duijm ก็เป็นคนแรกที่ได้รับตำแหน่งนี้ ปัจจุบันเธอกลายเป็นนักแสดงมืออาชีพ และเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ 2.Penelope Coelen, South…
-
นี่คือ 11 ผู้หญิงแห่งแรงบันดาลใจ สร้างนิยามความงามแบบใหม่ แบบที่เป็นเธอเอง…
ในปัจจุบันนิยามของความสวยความงามนั้นมีมากมายหลากหลายแบบ… และนี่ก็คือเหล่าผู้หญิงที่เรียกได้เลยว่าเป็น ‘ผู้หญิงแห่งแรงบันดาลใจ’ ที่จะทำให้สาวๆ หลายคนหันมามองตัวเอง และภูมิใจในสิ่งที่มี Chantelle Brown-Young หรือ Winnie Harlow นางแบบชาวแคนาดาที่ได้รับความทุกข์ทรมาณจากความผิดปกติของเม็ดสีในเส้นขน จึงทำให้เธอมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอทั่วร่างกาย ตั้งแต่เด็กๆ เธอรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง และถูกสังคมรอบข้างรังเกียจ แต่ถึงอย่างนั้นก็เลือกที่จะปฏิเสธสิ่งเหล่านั้นและมุ่งหน้าสู่เส้นทางของการเป็นนางแบบจนประสบความสำเร็จ Viktoria Modesta นักร้องสาวชาวลัตเวีย ต้องสูญเสียขาข้างซ้ายของเธอไปตั้งแต่เกิด แต่ถึงอย่างนั้น ‘ความขาด’ นี้ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกด้อยค่าไปกว่าใคร แต่กลับกันเธอมีความมั่นใจเต็มขีด จนกลายเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้ Erica Irwin นางแบบวัย 35 ปี จากแคลิฟอร์เนีย เธอถูกจัดไว้ว่าเป็นนางแบบที่ตัวสูงมากที่สุดในโลก (2 เมตรกับอีก 5 เซนติเมตร) Masha Tyelna นางแบบสาวชาวยูเครน ที่มีดวงตาโตมากกว่าคนปกติทั่วไป จนโดนคนรอบข้างแซวว่าเป็น ‘เอเลี่ยน’ หรือไม่ก็เป็น ‘เอลฟ์’ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความฝันที่อยากเป็นนางแบบของเธอลดน้อยลงแต่อย่างใด Carmen…
-
คู่รักหนุ่มสาว ขอแต่งงานกันต่อหน้า Celine Dion เล่นเอานักร้องดังตกใจหน้าเหวอ อิอิ!!
สำหรับช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดในชีวิตอย่าง ‘การขอแต่งงาน’ แล้ว หลายๆ คู่รักก็มักจะมีวิธีการขอแต่งงานกันในแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่ต้องขอบอกเลยว่าสู้คู่รักคู่นี้ไม่ได้อย่างแน่นอน!! ขอแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกับ Nick Janevski และ Austin McMillan ทั้งคู่มีอายุ 24 ปี และอาศัยอยู่ในลาส เวกัส Nick นั้นทำงานอยู่ที่คาสิโน Mirage ในฝ่ายเกี่ยวสุขภาพขององค์กร ส่วน Austin นั้นเปืดร้านอาหารร่วมกับครอบครัว ทั้งคู่คบหากันมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว หลังจากที่ได้พบกันที่ยิม Austin เล่าว่าเธอและแฟนจะใช้เวลาอย่างน้อย 1 วัน ในแต่ละเดือนไปออกเดทกัน เพื่อทำความรู้จักกันให้มากขึ้น และก็พบว่าทั้งคู่นั้นช่างเหมาะสมกันเสียนี่กระไร Austin นั้นเป็นแฟนตัวยงของนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอย่าง Celine Dion เช่นเดียวกันกับคุณแม่ของเธอ ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Austin เล่าวว่าเพลง ‘My Heart Will Go On” ของ Celine Dion…
-
ชาวเน็ตร่วมกันแชร์ 20 ความบรรลัยที่เกิดขึ้นในห้องครัว แบบนี้พวกเอ็งอยู่ให้ห่างครัวไว้จะดีกว่า
ก็อย่างที่รู้กันดีว่า ‘การทำครัว’ นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ทุกคน เพราะมันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ หากใครไม่ได้ผ่านการฝึกฝนมาดีพอก็อาจจะสร้างนรกบนดินดีๆ ขึ้นมาเลยทีเดียวล่ะ และในวันนี้ #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพความบรรลัยจากการทำครัว ที่ชาวเน็ตต่างชาติร่วมแชร์กันเข้ามา…. จนอาจทำให้ใครหลายๆ คนหัวเราะจนท้องแข็งตายกันไปข้างนึง ฮร่าาาาา 1. จากลูกเจี๊ยบที่น่ารักกลายพันธุ์เป็นปิศาจหลายหัวไปซะแล้ว!! 2. เพื่อนของภรรยาผมได้ทำเค้กขึ้นมาสำหรับงานวันเกิดลูกสาวของเธอ จู่ๆ ก็มีเด็กสาวที่มาร่วมงานคนหนึ่งเริ่มร้องไห้ เพราะรูปร่างของมันน่ากลัวเกินไป 3. ขนมปังที่ถูกสาป 4. นี่คือสภาพของอาหารเช้าในวันนี้ของผม 5. เรื่องของแรงดันเป็นฝันร้ายของคนทำครัวหลายๆ คน 6. เมื่อผมเพิ่งรู้ตัวว่าได้ทำแว่นตาหายไป และมารู้ตัวทีหลังเมื่อขนมปังอบเสร็จแล้ว 7. กะจะทำคาราเมลซักหน่อย แต่ดันลืมไว้ มันก็เลยกลายเป็นเถ้าภูเขาไฟ 8. สิ่งที่คิด…กับความเป็นจริง!? 9. ความเฟลของพิซซ่า 10. เมื่อภรรยากลับบ้านมา ชะตากรรมของพ่อบ้านคนนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ (ไม่อยากจะคิดเลย ฮร่า) …
-
ทุกชีวิตก็มีค่า… นักดับเพลิงช่วยชีวิต “แมวเหมียว” หมดสติจากไฟไหม้ จนมันฟื้นอีกครั้ง
เป็นอีกเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนรีบเร่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเอาจริงเอาจัง นั้นอาจเป็นเพราะภายในบ้านที่ไฟไหม้ มีแมวอ้วนตัวหนึ่งหมดสติจากควันไฟอยู่!! เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนเพจของเดลีเมล์ไม่ได้ระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไหน และใครเป็นคนช่วยเหลือ แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น… เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พวกเขาก็รีบเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ภายในอาคารไฟไหม้ทันที และเจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้ช่วยเหลือแมวเหมียวที่หมดสติ จากการสูดดมควันเผาไหม้มากจนเกินไป เขานำตัวมันออกมาข้างนอกได้ ก็พบว่ามันเป็นลมหมดสติไป สิ่งเดียวที่พวกเขาต้องทำคือการช่วยชีวิตมัน โดยหวังว่ามันจะกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องรีบเอาหน้ากากอ๊อกซิเจนมาปิดจมูกมันไว้ และใช้น้ำสะอาดช่วย เพื่อทำให้มันสามารถกลับมาหายใจได้เหมือนเดิมอีกครั้ง แต่ทว่าทุกอย่างต้องแข่งกับเวลา เวลาในที่นี้คือเวลาชีวิตของเจ้าเหมียว ในขณะที่มันหมดสติ และดูเหมือนจะหายใจไม่ค่อยออก ไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะกลับมาได้อีกครั้งหรือไม่ และดูเหมือนว่าปาฏิหาริย์จะมีอยู่จริง หลังจากที่เจ้าหน้าที่พยายามช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ ไม่กี่นาทีต่อมาเจ้าเหมียวก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง มันเริ่มหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ และเริ่มขยับร่างกายเล็กน้อย… หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็ส่งเสียงร้องเบาๆ ออกมาว่า ‘เมี๊ยววว’ อย่างน้อยมันก็ได้ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนรู้ว่า แมวตัวนี้รอดพ้นจากขีดอันตรายแล้วนะ ถึงแม้ว่ามันจะยังดูมีอาการสะลึมสะลืออยู่บ้างก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกคนถึงกับโล่งอก หลังจากที่ได้ยินเสียงร้องของมัน คลิปวิดีโอจากเพจต้นฉบับ ลองไปชมวินาทีชีวิต เมื่อเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือเจ้าแมวเหมียวกันเลย เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกใจชื้นสุดๆ เมื่อได้เห็นว่าเจ้าเหมียวอ้วนมันฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง ขอยกนิ้วให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเลย เยี่ยมจริงๆ! เยี่ยมจริงๆ! เยี่ยมจริงๆ!…
-
ศิลปินใช้เทคนิค Matte Painting ที่มีอายุ 110 ปี สร้างผลงานจินตนาการ สู่โลกความเป็นจริง…
ศิลปินเกี่ยวกับภาพสองมิติชาวอังกฤษ ได้สร้างสรรค์ผลงานอันน่าทึ่งออกมาโดยใช้เทคนิคที่มีอายุมากกว่า 110 ปี เธอได้ทำการจัดการแสดงผลงานที่จะพาผู้ชมเข้าไปสู่โลกแห่งวรรณกรรม ด้วยเทคนิคการตัดต่อขั้นเทพ และที่เธอทำไม่ได้ใช้เพียงแค่โฟโต้ช็อปเท่านั้น แต่ได้นำเทคนิคที่มีอายุกว่า 110 ปี เรียกว่า Matte Painting ที่ถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลายในวงการภาพยนตร์ในช่วงศตวรรษที่ 20 มาผสมสานกันด้วย ชื่อผลงาน : Thicket เทคนิค Matte Painting นั้นคือการเขียนภาพกระจกหน้าต่างใส่เข้าไปในภาพ เพื่อโชว์ให้เห็นถึงภูมิทัศน์ที่กว้างออกไปมากยิ่งขึ้น ซึ่งเทคนิคนี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในวงการภาพยนตร์ช่วงยุคศตวรรษที่ 20 โดยฉากแต่ละฉากจะมีการใส่หน้าต่างเข้าไปเพื่อทำให้เห็นว่าข้างนอกมันมีอะไรอยู่อีก ผู้ชมจะรู้สึกว่าฉากแต่ละฉากนั้นมันมีความกว้างมากกว่าที่เห็นในจอภาพยนตร์ ชื่อผลงาน : Antechamber คุณ Suzanne ก็เลยปิ๊งไอเดีย โดยนำผลงานศิลปะของเธอมาผสมผสานกับเทคนิค Matte Painting นี้ จนกลายออกมาเป็นผลงานที่สวยงาม “ในช่วงแรกฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจะเข้ากันได้รึเปล่า แต่พอมองแล้วมันน่าจะไปด้วยกันได้ ผลงานล่าสุดของฉันนั้นเป็นฉากที่อยู่ภายในห้องแทบทั้งหมด และพวกมันก็มีส่วนที่วาดเอาไว้เพื่อเชื่อมต่อไปยังอีกห้องด้วย” Suzanne กล่าวถึงผลงานของตัวเอง เธอยังเล่าเสริมอีกว่า “ฉันเห็นความเชื่อมโยงที่น่าสนใจระหว่างรายละเอียดภาพของห้อง ที่เก็บรวบรวมมา และบ้างก็ถูกถ่ายมาด้วยมือของฉันเอง จากนั้นก็นำพวกมันมารวมกันด้วยโปรแกรมโฟโต้ช็อป” ชื่อผลงาน : Arch ชื่อผลงาน : Undercroft…
-
ชายหนุ่มใจดี ช่วยลูกแมว 6 ตัว ยังไม่พอ.. สร้างกับดักเพื่อรอช่วย “แม่แมว” อีกด้วย!!
นับว่านี่เป็นอีกเหตุการณ์อันน่าประทับใจ เมื่อมนุษย์ผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารี ได้เข้าไปช่วยเหลือลูกแมวเหมียวตัวน้อยทั้ง 6 ชีวิต แต่เจ้าตัวไม่ได้พาเจ้าแมวน้อยไปดูแลอย่างเดียว แต่เขาเลือกที่จะเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ จนกว่าที่แม่แมวของพวกมันจะกลับมา เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือพวกมันให้มีชีวิตที่ดีขึ้นทุกตัว เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อ ‘The Kitten Cottage’ มูลนิธิช่วยเหลือแมวจรจัด จากเมือง Western Cape ประเทศแอฟริกาใต้ ได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านแจ้งว่า พวกเขาได้ยินเสียงแมวน้อยหลายชีวิตส่งเสียงร้องเหมือนกำลังอ้อนวอนขอความช่วยเหลืออยู่ จากนั้นมูลนิธิจึงได้ให้หนุ่ม Luke (ที่ไม่ได้มีนามสกุล Skywalker) เข้าไปช่วยเหลือดูแล เมื่อเจ้าตัวไปถึงยังสถานที่เขาก็ได้พบกับลูกแมวน้อยทั้ง 6 ชีวิตที่เพิ่งจะออกมาลืมตาดูโลกได้ไม่นานนัก ทว่าเขาไม่ได้พาลูกแมวไปดูแลทันที แต่เลือกที่จะหากรงอันหนึ่งมาวางไว้ล่อแม่แมว จัดที่ให้อยู่ในที่ร่ม เพื่อให้ลูกแมวเข้าไปอยู่อาศัยอย่างปลอดภัย และเฝ้ารอนานหลายชั่วโมง โดยหวังว่าแม่ของพวกมันจะกลับมา “เขาป้อนนมลูกแมวไปด้วย และนั่งรอให้แม่แมวกลับมา เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือพวกมันทั้งครอบครัว ช่างเป็นการเสียสละเล็กๆ น้อยๆ แต่ยิ่งใหญ่จริงๆ” มูลนิธิเล่า นี่แหละ กับดักแม่แมว ร้องหาแม่สิลูก!! เหมียวน้อยทุกตัวปลอดภัย และในที่สุดแม่ของพวกมันก็กลับมาหาลูกน้อย ตอนแรกเจ้าเหมียวผู้เป็นแม่ มีท่าทีเหมือนจะไม่ค่อยไว้วางใจเขาซักเท่าไหร่ แต่เมื่อหนุ่มได้พาครอบครัวเหมียวไปเข้ารับการดูแลรักษาที่มูลนิธิ เขาก็เริ่มสังเกตเห็นว่าพฤติกรรมของพวกมันเป็นมิตรกับคนรอบข้างมากขึ้น…
-
ภรรยาจะโดดตึก แต่สามีใช้ความเร็วด้วยได้ทันด้วยการ “ดึงผม” ลุ้นระทึกเกือบไปแล้ว…
ณ ห้วงขณะหนึ่งในจิตใจมนุษย์ว่ากันว่า ถ้าหากเรารู้สึกแย่สุดขีด หรือรู้สึกหมดความหวังในการมีชีวิตต่อไป บางคนอาจจะหาทางออกที่สร้างสรรค์เพื่อฟื้นฟูอารมณ์ตัวเองได้ แต่บางคนก็เลือกที่จะทำสิ่งที่เรียกว่า ‘การฆ่าตัวตาย’ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวจีน Shanghaiist ได้รายงานเรื่องราวของสามีชาวจีนคู่หนึ่ง จากมณฑลส่านซี ที่สามารถเข้าไปช่วยภรรยาผู้คิดสั้นต้องการจะกระโดดตึก ได้ทันเวลาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด!! ก่อนอื่นเราไปชมคลิปวิดีโอจากในเหตุการณ์กันก่อนเลย เพราะเป็นเหตุการณ์จริง ตัวละครในคลิปก็คือคนจริงๆ ไม่ใช่ภาพยนตร์ มันเลยลุ้นระทึกสุดๆ วิดีโอดังกล่าวกำลังเป็นที่พูดถึงของชาวเน็ตในประเทศจีนเป็นอย่างมาก กับวีรกรรมของสามีที่สามารถเข้าไปช่วยภรรยาได้สำเร็จ ตอนแรกนั้นไม่มีใครรู้ว่าสาเหตุใดถึงทำให้เธออยากจากโลกนี้ไป แต่ทว่า ณ วินาทีที่เธอตัดสินใจกระโดดลงมาจากตึกสูง ทันใดนั้นก็ได้มีมือของสามีเข้ามาดึงผมเธอไว้ได้ทันการ ภาพข่าวจากอีกมุม ดูหวาดเสียวนะเนี่ย!! หลังจากที่สามีสามารถจับผมของภรรยาเพื่อยื้อเวลาได้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รีบรุดเข้าไปช่วยสามีพยุงตัวภรรยาขึ้นมาให้พ้นจากจุดอันตรายทันที สำนักข่าวท้องถิ่นในจีนได้ระบุว่า ‘ชายหนุ่มได้เข้าไปดึงผมภรรยาได้ทัน ทำให้ช่วยยื้อเวลาได้ครู่หนึ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรีบเข้าไปช่วยกันดึงเสื้อผ้า และตัวของภรรยาไว้ได้’ ภาพจากวินาทีที่ดึงตัวไว้ได้ทัน และเพื่อเป็นการระวังภัย เราก็มีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ให้ปฏิบัติตาม เมื่อเราสังเกตเห็นว่าคนรอบข้างของเราเริ่มมีพฤติกรรมต้องการที่จะปลิดชีพตัวเอง 1. ถ้าสังเกตเห็นว่าคนนั้นเริ่มมีอาการน่าเป็นห่วง หรือเสี่ยง อย่าปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวเป็นอันขาด 2.…
-
เพราะโรคอัมพาตที่ต้องประสบ ทำให้ “แมวแปลกหน้าสองตัว” กลายเป็นเพื่อนซี้กันได้…
ไม่มีใครรูว่าเจ้าเหมียวตัวนี้ไปอยู่ข้างถนนได้อย่างไร แต่ตอนที่มีชายใจดีคนหนึ่งไปพบมันเข้า มันก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักแล้ว เขาจึงนำตัวมันส่งคลินิกสัตว์ทันที เนื่องจากมันไม่มีเจ้าของ ไม่มีประวัติอะไรเลย ก็ไม่มีใครรู้ชื่อของมัน แต่ภายหลังพวกเขาตั้งชื่อว่ามัน “เจสซี่” (เจสซี่เฉยๆ นะ ไม่มีวาร์ด) เมื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด พวกเขาก็พบว่าเจสซี่มีอาการกระดูกสันหลังเสียหายอย่างหนัก นั่นแปลว่าจากนี้ไป มันจะไม่สามารถใช้อวัยวะตั้งแต่หลังเป็นต้นไปได้อีกแล้ว ตอนแรกคลินิกสัตว์ดังกล่าว ตั้งใจจะประกาศหาคนรับเลี้ยง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ล้มเลิกความตั้งใจนั้น เพราะคิดว่ามันคงจะดีกว่า ถ้าดูแลเจ้าเจสซี่อยู่ที่นี่ แม้มันจะพิการ แต่นั่นไม่ได้ทำให้ชีวิตมันเศร้าสร้อยลงแต่อย่างใด ความร่าเริงของมัน ทำให้เหล่าพนักงานของคลินิคสนุกสนานและมีรอยยิ้มได้แทบทุกวัน และ “เจนนิเฟอร์ อัลเลน” หนึ่งในพนักงานของคลินิกนี้ก็ตกหลุมรักมันเข้าอย่างจัง “ฉันรู้สึกผูกพันกับมันเป็นอย่างมาก มันรักทุกคนที่นี่และมันชอบทำให้พวกเขาได้ยิ้มได้หัวเราะ เพราะมันทำให้การทำงานที่นี่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป มันเป็นเหมือนมาสค็อตที่นี่เลย” อัลเลนกล่าว หลังจากนั้นหนึ่งปี เจ้าเจสซี่ก็ได้พบกับแมวพิการอีกตัว ที่จะเพื่อนแท้ตลอดกาลของมันโดยบังเอิญ “มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรเข้ามาที่คลินิกของเรา บอกว่ามีคนเอาแมวใส่กล้องมาทิ้งไว้ที่ชานบ้านของเธอ เธอจึงเอามาให้เราช่วยดูหน่อย เจ้าแมวตัวนั้นมีชื่อว่า วิลลี่“ อัลเลนกล่าว เจสซี่นั้นพิการเพราะอาการบาดเจ็บ ผิดกับวิลลี่ที่ดูเหมือนว่าจะพิการมาตั้งแต่กำเนิดแล้ว แต่สภาพร่างกายของทั้งสองตัวกลับคล้ายกันเป็นอย่างมาก พวกมันต้องใช้เท้าหน้าในการคลานไปกับพื้น…
-
อุ้ง อุ้ง และก็อุ้ง เพราะนี่คือ 18 ภาพ “อุ้งเท้าแมว” ที่จะทำให้คุณรู้สึกน่ารักจนชวนหมั่นเขี้ยว
เวลาถามว่า “ส่วนไหน” ของแมวที่ทำให้คุณตกหลุมรักพวกมัน บางคนอาจตอบว่าใบหน้า บางคนอาจตอบว่าหาง บางคนอาจตอบว่าลำตัว แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า แมวยังมีอีกส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เพื่อนๆ เห็นแล้วต้องหมั่นเขี้ยวเป็นที่สุด นั่นก็คือ “อุ้งเท้า” ลองชม 18 ภาพของอุ้งเท้าแมวเหมียวที่เรารวบรวมมาให้ชมนี่สิ รับรองว่าเพื่อนๆ จะปฏิเสธความน่ารักน่าเอ็นดูของมันไม่ลงอย่างแน่นอน ถ้าวันนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี ลองดูอุ้งเท้าพวกนี้สิ ยังอารมณ์ไม่ดีอยู่!? ลองดูอีกอันมั้ย หรือว่าชอบอุ้งเท้าแบบปุกปุยแบบนี้ เนียนเหมือนเยลลี่เลยเนอะ หรือว่าชอบอุ้งเท้าดำๆ อ๊ะจัดไป… ยังไม่ดีอีกเหรอ จัดไปอีกดอก อารมณ์ดีรึยัง ดีเถอะนะ ได้โปรด พวกเขาออกจะน่ารักขนาดนี้ หายอารมณ์เสียเถอะนะ จนกว่าคุณจะหาย เราก็ยังไม่หยุดลง เลื่อนไปอีกกกกกกก ปกติไม่ได้ให้ใครดูง่ายๆ นะ มาแตะมือหน่อยมั้ย รับรองว่าหายดีเป็นปลิดทิ้ง …
-
ตามส่องชีวิต “บารัค โอบาม่า” หลังพ้นจากตำแหน่ง เที่ยวสุดมันส์กับ “ริชาร์ด แบรนสัน”
อดีตประธานาธิบดีอย่าง ‘บารัค โอบาม่า’ ได้ใช้โควต้าการขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศแบบเต็มสูบนานถึง 8 ปี และล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ลงจากตำแหน่ง และปล่อยให้หน้าที่ต่อไปเป็นของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ตามกฏกติกาต่อไป หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วหลังจากที่เขาพ้นจากตำแหน่งแล้วเจ้าตัวจะไปทำอะไรต่อ? นั่งเลี้ยงหลาน เล่นกับสุนัข หรือไปอ่านหนังสือพิมพ์กินกาแฟชิลๆ กันนะ!? ตอนนี้เราได้คำตอบแล้ว เพราะว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า เขากำลังเล่นไคท์เซิร์ฟอยากสนุกสนาน และดูมีความสุขสุดๆ เลยล่ะ ดูรอยยิ้มของเขาซะก่อน แค่นี้ก็คงพิสูจน์ได้ว่าเจ้าตัวมีความสุขมากขนาดไหน สื่อได้รายงานว่าทั้งโอบาม่า และมิเชล ได้เดินทางมาพักผ่อนที่เกาะส่วนตัวของ ‘Richard Branson’ ผู้เป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ Virgins นั่นเอง ดูเจ้าตัวจะสนุกกับการเล่นไคท์เซิร์ฟสุดๆ ถึงจะเกษียณอายุจากการทำงานมาแล้ว แต่ร่างกายของเขายังดูแข็งแรงดีมาก ทางด้านของ Branson ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ‘เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผมได้ต้อนรับอดีตประธานาธิบดี และครอบครัว ให้มาพักผ่อนที่เกาะส่วนตัวของผม ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราฝึกเล่นไคท์เซิร์ฟร่วมกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน เพราะเขาทำงานมาหนัก และได้สร้างประโยชน์หลายอย่างให้บ้านเมือง…
-
20 เมนูขนม-ของหวานจาก “นูเทลล่า” ที่จะมากระตุ้นความอยากในตัวคุณ (พร้อมลิงค์วิธีทำ)
พูดถึงท็อปปิ้งที่หลายๆ คนชอบนำมาทานคู่กับขนมปังและเบเกอรี่ต่างๆ เชื่อว่า “นูเทลล่า” ครีมช็อกโกแลตผสมถั่วแสนอร่อย จะต้องเป็นตัวเลือกแรกๆ อย่างแน่นอน ซึ่งปกติแค่กินเปล่าๆ มันก็อร่อยจนแทบเหาะอยู่แล้ว แต่ถ้าเพื่อนๆ เริ่มเบื่อแล้วอยากลองอะไรใหม่ๆ ล่ะก็ วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 20 ขนมที่นำ “นูเทลล่า” มาดัดแปลงที่ใครๆ เห็นแล้วเป็นต้องน้ำลายสออย่างแน่นอน จะมีอะไรบ้าง ลองไปชมกันเลย นูเทลล่าโรลส์ ดูวิธีวิธีทำ ขนมปังฝรั่งเศสสอดไส้นูเทลล่า ดูวิธีวิธีทำ สตรอเบอร์รี่นูเทลล่า วิธีทำ สมอร์นูเทลล่า วิธีทำ ช็อคโกแลตนูเทลล่ามัฟฟิน วิธีทำ นูเทลล่าชีสเค้ก วิธีทำ นูเทลล่าขนมปังพุดดิ้ง วิธีทำนะจ๊ะ เอมพานาดาสกล้วยนูเทลล่า วิธีทำ ช็อคโกแลตร้อนผสมนูเทลล่า วิธีทำ กราโนล่านูเทลล่า วิธีทำ ครีมนูเทลล่า…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่นเผยเทคนิค “บรรเทาอาการปวดหลัง” ด้วยผ้าห่ม ได้รับความนิยมอย่างสูง
ในยุคสังคมปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่มักจะมีอาหารปวดหลังกันมากยิ่งขึ้น นั่นอาจมีสาเหตุมาจากการนั่งนาน เช่น การนั่งทำงาน หรือนั่งขณะดูหนัง ซึ่งก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการดังกล่าวได้ง่ายเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทางผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นนามว่า @itiitiY จึงได้ออกมาเผยเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถช่วยลดอาการปวดหลังได้ และไม่น่าเชื่อเลยว่าวิธีของเธอนั้นจะทำให้ชาวเน็ตคนอื่นๆ ชื่นชอบ จนมีการรีทวิตและถูกใจรวมกันกว่าไปมากกว่า 50,000 ครั้ง เธอบอกว่าก่อนหน้านี้เธอเองก็มีอาการปวดหลังอยู่บ่อยๆ อันมีสาเหตุมาจากการนั่งดูหนังในโรงหนังเป็นเวลานาน ดังนั้น เธอจึงได้หาวิธีแก้ไขปัญหาเหล่านั้น โดยการเข้าไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และพบว่าจริงๆ แล้วผ้าห่มก็สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้นะ แอร์โรงภาพยนตร์มันอาจจะหนาวจับใจ ดังนั้นโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นหลายๆ แห่ง มักจะมีการใช้เช่าผ้าห่มตอนดูหนัง เพื่อที่จะทำลูกค้าได้ชมภาพยนตร์อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามชาวเน็ตผู้ใช้ชื่อคุณ @itiitiY ได้ออกมาบอกว่า นอกจากจะใช้ห่มแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกด้วย หลังจากนั้น เธอโพสต์ภาพวิธีการใช้ผ้าห่มเพื่อช่วยลดอาการปวดหลังลงในทวิตเตอร์ พร้อมอธิบายประกอบด้วยว่า เพียงแค่ใช้ผ้าห่ม และม้วนมันแค่ไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็นำไปวางไว้ตรงกลางเบาะ และนั่งทับลงไป เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับการรับชมภาพยนตร์ โดยที่ไม่ต้องปวดหลังอีกต่อไปแล้ว ม้วนให้ถูกวิธีด้วยนะ เดี๋ยวจะปวดยิ่งกว่าเดิม… นอกจากนี้ เธอยังแนะนำอีกว่า คุณสามารถนำเทคนิคง่ายๆ เหล่านี้ ไปใช้บนรถ หรือเก้าอี้ที่บ้านขณะนั่งทำงาน เล่นเกม…
-
อ่านแล้วยิ้มสินะแหม่… นักวิจัยเผยทดลองใช้ “เจลคุมกำเนิด” ในลิงตัวผู้ได้ผลสำเร็จ
เรียกได้ว่านี้คือหนึ่งในงานวิจัยที่ส่งผลต่อเรื่องการคุมกำเนิดในเพศชาย ของมวลมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง เพราะปกติแล้วการคุมกำเนิดในคน มักจะใช้ถุงยางอนามัย หรือยาคุมกำเนิด แต่ตอนนี้วิทยาศาสตร์ได้พาเราก้าวไปอีกขั้น โดยทีมนักวิจัยจากมูลนิธิพาร์ซีมัส ซึ่งเป็นองค์กรผู้ไม่แสวงหาผลกำไร จากประเทศสหรัฐฯ ได้นำผลการทดลองดังกล่าวตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ ‘Basic and Clinical’ เป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยเช่นกัน การทดลองดังกล่าวใช้เวลาติดตามผลมาอย่างยาวนานถึง 2 ปีเต็ม โดยกลุ่มนักวิจัยได้ทำการฉีดเจลคุมกำเนิดสำหรับเพศชาย ‘วาซาลเจล’ ให้กับลิงตัวผู้ทั้งหมด 16 ตัว ผลปรากฏว่าไม่มีลิงตัวไหนที่ให้กำเนิดลูกน้อยในช่วงเวลาต่อมา โดยเจลดังกล่าวจะถูกฉีดเข้าไปในท่อลำเลียงอสุจิ ทำให้เชื้ออสุจิถูกเจลอุดไว้ ไม่สามารถออกมาผสมกับไข่ของลิงตัวเมียได้ ถึงแม้ว่าทั้งลิงตัวผู้ และตัวเมีย จะอยู่ในช่วงที่พร้อมจะสืบพันธุ์สุดๆ ก็ตาม นอกจากนั้นแล้วนักวิจัยได้ออกมากล่าวเสริมว่า เนื้อเจลคุมกำเนิดดังกล่าวทำหน้าที่เป็นเพียงตัวกั้นขวางเชื้ออสุจิ ในขณะที่เรายังสามารถปล่อยให้ของเหลวอื่นๆ ไหลออกไปได้อยู่ และไม่เป็นพิษทำลายตัวอสุจิ อีกทั้งหากจะยกเลิกการคุมกำเนิด อยากจะมีลูกตามปกติ ผู้ใช้สามารถแก้การคุมกำเนิดได้ด้วยการฉีดเจลซ้ำเข้าไปอีกรอบ เพื่อไปละลายเจลที่อุดอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการคิดค้นเจลคุมกำเนิดผู้ชายที่ชื่อว่า ‘RISUG’ มาแล้ว และตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการทดลองใช้ในมนุษย์อยู่ โดยมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างจากเจลอันแรก แต่โดยรวมแล้วทั้งสองก็มุ่งเน้นไปที่การคุมกำเนิดระยะยาวในเพศชายเป็นหลัก ซึ่งจะเห็นได้ว่าช่วงหลังมานี้มีการพยายามหาทางคุมกำเนิดจากทางฝั่งเพศชายโดยไม่ต้องทำหมัน เนื่องจากทางฝ่ายหญิงนั้น มีทั้งวิธีการทำหมัน กินยาคุมกำเนิด ฝังยาคุมกำเนิด…
-
นักทำขนมแคนาดา Melly Eats World ผู้สร้างสรรค์ “มาการอง” และบรรดาขนมน่ารักจนไม่กล้ากิน
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก มาการอง ขนมหวานที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ด้วยหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์และรสชาติอันแสนเอร็ดอร่อย ทำให้ขนมชนิดนี้กลายเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก แต่ถ้าเพื่อนๆ คิดว่ามาการองไม่สามารถน่ารักได้มากกว่านี้ล่ะก็ เห็นทีจะต้องคิดใหม่แล้วล่ะ ถ้าเพื่อนๆ ได้เห็นผลงานของนักทำขนมจากแคนาดาคนนี้ ปกติแล้วมาการองทั่วๆ ไป ก็จะหน้าตาประมาณนี้ แต่… แท๊แด๊มมมมมมม มาการองยุคใหม่เพิ่มความมุ้งมิ้ง มาการองสุดน่ารักเหล่านี้เป็นผลงานของ Melly Eats World นักทำขนมจากเมืองโทรอนโต้ ประเทศแคนาดา เธอได้เปลี่ยนมาการองธรรมดาๆ ให้มีรูปร่างเป็นสัตว์นานาชนิด ไม่ว่จะเป็นหมีแพนด้า ลิง แมว สุนัข และหมูเป็นต้น ด้วยความน่ารักเหล่านี้ ทำให้ไอจีของเธอมีผู้ติดตามแล้วกว่า 5,000 คน ทั้งนี้ เธอไม่ได้เปิดเผยว่าสูตรของเธอทำอย่างไรจึงออกมาน่ารักมุ้งมิ้ง แต่ถ้าใครมีโอกาสแวะไปเมืองนี้ก็ลองแวะชิมของเธอได้ นอกจากนี้ถ้าใครอยากจะสั่งทำเป็นรูปอะไรพิเศษ เธอก็รับทำอยู่นะ แต่เธอบอกว่าต้องสั่งล่วงหน้า 6 สัปดาห์ เพราะงานเธอแน่นเอี๊ยดเหลือเกิน ลองไปชมผลงานของเธอกันเลย รับรองว่าน่ารักจนกินไม่ลงอย่างแน่นอน (ใครสนใจลองกดเข้าไปดูในไอจีของเธอ @mellyeatsworld ได้เลยนะฮะ รับรองว่ามีภายสวยๆ อีกเพียบแน่นอน) . .…
-
นักโบราณคดีจีนขุดพบ ‘ดิลโด้โบราณ’ อายุ 2,000 ปี แต่จุดประสงค์การใช้งานยังคงเป็นปริศนา!?
จากการค้นพบล่าสุดของนักโบราณคดีก็ทำให้รู้ว่าเหล่าขุนนางภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮั่น ในช่วงยุค 206 ปีก่อนคริสตกาล นั้นดูเหมือนว่ามีช่วงเวลาที่เยี่ยมยอดมาก… ในการขุดค้นสุสานโบราณที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ที่ตั้งอยู่ในมณฑล Jiangsu นักโบราณคดีได้ค้นพบสมบัติที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย ประกอบไปด้วยวัตถุที่เป็นเซรามิค, จานชาม, อุปกรณ์อาบน้ำ (ฟองน้ำที่ใช้ขัดตัว), และอุปกรณ์ที่น่าทึ่งอย่างดิลโด้ที่ทำจากทองแดงและหยก ถึงแม้มีการสันนิษฐานว่าดิลโด้ทองแดง อาจจะถูกใช้เป็นวัตถุทางด้านเพศ ทั้งให้ผู้หญิงใช้หรือผู้ชายใช้เพื่อเป็นเซ็กส์ทอยกับคู่ฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตามทางด้านนักวิจัยเชื่อว่าเจ้าดิลโด้หยกนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อสนองต่อความต้องการทางเพศแต่อย่างใด เพราะหยกนั้นถือเป็นอัญมณีที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองของชาวจีนมาอย่างช้านาน และคาดว่ามันน่าจะถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อมากกว่า “เจ้าสิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกับดิลโด้ที่ทำขึ้นมาจากหยกนี้ ถูกใช้งานเพื่อปิดผนึกร่างกายเพื่อกักเก็บเนื้อแท้ของตัวตน ไม่ให้มันรั่วไหลออกมาในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่และตายไปแล้ว” ภัณฑารักษ์ Fan Zhang กล่าว ส่วนเจ้าดิลโด้ทีทำขึ้นมาจากทองแดงนั้นเองก็ ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีไว้ทำอะไรกันแน่ เพราะรูปร่างของมันช่างแปลกประหลาด มีห่วงวงกลมเล็กๆ ติดอยู่ข้างหลังจึงทำให้นักวิจัยต่างก็ตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วมันมีไว้เพื่อสนองต่ออารมณ์ทางเพศจริงหรือไม่!? “เจ้าดิลโด้ที่ทำมาจากทองแดงนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากๆ และมันมักจะถูกพบในหลุมฝังศพของชนชั้นสูง เห็นได้ชัดเลยว่าพวกเขาทำมันขึ้นมาเพื่อใช้งาน แต่จะใช้งานในเรื่องใดนั้นยังไม่อาจทราบได้ เจ้าห่วงวงกลมนั้นก็คือสายหนัง หรือหนังที่ถูกคล้องเอาไว้ แต่มันก็ทำให้ชวนสงสัยว่าพวกเขาจะสวมใส่กันอย่างไร? มีไว้สำหรับผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่!?” คุณ Zhang กล่าว การค้นพบครั้งนี้ อาจจะเป็นหลักฐานสำคัญไขไปสู่เรื่องน่าสนใจในประวัติศาสตร์อีกหลายๆ เรื่องก็เป็นได้ ต้องคอยติดตามกันดูแล้ว… ที่มา :…
-
ชาวเน็ตบังเอิญเจอ ‘ขนมชีโตส’ รูปร่างคล้าย Harembe มีคนประมูลซื้อ 3 ล้านกว่าบาท!?
เมื่อปีที่ผ่านมาได้มีเรื่องราวที่ทำให้คนทั้งโลกต้องจดจำ เมื่อเด็กชายคนหนึ่งตกลงไปในกรงของกอริลล่า แต่จู่ๆ ก็มีเจ้ากอริลล่าตัวหนึ่งชื่อว่า Harembe ได้เดินเข้ามาอุ้มเด็กชายคนนั้นไป จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจที่จะปลิดชีวิตมัน เพื่อช่วยเด็กชายคนนั้นไว้ เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันมากมายทั้งในโลกโซเชียล และในแวดวงของผู้เชี่ยวชาญว่าแท้จริงแล้วเจ้า Harembe นั้นมีเจตนาที่จะช่วยเหลือเด็กหรือทำร้ายเด็กกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ก็คือเหตุการณ์ที่น่าสลดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าพ่อแม่หรือผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่บุตรหลานอยู่ตลอดเวลา ไม่ปล่อยปละละเลยจนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวเหล่านี้ผ่านมา และก็เป็นบทเรียนให้เราได้คิดคำนึง หาวิธีแก้ไขต่อไปในอนาคตเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอะไรน่าเศร้าขึ้นมาอีก… ทีนี้มาดูเรื่องแปลกๆ ซึ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้กันบ้าง… และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็ได้มีเหตุบังเอิญเกิดขึ้น มีชาวเน็ตรายหนึ่งซื้อขนมชีโตสมากิน และพบว่ามีชิ้นหนึ่งที่มีรูปร่างดูคล้ายกับเจ้า Harembe ซะเหลือเกิน เขาจึงได้นำเจ้าขนมชีโตสชิ้นดังกล่าว ไม่รวมถุง และขนมชิ้นอื่นๆ ไปเปิดประมูลในเว็บไซต์ eBay โดยเริ่มต้นราคาประมูลที่ 420 บาท รูปร่างของขนมชีโตส ที่กลายเป็นกระแสในเน็ต ส่งผลถึงการประมูลครั้งนี้มีคนเข้าร่วมเพียบ ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์ มีคนเข้ามาทำการประมูลไปทั้งหมด 132 ครั้ง จนเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมาการประมูลก็จบลง และขนมชีโตสรูปร่างคล้าย Harembe ถูกขายไปในราคากว่า…
-
เจ้าหมาที่ดันหน้าบวมเพราะผึ้งต่อย ถูกชาวเน็ตช่วยกันรุมยำอีกยก ฮาไปใหญ่เลยทีนี้!!
ไม่กี่วันมานี้ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งนามว่า dingo-sniper ได้โพสต์ภาพของเจ้าหมาน้อยที่มีลักษณะเหมือนหมาทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจก็คือ ใบหน้าของมันบวมเบ่งจนดูแล้วก็นึกสงสาร และแอบฮาไปตามๆ กัน โดยทางเจ้าของได้บอกว่า เจ้าหมาของเขาอยู่ดีไม่ว่าดีดันกินผึ้งเข้าไป เลยโดยผึ้งต่อยเลยทำให้หน้าบวมอย่างที่เห็น น่าสงสารใช่ไหมละ… นี่คือภาพต้นฉบับ โถๆๆๆ บวมเชียวลูกกกกก แต่ชาวเน็ตกลับไม่คิดเช่นนั้น ท้ายที่สุดหลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นภาพของมัน แต่ละคนก็ไม่อาจอยู่เฉยได้ งานนี้พวกเขาก็ได้พากันนำภาพของเจ้าหมาน้อยไปตัดต่อ บอกเลยว่าจากเดิมหน้าตาของมันก็ฮาอยู่แล้วนะ พอถูกรุมยำจากบรรดาชาวเน็ต ก็ยิ่งทำให้ภาพของมันฮาเข้าไปใหญ่ ไม่เชื่อก็ลองดูได้เลย… และทั้งหมดนี้คือภาพที่ชาวเน็ตร่วมใจกันตัดต่อ ว่าแล้วก็ไปชมผลงานของพวกเขากันเลย ผมจะให้ข้อเสนอที่คุณปฏิเสธไม่ได้… บางคนก็คิดว่า หน้ามันคล้ายแมวน้ำ… เอ้า ว่าไป!! หรืออาเธอร์ก็มี โดนผึ้งต่อย แต่ก็ยังยิ้มได้ โอ้วไม่ โดนจับมาาาาา โดนต่อยจนฟันเบี้ยว ฮ่าๆๆ โด่งดังจนได้ไปออกรายการทีวีกับทั่นประธานาธิบดี เอิ่ม…. เค้าอาจจะเห็นว่ามันคล้ายกันรึเปล่า… สีหน้าบอกอารมณ์ได้อย่างดี……
-
ชาวเน็ตประทับใจ “ควีนอลิซาเบธ” เมื่อฉลองพระองค์สีเขียว เสด็จกลับกรุงลอนดอน…
ถ้าถามว่าพระมหากษัตริย์พระองค์ใดมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก เชื่อว่าชื่อของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรต้องโผล่ขึ้นมาเป็นชื่อแรกๆ แน่นอน และตอนนี้ในวัย 90 พรรษา พระองค์ก็ถือว่าเป็นประมุขแห่งรัฐบริเตนที่ทรงราชย์นานที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้ว ด้วยระยะเวลารวมกว่า 65 ปี ล่าสุดเมื่อวานมีการเผยภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ขณะเดินทางกลับมาจากพระตำหนักซานดริงแฮม ในมณฑลนอร์โฟล์ก ประเทศอังกฤษ ซึ่งคราวนี้ยังคงความสะพรั่งเพราะพระองค์มาในฉลองพระองค์สีเขียวอ่อนแสนสดใส สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นธรรมเนียมของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธอยู่แล้ว ที่เมื่อถึงช่วงคริสต์มาสพระองค์จะเสด็จไปประทับที่พระตำหนักซานดริงแฮมและใช้เวลาที่นั่นจนถึงช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งพอหลังจากการใช้ชีวิตในซานดริงแฮมสิ้นสุดลง ก็เสด็จกลับยังกรุงลอนดอนของประเทศอังกฤษตามปกติ พระองค์ได้เสร็จกลับพระราชวังบักกิ้งแฮมช่วงวานนี้ โดยพระองค์ได้เสร็จขึ้นรถไฟที่สถานีคิงส์ลินน์ และได้โดยสารบนตู้ขบวนชั้นพิเศษ พร้อมกับกล่องแดงประจำตัวของพระองค์ (กล่องแดงประจำตัว ภายในจะบรรจุของใช้ส่วนพระองค์ จดหมาย รูปภาพ หรือเอกสารอื่นๆ ที่จะเป็นต้องใช้ติดต่อทางเชื้อพระวงศ์ของทางสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ) ช่างภาพข่าวอังกฤษตามถ่ายการเสด็จ กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตอังกฤษและฝั่งตะวันตก ต่างประเทศใจในฉลองพระองค์สีเขียวสดใส (ซึ่งแม้แต่สาวๆ วัยรุ่นหลายคนยังต้องขอยอมแพ้งดประชัน) . . ล่าสุด พระองค์เป็นกษัตริย์สหราชอาณาจักรองค์แรกที่มีพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติไพลิน (Sapphire Jubilee) ซึ่งจะจัดขึ้นสำหรับกษัตริย์ที่ครองราชนานถึง 65 ปี เท่านั้น ที่มา…
-
เรื่องราวของ ‘ประตูนางฟ้า’ ในตำนาน ที่โผล่ขึ้นมาทั่วเมือง Ann Bor อย่างปริศนา
เมือง Ann Arbor ที่ตั้งอยู่ในรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกกว่าที่อื่นๆ และน่าสนใจไม่น้อย เท่านั้นยังไม่พอ ที่แห่งนี้ยังมีเรื่องราวเร้นลับที่ดูน่าค้นหา ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วเมืองเป็นที่รู้จักกันดีว่าคือ ‘ประตูนางฟ้า’ Jonathan B. Wright ชายผู้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเบื้องหลังของประตูนางฟ้าเหล่านี้ เป็นคนพบมันครั้งแรกเมื่อปี 1993 ที่จู่ๆ ก็โผล่มาที่บ้านของเขา คุณ Jonathan เล่าว่า “ข้างหลังประตูเล็กนี้ยังมีบันไดที่เชื่อมขึ้นไปสู่ประตูอีกบานด้วย และมันจะล็อคทุกครั้งที่ผมเข้าไปทำการตรวจสอบ” จนมาถึงในช่วงปี 2005 ประตูนางฟ้าก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้งในร้านคอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่งชื่อว่า ร้าน Sweetwaters Coffee and Tea จากนั้นไม่นานประตูนางฟ้าก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นทั่วเมืองเต็มไปหมด ไม่มีใครทราบที่มาที่ไปว่าประตูเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร จนมาถึงปัจจุบัน เราสามารถพบประตูนางฟ้าได้ทั่วเมือง Ann Arbor ตั้งแต่คอนเสิร์ตฮอลล์ ร้านเฟอร์นิเจอร์ กิ๊ฟต์ช็อป รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะ คุณ Jonathan จึงตัดสินใจที่จะเขียนหนังสือเกี่ยวกับเจ้าประตูนางฟ้าเหล่านี้ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า ‘Who’s Behind the…
-
สภาพของเมือง ‘ฟูกุชิมะ’ 5 ปีผ่านไป สถานที่กาลเวลาหยุดนิ่ง ทุกอย่างยังคงอยู่ตรงนั้น…
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่เมืองฟุกุชิมะเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี 2011 ที่ผ่านมา หรือเมื่อราวๆ 6 ปีก่อน จนเกิดเป็นภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่เรียกได้ว่าสร้างความเสียหายยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์เชอร์โนบิลเลยทีเดียว แม้จะไม่มีรายงานว่ามีการเสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับการสัมผัสกับสารกัมมันตรังสีในระยะสั้นที่มากเกินไป แต่ก็มีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว และสึนามิมากกว่า 18,500 คน เลยทีเดียว จากความเสียหายครั้งใหญ่ในคราวนั้น ก็ผ่านแล้วเป็นเวลา 5 ปี เมืองที่เคยคึกคักกลับถูกทิ้งร้างให้ว่างเปล่า แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมบรรยากาศภายในเมืองฟุกุชิมะกัน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ลองไปชมผลงานของช่างภาพ Arkadiusz Podniesinski ชาวโปแลนด์ ที่เข้าไปเก็บภาพในเมืองมาให้พวกเราได้ชมกัน 1. เจ้าหน้าที่ทำการตรวจผู้มาเยือน เพื่อเช็คการปนเปื้อนแม้จะผ่านไปแล้ว 5 ปีก็ตาม 2. ร้านขายแผ่นเสียงที่เงียบงัน ไม่มีชีวิตชีวาแม้แต่น้อย 3. มีแต่แมงมุมที่เข้ามาสร้างรังอาศัยอยู่ 4. ไปทางไหนก็มีแต่ต้นหญ้าขึ้นสูงเต็มไปหมด 5. ถนนตอนกลางคืนที่ยังคงส่องสว่าง แม้จะไม่มีใครอยู่อาศัยแล้วก็ตาม 6. แหล่งทิ้งขยะเรียงรายนับล้านถุง 7. ขบวนรถที่จอดอยู่มากมาย ทำให้เราเห็นว่าในอดีตก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นั้นบนท้องถนนเคยคึกคักมากแค่ไหน …
-
หนุ่มรีวิวทัวร์ออสเตรเลีย ด้วยใบหน้าเบื่อโลกสุดๆ นี่จะสุขสมหรืออมทุกข์กันล่ะเนี่ย!?
เป็นเรื่องปกติธรรมดาเมื่อออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หลายๆ คนก็มักจะอยู่ในอารมณ์สนุกสนาน กระปรี้กระเปร่า และตื่นเต้นไปกับการผจญภัยที่จะเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่กับชายหนุ่มคนนี้เลย ที่รูปแบบการท่องเที่ยวของเขาช่างเป็นอะไรที่แปลกซะเหลือเกิน!? หาด Bondi ใน Sydney ไม่เห็นเหมือนในทีวีเลยแฮะ เรื่องมีอยู่ว่าสมาชิกเว็บไซต์ Imgur ชื่อว่า Boedith ได้ไปออกทริปที่ประเทศออสเตรเลียแบบฉายเดี่ยว แต่เรื่องที่แปลกก็คือพี่แกจะถ่ายรูปเซลฟี่หน้าตัวเองกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พร้อมทำหน้าตาเบื่อโลกซังกะตาย แถมยังใส่แคปชั่นในแต่ละรูปเล่าว่าแต่ละที่ที่ไปนั้นมันช่างน่าเบื่อซะเหลือเกิน เมือง Melbourne มีแต่ตึกเต็มไปหมด Heard the Great Ocean Road เป็นอะไรที่เจ๋งมาก แต่มันก็แค่ก้อนหิน กะจะขึ้นไปเอาเรื่องกับตลกที่เล่นได้ห่วยซักหน่อย แต่ได้กอดฟรีแทนซะงั้น แต่ก็เป็นกอดที่ดีนะ หาด Brisbane ที่อยู่กลางเมือง ไร้สาระชะมัด หวังว่าสวนสัตว์จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ดันไปเจอกับคัตเอ้าท์ของ Steve Irwin ที่เสียชีวิตไปแล้ว และโคอาล่าที่นอนหลับตลอดเวลา พวกเขาเอาเจ้าสัตว์ขี้เกียจเหล่านี้มาให้เราดูทำไมนะ? ไปดูซากเรือที่โด่งดังในเมือง Queensland แต่มันไม่สามารถแล่นไปไหนได้…
-
15 ภาพ ‘กระต่ายหาว’ ที่จะมาพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกมันแฝงความน่ากลัวมากกว่าที่คิด!!
ก็อย่างที่รู้กันดีว่า ‘กระต่าย’ นั้นเป็นสัตว์ที่มีความน่ารักและบ้องแบ๊วอยู่เต็มพิกัด ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็จะก็ดูมุ้งมิ้งไปหมด จนทำให้ใครต่อใครต่างก็หลงรักไปตามๆ กัน แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมด้านมืดของเหล่ากระต่าย เมื่อเวลาที่มัน ‘หาว’ จะทำให้เพื่อนๆ ทุกคนเก็บเอาไปนอนฝันร้ายอย่างแน่นอน จะเป็นอย่างไรลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… ปกติเราจะใช้คำที่บ่งบอกถึงการหาวว่า ฮ้าวววววว แต่สำหรับกระต่ายแล้วควรใช้คำว่า โฮกกกก!! จะเหมาะกว่านะ ชั้นจะกินแกไม่ให้เหลือแม้แต่เศษกระดูก นี่มันสิ่งมีชีวิตกระหายเลือดชัดๆ เป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ในหนังผี หรือหนังสยองขวัญ เป็นภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเวลากระต่ายหาว อารมณ์ของมันจะบูดเอามากๆ อย่าไปยุ่งเชียวนะ เพราะมีสิทธิ์นิ้วขาดได้ อารมณ์ไม่ดีนะเฟร้ยยย!! ราวกับเป็นปิศาจคราเค่นตัวน้อยที่มีขนปุกปุยเลย ปิศาจผู้หิวกระหายดวงวิญญาณของมนุษย์ และนี่คือสิ่งสุดท้ายที่คุณจะเห็นก่อนตาย มันกำลังจะกลายร่างเป็นปิศาจแล้ว!! แกจะต้องตกเป็นอาหารอันโอชะของข้า!! ข้าคือเครื่องจักรสังหารที่มาจากอนาคต เพื่อจัดการแก!! คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงเหรอ อะ อ๊ากกกกก!! แฮ่!!!…
-
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ ‘รองเท้าส้นสูง’ ไอเท็มสำคัญของสาวๆ ที่ขาดไม่ได้!!
จะว่าไปแล้วรองเท้าส้นสูงเนี่ย มันช่างเป็นรองเท้าที่ช่วยทำให้หญิงสาวผู้สวมใส่ดูขาเรียวยาวขึ้น และยังดูเซ็กส์ซี่ขึ้นมากอีกหลายเท่า เรียกได้ว่ากลายเป็นหนึ่งในไอเท็มชิ้นสำคัญของหญิงสาวเกือบทุกคนทั่วโลก อย่างน้อยก็ต้องมีติดไว้ซัก 1 คู่แหละจริงไหม? แล้วรู้ไหมว่าก่อนจะมาเป็นแฟชั่นรองเท้าส้นสูงสุดชิคให้กับคุณผู้หญิง ย้อนกลับไปในอดีตกาลเทรนด์นี้มันเกิดขึ้นโดยผู้ชายนะย่ะหล่อน เอาเป็นว่าตามไปดูประวัติศาสตร์พร้อมกันเลยจ๊ะพวกเธอทั้งหลาย ย้อนกลับไปอดีตกาลมีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าเทรนด์การสวมใส่รองเท้าส้นสูงในยุโรป มาจากกลุ่มคนขี่ม้า ที่เดินทางจากเปอร์เซีย เข้ามายังดินแดนยุโรป เป็นครั้งแรก Elizabeth Semmelhack ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์รองเท้าได้กล่าวว่า ‘บริเวณส้นรองเท้าที่ถูกเสริมขึ้นในยุคแรกนั้น ช่วยทำให้เท้าของคนขี่ม้าพอดีกับโกลนมากขึ้น และยังช่วยทำให้พวกเขายิงธนูได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย’ ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 16 รองเท้าส้นสูงถูกทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์เครื่องแต่งกายอย่างหนึ่งของคนชนชั้นสูงในยุคนั้น โดยมาจากพื้นฐานแนวคิดที่ว่า ยิ่งใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับการทำกิจกรรม ยิ่งแสดงให้เห็นว่าคนนั้นมีฐานะมั่งคั่งพอที่จะไม่ต้องทำงานอะไรเลย ภาพวาดของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กับการสวมใส่รองเท้าส้นสูง ทว่าต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 17 รองเท้าส้นสูงกลับได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้หญิงที่ขายบริการ ในยุคนั้นผู้หญิงเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนเทรนด์การแต่งตัวให้ดูเข้ากับผู้ชายมากยิ่งขึ้น เช่นการตัดผม การเอาหมวกของผู้ชายมาสวมใส่ และการสวมรองเท้าส้นสูง หลังจากที่เทรนด์รองเท้าส้นสูงเริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มประชากรชนชั้นล่าง ทางฝั่งของกลุ่มชนชั้นสูงก็ได้มีการสร้างความแตกต่างโดยเลือกที่จะทำส้นของรองเท้าให้สูงมากกว่าเดิม เพื่อแสดงถึงอำนาจทางการเงินที่มั่งคั่งกว่า ต่อมามีการแบ่งประเภทของส้นสูงไว้อย่างชัดเจน โดยรองเท้าที่มีส้นเล็กเรียวจะเป็นสำหรับผู้หญิง ส่วนรองเท้าที่มีส้นหนากว่าจะถูกใช้สำหรับผู้ชาย ฝั่งซ้ายของผู้หญิง ฝั่งขวาของผู้ชาย เมื่อกาลเวลาผ่านไปสิ่งต่างๆ…
-
ชม 15 ภาพแห่งความเรื่อยเปื่อย ทั้งคนและหมา อย่าถามถึงสาระเพราะมันไม่มี!!
อะไรที่ไม่มีสาระเนี่ยขอให้บอก เพราะพวกเราถนัดกันเหลือเกิน อันที่จริงเวลาที่เห็นเราทำคอนเท้นท์ที่มีสาระเนี่ย ก็คือเราทำคอนเท้นท์ที่มีสาระนั่นแหละ (แล้วจะพูดทำไมเนี่ย!?) และคราวนี้เราก็จะพาไปชมอะไรที่มันไม่มีสาระเหมือนเดิมนั่นแหละ ทั้งหมดนี้คือ 16 รูปภาพที่โคตะระจะไปเรื่อยสุดๆ เอาเป็นว่าขอแค่ให้คนอ่านได้ปริรอยยิ้มออกมาบ้าง แค่นี้เราก็ดีใจแล้วล่ะ หง่อวววววว 1. โฉมหน้าของเจ้าหมาเมื่อมันพยายามจะกินเฟรนช์ฟรายส์ 2. เฮ้ยเดี๋ยว!! ใจเย็นๆ พี่นั่นหัวเด็กนะไม่ใช่ถ้วยน้ำจิ้ม 3. ‘หวัดดี หมารับสายเอง ไม่ทราบว่าจะคุยกับใครครับ?’ 4. เจอแบบนี้ก็ไปไม่ถวดเหมือนกันนะลูกพี่ 5. ที่มาของคำว่า ‘หมากระเป๋า’ ตัวจริงเสียงจริง 6. จำได้ไหมว่าครั้งหนึ่ง ‘ท่าแพลงกิ้ง’ เคยฮิตสุดๆ ว่าแต่ใครทำแบบนี้เนี่ย!? 7. ตอนแรก: อู้ววหูว อะเมซิ่งมากเลย ไอติมอะไรย๊าวยาว ชอบมากเลย ตอนหลัง: โถ่ววไอ้!@#$%^ 8. โจ๊ว โจ๊ว แร็พตูบ…
-
สาระน่ารู้เรื่องวัฒนธรรม “สินสอด” มาจากไหน ใครให้สินสอดบ้าง แล้วถ้าไม่ให้จะได้ไหม?
เศรษฐกิจยุคนี้มันช่างฝืดเคือง ค้าขายก็ไม่ค่อยจะดี แถมความรักก็ดูจะไปไม่รอด เพราะพ่อตาเล่นเรียกค่าสินสอดซะสูงเหลือเกิน แล้วลูกผู้ชายชนชั้นกลางอย่างเราๆ จะไปหาเงินหลายแสนจากไหนมาแต่งงานดีล่ะน้อ… เรียกได้ว่าวัฒนธรรมการให้สินสอด เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยเรามาอย่างยาวนาน นานซะจนคนรุ่นใหม่อย่างเราๆ บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่า มันมีที่มาจากไหน? หรือทำไปเพื่ออะไร? ด้วยความสงสัยดังกล่าว เราจึงไปค้นข้อมูลผ่านอากู๋ผู้รู้ใจ และได้พบว่าอันที่จริงแล้ว วัฒนธรรมสินสอดเนี่ย ไม่ได้มีแค่ในประเทศฝั่งเอเชียอย่างบ้านเราเท่านั้น แต่มันมีมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยยุคอารยธรรมเมโสโปเตเมีย นู้นแน่ะ นักมานุษยวิทยาชาวฝรั่งเศส Philippe Rospabé ได้ระบุไว้ว่า วัฒนธรรมสินสอดแบบใช้เงินตราเนี่ย เพิ่งปรากฏขึ้นเมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งมันมาจากรากฐานความคิดเรื่องของความมั่นคงในชีวิตคู่หลังการแต่งงาน และอาจแตกต่างกันไปตามบริบทการเป็นอยู่ของแต่ละสังคม เมโสโปเตเมีย อ้างอิงจากตำราฮัมมูราบี ได้กล่าวไว้ว่า สินสอดในอดีตของวัฒนธรรมชาวเมโสโปเตเมีย นั้นจะถูกกำหนดโดยญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย โดยมีกฏร่วมกันอยู่ว่า ถ้าหากฝ่ายชายมีชู้จะไม่ได้รับค่าสินสอดคืน ยกเว้นก็แต่ว่าพ่อตาจะไม่เอาเรื่อง วัฒนธรรมชาวยิว จากคัมภีร์ฮิบรูของชาวยิวได้มีการกำหนดเรื่องสินสอดไว้ตั้งแต่อดีตกาลนานมาแล้ว โดยมีบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า ‘ชายใดที่เกี้ยวพานราศีกับหญิงบริสุทธิ์ ต้องจ่ายค่าสินสอดทองหมั้น และแต่งงานกับเธอ แต่ถ้าหากพ่อของฝ่ายหญิงปฏิเสธยกลูกสาวให้ ฝ่ายชายต้องจ่ายค่าสินสอดเพื่อชดใช้พรหมจรรย์ที่เสียไป’ กฏของชาวอิสลาม สำหรับวัฒนธรรมการแต่งงานของผู้นับถือศาสนาอิสลามนั้น ได้มีกฏบัญญัติไว้ว่า ฝ่ายชายจะต้องจ่าย ‘มะฮัร’ ซึ่งถือเป็นของขวัญ และสินน้ำใจที่ฝ่ายชายมอบให้ โดยจะแตกต่างจากสินสอด…
-
รู้จักกับ Trash Doves เจ้านกน่ารำคาญ มาพร้อมกับคอนเซ็ปป่วนเพื่อนให้หัวร้อน!!
เนื่องจากว่า จู่ๆ ก็มีเจ้าสติ๊กเกอร์นกประหลาดโผล่ขึ้นมาสร้างความก่อกวนให้กับทุกๆ คนบนหน้าวอลเฟซบุ๊กอยู่เต็มไปหมดตลอดทั้งวัน มันมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่? ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาไขปริศนาให้กระจ่างเอง!! สติ๊กเกอร์นกพิราบนี้ม่วงนี้มีชื่อว่า Trash Doves หรือจะแปลเป็นภาษาไทยว่า ‘นกพิราบขยะ’ ก็ได้ แค่ชื่อก็รู้แล้วใช่มั้ยว่ามันจะต้องเกี่ยวข้องกับลเรื่องอะไรที่ไม่ดีแน่ๆ… ใช่แล้วล่ะ เพราะผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า syd weiler ผู้สร้างมันขึ้นมาก็ได้ประกาศถึงจุดประสงและเป้าหมายในการใช้งานของมันว่า “ตอนนี้ Trash Doves เปิดให้ใช้บริการในเฟซบุ๊คแล้วนะ และที่สำคัญคือมันฟรี!! เอาล่ะ เชิญส่งมันสร้างความรำคาญให้กับเพื่อนๆ และศัตรูของคุณได้เลย!!” แหม่ ไอ้เราก็คิดว่าจะเป็นการเล่นพิเรนทร์ของชาวเน็ต ที่หยิบสติกเกอร์ดีๆ น่ารักๆ มาเล่นซะเสียหาย แต่ที่ไหนได้ เป็นจุดประสงค์ของผู้สร้างเองตั้งแต่แรกเลยนี่ฝ่า แต่ท่าทางของมันก็ยียวนกวนโอ๊ยจริงๆ ยิ่งมีคนเอาไปเล่นกันตามเพจต่างๆ จนเป็นคอมเม้นต์ติดกันยาวพรืดแล้วล่ะก็ ยิ่งดูลายตาเข้าไปใหญ่ ฮร่า หากใครยังไม่มี ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดที่ Trash Doves ได้เลยนะจ๊ะ แล้วเราจะหัวร้อนไปด้วยกัน!!! ที่มา : syd weiler, อินทนิลา วิริยานุรักษ์กุล
-
สนามบินออกแลนด์ ฉีดม่านน้ำพุต้อนรับเที่ยวบินตรงการ์ต้า ที่นานที่สุดในโลกกว่า 16 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เส้นทางเที่ยวบินใหม่และเป็นการให้บริการครั้งแรกของสายการบิน การ์ต้า แอร์เวย์ ได้เดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ณ เมืองออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยระยะเวลารวมทั้งสิ้น 16 ชั่วโมง 23 นาที โดยเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน คิวอาร์ 920 ของสายการบินการ์ต้า แอร์เวย์ ได้ออกเดินทางจากกรุงโดฮา ประเทศการ์ต้า ไปยังเมืองออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นระยะทางทั้งหมด 14,535 กิโลเมตร ถือว่าเป็นเที่ยวบินตรงที่ไกลที่สุดในโลก เที่ยวบินดังกล่าวต้องเดินทางผ่านเส้นแบ่งเวลากว่า 10 เส้น ต้องใช้นักบิน 4 คนในการสลับเปลี่ยนหมุนเวียน รวมทั้งพนักงานต้อนรับอีก 15 คน ในการบริการผู้โดยสารทั้งหมด ซึ่งพวกเขาได้แจกกาแฟไปทั้งสิ้น 1,100 ถ้วย น้ำดื่มอีก 2,000 ขวด และอาหารอีกกว่า 1,036 จาน และเมื่อถึงสนามบินออกแลนด์ ทางสนามบินก็ได้จัดเตรียมรถดับเพลิง ฉีดน้ำทำเป็นม่านต้อนรับเที่ยวบินดังกล่าวอีกด้วย…
-
ถ้า ‘มนุษย์กลายเป็นสุนัข’ ชุดภาพสะท้อนความหดหู่ กับการทารุณกรรมสุนัขภายในจีน!!
เป็นประจำทุกปีที่เมืองยู่หลิน ประเทศจีน จะมีการจัดงานเทศกาลเนื้อหมาขึ้นเป็นประจำ โดยงานจะจัดเป็นเวลายาวนานถึง 10 วัน และคาดว่ามีสุนัขมากกว่า 15,000 ตัว ที่ถูกนำมาทำเป็นอาหารสำหรับเทศกาลประจำปีนี้ แต่ใช่ว่าเมืองจีนจะเต็มไปด้วยความโหดร้ายเสมอไป ท่ามกลางประเพณีการกินเนื้อสุนัข ก็ยังมีกลุ่มคนบางส่วนที่ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องเหล่าน้องหมาไม่ให้ถูกนำไปทำเป็นอาหารอีก และล่าสุดทีมนักเต้นโพลแด๊นซ์ ‘POLE 11’ ได้ออกมารวมตัว เพื่อประท้วงเทศกาลกินเนื้อหมา และต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงความโหดร้ายที่สุนัขจรจัดถูกทารุณกรรมโดยน้ำมือมนุษย์ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์ก็ตาม… โดยพวกเขาได้จำลองสถานการณ์ให้แก่ตนเอง ตามแบบที่มนุษย์ทำกับสุนัขจรจัดอย่างหดหู่ อีกทั้งต้องการตระหนักให้ทุกคนเริ่มหยิบยื่นการช่วยเหลือให้แก่เหล่าสุนัขจรจัดทั้งหลาย บางตัวก็ถูกเผาทั้งเป็น มีอีกหลายชีวิตที่ต้องพยายามเอาตัวรอดแบบวันต่อวัน พวกมันไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวมันเองบ้าง บ้างก็ถูกมนุษย์ใจร้ายล่ามไว้ และปล่อยให้อดอาหารนานแรมเดือน เพียงเพราะเขาคนนั้นรู้สึกรำคาญพวกมัน และอีกหลายชีวิตที่ถูกนำมาทำเป็นอาหาร มีสุนัขมากมายที่ต้องตายจากไปด้วยน้ำมือของมนุษย์ วันแล้ววันเล่า บางทีก็ถูกทรมานให้ตายทั้งเป็น เพียงเพราะความสนุกอันแสนโหดร้ายของคนบางคน จากภาพทั้งหมดนี้ พวกเขาก็ได้แต่หวังว่ามันจะช่วยทำให้ชาวจีนตระหนักถึงเรื่องนี้มากขึ้น ในขณะที่อีกฝั่งหนึ่งของเทศกาลเนื้อสุนัข กลับเต็มไปด้วยผู้คนให้ความสนใจจำนวนมาก… อันที่จริงแต่ละประเทศก็มีวัฒนธรรมอาหารการกินที่ต่างกัน แต่สำหรับคนรักสัตว์อย่างเราๆ เห็นแบบนี้แล้วมันอดที่จะสงสารไม่ได้จริงๆ ที่มา: Fwdder
-
นักการเมืองฝรั่งเศส ใช้วิธีหาเสียงเลือกตั้งแบบล้ำๆ ไม่ใช่ป้าย แต่มาเป็นโฮโลแกรมเลยจ้า!!
เมื่อใกล้จะถึงช่วงของการเลือกตั้งเพื่อเฟ้นหาตัวแทนนักการเมือง เพื่อขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่งผู้นำประเทศ ถ้าเป็นบ้านเราก็คงจะได้เห็นป้ายหาเสียงที่วางกระจัดกระจายอยู่เต็มฟุตบาธไปหมด หรือไม่ก็ออกไปหาเสียงตามท้องตลาด เข้าไปผูกมิตรกับพ่อค้าแม่ค้า ก่อนที่พวกเขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังได้ตำแหน่ง… ถึงแม้ว่าตอนนี้ ‘การเลือกตั้ง’ ดูจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวประเทศเรามากเกินไปหน่อยก็เถอะ แต่ที่ประเทศฝรั่งเศส เหล่านักการเมืองผู้ลงสมัครเลือกตั้ง ต่างก็กำลังงัดเอาทีเด็ดของแต่ละคนออกมาหาเสียงกันอย่างขมักเขม่น และล่าสุดเราได้ไปเจอกับวิธีการหาเสียงแบบล้ำสมัยของ ‘Jean-Luc Melenchon’ โดยใช้เครื่องโฮโลแกรม งานนี้เจ้าตัวบอกว่าไม่เปลืองทรัพยากร และไม่ต้องไปแอ๊คถ่ายรูปกับพ่อค้าแม่ค้าตามตลาดให้เสียเวลา แถมยังฝากเรามาบอกต่อถึงผู้หลักผู้ใหญ่ที่นี่ด้วยว่า ‘เลส อิส มอร์ ยูโน๊วว!?’ บรรยากาศการปราศรัยของ Jean-Luc Melenchon ที่เมืองลียง โดยเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ‘Jean-Luc Melenchon’ ได้ขึ้นมาปราศรัยที่เมืองปารีส โดยใช้เครื่องโฮโลแกรมนี่แหละ ถ่ายตัวเองจากเมืองลียง ก่อนจะส่งข้อมูลไปยังเครื่องฉายโปรเจคเตอร์เมืองปารีสที่อยู่ห่างไกลกว่า 500 กิโลเมตร อัพเดทแบบเรียลไทม์กันไปเลย “ตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนแล้วนะ? ตัวผมอยู่ที่เมืองลียงนี่ และผมก็ขึ้นมาปรากฏตัวที่ปารีสได้” เจ้าตัวกล่าวบนเวที โดยภาพวิดีโอที่ถ่ายจากเมืองลียง จะถูกฉายเข้ากับพื้นหลังบนเวทีปราศรัยที่มีความเอียงระดับ 45 องศา จึงทำให้เรามองเห็นเขายืนพูดบนเวทีแบบ 3 มิติ …
-
ชมคอนเซปต์ “ป่าแนวตั้ง” อพาร์ทเม้นที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ เตรียมเปิดตัวในจีนปี 2018 นี้
ในโลกยุคใหม่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เราก็มักจะเห็นแต่ตึกรามบ้านช่องสูงเสียดฟ้าเต็มไปหมด ต่างจากในอดีตที่บ้านเมืองของเราเต็มไปด้วยสีเขียวสดใสของต้นไม้ ขณะเดียวกันถ้ามองในโลกของความเป็นจริง สิ่งต่างๆ รอบตัวของเราก็มักจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หลายสิ่งหลายอย่างต้องเจริญเติบโตขึ้น ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไรดีละให้บ้านเมืองได้รับการพัฒนาไปด้วย และมีธรรมชาติแวดล้อมอันงดงามให้เราได้สุดอากาศบริสุทธิ์ไปด้วย คอนเซปต์อพาร์ทเม้น “ป่าแนวตั้ง” แห่งหนานจิง ประเทศจีน ด้วยเหตุนี้ทาง Stefano Boeri สถาปนิกชาวอิตาลี จึงปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดโดยการเนรมิตอาคารธรรมดาๆ ในนครหนานจิง ประเทศจีน ให้ผสมผสานกับความเขียวขจีของต้นไม้ ผลงานออกแบบตึกก่อนหน้านี้ – Bosco Verticale ณ เมืองมิลาน อิตาลี . . สำหรับ Stefano เขาเป็นสถาปนิกที่เคยได้รับรางวัลการออกแบบตึก “Bosco Verticale” ซึ่งเป็นตึกป่าแนวตั้งอีกแห่งที่คล้ายกับป่าแนวตั้งในเมืองหนานจิง แต่ตั้งอยู่ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยตึกดังกล่าวเต็มไปด้วยพันธุ์พืชกว่า 2,000 ชนิด และถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้กว่า 900 ต้น และในตอนนี้ เขาก็ได้กลายเป็นสถาปนิกที่จะได้มาออกแบบอาคาร “ป่าแนวตั้ง” ในเมืองหนานจิงเป็นคนแรกของเอเชียแล้ว …
-
เคยสงสัยหรือไม่ว่า “อาการหมั่นเขี้ยว” เกิดขึ้นจากอะไร ทุกๆ ครั้งที่เราเจอสิ่งของน่ารัก?
เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยเกิดอาการหมั่นเขี้ยวอยากเข้าไปกัดสิ่งของน่ารักต่างๆ เช่น เด็กทารก สัตว์เลี้ยงต่างๆ ซึ่งบางทีเวลารู้สึกแบบนี้ก็แอบคิดไม่ได้ว่า ตัวเองมีอาการโรคจิตรึเปล่าที่อยากกัดคนอื่นไปทั่ว (ฮา) แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยหรือเปล่าว่าอาการแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง เราไปฟังผู้เชี่ยวชาญกันดีกว่า น่ารักมั้ยอ่ะงับ ไม่น่ารักเดี๋ยวจิ้มเลยนะ นักวิจัยเผยว่า ในบางครั้ง สมองของเราตอบสนอง “การได้รับรู้สิ่งน่ารัก” สับสนกับ “ความอยากอาหาร” จิตใต้สำนึกของเราจึงทำให้เรารู้สึกอยากกัดสิ่งของเหล่านั้น แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวเท่านั้น…. ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม Susan Perry กล่าวว่า อาการอยากงับหรือกัดสิ่งของที่น่ารักของมนุษย์ อาจเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่เรียกว่า “การแกล้งกัด” ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเธอและทีมงานนักวิจัยได้สังเกตเห็นว่า ลิงคาปูชินมักกัดลิงตัวอื่นอย่างนุ่มนวลโดยไม่สร้างความเจ็บปวด เพื่อแสดงความเป็นมิตรซึ่งกันและกัน ซึ่งพฤติกรรมนี้สามารถพบได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ ด้วย นั่นแปลว่าการกัดไม่ได้แสดงถึงความหิวและความโกรธเกรี้ยวเท่านั้น นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า การกัดของสัตว์หลายชนิดๆ เทียบได้กับการเลีย การนำหัวมาถู หรือการดม เพื่อแสดงความเป็นมิตรของสัตว์หลายๆ ชนิด ซึ่งอาจจะสรุปโดยรวมได้ว่าเป็นพฤติกรรมที่แฝงไปด้วยความเอ็นดู เพื่อเป็นการแสดงความสนิทสนมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมนั่นเอง และเหล่ามนุษย์ทั้งหลายที่แสดงอาการเหล่านี้ก็เป็นอาการปกติจ๊ะ แบบนี้นี่เอง อย่างนี้เราคงไม่ได้โรคจิตแล้วสินะ ฮาาา ที่มา scientificamerican
-
ลูกสกังก์เพิ่งเกิดใหม่ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งไม่สนใจ เจ้าหมาจึงรับหน้าที่เป็นแม่บุญธรรมแทน!!
เราอาจได้อ่านหรือเห็นเรื่องราวของการที่สัตว์ชนิดหนึ่งรับสัตว์อีกชนิดมาเลี้ยงมาหลายต่อหลายเรื่อง และทุกครั้งเรื่องราวเหล่านั้นก็มอบทั้งรอยยิ้มและความอบอุ่นให้กับผู้อ่านอยู่เสมอ และเรื่องราวเรื่องนี้ก็เช่นกัน เจ้าสกังก์ตัวน้อยสองตัวนี้มีชื่อว่า Stripey และ Mini ทันทีที่มันเกิดมา แม่ของมันก็มีอาการเครียดเป็นอย่างมาก พวกมันจึงถูกทิ้งอย่างไม่ใยดี ยิ่งไปกว่านั้น มันเกิดมาในสภาพที่ไม่สมบูรณ์เต็มร้อย ทำให้โอกาสที่มันรอดชีวิตมีน้อยเป็นอย่างยิ่ง ทางครอบครัวของ Stripey และ Mini จึงพยายามดูแลพวกมันอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่มีใครมาทำหน้าที่ “แม่” จริงๆ แล้วล่ะก็ การที่มันจะเติบโตมาโดยสมบูรณ์คงเป็นไปได้ยากอย่างแน่นอน แต่ด้วยความเห็นอกเห็นใจหรือสิ่งใดก็ไม่อาจทราบใด เจ้า Freddie สุนัขอีกตัวที่อาศัยอยู่ในบ้าน ตัดสินใจมารับหน้าที่แม่บุญธรรมนี้เสียเอง นับตั้งแต่นั้นมา เจ้า Freddie ก็ดูแลสกังก์สองตัวนี้ไม่ห่างตลอด 24 ชั่วโมง ราวกับว่าพวกมันเป็นลูกของเธอเอง จนตอนนี้ผ่านไปห้าเดือนแล้ว เจ้าลูกสกั้งตัวน้อยทั้งสองจากที่เกือบตาย ในที่สุดมันก็เติบโตขึ้นมาเป็นสกังก์ที่แข็งแรงและร่าเริง ไปชมคลิปความร่าเริงของเจ้าสกั้งทั้งสองกันดูสิ ความเป็นแม่ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ เลยเนอะ ที่มา Boredpanda
-
15 ภาพของแมงมุมตัวน้อย ช่วยบรรเทาโรคกลัวแมงมุมของคุณ ด้วยพลังแห่งความน่ารัก!!
“แมงมุม” อาจเป็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆ ที่แสนธรรมดาสำหรับใครหลายๆ คน แต่สำหรับบางคนเพียงแค่เห็นภาพ หรือใยที่ว่างเปล่าของมันก็อาจจะทำให้รู้สึกกลัว ตกใจ และขนลุกขนพองขึ้นมาแล้ว สำหรับคนที่เห็นแมงมุมแล้วเกิดรู้สึกใจสั่น ร้องไห้ หรือกรี๊ดร้องขึ้นมานั้น คุณอาจจะเป็นโรคจำเพราะชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “โรคกลัวแมงมุม” หรือ “Arachnophobia” ซึ่งเป็นโรคที่สามารถพบได้มากในผู้คนทั่วๆ ไป นั่นเอง ว่าแต่เมื่อมีความกลัวเข้ามาครอบงำแบบนี้ คุณเคยคิดที่จะเอาชนะความกลัวเหล่านั้นบางหรือไม่ ในวันนี้เราจะพาคุณมารับชมภาพของเหล่าแมงมุมตัวน้อย ที่จะมาช่วยรักษาโรค Arachnophobia ของคุณด้วยความน่ารักของพวกมัน รับรองว่าเมื่อเห็นภาพเหล่านี้คุณอาจจะรู้สึกชื่นชอบ และอาจจะหายกลัวมันขึ้นมาบ้างก็เป็นได้ พบกับลูกแมงมุมตัวน้อยที่มีใบหน้าสุดบ๊องแบ๊ว ไม่ต้องกลัวนะ พวกเราไม่เป็นอันตรายต่อใครเลย แม้แต่ตอนที่เติบโตขึ้น พวกมันก็ยังคงน่ารักอยู่ เพิ่มเติมคือสีสันสวยงามมากๆ แม่แมงมุมกับลูกน้อย ขอถ่ายภาพเซลฟี่หน่อยนะ พวกเราอาศัยอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ว่างๆ ก็มาเยี่ยมกันได้ ใบหน้าที่ดูอ่อนโยน ไม่เห็นน่ากลัวตรงไหนเลย ทักทายกันหน่อยเร็วพวกมนุษย์ ต๊ะเอ๋!! ว้าวววว สีสันสวยสดงดงามฝุดๆ สวัสดี…ได้โปรดอย่ากลัวฉันเลย เราออกจะใสๆ ขนาดนี้…
-
ความเห็นฮาๆ ของบรรดาต่างชาติ เมื่อคนญี่ปุ่น “ซู๊ดดดดด” อาหารอย่างเอร็ดอร่อย!!
ในบ้านเราการสูดอาหารเสียงดังๆ อาจจะดูไร้มารยาท แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้วมันกลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะการสูดอาหารเสียงดังๆ อย่างเช่นการกินเส้นโซบะนั้น มันแสดงให้เห็นว่า ยิ่งสูดดังๆ ก็ยิ่งแปลว่าอร่อยนั่นเอง แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจในธรรมเนียม และวัฒนธรรมการรับประทานอาหารดังกล่าวของคนญี่ปุ่น แต่ชาวต่างชาติหลายคนอาจจะยังคงมองว่าเป็นเรื่องแปลก และเมื่อได้เห็นการสูดอาหารเสียงดังๆ ของชาวญี่ปุ่น พวกเขาจะคิดอย่างไรน้า!? และทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นฮาๆ ของชาวต่างชาติ เมื่อได้เห็นคนญี่ปุ่นโชว์การโซ๊ยและสูดอาหาร มาดูกันว่าพวกเขาจะมีความเห็นอย่างไร สองนักท่องเที่ยวจากสวีเดนที่ได้มาเยือนประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ได้บอกว่าการสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวดังๆ ของคนญี่ปุ่นนั้นฟังแล้วเหมือนเสียงของหมูเลย และไม่น่าเชื่อเลยว่าสองคู่หูชาวสหรัฐอเมริกาก็คิดเช่นเดียวกัน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์ที่ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก บอกว่าเธอรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ข้างคนที่กำลังโซ้ยอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนหนุ่มน้อยจากอังกฤษบอกว่าถ้าเพื่อนๆ ของเขาสูดอาหารแบบนั้น เขาจะบอกให้หยุดทำซะ!! อีกหนึ่งเหตุผลที่ชาวต่างชาติไม่ชอบการสูดอาหารดังๆ ของชาวญี่ปุ่นก็คือ นอกจากจะเสียงเหมือนหมูแล้ว ยังเหมือนเสียงกดชักโครกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ในหลายๆ ประเทศอาจจะมองว่าลักษณะการรับประทานอาหารของคนญี่ปุ่นดูไร้มารยาท แต่เราก็ต้องยอมรับว่าวัฒนธรรมในการกินของแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกัน . แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทำตามกฎของเขาไปซะถูกอย่าง เพียงแค่อยากให้รู้ไว้ว่าลักษณะการรับประทานและมารยาทบนโต๊ะอาหารของบ้านเขาเป็นเช่นไร ถ้ามาเจอการจกข้าวเหนียวที่บ้านเราบ้าง เขาจะมองว่าไร้อารยะในการกินบ้างรึเปล่าหนอ? ที่มา : kotaku
-
คุณก็รู้ที่นี่บราซิล!! 13 ความจริงของบราซิล จะทำให้รู้สึกว้าวแต่หน้าไม่ร้าว และอยากไปเที่ยว
ดูเหมือนประโยคที่ว่า ‘คุณก็รู้ที่นี่บราซิล’ จะถูกนำมาประยุกต์ใช้กับอะไรก็ตามที่ค่อนข้างจะไทยแลนด์โอนลี่สุดๆ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าคำพูดดังกล่าวมันมาจากที่ไหน แต่ถึงเราจะไม่รู้ที่มาที่ไปของประโยคสุดฮิต แต่อย่างน้อยเราก็รู้ 13 เรื่องจริงของประเทศนี้ และมันก็เป็นเหตุผลที่เราควรจะเก็บตังค์ จองตั๋ว และหาโอกาสไปสัมผัสให้ได้ซักครั้งในชีวิต 1. เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ 2. จริงๆ แล้วเมืองหลวงคือ ‘Brasilia’ ส่วน ‘Sao Paulo’ จัดว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ 3. มีชายหาดที่ชื่อว่า ‘Baia do Sancho’ โดย TripAdvisor ได้จัดอันดับว่าเป็นชายหาดที่สวยงามที่สุดในโลก!! 4. เป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกเมล็ดกาแฟมากที่สุดในโลก (ราว 80% ของกาแฟทั่วโลก) 5. มีสนามบินเยอะที่สุดในโลกมากกว่า 4,000 แห่งทั่วประเทศ 6. นามสกุลที่ถูกใช้มากที่สุดคือ ‘Silva’ นักฟุตบอลในภาพเป็นกองหลังทีมชาติบราซิลชื่อ ‘Thiago Silva’ 7. ชาวประมงที่นี่สามารถใช้โลมาช่วยจับปลาได้! 8. ที่นี่มีบริการบาร์ในธีม…
-
สาววัย 18 ไม่ยอมทำความสะอาดห้อง พลาดไปเหยียบอะแดปเตอร์ชาร์จทะลุเข้าเนื้อลึก!!
สำหรับใครที่ไม่เคยทำความสะอาดห้อง และปล่อยให้ห้องรกจนไม่มีทางเดินละก็!! ระวังเอาไว้ให้ดี เพราะบางทีมันอาจจะนำมาสู่บทเรียนอันแสนเจ็บปวดที่จะทำให้คุณจดจำไปตลอดชีวิตก็เป็นได้ และนี่คือบทเรียนตัวอย่างที่จะทำให้คุณได้เห็นว่าโทษของการปล่อยให้ห้องรกมันเป็นอย่างไร รับรองว่าเมื่อได้เห็นแล้วจะต้องรีบไปเก็บกวาดห้องขนมาทันทีเลยละ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Julia Pechar หญิงสาววัย 18 คนนี้ ได้รับบทเรียนอย่างหนัก หลังจากที่เท้าของเธอดันไปเหยียบกับที่ชาร์จโทรศัพท์จนทะลุเข้าไปในเท้า… โดยสาเหตุที่ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้เกิดขึ้นจากการที่เธอไม่ยอมเก็บกวาดห้องนอน แถมเสื้อผ้าก็เกลื่อนไปทุกที่ จนทำให้แทบไม่มีทางเดินกันเลยทีเดียว นี่คือสภาพห้องของเธอ แต่ใครจะรู้ละว่ามันมีภัยร้ายซ่อนอยู่ จากการรายงานระบุว่า ในขณะที่ Julia กำลังนั่งดูหนังอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงป๊อบคอร์นที่อบไว้สุกพอดี จากนั้นเธอจึงกระโดดลงจากเตียง และทำให้เท้าดันไปเหยียบใส่ปลั๊กสำหรับชาร์จไอโฟนเข้าไปเต็มๆ และนี่คือสภาพที่เกิดขึ้น น่ากลัวมากจริงๆ!! Julia ได้บันทึกภาพถ่ายเอาไว้ และนำไปโพสต์ในทวิตเตอร์ของเธอ พร้อมระบุข้อความเอาไว้ว่า “ก่อนที่ฉันจะตะโกนเรียกแม่ ฉันได้คลานไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อถ่ายภาพ ส่วนใครที่สงสัยว่ามันไม่มีเลือด จริงๆ แล้วมันมีนะ…แถมยังมีเยอะมากด้วย” ด้านชาวเน็ตหลังจากที่ได้เห็นภาพดังกล่าวต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ห้องของเธอเหมือนซ่อนบางอย่างเอาไว้เลย” “บางทีแม่ของคุณควรจะเขียนโน้ตเอาไว้เพื่อบอกให้คุณทำความสะอาดห้องซะบ้าง มันน่ากลัวจริงๆ” และ…
-
วันเกิดเด็กออทิสติกเกือบล่มเพราะไม่มีคนมา คุณแม่เลยโพสโซเชียล คราวนี้แห่มาเพียบ!!
สำหรับเด็กๆ หลายคนแล้ว การได้มีปาร์ตี้วันเกิดถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอมาตลอดทั้งปี ลองนึกถึงวันที่บ้านเต็มไปด้วยเพื่อนๆ และญาติพี่น้อง มาร่วมกินขนมเค้กฉลองวันเกิดกัน มันจะเป็นเรื่องที่มีความสุขขนาดไหน สำหรับเด็กหญิงริฮานน่าวัย 9 ขวบคนนี้ก็เช่นกัน ด้วยความที่เธอป่วยเป็นโรคออทิสติก ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่นัก ทำให้เธอตั้งหน้าตั้งตารอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันเกิดของเธอซักที เพราะวันนั้นคือวันที่เธอจะมีคนมาร่วมยินดีและมาสนุกกับเธอมากที่สุดนั่นเอง เมื่อวันเกิดของริฮานน่าใกล้จะมาถึง แคนดี้ บุชเชอร์ คุณแม่ของริฮานน่า ก็ได้ชวนเพื่อนๆ ของเธอเพื่อมาร่วมวันเกิดของลูกสาวสุดที่รัก ซึ่งมีประมาณ 10 ครอบครัวตอบตกลงว่าจะมาร่วมวันเกิดอย่างแน่นอน ด้วยความวางใจ เธอจึงจัดเตรียมขนมและบ้านเพื่อต้อนรับแขกในวันนั้น แต่เรื่องราวกลับตาลปัตร เมื่อแขกทั้งหมดที่บอกว่าจะมาร่วมงานกลับส่งข้อความมาบอกว่าไม่สามารถไปร่วมงานได้แล้ว นั่นแปลว่าเธอต้องฉลองวันเกิดเพียงลำพัง “ฉันเดินออกไปนอกบ้าน แล้วนั่งอยู่เป็นชั่วโมงเพื่อคิดว่า ฉันจะบอกเธอยังไงดีว่า ไม่มีใครมาร่วมงานวันเกิดเธอแล้ว ลองนึกภาพสิ คุณจะบอกเด็กเก้าขวบที่เป็นออทิสติกยังไงว่าไม่มีใครมาเลย มันน่าเศร้ามาก ฉันรู้สึกว่าเป็นแม่ที่แย่มาก” บุชเชอร์กล่าว ด้วยความอัดอั้นไม่รู้จะทำยังไง เธอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนกลุ่มเฟสบุ๊ก Midnight Mums ที่เธอเป็นสมาชิกอยู่ฟัง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความมหัศจรรย์ “โทรศัพท์ของฉันสั่นไม่หยุดตลอดทั้งเช้าเลย มีคอมเมนต์เข้ามาให้กำลังใจและอวยพรวันเกิดให้กับริฮานน่าเป็นจำนวน พวกเขาให้เด็กๆ ของพวกเขาเขียนคำอวยพร แล้วโพสผ่านเฟสบุ๊กมาให้” บุชเชอร์กล่าว .…
-
Lofree คีย์บอร์ดยุคใหม่เพิ่มความจ๊าบ มีกลิ่นอายของ ‘เครื่องพิมพ์ดีด’ ให้ฟีลจากยุคเก่า!!
นับตั้งแต่การเข้ามาปรากฏตัวของนวัตกรรม ‘คอมพิวเตอร์’ พูดได้ว่ามันเข้ามาเปลี่ยนแปลงบริบท และวิถีการใช้ชีวิตของคนเราในหลายๆ ด้าน ถึงขนาดที่ว่าอุปกรณ์เครื่องมือใช้สอยต่างๆ ถูกทำให้เลือนหายไป ด้วยนวัตกรรมที่ใหม่กว่า และใช้สอยได้สะดวกกว่า ‘เครื่องพิมพ์ดีด’ ก็เป็นอีกหนึ่งในอุปกรณ์ที่กำลังจะเลือนหายไปตามการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย แล้วจะเป็นอย่างไรละถ้าเกิดว่ามีคนประยุกต์นำเอาเสน่ห์ของเครื่องพิมพ์ดีด มาผสมผสานกับคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ งานนี้รับรองว่าพิมพ์กันมันส์มือแน่นอน! และนี่ก็คือโฉมหน้าของคีย์บอร์ดสุดจ๊าบ จาก ‘Lofree’ เป็นคีย์บอร์ดที่สามารถเชื่อมต่อได้กับโทรศัพท์มือถือ แทบเล็ต หรือโน๊ตบุ๊ค โดยผ่านสัญญาณบลูทูธ อีกหนึ่งจุดเด่นที่ผู้ผลิตชูโรงขึ้นมาก็คือเสียง ‘แต๊กๆๆ’ เหมือนตอนที่เราใช้เครื่องพิมพ์ดีดสมัยก่อน แถมยังมีหลากสีสันให้เลือก และส่วนใหญ่จะอยู่ในโทนสีพาสเทล แหม่..แอบเอาใจฮิปสเตอร์เหมือนกันนะเนี่ย ส่วนประกอบภายในคีย์บอร์ดชุดนี้ (เป็นแบบ Mechanical นะจ๊ะ) . . ลองนึกดูสิว่าถ้าเราได้นั่งพิมพ์งานไป พร้อมกับมีเสียง ‘แต๊กๆๆๆ’ แบบสมัยก่อนไปด้วย ต้องได้อารมณ์วินเทจมากแน่ๆ แถมยังมีขนาดเล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ละไม่มีสายเชื่อมต่อให้ดูยุ่งยาก สำหรับใครที่อยากได้ตอนนี้ทางผู้ผลิตเขาประกาศแจกฟรี 20 อัน เพียงแค่เราเข้าไปลงทะเบียนด้วยอีเมล์ได้ที่เว็บไซต์ Lofree.co…
-
ปาฏิหาริย์ที่เป็นจริง คุณแม่ได้พบกับลูกสาวอีกครั้ง หลังจากพลัดพรากกันนานกว่า 77 ปี!!
ความสัมพันธ์ของแม่ลูกนั้น เป็นระดับความสัมพันธ์ที่ตัดกันไม่ขาด แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ หรือต้องอยู่ไกลกันขนาดไหนก็ตาม เช่นเดียวกับเรื่องราวของคุณแม่ผู้สูงอายุ ‘มินก้า ดิสโบรว์’ เมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นได้อายุ 17 ปี เธอถูกข่มขืน และตั้งท้องในเวลาต่อมา มินก้า ดิสโบรว์ แต่ด้วยภาระหน้าที่ ที่ไม่สามารถส่งเสียเลี้ยงดูลูกได้ เธอจึงจำใจต้องยอมให้ลูกสาวคนแรกของเธออยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์สงเคราะห์เด็ก จนเวลาผ่านไปนานเนิ่นทั้งคู่ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเลย สิ่งเดียวที่เธอมีคือรูปถ่ายขาว-ดำ ในสมัยที่ลูกสาวของเธอเพิ่งลืมตาออกมาดูโลกได้ไม่นาน ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอพยายามเขียนจดหมายหลายต่อหลายฉบับส่งไปที่ศูนย์ดูแลเด็ก ซึ่งที่ผ่านมาทางศูนย์ก็ได้ให้ความหวังว่าจะพยายามติดต่อลูกสาวเธอให้ได้ จนกระทั่งมีการเปลี่ยนแปลงการจัดการภายใน จึงทำให้ความปรารถนาของเธอดูจะเลือนลางจางหายไป “ขอแค่ให้ฉันได้พบกับเธออีกครั้ง ฉันสัญญาว่าจะไม่ยุ่งยาก จะไม่กวนใจเธอเลย” คุณแม่กล่าว จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อช่วงกรกฏาคม ปี 2006 มินก้าได้รับโทรศัพท์จากชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาได้แนะนำตัวว่าชื่อ ‘ไบรอัน ลี’ ผู้เป็นลูกชายของ ‘เบ็ตตี้ เจน’ ซึ่งเธอก็คือลูกสาวเพียงคนเดียวที่มินก้าพยายามตามหามาโดยตลอด ปัจจุบันเธอใช้ชื่อว่า ‘รูธ ลี’ แทน เรื่องมันมีอยู่ว่า รูธ ลี…
-
เมื่อนกแก้วตัวน้อย มีพี่แมวตัวโตมาดูแล ตามติดแจไม่ยอมห่าง จะไปไหนก็ไปด้วย!!
แมวกับนกอาจจะเป็นสัตว์ ที่หลายคนมองว่าพวกมันไม่น่าจะมาเป็นเพื่อนกันได้หรอก เพราะไหนจะเกิดมาคนละสายพันธุ์ แถมดูเหมือนนิสัยต่างกันมากจนไม่น่ามาอยู่ด้วยกันได้ แต่ในความจริงสัตว์ทั้งสองนี้มันเข้ากันได้นะ แถมยังรักกันมากๆ อีกด้วย ถ้าหากใครไม่เชื่อละก็ ขอเชิญพบกับ Bonifazii เจ้าเหมียวตัวส้ม และ Yasha นกแก้วแสนน่ารักเลยจ้า ถึงจะต่างสายพันธุ์ แต่ว่าพวกเราทั้งสองเป็นเพื่อนคู่ซี้ที่สนิทสนมกลมเกลียวกันสุดๆ เลย สำหรับเจ้า Yasha เป็นนกแก้วที่เติบโตมากับเจ้าเหมียว Bonifazii ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งคู่ถึงรักกันมาก พวกมันกินด้วยกัน นอนด้วยกัน เล่นด้วยกัน แถมยังตัวติดกันตลอด เจ้าเหมียวมักจะปล่อยให้นกน้อยกระโดดไปนั่งบนหลังของมันอยู่เป็นประจำ และที่สำคัญเวลาที่เจ้า Bonifazii ไปที่ไหน นกน้อย Yasha ก็จะตามมันไปทุกๆ ที่ เรียกได้ว่าตัวติดกันอย่างกับตังเมเลย “พวกเขาอยู่ด้วยกันมานานกว่า 5 ปีแล้วละ ทั้งยังชอบวิ่งไปรอบๆ อพาร์ทเม้น มันเป็นมิตรภาพที่งดงามจริงๆ” Irina ผู้เป็นเจ้าของกล่าว ในตอนนี้เจ้าเหมียวอายุ 10 ปีแล้ว ในขณะที่เจ้านกน้อยอายุเพียง 5…
-
ไม่ใช่เล่นๆ นะคร้าบ จีนกลายเป็นเจ้าแห่งการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์มากที่สุดไปแล้ว
ในยุคที่พลังงานถ่านหินกลายเป็นแหล่งพลังงานที่ล้าหลังและเต็มไปด้วยมลพิษ หลายๆ ประเทศต่างพยายามพัฒนาและผลักดันพลังงานทางเลือกให้กลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากเขื่อน พลังความร้อนใต้พิภพ พลังงานลม และที่ขาดไม่ได้เลยคือพลังงานแสงอาทิตย์ ถึงแม้พลังงานแสงอาทิตย์จะสะอาดและหาได้ทั่วไป (ขอเพียงท่านมีพื้นที่และแสงอาทิตย์เท่านั้น) แต่ต้องยอมรับว่า พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูงและยังไม่มีจุดคุ้มทุนเสียด้วย แต่ล่าสุดในปี 2016 ที่ผ่านมา ประเทศจีนได้แสดงความเป็นผู้นำโลกยุคใหม่ หลังกระทรวงพลังงานของจีนได้ออกมาประกาศว่า พวกเขาได้กลายเป็นประเทศที่ผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้มากที่สุดในโลก ตลอดทั้งปี 2016 พวกเขาสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 77.42 กิกะวัตต์ (77,420 เมกกะวัตต์ ขณะที่ประเทศไทยใช้พลังงานไฟฟ้าปีละ 28,000 เมกกะวัตต์) และภายในสามปีข้างหน้า พวกเขาจะเพิ่มกำลังการผลิตไปให้ได้ที่ 110 กิกะวัตต์ต่อปี ซึ่งจะนับเป็น 20 เปอร์เซ็นของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งประเทศ ด้วยภูมิประเทศที่เหมาะสม ทำให้จีนสามารถตั้งแผงโซลาร์เซลได้เป็นจำนวนมากในแถบมณฑลเหอหนาน ซินเจียง ซางตง รวมถึงมองโกเลียอีกด้วย สาเหตุที่ประเทศจีนผลักดันการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เนื่องจากต้องการลดการนำเข้าพลังงานฟอสซิลจากต่างประเทศ และทางการจีนคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ (10 ล้านล้านบาท) ในการปรับปรุงระบบการผลิตไฟฟ้าภายในประเทศทั้งหมด ในขณะที่สหรัฐอเมริกายังเอาแน่เอานอนไม่ได้ และยุโรปยังอยู่ในช่วงขาลง ไม่แน่เราอาจได้เห็นพญามังกรกลายเป็นผู้นำโลกยุคใหม่ก็เป็นได้ ที่มา digitaltrends
-
ศิลปินหนุ่มสร้าง “จิ๊กซอว์” ที่ยากที่สุดในโลก เพราะมี 1,000 สีตามมาตรฐาน CMYK
การต่อจิ๊กซอว์อาจเป็นกิจกรรมที่ใครหลายๆ คนชอบเล่น เพราะนอกจากจะเป็นการฝึกสมาธิ ความอดทน และควมช่างสังเกตแล้ว มันยังเป็นอีกหนทางในการฆ่าเวลาระดับเทพอีกด้วย (แป๊ปๆ หมดไปหลายชั่วโมงนึงละ) แต่ถ้าจิ๊กซอว์ปกติมันยังไม่ท้าทายพอล่ะก็ วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับจิ๊กซอว์ที่ยากที่สุดในโลก เพราะพี่แกเล่นมีสีครบทุกสีในสเปกตรัมเลยน่ะสิ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย!! จิ๊กซอว์ดังกล่าวเป็นผลงานของนักออกแบบและศิลปินหนุ่ม Clemens Habicht โดยเขาได้สร้างจิ๊กซอว์ขนาด 5,000 ชิ้นขึ้นมา ด้วยการใช้มาตรฐานสี CMYK ในการออกแบบ ซึ่งจะมีการไล่สีทุกระดับชนิดที่ว่านั่งจ้องยังแยกแทบไม่ออกเลยทีเดียว แค่เห็นสีก็ปวดใจแล้ว มันจะคล้ายกันไปไหน ต้องใช้ความพยายามหน่อยล่ะ สุดท้ายก็ต่อจนสำเร็จจนได้นะเนี่ย ใครสนใจก็ไปซื้อกันได้ที่เว็บไซต์ colossalshop เลยนะฮะ สนนราคาอยู่ที่ชุดละ 49.99 ดอลลาร์ หรือ ราว 1,750 บาท รับรองว่าท่านจะได้รู้ว่า “นรกมีจริง” ฮาาาา ที่มา colossalshop
-
ย้อนอดีตไปชมภาพถ่าย “ห้องสมุดเคลื่อนที่” ในต้นศตวรรษ 20 ที่หาชมไม่ได้ง่ายๆ เลย
ในปัจจุบันโลกของเราได้มีการพัฒนาไปเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย และรวดเร็ว เช่น หากเราอยากได้หรืออยากซื้ออะไร เพียงแค่คลิกเข้าไปในเว็บไซต์นั้นๆ ก็สามารถสั่งซื้อ และรอรับของที่บ้านได้ และใครก็ตามที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ คุณสามารถไปยังห้องสมุด หรือซื้อผ่านเว็บไซต์ Amazon ที่หลายๆ คนรู้จักในนามของร้านหนังสือออนไลน์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกได้อีกด้วย แต่จริงๆ แล้ว เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า Amazon ไม่ได้เป็นร้านหนังสือ หรือห้องสมุดเคลื่อนที่ที่เพิ่งเกิดขึ้นหรอกนะ เพราะในอดีตเมื่อย้อนกลับไปในต้นศตวรรษที่ยี่สิบ เราก็เคยมีห้องสมุดเคลื่อนที่มาแล้วเหมือนกัน และนี่คือภาพหาดูยากของห้องสมุดเคลื่อนที่ในอดีตก่อนที่ Amazon จะก่อกำเนิดขึ้น เรามาดูความคลาสสิค และชื่นชมกลิ่นอายห้องสมุดเคลื่อนที่ในอดีตกันเลย ห้องสมุดเคลื่อนที่ได้เปิดให้บริการในปี 1925 สำหรับห้องสมุดเคลื่อนที่แห่งแรกนั้น คาดว่าได้ปรากฏตัวขึ้นที่ Warrington ประเทศอังกฤษในช่วงปลายยุค 1850 โดยจะมีตั้งแต่รถม้าเทียมลากห้องสมุดคันเล็กๆ ไปจนถึงรถตู้คันใหญ่กว้างขวาง ในช่วงปีแรกของการเปิดให้บริการมีจำนวนการยืมหนังสือไปมากถึง 12,000 ต่อมาห้องสมุดเคลื่อนที่จึงถูกมาตั้งในยานพาหนะ หลังจากนั้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 จึงได้เข้ามาแพร่หลาย และได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศอเมริกา ห้องสมุดเคลื่อนที่ครั้งแรกในซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ ปี 1927 ห้องสมุดเคลื่อนที่ในอิหร่าน ปี…
-
อะจึ๋ย… เด็กหญิงชาวอเมริกันผู้หลงใหล “แมลงสาบ” เลี้ยงจนออกลูกหลานนับพันตัว
เด็กๆ ในวัย 8-9 ขวบ อาจจะชื่นชอบสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ อย่างหมา แมว กระต่ายที่แสนจะมุ้งมิ้ง แต่สำหรับ Shelby Counterman หนูน้อยวัย 8 ขวบ จากเมืองทัลซา มลรัฐโอกลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกาคนนี้ เธอกลับชื่นชอบในสิ่งที่แตกต่างออกไป เพราะแทนที่จะชื่นชอบสัตว์น่ารักๆ แต่เธอกลับหลงใหล “แมลงสาบ”….ใช่แล้ว!! คุณฟังไม่ผิดแน่ๆ หนูน้อย Shelby คนนี้ เธอชอบแมลงสาบมากๆ แถมยังเลี้ยงแมลงสาบเอาไว้ในห้องนอนของเธอเป็นพันๆ ตัวอีกด้วย!! ทางด้านหนูน้อย Shelby ก็ได้ออกมาเผยว่า เธอได้กลายเป็นนักสะสมแมลงสาบมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ หลังจากที่ได้รับมาจากเพื่อนบ้าน และหลังจากนั้นเธอก็เลี้ยงดู และทะนุถนอมมันมาเรื่อยๆ จนเหล่าแมลงสาบเริ่มขยายพันธุ์และออกลูกหลานเต็มบ้าน หนูน้อย Shelby ดูแลเหล่ากองทัพแมลงสาบแสนรักของเธอเป็นอย่างดี โดยให้พวกมันอาศัยอยู่ในตู้ปลาชนิดพิเศษ ที่ทาวาสลีนไว้ตรงขอบตู้ เพื่อไม่ให้มันสามารถวิ่งออกมาสร้างความวุ่นวายภายในบ้านนั่นเอง ด้าน Meg Counterman ผู้เป็นแม่ได้ออกมาเผยว่า “ในตอนแรกฉันยอมรับเลยว่างานอดิเรกของลูกสาวมันดูน่ากลัวไปหน่อย…
-
หนุ่มประกาศขายรถแบบฮาร์ดคอร์ บอกทุกอย่างไม่มีหมกเม็ด จนยอดแชร์ทะลุสามหมื่น!!!
เวลาขายรถบนอินเตอร์เน็ต เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเลือกมุมที่สวยที่สุดและดีที่สุดออกมาขาย ส่วนมุมที่แย่ๆ ก็พยายามกวาดเข้าใต้พรมไว้ เพื่อรถจะได้ขายออกไวๆ จนหลายๆ ครั้งเมื่อลูกค้าได้รับรถมา ถึงกับลมแทบจับเพราะไม่ตรงปก แต่ล่าสุดเกิดกระแสสุดฮาบนโซเชียลของฝรั่ง เมื่อหนุ่มคนหนึ่งประกาศขายรถแบบโครตฮาร์ดคอร์ แบบไม่มีหมกเม็ด จนชาวเน็ตฝรั่งถูกใจแชร์ไปกว่า 30,000 ครั้ง จะฮาขนาดไหน ไปชมกันเลย หนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Shelmar Pierre Roseman เขาได้ประกาศขายรถยี่ห้อ Oldsmobile Alero รุ่นปี 2002 บนเฟสบุ๊กของตนเอง แต่สิ่งที่เจ๋งไม่ใช่รถที่เขาขาย แต่เป็นแคปชั่นที่เขาบรรยายต่างหาก “กรุณาอ่านให้ละเอียด จะได้ไม่เข้าใจผิดนะ รถคันนี้ไม่มีความพิเศษหรือว่าสวยงามอะไร วิ่งมาแล้ว 200,000 ไมล์ (320,000 กิโลเมตร) มีรอยสนิมด้านข้าง ผมแทบจะซูมให้เห็นอยู่แล้วตามภาพ รถใช้งานตลอด แอร์ยังเย็นและมีช่องใส่ซีดี ไม่ขาด ไม่เกิน ไม่ใช่ว่ามาดูรถแล้วบอกว่ารถคันนี้ไม่เหมือนในภาพเลยหรือบอกว่าไม่เห็นรอยสนิม ผมบอกคุณตรงนี้เลยว่า รถคันนี้แม่งสนิมทั้งนั้น แถมราคาแม่งแค่ 900 ดอลลาร์ ( 31,000 บาท) คุณจะได้รถมูลค่า 900 ดอลลาร์เข้าใจมั้ย…
-
คุณปู่ประกาศหาเพื่อนไปตกปลาหลังคู่หูเสียชีวิต สุดท้ายก็ได้หนุ่มวัย 22 มาเป็นเพื่อน
นับตั้งแต่เสียภรรยาไปเมื่อหลายปีก่อน กิจกรรมที่คุณปู่ Ray Johnstone วัย 75 ปี ชาวออสเตรเลียทำเป็นประจำคือการออกไปตกปลากับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง และดูเหมือนว่านั่นคือความสุขเดียวที่ชายไม้ใกล้ฝั่งอย่างเขาจะมีได้ แต่น่าเศร้า เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนนักตกปลาคู่หูของคุณตาก็เสียชีวิตไปด้วยโรคชรา ทำให้คุณตาไม่อยากออกไปตกปลาคนเดียว (เพราะมันเหงา) คุณตาจึงซื้อโฆษณาบนเว็บไซต์ Gumtree เพื่อหาคนไปตกปลาด้วย โฆษณาดังกล่าวได้สะกิดใจ Mati Batsinilas หนุ่มวัย 22 ปี จากเมืองบริสเบนเป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจติดต่อคุณปู่ Johnstone ไปในทันที หนึ่งสัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็ได้ไปออกทริปตกปลาด้วยกันที่เกาะสเตรดโบรก และพวกเขาก็ได้ถ่ายภาพเซลฟี่ลงมาอวดโซเชียลด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตกได้ปลาตัวใหญ่ไม่เบาเลยนะเนี่ย หลังจากตกปลากันเสร็จแล้ว พวกเขาก็วางแผนจัดทริปต่อไปกันในทันที โดยพวกเขาวางแผนกันไว้ว่าจะขับรถ 4×4 เข้าไปในป่าและหาที่ตกปลาดีๆ กัน “ผมชวนเขาไปเที่ยว ไม่ใช่แค่ตกปลาเท่านั้น แต่หมายถึงการไปพักผ่อนในที่ห่างไกลด้วย ผมบอก Ray แต่แรกแล้วว่าเราจะทำมันให้สำเร็จจนได้ ผมอยากขอบคุณถ้อยคำดีๆ ทุกคนที่ทุกคนมอบให้กับผม แต่นี่เป็นความตั้งใจของครอบครัวผมด้วย ไม่ใช่แค่ตัวผมคนเดียวเท่านั้น” Batsinilas กล่าว Batsinilas และครอบครัว รวมทั้งคุณปู่ Johnstone “ความสัมพันธ์ของเราเป็นไปด้วยดีมาก และผมก็รู็สึกดีจริงๆ…
-
ตัวอย่าง “Dog Wick” เมื่อหมาออกมาคาบปืนล้างแค้นให้ John Wick ที่ถูกมาเฟียฆ่าตาย!!
อีกไม่กี่วันแฟนๆ หนังทั่วโลกก็จะได้ชมหนังภาคต่อของ John Wick กันแล้ว ซึ่งพล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้ถือว่ากลายเป็นมีมให้หลายๆ คนแซวเลยทีเดียว (เล่นฆ่าล้างแก๊งมาเฟียเพราะว่ายิงหมาตาย) และล่าสุดก็มีชาเนลหนึ่งในยูทูป ทำตัวอย่างหนังออกมาแซวในชื่อว่า Dog Wick ตัวอย่างหนังเล่าถึงโลกคู่ขนานของหนังเรื่อง John Wick เมื่อคนที่ตายกลับเป็นตัว John Wick เอง ทำให้หมาของเขาต้องจับปืนออกไปล้างแค้นให้กับเจ้านายแทน ตัวอย่างหนังดังกล่าวเป็นผลงานของชาแนล RocketJump ไม่แน่ใจว่าไลออนส์เกตอยู่เบื้องหลังของคลิปนี้หรือไม่ เพราะแม้กระทั่งเพจ John Wick เองก็ได้นำไปแชร์ ฉะนั้นอาจเป็นการโปรโมตหนังอีกทางหนึ่งก็เป็นได้ . . . เชิญชมกันได้เลยจ้า ฮ่าๆ ถ้ามีหนังจริงๆ คงสนุกไปอีกแบบแน่นอน ส่วนใครที่ชื่นชอบหนังภาคแรก อย่าลืมไปดูภาคสองนะฮะ ^^ ที่มา RocketJump
-
วีรกรรมสุดกล้าหาญ แอร์โฮสเตสช่วยเหลือ “ผู้โดยสารหญิง” ให้รอดจากขบวนการค้ากาม…
วีรกรรมอันแสนกล้าหาญของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2011 ที่เธอได้ช่วยเหลือเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งไว้จากขบวนการค้ามนุษย์ Shelia Frederick วัย 49 ปี พนักงานต้อนรับบนเครื่องของสายการบิน Alaska Airlines ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุผ่านทางรายการข่าว 10 News ในวันนั้นเธอต้องทำงานต้อนรับผู้โดยสายบนเครื่องบินที่จะเดินทางจากเมือง Seattle ไปยังเมือง San Francisco แต่ด้วยความช่างสังเกต เธอก็ได้เห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างกับผู้โดยสารคู่หนึ่ง เธอเล่าว่า “ในใจของฉันบอกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง” ภาพที่เธอเห็นก็คือมีเด็กสาวอายุราวๆ 14 ถึง 15 ปี ที่ดูสภาพโทรมนั่งติดกับชายที่มีอายุมากกว่าซึ่งเดินทางมาด้วยกันแต่การแต่งตัวนั้นผิดกันลิบลับ มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล มิหนำซ้ำยังมีท่าทางที่น่าสงสียขึ้นไปอีก เธอได้เดินเข้าไปพูดคุยกับเด็กสาวเพื่อสอบถามว่ามีสิ่งใดให้ช่วยเหลือหรือไม่ แต่ฝ่ายผู้ชายกลับเป็นคนตอบคำถามให้ทั้งหมด ไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดเลย มันเลยไม่น่าไว้วางใจ… เมื่อสบโอกาส คุณ Shelia จึงแอบกระซิบบอกเด็กหญิงเบาๆ ว่าให้ลุกไปเข้าห้องน้ำ และเธอได้เตรียมโน้ตที่เขียนข้อความในกระดาษเพื่อถามว่าเธอต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่แปะไว้ที่หน้ากระจก พร้อมกับปากกาและเบอร์โทรศัพท์ติดต่อเอาไว้ให้ด้วย ปรากฏว่าเด็กสาวคนนั้นต้องการความช่วยเหลือ เพราะเธอถูกขบวนการค้ามนุษย์จับตัวไปขายเพื่อเป็นทาสทางเพศ เมื่อทราบดังนั้นแล้ว คุณ Shelia ได้ทำการแจ้งไปยังกัปตันและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด…
-
แนะนำให้รู้จักกับ Snooty ฉลามที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะรอยยิ้มที่ดูเหมือนวายร้าย
บางครั้งเซเลบคนดังนั้นก็ไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้น แต่ยังมีสัตว์ชนิดต่างๆ ในโลกที่มีชื่อเสียงอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น หมา, แมว, จระเข้, หรือแม้แต่ ฉลาม!? ก็มีด้วยนะเออ… ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับเจ้า Snooty ฉลามผู้มีใบหน้าเหมือนวายร้าย ที่เป็นเซเลบประจำรัฐฟลอริด้า ไม่ว่านักประดาน้ำคนไหนก็ตามที่มาดำน้ำในทะเลแถบนี้ต่างก็ต้องมาแชะรูปร่วมกับมันซักครั้ง เช่นเดียวกันกับช่างภาพ Cassie Jensen ที่ใช้เวลาตั้งหลายปีกว่าจะได้ใกล้ชิดกับดาราดังรายนี้ พอได้มาเจอกับเจ้า Snooty ตัวเป็นๆ ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าหน้าตาของมันนั้นช่างเหมือนกับ Bruce ฉลามวายร้ายจากเรื่อง Finding Nemo เด๊ะๆ เลย เนื่องจากว่ากรามของเจ้า Snooty นั้นจะมีรูปร่างไม่เหมือนกับฉลามปกติธรรมดาทั่วไป ทำให้ดูเหมือนกับว่ามันกำลังฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลา และนี่เองทำให้มันมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว คุณ Cassie เล่าว่า “ก่อนหน้านี้ฉันเคยดำน้ำร่วมกับฉลามมาแล้วก็หลายตัว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบกับเจ้า Snooty ฉันเฝ้ารอมานามากเพื่อที่จะได้เจอกับมันแบบตัวเป็นๆ และเมื่อได้เห็นเจ้า Snooty ครั้งแรก หัวใจของฉันก็เต้นแรงมาก” “มันเป็นฉลามที่รู้จักกันดีในฟลอริด้า ด้วยลักษณะกรามของมันที่โค้งลงมาจากมุมปาก ทำให้หน้าของมันดูเหมือนจะฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลา” “หางของมันนั้นมีลักษณะบิดงอเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่ได้ส่งผลร้ายอะไรกับมัน และนั่นก็ทำให้พวกเรารักมันมากยิ่งขึ้น”…
-
คุณตาจบ ป.3 ลงทุนเรียนกฎหมาย 16 ปี เพื่อฟ้องบริษัทสารเคมี ที่ทำให้หมู่บ้านเขาเป็นมลพิษ
หลายๆ ครั้งที่เหล่าชาวนาทั้งหลายนั้นตกเป็นเหยื่อของการถูกเอารัดเอาเปรียบ เพราะโดยปกติแล้วพวกเขาจะเป็นคนที่มีอายุมากและไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องของกฎหมาย ทำให้รู้ไม่เทาทันในเล่ห์เหลี่ยมของเหล่านายทุน แต่ไม่ใช่กับคุณตาชาวจีนอย่างแน่นอน เพราะเขาลงทุนศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายด้วยตัวเองเป็นเวลากว่า 16 ปี เพื่อทำการฟ้องร้องต่อสู้คดีกับบริษัทสารเคมี ที่สร้างมลภาวะให้กับที่ดินของเขา ทำให้ชาวบ้านและตัวของคุณตาเองต้องเดือดร้อน นี่คือคุณตา Wang Enlin วัย 60 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Yushutun ตั้งอยู่บริเวณชานเมือง Qiqihar มณฑล Heylongjuang ประเทศจีน เขาประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งบริษัท Qihua Group ได้เข้ามาตั้งโรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับสารเคมีที่บริเวณใกล้ๆ กับ ที่ดินทำกินของเขา จนทำให้เกิดมลพิษปกคลุมไปทั่ว คุณตาเล่าว่าเมื่อช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในปี 2001 ขณะที่กำลังนั่งฉลองอยู่กับเพื่อนบ้านอยู่ จู่ๆ โรงงานก็ปล่อยน้ำเสียออกมาจนท่วมพื้นที่บ้าน และไร่นาของคุณตา เท่านั้นยังไม่พอ น้าเสียที่โรงงานปล่อยออกมายังท่วมไปถึงส่วนอื่นๆ ในหมู่บ้านด้วย จากรายงานของเอกสารราชการเมื่อปี 2001 ได้บันทึกเอาไว้ว่าพื้นที่การทำเกษตรของชาวบ้านจะไม่สามารถใช้ทำกิจกรรมใดๆ ได้เลย เป็นเพราะสารพิษที่ถูกปล่อยทิ้งออกมา ในช่วงปี 2001 ถึง 2016 บริษัท Qihua ยังคงทิ้งสารเคมีอันเป็นผลมาจากการทำอุตสาหกรรมอยู่ตลอด…
-
สตาร์บัคส์เกาหลี ผุดคอลเลคชั่น “เซทแก้วน้ำสีพาสเทล” มอบความสดใสต้อนรับวาเลนไทน์
ใกล้วันวาเลนไทน์เข้ามาทู๊กกกกกที สาวโสดหลายๆ คนก็อาจจะต้องนั่งเหงาอยู่ที่บ้าน ขณะที่คนมีคู่หลายคนก็พากันไปเดินเล่นช้อปปิ้ง ดูหนังฟังเพลง ซะจนคนรอบข้างเห็นแล้วถึงกับอิจฉา แหม!! คิดแล้วก็เห็นใจสาวโสดทั้งหลายซะเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้นไม่เป็นไรนะ เพราะในวันนี้เราจะขอมามอบของขวัญสุดพิเศษให้ทั้งคนมีคู่ และคนโสดทั้งหลาย โดยการนำคอลเลคชั่นแก้วน้ำสุดหวานจาก Starbucks ที่ทำออกมาเพื่อต้อนรับวันแห่งความรัก มายั่วตายั่วใจกันซะหน่อย!! และทั้งหมดนี้คือ แก้วน้ำ Starbucks คอลเลคชั่นใหม่ที่มาพร้อมกับสีพาสเทลสุดหวาน อยากได้กันแล้วใช่ไหมละ!! สำหรับแก้วน้ำที่ออกคอลเลคชั่นใหม่เหล่านี้ มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายรูปแบบทั้งเซทแก้วน้ำสีชมพู๊ชมพู ชุดแก้วกาแฟสีหวาน หรือจะเป็นกระติกน้ำสีสดใสก็น่าซื้อน่าสะสมเป็นที่สุด มาในโทนพาสเทลแบบที่กำลังฮิต มาพร้อมกับลายหัวใจสุดกิ๊บเก๋ เห็นแล้วอยากได้เลย ใครที่เป็นยอดนักสะสมแก้ว Starbucks ห้ามพลาดเด็ดขาด เห็นแล้วว้าวววววเลยอะ แถมยังน่ารักมุ้งมิ้งเข้ากับวันวาเลนไทน์ที่สุด เอ…แบบนี้ต้องไปหาซื้อมาใช้บ้างแล้วละ ที่มา : presslogic, popsugar
-
มาแล้ว… “อินุยาฉะ” ฉบับละครเวทีกำลังจะเปิดฉาย พร้อมกับเผยนักแสดงหลัก
หลังจากที่กระแสตอบรับของนารูโตะฉบับละครเวทีออกมาเป็นที่น่าพอใจ ก็คงจะช่วยปูทางให้กับละครเวทีจากการ์ตูนได้ไม่ยาก และเราน่าจะได้เห็นเรื่องอื่นๆ ตามมาอีกเพียบ ซึ่งล่าสุดก็เป็นคราวของการ์ตูนดังอย่าง “อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน” ก็ได้ประกาศเป็นละครเวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับการเปิดเผยนักแสดงนำ นอกจากจะประกาศทำเป็นละครเวทีแล้วนักแสดงก็ได้มากันครบเป็นที่เรียบร้อยโดยจะมีรายชื่อนักแสดงตามนี้ แถวบนไล่ซ้ายไปขวา Yutaka Kyan แสดงเป็น อินุยาฉะ , Yumi Wakatsuki แสดงเป็น คาโงเมะ แถวกลางไล่ซ้ายไปขวา Hiroki Sana แสดงเป็น เส็ตโชมารู, Junna Itō แสดงเป็น คิเคียว, Yukihiro Takiguchi แสดงเป็น มิโรคุ และแถวล่าง Ryou Kimura แสดงเป็น นาราคุ ภาพการถ่ายโปรโมทละครเวทีเรื่องนี้ เรื่องย่อของการ์ตูนเรื่องนี้… ส่วนใครที่ไม่รู้จักเรื่อง อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน ก็จะขอเล่าเนื้อย่อๆ ให้อ่านกัน โดย “อินุยาฉะ” เป็นลูกครึ่งอสูรซึ่งเกิดจากพ่อผู้เป็นจอมปีศาจจิ้งจอกผู้ยิ่งใหญ่ แต่มีแม่เป็นมนุษย์ นั่นจึงทำให้อินุยาฉะมีปมด้อยและไม่เป็นที่ยอมรับทั้งจากบรรดาปีศาจหรือมนุษย์ธรรมดา ทำให้เขาต้องออกตามหาลูกแก้วสี่วิญญานเพื่อที่จะกลายเป็นอสูรอย่างเต็มตัว แต่ว่าการจะได้ลูกแก้วมานั้นเขาจะต้องสู้กับมิโกะที่มีชื่อว่า คิเคียว ซึ่งทั้งคู่ก็สู้กันแล้วกันเล่าแต่ก็ไม่มีใครที่กล้าทำร้ายกันจริงๆ สักทีเพราะว่าทั้งคู่มีใจให้กันนั่นเอง…
-
โกลาหล… ตำรวจบราซิลหยุดงานประท้วงค่าแรง จนผู้ร้ายเหิมเกริม ก่อเหตุจลาจลทั่วเมือง!!
กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเลยทีเดียว สำหรับเหตุการณ์จราจลในเมือง Victoria รัฐ Espirito Santo ประเทศบราซิลที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ Rio de Janeiro หลังจากตำรวจของเมืองได้หยุดงานประท้วงค่าแรง จนเกิดเหตุอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้นกว่า 10 เท่า สภาพของเมืองยามปกติ ซึ่งดูงดงามไม่น้อย.. เหตุการณ์เริ่มจากตำรวจกว่า 200 นายในเมือง Victoria ไม่พอใจในค่าแรงที่พวกเขาได้รับ ก็เลยได้หยุดงานประท้วงให้กรมตำรวจเพิ่มค่าแรงกะกลางคืน และเพิ่มเบี้ยความเสี่ยงให้กับตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยตั้งแต่ช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา ทีนี้ก็เป็นเรื่องขึ้นมา เพราะเมื่อเหล่าคนร้ายรู้ว่ามีตำรวจหยุดงานไปหลายนาย ก็เลยได้โอกาสในการออกมาก่อเหตุต่างๆ มากขึ้น จนตอนนี้ผ่านมาได้ 4 วันจำนวนเหตุฆาตกรรมเพิ่มขึ้นสูงถึง 51 ครั้งแล้ว เทียบกับในเดือนมกราคมทั้งเดือนมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ภาพความโกลาหลที่เกิดขึ้นภายในเมือง นอกจากนี้ชาวเมืองยังได้ถ่ายภาพและคลิปเหตุอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ตำรวจหยุดงาน ไม่ว่าจะเป็นการปล้นร้านค้า หรือการทำร้ายร่างกายต่างๆ โดยในขณะนี้ โรงเรียนและสถานที่ราชการต่างๆ ได้ปิดทำการชั่วคราวแล้ว และจะเปิดทำการอีกครั้งหนึ่งเมื่อเหตุการณ์สงบลง โดยไม่มีการระบุวันหรือเวลาที่แน่นอน ล่าสุดประธานาธิบดีบราซิลได้ส่งกองกำลังกว่า 200 นายเข้าไปควบคุมสถานการณ์แล้ว รวมทั้งได้สั่งปลดหัวหน้าตำรวจชุดที่ประท้วงดังกล่าวออก และแต่งตั้งหัวหน้าหน่วยคนใหม่เข้าไปแทน ซึ่งพอภาพเหล่านี้ถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ ก็สร้างความตกตะลึงให้กับชาวโลกเป็นอย่างมาก…
-
ย้อนวัยกับ 8 เกมฮิตในยุคอดีต ที่เด็กร้านเกม ต้องเคยผ่านมามันมาแทบทั้งนั้น!!!
ถ้าให้มองย้อนกลับไปราวๆ 10 กว่าปีก่อนแล้วมองว่าหาว่าช่วงนั้นเป้นยุครุ่งเรืองของอะไร รับรองได้ว่าสำหรับผู้ชายร้านเกมจะต้องอยู่ในเรื่องแรกๆ ที่ปิ๊งขึ้นมาชัวๆ #เหมียวมู่ทู่ มั่นใจได้ ผู้ชายหลายๆ คนน่าจะเข้าใจช่วงยุครุ่งเรืองของร้านเกมแน่นอน เพราะในยุคนั้นนี้การจะเล่นเกมที่บ้านด้วยเน็ตขูดบัตรเป็นอะไรที่เจ็บปวดพอสมควร จนเวลาไปสักพักเน็ตขูดจึงจะหายไปแต่ร้านเกมก็ยังคงเป็นจุดศูนย์รวมของกลุ่มวัยรุ่นชายที่ในตอนนี้ อายุก็น่าจะราวๆ 25+ แน่นอน 1. Ragnarok หนึ่งในเกมออนไลน์สุดฮิตยุคแรกๆ ที่รับรองได้ว่าเวลานั้นวัยรุ่นส่วนใหญ่จะต้องได้สัมพัสเกมนี้แน่นอน ซึ่งถึงแม้ตอนนี้เกมนี้จะยังเปิดบริการในไทยอยู่โดยบริษัท EXE แต่เชื่อเหอะ ว่าความรู้สึกของการขูดบัตรเติมเงิน พร้อมกับเน็ตความเร็วเตา ที่พร้อมจะหลุดตลอดเวลาเมื่อมีคนโทรเข้า แถมการเข้าไปเดินใน Morrocในยุคนั้นนี้มันที่สุดแล้ว ยิ่งนัดเจอกับสมาชิกปาร์ตี้ในร้านเกมช่วงกิลวอมันเป็นอะไรที่คนยุคนั้นเท่านั้นถึงจะเข้าถึงจริงๆ ภาพของบัตรเติมเงินที่เรารู้จักกันดี เพลงที่เราต่างก็คุ้นหู… 2. Counter-strike ถ้าจะบอกว่า Quake หรือ Unreal tournament เป็น FPS ยุคบุกเบิกของต่างชาติ Counter-strike นี้ก็คงต้องเป็น FPS ยุคบุกเบิกของร้านเกมในไทยแน่นอน (สุดยอดความคลาสสิกที่มาพร้อมกับด่าน ยูไนเต็ด ที่จริงๆ มันไม่ได้เรียกว่ายูไนเต็ดนะเว้ย) 3. Winning eleven 4 ถึงแม้ Winning…
-
คำขอสุดท้ายเด็กสาวป่วยมะเร็ง มีเวลาอยู่ได้อีกไม่กี่วัน อยากได้ “ลูกแมว” ตัวหนึ่งมาเลี้ยง…
“ฉันเคยได้ยินว่า สัตว์เปรียบเหมือนทูตสวรรค์ ฉันไม่เคยเข้าใจความหมายของมันเลยจนกระทั่ง Liza ได้เจอกับ Kylie” Kylie เด็กสาววัย 12 ขวบผู้มีนิสัยร่าเริงสดใสและเป็นรอยยิ้มของคนในบ้าน วันหนึ่งเธอก็ถูกตรวจพบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งกระดูกซึ่งจะอยู่ได้อีกไม่นานนัก เธอร้องขอให้ที่บ้านหาลูกแมวให้เธอได้ไหม เป็นคำขอสุดท้ายของเธอเพราะเธออยากจะได้มันมาเลี้ยงสักตัว แน่นอนว่าทางบ้านของเธอก็ไม่รอช้าที่จะหาลูกแมวมาให้เธอ โดยเจ้าแมวตัวนี้มีชื่อว่า Eliza ซึ่งมันมาจากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ และในตอนแรกที่บ้านของทาง Kylie ไม่ได้ต้องการจะเลี้ยงเจ้าเหมียวนี้ไปตลอด พวกเขาต้องการให้มันอยู่กับเธอจนวันสุดท้ายของชีวิตเท่านั้น แน่นอนว่าเมื่อเธอได้เห็นเจ้าเหมียวที่ครอบครัวหามาให้ เธอก็กลับมายิ้มอีกครั้ง ซึ่งนั้นทำให้ครอบครัวของเธอก็กลับมายิ้มได้อีกครั้งหลังจากที่ทุกคนไม่ได้ยิ้มกันมานานแล้ว เธอและเจ้าเหมียวดูจะเข้ากันได้ดีมาก ซึ่งเธอเรียกเจ้าเหมียวตัวนี้ว่า Liza ทุกครั้งที่เธอเผลอหลับไปเจ้าเหมียวก็จะมานอนอยู่บนตัวเธอเสมอต่อให้จะผ่านไปหลายวันแล้วก็ตาม แม้เธอจะอยู่ในช่วงบำบัดเจ้าเหมียวก็ไม่ยอมที่จะเล่นกับคนอื่นเลยนอกจากเธอ.. จนถึงวันสุดท้ายที่เธอต้องลาจากไป แม่ของเธอเล่าว่า “Kylie บอกให้ฉันดูแลเจ้า Liza แทนเธอให้มันได้อยู่กับครอบครัวของเธอตลอดไป” และเมื่อ Kylie ได้จากไปเจ้าเหมียวก็รู้ได้ทันทีครอบครัวของเธอต้องการอะไร มันก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปคลอเคลีย Robin ทันทีและอยู่ข้างๆเพื่อปลอบเธอ ท้ายที่สุดเจ้าเหมียว Lisa ก็ได้กลายเป็นตัวแทนของ Kylie เป็นตัวแทนแห่งรอยยิ้มที่จะช่วยให้ทุกคนในครอบครัวยิ้มได้เสมอ นั่นเอง …
-
เปิดตัว “ตู้ถ่ายรูปเลโก้” ออกแบบตัวต่อเลโก้ รูปหน้าของคุณเอง ได้ง่ายกว่าที่คิด…
เคยหรือไม่… ที่เราอยากจะทำเลโก้ให้เป็นรุปหน้าตัวเอง แต่การมานั่งออกแบบเองมันก็ดูจะวุ่นวายเสียเหลือเกิน แถมกว่าจะหาตัวเลโก้จำนวนมากๆ ก็ต้องใช้เงินเยอะพอสมควรเลยกว่าจะหาสีครบอีก แต่ปัญหานี้จะหมดไปเพราะตู้ผลิตเลโก้รูปหน้าคนอัตโนมัติมาแล้ว…. คลิปวิดีโอโปรโมทการทำงานของตู้ต่อเลโก้รูปหน้าคุณ… โดยวิธีการทำงานของเจ้าตู้เลโก้นี้ก็ง่ายๆ เพียงแค่ให้เราเข้าไปในตู้ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์ จากนั้นก็ไปที่เคาน์เตอร์เพื่อซื้อตั๋วมาถ่ายรูปที่ตู้ จากนั้นก็เตรียมตัวถ่ายรูปหน้าตัวเอง จากนั้นก็เลือกแบบหน้าที่ต้องการ จากหลายๆ แบบที่ถ่ายมา เลนส์สามารถที่จะปรับระดับตามส่วนสูงของเราได้ หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยก็อดใจรอ 5 นาที ซึ่งขณะรอก็จะมีวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่า ตัวเลโก้กำลังทำงานอยู่ พอเสร็จแล้วก็รับชุดเลโก้ไปต่อได้เลย และนี้ก็คือตัวอย่างหน้าตาของเลโก้หน้าของเรา โดยสีหลักๆ ของเลโก้ชุดนี้จะเป็น สีเหลืองขาวเทาและดำนั่นเอง… ใครที่สนใจอยากจะทำเลโก้หน้าเราเอง ก็สามารถเดินทางไปได้ที่ Lego Flagship Store ซึ่งอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษเลยจ้า ที่มา: gotrip
-
23 สิ่งบนโลกนี้ ที่ดันไปคล้ายกับอีกบางสิ่งบางอย่างมากๆ ซะจน “ไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญ”
หลายครั้งในชีวิตของเราที่มักจะเกิดเรื่องบังเอิญอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องดีและไม่ดี ซึ่งบางครั้งบางคราวมันก็บังเอิญซะจนคิดว่ามีใครตั้งใจรึเปล่า แต่ก็ทำให้เรามีรอยยิ้มได้เสมอ… โดยวันนี้เราก็จะมาดูรูปของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญเช่นกัน แถมมันยังออกมาดูดีเสียด้วย อย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่า…. ชินนาม่อนโรลที่บังเอิญไปเหมือนหน้าของ ET ซะงั้น เงาช่างภาพที่ดันไปเหมือนสุนัขพันธ์ุ “ลาบราดอร์” แทนที่จะเป็นเงาพี่แก หูฟังที่ดันขดตัวเป็นรุปตัวโน้ต แหม่…เข้าถึงดนตรีของจริงสินะ แบบนี้ มันเทศที่รูปร่างมันดันไปคล้ายกับแมวน้ำซะได้ ถ้าใครเป็นแฟนเซาท์พาร์คจะรู้ได้ทันทีว่ามี “อีริค” อยู่ในรูปด้วย เฮ้ย นั่นมันเดธสตาร์ใช่ไหม รอยบนโต๊ะ ดันมีหน้าตาเหมือนเจ้าตูบซะงั้น ถ้าใครเข้าใจความหมายของตัวเลขบนรั้วนี้เพียงแค่มอง แสดงว่าคุณหยาบคายพอสมควรเลยทีเดียว ช่องว่างระหว่างก้อนหินที่บังเอิญเป็นรูป “แมว” พอดีเลย นกนี้มันก็เข้าใจหาที่ทำรังจริงๆ มันฝรั่งที่ดันมีหน้าตาเหมือน Admiral Ackbar จากสตาวอร์ซะงั้น ดูเหมือนเจ้าพริกหยวกจะโมโหใครมาหรือเปล่า? Jabba the Hutt is that you!? มะเขือเทศที่มีรูปร่างเหมือนเป็ดยางหรือจริงๆ มันคือเป็ดยางย้อมสีแดงกันนะ!? …
-
“ร้านสะดวกซื้่อญี่ปุ่น” เริ่มสนองนโยบายรัฐ เอาพื้นที่สูบบุหรี่ออก ต้อนรับโอลิมปิค 2020
ปกติแล้วด้านหน้าของร้านสะดวกซื้อต่างๆ ทั้งในญี่ปุ่นและชาติอื่นๆ ก็จะมีที่เขี่ยบุหรี่วางไว้ข้างหน้าร้านเสมอ อาจจะเป็นเพราะว่าต้องการจัดสถานที่สูบให้เป็นที่เป็นทาง แน่นอนว่าแม้จะมีข้อดีเรื่องการสูบเป็นที่เป็นทาง มีที่เขี่ยบุหรี่ และมีถังขยะให้ทิ้ง แต่เวลาผู้คนต้องการที่จะเข้าไปก็จำเป็นจะต้องเดินผ่านเหล่าสิงห์อมควันทั้งหลาย ซึ่งมันไม่ดีต่อสุขภาพของคนทั่วไปแน่นอน ไม่นานมานี้ ในปี 2015 ทางญี่ปุ่นได้เริ่มมีการควบคุมยาสูบและขอร้องให้ร้านสะดวกซื้อต่างๆ เอาที่เขี่ยบุหรี่ออกไป หรือย้ายจุดให้ไกลออกไปจากประตูทางเข้าเพื่อช่วยลดมลพิษนั่นเอง สร้างภาพลักษณ์ในโอลิมปิคที่จะถึง… ล่าสุดหลังจากที่ญี่ปุ่นได้รับให้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิค 2020 รัฐบาลญี่ปุ่นจึงเริ่มรณรงค์ให้คนงดสูบบุหรี่เพื่อเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคกันมากขึ้น หนึ่งในนโยบายนั้นก็คือการทำให้ประเทศปรับตัวเข้าหาแบบตะวันตกมากกว่าเดิม อะไรหลายๆ อย่างที่เป็นแนวๆ ญี่ปุ่นสไตล์ ก็เลยต้องทำให้ลดน้อยลงไปด้วย หนึ่งในนั้นคือวัฒนธรรมสูบบุหรี่จัดนั่นเอง และผลจากการร่วมรณรงค์จึงกลายเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยโน้มน้าวให้ร้านสะดวกซื้อเริ่มนำที่เขี่ยบุหรี่ออกไป ซึ่งล่าสุดตอนนี้ตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ เริ่มมีป้ายให้งดสูบบุหรี่แปะไว้ข้างหน้าร้านและใกล้กับที่เขี่ยบุหรี่แล้ว นอกจากนั้นทาง 7-Eleven ก็กำลังวางแผนที่จะนำที่เขี่ยบุหรี่ออกไป (ซึ่งปกติที่เขี่ยบุหรี่จะอยู่ใกล้กับทางเข้าร้าน) แน่นอนว่าทางร้านสะดวกซื้ออื่นๆ อย่าง Family Mart หรือ Lawson ก็เตรียมที่จะทำตามเช่นเดียวกัน เพื่อเคลียร์ให้ติดเป็นนิสัย แม้ว่าจะมีเวลาอีก 3 ปีกว่าที่โอลิมปิกจะเริ่ม การทำแบบนี้ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี ที่จะช่วยให้คนญี่ปุ่นเลิกสูบบุหรี่รับโอลิคปิคที่จะถึง แต่ว่าการทำแบบนี้ไม่ใช่ดีแค่กับภาพลักษณ์ของประเทศ แต่มันจะส่งผลถึงคุณภาพชีวิตของคนในชาติแน่นอน ที่มา rocketnews24
-
เมื่อรัฐอาร์คันซอ อนุญาตให้ผู้ข่มขืน ฟ้องเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องการทำแท้งได้!?
ปกติแล้วคดีข่มขืนถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงมากๆ และตัวเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายสามารถที่จะเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ แต่ถ้าเกิดกรณีที่ข่มขืนแล้วท้องขึ้นมาล่ะ!? กรณีข่มขืนและท้องในแต่ละประเทศก็จะมีนโยบายด้านกฎหมายต่างกัน บ้างก็ยังผิดกฎหมายด้านการทำแท้ง ทำให้เกิดการทำแท้งเถื่อนตามมา หรือบางประเทศก็จะเปิดให้ทำแท้งได้เป็นกรณีพิเศษ ล่าสุดมีรายงานว่าทางรัฐอาร์คันซอในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตั้งกฏหมายขึ้นมาใหม่ว่า ถ้าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากคดีข่มขืนต้องการที่จะทำแท้ง สามารถที่จะถูกฟ้องจากผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนได้ ในฐานะที่เป็นพ่อของลูกคนนั้น กฏหมายตัวนี้จะถูกนำมาใช้งานในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้ โดยนาย Andy Mayberry ตัวแทนของรัฐอาร์คันซอและเป็นผู้ร่วมลงนามในกฏหมายตัวนี้ ได้บอกว่า “ถึงแม้กฏหมายตัวนี้จะอนุญาตให้ผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนสามารถฟ้องร้องผู้เสียหายในกรณีที่จะทำแท้งได้ แต่พวกเขาก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องสิทธิทางการเงินต่างๆ เช่นกัน” Karen Musick ผู้ร่วมก่อตั้งเครือข่ายผู้สนับสนุนการทำแท้ง ที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ก็ออกมาตอบโต้ถึงกรณีที่กฎหมายดังกล่าวกำลังจะถูกนำมาใช้งานจริง “ฉันไม่เข้าใจสักนิดเดียวว่าทำไม ผู้ก่อเหตุคดีข่มขืนที่ทำให้ผู้เคราะห์ร้ายตั้งครรภ์ โดยที่พวกเขาไม่ได้ตั้งใจหรือพร้อมที่จะมีลูก ได้รับสิทธิที่ชอบธรรมนั้นไป” กฎหมายตัวนี้ที่เรียกว่า Act.45 จะแบนการทำแท้งในระยะที่ 2 ของการตั้งครรภ์ (ช่อง 4-6 เดือน) ซึ่งกว่า 95% ของคนที่ทำแท้งจากการตั้งครรภ์โดยผิดพลาด จะใช้ช่วงนี้มากที่สุด และหากใครละเมิด ก็อาจจะโดนโทษปรับสูงถึง 350,000 บาทเลยทีเดียว กฏหมายตัวนี้จึงยังเป็นเรื่องถกเถียงกันเป็นอย่างมาก ว่าการให้สิทธิแบบนี้กับผู้ที่ก่อคดีข่มขืนเป็นเรื่องที่ถูกแล้วเหรอ? การทำแบบนี้จะช่วยลดการทำแท้งได้จริงไหม? การอนุญาตให้ทำแท้งได้เป็นเรื่องสิทธิของตัวคนที่ตั้งครรภ์หรือเปล่า? แล้วแบบนี้เพื่อนๆ คิดยังไงกันบ้างเกี่ยวกับกฏหมายตัวนี้…
-
เมื่อแฟนสาวบอกว่า “ไม่ชอบดอกไม้” แฟนหนุ่มจัดให้เลย “ช่อไก่ทอด” ชุดใหญ่ไฟกะพริบ!!
ปกติแล้วหนุ่มๆ ทั้งหลายเวลาเราจะให้ของขวัญแก่สาวๆ ในดวงใจสักคนเราก็คงอยากจะมอบช่อดอกไม้ให้กับเธอ ซึ่งแน่นอนว่าสาวๆ ก็มักจะชอบช่อดอกไม้พวกนั้น แต่นั้นไม่ใช่สำหรับเธอคนนี้แน่นอน เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสาวสวยวัย 19 ชาวฟิลิปปินส์นามว่า Annika Aguinaldo เธอรู้จักกับแฟนคนปัจจุบันคือ Rico Villanueva มาตั้งแต่ตอนเรียนประถมด้วยกันแล้ว เธอบอกว่าสถานที่เดทแรกของเธอกับแฟนหนุ่มคือร้าน McDonald’s และเธอกับเขาก็มักจะหาเวลาว่างมากินอะไรด้วยกันบ่อยๆ อีกอย่างคือบางครั้งพวกเขาก็เซอร์ไพรส์กันด้วยของกินอร่อยๆ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ทันกินอะไรมา ซึ่งเธอได้เคยบอกกับแฟนหนุ่มเล่นๆ ว่าเธอไม่ชอบช่อดอกไม้อยากจะได้เป็นช่อไก่นักเก็ตแทนจะได้ไหม!? ด้วยเหตุนี้ช่อไก่นักเก็ตพร้อมปีกไก่อีกเพียบจึงบังเกิดขึ้น เธอบอกภายหลังว่าเธอแค่แกล้งพูดกับเขาเล่นๆ แต่ไม่นึกว่าจะทำช่อนักเก็ตไก่มาให้จริงๆ ซึ่งภาพถูกบันทึกโดยเพื่อนของเธอที่มาด้วยกันพร้อมกับโพสรูปลงทวิตเตอร์ทันที และหลังจากภาพช่อนักเก็ตไก่ได้ถูกทวิตออกไปก็มีกระแสตอบรับออกมาดีมากๆ เลยทีเดียว BradleyKiely1 นี้มันคือเป้าหมายของชีวิตชัดๆ barry b benson ฉันยังรอวันที่ จะมีผู้ชายมาทำอะไรแบบนี้ให้บ้าง ด้วยเหตุผลนี้ทางแมคโดนัลในฟิลิปปินส์ ก็เลยเชิญทั้งสองคนมาทานชุดอาหารสุดโรแมนติกที่ร้านซะเลย สำหรับคู่รักไหนที่ชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ การทำช่อดอกไม้ของกินไปให้ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยนะเนี่ย เชื่อว่าคงมีสาวไหนหลายๆ คนอยากจะได้แบบนี้แน่ๆ ส่วนใครที่อยากติดตามเธอคนนี้เพิ่มก็ตามไปได้ที่ทวิตเตอร์เธอได้เลย @AnnikaAgs ที่มา buzzfeed
-
เบื่อแล้วป็อปคอร์นแล้วยัง!? ไปดูสิ่งที่ผู้คนทั่วโลกเขา “กินระหว่างดูหนัง” มีอะไรอีกบ้าง…
ถ้าพูดถึงขนมที่ผู้คนมักนำไปทานระหว่างชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ เชื่อว่าสิ่งแรกที่ทุกคนคิดขึ้นมาจะต้องเป็นป๊อปคอร์นหรือข้าวโพดคั่วอย่างแน่นอน อาจเป็นเพราะป๊อปคอร์นของแห้ง น้ำหนักเบา แถมกินได้เพลินๆ มันจึงกลายเป็นของโปรดของเหล่านักดูหนังกันไป แต่รู้หรือไม่ ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก พวกเขาไม่ได้นิยมการรับประทานป๊อปคอร์นระหว่างชมภาพยนตร์เท่าไหร่ และอาจจะมีอาหาร หรือของทานเล่นอย่างอื่นได้ด้วย… อ้าว แล้วพวกเขาทานอะไรกันล่ะ? เราไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า กรีซ ชาวกรีซชอบทานอาหารพื้นเมืองของพวกเขาที่เรียกว่า Souvlaki เป็นอย่างมาก ซึ่งเราสามารถหาได้ทั่วไปแทบทุกที่ รวมทั้งหน้าโรงภาพยนตร์ดว้ยเช่นกัน อิสราเอล ชาวอิสราเอลชอบทานขนมลูกบอลที่ทำมาจากถั่วชิกพีเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาจะเสิร์ฟมาให้รูปแบบคล้ายๆ แซนวิซที่มีผักและแผ่นแป้งห่อ เม็กซิโก ทุกวันนี้ชาวเม็กซิโกสามารถซื้อของกินที่เรียกว่า Tostilocos ได้หน้าโรงภาพยนตร์ ซึ่งทางเทคนิคแล้วมันคือแป้งทอทิลย่า แตงกวา ถั่วสองสามชนิด มะนาว แล้วก็ซอสเผ็ดผสมรวมกัน ว่าแต่มันจะไม่เละเทะเหรอ ฟินแลนด์ ชาวฟินแลนด์ดูท่าทางจะไม่ชอบอะไรยุ่งยากเท่าไหร่ อาหารที่พวกเขาทานประจำเวลาดูหนังคือเยลลี่หรือไม่ก็หมากฝรั่งพวกนี้ จีน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าชาวจีนชอบกินบ๊วยเค็มระหว่างดูหนัง นอกจากบ๊วยเค็มแล้วยังมีหมึกแห้ง เมล็ดทานตะวันอบอีกด้วย เนเธอร์แลนด์ ชาวเนเธอร์แลนด์ชอบกินลูกอมชะเอมเทศระหว่างดูหนัง ใครไปอยู่ที่นี่แรกๆ ต้องมีการปรับตัวซักหน่อยล่ะ …
-
ไอเดียเปลี่ยน “อพาร์ทเมนต์กลางลอนดอน” จากตึกเก่า ให้คุณรู้สึกถึงธรรมชาติกลางเมือง
ทุกวันนี้การจะหาพื้นที่สีเขียวลางเมืองใหญ่ๆ ในโลกแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าใครก็ต่างจับจองพื้นที่เหล่านั้นและเปลี่ยนให้เป็นตึกสูงหรือไม่ก็ที่พักอาศัยของคน ฉะนั้นผู้คนในเมืองจะต้องอดทนกับป่าคอนกรีตอันน่าเบื่อต่อไป แต่ละสุดบริษัท Airbnb เจ้าของแอปหาที่พักที่เราคุ้นเคยกันดีและ Pantone บริษัทผลิตสีชื่อดัง ได้ร่วมกันเปลี่ยนอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ให้กลายเป็นห้องพักสีเขียว ที่เพื่อนๆ จะรู้สึกเหมือนได้อยู่กลางธรรมชาติเลยทีเดียว หากมองจากภายนอก คงจะไม่นึกว่าด้านในของพื้นที่เมืองแห่งนี้จะเต็มไปด้วยป่าสีเขียว ภายนอกของอพาร์ทเมนต์แห่งนี้อาจดูเหมือนที่อื่นๆ แต่เมื่อเปิดเข้าไปข้างใน เราจะได้พบกับห้องที่ตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์สีเขียวลายธรรมชาติ รวมทั้งมีการนำต้นไม้จริงๆ เข้ามาตกแต่งด้วย มีการตกแต่งแบบฮิปปี้ในหลายๆ ส่วนของบ้าน อ่างอาบน้ำก็เป็นธรรมชาติ ห้องนอนก็เต็มได้ด้วยต้นไม้และสีเขียว โต๊ะทานอาหารก็สวยงามแบบธรรมชาติ ลองไปชมภาพมุมต่างๆ ภายในบ้านกันเลย . . . สวยงามจริงๆ ใครสนใจก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมหรือจองห้องพักได้ที่เว็บไซต์ airbnb ได้เลยนะฮะ ที่มา airbnb.co.uk
-
เว็บญี่ปุ่นผสมผสาน “ชุดนักเรียน” และ “ชุดว่ายน้ำ” เข้าด้วยกัน เป็นแฟชั่นที่น่าลองไหม!?
ต้องยอมรับว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอะไรแปลกๆ เจ๋งๆ ออกมาให้เราได้ชมกันอยู่บ่อยๆ ล่าสุดพวกเขาได้ปล่อยชุดว่ายน้ำแบบใหม่ออกมา ซึ่งมันคงจะไม่แปลกอะไร หากชุดว่ายน้ำตัวนี้ ไม่ได้มีแรงบันดาลใจมากจากชุดนักเรียนญี่ปุ่นสุดคาวาอิ๊ (แฮ่กๆ) อย่างที่ทราบกันดีว่านักเรียนหญิงญี่ปุ่น จะต้องสวมชุดนักเรียนที่หน้าตาคล้ายๆ กับชุดกะลาสีเรือ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ทางบริษัท Moira Design จึงจับชุดนักเรียนเหล่านั้นมารวมกับชุดว่ายน้ำซะเลย ชุดว่ายน้ำรุ่นนี้จะมีโบว์และปกเสื้อแบบกะลาสีเรือ โดยราคาแบบครบชุดรวมเสื้อกะลาสีและชุดว่ายน้ำ จะอยู่ที่ 18,000 เยน (6,300 บาท) ซึ่งถ้าใครไม่อยากได้ทั้งชุดเต็ม ท่านก็สามารถซื้อแยกได้ด้วยราคา 6,500 เยน (2,200 บาท) เป็นไง อยากได้ไปใส่ซักตัวมั้ยล่ะ นอกจากแบบสีน้ำเงินแล้วแบบสีขาวดำก็มีนำ สวยไปอีกแบบ รายละเอียดของแต่ละชุด… ใครสนใจ ก็สั่งซื้อกันได้ที่เว็บไซต์ Moira Design นะฮะ รับรองว่าชีวิตของท่านจะบันเทิงขึ้นอีกหลายเท่าอย่างแน่นอน ฮาาาาาา ที่มา rocketnews24
-
ขนลุกซู่…สาวญี่ปุ่นโชว์คอสเพลย์ตามการ์ตูนสยองของ “จุนจิ อิโต้” ทั้งหลอนและสวยงาม
วัฒนธรรมการคอสเพลย์กลายเป็นวัฒนธรรมและกิจกรรมที่ผู้คนต่างก็อยากเข้ามามีส่วนร่วมกันอยู่มากมาย บางคนเลือดที่จะแต่งตัวตามตัวการ์ตูนสาวๆ น่ารักๆ บางคนเลือกที่จะแต่งตัวเป็นซุปเปอร์ฮีโร่หรือตัวละครจากเกมดัง แต่ไม่ใช่กับเธอคนนี้… ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นจะขอพาทุกๆ คนไปดูทวิตเตอร์ของสาวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่อ @mamakiteru เธอชื่นชอบการตูนแนวสยองขวัญเป็นชีวิตจิตใจ ยิ่งเป็นการ์ตูนจากปลายปากกาของนักเขียนอย่าง จุนจิ อิโต้ เช่น ปลามรณะ, ก้นหอยมรณะ, คลังสยอง, ขวัญลงหลุม หรือ เด็กนรกโซอิจิ เธอยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ ซึ่งในการ์ตูนที่ว่ามานี้จะมีลักษณะลายเส้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวละครจะมีสีหน้าตื่นตระหนกบ้าง มีเลือดไหล ตาโตผิดปกติ หรือรอยยิ้มชวนหลอน และด้วยความชอบ เธอจึงพยายามแต่งคอสเพลย์ (ผสมกับโฟโต้ช็อป) ให้ตัวเองดูเหมือนตัวละครหลอนๆ เหล่านั้น ก่อนจะทำท่าทางให้เหมือนตัวการ์ตูนพวกนั้นมากที่สุด จนถึงตอนนี้ @mamakiteru ก็ยังไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้คนในโลกออนไลน์รู้ แต่เธอยังคงแต่คอสเพลย์ตามตัวการ์ตูนของ จุนจิ อิโต้ อยู่ตลอด ครั้งหนึ่งเว็บไซต์ Inverse ได้เคยพยายามติดต่อสัมภาษณ์เธอผ่านทวิตเตอร์ เธอบอกว่าสำหรับเธอแล้ว จุนจิ อิโต้ ถือเป็น “คุณครู” เลยก็ว่าได้ @mamakiteru เริ่มแต่งคอสเพลย์มาตั้งแต่ปี 2015 เรื่อยมาจนถึงตอนนี้ มันเป็นงานอดิเรกที่เธอชอบมากอย่างหนึ่ง ปัจจุบันเธอมีผู้ติดตามมากถึง 2…
-
แนะนำหนัง The Belko Experiment หากพนักงานออฟฟิศ ต้องหันมาห้ำหั่นกันเอง?
ในปี 2017 นี้ก็มีหนังน่าดูมากมายหลายเรื่องต่อคิวรอฉายให้พวกเราได้ชมกัน แต่ถ้าใครเบื่อหนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ทั่วไปแล้ว วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะมาแนะนำหนังสยองขวัญแนวคิดแปลกที่น่าสนใจแห่งปีให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก จะน่าดูขนาดไหน เราไปชมกันเลย!! หนังเรื่องนี้มีชื่อว่า The Belko Experiment ผลงานการเขียนบทและอำนวยการสร้างโดย เจมส์ กันน์ จาก Guardians of the Galaxy (แค่ชื่อทีมงานก็น่าสนใจแล้วใช่มั้ยล่ะ) ว่ากันว่าหนังเรื่องนี้เป็นผสมของ Battle Royale เข้ากับ The Office เลยทีเดียว เรื่องราวเกิดขึ้นจู่ๆ อาคารสำนักงานของบริษัทเบลโก้ถูกปิดด้วยประตูเหล็กทุกด้าน จนทำให้พนักงาน 60 คนติดอยู่ภายใน ทันใดนั้นเองก็มีคำสั่งปริศนาสั่งมาว่า ให้เลือกพนักงานมา 30 คนแล้วฆ่าทิ้งซะ ไม่อย่างนั้นทั้ง 60 คนต้องตายทั้งหมด และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการฆ่ากันของเหล่าพนักงานออฟฟิศเบลโก้ ซึ่งอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้กัน ก็เป็นของที่หาได้ภายในออฟฟิศนั่นเอง หนังนำแสดงโดย โทนี โกลด์วิน(Scandal), จอห์น ซี. แม็คกินลี่ย์(Scrubs), จอห์น กัลลาเกอร์…
-
อาหารเสริมสกัดมาจาก “ช็อคโกแลต” ทั้งเม็ด สรรพคุณช่วยเลือดลมดี ห่างไกลโรคหัวใจ
หลายคนอาจจะรู้มาบ้างว่า “ช็อคโกแลต” เป็นสิ่งของที่ค่อนข้างจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์เราๆ พอสมควรเลย โดยในช็อคโกแลตนั้นมีส่วนประกอบที่สามารถช่วงลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคความจำเสื่อมได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องกินช็อคโกแลตจำนวนมากพอดู กว่าจะได้สารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน ซึ่งด้วยปริมาณขนาดนั้น เราก็อาจได้โรคอื่นแถมมาแทน เช่น โรคอ้วนที่มาจากน้ำตาล ล่าสุดทางบริษัทยาจากประเทศอังกฤษ ได้เปิดตัวอาหารเสริมชนิดใหม่ที่สกัดมาจากช็อคโกแลตล้วนๆ คราวนี้ได้แต่ประโยชน์ ไม่มีโทษอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มีชื่อว่า BloodFlow+ ภายในประกอบไปด้วย สารฟลานาโนลและสารต้านอนุมูลอิสระที่สกัดจากดาร์กช็อคโกแลต ซึ่งพวกเขาอธิบายว่า เพียงหนึ่งเม็ด มีคุณค่าทางสารอาหารเทียบเท่ากับการกินดาร์กช็อคโกแลต 400 กรัมเลยทีเดียว โดยพวกเขาหวังว่ายาชนิดนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคหัวใจทั่วโลก ด็อกเตอร์ Alf Lindberg จากบริษัทวิจัยทางการแพทย์ Cambridge Nutraceuticals กล่าวว่า “พวกเราเชื่อว่านี่คือความก้าวหน้าของมนุษยชาติ จากการวิเคราะห์เราพบว่า ส่วนประกอบเหล่านี้จะช่วยสงเสริมสุขภาพที่ดีให้กับทุกคน พวกเราทุ่มเทกับการวิจัยครั้งนี้มาก และเราก็ได้ Blood Flow+ ตัวนี้มา” “ส่วนประกอบหลายๆ อย่างในช็อคโกแลตมีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นเลือด ซึ่งมันส่วนที่สำคัญในร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างมาก เมื่อเส้นเลือดดี ทุกอย่างก็จะดีไปด้วย” แบบนี้ก็ดีนะ ได้ประโยชน์แบบเต็มๆ ว่าแต่มีช็อคโกแลตแบบได้ประโยชน์แถมกินแล้วไม่อ้วนมั้ยนะ น่าจะดีกว่าเยอะเลย ฮาาา…
-
นักวิจัยเผย แมวมีลักษณะนิสัยแค่ 5 ประเภทเท่านั้น แล้วเจ้านายของคุณเป็นแบบไหน!!
ทุกวันนี้ประชากรแมวทั่วโลกมีประมาณ 600 ล้านตัว บางตัวอาจมีเจ้าของ บางตัวอาจเป็นแมวจรจัด แต่เพื่อนๆ จะสงสัยหรือไม่ว่า แม้จะมีจำนวนประชากรมากขนาดนั้น แต่จริงๆ แล้วแมวจะมีนิสัยที่หลากหลายขนาดไหน อ้างอิงจากงานวิจัยของ Dr. Lauren Finka เธอได้ทำการสัมภาษณ์เจ้าของแมวมากกว่า 200 คน เกี่ยวกับลักษณะนิสัยของแมวแต่ละตัว รวมทั้งมีทำการทดสอบลักษณะนิสัยของแมวแต่ละตัวด้วย ซึ่งเมื่อการวิจัยเสร็จสิ้น เธอก็ได้ข้อสรุปว่า แมวมีลักษณะนิสัยเพียงแค่ 5 ประเภทเท่านั้น!! ส่วนปัจจัยที่ทำให้แมวแต่ละตัวมีนิสัยอย่างไร ขึ้นอยู่กับยีนส์ในร่างกายและประสบการณ์ในช่วงแรกของชีวิต เราไปดูกันดีกว่ามีแบบไหนบ้าง 1.แมวรักมนุษย์ แมวชนิดนี้จะชอบใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ อยู่ใกล้มนุษย์ และชื่นชอบการนอนเล่นบนตักของมนุษย์เป็นอย่างมาก สังเกตุง่ายๆ คือพวกมันจะชอบเอาหัวมาถูอย่างนุ่มนวล หรือไม่ก็ชอบเลียหรือจุ๊บที่ตัวของมนุษย์ 2. แมวรักแมว ไม่เหมือนแมวชนิดแรก เพราะเจ้าแมวชนิดนี้จะชอบเล่นกับแมวด้วยกัน ซึ่งแมวพวกนี้จะเหมาะกับการเป็นสัตว์เลี้ยงมาก เพราะพวกมันไม่ได้ต้องการความรักจากมนุษย์เท่าไหร่ ขอแค่มีแมวอีกตัวอยู่ในบ้าน มันก็มีความสุขแล้ว 3. แมวอยากรู้อยากเห็น แมวพวกนี้จะชอบสำรวจและสงสัยทุกสิ่งที่อย่างที่อยู่ข้างหน้า หลายคนอาจชอบแมวแบบนี้ แต่จงระวังเอาไว้เลยว่า ข้าวของทุกสิ่งทุกอย่างของคุณจะถูกพวกมันวิจัยอย่างถึงพริกถึงขิงเลยล่ะ…
-
23 สินค้าแบบแปลกๆ จากประเทศเยอรมนี ด้วยฟังก์ชั่นที่แบบว่า… มีไว้ทำไมฟระ!?
เวลาเราพูดถึงประเทศเยอรมัน เราอาจนึกถึงประเทศที่เต็มไปด้วยความจริงจัง รถยนต์สุดหรู วิศวกรรมสุดเทพ และเบียร์สุดอร่อย ซึ่งไม่ว่าใครก็อยากจะไปเยือนซักครั้งในชีวิต แต่รู้หรือไม่ ประเทศที่จริงจังสุดๆ อย่างเยอรมัน ก็มีเรื่องราวแปลกๆ เช่นกัน อย่างเช่น 23 สิ่งของเหล่านี้ ที่รับรองว่าเพื่อนๆ เห็นแล้วต้องงงแน่นอนว่า มันมีเอาไว้ทำอะไรเนี่ย ไม่เชื่อลองไปชมกันเลย! แว่นตานอนอ่านหนังสือ หมอนคนโสด ที่คีบใบไม้แบบนุ่มนวล กล่องใส่ไส้กรอก หมวกที่เปิดขวด ถุงใส่ปัสสาวะ ถุงครอบหัวอาบน้ำ จะได้มองเห็นทุกอย่างเวลาน้ำไหลผ่านหัว แว่นขยายสำหรับเล่นสมาร์ทโฟน ไม้กางเขนสามมิติ ปลั๊กไฟตัดไฟอัตโนมัติ ปืนทำความสะอาดสุขภัณฑ์ อุปกรณ์ช่วยจับกล่องน้ำผลไม้หรือนม ที่คลายเบื่อยามเข้าห้องน้ำ นี่ก็ใช่ ที่ปิดหัวนม เมาส์ทองแท่ง ตุ๊กตาตัวตลกเต้นได้ Enrico บัวรดน้ำนกฮูก…
-
เมื่อคนนิวยอร์กเห็น “สวัสดิกะ” และ “คำเหยียดยิว” บนรถไฟใต้ดิน ต้องร่วมมือจัดการแล้ว!!
เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เกิดขึ้นบนรถไฟขบวนหนึ่งของระบบรถไฟใต้ดินนิวยอร์ก ซึ่งเราต่างก็รู้กันว่าเป็นระบบรถไฟใต้ดินที่ทั้งเก่าแก่และซับซ้อนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และแน่นอน… มีคนมากหน้าหลายตามาใช้บริการขนส่งมวลชนในลักษณะนี้ ทำให้เราเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ว่าใครเป็นคนดี คนไม่ดี หรือมีมิจฉาชีพและคนคิดร้ายแฝงมาหรือไม่!? ล่าสุดก็ดันบังเอิญมีคนไปเห็นสัญลักษณ์สวัสดิกะ พร้อมคำพูดในเชิงเหยียดชาวยิวถูกเขียนอยู่บนรถไฟใต้ดิน พวกเขาเลยรู้สึกว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง แทนที่จะนั่งเฉยๆ แล้ว ภาพข้อความที่เขาพบ.. เจ้าของภาพเล่าโดยระบุว่า… “ในเช้าวันหนึ่ง ผมเจอสัญลักษณะสวัสดิกะ และข้อความที่เขียนว่า “คนยิวควรอยู่ในเตาอบซะ” บนป้ายโฆษณาและหน้าต่างของขบวน ทุกคนในรถไฟต่างก็เห็นมัน แต่ก็ได้แต่นั่งนิ่งและมองหน้ากันไปมา หลายๆ คนไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี” “จนกระทั่งมีคนหนึ่งยืนขึ้นแล้วบอกว่า ใช้เจลล้างมือไม่ได้หรอก ต้องใช้แอลกอฮอล์ลบมัน ผมพอจะมีทิชชูอยู่นะ รีบช่วยกันเคลียร์ข้อความเอี้ยๆ ออกไปเถอะ” (ต้นฉบับใช้คำว่า Shit) “หลังจากนั้นก็เป็นภาพที่ผมไม่เคยเห็น ทุกคนต่างพากันล้วงกระเป๋าหาทิชชูและแอลกอฮอล์ โชคดีที่มีคนพกมาด้วย พวกเขาเหล่านั้นก็เลยช่วยกันลบมันออก ภายใน 2 นาทีมันก็ถูกลบออกจนหมดทั้งตู้โดยสารเลย” หลังจากเขาโพสต์เรื่องนี้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็ถูกแชร์ผ่านเฟซบุ๊คไปกว่า 100,000 ครั้ง แสดงถึงการที่ชาวเน็ตเห็นด้วยกับการกระทำที่ลบการเหยียดนี้ออกไปได้เช่นกัน นอกจากนี้ เมืองนิวยอร์กยังเป็นอีกสถานที่ซึ่งแม้จะได้ชื่อว่ามีอาชญากรรมอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ได้รับเรียกว่าเป็นเมืองแห่งความหลากหลายมากที่สุด เพราะเป็นที่รวมของผู้คนมากหน้าหลายตาจากแทบทุกที่บนโลก เคยมีคำกล่าวว่าคุณสามารเจอคนทุกประเทศได้ในวันเดียวที่นิวยอร์ก ซิตี้…
-
นักวิทย์ฯ อธิบายการทำงานของสมอง ว่าทำไมเราถึงชอบ “ความน่ารัก” ของสัตว์และเด็ก?
หากจะถามว่าทำไมคนเราถึงชอบอะไรที่มันน่ารักๆ ถ้าตอบแบบกวนๆ ก็คือ “ก็เพราะมันน่ารักยังไงล่ะ” เออ ก็มันน่ารักอ่ะ จะเอาอะไรอีก!? แต่ความจริงแล้วมันมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์เรื่องความน่ารัก รวมไปถึงรูปแบบสัตว์ต่างๆ ที่สมองเราจะทำให้รู้สึกว่าน่ารักหรือไม่น่ารักด้วยนะ ทำไมเราถึงชอบความน่ารัก? นักชีววิทยา Konrad Lorenz ได้ทำการศึกษาเรื่อง “kinderschema” (รูปแบบของเด็ก) แล้วพบคุณลักษณะเด่นๆ ของเด็กที่เราจะบอกได้ว่าเด็กคนนั้นน่ารักหรือไม่ เช่น หน้าผากใหญ่ ตาโต หน้ากลม หัวใหญ่เมื่อเทียบกับสัดส่วนของร่างกาย รูปร่างโดยรวมกลมๆ และมีผิวสัมผัสที่นุ่มนิ่ม รูปแบบที่ว่านี้ยังสามารถใช้กับลูกสุนัขได้ด้วย โดยมนุษย์จะพิจารณาสิ่งเหล่านี้อยู่ในสมองแบบอัตโนมัติแม้ว่าเราจะไม่ทันรู้ตัวก็ตามว่าเรากำลังพิจารณาสิ่งใดสิ่งหนึ่งว่าน่ารักหรือเปล่า หากมองกันตามจริงแล้ว มนุษย์ถือเป็นสัตว์ที่โตช้ากว่าสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ อยู่มาก นั่นก็เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มนุษย์ที่แก่กว่า (พ่อแม่) เกิดความ “อยากดูแล” หรือ “อยากเลี้ยงดู” นานขึ้นนั่นเอง สัญชาตญาณในการดูแลของมนุษย์จะควบคุมให้เราต้องดูแลทะนุถนอมสิ่งใดก็ตามที่มีหน้าตาคล้ายกับเด็ก รวมไปถึงสิ่งที่ไม่มีชีวิตแต่มีความ ‘น่ารัก’ ด้วย เมื่อมนุษย์ได้เห็นภาพน่ารักๆ สมอง 2 ส่วนของเราจะทำงาน ส่วนแรก Nucleus Accumbens ในส่วนนี้จะปล่อยสารเคมีที่ชื่อโดปามีนออกมา มันคือสารเคมีที่กระตุ้นให้เราไวต่อความรู้สึกหรือกระฉับกระเฉง ส่วนที่สอง Orbitofrontal Cortex บริเวณนี้เป็นสมองส่วนที่รับผิดชอบเรื่องการตัดสินใจ มันจะทำงานโดยอัตโนมัติ…
-
ชายหนุ่มทำแหวนเพื่อย้ำเตือนถึงอุบัติเหตุ โดยใช้ “เหล็กดามกระดูก” ที่อยู่ในร่างกายตัวเอง
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2015 เมื่อหนุ่มคนนี้ได้ทำการเล่นสกีแล้วเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จนทำให้กระดูกไหปลาร้าและซี่โครงของเขาหักไปถึง 4 ซี่ ถือเป็นเรื่องที่หนักหนาสำหรับเขามาก และจะต้องจดจำไปอีกนาน ระหว่างเข้ารับการรักษา เขาต้องใส่เหล็กดามไว้ข้างในร่างกายตัวเองจนอาการหายเป็นปกติ และต้องผ่าตัดเอาเหล็กออก ซึ่งเหล็กนี้เคยอาศัยอยู่ในร่างกายเขามาแล้ว และในครั้งนี้เขาก็อยากจะเอามาสวมไว้ข้างนอกบ้าง นี่คือภาพสามวันหลังจากเข้ารับการรักษา จะเห็นได้ว่ามีเหล็กยึดอยู่ที่กระดูกไหปลาร้าของเขาแล้ว และหนึ่งปีต่อมา ถึงคราวที่ต้องเอาเหล็กออกแล้ว ดูรอยแผลของเขาซะก่อน และนี่คือหน้าตาเหล็กและน็อตที่เคยอยู่ในร่างกายของเขา ปกติแล้วทางโรงพยาบาลต้องนำไปทิ้ง แต่เขาได้ขอมันไว้เผื่อจะเอาไปทำอะไรบางอย่างได้ และนี่คือแหวนสวยๆ จากเหล็กดามไหล่ของเขา ทำเองทุกอย่างกับมือ เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าชีวิตนี้ได้เจออะไรมาบ้าง นอกจากนี้เขาได้ยังสลักคำว่า “DON’T FUCK UP” ไว้ข้างในด้วย!! ก็ถือเป็นการเตือนสติตัวเองอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้ตัวเองทำอะไรที่ประมาทเกินไป แถมยังออกมาเจ๋งอีกด้วย ใครที่มีเหล็กดามอยู่ในตัว ก็ลองเอาไอเดียนี้ไปทำกันได้ ที่มา designyoutrust
-
ชม “มอเตอร์ไซค์คันใหม่ของแดริล” จากซีรี่ส์ The Walking Dead สวยคลาสสิคสะดุดตา
[บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาเล็กน้อย] ถ้าใครที่ติดตามดูซีรี่ส์ The Walking Dead มา คุณก็คงจะเกิดความรู้สึกอยากเอาใจช่วยตัวละครในเรื่องให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกซอมบี้ (หรือพวกมนุษย์) อย่างแน่นอน การจะรอดพ้นภัยอันตรายทั้งหลายได้ก็ต้องอาศัยยานพาหนะที่รวดเร็ว ซึ่งตัวละครที่ขับขี่ยานพาหนะแบบนั้นในเรื่องก็มีไม่กี่คน และหนึ่งในนั้นคือแดริล ดิกสัน (Norman Reedus) แดริลถือเป็นตัวละครที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้เท่ที่สุดตัวหนึ่งในโลกของซีรี่ย์เลยก็ว่าได้ จากเนื้อเรื่องในตอนล่าสุดคุณจะเห็นว่าแดริลนั้นสามารถหนีออกมาจากที่มั่นของนีแกนได้สำเร็จแล้ว แถมยังได้มอเตอร์ไซค์คู่ใจคันใหม่ออกมาด้วย ในบทความนี้ #เหมียวฟิ้น ก็เลยจะพาคุณไปรู้จักกับเจ้ามอเตอร์ไซค์ที่ว่านี้กัน มอเตอร์ไซค์คันนี้ถูกออกแบบโดยสำนักแต่ง Classified Moto โดยใช้พื้นฐานจากรถ Honda CB750 Nighthawk แรกเริ่มเดิมทีทางทีมงานได้ว่าจ้างให้สำนักแต่งออกแบบรถคันใหม่ให้กับ Norman เนื่องจากเขาเพิ่งสูญเสียช็อปเปอร์สุดรักไป ทีมออกแบบมอเตอร์ไซค์จึงพยายามเอา Honda CB750 มายำด้วยการเปลี่ยนล้อ เปลี่ยนท่อ เปลี่ยนโช๊ค ทำสีใหม่ ให้คล้ายสนิม ดูเหมือนเป็นมอเตอร์ไซค์เก่าที่ยังถูกใช้งานจริงๆ หลังโลกที่มีซอมบี้ระบาด จนมันก็ออกมาเป็นมอเตอร์ไซค์ที่เราเห็นอยู่ในซีรี่ย์นี่แหละ สเป็คเครื่อง แบบรถและเครื่องยนต์: 1992 Honda CB750 Nighthawk ล้อหน้า: Yamaha YZF-R6 ล้อหลัง:…
-
เจ้า “Brutus” แมวเหมียวที่กลายเป็นอนุสรณ์ในซุปเปอร์มาร์เก็ต เมื่อมันจากไปแล้ว…
นี่คือเจ้า Brutus แมวที่อยู่ประจำซุปเปอร์มาร์เก็ต Morrisons ในเมือง Saltney ประเทศอังกฤษ ที่มักจะมาพบปะกับลูกค้าอยู่เป็นประจำจนกลายเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับร้านไปเสียแล้ว มันมักจะวิ่งตามชั้นวางของและทางเดินเพื่อทักทายลูกค้าในที่แห่งนี้ และกิจกรรมโปรดของมันก็คือการไปนั่งที่หน้าต่างตอนพระอาทิตย์ขึ้น และไปนั่งบนถังขยะตอนพระอาทิตย์ตกดิน Claire Owens เจ้าของเจ้าเหมียวเล่าว่ามันเหมือนเป็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ในเวลาเดียวกัน มันมักจะเดินตรวจตรา บางทีก็ย่องไปแผนกอาหารสัตว์ ซึ่งคนผ่านไปผ่านมาเห็นก็รู้สึกเอ็นดู อีกทั้งยังมีขนปุกปุยน่ารัก แถมยังชอบให้ถ่ายรูปด้วย Brutus มาป่วนที่ร้านนี้มานานร่วม 6 ปีแล้ว เมื่อตอนปี 2013 มันเคยป่วยเกี่ยวกับตับ ซึ่งรักษาไม่หาย เพราะว่าเป็นโรคติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่มันก็ยังไม่หยุดทำการสำรวจซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของมันไปเป็นที่เรียบร้อย และมันก็ดูมีความสุขมากๆ ด้วย . . และในวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา มันก็ล้มป่วยอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ร้ายแรงจนสุดท้ายมันก็ได้จากทุกคนไปอย่างสงบ ทำให้ผู้คนได้ส่งข้อความให้กำลังใจมายังเจ้าของ ทำให้เขาได้รู้ว่าเจ้าเหมียว Brutus นั้นสร้างความสุขให้กับผู้คนได้มากมายขนาดไหน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจที่จะสร้างอนุสรณ์ให้กับมันในร้านค้า เผื่อว่าคนที่ผ่านมาผ่านไปจะได้แวะมาเยี่ยมและทักทายมันบ้าง ถือเป็นความทรงจำที่ดีของคนแถวนั้นที่ได้เจอกับแมวที่น่ารัก และทุกคนก็ให้ความรักแก่มันด้วย ทำให้รู้ว่าแมวตัวหนึ่งก็สามารถทำให้ผู้คนได้มีความสุขได้เช่นเดียวกัน…
-
สาวสายฮาในแอพฯ หาคู่ กับคอนเซ็ปท์ ‘ยิ่งเลื่อนดู ยิ่งน่าเกลียด’ ยอมได้หมดถ้าสดชื่น ฮร่า
ว่ากันว่าในโลกออนไลน์ ตัวตนของเราจะต้องดูดีไว้ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานแอพพลิเคชั่นโซเชียลมีเดียทั้งหลาย เบ้าหน้าในรูปโปร์ไฟล์จะต้องดูหล่อดูสวย เพราะความประทับใจแรกที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมาจากจุดนี้แหละ แต่ด้วยความที่ว่ารูปโปรไฟล์แรกเห็นนั้นมันไว้ใจไม่ได้ เราก็ต้องดูรูปอื่นๆ เพื่อประกอบการพิจารณาในความรู้สึกพึงพอใจต่อฝ่ายตรงข้าม ว่าเอ๊ะ คนๆ นี้ดูดีจริงรึเปล่าว้าาาาาา? Zoe สาววัย 19 ปี รูปแรกจากโปรไฟล์ Tinder เธอก็ดูน่ารักดีนะเนี่ย เอาเป็นว่าส่วนที่เหลือจะไม่ขอพูดถึงละกัน เพราะคนส่วนใหญ่ก็จะลงแต่รูปที่ตัวเองดูดีกันทั้งนั้น ส่วนน้อยมากกกกกก ที่จะลงรูปฮาๆ ตลกๆ ของตัวเองให้คนทั่วไปดู อย่างเช่นสาวสายฮาวัย 19 ปีรายนี้จากแอพฯ หาคู่ Tinder เลื่อนมาดูรูปที่สอง ก็ยังโอเคอยู่ เธอมีชื่อว่า Zoe ถูกค้นพบโดยชาวเน็ตในนาม justastar จากเว็บไซต์ imgur ด้วยซีรีย์ภาพโปรไฟล์สายฮาของเธอในคอนเซ็ปท์ขำๆ ‘ยิ่งเลื่อนดู ยิ่งน่าเกลียด’ แบบว่าไม่รักษาภาพพจน์ที่เหลือของตัวเองเล้ยยยยย เน้นจัดตลกโปกฮาอย่างเดียว!! รูปแรกผ่านไป รูปสอง รูปสาม ค่อยๆ ผ่านไป!! . ผ่างงงงงง รูปนี้เหนียงมาเต็ม…
-
หมั่นเขี้ยว!! คลายข้อสงสัยที่ว่า ทำไมคุณถึงเกิดอาการ “อยากบีบ” เวลาดูอะไรน่ารักๆ
คุณเคยรู้สึกอยาก “บีบ” อะไรที่มันน่ารักๆ บ้างไหม? เช่นเห็นแมวน่ารักๆ ก็อยากจะเข้าไปขย้ำ เห็นเด็กทารกก็อยากเข้าไปกอดแรงๆ สักที? อาการเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งผิดปกตินะ และคุณไม่ได้เป็นอยู่คนเดียวแน่ๆ งานวิจัย ในปี 2015 นักจิตวิทยา Oriana Aragon จากมหาวิทยาลัย Yale University ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วพบว่าคนที่มีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับภาพเด็กน่ารักๆ จะมีการแสดงอารมณ์ความก้าวร้าวอย่างรุนแรงด้วย อย่างเช่นความอยากหยิกแก้มเด็กๆ เหล่านั้น เมื่อพูดถึงการ “หยิก” เมื่อไม่นานมานี้ทีมวิจัยได้มีการศึกษากับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง โดยการจับกลุ่มผู้เข้าร่วมมาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกนั้งดูวิดีโอลูกสัตว์น่ารักๆ ส่วนกลุ่มที่สองดูสัตว์แก่ๆ จากนั้นก็ให้ผู้เข้าร่วมถือแผ่นกันกระแทก (Bubble Wrap) เอาไว้ในมือ ผลปรากฎว่ากลุ่มคนที่ดูวิดีโอลูกสัตว์น่ารักๆ จะบีบแผ่นกันกระแทกมากกว่ากลุ่มคนที่ดูวิดีโอสัตว์แก่ๆ การผลการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าถ้าพวกเขามีโอกาสที่จะบีบบางสิ่งบางอย่างขณะดูภาพน่ารักๆ ได้ พวกเขาก็จะทำ แต่ก็ไม่ได้หวังจะทำอันตรายให้สิ่งมีชีวิตจริงๆ ข้อดี ข้อเสีย และความน่ารัก แล้วอะไรล่ะที่มันจะสามารถอธิบายแรงกระตุ้นความอยาก “บีบ” สัตว์หรือเด็กน่ารักๆ ได้? Aragon กล่าวว่า…
-
ศิลปินจีนสร้างภาพสะท้อนสังคม ให้ได้รู้ว่าเราถูก “บงการ” จากสิ่งรอบตัวจนเราไม่ทันคิด!!!
ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตไปวันๆ โดยบางทีเราก็ไม่รู้ว่าเราได้ทำสิ่งที่มันอาจจะกลายเป็นสิ่งที่กลับมาทำร้ายเราได้ในอนาคต ซึ่งมันก็ต้องได้การทำให้ฉุกคิดอย่างเร่งด่วนว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย อีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้เราได้คิดก็คืองานศิลปะ ซึ่งศิลปินที่ชื่อว่า Chunlong Sun เขาเป็นกราฟฟิคดีไซเนอร์ในปักกิ่งได้เห็นสังคมในมุมมองแห่งความเป็นจริง จึงได้ทำการสร้างผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาเป็นภาพแนวเซอร์เรียล เกี่ยวกับการที่เราถูกสิ่งแวดล้อมครอบงำจนเราเคยเห็นเป็นเรื่องชินชาไปแล้ว ใครที่มีบัตรเครดิตก็คงสบายกับการใช้จ่าย แต่ระวังไว้ เพราะเงินมันไปไวมาก รถเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองสำหรับวัยทำงาน ทั้งกิน ทั้งนอน หรืออาจจะทำงานในนั้นเลย อย่าให้ที่ทำงานมาหล่อหลอมเราให้กลายเป็นอีกคน หรือจะเป็นทางผ่านให้คนอื่น พยายามค้นหาตัวเองให้เจอ ถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ที่ไม่น่าอยู่ หรือเราจะอยู่ในบ่อแห่งความจำเจนี้ตลอดไป เราอาจจะเป็นแค่ผลผลิตจากที่ใดที่หนึ่ง แล้วคุณล่ะ ตอนนี้กำลังโดนสิ่งพวกนี้ครอบงำอยู่หรือเปล่า ?? ที่มา designyoutrust
-
ชาวบ้านหงุดหงิดถึงขั้นทุบ “รถสีเหลือง” ของคนในหมู่บ้าน เพราะขัดกับทิวทัศน์โดยรอบ!?
เมื่อราวๆ ต้นปี 2015 เราได้เคยนำเสนอข่าวเกี่ยวกับคุณตาคนหนึ่งที่ชื่อว่า Peter Maddox อดีตทันตแพทย์วัย 82 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองน่ารักๆ ที่ชื่อ Arlington Row ประเทศอังกฤษ แต่ปัญหาก็มาเยือนเขาแบบงงๆ เพราะคุณตาดันขับรถยี่ห้อ Vauxhall รุ่น Corsa สีเหลืองเปลือกกล้วย ซึ่งดูขัดกับสภาพหมู่บ้านเก่าๆ เป็นอย่างมาก จนทำให้คนในหมู่บ้านถึงกับไม่พอใจอย่างหนักและเรียกรถคันนั้นว่า “รถที่น่าเกลียดที่สุด” เลยทีเดียว (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่เลย) แม้ว่าจะถูกชาวบ้านวิจารณ์ไปต่างๆ นานา แต่เขาก็ยังคงจอดรถสีเหลืองคันนั้นไว้ด้านนอกต่อไป ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้กลับมาอัพเดทเกี่ยวกับชะตากรรมของคุณตา Peter กับรถสีเหลือเจ้าปัญหาของเขาอีกครั้งหนึ่ง ตามรายงานบอกว่าล่าสุดรถคันดังกล่าวได้ถูกชาวบ้านในหมู่บ้านทุบทำลายไปแล้วเรียบร้อย แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรผิดเลยก็ตาม (เพราะซื้อรถสีเหลือง) ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถนั้นมีตั้งแต่รอยขีดข่วนเล็กๆ ไปจนถึงรอยขนาดใหญ่ มีการทุบกระจกรอบคัน เมื่อคุณตา Peter มาเห็นเข้าก็ถึงกับตกใจจนต้องนำไปซ่อมที่ร้าน เมื่อตีราคาซ่อมแล้วเป็นมูลค่ากว่า 262,430 บาททีเดียว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คุณตา Peter เกิดความไม่พอใจอย่างมาก และสาบานว่าจะซื้อรถคันใหม่เป็นสีเขียวมะนาวมาแทนคันที่เพิ่งพังไป เพื่อก่อสงครามประสาท ด้าน…
-
พาเที่ยวหมูบ้าน “จิ้งจอกสุดน่ารัก” ในบรรยากาศหิมะปกคลุม พร้อมกับขนปุยนุ่มๆ ของมัน!!
นี่คือการเดินทางของนักเดินทางที่ชื่อว่า Natasha Puente วัย 29 จากประเทศเม็กซิโก ตอนนี้เธอกำลังท่องเที่ยวทั่วเอเชียพร้อมกับถ่ายภาพสิ่งที่เธอได้พบเจอมาแล้วนำมาบอกเล่าให้เราฟัง ซึ่งสิ่งที่เธอไปเจอมาครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ เดิมทีแล้วเธอเป็นคนที่ชื่นชอบสุนัขจิ้งจอกเป็นชีวิตจิตใจ เธอมีรอยสักของมันด้วย และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เธอได้มีโอกาสไปที่โตเกียวเพื่อสอบ TESOL จึงไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมหมูบ้านจิ้งจอกอันโด่งดังด้วย การเดินทางของเธอเริ่มจากขึ้นรถไฟชินคันเซนประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไปลงที่สถานีชิโรอิชิในเมืองมิยางิ เมื่อไปถึง เธอก็ขึ้นแท็กซี่ต่อจากการถามคนแถวนั้น ซึ่งมาถึงจุดนี้ เธอบอกว่ามีความประทับใจในคนญี่ปุ่นอย่างมาก เพราะได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะถามทาง ขอความช่วยเหลืออะไร ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพยายามช่วยอย่างเต็มที่ พอขึ้นแท็กซี่แล้ว คนขับก็ได้โชว์อัลบั้มรูปภาพหมู่บ้านจิ้งจอกให้เธอดูระหว่างทาง ยิ่งทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม โดยการเดินทางนั้นใช้เวลาประมาณ 30 นาที การจะเข้าไปในหมู่บ้านได้ต้องเสียค่าผ่านทางประมาณ 300 บาท พร้อมทั้งจะมีคนแนะนำวิธีเข้าหาเหล่าจิ้งจอกเป็นภาษาอังกฤษ เช่นถ้าเวลาเข้าใกล้ พยายามทำให้ตัวเองดูน่าเกรงขามไว้ อย่านั่งลง เพราะอาจจะถูกกัดได้ และอย่าวางสิ่งของไปเรื่อยเปื่อย เพราะจิ้งจอกมักจะฉี่ใส่ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือห้ามแตะหรือจับพวกมัน และนี่ก็คือภาพและคลิปที่เธอได้ไปเจอมา เป็นช่วงเวลาที่น่ารักมากๆ . . . . . . .…
-
ภาพพิธีจบการศึกษาจาก “มหาวิทยาลัยเกียวโต” แต่งคอสเพลย์ประชันกันสุดเหวี่ยง!!
ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมาอาจจะมีบางคนได้เห็นข่าวคราว เกี่ยวกับกรณีที่มีนักศึกษาสาวใส่ชุดครุยถ่ายแบบ จนทำให้มีชาวเน็ตบางรายไม่พอใจหยิบยกไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นการถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสม หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นกันไปหลากหลายแบบ บางคนมองว่าเป็นการถ่ายภาพนอกรอบที่ไม่ต้องแต่งตามระเบียบอะไรมาก แต่บางคนก็มองว่ามันคือ “ชุดครุย” จึงควรแต่งตัวให้ถูกระเบียบ ด้วยเหตุนี้เอง#เหมียวฟิ้นก็เลยแอบสงสัยว่าในประเทศอื่นๆ เขาให้ความสำคัญกับเครื่องแต่งกายหรือพิธีการเหมือนกับบ้านเราหรือเปล่า? ล่าสุดเราได้ไปเจอกับภาพที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Sensekyoto.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ในการโปรโมทของมหาวิทยาลัยเกียวโต จากประเทศญี่ปุ่น ชุดภาพที่ว่านี้เป็นภาพถ่ายจากพิธีจบการศึกษาของมหาลัยเกียวโตในปี 2016 ที่เหล่านักศึกษาจะพากันแต่งชุดคอสเพลย์แบบหลุดโลกเพื่อมาประชันกันในวันจบการศึกษา อย่างกับเป็นงานปล่อยของยังไงยังงั้นเลยทีเดียว เจ้าหญิงโมะโนะโนะเกะฮิเมะ มาคนเดียวไม่พอ ต้องมาเป็นบอยแบนด์ กล้วยเหรอ? เอ็กโซเดีย รถบัสแมว สนามกีฬาโอลิมปิก 2020!? สัญลักษณ์โอลิมปิก รายการทีวีในตำนาน แต่งเป็นรถโฟล์คสีเหลือง กอริลล่า หมีพูห์เวอร์ชั่นทุนน้อย เมื่อมาร์เวลและดีซีจับมือกัน ทรัมป์ก็มา พีระมิด ตัวไรหว่า? ฮาชิ? นั่นฮาชิใช่ไหม?…
-
ครั้งหนึ่งในนคร “Los Angeles” ยุคอันธพาลครองเมือง มีทั้งปืนและยาเสพติดเกลื่อน!!
ถ้าพูดถึงนคร Los Angeles หลายคนก็คงนึกถึงเมืองที่เต็มไปด้วยแสงไฟ มีฉากเป็นต้นมะพร้าวอยู่ข้างถนน พร้อมกับป้าย Hollywood อันใหญ่ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าทุกที่มันก็ต้องมีมุมที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน และเป็นมุมที่แปลกตาสุดๆ นี่คือภาพถ่ายในช่วงปี 90s ซึ่งช่วงนั้น ที่นี่เหมือนเป็นที่รวมกลุ่มของแก๊งที่ชื่อว่า Crips มีสมาชิกกว่า 30,000 คน เป็นการรวมกลุ่มของคนอัฟฟริกัน-อเมริกัน ที่ทำสงครามกับคู่อริที่ชื่อว่า Bloods มาตั้งแต่ปี 60s แก๊งนี้พยายามทำมือเป็นรูปตัว G กับ W เพื่อแสดงความภักดีต่อกลุ่ม Grape Street Watts ที่พวกเขาอยู่ สมาชิกของกลุ่ม Grape Street Watts Crips กำลังถือปืนลูกซอง ภาพของสมาชิกกลุ่ม Dodge City Crips กำลังถือก้อนโคเคน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย บางคนก็พยายามปกปิดใบหน้าเอาไว้ด้วยผ้าเช็ดหน้า พร้อมกับทำมือเป็นตัว C ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแก๊งค์ Crips ชาวแก๊งค์จัดฉากเหมือนพยายามจะประหารเด็กชายโดยการเอาปืนลูกซองจ่อไว้ สมาชิกกลุ่มกำลังยืนอยู่หน้ากำแพงที่พ่นชื่อของสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ ไว้อยู่ การทำมือแบบนี้เหมือนเป็นการแสดงตัวว่าเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ …
-
ช่วงสาระความสามารถในการ ‘กระดิกหู’ ทำไมบางคนทำได้ แต่บางคนดันทำไม่ได้!!?
ทำตัวไร้สาระมามากละ วันนี้ #เหมียวบ็อบ ขอทำตัวหาสาระน่ารู้มาให้ทุกคนได้อ่านกันบ้าง เชื่อว่าถ้าถามถึงเรื่องความสามารถพิเศษล่ะก็ หลายคนอาจจะบอกว่าตัวเองห่อลิ้นได้ ตัวเองกระดิกจมูกได้ หรือบางคนอาจจะ ‘กระดิกหูได้’!! ทว่าการกระดิกหูดุ๊กดิ๊กๆ เนี่ย บางคนกลับทำไม่ได้เนี่ยสิ จะพยายามเพ่งจิต บังคับลมปราณไปควบคุมหูให้กระดิก ยังไงมันก็ไม่ยอมไป ด้วยความสงสัยเราจึงไปค้นหาข้อมูลจาก LiveScience เพื่อหาเหตุผลว่าทำไมการกระดิกหูถึงได้เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะคนกันน้อ? ต้องบอกก่อนว่าเดิมทีการขยับกล้ามเนื้อส่วนหู ถือว่าเป็นคุณสมบัติของสัตว์เลี้ยงลูกทั่วไป ไม่ว่าจะแมว หมา หรือ ม้า ล้วนทำได้ทั้งนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วตามสัญชาติญาณสัตว์ หูมักจะกระดิกไปตามทิศทางที่มาของเสียง บริเวณกล้ามเนื้อที่รับผิดชอบส่วนนี้เรียกว่า ‘Auriculares’ โดยมันจะประกอบไปด้วยกล้ามเนื้ออีก 2 มัดแยกกัน ส่วนหนึ่งบังคับทิศทางขึ้นลง และอีกส่วนบังคับทิศทางซ้ายขวา นักวิทยาศาสตร์ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า การกระดิกหูของมนุษย์นั้นเดิมทีจัดว่าเป็นหนึ่งในวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตของพวกเรา มาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษโบราณ ทว่าต่อมากลไกการทำงานส่วนนี้ของร่างกายไม่ได้ถูกใช้งาน อาจเพราะวิวัฒนาการทางสังคม และดำรงชีวิตของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา (พูดง่ายๆ คือไม่ได้เป็นคนป่าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว) พร้อมทั้งเคยมีการรายงานว่า จากจำนวนประชากรทั้งหมดทั่วโลก มีเพียง 10% – 20% เท่านั้นที่สามารถกระดิกหูได้โดยธรรมชาติ (แบบไม่ต้องฝึก) …
-
คุณเกลียดเสียงเคี้ยวอาหารของคนอื่นบ้างหรือเปล่า? ถ้าใช่แปลว่าคุณมีปัญหาด้านสมองอยู่
เมื่อคุณได้ยินเสียงเคี้ยวอาหาร “แจ๊บๆๆ” จากคนรอบข้าง แล้วเกิดความรู้สึกรำคาญ นั่นถือเป็นเรื่องปกติมากๆ นะ แต่ถ้าคุณรู้สึกรำคาญจนทนไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะเคี้ยวเบาลงแล้วล่ะก็ คุณอาจจะต้องเช็คตัวเองหน่อยแล้วล่ะ เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกคุณว่าคุณมีอาการผิดปกติทางสมอง อาการที่#เหมียวฟิ้นพูดถึงอยู่นี้มันมีชื่อเรียกว่า Misophonia เป็นความผิดปกติทางสมอง มันถูกค้นพบเมื่อราวๆ ปี 2001 เป็นอาการผิดปกติทางสมองที่มักพบได้ในวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดความรำคาญเสียงรอบๆ ตัวเช่นเสียงเคี้ยวอาหาร หายใจ หรือเสียงกดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์หรือกดปาก บุคคลที่มีอาการนี้จะเกิดความรำคาญ รู้สึกหงุดหงิดหรือขยะแขยง นอกจากนี้ยังค้นพบว่าคนที่มีประสบการณ์กับอาการ Misophonia มีอัตราการเต้นของหัวใจที่เร็วขึ้นและมีเหงื่อออกมากกว่าปกติ เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับเสียงเหล่านั้นด้วย Olana Tansley-Hancock วัย 29 ปี จากเมืองแอชฟอร์ด รัฐเคนท์ คือหนึ่งในคนที่มีอาการป่วยแบบที่เรากล่าวมา ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เธออายุได้ 8 ขวบ เธอเริ่มมีความรู้สึกรำคาญกับเสียงการรับประทานอาหารของครอบครัวเธอมาก “เสียงน่ารำคาญระหว่างที่ครอบครัวของฉันกำลังกินข้าว มันทำให้ฉันทนไม่ได้จนต้องกลับเข้าไปอยู่ในห้องนอนของตัวเองเพื่อกินอาหารคนเดียวเงียบๆ ฉันบอกได้แค่เพียงว่ามันเป็นความรู้สึกที่โมโหจนอยากจะต่อยหน้าใครสักคน” Olana กล่าว หลังจากที่ต้องทนกับอาการที่คนอื่นมองว่าแปลกมานาน เธอก็เริ่มศึกษาค้นคว้าเพื่อให้เข้าใจถึงอาการ Misophonia เธอจึงเปลี่ยนวิถีชีวิตเสียใหม่ เธอลดคาเฟอีนและแอลกอฮอล และใช้ที่ครอบหูเพื่อกันเสียงน่ารำคาญออกไป ในปัจจุบันยังคงไม่มีทางรักษาให้หายขาด แต่ก็พอจะบรรเทาอาการได้ด้วยการไปขอคำปรึกษาจากแพทย์ หรือขอคำแนะนำจากคนที่มีอาการเดียวกันนี้ หรือสะกดจิตในรูปแบบต่างๆ…
-
ประติมากรรม ‘มือบีบต้นไม้’ ที่บีบมานานตั้งแต่ปี 1968 จนถึงตอนนี้มันก็ยังบีบได้อยู่!!
ทุกวันนี้โลกของเรามีงานศิลปะมากมายหลายแขนง และหนึ่งในสายศิลปะที่ทำให้หลายคนทึ่งอยู่เสมอก็คือประติมากรรมตามสถานที่ต่างๆ และในคราวนี้ก็เป็นในส่วนของประติมากรรมมือสัมฤทธิ์ที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติมานานถึง 49 ปีแล้ว ผลงานชิ้นนี้เป็นของศิลปินชาวอิตาลี Giuseppe Penone กับมือสัมฤทธิ์สุดแข็งแกร่งในลักษณะกำลังบีบต้นไม้อยู่ เริ่มติดตั้งผลงานมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1968 จนกระทั่งมาจนถึงปัจจุบัน มันก็ยังคงอยู่อย่างนั้น ไม่มีการขยับไปไหน แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม ผลงานที่ถูกติดตั้งไว้ในอดีต . Continuerà a crescere tranne che in quel punto (มันยังคงเติบโตต่อไปยกเว้นในส่วนที่เหลือนี้) คือชื่อผลงานประติมากรรมชิ้นดังกล่าว เป็นการสร้างสรรค์ชิ้นงานขึ้นมาจากแขนของศิลปินเอง นำมาติดตั้งไว้กับต้นไม้ตั้งแต่ยังเป็นต้นอ่อนอยู่ วันเวลาผ่านไป ต้นไม้ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เหมือนดั่งเช่นมือบีบต้นไม้ที่บีบแน่นเข้าไปทุกที . จนมาถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่สามารถรู้ได้ว่า ต้นไม้ต้นดังกล่าวจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างในระยะยาวต่อจากนี้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือภาพที่เห็นนั้นสามารถสะท้อนบางสิ่งบางอย่างในการกระทำของมนุษย์ที่มีต่อธรรมชาติได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว ที่มา : juxtapoz, demilked, boredpanda
-
ถึงกับเซ็ง!! แท็กซี่โดนปรับข้อหาขับเร็วเกิน ณ จุดๆ เดิมทั้งสิ้น 14 ครั้งตลอดระยะ 2 เดือน
ในเรื่องของการจับผู้กระทำกฎจราจรในปัจจุบัน จะไม่ค่อยเห็นนายตำรวจมายืนสังเกตข้างถนนแล้ว แต่สำหรับในบางประเทศวิธีการแบบนี้ก็ยังคงมีอยู่ ทั้งตั้งด่านเป็นกิจลักษณะ รวมทั้งไปแอบยืนหลังเสาไฟฟ้าแล้วโผล่ออกมาจ๊ะเอ๋ด้วย ฮร่า ซึ่งถ้าหากว่าเรารู้ว่าจุดไหนเป็นจุดที่เราพลาดพลั้งไปแล้ว ก็จะมีความระมัดระวังมากขึ้น ไม่อยากจะกระผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง แต่สำหรับที่ประเทศอังกฤษ กรณีนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มใหญ่วัย 41 ปี Steven Holman ทำอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่ ต้องยุติบทบาทหน้าที่ของตัวเองลง เนื่องจากเขากระทำผิดในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดที่ไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 ครั้ง แต่มากถึง 14 ครั้งใน 2 เดือน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีประวัติเสียแม้แต่ครั้งเดียวตลอดระยะเวลาที่ทำอาชีพคนขับแท็กซี่มา 10 ปี ซึ่งทุกอย่างก็หายวับไปกับสายลมเพียงเพราะกล้องตรวจจับความเร็วเพียงแค่ตัวเดียว กล้องตรวจจับความเร็วคู่กรณีของ Holman กล้องตัวดังกล่าวติดตั้งในบริเวณข้างถนนของเมือง Plymouth, Devon ที่เคยเป็นไฟจราจรมาก่อน จนกระทั่งกลายมาเป็นกล้องตรวจจับความเร็วเมื่อปีที่แล้ว แต่ทว่าไม่มีการติดป้ายหรือคำเตือนบนถนนให้ผู้ขับขี่ได้เห็นอย่างชัดเจน ว่ามีกล้องคอยตรวจจับอยู่ ซึ่งในระหว่างนั้น Holman ก็ถูกกล้องจับได้ว่าขับเร็วเกินกว่า 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นจำนวน 9 ครั้งในช่วง 2 สิงหาคมถึง…
-
ญี่ปุ่นเผยสาเหตุที่ผู้หญิงบิดฝาขวดไม่ได้ จากสถิติระบุว่าเจ้าหล่อนมีแรงบิดไม่พอจริงๆ!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งประเด็นโลกแตกที่เคยถกเถียงกันมาไม่รู้จบสิ้น อย่างเช่นการที่ผู้หญิงขอร้องให้ผู้ชายช่วยบิดฝาขวดน้ำให้ เป็นเพราะว่าพวกเธอบิดเองไม่ได้จริงๆ หรือเป็นเพียงแค่การใช้คำหว่านล้อมให้อีกฝ่ายบิดฝาขวดให้ ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ทำได้เหมือนกัน… ในเรื่องนั้น #เหมียวเลเซอร์ จะไม่ขอพูดถึงอีกว่าสรุปแล้วมันเป็นที่อะไรกันแน่ เพราะว่าทางด้านประเทศญี่ปุ่นได้มีการทำเก็บสถิติสรุปผลออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อหาคำตอบมาคลายข้อสงสัยนี้ซะ ฝาขวดน้ำพลาสติกเจ้าปัญหา ประเด็นของผู้หญิงบิดฝาขวดน้ำเองไม่ได้นั้น ไม่ใช่ว่าพวกเธอหลอกใช้หนุ่มๆ หรอกนะ แต่ว่าเป็นเรื่องของแรงบิดที่มีไม่มากพอนั่นแหละ ทางเว็บไซต์ unlimit-j ได้อธิบายไว้คร่าวๆ ว่า สำหรับการบิดฝาขวดพลาสติกนั้นจะต้องใช้แรงบีบมือตั้งแต่ 12 kgf ถึง 45 kgf (kiloforce) ทั้งนี้ก็จะมีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องอีกก็คือ สภาพของฝาขวด อุณหภูมิของฝาขวด ณ ขณะนั้น ขนาดของนิ้วมือ ระดับความแห้งของนิ้วมือ และปัจจัยอื่นๆ (นิ้วมัน นิ้วอ่อนแรง ฯลฯ) การบิดฝาขวดทั่วไปที่ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งเป็นหลัก เมื่อนำปัจจัยทุกอย่างมารวมกันในการบิดฝาขวดพลาสติกด้วยนิ้วมือปุ๊บ ก็จะเกิดปัญหาที่ว่าบิดและหมุนฝาขวดไม่ได้ เนื่องจากจับไม่แน่นและนิ้วไม่แห้งพอ (ชื้น) ซึ่งในการบิดฝาขวดให้เปิดออกมาได้จะต้องอาศัยแรงบีบมือ ยิ่งสัมผัสกับฝาได้มากเท่าไหร่ ก็จะมีแรงที่เกิดขึ้นกับนิ้วมือและฝามากขึ้นเท่านั้น และแรงทั้งหมดจะกระจายมาเป็นแรงบิดฝาขวดนั่นเอง ‘แรงในการจับฝาขวดกับแรงในการบิดจะต้องสัมพันธ์กันถึงจะบิดฝาขวดให้เปิดออกมาได้’ กล่าวคือ…
-
ชมสุดยอด 19 วีรกรรมแกล้งเมียจากพ่อบ้านใจกล้า หลังจากนี้พวกท่านจะรอดมั้ยเนี่ย!?
ว่ากันว่าถ้าใครเชื่อฟังมนุษย์เมียแล้วจะได้ดิบได้ดีกันทุกคน จะว่าไปมันก็เมคเซ้นส์อยู่นะก็แหมมนุษย์เมียเล่นบังคับให้เราประพฤติตนอยู่ในโอวาทตลอด หลังๆ ชักจะเริ่มสับสนนี่เมียหรือแม่กันแน่หว่า? และในโอกาสที่วันวาเลนไทน์ใกล้จะมาถึงทุกที เราเชื่อว่าหนุ่มๆ ทั้งหลายก็คงอยากจะตอบแทนความรักให้กับผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ แต่ถ้าจะให้เซอไพรส์ด้วยความหวานซึ้งมันก็ดูจะเชยไปซะแล้ว งานนี้เราขอแนะนำให้ไปชมตัวอย่างวีรกรรมแกล้งเมียแบบเซอไพรส์ๆ กันเลยดีกว่า ฮ่าฮ่าฮ่า!! ป้าคนนี้ขึ้นลงตาชั่งอยู่หลายรอบ เพราะไม่เชื่อว่าตัวเองน้ำหนักเพิ่มมาตั้ง 7 กก. เมื่อภรรยาตื่นมาก็พบจดหมายน้อยน่ารักๆ จากคุณสามีสุดที่รัก บอกให้ไปดูที่รองเท้า… พอมาที่รองเท้าก็บอกให้ไปดูที่ใต้หมอนสิจ๊ะที่รัก “ผมตดใส่หมอนนี้แหละ แอ๊ไอ่เปื้อนตด คิดถึงนะ” เอิ่ม…ถือว่าน่ารักอยู่ๆ เมื่อภรรยาอยากได้รูปถ่ายครอบครัว สามีจัดให้ครับ!! ภรรยาบอกชอบเป๊ปซี่ไม่ชอบกินโค้ก เปิดตู้เย็นมาอีกวันเจอแบบนี้เฉยเลย ฮ่าๆ ลุงคนนี้โดนภรรยาสั่งให้เปลี่ยนภาพที่ติดในช่องแอร์ แหม่…จะหลอนไปไหน แกล้งว่าแอบตัดผมเมีย งานนี้มีเคืองหนัก เมื่อคุณภรรยาบอกว่า “เราควรเลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้านนะค่ะที่รัก” สามีใจดีซื้อขนมมาให้ภรรยาทาน หวังเอาใจหลังทำงานมาทั้งวัน ต๊ะเอ๋ ว่างเปล่า ไม่มีนะจ๊ะที่รัก 555+ เมื่อภรรยาบอกว่าไปตัดขนมปังแบ่งครึ่งให้หน่อย สามีจัดมาเป็นจิ๊กซอว์เลย …
-
สาวดีใจ กลับบ้านมาเจอ “ช่อดอกไม้” ของสามีวางอยู่ พออ่านการ์ดดีๆ อ้าว… ให้หมานี่หว่า!!
คนเรามีวิธีการเซอไพรส์คนที่เรารักเป็นแสนพันล้านอย่าง อยู่ที่ว่าใครจะงัดเอากลเม็ดใดออกมามัดใจคู่รักของเรา บางคนก็อาจจะมีแผนชวนว๊าว หรือบางคนแค่เซอไพรส์เบาๆ ก็คงจะพอแล้ว แต่ว่ากันว่าทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไป เมื่อคุณมีสัตว์เลี้ยงสักตัวหนึ่งเข้ามาในบ้าน คุณ Debbie และสามีของเธอ Debbie Cardone สาวสวยใจดีประจำบ้านที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าคำพูดดังกล่าวเป็นเรื่องจริง เพราะมีอยู่วันหนึ่งหลังจากที่เธอเหนื่อยล้าจากการทำงานมาทั้งวัน เจ้าตัวเดินทางกลับบ้านมา เธอก็พบกับช่อดอกกุหลาบสวยงามหลากสีสันวางอยู่ แหม…เจอแบบนี้เป็นใครก็ต้องรู้สึกชื้นใจกันทั้งนั้นแหละ น่าอิจฉาจังเลยคนอะไรมีสามีน่ารักสุดๆ นี่เลยช่อดอกไม้ที่เธอเปิดประตูเข้ามาเจอ ส่วนนั่นก็เจ้า Sebastian ตูบลูกรักประจำบ้าน ซึ่งอันที่จริงสามีของเธอต้องไปทำงานไกลถึงที่ดูไบ ทำให้ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน และเธอก็เข้าใจว่าสามีคงคิดถึงจึงสั่งดอกไม้ให้มาจัดส่งถึงที่ให้แบบนี้ แต่พอเข้าไปอ่านตรงการ์ดที่เขียนอยู่เธอก็ถึงกับเงิบ เพราะมันไม่ใช่ของเธอ!! “ตอนแรกฉันคิดว่าสามีส่งมาให้ค่ะ แต่พออ่านการ์ดเท่านั้นแหละ ชัดเจนเลยมันเป็นของเจ้าเซบาสเตียนค่ะ ไม่ใช่ของฉัน ฮ่าๆๆ” เธอเล่าติดตลก ข้อความมีอยู่ว่า “เซบาสเตียน ถ้าลูกรู้สึกดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวลูกจะกลับมาซ่าได้อีกแน่นอน รักนะจากป๊ะป๋า” “หลังจากที่ได้อ่านแล้วฉันถึงกับช็อค และหัวเราะออกมาเลยค่ะ ช่างเป็นอะไรที่น่ารักมาก เพราะเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนเจ้าเซบาสเตียนมันเพิ่งไปผ่าตัดที่ต้นขา และมันต้องรักษาตัวงดทำกิจกรรมผาดโผนเป็นเวลา 8 อาทิตย์ ฉันก็นึกว่าสามีจะคิดถึงฉันซะอีก” (แต่ดันคิดถึงหมามากกว่าเมียซะงั้นเลย ฮ่าาาาาา)…
-
รู้จักกับ “Hater” แอพหาคู่สุดแนว ที่จะพาเราไปเจอกับคนที่ “เกลียด” อะไรๆ เหมือนกัน!!!
ปัจจุบันนี้การหาคู่มันไม่ใช่เรื่องที่ยากแล้ว เพราะเรามีโซเชียลเน็ตเวิร์คที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น ถึงแม้จะไม่ได้รู้จักกันก็สามารถหาเจอกันได้ง่าย โดยเฉพาะคนโสดที่อยากมีคู่ ก็มีแอพฯ หาคู่ให้ใช้มากมาย บอกตรงๆ ว่าแอพฯ หาคู่นี่มันก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะไปเจอใคร เขาจะหลอกเราหรือเปล่า หรือว่าเราจะมีความชอบอะไรที่เหมือนกันไหม แต่วันนี้จะมาแนะนำแอพฯ หาคู่ที่แปลกออกไป เพราะว่ามันจะหาคู่ให้เราจากสิ่งที่เราเกลียดร่วมกันนั่นเอง นี่คือแอพฯ ที่ชื่อว่า “Hater” ซึ่งผู้ก่อตั้งก็คือ Brendan Alper เขาลาออกจากงานมาแล้วก็มาทำงานเป็นคอมเมเดี้ยน ซึ่งไอเดียนี้ได้มาจากการพูดเล่นติดตลกทั่วไป แต่พอคิดอีกทีแล้ว มันกลายเป็นสิ่งที่เจ๋งมากๆ ลองนึกภาพว่าเราคุยกับคนแปลกหน้า โดยที่มีสิ่งที่เกลียดเหมือนๆ กันมันจะคุยสนุกแค่ไหน ซึ่งแอพฯ นี้ก็จะหาคนที่เกลียดที่ที่เหมือนๆ กัน จากการที่เราได้บันทึกไว้ว่าเกลียดสิ่งใดบ้าง พร้อมกับหาตำแหน่งตามที่คุณต้องการด้วย แอพฯ นี้ถูกปล่อยออกมาให้ใช้แล้ว ซึ่งประเทศไทยของเราก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน การจะคบใครสักคนเราก็ต้องรู้จักว่าเขาเกลียดอะไร เพราะว่าเวลาทำอะไรด้วยกัน ก็จะได้รู้ว่าเขาไม่ชอบอะไร และเราก็ไม่ชอบอะไร จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมาผิดใจกันทีหลัง แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้พัฒนา Brendan Alper ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็คือการทำให้เกิดพฤติกรรมทางลบ เขาก็เลยจำเป็นต้องควบคุมหัวข้อที่อยู่ในแอพฯ นี้ให้ไม่เกินเลย เพราะเขารู้ว่าการที่เราเกลียดอะไรมากๆ มันก็ต้องนำการพูด Hate Speech มาด้วย…
-
คลิปหมอเอา “แมลงสาบ” ออกจากกะโหลกของหญิงสาว หลังเธอรู้สึกมีอะไรไต่ตลอดเวลา
บอกก่อนเลยว่าใครที่กลัวแมลงสาบ อาจจะรับกับข่าวนี้ไม่ได้ เพราะว่ามีภาพที่น่าสยดสยองมากๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา… ตามรายงานจากทาง Indian Express ระบุว่าหญิงสาววัย 42 ปีจากประเทศอินเดียได้ไปหาหมอ เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนมีอะไรไต่อยู่ในหัวตลอดเวลา พอตรวจดูแล้วก็พบว่านั่นคือ “แมลงสาบ” อยู่ในหัวของเธอเอง โดยมันอาศัยอยู่ในส่วนระหว่างดวงตาอีกด้วย ฟังแค่นี้ก็ขนลุกแล้ว คุณหมอ Shankar ยังบอกอีกว่านั่นเป็นแมลงสาบที่โตเต็มวัย ที่เดินไปเดินมาอยู่ในหัวของเธอ โชคดีที่เธอเข้ามาตรวจที่ศูนย์ Stanley Medical College เสียก่อน โดยที่ถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้มันคงจะอัตรายมากๆ คุณหมอเล่าว่าแมลงสาบตัวนี้อาจจะเข้าไปในโพรงจมูกของเธอ ก่อนที่จะติดอยู่ข้างในเป็นเวลากว่า 12 ชั่วโมง และสุดท้ายคุณหมอก็เอามันออกมาได้สำเร็จ “ถ้ามันไม่ได้ถูกนำออกมา มันก็จะตายก่อน และผู้ป่วยก็จะติดเชื้อ ซึ่งเชื้อนั้นอาจจะแพร่ไปสู่สมองของเธอได้ด้วย” คุณหมอกล่าวถึงเคสนี้ คุณหมอใช้เวลากว่า 45 นาทีในการเอามันออกมา ซึ่งตอนนั้นดูเหมือนแมลงสบายจะไม่อยากออกมาเท่าไหร่ แถมคุณหมอที่ช่วยกันทำการรักษาไม่เคยเจอเคสอะไรแบบนี้มาก่อน อีกทั้งแมลงสาบที่เอาออกมามันตัวใหญ่มากๆ อีกด้วย ถ้าใครใจถึง ก็ไปชมคลิปการเอาแมลงสาบออกจากหัวของเธอได้เลย แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นได้น้อยและหายากมากๆ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่พบอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตัวเรา แนะนำให้รีบไปพบแพทย์แต่โดยเร็วจะดีที่สุด เพราะบางทีเรื่องอาจจะจบไม่สวยแบบนี้…
-
9 ดาราชายสุด “ฮอต” ที่ถึงแม้อายุจะเลย 50 ปีมาแล้ว แต่สาวๆ ก็ยังกรี๊ดสลบ!!
อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขจริงๆ ถ้าคุณรู้จักดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ก็ไม่มีใครสามารถเดาอายุของคุณได้ โดยเฉพาะเหล่าดารารุ่นใหญ่ทั้งหลายที่อยู่ในวงการมานาน จนบางทีเราก็ลืมนับอายุของพวกเขาไปเลย มีดาราหลายคนที่ตอนวัยรุ่นดูดียังไง แก่มาก็ยังดูดีไม่เปลี่ยนแปลง และบางคนก็เพิ่งมาดูดีตอนแก่ก็มีเหมือนกัน เราไปดูกันดีกว่าว่าจะมีใครบ้างที่เรายังไม่รู้ว่าพวกเขาเกิน 50 มาแล้ว Dylan McDermott เขาโด่งดังจากซีรีส์ “American Horror Story” และตอนนี้เขาอายุได้ 52 ปี แล้ว แต่ดูเหมือนอายุยัง 30 ต้นๆ อยู่เลย Colin Firth นักแสดงหนุ่มผู้โด่งดังจากเรื่อง Kingsman และ หนังออสการ์อย่าง The King’s Speech ตอนนี้ยังดูเซ็กซี่และหล่อเนี้ยบอยู่เลย Pierce Brosnan กลายเป็นเซ็กซ์ซิมโบลไปตั้งแต่ยุค 90 แล้วกับบทเจมส์ บอนด์ ซึ่งถึงแม้ตอนนี้จะอายุ 60 แล้วแต่ก็ไม่ต่างจากตอนนั้นเลย Liam Neeson กลายเป็นอีกหนึ่งดาราคิวบู้ที่ยังเล่นไหวอยู่ถึงแม้อายุจะเกิน 50 แล้ว และก็ยังคงความฮอตไว้ได้ David…
-
แบบสำรวจล่าสุดเผยว่า” สาววัย 33 ปี” จะเป็นช่วงที่มีเซ็กส์ได้แซ่บกว่าวัยอื่นๆ!!
ขอบอกเลยว่างานวิจัยนี้จะทำให้สาวๆ ทั้งหลายกล้าพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ผู้หญิงที่ขึ้นวัยเลขสาม ยังไม่แก่หรอกนะจ๊ะ เพราะไม่อย่างนั้นจะแซ่บสุดๆ ได้ยังไงกันเล่า!! โดยล่าสุดมีการสำรวจจากแบบสอบถามโดยกลุ่มอาสาสมัครผู้หญิง 1,000 คน และทีมวิจัยได้ผลสรุปแล้วว่า ช่วงวัย 33 ปี เป็นช่วงวัยที่พวกเธอรู้สึกว่าการมีเซ็กส์ มันช่างเต็มที่กว่า แซ่บกว่า และดีกว่า เมื่อเทียบกับช่วงวัยอื่น “อู๊วว ดิฉันก็คิดว่ามันตรงนะคะ!!” (ไม่มีใครกล่าวไว้ #เหมียวบ็อบ มโนจากภาพ) เหตุผลว่าทำไม!? สาเหตุที่ทำให้ช่วงวัยนี้รู้สึกแซ่บ และจัดจ้านกว่าวัยอื่น มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์มาด้วย นั่นก็เพราะเมื่อย้อนกลับไปในช่วงวัยประมาณ 20 ปี สาวๆ ส่วนใหญ่มักจะยังมีความกังวลใจในชีวิตของตัวเองอยู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงที่เต็มไปด้วยพลังขับเคลื่อนทางเพศที่มาจากฮอร์โมนก็ตาม แต่จุดพีคสุดจะอยู่ในช่วงวัย 30 ปีขึ้นไป ปัจจัยก็มาจากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าที่การงานที่เริ่มมั่นคง ความสัมพันธ์ และบวกกับเป็นช่วงวัยที่เริ่มเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตมากยิ่งขึ้น จึงไม่แปลกที่สาววัยนี้จะรู้สึกเต็มที่กับเรื่องเซ็กส์มากกว่า ทีมวิจัยยังให้ข้อมูลเสริมอีกว่า อันที่จริงแล้วเซ็กส์ของสาวๆ ในช่วงวัยรุ่นนั้นจากการสำรวจพบว่ามีเพียง 30% ของสาวๆ เท่านั้นที่จะมีโอกาสสำเร็จความใคร่ มันเลยดูเหมือนว่าเป็นช่วงวัยที่ฮอร์โมนพลุ่งพล่านก็จริง แต่ความสุขเรื่องเซ็กส์ก็อาจจะยังไปไม่ถึงขีดสุด นอกจากนั้นเมื่อปี 2016…
-
กลุ่มสาวๆ เซลฟี่อยู่ เจอคุณยายพลัดหลงกับสามี ชวนมาเข้าแก๊งชะนีวัยรุ่นซะเลย!!
เป็นปกติในยุคนี้ที่เวลาสาวๆ ออกไปเที่ยวที่ไหนก็อดใจไม่ไหวที่จะต้องหยิบมือถือออกมาถ่ายรูปเซลฟี่ ซึ่งสถานที่ยอดฮิตก็คงจะหนีไม่พ้นในห้องน้ำนั่นเอง Mahri Smith สาวสวยวัย 18 ปี ออกไปเที่ยวกับเพื่อนของเธอใกล้ๆ กับคาสิโนแห่งหนึ่งในเมืองออตตาวา ประเทศแคนาดา โดยเธอได้แวะเข้าห้องน้ำและแน่นอนเธอก็ไม่ลืมที่จะเซลฟี่ตามปกติที่เคยทำ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ก็มีคุณยายท่านหนึ่งเดินเข้ามาและขออาสาเป็นคนถ่ายรูปให้เธอกับกลุ่มเพื่อนๆ จึงทำให้เธอประหลาดใจอย่างมาก โดยเธอได้เล่าว่า “คุณยายคนนั้นเข้ามาพูดและชมฉัน เหมือนกับว่าเราเป็นคนรุ่นเดียวกัน แถมเธอยังบอกว่า เธอคิดถึงสมัยก่อนตอนที่เธอยังอายุใกล้ๆ กับฉันว่า เมื่อก่อนเธอก็จะแต่งตัวและออกไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มบ่อยๆ เธอคิดถึงความรู้สึกแบบนั้น” นี้ก็เป็นภาพที่เธอทวิต ภาพถ่ายเซลฟี่ด้วยกันกับคุณยายในห้องน้ำแห่งนั้น เธอไม่ได้ให้คุณยายถ่ายให้ แต่ชวนคุณยายมาเข้าแก๊งชะนีด้วยกันซะเลย สุดท้ายคุณยายคนนั้นก็กลับเข้าไปในคาสิโน เพื่อตามหาสามีและกลุ่มเพื่อนของเธอที่มาด้วยกัน Mahri ได้บอกทิ้งท้ายไว้ว่า “มันเป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆ แถมคุณยายแกก็ดูจะเป็นคนที่นิสัยดีมากๆ เลยด้วย” แต่ช่างน่าเศร้า ที่เธอไม่ได้ถามชื่อของคุณยายคนนั้นไว้ทำให้มิตรภาพครั้งนี้ต้องจบลงตรงนั้นนั่นเอง และหลังจากที่เธอทวิตออกไปก็ดูเหมือนว่า เหตุการณ์นี้จะโดนใจใครหลายๆ คนเลยทีเดียว มีคนกดถูกใจอย่างล้นหลาม มีการรีทวีตภาพไปเกือบ 80,000 ครั้ง และกดถูกใจอีกเกือบ 300,000 ครั้งด้วย ตามภาพ คุณยายแกก็ดูจะมีความสุขจริงๆ นั่นและ ที่ได้คุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับสาวๆ อย่างน้อยก็คงทำให้เธอได้รู้สึกกลับไปเป็นสาวอีกครั้ง…
-
นี่คือชั่วโมงพละของเด็กนักเรียนแคนาดา ออกกำลังกายแบบล้ำๆ เหมือนเรียนในโลกอนาคต
ถ้าจะพูดถึงวิชาพละ เราอาจจะนึกถึงภาพเด็กนักเรียนออกไปเล่นกีฬา วิ่งจับกัน ออกกำลังกาย หรือไม่ก็รำกระบี่กระบอง แต่สำหรับเด็กๆ ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของประเทศแคนาดา ดูเหมือนว่าภาพของชั่วโมงพละของพวกเขาจะต่างจากเมืองไทยไปแล้ว ภาพชั่วโมงพละที่เราคุ้นตา… โรงเรียนประถม St-Jean-Berchmans แห่งนี้อยู่ในเมืองควิเบก ซึ่งร่วมมือกับบริษัท SAGA บริษัทด้านเทคโนโลยีของแคนาดา พัฒนาโปรเจ็ค Interactive Gym ขึ้นมา โปรเจ็คนี้เป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบของวิชาพละแบบเดิมที่ให้เด็กออกกำลังกาย และใส่เทคโนโลยีแบบ AR เข้าไป เปลี่ยนกำแพงให้กลายเป็นการเล่นเกมสุดมันส์ ถ้าใครยังไม่เข้าใจรูปแบบ อยากให้ลองดูคลิปวิดีโอนี้กันก่อน เป็นการถ่ายการเล่นเก็บคะแนนของเหล่าเด็กๆ ที่จะต้องแข่งปาลูกบอลไปทำแต้มบนผนัง เพื่อเก็บคะแนนว่าใครหรือทีมไหนจะทำคะแนนได้มากที่สุด คลิปการแข่งปาบอล AR ในชั่วโมงพละศึกษา คุณ Vincent Routhier ซีอีโอของทางบริษัทระบุว่า “เราใช้กล้อง 3 มิติเพื่อตรวจจับปฏิสัมพันธ์ของผนังและพื้น จากนั้นก็ใส่เกมลงไป ผสมสานกับแสง สี เสียง เอฟเฟคต์ต่างๆ ให้เด็กๆ ได้เล่น” จากการให้สัมภาษณ์ของเขา ระบุว่าโปรเจ็คนี้เป็นการผสมผสานการเรียนในยิม เข้ากับการเรียนรู้ในสนามเด็กเล่น ซึ่งดูเหมือนว่าจะสำเร็จได้อย่างดีซะด้วย …
-
เด็กสาว ม.ต้น เขียนเรียงความสุดซึ้ง ‘ปฏิเสธคนจังหวัดฟุกุชิมะ’ ชนะใจคนญี่ปุ่นทั้งประเทศ
ย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์อันน่าเศร้าภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 ณ จังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเหตุทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ปลดปล่อยสารกัมมันตรังสีออกมา และถือว่าเป็นภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เชอร์โนบิลในปี 1986 สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาต่อจากนั้นก็คือ ความเกลียดชังของผู้คนรอบข้างที่มีต่อจังหวัดฟุกุชิมะและชาวบ้านที่อยู่อาศัยเติบโตภายในจังหวัดนี้ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้เป็นคนเลือกให้มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และไม่อยากให้เกิดความหายนะเช่นนี้ด้วย เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักถึงความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในใจของชาวญี่ปุ่น Ruzo Maoma อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปี 3 ได้ส่งเรียงความเรื่อง ‘ปฏิเสธตัวตนของจังหวัดฟุกุชิมะ’ เข้าประกวดในงาน การเขียนเรียงความสิทธิมนุษยชนจากนักเรียนชั้นมัธยมต้นทั่วประเทศครั้งที่ 36 โดยมีใจความดังต่อไปนี้ ปฏิเสธตัวตนของจังหวัดฟุกุชิมะ นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ฉันช็อคมาก สำหรับการเป็นคนจังหวัดฟุกุชิมะอย่างฉัน ฉันเกิดและเติบโตในเมืองมินะมิโซมะ จังหวัดฟุกุชิมะ จนถึงกระทั่งชั้น ป. 3 เมื่อพูดถึงเมืองมินะมิโซมะ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้านเทศกาลและวัฒนธรรม ให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ในอดีตมาอย่างช้านาน ฉันรักผู้คนและเมืองมินะมิโซมะในแบบที่เป็นอยู่อย่างนี้… แต่ทว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เกิดเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และนั่นก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะสารกัมมันตรังสีที่ถูกปลดปล่อยออกมา ทำให้เมืองมินะมิโซมะกลายเป็นเมืองที่ผู้คนอยู่อาศัยไม่ได้อีกต่อไป และตัวฉันเองก็ต้องย้ายหลบภัยไปอยู่กับญาติพร้อมกับครอบครัวที่จังหวัดโทะชิงิแทน เมื่อไปถึงที่นั่น ก็พบกับข้อความสติ๊กเกอร์บนรถยนต์คันหนึ่ง ในลานจอดรถร้านค้าที่แวะข้างทางว่า…
-
นักเรียนญี่ปุ่นไอเดียแหวก แปลทวิตเตอร์ Donald Trump เพื่อเรียนภาษาอังกฤษและสังคม
การเปลี่ยนผ่านอำนาจจาก Barack Obama มาสู่ Donald Trump ดูจะเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจมาก เพราะทุกๆ การตัดสินใจของสหรัฐจะส่งผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่งไปยังประเทศต่างๆ รอบโลก ฉะนั้นนักข่าวและผู้คนทั่วโลกจึงต้องจับตามองทุกๆ ความเคลื่อนไหวของ Trump ว่ากำลังคิดหรือเตรียมจะตัดสินใจเรื่องใดต่อไป โดยเฉพาะทางทวิตเตอร์ @realDonaldTrump ที่เขามักจะทวีตความคิดของตัวเองออกมา แต่คนที่ติดตาม Trump เองใช่ว่าจะมีแต่คอการเมืองเท่านั้น คนที่สนใจเรื่องการศึกษาและภาษาอังกฤษก็ติดตามเขาอยู่เหมือนกันนะ บางคนอาจงงว่าติดตามดูประธานาธิปดีแล้วจะได้การศึกษายังไง? งั้นเรามาดูข่าวนี้กัน เมื่อไม่นานมานี้เราได้ไปเจอเข้ากับทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @DonaldTrumpJPN เป็นทวิตเตอร์ที่จะหยิบเอาข้อความต่างๆ จาก @realDonaldTrump มาแปลจากอังกฤษเป็นญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้คนญี่ปุ่นสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษและเข้าใจสิ่งที่ผู้นำสหรัฐผู้นี้ทวีตออกมานั่นเอง ทวิตเตอร์ @DonaldTrumpJPN ถูกสร้างขึ้นมาด้วยสโลแกนว่า Make English-learning Great Again (ทำให้การเรียนรู้ภาษาอังกฤษกลับมายอดเยี่ยมอีกครั้ง) ซึ่งเป็นการล้อข้อความของ Trump ตอนหาเสียง Make America Great Again (ทำให้อเมริกากลับมายอดเยี่ยมอีกครั้ง) เพราะอย่างที่รู้กันว่าชาวญี่ปุ่นนั้นไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษ การสื่อสารส่วนใหญ่จึงมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น การสร้างทวิตเตอร์นี้จึงเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดีทางหนึ่งเลย บัญชีทวิตเตอร์นี้ดำเนินการโดยแอดมินที่ใช้นามแฝงว่า K・T-san วัย 17 ปี เขาจะแปลทุกๆ ข้อความที่ Trump ทวีตออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อให้คนเข้าใจ ปัจจุบันทวิตเตอร์ @DonaldTrumpJPN มีผู้ติดตามแล้วกว่า…
-
ชาวเน็ตญี่ปุ่น สอนวิธีใช้ “พลาสเตอร์ปิดแผล” พันนิ้วแบบใหม่ จนคนถูกใจนับแสนครั้ง
พูดถึงเรื่องของ พลาสเตอร์ปิดแผล คงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนรู้จักกันดี และรู้หรือไม่ว่าคนญี่ปุ่นเอง ก็มีไอเดียการผลิตพลาสเตอร์ลายน่ารักๆ ออกมาอยู่ตลอด จนได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ปิดแผลน่ารักที่สุดในโลกด้วยซ้ำ และทีนี้ลองมาสมมติเหตุการณ์ว่าเราโดนมีดบาดนิ้ว เราก็ต้องวิ่งหาพลาสเตอร์มาปิดแผลกันสินะ โดยปกติทั่วไปก็คือการพันพลาสเตอร์ให้ส่วนตรงกลางทับรอยแผล แล้วก็พันวนรอบนิ้ว 1 รอบ แต่คราวนี้มีชาวเน็ตญี่ปุ่นคนหนึ่งในชื่อ @ponzuyo มาสอนวิธีใช้พลาสเตอร์รูปแบบใหม่ ซึ่งก็กลายเป็นว่าถูกใจชาวเน็ตกันยกใหญ่ จนมีคนกดถูกใจกว่า 170,000 ครั้งและรีทวีตต่อไปอีก 80,000 กว่าครั้งเลยล่ะ รูปแบบการใช้งานแบบใหม่ จะอธิบายง่ายๆ ตามภาพก็คือ แทนที่เราจะม้วนรอบเดียวจบ เราก็นำมาทาบกับนิ้วก่อน แล้วเอากรรไกรตัดแบ่งส่วนที่เหลือตามแนวยาว หลังจากนั้นเราก็พับทบขึ้นมาทีละข้างให้มันไขว้กัน จนสุดท้ายก็จะได้พลาสเตอร์ปิดแผลแนวไขว้ ที่ดูน่าจะติดทนทานและเก๋ไปอีกแบบ ตัวอย่างการใช้งานแบบผิดวิธี อิอิ แต่มันไม่ได้เก๋เฉยๆ นะ เพราะมีผู้รู้ออกมาชี้แจงว่าการติดแบบนี้น่ะมีข้อดีเพิ่มกว่าเดิมซะอีก ข้อแรกก็คือมันจะมีความเหนียวทนทานขึ้น จากการติดไขว้รูปตัว X ซึ่งทำให้พลาสเตอร์ไม่หลุดง่ายเหมือนกับการติดแบบธรรมดา และอย่างที่สองก็คือ มันทำให้กระชับกับนิ้วมือของเรามากกว่าเดิม ทีนี้พวกฝุ่น เชื้อโรคอะไรทั้งหลายก็มีโอกาสเข้าไปยังแผลของเราน้อยลงอีกด้วย สุดท้ายอย่างที่สาม ลดโอกาสที่จะมีเลือดตกลงไปยังคีย์บอร์ดหรือหนังสือ เวลาเรานั่งพิมพ์ นั่งเล่นเกม หรือนั่งเขียนงานอีกเช่นกัน (งานนี้เค้าไปวิจัยกันมาอย่างไรนะ!?)…
-
10 อันดับสถานที่ “ชื่อยาว” ที่สุดในโลก งานนี้อุฟุฟวยฟวยฟวย ถึงกับต้องชิดซ้าย…
หลังจากที่ช่วงนี้มีกระแสเฮฮากับชื่อยาวแสนยาว ตั้งแต่คอนเท้นท์ รู้จักตัวจริง ‘อูวู้โวยวั่ยวอย โอเยทเทนเย่วัย อุวิมมุวิม โอซาซ’ ชายผู้ดังเพราะชื่อเรียกยากที่สุดในโลก!! ซึ่งเป็นเน็ตไอดอลที่ทุกคนรู้จักดี มาจนถึงเรื่องของเมืองที่มีชื่อยาวแสนยาวอย่าง รู้จักชื่อเมืองยาวเฟื้อย ‘Llanfairpwllgwyngyll’ ของจริงไม่ได้ล้อเล่นนะ โอ้ซาสสสส!? เป็นเรื่องของนักพยากรณ์อากาศที่อ่านชื่อเมืองแสนยาวได้อย่างง่ายดายจนถึงกับตะลึงไปตามๆ กัน อะไรนะ มีชื่อยาวกว่าตรูอีกเร๊อะ!? คราวนี้ #ประธานเหมียว เลยลองค้นข้อมูลเพิ่มเติมดูว่าจะมีเมืองชื่อยาว หรือสถานที่ซึ่งมีชื่อยาวแบบนี้อยู่ในโลกเราอีกหรือไม่ และก็ได้ไปเจอมาอีกเพียบเลย เราลองมาดูกันว่า ถ้าจัดอันดับ 10 สถานที่ชื่อยาวที่สุดในโลก จะมีที่ไหนติดเข้ามาบ้าง…. 10. Mamungkukumpurangkuntjunya ชื่อของ มามุงกูกุมปูรางกุนจุนย่า คือภูเขาแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของออสเตรเลีย มีความหมายตามภาษาอะบอริจินว่า “สถานที่ฉี่ของปิศาจ” 9. Bovenendvankeelafsnysleegte สถานที่แห่งนี้คือฟาร์มทางตอนเหนือของ Karoo ในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งชื่อฟาร์มก็มาจากภาษาแอฟริกัน ความหมายว่า “จุดสิ้นสุดของหุบเขาแคบ” ภาพจากกูเกิ้ลแมพ แสดงความแห้งแล้งของพื้นที่ 8. Venkatanarasimharajuvaripeta นี่คือชื่อของสถานีรถไฟแห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ซึ่งถือเป็นชื่อสถานีรถไฟยาวที่สุดในระบบรถไฟของประเทศนี้ด้วย ถ้าใครคิดว่ายาวไม่พอ บางคนก็เรียกและเขียนด้วยคำว่า Sri ข้างหน้า เพิ่มไปอีก 3 ตัวอักษรซะอีก 7. Pekwachnamaykoskwaskwaypinwanik เป็นชื่อของทะเลสาบแห่งหนึ่งในรัฐแมนิโทบา…
-
“เฉินหลง” หลั่งน้ำตา หลังได้พบทีมสตั๊นท์แมนที่ทำงานเสี่ยงตายให้เขามานาน ในรอบ 10 ปี
#เหมียวฟิ้นคิดว่าคงจะมีน้อยคนมากๆ ที่ไม่รู้จักชื่อเสียงและความโด่งดังของ “เฉินหลง” นักแสดงชาวฮ่องกงที่แสดงหนังเสี่ยงตายมาแล้วเป็นร้อยๆ เรื่อง แต่ใครจะรู้บ้างว่าเบื้องหลังความสำเร็จของฉากเสี่ยงตายเหล่านั้น ยังมีทีมสตั๊นท์แมนที่คอยแสดงแทนเขามามากมายไม่รู้กี่ชีวิต? เรื่องราวที่เราหยิบมานำเสนอในวันนี้ มาจากส่วนหนึ่งของรายการ 王牌对王牌 (หวังไผตุ้ยหวังไผ) ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา โดยทางรายการได้เชิญเฉินหลงมาออกรายการแล้วเปิดคลิปวิดีโอตัวหนึ่งให้เขาได้ดู โดยในวิดีโอนั้นเป็นการนำเสนอภาพของเหล่าสตั๊นแมนหลายชีวิต ที่เคยร่วมงานกับเฉินหลงในสมัยก่อน ซึ่งตัวเฉินหลงเองก็ไม่เคยได้เจอกับพวกเขาบางคนมานานนับ 10 ปีแล้ว นักแสดงสตั๊นกลุ่มนี้มีชื่อว่า JC Stunt Team ได้ออกมากล่าวถึงการทำงานกับเฉินหลงตั้งแต่ก่อนที่จะโด่งดังแบบทุกวันนี้ บางคนมีครอบครัวแล้วแต่ก็ต้องแสดงฉากสุดอันตรายไปด้วย จนทำให้ทางครอบครัวเป็นกังวลใจเหมือนกันว่าบางทีอาจจะกลับบ้านมาในร่างอันไร้วิญญาณก็เป็นได้ แต่พวกเขาก็ยังคงแสดงหนังกับเฉินหลงต่อไปด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้า เฉินหลงเป็นที่รักของทีมงานมาก เขาทั้งแบ่งเงินค่าจ้างตัวเองให้กับเพื่อนร่วมงาน จ่ายเงินค่าเช่าหรือซื้อรถให้ ซึ่งพวกเขาทั้งหมดซาบซึ้งในน้ำใจและโอกาสที่พี่ชายคนนี้หยิบยื่นให้มาก บางคนบอกว่าหากคุณจะเข้ารวมกับ JC Stunt Team คุณจะต้องเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา ไม่อย่างงั้นเฉินหลงจะไม่ให้คุณเข้าร่วมทีม ถ้าคุณขาดความจงรักภักดีหรือความกตัญคุณก็จะถูกไล่ออก ทีมงานทั้งหมดไม่ได้เจอหน้าพี่ชายที่ชื่อว่าเฉินหลงมานานนับสิบปีแล้ว อาจเป็นเพราะหน้าที่การงานที่ทำให้พวกเขาไม่ได้เจอกันง่ายๆ และพวกเขาก็คิดถึงพี่ชายคนนี้มากๆ “ผมชื่อหวัง เหยา ผมอยู่กับพี่เฉินหลงมาตั้งแต่ก่อตั้งทีมสตั๊นเมื่อปี 1977 ผมเป็นสมาชิกรุ่นแรกของ JC…
-
โรงงานจีนโละคนงาน 90% ใช้หุ่นยนต์แทน พบยอดผลิตเพิ่ม 2.5 เท่า แถมงานมีตำหนิน้อยลง 80%
โลกของหุ่นยนต์ อาจจะกำลังใกล้เข้ามากว่าที่เราคาดคิด… รายงานข่าวจากเว็บไซต์ ZmeScience เปิดเผยข้อมูลว่าโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองดองกวน ประเทศจีน ลองเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาแทนคน และพบว่ามันได้ผลในทางบวกมากกว่าที่คาดคิด แม้เราจะรู้กันว่าโลกในอนาคต เทคโนโลยีและหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทมากกว่าเดิม แต่เราหลายๆ คนอาจจะยังไม่ทันเตรียมรับมือว่าโลกในรูปแบบนั้น กำลังจะมาถึงเร็วกว่าที่เราคาดคิดไว้ก็ได้ บริษัท Changying Precision Technology ซึ่งทำงานรับจ้างผลิตชิ้นส่วนโทรษศัพท์มือถือ เมื่อก่อนโรงงานแห่งนี้ประกอบไปด้วยคนงานกว่า 650 คน แต่ตอนนี้เหลือพนักงานเพียง 60 คนเท่านั้น คุณ Luo Weiqiang ผู้จัดการทั่วไประบุว่า ที่จริงแล้วโรงงานแห่งนี้สามารถดำเนินงานได้ โดยใช้คนน้อยที่สุดเพียงแค่ 20 คนเท่านั้น แต่พวกเขาก็ยังจ้างคนในระดับที่เหมาะสมอยู่ หลังจากการลองนำติดตั้งเทคโนโลยีการผลิตแบบอัตโนมัติ มาแทนที่คนงาน พวกเขาพบว่ายอดการผลิตพุ่งสูงขึ้นกว่า 250% และแน่นอนว่าชิ้นงานนั้นมีคุณภาพดีขึ้นด้วย นอกจากนี้ หากเราไปค้นดูรายงานจากด็อกเตอร์ Carl Benedikt Frey และผู้ช่วยศาตราจารย์ Michael Osborne จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด พวกเขาวิจัยและพบว่าในอนาคตมีโอกาส 90% ที่งานต่างๆ หลายงานอย่างเช่น พนักงานร้านค้า คนขายของ ช่างซ่อมต่างๆ พนักงานโรงแรมหรือร้านอาหาร กระทั่งกุ๊กร้านอาหาร อาจจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ไปซะหมด…
-
ภารกิจช่วย Mister Pickle แมวจรที่มาขออาหารทุกวัน อยู่ดีๆ ก็หายไปแล้วกลับมาพร้อมแผลรถชน…
Mister Pickle แมวจรจัดที่ถูกรถชนจนต้องเข้ารับการรักษาเป็นเงินมากกว่า 210,000 บาท จนทำให้มันได้พบกับครอบครัวใหม่ที่ทำให้ชีวิตของมันเปลี่ยนไป เรื่องมันเริ่มขึ้นจากหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Melissa Popham ซึ่งเธอทำงานอยู่ที่ร้านเพ็ทช็อปและได้เจอกับเจ้า Mister Pickle แมวจรจัดที่มันจะมาขออาหารเธอกินอยุ่เสมอ จนวันหนึ่งเจ้าแมวเหมียวได้หายไปนานถึง 5 วัน… หลังจากนั้นมันก็กลับมา แต่ไม่ได้มาแบบปกติ มันพร้อมกับสภาพที่เหมือนกับซอมบี้หยั่งกับว่าหลุดมาจากหนังสยองขวัญ จนเธอจะต้องเรียกเพื่อนร่วมงานของเธอมาช่วยกันทำแผลให้เจ้าเหมียวทันที พวกเขาสันนิษฐานว่ามันต้องจะต้องถูกรถชนเข้าแน่นอน ดูได้จากกรามที่หักและหนองที่ออกมาจากตัว… แผลที่เกิดขึ้นกับมันหนักหนาพอสมควรเลยทีเดียว ทำให้มันต้องเข้ารับการผ่าตัดเป็นค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 210,000 บาท แต่ว่า Melissa ก็ดูยินดีที่จะจ่ายค่ารักษานี้เพื่อช่วยเจ้าเหมียวให้รอดตาย ชีวิตของเจ้า Mister Pickle พลิกผันสุดๆ จากการเป็นแมวจรจัดใกล้ตาย ตอนนี้มันก็กลายเป็นแมวที่มีเจ้าของไปแล้ว แถมยังรักมันมากๆ อีกด้วย สุดท้าย Melissa ได้พูดทิ้งท้ายว่า “เจ้า Mister Pickle มันเป็นแมวที่ดีมากๆ เลยล่ะ มันไม่ใช่เป็นแค่สัตว์เลี้ยงแต่ยังเป็นเพื่อนรักของฉันอีกด้วย ฉันดีใจมากๆ ที่ได้มันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉัน” พอเวลาผ่านไปสองเดือนเจ้าเหมียวก็ดูจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้น Melissa ก็พามันกลับมาอยู่บ้านด้วย แถมตอนนี้มันยังมีพี่ชายแล้วนะ แถมมันยังดูรักกันมากๆ…
-
เมื่อเอาฟิกเกอร์โงกุน มารวมกับโฮโลกราฟิกสุดล้ำ กลายเป็นพลังคลื่นเต่าแบบสมจริงขึ้นมา!!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาฟิกเกอร์ได้พัฒนาขึ้นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งแบบที่น่าสนใจสุดๆ ก็คงจะเป็นฟิกเกอร์ที่มีตัวเอฟเฟคต่างๆ เพิ่มเข้ามาด้วย แต่ว่าทำไมเราถึงจะหยุดกันอยู๋แค่ฟิกเกอร์ที่มีเอฟเฟกนิ่งๆ ล่ะ? ในเมื่อเราสามารถทำมันได้ดีกว่านั้น เพราะในบางครั้งการมองตัวฟิกเกอร์ที่มีเอฟเฟคต์พลาสติกลอยออกมา มันก็ดูธรรมดาไปในบางครั้ง วันนี้เราเลยจะมาเพิ่มระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเอาฟิกเกอร์โงกุนธรรมดาๆ มารวมเข้ากับโฮโลกราฟิกนั่นเอง ผลงานดังกล่าวเป็นการออกแบบของทาง ZW Design ซึ่งต้องการออกแบบให้ฟิกเกอร์พระเอกดราก้อนบอลของเราเท่ไปอีกขึ้น เลยบรรจงสร้างเครื่องทรงปิรามิดขึ้นมาโดยเฉพาะ เอาฟิกเกอร์ธรรมดาๆ ไปวางไว้ตรงกลางเครื่องฉายโฮโลกราฟฟิค เตรียมชาร์จพลังคลื่นเต่า…. เพิ่มเอฟเฟคต์จากโฮโลกราฟิคเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง ยังไม่พอจัดไฟสีฟ้าเข้าไปอีก เพื่อความสมจริงและโอ้วว้าวมากยิ่งขึ้น แบบภาพนิ่งมันยังไม่พอ จัดแบบภาพเคลื่อนไหวจากแชแนล ZW Design ไปเลย นอกจากโงกุนแล้ว ซาสึเกะก็มีนะเออ… เท่ไม่ยอกเลยทีเดียว ไม่คิดว่าแค่เพิ่มโฮโลกราฟฟิกเข้าไปจะเปลี่ยนฟิกเกอร์ธรรมดาๆ ให้ดูดีได้ขนาดนี้ยิ่งถ้าเพิ่มเสียงเข้าไปจะยิ่งแจ่มสุดๆ เลยล่ะ ที่มา rocketnews24
-
20 ภาพถ่ายในประวัติศาสตร์ ที่ไม่มีในหนังสือเรียน แต่ก็ควรค่าแก่การรับรู้…
ปกติแล้วภาพถ่ายประวัติศาสตร์ก็จะมีเยอะแยะมากมายต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่ที่เราเห็นตามข่าวหรือหนังสือเรียน ที่จะได้เห็นเรื่องราวในหลักสูตรที่เปิดสอน แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องทีเดียวซึ่งไม่ได้มีสอนและเราอาจจะเผลอมองข้ามมันไป… แต่ถึงอย่างนั้นภาพประวัติศาสตร์ก็ยังคงเป็นภาพที่สามารถบอกได้ถึงอะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกความทรงจำรวมไปถึงความอยากรู้ ว่าเกิดอะไรขึ้นในภาพนั้นๆ จนบางทีเราก็สามารถมองมันได้เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว ส่วนภาพที่จะเอามาให้ดูกันในวันนี้เป็นภาพที่หาดูทั่วไปได้ยากพอสมควรเลยทีเดียว อย่ารอช้ามาดูกันเลยดีกว่า… ภาพของเรือ SS Normandie ที่พังลงมาบริเวณท่าเทียบเรือ Pier 88 ในนิวยอร์ค ภาพนี้เกิดขึ้นเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 1942 ภาพของ อาโนล ชวาสเนกเกอร์ เมื่อตอนอายุ 16 กับการประกวดเพาะกายครั้งแรกของเขา ภาพความประทับใจของชาวประมงจากแม่น้ำวอลกาในรัสเซีย ที่จับปลาขนาดใหญ่ได้ในปี ค.ศ. 1924 ภาพของเด็กสาวชาวเอสกิโม กับลูกสุนัขฮัสกี้ของเธอ ในปี ค.ศ. 1949 ภาพของนักโต้คลื่นในปี ค.ศ. 1922 ที่สมัยก่อนกระดานโต้คลื่นยังเป็นไม้แผ่นอยู่เลย ภาพของเหล่าไบเกอร์ในปี ค.ศ. 1960 ว่าแต่ไบเกอร์สาวในภาพนี้สวยคมดีจริงๆ ภาพของเจ้าหนู ที่ได้ดูโทรทัศน์เป็นครั้งแรกผ่านกระจกร้านค้าในปี ค.ศ. 1948 ภาพของ James Naismith…
-
รวม 15 ภาพโฆษณาที่ดูรอบเดียวคงไม่พอ เพราะมันเตะตา จนต้องหันกลับมามองอีกรอบ..
ในยุคที่โฆษณามีอยู่ทุกที่บนท้องถนน หรือตามป้ายบิลบอร์ดต่างๆ เราก็มักจะไม่ค่อยได้สนใจมันเสียเท่าไหร่ เพราะบางทีมันก็ดูธรรมดาไม่น่าสนใจ หรือไม่ก็เป็นอะไรที่ดูซ้ำไปซ้ำมาซะหมด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักโฆษณาหลายๆ คน ต้องหาไอเดียและคตวามแตกต่างให้กับโฆษณาของตนเอง เพื่อสร้างงานอันเตะตาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมากที่สุด อย่างเช่น 15 ภาพโฆษณาในวันนี้ ซึ่งต้องยอมรับถึงไอเดียของเหล่าคนคิดเลยล่ะ จะมีอะไรกันบ้างมาดูกันเลย…. โฆษณารณรงค์ ถ้าอนาคตข้างหน้า โลกขาดน้ำ เราจะยังดูมันไหลผ่านเฉยๆ แบบนี้อีกเหรอ Boots leg and foot cream เพื่อหัวเข่าและเท้าที่ดูเซ็กซี่… (บอกว่าหัวเข่าก็ หัวเข่าดิ) Splashdown Waterpark สวนน้ำที่มันซะจนเสื้อผ้าอยู่ไม่เป็นที่ พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะจัดพิพิธภัณฑ์กลางคืน…..แต่ดูแล้วงานน่าจะดึกหน่อยนะ แวนโก๊ะยังต้องถ่างตาอยู่ หูฟัง AIAIAI “ที่ฟังแล้วจะรู้สึกเซ็กซี่ทันที” “ตัว R กับ เด็ก คุณเห็นอะไรก่อน? ….ฉะนั้นขับรถก็หยุดพิมพ์ซะ” ที่โกนหนวด Shick “ปลดปล่อยมัน จากผิวหนังของคุณซะ” ถุงยาง Durex “กล้องพร้อม…
-
ฝาแฝดคนละสีผิว “Kalani และ Jarani” กับโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 ใน 500 และก็น่ารักเสียจริงๆ
ปกติแล้วเวลาคนเราเกิดขึ้นมาแล้วดันเป็นแฝด ความต่างที่จะเกิดขึ้นส่วนใหญ่ก็จะเป็น เพศ ที่ต่างกันหรือบางส่วนของหน้าตานิดๆ หน่อยๆ ที่ต่างกัน แต่จะมีโอกาส 1 ใน 500 เท่านั้นที่สีผิวจะต่างกันออกไป เรื่องนี้เกิดขึ้นกับทารกแฝดวัย 9 เดือนจากรัฐอิลลินอยส์ ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีสีผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งทั้งคู่มีชื่อว่า Kalani และ Jarani สีผิวของทั้งคู่ก็มาจากพ่อกับแม่ของเธอนั่นเอง Kalani ได้รับผิวขาวมาจากแม่ของเธอ Whitney ที่เป็นชาวคอเคเชี่ยนส่วน Jarani ได้รับผิวสีมาจากพ่อของเธอ Tomas ที่เป็นชาวชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน ซึ่งหลังจากที่ได้รับการยืนยันเรื่องสีผิวของลูกๆ แล้ว Whitney ผู้เป็นแม่ก็ได้ทำการโพสรูปลูกๆ ของเธอลงเพจของเธอพร้อมกับแคปชั่นว่า “พวกเราคือฝาแฝด โดยมีโครโมโซม Kalani อยู่ทางซ้าย และของ Jarani อยู่ทางขวา” ภาพรวมกับคุณพ่อคุณแม่ ชุดแดงมาเชียว แต่แม้สีผิวจะต่าง แต่ก็สังเกตได้ว่าหน้าตาของพวกเขาเป็นฝาแฝดกันแน่ๆ ดูราเริงเชียวเจ้าหนู Jarani อยากจะเห็นจริงๆ ว่าถ้าเจ้าหนูสองคนนี้โตไปจะเป็นยังไง เรื่องผิวสีนี้ก็ดูจะชัดเจนตั้งแต่แรกๆ แล้วนะเนี่ย เคสดังกล่าวก็เรียกได้ว่าเป็นเคสที่หายากจริงๆ สำหรับฝาแฝดที่มีผิวต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีความเป็นไปได้อยู่แล้วเพราะพ่อกับแม่ ไม่ได้เป็นคนเชื้อชาติเดียวกันนั่นเอง…
-
ไอเดีย “กางเกงในกาแล็กซี่” ดื่มด่ำไปกับห้วงอวกาศ เรืองแสงได้แม้ค่ำคืนที่มืดมิด
หลายๆ คนน่าจะชื่อชอบห้วงอวกาศหรือกาแล็กซี่อะไรพวกนี้ แล้วก็มีของสะสมเป็นของใช้ต่างๆ เช่นเสื้อ กางเกง รองเท้า หมวก หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่รับรองได้ว่าไอเทมประเภทนี้จะต้องยังไม่มีอยู่ในคอลเลคชั่นแน่นอน ของที่เรากำลังพูดถึงอยู่มันก็คือ กางเกงใน นั่นเอง ซึ่งเจ้ากางเกงในคอลเลคชั่นนี้จะมาพร้อมกับลานกาแล็กซี่ที่สวยงาม แถมยังสามารถเรืองแสงในที่มืดได้ด้วย!! ดูดีใช่ไหมล่ะ? เจ้ากางเกงในเรืองแสงนี้ ออกแบบโดย Make It Good Apparel ร้านค้าเสื้อผ้าในโอเรกอน ซึ่งทำสินค้าของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำให้กางเกงในนี้ก็เลยมีของทั้งสองเพศด้วย ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติม รวมถึงเลือกซื้อกันได้ที่ร้าน makeitgoodapparel กันได้เลยครับ… แบบขาสั้นก็มีนะ หรือจะเป็นแบบขายาวดี? ของผู้ชายก็มีเช่นกัน แต่ว่าเหมือนจะมีแค่แบบเดียวเนี่ยสิ ไฮไลท์หลักก็คือตอนเรืองแสงนี้แหละ สวยฟรุ้งฟริ้งเชียว ก็เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ถึงแม้เราจะไม่ค่อยได้ใส่กางเกงในโชว์ใครก็เหอะ แต่ถ้าใครที่ชอบแนวนี้อยู่แล้ว ก็น่าโดนไม่น้อย!!! ที่มา boredpanda
-
เมื่อกระรอก 2 ตัว ต้องมาแย่งชิง “วอลนัท” ลูกเดียวกัน มันเลยเกิดเป็นฉากต่อสู้สุดมันส์
กระรอกเป็นผู้ที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบในการเก็บสะสมอาหารที่หามาได้ ไม่ใช่เฉพาะปกป้องจากกระรอกด้วยกันเท่านั้น แต่รวมถึงจากพวกนก และสัตว์ตัวอื่นๆ ที่จะมาขโมยอาหารของพวกมันด้วยเช่นกัน ภาพที่จะโชว์ให้ดู เป็นภาพที่กระรอกสองตัวสู้กันอย่างดุเดือด เพื่อแย่งชิงอาหารกัน แต่ถ้าจะดูแค่มันสู้กันก็คงจะธรรมดาไป เพราะว่าท่าทางที่พวกมันสู้กันนั้น ประดุจดั่งว่าใช้วิชานินจาและกังฟู เข้าห้ำหั่นกันเลยทีเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวถูกบันทึกภาพไว้โดย Martin Docker เขาบอกว่าปกติแล้วกระรอกจะมีหลุมเก็บอาหารเป็นของตัวเอง และมันจะเก็บรักษาลูกนัทอย่างดี แต่ถ้ามีสักตัวเข้ามายุ่มย่ามกับอาหารของมันล่ะก็ จะเกิดเป็นฉากบู๊อย่างที่เรากำลังจะได้เห็นนี่แหละ… เจอลูกเตะลอยฟ้าหน่อยเป็นไง!! วิชาลับ คมเขี้ยวกระรอก!! ฝามือกระรอกบินน!! สู้ไม่ได้ต้องเจอนี่… ท่าไม้ตายกระรอกบดไข่ จากข้อมูลระบุว่าในศึกแย่งอาหาร สัตว์ชนิดอื่นยากที่จะเข้าไปแย่งมาได้เพราะกระรอกมีสายตาที่เฉียบคม จึงทำให้ส่วนใหญ่กระรอกจะสู้กับกระรอกด้วยกันเองเป็นส่วนมาก เพราะว่าพวกมันสามารถที่จะขาดเดาได้ว่า คลังเสียงของกระรอกตัวอื่นเก็บไว้ที่ไหน ท่าทางการสู้ของพวกมันก็เท่ไม่หยอกเลยนะเนี่ย เรียนมาจากสำนักไหนกันนะ จะไปฝากตัวเป็นศิษย์สักหน่อย!!! ที่มา mirror
-
20 เรื่องน่าสนใจของ “ประเทศไอซ์แลนด์” ที่ทำให้รู้สึกว่า มันช่างโอ้วว้าวน่าไปจริงๆ
หนึ่งในประเทศที่ได้ชื่อว่ามีทัศนียภาพอันงดงาม และเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าทึ่งอย่าง ไอซ์แลนด์ อันเป็นจุดหมายปลายทางของนักเที่ยวหลายๆ คน ฝันว่าต้องไปให้ได้สักครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากภูเขาอันงดงาม น้ำพุร้อน หรือความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่มีอยู่ทั่วประเทศแล้ว ประเทศนี้ก็ยังมีอะไรที่น่าทึ่งและชวนว้าวอีกมากมาย วันนี้ Guide to Iceland จะพาทุกคนไปรู้จักความว๊าวของประเทศแห่งนี้ให้มากขึ้นครับ…. 1. ไอซ์แลนด์เป็นประเทศเดียวที่ไม่มียุง แม้ว่าหลายๆ ประเทศในเขตหนาว กระทั่งที่กรีนแลนด์ก็ยังมียุงอยู่ แต่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าสภาพอากาศของไอซ์แลนด์มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งส่งผลให้ยุงไม่สามารถผสมพันธุ์และวางไข่ได้ จนกระทั่งไม่มียุงเลยในประเทศนี้ (ที่มา) 2. ล่าสุดในปี 2016 ประชากรในไอซ์แลนด์สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ 100% เทียบกับปี 2015 ซึ่งมีคนเข้าถึงอินเตอร์เน็ต 99.8% นับว่าเป็นประเทศแรกซึ่งประสบความสำเร็จในด้านนี้ 3. ไอซ์แลนด์ตั้งอยู่บนรอยต่อของแผนเปลือกโลกยูเรซีย และอเมริกาเหนือ ซึ่งประเทศนี้เกิดขึ้นจากภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่เมื่อ 18 ล้านปีก่อน จึงไม่แปลกที่จะมีภูมิประเทศอันงดงามและเป็นเอกลักษณ์ แถมปัจจุบันยังมีภูเขาไฟกว่า 30 ลูกที่ยังคุกรุ่นอยู่ด้วย สำหรับผู้สนใจ: ทัวร์ในประเทศไอซ์แลนด์ 4. ไอซ์แลนด์มีขนาดพื้นที่ราวๆ 103,000 ตร.กม. ซึ่งมีขนาดพอๆ กับประเทศอังกฤษ แต่มีประชากรราวๆ…
-
เชื่อหรือไม่ว่า ภาพถ่ายใต้น้ำชุดนี้ ถูกถ่ายในปี 1938 นั่นมันตั้ง 79 ปีก่อนเลยนะนั่น!!
ทุกวันนี้การถ่ายภาพใต้น้ำอาจเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้ เพราะกล้องสมัยใหม่หลายๆ รุ่นออกแบบมาให้มีระบบกันน้ำจนสามารถนำลงไปถ่ายใต้น้ำได้อย่างสบายๆ หรือถ้าไม่มีฟังก์ชั่นนี้ ผู้ใช้งานก็สามารถหาซื้อเคสกันน้ำมาใส่ แค่นี้ก็นำลงไปถ่ายใต้น้ำได้แล้ว แต่ลองย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 79 ปีก่อน ในปี 1938 ด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ยังไม่ก้าวไกล การจะนำกล้องไปถ่ายใต้น้ำไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ เลย แต่ตากล้องชาวอเมริกัน บรู๊ซ โมเซิร์ต ได้ทำสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่น่าเชื่อออกมา!! เขาได้สร้างภาพถ่ายใต้น้ำสุดเจ๋งขึ้นมา โดยเขาได้ประดิษฐ์กล่องกันน้ำ และให้นายแบบนางแบบ ลงไปถ่ายภาพใต้ผืนน้ำ จนเกิดเป็นภาพถ่ายที่คนยุคนั้นเห็นแล้วต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน โดนนางแบบนายแบบแต่ละคนต่างทำท่าทางเหมือนใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นอ่านหนังสือ ถ่ายภาพ ยิงธนู วิ่งแข่ง และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้เขายังคิดค้นเทคนิคการใช้นมในการสร้างเอฟเฟค “ควัน” ขึ้นมาในภาพอีกด้วย ลองไปชมผลงานของเขากันเลย ลองนึกบริบทยุคนั้น #เหมียวอ๊อดโด้ ว่ามันเจ๋งมากๆ เลยนะ . . . . .…
-
รู้จักชื่อเมืองยาวเฟื้อย ‘Llanfairpwllgwyngyll’ ของจริงไม่ได้ล้อเล่นนะ โอ้ซาสสสส!?
ก่อนหน้านี้ #เหมียวหง่าว ได้นำเสนอเรื่องราวของชายที่ชื่อยาวแถมไม่พอยังอ่านโคตรยาก แต่โด่งดังไปทั่วโลก กับชื่อ ‘อูฟู่โฟยฟั่ยฟอย โอเยทเทนเย่วัย อุวิมมุวิม โอซาส‘ กันไปแล้ว คราวนี้เราจะขอพาไปรู้จักกับเมืองหนึ่งซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะมีเมืองที่ชื่อยาว แถมยังอ่านยากไม่แพ้ อูฟู่โฟยฟั่ยฟอยฯ โดยเมืองนี้เป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะ Anglesey รัฐเวลส์ ชื่อของมันคือ…‘Llanfairpwllgwyngyllgogerychwyrndrobwllllantysiliogogogoch’ จะให้เราพิมพ์บอก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอ่านว่ายังไง ยาวซะขนาดนี้ เอาเป็นว่าไปชมคลิปวิดีโอที่นักข่าวเค้าอ่านออกเสียงเมืองนี้ให้ฟังกันก่อนเลยล่ะกัน สรุปแล้วเมืองนี้มันอ่านว่า “!@#$%^&*&^%$#$@#% โก โก โก้ค’ (ฟังออกเท่านี้จริงๆ 555+) ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กมีประชากรเพียงแค่ประมาณ 3,000 กว่าคนเท่านั้นเอง โดยชื่อเมืองนี้แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า ‘St. Marys Church in The Hollow of The White Hazel Near to The Rapid Whirlpool of Llantysilio of The Red Cave’ (อะไรมันจะยาวขนาดน๊านนน)…
-
ก้าวไปอีกขั้น!! Pornhub เปิดศูนย์ให้คำปรึกษาเรื่องเพศ โดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญตัวจริง!
หลายคนอาจมองว่าเว็บไซต์หนังผู้ใหญ่อย่าง Pornhub ไม่ได้มอบอะไรให้กับสังคมนอกจากตอบสนอง “ความงึด” ของหนุ่มๆ เท่านั้น แต่ละสุดพวกเขาได้ก้าวไปอีกขั้นแล้ว ด้วยการเปิดศูนย์ให้คำปรึกษาเรื่องเพศแก่คนที่สนใจ!! ศูนย์ดังกล่าวมีชื่อว่า “Pornhub Sexual Health Center” เพื่อช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ การคุมกำเนิด และการป้องกันโรคให้กับผู้ใช้งานเว็บไซต์ Pornhub กว่า 70 ล้านคนในแต่ละวัน โดยพวกเขาได้มอบให้ คุณหมอ Laurie Betito เป็นผู้ดูแลส่วนนี้ และพวกเขายังมีทีมงานเป็นนักจิตวิทยา นักเพศบำบัด และหมออีกหลายสิบคนคอยช่วยตอบคำถามและให้คำแนะนำ Corey Price รองประธานของเว็บไซต์ Pornhub กล่าวว่า “จุดประสงค์ของเราคือการมอบข้อมูลและความรู้ที่ถูกต้องให้แก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเรา ส่วนการได้ยอดวิวนั้นเป็นเรื่องที่รองลงไป” ใครสนใจก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของพวกเขากันได้ที่นี่ (ลิ้ง) นะฮะ เชื่อว่าจากนี้คำถามประเภท “แบบนี้ท้องมั้ยครับ” “ถุงยางต้องสวมยังไง” คงจะมีน้อยลงอย่างแน่นอน เพราะผู้เชี่ยวชาญเขามาตอบให้แล้วยังไงล่ะ ฮาาาา ที่มา Pornhub
-
ความจริงของภาพ “เสืออ้วน” ที่ชาวเน็ตแชร์กัน แท้จริงคือการเพิ่มไขมันเพื่อให้ทนอากาศหนาว
ภาพที่เราได้เห็นอยู่ในขณะนี้ถือเป็นภาพหนึ่งที่โด่งดังในโลกออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศพอสมควร สำหรับภาพของเจ้าเสือผู้น่าเกรงขาม แต่ดันมีร่างกายตุ้ยนุ้นจนผู้คนอดไม่ได้ที่จะกดไลก์และแชร์กันแบบรัวๆ หลายๆ คนอาจจะเห็นแค่เพียงภาพแต่ไม่รู้ว่ามันมีที่มาที่ไปยังไง #เหมียวฟิ้นจะมาแถลงไขเอง ภาพของเจ้าเสือตัวนี้มาจากสวนสัตว์ Siberia Tiger Park ที่อยู่ในเมืองฮาร์บิน ทางตอนเหนือของประเทศจีน สวนสัตว์แห่งนี้ถือเป็นสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับเหล่าเสือไซบีเรียป่าเลยก็ว่าได้ เพราะมีพื้นที่ราวๆ 1,440,000 ตารางเมตร และเปิดดำเนินการมานานนับสิบปี โดยเป้าหมายของการเปิดสวนสัตว์แห่งนี้ ก็เพื่อช่วยอนุรักษ์เสือไซบีเรียให้คงอยู่ต่อไป อย่างล่าสุดในปี 2016 ที่ผ่านมา ทางสวนสัตว์แห่งนี้ยังได้ให้กำเนิดลูกเสือกว่า 90 ตัวเลยทีเดียว หลังจากที่ภาพของเจ้าเสือตัวนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ได้ไม่นาน ผู้คนก็ต่างแซวกันว่าผู้ดูแลอาจจะให้อาหารมันมากเกินไปในช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา จนทำให้มันอ้วนตั้บอย่างที่เห็น ในขณะที่บางคนแสดงความเป็นกังวลเรื่องสุขภาพของมัน ว่าอาจจะอ้วนเกินไปและทำให้เป็นโรคหรือเปล่า? ในจุดนี้ สำนักข่าว People’s Daily ของจีนได้ให้รายละเอียดตรงนี้ว่า ในความเป็นจริงแล้วเหล่าสัตว์ตามธรรมชาติจะกินอาหารเพื่อให้ตัวเองมีไขมันมากพอที่จะรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นในเมืองจีน อย่างที่เมืองฮาร์บินเองเมื่อถึงฤดูหนาวก็จะหนาวจนอากาศติดลบถึง -20 หรือ -30 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ฉะนั้นการที่พวกมันได้รับอาหารจนอ้วนแบบนี้ถือเป็นมาตรการช่วยเหลืออย่างหนึ่ง เพื่อให้มันทนอากาศหนาวได้ ซึ่งพวกมันก็จะค่อยๆ ผอมลงไปเองเมื่อถึงช่วงฤดูร้อน ที่พวกมันไม่จำเป็นต้องใช้ไขมันมหาศาลแล้ว พวกเขาก็จะลดปริมาณอาหารมันลง รวมถึงอากาศร้อนทำให้พวกเสือกินอะไรได้น้อยลงเช่นกัน ฉะนั้นใครที่เห็นภาพเสืออ้วนแบบนี้ก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะ…
Got any book recommendations?